@@@ ปกนิยาย ครบเเล้ว 2 สำหรับหนังสือเรื่อง 'เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้'ตอนนี้เหลือเพียง 10 เล่ม สามารถจองพร้อมโอนได้ที่
ธนาคารไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์ สาขาแยกเกษตร เลขที่บัญชี 120-221-6089ชื่อบัญชี Luksanaree Wichalaiเล่ม 1
เล่ม 2
เหยี่ยวหัวใจ
Part 3
เนื้อคู่กูตาย!....
.
.
.
ผมกับมันต่างแยกกันไปเรียนหลังจากถึงมหาลัยเรียบร้อยแล้ว มีเพื่อนร่วมห้องทั้งชายทั้งหญิงเข้ามาทำความรู้จักกับผม สุดท้ายเลยเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 7 คน
ผู้หญิงสามที่เหลือชายล้วน รวมกลุ่มทำรายงานของอาจารย์ที่สั่งให้นักศึกษาไปเตรียมพรีเซ้นท์กลางเทอม
นั่นแหละพวกผมจึงกลายเป็นกลุ่มเฉพาะกิจไปโดยปริยาย ต่อยอดไปถึงมื้อกลางวันที่เกาะเป็นตังเมอีกต่างหาก
“รัน แดกข้าวกันดีกว่า” ง่ายๆสั้นๆ กับคำชวนของไอ้อั้ม และผมก็พยักหน้ารับ สุดท้ายทั้งสี่หนุ่ม
สามสาวก็มายังโรงอาหารเพื่อทานมื้อเที่ยงก่อนขึ้นเรียนช่วงบ่ายต่อ
“รัน..กินอะไร สั่งเป็นกับกินกับข้าวเปล่าดีไหม?” พรสาวน้อยยิ้มเก่งออกไอเดียหลังพวกเรา
ได้โต๊ะว่างเรียบร้อยแล้ว
“อืม..เอาสิ..ผมยังไงก็ได้” ผมตอบ ก็นะไม่ซีเรียสอยู่แล้ว
“พวกเราละเอาไง ตกลงตามนี้ไหม?” เจ้าของไอเดียซาวน์เสียง เมื่อไม่มีใครคัดค้านสรุปมื้อเที่ยง
ก็สั่งเป็นกับกินกัน โดยทุกคนเลือกคนละรายการรวมกันกว่าเจ็ดแปดอย่าง พร้อมข้าวเปล่าอีกคนละจานแยกกันไปเอามา
รวมทั้งเครื่องดื่มด้วยสาวๆ หนักเป็ปซี่ของผมน้ำเปล่า คนอื่นแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลตามสะดวก
ระหว่างทานกันไปคุยกันไปอย่างออกรส โดยผมเป็นผู้ฟังที่ดีแทรกบ้างบางจังหวะเมื่อมีคนขอความเห็น
เดิมทีผมไม่ชอบพูดมากเป็นทุนอยู่แล้ว สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มรู้จัก จังหวะนั้นสาวนิ่มสวยเปรี้ยวในกลุ่มก็พูดขึ้นว่า
“ว้าว! นั่นพวกพี่พรตนี่” ผมจึงต้องเหลียวหลังไปดูบ้าง ใช่จริงด้วยเหยี่ยวรั่วกับเพื่อนชายห้าคน
หัวเราะร่าเดินตรงมาทางนี้ คงหาข้าวกินเหมือนกัน ไอ้ตัวแสบดูเด่นมากท่ามกลางกลุ่มเพื่อน ฟีโรโมนความหล่อกลบรัศมี
คนอื่นหมด ยิ่งได้หน้าตาบวกรูปร่างด้วยแล้วสะดุดตาเข้าไปใหญ่ สังเกตนักศึกษาทั้งชายทั้งหญิงมองตามกันเป็นแถว
ไม่แปลกใจทำไมสาวนิ่มซึ่งนั่งตรงข้ามผม ถึงแสดงอาการปลื้มซะขนาดนั้น เหยี่ยวรั่วมันเด่นจนผมเองอดยอมรับไม่ได้
มองเสร็จก็หันมาสนใจทานข้าวต่อ เชื่อว่ามันไม่เห็นผมด้วยซ้ำเพราะเวลานี้นักศึกษาเยอะมาก
เต็มโรงอาหารไปหมด พวกมันเดินยกมือทักทายรุ่นน้องชายหญิงตลอดทาง ร่วมทั้งรุ่นเดียวกันแม้กระทั่งรุ่นพี่
ดูมันกว้างขวางเป็นที่รู้จักทั้งคณะละมั้ง ยิ่งเป็นหัวหน้าปีสองในกิจกรรมรับน้องด้วยแล้ว ยิ่งดังเป็นพลุแตกเข้าไปใหญ่
หน้าระรื่นส่งยิ้มหล่อกระจายตามนิสัยอารมณ์ดีบวกความรั่วของมันนั่นแหละ
“พี่พรตมีโต๊ะนั่งหรือยังค่ะ นั่งกับพวกเราก็ได้ค่ะพี่” เสียงชวนจากสาวน้อยนางหนึ่งดังพอให้ได้ยิน
ทำให้สาวเทียมที่นั่งข้างกัน ซึ่งคุณเธอแต่งหน้าซะแรงแซวขึ้นมาทันที
“ค่ะ! กล้าชวนพี่เค้านะมึง ไม่บอกไปเลยละว่าพี่พรตหล่อล่ำโดนใจมาก น่าจับมาทำผัว..ฮิ้ววว!” แล้วก็ลงท้ายด้วยเสียงวี๊ดว้าย โห่ฮาเป็นที่สนุกสนานกันไปตามระเบียบ ก่อนไอ้ตัวแสบจะตอบให้ได้ฮามากกว่าเดิมเข้าไปอีก
“น้องๆ อย่าเพิ่งไว้ใจในสิ่งที่เห็น ผู้ชายบางคนหล่อล่ำน่าจับไปทำผัว แต่ติดอยู่ที่ว่า ผู้ชายคนนั้น
เค้าก็คิดจะหา
‘ผัว’ อยู่เหมือนกัน...ฮ่าๆๆๆๆ” ผมสำลักข้าวที่กำลังเคี้ยวขึ้นมาทันที
“พรวด แค่กๆๆๆ..” เล่นเอาเพื่อนต้องรีบยื่นน้ำส่งให้กลวกคออย่างไว ฟังมันดิ คนในโรงอาหารที่ได้ยินต่างหัวเราะงอหาย
เพราะคำพูดสุดรั่วกันเป็นแถว แม้แต่เพื่อนของมันเองยังขำกระจาย เมียผมรั่วได้ทุกสถานการณ์จริงๆ แต่ยิ่งรั่วกลับเป็นเสน่ห์
ให้เจ้าตัวเป็นที่รักของคนมากขึ้นไปอีก ไม่เว้นแม้แต่พวกเพื่อนผมเอง หลังหายจากสำลักแล้ว ชำเลืองดูไอ้ตัวแสบ
ต่างเดินไปเลือกซื้อข้าวกันท่ามกลางเสียงหัวเราะแซ่งแซ่ที่ค่อยจางลง
“เฮ้ย! พวกมึงพี่พรตแม่งโคตรเท่ว่ะว่าไหม กูละอิจฉาชิบหาย คนห่าไรไม่ถือตัว ทั้งหล่อทั้งรวย
สาวกรี๊ดกันสนั่น” ไอ้หยกเปิดประเด็นพูดขึ้นกลางวง โดยมีหลายคนพยักหน้าสนับสนุนเห็นด้วยเป็นพรวน
ส่วนผมเหลือบมองอาการไอ้หยกว่าที่มันพูดรู้สึกอย่างไร เท่าที่เห็นคงแค่ปลื้มไอ้รั่วประมาณนั้น รอดไป
นึกว่าคิดไม่ซื่อกับเมียกูเสียอีก
“ถ้าเราได้ผู้ชายอบอุ่นร่าเริงแบบพี่พรตเป็นแฟนคงโชคดีมากเลยเนอะ” มาแล้วสาวสวยคุณนิ่ม
อ่า..นี่สิตัวจริงที่คิดไม่ซื่อกับเมียผม พิจารณาสาวเจ้าก็สวยใช่เล่นแถมมั่นใจเกินร้อยเสียด้วยสิ เอาเข้าไปเมียรั่วกู
เนื้อหอมสาด...นะมึง
ผมนั่งทานเงียบๆ จนอิ่มยกแก้วน้ำดื่มส่งท้าย ต้องชะงักเมื่อเพื่อนในโต๊ะต่างเงียบเสียงกันอัตโนมัติ
แถมยังมองข้ามหัวผมเป็นทางเดียว ไม่ต้องรอคำตอบว่าพวกมันชะงักมองอะไร
“โต๊ะนี้มีที่ว่างเหลือบานเลย ขอพวกพี่นั่งด้วยคนดิ” เสียงมันนั่นเอง
“ค่ะ...ตามสบายเลยพี่พรต ไม่ต้องเกรงใจเชิญค่ะเชิญ” สาวนิ่มคงดีใจไม่น้อย เจ้ากี้เจ้าการเสร็จสรรพ
ทำเอากลุ่มไอ้เหยี่ยวรั่วยกโขยงทั้งห้าหนุ่มจับจองพื้นที่ในโต๊ะพวกผมทันที ขยับก้นกันคนละนิดละหน่อย สุดท้ายสิบสองคน
ฝั่งละหกเต็มโต๊ะยาว กลายเป็นกลุ่มใหญ่ในพริบตา
“หืม..น้องรันอิ่มแล้วหรือครับ?” มันถามผม ทำเอาสายตาทุกคู่ในโต๊ะจ้องผมทันที เลยต้องหยุดดื่มน้ำ
แล้วมองหน้ามันก่อนตอบไปว่า
“อืม...อิ่มแล้ว” ผมพูดสั้นๆ แต่ทุกคนมองไม่เลิก คงคิดว่าทำไมผมพูดไม่มีหางเสียงกับรุ่นพี่มั้ง
“ทำไม...หืม..มีอะไรหรือเปล่าถึงจ้องผมไม่เลิก” เป็นผมเสียอีกที่ต้องยิงคำถาม แต่ละคนออกอาการ
หาอะไรทำขึ้นมาทันที แกล้งคุยกันบ้าง ตักข้าวกินบ้าง ดื่มน้ำบ้าง เหลือเพียงไอ้เหยี่ยวรั่วเสือกยักคิ้วส่งท้ายให้ผมอีก
ก่อนจะหันไปจัดการจานข้าวตรงหน้าของมันเอง
“วันนี้รับน้องปล่อยกลับมืดไม่ค่ะพี่พรต” ยังเป็นสาวนิ่มที่หาเรื่องคุย
“ถ้าน้องๆ ให้ความร่วมมือไม่น่าเกินทุ่มนะพี่ว่า” มันตอบ
“กลุ่มนิ่มร่วมมือเต็มร้อยค่ะพี่พรต จริงไหมพวกเรา?” มีหันมาเรียกคะแนนความร่วมมือกับพวกผมอีกแหนะ
แต่ละคนก็ผงกหัวสนับสนุนไปตามๆ กัน ยกเว้นผมยังทำหน้ามึนไม่อะไรยังไงเหมือนเดิม
“รัน..ดูนิ่งดีวะ เท่ใช่ย่อยนะน้อง ปีนี้คงไม่ทำให้คณะเราผิดหวังมั้ง” เพื่อนไอ้พรตมันพูดขึ้นมา
หน้าตาไม่เลว
“เรื่องอะไรครับ” ผมตีมึนถามกลับไป ทั้งที่ในใจพอจะเดาออกว่ามันพูดหมายถึงอะไร
“ก็ตำแหน่งเดือนคณะ คงต้องพึ่งรันแล้วสินะ” เค้าตอบกลับมา เพื่อนผมก็ตาโตก่อนสาวพรจะชิงพูดขึ้นว่า
“จริงดิพี่ พรกะแล้วว่าคงไม่มีใครสู้รันได้ ไม่คิดว่าพวกพี่หมายตาไว้เช่นกัน” สาวพรออกอาการดีใจเองซะงั้น
“ต่อให้พวกพี่เห็นตรงกัน แต่ต้องรอน้องๆ โหวตให้อีกที” เพื่อนมันคนเดิมบอก ในขณะที่ไอ้ตัวดี
ยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ทำหูทวนลมได้อีก
“ไม่เห็นต้องเป็นผมเลยนี่ครับ คนมีความสามารถออกเยอะแยะ ให้เค้าทำไม่ดีกว่าหรือ” ผมตอบตามจริง
ไม่ได้คิดเล่นตัวอะไรแม้แต่น้อย
“ใช่คนมีความสามารถออกเยอะแยะ แต่หล่อ เท่ ครบเครื่องเหมือนรัน มันหายากนี่สิ” เพื่อนมันที่นั่งเก้าอี้
ติดกะไอ้ตัวแสบพูดขึ้นบ้าง ทำเอาเพื่อนผม เพื่อนมันพยักหน้าเห็นพ้องตามกันเป็นแถว ตกลงพวกมึงชมกูใช่ไหม
ผมควรจะดีใจสินะ
“อืม ครับ..ขอบคุณมากพี่ ที่เห็นความสำคัญของผม” พูดจบ สาวพรก็ต่อประโยคขึ้นมาทันที
“ใครไม่เห็นความสำคัญของรันก็ตาบอดแล้ว เท่ตั้งแต่วันรับน้องวันแรกเลยจริงป่ะ” นั่นไม่ได้เกิดจากความ
ต้องการของผมสักหน่อย ไอ้ตัวแสบที่นั่งแดกข้าวหน้ามึนหูกระดิกฟังเค้าคุยกันต่างหาก เป็นคนเรียกผมออกไปยืนหน้าแถว
“ไม่หรอก อย่ายอกันเองเลยผมเขินเหมือนกัน พอเหอะเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า” ผมตัดบท รู้สึกเขินจริง
ไม่ได้แกล้ง เล่นยอกันเองแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแหะ
“พี่พรตค่ะ ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว ไม่พูดไม่จาไม่เห็นเหมือนตอนนำทีมรับน้องเลยเนอะ” สาวนิ่ม
ได้จังหวะวกเข้าหาไอ้ตัวแสบทันที มันทำทียกน้ำขึ้นดื่มเบรกการเคี้ยวข้าวไปด้วย ก่อนพูดขึ้นว่า
“วันก่อนตาผมไปฟังพระเทศน์มา” จู่ๆ ก็โผล่พูดขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วมันมีตาตั้งกะเมื่อไหร่ เท่าที่รู้
ตายไปนานแล้วไม่ใช่
“ว้าว! ดีจังตาพี่ธรรมะธรรมโมมากเลยค่ะ” สาวนิ่มออกอาการปลื้มชัดเจน ในขณะที่หลายๆ คน
พากันลุ้นว่ามันจะพูดเรื่องอะไร
“ขากลับจากวัด ตาผมโดนรถชนตายคาที่” มันพูดหน้าตายมาก จนผมยังอดจ้องว่ามันจะมาไม้ไหน
แต่คนอื่นๆที่หลงเชื่อหน้าสลดไปตามๆกัน ก่อนไอ้อั้มเพื่อนกลุ่มผม มันเปรยอย่างมีอารมณ์ขึ้นว่า
“ซวยละ รถขับเร็ว ระยำโคตรไม่ดูคนเลยสิ” น้ำเสียงเหมือนจะสาปแช่งคนขับที่บังอาจมาชนตาไอ้รั่ว
ตายคาที่
“เปล่าครับ! พระบอกให้เดินทางสายกลาง ตาพี่เดินกลางถนนเลยโดนรถชนตาย” จบข่าว กะแล้วว่ามัน
ต้องรั่ว ทำเอาทั้งโต๊ะอึ้ง หัวเราะน้ำตาเล็ดจนเรียกโต๊ะข้างๆ หันมองกันเป็นแถว มุกมึงนี่ช่างคิดเนอะ...ผมอดยิ้มขำไม่ได้
ปรับอารมณ์ตามไม่ทันจริงๆ
“พี่พรตแม่งโคตรเลยว่ะ เล่นแรงอ่ะจิตตกเลยเหอะ..ฮ่าๆๆๆ” ไอ้กล้าเพื่อนกลุ่มผมพูดปนขำไปด้วย
“อิจฉาแฟนพี่พรตจัง รูปหล่อ อารมณ์ดี โอย..นิ่มอิจฉาจริงนะ อยากมีแฟนแบบพี่บ้างเอาไว้เติมเต็มชีวิต
คงมีความสุขมากเลยล่ะ” สาวนิ่มออกอาการคลั่งไคล้มันอย่างชัดเจน นั่งทำตาเพ้อฝันทำเอาทั้งโต๊ะอึ้งแดกอีกรอบ
ผมยังคงนิ่งรอฟังว่าไอ้ตัวดีจะพูดอย่างไร เหลือบมองหน้ามันเห็นยิ้มหล่อก่อนพูดขึ้นมาว่า
“พี่ไม่ได้อยากจะมีใครสักคน..เพื่อเข้ามาเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของชีวิต แต่!..เเค่อยากได้ใครสักคน
มาใกล้ชิด..เเล้วทำให้ชีวิตไม่ขาดหาย" เท่านั่นแหละเสียงโห่ฮิ้วก็ดังประสานคำพูดเลี่ยนสาดของมันทันที เสือกมองหน้าผม
ยกยิ้มยักคิ้วกวนใส่ผมอีก....ผมจึงได้แต่ส่ายหน้ากับความรั่วของมันตามระเบียบ..ส่วนสาวนิ่มยิ้มไม่หุบกับคำตอบโดนใจของ
ไอ้เหยี่ยวรั่ว คงคลั่งมันเข้าเส้นเลือดไปแล้วละตอนนี้...
เฮ้อ! เชื่อมึงแล้ว...เมียกู...???????????????? เอามาลงให้เต็มแล้วนะคะ ขอให้มีความสุขกับความรั่วของพรตกันต่อ
อ่านแล้วก็ขอให้รั่วตามพรตมันไปด้วย กร๊ากกกกก...เค้าล้อเล่น
วันอังคาร มาต่อน้องจอม วันพุธต่อมนต์มารให้นะคะ
Luk.