FLIGHT 23 : รักครั้งใหม่ของนายเทวดา
ทิมมี่ เดินนำกัปตันหนุ่มเข้าไปในตัวคฤหาสน์ ในขณะที่ทิมมี่สังเกตเห็นร่างของน้องสาวที่กำลังกุลีกุจอรีบวิ่งหน้าตั้งขึ้นไปข้างบน...เขารู้ดีว่าทำไมเธอถึงต้องทำท่าทำทางแบบนั้น
“เทลิซ่า!” ทิมมี่ส่งเสียงเรียกน้องสาว..ขณะที่เทลิซ่าหยุดฝีเท้าทันทีจนเกือบหกล้ม ก่อนที่จะหันมายิ้มแห้งๆให้กับพี่ชาย
“...ง...ไง!” สีหน้าเจื่อนของเธอ ทำให้ทิมมี่เข้าใจดีที่สุด
“ขอบใจนะที่กลับมาโดยไม่รอฉันเนี่ย..” ทิมมี่แกล้งว่าประชด ขณะที่เทลิซ่าทำตาโตเล็กน้อย เมื่อเห็นกัปตันหนุ่มเดินตามทิมมี่เข้ามา
“...อ..เอ่อ... สวัสดีค่ะกัปตัน”
“นอกเวลาทำงาน.. เรียกชื่อผมก็พอมั้ง..” กัปตันหนุ่มเอ่ยอย่างเป็นกันเอง..
“ได้ไงล่ะ... ก็ชุดเครื่องแบบยังคาอยู่เลย...เอ่อ...งั้น... ตามสบายค่ะ ฉันง่วงมาก..เอ่อ ไปนอนก่อนนะทิมมี่ ราตรีสวัสดิ์!” หญิงสาวได้ทีจรลีหายไปในอย่างไม่รีรอให้ทิมมี่ว่ากระทบอะไรอีก..
“อืม.. จริงๆแล้วก็ต้องขอบคุณเธอนะ..ที่เธอไม่รอกลับบ้านกับนาย... ก็เลยทำให้ฉันต้องได้มาค้างที่นี่ด้วย...” ทิมมี่แอบเบะปากเล็กน้อย พลางคิดว่าได้ทีเอาใหญ่เชียว..
“ผมง่วงมากแล้ว...คุณจะนั่งเล่นอยู่ข้างล่างก่อนก็ได้นะครับ”
“เรื่องอะไร... ฉันก็ง่วงเป็นน่ะ” ทิมมี่รีบเดินนำไปก่อน ขณะที่กัปตันก็เดินตามขึ้นมาข้างบน พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ราวกับเขาไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเพลียจากการทำงานใดใดเลยในวันนี้
ทิมมี่เดินออกมาจากห้องน้ำ ในขณะที่มองเห็นกัปตันหนุ่มที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก่อนหน้านี้แล้ว กำลังนอนกอดหมอนข้างของเขาแน่นิ่งไป... เสียงกรนเบาๆทำให้ทิมมี่รับรู้ได้ว่ากัปตันลูคัสคงเหนื่อยมาก...พลางความรู้สึกอยากรู้ว่าการเป็นกัปตันที่จะต้องควบคุมเครื่องบินในระยะเวลานานๆหลายชั่วโมงติดต่อกันมันจะรู้สึกย่ำแย่ขนาดไหนกันเชียวนะ.. หากแต่ความคิดนั้นก็ส่งผลให้ทิมมี่ค่อยๆลงมานอนบนเตียงอย่างเงียบๆ.. พลางปิดไฟที่หัวเตียง และลงนอนอย่างเบาตัวที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้คนข้างๆที่กำลังนอนหลับสนิท ตื่นขึ้นมารังควานความรู้สึกของเขาอีก..
จากตี 1 เหยียบสู่เลข 9 ในเช้าตรู่ของวันใหม่..ร่างสูงใหญ่พลิกไปมาอย่างสบายตัว ดวงตาคมกริบบนใบหน้าคมสัน
ค่อยๆลืมขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางๆที่สดชื่นกว่าทุกเช้าที่เขาเคยตื่นมาก่อนในชีวิต..ในขณะที่สีหน้าอารมณ์ดีต้อนรับวันใหม่ต้องสะดุดหยุดไปเมื่อร่างที่บางกว่า นั่งพิงหัวเตียงกึ่งนอนเหยียดขามองมาทางเขาได้สักครู่หนึ่งแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอที่รัก..” เสียงงัวเงียของกัปตันหนุ่ม พาให้ทิมมี่ทำหน้าเหมือนอยากอาเจียนตั้งแต่เช้า
“ที่รัก?.... ผมไม่ได้ชื่อวีว่า เลอคอติสสักหน่อย” สีหน้าของชายหนุ่มเหมือนโดนของเข้าไปในทันตาเมื่อได้ยินชื่อนั้นมาอรุณสวัสดิ์
“กรุณาอย่าพูดชื่อนั้นให้ฉันได้ยินแต่เช้าได้มั้ย...มันทำให้ฉันรู้สึกพะอืดพะอมทั้งวันเลยล่ะ”
“อืม... โทษที... แล้วถ้าบอกว่า เทเลอร์ ดรอว์เยอร์ล่ะ” ทิมมี่ถามหน้าลุ้นๆ กัปตันหนุ่มทำหน้าคิด
“อืม... ดีขึ้นเยอะเลย... ดีกว่ามาก..........” กัปตันหนุ่มเขยิบตัวขึ้นมานั่งข้างๆทิมมี่ที่หัวเตียง ทิมมี่แอบเขยิบออกห่างเล็กน้อย
“แต่หากจะเวลานี้..คนที่จะทำให้ฉันรู้สึกดีที่สุด...คงจะเป็นทิมมี่ ดรอว์เยอร์” ทิมมี่เอามือลูบหน้าตัวเองอย่างเอือมๆ
“คุณทำให้ผมรู้สึกแย่ทั้งวันเลยล่ะคุณกัปตัน” ทิมมี่แกล้งหยอก แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ ยังจะรุกหนักกว่าเดิมอีก
“วันนี้เราก็หยุดอีก... เราจะไปเดทไหนกันดีล่ะ?” กัปตันหนุ่มถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทิมมี่อดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้กับหน้าตาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน..ราวกับชายหนุ่มทำตัวเหมือนสุนัขอ้อนเจ้านายทำนองนั้นเลย
“เดท?...เดทบ้าอะไรของคุณ?” และทิมมี่ก็ทำเสียบรรยากาศเสมอ
“...นายทำตัวน่ารักกว่านี้ได้นี่... ฉันเคยเห็นนะ” กัปตันหนุ่มไม่ยอมแพ้
“เมื่อไหร่?..ผมเคยทำอย่างนั้นด้วยเหรอ?”
“บ่อยไป... อย่าฝืนตัวเองซี่”
“เฮอะ.. นี่หรือผมฝืน..ดูสีหน้าผมสิ.... ผมกำลังเขินคุณอยู่รึไงกัน? ตาบอดแล้ว” ทิมมี่ปากไม่ตรงกับใจพลางใช้ความพยายามข่มความแดงของใบหน้าจนมันไปออกที่หู กัปตันหนุ่มยิ้มและพยายามเอาชนะ
“ไปเที่ยวไหนกันดี...”
“หน้าตาผมอยากเที่ยวเหรอ?”
“อยู่แล้วล่ะ...คิ้วผูกเป็นโบว์ขนาดนี้ ขืนอยู่บ้านเฉยๆล่ะได้นอนทั้งวันแหงเลยนาย”
“ผมจะนอนมันก็เรื่องของผมนี่..”
“เร็วๆ จะไปไหน...” ทิมมี่ถอนใจกับการตื๊อไม่เลิก..แล้วหนุ่มหน้าขาวเหมือนจะทำนิ่งราวกับหยุดคิด
“ฉันกว่านายคิดนานขนาดนี้ ฉันคิดแทนให้ดีกว่ามั้ย?”
“ไม่ต้องๆ! ผมคิดได้แล้วต่างหาก”
“จริงเหรอ?... จะไปไหนล่ะ?” ทิมมี่หันมามองหน้าชายหนุ่ม พร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นนัยน์ประหลาด ก่อนที่จะยักคิ้วสองสามที
“เดี๋ยวคุณก็รู้...”
++++++++++++ร้อยเล่ห์...เหลี่ยมเทวา++++++++++++
เฟอร์รารี่คันหรู ขับออกมาจากปารีสมุ่งหน้าเส้นทางตะวันออกห่างจากกรุงปารีสแค่ 32 กิโลเมตรก็ถึงที่หมายปลายทางที่ ทิมมี่ ดรอว์เยอร์ต้องการจะมาเยือนนานพอสมควรแล้ว หลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบแผ่นดินแห่งความรื่นรมย์ ณ ที่แห่งนี้มาเกือบสิบปี
ยินดีต้อนรับเข้าสู่.. ดิสนีย์แลนด์รถหรูเข้าจอดในลานจอดรถด้านหน้าขนาดใหญ่ สองหนุ่มใส่ชุดสบายๆกับวันพักผ่อน และสถานที่ๆกัปตันหนุ่มคาดไม่ถึงว่าทิมมี่อยากจะมา.. มันคือ สวนสนุกอย่างนี้เองหรือ?
“อายุนายก็เลยยี่สิบแล้วนะ..ไม่คิดว่าจะอยากมาสวนสนุกเลยนะเนี่ย?” กัปตันพูดยั่วพร้อมรอยยิ้มกวน ทิมมี่ไม่สนใจแต่หยิบหมวกสีดำขึ้นมาสวม แล้วยิ้มให้กับตัวเองในกระจก เพื่อพร้อมจะพักผ่อนเต็มที่ในวันนี้
“นับว่าเป็นเดทแรกสำหรับเราที่แสนจะน่าจดจำมากนะ” กัปตันยังพูดกวนต่อ
“คุณพูดมาตลอดทางเลยนะคุณลูคัส.. คุณไม่เมื่อยปากบ้างหรือไงนะ?” ทิมมี่ทำหน้าเซ็งถาม
“ไม่เมื่อยหรอก... แต่ก็อยากจะให้นายพูดบ้างเท่านั้นเอง”
“ผมชวนคุณมาสวนสนุก ไม่ได้ชวนให้คุณมาพูดเสียหน่อย.. รีบๆลงจากรถเสียทีสิ!”
“ครับ..คุณหนู” ทั้งคู่ลงจากรถได้ กัปตันหนุ่มรูปงามก็ตรงเข้ามาควงแขนทิมมี่อย่างสนใจสายตาประชากรและเยาวชนที่อ่อนต่อโลกมากมาย...สายตาของหลายคนมองมาทางคนทั้งคู่ พร้อมกับแสดงสีหน้ายิ้มตอบเมื่อกัปตันหนุ่มทักทายด้วยรอยยิ้มไปก่อนหน้านี้อย่างเป็นมิตร เด็กหลายคนคงจะถามพ่อแม่ว่าทำไมผู้ชายถึงเดินควงแขนกันได้..หากแต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าทิมมี่พยายามผละตัวเองให้ออกห่างตลอดเวลาที่ก้าวเดิน แต่ใครจะต่อสู้กับกำลังแขนอันแข็งแกร่งของกัปตันหนุ่มคนนี้ได้กันเล่า?
ในที่สุดเสียงกรีดร้องของเด็กๆที่กำลังจะคลั่งกับรถไฟเหินเวหาจากที่ห่างไกล ...ก็ทำให้คนทั้งคู่กลับสู่ภาวะแห่งความสนุกอีกครั้งหลังจากที่เดินกระฟัดกระเฟียดมาตั้งแต่เคาว์เตอร์จ่ายบัตร และผ่านโรงแรมดิสนีย์แลนด์ ที่ยืนคร่อมอยู่ตรงทางเข้ามาหลายก้าวพอสมควรแล้ว สีหน้าของทิมมี่เริ่มสนอกสนใจกับเครื่องเล่นในดินแดนมหัศจรรย์ที่เมื่อสมัยเด็กเขาชื่นชอบที่นี่มาก...จนลืมไปเลยว่าตอนนี้แขนของตัวเองกำลังอยู่ในพันธนาการของใคร
สวนสนุกที่นี่จัดว่าไฮเทคที่สุดในแผ่นดินฝรั่งเศส แบ่งพื้นที่ออกเป็นห้าเขตหลักเรียกว่า “แดน” ..และแต่ละเขตมีการละเล่น ร้านค้า และร้านอาหารที่เป็น “ธีม” หรือแนวเรื่องเฉพาะของตน ...สองหนุ่มผ่านประตูหมุนขนาดใหญ่ เข้าสู่เมนสตรีตยูเอสเอหรือถนนสายหลัก..กัปตันหนุ่มพาทิมมี่เดินเข้ากลุ่มมิกกี้เมาส์ที่ยืนเต้นเย้วๆอยู่ตรงหน้า พฤติกรรมของกัปตันหนุ่มกับการแย่งมิกกี้เมาส์และมินนี่ของเด็กเล็กมายืนถ่ายรูปกับตน ก็พาให้ทิมมี่ต้องอับอายพ่อกับแม่ของเด็กไม่น้อยทีเดียว... หากแต่กัปตันหนุ่มก็รู้สึกพอใจมากกว่ากับการได้แกล้งทิมมี่ไปในตัวด้วย...สีหน้าของทิมมี่ ดรอว์เยอร์ ยามอับอาย... มองๆแล้วน่ารักกว่ามิกกี้เมาส์เสียอีกในสายตาของเขา
ความสนุกเป็นไปมากกว่าที่ทิมมี่คิด...และตระหนกมากกว่าที่เขาคิดอีกด้วย.. การมากับกัปตันลูคัสครั้งนี้ ทำให้ทิมมี่ได้เล่นเครื่องเล่นหลายๆอย่างที่เขาพยายามปฏิเสธมาตลอดชีวิตว่าจะไม่แตะต้องเด็ดขาด.. อย่าง “แฟนทอมเมเนอร์” เครื่องเล่นที่สร้างเลียนแบบฉากภาพยนตร์เรื่อง Psycho ของฮิตซ์ค็อก...ซึ่งมีรถรางพาไปเขย่าขวัญภายในบ้านผีสิง...และอีกทั้งความระทึกกับการนั่งรถไฟใน “บิ๊กธันเดอร์เมาท์เทน” หรือทางรถไฟสายฟ้าฟาด...ซึ่งทั้งสองอย่างนี้แค่ส่วนหนึ่งในการสร้างอารมณ์สะพรึงของทิมมี่ ดรอว์เยอร์ เพียงน้ำจิ้มเท่านั้น.. ยังมีอีกหลายอย่างที่กัปตันลูคัสแทบจะบังคับและอุ้มร่างของทิมมี่ให้เข้าไปเผชิญกับเครื่องเล่นระทึกขวัญมากมายจนทิมมี่ไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองกำลังอยู่ในดิสนีย์แลนด์ ดินแดนในฝันอย่างที่เคยคิดมา...
++++++++++++ร้อยเล่ห์...เหลี่ยมเทวา++++++++++++
12.30 น. ศูนย์ฯลูกเรือ ดานอสซี่แอร์ไลน์ “สวัสดีค่ะคุณเทลิซ่า” อลิซ พนักงานบริการเคาว์เตอร์ทักทายเทลิซ่าทันทีที่หล่อนเดินก้าวออกมาจากลิฟต์ได้ไม่กี่ก้าว
“สวัสดีค่ะ.. หน้าตาสดชื่นทุกวันเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ เอ่อ... แล้วคุณทิมมี่ล่ะคะ?”
“อ๋อ... วันนี้พักเวรค่ะ เที่ยวบินหน้าก็พรุ่งนี้ช่วงบ่ายน่ะค่ะ”
“จริงสินะคะ ดิฉันก็ลืมไป... ได้พักผ่อนบ่อยๆดีจังเลย” เทลิซ่าแอบเบะปากยิ้ม
“ไม่ได้พักผ่อนหรอกมั้งคะ... เห็นว่าออกไปเที่ยวกับกัปตันของเราต่างหาก...เห็นว่าไปถึงเมืองมาร์น-ลา-วาเล ดิสนีย์แลนด์เลยนะ”
“โอ้โห... นี่กัปตันของเรายังอยากไปเจอมิกกี้อยู่อีกเหรอคะเนี่ย” อลิซรู้สึกขันเมื่อนึกถึงบุคลิกท่าทางเคร่งขรึมของกัปตันหนุ่มมือหนึ่งของดานอสซี่
“พอกันทั้งคู่แหล่ะค่ะ...พี่ชายดิฉันก็ใช่ย่อย..เอ่อ.. ถ้างั้นดิฉันขอตัวนะคะ พอดีมีบรีฟอีกสิบนาที ขอไปแต่งหน้าก่อน”
“เชิญค่ะ..เดินทางปลอดภัยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะ” เทลิซ่าเดินย้ายสะโพกหายเข้าไปในล็อกเกอร์หญิง..
ในขณะที่อีกมุมอีก.. มีบุรุษหน้าขาวซึ่งได้ยืนแอบฟังการสนทนาของทั้งคู่อยู่นานแล้ว... เขาเม้มปากอย่างเจ็บแค้น.. พลางสายตาหันไปมองที่บอร์ดพนักงาน และจ้องไปที่รูปถ่ายของ “กัปตันลูคัส กาโรล” ด้วยแววตาขุ่นเคืองและเจ็บใจเป็นที่สุด!
“ผมรู้แล้ว... ว่าผมจะทำเอาคืนคุณยังไง... คุณลูคัส!!”
++++++++++++ร้อยเล่ห์...เหลี่ยมเทวา++++++++++++
ทิมมี่.. นั่งหอบเหนื่อยอยู่ในแฟนตาซีแลนด์หรือดินแดนแห่งเทพนิยาย... ไม่ช้ากัปตันหนุ่มก็เดินขาสั่นตามมาพร้อมกับน้ำดื่มขวดหนึ่งในมือ... ก่อนที่จะยื่นให้หนุ่มหน้าขาวที่ในเวลาหน้าซีดเผือด.. แล้วกัปตันหนุ่มก็ล้มตัวลงนอนแผ่ไปกับสนามหญ้า ข้างๆทิมมี่ ดรอว์เยอร์ที่นั่งกระดกขวดน้ำอยู่อย่างกระหาย
“เหนื่อยจริงๆพับผ่า... สุดยอด!” กัปตันหนุ่มพูดเสียงสั่น ร่างล่ำสันนอนแผ่อยู่กับพื้น เหงื่อซึมผิวเสื้อและร่างกาย เขาดูผ่อนคลายมากเหลือเกินในวันนี้
“ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งเดียวที่ผมจะมากับคุณนะคุณลูคัส... ผมรู้สึกเกลียดดิสนีย์แลนด์ขึ้นมายังไงไม่รู้แล้วล่ะ...” ทิมมี่พูดแล้วกระดกน้ำเข้าปากต่อ
“นี่นาย... ใจคอจะเหลือน้ำให้ฉันบ้างหรือเปล่าน่ะ” กัปตันหนุ่มผงกหัวขึ้นมาถามแล้วลงไปนอนต่อ
“แล้วทำไมคุณถึงซื้อมาขวดเดียวเล่า?”
“ก็ฉันอยากดื่มต่อจากปากนายนี่นา...” ทิมมี่ถอนใจอย่างเหนื่อยมากขึ้น
“ทะลึ่งมากก็อดต่อไปเถอะ.... อะ..!” ขวดน้ำตกลงกับผืนสนามหญ้า... จากริมฝีปากเรียวบางที่ถูกผลักออกจากปลายกระบอกขวด... หากแต่เวลานี้ กลีบปากสวยของทิมมี่ ดรอว์เยอร์.. กลับถูกถ่ายทอดลมหายใจจากริมฝีปากอุ่นของกัปตันลูคัส! ทิมมี่ชะงักนิ่งไปกับการกระทำนั้น.. เสียงกรี๊ดท้ายมทูตของผู้โดยสารรถไฟเหาะตีลังกาจากแอดเวนเจอร์แลนด์พาให้กัปตันหนุ่มสะดุดอารมณ์ แต่ก็ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาจากกลีบปากนุ่มของทิมมี่ด้วยสีหน้าที่แสดงความอ่อนโยนและความอบอุ่น ให้กับคนตรงหน้าได้เห็น
“...คุณทำบ้าอะไรเนี่ย...” เสียงอ่อนของทิมมี่ถามขึ้น ในขณะที่สีหน้าเขายังอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างไม่คลาย.. ขณะที่กัปตันลูคัสพาดแขนแกร่งมาโอบไหล่ของทิมมี่เอาไว้ แล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้อีก
“ก็นายอยากให้ฉันอดทำไมล่ะ?....” รอยยิ้มอ่อนโยนที่มาพร้อมกับคำตอบ...ยิ่งทำให้ทิมมี่รู้สึกหมดแรงจะไหวตัวหนีไปไหนได้อีกแล้ว..
“คุณผ่านการจูบจากใครต่อใครมากี่คนแล้วเนี่ยคุณลูคัส..?” ทิมมี่ทำหน้านิ่งถาม กัปตันหนุ่มเริ่มเดาใจทิมมี่ไม่ถูกเข้าแล้ว
“ถามทำไมกัน?” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างต้องการคำตอบ
“...เปล่าหรอก... ผมแค่รู้สึกเหม็นปากคุณก็เท่านั้น..” ในที่สุด ความหมายที่แสดงขึ้นอาการหยอกล้อของทิมมี่ก็ทำให้กัปตันหนุ่มเข้าใจและยิ้มกว้างออกมาได้ในไม่ช้า
“...หึ... ปากผู้หญิงอาจจะหลายคนอยู่.... แต่รู้ไว้เถอะ.... ปากของผู้ชาย.. นายเป็นแรก... และจะเป็นคนสุดท้ายของฉันด้วย” ทิมมี่อึ้งไปกับน้ำเสียงอ่อนโยนนั้น.. กัปตันหนุ่มทำทีจะโน้มใบหน้าลงมาอีก แต่รถไฟเหาะเจ้ากรรมก็พาเสียงกรีดร้องมาเขย่าขวัญคนทั้งคู่อีกจนได้
“ให้ตายเถอะ...” กัปตันหนุ่มส่ายหน้าอย่างหัวเสีย ก่อนที่จะเหลือบไปมองรถไฟเหาะเบื้องหลังอย่างหงุดหงิด... ขณะที่ทิมมี่ ดรอว์เยอร์ นั่งยิ้มอย่างขอบคุณเสียงกรีดร้องเหล่านั้น
“...ขอบคุณนะครับ...” อยู่ๆ คำพูดสั้นๆของทิมมี่ ก็ถูกเปล่งออกมา..ทำให้สีหน้าของกัปตันหนุ่มคลายความหงุดหงิดลงในทันที..และหันหน้ามามองหนุ่มหน้าขาวอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่อึ้งไปเล็กน้อย
“...ขอบคุณที่พาผมมาในวันนี้... และคุณ.... ก็ไม่ต้องทำหน้าซึ้งขนาดนั้นก็ได้” คำพูดท้ายประโยคทำให้กัปตันหนุ่มถอนใจก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง
“นายจะพูดให้ดูดีตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้นะ...นายนี่จริงๆเลย”
“อืม... ผมเหนื่อยมาก... อยากกลับแล้วล่ะ”
“ฮะ?... นี่แค่บ่ายสองเองนะ?... จะรีบกลับไปไหนกัน” กัปตันหนุ่มทำหน้าสงสัยมองทิมมี่ที่กำลังนั่งหน้ามึนอยู่นิ่งๆ
“...หรือว่านาย.. เบื่อหน้าฉันแล้วล่ะ?” สีหน้าของกัปตันหนุ่มก็เจื่อนไปกับคำพูดตัวเองเช่นกัน.. หากแต่สายตาของทิมมี่ที่มองสวนมานั้น ทำให้ชายหนุ่มรับรู้ถึงความรู้สึกอะไรบางอย่างกับสายตาที่ทอดมองมาทางเขา
“ถ้าผมเบื่อคุณ... ผมคงไม่มากับคุณหรอกคุณลูคัส...” คำพูดที่ชวนให้กัปตันหนุ่มใจชื้นถูกเปล่งออกมาอีกครั้งหนึ่ง..
“...ฉันคงจะรู้สึกดีกว่านี้....หากนายจะพูดให้ฉันได้ยินว่า....... นาย.... รักฉัน เหมือนที่ฉันรักนายนะ..” สีหน้าจริงจังของกัปตันลูคัส พาให้ทิมมี่รู้สึกร้อนผ่าวไปด้วยกระแสลมอบอุ่นจากคำพูดนั้นของเขา.. ความรู้สึกบางอย่างในสมอง เริ่มมั่นใจในสถานะของตัวเขาเองแล้วว่า.. ในวันนี้.. เขารู้สึกอย่างไร... กับกัปตันลูคัส!....และสีหน้าที่เผยรอยยิ้มออกมาของทิมมี่ ก็มาพร้อมกับคำตอบรับ.....ที่จะทำให้กัปตันหนุ่ม ไม่คาดฝันว่าจะได้ยิน...
“คุณลูคัส...ผม........รั...”กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~~~~~~!!!!!!!!!!!!!!!
“โว่ย!!!!” กัปตันหนุ่มระเบิดอารมณ์ออกมาด้วยการลุกขึ้นและกระโดดเตะก้อนหินไปทางขบวนรถไฟเหาะอย่างสุดทน! เสียงกรีดเหล่านั้นพาให้ทิมมี่หลุดออกมาจากหลุมรักบนดวงหน้าของกัปตันหนุ่มที่อุตส่าห์พยายามต้อนอารมณ์ให้จนมุม... หากแต่ในวันนี้.. ทิมมี่ก็ได้แต่นั่งหัวเราะกับท่าทีของกัปตันหนุ่มในเวลานี้ อย่างอดกลั้นไม่ได้จริงๆ...
++++++++++++ร้อยเล่ห์...เหลี่ยมเทวา++++++++++++
TBC.