'คราวชนะ 'รุก' ใหญ่ไม่รีรอ'
“ฮึด! เอ้าบึ้ด! บึ้ดจ้ำบึ้ด” เสียงกุ๊กพฤษภ์ออกกำลังกายในห้องครัวที่บ้านด้วยการยกหัวแครอทสร้างกล้ามเนื้อดังเข้ามาถึงในห้องรับแขก
งานกีฬาสีมีในวันอาทิตย์ ดังนั้นวันเสาร์นี้เลยเป็นวันที่ทั้งตัวพ่อและตัวลูกเบ่งพลังกันยกใหญ่ มีลุงโชคเป็นผู้กำกับว่าแพ้
ไม่ได้เด็ดขาด
..เพราะบุฟเฟ่ต์หัวละเก้าพันรอประหารอยู่!..
“ไหน..ทดสอบความแกร่งซิพ่อลูก” โชคนั่งกระดิกเท้าอยู่หน้าทีวี มองทั้งคู่แล้วมันทั้งฮาทั้งเพลินเจริญใจ รู้สึกดีเหมือน
มีครอบครัวของตัวเอง
“ย๊ากกก!” พฤษภาใช้นิ้วจิ้มลงเต้าหู้จนขาดเป็นสองส่วน น้องเมษปรบมือแปะๆ วิ่งเข้าไปกัดไอศกรีมโคนที่ห้อยลงมา
จากไม้แขวนเสื้อบ้าง
การแข่งกีฬาครั้งนี้มีผู้ปกครองเป็นคนช่วยเหลือ ตัวชูโรงทั้งหลายเป็นเด็กๆ และโปรเจ็คอันยิ่งใหญ่ก็คือ ‘วิ่งวิบาก’
น้องเมษกระโดดตัวลอย งับไอศกรีมสองทีก็หมดแท่ง ฟัดเร็วยิ่งกว่าพายุ ถ้ามีอาหารล่ะก็..รับประกันว่าชนะขาดแบบ
นอนมา
มีเสียงกดออดหน้าบ้าน โชคชัยชะโงกหน้าดู เห็นเป็นหญิงวัยดึกกับเด็กชายตัวเปี๊ยก “เนื้อคู่เรามาแล้วน้องเมษ”
“จอชชี่เหรอ”
“นั่นแน่ะ” กุ๊กพฤษภ์หรี่ตามอง มือควงหัวไชเท้าเล่น
เมษาวิ่งไปเปิดประตูให้พร้อมกับกระพุ่มมือไหว้ป้าสาว ไม่ต้องพูดถึงแด๊ดดี้เฟรด รายนั้นยังหมกอยู่ที่บริษัท กว่าจะกลับคงดึก และ
เช้าอีกวันก็ขึ้นเครื่องดิ่งไปที่กระบี่เลย ตัดโอกาสแบบชั้บ ชั้บ ชั้บ
“ฝากคุณหนูด้วยนะคะคุณพฤษภ์ คุณโชค” ป้าสาวแวะเอาโจชัวร์มาส่ง ได้ยินว่าจะมีแข่งวิ่งสามขา เด็กๆเลยอยากฟิตปั๋งก่อนวัน
จริง
พฤษภายิ้มแป้น รับปากอย่างดี “เย็นนี้เราจะทำสุกี้กัน ป้ามากินที่บ้านผมนะ หรือจะให้ยกหม้อไปฝากถึงบ้านนั้นเลยดีครับ”
“อุ้ย..ไม่รบกวนค่า ตามสบายเลยดีกว่า” แกยิ้มอวดฟันปลอมแล้วขอตัวกลับออกไป บอกว่าไว้น้องจอชจะกลับเดี๋ยวแกมารับเอง
โชคชัยจูงมือเด็กสองคนเข้าบ้าน เมษาเตรียมเชือกผูกรองเท้ามาล่ามขาของตัวเองกับจอชชี่แล้ว ลุงโชคเลยทำหน้าที่ผูกเงื่อน
ให้
“ระวังหกล้มนะ” เขาขยี้หัวทั้งคู่ก่อนจะผละออกมายืนมองเมษากอดคอโจชัวร์วิ่งโผเผ ลองผิดลองถูกกันไป
พฤษภายืนล้างผักอยู่ในครัว มื้อเย็นเป็นสุกี้หม้อหย่าย น้องเมษขอลูกชิ้นปลาเด้งได้สักยี่สิบลูก ลูกชิ้นสาหร่ายกับปิงปองอย่างละ
แพ็ค มีกุ้งหอยปูปลาและหมูหมากาไก่เป็นทัพเสริม ส่วนพี่โชคชอบกินเห็ด ทั้งเห็ดหอม เห็ดฟางเห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนูดำ เห็ดหู
หนูขาว เห็ดเออรินจิ เห็ดแชมปิญอง เห็ดปี๋..วุ้ย!
หม้อนี้เลยยำกันเละ กินได้ทั้งต้นตระกูลตั้งแต่ทวดของทวดลงมา มีทอดมันกุ้งกับเปาะเปี๊ยะกรอบสะท้านทรวงไว้ให้น้องจอชกิน
เสริมแรงด้วย
“ช่วยมั้ย” โชคชัยล้างมือเอี่ยมอ่อง เห็นอีกคนหยิบเกล็ดด่างทับทิมใส่น้ำแช่ผัก เป็นอีกเรื่องที่วางใจได้ กุ๊กพฤษภ์สะอาดจัดชนิด
ย้ำคิดย้ำทำเลยเชียว
“ด่างทับทิมล้างผักจะสะอาดสุด รองลงมาก็เป็นน้ำส้มสายชูฝานึง เอาแช่น้ำไว้กำลังดี ใช้เกลือก็ได้ แต่ไอ้พวกที่เปิดน้ำรดผัก
นานๆนี่ไม่รับรอง ยิ่งพวกจุ่ม ยก แล้วสะบัดนี่ต้องกดแบน” กุ๊กแสนดีบ่นอุบอิบ “ไม่มีจรรยาบรรณ”
“จ้า..” พี่โชคหัวเราะ “ใครจะเก่งแบบพฤษภ์ของพี่ล่ะ”
พฤษภาเหล่ตามอง “อะไร..ใครเป็นของพี่โชคกัน ห๋า..”
ดูเหมือนคนพูดจะรู้ตัวเลยแสร้งมองทางอื่นกลบเกลื่อน
กุ๊กล้างเนื้อหมูแล้วสับเป็นชิ้นพอดีคำ “เงินมีก็มาขอ จะให้รอพ.ศ.ไหน มรดกยกมาไวๆ จะให้ได้ใจก็ต้องจดทะเบียนเลย ฮิ้ว..”
“เพลงอะไร” คนฟังมันตงิดนะ
“ด้นสด คำร้อง-ทำนองโดยนายพฤษภา”
“ไม่แปลกใจกับเพลงเบอร์เกอร์เป็นยาวิเศษ” เขาส่ายหัว ช่วยยกผักล้างน้ำเปล่าอีกที ต้องระวังไม่ให้ใบช้ำ “ทำเป็นร้อง..ชวนจด
จริงๆแล้วจะหนาว”
กุ๊กพฤษภ์เลิกคิ้ว หันมามองคนด้านหลัง “มะกี๊พูดไรเปล่า”
“หูฝาดแล้วน้อง” เขาอมยิ้ม แกะถุงลูกชิ้นต่อ
“ถ้ารู้อายุพฤษภาล่ะน้องเอ๋ยต้องมานั่งทำตาปริบๆ” พ่อน้องเมษเป็นพวกอารมณ์ศิลป์จัด “พี่อายุสามสิบ..สามสิบ ดูซิยังแจ๋ว”
โชคชัยยืนกอดอกมองน้องเขยตัวเองด้วยรอยยิ้ม เขาคิดว่าตัวเองมีความรู้สึกดีๆให้กับอีกฝ่าย ไม่รู้หรอกว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน
ก่อนหรือหลังการหย่าของพฤษภ์กับน้องสาวเขา หรือว่ามันมีมานานแล้วตั้งแต่รับพฤษภ์เข้าทำงาน เอาเป็นว่า..เขามีความสุขทุก
ครั้งที่อยู่ใกล้กันก็พอ
ถามว่าคิดจะบอกมั้ยว่าชอบ..ว่าสนใจ หรือถ้าจะเอาจริงๆ เขาคิดว่าเขารักพฤษภ์นะ เพียงแต่คำนี้มันต้องใช้เวลานานหน่อย
..คำตอบคือ..อาจจะบอก..หรืออาจจะไม่บอกก็ได้..
..เพราะยังไงซะพฤษภ์ก็อยู่ตรงนี้..ใกล้ๆเขา..
..ทั้งพฤษภ์และน้องเมษ..เป็นของเขาทั้งคู่..
..ปล่อยให้เวลาเป็นตัวตัดสินดีกว่า..
“ว่าแต่..วันนี้พวกเราปิดร้านมานั่งทำสุกี้กินเองจะดีเหรอพี่” พฤษภาทำท่านึกขึ้นได้ ปกติวันหยุดแบบนี้ลูกค้าเยอะแทบร้านพัง
“อืม..ไม่เป็นไรหรอก นานๆทีได้อยู่เป็นครอบครัวที” พักนี้เขามักพูดอะไรแปร่งๆตลอด หยอดวันละนิด..จิตแจ่มใส หยอดคนอย่าง
กุ๊กพฤษภ์ต้องค่อยๆบรรจงหยอด โผงผางทีเดียว หนูตัวจ้อยจะตกใจแล้วมุดลงรู
“พี่ตั้งใจว่าจะให้พฤษภ์เลิกงานตรงกับเวลาที่น้องเมษเลิกเรียนเหมือนกัน พฤษภ์จะได้อยู่กับลูกนานขึ้น มีการบงการบ้านจะได้
ช่วยกันสอน”
“จริงอ่ะ” เวลาหยุดนี่ใครๆก็ชอบ ต่อให้ขยันแค่ไหนก็เถอะ
“พี่สงสารน้องเมษ จะได้ไม่ต้องมานั่งคอยพ่อกับลุงที่ร้าน” ลุงโชคหารู้ไม่ว่า ร้านอาหารนี่เป็นเบสท์เพลสของน้องเมษเลยล่ะ
“แล้วแบบนี้ลูกค้าล่ะ”
“เด็กๆที่ฝึกไว้ไง ถึงคราวต้องช่วยงานเต็มกำลังซะที” เขายิ้ม และโดยไม่ทันตั้งตัว คุณพ่อสามสิบยังแจ๋วก็โผเข้ากอดเต็มรัก
“โว้! น่ารักว่ะ พี่เมียใครวะ น่ารักจริงๆ มาๆ หอมแก้มโหน่ย” ไม่ว่าเปล่า ยังทำปากจู๋ใส่อีกต่างหาก
“ไอ้เพี้ยน!” โชคชัยหลบหลีก รู้สึกว่าสีหน้าร้อนผ่าว “แล้ววางซะด้วยอีโต้น่ะ! จะเฉือนกล่องดวงใจพี่รึไง มีกล่องเดียวนะเว้ย!”
“อิอิ กล่องแพนโดร่าด้วยเนอะ ยังไม่เคยใช้งานเลย ระวังราขึ้นนะ”
โชคชัยส่ายหัว ปล่อยกุ๊กตัวแสบทำกับข้าวต่อ เขาช่วยยกหม้อสุกี้ออกมาด้านนอก ในใจก็ได้แต่หวาดวิตก พฤษภ์เล่นแรงกับเขา
แบบนี้
..ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย..
มีเสียงดังมาจากโต๊ะรับแขก โชคเดินไปดู มือถือของพฤษภ์ที่วางทิ้งไว้สั่นครืดคราด หน้าจอเป็นชื่อคุณเฟรด เขากดรับสาย
ให้ “ครับผม..”
‘อ้าว..คุณโชค’ ปลายสายทำเสียงประหลาดใจ ‘อยู่กับเมย์เหรอ’
..นี่เป็นลางร้ายของหัวใจเขาหรือเปล่านะ..
โชคชัยรู้สึกว่าพักหลัง คุณเฟรดจะทำตัวติดกับพฤษภาเสียเหลือเกิน แต่ถ้าพิจารณาจากความใจดีของหนุ่มฝรั่ง มันอาจจะไม่
แปลกก็ได้ที่คนบ้านใกล้เรือนเคียงจะมีน้ำใจต่อกัน การที่คุณเฟรดไปรับไปส่งพฤษภ์กับน้องเมษแทนเขาก็ช่วยได้มากอยู่ แต่ใน
กรณีนี้เขาเต็มใจทำให้น้องเขยกับหลานเสียด้วย
..เลยไม่ได้รู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณนายเฟรดตรงไหน..
“แน่นอนครับ..เราเป็นญาติกันนี่นา” เขาว่าเสียงกลั้วหัวเราะ “คุณเฟรดมีอะไรรึเปล่า ถ้าน้องจอชล่ะก็ ป้าสาวพามาส่งแล้วครับ
สบายหายห่วง พวกผมจะดูแลเขาอย่างดี คืนนี้เราจะกินสุกี้หม้อไฟกันด้วย รับรองว่าผมกับพฤษภ์เลี้ยงเด็กๆกินอิ่มนอนหลับแน่
นอน”
ทางนั้นเงียบไปครู่ถึงได้ถามต่อ ‘จอชโกรธผมมั้ย’
“จอชเป็นเด็กดีครับ ตอนนี้กำลังวิ่งสามขากับน้องเมษอยู่ ยังไงเดี๋ยวผมลงแข่งแทนคุณได้ ไม่ต้องกังวลนะครับ”
ปลายสายเงียบไปอีกเกือบนาที ‘ขอผมคุยกับเมย์หน่อย’
โชคชัยเดินไปส่งมือถือให้น้องเขยด้วยหน้าบึ้งๆ พฤษภ์เหลือบมอง บุ้ยใบ้ถามว่าใคร “โซลเมทพฤษภ์ในอนาคตมั้ง”
..เขาหึงแล้วล่ะ..
“งั้นคนๆนั้นก็โทรมาเร็วไปสามล้านปีแสง” กุ๊กเบะปาก ตั้งแต่หย่ากับเมีย ดูเหมือนจะปิดตายหัวใจเรื่องเนื้อคู่ไปเลย “มือไม่ว่างอ่ะ
ช่วยถือหน่อย”
โชคอมยิ้ม ช่วยจับมือถือแนบหูคนข้างกาย พฤษภาสาละวนซอยกระเทียมกับพริกทำน้ำจิ้มสุกี้
“สวัสดีครับ”
‘เมย์..’ อีกฝั่งของโทรศัพท์เสียงอ่อนเพลีย
“อ้าว..ฝรั่งขี้นก” กุ๊กเมย์หัวเราะร่วน “ทำงานจนสมองบวมรึยัง ห่วงน้องจอชเหรอ บอกแล้วว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูลูกให้ นี่เป็นพ่อ
ติดลูกเหรอเนี่ย”
‘กลัวจอชโกรธน่ะ’ อีกฝ่ายโอดครวญ
“โห..คุณเป็นพ่อยังไงไม่รู้ใจลูก น้องจอชเป็นเด็กเก่ง แค่นี้เขารู้เรื่องหรอกน่า เขาแยกออกว่าพ่อไปทำงาน อ๊ะ! แต่ถ้าไปกระบี่
แล้วแอบหิ้วสาวนอนล่ะก็..” พฤษภ์เดาะลิ้นเล่น “ผมจะฟ้องลูกคุณว่าหนีกีฬาสีไปหลีหญิง!”
‘เพี้ยนแล้ว’ เฟรดหัวเราะ ‘พูดแบบนี้..หึงเหรอ’
“คร้าย..ใครหึงคุณ เมาทะเลแล้วใช่มั้ย”
โชคชัยคิ้วกระตุก
“เอาน่า..พรุ่งนี้ไปทำงานให้สบายใจเนอะ พวกเราอยู่ทางนี้เดี๋ยวส่งดาวไปให้หลายๆดวง” ไอ้ท่าทางพูดไปยิ้มไปนี่มันน่านัก
‘ดาวเหรอ..’ เดาได้เลยว่าเฟรดกำลังอมยิ้ม
“อืม..หนึ่ง ดาว มยุรี สอง ดาวใจ ไพจิตร”
‘คุ้นๆน้า..’
“คุ้นอะไร มุขนี้ผมเล่นคนเดียว เอ้า! ให้อาภาพร นครสวรรค์อีกคน”
..ชัดเลย..มุขตอนเมา..
‘อืม..ได้มาล้านดวงแล้ว ขอบคุณมาก’ เฟรดหัวเราะร่วน ‘ฝากโจชัวร์ด้วยนะครับ ขากลับจะซื้อของไปฝาก’
“น้อยกว่าสองลังไม่คืนลูกให้นะเฟร้ย” กุ๊กเมย์ก็ขี้เหนียวเสมอต้นเสมอปลาย “เดินทางดีๆ ทำงานให้สำเร็จแล้วเจอกัน บาย..” อวยพรมันล่วงหน้า ดึกแล้วคงไม่ได้คุยกัน
โชคชัยกดตัดสาย สีหน้าบอกบุญไม่รับ
..ถึงเวลา ‘รุก’ แล้วหรือยัง..
......
ไฟแรง ไฟแรง
