ตอนที่ 74 เพื่อนสาว...
เช้ามาหนูก็ยังหน้าหงิก ไม่ได้หงิกเพราะพี่โต้งข่มขืนหนู เพราะหนูก็ไม่ได้ขัดขืนจริงๆ จังๆ ตั้งแต่แรกแล้ว.. (เอ๊ะ ยังไง) ช่างมันเถอะ เพราะมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เรื่องตับกับเรื่องทะเลาะกันมันก็คนละส่วน เพราะงั้นถึงแม้ว่าเราจะยังสั่งอาหารมาทานร่วมกันบนเตียงเดียวกันได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราดีกันแล้ว... พูดแบบนี้พอจะเก็ทมะ? หรือยังงงอยู่ โอเค นั่นไม่สำคัญอยู่ดี ยังไงมันก็สรุปได้ว่า เราสองคนยังงอนกันอยู่ละกัน โอเคจบ..
ด้วยความโมโห ก็อยากจะประชดด้วยการแต่งตัวโป๊ สั้นเหมือนวันวาน ถ้าไม่ใช่เพราะพอใส่สั้นแล้วมันโชว์ รอยเขียวๆ เป็นจ้ำตรงขาอ่อน จึงจำใจเปลี่ยนกระโปรงโดยดี ไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดไปว่าพี่โต้งใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทั้งที่ความจริงหนูแค่สะดีดสะดิ้งเกินงาม จนเซล้มไปชนขอบโต๊ะเท่านั้นเอง เอิ่ม แต่ก็นะ อย่าไปใส่ใจเรื่องน่าอายพรรนั้นเลย ยิ่งเล่าไปก็ ยิ่งไร้แก่นสารขึ้นทุกที... จนหนูนึกโมโหตัวเอง... ที่บางครั้งก็ต้องมาโดนโกรธโดนงอน ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วก็เถียงสู้ไม่เคยชนะ มันน่าเอน็จอนาถใจนัก
ก็เห็นว่าพี่โต้งแต่งตัวอยู่ และก็ยังไม่ได้สายอะไร แต่หนูเสร็จแล้ว และไม่อยากรอด้วย ทั้งๆ ที่ควรจะรอไปเรียนพร้อมกัน ..แล้วไง ถึงรถหนูจะยางแบนแต๊ดอยู่ที่อู่ แต่หน้าคอนโดมีวิน... หนูก็เลยมิได้ใส่จิวเดินสวยหยิ่งลงไปข้างล่าง แต่พอเอาเข้าจริง คุณพี่วินที่ควรจะจอดเรียงรายกลับหายจ๋อมเหลือแต่เพิงร้าง ฮึ่ย! ให้มันได้อย่างนี้สิ นี่จะซวยทุกเรื่องขนาดนั้นเลยเหรอ?
ห้านาทีผ่านไป...
ปริ๊นๆ.... หนูสะดุ้งกับเสียงบีบแตรที่ไร้มารยาท หันไปเห็นคุณพี่ไก่โต้งตัวดีลดกระจกลงรถมาด้วยหน้าดุๆ
“มาขึ้นรถ.....” ฟังเสียงเข้าสิ เหมือนอยากจะจิกทุกคนที่ขวางหน้า...
“......” หนูทำเป็นมองเมินไปอีกทางไม่สนใจ จนอีกฝ่ายอดรนทนไม่ไหว เปิดกระตูรถแล้วก้าวอาดๆ มายืนอยู่ข้างๆ
“บอกให้ขึ้นรถทำไมไม่ขึ้น หรือนัดใครไว้ให้มารับ” โอ๊ยยยย ถ้าจะปากร้ายขนาดนี้ ไม่ต้องพูดอะไรซะเลยจะดีกว่า
“เปล่าค่ะไม่ได้นัด กะว่ายืนรอไปก่อนไว้เจอหล่อ ตรงเสป๊กละค่อยโบกยังทัน”
“น้องฐา!” พี่โต้งเรียกพลางกัดฟัน คว้าแขนหนูได้ก็ฉุดแขนหนูแล้วโยนโครมลงไปที่เบาะข้างคนขับ แล้วปิดประตูดังโครม
โธ่ ตัวเองเริ่มก่อนแท้ๆ พอพูดเข้าหน่อยทำมาเป็นรับไม่ได้ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ บ้าที่สุดเลย
“แล้วนี่รถเราไปไหน ทำไมต้องออกมารอวิน?”
อ้อรู้ด้วยหรอว่ารอวินนึกว่าจะคิดว่าหนูรอหนุ่มๆ อย่างปากซะอีก
“เสียค่ะ อยู่อู่”
“เป็นอะไร?”
“ยางแบนตั้งแต่เมื่อวาน ถ้าไม่มีเดย์ ป่านนี้หนูคงได้นอนข้างถนนไปแล้ว”
“ดีนี่.. โทรศัพท์มีก็ไม่ยอมเอาไป พอมีอะไรนอกจากพี่ติดต่อไม่ได้ เราก็ติดต่อคนอื่นไม่ได้เหมือนกัน เมื่อไรจะเลิกประชดซะที”
“คงเลิกไม่ได้หรอกค่ะ มันเป็นสันดานของหนูเสียแล้ว แต่ถึงหนูเป็นยังไง พี่ก็ต้องมาสนใจหรอก ถ้าพี่รักหนูห่วงหนูน้อยกว่ารักและห่วงคนอื่น ก็อย่าพูดอะไรเลยดีกว่า ฟังแล้วหนูเอียน”
ใครบอกว่าหนูประชดกันล่ะ หนูกำลังประท้วงอยู่ต่างหาก และแค่การทำอะไรบ้าๆ บอๆ ที่มีแต่สร้างผลเสียให้ตัวเองนี้มันดูจะไร้แก่นสารจนเกินไป ไหนๆ จะประท้วงแล้ว มันควรจะมีวิวัฒนาการมากกว่านั้น เช่น “หนีออกจากบ้าน” เป็นต้น
แหม่....พูดซะอลังการงานสร้าง ถึงยังไงหนูก็หนีไปไหนไกลไม่ได้หรอก แล้วอย่าได้คิดว่าหนูจะฆ่าตัวตายด้วยการเข้าไปพักอยู่หอในด้วย อันนั้นอันตรายเกิน... หนูก็แค่ไปพักตากอากาศห้องอีกิ๊งเท่านั้นเอง
อีกิ๊งทำท่าดีใจที่หนูจะไปอยู่ด้วย ออกปากไล่กันย์ให้กลับไปนอนที่บ้านตัวเองอย่างกับหมูกับหมา... ส่วนกันย์นะเหรอ ได้แต่ครางหงิงๆ อ้อนกิ๊งขออยู่ด้วย จนหนูล่ะสงสาร แต่สุดท้ายก็ถูกอีกิ๊ง นางมารเนรเทศน์ไปอย่างไม่มีทางเลือก
สุดสัปดาห์กันย์ก็ชวนหนูกะกิ๊งไปดื่มนิดหน่อย หนูก็ไม่ได้อยากจะไปนักหรอกค่ะแต่ก็เกรงใจ เลยพากันไปก๊งพอกึ่มๆ อีกิ๊งถูกหนูมัดมือชกพาไปด้วย แต่เพื่อนก็ฝึกวิชามาดีไม่ได้ดื่มเหล้าสักอึก แหม... นึกว่าจะได้เห็นอีกิ๊งตอนแรดลงตับสักหนซะแล้ว...ชิชิ ตกดึกกันย์ก็เริ่มเมา เอาแต่หันไปคลอเคลียกิ๊งจนเพื่อนหนูมันแก้มแดงแล้วแดงอีก มันเลยตัดสินใจลากคอคนขี้เมากลับมาห้อง ไอ้หนูก็เลยต้องจำใจกลับมาด้วยทั้งๆ ที่ยังสนุกอยู่เลยด้วยซ้ำ แหม ขัดใจๆ (ได้ข่าวว่าตอนแรกไม่อยากไปนะเนี่ย...)
กิ๊งขับรถกันย์พาหนูและกันย์กลับมาที่หอของมัน แหม...เพื่อนหนูคนนี้เก่งจังขับรถยนต์เป็นด้วยแฮะ มันบอกว่าเทอมหน้าพี่ชายจะซื้อเก๋งคันเล็กๆ ให้ด้วยล่ะ รวยกันจริงๆ นะเนี่ย
หลายวันแล้วที่กันย์โดนไล่ไม่ยอมให้มาค้างด้วยหนูก็เลยเกรงใจกันย์ยอมลดตัวลงมานอนข้างๆ เตียงแทนที่จะนอนบนเตียงเบียดกันสามคน ปล่อยให้คนรักกันเค้านอนกอดกันสบายๆ ไปก็ดีแล้ว
ที่ไหนได้ ตกดึกคืนนั้นเอง หนูหลับไปแล้วด้วยซ้ำ ... แต่เพราะนอนข้างล่างมันไม่สบายเหมือนนอนบนเตียงมันก็เลยสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเสียงบางอย่าง
“พอแล้ว นอนไปเลยนะ” เสียงกิ๊งงึมงำ เป็นเสียงกระซิบ...
“ก็นอนอยู่นี่ไง”
“ก็นอนเฉยๆ ไม่ได้เหรอไงล่ะ”
“ม่ายด้ายยยย ก็คนมันง่วงจะแย่อยู่แล้ว”
“เออ....ง่วงก็หลับสิ เลิกยุกยิกซะที”
“กิ๊งอ่ะ กันย์ง่วงนะ ...ง่วงจนน้ำตาเลี่ยนแล้ว” แอร๋ยยยยยยย มุกไรเนี่ย ..... ง.......จนน้ำตาร่วงเลยเรอะพ่อ!
“.....เชี่ย!” อร๊ายยยย หยาบคาย
“ถ้าไม่หยุดกูถีบตกเตียงจริงๆ นะ”
“ยอม...แต่ถ้ากันย์ตกลงไป ไม่ต้องตามไปเก็บกันย์นะ ขอเป็นเก็บสบู่แทนได้มะ” 55555555555555 มุกนี้ขอซื้อ
“นี่มึงเมาจริงเปล่าเนี่ย”
“เมาจ๊า..... ทั้งเมาเหล้าและเมารักเลยจ๊า” โอยยยเน่า.... ได้อีก.....
หนูรีบเอามือปิดปากอย่างด่วน เกรงจะหลุดขำก๊ากออกมาทำลายบรรยากาศ
“พอๆ หยุดได้แล้ว ฐาก็อยู่นะลืมไปแล้วเหรอ?”
“กิ๊งก็เงียบๆ สิ เดี๋ยวฐาก็ตื่นขึ้นมาหรอก....” ช้าไปแล้วย่ะ ตื่นตั้งนานแล้วเหอะ!
“แต่ อืม......ยังไงมันก็........”
“นะกิ๊ง นะกิ๊งนะ ” เจอเสียงหวานๆ ปะเหลาะเข้าไป อีกิ๊งมันก็ คงไปไหนไม่รอด
“อื๊อ....กันย์ มะ...”
“นะ นะ นะ นะ” พอเหอะ....... เลิกเล่นตัวได้แล้วมั้งเนี่ย ถ้าเป็นหนูยอมตั้งแต่ นะแรกละเนี่ย
“อ๊ะ........... อึ๊”
“...............................”
“อืม.... อา”
“..................................”
ทิชชู่อยู่หนายยย ผ้าเช็ดหน้ามีม้ายยยย กำเดาจะไหลแล้วค่า......
.
.
.
.
มายก๊อด..... ตาโหลเลย นอนไม่หลับซะงั้น ครั้งแรกนะเนี่ย ที่ได้มาอยู่ในสถานการณ์อะไรแบบนี้ อกอีแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก.... อยากจะหัวใจวายสักล้านตลบ นี่ขนาดไม่ได้เห็นนะ แค่ฟังเสียงก็จะบ้าแล้วอ่ะ อ๊า...เขิน....
หนูตื่นสายกว่าเจ้าของห้องทั้งสองเห็นอีกิ๊งนั่นหน้ามุ่ยอยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องเขียน กันย์ยืนโอบกิ๊งอย่างเอาอกเอาใจ อีกิ๊งมันไม่ได้เบี่ยงตัวหนีแค่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยหางตาก่อนจะค้อนให้อย่างขุ่นเคือง หนูเห็นแล้วเฉยๆ ส่วนกันย์ทำหน้าเหมือนตึกถล่มมองแล้วก็ขำดี...
“กันย์ออกไปหาของกินมาให้ละกัน... กินไรดี ฐาล่ะ” กันย์หันมาหาหนูที่ตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งแค่ครึ่งตัวขายังเหยียดยาว นั่งอึนมึนขี้ตาอยู่
“ข้าวมันไก่สักห่อจะเป็นพระคุณมากเลย” หนูตอบแล้วเอามือปิดปากหาวเบาๆ
“กิ๊งล่ะ?” พอเห็นคนรักเงียบกันย์มันก็หน้าเสียเดินคอตกไปที่ห้องน้ำ
“โถ่ งอนอะไรกันล่ะเมื่อวานยังดีๆ กันอยู่เลย น่าสงสารกันย์ออก ดูสิ ทำหน้าเหมือนหมาหงอยที่โดนเจ้านายดุ” หนูเอ่ยขึ้นเพราะนึกสงสารกันย์ สมาชิกสมคมเกลียมัวแห่งชาติ...
“สมน้ำหน้ามัน” เสียงเพื่อนช่างโหดร้าย สวยแล้วหยิ่งจริงๆ นะคะเนี่ย
“แหม.... มึงจะไปโกรธอะไรมันนักหนา ถ้าจะโกรธมาโกรธกูนี่ กูมาค้างกับมึงตั้งหลายวัน ไอ้กันย์มันคงทั้งคิดถึงทั้งเก็บกด จนอดอยากกดมึงไม่ได้เท่านั้นเอง....” อีกิ๊งหันควับมามองหน้าหนูแล้วจ้องเขม็งทันที ตายแล้ว... พูดอะไรออกไปเนี่ย...
“เปล่านะ... เมื่อคืนน่ะกูหลับสนิทยันเช้า ไม่ได้ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียง แล้วก็ไม่ได้รับรู้อะไรทั้งนั้น” หนูรีบรัวคำโกหกเพราะกลัวเพื่อนจะอาย.....แต่...ก็นึกได้ว่าพลาดไปแล้วเพราะอีกิ๊งมันนิ่งค้างไป ทำหน้าเหมือนภูเขาถล่มไปอีกคน มันลุกขึ้นพรวดพราด เดินไปยังห้องน้ำพอดีกับที่กันย์เปิดประตูออกมา แล้วมันก็ผลักร่างสูงใหญ่นั่นเข้าห้องน้ำไป
อร๊ายยยย พอรู้ว่าพาราดะ พลาดไปแล้ว... ก็คิดจะทำอะไรกันไม่เกรงอกเกรงใจเพื่อนเลยหรือไงเนี่ย บัดสีบัดเถลิงจริงๆ หนูคิดไปสุไหงโกลก ถ้าไม่บังเอิญได้ยินเสียงเนื้อกระทบดังเพียะๆ ซะก่อน...
ไม่ใช่เนื้อแบบนั้นหรอกค่ะ ฟังดูแล้วเหมือนคนตีกันมากกว่า
หนูก็พวกอยากรู้อยากเห็น เลยแอบย่องไปแอบฟังข้างๆ ห้องน้ำค่ะ
“ไอ้กันย์ ไอ้เชี่ย กูบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าทำ อย่าทำ มึงก็ไม่เชื่อ ฮือ” ระหว่างที่บ่น กิ๊งมันก็ตีกันย์ไปด้วยตุ้บๆ คงฟาดไม่ยั้งมือเลยล่ะ โถ อีกิ๊งทำไมถึงโหดร้ายปานนี้
“โอ๋... กันย์ขอโทษนะ ก็กิ๊งแบบ.... น่ารักจนมันอดรักไม่ไหวจริงๆ”
“ไม่ต้อง มึงไม่ต้องมาแก้ตัว... มึงผิดสัญญา มึงจำไว้เลย...”
“โถ่กิ๊ง กันย์ขอโทษแล้วไง”
“กูไม่ยกโทษให้...มึงห้ามมาที่นี่อีกต่อไปเลยนะ”
“กิ๊ง........” เสียงกันย์ร้องโหยหวนอย่างน่าสงสาร
เฮ้อ..... รู้สึกแย่จัง นี่หนูเป็นตัวซวยจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย ตัวเองมีปัญหาคนเดียวไม่พอ ยังพาลมาทำให้คนอื่นมีเรื่องมีราวกันอีก ... ฮือ ฮือ.....
เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนั้นทำให้หนูต้องระเห็จออกมาจากห้องอีกิ๊งเพราะยังทำใจไม่ได้ ต้องบากหน้าไปขอค้างอ้างแรมบ้านอีหมอกแทน แต่เลิพซีนระหว่างหมอกกะอ้อมมันไม่เร้าใจเหมือนของกันย์-กิ๊งเลยอ่ะ แอร๋ยยยไม่ใช่...
ความจริงหนูคิดถึงพี่โต้งน่ะ คิดถึงมากด้วย ไม่ว่าอยู่กับใครก็มีแต่คนบอกให้กลับไปคืนดีซะที ที่จริงหนูก็ไม่ได้โกรธ หรือโมโหอะไรแล้ว และไม่มีความคิดที่จะเลิกกันสักนิดเดียว สิ่งที่หนูต้องการคืออยากให้พี่เค้ามาง้อ ขอโทษ แล้วก็ ...ทำให้หนูมั่นใจว่าตัดเยื่อขาดใจจากมิงค์ให้สนิทแค่นั้นเอง.... หรืออย่างน้อย ถ้ามันมีเหตุผล หนูก็อยากฟัง ทำไมต้องปิดบัง กันแบบนี้ด้วย...
หนูหนีออกจากบ้าน “พี่โต้ง” ได้อาทิตย์กว่าแล้วแหละ พี่โต้งนี่ก็ใจจืดใจจำดำ ไม่ยอมมาง้อกันสักกะติ๊ด สรุปว่า ใครผิดกันแน่เนี่ย ไม่เข้าใจเลย...
เที่ยงคืนวันพุธ หนูนอนหลับไปแล้ว เพราะชีวิตมันว่างเปล่ามากกว่าที่คิด คอมก็ไม่มีเล่น โทรศัพท์ก็ไม่มีใช้ นั่งดูทีวีจนตาแฉะก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย
“อีฐา อีฐา” เสียงอีหมอกโวยวายลั่นเขย่าร่างหนูในตื่นจากนิทราเปี่ยมสุขอย่างงัวเงีย
“อาร้าย... คนจะหลับจะนอน....” หนูโวยลั่นป่ายมือปัดมันออก แล้วคว้าหมอนมากอด หลับต่อ
“พี่โต้งโทรมา รับหน่อยเร็ว”
“ฮะ” อะไรนะเมื่อกี้ว่าใครโทรมานะ? หนูจับมือถืออีหมอกที่มันยัดใส่มือให้มาทาบที่หู
“น้องฐา......”
“......”
“น้องฐา.... ได้ยินพี่ไหมคะ”
“น้อ..............”
ฟรี้..........
อารามความง่วงทำให้หนูไม่ตอบอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว และหลับไปทั้งอย่างนั้น
เช้ามา......หนูก็ ยังไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งนั้นแหละ... แต่งตัวไปเรียนตามปกติ...
“เมื่อคืนน่ะ พี่เค้าโทรมาง้อแกละใช่ปะ?” อีหมอก ถามขึ้นเมื่อมันยัดโทรศัพท์มือถือตัวเองใส่กระเป๋าหลังกางเกงยีน
“ฮะ พี่ไหน?” หนูทำหน้าเอ๋อใส่มันอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด
“จะพี่ไหน? ก็พี่โต้งไง”
“เค้าโทรมาเหรอ? ตอนไหน?”
“ก็ ตอนเที่ยงคืนไง เค้าโทรมาหากูแล้วกูก็เอามือถือไปให้มึงด้วย”
ว่าไงนะ...... อะไรอ่ะ พี่โต้งโทรมาง้อหนูแล้วเหรอ? แล้วหนูเป็นบ้าอะไรเนี่ยทำไมไม่คุยล่ะ ฮือ......
“แล้วพี่เค้ารู้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ยว่ากูมาอยู่กับมึงอ่ะ”
“นานแล้วมั้ง แกคิดว่ามันเดายากมากหรือไงล่ะ ทำยังกับตัวเองมีเพื่อนสนิทเยอะแยะ อีกอย่าง คนขี้หึงแบบนั้นถ้าเค้าไม่รูว่าแกไปไหนทำอะไรกับใครคงตามหาให้ควั่ก คงไม่นิ่งนอนใจเป็นอาทิตย์แบบนี้หรอก”
“ใช่ นิงเกินไป ถ้างั้นตั้งนานทำไมเพิ่งโทรมา”
“คงกะจะให้หายงอนไปก่อนมั้ง หรือไม่ก็ ... เพราะวันเป็นวันสำคัญก็เลยต้องโทรมา”
“วันสำคัญเหรอ?”
.
.
.
อย่างนี้นี่เอง ที่แท้ก็วันสำคัญพี่โต้งถึงยอมทิ้งทิฐิโทรมาได้ คงกลัวหนูจะน้อยใจตายละมั้ง...ทั้งที่ความจริงแกก็ใจแข็งใช่ย่อยซะเมื่อไร หนูซะอีกยิ่งนานวันก็ยิ่งไม่สบายใจ การที่หนูเอาแต่งอน และหนีหายมาแบบนี้จะพลอยทำให้พี่โต้งมีโอกาสกลับไปคืนดีได้ง่ายขึ้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แฟนหนูยิ่งเสน่ห์แรงซะด้วยไหนจะพี่เอตัวมารอีก ถ้ารู้ว่าหนูหายออกมาแบบนี้แล้ววไปอ่อยพี่โต้งขึ้นมาจะทำยังไง
แอร๋ยยยยยย เริ่มเครียดแล้วนะคะเนี่ย
หนูเซ็งเล็กน้อยที่ตัวเองขี้เซามากซะจนไม่ได้ตื่นขึ้นคุยกับพี่โต้งเมื่อคืน อยากรู้ว่าพี่แกจะพูดอะไรบ้าง แต่เมื่อพลาดโอกาสนั้นแล้วก็ได้แต่ทำใจแหละ เลยออกไปเรียนตามปกติ ....
เกือบเที่ยงแล้วหนูเดินลงมาใต้คณะเตรียมตัวจะกลับเพราะวันนี้ไม่มีเรียนบ่าย
“ฐา” หนูชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อดังมาไกลๆ ยังไม่ทันเห็นหน้าเจ้าของเสียง อีกฝ่ายก็โถมเข้ามากอดไว้ จนหนูได้แต่ทำหน้าเหวอ รีบดันร่างอีกฝ่ายออกเพื่อดูหน้า....
“ออย..........”
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
TBC.