ตอนที่ 4 คำสบประมาท
ถือว่าสวรรค์ยังเมตตาคนชั่วอย่างไอ้โรจน์อยู่บ้างเพราะมันไม่ได้เป็นอะไรมาก เพียงแต่มีบาดแผลที่ขาจนต้องเดินกะเผลกเล็กน้อยถึงปานกลาง แขนขวาหักต้องเข้าเฝือก หนูว่ามันคงดีใจเพราะไม่ต้องทำการบ้านจนกว่าจะหาย (หนูก็ดีใจที่ไม่ต้องทำการบ้านให้มันเหมือนกันค่ะ) หลังจากพักรักษาตัวพอสมควรมันก็มาเรียนตามปกติ แต่มันไม่ได้ขับรถเครื่องมาแล้ว เพราะแขนมันหักหรือรถมันพังอันนี้หนูไม่ได้ถาม ดังนั้นขากลับจากโรงเรียนจึงเป็นเหมือนสวรรค์สาปที่ทำให้หนูต้องมานั่งรถสองแถวคันเดียวกับมันกลับบ้านทุกวัน
บ้านไอ้โรจน์ถึงก่อนบ้านหนูค่ะ ดังนั้นหนูก็ต้องรับหน้าที่คอยกดออดและช่วยพยุงมันขึ้นลงรถ โถฐาน้อยชีวิตนี้หนีมันไม่พ้นแล้วหรือเนี่ย? แต่ถึงมันจะยังดุเท่าเดิม แต่เพราะสังขารไม่อำนวย ทำให้มันกร่างน้อยลง หนูเจ็บตัวน้อยลง ก็ถือว่าโอเคพอรับได้อยู่
ผ่านไปหลายวัน จนกระทั่งถึงวันศุกร์สุดสัปดาห์ อันเป็นวันโลกาวินาศเนื่องด้วยหลังจากที่หนูหย่อนก้นลงบนที่นั่งสองแถว ไอ้โรจน์หันมาบอกเบาๆ ว่า
“วันนี้มึงลงบ้านกูก่อนนะ” แค่นั้นแหละค่ะ น้องฐาหันขวับ อ้าปากค้างกันเลยทีเดียว
“มีอะไรเหรอโรจน์”
“ถึงก็รู้เองแหละ ไม่ต้องพูดมากหรอก” พิการทางร่างกายแล้วยังไม่วายจะพิการทางสมองอีกนะคะ อีคิวติดลบหรือไงคะพ่อ ดุจริ๊ง...
หลังจากนั้นหนูก็ไม่ได้คุยถือถามอะไรค่ะ แต่คิดไปไกลสุดกู่แล้ว หรือว่าไอ้โรจน์มันเกิดพิศวาสหลงรักหนูขึ้นมาจึงอยากหาสถานที่เงียบๆ บอกรักและจับกดไปพร้อมๆ กัน อร๊ายยยยย ไม่อยากเชื่อ แต่ก็คงไม่เป็นอื่น น้องฐาออกจะน่ารักน่าชังแสนดีเป็นแม่ศรีเรือนออกขนาดนี้อ่ะ จริงไหม?
แค่คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ค่ะ เชื่อไหมคะ ไม่ว่าเราจะรู้จักคนๆ นั้นหรือไม่แต่ถ้าลองมีใครมาสารภาพรักล่ะก็ เราจะคิดถึงเขาคนนั้นได้เป็นวันๆ เลยทีเดียว ความฝันสวยหรูหยุดชะงักลงเมื่อไอ้โรจน์เอาเท้าสะกิดหนูยิกๆ ให้ตื่นจากภวังค์
“หา?” หันไปตอบรับการสะกิดอย่างไร้มารยาทนั้น
“มัวแต่เหม่ออะไรอยู่ จะถึงบ้านกูอยู่แล้วเตรียมตัวกดออดสิ” ไอ้โรจน์ยังส่งเสียงข่มมา น้องฐาพยักหน้าหงึกหงักรับทราบ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้
ชิ...ทำเป็นเข้มที่จริงเขินก็บอกมาตรงๆ เหอะ ฮุฮุ....
และแล้วเราสองคนก็ยืนอยู่หน้าบ้านของไอ้โรจน์ค่ะ หนูถือกระเป๋านักเรียนสองใบเดินตามมันเข้าไป บ้านเงียบ...ประตูหน้าล็อก....
ไอ้โรจน์ควักกุญแจออกมาส่งให้
“ไขให้หน่อย แขนข้างเดียวมันไขลำบาก”
หนูก็ไขให้ตามสั่งค่ะ พอเปิดบ้านสำเร็จ มันก็เดินเข้าบ้านเฉิบ โดยไม่สนใจหนูที่ยืนเอ๋อหน้าบ้าน
“ยืนเอ๋ออยู่ทำไม เสร็จธุระแล้วก็กลับไปสิ”
“หา? นี่โรจน์จะให้เรามาช่วยไขกุญแจเข้าบ้านให้แค่นี้น่ะเหรอ?”
“ใช่ แล้วคิดว่าจะมีอะไรอีกล่ะ?” น้องฐาอ้าปากหวอ ยิ้มแห้งๆ
“แหะๆ งั้นกลับล่ะ” อะไรของเขาเนี่ย...เราก็นึกว่าจะมีอะไรสำคัญ
“เออเดี๋ยว....” พอหนูหมุนตัวจะกลับบ้านมันก็รั้งไว้อีก
“หือ?” หนูหันไปทำหน้าหมางงใส่มันอีก
“ไม่มีคนอยู่บ้าน... มึง...ไปซื้อของกินมาให้กูก่อน”
เฮ้อ.... ช่วยด้วยเหอะ เรื่องมากขนาดนี้มีอีกไหมคะ?
“อืม... กินอะไรล่ะ”
“อะไรก็ซื้อมาเถอะ” ยังดีนะที่ไม่เรื่องมาก
น้องฐาก็จำต้องไปซื้อข้าวมาให้มันกินตามคำสั่ง ไม่ต้องถามนะคะว่าใครออกเงิน ก็ต้องหนูอยู่แล้ว หนำซ้ำเอาข้าวใส่จานมาประเคนยังไม่พอ ต้องล้างจานให้อีก ส่วนตัวมัน เปิดทีวีดูซะดังลั่นจนน่าหมั่นไส้
แต่อยู่ดีๆ เสียงโทรทัศน์ก็เบาลง น้องฐาล้างจานเสร็จก็เดินออกมาเห็นไอ้โรจน์กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่
“ครับๆ ผมอยู่ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก ...... ผมให้เพื่อนมานอนเป็นเพื่อนด้วยเนี่ย.... .จริงๆ” พอไอ้โรจน์มันเงยหน้าขึ้นมาเห็นหนูมันก็พยักหน้าเรียกให้ไปหา “แป๊บนะแม่.....เดี๋ยวให้คุยกับเพื่อน”
น้องฐาเดินเข้าไปใกล้แล้วเลิกคิ้ว มันเอามือปิดโทรศัพท์ไว้แล้วบอกเบาๆ
“เก๊กเสียงแมนๆ แล้วบอกแม่กูว่ามึงจะอยู่เป็นเพื่อนกูคืนนี้” น้องฐาตาโตใส่มันด้วยความตกใจ แต่อีกฝ่ายถลึงตาขู่มาทำให้น้องฐาจำต้องเอามือถือในมือมันมาคุย
“อ่า...ครับแม่” เก๊กสุดๆ แล้วค่า
“หนู...เพื่อนตาโรจน์หรือลูก” โหเสียงหวาน แลใจดีมากมาย
“ครับ เพื่อนโรจน์ครับ”
“พอดี พ่อกับแม่มีธุระติดพันที่ต่างจังหวัด กว่าจะกลับถึงบ้านก็คงพรุ่งนี้ โรจน์ก็ยังไม่หายดี แม่ฝากหนูอยู่เป็นเพื่อนตาโรจน์ก่อนได้ไหมลูก” โห ... แม่ไอ้โรจน์มันออกจะน่ารักเสียงเพราะ ทำไมมีลูกโหดร้ายขนาดนี้เนี่ยไม่เข้าใจ
“ครับ ได้ครับ” หนูรีบรับคำเออออด้วยหลงใหลในคำอ้อนวอนของแม่ไอ้โรจน์ไปโดยไม่รู้ตัวก่อนจะส่งคืนไปให้ไอ้โรจน์คุยต่อ
“สบายใจแล้วใช่ไหมแม่” มันว่าแล้วก็ทำหน้าตูมคุยต่ออีกสองสามคำก่อนจะวางสาย แล้วเงยหน้าขึ้น
“หมดธุระแล้วก็กลับบ้านเถอะ...” มันว่าแล้วหันไปเร่งเสียงโทรทัศน์ทำท่าไม่สนใจหนู
“อ้าว...แล้วไม่ต้องให้อยู่เป็นเพื่อนแล้วเหรอ ถ้าแม่โรจน์กลับมาไม่เจอเรา จะไม่ว่าอะไรเหรอ?”
“กว่าเขาจะกลับมาก็ตั้งพรุ่งนี้ ก็บอกกลับไปก่อนหน้าแม่จะมาแป๊บนึง หรืออะไรก็ได้ มึงไม่ต้องมาเสือกเรื่องของกูหรอก” มันใส่อารมณ์จนหนูได้แต่ถอนใจอย่างเหนื่อยระอาเพราะตามอารมณ์ของมันไม่ทัน กำลังตัดสินใจจะกลับเพราะมันไล่ ก็พอดีมันปิดโทรทัศน์แล้วลุกขึ้น
“เออ... เสื้อมึง.... ที่กูเอามาวันก่อนน่ะ มึงเอาคืนไปเลยนะ ใส่แล้วโคตรซวย” รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองนะคะอย่างนี้ ตัวเองขับรถไม่ดีแล้วมาหาว่าเสื้อหนูซวยได้ยังไงเนี่ย
“ขึ้นไปชั้นบน ห้องแรกเลย เสื้อมันแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า... แล้ววานหยิบผ้าขนหนูให้ผืนนึงด้วย กูจะอาบน้ำรอ”
“อาบน้ำ? แขนเข้าเฝือกแบบนี้ตอนอาบน้ำไม่ลำบากแย่เหรอ?”
“คงลำบากอยู่ แต่แม่ไม่อยู่ไม่มีคนเช็ดตัวให้ด้วยสิ กูทนไม่ไหวแล้ว ร้อน”
หนูพยักหน้าแล้วก็เดินขึ้นชั้นบนบ้านมันไป
น้องฐาเดินลงมาชั้นล่าง...พร้อมเสื้อตัวเองและผ้าขนหนู แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาให้ยังไงเลยได้แต่ตะโกนบอก
“โรจน์ เดี๋ยวเรากลับแล้วนะ เราวางผ้าขนหนูไว้บนเครื่องซักผ้าหน้าห้องน้ำนี่นะ”
“^%*^&%)*&(&*)(^&*^(*&” เสียงตะโกนตอบบางอย่างแต่น้องฐาฟังไม่รู้เรื่องจึงได้แต่ขมวดคิ้วอยู่หน้าห้องน้ำ จู่ๆ ก็เกิดเสียงตึง! และเสียงครางโหยหวน....
กรี๊ดดดดดดดดด เกิดอะไรขึ้นอีกคะเนี่ย..... ไอ้โรจน์โดนสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างในห้องน้ำกระชากลงโถส้วมไปแล้วหรือเปล่า? น้องฐาตกใจจัดรีบเปิดประตูเข้าไปดู แล้วก็พบไอ้โรจน์ลงไปนอนก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น สภาพมันอเนจอนาถมากเพราะขาก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว แขนก็หักไปข้าง พยายามประคองตัวเองขึ้นมาอย่างยากลำบาก แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์อย่างยิ่งของกะเทยน้อย เมื่อไปพบกับเปรตวัดแจ้ง.. ในสภาพเปลือยมันก็ได้แต่อึ้ง ทึ่ง เสียว...ทำอะไรไม่ถูก นอกเสียจากยืนตาค้างกับภาพตรงหน้า
แอร๋ยยยยยยย “ ชายเปลือย” ของจริงคนแรกในชีวิตน้องฐา ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเซ็นทรัลเวิลด์!!
“ยืนซื่อบื้ออะไรอยู่เล่า....รีบมาประคองกูสิ เจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย” แต่แล้วน้องฐาก็ได้สติเมื่อได้ยินเสียงไอ้โรจน์โวยวายด้วยความโมโห จึงตรงดิ่งเข้าไปประคองร่างกำยำ น่ากะลิ้มกะเหลี่ยแทะโลมยิ่งของมันอย่างไวว่อง
ยิ่งได้สัมผัสร่างเปียกปอนตึงแน่นไปด้วยมัดกล้าม โอมายก๊อดดดด หัวใจเต้นเป็นจังหวะสามช่าค่ะช่วยด้วย
“เอ่อ.... ผ้าขนหนู.... พันเอวซะหน่อยดีไหม?” หนูกลั้นใจถามเพราะเกรงจะทนภาพบาดตาต่อไปไม่ไหว เพิ่งเลยเห็นอะไรชัดเจนขนาดนี้ครั้งแรก... ถึงใจหนึ่งจะอยากดูแต่ก็ไม่กล้าดู มันหวิวๆ เหมือนใจจะขาดค่ะ
“ก็ดี ไหนล่ะ” มันถามมา หนูคว้าผ้าขนหนูที่วางไว้บนฝาเครื่องซักผ้าหน้าห้องน้ำมายื่นให้มัน
“มึงเห็นมือกูไหมเนี่ย....” มันตะคอกกลับมาทำให้หนูฉลาดขึ้นว่ามันไม่ถนัด มันละแขนที่โอบไหล่หนูไว้ไปเท้าที่เครื่องซักผ้าใกล้ๆ เพื่อพยุงตัวเอง หนูก็เลยเอาผ้าขนหนูโอบไปพันเอวมันไว้โดยพยายามเบนหน้าไปทางอื่นตลอดเวลาด้วยความเขินแต่ทำให้ผิวกายสัมผัสร่างของมันสนิทแนบมากขึ้น
“เป็นเชี่ยอะไรนักหนาเนี่ย... มือสั่นเหมือนบ้านกูมันอุณหภูมิติดลบไปได้ กูนี่สิต้องสั่น เจ็บแขนจะตายอยู่แล้ว ก้นก็คงช้ำเล่นลื่นกระแทกซะแรงเลย เชี่ยเอ๊ย” มันสบถอย่างหัวเสีย แต่หนูไม่ได้สนใจมากนักตั้งใจมัดแหนมเอ๊ยมัดเอวมันต่อไปเสร็จเรียบร้อยก็ช่วงพยุงพามันไปนั่งที่โซฟากลางบ้าน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งมันก็หันมาบอกว่า...
“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เช็ดตัวให้กูด้วยเลยแล้วกัน”
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ ...เอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆ มาเช็ดตัวให้ไปหมาบ้าอยู่แบบนี้ ทั้งที่ไม่ได้ชอบอะไรแต่ให้มาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ สองต่อสองแบบนี้ มันทั้งอึดอัด ทั้งหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ยิ่งเช็ดไปเช็ดมาทั้งตัวแล้ว ไม่ว่าจะแขนขา แผ่นอก.... แล้วต้องมาหยุดที่ตรงกลางลำตัวด้วยแล้ว มันทำใจไม่ได้จริงๆ ว่าจะเอายังไง จะเช็ดหรือไม่เช็ด...ทำใจลำบากนะเนี่ย...
“เขาว่ากันว่า กะเทยเนี่ย...เชี่ยวจริงป่ะ” อยู่ดีๆ ไอ้โรจน์ก็เอ่ยขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย น้องฐาแหงนเงยขึ้นจากอกล่ำๆ ขึ้นไปมองหน้ามันงงๆ
“หา เชี่ยว? เรื่องอะไรเหรอ”
“มึงอย่ามาทำแอ๊บ ไร้เดียงสาหน่อยเลย” กรรม แอ๊บเอิ๊บอะไร ไม่เคยปิดบังค่ะ
“เปล่านะ เราไม่รู้จริงๆ นี่ว่าโรจน์หมายถึงอะไร” หนูตอบเสียอ่อนๆ มันยิ้มเหยียด...
“ก็เรื่องอย่างว่าอ่ะ เขาว่ากะเทยน่ะเก่ง จริงไหม?” ตรงมากกกกค่ะพ่อ....
“อ....อะ...เอ่อ....” น้องฐาผู้แสนไร้เดียงสาถึงกับใบ้รับประทานเลยค่ะ ณ จุดนี้
“นี่อย่าบอกนะมึงไม่เคยอ่ะ....” มันทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ.... แต่ทำให้หนูรู้สึกอายยังไงก็ไม่รู้
“อะ....เอ่อ.....” ก็ไม่เคยน่ะซี่.... หนูออกจะรักนวลสงวนงามออกปานนี้
“อือ...ไม่ต้องตอบก็พอจะรู้แล้วล่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย...แต่ช่างเถอะ มึงเช็ดตัวต่อเหอะ กูไม่ถามแล้ว” มันบอกมา ทำเสียงหึ ในลำคอ
“เช็ดเสร็จแล้วล่ะ” หนูตอบ... เพราะก็เช็ดไปหมดแล้ว เหลืออยู่ที่เดียวที่ไม่กล้าเช็ดให้ แล้วยิ่งมันถามอะไรทะลึ่งๆ ออกมาแล้วมันลำบากใจมากจริงๆ ที่จะเช็ดต่อ
“เสร็จที่ไหน... ใจคอมึงจะไม่เช็ด...ไอ้นั่นให้กูหน่อยเหรอ?” กรรมแล้วไหม?
“เอ่อ...มะ...มะ...ไม่ดีมั้ง...เราว่า โรจน์ทำเองดีกว่า...” หนูตอบกลับไปแบบกล้าๆ กลัวๆ กลัวโดนตบหัวหลุด แต่มันได้แต่ทำหน้าประหลาดใจแล้วถามมา
“นี่มึงเป็นกะเทยแน่หรือเปล่าเนี่ย?”
“ทะ...ทำไมล่ะ?”
“เป็นกะเทย มันต้องแรด ต้องร่าน ต้องบ้าผู้ชายสิถึงจะถูก” จริงเหรอคะ หนูไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าถ้าเป็นกะเทยแล้วต้องเป็นแบบนั้น
“แต่นี่อะไร สั่นเป็นเจ้าเข้ายังกับกูจะไปปล้ำข่มขืนมึงไปได้ กูแค่ให้มึงเช็ดให้ มึงก็เป็นซะขนาดนี้...ถ้ากูบอกให้ชักให้ด้วยนี่มึงจะเป็นยังไงเนี่ย” มันถามแบบเหยียดหยามค่ะ
โอ้วว พูดอะไรออกมาคะบัดสีบัดเถลิง.... แต่ว่า.... ซื้ด....อา... คิดแล้วเลือดลมเดินมากเลยอ่ะ
ชักให้....
ชักให้...
ชักให้...
........แหมะ.....แหมะ......
อาการเดิมกำเริบอีกตามเคย... มายก๊อดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดด ไม่ต้องถึงกับทำหรอกค่ะ แค่จินตนาการว่าจะได้ทำก็ไม่ไหวแล้ว
“เฮ้ย!!” ไอ้โรจน์ก็อุทานแบบงงๆ คงไม่คิดไม่ฝันว่าน้องฐาจะกำเดาร่วงแบบนี้ เลยต้องหาทิชชู่มาซับเลือดกันยกใหญ่.... ท้ายที่สุดไอ้โรจน์ก็กุมขมับนิ่งแล้วบอกเสียงเครียด
“ไม่ต้องชงต้องเช็ดแล้วที่เหลือเดี๋ยวกูทำเอง มึงรีบกลับบ้านไปเลยไป อยู่นานเดี๋ยวกูอารมณ์ขึ้นอยากเตะกะเทยขึ้นมา” ไอ้โรจน์โวยวายปึงปังแล้วไล่หนูเฉย... หนูก็ไม่เข้าใจว่าไอ้บ้านี่มันจะโหดไปไหนคะ
ก็คนมันไม่เคยนี่นา.... แค่กำเดาทะลักก็ยังน้อยนะ ดีเท่าไรแล้วที่ไม่เป็นลมไปอ่ะ
หนูคิดอย่างน้อยใจ หยิบเสื้อ หยิบกระเป๋า แล้วหันหลังเตรียมตัวออกจากบ้านมัน ได้ยินเสียงไอ้โรจน์เอ่ยตามหลังมาเรียบๆ ว่า
“กูเองก็เคยสงสัยนะ ไอ้พวกที่มันเป็นเกย์ ชอบผู้ชายด้วยกันหรือมีเมียเป็นกะเทยนี่มันดีตรงไหน แต่ก็เคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าก็เพราะกะเทยเนี่ยมันเอาใจเก่ง เรื่องเซ็กส์ก็สุดยอด ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ กูก็ว่าไม่แปลกถ้าผู้ชายจะหันไปชอบกะเทยกัน แต่โชคร้ายข้อดีอย่างหลังดันยกเว้นมึงไว้คนนึง เพราะแค่พูดแค่นี้ยังกำเดาทะลัก ขนาดผู้หญิงที่อายุอ่อนกว่าอ่ะเขายังไม่อาโนเนะเท่านี้เล้ย...กูล่ะสงสารกะเทยโนเนมอย่างมึงจริงๆ ความสวยก็ไม่มี ความเซ็กซี่หาไม่พบ แถมเรื่องอย่างว่ายังห่วยแตกขนาดนี้ กูเดาอนาคตให้นะว่ามึงอ่ะขึ้นคานชัวร์!!”
..... ขึ้นคาน....
..... ขึ้นคาน....
..... ขึ้นคาน....
..... ขึ้นคาน....
..... ขึ้นคาน....
ม่ายจริ๊งงงงงงงงงงงงงงง อนาคตน้องฐา ต้องไม่เป็นอย่างน้านนนนนนนน
......................................................................................
......ไร้คำอธิบายค่ะ เหอๆ .....
ขอโทษที่หายไปนาน แต่ฉากนี้มันแต่งยากอ่ะ...แต่งไปเขินไปมันกระดากใจกว่าตอนแต่งเลิพซีนกับพี่โต้งอีกอ่ะ นิก็ไม่รู้ว่าทำไม .... หรือนิอินกับตัวน้องฐาในตอนนั้นก็ไม่รู้นะว่า ตอนนั้นมันยังไร้เดียงสามากๆ อะไรก็เขินก็อายตลอด จนตอนแต่งก็เขินตาม...
ไอ้เรื่องตื่นเต้นอะไรอย่างนี้ก็ยังเป็นมาจนถึงตอนเจอพี่โต้งแล้วนะคะ เพียงแต่มันเลิกกำเดาไหลไปนานแล้วเท่านั้นเอง ฮาๆ
ประกาศผลโพลล์ค่ะ
อิมเมจ "น้องฐา" ในดวงใจ (25/08-01/10)
คิมฮีชอล
71 (65.7%)
ลีฮงกิ
27 (25%)
อื่นๆ (โปรดระบุ)
10 (9.3%)
จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 108