โชคดีที่ผมกับภคินเดินทางจากเชียงใหม่ตั้งแต่แปดโมง มาถึงพัทยาราวๆสี่โมงกว่า ซึ่งไม่ต้องรีบก็ไปทันเรือเฟอร์รารี่รอบสุดท้ายอยู่แล้ว ผมมองผืนน้ำกว้างๆตรงหน้าอย่างตื่นเต้น เด็กเชียงใหม่อย่างผมไม่ได้เห็นทะเลบ่อยนัก...คือเวลาปกติก็ไม่ได้อยากไปอะไรหรอกครับ เพราะว่างๆผมก็ชวนเพื่อนไปน้ำตก ไปห้วยหนองคลองบึงอะไรก็ว่าไป แต่พอมาเจอกลิ่นเกลือของทะเลก็อดจะดี๊ด๊าไม่ได้ ไอ้อาร์ทจอดรถตรงที่รับฝากจ่ายเงินค่าบริการอะไรให้เรียบร้อย ส่วนคนที่เหลือก็ช่วยกันแบกสัมภาระ ซึ่งเรามากันแบบลูกผู้ชายจริงๆครับเป้คนละใบก็อยู่ตัว
ภคินบอกว่าเราจะพักอยู่ที่นั่นสองคืนคือคืนนี้...และคืนพรุ่งนี้ เอ่อ..แล้วจะบอกกูทำไมวะมีประโยชน์มาก!! นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยชาวต่างชาติยืนกันแทบเต็มพื้นที่บริเวณท่าเรือ ช่วงปลายเดือนเมษายังเป็นฤดูท่องเที่ยวก็คงต้องทนกับเพื่อนร่วมเดินทางปริมาณมหาศาลแบบนี้แหละครับ รอประมาณสิบนาทีได้...เรือสองชั้นสีแสบสะท้านทรวงก็เข้าเทียบท่า พวกผมเลยได้ฤกษ์เปิดฉากทริปนี้อย่างเต็มรูปแบบเสียที
ผมแย่งพื้นที่ติดขอบเรือมาได้หลังจากตีกับไอ้ฟาร์ตั้งนาน ผมชอบเวลาละอองน้ำเค็มกระเซ็นเข้าหน้า...เย็นดีครับ เหมือนนั่งอยู่หน้าพัดลมไอน้ำเลย ฮ่าๆ ๆ ส่วนไอ้รักยมมันเอาเสื้อชูชีพฟาดกันเล่นจนเกือบจะโดนคนขับเรือเอาหน้าแข้งฟาดหน้า เอาเลยครับ!!ถีบแม่งตกเรือเลย
ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเรือก็มาจอดเทียบท่าเรือหน้าบ้าน(เห็นเขาเรียกแบบนี้นะครับ) น้ำทะเลที่นี่เป็นสีฟ้าหยั่งกะอยู่อันดามันเลยครับ ผมตกใจชะมัดตอนแรกคิดว่าน้ำจะขุ่นแบบบางแสนซะอีก....ขออภัยพี่น้องชาวบางแสนทุกท่านครับ แต่ตอนเด็กผมกับไอ้เชอร์เคยทำศพให้ปลาที่ลอยมาตายบนหาดด้วย
“นี่..พวกมึงจะไปไหน รอรถสองแถวตรงนี้เว่ย” ไอ้หนุ่มปักษ์ใต้เดินนำลิ่วๆไปทางคิวรถ เล่นเอาผมเกาหัวงงๆ
“ไอ้กัน...มึงเคยมาเหรอวะ”
“โอ๊ย..ญาติกูมีธุรกิจอยู่ที่นี่ เนี่ยก็จะไปพักที่นั่นแหละ”
“เชี่ยกัน...บ้านมึงเป็นรีสอร์ทเหรอ” ผมเบิกตาค้าง...แม่งเอ๊ย!! กูน่าจะเชื่อที่แม่สอนว่าอย่าดูคนจากภายนอก ใครจะคิดว่าไอ้กันมันเป็นพวกผ้าขี้ริ้วห่อทอง!! แล้วกูก็ด่ามันไปซะเยอะ
“นั่น...ทำหน้าไม่เชื่อ เห็นอย่างนี้ผัว...เอ๊ย...เพื่อนกันของกูเป็นถึงลูกเจ้าขุนมูลนายเก่านะโว้ย กลับบ้านเกิดนี่มีคนคลานเข่ามารับถึงที่”
“แม่งเว่อ” ไอ้ภคินด่า
“กูดเหง้าหน้ามึงมันไม่ได้ว่ะกัน” ผมลูบคางพินิจพิจารณาหาความเป็นเจ้าจากใบหน้ามัน ซึ่ง....ไม่เจอว่ะ
“หน้าตาออกแนวทาสนะ” ไอ้ฟาร์ทนไม่ได้ต้องร่วมวงด่า
“ก็แบบนี้แหละครับ....เจ้าสมัยก่อนชอบเอาทาสทำเมีย ถึงได้ออกมาสภาพแบบนั้น” “ฮึก..........”
อย่าว่าแต่ไอ้กัน...กูยังสะอึกเป็นเพื่อนมันเลย หลังจากไอ้อาร์ททำการฟัสโรด้าแบบหน้าตาย....เชี่ยกันก็หมดสภาพ อุดปากเงียบไปตลอดทาง แถมยังหลุดพึมพำ ‘กูทำอะไรผิด’ ตลอดเวลา เอ่อ...มึงผิดตั้งแต่เลือกคบมันแล้วว่ะ ผมสะกิดมันทุกห้านาทีเพื่อถามว่าถึงรีสอร์ทมันรึยัง นั่งตากลมไปสักพักไอ้กันก็กดกริ่งลงตรงหน้าป้ายรีสอร์ทแห่งหนึ่ง..
รีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นตั้งตะหง่านอยู่ตรงหน้าพวกผม อาคารหลังไม่เล็กไม่ใหญ่มากคาดว่าจะเป็นเคาท์เตอร์ถูกจัดแต่งบริเวณโดยรอบด้วยสวนสีเขียวชอุ่ม...แค่เห็นก็สดชื่นแล้ว ผมเขย่งเท้าส่องลึกเข้าไป...ถ้านั่งรถกอล์ฟก็คงจะไปถึงบ้านพักสร้างจากไม้ที่เรียงตัวกันเป็นแถวยื่นออกไปที่ชายหาด แถมยังมีบันไดจากชานบ้านยื่นลงไปทำให้สามารถเล่นน้ำได้โดยไม่ต้องถ่อไปเบียดเสียดผู้คนถึงหาดอื่นด้วย ต้นไม้สีเขียวไหวด้วยลมอ่อนๆชวนให้สูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุด...
“มองไปตรงไหนกันวะ...บ้านกูอยู่นี่”
ควับ.... ทุกคนหันกลับไปมองฝั่งตรงข้ามรีสอร์ท บ้านไม้หลังเล็กๆยัดตัวเรียงกันเป็นตับไปตลอดทาง และหลังที่ไอ้กันยืนอยู่ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายของชำ หลังคามุงด้วยสังกะสีซีดๆประหนึ่งว่าถ้าพายุเข้ามึงเตรียมตัวไปมีตแอนท์กรี๊ดกันได้เลย....เอ่อ...ไอ้กัน..มึง
“นี่ไง....ธุรกิจร้านค้าบนเกาะชั้นนำของสยามประเทศ”
“ถุย!!” ทุกคนแทบจะถมน้ำลายรดหัวมันแทนการสระผม
“อ้าว...กูทำอะไรผิดเนี้ย ได้ที่พักฟรีๆก็บุญละไง”
“เออๆ...อยู่ไหนกูก็นอนได้วะ ข้างถนนยังนอนมาแล้ว แต่มึงให้ความหวังพวกกูไปสิบวินาที...แม่งนึกว่าจะได้นอนรีสอร์ทจริงๆ” ไอ้ภคินดูจะสบถเสียงดังกว่าชาวบ้าน ด้วยแรงแค้นแห่งความจน ฮ่าๆ ๆ ๆ
“อย่าบ่นเลย...มะ เข้าบ้านดีกว่าเดี๋ยวมืดกันพอดี” ไอ้กันชะโงกหน้าเข้าไปในบ้าน “น้าครับ!! ผมมาแล้วน้า”
สักอีกอึดใจนึงก็มีผู้หญิงผิวคล้ำคนนึงวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากบ้าน มองแล้วผมรู้เลยว่าคนนี้น้าไอ้กันแน่ๆ หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ “แฮ่ก....แฮ่ก...มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย น้าเผลอเข้าครัวไปแป๊บเดียวเอง”
“สวัสดีครับ” พวกผมยกมือไหว้กันใหญ่ ซึ่งคุณน้าเธอก็รับไหว้หน้าบาน
“นี่เพื่อนผมนะน้า ไปป์...ฟาร์....โจ้...คิน...แล้วก็อาร์ท”
“โอ๊ย...เดินทางกันมาไกลเลยล่ะสิ เข้ามาก่อนลูก มาดื่มน้ำดื่มท่ากันก่อน”
เมื่อเดินเข้าไปในบริเวณบ้านผมก็พบว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้โทรมเหมือนที่เห็นจากภายนอก คาดว่าเธอคงดูแลทำความสะอาดบ้านเป็นอย่างดี...เพราะของทุกอย่างถูกเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้บ้านจะหลังไม่ใหญ่มากแต่ก็มีพื้นที่ให้เธอปูเบาะนอนสี่เบาะเรียงกันเต็มพื้นที่ห้องนั่งเล่น และนั่นคงเป็นที่นอนของพวกผมแน่ๆ ผมปลดกระเป๋าเป้ออกจากหลัง แล้วรับน้ำดื่มเย็นๆที่เธอหยิบยื่นมาให้ ฮ่า...ชื่นใจจริงๆครับ
กันเล่าให้พวกเราฟังว่าคุณน้าแกเป็นแม่หม้าย แต่ไม่มีลูก....สามีแกที่เป็นชาวประมงเสียไปได้เกือบสิบปีแล้ว ด้วยความรัก ความอาลัย คุณน้าจึงไม่ทิ้งบ้านหลังนี้แล้วกลับไปอยู่กับครอบครัวที่หาดใหญ่ แต่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่เงียบๆกับธรรมชาติ...กับกลิ่นอายทะเลที่สามีของคุณน้าหลงใหล
เธอดูมีความสุขไม่น้อยที่หลานอย่างไอ้กันมาเยี่ยม... เห็นเธอแล้วผมก็อดคิดถึงอาวา...สาวโสดขึ้นขย่มคานประจำบ้านผม ฮ่าๆ ๆ อาบอกว่าความสุขของคนเป็นโสดไม่มีลูกก็คือหลานเนี้ยแหละ ซึ่งก็น่าจะจริงครับเพราะเธอยิ้มกว้างตลอดเวลาเลย
คุณน้าของไอ้กันจัดอาหารทะเลให้พวกผมชุดใหญ่ ถึงจะเป็นแค่ออเดิร์ฟลวกจิ้มก็ตาม แต่น้ำจิ้มซีฟู้ตสูตรคุณน้าแกแซ่บได้ใจจริงๆ พวกผมเลยโซโล่ซะเกลี้ยงแทบเลียจาน แกบอกว่าวันนี้แกเตรียมของอะไรไม่ค่อยทัน แต่พรุ่งนี้รับรองว่าพวกเราจะได้กินอาหารทะเลย่างประหนึ่งอยู่โรงแรมเลยทีเดียว ผมก็หน้าบานเลยสิครับ....ไปอยู่เชียงใหม่แดกกุ้งหอยสอยฟอร์มาลีนตลอด มากินถึงถิ่นเลยได้รู้ว่าของสดจริงๆมันเป็นยังไง
โปรแกรมวันพรุ่งนี้ของพวกเราคือไปชมวิวที่เขานม จากนั้นก็ไปเล่นน้ำต่อที่ชายหาด ซึ่งชายหาดที่นี่เยอะมากจนเลือกแทบไม่ถูก คุณน้าเลยแนะนำให้ไปที่หาดตาแหวนซึ่งเป็นหาดยอดนิยม เพราะที่นั่นมีกิจกรรมแอดเวอร์เจอร์แบบที่พวกวัยรุ่นชอบกัน พวกผมก็โอเคครับ...เพราะจะมาเล่นกันสุดเหวี่ยงอยู่แล้วคงไม่ต้องการหาดสงบๆแล้วเราไปเสียงดังในนั้นหรอก พอดีว่ามีเวลาเที่ยวกันแค่วันเดียวเลยต้องเต็มที่กันหน่อย
ผมเดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดกางเกงบ็อกเซอร์...เวลาไม่ได้นอนที่บ้านหรือที่หอผมจะไม่แต่งชุดนอนครับ เคยโดนเพื่อนล้อว่าหน่อมแน้มเลยฝังใจ ผมน่ะพร้อมโดดขึ้นเตียงแล้ว แต่ท่าจะลำบากสักหน่อย เพราะตอนนี้ไอ้พวกนั้นมันกำลังเล่นสลาฟกันอย่างเมามันส์ในอารมณ์
“เก็บไว้จะดีเหรอฟาร์...เกมนี้เค้าลงหมดชนะนะเว่ย ไม่ใช่ว่าใครไพ่เยอะแล้วชนะ”
“หนวกหูว่ะไอ้กัน มึงกะหลอกให้กูลงแล้วทุ่มทับใช่มั้ย...อย่าฝันไปหน่อยเลย”
“มึงเงียบ...เจอกูหน่อย ตองเก้า” ไอ้ภคินจั่วขึ้นมาฟาดวงกลางวง สร้างเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี
“ยังอ่อนครับ” ไอ้อาร์ทร่อนตองคิงลงไปกลางวง เท่านั้นล่ะไอ้ภคินถึงกับลงไปโอยครวญดีดดิ้นอยู่บนพื้น....อวดดีนัก โดนเลยมึง สาดดดดดดดดดดดดด
“พอ!! กูไม่เล่นแล้ว”
“อ้าว...เหี้ยคินแพ้แล้วพาล” ไอ้กันด่า
“กูสลับเป็นอยู่สองอย่างไม่สลาฟก็ประชาชนเนี้ย เหี้ยอาร์ทยังใส่สนับตูดอยู่บนบัลลังค์เป็นชาติ”
“โอ๊ย...พวกมึงมาทะเลเพื่อเล่นไพ่กันเหรอ” ไอ้โจ้เดินเข้ามาพร้อมกับแป้งที่ร่วงกราวลงมาจากอก....อ๊อ...เมื่อกี้มันไปโบ๊ะแป้งมาครับ ผมมองสภาพเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ปกติสักคนแล้วเหนื่อยใจ
กูสงสัยว่าทำไมพวกมึงต้องทาแป้งกันเยอะขนาดนั้น ถ้าเป็นเด็กน้อยก็คงน่าเอ็นดูอยู่หรอก....นี่โตเป็นควายแล้วเสือกทาแบ๊ว เหี้ยโจ้นี่มีสามจุดบนหน้าผากมึงจะไปแต่งเมียรึไง ส่วนไอ้กันดูจากหน้าท้องมันพยายามเอาแป้งเขียนชื่อตัวเองแต่คาดกว่าล้มเหลว...เลยเหลือหลักฐานเป็นตัวอักษรอะไรสักอย่างที่นักโบราณคดียังอ่านไม่ออก
ไอ้โจ้ปรากฏกายพร้อมอาวุธเป็นกีต้าร์โปร่งในมือที่มันแบกมาตั้งแต่ขึ้นเรือแล้ว “นี่มันเวลาของการร้องรำทำเพลงว้อยยยยยยย”
“ไม่ใช่เข้าค่ายลูกเสือนะมึง จะมาเล่นรอบกองไฟเนี้ย”
“โหย...ไปป์ มึงอย่าขัดศรัทรา กูรู้ว่ามึงอยากเล่นไพ่” อ้าว...รู้ทันกูอีก “เร็วๆพวกมึง ออกมารับลมที่ระเบียงกันดีกว่า ไพ่เดี๋ยวกลับไปจั่วที่นู่นกันก็ได้”
บ้านเขาไม่แย่อย่างที่คิดนะครับ หลังบ้านมีชานเรือนยื่นออกไปทางทะเล ตรงนั้นมีเก้าอี้ไม้สองตัวตั้งอยู่คาดว่าเอาไว้ใช้นั่งรับลมเย็นๆหรือนอนอ่านหนังสือน่าจะสบายน่าดูเลยล่ะ แต่ไอ้โจ้ไม่ได้นั่งบนเก้าอี้ มันทิ้งตูดลงนั่งบนพื้นไม้วางกีต้าร์ลงบนตักแล้วตบมันรัวๆเร่งให้พวกผมออกไปด้วย
ไพ่ก็ไพ่เหอะ...เจอบรรยากาศแบบนี้ใครก็อยากออกไปทั้งนั้น ลมทะเลหอบเอากลิ่นเกลือขึ้นมาแตะจมูกถึงชานเรือน ท้องฟ้าสีดำสนิทตัดกันดวงจันทร์กลมโตเป็นพื้นหลังให้กับพวกเรา ผมนั่งชันเข่าเคาะเท้าเป็นจังหวะไปเรื่อยเปื่อย ข้างๆเป็นภคินที่นั่งเหยียดขาเฝือกออกไปข้างหน้า...ส่วนที่ล้อมวงถัดไปเป็นอาร์ท...ฟาร์ และกัน
ไอ้โจ้ดีดสายรัวๆ “มา..มา...มา.. ร้องเพลงกันเลย”
“เพลงไรวะ” เออ...กูสงสัยเหมือนมึงว่ะฟาร์
“มาทะเลก็ต้องเพลงเกี่ยวกับทะเลสิวะ เอาแบบเมดเลย์เลยนะ ใครคิดอะไรขึ้นได้ร้องออกมาเลย” มันเริ่มดีด
“โอ้ทะเลแสนงาม” “แสนง้าม~ แสนงาม” พวกผมร้องต่อโดยอัตโนมัต เหี้ย...นี่มันกีฬาสีโรงเรียนชัดๆ
“ท้องฟ้าสีครามสดใส~” “สดซ้าย สดใส~”
“มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล~” “ทะเล้~ ทะล~ ถุย!! เพลงอื่นไม่มีแล้วเรอะ” ไอ้กันรีบตะโกนร้องเพลงต่อไป
“อยาก จับเอาเธอนั้นไปลอยทะเล อยากดัดนิสัยคนใจโลเล แต่ทำทุกครั้งดวงใจของฉันก็พลันว้าเหว่" “เห่~~~” ทุกคนตะโกน
“จะเอาเธอนั้นไปลอยทะเล ก็กลัวเธอนั้นจะจมทะเล ขาดเธอตัวฉันก็คงสิ้นหวัง และคงจบเห่~~~~” “ทะเลสีดำ” ไอ้กันส่ง แน่นอนว่าเหี้ยโจ้ไม่ลืมทำเสียงลุลา
“ไม่นานก็เช้า” “ค่ำคืนเหน็บหนาว” “จับมือฉันไว้” ไอ้โจ้เลิกดีดแล้วทำมาเป็นหยิบๆมือผัวมัน...เหอะ...
“ทะเลสีดำ” หน้าไอ้กันแม่งแหยงได้อีก
“ไม่ต้องหวั่นไหว”
“จะทำเช่นไร” “ไปไกลๆ...กู~” กร๊ากกกกกกกกกกกกกก...กูว่าไอ้กันต้องพูดประโยคนั้นนะไอ้ลุลา
“เอาให้มันมีสาระหน่อยสิวะ” ผมก็ด่าไปขำไป
“แม้ชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน วันที่ผ่านมาไร้จุดหมาย” ไอ้ภคิน...มึงเพื่อชีวิตเลยเรอะ
“ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน” ผมก็ชอบเพลงนี้นะ....เราช่วยกันยกกำปั้นแหกปากเหมือนจะไปประท้วง....
เหมือนชีวิตผันผ่านคืนวันอันเปลี่ยวเหงา ตัวเป็นของเราใจของใคร มีชีวิตเพื่อสู้คืนวันอันโหดร้าย คืนที่ตัวกับใจไม่ตรงกัน…..
คืนนั้นคืนไหนใจแพ้ตัว คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์ อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น....
คืนนั้นคืนไหนใจเพ้อฝัน คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก ดังนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ..... “Hula Hula, Hoo la la la ไปทะเล Hoorey Hoorey, Yeah yeah ทุกเวลา” เหยดดดดดดดดด..เชี่ยโจ้เพลงมึงขัดมาก แต่กูก็ร้องตาม
Hula Hula, A la la la ในทะเล E Yeah e yeah Hey Ha, Hula Hula เชี่ยแม่ง...ที่ตลกคือทุกคนเสือกร้องได้ แหม...เราอยู่ในยุค2002ราตรีครองเมืองจริงๆ
มาๆชื่นฉ่ำกับน้ำกับฟ้า Ya e Ya Ya อย่านะอย่าช้า
มาๆสัมผัสมาเห็นด้วยตาสองตา แดดใสส่องฟ้ารอให้เจอ
อยู่ๆที่เกาะมีน้ำกับทราย Ya e Ya Ya อย่าหนีไปไหน
อยู่ๆก็ติดติดแล้วที่ตรงหัวใจ อยู่ใกล้กับฟ้าใกล้กับเธอ
สบายๆ ไม่เบื่อไม่เหงา ทะเลของเรา ท้องฟ้าของเรา ไอ้โจ้กับไอ้กันแม่งเมาดิบลุกขึ้นมาเต้นระบำหน้าท้องประหนึ่งมันเป็นแคทลียา อิงลิช...คือผมแทบเอานิ้วทิ่มตาตัวเองให้บอดดีกว่าทนมองวะ กีตาร์แม่งโดนขว้างทิ้งลงที่พื้นแล้ว...ตอนนี้เราตบมือตบเข่ากันแทนแล้วครับ
Hula Hula, Hoo la la la ไปทะเล Hoorey Hoorey, Yeah yeah ทุกเวลา
Hula Hula, A la la la ในทะเล E Yeah e yeah Hey Ha, Hula Hula
(Hula Hula, A la la la e yeah eh)
ฉันรักทะเล Hey Ha เหี้ยโจ้โดดประหนึ่งนางแบบ....
“Hula Hula” พวกผมตะโกนเสียงใหญ่ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก...เสื่อมสาดดดดดดด
มันเป็นเมดเลย์เพลงที่เฮี้ยนมาก เราเต้นกันจนพื้นบ้านแทบทะลุ...ขนาดนิ่งๆไอ้ฟาร์ยังต้องโยกหัวตามเลยครับคิดดู จากนั้นก็ตามมาด้วยสารพัดเพลงผีทะเล...หลังๆแม่งโคตรไปเรื่อย มีแบบ
ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป ที่ทำให้คุณนั้นต้องติดใจมาชวนผม... เอ่อ...คือเราอยู่เกาะล้านครับพี่ อ๊ะ...แต่กูก็เซิ้งเข้าจังหวะได้อยู่
หลังจากปล่อยพลังกันจนหมดก๊อกก็มานั่งหอบแฮ่กๆกัน....เหงื่ออาบตัว แต่พอต้องลมเย็นๆจากทะเลกลับยิ่งทำให้สดชื่นกว่าเดิม ภคินดึงผมไปนั่งห้อยขาตรงระเบียง...แรกๆก็โดนสัมพเวสีมันโห่แซวอยู่หรอก แต่พวกมันก็หมดแรงข้าวต้มแล้วหุบปากไปเอง ตรงหน้าผมเป็นผืนน้ำสีดำสนิทกว้างสุดลูกหูลูกตา พอโดนแสงจันทร์ก็ส่องประกายเหมือนมีเทียนนับพันเล่มจุดอยู่ใต้น้ำ...
“บรรยากาศชวนเสียตัวเนอะ”
“ภคิน...” ผมพูดลอดไรฟัน
“ล้อเล่นน่า” มันขยี้หัวผม “ไม่ซิงแล้วนี่ เค้าไม่เรียกเสียตัวหรอก”
“สัตว์!!” คำเดียวเน้นๆ แต่ไอ้ภคินหัวเราะร่า ก่อนจะค่อยๆเอนหัวลงซบลงบนบ่าผม ตัวก็สูงเสือกชอบมาซบบ่ากู...ตามหลักการกูต้องซบมึงไม่ใช่เรอะ!! แต่ผมอารมณ์ดีเกินจะด่า อีกอย่างผมรู้ว่ามันเป็นวิธีอ้อนของภคินล่ะ ผมซบหัวลงบนหัวมันอีกทีหนึ่ง...อ่า...มีความสุขชะมัดเลย
ผมเคยบอกว่าภคินมีกลิ่นอายเย็นๆเหมือนทะเล...กลิ่นอายที่ผมทำใจจิตใจของผมสงบ...
เสียงดีดกีต้าร์จากด้านหลังเรียกให้ผมกลับไปมอง ไอ้โจ้ที่นอนแผ่หลาบนพื้นเมื่อกี้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายในชีวิตคลานไปหยิบกีต้าร์ที่มันคว้างทิ้งไปเต้นตั้งแต่สองเพลงแรก ข้างๆกันเป็นไอ้กัน ซึ่งมันทั้งสองกำลังส่งสายตาล้อเลียนแกล้งทำเป็นซบตาม กูอยากจะลุกขึ้นไปเอากีต้าร์ฟาดแม่งให้สลบไปซะ... ไม่รู้โชคดีหรือร้ายที่พวกมันไม่ได้ออกปากแซวเป็นเรื่องเป็นราว... โจ้ลงมือดีดลงที่สายทั้งหก ก่อนไอ้กันจะช่วยร้องเพลง... ผมหลับตาซบลงกับหัวภคินอีกครั้ง...แล้วมืออุ่นๆนั่นก็วางทาบลงบนหลังมือ...
http://www.youtube.com/v/yqg2iWiof7E?version=3&hl=en_USบีบหลังมือ แนบกระซิบเบาเบา
ไม่ได้นอนจนเช้า ฉันคิดว่าเธอควรผ่อนคลาย “ไม่ได้นอน...ทำอะไรกันวะ” เสียงไอ้กันแว่วมา..
หยุดฟังก่อน อาจจะเดาไม่ได้
มันเป็นเซอไพรซ์ ที่ฉันตั้งใจให้เธอ ผมพลิกมือสอดนิ้วประสานเข้ากับฝ่ามืออุ่นๆของอีกฝ่าย...
อยากจะชวนเดินทาง ใต้ท้องทะเลไกล
อยู่ใกล้ใกล้เกาะ นั้นไง
ปะการัง สีสันสดใส
จนลืมเรื่องราวต่างต่าง และทำให้
รักทะเล เวลามีเธอด้วย
สวยซะเกินกว่า บรรยายได้
แล้วเธอคนดี จะรู้ว่ายังมี
สิ่งที่มากกว่าคำว่าต้องการ ภคินกับผมร้องคลอตาม...
ปั๊บปะดาด๊า ปั๊ปปั๊ปปา ดั๊ดด่า
ลาลันลาลันลา ฉันจะพาเธอไป
ชูวีดูวีดำดิ่ง ลึกลึกลงไป
ลาลันลาลันลา ฉันจะพาเธอไป
ชูวีดูวีดำดิ่ง ลึกลึกลงไป ภคินมองหน้าผมแล้วยิ้มกว้าง...
นาฬิกาของเธอ รุ่นกันน้ำรึเปล่า
ก่อนจะเก็บกระเป๋า ช่วยเขียนอีเมลบอกเจ้านาย
บอกว่าขอลา แต่จะนานเท่าไร
คงต้องเว้นเอาไว้ เพราะทริปนี้ไปยาวนาน “กูว่าโดนไล่ออกแหงม” ไอ้หนุ่มเซเว่นบ่น ฮ่า ๆ ๆ
หากใครบีบีตาม ก็อยากให้ชิลชิลไป โชคดีนะมันจนไม่มีบีบี...
อาจไม่มีอะไรที่สำคัญมากกว่า
ปลาดาวตัวนั้น และมือของฉัน
เวลาที่เราชวนกัน แหวกว่าย รักทะเล เวลามีเธอด้วย
สวยซะเกินกว่า บรรยายได้
แล้วเธอคนดี จะรู้ว่ายังมี
สิ่งที่มากกว่าคำว่าต้องการ เราโยกหัวตามเพลง..
ปั๊บปะดาด๊า ปั๊ปปั๊ปปา ดั๊ดด่า
ลาลันลาลันลา ฉันจะพาเธอไป
ชูวีดูวีดำดิ่ง ลึกลึกลงไป
ลาลันลาลันลา ฉันจะพาเธอไป
ชูวีดูวีดำดิ่ง ลึกลึกลงไป
ดูซิปลาดาวทะเล ปูแมงมุมเกาะที่กัลปังหา
หมึกกระดองลอยมา
เจ้า Manta Ray ก็ลอยไปลอยไป
Oh เจ้าปลาโลมาเกี้ยวพาราสี ดำผุดและดำว่าย
เช้า สาย หรือบ่าย ก็สวยงามเสมอ ที่นี่ โจ้โซโล่เสียงโหยหวน
“อ่ะ!! จัดดาจาดั๊ดจ๊า~ อ่ะ จัดดาจาดั๊ดจ๊า~ อ่ะ จัดดาจาดั๊ด~ ชั๊ดชาชะดิดัม~ ดิดัมด๊า~”
“ชั๊ดชาชะดิดัมดา~ชั๊ดชาชะดิดัมด๊า~ชั๊ดชาชะดิดัม~ ฮู้วู เย้เฮ~”
ลาลันลาลันลา ฉันจะพาเธอไป
ชูวีดูวีดำดิ่ง ลึกลึกลงไป
ลาลันลาลันลา ฉันจะพาเธอไป
ชูวีดูวีดำดิ่ง ลึกลึกลงไปปล่อยทุกอย่างไปกับทะเล....ความทุกข์ทั้งหมดจะดิ่งลึกลงไป....และมีเพียงผมเท่านั้นที่กลับมาบนผิวน้ำได้
ผมบีบมือภคินเบาๆเป็นการตอบรับว่าตัวเองก็มีความสุขไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน...ลำบากแค่ไหน...ถ้าเพียงมีคนคนนี้อยู่ข้างๆ....ผมก็พร้อมจะออกเดินไปเรื่อยๆ....
อย่าว่าแต่รักทะเลเลย....ที่ไหนมีภคิน ผมก็รักทั้งนั้น...TBC
ขอแจ้งให้ทุกคนทราบว่าตอนหน้าDNDจะจบแล้วนะคะ เย้ เย เย่
ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าจะเขียนนิยายได้ยาวขนาดนี้ ขอบคุณที่ติดตามกันมาถึงตรงนี้ค่ะ
มันอาจจะน่าเบื่อไปบ้าง ยืดเรื่องไปบ้าง แต่ตอนหน้ามันจะจบแล้วนะคะ 5555
แล้วเจอกันตอนจบค่ะ //กอดดดดดดดดดด//

ปล.ที่ไปเที่ยวทะเลนี่ไม่อะไรนะ คนเขียนชอบเพลงนักประดาน้ำเลยอยากใส่ลงไป(เหตุผลแบบ...) แต่ดันไม่ได้ไปทะเลนานแล้วค่ะ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยใจนาง
ปล.เพลงดักแก่มาก แต่เราเชื่อว่าหลายท่านอยู่ในยุคเดียวกัน เอิ๊กกกกกกกกกกกก
ปล.แอบเห็นคินFCเพิ่มขึ้น หึหึ บอกแล้วพระเอกเราเร้าใจค่ะ(อวยตลอด ได้ข่าวเพิ่งจะมีเอาตอนท้ายๆ555)