Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Do not disturb ✰ ขอโทษครับ ห้ามรักกวน[เปิดจองDNDเล่มพิเศษ+Reprint p.206]  (อ่าน 2286171 ครั้ง)

ออฟไลน์ comics_boy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พอมันเดินมาจนถึงที่สุด มันก้อจะมีจุบจบของปัญหาหรืออุปสรรคครั้งนั้นเอง

ทางออกมีทั้งดีและร้าย หวังว่าสองคนนี้จะได้เจอกับทางออกที่ดีนะ

Cacao

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ฟังเสียงตามสายของภคินแล้วน้ำตาคลอเบ้าเลยอ่ะ T________T
น่าสงสารมากกกกก !! พูดไม่ออกเลยตรูตอนนี้ T_T ไม่รู้จะพูดอะไรดี มีแต่ความอึมครึม
ตอนนี้มันยังเป็นปัญหาที่หาทางออกไม่ได้ พี่ภูมิจะยอมรับมั้ยยยย ยอมเห๊อะะะ !! T_T
ถือว่าคนอ่านขอแล้วกัน เห็นไปป์เป็นแบบนี้คนอ่านยังไม่มีความสุขเลยอ่ะ ได้โปรดดด พลีสสส
ถือว่าได้ทำบุญให้ทั้งภคินทั้งไปป์และคนอ่านที่มีอายุตั้งแต่เด็กจนชราภาพนะค่ะ
ตอนหน้าขอแบบกรึบๆนะอินดิโก้ 555555 ดราม่าไม่ไหวแล้วอะ สงสารพระเอกนายเอกเหลือเกิน

kihaezzzzzz

  • บุคคลทั่วไป
บรรยากาศเศร้าสร้อย สงสารทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ bew_yunjae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 เห็นในเฟสบอกว่าอัพเลยกดมาอย่างว่อง
ฮืออออออออออออออออออออออออออออ เห็นคำนี้แล้วร้องเลย “สัญญาแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะอยู่ข้างๆ”
เคยน้ำตาไหลเองโดยที่ไม่ได้้ตั้งใจมั้ย มันไหลพรากๆเลยอ่า :m15: :m15:
งื้ออออ พ่อค่ะ ขอร้องเถอะค่ะ ช่วยยอมรับทีเถอะน่ะ
ภคินกระดูกมันจะผิดรูปแล้ว อยากได้ลููกเขยพิการรึไง TTOTT :sad4:   :serius2:
ขอให้ตอนหน้าไม่ดราม่าสักทีน่ะ ได้โปรดน้ำตาไหลหมดตัวแว๊วววว
อัพต่อน๊า จะรอจ้า เป็นกำลังใจให้น่ะ^^
ปล. ชอบปกสวมมากจริงๆ แว๊กๆๆจะซื้อแน่นอน กรี๊ดกร๊าด :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2012 00:56:49 โดย bew_yunjae »

ออฟไลน์ ~MiKi~

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ภคินไปป์ ต้องหนักแน่นและอดทนมากๆนะ อย่าทิ้งกันนะ T[]T

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
มันเป็นบททดสอบอย่างนึงของทั้งสองคนนะคะ ต้องเข้มแข็งและอดทนมากๆนะคะ สู้ๆจ้าา

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โว๊ะ!!!  เศร้า น้ำตาไหล จะทำยังไงดี ๆ????
 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
สงสารทั้งหมดเลย...พ่อกับแม่ไปป์ก็คงทรมานมากที่เห็นไปป์เป็นแบบนี้
ผ่านไปตั้งหนึ่งเดือน ไม่รู้ภคินจะมีสภาพเป็นแบบไหน อ่านไปน้ำตาไหลไม่หยุดเลย
สิ่งที่ทำได้มีแค่รอเพียงอย่างเดียว...รอว่าเมื่อไหร่ใครซักคนจะหมดความอดทนก่อนกัน

Mooktzu

  • บุคคลทั่วไป
น้ำตาคลอ... :o12:

ถ้าจะทรมานกันขนาดนี้ TTTTTTTTTTTTTTTTT

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
เจ็บจนจุก  :m15:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณพ่อคุณแม่น้องไปป์อิฉันขอร้องล่ะค่ะ สงสารเด็กสองคนนั้นเถอะ
ถึงคุณแยกเขาได้ แต่ห้ามเขารักกันไม่ได้อยู่ดี
อย่าทำบาปอีกเลยค่ะ ใกล้ถึงวันพระแล้ว ทำบุญทำกุศลดีกว่านะคะ

faith_cry

  • บุคคลทั่วไป
จะผิดมั้ยที่ผมจะร้องไห้สำหรับตอนนี้อีกครั้ง T_T

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
รอวันฟ้าสดใสนะ

cotone

  • บุคคลทั่วไป
หนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ร้องไห้เพราะฉากแบบนี้ ปกติเราร้องแต่ฉากคนตาย TwT

โอยยยยย เม้นไม่ออก น้ำหูน้ำตาไหลมาปนกับเหงื่อแล้ววววว

รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
 :sad4: :sad4:

โอยยยยยน้ำตาาไหลพรากกกกแล้วค้าบบ

อดทนไว้นะ ถ้าคนมันจะคู่กัน ต่อให้มีอะไรทำให้ห่างกัน

ยังไงก็คู่กัน !!!!! (ยกเว้นคนเขียนใจร้ายยย เหอ เหอ)

ล้อเล่น ๆ รอน้าาา

ferika

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ เรื่องแบบนี้
ฝ่ายนึงก็ครอบครัวที่รัก ผู้ให้กำเนิด ผู้ที่ไม่อยากทำให้ผิดหวัง
อีกฝ่ายก็คนสำคัญ เป็นคนที่รัก อยากอยู่ด้วย อยากมีความสุขด้วยกัน
ถ้าให้เลือกสิ่งสำคัญระหว่างสองสิ่ง จะให้เลือกได้อย่างไร ในเมื่อต่างก็สำคัญเหมือนกัน
เข้าใจพ่อแม่ไปป์ เข้าใจภคิน เข้าใจไปป์ เห็นใจทุกฝ่าย
แต่ถ้าพ่อไปป์จะยอมเปิดใจสักหน่อย ลองให้คบกันต่อและให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ว่ารักเพศเดียวกันไม่ใช่แค่ปั๊บปี้เลิฟของช่วงวัยรุ่นอาจจะดีกว่าขอให้แยกกันแล้วปล่อยให้วันเวลาผ่านไปพร้อมกับความเจ็บปวดใจของทุกฝ่าย
เป็นแบบนี้แล้วเรามองไม่เห็นความสุขเลย ทั้งของพ่อ แม่ น้องเชอร์ ภคินและไปป์ รวมถึงเพื่อนๆ ทุกคนด้วย
ไม่รู้จะช่วยยังไงดี เอาใจช่วยทุกคน หวังว่าอะไรๆ มันคงจะดีขึ้น

ออฟไลน์ BiGgYDrIb

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
นับถอยหลัง รอให้ถึงตอนฟ้าหลังฝนเร็วๆเนอะ

I-Sky

  • บุคคลทั่วไป
สงสารภคินกับไปป์มากกกกกก  :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ daboo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 444
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
จะร้องไห้ตามอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






maii

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ASSASSIN

  • หรือว่า..ความรัก
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1551
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
 :o12: ปวดหัวใจ  สงสารคินกะไปป์  :sad4:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
พ่อไม่เข้าใจวัยรุ่นเลยอะ  :o12:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
เศร้าาาาาาาาจังๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :z3: :z3: :z3: :z3:

ดราม่าง่าาาาาา แง่มๆ

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
โอ้ย ดราม่าแค่นี้จิ๊บๆ ชีวิตคนเราก็มีทั้งสุขทั้งทุกข์ปนกันไป
คิดจะมีรักก็ต้องเผื่อใจสำคัญน้ำตาด้วยเสมอ


ออฟไลน์ luckyzaaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ยังจะเศร้าอีกนานม้ายยยยยยยยย  :sad4:

ออฟไลน์ Indigo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1030/-7
Room 60

   ผมมองช้อนสแตนเลสเย็นเยือกในมือเงาสะท้อนบนนั้นคือใบหน้าที่ซูบผอมจนเห็นกรามชัดเจน....ดวงตาโหลๆที่บวมช้ำกับขอบตาดำช่วยเสริมให้ผมกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอนาถที่สุดในตอนนี้  ผมถอนหายใจยาวๆแล้วหันไปสนใจหมุนตะเกียบในมืออีกข้างจนมันกระทบกันส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดชวนเสียวฟัน

   ภัตตาคารในโรงแรมแห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยสีแดงแซมสีทอง....  บรรยากาศดูหรูหราสมกับเป็นหนึ่งในร้านอาหารชื่อดังของเชียงใหม่  ครอบครัวผมอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา  รวมถึงพ่อที่ไม่ได้กินข้าวร่วมกันมาเป็นอาทิตย์  พ่อทำตามที่สัญญากับผมไว้จริงๆ  ภัตตาคารนี่อาหารรสชาติไม่ได้น้อยหน้าใครอย่างที่พ่อบอก....อาหารจีนรสชาติไม่เลี่ยนถูกปากคนไทยถูกลำเลียงมาจัดวางไว้เสียเต็มไปทั้งโต๊ะ

   “เป็ดย่างเค้าอร่อยกว่าเป็ดเอ็มเคเป็นล้านเท่าเลยเนอะพี่ไปป์”
   “อืม...อร่อยดี” ผมตอบพลางเอื้อมมือไปคีบเป็ดมายัดใส่ปาก เหมือนปฏิกิริยาตอบสนองจะน้อยไปไอ้เชอร์เลยยังเซ้าซี้ต่อ
   “รสมันเข้มข้นมากเลยเนอะ  อ๊อ!!พี่ไปป์ยังไม่ได้ลองขาหมูน้ำแดงเลย....นี่เลย!!” เชอร์ตักขาหมูชิ้นเบ้อเร่อวางลงในจานผมพลางฉีกยิ้มให้ “กินเยอะๆนะพี่ไปป์”

   เพราะเป็ดที่ยังคาอยู่ในปากผมเลยไม่ได้ตอบอะไรไป  เชอร์ยังคงคะยั้นคะยอให้ผมกินนู่นกินนี่ไม่หยุด...สักพักแม่ก็มาร่วมวงช่วยตักนู่นนี่ใส่จานผมจนเต็มไปหมด  แม่กับเชอร์คุยกันสนุกสนานเหมือนเคย...หรืออาจจะพยายามให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดีขึ้นผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  ผมนั่งฝั่งตรงข้ามกับพ่อ...แต่ตั้งแต่เรานั่งที่โต๊ะผมก็ไม่ได้สบตากับพ่อเลยแม้แต่น้อย  เฮ้อออออออ...ผมว่าผู้ชายบ้านเรามีปัญหาเยอะจริงๆ

   พ่อก้มหน้าก้มตากินไม่ต่างจากผม  เราคุยกันน้อยมาตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อเดือนก่อน  ผมไม่เคยทะเลาะกับพ่อรุนแรงขนาดนั้นมาก่อน  อย่างมากก็เรื่องที่ผมเกเรที่โรงเรียน ซึ่งพ่อก็แค่ดุ  นี่เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกันจนมองหน้าแทบไม่ติด  ตอนแรกเราเถียงกันรุนแรงมาก....แต่พอพ่อก้มหัวให้ผม....ผมก็พูดอะไรไม่ออกอีกตั้งแต่วินาทีนั้น และผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

   ในเมื่อไม่เห็นว่าเวลาจะทำให้อะไรดีขึ้นอย่างที่พ่อบอกเลย  พ่อยังเสียใจเรื่องผมไม่หาย....และผมก็ยังคิดถึงภคินไม่หายเช่นกัน....มันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ

   “แล้วเรื่องโรงงานไปถึงไหนแล้วล่ะคุณ?” พอเห็นพ่อเงียบๆไปแม่เลยหันมาสนใจตักอาหารให้พ่อบ้าง
   “ก็เรื่อยๆน่ะ  งานเดินช้ากว่าแผนที่วางไว้นิดหน่อย มีปัญหาเรื่องราคาเครื่องจักร แต่ตอนนี้ตกลงกันได้แล้ว”
   “คุณก็ทานเยอะๆด้วย” แม่ถอนหายใจ “เหนื่อยสินะ”

   พ่อพยักหน้าเบาๆกับคำถามนั้น....ผมหน้าชาวาบไปหมด  พ่อกับแม่อาจไม่ได้คิดอะไร...แต่ไอ้ประโยคสั้นๆที่บอกว่า ‘พ่อเหนื่อย’ นี่มันมีอิทธิพลต่อใจผมจริงๆ  ไม่ว่าจะเกี่ยวหรือไม่...ผมก็รู้ตัวอยู่ดีว่าพ่อกำลังเหนื่อยกับผมมากขนาดไหน  ผมไม่เคยดื้อเงียบกับพ่อแบบนี้มาก่อน

   อาหารหรูราคาแพงดูจืดชืดไปถนัดตาเมื่อใจไม่เป็นสุข....  แม้แต่เชอร์ที่เป็นเจ้าภาพเพราะสอบมหาลัยติดยังดูไม่สดใสเท่าที่ควร  ผมรู้ว่ามันเป็นห่วง แต่จะทำไงได้ล่ะ....ก็คนมันไม่อยากอาหารจริงๆนี่  หลังจากเช็คบิลเรียบร้อยรถเก๋งคันเดิมก็ค่อยๆเคลื่อนตัวกลับบ้าน  ในรถมีเสียงเพลงจากวิทยุ แต่ปราศจากการพูดคุยไม่ต่างจากขามา  ผมเอ็นหลังนอนพิงราบไปกับเบาะ  พอกินข้าวอิ่มก็ง่วงนอนอีกแล้ว  ชีวิตผ่านไปวันๆแค่กินกับนอนจริงๆ...

   ไม่รู้ว่างีบหลับไปตอนไหน... ผมสะลึมสะลือปรือตาขึ้นมองเพราะเสียงพ่อสบถเสียงดังลั่น  แถมเครื่องยนต์ที่เร่งขึ้นอย่างกระทันหันทำเอาคนในรถตกใจ  ตัวรถหลุดเข้ามาในรั้วบ้านทั้งคัน  พ่อรีบลนลานคว้ารีโมตอัตโนมัตขึ้นมากดปิดประตูทันที...  ผมขมวดคิ้วสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้พ่อต้องหนีถึงขนาดนั้น  บานประตูแผ่นเหล็กหน้ากำลังเลื่อนปิดลงช้าๆตามระบบไฟฟ้า....และก่อนที่มันจะปิดสนิทนั้นผมเห็นเสี้ยวหน้าที่คุ้นเคย....ไม่รู้ว่าคิดถึงจนเป็นบ้าตาฝาดไปหรือเปล่า.....แต่นั่นมัน....

   “ภคิน....” ผมพึมพำชื่อในความคิดออกมา  ไม่มีใครกล้าตอบอะไรทั้งนั้น “พ่อ!! ภคินมันอยู่หน้าบ้านเราเหรอ”

   พ่อไม่ตอบคำถามนั้นแต่ดับเครื่องยนต์ลงเสียอย่างนั้น “ทุกคนเข้าไปในบ้าน”
   “พ่อ....”
   “พ่อบอกว่าให้เข้าบ้านไง!!”

   ผมสะดุ้งที่ถูกพ่อขึ้นเสียงใส่  พ่อดูเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  แม่สบตาพ่อก่อนจะส่งสัญญาณบอกให้ผมกับเชอร์ลงรถไป....  ให้ตายเหอะ!!นี่มันต้องมีอะไรแน่ๆ  พอผมทำท่าดื้อจะอยู่ต่อพ่อก็หันมาส่งสายตาปวดร้าวใส่

   “สัญญากับพ่อแล้วไม่ใช่เหรอว่า.....”
   “ไปป์!!!!” เสียงที่ไม่ได้รับเชิญดังก้องมาจากเบื้องหลังประตูบานนั้น “กูมารับกลับแล้ว!!”

   เพียงแค่ได้ยินเสียงเท่านั้น...ความรู้สึกมันก็ท่วมท้นขึ้นมาในอก...  ผมปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นที่หลุดออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  เสียงจากสายโทรศัพท์ยังไงก็สู้เสียงจากคนจริงๆไม่ได้หรอก....

   “ไปป์....เข้าบ้าน” พ่อกัดฟันพูด
   “ขอโทษที่มาช้า!!” มันยังตะโกนแทรกเข้ามา “กูเก็บเงินค่าตั๋วรถนานไปหน่อย!!”

   ไอ้เวรเอ๊ย!! ผมแทบจะสำลักน้ำตาตัวเอง  นี่มาเหยียบแผ่นดินเดียวกันไม่กี่นาทีมันก็ทำผมยิ้มออกซะแล้ว  อยากจะตะโกนตอบกลับไปเหมือนกัน  ถ้าพ่อไม่ตะคอกเสียงดัง “เข้าบ้าน!!”

   แม่ดึงแขนผมเบาๆเป็นเชิงให้เดินตามเข้าบ้านไป พอหันไปทำปากพะงาบๆเหมือนจะพูดอะไรแม่ก็พยักหน้าไปทางพ่อที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  ผมเลยต้องเดินตามแรงดึงเข้าบ้านไป  แม่กดไหล่ผมให้นั่งลงบนเก้าอี้แล้วยกมือขึ้นปาดน้ำตาให้.....ผมเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองร้องไห้  บ้าเอ๊ย!!เกิดมาไม่เคยร้องไห้บ่อยขนาดนี้มาก่อนเลย

   “มะ....แม่....ไปป์อยากเจอมัน”
   “ใจเย็นๆไปป์  ตอนนี้พ่อโกรธมาก  รอพ่อเย็นลงกว่านี้ก่อนนะ...แม่ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต” แม่ลูบหัวให้ผมเย็นลง
   “มันจะโดนพ่อฆ่ามั้ยเนี้ย”
   “ไม่หรอก......มั้ง...”
   “โธ่....แม่...”
   “อย่าขมวดคิ้วสิตัวแสบ” แม่ลูบไหล่ผมเบาๆ ไอ้เชอร์เห็นผมดูกังวลเลยตามมาสมทบ
“พี่ไปป์รู้จักพี่คินเขาดีไม่ใช่เหรอ  คิดว่าถ้าเขาโดนพ่อไล่แล้วจะกลับไปมั้ยล่ะ”
   “ไม่มีทาง”
   “นั่นไงล่ะ  งั้นก็ไม่ต้องเครียดหรอก  ต่อให้พ่อไล่พี่เขาก็ไม่ไปหรอกจริงมั้ย?”

   ผมพยักหน้าหงึกหงักให้แม่กับเชอร์สบายใจ  ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ...แต่ผมก็อดกังวลไม่ได้  ไม่ได้กลัวเรื่องที่มันจะหนีกลับกรุงเทพหรอก แต่ผมกลัวมันจะไปเกรียนแตกใส่พ่อเข้าน่ะสิ  พ่อยิ่งไม่ชอบที่มันเป็นแฟนผมอยู่ด้วย นี่ถ้าเจอนิสัยมันเข้าไปอีก....แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

....................................................................
....................................................
......................................
.....................

   ผมได้เห็นหน้าไปป์เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น.....โชคดีที่มันเอนหัวพิงกับกระจกฝั่งผมพอดีเลยทำให้เห็นเสี้ยวหน้านั่นชัดเจน  แม้จะเพียงชั่วครู่ก็ทำให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของผมได้น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตแล้ว  มันยังคงน่ารักเหมือนเดิม...ถึงจะดูผอมลงไปบ้าง.....แม่ง ปกติก็ผอมจะแย่อยู่แล้ว นี่กะจะให้เหลือแต่กระดูกเลยรึไง

   พี่ภูมิเร่งเครื่องเสียจนควันดำอัดเข้าที่หน้าผมจนต้องสำลักไอค่อกแค่กออกมา  หน้าตาตอนเขาเห็นผมอย่างกับเจอผีแหน่ะ...คงไม่คิดว่าผมจะบ้าดีเดือดตามมาขนาดนี้  เขาตอบแทนผมที่อุตส่าห์ลากเฝือกเก่าๆมาจากบริษัทรถทัวร์มานั่งรอเขาตั้งหลายชั่วโมงด้วยการตะคอกให้ไปป์กลับเข้าบ้านไป  ผมยังไม่ได้เห็นหน้ามันชัดๆเลยนะ  ทั้งๆที่มีแค่แผ่นเหล็กบางๆกั้นเท่านั้น แต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้เลย....  ผมเกลียดเวลาตัวเองทำอะไรไม่ได้มากที่สุด  สุดท้ายก็ได้แต่นั่งรออยู่หน้าบ้านจนมีเสียงกระชากรั้วเหล็กดังขึ้นเหนือหัว

   “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้
   “มาทำอะไรที่นี่!!” เขาขึ้นเสียง “กลับบ้านไปเถอะ”
   “ผมไม่กลับครับ” ผมจ้องหน้าเขาอย่างจริงจัง “นอกจากว่าไปป์จะกลับไปพร้อมกับผม”
   “อย่ามาพูดอะไรบ้าๆนะคิน...  ลูกลุงต้องอยู่ที่นี่!!  จนกว่าจะเปิดเทอม แล้วลุงก็จะลงไปอยู่กับเขาที่นู่นด้วย!!”
   “อะไรนะครับ!!”
   “ลุงจะเปิดโรงงานที่นู่น  และไปป์จะต้องอยู่กับลุง”
   “ไม่ได้นะครับ!!” คราวนี้ผมกลับเป็นฝ่ายทนไม่ไหวจนต้องขึ้นเสียงเอง “จะมาบังคับจิตใจไปป์แบบนี้ไม่ได้นะครับ”
   “คินไม่เข้าใจลุงหรอก  คินไม่เคยเป็นพ่อคน....พ่อที่กำลังเห็นลูกเดินไปในทางที่ผิดน่ะ”
   “แล้วรู้ได้ยังไงว่าทางนั้นมันผิดล่ะครับ?”

   เขาจ้องตาผมอย่างดุดัน  เยี่ยมเลย....เราเถียงกันอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว  ผมอยากจะสบถออกมาเสียแต่ว่ามันไม่สุภาพกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะถ้าเขาคนนั้นเป็นพ่อของคนสำคัญของผม  ผมเลือกที่จะเงียบแล้วมองอย่างไม่ยอมแพ้  ผมจะไม่มีวันกลับกรุงเทพไปมือเปล่าแน่ๆ! ก่อนมาผมอาจจะล้ม....แต่ถ้ามาเหยียบที่นี่แล้ว ผมไม่มีวันยอมล้มลงไปอีกแน่ๆ  ความกดดันลอยอวลในอากาศ...มันเป็นความเงียบที่กดดันให้อีกฝ่ายพูดอะไรออกมาก่อน  สุดท้ายคุณลุงก็ถอนหายใจออกมายาวๆ...

   “คืนลูกชายให้ลุงเถอะ”
   “เขาเป็นของลุงมาตั้งนานแล้วครับ” ผมไม่ได้โกหก...ลูกทุกคนย่อมเป็นสมบัติล้ำค่าของพ่อแม่  แม้จะไม่ค่อยเข้าใจไอ้ความอบอุ่นจากครอบครัวอะไรนั่นสักเท่าไหร่  ถึงแม้จะเคยรู้สึกเหมือนถูกทิ้งขว้าง...แต่สุดท้ายผมก็ยังต้องการแม่อยู่ดี  ไปป์ยิ่งแล้วใหญ่....มันรักครอบครัวมันมากทำไมผมจะไม่รู้ล่ะ  แล้วลุงจะมาขออะไรคืนจากผมอีกล่ะ? ในเมื่อไปป์มันเป็นของเขาตั้งแต่เกิดมาแล้วนี่
   “ลุงไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรากับไปป์บ้าง แต่ลืมมันซะเถอะ  ลุงจะออกค่าตั๋วขากลับให้”
   “เก็บไว้เถอะครับ  ผมจะรอจนกว่าคุณลุงจะเห็นว่าผมไม่เคยล้อเล่นกับลูกชายลุง  ผมจริงจังครับ
   “จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ” เขาส่ายหน้าอย่างเอือมระอาในความดื้อด้านของผม “แล้วจะได้รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลย” 

   เขาปิดกระแทกประตูเหล็กข้างๆรั้วบานใหญ่....เขาเข้าบ้านไปแล้ว และคิดว่าผมคงล่าถอยไปเอง....ผมเนี้ยแหละจะทำให้รู้ว่าเขาคิดผิด!!  ผมใช้เวลาร่วมเดือนกว่าทำงานเก็บเงิน แม้จะไม่มานักแต่ก็พอให้ผมใช้ชีวิตตื้ออยู่ที่นี่ได้นานขึ้น  แทบจะโดนเพื่อนฆ่าทิ้งเพราะไปทำงานทั้งๆที่ขายังเดี้ยงไม่หาย  ใครยื่นเงินให้หยิบยืมหรือขอตามมาด้วยผมก็ไม่เอาทั้งนั้น...นี่มันเป็นเรื่องของผม  ผมต้องรับผิดชอบมันด้วยตัวของผมเอง  จะเอาไปป์กลับมา จะแสดงให้ครอบครับเขายอมรับด้วยว่าผมไม่ได้ล้อเล่นแบบที่เขาปรามาสไว้!!

   ผมปัดฝุ่นออกจากกางเกง...ตอนนี้เริ่มคุ้นชินกับการสวมเฝือกเสียจนบางทีไม่ต้องใช้ไม้ค้ำด้วยซ้ำไป  กระเป๋าเป้ใบใหญ่บนหลังถูกรื้อออก  ผมเอาอาวุธสุดท้ายที่ไปขอยืมจากไอ้อาร์ทออกมา  มันแยกส่วนเป็นชิ้นๆ...ต้องใช้เวลาประกอบสักหน่อย  โชคดีที่เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมแล้ว...  ไม่นานนักเต้นท์ขนาดย่อมก็ตั้งหราอยู่ข้างประตูบ้านเรียบร้อย

   ผมจะกางเต้นท์นอนให้เป็นหมาเฝ้าบ้านเขาไปเลย!!  ไอ้อาร์ทเสนอแผนนี้ให้เพราะเงินทุนสำรองมีไม่เยอะนัก  ส่วนเรื่องอาบน้ำอะไรนั่นโชคดีที่ปากซอยมีบริการห้องน้ำ-ห้องอาบน้ำครั้งละสิบบาทอะไรก็ว่าไป  อย่างผมอาบน้ำวันละครั้งก็น่าจะพอเพราะคงได้นั่งอยู่หน้าบ้านทั้งวันไม่ได้สกปรกอะไรอยู่แล้ว  ผมกางถุงนอนแผ่หลาลงกับพื้นเต้นท์  เพียงแค่นั้นก็แทบจะเต็มพื้นที่แล้ว  หน้าที่ของผมที่นี่คือรอ.....รอ.....และรอเท่านั้น

   นอกจากนั้น....ผมยังไม่เห็นอนาคตอะไรอีกเลย...

   บางคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายกับการนั่งเฉยๆอยู่ในเต้นท์ไปเรื่อยๆ  คงคิดว่ามันเหมือนกับการนั่งๆนอนๆอยู่บ้านใช่มั้ย....ผิดเลยล่ะ  การรอคอยอย่างไร้จุดหมายเป็นความทรมานอย่างแสนสาหัส  น่าตลก....คนที่ไม่เคยรออะไรอย่างผมกลับนั่งๆนอนๆอยู่หน้าบ้านเขาได้เป็นอาทิตย์

   คุณลุงขับรถออกบ้านไปทุกเช้า และเหลือบตามองผมอย่างสมเพชทุกเช้า....เขาไม่ได้ออกปากไล่ผมอีกตั้งแต่วันนั้น  คงจะรู้ว่าทำไปก็ไรประโยชน์  ในเมื่อผมยังปักหลักเฝ้าบ้านเขาได้เป็นอาทิตย์แล้ว  นาฬิกาที่นี่เดินช้าเหลือเกิน....ไม่รู้ว่าเขาตั้งเวลาให้ต่างกับที่กรุงเทพหรือเปล่า..

   หรือบางที...นาฬิกาอาจไม่ได้เดินช้าหรอก แต่เป็นใจของผมที่เดินไปก่อนนาฬิกา..

   กำแพงเหล็กบางๆที่กั้นเราไว้ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อุปสรรคใหญ่อะไรเลย...แต่กระโดดข้ามไปไม่ใช่เรื่องยากสักนิด....แต่กำแพงในใจคนที่ก่อตัวขึ้นมานี่สิ  มันยากจะข้ามไปนัก  ทั้งๆที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่กลับไม่ได้ยินแม้แต่เสียง...ผมไม่กลัวว่าไปป์จะเลือกครอบครัวมากกว่าตัวเองหรอก  ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันคือคำตอบของทุกอย่างแล้ว

   ผมยิ้มให้ตัวเองกับความเติบโตเล็กๆในชีวิต  ‘ความไว้ใจ’ เป็นสิ่งที่ไปป์ได้สอนให้ผมรู้จัก ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงนึกน้อยใจมันที่ปล่อยให้ผมนั่งรออยู่คนเดียว  ทำไมไม่ยอมออกมาหาบ้าง? คงคิดว่ามันไม่ได้รักผมมากอย่างที่ผมรักมัน แต่ช่วงเวลาที่ผ่านบอกเราได้มากมายนัก  จริงอยู่ที่ไปป์บอกว่าชีวิตของทุกคนเป็นเหมือนโลกหนึ่งใบ ผมอาจะเป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งบนโลกของมันเท่านั้น...

“เห็นมั้ย....เราไม่ต้องอยู่บนโลกใบเดียวกันหรอก....ไม่ต้องชอบทุกอย่างเหมือนกัน....ไม่ต้องทำเหมือนกัน....ไม่ต้องคิดเหมือนกัน....ไม่ต้องเป็นทุกอย่างของกันและกัน แค่ตรงนี้มันสำคัญก็พอ....เราไม่ต้องเป็นทุกอย่างของกันและกัน.....แต่เราเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของกันและกันก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ

คนห่าอะไรวะ....แค่คิดถึงก็ทำให้นั่งยิ้มอยู่คนเดียวได้

   สุขทุกข์มันห่างกันเพียงเส้นบางๆกั้น  บางทีก็ยิ้ม...บางทีก็อยากร้องไห้...  อยากเห็นหน้า...อยากได้ยินเสียง...อยากกอด....อยากจูบ.....อยากบอกว่า ‘คิดถึง’  มากแค่ไหน แต่มันก็ทำได้แค่ในฝันเท่านั้น....

   “นี่....คิดจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่น่ะลูก”
   “ก็จนกว่าพี่แก้วจะยอมให้ผมเจอหน้าไปป์น่ะครับ”
   “โธ่....พ่อคุณเอ๊ย!! ดื้อด้านซะจริงนะ”

   ประโยคตำหนิ....แต่แววตาของพี่แก้วกลับอ่อนโยน  เธอลงกลอนประตูเหล็กแล้วเดินมาทักทายผมที่นั่งนิ่งๆอยู่  ผมรีบยกมือไหว้เธอซึ่งเธอก็พยักหน้ารับไหว้  ผมเจอหน้าเธอแทบทุกวัน....ไม่สิ  ผมเจอหน้าทุกคนในบ้านยกเว้นคนที่อยากเจอที่สุด  พี่แก้วอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็ค  เธอแต่งตัวแบบนี้ออกไปดูงานที่โรงพิมพ์ทุกวัน  พอลองพิจารณาดีๆแล้ว..ไปป์นี่หน้าเหมือนแม่ชะมัดเลย  โดยเฉพาะดวงตาโตๆกับจมูกนั่นถอดแบบออกมาเป๊ะๆเลย

   “เปลี่ยนใจมาจีบแม่แทนลูกแล้วเหรอคิน”
   ผมหัวเราะกับคำเอ่ยแซว “ไม่กล้าหรอกครับ”
   “นั่งหน้าบ้านเค้าเป็นอาทิตย์ยังมีอะไรที่ไม่กล้าอีกเหรอลูก” เธอเดินมานั่งยองๆลงข้างๆผม “แม่ก็อยากให้เราเจอกันอยู่หรอกนะ แต่ไปป์เขาสัญญากับพ่อไว้ว่าจะไม่ติดต่อกับใครจนกว่าพ่อจะอนุญาต”
   “..........”
   “ลูกชายแม่โทรมมากเลย....แม่ไม่เคยเห็นไปป์ซึมขนาดนี้มาก่อนเลย  กินข้าวเท่าแมวดม  ถามคำตอบคำ  เครียดลงกระเพาะจนต้องกินยาต่างน้ำ แถมยังฝืนยิ้มอยู่บ่อยๆ เฮ้อออออออออ...”
   “สภาพมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
   “เขาพยายามไม่ต่างจากคินหรอก  ต่างฝ่ายต่างรอ เพียงแต่ว่าแม่เองก็ไม่รู้มันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน” พี่แก้วยิ้มอย่างเหนื่อยล้า “แม่จะพยายามคุยกับพ่อเขาให้นะลูก”
   “จริงเหรอครับ!! ขอบคุณมากครับพี่แก้ว” ผมรีบยกมือไหว้ปลกๆ  อย่างน้อยก็หวังว่ามันจะช่วยให้อะไรๆเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
   “ไม่ต้องขอบคุณหรอกลูก...แม่ทำเพื่อไปป์ต่างหาก” เธอว่าแล้วลุกขึ้นยืน “แต่ก็ไม่รู้จะดีขึ้นมั้ย  อย่างที่เห็นพ่อเขาเสียใจกับเรื่องนี้มาก  ไปป์เป็นลูกชายคนเดียวของบ้านเรา แล้วเรื่องแบบนี้มันก็ค่อนข้างละเอียดอ่อน”
   “ครับ.....ผมเข้าใจ”
   “พ่อเขาไม่ได้เกลียดคินนะลูก” พี่แก้วลูบหัวผม “เขาแค่รักไปป์มากเท่านั้นเอง”

   ผมหลับตาลง...  ใช่...ผมเข้าใจเรื่องนี้ดี  ถึงไม่ได้ตัดพ้อต่อว่าโชคชะตาอะไรทั้งนั้น  เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดจากความรัก  ต่างฝ่ายต่างรัก....หวังให้คนที่ตัวเองรักมีความสุขทั้งนั้น แล้วความรักนั้นก็ย้อนกลับมาทำลายทุกคนเช่นกัน  นั่นแหละความรักที่ผม ‘เคย’ เกลียดนักเกลียดหนา เพราะมันทำให้สุขและทุกข์ไปพร้อมๆกัน  ที่โง่กว่าคือเรากลับขาดมันไม่ได้เสียอย่างนั้น...

   “ถ้าถึงเวลานั้นแล้ว...ช่วยทำให้ลูกแม่กลับมายิ้มเหมือนเดิมทีนะ”
   “แน่นอนครับ”

   ผมจะทำให้รอยยิ้มนั้นกลับมาจุดไฟในโลกอันมืดมิดของผมอีกครั้ง  เหมือนที่มันเคยฉุดผมขึ้นมาจากความเจ็บปวดที่เคยได้รับ  ไปป์ทำให้ผมเป็นคนใหม่ได้...แล้วทำไมผมจะทำให้ไปป์เป็นคนเดิมไม่ได้ล่ะ?

   ความหวังเล็กๆที่พี่แก้วหยิบยื่นให้ช่วยรดน้ำในหัวใจผมไปได้หลายวัน... แต่น้ำที่ไหลลงบนดินย่อมมีวันเหือดแห้ง  หลังจากเสียงแสงสว่างที่ปลายทางได้อาทิตย์กว่าๆตอนนี้ผมเริ่มจะมองไม่เห็นแสงของทางออกนี้เสียแล้ว  พี่แก้วกับน้องเชอร์ทำได้เพียงส่องรอยยิ้มจางๆให้ทุกครั้งที่เดินออกจากบ้าน  ผมอยู่ที่นี่ตลอดเวลา และไปป์ก็อยู่ข้างในนั้นตลอดเวลา...แต่เรากลับพบกันไม่ได้

   วันนั้นเป็นวันที่อากาศตอนกลางวันร้อนอบอ้าวของกลางเดือนเมษา  ผมสังหรณ์ใจไม่ผิด เพราะในดึกคืนนั้นพายุฤดูร้องลูกใหญ่ก็บุกเข้าเชียงใหม่มาจริงๆ  ลมพัดแรงจนผมต้องรีบถอดชิ้นส่วนของเต้นท์ออกเพราะอย่างไรมันก็ไม่มีทางต้านลมไหว  ทางเดียวที่ทำได้คือเก็บของแล้วหาเพิงเล็กๆที่ยื่นออกมาจากรั้วบ้านเป็นที่พักพิงเท่านั้น

   ผมเบียดตัวเข้ากับผนังจนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน  ชีวิตแม่งน้ำเน่าอย่างกับละคร....หลบอย่างไรฝนห่าใหญ่ก็รุมสาดเข้ามากระทบผิวกายได้อยู่ดี  เอาสิวะ....แค่นี้มันจะเจ็บอะไรมากมายไปกว่าที่ใจอีกล่ะ?  กระเป๋าและถุงนอนในอ้อมกอดเปียกโชกไปหมด  ยังดีที่เอาถุงพลาสติกครอบเฝือกไว้ได้ทัน  ถ้าเฝือกโดนน้ำอีกคงโดนคุณหมดสวดยับแน่ๆ  ผมสบถกับความโชคร้ายที่ประดังประเดเข้ามาไม่หยุด

   เอาเถอะ....ลำบากกว่านี้ผมก็เคยมาหมดแล้ว  อีกะแค่ฝนมันจะอะไรนักหนาเชียว  ท้องฟ้าสีดำสว่างวาบเพราะฟ้าแล่บแทบจะตลอดเวลา  พายุฤดูร้อนโหดร้ายพอสมควรสำหรับคนไร้ที่อยู่แบบที่ผม  ผมเอนหัวซบลงกับผนัง ฟังเสียงฝนเคล้าเสียงคำรามของฟ้า  พลางนึกย้อนไปถึงชีวิตที่ผ่านมา....

   มันเป็นเวลาที่เหนื่อยล้าเหลือเกิน....ทุกอย่างตรงหน้ามืดสนิท  ไม่มีทางออกกับเรื่องราวของเราเลยเหรอ?  ผมไม่เคยเป็นหมาจนตรอกขนาดนี้มาก่อน....ไม่เคยโดนผลักแล้วลุกไม่ขึ้น....  บางทีก็คิดว่าตัวเองคงทนต่อไปไม่ไหว แต่พอคิดว่าต้องกลับไปอยู่กับความเดียวดายที่รอคอยอีกทั้งชีวิต  ผมยอมนอนตายอยู่ที่นี่ดีกว่า....

   ในยามที่รู้สึกอ่อนแอที่สุดผมกลับร้องไห้ไม่ได้อย่างใจคิด....  ทั้งๆที่ไม่ต้องอายใครเพราะมีสายฝนช่วยพลางเอาไว้แท้ๆ  อันที่จริงถ้าลองนึกย้อนไปผมก็แทบไม่เคยร้องไห้อยู่แล้ว แล้วทำไมตั้งแต่มีมันเข้ามาในชีวิตผมถึงได้ร้องไห้บ่อยขนาดนั้น  จริงอยู่ว่ามันเป็นความอัดอั้นในใจมานาน....แต่เหนือสิ่งอื่นใด เพราะมีบ่าเล็กๆที่พร้อมจะรองรับน้ำตา  มีมือคู่หนึ่งที่พร้อมจะลูบหลังเบาๆ  มีริมฝีปากเล็กที่ไม่เคยบอกให้ ‘หยุดร้อง’ แต่กลับบอกว่า ‘ร้องออกมาให้หมด’

   ใช่แล้ว....มันเป็นผู้ชายที่มีความหมายกับผมมากเหลือเกิน....

   เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงง

   เสียงฟ้าผ่าดังก้องจนหูอื้อไปหมด  ผมที่กำลังจะเคลิ้มหลับสะดุ้งสุดตัวขึ้นมา แต่ที่ตกใจกว่าคือภาพที่เห็นตรงหน้า...

   เขายืนอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับร่มคันใหญ่ในมือ  ผมไม่อาจเดาได้ว่าดวงตาคู่นั้นสะท้อนอะไรออกมา

   ตอนนี้เขารู้สึกเช่นไร? และมาทำอะไรที่นี่?


TBC

ในที่สุดก็ได้มาโพสซะทีค่ะ//คลานเข้ามา//
จะโพสตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ดันมีเรื่องเข้ามาตลอดทั้งวัน แต่ยังไงก็ได้มาโพสแล้วนะคะ เย้ เย เย่!!
เจอกันตอนหน้าจ้าาา
ปล.เปิดเทอมแล้วเหมือนสิ้นใจ.... :sad4:

ออฟไลน์ littlepink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
:z13: :z13: :z13: :z13: :z13:

ไปร์ทออกมาหาภคินแล้วใช่ไหมมมม
ตอนนี้หน่วงเหลือเกินนนนน. ..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2012 23:21:08 โดย littlepink »

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
ใคร  :confuse:

พี่ภูมิ หรือ ไปส์ หรือใคร


ไม่อยากเดา



ตอนนี้ไม่รู้จะเม้นอะไร ได้ แต่ +1 ให้คนเขียน ตอนนี้บอกทุกอย่างทุกการกระทำ และ ทุกเหตุผลของทุกคนหมดแล้ว เพราะคำว่ารักและหวังดี ต่อ "คนที่รัก" ก็เท่านั้นเอง

ก็ได้แต่รอ ว่าเมื่อไหร่ ก็เท่านั้น


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด