Part 43
ประกาศศึก.
.
.
.
.
เที่ยงวันนี้ยังไง ต้องเข้าประชุมสี หลังจากเมื่อวานโดดกันทั้งกลุ่ม ขืนไม่ไปวันนี้มีหวังชะตาขาด
กินข้าวเสร็จ..พวกเราจึงแยกไปประชุมสีใครสีมัน แน่นอนศรีริต้าคนสวย..ตามพวกกูไปด้วย
โดยไม่ต้องถามเพราะอะไร ก็เธออยู่สีเดียวกับกู..ไอ้พี่โต๋และไอ้พี่บอมย์ สีแดงแรงฤทธิ์
ดีหน่อยวันนี้ตอนกินข้าว..ไม่มีเรื่องให้ปวดหัว ริต้าดูจะทำตัวน่ารักขึ้น ไม่วุ่นวายกะไอ้คุณชายโต๋
จนเกินงาม คงจับทางได้..ว่าไม่ควรยุ่มย่ามกะมันมาก..จะเสียโอกาสดีดีไป ดังนั้นเธอจึงเป็น
สาวสวยอีกคน..นอกจากน้องกิ่งแฟนไอ้พี่กานที่นั่งร่วมโต๊ะสิงห์โตดำ กูกะไอ้พี่โต๋..เป็นจุดสนใจ
ตามเคย ดูเหมือนครั้งนี้จะมากผิดปกติ สาเหตุน่าจะมาจากข่าวที่ไอ้พี่โทนี่บอก อยากพูดอยากคิด
กันยังไงก็ช่าง..ทำตัวปกติก็สิ้นเรื่อง นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไอ้หล่อเทพมันยังไม่สนใคร
หน้านิ่งของมันเหมือนเดิม ทั้งที่คนมองตามตาแทบขวิด มันยังไม่สะทกสะท้าน กูก็เลียนแบบบ้าง..
มันไม่อาย..หรือกูจะสน
.
.
.
.
เดินเข้าห้องชมรมไม่ทันไร เสียงแปดหลอดดิซิเบลก็ หวี๊ด..มาทันทีทั้งที่ยังไม่เห็นตัว เสียงนำ
มาก่อนได้อีก...
“ต๊าย..ตายๆๆๆ...โผล่หัวมากันได้แล้วเหรอค่ะ...พ่อพระเอก..นายเอกทั้งหลาย?...ถ้าวันนี้ไม่โผล่..
เจ๊จะไปลากคอถึงที่เลยเคยดู..อ้าว!...แล้วนี่ใครกันหล่ะ?” บริภาษพวกกู ลับหูลับตาค้อนออกท่าทาง
ไปด้วย..เพิ่งสังเกตเห็นริต้าที่ยืนหลังไอ้พี่โต๋..ถามขึ้นมา
“สวัสดีค่ะ...ริต้าค่ะ..สมาชิกใหม่สีแดง..ฝากตัวด้วยนะค๊า..” เธอเดินไปแนะนำตัวกับเจ๊พี่กิ๊ป นอบน้อม
น่าเอ็นดูได้อีก
“อ่า..ต๊าย..ดีเลย..เจ๊กะลังหาลีด..ขาดอีกคนพอดี น้องหนูคนสวยมาได้จังหวะเหมาะ...มามะ..
มานี่เลยค๊าาา...มาเป็นลีดเลยดีกว่า..รับรองปีนี้สีเรา..ไม่ได้ถ้วยเชียร์..กะขบวนพาเหรดให้มันรู้ไป...
รวมดาวกันขนานนี้..สีไหนเจ๊ก็ไม่ยั่นหรอก” แล้วเธอก็กึ่งลากกึ่งจูงริต้า เข้าไปรวมกลุ่มกับพวกเชียร์
ที่กำลังซ้อมเพลงกันอยู่ โดยมีพี่น้อย..พี่เพ้นนำทีม เห็นลีดสีซ้อมท่าอยู่สี่คน ผู้ชายสองหญิงสอง
เพิ่มริต้าอีกคนก็คงเป็นห้า กูยืนหันรีหันขวางลังเลไม่รู้เอาไงดี จู่ ๆ ไอ้พี่โต๋ก็จับมือลากกูเดินเข้าไป
ที่กลุ่มพี่บอยประธานสีนั่งกันอยู่
“มะ..มานี่กันเถ่อะ” ชวนดีดีก็ได้ จะจูงกูทำไมเนี๊ยะ ใกล้แค่เนี่ยะ..พาเอาคนมองจนได้...ไม่ป่าวประกาศ
ซะเลยหล่ะ...วุ้ย!
“แหม..แหม..ไม่ยอมให้ห่างเลยนะไอ้สิงห์...เล่นจูงกันขนานนี้..ยั่วคนอิจฉารึไงมึงไอ้รูปหล่อ”
เสียงพี่บอยประธานสีแซวขึ้นมา แต่โทษทีเห่อะ..ล้อกันตรง ๆ แบบนี้ มันไม่อายแต่กูอายนะโว้ย!
“ก็นะ...เปิดตัวกันไปเลยจะได้รู้ว่ามีเจ้าของ..ดีไหม” มันตอบทีเล่นทีจริงกะไอ้พี่บอย ไอ้พี่บอมย์หน้ามัน
เจื่อนลงไปถนัด..รู้สึกไม่ดีเลย ทำให้รู้ว่ามันยังไม่เต็มร้อยเท่าไหร่
“พอเห่อะ..จะเล่นอีกนานป่ะ?...แล้วลากมาไมเนี๊ยะ?” แกล้งบิดมือออกจากมือมัน..แหวมันไปนิด ๆ
พอเป็นพิธี
“น้องมันเขินน่ะ..ดูดิหน้าแดงเป็นตำลึงเลย” ไอ้พี่บอยก็นะ..ไม่หยุด ไม่ติดเป็นรุ่นพี่..ควบตำแหน่ง
ประธานสี..ไอ้ตะเกียงจะโบกให้
“หึ..หึ..หึ..นั่นล่ะ..เค้าหล่ะ..ประจำ” ไอ้พี่โต๋เสริมอีก ไมวันนี้มันดูลัลล้าพูดมากจริงวุ้ย!..
ตั้งกะเช้าแล้ว..ต่างกะไอ้คนที่เคยยียวนกวนประสาท เงียบเป็นเป่าสากซะนี่
“เอ้า!..ตกลงจะไม่บอกใช่ไหม ลากตะเกียงมานี่ทำไม?” กูถามย้ำแหล่ะ..
“ก็ให้มาลงชื่อนักกีฬา ตะเกียงยังไม่ได้ลงกีฬาเลยไม่ใช่นิ?” มันบอก
“อะไร..ไม่เอา..ไม่เล่น..ก็นั่งเสลี่ยงแล้วไง..ไมต้องแข่งกีฬาอีกอ่า?” อุธรณ์แม่งแหล่ะ! ใช่อะไรหรอก..
ไม่อยากเล่นอ่ะ...เป็นกองเชียร์ก็พอเห่อะ..โรงเรียนเก่ากูก็เล่นซะ..ไม่มีคู่แข่งแล้ว ตั้งใจว่า..มาที่นี่
จะไม่อะไรอีก ออกกำลังเฉย ๆ พอว่าไปอย่าง แค่นี้ก็เด่นจนไม่รู้จะดังไปถึงไหนแล้ว
“นั่นสิ..พี่ว่าตะเกียงลงด้วยก็ดีนะ..ทีมบาสเรายังขาดมือดีอยู่ ไม่แคล้วเจอสีไอ้พรตแน่ ๆ
ตะเกียงชู๊ดออกแม่น ลงเล่นให้ทีมด้วยกันนะ” ไอ้พี่บอมย์..พูดได้แล้วสิมึง ดันเอ่ยปากขอร้องกูอีก
เห็นสายตามันแล้ว ไม่กล้าปฏิเสธเลยว่ะ!
“เอาก็เอา...ลงเล่นอย่างเดียวน่ะ!..ไม่ลงอะไรอีกแล้ว” กูบอกปัด ๆไป..อย่างเสียไม่ได้
“ขออีกอย่างได้ป่ะ...” แน่ะ!...มีมาอีก..ไอ้พี่บอยมัน
“ทำไมไม่แบ่งให้คนอื่นเล่นมั้งเล่า..จะมาเจาะจงอะไรตะเกียงเนี๊ยะ!.” กูสวนให้หล่ะ..
“คนอื่นที่ว่า..เค้าอัดกันเต็มหมดแล้ว กติกาห้ามไม่ให้ลงเกินสามรายการ เท่าที่คัดตัวไว้ก็แน่นกัน
หมดแล้ว..ไงลงช่วยพี่หน่อยนะตะเกียง” มันบอกเหตุผลหล่ะ..กูก็ว่าไมสีแดงดูดู..ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
เกือบครึ่ง ไม่รู้คนจัดสีมันจัดถูกป่าวว่ะ! ทำให้ทรัพยากรสีกูมีปัญหาซะนี่
“..ก็ได้..ตกลงให้ลงไรอีก” เอ้า..ยอม ๆ แม่งไป ไม่เห็นแก่ส่วนรวม..ไม่เล่นให้เลยนิ
“ลงเซปักตระกร้อให้หน่อย” ยังกะมันรู้ว่ากูเซียน เสือกเลือกกีฬาที่กูถนัดได้อีก
“อือ..ได้..ใครลงมั้งเนี๊ยะ?” ถามมันก่อน..ยังไม่รู้สมาชิกทีม ลงสองชนิดเกิดซ้อมตรงกันเป็นเรื่องอีก
“ก็สามหนุ่มกลุ่มตะเกียงไง..ไอ้โต๋..ไอ้บอมย์..แล้วก็ตะเกียง..ดีไหม?..จะได้ไม่เป็นปัญหาตอนซ้อม”
ดีว่ะ!..พวกแม่งควบตรงกันหมด ตกลงกูต้องร่วมหัวจมท้ายกะพวกมันตลอดดิ..ทั้งบาส..ทั้งตระกร้อ
“ตารางแข่งไม่ชนกันดิ?” ตารางแข่งออกแล้วเห่อะ ชนกันขึ้นมาจะแข่งยังไงทีนี้
“ไม่ชน..ตารางออกมาแล้ว กรรมการเค้าใช้ตารางเก่าปีที่แล้ว ตระกร้อกับบาสแข่งสนามเดียวกัน
ผลัดกันคนละวัน ไม่เป็นปัญหาไม่ต้องห่วงเรื่องแข่งชนกัน” ไอ้พี่บอมย์เป็นคนตอบซะงั้น..รู้ดีอีกมึง
“แล้วพวกพี่ลงคนละกี่อย่างเนี๊ยะ?” กูถามมันบ้าง
“เต็มสตรีม..คนละสาม..ไอ้โต๋ลงว่ายผีเสื้อ 800 เมตร..อีกหนึ่งรายการ ส่วนพี่ลงวิ่ง 200 เมตร
อีกรายการหนึ่ง” ไอ้พี่บอมย์พูดต่อ โดยไอ้พี่บ้ายืนฟังนิ่ง ๆ บทจะไม่พูดก็เงียบได้อีกมึง
“ตกลงตามนี้นะ..จะได้ส่งรายชื่อนักกีฬาให้ส่วนกลางสักที แล้วเรื่องซ้อมเอาไง” ไอ้พี่บอยถาม
ไอ้คุณโต๋มัน
“ตระกร้อซ้อมเที่ยง..ส่วนบาสซ้อมเย็นทุกวัน ซ้อมใหญ่ชั่วโมงโฮมรูมวันศุกร์” ไอ้คุณชายเก็กชี้แจง
ตารางซ้อม..ทุกคนพยักหน้าเข้าใจ โดยบาสเริ่มซ้อมเย็นนี้เลย เพราะต้องแบ่งสนามกับสีอื่นด้วย
เห็นบอกว่าวันนี้ซ้อมร่วมกับสีน้ำเงิน ประจวบเหมาะได้อีก..สีไอ้พี่พรตมันอ่ะแหล่ะ........
จากนั้น..กูก็ถูกเจ๊พี่กิ๊ป เรียกไปซ้อมฝึกท่าทางนั่งบนเสลี่ยงต่อทันที เวลาเหลือยี่สิบนาทีก่อนเรียน
ภาคบ่าย...
“มามะ...น้องตะเกียง..ไฮไลท์เซอร์ไพรส์สีเรา มาฝึกวางท่ากะเจ๊ได้แล้ว” พูดเสร็จพี่แกก็ฉุดกู
ไปสอนทันที โดยให้กูขึ้นบนตั่งนั่ง ไม่ให้กูตั้งหลักสักเอ๊ะ....ไอ้พี่โต๋..พี่บอมย์ มันก็วางตัวนักกีฬา
กันต่อกับพวกพี่บอย ส่วนกูอะเหร่อ...โดนลวนลามตามร่างกายโดยเจ๊พี่กิ๊ปจนเมื่อยไปหมด ทำไมท่านั่ง
มันต้องยุ่งยากด้วยว่ะ!...ให้กูนั่งหนีบเข่าห้อยขาเอียงเข่าสี่สิบห้าองศา..เอวตรงหลังแอ่นตั้งตรง
อีกตะหาก..ท่าแบบนี้มันไม่แมนซักนิด แล้วไอ้คุณชายโต๋ไม่เห็นมันต้องซ้อม ไม่ได้การแล้วสงสัยต้องถาม
“เจ๊..คนสวย..ทำไมต้องให้ตะเกียงนั่งท่านี้ด้วยอ่า?...มันดูไม่แมนไงไม่รู้...นั่งอ้าขาไม่ได้รึไง?”
“โอ้ย!...จะอ้าได้ไงเล่า..น้องตะเกียง...ก็ชุดมันบังคับให้ต้องนั่งแบบนี้..ขืนนั่งอ้าขาก็ไม่สง่าดิ..ที่สำคัญ
มันไม่เข้ากับคอนเซ็ปของเรา..เอ่อน่า...เจ๊ฝึกให้ทำก็ทำเห่อะ..ดูดิหนูนั่งแล้วดูดีมีสกุลได้อีก..ไม่มีใคร
เหมาะเท่าตะเกียงแล้ว..เชื่อสายตาอันแหลมคมของเจ๊สิค๊า” เฮ้อ!..เจ๊แกเล่นมีเหตุผลซะขนาดนี้
กูก็จนปัญญา เอาก็เอาว่ะ!..
“เจ๊..แล้วไมไอ้พี่โต๋ มันไม่เห็นต้องซ้อมเลยง่า...ไหนบอกมันก็ต้องนั่งด้วยไม่ใช่นิ” ถามสิ..ทำไมมีแต่กู
ซ้อมท่าประหลาดอยู่คนเดียวเล่า มันไม่เห็นต้องซ้อมสักนิด
“โอ้ย!...ขี้สงสัยจริงเรา..ขานั้นไม่ต้องไปห่วงเค้าหรอก..ฝีมือเค้าขั้นเทพ ใกล้วันจริงซ้อมนิดซ้อมหน่อย
ก็ได้แล้ว...ว่าแต่เราเห่อะ..หน้าเชิดนิด ๆ ซิ..ยิ้มหวาน ๆ ด้วย..ทำหน้าแบบนี้ไม่ได้นะวันจริงน่ะ..
ขืนหน้าแบบนี้..มีหวังไม่ต้องเอาคะแนนกันแล้ว..เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน..หน้ายังกะปลิงดูดเลือด...
ไม่เอาไม่เอา..ทำหน้าสวย ๆ..ยิ้มสิจ๊ะ..ยิ้มสยามน่ะ..ยิ้มเป็นไหม?” เฮ้อ!..กูไม่รู้ถอนหายใจรอบที่
เท่าไหร่..ยุ่งยากจริงทั้งไอ้ท่านั่งเข่าชิดเอียงสี่สิบห้าองศา..ทั้งไอ้เชิดหน้าหลังตรง..มือประสานวางบนตัก
ฉีกยิ้มอีก..นี่คงไม่บอกให้กูโบกมือ เหมือนนางงามได้มงกุฎเข้าให้อีกหรอกนะ
“เอ้า!..ยิ้มไงจ๊ะ...ยิ้มนะยิ้ม..ดีค่ะ..ดีมาก...โอ้!..แม่เจ้า...ยิ้มแบบนี้หัวใจเจ๊จะวาย..ต๊ายอยากจะ
กรี๊ดดดดซซซ..สลบ..หนูยิ้มได้เพอร์เฟ็กส์..หวานหยดงามหมดจด..สยบไปสามภพ...ให้มันได้
แบบนี้นะจ๊ะ..” ขอมาไอ้ตะเกียงก็จัดให้...กูเลยส่งยิ้มพิฆาต ไม้ตายละลายใจให้ซ่ะ..ดูถูกอกถูกใจ
เจ๊แกเป็นอันมาก...หน้าแดงหูแดงใส่กูซะนี่...แล้วเสียงแกที่พูดชมกูอ่ะนะ..เรียกความสนใจคนทั้งห้อง
มองมาเป็นตาเดียว อ้าปากตาค้างกันเป็นแถว ยิ่งน้อง ๆ ผู้ชายม.ต้น..ด้วยแล้ว หน้าแดงเถือก
กันเป็นระนาว..พวกผู้หญิงอายม้วนต้วนกันได้อีก ยังมีสายตาสะบัดร้อนสะบัดหนาวของริต้า
รู้สึกเหมือนไม่พอใจซะงั้น อือหึ..กูไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม...สายตาแบบนี้ ยิ้มยังไม่ทันหุบ
มาอีกแหล่ะพี่แก
“เอาหล่ะ!..ที่นี้..ยกมือขวาขึ้นโบกช้า ๆ” น้านนนนๆๆๆ....ซื้อหวยไม่ถูกให้รู้ไป กูนึกแล้วเชียว
ตกลงให้กูโบกมือจริงดิ
“เจ๊..ให้โบกมือจริงดิ...มันทะแม่งทะแม่งนะเจ๊..ท่าที่ให้นั่งมันก็นะ..ส่อไปเกินครึ่งแล้ว..นี่ยังจะให้
โบกมืออีกหรือ..ตกลงไอ้ชุดที่ตะเกียงใส่มันเป็นไงอะเจ๊?” ชักสงสัยซ่ะแล้วกู
“ก็ชุดเจ้าล้านนาทางเหนือไง..ไม่มีอะไรประหลาดพิศดารหรอกจ้า..เจ๊รับประกัน..ที่ให้ฝึกโบกมือ..
ส่งยิ้มสวย ๆ อ่าน่ะ..ก็เพื่อเรียกคะแนนพิสวาศจากกรรมการ..นั่งนิ่งเป็นซากศพ..คงได้หรอกคะแนนน่ะ”
“แร๊งงงง..อ๊ะเจ๊แรง..เอ้ายิ้มก็ยิ้ม..โบกก็โบก..เพื่อคะแนนหรอกน่ะ..ไม่งั้นตะเกียงไม่ทำหรอก..วุ้ย!..
นึกภาพตัวเองไม่ออก” กูก็จัดให้ตามที่ขออ่ะนะ..ล่อเอาพวกที่ซ้อมเชียร์มองกันตะลึงได้อีก..คงไม่ต้อง
ซ้อมกันแล้วพวกมึง จ้องกูกันหมดทั้งห้อง ไอ้พี่โต๋มันมองตาหวานซะเรียกเลือดขึ้นหน้ากูเลย..
ไอ้พี่บอมย์ก็ทำตาซึ้งให้กูได้อีก..ทำไมมีแต่ตัวผู้ทั้งนั้นเลยว่ะ?..จ้องกูกันตาลอย ไม่เว้นแม้กระทั่ง
ไอ้พี่บอยเป็นไปกะเค้าด้วย ถึงจะมีน้อง ๆ ผู้หญิงเคอะเขินกันไม่น้อยก็เห่อะ..กูควรภูมิใจไม่นี่
เกือบยี่สิบนาที ที่ไอ้ตะเกียงต้องนั่งหลังขดหลังแข็ง ฝึกวางท่าทางให้ได้ดั่งใจเจ๊พี่กิ๊ปแก..กระทั่งอ๊อด
หมดเวลาพักนะแหล่ะ...ถึงได้เวลาแยกย้ายกันขึ้นห้องเรียน กูโล่งอกรอดจากนรกซะที เลยกะเข้า
ห้องน้ำเยี่ยวซะหน่อย นั่งนานจนปวดเยี่ยวแม่งแหล่ะ
“ตะเกียง เข้าห้องน้ำแป๊ปน่ะ..เดี๋ยวรีบมา” กูบอกไอ้พี่โต๋กะไอ้พี่บอมย์มันแหล่ะ..พูดจบวิ่งปรู๊ด
ออกประตูตรงไปห้องน้ำใต้ข้างอาคารทันที ฉี่เสร็จล้างมือ ถือโอกาสล้างหน้าให้สดชื่นสำรวจ
ความเรียบร้อยก่อนเดินออกห้องน้ำ เจอริต้ายืนอยู่..เจตนายืนรอกูชัวร์..เพราะฝั่งนี้เป็นห้องน้ำผู้ชาย
ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องมายืนตรงนี้
“อ่า..มีอะไรครับ..รอเราอยู่หรือเปล่า?” ถามตรง ๆ เลย ก็นะมองกูซะขนาดนี้ ไม่ต้องบอก
จุดประสงค์แล้ว มาหาใคร
“อืม..ใช่...เรามีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย”
“...ว่าไง..มีอะไรคุยกะเราหล่ะ?”
“เธอกับโต๋..เป็นอะไรกัน?” ถามตรงจริง
“เพื่อนกัน..ทำไม..เธอสงสัยอะไร”
“เราว่าไม่มั้ง...มีมากกว่านั้นหรือเปล่า..มาโรงเรียนก็มาพร้อมกัน..กลับก็กลับด้วยกัน..แถมตัวติดกัน
กว่าใคร ๆ ในกลุ่มอีก”
“แล้วเธอจะรู้ไปทำไม..บอกเรามาก่อนสิ” กูก็เล่นลิ้นเป็นโว้ย!
“ไม่จำเป็นต้องรู้..แค่บอกมาก็พอว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์กันยังไง?” แน่ะ!..ต้องการรู้เรื่องคนอื่น
พอถามกลับ ไม่พอใจซะนี่...นิสัย...
“งั้นเราไม่จำเป็นต้องตอบ..จริงไหม..ในเมื่อเราไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่ต้องบอกเธอนี่” มาดิ..กวนมา
..กูก็ยวนกลับ...อยากรู้เรื่องคนอื่น แล้วยังทำตัวไม่สุภาพใส่เค้าอีก
"ฮึ..ไม่พูดไม่เป็นไร..เราหาคำตอบเอาเองก็ได้...แต่บอกเธอไว้ก่อน..ผู้ชายคนนี้..เป็นของเรา..
ไม่ว่าใครหน้าไหน..อย่าหวังเอาไปได้..” พูดจบสะบัดหน้าพรืดดด...เดินหนีกูไปเฉย...นรกกกกกๆๆๆ...
เวรล่ะ..ตกลงเธอประกาศสงครามกับกูใช่ไหม...ไม่อยากเชื่อ..ออกตัวแรงโครตเลยวุ้ย!..เพิ่งมาเมื่อวาน..
ไหงวันนี้เป็นเจ้าของไอ้พี่โต๋มันซะง้าน...อ่าห่ะ!...ได้ครับ..ไอ้ตะเกียงไม่ใช่พระเอก..ที่จะยอมให้
ใครหยามเอาง่าย ๆ เมื่อประกาศโพล่ง ๆ ขนาดนี้ ก็จัดมา..พร้อมรับทุกสถานการณ์..............
ขอบคุณที่คอมเม้นท์ที่ตามให้กำลังใจกันอยู่นค่ะ คนเก่าๆ หายไปไหนกันหลายคนเลยอ่า
รึว่าไม่อ่านต่อกันเร้ว เนื้อเรื่องต่อจากนี้เริ่มจะเข้มข้นขึ้นแล้วน๊า ตามให้กำลังตะเกียงด้วยล่ะ
รักคนอ่าน คิดถึงคนโพสทุกคน
Luk.