เรื่องสั้นวันกินเจ~
เฉ่งๆๆๆ เช้งๆๆๆ
ตอนนี้ผมกำลังยืนน้ำตาไหลอยู่ในศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยควันธูป โดยมีเสียงงิ้วที่ตั้งโรงอยู่ข้างนอกเป็นซาวด์ประกอบ อาม่าอาหมวยชาวไทยเชื้อสายจีนมากมายพากันแต่งชุดขาวหลั่งไหลกันเข้ามาไหว้เจ้าเนื่องในวันแรกของเทศกาลกินเจกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหมด
“ อาตี๋ ลื้อจายืนทำเอ็มวีอยู่อีกนางมั้ยห๊า รีบๆไปจุกธูปเข้าซี้ เอ้...ไอ้เด็กคนนี้ “ อาม่าที่เคารพรักอย่างสูงเดินเข้ามาสะกิดผมยิกๆ พลางใช้ให้ผมเดินฝ่าฝูงคนเข้าไปจุดธูป ครับ ผมมีหน้าที่พาอาม่าของผมมาไหว้ที่นี่ทุกปีและก็ครับคนเยอะแบบนี้ทุกปี
ผมพยายามเดินเบียดผู้คนเข้าไปหมายให้ถึงตะเกียงไวๆ แต่ควันธูปที่ลอยอยู่ภายในนั้นอย่างกับหมอกลงก็ทำเอาผมหายใจหายคอไม่สะดวก แสบตาจนน้ำตาไหลพรากๆ ยิ่งกว่าตอนโดนมอเตอร์ไซด์วิ่งเหยียบเท้า?
ในที่สุด...ในที่สุด ผมก็ได้จุดธูปซักทีหลังจากรอต่อคิวอยู่นาน ผมรีบเบียดผู้คนที่ออแน่นอยู่ด้านหลังออกมาหาอาม่าที่นั่งรออยู่
“ ลีมากๆอาตี๋ ลื้อรออาม่าอยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวอาม่ามา “ อาม่าเดินถือธูปไปแล้ว แต่ผมยังต้องยืนรออยู่ตรงนั้น น้ำตาผมยังไหลไม่หยุด มากี่ปีๆก็อย่างนี้สิน่า ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงควานหาผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมมาด้วย
...ไม่มี...
อ้าวเฮ่ย ไหงเป็นงั้น ผมว่าผมเตรียมมาแล้วนะหรือว่าจะทำตกกัน
“ คุณครับๆ นี่ใช่ของคุณรึเปล่า “ ผมหันไปตามเสียงเรียก ผู้ชายคนนึงยื่นผ้าเช็ดหน้าลายหมีเท็ดดี้สีฟ้ามาตรงหน้าผม เขายิ้ม
“ ครับๆ นี่ของผมเอง ขอบคุณครับ“ ผมรีบรับเอาไว้ก่อนจะกล่าวขอบคุณ ให้ตายสิ ผมนี่ซุ่มซ่ามชะมัด
“ ผมเฟยครับ คุณล่ะ “ ผมแนะนำตัวเองก่อนจะถามเขา
“ กันครับ ผมชื่อกัน “ เขาตอบแล้วยิ้มบางๆให้ผม
บทสนทนาของเราสองคนจบลงเพียงเท่านั้น เขาขอตัวไปและผมก็ไม่ได้เจอเขาอีก ผมคิดว่าเราคงจะไม่ได้เจอกันแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงยังอยากจะเจอหน้าเขาอีก
ผมพาอาม่าไปไหว้เจ้าที่นั่นอีกหลายครั้งก่อนที่เทศกาลกินเจจะจบลง และทุกครั้งที่ไปผมจะคอยมองหาเขา ผมหวังแค่ว่าผมจะเห็นหน้าเขา แต่ก็ไม่ ผมไม่เจอเขาอีกเลยจนเทศกาลกินเจปีนั้นจบลง
ปีต่อมา ผมตั้งตารอคอยเทศกาลกินเจอย่างใจจดใจจ่อ ความหวังที่จะเจอหน้าเขายังไม่หมดไป ผมเป็นคนพาอาม่าของผมไปไหว้ที่ศาลเจ้าอย่างเคย ผมยังคงแสบตาจนน้ำตาไหลกับควันธูปในศาลเจ้า และผมก็ยังใช้ผ้าเช็ดหน้าลายหมีเท็ดดี้สีฟ้าผืนเดิม
หลังจากที่จุดธูปให้อาม่าเสร็จผมก็ได้แต่ยืนรออยู่ที่เดิม ที่ที่เคยเจอเขา...
“ จำผมได้มั้ย “ ความดีใจทำให้ผมเดินตรงรี่เขาไปทักเขาทันทีที่เห็นหน้า
“ หือ? “ เขาหันมามองหน้าผมอย่างงงๆแล้วเดินจากไป...เขาคงจะจำไม่ได้ ผมคิดในใจ
ผมเดินคอตกกลับไปรออาม่า ทั้งๆที่ผมจำเขาได้ขึ้นใจแต่เขากลับจำผมไม่ได้เลย ผมมันคงจะบ้าไปเอง
และก็เหมือนเดิมหลังจากวันนั้นผมก็ไม่เคยเจอเขาอีกเลยเทศกาลกินเจผ่านไปอีกปี ผมเริ่มตัดใจ วันเวลาผ่านไป เทศกาลกินเจวกกลับมาอีกครั้ง ผมยังมายืนรออาม่าที่เดิม น้ำตาผมก็ยังไหลเหมือนเดิม ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนเคย แต่...ไม่มี ผ้าเช็ดหน้าผมหายอีกแล้ว
“ เฟยครับ คุณทำมันตกอีกแล้ว “ ผ้าเช็ดหน้าลายหมีเท็ดดี้สีฟ้าถูกยื่นมาข้างหน้าผมอีกครั้ง...
“ ขอบคุณครับ “ ผมยิ้ม เขายังจำผมได้ แต่ทำไมปีที่แล้ว... เขาคงจะรีบ ผมได้แต่คิดแบบนั้น
ผมคลี่ผ้าเช็ดหน้าลายหมีเท็ดดี้สีฟ้าที่ถูกเขาพับไว้อย่างดีออกเมื่อเขาไปแล้ว กระดาษแผ่นเล็กๆปลิวออกมาจากข้างในนั้น
‘ผมว่า ผมชอบคุณ’
ผมอ่านข้อความในนั้นแล้วยิ้มออกมา ใจผมเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก
แล้วก็เหมือนเดิมเหตุการณ์ฉายซ้ำ ผมไม่ได้เจอหน้าเขาอีกเลยจนหมดเทศกาลกินเจไปอีกหนึ่งปี คิดๆดูแล้ว ผมคิดว่าผมคงจะได้เจอเค้าแค่ทุกๆวันแรกของการกินเจเท่านั้นล่ะมั้ง
อีกหนึ่งปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมแทบจะนับวันรอให้ถึงเทศกาลกินเจไม่ไหว กระดาษเล็กๆแผ่นนั้นผมยังคงเก็บมันไว้อย่างดีที่ลิ้นชักข้างเตียง จะพูดจริงๆก็คือผมรู้สึกชอบเขาถึงแม้จะรู้จักแค่ชื่อและจากกระดาษแผ่นนั้นเองก็ทำให้ผมเชื่อว่าเขาเองก็ชอบผมเหมือนกัน
“ ลีมากอาตี๋ ปีนี้ทำงานเร็ว ใช้ล่าย “ ผมยื่นธูปที่จุดแล้วให้อาม่าเอาไปไหว้เหมือนเดิม ครับปีนี้ผมตั้งใจมาอย่างที่สุด เพราะปีนี้แหละผมก็จะบอกเขาว่าผมเองก็ชอบเขาเหมือนกัน
ผมยืนรออาม่าอยู่ที่เดิม น้ำตาไหลเพราะแสบตาไม่มีเปลี่ยน ผ้าเช็ดหน้าก็ยังผืนเดิมๆ
“ พี่ฮะ กระดาษทิชชู่ฮะ พี่ร้องไห้ทำไมฮะ “ ยังไม่ทันที่ผมจะได้ล้วงผ้าเช็ดหน้าของผมออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก็มีเด็กผู้ชายคนนึงอายุน่าจะประมาณสี่ห้าขวบยื่นกระดาษทิชชู่มาให้ผม
“ ขอบคุณครับ พี่แค่แสบตามากน่ะ “ ผมนั่งยองๆลงมารับทิชชู่แล้วยิ้มให้
“ หรอฮะ “ เด็กน้อยเอียงคอถามอย่างสงสัย
“ แล้วหนูมากับใครล่ะครับ “
“ มากับปะป๊า หม่าม้า อาเจ็ค อาแปะ แล้วก็อากง อาม่าฮะ “
อยากจะถามจริงๆว่าหมดบ้านรึยังครับ
“ หรอครับ งั้นหนูรีบไปหาปะป๊า หม่าม๊าของหนูเถอะนะเดี๋ยวพวกท่านจะเป็นห่วง “
“ ครับ...นั่นไงปะป๊า หม่าม้าผม “
เด็กน้อยหันไปชี้ให้ผมดูปะป๊า หม่าม้าเขา และนั่นก็ทำเอาผมแทบใจสลาย ปะป๊าของเด็กคนนี้คือเขางั้นหรอและผู้หญิงคนนั้นก็คงจะเป็นภรรยาของเขาสินะ ผมคงดูโง่มากเลยสินะที่เผลอหวังอะไรลมๆแล้งๆแบบนั้น เอาเหอะครับ ชอบของเขากับชอบของผมคงจะคนละความหมายกัน
จบ...
เฮ่ยเดี๋ยว ล้อเล่น มีต่อๆ
ผมมองตามหลังเด็กคนนั้นไป น้ำตาผมยังไหลไม่หยุด แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหลอยู่นี่มันเกิดจากอะไรกันแน่ควันธูปหรือ...เขา ผมล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง แต่...มันไม่มีอะไรอยู่ ผ้าเช็ดหน้าผมหายอีกแล้วหรอ แต่คราวนี้คงไม่มีคนเอามาคืนสินะ ผมยิ้มให้กับความบ้าของตัวเอง หลงชอบเขามาได้ตั้งหลายปี
“ เฟยครับ คุณทำผ้าเช็ดหน้าตกอีกแล้วนะ “ ผมแทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ทำไมล่ะ...ยังเป็นเขาคนเดิมที่เอาผ้าเช็ดหน้ามาคืนผม
“ คุณกัน...แล้วนั่น “ ผมอุทานเบาๆ พลางหันไปมองทางที่ผมเห็นเขาตอนแรก เขายังยืนอยู่ตรงนั้นกับภรรยาและลูก
“ ไม่ต้องงงครับ นั่นน่ะพี่ชายฝาแฝดผมเอง... “
จบๆๆๆ อันนี้จบจริงๆค่า อิอิ ต่อจากนี้เป็นไง ไปจินตนาการต่อกันเองก็แล้วกันนะคะ
ป.ล. เขียนเรื่องนี้โดยมีแรงบันดาลใจจากการเข้าไปไหว้ในศาลเจ้ากับแม่ ควันธูปแสบตาได้โล่จริงๆ อิอิ