Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Stone rose's line:กุหลาบทรายใต้เงาหิน-จบ- UP>>แจ้งข่าวส่งหนังสือ+โด 28/2/55  (อ่าน 1058390 ครั้ง)

*~LPCM~*

  • บุคคลทั่วไป
ขอแอบไปทำใจจจจจจจจจจจจ :o12:
ไม่ไหวๆๆ ทำต้องมาดราม่าเอาตอนช่วงสอบด้วยเนี่ยยยยยยย รู้ไหมว่ามันนอยด์  :sad4:
ปุ้ยยยยอ่า ใจร้ายกับคนอ่านเกินไปแล้วน๊าาา ไหนว่ารักน้องรักชีคไง? ทำไมทำกันแบบนี้~~!! :angry2:
จะบ้าตายๆ ไหนจะสอบ ไหนจะนอยด์ ฮือๆ  :serius2:

ปล. ขอเวลาไปอ่านเต็มๆก่อนน๊าาา แต่ถ้าlineหน้าไม่มาแก้นะปุ้ย  o18 หึหึ
คาวี่ลูกร๊ากกกกกกก คิดถึงมากกกกกกกกกกกก ^^ :กอด1:
สู้ๆต่อไปปุ้ย เห็นว่าสอบ ยังอุตส่าแต่งมาให้อ่าน ขอบคุณน๊าาาาา จร๊วฟฟฟฟฟฟฟฟ :man1:

ออฟไลน์ kisssky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :o12: ทำเอาเค้าร้องไห้ตามไปด้วยเลย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ไม่มีใครมาช่วยแก้ปัญหานี้แทนได้เลยรึไง
มาเป็นบอสแทนคาวี่ หลังจาก อเล็กซิส แก้ปัญหาทุกอย่างได้เรียบร้อย
และครอบครัวปลอดภัยแล้ว 

ไม่มีเลยรึไงคะ คนที่มาทำหน้าที่แทน
ทางออกที่ไม่มีใครต้องเจ็บอย่างนี้
 :monkeysad:

l2ockyou_l3ody!

  • บุคคลทั่วไป
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :z3: :z3:

ปวดใจน้ำตานองหน้า  :o12: :o12:
แบดกายก็ปวดติ่ง อันนี้ก็ปวดตับ  :z3:

มาอัพไว ๆ นะฮ๊า ไม่อัพนี่มีโกรธธธธ  :sad4:

ปล. หายไวไว นะฮ๊า  :L2:

ออฟไลน์ PAnppyJunJii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
บีบคั้นหัวใจสุดๆ
คาวี่จัง  TT 

ออฟไลน์ bleach_pa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
สะเทือนอารมณ์มาก
รักแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้  :sad4:

ออฟไลน์ anuyasha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แง้ ตอนนี้ดราม่าไม่ไหวแล้ววววว
น้ำตาท่วมจอ T______________T

เป็นการรอที่ไม่รู้วันสิ้นสุดจริง ๆ จะทำยังไงล่ะ แง้

ออฟไลน์ MoPPeT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ไม่อยากอ่านมาม่าแล้วอ่า :sad4: มันปวดหัวใจ :m15:

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
ยัง so sad ต่อเนื่องไม่หาย อารมณ์ยังไม่ปกติ เลยไปทำรูปเล่นแก้นอยด์ซะเลย ขอบคุณรูปจากการแนะนำตัวละคร แต่ขอเลือกเอาที่ชอบนะละกันนะครับ  o22 o22 o22



[attachment deleted by admin]

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
หง่าาาา า า า


เรื่องมัน เศร้ามากกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น้ำตาร่วงกันเลยทีเดียวเชียวล่ะฮะ........
ดราม่าไปไหนเนี่ย (ดีดี ชอบชอบ^^)
ในที่สุดเธอก้ต้องไปสินะ
...แต่เธอก้จะกลับมาเช่นกัน(ริป่าว)
เออ!!!! อัลชาห์ไปหาก้ได้นี่นะ ฉุดมาก้ได้....คิดไปโน่นนนน วะฮ่าฮ่า

รอตอนต่อไปคร๊าบบบบบบบ

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
ต่อมน้ำตาแตกเลย :m15:

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
สงสารทั้งอัลชาทั้งคาวี่
ทำไมต้องมีอุปสรรคมากมายขนาดนี้TOT
เกือบจะไปด้วยกันได้แล้วแล้วก็ต้องสะดุดอีกแล้ว
เกือบร้องไห้ตามคาวี่อ่ะTOT
สู้ๆคาวี่+อัลชา^^

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3
โอ๊ย... ทำไมชีวิตมันโหดร้ายจั๊งซี่    :m8:   บีบคั้นหัวใจเลื๊อเกิน....


เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่     :impress:



ขอบคุณมากมายครับคุณ Serin สำหรับนิยายเรื่องเยี่ยม    o13

saya

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่านเป็นรอบที่ 3  :m15:

ยิ่งอ่านคนอ่านเองยังไม่เห็นทางออกเหมือนกัน แอบคิดท่าคาวี่มาไม่ได้

ก็ให้อัลชาบุกไปลักพาตัวคาวี่มาเลยดีมั้ย แต่คิดอีกทีถ้าจะบุกไปก็ไปจัดการคุณลุงทีเดียวเลยดีกว่า

 :serius2: คิดไปคิดมาเวียนหัว... ไปซบอกท่านชีคดีกว่า (วิ่งหลบ...คาวี่)

นั่งคอยตอนต่อไปจ้า :กอด1:

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามาช่วยดันจ้า


ปล.  อัพด่วนนนนนนนนน :call: :call:

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
มาแจ้งข่าวตอนตีสี่กว่าๆ...
.
.
คนเขียนสไตรค์อย่างแรง นิยายของดอัพอย่างไม่มีกำหนด
เคลียร์ตัวเองได้แล้วจะรีบอัพอย่างเร็วที่สุดคะ
ขอโทษด้วยจริงๆ
ปุ้ย ^ ^

*~LPCM~*

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:ปุ้ยอ่าาาาาาา อย่าทำรายชีคด้วยการทไอย่างนี้เลย  :o12:
เสียใจๆ ตอนกำลังดราม่าเข้าทีเข้าทางพอดีเลย :sad4:
ทำไมฟ้า(??ปุ้ย??)ต้องทำกลั่นแกล้งชีคกะน้องคาวี่กันอย่างนี้ด้วยเนี่ย  :m15:

ยังไงก็สู้ๆน๊า เคลียร์ตัวเองได้เมื่อไหร่ก็รีบๆกลับมานะคะ เค้ารออยู่ :กอด1:
คิดถึงคาวี่ โฮกกกกกกกกกกกกก :เฮ้อ:

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
หงื่ออออ  เพราะคุณลุงแท้ๆเลย
ยังนึกถึงที่เซย์บอกไว้ ถ้าลุงไม่ขี้ขลาด ไม่ซุกจอร์จิโอ้ไว้ให้เป็นเด็กกำพร้า เรื่องทุกอย่างมันอาจจะไม่เป็นอย่างนี้
แต่ก็นั่นล่ะ คนเรามักจะมีเหตุผลของตัวเองที่คนอื่นอาจไม่มีวันเข้าใจถ้าไมได้เจอกับตัวเองจริงๆ
เศร้าใจ บาดใจ จริงๆ สงสารทั้งคู่เลย หน้าที่ คำๆนี้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ TT
อนาคตนี่มันโหดร้ายเกินไป ถึงจะยังไม่รู้ว่ามันจะป็นยังไงแต่ก็สงสารทั้งคู่ค่ะ
เพราะปัจจุบันก็ทรมานใจกันแทบแย่แล้ว

ปล.
อ้างถึง
แกเร็ต เคย์ จะเป็นมือขวา คลาร์ก โรเซนเบิร์กจะเป็นมือซ้าย พวกเราจะเป็นมือเท้า เป็นแขนขาของคุณ จะช่วยคุณกรุย ตะลุยขวากหนามสู่ความสำเร็จ...
ชอบประโยคนี้จัง มันเป็นคำสาบานอะไรพวกนี้หรือเปล่า ยอมให้ได้ทุกอย่าง...ชอบค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






JaMiDo

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านจาก เด็กดี ค่ะ ชอบเรื่องนี้มากกกก

ภาษาสวยอ่านแล้วติดเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3

ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
Line : 39 บุกโจมตี

      ใบหน้าที่แสนเคยคุ้นขยับมาใกล้ชิด นัยน์ตาสีเดียวกัน เส้นผมสีเดียวกัน ใบหน้าแบบเดียวกัน..เหมือน ..เหมือนกันราวกับจ้องมองกระจก ทว่าสิ่งอยู่ตรงหน้านี้คือมนุษย์ คือคนๆหนึ่งที่มีเลือดเนื้อ มีชีวิต มีลมหายใจ  อีกทั้งยังเป็นน้องชาย..เป็นคนที่นอนกอดกกแนบชิดกันตั้งแต่ในครรภ์มารดา คือคนที่ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่นก็ยังคงทิ้งตัวตนไว้ในเงาตาและความคิดคำนึงเสมอ..

      ฝ่ามือจับแน่นกระชับ..ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดใบหน้าที่ชิดใกล้เพียงลมหายใจคั่น ผ้าห่มผืนโตซ่อนร่างพวกเขาไว้บนเตียงหน้า ต่างจ้องมองกันและกันอย่างไม่ละสายตา พลันก็รู้สึกถึงสายใยบางๆที่เชื่อมพวกเขาไว้ด้วยกัน ความรู้สึกที่แนบแน่นอย่างไม่อาจจะแยกออก..

     ..เราคือคนๆเดียวกัน..

     ..เราคือพี่น้องทีมีสายเลือดและลมหายใจเป็นหนึ่งเดียว..

      นัยน์ตาสีฟ้าสดสองดวงจ้องมองกันแนบแน่น ต่างได้ยินเสียงหัวใจกระซิบเอ่ยเอื้อนถึงความผูกพันที่ไม่อาจจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูดหรือประโยคใดๆ เพียงแต่รู้สึกอบอุ่น เป็นสุข ยามได้จ้องมองกันและกันเงียบๆในค่ำคืนที่แสนสุขและไร้กังวลใดๆ

   อ้อมกอดของแฝดผู้พี่เอื้อมไปหาร่างของคนน้องผู้นอนเคียงข้าง ฝ่ามือที่กุมแน่นบีบกระชับ จรดหน้าผากจ้องมองแลสบดวงตาของกันและกันอย่างโหยหา..

      ...เรื่องราวมากมายที่ผ่านผัน ทั้งดีและร้าย ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงจากความรักฉันท์พี่น้องไปเป็นอื่น แนบแน่นสนิทชิดใกล้จนไม่อาจแบ่งใจให้ใคร กระทั่งก้าวผ่านเรื่องราวเลวร้ายทั้งหลายมาด้วยกัน สลักรอยความทรงจำและความรักให้ลึกซึ้ง แนบแน่นเกินจะเอ่ย..

     อเล็กซิสจ้องมองใบหน้าของแฝดผู้น้อง ชายหนุ่มกระพริบตาถี่ ชั่วขณะหนึ่งที่ความหวาดหวั่น กลัวจะพบเจอความสูญเสียประเดประดังเสียจนลมหายใจสะท้านสั่น..

     ราวกับจะรู้ถึงความหวาดหวั่นที่สื่อถึง ฝ่ามืออีกข้างของแฝดน้องจึงทาบลงบนผิวหน้าขาวจัด ปลายนิ้วเรียวยาวขาวสะอาดไล้ลูบแผ่วเบา เผื่อแผ่ความอบอุ่นอย่างรักใคร่

     "..เราจะแยกจากกันไหม? " ตัวเขา..อเล็กซิสได้ยินตัวเองถามออกไปแบบนั้น..ทั้งไหวหวั่นทั้งหวาดกลัว แม้ภายนอกจะดูเข้มแข็งและเป็นผู้นำเพียงใด ทว่าภายในใจกลับไหวสั่น..หวั่นไหวและหวาดกลัวความสูญเสียไม่ต่างกัน..แต่สำหรับสีหน้าหวั่นไหว ไม่แน่ใจ และแววตาสั่นระริกนั้น ผู้เดียวที่จะมองเห็นได้..คือคนๆนี้ คนตรงหน้านี้เท่านั้น..

      " ไม่..จนกว่าเราจะตาย" รอยยิ้มอ่อนจาง ทั้งอบอุ่น อ่อนโยน และให้กำลังใจ ปลุกปลอบหัวใจที่หวาดหวั่นให้กลับมามีกำลัง..อเล็กซิสยิ้ม...ยิ้มรับคำพูดนั้นด้วยกำลังใจที่เพิ่มขึ้น..

     "..เราจะรักคนอื่นไหม? จะมีใครมาอยู่เคียงข้างพวกเราหรือเปล่า? " แฝดน้องของเขาออกปากถามบ้าง อเล็กเซย์จ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาไม่แน่ใจ เสี้ยวหนึ่งของความคิดอย่างไรก็ยังคงมีความหวาดกลัวว่าจะสูญเสียกันและกันไว้ในส่วนลึกของหัวใจเสมอ..

...เพราะพวกเขาต่างได้ลิ้มรสแล้วว่าการจากลาและพลัดพรากกันมันปวดร้าวทรมารเพียงใด

     " ไม่...ไม่มีกระทั่งฉันจะหมดลมหายใจ "

     "..เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป.."

     " ใช่...ตลอดไป.." พวกเขาทั้งสองกอดแนบกันให้ชิดใกล้อีกครั้ง ริมฝีปากแตะลงเบาๆเพื่อสัมผัสเสียงลมหายใจและลมหายใจอุ่นี้อนของอีกฝ่ายได้ชัดเจน..

       "..ถ้าไกปืนมันเล็งมาที่นาย..ฉันจะเป็นคนออกรับแทน "  อเล็กเซย์ใช้ดวงตาสีฟ้าสดคู่นั้นจ้องมองมาเขม็ง...ริมฝีปากเอ่ยคำสัตย์อันหนักแน่น..

       " หากมีใครกล้าปองร้ายนาย ฉันก็จะไปฆ่ามันให้ตายไปจากโลกนี้." ฝ่ามือหนาทาบลงบนแก้มของแฝดน้อง..อเล็กซิส..จ้องมองดวงตาคู่เดิมที่เเสนเคยคุ้นคู่นั้น กระซิบบอกออย่างหนักแน่น

       " ชีวิตของฉันมีแต่นาย เช่นเดียวกับชีวิตของนายมีแต่ฉัน.."

               ริมฝีปากหนาแตะลงบนหน้าผากมน  จ้องมองใบหน้าและทุกสิ่งของแฝดน้องด้วยแววตารักใคร่..ตราตรึง

         .."เรา" เป็นของกันและกัน..

       " ...ห้ามมีความลับกับฉันนะ.."   ริมฝีปากบางพึมพัมเสียงเบา ขณะที่ดวงตาค่อยปิดพับลงด้วยความง่วงงุนและความอ่อนล้า อเล็กซิสผ่อนลมหายใจลงช้าๆยามได้ยินคำพูดของฝาแฝด..

       " สัญญา..."

       " ครอบครัวเดียวกัน..ห้ามมีความลับกันนะ รู้ไหม ถ้ามารู้ทีหลังแล้วจะเสียใจ จะไม่เข้าใจกัน ..." น้ำเสียงนั้นเริ่มเลือนราง..ทั้งยังพร่าสั่น..

        พี่..

      " ฉันรู้..ขอโทษนะ..ขอโทษ..." 

      พี่..

   " ฉันอยากจะให้นายวางภาระหน้าที่เสียบ้าง...หนักใจอะไรก็บอกฉัน ไม่สบายใจ เสียใจก็บอกฉัน..."

       พี่อเล็กซิส..

       " ...ฉัน..."

      " พี่อเล็กซิส !!!!! "


           เสียงตะโกนดังลั่นแทรกเข้ามาในอนุสติทำให้ภาพทั้งหมดพลันจางหาย ทั้งความอบอุ่นจากผิวเนื้อ ใบหน้า แววตาและอ้อมกอดทั้งวันเวลาอันแสนสุข อเล็กซิสสะดุ้งเฮือก ลืมตาขึ้นมาเพื่อพบกับดวงตาสีเขียวมะกอกสดใส..พร้อมทั้งใบหน้าและแววตาของน้องชายที่แสนจะเคยคุ้น..

         สติพร่าเลือน ทั้งงุนงงทั้งสงสัยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือเพราะความสุขในฝันนั้นหรือเปล่า ถึงทำให้สภาพจิตใจที่อ่อนล้าไม่อยากจะนึกถึงเรื่องราวที่ดำเนินอยู่ตอนนี้  อเล็กซิสค่อยพยุงกายลุกขึ้นช้าๆนัยน์ตากวาดมองทั่วบริเวณห้อง ชายหนุ่มยังอยากจะคิดว่ามันเป็นห้องนอนของเขาและคนรัก เป็นวันเวลาและค่ำคืนอันสุขสันต์ที่ตนเองได้นอนหลับอย่างมีความสุข อยากจะให้เรื่องราวเลวร้ายทั้งหลายมันไม่เคยเกิดขึ้น แต่กระจกหนาบานกลมเล็กที่สะท้อนภาพท้องทะเลเบื้องนอกก็เป็นดั่งคำอธิบายถึงความจริงที่สาดซัดจนไม่อาจปฏิเสธ..

        ยกมือขึ้นลูบใบหน้าช้าๆ ราวกับพยายามเรียกสติและความทรงจำที่ขาดหายให้กลับมาเป็นรูปเป็นร่าง อเล็กซิสจ้องมองใบหน้าอันเคยคุ้นของคาร์เนโร่ วาลกัส น้องชายคนที่สามของบ้าน ใบหน้าที่ฉายแววงวยงงปนห่วงใยของมันทำให้เขาต้องสูดหายใจลึก เพื่อดำรงตัวเป็นผู้นำเช่นที่เคยทำ..

         "...เป็นอะไรรึเปล่า ฉันได้ยินเสียงพี่พึมพัมอยู่คนเดียว " คาร์เนโน่บ่นลอยๆ จ้องมองพี่ชายที่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยสภาพสีหน้าซีดเซียวปนมึนงงน่าห่วงไม่น้อย..

         " ฉัน...." อเล็กซิสเม้มปากแน่น ยามไพล่คิดถึงความฝัน...ฝัน...ถึงเวลาที่ผ่านผัน วันที่ตนเองและคนรักยังคงอยู่เคียงข้าง พูดคุยสนิทสนมกันเช่นที่เคยเป็น ได้นอนมองตาพร่ำคำบอกรักและโอบกอดกันอย่างมีความสุข..

...ความสุข..ที่บัดนี้มันคงไม่เวียนกลับมาอีกแล้ว..

    กลืนน้ำลายลงในลำคอช้าๆ...ด้วยความรู้สึกปวดร้าวปนคลื่นเหียนสะอิดสะเอียนเหลือจะกล่าว ขมับปวดตุบ ทั้งกระบอกตาก็ปวดระบม กระทั่งลมหายใจยังผ่าวร้อน แสดงอาการป่วยไข้ให้เห็นอย่างชัดเจน

       "...กินยาไหม? " คาร์โลเห็นสภาพพี่ชายแล้วถอนหายใจเบาๆอย่างหนักใจไม่น้อย..เขาเสมองหน้าต่างที่สะท้อนภาพทะเลยามเย็น..และจ้องมองมันอยู่อย่างนั้นราวกับจะพยายามไม่มองดูท่าทางอ่อนแอของพี่ชายคนโต..

     ..คนๆนี้ไม่เคยให้ใครมองเห็นความอ่อนแอ หรือปวดร้าว...นอกจาก....นอกจากพี่ชายของเขาคนนั้น..

     ..พี่ชายที่แสนดี คนที่เขารักนักหนา..คนที่ตอนนี้..ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว

     แค่คิดความปวดร้าวก็แล่นพล่าน  คาร์โลสูดหายใจลึกเมื่อความรู้สึกทั้งมวลแล่นมาจุกอก ทั้งยังคิดถึงน้องชายของเขา...น้องชายเพียงคนเดียว..เจ้าตัวแสบที่เคยแต่วิ่งไปวิ่งมายิ้มแย้มมีความสุข..

    น้องชายที่เขาเคยกอดคอสนิทสนม เคยออกปากวิวาท และยังได้โอบกอดทำเรื่องราวต่างๆด้วยกัน

     ทั้งพี่ชาย...ทั้งน้องชาย น้องสาวคนสำคัญ พ่อแม่...ลุงที่สนิทสนม...ภาพเหล่านั้น..ความสุขเหล่านั้น มันหายไปไหน?

     แสงแดดสะท้อนริ้วคลื่นไหวระริกสะท้อนเข้ามาในเงาตา คุณชายคนที่สามของตระกูลวาลกัสสูดหายใจลึก กระพริบตาถี่ แสงที่สะท้อนเข้ามามันจัดจ้าจนแสบตาไปหมดแน่ๆ...เขาถึงได้รู้สึกถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวและจมูกที่แสบตื้อขึ้นมากะทันหัน..และเพราะแบบนั้นนั่นเองห้องนี้ถึงมีแต่ความเงียบงันและบรรยากาศอันหนักอึ้งราวกับไม่มีที่หายใจ..

       "..ฉันไม่เป็นไร แล้วนี่.....เกิดอะไรขึ้น.. "นิ่ง...นาน พี่ชายคนโตจึงเป็นฝ่ายออกปาก คาร์เนโร่ก้มลงมองหน้าคนพูด เสี้ยวหน้าเคร่งขรึมของพี่ชายสะท้อนเงาของแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ลอดผ่านกระจกหนาในห้องเคบิลของเรือ ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูทรุดโทรม อิดโรย ขอบตาปรากฏรอยคล้ำ เช่นเดียวกับรอยย่นบนผิวหน้าซึ่งมีมากขึ้นพอๆกับไรหนวดเขียวครึ้มอันเป็นผลมาจากการโหมทำงานและทุ่มเทวางแผนชนิดไม่คิดถึงการพักผ่อน จนดูราวกับพี่ชายของเขาแก่ขึ้นอีกสิบปีภายในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ

         "...เรือใกล้จะถึงฝั่งแล้ว..เพราะพี่ไม่ได้พักมาหลายวัน ก็เลยฟุบหลับไปไม่รู้ตัว " คาร์โลตอบสั้นๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจลงช้าๆ สบแววตาที่เข้มขึ้นของคนฟัง..".. ผม..มารอคำสั่ง..."

         "......."

         " จะจอดเรือไว้ก่อนแล้วส่งคนของเราเข้าไปปะทะดูลาดเลา หรือจะบุกเลย "

         "..บุก..." อเล็กซิสตอบด้วยน้ำเสียงห้วน...สั้น

         "...ไหวรึเปล่า? " คาร์โลจ้องหน้าพี่ชายที่ยังคงมีท่าทีอิดโรย..อเล็กซิสเหนื่อยมาหลายวันแล้ว ประกอบกับอาการอ่อนล้าจนฟุบหลับไปเองเมื่อตอนบ่ายการยกพรรคพวกเข้าไปบุกโจมตีทั้งที่มีสภาพแบบนี้และยังเป็นเวลากลางคืน..เขาไม่แน่ใจ

         "..ปกติแกเอาแต่ไล่ฉันออกไปตายไม่ใช่เรอะ จะมาห่วงอะไรตอนนี้ " น้ำเสียงห้วนจัดมาจากคนที่กำลังสวมเสื้อกันกระสุนทับเสื้อเชิ๊ตชวนให้ความหงุดหงิดพุ่งปรี้ด  แต่ไม่รู้เพราะชินแล้วหรือเข้าใจพี่คนนี้มากขึ้นรึเปล่า คาร์โลจึงมองเห็นสิ่งที่เรียกว่าความห่วงใยและความรู้สึกเชื่อมั่นที่ชายตรงหน้ากำลังเอ่ยมาและมอบให้..

         " นั่นสินะ... " ไหวไหล่ ยักยิ้มอย่างชาเฉยราวกับไม่สนใจว่าคนๆนี้จะเป็นจะตายอย่างไรเช่นเดิม " ยังไงก็กินยาด้วยแล้วกัน มาหน้ามืดตอนกำลังสู้คงได้แต่ถ่วงแข้งถ่วงขาชาวบ้าน  "

         " หึ... " อเล็กซิสใช่จะไม่รู้ถึงความนัยน์ที่สื่อมานั้น พี่ใหญ่ตระกูลวาลกัสยกยิ้มมุมปาก เอื้อมมือหยิบชุดสูทสีดำของตนมาใส่ให้เรียบร้อย พร้อมกระชับให้เนื้อผ้าแนบสนิทกาย

         " งั้นออกไปก่อนแล้วกัน " คาร์โลหันหลังกลับ เอื้อมมือแตะประตูห้องพร้อมกับกดปลดล๊อค

                 อเล็กซิสก้มหน้าก้มตาตรวจเครื่องแต่งกายและสำรวจอาวุธของตน พยักหน้ารับแทนคำตอบ ทว่าก่อนที่เงาของน้องชายจะหายลับไปจากห้อง ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขานึกสะกิดใจ

          " เดี๋ยวก่อน..." เสียงห้ามนั้นทำให้คนฟังเลิกคิ้ว.. คาร์โลหันไปมองหน้าพี่ชายด้วยความงวยงง พบว่าฝ่ายนั้นกำลังมองมาที่ตนเองด้วยแววตาเคร่งขรึม...จริงจัง..

          " ...ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก..." อเล็กซิสจ้องหน้าน้องชาย พลันคิดไปถึงความฝัน...ฝันที่แสนหวานของตนก่อนจะถูกปลุกมาพบความจริงแสนโหดร้าย และประโยคที่ออกมาจากริมฝีปากของของน้องชายฝาแฝดผู้เป็นคนรัก..


    " ครอบครัวเดียวกัน..ห้ามมีความลับกันนะ รู้ไหม ถ้ามารู้ทีหลังแล้วจะเสียใจ จะไม่เข้าใจกัน ..."


...ถ้าหากไม่พูด..หรือพูดช้าไป..อาจจะต้องมาเสียใจภายหลัง เหมือนเช่นเรื่องนี้...

         ต่อให้สัญญากับน้องชายไว้..แต่ว่า สถานการณ์มันเปลี่ยนไป และเขาจะนิ่งเงียบไม่ได้อีกแล้ว..

          "...คาวัลโล...ยังไม่ตาย..."

          "................."

               คาร์เนโรจ้องหน้าพี่ชายคนโตด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง..ชั่วขณะหนึ่งทุกอย่างนิ่งค้างความรู้สึกยินดีพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเต็มตื้น กับความหวังและความจริงที่ได้รู้ ทว่าก็ทั้งรู้สึกงวยงงและไม่เข้าใจ เขาจ้องหน้าผู้เป็นพี่เผื่อว่าฝ่ายนั้นจะมีท่าทีเหมือนพูดเล่น พูดผิด หรืออะไรแบบนั้น แต่สีหน้าจริงจังและแววตาที่บอกมามันทำให้รู้ได้ว่าพี่ชายของเขา..ไม่ได้โกหก..

       ..ยังไม่ตาย...แล้วทำไม..   

          "..ทำไมพี่ถึง....."

          " ฉันสัญญากับมันไว้.." อเล็กซิสจ้องหน้าน้องชาย เอ่ยปากอย่างหนักแน่น " ตอนนั้น..คำว่าศักดิ์ศรีและการกลับมาอย่างปลอดภัยมันทำให้ฉันต้องเงียบนิ่ง...ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น และไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อยว่าใครกันหนอที่เป็นต้นเหตอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่มันชัดเจนพอจะบอกและสันนิษฐานให้รู้แล้วด้วยซ้ำ..."

       คาร์โลจ้องหน้าพี่ชายที่ถอนหายใจเบาๆแล้วสบตาเขาด้วยรอยยิ้มเฝื่อนขม..

           "...คาลมันขอให้ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกใคร...ซึ่งฉันก็ทำแบบนั้นมาตลอด..กระทั่งพี่ชายของแก ฉันก็ไม่ได้บอกด้วยซ้ำ.."

..ไม่ได้พูด จนกระทั่งสายเกินไป..

..ไม่มีโอกาสพูด..ไม่มีโอกาสจะบอกและอธิบายให้รู้และเข้าใจถึงเหตุผลทั้งหมดของเรื่องราวและการกระทำที่เกิดขึ้น..

 เพราะไม่พูดคุยกัน จึงต้องมาเสียใจภายหลังอย่างไรเล่า...

           "...แล้วตอนนี้..." คาร์เนโร่แสยะยิ้ม..นึกอยากจะหัวเราะหยันกับคำพูดของพี่ชายนัก...ความรู้สึกหงุดหงิดพุ่งพรวดขึ้นมาแทนความดีใจ เขาจ้องหน้าคนพูดที่ยังคงนิ่งเงียบ ชั่วขณะหนึ่งนึกอยากจะตะโกนด่าทอหรือตะคอกต่อว่าให้สาแก่ใจ..

...ทำไมไม่บอก..ทำไมไม่พูด...ทำไมปล่อยให้ทุกคนครอบครัวต้องเสียใจ ทำไมปล่อยให้พ่อแม่ต้องร้องไห้..

ทำไมปล่อยให้เรื่องราวทุกอย่างมันบานปลายมาจนถึงป่านนี้...

   ..อยากจะด่าว่าทำร้าย แต่ที่สุดแล้วก็เพียงนิ่งเงียบไม่เอ่ยคำ อาจจะเพราะรู้...เพราะเสี้ยวหนึ่งก็ตระหนักว่าเรื่องของเขา อาจะเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบนี้และพี่ชาย..คนๆนี้ก็เป็นคนที่ต้องแบกรับอะไรหลายๆอย่างตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้ชายที่หลีกหนีหน้าที่ ภาระของครอบครัวไปเสวยสุขทำตามความฝันความต้องการของตนเองอย่างเขา ไม่มีสิทธิ์จะด่าว่า หรือโกรธแค้นใดๆ..

   ....เพราะเขาก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไร ไม่เคย"ตระหนัก"ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบหรือสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย

         "...ตอนนี้...ฉันไม่อยากจะเสียใจภายหลัง ฉันอยากจะพูดเรื่องที่ควรพูด  ควรจะบอกมากที่สุด..." อเล็กซิสพ่นลมหายใจพรู..เขาหันหน้าไปมองหน้าต่างที่สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นบนเปลวคลื่นไหวระยับ.. " ...ฉัน...รู้ตัวว่าผิดที่มีทิฐิ คิดว่าตัวเองทำได้ทุกอย่างไม่เหลือบ่ากว่าแรง หยิ่งทะนงไม่สนใจใคร...กระทั่ง กับอเล็กเซย์ก็ยังไม่เคยจะพูดออกไป  เก็บงำทุกอย่างเอาไว้แล้วคิดทำเองทุกอย่าง จนเรื่องราวมันกลายเป็นเลวร้ายเกินจะควบคุม..ฉันรู้ตัวดี..."

         "............"

        "..ตอนนี้ฉันไม่อยากจะเสียใจภายหลัง..ในตอนที่เรายังไม่ได้เริ่ม"ทำลาย"ครอบครัวและคนสำคัญอีกคนหนึ่งของพวกเรา..."

       "........."

        " คาวัลโลยังมีชีวิตอยู่...ยังมีแน่นอนและจะกลับมาในเร็ววันนี้..ฉันส่ง แกเร็ต  และอาคลาร์ก  ไปรับตัวคาวัลโลกลับมาแล้ว..เพราะฉะนั้น..." อเล็กซิสสุดหายใจลึก จ้องมองใบหน้าของน้องชายและเอื้อมมือวางลงบนไหล่ของคาร์เนโร่ วาลกัส พร้อมกับออกเเรงบีบเพียงแผ่วเบา..

          "...ที่ฉันจะฆ่าเขา ที่ฉันมาตามล่าเขา เพราะความรู้สึกและเหตุผลส่วนตัวทั้งนั้น...พอพบเขาฉันจะฆ่าเขาทันที และไม่ยอมให้โอกาสนี้ตกเป็นของใคร..."

          " ถ้าแกไม่อยากให้มือเปื้อนเลือด..ไม่อยากจะทำร้ายคนในครอบครัว และไม่อยากเกี่ยวข้องกับมาเฟียที่แกเกลียดชัง.. ไม่อยากทำตามที่ฉันสั่ง ก็จงอย่าทำ.. "

          " ถ้าแกลงมือไปแล้ว จะไม่มีวันกลับไปมีชีวิตแบบเดิมอีก เพราะฉะนั้น เลือกเสียเถอะ ว่าจะทำยังไง...."

...จะวางปืนลงและเดินตามทางเดิมของตนเอง หรือจะหยิบมันขึ้นมาแล้วเหนี่ยวไกเพื่อเปลี่ยนทางชีวิต..

  ...ก็จงเลือก...ตามแต่ใจตน..

    อเล็กซิสจ้องหน้าน้องชายขม็ง เขารู้ดีว่าน้องชายคนนี้..คาร์เนโร่ วาลกัส ไม่ได้ต้องการจะผูกพันหรือเกี่ยวข้องกับมาเฟีย คาร์โลไม่ชอบ..และอาจถึงขนาดเกลียดชังด้านนี้ของครอบครัวเสียด้วยซ้ำ เจ้าตัวชิงชังคำว่าตระกูลมาเฟียที่คอยตามมาหลอกหลอน เกลียดความรุนแรง เกลียดฝ่ามือของผู้คนรอบกายที่ไม่ว่าจะล้างจะเช็ดอย่างไรก็ยังคงคาวกลิ่นเลือด..

   ...เมื่อคาร์โลไม่ต้องการมันจนถึงขนาดหนีหน้าออกจากบ้าน บ่ายหน้าไปทำตามความฝันของตัวเอง คนที่ใช้"คำสั่ง"เรียกมันกลับมาอย่างเขา..หากคิดจะสำนึกถึงความผิดพลาดของตนเองและไม่อยากให้มันซ้ำรอยเดิม ก็ควรบอกไป..บอกทุกสิ่งทุกอย่างให้มันรู้...ให้เจ้าตัวได้มีโอกาสเลือก..ทางที่ต้องการ...



ปึก!



        " ต่อให้คาวัลโลจะยังอยู่ แต่ชีวิตของพี่ชายคนหนึ่งที่ต้องเสียไปไม่มีวันจะทดแทนได้.." ความเงียบลอยอวลอยู่เพียงครู่ คาร์โลก็เอ่ยออกมาสั้นๆ เขาปัดมือพี่ชายที่วางบนไหล่ทิ้ง เม้มปากแน่น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด..จริงจัง..

        "...ฉันไม่มีวันเปลี่ยนใจ อย่าดูถูกความตั้งใจของฉันให้มันมากนัก  "

             ตาสบตา อเล็กซิสมองหน้าน้องชายที่จ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาเคร่งขรึมจริงจัง..ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจลงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น..

          " ดี ! "


       อเล็กซิสก้าวเท้าเดินออกจากเคบินเรือ ผ่านประตูที่เปิดอ้า พี่ใหญ่ตระกูลวาลกัสยิ้มบางๆให้น้องชายด้วยสีหน้าพึงใจและเต็มไปด้วยความภาคภูมิ เขาก้าวเท้าไปยังบนดาดฟ้าเรือด้วยฝีเท้าที่มั่นคง...ไม่สั่นไหว ฝ่ามือซ้ายกำกระบอกปืนสั้นในมือแน่น 
มือขวากระชับสูทที่ใส่เขาหาลำตัว ขณะที่แสงสีทองของดวงอาทิตย์สะท้อนแหวนสีทองเกลี้ยงในนิ้วนางข้างซ้ายอย่างชัดเจน...

         คาร์เนโร่มองตามแผ่นหลังของพี่ชาย..ชายหนุ่มสูดหายใจลึก แม้ลมหายใจของเขาจะสะดุดด้วยความหวั่นไหวภายในใจลึกๆ ทว่าฝีเท้าที่ก้าวเดินก็มั่นคงไม่ต่างกัน..

....จะไม่มีวันเสียใจภายหลัง..

          ชายหนุ่มปฏิญาณคำนี้อย่างหนักแน่น ก้าวเท้าขยับไปอยู่เบื้องหลังพี่ชาย ฝ่ามือกำปืนแน่นกระชับ..จ้องมองชายฝั่งและราวป่าที่ใกล้เข้ามาในแววตา สูดหายใจลึกขึ้นแตะนิ้วลงบนไกทันทีที่เสียงปืนนัดแรกดังจากชายฝั่งมายังเรือของพวกตนตามมาด้วยกลิ่นดินปืนชายโชย..

........................


ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 

      พื้นที่ซึ่งพวกเขาตัดสินใจนำเรือลงเทียบท่า ไม่ใช่บริเวณด้านหน้าของเกาะที่มีผู้คนพลุกพล่าน ด้วยกลัวจะเป็นที่ตื่นกลัวและถือเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป ดังนั้น สถานที่ซึ่งอเล็กซิสและพรรคพวกตัดสินใจนำเรือเข้าจอด คือบริเวณด้านข้างของเกาะซึ่งมีสุนทุมพุ่มไม้คอยบดบังทัศนียภาพจากผู้คนภายในเกาะและไม่ได้อยู่ในที่ชุมชน เรือลอบจอดเทียบท่าลอยอยู่ใกล้ชายฝั่ง พร้อมกันนั้นพรรคพวกทั้งหมดก็ก้าวลงไปยังเรือลำเล็กเพื่อบุกเข้าไปยังด้านในของเกาะตามแผนที่วางกันไว้

       ฝ่าเท้ายังไม่ได้เหยียบลงบนผืนดินเสียด้วยซ้ำ เสียงปืนและกระสุนห่าใหญ่ก็เข้ามาทักทายอย่างเร็วรี่ อเล็กซิสมองทิวทัศน์ยามเย็นของเกาะซิซิลีที่บัดนี้มืดครึ้มด้วยดวงอาทิตย์กำลังจะทอดร่างลงบนผืนน้ำ  เงาครึ้มหม่นของบรรดาพรรณไม้ทั้งต้นสนและปาล์มหลากหลายชนิดที่ปลูกไว้เพื่อกำบังสายตาจากศัตรูยืนต้นทะมึนยิ่งใหญ่ราวกับจะข่มขวัญ

   และบัดนี้เมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ที่บุกเข้ามาโจมตี บรรดาต้นไม้ทั้งหลายจึงเป็นอุปสรรคต่อการทำการอย่างเลี่ยงไม่ได้

      พี่ใหญ่ตระกูลวาลกัสออกปากสั่งบรรดาลูกน้องอย่างเคร่งเครียดให้รีบน้ำเรือเล็กขึ้นไปจอดบนฝั่ง ส่วนตัวเขาปลดเซฟปืนสั้นในมือยิงคุ้มกันลูกน้องที่มีหน้าที่ขับเรืออย่างสุดความสามารถ

      ถลันตัวลงเหยียบผืนทรายละเอียด เนินหาดสั้นไร้ทางไปเพราะมีพุ่งไม้บดบังอยู่ทั่วบริเวณอย่างมิดชิด ทว่ามีหรือเหล่ามาเฟียที่มีที่ทำการอยู่ ณ เกาะนี้จะไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน และทางใดคือทางลัด ทางใดคือทางเดินที่ถูกต้อง และทางใดคือเขาวงกต!


      " ตามฉันมา !! คาร์โล "  ออกปากสั่งน้องชายด้วยน้ำเสียงเข้มงวด คาร์เนโร่ที่กำลังทำท่าจะแยกออกไปกับพวกผู้คุ้มกันอีกทางหนึ่งชะงัก ชายหนุ่มหันมามองหน้า สบตาพี่ชายคนโตที่จ้องมองมาอย่างดุดัน เป็นสัญญาณว่าต้องอยู่ในอาณัติอและความคุ้มครองของพี่ชายคนนี้เท่านั้น

      ทั้งที่ออกปากว่าจะทำอย่างสุดความสามารถ แต่กลับถูกควบคุมเหมือนเด็ก นั่นทำให้คาร์เนโร่รู้สึกฉุนจัดขึ้นมาอย่างไม่อาจระงับ เขาพ่นลมหายใจแรง สายตาขุ่นขวาง

      " ฉัน...."

     " บอกให้ตามมา !!! " อเล็กซิสกระโจนพรวดตรงเข้าไปลากคอน้องชายแรงๆ สำหรับคาร์เนโร่ที่ละทิ้งการฝึกฝนร่างกายไปแล้ว มีหรือจะมีพละกำลังเทียบเท่าพี่ชายไปได้ แม้จะดิ้นรนสุดแรง อเล็กซิสก็ยังสามารถล็อกคอน้องชาย จัดการนำตัวมันมาอยู่ร่วมทีมเดียวกันจนได้

    รีบส่งสัญญาณให้อีกกลุ่มเดินบุกนำเข้าผ่านแนวไม้หนาทึบ ไม่สนใจท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจและอาการดิ้นรนที่ไร้ประโยชน์ของน้องชายในไส้ ชายหนุ่มและพรรคพวกยังคงหมอบนิ่งเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่ชายหาด ไม่นานนักเสียงปืนและเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกคำรบใหญ่ ยังผลให้คาร์เนโร่หยุดอาการดิ้นรนทันควันหน้าซีดเผือก เมื่อคิดว่าหากเขาไปตามกลุ่มนั้นแล้ว..จะเกิดอะไรขึ้น..

   ..แต่... มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่พี่ชายต้องมาลากเขาเข้ากลุ่มและทำเหมือนเขาเป็นตัวถ่วงที่ต้องคอยดูแล !!

      "  ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น !! ฉันไม่ได้ดูถูกแก แต่รู้จักประเมินตัวเองเสียบ้าง ว่าสมควรจะอยู่ที่ไหน " อเล็กซิสตอบรับนัยน์ตาขุ่นขวางของน้องชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพอกัน พี่ใหญ่ของตระกูลตบลูกปืนเข้าไปในลำกล้องอย่างเชี่ยวชาญ จ้องมองน้องชายตัวปัญหาที่ยังคงมีท่าทีขุ่นขวาง ไม่พอใจ

       ".. ต่อให้แกเก่งแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ฝึก ลูกปืนก็มีสิทธิพลาด จำเอาไว้... " น้ำเสียงสั่งสอนเคร่งเครียด ทั้งใบหน้าที่กำลังจดจ่อกับการจ้องมองวามเคลื่อนไหวและเงี่ยหูฟังสถานการณ์อย่างเชี่ยวชาญของพี่ชายส่งผลให้ความละอายเเล่นวูบ คาร์โลนิ่งงันไม่อาจต่อคำเนื่องจากรู้ดี..เข้าใจดีถึงความนัยน์ที่อเล็กซิสต้องการจะสื่อ ต่อให้จะเก่งแค่ไหน แต่ไม่ได้ฝึกฝนร่างกาย ไม่มีประสบการณ์ เขาละทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป  แล้วจู่ๆกลับมาจับปืนจะให้เก่งกาจเชี่ยวชาญอย่างคนที่คลุกคลีอยู่กับระเบิดและดินปืน มันคงไม่มีทางเป็นไปได้..

     ...ถ้าไม่อยากตาย ก็จงอย่างทะนงตน และวู่วามเป็นเด็ดขาด...

    " และฉันสัญญากับพ่อไว้แล้ว ว่าจะไม่ยอมให้น้องๆของฉันต้องจากไปอีกแม้แต่คนเดียว !! "  เสียงตะโกนของพี่ชายดังแหวกเสียงกระสุนปืนและระเบิดลั่นเลื่อน ยังผลให้คาร์เนโร่ วาลกัส ต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ  ฝ่ามือสองข้างที่เคยสั่นระริกค่อยจับกระชับแน่น..สูดหายใจลึก..ดวงตาสีเขียวสดวาววับ

    ..เขามาเพื่อต่อสู้ มาเพื่อพี่ชาย มาเพื่อน้องชายที่รักและมาเพื่อครอบครัวของตน ไม่ได้มาเพื่อเอาชีวิตตัวเองไปทิ้ง

    ..ในสมรภูมิรบ การต่อสู้สำคัญเพียงใด การเอาชีวิตรอดจากกระสุนปืนนั้นสำคัญยิ่งกว่า

    .. เพราะเขาก็ไม่อยากให้พ่อแม่พี่น้องต้องเสียใจ เสียน้ำตาอีกแล้วเช่นกัน

    " เก็บนี่ไว้ " อเล็กซิสเปลี่ยนอาวุธจากปืนสั้นคู่ใจมาเป็นปืนยาวโคล์ทและพาดกระสุนไว้บนไหล่อย่างทะมัดทะแมง หลังจากส่งพรรคพวกกองหน้าไปเป็นกำลังหลักและหลอกล่อความสนใจแล้ว พวกเขาที่เป็นชุดหลังกำลังจะเตรียมเข้าไป ชายหนุ่มยื่นโทรศัพท์มือถือของตนใส่มือน้องชายที่นิ่งรออยู่ด้านหลัง มองสีหน้างวยงงของคาร์เนโร่แล้วถอนหายใจยาว

     " โทรศัพท์เครื่องนี้ต่อสัญญาณดาวเทียม คุณอาของแกน่าจะไปถึงที่นั่นแล้ว เก็บไว้ เผื่อเขาโทรมาหา " คำตอบนั้นทำให้คาร์เนโร่พยักหน้ารับ เขาถอนหายใจเบาๆ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เริ่มมีดวงดาวปรากฏอยู่ด้วยหัวใจระทึกสั่นไม่น้อย

     " ตามหลังฉัน อย่าออกนอกเส้นทาง " อเล็กซิสสั่งการเบาๆ นัยน์ตาจับจ้องแนวไม้ที่ไหวระริกที่เริ่มมีร่องรอยของฝีเท้าและเงาร่างขอมนุษย์ย่ำเข้ามาใกล้ด้วยความเร่งร้อน

        พยักหน้าให้ลุกน้องคนสนิทที่คุกเข่าหมอบอยู่ใกล้แนวไม้ ชายคนนั้นจึงยกลำกล้องปืนยาวในมือ เล็งไปยังเงาไม้ที่ยืนต้นอยู่ทามกลางแสงสว่างอันน้อยนิดของดวงอาทิตย์

       ชายในชุดดำพรางตัวอีกรายหนึ่ง ลูกน้องคนสนิทที่หมอบราบอยู่เบื้องหน้ายกมือขึ้นแหวกพงหญ้า พร้อมๆกับที่พวกเขาทั้งหมดยกปืนขึ้นช้าๆ ต่างจ้องมองเงาร่างอันเลือนรางที่วิ่งสลับกับหอบหายใจมาใกล้อย่างใจจดใจจ่อ


      แซ่กๆ..

     ควับ!


       " เคลียร์ทางเข้าเรียบร้อยแล้วครับ ! "  ทันทีที่พงหญ้าสูงถูกแหวกออกอย่างเร่งร้อน กระบอกปืนทุกลำต่างก็จรดไปยังร่างของชายผู้มาใหม่ และเมื่อคำรายงานนั้นดังออกมาจากริมฝีปากของบุรุษผู้นั้นพวกเขาต่างก็ถอนหายใจพรู

        อเล็กซิสก็พยักหน้ารับ ชายหนุ่มจ้องมองสภาพของลูกน้องในแกงค์ที่วิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งข่าว เขาสบตากับบรรดาคนสนิทที่ยืนรอคำสั่งอยู่ด้านหน้า พร้อมกันนั้นก็ยกมือให้สัญญาณอย่างรวดเร็วเพื่อตามไปสมทบกับพรรคพวกที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว และคงกำลังต่อสู้อยู่อย่างดุเดือดดังที่ปรากฏเสียงปืนและเสียงคำรามของระเบิดไม่หยุดหย่อน..

      "...ระวังตัวด้วย " พี่ชายหันไปส่งสัญญาณบอกพวกลูกน้องที่มีหน้าที่เป็นกำลังเสริมและเฝ้าเรือให้หมอบรอสัญญาณ ขณะที่ตนเองคืบคลานผ่านแนวไม้หน้าอย่างเชี่ยวชาญ คาร์โลพยักหน้ารับ กระชับปืนสั้นในมือแน่นด้วยหัวใจระทึกไหว จ้องมองแผ่นหลังของพี่ชายที่อยู่เบื้องหน้าซึ่งบัดนี้เป็นดังผู้นำที่เขาไว้ใจและฝากชีวิตไว้..

     ...ปิดหูปิดตาตนเองมาตลอดด้วยทิฐิและความอ่อนด้อยของตนเอง ทั้งที่ยังไม่เคยพบเจอสมรภูมิรบแท้จริงของมาเฟีย อีกทั้งยังคอยหยามหมิ่นธุรกิจมืดและบรรดาผู้คนที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เมื่อได้มายืนอยู่ตรงนี้ คาร์ลจึงได้รู้..ว่าเขานั้นได้พลาดพลั้งสิ่งใดไป..
     กล้าเหยียดหยามผู้คนที่ทิ้งชีวิตเป็นบันไดให้ตนเองมีชีวิตที่สุขสบาย ... ตัวเขาต่างหากที่น่ารังเกียจนัก

       คาร์เนโร่สุดหายใจลึก ฝ่าเท้าเหยียบลงบนพงหญ้าหนาทึบที่ปรากฏร่องรอยฝีเท้า ชายหนุ่มจ้องมองแผ่นหลังของพี่ชายที่ยังคงชัดเจนแม้แสงอาทิตย์จะเริ่มลาลับ กระชับปืนในมือแน่น ปลายนิ้วสอดเข้าไปแตะไกทันทีที่มองเห็นเงาร่างและความเคลื่อนไหวด้านซ้ายมือ..


  ปัง !


      ร่างนั้นล้มลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงปืนเสียดแก้วหูและกลิ่นดินปืนชายโชย คาร์เนโร่แว่วเสียงคำรามในลำคออย่างพึงใจของพี่ชายไม่ไกล ไม่ต่างกับตัวเขาที่แสยะยิ้มมุมปาก หัวใจเต้นเร่าด้วยความพึงใจและความตื่นเต้นเลือดเร้าอันแสนเคยคุ้น...

    ...ฝ่ามือที่เปื้อนเลือด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจปาดเช็ดและทำให้มันกลับมาขาวสะอาด เช่นเดียวกับกระสุนปืนที่เหนี่ยวไกออกไปแล้วไม่มีวันหวนกลับมา..

    แต่จะสนใจทำไมเล่า ในเมื่อเขาพอใจจะให้มันเป็นแบบนั้นเอง..


         หลบเข้าไปพิงใต้ต้นไม้ แผ่นหลังยังสัมผัสความอุ่นร้อนของแสงอาทิตย์ที่สาดลงมายังเปลือกไม้หนา  อเล็กซิสพ่นลมหายใจออกจากริมฝีปากนัยน์ตาจ้องมองฝ่าความมืดไปยังตัวคฤหาสถ์เก่าแก่ของตระกูลวาลกัสที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางแสงไฟ เป็นดั่งประภาคารนำทางให้ไปยังที่แห่งนั้น แม้ว่ามันจะยังห่างไกลกับที่ๆอยู่ตอนนี้ก็ตาม

   แว่วเสียงหอบหายใจของน้องชายตามมาไม่ห่าง เขาแสยะยิ้ม ก้มลงใส่กระสุนชุดใหม่ลงในรังปืน จ้องมองร่างเงาของผู้คนที่ไหวพริ้วลานตา ได้ยินเสียงลูกปืนวิ่งออกจากลำกล้องและเสียงคำรามในลำคอของน้องชาย เขาจึงยิ้มด้วยความพึงใจ...พอใจ

    ไม่ใช่แค่ยินดีที่สามารถเข้าอกเข้าใจกันได้ในที่สุดและน้องชายไม่ได้รังเกียจตัวเขา มาเฟีย หรือเบื้องหลังของตระกูลอีก ทว่าเขายังยินดี...พึงใจ ที่ในที่สุด คาร์โลก็กลับมาอีกครั้ง..

    ...กลับมาอยู่ในที่ๆควรอยู่ ทำในสิ่งที่ควรทำ

    ความรู้สึกฮึกเหิม มีกำลัง เลือดที่สูบฉีดทั่วร่างยามได้เหนี่ยวไกปืนและจ้องมองมันทะลุร่างของคนที่มุ่งหมาย ผู้ที่ชิงชังและต้องการกำจัด เป็นความรู้สึกของสายเลือดที่วนเวียนอยู่ในกายและไม่มีวันตัดขาด..

    ไม่ว่าอย่างไร มาเฟียก็คือมาเฟีย ทายาทของมาเฟีย ก็ต้องเป็นมาเฟียอยู่วันยังค่ำ

    ...กลับมาแล้ว...น้องชายของเขากลับมาแล้ว.


    " ยินดีต้อนรับ "

         ...ยินดี...ที่ได้กลับมาสู้รบร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กัน

      ขอต้อนรับ ...สู่เส้นทาง...ที่ไม่มีวันหันหลังกลับไปได้อีกแล้ว...



......................


       แสงสว่างจากตัวอาคารสิ่งก่อสร้างแสนเคยคุ้น ดุเหมือนกับใกล้ ทว่าความจริงมันกลับยิ่งไกลห่าง เฉพาะเมื่อกระสุนปืนและเสียงระเบิดยังดังแว่วอย่างไม่สงบ แม้เวลาจะเลยผ่านมาถึงครึ่งคืนแล้วก็ตามที

       อเล็กซิสเงยหน้าขึ้นมองฟ้า จ้องมองพระจันทร์ดวงกลมโตที่ส่องแสงสว่างจ้าทอดเงามายังต้นไม้ที่เขาพิงอยู่อย่างอ่อนโยน แสงสีเงินไล้โครงหน้าของตนเองและบรรดาผู้ติดตามให้เกิดเงาทอดยาวลึกล้ำ และยังสะท้อนให้เห็นหยาดเหงื่อกระทั่งยังสามารถสัมผัสไออุ่นร้อนจากตัวคน กับเสียงลมหายใจหอบสั่นด้วยความเหนื่อยอ่อน

     นัยน์ตาสีทองหันขวับไปจ้องมองร่างของน้องชายที่นั่งพิงโคนต้นไม้ด้วยกัน คาร์เนโร่มีสีหน้าเหนื่อยอ่อน ใบหน้าซีดเผือกและลมหายใจหอบถี่ฝ่ามือกุมซี่โครงที่เจ็บแปลบจากการวิ่งมากเกินไปอย่างคนที่ไม่คุ้นชินการใช้กำลังในแง่นี้ ทว่ามันก็ยังไม่ได้พลาดพลั้ง รวมถึงบรรดาเหล่าคนสนิทที่ยืนหยัดอยู่ข้างกายไม่ถอยหนี นัยน์ตาของทุกคนวาววับ ยังคงจ้องมองแสงไฟจากตัวคฤหาสถ์โบราณที่แสนคุ้นตาด้วยสีหน้าหมายมาด แม้จะมีท่าทีเหนื่อยอ่อนเช่นเดียวกับตัวเขาในตอนนี้

      แม้เวลาจะล่วงเลยมานับห้าชั่วโมงนับแต่ขึ้นบุก ทว่าอเล็กซิสและพรรคพวกก็ยังไปไม่ถึงไหน เฟรเดริโก้วางกำลังพลเอาไว้อย่างครบพร้อมสมกับเป็นบอสของตระกูลผู้มากประสบการณ์ วางกลยุทธ์ทั้งบุกทั้งล่อประชิดไม่ให้ได้หยุดพัก ประกอบกับพื้นที่ของที่นี่...บริเวณตัวคฤหาสน์ของตระกูลวาลกัสที่ซิซิลีถูกออกแบบมาให้เป็นดั่งปราการเหล็ก เป็นนรกของผู้มาเยือนสมชื่อด้วยการจัดสรรพื้นที่อย่างชาญฉลาด ใช้ประโยชน์จากภูมิทัศน์และบรรดาต้นไม้ที่ขึ้นสูงให้เป็นประโยชน์ในการซุ่มโจมตีผู้บุกรุก อีกทั้งยังมีบรรดามือปืนมือฉมังที่คอยสอดส่องจัดการผู้บุกรุกที่เป็นดั่งหนูวิ่งในกรง

    อเล็กซิสหอบหายใจหนักๆ พลางกัดฟันกรอดขนาดตัวเขารู้ดีถึงพิษสงของมัน ทั้งทราบถึงแผนที่และทางเดินอย่างละเอียด พยายามวางหมากวางคนอย่างดี ยังไม่สามารถบุกมาหักหาญเอาง่ายๆ

    ...ปราการที่ไม่มีวันพังทลาย ใครจะคิดว่ามันต้องกลายมาเป็นที่รบราฆ่าฟันของคนในแกงค์เดียวกัน ให้พวกกลุ่มอื่นได้หัวเราะเยาะถึงการต่อสู้อันน่าสมเพช

     อเล็กซิสสูดหายใจลึก  หยิบวิทยุสื่อสารออกมาฟังรายงานจากบรรดาลูกน้องที่อยู่จุดอื่นของพื้นที่ ส่วนตัวเขากำลังพักเอาแรงหลังจากพยายามหักหาญโจมตีมาหลายชั่วโมงจนเหนื่อยหอบ แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ต้องบุกเข้าไปในครั้งเดียว การกลับไปตั้งหลักใหม่ไม่ต่างกับความพ่ายแพ้ หนี้แค้นทั้งหมดของเขาและครอบครัว ที่จะแสดงให้คนๆนั้นได้เห็นความเสียใจและความผิดหวังทั้งหลาย จะต้องถูกชำระให้หมดไปในคืนนี้ !

         " ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง "อเล็กซิสกรอกเสียงสอบถามไปอย่างเร่งร้อน ชายหนุ่มผุดกายลุกขึ้น พาดกระสุนและกระชับปืนยาวในมือแน่น ชั่วขณะหนึ่งร่างกายที่เหนื่อยล้าเซวูบราวกับจะผงะหงายหลัง แต่พี่ใหญ่ของตระกูลก็เม้มปากแน่น กัดฟันกรอด ยกมือยันต้นสนอินเดียต้นใหญ่ไว้อย่างไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น...ไม่ได้... โดยเฉพาะตอนนี้ ตอนที่เขาเป็นผู้นำไม่ควรอ่อนแอให้บรรดาลูกน้องต้องใจเสียและขาดความมั่นใจ

         " พวกเราใกล้จะถึงสุสานด้านหลังแล้วครับ.. " เสียงที่กรอกออกมานั้นทำให้อเล็กซิสพยักหน้ารับ สีหน้าที่เหนื่อยล้าเริ่มเเช่มชื่นขึ้น

         " ดี!! ...บุกไปเรื่อยๆ ระวังด้วยนะ.. " สั่งสำทับพลางซุกวิทยุลงบนเอว กระชับเสื้อเกราะกันกระสุนให้แนบตัวอีกครั้ง อเล็กซิสส่งสัญญาณให้บรรดาผู้ติดตามลุกขึ้นและเริ่มบุกอีกระลอก หลังจากแนวหน้ากลุ่มใหญ่ที่มีทั้งอาวุธหนักและมากด้วยกำลังพลนั้นสามารถบุกทะลวงเข้าไปถึงด้านหลังของคฤหาสถ์ได้ ด้านที่อเล็กซิสเชื่อว่ามันมีการป้องกันต่ำที่สุด...เพราะที่นั้นคือสุสานของตระกูล!

      บริเวณสวนด้านหลังที่เงียบสงบ มีพรรณไม้ปลุกอยู่อย่างสวยงามดั่งคอยเป็นเพื่อนและปลอบประโลมผู้ที่ทอดร่างลงบนผืนดินในหลุมศพมากมายอเล็กซิสไม่ได้อยากจะนำสุสานของบรรดาบรรพบุรุษมาเหยียบย่ำหรือล้อเล่น ชายหนุ่มออกปากกำชับพรรกพวกที่จะบุกอย่างเฉียบขาดแล้วว่าให้ระมัดระวังอย่างถึงที่สุด อย่าทำความเสียหาย และพยายามดำเนินการให้เงียบที่สุด

             เป็นไปได้เขาก็ไม่อยากเลือกทางนี้ แต่การสู้รบกับ"ศัตรู" ใครที่มองเห็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้ย่อมชนะ เช่นเดียวกับที่เฟรเดริโก้ซึ่งมองเห็นจุดอ่อนของเขาและนำอเล็กเซย์มาหลอกล่อเมื่ออีกฝ่ายกล้าจะทำเช่นนั้นจะให้เขายอมอ่อนข้อให้อีกหรือ ในเมื่อความสูญเสียที่ได้รับต่างก็ไม่ต่างกันเลย

             หากกล่าวถึงจุดอ่อนของเฟรเดริโก้  วาลกัส อเล็กซิสไม่ได้เลวขนาดจะลากเอาลูกน้องคนสนิทหรือบรรดาเครือญาติอื่นที่ยังเหลืออยู่มาเป็นตัวประกันเช่นที่ผู้เป็นลุงทำ...แต่มันไม่ใช่ความปราณี เขารู้ดี เพราะสิ่งที่เขาเลือก...เลือกจะโจมตีนั้นแม้ไม่ใช่คน ทว่ามันก็เป็นสิ่งที่ทรงอิทธิพลต่อจิตใจของผู้เป็นลุงมากมาย

    ...สุสานของบรรพบุรุษ สุสานของผู้ล่วงลับ ต่างมีร่างของบรรดาญาติมิตรทั้งหลายนอนหลับไหลอยู่ แน่นอนว่านั่นรวมถึงร่างของจอร์จิโอ้...ลูกชายคนเดียวของคุณลุงของเขา

    อเล็กซิสตรวจสอบมาแล้วว่าสุสานของพวกลูกน้องในแกงค์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของจอร์จิโอ้ถูกขุดค้นและนำศพออกมาเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนว่ามันจะถูกฝังที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่...สำหรับลูกชายที่ตัวเองปิดบังด้วยความขลาดเขลาและรู้สึกผิดมาตลอดนั้น คุณลุงของเขาทำได้ดีที่สุดก็แค่นี้เท่านั้นเอง..

     เฟรเดริโก้ไม่กล้าเหยียบย่ำที่ตรงนั้น ไม่กล้าจะวางกำลังคนไว้ให้มาฆ่ากันบนหลุมศพของลูกชายตัวเองแน่นอน...เขาเชื่อแบบนั้น..

    เมื่อไม่อยากให้มีการต่อสู้ ไม่กล้าจะทำแม้แต่รบกวนลูกชายผู้ล่วงลับ ที่ตรงนั้นจะเป็นจุดได้เปรียบของพวกเขา !



ออฟไลน์ Serin

  • หุ่นซากุยังไงก็ไม่มีวันเป็นกันดั้มไปได้หรอก ไอ้พวกสมองถั่ว!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +621/-8
 

    Rrrrrrrrrrrrrrrrr



      เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำเอามือที่กำลังปลดเซพขึ้นไกเตรียมบุกอีกครั้งชะงัก คาร์เนโร่ขมวดคิ้ว เขาครางในลำคอเบาๆเมื่อได้เสียงร้องของโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าซ้าย นัยน์ตาสีเขียวสดจ้องมองรอบกายที่ยังคงมีเพียงความมืดสลัวสลับกับเงาของพรรณไม้ที่โชยพัดตามลม ก่อนจะมองไปด้านหน้าที่ผู้เป็นพี่กำลังเตรียมแยกออกไปอ้อมด้านข้างของคฤหาสถ์

       คาร์เนโร่มองดูจอ มันขึ้นชื่อว่า " Clark Rozenberg "

      นึกถึงคำพูดของพี่ชายเรื่องการส่งข่าวขึ้นมาได้  คาร์โลร้องเรียกคนที่เดินนำไปเบาๆให้ฝ่ายนั้นหันมาหา เขายื่นโทรศัพท์ให้ มองสีหน้าสงสัยของเล็กซิสเพียงแว๊บเดียว พอฝ่ายนั้นมองหน้าจอก็กดรับ พร้อมกับหมอบตัวราบลงกับพื้น ให้เขารีบไปฟังใกล้ๆเพราะอยากรู้ข่าวของน้องชายไม่แพ้กัน


       " ว่าไงครับ? "

       "...เจอตัวแล้ว " นั่นคงเป็นข่าวดี พี่ชายจึงมองหน้าเขาแล้วพยักหน้าด้วยท่าทีเเช่มชื่นขึ้น คาร์โลจึงยิ้มรับอย่างคนมีกำลังใจมากขึ้นเป็นทวีคูณ

       "..แล้ว...จะกลับมาเมื่อไหร่? " อเล็กซิสอยากให้น้องชายกลับมาให้เร็วที่สุด เขาไม่อยากจะเสี่ยงโชคกับการเฝ้าฝันเชื่อถือเรื่องข้อตกลงของตนกับกลุ่มคนที่ไม่เคยเห็นชื่อ และอารมณ์ขึ้นๆลงๆของน้องชายอีกแล้ว

       "..........." ทว่า....ปลายสายกลับเงียบกริบ..

      " คุณอา...รีบหน่อย ตอนนี้ผมกำลังบุก ไม่มีเวลามากนะ ! " อเล็กซิสกระซิบบอกอย่างเร่งร้อน เผื่ออีกฝ่ายมีปัญหา เขาจะได้รีบคุยและตกลงกันให้จบๆเสียที

      "...แกให้เวลาได้มากแค่ไหน ? "คลาร์ก โรเซนเบิร์กถามออกมาเบาๆ หลังจากนิ่งฟังเสียงร้อนรนของหลานชายจากปลายสาย..

       " อะไร? " อเล็กซิสขมวดคิ้ว สีหน้ายิ่งเคร่งเครียดเมื่อแว่วเสียงปืนและเสียงเอะอะโวยวายที่ชวนให้หัวใจเต้นระทึกหวาดหวั่น

       " ...ให้เวลากับน้องชายแกในการ"จัดการ"ตัวเอง ได้แค่ไหน อเล็กซิส "

      " ....หมะ...."

      " ...อย่าเพิ่งถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าแกต้องการให้ฉันพาน้องชายแกกลับภายในกี่วัน อย่าบอกว่าเร็วที่สุด เพราะเวลาของคนเรามันไม่เท่ากัน ! " เสียงของคลาร์กตัดบทคำถามของตนเสียงก่อน อเล็กซิสเม้มปากแน่น จ้องหน้าคาร์เนโร่ที่มองมาด้วยสีหน้าอยากรู้ มันเงี่ยหูฟังทั้งยังถือปืนมองซ้ายขวาคอยระแวดระวังให้ตัวเขาอยู่กรายๆ

      " ห้าวัน ต้องมาถึง " อเล็กซิสเม้มปากแน่น ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว

      " รวมไป-กลับ ...ห้ามช้ากว่านี้? " คลาร์กเอ่ยทวนคำถามสั้นๆ

     " ห้าวันเท่านั้น ..นี่คือคำสั่ง !! " เพาะชินกับการสั่งคนนั้นคนนี้ไปหมดเสียแน่ อเล็กซิสจึงได้ออกปากไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาสำนึกได้ว่าเขาสั่งคนที่ไม่เคยคิดจะรับฟังตัวเองไปเสียแล้ว..

..แว่วเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายมาจากปลายสายยิ่งชวนให้หวั่นๆ คลาร์ก โรเซนเบิร์กขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ที่เดาใจยากนักหนาและแต่เดิมเขาก็ไม่ค่อยถูกกับคุณอาคนนี้อยู่แล้ว ถ้าหากต้องมาทะเลาะกันตอนนี้คงต้องเรียกว่าแย่ถึงแย่ที่สุด ไอ้การจะมาขัดแย้งกันทั้งที่มีศัตรูรอบด้านมันช่างน่าปวดหัวนัก !!

      " ...เห็นว่าแกกำลังยุ่ง ฉันจะทำไม่ได้ยินไอ้คำสั่งนั่นก็ได้...ห้าวันตามนี้.. " คลาร์กรับคำก่อนจะขมวดคิ้วน้อยๆ ครุ่นคิด เมื่อแว่วเสียงปืนดังมาจากปลายสาย.. "ว่าแต่ ตอนนี้ถึงไหนแล้ว "

      " กำลังจะเข้าไปในสวน.." อเล็กซิสกระซิบตอบ เขาผุดลุกขึ้นอีกครั้ง คว้าปืนยาวในมือมากระชับแน่น

     " ..ระวังตัวด้วย " คลาร์กถอนหายใจ ตอบอีกฝ่ายสั้นๆ  "....แล้วก็....อย่าฆ่านะ..."

     " อะไรนะ? " คราวนี้อเล็กวิสขมวดคิ้วแน่น สีหน้าข้องใจ เขาถามซ้ำ เผื่อจะได้ยินประโยคหลังของผู้เป็นอาผิดไป

     " อย่าฆ่า..."

     " ทำไม ? มีอะไรอีก ! " คราวนี้ไม่ได้ฟังผิดแน่แท้ อเล็กซิสคำรามกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นขวางและไม่เข้าใจอย่างยิ่งยวด คิดจะมาเป็นพ่อพระขัดความต้องการของเขางั้นเหรือ? ถึงได้ออกปากพูดแบบนั้น

      " ...วู่วามแล้วแกจะเสียใจภายหลัง...และ....เก็บเขาเอาไว้ให้น้องชายแก..."

      " คุณอา..."

      " ฉันจะพามันกลับไป แลกกับการที่แกไว้ชีวิตเฟรเดริโก้ วาลกัสไว้ในฐานะที่สร้างบทเรียนราคาแพงให้พวกแกทั้งครอบครัว  อย่าคิดตุกติก ไม่อยากนั้น แกอาจจะต้องเสียใจภายหลัง "

          ปลายสายตัดไปแล้ว ทว่าใจความนั้นกลับทำให้อเล็กซิสขมวดคิ้วแน่น เขาจ้องมองโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูในมืออย่างงวยงงปนไม่พอใจ สับสนกับคำสั่งอันไม่รู้ที่มาที่ไปของผู้เป็นอา คนที่รู้จุดประสงค์ของการมาของเขาดี..แล้วเหตุใดถึงคิดจะมาห้าม...

      อยากจะถามให้มากกว่านี้แต่เสียงปืนและเสียงระเบิดที่ใกล้เข้ามาทำให้ไม่อาจจะคิดอะไรได้ดั่งใจ อเล็กซิสเม้มปากแน่น ก้มตัวลงและแทรกตัวผ่านพุ่มไม้ทึบเพื่อเดินทางเลียบเข้าไปบริเวณด้านในของสวนหน้าบ้านด้วยใจระทึก..ฝ่ามือสั่นระริกด้วยความตื่นเต้นพอใจ และคาดหวัง..

   ใกล้จะรุกไล่สำเร็จ ใกล้จะได้ประกาศชัยชนะแล้ว..

   ถึงตอนนั้น เมื่อเจอหน้า จะระงับอารมณ์ได้หรือไม่ จะไว้ชีวิตมันไหม ค่อยคิดก็แล้วกัน !!


.............   


          " คุณอเล็กซิสกำลังบุกขึ้นไปที่ซิซิลี " แกเร็ต เคย์ ทวนคำพูดของเจ้าของประโยคที่กอดอก พิงเบาะหลังของรถ ใบหน้าสงบนิ่ง

          " ฉันโทรไปเมื่อคืน...พวกมันลงไปแล้ว พร้อมกับคาร์โล....นั่นล่ะ " คลาร์กรับคำเบาๆ พลางถอนใจ สีหน้าเคร่งไม่น้อย นั่นทำให้ผู้ฟังขมวดคิ้วจางๆด้วยความกังวลไม่ต่างกัน 

       แกเร็ตนึกไปถึงยามค่ำคืนของเมื่อวาน ตัวเขาออกไปคุยกับคาวัลโลแล้วออกมาพบคลาร์กยืนรออยู่ คนตรงหน้าเขาเอ่ยพูดถึงเรื่องบางอย่างที่ทราบมาเล็กน้อยบอกสั้นๆแค่ว่ามี”เรื่อง”ให้คิดอีก ทว่าก็ไม่มีคำเล่าขานใดออกจากปาก แน่นอนว่าเมื่อคลาร์กไม่เล่า แกเร็ตก็ไม่คิดจะถาม เขาจึงเข้านอนและทิ้งความสงสัยนั้นไว้เสีย เพราะถึงอย่างไร หากมันสำคัญและต้องรู้ ที่สุดคลาร์กก็จะบอกให้ทราบอยู่ดี

      นึกไม่ถึงว่ายามเช้าคลาร์กจะออกปากเล่าด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แท้จริงสาเหตุที่เจ้าตัวออกมาเดินเพ่นพ่านหลังจากกดโทรศัพท์ไปหาคนโน้นคนนี้เมื่อคืน ไม่ใช่เพราะห่วงหรือสนใจว่าเขาจะคุยอะไรกับคาวัลโล แต่เพราะความไม่สบายใจที่ทิ้งตะกอนไว้ในหัวใจต่างหาก


      "..แล้ว....คุณคิดว่า...." แกเร็ตขมวดคิ้วจางๆ กับผลของการต่อสู้ที่ยังคงไม่ปรากฏ

      " ....ไม่รู้ " คลาร์กพ่นลมหายใจเฮือก ท่าทีกังวลพอตัว นั่นยิ่งทำให้แกเร็ตขมวดคิ้วแน่นขึ้น

      " จะบอกคาวัลโลไหม? "  เขาเอ่ยถาม และเสนอทางเลือกให้กับผู้ปกครองของตน หากแต่คลาร์กที่ยังคงหลับตานิ่งทำแค่เปิดเปลือกตาใช้ดวงตาสีบรูเน็ตคู่นั้นจ้องมองเขาครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า

     " ไม่.....เรื่องของตัวเองยังจัดการไม่ได้เลย จะไปเพิ่มให้มันปวดหัวตายอีกทำไม "

             เหมือนจะห่วง? รึเปล่า ...เรื่องนี้แกเร็ตสุดจะคาดเดา ชายหนุ่มมองหน้าคนพูดอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไม่มีท่าทีจะพูดอะไรออกมาอีกก็ถอนหายใจยาว ไพล่นึกไปถึงผู้ที่ถูกเอ่ยถึง คาวัลโล วาลกัส ผู้นำของเขา คนที่เมื่อพบหน้ากันยามเช้ายังคงมีท่าทีเงียบนิ่งซึมเซา เจ้าตัวเอาแต่เหม่อมองไปที่ผู้ชายคนนั้นไม่ห่างเดินจ้ำไปไม่เหลียวหลังมามองหรือพูดคุยกับเขาและคลาร์กที่ถูกเชิญมานั่งรถอีกคันเสียด้วยซ้ำ..

       ...ตกลงกันไม่ได้...? นี่คงเป็นสาเหตุที่แน่นอนและชัดเจนอยู่ในตัวเองแล้ว แกเร็ตก็พอจะรู้ว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ..ที่สำคัญกว่าจะตกลงกันยังไง คือจะกลับยังไงให้ทันการนี่สิ...

    "  เหลือเวลาอีกเท่าไหร่ ? " แกเร็ตเอ่ยถามชายหนุ่มผมทองที่นั่งเงียบอยู่ข้างกาย คลาร์ก โรเซนเบิร์ก ฟังแล้วไหวไหล่ถอนหายใจแรง...และเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง  สายตาทอดมองไปยังชายสองคนที่นั่งอยู่ตรงเบาะหน้า ผู้ที่กำลังจ้องมองเขาสองคนด้วยแววตาระวังระไว ซึ่งเจ้าของดวงตาสีบรูเน็ตก็จับจ้องไปด้วยแววตาวาววับกร้าวเเข็งไม่ต่างกัน...

     "...ถ้ามากกว่าสามวัน ฉันไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ "   

            คำกล่าวของคลาร์กไม่ต่างอะไรกับคำขู่อาฆาต..แกเร็ตเม้มปากแน่น จ้องมองใบหน้าของคนพูดที่ฉายแววเอาจริง ทั้งยังสบมองดวงตาสีดำสนิทของชายหนุ่มสองคนในชุดเสื้อคลุมของคนอาหรับเขม็ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีภาพนั้นไปมองยังกระจกด้านข้าง ที่สะท้อนภาพผืนทรายกว้างใหญ่สุดลุกหูลูกตา...

       ...ถ้าภายในสามวันไม่ยอมกลับไป คลาร์ก โรเซนเบิร์ก จะก่อเรื่องอะไรก็สุดจะรู้

     ผู้ชายคนนี้ไม่มีคำว่าปราณี สำหรับเรื่องที่ตัวเองอยากได้และ”ต้อง”ได้ หากถูกขัดใจ ไม่เป็นไปตามที่หวัง ..จะก่อความวุ่นวาย วางแผนหักหลัง ทำร้าย จะเชือดคอใครสักคนสองคนเพื่อให้เรื่องมันเป็นแบบที่ต้องการ คลาร์กก็ไม่เคยลังเลอยู่แล้ว..เขาก็รู้...
     และนิสัยแบบนี้ไม่ใช่หรือที่มันถ่ายทอดไปยังคนถูกสอนอย่างคาวัลโลแทบทุกกระเบียด แม้ยามนี้เจ้าตัวจะแปรเปลี่ยนไปเพราะผู้ชายคนนั้น แต่สำหรับคลาร์กแล้ว คนที่จะเปลี่ยนใจให้เลิกคิด หรือเปลี่ยนความตั้งใจเหล่านี้ คงไม่มี...

     ไม่มีใครสามารถทำให้คลาร์ก โรเซนเบิร์ก เปลี่ยนนิสัย หรือกระทั่งเปลี่ยนเป้าหมายและอุดมการณ์ของตัวเองได้หรอก...คนที่พยายามมาทั้งชีวิตแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะสำเร็จอย่างแกเร็ต เคย์คนนี้รู้ดี..


   ..แต่ก่อนจะมาคิดถึงเรื่องของตัวเองหรือเรื่องของคนข้างตัว ตอนนี้ที่ควรจะสนใจคือเรื่ององคาวัลโลและฝั่งพี่ชายที่ผลของการบุกโจมตียังไม่เป็นผลต่างหาก

    ...แกเร็ตถอนหายใจเฮือกจ้องมองกระจกด้านข้างที่ทิวทัศน์แปรเปลี่ยนจากทะเลทรายกว้างสุดลุกหูลูกตาเป็นพื้นที่เมืองที่เริ่มหนาแน่นและทันสมัยขึ้นทีละน้อย สภาพบ้านเมืองที่เริ่มกลับเข้าสู่ยุคปัจจุบันไม่ใช่ทะเลทรายที่ชวนให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วงสามร้อยปีก่อน ทำให้เขาผ่อนลมหายใจลง


    เอี๊ยด !

    “ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันอีก? “ ล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนแรงๆเสียจนแกเร็ตแทบจะหน้าคว่ำ เขาหันมองคนข้างกายที่ยกมือยันเบาะหน้าไว้ ลืมตาโพลงแล้วสถบอุบ ก่อนจะตวัดสายตาไปยังด้านหน้าที่ปรากฏภาพรถหลายคันจอดติดกันเป็นแนวยาว และถัดออกไปไม่มากนัก คือกลุ่มควันสีดำที่ลอยเอื่อยขึ้นจากพื้นดินสู่ชั้นบรรยากาศ...

     สองหนุ่มคู่หูต่างวัยหันขวับมามองสบตากันทันทีด้วยสีหน้าตกตะลึงไม่น้อย แกเร็ตจ้องมองภาพเบื้องหน้าพร้อมกันนั้นก็เงี่ยหูฟังสำเนียงพูดรัวเร็วเร่งรีบผ่านวิทยุสื่อสารในตัวรถอย่างครุ่นคิด

...ต่อให้ฟังไม่ออก...แต่สำเนียงพูดแสดงอารมณ์ออกมาเช่นไรก็อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ดีพอกัน

     “...แบบนี้ก็คงไม่ลำบากฉันแล้วสินะ “ เสียงจิ๊จ๊ะในลำคอของคนข้างกายที่เปลี่ยนอิริยาบถจากตะลังงันมาเป็นยิ้มกริ่มเริงร่าชวนปวดหัวนัก แกเร็ตถอนหายใจเฮือก ก่อนจะตวัดสายตามองด้านหลัง ที่ปรากฏร่างอันเคยคุ้นของคาวัลโล วาลกัสและชายผู้เป็นกษัตริย์ของที่นี่เดินออกมาจากตัวรถด้วยสีหน้ายุ่งยากไม่ต่างกัน..

   ...จะเกิดอะไรขึ้นอีกก็สุดจะคาดเดา..

     แกเร็ต เคย์ถอนหายใจพลางดันแว่นกรอบหนาที่ตนเองสวมไว้เบาๆ ทางฝั่ง อเล็กซิสก็รบกันจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ทราบ แล้วฝั่งคาวัลโลจะกลับไม่กลับจะไปไม่ไปยังไงก็ยังคาราคาซังไม่เลิก..

    ...ไอ้สถานการณ์แบบนี้ คนที่ยังยิ้มร่าอยู่ได้ มันต้องมีปัญหาแน่ๆ

   คิดแล้วแกเร็ตก็หันขวับไปจ้องหน้า คลาร์ก โรเซนเบิร์กผู้ที่กำลังผิวปากออกมาอย่างเริงรื่น สีหน้าแสนสุขสบายนัก

    หรือสิ่งที่เกิดขึ้น..อยู่ในแผนลากคาวัลโลกลับบ้านกัน?

    แกเร็ตขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด คลาร์กนั้นมักติดนิสัยทำอะไรเอาแต่ใจโดยไม่นึกถึงคนอื่น แต่ถ้าก่อเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆและคนที่นี้รู้หรือแม้แต่ผู้ชายคนนั้นรู้ คาวัลโลจะได้กลับบ้านด้วยสภาพแบบไหน..เขาแทบไม่อยากจะคิด...


..........


     กลับมาแล้วคะ แฮะๆ :impress3:
ขอโทษคนอ่านทุกคนด้วยนะคะที่หายไปซะครึ่งเดือน เหอๆ เอาเป็นว่ายอมรับผิดแล้วกัน และตอนนี้เรากลับมาแล้วววววว
ตอนนี้คาวี่กับอัลหาย ..  :laugh: :laugh:
  ฝั่งอิตาลีกำลังระอุ คุณพี่อเล็กซิสแอบร้ายนิดๆ แกแอบวางแผนล่อลวงคาร์โลสินะ เหอๆ

ส่วนคุณอา...คิดจะทำอะไรเพื่อลากคาวี่กลับ คงต้องรอดูกันต่อไป 
 ปล. พรุ่งนี้อัพแบดกาย และวันถัดไปเราจะอัพคาวี่ต่อ (คอมโบ้ทดแทบที่หายตัวไป ฮี่ๆ ) ฉากบู้ต้องอ่านต่อเนื่องสิถึงจะมันส์  :z2:

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ตอนใหม่มาแล้ว เย้~

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เตรียมตัวรอฉากบู้ล้างผลาญอยู่เลย

มันส์ค่ะ รอมาต่อเอาให้เลือดสาดไปเลย :laugh:

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
อ่านตอนนี้แล้วหดหู่จริงๆ
สงสารคาวี่อะ(ถึงแม้จะไม่ได้ออกซักฉากก็เหอะ-o-)
ขอให้เข้าใจกันเร็วๆน๊า......

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
ยินดีต้อนรับ สู่การกลับมาค่ะ  แล้วมาบ่อยๆนะค่ะ o13

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยย อ่านแล้วเครียดแต่ก็อยากอ่านต่อ  :laugh: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด