มาต่อแล้วนะคร้าบ
************************************************************************
หน้าที่ 43 วรรคสุดท้าย
ผมเดินไปเปิดเรือนรับรอง เพื่อขึ้นมาที่ระเบียงชั้นบน วากดิษไปยกหมอนมุ้งกับยากันยุงมาจุด จากนั้นเราก็นอนดูท้องฟ้ากัน แสงสว่างในไร่ของผมไม่สว่างมาก ที่เรือนก็ไม่ได้เปิดไฟ ทำให้มีแค่แสงสว่างจากดวงจันทร์ที่นั้นที่ส่องผ่านมุ้งเข้ามา
“ พูดกับน้องว่าร้อนๆ แล้วให้พี่เอามุ้งมากางทำไม ” มีบ่นๆ
“ บนระเบียงนี้มันลมพัดเย็นออก ”
“ ขึ้นมานั่งเหงาบนนี้บ่อยไหม ” วากดิษถามครับ
“ ปกติเวลาอยู่ที่นี่คิมไม่เหงาหรอก ”
“ ....... เคยพาคนอื่นขึ้นมาที่นี่หรือปล่าว ” น้ำเสียงจับผิดเลยอะ
“ ไม่มี เมื่อก่อนมันเป็นมุมลับ ”
“ ใครจะพูดก่อน ” วากดิษยิงคำถามต่อ ผมยังไม่ได้เตรียมตัวจะตอบเลยครับ
“ เรื่องลูก ..... ” ผมยังไม่ทันพูดจนจบคำ วากบ้าก็คว้ามือของผมไปกุมไว้
“ คิมรู้ไหมทำไมพี่ถึงไม่ชอบเวลาที่คิมเอาเรื่องนี้มาพูด เพราะยังไงพี่ก็ไม่คิดจะมี เวลาที่คิมพูดทีไร ภาพในอดีตมันจะย้อนเข้าหาพี่ไม่หยุด จนบางครั้งที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ” ผมพูดยังไม่จบวากดิษก็โพล่งไม่หยุดเลยครับ
“ เหมือนวันที่ปาเสื้อลงพื้นใช่มะ ” ผมถาม
“ พี่ ..... ไม่มีนิสัยแบบนั้นจริงๆนะ คิมนั่นแหละบีบพี่ ” ผมแกล้งดึงมือออกไปบีบคอมัน
“ บีบแบบนี้พอมะ ........ เอ่อ ” ไม่ใช่อะไรหรอกครับ วากบ้ามันหันหน้ามามองผมพอดี คิมหรือจะยอม .... หลบสายตาทันที
“ หันมา ” มีสั่งๆ
“ พูดต่อเหอะ อะไรภาพอดีตอะ ” ผมก้มหน้างุดๆ
“ บอกให้หันมา ”
“ ขู่เหรอ ........ เอ่อ ” พอจะหันไปเจอหน้ามันอีกรอบ คอมันหันกลับมาเองอะ เหมือนมีอะไรมาดึงไว้
“ นี่ไงล่ะที่บอกว่าไม่เคยเป็นหนึ่งเดียวกันซักที ...... หันมาช้าๆ มองพี่ชัดๆ ” ตอนนี้อะมือผมเย็นไปหมดแล้วครับ
“ ดิษ ..... อย่าเพิ่งดีกว่า แบบนี้มันจะไม่ได้พูดกันอะ ” ยอมรับแบบแมนๆเลย คือมองหน้ากันสามสี่วิ ถ้าอารมณ์แบบเพิ่งเคลียร์ปัญหาจบ ไม่ได้ทำอย่างอื่นหรอกครับ นอกจากแว่บๆกัน เหอะๆ
“ มองหน้าคนที่รัก ไม่ยากหรอก หันมาเถอะ ” ผมกัดฟันหันไปมองหน้าของมัน ใจของผมมันหวิววูบเหมือนตกจากที่สูงเลย ...... คนๆนี้เหรอที่บอกว่ามันหลงรักผมอะ
“ ดิษ ... ทำไมมึงต้องมาชอบกูด้วย ” ความรู้สึกตอนนี้ ผมเหมือนคนที่ดึงมันลงมา มันดูหล่อจริงๆด้วย ผมไม่เคยได้มองมันจากมุมนี้เลยซักครั้ง นอกจากโฉบไปซ้ายไปขวามองข้างๆ ไม่ก็ตอนโมโห แต่แววตาตอนนี้ของมันนี่สิ
“ เห็นอะไร บอกได้ไหม ”
“ ตา ...... มึงไม่ดุเลยนี่ ” วากดิษยิ้มกว้าง ตาของมันเหมือนจะมีน้ำตาซึม
“ คิมไม่เคยมองพี่ในมุมนี้เลยเหรอ มุมน่ารัก มุมที่อ่อนโยน ..... พี่ทำมาแทบจะตลอด ” กูตาถั่วเองแหละ มุมน่ารักอะนะ ฮุ้ว
“ ให้มองนี่มีอะไรอีกมะ ” วากดิษยังยิ้มไม่หยุด
“ พี่เลือกรอคิมเพราะพี่รอจะปกป้องเด็กบ๊องคนนั้น ...... พี่มองคิมเป็นเด็กบ๊องๆ พี่ลืมไปว่าคิมโตแล้ว ทำให้พี่ขาดสติจนทำร้ายคิมหลายครั้ง รู้ไหมว่าเวลาที่คิมส่งสายตาเกลียดชังพี่ มันทำให้พี่ใจแทบสลาย ...... พี่เลยบังคับไม่ให้คิมมองดีกว่า เพราะพี่ทนสายตาของคิมไม่ได้ ” ที่จริงผมน่าจะสัมผัสแววตาของมันตั้งแต่วันที่มันบอกว่ามันไม่มีความลับกับผมแล้ว
“ งั้นต่อไปถ้าเราส่งสายตาใส่ ดิษจะ ..... ”
“ พูดด่าพี่เหมือนเดิมเถอะ ถ้าคิมไม่พูดเอาแต่จ้อง พี่ทนไม่ได้แน่ ” ตอนนี้เป็นผมที่ยิ้มบ้าง
“ ดิษ มึงรักกูมากไปไหม ”
“ อยากได้ยินแบบไหนล่ะ ” ตอนนี้ก็ยังมองหน้ากันนะครับ
“ ขอไม่เสี่ยวอะ ..... อุ๊บบ ” พอขอไม่เสี่ยว มันเอาเสียวเลยครับ วากดิษจูบปากผมเน้นๆเลย ผมหลับตานิ่ง นี่มันตอบคำถามผมใช่ไหมเนี่ย
“ ว่าไง ” ยังจะถาม
“ ..... ” ผมหายใจแรงมากเลยครับ
“ เอ ..... ทำไมเวลาโดนจูบทำหน้าแบบนั้นล่ะ หรือว่า ..... จุดอ่อนน้องอยู่ที่ริมฝีปากเหรอ !!!! ” มันพูดเหมือนถูกหวยเลย ฮุ้ว
“ พอเลยๆ ”
“ ไม่พออะ มิน่าล่ะ น้องถึงจะเสร็จคนอื่นเค้าง่ายๆ ฮ่าๆๆๆ ”
“ ไม่ได้มีจุดอ่อนที่หน้าอกแล้วกัน นี่ !!!! ” ผมผลักวากบ้าลงไปนอน แล้วก็ลูบที่หน้าอก
“ หึหึ เราจะไม่คุยกันแล้วใช่ปะ เล่นจุดอ่อนกันเนี่ย ” ผมดึงวากบ้าลุกนั่ง
“ จะบอกว่าเรื่องลูกน่ะ พ่อพูดถูก ทุกอย่างมันฝังอยู่ในใจ ตอนนี้คิมคงจะไม่คิดมากแล้ว ”
“ จะโทษก็โทษที่พ่อหล่อเถอะเนอะ ” กูล่ะอยากกัดมึง เหอะๆๆ
“ หุ้นล่ะดิษ ทำไมไม่แค่บอกเราตรงๆ ...... แล้วทำอะไรน่ะ มาซุกหน้าอกเราทำไม ” วากดิษเอนหัวลงที่หน้าอกของผม ไม่รู้จะเล่นอะไรอีก
“ พี่กลัวคิมจะลำบากน่ะ พี่อยากแค่ให้คิมรับไว้ ”
“ รับอะไรเหรอ ”
“ รับทุกอย่างจากพี่ไง พี่ทำไปทั้งหมด ....... เพราะพี่รักน้องจริงๆ ” มือของผมเหมือนถูกบังคับให้ลูบหัวมันเลยครับ ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆ คำว่ารักผมที่พูดตอนนี้ ทำไมถึงต่างจากทุกครั้งนะ มันวูบวาบๆ เหมือนอะไรวิ่งไปทั่วร่างเลย ทำไมผมถึงไม่เคยรู้สึกแบบนี้นะ
“ อะไรวะเนี่ย ” ผมก้มลงจูบที่หัวเหม็นๆของวากบ้า แล้วก็กอดมันเอาไว้
“ น้อง ...... น้องครับ กำลังร้องไห้หรือปล่าว ” มันคงจะแปลกใจเหมือนที่ผมแปลกใจตัวเองอะ แฮะๆๆ
“ ปล่าว ”
“ พี่ว่ามันทะแม่งๆนะ น้องลูบหัว จูบพี่ กอดพี่ด้วยน่ะ ” พอกูจะหวานให้เห็นมึงก็เป็นแบบเนี่ย ฮุ้วว
“ ดิษ คิมรู้สึกว่า คิมตกหลุมรักดิษแล้ว .... โอ้ยยย เจ็บนะเว้ย ” วากดิษมันดันหัวออกจากอกของผมอะ
“ ว่าอะไรนะ ตกหลุมรัก หมายความว่าไง ....... ที่ผ่านมาไม่ได้รักพี่เลยเหรอ ” ผมได้แต่ยิ้มครับ
“ แล้วใครที่ข้ามขั้นตอน ไม่บอกรักก่อนล่ะ ” วากดิษท่าทางตลกมากครับ มันเอ๋อจนตาโต นิ่งเป็นหินเลย
“ พูดไม่ตลกเลยนะน้อง ที่ไร่นี่ไง หน้าเรือนนี้ พี่บอกรักแล้วไง ”
“ อย่าเหอะ ดิษขอเราเป็นแฟน เราพูดว่าเราซื้อดิษแล้วห้ามหนี แค่นั้นนี่ ” วากบ้าทำหน้าหมางงต่อ
“ ทุกทีพี่ก็บอกรักน้องนะ ”
“ คำพูดแบบนั้น คิมเคย ..... เอ่อ ” จะบอกว่าใช้บ่อยโดนมันจูบปากหายใจไม่ออกตายแน่ เหอะๆๆ
“ เรื่องนั้นพี่จะถามคิมทีหลัง แล้วๆ ..... ใช่แล้วตอนพี่ขอคิมแต่งงานล่ะ พี่ต้องเคยสารภาพกับคิมสิ ”
“ ตอนนั้นดิษบอกว่าใช้ชีวิตด้วยกันนะ ”
“ มันต่างกันด้วยเหรอ ” ทีนี้ล่ะใสซื่อเลยไง
“ ที่จริงมันไม่สำคัญหรอก แต่ความรักมันก็ต้องการการแสดงออกไม่ใช่เหรอ ก่อนๆนี้ความรู้สึกแบบเมื่อกี้ไม่เคยเกิดกับคิมมาก่อนในชีวิต ....... ตอนนี้คิมรู้สึกไม่อยากแยกกับดิษเลยอะ ”
“ ไม่ตกหลุมรัก ทำไมไม่บอกพี่เล่า ” นั่นไง
“ แล้วผมจะรู้ไหมพี่วาก ว่าตกหลุมรักใครมันเป็นแบบนี้น่ะ ”
“ แต่แบบนั้นก็ดี ” อารมณ์ไหนอีกวะ
“ ดีอะไร ” มันค่อยกุมมือทั้งสองข้างของผม แล้วก็หอมแก้มผม ตอนนี้ผมไม่รู้สึกเขินหรือขนลุกซู่ๆแล้ว
“ ก็ขนาดไม่ตกหลุมรัก คิมยังรักพี่ขนาดนี้ ...... ต่อไปพี่จะทำให้คิมรักพี่มากขึ้น คิมจะได้มีความสุขมากขึ้นไง ” นี่มันผู้ชายพูดกันเหรอเนี่ย ฮึ่ยยย
“ เลี่ยนเนอะ ” ผมแซว
“ ทีนี้เรามาคุยเรื่องเก่าๆกันดีไหม พี่อยากรู้ ”
“ เรื่องอะไร ” วากดิษเปลี่ยนท่านั่งให้ผมอยู่ในอ้อมแขนยาวๆของมันมั่ง ผมก็นิ่งให้มันดึงให้มันขยับครับ จะเหมือนตุ๊กตาไปทุกวันละ
“ ทำไมคิมถึงต้องเอากับผู้หญิงแทบทุกคนที่คบ ”
“ แน่ใจนะว่าคำถาม ” ผมขยับมานั่งเอาหัวชนกับมันแทน ท่านี้สะดวกกว่า แฮะๆๆ
“ อืมสิ ตอบมาเถอะไม่ต้องอาย ” ผมนั่งคิดอยู่พักนึงก่อนจะค่อยๆพูด
“ คือเราบอกไม่ได้ ....... ครั้งแรกของคิมเกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งตัว พอได้ลอง มันรู้สึกดี เวลาที่เราได้กอดใครซักคน ทำให้เค้ายิ้ม ..... ทำให้เค้าครางออกมา ไม่รู้สิดิษ ยิ่งเวลาที่เค้าขัดขืน คิมยิ่งจะทำให้เค้ายอม พอเค้ายอมคิมก็จะมัดเค้าไว้ด้วยสิ่งนั้นน่ะ เฮ้อ ไม่รู้จะพูดให้ดิษรังเกียจทำไม ”
“ คิมทำไปเพราะคิมขาดความรักน่ะ ”
“ ไม่จริงหรอกดิษ ...... มันเป็นนิสัย เล ...... อุ๊บบบบบ ” ไอบ้านี่ก็ขยันจูบปากกูเหลือเกินวันนี้
“ อย่าว่าตัวเองนะ พี่เจ็บ ” เออ จะจำไว้ เหอะๆๆ
“ ก็ไม่จริงเหรอ ”
“ พี่ว่าลึกๆคิมคงไม่เข้าใจพ่อ ทำไมไม่ให้คิมไปอยู่กับพี่ๆน้องๆ ทำไมต้องเป็นคิมที่อยู่ตัวคนเดียว พ่อก็ดูเข้มงวด แข็งกร้าว แม่ก็ไม่ได้พูดอะไร ....... รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง ทำนองนี้หรือปล่าว ”
“ ทำไมถึงรู้ล่ะ ”
“ ทุกครั้งเวลาพี่แอบมาที่ไร่ คิมก็ไม่ได้มีนิสัยคั่วสาวทุกคน ข้าวจ้าวน้องพี่ยังบอกเลยว่า คิมดูแลแขกดีมาก ..... แต่หลังงานจบคิมเหมือนเป็นคนที่ถูกลืม น้องคงคิดให้คนที่น้องมีเซ็กส์รักน้อง จดจำน้อง ก็เลยใช้หน้าหวานๆตัวขาวๆไปหลอกล่อเค้า ”
“ ระวังเหอะๆ พูดก็พูดไป อย่าแขวะ ” มันหัวเราะแล้วก็กอดผมแน่นขึ้น
“ พี่มั่นใจคิมมาตลอด เลยกล้ารอและแลกทุกอย่างให้ได้คบกับคิม ..... อย่าจมอยู่กับอดีตนะ ”
“ อืม ขอบคุณนะ ” แค่เค้าปล่อยเรื่องเก่าๆของผมผ่านไปผมก็รู้สึกดีแล้ว นี่มันเข้าใจผมถึงขนาดนี้ ผมคงขึ้นจากหลุมที่มันปล่อยผมตกลงไปไม่ได้แล้วล่ะ
“ คิมไม่สงสัยอะไรในตัวพี่แล้วเหรอ ”
“ มี ....... ครั้งแรกกับผู้หญิงรู้สึกยังไง ” วากดิษเงยหน้าแล้วนิ่งไปครู่นึง
“ พี่ไม่รู้สึกว่ามันจะดีกว่าช่วยตัวเองตรงไหน ” โห แรง อันนี้เถียงเลย คึคึคึคึคึ
“ เค้าไม่ใช่สเป็คม้าง ”
“ แน่นอน สเป็คพี่อยู่ใกล้ๆ รอให้พี่จูบนี่ไง ” มันจะจูบจริงอะครับ แต่ผมผลักหน้ามันออกไปก่อน
“ ขอเหตุผลได้ปะ อยากรู้จริงๆ ”
“ ครั้งนั้นพี่ก็ไม่ได้ตั้งตัว พี่เมา คนนั้นเค้าว่าเค้าทำให้พี่ได้ พี่กำลังสับสนตัวเอง ...... พี่เองก็อยากหลุดจากความคิดที่อยากได้คิมเหมือนกัน ” คราวนี้จุก งื้ออ
“ ผลล่ะ ”
“ เค้าก็ไม่ได้ติดใจอะไรพี่ พี่ก็เลยไม่สนใจเรื่องแบบนั้นอีกไง ”
“ เสียดายแทน .... โอ้ย รัดคอทำไมๆ ” มันเอาแขนมาล็อคคอผมครับ
“ พี่จะถอนทุนจากคิมนี่ไงเสียดายแทนทำไม ”
“ เออ เก่งจริงก็อย่าปล่อยเราแล้วกัน ” เราคุยกันไปแทบจะหมดทุกเรื่อง จนรู้สึกหนังตามันหนักๆ ก็เลยนอนลง แต่วากบ้าไม่วายพูดต่ออีก ทำให้ผมรู้ว่าวากดิษเป็นคนคุยเก่งมาก มุมมองก็ลึก แล้วก็กล้าด้วย กล้าที่จะรอให้ผมรักมัน
“ หลับนะ น้องคิมของพี่ ” ถึงไม่ขนลุก แต่หน้าอกมันจี๊ดอีกแล้วครับ ในที่สุดคืนที่ยาวนานก็ผ่านพ้นไป
ผมคิดว่าเราคงนอนกันไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเป็นผมที่สะดุ้งตื่นก่อนดิษ วันนี้ผมไม่อยากลุกไปจากมันเลย ผมพลิกตัวมามองหน้าวากบ้าตอนหลับ หึหึหึ วันนี้กูตื่นก่อนว้อย
ผมได้โอกาสมองมันชัดๆอีกครั้ง ทำไมมันชอบน้อยใจเวลาผมไม่แสดงความรัก ทำไมชอบถอดเสื้อให้ผมดู ทำไมต้องทำให้ดูดีตลอดเวลา ทั้งๆที่ผมไม่ได้ถือเอาหน้าตารูปร่างมาเป็นตัวตัดสินเลย ครั้งแรกที่ผมตอบตกลงเป็นแฟนก็อาจจะเกิดเพราะสงสารแต่ก็สองจิตสองใจอยู่ ตอนที่ครอบครัวรู้เรื่องเราทะเลาะกัน ผมสองคนแยกกันไปหลายรอบ แต่เราก็ไม่เคยมีคนอื่นมาแทนที่ของกัน วันนี้เองที่ผมได้เข้าใจ ..... มันแค่รักผมและผมก็แค่รักมันเท่านั้นเอง
ผมค่อยๆขยับลุกเอากันสาดบังแดดลงไว้ เผื่อวากบ้านอนขี้เซา ผมลงบันไดมาล้างหน้าล้างตาแล้วเดินไปที่เรือนใหญ่
“ อ้าว ทำไมเองตื่นเช้าจังล่ะ ” นั่นมัน .....
“ พ่อ ออกมานั่งข้างนอกได้ยังไง มีน้ำค้างนะพ่อ ” ผมรีบแจ้นเข้าไปหา
“ เคลียร์กับพี่ดิษจบไหมพี่ ..... กี่ยก ” ไอดิษน้อยปากมอมพาออกมานี่เอง
“ เกรงใจมั่ง พ่อกูนั่งอยู่ ”
“ อะไรของเอง คนรักกันเอากันกี่ยกน่าถามออกจะตายไป ” แล้วเค้าก็หัวเราะกันสองคน
“ เอามันไปเป็นลูกเลยไป ปล่อยเด็กบ๊องอย่างผมไปแล้วกัน ” พ่อของผมยิ้ม
“ บ๊องหรือไม่ เองก็เสร็จข้าวกล้องแหละน่า ” ไม่จบๆ
“ พ่อ .... เมื่อวานพ่อยังขยับไม่ได้ ทำไมนั่งรถเข็นออกมาล่ะ ”
“ มันไม่เชิงขยับไม่ได้หรอก แต่มันปวด ข้าป่วยมาหลายวันก็ต้องดีขึ้น .... มานี่มา ” พ่อของผมเรียกไปใกล้ๆ
“ ข้าเห็นข้าวกล้องแล้ว ...... เองต้องเอาใจใส่มัน รักมันให้มาก เพราะข้าไม่รู้ว่าพ่อมันจะไปวันไหน ถ้าวันนั้นมาถึง มันจะเสียศูนย์ เองต้องเป็นคนจับมันยืนขึ้น มันไม่เหลือแม่แท้ๆ ความรักที่มันมีต่อผู้หญิงเลยไม่ราบรื่น ข้ามั่นใจว่าที่มันปักใจไม่ยอมเรื่องเอง เพราะเงื่อนไขมากกว่าที่ว่ามันรักเอง ”
“ ผมยังไม่เข้าใจนะพ่อ แต่ผมรักมันมากขึ้นแล้ว ...... มึงขำอะไรไอเดย์ ” ไอเดย์หลุดขำออกมาแทรกอะครับ
“ โดนไปกี่ทีแน่พี่ ถึงรักมากขึ้น ” พ่อผมก็ดูจะไม่ถือสามันนะครับ อาจจะเพราะไม่คิดว่าผมจะถูกใครพูดเล่นได้ขนาดนี้ เมื่อกี้งี้ตบคว่ำหมด แฮ่
“ ปากแม่งลอกพี่มึงมาเลยนะ พ่อคิมไปหาแม่ก่อนนะ ”
“ แม่เองไปตลาดเช้า เดี๋ยวมารอกินข้าวด้วยกัน ”
“ ผมไปเดินเล่นนะ ” พ่อของผมจับมือผมเป็นสัญญาณว่าให้เข้มแข็ง จากนั้นผมก็เดินไปที่หลังไร่ซึ่งไกลทีเดียวครับ
ไร่ของผมอยู่สูงกว่าไร่คนอื่นๆอีก เพราะเป็นเนิน ทำให้ฤดูน้ำมาทีไร ไร่ผมมักจะรอด อันนี้พ่อของผมเป็นคนเลือกซื้อ และมันก็เป็นเหตุที่ทำให้พ่อผมมีฐานะกว่าคนรอบข้าง เพราะพ่อผมเลือกปลูก เลือกดู ถึงแม้ผมไม่ได้สนิทกันตอนนั้น แต่ผมก็ศึกษาจากพ่อมาตลอด
หลังไร่จะมีต้นไม้สูงใหญ่อยู่ต้นนึงผมตั้งชื่อเรียกคนเดียวของผมว่าปู่ อยู่ในพื้นที่ซึ่งพ่อผมซื้อมาทีหลัง เหตุผลก็เพราะเจ้าของไร่จะทำรีสอร์ทจำเป็นต้องตัดมันทิ้ง พ่อของผมยอมเสียเงินไม่น้อยซื้อเพื่อเก็บต้นไม้ต้นนี้ไว้ ....... ครั้งนึงผมเคยอธิษฐานบ้าๆว่า ขอให้ผมได้เจอคนที่รักผมที ผมทนรักคนอื่นโดยเค้าไม่รักตอบไม่ได้ วากดิษพูดไม่ผิดเลยว่า ผมโหยหาความรักจริงๆ ผมอาจจะสมหวังเร็ว ได้มีอะไรกัน แต่ก็เพราะผมใช้สิ่งนั้นสนองตัวเอง ก็เลยถูกคนอื่นแย่งไปบ้าง เค้าจากไปอย่างรวดเร็วบ้าง นั้นเพราะผมหาความรักแบบผิดๆมาตลอด ไม่ว่าจะด้วยอะไร ผมยอมรับว่าผมทำผิด
ผมค่อยๆนั่งลงที่โขดหิน ซึ่งพ่อผมเอามาวางตกแต่งไว้
“ ปู่ ผมว่าผมเจอแล้ว ” พูดคนเดียวซะเลย หึหึหึ
“ แอบเดินมาหลังไร่ทำไมน้อง ” ผมค่อยๆหันกลับไป ..... ปู่ว่าใช่ไอคนนี้ไหมครับ เหอะๆ
“ ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะ ” วากดิษยิ้มให้ผม
“ พี่ตื่นก่อนน้องนานแล้ว ..... ได้จ้องหน้าใสๆของพี่ไหม ” ผมงงครับ
“ พูดอะไรอะ ”
“ ถ้าไม่จ้อง พี่แกล้งหลับตาเสียปล่าวเลยนะ ” ไอวากตัวแสบ
“ ต่อไปกูจะมองหน้ามึง หมดหล่อเมื่อไรกูทิ้งแน่ ..... ว่าแต่หาเจอได้ยังไง ไม่เคยพามาเลยนี่ ” วากบ้าเดินมานั่งข้างๆผม
“ พี่ยืนเล่นแถวหน้าเรือน กำลังคิดว่าทำไมถึงข้ามไม่บอกรักน้อง ก็เห็นคิมเดินฉับๆมาทางนี้ ก็เลยย่องตามมา อยากรู้ว่าคิมจะทำอะไร ”
“ แล้วคิดว่าคิมทำอะไร ”
“ เห็นคิมพูดคนเดียว พี่เลยกลัวคิมเป็นอะไรน่ะ .... เจอแล้วนี่อะไรเหรอ ” ผมมองหน้าวากดิษไม่วางสายตา ทำไมเวลาพูดถึงผม มันต้องเอ็นดูขนาดนี้ด้วยนะ
“ คิม ........ ไม่บอกดีกว่า เป็นความลับของคิมกับปู่ ” ผมลุกขึ้น
“ ไหนว่าจะไม่มีความลับกันไง น้อง ..... น้อง ” ผมเดินกลับมาเลย วากบ้าก็ทั้งดึง ทั้งเดินมาดักหน้า ผมก็ได้แต่หัวเราะครับ ปู่ ผมไม่แค่เจอนะ ผมว่าผมรักไอนี่แล้วด้วย
********************************************************************************
ความจริงแล้ว ผมเคยวางเอาไว้ว่าจะเอาหน้านี้ วรรคนี้เป็นตอนจบ ไม่ใช่เปลี่ยนใจนะ แต่เพราะสนุกดีที่ได้พิมพ์สิ่งเหล่านี้นะครับ คนอ่านทุกคนทำให้ผมรู้สึกว่าเขียนต่อก็ดี น่ารักทุกคนๆ แฮะๆๆ
วรรคนี้อาจจะไม่ยาว เพราะความจริงกะเอาไว้ให้ต่อกับวรรคที่แล้ว แต่มันพิมพ์ไม่ทัน ก็เลยเว้นช่วงมา ไม่โกรธน้าๆ
เดิมทีผมคิดว่าเรื่องเศร้าของดิษเรื่องพ่อของเค้าไม่เล่าดีไหม แต่พอจบหน้านี้ ก็เป็นใบแทรกนั้นต่อ มันมีรายละเอียดที่ไม่รู้จะเหมาะไหม ถามคนอ่านดีกว่า ว่าข้ามปะ ถ้าข้ามก็จะตัดตอนเลือกเอาคู่ผีบ้าพานกับริชเล่าไป พูดอย่างกับจะพิมพ์ง่าย เหอะๆๆ
ปล.ตอบอาการพ่อของผม ดีขึ้นครับ เมื่อไม่กี่วันก็มาที่โรงพยาบาลแม่พี่วาก คงใกล้วางมือจริงๆ ก็รอดูอาการครับ
ปล.ต่อ หายไปสองวันไม่ใช่ไม่ได้อะไรนะครับ มันมีเหตุบังเอิญเรื่องพี่กริชกับพี่แบงค์ ทำให้ผมได้แสดงบทวากเกอร์ แฮะๆๆ ณ วันนี้เค้ายังไม่เลิกกัน แต่ความสัมพันธ์ไม่รู้ครับ เสาร์อาทิตย์นี้ เอาใบแทรกเรื่องนี้เนอะ
คิดถึงและขอบคุณทุกคนนะครับ