ตอนที่ 51 วันหยุดสุดสัปดาห์
จากวันนั้น วันที่ผมรู้สาเหตุที่ทำให้ไอ้หล่อมันกลายเป็นคนมีแผลในใจ ผมในฐานะชายหนุ่มรูปงามผู้มีเมตตาต่อชาวโลก (ใครอ้วกห๊ะ ใครอ้วก มาตัวๆเลยมั้ย) เลยพยายามเอาอกเอาใจภูมิทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แบบว่าน้องภูมิไม่ต้อง เดี๋ยวป๋าพีมจัดให้
จนภูมิมันสงสัย(หรือรำคาญก็ไม่รู้) หาว่าผมไปกินยากล่อมประสาทมาจนสมองกลับ แค่นั้นแหละ กูเลิกสนใจมันเลยแม่ง :m16:ไอ้ภูมิก็ขำใหญ่ มันกอดคอผมโยกเบาๆ ก่อนจะกระซิบคำนึงว่า
“ตั้งแต่มีมึงเดินเข้ามาในชีวิตกูก็ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องพยายามทำอะไรเพื่อกูทั้งนั้นเข้าใจมั้ยเตี้ย เพราะแค่มีมึงอยู่ข้างๆกูแบบนี้…ก็พอแล้ว”
การที่เราได้เป็นคนสำคัญของใครซักคน มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษมากจริงๆนะครับ ชีวิตผมช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีไรมาก แม้จะใกล้เทศกาลสอบไฟนอลแล้วก็ตาม เหอๆ ผิดกับหมาภูมิลิบลับ รายนั้นชีวิตวุ่นวายมากกกกกกกก เพราะมันเริ่มแข่งบาสมาได้ซักพักแล้ว แข่งเหนื่อยซ้อมหนัก ก่อนวันแข่งโค้ชก็ให้พวกมันไปเก็บตัว(เก็บกันยังไงไม่รู้ ไอ้ภูมิถึงได้แอบโทรมาหาผมได้ทุกครั้ง ฮ่าๆ)
ผมก็ไปดูมันแข่งบ้างไม่ไปบ้างเพราะสถานที่ในการจัดการแข่งขันอยู่ต่างมหาลัย มหาลัยเจ้าภาพก็อยู่ไกล๊ไกล จะให้ผมไปดูทุกครั้งที่มันแข่งก็คงไม่ไหว(แต่จริงๆแล้ว ก็อยู่แถวๆมหาลัยผมนี่แหละครับ ฮ่าๆๆแต่ที่ผมไม่ไปเพราะขี้เกียจต่างหาก กรั่กๆ)
ส่วนผลการแข่งขัน ทีมไอ้ภูมิก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง พรุ่งนี้พวกมันจะแข่งรอบชิงชนะเลิศกับแชมป์เก่าแล้วครับ และมันคงไม่น่าห่วงเท่าไร ถ้าแชมป์เก่าไม่ใช่มหาลัยเจ้าภาพ คงต้องวัดทั้งฝีมือ วัดทั้งดวงล่ะครับงานนี้
ไอ้ภูมิมันถูกโค้ชเรียกไปเข้าสถานกักกัน?ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ส่วนผมที่อุดอู้อยู่บ้านมาตั้งแต่วันศุกร์ วันนี้เลยได้ฤกษ์ดีออกมาเปิดหูเปิดตาซะหน่อย และสถานที่ที่ผมเลือกไปสิงสถิต ก็คือ บ้านไอ้คิวครับ^O^
เป็นบ้านสองชั้นขนาดกลางๆในหมู่บ้านจัดสรรธรรมดาๆนี่แหละครับ มันย้ายออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้ว เพราะไอ้คิวมันเป็นพวกกระหายความอิสระ ไปอยู่คอนโดก็กลัวคนข้างห้องผูกคอตายเพราะรำคาญเสียงมันซ้อมดนตรี
ถ้าอยู่ที่วังยศวาทินเดี๋ยวพ่อกับแม่อาจจะถูกลูกชายหลอนเวลาที่มันแสดงความเป็นศิลปินออกมา เช่น ตะโกนโวยวายเวลาวาดรูปส่งไม่ทัน ทะเลาะกับถังสี กระดาษ ดินสอประหนึ่งว่ามันมีชีวิต(ซึ่งผมก็เป็นในบางครั้ง)
จึงถือเป็นการดีต่อทุกชีวิตที่ไอ้คิวมันย้ายมาอยู่คนเดียวแบบนี้ โดยเฉพาะพวกผมที่ชอบโดดเรียนมากินเหล้ากับพวกไอ้หนึ่งบ่อยๆ (เยาวชนอายุต่ำกว่า18 ห้ามลอกเลียนแบบนะครับ เพราะมันจะติดจายยยย ฮ่าๆ)
และด้วยว่าโครงการบ้านจัดสรรแห่งนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวมัน เชี่ยคิวเลยหัวใสชวนไอ้แทนมาอยู่ด้วย เพราะบ้านนี้เป็นบ้านแฝด มีบ่อปลาคราฟและสะพานไม้เล็กๆกั้นบ้านทั้งสองหลังที่อยู่ภายในรั้วเดียวกัน
มันยิ่งเข้าทางไอ้ฟ่างเลยครับ เพราะเชี่ยนั้นก็ติสไม่แพ้กัน ไอ้คิวเคยเล่าให้ผมฟังว่า มีอยู่ครั้งนึงมันเห็นไอ้ฟ่างปีนหลังคาออกไปต่อเติมสิ่งประดิษฐ์ที่มันสร้างขึ้น ไอ้แทนกลับมาเจอเท่านั้นแหละครับ แข่งโต้วาทีปะทะฝีปากกันซะบ้านแทบแตก เป็นท็อปปิคที่ไอ้คิวเอาไว้แซวไอ้ฟ่างอย่างสนุกปากอยู่พักหนึ่ง
“แม่งไปตายห่าที่ไหนว่ะ คิวววว ไอ้คิว เปิดประตูให้กูหน่อยโว้ยยยย” ผมยืนแหกปากทั้งกดกริ่งอยู่เป็นนานเชี่ยคิวก็ไม่มาเปิดประตูซักที โทรเข้ามือถือก็ไม่รับ นี่มันจะเที่ยงแล้วนะเฟ้ย อย่าบอกว่ามึงยังไม่ตื่นอีกนะ แถมประตูเล็กก็เสือกเปิดไม่ได้อีก ด้วยความหงุดหงิดผมเลยเตะประตูเหล็กให้เจ็บตีนเล่นๆ แม่งกูไปหาไอ้แทนก็ได้ว๊ะ
ผมเดินมาสองก้าวก็ถึงหน้าบ้านไอ้คู่รักในตำนาน มองเข้าไปในบ้าน อืมมม รถไอ้ฟ่างไม่อยู่ แต่หวังว่าจะมีใครซักคนอยู่บ้านนะ เพราะผมไม่อยากมาเสียเที่ยว ผมกดกริ่งไปด้วยพลางลองผลักประตูเล็ก คราวนี้เปิดได้เว้ย เย้ๆๆๆๆๆ
“อ้าว มึงมาได้ไง” เป็นไอ้ฟ่างที่เดินออกมาหาผม ในสภาพใส่กางเกงเลตัวเดียว โชว์ผิวท่อนบนขาวๆ มันใส่ที่คาดผมสีน้ำตาล มีดินสอเหน็บอยู่ข้างหู ส่วนในมือมีเศษกิ่งไม้หรืออะไรซักอย่าง
“กูอยู่บ้านคนเดียวมันเซ็งๆเลยออกมาหาพวกมึง แล้วนี่มึงทำไรอยู่วะ”
“กำลังจะขึ้นโมเดล กูไม่ได้นอนมาสองคืนแล้วเชี่ย มึงแดกไรมายัง” ไอ้ฟ่างมันทิ้งผมไว้ในห้องรับแขกก่อนจะหายไปในครัว เอ่อ เชี่ยฟ่างสงสัยจะไม่ได้นอนจริงๆ
ผมไม่ได้มาบ้านพวกมันเป็นเดือนแล้วมั้ง เคยรกยังไงก็รกอย่างนั้น โคมไฟหน้าตาแปลกๆ โครงเหล็ก โครงลวด ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ แผงไฟฟ้า กระจัดกระจายทั่วบ้านเลย จะผิดไหมถ้าผมจะบอกว่าที่ห้องผมกับภูมิก็สภาพนี้แหละ
“ข้าวเช้ากินแล้ว แต่ถ้ามึงมีอะไรอร่อยๆกูก็สามารถยัดได้อีก เออฟ่าง แล้วบ้านนู้นไมเงียบจังวะ กูยืนเรียกไอ้คิวตั้งนาน โทรไปแม่งก็ไม่รับโทรศัพท์”
“สงสัยไอ้เต้ยมาค้างมั้ง เมื่อคืนกูได้ยินเสียงเหมือนหม้อกับกระทะปะทะกัน แม่งฆ่ากันตายแล้วกูว่า”
“หึหึ” ไอ้ฟ่างกลับออกมานั่งบนโซฟาตรงข้ามผม พร้อมด้วยน้ำเย็นๆกับแก้วใสๆรูปทรงแปลกตา “แก้วแปลกดีนะ มึงซื้อที่ไหนวะฟ่าง”
“กูทำเอง มันไม่ได้แปลก เค้าเรียกว่ามีสไตส์ และมึงต้องมองว่ามันสวยเท่านั้น เพราะถ้ามึงคิดเป็นอื่นเดี๋ยวศพมึงจะไม่สวย โอเค๊ แล้วน้องกูล่ะ” แม้แต่ความคิดความอ่านกู มึงยังจะบังคับ เหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง ฮึ่มมมมมม
“ไปเก็บตัว พรุ่งนี้มันแข่งนัดชิง มึงรู้แล้วใช่มั้ย”
“อืม แล้วออกมาแรดข้างนอก มึงบอกมันรึยัง หึหึ ไม่ใช่โดดซ้อมออกมาลากคอมึงกลับกรงทองนะ”
“สัส แล้วนี่มึงอยู่คนเดียวเหรอ ไอ้แทนไปไหน”
“ออกไปฟู้ดแลน เออ รู้สึกจะไปนานแล้ว มึงกินไรมั้ยพีมเดี๋ยวกูจะบอกมันซื้อเข้ามา”
“อะไรก็ได้” แล้วมันก็คว้าโทรศัพท์โทรหาไอ้แทน
“เออแทน …..ไม่ต้องมาครับกับกู…… ทำไมรับช้า รอพ่อมึงโอนสายอยู่รึไง……. ซื้อข้าวเข้ามาเผื่อไอ้พีมด้วย …….ไม่รู้มันคงคิดถึงกูมั้ง……เออ ให้ไวอย่าให้กูต้องโทรตามอีก” มันนั่งชันเข่าข้างนึงบนโซฟา แขนข้างเดียวกันก็วางบนเข่า ในมือมีบุหรี่ที่ยังไม่ได้สูบ “เพื่อนมึงมันประสาท ชอบทำให้กูโมโห”
“หึหึ ไม่ถูกใจก็หาใหม่เลยดิ”
“ปากดีนักนะมึง เดี๋ยวได้พี่ชายผัวเป็นผัวอีกคนหรอก ฮ่าๆ” ไอ้ฟ่าง ไอ้เชี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผมนั่งดูทีวีรอข้าวฟ่างขึ้นไปอาบน้ำ ซักพักเสียงรถไอ้แทนก็พร้อมกับเสียงโวยวายเรียกให้ไปช่วยถือของ
“เมียจ๋าาาาาาา แทนกลับมาแล้วจ๊ะ เมียเอาหน้าหล่อๆมารับผัวหน่อยเร้ววววว” ซักพักเสียงวิ่งลงบันไดตึงๆก็ตามมา ผมเห็นหลังไอ้ฟ่างไวๆออกไปหน้าบ้าน
และ.......
“ไอ่ควายยยยยยยยยยยยยยยย”หึหึ ชีวิตวันหยุดของพวกมึงเป็นแบบนี้นี่เอง
พวกผมนั่งกินข้าวฝีมือไอ้ฟ่าง ที่มีผมเป็นลูกมือ รสชาติก็ไม่ได้อร่อยมาก แต่ก็ไม่ได้แย่มาก เอาง่ายๆว่าพอกินได้ แต่ไอ้แทนมันคงชินรสมือแฟนมันแล้วมั้ง แต่ผมว่าต่อให้ฟ่างเอาเปลือกฟักผัดใส่ผักตบชวาไอ้แทนมันคงว่าอร่อยอยู่ดี
“ไอ้พีม เทพผู้พิทักษ์มึงไปไหนถึงได้ปล่อยมึงให้ห่างมันได้” เอาอีกแล้ว เมื่อกี้ไอ้ฟ่างเพิ่งถาม มึงก็ยังจะอยากรู้อีกนะเชี่ยแทน
“ไปซ้อมบาส”
“เออ ฟ่างบอกว่ามันจะชิงพรุ่งนี้เหรอ เก่งนี่หว่าน้องเมียกู แล้วมึงจะไปดูไอ้ภูมิมั้ยข้าวฟ่าง”
“ไปดิ น้องกูแข่งทั้งคน”
“นี่ก็ผัวทั้งคน”
ผั๊วะ!!!!!!! เต็มๆ ฝ่ามือไอ้ฟ่างเต็มๆ กลางกบาลไอ้แทนเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้า
“โอยยยยยยยยย ฟ่างกูเจ็บนะเว้ย พีมมึงดูมันดิ ดูมันทำร้ายเพื่อนมึง”
“เอาอีกซักทีมั้ยวะ ฮ่าๆ” ผมนั่งขำมันสองตัวตีกันไป กินข้าวไป ไอ้แทนก็ขยันแกล้งแฟนซะเหลือเกิน ไอ้ฟ่างก็ไม่รู้โมโหหรืออายผมกันแน่ โดนแหย่ทีไรเป็นลงไม้ลงมือ กัดปากทำตาดุใส่ ไอ้แทนยิ่งได้ใจ แม้จะเอะอะเสียงดังโวยวายไปซักหน่อย
แต่มันก็เป็นบรรยากาศดีๆในแบบของพวกมัน ในวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้
“เออแทน ทำไมตู้เย็นพวกมึงมีสปอนเซอร์เยอะจังวะ”
“อ่อ กูเอาไว้ดื่มตอนเสียเหงื่อ ทดแทนน้ำที่เสียไปหลังทำกิจกรรมยามดึกไงพีม หึหึ โอ๊ย ฟ่าง กูเจ็บ ฟ่างหยุด เจ็บๆๆ พอแล้ว ฮ่าๆ”
เพล้ง!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงเหมือนแก้วแตกทำให้ไอ้ฟ่างหยุดทุบไอ้แทน พวกผมมองหน้ากัน ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูบ้านอีกหลัง ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งที่มาของเสียง เพียงแต่พวกผมยังไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ให้กำเนิดเสียง
แต่ดูเหมือนไอ้แทนกับไอ้ฟ่างมันจะรู้ มันหันกลับมากินข้าวกันต่อเหมือนชินเป็นเรื่องปกติแล้ว อ้าว แล้วกูล่ะ บอกกูบ้างสิเฮ้ย พวกมึง
“เสียงไรวะแทน เหมือนจะดังมาจากบ้านไอ้คิว”
“หึ แบบนี้ประจำอ่ะมึง ถ้าวันไหนได้ยินเสียงแก้ว เสียงหม้อแตกนะแสดงว่าไอ้เต้ยมา ฮ่าๆๆ เนอะฟ่าง” นี่มันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอผมนึกว่าไอ้ฟ่างพูดเล่น
แล้วเสียงแหกปากโวยวายก็ดังตามมาครับ
“เต้ย มึงเข้าใจมั้ยว่ากูทำไม่เป็น ดูปากนะ กู ทำ ไม่ เป็น โว้ยยย”
“ก็เต้ยอยากกิน พี่คิวทำเลย ทำเดี๋ยวนี้ เต้ยจะกินน้ำตก”
“ก็บอกว่าทำไม่เป็นๆ มึงอยากแดกมากใช่มั้ย นู่นเจ็ดสาวน้อย ไปแดกให้ท้องแตกเลยไป”
“พี่คิวบอกเต้ยไปแดกน้ำตกให้ท้องแตกตาย พี่คิวเห็นเต้ยเป็นชูชก พี่คิวไม่รักเต้ย”
“โอยยยย แม่ง เออๆ ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวกูพาไปกิน”
“เยสสสสสสสสสส รักพี่ที่ซู้ดดดดดดดด”
“เฮ้ย บอกให้ไปอาบน้ำ มึงจะเดินตามกูมาทำไมเนี้ยยยยยย”
“ก็เต้ยอยากอยู่ใกล้ๆพี่คิว”
“โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
กร๊ากกกกกกกกกกกก ชีวิตวันหยุดสุดสัปดาห์ของมึงน่าสนใจที่สุดแล้วว่ะคิว
…………………………………..
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึงครับ ^o^ วันที่พวกไอ้ภูมิไอ้คลื่นจะสร้างชื่อเสียงให้กับมหา’ลัย การแข่งขันบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยรอบชิงชนะเลิศกำลังจะเริ่มต้นขึ้นครับ บรรยากาศก็คล้ายๆกีฬาภายในมหาลัยผมแหละ แต่อาจจะคึกคัก คึกครื้น ครื้นเครงกว่า ก็นะ…ศักดิ์ศรีสถาบันมันก็ต้องเต็มที่สิ
กองเชียร์ฝั่งนู้นก็จัดเต็มเลยครับ…. แน่ล่ะเขาเป็นเจ้าภาพนิ คนก็ต้องเยอะกว่าอยู่แล้ว แต่ฝั่งผมชมรมเชียร์ก็ใช่ย่อย หอบกันมาโชว์การเชียร์รั่วระดับเทพ นำโดยท่านอุปนายกองค์การนักศึกษาปันปัน และคู่หูดูโอ้ไอ้มิคที่ไปยืนเก๊กหล่อเป็นอาหารตาให้น้องๆกองเชียร์ ปวดหัวกับมันจริงๆ
รวมถึงประธานชมรมเชียร์อย่างอีกรีนกับสาวๆแก็งค์มันครับ ที่ยกโขยงมาเอ็นเตอร์เทนกันแบบเต็มสตรีม เชียร์กันให้ตายไปข้าง (ข่าววงในจากภูมิบอกว่าเห็นพวกมันมาดูทุกครั้งที่ภูมิแข่ง หึหึ แฟนพันธ์แท้จริงๆนะพวกมึง)
และที่เป็นไฮไลค์สุดๆของงานต้องนี่เลยครับ ประธานรุ่นนิติศาสตร์อย่างราชนิกุลเบียร์ที่เสียสละไปช่วยตีกลอง ยิ้มหวานปล่อยคาริสม่าออร่าผู้ดีให้สาวแท้สาวเทียมทั้งสองมอเคลิ้มกันเป็นแถบๆ
ผม ไอ้เชน ไอ้คิว ไอ้เต้ย ไอ้แมท เพิ่งจะมาถึง เพราะเพิ่งจะเรียนคาบเช้าเสร็จ ไอ้แทนโบกมือเรียกพวกผม เด่นอีกแล้วครับ โดนมองอีกแล้ว ไอ้เชนมึงรีบเดินสิ ฟายยย จะหันไปยิ้มทำไมว่ะ พอมาถึงไอ้ฟ่างก็ลุกขึ้นไปนั่งบนแสตนชั้นสามเพื่อแบ่งที่ให้พวกผม มันกางขาคร่อมไอ้แทนที่นั่งอยู่ต่ำกว่า แถมยังจับหัวไอ้แทนเล่นอย่างกับเป็นหมา ฮ่าๆๆ
“เชนขาาาาาาาา จี้ปวดฟันจังค่ะ เชนช่วยถอนให้จี้ซักทีสองทีหน่อยสิค้าาา” อีจี้อดีตเมียผม ทิ้งน้องบนแสตนวิ่งถลาเข้าหาไอ้เชนทันทีที่พวกผมหย่อนก้นลงนั่ง ไอ้เบียร์ ไอ้ปัน อีกรีน ก็ตามมา ปล่อยไอ้มิคกับพวกพี่ๆปีสี่โซโล่กันไป
“ใช่ค่ะเชน เวลาเคที่เห็นหน้าเชน เคที่ก็รู้สึกเหมือนหัวใจมันหวิวๆ สงสัยจะเป็นโรคหัวใจ” ไอ้แทนถึงกับขำก๊าก เลยถูกอีเคที่ทำหน้าเซ็กซี่ใส่ คราวนี้คนที่หัวเราะลั่นเลยเป็นไอ่ฟ่าง
“อีเคที่ ไหนมึงบอกกูว่ามึงเป็นโรคถวิลหาผู้ชายริซึ่มไงวะ ตกลงมึงเป็นโรคอะไรกันแน่ ห๊ะ” ผมแขวะบ้าง อีเคหันมาทำตาขวางใส่ผมแทบจะทันที
“นะค่ะเชนขา เคที่ป๊วดปวด”
“ถ้าเคที่กับจีจี้ว่างเมื่อไร ค่อยมาตรวจแล้วกันครับ^_^”
“กรี๊ดดดดดดดดดด เชนขาน่ารักที่สุด ไม่เหมือนผัวอีกรีน”
“อ้าว สลิดนะค่ะอีนี่ อีขยะเปียก หล่อนอย่าริมาว่าผัวคิวของกูนะค่ะ เพราะถึงมันจะเหี้ย ปากเสีย แต่มันมีของดีสี่นิ้วครึ่งเชียวนะมึง”
“กร๊ากกกกกกกกกก” สี่นิ้วครึ่ง ฮาม้ามแตกเลยกู ไอ้คิวควันออกหูเลยครับ
“อีห่า คูณสองให้ไว” ไอ้คิวตามไปบิดนมอีกรีน มันร้องกรี๊ดๆๆๆ ซะแสบแก้วหู มีไอ้เต้ยที่นั่งหัวเราะเชียร์แฟนมันซะยกใหญ่ ไอ่พวกนี้แม่งโรคจิต เห็นคนอื่นเจ็บแล้วมีความสุข
“ต๊ายตาย คูณสองเลยเหรอค่ะผัวขา อืม….สี่สองแปด โอ้วววว มาย กั๊ด เท่าของผัวเก่ากูเลย ฟินมั่ก ฟินมั่กมาก” อีกรีนแอ็บทำตาโต เอามือปิดปาก อีกข้างทาบอก แอคติ้งมึงจะดีไปไหนครับคุณเพื่อน
“เฮ้ย จริงดิ ผัวมึงแปดนิ้วจริงหรอว่ะกรีน อะไรมันจะไปยาวขนาดนั้น”
“จริงค่ะ”
“เชี่ยยยยยยยยยยย คนหรือช้างแมมมอธ” ไอ้ปันผู้มีปัญหาในด้านนี้ถึงกับต้องออกมาแสดงจุดยืนเลยครับ ฮ่าๆ อีกรีนมันก็จีบปากจีบคอพูดต่อ อีเคที่กับอีจี้จะสำเร็จความใคร่ทางลมหายใจกับไอ้เชนแล้ว ฮ่าๆ แม่งคิดได้นะมึงจีจี้ มันบอกว่าได้เสียกันทางลมหายใจก็ยังดีครับ
“จริงๆค่ะมึง หูยยย แปดอ่ะยังน้อยไปเมื่อก่อนอ่ะสิบนิ้วเลยนะค๊า”
“เวร แล้วทำไมถึงเหลือแค่แปดนิ้วว่ะ มันหดลงหรือว่ายังไง” ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะ แหะๆ
“เปล่าย๊ะ ไม่ได้หด แต่มันขี่มอเตอร์ไซค์ล้ม นิ้วขาดไป2นิ้ว หมอแม่งต่อให้ผัวกูไม่ทัน มันเลยเหลือแปดนิ้ว กร๊ากกกกกกกก”
OoO
“อีเขียว อีดอก อีช้างเย็ส กูนึกว่าพูดเรื่องเจี้ยว อีห่ามึงหมายถึงนิ้วเหรอว่ะ พวกมึงเอามันไปไกลๆกูเลยนะ อย่าให้มันเข้าใกล้กูเดี๋ยวคนจะคิดว่ากูรู้จักมัน” ไอ้คิวถึงกับสาปส่งแก็งค์สาวสวยเลยทีเดียว
“ฮ่าๆๆๆ”
แล้วพวกมันก็กลับไปหาน้องๆกองเชียร์ต่อ แต่ก็คอยแวะเวียนมาหาพวกผมไม่ขาดเพราะแสตนมันติดกัน มีกองเชียร์บางคนไม่มองในสนามแต่ว่าหันมามองพวกผมแทน เอ่อ……