ขอบคุณสำหรับคำชมอิมเมจพี่แมน (ที่ต้องรีทัช 55) วันนี้ก็เช่นเดิมค่ะ ไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้ เพราะงานร้อนมากค่า
เอาล่ะ มาต่อกัน!++++++++++++++++++++
กตัญญูพาเนียนมาพักอยู่ที่เรือนใหญ่ของคุณหญิงจิตตราได้สามวันตามที่ว่า ก่อนจะพาเธอกลับไปส่งที่บ้านต่างจังหวัด ซึ่งคุณหญิงจิตตราก็ดูจะพอใจในว่าที่สะใภ้ของแม่ศรีคนนี้ไม่น้อย และทุกครั้งที่เอ่ยถึงรามินทร์ก็มีท่าทีไม่พอใจนัก หลังจากส่งเนียนกลับบ้านแล้ว ชายหนุ่มจึงกลับมาทำงานตามปกติ โดยที่ไม่ได้พูดถึงเรื่องของเนียนหรืออะไรให้รามินทร์ได้ยินอีกเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจนักจึงพยายามไม่พูดถึง จนกระทั่งวันหนึ่ง
"เฮียแมน...มีจดหมายส่งมาที่ร้านอ่ะ แต่จ่าหน้าถึงพี่อ่ะ" ร่างผอมๆของเจ้าน้อยเดินกึ่งกระโดดเด้งมาจากหน้าร้านเข้าไปในห้องครัว
"มาเป็นห่อเลยพี่อะไรอ่ะ.... "
"ไม่ต้องถามมากน่า เดี๋ยวได้ยุ่งจนแกจะบ่นแน่" กตัญญูยิ้มน้อยๆก่อนจะแกะห่อด้านในออก
" ทวงหนี้รึเปล่าพี่ หนามาเลย? " จิ๊บเองก็หันไปชะโงกบ้าง
"เจ้านี่ก็ถามอีก อยากรู้ก็ดูซะ" ชายหนุ่มร่างสูงว่าพลางดึงเอาปึกกระดาษสีงาช้างเงาเลื่อมระยิบออกมาจากด้านในอีกห่อเป็นซองสีเข้าชุดกัน
"เอ้ยยยยย เฮียแมนจะแต่งงานเหรอ" เจ้าน้อยร้องลั่นเมื่อเห็นการ์ดด้านในที่มีตัวอักษรสีทองลงชื่อของกตัญญูคู่กับผู้หญิงอีกคน
"อืม....." เสียงนั้นรับคำแผ่วเบา ดวงตาแฝงแววยากจะเข้าใจ"เอาเป็นว่า เดี๋ยวพวกนายช่วยเอาการ์ดมาใส่ในซองด้วยล่ะ" กตัญญูสรุปใช้งานน้องเสร็จสรรพ
++++++++++++++++++++
สุดท้าย หลังจากว่างงานในช่วงบ่ายแก่ๆ เด็กหนุ่มทั้งสองคนจึงต้องช่วยกันนำการ์ดใส่ซองให้เรียบร้อย โดยที่จิ้บมีหน้าที่เขียนหน้าซองตามที่ว่าที่เจ้าบ่าวได้ร่างเอาไว้ให้
" นี่ตัวอะไรอะพี่แมน .. คุณ ประภัสรา..เหรอ? " เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถามทั้งๆที่ก้มหน้าก้มตาเขียนหน้าซองอย่างตั้งใจอยู่ที่โต๊ะว่างๆหน้าร้าน
"ประภัสรา" เสียงรามินทร์ดังมาจากด้านหลังร่างเล็กยืนนกอดอกชะโงกหน้ามองมายังการ์ดที่จิ๊บกำลังจะเขียน
" อะ..คุณรามินทร์? " เสียงที่ไม่คุ้นเคยทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองและเมื่อพบว่าเป็นเจ้าของร้าน เขาก็ต้องหน้าซีดทันที
"คุณมินครับ ลายมือเฮียอ่านยากมากเลย คุณมินจะช่วยอ่านหน่อยได้ไหมครับเนี่ย" เจ้าน้อยรีบฟ้องเพราะตัวเอง ก็เจอปัญหา กับลายมือของกตัญญูมาหลายรอบมากแล้ว
"อืม...ได้ซิ่...ตรงไหนอ่านไม่ออกก็บอกแล้วกันนะ "รามินทร์ว่าพลางลากเก้าอี้มานั่งที่ฝั่งตรงข้าม
ดวงตารีเรียวมองการ์ดแต่งงานปึกใหญ่ตรงหน้าแน่นอนว่าแปลกใจกับวันที่ที่เขียนเอาไว้
.....อีก สามอาทิตย์....."จะรีบร้อนไปไหนกันนะ" เขาพูดขึ้นมาเบาๆ
" ไอ้จิ๊บ ไอ้น้อย กินขนมๆ " เสียงห้าวดังขึ้นมาจากในครัวตามมาด้วยร่างสูงของเชฟคนเก่งที่ถือจานคุกกี้ออกมาด้วยก่อนจะต้องหยุดอยู่กับที่เมื่อพบว่าใครกำลังยืนอยู่ตรงโต๊ะที่ใช้เขียนการ์ด
" มิน?...เอ่อ ..แวะมาดูร้านเหรอ? "
"ครับ..."รามินทร์รับคำ "ยังไงก็ร้านของมินนี่" ชายหนุ่มว่า พลางหยิบการ์ดขึ้นมาหนึ่งใบ "เห็นชื่อแม่ด้วย"เขาวางมันลง "เมื่อไรจะเอาไปให้แม่ล่ะ"
" คง..วันนี้เลย พอดีเมื่อกี้พี่โทรไปเรียนท่านไว้แล้ว "ชายหนุ่มตอบโดยที่ไม่ได้มองหน้าเจ้าของร้าน
" โอเค เสร็จแล้ว ... งั้นไหนๆ วันนี้ว่าที่เจ้าบ่าวต้องไปแจกการ์ดหลายที่ จิ้บขอกลับก่อนได้รึเปล่า?....เอ่อ ได้รึเปล่าครับคุณรามินทร์ " ด้วยว่าปกติเขาจะขออนุญาตกตัญญูกลับก่อนได้บ้างเป็นบางวันแต่วันนี้เจ้าของร้านตัวจริงมาจิ๊บเลยต้องหันไปขออย่างเกรงใจ
"จะไปกับ..
.แฟน เหรอ" รามินทร์เอ่ยถาม ทั้งๆที่ ก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายอยากจะกลับบ้านเร็วเพราะอะไร
" เอ่อ..ครับ " เด็กหนุ่มต้องตอบเสียงอ่อยเขาคบกับก้องภพอีกฝ่ายจะรู้ก็คงไม่แปลกอะไร
"อืม ไปเถอะ... เดี๋ยวทางนี้ก็มีธุระต่อเหมือนกัน " ดวงตารีเรียวหันไปมองหน้าของเชฟหนุ่ม
จิ้บยกมือไหว้ของคุณเจ้าของร้าน ก่อนจะลุกขึ้น ราวกับรู้ว่าไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ รามินทร์คงมีเรื่องอะไรจะคุยกับกตัญญูเป็นแน่ มือเรียวสะกิดเจ้าน้อยที่กำลังจะหยิบคุกกี้ใส่ปาก
"อะไรอ่ะพี่จิ๊บ" เจ้าน้อยขมวดคิ้ว คุกกี้กำลังจะเข้าปากแล้วแท้ๆ
" กลับดี่ .. หยิบจานไปด้วย เดี๋ยวใส่ถุงให้ "จิ๊บสั่งการเสร็จสรรพก่อนจะลากเจ้าน้อ พร้อมกับจานใส่คุกกี้ไปหลังร้าน
++++++++++++++++++++
"พี่แมน จะไปวันนี้เลยใช่ไหม " เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มทั้งสองคนเดินจากไปแล้ว รามินทร์จึงได้เอ่ยถามกตัญญูออกมาด้วยเสียงเรียบๆ
" ใช่... ว่าแต่มินมีอะไรรึเปล่า? " เชฟหนุ่มถาม
"ไม่ครับ... "รามินทร์ยิ้มเย็น
"แสดงว่าวันนี้ คุณเนียนจะเข้าไปที่บ้านด้วยใช่ไหม"
" เนียนเขาจะจัดการทางบ้าน ถ้าในกรุงเทพพี่จะจัดการเอง "กตัญญูบอก ก่อนจะ ดูนาฬิกา
" ถ้ามินจะไม่ไปไหนพี่จะขอติดรถกลับบ้านด้วยคนได้ไหม? "
รามินทร์มองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง สายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและต้องการจะตัดพ้อ แต่ก็ทำไม่ได้
" ได้ครับ... ผมคงไม่มีธุระอะไรมากมาย" ชายหนุ่มร่างเล็กกว่าตอบอย่างเสียไม่ได้
" งั้นรอพี่แป๊บนะ "เชฟหนุ่มเดินกลับไปที่ในครัวก่อนจะปิดร้านให้เรียบร้อย หลังจากที่เด็กหนุ่มลูกจ้างทั้งสองคนได้ออกไปแล้วกตัญญูจึงเดินออกมาในชุดไปรเวทที่ดูจะสุภาพกว่าทุกครั้งด้วยเสื้อเชิ๊ตสีน้ำเงิน กับกางเกงผ้าสีเทาในมือถือถุงกล่องฟรุตเค้กที่แบบที่คุณหญิงจิตตราชอบ
++++++++++++++++++++
รามินทร์ขับรถให้กตัญญูนั่ง ทั้งๆที่ กตัญญูเองก็บอกว่าจะขับให้ แต่เขายืนยันและรามินทร์ก็ไม่ได้พูดหรือถามอะไรเกี่ยวกับงานแต่งงาน ชายหนุ่มเดินพากตัญญูเข้าไปด้านในที่พ่อกับแม่ของเขานั่งอยู่ด้วยกัน
"พ่อครับ พอดีเลยวันนี้พ่อก็อยู่ แม่ครับ พี่แมนเขามีเรื่องอยากจะคุยด้วยแน่ะ" รามินทร์ว่าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เขาตั้งท่าจะหันหลังกลับส่งต่อช่วงให้กับชายหนุ่มร่างสูง
....ไม่อยากจะฟัง....
"รามินทร์ แล้วนั่นแกจะไปไหน มานั่งด้วยกันซิ่ พี่แกวันนี้แต่งตัวดีมาเชียว คงมีข่าวดีแน่ล่ะ" กฤษณ์ เจ้าของธุรกิจใหญ่ที่ใครๆรู้จักดีเอ่ย รั้งตัว ลูกชายคนเล็กเอาไว้
"ครับ" รามินทร์เหลือบมองร่างสูงเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งที่พื้น ห่างจากทั้งสองคนไม่มาก เขารู้ว่า กตัญญูจะต้องก้มลงกราบเท้าพ่อแม่เขาเหมือนอย่างที่ทำเวลามีโอกาส
ชายหนุ่มวางกล่องเค้กลงโบนโต๊ะตรงหน้าผู้มีพระคุณทั้งสอง ก่อนจะกราบเท้าของคนทั้งคู่
"ที่ผมมาวันนี้ ผมขอเรียนเชิญท่านทั้งสองไปเป็นเกียรติในงานแต่งงานของผมน่ะครับ "ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากพื้นแล้วยื่นการ์ดแต่งงานของเขาเองให้อย่างนอบน้อม
" ส่วนฟรุตเค้กนี่ เห็นว่าคุณหญิงชอบ ผมเลยทำมาให้น่ะครับ "
"จัดกันที่ไหนเหรอลูก..." คุณหญิงจิตราเอ่ยถามพลางหยิบการ์ดแต่งงานนั้นขึ้นมาดู
"อุดร?...อีกสามอาทิตย์เหรอเนี่ย...เอ.... คุณคะ...นั่นตรงกับงานเลี้ยงวันเกิดท่านสาธิตเขาหรือเปล่านะคะ"
"อืม นั่นซิ่ ผมต้องไปงานนั้นเสียด้วย แล้วคุณล่ะจะว่ายังไง" กฤษณ์เอ่ยถามศรีภรรยา
"ถ้างานท่านสาธิตคุณพี่สาต้องไปด้วยแน่เขาเป็นประธานมูลนิธิที่ทางเราสนับสุนอยู่ไม่ไปก็คงไม่งาม....แมน ลูก" คุณหญิงหันมาหาชายหนุ่มที่เธอเอ็นดูเหมือนลูกชายอีกคน
"ฝากบอกแม่ศรีด้วยนะ ว่าพวกแม่น่ะติดธุระสำคัญจริงๆแม่คิดว่าแม่ศรีน่าจะเข้าใจ ...
ส่วนงานของเรา ถ้าอย่างนั้นให้แมกซ์กับน้องเขาไปแทนพวกแม่จะได้ไหม"
"แต่แม่ครับ...." รามินทร์หมายจะเอ่ยแย้ง แต่ก็ต้องเงียบเมื่อเจอคุณหญิงจิตตราพูดต่อ
"นี่มันงานพี่เรานะ ไม่คิดจะไปแสดงความยินดีกับพี่เขาเลยหรือยังไง แล้วเราน่ะไม่ได้เจอแม่ศรีเขามานานแค่ไหน... ไปหาแม่เขาหน่อยเถอะ"
"....................." รามินทร์มองหน้าของแม่ก่อนจะหันมามองหน้ากตัญญูอย่างไม่สบอารมณ์นัก
" ครับ ผมจะไป" กตัญญูอยากจะหันไปบอกว่า หากอีกฝ่ายไม่เต็มใจก็ไม่ต้องไปแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งคู่เขาก็คงพูดแบบนั้นไม่ได้
" แล้วผมจะบอกแม่ให้นะครับ ว่าท่านติดธุระจริงๆ "
"จ้ะ...ฝากความคิดถึง ถึงแม่ศรีด้วยนะ....เอ้อ ถ้ายังไงก็อยู่กินข้าวแล้วก็นอนบ้านนี้เลยซิ พรุ่งนี้เช้าค่อย ให้มินเขาไปส่ง"
คำชวนนั้นเป็นการบังคับกลายๆ ชายหนุ่มรู้ดีว่าคงปฏิเสธไม่ได้ เขาจึงเสนอตัวช่วยนมใหญ่ทำอาหารให้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน และมินได้ทาน
++++++++++++++++++++
ช่วงอาหารเย็นที่รามินทร์มักจะเป็นฝ่ายชวนคุยเรื่องต่างๆนั้น กลับต่างจากทุกที เขาทานไปได้เพียงครึ่งเดียวก็รวบช้อนส้อม
"พอดีผมปวดหัว.... เดี๋ยวผมไปอาบน้ำนอนเลยก็แล้วกันนะครับ" ชายหนุ่มว่า
"เป็นอะไรมากรึเปล่า เราก็อย่าเครียดเรื่องที่ร้าน หรือ อะไรมากเกินไปนักล่ะ" ผู้เป็นพ่อเอ่ยอย่างเป็นห่วง
"ครับ....งั้น ผม...เอ่อ ขึ้นไปข้างบนก่อนก็แล้วกัน " รามินทร์เอ่ย ดวงตารีเรียวเหลือบมองหน้าของพี่ชายเล็กน้อย ก่อนจะลุกจากโต้ะอาหารไป
++++++++++++++++++++
"ใช่ซิ่...คงขยะแขยงเรามากซิ่นะ พามาให้รู้จักได้ไม่ทันไร ก็จะแต่งแล้ว... คงรีบ อยากจะแต่งจนทนไม่ไหวเลยล่ะซิ่" รามินทร์ล้มตัวลงนอนกับเตียง เขาชักจะปวดหัวขึ้นมาจริงๆเมื่อนึกถึงภาพของกตัญญูในชุดผ้าไหมเนื้อดี มีสร้อยทองเส้นใหญ่ห้อยคอมีเสียงฉาบเสียงแตรดังพร้อมเสียงโห่ร้องก่อนจะยกขบวนไปหาเจ้าสาวลูกสาวกำนัน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่างานแต่งที่เร่งรัดขนาดนั้มันเป็นเพราะอะไรหลังจากที่เจอเนียนวันนั้นมันทำให้เขาสงสัยมาตลอดจนกระจ่างทุกอย่างเมื่อจ้างให้นักสือไปสืบมาได้ความว่าแท้จริงเป็นการแต่งขัดดอกใช้หนี้
บ้านของกตัญญูติดหนี้ บ้านผู้ใหญ่พ่อของเนียนอยู่ไม่น้อย และที่นาที่อุดรจะต้องถูกยึดแน่หากไม่ทำอะไรซักอย่าง ...เนียนเองก็ชอบพอกตัญญูอยู่นานแล้ว พ่อผู้ใหญ่คงหัวแหลมเห็นดีบังคับเอาตัวลูกเขยมาใช้หนี้เสียเลย ทำไมคนอย่างกตัญญูจะต้องทำอะไรขนาดนั้นด้ว เขารู้ว่ามีหลายครั้งที่กตัญญูนั้นไม่ได้ตัดสินใจเพื่อตัวเอง แต่.....กับเรื่องแบบนี้เขาไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้พี่แมน...พี่ชายคนสำคัญต้อง ตัดสินใจรีบแต่งไปเลย....โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคืนหนึ่งที่...อะไรๆ มันยังไม่เคลียร์ระหว่างเขากับพี่ชาย.... รอยจูบที่ฝากเอาไว้เต็มแผ่นอกสำหรับคนเมาในตอนนั้นคงไม่เป็นไรแต่คนที่มีสติดีทำไมถึงต้องทำอย่างนั้นรามินทร์สงสัยมาตลอด
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนสบายๆ เสื้อยิดกางเกงวอร์มขายาวเหมือนทุกที แต่ที่ต่างไปคือรู้ดีว่า หลังจากวันนี้ คำถามอาจจะไม่ได้ถามออกไปอีกแล้วก็เป็นได้มือเรียวตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์คุ้นเคย
" มีอะไรเหรอมิน? .. พี่อยู่เรือนเล็กแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องโทรมา " ปลายสายรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่รามินทร์โทรศัพท์มา ทั้งๆที่ปกติจะเดินมาเคาะประตูเองเลยด้วยซ้ำ
"มินไม่อยากลงไป... มินปวดหัว....แต่อยากคุยกับพี่ ขึ้นมาหาผมหน่อยได้ไหม"
" ดึกแล้วนะ .. ปวดหัวก็พักเถอะ ไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้ "ชายหนุ่มตอบกลับมาด้วยความหวังดี หวังว่าน้ำเสียงของเขาคงจะสื่อเจตนาดีๆนี้ให้อีกฝ่ายได้
"มินอยากคุยกับพี่ คืนนี้...." แต่ปลายสายยังยืนยัน
"ไม่ได้?"
" โอเค .. งั้นเดี๋ยวพี่ขึ้นไปหา "ชายหนุ่มถอนหายใจ
++++++++++++++++++++
รามินทร์เดินวนไปมาอยู่ภายในห้องของตัวเอง เขาพูดออกไปแล้วว่าเขามีเรื่องจะคุย แต่เขาจะพูดยังไง จะคุยอะไร.... ทำไมเขาถึงเดือดเนื้อร้อนใจมากขนาดนี้ รามินทร์ขบปลายนิ้วของตัวเองเบาๆ จนได้ยินเสียงเคาะประตูที่หน้าห้องจึงเดินไปเปิดประตูนั้น
"พี่แมน.....เข้ามาซิ่ครับ"
" มินมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ? "ชายหนุ่มถามหลังจากเข้ามาในห้องนอนของอีกฝ่ายแล้ว รามินทร์ปิดประตูเอาไว้เบื้องหลัง ปลายนิ้วลงกลอนประตู
" ผมมีเรื่องอยากจะถามพี่..." ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา
"
วันนั้นที่ผมกับพี่... ทำ...เรื่องนั้นกันพี่....คิดอะไรอยู่ " รามินทร์เอ่ยตะกุกตะกัก
"
เรื่องนั้น ... มิน แค่อยากให้พี่ช่วย .. ไม่ใช่รึไง? " ชายหนุ่มย้อนถามพลางหันไปมองที่นอกหน้าต่าง
"
ผมอยากให้พี่ช่วย...ใช่ ...ผมคิดว่าอาจจะใช่.... แล้วพี่ล่ะคิดอะไรอยู่ตอนนั้นกับตัวผม ..."
ร่างบางเดินไปหยุดตรงหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
"
พี่ก็แค่............... อยากจะช่วยมิน " ชายหนุ่มตอบกลับมา เขายังไม่ละสายตาจากหน้าต่าง ตรงนั้นยังมีกระถางต้นกระบองเพชรที่เขาซื้อให้รามินทร์เมื่อสามปีก่อนอยู่เลย
" แล้วมินจะสงสัยอะไรนักหนา " คิ้วเข้มเริ่มขมวดทำราวกับว่ากำลังหงุดหงิด
"ผมสงสัยเพราะหลังจากที่มันเกิดขึ้นพี่ก็ทำตัวแปลกๆแล้วเราก็ทะเลาะกันผมก็รู้ว่าผมแย่แต่ไม่ใช่ว่า กลับไปบ้านแค่ไม่กี่วันพี่ก็กลับมาบอกว่าจะแต่งงาน เผลอแพล็บๆก็แจกการ์ด
ขยะแขยงผมมากขนาดนั้นเลยหรือไง พี่ถึงจะหนีผมไปไกลๆ....ไปให้พ้นๆ..... ผมมันเลวใช่ไหมที่เมาแล้วใช้พี่มาบำบัดความใคร่ตัวเองน่ะ" รามินทร์ใช้เสียงที่ดังขึ้นอีกมือเรียวคว้าไหล่กว้างของอีกฝ่ายให้หันมามองหน้าเขา ตรงๆ
"มองผม แล้วบอกมาซิ่ว่า พี่คิดอะไร ตอนที่ทำแบบนั้น จูบผมจนเต็มตัว แล้วนึกแขยงตัวเอง แขยงผมขึ้นมาใช่ไหม" คำพูดของอีกฝ่ายทำให้กตัญญูปวดใจ แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วเขาจะพูดอะไรได้อีกงานแต่งงานของเขากำลังจะเกิดขึ้น ในอีกสามอาทิตย์ข้างหน้านี้ชายหนุ่มสบตาอีกฝ่ายพยายามเหลือเกินที่จะไม่หวั่นไหว
" ใช่ .. พี่แค่ช่วย ...
แต่มินยั่วพี่เองนะ! "ชายหนุ่มลากนิ้วที่ลำคอขาวลงมายังแผ่นอก ดวงตาคู่คมพยายามมองอีกฝ่ายอย่างเหยียดๆ
"
รู้ไหม .. ว่าตัวเองนะ นอนอ้าขาให้พี่เอง ... แค่จูบน่ะ พี่หยุดได้แค่นั้นก็ดีแค่ไหนแล้ว.. "
"..............................." ความชาแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้ารามินทร์ไม่รู้สึกอะไรอีก
"ส...สรุปว่าผมมันเลวเองซิ่นะ....เมาแล้วมั่ว ยั่ว... ผมสมควรจะโดนแล้ว ใช่ไหม... " น้ำเสียงของรามินทร์สั่นเครือทั้งโกรธ ทั้งเสียงใจ จนไหล่บางสั่น มือเรียวกำแน่น
กตัญญูรีบหันหน้าไปอีกทางริมฝีปากได้รูปเค้นเสียงออกมา
" ก็แล้วแต่มินจะคิดก็แล้วกัน.. "
"คิดว่าตัวเองคงเป็นคนดีมาเลยซิ่นะ พ่อพระ สนองตัณหาให้น้อง ...แล้วก็มันจะสับสนอับอายตัวเองแค่ไหนก็ช่างหัวมัน...หยุดไว้แค่นั้นก็บุญหัวแล้วกับเกย์แบบนี้ฉันทำให้แค่นั้นก็คงพอแล้วซิ่นะ...." รามินทร์ยังคงเอ่ยออกมาในอกเจ็บจนแทบจะทนไม่ไหวเขาไม่เคยคิดจะพูดอะไรแบบนี้กับอีกฝ่ายเลย
"ไปแต่งงานดีกว่า หนีไปแต่งไกลๆ ปล่อยให้มินคิดถึงพี่ ....จินตนา.........." ร่างบางหุบปากแน่น เมื่อกำลังจะหลุดคำพุดน่าอายนั้นออกมา
....ถ้าพูดออกไปก็คงบอกว่าเราเลวอีก...กตัญญูก้มลงมองคนตรงหน้าทันที
...ปล่อยให้มินคิดถึงพี่?.....จินตนา?....จินตนาการเหรอ?...รามินทร์หน้าแดงก่ำ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง
"มินหมดเรื่องจะพูดแล้ว... "
" เดี๋ยว " มือแกร่งจับข้อมือเย็นๆให้หันมาทางเขา" เมื่อกี้ว่าอะไรนะ? "
"อะไร.... มินบอกว่า ไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว
พี่แมนจะไปไหนก็ไป...ไปแต่งงาน ไปมีครอบครัว ไปไหนก็ไป" ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่าย น่าจะหมายถึงอะไรแต่รามินทร์ไม่คิดจะตอบ
" ไม่ใช่ ! มินพูดอะไรของมิน คิดถึงอะไร
จินตนาการอะไร? "มือแกร่งนั้นบีบข้อมือเล็กแรงขึ้น
"โกรธใช่ไหมล่ะ
ขยะแขยงใช่ไหมล่ะ ที่มินต้องมาช่วยตัวเองเพราะเลิกคิดถึงเรื่องคืนนั้นไม่ได้น่ะ....ปล่อยซิ่มันเสียมือไม่ใช่รึไง ปล่อยซิ่" รามินทร์จ้องหน้าของอีกฝ่ายแววตากร้าว แต่คำพูดนั้นทำให้กตัญญูถึงกับอึ้ง
" อะ..อะไรนะ?.. "
"ได้ยินแล้วนี่ เต็มสองหูแล้วก็ออกไปซะ ไปหาเจ้าสาวของพี่โน่น"
" มิน...อยากให้พี่กอด เหรอ? "ชายหนุ่มตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เขาดูสงบลง ผิดกับอีกฝ่าย