ทินกฤตกดโทรศัพท์มือถือส่งข้อความหาเด็กหนุ่มเมื่อมาถึงที่บ้าน ด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเป็นห่วงเสียจนตั้งตารอไม่เป็นอันหลับไม่เป็นอันนอน พลางคิดย้อนกลับไปเมื่อครั้งเจอกับจุนเจือในคราแรกๆ
เด็กหนุ่มที่ดีแต่จะแกล้งเขาด้วยวิธีสารพัด เด็กหนุ่มปากดี กวนประสาท แต่บางครั้งก็ดูเย้ายวนเสียจนน่าโมโหคนนั้น..ใครจะไปเชื่อว่า เมื่ออยู่ในห้วงแห่งรักเช่นนี้แล้วจะกลายเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนหวานได้แบบนี้
...ถึงแล้วครับ....
...ไม่ต้องห่วง....
....ฝันดีนะครับ... เพียงไม่นานหลังจากดส่งข้อความไป โทรศัพท์ของทินกฤตก็ได้รับข้อความกลับมาเช่นกัน
...ฝันดีนะครับ แล้วเจอกันที่บริษัท ..รักพี่นะ^^จุนเจือรอให้อีกฝ่ายส่งข้อความมาก่อนจริงๆ ถึงจะเข้านอนได้นั่นแหละ
คำหวานที่ได้อ่านนั้นเหมือนยิ่งตอกย้ำความคิดของตัวเอง แต่ในความรักที่พวกเขาทั้งคู่มีให้และแสดงออกซึ่งกันและกันนั้น ก็มีความหวาดหวั่นอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่ตลอดเวลา
....พี่ก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแค่ความหลงใหลได้ปลื้ม.....
....กับความเร่าร้อนที่เรามีให้กัน....
....แต่สำหรับพี่ พี่แน่ใจว่ามันไม่ใช่แค่นั้น.... ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกเมื่อไขประตูบ้านเขาไป เขาอยากจะแน่ใจให้ได้มากกว่านี้ อยากจะมีหลักประกันเล็กๆซักหลักก็ยังดี ว่าเขาจะยังพอมีโอกาสที่จะได้อยู่กับจุนเจือได้แบบไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ
...บางที เขาควรจะต้องตัดใจคุยกับเจนสุดาเสียพรุ่งนี้เลย...
+++++++++++++++
จนเมื่อตอนเช้ามาถึง ทินกฤตลุกขึ้นสายกว่าทุกวัน จนได้ยินเสียงเจนสุดามาเคาะที่ประตูห้องเพราะเห็นว่าเลยเวลากว่าปรกติไปไม่น้อย
"เทียน...ตื่นหรือยังน่ะ ...สายแล้วนะ เดี๋ยวไม่มีเวลากินข้าวเช้า" เสียงใสนั้นยังเอ่ยเรียกชื่อของเจ้าของห้องด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"ครับๆ เรียบร้อยแล้วๆ" ทินกฤตส่งเสียงกลับออกไปทั้งๆที่ยังโกนหนวดไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ ร่างสูงเร่งล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย พรมอาฟเตอร์เชฟขวดประจำ แล้วออกมาจากห้องน้ำเพื่อแต่งตัว ไม่นานนักก็เดินลงมาข้างล่าง พร้อมด้วยเสื้อสูทสีอ่อนในมือ เสื้อผ้าวันนี้ดูสบายๆผิดจากทุกวัน
"โห จะไปไหนเหรอ...ไม่เหมือนจะไปทำงาน" ภรรยาตามเอกสารเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินมานั่งที่โต๊ะประจำ ด้านหน้ามีอเมริกันเบรคฟาสต์ที่ให้พลังงานเต็มเปี่ยมวางรอ เจนสุดานั่งลงอีกด้านหนึ่งของโต๊ะ ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มน้อยๆ พลางหรี่ตามองหน้าของอีกฝ่าย ท่าทางจะไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์อีกตามเคย
"เมื่อคืนหนักเหรอ"
คำถามนั้นทำเอาคนที่กำลังยัดไส้กรอกเข้าปากถึงกับสำลัก
"อุ๊บ แค่ก....อ่ะ....อืม...นิดหน่อยน่ะ" ทินกฤตรีบยกน้ำดื่มตาม
"เหรอ...ก็ดีนะ นานๆได้เทียนจะได้ออกไปเที่ยวบ้างอะไรบ้าง อยู่แบบนี้ก็น่าเบื่อแย่ แต่ก็นะ เทียนต้องจัดตารางเวลามาช่วยเจนดูซีรีย์ด้วยนะ เยอะเป็นตั้ง อลิสส่งมาให้เนี่ยจะดูไม่หวาดไม่ไหวอยู่แล้ว" หญิงสาวว่าพลางชี้ไปที่กองซีรีย์ที่พอดูไปได้ซักพัก ก็จะมีเรื่องใหม่ทยอยส่งมาให้เรื่อยๆ จนเจนสุดาก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า อลิส แฟนสาวของเธอนั้นเดินแบบเสียขาแทบขวิด ยังเอาเวลาไหนไปนั่งตามซีรีย์พวกนี้ได้
"ฮ่ะๆ...อลิสเขาจัดมาให้คุณนี่นา ....." แต่พอเห็นใบหน้าง้ำงอเมื่อเห็นเขาตั้งท่าจะปฏิเสธก็ต้องยอมใจอ่อนไม่ได้ จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ตัวเองคงจะใจอ่อนกับใบหน้ายามงอนของสองพี่น้องบ้านนี้เป็นแน่แท้
"โอเคครับๆ แล้วเราหาเวลามานั่งเคลียร์ซีรีย์พวกนี้กันก็แล้วกัน..." ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะออกมาน้อยๆ
"เออนี่ ...เจน...."
"คะ?...มีอะไรเหรอ" เจนสุดาเลิกคิ้วมองหน้าของอีกฝ่าย มือก็ตักผักสลัดเข้าปากไปเรื่อย
"คือ....." ทินกฤตดูลังเล เขาลดมีดส้อมลงจรดจานสีขาว มืออีกข้างที่ถือมือก็เปลี่ยนมาใช้วางคางของตัวเอง ท่าทางดูคิดหนักไม่น้อยกับสิ่งที่กำลังจะพูดออกไป
"คือ ถ้าเราหย่ากันเร็วขึ้นเนี่ย...คุณจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ทินกฤตถามดวงตาคมสบตาคู่สวยไม่ได้ต่างจากน้องชายของเจนสุดานิ่ง
"หย่าเร็วขึ้นน่ะเหรอ...เขาจะไม่สงสัยกันเหรอเทียน...คือเจนน่ะ ยังไงก็ได้นะ ตอนนี้ก็กำลังให้อลิสเขาส่งเอกสารการเรียนดีไซน์จากหลายๆที่มาให้ดูน่ะ แล้วก็อืม...มันก็เกี่ยวกับสัญญาที่เมืองไทยของอลิสเขาด้วย คือ เจนจะไปก็ต่อเมื่ออลิสไปนะ...ตอนนี้อาจจะยังให้คำตอบแน่นอนไม่ได้ แต่...ถ้าเป็นไปได้ เจนก็ไม่อยากให้เทียนต้องมาติดแหง็กกับเจนแบบนี้หรอกนะ" เจนสุดาเอ่ย เธอพยายามจะนึกเรื่องระยะเวลาที่จะต้องอยู่กับโมเดลลิ่งในเมืองไทยของอลิสแต่ก็นึกไม่ออก นี่ไม่ใช่แพลนที่เธอกับอลิสวางเอาไว้ ดังนั้นการจะตัดสินใจตอบอะไรออกไปด้วยการตัดสินใจตามลำพังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่เจนสุดาอยากจะทำเลย หากมีอะไรที่จะต้องแชร์ เธอขอแชร์ให้อลิสรู้ด้วยจะดีกว่า
เมื่อได้ฟังคำตอบของเจนสุดา ทินกฤตกำมือแน่น มันเป็นคำตอบที่เหมือนกับ การเพิ่มน้ำลงไปอีกในห้องที่กำลังจะจมน้ำ...ห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีทางออก น่าอึดอัดจากน้ำที่ล้อมรอบกาย เขาที่กำลังต้องการอากาศหายใจกลับเจอเทน้ำกรอกปากลงมาอีกเช่นนี้...
ตามสัญญาที่ทำไว้ตอนแรกมันเป็นเวลาหกเดือน เขาที่เคยใช้ชีวิตสำมะเลเทเมามาตลอด หกเดือนเป็นเวลาที่ไม่นานเลย แต่ตอนนี้เพียงแค่หนึ่งวัน หนึ่งอาทิตย์ก็ปานจะขาดใจ
"ผมก็แค่...เอ่อ ...ลองถามๆดูน่ะ คือถ้ายังไงก็ลองไปปรึกษากับอลิสก่อนก็ได้ ว่าถ้าเราเลื่อนทุกอย่างให้มันเร็วขึ้นซักสองเดือนเนี่ย ทางอลิสเขาจะจัดการเรื่องงานเขาได้โอเคไหม ...ส่วนเรื่องเงินที่เราจะแบ่งกัน สินสมรสทั้งหมด ยังไงผมจะลองคุยกับทนาย แล้วจะลองคำนวนคร่าวๆออกมาให้คุณดูก่อนก็ได้" ทินกฤตว่าพลางรวบช้อน
"ขอโทษนะเทียนที่ให้คำตอบเลยไม่ได้...แต่...ตามที่เทียนว่าก็คงจะดีเหมือนกัน" หญิงสาวยิ้มกว้าง
"ครับ...."ชายหนุ่มรับคำ
"งั้น...เดี๋ยวผมไปแล้วนะ...เดี่ยวเจอกันตอนค่ำๆนะ วันนี้ไม่ต้องเตรียมเผื่อผมก็ได้ กลับดึกหน่อย แต่จะมาช่วยเคลียร์ซีรีย์รอบดึกนะ" ทินกฤตให้สัญญามั่นเหมาะ ก่อนจะลุกขึ้นหยิบเสื้อนอกสีอ่อนเดินออกไปทางประตูหน้า พลางบ่นกับตัวเองออกมาเบาๆว่า ท่าจะเบลอขนาดที่แต่งตัวแบบนี้ไปทำงาน ตอนเขาหยิบเสื้อผ้ามาใส่นั่นคงหลับในไม่ก็ละเมอเป็นแน่
+++++++++++++++
รอจนสายตะวันโด่ง เจนสุดาที่ขึ้นไปทำงานบนห้องทำงานของตัวเอง ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเบอร์ที่คุ้นเคยอีกฝ่ายน่าจะตื่นได้แล้ว
"ฮัลโหล อลิส ตื่นรึยัง....ฮัลโหล...."
" โมชิ..หือ..เจนเหรอ?..ตื่นแล้วจ้า ตื่นแล้ว~ " เสียงที่งึมลำในคอตอนแรกของคนทีรับโทรศัพท์ต้องรีบทำให้ตัวเองตื่นเมื่อคนรักโทรมา เดี๋ยวเจนสุดาจะได้งอนเธออีก
"โห สำเนียงญี่ปุ่นมาเชียว ... โตเกียวเป็นไงบ้าง อ้อๆ แล้วอาทิตย์หน้ากลับไทยไหม ไปหาอะไรกินกันเถอะ อลิสไม่อยู่ ไม่มีใครขับรถพาเจนเที่ยวเลย อยู่บ้านรากจะงอกจมกองซีรีย์อยู่แล้วอ่ะ"
เจนสุดาหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินสำเนียงญี่ปุ่นของอลิส ตอนนี้อลิสเริ่มมีงานที่จะต้องไปเดินแบบให้กับโมเดลลิ่งที่ญี่ปุ่นบ้างแล้ว และสัญญากับทางเมืองไทยก็กำลังจะหมด อลิสคงจะรับงานเดินแบบอิสระที่เมืองไทยได้ แต่การไปเดินที่อเมริกานั้นเป็นความฝันของอลิสเลยก็ว่าได้ เจนสุดาเองก็อยากจะตามไปเป็นกำลังใจให้คนรักของเธอเหมือนกัน ...เพราะแบบนั้น จึงได้คิดจะไปตั้งรกรากที่อเมริกา หลังจากหย่ากับทินกฤตเป็นที่เรียบร้อย
" อาทิตย์หน้าเหรอ?..อืมม์ ยังไม่ได้กลับหรอก คงเดือนหน้าโน่นเลย... "สาวลูกครึ่งเปิดตารางงานดู ก่อนจะถาม
" ว่าแต่ มีอะไรเหรอโทรมาแต่เช้าเลย "
"เช้าของอลิสก็คือเที่ยงเหรอ...ตื่นสายขึ้นเรื่อยๆนะตั้งแต่ไม่ต้องไปเรียนเนี่ย" เจนสุดาอดที่จะแซวถึงเรื่องอดีตที่เธอไปเรียนที่โรงเรียนเดียวกันกับอลิส
" หา?..อ้าวเที่ยงแล้วเหรอ พอดี้เมื่อคืนมีปาร์ตี้น่ะ ฮะ ฮะ " พอถูกดุแบบนั้น สาวมั่นอย่างอลิสต้องหัวเราะเสียงอ่อย
"ก็เห็นปาร์ตี้ทุกที... อ้อๆ เข้าเรื่องๆ คืองี้ เทียนเขาขอหย่าน่ะ ให้เร็วกว่ากำหนดเดิมสองเดือน ...ตอนแรกมันหกเดือนใช่มะ...อืม ก็เลยไม่รู้จะบอกไงก็เลยโทรมาปรึกษาก่อนเนี่ย ว่าเรื่องสัญญาเป็นยังไงบ้าง ทางนั้นเขาคอนเฟิร์มหรือยัง"
" เดี๋ยวนะเจน..หมอนั่นเนี่ยนะ อยากจะหย่า?! "พอพูดถึงทินกฤต อลิสก็ไม่พอใจได้ตลอด หล่อนไม่ชอบหน้าผู้ชายคนนี้ ไม่ถูกชะตาด้วย แต่ถึงแบบนั้น คนที่อยากจะหย่าก่อนน่าจะฝั่งของเจนมากกว่าเพราะว่ามีคนรักอย่างเธออยู่แล้ว ส่วนฝ่ายชายนั้น เท่าที่รู้มาคือ ไม่มีใครเป็นจริงจัง ใช้ชีวิตสนุกกับผู้ชายมากหน้าหลายตาแบบนั้น
"อื้ม...ก็เขาพูดเองอ่ะ"เจนตอบไปพลางหันไปหยิบผ้าตัวอย่างขึ้นมาดูไปเรื่อยๆ
" ไหนว่าที่บ้านหมอนั่นคุยยากไม่ใช่เหรอ ถ้าหย่าน่ะ .. สงสัยจะมีแฟนล่ะมั๊ง "นางแบบสาวพูดไปเรื่อยๆ ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่ชอบหน้า เธอเริ่มจะอารมณ์เสียอีกแล้ว
"มีแฟน? เหรอ...อืม....จะว่าไปช่วงนี้ก็ดูแปลกๆไปเหมือนกัน ปรกตินะ ข้าวเย็นที่บ้านนี่ต้องมากินตลอด เดี๋ยวนี้หายไปเรื่อยเลย ..."เจนสุดาว่าพลางเริ่มตั่งข้อสังเกต
"อ้อๆ แล้วที่แปลกอีกอย่างนะ ช่วงนี้น่ะ สองสิงห์เขาอยู่ถ้ำเดียวกันได้ด้วยล่ะ เทียนกะเจือน่ะ...บางทีเทียนก็ถามถึงเจือด้วยนะ อืม ช่วงนี้เขาสนิทกันดีนะ "
" สนิท..เจือเนี่ยนะ สนิทกับหมอนั่น แปลก..เค้าว่ามันแปลกนะ เจน " ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตาหรี่ลงอย่างใช้ความคิด
" ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ที่เจนว่าสองคนนี้สนิทกัน .. ยังไงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็เจือหวงเจนจะตาย เหมือนเค้านั่นแหละ "
"ก็ไม่รู้ซี่...อืมตั้งแต่กลับมาจากญี่ปุ่นเดือนที่แล้วมั้ง ก่อนหน้านั้นหน่อยซี่ ที่ว่าอยากจะให้ช่วยให้เจือผ่านฝึกงานน่ะ" เจนสุดาลองนึกดูอีกครั้ง จะว่าไปก็แปลกอยู่ไม่น้อย ปรกติ จุนเจือจะไม่ยอมพูดจาดีๆ กับ ทินกฤตเลยแต่หลังๆมานี่ ยอมให้ไปส่งถึงที่คอนโดได้ก็ว่าแปลกแล้ว ส่วนทินกฤตเอง ปรกติ เห็นจุนเจือเป็นอะไรซักอย่าง...ที่ไม่อยากเข้าใกล้อยู่เรื่อย แต่เดี๋ยวนี้ ก็ดูจะอาสาทำอะไรให้อยู่บ่อยครั้ง
"อลิสว่ามันมีอะไรแปลกเหรอ"
" ไปญี่ปุ่นด้วยกันน่ะเหรอ... "อลิสพึมพำเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจ
" เจนนี่น้า..เป็นสาววายเสียเปล่า ลองคิดดูซิ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ? "นางแบบสาวว่า
" นี่ถ้าลองจิ้นดูนะ..เขียนนิยายได้เป็นเรื่องเลยด้วยซ้ำ "
"จิ้น?ยังไง บ้าอลิส...น้องเจนนะ" เจนสุดาอุทานเสียงสูงเมื่อฟังคำตอบของคนรัก
"อลิส...มัน...แปลกไปหน่อยไหมอ่ะ น้องเจนเนี่ยนะ"
" เจน..เจือน่ะ..อุเคะในอุดมคติเลยไม่ใช่เหรอ..ตัวเองก็คิดแบบเค้านี่ "ปลายสายจุดประเด็นขึ้นมา
" แล้วคนอย่างหมอนั่นน่ะ..จะไม่สนใจเจือบ้างเหรอ? "
"แต่....แต่...." เจนสุดาเริ่มหมดคำพูด ใช่ แม้แต่ตัวเธอเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกับอลิส แต่...เมื่อครู่นี้ทำไมเธอถึงใช้คำว่าแต่ เธอต้องการจะบอกว่าอะไรนะ "แต่เทียนเป็นสามีของเธอ" อย่างนั้นเหรอ
ใช่แล้วเธอให้ความสนิทกับทินกฤตมากเกินไปเสียแล้ว...เขาเป็นคนแบบที่เธอควรจะต้องระวังและกันให้ห่างจากน้องชาย "คนสวย" ของเธอให้มากที่สุดต่างหาก แต่ตลอดมาเทียนก็ไม่เคยทำท่าว่าสนใจจุนเจือให้เธอได้เห็นเลยซักครั้ง
"แต่มันจะเป็นไปได้จริงๆเหรอ อลิส นี่ไม่ใช่นิยายนะที่เกลียดกันแทบเป็นแทบตายแล้วจะมารักกันได้นะ...แล้วเจือก็ชอบผู้หญิงไม่ใช่รึไง"
" เค้าไม่ได้บอกให้ตัวเองเชื่อ..เอาอย่างนี้นะ เจนลองสังเกตดูท่าทางของทั้งคู่ไปก่อน หวังว่ามันจะไม่มีอะไรจริงๆ .. แต่ยังไงก็ต้องให้เจืออยู่ห่างจากคนแบบนี้ให้มากที่สุดเลยนะ! " อลิสบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง จุนเจือก็ไม่ต่างอะไรกับน้องชายของเธอ ดังนั้นเธอจึงรักและหวังดีต่อเด็กหนุ่มไม่ต่างกับเจน จึงย่อมไม่อยากให้เด็กดีแบบจุนเจือต้องเจอกับเสือร้ายแบบนั้น
"อ่ะ...อื้ม...เจนว่าจะลองสังเกตดูนะ..." น้ำเสียงที่ตอบรับของเจนสุดานั้นเหมือนหวาดหวั่นใจอยู่ไม่น้อย "ว่าแต่...อลิสนี่เกลียดเทียนเข้าไส้จริงๆเลยเนอะ"
"ก็ใช่น่ะสิ เจน...เจนลืมไปรึเปล่า ว่าเจนแต่งงานกับใคร หมอนั่นมันเสือชัดๆนะ ไอ้คนประเภทเสือเนี่ยก็เหมือนกันหมด จะชายแท้ หรือ เกย์ มีแต่ได้มักมาก มันก็เหมือนกันหมดนั่นล่ะผู้ชายแบบนี้ทำร้ายเรา ทำร้ายคนที่เรารักได้พอๆกันนั่นล่ะ เป็นห่วงนะรู้ไหม ..เอาเป็นว่าเค้าจะรีบๆๆๆกลับไปหาเจนก็แล้วกัน "
"ฮ่ะๆ ถ้าไม่มีเรื่องเทียนมาบอกนี่ จะไม่ "รีบๆๆๆ" กลับมาหาใช่ไหม" เจนสุดาอดจะขำไม่ได้กับความตรงไปตรงมาของอลิส ลองได้เหม็นขี้หน้าใครก็จะเป็นอยู่แบบนั้น โดยเฉพาะผู้ชายที่มีท่าทางเจ้าชู้อลิสยิ่งไม่ชอบใหญ่
" รีบๆๆๆ สิ อยู่ที่นี่นะนอกจากไปชอปปิ้งแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย อยากจะกลับไปหาเจนจะแย่แล้ว คิดถึงมากด้วย " อลิสหยอดคำหวาน ก่อนจะดูนาฬิกา
" อะ..แย่แล้ว บ่ายต้องไปเตรียมฟิตติ้ง ไว้เจอกันนะเจน "พูดจบก็ตัดสายไปเลย ช่างเป็นหญิงสาวที่คิดเร็ว ทำเร็วเสียเหลือเกิน มาตั้งแต่ไหนแต่ไร
"อ่ะ อ้าว...ตัดสายไปละ" เจนสุดาท้วงกับอากาศธาตุทั้งรอยยิ้ม เธอวางโทรศัพท์ลง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
.....เจือ กับ เทียน อย่างนั้นเหรอ.....
.....มีทางเดียวที่จะรู้ได้คือต้องสังเกตให้ดีซี่นะ.... +++++++++++++++
talk: ไรเตอร์กำลังจิตตกค่ะ ที่จริงแล้วสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ไรเตอร์มีแผนจะตามรอยพี่เทียนไปญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ได้ไปค่ะ เพราะเรื่องแผ่นดินไหวกับสึนามินั่นแหละค่ะ..เลยค่อนข้างจะจิตตกมากๆ ค่ะ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ถือว่าโชคดีนะคะที่ไม่ได้ไปในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกันค่ะ