คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 168089 ครั้ง)

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #270 เมื่อ05-07-2007 14:44:07 »

นี่............กล่าวหนักไปแล้ว..............อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #271 เมื่อ05-07-2007 15:30:04 »

เอาไปหนึ่งบวกงามจากน้องนะเคอะ  เพราะคำพูดคำนี้....

....เกย์ไม่ใช่เซ็กส์ทอย   o13

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #272 เมื่อ05-07-2007 15:35:19 »

จ้า..........ใจดีเนาะ.........ให้พี่มาตั้งหนึ่งคะแนน........หุหุ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #273 เมื่อ05-07-2007 16:42:33 »

เกย์ไม่ใช่เซ็กส์ทอย ที่ไม่มีหัวใจ.........อยากเชยชมก็จะทำ...........อยากทิ้งก็จะผลักไสไปง่ายๆ.............

.............เกย์มะใช่ sex toy แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะทำตัวเป็น sex toy... :m9: :m9:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #274 เมื่อ05-07-2007 19:42:30 »

ม่ายมีอะไรจะพูด นอกจากรออ่านต่อปาย   :m12:  :m12:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #275 เมื่อ06-07-2007 10:58:33 »

 o19 o19 o19

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #276 เมื่อ06-07-2007 12:23:25 »

                         ผมรีบตรงดิ่งกลับห้อง เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังจากจัดการภารกิจประจำวันที่แลปเสร็จเรียบร้อยแล้ว......................รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกันกับการต้องไปร่วมกิจกรรมกับคนที่ไม่คุ้นเคยอย่างนี้..............โดยเฉพาะการเข้าไปร่วมด้วยเหตุผลทางการเมืองแอบแฝง.............หุหุ.....

                         ผมขับรถเข้าไปจอดใต้ต้นชมพู่เจ้าประจำ เพื่อแวะรับน้องพรที่หน้าตึกวิทยาศาสตร์เช่นเคย.........ถือว่าห่างหายกันไปนานพอสมควรสำหรับเราสองคน..........

                         “หวัดดี่จ้ะพี่กั้ง” น้องพรกล่าวทักทายเสียงสดใสเมื่อมาถึงที่รถ..............จากสัมผัส ผมสามารถรับรู้ได้ถึงความอึดอัดใจของหล่อน..............คงหวงแฟนสินะ............ไหนว่ารักกันนักรักกันหนาไง.........แล้วจะมากลัวอะไรกับผมกันล่ะ............ผมก็แค่มาแจมด้วยตามคำเชิญเฉยๆ........ไม่เห็นจะมีไรต้องให้น่ากลัวเลยสักนิดเดียว.............

                         “พวกนั้นมากันหรือยัง” ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ถามถึงแฟนของหล่อน...............รู้สึกผิดนิดๆเหมือนกันนะว่าเรากำลังคิดจะทำอะไรเนี่ย............ดูหน้าตาเค้าก็บอกโต้งๆว่าไม่ได้มีความสุขกับการมาของเรา.........แล้วนี่เรายังจะมาแสร้งตีสีหน้าระรื่นได้ยังไงกัน...........แต่ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว............ก็ตามน้ำไปแล้วกัน..........

                         “เค้าจะตามมาทีหลัง เราไปตีกันก่อน เดี๋ยวน้องจะช่วยฟื้นเบสิคให้พี่กั้งเอง” .........เป็นความคิดที่ดีไม่เลวเลย..........ผมไม่ได้ตีเทนนิสนานแล้ว.............คงต้องมาเริ่มใหม่หมดเลย........ระหว่างขับรถ ผมแอบลอบสังเกตุดูสีหน้าน้องพร...........วันนี้หล่อนไม่ร่าเริงเหมือนเคยเลย........ดูบึ้งตึง และซ่อนความกังวลเอาไว้ยังไงก็ไม่รู้....................เหมือนคนมีอะไรในใจกระนั้น...........ก็หล่อนเป็นคนชวนผมมาเองอ่ะ..........แล้วจะมานั่งทำหน้าตาแบบนี้ใส่ผมน่ะเหรอ...........มันไม่ยุติธรรมนะ.............

                        หลังจากที่เราซ้อมน็อคลูกกันมาได้ซักพัก............ผมก็ค้นพบว่า มันไม่ง่ายเลยกับการที่จะฟื้นทักษะเก่าๆให้กลับคืนมาในเวลาอันสั้น.........ผมคงต้องเริ่มจากการไปหัดน็อคบอร์ดใหม่จนกว่าจะคล่อง.........ซึ่งคงต้องใช้เวลานานอีกหลายวัน...........และผมก็รู้ดีว่าผมไม่มีความอดทนมากพอขนาดนั้น...........ไหนยังจะมาเป็นส่วนเกินในกลุ่มนี้อีก เพราะเนื่องจากว่าเค้ามีกันครบสี่คนอยู่แล้ว..........เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงแอบถอดใจตั้งแต่น้องอาร์ยังไม่ทันได้มาถึงด้วยซ้ำ..........อีกอย่างผมเองก็ไม่ได้อยากจะให้น้องพรต้องมาเสียความรู้สึกมากไปกว่านี้อีกแล้ว.............พอเห็นความลำบากใจที่แสดงออกมาจากใจของเค้าจริงๆ ผมถึงได้รู้ว่าความคิดที่จะแกล้งคนอื่นแบบนี้มันไม่สนุกเอาเสียเลย............

                         อาร์กับเพื่อนมาถึงในอีกครึ่งชั่วโมงถัดมา...........หนึ่งในนั้นเป็นคนที่น้องพรสงสัยว่าอาจจะเป็นคู่ขากับอาร์..........แต่หล่อนยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ณ ตอนนี้
                         “หวัดดีครับพี่กั้ง” อาร์และเพื่อนของเค้ายกมือไหว้..........ผมพยักหน้ายิ้มตอบ........รู้สึกไม่ดีเลย อยากจะกลับแล้วอ่ะ...............
                        “พี่กั้งเล่นมั้ยครับ” อาร์หันมาถามหลังจากที่พวกเค้าน็อคลูกกันจนได้ที่แล้ว............ผมสังเกตเห็นว่าน้องพรมีสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด............หล่อนไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีกับผมเลย.......ทั้งๆที่ในกลุ่มนี้ผมสนิทและรู้จักกับหล่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น..........คงจะหึงจนหน้ามืดสินะ........หึหึ.....
                        “ไม่ดีกว่า พี่เล่นไม่ได้เรื่องเลย ตามสบายเถอะ” ผมปฏิเสธ.......แล้วหันไปน็อคลูกกับผนังเล่น...........

                         พวกเค้าตีเทนนิสกันอย่างสนุกสนาน..........ในขณะที่ผมกำลังเบื่อสุดขีด...........พลางนึกก่นด่าตัวเองในใจว่ามามัวทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่............ผมน็อคลุกเล่นสลับกับหยุดมายืนดูพวกเขาเล่นบ้างเป็นระยะ............น้องอาร์ดูดีไม่เลวเลยตอนอยู่ในชุดนักกีฬา..............ท่วงท่าและลีลานับว่าน่ามองในยามเทิร์นลูกกลับไปยังฝั่งตรงข้าม.............ผมยืนพิจารณาดูเค้าเพลินๆจนสายตาเหลือบไปปะทะกับใบหน้าที่บึ้งตึงและแบกความทุกข์ของน้องพร.............จึงหันกลับมาน็อคลูกเล่นกับผนังต่อ............

                         “ตุ๊บ..........” อะไรบางอย่างลอยมากระแทกที่ศรีษะผมเบาๆ............ผมหันไปดูยังที่มา ถึงได้รู้ว่าที่แท้ลูกเทนนิสกระเด็นออกจากสนามมาโดนนั่นเอง............ทุกคนในสนามหน้าซีดขอโทษขอโพยกันใหญ่............ผมยิ้มแห้งๆ ก่อนจะเดินไปเก็บลูกโยนคืนไปให้.............สงสัยพระเจ้าคงจะไม่เข้าข้างคนเลวแบบเรากระมัง..........อิอิ.............

                          ผมเดินไปเดินมาข้างสนามเหมือนคนไร้ประโยชน์จนพวกเค้าเล่นเสร็จและชวนกันกลับ..........น้องพรไม่ได้มีท่าทีว่าจะชวนผมกลับเลย............ผมจึงแสร้งทำเป็นเฉยอยู่.........ดูซิว่าเจ้าหล่อนจะทำยังไง.........จากหางตาผมเห็นน้องอาร์ทำท่าละล้าละลัง........ก่อนจะเดินไปพูดอะไรกับน้องพรสองสามคำ...............
                         “พี่กั้งกลับกันเถอะ”...........หึ..........ในที่สุดหล่อนก็เดินมาเรียกผมจนได้.........ผมทำทีเป็นเพิ่งรู้ว่า ทุกคนจะกลับแล้ว............จึงหันกลับไป เก็บของแล้วเดินตามคนอื่นๆออกไป.............

                         ผมกับน้องพรตกลงว่าจะไปหาอะไรกินกันต่อ..............เราจึงขับรถตระเวนไปแถวๆย่านหลังมหาวิทยาลัย...................หล่อนคงจะเคืองผมไม่น้อย...........ผมจึงไม่พูดอะไรมาก...........แต่จะว่าไปแล้ว ผมยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ.............หล่อนซะอีกที่ร้อนตัวทำเป็นแม่ไก่กางปีกปกป้องลูกเจี๊ยบ................

                       “พี่กั้ง.........น้องแอบเคืองพี่กั้งอยู่นะ”..........อ้าวเวร............แล้วจะมาเคืองฉันเรื่องอะไรกันละเนี่ย...........ผมคิดในใจ..........
                       “ทำไมล่ะ”.........ผมทำทีถาม............อยากจะรู้นักว่าหล่อนจะพูดอะไรออกมา..........
                       “ก็ไอ้อาร์น่ะสิ มันแสดงท่าเป็นห่วงพี่กั้งโอเวอร์” เอาล่ะสิ.........ว่าแล้ว
                       “เหรอ.........ทำไมล่ะ” ผมยังคงไก๋ต่อ.........
                       “ก็มันบ่นให้น้องตลอดเลยว่า ทำไมไม่ให้พี่กั้งเล่นมั่ง ชวนเค้ามาแล้วก็ไม่ให้เล่น.......บ่นอยู่นั่นแหล่ะ........พอตอนจะกลับมันก็มาบอกให้น้องไปเรียกที่กั้งกลับด้วย”.......หล่อนบ่นเสียยืดยาว.......รวมความแล้วว่า หึงนั่นเอง..............

                        ผมไม่ได้แสดงความเห็นอะไรต่อ นอกจากยิ้มเฉยๆ............มันจะว่ายังไงฉันก็ไม่สนหรอก......เพราะว่าฉันจะไม่มาเล่นกับแกอีกแล้ว.........สู้ไปเดินชอปปิ้งยังจะสนุกกว่า.......ผมคิดในใจ........

                        จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ผมได้เรียนรู้ตัวเอง.........และได้บทเรียนบางอย่าง..........ผมรู้ตัวเองดีว่า จริงๆแล้วผมไม่ได้มีนิสัยคิดจะไปแย่งของใคร........เพียงแต่อาจนึกสนุกอยากเข้าไปแหย่เล่นเท่านั้น...........เนื่องจากในใจผมนั้นมีนัทอยู่เต็มทุกห้องแล้ว..........และคนอย่างผมจะไม่มีวันประพฤตินอกใจคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนเป็นอันขาด..........

                       แต่ถึงยังไงผมก็ยอมรับว่าการได้แกล้งอ่อยแฟนของคนใกล้ตัวนั้น มันเป็นความสนุกและตื่นเต้นดีจริงๆ...........ถึงอย่างไรที่ผ่านมานั้น ยังไม่เคยมีใครแสดงความทุกข์ร้อนให้ได้เห็นมากเท่าน้องพร............อย่างมากก็แค่เพียงประชดประชันกันเล่นแค่พอหอมปากหอมคอเท่านั้น..............ผมจึงไม่มีโอกาสรู้เลยว่าความสนุกของเรามันทำให้คนอื่นต้องร้อนใจ ไม่เป็นสุข........การไปยุ่งกับของรักของหวงของคนอื่นนั้น...........มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย.............
บางครั้งนิสัยผมก็ชอบทำอะไรตามอำเภอใจตัวเองเหมือนเด็กๆที่ไม่รู้จักยั้งคิด............ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำหรับผมไปอีกนาน..........ผมไม่อยากให้น้องพรต้องเกลียดผมทั้งๆที่ผมไม่เคยนึกอยากจะได้แฟนหล่อนจริงๆเลย............ถ้าผมชอบเค้าจริงๆแล้วลงทุนไปแย่งก็ว่าไปอย่าง...........เพราะฉะนั้นผมจะไม่มาเล่นเทนนิสอีกต่อไป.............นี่ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่น้องพร ผมอาจจะโดนตบไปแล้วก็ได้นะ.........อิอิ.........

                        ว่าแต่..........มันก็สนุกดีนะเวลาเห็นคนหึงอ่ะ................อย่าพึ่งด่านะ...........ผมแค่พูดเล่นเฉยๆ.....อิอิ

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #277 เมื่อ06-07-2007 12:43:02 »


รอนัท.......

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #278 เมื่อ06-07-2007 13:39:41 »

จะมารอเค้าทำไม..........คนไม่มีหัวใจพรรณนั้น.....หุหุ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #279 เมื่อ06-07-2007 13:53:40 »

อืมนะ....

คนเราก็คิดไป  :เฮ้อ:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #279 เมื่อ: 06-07-2007 13:53:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #280 เมื่อ06-07-2007 14:09:48 »


............นิสัยเข้าใกล้เจ๊เลยนะเนี่ย......... :m11: :m11: :m11:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #281 เมื่อ06-07-2007 17:20:17 »

เรื่องแหย่ รึ อ่อยแฟนเพื่อน ก็เป็นการช่วยเพื่อนได้เหมือนกัน

ถ้าเค้าเล่นด้วยก็แปลว่าคบไม่ได้ สกรีนแฟนให้เพื่อนงัย ว่ารักจิงมั้ย  :m14:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #282 เมื่อ06-07-2007 17:45:48 »

น้องพรเลยเครียดเลย
 o22

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #283 เมื่อ06-07-2007 18:27:07 »

หุหุ ชวนเอง เครียดเอง  :m14:

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #284 เมื่อ09-07-2007 08:18:44 »




 o19 o19 o19

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #285 เมื่อ09-07-2007 09:15:15 »

คุณ blanch นี่แฟนประจำตัวจริง สงสัยต้องให้รางวัลซะหน่อยแล้ว..........หุหุ...........แป๊บนึงนะคับ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #286 เมื่อ09-07-2007 10:40:37 »

                         “พี่กั้ง นัทยังไม่กลับเชียงใหม่นะ ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆต่อ”...............อะไรกันเนี่ย......นี่เค้าไม่รู้เลยเหรอว่า ผมเฝ้านับวันรอคอยการกลับมาของเค้าแทบทุกขณะจิต.............ทั้งๆที่เพื่อนๆคนอื่นๆที่ไปฝึกงานด้วยกัน ต่างรีบตรงดิ่งกลับบ้านช่องเรือนชานกันทุกตัวคน...........แต่นัทกลับยังมีแก่ใจจะไปเที่ยวเล่นต่อ โดยไม่นึกเลยสักนิดว่าหัวอกของคนที่รอคอยนั้นมันทรมานมากแค่ไหน.........

                           ผมจะไม่ร้องขอให้เค้าเห็นใจหรอก..........ความสำนึกดังกล่าวมันควรจะมาจากภายในใจของเค้าเองมากกว่า.......ถ้าอยากจะกลับมาก็ขอให้นึกอยากจะมาเอง..........เค้าอยากจะไปเที่ยวเล่นต่อก็แสดงว่าผมไม่สำคัญต่อเค้ามากพอ..........นึกแล้วก็ให้น่าน้อยใจในวาสนาเหลือเกิน......นี่เค้าไม่ได้มีความปรารถนาที่จะมาเจอผมอย่างที่ผมปรารถนาอยากจะเจอเค้าทุกลมหายใจเข้าออกกระนั้นหรือ..........

                          “จะไปเที่ยวที่ไหนอีก ทำไมไม่รีบกลับมาล่ะ” การรอคอยทำให้ผมไม่เหลือความอดทนที่จะเจรจาอย่างนุ่มนวลอีกต่อไป......ผมจึงใส่อารมณ์กับเค้าบ้าง.........อย่างน้อยๆเค้าก็ควรจะได้รับรู้ว่าผมหัวเสียและหงุดหงิดใจแค่ไหนกับการที่ต้องเป็นฝ่ายรอคอยอยู่อย่างนี้...........
                          “ก็ไปเที่ยวดอยภูคา ว่าจะไปสักสองสามวัน” แม้ใจผมนั้นจะร้อนรนเป็นที่สุด...........แต่อีกใจหนึ่งก็นึกไปถึงความจริงที่ว่า เค้านั้นก็ยังจัดอยู่ในวัยเด็กอยู่......ก็คงอยากจะไปเที่ยวเล่นตามประสากับเพื่อนฝูงบ้าง...........แต่เหตุผลที่นึกได้กับความรู้สึกของผมมันช่างสวนทางกันเสียเหลือเกิน..........ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายรักเค้ามากกว่า...........คนที่รักมากกว่าย่อมเป็นทุกข์........โดยเฉพาะคนที่รักอย่างไม่รู้จักปล่อยวางเช่นผม.........

                          “เพื่อนที่ไหนกันอีก ไหนว่าเค้ากลับมาเชียงใหม่กันหมดแล้ว” แม้จะพยายามคิดไปในแง่ดีแล้วก็ตาม......แต่อีกใจของผมนั้นก็นึกระแวงไปต่างๆนานา..........กลัวเค้าจะนอกใจไปมีคนอื่น..............ใครกันนะที่จะมีอิทธิพลนจนกระทั่งทำให้เค้ายืดเวลาการอยู่น่านออกไปให้นานขึ้นเช่นนี้..........หวังว่าคงไม่ใช่คนสำคัญเกินกว่าคำว่าเพื่อนหรอกนะ...........
                         “เพื่อนคนละกลุ่ม......ก็พวกที่เล่นเกมส์ในเนตนั่นแหล่ะ” นัทชอบเล่นเกมส์ในเนตตั้งแต่สมัยที่เราแชทกันที่เมืองนอกแล้ว...........แต่ตอนนั้นผมไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขามากนักจึงไม่ได้สืบถามเรื่องราว..........อีกอย่างตั้งแต่เราคบกันมานัทก็ห่างหายไปจากการเล่นเกมส์ เพราะเอาเวลามาขลุกอยู่กับผมซะเป็นส่วนใหญ่........ไม่คิดเลยว่าเค้ายังติดต่อกับเพื่อนๆกลุ่มนี้อยู่...........
                        “แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่” การรอคอยที่แสนจะทรมานทำให้ผมสูญเสียความนิ่งไปโดยสิ้นเชิง............ผมไม่อาจบังคับจิตใจให้วางเฉยได้ดังอดีตที่ผ่านมา............อีกทั้งผมคงรู้สึกรักและรู้สึกเป็นเจ้าของเค้ามากขึ้นกว่าแต่ก่อนนั่นเอง........
                        “ยังไม่รู้.......... วู้วววววว........... อย่าถามมากได้มั้ย กลับเมื่อไหร่ก็เห็นเองนั่นแหล่ะ.........มีอะไรอีกมั้ย........จะวางแล้วนะ” นัทหมดความอดทนที่จะเจรจากับผมอีกเช่นเคย.........คงรู้ว่าหากพูดไปให้มากความ ก็รังแต่จะมีแต่เรื่องให้ต้องยุ่งยากใจ..........เพราะโดยธรรมชาติของผมนั้นมักมีนิสัยชอบพิรี้พิไรไม่รู้จักจบสิ้น.......มิหนำซ้ำ ยังหว่านล้อมเก่งเป็นเลิศ.........หากแต่จะว่าไปแล้ว นัทเองก็ค่อนข้างจะเรียนรู้ธรรมชาติของผมได้ไวพอสมควร......และหาทางรับมือได้ค่อนข้างดีทีเดียว.........

                        “อือๆ รีบๆกลับมาก็แล้วกัน”…….สุดท้ายเมื่อไม่สามารถโน้มน้าวจิตใจของเค้าได้อีกต่อไป..........ผมจึงต้องจำยอมใช้ไม้อ่อนตามเคย............ตามใจแล้วกัน.........อยากทำอะไรก็เชิญ......ถ้าไม่รักไม่คิดถึงกันแล้ว........ผมก็จนใจ..........

                        นัทวางสายไปแล้ว............ผมพยายามข่มความโมโหเอาไว้สุดกำลัง..............อยากจะอาละวาดฟาดหางเพราะความไม่ได้อย่างใจนัก...............แต่ก็ทำอะไรไม่ได้............จึงได้แต่นั่งคิดคั่งแค้นอยู่คนเดียว............เวลาเราอยู่ไกลกัน เราไม่เคยได้คุยโทรศัพท์กันดีๆ นานๆเลย..........อย่างเก่งก็แค่สองสามประโยค...........และที่เหลือก็จะลงเอยด้วยการทะเลาะกันทุกที..........โดยนัทมักจะเป็นฝ่ายใส่อารมณ์และแสดงความหงุดหงิดก่อนทุกครั้ง............ผมไม่รู้ว่าทำไม.........และก็ไม่เคยถามเค้าสักหน.............ได้แต่คิดเอาเองว่าเค้าคงรำคาญที่ผมชอบพูดจาซ้ำๆซากๆ

                       “พล่ามอีกแล้ว” นี่เป็นประโยคที่เค้ามักพูดเสมอๆ หากผมเริ่มที่จะพูดจาอะไรไม่เป็นที่สบอารมณ์..........ที่ผ่านมาผมจึงต้องพยายามสงบปากสงบคำเอาไว้.........แต่ผมจะยอมสงบแค่ในบางทีเท่านั้นหรอก..........หากเค้าไม่ยอมตามใจผมบ้าง...........ผมก็จะพูดมันอยู่นั่นแหล่ะ...........ก็มันเรื่องอะไรเราจะเป็นฝ่ายยอมได้ตลอดเวลา..........รู้จักกั้งน้อยไปซะแล้ววว....


                       “พี่กั้ง คนนั้นเค้ามองพี่กั้งแหล่ะ”........อ้น.......เพื่อนรุ่นน้องสะกิดให้ผมดูหนุ่มหล่อที่นั่งดื่มกาแฟโต๊ะถัดไป............พักหลังนี้ผมไหนมาไหนกับอ้นบ่อยขึ้นเพราะน้องพรก็หนีไปมีแฟนแล้ว........ส่วนมอลลี่ก็สามารถสนองความต้องการผมได้แค่ในตอนกลางวันเท่านั้น..........ผมจึงได้อ้นซึ่งเมื่อก่อนเป็นคนรู้จักกันแต่ในวงนอก.............แต่ต่อมาเมื่อเราเริ่มรู้สึกว่าเป็นคอเดียวกัน (เกย์) ผมกับหล่อนจึงสนิทกันได้อย่างรวดเร็ว...........หล่อนจึงเป็นทั้งเพื่อนกินข้าว........เพื่อนดื่มกาแฟในยามบ่าย และเพื่อนชอบปิ้ง.........รวมทั้งเป็นเพื่อนท่องราตรีในยามเบื่อได้อีกด้วย...........

                         การมานั่งดื่มกาแฟของเราจึงเป็นแต่เพียงข้ออ้างเท่านั้น...........ความจริงแล้วที่ร้านกาแฟยังมีสิ่งอื่นที่น่าดึงดูดใจมากกว่ากาแฟหลายเท่าตัวนัก...........ไม่ว่าจะเป็นการได้อู้งานจับกลุ่มซุบซิบในยามบ่ายที่แสนจะน่าเบื่อ..............การได้นั่งในบรรยากาศที่แสนสบายและอบอุ่นซึ่งทางร้านกาแฟบรรจงสรรสร้างเพื่อบรรดาลูกค้าผู้มีอุปการคุณทั้งหลาย.............รวมทั้งมีหนุ่มๆสุดหล่อผู้มีรสนิยมละเมียดละไมมากมายเรียงหน้ามาให้ทัศนา............ซึ่งส่วนมากก็มักจะเป็นเกย์ หรือไม่ก็มีแนวโน้มที่จะสามารถเหนี่ยวนำให้เป็นเกย์ได้ง่าย...........แต่อย่างไรก็ตาม..........ผมเอง ก็ยังไม่เคยได้หนุ่มๆที่ร้านกาแฟมาทำแฟนเลยสักคน..........ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีใครมามอง.............หากแต่ผมถนัดเพียงแค่การอ่อยเหยื่อ..........ไม่ใช่การตะครุบ........จึงคิดเพียงว่าแค่ได้มองก็มีความสุขเหลือหลายแล้ว............มีใครบ้างไม่ชอบมองของสวยๆงามๆ........หรือจะเถียง...........

                         “ไหน คนไหนเหรอ” ทั้งที่รู้ว่าหล่อนนั่นแหล่ะที่เป็นคนสนใจหนุ่มคนนั้น และการที่บอกผมว่าโดนเค้ามองก็เป็นแต่เพียงการหาข้ออ้าง...........แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองไปตามทิศที่หล่อนทำท่าพยักเพยิดให้ดู.............หนุ่มนั่นมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว........ผมสบสายตาเค้าเพียงแวบเดียว ก่อนจะตวัดสายตาหลุบลงต่ำ..........มันเป็นมารยาอย่างหนึ่ง...........คือการดึงความสนใจของฝ่ายตรงข้ามโดยการสื่อสารด้วยสายตาและกิริยาท่าทาง............ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัดมาก.............แต่ถ้าเป็นในส่วนของการจู่โจมแบบประชิดตัวนั้น.............ผมไม่ถนัด.........และไม่คิดว่าจะฝึกฝน เพราะไม่เห็นว่าจะถูกกับจริตนิสัยแต่อย่างใด.................

                          “ไม่หรอกมั้ง เค้ามองเธอหรือเปล่า” ผมแกล้งทำทีไม่เออ ออ.........และโยนไปให้หล่อนแทน.........
                          “แต่น้องว่า เค้ามองพี่กั้งนะ เห็นมองมาตั้งหลายหนแล้ว”..........ผมใช้หางตาเหลือบมองไปอีกครั้งหนึ่ง........เนื่องจากการมองตรงๆไม่ใช่จริตมารยาที่พึงกระทำ...........เพราะมันจะทำให้เราดูแก่นกล้าและไม่น่าค้นหา..........เราจึงเพียงแต่ควรแสดงให้เค้าเห็นว่า เรารับรู้ถึงสิ่งที่เค้ากระทำ.........และกำลังรอดูอยู่ว่าเค้าจะทำอย่างไรต่อไป............หลังจากที่ดูให้ถ้วนถี่แล้ว..........ผมก็พบว่าเค้ากำลังมองมาที่พวกเราจริงๆ..........ผมรีบใช้สายตาสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างรวดเร็ว................เค้าดูดีที่เดียว............เทียบกับนัทแล้วเรียกว่าคนละชั้นกันเลย........แต่กระนั้นผมก็ไม่ยักกะเห็นว่าเค้าจะน่าสนใจไปกว่านัทตรงไหน..............คิดแล้วก็สะท้อนสะท้านในใจ.............ขนาดมีหนุ่มหล่อครบสูตรเยี่ยงนี้มานั่งมอง.............ในใจผมยังไม่นึกยินดีแต่อย่างใด................นี่นัทเค้าจะรู้มั้ยนะว่าผมรักเค้ามากมายแค่ไหน...............ซึ่งขอเดาเอาว่าคงไม่รู้ซะมากกว่า...............

                        “เดี๋ยววันนี้จะกลับแล้วนะ เอาไว้ไปถึงอาเขตแล้วจะโทรหา” นัทโทรมาแจ้งกำหนดการในการกลับเชียงใหม่แก่ผมในช่วงเช้าของวันหนึ่ง..............การรอคอยที่แสนจะยาวนานเดินทางมาถึงปลายทางแล้ว...........ผมพยายามระงับความตื่นเต้นดีใจเอาไว้............เราควรเก็บงำไม่แสดงความดีใจให้เค้ารู้จนออกนอกหน้า เพราะประเดี๋ยวจะเหลิงไปกันใหญ่.........
                       “กี่โมงอ่ะ” ผมพยายามบังคับสุ้มเสียงให้ดูเป็นปกติมากที่สุด..........แต่ก็คิดว่าทำได้ไม่ดีพอ........เพราะฟังๆแล้วมันช่างดูกระดี้กระด้า จนอดหมั่นไส้ตัวเองไม่ได้..............
                      “จะเอาอะไรหรือเปล่า”...........อ้ะ..........นี่ผมฟังอะไรผิดไปหรือเปล่าเนี่ย............นัทนี่นะจะซื้อของมาฝาก...............ไปกินยาผิดขนาดมาจากไหนกันละนี่...................
                      “แค่นัทกลับมาพี่ก็ดีใจมากแล้ว ไม่ต้องซื้อไรมาฝากหรอก” ผมแสร้งทำทีเป็นไม่อยากจะได้อะไร............มิหนำซ้ำยังพูดจาสำบัดสำนวนเหมือนนางเอกในละครน้ำเน่า ที่ไม่ต้องการสิ่งอื่นใดนอกจากขอให้พระเอกกลับมาโดยสวัสดิภาพก็พอ...........แต่ผมก็ไม่อยากได้อะไรจริงๆนะ..........เพียงแต่อยากมารยาเล่นๆสนุกสนานก็เท่านั้นเอง.............
                     “มารยา” นัทบ่นพำพัมแต่ก็ดูเหมือนจะชอบใจ...........ก่อนที่จะตัดบทไป.........
                      “งั้นแค่นี้นะ” ..........เค้ามักจะต้องเป็นฝ่ายคอยควบคุมให้ผมอยู่กับร่องกับรอยเสมอ...........ในขณะที่ผมก็ชอบทำเป็นเล่นและยั่วเย้าเค้าสารพัด..........ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า เค้าจะมาทำวางฟอร์มไปทำไมให้เสียเวลา..........คนจะรักกัน มันก็ควรจะต้องเปิดความเป็นตัวตนออกมาหากัน.......ไม่ใช่มานั่งเก๊กท่าอยู่แบบนี้...........บางทีเค้าอาจจะกำลังพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ถูกผมชักจูงมากจนเกินไป.........อีกทั้งเค้าคงจะยากควบคุมผมให้อยู่ภายใต้อาณัติด้วยกระมัง...........ก็ให้มันรู้ไปว่าใครจะชนะ........หุหุ.........


                        “มารับที่อาเขตหน่อยสิ” ..........การรอคอยอันยาวนานของผมเดินทางมาถึงในที่สุด...........นัทกลับมาแล้ว........และกำลังจะมาถึงสถานีขนส่งอาเขตในอีกไม่ช้า............บางครั้งผมก็ชอบการการรอคอย เพราะถึงแม้ว่ามันจะทำให้เรารู้สึกทุกข์ทรมานใจในระหว่างที่รอให้มันบรรลุตามเป้าหมาย........แต่มันก็สามารถทำให้หัวใจเราพองโตได้ทุกครั้งเมื่อมันเดินทางมาถึงจุดหมายที่เราต้องการ............ผมรีบขับรถบึ่งออกไปรับเค้าทันที..............อยากจะเห็นสภาพนักว่า ยับเยินมามากมายแค่ไหน...............

                        เมื่อผมมาถึงที่สถานีอาเขต........นัทยืนรออยู่ที่หน้าสถานีอยู่ก่อนแล้ว..............ผมตีไฟสูงหนึ่งทีเป็นการให้สัญญาณก่อนจะขับรถเข้าไปเทียบใกล้ๆกับบาทวิถี...........นัทก้าวเข้ามานั่งทำหน้าตาย.........จะยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายสักนิดก็ไม่มี...........ไม่รู้ว่าจะวางฟอร์มไปถึงไหนกัน........
                        “เป็นไงไปเที่ยวสนุกมั้ย” ผมฝืนยิ้มทำทีเป็นไม่รับรู้ว่าเค้ากำลังวางฟอร์ม........
                        “อืม….ตอนแรกกะว่าจะไปต่อที่อื่นอีก แต่เพื่อนคนอื่นๆเค้าติดธุระเลยกลับ”...........หึ.......ก็ลองไปต่ออีกสิ...........ใครจะมาทนนั่งรอ.............
                        “เหรอ” ผมยังคงทำเป็นไม่รู้เท่าทัน..........คิดว่าจะยั่วให้ผมโมโหเหรอ..........ไม่มีทางซะหรอก........

                     
                        “อ่ะ..........นัทซื้อข้ามหลามกับส้มมาฝาก” นัทหยิบถุงข้าวหลามกับส้มเขียวหวานจากกระเป๋าออกมายื่นให้ เมื่อเรากลับมาถึงห้อง.............
                        “ซื้อมาจากที่ไหน” ..........ผมรับถุงข้าวหลามออกมาพิจารณา.........ข้าวหลามร้ายๆ..........กระบอกเล็กๆ.........เห็นวางขายเกลื่อนตามข้างทางจากน่านมาเชียงใหม่.............ส้มสีทองลูกเล็กๆเหมือนมะนาวมากกว่าจะเป็นส้ม
                        “ร้านข้างทาง ข้าวหลามแถวนั้นดังนะ” นัทดูปลื้มอกปลื้มใจนักหนากับของฝากของตัวเอง............ทำยังกับหนุ่มบ้านนอก..........ซื้อของไร้รสนิยมพวกนี้มาฝาก.......อิอิ.......
                        “อืม”............ผมพยักหน้าเออออ........หยิบข้าวหลามมาแกะกินสองสามคำพอเป็นพิธี.......ก่อนจะเอาไปวางไว้ที่หลังตู้เย็น............ผมไม่ชอบกินข้าวหลาม..............แต่การที่เค้าซื้อเอามาฝากก็นับได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายและน่าซาบซึ้งใจยิ่งนัก..........คนพรรณนั้นคิดได้แค่นี้ก็ดีเกินพอแล้ว..............
                         “แบ่งไปให้พี่มอลลี่กับพี่พรด้วยนะ” นัทยังไม่วายสำทับ.............นี่ยังมีแก่ใจจะเอาไปแบ่งคนอื่นๆอีกหรือนี่...........
                        “ได้ เดี๋ยวพี่จะเอาไปให้เค้าเองกับมือเลย” ผมบอก..........ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป.............


                        ขณะที่ผมกำลังนั่งฉี่อยู่เพลินๆ นัทก็โผล่เข้ามาที่ประตูทำหน้าตาแป้นแล้น.................โรคจิตชะมัด คงคิดจะมาแอบดูผมฉี่แน่ๆ...............เห็นจนหมดทุกซอกมุมแล้ว ยังจะอยากดูอะไรกันอีก.............
                        “อ้าวนึกว่าจะยืนฉี่ซะอีก”.........ปกติผมไม่ยืนฉี่เมื่อเข้าห้องน้ำที่ห้องตัวเอง.............เพราะว่านั่งมันสบายกว่ากันเยอะอ่ะ...............

                        นัทผลุบหายกลับออกไป..............ผมจัดการธุระของตัวเองเสร็จจึงรีบวิ่งตามไปกระโดดขึ้นเตียง................วันนี้ผมต้องคิดบัญชีย้อนหลัง..........โทษฐานที่เค้าทำให้ผมต้องรอจนแทบจะขาดใจ.......ขอกอดให้หายคิดถึงทีนะ............อิอิ

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #287 เมื่อ09-07-2007 10:58:35 »

                                                 นัทผลุบหายกลับออกไป..............ผมจัดการธุระของตัวเองเสร็จจึงรีบวิ่งตามไปกระโดดขึ้นเตียง................วันนี้ผมต้องคิดบัญชีย้อนหลัง..........โทษฐานที่เค้าทำให้ผมต้องรอจนแทบจะขาดใจ.......ขอกอดให้หายคิดถึงทีนะ............อิอิ



แค่กอดเหยอ ???

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #288 เมื่อ09-07-2007 10:59:40 »


.............มารอบทคิดบัญชี...... :m13: :m13:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #289 เมื่อ09-07-2007 19:38:21 »

นั่นจิ แค่กอดจริงๆ เหรอ  :m14:  :m14:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #289 เมื่อ: 09-07-2007 19:38:21 »





ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #290 เมื่อ09-07-2007 20:09:45 »

เอาให้หนักๆ คุณกั้ง รอฉากนั้นอยู่  :m10:  :m10:  :m10:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #291 เมื่อ09-07-2007 21:09:04 »

เอาให้หนักๆ คุณกั้ง รอฉากนั้นอยู่  :m10:  :m10:  :m10:

มาสนับสนุนพิม มันห่างหายไปนานแระนะบทนี้  :m10:  :m10:  :m10:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #292 เมื่อ09-07-2007 21:16:17 »

มีมุมเด็กๆกัด้วยแหะ
 :m11: :m11: :m11:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #293 เมื่อ10-07-2007 09:25:34 »

บทเลิฟซีนนี่ขออนุญาติข้ามนะครับ พอดีไม่ใช่แนวถนัด..........อิอิ.............เสียใจด้วยนะจ้ะ

                         “พี่กั้งเอาข้าวหลามไปฝากพี่มอลลี่กับพี่พรหรือยัง” นัทถามถึงข้าวหลามที่อุตส่าห์หอบหิ้วมาจากน่าน ว่าไปถึงมือของคนทั้งสอง ตามที่ได้ฝากฝังผมเอาไว้หรือยัง..........นี่เค้ายังไม่ลืมอีกหรือ........ถ้าหากเค้าไม่ถามขึ้นมา ผมคงลืมไปซะสนิทเลยเหมือนกัน..............
                         “เอาไปแล้ว เค้ายังฝากมาขอบใจนัทด้วยนะ”........ นัทอมยิ้มน้อยๆด้วยความพอใจ เค้าคงอยากจะทำดีกับเพื่อนๆของผมบ้างกระมัง..........แต่ผมโกหก...........เพราะความจริงผมยังไม่ได้เอามันไปที่ไหนเลย.............ถ้าจำไม่ผิด ผมทิ้งมันเอาไว้ในตู้เย็นตั้งแต่วันที่นัทมาถึง...........ป่านนี้คงขึ้นอืดเหม็นหืนคาตู้เย็นไปแล้วมั้ง...............

                         วันต่อมาผมจึงรีบแอบเอาข้าวหลามดังกล่าวออกจากตู้เย็นไปทิ้งถังขยะเสีย เพื่อไม่ให้นัทมาพบ.............โดยไม่ลืมที่จะกำชับน้องพรและมอลลี่ว่า ถ้านัทถามถึงให้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า

                         “พี่กั้งเอามาให้แล้ว อร่อยมาก”.........อิอิ.......ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมจะเป็นคนแล้งน้ำใจ ขี้เกียจหอบหิ้วเอาไปฝากคนทั้งสองแต่อย่างใด............หากแต่ผมได้คิดใคร่ครวญดูแล้วว่า สมควรจะทิ้งไปมากกว่า..........เพราะบัดนี้ มันได้แปรสภาพจากพอรับประทานได้ กลายป็นเย็นชืดขึ้นหืน ไม่เป็นที่ต้องการ............หากขืนนำไปฝากคนทั้งสอง แทนที่เค้าจะขอบอกขอบใจ.........ตรงกันข้าม.........เค้าอาจจะแช่งชักหักกระดูกเมื่อยามอยู่ลับหลังเราก็เป็นได้.........โทษฐานที่บังอาจเอาข้าวหลามร้ายๆมาฝากประหนึ่งว่าจงใจจะแกล้งกันเล่น............

                          “นัทนี่ก็น่ารักเนาะ รู้จักซื้อของมาฝากด้วย” มอลลี่เอ่ยปากชมแกมขำเมื่อผมเล่าให้ฟังว่าจัดการกับข้าวหลามเจ้าปัญหานั้นด้วยวิธีใด..............
                          “คุ้มดีคุ้มบ้าน่ะสิ” ผมแกล้งบ่น ไม่คล้อยตาม...........แต่ในใจนั้นแสนจะภูมิใจที่แฟนของตัวเองดูเป็นคนน่ารักในสายตาคนอื่นบ้าง............ซึ่งมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักหรอก...........


                         
                           “ฮัลโหล พี่กั้งเหรอคะ นี่แพทเองนะ”.........แพททักเสียงใสมาตามสาย............เธอเมลมาบอกผมก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้ากลับมาเมืองไทยเมื่อไหร่ จะแวะขึ้นมาเยี่ยมที่เชียงใหม่...............และผมเดาเอาว่าขณะนี้เธอคงจะมาถึงเมืองไทยแล้วเป็นแน่............สมัยอยู่เมืองนอกเธอได้ให้ความช่วยเหลือผมเอาไว้หลายอย่าง.............ผมจึงยินดีต้อนรับเธอด้วยความยินดีและเต็มใจเป็นอย่างยิ่ง..............

                           ขณะที่ผมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ผมสังเกตเห็นนัทคอยเงี่ยหูฟังอยู่ตลอดเวลา..............คงสงสัยว่าผมกำลังคิดจะมีกิ๊กแน่ๆ...........ผมจึงเดินเลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง..............นัทเดินตามมายืนฟังอยู่เงียบๆ...........
                           “อะไรนะ พักที่กฤษฎาดอยเหรอ..........อืม.........รู้จักสิ.........เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับแล้วกัน” ........ผมบอกเวลานัดก่อนจะรีบวางสายไป.........
                           “ใครโทรมา” นัททำฟอร์มถามเหมือนไม่สนใจอยากจะรู้นัก..........ดีล่ะ...........ผมจะใช้โอกาสนี้ทดสอบว่าเค้าจะหึงผมหรือเปล่า.............
                           “เต้...........เค้ากลับมาเมืองไทยแล้ว........ตอนนี้อยู่ที่เชียงใหม่แล้ว.......พรุ่งนี้เช้าเค้าจะให้พี่ไปรับพาไปเที่ยว”.......นัทยังคงทำสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..........นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นัทได้ยินชื่อของเต้..........เพราะที่ผ่านมาผมเคยเล่าให้นัทฟังหลายครั้งแล้วว่าปลื้มผู้ชายคนนี้มากมายแค่ไหนสมัยอยู่เมืองนอก..........ผู้ชายที่เหนือกว่านัทในทุกๆด้าน...........เค้ามาเชียงใหม่.............มาเจอผม........จะให้คิดว่ายังไงล่ะ...........หุหุ............
                            “เค้ามากับใคร” นัททำทีถามต่อเหมือนไม่สนใจ..........ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเค้าจะทำเป็นนิ่งได้สักแค่ไหน.........ก็ในเมื่อบอกว่าคิดกับผมแบบแฟนไม่ได้ งั้นก็คงไม่มีสิทธิ์แสดงความหึงหวงสินะ..........
                           “มาคนเดียว..........บางทีคืนพรุ่งนี้พี่อาจจะต้องค้างเป็นเพื่อนเค้าก็ได้” ผมยังคงเดินหมากต่อ.........นัทนิ่งเงียบไปชั่วขณะ.........ผมเดาไม่ถูกหรอกว่าเค้ากำลังคิดอะไรอยู่.........แต่ผมรู้ว่าผมกำลังคิดจะทำอะไร........
                           “พรุ่งนี้พามาแนะนำให้นัทรู้จักบ้างสิ.......นัทอยากเจอเด็กนอก กินข้าวเที่ยงด้วยกันก็ได้”  หึ........ลูกไม่ตื้นๆ เรื่องอะไรผมจะพามา........ถ้าพามาความลับก็แตกน่ะสิว่าผมโกหก..........
                           “นัทมีเรียนไม่ใช่เหรอ........พี่ขี้เกียจวิ่งเข้าวิ่งออก.........ไม่ต้องมาหรอก”........ผมบอกปัด.....สะใจนัก......ถ้าไม่รักกัน ก็ไม่ต้องมาแสดงท่าหึงหวงสิ ถึงจะถูก............
                            “เอ่อ.........ว่าแต่ว่ากฤษฎาดอยนี่มันไปทางไหนกันเหรอ”......เสียฟอร์มชะมัด.........เพราะผมยังไม่เคยไปรีสอร์ทที่ว่านั่นเลย............
                             “เดี๋ยวนัทจะเขียนแผนที่ให้” นัทอาสา ก่อนจะหันกลับไปสนใจกับการดูหนังต่อ.........ผมลอบสังเกตดูเค้าเงียบๆ..........เค้าไม่ได้แสดงท่าว่าหึงหวงหรืออะไรพรรณนั้นออกมาให้เห็นมากนัก......หรือเค้าจะไม่ได้รักผมอย่างที่ปากเค้าว่าเลยจริงๆ...........คิดๆแล้วก็ใจชักไม่ค่อยจะดี..........แต่ถึงยังไงก็คงต้องรอพิสูจน์กันพรุ่งนี้จะดีกว่า...............

                              หลังจากที่แวะไปส่งนัทที่หอในตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นเรียบร้อยแล้ว............ผมจึงขับรถออกไปตามเส้นทางเชียงใหม่สะเมิง...........เส้นทางสายดังกล่าวเป็นเส้นทางที่มีรีสอร์ทอยู่มากที่สุดสายหนึ่งของเมืองเชียงใหม่............อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและขุนเขา.........ทั้งยังไม่แออัด........เหมาะแก่การมาพักผ่อนเพื่อหาความสงบอย่างแท้จริง.................ผมปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปตามจินตนาการตามนิสัย................

                               นี่ถ้าผมมีบ้านเล็กๆ น่ารักๆ อยู่กับนัทสองคนก็คงจะดีไม่น้อย.............ผมไม่อยากจะเลิกกับเค้า..........แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะค่อนข้างมืดมนสักเพียงใดก็ตาม............ผมไม่อยากเลิกแล้วต้องไปเริ่มต้นกับคนใหม่...........การเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับใครสักคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย.........มันต้องทุ่มเททั้งเวลาและแรงกายแรงใจ..............ผมไม่อยากคบแล้วก็เลิกซ้ำๆซากๆแบบที่คนอื่นๆเค้าเป็นกัน..............ผมอยากจะให้เราไปกันได้ด้วยดี.................ก่อนที่ผมจะคิดเตลิดไปได้ไกลกว่านั้น................เสียงโทรศัพท์ก็ดังลอดออกมาจากในกระเป๋า ปลุกผมให้ตื่นจากความฝัน..........ผมหันไปหยิบโทรศัพท์ออกมาดู..............ใครกันนะโทรมาแต่เช้า............หรือจะเป็นแพท......

                            “ฮัลโหลพี่กั้ง” เสียงนัททักมาตามสาย..........โทรมาทำไมกันเนี้ย..........เพิ่งจะแยกกันเมื่อตะกี้นี่เอง..............
                            “โทรมาทำไมอ่ะ มีอะไรเหรอ”........น่าแปลกใจจริงๆ...........หรือจะโทรมาเช็คว่าผมประพฤตินอกใจหรือเปล่า...........
                            “เปล่า แค่โทรมาถามเฉยๆ ว่าถึงไหนแล้ว” ............ตลกแล้ว.........ร้อยวันพันปีเคยแสดงความเป็นห่วงเป็นใยซะที่ไหนกัน............ผีเข้าหรือเปล่าเนี่ย.............
                            “อ๋อ.........จวนจะถึงแล้วล่ะ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ พี่กำลังขับรถอยู่” ผมรีบตัดบทวางสาย.........พลางนึกกระหยิ่มในใจ.............สงสัยจะหึง.........หุหุ


                              แพทเดินยิ้มร่าออกมาหาเมื่อผมไปถึงที่รีสอร์ท...............ผมแปลกใจเมื่อเห็นเธอเดินมาเพียงคนเดียว..............จึงเอ่ยปากถาม.........
                              “อ้าวเพื่อนไปไหนล่ะ” เดิมเธอเคยบอกผมเอาไว้ว่าจะพาเพื่อนมาด้วยหนึ่งคน..........น่าแปลกที่เห็นมีแค่เธอเพียงคนเดียว ณ ตอนนี้
                               “เค้าไม่สบายน่ะคะ เลยขอตัวนอนพัก” แพทอธิบายเหตุผลแทนเพื่อนของเธอ.........ผมพยักหน้าหงึกหงัก เป็นเชิงเข้าใจ............
                              “งั้นเราไปกันเถอะ” แพทเอ่ยปากชวนเมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องยืนคุยกันอยู่ตรงนี้ต่อไป..........เราสองคนจึงขับรถมุ่งหน้าไปยังดอยสุเทพ..........สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของเมืองเชียงใหม่ที่ใครๆเมื่อได้มาจะต้องแวะเที่ยวไม่ให้ตกหล่น...........

                            หลังจากที่แวะกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพเพื่อขอพรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว.........ผมจึงพาเธอขับรถขึ้นไปเที่ยวชมดอกไม้ที่พระตำหนักภูพิงค์ฯกันต่อ...........นาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลา เกือบสิบเอ็ดโมง.............เสร็จจากจุดนี้แล้วเราคงจะแวะลงไปหาอะไรทานกันในเมืองก็เป็นอันเสร็จ....................

                             แพทเที่ยวเดินถ่ายรูปดอกไม้ตามจุดต่างๆอย่างเพลิดเพลิน.............ในขณะที่ผมเดินตามมาติดๆ.........
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกคราว.............แม้ที่นี่จะอยู่บนดอย แต่สัญญาณชัดแจ๋ว...........ผมหยิบออกมาก่อนจะพยักหน้าให้แพทเป็นเชิงขอตัว............ใครกันอีกล่ะเนี่ย..........
                            “ฮัลโหล พี่กั้งอยู่ไหน กินข้าวหรือยัง” ............นัทอีกแล้ว.............วันนี้เป็นอะไรเนี่ย.........ทำท่าแปลกๆตั้งแต่เช้าแล้ว
                            “พี่อยู่ที่พระตำหนักภูพิงค์ คงลงไปไม่ทันหรอก นัทกินก่อนเถอะ” ผมคะเนเวลาแล้วคิดว่าลงไปไม่ทันกินข้าวเที่ยงกับนัท จึงบอกปัดไป.............ทั้งที่ในใจนั้นอยากจะแบ่งภาคได้นัก........จะได้ลงไปรับยอดชู้พาไปกินข้าวเที่ยงให้อิ่มหนำสำราญใจ.........
                           “อยู่กับใครอ่ะ..........กับเต้เหรอ..........เค้าได้ยินเราคุยกันมั้ย”........ประสาทน่ะสิ.......แล้วจะมาอยากให้เค้าได้ยินทำไมกัน............
                          “ไม่หรอก เค้าอยู่ไกล” ผมทำเสียงกระซิบบอก.............
                          “งั้นแค่นี้นะ” นัทกล่าวลา.........ก่อนจะวางสายไป................ตานี่แปลกๆ ผมนึกฉงนในพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืนของเค้า...........จะมาคอยเช็คทำไม...........แต่นึกดูอีกทีก็สาแก่ใจดีเหมือนกัน..........อยากทำปากแข็งดีนัก................

                            “แฟนโทรมาเหรอพี่กั้ง” แพทเดินกระแซะเข้ามาถาม.............ผมพยักหน้ารับ...........แล้วทำทีเดินเสออกไปดูดอกไม้ในสวน................พลางแอบอมยิ้มอยู่คนเดียว...........พฤติกรรมแบบนี้แสดงว่าหึงแน่ๆ..............อิอิ..............




blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #294 เมื่อ10-07-2007 09:40:04 »


ตอนนี้ สะใจที่สูดดดดดดดส์  มันต้องอย่างนี้ เหอ เหอ           o13 o13 o13

ป๋อหล๋อ
บท....ไม่ถนัด จริงเหยอ หุ หุ   :m12: :m12: :m12:

bishonen

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #295 เมื่อ10-07-2007 18:47:40 »

ร้าย....นะคะเนี่ยยย

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #296 เมื่อ10-07-2007 18:51:58 »

หุหุ ไม่อยากจะคิดเลย ถ้านัทไม่ออกอาการหึงนี่ คุณ moody จะทำยังไง  :m12:  :m12:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #297 เมื่อ10-07-2007 19:24:15 »

ก็ควันออกหู มังครับ.........อิอิ

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #298 เมื่อ11-07-2007 10:29:12 »

                         เมื่อเดินเที่ยวชมความงามของดอกไม้จนเป็นที่พอใจแล้ว..........ผมกับแพทจึงขับรถกลับลงมายังพื้นราบอีกครั้ง..........เราแวะไปหาข้าวเที่ยงทานและตบท้ายด้วยการหามุมนั่งละเลียดกาแฟต่อจนพลบค่ำ............

                         “เพื่อนของแพทเค้าจะให้เราไปเจอที่ไหน” ผมถามถึงแผนการที่เราจะทำต่อไป หลังเดินออกมาจากร้านกาแฟ
                         “เค้าจะมากับรถตู้ของรีสอร์ท แล้วให้เราไปเจอกันที่ไนท์บาซาค่ะ แพทว่าเราพาเค้าไปทานข้าวเย็นแล้วค่อยไปซื้อของกันต่อดีมั้ย”..........แพทเสนอแผนการ.........ซึ่งผมก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด...........วันนี้นัทไม่มาค้างที่ห้องด้วย เพราะพรุ่งนี้มีเรียน...........ฉะนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนแต่อย่างใด............

                          ผมพาแพทและเพื่อนชายของเธอไปกินข้าวที่ร้านอาหารเหนือชื่อดัง..........ต้องขอบคุณพี่ดุ๊กที่พาผมมารู้จักร้านนี้...........แม้เรื่องระหว่างเราจะจบลงอย่างไม่น่าประทับใจนัก แต่อย่างน้อยๆก็ยังมีความทรงจำที่ดีๆเหลือเก็บเอาไว้ให้ระลึกถึงบ้าง.............

                          เพื่อนชายของแพทหน้าตาท่าทางดูไม่เลว.............ผมสังเกตเห็นว่าเค้าเป็นคนพูดเพราะ ปากหวาน.........หวานจนน่ากลัว............หรือว่า ผมอาจจะอยู่กับนัทจนเคยชินกับความกระด้างไปซะแล้ว........เมื่อมาได้ยินได้ฟังคำพูดไพเราะเสนาะหูเช่นนี้.........จึงรู้สึกขัดๆอยู่ในใจพิกล..........แต่จากสัมผัสของผมบอกว่าเค้าเป็นคนไม่จริงใจ.........ถึงยังไงผมก็ไม่เกี่ยวอยู่แล้วนี่...........ไม่ใช่แฟนผมซะหน่อย
                          “คุณกั้งจะทานอะไรดีครับ” เพื่อนชายของแพทแสดงน้ำใจโดยให้ผมเลือกเมนูที่อยากทาน.........ผมยิ้มตอบ
                          “อะไรก็ได้ครับ”.......คิดแล้วก็ขนลุก เกิดมายังไม่เคยมีใครมาเรียกคุณเรียกท่านสักที.......อีตานี่จะสุภาพมากไปหรือเปล่าเนี่ย...........ดูเวลาพูดจากับแพทซิ.........จ้ะจ๋าซะไม่มี.........ยิ่งมองยิ่งรู้สึกหมั่นไส้เต็มกำลัง.............ผู้ชายอะไรมารยาชะมัด.............เอ..........หรือว่าผมจะอิจฉาน้องที่เธอได้แฟนทั้งน่ารักและแสนสุภาพขนาดนี้.............คงไม่หรอกมั้ง..........

                            “พี่กั้งว่า แฟนแพทเป็นไงมั่ง” เธอเดินมากระซิบถามระหว่างที่ยืนรอเพื่อนชายเลือกซื้อของฝากที่ตลอดไนท์บาซาร์
                            “ไม่รู้สิ พี่เพิ่งเจอเค้าแค่หนเดียวเอง คงตอบอะไรไม่ได้หรอก” ผมแกล้งบ่ายเบี่ยง.......ทั้งที่ในใจนั้นอยากจะบอกว่ารู้สึกอึดอัดกับผู้ชายคนนี้เหลือเกิน..........แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปพูดแบบนั้น..........อันว่าแฟนใคร ใครก็ว่าดี...........ขนาดของผมทั้งร้ายทั้งเอาแต่ใจขนาดนี้.........ผมก็ยังรักของผมเลย......จริงมะ

                            เราสามคนเดินเลือกซื้อของไปเรื่อยๆ.........ผมสังเกตว่าแพทกับเพื่อนชายของเธอสวีทกันจนออกนอกหน้า...........เมื่อคิดไปถึงคู่ของผมแล้วก็ให้สะท้อนใจยิ่งนัก............หากเราสามารถเดินควงคู่กันอย่างเปิดเผยได้แบบสองคนนี้ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย...........ไม่รู้ว่ากรรมเวรอะไรนักหนา...........แต่มาคิดดูอีกทีแล้ว อย่าว่าแต่นัทเลย.......ต่อให้เป็นผมเอง บางทีก็รู้สึกไม่สะดวกใจเช่นกัน หากต้องโดนจับตามองเวลาที่เราควงกันไปไหนมาไหนในที่สาธารณะ.........เพียงแต่ผมไม่รู้สึกมากเท่านัท.........ก็เท่านั้นเอง.........

                           “พี่กั้งส่งเราสองคนแค่ตรงนี้แหล่ะ เดี๋ยวแพทจะกลับกับรถตู้ของรีสอร์ท” ........แพทขอตัวลงจากรถจุดที่เธฮนัดรถตู้จากทางรีสอร์ทเอาไว้..........ผมจอดรถและเดินออกมาส่งคนทั้งสอง......ก่อนจะกล่าวคำร่ำลา............หมดภาระไปหนึ่งอย่าง........การได้มาอาศัยอยู่ในเมืองท่องเที่ยวแบบนี้.......เลี่ยงไม่ได้เลยกับการที่ต้องคอยรับรองแขกจากที่ต่างๆ............แต่หากใครไม่มีคนมาเยี่ยมมาหาเลย......อันนี้ก็คงต้องพิจารณากันแล้วว่าเป็นเพราะเหตุใด.............

                          ขณะที่ผมกำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถ..........เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกหน...........วันนี้มีคนโทรมาบ่อยจัง.............
                          “ฮัลโหลพี่กั้ง.......อยู่ไหนแล้ว”.............วันนี้เป็นครั้งที่สามแล้วนะเนี่ย...........ผมแอบนึกขำในใจ.............จะมาตาเช็คอะไรกันนักหนา............ไหนว่าไม่รักไม่หวงไง...........ปากกับใจไม่ตรงกันนี่.........
                         “อ๋อ.........ส่งเค้าขึ้นรถกลับรีสอร์ทไปแล้วเมื่อกี้ เดี๋ยวพี่ก็จะกลับห้องแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” ผมย้อนถาม........อยากจะรู้นักว่าจะให้เหตุผลว่าอย่างไร.............
                         “ไม่มีอะไร นัทโทรมาถามเฉยๆ งั้นแค่นี้นะ”...........นัทรีบวางสายไป ก่อนที่ผมจะทันได้ซักไซ้อะไรต่อ.......หึ............แปลกๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว..............ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าคิดอะไรอยู่.............


                         หลังจากที่แพทกลับไปแล้ว........ชีวิตของผมและนัทก็กลับเข้าสู่ภาวะปรกติสุขดังเดิมอีกครั้ง...........นัทจะมาค้างที่ห้องผมบ้างเป็นครั้งคราว............แต่โดยรวมก็คือผมจะต้องออกไปรับเค้าเพื่อไปกินข้าวเที่ยงเมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน และก็รับมากินข้าวเย็นด้วยที่ห้องหลังเลิกงานที่มหาวิทยาลัย...........โดยไม่ลืมที่จะแวะเช่าหนังติดมือกลับมาด้วยเสมอ.................

                           เมื่อเราได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น ผมจึงได้มีโอกาสเรียนรู้นัทให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในหลายแง่มุม........มีบางอย่างที่ผมเข้าใจ.............บางอย่างที่ผมพยามจะเข้าใจ.............และบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจเลย........ปกติเวลาเราอยู่ด้วยกันเรามักจะไม่ค่อยสวีทกันมากนัท.....เพราะนัทไม่ชอบให้คลอเคลีย พันแข้งพันขา.......เราสองคนจึงอยู่กันอย่างเรียบๆไม่หวือหวา............โดยส่วนมากแล้วผมมักจะเป็นฝ่ายตามใจเค้าในทุกๆเรื่อง........ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารที่อยากจะกิน..........หนังที่อยากจะดู.........รวมไปถึงเรื่องเซ็กส์..............

                          จะว่ากันตามตรงผมไม่ใช่คนที่มีความต้องการทางเพศสูง...............แต่ผมใช้การแสดงออกถึงความต้องการทางเพศของคนรักเป็นตัวชี้วัดความเสน่หาในตัวเราอย่างหนึ่ง..............คนที่รักเราควรจะต้องแสดงออกถึงความรักใคร่เสน่หาในตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นทางกิริยาท่าทาง..........วาจา........และแสดงออกถึงความต้องการอยากจะมีเพศสัมพันธ์ด้วย............

                          นัทไม่ใช่คนที่จะมานั่งพูดจาหวานๆ พร่ำพรอดถึงความรัก...........ไม่ใช่คนที่จะมาคอยเอาอกเอาใจใคร.......และเรื่องเซ็กส์ของเค้าก็ขึ้นๆลงๆตามแต่อารมณ์...........บทจะมากก็มากเกิน แต่บทจะน้อยก็น้อยซะจนน่าแปลกใจ................บ่อยครั้งผมต้องคอยเป็นฝ่ายยั่วยุให้เกิด...........ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกขัดอยู่ลึกๆภายในใจมาตลอด............ทำไมผมจะต้องทำแบบนั้น...........ในเมื่อตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมไม่เคยมีเซ็กส์กับใครมาก่อน..........และผมไม่ใช่คนติดเซ็กส์อย่างแน่นอน......อีกทั้งการมีเพศสัมพันธ์ของเราก็ไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขอะไรนักหนา............นัทไม่เคยจะสนใจด้วยซ้ำว่าผมรู้สึกอย่างไรเมื่อเราทำกิจกรรมอย่างว่านั้นร่วมกัน..............ผมคิดแต่ว่าจะมีความสุขหรือไม่ผมไม่สนใจ..............ผมไม่ได้ชอบมีเซ็กส์..........แต่ผมอยากให้เค้ามีเซ็กส์กับผม.............เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความรู้สึกว่า เค้ายังคงมีความเสน่หาในตัวผมอยู่............เพราะถ้าจะไปสังเกตุเอาจากการแสดงออกทางคำพูด หรือการกระทำ.........คงต้องบอกว่ายากเหลือเกินที่จะเห็นอย่างเป็นรูปธรรม............

                           ผมไม่ชอบความรู้สึกที่ว่าเราต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นยั่วยุให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์............ทั้งๆที่ใจผมนั้นอยากให้เค้าเป็นฝ่ายแสดงมันออกมาเองมากกว่า..............การกระทำแบบนี้มันเหมือนกับเรามีความต้องการอยู่ฝ่ายเดียว..........มันทำให้รู้สึกผมขาดความนับถือตัวเองลงไปเรื่อยๆ............นี่ผมกระหายในเรื่องนั้นมากขนาดนั้นเลยหรือ...........ผมไม่เข้าใจพฤติกรรมของเค้าจริงๆ...........หรือบางทีเค้าอาจจะพยายามห้ามตัวเอง ไม่ให้ถลำลึกกับผมมากไปกว่านี้...............ผมรู้สึกทรมานทุกครั้งที่ผมมีความคิดว่า นัทกำลังพยายามห้ามใจตัวเองจากผมอยู่..............บางทีผมก็รู้สึกเหนื่อยเหลือเกินกับการที่ต้องคอยหลอกล่อให้เค้าแสดงพฤติกรรมที่ผมต้องการจะเห็นออกมา..............ในเมื่อคนหนึ่งพยายามจะซ่อน.............ขณะที่อีกคนพยายามจะเข้าไปค้นหา...............เรื่องต่างๆมันจึงยืดยื้อไปไม่มีวันจบ...........ความรักมันน่าจะเป็นการเปิดเข้ามาหากันมากกว่าไม่ใช่หรือ............



                         คืนนี้ก็เหมือนอีกหลายๆคืนที่นัทไม่ได้แสดงท่าว่าจะมีความต้องการในตัวผมออกมาเลยแม้แต่น้อย..............ผมรู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจเงียบๆ.............นี่เราจะมานั่งอยู่ด้วยกันในห้องนี้ทำไม.............ในเมื่อเค้าก็ดูหนังของเค้าไป...........ในขณะที่ผมก็นั่งตบยุงเล่น................เค้าแทบจะไม่แสดงความสนใจในตัวผมออกมาด้วยซ้ำ..............ผมอยากมีแฟนในแบบที่คุยกันได้ทุกเรื่อง..............สนใจรับฟังสิ่งที่เราพูด..........และก็สื่อสารกันดวยภาษากายตามความเหมาะสม.............ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นแฟนกันทำไม.............

                           หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว.............ผมจึงมานั่งดูหนังกับนัทบนเตียง...........ผมลอบมองนัทเงียบๆ.............ตั้งแต่เย็นหลังกินข้าว........เค้าแทบจะไม่พูดอะไรกับผมเลย..........เอาแต่นั่งดูทีวี............หรือเค้าจะลืมว่าผมมีตัวตนอยู่ในห้องนี้...............และผมก็ต้องหาเรื่องมายั่วยวนเค้าอีกจนได้
                “นัท” ผมกระซิบเรียกเบาๆ
                 “หือ” นัทขานโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองผมเลย
                “พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ” ผมพยายามข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ.....
                “อะไร” นัทถามทั้งที่ตายังเพ่งไปที่จอทีวี............นี่ใจคอจะไม่สนใจกันบ้างเลยหรือไง......
                “ความต้องการทางเพศต่ำเหรอ”...........แรงไปมั้ยเนี่ย............แต่แฟนกันก็ควรจะถามได้ทุกเรื่องนี่...........เค้าจะหาว่าผมร่านหรือเปล่านะ.......
                “หา.........ทำไมถามแบบนั้นล่ะ”.........คราวนี้ได้ผล..........นัทหันกลับมามองผม..........ทำหน้าตาประหลาดใจ เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่
                 “ไม่รู้ ถามดูเฉยๆ”..............ผมคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมก่อนจะเอนตัวลงไปนอน............นัทลุกไปปิดทีวีก่อนจะตามขึ้นมาบนเตียง...........เบื่อที่ต้องคอยยั่วยวนแบบนี้จัง.........เฮ้อ.......

blach

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #299 เมื่อ11-07-2007 11:27:13 »


No Comment แต่เป็นกำลังใจ ครับ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด