ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บอกกล่าวกันก่อน
เรื่องนี้เนื้อเรื่องทั้งหมดเกิดจากจินตนาการล้วนๆ ไม่มีบุคคลอยู่จริง ขอให้สนุกกับการอ่านก็แล้วกันนะครับ
ตอนที่ 1 กูก็แค่สัตว์เลี้ยง
คุณเคยไหม.....เคยไว้ใจใครบ้างไหม คนที่คุณมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้แม้แต่ชีวิต แต่เขาไม่เคยสนใจเลยว่าคุณจงรักภักดีกับเขามากขนาดไหน
แล้วความไว้ใจที่คุณมอบให้เขา ก็ถูกปัดถิ้งอย่างไม่ใยดี เหมือนกับการปัดเศษขยะถิ้งเท่านั้น ทั้งๆ ที่คุณมอบมันให้เขาด้วยความรัก ตั้งแต่ตอนที่ผมเริ่มคบกับเขาแรกๆ เพื่อนๆ ทุกคนบอกว่าอย่า....คนอย่างเขาไม่มีดีอะไรหรอก ทั้งตัวของเขามีดีแค่หน้าตา แต่จิตใจมันตรงกันข้าม แต่นั้นมันเหมือนกับเป็นสิ่งท้าทายสำหรับผม พวกคุณคงเคยได้ยินคำว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุมั้ย นั้นแหละเป็นคำที่ผมใช้ ยิ่งมีคนห้ามเท่าไรผมยิ่งทุ่มให้เขามากขึ้นเท่านั้น ดูไปแล้วมันก็เหมือนแสงไฟที่สวยงามหลอกล้อแมลงอย่างผมให้ไปเล่นกับมัน แต่...หลังแสงไฟที่สวยงามนั้นมันแฝงไว้ด้วยอะไรหลายอย่าง แต่แมลงอย่างผมก็ยังไปเล่นกับมันโดยที่ไม่รู้เลยว่าไฟมันร้อน มันทำลายล้างได้ทุกอย่าง ทำลายทุกอย่างให้มอดไหม้ไปในพริบตา แต่ทุกคนอยากเล่นกับไฟ....เหมือนกับผม
หรือคุณจะเถียงล่ะ...ว่าไม่.....
ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บที่ข้อมือที่กระทบกับโลหะบางอย่าง และความหนาวเย็น หนาว...จนแทบทำให้คนตัวเล็กๆ อย่างผมแทบตายเลยเชียวล่ะ ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับการรับรู้ถึงการหักหลังที่แสนเจ็บปวด มันเจ็บลึกเข้าไปในจิตใจอันแหลกสลายของผม หัวใจที่ตอนนี้มันคงด้านชาจนไร้ความรู้สึก แต่มันยังคงเต้นอยู่และมันก็ยังทำให้ผมหายใจและรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น
หัวใจของผมมันแหลกสลายไปพร้อมกับคำว่า “ผมขายบีมให้คุณ...หนี้สินของเราเป็นอันหมดกันนะครับ” นั้นเป็นคำพูดของคนที่ผมรักมากที่สุดเป็นคนพูดก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลงเพราะฤทธิ์ของยาสลบที่โป๊ะเข้าที่จมูกของผม ผมเพียงแค่หวังว่าฤทธิ์ของยามันจะมากพอที่จะทำให้ผมหลับไปตลอดกาล และไม่ต้องตื่นขึ้นมารับรู้เรื่องราวที่เจ็บปวด หรือมันอาจเป็นเพียงความฟันที่พอผมตื่นขึ้นมามันก็จะหายไป
แต่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผมคิดไปเอง ทุกอย่างคือความจริง และตอนนี้มันก็เริ่มเข้าสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอครับน้องบีมคนเก่ง”
นั้นเป็นเสียงคำถามที่เหมือนจะห่วงใย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่นั้นเป็นคำถามที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน และสมเพชของผู้ถามมากกว่า หลังจากที่มันถามผมก็มีเสียงหัวเราะมาจากรอบตัวของผม ทำให้ผมรู้ว่าในห้องนี่มีคนอยู่มากกว่าสองคน แต่สมองที่เบลอด้วยฤทธิ์ของยาทำให้สติในการรับรู้ของผมไม่เต็มร้อยมากนัก และตาของผมก็ด้วยเช่นกันมันยังคงโฟกัสภาพวัตถุไม่ได้ มันดูลางเลือนเหมือนกับความฝัน และผมก็คิดว่ามันคงไม่ใช่เพราะฤทธิ์ของยาสลบเพียงอย่างเดียวแน่นอน
“พวกคุณปล่อยผมไปเถอะ ผมขอร้อง พวกคุณต้องการอะไรจากผม ผมจะหามาให้นะ”
ผมถามออกไปเพียงเพราะถ้าผมรู้จุดประสงค์ที่เขาต้องการจากผม ผมอาจหามาให้เขาได้ แต่ผมกลับไม่ได้คำตอบ ได้ยินแต่เพียงคำพูดที่หยาบโลนกลับมาแทน แต่ลองคิดให้ดีผมว่าผมรู้นะว่าเขาต้องการอะไรจากผม เงินไงล่ะเป็นสิ่งที่เขาต้องการ
“พวกคุณต้องการเงินใช่ไหม ใช่หรือเปล่า ผมหามาให้พวกคุณได้นะ ปล่อยผมไปเถอะแล้วผมจะเอาเงินมาให้พวกคุณ”
ผมพูดขึ้นมามันเหมือนกับคนที่อยู่ในความมืด พยายามจะหาทางออกไปสู่แสงสว่าง พอเห็แสงเพียงเล็กน้อยก็รีบวิ่งเข้าไปหา แต่แสงที่เห็นก็ถูกคนเอามือมาปิดเหมือนความหวังที่เริ่มมีของผมมันก็ดับลงพร้อมกับคำพูดของมันที่พูดว่า
“กูไม่ต้องการหรอกเงินนะ กูมีเยอะแล้ว เยอะจนกูไม่รู้จะเอาไปทำอะไรแล้ว กูก็เลยเอาเงินนั้นนะซื้อมึงมาไง เหมือนกูซื้อหมามาเลี้ยงสักตัว แล้วพอดีที่แฟนมึงมันติดเงินพวกกูอยู่ มันก็เลยเอามึงมาใช้หนี้กูไง กูว่ามึงก็คงได้ยินนะว่ามันพูดไว้ว่ายังไงก่อนที่มึงจะสลบไป”
นั้นเหมือนกับการที่เอามีดมากรีดที่กลางใจของผมพร้อมกับราดด้วยน้ำเกลือ มันเจ็บแสบ จนเหลือใจ และมันก็เป็นการยืนยันว่าผมไม่ได้ฝันไป ทุกอย่างเกิดขึ้นจริง
“เฮ้ย...พวกมึงออกไปข้างนอกก่อนก็ได้นะโว๊ยถึงเวลาที่กูจะเล่นกับมันแล้วว่ะ หรือพวกมึงจะร่วมวงด้วย”
ผมได้ยินเสียงมันพูดกับเพื่อนของมัน ก่อนที่จะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวรอบๆ ตัวผมทำให้ผมมองตามแต่ผมก็ยังมองอะไรไม่ชัดเจนเหมือนเดิม พอผมขยับตัวก็ทำให้ความเจ็บที่ข้อมือมันเจ็บแป๊บขึ้นมาทันที ทำให้ผมมองตามมือของตัวเองขี้นไปแล้วคำตอบของความเจ็บปวดก็คือมือของผมที่ลูกล็อคกุญแจไว้กับเสาเตียงทั้งสองข้างนั้นเอง
ผมดิ้นทันทีมันรู้สึกอึดอัดขาดความเป็นอิสระภาพและที่สำคัญมันทำให้ผมกลัว และคำพูดที่แฝงไว้ด้วยคำถาม ที่ผมกำลังจะได้คำตอบอยู่ในเวลาไม่ช้านี่เอง
“กูออกไปแดกเหล้าต่อดีกว่า กูไม่ชอบแบบนี่ว่ะ กูชอบพวกมีหน้าอกตูมๆ มากกว่าว่ะกูขอผ่าน”
เสียงเพื่อนของมันคนนึงพูดขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงประตูห้องเปิดและปิดลง มันคงคลายกับทางรอดของผมมันก็ถูกปิดลงเหมือนประตูบานนั้น
“กูว่ากูอยู่ด้วยดีกว่าแต่กูไม่เอาหรอก กูไม่ชอบว่ะ มึงทำไปคนเดียวเถอะ”
เสียงเพื่อนของมันอีกคนพูดพร้อมกับมีเสียงตอบรับจากคนอื่น ผมเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมเริ่มดิ้นทันที
“ปล่อยผม ปล่อยผมไป อย่าทำอะไรผม ผมกลัวแล้ว”
ผมตะโกนขอร้องมันด้วยเสียงอันสั่นเทา ซึ่งมันเปล่งมาด้วยความกลัว ความกลัวเท่าที่ชีวิตผมได้ประสบมา ความกลัวที่ทำให้ผมแทบเป็นบ้า แต่เหมือนเสียงของผมจะส่งไปไม่ถึงมัน หรือว่าถึง แต่ก็คงเท่านั้นแหละคนที่บอกว่าซื้อผมมาเหมือนซื้อหมา มาตัวหนึ่ง มันจะเห็นค่าอะไรของคน
“เฮ้ย...เสียงน่ารักด้วยว่ะ แหบเซ็กซ์ซี่ฉิบ มึงดูดิ สั่นไปทั้งตัวเลย เม่งสั่นนี่เพราะกลัวหรือสั่นสู้ว่ะ”
เสียงคำพูดอันหยาบโลนถูกพูดขึ้น ไม่รู้ว่าจิตใจของคนเหล่านี้ทำด้วยอะไร ที่เอาชีวิตของคนอื่นมาเล่น เหมือนเป็นเรื่องสนุกอย่างนี้
“จะไม่สั่นได้ไงว่ะ จะถูกข่มขืนอยู่แล้วเป็นมึงคงอ้าขารับซิ”
จะบ้าไปแล้วหรือไงคนพวกนี่คำพูดกับการกระทำ ดูเหมือนว่าพวกเขาทำเรื่องเหล่านี่จนเป็นเรื่องปกติ ทำให้ไม่รู้สึกผิดอะไร ผมว่ามันจะวิปริตกันไปใหญ่แล้ว
“ปล่อยผมไปเถอะ ผมขอร้องล่ะ”
คำร้องขอของผมถูกมองข้ามไปอีกครั้งพร้อมกับผ้าที่คลุมร่างของผมเอาไว้ ผมรู้แล้วว่าทำมั้ยผมถึงหนาว เพราะตอนนี้ผมไม่มีอะไรห้อหุ้มร่างกายนี่เอง ทั้งตัวของผมไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว มีเพียงผ้าผืนเดียวห่อตัวเอาไว้ แล้วตอนนี้ผ้าผืนนั้นมันก็ถูกดึงออกไปแล้ว ร่างกายที่เปลือยของผมกำลังโอ้อวดสายตาหลายคู่ที่จ้องมองอยู่ แล้วมันก็ขยับร่างของมันขึ้นมาทาบทับกับร่างของผมจนรู้สึกหนัก และเหมือนกับแรงของผมก็จะหมดตามไปด้วย
“ปล่อยไปได้ไงล่ะ กูซื้อมึงมาแพงนะโว๊ย ปล่อยไปกูก็โง่ดิ น่า...นอนกับกูไม่กี่ครั้งพอกูเบื่อกูก็จะปล่อยมึงไปเองแหละ อย่าทำเป็นเล่นตัวไปหน่อยเลย ทำอย่างกับไม่เคย ผัวก็มีมาแล้ว แค่นี้จิ๊บๆ มันไม่เจ็บอะไรมากหรอก”
“ปล่อยกูนะสัด....อึ๊ก”
แล้วผมก็ด่ามันออกไป ผมเหมือนหมาที่จนตรอกหมดทางสู้ และมันก็คงเลวไร้จิตสำนึกที่จะพูดดีๆ ด้วยได้ ดังนั้นผมจึงตอบโต้มันกลับเท่าที่จะทำได้ แล้วสิ่งที่ผมทำได้อยู่ตอนนี้คือคำพูด แล้วผลของคำพูดเหล่านั้นก็กลายเป็นหมัดที่ส่งเข้ามาที่ท้องของผมจนทำให้รู้สึกเจ็บไปทั้งช่องท้อง จนอย่างจะงอตัวแต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าผมถูกร่างแกร่งของมันนั้นทาบทับอยู่
“ฮึ ฮึ น้องบีมของมึงไม่ได้น่ารักอย่างเดียวนะโว๊ยยังปากเก่งด้วย อย่างนี้ซิถึงจะสนุก กูอยากร่วมวงด้วยแล้วว่ะ”
เสียงเพื่อนของมันคนนึงพูดขึ้นมาแล้วผมก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของคนที่พูดว่า ผมจะถูกข่มขืนนั้นเอง
“เป็นไงปากดีนักนะมึง ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ทำตัวดีๆ พูดกับกูเพราะๆ แล้วมึงจะสบาย”
นิ้วมือแกร่งลูบที่ปากของผมเบาๆ ผมได้แต่เพียงหันหน้าหนีเพราะรังเกียจกับสัมผัสนี้ แต่นิ้วแกร่งนั้นก็ไม่ได้ล่ะความพยายามที่จะลูบที่หน้าที่ปากของผม ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงที่กำลังจะโดนข่มขืนว่ามันเป็นอย่างไง มันคงรู้สึกขยะแขยงอย่างผมนี่เอง
“ไม่.....ไอ้สัด ปล่อยกูไป ไอ้พวกเชี๊ย พ่อแม่มึงไม่สั่งสอนหรือไง....”
แล้วการขัดขืนครั้งที่สองของผมก็ถูกตอบแทนด้วยผ่ามือ มันตบหน้าของผมอย่างแรง แรงจนหน้าทั้งหน้าชาทันที ผมว่ามันอาจจะบวมขึ้นมาเลยก็ได้ แล้วมันก็เลื่อนร่างกายที่เปลือยท่อนบนขึ้นมาคร่อมอยู่ที่หน้าอกของผม มือแกร่งของมันข้างหนึ่งก็บีบที่คอของผมอย่างแรงด้วยฤทธิ์ของความโกรธ จนผมหายใจไม่ออก ผมพยายามดิ้นร้นเพื่อให้หลุดออกจากมือข้างนั้น จนผมเริ่มอ่อนแรงลง เหมือนกับชีวิตกำลังจะสิ้นสุดลง พร้อมกับลมหายใจของผม
ผมคิดว่ามันก็คงดีเหมือนกันถ้าผมตายๆ ไปซะ มันจะได้จบสิ้นกันเสียทีกับชีวิตเน่าๆ ของผม แต่อยู่ดีๆ มันก็คลายมือออก มันคงไม่อยากให้ผมตาย มันคงคิดว่าถ้าผมตายมันคงจะง่ายเกินไปสำหรับผม ผมรีบโกยอากาศเข้าสู่ปอดอย่างเร็ว และสุดท้ายผมก็ผ่ายแพ้ต่อมัน ผมยังมีความกลัวอยู่ลึกๆ ในจิตใจ กลัวที่จะตายนั้นเอง พอมันคลายมือออกผมจึงรีบโกยอากาศเข้าปอดของตัวเองขนาดนี่ แล้วมันก็เลื่อนมือของมันมาบีบที่ปากของผมแทน
“อย่าปากเก่งให้มากนักนะมึง แล้วเล่นถึงพ่อแม่กูนะมันสมควรแล้วเหรอ กูว่ามึงอยู่นิ่งๆ ดีกว่าไม่งั้นมึงจะเจ็บตัวไปมากกว่านี่”
มันกัดฟันพูดกับผม ผมว่ามันคงพยายามกักเก็บอารมณ์พอดู
“ไอ้สัดใครจะยอมให้มึงทำอะไรกูง่ายๆ ไอ้สัด...”
“ฮึ ฮึ กูว่ายาคงเริ่มหมดฤทธิ์แล้วว่ะไอ้กันย์ มึงไปเอายามาเพิ่มหน่อยดิ มันปากเก่งว่ะ เดี๋ยวกูเก็บอารมณ์ไม่อยู่มันจะตายคามือกูก่อนที่จะได้เล่นสนุกกับมัน”
มันหันไปบอกเพื่อนมัน เพื่อนที่แสนดีของมันก็รับปากก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงค้นหาอะไรบางอย่างที่ลิ้นชักข้างเตียง แต่มือของมันก็ยังไม่ได้คลายออกจากปากของผมมันยังคงบีบแน่นจนผมเจ็บอยู่เหมือนเดิม
“ปล่อย..อี อิ๊...”
หลังจากที่เพื่อนมันหาของที่มันสั่งอยู่สักพัก เพื่อนของมันก็ยื่นสิ่งที่มันต้องการมาให้เป็นขวดสีขุ่นซึ่งผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“เอาดมเข้าไป แล้วมึงจะสบาย แล้วก็จะได้เลิกปากเก่งกับกูเสียที กูบอกตรงๆ เลยว่ะว่ากูรำคาญ”
มันเอาขวดนั้นมาจ่อที่จมูกของผมเพื่อให้ผมสูดดมสิ่งที่อยู่ในขวดนั้นเข้าไป แต่ผมไม่ยอมสูดดมมันหรอก ผมพยายามหันหน้าหนีแต่มันก็ไม่ได้เพราะว่ามือของมันยังจับหน้าของผมเอาไว้ แต่มันก็รู้ว่าผมคงไม่ยอมดมไอ้สิ่งที่อยู่ในขวดนั้นง่ายๆ แน่นอนมันก็เลยเอามือข้างที่จับหน้าผมไว้มาปิดปากของผมแทน ทำให้ทางที่อากาศจะไหลเข้าร่างกายของผมหมดลง และเหลือแต่เพียงจมูกเท่านั้น และนั้นก็เป็นการเปิดโอกาศให้สิ่งที่อยู่ในขวดนั้นมันถูดดูดเข้าไปในร่างกายของผม
เมื่อผมดูดเข้าไปจนเป็นที่พอใจของมันแล้วมันก็ปล่อยหน้าผมซึ่งตอนนี้ไร้การต่อต้าน มันส่งขวดนั้นคืนให้เพื่อนของมันแล้วมันก็หันมาปลดกุญแจมือที่ล็อกมือทั้งสองข้างของผมไว้กับเตียง เมื่อมันแน่ใจแล้วว่าผมจะไม่ดิ้นร้นขัดขืนมันอีกต่อไป แต่มันคิดผิด ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายต่อยเข้าที่หน้าของมันทันที ที่มือของผมมีอิสระ หน้าของมันหันไปตามแรงชก แต่มันก็เท่านั้น ผมเริ่มโทษตัวเองแล้วว่าทำมั้ยผมถึงได้อ่อนแอขนาดนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ผมออกกำลังกายเยอะๆ ดีกว่า ผมจะได้ทำให้มันเจ็บมากกว่านี้
“ฤทธิ์มากจังนะมึง”
มันพูดก่อนที่มันจะสงหมัดขวาของมันตรงเข้ามาที่หน้าของผมเต็มๆ มันมึนเหมือนว่าทุกสิ่งจะดับมืดไปในทันที แต่ขณะที่ผมยังมึนๆ อยู่กับแรงหมัดนั้น ผมก็รู้สึกถึงสัมผัสเปียกชื้นที่ใบหน้าและลำคอ และไล้ลงไปที่ยอดอก ปากหนาคู่นั้นไล้ลงไปบนผิวหนังของผมอย่างหยาบโลนเหมือนว่าเจ้าของ ของมันหิวกระหายกับเกมกามที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขาทั้งสองข้างถูกแยกออกแล้วดันขึ้นจนหน้าขาทั้งสองข้างมาแตะที่หน้าอกของผม ผ่ามือของมันเค้นคลึงไปตามร่างกายของผมอย่างหยาบกระด้างหาความอ่อนโยนไม่เจอ มือหยาบด้านของมันเค้นคลึงไปสุกส่วนของร่างกายของผมเพื่อให้ผมตอบสนองกับกานรุกเร้านั้น แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกตามเลยแม้แต่นิด แต่เหมือนว่าฤทธิ์ของยาที่มันให้ผมดมเมื่อสักครู่มันจะเริ่มทำงานตามหน้าที่ของมันแล้ว
จากไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเจ็บและความกลัว ตอนนี้ผมลืมความรู้สึกนั้นไปหมดแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกเพียงว่ามันมีแต่ความเสียวกระสันต์ ผิวหนังร้อนผาวเหมือนเลือดทั้งตัวของผมมันจะวิ่งวนอย่างรวดเร็ว ไม่ว่ามันจะสัมผัสตรงไหนมันก็เรียกเสียงร้องอันแผ่วเบาของผมได้ทุกครั้ง
“อิ๊...”
ผมเผลอร้องออกมาอีกครั้งตอนที่มันกำลังขบกัดที่ซอกคอของผมและนั้นมันก็คงเป็นเสียงกระตุ้นที่ทำให้มันพอใจ แต่มันไม่หยุดการกระทำนั้นแต่มันยังของทำต่อไปและแรงกว่าเดิม มือของมันก็พยายามเค้นคลึงที่ยอดอกให้ผม
“โอ๊ย....เจ็บ ปล่อยกูไอ้สัด มึงโรคจิตหรือไงว่ะ”
ผมด่ามันด้วยเสียงอันแห่บเบา เหมือนสติที่หลุดรอยของผมมันจะเริ่มกลับมา
“ไอ้กันย์ มึงมาจัดการให้มันเงียบเสียงที่ซิว่ะ รำราญจะตายห่าอยู่แล้ว”
เสียงของมันหันไปเรียกเพื่อนของมัน คนที่ส่งยานั้นมาให้มัน มาจัดการกับผม สักพักไอ้หมอนั้นก็มาที่ข้างเตียงแล้วก้มลงมากระซิบที่ข้างหูของผม
“มึงก็เงียบๆ ซิว่ะ อย่าเสียงดังไป กูไม่อยากเห็นมึงเจ็บตัวหรอกนะแต่กูก็ช่วยอะไรมึงไม่ได้”
มันก้มลงกระซิบใกล้หูผมพร้อมกับเป่าลมร้อนๆ เข้ามาที่หูของผมก่อนที่มันจะเม้มและกัดที่ติ่งหูของผม ส่วนไอ้คนเรียกมันรู้หน้าที่ของมันดีมันรีบเลื่อนตัวไปที่หน้าอกของผมทันที
“อิ๊....อื๊อออออออ....”
ผมร้องทันที ที่เพื่อนของมันใช้ปากบดจูบกับปากของผม และกำลังพยายามส่งลิ้นของมันเข้ามาในปากของผม ผมพยายามเม้มปากเอาไว้ไม่ให้มันส่งลิ้นของมันเข้ามา มือทั้งสองข้างของผมจิ๊กกับที่นอนจนเจ็บ
“อย่าขัดขืนซิว่ะ กูไม่อยากใช้กำลังนะโว๊ย”
แต่ใครจะยอมล่ะ ผมเม้มปากต่อไป ส่วนยอดอกก็ถูกระตุ้นอย่างแรง ริมฝีปากของมันทั้งขบทั้งเม้นจนผมต้องเด้งอกตามด้วยความเสียว ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นเลย แต่ก็คงเป็นเพราะฤทธิ์ของยา บวกด้วยความต้องการตามธรรมชาติผลักดันให้เป็นไปอย่างนั้น