-- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557  (อ่าน 334517 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wr@iTh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เฮ้อ! นึกอยู่แล้วเชียว...  :เฮ้อ:
คือเราไม่ชอบหน้าไอ้เอิร์ทนั่นตั้งแต่ตอนแรกที่มันโผล่มาแล้วล่ะ  :angry2:  :z6:
เรารู้สึกว่ามันแปลกๆนะ คนธรรมดาที่ไม่มีจุดประสงค์อะไรเค้าไม่ทำกันหรอก
ท่าทางจะมีงานอดิเรกชอบแย่งของคนอื่น
ดีไม่ดี...เจอคนใหม่ก็ทิ้งมิก เหมือนกับเคยทิ้งพี่คนนั้นก็ได้ (จำได้ป่ะ แฟนเก่ามันที่ทะเลาะกันจนมันได้ย้ายมาอยู่ห้องของมิกกะโอมไง)

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
มานอนรอด้วย

1kabb

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อด้วยค๊าบ....

three

  • บุคคลทั่วไป
สอบเสร็จอ่ะยังอ่ะครับพี่ ผมรออ่านนะครับผม

ออฟไลน์ w[o]w

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่โอห์มสอบนานไปแล้ว

ยังไม่เสร็จอีกหรอคับ

รอๆๆๆๆๆ

adeacia

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอด้วยคนค่า

เพิ่งจะอ่านจบ

เป็นกำลังใจให้สอบได้นะค่ะ




ออฟไลน์ TON1974

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
ทำไมถิ้งช่วงนานจังครับ...คิดถึงนะครับ

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
สอบเสร็จแแล้วใช่ว่าเรื่อง สอบจะจบ มีแต่อะไรไม่รู้ตามมาเยอะไปหมด ปวดหัวจะบ้าตาย
ใครที่กำลังสอบผมเป็นกำลังใจให้นะครับ เนื้อเรื่องกำลังเดินมาถึงตรงกลางแล้วนะครับ
ถ้ามันน่าเบื่อก็ต้องขอโทษจริงๆ ผมหายไปนานจริงๆ มั่วแต่กลับบ้าน ไปทำบุญ แล้วก็หลายๆเรื่อง


-------------------------------------------------------------------------------
วันนี้พิษณุโลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
ผมใช้เวลาทั้งเย็นในของวันนี้ เดินตามทางที่เป็นลู่วิ่ง ครั้งหนึ่ง ผมกับมิ๊กเคยมานั่งดูท้องฟ้า เดินจับมือ กินขนม แต่ตอนนี้มีแค่ผมคนเดียวที่เดินไปอย่างเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ร่างกายไม่ได้รับรู้สิ่งอื่นใด นอกจากคิดว่าต่อไปนี้เราจะทำยังไง หลังจากที่ผมกลับมาจากงานรวมญาติของบ้านโน๊ต ผมก็ไม่มีอะไรทำ นอกจากคุยโทรสับ ร้องไห้ พยายามที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้ว่าตัวเราเองแข็งแกร่ง ไม่ได้เป็นอะไร ถึงแม้ว่าตอนนี้รุ้อยู่เต็มอกว่า เราไม่ได้เป็นแบบนั้น สายตาที่ทอดยาวไปตามถนนก็หยุดโฟกัสที่คู๋ของผู้ชายคู่หนึ่ง ลักษณะคล้ายคนที่ผมไม่อยากเจอ ผมเลี่ยงที่จะเดินผ่านบริเวณนั้น เดินขึ้นมาด้านบนแทน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของมิ๊กจนได้ ผมจำได้ว่าเราสบตากัน ก่อนที่เอิทจะดึงหน้าของมิ๊กแล้วทำท่าทีหึงห่วง ผมเองก็ได้แต่ยิ้มเล็กๆ ก็ที่จะเดินจากไป

“โอมห์ โอมห์ รอก่อน” มิ๊กวิ่งตามมา ไม่นานหลังจากที่ผมเดินหนีจากจุดนั้น  ยังต้องการอะไรจากกรูอีกว่ะมิ๊ก แค่นี้กรูก็แทบจะไม่ใช่คนแล้วนะ ผมได้แต่คิดในใจ แล้วสั่งให้เท้ามันก้าวต่อไป  มิ๊กเดินเข้ามาจับมือผมทันที แล้วลากผมวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ทำท่าเหมือนหนีอะไรสักอย่าง
“มีอะไรว่ะ คุยตรงนี้ก็ได้ทำไมต้องลากมาสะไกลเลยว่ะ” ผมสะบัดมือมันออก ก่อนที่จะถอยเว้นระยะผมกับมัน นานเหมือนกันแล้วนะครับ ที่ผมไม่ได้เห็นหน้ามันใกล้ขนาดนี้ 
“ทำไม่โอมห์ไม่โทรมาหามิ๊กเลย”
“ทำไมต้องโทรละ ” ผมย้อนถามกลับไปทันที
“ก็มิ๊กคิด”
“ก่อนจะพูดอะไรนะมิ๊ก ไอ้เอิทหายไปไหนแล้ว กรุว่าเมิงกลับไปหามันดีกว่า” ผมหันหลังให้ทำทีจะเดินหนีมัน
“เดี๋ยว มิ๊กยังพุดไม่จบ”
“แล้วกรูต้องอยู่ฟังเมิงพูดรึไงว่ะ”  มันรั้งแขนผมไว้ไม่ยอมให้เดินหนีมัน ตัวผมเองก็เงียบ ไม่ได้พูดอะไร
“ทำไมว่ะ ที่กรูทำมันผิดมากรึไง เมิงถึงไม่ยอมให้อภัยกรูสักที” บ้างทีความเงียบอาจจะเป็นคำตอบที่ดีสำหรับมันในตอนนี้ อย่างน้อยก็ดีกว่าต่อประโยคคำถามคำตอบให้ยาวไปมากกว่านี้
“เห็นไหม โอมห์ก็ตอบไม่ได้ ให้อภัยมิ๊กนะ โอมห์”  ไอ้เอิท เดินมาตามมิ๊กพอดี
“ไว้คืนนี้เจอกันนะมิ๊ก” ผมบอกลามันก่อนที่จะปล่อยให้สายตาของมันมองตามหลังผม โดยมีเอิทอยู่ข้างๆมัน   ผมตรงกลับไปที่บ้าน เดินผ่านพ่อกับแม่ที่กำลังนั่งดูทีวีกันอยู่ที่หน้าบ้าน ตรงเข้าไปในห้องนอนทันที
               พอได้กลับมานั่งอยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยม มีหน้าต่าง แต่เปิดไม่ได้ มีโปสเตอร์หนังที่ดึงออกมาจากหนังสือ แปะอยู่ติดไปหมด แทบจะไม่มีที่ว่างให้เห็นว่าสีเก่าของผนังคือสีอะไร มันก็ผ่านมาตั้ง สามปีแล้วนะที่เราไม่ได้มานั่งอยู่ในห้องนี้ แล้วคิดอะไรไปเรื่อยคนเดียวแบบนี้ ทุกครั้งที่มีเราอยู่ในห้องนี้มักจะมีมันอยู่ด้วยเสมอ ทุกครั้งที่มีมันก็มักจะมีเสียงหัวเราะรอยยิ้ม แต่ตอนนี้คงไม่มีแล้ว เราลืมไว้ไว้ในห้องที่เชียงใหม่ ไม่สิเราตั้งใจที่จะเก็บมันไว้ที่นั้น ครั้งสุดท้ายที่เราได้กลับมาห้องนี้ เราก็เสียน้ำตา ทำไมเหตุการณ์มันไม่แตกต่างกันเลย ถ้าคืนนั้นเราไม่เกินเลย ไม่เอาคำว่าเพื่อนไปแลกกับความว่ารักโง่ๆของมัน ก็คงไม่ต้องมาเสียใจแบบนี้   เรารักมันมากไปรึเปล่า รึว่าเราดีเกินไป รึว่าจริงๆแล้วเราเป็นคนโงที่ต้องยอมมันตลอด ครั้งสุดท้ายที่เรารู้สึกแบบนี้ ก็ตอนอายุครบ 17  ทั้งที่มันน่าจะเป็นที่เรามีความสุข แต่เราต้องมานั่งเป่าคเค้กคนเดียว กับตุ๊กตา 3 – 4 ตัวที่ยินดีมาเป็นแขกในวันเกิดของเรา วันนั้นมันก็ไม่อยู่ข้างๆเรา เราก็ยังอยู่ได้นิว้า ผมปล่อยให้ตัวเองคิดอะไรไปเรื่อยระหว่างที่นั่งรอให้โน๊ตนั่งรถมาถึงที่ท่ารถพิษณุโลก ตอนแรกก็ลังเลว่ามันคุ้มมันที่จะเสี่ยงกับเรื่องนนี้ แต่จะให้ทำไงว่ะ แค้นต้องชำระ บุญคุณต้องทดแทน ในเมื่อคนใกล้ตัวกรูทำกับกรูได้ถึงขนาดนี้ แล้วทำไมกรูต้องยอม  ผมดูนาฬิกาอีกครั้งนี้มันใกล้ได้เวลาแล้วนิว้า เปลี่ยนสถานที่ดีกว่า อยู่ในห้องนี้ก็มีแต่ดราม่า ผมตรงดิ่งไปที่ท่ารถแทนที่จะมานั่งเศร้าที่นี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ถึงแล้วโอมห์ ” แล้วเสียงที่ผมรอคอยก็ปรากฏเสียที โน๊ตลงมาพร้อมกับหัวโล้นๆของมัน ผมทรงนี้ มันคงไปคิดค้นเองอีกแล้ว เพราะตอนที่ก่อนกลับมายังเป็นทรงที่คนทั่วไปเขานิยมใช้กัน แต่นี้อะไรอีกว่ะเนี่ย มันเดินตรงเข้ามาหาผมทันที ก่อนที่ผมจะบอกสะอีกว่าอยู่ตรงไหน
“อึ้งเลยดิ น่ารักใช่ไหมเนี่ย”
“โกรนหัวทำไมเนี่ย อกหักแทนกรูรึไงครับ”
“ป่าวๆ ไหนๆไปบ้านกันอยากเจอพ่อกับแม่จะแย่ละ”
“อ้าวไปพาใครมาบ้านละโอมห์” แม่ทักก่อนที่โน๊ตจะยกมือไหว้
“โน๊ตอะแม่ ที่เคยเล่าให้ฟังไง”
“อ๋อ โน๊ต ที่อยู่ลำปางใช่ไหมลูก”
“สวัสดีครับแม่” น็ตยังมือไหว้แม่ผมอย่างรวดเร็ว
“แล้วพ่ออะ”
“เดินเล่นแถวบ้านเนี่ยละ เดี๋ยวไปเตรียมตัวได้แล้วนะ ทั้งคู่ละ เดี๋ยวจะออกไปวัดก่อน แล้วค่อยเลยไปที่ร้าน” แม่สั่งๆ แล้วก็เดินออกจากไป เพราะคุณเธอคงไปนั่งร้านเสริมสวยอีกเป็นชั่วโมง พอบ้านไม่มีใครอยู่แล้ว เหลือแค่ผมกับโน๊ต มันกระโจนเข้ามากอดผมทันที
“คิดถึงจังเลยโอมห์ รีบกลับมาทำไมละ น่าจะอยู่ต่อก่อน เนี่ย ญาติโน็ตฝากของมาให้เยอะเลย” ผมทำหน้างง มันเป็นเรื่องจริงที่ผมชิ่งกลับมาก่อนเพราะมันอึดอัดที่ต้องอยู่งานรวมญาติ ที่มีแต่ผู้ใหญ่เยอะไปหมด แต่ทำไมเขาต้องฝากของมาให้ผมด้วย
“ปล่อยก่อน เดี๋ยวพ่อมาเห็น มาเอาของไปไว้ในห้องก่อน” ผมดึงแขนมันออก ก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปในห้องนอนที่ผมเพิ่งปาดน้ำตาตัวเองเมื่อกี้
“รกว่ะ ดูฝุ่นดิ กลับมาได้นอนบ้านป่าวว่ะเนี่ย ”  มันหันมาเหมือนจะจับผิด แต่ก็ไม่ได้อะไรกับกรูหรอก
“นอนดิ แต่นอนห้องแม่ ห้องนี้มันอึกอัดอ่ะ” จริงๆผมนอนที่ห้องนี้ละ แต่ขี้เกียจเก็บ  พอเก็บของทุกอย่างให้เข้าทีเข้าทาง ผมก็เล่าเรื่องที่ผมเจอที่ริมแม่น้ำ ให้โน๊ตฟัง แต่ไม่มีน้ำตาแล้วนะครับ เพราะไม่อยากทำให้มันไม่สบายใจ

“ไม่เห็นอยากเลย โอมห์ เดี๋ยวโน็ตจัดการเอง” มันพูดเหมือนมีแผนอยู่ในใจ  ผมหนีไปอาบน้ำก่อน เพราะกลัวว่าเดี๋ยวคุณนายกลับมาแล้วยังเห็นลูกไม่แต่งตัวจะโดนด่าอีก เวลาผ่านไปเกือบๆ ชั่วโมง ไอ้เรื่องที่จะไปวัดของคุณนายเป็นข้ออ้างจริงๆ เพราะเธอไปทำสวย เป็นชั่วโมง พอกลับมาก็ได้เวลาย้ายก้นของทุกๆคนไปยังร้านอาหารได้สักที






ร้านอาหารวันนี้มีคนเยอะมากมายไปหมด คงจะเป็นเพราะว่ามันเป็นวันศุกษ์ที่เงินเดือนออก ผมเจอเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันเยอะไปหมด มองไปที่เวทีที่มีนักร้องกำลัง นั่งร้องเพลงอยู่ ชวนให้เศร้าใจไปใหญ่ น็ตเอามือมากอดคอผม ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านพร้อมๆกัน มือผมมีกระเช้าดอกไม้ ส่วนน็ต ถืออะไรสักอย่างไม่เล็กแล้วก็ไม่ใหญ่จนเกินไป ห่อด้วยกระดาษสีแดงกำมะยี ดูดูกว่าของที่ผมถือมาสะอีก พ่อกับแม่ก็ถือของติดไม้ติดมือมาเช่นกัน มีโต๊ะลงทะเบียนอยู่ที่หน้าร้าน ยังกับงานเลี้ยงรุ่น ประมาณนั้น ร้านอาหารวันนี้แบ่งออกเป็นซุ่มๆ มันดูผิดปรกติ แม่ยังตกใจที่มันดูเป็นงานเป็นการแบบนี้ เพราะว่าดูแต่ละคนที่มาเต็มที่กันทั้งนั้น ยังกับงานเลี้ยงสโมสร สรุปว่าเราอยู่กันผิดงานรึเปล่า นี้คือคำถาม
“จริงไหมแม่ ผิดงานรึเปล่า”
“ไม่ผิด แม่มิ๊กรออยู่ข้างในนั้นละ” แม่หันมาตอบหลังจากวางหู
พ่อกับแม่เดินนำเข้าไปก่อน พอดีว่าผมสะดุดกับเสียงเพลง ที่ดังมาจากรถที่กำลังเวียนเข้ามาจอดในร้าน คนขับหน้าคุ้นตา กับคนคุ้นเคยที่นั่งมาคู่กัน
“ใช่ไอ้ตี๋ไหมโอมห์” ผมพยักหน้า แทนคำตอบ ดีจริงนะพวกเมิง เปิดตัวหน้าประทับใจจริงๆ ผมได้แต่คิดในใจ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้าน

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
“สวัสดีครับแม่ ” ผมยื่นกระเช้าดอกไม้ให้แม่มิ๊ก
“เป็นยังไงบ้างละลูก ทำไมไม่กลับบ้านมาพวกเจ้ามิ๊กมั้นละ ”
“นี้คุณ วันนี้วันเกิด ห้ามบ่น” พ่อมิ๊กป่ามไว้ก่อน ไม่งั้นผมคงได้ตอบคำถามแน่ๆ
“แม่ครับ นี้เพื่อนโอมห์ที่เรียนด้วยกันครับผม”
“สวัสดีครับคุณน้า ความสุขมากๆนะครับ” น็ตยื่นของที่พกมาด้วยให้กับแม่มิ๊ก มีรอยยิ้มตอบกับมาแทนคำพูด


“นั่งด้วยคนนะ” ผมเอ๋ยปากบอกสาวตัวอวบที่แค่ได้ยินเสียงผมก็จำได้แล้วว่าเป็นใคร
“อ้าว โอมห์ กลับมาตั้งแต่เมื่อไรนิ ไม่เคยโทรมาบอก”
“แล้วใครเนี่ย เมิงเอาพระมาด้วยรึไงว่ะ” พวกน้องวินกับญาติๆ แซวโน๊ตกันใหญ่
“เมิงก็ไปแซวมัน เณรโว้ย ดูหน้ายังเด็กอยู่เลย ดูดิ หน้าแดงหมดแล้ว” ไอ้โน๊ตยิ่งอายไปใหญ่ที่ผมเอากับพวกเพื่อนผมด้วย
“ไอ้โน๊ต ไง”
“โน๊ตไหนว่ะ อย่าบอกนะว่า”
“อืม ที่เหลือเดี๋ยวกรูไปเล่าให้ฟังที่บ้านอ่ะ กรูนั่งได้รึยัง” ระหว่างนั่ง ทั้งคู่ ก็ได้เวลาเดินเข้ามาพอดี ว่าจะไม่สังเกตุแล้วนะครับ แต่ตาก็ดันไปมองจนได้ เอิทมาในชุดที่ดูแปลกตา เดินตรงเข้าไปทักทายแม่มิ๊กอย่างดูมีสนิทสนม  มิ๊กก็เช่นกัน เดินเข้าไปคุยกับแม่ผมด้วย แล้วแม่ก็หันมาทางผม เหมือนจะได้รู้เรื่องอะไรบ้างอย่าง เสร็จสรรพในการทักทายผู้ใหญ่ ทั้งคู่มันเลือกที่จะนั่งตรงข้ามกับผม เวลาผ่านไป ผมกับเพื่อนๆคุยกันอ่างสนุกสนานท่ามกลางสายตาของฝั่งตรงข้าม ผมพยายามที่จะไม่คิดอะไรกับภาพคนสองคนที่อยู่ตรงหน้า โน๊ตนั่งกุมมือผมอยู่ใต้โต๊ะ

“พี่มิ๊กครับ พี่มิ๊กจะเอารถไปใช้ที่เชียงใหม่ด้วยใช่ไหมครับ” เอิทพูดเสียงดังเหมือนตั้งใจจะให้ผมได้ยิน ตอนนี้ โซนคงจะโดนแบ่งกันแล้วระหว่าง เด็กกับผู้ใหญ่ที่เหมือนคนละโลกกันเลย ไม่มีใครรู้เรื่องของกันแล้วกัน
“ดีจังเลยนะครับพี่ ผมจะได้ไม่ต้องร้อนแล้ว ไม่เหมือนคนบ้างคน” ผมไม่ได้สนใจอะไรกับคำพูดของมันที่หลุดออกมาจากปาก ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะยังนึกไม่ออกก็เถอะว่าจะไปอยู่ที่ไหน ตอนเปิดเทรอม
“เอ๋อ มิ๊ก” ผมเอ๋ยปากทักมันไปเพราะคิดได้
“มีไร” มันเลิกคิ้วขึ้นมา เปลี่ยนจากจานข้าวแล้วหันมามองหน้าผมแทน
“ของในห้องอะ เดี๋ยว กรูไปขนนะ เมิงจะเอาอะไรไว้มั้ง”
“แล้วแต่โอมห์เหอะ อยากได้อะไรก็เอาไป”
“อืม งั้น ทีวี เกมส์ อะไรก็ได้ใช่ไหม” ผมถามย้ำไป
“อืม ก็ของมิ๊กก็คือของโอมห์นั้นละ อยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ” ผมนี้อึ้งไปเลยกับคำพูดของมัน ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่รู้สึกเหมือนจะได้ไปหลายแต้มจากประโยคคำตอบของมิ๊ก มิ๊กนั่งเงียบไปนานเหมือนกัน ผมเองก็นั่งฟังโน๊ตมันเล่าเรื่องงานรวมญาติที่ผมหนีกลับมาก่อนให้ฟัง ยิ่งมองมันก็รู้สึกได้เลยว่ามันเป็นคนที่มีเสน่ห์ ที่แม้เรื่องที่เล่ามันจะไม่สนุกก็ตาม แต่ก็ทำให้ผมยิ้มได้เสมอ จนตอนที่มิ๊กมันมาเบรก โลกของผมไว้นั้นละครับ





“ขอคุยด้วยหน่อยดิ” มิ๊ก พูดเสียงดังต่อหน้าทุกคนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกปาก รวมถึงพ่อกับแม่ผมด้วย  โน๊ตดูมีท่าทีไม่พอใจขึ้นมาทันทีที่ผมกำลังจะลุกตามมิ๊กออกไป
“กรูจะคุยกับไอ้โอมห์คนเดียว”หลายๆคนบนโต๊ะมองดูเราทั้งคู่ คงจะแปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปมากในรอบนี้  ผมหันไปมองหน้าเอิทที่เอามือดึงเสื้อไอ้มิ๊กอยู่ คงไม่แปลกก็เรื่องเมื่อเย็นมันยังไม่จบเลยนิว้า
“ไม่เป็นไรโน๊ต แค่คุยกัน” ผมเดินนำหน้ามันมาที่ลานจอดรถหน้าร้านจริงๆก็ตรงรถของมันนั้นละ มันมาถึงก็เปิดประตูรถ แล้วให้ผมเข้าไปนั่งในรถ
 “ทำอะไรว่ะมิ๊ก” ผมรีบแกะมือมันออกก่อนที่ใครจะเห็น ทันทีที่ผมเข้าไปในรถมันก็เอามือมาดึงหน้าผมไปหามัน
“ก็มิ๊กยังรักโอมห์ ตลอดเวลาที่โอมห์ไม่อยู่ มิ๊กคิดถึงโอมห์ตลอดเลยนะ”
“แล้วยังไง”
“ก็ไม่แล้วไง ทำไมโอมห์ตค้องทำกับมิ๊กแบบนี้ด้วย”
“ทำอะไร ”
“เรื่องย้ายของไง มิ๊กแค่คิดว่า โอมห์อยากจะขอเวลาสักพักสะอีก”
“เห็นแกตัวว่ะ เมิงยังจะอยากได้อะไรอีกว่ะ มิ๊ก ถ้าจะคุยเรื่องนี้กรูไม่คุย” 
“แต่”
“ไม่ต้องแล้ว จะเข้าไปกินข้าว ต่อ ออกมานานเดี๋ยวแม่จะว่ามีเรื่องกัน เดินเข้าไปดีๆ แล้วยิ้มด้วยนะ” ผมขู่มันก่อนจะพยายามทำตัวเป็นปรกติ เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ สายตาทุกคน ให้มาหาเราทั้งคู่ทันที แววตาของโน๊ตดูเป็นห่วงผมเหลือเกิน ต่างจากของน้อง ไม่ดิ ไอ้เอิทที่นั่งข้างมิ๊ก ที่ดูจะไม่ชอบผมเอาสะมากๆ ถ้ามันมีปืนคงเอาขึ้นมายิงผมทิ้งแล้ว ความเงียบเข้ามาแทนที่ด้วยบทสทนาของผู้ใหญ่อีกครั้ง พ่อกับแม่มิ๊กยังดูสนใจผมไม่น้อย มากจนลืมไปเลยว่ามีเอิทนั่งอยู่ด้วย ผมเองยังแอบคิดในใจว่าจะบอกเรื่องนี้ให้แม่มิ๊กรู้ดีรึเปล่า

ร้านนี้เป็นร้านเดียวกับที่ ผมกล่าวถึงเมื่อรอบที่แล้ว ร้านเดียวกับที่ครั้งหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งขอกลับแล้ว แล้วร้องเพลงเอาใจผม แต่วันนี้ผู้ชายคนเดิม ก็ยังคงต้องรับหน้าที่เดิ คล้ายกับการเป็นธรรมเนียม แต่สิ่งที่คาดไม่ทิ้ง กลับได้เกิดขึ้นแบบที่ผมเอก็ไม่ได้คิดว่ามิ๊กจะกล้าทำแบบนี้

“วันนี้เป็นวันเกิดของผุ้หญิงเก่ง มากความสามารถ แห่งจังหวัดพิษณุโลก ของเสียงตบมือให้กับเจ้าของวันเกิดหน่อยครับ” เสียงตบมือดังปะปร่าย ก่อนที่มิ๊กจะร้องเพลงแฮปปี้เบริดเดย์ แล้วก็ตามมาด้วยเค้กก้อนใหญ่ แม่ดูมีความสุขมากจริงๆ เอิทส่งมีดตัดเค้กให้ พร้อมกับสลับไปนั่งแทนที่ของมิ๊ก เห็นแล้วน่ากระโดดถีบจริงๆ  ดูเอาอกเอาใจสะจนเกินหน้าเกินตา
“อย่าไปสนใจเลย ว่าทีลูกสะใภ้ ” ผมหันไปบอกน้องวิน ก่อนที่เสียงของมิ๊กจะดึงความสนใจไปอีกครั้ง
“ก่อนอื่นวันนี้ ผมมีเพื่อนที่เรียนด้วยให้ มางานวันเกิดของแม่อีกสองคน แน่นอนว่านอกจากของขวัญดีๆที่มีมา พวกเขายังมีบทเพลงดีๆมามอบให้อีก ของเสียงปรบมือให้กับเพื่อนผมทั้งสองคนหน่อยครับ” มีเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง แม่มิ๊กมองมาที่ผมแล้วก็โน๊ต แล้วยิ้มเหมือนจะแทนคำว่าขอบใจ น้องวินเอามือมาเขี่ยให้ผมออกไปที่เวที
“เมิงจะบ้ารึไง กรูไม่รู้ว่าจะร้องเพลงอะไร”
“ไปเถอะ เดี๋ยวโน๊ตช่วย โน๊ตว่าเพลงนี้โอมห์ร้องได้แน่ๆ” ว่าแล้วโน๊ตก็จูงแขนของผมไปที่หน้าเวที มิ๊กทำหน้าเหมือนว่าเกมนี้มันคงชนะแล้ว บรรยกาศภายในร้าน เปลี่ยนเป็นความเงียบที่มีเสียงเพลง ดังแทนระหว่างที่พวกผมเตรียมตัวกัน

“เต็มที่เลยนะครับน้องๆ อย่างทำให้เสียชื่อพี่ละ” ลุงที่เป้นเจ้าของร้านเขาเคยเห็นมิ๊กร้องเพลงมาแล้วเลยไม่ค่อยกังวลเท่าไร แต่ผมกับโน๊ตนี้สิ ให้ดีก็คาราโอเกะ ส่วนน็ตเนี่ย ผมเห็นที่ไรก็เพื่อชีวิตทุกที
“ใจเย็นๆนะโอมห์ เมิงจะมองเหียไรว่ะ ” โน๊ตไล่มิ๊กให้ไปให้พ้นทางมัน
“เพลงอะไรว่ะ ยังคิดไม่ออกเลย” ผมกระซิบกับโน๊ต
“เพลงนี้ไง เห็นโอมห์ฟังเป็นร้อยๆแล้วแล้วมั้ง ” ผมทำหน้างงๆ อีกครั้ง เพราะเจอแต่เรื่องไม่ขาดฝัน
“แล้วโน๊ตเล่นได้อ่อ” มันพยักหน้า แล้วเดินไปหาคีย์บอด

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
“ครั้งหนึ่ง ผมเคยมาที่แห่งนี้แล้วก็ได้เห็นคนที่ผมไว้ใจ เป็นเพื่อนที่แสนดีของผม มีมิตรภาพที่ดีให้กันมาตลอด แต่วันนี้มีคนเคยบอกไว้ว่าความอดทนของคนเรานั้นมันมีขีดจำกัดอยู่ ความรัก ก็คล้ายกับเส้นบางๆ บ้างที่ผมก็อย่างให้หลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความฝัน ถ้าเราไม่ต้องเจอด้านไม่ดีของคนคนนั้น มันก็มีคำถามตามมาอีกว่า แล้วเรื่องแค่นี้จะให้อภัยกันไม่ได้เลยหรือ ผมก็จะถามกลับไปว่า มันครั้งที่เท่าไรแล้ว  Apologize ครับ”


I'm holding on your rope
 
ฉันเกาะเชือกที่คุณยื่นให้
 
Got me ten feet off the ground
 
อยู่ห่างเป็นสิบฟุตจากพื้นดิน
 
I'm hearing' what you say
 
ฉันได้ยินสิ่งที่คุณพูด
 
 But I just can't make a sound
 
แต่ฉันไม่สามารถส่งเสียงได้
 
You tell me that you need me
 
คุณบอกว่าคุณต้องการฉัน
 
Then you go and cut me down, but wait
 
แล้วคุณก็เริ่มต้นปล่อยให้ฉันร่วง แต่เดี๋ยวนะ
 
You tell me that you're sorry
 
คุณบอกฉันว่า คุณเสียใจ
 
Didn't think I'd turn around and say
 
ไม่คิดละสิว่า ฉันจะหันหลังกลับมาแล้วพูดว่า
 
 
 
 
 
It's too late to apologize, it's too late
 
มันสายไปแล้วที่จะขอโทษ มันสายไปแล้ว
 
I said it's too late to apologize, it's too late
 
ฉันบอกว่า มันสายไปแล้วที่จะขอโทษ มันสายไปแล้ว
 
 
 
 
I'd take another chance, take a fall
 
ฉันให้โอกาสอีกครั้ง เสี่ยงล้มเหลว
 
Take a shot for you
 
พยายามอีกครั้งเพื่อคุณ
And I need you like a heart needs a beat
 
และฉันต้องการคุณ เหมือนกับที่หัวใจต้องเต้นนั่นแหละ
 
But it's nothing new yeah yeah
 
แต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ใช่ ใช่
 
I loved you with a fire red now it's turning blue
 
ฉันรักคุณด้วยไฟรักที่เร่าร้อน แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสีน้ำเงินที่โศกเศร้า
 
 And you say sorry like the angel
 
และคุณบอกว่า เสียใจ ด้วยท่าทีราวกับนางฟ้า
 
Heaven let me think was you
 
สวรรค์ปล่อยให้ฉันคิดว่า นั่นคือตัวตนของคุณ
 
But I'm afraid
 
แต่ ตอนนี้ ฉันเกรงว่า
 
 
 
It's too late to apologize, it's too late
 
มันสายไปแล้วที่จะขอโทษ มันสายไปแล้ว
 
I said it's too late to apologize, it's too late
 
ฉันบอกว่า มันสายไปแล้วที่จะขอโทษ มันสายไปแล้ว




ผมสามารถร้องเพลงนี้จบไปได้แบบงง ในหูแทบไม่ได้ยินเสียงอะไร โน๊ตยิ้มเหมือนจะให้กำลังใจ เพลงที่ร้องไปไม่รู้ว่าออกมามันเพราะรึเปล่า แต่ผมชอบโดยส่วนตัว แล้วก็ยิ่งชอบมากขึ้นตอนที่เจอกับตัวเอง ดูมิ๊กเองจะเข้าใจกับเนื้อหาดี ส่วนคนในร้านนั้นจะเข้าใจรึเปล่าไม่รู้ แต่ผมเดินออกมาจากที่ตรงนั้น แล้วมานั่งรอดูโน๊ตร้องเพลงต่อ ในเมื่อสิ่งที่มิ๊กกำลังทำมันต้องารให้ผมขายหน้า แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมเพิ่งพูดไป ต้องมีคำถามจากพ่อและแม่ตามมาอีกมากมายแน่ๆ


“เมิงร้องได้ไงว่ะโอมห์ เพลงฝรั่งด้วย”
“มันยากตรงไหนกรูฟังเพลงนี้มันเป็นร้อยๆเที่ยวแล้ว แต่ไอ้โน๊ตก็เก่งว่ะเล่นได้ด้วย ”
“อืม ไอ้หมอนั้น ก็น่ารักนะเนี่ย ดูมีประโยชน์กว่า อิปลวก นั้นอีก” วินหันหน้าไปทางเอิท  แม่ยิ้มให้ผมอีกครั้ง
“โหลๆ ..... 1... 2 ... 3 ...4 วันนี้ผมดีใจเหลือเกินครับที่ได้มีโอกาสมาร้องเพลงที่ให้ทุกๆท่านฟัง ต้องขอบคุณไอ้ตี๋ ที่นั่งอยู่ข้างๆผมนี้ที่ให้โอกาส ทุกท่านทราบไหมครับ ว่าก่อนที่ผมกับไอ้ตี๋เนี่ยจะรู้จักกัน เราเคยมีเรื่องทะเลาะกันถึงขั้นจะยกพวกตีกันมาก่อน ที่ทุกท่านเห็นในทีวีละครับ เรื่องจริงเลย ผมกับไอ้ตี๋ ทะเลาะกันเพราะ โต๊ะกินข้าว  เวลาที่คนเรามันจะได้รู้จักกัน มันไม่จำเป็นหรอกนะครับว่าต้องเป็นเรื่องดีๆเสมอ ผมมองเพลงนี้ให้กับทุกๆคนครับผม   Tennessee Line” เสียงกีตาร์ที่โน๊ตเป็นคนขับกล่อมให้ทุกคนในร้านฟัง เป็นเพลงที่ผมไม่เคยคิดว่าได้ยินมาจากที่ไหน แต่มันเพราะ จนผมคิดว่าจะต้องกลับไปหาฟังในเวอร์ชั่นที่เจ้าของร้องไว้จริงๆให้ได้ ก่อนที่โน๊ตจะลงจากเวทีก็ส่งไมค์ให้กับมิ๊กกับมือ คงจะยังไม่เลิกขเม๊น กันแน่ๆ โน๊ตเดินตรงมาที่นั่งทันที มีรอยยิ้ม แล้วก็คำชมตลอดทางที่เดินมาถึงโต๊ะ

“เก่งๆกันทั้งนั้น ดูร้องกันแต่ละเพลง ไม่มีเพลงไทยเลยรึไงค่ะลูก” แม่มิ๊กแซว
“ป่าวครับ ผมว่าความหมายมันดีครับผม เพราะรึเปล่าครับ”
“เพราะจ๊ะ”
“เพลงอะไรอะโน๊ต ไม่เห็นคยได้ยินเลยว่ะ”
“แล้วเพราะรึเปล่าละ” มันถามกลับ
“เพราะดิ  เอ๋อแล้วเล่นได้ไงอะ เพลงนั้นอ่ะ ”
“เพลงไร เพลงที่โอมห์ร้องนั้นรึ ก็โน๊ตก็ชอบไง มันเก่าแล้ว ไม่คิดว่าโอมห์จะชอบเหมือนกัน โน๊ตร้องเพราะกว่าอีกนะ ว่างๆเดี๋ยวจะร้องให้ฟัง” มันรีบเกทับผมทันที ที่ได้โอกาส


“ผมขอมอบเพลงนี้ให้กับทุกคนที่อยู่ในร้านแห่งนี้ สำหรับคนที่มีความรักแต่ไม่อาจที่จะเอื้อมถึงมัน  So Close ” ทั้งที่เสียงดนตรีดังขึ้นผมรู้ทั้งทีเลยว่าเพลงนี้คือเพลงอะไร ผมรู้ว่าเนื้อเพลงทุกบรรทัดมีความหมายว่าอะไร แล้วสิ่งที่มิ๊กทำมันกำลังหมายถึงอะไรอยู่ ตลอดเวลาผมพยายามขอร้องให้มันร้องเพลงนี้ให้ฟัง แต่ก็ได้รับแต่คำว่าไม่ แต่ในวันนี้ ทุกอย่างมันโดนจัดวางอย่างสวยงาม มิ๊กร้องเพลงนี้ได้ไพเราะ ไม่ต่างกับต้นฉบับที่ผมชอบฟังเลย หลายคนที่อยู่ในที่นี้คงไม่เข้าใจว่าผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินมายืนข้างหน้าเวทีทำไม แม้แต่โน๊ตที่ปล่อยให้ผมเดินออกมาโดยที่ไม่เดินตามออกมาด้วย เพราะตอนนี้ผมรู้สึกว่าเพลงนี้มันเป็นเพลงของผม ภาพต่างๆเข้ามาในหัวผม น้ำตาที่อยู่ดีๆก็ไหลออกมา ผมหยุดมองหน้ามันไม่กี่วินาที ก่อนที่จะเดินออกมาจากร้านเพราะว่าผมไม่ไหวแล้วกับสิ่งที่มันกำลังทำอยู่ ผมมานั่งอยู่คนเดียวที่ริมแม่น้ำนั่งมองไปมองแม่น้ำ คิดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ก่อนที่จะมีมือมาวางบนไหล่

“โอมห์ยังรักมันอยู่ใช่ป่ะ”
“ไม่รู้ดิ”
“โน๊ตรอได้นะโอมห์ ไม่ต้องรีบหรอก”
“รอทำไม โอมห์แค่ไม่ไหวกับที่มันกำลังทำอยู่แค่นั้นเอง”
“มันทำอะไรรึ เพลงนั้นรึไง” ผมผยักหน้า
“มันมีความหมายกับโอมห์ขนาดนั้นเลยรึ”ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยิ้ม ตอนนี้ไม่ได้ร้องไห้แล้ว มีโน๊ตมานั่งคุยด้วยแทน  ไอ้ทุกเรื่องที่คิดว่าเศร้าใจไม่สบายใจ ทุกครั้งที่อยู่กับโน๊ตมันเหมือนจะโดนดูดหายไปหมดในทันที ผมกลับมามีรอยยิ้มกับเรื่องเล่าที่มันเจอบนรถระหว่างมาหาผม อีกครั้ง ก่อนจะพากันเดินกลับเข้ามาในร้าน

“น้องๆนี้ร้องเพลงเพราะจังเลยนะครับ แล้วน้องเป็นอะไรรึเปล่าครับ” คงจะหมายถึงผม
“ป่าวพี่ ผมกินวาซาบิเข้าไปครับ เลยน้ำตาแตก ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ผมขอตัวจากลุงที่เจอก่อนร้องเพลง แล้วไปเดินจากไปที่ห้องน้ำ




ห้องน้ำ
“ร้องเพลงก็เพราะดีนะ” เสียงที่กรูคุ้นเคยทักจากข้างๆ สงสัยผมจะซ่วยเองที่เดินไม่เข้ามาไม่ดูเลยว่ามีใครอยู่ในห้องน้ำ
“อืม”
“ผมบอกแล้วใช่ไหมพี่ว่าอย่ามายุ่งกับพี่มิ๊กอีก”
“กรูไปยุ่งตอนไหน มันมาหากรูเอง”
“ถ้าเมิงไม่ไป ให้ท่าพี่มิ๊กก็ไม่ไปหามิ๊กหรอก”
“เอาเถอะ ไอ้เอิท กรูไม่ยุ่งหรอก กรูบอกแล้วว่ากรูยกให้เมิง ” ผมเดินมาล้างมือที่อ่างล้างหน้า โดยที่ไม่ทันระหว่าง ไอ้เอิท ชกเข้าไปที่หน้าผมเต็มๆ
“นี้กรูแค่เตือน ถ้ามีอีกเมิงโดนแน่” ผมไม่คิดจะสู้อยู่แล้ว เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องทะเลาะกันย้อนเรื่องผู้ชาย ให้มันบ้าคนเดียวก็พอ
“ไอ้เอิท ให้เมิงมีความสุขกับของที่เมิงแย่งกรูไปแล้วกัน แต่กรูจะบอกอะไรให้นะ ไอ้มิ๊กไม่มีทางที่จะเลิกรักกรูหรอก เมิงมันก็แค่ตัวคั่นเวลา ” ผมเอามือปาดเลือดที่ปาก แล้วดินออกจากห้องน้ำ กลับมานั่งที่โต๊ะ
“โอมห์ เป็นอะไร” เสียงมิ๊กถามสงสัยจะหวงจริง
“ป่าวหรอก เดินชนประตู”
“พี่มิ๊กจะไปสนใจทำไมครับ กลับกันได้รึยังอะพี่ เดี๋ยวจะไปต่อไม่ใช่อ๋อครับ”

..............
................
..............................
.............................................
“ไปก่อนนะโอมห์ กลับก่อนนะจ๊ะวินนี่” มิ๊กลาทุกคนที่อยู่ในโต๊ะ แล้วก็เดินออกจากร้านไป ผมเองก็ไม่ได้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำกับใคร เว้นแต่ทุกคนที่ได้อ่านนี้ละครับ


ความจริงปารกฏ
 


So Close - OST. Enchanted
You're in my arms
And all the world is calm
The music playing on for only two
So close together
And when I'm with you
So close to feeling alive
 
เธออยู่ในอ้อมกอดฉัน
โลกนี้ช่างเงียบสงบ
บทเพลงแผ่วหวานบรรเลงเพื่อเราสองคน
สองเราแนบกายใกล้ชิด
เมื่อเราสองได้อยู่เคียงกัน
คือช่วงเวลาที่ฉันรู้สึกสดชื่นมีความสุขขึ้นมาทันที
 
A life goes by
Romantic dreams will stop
So I bid mine goodbye and never knew
So close was waiting, waiting here with you
And now forever I know
All that I wanted to hold you
So close
 
ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป
วันหนึ่งความฝันแสนงามก็ต้องยุติลง
จำต้องตัดใจเอ่ยคำลาโดยไม่อาจได้รับรู้เลยว่า
การได้รอคอยอยู่เคียงข้างเธอนั้น(หัวใจ)จะรู้สึกแนบใกล้กับเธอได้ถึงเพียงนี้
และตอนนี้ที่ฉันรู้เพียงเรื่องเดียวที่ใจปรารถนา
คือการได้มีเธออยู่ในอ้อมแขนเช่นนี้
ใกล้ชิดเคียงกัน... ชั่วกาล... ตลอดไป
 
So close to reaching that famous happy end
Almost believing this was not pretend
And now you're beside me and look how far we've come
So far we are so close
 
ใกล้แล้ว... อีกเพียงนิด... ก็จะคว้าตอนจบแสนหวานมาครองได้
เชื่อเกือบหมดใจว่าไม่ใช่สิ่งลวง
ตอนนี้เธอมาอยู่เคียงกัน... ดูสิว่าเราผ่านเรื่องต่างๆ มามากมายเหลือเกิน
เราได้มายืนเคียงกัน... ไม่ห่างกาย แนบดวงใจ
 
How could I face the faceless days
If I should lose you now?
We're so close
To reaching that famous happy end
And almost believing this was not pretend
Let's go on dreaming for we know we are
So close
So close
And still so far
 
หากฉันต้องเสียเธอไปในวันนี้
แล้วฉันจะผ่านคืนวันอันเดียวดายไปได้อย่างไร
เราอยู่เคียงกัน... ใกล้เหลือเกิน
ใกล้แล้ว... อีกเพียงนิด... ก็จะคว้าตอนจบแสนหวานมาครองได้
เชื่อเกือบหมดใจว่าไม่ใช่สิ่งลวง
เรามาร่วมกันฝันต่อไปว่าเราสองยังอยู่เคียงกัน
ใกล้ชิด... สนิทแนบ...
ไม่ห่างหาย... ไม่จากลา...
เพราะโลกแห่งความจริงก็คือ เธอห่างไกลเหลือดเกิน... เกินกว่าจะเอื้อมมือคว้าเธอมาครอง




เช้าวันรุ่งขึ้นผมต้องตื่นไปที่บ้านมิ๊กแต่เช้า ก็เพราะท่านแม่มาปลุกละครับ
“ไปทำไมบ้านเขาแต่เช้าละแม่ เมื่อคืนยังคุยกันไม่พออีกรึ”
“ไปก็ไปเถอะ เร็วๆ” ผมกระโดดขึ้นรถ เพราะคำสั่งของแม่ พอไปถึงที่บ้านสิ่งที่ได้เห็น








    ก็คือบ้านสิครับ ไม่เห็นบ้านจะให้เห็นอะไร แต่ไม่มีคนอยู่ มีแต่พี่อ้อตัวอ้วนนั่งกลมอยู่ใน office
“พี่ เขาไปไหนกันหมดอะ”
“ไม่รุ้เรื่องรึไงค่ะน้องโอมห์ ” ผมก็ทำหน้างงสิครับ จะไปรู้เรื่องอะไร เมื่อคืนกับมายังดีๆอยู่เลย
“โอมห์ มานี้เร็วๆขึ้นรถ ” ผมรีบวิ่งกลับมาหาแม่ก่อนที่จะได้ฟังเรื่องที่ที่อ้อกำลังจะเล่า
“แม่รีบไปไหนเนี่ย ” แม่ผมดูสีหน้าเป็นกังวลมากๆ ตลอดทางต่อสายคุยกับใครสั่งคนเสียงผู้หญิง เดาเอาว่าคงจะเป็นแม่มิ๊กแน่ๆ
“โอมห์ ทำใจดีๆนะลูก” แม่ให้มาทำหน้าแปลๆเหมือนคนจะร้องไห้
“เป็นไรแม่แล้วจะไปไหนอ่ะ” รถวนเข้ามาที่โรงพัก มีรถมิไซค์คนคุ้นตาจอดสภาพเหมือนผ่านสงครามมาก็ไม่ผิด จอดเละอยู่หน้าเสาร์ธง
“นั้นรถมิ๊กรึเปล่าลูก” ผมสังเกตุดีๆ มันใช่เลยนิว้าเพราะมีสติ๊กเกอร์ที่ผมตัดเองกับมือแปะอยู่ ตอนนี้มือไม้ผมสั่นยิ่งกว่าแม่ผมสะอีก
“แม่มันเรื่องอะไรอะ ทำไมรถมิ๊กเป็นงั้นอะ จอดรถก่อนให้โอมห์ลงก่อน” ผมกระโดดลงจากรถ แล้วเดินเขาไปในโรงพักทั้งที


เรื่องที่ไม่คาดฝัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ครึ่งทางเดินของชีวิตในช่วงนี้  มันมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัว
หมุนวนอย่างรวดเร็ว  ต้องตั้งสติให้ดีตลอดเวลาเลยสินะ
แต่โอห์มก็สามารถผ่านมันมาได้...
เป็นกำลังใจให้คะ  :กอด1:

1kabb

  • บุคคลทั่วไป
สอบวันนี้ ยากสสสสสสสสส

..............................

เป็นกำลังใจให้ค๊าฟฟฟฟ

nine-poo

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มอ่านก้ใจสั่นตั้งแต่บรรทัดแรกเลยครับ
มาบรรทัดสุดท้ายยิ่งไปกันใหญ่
สรุปนี่ใช่ไหมครับโอมห์ที่มาของชื่อเรื่อง
เศร้าจัง..... :m15:


ปล.1 ขอเป็นกำลังใจให้กับการเรียนการสอบนะคร้าบ
ปล.2 ทุกสิ่งที่มันเกิดขึ้นเราคงกลับไปแก้ไขไม่ได้  ต่อไปขอให้โอมห์เดินไปข้างหน้าอย่างมีความสุขนะคร้าบ (เป็นกำลังใจให้)



ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Written by: Neil Diamond and Gilbert Becaud

Love on the rocks
Ain't no surprise
Pour me a drink
And I'll tell you some lies
Got nothing to lose
So you just sing the blues all the time

Gave you my heart
Gave you my soul
You left me alone here
With nothing to hold
Yesterday's gone
Now all I want is a smile

First, they say they want you
How they really need you
Suddenly you find you're out there
Walking in the storm
When they know they have you
Then they really have you
Nothing you can do or say
You've got to leave, just get away
We all know the song

You need what you need
You can say what you want
Not much you can do
When the feeling is gone
May be blue skies above
But it's cold when you're love's on the rocks

First, they say they want you
How they really need you
Suddenly you find you're out there
Walking in the storm
When they know they have you
Then they really have you
Nothing you can do or say
You've got to leave, just get away
We all know the song

Love on the rocks
Ain't no surprise
Pour me a drink
And I'll tell you some lies
Yesterday's gone
And now all I want is a smile


SJ

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อ เศร้าจัง  :monkeysad:
ยังไงซะมันก้อผ่านมาแล้ว โอห์มเข้มแข็งมากนะที่ผ่านมันมาได้
สู้ๆ ต่อไปนะ เป็นกำลังใจให้

NaTTo

  • บุคคลทั่วไป
ค้าง    ค้าง   ค้าง     และ...........ค้าง :z3:

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7
 :monkeysad:ค้างงงงงงงงงงงงงงง  เกิดอารัยขึ้นแล้วมิ๊กจะเป็นอารัยไหมมมมมม มาต่อด่วนนนนนนนนน โอมห์สู้ๆๆๆๆ o13

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
อ่านแล้วอยากบอกว่า โอห์มทำใจเรื่องนี้ได้ดีเหลือเกิน ทั้งการกระทำกับมิ๊ก โน๊ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอิท
คนบางคนถ้าเราไปให้คุณค่ามันมากเกินไปเราก็ยิ่งร้อนรุ่ม แต่ก็ไม่จำเป็นถึงขนาดไม่ตอบโต้ถ้ามันทำเกินไปขนาดมาต่อย แต่ก็ขอชมครับที่นิ่งได้ขนาดนี้ ปล่อยให้คนบางคนมันร้อนไปเองดีกว่า เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

three

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้การสอบ และขอให้ได้เกียรตินิยมมาไว้ในมือนะครับและขอให้ผ่านพ้นทุกๆอุปสรรคทุกๆอย่างโดยดีนะครับ
ที่สำคัญเกิดไรขึ้นเนี้ยขออย่าให้ใครเป็นอะไรเลยนะครับ(ยกเว้นนายเอิร์ทขอให้ตายคาที่)

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
เกลียด (เซ็นเซอร์)เอิท มากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






salemon

  • บุคคลทั่วไป
เกลียดอีเอิทมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



ไม่ตายก็พิการ

แต่ไม่ยกโทษให้มิ๊กหรอก

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก เราชอบเพลง Tennessee Line มากกกกกกกกกกๆ ส่วนมิ๊ก กับ เอิร์ท ก็ปล่อยเขาไปตามยถากรรมละกัน คนเราทำอะไรไว้ก็มักได้แบบนั้น

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
อะไรอะไรมันก็ไม่แน่นอน  สุดท้ายก็อยู่ที่ว่าเราจะเลือกเดินไปทางไหน

ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแค่ความไม่พอใจ

แต่จะแคร์ทำไม ในเมื่อมันคือชีวิตเรา

รอตอนต่อไป

เป็นกำลังใจให้โอห์มเช่นเดิม :L1:

SamSam

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจจังที่โอห์มกลับมาต่อให้แล้ว
เรื่องมิ๊กกับเอิท ขอไม่พูดถึงนะ ปล่อยเขาไป
แต่สำหรับโอห์ม อันไหนที่ทำแล้วมีความสุขก็ขอให้ทำไปนะ
ชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน รักตัวเองและคนที่ห่วงใยเราให้มากๆ

ปล.ค้างได้อีก  :serius2:

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...เอิท มันร้ายเนอะ เหมือนนางอิจฉา ในละครเลย แรกๆที่โอมเล่าทำไมถึงไม่เห็นธาตุแท้วะ
...มิกซ์คงชอบมั้ง แบบนี้นะชีวิตมีรสชาติดี นี่ถ้าไม่เกิดอุบุติเหตุ จะมาบอกว่าโอมอย่าใจอ่อนกับมิกซ์อีกนะ
...แต่มันคงมีเหตุให้เป็นไปมั้ง มันเกิดอุบัติเหตุซะก่อน อะไรๆๆมันเคยเปลี่ยนไป รวมทั้งใจของโอมด้วย
...หายไปนาน กลับมาคราวนี้ลงซะยาวเลย +1 ให้กำลังใจนะจ๊ะ
:L2:

i3igM

  • บุคคลทั่วไป
รัก คือ ...  :กอด1: ???



ปล.ชีวิตต้องเดินต่อไป สู้ๆ นะโอม

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


ทำยังงี้เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่ามั๊ยคับโอห์ม



อารมณ์กำลังมา  ฟีลกำลังได้อยู่ๆก็ตัดฉับ  โหยยยยยยยยยยยยย


ใจร้ายที่สุด



รีบมาต่อเลยนะ

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจ  โอห์มมาต่อแล้ว ว ว    ไอ้เอิทนี่เด็กจริงๆอ่ะ แล้วตอนท้ายนี่คงไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดนะ  :monkeysad:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ตายทั้งคู่เหอะ


 :angry2: :call:

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
อ่านตอนนี้แล้วไม่ชอบมิ๊กเลย
เห็นแก่ตัวมากๆ  :เฮ้อ:

สงสัยคืนนี้กันได้ เพราะอุบัติเหตุครั้งนี้ซะมั้ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด