ตอนที่ 22
วันนี้ผมขี่มอไซค์มารับเต๋าที่บ้าน แม่เต๋าก็ให้ผมทานข้าวเช้าด้วยกัน ผมกินมาแล้วแต่ต้องกินอีก..ผมปฏิเสธเรื่องกินไม่เป็นครับ55
“น้องพิหนูทำใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รึยังลูก?” ผมยิ้มให้แม่เต๋าและพยักหน้า
“ครับแม่ พอทำบัตรประชาชนได้อาทิตย์เดียวผมก็ไปทำใบขับขี่เลยครับ” แม่เต๋าวานให้ผมช่วยติวข้อสอบใบขับขี่ให้เต๋า เต๋าทำปากขมุบขมิบแล้วยิ้มหวานเอาใจแม่มัน ผมยิ้มกับความน่ารักของแม่ลูกคู่นี้ครับ แม่เต๋าน่ารัก เรียบร้อย มีสกุล แต่ลูกชาย..อย่าไปพูดถึงเลยครับ สมเพชกันซะเปล่า ๆ กินข้าวเสร็จแม่เต๋าออกไปทำงานที่บ้านพ่อมัน เต๋าชวนผมขึ้นห้องรอมันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน
“พิ มึงกับไท..ถึงไหนกันแล้ววะ?” ได้กันเกิน 10 ครั้งแล้วว่ะ..ใครจะตอบแบบนั้นล่ะครับ บ้า บ้าแล้ว!!
“เสือกไรด้วยวะ รีบเลยเต๋า..เดี๋ยวสาย” ผมเปลี่ยนเรื่องและท้าวแขนเอนตัวไปข้างหลัง ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกยาวเลยหันหลังไปมอง เต๋าส่ายหัวแล้วอมยิ้ม
“ยิ้มไร..กูทำมากกว่าจูบก็แล้วกัน” เต๋าหรี่ตามองและยิ้มขำ ๆ มันขี่แล้วผมซ้อนครับ จอดรถแล้วเดินมารวมพลกันหน้าห้องพยาบาล เห็นชายมันบีบนวดไทแล้วฮาครับ ชายมันเอาใจไทเป็นพิเศษ เอาการบ้านไปส่งให้ ซื้อน้ำให้..จะจีบน้องปูนมันก็ต้องเอาใจพี่ชายอย่างนี้ล่ะ55
“เมื่อคืนไม่รับโทรศัพท์ไทเลย ทำอะไรอยู่ครับ” ไทกระซิบถาม ผมยิ้มแล้วแอบจับมือใต้โต๊ะ
“..ทำแบบนี้อย่าคิดว่าไทจะหายโกรธนะ” ไททำปากบู่ ผมเลยเอานิ้วชี้เขี่ยฝ่ามือให้จั้กกะจี้เล่น เด็กญี่ปุ่นกลั้นยิ้มและเบือนหน้าออกไปมองทางเดิน..น่าร๊ากกกกกกกกก
“พิ..เมียมึงมาว่ะ” ผมหันไปตามนิ้วไอ้เต๋าที่ชี้ไปด้านหลัง อนิรุทธ์เดินตรงเข้ามาหาผม จะลุกหนีก็ไม่ทันแล้วครับ
“คิดถึงมากเลยค่ะ ทั้งที่เมื่อคืนพิก็เพิ่งกอดน้องออมไปเองนะคะ ทำไมถึงได้คิดถึงพิมากขนาดนี้ก็ไม่รู้อ๊ะ” อนิรุทธ์นั่งเบียดผม กอดแขน หัวซบไหล่ พูดกระเง้ากระงอด..เพื่อนอนิรุทธ์ส่งเสียงเชียร์ ‘พยายามเข้าค่ะออม..เก็บน้ำเชื้อมาฝากกูด้วยนะคะ..บลาบลา’ แต่ล่ะคำ..น่ากลัวววววววววววววว
“ผมต้องไปหาน้องมิ้นท์เป็นเพื่อนไทครับออม..ไทไปกัน” ผมพยายามดึงมือหยาบออกจากแขน และลุกขึ้นหิ้วปีกไทไปด้วย ไทขืนตัวไว้แล้วทำหน้าเฉย ๆ
“ผมเพิ่งไปมาเองครับ พิความจำสั้นจัง” เหวอเลยครับ ยังโกรธอยู่จริง ๆ เหรอ?
“พิเนี่ย..แรงกับน้องออมนะคะ” ออมดึงแขนผมให้นั่งและยังคงตั้งมั่นในการซบผมต่อไป หันไปมองขอความช่วยเหลือจากไท..ไทเหลือบมามอง และเมินหน้าผมไปคุยกับชายแทน
จบข่าว!!
น้องออมได้แทะโลมผมเป็นเวลา 18 นาที ..มันเกาะผมจนออดเข้าแถวดัง จนผมเดินไปเข้าแถว จนเค้าจะเคารพธงชาติ..มันก็ยังไม่ยอมไป
“เข้าแถวค่ะออม ปล่อยพิได้แล้วนะคะอีศพปลวก พิเค้าเป็นสมบัติสาธารณะนะคะ..มึงอย่ามากอดกกไว้คนเดียวอีรอยแยกเปลือกโลก” ..ขอบคุณมากครับ รีบพามันไปเดี๋ยวนี้เลยครับ
“หืออออ..อีรูตูดตัน!! คืนนี้พิกอดน้องออมอีกนะคะ สัญญาสิคะ..” ..ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และยิ้มให้เพื่อนอนิรุทธ์
“..พากลับไปทีครับ” เพื่อนออมมองผมเคลิ้ม ก่อนจะลากอนิรุทธ์ไปเข้าแถวตัวเอง ได้ยินสองคนนั่นคุยกันเสียงดัง’เอาแขนมึงมาล้างน้ำแล้วใส่ขวดแจกกันเลยนะอีออม..ถ้าไม่ติดว่ากูตัวเล็กกว่าเพื่อนเค้ากูก็จะเข้าไปกอดเองอยู่หรอก ไปเดี๋ยวนี้เลยอีสางเขียว’ ..เมื่อกี้มันอะไรครับ ผมเป็นอะไรสำหรับคนพวกนี้ครับเนี่ย?
“โถ..กูอยากช่วยนะพิ แต่กูกลัวกะเทยสงครามโดดถีบหน้ากูว่ะ” เต๋าปลอบผมและลูบหลังเบาๆ เอาเถอะครับ..ถือว่าทำบุญ เย็นนี้ผู้ชายห้องผมจะทำป้ายกับซุ้มหน้าร้านครับ ผมกับวินไปขนไม้อัด เต๋ากับพวกที่เหลือเตรียมสี ก่อนจะไปใช้แรงงานก็ต้องหาแรงจายกันโหน่ยครับ -//- ..ไม่รับอ่ะ สงสัยยังอยู่ในโหมดงอน ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยโทรอีกที เดินไปที่รถตาก็คอยเหลือบมองหาไท ..กลับไปแล้วเหรอเนี่ย? ขับรถพ้นรั้วโรงเรียนวินก็พูดขึ้นมาว่า..
“พิ..วันออกร้านน่ะ” วินพูดถึงวันออกร้านแล้วเงียบไป ผมเหลือบไปมองและย้อนถาม
“วันออกร้านทำไมเหรอ?” ผมเชนจ์เกียร์และหันไปมอง..วินจ้องผมและขอความเห็นจากผม
“พี่ต้าร์มันจะมา มันบอกว่ามันจะขอคำตอบจากกูอ่ะ” หืมมมมม ขยายความด่วนไอ้วิน
“พี่ต้าร์เค้าถามอะไรวะ?” โยนก้อนหินถามทางไปก่อน 1 ลูก..ไอ้วินเงียบครับ
“..กูจะจับมึงใส่พานถวายพี่ต้าร์ถ้ามึงยังไม่ยอมเล่า” อึ้ย มันตบหัวผมครับ!!
“ไม่รักกูกูไม่เคยว่านะพิ..อย่ามาเที่ยวยกกูให้คนโน้นคนนี้” ผมหัวเราะแล้วยื่นมือหมุนตรงหน้ามัน
“แต่ช้าแต่..โอ๋ๆๆ ไม่งอนผัวนะจ๊ะ ใช่ที่พี่ต้าร์เค้าขอมึงเป็นแฟนรึเปล่า?” วินถอนหายใจยาวและบ่นให้ผมฟัง
“ไม่รู้ว่าพี่เค้าเอาจริงรึเปล่าว่ะ มันบอกชอบกูแล้วมันก็ทำเฉย ๆ ใส่กู มันบอกว่าหวงแต่มันมานั่งเฝ้ากูแล้วก็ไม่พูด ไม่ชวนกูคุยอะไร มันขอกูเป็นแฟนแล้วมันก็หายต๋อม..มึงคิดไงวะพิ กูสับสนกับวิถีชีวิตของมันชิบหาย” ผมยิ้มมุมปาก
“แล้วตัวมึงล่ะวิน..มึงไม่ทำให้พี่ต้าร์สับสนเลยงั้นสิ” ..วินเงียบ ถ้าผมเป็นพี่ต้าร์คงฉุดมันทำเมียไปนานแล้วครับ ปากมันบอกว่าเกลียดพี่เค้า แต่พอพี่เค้าบอกชอบมันตรง ๆ มันก็เขินใส่เค้า ด่าเค้าไม่ให้พูดอีก..พอทำเฉย ๆ มันก็แอบคิดเล็กคิดน้อย ชอบพี่ต้าร์เหมือนกันก็บอกเค้าไปดิวิน55
“มีแฟนเพื่อนไม่ว่าหรอก แต่ถ้าหลอกตัวเองแล้วมานั่งเครียดแบบนี้ เพื่อนไม่ชอบนะวิน” ผมปล่อยให้วินคิด ตัดสินใจเรื่องพี่ต้าร์
“อย่าคิดนานนะเว้ย..หมาคาบไปแดกจะหาว่าพี่พิไม่เตือนนะจ๊ะ” เสียงหัวเราะ และแววตาของวินทำให้ผมมั่นใจ งานออกร้านผมคงได้เห็นรอยยิ้มของพี่ต้าร์กับหน้าแดง ๆ ของวินแหง555 กลับจากขนไม้อัดก็ลงมือทำครับ
“เอาสีขาวลงก่อนแล้วค่อยทาสีตามแบบ” ผมสั่งงานเพื่อนและเดินออกมาหามุมสงบ หยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์เด็กญี่ปุ่น รับสิ..รับหน่อย..
“..ไท ทำไมรับช้าจังครับ เย็นนี้มารับผมรึเปล่า? จะได้ไม่ต้องให้เต๋าไปส่งที่บ้านไง..ไท ฟังอยู่รึเปล่าครับ?” เงียบอ่ะ..
“ไทโยซังไม่อยู่..ฝากอะไรถึงมั้ยครับคุณพิ?” ..เอ่อ อยากถามว่าแล้วไทไปไหนก็ต้องตัดใจ ไว้ค่อยโทรอีกที..
“ไม่ครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ” เดินย้อนกลับไปช่วยเพื่อนดัดลวดทำโครงซุ้มหน้าร้าน
แล้วเมื่อกี้..ใครรับวะ? ผมพูดอะไรไปบ้างอ่ะ? ..ไม่ต้องอายหรอกเนอะ ไม่ทันละ55 เข้าโครงได้ก็เดินไปดูพวกทำป้าย ช่วยทาสีขาวเสร็จก็เอาที่เหลือออกมาวางกับพื้น..ผมไม่ชอบป้ายอิงค์เจทครับ มันไม่อาร์ต ถึงทำเองแบบนี้มันจะเหนื่อย เหม็นสี แต่ผมว่ามันสวยและดูมีความคิดกว่าเยอะอ่ะ ผมถอดเสื้อนักเรียนวางพาดบนกระเป๋าและลงมือทาสีตามแบบบนไม้อัด สีที่ผสมแล้วไปไหนหมดเนี่ย..มองหาเต๋า ไปไหนแล้วล่ะ? เดินออกมาตามหาเต๋า..ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์แว่ว ๆ เดินเข้าไปใกล้ ๆ เต๋าก็วางโทรศัพท์พอดี
“สีที่ผสมล่ะ?” เต๋าพยักหน้าให้และเดินนำออกมาเอาสี ยกสีมาวาง หยิบแปรงขึ้นมาจุ่มและละเลงกันอย่างเมามัน...ไม่ต้องตามแบบแล้วครับ ตัวพ่อกันทั้งนั้นอ่ะ555
“เฮ้ย นี่มันภาพอะไรวะพิ” ผมหันไปมองหน้าวินแล้วยักคิ้วแทนคำตอบ..ก็ถ้าบอกมันว่าผมวาดแก้วกาแฟมันคงคิดว่าผมเพี้ยนล่ะครับ มันเหมือนโรงงานทำน้ำปลามากกว่า -_-. ทาสีและทำโครงเสร็จก็เหลือแค่ตกแต่งก่อนวันออกร้านเท่านั้นครับ
“ฮัดเช่ย..” สงสัยฝุ่นจะเยอะ หรือใครพูดถึงผมครับ? ช่วยกันเก็บของและเก็บกวาด วินอาสาไปส่งผมที่บ้าน..แต่ผมอยากจะลองโทรหาไทอีกซักที บอกวินว่าพี่ช้างมารับดีกว่า..
“ไม่เป็นไรว่ะ เดี๋ยวกูกลับกับพี่ช้าง พวกมึงกลับไปอาบน้ำเหอะ เจอกันเว้ย” พอแยกย้ายกันกลับ ผมก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาไท..เสียงเพลงแบบนี้มันคุ้นหูแฮะ หันหลังกลับไปมอง
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ผมทักไท และเดินเข้าไปหา ไทยิ้มและดึงเอาเสื้อนักเรียนผมที่พาดไหล่มาสะบัด ๆ ..
“ไม่เอา..ตัวเปื้อน เดี๋ยวพาเสื้อเปื้อนไปด้วย ไม่สวมนะ” ไทพยายามจะให้ผมใส่เสื้อนักเรียน สู้กันอยู่พักใหญ่ไทก็ปลดกระดุมเอาเสื้อตัวเองให้ผมใส่ และหยิบเสื้อผมมาใส่เอง..
“หิวข้าวรึยัง? เดี๋ยวกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับบ้านนะ” ผมยิ้มและพยักหน้า..
“วันนี้ทำไมไม่รับโทรศัพท์เลยอ่ะ ยังโกรธอยู่อีกเหรอ?” ผมถามไทเบา ๆ เหลียวซ้ายแลขวา..ทางโปร่งแฮะ
“เมื่อคืนวานผมนอนค้างห้องตา โทรศัพท์ก็ทิ้งไว้ในห้องตัวเอง ..เมื่อเช้ารีบอ่ะเลยไม่ได้โทรบอก ขอโทษครับ” ไทหยุดเดินและหันมามองหน้าผม
“พิโทรหาผมเมื่อเย็นแล้วผมไม่รับ..พิกังวลมั้ยครับ?” ผมพยักหน้า
“ผมก็รู้สึกไม่ต่างกันหรอก..เป็นห่วง กังวล คิดไปสารพัด ทีหลังไม่เอาแล้วนะครับ ถ้าไม่ได้รับโทรศัพท์..โทรกลับหาผมสักนิดก็ยังดี” ผมถอนหายใจ..จับมือไทและกระชับมือให้แน่นขึ้นแทนคำตอบ เดินไปที่รถและขับออกไปหาอะไรกินก่อนเข้าบ้าน วันนี้ไทไม่ค้างครับ ส่งผมและกลับเลย..
คุณเชื่อเหรอ?
มันไม่กลับครับ ไทสั่งสอนผมให้หลาบจำเรื่องโทรศัพท์..ด้วยจูบ
“ไทโทรมาต้องรับนะ” จูบเน้นย้ำที่ริมฝีปากล่าง
“ถ้าไม่รับ..ก็ต้องโทรกลับ” ปลายลิ้นแตะแผ่วเบาที่ริมฝีปากบน
“เข้าใจมั้ยครับ?” สัมผัสอ่อนนุ่มเกิดขึ้นทั่วทั้งริมฝีปากผม..
“..อืม..” คำขอและคำสั่งของไทมันแทรกลงไปในใจผมเลยล่ะครับ..
“ค้างมั้ย?” ถามและแตะหลังมือที่ประคองหน้าผมเอาไว้ ไทส่ายหน้าและจูบผมอีกครั้ง ความนุ่มนวลจากริมฝีปากไททำให้ผมเผลอจูบตอบ ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัด ผมสำลักความหวานจากริมฝีปากคนคนนี้ครับ
“ลงไปส่งมั้ย?” หลับตาแล้วถาม..ผมไม่ได้อยากได้คำตอบครับ ถามแก้เขินเฉย ๆ -//- ปลายจมูกโด่งกดลงมาที่แก้มผม และสูดความหอม(?)เข้าไปจนเต็มปอด..เหงื่อทั้งนั้นนะเว้ย55+ ลากปลายจมูกมาแตะที่หน้าผากผมแล้วขออีกครั้ง
“ไม่ต้องส่ง เดี๋ยวไทปิดรั้วให้..รับโทรศัพท์ด้วยนะครับ” ผมลืมตาและจูบที่ปลายคางแทนคำตอบ ถอดเสื้อคืนและเอาเสื้อตัวเองยัดใส่ตะกร้า ไทกลับไปแล้วครับ ผมนั่งจ้องโทรศัพท์ พอหน้าจอสว่างผมก็กดรับทันที..ไม่ให้คลาดสายตากันเลยทีเดียว
“ถึงบ้านแล้วเหรอครับ..อ้าว” ผมรีบหยิบมาดูหน้าจอ..ชื่อพี่เล็กนี่หว่า? ทำไงล่ะเนี่ย? ...
“พี่เล็กครับผมปวดห้องน้ำ เดี๋ยวผมโทรกลับนะครับ” ไม่รอคำตอบแล้วครับ รีบวางเดี๋ยวไทโทรเข้าเจอสายไม่ว่างผมจะซวยหนัก..รอไม่นานเลยครับ หน้าจอสว่างอีกครั้ง ผมรีบหยิบมาเพ่งก่อนจะยิ้มกว้าง
“ถึงบ้านแล้วเหรอ?..ยังไม่ได้อาบครับ..ให้เอาไปไว้ในห้องน้ำตอนอาบด้วยป่าว...555+” วางโทรศัพท์และเดินไปอาบน้ำ ทาแป้งเสร็จก็เดินมาปิดไฟ โทรหาไทให้กล่อมผมหลับ
ผมลืมอะไรรึเปล่าครับ?
ช่างเหอะ..อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันออกร้านแล้ว อย่าลืมมาอุดหนุนผมกันนะครับ
……………..
แถม
.
.
“ไทโยซังไม่อยู่..ฝากอะไรถึงมั้ยครับคุณพิ?” เสียงมั่นคงตอบปลายสาย แต่ในใจกลับลิงโลด
“ไม่ครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ” ปลายนิ้วแข็งแรงรีบกดเปิดสปีคเกอร์เพื่อให้คนอื่นได้ฟังเสียงจากปลายสายก่อนจะถูกตัดการสนทนา
“ฮิ้ววว/โหหห” เสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นหลังจากปลายสายแฟนเจ้านายวางไปแล้ว
“รีบไปรายงานไทโยซังเร็วว่าคุณพิโทรมา” ชายคนแรกที่รับโทรศัพท์สั่งเพื่อนให้รีบรายงานนาย แต่ตัวเขากลับวิ่งนำหน้าคนอื่นเพื่อนำข่าวนี้บอกนายเอง
“ไทโยซัง..คุณพิโทรมาครับ” แจ้งข่าวด้วยหน้าไม่แสดงอารมณ์ ใบหน้าเรียบเฉยของนายปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ ยื่นมือออกมารับโทรศัพท์และโบกมือส่งสัญญาณให้กลับออกไป
“พูดเพราะมาก” ชายคนที่นำข่าวไปแจ้งนายกล่าวน้ำเสียงชื่นชมไม่ปิดบังเมื่ออยู่ในกลุ่มเพื่อน
“หน้าตาก็ดี.. นี่ ผมเจอคุณพิวันนั้นผมตกใจมากเลยนะ ไม่นึกว่าไทโยซังจะพาตัวจริงเสียงจริงมา” ชายคนที่สองกล่าวเสริมและรีบเงียบเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงมาจากชั้นสอง เดินก้าวเท้ายาว ๆ เพื่อยืนรับนาย
“เอารถออก..ไม่ต้องตาม” สิ้นคำสั่งไทโยซัง ชายคนริมด้านนอกสุดเดินออกไปเอารถ สายตาที่เหลือของการ์ดบ้านมุราคาวะต่างมองตามหลังชายคนดังกล่าวด้วยความ..อิจฉา
เสียงเครื่องยนต์ดังและขับเคลื่อนออกจากตัวบ้าน เหล่าการ์ดกำลังจะแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเอง แต่พอเห็นชายคนที่เดินออกไปเอารถไม่ได้ขับไปให้นายก็ยิ้มกันถ้วนหน้า
“อดตามนายไปดูคุณพิกับเพื่อนเลยนะครับ” ชายที่ถูกพาดพิงยิ้มน้อย ๆ และเดินกลับไปหน้าบ้าน ดูแลความปลอดภัยต่อ พวกที่เหลือก็ทำหน้าที่กันด้วยความจงรักต่อไป..
“ดูรูปคุณพิกันมั้ย?” จากบรรยากาศที่เงียบเชียบกลับมีสีสันขึ้นมาเพราะ..
เด็กหนุ่ม ม.3 ที่ได้ชื่อว่า..เป็นสะใภ้คนเล็กของบ้านมุราคาวะ
.
.
“ฮัดเช่ย..” สงสัยฝุ่นจะเยอะ หรือใครพูดถึงผมครับ?.......
ตัดแบ่งเป็นสองตอนนะคะ(จะได้กดดันตัวเองให้จบตอนหลังที่เขียนค้าง..จบไม่ลงซักที55)
ครึ่งหลังไม่เกินวันศุกร์ค่ะ(เหงื่อตก)
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ (สู้โว้ย!!)