มาแล้วค่ะ ตอนนี้นานทั้งๆที่บอลพักตั้งสองวัน
แต่ๆๆๆคนเขียนเขียนแล้วลบลบแล้วเริ่มใหม่อยู่สามครั้งแน่ะค่ะ ถึงสำเร็จออกมาได้
แบบว่า.....พยายามเขียนให้เข้าใจง่ายๆน่ะค่ะ
แถมยังเลือกแล้วเลือกอีกว่าจะให้ออกมาแบบไหนดีหนอ
ในที่สุดก็สำเร็จ เพราะงั้นมาอ่านกันเลยนะคะ

คนอ่านที่น่ารักทุกท่านเลยค่ะ
.........................
.........................
ตอนที่๔๗ แก้ข่าว....
“เฮ้อ.........เฮ้ออออออออ”“เป็นไง ถอนหายใจเฮือกๆอะไรขนาดนั้น พรุ่งนี้ต้องไปคณะกี่โมง?”
เสียงถอนหายใจติดๆกันจากไอ้หนูป่วนที่เดินถือแก้วน้ำออกมาจากครัว
ทำให้พี่อากาศที่นั่งเหยียดขายาวๆไปตามความยาวของโซฟาโดยมีหมอนกองอยู่กับเท้าแขนด้านที่เอนลำตัวช่วงบนอิงไว้
ทิ้งให้โทรทัศน์ดูตัวเองอยู่ถามคำถามนี้ออกไป พร้อมกับมองตามการเคลื่อนไหวของไอ้ตัวเล็กนั่นอย่างจับสังเกต
“พวกมันนัดน้องเก้าโมงตรงอะ แต่พวกผมต้องไปตั้งแต่แปดโมง พี่ฟ้าล่ะ?”
“พี่นัดอาจารย์ตอนบ่าย งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งตัวป่วนก่อนเนอะ”
“ไม่เอาอ้ะ วันนี้ผมกลับไปนอนบ้านดีกว่า เดี๋ยวพี่ฟ้าไปส่งหน่อยนะ”
“นอนนี่ไม่ได้เหรอครับ....อีกแค่สองสัปดาห์ก็เปิดเทอมแล้ว เดี๋ยวพอเปิดเทอมพี่ฟ้าก็เตรียมสอบ ตัวป่วนก็ยุ่งทั้งเรียนทั้งรับน้อง ขอนอนกอดตุนไว้ก่อนไม่ได้เหรอ...”
ไอ้หนูป่วนจัดการวางแก้วน้ำที่ถือติดมือมาลงบนโต๊ะเตี้ยหน้าโซฟา
แล้วแทรกตัวลงนั่งด้านปลายเท้าของพี่อากาศ ก่อนจะยกเอาขาทั้งสองข้างของคุณแฟนตัวโตมาพาดวางไว้บนตัก
“.....ไม่ดีกว่า ป่วนไม่ได้กลับไปนอนบ้านตั้งสามวันแล้ว เดี๋ยวที่นอนมันคิดถึงแย่เลย”พี่อากาศคิดว่าฟังไม่ผิดนะ ว่าน้ำเสียงของคุณแฟนที่ปกติจะขี้เล่นแถมยังขี้อ้อนอยู่ตลอดเวลาดูแปลกไป
ถึงจะพยายามให้ข้อความในประโยคดูร่าเริงแค่ไหน แต่น้ำเสียงที่ออกมามันไม่ได้สนุกไปด้วยเลย
“โห.....เห็นที่นอนสำคัญกว่าพี่....”
ส่งเสียงออดๆอ่อยๆใส่ไอ้ตัวเล็กมือก็เอื้อมไปคว้ามือนิ่มๆมาลูบเล่น
ไอ้หนูป่วนได้ยินเสียงออดๆแบบนั้นเลยเลื้อยตัวเองขึ้นมานอนเหยียดบนโซฟาอีกคน
ซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นๆ แนบหูฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะหนักแน่นนั่น แล้วเลยถอนใจออกมาอีกเฮือก
“แน่ใจนะว่าไม่มีอะไรอยากบอกพี่?”พี่อากาศส่งคำถามไปอีกครั้ง มือก็ลูบเล่นอยู่กับผมนิ่มๆเหมือนขนลูกแมวไปด้วย
“อืม......มีสิ มื้อเย็นนี้เรากินพิซซ่ากันนะพี่ฟ้า เอาหน้าที่ใส่เปปเปอโรนีกับชีสเยอะๆ สั่งถาดใหญ่เลยเผื่อพี่ภพด้วย แล้วจะได้เอาผักสดในตู้เย็นมาทำสลัด ไม่งั้นทิ้งไว้นานจะเสีย เสียดายแย่”
ตัวป่วนมันตอบออกมายาวเชียว บรรยายมื้อเย็นเป็นฉากๆเลย
แต่พี่อากาศก็ยังรู้สึกว่าไอ้ตัวเล็กที่หงุงหงิงอยู่กับอกยังมีเรื่องปิดบังอยู่ แถมยังเป็นเรื่องที่ทำให้มันไม่สบายใจเสียด้วยสิ
“พิซซ่าก็ดี งั้นเดี๋ยวตัวป่วนโทรสั่งเลยนะครับ พี่ขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยวเน่านานคุณแฟนเหม็นแล้วจะไม่รัก หึๆๆๆ เอ.....หรือจะให้พี่ช่วยล้างผักสลัดก่อน?”
ว่าอย่างนั้นแล้วพี่อากาศก็ลุกขึ้นนั่งพร้อมทั้งประคองไอ้ตัวเล็กที่กองทับอยู่บนอกขึ้นมานั่งด้วย
“หึ ไม่ต้องหรอกพี่ฟ้าเดี๋ยวผมทำเอง”
ไอ้หนูป่วนมันเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มเซียวๆให้คุณแฟนตัวโตที่ลุกขึ้นยืนได้ก็ขยี้หัวฟูๆเล่นไปที ก่อนจะเดินขึ้นไปอาบน้ำชั้นบน
###เฝ้าคอยรอ fun fun fun กับเธอนะ fun fun fun.....###“นุ่นพูดค่ะ”
//พี่เองนะครับ น้องนุ่นสะดวกคุยมั้ย?//
“ค่ะ พี่ฟ้ามีอะไรเหรอ?”
//ตัวป่วนมีเรื่องอะไรที่คณะรึเปล่า? หรือมีเรื่องเครียดอะไรรึเปล่าครับช่วงนี้?//
“แป๊บนะคะ นุ่นเปิดลำโพงแป๊บนึง........พี่ฟ้า คืองี้ค่ะ เรื่องข่าวของไอ้ป่วนกับพี่ภพนั่นแหละค่ะ พวกรุ่นเราไม่อะไรหรอกเพราะส่วนใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่ามันคบกะพี่อยู่ แต่พวกปีแก่ๆบางคนเขามองแปลกๆน่ะค่ะ ไอ้ป่วนขนาดไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับใครยังรู้สึกเลยว่าตัวเองถูกมองแปลกๆ”
//แค่มองเหรอ.....ไม่มีใครมาพูดว่าอะไรแน่นะครับ?//
“แน่พี่ ผมไม่ได้ปล่อยให้มันอยู่คนเดียวเลย”
//นุ่นกับแผนว่าเพราะมีแฟนเป็นผู้ชายหรือเพราะไปยุ่งกับรุ่นพี่ที่มีแฟนแล้วตัวป่วนถึงถูกมองแปลกๆ?//
“ข้อหลังเลยค่ะพี่ฟ้า ข้อแรกอ้ะเรื่องเล็ก ไม่ใช่มีแต่ไอ้ป่วนนี่ที่คบกับผู้ชายเหมือนกัน”
//พรุ่งนี้ที่คณะนัดทำอะไรกัน แล้วมีคนไปเยอะมั้ย? ปีสามปีสี่ไปด้วยมั้ยครับ?//
“พรุ่งนี้ปีหนึ่งปฐมนิเทศค่ะ /// พี่ฟ้า อยากให้คนเยอะหรือน้อยล่ะพี่ ถ้าตอนเช้าที่นัดกันก็มีแค่ปีสองรุ่นพวกผม ถ้าเย็นๆก็มาหมดทุกชั้นปีอ้ะ รวมเฟรชชี่ด้วยนะพี่”
//อืม คนจะเยอะจนเลิกงานพรุ่งนี้เลยใช่มั้ย?//
“ใช่พี่ เลิกประมาณสี่โมงนะ เลทสุดก็ไม่เกินหกโมง”
//ปีสี่ก็มาแน่ใช่มั้ยครับ?//
“ปีสี่จะมาถึงก็ช่วงบ่ายครับ เพราะพรุ่งนี้ฝึกงานตัวปิดเทอมวันสุดท้าย เขามีแค่ครึ่งวันเช้า ปกติรุ่นพี่จะมาดูน้องกันวันปฐมนิเทศอยู่แล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้วันเสาร์ด้วยไม่มีใครเลิกฝึกงานแล้วกลับบ้านเลยหรอก เห็นพวกพี่ปีสามบอกเป็นอย่างงี้มาทุกปีแหละ”
//โอเค ขอบคุณน้องนุ่นน้องแผนมากๆ งั้นแค่นี้นะครับ//
###ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดด ตื๊ดดดดดดดด###
..............................
..............................
“แปลกใจนะเนี่ย.....”พี่อากาศมาจอดรถหน้าบ้านไอ้ตัวป่วนเรียบร้อย ระหว่างที่ไอ้ตัวเล็กกำลังปลดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองอยู่พี่แกก็พูดลอยๆขึ้นมา
“หืม? แปลกใจเรื่อง?”
“ก็วันนี้ไม่ต้องปลุกคนขี้เซา เฮ้อ.....คิดแล้วก็เสียดาย”
สุ้มเสียงล้อเลียนนั่นทำให้ไอ้ตัวเล็กข้างๆมันยิ้มออกมาจนได้ แล้วเลยมีอารมณ์อยากแกล้งคนขับขึ้นมา มือที่กำลังปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยเลยเลื่อนกลับเข้าที่ แล้วก็เอนตัวลงพิงพนักปิดตาลงตามเดิม
“อ้ะ นี่ไงหลับอยู่นะเนี่ย เมื่อกี้แค่ละเมอ....” “หึๆๆๆ อ้าว!! ที่เห็นเมื่อกี้ตัวป่วนของพี่แค่ละเมอหรอกเหรอ งั้นไม่เป็นไร พี่ปลุกเองเนอะ”
พี่อากาศตัวโตเห็นอาการแกล้งหลับแต่ปากยังอมยิ้มจนแก้มพองของคุณแฟนตัวเล็ก
เลยใช้วิธีปลุกแบบเฉพาะตัว โน้มตัวเข้าไปฟัดแก้มพองๆนั่นแรงๆ แถมด้วยสองมือจู่โจมไปที่ข้างเอว
จนไอ้ตัวที่เพิ่งบอกว่าตัวเองละเมอต้องดิ้นหนีมือจ้าละหวั่น
แล้วปล่อยเสียงหัวเราะร่วนออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ฮ่าๆๆๆๆ โอย...พอแล้ว หายใจไม่ทัน....แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ ฮึๆๆ”
“ตื่นรึยัง เด็กขี้เซาแถมยังขี้แกล้งมันต้องโดนอย่างนี้ หึๆๆๆ”
โฮ่.....พี่อากาศเสียงหัวเราะพี่เหมือนตาลุงโรคจิตเลย แล้วดูนะ น้องมันดิ้นหนีขนาดนั้นแล้วยังไม่หยุดมืออีก ตัวป่วนเอ๊ย.....ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ยั่วคนโรคจิตเองนะเรา
ไอ้หนูป่วนมันตอบโต้ด้วยการยกแขนทั้งสองข้างกอดพี่ฟ้าของมันเอาไว้แน่น
และทั้งๆที่ยังหลับตาและหายใจหอบอยู่แบบนั้นมันก็ปฏิบัติการอ้อนได้ไม่มีขาดตกบกพร่อง
“จุ๊บๆก่อน แล้วจะยอมตื่น.....”
พี่อากาศเลื่อนมือที่ทำหน้าที่กลั่นแกล้งไอ้ตัวเล็กที่เรียกร้องขอจุ๊บปลุกให้ตื่นขึ้นมาประคองไว้ที่สองข้างแก้ม ประทับจูบลงไปแค่ภายนอกแล้วค่อยถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง
“ถึงบ้านแล้วครับ คราวนี้ถ้าไม่ยอมลืมตา พี่ฟ้าจะพากลับบ้านโน้นไปนอนกอดให้อุ่นทั้งคืนเลยจริงๆด้วย”พี่อากาศพูดจบก็ละมือข้างหนึ่งออกไปทำหน้าที่ปลดเข็มขัดนิรภัยให้ไอ้ตัวเล็กเสียเอง
ไอ้หนูป่วนพอได้อ้อนสมใจแล้วเลยยอมลืมตาขึ้นง่ายๆ ย้ายมือทั้งสองข้างมากุมทับอยู่ที่มือใหญ่ๆข้างที่ยังประคองอยู่ที่ข้างแก้มของมัน
“ขับรถกลับดีๆนะ”
สั่งเสร็จมันก็เปิดประตูลงมายืนโบกมืออยู่หน้าประตูบ้าน พี่อากาศเปิดหน้าต่างรถมาโบกมือไล่ให้ไอ้หนูป่วนเดินเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วตัวเองถึงออกรถกลับคอนโด
..................................
..................................
“วันนี้ไอ้ป่วนไม่ค้างนี่เหรอฟ้า?”
พี่อากาศเปิดประตูเข้าบ้านมาก็เจอพี่ชมพูน้องชายสุดที่รักที่ยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ต ที่ม้วนๆแขนทั้งสองข้างขึ้นลวกๆปล่อยชายออกมานอกกางเกงสแล็คสีดำ
กำลังนั่งหม่ำพิซซ่าที่แบ่งใส่จานอยู่หน้าโทรทัศน์
“อืม......บอกว่ากลัวที่นอนที่บ้านโน้นจะคิดถึง หึๆๆ ชมพูเพิ่งกลับมาถึงเหรอ? ในตู้เย็นมีสลัดด้วยนะ น้ำสลัดก็อยู่ในกล่องพลาสติก เห็นรึเปล่า?”
“อ้าว ไม่ได้ดูอ้ะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจัดการสองชิ้นตรงนี้ก่อน เดี๋ยวค่อยกินสลัดตาม”
พี่อากาศส่งเสียงในลำคอตอบรับน้องชาย แล้วเดินเลยเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ
ตั้งแต่คบกับไอ้ตัวเล็กมาดูจะเริ่มติดนิสัยชอบล้างมือ ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ต้องล้างมือ
ยิ่งออกไปข้างนอกมาอย่างนี้ยิ่งแล้วใหญ่ สิ่งแรกที่ทำเมื่อถึงบ้านต้องเป็นเดินไปล้างมือทุกที
พี่อากาศล้างมือเรียบร้อยก็ออกมานั่งที่โซฟาดูน้องชายกิน ก่อนจะเริ่มคุยไปเรื่อยๆ
“วันนี้เป็นไงบ้างล่ะชมพู ที่นี่เวิร์คมั้ย?”
“ก็ดีอ้ะฟ้า แต่ก็คงยากที่เขาจะรับเราเป็นฟูลไทม์ คงได้แค่พาร์ทไทม์แบบนี้แหละ แต่วันนี้มีอีกที่เรียกเราไปสัมภาษณ์แล้วนะ นัดสัมภาษณ์วันจันทร์ตอนเช้า”
“เออ ก็ดี ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ชมพูทำแต่พาร์ทไทม์แบบนี้ก็ดีนะ ภาษีก็ไม่ต้องเสีย ฮ่าๆๆๆ”
“ที่จริงก็มีบริษัทของรุ่นพี่เรียกเราให้ไปสัมภาษณ์นะ แต่เราไม่อยากทำพวกงานขายว่ะ เราว่าเราเหมาะกับงานโรงบาลแบบนี้มากกว่า”
“อืม.....อะไรที่ไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืนทำหรอก อีกอย่าง เดือนที่ผ่านมานี่มีแต่พาร์ทไทม์ชมพูยังมีของขวัญไปให้คุณยายเลยนี่ คุณยายโทรมาอวดกับเราอยู่ว่าหลานรักมีต่างหูไปฝาก”
“อยากให้ไง ครึ่งของรายรับเดือนที่แล้วเราเลยนะ ดีที่โรงบาลที่เรารับพาร์ทไทม์มีแต่ที่นั่งบีทีเอสไปแล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึง ถ้าต้องขับรถฟ้าไปทำงานสงสัยเราได้กินแกลบ”
พี่ชมพูจัดการกับพิซซ่าสองชิ้นเรียบร้อยก็เดินไปเปิดตู้เย็น จัดการเอาผักสลัดที่ไอ้หนูป่วนมันจัดการตัดหั่นไว้เรียบร้อยออกมา
เทน้ำสลัดลงไปคลุกๆในโถแก้วใบใหญ่นั่นง่ายๆแล้วก็เดินมาทรุดตัวนั่งลงที่เดิม
“แล้วเค้กล่ะ เป็นไงบ้าง? ได้งานแล้วใช่มั้ย?”
“เค้กได้งานประจำแล้ว เห็นบอกว่าพี่ๆที่แผนกใจดีกันทุกคนนะ โรงบาลเอกชนเล็กๆ ทั้งแผนกมีแค่สี่คนเอง”
“อืม.....พรุ่งนี้ชมพูทำงานรึเปล่า?”
“เราว่าง กะจะเข้าไปดูน้องๆที่คณะ นี่พวกมันส่งกำหนดการณ์รับน้องมาให้ทางเมล บอกให้เราเข้าไปวันไหนก็ได้ที่ว่าง พวกน้องๆปีสองเหนื่อย ให้เราไปช่วยเลี้ยงคนทำงานที ฮ่าๆๆๆ”
“แล้วเค้กเข้าไปด้วยมั้ย?”
“เค้กเลิกสี่โมงแล้วบอกว่าจะตามไปน่ะ ทำไม อยากเจอน้องสะใภ้?”
“........คืองี้ จำเรื่องข่าวที่ตัวป่วนแย่งนายมาจากเค้กได้ป้ะ?”ได้ยินประโยคนี้พี่ชมพูวางส้อมที่กำลังไล่จิ้มมะเขือเทศลูกเล็กๆที่กลิ้งหนีอยู่ในชามสลัดทันที ก่อนจะนั่งตัวตรงมองสีหน้าของพี่ชายคนเดียว
“มีอะไร มีใครมาหาเรื่องน้องป่วนเหรอ?”
“ไม่มีใครหาเรื่อง แต่ตัวป่วนดูซึมๆแปลกๆ เราถามก็ไม่บอก เราเลยโทรไปถามน้องนุ่น เห็นบอกว่ามีปีสี่มองสายตาแปลกๆ แต่ก็ไม่มีใครมาว่าอะไรนะ”
“อาฮะ แล้วนี่มาถามเราเรื่องพรุ่งนี้ว่างรึเปล่านี่แปลว่ามีแผนแล้วสิ?”
“ก็ทำนองนั้น......ตกลงพรุ่งนี้ชมพูเข้าคณะให้ได้แล้วกัน ยิ่งมีเค้กมาด้วยยิ่งดี”
“จะให้เราทำอะไรตามแผนของฟ้ารึเปล่า? เราจะได้เตี๊ยมกับเค้กไว้ก่อนเลย”
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก เคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น เจอตัวป่วนก็คุยตามปกติ สวีทกับเค้กแบบเหมือนเคย ไม่ต้องเยอะเวอร์ แล้วพอเราไปถึงก็แนะนำให้เพื่อนๆน้องๆโดยเฉพาะปีสี่รู้จักเราหน่อย บอกว่าเป็นพี่ชายชมพูก็พอ”
“โอเค เข้าใจแล้ว”
พี่ชมพูแกเข้าใจอะไรง่ายๆ พอจะเข้าใจแผนของพี่ชายขึ้นมาแล้วเลยหมดกังวล คว้าส้อมขึ้นมาพยายามจิ้มมะเขือเทศดื้อๆมาใส่ปากต่อไป
“น้ำสลัดแบบนี้ก็ดีนะ มีแค่เปรี้ยวๆเค็มๆมันๆ หอมน้ำมันมะกอกด้วย ไม่หวานเหมือนน้ำสลัดใสที่ซื้อมาเป็นห่อแบบนั้น”
“อืม ตัวป่วนทำไว้น่ะ เห็นใส่แค่น้ำมันมะกอก น้ำมะนาว แล้วก็โรยเกลือกับผงอบเชยลงไปหน่อยนึง”
“อ้อ งั้นไอ้ที่หอมแปลกๆนี่คงกลิ่นอบเชย ไว้ลองทำให้เค้กกินบ้างดีกว่า”
“อ้าว!? นึกว่าจะเอาสูตรไปบอกให้เค้กทำให้กินซะอีก ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“มันก็เป็นการล่อไงฟ้า ครั้งแรกเราทำใช่ป้ะ ถ้าอร่อยถูกปากเค้กก็จะถามเองแหละว่าทำยังไง แล้วเดี๋ยวครั้งต่อๆไป ก็ลาภปากของเรา หึๆๆๆๆๆ”
.................................
.................................
“พี่ภพ พี่เค้กมาโน่นแล้วพี่ อิจฉาว่ะ ทำไมพอจบไปแล้วพี่เค้กถึงสวยขึ้นได้อีกล่ะ”
สถานที่รับน้องคณะตอนนี้มีเด็กๆเฟรชชี่นั่งกันหน้าสลอนเป็นแถวอยู่กับพื้นโถงประชุม
ด้านหน้ามีพวกปีสองปีสามที่ทำหน้าที่สันทนาการให้น้องๆรู้จักกันและเป็นเพื่อนกันเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อยู่ไม่ต่ำกว่าสิบคน
หนึ่งในนั้นก็ไอ้ตัวเล็กของพี่อากาศแกแหละ ยืนถือไมค์ส่งเสียงแกล้งให้น้องๆทำตามคำสั่งไปเรื่อย
พอเล่นได้สักพักก็ส่งไมค์ไปให้เพื่อนคนอื่นที่ได้เรื่องได้ราวกว่าสอนน้องร้องเพลงคณะ
“แกไม่ต้องเลยไอ้น้องนุ่น อย่ามาอู้ โน่น ประธานรับน้องแกมันกวักมือเรียกอีกแล้ว ไปเปลี่ยนเวรกับไอ้น้องป่วนมันบ้างไป ท่าทางจะเหนื่อย หน้าตาแดงหมดแล้ว เดี๋ยวฟ้ามันมาโวยวายว่าใช้งานแฟนมันหนักพี่ไม่รู้ด้วยนะ”
“ไงน้องนุ่น เป็นไงบ้าง ไม่เจอกันนานเลย”
“พี่เค้ก สวัสดีค่ะ พี่ภพใจร้ายอ้ะพี่เค้ก นุ่นเพิ่งเดินมาหยิบน้ำดื่มได้หน่อยเดียว ไล่ไปทำงานอีกแล้ว”
ไอ้นุ่นก็เลือกฟ้องได้ถูกคนมาก กร้ากกกกกกกกกส์
“นี่แน่ะภพ แกล้งน้องเหรอ”
“อูย......ซี้ดดดดด เค้กอ้ะ ทำไมชอบหยิกจัง หยิกเฉยๆก็ไม่ได้ทำไมต้องลงเล็บด้วยอ้ะ”
พี่พิภพแกก็มือไวแท้ เค้กอยากหยิกดีนักก็จับข้อมือช่างหยิกนั่นไว้ซะเลย
ไอ้คุณนุ่นที่เดินผ่านกองปีสี่ที่สุมๆรวมกันอยู่ข้างๆโถงประชุมเลยได้ยินเสียงซุบซิบ
///แกๆๆ ไหนแกว่าพี่เค้กกับพี่ภพมีเรื่องกันไง///
///นี่ใครมันเล่าว่าไอ้น้องป่วนเป็นมือที่สามวะ?///
///แม่ง.....อิจฉาพี่ภพว่ะ พี่เค้กแม่งโคตรน่ารักเลย///
.
.
.
///อาจจะสร้างภาพก็ได้นะเว้ย ก่อนพี่เค้กมากูเห็นไอ้น้องป่วนมันไปคุยอะไรไม่รู้กับพี่ภพตั้งนาน///
///เออ ชั้นได้เห็นภาพนั้นด้วย คนที่เห็นหน้ามันไอ้น้องป่วนชัดๆ ส่วนอีกคนก็โคตรเหมือนพี่ภพอ่ะแก///
ไอ้คุณนุ่นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไม่สนใจ เก็บหูเก็บหางที่กางเป็นจานเรดาร์เดินผ่านไปจนถึงด้านหน้าโถงตำแหน่งที่ไอ้หนูป่วนมันยืนอยู่ แล้วก็เข้าไปไล่ที่มันง่ายๆ
“ไอ้ป่วน ไม่ไปทักทายน้องสะใภ้หน่อยวะแก เห็นป้ะพี่เค้กมองแกอยู่อ้ะ?”
“นุ่นบ้า น้องสะใภ้บ้านแกดิ”
“จะบ้านชั้นได้ไง ไว้แกยกพี่ฟ้าให้ชั้นเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน โฮะๆๆๆๆๆ”
///แป๊ะ///
“โอ๊ยยยย ไอ้บ้าแผน ดีดมาได้”“ก็เมื่อกี้พูดอะไร?”
“นุ่นแค่ล้อเล่น แกล้งไอ้ป่วนมันสนุกจะตาย แล้วมาได้ไง คุมเครื่องเสียงอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“ว่าจะไปหาน้ำกิน รอคนแถวนี้นานเกิน”
“โอ๋ๆๆนุ่นขอโทษ.....ไม่ได้ตั้งใจลืมนะจ๊ะ พอดีเจอพี่เค้กเลยเผลอสนุกนิดหน่อย”
ไอ้คุณนุ่นเงยหน้าส่งยิ้มกว้างขวางขอโทษไอ้เพื่อนรักตัวโย่งเสียเต็มที่ ไอ้คุณแผนเลยอดไม่ไหวต้องเก๊กหลุดยิ้มตอบมันจนได้
“เออๆ พวกแกจ๊ะๆจ๋าๆกันไปแล้วกัน ชั้นไปหาพี่เค้กดีกว่า”
ไอ้หนูป่วนรวบรวมกำลังใจกำลังสมาธิเพ่งไปที่จุดหมายที่หน้าหวานๆของพี่เค้ก ว่าที่คนในครอบครัวในอนาคต
ตัดการรับรู้ถึงสายตากว่าสิบคู่ที่มองตามการกระทำของมันอยู่ อีกสามเมตร......สองเมตร....เมตรเดียว
“ตัวป่วนครับ”
“พี่ฟ้า!!”ก็.......อีกก้าวเดียวถึงตัวพี่เค้กแล้วแท้ๆนะตัวป่วน มีมารมาขวางทางจนได้
พี่อากาศน่ะสิ ไม่รู้มาได้ยังไง มาถึงก็เรียกชื่อมัน เรียกด้วยสุ้มเสียงแบบที่มีแต่พี่แกคนเดียวแหละจะเรียกได้แบบนี้
แถมไม่ใช่แค่เรียกด้วยสิ เดินมาถึงตัวก็คว้ามือไอ้ตัวเล็กไปกุมเอาไว้ซะงั้น ตายๆไอ้หนูป่วนรู้สึกเหมือนหน้าร้อนๆขึ้นมาง่ายๆอย่างนั้นเอง
///เฮ้ย.....ใครวะ มาถึงก็จับมือเลย ว่าไปก็หน้าคล้ายพี่ภพว่ะ///
///เออ!! คล้ายๆกันจริงด้วย นั่นไงมึง พี่ภพกับพี่เค้กยกมือไหว้แล้ว///
.
.
///กูว่าที่เราคิดกับน้องมันนั่นมันไม่ใช่แล้วว่ะ///
///ก็บอกพวกแกแล้วไง ว่าน้องเรามันเด็กดี ไม่มีทางแย่งแฟนคนอื่นอยู่แล้ว เป็นไงล่ะ บอกเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อ///
“สวัสดีครับพี่ แฟนน้องป่วนรึเปล่าครับ? ใช่คนที่เคยส่งของให้น้องผมบ่อยๆรึเปล่า?”
“พี่ดอน!!!”ไอ้หนูป่วนอุทานชื่อลุงรหัสมันไป หน้าตาที่แดงเพราะเหนื่อยเลยยิ่งแดงก่ำเข้าไปใหญ่ รู้สึกหน้าร้อนจนเหมือนหัวจะระเบิด
“ครับ พี่เองแหละ เห็นว่าจะเลิกสี่โมงห้าโมง พี่เลิกพอดีเลยกะจะมารับ นี่ก็จอดรถไว้ข้างๆตึกนี่เอง ดีนะไม่มีรถอาจารย์เลย เลยหาที่จอดง่ายหน่อย”
“พี่ดอน นี่พี่ฟ้า เอ่อ.....แฟนป่วนเอง”
“ดีใจด้วยนะครับพี่ น้องผมคนนี้มันน่ารัก เป็นเด็กดีด้วย พี่โชคดีมากๆเลย”
“ขอบคุณครับ”
พี่อากาศส่งยิ้มให้ลุงรหัสของคุณแฟนและทั้งๆที่ยังไม่ยอมปล่อยมือของไอ้ตัวเล็กพี่แกก็หันไปถามน้องชายสุดที่รักมันต่อหน้าต่อตาทุกคนนั่นแหละ
“ภพกับเค้กออกจากคณะแล้วจะไปไหนมั้ย? กลับบ้านพร้อมพี่รึเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่งเค้กที่บ้านก่อน”
“ไม่ล่ะฟ้า เดี๋ยวเรากับเค้กจะไปดูหนังกันสักเรื่องก่อน แล้วเราไปส่งเค้กที่บ้านเอง”
ระหว่างพี่น้องเขาคุยกัน ไอ้หนูป่วนก็พยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของคุณแฟนที่อยู่ๆก็โผล่มาไม่ให้ได้ตั้งตัวไปด้วย
///ไงล่ะมึง หน้าแตก แล้วนี่ที่ไปมองน้องมันแบบนั้น สงสารน้องมันฉิบเลยว่ะ///
///เออ พวกแกก็รู้ไว้แล้วกัน ท่าทางว่าคนนี้แหละ คนในรูปตัวจริง///
///เท่าที่ฟังดูสงสัยจะเป็นพี่ชายพี่ภพว่ะ มิน่า หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ///
.
.
///เดี๋ยวว่างๆกูซื้อขนมปลอบใจไอ้น้องป่วนดีกว่า รู้สึกผิดเว้ย///
“อะไรกันเหรอคะพี่? ถ้าจะซื้อขนมปลอบไอ้ป่วนก็เอาเป็นเค้กนะคะ เค้กช็อคโกแล๊ตไอ้ป่วนมันชอบ ไม่ก็ขนมปังไส้แฮมชีสก็ได้ค่ะ”
“นุ่น!!!”“แผนอ้ะ จะดุทำไมเล่า?”
“มานี่เลย ปากดีจริงๆ”
.........................................
.........................................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..