มาลงให้อีกตอนครับ
...
Article 15
ผมก็มีชีวิตปกติเหมือนเดิมแต่ไม่มีไอ้พี่เต้เข้ามายุ่งวุ่นวายได้หลายวันแล้ว ผมพยายามสนุกสนานร่าเริงไปกับเพื่อน เพราะไม่อยากให้ใครสงสัย ไม่อยากให้ใครเป็นห่วง พวกมันก็ถามผมเหมือนกันว่าทำไมไม่ค่อยเห็นผมอยู่กับพี่เต้ ผมทำได้แค่ยิ้มแล้วเปลี่ยนเรื่องไป เพราะผมกับพี่เต้เราไม่ได้คบกันจริงๆ จะบอกว่าเลิกกันก็คงไม่ใช่ ก็ดีพวกเพื่อนผมก็ไม่ได้เซ้าซี้หรือสงสัยอะไรกันมาก ส่วนไอ้พี่เต้ผมก็เห็นมันมีความสุขดี สงสัยคบกับน้องบิงแล้วมั้งเห็นเดินด้วยกันบ่อยๆ ส่วนผมก็ควรจะลืมซะทีผมคงทำได้แค่นี้ ยังไงมันก็จบไปเเล้ว
“น้องมีนครับวันนี้ไปดูพี่ซ้อมบอลนะ”พี่พายเดินยิ้มเข้ามาหาผมที่กำลังจะไปซื้อข้าว ตั้งแต่ที่ผมให้รูปพี่พายไป ผมก็เจอพี่เค้าบ่อยขึ้นอย่างน่าประหลาด
“อ่า...ครับ”ผมตกลงกับพี่พายเพราะผมเบี้ยว พี่เค้ามาหลายครั้งแล้ว
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะ”พี่พายยิ้มกว้างให้ผมก่อนวิ่งตามเพื่อนไป ผมเหลือบสายตาไปก็เห็นไอ้พี่เต้มองอยู่ แค่นั้นแหละหัวใจผมเต้นแรงจนน่ากลัว ผมเลยรีบไปซื้อข้าว แล้วเลิกฟุ้งซ่านคิด ว่าไอ้พี่เต้มันมองผมทำไม พอผมกินข้าวเสร็จผมก็จะขึ้นไปนั่งเล่นบนห้องกับพวกไอ้เพลย์ แต่ไอ้เพลย์ก็ดึงตัวผมให้ไว้ก่อน แล้วยืนคุยกันข้างตึก
“มีนมรึงเลิกกับพี่เต้แล้วใช่มั้ย”ไอ้เพลย์ทำหน้าซีเรียสครับ
“คงงั้น”ผมหลบสายตาของไอ้เพลย์
“มีเรื่องอะไรวะ”
“พี่เค้าไม่ได้ชอบกรู”ผมรู้สึกเจ็บจี๊ดกับคำนี้จริงๆ
“มรึงรู้ได้ไง”
“...พอเหอะกรูไม่อยากพูดแล้ว”ผมตัดบท
“มรึงก็เป็นแบบนี้ทุกที เมื่อไหร่มรึงจะเลิกหนีซะทีวะ”ไอ้เพลย์พูดเสียงดุกับผม
“...”ผมไม่รู้จะพูดอะไร เพราะที่ไอ้เพลย์พูดมันก็จริง ผมเอาแต่หนีมาตลอด
“กรูไม่คาดคั้นมรึงก็ได้ แต่มรึงก็คิดให้ดีแล้วกัน”ไอ้เพลย์มันเดินขึ้นตึกไป ทิ้งผมที่สับสนไว้ ให้จมอยู่กับความคิดตัวเองผมควรจะทำยังไงดี ตอนเย็นผมแยกกับเพื่อนแล้วไปหาพี่พายที่สนามบอล
“ฮิ้วน้องมีนของมรึงมาแล้วว่ะพาย”พี่เจที่เป็นเพื่อนพี่พายแซวครับ พี่พายเลยตบหัวพี่เค้าเบาๆ
“มีนนั่งนี่นะพี่ฝากของหน่อย”พี่พายให้ผมนั่งข้างสนามตรงที่พักนักกีฬาแล้วเอาโทรศัพท์และอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้มาฝากผมแล้วไปซ้อมบอล
“ไอ้เต้มาซ้อมแล้วเหรอวะ แมร่งโดดได้ตลอด”พี่โจตะโกนครับ ผมหันไปก็เจอไอ้พี่เต้ หัวใจผมกระตุกไปวูบนึง ลืมไปได้ไงว่าไอ้พี่เต้มันอยู่ชมรมบอล(แล้วมันไปคัดตัวบาสทำไมก็ไม่รู้) ไอ้พี่เต้เดินเอากระเป๋าวางไว้แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยที่ไม่ได้สนใจผม แล้ววิ่งลงสนามไป ทำไม ผมถึงรู้สึกอ่อนแอขนาดนี้ ในเมื่อผมเป็นคนทำให้ทุกอยากมันจบเอง ทำไมถึงเศร้าขนาดนี้นะ
“ฮ้า...เหนื่อยจัง...มีนป้อนน้ำพี่หน่อยดิ...เนี่ยไม่มีแรงหยิบแล้ว”เมื่อซ้อมเสร็จพี่พายวิ่งมาหาผมแล้วให้ผมป้อนน้ำ
“อ่ะครับ”ผมงงนิดหน่อยก่อนจะป้อนน้ำพี่พาย โดยไม่สนใจไอ้พี่เต้ที่มองอยู่ จะสนทำไมล่ะในเมื่อไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน
“ฮ้า...ชื่นใจจัง...เดี๋ยวพี่ไปล้างหน้าก่อนนะ”พี่พายลูบหัวผมก่อนจะหยิบผ้า แล้วไปล้างหน้า ไอ้พี่เต้เดินเข้ามากวาดของของพี่พายที่วางไว้ข้างผมลงไปที่พื้นแล้วนอนตักผม ผมเลยทำเป็นไม่สนใจมันแล้วเก็บของพี่พายขึ้นมา ส่วนมันก็เอาแต่มองหน้าผม
“ห้ามอี๋อ๋อกับคนอื่น”มันพูดเสียงห้วนๆ
“ฮึ่ก...ฮือ...”น้ำตาที่เก็บไว้ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ (ฮึยเจ็บใจทำไมกรูต้องไห้ด้วยวะ ไอ้พี่เต้ก็บ้าทำไมต้องทำเป็นหึงด้วยเนี่ย)
“ร้องทำไม” ไอ้พี่เต้ลุกขึ้นนั่งเเล้วเลิกเสื้อมันขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ผม ใบหน้าของไอ้พี่เต้ดูตกใจที่เห็นผมร้องไห้
“...”ผมผลักมันออกไปแล้ววิ่งหนีไป(โธ่เว้ย ไม่แมนเอาซะเลยอย่างกับนางเอกหนังไทย เจ็บใจที่สุด มันทำเเค่นี้ทำไมกรูต้องหวั่นไหวด้วยวะ) ผมกลัวว่าจะหยุดหัวใจตัวเองไม่ได้ ไอ้พี่เต้มันไม่ได้ชอบผม ผมไม่อยากจะคิดอะไรไปไกลกว่านี้อีกเเล้ว
ตอนเช้าผมตื่นมาในสภาพพร้อมโชว์ตัวเป็นเพื่อนช่วงๆกับหลินฮุ่ย เมื่อคืนกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกือบตีสี่แล้วต้องมาตื่นตอนเจ็ดโมงสรุปได้นอนแค่สามชั่วโมง ผมหอบสภาพซอมบี้รีเทิร์นไปหาพวกไอ้เพลย์
“เฮ้ย! ทำไมสภาพมรึงเป็นแบบนี้วะ”ไอ้วีทักผมคนแรกครับ
“อ๋อ! กรูอยากไปโชว์ตัวเป็นเพื่อนช่วงๆกับหลินฮุ่ยว่ะ”
“ไอ้เวรกวนนะมรึง”ไอ้เพลย์ผลักหัวผมเบาๆครับ แต่นั่นพอแล้วที่จะทำให้ผมเสียหลักได้ แต่ดีนะไอ้บอยมันรับไว้ทัน
“อาการหนักแล้วนะเนี่ย”ไอ้วีพูดครับ พวกมันพาผมไปทิ้งไว้ที่ห้องก่อนเข้าแถว(โดดอีกแล้วกรู) วันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวันครับเพราะตอนกลางวันจะมีแข่งดนตรีกันครับ สบายผมแหละ...ตอนแรกผมกะจะเอาเวลาที่เหลือนอนครับแต่ไอ้พวกเพื่อนเลวมันก็ลากผมไปดูดนตรี แล้วก็โยกกันอยางเมามันทิ้งผมที่กำลังจะหลับให้ยืนสะลึมสะลือ (พวกมรึงลากรูมาทำไม)แต่ทำไมคนร้องเสียงคุ้นๆวะ
“เพลงนี้ผมขอมอบให้คนบางคนครับ ถึงเค้าจะเกลียดผมแต่ผมก็ยังรักเค้าอยู่ครับ”หลังจากที่มันพูดจบเสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มจนผมสะดุ้งแล้วปิดหูแทบไม่ทัน ผมเงยหน้ามองไอ้คนนักร้องที่บังอาจทำเท่ให้คนกรี๊ดปลุกผม
คนคนนั้น...
...ไอ้พี่เต้...
“เพลย์กรูไปข้างนอกก่อนนะ”ผมบอกกับไอ้เพลย์แล้วกำลังจะเดินออกไป
“จะหนีไปตลอดรึไง”ไอ้เพลย์พูดเสียงนิ่งๆ ทำให้ผมหยุดชะงัก
เสียงเพลงดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวใจผม ไอ้พี่เต้มันมองหาใครบางคนอยู่แล้วคนๆนั้นก็คงไม่ใช่ผม
รักในใจ เก็บมันเอาไว้เรื่อยมา
ก็เพียงแค่มองในตาเธออาจจะพอเข้าใจ
รักที่ใครบางคน ต้องทนเก็บไว้ข้างใน
ไม่อาจจะเปิดเผยไป ให้ใครได้รู้
* ฉันจึงต้องทน ต้องเฉยชา กลัวซักวันเธอรู้ว่าฉันรักเธอตลอดมา
และเธอเกิดจะบอกลากันไป
** แต่ต้อง(จะ)เก็บต่อไปอีกนานแค่ไหน
รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย สุดท้ายไม่มีค่าใด
จะทำให้เธอเห็นใจ จะทำให้เธอสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป
เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม
หรือในใจ จะมีเส้นใยบางๆ
ที่คอยจะเข้ามาบังกันขวางระหว่างสองใจ
จะทำให้เราเจอกันแต่จะรักกันไม่ได้
ทำได้เพียงเก็บไว้ในใจดวงนี้
ซ้ำ *,**
และหากว่าในเส้นใยบางๆได้จางลงไป
คงถึงวันที่ใจสองใจ ได้รักกันซักที
แต่ต้องเก็บต่อไปอีกนานแค่ไหน
รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย สุดท้ายไม่มีค่าใด
จะทำให้เธอเห็นใจ จะทำให้เธอมาสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป
จะบอกเธอได้คำไหน
ต้องเก็บต่อไปอีกนานแค่ไหน
รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย สุดท้ายไม่มีค่าใด
จะทำให้เธอเห็นใจ จะทำให้เธอมาสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป
เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม
จะบอกเธอได้คำไหน ให้รู้ดี
รักที่ฉันมีทั้งใจ คงไม่มีคำๆไหน จะเท่าเทียม
เพลงจบลงพร้อมกับเสียงกรี๊ดมากมาย แต่เสียงเหล่านั้นก็ดังไปไม่ถึงหัวใจ ผมหลับตาลงช้าๆ รู้สึกชาไปหมด
“มีน...เราต้องคุยกัน”
เฮือก OoO เสียงเรียกชื่อผม เสียงที่คุ้นเคยทำให้ผมสะดุ้งเเละลืมตาขึ้มาพบเจอความเป็นจริง เสียงไอ้พี่เต้(ทำไมมันอยู่ใกล้จังวะ)พร้อมกับมือที่จับเเขนผมและผมก็ปลิวไปตามแรงลากนั้น หัวสมองผมยังประมวลผมไม่ถูก นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไอ้พี่เต้ ลงมาจากเวทีตอนไหน
...

จะมาต่อให้ด่วนครับ ขอไปปั่นก่อนน๊า
ป.ล. เพลงที่ไอ้พี่เต้ร้องคือเพลง รักล้นใจของ มายด์