บุพเพวายร้าย(สอง)
9.20%
ผมหลับไปแต่ก็ตื่นขึ้นมาตอนตี 3 และก็นอนไม่หลับอีกจนกระทั่งเช้า ตอนนี้ผมยืนอยู่ระเบียบมองดูท้องฟ้าที่ค่อยเปลี่ยนสีจากสีดำ เป็นสีน้ำเงินเข้ม ก่อนที่ค่อยสีอ่อนลงเรื่อยๆจนได้สีฟ้า จนมีสีขาวเข้ามาแบ่งพื้นที่ด้วยการระบายไปทั่ว
ผมเดินเข้าเข้ามาในห้อง
“ .............. . . .” จักรกำลังพลิกตัวไปมา 2 3 ครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งกับผมเผ้ายุ่งๆชี้ไม่มีทิศทาง ตาลืมปรือขึ้นมาเหมือนคนนอนไม่พอ
“ ...........” พอหันมาเจอผมที่นั่งอยู่โซฟาก็เบือนหน้าหนีเพื่อแสดงให้ผมเห็นว่า เกลียจผมแค่ไหน.............
เออเกลียจกันเข้าไป สักวันเถอะ! ผมคิดหงุดหงิด เลยเดินออกมาสวนทางกับหมอและพยาบาลที่หน้าประตู ผมก้มหัวยิ้มเล็กน้อยพอเป็นมารยาท
ผมไม่อยากอยู่ในห้องครับ ก็อีกคนหน้าบอกไม่อยากหายใจร่วมกับผมขนาดนั้น ทั้งที่ผมอุตสาห์กลับมา ...
ผมเดินออกมาก็ไม่รู้จะเดินไปไหน แต่ก็เดินไปเรื่อยๆจนสุดทางเดินซึ่งเป็นบันไดหนีไฟกว้าง ผมก็นั่งลงตรงนั้นแหละ
ผมคิด
ระหว่างผมกับไอ้แบงค์ สิ่งที่ผมรู้สึกมันมากกว่าเพื่อนหรือเปล่า หรือว่าเพื่อนรักเขาก็รู้สึกอย่างงี้ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับไอ้วุฒิ
ผมไม่ได้รู้สึกอยากอยู่กับไอ้วุฒิตลอดเวลา ผมไม่ได้ไม่พอใจเวลาเห็นไอ้วุฒิไปกับใคร ผมไม่ได้อยากจูบไอ้วุฒิสักหน่อย แค่คิดว่ากำลังจูบไอ้วุฒิผมก็ขนลุกพิลึก
“ .....................”
“ ก็หนีเหมือนกันแหละครับ” คำพูดวิว ดังขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันแต่กลับพูดคำที่ติดสมองผมถึงเพียงนี้ คงเพราะมันตรงกับความรู้สึกผมตอนนี้ล่ะมั้ง
ผมต้องยอมรับ ว่าผมคง....จะ...ชอบไอ้แบงค์เข้าให้แล้วตอนนี้
คงเพราะผมมีอะไรกับไอ้แบงค์ตอนที่ผมอ่อนแอแน่ๆ ทำให้ผมเกิดความรู้สึกบ้าๆขึ้นมา
ผมไม่อยากเป็นมากกว่านี้กับไอ้แบงค์ เพราะวันหนึ่งมันอาจจะจบเหมือนผมกับปรางก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมคงทนไม่ได้ถ้าไอ้แบงค์มันไม่ยอมให้ผมเจอหน้าเหมือนนที่ปรางทำ
แต่ถ้าเราเป็นเพื่อนกันไม่ว่ากี่ปี อีก 10 ปี อีก 20 ปี มิตรภาพของคำว่าเพื่อนมันก็เหมือนเดิม...
“ กรู ............อยาก....” ผมหยุดคำพูดตัวเองไว้เพียงเท่านี้ กลัวที่พูดออกมา
ความรู้สึกมันเกิดขึ้นมา ย่อมหายไปได้เป็นเรื่องธรรมดา เพราะงั้นผมต้องกลับไปรู้สึกกับไอ้แบงค์เหมือนเดิม ให้ได้
สิ่งที่ผมต้องทำก็คือ ทำเป็นลืมๆไป อย่าพยายามคิด และวกเข้ามาเรื่องนี้ พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้ได้
และไม่นานหรอก ผมก็จะมองไอ้แบงค์ได้อย่างเพื่อนเหมือนที่เคยเป็นมา
“ ................”
จักร
เป็นชื่อที่พุดขึ้นมาในหัวของผมทันที
แต่ ผมจะดึงจักรเข้ามาเกี่ยวไม่ได้ ไอ้แบงค์มันยิ่งเป็นห่วงจักรอยู่ด้วย และนั่นแหละทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
ไอ้แบงค์มันคงกลัวว่าผมจำทำร้ายจักรเหมือนไอ้วุฒิทำกับจุม.....
กริ้งๆ
โทรศัพท์ที่ผมถืออยู่ดังเป็นเสียงที่ผมตั้งไว้ ผมเอาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู
‘ไอ้แบงค์’ โทรมา
7.00 น. โทรมาหาผมแต่เช้า??
“ ฮัลโหล?” ผมว่า
“ ชนะตื่นยัง?” ไอ้แบงค์ถาม ถ้าผมไม่ตื่นจะรับโทรศัพท์ได้ไง ถามบ้าๆ
“ แล้วสุนัขตัวไหนมิทราบรับโทรศัพท์มรึง” ผมว่า ทั้งที่เข้าใจอยู่ว่าที่ถามว่าตื่นรึยังคือ ไอ้แบงค์มันโทรมาปลุกผมรึเปล่า
“ ถ้ามรึงเป็นหมากรูก็หมาดิเพราะกรูเป็นเพื่อนมรึง”
“รู้ตัวก็ดี” ผมว่า แอบอมยิ้มเพราะมันรู้สึกมีความสุขอย่างประหลาด ผมเป็นเอามากจริงๆ
“ กินไร เดี๋ยวซื้อไปให้” ไอ้แบงค์ถาม ที่มันมาหาผมแต่เช้าขนาดนี้คงจะมาดูว่าผมทำอะไรจักรรึเปล่า คิดแล้วก็น่าน้อยใจ(น้อยใจไปแล้วด้วย)
“ ทำไมอยากมาดูรึไงว่าจักรยังอยู่ดี” ผมว่าไม่ณุ้รู้ว่าที่พูดไปประชดรึเปล่า
“ กรูอยากไปหามรึง นั่นแหละ”
“จริงดิ” ผมยิ้ม
“ จริง ก็มรึงมีเรื่องอะไรไม่บอก กรูเป็นห่วง”
“ กรูไม่ได้มีอะไร” ผมบอกยืนขึ้น มองผ่านกระจกไปยังด้านข้างของตึก ไอ้แบงค์มันยังติดใจเรื่องเมื่อคืนที่ว่าผมมีเรื่องปิดบังมันอยู่
ด้านล่างพยาบาลชุดขาว 2 คนกำลังเดินคุยกันกับรอยยิ้มบนใบหน้า
“ มรึงมีปัญหากรูดูออก” ไอ้แบงค์พูดเสียงเครียด ถ้าไอ้แบงค์มันดูออกขนาดนั้นทำไมมันดูออกด้วยล่ะว่าผมคิดไม่ซื่อ...กับมัน
“ กรูว่าเปลี่ยนเรื่องเถอะ”
“ ไม่อยากบอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร” ไอ้แบงค์พูด
** **
ไปเดินตลาด คนเยอะมากลายตา เหนื่อย พอกลับมาก็มานั่งพัก เวียนหัว รู้สึกอยากจะอาเจียนแต่ก็ไม่
ทั้งไฟล์ที่พิมพ์ไว้เปิดไม่ได้ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ T^T
เม้นต์เอาไว้ตอบในโอกาสหน้า
ขอบคุณเน้อ
ปล.ขอนอนพัก
^^~