บุพเพวายร้าย
53.60%
ผมตื่นขึ้นมาตอนตี 3 แล้วก็ดูเหมือนไม่ไม่ง่วงไม่อยากจะนอนแล้ว ในห้องไม่เปิดไฟ แต่สว่างมากพอที่ผมจะเห็นพี่วุฒินอนหันหน้าเข้าเตียง ผมจ้องมองอยู่นานรับรู้ยอมรับว่าชอบพี่วุฒิ
พี่วุฒิก็ดีกับผมมาก หากไม่นับเรื่องคืนนั้นถึงบางครั้งพี่เขาก็เอาแต่ใจบ้างแต่อยู่ในจุดที่ผมรับได้ ผมเงยหน้า
...แต่เรื่อง SEX ทำไมผมถึงได้ต่อต้านขนาดนั้นก็ไม่รู้
“ ......................” ผมหันหน้าหนีจากร่างที่พี่วุฒิที่นอนบนฟูกปิกนิก ก่อนที่จะยืนขึ้นเดินออกจากห้องไปเงียบๆ ผมเดินลงบันได้โดยไม่ได้เปิดไฟ เอามือจับผนังเดินลงบันไดอย่างช้าๆ ถึงตาจะผมจะชินความมืดแต่มันก็ไม่สว่างเหมือนเปิดไฟ ผมจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ผมคิดว่าจะมานั่งคิดอะไรเงียบๆตรงโชฟาห้องรับแขกแต่เปลี่ยนใจไปนั่งตรงโต๊ะข้างนอกรับลมแทนจึงเดินจะผ่านครัวเพื่อไปด้านข้างของบ้าน
ผมนั่งลงบนเก้าอี้ๆม้สีน้ำตาล ข้างๆผมเป็นเก้าอี้ไม้อีกตัวมีฝักบัวที่พี่วุฒิวางไว้เมื่อเย็น
ข้างนอกลมพัดเย็นดีครับ เย็นไปด้วยซ้ำทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯ
“ ...................” ผมเอาไปจับฝักบัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเย็นที่พี่วุฒิชวนผมขึ้นไปบนห้องผมอดคิดไม่ได้ว่าพี่เขาชวนผมเพราะพี่เขาอยากทำอะไรผม
ผมกับพี่วุฒิคืออะไร ?
มันคงไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดา เพราะความรู้สึกผมมันมากกว่านั้น
ผมชอบพี่เขา
หากถามว่าอยากเป็นแฟนพี่ไหม ก็ใช่
…………..แต่ตอนนี้พี่วุฒิคงจะโกรธผม.............แล้ว
ผมอยากทำอะไรหลายๆอย่างร่วมกับพี่วุฒิ แต่บางครั้งผมก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาเฉยๆ หัวใจเต้นระทึกเมื่อมองหน้าพี่วุฒิก่อเกิดเป็นความกลัวเล็กๆที่ขยายใหญ่เรื่อยๆ แต่พี่วุฒิกอดผมมันก็หายไป มือพี่เขาอุ่นและทำให้ผมสงบ แต่ก็มีแต่อีกนั่นแหละ เพราะบางครั้งมันก็มีผลตรงกันข้าม...
เสียงพี่วุฒิที่อ่อนโยนแต่ถ้ามันดังจนเกินไปผมก็กลัวอีก.. หลังจากผมออกจากโรง-บาล ผมก็กลัวเสียงดัง คงเป็นผลข้างเคียงจากที่ผมความจำเสื่อม เมื่อวันก่อนขณะที่พี่วุฒิกำลังเก็บจานที่ผมล้างพี่เขาทำหลุดมือมันร่วงลงพื้น เสียงจานกระทบพื้นทำให้ผมตกใจมาก ตกใจจนทำอะไรไม่เป็น และก็ไม่ได้ไปช่วยพี่วุฒิเก็บเศษจานจาน เพราะผมยืนตัวแข็งเอาแต่จ้องมองจานที่กระจายบนพื้น จนพี่วุฒิเข้ามาถามผมว่าเป็นอะไรหน้าซีดๆ ผมส่ายหน้าตอบว่าไม่เป็นอะไร เพราะปากมันแข็งพูดไม่ออก
“ ....................................”
เสียยเหมือนคนวิ่งลงบันได !!!แล้วก็
“จุม!” เสียงพี่วุฒิทำให้ผมหันไปมอง เห็นพี่วุฒิเดินออกมาจากประตูห้องครัวที่มืดกว่าด้านนอก
“ พี่วุฒิ?” ผมว่ายืนขึ้น พี่เขาเดินตรงมาถึงตัวผม
หมับ!?? “ ลงมาทำไม!?” พี่วุฒิถามพร้อมเอาตัวไปเข้าไปกอด หัวใจพี่วุฒิเต้นเร็วมากจนผมสัมผัสได้
“ ผมลงมานั่งเล่น” ผมบอกไม่รู้จะตอบว่าอะไร ตอนที่ผมลงมาก็ไม่ได้คิดอะไรแค่อยากลงมา ...
“ พี่นึกว่าหนีพี่ไป” พี่วุฒิบอกเอาหน้าวางบนหัวผมแล้วถูไปมาเบาๆ
“ ผมจะหนีไปไหนครับ นี่บ้านของผม”
“ .......................”(พี่วุฒิ)
“ พี่ครับ ขอโทษนะครับ ที่ผมไม่สามารถ.....”
“ เมื่อไร?” พี่วุฒิถามผม ? ผมเงยหน้าขึ้น และพี่วุฒิก็มองลงมาเช่นกัน วงแขนที่กอดผมอยู่เริ่มคลายเป็นหลวมๆ
“ เมื่อไรที่จุมจะยอม”
“ ผมไม่รู้ แต่ขอเวลา”
“ ขอเวลา แล้วมันเมื่อไร!” ผมก้มลงหน้าโดยพลันเมื่อพี่วุฒิขึ้นเสียง
“มันสำคัญหรือครับ?”
“ สำคัญ!”
“ ...............................” สำคัญคือ sex แล้วตัวของผม ความรู้สึกของผมล่ะ? มันไม่สำคัญเลยหรือไง
“ จุมมันหลายอย่าง มันเหมือนจุมไม่เชื่อใจพี่ หรือพี่ก็อยากมีอะไรกับคนที่ชอบ .......และพี่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจุมถึงไม่ยอมมีอะไรกับพี่รังเกลียจพี่มากหรือไง!?” แรงแขนที่โอบตัวผมรัดแน่นขึ้นมากขึ้น
“ ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้เกลียจพี่!” ผมบอกเสียงดังไม่รู้ตัว เพราะผมไม่อยากให้พี่วุฒิคิดว่าผมเกลียจพี่วุฒิ
“ แล้วรู้สึกยังไง?”
“ ชอบ” ผมตอบกอดพี่วุฒิกลับ
“ .............................” (พี่วุฒิ)
“ ผมชอบพี่มากครับ” ดีใจที่ได้พูดออกไปแม้จะเบาแสนเบา ผมอยากให้รู้ว่าผมรู้สึกยังไง เมื่อเห็นว่าพี่วุฒิไม่พูดผมเลยเงยหน้าขึ้น พี่วุฒิโน้มหน้าลงมา
ริมฝีปากที่ก้มลงมาแตะปากผมแผ่วเบา ปลายลิ้นอุ่นๆสัมผัสริมฝีปากก่อนที่มันเข้ามาในปากช้าๆ และก็สัมผัสลิ้นผมต่อเนื่อง ผมรู้สึกได้รสหวานจางๆที่หัวใจ
แต่ผมก็เอาหน้าตัวเองออกมา
“ พี่ครับ วันนี้ยังไม่ได้นะครับ” ผมบอก
“ อีกกี่วัน?”
“ ผมไม่รู้”
“ บอกมาเลยว่ากี่วันจะรอ อย่าให้พี่คิดเองคนเดียว” ผมไม่สามารถบอกได้ครับ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากมีอะไรกับพี่เขา เพียงแต่ว่าผมอยากทำใจลบภาพเก่าๆออกก่อน ซึ่งมันต้องใช้เวลา
ผมตื่นตระหนกทุกครั้ง และกลัว
“ พี่ ผม”
“ 3 เดือนพอไหม?” พี่วุฒิบอก ผมเลยหน้ามอง
“ 3 เดือนเหรอครับ?”
“ ใช่ ห้ามต่อรอง ไม่งั้นพี่จะข่มขืนจุมตรงนี้” ตกใจครับ เพราะผมรู้ว่าพี่วุฒิไม่ได้พูดเล่น
“ ครับ” ผมบอก เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว เวลาอีก 3 เดือนคิดว่านานพอดูที่ผมจะลืมเรื่องคืนนั้น
“ดี”
“ ..........................”(ผม)
“................................” (พี่วุฒิ)
ผมกับพี่วุฒิยืนกอดกันและกันอยู่นาน จนผมเริ่มรู้สึกหนาวเพราะน้ำค้าง
“ ..........พี่ครับเรากลับเข้าบ้านดีกว่า ผมหนาว” ผมว่า
“ ก็ดี แต่พอขึ้นห้องแล้วขอมัดจำนะ” พี่วุฒิเอามือมาแตะๆแก้มผม
“ มัดจำยังไงครับ? ” ._.
“ หอมแก้มซ้าย แก้มขวาพี่” พี่วุฒิบอกแล้วยิ้ม ผมก้มหน้า ผลักพี่วุฒิออกเบาๆแล้วเดินเข้าบ้านมาก่อนเลย ........................เขินครับ
พี่วุฒิชอบทำให้ผมอายอยู่เรื่อย
แต่ผมไม่โกรธครับ
(เขิน)//////.
* * * * เช้านี้นี้พี่วุฒิมาส่งผมที่โรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน
“ หอมแก้มพี่ดิ” พี่วุฒิพูดขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูรถ
“ เมื่อคืนก็หอมไปแล้วตั้งหลายครั้งแล้วนะครับ” ผมบอกท้ายเสียงเบาลง ยังไม่ไม่ได้เปิดประตูออกไป
“ เมื่อคืนก็เมื่อคืนวันนี้ก็วันนี้” พี่วุฒิพูดพลางเอี้ยงตัวเอียงหน้ามาทางผม
“ .................”
“ จะหอมแก้มพี่หรือจะให้พี่หอมแก้มจุม” พี่วุฒิพูดเพราะผมไม่ทำตามที่พี่เขาต้องการสักที
แค่หอมแก้มผมทำได้ครับ แต่ที่ผมลังเลคือ...
“ พี่ไม่หอมแก้มจุมแล้วแต่จะจูบ...”
“ครับครับผมหอมแก้มพี่” ผมรีบบอกไม่งั้นได้โดนจูบแบบไม่ธรรมดาก่อนเข้าโรงเรียนแน่
“ ............” พี่วุฒิยิ้มรอผมหอมแก้ม
ผมกลั้นหายใจก่อที่หอมแก้มพี่วุฒิ แต่พอผมจะเอาปากออกมาเท่านั้นแหละหน้าโดนจับด้วยมือพี่วุฒิก่อนที่มือพี่วุฒิจะประกบปากผมรวดเร็วแล้วลิ้นพี่วุฒิก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว ตาผมโตเท่าไข่ไก่ไม่ต้องสงสัยเพราะผมตกใจถึงจะรู้ว่าจะต้องเป็นแบบนี้ก็ตาม ผมเอาดันไหล่พี่วุฒิออกไป ก่อนที่พี่วุฒิจะยอมแต่โดยดี
แค่หอมแก้มผมทำได้ แต่ที่ผมลังเลคือ...แบบนี้แหละครับ
“ ไหนว่าหอมแก้มไงครับ?” ผมถามเสียงดังขึ้นเล็กน้อย
“ พี่เกิดเปลี่ยนใจ กระทันหัน” พี่วุฒิบอกผมหน้าตาเฉย
เมื่อคืนก็เหมือนกัน เรื่องหอมแก้มมัดจำ พอผมหอมแก้มตามที่พี่วุฒิขอ ผมก็โดนจูบกี่ครั้งก็ต่อกี่ครั้งจนเจ็บปากเลยก็ว่าได้ ทั้งที่ผมก็บอกว่าจะต้องนอนเพราะวันนี้มีสอบ กว่าจะเข้าใจก็ปาไปตี 4 ครึ่ง
“ ถ้าคราวหน้ามาอย่างนี้อีก ผมจะไม่หอมแก้มพี่แล้วนะครับ” ผมบอก ผลักประตูรถออกไป หน้าก็ร้อนๆเย็นๆเพราะจูบเมื่อตะกี้
“จุม” หมับ? พี่วุฒิดึงแขน ผมหันกลับไป
“ จุม อย่าโกรธพี่นะ” พี่วุฒิพูด
“ ผมไม่โกรธพี่หรอก” ผมบอกไม่ได้โกรธแม้ตอนแรกจะไม่พอใจนิดหน่อยก็ตาม
“ งั้นก็ชอบ” พี่วุฒิว่าแล้วยิ้มกริ่มเปลี่ยนท่าทีที่เมื่อกี้ดูน่าสงสารเป็นเจ้าเล่ห์ ผมเลยปั้นหน้าดุแทนถึงจะเขินก็ตาม เพราะผมก็ไม่ได้รังเกลียจ ว่าจะรู้สึกดีก็รู้ดี และมากด้วย แต่พี่วุฒิทำตามใจตัวเองเกินไป อยากจูบตอนไหนจูบไม่สนว่าผมจะทำอะไรอยู่ บางครั้งผมก็ไม่อยากให้จูบก็จูบ พอผมปฎิเสธก็เหมือนไม่พอใจแล้วยังจูบรุนแรงขึ้นอีกด้วย
“ ............” ผมเปิดประตูออกไป ไม่อยากพูดแล้ว เดี๋ยวพี่วุฒิก็หาเรื่องพูดเข้าตัวเองอีก
“ ตอนเย็นพี่มารับ”
“ครับ” ผมตอบพร้อมปิดประตู แล้วยืนมองรถที่วุฒิที่ขับออกไป
ความสุขบางเบาแต่หนักหน่วงกำลังรายล้อมตัวผม
ผมอมยิ้มขณะเดินเข้าโรงเรียน
* * * *
“ เลิกเรียน ไปดูหนังกัน” ยูชวนขณะพวกผมนั่งกินข้าวในโรงอาหาร ที่เต็มไปด้วยเสียงจอแจของนักเรียนที่พร้อมใจกันคุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ไปทั่ว ไม่ยอมหยุด
“เอาดิ” จักรเห็นด้วย “ อยากดู Z อยู่พอดี”
“ ไปด้วยกันนะจุม” ซีซี่ชวนผม ยูและจักรหันหน้ามามองผมเพื่อฟังคำตอบ
“ เอาสิ แต่มีเพื่อนเพิ่มอีก 2 คนนะ” ผมบอก คิดจะจะโทรไปชวนธีและบันบัน และอยากเจอด้วย
จากนั้นผมก็โทรไปชวนธีและบันบัน พร้อมทั้งบอกเวลา สถานที่เรียบร้อย
กินข้าวเสร็จพวกผมพากันไปห้องน้ำก่อนที่จะไปนั่งม้าหินอ่อนสวนต้นไม้เล็กๆระหว่างอาคาร 3 และอาคาร4 ตามที่จักรแนะนำว่าจะได้นั่งมองผู้หญิงไปด้วย(เป็นถนนทางเดินคอนกรีตเล็กๆ มีหลังคากระเบื้องสีฟ้าเชื่อมระหว่างตึก)
พวกผมนั่งโต๊ะม้าหินอ่อนที่ใกล้ทางเชื่อมที่สุด พอมีนักเรียนหญิงน่ารักๆเดินผ่านจักรและยูก็จะเดินเข้าไปหา ถามโน่นถามนี้ ขอเบอร์บ้างแต่ไม่ยักได้สักเบอร์ บางคนก็วิ่งหนีแต่คงไม่รังเกลียจคงตกใจมากกว่า ส่วนซีซี่ก็จะเอากระจกสีชมพู(ใหญ่มาก)มาส่อง และแต่งหน้าแต่งตาตามปกติ หรือบางทีก็ชวนให้พวกผมดูนักเรียนชายที่เดินผ่านไปมา แต่สุดท้ายก็ไม่วายมาลงที่จักร
จนเที่ยง 40 ยูและซีซี่ก็รวบรวมเงินพวกผมคนละ 25 บาทไปซื้อขนมกับน้ำที่สหกรณ์ ผมกับจักรนั่งเฝ้าโต๊ะครับ
ผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทรบอกพี่วุฒิเรื่องจะไปดูหนังหลังเลิกเรียน เลยรีบโทรหา
“ ฮัลโหลพี่วุฒิ”
“ ..พี่ว่ากำลังโทรหาจุมพอดี ไม่คิดว่าจุมจะคิดถึงพี่เหมือนกัน” น้ำเสียงพี่วุฒิดูอารมณ์ดี ผมพอได้ยินเสียงพี่วุฒิก็รู้สึกดีครับ
“ผมมีเรื่อง....”
“ จุมกินข้าวยัง?” พี่วุฒิถามตัดคำพูดผม อย่างกะว่าไม่ได้ฟังที่ผมพูด
“ครับ กินแล้ว พี่ละครับ?”
“ ยังเพิ่งเลิก คิดว่าจะไม่กินขี้เกียจ”
“ ต้องกินนะครับ ไม่งั้นเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ” ผมบอกเป็นห่วง ถ้าเป็นโรคกระเพาะจะแย่
“ แต่ก่อนก็ไม่ค่อยกิน ไม่หิว ”
“ ไม่หิวก็ต้องกินครับ เดี๋ยวจะปวดท้อง” ผมบอก เหมือนที่แม่บอกผม
“ ...........................” (พี่วุฒิ)
“ นะครับพี่ ผมเป็นห่วง”
“ ก็ได้ เดี๋ยวเมียเป็นห่วง” ผมยิ้มเมื่อพี่วุฒิบอกว่าจะกิน และยังคำว่าเมียที่ทำให้ใจผมกระตุกวาบ
“ พี่ครับ เดี๋ยวตอนเย็นพี่ไม่ต้องมารับผมนะครับ”
“ ทำไม!” เสียงพี่วุฒิเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
“ ผมกับเพื่อนที่นี่และธีกับบันบันนัดไปดูหนังที่S”
“ ไม่ให้ไป” พี่วุฒิตอบเสียงราบเรียบ แต่ผมรับรู้ว่ามันเป็นประโยคคำสั่ง
“ ทำไมครับ?” ผมถาม ที่ผมโทรไปหาพี่วุฒิไม่ได้โทรไปขออนุญาติแต่ผมโทรบอกให้พี่วุฒิรู้ ว่าผมไม่ทำอะไรที่ไหน
“ พี่ไม่ให้ไปก็คือไม่ให้ไป ถ้าอยากดูเดี๋ยวพี่พาไป”“ ไม่ใช่ว่าผมอยากดูไม่อยากดูนะครับ ! แต่ผมก็มีเพื่อนเหมือนพี่วุฒิที่ไปทำอะไรด้วยกัน และที่ผมโทรหาพี่ไม่ใช่ผมไปขออนุญาติแต่ผมโทรบอกให้พี่รู้ และพี่จะได้ไม่ต้องเสียเวลามารับผม”
“
ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น พี่ไม่ให้ไป 4โมงเดี๋ยวไปรับ!”“ แต่ผมรับปากเพื่อนและโทรชวนธีกับบันบันแล้ว” ผมบอกเริ่มรู้สึกอึดอัด จักรหันมามองผมคงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
“ รับปากแล้วก็ปฏิเสธได้ โทรชวนได้ก็ยกเลิกได้”
“ พี่ครับ พี่เป็นอะไรของพี่ แค่ผมจะไปดูหนังกับเพื่อนเองนะครับ!”
“ พี่เป็นผัวจุมไง และผัวบอกว่าไม่ให้ไป!” คำว่าเมียที่รู้สึกดีเมื่อกี้กลับไม่รู้สึกกับคำว่าผัวเลย
“ พี่ครับ!?” ผมพูดพร้อมเอามือป้องโทรศัพท์ไว้ ไม่อยากให้จักรได้ยินที่พี่วุฒิพูด
“ จะให้ไปรับ 4 โมง หรือจะให้ไปรับ
ตอนนี้!” ผมหันไปจักรแล้วบอกจักรว่า
“ไปห้องน้ำ เดี๋ยวมา” ก่อนที่วิ่งไปห้องน้ำ ทั้งที่เพิ่งไปมาเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว
วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วปิดประตู
“ ผมไม่เข้าใจว่าทำไม?? ผมถึงจะไปดูหนังกับเพื่อนไม่ได้ !”
“ ก็เพราะพี่ไม่ให้ไป!”“ นั่น! ไม่ใช่เหตุผลนะครับ” ผมว่ารู้สึกอัดอั้นในอก
“ พี่คือเหตุผล”“ พี่ไม่มีเหตุผล!” ผมพูดเสียงดังมาก คนที่อยู่ในห้องน้ำคงจะได้ยิน
“ อย่าขึ้นเสียงกับพี่!”“ ก็พี่ไม่เข้าใจอะไรเลย!” ผมว่าขอบตาร้อนๆ แผ่นหลังพิงผนังในห้องน้ำ
“ คุยโทรศัพท์ไม่รู้เรื่อง ต้องให้พี่ไปหาจริงๆใช่ไหม
จุม!”“ ...............................” ผมเงียบไม่รู้จะพูดว่าอะไร มือข้างหนึ่งเช็ดน้ำตาที่ยังไม่ได้ไหลลงมามันแค่รื้อคลอในขอบตาร้อนๆ
“
ที่จะไปดูหนังมันเพื่อนหรือว่าอะไร ถึงได้อยากไปนัก!”“ พี่หมายความว่ายังไงครับ!?”
** ** **
ขอโทษเน้อเจ้าค่ะที่ไม่ได้บอกว่าเสาร์อาทิตย์จะไม่ได้อัพแต่สหายชวน(บังคับ)ให้ไปเที่ยวเลี้ยงส่งเพื่อนไปเรียนต่อ และไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ได้เสื้อกางเกงกับกระเป๋าตังค์ก็ไปเลย และสถานที่ไปก็ขึ้นบกลงเรือ (เมาเรือด้วย
) /แอบสงสัยว่าจะสังสรรค์ให้เพื่อนหรือว่าสหายอยากเที่ยวเองกันแน่ หาเรื่องลั้นล้าได้ตลอด/ กว่าจะถึงบ้านก็เย็นวันอาทิตย์ มาถึงก็นอนยังกะตาย...มาทำงานก็กองท่วมโต๊ะไม่มีเวลาเลยเจ้าค่ะ
หลังจากกนี้ก็อัพปกติเน้อ แต่วันนี้เอา 60% ไปก่อน 