บุพเพวายร้าย
34/2
“จุม”
“ครับ” พี่แบงค์นั่งลงตรงข้ามผม อาหารถูกนำมาวางตั้งเมื่อไรก็ไม่รู้
“ เหม่ออะไร เรา?”
“ เอ่อ พี่แบงค์ครับ เรื่อง ... พี่เจน.น..”
“เอ้อ พี่อธิบายให้เจนฟังแล้วว่าพี่กับจุมไม่ได้เป็นอย่างที่เจนคิด ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” พี่แบงค์บอกตักหมูสับก้อนกลมๆจากแกงจืดให้ผม
“ ........................”
แล้วที่พี่เจนพูดเมื่อกี้ล่ะ?
“ ทำไมเหรอ? หรือว่าเจนโทรมาอีก”
“เปล่าครับ” ผมตอบ ไม่เข้าใจทั้งพี่เจนและพี่แบงค์พูด ความจริงคืออะไรกันแน่....
“ ........................จุม ”
“ครับ” ผมเงยหน้า
“ รักตัวเองให้มากๆนะ พี่เป็นห่วง”
“ .....................” ผมยิ้ม
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมกับพี่แบงค์ก็เดินออกมาจากร้านอิ่ม และเดินไปยังรถพี่แบงค์ มีลมพัดมาเบาๆ
“ เอ๊ะ!” ผมหลับตา รู้สึกเคืองตามากลืมไม่ขึ้นเลย มีอะไรอยู่ในตาผม?
“ จุม?”
“ ไม่รู้มีอะไรเข้าตา” ผมบอกขยี้เพื่อว่ามันจะออกมา แต่กลับแสบตาแทน
“ จุมอย่าเอามือขยี้มันจะยิ่งไปกันใหญ่”
“ แสบตา” ผมบอก ลืมตาได้ไม่เต็มที่ แต่เห็นว่ามือผมถูกพี่แบงค์ดึงไม่ให้ไปขยี้ตา มันทนไม่ได้ครับ อยากจะเอามันออกเร็วๆ
“ นั่นไง ไม่เชื่อ พี่ หลับตาไว้ก่อน”
“..........” ผมทำตามหลับตาไว้ก่อน ตามันทั้งเคืองทั้งแสบเลยครับควเพราผมขยี้มัน แล้วพี่แบงค์ก็ใช้นิ้วแตะใต้ตาผมก่อนที่หยิบเปลือกตาล่างลง
“ เป็นฝุ่น เดี๋ยวพี่เอาผ้าเขี่ยออกให้”
“................” ผมพอเข้าใจว่าพี่แบงค์คงจะเอาผ้ามาทำเป็นมุกแหลมๆมาเขี่ยฝุ่นออกให้แต่ผมกลัว เอาเป็นลืมตาในน้ำดีกว่า
“ พี่ครับ ผมกลัว ลืมตาในน้ำแทนได้ไหมครับ?”ผมบอก
“งั้นก็ เข้าไปในร้านก่อน” พี่แบงค์บอกจูงมือผมที่หลับตาข้างหนึ่งเข้าไปในร้าน
มือพี่แบงค์อุ่นอย่างประหลาด
“ น้องผมเขาฝุ่นเข้าตาขอใช้ห้องน้ำหน่อยนะครับ” พี่แบงค์บอก ร้านเขาก็ใจดีให้ใช้แล้วยังเอาขันมาให้อีก
ในห้องน้ำ ผมลืมตาใส่น้ำในขัน แล้วกลอกตาไปมาไปมา ตามที่พี่แบงค์บอก ว่ามันจะกวาดฝุ่นออกมา
“ ออกไหม?” พี่แบงค์ถาม ผมเงยหน้าขึ้นมา รับผ้าเช็ดหน้าจากพี่แบงค์มาเช็ดหน้าเปียกๆ
“ น่าจะออกออกแล้วครับ แต่ยังเคืองๆเหมือนยังไม่ออก” ผมบอก พี่แบงค์เลยดูให้ว่ามันออกจริงๆแล้วหรือยัง
“ ไม่มีแล้ว”
“ ..................”
“แสบตามากไหม ถ้าแสบมากไปหาหมอกัน?”
“ ไม่ครับ”
“งั้นก็...ไปเก็บของที่คอนโด”
“ครับ” ผมตอบ ปล่อยให้พี่แบงค์เดินจูงมือออกไป
มือผมก็พาลแต่จะไปขยี้ตา เพราะมันเหมือนจะคันยิบๆ
“ อย่าขยี้นะ ตาบอดพี่ไม่รู้ด้วย” พี่แบงค์ยิ้มขู่ แล้วขับรถออกเข้าสายถนน
“ครับ” ผมว่า เอามือแตะเปลือกตาเบาๆให้มันทุเลาลง
.
.
.
มาถึงคอนโดผมก็ตรงเข้าห้องไป เอาเสื้อ กางเกงที่จะใส่นอน และชุดนักเรียน และในห้องน้ำผมเอาเฉพาะแปรง แล้วก็ออกมา แต่นึกขึ้นได้ว่าต้องเอาสมุดที่ต้องวางพรุ่งนี้เลยกลับเข้าไปหา แต่หายังไงก็หาสมุดภาษาไทยไม่เจอ พรุ่งนี้ต้องส่งบทกวีด้วย ผมจำได้ว่าเอาวางไว้บนโต๊ะเมื่อคืน
“ จุม ยังไม่เสร็จอีกเหรอ?” พี่แบงค์เดินเข้ามาถาม
“ ยังครับ ผมหาสมุด ไม่เจอ” ผมบอก
“ เล่มเป็นไง พี่ช่วยหา”
“เล่มสีฟ้าครับ” ผมบอก มือเปิดลิ้นชัก แต่ไม่มี?
“ภาษาไทยป่ะ?”
“ครับ” ผมหันควับ? “ พี่เห็นที่ไหนครับ?”
“ ห้องไอ้วุฒิ วางอยู่บนเตียง .................................งั้นเก็บของออกมาเลย พี่ไปเอาให้”
“ครับ” ผมบอกหิ้วกระเป๋าออกมา
?!
แต่
“..พี่วุฒิ?” พี่วุฒิยืนอยู่หน้าหน้าประตู จ้องมองพี่แบงค์ที่ถือสมุดเล่มสีฟ้าของผมไว้ในมือ
ไหนว่าพี่วุฒิไปอังกฤษ???
“ หมายความว่าไง!” พี่วุฒิถาม จ้องพี่แบงค์ ก่อนหันมาตามเดินลิ่วมาหาผม
“ วุฒิ เรื่องนี้น้องเขาไม่รู้” พี่แบงค์พูดและอยู่ใกล้ผมกว่าพี่วุฒิ เดินมาถึงตัวผมก่อน
“ แล้วมันเรื่องอะไร!!” พี่วุฒิแทบจะตะโกน ผมยืนอยู่ข้างหลังพี่แบงค์สะดุ้งเฮือกตัวเย็นเฉียบ
“ กรูไปหลอกจุมเองว่ามรึงไปอังกฤษ เพื่อที่จะได้พาน้องเขาไปอยู่คอนโดไอ้ชนะ”
“ เพื่ออะไร!” พี่วุฒิโกรธจนตัวสั่น
ผมเดินถอยหลังไม่รู้ตัว...
“ เพื่อที่มรึงจะได้ตามหาน้องเขา มรึงจะได้เข้าใจสักทีว่าจุม เป็นอะไรสำหรับมรึง”
“ ........................” พี่แบงค์โกหกผม?
“ มันจะเป็นอะไรสำหรับกรูแล้วมรึงเกี่ยวไรด้วย!” พี่วุฒิพูดพร้อมเดินจะมาหาผมอีกแต่พี่แบงค์ก็ไม่ยอมไม่ว่าพี่วุฒิจะเดินซ้าย เดินขาวพี่แบงค์ก็ไม่ยอมให้พี่วุฒิผ่านมาได้
“เฮ้ย! มรึงจะเอายัง?!” พี่วุฒิว่าผลักอกพี่แบงค์แรงๆหลายครั้ง แต่พี่แบงค์ไม่โต้ตอบ
“ วุฒิกรูรู้ว่าทำแบบนี้เหมือนกับหักหลังมรึง แต่ที่กรูทำไป ......ก็เพราะเพื่อมรึง”
“ มรึงบอกว่าพาเมียกรูหนีเป็นการทำเพื่อกรู! กรูสมควรจะเชื่อมรึงงั้นสิ!”
“ วุฒิ” เสียงพี่แบงค์เบา
“ ......................” พี่วุฒิจ้องมองผมผ่านไหล่พี่แบงค์มา ผมก้มหน้าลง.............
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะทำตัวยังไงดี ทั้งเรื่องที่ผมถูกพี่แบงค์หลอกเรื่องพี่วุฒิไปอังกฤษ แล้วให้ผมไปอยู่คอนโดพี่ชนะเพื่อที่จะให้พี่วุฒิเข้าใจ...แต่ผมว่ามันเสียเวลาเปล่า เพราะสำหรับพี่วุฒิผม คืออะไรมันชัดเจนอยู่แล้ว ทำแบบนี้มีแต่จะทำให้พี่วุฒิโกรธเปล่าๆและอาจจะเสียเพื่อนอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
แปลกที่ผมไม่รู้สึกโกรธที่ถูกหลอกในครั้งนี้....
“ ..................................ถ้าเป็นไอ้ชนะ กรูจะไม่โกรธมันเท่ามรึง เพราะไอ้ชนะมันทำอะไรไม่ค่อยคิด แต่เป็นมรึงที่รอบคอบกว่าใคร นั่นหมายความว่ามรึงต้องคิดมาดีแล้วก่อนที่จะทำ แล้วตอนที่มรึงคิด....มรึงได้คิดไหมว่ากรูจะรู้สึกยังไงที่ถูกเพื่อนที่ไว้ใจที่สุด..........” พี่วุฒิหยุดพูดแล้วสูดหายใจเข้าพร้อมทั้งเงยหน้าขึ้น ก่อนที่เอาสายตาคมกริบลงมามองพี่แบงค์อย่างเย็นชา....
“ ...................” พี่แบงค์เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ คงรู้ว่าไม่มีประโยชน์
พึ่บ?!
พี่ชนะพุ่งเข้าในห้อง?!
“ วุฒิ?” พี่ชนะว่า ใบหน้าซีด หันมาหาผมและพี่แบงค์
“ วุฒิกรูขอโทษ” พี่ชนะบอก นั่นหมายความว่าพี่ชนะรู้เรื่องด้วย................
“ ไม่ต้องขอโทษ!” พี่วุฒิตะคอกพี่ชนะ
“ กรูไว้ใจพวกมรึง เชื่อใจพวกมรึงแต่สิ่งที่ตอบแทนกรู
คือพาเมียกรูหนี!” “ วุฒิอย่าไปโทษไอ้ชนะ แผนนี้กรูคิดเองแหละ เพราะกรูทนไม่ได้กับสิ่งที่มรึงทำกับจุม”
“ แบงค์ มรึงอย่าออกรับแทนกรู กรูเป็นคนต้นเรื่องเองแหละ”
“ จะมรึงหรือไอ้แบงค์มันก็คือมรึง 2 คนหักหลังกรู!!” พี่วุฒิตะโกน สีหน้าเหมือนกำลังเจ็บปวดกับร่างกายที่ไหนสักที่
“ ไม่ได้หักหลัง พวกกรูแค่อยากช่วยมรึงให้มรึงยอมรับตัวเองว่ามรึงชอบจุม และให้มรึงรู้ว่าจุมสำคัญกับมรึงแค่ไหนมรึงจะได้ใส่ใจจุม เลิกใช้กำลังกับจุมสักที!” พี่ชนะ พูดเสียงดัง
ผัวกะ! พี่วุฒิต่อยพี่ชนะเต็มแรง แม้แต่พี่ชนะเองแทบไม่ทันรู้ตัว พี่ชนะล้มลงตามแรงต่อย
พี่แบงค์เหมือนจะขยับไปช่วยแต่ก็เปลี่ยนใจ
“ เซี่ยวุฒิ! กรูเจ็บนะเว้ย! ชกมาได้” พี่ชนะบอกยืนขึ้น เอามือจับมุมปากแตกๆ
พี่วุฒิหันกลับมาจ้องผมกับพี่แบงค์เหมือนเดิม
“ ไปหลบข้างหลังไอ้แบงค์ทำไม
หรือว่ากลัว กรู!” พี่วุฒิตะคอกผมเสียงดัง ผมตัวสั่นแม้แต่ปลายนิ้ว
“ วุฒิจุมไม่รู้ เรื่อง” พี่แบงค์บอก
“ ใช่มันไม่รู้เรื่อง แต่ตอนนี้มันรู้เรื่องแล้ว เพราะงั้นมันต้อง
มาหากรู! ” ผมไม่อยากไป ผมกลัว พี่วุฒิเหมือนจะเข้ามาขย้ำผมเสียให้ได้
“ ........................” พี่แบงค์หันหน้ากลับมามองผมที่ตัวสั่นอยู่ด้านหลัง ผมพยายามบอกทางสายตาว่าผมกลัว อย่าให้พี่วุฒิเข้าใกล้ผม ..ผมไม่อยากเจอแบบนั้นอีกแล้ว
..ช่วยผมด้วย..
“ วุฒิ ขอร้องอย่าทำอะไรน้องเขาไม่รู้ กรูกับไอ้ชนะทำกันเอง”
“ แต่กรูอยากตบมัน ที่มันเชื่อคนง่าย มันทำไมไม่ถามกรูก่อน มันทำไมไม่โทรหากรู ถ้ากรูจะไปอังกฤษจริงก็ต้องบอกมันอยู่แล้ว” ตบผม! ถ้าแค่ตบผมไม่กลัว แต่ผมรู้ว่าพี่วุฒิจะไม่หยุดแค่ตบ
พี่วุฒิพูดก็ถูก แต่ผมนึกว่าพี่วุฒิคงจะออกประเทศไปแล้ว ผมไม่กล้าที่จะโทรถาม
“ แต่ครั้งที่แล้วมรึ...” (ไอ้แบงค์)
“ ครั้งนี้ก็ส่วนครั้งนี้!” พี่วุฒิตะเบ็งเสียง ผมแทบควบคุมตัวเองไม่ได้อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล แต่ถ้าขามันทำอย่างงั้นได้ก็คงดี
“ งั้นตบกรูแทน” พี่แบงค์พูด ผมหันมองด้านหลังพี่แบงค์ที่เห็นเพียงด้านข้างไม่อาจจะมองเห็นสีหน้าของพี่แบงค์ได้ว่าทำไมถึงได้บอกให้พี่วุฒิตบตัวเองแทนผม..สงสารผมขนาดนั้นเลยเหรอ? นั่นทำให้ผมสงเพชตัวเอง..
“ ......................” พี่วุฒิจ้องพี่แบงค์ ผมคิดว่าพี่วุฒิต้องทำจริงๆแน่ แต่พี่แบงค์คงไม่รู้ว่า ถึงพี่แบงค์จะให้พี่วุฒิตบตอนนี้ พอพวกพี่กลับไป ผมก็เจออีกอยู่ดี
มันไม่มีประโยชน์..............หรอกครับ ถ้าพี่วุฒิไม่ได้ทำผมมันก็ไม่มีประโยชน์
“ พี่แบงค์ครับ ไม่ต้องหรอกครับ ผมผิดเอง..” ผมบอก
“ ไม่เป็นไรจุม แค่โดนตบเอง สบาย” พี่แบงค์พูดไม่ได้หันหน้ากลับมาพูดกับผม
พี่แบงค์ปกป้องผม ทั้งพี่ชนะก็ทำเพื่อช่วยผม นั่นเพราะผมไม่ทำอะไรเลย ผมไม่สามารถช่วยแม้กระทั้งตัวเองได้ ต้องให้คนอื่นที่อยู่รอบข้างทนไม่ไหว เหมือนตอนนี้
“ ได้..ถ้ามรึงอยากรับแทน แต่กรูจะไม่ตบมรึงแต่จะชกมรึง...” พี่วุฒิพูด!
“ เอาเลย” (พี่แบงค์)
“ วุฒิ มรึงอย่าบ้าได้ป่ะ” พี่ชนะห้าม
“ พี่วุฒิ .... อย่า ..!” ผมจะเดินไปหาพี่วุฒิจะได้จบเรื่องไม่มีใครต้องรับอะไรแทนผมอีก แต่พี่แบงค์เอามือกั้นผมไว้
“ พี่ครับ .....” ผมพูดเสียงไม่ออกจากลำคอ
“ ......................”
“.........มันขอเอง กรูไม่ได้ฝืนใจ” พี่วุฒิพูด แล้วแทบจะทันที
ผัวกะ! พี่วุฒิชกพี่แบงค์! ล้มลงไป ผมรีบเข้าประครองพี่แบงค์ขึ้นมาทันที แต่พี่วุฒิกลับดึงแขนผมแล้วลากออกมา
“ มานี่เลยมรึงตัวการ!..” ผมสบัดมือออก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพี่วุฒิถึงได้ชกเพื่อนตัวเองได้ง่ายๆแบบนี้
“ นี่มรึงกล้าสบัดมือกรู!” พี่วุฒิตะคอกผม ผมถึงกลับสะดุ้งด้วยความตกใจเพิ่มความหวาดกลัวที่มีอยู่แล้วให้ทวีคูณ แต่ผมอยากจะ.....อยากจะทำอะไรได้บ้าง........
ทุกอย่างมันเป็นเพราะผมเอง คนที่จะจบมันได้ก็ต้องเป็นตัวผมใช่ไหม
แต่พี่วุฒิไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย แต่ยิ่งมากขึ้นทุกวัน ทุกๆวัน
ผมต้องทำยังไง.....................
.................................ทำไมพี่วุฒิถึงเป็นแบบนี้
“ ผมเกลียดพี่ ผมเกลียดพี่ ฮือๆ พี่ไม่มีเหตุผล” ผมพูดไป ร้องไห้ไป ร่างกายถูกพี่วุฒิดึงขึ้น ทั้งที่ขาแทบไม่มีแรงยืน
“ นี่มรึง!?” พี่วุฒิหน้าซีด ชะงักไป แรงบีบที่ต้นแขนก็หายไป
“.....................ฮือๆ” ผมแกะมือพี่วุฒิที่ต้นแขนออก แล้วเอามือปาดน้ำตา พยามยามจะไม่ร้องให้น้ำตามันไหลออกมาอีก พี่วุฒิยังยืนนิ่งอยู่........
ก่อนที่จะ หมับ!
พี่วุฒิจับแขนผมแม้ผมพยายามสบัดออกแต่ไม่สำร็จ มันอาจจะไม่แรงพอ
“ กรูให้โอกาสมรึงอีกครั้ง ถอนคำพูดซ่ะ!” ดวงตาสีแดงแค่คมกริบของพี่วุฒิจ้องมองผมเขม็ง ผมก้มลง แล้วตอบ
“ ไม่ครับ” พยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากมือพี่วุฒิที่ยิ่งจับนานเท่าไรก็ยิ่งกำแขนผมแน่นและเจ็บมากขึ้นเท่านั้น
“ กรูบอกให้ถอนคำพูด!” พี่วุฒิตะโกนเสียงดัง
*** * *** * ***