
บุพเพวายร้าย
30.
ชื้อตั๋วหนังได้รอบเที่ยง 50 ครับ เป็นหนังอนิเมชันที่บันบันชอบดู ตอนนี้พวกผมกำลังกินยำไก่แซบในร้านS
“ จุมมรึงคิดอะไรอยู่เหรอ?”บันบันนั่งข้างๆผมถาม ส่วนธีนั่งตรงกันข้าม
“ ........................เปล่า” ผมตอบแต่กำลังคิดเรื่องพี่วุฒิ คิดว่าที่พี่วุฒิยอมให้ผมมากับบันบันและธี คงเข้าใจผมบ้างแล้ว
“ มรึงกับพี่วุฒิโอเคกันอยู่ป่ะ?” บันบันถามต่อ
“ ก็ดีขึ้นพี่วุฒิเขา ไม่ค่อย...” ผมคิดได้ว่าบันกับธีไม่ค่อยรู้เรื่องที่พี่วุฒิชอบใช้กำลังกับผม
“ ไม่ค่อยทำร้ายมรึงใช่ไหมล่ะ?” ธีพูดต่อประโยคผม จ้องหน้าผมด้วย
“ มรึงรู้...”
“ รู้ดิ เพราะงี้ไงกรูถึงไม่ชอบมัน”
“ ขนาดกรูยังรู้เลยจุม” บันบันพูดบ้าง หมายความทั้ง 2 คนรู้มาตลอดแต่ไม่พูด
“ กรูคิดว่ามันเป็นเรื่องของมรึง แต่พวกกรูน้อยใจมรึงมากกว่าว่าทำไมมรึงถึงไม่เล่าอะไรให้ฟัง ทำให้ไม่อยากเข้าไปยุ่ง” บันบันพูดเสียงเบา “ ตอนที่เรียนด้วยกัน บ้างวันมรึงก็เดินกระเพลกๆ เพราะไอ้พี่วุฒิเอามรึงรุนแรงใช่ไหมล่ะกรูรู้ กรูก็รับเหมือนกัน”
“ ........................” ไม่รู้สึกเขินเลยแต่ตกใจ ธีกับบันบันรู้!
“ บางวันมรึงก็ใส่เสื้อแขนยาวทั้งที่ร้อนดับแทบแตก เป็นใครก็ต้องสงสัย กรูที่อยู่กับมรึงตลอดเวลาเกือบ 8 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าสังเกตจริงๆทำไมจะไม่รู้ว่าปกปิดรอยมือรอยตรีนมัน แต่ที่กรูสงสัยคือทำไมมรึงต้องยอมมันขนาดนั้นด้วยจุม”
“ ธี” ผมพูด แล้วธีก็พูดขึ้นมาอีก
“ แม่มรึงเลี้ยงมรึงยากลำบากกว่ามรึงจะโต แต่มรึงให้ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้อยากทำอะไรกับมรึงก็ทำ!” ธีเริ่มเสียงสูงขึ้นเรื่อยๆจนบันบันเอานิ้วปิดปากบอกให้เบาๆ
“ มันเป็นใคร เป็นพ่อมรึงก็ไม่ใช่ แล้วทำไมมรึงถึงยอมมัน มรึงก็มีมือมีตีนเหมือนกัน ทำไมไม่ทำอะไรเลย! มันชกมรึง มรึงก็ต้องชกกลับ”
“ ...........จุมกรูเห็นด้วยกับธี ยอมน่ะยอมได้ แต่มันต้องมีขอบเขต อย่างมรึงที่ยอมมากเกินไป”
“ ....................ตอนนั้นพี่วุฒิขู่ว่า ถ้ากรูไม่ยอมพี่เขาจะทำร้ายพวกกมรึง......................”
“ เซี่ยเอ้ย! มันเลวอย่างที่คิดจริงๆ”
“ .........................”
“ จริงเหรอจุม พวกกรู 2 คนทำให้มรึงต้องทนเหรอ ทำไมมรึงไม่บอกพวกกรูล่ะ?” บันบันถามหน้าเหมือนจะร้องไห้แต่ไม่ร้อง เพราะบันบันเข้มแข็งกว่าที่เห็นภายนอกมาก
“ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พี่เขาก็มีส่วนดี”
“ ................กรูขอโทษจุม พวกกรูไม่รู้เลยว่าไอ้พี่วุฒิมันจะเป็นคนแบบนี้ แต่มรึงไม่ต้องทนต่อไปแล้วนะ พวกกรูไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายง่ายๆและไม่ยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียว อย่าทนอีกเลยนะ”
“ ....................” ตอนนี้ที่ผมอยู่กับพี่วุฒิ ก็ไม่ใช่ว่าเพื่อบันบันกับธีแล้ว แต่อาจจะเรียกได้ว่ายอมทนอยู่เพื่อตัวเอง.........ยอมทนหวาดกลัวต่างๆนานา แม้จะกลัวแสนกลัว แต่หัวใจสั่งให้ทำแบบนี้
“ ไม่ใช่หรอก กรูไม่ได้ทนอะไร กรูอยากอยู่เอง” ผมตอบ
“ โง่”(ธี)
“ .................” คงจะจริงผมมันโง่ อย่างที่พี่วุฒิพูดนั่นแหละ
“ จุม...เขารักมรึงไหม ที่มรึงอยู่แบบนี้เขารักมรึงไหม ?” บันบันถาม เป็นคำถามที่แทงใจจนเจ็บเลยที่เดียว
คำว่ารักนั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจจะเอื้อมถึง..................
“ ไม่รู้... แต่ตอนนี้ไอ้พี่วุฒิเขาทำตัวดีขึ้นมาก ตอนที่กรูไม่สบายเขาก็ทำข้าวต้มให้กรู ซื้อของที่กรูอยากได้ให้ เวลาเขาทำกรูแรงๆแต่สุดท้ายของก็ดูแลกรู...ถึงแม้จะอารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่ถ้าไม่ทำให้พี่เขาโกรธก็ไม่มีปัญหา”
“ แล้วมรึงจะรู้เหรอว่ามันจะอารมณ์ดีอารมณ์ร้ายตอนไหน ว่ามันจะไม่โกรธ เอามรึงที่รองตรีนรองมือ ตอนไหน”(ธี)
““ จุม มรึงรักเขา แต่อย่าลืมรักตัวเอง”(บันบัน)
“ ช่วงนี้พี่เขาก็ไม่ใช้กำลังเท่าไร แต่จะไปทำของข้าวของแทน” ผมบอก แต่ไม่ได้บอกว่าสุดท้ายพี่วุฒิก็มาลงที่ผมเหมือนเดิม เพียงแต่จากที่พี่วุฒิจะเข้ามาทำร้ายผมก่อนเป็นอย่างอื่นก่อนเท่านั้นเองเหมือนที่อยู่ในครัววันนี้
“..........จุมกรูว่ามันก็ไม่ได้เรียกว่าดี......หรอก........”(บันบัน)
“ ครอบครัวพี่วุฒิเขามีปัญหา พี่เขาต้องใช้เวลา” ผมบอกเพิ่ม และเห็นใจพี่วุฒิที่มีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งที่อยากได้กลับไขว้คว้าเท่าไรก็ไม่ได้
“ จุมมรึงฟังกรูนะว่านั่นมันไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าพูดแบบนี้ก็หมายความว่าคนที่ครอบครัวมีปัญาหา พ่อแม่หย่ากัน ไม่มีใครเข้าใจ คนแบบนั้นจะมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นที่พอทำผิดแล้วจะไม่ได้ผลที่ทำเพียงเพราะคำว่าสงสาร.....นั่นมันเป็นข้ออ้าง....อีกไม่ถึงเดือนมันจะเข้ามหาลัย แค่นี้คิดไม่ได้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด มันเป็นไปไม่ได้” (ธี)
บางครั้งพี่วุฒิอาจจะรู้ครับว่าสิ่งที่ทำมันผิด เพราะหน้ามันฟ้องแต่ก็แค่พักหลังๆไม่กี่ครั้งทว่านั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีแล้ว สำหรับพี่วุฒิ
“ ธีมรึงก็พูดเกิน แม่ไอ้พี่วุฒิอาจจะไม่ได้สอนก็ได้” บันบันบอกเหมือนแก้ตัวให้ แต่เหมือนเยาะเย้ย ซึ่งผมก็เห็นว่าอาจจะมีส่วน เพราะฟังจากที่พี่วุฒิเล่าแล้ว คนที่เลี้ยงพี่วูมิตั้งแต่เด็กโดยมากน่าจะเป็นนมขมิ้น หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้เจอกันอย่างที่พี่วุฒิว่าเจอกันเดือนละครั้งแบบพร้อมหน้า แต่อาจจะเจอพ่อบ้างเจอแม่หลายครั้งต่อเดือน แต่อาจจะไม่พอ
ยิ่งมารู้ว่าคุณวชิระและคุณแพรมีเวลาให้คนอื่น แต่มีเวลาสำหรับตัวเองแค่นั้นก็คงจะเสียใจมาก
“ .................” ผมคิดไม่ออกว่าคนที่โตมาแบบนั้นจะมีความรู้สึกยังและคิดอะไรอยู่ในใจ
“ ............. ..............ตอนที่พี่วุฒิเด็กๆ พี่เขาได้อยู่กับพ่อแม่แค่เดือนละครั้งกับเวลาไม่กี่ชั่วโมง” ผมพูดออกไปไม่รู้จุดประสงค์ว่าต้องการสื่ออะไร
แบบนี้เขาเรียกแก้ตัวแทนใช่หรือเปล่า
“ ..................... ..........” บันบันก็ธีไม่ได้พูดอะไรต่อจากผมครับ
“ ....................................” ผมก็เงียบครับจนธีพูดขึ้นมาว่า
“ นิสัยยังต้องใช้เวลา แล้วสันดานล่ะ?” ผมไม่โกรธธีหรอกครับเพราะธีเขาแค่เป็นห่วงผม และธีไม่ได้สัมผัสพี่วุฒิเท่ากับผม เขาจะไม่รู้ว่าคนคนหนึ่งไม่เลวไปเสียทุกอย่าง
“ ....................................”
** ** ** ** ** **
ธีกับบันบันมาส่งผมที่คอนโด บันบันอยากขึ้นมาแต่ธีไม่ยอม เลยงอนตุ๊บป่อง แต่ยังไงธีก็ไม่ยอม ผมเลยขึ้นมาคนเดียว มือข้างขวาหิ้วกล่องโดนัท ผมซื้อมาฝากพี่วุฒิที่ยอมเข้าใจผม
ผมหยุดที่หน้าประตู ทำใจที่จะกดกริ่งอยู่นาน ภาพพี่วุฒิก่อนหน้านี้ยังคงติดตาผม ถ้าผมเข้าไปแล้วพี่วุฒิยังไม่หายโกรธ ผมจะทำยังไง
ติ่ดๆ
สัญญาณเตือนข้อความเข้า ผมเอามือถือขึ้นมาดู
ผมกดดูเป็นข้อความจากพี่แบงค์? นั่นทำให้ผมคิดได้ว่ายังไม่ได้โทรหาพี่แบงค์เลย นับตั้งแต่ผมโทรไปวันนั้น พี่แบงค์ก็ไม่โทรมาด้วย หรือว่าพี่ชนะจะลืมบอก แต่ก็น่าจะมีเบอร์ที่ไม่ได้รับสายค้างที่เครื่องบอกว่าผมโทรไป 2 ครั้งและสายที่พี่ชนะรับอีก
ข้อความจากพี่แบงค์ว่างเปล่า ?
ไม่มีเนื้อหาข้อความใดๆเลย หรือพี่แบงค์จะลืม
ผมกดโทรหาพี่แบงค์ครับ
ตื้ด--------------ตื้ด
“ ฮัลโหลจุม” แทบจะทันทีพี่แบงค์รับครับ
“ ครับพี่แบงค์”
“ มีอะไรเหรอ?” พี่แบงค์ถามดูง่วงๆ หรือว่าผมโทรไปปลุกพี่แบงค์
“ พี่ครับ... ผมมีเรื่องจะปรึกษาพี่”
“ เออๆ ไอ้ชนะ มันบอกพี่แล้ว แต่พี่ลืม” พี่แบงค์บอกพูดเสียงลากยาวบ้างสั้นบ้างทำให้นึกถึงคนเมา
“เหรอครับ ..พี่ครับพี่เจนเขาโทรหาผม”
“เจน?”
“ครับ พี่เขาโทรมาหาผมหาว่าผมเป็นแฟนใหม่พี่ แล้วบอกให้ผมเลิกยุ่งกับพี่ ผมไม่สบายใจเลยครับ”
“ .....................”
“ เจนแฟนเก่าพี่เนี่ยนะ”
“ครับ”
“ เป็นได้ก็ดีสิ ฮ่ะๆ เอาไหมล่ะจุมเป็นแฟนพี่”
“ !! ”
พี่แบงค์น่าจะเมาจริงๆปกติพี่แบงค์จะพูดแบบนี้เหรอ ท่าจะเมามากด้วยถึงได้พูดขนาดนี้...... พูดไปตอนนี้ก็ไม่เข้าใจ คงต้องรอพรุ่งนี้เช้า
“ ตกลงไหมจุมเป็นแฟนกับพี่ พี่จะทำให้จุมมีความสุข พี่จะให้ความสำคัญกับ...”
“ พี่แบงค์เมาหรือครับ?” ผมถามแทรก
“ พี่ก็กินนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไร?”
เมาจริงๆด้วย
“ พี่ครับเอาไว้ผมจะโทรหาพี่พรุ่งนี้นะครับ ตอนนี้พี่เมาแล้วก็ไปนอนเถอะ” ผมบอกจะวางแล้ว
“ ใช่ซี! พี่มันไม่ใช่ไอ้วุฒิที่จุมอยากจะคุยด้วย ทีพอมันบอกว่าจะโทรหาก็ทำหน้าระรื่น”
“ พี่ครับ พี่เมาแล้วจริงๆ ผมไม่พูดกับพี่แล้ว พูดไปพี่ก็ไม่รับรู้เรื่อง ”
“ ไม่อยากพูดไม่ต้องพูด วางไปเลย จุมไม่สนใจพี่อยู่แล้วว่าพี่จะรู้สึกยังไง! พี่มันคนอื่น”
“...พี่ครับ”
“ .......................”
“..............พี่แบงค์ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ?”
“ .................................” พี่แบงค์ไม่ตอบ
“ .......ถ้าอยู่ข้างนอกให้แท็กซี่ไปส่งบ้าน แต่ถ้าอยู่ที่บ้านนอนเถอะครับ”
“ .......................”
“ .............ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กินเหล้าจนคุยไม่รู้เรื่องแบบนี้ แต่เหล้ามันไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นพี่ก็รู้”
“ .......................................................................จุม” พี่แบงค์เรียกชื่อผม เสียงทั้งสั่นทั้งเบาผิดปกติ
“ พี่เจ็บมาก รู้ไหม”
“ .....................................................” เจ็บเพราะใคร หรือเขาคนนั้นคนที่พี่แบงค์รักคนนั้น
“ ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะรู้สึกทรมานได้ขนาดนี้.............”
“ พะ ?” พี่แบงค์กดสายออกไปแล้วครับ เกิดอะไรขึ้นกับพี่แบงค์?
ผมโทรหาพี่แบงค์อีก เพราะเป็นห่วง แต่พี่แบงค์ปิดเครื่องไปแล้ว
“............................”
ผมหันกลับมามองประตูห้องพี่วุฒิอีกครั้ง ทำยังไงก็ไม่กล้าเข้าไปตอนนี้ ผมจึงขยับจากประตูแล้วนั่งลงหันหลังเข้ากับผนัง
ยกถุงใส่กล่องโดนัทขึ้นมาดู มันเย็นแล้วครับ ถ้าพี่วุมิจะกินต้องอุ่นในไมโครเวปก่อน
“ ..............................” ใจหนึ่งก็อยากจะเข้าไปถามพี่วุฒิว่าทำไมถึงให้ผมไปแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวไม่กล้าถาม ไม่กล้าเผชิญหน้าเหมือนอย่างตอนนี้ ที่แค่กดออดยังไม่กล้าเลย ไม่รู้ว่าพอพี่วุฒิเปิดประตูออกมาจะพูดอะไรดีจะทำหน้ายังไง แล้วพี่วุฒิจะพูดอะไรกับผม พี่วุฒิจะอยู่ในอารมณ์ไหน จะเกรี้ยวกาจแล้วตะคอกผมเสียงดังผมไหม จะถูกตัวผมแรงๆ ไหม จะทำร้ายผมไหม หรือจะข่มขืนผมเหมือนที่เคยทำไหม!!
ผมไม่กล้าคิดเลย แค่คิดว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย แล้วถูกข่มขืน ผมก็หนาวยะเยือกไปถึงหัวใจ
ผมไม่อยากหวาดกลัวแม้แต่เสียงหายใจตัวเองอีก ไม่อยากจะรู้สึกว่าร่างกายถูกฉีกเป็นชิ้นๆครั้งแล้วครั้งเล่า
ข่มขืน กับสมยอมมันต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว...........
แค่คิดก็ต้องต้องกอดตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้.............
.
.
.
ไหล่ผมถูกเขย่าเบาๆหลายครั้ง จำต้องให้ผมลืมตาขึ้นมา
“ สวัสดีครับน้องจุม” พี่ชนะยิ้มจนตาเหลือเป็นเส้น
พี่ชนะ? มาอยู่ที่นี่ได้ไง
ผมรีบลุกขึ้น ผมคงนั่งหลับ?
“ มานอนอะไรอยู่ตรงนี้ หรือว่าไอ้วุฒิมันไม่ให้เข้าห้อง” พี่ชนะถาม
“ ไม่ใช่ครับ” ผมตอบ
นี่พี่ชนะคงจะมาหาพี่วุฒิที่บอกว่าจะมีเรื่องจะปรึกษา
“ อ้าว งั้นมานั่งสัปหงกตรงนี้ทำไม?”
“ คือ ผมเพิ่ง ไปดูหนังกับธีและบันบันมาครับ” ผมตอบ พี่ชนะพยักหน้าเข้าใจแล้วกดออดหน้าประตู
!?!
พี่วุฒิกำลังจะออกมา ผมยังไม่พร้อม
“ พี่ชนะครับ เดี๋ยวผมไปทำธุระก่อนนะครับ และอย่าบอกพี่วุฒิว่าเจอผม” ผมบอกร้อนรน แล้ววิ่งไปหน้าลิฟท์
แต่ผมดันหันกลับไปมอง พี่วุฒิมาเปิดประตูเร็วกว่าที่คิด และแทบจะทันทีพี่วุฒิหันมามองผม?!
ผมวิ่งครับ วิ่งลงบันไดหนีไฟนั่นแหละ ยิ่งวิ่งก็เหมือนยิ่งช้า เหมือนพี่วุฒิจะดึงตัวไปได้ ณ ตอนนั้น
หมับ! วิ่งลงไม่ถึง 2 ชั้นแขนขวาก็ถูกจับได้ถุงโดนัทร่วงลงและตกลงไปอีกหลายขั้นบันได ผมหันกลับไปมอง หลังเย็บวาบ แขนที่ถูกจับก็ไม่ต่างกัน
“ ..................” พี่วุฒิอย่างที่คิดจริงๆ
“ จะไปไหน?” พี่วุฒิถาม
“ ...................” พูดไม่ออก บิดมือให้พี่วุฒิปล่อยโดนไม่ทราบสาเหตุ
“ จะไปไหน?” ไม่มีคำตอบเหมือนเดิม เพราะไม่รู้ว่าจะไปไหน อยู่ๆร่างกายมันก็วิ่งของมันเอง
“ กลับห้อง!” พี่วุฒิดึงแขนผมให้ขึ้นมา แต่โดนัทล่ะ? มันหล่นลงไปตั้งไกล?
“ โดนัท” ผมพูด พี่วุฒิหยุดเดินและหันกลับมามองผมก่อนที่สายตาจะลงไปมองกล่องโดนัทที่อยู่ถุง
“ ช่างหัวมัน”
“ โดนัท” ผมซื้อมาให้พี่
“ ช่างมัน”
“ โดนัท” คราวนี้พี่วุฒิตวัดสายตากลับมาบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจ
“ โดนัทแล้วไง มรึงอยากกินมาก เดี๋ยวกรูชื้อให้ใหม่ ตอนนี้กลับห้อง!”“ พี่วุฒิ!” พี่ชนะเดินตามพวกผมมาว่า
“ .....................”
“ มรึงเห็นไหมชนะมันกวนโมโหกรู กะอีแค่โดนัทกล่องเดียว”
“ มรึงก็เกินไป เอะอะโมโห เอะอะตะคอก มรึงขาดแคทเซียมหรือเปล่าวะ?” พี่ชนะหันมามองผม
“ ...............ไม่ต้องร้อง...เช็ดน้ำตามันจะไหลลงมาแล้ว เดี๋ยวพี่ลงไปเอาให้” พี่ชนะบอกเดินลงไป พี่วุฒิยืนรอ
“ ...............” พี่ชนะหยิบถุงขึ้นมาให้ผม ผมรับขึ้นมาดีใจมากเลยครับ โดนัทที่ผมซื้อมาตอบแทนพี่วุฒิในที่สุดผมก็จะได้ให้พี่เขา
“ เอามานี่” พี่วุฒิดึงถุงจากมือผมไปก่อนที่จะจ้องหน้าผม
“อะไรของมรึงไอ้วุฒิ?”
“ กรูก็แค่จะทำแบบนี้ เห็นแล้วมันหงุดหงิด” พี่วุฒิพูดแล้วปล่อยถุงโดนัทลงพื้นก่อนที่จะเอาเท้าเหยียบๆแล้วก็เยียบจนกล่องมันแบนบี้ มีเนื้อโดนัทปลิ้นออกมา ผมจ้องโดนัทตาไม่กระพริบ
“ ไอ้วุฒิมรึงทำเกินไป!”
“ ไม่เกินไปหรอก มากกว่านี้กรูก็เคย แค่นี้มันเล็กน้อย”
“ มรึงอย่าเลวไปกว่านี้เลย!”
“ ว่าแต่มรึงมีเรื่องไอ้แบงค์อะไรปรึกษากรู” พอพี่วุฒิพูดแบบนี้ พี่ชนะก็ถอนสายใจเฮือกๆเอามือจับเอว
“ วุฒิขอร้องเถอะวะ ..................”
“ ตกลงมรึงจะไม่พูดเรื่องไอ้แบงค์แล้วใช่ไหม?!”
“ ไอ้วุฒิ!!” พี่ชนะพูดเสียงดังใส่ พี่วุฒิไม่สะทกสะท้าน ทว่าผมสะดุ้ง
“ มรึงอย่าเสียงดัง เมียกรูมันไม่ชอบเสียงดัง” พี่วุฒิพูดหันหน้ามาหาผม “ ใช่ไหม มรึงเคยบอกกรูว่ามรึงไม่ชอบเสียงดัง...”
“.........................”
“ ..................วุฒิ มรึง!”
“ ชนะ มรึงไม่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแทน มันยังไม่โกรธกรูเลย” พี่วุฒิพูดไปด้วยเอามือลูบหัวผมไปด้วย มันทำให้เลือดในกายผมอุณหภูมิลดลง
“ ....................”
“ มรึงไม่เชื่อถามมันดูก็ได้”
“ .................” พี่ชนะไม่ได้ถามผม สายตาที่มองผมบอกว่าสงสารผมเวทนาผม ผมไม่ได้หลบสายตาเหมือนทุกครั้ง เพราะคิดไม่ออกว่าต้องหลบ
“ มรึงอาจจะไม่เชื่อกรู เดี๋ยวกรูถามมันให้ กรูเหยียบโดนัทมรึงโกรธกรูไหม?” พี่วุฒิถามผม มือที่จับมือผมเพิ่มแรงเป็นทวีคูณ บีบให้ผมเจ็บ
“ .....................” ผมส่ายหน้าตอบ ไม่ได้มีความรู้สึกไม่พอใจแม้แต่นิดเดียว มีแต่ไม่เข้าใจ กลัวเท่านั้น
“ เห็นไหม มันจะโกรธกรูได้ไง กรูเป็นผัวมัน” พี่วุฒิยิ้ม
“ .................กรูมั่นใจว่าสักวันมรึงต้องเสียใจ และตอนนั้นกรูไม่แน่ใจว่าจะเห็นใจมรึงไหม .....”
“ ให้มันถึงวันนั้นค่อยว่ากัน เพราะสักวันหนึ่งของมรึงมันคงมาไม่ถึง ...” พี่วุฒิพูดแล้วลากแขนผมให้เดินตาม ผมหันกลับไปมองโดนัทเมื่อกี้ จนมันหายไปจากสายตา
โดนัทที่ผมว่าจะอุ่นถ้าพี่วุฒิจะกิน....................
จากกล่องโดนัทที่หายไปจากสายตาผม กลายมาเป็นพี่ชนะที่กำลังเดินตามมา
** ** ** **
30. ตอนแล้ว ทั้งที่เพิ่งลงที่ 9 มีนา (ขยันไง)ตอนนี้ก็ 14 วันแล้ว แต่เหมือนอยู่มานานอบอุ่นมากมายเจ้าค่ะ
1,177 คอมเม้นต์ เฉลี่ย 84.07 เม้นต์ต่อวัน (รวมของเจ้าหญิงด้วย)
และ 22,567 รีวิว เฉลี่ย 1,611.9 รีวิวต่อวัน (คาดว่ามีบางท่านเข้ามากกว่า 5 รอบใน 1 วัน)