บุพเพวายร้าย
29.(20%)
ตอนเช้าผมตื่นมา มาก็ปาไป 9 โมงครับ ตื่นได้ไม่มีใครปลุก ไม่มีเสียงนาฬิกา เมื่อคืนนอนรวดดียวถึงตอนนี้ 9 โมง ตอนที่ตื่นไม่ได้นอนบนพื้นเหมือนเมื่อคืนแต่อยู่บนเตียง ส่วนฟูกและที่นอนปิกนิกก็ถูกเก็บไปแล้ว พี่วุฒิไม่ได้อยู่ในห้อง?
“ ....................” ผมลุกขึ้นมานั่งทั้งหัวยุ่งๆ คิดว่าพี่วุฒิคงจะอยู่ข้างล่าง พอตื่นมาผมหิวข้าวท้องร้องยังกะฟ้าถล่ม คงต้องลงไปข้างล่างกินข้าว …
ผมลงจากเตียงจะเข้าห้องน้ำ
โครม!
ตัวผมหล่นนั่งพับอยู่กับพื้น ขาก็ไม่มีแรง ก้นที่ระบมกระแทกกับพื้น ไม่ถึงกับร้องไห้แต่น้ำตาเล็ดเพราะเจ็บครับ
แกร๊ก! ประตูเปิดออก ผมหันไปมองพยายามจะยิ้มให้รู้ว่า ‘ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับผมแค่ล้ม’ แต่ยิ้มไม่ออก พี่วุฒิเดินเข้ามา แล้วมาพยุงผมที่นั่งกับพื้น
“ เป็นไร?” พี่วุฒิถามพยุงผมพามานั่งบนเตียง
“ ...................ขาไม่มีแรงครับ” ผมตอบ ก้มหน้า ไม่อยากบอกครับแต่ไม่กล้าโกหก
“ ทำไม!”
“ ......................”
“ อยากให้ขึ้นเสียงใช่ไหม ที่ไม่ตอบ” ผมส่ายหน้า
“ มันก็มักจะเป็นแบบนี้แหละครับ ถ้ามีอะไรกับพี่วุฒิ” ผมมองหันหน้ามองโต๊ะ เห็นโทรศัพท์แล้วนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาพี่แบงค์
“ เมื่อคืนวานไม่เห็นเป็น”
”วันนั้นครั้งเดียว แต่เมื่อคืน 3 ครั้ง” เสียงผมพึมพำหมือนพูดคนเดียว และยังยืนทั้ง 3 ครั้งเลยด้วย แต่ผมไม่ได้พูดครับ เพราะคิดว่าพี่วุฒิก็น่าจะเข้าใจ
“ มรึงเรื่องมากจริงๆ”
“เดี๋ยวกรูพาไปอาบน้ำ จะได้ลงไปกินข้าว”
“ แล้วแม่ละครับ?”
“ ไปทำงานตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง แต่ก็ทำกับข้าวไว้ให้” พี่วุฒิกอดเอวผม ตัวก้มลงช้อนใต้เข่าผม
“ พี่จะทำอะไรครับ?!” ผมถามขยับตัวหนีเล็กน้อย
“ อุ้มมรึงไง จะพาไปล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ”
“ ไม่ต้องครับ!”
“ อย่ามาทำปากเก่ง เมื่อกี้ลงไปกองกับพื้น เห็นแล้วกรูสังเวช”
“................” ผมปิดปากเงียบครับ เพราะถูกต้องทุกคำ
แล้วให้พี่วุฒิอุ้มไปห้องน้ำ ผมแปรงฟันเอง แต่พี่วุฒิอาบน้ำให้ ผมแค่ยืนเฉยๆครับ หน้าพี่วุฒินิ่งมากเลยครับ ไม่เหมือนผมเลยที่เอาแต่หน้าแดง ก็ตัวผมมันไม่ปกติครับ มีรอยแดงๆเต็มไปหมด พอก้มหน้าลงจะเห็นชัดเป็นพิเศษก็ตรงหน้าอกนี่แหละ ผมเลยเงยหน้าดีกว่า
“ พี่ครับ” ผมถามยังเงยหน้ามองเพดานห้องสีเปลือกไข่เข้มๆ
“อะไร?” พี่วุฒิหยุดมือที่จับฝักมือที่กำลังน้ำล้างสบู่หลังผม
“ ขอบคุณนะครับ”’ผมบอกก้มหน้าลงมา พี่วุฒิทำหน้านิ่งเหมือนเดิมครับ แต่เหมือนอึ้งมากกว่า
“ ก็มรึงเป็นเมียกรู”
“………………………” เขินครับ เขินจนลืมเวลาว่าพี่วุฒิอาบน้ำให้เสร็จตอนไหน?
..
..
หลังจากใส่เสื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะลงไปกินข้าว แต่พี่วุฒิสิครับจะอุ้มอีกแล้ว
“ ไม่ต้องอุ้มหรอกครับ พี่วุฒิอุ้มผมแล้วผมรู้สึกเขิน” ผมบอก
“ ..................” พี่วุฒิหันมามองผมที่ยืนห่างกันราว 1 ฟุต
“ มรึงนิทั้งโง่ ทั้งบ้า!”
“....................”
“ เอ้าไม่อุ้มก็ไม่อุ้ม” พี่วุฒิว่าแล้วหันหลังให้ผม “ ขึ้นมากรูจะแบกมรึง จะได้ไม่ต้องมาคงมาเขิน”
นั่นมัน ไม่ได้ต่างกันเลย
“ ชักช้า” พี่วุฒิเสียงเริ่มหงุดหงิด ผมกอดคอพี่วุฒิจากด้านหลังตามที่สั่งคำ เสียงดังทำให้ตกใจครับ
“ ....................”
“ไม่รู้กรรมเวรอะไรของกรู มีเมียก็ห้ามเอาถึงใจ ทำแรงก็ไม่ได้ ทำหลายครั้งก็ต้องลำบากรูอีก” พี่วุฒิพูดเสียงดังเดินลงบันได้ ผมได้แต่ฟังครับเพราะรู้สึกว่าไม่ควรพูดอะไรเลย สุดท้ายพี่วุฒิก็ทำแรง และเท่าที่ต้องการอยู่ดี
พี่วุฒิพาผมเดินจากห้อง ลงบันได้เลี้ยวขวาเข้าห้องครัว บนโต๊ะกลางห้องมีอาหาร 2 สามอย่างถูกวางไว้แล้วครับ ข้าวก็ตักไว้แล้วด้วย พี่วุฒิวางผมลงบนเก้าอี้ และก็นั่งข้างผม
แม่ทำไข่เจียวหมูสับ ปลาทูทอด น้ำพริกกระปิ และมีผักต้มอีก 3 อย่างครับ
“ กรูไม่ได้แบกมรึงมาฟรีๆนะ แกะปลาให้กรูด้วย” พี่วุฒิบอก ผมหันหน้าไปมอง พี่วุฒิมองกลับแล้วตักปลาทูใส่จานผม
“ เร็วๆด้วยกรูหิวข้า ว” พี่วุฒิกำชับ
“ .....................” ผมไม่แน่ใจพี่วุฒิแกะปลาไม่เป็นหรือขี้เกียจ ไม่ได้ถามครับเพราะดูเหมือนพี่วุฒิไม่อยากให้ถาม เพราะก้มหน้ากินข้าวไข่เจียวไปพลางๆเหมือนรอผมแกะปลาเสร็จ(มีบรรยากาศเหมือนกับว่าถ้ามรึงพูดอะไรอออกมาล่ะก็ มรึงเจ็บตัว มาคิดๆดูแล้วคงไม่มีใครหรอกครับที่แค่ปลากินเองก็ทำไม่เป็น)
ผมใช้ช้อนส้อมแกะปลาทูให้พี่วุฒิไม่นานครับ สบายอยู่แล้วแค่นี้เอง แล้วก็ตักเฉพาะเนื้อปลาคืนให้พี่วุฒิ แต่พี่วุฒิตักอีกตัวใส่จานผม?
“ตัวนี้มรึงแกะกินเอง” พี่วุฒิบอก
“ครับ” ผมยิ้ม
“ ..........................”
.
.
ยังไม่ทันกินข้าวเสร็จ เสียงโทรศัพท์จากห้องรับแขกดังครับ?
“ ..........มรึงกินไป เดี่ยวกรูไปรับเอง” พี่วุฒิพูดแล้ว เดินไป โทรศัพท์อยู่มุมซ้ายของห้องรับแขก ผมเอียงตัวมองไปยังพี่วุฒิที่กำลังรับโทรศัพท์
“ ใคร!?” พี่วุฒิพูดเสียงห้วนครับ ถ้าเป็นผู้ใหญ่ หรือเพื่อนแม่จะทำยังล่ะ! ผมลุกขึ้นเดินกลั้นใจ ไปดู
“ นี่ผัวมัน และตอนนี้มันก็อยู่ตรงนี้แหละ มีอะไรก็ว่ามา!” พี่วุฒิตอบอีกฝ่าย ผมเดินไปหาพี่วุฒิอยากรู้ว่าใครโทรมา และน่าจะโทรมาหาผม
“ .........................”
“ โท-สับผมใช่ไหมครับ?”
“ เออ” พี่วุฒิตอบแล้วยัดโทรศัพท์ใส่มือผม แต่ก็ยังยืนอยู่ที่เดิม
“ ฮัลโหลครับ”
“ จุม นี่กรูธี”
“ ธี? มีอะไรเหรอ?”
“ อย่าบอกว่ามรึงลืมว่าวันนี้มรึงจะเลี้ยงหนังเลี้ยงไอศครีมพวกกรู” ผมลืมไปเลยครับ
“ ขอโทษลืมจริงๆ” ผมบอกสำนึกผิดครับ ที่ตัวเองเป็นคนนัดเองแท้ๆแต่ดันลืม ตอนนี้จำได้แล้วครับว่านัดธีกับบันบัน ที่หน้าโรงหนัง 11 โมงครึ่ง จากนั้นซื้อตั๋วแล้วไปกินข้าวกัน จากนั้นค่อยกลับมากดูหนังรอบบ่าย ถ้าได้รอบตามที่ต้องการ พอดูหนังเสร็จผมเลี้ยงไอ้ติมสัญญาไถ่โทษเรื่องย้ายโรงเรียนไม่บอก
“......................ช่างเถอะ.....................กรูคิดว่ามรึงจะลืมเลยโทรมานี่แหละ แต่ไม่คิดว่ามรึงจะลืมจริงๆ” เสียงธีน้อยใจครับถึงแม้จะบอกว่าช่างเถอะ
“ .........................”
“ แล้วตกลงโปรแกรมเดิมไหม?” ธีถาม
“ โปรแกรมเดิม” ผมบอกไม่อยากทำร้ายความรู้สึกเพื่อนมากไปกว่านี้แล้ว
“ งั้นเอาตามนี้ ว่าแต่ว่าจะให้ไปรับไหม กรูจะเอารถไป” ผมหันไปมองพี่วุฒิแวบหนึ่ง คิดว่าให้ธีมารับดีกว่า ผมเกรงว่าพี่วุฒิอาจจะบอกว่าไปส่ง มีความเป็นไปได้100%ครับ เพราะไปโรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ไกลยังไปส่งเลย แต่พี่วุฒิจะอารมณ์เสียเปล่าๆเพราะธีไม่ชอบพี่วุฒิ พี่วุฒิก็เช่นกัน
“ มารับ” ผมบอก ไหล่ผมถูกกระชากให้หันมาเผชิญหน้ากับพี่วุฒิ
“ จะไปไหน?” พี่วุฒิถาม
“ ธีแค่นี้นะ 10 ครึ่งจะรอที่บ้าน” ผมตอบวางสายเร็วเท่าที่จะทำได้ หน้าผมถูกจับให้เงยขึ้น สายตาคมๆพี่วุฒิจ้องหน้าผม
“ จะไปไหน?”
“ เดี๋ยวไปดูหนังกับบันบัน กับธี”
“ อยากดูทำไมไม่บอก เดี๋ยวพาไป” พี่วุฒิถาม
“ ผมสัญญากับบันบัน ธีไว้แล้วครับ”
“ เมื่อไร”
“ตอนที่อยู่โรง-บาลครับ” ผมตอบ
“ ทำไมกรูถึงไม่รู้ กรูอยู่กับมรึงแทบ 24 ชั่วโมง” พี่วุฬิพูดจ้องผมเหมือนกำลังจับผิด
“ตอนนั้นพี่ลงไปช่วย คุณแพรถือของครับ” ผมอธิบายเพราะมันเป็นเรื่องจริงผมไม่ได้โกหก อย่างที่ผมบอกครับว่าคุณแพรไปเยี่ยมที่โรงบาลครั้งหนึ่งก็ตอนนี้แหละ
“ ...........................”
“ ไม่ต้องไป” พี่วุฒิพูดแล้วเดินจะไปกินข้าวต่อ ทว่าผมดึงเสื้อพี่วุฒิไว้
“ พี่ครับ อย่าให้ผมได้เสียคำพูดอีกเลย” ผมบอก
“........................”
“..............พี่ครับ มห้ผมไปเถอะ”
“ เพื่อนมรึงไม่ชอบกรู!”“ ............” ผมไม่ได้พูดอะไรแต่ไม่ปล่อยมือจากเสื้อพี่วุฒิ
“ ปล่อยมือจากเสื้อกรู” พี่วุฒิสั่งไม่ได้หันกลับมา
“ ผมก็ต้องมีเพื่อนบ้าง พี่วุฒิมีพี่แบงค์พี่ชนะ ผมก็มีบันบัน ธี . . .............”
“ ปล่อย!”พี่วุฒิพูดเสียงกระด้าง
“ พี่ครับ พี่วุฒิ”
“ กรูยอมให้มรึงมากไปใช่ไหม!มรึงถึงได้กล้าเรียกร้องกับกรูขนาดนี้” พี่วุฒิหันกลับมา ผมปล่อยมือจากเสื้อพี่วุฒิทันที
“ ไม่ใช่ครับ!”
“ ไม่ให้ไป และไปกินข้าว”
“ ......................” ทำไมต้องเป็นแบบนี้เรื่อยเลยที่ผมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับธีกับบันบัน
“กินข้าว” พี่วุฒิพูดพร้อมกระชากต้นแขนผมให้เดินตามพี่วุฒิที่เดินเร็วมาก
ผมเจ็บ!
มากินข้าวต่อผมก็กินไม่ลงแล้วครับ
“ ............................”
“ ......................อะไรของมรึงเนี่ย!” พี่วุฒิพูดทิ้งช้อนลงบนจานเสียงดัง
“ แค่ไม่ได้ไปดูหนังกับเพื่อนแค่นี้ทำเหมือนจะตาย!”
“ ………………..” ก็แค่ไปดูหนังกับเพื่อนเท่านั้นเองแล้วทำไม่ไให้ไป เพียงเพราะธีกับบันบันไม่ชอบพี่วุฒินั่นหรือคือเหตุผล
“ ......................โธ่เว้ย!” พี่วุฒิตะโกนเสียงดัง
แล้วกวาดกับข้าวบนโต๊ะลงพื้น!!
“ ..................” ผมตกใจมาก ตกใจจนตัวสั่น หันหน้าไปมองพี่วุฒิ
“ จะทำไมล่ะ หรือว่ามรึงจะด่ากรู”
“...........................”
“ ถ้าให้มรึงเลือกระหว่างเพื่อนกับกรูมรึงเลือกใคร!” พี่วุฒิถามกระชากเสียง ผมน้ำตาร่วงเพราะตกใจตั้งแต่ที่พี่วุฒิใช้มือปัดกับข้าวลงพื้นแล้ว
“ พี่ครับ ทำไมต้องทำร้ายของด้วย กับข้าวนั่นแม่ทำให้ ข้าวแม่ก็หุงให้นะครับ” ผมมองจานเศษจานแตก กับข้าวเกลื้อนพื้น แต่ก็ต้องเงยหน้าขึ้นมา ข้อมือถูกจับจากมือที่แข็งเหมือนเหล็ก
“ กรูจะไม่ทำร้ายแค่ข้าวของ ถ้ามรึงไม่ตอบว่าจะเลือกใคร!”
“ ............................” ผมส่ายหน้าบอกว่าผมเลือกไม่ได้ ธีกับบันบันคือเพื่อนของผม เขาไม่รู้เรื่องด้วยเลย ที่เขาไม่ชอบพี่วุฒิเพราะเขาไม่ชอบที่พี่วุฒิทำกับผม นั่นเพราะเขาเป็นห่วงผม รักผม
“ บีบน้ำตา บีบน้ำตา ต่อให้มรึงบีบมันจนไม่เลือดกรูก็ไม่สน!”
“..........พี่วุฒิ ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย พี่วุฒิไม่เคยเลยที่พยายามจะเข้าใจ ทำไมพี่ถึงไม่เข้าใจผมบ้าง ...” ผมบอก ไม่ได้ดึงมือตัวเองกลับมาแม้ตอนนี้พี่วุฒิบีบมันจะเจ็บมากก็ตาม จะดึงกลับมาทำไม ไม่มีประโยชน์
“ แล้วมรึงเคยเข้าใจกรูไหม!!” “ แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม ว่าพี่รู้สึกยังไง ผมไม่รู้หรอกครับถ้าพี่ไม่บอก”
“ มรึงอยากรู้เรอะว่าตอนนี้กรูรู้สึกยังไง!” “ ................”
“ ตอนนี้กรูโกรธมรึงมาก อยากจะตบหน้ามรึง อยากจะชกมรึงให้ลงไปกองกับพื้นแล้วกระทืบซ้ำ อยากจะเตะมรึง ....ยังมีอีกนะ......กรูอยากข่มขืนมรึงด้วย เพราะกรูรู้ว่าอันนี้มรึงเจ็บกว่า...เพราะอะไรรู้ไหม?!” “.........................” ผมส่ายหน้า
“ตอบมารู้หรอไม่รู้!” ยิ่งพูดพี่วุฒิก็ยิ่งเสียงดัง จนผมคอยระแวงกับคำพูดว่ามันจะกระโจนเข้ามาทำร้ายผม
“ มะ ไม่ไม่รู้ครับ” ปากคล้ายจะจมน้ำพูดได้ยากลำบากเหลือเกิน
“ เพราะมรึงขัดใจกรู ทั้งที่กรูบอกว่า ‘ไม่ให้ไป’ มันเหมือนกับว่ามรึงเลือกมัน 2 คนนั้นมากกว่ากรู!” “ ไม่ใช่นะครับ พี่ก็ส่วนพี่ บันบันกับธีก็ส่วนบันบันกับธี” “ อย่าเถียง!” พี่วุฒิตะเบ็งเสียงผมสะดุ้งขาก้าวถอยหลังแต่พี่วุฒิกระชากผมกลับมา เท้าผมสะดุ้ดจะล้มลง พี่วุฒิปล่อยมือให้ผมล้มลงไป
ตุบ! ผมลงไปกองพื้นไม่ต่างจากกับข้าวที่พี่วุฒิกวาดลงไปเมื่อกี้
“........................”
“ ทำไม มรึงจะเลือกกรูสักครั้งไม่ได้ ทำไม! ทำไมกรูไม่ใช่ที่ 1!” “ .......................” ไม่รู้ว่าคำพูดพี่วุฒิคำไหนที่ทำให้ผมคิดถึงพ่อแม่พี่วุฒิ
ความจริงแล้ว สิ่งที่พี่วุฒิต้องการอาจจะเป็นคำพูดของคุณวชิระ และคุณแพร ว่าจะเลือกพี่วุฒิก็ได้ เลือกพี่วุฒิ เลือกที่จะยอมเลิกคนที่คบอยู่เพื่อพี่วุฒิ
คำถามที่ว่า ให้เลือกอาจะเคยถูกพูดไปแล้วก็ได้...........
“
พี่ครับ” “ ทำไม เรียกกรูทำไม !” พี่วุฒิย่อเข่าและก้มตัวลงมาหาผม
“ พี่ครับ ผมไม่ไปแล้ว” ผมบอกกอดคอพี่วุฒิที่ก้มลงมา
พี่วุฒิชะงัก
“ ผมไม่อยากไปแล้ว ผมอยากให้พี่รู้ว่าพี่สำคัญกับผม ฮือๆ” พี่วุฒิแกะมือผมออก
“ มรึงจะหลอกหล่ออะไรกรูอีก!?!”
“ ผมแค่พูดความจริง ถ้าตอนนี้พี่วุฒิยังอยากไม่ให้ผมไป ผมจะไม่ไป” ผมบอกกอดพี่วุฒิแน่นเท่าที่ แขนสั่นๆนี้จะกอดพี่วุฒิได้
“ ...........................”
“............................” พี่วุฒิจ้องหน้าผม เอามือตบหน้าผมเบาๆหลายครั้ง
“ .................. ...”
“ ทำไม?” พี่วุฒิพูดเสียงแทบจะปกติ
“เพราะพี่สำคัญ ผมอยากให้พี่รู้”
“ มรึงรักกรูว่างั้นเถอะ” พี่วุฒิถามเหมือนจะไม่เชื่อคำตอบของผมเด็ดขาดไม่ว่าผมจะตอบว่าอะไร
“ครับ”
“ ดีงั้นกรูจะดูว่ามรึงจะรักกรูแค่ไหน!” พี่วุฒิเหยียดยิ้ม จับข้อมือผมทั้ง 2 ข้าง
“ พี่จะทำอะไรครับ!” ผมถามหน้าตื่น
“ กรูจะพิสูจน์ความรักของมรึงไง!” พี่วุฒิบอก ไซร์คอผมแรงๆ
“ พี่อย่าครับ!” ผมบอกเสียงสั่น สั่นมาก-------------------
ร่างกายมันไม่ได้ต่อต้านดิ้นรนอะไร ตัวมันแข็งจนชา....................
ตาผมจ้องประตูที่เปิดไว้พร่ามัวทุกขณะและมันมืดลงในทันที!
.
.
.
.
“ จุม จุม ตื่นเฟ้ย!”เสียงเบาๆเหมือนบันบันกำลังเรียกผมครับ
เสียงเบามาก
“ จุม ไอ้จุม” คราวนี้เสียงชัดขึ้น ผมลืมตาขึ้นเหมือนอยากรู้ว่าบันบันกำลังเรียกผมอยู่จริงไหม?
หน้าบันบัน!! คือสิ่งที่ผมมองเห็น
สะดุ้งรีบยันตัวลุกขึ้นมองซ้ายมองขวา ผมอยู่ในห้องรับแขก?
“บันบัน?” ผมว่ามองหน้าเจ้าเล็กที่ทำปากจู๋ให้น่ารัก แต่น่ารักจริงๆนั่นแหละครับ ข้างๆบันบันที่นั่งอยู่คือธีครับแต่ยืนไม่ได้นั่งเหมือนบันบัน
“ ปลุกอยาก” บันบันบ่น
แต่ที่ผมสงสัย คือเมื่อกี้ พี่วุฒิกำลังจะข่มขืนผมแน่ๆ แต่ผม..น่าจะหมดสติไป ยอมรับว่ากลัวมากครับ ผมก้มมองตัวเอง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เสื้อยืดตัวเดิมทุกอย่างเหมือนเดิม ผมไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย
“ พี่วุฒิล่ะ?” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย
“ ตื่นมาก็ถามหาผัว มันขึ้นข้างบนไปแล้ว บอกแต่ว่าให้ไปส่งมรึงที่คอนโดเลย” ธีบอกผม
?
หมายความว่าพี่วุฒิให้ผมไปหรือครับ
“ เดี๋ยวนะ” ผมลุกจากเก้าอี้ตัวยาวเดินไปดูในครัว กับข้าว จานชามที่พี่วุฒิกวาดลงพื้นถูกเก็บเรียบร้อยแล้ว
“ มีอะไร?” บันบันเดินตามผมมาถาม
“ เปล่า เดี๋ยวกรูไปเปลี่ยนเสื้อ” ผมบอกจะขึ้นบันได้
“ ไม่ต้องแล้ว ไอ้พี่วุฒิบอกให้มรึงไปเปลี่ยนในห้องน้ำข้างล่างนี่แหละ นั่นเสื้อมรึง” บันบันบอกชี้ไปยังกางเกงกับเสื้อยืดสีเขียวอ่อนที่แขวนอยู่หน้าห้องน้ำ ทำให้ผมไปมองไล่บันไดขึ้นไปข้างบน
พี่วุฒิ?!
“ รีบเหอะจุมจ๋า เขาหิวข้าวแล้ว” บันบันอ้อนเอาหน้ามาหูไถแขน......
“ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อแป้บ” ผมบอก เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ
กระเป๋ากางเกงมีมือถือและกระเป๋าเงินผมใส่ไว้แล้วครับครับ
“.........................”
ในห้องน้ำผมคิดเรื่องพี่วุฒิครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากผมหมดสติไป แล้วทำไม??? พี่วุฒิถึงให้ผมไป
“...................”
** ** **