บุพเพวายร้าย(สอง)
41
“พี่รักจักรแล้วก็รักไอ้แบงค์”
“ แต่ไม่เท่ากันใช่ไหมครับ พี่ต้องรักคนใดคนหนึ่งมากกว่า”
“ เท่ากัน... เท่ากันจักร พี่เลือกคนใดคนหนึ่งไม่ได้เพราะรักเท่ากัน” ผมไม่เคยคิดว่ารักใครน้อยกว่าใครเลย รักก็คือรัก
“.......................”
“................................”
“.............. ...................... .................. ...............”
“..................” น้ำตาผมไหลอาบแก้มลงมาช้าๆ
ผมทรมานเหลือกเกิน
ผมคงไม่สามารถยืนอยู่ได้ถ้าไม่มีจักรเคียงข้าง หากว่าจักรเดินจากผมไปผมก็คงทรุดลงตรงนี้ ผมไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว
คำว่ารักของผมไม่ใช่สิ่งที่หลอกลวง หรือเป็นคนไม่รู้จักพอ ผมแค่มีจักรกับไอ้แบงค์ก็พอ
“..............................................ปล่อยเถอะครับ” จักรพูดหลังจากที่นิ่งเงียบมานาน
“ พี่ไม่ปล่อย”
“.........ถ้าพี่ไม่ได้รักผมคนเดียว ไม่อาจจะเป็นของผมได้ก็อย่ารั้งผมไว้ ปล่อยให้ผมได้เจอคนอื่นเถอะ........ พี่เห็นคนที่นั่งตรงข้ามผมเมื่อกี้ไหมครับ เขาชื่อพี่กิจ”
“.............. ”
ทำไมผมจะจำไม่ได้ ก็มันส่งสายตาหวานเยิ้มให้จักรขนาดไหน? แต่จักรต้องการจะบอกอะไรผม
“ พี่กิจเขาเป็นเพื่อนพี่ไนล์ แฟนซีซี่ ผมเพิ่งรู้ว่าพี่เขาแอบชอบผมมานานแต่ไม่กล้าจีบเพราะรู้ว่าผมเกลียดเกย์ ตอนนี้ผมจะให้โอกาสพี่เขา เพราะงั้นพี่ปล่อยผมเถอะ ถึงผมจะไม่มีพี่ผมก็ไม่มีคนอื่น ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกไม่นานผมจะทำใจได้” จักรบอกหันหน้ามาหาผมที่กอดอยู่ด้านหลัง
จักรคิดบ้าอะไรอยู่ ถึงได้พูดแบบนี้ คิดว่าพูดแบบนี้ผมจะยอมหรือไง!
“ แต่จักรเป็นเมียพี่!” ผมว่า
“ .............” จักรส่ายหน้า เริ่มแกะมือผมออกจากร่างกายตัวเอง
“ จักร พี่ไม่ยอมให้จักรคนอื่นนอกจากพี่หรอก”
“ พี่เคยเข้าใจอะไรบ้างไหม?!” จักรว่าเริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“พี่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ!” การสูญเสีย
ผมเคยมาแล้ว ผมสัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่สูญเสียอะไรอีกแล้ว
ผมจะทำตามสัญญาที่ให้กับตัวเอง
ยิ่งพูดก็ยิ่งไม่มีอะไรดีขึ้น พวกพูด1 แต่จักรกลับตอบ2 ผมคิดว่าเราคุยเรื่องเดียวกัน แต่กลับไม่มีใครเข้าใจใคร
มันเลวร้าย และผมไม่ยอมปล่อยจักรไป
.
.
.
ผมหันมองจักรที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆ เนื้อตัวเปลือยเปล่า แต่แต่กลับมีริ้วรอยสีแดงช้ำเต็มตัว ทั้งน้ำกามที่เปอะเปื้อน ทั้งเลือดสีแดงที่หว่างขา
ผมข่มขืนจักร ผมทำอีกแล้ว
ปีศาจซานตัวไหนสิงตัวผม หรือว่าแท้จริงแล้วนั่นคือความเกรี้ยวกาจของตัวผมเอง
“..................”
น้ำตาบนหน้าจักรยังไม่แห้ง...มือผมคิดจะจับแก้มจักร มือสั่นๆค่อยๆกลับมาไม่กล้าจับแม้แต่น้อย ก่อนที่มือนั้นจะมากุมขมับ
น้ำตาไหลจากกระบอกตาที่ปวดจนแทบระเบิด
“...............”
มีทางไหมมีทางไหม? มีไหมที่ทุกอย่างจะหมุนย้อนกลับ ผมจะแก้ตัวด้วยการพูดกับน้องเขาดีๆ ขอร้องว่าอย่าทิ้งผมไป อย่าไปจากผม
มีไหม?
“ ฮือๆ” น้ำตาที่ไม่ช่วยอะไรไหลออกมาตามเคย
..........แบงค์ ช่วยกรูคิดที ช่วยกรูด้วย อย่างน้อยก็ช่วยปลอบกรู ให้กำลังใจกรู แล้วบอกว่ารักกรู
“................” แบงค์!?
มรึงอยู่ไหน?
ผมจะโทรไอ้แบงค์ อยากได้ยินเสียงอยากได้ยินคำพูดดีๆที่ทำให้จิตใจเข้มแข็ง
แต่เสียงกริ้งหน้าห้องก็ดังขึ้นใด ผมลุกพรวดจากเตียง คิดว่าคนที่กดกริ้งต้องเป็นไอ้แบงค์แน่นอน เพราะไอ้แบงค์จะมาในเวลาที่ผมต้องการเสมอ
ผมเปิดประตู เป็นไอ้แบงค์จริงๆ
“ แบงค์!” ผมโผเข้าไปกอดไอ้แบงค์
“ ชนะ?”
“ แบงค์ กรูไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นแบบนี้” ผมกอดไอ้แบงค์แน่น ไอ้แบงค์ยังยืนอยู่หน้าห้องและมือข้างหนึ่งโอบเอวผม อีกข้างลูบหลังเปลือยๆของผม( ใส่แค่กางเกงตัวเดียว)
ความอบอุ่นในใจผมได้รับแล้ว
“ มีอะไร?” ไอ้แบงค์ถามลางดันตัวผมเข้าในห้องแล้วมือปิดประตูโดยไม่มอง ผมเห็นว่าไอ้แบงค์สังเกตเห็นรอยข่วนบนหลังผม แต่ยังไม่ได้ถามเรื่องนี้ นั่นเป็นรอยเล็บจักร....
“ จักรรู้เรื่องของเรา และบอกเลิกกับกรู” ผมบอกเงยหน้ามองไอ้แบงค์ อีกฝ่ายไม่ได้ตกใจอย่างที่ผมคิด แต่สายตากับหรี่เล็กลง เหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ตามด้วยดันตัวผมออกห่างก่อนที่สาวเท้าเร็วๆเข้าไปห้อง(นอน)
“ แบงค์?!” ผมตามเข้าไป
ไอ้แบงค์ยืนนิ่งมองจักร ก่อนที่หันหน้ากลับมามองผมด้วยสายตา....ผิดหวัง
“......................”
“.แบงค์...........” หัวใจผมที่ได้น้ำล่อเลี้ยงเมื่อกี้ห่อเหี่ยวลงจนเฉา
“ กรูไม่ได้ตั้งใจ น้องเขาจะเลิกกับกรูเพราะรู้เรื่องมรึงกับกรู แล้วยังจะไปคบกับใครก็ไม่รู้ กรูไม่ได้อยากทำ” ผมบอก รู้ว่าไอ้แบงค์เป็นคนมีเหตุผล ต้องเข้าใจผมแน่นอน ว่าที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะผมรักจักรไม่อยากเสียจักรไป
ผมไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้เลยสักนิด
“ นี่มรึง ไม่ได้ตั้งใจ มรึงยังทำขนาดนี้ แล้วถ้ามรึงตั้งใจจะขนาดไหนชนะ” ไอ้แบงค์ว่าเสียงเย็นชาที่ทำให้ตัวผมชาตามด้วย
“ แบงค์” ผมว่ายื่นมือไปจะจับแขนไอ้แบงค์ แต่ไอ้แบงค์ปัดมืออก จนผมใจหายวาบ ( มือผมสั่น)
“ ถ้านี่เป็นครั้งแรกกรูอาจจะไม่โกรธมรึงขนาดนี้ แต่มันกี่ครั้งแล้วชนะ ?” ถ้อยคำแสนจะเย็นชาที่พูดกับผม แทบจะไม่อยากเชื่อว่าคนที่พูด....รักผม
“ มรึงไม่ใช่กรู มรึงไม่เข้าใจ” ผมว่า ขาแทบยืนไม่อยู่ ทำไมต้องเป็นไอ้แบงค์ที่พูดกับผมแบบนี้
มรึงต้องปลอบกรู เข้าใจกรูไม่ใช่หรือไง
ไอ้แบงค์คือคนที่เข้าใจผม คอยให้กำลังใจผม ให้ผมยืนอยู่ได้ แต่ตอนนี้ไอ้แบงค์กำลังผลักผมให้ล้มลง
“ มรึงต่างหากที่ไม่เข้าใจอะไรเลย มรึงคิดถึงแต่ตัวเอง” อีกฝ่ายเดินถอยหลังห่างจากตัวผมไปเรื่อยๆ เหมือนกับว่าไม่อยากอยู่ใกล้ผม
แบงค์...
“ ..................”
“ แค่กรูรักจักร รักมรึงด้วย ก็ผิดเหรอแบงค์ กรูแค่อยากอยู่กับคนที่กรูรักก็ผิดเหรอแบงค์?!”
แม้แต่ไอ้แบงค์คนที่น่าจะเข้าใจผมที่สุดก็ไม่ยอมเข้าใจผม......
“ ไม่ผิด แต่มรึงผิดที่ทำร้ายใจกรูกับจักรและยังทำร้ายร่างกายจักรอีก”
“ แบงค์” อย่าพูดแบบนี้
“ออกไป กรูไม่อยากเห็หน้ามรึง จักรกรูจะดูแลเอง”
“แบงค์?!” นี่ไอ้แบงค์มันไล่ผม
“ ถ้ามรึงไม่ไป กรูจะพาจักรไม่ที่อื่น” ไอ้แบงค์พูดก่อนที่หันหลังให้ผม
“ แบงค์นี่ใช่ไหมที่มรึงบอกว่ารักกรู แต่มรึงกำลังไล่กรูอย่างไม่ใยดี” น้ำตามันไหลจนแสบเบ้าตา
“………….” ไอ้แบงค์เงียบ ผมมองแผ่นหลังที่นิ่งงั้นนั้น อยากจะเข้าไปกอดเข้าไปอ้อนวอนแต่ไม่กล้าทำ ..
“ กรูคิดว่ากรูว่ามรึงจะเป็นที่พึ่งให้กรูได้แต่ …ได้ !ได้!.........กรูจะไปให้พ้นหน้ามรึง เพราะคนที่รักสั่งทำไมกรูจะไม่ทำ…………….”
“ ออกไปแล้ว ถ้าคิดไม่ได้ว่าตัวเองผิดอะไร ก็อย่ามาให้กรูเห็นหน้า” ไอ้แบงค์ว่า ผมไม่เคยคิดว่ามันจะใจร้ายกับผมได้ขนาดนี้ ผมเบือนหน้าหนีจากแผ่นหลังไอ้แบงค์ไปมองจักรที่นอนอยู่
“ ฝากดูแลจักรแทนกรูด้วย เพราะตอนที่น้องเขาตื่นมาคงไม่อยากเห็นหน้ากรูเหมือนมรึง”
น้ำตาไหลอีกแล้ว เจ็บปวดจนไม่รู้จะเจ็บปวดยังไงแล้ว ถูกคนที่รักทั้ง2 คน …..
“……………” ผมก้มคว้าเสื้อตัวเดิม เดินออกมาเงียบๆเดินช้าๆหวังว่าไอ้แบงค์จะตามมาเรียกผมกลับไป แต่ทว่าไม่……….
……………….ไม่มีใครเลยเลยสักคน
**
ผมออกมานอกนอกคอนโดไม่รู้จะไปไหนจริงๆ กุญแจรถก็ไม่ได้เอาเพราะคิดว่าสุดท้ายไอ้แบงค์คงมาตามผมกลับไป มีแค่กระเป๋าเงินที่ติดกางเกงมา ผมเรียกแท็กซี่ ก่อนทิ้งตัวเข้าไปนั่ง หัวใจผมห่อเหี่ยวและเจ็บปวด ที่ไอ้แบงค์พูดกับผมนั้นมันก็คือ มีดที่กรีดลงบนใจผมนั่นแหละ
“ ไปไหนครับคุณ?” คนขับรถแท็กซี่หันมาถาม
“ ขับไปเรื่อยๆเดี๋ยวบอกเอง” ผมบอก คนขับทำหน้างง แต่ก็ขับไปเรื่อยๆอย่างที่ผมบอก
ผมรู้ว่าผมผิดที่ขืนใจจักร แต่จะให้ผมทำยังไง …
ตอนนี้ทั้งจักรทั้งไอ้แบงค์คงเกลียดผมมาก
เกลียดผมแล้ว แต่ผมก็อยากได้รับการให้อภัย ทว่าไม่รู้จะเป็นไปได้ไหม
“……………” แม้แต่ไอ้แบงค์ ก็ไม่รักผม
ผมไม่เหลือใครเลย…
“ อกหักเหรอครับคุณ” คนขับถาม ผมเงียบหันหน้าหนีมองออกไปนอกรถ มองเห็นหน้าตัวเองลางจากระจกรถ มีน้ำตาไหลจากดวงตา มิน่าคนขับถึงถาม
ดันพูดถูกซะด้วย หน้าผมคงบ่งบอกชัดเจนมั้ง
สมเพชตัวเอง
“ ………ครับ” ผมตอบยังมองออกไปนอกรถ
“ อย่าไปเสียใจเลยครับ หน้าตาอย่างคุณขี้คร้านสาวๆจะรุมรัก มีมาให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว” คนขับปลอบตามมารยาท ผมยิ้มยันตัวเอง ที่ไม่ได้เป็นอย่างคนขับแท็กซี่พูด
“ มีแน่ะมีแน่ครับ แต่คนที่รักเขาคงไม่มารุมรักหรอก” ก็ในเมื่อผมทำร้ายจักรขนาดนี้ เป็นผมยังไม่รู้เลยว่าจะให้อภัยคนคนนี้หรือเปล่า
“ จริงอย่างที่คุณว่า คนเป็นร้อยก็สู้คนของเราไม่ได้” คนขับพูดแล้วเงียบไปเฉยๆ
เวลาบ่ายๆแบบนี้รถไม่ค่อยเยอะเท่าไร รถจึงขับไปเรื่อยๆไม่ติดขัด
จนผมมองเห็นชิด?รีบร้อนออกจากร้านขายยา แล้วรีบขับรถออกไปจากหน้าร้าน(จอดรถริมถนน)
“ พี่ตามรถคนหน้าไป” ผมบอก
ผมนึกถึงจุมขึ้นมา ตอนนี้ผมก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว แม้จะตามชิดแล้วไม่เจออะไรก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ช่วยหันเหความคิดของผมได้ชั่วขณะ
ผมตามชิดไปเรื่อยๆ จนออกนอกเมือง
“ คุณเราจะเข้าเขตสมุทรปราการแล้วนะครับ”
“ …………” ผมไม่ได้ตอบ สายตาจ้องรถสีดำคันหน้าไปวางตา ชิดขับรถเร็วมากจนเกือบจะหายจากสายตาไปหลายครั้ง
รีบร้อนอะไรขนาดนี้
จนในที่สุดชิดก็ไปจอดรถที่อาพาสเม้นต์หนึ่งซึ่งไม่ไกลจากมหาลัยรัฐที่มีชื่อ
“ พี่พี่จอดตรงนี้แหละ” ผมบอก จ่ายเงินให้พี่คนขับ2000 โดยไม่ได้มองมิตเตอร์ ก่อนที่ลงจากรถ
“ ขอบคุณครับ” คนขับว่า
ผมเดินตามชิดที่หายเข้าในอพาร์ทเม้นท์ (ผมใส่รองเท้าสลิปเปอร์)
“………?”
“คุณครับมาหาใครครับ?” รปภ.ชุดน้ำเงินเดินเข้ามาถามผม
“ ผมมาหาน้องชาย” ผมบอก สีหน้าจริง แต่สีหน้าอีกคนท่าจะไม่เชื่อ ผมใส่รองเท้าในบ้าน เสื้อผ้ายับยูยี่ และผมกระเซิงไร้ทิศทางคงจะดูไม่เชื่อเท่าไร เขาไม่ว่าโจรก็บุญแล้ว
“ น้องคุณอยู่ห้องไหน ชื่ออะไร?” อีกฝ่ายเสียงเริ่มเปลี่ยนเป็นไม่ไว้วางใจ
“………….” ผมเอากระเป๋าเงินออกมาแล้วยันเงินใส่มือ รปภ.500 แต่เขากลับยื่นเงินคืนให้ผม
“ ถึงจะจนผมก็มีจรรยาบรรณครับ” เขาบอก ผมรู้สึกเสียหน้าจนหน้าชา ที่ตัวเองคิดทำอะไรง่ายๆ ต้องเดินออกมา ยืนรอให้ชิดออกมาอีกครั้ง ซึ่งแบบนั้นมันก็เหมือนไม่ได้อะไรเลย ชิดอาจจะมาหาเพื่อนที่นี่ก็ได้ แต่ผมคิดเป็นตุเป็นตะว่าเป็นจุม
สักพักเสียงฝีเท้าเร็วก็ทำให้ผมหันไป ชิดแบก..จุมบนไว้หลังแล้วพาไปที่รถ ผมวิ่งตามไปทันที
“ ชิด!?” ผมเรียก จับประตูรถไว้ก่อนที่ชิดจะปิด( จุมนั่งข้ามคนขับ ผมมองเข้าไปจุมกำลังหมดสติอย่างแน่นอน)
“ อะไรพี่ผมรีบ!” เสียงไม่พอใจ
“ จะพาจุมไปไหน?” ผมถาม
“ ไปโรง-บาล จุมไม่สบาย” ชิดจะปิดประตู ผมดึงไว้ สายตามองเข้าไป…
“ ให้พี่ไปด้วย” ผมบอกเปิดประตูรถด้านหลังแต่เปิดไม่ออก
“ ผมไม่ให้พี่ไป ขอร้องล่ะผมไม่อยากให้จุมเห็นพี่ อยากรู้อะไรเดี๋ยวผมจะบอกแต่ตอนนี้ผมจะพาจุมไปหาหมอ” ชิดบอกเสียงร้อนรน และขับรถออกไปเลย ผมวิ่งตาม2 3ก้าวก่อนที่จะหยุดเพราะยังไงก็ตามไม่ทัน
ชิดอาจจะไม่พาจุมกลับมาที่นี่แล้วก็ได้……แต่ผมก็นั่งรอเพราะคิดไม่ออกว่าตัวเองจะไปไหน
ป่านนี้จักรจะตื่นหรือยัง? จะเป็นยังไงบ้าง ไอ้แบงค์หายโกรธผมหรือหรือยัง?
“……………” กลุ้ม เอามือขยี้หัวแรงๆเผื่อว่ามันจะคิดอะไรออก เผื่อว่าอะไรมันจะดีขึ้น
ผมจะโทรหาไอ้แบงค์ ถามเรื่องจักร แต่ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย เลยเดินออกมาหาตู้โทรศัพท์สาธารณะ แต่ก็ดันไม่มีเหรียญอีก
แม่ง เฮงซวย!!!
เลยเดินกลับไปนั่งรอชิด ไม่โทรไปหาไอ้แบงค์แล้ว ….โทรไปไม่รู้ว่าไอ้แบงค์มันจะพูดกับผมไหม และถ้าพูดไอ้แบงค์จะพูดว่าอะไร
“……………”
ไอ้แบงค์คงดูแลจักรดีอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องห่วง
จักรคงไม่ยกโทษให้ผม
ใช่ผมผิด แต่ไม่คิดว่าไอ้แบงค์จะทำกับผมแบบนี้ ไม่เคยคิด แม้แต่กับเจนไอ้แบงค์ก็ไม่ได้พูดแบบนี้..
โลกของผมถล่มลงมา เศษหินเศษก็บาดเนื้อผมจนเลือดไหลเป็นทาง
.
.
ผมนั่งอยู่ตรงนี้จนค่ำ คิดว่าชิดคงไม่มาแล้ว แต่ผมก็นั่งที่เดิม ไม่รู้ว่าไอ้แบงค์จะเป็นห่วงผมบ้าไหม ? เป็นห่วงคนที่มันไล่ออกมาไหม?
บรืน~
เสียงรถคันหนึ่งวิ่งเข้าก่อนที่หยุดในช่องจอดรถที่รถมีรถจอดอยู่บางตา ชิดออกมาจากรถ ก่อนที่เปิดประตูรถอีกด้านแล้วประครอง จุมออกมา
ผมไม่ได้เข้าไปหา ‘ขอร้องล่ะผมไม่อยากให้จุมเห็นพี่’ คำพูดชิดที่พูดกับผมมันยิ่งกว่าการขอร้อง น้องเขาพูดสีหน้าจริงจัง
ผมอยากคุยกับชิดก่อน ยังไม่อยากเข้าไปอะไรกับจุม…
ชิดหันมามองผมที่ห่างออกมา แล้วก็หันกลับไป
“………….”
ผมนั่งลงที่เดิม จนกระทั่งชิดลงมา และนั่งลงข้างๆผม
“ …..จุมเป็นไงบ้าง?” ผมถามก่อน
“ เป็นไข้หวัดธรรมดา ดีขึ้นแล้ว แต่พักผ่อนน้อยเลยดูเหมือนจะหนัก ตอนนี้นอนหลับเพราะฤทธิ์ยา” ชิดเล่าแล้วก็เงียบไป
“ พี่นึกว่าเราจะไม่พาจุมมาที่นี่แล้ว” ผมว่า เพราะคิดว่าชิดก็คงรู้เรื่องจุมไม่มากก็น้อย
“ ทำไมล่ะครับ?” หันหน้ามาหาผม
“ ............”(ผม)
“ ผมไม่กลัวว่าพี่จะเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนพี่หรอกครับ เพราะครั้งที่แล้วที่พี่เจอจุมพี่ก็ไม่ได้บอกใช่ไหมครับ เพราะพวกที่ร้านก็ไม่โดนตอแยอีก” ชิดบอก
งั้นก็เป็นเรื่องจริงที่จุมทำงานที่ร้านนั้น
“ .....เพราะพี่เป็นคนดีพอที่จะให้จุมไปต้องไปทรมานอีก”
“ ไม่ใช่หรอก” ผมพูด
ที่ผมไม่บอกเพราะผมเห็นแก่ตัว ไม่อยากให้ไอ้แบงค์เจอจุมเท่านั้นเอง
“ พี่อยากรู้เรื่องอะไรผมจะบอกตามที่สัญญา” ชิดว่า
“ พี่ไม่อยากรู้เรื่องอะไรหรอก แค่รู้ว่าจุมไม่ได้ตกระกำลำบากก็พอ” ผมว่า คิดอย่างงั้นจริงๆ
“ จุมไม่มีทางตกระกำระบากหรอก เพราะมีผมคนนี้ดูแลอยู่ไม่ห่างไง” ชิดพูดยิ้มระรื่น ผมเคยได้ยินจากไอ้วุฒิว่าเคยส่งคนไปซ้อมชิด เพราะเรื่องจุม แต่มันคงไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่ได้อยู่กับจุมคือชิด
“ เราชอบจุมเหรอ?” ผมถาม
“ รักเลยครับ” ชิดตอบหนักแน่น ก้มหน้าลงยิ้ม
“ แล้วรู้ไหมว่าทำไมจุมถึงได้..”
“ หนีไปเรื่อยๆใช่ไหม” ชิดถามแทน ผมพยักหน้าตอบว่า ใช่
“ ก็เพราะเพื่อนพี่ไง ...” คราวนี้เสียงชิดเบาลงอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบ้างอย่างอยู่
“ ใช่ เพราะเพื่อนพี่ และตอนนี้เพื่อนพี่ก็ยังตามหาจุมอยู่ คงไม่ง่ายหรอกที่เราจะชอบจุมได้ง่ายๆ”
“ ผมไม่สนใจหรอก ขอแค่จุมรักผมก็พอ ผมคิดว่าการเอาชนะใจจุมยากกว่าการเอาชนะเพื่อนพี่” ชิดบอก
แม้แต่ไอ้แบงค์เองก็เอาใจจุมไม่ได้
“ ...........” แต่ที่ชิดพูดคงไม่ได้รู้จักไอ้วุฒิจริงๆ
“ คนเราถึงขีดสุดแล้วล่ะครับ ถึงได้หนีและทิ้งทุกอย่างไว้กับอดีต ..ผมไม่รู้อะไรมากเท่าไรหรอก แต่ผมพอรู้ว่าจุมผ่านอะไรมาเยอะ แม้แต่ตอนนี้จุมก็ยังไม่ลืม..” ชิดมีสีหน้าเจ็บปวด นี่คงไม่ใช่ไม่ค่อยรู้อะไรหรอก แต่คงจะรู้มากทีเดียว
ไม่ใช่แค่จุมหรอกครับที่ยังไม่ลืม พวกผมก็ยังไม่ลืม ว่าจุมเป็นยังไง น้องเขาก็ดีกับผมมาก บางครั้งผมหิวๆไปคอนโดไอ้วุฒิ จุมยังทำอะไรให้กินบ่อยๆ แต่ผมกลับช่วยน้องเขาไม่ได้
“ พี่รู้หรือเปล่า ว่าผมไม่ใช่คนดีอะไรเลย เลวมาเยอะดีก็มีบ้าง ตอนที่ผมได้เจอจุมครั้งแรก ที่บ้านพี่ฟ้า ผม รู้ว่าจุมไม่มีที่พึ่งยังคิดจะปล้ำจุมเลย ก็คนมันแอบชอบมานาน แต่ก็คิดว่าเอาใจเขามาเป็นของเราก่อนกายจะตามมาเอง แต่คนเราทำดีแค่ไหนเขาก็ไม่เห็น ผมก็ไม่ทนรอ...”
“ ..........” ผมมองชิดกลัวว่าสิ่งที่ชิดพูดจะหมายถึง...ข่มขืน..จุม
“คิดเอากายก่อนแล้วใจจะตามมา ผมก็คนมีชั่วดีเลยปล้ำจุม แต่ปฏิกิริยาจุมทำให้ผมเปลี่ยนใจ ....ว่าผมนี่มันชั่วจริงๆ แต่จากนี้ไปผมอยากเป็นคนดี เป็นคนที่จุมไว้ใจ เป็นคนที่จะดูแลจุม พี่อาจจะคิดว่าผมพูดเวอร์ แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ตอนนั้น..พี่ไม่เห็นจุมคงไม่เข้าใจหรอก” ชิดว่ายืนขึ้น ปัดกางเกง 2 3ที
“ จะไปไหน?”
“ กลับขึ้นไปหาจุม ไม่มีคนดู” ชิดบอก
“ ขอพี่ขึ้นไปด้วยได้ไหม?” ผมถาม อยากไปเห็นจุมชัดๆเหมือนกัน
“ อย่าเลยครับ ผมบอกแล้ว ผมไม่อยากให้จุมเห็นพี่ คราวที่แล้วที่จุมเห็นพี่ที่ชลบุรี จุมเอาแต่ร้องไห้ ตัวสั่นไปหมด จนผมต้องพามาอยู่ที่นี่”
“.......” จุมคงกลัวว่าผมจะบอกไอ้วุฒิ และไอ้วุฒิจะตามมาเจอ
ผมคิดว่าดีแล้วที่ผมไม่ได้บอกเรื่องจุมกับไอ้วุฒิ
*****
กลางคืนหนาว กลางวันร้อน รักษาสุขภาพกันด้วยเน้อ 