(สอง)พิเศษ
-แบงค์- ถ้าผมคิดไม่ซื่อ จะผิดไหม?
ถ้าหัวใจมันดื้อ ผมจะต้องทำยังไง?
ถ้าความจริงทำได้แค่เฝ้าดู ผมทรมานแค่ไหน?
ถ้ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ทำไมผมถึงไม่ตัดใจ!?
ถ้า…………….สมมุติว่า…….น้องเขารักผมสักนิด มันจะไม่เป็นแบบนี้แน่นอน
* * *
“ พวกมรึงว่าฝนจะตกไหมว่ะ?” ไอ้วุฒิถาม ยืนหันหน้ามองหน้าต่าง ตอนนี้ด้านนอกฟ้าครึ้มมืดสลัวทั้งที่เพิ่ง 4 โมง
“ ตกชั้วๆ พวกเราก็รีบกันหน่อยดิ” ไอ้เอสบอก ในห้องเรียนเหลือแค่พวกผมแล้ว เพื่อนคนอื่นๆกลับออกไปหมดแล้ว เพราะกลัวว่าฝนจะตก
“ ดีเลย” ไอ้วุฒิยิ้มเจ้าเหล์ ผมรู้สึกใจคอไม่ดี เพราะคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับจุม เป็นที่รู้กันดีในกลุ่มว่าตอนนี้ ไอ้วุฒิมันหาทางแกล้งจุมทุกอย่างทุกทางไม่ว่าอะไรมันทำหมด
“ ง่ะ ฝนตก” ไอ้ชนะว่า วิ่งไปติดขอบหน้าต่าง ด้านนอกฝนเทลงมาห่าใหญ่
“ กรูมีร่ม” ไอ้เอบอกเอารุ่มสีชมพูหวานออกมาจากกระเป๋า พวกผมมองมันด้วยความสงสัยและหวาดๆนิดหน่อย
“ มรึงมีของแบบนี้ได้ไง?” ไอ้ชนะถาม
“ ก็เผื่อฝนตกแบบนี้ไง” (ไอ้เอ)
“ มรึงพกรุ่มเดือนกุมพาฯเนี่ยนะ” (ไอ้เก้าว่า)
“ เออ” ไอ้เอตอบหน้าเฉย พร้อมทั้งกางร่มออกมา (สีชมพู ขอบมีระบายขาวชมพู)
“ กรูยอมเปียกฝนดีกว่า ใช้ร่มตุ๊ดแบบนี้” ไอ้เก้าว่า
“ ร่มรึงแต๋วได้อีก”” ไอ้ชนะพูดเห็นด้วย ไอ้วุฒิเดินนำพวกผมออกไปจากห้องแล้ว พวกผมก็พากันเดินตาม
ขณะลงบันได้ไอ้วุฒิกดโทรศัพท์ ไอ้เก้าเอาแซนวิชออกมากิน แต่ไอ้ชนะแย่งกินคามือจนไอ้เก้าโวยวาย ผมมองออกไปด้านนอก ฝนตกแรงจนสาดเข้ามาในระเบียง
“ มรึงอยู่ไหน?” ไอ้วุฒิถามกระชากเสียง พวกผมรู้ได้เลยว่าพูดแบบนี้ ไอ้วุฒิกำลังพูดกับจุม
“ ดี! งั้นมรึงไปรออยู่หน้าโรงเรียน” ไอ้วุฒิบอก แล้วกดสายทิ้งทันทีที่พูดจบ ก่อนที่จะยิ้ม
“ วุฒิ มรึงคิดจะทำอะไรหรือเปล่าเนี่ย?”(ไอ้เอ)
“ เปล่า” ไอ้วุฒิยักไหล่ ผมสังเกตเห็นไอ้วุฒิไม่ได้ถือกระเป๋า
“ วุฒิ กระเป๋ามรึงล่ะ?” ผมถาม
“ อ้าว กรูลืมไว้ในห้อง”
“ ก็ไปเอาดิ เดี๋ยวพวกกรูรอ” ไอ้ชนะบอก พวกผมลงถึงชั้น1 แล้ว
“ กรูขี้เกลียจ” ไอ้วุฒิว่าไม่ยี่หระ “ เออ งั้นเดี๋ยวกรูโทรบอกให้มันมาเอาให้กรูดีกว่า” ไอ้วุฒิพูด และคงจะคิดไว้ตั้งแต่แรก
“ มรึงหมายถึงจุมเหรอ?” ไอ้เอถาม ไอ้วุฒิพยักหน้า
“ มรึงจะให้จุมมากระเป๋าให้มรึงทั้งที่น้องเขาอยู่หน้าโรงเรียน แต่มรึงอยู่ใต้อาคารไม่ไปเอาเนี่ยนะ” ไอ้ชนะพูด
“ งั้นแหละ”
“ เจริญ!”(ไอ้ชนะ)
“ กรูสงสารน้องเขาวะ” ( ไอ้เก้า)
“ เอางี้กรูไปเอาให้” ไอ้เอว่า จะไปเอาให้ไอ้วุฒิจริงๆ
“ ไม่ต้อง! กรูจะให้มันไปเอา” ไอ้วุฒิว่า กดโทรศัพท์ พวกผมมองหน้ากัน แต่ไม่มีใครพูดอะไร อย่างที่รู้กันว่าไอ้วุฒิมันลองได้ตัดสินใจ มันไม่ยอมเปลี่ยนใจง่ายๆ
“ มรึงอยู่ไหน?” ผมมองสายฝนที่เทลงมาไม่หยุด
“ มาหากรูที่อาคาร3 จะตอนไหนก็ตอนนี้แหละ!? โง่นะมรึง”
“...............”(ผม)
“ ไอ้เอ กรูไปกับมรึงแล้วกัน ไม่อยากอยู่ดู เห็นแล้วสงสารน้องเขา” ไอ้เก้าบอก ทั้งที่บอกว่าไม่ยอมใช้ร่มไอ้เอแน่
“ ชอบร่มกรูก็บอกเถอะ”ไ อ้เอว่าหัวเราะ เดินออกไปก่อนเพราะถือไพ่ต่อ ไอ้เก้าจำต้องเดินตามก่อนที่จะเปียกฝน พร้อมๆกับมีรถเก๋งสีเทามาจอดเทียบอาคาร รถพ่อไอ้เอส
“ เฮ้ย แบงค์ ชนะไปด้วยกันดิ”
“ บ้านมรึงกับบ้านกรูคนละทางเนี่ยนะ มรึงไปเถอะ”(ไอ้ชนะ)
ไอ้เอสก็วิ่งฝ่าฝนราว 5 เมตรออกไปขึ้นรถก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ
“ แม่งช้า!?” ไอ้วุฒิว่า ทั้งที่ตัวเองเพิ่งวางโทรศัพท์ไปเมื่อกี้
“ จุมเหาะไม่ได้นะเว้ย!!” ไอ้ชนะบอก พวกผมรอจุมไม่ถึง 5 นาที ก็เห็นน้องเขากางรุ่มสีม่วง ต่างเดินต่างวิ่งมา พอมองเห็นพวกผมก็เดินตรงมาหาทันที
“ มรึงไปเอ้อระเหยลอยชายที่ไหนมา หรือว่าแกล้งมาช้าให้กรูรอ!?” ไอ้วุฒิแทบตะคอก
“ พอพี่โทรบอกผมก็ตรงมาที่นี่เลย” จุมบอก (ใส่เสื้อแขนยาวสะพายเป้สีดำ รองเท้านักเรียนเปียก)
“ ไปเอากระเป๋าในห้องให้กรูดิ” ไอ้วุฒิบอก ซึ่งจุมเคยมาที่ห้องพวกผม 3 ครั้ง
“ครับ” จุมบอกกำลังจะเดินไปไป
“ เดี๋ยว!?” ไอ้วุฒิเรียกจุมหันมา
“ ครับ?”
“ มรึงมีร่มกี่คัน?” ไอ้วุฒิถาม
“ อันนี้อันเดียวครับ”
“ งั้นเอามาให้กรู” ไอ้วุฒิสั่ง จุมก็เอาร่มที่หุบแล้วแต่ยังเปียกโชกยื่นให้ไอ้วุฒิ
“ เอากระเป๋ามาแล้ว ไปหากรูหน้าโรงเรียน”
“ วุฒิ!?” (ผม จากที่เงียบมานาน)
“ อ้าว แล้วมรึงจะจุมใช้ร่มอันไหน?” ไอ้ชนะถามซึ่งถ้าไอ้ชนะไม่ถามผมก็จะถาม
“ เดินเปียกฝนแค่นี้ มันไม่เป็นไรหรอก” ไอ้วุฒิบอก
“ วุฒิแบบนี้มันไม่ถูกนะ ร่มก็รุ่มน้องเขา” ผมพูดบ้าง
“ ร่มมันแต่มันเป็นของกรู ร่มก็ต้องเป็นของกรู”
“ วุฒิ”(ผม)
“ มรึงบ้าวะ” ไอ้ชนะว่า
“ ไม่เป็นไรครับพี่ พวกพี่ไปรอหน้าโรงเรียนเถอะ” จุมว่า ผมไม่เข้าใจว่าทำไมจุมจะต้องยอมไอ้วุฒิขนาดนี้
รักเลยต้องยอม...........???
“ ก็รีบไปเซ่ ยืนอยู่ได้ จะได้กลับซ่ะที” ไอ้วุฒิไล่ จุมก็วิ่งขึ้นบันไดไปทันที
ผม…………..บอกความรู้สึกของตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน
สงสาร
ผมกดรูปในมือถือเลื่อนกลับไปกลับมาทั้งที่ มีแค่รูปเดียว
‘รูปจุม’ รูปที่ผมแอบถ่ายตอนที่น้องเขาหลับ ถ่ายที่คอนโดไอ้วุฒิ...
“...................” ความรู้สึก มันแปลกที่ห้ามยังไงก็ห้ามไม่ได้ มันไม่เหมือนไฟที่ดับได้ถ้าต้องการ มันไม่เหมือนน้ำที่สามารถขังไว้ในเขื่อน มันไร้รูปร่างไร้ทิศทางแต่สัมผัสได้ และทำร้ายเราได้มากกว่าอาวุธใดๆ
บาดลึก เจ็บลึก ยิ่งอักเสบมันยิ่งกลัดหนองเจียนตาย......
ไม่รู้ว่าตอนนี้จุมทำอะไรอยู่ ไปอยู่คอนโดกับไอ้วุฒิวันนี้ก็วันที่ 26 ผมลุกขึ้นนั่ง(อยู่บนเตียง)
“..............” ตอนนี้เพิ่ง 7 โมง ไม่รู้ว่าจุมตื่นหรือยัง แล้ว...เมื่อคืน ไอ้วุฒิทำอะไรจุมหรือเปล่า?
ทำร้ายจุมหรือเปล่า
แค่เพียงจุมโทรหาพี่ ไม่จะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็จะไปหา แต่ไม่มีเลย....
ครั้งที่แล้วที่โรง-บาล พี่เกือบจะพูดไปแล้ว..ว่าพี่รัก
ว่าพี่รักมานานแล้ว..........................................
กริ้งๆ โทรศัพท์ในมือดัง เพราะมีสายโทรเข้า
หน้าจอขึ้นชื่อ
‘วุฒิ’
“.....จุม?” หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับจุม ผมกดรับทันที
“ ฮัลโหลวุฒิ!?”
“ เออกรูเอง วันนี้ว่างไหม?” ไอ้วุฒิถามเสียงปกติ?
“ ว่าง มีอะไร?”
“ วันนี้ กรูต้องไปทำงานกับพ่อกรู ถ้ามรึงงว่างจะฝากไปดูจุมหน่อย” ไอ้วุฒิบอก
“ ได้สิ ได้” ผมไม่รู้ตัวว่าตัวเอง รีบร้อนที่จะตอบแค่ไหน?
“ ขอบคุณ มรึงไม่ต้องไปอยู่กับจุมหรอก แค่ไปดูหน่อยก็แล้วกัน” ไอ้วุฒิว่า เสียงดูเป็นห่วง
ผมใจหาย เมื่อนึกถึงจุม
“ มรึง?...........” ทำ อะ ไร จุม หรือ ว่า จุม เป็น อะ ไร
“ กรูทำไม?”
“ เปล่า ไม่มีอะไร เดี่ยวกรูไปดูให้”
“ .....................” ไอ้วุฒิเงียบ
“ มรึงมีอะไรอีกไหม?” ผมถามเพราะจะได้รีบไปอาบน้ำแล้วไปคอนโดไอ้วุฒิ
“ ฝากดูจุมหน่อย ดูเหมือนจะไม่สบาย” เข้าใจได้ทันที ว่าจุมคงไม่ได้อยู่ในสภาพปกติ มือที่ถือโทรศัพท์สั่น เหมือนริมฝีปากจะแห้ง
“ วุฒิ อย่าบอกว่ามรึง.........”
“ เออ กรูทำ” ไอ้วุฒิว่า ผมหลับตาลงไม่พยายามนึกถึงสภาพจุม ครั้งที่แล้วเข้าโรง-บาลไม่พอหรือไง...
“ ทำไมวุฒิ !? ทั้งที่มรึงบอกกรูว่า ไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่มรึงก็ทำทุกครั้ง” ผมพยายามปรับเสียงไม่ให้แตกพร่า
จุม
“....................”(ไอ้วุฒิเงียบก่อน)
“ มรึงไม่เข้าใจกรูหรอก”
“ กรูไม่เข้าใจมรึง หรือมรึงไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย”
“ กรูก็พยายามแล้ว ....เอาเป็นว่ากรูฝากดูด้วย” ไอ้วุฒิพูดตัดบท
“ อืม เดี๋ยวกรูไป”
ก็แค่เพื่อน ไปยุ่งมากก็ไม่ได้ ใช่ไหม?
.
.
.
ผมจอดรถหน้าคอนโด แล้ววิ่งไปเอากุญแจที่ รปภ.ตามไอ้วุฒิฝากไว้ให้ ก่อนที่จะกลับมาที่รถแล้วขับเข้าไปจอดในชั้นใต้ดิน ตามด้วยขึ้นลิฟท์ขึ้นไปชั้นบน
แกร๊ก....เสียงปลดล็อคเมื่อผมไขกุญแจ
“..................”
ในห้องเงียบ ผมหันไปรอบๆ ทุกอย่างนิ่งสงบจนเหลือเชื่อ
ผมรีบเดินตรงไปที่ห้องปีกซ้าย ที่เป็นห้องของจุม ประตูปิดไว้แต่ไม่ได้ล็อค ผมเลยเปิดก้าวเท้าเข้าไป
“ .........จุม?” ผมเรียกจุมที่นอนบนเตียง ไม่มีเสียงตอบ พอผมเดินไปเรื่อยๆจึงเห็นว่าจุมกำลังหลับอยู่ ใบหน้าสีซีดบัดนี้ดูแดงกว่าปกติ ผมเอามือทาบหน้าผากดูว่าตัวร้อนไหม?
ตัวร้อน แต่ไม่มากจนน่าตกใจ ข้างๆหัวเตียงมีแก้วน้ำ และขวดยาพาราสีขาว อย่างที่ไอ้วุฒิบอกผมว่า ให้จุมกินยาแล้ว
พอผมสังเกตรอบๆห้องดี ๆ เลยได้เห็นว่าโต๊ะที่จุมวางหนังสือเรียนที่ปกติจะจัดเป็นระเบียบ แต่ตอนนี้กลับมีหนังสือ สมุด ปากา ดินสอวางอยู่ระเกะระกะ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าหนังสือหลายเล่มจะดูเหมือนถูกวางเป็นระเบียบก็ตาม เก้าอี้ที่เป็นชุดกันหันมาด้านนี้ อนหน้านี้มีคนนั่งอยู่ตรงนี้ และหันหน้ามามองคนที่นอนอยู่ ห่างจากขาเก้าราวคืบมีแท่งยางลบหล่นอยู่ ผมเดินไปเก็บแล้ววางไว้บนโต๊ะ ก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้
“................” นั่งอยู่อย่างงั้น นั่งมองดูที่จุมที่หลับด้วยลมหายใจที่สม่ำเสมอ ก่อนที่จะพูดบางอย่างออกมา
“ พี่ พี่ อย่า ครับ” แขนปัดป้องอากาศ
“พี่ !?” ผมลุกขึ้น
“?.....!” จุมขยับและลืมตาขึ้น
“ พี่แบงค์?” จุมดูเหมือนตกใจอยู่บ้าง
เจ็บไปทั้งอก
“ ไอ้วุฒิมันให้พี่มาดูจุม ......ปวดหัวไหม?” อะไรๆก็กดมันเข้าไปข้างใน แล้วทำตัวให้เป็นพี่ชายที่ดี
“ ไม่ค่อยแล้วครับ” (บอกพร้อมเดินเข้าไปหา)
“ นอนเถอะ ไม่ต้องลุกขึ้นมา”
“ ผมนอนมาเยอะแล้วครับ” บอกแล้วยิ้มที่ดูยังไงก็ฝืนเต็มที่
จะให้พี่พูดว่า ก็น่าจะไม่เป็นไรแล้ว แค่นี้คงไม่เป็นไร เพราะจุมเคยโดนหนักกว่านี้ แค่นี้สบายๆ ใช่ไหม? กลืนคำพูดลงหัวใจ
“ ............”
“ กี่โมงแล้วครับ?”
“ 9 โมง” ผมตอบ
ความจริงแล้วนั้นจะออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมง 20 แต่คิดว่าถ้ามาถึงไอ้วุฒิก็คงอยู่และมันเร็วเกินไปที่ผมจะมา....
“ ผมไม่ได้เป็นอะไร แค่มีไข้นิดหน่อย ขอบคุณพี่ที่มาดูผม แต่ถ้าพี่แบงค์มีธุระที่อื่นก็ไปได้นะครับ” บอกพร้อมลุกขึ้น แต่กลับเซ ผมจับต้นแขนไว้ทันที
หันไปมองหน้าจุม เมื่อ 10 นาทีที่แล้ว ตัวแค่อุ่นๆแต่ตอนนี้กลับร้อนมาก
“.........................”
“ จะให้พี่กลับได้ยังไง ถ้าเมื่อกี้จุมล้มหัวฟาดพื้นไปเมื่อกี้ ไอ้วุฒิได้ฆ่าพี่แน่” และพี่คงขาดใจ
“ ครับ” จุมเดินถอยหลัง แล้วนั่งลง(บนเตียง) โดยมีผมจับต้นแขนประครองไว้
“ เมื่อกี้ผมก็ว่าดีแล้วนะครับ แต่พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละ รู้สึกว่าจะเวียนขึ้นมา” จุมแก้ตัว สีหน้าแย่ากว่าเดิม ทั้งยังเริ่มมีเหงื่อซึมออกมา
“ ไหวไหม?” ถามด้วยความเป็นห่วงอย่างแท้จริง
“ ผมขอนอนดีกว่าครับ” จุมบอกจะนอนลง แต่กลับเอายกมือปิดปาก แล้วลุกพรวดขึ้นตามด้วยวิ่งตัวเอียงๆเข้าห้องน้ำไป
“ จุม!?” ผมวิ่งตามไปติดๆ
“ ...................”
จุมอาเจียนอยู่อ่างล้างหน้า
“ ................จุม” ผมเอามือลูบหลัง
“ พี่ว่าพี่พาจุมไปหาหมอดีกว่า”
“ ไม่ เป็น ไรครับ ผมนอนพักก็หาย” จุมบอก หันหน้าแดงๆน้ำคลอดเต็มเบ้าตาบอก
“ ไม่เป็นไรไม่ได้!?” ผมว่า หยิบหน้าหน้ายื่นให้จุม น้องเขายื่นรับแต่ผมเปลี่ยนใจ เช็ดปากให้จุมเอง
“.................... ………….”(จุม)
“ ยังพี่ก็ต้อพาจุมไปหาหมอ”
“ ...............แต่ผม...”
“ อย่าดื้อ เชื่อพี่ ให้หมอเป็นคนบอกว่าจุมไม่เป็นไร พี่ถึงจะเชื่อ”
จุมทำท่าคิดก่อนที่จะตอบ
“ ...................................ครับ...” เมื่อจุมตอบผมเดินมาย่อตัวลงข้างหน้าจุม
“ อะไรครับ?” จุมถาม ผมหันหน้าไปตอบ
“ ขึ้นมา พี่จะแบกจุมไปรถเอง”
“ ไม่เป็นไรครับพี่ ผมเดินได้ ไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น” รีบตอบทันที
“ พี่รู้ว่าจุมเก่ง แต่เมื่อกี้จุมก็เกือบล้มลงไปใช่ไหม? ดังนั้น พี่ว่าพี่แบกจุมดีกว่า พี่จะต้องไม่คอยพะวงว่าจะล้มตอนไหน?”
“ ผมเดินเองได้จริงๆครับ” ยังยืนนิ่งไม่มีท่าว่าจะยอมให้ผมแบกง่ายๆ
“ จุม!” ผมลองทำเสียงดุ จุมเงียบ
“.........................”
“.......................” ผมบังคับจุมมากเกินไป จะหันหน้าไปมองว่า งั้นให้จุมเดินเอง แต่น้องเขาก็เดินเข้ามากอดคอผมแล้ว
“ ......................................” ผมพยายามไม่ดีใจ แต่ก็อดยิ้มที่มุมปากไม่ได้จริงๆ ก่อนที่จะเอามือคล้องขาจุมแล้วยืนขึ้น
“ ถ้าหนักมาก ไม่ต้องก็ได้นะครับ” จุมพูดเสียงเบา
“ ไม่หนักหรอก จุมผอม” ผมจะหนักได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้ตัวผมแทบจะลอยได้อยู่แล้ว
ผมแบกจุมออกห้องน้ำ ตามด้วยเดินไปหยิบกุญแจรถที่โต๊ะ
“.....................” ผมกำลังยิ้ม หวังว่าจุมคงไม่เห็น
*
ผมกับจุมนั่งรอพยาบาลเรียกชื่อบนเก้าอี้ที่เรียงติดๆกัน พวกผมนั่งแถวที่2 ด้านหน้ามีป้าแก่ๆ กับเด็กหนุ่มที่น่าเป็นหลายชาย ด้านหลังมีนักศึกษาหญิงนั่งอยู่คนเดียว
“ ................” ผมหันหน้ามองจุม
ตัวร้อนขึ้นเรื่อยๆ.....จุมหันหน้ามา
“ ...............ครับ?........” (จุม)
“ นายจุมฟ้า...............ค่ะ” พยายบาลตัวบางพูด จุมกับผมยืนขึ้นพร้อมกัน
“เดี๋ยวผมไปเองนะครับ” จุมบอก ผมได้แต่พยักหน้านั่งลงที่เดิม พร้อมกับสายตาที่มองตามจุมเข้าห้องไป
“........................”
ราวๆ 10 นาทีจุมก็เดินออกมาจากห้อง พร้อมพยาบาลคนเดิม ผมลุกขึ้นเดินตรงไปหา
“ หมอบอกว่ายังไง?”
“ เป็นไข้ธรรมดาครับ ให้รับยาและพักผ่อนเยอะๆก็หายแล้ว” (คลี่ยิ้ม)
“ แล้วเรื่องที่อาเจียนล่ะ?”
“ อาจจะเป็นเพราะเครียดครับ” เรื่องเครียดแล้วอาเจียนผมก็พอได้ยินบ้าง
เครียด
“ ........................”
.
.
.
ผมกับจุมออกจากโรงงพยาบาลมาแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทางที่จะกลับคอนโด
“.......................จุม” ผมเรียกจุม เพราะเมื่อผมหันไปจุมก็หลับ
จุมเอียงหน้าคอตกด้านที่ผมนั่งอยู่ผม มีถุงยาสีขาววางบนตัก ร่างกายผอมๆอยู่ในเสื้อยืดสีขาวคอกลมแขนยาว กางเกงยีนต์สีซีด.....
กึก.. ผมจอดรถเมื่อสัญญาณไปจราจรเปลี่ยนเป็นเป็นสีแดง
“........................” ผมหันไปจัดตัวจุมให้นั่งท่าสบาย แล้วผมก็อดที่จะดึงแขนเสื้อจุมขึ้นดูไม่ได้ อยากรู้ว่าจะมีอะไรที่ไม่อยากเห็นหรือเปล่า
เหมือนเดิม
“...” ผ้าก็อตสีขาวพันไว้หลายชั้น บางชันหลวมบ้างชั้รแน่น น่าจะเป็นไอ้วุฒิทำมากกว่าที่จะเป็นจุม
..............คอผมมันจุกเสียให้ได้ จนเหมือนจะหายใจไม่ออก
[/b] ตุบ!ตุบ!! [/b]
มือผมอีกข้างกำแน่นทุบกับพวงมาลัย(รถ)เต็มๆแรง โกรธเพื่อน โกรธไอ้วุฒิ และโกรธตัวเอง
“......................” จุมลืมตื่นขึ้นมา (คงตื่นเพราะได้เสียงที่มือทุบพวงมาลัยเมื่อกี้) ผมก็ไม่ได้เอามือออกจากมือจุม
“ พี่แบงค์?” จุมว่ามองหน้าผม ก่อนที่มองมือผมที่จับมือน้องเขา
“....................................” ผมเป็นฝ่ายนิ่ง จุมก้มลงหลบสายตาผม
“ ......................”
ผมจับมือจุมค้างไว้อย่างงั้น จนกระทั่งสัญญาณไปเปลี่ยนเป็นสีเขียวจึงยอมปล่อย
ไอ้วุฒิ เมื่อไรมรึงจะหยุด เมื่อไรที่มรึงจะยอมรับความจริงว่ามรึงรู้สึกยังไงกับจุม.............ยิ่งมรึงไม่ยอมรับมากเท่าไร มรึงก็ยิ่งทำร้ายจุม.........
ผมจอดรถแล้วรีบไปหาจุมที่กำลังเปิดประตูออกมา ผมย่อตัวลง
“................” จุมใม่พูดอะไร นอกจากโน้มตัวลงกอดคอผม(มือข้างขวาจุมถือถุงยา)
“ .....................” ผมแบกจุมเดินไปลิฟท์เงียบๆ ผมไม่ได้แอบอมยิ้มเหมือนตอนที่แบกจุมลงมา
กดชั้น แล้วยืนนิ่ง มองปุ่มไปที่เปลี่ยนปุ่มตามชั้นไปเรื่อยๆ
---- เงียบ ----
---- เงียบ ----
ผมเดินออกจากลิฟท์มาแล้ว เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงเท้าผมที่กำลังเดินเท่านั้น
“.................”
จนมาถึงหน้าห้อง มือผมที่กำลังยื่นจับลูกบิดประตูชะงัก เพราะ
“ ฮือๆ” เสียงที่เหมือนสะกดไว้แล้ว แต่มันก็ยังเล็ดรอดออกมาก ไหล่ผมเปียกเพราะน้ำตาจุมที่ไหลออกมา ทั้งหน้าที่ซบไหล่ผม ทั้งตัวที่ผมแบกอยู่กำลังสั่นเทิ้ม
ถ้ามันหนักนักร้องออกมาเถอะร้องออกมา..
ผมยืนนิ่งทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่เห็น ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วปิดแต่ก็ยืนไม่ห่างจากประตูไปมากกว่า 2 ก้าว
“ อึ้ก ฮือๆ” เสียงสะอื้นเป็นพักๆ
“ ...........................”
ผมยืนอยู่ที่เดิมแม้เวลาจะเดินไปเรื่อยๆ
“ ไม่หนักหรือครับ?” จุมถามหลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป จุมหยุดร้องไห้แล้วแต่ก็ยังสะอื้น
“ หนักมากๆ” ผมหันหน้าไปแล้วตอบ หน้าผมห่างจากหน้าจุมไม่คืบ เพราะงั้นผมถึงเห็นคาบน้ำตาบนหน้าน้องเขาชัดเจน
“ ขอโทษครับ” ขยับตัวจะลง แต่ผมเดินไม่ยอม
“ อย่าเพิ่งลง ยังไม่ถึงห้อง” ผมบอก ขาที่ยืนอยู่เป็นครึ่งชั่วโมงชานิดๆ
“ แต่.........” จุมว่าผมเลยหันไปจ้องหน้า จุมพาสายตาฟลุบต่ำลง
“ ........................” ผมพาจุมเข้าไปในห้อง พอถึงห้องจุมก็ดิ้นที่จะจะลงท่าเดียว ผมเลยต้องยอม
“ เมื่อกี้ผม...”
“ พี่ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น หูพี่ก็อื้อเลยไมได้ยินเสียงอะไรเลย” ผมรีบพูดตัด ไม่อยากให้จุมลำบากใจไปมากกว่านี้
“ พี่ครับ.........”
“ มีอะไรลำบากใจ หรืออยากให้พี่ช่วยก็บอก”
“ ขอบคุณนะครับ”
“ เปลี่ยนคำขอบคุณ เป็น...........”
ให้...............ถ้าเป็นพี่
ถ้าพี่เป็นไอ้วุฒิ
และจุมรักพี่...................
........เปลี่ยนคำขอบคุณ เป็นจุมรักพี่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่จะไม่ปล่อยมือจากจุม พี่ปกป้องจุมอย่างที่สุด เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
ตึด---------------ตึด-------ตึดตึด (เสียงกดออดหน้าห้อง)
“...........” จุมเดินจะไปเปิด
“ เดี๋ยวพี่ไปเอง” ผมบอกพร้อมกับเดินออกมา และไปเปิดประตู
“ ...............”
“ วุฒิ?” ไอ้วุฒิก้าวเข้ามา
“ เป็นไง หายไข้หรือยัง?” ไอ้วุฒิถามเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องจุม ผมเดินตาม
“ ยาอะไร !??” เมื่อผมเข้าไปในห้อง ถุงยาที่จุมถือเมื่อกี้ก็ไปอยู่ในมือไอ้วุฒิ
“ พี่แบงค์พาไปหาหมอ หมอเลยให้ยามาครับ” จุมบอก ไอ้วุฒิอ่านซองยาทีละซองแต่กวาดสายตารวดเร็ว
“ พี่ไม่ได้ไปช่วยคุณพ่อทำงานหรือครับ?” จุมถาม ซึ่งผมก็กำลังจะถามพอดี (อีก 20 นาทีจะเที่ยง)
“ ถ้ากรูไปจะเห็นกรูไหม!” ไอ้วุฒิตอบ โยนถุงยาลงเตียง
“ เออ แบงค์ขอบคุณ” หันมาหาผม
“ เห็นจุมตัวร้อนเลยพาไป” ผมบอก
“ มรึงจะกลับเลยไหม? ยังไงอยู่กินข้าวก่อนดิ ไอ้ชนะมันจะซื้อข้าวอร่อยขั้นเทพที่ไหนมาไม่รู้ แต่กรูบอกมันแล้วว่ามรึงอยู่ด้วย”
“ อืม” (ผม)
อยากอยู่...........มากอยู่แล้ว
“ งั้นกรุอาบน้ำก่อน เหนียวตัว” ไอ้วุฒิบอก เดินออกจากห้องไปห้องมัน ผมเดินตามไปติดๆ
“ วุฒิมีเรื่องคุยด้วย” ผมบอก ไอ้วุฒิกำลังปลดไทด์จากคอ
“ เรื่องไร?”
“ เรื่องจุม” ผมบอก ไอ้วุฒิที่กำลังปลดกระดุมหยุดชะงัก และหันหน้ามาหาผม
“จุมทำไม!?” (เสียงแข็ง)
“ วุฒิ!? มรึงก็รู้ว่ากรูจะพูดอะไร” ไอ้วุฒิหันกลับไป แล้วถอดเสื้อเป็นปกติ
“ กรูรู้ว่ากรูกำลังทำอะไร” ตอบเหมือนๆทุกที
“ มรึงทำร้ายจุมมาก มรึงรู้ตัวไหม?”
“ แล้วมรึงรู้ไหม
ว่าทำไม?!” หันมาหาผมอีก และจ้องหน้าผม
“ ไม่มีเหตุผลไหน มากที่มรึงจะทำร้ายจุมเหมือนเจ็บไม่เป็น”
“ มันพูดไม่รู้เรื่อง”
“ ...........................”(ผม)
“ แม่ง!? เมื่อคืนล็อกห้อง ไม่ยอมกรูเข้าไป! คงอยากลองดี” “ ไม่ใช่วุฒิ ไม่ใช่” ผมรู้เหมือนกำลังจะร้องไห้
“ ใช่ มันอวดดี คงคิดว่ากรูต้องยอมมันหรือไง คงคิดว่าตัวเองสำคัญกับกรู!”
“ แล้วมันไม่ใช่หรือไงวุฒิ?”
“ .....................” ไอ้วุฒิเงียบ เพราะผมพูดแทงใจดำ !
“ มันอยากรักกรูทำไม”
“ วุฒิ!?”
“ กรูจะอาบน้ำ!” พูดเสียงดัง เดินเข้าห้องน้ำไปทั้งอย่างงั้น
“ ...................................”
ทำไมต้องกลัว ความจริง
เพราะความจริงมันโหดร้าย..............
ต้องใช้ความกล้ามหาศาล แต่บางครั้งก็ไม่พอ
ถ้าเราอ่อนแอ ทำได้แค่หลีกหนี................................เท่านั้น
* * *
ถ้าเราอ่อนแอ ทำได้แค่หลีกหนี................................เท่านั้น
ผมเข้าใจแบบนั้นมาตลอด จนเมื่อจุมไปจากไอ้วุฒิ ..วันที่จุมหนีไป ผมถึงได้รู้ว่าการที่หนี ไม่ใช่ว่าเราอ่อนแอ แต่เพราะเราเข้มแข็ง...........................ขึ้นก็เป็นได้..
* * *
ขอบคุณคอมเม้นต์ ผลโหวต ที่เข้ามาอ่าน
ปล.ตอนต่อพี่ชนะไม่ถึงวันอสฃาทิตย์หรอกเน้อ
ปล. ท่านที่ตามมาที่หลังจากการอ่านกี่วันกี่คืนนั้น ขอบคุณในความพยายามจริงๆ