บุพเพวายร้าย(สอง)
23.
เจนกลับไปแล้ว ผมเดินขึ้นห้องในสมองคิดแต่เรื่องว่าทำไม ไอ้แบงค์ถึงเลิกกับเจน และเจนก็พูดไม่เคลียร์ ถ้าจะอยากจะให้ผมช่วยก็น่าจะบอกกันบ้าง แต่เจนก็มีสิทธิ์ที่จะไม่บอกผม
แต่ที่แน่ๆรู้สึกว่าจะเป็นไอ้แบงค์ที่เป็นฝ่ายเลิก
ผมเดินออกจากลิฟท์เปิดประตูเข้าห้อง
“…………………” ผมชะงักทันทีที่ เห็นไอ้แบงค์ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีครีมเรียบๆ…กำลังเก็บกระป๋องเบียร์ใส่ถุงพลาสติกตรงโชฟา และตอนนี้กำลังหันหน้ามามองผม
ผมทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน
“…………………”
รู้สึกเหมือนสายตาไอ้แบงค์มองทะลุตัวผมไปยังประตูที่อยู่ด้านหลังจนผมคิดว่าด้านหลังของผมมีอะไรกันแน่
“ ไปไหนมา?” ไอ้แบงค์ถามคงออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่เจอผม (ถือแก้วกับขวดเหล้าที่ผมกินไปหมดเดินเข้าไปในครัว)
“ ข้างล่าง” ผมตอบไม่ตรงคำถามเท่าไร
“ มีอะไรหรือเปล่า?” ไอ้แบงค์ถาม ยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว คงหมายถึงว่าผมทำไมกินเหล้ามากมายขนาดนี้
“ สนใจด้วย เหรอ?” ผมถาม และก้าวเดินหลังจากที่ยืนเป็นหินนิ่งมานานนับตั้งแต่เปิดประตูมาเจอไอ้แบงค์
“ กินน่ะกินได้ แต่ขนาดนี้ ก็คงไม่ไหว” ไอ้แบงค์บอก ผมเบือนหน้าไปยังถุงสีขาวที่ไอ้แบงค์เก็บกระป๋องเบียร์ใส่แล้วมัดปากถุงไว้
“ ถ้าไม่กินนอนไม่หลับ และเวลาเมามันก็ลืมเรื่องที่อยากลืม เหล้ามันช่วยด้วย มรึงก็รู้….” ผมบอกหันไปสบตากับไอ้แบงค์ อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงมาที่นี่ทั้งๆที่ผมบอกไม่ให้มา แล้วยังทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ แค่ชั่วคราว …………………………………….” ผมกับไอ้แบงค์มองตากันเหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดเอาไว้แน่นหนา
“ แค่ชั่วคราวก็
ดี” ผมว่าฝืนยักยิ้ม เอื้อมมือไปจับต้นแขนไอ้แบงค์
“ …………” ไอ้แบงค์ขยับปากเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด ทำให้บรรยากาศยิ่งอึดอัดโดยเฉพาะผม
“……………………. ห้องกรูไม่ใช่โรงแรมที่มรึงอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป…” ผมพูดเสียงเบาโดยไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งเห็นหน้าไอ้แบงค์ผมก็ยิ่งคิดถึง ยิ่งเห็นหน้าผมก็คิดว่าแค่นี้มันไม่พอ…
“ ขอโทษ” ปากไอ้แบงค์พูด สีหน้าแววตาก็บอกผมแบบนั้น
“ ยกโทษให้” ผมบอกเพราะถึงจะต่อว่าไอ้แบงค์มานักก็นักแต่ไม่เคยโกรธไอ้แบงค์จริงๆเลยสักครั้ง นอกจากน้อยใจ ผมเดินเข้าไปหาไอ้แบงค์แล้วซบหน้าลงบนไหล่มัน
ทำไมเพิ่งมา กรูต้องการมรึง กรูต้องมีมรึง
“ อย่าทำเหมือนมรึงไม่แคร์กรูแบบนี้อีกได้ไหม?”(ผม)
“ ได้” ตอบทันทีเหมือนไม่คิด ที่ตอบเพื่อให้ผมสบายใจหรือเปล่า
คำพูดนี้เป็นหน้าที่ของเพื่อนหรือเปล่า ห๊ะแบงค์
“ รักกรูไหม?” ผมถาม แขนทั้ง 2 ค่อยๆกอดลำตัวไอ้แบงค์
“…………………….”
เงียบ
ไอ้แบงค์เงียบ
ผมก็เงียบเพราะรอฟังคำพูดจากไอ้แบงค์ ทั้งๆที่รู้ว่าไอ้แบงค์มันรักใคร แต่ผมก็แอบหวัง…ว่าหัวใจมันจะแบ่งที่ให้ผมบ้าง
“…………………….”
“กรูรู้ว่ามรึงรักจุม แค่ถามไปงั้นแหละ เผื่อมรึงจะบอกว่ารักกรู
บ้าง” ผมว่ากอดไอ้แบงค์แน่น อยากจะกอดมันไว้แบบนี้ นานเท่าที่จะทำได้
“ ชะ นะ”
“ แค่สองสามวันที่มรึงหายไป …คิดถึงมรึง
มาก” ผมบอกให้ไอ้แบงค์รับรู้
“ มรึงเป็นคนบอก..ว่าไม่ให้กรูมาที่นี่ ไม่ให้โทรหามรึง”
“ มรึงก็โง่ทำตาม สมองมีคิดบางดิว่ากรูประชด”
“……………”(ไอ้แบงค์)
“ เป็นเพื่อนก็ได้
แต่อย่าหายไป” ผมว่าเงยหน้าขึ้นมองหน้าไอ้แบงค์ คำว่า ‘แต่อย่าหายไป’เสียงแผ่วหายเข้าไปในลำคอ ผมจูบแก้มไอ้แบงค์เบาๆ
“ เพื่อนเขาไม่ทำกันนี้หรอก” ไอ้แบงค์ว่าจ้องหน้าผม
“แต่กรูทำ” ผมบอกจริงจัง
“……………”(ไอ้แบงค์มองหน้าผมสีหน้าเหมือนกำลังแก้โจทย์เคมีที่ตีโจทย์ไม่แตก)
“…………………………………………..………”
“ มรึงมันบ้า” ไอ้แบงค์พูดเหมือนจะยิ้มนิดๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกที่ไอ้แบงค์พูดคุยกับผมได้แทบจะเป็นปกติ
“ และต่อจากนี้คนบ้าจะลวมลามมรึงด้วย” ผมบอกยักคิ้ว แล้วเอามือลูบอกไอ้แบงค์ เจ้าตัวจับมือไว้ทันที
“ จะบ่าย3แล้วไปหาอะไรกินกัน?” ไอ้แบงค์ชวน นี่มันคิดว่าผมล้อเล่นหรือไง
“ มรึงหิว?” ผมถาม และแล้วท้องไอ้แบงค์มันก็ร้อง ผมไม่คิดว่าไอ้แบงค์มันจะปล่อยให้ท้องร้องหิวแบบน้ำได้ ไอ้แบงค์มันมันอมยิ้มแบบเขินๆ ผมสบายใจขึ้น
“หิว ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า” ไอ้แบงค์บอกเหตุผลที่ท้องร้องเมื่อกี้
“ ไม่กินกรูก่อนล่ะ?” ผมพูดพร้อมจะจูบไอ้ไอ้แบงค์ แต่ไอ้แบงค์มันเอามือมาดันหน้าผมไว้
“ จะกินข้าวไม่ได้จะกินอย่างอื่น” ไอ้แบงค์ว่าเดินหนีผมเข้าห้อง(เข้าทาง)
ผมดึงคอเสื้อด้านหลังของไอ้แบงค์ ขณะที่เจ้าตัวกำลังยัดกระเป๋าเงินสีดำลงกระเป๋ากางเกง
“ อะไรครับคุณชนะชัย?” หันกลับมา
จุ๊บ!
ผมจูบไอ้ปากไอ้แบงค์รวดเร็วมันจะได้ตั้งตัวไม่ทัน
“ ปากมรึงหวานดี กรูชอบ” ผมบอก
“ ชนะ!?.......” “ เป็นเพื่อนกรูต้องทน เพราะกรูชอบทำแบบนี้ ถ้าไม่อยาก ทน ก็..” ผมสบตาไอ้แบงค์แล้วพูดต่อโดยเน้นย้ำทีละคำ
“ก็
เป็น…. อย่าง อื่น…”
“ ชนะ เรา 2 คน…”
“ อย่า อย่าพูด กรูรู้เข้าใจ” ผมรู้ว่าไอ้แบงค์มันจะพูดว่าอะไร ตอนนี้ผมไม่อยากได้ยิน ‘ชนะ เรา 2 คนเป็นเพื่อนกัน’
“ ชนะ!” ไอ้แบงค์เรียกผมเสียงดังกว่าปกติ พร้อมเอามือจับหน้าผมแล้วก็
จะ
!?!…จูบปากผมหนักหน่วง
O{}
0!? ผมตกใจระคนมึนงงกับการกระทำนี้แต่ไม่นานผมรับรู้ว่าไอ้แบง์กำลังจูบผมจริงๆ ผมโต้ตอบด้วยปากของผมที่คิดว่าหนักหน่วงไม่แพ้กัน ไอ้แบงค์มองตาผมเหมือนที่ผมกำลังจ้องหน้าโต้ตอบ
!? แต่
ไอ้แบงค์ดันไหล่ผมออกจากตัวกระทันหัน แม้ว่าผมจะพยายามยื่นหน้ายื่นหน้าจูบปากมันต่อก็ตาม
“ พอใจหรือยัง!?” ไอ้แบงค์ถาม คงหมายถึงจูบเมื่อกี้
“ ไม่พอ!” ผมบอกก็น่าจะเห็นว่าผมไม่พอใจกับแค่จูบ
“ ต้องพอ เพราะกรูให้ได้แค่นี้” ไอ้แบงค์ตอบจริงจัง
“ไม่สึกเหรอหรอก ถ้าท้องเดี๋ยวรับเป็นพ่อให้”( ผม)
“ …………………………ตกลงจะไปกินข้าวได้กันไหม?” ไอ้แบงค์ทำเข้มถามเปลี่ยนเรื่อง
“ ไปดิ” ผมว่า “ กรูจะกินไปจีบมรึงไปด้วย”
“ ชนะ!” พูดเหมือนอ่อนใจ แล้วหันไปหยิบเอาโทรศัพท์และกระเป๋าตังค์ของผมที่วางช้อนกันขึ้นมา ผมเดินยืนช้อนหลัง พอไอ้แบงค์มันหันกลับมาก็จะเอ๋กับผมที่กำลังยิ้มโปรยเสน่ห์ให้
“ รักนะครับ แบงค์” ผมบอก ไอ้แบงค์นิ่งไป มันคงอึ้ง
“……………”(ไอ้แบงค์)
ไม่ต้องอึ้ง มีอีก
“ เมียรักผัวนะครับ” ผมบอกอีก ไอ้แบงค์เอามือดันหน้าผมให้หลีกทาง ผมจับมือไอ้แบงค์แล้วยกคิ้วขึ้นลง เป็นการบอกว่าถ้าจะทำอะไรเอาให้มันจริงจังแค่นี้คนหน้าด้านอย่างผมไม่สะทกสะท้าน
“ ชนะกรูขนลุก”
“ หยาบคาย กรูอุตสาห์บอกจากหัวใจ”(ผมทำมือเป็นรูปหัวใจทาบที่อกตัวเอง)
“ ชนะ!”
“หรือมรึงว่ากรูโกหก” ผมพูดไอ้แบงค์เดินหนีไปเลย
“ แบงค์ขอโทษ” ผมเดินตามเร็วๆ
“……………”(ไอ้แบงค์เดินออกจากห้องไปแล้ว)
“ กรูไม่พูดแล้วก็ได้” ผมบอกกลัวไอ้แบงค์มันโกรธจริงๆ ใจมันสั่นและกังวล
ไอ้แบงค์มันกดลิฟท์ลง แล้วหันมาหาผมที่ยืนอยู่ซ้ายมือ
“ ……..เดี๋ยววันนี้กรูเลี้ยง” ไอ้แบงค์บอก แล้วมันไม่โกรธผมแล้วเหรอ?
“ กรูเลี้ยงดีกว่า เป็นการขอโทษมรึงด้วยที่กรูทำให้มรึงโกรธ” ผมว่าลอบสังเกตท่าทางไอ้แบงค์ด้วยว่ามันโกรธผมไหม?
“ กรูโกรธที่ไหน” ไอ้แบงค์พูดพร้อมยิ้มเล็กน้อย ผมคิดว่ามันฝืนยิ้มมากกว่า
กิ่ง!
ประตูลิฟท์เปิดพร้อมกับคนที่ยืนด้านใน 5 คน ผมกับไอ้แบงค์เดินเข้าไปยืนด้านหน้า
“……………” ผมยืนข้างๆไอ้แบงค์ไหล่เรา2คนติดกัน ผมหันไปมองหน้าด้านข้างไอ้แบงค์ก่อนที่เจ้าตัวจะหันมามองผม
ไอ้แบงค์ก้มลงเล็กน้อย คงคิดว่าผมจะพูดอะไรแต่ผมส่ายหน้า
“……………” ผมรู้สึกดีโคตรๆ กับไหล่ผมไอ้แบงค์ที่ชนกันแบบนี้
ความสุขเกิดขึ้นง่ายกว่าที่คิด
.
*
.
“ กินเยอะๆจะได้รักกรูเร็วๆ” ผมบอก หลังเอาช้อนตักไข่นกกระทาใส่จานสเต็กแบงค์(ผมนั่งตรงข้าม)
“…………….” ไอ้แบงค์เงียบแต่ก็กิน ผมหุบยิ้มไม่ได้ ให้ตายเถอะไม่ว่าผมจะมองไอ้แบงค์มุมไหนมันก็หล่อดูดีไปหมด
กริ้งๆ กริ้งๆ
ผมกดรับโทรศัพท์ ไอ้วุฒิโทรมา
“ ชนะ!?” เสียงดังและเร็วกว่าปกติ ซึ่งถ้าลักษณะนี้ก็น่าจะเป็น..
“เจอจุมแล้ว!” …เป็นอย่างที่ผมคิด ผมมองหน้าไอ้แบงค์ที่กำลังนิ่งฟัง แต่ไม่ได้ยินว่าไอ้วุฒิพูดว่าอะไร
กริ้งๆ กริ้งๆ
แทบจะทันทีโทรศัพท์ไอ้แบงค์ดัง ไอ้แบงค์รับทันทีที่มองหน้าจอ และคนที่โทรมาก็คือ พี่ยศ นักสืบที่ผมกับไอ้แบงค์ว่าจ้างตามหาจุมอีกแรงหนึ่ง
สีหน้าไอ้แบงค์บอกผมว่ามันรู้ข่าวเหมือนที่ผมรู้แล้ว และสีหน้าไอ้แบงค์ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังทันทีเช่นกัน
“ ที่ไหน?” ผมถามไอ้วุฒิ ข่าวของจุมครั้งนี้ความรู้สึกของผมแตกต่างจากทุกครั้ง…
….แบงค์…………………………………………
“ ระยอง!” ไอ้วุฒิบอกน้ำเสียงยังตื่นเต้นอยู่ ทุกครั้งที่มีข่าวของจุมไอ้วุฒิมันจะใช้คำว่า ‘เจอจุมแล้ว’ และทุกครั้งก็ไม่เจอจุมทุกครั้ง แม้แต่เงาก็ไม่มี
ระยอง ครั้งนี้ใกล้กว่าทุกๆครั้ง
“ แล้วตอนนี้มรึงอยู่ไหน?” ผมถามคิดว่าไอ้วุฒิมันคงกำลังไประยอง
“ กำลังจะขึ้นทางด่วน” ไอ้วุฒิบอก ส่วนไอ้แบงค์กำลังเรียกพนักงานเก็บเงิน
“ รอกรูกับไอ้แบงค์ก่อน อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง” ผมบอก ลุกขึ้นพร้อมไอ้แบงค์ ที่วางเงินไว้บนโต๊ะ 500
“ เออ ได้ๆรีบมา ถ้าเกิน30 นาทีกรูไม่รอ” ไอ้วุฒิบอกผมวางสาย ก่อนที่มองไอ้แบงค์ ไม่มีคำพูดใดๆ แต่พวกผมรู้กัน แล้วรีบออกจากร้าน ลงบันไดไม่ใช้ลิฟท์มายังรถที่จอดอยู่คาร์ปาร์ค
“ ระยอง” ผมบอกขณะคาดเข็มขัดนิรภัย (ไอ้แบงค์เป็นคนขับ)
“ หวังว่าคราวนี้เราจะเจอจุมสักที” ไอ้แบงค์ว่าหักพวงมาลัยเลี้ยวขวา ด้านหน้ามีรถสีขาวที่ขับรถเหมือนเต่านำหน้ารถพวกผม
แม่ง! คนกำลังรีบ ผมเอามือทุบแตรไล่คันข้างหน้า พวกผมจะแซงก็ไม่ได้ เพราะออกเป็นช่องแทบพอดีคัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของห้างที่ต้องการประหยัดพื้นที่
“ ไอ้วุฒิมันบอก ถ้าเกิน30 นาทีมันไม่รอ” ผมบอกไอ้แบงค์ ปัญหามันไม่ได้อยู่ทีไอ้วุฒิรอไม่รอ เพราะที่อยู่ที่พี่ยศมีกับไอ้วุฒิก็ที่เดียวกัน พี่ยศกับนักสืบแม่ไอ้วุฒิทำงานด้วยกัน แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าไอ้วุฒิมันใจร้อนจะทำให้เรื่องมันยากไปอีก ขนาดมีพวกผมอยู่ก็จะรอดไม่รอดแล่ พอไปถามคนแถวๆนั้นเขาไม่บอกไม่รู้ ไอ้วุฒิก็หาว่าเขาโกหกอีก พอมันคิดว่าเขาโกหกไม่ยอมบอก มันก็โมโห พอมันโมโหก็เรื่องใหญ่สิครับ
“ อืม” ไอ้แบงค์ว่า ผมหันไปมอง ดูไอ้แบบงค์มันเครียดซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มีข่าวเรื่องจุม ใจผมเจ็บแปล๊บ หัวใจมันโหวงๆกลวงๆ
ถ้าเจอจุมที่ระยอง ไอ้แบงค์มันจะทำยังไง?
แน่นอนว่าไอ้วุฒิไม่ยอมปล่อยจุมแน่ แล้วไอ้แบงค์ล่ะ?
“ …..คราวนี้เราคงได้เจอจุมสักที” ผมพูด และกลายเป็นคำพูดที่ผมพูดทุกครั้งที่กำลังจะไปหาจุม
ผมต้องการปลอบไอ้แบงค์ ให้กำลังใจไอ้แบงค์ มันคงทรมานมากที่ไม่รู้ว่าคนที่เรารักอยู่ที่ไหน เป็นตายร้ายดียังไง..
“ อืม” ไอ้แบงค์ว่าตั้งใจขับรถต่อไป ไอ้แบงค์ดูนิ่งเหมือนทุกครั้งและคิ้วขมวดเหมือนทุกครั้ง
“……………” ไม่รู้ว่าเจอจุมแล้วไอ้วุฒิมันจะทำยังไง ถึงแม้ว่าจะรักมากก็ตามและถ้าจุมไม่ได้รักไอ้วุฒิแล้ว และมีคนดีๆเข้ามา … จุม?
ผมโทรหาไอ้วุฒิเพราะใกล้ถึงแล้ว ไอ้วุฒิบอกจอดรถรอบนทางด่วน ก่อนถึงช่องจ่างเงิน พอขึ้นไปก็เจอรถสามคันจอดอยู่ก่อนช่องเก็บเงิน (ด้านข้างติดขอบถนน)บีเอ็มสีดำเป็นรถไอ้วุฒิแต่มองไม่เห็นเจ้าตัวคงนั่งรออยู่ในรถ มีแต่พี่ยศ พี่ห้างและพี่การะเกดที่เป็นคนของพ่อแม่ไอ้วุฒิยืนจับกลุ่มคุยกัน
ไอ้แบงค์จอดรถหลังรถไอ้วุฒิ ตอนนี้จะสี่โมงแล้วแดดยังคงแรงอยู่
“ คุณชนะ” พี่ยศว่าเดินมาหาทันทีที่เห็นผมเปิดประตูออกมา ไอ้แบงค์และไอ้วุฒิเปิดประตูออกมา สบตากันแต่ไม่พูดอะไร
“ เดี๋ยวเอารถไอ้แบงค์ไป ส่วนรถมรึงก็จอดไว้นี่” ผมบอก เหมือนๆกับทุกที
“ ส่วนพวกพี่ก็เหมือนเดิม” ผมบอก ทุกคนเป็นอันเข้าใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ไอ้แบงค์นั่งเป็นขับ ไอ้วุฒินั่งด้านหลังที่ประจำ
“ วุฒิมรึงใจเย็น อยู่เฉยๆกรูกับไอ้แบงค์จัดการเอง” ผมบอก
“ กรูรู้น่า!” ไอ้วุฒิพูดเสียงรำคาญที่ผมมักจะบอกแบบนี้
ระหว่างทางที่จะมาหาไอ้วุฒิ ไอ้แบงค์เล่าเรื่องจากพี่ยศที่โทรมาให้ผมฟังแล้วว่า จุมทำงานที่ร้านอาหารชื่อ อิ่มอร่อย เพราะมีเด็กที่ทำเสริ์ฟที่นั่นบอกว่ารู้จักจุมจากรูปที่พี่การะเกดเอาให้ดู แม้ว่าพี่เขาจะไม่เห็นจุมตัวเป็นๆก็ตาม แต่แค่นี้ก็พอจะบอกได้แล้วว่าจุมอยู่ที่นั่น และอีกอย่างไอ้วุฒิมันต้องการทราบความคืบหน้าทุกอย่างเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องรอให้เจอจุมก่อน มันก็พร้อมที่จะพุ่งไปดูสถานที่จริง
“……………”
ในรถมีแต่เสียงจากวิทยุคลื่นที่เปลี่ยนตามสถานนีท้องถิ่นที่เปิดเพลงสลับกับการพูดคุยที่เฮฮาต่างจากพวกผม 3 คนที่กำลังเครียดที่ไม่แม้แต่มีการพูดคุยกันสักคำ…
ผ่านไปสักชั่วโมงได้ ผมหันหน้าไปมองไอ้วุฒิที่กำลังกำสร้อยที่ห้อยคอ(สร้อยร้อยแหวน 3 วง) สายตาไอ้วุฒิมองออกไปริมทาง ก่อนที่ผมจะหันไปมองไอ้แบงค์ที่มองแต่ถนนตรงหน้าเท่านั้น
ไอ้แบงค์มันกำลังรู้สึกแบบไหน? แต่มันคงทรมานมาก..
6 โมงเย็นพวกผมก็ถึงระยอง และต่อจากนั้นราวครึ่งชั่วโมง ไอ้แบงค์ก็จอดรถตามรถพี่ยศที่ร้าน อิ่มอร่อย (มีป้ายไม้สลักหน้าร้าน) ไอ้วุฒิเปิดประตูออกไปทันทีที่รถจอดผมเองก็เช่นกัน
“ เดี๋ยวเราเข้าไปนั่งกินอะไรดูก่อนแล้วกัน” ผมว่า
“ เสียเวลากรูจะเข้าไปหาจุม” ไอ้วุฒิบอกเดินเข้าไปในร้านผม ไอ้แบงค์และพี่การะเกดแทบวิ่งตาม (พี่ยศและพี่ห้างไม่ได้ตามเข้าไป แต่รออยู่ข้างนอก และเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงไปด้วย)
ในร้านคนเต็มร้านครับ(บรรยากาศเป็นแบบครอบครัวแต่งโทนน้ำตาเขียว ขาว)
“ กี่คนครับพี่?” บ๋อยใส่ผ้ากันเปื้อนสีขาวแค่เอวถาม
“ จุมอยู่ไหน?” ไอ้วุฒิถาม บ๋อยทำหน้างง ผมดึงแขนไอ้วุฒิให้ถอยหลัง ไอ้แบงค์ก้าวเดินเข้าไปพูดแทน
“ 4 คน” ไอ้แบงค์บอก น้องบ๋อยนำพวกผมเข้าไปยังโต๊ะด้านใน
“ ใจเย็นดิวะ” ผมบอกไอ้วุฒิ
“ หรือมรึงอยากจะให้จุมรู้ตัวก่อนแล้วหนีกรูไปอีก” ไอ้วุฒิว่านั่งลงเป็นคนสุดท้ายของโต๊ะ ตาก็สอดส่ายหาจุมตลอด
บ๋อยกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเมนูยื่นให้พวกผมคนละเล่ม ไอ้วุฒิไม่เอา
“ น้องค่ะ เคยเห็นคนในรูปหรือเปล่า?” พี่การะเกดเอารูปจุมให้บ๋อย(อีกคน)ที่กำลังเสริ์ฟน้ำดู บ๋อยนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังนึกก่อนที่จะตอบว่าไม่รู้จัก
“……………”
พวกผมมองตากัน ไอ้วุฒิจะลุกขึ้นผมจับมือมันไว้ พร้อมทั้งบอกทางสายตาว่าใจเย็นๆ คนนี้ไม่รู้จักคนอื่นก็มี
“ เขาเป็นน้องชายพี่เอง หนีออกจากบ้านได้2ปีแล้ว ตอนนี้แม่พี่ป่วยหนัก ท่านเป็นห่วงก็เขานี่แหละ” พี่การะเกดเล่นตามบทที่เคยเล่น
“ 2 ปีเลยหรือครับ” บ๋อยว่าเอารูปจากมือพี่การะเกดให้บ๋อยอีกคนที่กำลังยืนรอพวกผมสั่งเมนู บ๋อยอีกคนส่ายหน้า
ไอ้วุฒิลุกขึ้นพรวด!?
“ จะบอกไม่บอก!” ไอ้วุฒิว่า
แม่ง! ให้หมาบ้า แบบนี้ถ้าเขารู้เขาคงจะบอกมรึงหรอก ทำตัวอย่างไอ้ชั่ว ถึงมรึงจะไม่ใช่คนดีก็ตามเถอะ
“ อะไรพี่!?” บ๋อยว่า(สีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด)
“ โทษทีน้อง คนนี้เป็นน้องพี่อีกคน ส่วนคนในรูปนี้เป็นน้องคนเล็ก” พี่การะเกดแก้ต่าง บ๋อยมองงงๆถึง3พี่น้องที่หน้าตาไม่ได้เหมือนกันเลย
บ๋อยเดินกลับไปแล้ว
“ เชี้ยวุฒิ ! มรึงจะทำเสียเรื่อง รอมาตั้งนาน รออีกสักชั่วโมง 2ชั่วโมงมรึงจะตายหรือวะ!” ผมว่าไอ้วุฒิที่ทำหน้ายุ่งไม่รู้ไปโกรธใครมา แต่ตอนนี้ผมกำลังจะโกรธมัน
มันอยากจุมคนเดียวซ่ะเมื่อไร มันรักจุมคนเดียวซ่ะเมื่อไร ไอ้แบงค์ก็รักจุมเหมือนกัน!!
ไอ้วุฒิมันทำเหมือนว่ามันรักคนจุมแค่คนเดียวอย่างงั้นแหละ ทำไมไม่คิดถึงจิตใจไอ้แบงค์บ้าง!
“ เดี๋ยวกรูไปห้องน้ำ” ไอ้แบงค์ยืนขึ้น พวกผมเป็นอันรู้กันว่าไอ้แบงค์ไม่ได้อยากไปห้องน้ำจริงๆ แต่จะไปเดินสำรวจ และอาจจะถามคนอื่นๆว่าเคนเห็นคนในรูปถ้ามีโอกาส
“ ไม่ต้องกรูไปเอง!” ไอ้วุฒิบอกลุกขึ้น
“ ไม่ต้องเลยมรึงวุฒิ ให้ไอ้แบงค์ไปน่ะดีแล้ว” ผมบอก แต่ไอ้วุฒิไม่ยอมนั่งลง
“ วุฒิ ถ้า มรึง อยาก เจอ จุม มรึง ต้อง เชื่อ กรู” ผมบอกเน้นที่ละคำ เหมือนบอกเด็กที่มีปัญหาทางการฟัง
“…………………” ไอ้วุฒิยอมนั่งลง ไอ้แบงค์ก็เดินไปถามบ๋อยว่าห้องน้ำอยู่ไหน โดยมีผมมองตามไปตลอด ไอ้แบงค์เดินตามบ๋อยหายไปด้านข้างของร้าน
ไม่มีโทรศัพท์จากพี่ยศที่อยู่นอกร้าน แสดงว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เช่น เห็นจุมออกจากร้านไป ..
“…………………………” ที่ผมไม่เข้าใจอย่างหนึ่งคือ พี่ห้างกับพี่การะเกดบอกว่าเมื่อวานถามพนักงานเสริ์ฟที่นี่ บอกว่าจุมทำงานที่นี่ แต่ไหงวันนี้บ๋อยถึง2คนกลับบอกว่าไม่รู้จักจุม หรือว่าจุมจะรู้ตัวแล้วเลยหนีไปที่อื่นแล้ว แต่คนที่ทำงานด้วยกันทุกวันที่เหลืออยู่มีหรือที่จะไม่รู้จักจุม หรือว่ามันยังไงกันแน่
“ ไหนบอกว่า จุมทำงานที่นี่” ไอ้วุฒิถามพี่การะเกดที่นั่งข้าม พี่เขาหน้าซีดทันที
“ พี่ก็ทราบจากพนักงานเสริ์ฟที่นี่ ตอนที่พี่ได้ข่าวว่ามีคนที่คล้ายๆจุมอยู่ที่ราว5 ทุ่มได้ตอนที่พี่มาร้านก็ปิดแล้ว แต่ก็มีพนักงานที่กำลังเก็บโต๊ะ นั่นแหละพี่กับพี่ห้างเข้ามาถามตอนนั้นแหละ” พี่การะเกดบอก
“คนไหน?” ไอ้วุฒิถามต่อ
“ วันนี้พี่ยังไม่เห็นเขาเลย ” พี่การะเกดตอบคำถาม ไอ้วุฒิดูเหมือนจะไม่เชื่อเท่าไร ซึ่งมันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร ไอ้คนที่บอกว่ารู้จักจุมดันล่องหนหายไปก็ไม่รู้ ตัวจุมก็เช่นกัน แต่มีเหตุผลอะไรที่ไอ้คนที่พี่การะเกดถามจะโกหก
“ เอาน่าวุฒิ บ๋อยคนนั้นอาจจะยังไม่มาทำงาน” ผมบอก และพยักหน้าให้พี่การะเกดบอกว่าไม่เป็นอะไร พี่เขาก็คงเข้าใจเพราะทำงานนี้มาตั้ง2 ปีแล้ว
ผมหันไปมองไอ้แบงค์ที่กำลังเดินกลับมา ด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน ไอ้แบงค์มันก็คงอยากเจอจุมเหมือนกับไอ้วุฒิถึงจะไม่แสดงออกเหมือนไอ้วุฒิก็ตาม อยากเจอคนที่รัก
แค่ 3 วันที่ไอ้แบงค์มันหนีหน้าผม ผมทรมานมาก แต่ไอ้แบงค์มันไม่รู้ว่าจุมอยู่ที่ไหน ใช้ชีวิตยังไง 2 ปี แต่ละคืนมันข่มตาให้หลับได้ยังไง หรือว่าหัวใจไอ้แบงค์มันชินชาเลยไม่สามารถรักใคร รักเจนได้
ไม่สามารถรักผมได้
หัวใจที่ไม่สามารถรักใครได้อีก…….ผมอิจฉาจุมได้ไหม?
“ เป็นไง?” ผมถามไอ้แบงค์ มือผมวางบนมือไอ้แบงค์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ไอ้แบงค์สบตาผมก่อนที่จะส่ายหน้า
แบงค์มรึงไม่เป็นไรนะ มรึงมีกรูอยู่
ไม่เป็นไร มรึงยังมีกรูที่รักมรึงอยู่ แต่สายตาไอ้แบงค์มันไม่มองผมด้วยซ้ำ
ไม่ได้มองผมตั้งแต่แรก
ไม่เป็นไร ผมไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่เลย
“ จุมหนีกรูแล้วคิดเหรอว่าจะออกมาให้เห็นง่ายๆ” ไอ้วุฒิว่าซึ่งว่ามันก็จริง แต่ถ้าจุมรู้ตัวก็คงจะออกจากร้านนี้ไปแล้ว และพี่ยศกับพี่ห้างก็น่าจะเห็น เพราะจุมไม่รู้จักพี่ยศกับพี่ห้างย่อมไม่ระวังตัวและร้านนี้ก็ไม่ใช่ร้านใหญ่อะไรที่คนคนหนึ่งออกไปพี่เขา 2 คนจะไม่เห็น
“ คนของร้านต้องปิดเรื่องจุมกับพวกเราแน่” ไอ้วุฒิพูดมีเหตุผล แต่ถ้าผมเป็นจุมคงไปจากที่นี่มากกว่าให้ทุกคนโกหก
* * *
ขอบคุณทุกๆคำเม้นต์เจ้าค่ะ ทำให้เจ้าหญิงมีแรงฮึดขึ้นมากเลยทีเดียว
คิดว่าสัปดาห์นี้คงได้ลงพี่ชนะอีก
แต่อาจจะไม่เต็ม100% เหมือนตอนนี้ หวังว่า
ปล.เอาใจช่วยน้องกล้วยเน้อ 
*+*+*
คืนนี้อยากได้กี่ครั้ง(ชิน ชินวุฒิ)
http://www.youtube.com/v/66Fuv_ExL6M?fs=1&hl=en_US