+
บุพเพวายร้าย(สอง)
21.90%
“ .............” ผมยืนขึ้นหันหลังให้จักร พยายามใจเย็น
ผมไม่ใช่คนแบบนี้ ผมไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล ผมไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลัง ผมเป็นผมที่ไม่ใช่ผม!!ทุกอย่างมันเหนือการควบคุม ตั้งแต่ความรู้สึกผมแล้ว..
“ กินข้าวไม่อิ่มหรือไง?” จักรถามจากด้านหลัง
คิดว่าผมจะโมโหเพราะเรื่องแค่นั้นหรือไงวะ!?
“ เกลียดพี่นักหรือไง!!?” ผมหันกลับไปถาม ติดใจแต่คำนี้จนไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว ผมท้อแต่พยายามยื้อตัวเองไว้ จักรที่ยังนั่งบนเตียงเงยหน้ามองผมก่อนที่จะตอบ
“ ก็เกลียดจนอยากให้มรึงหายไปจากโลกของกรู โลกนี้ไปเลย!” จักรว่าลุกขึ้นดูระมัดระวังเกินพอดี เหมือนกำลังเตรียมพร้อมกับอะไรบางอย่างอยู่ คงเป็นผม
“ ..........” ผมจ้องหน้าจักร
ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ
“ ดี
ดี ดี” ผมว่ายิ้มเยาะใครก็ได้ที่มันโง่เง่า แม้แต่ตัวเองก็ตามแต่
“.............”(จักร)
“ งั้นพี่จะหายไปจากชีวิตจักร!” ผมว่าเดินออกมาจากห้อง อยากจะให้จักรเรียกไว้เหมือนกัน
เรียกพี่ไว้สิจักร
แต่จะเรียกผมทำไม ก็น้องเขาเกลียด..
ผมเดินลงบันได้มาทั้งอย่างงั้น ใจมันบอกไม่ถูกแต่เจ็บสุดๆ เดินลงมาจนถึงประตู ก็หันกลับมองไล่บันไดขึ้นไป เผื่อว่าจักรจะเดินลงมา
………………………………ไม่ห่วงผมเลยว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง
“ .............”
ผมตัดสินใจเปิดประตูออกไป ปะทะกับแสงแดดใกล้เที่ยงที่สว่างจ้าจนน่าเกลียด ผมปิดประตูกลับอย่างช้าๆ
แล้วก้าวเดิน
แต่แล้ว
แกร๊ก!?
จักร!!?
เสียงเปิดประตูจากด้านในผมหันซ้ายหันขวาก่อนที่รีบหลบไปอีกด้านของบ้าน
“.............”
จักรเดินเหมือนวิ่งออกมา แล้วหันหน้าไปไปทุกทิศทุกทาง
หาผมเหรอ?? “ ............”คงไม่ แต่จะเป็นใครถ้าไม่ใช่ผม ..ดีใจ
พอจักรจะหันมาทางที่ผมก็รีบหลบเข้ากับมุมบ้านทันที ก่อนที่จะค่อยๆโพล่ดวงตาดูอีกครั้ง ตอนนี้จักรเดินไปแกะขอบรั้วแล้วครับ ตามด้วยเปิดรั้วออกไปด้านนอก
หน้านี่ซีดเป็นไข่ต้มเลย
ผมหุบยิ้มไว้ไม่ได้เลย การกระทำจักรบอกชัดเจนว่าน้องเขาเป็นห่วงผม มาคิดดูแล้วจากนิสัยจักร แค่นี้ก็มากพอแล้ว^^
ผมเดินตามออกไปโดยให้เสียงเงียบที่สุด จักรมองถนนด้านซ้ายและด้านขวากลับไปกลับมาแต่ไม่ยักมองกลับมาข้างหลัง คงคิดว่าตัวเองหาดีแล้ว
“…………………”
จักรยืนไม่ไหวติ่ง
หมับ!
ผมเข้าไปกอดจักรจากด้านหลัง จักรยังนิ่ง ผมก้มลงถามข้างหูเบาๆ
“ มองหาอะไรเหรอหรือว่ามองหาพี่?” “ .........................” จักรเงียบ ผมยิ้ม
“ เป็นห่วงพี่ใช่ไหม?” ผมว่า
“ ไม่รู้!” จักรว่าดิ้น ผมเลยกอดแน่นจะได้ดิ้นไม่ได้ 55+ ดีใจเว้ย!
“ ปล่อยเด่!?” “ พี่สั่งแขนแล้ว แต่ไม่ยอมทำตาม จะให้พี่ทำไง” ^^
“ หื่น หน้าด้าน และยังปัญญาอ่อน!” จักรว่าหันหน้าพร้อมคิ้วขมวดมามองผม แต่ผมไม่รู้สึกหรอก คนมันกำลังดีใจผมเลยฉีกยิ้มกว้างๆให้ไป จักรหันควับกลับไป แก้มที่ผมมองเริ่มแดงขึ้น จนลามไปยังหูสีขาวๆ
“ .............” ผมกลั้นยิ้มไว้ไหว มันเลยยิ้มค้างอยู่อย่างงั้น
“ รู้บ้างดิ ตรงนี้มันตรงไหน?”
“ งั้น ถ้าไม่ใช่ตรงนี้ก็กอดได้ใช่ไหม?”
ตุบ!
“ โอ๊ย!!” ผมร้องเสียงหลง โดนจักกรกระทืบเท้าเข้าให้ และมือก็ปล่อยจักรอัตโนมัติ พอจักรเป็นอิสระก็วิ่งเข้าบ้าน ผมกัดฟันวิ่งตามจักรเข้าไป
“จักรรอพี่ด้วย!”
“ คนเขาไล่แล้ว ก็กลับไปดิ!” จักรพูดไม่ได้หันหลังมาทางผม
“ พี่หน้าด้าน ไม่กลับหรอก” ผมบอกวิ่งบันไดตาม พอจักรเปิดประตูเข้าห้องผมก็พยามวิ่งตามให้ทัน(เจ็บเท้าอยู่ครับ)
ปัง! จักรปิดประตูเสียงดัง ทว่าผมยังอยู่ข้างนอก
“ จักร จักร ให้พี่เข้าไปด้วย!?” ผมบอกเสียงดัง และเคาะประตูไปด้วย เหมือนจะมีความหวังแต่แสงเริ่มริบรี่อีกแล้ว
“
เรื่อง กลับบ้านมรึงไป!!”
“จักร ยอมรับมาเถอะว่าจักร ใจเอนเอียงให้พี่ ไม่งั้นจักรจะลงไปหาพี่ทำไม?! ” ผมว่า คิดเข้าข้างตัวเองสุดขีด ก็มันจริง
“ หลงตัวเอง ใครเอนเอียง อย่าประสาท!” จักรว่าเสียงดังกว่าเดิม คงจะเดินมาใกล้ประตู หรือไม่ตอนนี้อาจจะยืนอยู่กับบานประตูเลยก็ได้
“ จักรไง ชอบพี่ขึ้นมาแล้วใช่ไหม อยากอยู่พี่หรือเปล่า เป็นห่วงพี่ใช่ไหม?” ผมว่า
“...................” จักรเงียบ คงกำลังคิดในสิ่งที่ผมพูด
“ ไม่ผิดเลยนะจักรที่เรา 2 คนจะรักกัน ถึงเราจะเป็นผู้เหมือนกัน แต่ความรักมันไม่สนใจหรอก เพราะงั้น ........”
“ อย่าพูด!” เสียงจากอีกด้านตะโกน
“ พี่รักจักรนะ” ผมบอก ยกมือขึ้นทาบกับบานประตู อยากจะสัมผัสคนข้างในเหลือเกิน
“ กรูเกลียดเกย์ !..” “ พี่ว่าไม่ใช่หรอก เพราะถ้าเป็นแบบนั้น จักรก็คงเกลียดซีซี่ไปแล้ว” “ .............................” (จักร)
“ จักรเกลียดพี่ ไม่ใช่เกลียดเกย์” พูดเองเจ็บเอง
“ ถ้ามรึงเป็นกรู มรึงก็ต้องเกลียด..”
“ แม้ว่าพี่จะสำนึกแล้ว เหรอ?”
“ .............................” (จักร)
“ สัญญา ว่าจะไม่ข่มขืนกรูอีก อย่าใช้กำลังกับกรูอย่าทำเหมือนกรูไม่ใช่คน แต่เป็นอะไรที่มรึงอยากให้เป็น .. แล้ว ...
...กรูอาจจะลองคิดดู” “ พี่สัญญา”
“.............” จักรเงียบไปนาน ก่อนที่จะพูดว่า
“ ถ้ามรึงผิดสัญญา.............?”
“ พี่จะหายไปจากชีวิตจักรทันที” ผมบอก คิดว่ายังไงไม่ผิดสัญญาแน่
“..............” ไม่มีเสียงตอบ แต่มีเสียงหมุนลูกบิดประตูจากด้านในทว่าไม่มีใครเปิดประตู ผมเลยเปิดประตู..แล้วเดินเข้าไป
“ ..........?....” ผมมองหาจักร
น้องเขานอนอยู่บนเตียงหันหลังให้ผม
“ มรึงคิดว่า แค่คำว่า ‘รัก’ แล้วมันจะลบสิ่งที่มรึงทำได้หรือไง มรึงเกลียดแค้นกรูก็ทำร้าย ข่มขืนกรู พอมรึงรักกรูก็มาตื้อให้กรูรักมรึงตอบ มรึงก็แค่ทำตามใจตัวเองคิดถึงแต่ตัวเอง ...”
“ พี่รู้” ผมพูดเสียงเบามาก พร้อมกับนั่งลงบนเตียง มือวางลงบนต้นแขนน้องเขา จักรไม่ได้ปัดออก
“ พี่ขอโทษ............
...นะ” “ .............................” (จักร)
“ .. ขอโทษ..........ขอโทษ”
“ พอสำนึกผิดก็มาขอโทษ อยากให้ยกโทษให้ มันแตกต่างกันตรงไหน? มรึงเคยคิดถึงกรูบ้างไหม” จักรว่าลุกขึ้นจ้องหน้าผมตรงๆ
“ แล้ว จะให้พี่ทำยังไง?” ผมว่ามองใบหน้าที่ทำเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ไม่...
“ เรา2คน......
..ไ ม่ มี ท า ง .. ........” จักรยิ่งพูดเสียงก็เบา
“ ...........”(ผม)
“ เรา2คน........ไม่ มี ทาง.........ที่ จะ รั ก กั น ได้...” “
ได้สิจักร! หากว่า จักรยอมเปิดใจ” น้องเขาส่ายหน้า ผมคว้าตัวเข้ามากอด
“ จักร ไม่มีอะไรที่เป็นไปได้” ท้ายประโยคคำพูดผมแผ่วเบา
“ ใครจะรักคนที่ข่มขืนตัวเอง! ...ใครจะเชื่อว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
“ เชื่อเถอะพี่สัญญา พี่จะไม่ทำอีกแล้ว”
“ ไม่เชื่อ
กรูไม่เชื่อมรึง!” จักรพูดเอามือดันตัวผม
“
ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ไหมจักร? ให้พี่ได้พิสูจน์”
“ ไม่! ปล่อย!!!1” จักรสั่ง ตาแดง ผมที่เห็นแบบนั้นก็เจ็บปวดเช่นกัน นี่คงเป็นโทษทัณฑ์ของผมที่ทำกับจักรที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
“ ตอนนี้มรึงก็ทำแบบนี้กับกรู แล้วมรึงสัญญาทำไม!” จักรว่า ผมรับรู้รีบปล่อยมือทันที ว่าผมกำลังบังคับจักร
“ ขอโทษ” ผมบอก จักรหันหน้าหนี
“ ได้ไหม?” ผมถามเสียงสั่นและเบา
“ อะไร?”
“ ขอเวลาให้พี่พิสูจน์” จักรหันหน้ามา ตากลมๆสบตากับผม
“.........................” จักรไม่ตอบ
“ ได้ไหม?” คราวนี้ผมพูดเสียงหนักแน่นเกินพอดี จักรจ้องหน้าผมอยู่นาน แล้วก็
“ กลับไป.........” จักรพูดโดยที่สายตาไม่ละจากหน้าของผม คำพูดแค่ 2 คำบาดลึกได้กว่าที่คิด
“พี่คงไม่ได้อยู่ในสายตาเลย แม้เพียงเล็กน้อย ใช่ไหม?” ผมว่า หน้าตึงเกร็ง ขอบตาร้อนผ่าว
เป็นผมเองที่เป็นฝ่ายหันหน้าไปอีกด้าน ก่อนที่จะลงจากเตียง แล้วเปิดประตูออกไปช้าๆ คราวนี้ผมคงต้องกลับไปในที่ของตัวเองสักที
ผมเหมือนคนที่กำลังวิ่ง มองเห็นเส้นชัยแล้วแม้วามันจะเลือนราง แต่บางครั้งมันก็ชัดเจนจนเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทว่าตอนนี้ เส้นชัยที่มองเห็นมันหายไปแล้ว แม้แต่หนทางที่จะวิ่งมันก็หายไปด้วย เมื่อหันหลังกลับไปมองทางที่วิ่งมา มันก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่มันมืดกว่าเท่านั้น ผมทำได้แต่เพียงยืนนิ่งไม่รู้ว่าต้องเดินไปหรือวิ่งต่อ ไม่มีเส้นชัย ไม่ถนนให้วิ่ง
‘รัก’ แค่คำเดียว ก็ทุกข์ได้ขนาดนี้ มันโคตรจะมหัศจรรย์ จักรใจแข็งยิ่งกว่าแข็ง และไม่ยอมอภัยให้ผม
ถึงแม้ว่าผมจะรักน้องเขาเพียงใด ก็ไม่อาจจะได้เป็นดังที่หวัง
ผมพยายามแล้ว ผมพยายามอย่างที่สุด ยิ่งพยายามมากแค่ไหน ก็ยิ่งคิดว่ามันจะสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น แต่ความพยายามของผม ไม่เพียงแต่ไม่สำเร็จ แต่เป็นความพยายามที่ไร้ค่า
พยายามกับดันทุรังอยู่ใกล้กันจนแยกไม่ออก
บางครั้งผมก็เกิดคำถามว่า ทำไมไอ้แบงค์ถึงไม่ถือโอกาสตอนที่จุมโดนไอ้วุฒิทำร้าย ตอนที่จุมอ่อนแอ บอกความรู้สึกของมันออกไป ผมคิดว่าบางทีด้วยความดีของไอ้แบงค์จุมอาจจะเห็นใจมันก็ได้ ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้ว เพราะไอ้แบงค์มันรู้ว่าจุมไม่ได้รักมัน จุมรักไอ้วุฒิ
“............”
แล้ว…………………ตอนนี้………………… ไอ้แบงค์มันทำอะไรอยู่ ผมอยากโทรหามัน อยากบอกว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง แต่ แล้ว ผมก็เกิดความรู้สึกละอายขึ้นมา เวลาผมอ่อนแอที่ไรก็โทรหามัน ให้มันมาหาผมตลอด แต่ผมกลับเป็นคนบอกให้ไอ้แบงค์เองว่าไม่ต้องโทรมา
ผมสิ้นหวัง....
ผมกลับไปถึงคอนโด ก็ตรงปรี่ไปเปิดเพลงที่ผมชอบ เปิดโทรทัศน์เลือกแผ่นหนังที่ว่าจะดู แล้วก็ดูไปเรื่อยๆ แต่ผมไม่รู้ว่า หนังกำลังพูดว่าอะไร ถ้าผมไม่อ่านเรื่องจากแผ่นก่อนผมก็ไม่รู้ว่าผมดูหนังเรื่องอะไร เพลงที่เปิดมันก็ไม่เข้าหูสักนิด ทั้งที่เปิดพร้อมกันแบบนี้ เสียงมันน่าจะตีกันจนชวนให้หงุดหงิดไปแล้ว
“…………………….”
หนังจบไปแล้ว เพลงเล่น จนจบแผ่น ตาผมจ้องหน้าจอสีดำ ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมง และผมก็ไม่ได้สนใจ
ผมทำตัวเป็นปกติไม่ได้
จักร
ขอแค่โอกาส จักรก็ไม่ให้พี่ ความผิดพี่ชาติจักรจะไม่ยอมให้อภัยจริงๆเหรอ ถ้าพี่รู้ว่าจักรไม่ได้เป็นคนทำ พี่ไม่ทำร้ายจักรหรอก
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจพี่ให้ไม่เชื่อในสิ่งที่จักรพูดในตอนนั้น มันอาจจะเหมือนตอนนี้ที่จักรไม่เชื่อสิ่งที่พี่พูด สิ่งที่พี่อยากให้จักรรู้ก็เป็นได้
เรา 2 คนไม่มีวันรักกันได้พี่ไม่เชื่อ!!
“ …”
“ ไม่เชื่อ!!!” ผมพูดเหมือนตะโกน ก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมา จนทำให้สิ่งที่มองเห็นมัวไปชั่วขณะ
เวลาเพียงน้อยนิดที่ผมได้รู้จักร ก็ทำให้ผมรักจักรมากถึงเพียงนี้ และอย่างไร้เหตุผลด้วย เป็นเพราะอะไรกัน? ผมไม่อยากรู้ แต่อยากรู้ว่า จักรคิดยังไงมากกว่า
ผมรัก….
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดดูชื่อคนที่อยากจะโทรหามากที่สุด ผมไล่รายชื่อลงมาที่ละชื่อเหมือนถ่วงเวลาให้ตัวเองคิดให้ดี
แบงค์
“ ถ้ามีมรึงอยู่กับกรูตอนนี้ก็คงดี มรึงคงบอกกรูว่าไม่เป็นไร เหี้ย!
กรูกำลังร้องไห้ ไอ้บ้าๆ!!” ผมว่ายิ้มหยันตัวเองทั้งน้ำตา
“ ก็มรึงอยากเป็นเพื่อน กรูจะทำไงได้ จักรก็เกลียดกรู……………………………………. ปรางก็ทิ้งกรู ….
.ก็ มรึง……” ผมรักจักร แต่ก็รักไอ้แบงค์ด้วย ผมไม่ได้สับสน ผมเข้าใจตัวเองดี ไอ้แบงค์มันให้ผมได้แค่เพื่อน ผมก็ต้องยอมรับแม้เจ็บปวดแต่อย่างน้อยผมก็ยังได้เห็นหน้ามัน ได้อยู่ข้างๆมัน แค่นี้ผมก็พอใจ เพราะผมกับมันจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
แต่ผมคิดผิด!
สิ่งที่พูด สิ่งที่คิด กับความจริงมันต่างกัน ผมคิดว่าผมยอมรับได้ แต่ผมกลับโหยหาอย่างรุนแรง ผมยังคิดถึงมันแม้จะพยายามแล้ว แม้ว่าตอนนั้นผมจะอยู่กับจักร ถึงผมก็รู้สึกดีที่ผมได้อยู่กับน้องเขา ซึ่งนั่นทำให้ผมพอทนได้ ทนรับกับความรู้สึกที่ไม่มีมันอยู่ข้างๆได้
แต่
นั้น
ก็
แค่
ชั่ว
ขณะ
เหตุผลนั้นเพราะผมรักเขาทั้ง 2 คน ซึ่งมันเป็นไปแล้ว ผมกำลังรักคร 2 พร้อมกัน
ถ้าให้เลือกเพียง 1 ผมเลือก……
“……………”
กลัวใจตัวเอง จนไม่กล้าแม้แต่จะคิด จะพูด
เพราะแบบนี้ไง ผมถึงได้ทรมานอยู่แบบนี้
เปลือกตาผมหลับลงด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน เพราะผมตื่นมาเช็ดตัวให้จักร 3 ครั้ง และผมก็พยายามไม่หลับด้วย กลัวว่าน้องเขาเป็นอะไรแล้วผมจะไม่ทันเห็น …ถ้าจักรเป็นอะไรเพราะผมอีก ผมคงไม่ให้อภัยตัวเอง
น้องเขาทรมานเพราะผมมามากพอแล้ว
.
.
.
.
** ** **
กริ้งๆ
กริ้งๆ กริ้งๆ
เหมือนว่าเสียงโทรศัพท์มันจะดังมากขึ้น มากขึ้น ผมคว้านหาโทรศัพท์ทั้งที่ยังไม่ลืมตา จนมือไปชนโดน
เพล้ง!? “ หือ?! ” ผมลืมตาหนักๆขึ้นมา เห็นเศษแก้วท่ามกลางน้ำเหล้าบนพื้น ก่อนหน้านี้ผมนอนฟุบไปกับโต๊ะ
คอแห้ง ทั้งที่กินเหล้าไปตั้งเยอะ
กริ้งๆ กริ้งๆ
เสียงโทรศัพท์ยังคงดังอยู่ แล้วมันก็เงียบไป ผมหยิบมาดูว่าใครโทรมา
3 สายที่ไม่ได้รับ
ผมกด.. เวลา 7.49 ยังเช้าอยู่เลย
คนที่โทรมาเป็นใคร?
จักร!! ?? “ จักร!?” ผมปวดหัวไม่รู้หรอกว่าทำไมน้องเขาโทรหาผม แต่ผมโทรหาน้องเขาทันที
และในทันทีเช่นกัน จักรรับ แต่ไม่พูด
“ .............................”
ผมเป็นฝ่ายพูดก่อน “ จักร?”
“ กดกริ่งก็ไม่มาเปิด โทรไปก็ไม่รับ งั้นวางไว้ตรงนี้แหละ” เร็วเท่าความคิดผมถลาไปเปิดประตู ด้วยความหัวใจที่เต้นเร็ว
ประตูเปิด
“………………”
จักรยืนอยู่หน้าประตู ผมจ้องหน้าน้องเขา ดีใจที่ได้เห็นหน้าก็ใช่ ใจหายก็ใช่อีก สับสนไม่เข้าใจ?
“ เอานี่” จักรยกถุงกระดาษสูงระดับไหล่ตัวเองยื่นให้ผม
“?” (ผม)
“ เสื้อ กางเกง ที่มรึงไปทิ้งไว้บ้านกรู”
“………………” มาแค่นี้?
“ มรึงกินเหล้าเหรอ?” จักรถาม ผมไม่ได้ตอบ เอาแต่มองหน้าจักร
“ เหม็น เสื้อก็ชุดเมื่อวาน” ใช่ผมกินเหล้า และยังไม่ได้อาบน้ำ
“ …………..” (ผม)
“ สกปรก ซกมก!”
“ พี่จะเป็นยังไง จักรสนใจพี่ด้วยเหรอ?” ที่ผมพูดไปแบบนั้นเพราะความน้อยใจล้วนๆไม่ได้คิดประชดประชัน
“ มรึงเป็นแบบนี้เพราะกรูใช่ไหมล่ะ?” จักรว่าหลบสายตา
รู้ก็ดี
“ ส่วนหนึ่ง” ผมตอบ จักรหันหน้ามา ก่อนที่จะก้มลง ตอนนั้นมีผู้หญิงเดินผ่านหลังน้องเขาไป
“ เหล้ามันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น” จักรพูดประโยคคลาสสิกเสียงเบา
“ แล้วอะไรที่มันจะทำให้อะไรดีขึ้น?” ผมถาม คำพูดเต็มไปด้วยความหวัง…
“ ไม่รู้~” จักรตอบเสียงสูง ก้มมองเท้าตัวเองต่ำกว่าเดิม?
“ พี่ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวาน ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม?”
“ แค่กินข้าวทำไมต้องมีเพื่อน?”
“ งั้น เป็นแฟนได้ไหม?” ผมถามจักรเงยหน้าทันที
“ กรูกลับ!” พูดพร้อมหันตัว พร้อมๆกับผมที่จับมือน้องเขาไว้
“ ………….” จักรนิ่ง
“ ………………” ผมเงียบไม่รู้จะพูดว่าอะไร
“ …………………………….ก็ได้ ถือว่ากรูก็มีส่วน” จักรบอก ผมยิ้มจนอยากจะหัวเราะด้วยความดีใจ
“ ……….” ผมหุบยิ้มไว้ไม่ได้
“ แต่มรึงต้องอาบน้ำก่อน สภาพดูไม่ได้” จักรว่า
“ งั้นเข้ามารอพี่ในห้องก่อน” ผมบอก
“ กรูจะยืนรอตรงนี้แหละ” น้องเขาบอกแล้วบิดแขนให้ผมปล่อย ซึ่งผมปล่อย
“ ยืนทำไม เดี๋ยวปวดขาไปนั่งข้างในเถอะ”
“ มรึงก็รีบดิ” จักรพูดพร้อมถอยออกไป ยืนหันหลังให้ผนัง
ผมคิดว่าที่น้องเขาไม่ยอมเข้าไปคงเพราะกลัวว่าผมจะทำอะไร
“ พี่ไม่ได้ทำอะไรหรอก” ผมบอกให้น้องเขาสบายใจ
“ กรูจะยืนรอตรงนี้!” จักรพูดเสียงดัง
“ จักร?”
“ ถ้ามรึงเรื่องมากนัก กรูจะกลับ!” จักรพูดดูโมโหขึ้นมาเฉยๆ
“ ก็ได้ ก็ได้จักร เดี๋ยวพี่รีบอาบน้ำแต่งตัว” ผมบอก ดูแล้วยังไงจักรก็คงไม่ยอมเข้ามาในห้องแน่นอน เลยไม่อยากจะเซ้าซี้ พาลจะให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียเปล่าๆ
ผมกลับเข้ามาในห้อง วางถุงกระดาษ ที่รับมาจากจักรแล้วตรงไปที่ห้องน้ำ อาบน้ำแบบเร่งด่วน ก่อนที่จะออกมาแต่งตัว ด้วยเสื้อยืด(สีดำ จับได้ตัวไหนใส่ตัวนั้น)และกางเกงยีนต์ซีดๆที่อยู่ใกล้มือที่สุด คว้ากระเป๋าตังค์ และกุญแจรถ ก่อนที่จะเปิดประตู จักรยังยืนอยู่ ผมกลัวแทบแย่ว่าน้องเขาจะกลับไปก่อน
“ ผมยังเปียก” จักรพูด ผมเอามือลูบๆเส้นผมให้มันเข้าที่ เมื่อกี้เอ้าขนหนูเช็ดแรงๆไม่กี่ครั้งเอง ก็ผมรีบ
“ ถ้ารอให้แห้ง จักรก็กลับไปก่อน” ผมว่าเดินตามจักรไปหยุดหน้าลิฟท์
“ ก็บอกว่าแล้วว่าจะไปด้วย ไม่กลับหรอก” จักรพูด ผมที่ยืนอยู่ด้านหลังน้องเขา อยากจะเข้าไปกอดจักรจริงๆ แต่ไม่กล้า เพราะถ้าทำอย่างงั้นค่งข้าวคงไม่ได้กินกัน
“ ………..” ผมเลยได้แต่ดีใจในอกเงียบๆ
ผมยังคิดว่าวันนี้จักรมาหาผมทำไม แค่เอาเสื้อมาให้ผมคงไม่ใช่แน่ เพราะถ้าเกลียดกันจริงๆคงเอาเสื้อผมไปทิ้ง หรือเผาแล้ว หรือจะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าน้องเขาคงเป็นห่วงผม คิดแบบนั้นผมก็ดีใจจนเนื้อเต้น แต่จักรก็มักจะทำให้ผมดีใจแบบนี้สุดท้ายก็ไม่มีอะไร
การกระทำของจักรบางครั้งผมก็ไม่เข้าใจ …
** **