บุพเพวายร้าย(สอง)
19.50%
“ ออกไปด้วย!” จักรบอก ผมถอนหายใจยอมออกมาแต่โดยดี
ผมออกมานั่งด้านนอกเอามือขยี้หัวแรงๆ คิดไม่ออกว่าจะเอายังไงต่อ หันไปมองประตูที่เปิดค้างไว้ ผมได้ยินเสียงน้ำจากด้านในตกระทบพื้น ...
“ ..................”
ตอนนี้จักรคงเกลียดยิ่งกว่าเกลียด แค้นยิ่งกว่าแค้นผม ไม่ว่าผมจะทำอะไรก็คงไม่ถูกหูถูกตาไปเสียหมด และผมจะทำอะไรแก้ตัว มันก็คงไม่ดูสมเหตุสมผล แม้แต่ผมเองก็คิดว่าตัวเองจะทำอะไรมันก็ไม่ดีขึ้นมาหรอก
5 นาที
10 นาที ผ่านไป
15 นาทีก็แล้ว จักรยังไม่ออกมาจาากห้องน้ำและเสียงน้ำก็ก็ดังต่อเนื่อง! จะล้างอะไรหนักหนา ผมเลยเดินเข้าไปดู
!?
จักรยืนเอาหัวชนผนัง มีน้ำจากฝักบัวไหลรดร่างกายที่มีจุดแดงช้ำตามร่างกายที่เริ่มโงนเงน
“...........จักร!?” ผมว่าเอาไปรับตัวจักรก่อนที่จะล้มลงไป
“ ..................” จัก ตัวอ่อนหมดสติในวงแขนผม และตัวร้อนมากทั้งที่ตัวเปียกไปด้วยน้ำ ผมรีบอุ้มจักรออกมา แล้ววางนอนลงบนเตียงก่อนที่จะซับตัวจักรให้แห้งแล้วเอาเสื้อกางเกงผมมาใส่ให้ ตามด้วยห่มผ้าให้มิดถึงคอ หน้าจักรซีดจนเขียวคล้ำ แต่ตัวสั่นเล็กน้อย ผมรีบรื้อหาผ้าห่มอีกผืนที่สำรองไว้ในตู้แล้วนำมาห่มให้จักรอีกชั้นหนึ่ง
ผมเดินออกไปนอกห้องแล้วเปิดลิ้นจักรใต้โทรทัศน์ จำได้ว่ายัดยาที่ไอ้แบงค์ซื้อมาให้ครั้งแล้วใส่ไว้
ผมหยิบถุงพลาสติกสีขาวที่ยับยู่ยี่ออกมาคลี่ดูยาแก้ไข้ อ่านฉลากเรียบแล้ว เป็นยาหลังอาหาร ผมเลยโทรสั่ง ข้าวผัดมา 2 กล่องให้ผมและจักรคนละกล่อง แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องไปนั่งอยู่เตียง พร้อมผ้า 1 ผืนเช็ดผมเปียกๆของจักร เพราะถ้ายังเปียกแล้วนอนอยู่แบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ
“................”
“ พี่ รู้นะว่าที่ทำไป มันอยากเกินจะให้อภัย” ผมว่า เช็ดหัวจักรไปด้วย แต่น้องเขากลับเอามือปัดออกทั้งที่น้องเขาไม่รู้สึกตัว หัวใจผมสะท้านแผ่วเบา
ตอนทำก็คิดแต่อยากจะได้ อยากจะเอาชนะ พอทำไปแล้วก็เสียใจ อยากได้รับการให้อภัย
เห็นแก่ได้จริงๆผม ......
“...............”
มาจนถึงขั้นนี้แล้ว ความดีทำไปก็กลบความชั่วไว้ไม่ได้
จะชั่ว จะเลวต่อไปก็คงไม่แปลก
ผมก็ต้องการจะฉุดจักรไว้กับผม ผมคิดว่าถ้าผมไม่มีจักรผมไม่รู้จะอยู่ยังไงทั้งที่เวลาที่ผมเคยอยู่กับจักรก่อนหน้านี้มันจะน้อยมากก็ตามแต่มันมีความหมายสำหรับผมมาก
ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองงี่เงามาก ที่คิดแบบนี้
“..........................”
ขอบ้างขออย่าปล่อยผมไว้คนเดียว แม้จะต้องเลว แม้จะต้องชั่วแค่ไหน แต่ขอเถอะ ขอร้องไว้................
เสียงกริ่งหน้าประตูเตือนมาว่ามีคนกดจากด้านนอก คนเป็นคนส่งข้าวที่ผมโทรไปสั่ง เดินไปที่ประตูเปิดออกเด็กเสริ์ฟชุดขาวมายืนหน้าประตูห้องผม
“80 พี่” ผมพยักหน้าเข้าใจ ยืนธนบัตร 100 บาทให้และบอกไม่ต้องทอนก่อนที่รับถุงมาและปิดประตูห้องเบาๆ ตามด้วยเดินไปที่ครัว เทข้าวผัดจากกล่องใส่จาน ความจริงแล้วผมควรจะสั่งข้าวต้มให้จักรน่าจะดีกว่า เพราะย่อยง่ายกว่าแต่เพราะความเคยชินที่เวลาที่สั่งมักจะสั่งให้ไอ้แบงค์ที่มันกินง่าย ผมเลยสั่งเหมือนผม
ผมยกจานข้าวผัดวางไว้บนโต๊ะเตี้ยๆที่ติดกับหัวเตียงสำหรับวางโคมไฟ
“จักร” ผมเขย่าไหล่จักรเบาๆ น้องเขาปรือตาขึ้นมา มองผมงงๆก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นมองอย่างเครียดแค้น และปัดมือผมออกจากไหล่
“ มากินข้าว บ่าย 3 แล้ว”
“ กรูไม่กิน กรูจะกลับบ้าน” จักรบอกลุกขึ้นนั่ง เอามือกุมหัวคงปวด
“ จักรไม่สบาย ก็เล่นเอาน้ำซ่ะขนาดนั้น”
“ ไม่ใช่ เพราะมรึง!” จักรว่าหน้านิ่ว
“ ถูกต้องเพราะพี่ เพราะงั้นพี่ต้องรับผิดชอบ ดูแลจักร” ผมบอกลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียง
“ ไม่ต้อง กรูไม่อยากให้มรึงรับผิดชอบ” “เอ้ากินข้าว” ผมว่ายกช้อนป้อน
“ ไม่ต้องมายุ่งกับกรู” (หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ)
“ ..................” (ผม)
“ กรูอยากกลับบ้าน ไอ้ชั่วได้ยินไหม กรูอยากกลับบ้าน”
“ ..................” (ผมยกช้อนค้างไว้)
“
กรูจะกลับบ้าน อึ้ก ฮือๆ ฮือๆ” จักรพูดเอาหน้าซบกับฝ่ามือทั้ง 2 ข้างที่ยกขึ้น
“ จักร” ผมพูเสียงเบา วางช้อนและเข้าไปกอดจักรที่ไม่ยอมให้ผมกอดง่ายๆ แต่สุดท้ายผมก็กอดจักรไว้ในอ้อมแขนได้ จักรตัวร้อนกว่าเดิม
“ ฮือๆ”(จักร)
“ พี่รักจักร อย่าเกลียดพี่เลยนะ”
“ กรูไม่ได้รักมรึง
กรูไม่ได้ชอบผู้ชาย มรึงเข้าใจไหม? ฮือๆ ไอ้เลว ..........กรูไม่ได้ชอบมรึง”
“ พี่รู้ พี่เข้าใจ แต่พี่ แต่พี่....” “ เรื่องของมรึงกรูไม่อยากรับรู้!” “ ................................................................................................” เมื่อไม่อยากรู้ผมก็ไม่บอก ....
“ ฮือๆ กรรมเวรอะไรของกรูที่มาเจอคนอย่างมรึง”
“............................”
“ กินข้าวได้ยัง?” ผมถาม ทำเหมือนว่าเหตุการณ์มันปกติทั้งที่จักรกำลังสะอึกสะอื้นต่อว่าผม
“ มรึงไม่เข้าใจหรือไง!” “ กินข้าวได้หรือยัง?” ผมถามอีก
“ ไม่กิน!” “ ต้องกิน พี่จะป้อน”
“ ไม่ต้อง!” เอาแขนปากน้ำตาบนหน้า
“ งั้นกินเอง”
“ ..............ไอ้ โรคจิต มรึงไม่ได้ยินหรือไงว่ากรูเกลียดมรึง เกลียดเกลียดเกลียด และก็เกลียด” คำพูดที่ทิ่มแทงใจถูกย้ำๆให้ผมได้ทรมาน แต่ไอ้บ้าอย่างมรึงก็ยังหน้ามึนได้อีก
“ กินเอง หรือพี่ป้อนเลือกเอา” ผมบอกเสียงเข้ม จ้องหน้าจักร ว่ายังไงก็ต้องกินข้าว
“ กินเอง!” จักรตอบเสียงห้วน
“ .......................................
.........กรูไม่เคยเห็นใครหน้าด้านหน้าทนอย่างมรึง!” “ กิน”
“ เออ กรูจะกิน!” จักรว่า แย่งจานจากมือผมไป พร้อมเอาช้อนตักข้าวผัดกินโดยไม่มองหน้าผม
ทว่า โอ๊ย! ผมเจ็บจะบ้า
“ ..................” ผมลุกขึ้นเดินไปเอาจานข้าวตัวเองมานั่งกินด้วย
ผมกับจักรกินข้าวต่อไปเรื่อยๆ ผมกินจนหมดจาน แต่จักรยังไม่ได้ครึ่งจานเลย ก็กินเหมือนหุ่นยนต์น๊อตหลุดหมดพลังงาน
“ อิ่มก็พอ” ผมบอกดึงจากในมือจักร แต่น้องเขาดึงกลับไป
“ กรูจะกินให้ท้องแตกตาย!” จักรบอก จ้องผมเขม็ง
“ จักร!?”
“ มรึงอยากให้กรูนักไม่ใช่หรือไง!”
“ ทำไมถึงได้ชอบพูดประชดประชันนัก” ผมว่าอ่อนใจ
“ กรูก็เป็นแบบนี้ ไม่พอใจก็ช่วยไม่ได้” จักรพูดพร้อมยักไหล่ไม่หยี่หละ น่าจะทำเพื่อให้ผมหมั่นไส้ ซึ่งมันได้ผล แต่ผมก็พยายามใจเย็น
“ พอไม่ต้องกินแล้ว!!” ผมบอก เสียงผมเปลี่ยนแต่ผมก็กดลงให้ปกติที่สุด
“ กรูไม่ยักรู้ว่าต้องฟังคำสั่งมรึง!”
“ จักร อย่ายั่วโมโหพี่ได้ไหม?” ผมว่ายืนขึ้น โมโห
“ งานถนัดกรูเลยล่ะ เดี๋ยวสักพักมรึงโกรธจะข่มขืนกรูใช่ป่ะ?” จักรพูดเงยหน้ามองผม
“ แล้วอยากให้เป็นแบบนั้นไหมล่ะ?” ผมถามเหมือนท้า ก็ท้านั่นแหละ ไม่เคยพูดกันดีๆเลยๆ
“ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกรู มันขึ้นอยู่ความบ้าตัณหากลับของมรึง ไอ้พวกเกย์ มั่วไม่เลือกยังพอ คนเขาไม่ยอมก็ข่มขืน เป็นพวกวิปริตไม่พอยังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น!”
“
จักร พี่ชอบผู้ชายไม่ได้ความว่าพี่เลว!”
” เอ้อ ...งั้นที่มรึงเลวเป็น
สั น ด า น มรึงใช่ไหม!!??”
“ จักรความอดทนของพี่ มันใกล้จะหมดแล้วรู้ไหม?”
“ ขอบคุณที่บอก แต่กรูไม่อยากรู้” จักรพูดส่ายหัว ทำปากยื่นปากยาว
“ ...............”
อยากเลวมากนักใช่ไหม?จะเลวให้...
จะเลวให้สุดๆไปเลย
ผมเอายาใส่อุ้งมือแล้วยื่นให้จักร อีกฝ่ายทำเป็นไม่เห็นหันมองขวาบ้างซ้ายบ้างและพอหันมาเจอหน้าผมก็เงยหน้ามองเพดาน
“ กิน” ผมสั่งไม่ได้บอก
“ ... “ จักรจ้องเพดานห้องทำเป็นสนอกสนใจหนักหนา
“ กิน!” ผมขึ้นเสียง จักรตวัดสายตามามองผมไม่พอใจ
“ กิน!!”
“ .................” จักรนิ่ง ผมเลยเอามือบีบคางกรอกยาลงไปพร้อมกรอกน้ำตามจักรสำลักน้ำไอแค่กๆ แต่สายตาไม่ละจากหน้าผมเลย มองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ แค่กๆ” (จักรหน้าดำหน้าแดง)
“ ดีๆไม่ชอบ ก็ต้องเจอแบบนี้ และอย่าแผลงฤทธิ์อีก แล้วก็นอนลง ตอนเย็นพี่จะไปส่งบ้าน!” ผมสั่ง จักรฟลุบตาลงนอนห่มผ้าหันหลังให้ผมรวดเร็ว
“ คิดดูดีนะจักรว่าอยากให้พี่เป็นคนแบบไหน?” ผมพูดก่อนที่จะนั่งลง
“ กรรมเวรอะไรของจักรที่ได้มาเจอพี่ พี่ไม่รู้ และไม่รู้ด้วยว่ากรรมเวรอะไรที่ทำให้พี่รักจักร” ผมว่าก่อนที่กอดจักรจากด้านหลัง ซบใบหน้าแนบกับหลังบางๆ
ผมหมดความมั่นใจ ที่แสดงความรู้สึก เพราะมันไม่มีค่าอะไร ไม่มีใครอยากได้...คงจะมีแต่แบบนี้เท่านั้นที่ผมจะยึดจักร..ไว้กับผม
“ ...................”(จักร)
“ พี่ไม่ปล่อยจักรไปหรอก”
“ .....................” ไม่มีเสียงตอบกลับมา
“ ก็พี่เลว” ผมด่าตัวเอง ก็มันจริง
เขาไม่รักก็ใช้กำลังกับเขา แล้วยังบังคับอีกสารพัด
น่าสมเพชดี
“ ............”(จักรสะอื้น)
“ .................” ผมหลับตาลง และหลับในเวลาอันรวดเร็ว.......หากตื่นขึ้นมามีบางอย่างสิ่งเปลี่ยนไปก็คงดี
.
.
.
** ** **
ขอบคุณทุกๆเม้นต์ที่ให้กำลังใจ และอวยพรให้สุขภาพดีขึ้น ดีขึ้นแล้ว(ตอนนี้)
เรื่องพักผ่อนเจ้าหญิงนั้นพยายามจะนอนไม่เกิน 4 ทุ่มเจ้าค่ะเรื่องเล่นกีฬาเจ้าหญิงเล่นไม่ค่อยเป็น(ทุกอย่าง เปตองพอได้)
อ๊ากกกกกกกกก ในที่สุดก็เข้าใจการเล่นบอร์ดแล้ว(โง่ตั้งนาน)
ตามมาจากเด็กดีแหละครับผม โดนเจ้าหญิงล่อลวงมา 
จะติดตามเป็นกำลังใจให้ นะคร้าบบบ
ปล. ตอนจบเศร้ามากมาย 
........ท่านน้อง......คือ..ว่า......
..