บทที่ ๓๐
“นายนั่งรอแล้วกัน เดี๋ยวเราซื้อข้าวมาให้ เอาข้าวต้มแล้วกันนะ กินง่ายดี” ชตพูดแล้วเดินตามโรจน์ไป
“นี่ อย่าฟุบนอนที่นี่นะ โต๊ะมันไม่ค่อยสะอาดนักหรอก” จินเตือนอย่างเป็นห่วง ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเจนและเยาว์
ชมพู่ยืนรอเพื่อนๆอยู่กลางโรงอาหาร พร้อมกับมองหาโต๊ะที่มีที่ว่างพอสำหรับเธอและเพื่อนทั้ง ๕ คน แล้วสายตาก็มองไปเห็นน้ำที่นั่งอยู่ตามลำพัง และโต๊ะทางด้านหลังของน้ำก็ว่างพอดีเสียด้วย
“นี่ๆ โต๊ะนั้นว่าง เดี๋ยวพวกเธอตามมานะ” ชมพู่หันไปตะโกนบอกเพื่อนๆ แล้วเดินไปยังโต๊ะที่หมายตาไว้
ต้อยที่เดินตามมาติดๆ พอมองเห็นคนที่นั่งอยู่ตามลำพัง ก็เตรียมจะส่งเสียงทักทาย แต่ถูกชมพู่ปรายตาห้ามไว้ จึงนั่งลงข้างๆชมพู่ ส่วนมิตรและอ้วนที่เดินตามมาอีก ก็เดินอ้อมไปนั่งลงลนเก้าอี้ด้านตรงข้าม
หมูเดินตามมาเป็นคนสุดท้าย เมื่อมองเห็นน้ำที่นั่งอยู่คนเดียว กำลังยกโทรศํพท์มือถือขึ้นแนบหู หมูหยุดชะงักมองดูด้วยความประหลาดใจ ว่าเพื่อนๆเลือกมานั่งที่โต๊ะตัวนี้ ด้วยเจตนาใดกันแน่ หมูมองเห็นชมพู่ชี้ตรงที่ว่างข้างๆต้อง เหมือนจะให้เขาไปนั่งตรงนั้น เป็นตำแหน่งที่อยู่ด้านหลังของน้ำพอดี หมูคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปนั่งข้างๆอ้วน ที่อยู่ตรงข้ามแทน ทำให้ชมพู่ไม่พอใจจนแสดงออกทางสีหน้าอย่างแจ่มชัด
“เอาน่า แบบนี้อาจจะดีก็ได้” ต้อยเอียงหน้าไปพูดเบาๆกับชมพู่ แต่ก็โดนค้อนใส่เสียวงใหญ่ ต้อยหัวเราะเบาๆอย่างไม่ถือสา
“พี่หมู”
จินที่เดินมาที่โต๊ะ มองเห็นหมูก็ส่งเสียงทักอย่างดีใจ “อุ๊ย … เพื่อนๆพี่หมูด้วย มานั่งกันตรงนี้นี่ บังเอิญหรือจงใจ เพราะเป็นห่วงใครรึเปล่าคะ”
“พอเลยแก อย่าออกนอกหน้าให้มากนัก”
เจนที่นั่งลงก่อนปราม แล้วดึงน้องสาวฝาแฝดให้นั่งลง ชตเดินไปนั่งลงข้างน้ำ ส่งสายตามองจินอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ชต เอ็งเอาน้ำอะไร จะไปซื้อให้” โรจน์ถาม พลางวางจานข้าวลงตรงที่ว่างอีกข้างหนึ่งของน้ำ
“ชาดำเย็น” ชตตอบ
“ส่วนอขงเอ็ง น้ำเปล่าแล้วหันนะ ไม่สบายอยู่นี่ ไอ้น้ำฝน”
โรจน์พูดเสียงดังก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเยาว์ ที่จะไปซื้อเครื่องดื่มสำหรับตัวเอง และจะได้ช่วยโรจน์ถือเครื่องดื่มกลับมาด้วย
ต้อยกับเพื่อนทั้ง ๔ เมื่อได้ยินประโยคหลังของโรจน์ ก็หันมองหมูพร้อมกันราวกับนัดหมาย ต่างส่งสายตาเหมือนจะถามว่า … รู้เรื่องนี้หรือเปล่า … หมูเห็นแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเหมือนจะบอกว่า … รู้แล้ว
“นี่ น้ำ … น้ำฝน คิดยังไงไปเดินตากฝนเล่น จนไม่สบายขนาดนี้” จินถามไม่เบานัก
“ก็ …” น้ำอึกอัก “มันหลบฝนไม่ทัน”
“หลบไม่ทัน หรือไม่ยอมหลบกันแน่ยะ อยากป่วยแบบนางเอกละครทีวีเหรอ” จินทำหน้าหมั่นไล้ “จำได้ป่ะเจน ละครทีวีวันก่อน ที่นางเอกน้อยใจพระเอกที่เข้าใจผิด เลยเสียอกเสียใจ ตากฝนอยู่เป็นชั่วโมง”
“เรื่องไหน” เจนทำท่าคิด
เป็นจังหวะเดียวกับที่โรจน์และเยาว์กลับมาที่โต๊ะพอดี โรจน์จะรินน้ำจากขวดใส่แก้ว แต่ชตแย่งไปทำเสียเอง แล้ววางแก้วน้ำลงข้างๆชามข้าวต้มของน้ำ หมูที่นั่งอยู่ทางด้านหลัง มองดูการกระทำของชตอยู่ตลอดเวลา
“ก็เรื่องนั้นไง” จินเหลือบสายตาไปที่หมู
“อ๋อ ~~~” เจนลากเสียงยาว
“แล้วเรื่องเป็นไงต่อ” เยาว์ถาม
“หนังซีรีส์มันจะมีอะไร” โรจน์พูดกึ่งรำคาญ “นางเอกก็ต้องป่วยหนัก ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลไง แล้วพระเอกก็งอนๆๆ ทีนี้ก็เป็นทีของพระรอง เข้ามาปลอบใจนางเอก ช่ายป่ะ”
“เรื่องนี้ไม่มีพระรองย่ะ” จินพ่นลมออกทางจมูก “นางเอกเข้าโรงพยาบาลน่ะใช่ แต่พระเอกเรื่องนี้คิดได้ ว่าตัวเองก็ทำไม่ถูกเหมือนกัน ก็เลยไปทำดีกับนางเอก ดูแลจนหายป่ย แล้วกลับมารักกันเหมือนเดิม”
“รักกันเหมือนเดิมเหรอ” เยาว์อุทาน “แปลว่าพระเอกกับนางเอก รักกันอยู่ก่อนแล้วน่ะสิ”
“คงงั้นมั๊ง” จินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วกินข้าวต่อ
“น้ำเน่าหวะ” ชตแต่นเสียง “ว่าแต่เย็นนี้เราไปส่งนายที่บ้านนะ น้ำฝน”
“กูไปด้วย” โรจน์รีบพูดแทรก จนชตทำหน้าดุใส่
“วันนี้เราไม่กลับบ้าน” น้ำพูดเสียงเบา
“อ้าว” ชตกับโรจน์อุทานขึ้นพร้อมกัน
“เมื่อกี้เราโทรฯไปบอกแม่ว่าไม่สบาย แม่เราบอกว่าถ้ากลับบ้าน ต้องเปลี่ยนรถหลายรอบ เดี๋ยวจะเป็นหนัก แม่เลยให้นอนพักอยู่ที่หอดีกว่า
“งั้นเราก็ไม่กลับ เราจะอยู่เป็นเพื่อนนาย” ชตพูดด้วยความเป็นห่วง
“กูอยู่ด้วย” โรจน์ทำหน้าทะเล้น “จะได้อยู่เป็นก้างขวางคอ เอ๊ย ช่วยดูแลไอ้น้ำ ฮ่าๆๆ”
“ชั้นว่า พวกนายไม่ต้องอยู่ทั้งคู่น่ะแหละ” จินขัด
“ทำไมล่ะ” โรจน์โอดครวญ
“ถ้าพวกนายอยู่ด้วย แล้วเมื่อไหร่ พระเอกกับนางเอก เขาจะปรับความเข้าใจกันได้ซะทีล่ะ จริงไหมคะพี่หมู”
ประโยคสุดท้าย จินตะโกนเสียงดัง จนอ้วนและมิตรต้องอมยิ้ม ต้อยกับชมพู่นั้นหัวเราะพรืดออกมาทันที ส่วนหมูที่กำลังดื่มน้ำอยู่ ถึงกำสำลักน้ำพรวด แล้วไออยู่หลายที