[18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]  (อ่าน 238749 ครั้ง)

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
อ่านเเรกๆสงสารพี่อามมากๆเพราะเวลามีอะไรกะนาวเสร็จก้อรู้สึกผิด  ต่อมาก้อสงสารทุกคนเลย เเละก้อน่ะ :m25:

หื่นซะไม่มีเรา  :m25: :m25:

ฝันบอกเหตุๆๆ 555+ :pigha2: :pigha2:

เมื่อไรจะมีความสุขอย่างเเท้จงน่ะ :z1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
 :haun4: ฝันบอกเหตุ หุหุ
ทนมะไหวแอบไปอ่านตอนที่สิบฉี่ก่องและกัน หุหุ :haun4: :haun4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2010 21:54:49 โดย samsoon@doll »

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
 :haun4: :z1: นี่ขนาดแค่ฝัน....

แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆๆ.... :z1: :m25:


แนะนำร้านทำรีแพร์(ตรูด)ให้อามด่วน....... :laugh:

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
ฝันเรียกเลือดซะ อยากให้เป็นจริงรึป่าวจ้ะอาม :z1:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ฝันน่ากลัวจัง มารออ่านนะครับ

ออฟไลน์ veeva

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-2
รักกันสามคนอย่างนี้ตลอดไปนะคะ เค้าทั้งสองคนของคุณก็ตัดสินใจและสมัครใจอยู่ร่วมกันแล้วนี่ ในเมื่อคุณตัดใครไม่ขาด ทำร้ายใครไม่ลง ก็รักกันแบบนี้ไปเรื่อยๆดีแล้ว ไม่เห็นต้องสนใจใครเลย ความสุขของคุณ และคนที่คุณรักซะอย่าง อย่าแคร์คนอื่นจนทำร้ายคุณและคนที่คุณรักเลย เพราะไม่มีใครทำร้ายคุณได้มากกว่าตัวของคุณเอง

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
3P ของจริง  อืมมมม....


รักของแต่ละคนรุนแรงจริงๆ ทั้งนาว ทั้งคิม เลยนะ  :serius2:

พอเข้าใจเลยว่าตอนแรกๆอามรู้สึกอึดอัดแค่ไหน   :เฮ้อ:

แต่ก็สุขไปด้วยใช่ไหมล่ะ   :-[

แต่เรื่องของความรักที่ได้รับ(ทั้งความรู้สึกและsex)บางทีมันก็หนักไปจริงๆนะ ไอนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไอเป็นแบบนี้บ้างจะเป็นไงแห๊ะ   :z10:


ไงก็ขอให้มีความสุขนะคะ   o13


เชียร์อยู่นะและจะติดตามตลอดไปค่ะ   :bye2:

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 14 พวกเรา “รัก” กันครับ
ระหว่างที่คิมไม่อยู่ ผมก็กลับไปอยู่กลับนาวประมาณหนึ่งเดือน นาวดูจะมีความสุขมากกกก เรียนเสร็จก็กลับบ้านอย่างรวดเร็ว นาวดูรื่นเริงออกนอกหน้าจนคนในบ้านยังสังเกตได้
“แหม พอพี่อามกลับมาอยู่ด้วยหน่อย นาวดูอารมณ์ดีจังเลยนะลูก” อานาถแซวนาว
“แน่นอนสิคุณแม่ พี่อามของนาวทั้งคน” นาวยิ้มกริ่ม พูดแล้วก็เอามือมาโอบผมเลย ผมถึงกับตั้งตัวไม่ทัน แต่ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร ญาติๆที่เห็นท่าทีของนาวต่างก็หัวเราะ ด้วยความเอ็นดู ประมาณว่าพี่น้องคู่นี้มันน่ารักกันจัง ผมละระแวง

ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ทุกค่ำคืน เรื่องเกมรักของรักสองคนก็ร้อนแรงขึ้นทุกวัน พร้อมๆกับความผูกพันที่ลึกซึ้งมากขึ้นทุกทีๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคิมจะโดนผมลบออกไปจากใจนะครับ คิมก็ยังอยู่ในใจผมเสมอ
วันหยุดวันนึงก่อนที่คิมกำลังจะกลับเมืองไทย ผมพานาวไปเดินเล่นและซื้อของที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ขณะที่กำลังเดินๆอยู่นั้น ก็บังเอิญพบกับ ไอ้วินกับไอ้บีมพอดีเลย

“เฮ้ย ไอ้อามดีใจจังที่เจอมึง สบายดีนะเว้ย” บีมเข้ามาตบไหล่ทักทายผมด้วยความดีใจ วินก็เช่นกัน
“แล้วพวกมึงมาทำอะไรกันอ่ะ” ผมเริ่มอยากรู้
“เออคือว่า” วินเริ่มอึกอัก จนบีมต้องบอกว่า
“เราสองคนมาดูของตกแต่งบ้านน่ะ ตอนนี้เราสองคนย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันแล้วน่ะ” บีมยิ้มอายๆ
“ว้าวจริงเหรอว่ะ ที่คอนโดของวินอ่ะนะ กูดีใจด้วยจริงๆโอ้ยอิจฉาๆ” ผมแกล้งแหย่พวกมันสองคน
“แหมว่าไปนั้น มึงอ่ะตัวดีเลย พอสอบเสร็จก็หายหัวไปกับไอ้คิมสองคนเลย ไม่เคยส่งข่าวให้เพื่อนฝูงรู้บ้างเลยนะมึง กูนึกว่ามึงตั้งท้องไปแล้วนะเนี่ย” ไอ้วินกัดกูได้อีกนะมึง
“ไอ้บ้า พูดเชี่ยอะไรเนี่ย กูไม่ได้มีมดลูกนะเว้ย” ผมแย้งกลับไป พูดจบก็ขำๆกันไป
“อ้าวน้องนาวมาด้วยเหรอ ไม่เจอกันแป๊บเดียว กลายเป็นหนุ่มหล่อเลยนะเนี่ย ตอนแรกกูนึกว่าเป็นกิ๊กมึงซะอีกนะเนี่ย” ผมรู้ว่าไอ้บีมพูดเล่นที่บอกว่านาวเป็นกิ๊กผม ผมกลับคิดในใจว่า ตอนนี้เป็นมากกว่านั้นอีกมึง ไม่รู้ว่าจะพูดว่ายังไง ทำไมมึงนี่เป็นที่รู้ใจกูไปหมดทุกอย่างเลยวะ นาวยิ้มอายๆพร้อมกับเข้ามาโอบผม

“ดูๆทำเข้า นี่ถ้าใครไม่รู้จักคงคิดว่าเป็นแฟนกันจริงๆนะเนี่ย” วินก็เข้ามาแซวสมทบอีก ผมเองได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อนไป แต่แอบถอดถอนใจ วันนั้นเราสี่คนก็เลยเดินดูของจตุจักรด้วยกัน จำได้ว่าวันนั้นซื้อของไปเยอะมาก โดยเฉพาะไอ้บีมกับไอ้คิม ยังกับคู่แต่งงานใหม่เลย ไม่ได้หวานจนเลี่ยน แต่ก็ดูห่วงใยใส่ใจกันตลอดเวลา นาวเห็นเข้าก็เลยพยายามเข้ามาอ้อนผมตลอด ซึ่งเหตุนี้ทำให้ผมงานเข้า
ขณะที่ผมไปเข้าห้องน้ำ แล้วบีมก็ตามเข้ามาด้วย ขณะที่กำลังล้างมือ บีมถามผมเบาๆว่า
“มึงกับน้องนาวเป็นกิ๊กกันจริงๆใช่มั้ย” ผมแทบจะหน้าเสียไปเลย แต่ว่าต้องเก็บอาการสุดฤทธิ์
“มึงถามเชี่ยอะไรเนี่ย นาวเป็นน้องกูนะเว้ย” ผมพยายามทำเป็นหงุดหงิดประมาณว่า มันถามอะไรไม่เข้าท่า
“อามกูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย กูมองตามึงกับน้องนาวตอนที่อยู่ด้วยกัน ดูท่าทางการแสดงออกก็รู้แล้วว่ามันเกินกว่าความเป็นพี่น้อง มึงบอกกูมาเหอะว่ะ” ผมได้แต่อึ้ง บีมมันรู้เรื่องจริงๆด้วย ผมไม่รู้ว่าจะตอบมันอย่างไรดี หน้ามันก็ไม่กล้ามอง ผมไม่รู้จะไปต่อยังไงดี

ในที่สุดผมก็ยังคงตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จต่อไปด้วยความระแวงสุดขีด
“มึงเป็นอะไรมากปะเนี่ย เรื่องอื่นมึงล้อเล่นอะไรก็ได้กูไม่ว่า แต่ว่าเรื่องนี้กูซีเรียสนะเว้ย” ผมทำหน้าดุๆใส่มันอีกที ปรากฏว่า
“เฮ้ยเชี่ย มึงเป็นอะไรกูแค่ล้อมึงเล่นเอง โหดูดิหน้าเหียกเลยมึง” ไอ้บีมมันขำครับ
“ก็ดูเรื่องที่มึงล้อดิ มันตลกซะที่ไหน” ผมแอบโล่งอก
“แต่พูดก็พูดเถอะนะ มึงกับน้องมึงอ่ะเหมือนแฟนกันเลยเหอะ นี่ถ้ากูไม่รู้ว่าน้องนาวเป็นน้องมึงนะ คงคิดว่าเป็นกิ๊กมึงจริงๆนะเนี่ย”
“มึงพูดจริงเหรอว่ะ” ผมเริ่มกลับมากังวลใหม่
“จริงดิ มึงลองสังเกตสายตาคนรอบข้างดีๆดิ เขามองว่ามึงมีแฟนเด็กทั้งนั้นแหละ” เฮ่องานเข้าอีกแล้ว
หลังจากคุยกันจบผมแทบจะหมดอารมณ์เดินเจเจต่อ แล้วก็พยายามไม่ให้นาวถูกเนื้อต้องตัว นาวเลยงงๆไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมดูเฉยเมยกับเขาไปโดยกะทันหัน ขณะกลับบ้านผมไม่พูดอะไรกับนาวสักคำ พอกลับมาถึงห้อง เราก็เริ่มทะเลาะกันใหญ่โต

“พี่อามไม่พอใจอะไรนาวรึเปล่า” นาวเริ่มซักไซ้
“ปล่าวหรอก ไม่มีอะไร” ผมตอบด้วยความกังวลใจ
“ไม่มีอะไรได้ไง ดูหน้าพี่อามดิ ซีดอยากกับเจอผีหลอก ตั้งแต่กลับมาก็ไม่พูดอะไรกับนาวเลย ทำแบบนี้หมายความว่าไง” นาวเริ่มโวยวาย
“พี่ขอไปอยู่บ้านคุณย่าก่อนนะ” ผมไม่รู้จะพูดกับนาวยังไงดี เพราะนาวก็ไม่ได้ทำอะไร ผมกำลังกังวลใจมากกว่า แต่ว่าขณะที่กำลังเดินออกไปจากห้อง นาวตะครุบตัวผมไว้ แล้วจับผมกดลงกับพื้น
“พี่อามนาวทำอะไรผิด บอกนาวสักคำไม่ได้เหรอครับ” นาวมองเขามานัยย์ตาผมเหมือนเค้นหาความจริงอะรบางอย่าง
“นาวไม่ผิดหรอก มันไม่ใช่ความผิดของนาว”
“แล้วพี่อามเป็นอะไร นาวเห็นเงียบมาตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำกับพีบีมแล้ว” ผมมองหน้านาวแป๊บนึงก่อนจะบอกว่า
“พี่บีมบอกว่าเราสองคนดูเหมือนกิ๊กกัน”
“พี่อามเลยมากังวลใจแบบนี้เนี่ยนะ” นาวดูหัวเสียมาก
“ไม่ใช่แค่พี่บีมนะที่สงสัย คนอื่นๆที่เห็นเราสองคน หลายคนก็คิดแบบนี้นะ
“แล้วทำไมอ่ะ แต่ก่อนพี่อามยังไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“พี่คิดว่าตอนนั้นพี่แสดงออกกับเราเหมือนน้อง แต่การที่เราใกล้ชิดกันทุกวัน ท่าทีที่แท้จริงมันก็คงจะเผยออกไปเรื่อยๆแล้วล่ะ” พูดจบเท่านั้นแหละครับ นาวก็เริ่มร้องไห้
“ใช่สิ นาวมันเป็นแค่น้องชายที่รัก ไม่ใช่ที่รักของพี่อามนี่” นาวเริ่มโวยวายต่อ ผมเองก็ได้แต่เงียบไม่รู้จะพูดอะไร เลยผลักนาวออกแล้วลุกขึ้น แต่คราวนี้ผมเปลี่ยนใจไม่ได้ไปบ้านคุณย่า

“พี่อามทำอะไร”
“เก็บของ พรุ่งนี้พี่พึ่งนึกได้ว่าคิมจะกลับแล้ว” ผมตอบแบบไม่มองหน้านาว
“ไม่ให้ไป เรายังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” นาวเข้ามาคว้าข้อมือผมไว้
“ไม่ต้องรู้เรื่องหรอก พูดกันไปก็ไม่จบอยู่ดี ปล่อยพี่เหอะ ได้เวลากลับแล้ว” แต่นาวก็ไม่หยุด หยิบกระเป๋าผมขว้างออกไปให้ไกลตัวผม
“นาวอย่าทำแบบนี้ เราไม่ได้เป็นเด็กแล้วนะ”
“ก็เพราะใครล่ะที่ทำให้นาวไม่เป็นเด็ก รับผิดชอบด้วย”
“อ๋อแสดงว่าที่ผ่านมาพี่ผิดใช่ไหม งั้นก็ปล่อยพี่ไปดีกว่า นาวจะได้ไม่ต้องทรมานแบบนี้ไง”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง จะทิ้งนาวเหรอไง แค่มีคนนึกว่าเราเป็นแฟนกัน จะมาหาเรื่องเลิกกันง่ายๆเหรอไง ไม่ต้องเลยนาวไม่ให้กลับ” นาวจับผมกดไว้ครับ
“ปล่อยนะเราพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว”
“ก็นาวไม่ได้ให้พูดนี่ นาวกำลังจะบรรเลงเพลงรักของเราต่อต่างหาก”
“ปล่อยนะ เจ้าดื้อ อย่าดีแต่ใช้กำลังแบบนี้”
“พี่อามก็อย่าเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้สิ” นาวเริ่มไซร้ผมอีกแล้ว ผมรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ เลยอยู่เฉยๆ จนนาวเริ่มรู้ตัวเลยหยุด แล้วเริ่มหันมากอดผมแทน
“พี่อามครับ เราสองคนยังรักกันใช่ไหม ถ้ายังงั้นทำไมต้องสนใจคนอื่นด้วยล่ะ”
“โลกนี้ไม่ได้มีเราสองคนนะ พี่กลัวสังคมจะลงโทษเป็นเหมือนกัน”
“งั้นเราจะแบกไว้คนละครึ่งนะ” นาวตอบแบบคนที่ยังมีความเป็นเด็ก ผมได้แต่คิดในใจว่า นาวเอ้ยนาวไม่รู้หรอกว่า ความจริงโลกเรามันยากกว่าที่คิดเยอะ แค่เป็นคู่เกย์ก็ลำบากแล้ว นี่มีกันสามคนอีก อนาคตเราจะต้องอยู่กันไปแบบหลบๆซ่อนๆยังงี้นะเหรอ พี่ไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว นาวเข้าใจรึเปล่า แล้วเราก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วย เรื่องราวยิ่งเลยเถิดเข้าไปกันใหญ่ พี่ต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว นาวไม่รู้หรอก ผมเองจึงได้แต่เงียบๆไป แล้วปล่อยให้นาวจูบผมแล้วจูบผมเล่าเหมือนจะให้ผมคลายกังวล แต่มันไม่ได้ทำให้ผมคลายกังวลแต่อย่างใดเลย

สรุปแล้วว่าผมก็ยังไม่ได้กลับไปหาคิม คืนนั้นทั้งคืนผมก็ยังอยู่กับนาว โดยที่เจ้าน้องชายตัวดีของผมก็เล่นตักตวงความสุขไว้แทบทั้งคืน ตื่นเช้ามานาวก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยผมไปง่ายๆ ขนาดว่าตื่นแล้วก็กอดผมแน่น มือก็ยังกับตีนตุ๊กแกแงะออกยากชะมัด
“นาวครับ ปล่อยพี่ได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่ต้องกลับแล้ว”
“ไม่อาว พี่อามอยู่กับนาวต่ออีกหน่อยนะ ขอนอนกอดที่รักของผมอีกสิบนาทีก็ยังดี”
“อย่ามาพูดเลย สิบนาทีมาหลายรอบจนจะครบชั่วโมงอยู่แล้ว” ผมรีบชิ่งหนีเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แต่ก็ปิดประตูไม่ทันจนได้
“ไม่ต้องหนีเลย มาให้นาวขย้ำตอนเช้าซะดีๆ” นาวหน้าตาหื่นมาก พร้อมกับจับผมกดลงอ่างน้ำทันที
“ไม่อาวววว เมื่อคืนก็เยอะแล้วนะ ไอ้เด็กหื่น ปล่อยพี่นะ” ผมร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายก็เสร็จนาวอยู่ดี โอ้ยเหนื่อยอีกแล้วผม

วันนี้ตามกำหนดการแล้ว คิมจะกลับมาถึงประมาณช่วงบ่าย ผมกะว่าจะกลับคอนโดแล้วไปรับที่สนามบิน แต่ปรากฏว่าคิมรออยู่ที่ห้องแล้วเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนแรกไม่เห็นเพราะเขาแอบอยู่ ผมรู้ตัวอีกที ก็ลงไปนอนกองกับพื้นโดยที่รู้สึกได้ว่ามีอะไรใหญ่ๆทับไปเรียบร้อยแล้ว และไม่ทันที่จะพูดอะไรปากผมก็โดนประกบ ลิ้นผมก็โดนพันเรียบร้อยไปแล้ว เป็นการจูบที่เนิ่นนานที่สุดครั้งนึงเลยทีเดียว
“คิมกลับมาแล้วครับที่รัก คิดถึงคิมบ้างมั้ย หรือว่าอยู่กับไอ้เด็กหน้าอ่อนจนลืมที่รักคนนี้ไปแล้ว” เอาเข้าไปไม่วายกัดผมจนได้นะคิม แต่เอาเถอะ ผมไม่ถือ
“คิดถึงสิครับ ทำไมจะไม่คิดถึง เราไม่เคยลืมคิมได้หรอก” ไม่ทันที่จะพูดจบ คิมก็เอามือมาถอดกระดุมเสื้อผมจนเกือบจะหมดซะแล้ว เฮ่อ รู้สึกว่าตั้งแต่คบกับสองคนนี้มา ผมแก้ผ้าพอๆกับใส่เสื้อเลยมั้งเนี่ย
“คิมครับ จะทำเลยเหรอ พึ่งกลับมาไม่เหนื่อยหรือไง” ผมแซวคิม
“โธ่อาม อามรู้มั้ยว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราต้องอดทนแค่ไหน มือตัวเองไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กับอามหรอกนะ เราได้จินตนาการว่าเรามีเมคเลิฟกันไปวันๆจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
“จริงอ่ะ ไม่ได้ไปหาฝรั่งที่ไหนมาแก้เหงาเหรอ” ผมแซวอีก แต่ว่าคราวนี้งานเข้าครับ
“ทำไมอามพูดเงี้ย เราไม่ได้เป็นคนสองใจแบบอามน่ะ” ผมฟังแล้วผมปรี๊ดแตกเลยครับ
“ถ้าเราสองใจจะคบเราทำไม เลิกๆไปเลยตั้งแต่แรกสิ จะได้หมดปัญหา ก็เราสามคนตกลงกันแบบนี้นี่ แล้วจะมาพูดแบบนี้หาสวรรค์วิมานอะไร เราก็ไม่อยากเป็นแบบนี้หรอก แบบนี้นะเลิกกันไปเลยดีกว่า” ผมผลักคิมออกแล้วเดินหนี ตอนนั้นผมร้องไห้ ในใจคิดแต่จะกลับบ้านอย่างเดียว

“ทำไมอ่ะ แค่คิมพูดแค่นี้ อามรับไม่ได้เหรอ ทีอามยังหาว่าเราไปหาฝรั่งได้เลย”
“คิมไม่เข้าใจเหรอว่าเราแค่ล้อเล่น ทำไมคิมต้องจริงจังขนาดนี้ คิมเป็นอะไรไป เราไม่เข้าใจเลย”
“อามแกล้งโง่รึเปล่า เราไม่ได้อยากได้ยินอามหาว่าเราไปหาคนอื่น เพราะเรารักอามคนเดียว เข้าใจมั้ย” ตอนนี้คิมก็น้ำตาเริ่มไหลเหมือนกัน แต่ผมน้อยใจคิมจนอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลไปแล้ว แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“อามจะทำอะไร” คิมถามเสียงเขียว
“จะโทรให้นาวมารับ เราทนไม่ไหวแล้ว เราจะกลับบ้านไป เราทนอยู่กับคิมไม่ได้แล้ว ถ้าเราเป็นหลายใจก็ปล่อยเราไปเหอะ” ทันทีที่ผมกำลังกดโทรศัพท์ คิมก็มาฉกโทรศัพท์จากมือผมแล้วขว้างทิ้งไปที่ข้างฝาทันที ผมรีบวิ่งไปหาโทรศัพท์แต่โดนคิมล็อกตัวไว้

“แค่คิมหายไปเดือนเดียว นาวก็เทใจไปนาวมากกว่าแล้ว แล้วแบบนี้จะให้คิมทนได้ไง มาเดี๋ยวเราจะรื้อฟื้นรสชาติเก่าๆของเราให้” จากนั้นคิมก็เริ่มโหดร้ายกับผมแบบที่เคยเกิดก่อนหน้านี้
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ” ผมดิ้นหนีสุดฤทธิ์ ขณะเดียวกันก็โดนคิมไซร้อย่างไม่ปล่อย
“ไม่เรารักอาม อามต้องเป็นของเราคนเดียว”
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ จนกว่าอามต้องรับรสรักของเราเข้าไปก่อน” ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะข่มขืนโดยคนที่ตัวเองรักอีกครั้ง มันช่างน่าเจ็บปวดจริง ผมได้แต่หลับตาเพื่อไม่เห็นภาพแย่ๆของคิมที่ทำกับผม ผมอยากรู้สึกดีๆกับคนที่ผมรักมากกว่า มากกว่าจะจดจำเรื่องแย่ๆเอาไว้แบบนี้

แต่ในขณะที่เสื้อผ้าผมถูกถอดไปหมด ทำไปทำมากลายเป็นว่าคิมร้องไห้ แล้วก็มาซบอกผม
“เราขอโทษนะ เรารักอามนะ อามอย่าเกลียดเรานะ เราแค่กลัวว่าอามจะรักนาวมากกว่าเรา เราทนไม่ได้จริงๆ” จากนั้นอามก็ร้องห่มร้องไห้อย่างมากมาย ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เอามือไปโอบกอดคิมไว้
“อย่าโทษตัวเองเลย เราก็ผิดด้วย เราไม่เคยรักใครมากกว่ากันเลยนะ เราคิดถึงคิมมากนะ ได้โอบคิมไว้แบบนี้ เรารู้สึกดีมากเลยคิมรู้มั้ย”
“อามพูดจริงๆนะ” คิมดูดีใจมาก
“จริงสิ เราจะโกหกคิมทำไม”
“งั้นอามนอนเฉยๆนะ เราอยากสำรวจร่างกายอาม” จากนั้นคิมก็เริ่มใช้ปากจูบตามจุดต่างๆของร่างกาย อารมณ์ผมมันช่างเปลี่ยนไปเร็วจริงๆ เมื่อกี้ยังหดหู่ ตอนนี้เริ่มที่จะเสียวซ่านอีกแล้ว คิมจูบผมอย่างแผ่วเบา มันก็แค่จูบ แต่ผมรู้สึกว่าใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้
“อามอ้วนขึ้นอ่ะ แต่ก็น่ารักดีนะ เหมือนหมีน้อยมากกว่าเดิม เอหรือว่าไปท้องกับใครมา”
“บ้า อย่ามาแซว เราไม่มีมดลูกซะหน่อย” ผมขำที่คิมแซว
“งั้นเรามามีลูกกันดีมั้ยครับที่รัก”
“พูดอะไรตลกๆ ทำงานมากไปจนเพี้ยนแล้วมั้งเนี่ย”
“พูดจริงๆนะ เราอยากมีลูกกับอามมากเลย”
“แล้วจะให้ใครเป็นพ่อ เป็นแม่ แล้วนาวจะเป็นอะไรล่ะ”
“ไม่รู้เรื่องนาวหรอกนะ รู้แต่ว่าคิมจะมีลูกกับอาม จะมีลูกกับอาม จะมีลูกกับอาม”
“เพ้อใหญ่แล้วนะคิม” พูดจบคิมก็มากอดผม
“เราจะมีลูกกันนะครับ”
“เราตามใจคิมละกัน”
“สัญญาแล้วนะที่รัก” ผมพยักหน้าตอบ คิมเข้ามาโอบกอดผม แต่ในใจผมคิดว่า แล้วนาวล่ะจะอยู่ในฐานะไหน


****************************

ยุ่งๆอะครับ ช่วงนี้ มาได้ไม่บ่อย ต้นฉบับร่อยหรอละ พี่อามมาลงช๊า ช้า

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
อามบางทีก็คิดมากเกินไปนะ เพราะถ้าเลือกแล้ว อย่าได้ไปแคร์ แค่นี้คิมกับนาวก็เเข่งกัน แล้วก็กลัวจะเสียอามไปจะแย่ เป็นกำลังใจให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข  o13

ไรท์เตอร์จ๊ะ ที่บอกว่า "แค่คิมหายไปเดือนเดียว นาวก็เทใจไปนาวมากกว่าแล้ว"
จะบอกว่า อามก็เทใจไปที่นาวมากกว่าแล้ว  ป่ะ?  เป็นกำลังใจให้จ้า
ปล.ตอบเม้นท์จากมือถือจิ้มทีละตัวเหนื่อยมากมาย :z10:

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
อามเลยแย่เลย ยังไงก็จะรออ่านต่อนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อืมมมม.... นั่นสิ เรื่องมันขนาดนี้เข้าไปแล้ว ไงๆก็ปล่อยมือจากทั้งคู่ไม่ได้ก็อย่าไปแคร์ไปคิดมากมันเลยนะ   :เฮ้อ:


ว่าแต่.. จะมีลูกไงอ่ะ  ท่าทางพูดจริงนะนั่น  o22

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
 :sad4: :sad4:สงสารนาวอ่ะ

สงสารพี่อามด้วยเป็นคนกลาง

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
มาติดตามเรื่องราวของสามหนุ่ม

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
รู้สึกว่าพี่อามแก้ปัญหาไม่ค่อยตรงจุดเท่าไหร่
เรื่องมันเลยยุ่งยาก
.
.
.
ทางที่ดีคือ
รวมกันเรา... :haun4:
แยกหมู่เราจ๋อย

surfsurf

  • บุคคลทั่วไป
รอ อ่านตอนต่อไปนะครับ

อยากให้มี 3P เยอะๆๆๆ :fire:

แต่เราแอบเชียร์พี่คิมมากกว่านะ

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29

ash

  • บุคคลทั่วไป
3P ก็ดีเนาะ :haun4:

แต่ท่าทางจะเหนื่อยอีกนาน :oo1:

ติดตามอ่านตอนต่อไปจ้า o13

JkrR

  • บุคคลทั่วไป
ขอโทษทุกคนนะครับ หายไปนานเลย ติดเคลียร์เรื่องสอบ แล้วก็โปรเจคอะครับ

บทที่ 15 สมาชิกใหม่
“คิมครับ เราก็รักเด็กนะ แต่ถ้าเรามีลูกกันขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่มีปัญหาจริงๆเหรอ” ผมก็ยังคงสงสัย
“ไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์แบบหรอก ทุกครอบครัวก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น เราว่าสำคัญที่จะทำอย่างไรให้มีความสุขที่สุดมากกว่า จริงมั้ย” คิมพูดด้วยแววตาจริงจัง แล้วก็เอามือมาจับหน้าผม
“คิมอย่าโกรธนะ ถ้าเราสองคนมีลูก แล้วนาวจะอยู่ตรงไหน” ผมถามด้วยความหวาดหวั่น
“เขาอยู่ตรงไหนมาก่อน ก็ให้เขาอยู่ตรงนั้นแหละ แต่เราจะมีลูกกับอาม โอเคนะ เข้าใจนะจ๊ะที่รัก” ผมได้แต่พยักหน้ารับ จากนั้นคิมก็เข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงผมอย่างเต็มที่
“ทำอะไรน่ะคิม เราหายใจไม่ออกนะ” คิมรัดผมไว้แน่นมาก
“ก็ขอกอดอามแน่นๆหน่อยสิ ไม่ได้อยู่กับอามนาน เราจะบ้าตายแล้วรู้เปล่า” จากนั้นคิมก็ใส่ผมแทบไม่ยั้ง จนผมแทบจะทนไม่ไหว เหมือนว่าตัวเองกำลังจะสำลักความสุขตาย คิมเองก็ดูเหมือนกำลังตักตวงสิ่งที่เขาขาดหายไปเป็นเดือน เหมือนตอนนี้เขาจะไม่รู้จักพอเอาซะเลย ในตอนนี้สีหน้าของคิมบิดเบี้ยวไปด้วยความปรารถนาและความเสียวซ่านสุดขีด ที่ผมมองแล้วก็ทำให้ไฟปรารถนาของตัวเองคุกโชนมากขึ้นไปกว่าเดิม ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราเติมเต็มความปรารถนาให้แก่กันและกัน รู้แต่ว่าผมหลับไปในอ้อมกอดของคิม ตื่นมาอีกทีก็ค่ำแล้ว รู้ตัวอีกทีเห็นอาหารมากมายเต็มตาไปหมดเลย
“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”
“ทำไมอาหารมากมาย เต็มไปหมดแบบนี้”
“ก็เราหิวแล้วอ่ะ”
“แล้วทำไมต้องทำอาหารมากมายขนาดนี้อ่ะ จะชวนใครมากินด้วยรึเปล่า” ผมงงเพราะอาหารมันเยอะไปหมดมากกว่าที่เราสองคนจะกินหมดในหนึ่งมื้อ
“ก็ตั้งแต่กลับเรามาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย ใช้พลังงานไปกับอามอีก อีกอย่างอามต้องทานเยอะๆเพื่อลูกของเราด้วยรู้มั้ย” ตายแล้วแฟนผมเป็นเอามากเลยนะเนี่ย
“บ้าจะเพิ่มพูนไขมันน่ะสิ ไม่ว่า ตลกแหละ” ผมส่ายหัวแล้วก็ทำหน้าเบื่อๆใส่คิม
“ดีไม่ต้องหล่อมากหรอก ไม่อยากให้ใครมายุ่ง อ้วนๆไว้น่ะ ดีแล้ว”
“แหมจะอะไรกันมากมาย เราไม่ได้หล่ออะไรเลยจะหวงอะไรกันหนักหนา”
“ไม่รู้ล่ะ แฟนเรา เราหวง” ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรก็ได้แต่ยิ้มๆ ในความง็องแง็งเวลาที่เขาอยู่กับผม เวลาทำงานละก็คนละเรื่องกันเลย
เรานั่งกินอาหารกันจนเสร็จและเก็บอาหารที่กินเหลือไว้พรุ่งนี้ แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ฮัลโหลครับแม่ ว่าไงครับ ครับพึ่งกลับมาถึง อะไรนะครับ........ ครับๆคิมจะไปเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงคิมดูตกอกตกใจมาก
“มีอะไรเหรอคิม”
“พี่เคท(พี่สาวคนที่สาม)กับแฟนถูกรถชนอาการสาหัส ตอนนี้ที่บ้านคิมอยู่ไอซียูกันหมดแล้ว เรารีบไปกันเหอะ” ผมได้ยินถึงกับตกใจมาก ผมเคยเจอพี่เคทหลายครั้ง พี่เคทเป็นผู้หญิงที่นิสัยน่ารักและสวยมาก แล้วก็มีลูกชายตัวน้อยชื่อกาเบรียล (ชื่อเล่นชื่อกีกี้) ก็น่ารักมากเพราะเป็นลูกครึ่งที่มีพ่อเป็นคนสเปนที่หล่อมาก ผมไม่อยากให้เกิดอะไรกับครอบครัวนี้เลย
“แล้วกีกี้กับคุณโฮ่เซ่ เป็นอะไรรึเปล่า”
“พี่โฮเซ่ตายคาที่ ส่วนกีกี้นั่งมาข้างหลังเลยรอดหวุดหวิด แต่คงจะเสียขวัญน่าดู แม่บอกว่ากีกี้ร้องไห้ไม่หยุดเลย”
“น่าสงสารจังเลย” ผมรู้สึกเศร้าใจมาก
“รีบไปกันเถอะ” ผมกับคิมในเวลานั้นสีหน้าไม่สู้ดีเลย
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คิมก็เข้าโผกอดกับคุณแม่โดยทันที คุณแม่ของคิมดูช็อกมาก โดยที่คุณพ่อต้องคอยปลอบตลอด ส่วนบรรดาพี่ๆน้องๆทั้งสี่คนก็มารวมตัวกันหมด ต่างคนต่างหน้าเสีย แต่ที่ดูจะแย่ที่สุดคือ กีกี้ที่ยังร้องไห้ไม่หยุดเลย
“ฮือ ป่าป๊า ม่าม๊า อยู่ไหนอ่ะ ฮือๆ”
“โอ๋ๆๆเดี๋ยวก็มาแล้วลูก อย่าร้องนะ อย่าร้อง” พี่เคนพี่ชายคนโต ปลอบกีกี้แต่ก็ร้องไม่หยุดเลย ผมเห็นเข้าก็ไม่รู้นึกยังไง เลยบอกออกไปว่า
“พี่เคนครับ ให้อามอุ้มกีกี้ได้มั้ยครับ เพื่อจะปลอบได้”
“ดีเลยน้องอาม ขอช่วยหน่อยนะ ทั้งพ่อ แม่ พี่กับแคน ไม่มีใครช่วยปลอบได้เลย เหนื่อยจนจะหมดแรงแล้ว” พูดจบก็ส่งกีกี้ให้ผมเลย
“น้าอามป่าป๊ากับม่าม๊าไปไหนอ่ะ” ถามไปก็ร้องไห้ บังเอิญผมคิดอะไรบางอย่างออก
“ไม่รู้จริงๆเหรอ” ผมทำหน้ายิ้มเหมือนกุมความลับอะไรบางอย่าง
“น้าอามรู้เหรอครับ” กีกี้ทำตาโตด้วยความอยากรู้
“ก็พ่อกับแม่เราเล่นซ่อนหากันอยู่ ต้องหาให้เจอ ถ้ามัวแต่ร้องไห้แล้วจะหาเจอเหรอครับ”
“น้าอามพูดจริงเหรอครับ” กีกี้เริ่มสงบ
“จริงสิ แต่ว่าเราต้องหยุดร้องไห้ก่อนนะครับ เดี๋ยวป่าป๊าม่าม๊าไม่มาไม่รู้ด้วยนะ” แล้วกีกี้ก็เงียบเลยครับ ผมก็โอ๋กีกี้จนหลับคาไหล่ผมไปเลย
“โหอามนี่มีพรสวรรค์ในการเลี้ยงเด็กเนาะ ดูดิโอ๋กีกี้แป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยแล้ว” พี่แคนทำหน้าทึ่งๆครับ
“ไม่หรอกครับพี่แคน ผมว่ากีกี้คงร้องไห้มานานจนเหนื่อยแล้วก็หลับไปมากกว่าครับ” ผมพยายามถ่อมตัว แต่ผมเหลือบเห็นว่า คิมมองผมด้วยสายตาแปลกๆพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“ขอบใจอามมากนะลูก นี่ถ้าเคทเป็นอะไรไปก็ไม่รู้จะทำยังไง” คุณแม่ดูท่าทางเหมือนจะเตรียมใจไว้แล้ว แป๊บเดียวคุณหมอก็ออกมาครับ พร้อมกับข่าวที่ไม่ค่อยดีนัก
“คนไข้ขอพบหน้าญาติๆครั้งสุดท้ายครับ เธอรู้ตัวว่าคงไม่รอดแล้ว” ฟังแล้วทุกคนก็อยู่ภาวะช็อกอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะรวบรวมสติได้แล้วพาเข้าไปกันข้างใน ดีที่กีกี้ยังหลับอยู่ไม่งั้นคงช็อคหนักกว่าเดิม
พี่เคทแม้จะนอนป่วยอยู่บนเตียง แต่ก็ยังดูดีมาก พี่เคทก็รู้ว่าตัวเองจะไม่รอด จึงบอกลาพ่อแม่และบรรดาพี่ๆน้องๆของตน แต่ที่พี่เคทดูห่วงที่สุดคือ ลูกชายคนเดียว กีกี้
“ไม่ต้องห่วงนะเคท พวกเราจะดูแลกีกี้ให้เอง” พี่เคนรับปากพี่เคท
“พี่เคนก็มีลูกตั้งสามคนแล้วนะ จะมาดูแลลูกเคทยังไงไหว พี่แคนเองก็มีลูกแฝด แค่นี้ก็เลี้ยงกันไม่ไหวแล้ว” พี่เคทยิ้มเศร้าๆ
“แต่กีกี้เป็นหลานเรานะลูก ไม่ให้พวกเราดูแล แล้วจะไปให้ใครดูแล” คุณพ่อพูดด้วยความสะเทือนใจ
“หนูแค่อยากให้กีกี้มีพ่อกับแม่ที่ดูแลเขาโดยตรง เขาเป็นลูกหนูคนเดียวนะคะ หนูแค่อยากให้มีใครคนหนึ่งเป็นเหมือนพ่อแม่เขาได้จริงๆหลังจากที่หนูกับโฮเซ่ตายแล้ว” พูดจบพี่เคทก็เอื้อมมาลูบหัวลูกชายสุดที่รัก ผมต้องน้อมตัวลงเพื่อให้พี่เคทเอื้อมถึงกีกี้ และแล้วความเจ้าเล่ห์ของคิมก็ปรากฏขึ้น
“ทุกคนครับคิมขอพูดอะไรกับพี่เคทเป็นการส่วนตัวหน่อยได้มั้ยครับ”
“เรื่องอะไรเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความแปลกใจ
“นะครับ ขอเวลาแป๊บเดียว” คิมวิงวอนต่อทุกคน ทุกคนรวมทั้งผมและกีกี้ก็เลยเดินออกมา ผ่านไปได้ประมาณสิบห้านาที คิมก็ออกมาตามด้วยสีหน้าที่ดีใจกับอะไรบางอย่าง ทุกคนมาพร้อมกันที่เตียงพี่เคท ก่อนที่พี่เคทกำลังจะบอกลากับทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย
“คุณพ่อคุณแม่ค่ะ หนูตัดสินใจแล้วว่า หนูจะมอบหน้าที่ดูแลกีกี้ให้คิมกับอามน่ะค่ะ”
“หาพี่เคททำไมพูดแบบนี้ละครับ” ผมช็อกมาก
“ทุกๆคนฟังให้ดีนะ ที่เคทเลือกคิมกับอามให้ดูแลกีกี้ต่อไป เพราะเราทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน สิ่งที่สองคนนี้มีไม่ได้ก็คือลูก คิมบอกกับหนูว่าเขาอยากมีลูก เขาให้สัญญากับหนูว่าจะดูแลกีกี้ให้ดีเหมือนลูกตัวเอง เคทเป็นแม่เคทเห็นก็รู้แล้วว่าคิมพูดจริงขนาดไหน แล้วหนูเห็นกีกี้หลับสนิทคาอกอามขนาดนี้ เคทเชื่อว่าอามจะดูแลกีกี้ได้แน่ๆ” ผมอึ้งมาก ไม่คิดว่าคิมจะพูดจริงทำขนาดนี้ นี่ผมกำลังจะมีลูกแล้วเหรอวะเนี่ย
“เคทพูดจริงๆเหรอลูก” คุณแม่เป็นกังวลแทนลูกสาว
“แม่ขา หนูมั่นใจว่า หนูเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกหนูแล้ว อีกอย่างกีกี้เขาเป็นหลานทุกคน ไม่ใช่ว่าต้องอยู่เฉพาะอามกับคิมซะหน่อยนี่คะ กีกี้ก็ยังไปมาหาสู่กับทุกคนได้เหมือนเดิม แต่หนูแค่ให้อามกับคิมดูแลกีกี้โดยตรงเท่านั้นเอง นี่คือสิ่งสุดท้ายแล้วที่หนูอยากจะขอ หนูไม่ขออะไรแล้วค่ะ”
“พวกเราทุกคนเข้าใจแล้วลูก ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” คุณพ่อเริ่มร้องไห้ แล้วทุกคนก็อยู่ในอาการสงบ”
“คิมกับอาม ตอนนี้เราสองคนเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แล้วนะ ดูแลกีกี้แล้วดูแลกันดีๆนะ” พี่เคทสั่งเสียครั้งสุดท้าย
“ครับเราสองคนสัญญา” คิมรับปากพี่เคท ส่วนผมได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับ พี่เคทยิ้มอย่างสวยงาม ก่อนจะสิ้นใจอย่าสงบ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนผมปรับตัวแทบไม่ทันเลยทีเดียว ทุกคนต่างร้องไห้เสียใจ คิมเข้ามาโผกอดผมกับกีกี้ แล้วเข้ามาบอกกับผมว่า
“ต่อไปนี้เราต้องดูแลลูกของเรากันดีๆนะ” ผมเลยแอบคิดในใจว่า เราที่ว่า นี่หมายรวมถึงนาวไว้ด้วยรึเปล่า แม้ผมจะรักกีกี้ก็จริง แต่ผมกำลังกังวลว่า คิมกำลังมีแผนบางอย่างจากการใช้กีกี้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ผมจะไม่ไปจากเขา เพราะเรามีสองคนต่างมีพันธะต่อกันแล้ว ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปรึเปล่า แต่ถ้าเป็นไปตามนี้ คิมก็ช่างร้ายล้ำลึก ผมมองว่าต่อไปถ้านาวยังไม่ไปจากผม ที่สุดแล้วน้องชายผมก็จะกลายเป็นกิ๊กไปเท่านั้น เพราะนาวจะถูกกีดกันออกไปเนื่องจากไม่สามารถแทรกมาอยู่ตรงกลางระหว่างครอบครัวที่คิมสร้างขึ้นใหม่ต่อไปจากนี้ได้
ผมกับคิมต้องฝากกีกี้ไว้กับที่บ้านคิมก่อน เพราะต้องกลับมาเก็บของไปอยู่กับที่บ้านคิมสักพักเพื่อช่วยงานศพพี่แคทก่อน ระหว่างนั่งรถกลับคอนโดกลับผมก็โทรหานาว
“นาวครับ ช่วงนี้พี่คงไม่กลับไปหานาวสักพักนะ”
“อ้าวทำไมอ่ะ”
“ก็มีเรื่องน่ะสิ” หลังจากนั้นผมก็เล่าเรืองพี่เคทครับ นาวก็ดูอึ้งๆครับ แต่ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องกีกี้ออกไป
“แล้วนี่จะตั้งไว้ที่วัดไหนอ่ะ”
“อืม ยังไม่รู้เลย เดี๋ยวพี่โทรไปบอกอีกทีล่ะกัน”
“ฝากบอกพี่คิม ด้วยนะครับว่านาวเสียใจด้วย”
“อืม ขอบใจนะนาว” ผมแอบรู้สึกดีที่นาวยังห่วงใยคิม ผมวางสายลง
“นาวฝากแสดงความเสียใจด้วยนะคิม”
“อืม ฝากขอบใจนาวด้วยนะ” แล้วคิมก็ดูเงียบๆไป สงสัยจะยังเศร้าเรื่องพี่เคท พอพวกเรากลับมาถึงคอนโด อยู่ๆคิมก็เข้ามากอดผม แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น ผมเลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น
“คิมเป็นอะไร ทำไมอยู่ๆร้องไห้ขึ้นมาอีก”
“จริงๆแล้วเราอยากร้องไห้มากๆตั้งแต่พี่เคทเสียแล้ว แต่เห็นที่บ้านร้องกันเยอะแล้ว เราไม่อยากให้ที่บ้านเศร้ากว่านี้อีก เลยกลับมาร้องไห้กับอามดีกว่า อามเข้าใจเราใช่ไหม” โหแฟนผมแมนโคตร แล้วก็แอบดีใจว่าเขาอยากกลับมาร้องไห้กับเรา แสดงว่าเราคงสำคัญกับเขามาก จำได้ว่ากอดคิมไว้นานมาก คิมร้องไห้จนหมดแรงไปเลย ร้องจนผมเศร้าไปด้วยเลย
“ขอบใจนะอาม ถ้าเราไม่มีอามสักคน เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงดี”
“เราเป็นคนรักกัน ก็ต้องดูแลกันสิครับ” ผมตอบปลอบใจอาม
“งั้นอามจะอยู่กับคิมตลอดไปได้มั้ย” เฮ้ยทำไมพอคิมถามคำถามนี้ ผมรู้สึกว่าไม่สามารถตอบออกไปได้เต็มปากเต็มคำ
“เรารักกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ” ผมตอบแบบดารามากๆ(ไม่บอกว่าเป็นแฟนกัน แต่เป็นคนรู้ใจกันอะไรแบบนี้ที่เขาชอบตอบกัน)
“ตลอดไปใช่มั้ย ใช่มั้ยครับที่รักของผม” คิมมองผมด้วยสายตาคาดคั้นมากมาย น้ำตาคิมกำลังไหลเพราะความเศร้าจนผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ในที่สุดผมก็เข้าโผกอดคิม แล้วพูดว่า
“ถ้าคิมยังไม่หมดรักเรา เราก็จะอยู่กับคิมเสมอนะ” ผมไม่กล้าตอบว่าตลอดไป ไม่รู้ว่าทำไม เพราะลึกๆแล้วผมมองว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ตลอดไป จะนานที่สุดเท่าไหร่มากกว่า ไม่เลิกกันก็ต้องตายจากกันในวันใดวันนึงอยู่ดี ทำทุกๆวันให้ดีที่สุดดีกว่า
“ไม่มีวันซะหรอก คิมจะอยู่กับอามตลอดไป” แล้วคิมก็โอบรัดผมซะแน่นเลย หลังจากคิมร้องไห้จนพอใจก็หมดแรงไปเลย ผมเลยต้องรับหน้าที่เก็บของต่อ แล้วจัดการเคลียร์กับข้าวที่อยู่ในตัวเย็นให้เกลี้ยง เพราะไม่อยู่สองอาทิตย์คงเน่าแน่ๆ ซึ่งต้องเตรียมข้าวของไปให้พอกับสองสับดาห์ พอจัดของเสร็จก็ต้องปลุกคิมให้ตื่น คราวนี้เป็นผมบ้างที่ต้องขับรถ ซึ่งก็ขับกลับไปบ้านคิมเลย แม้ว่าบ้านจะหลังใหญ่โตอลังการ แต่บรรยากาศก็ดูเศร้าแต่ก็ไม่เงียบเพราะมีเสียงเด็กร้องอยู่ตลอดเวลา ใช่แล้วครับ เสียงกีกี้นั่นเอง
“จะหาป่าป๊า ม่าม๊าๆๆ ฮือๆๆ”
“คนเก่งของน้าอาม ร้องไห้แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ จะตามหาป่าป๊า ม่าม๊าเจอล่ะครับ” พูดเสร็จผมก็เอากีกี้มาอุ้มบนตัก
“มันนานไปแล้วอ่ะ กีกี้เบื่อแล้ว กีกี้ไม่เล่นแล้ว”
“เอางี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้าอามพากีกี้ไปหาป่าป๊า ม่าม๊า แต่กีกี้สัญญาก่อนว่าจะหยุดร้องไห้ โอเคมั้ยครับ” ผมพูดจบก็หอมกีกี้ไปฟอดหนึ่ง
“ก็ได้ๆ น้าอามห้ามหลอกนะ”
“ม่ายหลอกๆ เดี๋ยวน้าอามเล่นกับกีกี้ไปก่อนละกัน” ผมก็เล่นกับกีกี้ จนเจ้าตัวน้อยหัวเราะคึกคัก เสียงหัวเราะนี่ช่วยกลบเกลื่อนความเศร้าในบ้านหลังใหญ่โตได้บ้าง คนอื่นๆต่างก็มองด้วยความชอบใจ เล่นจนกีกี้เหนื่อยแล้วก็หลับคาตักผมไป คุณแม่เห็นเขาก็บอกว่า
“แหม เห่อลูกคนใหม่จังเลยนะ อามเนี่ย” คุณแม่แซวผมทั้งที่ยังเศร้า
“อ้าวคุณแม่ ก็ลูกผมนะครับ ก็ต้องเห่อเป็นธรรมดา ใช่มั้ยคุณแม่อาม” อ้าวคิมไหงพูดแบบนี้ล่ะ เราไม่ได้เป็นผู้หญิงนะ
“ไม่เอาเราไม่ได้เป็นผู้หญิงนะ เป็นแม่ไม่ได้หรอก คิมอย่าพูดแบบนี้สิ”
“แหมอะไรกันอาม แค่นี้ทำเป็นอาย ไม่มีใครว่าอะไรหรอกน่า” เอาเข้าไป พี่แคนแซวผมอีกคน ทำเอาผมอายม้วนต้วน จนคนอื่นขำจนลืมเศร้าไปชั่วขณะหนึ่ง
“อืมอย่างนี้แสดงว่า อามต้องบอกความจริงกับกีกี้แล้วใช่ไหม” พี่เคนเริ่มกลับมาถามเสียงเครียดอีกครั้ง
“ก็คงต้องอย่างงั้นแหละครับ แรกๆอาจเจ็บปวดบ้าง แต่ไม่มีใครหนีความจริงหรอกครับ ถ้ากีกี้ไม่รู้พรุ่งนี้ ก็ต้องรู้วันอื่นอยู่ดี อามจะรับผิดชอบเองครับ” ผมเองก็แอบเครียดอยู่เหมือนกัน คิมก็จับมือผมไว้เพื่อให้กำลังใจ
ความจริงแล้วยังมีสมาชิกในบ้านคนอื่นๆอีก คือบรรดาลูกๆของพี่แคนและพี่เคนที่บอกไปแล้ว แต่ว่าตอนนั้นมันดึกมากแล้ว เด็กๆก็เลยไปนอนกันหมด เหลือแต่กีกี้ที่ร้องไห้ไม่หยุดซะที จนผมปลอบแล้วจึงหลับไป คืนนั้นเมื่อกีกี้หลับไปได้เราสามคน(ผม คิม กีกี้) ก็เลยขึ้นไปนอนกันที่ห้องของคิม คืนนี้จึงเป็นคืนแรกที่เราอยู่ด้วยกันในลักษณะเป็นครอบครัว แต่ไม่วายคิมจะหื่นได้อีก เพราะตลอดคืน คิมจะจูบผมตลอดเวลา ผมก็บ่ายเบี่ยงเพราะกลัวว่ากีกี้จะตื่นมาเห็น แต่ว่า
“ไม่เห็นเป็นไรเลย พ่อจูบแม่ให้ลูกดูไม่เห็นจะเป็นไรเลย” เฮ้ยทำไมคิมพูดยังเงี้ย
“คิมจะบ้าเหรอ ใครเป็นแม่หา เราบอกคิมตั้งแต่ตอนไหน” ผมเริ่มโวยวาย
“ไม่เอาดิ โวยวายแบบนี้เดี๋ยวลูกรักของเราก็ตื่นพอดี”
“ก็เราไม่ใช่ผู้หญิง อย่าทำแบบนี้กับเราได้มั้ย” ผมเริ่มไม่พอใจ คิมเลยเริ่มกอดกระชับผมไว้มากขึ้น
“แล้วอามจะเป็นอะไรดี แม่ก็ไม่ยอมเป็น จะเป็นน้าอามก็ไม่ได้นะ เพราะกีกี้เป็นลูกของเราแล้ว”
“อืม คิมเป็นป่าป๊า แล้วเราเป็นแด๊ดดี้ ได้ไหม เพราะสองคำนี้ก็แปลว่าพ่อเหมือนกัน โอเคนะ”
“เออจริงด้วย ก็โอเคนะ งั้นคืนนี้ป่าป๊าขอจูบแด๊ดดี้ทั้งคืนเลยนะครับ”
“ไม่อาว จะหื่นไปไหน”
“ถ้าไม่ให้จูบคิมจะทำมากกว่านี้นะ” ผมรู้ว่าคิมพูดจริงทำจริง เลยต้องยอมแต่โดยดี ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่กีกี้นอนกอดผม แล้วผมก็โดนคิมก็นอนกอดผมอีกที มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยครับ คือมันอบอุ่นแล้วก็หอมหวาน ผมเริ่มรู้สึกว่ารักกีกี้ขึ้นมาเหมือนลูกจริงๆซะแล้ว เลยก้มหน้าไปหอมเจ้าตัวน้อยเบาๆ แป๊บนึงเจ้าตัวน้อยก็งัวเงียตื่นขึ้นมา
“น้าอามครับ กีกี้หิวข้าวแล้วอ่ะ”
“งั้นกีกี้อาบน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยวลงไปกินข้าวกันนะ”
“น้าอามอาบให้กีกี้นะครับ”
“อารายโตขนาดนี้ ยังอาบเองไม่ได้อีกเหรอ” (ตอนนั้นกีกี้อายุประมาณเกือบ 5 ขวบ)
“ปกติป่าป๊าจะอาบให้ น้าอามอาบให้หน่อยนะครับ” แล้วคิมก็ตื่นขึ้นมาครับ
“กีกี้ถอดชุดนอนเลย เดี๋ยวน้าคิมกับน้าอามอาบให้นะ” สิ้นคำปุ๊บกีกี้ก็ถอดชุดนอนตัวเองเสร็จสรรพแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว
“คิมตามใจกีกี้แบบนี้เดี๋ยวก็เสียเด็กกันพอดีหรอก”
“แหมแค่อาบน้ำเอง อีกอย่างนี้จะเป็นเรื่องแรกที่เราช่วยกันดูแลลูกของเราเลยนะ” ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยต้องยอมตามใจคิมอีกจนได้ พอกีกี้อาบน้ำเสร็จก็เข้ามากอดผมทั้งที่ยังตัวเปียก ทำแบบนี้เหมือนนาวตอนเด็กๆเลย
“เหมือนนาวจัง” ผมพูดออกมาเบาๆ แต่ว่าคิมดันได้ยิน
“เหมือนนาวยังไง นี่ลูกเรานะ ไม่ใช่นาว อามจะหยุดคิดถึงนาวบ้างได้มั้ย” อ้าวเรื่องแค่นี้จะมางอนทำไม แต่ไม่อยากจะเถียงเพราะกีกี้ก็อยู่ด้วย
“อย่าทะเลาะต่อหน้าเด็กเลยนะ ถ้าคิมจะไม่พอใจเรา ก็ว่าเราทีหลังก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ” ผมเลี่ยงการทะเลาะ คิมฟังแล้วก็ได้สติ จึงเงียบๆกันไป ผมเอาชุดดำมาให้กีกี้ใส่เพราะวันนี้ต้องไปงานศพกันจริงๆแล้ว
“น้าอามทำไมให้กีกี้ใส่ชุดดำอ่าครับ” เฮ่อจะให้ตอบว่าไงดี
“วันนี้ทั้งบ้านเขาก็ใส่ชุดดำหมดแหละ วันนี้จะไปงานสำคัญงานหนึ่งกัน”
“งาน งานอารายเหรองับ” เจ้าตัวน้อยสงสัย
“ก็งานที่จะได้ไปเจอป่าป๊ากับม่าม๊ากีกี้ไงครับ” ผมพูดประโยคนี้ พร้อมกับเอามือมาลูบหัวเจ้าตัวน้อย และเริ่มจะรู้ตัวว่าน้ำตากำลังจะไหลเพราะสงสารลูก (อ้าวนี้กีกี้เป็นลูกไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย
“น้าอามพูดจริงๆนะครับ” กีกี้ดูดีใจมาก เข้ามากอดผมใหญ่ โดยที่ไม่รู้ว่า เรื่องน่าเศร้าที่ต้องรับรู้กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า พอลงมาข้างล่างทุกคนก็ลงมาพร้อมหมดแล้ว สีหน้าก็ต่างเศร้าสร้อย จะมีก็แต่กีกี้คนเดียวเท่านั้นที่ทำหน้ารื่นเริงเพราะคิดว่ากำลังจะได้เจอพ่อแม่ หลังทานมื้อเช้าเสร็จก็เร่งให้ผมพาเขาไปหาพ่อแม่
หลังจากที่มาถึงงานไม่ขอบรรยายบรรยากาศในช่วงนี้นะครับ ผมรู้สึกสะเทือนใจเอาเป็นว่า กว่าจะอธิบายให้กีกี้เข้าใจได้ มันยากจริงๆ ไหนจะต้องปลอบอีกตั้งนาน จนกีกี้ดูเงียบงันเป็นเด็กซึมเศร้าไปช่วงหนึ่งเลย ผมต้องกอดกีกี้ไว้กับตัวตลอดเลย กีกี้ก็ติดผมมากเหมือนเป็นม่าม๊าเขา นอกจากผมแล้วเขาแทบไม่อ้าปากพูดกับใครเลย
อย่างที่เคยบอกไปว่าครอบครัวคิมมีฐานะมาก ดังนั้นจึงมีใครต่อใครก็ไม่รู้มากกันมากมายไปหมด แต่คนที่มางานทุกคนดูจะสนใจกีกี้มากที่สุดด้วยความที่เป็นเด็กหน้าตาน่ารัก มีหลายคนพยายามมาคุยด้วย แต่กีกี้เบือนหน้าหนีเลย แล้วก็จะร้องโวยวายจนผมต้องพาหลบออกจากงานเป็นระยะๆ กว่าจะเสร็จงานของพี่เคทกับคุณโฮเซ่ก็เล่นเอาผมเหนื่อยมาก เพราะเจ้าตัวน้อยไม่ยอมห่างผมเลยถ้าไม่หลับขนาดไปฉี่ยังตามไปเลย
นาวเองก็มางานนี้ด้วย และก็สังเกตว่าทำไมเด็กคนนี้ติดแฟนตัวเองจัง ก็เลยอธิบายว่าเด็กที่พ่อแม่ตายทั้งคู่ก็ต้องหาที่พึ่งพิงเป็นธรรมดา นาวก็เลยเข้าใจ แต่ผมไม่อธิบายนะครับว่าตอนนี้กีกี้กลายมาเป็นอะไรในชีวิตผมไปแล้วเพราะผมยังไม่พร้อม ซึ่งเลยต้องบอกนาวไปว่าช่วงนี้คงต้องห่างกันสักพักจนกว่าทุกอย่างจะลงตัว
พอเสร็จงานกีกี้ก็ยังดูเงียบอยู่ จนผมกับคิมต้องพาเจ้าตัวน้อยไปเที่ยวทะเลเปลี่ยนบรรยากาศ พอได้เห็นทะเลเท่านั้นแหละครับเด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำแทบจะวิ่งเข้าใส่แทบไม่ทัน พอซักพักหลังจากที่ดูว่ากีกี้เริ่มสบายใจขึ้นมาแล้ว คิมเลยบอกเรื่องสำคัญ
“กีกี้ครับ ต่อไปนี้กีกี้ต้องไม่เรียกน้าคิมกับน้าอาม ว่าน้าแล้วนะ” คิมเป็นฝ่ายบอก
“ทำไมเหรองับ” กีกี้ชักสงสัย
“ก็ก่อนม่าม๊ากีกี้เสีย ฝากให้น้าสองคนเป็นพ่อกับแม่ดูแลเราแทนน่ะสิ”
“จริงเหรองับ งั้นกีกี้เรียกน้าคิมว่าป่าป๊าแล้วเรียกน้าอามว่าม่าม๊านะครับ” เอ่อกีกี้อย่าทำกับน้าอามแบบนี้สิลูก ส่วนคิมเอาแต่หัวเราะชอบใจที่กีกี้เรียกผมว่าม่าม๊า
“กีกี้ครับ กีกี้เรียกน้าอามว่าม่าม๊าไม่ได้นะน้าอามไม่ได้เป็นผู้หญิงนะลูก” ผมพยายามบ่ายเบี่ยง
“ไม่ได้เหรอ แบบนี้กีกี้ก็ไม่มีแม่สิ น้าอามเป็นม่าม๊าให้กีกี้เถอะนะ” พูดจบเด็กน้อยน้ำตาไหล แล้วจะให้ผมปฏิเสธก็เห็นทีจะไม่ได้แล้วครับ แต่ว่าของแบบนี้ผมกันคึ่งทางละกัน
“เอางี้ก็ละกันเวลาอยู่กันสามคนแบบนี้ ให้เรียกม่าม๊าได้ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นให้เรียกว่าแด๊ดดี้ ตกลงตามนี้นะ” พูดจบกีกี้ก็โผเข้ากอดผมทันที
“ได้ครับม่าม๊า” ส่วนคิมก็ทำหน้ากรุ่มกริ่ม
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลย เราให้กีกี้เรียกว่าม่าม๊าได้คนเดียว ถ้าคิมเรียกเราไม่ต้องมาคุยด้วยเลย
“โอ๋ๆๆ กลัวแล้วจ้าที่รัก อย่าโกรธป่าป๊าเลยนะ คนดี”
ที่สุดแล้วผมก็มีสมาชิกใหม่เป็นทางการเสียที


***********************************************


ลงให้เต็มเลยนะครับ ตอนนี้ยาวมาก ตอนแรกจะหั่นสองตอน แต่เห็นว่าหายไปนาน เพราะอยู่ในช่วงสอบกับเคลียร์โปรเจค เลยจัดให้เต็มๆเลย

ตอนนี้ คนโพส.
.
.
.
.
.


.
.
.
.
.


เรียนจบละคร้าบบบบบ  :mc4:

ตอนนี้ก็เหลือหางานและหาแฟน  :z1:

อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
น้องกีกี้น่ารัก แต่ก็น่าสงสารที่เสียแม่ไปแล้ว แต่อย่างน้อยครอบครัวใหม่ที่มีอาคิมกับอานาวเป็นป่าป๊า หม่าม๊า น่าจะช่วยรักษาจิตใจให้เด็กน้อยได้แหล่ะเนอะ..

แต่ถ้านาวรู้อ่ะ..มันก็เหมือนกับที่อามนึกไว้แหล่ะว่ามันจะเป็นการกีดกันนาวออกจากวงโคจรรึปล่าว..รออ่านต่อจ้า

ปล.ยินดีด้วยที่เรียนจบนะจ๊าา..ขอให้ได้งานดีๆในเร็ววัน และมีรักที่สดใสด้วย o13

vvivy

  • บุคคลทั่วไป

เรียนจบละคร้าบบบบบ  :mc4:

ตอนนี้ก็เหลือหางานและหาแฟน  :z1:

อิอิ

ยินดีกับwriterด้วยค่ะ..ขอให้ได้งานดีๆนะคะ

ps. lucky in love ด้วยนะคะ^^  :bye2:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
น้องกีกี้น่ารัก แต่ก็น่าสงสารที่เสียแม่ไปแล้ว แต่อย่างน้อยครอบครัวใหม่ที่มีน้าคิมกับน้านาวเป็นปาป๊า ส่วนน้าอามมาม๊า น่าจะช่วยรักษาจิตใจให้เด็กน้อยได้บ้างแหละเนอะ..

แต่ถ้านาวรู้อ่ะ..มันก็เหมือนกับที่อามนึกไว้แหล่ะว่ามันจะเป็นการกีดกันนาวออกจากวงโคจรรึปล่าว..รออ่านต่อจ้าา


Ps.ยินดีด้วยที่เรียนจบนะจ๊าา..ขอให้ได้งานดีๆในเร็ววัน และมีรักที่สดใสด้วย

ก็ว่ากันตามนี้ล่ะนะคะ  :teach:

ถ้าโดนเด็กพูดแบบนั้น ไอก็คงปฏิเสธไม่ลงเหมือนกัน  :o12:

แต่.. :เฮ้อ:  รู้สึกมันรวดเร็วดังใจคิมจังเลยนะ อยู่ๆก็นึกอดใจหายไม่ได้แห๊ะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน



ยินดีด้วยนะคะ!  o13

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ขอบคุณครับ ต่อไปเรื่องราวคงยุ่งแน่เลย

tawan

  • บุคคลทั่วไป
ยาวแบบได้ใจมาก

 o13

 o13

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ย๊าววว ยาววว แต่ตามอ่านทันแว้ววว :o8:

แอบสงสารนาวยังไงไม่รู้ กลัวโดนกีดกันง่ะ :monkeysad:

ยินดีกะบัณฑิตใหม่ด้วยนะคร้า ขอให้ทั้งงานและแฟนเน้อ o13

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอตอนใหม่  :z2:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
 :m22: แอบแว๊บมาดู มารึยังนะ ตอนใหม่ๆๆๆๆ  wantๆๆๆๆๆๆๆๆ  :serius2:

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
 :jul1: :jul1:
เลือดท่วมได้อีก
เรื่องนี้
สงสารอามแฮะ
เหนื่อยแย่

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาจ๊ะ   :z13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด