แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่มีนาย by โอนนิมารุ *Rebirth*  (อ่าน 240591 ครั้ง)

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #60 เมื่อ10-03-2007 10:22:34 »

3 : รับน้อง


ผ่านจากเปิดเทอมมาครึ่งเดือนแล้วกิจกรรมค่อนข้างเยอะและสับสนมากสำหรับปีหนึ่งโดยมีกิจกรรมหลักคือซ้อมเชียร์กีฬาของมหาวิทยาลัย แม้จะไม่ค่อยชอบนักกับกิจกรรมนี้แต่วันชนะก็เข้าร่วมอยู่ทุกครั้ง ที่สำคัญยังมี General Chemistry 1 และ Calculus 1 ที่ต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือให้ดี เจ้ากิจกรรมซ้อมเชียร์นี่แหล่ะคือฉากหน้าของการการรับน้องหรือการ “ว้ากน้อง” อย่างที่ศัพท์เขาใช้กันในมหาวิทยาลัย บอกว่าเป็นประเพณี

จะว่าไป “รับน้อง” มีแบ่งเป็นของคณะ ของภาควิชา และคืนนี้จะเป็นของ “ชาวตึก” ที่เด็กหอพักไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน

เที่ยงคืนตรงหลายห้องยังมีแสงไฟส่องผ่านหน้าต่างและหลายห้องที่หลับสนิทเงียบงัน ไร้เสียงมาก่อน ทันใดที่ประตูห้องมีเสียงเคาะพร้อมกันหลายห้องราวกับได้สัญญาณ เสียงเคาะดังรัวไม่เกรงว่าดึกสงัดนี้จะไปรบกวนผู้อื่นหรือไม่

วันชนะสะดุ้งตื่นหลังจากที่เพิ่งจะเผลอหลับไปได้เพียงครู่เดียว มองอีกเตียงเห็นว่างเปล่าแต่มีร่องรอยยับย่นของผ้าห่ม วุฒิรู้สึกตัวก่อน เขาใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ลุกขึ้นไปที่ประตู ท่าทางหัวเสียกับเสียงรบกวน

“ใครวะ มาเล่นอะไรป่านนี้” วันชนะได้ยินเพื่อนร่วมห้องระบาย เขาเดินตามไปหยุดอยู่หลังวุฒิ เสียงรัวเหมือนจะดังขึ้น ทันทีที่เปิดประตูทั้งคู่ก็ตกใจที่มีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาในห้องอย่างเร็ว ไม่ทันได้ตั้งตัวคนกลุ่มนั้นจับพวกเขามัดมือเสียแน่น แต่พอจับเหตุการณ์ได้วันชนะก็หายตกใจได้บ้าง คนกลุ่มนั้นคือพวกรุ่นพี่ตึกนั่นเอง แต่ก็ยังไม่เบาใจเลยทีเดียว ลองเล่นกันถึงขนาดนี้คงจะมีอะไรแปลกๆ ตามมาเป็นแน่ นึกในใจไม่ทันว่าพวกเขาก็โดนเอาผ้าปิดตาเสียสนิท

“เล่นไรกันพี่” วันชนะถามหากแต่ไม่มีเสียงตอบ มือหนึ่งจับที่ไหล่ออกแรงเบาๆบังคับให้หันไปตามทิศ “เดินไป” เจ้าของมือพูดเสียงHereม “แล้วก็เงียบ” หนึ่งในกลุ่มนั้นจับมือวันชนะให้แตะหลังคนที่อยู่ข้างหน้า “ตามเขาไป”

กลางดึกสงัด ขณะที่ชาวเมืองหลับนอนแต่คนกลุ่มหนึ่งเดินเรียงแถวกันมุ่งหน้าไปยังสถานที่หนึ่งภายในมหาวิทยาลัย เหตุการณ์คืนนี้ถ้าผู้ปกครองของนิสิตได้รับรู้คงจะใจหายไม่น้อยที่มันจะเกิดในหมู่ปัญญาชนที่ฝึกฝนตัวเองให้ผ่านการคัดกรองจากเด็กทั่วประเทศเพื่อได้เข้ามาศึกษา

เสียงฝีเท้ามากมายหยุดลง
“นั่ง” คำสั่งเดียวเปี่ยมด้วยพลัง เสียงพรึบดึงขึ้นพร้อมกัน เหมือนทุกคนพอจะรู้ว่าทำไมจึงมาที่นี่


รับน้อง!


ทั่วบริเวณเงียบเชียบจากคำพูดใดๆ มีเพียงเสียงการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นรุ่นพี่ วันชนะถูกแก้ปมผ้าที่มัดปิดตาออกเหมือนกับทุกคน จึงพบว่าตัวเองอยู่ในห้องห้องโถงสักแห่งหนึ่งในมหาวิทยาลัย ไม่มีการเปิดไฟ มีเพียงแสงจันทร์นวลส่องลอดมาทำให้สลัวเท่านั้น พอมองเห็นก็เริ่มมีเสียงขยับไหวร่างกายของพวกที่นั่งอยู่


“เงียบ” เสียงเดิมที่มีพลังสะกดให้ทุกร่างนิ่งงัน วันชนะพยายามมองหาคนรู้จักผ่านความสลัวแต่ก็จำใครไม่ได้เลย
“เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลย” เสียงที่ต่างจากเมื่อกี้พูดขึ้นได้ยินทั้งห้อง น้ำเสียงแหลมสูงสำเนียงบ่งบอกชัดเจนว่าคนพูดไม่ใช่ผู้ชายแท้หากเป็นกระเทย

“ชั้นชื่อเจ๊ใหญ่อยู่ตึกสี่ เป็นกรรมการในการจัดกิจกรรมรับน้องชาวตึกในครั้งนี้” คนพูดหยุดเงียบเพราะมีเสียงหัวเราะฮาดังขึ้นที่มุมหนึ่ง หล่อนรอจนพวกเขาหยุดหัวเราะจึงพูดขึ้นดังทั่วห้อง

“ขำกันนักใช่มั้ย ดี” เจ้าของเสียงหยุด

หากผู้ที่จะกล่าวต่อคือเจ้าของเสียงที่มีอำนาจก่อนหน้า

“ทุกคนลุก”

เขากล่าวด้วยเสียงอันดังราวกับปล่อยความโกรธที่สะสมมาร้อยปีโดยไม่กลัวว่าการกระทำในยามวิกาลนี้จะมีคนมาพบเห็น

“วิดพื้นสามสิบที ปฏิบัติ!” คำพูดเหมือนทหารพร้อมกับพวกรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาล้อมวง เงาเลือนรางมองเห็นใบหน้าHereมบอกว่าเอาจริง เทียนสี่เล่มถูกจุดจากสี่มุมเพื่อมองว่าใครขัดคำสั่ง

ทีนี้รู้แล้วว่าเจ๊ใหญ่คนนั้นมีอำนาจอยู่แค่ไหน !

“เอาล่ะ เห็นพิษสงของชั้นรึยัง” หล่อนพูดติดตลกทว่าไม่มีใครกล้าแสดงออกสิ่งใด “ชั้นจะนับหนึ่งถึงสิบให้ทุกคนสลับที่กัน พอนับถึงสิบเมื่อไรให้หยุดแล้วถามสี่คนที่อยู่รอบตัวว่าชื่ออะไร อยู่ตึกไหน ห้องหมายเลขอะไร”

“หนึ่ง! ”

เทียนไขสี่มุมส่องพอมองเห็นได้ว่าขณะนี้ชุลมุนเพียงใด วันชนะเหมือนจะตั้งตัวไม่ทัน เขาไม่รู้จะวิ่งไปทางไหนดี แล้วก็มีมือจากคนหนึ่งที่จู่ๆพุ่งมาจากด้านหลังจับมือเขาไว้ เขาออกวิ่งนำหน้า วันชนะวิ่งตาม...ตอนแรกนึกว่าเป็นวุฒิ แต่ไม่ใช่...

ด้วยว่ามือที่โดนมัดทั้งสองข้างทำให้ทำอะไรก็ไม่สะดวก เวลาวิ่งตัวเขาจึงเอี้ยวเข้าหาวันชนะ ทำให้มองเห็นหน้าได้ แม้จะเลือนราง ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกที่ทำให้คนที่ถูกพาไปอุ่นใจได้ เขาคือเพื่อนข้างห้องของวันชนะนั่นเอง

“สิบ!”

สิ้นเสียงอันดังนั้น ทุกคนหยุดแทบจะพร้อมกัน แล้วรายการถามชื่อและที่อยู่ก็เริ่มขึ้นเซ็งแซ่ ภายใต้แสงสลัวบางคนมีรอยยิ้มสนุกที่ได้ทำความรู้จัก บางคนไม่เต็มใจนึกไม่ชอบกิจกรรมนี้ หากว่าทุกคนยอมทำตาม

ทั้งห้องกลับมาสงบอีกครั้งหลังจากที่เสียงกร้าวบอกให้หยุด แล้วผู้ที่ได้ชื่อว่าเจ๊ใหญ่ก็พูดขึ้น หล่อนเป็นหงส์ที่อยู่เหนือมังกรอย่างนั้นหรือ วันชนะคิดแต่หลายคนคิดว่าหล่อนเป็นห่านมากกว่า


“ไหนลองดูสักสองสามคนซิ” หล่อนเดินฝ่าแถว ไปจนถึงรุ่นน้องคนหนึ่ง “ชื่ออะไร คณะไหน อยู่ตึกอะไร ห้องอะไร?” หล่อนรัวคำถามเป็นชุด รุ่นน้องคนนั้นก็ตอบโดยดี สถานการณ์ดูเหมือนจะลดความตึงเครียดจากตอนแรกเพราะคำพูดและน้ำเสียงเจ๊ใหญ่ติดตลกแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใดให้หล่อนขัดจิต

“คนด้านหน้านี่ชื่ออะไร คณะอะไร ตึกไหน ห้องเบอร์อะไร” เจ๊ใหญ่ยังรัวคำถามกับรุ่นน้องคนที่สามที่หล่อนเข้าประชิดตัว และเขาตอบไม่ได้ว่าเพื่อนที่อยู่ข้างหน้าชื่อเล่นว่าอะไร

“อะไรกันให้ถามแค่นี้ยังจำไม่ได้ แล้วจะเอาสมองที่ไหนไปร่ำไปเรียน ชั้นจะลงโทษพวกเธอทุกคน จำไว้คนใดคนหนึ่งผิดทุกคนต้องรับโทษเท่ากัน พวกเธอจะได้รู้ถึงคำว่ารุ่นและคำว่าเพื่อน” เธอกล่าวเสียงแหลมดัง รุ่นพี่คนอื่นๆเดินมาล้อมสมทบ เงาทะมึนๆที่ลอบล้อมดูน่าเกรงขาม

“ชั้นจะให้จับคู่กัน” หล่อนหยุดไปสามวินาที “แล้วเดินไปหาพี่ที่อยู่ด้านข้างๆ คนหนึ่งจะถูกแก้มัดแล้วมัดไพล่หลังไว้” เจ๊ใหญ่เงียบไปอีกสองวิ “ให้คู่ของตัวเองถอดกางเกงในของคนที่ถูกมัดไพล่หลังออกแล้วถือไว้ จากนั้นเดินมาโชว์ให้ชั้นดู แล้วเดินออกประตูกลับไปได้ พวกเธอจะได้เรียนรู้ถึงคำว่าเพื่อนและการเสียสละ คิดดูให้ดีล่ะว่าใครจะเป็นคนถอด ใครจะเสียสละโชว์ของดีให้เพื่อนดู” หล่อนหัวเราะเล็กๆ คิกคัก “น่าเสียดายนะในนี้มันมืดไปหน่อย”

เสียงฮือฮาดังขึ้น
“เอ้า! จะเชื่อฟังรุ่นพี่รึเปล่า” หลายเสียงตะโกนดังเหมือนโกรธเคืองเมื่อรุ่นน้องตั้งท่าไม่ยอม
วันชนะมองไม่เห็นใครอื่นนอกจากคนที่อยู่ตรงหน้า

นักขัต!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2007 14:46:48 โดย หมูพูห์ »

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #61 เมื่อ10-03-2007 10:35:41 »

เอาล่ะเหวยยย จาได้เหงของดีกันก้อคราวนี้ ว่าแต่จาถอดอย่างเดียวอ๊ะป่าว กลัวจับติดอย่างอื่นมาด้วยจิ  :kikkik: :kikkik: :kikkik:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #62 เมื่อ10-03-2007 11:03:31 »

เอาละหว่า ใครจะได้ถอด  :kikkik:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #63 เมื่อ10-03-2007 11:12:59 »

ใครจะเห็นของดีใครหว่า..... :laugh5: :laugh5: :laugh5:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #64 เมื่อ10-03-2007 12:24:11 »

 :interest:

กิจกรรมนี้น่าสน ลองเอาไปเล่นบ้างดีกว่า :haun5:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #65 เมื่อ10-03-2007 12:29:40 »

 :o เอาจริงอ่ะ ?

แต่ว่า ... มันมืดน๊า  :serius2: :serius2: :serius2:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #66 เมื่อ10-03-2007 13:36:37 »

อืมของดีของใครอิๆๆ :haun1:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #67 เมื่อ10-03-2007 14:57:44 »

รอลุ้นด้วยคน :kikkik:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #68 เมื่อ10-03-2007 19:26:20 »

 :pighaun:  งื้ดๆๆๆ  วินจะถอดให้ตั้มดูหรือตั้มจะถอดให้วินดู

โอ้ววว!!~  ไม่ว่าใครถอดก้อฮาทั้งนั้นล่ะครับพี่น้อง

ต่อด่วนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2007 15:38:18 โดย หมูพูห์ »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #69 เมื่อ10-03-2007 21:19:28 »

“เอาล่ะ คงปรึกษากันพอแล้วนะ ชั้นง่วงแล้ว รีบๆหน่อย” เจ๊ใหญ่ยิ้มหยันบอกว่าง่วงแต่ตาโตรอความตื่นเต้น จากนั้นหล่อนก็ให้สัญญาณดับเทียน นับว่ายังปราณี แล้วเดินออกนอกห้องไป

“เอ้า! จะเชื่อฟังรุ่นพี่รึเปล่า มัวยึกยักกันอยู่นั่นแหล่ะ กลัวอะไรผู้ชายเหมือนกัน” เหล่าเงาดำทะมึนตะโกนอีก

ในขณะที่มุมหนึ่งรุ่นพี่สองสามคนทำท่าฉุนเฉียวจับรุ่นน้องสองคนที่อยู่ใกล้แยกออกไปจากวง

“คู่นี้ไปก่อน” หนึ่งในสามคนพูด

วันชนะมองเห็นรุ่นพี่บางคนหลุด แอบหัวเราะคิกคัก จนสองคนนั้นที่โดนจับออกวงไปโผล่อยู่ด้านหน้า ประตูห้องโถงเปิดออกพร้อมๆกับแสงจากหลอดไฟ คนหนึ่งยังโดนมัดมือไว้ด้านหน้าส่วนอีกคนมัดไพล่หลัง คนโดนมัดข้างหน้าหันมายิ้มทำหน้าตลกให้เพื่อนรุ่นเดียวกัน ดูในมือมีกางเกงตัวเล็กสีขาวแล้วเดินออกประตูไป

ก่อนประตูจะปิดสนิททุกคนยังทันได้ยินเสียงเจ๊ใหญ่กรี๊ดชอบใจ รุ่นพี่บางคนพยายามกลั้นหัวเราะ แต่ยังมีคนที่ใจแข็งตะโกนเร่งรัด

วันชนะใจเต้นตึกตัก มองหน้านักขัต อีกฝ่ายก็เหงื่อตกอยู่มิใช่น้อย

“เอาไงดีตั้ม” วันชนะถาม “ระ...เรา เรา...ไม่ได้ใส่...” เขากระซิบที่ข้างหู

วันชนะหน้าแดงนึกภาพนายนักขัตเดินตัวเปล่าแล้วกางเกงบอลของเขาอยู่ในมือวันชนะ แต่ต้องใคร่ครวญเสียใหม่เมื่อนักขัตมองหน้าเขาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่ ไม่ ไม่เอา” วันชนะรีบปัดมือเมื่อรู้ตัวว่าคนที่จะต้องโดนถอดคือตัวเอง
ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มมายังไม่เคยมีใครได้ทำถึงขนาดนั้นนอกจากตัวเขาเอง เขาไม่ใช่คนทะเล้นที่จะเห็นว่าตลกที่จะให้ใครมาถอดกางเกง หนำซ้ำเป็นชั้นในสุด!

“เราถอดไม่ได้นะวิน ” นักขัตทำเสียงออดอ้อน ยกมือวันชนะขึ้นมากุมประกอบการร้องขอ แม้วันชนะจะเย็นนักขัตน่ารักขนาดไหนแต่เรื่องนี้ต้องขอ
“ไม่เอานะตั้ม ไม่...” วันชนะยืนกราน ก็เรื่องอะไรล่ะ ไม่มีใครไม่อายหรอก “ไม่เชื่อเหรอว่าตั้มไม่ได้ใส่มา” ไม่ว่าเปล่านักขัตขยับตัวมาชิดแล้วจับมือวันชนะล้วงลงไปใต้ขอบกางเกงด้านข้างตัวตรงตำแหน่งของกระเป๋าข้าง คนล้วงใจเต้นตึกตักเพราะไม่ทันได้เตรียมตัว คิดในใจว่าผิวเขาเนียนดีจัง

ยังไม่ทันได้สลัดความคิดนอกเรื่อง นักขัตก็ฉุดเขาให้ลุกขึ้นพร้อมกันโดยที่วันชนะยังไม่ทันได้เตรียมใจ เขาก้าวฉับๆตรงไปทางรุ่นพี่หลายคนพร้อมกับชี้มาทางวันชนะบอกว่าเขาจะเป็นคนถอด หันมายิ้มให้วันชนะประหนึ่งเป็นคนเลือกทางให้อีกฝ่ายไปโดยปริยาย

วันชนะยังยืนอึ้ง “เอ้า! น้องคนนี้เร็วเข้าสิ เพื่อนรออยู่นู่นแล้ว” พี่คนหนึ่งดึงแขนวันชนะออกนอกวงไปสมทบกับนักขัตแล้วแก้มัดออกแล้วรวบมือไปมัดไว้ข้างหลังแทน “พี่ไม่ดูหรอกน้อง หาที่มืดตามสบาย มองไม่เห็นหรอก” ว่าแล้วก็กลับไปรวมกลุ่มล้อมพวกน้องๆต่อ
“มาทางนี้เถอะ” นักขัตนำหน้าพาไปที่มืดไกลออกไปจากกลุ่มคน

“เอาล่ะ” นักขัตพูด มือก็จับไปที่ขอบกางเกงขาสั้นของวันชนะ แล้วเริ่มดึงลงแต่วันชนะเด้งตัวหนี เขาตามไปจับเอววันชนะไว้อีกมือจับที่ขอบกางเกงอีกครั้ง วันชนะดิ้นพราด “อยู่นิ่งๆสิวิน” นักขัตยิ่งรัดวงแขนให้แน่นเข้า อีกมือดึงขอบกางเกงให้ยืดเป็นวงกว้างออก


“.........................” ไม่พูดอะไรวันชนะซบหน้าลงบนบ่าอีกฝ่ายแน่น คงบอกความหมายได้มากมาย
“ไม่ต้องอายหรอก ตั้มมองไม่เห็นเสียหน่อย” เหมือนจะส่งถึงใจ แต่กลับไม่ถึง นักขัตจับวันชนะหมุน “หันหลังมาสิ”

...

ประตูเปิดออกพร้อมกับแสงจากด้านนอกวันชนะรีบเดินจ้ำอ้าวออกไปด้วยความอาย นักขัตเดินตามมีกางเกงตัวเล็กสีขาวขอบสีฟ้าอยู่ในมือ ก่อนประตูปิดสนิททิ้งกลุ่มคนไว้ในห้อง เจ๊ใหญ่ก็หัวเราะชอบใจเสียงดัง

“ไหนให้เจ๊ดูหน่อย อืม..ยังโดนมัดอยู่ ต๊าย! สีขาวขอบฟ้า เก๋นะจ้ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” หล่อนมองหน้าเจ้าของกางเกง เพ่งพิศครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “เจ๊ชอบ คู่นี้หล่อทั้งสองคนเลยนะจ้ะ เอ้ะ รึว่าหล่อกับสวยสมกันเหมือนกิ่งทองใบหยกนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
นักขัตยิ้มตามประสาผู้ชาย แต่วันชนะรู้เต็มอกว่าปิดเจ๊ใหญ่ไม่มิด อยากที่เขาว่า ผีมองผีออก

“ไปหลับไปนอนได้แล้วจ้ะน้อง อย่าลืมแก้มัดให้เพื่อนด้วยล่ะ หรือว่าจะไปต่อกันก็ได้นะจ้ะ” แวบแรกเจ๊ใหญ่ยิ้มเอ็นดูรุ่นน้องแต่คล้อยหลังก็มีกัดเล็กๆ แล้วก็หัวเราะร่วน

เดินออกมาตามทางกลับตึกมีเสาไฟเตี้ยๆส่องทางพอมองเห็นช่อดอกราตรีหยดย้อยตามทาง “หอมดีเนอะ” นักขัตพูด “ดอกอะไรนะ ไม่เห็นจะรู้จัก”

“ดอกราตรี…” วันชนะพูด “...เมื่อกี้ขอบใจนะ”
“อื้ม เรื่องเล็กน่า พวกรุ่นพี่ก็ชอบเล่นอะไรแบบนี้แหล่ะ...วินเป็นคนขี้อายเนอะ” นักขัตพูดตามที่เข้าใจ


ในความมืด ไม่มีใครมองเห็น รุ่นพี่ต้องการเพียงดูกางเกงในเท่านั้น แม้จะมีกติกาให้อีกคนถอดให้ แต่ในความมืดใครเล่าจะมองเห็น นักขัตก็แค่แก้มัดวันชนะให้จัดการถอดเอง แล้วเขาก็มัดเชือกเข้าเหมือนเดิม

“ว่าแต่ของนายสวยดีนะ ซื้อที่ไหนเหรอ ชอบตรงขอบสีฟ้าเนี่ย” นักขัตแซว

“เดี๋ยวเหอะๆ เดี๋ยวจะโดน” วันชนะแกล้งพูดเป็นโกรธ นักขัตหัวเราะร่า

ตามทางเดินที่มองเห็น ดอกราตรีส่งกลิ่นต้อนรับ คนทั้งคู่เดินไปด้วยกัน มันเป็นเพียงจุดสตาร์ท พวกเขาคงยังไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีสิ่งใด ความมืดมันบดบังอุปสรรครอบทางที่พร้อมจะมากีดขวาง

และเมื่อรุ่งเช้ามาถึง เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่อง...

...หนทางมันไม่ได้สวยอย่างค่ำคืนนี้...

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:27:07 โดย หมูพูห์ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
« ตอบ #69 เมื่อ: 10-03-2007 21:19:28 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #70 เมื่อ10-03-2007 21:26:22 »

 :-[ :-[ :-[ อาย  :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #71 เมื่อ10-03-2007 21:37:29 »

สรุปว่านิติถอดเองเหรอคับ :confuse: :confuse:  แต่มะเปนไร  ได้ซบไหล่ต้นน้ำด้วยอ่ะคับ :fox2: :fox2: :fox2:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #72 เมื่อ10-03-2007 21:40:48 »

เริ่มมีอุปสรรคเเล้วหรอเนี่ยเฮ้อๆๆๆ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #73 เมื่อ10-03-2007 21:49:39 »

เหอเหอ เริ่มมีลางร้ายมาอีกแล้ว  :serius2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #74 เมื่อ10-03-2007 22:49:38 »

 :o   มีลางร้าย ชักจะใจไม่ดีซะแล้วจิ

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #75 เมื่อ11-03-2007 17:12:18 »

 :-[  เขินจัง  แหม๋ตอนต้นน้ำจับมือนิติไปล้วงกาลเกง คงใจเต้นน่าดู ดีนะ ไม่ให้จับตรงเป้า เหอๆๆ :รักจัง11:


แล้วตกลงทั้งคูjจะไปต่อกันป่าวอ่า ไม่เชื่อฟังรุ่นพี่อย่างเจUใหญ่เหรอคับ ไม่ดีนา เปนรุ่นน้องต้องเชื่อฟังไปต่อกันซะดีๆ :haun4:



wee

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #76 เมื่อ11-03-2007 23:42:32 »

นายนิติ กะ นายต้นน้ำ  สงสัยต้องตามติด เอ๊ย ไม่ใช่ ต้องติดตามแล๊วว.... :loveu: :loveu: :loveu:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #77 เมื่อ11-03-2007 23:55:04 »

555++  โอ๊ะโอ  นิถอดหรอกเหรอ   

ไม่เป็นไรๆถึงเป็นคนถอดก้อยังได้กำไรเพราะว่าต้นถอดให้  แถมยังได้ล้วงเป้าต้นอีก   :give2:

ต่อครับต่อ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #78 เมื่อ12-03-2007 05:15:54 »



ดอกราตรี............ :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #79 เมื่อ12-03-2007 09:56:59 »

4 : ความจริงในคืนฝนตก

สองเดือนนับจากเปิดเทอม กีฬาภายในมหาวิทยาลัยงวดเข้ามาเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้แก่นิสิตหน้าใหม่ได้อย่างยิ่งยวด เพราะไหนจะต้องเรียนและเตรียมตัวสอบกลางภาค ไหนจะต้องซ้อมเชียร์ให้ได้ตามที่รุ่นพี่ต้องการ และคนที่รับหน้าที่เป็นนักกีฬาก็ต้องซ้อมอย่างหนัก

“วันนี้ไปกินข้าวเย็นร้านป้าข้างมหา'ลัยกันมั้ย?” วันชนะเกาะระเบียงด้านหลังห้องคุยผ่านไปยังคนที่อยู่ระเบียงห้องติดกัน
“ขอโทษทีนะ เย็นนี้ตั้มมีซ้อมบาส” คนพูดหันมาตามเสียง แล้วกลับไปสนใจตากผ้าต่อ ไม่มีทีท่าสนใจคนที่อยากคุยด้วย จนวันชนะเบือนหน้าหนีเดินก้มหน้างุดเข้าห้อง

“จะซ้อมอะไรกันนักหนา” คนเดินเข้าห้องบ่น
หากว่าวันชนะยังอยู่ต่อก็จะได้เห็นว่านักขัตไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเขาให้ยืนเหงาเมื่อกี้เลย เพียงแต่พอหันมาอีกทีก็ไม่เห็นวันชนะอยู่ตรงนั้นแล้ว เขาอยากจะบอกว่า “ช่วงนี้ใกล้การแข่งขันแล้ว ต้องซ้อมหนักเย็นนี้คงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นพรุ่งนี้คงจะได้” ตั้งใจว่าตอนออกไปเรียนจะเคาะประตูบอก แต่ก็รีบจนไม่ได้ทำอย่างตั้งใจ


ใต้ต้นนนทรีใหญ่ร่มรื่น วันชนะนั่งอยู่ที่นั่น บนโต๊ะมีหนังสือแคลคูลัสวางอยู่ สายลมพัดผ่านเย็นฉ่ำคล้ายหอบเอาไอน้ำมาจากที่ไกล หนังสือเปิดกางไว้แต่คนที่นั่งหน้าหนังสือกลับมองเหม่อ จะว่าเพราะวิชานั้นเข้าใจยากแต่ก็คงมีอิทธิพลเท่าใจไม่นิ่ง เพราะมัวแต่คิดถึงใครอยู่


“ขอโทษครับที่นั่งตรงนี้มีคนนั่งมั้ยครับ?” ใครคนหนึ่งถาม วันชนะส่ายหัวแล้วกลับสู่อาการเหม่อลอย โดยไม่ได้สังเกตว่าผู้มาขอที่นั่งกำลังจ้องมองใบหน้าเขาอย่างตั้งใจพร้อมขมวดคิ้ว

“นาย...” คนพูดลากเสียงยาวเหมือนจะนึกออก
“อ๋อ!” เขานึกออก “เพื่อนของตั้มนี่นา”
เขายิ้ม

วันชนะหลุดจากภวังค์ พูดจบเขาถึงนั่งลง วางกองหนังสือเล่มหนาสองสามเล่มลงข้างๆ จำได้ตอนที่นักขัตลืมกระเป๋าตังแล้วเขาตามเอาไปให้ที่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์

วันชนะยิ้ม “เราวิน นายชื่ออะไร?”

“เนตร”
สนทนาอีกเล็กน้อยทั้งคู่ก็เงียบไป ต่างเปิดหนังสืออ่าน

เพื่อนใหม่เหลือบเห็นวันชนะนั่งหน้าคิ้วขมวดอยู่นานกับโจทย์แคลคูลัสข้อหนึ่ง คำถามเพียงบรรทัดเดียวแต่ต้องการคำอธิบายและคำตอบครึ่งหน้า
“ทำได้มั้ย” คำถามธรรมดาแสดงว่าอีกฝ่ายกำลังสนใจการกระทำของวันชนะอยู่ โดยไม่ได้จะโอ้อวดเห็นว่าวันชนะทำไม่ได้เพียงแต่เขาอยากช่วยให้เข้าใจ
แต่ที่จริงอาการคิ้วขมวดของวันชนะมาจากการเพ่งสมาธิไปยังโจทย์และต้องการตีให้ออกแต่ว่าภาพใบหน้าของอีกคนมารบกวนสมาธิ เขาต้องต่อสู้สองเรื่องในขณะเดียวกัน
“อ๋อ...ทำได้สิ” วันชนะยิ้ม ภาพใบหน้าหายไป เขาเขียนรวดเร็วบนกระดาษเป็นสมการยืดยาว หากว่าคนที่นั่งตรงข้ามมองปราดเดียวแล้วยิ้มนิดๆ

“เราว่าทำแบบนี้ดีมั้ย” เขาเขียนสมการที่สั้นและเข้าใจง่ายกว่าแบบที่วันชนะตอบ
วันชนะตาโตนึกไม่ถึงระคนดีใจที่ได้เจอคนที่จะอธิบายโจทย์อีกหลายข้อที่ว่างไว้

...
...
...


“โชคดีนะเนี่ยที่เจอเนตร ไม่งั้นคงคิดไม่ออกไปอีกนานเลย” วันชนะชื่นชม
“เราก็พอรู้แหล่ะ” อีกฝ่ายถ่อมตน หากที่แท้เขาเป็นคนเก่งระดับอัจฉริยะ ตอนมัธยมเคยได้เหรียญทองคอมพิวเตอร์โอลิมปิก
“วินกลับทางไหน เดี๋ยวเรากลับบ้านทางประตูด้านหน้ามหา´ลัย”

“เราอยู่หอใน”
“ไปกินข้าวกันมั้ย ข้างมหา´ลัยนี่เอง ตั้มก็ไปด้วยนะ นัดเอาไว้แล้วล่ะ” เขาชวน
“มะ...ไม่ ไม่เป็นไร เราก็นัดเพื่อนไว้แล้ว” วันชนะปฏิเสธ นี่แสดงว่านักขัตโกหกเขาน่ะสิ ไหนว่ามีซ้อมบาส

น้อยใจ...งอน...


เดินลัดเลาะตึกเรียนหลายตึก เดินผ่านคณะวิศวฯ ตะวันโพล้เพล้ทว่ายังมีนิสิตกลุ่มหนึ่งยังเล่นบาสอยู่ที่สนามข้างๆทางเดิน สายตาวันชนะแอบลอบจับจ้องการเคลื่อนไหวของร่างกาย สังเกตการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
“เฮ้ย ไอ้ควาย มึงดูดีๆสิวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหนึ่งเด่นออกมาจากเสียงเฮฮาจากสนาม สะกิดวันชนะให้เข้าสิห้วงคิด ‘พวกเขาเป็นผู้ชาย’ เขาเองก็เป็นผู้ชาย

ความคิดเดิม น่าทดท้อ ไม่มีใครมองเห็นตัวจริง...
นักขัตก็เหมือนกับพวกนั้น เป็น ‘ผู้ชาย’
พลันโทษตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์ไปกล่าวโทษใคร

...

เดินผ่านสนามฟุตบอล โล่ง วันนี้ไม่ยักมีใครมาเตะ เหงา...


กลับมาถึงที่หน้าห้อง อดไม่ได้ที่จะหันไปมองที่หน้าประตูห้องข้างๆ ห้อง 610 ป่านนี้เจ้าของห้องคงจะทานข้าวเย็นอยู่กระมัง วันชนะเปิดเข้าห้องตัวเองเหมือนคนหมดอาลัย

กวาดตามองทั่วห้อง ทำไมรกอย่างนี้นะ โดยเฉพาะตรงเตียงกับโต๊ะอ่านหนังสือของวุฒิ คิดในใจว่าตานี่ซกมกจริงๆ วันชนะใช้ปากกาค่อยช้อนกางเกงในที่วางอยู่บนเตียงเพื่อนร่วมห้องแล้วโยนไปที่ตะกร้าเจ้าของเตียง ทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นห้องรกในสภาพนี้ เขาเลยจัดการเก็บกวาดให้
เสร็จจากอาบน้ำวันชนะไม่มีใจจะไปเปิดหนังสืออ่านเลยนอนเล่นบนเตียงตัวเองที่ติดผนังอีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องของนักขัต แต่เขาไม่เคยได้เข้าไปหรอก ในใจคอยฟังเสียงว่าเมื่อไรคนนั้นจะกลับมา
เงียบ...

...

วันชนะหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ สะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนที่วุฒิเปิดประตูเข้ามา
“อ้าว! ขอโทษที เสียงดังไปหน่อย” ผู้เข้ามากล่าว
“อื้อ ไม่เป็นไร” วันชนะขยี้ตา “กี่โมงแล้วนี่”
“ห้าทุ่มแล้ว”


วันชนะสะดุ้งโหยง นี่เขาหลับไปตั้งแต่เมื่อไรกัน แล้วนักขัตกลับมารึยัง คำถามเกิดในใจอัตโนมัติ แต่ก็คิดได้ว่าจะอยากรู้ไปทำไมกัน
วุฒิเปิดโคมไฟนั่งอ่านหนังสือ วันชนะมองหาหนังสือของตัวเอง แต่ไม่มีใจจะทำสิ่งใด ล้มตัวลงนอน ข่มตาหลับแต่หน้าของคนนั้นก็ยังลอยมา...

.........................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:31:56 โดย หมูพูห์ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
« ตอบ #79 เมื่อ: 12-03-2007 09:56:59 »





gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #80 เมื่อ12-03-2007 10:12:43 »


...........ข่มตาหลับก็หลับไม่ลง....เพราะใจมันเพ้อถึงแต่เธอ......... :give2: :give2:

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #81 เมื่อ12-03-2007 10:42:53 »

นิติเศร้าจังตอนนี้  หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมา ต้นน้ำคงจะมาทำให้นิติสดชื่น และหัวใจพองโตนะครับ  :myeye:

 :โหลๆ: มาลงต่อไวๆนะตาพูห์

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #82 เมื่อ12-03-2007 15:04:02 »

 :เฮ้อ:ความรัก

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #83 เมื่อ12-03-2007 15:10:14 »

เฮ้อเศร้า  :3024:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #84 เมื่อ12-03-2007 18:11:26 »

รอวันที่กลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิมน้า  :impress:

เป็นกำลังใจให้หมูพูห์จ้า  รออ่านอยู่  :loveu:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #85 เมื่อ12-03-2007 20:00:04 »

ความเอ๋ยความรัก เริ่มประจักษ์ตั้งต้น ณ หนไหน (ไม่รู้จำมาถูกรึเปล่า)  :give2:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #86 เมื่อ13-03-2007 00:10:38 »

อิอิอิ  นิคิดถึงต้นอีกแล้ว รักแรกพบ  หุหุหุ

ต้นก้อนะ  เข้าใจหน่อยครับ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #87 เมื่อ13-03-2007 03:04:22 »

วันนี้ฟ้าหม่นหมองจัง :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #88 เมื่อ14-03-2007 11:21:14 »

..
..
..
เหมือนนักขัตจะหลบหน้าหนีหายไปจากชีวิตเขาอย่างนั้น...
เมื่อวานได้คุยกันแค่ตรงระเบียง ก่อนหน้านั้นวันชนะไม่ได้เจอนักขัตมาหกวัน เขานับนิ้ว
วันนี้ก็คงเหมือนกัน
หยิบกระเป๋า เปิดตาราง ไปเรียน

ที่โรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ วันชนะหยุดซื้อน้ำผลไม้ปั่น
“สวัสดีวิน” เสียงหนึ่งทัก วันชนะหันหลังขวับ
“สวัสดี เนตร” ยิ้มให้มิตรใหม่
“เดี๋ยวมีเรียนอะไรเหรอ?”
“อ๋อ เดี๋ยววินมีเรียนสถิติน่ะ แวะซื้อน้ำแล้วค่อยไป” วันชนะตอบ
“งั้นเราไปก่อนนะ อีกห้านาทีก็เริ่มเรียนฟิสิกส์แล้วล่ะ” อีกฝ่ายพูดพร้อมกับหันไปหาเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน
“ไว้ค่อยเจอกันนะ”




...


“อ้าววิน กลับมาแล้วเหรอ กินข้าวมั้ย วุฒิซื้อมาเผื่อ” เพื่อนร่วมห้องกล่าวทัก
“ขอบใจนะ” วันชนะเดินไปหยิบกล่องข้าว “เส้นใหญ่ผัดขี้เมาไก่” เขาหันไปหาวุฒิ อย่างน้อยเขาก็ยังมีเพื่อนรู้ใจอีกคน วันชนะชอบทานเมนูนี้มากที่สุด

“ก็เห็นชอบสั่ง ก็เลยซื้อมาด้วย”
วันชนะทำตาซึ้งบวกกับอึ้งในความดีเกินคาดของรูมเมท
อีกฝ่ายทำตาซึ้งส่งกลับ แต่ไม่นานก็หลุดขำ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกว่ะวิน” วุฒิหัวเราะเอิ้กอ้าก “เปล่าหรอก มีคนฝากมาให้น่ะ”

“ใคร?”

“ไอ้ตั้มไง ที่อยู่ห้องข้างๆ” วุฒิพูด
“อ้าว! ไปรู้จักเขาได้ไง?”

“ก็เรียนด้วยกัน”
“หืมม? อะไรนะ? วุฒิอยู่วิศวะฯไม่ใช่เหรอ?” วันชนะแปลกใจ
“ก็ใช่ไง ไอ้ตั้มด้วยไง”
“นักขัต เทพรักษ์ ห้อง 610?” วันชนะย้ำ

“เออสิ” คนตอบมีเสียงเริ่มรำคาญ

วันชนะเริ่มสับสนถ้านายนักขัตเรียนอยู่วิศวกรรมแล้วทำไมไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวคณะวิทยาศาสตร์ หนำซ้ำยังอาจหาญไปร่วมซ้อมเชียร์ด้วย แต่เนตรที่อยู่วิทยาฯคอมพิวเตอร์ก็บอกว่าเขาเรียนด้วยกันนี่ แล้วตอนนั้นที่กระเป๋าตังเขา วันชนะก็ค้น...จริงสิ! ตอนนั้นเขาดูแต่บัตรประชาชน ไม่ได้ดูบัตรประจำตัวนิสิต

อยู่ดีๆฟ้าก็มืดเอาเสียอย่างนั้น ไม่ใช่มืดเพราะตะวันตกดินแต่อย่างใดหากเพราะเมฆครึ้ม เสียงคำรามดังก้องตามด้วยฝนเม็ดใหญ่เหมือนใครจงใจเทน้ำลงมาจากฟ้าจนเสียงข้างนอกอื้ออึง ทั้งวันชนะกับวุฒิต่างรีบวิ่งไปเก็บของที่ระเบียงแล้วรีบปิดประตู ลมแรงจนรู้สึกเหมือนตึกสั่นคลอน ฟ้าแลบแปรบสะท้อนเส้นทองคำที่คอวันชนะวาบ

“อ้อ แล้วคืนที่ฝนตกหนักๆตั้งแต่ตอนเปิดเทอมใหม่ กะจะบอกวินหลายทีแล้วแต่มันยุ่งๆจนลืมไป ตอนแรกนึกว่าวินเอามาวางที่โต๊ะวุฒิ แต่พอคิดอีกทีน่าจะเป็นไอ้ตั้มมากกว่านะ วุฒิหมายถึงสร้อยที่วินใส่อยู่น่ะ” อยู่ดีๆเขาก็พูดขึ้นเหมือนฝนฟ้า “ตอนนั้นโมเมสนุกๆกะว่าค่อยบอก แบบว่าชอบอำคนน่ะ แฮ่ แฮ่ เลยไม่ได้บอกว่าเห็นไอ้ตั้มมันตัวเปียกๆนั่งอยู่ในห้องด้วย”

ได้เท่านั้นแหล่ะ วางกล่องเส้นใหญ่ผัดขี้เมา แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูโดยลืมไปเลยว่าข้างนอกฝนตกหนัก เคาะรัวๆทีห้องข้างๆ สักพักคนข้างในก็ค่อยๆแง้มประตูออก

“โตโต้ ตั้มอยู่รึเปล่า” วันชนะถามรูมเมทของนักขัต
“เข้ามาก่อนๆ ลมแรง ฝนปลิวเข้ามา” อีกคนข้างในรีบดึงวันชนะเข้าไป
เป็นครั้งแรกที่วันชนะได้เข้าไปยังห้องของนักขัต กวาดสายตามองรอบๆ ตรงนั้นน่าจะเป็นเตียงของนักขัต เขาสังเกตจากรูปที่บนโต๊ะข้างๆหัวเตียง

“ตั้มคงยังซ้อมบาสอยู่ที่ยิมคณะล่ะมั้งวิน กลับดึกทุกวัน” คนชื่อโตโต้บอก
“ตั้มเค้าอยู่วิศวะฯหรือ?” วันชนะย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ใช่”



กลับมายังห้องตัวเองแล้ว สับสนในใจ ทำไมนักขัตหลอกเขามาตลอด แต่ว่า...สร้อยนี้เขาเป็นคนหามาให้? นานเกินไปที่จะรอคำตอบอยู่ตรงนี้
“เฮ้ย! วินจะไปไหน?” เสียงวุฒิกลบหายไปกับเสียงฟ้าคำราม
ร่างสูงโปร่งดูบอบบางแต่ก็ดูมีความเป็นชายอยู่ในทีวิ่งฝ่าลมฝนออกจากห้อง ยังดีที่เขาไม่ลืมคว้าร่มมาด้วยก่อนออกมา

โกรธเรื่องที่เขาโกหกว่าอยู่คณะเดียวกัน?
อยากรู้ความจริงเรื่องสร้อย

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องวิ่งฝ่าฝนมาแบบนี้ รู้ตัวอีกทีก็เมื่อตัวเองยืนอยู่ในยิมแล้ว ตัวเปียกไปหมดเท้าก็เลอะโคลน ร่มที่เอามาด้วยไม่ได้ช่วยอะไรเลย ที่กลางสนามคอนกรีตคนที่เล่นกันอยู่หันมามองวันชนะเป็นจุดเดียว รวมทั้งนักขัตด้วย ลูกบาสกระดอนเบาลงเรื่อยๆจนกลิ้งออกนอกเส้น วันชนะยังตัวแข็งทื่อไม่รู้จะทำยังไงต่อ

คนตัวหนาสูง คิ้วเข้มเรียวเดินเข้ามาหา คนข้างหลังเขาเริ่มจับลูกบาสอีกครั้ง “วิน มาทำไมเนี่ย แล้วนี่ตากฝนมา?”
วันชนะยังเงียบ ในหัวเรียบเรียงว่าควรจะพูดยังไง

“มาทางนี้ก่อนเถอะ” นักขัตจับที่ข้อมือดึงไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เอ้า เช็ดหัวเช็ดตัวก่อน” เขาโยนผ้าเช็ดตัวให้

“วันนั้น สร้อยนี่ นายเก็บมาเหรอ?” วันชนะพูดเป็นครั้งแรกที่มาถึงที่นี่ มือจับสร้อยรักไว้
นักขัตมองมือที่จับสร้อยนั้น “อืม ก็เราลงไปหาอีกรอบเองพอเอาไฟฉายส่องๆมันวูบๆสะท้อนแสงน่ะเลยหาเจอ” สายตาเขามองที่ใบหน้าวันชนะเหมือนงงกับการมาของวันชนะว่าเพราะคำถามนี้หรือ

“...แล้วฝนตกหนักขนาดนั้น...นาย...” วันชนะอึกอัก
“ตั้มเห็นว่ามันเป็นของสำคัญของวินน่ะ ดูหน้าวันชนะนนั้นก็รู้ว่ามันสำคัญมาก เลยอยากหาให้เจอ”
“แล้วคืนนั้น หลังจากเราหลับไปแล้ว เกิดอะไรขึ้นบ้าง” วันชนะจ้องตาอีกฝ่าย

“ตอนที่ตั้มลงไปหาอีกรอบน่ะวินหลับไปแล้วล่ะ พอขึ้นมาก็วางไว้ที่โต๊ะ พอดีวุฒิกลับมาก็เลยกลับห้อง ก็ฝากมันว่าวินขาเจ็บให้ดูแลด้วย แต่วุฒิมาเอาของแล้วก็จะไปค้างบ้านเพื่อนล่ะมั้ง คืนนั้นตั้มเลยไปนั่งอ่านหนังสือในห้องวินเผื่อจะได้ดูวินด้วย” นักขัตอธิบาย “สักสามทุ่มวินไข้ขึ้นเพ้อด้วย ละเมอหาแม่ และ เอ้อ... ตั้มเอาผ้าเช็ดตัวให้ เลยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ด้วยเลย”

หากว่าคนเล่าไม่พูดให้หมดว่าที่จริงแล้วตอนที่คนไข้เพ้อถึงแม่ เขาเข้าไปดูอาการและเอาผ้าเช็ดให้นั้นคนไข้จับตัวเขาได้ก็กอดเสียแน่น และเขาก็ไม่ได้บอกถึงที่ว่าเขาเองก็ได้เอามือลูบผมของวันชนะเพื่อปลอบประโลม เหมือนผู้ใหญ่ที่ชอบลูบหัวเด็กให้ละความกลัว

ความจริงที่มีเงื่อนงำโดยไม่รู้ปมมาก่อนได้คลี่คลาย หากยังเหลืออีกหนึ่งข้อสงสัย
“แล้วตั้มหลอกเราทำไมว่าเรียนอยู่วิทยาศาสตร์” วันชนะถามเสียงคาดคั้นอยู่ในที
“เฮ้ย! ตั้มไม่ได้หลอกนะ”
“ตั้มบอกว่าเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์”
“วิศวะฯคอมพิวเตอร์ต่างหากละ”
“แล้ววันนั้นทำไมไปซ้อมเชียร์ที่คณะวิทยาฯ”
“นึกสนุกตามเพื่อนไป ตั้มมีเพื่อนเรียนวิทยาฯ”
“แล้ว...” วันชนะนึกคำถามไม่ออก ได้แต่อึกอักระคนเจ็บใจที่คนตอบตอบได้หมด
นักขัตยืนกอดอกเหมือนรอคำถามอีก “ไง มีอะไรจะถามอีก”


“ตั้มๆ ว่างอยู่ป่าว ออกมาทางนี้หน่อย” เสียงเพื่อนในทีมเรียก
“เดี๋ยวมา” ว่าแล้วนักขัตก็วิ่งออกไปทิ้งให้วันชนะนั่งทบทวนสิ่งต่างๆ


เมื่อทุกอย่างกระจ่าง คนที่นั่งอยู่ยังสับสนในใจ ทำไมตัวเองต้องทำถึงขนาดนี้
ร่างบางแต่ดูเป็นชายในทีค่อยๆลุกจากที่ เดินอย่างสำนึกไปทางประตูทางออก ฝนซาลงแต่ก็ยังไม่ควรกลับไปตอนนี้หรอก แต่เขาก็เดินออกไป...

เขาน่าจะดีใจสิที่รู้ความจริง แต่ทำไมเจ้าความรู้สึกจี๊ดๆเล็กๆข้างในมันคืออะไร


“วันนี้วินเป็นอะไรไป” เสียงคุ้นเคยดังขึ้น วันชนะแหงนมองร่มกางแผ่อยู่เหนือหัว “เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” หันไปมองคนที่ตามมากางร่มให้ เขายิ้มเหมือนเคย


“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ” เขาโอบมือมากอดที่ไหล่แบบผู้ชายกอดไหล่เพื่อน วันชนะยิ้มแห้งๆให้
“แล้วกินเส้นใหญ่ผัดขี้เมายัง?”
****************************************************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2007 11:33:14 โดย หมูพูห์ »

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Re: [story] แค่มีนาย by โอนนิมารุ
«ตอบ #89 เมื่อ14-03-2007 12:12:42 »

ซึ้งมั่กๆคับ :give2: :give2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด