[เรื่องสั้น] Be step3 : จับมือ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Be step3 : จับมือ  (อ่าน 63813 ครั้ง)

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
[เรื่องสั้น] Be step3 : จับมือ
« เมื่อ15-11-2009 13:59:23 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
--------------------------------------------------------


แอบตกใจ นี่เป็นคู่แรกที่ต่ายเขียนตอน3ออกมาด้วย! เอ ท่าทางคู่นี้อาจจะไปเรื่อยๆกว่าคู่อื่นก็ได้แฮะ^^

อย่างที่บอกไว้ในทอล์กที่แล้วคือต่ายตัดสินใจตั้งชื่อชุดปุ่นเขมว่า be step จากชื่อแต่ละตอน มาคราวนี้ก็หวังว่าคู่นี้จะสร้างความบันเทิงให้กับผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะคะ^^

ลิ้ง
'มอง' => http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=9745.0

'สบตา' => http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=11597.0

'จับมือ' => ตอน1 yes
              ตอน2  yes
              ตอนพิเศษ : ใจบอส 100%

เรื่องสั้น
set คนไทยล้วน

ช่องว่างของหัวใจ 

มุมมองของคนสามคน

Set ชาวต่างชาติ / มีตัวละครต่างชาติเป็นตัวเอก
If only...(จบสั้นจริงๆนะ)

Cupid Dart 

Just another Halloween day

Wednesday’s story

He's mine!

Set ชุดเรื่องสั้น (คือธีมเดียวกันแต่แต่ละเรื่องสามารถเป็นเอกเทศด้วยตนเองค่ะ แนะนำให้อ่านเรียงเพราะบางครั้งต่ายจะเอาตัวละครเก่ามาเขียนใหม่)
ชุดเรื่องสั้น : Story from song
 พี่ชาย (จบสั้นมาก-มากที่สุด) 
 คนไม่มีเสน่ห์ 
 ฉันรักของฉันจริงๆ
 อย่าถาม

 ชุดเรื่องสั้น หอโคมม่วง 

เรื่องยาว (ยังไม่จบ)
  The Tales Of Greek Gods, ไดโอนิซัส-เฮฟีทัส 

What the…?!

ไม่ต้องมีเหตุผลระหว่างเรา

ต้องตา...ต้องใจ

-----------------------------------------------------------------------------------

           ตั้งแต่คบกับมันมาเกือบหกปีนี่ผมแทบจะนับครั้งได้ว่ามีกี่คนที่ทำให้ไอ้เขมโมโหได้    และส่วนใหญ่พวกที่ทำให้เขาโมโหได้นี่บอกได้คำเดียวว่า‘สมน้ำหน้า’ แต่ครั้งนี้ผมกลับหาเหตุผลที่จะมารองรับอารมณ์โกรธของมันไม่ออกสักอย่าง

   “ยังไม่เคลียร์อีกเหรอวะปุ่น”ไอ้แก๊ปกระซิบถามผมเมื่อใบหน้าของคุณชายเขมบึ้งมาแต่ไกล

   “เออ”ผมไม่กล้าตอบอะไรมากเพราะตัวต้นเหตุกำลังนั่งหน้าระรื่นอยู่ข้างๆผมเอง

   เขมไม่พูดพร่ำทำเพลงพอเดินมาถึงก็ทรุดตัวแทรกระหว่างผมกับ‘ต้นเหตุ’ทันที

   “โหยพี่เขมทำอะไรอ่ะที่ว่างๆมีตั้งเยอะมาเบียดผมกับพี่ปุ่นทำไม”เด็กหนุ่มผมทองแต่หน้าไทยที่โวยวายอยู่นี่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเจ้านาย น้องชายของผมเอง แม้จะไม่ใช่น้องแท้ๆเพราะเป็นลูกชายของอาแต่ผมกับเจ้านายหรือบอสก็สนิทกันดี ตอนแรกมันตัดขาดกับพ่อหรืออาเนย์ของผมว่าจะไม่กลับมาเมืองไทยอีกแต่พอรู้ว่าอาเนย์เป็นโรคหัวใจต้องเข้าโรงพยาบาลก็ยอมกลับมาคืนดีแต่โดยดีประจวบกับเป็นช่วงปิดเทอมของทางนั้นมันจึงพ่วงมามหาลัยแอบเนียนเรียนไปด้วยหน้าตาเฉยด้วยเหตุผลว่าอยากรู้ว่าคณะนี้เหมาะกับตัวเองไหม

   “มีปัญหา?”เขมเลิกคิ้ว

   “....”แทนคำตอบบอสลุกขึ้นเดินมาทางผมแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกันบนเนื้อที่น้อยนิด แน่นอนเมื่อน้องมานั่งแบบนี้ผมก็ต้องเขยิบสิ

   “เฮ้ย ไปนั่งตรงนั้นทำไม”เขมกล่าว ส่วนเจ้าบอสก็ทำหน้าแอ๊บแบ๊ว

   “ก็พี่เขมมานั่งคั่นผมกับพี่ปุ่นนี่นา”ความหมายชัดเจนว่ามันอยากนั่งข้างผมนั่นเอง

   “แล้วนี่บอสจะกลับเมื่อไหร่นะ”บ๊วยรีบถามแทรกก่อนที่เขมจะกล่าวอะไรทำให้ผมนึกขอบคุณมันอยู่ในใจ

   “อ๋อ บอสมันจะอยู่ถึงสิ้นเดือนนี้น่ะ ใช่ไหมบอส”ผมตอบก่อนจะหันไปหาน้องชาย

   บอสพยักหน้า “จริงๆผมก็อยากอยู่ต่อแต่ติดว่าโรงเรียนเปิดเทอมเลยอยู่ได้แค่สามอาทิตย์เอง”

   “ไปแล้วไม่ต้องกลับมายิ่งดี”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นลอยๆ ผมหันไปขมวดคิ้วใส่เอ่ยเรียกเสียงเข้ม

   “เขม...”

   เท่านั้นคุณชายก็ลุกขึ้นคว้ากระเป๋าเดินไปไม่พูดจาท่ามกลางความตกใจของทุกคน

   “ปุ่นมึงไปตามไอ้เขมไปว่าเป็นอะไรเดี๋ยวกูดูน้องมึงให้เอง”ไอ้น้ำกล่าว ผมพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าวิ่งตามร่างสูงไป

   พอตามทันผมก็กระชากบ่าเขม “มึงเป็นอะไรของมึง?!? พอกูถามไม่ตอบก็ช่างแต่นี่ทำไมอยู่ต้องลุกขึ้นเดินหนีด้วย!”

   ผมไม่เข้าใจสายตาที่มันมองมาสักนิดจึงยังคงพูดต่อไป “ไอ้บอสมันก็น้องกูมึงมีปัญหาอะไรกับมันมึงก็บอกกูสิกูจะได้ช่วย ถ้ามันไปกวนตีนอะไรมึงกูก็ขอโทษถ้าไม่พอใจต่อให้ต้องบังคับเดี๋ยวกูไปลากมันมาขอโทษมึงด้วยก็ยัง
ได้”

   “ไม่ใช่...”

   “หืม?”

   “ที่ต้องการไม่ใช่แบบนั้น...ช่างมันเถอะฝากขอโทษทุกคนด้วยแล้วกัน”ว่าแล้วเขมก็หันหลังกลับจะเดินต่อแต่มีหรือผมจะยอม

   “แล้วมึงต้องการอะไร!”ผมตะโกนไม่สนใจว่าบริเวณนี้จะยังมีนิสิตอยู่แค่ไหน “ถ้ามึงไม่บอกแล้วกูจะไปรู้ไหม!”

   “ต้องการ...ปุ่น”

   ผมนิ่งเมื่อได้ยิน ใบหน้าของผมคงฉายชัดถึงความไม่เข้าใจเขมจึงถอนหายใจ

   “ช่างมันเถอะ ผมผิดเอง ลืมๆมันไปเถอะปุ่น”เพราะรอยยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ผมจึงปล่อยให้เขมเดินจากไป

   มันเป็นยิ้มเศร้า...เศร้าอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน...

หลังจากนั้นผมก็สังเกตุเห็นชัดเจนว่าเขมพยายามหลบหน้าผม แม้กระทั่งไอ้ไวไวที่ความรู้สึกช้าที่สุดในกลุ่มยังเอ่ยปากทักว่าอาทิตย์นี้ไม่เห็นเขมเลย

   “พี่ปุ่น...เป็นเพราะผมใช่ไหม?”บอสถามขณะขี่มอเตอร์ไซด์มาถึงบ้าน

   “อะไร?”

   “ที่พี่เขมหายหน้าไปเพราะผมใช่ไหมล่ะ คนโง่ยังดูออกเลยว่าพี่เค้าเกลียดผม”บอสบ่นพลางส่งหมวกกันน็อกคืนให้ผม “สงสัยผมคงเล่นมากไปหน่อยถ้าเจอหน้าก็ฝากขอโทษด้วยแล้วกัน”

   ผมถอนหายใจ “คิดมากน่า มันอาจจะงานยุ่งก็ได้”

   “แน่ใจ?”พอโดนย้อนแบบนี้ผมจึงตอบด้วยมะเหงกไป

   “ไปทำอะไรก็ไป!”ผมแยกเขี้ยว

“ผมดีใจที่เกิดเป็นน้องพี่นะ”

ผมเลิกคิ้วกับประโยคที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยนั่นพอเห็นยิ้มเศร้าๆนั่นก็อดจะกวักมือเรียกมาลูบผมก่อนเอาหน้าผากมาชนกันอย่างเช่นสมัยก่อน

“เออพี่ก็ดีใจที่แกเป็นน้องเหมือนกัน”ผมส่งยิ้มให้แล้วจึงบิดเครื่องจากไป ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าเขมหงุดหงิดเพราะบอส ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ทั้งที่ตอนแรกเขมก็ดูใจดีกับบอสแท้ๆ

   “รับสายสิ!”ผมกดโทรออกเป็นรอบที่สิบหลังจากตัดสินใจว่าจะคุยกับเขมให้รู้เรื่องให้ได้ พอประโยคให้ฝากหมายเลขโทรกลับดังอีกครั้งผมก็ผุดลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสตางค์ มือถือกับกุญแจตรงไปที่มอเตอร์ไซด์แล้วขับออกไปที่คอนโดเขมทันที หลังจากที่เรามีอะไรกันไม่นานเขมก็ขอที่บ้านออกมาอยู่คนเดียวด้วยเหตุผลว่าจะได้สะดวกกับการเรียน ที่จริงผมเฉยๆแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยเพราะถ้าผมบึ่งรถไปบ้านมันตอนกลางดึกแบบนี้คงพิลึกน่าดู

   “จะหลบกูได้ตลอดก็หลบไป!”ผมคำราม

   ด้วยความที่ผมเองก็แวะเวียนมาคอนโดของเขมบ่อยจนรปภ.กับแม่บ้านจำหน้าได้จึงไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตรองอะไรมากมายแค่บอกว่ามาหาเขมก็ขึ้นได้แล้ว
   
“เปิดประตู!”ผมทั้งกดออดและเคาะประตูตามแรงอารมณ์ที่เริ่มพุ่งสูงทุกที

ก่อนที่คนข้างห้องจะเปิดประตูออกมาด่าเจ้าของห้องก็เปิดประตูให้ด้วยสภาพตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก

“ไปเล่นสงกรานต์ที่ไหนมาวะเปียกซ่กเชียว”ผมรีบแทรกตัวเข้ามาข้างในเหมือนกลัวว่าคนตรงหน้าจะเปลี่ยนใจไล่ผมกลับ ที่กะจะด่าก็ใจอ่อนวูบเมื่อเห็นสภาพเขม

“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วเดี๋ยวหวัดกินตายเลย”ผมเอ่ยด้วยความเป็นห่วง

   “สนผมด้วยเหรอ?”

   ผมฟังประโยคชวนทะเลาะนั่นก็ฉุนกึกทันที “ถ้าไม่เป็นห่วงจะมาทำไม!”

   “ผมสบายดีไม่เป็นไรไปดูบอสเถอะ”

   “อ้อ งั้นโอเคขอโทษที่มารบกวน!”พอเห็นท่าทางไม่สนใจว่าผมจะมีตัวตนหรือไม่อารมณ์หงุดหงิดก็พุ่งปรี๊ด ผมเดินจ้ำออกมาโดยไม่ลืมกระแทกประตูดังปัง!
   
   ผมไม่เข้าใจเขมเลยจริงๆ...ผมไม่เคยรู้สึกเหมือนถูกทิ้งเท่าวันนี้มาก่อน ตลอดมาผมนึกว่าผมคือคนที่เข้าใจมันดีที่สุดแต่สุดท้ายก็คงจะไม่ใช่

To be con.



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2012 01:11:42 โดย กระต่ายชมจันทร์ »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

poffy

  • บุคคลทั่วไป
 :m4: :mc3: :mc2: เย้ๆๆ คุณกระต่ายชมจันทร์มาต่อแล้ว
คิดถึงเขมกับปุ่นมากๆเลยค่ะ คิดถึงจริงๆ
คบกันมาหกปีแล้วยืนยาวมากจริงๆ
เปิดฉากมา เขมเริ่มเลยนะคะ "ต้องการปุ่น"
ภาคนี้ไม่ต้องห่วงเรตติ้งของเขมเลยนะคะ
ด้านมืดนี่ไม่เป็นอุปสรรคค่ะ ชอบเขมเหมือนดิมหุหุ
น้องบอสนี่ยังไงๆอยู่นา แต่ก็พี่น้องกันนะๆ
ดีกันไวๆ
ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะคะ คุณกระต่ายชมจันทร์ ชอบค่ะ
รออ่านต่อไปนะคะ  :mc4: :mc4:

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ขอบคุณค่า แต่มีประโยคคำพูดบ้างก็ดีนะคะ  ^^"

:m4: :mc3: :mc2: เย้ๆๆ คุณกระต่ายชมจันทร์มาต่อแล้ว
คิดถึงเขมกับปุ่นมากๆเลยค่ะ คิดถึงจริงๆ
คบกันมาหกปีแล้วยืนยาวมากจริงๆ
เปิดฉากมา เขมเริ่มเลยนะคะ "ต้องการปุ่น"
ภาคนี้ไม่ต้องห่วงเรตติ้งของเขมเลยนะคะ
ด้านมืดนี่ไม่เป็นอุปสรรคค่ะ ชอบเขมเหมือนดิมหุหุ
น้องบอสนี่ยังไงๆอยู่นา แต่ก็พี่น้องกันนะๆ
ดีกันไวๆ
ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะคะ คุณกระต่ายชมจันทร์ ชอบค่ะ
รออ่านต่อไปนะคะ  :mc4: :mc4:

เรียกชื่อซะเต็มยศเลย เรียกต่ายๆเฉยๆก็ได้ค่ะ^^

เรตติ้งเขม...ต่ายเลิกสนไปตั้งแต่ค้นพบว่าไม่มีใครบอกว่าเกลียดเขมภาคดาร์กไซด์แล้วค่ะ- -  เห็นมีแต่ไม่พูดถึงกับบอกว่าชอบนิ  ดังนั้นต่ายจะแต่งโดยไม่ห่วงเรตติ้งเขมอีกแล้ว! จะสมน้ำหน้าแทนด้วยซ้ำโทษฐานทำให้เป็นห่วงเก้อ - -+

ขอบคุณที่เม้นท์ค่า

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
ตามมาอ่านภาคต่อของเขม-ปุ่น ด้วยความคิดถึง

ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านครั้าบ  :impress2:

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้ค่ะ ดีใจที่ได้อ่านต่อ  เขมน่ารักออกจะตายไป จริงๆ นะ ชอบเขมมากกว่าปุ่นอีกโดยเฉพาะตอนเขมเมา

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านภาคต่อของเขม-ปุ่น ด้วยความคิดถึง

ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านครั้าบ  :impress2:

ค่า ขอบคุณที่ติดตามนะคะ^^


ชอบเรื่องนี้ค่ะ ดีใจที่ได้อ่านต่อ  เขมน่ารักออกจะตายไป จริงๆ นะ ชอบเขมมากกว่าปุ่นอีกโดยเฉพาะตอนเขมเมา

ต่ายเองก็ชอบตอนเขมเมาเหมือนกันค่ะ รู้สึกแกล้งง่ายดี^^

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เย้ๆๆๆๆ ภาคต่อของเขมกะปุ่น
อาการอย่างนี้ของเขมไม่อะไรมากหรอกก็แค่
หึง หวง น้อยใจ ปุ่นก็แค่เท่านั้นเอง ไม่มี๊..ไม่มีอะไรจริงๆๆ

Solar cell

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มเรื่องก็งอนกันซะแล้ว
เค้ามาง้อก็ทำงอน
ถ้าเค้างอนขึ้นมาบ้างจะทำยังงายยยยย

ตามติดและติดตามต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

อิอิ  เค้าดีใจที่ได้อ่านภาคต่ออ่ะ


 :L2:



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆๆๆๆ ภาคต่อของเขมกะปุ่น
อาการอย่างนี้ของเขมไม่อะไรมากหรอกก็แค่
หึง หวง น้อยใจ ปุ่นก็แค่เท่านั้นเอง ไม่มี๊..ไม่มีอะไรจริงๆๆ

^^ จริงๆมีอีกความรู้สึกนึงที่ต่ายอยากจะสื่อค่ะ แต่ลองอ่านตอนต่อแล้วจะรู้ค่ะ ฮุๆ

เริ่มเรื่องก็งอนกันซะแล้ว
เค้ามาง้อก็ทำงอน
ถ้าเค้างอนขึ้นมาบ้างจะทำยังงายยยยย

ตามติดและติดตามต่อไปค่ะ

อุ๊ย เดาถูกค่ะ 555+


อิอิ  เค้าดีใจที่ได้อ่านภาคต่ออ่ะ


 :L2:




ดีใจที่มีคนติดตามเช่นกันค่า^^


กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
Re: [เรื่องสั้น] Be step3 : จū
«ตอบ #11 เมื่อ16-11-2009 21:08:55 »

ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจคบกันผมก็หลงระเริงอยู่ในโลกแห่งความฝันโดยคิดว่าผมกับเขมจะคบกันตลอดไป เราจะมีความสุขด้วยกัน ต่อให้ตอนที่เราเปิดเผยความสัมพันธ์ไปจะมีคนคัดค้านแต่เราก็จะฟันฝ่ามันไปได้

   ...คิดตื้นๆ...ผมแค่นหัวเราะ เพียงช่วงเวลาแค่เดือนเดียวก็ทะเลาะกันเสียแล้ว 
   
   ผมเข้าใจแค่มันกำลังโกรธแต่ที่เหลือผมไม่เข้าใจเลย...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ...


   กลายเป็นว่าเหมือนย้อนกลับไปช่วงที่เขมตกลงเป็นแฟนกับรินและวาอีกครั้ง เขมได้หายไปจากชีวิตของผมหรือถ้าพูดให้ถูกคือผมก็หายไปจากชีวิตของเขมเช่นกัน
   
หลังจากวันที่ผมกลับจากคอนโดเขมผมก็เริ่มเป็นฝ่ายหลบบ้าง ที่ไหนที่มีเขมอยู่ผมจะไม่ไป ที่ไหนที่ผมได้ยินเสียงเขมผมจะเดินหนี ที่ไหนที่มีคนเอ่ยถึงเขมผมจะเปลี่ยนเรื่อง
   
ผมถามตัวเอง...ทำบ้าอะไรอยู่?
      
คำตอบคือ...ไม่รู้

“อ้าวปุ่นเห็นเขมกำลังตามหาปุ่นอยู่พอดีเลย”ซอทักเมื่อเดินสวนกับผม

“เหรอ ขอบคุณแล้วนี่เขมไปไหนล่ะ”

“เห็นเดินไปที่โรงอาหารนะ”ดีงั้นผมจะไม่ไปโรงอาหาร...

เหมือนวันนี้เขมจะไล่ถามทุกคนที่พบว่าเห็นผมไหมพอเจอหน้าใครก็มีแต่คนพูดว่า ‘เขมตามหา’

“ไงปุ่น เมื่อกี้กูเพิ่ง...”

“ถ้ามึงจะบอกว่าเขมตามหาตัวกูล่ะก็ไม่ต้อง”ผมดักคอไอ้บ๊วยไว้

“กูว่ามึงไปคุยกับมันเหอะปุ่น มึงหลบหน้ามันมาสามวันแล้วนะเว้ย”ไอ้ไวไวกล่าวพลางขยับแว่น

“ถ้ามึงสังเกตุก่อนหน้านี้มันคือคนที่หลบกู”ผมย้อน “กูกลับล่ะ เจอกันพรุ่งนี้”

ผมรีบเดินไปที่ที่จอดรถแต่กลับพบว่าคนที่ผมพยายามหลบมาตลอดกำลังยืนหันหลังเช็ดกระจกมอเตอร์ไซด์ผมอยู่ ขณะลังเลว่าจะเผ่นหนีแล้วทิ้งรถไว้สักคืนดีไหมร่างสูงก็เหลือบเห็นผมผ่านกระจกพอดี

“ปุ่น!”เขมเรียกชื่อผมอย่างยินดี

“เห็นว่าตามหาตัวกูอยู่เหรอ”ผมถามเสียงเรียบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็จะทำใจรับให้ได้

เขมยิ้มเดินมาหยิบกุญแจรถแล้วจูงมือผม “วันนี้เดี๋ยวเขมขับเอง”

ผมไม่ทักท้วงอะไรเพียงแค่หวังจะยืดสัมผัสจากไออุ่นนี้อีกนิดเท่านั้น ไม่เอ่ยถามว่าจะขับไปไหนแม้ดูเส้นทางก็รู้ว่าไม่ใช่ทางไปบ้านผมรึคอนโดเขมแน่ๆก็ตาม

ผมกลัวไปสารพัด...กลัวว่าเขมจะเบื่อตนเอง กลัวว่าเขมจะเพิ่งคิดได้ว่าจริงๆแล้วเขาควรจะคบกับผู้หญิงมากกว่า กลัวว่าเขมจะเจอคนที่ดีกว่า...กลัว...ว่าเขมจะเอ่ยว่าเลิกกันเถอะ...

แต่ถึงจะกลัวแค่ไหนทุกอย่างก็จบลงเมื่อผมได้เห็นรอยยิ้มของเขมตอนที่หันกลับมา ขอเพียงแค่ยังได้อยู่เคียงข้างเช่นเดิมก็ดีแล้ว ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาผมกลัวสารพัดแต่สุดท้ายถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนก็ขอแค่เป็นเพื่อนก็ยังดี อาจไม่เหมือนเดิมแต่ขอแค่ยังได้คุย ได้เห็นหน้า ได้เห็นรอยยิ้มนั้นตลอดไปก็ยังดี...

มีคนเคยบอกผมว่าการที่คนเรามาพบกันได้รักกันก็เหมือนจุดตัดของเส้นสองเส้น หากกลายเป็นกากบาทก็คือจะไม่มีวันเกี่ยวข้อง เป็นสิ่งสำคัญของกันและกันอีกเลย ยิ่งผ่านไปก็ยิ่งห่างไกล หากกลายเป็นเส้นขนานก็จะเคียงข้างกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้ห่างไกลแต่ก็ไม่มีวันได้ใกล้ชิด ผมถามเขาว่าแล้วถ้ารักกันตลอดไปรูปแบบของเส้นจะเป็นยังไง เขายิ้มแล้วตอบผมว่า
....อินฟินิตี้...รูปเลขแปดในแนวนอนคือคำตอบ ความรักต้องมีช่วงเวลาที่ใกล้ชิดที่สุดแต่เมื่อใกล้ก็ต้องมีระยะห่างเพื่อมีเวลาให้กับตนเองบ้าง แต่ต่อให้เพลิดเพลินกับสิ่งรอบกายแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องกลับมาที่จุดเดิมซึ่งเป็นที่ๆคนสองคนเท่านั้นจะเข้าใจกัน

ผมก็ได้แต่หวังว่าความรักของผมกับเขมจะจบลงที่เส้นขนานไม่ใช่กากบาทก็เพียงพอแล้ว...

“ถึงแล้วล่ะ”เขมกล่าวเรียกผมจากห้วงความคิด เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่ากำลังอยู่หน้าโบสถ์แห่งหนึ่ง...

“ที่นี่ที่ไหน?”ผมขมวดคิ้ว
“เข้ามาข้างในเถอะเขมขอหลวงพ่อท่านไว้แล้ว”ผมเดินตามแรงจูงแต่โดยดี ทั้งผมทั้งเขมเป็นพุทธทั้งคู่ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้ามาเยือนที่นี่ ผมมองผนังสีขาว กระจกสีและสัญลักษณ์ต่างๆที่แสดงถึงศาสนาคริสต์อย่างสนใจ

“หลับตาทีสิ”เราสองคนหยุดยืนที่หน้าแท่นบูชาโดยมีสีสันมากมายรายล้อมรอบตัวราวความฝัน ใจผมเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง บางที....

มืออุ่นกระชับกุมสองมือผมไว้ เสียงหัวใจเต้นถี่ขึ้นกึกก้องเสียจนผมรู้สึกตาลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนความเงียบทำให้ผมเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆพอจะเอ่ยปากถามว่าลืมตาได้หรือยังเสียงทุ้มที่คุ้นเคยจากคนตรงหน้าก็ดังขึ้นเสียก่อน

“เราคบกันอย่างเพื่อนก่อนจะกลายเป็นแฟน...ตลอดเวลาที่ผ่านมาปุ่นอยู่เคียงข้างเขมมาตลอดไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม เราเคยหัวเราะและร้องไห้ด้วยกัน เราเคยทะเลาะกันแต่ก็คืนดีกันได้เสมอ...”

แรงบีบที่มือเริ่มแน่นขึ้นจนผมอดจะขมวดคิ้วนิดหน่อยไม่ได้แต่ก็ไม่ได้เอ่ยขัด

“หลายๆครั้งต้นเหตุก็มาจากเขมเอง...ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เขมรู้ตัวว่านิสัยเหมือนเด็ก พอได้ตัวปุ่นมาแล้วก็เริ่มระแวงว่าใครจะมาทำให้ปุ่นเปลี่ยนไปไหม ทุกคนเริ่มกลายเป็นศัตรูไปเสียหมดไม่ว่าจะเป็นบ๊วย น้ำรึแม้กระทั่งไวไว จังหวะนั้นบอสก็กลับมา”

ตอนแรกที่ปุ่นเล่าถึงบอสเขมก็เริ่มรู้สึกเหมือนบอสเป็นน้องชายคนนึงของเขมจริงๆแต่พอบอสเริ่มตามปุ่นเรื่อยๆ พูดถึงเรื่องที่เขมไม่รู้แต่ปุ่นกับบอสกลับรู้กันอยู่สองคน เขมเหมือนถูกทิ้ง”

ผมลืมตาโพลงมองเขมอย่างไม่เชื่อสายตา

“ว้า ปุ่นลืมตาอย่างนี้เขมก็พูดไม่ออกพอดีสิ”เขมส่งยิ้มเศร้าๆให้ผม “แต่ก็นั่นแหละถึงตรงนี้เขมมีอะไรจะเสียอีกล่ะ? เขมรู้ตัวว่าเริ่มงี่เง่าขึ้นเรื่อยๆ พาลแม้กระทั่งกับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนเขมเองยังตกใจเลยว่าทำไปได้ยังไง เขมกลัวปุ่นจะโกรธแล้วเกลียดก็เลยพยายามหลบหน้า”

“แล้ววันที่คอนโดนั่น...”ผมกล่าว

“วันนั้น...เขมเห็นปุ่นจูบบอสนี่...”ผมเบิกตากว้างอ้าปากค้าง

“วันนี้เขมเลือกมาที่นี่ก็เหมือนเพื่อสารภาพบาปมั้ง”คนตรงหน้าเริ่มตาแดงขึ้นเรื่อยๆ “เขมรู้ว่าที่เขมกลัวคงจะเป็นจริง ถ้าปุ่นชอบบอสจริงเขมก็จะยอมปล่อยปุ่นไปไม่ต้องห่วงหรอกนะ”

“แม่งเอ๊ย!”ผมสบถดังลั่นจนเหมือนได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา “นี่เอาส่วนไหนคิดวะ!”

ผมสะบัดมือออกสองข้างมากุมขมับ “กูกับบอสเนี่ยนะ...เขมมึง...เฮ่อ...นี่แสดงว่าที่ผ่านมามึงหึงกูกับไอ้บอสงั้นสิ?”

“หมายความว่าปุ่นไม่ได้ชอบบอส?”

“เออสิ!”

“ปุ่นยังเป็นของเขมอยู่?”

“เออ!”ผมเริ่มหน้าแดงขึ้นเมื่อสองมือถูกเกาะกุมอีกครั้งคราวนี้ยิ่งแน่นหนากว่าเดิมด้วย

“ปุ่นยังรักเขมอยู่...”เขมเอ่ยด้วยน้ำเสียงยินดีจ้องตาผมราวกับจะขอคำยืนยันทำให้ผมต้องพยักหน้าน้อยๆให้

“ไอ้ที่มึงเห็นวันนั้นกูแค่เอาหน้าผากชนกันเฉยๆไม่ได้จูบสักหน่อย”ผมงึมงำ “ให้จูบกับไอ้บอสเนี่ยนะ...จ้างสิบล้านก็ไม่เอา...อื้ม!”

ก่อนที่ผมจะบ่นมากไปกว่านี้ริมฝีปากนุ่มก็ทาบลงมาเร่งเร้าให้ผมสนองตอบ จากจังหวะร้อนแรงค่อยๆอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆ เขมหยุดจังหวะสุดท้ายอย่างเชื่องช้าก่อนจะแนบหน้าผากมา เราสองคนอยู่ในอ้อมแขนของกันและกัน ผมดื่มด่ำกับอารมณ์หวาบหวามนี้เงียบๆ

“ขอโทษที่พาลใส่ปุ่นนะ”เขมเอ่ยขึ้น

“ขอโทษที่หลบหน้านายเหมือนกัน”ผมส่ายหน้ายิ้มๆแล้วจูงมือเขมไปนั่งที่เก้าอี้ไม้

“เราสองคนนี่ก็บ้าพอกัน ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายจะมีคนใหม่”ผมกล่าวเรื่อยๆแหงนหน้ามองเพดานสูง

เขมเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะกล่วด้วยน้ำเสียงหลากใจ “ปุ่นคิดว่าผมจะมีคนใหม่งั้นเหรอ?”

ผมหัวเราะลดสายตาลงมาอยู่ที่ใบหน้าคมที่กำลังงุนงงอยู่ “ก็เออสิ อยู่ๆก็หายหน้าไปเราก็นึกว่านายไปชอบคนอื่นแล้ว ตอนขามานี่นึกว่าจะถูกบอกเลิกด้วยซ้ำ”

“ไม่มีทาง!”เขมเอ่ยเสียงดังแล้วทำหน้าบึ้งตึง “อย่าคิดบ้าๆแบบนั้นอีกเด็ดขาด”

“ทีนายยังคิดว่าเราชอบไอ้บอสได้เลย”ผมย้อน

เขมอึ้งแล้วเม้มปาก “เอาเป็นว่าผมจะไม่มีวันนอกใจปุ่นเด็ดขาด”

“เราก็ไม่คิดจะมีคนอื่นเด็ดขาดเหมือนกัน”ผมยิ้ม เขมยิ้ม

“รู้ไหมพอคบกับปุ่นแล้วทำให้ผมรู้ตัวเองว่าเป็นคนขี้หึงมากๆเลยล่ะ”เขมกระซิบเบาๆ

ผมหัวเราะ เขมเริ่มหน้าแดงยิ้มขัดเขิน “นั่นสิถึงขนาดไปหึงแม้แต่เด็กอายุสิบหกนี่นะ ฮะๆ”

“หึงเพราะรักปุ่นนั่นแหละ”เขมกล่าวทำเอาผมเริ่มร้อนที่หน้าบ้างไม่ได้

“เออรู้แล้ว”

“ผมบอกรักปุ่นแล้วปุ่นล่ะไม่บอกให้ผมชื่นใจบ้างเหรอ”ผมขมวดคิ้วมองมือที่เริ่มเลื้อยมาโอบบ่าผม

“จำเป็น?”

“ปุ่นอ่ะ!”ผมหัวเราะ เอี้ยวตัวหลบมือที่กำลังโอบอยู่ก่อนจะคว้ามากุมกระชับไว้

“แบบนี้ดีกว่านะ”ผมยิ้ม ยื่นหน้าไปจูบเขมอย่างแผ่วเบา “ปุ่นรักเขมครับ”

ผมจูบเขมอีกครั้งและอีกครั้ง...มือของเรากุมกันและกันถ่ายทอดความอบอุ่น ผมตัดสินใจว่าถ้าเกิดเรื่องทำนองนี้ขึ้นอีกผมจะกุมมือเขมไว้แล้วเอ่ยถามตรงๆ...

The END

***********************************************
Writer’s talk :

โฮ่ ภาคนี้แปดหน้าแน่ะค่ะ(แต่เคาะบรรทัดแล้ว) ภาคสบตายังแค่ห้าหน้าเองถ้าไม่รวมฉากเข้าไป แต่พอรวมฉากแล้วปาไปสิบสองหน้าแน่ะค่ะ แต่มองปาไปสิบเอ็ดหน้าด้วยตัวเองโดยไม่รวมทอล์ก ฮะๆ ในภาคนี้ก็กลับมาให้
ปุ่นเป็นคนบรรยายอีกครั้ง ส่วนภาคหน้าก็คงเดาได้ว่าเขมจะบรรยายสลับไป^^

เราพยายามเขียนโดยนึกถึงคาแรคเตอร์ตัวละครให้มากที่สุดเพราะถ้าตามใจฉันเมื่อไหร่...หวานเลี่ยนมดขึ้นจอแน่ๆค่ะ เผลอๆอาจมีตบจูบอีกตังหาก อาจจะมีบางคนค้านสงสัยว่าทำไมทั้งคู่ถึงดูยอมปล่อยอีกฝ่ายง่ายจัง คำตอบของเราคือเราจินตนาการว่าปุ่นนั้นแต่แรกก็คิดว่าความรักนี้ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ยิ่งเขมเคยคบกับผู้หญิงมาก่อนก็ยิ่งกลัวว่าเขมจะคิดว่าผู้หญิงดีกว่า ปุ่นเป็นประเภทออกแนวเจียมตัวหน่อยๆ ภายใต้ภาพลักษณ์ของผู้นำและร่าเริงคือเด็กน้อยที่กลัวการถูกเกลียดและปฎิเสธ ปุ่นคิดว่าแค่นี้ก็ดีแล้วจึงยอมกลับเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น

ฝ่ายเขมเองนั้นจากตอนที่แล้วเขมเองก็แอบช็อกที่ตัวเองมีดาร์กไซด์หึงไปทั่วแบบนี้แม้แต่กับเพื่อนของตนเองก็ตาม ในความคิดของเราเขมภายนอกจะดูเป็นมิตรดี เป็นลูกคนเดียวทำให้จริงแล้วออกแนวเอาแต่ใจเหมือนกันแต่เพราะเจ้าตัวมักเลือกสวมบทเด็กดีมาตลอดเพราะเรียนรู้จากวัยเด็ก ครั้งนี้สุดท้ายเขมก็เลือกจะทำตัวเป็นคนดีเพราะคิดว่าถ้าขืนภาคดาร์กไซด์หลุดออกมามากกว่านี้ล่ะก็จะโดนปุ่นโกรธเกลียดแน่ๆ

อันที่จริงสำหรับเราแล้วเขมเป็นตัวละครที่เหมือนภูเขาไฟนะ สะสมมากๆเวลาระเบิดจะยิ่งน่ากลัว เป็นตัวละครที่ดูซับซ้อนพอคิดศึกษาดีๆผิดกับปุ่นที่ดูจะซับซ้อนน้อยกว่าเยอะ 

ในภาคนี้มีตัวละครที่เป็นเพื่อนมีชื่อโผล่มาเยอะขึ้นเลยจะมีไล่ชื่อให้นะคะ
บ๊วย ,น้ำ,เกมส์,แบงค์,ไวไว,แก๊ปและที่ยังไม่เอ่ยนามอีกสองอีก จัมป์และลี (โอ๋ๆ ไว้ตอนหน้าจะหาบทให้นะคะจัมป์กับลีอย่าเพิ่งน้อยใจ) ส่วนพี่ชายของปุ่นชื่อเป้ค่ะ

ตอนแรกที่พาเข้าโบถส์เกือบจะลากไปเป็นขอแต่งงานแล้วแต่ยั้งตัวเองไว้ทัน มันจะขอแต่งงานอะไรตอนนี้...ไม่ได้ๆเลี่ยนไป เปลี่ยนๆๆๆ

เป็นทอล์กที่ยาวอีกแล้วปาไปเกือบหน้านึงแน่ะ ขอบคุณที่อ่านเรื่องนี้จนจบค่ะ หวังว่าจะถูกใจนะคะ พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-11-2009 21:30:12 โดย กระต่ายชมจันทร์ »

nopen

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านตั้งแต่มองกับสบตาแล้วครับ

ตอนเข้าโบสถ์ก็นึกว่าจะมีอะไรให้ซะอีก แต่ก็แค่มาสารภาพบาป

เห็น re แรกจะมีตอนของบอสด้วยใช่ไหมครับ

รออ่านนะครับ

เป็นกำลังใจให้ :L2:

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านตั้งแต่มองกับสบตาแล้วครับ

ตอนเข้าโบสถ์ก็นึกว่าจะมีอะไรให้ซะอีก แต่ก็แค่มาสารภาพบาป

เห็น re แรกจะมีตอนของบอสด้วยใช่ไหมครับ

รออ่านนะครับ

เป็นกำลังใจให้ :L2:

ขอบคุณที่ติดตามค่า *โค้ง*

ตอนแรกต่ายแต่งไปว่าจะให้ไปไหนดี ภาพโบถส์ผุดขึ้นมา...ไปโบสถ์ดีกว่า แล้วชะงัก ไปทำไม? คำแรกที่คิด...ขอแต่งงาน เกือบบ้าจี้แต่งตามความคิดแรก- -'  เฮ้ย นี่มันพุทธทั้งคู่นาแล้วจะแต่งให้มาโบสถ์ทำไมหว่าแต่ไงๆก็อยากให้มาโบสถ์นี่นาเค้าชอบกระจกสี => เหตุผลแค่นี้ - -'

สุดท้ายก็เลยคิดว่าให้มาแนวสารภาพบาปดีกว่า~

ค่ะ จะมีตอนพิเศษของบอสด้วยค่ะเพราะรู้สึกว่าบทบอสน้อยมากทั้งที่เป็นตัวแปรสำคัญของบทนี้แท้ๆ อ่านดูคนแต่งรู้ว่าอะไรทำไมเพราะฉากมันอยู่ในหัวแต่พออ่านในฐานะคนอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่พอเลยตัดสินใจจะเขียนภาคพิเศษให้น้องบอสค่ะ^^

poffy

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: :pig4: :L1: ขอบคุณคุณต่ายเช่นเคยค่ะ
อ่านแล้วยิ่งซึ้งกินใจกับความรักของเขมและปุ่น
จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันนะ
กับความรักที่พัฒนามาจากความสัมพันธ์แบบเพื่อน
เหมืนอกับว่ารู้จักกันมานานพอควร รู้จักกันนานมากเท่าไหร่ บางทีอาจทำให้คิดมากได้เท่านั้น

ภูเขาไฟที่ภายนอกว่าจะดูสงบสักเพียงใด แต่ภายในคุกรุ่น
และพร้อมจะประทุได้ทุกเมื่อมีแรงดันสูงพอควร

ชอบตอนที่ภูเขาไฟของทั้งคู่สงบกันจริงๆเลยล่ะคะ

คิดไปคิดมา ตอนที่ไปในโบสถ์นึกเหมือนกัน แต่งงานเปล่าเนี่ย  :o8:

ชอบเวลาที่เขมพูดกับปุ่น แล้วปุ่นพูดแบบเพราะๆด้วยจังเลย น่ารักที่สุด  :-[ :o8:

เขมเวลาที่สารภาพบาปนี่น่ารักจังเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ รออ่านต่อนะคะ


ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
 :กอด1: :กอด1:

ชอบจัง

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อะไรมันจะขนานนั้นนนนนน
พอดีกันปุ๊บ..ก็หวานซะมดขึ้นเลยอ่ะ :-[ :-[
น่ารักดีคร้าบบบบบบบบบ

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
:L2: :pig4: :L1: ขอบคุณคุณต่ายเช่นเคยค่ะ
อ่านแล้วยิ่งซึ้งกินใจกับความรักของเขมและปุ่น
จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันนะ
กับความรักที่พัฒนามาจากความสัมพันธ์แบบเพื่อน
เหมืนอกับว่ารู้จักกันมานานพอควร รู้จักกันนานมากเท่าไหร่ บางทีอาจทำให้คิดมากได้เท่านั้น

ภูเขาไฟที่ภายนอกว่าจะดูสงบสักเพียงใด แต่ภายในคุกรุ่น
และพร้อมจะประทุได้ทุกเมื่อมีแรงดันสูงพอควร

ชอบตอนที่ภูเขาไฟของทั้งคู่สงบกันจริงๆเลยล่ะคะ

คิดไปคิดมา ตอนที่ไปในโบสถ์นึกเหมือนกัน แต่งงานเปล่าเนี่ย  :o8:

ชอบเวลาที่เขมพูดกับปุ่น แล้วปุ่นพูดแบบเพราะๆด้วยจังเลย น่ารักที่สุด  :-[ :o8:

เขมเวลาที่สารภาพบาปนี่น่ารักจังเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ รออ่านต่อนะคะ



โดยส่วนตัวต่ายเป็นคนชอบผู้ชายพูดเพราะค่ะ...เลยจับบุคลิกของชายในอุดมคติในนิยายไปด้วย ดีใจที่มีคนชอบเหมือนกันค่ะ-///-  ตอนแต่งจริงๆก็แอบคิดว่า เอ มันจะไม่สมจริงไหมเนี่ย ปกติเค้าจะพูดเพราะกันแบบนี้ไหมนะ

จากเพื่อนเป็นแฟนต่ายคิดว่ามันน่าจะยากพอดู พยายามคิดว่าเขมเป็นแบบนี้ ปุ่นเป็นแบบนี้...แล้วเค้าจะคิดอะไรออกมาได้ยังไงล่ะ ตัวต่ายเองเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไรมากนักยกเว้นบางเรื่องอย่างเรื่องเพื่อนอย่างอื่นนี่ว่าไงว่ากันด้วยซ้ำเลยไม่ค่อยเข้าใจคู่นี้เท่าไหร่ในบางครั้ง ถ้ามีจุดไหนที่คิดว่ามันแปลกๆไม่น่าใช่ก็แย้งได้เต็มที่นะคะ^^  แถมไอ้ประสบการณ์ตรงมันก็ไม่ค่อยมีเสียด้วยสิ ฮะๆ

:กอด1: :กอด1:

ชอบจัง


ขอบคุณค่า ดีใจที่ชอบค่ะ  :กอด1:

อะไรมันจะขนานนั้นนนนนน
พอดีกันปุ๊บ..ก็หวานซะมดขึ้นเลยอ่ะ :-[ :-[
น่ารักดีคร้าบบบบบบบบบ

มันหวานไปไหมคะ แหะๆ ต่ายเป็นคนชอบอะไรหวานๆแบบนี้แต่งไปก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันว่าชีวิตคนจริงๆมันจะเป็นแบบนี้ไหมหนอ...

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
ไม่หวานไปหรอกค่ะคุณต่าย  หวานกำลังดี น่ารักอีกตะหาก

ขอต่ออีกนะคะ จะรออ่าน :กอด1:

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ไม่หวานไปหรอกค่ะคุณต่าย  หวานกำลังดี น่ารักอีกตะหาก

ขอต่ออีกนะคะ จะรออ่าน :กอด1:

กำลังปั่นบอสอยู่ค่า ตอนนี้กำลังวุ่นๆเป็นสตาฟงานนึงอยู่เลยแวบมานั่งพิมพ์ไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่จะพยายามเข็นบอสออกมาให้ไวที่สุดค่ะ^^

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณต่ายมากๆนะคะที่มาต่อ
ได้เห็นพัฒนาการทางความรักของปุ่นกับเขม
แม้ว่าเขมจะมีดาร์คไซส์ แต่ก็เป็นด้านที่มาจากความรักในตัวปุ่นนั่นหละนะ
รออ่านตอนพิเศษของบอสด้วยจ้า
บวก 1 แต้มนะจ๊ะ  :กอด1:

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณต่ายมากๆนะคะที่มาต่อ
ได้เห็นพัฒนาการทางความรักของปุ่นกับเขม
แม้ว่าเขมจะมีดาร์คไซส์ แต่ก็เป็นด้านที่มาจากความรักในตัวปุ่นนั่นหละนะ
รออ่านตอนพิเศษของบอสด้วยจ้า
บวก 1 แต้มนะจ๊ะ  :กอด1:


 :กอด1: ขอบคุณคุณน้ำตาลเช่นกันค่ะที่อุตส่าห์ติดตามและบวกคะแนนให้


ใจจริงต่ายรู้สึกตัวเองยังมองโลกของตัวละครไม่พอ รู้สึกว่าถึงตัวเองจะใช้ภาษาให้ดูดีแต่ก็ยังไม่ดีพอรึเทียบกับเรื่องของพี่ๆบางคนในบอร์ดนี้ที่เป็นภาษาง่ายๆแต่กินใจ อาจจะเพราะต่ายยังผ่านโลกไม่มากหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าทำให้คนอ่านมีความสุขได้ต่ายก็ดีใจค่ะ^^

ส่วนตอนพิเศษบอส...เพื่อนยืมusbไปเลยชะงักชั่วคราวค่ะ ;p 

วันนี้เรียนการคำนวนวันเวลาอายุความสัญญามานั่งก่งก๊งเล็กน้อยถึงพอควร ต่ายเป็นประเภทพอมีตัวเลขมาเกี่ยวแล้วต้องนั่งมึนอ่านทวนถึงเข้าใจ - -' 

เคยคุยกับเพื่อนแบบขำๆว่า เออ แกเรียนไปได้ไงเนี่ยบัญชี ตัวเลขทั้งนั้นไม่มึนเหรอ เพื่อนก็ตอบว่าเราเองก็นั่งอ่านหนังสือข้อความติดกันเป็นพืดไม่ได้เหมือนกัน ต่ายเลยสรุป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเพื่อนต่ายถึงไปเรียนบัญชีส่วนต่ายถึงมาเรียนคณะนี้ได้

ทั้งๆที่อะไรหลายๆอย่างเหมือนกันแต่ความชอบด้านการเรียนกลับต่างกัน สมองคนเรานี่แปลกดีนะคะ ต่ายนั่งฟังเรื่องเล่าฟังครูสอนเป็นชั่วโมงๆได้ อ่านหนังสือเป็นเล่มๆได้แต่พอเจอเลข...ง่า เข้าใจก็เข้าใจแต่ว่าพอเอาหลายสูตรมาปนกันแล้วงงอ่ะT^T 

เพื่อนที่เรียนสถาปัตย์เคยมานั่งซิดอินรอบนึงขากลับมันบอก แกนั่งเรียนไปได้ไงสามชั่วโมง เราจะไปแต่ชั่วโมงแรกแล้ว(หารู้ไม่...ต่ายเองก็ง่วงอยากหลับแล้วเหมือนกัน 555+) แต่ประเด็นคือให้ต่ายนั่งเรียนถ้าไม่เผอิญง่วงก่อนต่ายทำได้แต่เพื่อนมันไม่ใช่ มันไม่สามารถเลย

ต่ายคิดว่าเหมือนปุ่นกับเขมนะ ทั้งสองคนน่าจะรักพอๆกันนิสัยบางอย่างเหมือนๆกันแต่วิธีการรักษาความรักกลับต่างกัน

แต่ยังไงชีวิตคนเรามันสั้น ยังไงก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดล่ะเนอะคะ^^

แอบหย่อนข้อความที่เคยอ่านเจอ 'สุขคือทุกข์น้อย ทุกข์คือสุขน้อย' แสดงว่าในความรู้สึกสองอย่างนี้เราไม่มีทางรู้สึกได้100% ต่ายเห็นด้วยนะ อย่างเช่นในเรื่องนี้ พอสองคนสมหวังคบกันมีความสุขแต่ในความสนุขก็มีความหึงหวงกลัวอีกฝ่ายเปลี่ยนใจปนอยู่

(เขียนจบแอบคิด เราพล่ามอะไรอยู่หว่า ใครหลงอ่านก็หวังว่าจะเข้าใจที่ยัยนี่จะสื่อนะคะ 555+)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คนเราพอรักกันก็เริ่มรู้สึกถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความรู้สึกหึงหวงจึงตามมาติดๆ เป็นเงา
แต่ก็อย่างว่า ถ้าไม่รักก็คงไม่หึงและไม่หวงหรอกนะ ปุ่น

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
คนเราพอรักกันก็เริ่มรู้สึกถึงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความรู้สึกหึงหวงจึงตามมาติดๆ เป็นเงา
แต่ก็อย่างว่า ถ้าไม่รักก็คงไม่หึงและไม่หวงหรอกนะ ปุ่น

*พยักหน้าหงึกๆ* คนที่บอกว่ารักแต่ไม่มีการหึงหวงเลยนี่ต่ายคิดว่ามันคนละรักกับแบบคนรักแล้วล่ะไม่งั้นแสดงว่าคนนั้นคงบรรลุแล้ว

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ตอนพิเศษ : ใจบอส(ชื่อแอบสิ้นคิดแต่ช่างมันเถอะ 555+)

ผมไม่ใช่คนดีเด่อะไร ออกจะอกตัญญูด้วยซ้ำเมื่อมองย้อนกลับไป ที่บ้านผมเป็นพวกบริษัทส่งออกเผอิญสินค้าของบ้านผมตรงกับความต้องการตลาดทำให้ฐานะที่บ้านผมอยู่ในระดับดีทีเดียว วันดีคืนดีตอนผมอายุสัก11ที่บ้านก็จับผมส่งไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกาโดยฝากเพื่อนทางนั้นให้ดูผมให้ แด๊ดกับมัมเขาไม่มีลูกเลยเลี้ยงผมเหมือนลูกทีเดียว ไอ้ผมตอนแรกก็กระจองอแงไม่ไปท่าเดียวแต่พอไปถึงนู่นเหมือนเด็กเข้าสวนสนุกครับ อยากรู้อยากเห็ยวิ่งเล่นไปทั่วจนมัมแทบจะล่ามกันเลยทีเดียว เสียแค่เข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้ตอนแรกพอใช้วิชามวยวัดเข้าสู้หลังจากนั้นก็ซี้กันเสียอย่างงั้น

   อย่างที่บอกคือที่บ้านผมค่อนข้างมีเงินพอผมบอกว่าอยากไปเรียนที่นู่นเลยก็ตอบตกลง(ไม่ใช่ไม่ติดเพื่อนคนไทยหรอกครับแต่เผอิญตอนนั้นได้แฟนทางนู้นเลยอยากอยู่กับแฟนมากกว่าแต่ที่บ้านผมไม่รู้ ฮะๆ) ที่ผมคิดถึงจริงจังก็มีอยู่ไม่กี่คน นอกจากเพื่อนที่สนิทกันจริงๆกับพ่อแม่ก็มีลูกพี่ลูกน้องอีกคนเนี่ยแหละ พี่เค้าชื่อปุ่น ผมสนิทกับเค้ามากกกกก คงเพราะผมเป็นลูกคนโตอยากมีพี่ชายด้วยเลยติดพี่เค้าเป็นพิเศษ

 อย่างที่ผมบอกไปคือที่บ้านผมไม่รู้ว่าผมมีแฟนพอความแตกเลยเรื่องใหญ่เพราะพ่อผมแอนตี้ไม่ยอมให้ผมมีแฟนเป็นฝรั่ง ไอ้ผมก็เรื่องอะไรผมรักของผมเอาไงเอากันสิ อารมณ์ร้อนทั้งคู่สุดท้ายผมก็ตัดขาดกับพ่อตอนอายุ14 รู้สึกเลวเป็นบ้าพอมองกลับไป กับเรื่องแค่นี้ผมกลับบอกว่าเกลียดพ่อได้ ส่วนแฟนคนนั้นน่ะเหรอ...มีเหตุให้เลิกกันหลังจากผมทะเลาะกับพ่อไปแค่อาทิตย์เดียว...เฮ้อ...

ถามว่าเสียใจไหมตอนนั้นก็มีบ้างแต่ความโกรธมันบังเสียหมด ใครห้ามช่วยพูดกล่อมยังไงไม่ฟังหอบผ้าหอบผ่อนไปอาศัยบ้านเพื่อน อาศัยงานพิเศษหาเงินเอา พอที่บ้านส่งข่าวมาบอกว่าพ่อล้มใจผมวูบเลย คิดอย่างเดียวว่าจะกลับไปหาพ่อ พอถึงเมืองไทยทุกคนก็เหมือนเริ่มจะปล่อยวางเรื่องผมได้แล้วแต่สายตาที่มองมานี่สิ...มีแต่พี่ปุ่นคนเดียวที่ยังมองผมเหมือนเดิม...

พี่ปุ่นเป็นคนไปรับผมที่สนามบินกับเพื่อนที่ชื่อเขม ผมกอดกับพี่ปุ่นกลมดิ๊กด้วยความคิดถึงพอกลับถึงบ้านก็เจอน้องสาวเจ้าแบ๋มอายุห่างกับผมสามปีกับเจ้าบีมเข้าประถมปลายพอดี เจอหน้าปุ๊บนี่ผมถึงบรรลุว่าคิดถึงบ้านแค่ไหน ส่วนแม่น่ะเหรอครับ...น้ำตาผมไหลตั้งแต่ได้ยินเสียงแม่เรียกชื่อจากด้านหลังแล้ว

ตอนไปโรงพยาบาลนี่ผมแทบอยากจะเป็นลมให้ได้ สภาพของคนทำผิดแล้วรู้ตัวเนี่ย เฮ้อ...ตัวแข็งอยู่หน้าห้องไม่กล้าเข้าได้ยินเสียงแม่ที่มาค้างคุยกับพ่อแว่วมา ได้สติตอนพี่ปุ่นบีบมือเนี่ยแหละ พี่เค้าทำหน้าเหมือนให้กำลังใจ ผมก็ เอาว่ะ มาถึงนี่แล้ว เชื่อไหมครับตอนแรกกลัวแทบตายว่าพ่อต้องยังโกรธผมแน่ๆแต่กลายเป็นว่าทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดายพอเราเปิดใจคุยกันไม่มีการใช้อารมณ์

‘พี่ปุ่นไหงมันง่ายเงี้ย’ผมถามพี่ปุ่นตอนเดินลงมาซื้อของที่แฟมิลี่มาร์ทกัน

‘อ้าวแล้วแกจะให้มันยากทำไมวะ’พี่ปุ่นตอบ ผมก็...เออ นั่นสิ

พอกลับมาที่ถิ่นเกิดตัวเองความทรงจำเก่าๆก็ย้อนกลับมา ผมใช้เวลานอกจากที่โรงพยาบาลขลุกกับพี่ปุ่น ผมสังเกตเห็นว่าพี่ปุ่นกับเพื่อนที่ชื่อพี่เขมดูแปลกๆ...สัญชาตญาณผมบอกว่าทั้งสองคนต้องเป็นแฟนกันแน่ อยู่ที่นู่นว่าผมจะไม่มีเพื่อนเป็นเกย์ มีและยังสนิทกันมากด้วย ยังจำคนที่ผมบอกว่าไปต่อยกันแล้วซี้ได้ไหมครับ...นั่นแหละมันล่ะ

   ผมเป็นประเภทพอสงสัยก็ต้องพิสูจน์จากที่ปกติชอบเล่นขลุกกับพี่ปุ่นอยู่แล้วผมเลยยิ่งเอาใหญ่  ผมหาข้ออ้างในการพิสูจน์ถึงมหาลัยว่าอยากรู้ว่าคณะนี้เหมาะกับตัวเองไหม พวกพ่อแม่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะอยากให้ผมกลับมาเรียนต่อมหาลัยที่ไทยอยู่แล้วจึงสนับสนุนเสียอีก

“พี่ปุ่นวันนี้ไปกินบุฟเฟห์ที่มาบุญครองกัน~”ผมวิ่งไปเกาะแขนพี่ปุ่นเมื่อเขาเลิกคลาส “เมื่อกี้ผมไปเปิดคอมดูรีวิวโคตรน่ากินเลย อารมณ์เหมือนไปช็อปปิ้งน่าสนุกดี ตอนนี้มีโปรไปสี่ฟรีหนึ่งด้วย ไปนะๆ”

“บอสหมายถึงร้านโกเบน่ะเหรอ?”พี่เขมถาม ผมพยักหน้าหงึกๆแต่มือยังเกาะแขนพี่ปุ่นไม่ปล่อย พี่ปุ่นก็คงเพราะชินเลยไม่พูดอะไรแต่พี่เขมนี่สิถึงปากยิ้มแต่สายตามันจ้องที่แขนพวกเราเขม็งเลย

พอปฏิบัติการณ์เช็กสายตาพี่เขมเริ่มขึ้นผมก็เริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆว่าอย่างน้อยที่สุดพี่เขมชอบพี่ปุ่นชัวร์ ตอนแรกๆเหมือนยังเก็บอาการแต่พอผมกระแซะพี่ปุ่นบ่อยๆที่นี่แสดงออกชัดเลยครับ

ชัดที่สุดก็ตอนผมชวนพี่ปุ่นเล่นมวยปล้ำนี่แหละ

“พี่ปุ่นเล่นมวยปล้ำกัน”ผมกล่าวทั้งๆที่สายตายังจ้องทีวีที่กำลังถ่ายทอดการแข่งขันมวยปล้ำตาเป๋ง

“ไอ้คุณน้องจะชวนอะไรช่วยดูหน่อยว่าพี่แกจะตายอยู่แล้ว”พอผมหันไปก็เห็นพี่ปุ่นกับพี่เขมกำลังนั่งทำโจทย์กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะเห็นว่าจะมีเทสต์พรุ่งนี้

“อย่างน้อยหาไรกินเหอะผมหิวแล้ว นี่เดี๋ยวเย็นนี้จะไปนอนที่โรงบาลแทนแม่ด้วยพี่ขับเจ้าแดงไปส่งหน่อยดิ”ผมกับแม่จะสลับกันไปนอนเป็นเพื่อนพ่อครับ ส่วนเด็กสองคนนี่แม่เค้าเอาไปฝากพี่สาวเลี้ยงเพราะถ้าให้ผมดูแลนี่กลัวกลับมาบ้านพังเสียก่อน

   “โห จะบ่ายแล้วนี่หว่า แกนี่ไม่ดูแลพี่เลยแย่ๆ เอ้า เอาตังค์ไปสั่งอะไรที่ปากซอยมาดิ๊”ผมพนมมือยิ้มรับคว้ากระเป๋าตังค์ในมือพี่ปุ่นมาแทนแบงค์เทาใบเดียวในมือแล้วใส่เกียร์ห้าวิ่งไปคว้าจักรยานปั่นสุดแรงทันทีได้ยินเสียงพี่ปุ่นตะโกนโวยวายไล่หลังมาแต่ก็ตามไม่ทัน เงี้ยแหละคนมันแก่แล้ว ฮะๆ

   ผมตะโกนบอกว่าจะไปซื้อที่ร้านอร่อยแต่เป็นที่รู้กันว่าอร่อยสุดแต่คิวก็ยาวที่สุดเช่นกันเพื่อเปิดช่องว่างให้พี่เขมโดยเฉพาะ ทั้งคู่ไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่ผมทำท่าปั่นแทบตายแค่ผ่านไปสามบ้านผมก็วกกลับมาแล้ว อารมณ์เหมือนขโมยไม่มีผิดครับ โชคดีที่ไม่ได้ปิดรั้วเลยไม่ต้องกังวลเรื่องเสียง พี่ๆเค้าก็นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะกินข้าวซึ่งติดกับครัวข้างนอกอยู่แล้วผมเลยแค่เดินอ้อมไปนั่งอยู่ใต้หน้าต่างแค่นี้ก็เรียบร้อย

   “ไอ้บอสนี่เหลือเกินจริงๆ ยังไม่ได้สั่งสักคำว่าจะกินอะไร”เสียงพี่ปุ่นบ่น
   
   “น้องเค้าคงรู้อยู่แล้วว่าปุ่นอยากกินอะไร”พี่เขมพูดเสียงเรียบ

   “แต่มันไม่รู้ของเขมนี่นา”พี่ปุ่นตอบไปแบบนั้นมันเป็นการยอมรับนะครับนั่นว่าผมรู้ใจพี่ ถึงจะจริงก็เถอะ

   “สนิทกันดีนะ”อืม ฟังดูหึงแหง

   “อืม ก็เล่นกันมาแต่เด็กนี่”พี่ปุ่นดูจะยังไม่รู้ตัวว่ายิ่งไปเพิ่มแรงหึงเข้าแล้ว

“แสดงว่าถ้าไม่ได้สัญญากับผมว่าจะอ่านให้จบคงไปเล่นมวยปล้ำกับบอสแล้วสิ”อ้อ มิน่าว่าทำไมพี่ผมดูขยันขึ้นทั้งที่แต่ก่อนต่อไปพรุ่งนี้สอบถ้าไม่มีอารมณ์อ่านก็ออกมาวิ่งเล่นกับผมหน้าตาเฉย
   
   “คงงั้นมั้ง”ผมควรจะสงสารพี่เขมดีไหมเนี่ย ขนาดนี้แล้วพี่ปุ่นยังไม่รู้ตัวอีกเหรอเนี่ย เฮ้อ....พี่เขมเงียบไปเลยครับ

   “นายไม่สบายรึเปล่า ปวดหัวเหรอ เอาพาราไหม”นาย? ผมสะดุดกับสรรพนามที่พี่ปุ่นใช้ ปกติผมเห็นพูดกูมึงกันตลอดนี่นา

   “ไม่เป็นไร แค่เครียดๆน่ะปุ่นไม่ต้องห่วง แต่ถ้าให้ดีไม่เอาพาราแต่เอา...แทนได้ไหม”เฮ้ยยยยย ไอ้ประโยคจงเติมคำในช่องว่างนั่นมันอะไรครับคุณพี่! ผมลุกขึ้นคุกเข่าแอบดูเพิ่มทันที

   ภาพที่ผมเห็นบอกตามตรงว่าช็อกถึงแม้จะเคยคิดเอาไว้บ้างก็ตาม...พี่ปุ่นก้มหน้าลงจูบกับพี่เขมที่นั่งหลับตาพริ้มรออยู่...เหมือนใครมาเคาะระฆังในหัวเลย ผมเดินไปหยิบจักรยานขึ้นมาขี่ไปสั่งอาหารในหัวมีแต่ภาพเมื่อครู่ปรากฎอยู่

   เปล่า ผมไม่ได้ชอบพี่ปุ่นแบบนั้นถ้าใครสงสัย เพียงแต่ผมไม่เคยคิดว่าพี่ปุ่นจะเป็นแฟนกับพี่เขมจริงๆเพราะรู้ว่าพี่ปุ่นชอบพี่รินฝ่ายเดียวมาหลายปีจนตอนที่พี่รินไปคบกับพี่เขมพี่ปุ่นก็เล่าว่าตัดใจได้แล้ว

   ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสั่งอะไรไป เงินทอนได้ครบรึเปล่าก็ไม่รู้ปั่นจักรยานกลับบ้านก็ไม่กล้าเข้าเพราะไม่รู้ว่าด้านหลังประตูเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าสุดท้ายผมเลยใช้วิธีปิดประตูรั้วดังๆจะโดนชาวบ้านด่าก็ช่าง

   ผมแสร้งทำเป็นฉีกยิ้มร่าเริงวางถุงอาหารไว้แล้วบอกว่าจะไปอาบน้ำหน่อย เหงื่อออกเหนอะนะไม่ชอบ ผมลูบหน้าด้วยน้ำเย็นหวังให้สมองจะเย็นลงบ้าง พอสรุปได้ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันแหงผมก็เริ่มเกิดความคิดชั่วร้ายก่อนกลับอเมริกา

   ...พี่ชายสุดที่รักมีแฟนแต่กลับไม่ยอมบอกน้องคนนี้สักคำมันน่าโมโหไหมล่ะครับ ฮึๆ...แต่ก็นะ ผมมันน้องที่ดีจะไปแกล้งพี่ปุ่นได้ยังไง ผมเลยใช้วิธีเดิมคือยั่วโมโหพี่เขมแทน ฮะๆๆๆ

   “พี่ปุ่นวันนี้มาค้างกับผมหน่อยสิวันนี้แม่ไปค้างที่โรงบาล”ผมเอ่ยชวนพี่ปุ่นขณะที่กำลังขับรถพาผมกับพี่เขมไปส่งบ้าน

   “ได้”พี่ปุ่นตอบรับง่ายๆส่วนพี่เขมน่ะเหรอ...ฮึๆ ปากนี่เม้มแน่นเลย ทำทีเป็นนั่งกอดอกหลับตาแต่คงจะยังไม่หลับสินะ

   “พี่เขมจำได้ไหมว่าตอนเด็กนี่พอได้ค้างด้วยกันทีไรเราจะนอนเตียงเดียวกันทุกทีเลย”

   “จำได้สิ ไอ้เด็กเวรที่ไหนไม่รู้ทำพี่ตกเตียงทุกที”

   ผมหัวเราะ แหมพี่ปุ่นนี่รับมุขเก่งจริงทำให้ผมต่อประเด็นหลักได้ง่ายขึ้น “ช่าย~ สุดท้ายพี่ปุ่นเลยแก้ปัญหาด้วยการนอนกอดผมตลอดแทนเนอะ”

   ฮึๆ มือพี่เขมกำแน่นเชียว สนุกดีจริงจริ๊ง~

   ผมดำเนินแผนการณ์ยั่วโมโหพี่เขมไปเรื่อยๆอย่างสนุกสนานแต่มีวันนึงที่ทำให้ผมเริ่มสำนึกว่าท่าทางจะหนักไปหน่อย...


   To be con.

Writer's talk :

บางทีตั้งชื่อตอนว่าเด็กแสบอาจจะเวิร์กก็ได้แฮะ 55+

golly*

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าบอกว่าชอบน้องบอสมากกว่าปุ่นกะเขมจะผิดมั๊ยเนี่ย ?

ห้าห้า ..

ขึ้นชื่อว่าเด็กก้น่ารักเสมอแหละ   :-[

คุณ กระต่ายชมจันทร์ .. ใช่ มายะจัง ของแอนรึป่าวนะ!?

คิดถึงๆๆ


^^

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าบอกว่าชอบน้องบอสมากกว่าปุ่นกะเขมจะผิดมั๊ยเนี่ย ?

ห้าห้า ..

ขึ้นชื่อว่าเด็กก้น่ารักเสมอแหละ   :-[

คุณ กระต่ายชมจันทร์ .. ใช่ มายะจัง ของแอนรึป่าวนะ!?

คิดถึงๆๆ


^^

555+ ไม่ผิดค่า

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
แค่แสบอย่างเดียวคงไม่พอ ต้อง เด็กนรก เหมาะกว่ามั้ย  :laugh:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
ตัดตอนได้ชวนติดตามต่อมากๆ
บอสเล่นแรงขนาดไหนเนี่ย
รอลุ้นนะคะ บวกอีก 1 แต้มค่ะ


กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
ปวดหัว...ป่วย...โดด...แวบมาตอบเม้นท์ก่อนไปนอนถึงเที่ยง=w=

แค่แสบอย่างเดียวคงไม่พอ ต้อง เด็กนรก เหมาะกว่ามั้ย  :laugh:

555+ 

ตัดตอนได้ชวนติดตามต่อมากๆ
บอสเล่นแรงขนาดไหนเนี่ย
รอลุ้นนะคะ บวกอีก 1 แต้มค่ะ



ขอบคุณค่า


ถ้าไหวไม่นอนต่อถึงเช้าเย็นนี้อาจจะมาต่อนะคะ

ขอจรลีไปหลับก่อนล่ะค่ะตะกี้ทานไทลินอลดับไปรอบละ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด