ตอนหม่ายล่าสุดที่รอคอยมาแล้ว ง๊าบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ความเดิม เมื่อความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย ปอนด์จึงต้องยอมปล่อยปีเตอร์กับปาล์มให้ครองรักกัน เพราะเห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ที่ทั้งคู่มีให้กัน ปาล์มได้ให้สร้อยแทนใจสลักตัวอักษร PP ไว้กับปอนด์เส้นหนึ่งและอวยพรให้ปอนด์นำไปให้กับผู้ที่รักปอนด์และปอนด์ก็รักเค้า ก่อนที่เวลาที่เหลืออยู่น้อยระหว่างทั้งคู่จะจบลง ใครคือคนนั้น และเหตุการณ์ร้ายๆจะจบลงเพียงเท่านี้จริงหรือ ลุ้นกันจนตัวโก่งใน ตอนที่ 16ง๊าฟ
ตอนที่ 16 เรื่องของไปป์กะท้อป
“ไปป์ทำอะไร เก็บของอยู่เหรอ” เสียงทักของท้อปที่เอ่ยทักไปป์ ขณะที่ง่วนอยู่กับการจัดของภายในห้องนอน วันนี้ก็อีกตามเคยท้อปมาหาไปป์โดยไม่ได้นัดล่วงหน้า จะว่าไปก็ไม่แปลกเพราะท้อปมาที่บ้านไปป์ทุกวันจนเป็นเรื่องปกติแล้ว ดังนั้นเรื่องโทรบอกล่วงหน้าคงจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องทำ
“อือ...!!!!!” ไปป์ตอบห้วนๆ โดยไม่หันไปมองผู้มาเยือน แล้วก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป การกระทำที่แสนเย็นชาของไปป์ทำให้ท้อปต้องเซ็งถึงขั้นทำจมูกย่น
“อือ ไปป์ วันนี้เราเอารูปวันกีฬาสีมาให้ดูด้วย นี่ไง!!! น่ารักมั้ยล่ะ” ท้อปหยิบรูปออกมาจากซองแล้วยื่นให้ไปป์ ไปป์มองหน้าคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย วางมือจากการเก็บของแล้วยื่นมือไปรับรูปอย่างปฎิเสธไม่ได้ เขาค่อยๆเปิดดูทีละรูป รูปแรกๆเป็นรูปของท้อปที่ให้เขาถ่ายให้ตลอดทางตอนที่เดินตามขบวนพาเหรด ต่อมาก็เป็นรูปตัวเขาเองที่ท้อปถ่ายให้มีทั้งรูปที่เขาตั้งใจให้ถ่ายและรูปเผลอๆที่ท้อปแอบถ่าย เปิดดูไปอีกก็เริ่มมีรูปปอนด์ รูปท้อปกับปีเตอร์ที่ถ่ายกับปอนด์ และสุดท้ายก็เป็นรูปสามคนปีเตอร์,ปอนด์และตัวเขาเอง ในรูปนั้นใครดูก็คงประหลาดใจและคงคิดว่าเป็นรูปคู่แต่ถ่ายติดใครก็ไม่รู้มาด้วยเป็นแน่ ปีเตอร์กับปอนด์จับมือกันแน่น เอนหัวเข้าหากันยิ้มกว้างให้กล้องดูเป็นคู่รักหวานแหวว ส่วนเขาที่ถ่ายด้วยกันก็ยืนห่างทั้งคู่เป็นโยชน์แถมสายตายังลอยๆเหมือนไม่ได้มองกล้องอีกต่างหาก ไปป์เปิดจนหมดอัลบั้มแล้วย่นคิ้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง พลางเปิดอัลบั้มรูปดูซ้ำอีกหลายรอบ
“เฮ้ย!!! ท้อป รูปที่เราถ่ายกับปอนด์หายไปไหน ไม่เห็นมีเลย” ไปป์ถามเสียงโวยวาย
“จริงเหรอ ดูดีๆ ไปป์อาจจะดูไม่ทั่วก็ได้”
“เราดูหลายทีแล้วไม่เห็นมีเลย” ไปป์บ่นด้วยความหงุดหงิด
“ที่ร้านเขาอาจจะล้างไม่หมดก็ได้มั้งไปป์” ท้อปว่า พลางมองท่าทางของไปป์ด้วยความฉงน
“เป็นไปไม่ได้ นอกจาก....นายจะไม่ได้ถ่ายไว้” ไปป์จ้องเขม็งไปที่ท้อป
“เฮ้ย!!! ทำไมไปป์พูดแบบนี้หล่ะ เราถ่ายเองกับมือเลยนะ ถามจริงๆรูปเนี้ยมันสำคัญมากเลยเหรอ ทำไมถึงต้องทำหน้าผิดหวังที่หารูปไม่เจอขนาดนี้ด้วย” ท้อปถามน้ำเสียงแกมประชด
“สำคัญสิ สำคัญมากด้วย ตั้งแต่คบกันมาเรากับปอนด์ยังไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเลย แล้วอีกสองวันเราก็ต้องไปเรียนต่อแล้ว เราก็แค่อยากมีรูปเอาไว้ดูตอนที่ไม่ได้เจอกันก็แค่นั้นเอง” ไปป์พูดโดยไม่สบสายตาท้อป แสดงพิรุธด้วยการเสมองไปทางอื่นแทน
“อ๋อ!!! ในเมื่อมันไม่มีในนี้ก็ไปขอถ่ายใหม่ก็ได้นี่นา ไม่เห็นต้องโมโหเลย” ท้อปพูดเสียงอ่อน
“เราขอโทษนะท้อป ที่เราอยากได้รูปนั้นเพราะเรารู้ว่าตอนนี้เรากับปอนด์อาจจะไม่มีโอกาสถ่ายรูปคู่กันอีก ปอนด์เค้าคงไม่ต้องการเพื่อนที่คอยมาวุ่นวายกับชีวิตของเค้ามากเกินไปแบบเราแล้วก็ได้” ไปป์เล่าหน้าเศร้า
“หมายความว่ายังไงอ่ะไปป์ เรางงไปหมดแล้ว”
“ไม่มีอะไรหรอกท้อป แค่เรากับปอนด์มีเรื่องเข้าใจกันผิดนิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็ดีขึ้นเองแหละ” ไปป์พูดมีลับลมคมใน จนท้อปกลั้นอารมณ์น้อยใจไว้ไม่ไหว
“ไปป์ เราถามจริงๆนะ นายยังคิดอะไรกับปอนด์อยู่รึเปล่า เราเข้าใจนะที่เพื่อนกันต้องห่วงใยกัน แต่ที่นายห่วงปอนด์มันมากเกินเพื่อนรู้ตัวหรือเปล่า ตอนนี้ปอนด์ไม่ได้มีแค่นายเท่านั้นแต่เค้ามีปีเตอร์เป็นแฟนตัวจริงแล้วเค้าก็รักกันมาก นายเป็นแค่เพื่อนนายจะทำตัวแบบนี้ไม่ได้” ท้อปเอ่ยออกมาอย่างมีอารมณ์ ไปป์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง
“บอกกับเรามาตามตรง ว่านายคิดยังไงกับปอนด์ นายยังรักปอนด์อยู่ใช่มั้ย ถ้านายยังไม่เปลี่ยนใจเราจะหลีกทางให้ เราคงจะบังคับใจนายไม่ได้ถ้านายจะยังรักปอนด์ แต่เราจะบอกว่าถ้านายทำแบบนี้ คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือตัวนายเอง เสียใจในฐานะที่เป็นคนทำลายความรักของเพื่อนรักตัวเองไง“ ท้อปพูดเสียงจริงจัง คำพูดแทงใจดำจากปากท้อปทำให้ไปป์โกรธมาก
“ถ้า ท้อปมาเพื่อพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ เราว่าท้อปกลับบ้านไปดีกว่า” ไปป์ไล่ทางอ้อมด้วยความโมโห
“ไปป์ไล่เราเหรอ? เราไม่กลับจนกว่าเราจะได้รู้ความจริง” ท้อปยันเสียงแข็ง
“ถ้าท้อปไม่ไปเราไปเองก็ได้” ไปป์พูดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ท่าทางที่ไปป์ทำกับท้อปมันช่างทำร้ายจิตใจของเขามาก ท้อปทรุดลงนั่งร้องไห้โฮ ปล่อยน้ำตาให้ไหลจนเต็มอุ้งมือที่เขาใช้ปิดตาไว้ เขาครวญสะอื้นเสียงดังแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าไปป์จะกลับมาสนใจ ช่วงเวลาที่แสนทรมานของท้อปผ่านไปอย่างเชื่องช้า เมื่อร้องไห้จนหมดน้ำตาแล้วก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของชายที่เขารัก ท้อปค่อยๆยันกายลุกขึ้น แล้วค่อยๆเดินไปที่เตียงนอนของไปป์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับไปป์จบลงก็เป็นได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะทำอย่างไรต่อไป ท้อปค่อยๆเอามือลูบเตียงของไปป์ จากผ้าปูเตียงสีฟ้าไล่ไปที่ปลอกหมอนสีเดียวกัน จากนั้นค่อยๆเอนกายลงนอนอย่างถือวิสาสะ แค่คิดว่าคำพูดของเขาทำให้ไปป์โกรธ น้ำตาก็พาลจะไหลอีกครั้ง ท้อปนอนคว่ำหน้าลงบนหมอนของไปป์ เผลอทำหมอนของไปป์เปียกน้ำตาโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาค่อยๆสอดมือลงไปใต้หมอนกอดกระชับหมอนไว้ พลันมือของเขาก็ไปสัมผัสเข้ากับสิ่งของสิ่งหนึ่งที่ถูกซ่อนอยู่ในปลอกหมอนนั้น เขาลุกขึ้นนั่งแล้วใช้มือล้วงเข้าไปในปลอกหมอนเพื่อหยิบสิ่งนั้นออกมา
^
^
มันเป็นไดอารี่เล่มหนึ่ง ที่คงผ่านการเขียนมาแล้วพอสมควร สังเกตได้จากสันหนังสือที่ย่นและเปื่อย เขาค่อยๆเปิดออกอ่านอย่างช้าๆ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ!!!!!
...............................................
ไปป์กลับมาถึงบ้านในเวลาโพล้เพล้ นาฬิกาข้อมือที่ได้รับจากปอนด์ในวันเกิด บอกเวลาใกล้หกโมงเย็น ไฟในบ้านปิดสนิท ท้อปคงไม่อยู่แล้ว ไปป์ค่อยๆเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าบ้านพลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ไปป์กำลังจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าบ้าน แต่ก็ต้องแปลกใจที่ประตูบ้านไม่ได้ล็อค หรือว่าท้อปลืมล็อคก่อนออกจากบ้านก็เป็นได้ เขาบิดลูกบิดประตูเข้าบ้านเปิดไฟให้สว่างจึงเห็นรองเท้าของท้อปวางอยู่ที่ชั้นวาง แสดงว่าท้อปยังอยู่ที่นี่ เขาเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพราะคาดว่าท้อปคงอยู่ที่นั้นแต่ก็ไม่เจอ ในห้องน้ำ ห้องครัว ก็ไม่มีวี่แววของท้อป ไปป์หน้าเสียเริ่มเป็นห่วงท้อป บางทีการกระทำของเขาในวันนี้อาจจะทำร้ายจิตใจท้อปจนท้อปคิดสั้นก็เป็นไปได้ ไปป์เดินออกมาหน้าบ้านอีกครั้งเมื่อหาจนทั่วบ้านแล้วไม่เจอท้อป
“ท้อป นายอยู่ไหน ท้อป” ไปป์ตัดสินใจตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบ
...................................
ใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างๆบ้านของไปป์ ปรากฏร่างเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนเหม่อลอย มือข้างหนึ่งถือการ์ดสีชมพู อีกข้างถือไฟแชก เขายืนซึมอยู่อย่างนั้นนานพอสมควรแล้ว คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองเขาด้วยสายตาประหลาด นอกจากท่าทางแปลกๆของเขาที่แสดงออกแล้วอีกสาเหตุหนึ่งที่คนมองคงเป็นเพราะเขายืนเท้าเปลือยไร้รองเท้าสวมแต่อย่างใด
“ท้อปมาอยู่นี่เอง” ไปป์ทักอย่างเหนื่อยหอบ แต่ก็โล่งใจที่ตามหาท้อปจนเจอ ท้อปยังยืนนิ่งไม่ได้หันมามามองหรือพูดอะไรทั้งสิ้น ไปป์ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ ท้อปจึงจุดไฟแชกขึ้นมา พรึบ!!!!
“ท้อป จะทำอะไร!!!! “ ไปป์ถามพลางวิ่งเข้าไปปัดไฟแชกกระเด็นหลุดจากมือท้อป แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของท้อปมาไว้ข้างหลัง ท้อปไม่สามารถดิ้นขัดขืนได้เพราะไปป์ยึดเขาเสียแน่น
“ไปป์...ปล่อยเรานะ ในเมื่อนายไม่ต้องการการ์ดนี้เราก็จะเผามันทิ้งนายจะได้ไม่ต้องลำบากใจ เรารู้ว่ายังไงนายก็ไม่มีวันรักเราหรอก คนที่นายรักคือปอนด์คนเดียวเท่านั้น” ท้อปตะโกนลั่นเหมือนคนบ้าคลั่ง
“นายเอาอะไรมาพูดท้อป นายพูดอะไรออกมา” ไปป์ว่าด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“ถ้านายยังความจำดีอยู่นายจำได้มั้ยว่านายเคยทำอะไรไว้ ตอนนั้นนายเคยบอกว่านายรักปอนด์มาก โตขึ้นจะคบเป็นแฟนกับปอนด์ ตอนแรกเราก็คิดว่านายพูดตามประสาเด็กๆ แต่การกระทำตอนนี้ดูยังไงก็ยังเหมือนเดิม นายบอกมาตามตรงดีกว่าว่านายยังรักปอนด์อยู่ หรือไม่จริง ถ้ามันไม่จริงก็พูดออกมาสิว่านายไม่ได้รักปอนด์ บอกกับเราสิไปป์ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง นายอย่าทำร้ายเราด้วยคำโกหกเลยนะ เราขอร้อง” เมื่อท้อปพูดจบไปป์ก็ค่อยๆคลายมือที่จับแขนท้อปไว้ออก เขาจับไหล่ของท้อปแล้วบิดให้ท้อปที่หันหลังอยู่หันหน้าเข้ามา แขนทั้งสองข้างโอบรอบตัวท้อปพลางซุกหน้าลงบนไหล่ท้อป
“อย่าบังคับให้เราต้องพูดเลยนะท้อป มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะรักปอนด์แบบไหน ก็อย่างที่นายบอกปอนด์คบอยู่กับปีเตอร์เค้าทั้งคู่กำลังไปได้สวย เราจะไม่มีวันเอาความรู้สึกของเราไปทำลายความรักของเค้าทั้งคู่เด็ดขาด” ไปป์พูดเสียงเศร้า แล้วค่อยๆคลายอ้อมกอดออกจากท้อป มือทั้งสองข้างของเขาเลื่อนลงมาจับมือของท้อป เงยใบหน้ามองที่ท้อป ยิ้มให้จางๆ
“ ท้อป....เราตัดสินใจแล้ว..........ว่า..............”
^
^
^
“เราจะคบกับนาย!!!!”