We belong together 11
...นึกว่ากลุ่มผมเลิกเร็วกว่าชาวบ้าน ที่ไหนได้ กลายเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ไปกินข้าว เพื่อน ๆ คนอื่นนั่งกินข้าวกันเต็มแคนทีนแล้ว...ผมก็เดินยิ้มระรื่นไปหามิ้นท์กับแก้วนั่งรอผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี...
“...เหนื่อยเหรอแก...” ผมทัก
“...ไม่หรอก แต่ท่าทางเราต้องมีศึกแล้วแหละ...” มิ้นท์พูดเบา ๆ เหมือนกลัวใครจะได้ยิน
“...อะไรเหรอ...” ผมบ้าจี้ กระซิบตาม
“...อีซอนย่าอ่ะ...มันแรงมาก...”
“...มันทำอะไรแก...” ผมพูดเสียงดัง หันขวับไปทางโต๊ะที่ซอนย่านั่งอยู่ ชีหันมามองทางผมเหมือนกัน
“...อีนี่...ใจเย็น ๆ มันยังไม่ได้ทำอะไร...แต่มันรู้จักคุณแม่บ้าน เค้าดันมันไปนั่งออฟฟิศแม่บ้านเป็นผู้ช่วยซุปฯ...แล้วทีนี้ เมื่อเช้ากรูกัดกับมันไง...กรูกลัวว่ามันจะเล่นอีแก้วอ่ะดิ...” มิ้นท์ อธิบายยาว ผมมองหน้าแก้ว ที่ดูซึมลง
“...อย่าไปกลัวอะไรที่มันยังไม่เกิดเลย...ถ้ามันทำอะไร แก้วมาบอกเราเลยนะ...เดี๋ยวเราลุยเอง...” ผมพูดเสียงหนักแน่น
“...ไม่เป็นไรหรอกทีม...เราก็ทำงานตามหน้าที่ของเราไป...เค้าคงไม่ทำอะไรเราหรอก...” แก้วยิ้มให้ แต่ยังมีแววกังวลในตา
“...แกไปทะเลาะอะไรกับมันวะ...” ผมถามมิ้นท์
“...ก็...ก็...” มิ้นท์พูดไม่ออก
“...อะไร...แกไปหาเรื่องมันก่อนแหง ๆ...” ผมพูดไปหัวเราะไป
“...ก็ไม่เชิงนะ...มันถามเรื่องแกกับพี่ยอด...กรูก็เลยกัดมันซะ...” อีมิ้นท์อ้อมแอ้ม
“...มันถามอะไรเหรอ...”
“...มันถามว่า แกกับพี่ยอดมีอะไรกันหรือเปล่า...” มิ้นท์ตอบ
“...ทีหลังถ้ามันอยากรู้อะไร...ให้มันมาถามกรูเองนะ...” ผมพูดเสียงดังอีกครั้ง ซอนย่าหันมามองผมทันที คงรู้ว่าผมพูดถึงใคร
“...ทีม เบา ๆ...” แก้วเตือนผม
“...แล้วแกตอบมันไปว่าอะไรล่ะ...” ผมพูดเสียงเบาลง
“...ก็บอกว่า มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา กรูไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน...ถึงเขาจะมีอะไร หรือไม่มีอะไรกัน...แล้วซอนย่าจะทำไมเหรอ...” มิ้นท์หยุดตรงนี้ ผมพยักหน้าให้มันพูดต่อ “...เอ่อ...มันบอกว่ามันชอบพี่ยอด...แล้วมันก็จะเอาให้ได้ด้วย ไม่ว่าทีมจะเป็นอะไรกับพี่ยอดหรือไม่ก็ตาม...”
“...โอ้โห...มั่นใจจริง ๆ...ถ้าเอาไปได้...รีบมาเอาไปเลย...” ผมหัวเราะก๊าก หางตาเห็นซอนย่าหน้าบึ้ง
“...ทีม...แกไม่โกรธเหรอ...”
“...โกรธทำไม...กรูกับพี่ยอดไม่ได้เป็นอะไรกันนี่...”
“...แต่กรูหมั่นไส้มันอ่ะ...” มิ้นท์ทำหน้านางร้ายสุดริด
“...อย่าไปอะไรกับมันเลย...มันไม่มีทางได้พี่ยอดหรอก...” ผมพูดด้วยความมั่นใจ
“...แต่มันแรงนะ...”
“...แกก็คอยดู ว่ากรูกับมันใครจะแรงกว่ากัน...” ผมยิ้มนิด ๆ
“...อ้าว ไหนบอกไม่ได้เป็นอะไรกันไง...” แก้วถาม
“...ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันจริง ๆ นี่...แต่ไม่ชอบวิธีพูดของมันอ่ะ...ถ้าอยากได้ หรือชอบพี่ยอดก็บอกกันดี ๆ สิ...เราอาจจะช่วยให้สมหวังก็ได้...แต่พูดแบบนี้มันเหมือนหยามกันอ่ะ...” ผมอธิบาย
“...แล้วแกจะทำยังไงกับมันเหรอ...” มิ้นท์ถาม
“...ตอนนี้ยังไม่รู้...ดูท่าทีมันก่อน...มันแรงมาสิบ กรูก็จะแรงกลับไปร้อย...” ผมตอบ พร้อมแกล้งทำหน้าตัวอิจฉาแบบในละคร
“...กินข้าวกันเหอะ...คนเริ่มเยอะแล้ว...เดี๋ยวต้องขึ้นไปเก็บห้องอีก...” แก้วพูดตัดบท ก่อนที่พวกเราจะเม้าท์ไปเรื่องอื่น
*
*
...ตลอดมื้อกลางวัน พวกเราก็เม้าท์กันเรื่องแต่ละคนไปเจออะไรกันมาบ้าง มิ้นท์ได้ไปที่แผนกแม่บ้านก่อน ก็มาเล่าเรื่องคุณแม่บ้านโหดมาก ลำเอียงสุด ๆ แต่ผู้ช่วยทุกคนน่ารัก...แก้วไปแผนกต้อนรับ บอกว่าทุกคนนิสัยดี ตลกมาก หน้าฟร้อนท์ กับหลังฟร้อนท์ เป็นคนละเรื่องเลย...พี่รุจ ผู้จัดการของผมฮามาก เป็นเกย์สาวที่ใจดี และเข้าข้างลูกน้องสุด ๆ...ส่วนผมแชร์ประสบการณ์ ด้วยเรื่องได้ทิปมาร้อยดอลล์...ตอนนั้นดอลล่าละ สี่สิบกว่า ถ้าหารสองกับพี่ยอดแล้วได้คนละประมาณสองพันกว่าบาท...และเราก็คิดถึงร้านที่จะไปกินกันคืนนี้ โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้ว่า พี่ยอดจะไปเป็นเจ้ามือ...กะเซอร์ไพร้สนังมิ้นท์มันเต็มที่...
...หลังจากกินข้าว พวกเราก็รีบขึ้นไปเก็บที่นอนบนห้อง และผมก็จัดการเอาถุงเสื้อผ้าไปส่งซัก...นึกว่าต้องควักเนื้อ โชคดีที่อยู่ดี ๆ ก็ได้ทิป...เฮ้อ...ในความโชคร้าย ก็มีเรื่องดี ๆ เสมอ...แต่ตอนบ่ายผมต้องไปแนะนำตัวแผนกแม่บ้าน มิ้นท์เตือนให้ระวังคุณแม่บ้านไว้ให้ดี...แก้วก็เตือนว่า ทางพี่รุจพูดอ้อม ๆ ว่าแผนกแม่บ้านไม่ค่อยถูกกับฟร้อนท์ด้วย...
*
*
...ตอนบ่ายโมงตรง กลุ่มผมก็เคาะประตูห้องแผนกแม่บ้าน อยู่ชั้นใต้ดินถัดจากแผนกช่าง...กลุ่มแก้วต้องไปห้องช่าง ซึ่งเป็นทางเดียวกับผม ส่วนมิ้นท์ไปฟร้อนท์ต้องขึ้นด้านบนของโรงแรม...
“...ทำไมไม่มาก่อนเวลาซักนิดนึงล่ะ...” คุณแม่บ้านทักเสียงแข็ง
“...พวกเรามาถึงซักห้านาทีแล้วครับ แต่ไม่ได้เข้ามา...” ผมตอบ
“...แล้วไปยืนเกะกะข้างนอกทำไม...เข้ามาก็ได้นี่...มาถึงก่อนไม่มีใครว่าหรอกนะ...” ชียังบ่น
“...พวกเราขอโทษนะครับ...” ผมยกมือไหว้ขอโทษ คนอื่นก็ทำตาม คุณแม่บ้านได้แต่มองด้วยสายตาว่างเปล่า ผมจึงเริ่มแนะนำตัวตามไดอะล็อกเดิม
“...นี่เหรอที่ชื่อทีม...เมื่อวานไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่...หน้าอ่อน ๆ อย่างนี้จะทำงานไหวเหรอ...” คุณแม่บ้านถามเสียงสูง
“...ผมไม่ได้ใช้หน้าทำนี่ครับ...” ผมกวนหน้าซื่อ ๆ
“...ชั้นหมายถึง หน้าตาดูคุณหนูอย่างนี้ จะทนแขกไหวเหรอ...”
“...ถ้าตัวต่อตัวก็ไหวครับ...แต่ถ้าหลาย ๆ คนก็คงต้องเรียกเพื่อนช่วย...” ผมกวนอีก คุณแม่บ้านถลึงตาใส่
“...หน้าอ่อน แต่ปากแข็งแรงนะเนี่ย...” คุณแม่บ้านจ้องหน้าผม
“...เด็กกรุงเทพฯ ก็อย่างนี้แหละครับป้า...สังคมมันกดดันให้ต้องสู้...” ผมจ้องตอบ
“...อย่ามาเรียกชั้นว่าป้า...ชั้นไม่ใช่ญาติเธอ...”
“...ขอโทษครับ คุณ แม่ บ้าน...” ผมขอโทษ แต่น้ำเสียงพยายามกลั้นหัวเราะ เพื่อนในกลุ่มอีกสามคนก็ก้มหน้าอมยิ้ม
“...อย่ามาทำเสียงประชดใส่ชั้นนะ...เป็นเด็กฝึกงานทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย...ไม่งั้นชั้นจะรายงานแผนกบุคคล...” คุณแม่บ้านเสียงดัง
“...ผมไม่ได้ประชดนี่...ก็แค่เรียกคุณแม่บ้านให้ตรงตามที่ต้องการแบบชัด ชัด...” ผมเน้นคำหลัง “...ว่าแต่วันนี้คุณแม่บ้านมีอะไรต้องแนะนำอ่ะครับ...ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่าคุณแม่บ้าน คือ คุณ แม่ บ้าน...พวกเรามีเวลาแค่สองชั่วโมง...นี่ก็ผ่านไปหลายนาทีแล้ว ถ้าฝ่ายบุคคลถามว่าแผนกแม่บ้านสอนงานอะไรบ้าง จะให้ผมรายงานยังไงดีล่ะครับ...อีกอย่างคุณเจมส์ก็ชอบคุยกับผมซะด้วย...คุณแม่บ้านคงเห็นว่า ก่อนเลิกอบรมเมื่อวานคุณเจมส์ชมว่าผมพูดภาษาอังกฤษได้ดี และมีปัญหาอะไรให้แจ้งกับเขาได้โดยตรงเลย...” ผมเอา Mr. James ตำแหน่ง RM มาขู่บ้าง คุณแม่บ้านหน้าถอดสี
“...น้อย...เอาพวกนี้ไปสอนงานหน่อยสิ...” คุณแม่บ้านโทรเรียกป้าที่ใส่ฟอร์มต่างจากแม่บ้านคนอื่นที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่โต๊ะด้านนอก
“...มาทางนี้หนู...” ป้าเค้ากวักมือเรียก
“...ทีม...เธอไม่กลัวเค้าเหรอ...” เพื่อนในกลุ่มกระซิบถาม
“...กลัวทำไม...ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่....”
“...เมื่อกี้มีอะไรกันเหรอ...คุณแม่บ้านถึงได้ดุเสียงดังเลย...” ป้าน้อยถาม
“...อ๋อ...ก็................................” ผมเล่าไปตามความจริง
“...ว๊ายยยยย...หนูเริ่ดมาก...ไม่เคยมีใครกล้าพูดอย่างนี้กับคุณแม่บ้านเลยนะ...” ป้าน้อยหัวเราะชอบใจ
“...ป้า...เป็นซุปเปอร์ไวเซอร์เหรอจ๊ะ...” ผมมองป้ายชื่อที่หน้าอกป้า บอกทั้งชื่อและ ตำแหน่ง
“...จ้ะ...เรียกป้าน้อยก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณซุปนะ...” ป้ายังหัวเราะไม่หยุด
“...แล้วป้าจะพาพวกเราไปไหนอ่ะครับ...” ผมถาม
“...ไปให้ไกล ๆ คุณแม่บ้านไง เดี๋ยวชีจะอาละวาดอีก...” ว่าแล้วป้าแกก็คล้องแขนผมเดินไปทางลิฟท์
“...ป้าน้อย...ฝากน้องผมด้วยนะ...” เสียงห้าว ๆ ดังมาจากห้องเก็บอุปกรณ์ตกแต่งโรงแรม
“...แหม เจ้ายอด...เห็นน้องเค้าหน้าตาน่ารักหน่อยไม่ได้เลยนะ...” ป้าแกหันไปแซวบ้าง
“...ป้า...นี่น้องรูมเมทผม...” พี่ยอดตะโกนออกมา ถึงอยู่ห่างไปหลายเมตร แต่ก็มองเห็นว่าหน้าแดง
“...อ๋อ คนนี้เอง...มิน่าล่ะถึงได้ยอมให้เค้าอยู่ด้วย...” ป้าแกหันมามองหน้าผม สลับกับพี่ยอด
“...โห...ป้า...ไม่น่าทักเลย...ไม่คุยด้วยแล้ว...จะไปไหนก็เชิญเลยครับ...” พี่ยอดเกาหัว แล้วปิดประตูห้องหนี
“...นาน ๆ จะเห็นเจ้ายอดเขินซักที...” ป้าแกมองหน้าผมแล้วยิ้ม
*
*
...ป้าพาพวกเราไปเดินดูงานส่วนต่าง ๆ ของแผนกแม่บ้าน...มีฝ่ายซักรีด...ห้องฟอร์มพนักงาน...ห้องดอกไม้...แล้วป้าก็พาขึ้นฟลอร์ไปดูแม่บ้านทำงานกัน...แต่ละชั้นจะมีห้องเก็บของสำหรับแม่บ้าน ในนั้นมีทุกอย่างจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ เรียกว่า ถ้าแขกต้องการอะไรก็จะได้ในเวลาไม่นานเกินรอ...
...สองชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเราสนุกกับแผนกแม่บ้านมาก ได้ช่วยพวกแม่บ้านจัดห้อง ปูที่นอน ล้างห้องน้ำ จัดของในมินิบาร์...แม่บ้านในระดับปฏิบัติงานน่ารัก เป็นกันเอง และมีน้ำใจมาก พวกเค้าช่วยกันทำงานทุกคน วิ่งขึ้นวิ่งลง ในเวลาที่บางฟลอร์ต้องการแม่บ้านด่วน เมื่อมีกรุ๊ปทัวร์เช็คเอาท์หลายห้อง แม่บ้านก็ต้องวิ่งกันขาแทบขวิด บางคนถึงขนาดต้องถอดรองเท้าวิ่งทำงานกันเลยทีเดียว...
“...จบกันซะทีนะ...เชิญไปที่แผนกอื่นได้...” คุณแม่บ้านพูดเสียงเรียบ เมื่อป้าน้อยเอาพวกเรามาส่งที่ห้องแผนกแม่บ้านเหมือนเดิม
“...ขอบคุณครับ / ค่ะ...” พวกเรายกมือไหว้คุณแม่บ้าน
“...ป้าน้อย ขอบคุณนะครับ...ป้าน้อยน่ารักที่สุดเลย ใจดีด้วย...” ผมไหว้ป้าน้อย แล้วก็ควงแขนกันออกนอกห้อง ไม่สนใจคุณแม่บ้านอีกเลย แต่ก็แอบเห็นว่าชีมองตามเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้
*
*
...ต่อไปแผนกเซลล์...ขอแวะห้องน้ำสำรวจความเรียบร้อยหน่อย น้ำหอมที่ฉีดเติมมาเมื่อตอนกลางวันยังหอมอยู่...ตื่นเต้นจัง เดี๋ยวต้องไปแผนกที่คุณกรณ์ทำงานอยู่...
...แต่...อารมณ์เสีย...คุณกรณ์ออกไปพบลูกค้าข้างนอกตั้งแต่เช้า...ผมนั่งฟังพี่ ๆ ห้องเซลล์อธิบายงานไปอย่างเซ็ง ๆ โรงแรมนี้มีราคาหลายเรท...เรทตัวแทนบริษัทท่องเที่ยว...เรทบริษัทสำหรับนักธุรกิจ...ตำแหน่งเซลล์แบ่งเป็นเซลล์ห้องพัก และเซลล์จัดเลี้ยง...
...เมื่อเซลล์ห้องพักอธิบายงานจบ เซลล์จัดเลี้ยงก็พาพวกเราเดินไปดูห้องจัดเลี้ยงที่อยู่ชั้น 3-5 ของโรงแรม...มีห้องจัดเลี้ยงหลายขนาด...พนักงานต้อนรับอย่างผมต้องรู้ว่าแต่ละวันมีงานอะไรบ้าง โดยที่จะต้องดูบอร์ดที่ทางเซลล์จะแจ้งทุกวัน...
“...อ้าว...ตอนเย็นนี่กลุ่มทีมเหรอ...” เสียงพี่กรณ์ดังจากด้านหลัง ขณะที่พวกเรากำลังลาพี่ ๆ ห้องเซลล์
“...สวัสดีครับคุณกรณ์...” ผมหันไปยกมือไหว้...พวกผู้หญิงไหว้ตาม แต่ก้มหน้าก้มตา คงเขินคุณกรณ์ล่ะสิ
“...เป็นไงมั่งวันนี้...เหนื่อยมั้ย...” คุณกรณ์ถาม พวกเราพยักหน้า
“...เดินทั้งวันเลยครับ...ไม่ไหวแล้ว...พวกเราต้องขอตัวกลับก่อนนะครับคุณกรณ์...” ใจจริงอยากจะอยู่มองหน้าคุณกรณ์นาน ๆ แต่เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราแรด นี่มันห้าโมงแล้ว ผมอยู่หอพักโรงแรมไม่มีปัญหา แต่คนอื่นต้องกลับบ้าน ก็เลยต้องลาคุณกรณ์แบบดื้อ ๆ อย่างนี้
“...ครับ...” คุณกรณ์รับคำ พวกเราไหว้คุณกรณ์อีกครั้งก่อนจะหันหลังออกจากห้องเซลล์
“...เดี๋ยว...ทีม...ขอคุยด้วยหน่อย...” คุณกรณ์เรียก ผมชะงัก เพื่อนอีกสามคนหันมายิ้มให้ และโบกมือลากัน ผมเดินกลับไปหาคุณกรณ์หน้าห้อง
“...เย็นนี้ไปกินข้าวกับผมนะ...”
“...เอ่อ...” ผมทำท่าคิด จะตอบรับเร็วเกินไป เดี๋ยวเค้าจะว่าเราอยากไปอ่ะดิ
“...ไม่ว่างเหรอ...”
“...ว่างครับ...” ไม่รู้รีบตอบไปหรือเปล่า แต่ก็ไม่อยากให้เค้าถามครั้งที่สอง
“...งั้นหกโมงตรง เจอกันหน้าโรงแรม...อ้อ...ทีมคนเดียวนะ...” พี่ยอดพูดจบก็ยิ้มให้ผมทีนึงแล้วเดินเข้าห้องเซลล์ไป
...เรากำลังจะทิ้งเพื่อนไปเที่ยวคนเดียวเหรอ...เอ...ถ้าบอกพวกมัน ก็น่าจะเข้าใจนะ โต ๆ กันแล้วนี่...แต่...เฮ้ย...พี่ยอด...ซวยแล้วกรู...เรานัดพี่ยอดไปเลี้ยงเพื่อน ๆ เย็นนี้เหมือนกันนี่หว่า...ทำไงดี...ผมคิดในใจระหว่างเดินกลับห้อง
**************************************************************
...แอบมาต่ออีกนิด ตอบแทนรีพลายเยอะแบบน่าชื่นใจมากที่มีคนติดตามอ่าน...ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ...
...เป้...