เมื่อคืนเป็นคืนที่นอนหลับได้เองไม่ใช่เพราะฤทธิ์ยา และเป็นการนอนหลับที่รู้สึกว่าหลับสนิทจริงๆ
ที่ผ่านมาไม่เคยมีคืนไหนเลยที่ผมนอนหลับแบบเต็มที่ หลายๆคืนผมตื่นแทบทุกชั่วโมงก่อนนาฬิกาปลุกจะดัง
คงเพราะความเร่งรีบ ความรับผิดชอบ ในหน้าที่การงานที่รออยู่จึงทำให้ผมไม่อาจวางภาระใดๆไปจากจิตสำนึกได้เลย
ตอนเป็นพนักงานระดับล่างก็ขาดไม่ได้ สายไม่ได้เพราะจะไม่เป็นผลดีกับการบรรจุ พอเป็นหัวหน้าก็ต้องเป็นแบบอย่าง
หลังจากนอนอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ทำให้เช้าวันนี้รู้สึกสดใส ผมตื่นก่อนเทียนเห็นเค้ายังหลับอยู่ก็ไม่รบกวนล่ะ
ล้างหน้าล้างตาแล้ว ก็ไปเตรียมผ้าเช็ดตัว บีบยาสีฟันไว้ให้ แล้วก็ออกมาเตรียมเอกสารให้เค้า
ผมไปปลุกเทียนตอน6โมงครึ่ง เค้าทำหน้าแปลกใจเมื่อได้เห็นสิ่งที่ผมเตรียมไว้ให้
ผมบอกเค้าว่า
"ก็ผมอยู่เฉยๆ อะไรทำให้ได้ก็ทำครับ" เค้าหอมแก้มผมแทนคำขอบคุณ
หลังจากนั้นพอเค้าแต่งตัวเสร็จแล้วก่อนออกไปทำงานเค้าบอกให้ผมเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ
"ทำไมอ่ะ" ผมถามแล้วยื่นเนคไทให้เค้า
"ผมจะมารับออกไปข้างนอก ตอนนี้คุณอยู่ว่างๆ เดี๋ยวจะเบื่อแย่" เทียนผูกเนคไทอย่างชำนาญ
"ถ้าเบื่อผมก็หาไรทำไปเรื่อยๆแหล่ะ เล่นเนตก็ได้ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ" ผมช่วยเค้าจัดเนคไทให้เข้าที่
"เอาน่า ผมเลิกงานแล้วจะมารับไปทานข้าว มีร้านเปิดใหม่" เทียนบอกผม
"ขี้เกียจทำอาหารให้ผมกินแล้วอ่ะดิ" ผมแกล้งทำเป็นงอน
"ไม่ใช่งั้น ผมแค่อยากไปไหนๆกับแฟนบ้างเท่านั้นเอง นะครับ ไปด้วยกันนะ" เทียนกอดผมไว้หลวมๆ
"โอเคๆ ปล่อยก่อนดิ เดี๋ยวชุดทำงานยับหรอก" เมื่อผมรับปากเค้าก็ยอมคลายอ้อมกอดนั้น
จนเมื่อประมาณ4โมงเย็น เทียนก็มารับผมที่ห้อง แล้วพาไปทานอาหารร้านที่เค้าจองโต๊ะเอาไว้แล้ว
"ต้องจองเลยเหรอ" ผมถามเมื่อนั่งลงแล้ว
"ครับ สั่งอาหารก่อนนะ ค่อยกินไปคุยไป" พูดถึงอาหารก็ทานได้แต่จืดๆ แต่ก็ต้องทานอ่ะนะ
"อาหารอร่อยดีครับ" ผมชมจากใจจริง ขนาดอาหารจืดๆยังได้รสชาติดีขนาดนี้
"แน่นอน ผมเป็นที่ปรึกษาให้เจ้าของร้านนี้" เทียนพูดเบาๆพอให้ได้ยินแค่สองคน
"จริงเหรอ เก่งจังเลย" ผมแสดงความชื่นชม
"ผมถึงอยากให้คุณมาทานอาหารร้านนี้ไง ถ้าคุณถูกใจ รับรองว่าร้านนี้ขายดีแน่" เทียนหัวเราะ
"แหม........ยอกันเอง" ผมเขินนิดๆ
"อ้าว มีแฟนกะเค้าคนเดียว ไม่ให้ผมยอคุณ จะไปยอใครครับ" เทียนแซวยิ้มๆ
"พูดเบาๆก็ได้ อายเค้า" ผมปรามทั้งที่ยังเขินๆ
"อืม งั้นผมไม่พูดแล้ว คุณนั่งอยู่ตรงนี้สักครู่นะ เดี๋ยวผมมา" ว่าแล้วก็ลุกออกไปเลย ผมตามเค้าไม่ทันจริงๆ
แต่ช่วงเวลาแห่งความสงสัยก็ไม่ได้อยู่นานนักหรอกครับ เพราะเค้าหายไปทางด้านหลังเวทีสำหรับแสดงโชว์ของทางร้าน
เจ้าของร้านก็เดินออกมาด้านหน้า พร้อมกล่าวว่าได้รับเกียรติพิเศษจากที่ปรึกษาของร้านจะเล่นดนตรีสดให้ฟัง
เทียนกลับออกมาพร้อม ไวโอลิน สีน้ำตาลลายไม้ขัดเงา เทียนเดินออกมายืนหน้าเวที โค้งให้แขกในร้านทุกคน
"ผมขอเล่นเพลงๆนี้ให้คนพิเศษของผมครับ" เทียนกล่าวเช่นนั้น แล้วจึงเริ่มบรรเลงเพลงที่แสนหวานจับใจ
ผมนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยอาการตัวลอย เหมือนรอบๆตัวเต็มไปด้วยหมอกควัน ทุกอย่างเหมือนความฝันและเป็นฝันที่แสนวิเศษ
เมื่อเพลงจบ เทียนกล่าวขอบคุณแล้ว จึงเดินมาหาผมที่โต๊ะ ทุกสายตาที่มองมาทำให้ผมประหม่า
แต่เมื่อเทียนเดินมาถึงโดยมารยาท ผมก็ต้องลุกขึ้นปรบมือให้เค้า แขกทุกคนที่ปรบมืออยู่แล้วยิ่งปรบมือดังขึ้น
ผมขอบคุณเค้า และบอกว่าเป็นสิ่งที่ผมฝันมาตลอดว่าจะได้รับจากคนที่ผมรัก และมันวิเศษมากที่คนๆนั้นเป็นเทียน
เค้าเองก็บอกว่าเค้าเคยตั้งใจมาตลอดว่า ถ้าเค้าตกลงใชชีวิตกับใครเค้าจะเล่นเพลงๆนี้เพื่อขอคนๆนั้นแต่งงาน
"แต่งงานเหรอ ล้อเล่นป่ะเนี่ย" เรายังคงยืนพุดกันอยู่ที่โต๊ะ แขกคนอื่นๆเริ่มหันไปสนใจอย่างอื่นแล้ว
"จริงๆครับ ผมไม่ได้อยากจดทะเบียน ไม่ได้อยากมีพิธี ผมแค่อยากทำความฝันของผมให้เป็นจริง
ด้วยการเล่นเพลงๆนี้ในวันที่ผมจะขอคนที่ผมรักแต่งงาน แล้วคุณคือคนที่ทำให้ผมได้ทำอย่างที่ฝัน" เทียนย้ำ
"แล้วคุณฝันไว้มั้ยว่าคนที่คุณขอแต่งงานจะตอบว่าไง" ผมกลั้นน้ำตาไว้สุดๆ ทั้งเขินทั้งตื้นตัน
"ผมฝันแค่ว่าเมื่อผมให้แหวนวงนี้กับคนๆนั้นแล้ว ผมจะบอกว่า โปรดใช้ชีวิตร่วมกับผมนะครับ" "ผมไม่เคยฝันถึงเรื่องพวกนี้" ผมระบายลมหายใจนิดหน่อย ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
"แล้วคุณจะตอบว่า............" เทียนยิ้มค้าง สีหน้าลุ้นสุดๆ
"ตกลงครับ" ผมตอบตกลงและยื่นนิ้วนางข้างซ้ายให้เค้าสวมแหวนให้ มันพอดีเป๊ะเลย
ปล.กลับจากทานอาหาร ได้คุยโทรศัพท์กับนายแม่ ผมถามอาการคุณป้าใหญ่ นายแม่ถามอาการผม
ผมเล่าว่าวันนี้เทียนเล่นไวโอลินให้ฟัง นายแม่บอกว่ามาคราวหน้าให้เทียนมาเล่นกับนายแม่ เพราะนายแม่เล่นเป็น
ผมคุยกับนายแม่จนพอใจแล้ว นายแม่จึงขอพูดกับเทียนบ้าง ผมเห็นเทียนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คิดว่าคงเป็นเรื่องดีแน่ๆ