วันพุธที่ 31 มีนาคม 2553 วันทำงานวันสุดท้าย
ผมมาทำงานตามปกติและไม่ได้คิดอะไรมากอีกแล้ว จริงๆถ้าผมยังได้ทำงานต่อวันพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็ทำงานอีกแค่วันเดียวก็ได้พักผ่อน
เพียงแต่คราวนี้ได้พักนานหน่อยแค่นั้นเอง ผมได้ยินเค้าพูดแต่เช้าแล้วว่า รองGMคนใหม่จะเข้ามาอินชาร์ตตำแหน่งเชฟใหญ่แผนกครัวด้วย
ทั้งที่ตอนแรกก็หาเชฟใหย่กันให้วุ่นวายไปหมด แต่เพราะใครมาสมัครก็ยังไม่เรียกสักทีประกอบกับรองGMคนที่ว่านี้ก็เคยเป็นเชฟใหญ่ของโรงแรมนี้ที่สาขาฮ่องกงมาก่อน
พวกพี่ๆเค้าเห่อกันใหญ่เพราะได้ยินว่าเป็นคนหนุ่ม (แต่จะหนุ่มได้ไงอ่ะผมได้ยินมาว่า อายุ37แล้วนะครับป่านนี้ไม่มีเมียมีลุกเป็นโขยงแล้วเหรอ)
"นิวได้ยินเรื่องเชฟใหญ่คนใหม่รึยัง" พี่ละออมาถามผม
"ได้ยินละครับ แต่เห้นว่ามาเริ่มงานพรุ่งนี้ นิวคงไม่ได้เห็นหรอก" ผมตอบ
"น่าเสียดายจริงๆ แกชอบไม่ใช่เหรอพวกตี๋ๆน่ะ ต๊าย วาสนาไม่ถึงจะได้อยุ่เจอเพราะโดนเด้งไปก่อน" พี่ส้มเดินมาสมทบ
"ช่างเหอะ เพราะถึงพวกที่ยังอยู่ จะชอบหรือไม่ชอบก็ไม่มีปัญญาทำอะไรได้ นอกจากก้มหัวรอรับคำสั่ง นิวจะอิจฉาทำไม" ผมกระแทกให้
"เอ๊ะ อิจฉาพวกที่เค้ามีงานทำน่ะสิ ทำเป็นปากแข็ง เชอะ ถึงก้มหัวรับคำสั่งก็ยังมีที่ให้ทำงานไม่ต้องไปเดินตากแดดหางานใหม่หรอกวะ" พี่ส้มเบะปาก
แล้วช่วงบ่ายที่มีการประชุมกันก็มีการแนะนำในดอกสารว่า จะมีรองGMคนใหม่มาแล้ว และจะมาเป้นเชฟใหญ่ของพนักงานในครัวด้วย
พี่เชอรี่เป้นคนอ่านเอกสารบอกว่าหล่อมาก พวกสาวๆวิ่งไปดูกันใหญ่ ผมไม่สนหรอกเพราะยังไงก้จะไม่ได้อยุ่เจอกันอีกแล้ว จะดี๊ด๊าไปทำไม
ก็เลยยืนฟังเยๆได้ข้อมูลมาว่า ชื่อคุณบรรพต เป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง-ไต้หวัน-ญี่ปุ่น พูดได้5-6ภาษา (แค่นี้พวกในห้องก็กรีดกันลั่นกลบเสียงคนอ่านแล้ว)
อายุ37ปี ยังโสดและเข้าพักกับทางโรงแรมมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน พี่โดมย้ำว่าให้พวกเราคอยสังเกตและทำดีกับเค้ามากๆเพราะจะมีผลต่อการเลื่อนขั้นของพวกเรา(ยกเว้นผมมั้ง)