chapter22
“จะเอาจริงๆอ่ะเหรอ!!” ยูอิจิทำหน้าเครียดๆ
“เออ ก็จริงเดะ ไหนว่าจะลองทำด้วยกันไง” จินหันมาตบหัวยูอิจิไป1ที
“แต่ที่ยูอิจิว่าก็จริงนะ ถ้าเราทำไม่ได้มีหวังจ่ายกันอานเลย”
จุนโนะเองก็หน้าเแหยๆ จินทำหน้าคิดหนักขึ้นมาเอามือล้วงกระเป๋าตัวเอง
“พวกนายมีกันเท่าไหร่อ่ะ”
“ฉัน 3500” ยูอิจิ บ่นอุบอิบ “4000เยน” จุนโนะพูดผลางชูนิ้ว
“5000เยน” ทัตซึยะแง้มกระเป๋าดู จินส่ายหัวไปมา “ยากจนทั้งนั้นเลย
“ คาซึยะหันมาถามจินบ้าง “แล้วนายหล่ะ มีเท่าไหร่”
จินยิ้มแหยๆ “1000เยน” “โธ่เอ้ย!!” ทุกคนแทบจะยันจินพร้อมๆกัน
“ช่างเถอะน่า ถ้าไม่มีตังค์ฉันจัดการเอง” คาซึยะะพูดออกมาแบบรำคาญ
“เอ ลืมไปเลยว่าเรามีคุณชายมาด้วย นายคงพกบัตรทองมาด้วยหล่ะสิ”
จินยิ้มเอามือวางที่ไหล่คาซึยะ คาซึยะทำหน้ากวนๆก่อนพูดออกมา
“มะเหงกสิ!! ไม่ได้เอามา… แค่ถ้าไม่มีตังค์จ่ายก็ให้ล้างจานเอาก็แค่นั้น"
แล้วทุกคนก็ทำหน้าเหว๋อ ก่อนเดินเข้าร้านตามๆกันไป เรื่องแรกที่อยากทำของจินก็คือการกิน จินอยากจะกินให้เยอะ
ให้จุกตายกันไปข้างนึง แต่จะกินได้ขนาดนั้นก็ต้องมาร้านที่จัดท้ากินจุ น่าจะเหมาะที่สุด
ทุกคนก็จำใจร่วมชะตากรรมไปด้วย แต่จะกินจนชนะ มันจะเป็นไปได้แค่ไหนกัน เพราะถ้ากินไม่ตรงตามที่กำหนด
ก็จะต้องจ่ายค่าอาหารส่วนที่กินกันไปทั้งหมด แล้วก็แน่นอน ไม่มีใครมีเงินมาพอขนาดนั้น
ผลปรากฏออกมาว่า ทุกคนทำได้ แต่แทบจะออกมาอ้วกกันหน้าร้านเลย
“โอ้ย!! อยากจะอ้วก กินเข้าไปได้ไงเนี้ย!!” ยูอิจิทำท่าจะอ้วกจริงๆ
“เฮ้ยอย่าได้มั้ย ขืนนายอ้วก ฉันได้อ้วกตามจริงๆแน่” จุนโนะดึงคอให้ยูอิจิ หยุดทำท่าโก่งคอสักที
“น่าสงสารเจ้าของร้านเหมือนกันนะ ตั้ง 5 คนกินไปขนาดนั้น จะขาดทุนมั้ยเนี้ย”
พูดๆไปก็เอามือปิดปากไป
จินท่าทางจะสบายสุดๆดูไม่เหมือนคนป่วยเลยสามารถกินได้เยอะขนาดนั้น คาซึยะเดินหน้าซีดๆตามทุกคนมา
จินหันไปถาม
“นายไมไม่พูดอะไรเลยอ่ะ “
คาซึยะเอามือโบกๆ “อย่าให้พูดเลย มานจะออก อุ๊บ” แล้วคาซึยะก็เป็นรายแรกที่อ้วกออกมา
จินตกใจรีบลูบหลังให้ คนอื่นๆ เบือนหน้าไปตามๆกัน
“ไอ้บ้าจิน นี่เรื่องที่แกอยากทำทรมานน้อยกว่านี้ ไม่มีไงวะ” ยูอิจิ รีบด่าออกมา มองสภาพคาซึยะแล้วอนาถ
“อ้าว !!! แต่ก็อร่อยดีไม่ใช่ไง นานแล้วนะไม่ได้กินข้าวด้วยกัน”
“แบบนี้ ไม่อร่อยหรอกนะ!!!!” คาซึยะที่หน้าซีดแต่ท่าทางดีขึ้นหน่อย เอามือเช็ดปากไปมา ท่าทางฉุนๆ
“แต่ก็ดีนะ ได้เห็นคาซึยะอ้วกด้วย นานๆทีจะเสียฟอร์มกะเค้า”ทัตซึยะพูดออกมา
“เออใช่” จุนโนะเห็นด้วย แล้วทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่ คาซึยะรีบโวยวายห้ามทุกคนหัวเราะเหมือนเด็กๆ
“แล้วเรื่องต่อไปหล่ะ อยากทำอะไร” ทัตซึยะถามขึ้นมา เมื่อทุกคนได้พักให้หายจากอาการกระฃอักกระอ่วน คาซึยะ
กำลังล้างปากที่ก๊อกน้ำสาธารณะ ก็สนใจฟัง จินเอียงคอไปมา ท่าทางอายๆนิดหน่อยก่อนกระอ้อมกระแอ้มตอบออกมา
“อยากบอกรัก……..” “หู้!!!……….” ทุกคนส่งเสียงโห่ออกมาพร้อมๆกัน
“ร้อยวันพันปี แกเคยไปเหล่หญิงที่ไหนฟ่ะ คงไม่ใช่ในกลุ่มพวกเรานะ”
ยูอิจิ พูดเสียงแหวออกมา คาซึยะเองก็ท่าทางสนไม่น้อย ผู้หญิงที่จินชอบเป็นแบบไหนกันนะ
“บ้าสิ พวกนายอ่ะ ฉันรักอยู่แล้ว แต่ว่า ไม่อยากบอกหรอกเดี๋ยวจะเหลิง” จินตะโกนใส่แบบกวนๆ
“อ้าว แล้วใครคือผู้โชคร้าย เอ้ยโชคดีที่นายอยากบอกรักอ่ะ” จุนโนะถามออกมา จินยิ้มๆ
“อืมมันก็ตั้งแต่ตอนปี2ม.ต้นแล้วนะ ตั้ง4ปีแล้ว ไม่รู้ว่าเค้าจะยังอยู่ที่เดิมรึเปล่า”
“หา !! อย่าบอกนะว่า ยายคนนั้น ..ที่ชื่อซากุระ ไรนั้นน่ะ” ยูอิจิ ท้าวเอวทำท่าไม่อยากจะเชื่อ
“เออ คนนั้นแหละ นายก็จำได้ใช่ป่าว”
“นายชอบคนๆนึงนานขนาดนั้นเลยเหรอจิน” คาซึยะหน้าตาตื่นเต้น จินยิ้มอายๆ
“มันก็ไม่เชิงงั้นหรอกตอนนั้นก็ชอบขนาดอยากบอกรักเลยหล่ะ แต่ตอนนี้ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแล้ว แค่นึกถึงก็รู้สึกดีเท่านั้น”
“แล้วเค้าจะยังอยู่นี่ …..รู้ถึงที่อยู่เลยเหรอ” ทัตซึยะถามงงๆ
“โอ้ย เจ้านี่โรคจิตจะตายแอบคตามไปจนถึงบ้านมาแล้ว” ยูอิจิแฉ
“โห้ย!!” ทุกคนที่เหลือร้องพร้อมกัน
จินหัวเราะเขินๆ
“นอกจากนี้ยังรูอีกนะว่า ชอบผูกโบกลายสก๊อต ชอบสวมชุดสีขาว ชอบเลี้ยงหมาพันธ์โกลเด้น แล้วก็ชอบดอกเดซี่มากกว่า
ซากุระด้วย “
“ใครจะเหมือนนายชอบซากุระ” จุนโนะแซว จินเอามือชกเบาๆไปที คาซึยะยิ้มแล้วพยักหน้า
“สุดยอดเลย ทุ่มเทขนาดนี้เสียดายนะที่ไม่ได้บอกรักไป”
“ก็เพราะตอนนั้น ฉันทำผลาดเอง ทั้งๆที่มีโอกาสแล้วแท้ๆ” จินสีหน้าเศร้าลงนิดๆ ยูอิจิ ทำหน้านึกขึ้นได้
“ตอนนั้นใช่ป่าวที่ เราไปงานวัฒนธรรมรร.สตรีที่ซากุระอยู่ แล้วนาย เดินผ่านอาคารนั้น ซากุระก็โปรยกลีบดอกเดซี่เล่น
แล้วร่วงใส่นายด้วยน่ะ”
“แล้วทำไมเหรอ?” คาซึยะท่าทางอยากรู้มากจนรีบถามออกมา ที่เหลือก็ตั้งใจฟัง
“ก็ตอนนั้น ฉันอายแล้วก็เขินมากๆ เผลอพูดออกไปว่า เล่นอะไรกันยายบ้านะสิ เรื่องก็เลยจบทั้งๆที่ยังไม่ทันเริ่ม”
“ว้า!! “ ทุกคนพูดออกมา แบบเสียดาย คาซึยะได้แต่จ้องจินแล้วก็อมยิ้ม เจ้านี่เวลามีความรักก็น่ารักเหมือนกันนะ “งั้นเรา
ก็ไปบอกเธอตอนนี้ก็ได้นี่นา” คาซึยะเสนอออกมา
สาวน้อยผมยาวจนถึงกลางหลังรวบผมด้วยโบลายสกอตเช่นเดิม ไม่ต่างจาก4 ปี เวลายิ้มจะมีลักยิ้มเล็กๆที่มุมปาก
ผู้ชาย5 คนยืนดูตาหยาดเยิ้มบนสะพานที่เธอจะเดินผ่านเป็นประจำ
เพราะเป็นทางกลับบ้านวันนี้โชคดีเหลือเกินที่เธอก็ต้องผ่านด้วยในวันนี้
“จินนายนี่สุดยอดเลย “ จุนโนะพึมพัม “ใช่สุดยอดจริงๆ”ทัตซึยะเห็นด้วย “หวังดอกฟ้าเลยนะเนี้ย”
คาซึยะพูดออกมา จินหันมามองตาเขียว “ พูดงี้ฉันก็เป็นหมางั้นเหรอ”
“เฮ้ย !! อย่ามัวแต่เคลิ้มมากันแล้ว เตรียมตัวนะ” ยูอิจิเห็นสาวน้อยเดินคุยกับเพื่อนจนจะถึงสะพานนี้แล้ว
ทุกคนทำท่าเป็นอันเข้าใจ พอซากุระเดินผ่านสะพานมา ฝนกลีบดอกเดซี่ก็โปรยปรายลงมาจากข้างบนซากุระตาโตด้วย
ความแปลกใจ กับความสวยงามของมัน
“ใครเล่นอะไรเนี้ย” เพื่อนคนนึงในกลุ่มอุทานออกมา “แต่ว่าสวยดีนะ” เพื่อนอีกคนท่าทางชอบ ยื่นมือออกมาสัมผัส
กลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นมา ซากุระเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นจินยิ้มอยู่ข้างบน คนอื่นๆช่วยกันโปรยดอกไม้ลงมา
จินเอามือป้องปากพูดเบาๆว่า
“ผมรักคุณ” ซากุระ ไม่ได้ยิน แล้วก็มองปากที่ขยับไปมาไม่ถนัดนัก
“เธอรู้จักเหรอ ซากุระ” เพื่อนในกลุ่มถาม ซากุระส่ายหัวไปมา “แต่ฉันว่าพวกเค้าดูน่ารักดีนะ”
อีกคนเสนอ ซากุระ ไม่พูดอะไร แค่ยิ้มๆ แล้วเก็บดอกเดซี่กำไว้ในมือก่อนเดินจากไป
“โอ้ย!! โรแมนติคจนอยากอ้วกอีกรอบแล้ว” ยูอิจิ ทำท่าล้อเลียนคาซึยะ ที่อมยิ้มกับเหตุการณ์เมื่อครู่
จินเองก็หัวเราะออกมา เมื่อคาซึยะทำหน้าหงิกแล้วเตะเท้าในอากาศจนเกือบจะยันยูอิจิได้สำเร็จ
“ต่อไปๆ “ จุนโนะท่าทางสนุกกับเรื่องที่ทำขึ้นมาแล้ว รีบเรียกร้องให้จินหาเรื่องต่อไปที่อยากทำ
จินเอามือจับคางไปมา “หลังจากเรื่องหวานๆต่อไปก็ต้องบู้เล็กน้อยหล่ะ”
เสียงหมาเห่าดังสนั่น แต่ละตัวแทบจะฉีกเนื้อคนกินได้ก็ไม่ปาน เห็นเขี้ยวขาวๆแล้วเสียวไส้จริงๆ
“ทำไมเนี้ย ทำไม ฉันจะต้องเป็นคนมาล่อหมาด้วยวะ เสร็จกันรึยัง!!” ยูอิจิตะโกนแข่งกับเสียงหมา
ตอนนี้ยืนตัวเกร็งเป็นตัวล่อสุนัขพันธ์ดุทั้งหลายเหล่ มีก็แค่รั้วเหล็กสนิมผุๆกั้นอยู่เสียวเหลือเกินว่ารั้วเกิดพัง
คนที่ตายนะเป็นเค้าแน่ๆ
“บ่นอยู่ได้ คนที่มาเก็บก็เสียวเหมือนกันนะ” ทัตซึยะทำท่ากลัวๆว่าเจ้าหมาพวกนั้นจะไม่สนใจยูอิจิแล้วหันกลับเข้ามาทาง
นี้มากกว่า ซึ่งมีแค่รั้วไม้เตี้ยที่พวกมันจะข้ามมาได้สบายๆ จินเอามือจุ๊ๆ
“อย่าตะโกนเดะ เดี๋ยวมันหันมา” จุนโนะรีบๆเก็บลูกเบสบอลใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว
อาทิตย์หน้าต้องมีสอบวัดระดับ ถ้าต้องมาตายในกรงหมา
ที่ตั้งใจเรียนมาก็เสียเปล่านะสิ ยิ่งคิดยิ่งเพิ่มสปีดในการเก็บเป็นเท่าตัว
แล้วก็ทำการเก็บลูกเบสบอลจนเสร็จ จิน จุนโนะ ทัตซึยะ และคัตซึยะ ปีนรั้วทางด้านหลังออกมาอย่างปลอดภัย
ยูอิจิรีบวิ่งอ้าวออกจากจุดนั้น ทุกคนหอบแฮ่กๆ
“นี่นาย จะเอาลูกเบสบอลตั้งเยอะแยะนี่ไปไหนกันอ่ะ” คาซึยะถามแบบหอบๆ เพราะวิ่งมาเหมือนกัน
”เออ บ้าป่าวแกอ่ะ อยู่ๆดีๆก็อยากเข้าไปเก็บลูกบอลในดงหมาดุ ตั้งกะเกิดมา ยังไม่เคยมีใครกล้าเข้าไปเก็บเลย เห็นก็มี
แต่นายนะแหละ”
“ก็เพราะงี้ไง ลูกบอลถึงได้มีเยอะขนาดเนี้ย อืม ฉันนะอยากจะปีนเข้ามาเก็บทุกครั้งที่เราเล่นกันแล้วมันมาหล่นในดง
หมาดุนั้นน่ะ” จินหยิบลูกบอลขึ้นมาดูแล้วก็พูดไป
“อ้าวแล้วไมไม่มาเก็บหล่ะ” จุนโนะ ถามขึ้นมาบ้าง
“ก็ตอนนั้น ถ้าจะมาเก็บก็คงมีฉันคนเดียวนะสิ ไม่มีพวกนาย งั้นฉันก็เละคนเดียวสิ”
“อ้าว!!” ทุกคนร้องออกมาแทบพร้อมกัน
แล้วจินก็ช่วยกันรวบรวมลูกบอลเอาไว้ให้กับกลุ่มเด็กๆประถมที่มักจะเล่นเบสบอลด้วยกันเสมอ
ถึงคราวนี้จะเสี่ยงโดนหมาฟัด แต่ก็เป็นการทำความดีอย่างนึงเหมือนกันนะ
ต่อจากนั้น ทั้งหมดก็ไปทำเรื่องที่ปกติ ไม่มีวันทำแน่ๆต่อไปอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น วิ่งขึ้นบันไดเลื่อนที่เป็นบันได
สำหรับลง ทำท่าหกสูงกลางถนน ถอดกางเกงตัวนอกออกเหลือแต่บอกเซอร์ เพื่อล้อเลียนพวกยากูซ่า แม้แต่วิ่งหลับตา
ข้ามถนนกัน ทุกอย่างเป็นสิ่งที่จิน อยากทำและทุกคนก็ทำด้วยกัน
เป็นเรื่องที่เหมือนกับว่า ทุกคนจะมีชีวิตเหลืออีกแค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น
ทุกคนนอนแผ่หลาที่ ชายหาดของรร
. “อยากทำอะไรอีก หื้อ!! วันนี้ใช้ชีวิตสุดยอดเลย “
คาซึยะ ที่นอนกลิ้งไปมา ตอนนี้เหนื่อย แต่ความตื่นเต้นและสนุกก็ไม่จางหายไปเลย
“อยากแอบไปว่ายน้ำที่สระของรร.หน่ะ” ทุกคนผุดลุก “เฮ้ย!! นี่ไมใช่หน้าร้อนนะ หนาวตายชักดิ"
ยูอิจิโวยก่อนคนแรก “ก็ดีนะ ไม่เคยแอบเข้ามาใช้สระตอนกลางคืนสักกะทีอ่ะ” ทัตซึยะ ชักสนุกไปใหญ่แล้ว
“ถ้าโดนจับได้ ถูกทำทัณฑ์บนแน่ๆ “ จุนโนะหน้าแหยๆ
“เอาน่าวันนี้ก็ทำอะไรหลุดโลกมาทั้งวัน แล้วอีกสักเรื่องจะเป็นไรไปเล่า” คาซึยะ เอามือตบไหล่จุนโนะให้กำลังใจ
“แล้ว มีไรอีกป่ะ ที่อยากทำอีกน่ะ” ยูอิจิ ถามอีกครั้ง ลมพัดเส้นผมจินกระจาย รอยยิ้มจางๆที่ใบหน้า
”ก็เยอะ นะ แต่ทำตอนนี้ไม่ได้หรอก อยากไปเที่ยวรอบโลก อยากมีแฟนสวยๆ อยากขับเฟอร์ราลี่ ………..”
“เอ่อ ไม่เกินไปหน่อยไง แต่ละอย่างอ่ะหึ” จุนโนะแซวเล่น “ก็บอกแล้วไง ว่าทำไม่ได้ตอนนี้ “จินหัวเราะออกมานิดๆ
คาซึยะได้ยินอย่างงั้นก็ลืมความสนุกเมื่อครู่ไป กลับสู่ความเป้นจริง จินที่ไปเที่ยวเล่นกับพวกเค้ามาทั้งวันคนนี้
ไม่น่านะ ไม่น่าจะตายได้ง่ายๆหรอก ยังดูแข็งแรงกว่าที่คิดไว้ซะอีก
“แต่ที่อยากทำมากที่สุดก็มีอยู่อย่างนึง คิดว่า คงเป็นไปไม่ได้แน่ๆเลย” จู่จินก็พูดขึ้นมา ทุกคนตั้งใจฟัง
“อยากจะฉลองวันเกิด อายุ 19 พร้อมๆกับทุกคนน่ะ” รอยยิ้มของทุกคนชะงักไปตามๆกัน
ต่างมองหน้ากันไปมาเหมือนพูดไม่ออก
“พูดอะไรอย่างงั้น นายยังอยุ่อีกนานน่า!!” ทัตซึยะพูดออกมา พยายามรักษาน่ฃ้ำเสียงให้สดใส จินยิ้มๆ
“ทำไมฉันจะไม่รู้ตัวเองหล่ะ คนเราก่อนจะตายจะเหมือนมีพลังชีวิตสุดท้ายอีกครั้ง
ฉันก็คิดว่านี่ละมั้งพลังชีวิตครั้งสุดท้ายของฉัน”
“จิน!!” ทุกคนร้องออกมาเสียงหลง
ท่าทางสนุกสนาทั้งวันที่ผ่านมา จะถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง จินยิ้มกลบเกลื่อน
“เอาน่าๆ จริงๆ หมอเคยบอกว่าฉันจะตายมาตั้งแต่9ขวบแล้ว นี่ฉันได้กำไร ขนาดไหน เกินมาตั้งเกือบ10 ปีแนะ และที่คุ้มที่สุดที่ได้รุ้จักกับพวกนายนะ”
ทุกคนพูดไม่ออก จินลุกขึ้นปัดทรายที่เสื้อผ้า
“นี่ๆ รีบๆไปเตรียมกางเกงว่ายน้ำกันดีกว่า คืนนี้เรามีนัดกันนะ”
ทุกคนฝืนยิ้มออกมา แล้วลุกตามกัน ไป คาซึยะ เองก็เหมือนกัน ไม่เข้าใจเลยว่าจะผ่านพ้น
ช่วงเวลาและความทรมานตอนนี้ไปยังไงดี
ตกดึก ทุกคนโยนกระเป๋าข้ามรั้วของสระเข้ามาแล้วก็ปีนเข้ามาเหมือนเด็กๆที่ซุกซน
ก่อนจะถอดเสื้อออกกันอย่างร่าเริง เสียงน้ำกระเซ็นเพราะแรงกระโดด
“ถ้าปกติ ทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ” จินหัวเราะ ออกมา แล้วก็สำลักน้ำ คาซึยะ และคนอื่นๆ ตกใจกันยกใหญ่ จินหันมา มอง
“บ้าน่า ฉันไม่เป็นอะไนหรอกนะ จริงๆ ตอนนี้แข็งแรงดี ไม่ได้หลอกด้วย” ทุกคนพยักหน้า ความสนุกเหมือนลดลงครึ่งนึง
จินรู้สึกได้ เลยคว้าสิ่งที่เตรียมมาด้วยจัดการทุกคน ปืนฉีดน้ำกระบอกใหญ่ แรงดันเล่นเอาคนโดนเจ็บได้เหมือนกัน
“เฮ้ย!!ไปเอามาจากไหนวะเนี้ย” ยูอิจิ จับแขนที่โดนฉีด แล้วถูไปมา “ขี้โกงชมัดเลยจินอ่ะ “ ทัตซึยะตัดพ้อ แล้วทุกคนก็
กลับมาเล่นน้ำสนุกกันตามปกติ แสงไฟฉายสาดเข้ามา
“นี่ พวกเธอเป็นใครกันน่ะ ใครอนุญาตเหอะ!!” ครูเวรออกมาตรวจเจอเข้าจนได้ ทุกคนรีบกระโดดขึ้นจากสระ
วิ่งแบกของ ตกหล่นบ้างเหมือนเด็กๆ เมื่อหนีจนหลบพ้นแล้วทุกคนก็หัวเราะกันสนุก
คาซึยะหันไปมองหน้าจินที่จมูกแดงเพราะสำลักน้ำ และอากาศที่หนาว จินยิ้มอย่างเป็นสุข
หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วทุกคนลากจินไปที่หาดข้างๆโบสถ์
“อะไรกันเนี้ย ต้องรีบกลับโรงพยาบาลแล้วนะ” จินบ่น
“ตอนนี้รถเมล์หมดแล้ว ต้องรอพรุ่งนี้แล้วหล่ะ” จุนโนะพูดออกมา ยูอิจิมองดูนาฬิกาแล้วเริ่มต้นนับ
“5-4-3-2-1”
สิ้นเสียงไฟประดับต้นไม้ก็สว่างขึ้นสวยงามมากๆจินร้องออกมาด้วยความปนฃระหลาดใจ
“ ว้าว!!”
แล้วเสียงเพลงสุขสันต์วันเกิดก็ดังขึ้น คาซึยะประคองเค้กวันเกิดที่มีเทียน 19ดอกปักเรียงราย
“เที่ยงคืนแล้ว สุขสันต์วันเกิดนะจิน” คาซึยะพูดออกมา จินหน้างงๆ “แต่ว่า นี่ไม่ใช่วันเกิดฉัน?”
“เอาเถอะ เป่าสิ แล้วอย่าลืมอธิฐานด้วยนะ” ทัตซึยะรีบสั่ง จิน ยิ้มออกมา แล้วก็ทำตามโดยดี ยูอิจิมองนาฬิกาอีกครั้ง
“ เที่ยงคืน 10นาที ถึงวันเกิดฉันแล้วเพื่อนๆ” จินหน้าเหรอ แต่ทุกคนก็พูดว่า “สุขสันต์วันเกิดยูอิจิ!!”
แล้วเทียนก็ถูกจุดอีกครั้ง ยูอิจิทำการเป่า คนต่อไปก็คือ จุนโนะ ทัตซึยะ และก็คาซึยะ
จินมองการกระทำนี้ก็ หัวเราะออกมา หัวเราะออกมา ทั้งที่น้ำตาเริ่มคลอๆ คาซึยะอธิฐานแล้วเป่า
จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองจินแล้วพูดออกมา
“สิ่งที่นายอยากทำเราก็ทำกับนาย นี่เป็นสิ่งที่เราอยากทำ ก็คือ ฉลองวันเกิด อายุ 19 พร้อมๆกับนายไงหล่ะ”
จินผงกหัว แล้วพูดออกมาเบาๆ
” ขอบคุณนะ ขอบคุณมากๆ”
ทุกคนเอาพลุออกมาจุดแล้ววิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน ตกลงกันว่าพอรุ่งเช้าจะไปส่งจินที่โรงพยาบาล ทุกคนได้มีเวลาอยู่ด้วย
กันทั้งคืน จนกระทั้ง รอชมแสงแรกของรุ่งเช้าพร้อมๆกัน นี่ก็เป็นสิ่งนึงที่ไม่เคยได้ทำด้วยกันเลย
แต่จะได้ทำในวันนี้ วันที่จะติดอยู่ในความทรงจำของทุกคนไปโดยตลอด
ทุกคนนอนซบกันอยู่ที่ริมหาด แสงแรกแยงตา จุนโนะตื่นคนแรกเขย่าตัวยูอิจิ จนตื่น ยูอิจิเอามือผลักหัวทัตซึยะ
แล้วคาซึยะก็พลอยตื่นไปด้วย จินยังหลับคอพับที่ไหล่ของคาซึยะ คาซึยะเอามือแตะเบาๆ จินไม่ไหวติง คนื่นลุกขึ้นชม
ความงามของรุ่งเช้าพลางบิดขี้เกียจกันไปมา แต่เมื่อหันมาทุกคนก็ถึงกับหยุดชะงัก
คาซึยะ น้ำตาเอ่อ ร่างจิน ไม่ขยับไม่ไหวติง…..ทั้งที่หน้าเหมือนกับหลับอยู่เท่านั้น…………
chapter 22 end
to be con.............