ในที่สุดก็อ่านจบ...
หัวใจมันฟู... อธิบายไม่ถูก... เอาเป็นว่ามีห้าคะแนน ยกให้เต็ม เติมศูนย์ให้อีกล้านตัว
ยอมรับว่าหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมางานยุ่งเอามาก ๆ จนไม่มีเวลาอ่านนิยายเลย มีแต่เซฟเก็บ หนังสือก็ซื้อมาเก็บจนล้นบ้าน บอกตัวเองว่าสักวันต้องได้อ่านแน่ ๆ
...และแล้ววันนี้ก็มาถึง
มีเวลาว่างแล้วแต่ไม่มาก ก่อนโปรเจคใหม่จะมาและไม่ว่างไปอีกยาว
มีนิยายกองเป็นภูเขา แล้วจะอ่านเรื่องไหนดี?
...เรื่องยากคือตรงนี้แหละ
เหมือนเราเป็นนักโทษประหาร และมีผู้ตัดสินมาถามว่า "เจ้าอยากกินอะไรเป็นมื้อสุดท้ายในชีวิต" นั่นหมายถึง เราต้องเลือกให้ดี ๆ ให้คุ้มค่ากับเทียนชีวิตที่หดลงไปเรื่อย ๆ
สุ่มเลือกจากคลังนิยายที่เซฟเก็บไว้ ปกติจะเซฟนิยายจากชื่อของนักเขียนเป็นหลัก(ง่ายดี) ก็เจอคุณ lanlan เป็นชื่อสุดท้าย ลอง ๆ เปิดดูจำนวนหน้า อื้ม..มีแค่ 7 หน้า ถือว่าสั้นใช้ได้ น่าจะลองดู
พอเปิดหัวข้อมา
โห เป็นเรื่องเล่าจากชีวิตจริงแฮะ เอาไงดี จะอ่านดีไหม
เพราะเรื่องเล่าส่วนมากจะจบด้วยความเศร้า ไม่เนื้อก็พานอยด์ตลอดศก และที่ไม่ชอบที่สุดคือมักจบเศร้ามากถึงมากที่สุด เป็นคนไม่ชอบอ่านนิยายเศร้า ๆ อยู่แล้ว อ่านแล้วจิตตกไปหลายวัน อยากอ่านเรื่องฮา ๆ พาชีวิตรื่นเริงมากกว่า
แต่อะไรดลใจให้ลองกดอ่านดูก็ไม่รู้
คงเป็นเพราะพารากร๊าฟแรกล่ะมั้ง มันทำให้เราเพลิดเพลินจนจากแรกแค่ว่าจะลองดู ไป ๆ มา ๆ ก็อ่านจนจบตอนที่หนึ่ง วิ่งไปตอนที่สอง ตามด้วยสาม สี่ ห้า หก เจ็ด จนรู้ตัวอีกที คือหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว
อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้เอ้เลย เพราะเขียนเรื่องราวให้อ่านง่าย วางเนื้อเรื่องได้ดึงดูด ดึงอารมณ์และความรู้สึกให้ลุ้นตลอดเวลา และอีกอย่าง คาดเดาเนื้อหาไม่ได้เลยว่าจะออกมายังไง
เริ่มอ่านตั้งแต่เที่ยงวันยันตีสาม(เป็นคนอ่านช้าด้วย) จริง ๆ วันรุ่งขึ้นมีธุระ ต้องไปเจอบุคคลสำคัญ อุตส่าห์นอนเร็ว (สามทุ่ม) กินอาหารดี ๆ เพื่อให้ผิวสวยมาเป็นอาทิตย์ เตรียมตัวอย่างดี พอมาอ่านเรื่องนี้ รู้ว่าตื่นมาต้องโทรมแน่ ๆ สั่งตัวเองให้ปิดคอม แต่อีกใจก็อยากอ่าน มันติดเอามาก ๆ จนในที่สุดความอยากก็เอาชนะความดี บอกตัวเองในใจ "ช่างหัวมัน"
อ่านจนจบภาคมหาลัย (ให้อ่านต่อไม่ไหวแล้ว ไมเกรนกิน = =) ตัดสินใจลากสังขารไปอาบน้ำ ออกมากินวิตามินเสริมกันโทรมเกินกว่าเหตุ ลากสังขารเอ๋อ ๆ ขึ้นเตียงแล้วสลบไป
ตื่นมาหน้าโทรมได้ใจ แต่หาได้แคร์ไม่ เพราะใจมันมีแต่วุธกับเอ้
ตอนที่อ่านจบ รู้ว่าวุธกับเอ้คบกันแล้ว แต่เพราะรู้ว่ามีภาคต่อ ทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องนี้มันยังไม่จบง่าย ๆ แน่ ๆ นั่งนอยด์ไปพบลูกค้าหน้าโทรม ๆ นั่นแหละ
พยายามตัดวุธเอ้ออกจากหัว หันมายิ้มแย้มกับลูกค้า
แต่โทษครับ ลับหลังลูกค้ามานั่งนอยด์ต่อ เอาแล้วไง เพราะงี้ไง ถึงไม่ชอบอ่านเรื่องเล่าจากชีวิตจริง
จิกหัวตัวเองจากเงามืดมายืนโปรยยิ้มให้ลูกค้าต่อ แม้ในมโนกำลังคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าวุธจะทำอะไรให้เอ้เสียใจอีก เล่าได้อินมากจนเหมือนเอ้เป็นเพื่อนของเราไปแล้วจริง ๆ
ตอนแรกก็ว่าจะอ่านภาคผู้ใหญ่ตอนเสร็จธุระ (สามวันหลังจากนี้) แต่พอดีมันอดรนทนไม่ไหว รีบเคลียร์งาน แล้วหาเวลามานั่งอ่านต่อ
ก่อนอ่าน แอบมีเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจ "แกแน่ใจนะว่าจะอ่านต่อ เพราะมันอาจจบไม่ดีนะ" ใจหนึ่งพยักหน้าหงึก ๆ แบ่งรับแบ่งสู้ อีกใจส่ายหัวดิก เกาะขาแน่นเงยหน้ามองมาน้ำตาคลอ "อย่าอ่านเลยนะ เขาไม่อยากนอยด์"
แต่อิใจสู้เอาชนะใจเสาะมาได้
อ่านจบแต่ละตอนก็ต้องมานั่งอ่านคอมเม้นท์ของแต่ละคน ว่ามันจบดีหรือไม่ดี แต่ก็ไม่มีใครบอกว่าจบเศร้านะ ก็โอ ปลอบใจอิน้องหนูใจเสาะ "เห็นไหม มันจบดีนะ" มันยังเกาะแข้งเกาะขาน้ำตาคลอ มองมาแบบไม่ไว้ใจเหมือนเดิม
เราก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านไป
ตั้งแต่ภาคแรกมา วุธทำให้เราไม่ไว้ใจมาก พอมาภาคผู้ใหญ่ เราก็ยังไม่ไว้ใจเหมือนเดิม ดูจะมากกว่าเดิมด้วย กลัววุธเลิกรักเอ้ กลัววุธทำเอ้เสียใจ กลัววุธเลือกคนใหม่ หวาดกลัวไปหมด
ยิ่งคุณ martch มาตัดจบที่วุธออกจากบ้านหลังคุยกับพีท โอ้โห ตอนนั้นแทบคว่ำโต๊ะแน่ะ
เอาแล้วไง ไอ้วุธ!!
ดีว่าอีหนูสองตัวนั้นห้ามไว้ทัน ไม่งั้น บุกไปยิงถึงบ้านแน่ ๆ
กลับมาเอาน้ำเย็นลูบคอ อ่านต่อจนนิยายจบ
พอจบก็มานั่งถามตัวเอง เอาไงต่อดี
เออใช้...เม้นท์ให้กำลังใจเอ้ก่อน เอ้ได้อ่านก็ดีไป ไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไร แค่อยากระบายความรู้สึกที่ได้อ่านให้ฟังเท่านั้น
อย่างที่บอกว่าจากบรรทัดแรกชอบตั้งแต่การเล่าเรื่อง ต่อมาเป็นความประทับใจในบุคลิกของเอ้ เป็นธรรมชาติและน่ารัก นิสัยส่วน
ตัวและอะไรหลาย ๆ อย่าง เอ้เป็นคนดี แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ มีหลายอย่างที่ไม่ดีก็มี แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้เราประทับใจ
ปกติจะไม่อะไรกับนิยายที่อ่านมาก แต่แปลกไหม ที่พออ่านเรื่องนี้จบ อยากวิ่งกลับไปอ่านตอนที่หนึ่งใหม่ เพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มขึ้น
ฉากไหนที่ประทับใจสุด?
คงเป็นตอนที่วุธเจอกับเอ้ครั้งแรก
คือตอนนี้เป็นตอนที่เราวนกลับไปอ่านแล้วอ่านอีกหลายรอบมาก เพราะหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าคนที่จับคางเอ้ให้เงยขึ้น คนที่ปรามเพื่อนไม่ให้แกล้งพวกเอ้ กับคนที่บอกว่าจองคนที่สะพายกระเป๋าเป้เป็นคนคนเดียวกันไหม อ่านกี่รอบกี่รอบก็ยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าใช่ก็ต้องบอกว่าชอบมาก เพราะอยากรู้ว่าทำไม วุธถึงได้มาทำตีสนิทกับเอ้ และทำไมถึงได้อยากแกล้งเอ้
คือเราฟังความจากเอ้ไง รู้เรื่องรู้ราว แต่ก็อยากรู้ว่าทำไม วุธต้องทำแบบนี้ มันต้องมีเหตุผลสิ แล้วเหตุผลนั้นคืออะไร
เราลองมานั่ง ๆ คิดดู
เพราะวุธถูกใจเอ้ตั้งแต่แรกเห็น แต่ตัวเองไม่รู้ ทำให้รู้สึกอยากแกล้ง อยากตีสนิท จนพาลเป็นความรักขึ้นมา
หรือว่าเพราะอารมณ์อยากแกล้งจริง ๆ จนกลายเป็นความรู้สึกดี ๆ ขึ้นมา อันนี้เราไม่รู้ แต่มันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของความรักของคนทั้งคู่
ถ้าวุธ(หรือคนในกลุ่ม)ไม่เดินเข้ามาทัก ความรักของคนทั้งคู่ก็ไม่เกิด
จุดเริ่มต้นมักเป็นอะไรที่เราประทับใจเสมอ
แล้วเราก็อึ้งมาก ที่วุธปลอมเป็นโย ตอนแรกก็เข้าใจว่าโยกับวุธรู้จักกัน และกำลังเล่นเกมอะไรกันอยู่โดยเอาเอ้เป็นตัวกลางซะอีก
แต่พอมารู้ว่าวุธปลอมเป็นโย ไม่ใช่แค่เอ้ที่น็อคกลางอากาศ เรานี่ นั่งอึ้งมือจับเม้าส์สั่นไปหมดเลย
มันน็อค มันช็อค มันอึ้ง แล้วเหตุผลล่ะ งั้นที่ผ่านมาล่ะ มันหลายอย่างมาก แต่ความรู้สึกพวกนี้คงไม่เท่าเอ้ที่รู้สึกตอนนั้น เหมือนเราโดนน็อคไปหมัดเดียว แต่เอ้คงโดนสักสิบหมัดหรืออาจมากกว่านั้น คงเจ็บกว่าเราเยอะ
แต่เอ้เข้มแข็งไง (จนเราอึ้ง) ยังมีอารมณ์มาเอาคืนได้อีกนะคนเรา = =
แล้วก็มาอึ้งอีกรอบก็ตอนวุธเลือกออย ไม่คิดว่าวุธจะทำแบบนั้น ถึงสุดท้าย วุธจะกลับมาหาเอ้ แต่เรารู้สึกไม่ค่อยชอบมาพากลกับเหตุผลที่วุธให้มาเท่าไหร่ (ความไม่เชื่อใจมันเต็มหัวเราไปหมดแล้วนี่ - - )
พอดีกำลังหาข้อมูลเรื่องการรับน้องอย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนท่านผู้ตัดสินได้ส่งอาหารที่เราอยากกิน แต่ลืมเขียนลงในใบสั่งมาให้ อารมณ์แบบ เฮ้ย กำลังอยากได้ข้อมูลพวกนี้อยู่พอดี หาตั้งนาน ได้ในแบบที่อยากได้ด้วย มันเหมือนกับเราไม่ใช่ได้เพียงความสนุกจากนิยายเรื่องนี้เท่านั้น ยังได้ข้อมูล ได้มุมมองดี ๆ ได้ฝึกให้เราเข้มแข้งบ้าง ได้รอยยิ้ม ได้น้ำตา ได้เสียงหัวเราะ และอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราไม่คิดว่าจะได้ ก็มาจากเรื่องนี้แหละ อ่าน ๆ ไป บางครั้งหัวใจก็ฟองฟู บางทีก็เหี่ยวจนแทบเอาแว่นขยายมาหาก็ไม่เจอ
อ่านภาคทำงานไป กลัวใจวุธไป ยิ่งทำอะไรให้สงสัย ซ้งติงยิ่งกระตุกมากขึ้น นี่ถ้าวุธมาอยู่ใกล้ ๆ นะ ตืบวุธก่อนความจริงเผยแน่ ๆ
ประทับใจมากที่ห่างหายกันไปนานแต่ก็ยังต่อกันติด คิดในใจ ทำไมใจแข็งกันจัง และคิดว่าพวกคุณสองคน ต้องเคยทำบุญร่วมกันมาแน่ ๆ ถึงได้รักกันขนาดนี้ (แอบคิดเล่น ๆ นะ ว่าชาติที่แล้ว วุธอาจเป็นเสนาฝั่งซ้ายและเอ้เป็นเสนาฝั่งขวา อดีตครอบครัวอาจเป็นศัตรูกันจนรักกันไม่ได้ มาชาตินี้รักกันได้(แม้จะไม่ปกติ) แต่ก่อนจะรักกันได้ ต้องเจออุปสรรค์หลาย ๆ อย่างก่อน คิดว่านะ = =/อย่าไปใส่ใจกับคาดคาดเดามัน = =)
ความรักไม่มีลดไม่มีร่อน ไม่มีอะไรมาบั่นทอนได้ ซ้ำยังเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน จนคนอ่านหัวใจพองทุกครั้งที่ได้ยิน มันสุดยอดมาก จนไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจดี
เอาเป็นว่า ประทับใจมากกกกกก (เพิ่มกอไก่เอาเท่าที่อยากได้นะ)
ตั้งแต่เอ้ไปแอบดูวุธที่บ้าน แทบจะต้องเอาสก็อตเทปอันใหญ่ ๆ มาปิดปากตัวเอง เพราะมันยิ้มไม่หุบ เหงือกแห้งได้ใจ (หลังจากต้องตาแห้งมานาน) ดีใจที่จบดี
ชอบที่เอ้เป็นเอ้ เป็นคนเข้มแข็ง มองโลกในแง่ดี เสียสละ ฉลาด ไหวพริบดี แต่บางทีก็ฐิธิสูง นอยด์ง่าย งอนง่าย แต่ถ้าเป็นตัวเองคงยิ่งกว่านี้ ฮ่า ๆ
แต่ก็นั่นแหละ อะไรหลาย ๆ อย่าง พิสูจน์รักแท้ได้ดีมาก ไม่เพียงเอ้ แต่วุธด้วย ทั้งคู่สร้างฐานอันมั่นคงมาด้วยกัน ต่อกำแพง สร้างห้องนอน เสริมห้องน้ำ จวบจนมาถึงหลังคาจนกลายเป็นบ้านอันสวยงามให้เราดู
หน้าที่ของเอ้กับวุธก็คือ ดูแลบ้านหลังนี้ต่อไปไม่ให้เสื่อมโทรม หาเทียนมาจุด เพิ่มความโรแมนติก หาดอกไม้มาปัก เพิ่มความสดชื่น ปลูกต้นรัก ทำให้บ้านเป็นบ้านที่สมบูรณ์มากขึ้น
ขอบคุณจริง ๆ สำหรับเรื่องดี ๆ แบบนี้
ปล. ชอบความสัมพันธ์กับเพื่อนทุกคนด้วย ขอบคุณเพื่อน ๆ ของเอ้ทุกคน ที่เสริมเติมชีวิตเอ้มาจนถึงทุกวันนี้
ขอบคุณพ่อกับแม่เอ้ที่ดูแลเอ้มาดี(รวมถึงพ่อแม่ของวุธด้วย)
และที่ขาดไม่ได้ ก็ต้องขอบคุณวุธที่เลือกเอ้ในที่สุด และก็ต้องขอขอบคุณเอ้ที่มั่นในรักเช่นกัน
จุ๊บ ๆ รักเอ้ รักวุธ(แต่น้อยกว่าเอ้นิดนุง = =) ขอให้มีความสุขกับการทำงานและชีวิตรักมาก ๆ น้าาา ^^