พิมพ์หน้านี้ - NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ichiichi ที่ 23-02-2018 16:38:49

หัวข้อ: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 23-02-2018 16:38:49
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.1
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 23-02-2018 16:40:32
แนะนำตัวละครนี้ดนึงนะ

ภูเมษ  ศศิธร (เมษ)
รุ่นพี่ปี 3 คณะรัฐศาสตร์ เป็นคนขี้โมโห ขี้หงุดหงิด แต่โกรธง่ายหายเร็ว รักใครรักจริง และถ้าเกลียดก็จะเกลียดจริง เจ้าชู้นิดๆ แต่ถ้ามีแฟนแล้วจะรักแค่คนเดียว เกลียดคนโกหกและการหักหลัง เพราะมีความหลังฝังใจ

(เพื่อนวาดรูปน้องเห็ดมาให้ด้วย อิๆ)
จิตริน คงทรัพย์วิเศษ (เห็ด)
ปี 2 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แค่ชื่อคณะก็รู้แล้วว่าติสท์แตกแน่นอน แต่จริงๆ เป็นเด็กมุ้งมิ้งน่ารัก (?) มีน้ำใจ จริงใจ ชอบเข้าสังคม รักสนุก ซกมกนิดๆ ถ้าชอบใครแล้วจะลุยแบบดับเครื่องชน อ่อนไหวง่าย

พิชญ์
เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยอนุบาลของเห็ด เป็นเหมือนพ่ออีกคนกลายๆ เพราะต้องคอยสั่งสอนและดูแลเห็ดมาตลอด อยากจะหาคนมาช่วยเลี้ยงลูกเห็ดอยู่เหมือนกัน เรียนคณะเดียวกับน้องเห็ด

กันต์
รุ่นน้องปี 1 สายรหัสของเห็ดที่สนิทกันตั้งแต่เจอหน้า เป็นเด็กติดเกมและชอบอยู่คนเดียว ไม่ค่อยมีเพื่อน แต่มักจะไปไหนมาไหนกับเห็ดตลอดจนเหมือนคู่หูดูโอ้

******

ปล. เรื่องนี้น้องเห็ดเป็นคนเล่า และใช้คำแทนตัวเองว่า "น้อง" อาจจะสับสนกันนิดหน่อย แต่เพื่อความมุ้งมิ้งของน้องเห็ด ขอให้ทำใจในการอ่านนะครับผม

คำเตือนด้วย!!!!18+ หยาบคายเล็กน้อยถึงปานกลาง
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.1
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 23-02-2018 16:41:06
NO.409 ห้องเห็ดหันษา

 

ตั้งแต่เปิดเทอมมามีแต่เรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน

 

ไหนจะรับน้อง เข้าเรียน ส่งงาน ซ้อมดนตรี

 

แล้วยังมีปัญหากับรูมเมทคนใหม่!

 

“ไอ้เห็ดแสบ!”

 

“เหี้ย พี่เมษ!!!”

 

******

 

“วันนี้มีอะไรอีกล่ะ กูได้ยินเสียงมึงกับพี่เมษดังไปถึงชั้น 4 อาจารย์นี่ต้องเดินไปปิดหน้าต่างรูดม่านเลยทีเดียว” พิชญ์ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวตั้งแต่สมัยอนุบาลของน้องเห็ดเองครับ มันเดินมาจับไหล่น้องแล้วดันตัวเองลงนั่งเบียดข้างๆ เพราะมีไอ้กันต์ น้องรหัสสายเปลี่ยว (เพราะมันไม่ค่อยมีเพื่อนคบ) นั่งอยู่ข้างน้องแล้ว พูดง่ายๆ คือ พิชญ์มันแทรกตัวเข้ามานั่งคั่นระหว่างเรานั่นเอง (แล้วน้องเห็ดจะอธิบายยาวเพื่อ?)

 

“ไม่มีไรน่า พี่เมษแม่งขี้โวยวาย คนอะไรวะ แค่ยืมของใช้นิดหน่อย ก็บ่น” น้องว่าพลางโยนขนมเม็ดกลมๆ รสปลาหมึกแล้วงับเข้าปาก เหมือนเวลาให้อาหารปลาอ่ะครับ อ้อๆๆๆ พี่ๆ อาจจะยังไม่รู้จักน้อง น้องชื่อเห็ดครับผม จะเรียกว่าน้องเห็ดก็ได้ ป๊าน้องบอกว่าม๊าชอบกินเห็ดทุกชนิดเลยตอนตั้งท้อง ก็เลยตั้งชื่อน้องว่าเห็ดอ่ะครับ แล้วน้องก็ชอบเรียกตัวเองแบบนี้ด้วย ส่วนชื่อจริงน้องน่ะเท๊เท่บอกเลย ชื่อ จิตริน ครับผ๊ม

 

“แล้วมึงไปยืมอะไรเขามาใช้อีก คราวก่อนกูเห็นพี่เมษแทบจะฆ่ามึงทีละ เสือกไปหยิบเสื้อนักศึกษาเขามาใส่แล้วทำขาดเนี่ย” ไอ้พิชญ์แย่งขนมน้องไปกินอ่า น้องมองตามมือเพื่อนที่หยิบขนมใส่ปากอย่างโหยหา ไอ้ห่าพิชญ์ นั่นเม็ดสุดท้ายของกู๊วววว

 

“กางเกงใน” น้องตอบแล้วตบหัวเพื่อนไปทีที่มาเอาขนมชิ้นสุดท้ายของน้องไปแดรกหน้าตาเฉย โมโหๆๆๆ

 

“ไอ้เหี้ยเห็ดสะด๋ำ!” เชี่ยพิชญ์ อย่าพ่นน้ำลายใส่หน้ากูได้ป่ะเนี่ย น้องยู่หน้า กระชากแขนเสื้อของไอ้พิชญ์มาเช็ดๆ ที่หน้า รังเกียจมากบอกเลย “มึงยืมเหี้ยไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กางเกงใน!!! ใครเขาใส่กางเกงในร่วมกันมั่งวะ ไอ้เพื่อนชั่ว!”

 

อย่ามาถลึงตาใส่กูนะพิชชี่ “ทำไม? ก็กูซักไม่ทันอ่ะ มันไม่มีให้ใส่ จะให้กูเดินสะบัดหำมาเรียนรึไง!” น้องเห็ดเถียงอย่างมีเหตุผลด้วยหน้าตามุ่งมั่นจริงจัง แต่ไอ้พิชญ์มันตบหัวน้องกลับมาครับ ฮืออออ เกิดมาป๊าม๊าไม่เคยตีกูสักแอะนะ มีแต่เชี่ยพิชญ์เนี่ยที่ตบเอาๆ ตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย จนสมองน้องจะไหลมากองที่ตาอยู่แล้ว

 

“สมควรโดนพี่เมษด่า” ไอ้น้องกันต์หน้าตาเจี๋ยมเจี้ยมที่นั่งเงียบอยู่นานเงยหน้าจากเกมในมือถือของมันมาสมทบกับไอ้พิชญ์ อะไรวะ ไม่มีใครเข้าข้างน้องเห็ดเลย น้องงอนแล้วนะ

 

“ไม่ต้องทำหน้าเป็นตูด โตเป็นควายแล้วยังสันดานเสีย ป๊าม๊ามึงตามใจ แต่กูจะไม่ตามใจลูกควายๆ อย่างมึงแน่! เอากางเกงในไปคืนพี่เมษยัง? ขอโทษพี่เขาด้วยนะไอ้เห็ดสะด๋ำ” ไอ้พิชญ์ได้ทีใส่น้องใหญ่เลย ป๊าม๊าช่วยน้องด้วยคร้าบบบบ

 

“จะให้กูถอดเลยมั้ยล่ะ” น้องลุกขึ้นแกะเข็มขัด จนไอ้พิชญ์กับไอ้กันต์ร่วมแรงร่วมใจกันดึงแขนไว้แทบไม่ทัน “อะไรของพวกมึงเนี่ย ก็กูจะเอาไปคืนพี่เมษไง!”

 

“แต่มึงจะมาถอดตรงนี้ไม่ได้ ไอ้เหี้ยเห็ด!!!!”
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.1
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 23-02-2018 16:41:35
น้องเห็ดมีความย้อนแย้ง เรียกตัวเองซะน่ารัก แต่จริงๆ แม่งโครตหยาบคาย ฮ่าๆๆๆ



1

#เห็ดพิชญ์ #เห็ดพิษ VS #เห็ดกันต์

 

“อะไรคือแฮ่ดแท่ก”

 

“แฮชแทคไอ้เห็ดควาย!” แล้วทำไมมึงต้องออกเสียงกระแดะแบบนั้นด้วยวะพิชชี่ น้องมองหน้าเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ ก็ไอ้กันต์มันเอาไอแพดมาเปิดให้ดูทวิตเตอร์ที่มีการติดแฮ่ดแท่กอะไรสักอย่าง เป็นชื่อน้อง? ใช่มั้ยนะ? แต่รูปมันรูปน้องไง หลายอิริยาบถเลยด้วย โห~มุมดีมาก หล่อเชียวกู เสียดายไม่น่าติดไอ้พิชญ์กับไอ้กันต์มาบดบังรัศมีความหล่อ

 

“ช่วงนี้สาววายในมอเราฮิตลงรูปพวกพี่มากเลยนะ แถมยังเผื่อแผ่มาถึงผม ทั้งที่ไม่ได้ต้องการ...” กันต์ทำหน้าเซ็งๆ แถมยังถอนหายใจอีก

 

“สาววาย? คืออะไรวะพิชญ์?” น้องหันไปทำตาปริบๆ ใส่คุณพ่อพิชญ์ ใครเห็นความน่ารักใสๆ ของน้องเป็นต้องเอ็นดูทุกราย เชื่อมั้ย!? เออ ไม่เชื่อก็ได้ ไอ้พิชญ์มันไม่เอ็นดูน้องหรอก ลำไยว่ะ!

 

“กูจะรู้มั้ยล่ะ ถามไอ้กันต์สิ”

 

“สาววายก็คือผู้หญิงที่ชอบจิ้นผู้ชายกับผู้ชายไงพี่ แค่ยืนด้วยกันก็เอาไปจิ้นได้แล้ว” ไอ้กันต์เฉลยข้อสงสัย แต่น้องก็ยังสงสัยอยู่ดีว่ะ

 

“จิ้นอะไร? อะไรคือจิ้นอ่ะ พิชญ์?” น้องหันไปทำตาแบ๊วใส่เพื่อนอีกครั้ง คราวนี้ไอ้พิชญ์แทบจะประเคนตีนกลับมา อะไรวะ ไม่เอ็นดูกูหน่อยเหรอ เชี่ยพิชญ์ เย็นนี้กูจะแย่งไก่ทอดมึงแดก! (หนูเป็นหมาเรอะลูก?)

 

“จิ้นก็มาจาก Imagine Imagination ย่อสั้นๆ ว่าจิ้น คือจินตนาการ หรือมโนนั่นเอง” ไอ้กันต์ช่วยอธิบายต่อ โดยที่น้องก็ไม่คิดจะหันไปถามคนรู้จริงอย่างมัน ไม่มีอะไรหรอก น้องแค่อยากกวนตีนไอ้พิชญ์เฉยๆ ฮ่าๆๆๆ

 

“แล้วรูปกูกับมึงแล้วก็ไอ้พิชญ์มันเกี่ยวอะไรวะ” อ๊ะ! แต่ #เห็ดพิษ นี่แม่งโครตเท่ เข้าท่าดีว่ะ ถ้าน้องกับพิชญ์ไปเป็นนักร้องดูโอจะใช้ชื่อวงว่าอันนี้เลย

 

“เอ่อ...” ไอ้กันต์ทำหน้าเหม็นเบื่อเหมือนขี้เกียจอธิบายแล้ว “ก็เขามโนว่าพวกเราสามคนเป็นแฟนกันไรงี้ไง”

 

“อ๋อออออ” น้องลากเสียงยาวพลางหยักหน้าหงึกหงัก แต่เดี๋ยวนะ... “ไอ้เหี้ย!!! ใครเป็นแฟนพวกมึง!” แล้วสามคนเลยเรอะ!

 

“พี่...มันก็แค่จินตนาการของสาวๆ สาววายที่บอกอ่ะ เขาชอบชายรักชายไง ผมก็เป็นหนุ่มวายนะ แต่ผมจิ้นหญิงxหญิงว่ะ ฮ่าๆ” มึงยังมีหน้าด้านๆ มาหัวเราะอีกนะไอ้กันต์

 

น้องจะฟ้องป๊าม๊า!!! ใครมันเอาน้องไปปู้ยี่ปู้ยำรวมกับไอ้บักหำสองตัวนี้วะ!!! เจอตัวกูจะกระทืบไม่เลี้ยง!!!

 

๕๕๕๕๕๕

 

“พี่เห็ดคะ หนูซื้อขนมมาฝาก” ว้าวๆๆๆ น้องสาวสุดน่ารักของน้องเห็ดเองครับ แต่จำชื่อไม่ได้หรอก สาวน้อยคนนี้ชอบเอาขนมมาให้น้องกินแทบทุกวันเลย น้องชอบมาก ขนมอ่ะนะ

 

“ขอบคุณครับ” น้องยิ้มหวานรับของกินมาด้วยความเต็มใจ สาวน้อยตาโตหน้าแดงก่ำ คงจะดีใจสุดขีดที่ได้เห็นรอยยิ้มของน้องสินะ

 

“กะ กินเยอะๆ นะคะพี่เห็ด” แล้วสาวน้อยก็วิ่งเอียงอายหายไป อะไรของเขาวะ

 

“โห พี่แม่ง ได้ขนมอีกละ ทำไมกูไม่ได้มั่งวะเนี่ย” ไอ้กันต์ที่นั่งเล่นเกมอยู่ใกล้ๆ คว้าถุงขนมในมือน้องไปดู มีหลายอย่างเลย ทั้งคาราx ป๊อกx โคอาล่าx เยลลี่หมีน้อย และขนมอากาศ (เพราะข้างในแม่งมีนิดเดียว ที่เหลืออัดลมมาเต็ม) แถมน้ำอัดลมอีกสามขวด สงสัยจะเผื่อสัมภเวสีสองตัวที่นั่งอยู่ด้วย

 

“กูเห็นมีคนทวิตว่า เห็ดน้อยชอบกินขนม โดยเฉพาะคาราx” ไอ้พิชญ์มันเอานิ้วเลื่อนๆ หน้าจอมือถืออ่านข้อความให้น้องฟัง คือมือถือน้องไม่ได้กากนะครับ แต่น้องไม่ชอบเล่นโซเชี่ยล มีแค่ไลน์ เอาไว้ให้พวกมันตามตัว แล้วก็เผื่อเวลาอาจารย์สั่งงานหรือยกเลิกคลาส

 

“พี่มึงน่าจะลองสมัครเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์หรือ IG มั่งนะ จะได้รู้ความเคลื่อนไหวของตัวเองและผู้อื่นบ้าง” กันต์หยิบโคอาล่าx ของน้องไปเปิดกินหน้าตาเฉย ไอ้สัส กูยังไม่ได้บอกจะให้แดก

 

“กูไม่ชอบ จบมั้ย” น้องแย่งขนมคืนมา แล้วนั่งลงข้างๆ ไอ้พิชญ์ สักพักเสียงแจ้งเตือนประหลาดๆ ในไอแพดของไอ้กันต์ก็ดัง

 

“พี่ๆ มึงดูดิ แค่พี่นั่งข้างพี่พิชญ์ ก็โดนแล้ว” ไอ้กันต์ส่งไอแพดมาให้น้องกับไอ้พิชญ์ดู เป็นหน้าเพจเฟซบุ๊คอะไรสักอย่างคิ้วคิ้ว คิ้วพ่อง

 

“รูปกู?” น้องขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ นี่มัน...รูปตอนนี้เลยนี่หว่า อะไรมันจะอัพเดทปานนั้น น้องนี่เสียวสันหลังวาบ หันรอบทิศเผื่อมีสตอล์คเกอร์ซุ่มอยู่แถวนี้ เหี้ย น่ากลัวเกินไปแล้วสาวอะไรนะ? เออ ช่างแม่ง

 

“พี่ลองทำอะไรสักอย่างกับพี่พิชญ์ดิ น่าจะได้ของเด็ด” ไอ้กันต์ยักคิ้วหลิ่วตามาให้พวกน้อง ไอ้พิชญ์กับน้องมองหน้ากันงงๆ แล้วพิชญ์มันก็ยักไหล่หันกลับไปทำงานของมันต่อ

 

“เฮ้ย! มึงเริ่มแล้วเหรอวะ” งานที่ไอ้พิชญ์ทำอยู่ มันคืองานที่จารย์เพิ่งสั่งเมื่อวานเองนะเว้ยเฮ้ย อะไรจะรีบปานนี้ น้องตกใจตาโตเขยิบเข้าไปเบียดไอ้พิชญ์เพื่อจะแย่งงานของมันมาดู แต่ไอ้พิชญ์มันไม่ให้ไง ก็เลยตีกันไปมา

 

แล้วเสียงไอแพดไอ้กันต์ก็ดังระรัว

 

๕๕๕๕๕๕

 

ตกเย็น มีกิจกรรมรับน้องที่พวกน้องไม่เคยคิดจะเข้าร่วม ให้คนอื่นทำไป แค่ไปยืนดูแล้วกลับพอ

 

“เดี๋ยวไปแดกไรหน้ามอกันป่ะ” พิชญ์หันมาชวนน้องที่เดินตามหลังมันอยู่ ไอ้กันต์ก็เดินอยู่ข้างไอ้พิชญ์นั่นแหละ เพราะน้องกำลังง่วนกับการเปิดอ่านไลน์และตอบคำถามของพี่เมษอยู่

 

“พวกมึงไปก่อนเลย กูจะแวะไปหาพี่เมษแป้ป” น้องเงยหน้ามองเพื่อนกับรุ่นน้องแล้วโบกมือลา ก่อนจะรีบวิ่งเลี้ยวไปทางคณะรัฐศาสตร์ อ้อ ลืมบอกไป ไอ้พี่เมษมันเรียนคณะนี้ครับ อยู่ปี 3 แล้ว ส่วนน้องอยู่ปี 2 ถาปัด

 

พอมาถึงหน้าตึกคณะก็เจอไอ้พี่เมษยืนกอดอกรออยู่

 

“กูซักไว้ให้มึงแล้ว กลับไปเปลี่ยนแล้วเอาของกูคืนมา” พี่มันว่าหน้านิ่งๆ โหหหห ใจดีอ่ะ ใจดีมากเลย ซักกางเกงในให้น้องด้วย ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แม่ก็ไม่ซักกางเกงในให้น้องแล้ว พี่เมษ มึงเป็นคนแรกที่ได้ซักกางเกงในกูเลยเนี่ยยยยย

 

“จะให้ผมคืนที่ห้องหรือเอามาคืนที่นี่?” พอถามไปแบบนั้น พี่มันก็ตบหัวน้องจนหน้าแทบคว่ำ

 

“มึงกวนตีนรึไงวะ คืนไว้ที่ห้องสิเว้ย จะถ่อเอามาที่นี่อีกทำเชี่ยไร”

 

“พี่ไปส่งผมที่หอหน่อยสิ” น้องยื่นหน้าไปหามันแล้วทำหน้าแบ๊วสุดฤทธิ์ เจอลูกอ้อนกูมึงต้องใจอ่อน ไอ้หน้าโหด!

 

“เอากุญแจรถไป แล้วขับกลับมาคืนกูด้วย” อ่ะโด่ แม่งไม่ไปส่ง แต่ก็ยังดียอมให้กุญแจรถมา มันขี่มอเตอร์ไซค์ครับ Yamaha M-SLAZ อย่างเท่เวลาขี่ แต่เวลาซ้อนแม่งลำบากฉิบหาย

 

“แต้งกิ้วครับ เดี๋ยวผมมารับพี่กลับห้องนะ จุ๊บๆ” น้องส่งจูบให้พี่เมษเลยโดนมันตบกลับมาอีกรอบ แม่งจะโหดไปไหนไอ้ห่าพี่เมษ ไม่ใจดีกับกูเลย

 

๕๕๕๕๕๕

 

แล้วน้องก็เลยต้องรีบขี่ลูกรักของไอ้พี่เมษกลับหอไปเปลี่ยนกางเกงในที่พี่มันซักไว้ให้ โหวววว มันซักให้ทุกตัวเลยด้วยเว้ย ตากเรียงกันเป็นตับบนราวผ้าหน้าระเบียงแบบเรียงสี! นี่มึงไม่คุมโทนสีกางเกงในให้กูไปเลยล่ะพี่เมษ!!!

 

น้องเห็ดรีบเปลี่ยนกางเกงในตัวใหม่ใส่สบายทันที ใส่ของพี่เมษแม่งอึดอัดจะตายห่าอยู่แล้ว แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ไม่มีใส่ จะให้เดินโทงเทงไปยืมของไอ้พิชญ์เรอะ!

 

พอเปลี่ยนเสร็จก็กะจะโยนของพี่เมษใส่ตะกร้าข้างเตียงมันเนี่ยแหละ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นโพสอิสสีเขียวๆ แสบตาบนโต๊ะของพี่มันเข้า

 

ตารางเรียนกับประชุมคณะ กิจกรรมแม่งเพียบเลยนี่หว่า จะกลับมาทันหอปิดมั้ยวะ โห เหนื่อยตายห่า แล้วจะมีเวลาแดกข้าวแดกน้ำมั้ยน่ะ

 

แบบนี้น้องเห็ดซื้อข้าวกล่องกับขนมมาฝากพี่เมษเป็นการขอบคุณด้วยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 23-02-2018 21:24:02
แต่ละตอนมันก็จะสั้นๆ ดูเรื่อยๆ เอื่อยๆ พักดราม่าจากอีกเรื่องไว้ก่อน อึนมากตอนนี้

2
ตอนนี้น้องเห็ดกำลังเอร็ดอร่อยกับบุฟเฟ่อาหารทะเลหน้ามออยู่ครับ น้องชอบกินปลาหมึกกับกุ้งมากๆๆๆ ถึงมากที่สุด โดยเฉพาะไข่ปลาหมึกกกก มันคือที่สุดของบรรดาอาหารทั้งหมดในโลกนี้ก็ว่าได้ อย่าหาว่าน้องเห็ดเว่อร์นะ!!! เดี๋ยวฟ้องป๊าม๊าเลยนี่!!!

“อ้าว? แป้ปเดียวจะสามทุ่มครึ่งละ รีบแดกแล้วกลับหอเหอะ” เสียงไอ้พิชญ์ดังขึ้นทำลายความสุข

“พี่พิชญ์ ไปส่งผมด้วยนะ” ไอ้กันต์กระตุกแขนเสื้อไอ้พิชญ์ยิกๆ ไอ้กันต์มันต้องกลับบ้านไง ส่วนพวกผมน่ะอยู่หอในกันหมด ที่บอกว่าไปส่ง ก็คือส่งกันต์ขึ้นรถตู้นั่นเอง

“เออๆ อย่าดึง เสื้อยับหมด” ไอ้พิชญ์ขยับแขนหนีคล้ายจะรำคาญ น้องมองพวกมันแล้วก็ส่ายหน้า กินต่อดีกว่า เดี๋ยวต้องกลับห้องแล้ว ไม่รู้ป่านนี้ไอ้พี่เมษมันซ้อมดนตรีเสร็จรึยัง น้องไม่ค่อยได้คุยกับพี่เมษหรอก หน้าแทบจะเจอกันนับครั้งได้ตั้งแต่เปิดเทอมมา เพราะพี่มันเป็นเด็กกิจกรรม ไม่เหมือนน้องที่เลิกเรียน ถ้าไม่มีงานต้องทำส่ง ก็เอ้อระเหยลอยชายไปเรื่อยเปื่อย

ไอ้พี่เมษมันทั้งเรียน ทั้งเป็นพี่ว้าก แล้วยังต้องซ้อมดนตรีกับชมรมของมันด้วย ปีที่แล้วน้องเคยไปดูมันเล่นในงานเฟรชชี่ไนท์ มันตีกลองโครตเท่อ่ะ ในห้องก็มีกีต้าร์โปร่งด้วย มันเล่นดนตรีได้หลายชนิดเลย น้องก็อยากจะเล่นเป็นนะ อยากให้มันสอน แต่ดูมันไม่ว่างเอาเสียเลย

ติ้วๆๆๆๆ

โอ๊ะๆ เสียงมือถือน้องเองครับ ขอรับสายก่อน ป๊าโทรมาหา “ครับป๊า”

[พรุ่งนี้กลับบ้านหรือเปล่าน้องเห็ด]

“อ่า...” นี่เพิ่งเปิดเทอมมาอาทิตย์เดียวเองครับป๊า!!! ไม่ต้องคิดถึงน้องขนาดนี้ก็ได้ ให้น้องได้อยู่กับเพื่อนฝูงบ้างไรบ้าง “คงยังนะป๊า เพิ่งเปิดเทอม อะไรๆ มันยังไม่ลงตัวหลายอย่าง ถ้าน้องจัดการทางนี้เรียบร้อยแล้วจะกลับไปกอดป๊าม๊าทุกอาทิตย์เลยนะครับ” ต้องงัดสกิลการอ้อนขั้นสิบมาใช้เสียหน่อย เสียงงุ้งงิ้งๆ ของน้องคงไปสะกิดต่อมไตไอ้เวรสองตัวข้างหน้า แม่งกลั้นขำกันสุดฤทธิ์ สัส กวนตีนนะพวกมึง!!! เดี๋ยวกูหลุดหยาบใส่มือถือ ได้โดนป๊าตีตายห่า

[อาทิตย์นี้ป๊ายอมก็ได้ แต่อาทิตย์หน้าน้องเห็ดต้องกลับบ้านนะ]

“โอเคครับ บ๊ายบายครับป๊า” น้องถลึงตาใส่ไอ้สองตัวที่ระเบิดเสียงหัวเราะทันทีที่เห็นน้องกดวางสาย “ขำมากมั้ยไอ้สัส! พวกมึงไม่แดกกูเหมาหมดนะ”

******

พอกินเสร็จเดินออกจากร้าน (จ่ายตังแล้วด้วยครับ) เสียงมือถือก็แผดเสียงขึ้นมาอีก รอบนี้เป็นไอ้พี่เมษ

“ไงพี่ กลับหอยัง”

“ไอ้เห็ด กูไปส่งกันต์ขึ้นรถนะ” เสียงไอ้พิชญ์แทรกเข้ามา พร้อมเสียงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ของมัน น้องเห็นไอ้กันต์กระโดดขึ้นไปซ้อนท้ายเรียบร้อย ก็พยักหน้าให้พวกมันแล้วคุยกับพี่เมษต่อ

“โทษทีพี่ เมื่อกี้ว่าไงนะ”

[เอารถกูมา] เหี้ยแม่งหลอน! ไอ้พี่เมษพูดทวงรถของมันด้วยเสียงเย็นๆ ใส่โทรศัพท์ ทำเอาน้องขนลุกซู่เลยดูดิ

“เอ้ย ผมลืมเลยพี่ เดี๋ยวไปรับ พี่อยู่หน้าตึกรัดสาดป่าว” ผมรีบขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วสตาร์ทเครื่อง

[เออ เร็วๆ ด้วย] เสียงมันเหมือนคนง่วงนอนมากกว่าว่ะ น้องขอวางสายแล้วรีบบึ่งไปรับพี่เมษโดยด่วน

******

“มึงช้า เหี้ยเห็ด!” หวาย มาถึงแม่งก็จะแดกหัวผมก่อนเลย เวลามันง่วงแล้วเป็นแบบนี้เหรอวะ น้องกลัวนะไอ้พี่เมษ หัวใจกูวายตายทำไง

“ขอโทษๆๆๆๆ ขึ้นมาดิ” น้องยกมือไหว้ขอโทษมันปลกๆ แล้วเรียกมันมาซ้อนท้าย หน้าง่วงขนาดนั้นให้มันขี่มีหวังตายโค้งหน้านี่แหละ

มันทำฮึดฮัดไม่พอใจแต่ก็เดินมาซ้อนท้าย แล้วพอน้องจะบิดรถออกไป ไอ้พี่เมษก็ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนหลังของน้อง

“เฮ้ย พี่ หลับเลยเหรอวะ?” น้องเอี้ยวตัวไปมองมันที่เอนหน้ามาซบที่หลัง มันหลับตาพูดเสียงอู้อี้

“ขี่ๆ ไป” มันพูดแค่นั้นแล้วก็เหมือนจะนิ่งสนิทไปเลย ไอ้เราก็กลัวมันจะไหลตกรถ ช่วยไม่ได้ ดึงมือมันมาจับไว้ข้างหนึ่งแล้วกันวะ

พอมาถึงห้อง น้องก็วางข้าวกล่องกับขนมให้มันบนโต๊ะ ไอ้พี่เมษดูจะตาสว่างขึ้นมาเล็กน้อย มันเงยหน้ามองน้อง งงๆ

“อะไรวะ?”

“ข้าวไง ผมซื้อมาเผื่อ ไม่รู้ว่าพี่กินรึยัง อุตส่าห์กลับมาซักกางเกงในให้ผมนี่ เลยอยากตอบแทนบ้าง” น้องย่นจมูกนิดๆ เขินเหมือนกันที่ต้องพูดอะไรแบบนี้กับมัน “ขอบคุณนะพี่”

พี่เมษขมวดคิ้ว จ้องน้องแล้วนิ่งไปนานมาก “เออ...ไม่เป็นไร แต่ทีหลังมึงจะหยิบอะไรถามกูก่อนด้วย”

“ครับ ก็ถ้าพี่อยู่ให้ถามอ่ะนะ” ใช่แล้วครับ ก็ตอนที่น้องต้องการจะหยิบยืมอะไรสักอย่าง เชี่ยพี่แม่งเสือกไม่อยู่ตลอดเลยนี่หว่า “แล้วผมก็ส่งไลน์ไปบอกแล้วด้วย”

“แล้วมันใช่เรื่องที่กูต้องให้มึงยืมกระทั่งกางเกงในไปใส่มั้ยวะ” มันทำหน้าโหดใส่อีกแล้ว

“โห พี่ ก็ผมลืมซักไว้” น้องใช้เสียงสองอ้อนมันดู เผื่อมันจะยอมใจอ่อนกับน้อง

“งั้นกูจะตั้งเตือนมึงไว้ทุกอาทิตย์ว่าได้เวลาซักตอนไหนดีมั้ย ไอ้เห็ด!”

“เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีมั้ยพี่ แดก เอ๊ย กินข้าวดีกว่านะ” พอมันเสียงแข็งกลับ น้องก็หงอแล้วครับ ไม่เอาดีกว่า จบเรื่องกางเกงในสักทีเหอะว่ะพี่เมษ เดี๋ยวข้าวมึงก็เป็นหมันพอดี

“ป้อนกูสิ กูขี้เกียจขยับตัว และโทษฐานที่กูต้องมานั่งซักผ้าให้มึง โครตเสียเวลา” โห นี่ทวงบุญคุณกันขนาดนี้เชียว มันยกเท้ามาวางบนตักน้อง เพราะน้องนั่งบนเก้าอี้ ส่วนมันนั่งบนเตียง แถมยังกระดิกนิ้วตีนอีก ความเหี้ยระดับสิบ

“พี่เป็นง่อยเหรอ”

“อย่ากวนตีน”

“ก็พี่กวนตีนใส่ผมก่อน”

“จะป้อนไม่ป้อน!” หยึย แม่งยกเท้าเกือบโดนหน้าน้องแน่ะ ไอ้พี่เมษแม่งเหี้ยกว่าที่คิด อยากให้แฟนคลับมันมาเห็นจริงๆ ไอ้นิสัยแบบเนี้ย แล้วน้องจะทำอะไรได้ล่ะ! นอกจาก...

“ป้อนก็ได้ครับ”

******

“เห็ดไม่สำ” น้องหันขวับ เพราะได้ยินชื่อตัวเอง วันนี้วันเสาร์ ไม่มีเรียน และพวกเราก็ไม่ยอมกลับบ้าน จริงๆ บ้านน้องอยู่ในเมือง จะกลับก็กลับได้ แต่น้องยังไม่อยากกลับไง ส่วนพี่เมษบ้านมันอยู่ต่างจังหวัดโครตไกล มันเลยกลับแค่ตอนปิดเทอม

อยากรู้มั้ยครับว่าทำไมน้องกับมันถึงมาอยู่ห้องเดียวกันได้ ก็แค่รูมเมทของน้องกับของไอ้พี่มันย้ายออกไง พวกเราก็เลยโดนจับโยนมาอยู่ห้องเดียวกัน ไม่ใช่ว่ารูมเมทเก่าพวกเราทนนิสัยพวกเราไม่ได้นะ ไม่ใช่จริงจริ๊งงงงง

“อะไรพี่ เรียกแล้วเงียบ”

“เปล่า ไม่มีไร หึๆ” อ้าว? เชี่ยนี่ เรียกกูแล้วบอกเปล่าแล้วก็หัวเราะคนเดียว นี่มึงบ้าหรือบ้าวะพี่ น้องไม่อยากสนใจแม่งละ หนีไปหาอะไรกินข้างล่างดีกว่า

“จะไปไหนอ่ะเห็ด” พอน้องจะออกจากห้อง มันก็เบรกไว้อีก น้องหันไปมองหน้ามัน

“ไปหาหนมกิน หิว” แล้วจะได้มีสมองมาคิดงานต่อด้วย เปิดมาอาทิตย์แรกอาจารย์แม่งก็สั่งงานกันแล้วอ่ะ ไอ้เพื่อนเลวก็เสร่อรีบทำด้วย น้องไม่อยากแพ้ไอ้พิชญ์ เป็นเพื่อนและคู่แข่งกันมาตั้งแต่อนุบาลเชียวนะเว้ยเฮ้ย!

“ซื้อมาฝากด้วย ตังมึงนะ” มันทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ อ่านหนังสือการ์ตูนในมือต่อ อ้าวเฮ้ย...ไอ้พี่ ได้ไงวะ เป็นพี่ต้องเลี้ยงน้องสิวะ

“ไรวะ” ทำไงได้ อยู่กับรุ่นพี่ก็ต้องยอมมันไปก่อนอ่ะ น้องไม่สู้คนนะบอกเลย โดยเฉพาะกับคนอย่างมัน

น้องเดินลงมาจากชั้น 4 ของหอพัก แวะทักทายเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แถวหน้าเคาน์เตอร์แล้วก็ออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อด้านนอกตึก

“พี่เห็ด!” ก้าวขาออกจากหอไม่ทันไรก็มีสาวๆ มาทักแล้วอ่ะ ทำไงได้ คนมันฮอต อุคริๆ

“พวกหนูมารอพี่ตั้งนานแน่ะ มีขนมมาฝากด้วยค่ะ” อ้าวๆๆๆ แบบนี้น้องเห็ดไม่ต้องเสียเงินซื้อแล้ว เยอะขนาดนี้ สามสี่ถุงแน่ะ สาวๆ ใจป้ำอ่ะ น่ารักทุกคนเลยคร้าบ แหม พี่ล่ะอยากจิหยิกแก้มคนละที

“ขอบคุณมากครับ โหววว มีแต่ขนมที่พี่ชอบกินทั้งนั้นเลย” น้องตาลุกวาวเหมือนเด็กๆ พวกสาวๆ ก็กรี้ดกร้าดกันใหญ่ ชมว่าน้องน่ารักด้วย น้องชอบให้คนชม ไม่ชอบไอ้ที่เอาแต่ด่าเหมือนพี่เมษหรอก

ได้ของแบบไม่ต้องเสียตังแล้วก็กลับห้องครับ แบ่งให้เพื่อนๆ ใต้ตึกไปสามถุง เพราะน้องกับพี่เมษเอาแค่ถุงเดียวก็พอ พี่เมษมันกินน้อยจะตายไป ข้าวกล่องที่ซื้อให้ก็ยังบ่นๆ ว่าไม่อร่อย แล้วแม่งก็แดกเหลือตั้งเกือบครึ่งกล่อง น้องต้องกินต่อให้หมดอีก เสียดายของ!

“อ่ะ” น้องโยนขนมให้พี่เมษมันห่อหนึ่ง อีกสองห่อที่เหลือนี่ของน้องนะ ห้ามยุ่งๆ ทำมือกั้นๆ อาณาเขตไว้เลย ไอ้พี่เมษทำหน้าเอ๋อแดกอีก

“ทำไรของมึงไอ้เห็ด”

“กั้นเขตไง สองถุงนี่ของผม พี่ห้ามเข้ามาหยิบนะ ถ้าจะกินต้องขอผมก่อน” น้องยู่ปากใส่มันอย่างน่ารัก หรือใครจะเถียงว่าน้องไม่น่ารัก!

“ทีของกูมึงเสือกหยิบไม่ขอ เลวนะมึงน่ะ!” ไอ้พี่เมษหน้าตาถมึงทึง ลุกพรวดมาจะแย่งขนมของน้อง

“เฮ้ยๆๆๆ ไม่เอาพี่เมษ ไม่แกล้งน้อง!” น้องถอยๆๆ ไปจนชนขอบโต๊ะแล้ว ไอ้พี่เมษมันยังทะลึ่งเบียดเข้ามาอี๊ก ตัวก็เตี้ย ยังริอาจจะยื้อแย่งของกับน้อง

“กูจะกินอันนี้” แล้วมันก็แย่งขนมในมือน้องไปจนได้ แต่เฮ้ยยย นั่นมันคาราx ของกูววววว

“ไม่ได้พี่! นั่นมันของโปรดผมนะ!” น้องหน้ามุ่ย พี่มันเดินหนีกลับเตียงมันไปแล้ว น้องก็วิ่งตามไป จะเอาของโปรดคืน แบมือรอด้วย

“อะไรของมึงอีกไอ้เห็ดไม่สำ!” มันมองหน้าน้องแล้วเลื่อนสายตาลงข้างล่าง แล้วก็เลื่อนมามองหน้าอีกรอบ

“เห็ดไม่สำห่าไรของพี่ ผมขอถุงนั้นคืนนะ ผมชอบกินที่สุดเลย ให้ผมเหอะนะ” ไม่ให้กูจะดิ้นเร่าๆ บนพื้นร้องแรกแหกกระเชิงให้ลั่นหอเลย เอาดิ

“มึงนี่เป็นเด็กประถมรึไง กะอีแค่ขนม” พี่เมษถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก็ยอมส่งขนมคืนมา “แกะเลย กูกินด้วย กูก็ชอบอันนี้เหมือนกัน” เอ้า รสนิยมเดียวกันก็ไม่บอกแต่แรก

เอาจริงๆ น้องรู้จักพี่เมษแบบผ่านๆ จากงานเฟชชี่ไนท์ที่ว่าแหละ แล้วก็เคยคุยกันก่อนหน้านี้สองสามครั้ง เพราะอยู่หอเดียวกัน และพี่มันก็รู้จักพวกพี่ๆ ในถาปัดของน้อง แต่น้องไม่เคยคิดนะ ว่าไอ้พี่เมษจะหยาบคาย หยาบกระด้าง แล้วก็ขี้แกล้งได้ขนาดนี้ พอมาอยู่ห้องเดียวกันนี่รู้ซึ้งเลย กับสันดานพี่เมษ แต่ว่า...มันก็มีข้อดีแหละ อย่างที่เสียเวลามาซักผ้าให้น้อง ก็ถือเป็นข้อดี ถ้าไม่ติดว่าแม่งมาทวงบุญคุณกันยิกๆ ทีหลัง ใช้งานน้องอย่างกับทาสอ่ะนะ และถึงมันจะขี้โมโห ขี้วีน เวลาที่น้องไปหยิบของมันมาใช้ แต่มันก็ไม่เคยโกรธจริงๆ จังๆ สักที แป้ปๆ แม่งก็กลับมาดีเหมือนเดิมละ เหมือนคนวัยทองแบบม๊าน้องเลย

เพราะพี่เมษบอกว่าชอบกินเหมือนกัน น้องก็เลยแกะห่อขนมแล้วนั่งลงข้างๆ มันบนเตียงมันนั่นแหละ มดขึ้นก็ขึ้นเตียงมึงนะพี่

แบ่งกันกินก็ได้ ไม่ได้หวงนักหรอก แค่ขนมถุงเดียวเองเนอะ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 24-02-2018 01:42:24
นับถือใจพี่เมษเลย ลงทุนซักกกน.น้องเห็ดแลกกับกกน.ของตัวเอง  o13
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 24-02-2018 09:54:55
หรรษา แบบนี้รึเปล่าคะไรท์
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-02-2018 10:55:40
พี่ลงทุนซัก กกน ให้น้องทั้งหมดเลยเหรอ นับถืิือๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 24-02-2018 11:15:19
นับถือใจพี่เมษเลย ลงทุนซักกกน.น้องเห็ดแลกกับกกน.ของตัวเอง  o13

#คนหวงกางเกงใน2018 5555
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 24-02-2018 11:21:18
 :pighaun:
หรรษา แบบนี้รึเปล่าคะไรท์

ใช่คับ เรากะจะเล่นคำ แต่ดูไม่น่าเกต ฮ่าๆ เด๋วมาเปลี่ยนนะ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 24-02-2018 11:21:49
พี่ลงทุนซัก กกน ให้น้องทั้งหมดเลยเหรอ นับถืิือๆ

พี่เมษว่างงาน
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหันษา EP.2
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 24-02-2018 11:23:36
https://my.dek-d.com/takakanata/writer/viewlongc.php?id=1769792&chapter=1

มีรูปพี่เมษกับน้องเห็ดมาฝากฮะ แต่ลงรูปในนี้ไม่เป็น เข้าไปดูในเด็กดีแล้วกันนะ เพื่อนวาดให้
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.2 update pic
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 24-02-2018 14:58:43

หลายเรื่องก็จะมึนๆ หน่อย

3
“ไอ้เหี้ยเห็ด!!!!”

โอยยยย หนวกหูแต่เช้าเลยครับท่านผู้อ่าน ไม่รู้อีพี่เมษมันแดกโทรโข่งเข้าไปหรือไง หูจะแตกแต่เช้าตรู่ วันนี้วันอาทิตย์นะเฮ้ย

“นี่มึงคืนกูทั้งอย่างนี้เลยเรอะ! ทำไมไม่ซักมาคืน ไอ้เด็กเปรต ไอ้ซกมก ไอ้...ด่าไรดีวะ เหี้ย! มึงแม่ง! ทำไมกูต้องมาเจอะมาเจอคนอย่างมึงด้วยวะ เอาไปซักเดี๋ยวนี้!” มันโวยวายหัวฟัดหัวเหวี่ยงโยนกางเกงในคุ้นตาใส่หัวน้อง อี๋ สกปรก!

น้องใช้ปลายนิ้วคีบกางเกงในของมันออกจากหัว เอ๊ะ หน้าตามันคุ้นๆ ว่ะ ใช่ไอ้ตัวที่ถอดคืนมันเมื่อวันศุกร์รึเปล่าวะ

“อะไรอ่าพี่เมษ” น้องเห็ดต้องทำตัวแบ๊วเข้าไว้ครับ ป๊าม๊าบอกว่าเวลาเจอคนดุ เราต้องอ้อนเข้าไว้ ให้เขาใจอ่อน ใจเย็น เพราะน้องน่ารัก น้องทำอะไรเขาก็จะได้ไม่โกรธ (สอนดีมาก)


“มึงไม่ต้องมาใช้เสียงสองออดอ้อนด้วยหน้าตาตอแหล! ซักมาคืนกูเดี๋ยวนี้! ไม่ใช่มาโยนใส่ไว้ในตะกร้าให้กูซักเอง ไอ้เวรตะไล!” ทำไมพี่เมษปากจัดจังวะ หูยยย น้องเห็ดรับไม่ได้ ไอ้สัส

“แต่ผมยังง่วงอยู่เลย บ่ายๆ ค่อยซักนะ” ว่าแล้วน้องเห็ดก็ล้มตัวลงนอนต่อดีกว่า กอดกางเกงในพี่เมษไว้ในอ้อมอกด้วย

“...” พี่เมษมันเงียบไป แต่น้องรู้สึกว่ามีรังสีแปลกๆ รอบตัวจนนอนไม่ค่อยหลับเลย มันอะไรกันน้า

“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด”

******

ฮือออออออออ

ทำไมน้องต้องตื่นแต่ไก่โห่มานั่งซักกางเกงในให้พี่มันด้วยเนี่ย (ได้ข่าวหนูเอาของพี่เขาไปใส่...) เกิดมาก็ไม่เคยซักของคนอื่นเลยเนี่ย ของไอ้พิชญ์น้องยังไม่แตะ แค่เอาตีนเขี่ยๆ

ฮึ่มๆๆๆ ไม่พอใจแล้วนะ พี่เมษแม่งใช้แรงงานเด็ก

“กางเกงในตัวเดียว ทำหน้าเหมือนจะตาย ไอ้ห่าเห็ด”

“โอ๊ยยย” ดูมันดิ เหี้ยแค่ไหน น้องนั่งซักผ้าอยู่ในห้องน้ำ แม่งก็เดินมาเอาขาเตะ เตะเอวด้วย เจ็บฉิบหาย ไอ้สัสพี่เมษ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมึงบีบคอกูเมื่อกี้ กูไม่ลุกมาซักให้หรอกนะ ไอ้โหด ไอ้พี่ชั่ว

“ร้องเหมือนโดนเชือด ตัวอย่างกับควาย ทำสำออยเหรอวะ!!”

“โอ๊ยๆๆๆ” ฮืออออ ป๊าครับ พี่มันเตะน้องจนช้ำหมดแล้ว “ถ้าพี่ไม่เลิกเตะนะ ผมจะ!”

“จะอะไรของมึง!” มันถลึงตาใส่อ่า หนูกลัว

“จะ...จะ...นี่ไง!” วักน้ำซักกางเกงในใส่แม่งเลย กวนตีนดีนัก

“เหี้ยเห็ด! มันเปียก ไอ้ชั่ว!”

๕๕๕๕๕๕

นี่เพิ่งจะ 8 โมงตรงเคารพธงชาติเองนะ น้องต้องโดนปลุกแต่ไก่โห่ (หกโมงเช้า) มานั่งซักกางเกงในของพี่เมษ แล้วก็เลยซักของตัวเองไปด้วยเลย กว่าจะตากเสร็จไรเสร็จ แล้วยังต้องมาล้างจานทำความสะอาดห้องให้พี่มันอีก เชี่ยพี่แม่งนอนกระดิกตีนสบายใจเฉิบบนเตียง อ่านการ์ตูนเล่มที่ร้อย การ์ตูนเหี้ยไรออกไม่จบไม่สิ้น อ่านจนคนเขียนตาย คนอ่านง่อยแดก

“พี่ ยืมนี่นะ” น้องหยิบโลชั่นทาผิวของมันมาแล้วเปิดฝาเหยาะๆ ใส่มือ ไม่รอให้มันอนุญาต เพราะยังไงก็จะใช้

“ไอ้เหี้ยเห็ด! กูยังไม่ได้บอกจะให้” มันลุกพรวดมาคว้าขวดโลชั่นไปซะงั้น

“ของผมหมดอ่ะ เนี่ยซักผ้ามือด้านหมดแล้ว ใช้นิดหน่อยเอง” น้องยู่ปากใส่มัน

“หมดหรือมึงไม่ได้ซื้อแต่แรก อย่าตอแหล แล้วนิดหน่อยของมึงนี่เกือบหมดขวด! ส้นตีนเหอะ” ด่าอีกละ ทำไมเป็นคนกักขฬะเยี่ยงนี้นะพี่เมษ

“เดี๋ยวผมซื้อคืนให้ก็ได้ ไม่ทาแล้วมือแห้ง เดี๋ยวสาวๆ จับแล้วไม่นิ่ม” น้องเบะปากทำหน้าแบ๊วใส่มันสุดฤทธิ์ มึงต้องใจอ่อนกับกู อ่อนๆๆๆๆ เดี๋ยวนี้!!!

“กูทาให้เอง ให้มึงเท หมดขวดแน่” แล้วมันก็เทโลชั่นใส่ฝ่ามือ ดึงมือน้องไปแล้วก็ลูบไล้ทาถู (อย่าคิดลึกนะครับ แค่ทาที่มือ) “แบบนี้จะได้ทาทีเดียวสองคน”

“งั้นพี่ก็ต้องทาให้ผมทุกวัน”

“งั้นมึงหารค่าโลชั่นกับกู”

งกอ่ะ น้องย่นหัวคิ้วเข้าหากันแล้วเบะปากใส่มัน มันก้มหน้าทาครีมให้อยู่ไม่เห็นหรอก

“มึงนี่โตมายังไงวะ ทั้งเอาแต่ใจ ไร้มารยาท กวนตีน กวนประสาท ไร้จิตสำนึกสุดๆ” ไอ้พี่เมษกลับไปนั่งอ่านการ์ตูนต่อ แต่ไม่วายแขวะน้องอีก

“แล้วพี่ล่ะโตมายังไง ทั้งหยาบคาย สันดานเสีย ขี้โมโห ขี้งก ขี้แกล้ง สารพัดจะขี้!” น้องแขวะมันกลับ มันหน้าตึงวางหนังสือในมือดังพั่บแล้วปรี่เข้ามาประชิดตัวน้องทันที ไอ้เหี้ยพี่เมษ น่ากลั๊ววววววว

“มึงกล้าด่ากูเหรอเห็ด!” หน้าตามันเอาเรื่องมากอ่ะ น้องนี่ใจหล่นไปใต้ฝ่าเท้าแล้ว แถมเหมือนจะเหยียบเละด้วยตีนตัวเองไปแล้วด้วย

“ผมไม่ได้ด่า ผมชม!” หลับหูหลับตาเถียงมันข้างๆ คูๆ น้องหลับตาปี๋ ไม่กล้ามองตาพี่เมษ

“บ้านพ่องเรียกว่าชมเหรอ ไอ้เห็ดไม่สำ! ไอ้แหตอเหล็ด! (เห็ดตอแหล...) ไอ้เด็กเหี้ย!” โอยยยย แม่งเอากำปั้นมาปั่นข้างหัวน้อง

“ผมเจ็บนะพี่เมษ!” มันเจ็บจริงๆ เพราะพี่แม่งออกแรงมาเต็ม ถึงมันจะตัวไม่ใหญ่ แต่แรงแม่งโครตเยอะบอกเลย บ้าพลัง ไอ้บ้าพลัง! น้องก่นด่ามันในใจ เจ็บจนน้ำตาเล็ด เลยต้องผลักมันออก แต่คงจะแรงไปหน่อย มันหงายหลังร้องเสียงหลง หน้างี้เหวอ น้องลืมตาเห็นมันจะล้มตึง เลยรีบดึงแขนคว้าเอวมันไว้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ดูมีโมเม้นท์...ไอ้สัส เม้นพ่องเม้นแม่งสิ น้องเสียหลักร่วงไปด้วยเลย กรี้ดดดดดด

โป๊ก!

นั่นเป็นเสียงหัวพี่เมษโขกเตียงครับ ส่วนน้องก็ล้มทับพี่มันทั้งตัว

“เหี้ยเห็ด! ลุก! กูหนัก” มันโวยวายอีกแล้ว หนวกหู หูจะแตกแล้ว!

“ผมลุกไม่ขึ้นอ่ะ พี่ช่วยดันหน่อย” น้องหมดแรงข้าวต้มแล้ว ข้าวเช้ายังไม่ทันได้กินเลย แถมนอนไม่พอ พอแลนดิ้งลงไปนอนบนอะไรนิ่มๆ แล้วมันอยากหลับขึ้นมาทันที

“ไอ้เด็กเปรตนี่!” มันด่าไปเอามือดันตัวน้องไป สงสัยจะหนักจริง แต่เพราะน้องไม่อยากลุกด้วยแหละ ง่วงงงงงง จะนอนตรงเน้

“มึงอย่าหลับ เห็ด! ไอ้เหี้ยยยยยย!!!”

******

น้องได้หลับสนิทไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง ตื่นมาอีกทีก็กลิ้งอยู่บนพื้นหน้าเตียงพี่เมษ ส่วนไอ้คนที่น้องนอนทับจนหลับปุ๋ย ไม่รู้มันหายไปไหนแล้ว น้องไม่ได้สนใจว่ามันจะไปไหน ก็เลยออกไปกินข้าวดีกว่า

“ไอ้โตนบอกห้องข้างๆ เสียงดังแต่เช้า พวกมึงเล่นอะไรกันอีกวะ เห็ด” พอมาถึงโรงอาหารหน้าหอ ไอ้พิชญ์ก็เข้ามาถามทันที ไอ้โตนที่มันพูดถึงคือเพื่อนร่วมหอ อยู่ห้องข้างๆ น้องกับพี่เมษตัวร้าย

“ไม่ได้เล่น” น้องตอบหน้าหงิกหน้างอ พูดถึงแล้วรมณ์เสียนะ ที่ต้องตื่นเช้ามาซักผ้าอ่ะ

“แล้วเสียงดังอะไรกันแต่เช้าล่ะ รบกวนคนอื่นรู้มั้ยน้องเห็ดสะด๋ำ” ไอ้พิชญ์ทำตัวเหมือนพ่อน้องเข้าไปทุกที มาโบกหัวน้องสั่งสอนอีก งอน

“อย่าทำหน้าเป็นตูดไอ้เห็ด แดกไร เดี๋ยวกูไปซื้อให้ก็ได้ เห็นหน้านอยๆ ของมึงแล้วเซ็ง” มันต้องอย่างนี้สิเพื่อนรัก! พิชญ์มันเป็นคนกวนตีนก็จริง แต่มันใจดี มันดูแลน้องมาตลอด พ่อพิชญ์ของน้องเห็ด

“เอาราดหน้าปลาหมึก พิเศษเพิ่มปลาหมึกนะ ปรุงเปรี้ยวๆ ด้วย” เพราะน้องชอบกินเปรี้ยวครับ อิๆ พิชญ์มันปรุงก๋วยเตี๋ยวให้น้องจนชินแล้ว ฝากมันซื้อฝากมันปรุงได้เลย มันรู้ว่าน้องกินแบบไหน ไม่กินแบบไหน

พอสั่งไอ้พิชญ์เสร็จ น้องก็หาที่นั่งรอแถวๆ หน้าร้านขายน้ำ เพราะจะได้ซื้อน้ำตรงนี้เลยทีเดียว เห็นไอ้คนที่ลงมาก่อนนั่งอยู่โต๊ะในสุดตรงข้ามกับที่น้องนั่งอยู่ พี่เมษกับเพื่อนๆ มัน นั่งแหกปากคุยกันดังมาถึงนี่ น้องส่ายหน้าเอือมๆ เด็กรัดสาดทำไมป่าเถื่อนเยี่ยงนี้วะ จบไปมันต้องทำงานด้านกฎหมายไม่ใช่เหรอ อีแบบนี้สงสัยไปเป็นนักกางเมืองกากๆ แหง แต่จะว่าไป มันไม่ได้มีแค่เด็กรัดสาดหรอกครับ เหมือนจะมีพวกวิดวะกับบริหารด้วย

ป่าเถื่อนทั้งแก๊งอ่ะ บอกเลย

ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกหน้าคุ้นๆ ที่น้องรู้จักแหละ อย่างที่นั่งด้านซ้ายของไอ้พี่เมษก็เดือนคณะวิดวะ ไม่รู้ได้ตำแหน่งมาเพราะซื้อโหวตหรือเปล่า (เขาให้โหวตแค่ตำแหน่งป๊อปปูล่าลูก) แม่งกวนตีนจะตาย เจอน้องทีไรชอบยักคิ้วใส่แล้วก็ยิ้มเยาะๆ ด้วย ชอบมาเกาะแกะ น่ารำคาญสุดๆ คนขวามือของพี่เมษเป็นเพื่อนในคณะมัน ชื่อพี่จอน คนนี้ค่อยดีหน่อย แต่ปากอย่างหมา แต่มันจริงใจ ไม่มีไก่กา แค่พูดตรงไปหน่อย ไอ้ที่หันข้างให้น้อง รู้สึกจะชื่อพี่ปาล์ม อยู่บริหาร คนนี้น้องไม่ค่อยได้คุยด้วย มันดูขรึมๆ แต่เวลาอยู่กับเพื่อนมันจะเฮฮานะ เหมือนพวกไม่ชอบเข้าสังคม ไม่สนิทไม่คุยไรงั้น ส่วนอีกคนชื่อพี่นัด รัดสาด นิสัยเหมือนๆ เพื่อนมันแหละ กวนตีน

“อ้าวๆๆๆ” ไอ้เหี้ยเดือนวิดวะแม่งเสือกหันมาเห็นน้องที่นั่งตัวลีบมุมโต๊ะ กูหลบแล้วยังเสือกเห็นอีกไอ้ห่าเอ๊ย “นั่นมันน้องเห็ดน้อยน่ารัก” แล้วมันก็เดินดุ่มๆ เข้ามานั่งด้วย นั่งข้างน้องแล้วก็กอดคอโอบไหล่ ได้ข่าวว่าไม่สนิทนะมึง พอมันมา เพื่อนมันก็มากันหมดสิครับ! ปัดถ่อววว

“หวัดดีพี่...” ชื่อไรวะ กูลืม

“อะไรวะน้องเห็ด ทำไมจำชื่อพี่ไม่ได้อีกแล้ว บอกว่าชื่อ ตะวัน ไง ตะวันๆๆๆ ไหนพูดสิครับ” แม่งอย่ายื่นหน้ามาใกล้ๆ กูวววว

“ครับๆ พี่ตะวัน” น้องพยายามเอนตัวหนีมัน

“แกล้งไรน้องเห็ดกูวะไอ้วัน” พี่นัดตบหัวเพื่อนมันแล้วนั่งลงข้างน้อง พวกพี่แม่งขี้แกล้ง เหมือนไอ้พี่เมษเพื่อนมันเลย โดนล้อมแล้วกู เอาไงดีวะ

“ไม่ได้แกล้งเว้ย เขาเรียกเอ็นดู” ไอ้ตะวัน (ไม่อยากเรียกมันว่าพี่อ่ะ ไม่ชอบขี้หน้า) มันยักคิ้วให้พี่นัด พี่จอน พี่ปาล์มนั่งลงฝั่งตรงข้ามน้อง พี่เมษ...ยืน สงสัยแม่งริดสีดวงกำเริบ อ้าว เวรล่ะ น้องเอากุงเกงในมันไปใส่ จะติดเชื้อมั้ยวะเนี่ย

“เอ็นดูหรือดูเอ็น สัส นั่งเบียดมันซะขนาดนั้น อยากได้ไอ้เห็ดเป็นผัวหรือไง ไม่นั่งตักมันเลยล่ะ ดูดปากด๊วบๆ ให้พวกกูดูเลยสิ” ปากตะไกรมาเลยพี่จอน คนจริง ไอ้ตะวันก็ชูนิ้วกลางใส่หน้าเพื่อนมันไป แล้วดูดปากอะไรของพี่จอนวะครับ ใครจะยอมเสียซิงปากให้คนหน้าเหี้ยอย่างไอ้ตะวันกันเล่า เอ้อ

“ปีหน้ากูจะบอกไอ้ตั้มให้เอามึงเป็นพี่ว้ากถาปัด” จู่ๆ ไอ้ตะวันมันก็เปลี่ยนเรื่อง แถมยังเอามือมาจับๆ ที่นมน้อง กูนี่สะดุ้งโหยง ตัวเกร็งเลย “หน่วยก้านดี กล้ามแน่น...”

“น้ำลายหกแล้วอีวันทอง” เสียงพี่เมษลอยมา มันยังไม่ยอมนั่งลงเลยอ่ะ อะไรของมัน

“กูชื่อตะวัน!” ไอ้ตะวันโวยใส่เพื่อนมันหน้าตาถมึงทึง “แล้วมึงริดซี่แดกรึไง ไม่นั่งล่ะ” เออ มีคนถามสักที

“เดี๋ยวก็ไปแล้ว จะนั่งทำไมอีก” พี่เมษตอบหน้าตาย น่าจะตายๆ ไปเลยด้วยนะ

“จะรีบไปไหนวะเมษ กูยังไม่ทันหายคิดถึงน้องเห็ดเลย” อี๋ อย่ามาคิดถึงกู ไอ้ตะวัน!

“เห็ด ของมึง” โอ้ โชคช่วย ไอ้พิชญ์กลับมาพอดี “หวัดดีพี่ๆ กูลดน้ำส้มนะ เดี๋ยวมึงกะเพราะทะลุ ป๊ามึงจะมาด่ากูได้” มันบ่นๆ ไรไม่รู้ แล้วก็นั่งลงข้างพี่จอน

“แต้งกิ้วพิชชี่” น้องยิ้มแป้น หิวมาก ไม่สนคนรอบข้างแล้วนาทีนี้

“ต้องดูแลกันขนาดนี้เลยเหรอวะพิชญ์” เสียงพี่นัดที่อยู่ข้างๆ ดังขึ้น น้องเลยเงยหน้าจากราดหน้าร้อนๆ มองหน้าพี่นัดกับไอ้พิชญ์

“ก็ไม่หรอกพี่ นานๆ ที”

“ถามจริง ไอ้เห็ด มึงกับไอ้พิชญ์เป็นผัวเมียกันเหรอวะ” อันนี้พี่จอนคนจริงถาม แต่คำถามแม่งทำกูเกือบสำลักราดหน้า

“ถ้าให้ผมเป็นผัว ผมอาจจะพิจารณา แต่ถึกๆ อย่างไอ้เห็ดปี๋นี่ ผมไม่เอาว่ะ” ไอ้พิชญ์ชิงตอบก่อน กูก็ไม่อยากเป็นทั้งผัวทั้งเมียของมึงเหมือนกันเว้ย

“แสดงว่าถ้าเป็นผู้ชายน่ารักๆ ตัวเล็กๆ...” ไอ้ตะวันเหลือบสายตาขึ้นมองเพื่อนมันที่ยืนอยู่ “มึงโอเคเหรอพิชญ์”

“ทำไมต้องมองมาทางกู เดี๋ยวต่อยตาแหก” หวาย ไอ้หน้าโหดยกหมัดขึ้นขู่เพื่อนมัน น้องนี่สะดุ้งเฮือก พี่เมษมันตัวไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ตัวเล็กน่ารักอย่างที่พูดถึงเลยสักนี้ด

“แล้วทำไมจะต้องผู้ชายวะพี่!” เออ นั่นดิ ไอ้พิชญ์มันแมนทั้งแท่งนะ น้องเคยเห็นมาแล้ว ตอนเข้าค่ายสมัยป.5 มั้ง

“กูก็แค่ถามไง” ไอ้ตะวันว่า

“ไม่โอเคอ่ะพี่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย” ไอ้พิชญ์ตอบหน้านิ่ง พวกมันก็เลยเลิกถามแล้วแยกย้าย เพราะพวกน้องกำลังจะกินข้าวเช้ากัน

******

ข้าวเช้าผ่านไป น้องนี่อิ่มแปล้ เพราะมีสาวๆ หอในมาส่งขนมให้อีก ทำไมเขาใจดีกันจัง ชอบซื้อขนมอร่อยๆ มาฝากน้องทุกวันเลย ตั้งแต่ตอนปี 1 ละ พี่รหัสน้องยังไม่เทคแคร์ดีขนาดนี้

“เห็ด เย็นนี้กูมีธุระ มึงไปกินข้าวกับพวกไอ้โตนนะ” ตอนจะก้าวขาขึ้นบันได ไอ้พิชญ์ก็พูดขึ้น มันอยู่ชั้น 3 ส่วนน้องอยู่ชั้น 4 ห้อง 409 เลขสวยมวากกกก เพราะน้องชอบเลข 4 กับเลข 9 อย่าถามเหตุผล! หยุด! ฮึบไว้ซะ!

“มึงไปไหน พากูไปด้วยดิพิชญ์” น้องไม่ยอมนะ ถ้าพิชชี่จะหนีเที่ยวคนเดียว กอดแขนอ้อนมันรัวๆ เลย

“บอกว่าไปธุระไง จะกระเตงลูกไปด้วยได้ไงวะ” ไอ้พิชญ์ปัดมือน้องออกแบบไม่ใยดี ฮืออออ จะฟ้องป๊า!!!

“บู่วววว” น้องบึนปากใส่

“สกปรกไอ้เหี้ย! น้ำลายกระเด็น!” ไอ้พิชญ์รีบยกแขนปิดหน้า “กูมีเดทกับสาวคณะอักษรว่ะ ซอรี่นะเพื่อน”

“เดท!? คืออะไรวะ?” แล้วกูจะตกใจตอนแรกทำไม มันคืออะไร น้องไม่รู้จัก โง่อิ้ง (ENG)

“ก็แบบ ชายหญิงไปเที่ยวกันสองต่อสอง กินข้าว ดูหนัง แล้วก็...” ลุ้นๆๆๆ แล้วก็อะไรวะ ไอ้พิชญ์แม่งเลียปากทำหน้าเจ้าเล่ห์มากอ่ะ “โลกของผู้ใหญ่น่ะ เด็กอย่างมึงคงไม่เข้าใจหรอก กูไปล่ะ ถ้าไม่มีธุระห้ามมาเคาะห้องกูนะ” แล้วมันก็โบกมือบ๊ายบาย จะเดินหนีเข้าห้อง

“เดี๋ยวพิชญ์!!! แล้วก็อะไรของมึง!!! กูอยากรู้ววววว!!!”

******

พิชญ์แม่งไม่ใจเลย หนีไปเดทกับสาวสวย แล้วยังเสือกถ่ายรูปส่งไลน์มาอวดอีก! ไอ้เพื่อนเลว เพื่อนชั่ว อย่าให้กูมีมั่งนะ จะส่งไปให้มันดูทุก 5 นาทีเลย

“นั่งหน้าเป็นตูด โดนเพื่อนทิ้งดิ” พี่เมษเปิดประตูเข้าห้องมาก็ทักทายกันด้วยถ้อยคำที่ทำน้องไม่สบอารมณ์ตามเคย

น้องไม่ตอบ วางมือถือลงบนโต๊ะหนังสือแล้วนอนตะแคงหันหน้าเข้ากำแพงห้อง

“อะไรของมึงวะ งอนไอ้พิชญ์แล้วมาลงกับกูเหรอเห็ด” พี่มันหัวเราะคิกคัก นั่งลงบนเตียงน้อง ที่รู้เพราะเตียงมันยวบๆ ลง และเสียงมันก็อยู่ใกล้ๆ “กูเห็นพิชญ์แม่งอวดลงเฟซกับ IG รัวเชียวเนี่ย ดาวอักษรเลยนะมึง โครตน่ารัก”

น้องเงียบ แกล้งหลับแม่ง

“ขี้งอนว่ะ โครตเด็ก ไปตีแบดกับพวกพี่มั้ยน้องเห็ด ขากลับพาไปเลี้ยงไอติม”

ห๊ะ ไอติม! น้องเด้งตัวขึ้นทันที เกาะไหล่พี่เมษทำตาวิ้งๆ จนพี่มันขำใหญ่

“ไปๆๆๆ”
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.3 update 24/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-02-2018 03:08:28
น้องเห็ดไม่รู้จัก "เดท" หรอเนี่ย  :mew2:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.3 update 24/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 25-02-2018 09:01:45
น้องเห็ดไม่รู้จัก "เดท" หรอเนี่ย  :mew2:

ถ้าเห็นตัวหนังสือนางก็รู้ฮะ พอเพื่อนพูดมาเลยงงๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.3 update 24/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 26-02-2018 16:23:39
 :jul1:4
ติ้ง!

PiTz: กูไปรับหนิง เจอกันที่ตึก

น้องยืนมองข้อความในไลน์ที่เพื่อนพิชญ์ส่งมาอย่างเจ็บปวด...ฮือออออ ไอ้เพื่อนเลว เพื่อนชั่ว มันเทน้องงงงงง แล้วแบบนี้กูจะไปคณะยังไง แม่งเดินตั้งไกลเป็นกิโล น้องไม่ชอบเดิน น้องขี้เกียจมากด้วย มองหาใครสักคนที่จะติดรถไปด้วยได้ดีกว่า

“ไม่ไปเรียนไงมึง ยืนบื้อไรตรงนี้” เสียงดังมาจากข้างหลัง น้องหันควับไปมองด้วงดวงตากลมโตประกายวิ้งๆๆๆ

“พิชญ์มันเทผมอ่ะพี่” บีบน้ำตานิดๆ เหมือนจะร้องไห้ด้วย ไอ้พี่เมษทำหน้าเหมือนแดกยาขมเลย

“อย่าทำหน้าตาตอแหลใส่กูได้ป่ะ ไปกับกูก็ได้”

“เย้!”

******

จริงๆ คณะของพี่มันถึงก่อนแหละ แต่มันใจดี อุตส่าห์ขี่มอไซค์มาส่งน้องที่คณะถาปัดก่อน แล้วค่อยวนรถกลับไป พี่เมษแม่งคนดีย์ว่ะ ต้องมองมันใหม่แล้วเนี่ย

“พี่เห็ด!” พอมาถึงใต้ตึกคณะปุ๊บ ไอ้กันต์ก็โผล่หน้ามาหาปั๊บ สายรหัสเพียงหนึ่งเดียวที่เจอกันตั้งแต่ปิดเทอมคนนี้ ถูกชะตากันตั้งแต่แรกพบ เหมือนพรหมลิขิต ถุ้ย!

“ไงมึง” น้องทักทายอย่างเป็นกันเอง พากันไปนั่งที่โต๊ะม้าหินใต้ตึกที่เดิม พวกพี่ๆ เพื่อนๆ เดินผ่านก็ทักทายไปตามเรื่องตามราว น้องไม่ชอบทำกิจกรรมก็จริง แต่น้องชอบมีเพื่อนเยอะๆ เจอใครก็ทักก็คุยหมด รู้จักแม่งทั้งคณะ

“ผมเห็นพี่พิชญ์ไปกับสาว ในทวิตแทบถล่ม พวกสาววายโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย” ไอ้กันต์เอานิ้วไถๆ หน้าจอไอแพดของมันแล้วยื่นส่งมาให้น้องดู “เนี่ย ดูดิ ดาวอักษรปีก่อนป่ะ พี่หนิง? โครตน่ารักอ่ะบอกเลย พี่พิชญ์แม่งไปคั่วมาตอนไหนวะ”

“น่ารักขนาดนั้นเลยเหรอวะ” น้องสงสัย จากที่เห็นในรูปก็งั้นๆ อ่ะ

“ก็ดาวเชียวนะพี่ คณะนี้ขึ้นชื่อว่ามีแต่สาวน่ารัก ขนาดผู้ชายยังสวย ถามจริง พี่สนใจอะไรมั่งเนี่ย นอกจากกินกับนอน” อ้าว? ทำไมมึงถามงี้วะ

“เรียนไง” น้องตอบหน้าตาเฉย แล้วจู่ๆ ก็มีคนมาสะกิดเรียก

“น้องเห็ดคะ” พี่สาวคนสวยคนนี้เป็นพี่รหัสของน้องเห็ดเองครับ ใจดีมวากกกกก (ก.ไก่ยี่สิบล้านตัว) ชื่อพี่เอย เป็นสาวเหนือ พูดเพราะ สมเป็นกุลสตรี (น้องจะชมว่าสวยหรือน่ารักก็ต่อเมื่อเป็นคนใจดีเอาขนมมาให้น้องกินเท่านั้น!!!)

“พี่เอยยยยย” น้องเห็ดลากเสียงยาวให้ดูน่ารักน่าหยิกแล้วยิ้มแป้นให้พี่สาวคนสวย “ตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่เจอกันเลย นี่น้องรหัสของพวกเรานะพี่” น้องหันไปชี้ไอ้กันต์ ที่เงยหน้าจากเกมมามองพี่เอย งงๆ

“เอ่อ สวัสดีครับ ไอ้กันต์ยกมือไหว้พี่เอย พี่เขาก็รับไหว้อย่างสวยงาม “ผมชื่อกันต์”

“สวัสดีค่ะ พี่ชื่อเอยนะ” พี่เอยยิ้มให้มันแล้วหันมาหาผมต่อ “พอดีเลย พี่กำลังจะมาถามเราเรื่องสายรหัส พอดีพี่นนท์โทรมาบอกว่าพุธนี้จะขอเลี้ยงสายช่วงเย็น น้องกันต์สะดวกมั้ยคะ” เธอหันไปหาไอ้กันต์อีกรอบ

“สะดวกครับ”

“น้องกันต์อยู่หอรึเปล่าคะ หรือไปกลับ พี่กลัวจะดึกน่ะ”

“ไปกลับครับ”

“งั้น...พอจะมีเพื่อนให้ไปค้างที่ห้องได้มั้ย”

ไอ้กันต์หันมามองหน้าน้อง น้องก็มองมันกลับ อย่าบอกนะว่ามึง...

“พี่เห็ดครับ ผมขอไปนอนค้างห้องพี่นะ”

******

วันพุธ น้องไปกินข้าวกับสายรหัส มีพี่นนท์ปี 4 เป็นตัวตั้งตัวตี พี่เอยคนสวย แล้วก็พี่ที่จบไปแล้วอีกสองคน พี่โอ๊ต กับพี่ตั๋ง ส่วนใหญ่คณะน้องมีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงนั้นหายาก หรือถึงหาเจอก็จะออกแนวเถื่อนๆ ลุยๆ น่ากลัวไปอีก มีพี่เอยเนี่ย นางฟ้าชัดๆ

“ไอ้เห็ด กูรู้ว่ามึงชอบกินเนื้อติดมัน” พี่โอ๊ตที่จบไปปีที่แล้ว และทันได้ดูแลน้องเป็นพี่ชายที่น่ารักมากๆ จำได้ว่าน้องชอบกินอะไรด้วย

“นี่ๆ ปลาหมึกมันก็ชอบเว้ย” พี่นนท์รีบคีบปลาหมึกมาใส่ถ้วยน้อง พี่นนท์ก็น่ารักกกก

“พวกพี่นี่เหมือนเดิมเลยเนอะ แย่งกันเอาใจน้องเห็ดจัง ผู้หญิงคนเดียวในสายอย่างเอยนี่สุนัขเลยอ่ะค่ะ” พี่เอยพูดกลั้วหัวเราะ คนอะไรขนาดหัวเราะยังสวย

“โธ่ๆ น้องเอย พวกพี่รักน้องเท่ากันหมดแหละคร้าบ แต่ไอ้เห็ดมันเหมือนลูกไง ดูดิ เคี้ยวแก้มตุ่ยเลย” พี่นนท์ว่าพลางยื่นทิชชู่มาเช็ดปากน้อง “แดกเลอะเทอะเหมือนหมา น่ารักจะตาย”

“พี่ไม่ต้องชมผมแบบนั้นก็ได้ เอาจริงๆ” น้องค้อนขวับใส่มัน เชี่ยแม่งหลอกด่ากูเห็นๆ ไอ้พี่นนท์ มึงไม่น่ารักแล้ว

“พี่พิชญ์ พี่นนท์ แล้วยังพี่โอ๊ตอีกเหรอ พี่เห็ดนี่แม่ง...เสน่ห์แรงนะเนี่ย” ไอ้กันต์ส่งเสียงแซวเอาฮา พวกพี่ๆ หัวเราะกันครืน

“พูดมาก ปั๊ดเอาตะเกียบยัดปาก” น้องหันไปด่ามันแล้วกินต่อ

ทำไมชีวิตน้องถึงได้มีแต่คนชอบดูแลงั้นเหรอ นั่นสินะ น้องก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่เพราะน้องดูเหมือนเด็กล่ะมั้ง ตั้งแต่เล็กจนโต มีไอ้พิชญ์เป็นเหมือนเพื่อนและพี่ชาย ตอนอนุบาล น้องตัวเล็กมาก ผอมแห้งหัวโต แล้วก็โดนคนอื่นล้อว่าเหมือนเห็ดจริงๆ โดนแกล้งทุกวัน น้องก็ไม่สู้คน ได้แต่ยืนร้องไห้ให้พวกมันล้อให้พวกมันแกล้ง แต่อยู่มาวันหนึ่ง ไอ้พิชญ์ก็เข้ามาช่วย ตอนนั้นอยู่คนละห้องด้วยซ้ำ สักอนุบาล 2 ได้มั้ง น้องจำไม่ค่อยได้ว่าหลังจากนั้นยังไงต่อ รู้แค่พิชญ์มันจัดการพวกที่มาแกล้งน้องให้ แล้วก็คอยอยู่ข้างๆ น้องมาตลอด

จริงๆ ตอนเด็กๆ น้องเกลียดชื่อนี้มากนะ เกลียดที่พ่อแม่ตั้งชื่อน่าเกลียดแบบนี้ให้ แต่ตอนที่พิชญ์บอกว่า จงภูมิใจในสิ่งที่พ่อแม่ให้มา น้องก็เลยเปลี่ยนความคิดใหม่ และมั่นใจในชื่อตัวเองมากขึ้น

พิชญ์เป็นเพื่อนรักที่สุดของน้อง พวกเราแทบไม่เคยทะเลาะกันแรงๆ เลยสักครั้ง พิชญ์เป็นคนมีเหตุผล เวลาน้องทำอะไรผิดหรือไม่เข้าท่า มันจะคอยบอกคอยสอนตลอด แต่น้องก็ชอบที่จะกวนประสาทมันเล่น ฮ่าๆ ก็มันสนุกดี พอสักม.ต้น น้องก็เริ่มโตขึ้น สูงกว่าพิชญ์ด้วย ช่วงนั้นไอ้พิชญ์มันสอนน้องเล่นกีฬาหลายอย่างเลย มันบอกว่าน้องจะได้แข็งแรง เพราะน้องขี้โรค ป่วยบ่อยมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยป่วยแล้ว

นอกจากพิชญ์แล้ว หลายๆ คนก็เหมือนจะเอ็นดูน้องไปด้วย เพราะน้องน่ารักไง น้องเข้าใจนะอันนี้ อิๆ

“พี่บอกพี่เมษยัง ว่าจะให้ผมไปนอนด้วยคืนนี้” หลังเลี้ยงสายเสร็จ พวกพี่ๆ ก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนไอ้กันต์ จริงๆ ให้มันติดรถพี่ตั๋งพี่โอ๊ตไปก็ได้ แต่ก็ดันคุยกันแล้วว่าจะให้ค้าง

“เออว่ะ” น้องเพิ่งนึกขึ้นได้อ่ะ “กูลืม”

“ไอ้ห่าพี่! แล้วพี่เมษมันจะแดกหัวผมมั้ยเนี่ย ไปรบกวนมัน” ไอ้กันต์หน้าเสียเลยทีเดียว ทำไมใครๆ ก็กลัวพี่เมษกันจังวะ

“เอาน่า เดี๋ยวกูคุยให้” น้องว่าพลางกดโทรศัพท์หาพี่เมษ จะให้มันมารับพวกน้องกลับด้วยพอดี “พี่เมษ? มารับผมหน่อยดิ อือๆ หน้ามออ่ะ ร้านหมูกระทะลุง ไอ้กันต์ไปค้างด้วยนะ ครับๆ เจอกันพี่” น้องคุยรวดเดียวก็วางสาย

“พี่เห็ด...นี่สนิทกับพี่เมษขนาดนี้แล้วเหรอวะ” ไอ้กันต์มองหน้าน้องอย่าง งงๆ

“พี่เมษไม่ใช่หมาร็อตไวเลอร์สักหน่อยมึง คุยกันดีๆ ก็เข้าใจแล้ว พี่มันใจดีกว่าที่เห็นเยอะนะ” ทั้งซักผ้าให้น้อง แบ่งโลชั่นให้น้องทา (แถมทาให้ทุกวันจริงๆ อย่างที่มันเคยพูดเลย) พาน้องไปกินไอติม แล้วยังมาส่งน้องที่คณะอีก

“แต่ก่อนหน้านี้ผมเห็นพวกพี่ตีกันทุกเช้า ตั้งแต่ยังไม่ทันเปิดเทอมด้วยซ้ำ” ก็จริงครับ ที่มหาลัยพวกเราเปิดให้มาทำกิจกรรมรับน้องและอยู่หอพักได้ตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมล่วงหน้าสองอาทิตย์ และช่วงสามอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องโดนพี่เมษประทุษร้ายมาโดยตลอด แถมตอนเปิดเทอมมันตามมาทุบตีด่าทอน้องถึงคณะถาปัดเลยด้วย เอากับมันสิ

“มันเป็นพวกปากร้ายใจดีว่ะ กูก็เพิ่งจะเข้าใจมันเมื่อไม่นานนี้แหละ ตอนกูโดนไอ้พิชญ์เท” น้องพูดตามจริง ยิ่งรู้จักและอยู่กับมัน ก็พอจะรู้นิสัยบ้าง มันปากหมาอย่างนั้น แต่ใจมันโครตดี

“อ๋อ ที่เห็นพี่เมษมาส่งพี่หน้าคณะช่วงนี้สินะ ก็เลยสนิทกันว่างั้น” ไอ้กันต์พยักหน้าหงึกๆ เหมือนเข้าใจห่าไรอยู่คนเดียว

“มันก็ไม่ถึงขนาดสนิทป่ะวะ”

“แต่ก็สนิทนี่”

“เออๆ สนิทก็สนิท” ลำไย ขี้เกียจเถียงไร้สาระ

“ไอ้เห็ด!” อ้าว แหม ตายยากนะเฮีย พูดถึงก็มาเลย พี่เมษมันขี่ลูกรักของมันมารับพวกน้องแล้วครับ

“พี่เมษหวัดดีครับ” ไอ้กันต์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม พี่มันก็รับไหว้ด้วย ที่พวกมันรู้จักกันก็เพราะน้องนี่แหละ

“รถกูซ้อนลำบากหน่อยนะ ไอ้เห็ด มึงขี่ดีกว่ากูว่า” แหม มันรู้ตัวด้วยว่ารถแม่งซ้อนลำบาก

“ได้พี่” น้องตอบรับแล้วสลับขึ้นไปเป็นคนขับแทนมัน ไอ้พี่เมษอยู่กลางเพราะตัวเล็กสุด

“ผมกอดเอวพี่ได้ป่ะ” พอซ้อนท้ายกันครบเรียบร้อย เสียงไอ้กันต์ก็ลอยมา น้องหูกระดิกนิดๆ กำลังจะบิดรถออกไปพอดี

“ทะลึ่งละสัส เกาะท้ายรถสิวะ” พี่เมษว่าเสียงแข็งๆ สงสัยจะหงุดหงิดไอ้กันต์ที่มันเรื่องเยอะ

“เกาะแล้ว แต่มืออีกข้างมันว่างพี่ กลัวหงายหลัง” ไอ้กันต์มันเถียง น้องบิดรถออกจากร้านหมูกระทะ ข้ามฝั่งไปก็เป็นทางเข้ามหาลัยแล้ว

“น้องมึงเรื่องมากนะเห็ด พอๆ กับมึงเลย” เอ้า โยงกูซะงั้น

“กันต์ มึงนั่งดีๆ อย่ากวนพี่เขา” น้องเลยต้องดุสายรหัสตัวเองสักหน่อย พี่มันอุตส่าห์ใจดีขี่รถมารับ แถมให้นอนค้างแล้วนะเว้ย

“พี่เมษก็กอดเอวพี่เห็ดไว้ดิ ผมจะได้เกาะไหล่พี่ ผมกลัวตก ดูดิ ตูดเกยขอบแล้วเนี่ย จะหล่นแล้ว” ไอ้กันต์บ่นยกใหญ่

“ไอ้เห็ด มึงก็เขยิบขึ้นหน้าไปสิวะ”

“ทำอย่างกับรถพี่มันยอมให้ผมเขยิบ ผมไม่บ้าจี้ กอดได้เลย” น้องว่าพลางเลี้ยวรถเข้ามอ อีกแป้ปก็ถึงหอพักแล้ว สรุปพี่เมษยอมเกาะเอวน้อง แต่ใช้แขนข้างเดียวเกี่ยวไว้แบบหลวมๆ มือก็คว้าจับเสื้อนักศึกษาขยำซะยับยู่ยี่ ไม่บี้พุงกูเลยล่ะพี่ รู้สึกเหมือนมันเอาคางมาเกยๆ แถวบ่าข้างหลังด้วย ก็เบาะรถแม่งเสือกสูงไง เบรคทีสไลด์ลงมาตามๆ กัน

จะว่าไป พี่เมษแม่งตัวห๊อมหอมเนอะ กลิ่นต้นไม้ใบหญ้าข้างทางโดนกลบมิดเลย นี่ขนาดจะเข้านอนแล้วนะ ยังใส่น้ำหอมอีกเหรอวะ ประหลาดคน

ในที่สุดพวกเราก็มาถึงหอพักโดยสวัสดิภาพ ก่อนหอปิดพอดีเด๊ะ หอในที่นี่ปิด 5 ทุ่มครับ ถ้าช่วงสอบจะเปิดตลอดเลย เพราะบางคนก็ไปนอนอ่านหนังสือที่ห้องสมุด กลับมาตี 2 ตี 3 มั่ง เช้ามั่ง


“มึงนอนพื้นนะกันต์ เดี๋ยวกูปูผ้าให้” น้องเตรียมผ้าปูที่นอนมาปูพื้นให้มัน แต่ไอ้กันต์รีบยื้อแย่งไป

“พี่ให้ผมนอนบนเตียงพี่ได้ป่าว พื้นมันแข็งอ่ะ ผมปวดหลัง นะๆๆๆ พี่เห็ด ขอนอนเตียงพี่นะ” ไอ้กันต์ส่งสายตาอ้อนตีนสุดฤทธิ์ กูอ้อนแล้วน่ารัก แต่มึงไม่ว่ะ กันต์

“แล้วกูจะนอนไงล่ะ เตียงมันแคบมึงเห็นมั้ย กูกับมึงก็ตัวพอๆ กัน มึงนึกสภาพยักษ์สองตัวนอนเบียดกันดิ”

“หูยยยย ขนลุกซู่เลยไอ้ห่าพี่” ยังมีหน้ามาทำขนลุกให้กูดู

“เพราะงั้นมึงนอนพื้นแหละถูกแล้ว” น้องยักคิ้วพยักเพยิดหน้าไปทางพื้นเย็นๆ เดี๋ยวปูผ้ารองไว้ก็ไม่เย็นแล้วน่า มั้งนะ “กูใจดีให้มานอนด้วย มึงอย่าเรื่องมากว่ะ” น้องเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ

“ไอ้เห็ด จะไปดุน้องมันทำไมล่ะ มึงมานอนกับกูก็ได้ ให้กันต์นอนเตียงมึงไป” พี่เมษแทรกขึ้นระหว่างที่พวกน้องเถียงกันไปมา พี่แกคงง่วงมากและรำคาญเสียงพวกเรา เลยลุกมาดูพลางหาวหวอดๆ

“จะดีเหรอพี่ ผมตัวใหญ่นะ”

“แต่กูตัวเล็กไง เร็วๆ ง่วงแล้ว ให้น้องมันนอนสักที พรุ่งนี้กูมีซ้อมเช้านะเว้ย” พี่มันคงหมายถึงซ้อมดนตรี เพราะอีกไม่นานจะมีงานเฟรชชี่ไนท์ วงพี่มันต้องขึ้นเล่น ก็เลยซ้อมกันหนัก ทั้งเช้าเย็น นับถือในความจริงจังของคนไม่จริงจังเลยว่ะพี่

“เออๆ ก็ได้ มึงนอนบนเตียงกูไป อย่าทำลูกกูตกเตียงนะ” ตุ๊กตาปิกาชูของน้องเองครับ ไซส์กลาง พอดีกอด ไอ้พิชญ์ซื้อให้ตอนวันเกิดสมัยม.ปลาย น้องเลยเอามานอนกอดแทนหมอนข้าง บอกแล้วว่าพิชญ์แม่งรู้ใจ ซื้อของขวัญให้ถูกใจตลอด แต่ไม่ได้ซื้อให้ทุกปีนะ ปีไหนได้ของจากมันเนี่ย หูยยยย น้องเห็ดต้องไปทำบุญเก้าวัดเลยทีเดียว

บอกไอ้กันต์เสร็จ น้องเห็ดก็เดินหอบหมอนไปวางบนเตียงพี่เมษ พี่มันเขยิบตัวไปเกือบชิดผนังห้อง เว้นที่ให้น้องมากมาย คงกลัวน้องตกเตียง น้องก็ตบๆ หมอนสองสามทีไล่ฝุ่นแล้วทิ้งตัวลงนอนตะแคงหันหลังชนกับพี่เมษ พยายามทำตัวเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะค่อยๆ ผล็อยหลับไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ตี๊ดๆๆๆๆ

อืออออ เสียงอารายวะ น้องขมวดคิ้วทั้งที่หลับตา มือควานหาต้นเสียง แต่ลืมไปว่าไม่ได้อยู่ที่เตียงตัวเอง โต๊ะของน้องอยู่ฝั่งประตูห้อง มีโต๊ะหนังสืออยู่ข้างเตียงตรงหัวเตียง แต่เตียงพี่เมษ โต๊ะมันจะอยู่ปลายเตียง เพราะงั้น พอเอื้อมมือไปแล้วไม่เจออะไร ก็...ตกเตียงอ่ะดิครับ

ตึงงงง

“โอ๊ยยยย” เสียงน้องร่วงจากเตียงกระแทกพื้นอย่างดัง โครตเจ็บบอกเลย น้ำตานี่เล็ด

“ไอ้เห็ด!”
“พี่เห็ด!”

สองคนที่อยู่ในห้องเดียวกันร้องเสียงหลง พี่เมษที่อยู่ใกล้สุดรีบลุกมาช่วยพยุงน้องขึ้น ส่วนไอ้กันต์ก็คอยมองอย่างห่วงๆ อยู่ห่างๆ ตัวก็ใหญ่ไม่มาช่วยพี่เมษยกกูวะ ปัดถ่อววว

“เล่นอะไรแต่เช้าเนี่ยมึง” พี่เมษบ่นเลยง่ะ น้องเบ้หน้าทั้งเจ็บและนอยด์ มือลูบเอวที่กระแทกกับขอบเตียงตอนร่วงลงมา แขนขวาที่โดนทับเมื่อกี้อีก

“ไม่ได้เล่นพี่ ลืมไปว่านี่เตียงพี่”

“เจ็บมากป่ะเนี่ย หัวกระแทกด้วยรึเปล่า ตัวใหญ่แบบมึงเวลาโดนแรงโน้มถ่วงดึงลงไปมันคงเจ็บโครตๆ” พี่เมษมันพูดอะไรของมันไม่รู้ แล้วก็จับๆ ที่แขนที่ตัวน้อง “แขนโอเคมั้ย?”

“โอเคพี่...เจ็บนิดหน่อย แต่ปวดเอว” น้องชี้ให้มันดู

“ไปหาหมอมั้ยอ่ะ วันนี้มึงมีเรียนเช้ารึเปล่า?” พี่มันเข้ามาลูบๆ เอวน้อง ดีที่น้องไม่บ้าจี้

“มีตอน 10 โมง”

“งั้นฝากไอ้พิชญ์บอกอาจารย์ ไปโรงพยาบาลกันก่อนดีกว่า”

“เอายาแก้ปวดมาทาๆ นวดๆ เดี๋ยวก็หายมั้งพี่” ไอ้กันต์ที่เงียบอยู่ตั้งนานสองนาน จนนึกว่าไม่ได้อยู่ในห้องด้วยโพล่งขึ้นมา “เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้ ยืมรถด้วยพี่เมษ”

“เออๆ เอางั้นก็ได้ อ่ะ” แล้วพี่เมษก็โยนกุญแจรถให้ไอ้กันต์ ดูเหมือนไอ้กันต์มันจะตื่นอยู่นานแล้ว ตอนที่น้องตกเตียงมันเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี

พอไอ้กันต์ไปแล้ว พี่เมษก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวตามปกติ เห็นบอกว่ามีซ้อมนี่นา แล้วต้องรอรถจากไอ้กันต์อีก

“ผมขอโทษนะพี่ เดือดร้อนกันหมดเลย” เพราะน้องซุ่มซ่ามแท้ๆ เลย ต้องให้เพื่อนกับพี่ดูแลไม่พอ ยังลามไปถึงรุ่นน้องแล้วตอนนี้ เห็ดเศร้าอ่ะ

“ช่างเหอะน่า เดี๋ยวถ้ามันไม่ทัน กูจะไปรถไอ้นัดก่อน” พี่เมษยืนเสยผมเอาเจลขยี้ๆ จัดทรงอยู่หน้ากระจก โหย ทรงผมมันอ่ะอย่างเฟี้ยวเลยครับ น้องอิจฉาอยากทำมั่ง แต่น้องผมหยักศก ไว้ยาวมากไม่ได้ ต้องซอยสั้นหั่นแหลกตลอด เป็นทรงม้าเต่ออย่างที่เห็น

“พี่ฉีดน้ำหอมด้วยเหรอ” น้องอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเห็นมันทำผมเสร็จแล้ว แต่ไม่เห็นทำอะไรต่อ มันนั่งเอาก้นพักตรงขอบโต๊ะ กอดอกมองน้องนิ่งๆ

“เปล่า ทำไม?”

“อ้าวเหรอ” สงสัยกลิ่นสบู่มั้ง เอ๊ะ แต่น้องก็ใช้สบู่ไอ้พี่เมษนี่หว่า “ไม่มีไรพี่ ช่างมันเหอะ”

“ยังปวดมากมั้ย ลุกได้เปล่า” พี่เมษขยับออกจากตรงนั้นและเดินมาก้มดูน้องที่นั่งอยู่บนเตียง “ไหนดูดิ” แล้วก็ดึงเสื้อนอนลายกระต่ายน้อยของน้องถลกขึ้น

“ไม่ค่อยปวดมากแล้วพี่ แต่ขยับแล้วมันจี๊ดๆ” น้องว่าพลางเบ้หน้านิดๆ เจ็บจริงเจ็บจัง แค่กระแทกขอบเตียง ไม่คิดว่าจะขนาดนี้

“ไปอาบน้ำรอมั้ย กว่าไอ้กันต์จะมา จะได้ทายาทีเดียวเลยด้วย” พี่มันพูดพลางช่วยพยุงน้องให้ลุกขึ้น เดินเป๋เลยอ่ะ เจ็บเอว

“อือ ครับ”

พออาบน้ำเสร็จ น้องก็ออกมาแต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้า พี่เมษนั่งรออยู่บนเตียงมัน “กันต์ซื้อยามาให้แล้ว เดี๋ยวกูทาให้” มันว่างั้น น้องก็พยักหน้ารับ แต่ก็รู้สึกเกรงใจมันนิดๆ

“พี่ไปก่อนมั้ยอ่ะ ต้องซ้อมดนตรีไม่ใช่เหรอ ผมทาเองก็ได้นะ”

“กูโทรบอกไอ้ปาล์มแล้ว ไว้ซ้อมเย็นทีเดียว อย่าเพิ่งใส่เสื้อ เดี๋ยวกูทายาให้” พี่เมษเอามือมาคว้าเสื้อเชิ้ตสีขาวไปจากมือน้อง แล้วจับตัวน้องให้หมุนเข้าหา ก้มๆ เงยๆ แถวเอวน้อง ซึ่งตอนนี้ใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว “ขืนให้มึงทาเอง กูว่ายาหมดหลอด”

“พี่ก็พูดเว่อร์ว่ะ ผมก็ทำอะไรเองพอได้น่า” น้องหน้ามุ่ย จริงอยู่ที่น้องชอบให้คนเอาอกเอาใจ แต่บางเรื่องก็ต้องดูแลตัวเองได้เปล่าวะ

“อย่างเช่นอะไรล่ะ ขนาดกางเกงในยังต้องให้กูซัก” พี่เมษแม่งขุดว่ะ

“ก็แค่ครั้งเดียวเอง ผมลืมจริงๆ นี่ เมื่อไหร่พี่จะเลิกพูดเรื่องนี้วะ” น้องชักไม่พอใจ ตั้งแต่มันซักให้ มันก็ทั้งทวงบุญคุณ ทั้งเอาเรื่องนี้มาล้อน้องไม่หยุดเลย

“มึงโกรธเป็นด้วยเหรอเห็ด” พี่มันอมยิ้มขำๆ

“อยากเห็นผมโกรธรึไงล่ะ” โรคจิตเหรอพี่เมษ!

“เปล่าๆ กูก็แค่สงสัย เอ้า เสร็จแล้ว ดีขึ้นมั้ย?” มันยื่นเสื้อคืนให้

“อือ เย็นๆ ดี ไม่ค่อยเจ็บแล้ว” น้องว่าพลางสวมเสื้อติดกระดุม น้องชอบใส่เสื้อก่อนแล้วค่อยสวมกางเกงทีหลัง พี่เมษยังยืนอยู่ข้างๆ มาดูคนอื่นแต่งตัวอยู่ได้เว้ย ไอ้พี่โรคจิต

“ออกกำลังมั่งนะ แดกเยอะจนอ้วนแล้วเนี่ย” อ๊า อย่าดึงพุงกูววววว

“พี่เมษมันเจ็บ!” น้องโวยวายปัดมือมัน ตีด้วยดังเพี๊ยะๆ ไอ้พี่เมษยังเสือกหัวเราะร่า กวนตีนว่ะ

“มึงนี่แม่ง...” มันหมุนตัวเดินไปข้างหลังแล้ว แต่บ่นอะไรไม่รู้ น้องกำลังจะใส่กางเกง

“อะไรพี่!” น้องหันขวับ

“เปล๊า”

******

“วันนี้มึงเลิกกี่โมง” นี่คือคำถามประจำของพี่เมษมันครับ ตั้งแต่ที่มาส่งน้องเมื่อวันจันทร์ มันก็จะมารับกลับให้ด้วย ถ้าเลิกเรียนพอดีกันน่ะนะ ถ้าไม่ น้องก็กลับเอง เพราะไอ้เพื่อนชั่วมันทิ้งน้องไปแล้ว ไม่เห็นหัวเลยช่วงนี้ แม่งติดสาว นี่มันเดือนสิบสองหรือไง

“สี่โมงเย็น”

“งั้นไปนั่งรอกูซ้อมก่อนได้มั้ย สักสองชั่วโมง”

“ได้พี่” ไม่ได้ก็ต้องเดินกลับสิครับ เรื่องอะไรล่ะ ยอมเสียเวลาสองชั่วโมงดีกว่า เดี๋ยวนั่งคิดงานเพลินๆ รอ สาขาที่น้องเรียนเป็นสถาปัตย์หลักครับ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า เด็กเตค (architect) ออกแบบพวกอาคารบ้านเรือนนั่นแหละ เทอมนี้เริ่มลงลึก มีงานออกแบบแปลนมาทุกอาทิตย์ แก้กันไม่หวาดไม่ไหว ดูเหมือนน้องว่างใช่มั้ย จริงๆ งานแม่งโครตเยอะ แค่อาทิตย์แรกอาจารย์ก็สั่งงานรัวมาก แต่ตอนอยู่ที่ห้อง พี่เมษมันก็คอยช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินกับทำความสะอาดให้ น้องถึงได้บอกว่าพี่มันปากร้ายใจดี

ตกเย็นพี่เมษก็มารับน้องไปที่ห้องซ้อมดนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างคณะรัฐศาสตร์กับดุริยางค์ เป็นตึก 3 ชั้นเล็กๆ มีพวกชมรมต่างๆ รวมตัวกันอยู่ น้องเองก็เคยสมัครเข้าชมรมกับไอ้พิชญ์ไว้ตอนปี 1 เพราะบังคับให้ไปเดินเลือกในงานเปิดโลกชมรม แต่แบบ...เคยแวะเข้าไปแนะนำตัวครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ที่เหลือโดด

พอมาถึงก็เจอพี่ปาล์มหน้าโหด คือหน้าแม่งนิ่งไง น่ากลัว มันก็มองๆ มา น้องยกมือไหว้ยิ้มให้ มันก็พยักหน้ารับเฉยๆ แล้วเดินไปประจำที่ พี่ปาล์มเป็นมือกีต้าร์ พี่นัดเป็นมือเบส พี่เมษเคยบอกแล้วว่าเล่นไร อีกสองคนน้องไม่รู้จักหรอก จำชื่อไม่ได้

“นี่พี่โอม อักษรปี 4 แล้วนี่ก็ไอ้ต้า เด็กดุปี 2 อายุเท่ามึงนะ” พี่เมษแนะนำสองคนที่น้องยังไม่รู้จักให้ พี่โอมพยักหน้ายิ้มทักทาย ส่วนต้าก็ขอจับไม้จับมือ ดูหน้าตาลูกครึ่ง

“น้องเห็ดใช่มั้ย เห็นในเพจมหาลัยบ่อยๆ” ได้ข่าวว่าปีเดียวกันเฟ้ย คนชื่อต้า หน้าตากวนๆ เจาะหูหลายรู ย้อมผมทองๆ ใส่แหวนเต็มสิบนิ้ว...จะเยอะไปไหน นี่มันเด็กแว๊นชัดๆ ต้ามันเดินมากอดคอน้อง เหมือนสนิทกันแล้วเลย

แล้วน้องอ่ะเฟรนลี่ไง “ครับ” ยิ้มไว้ครับ เพื่อมิตรภาพ

“ตัวโตกว่าที่คิดอ่ะ” แล้วคิดว่าน้องตัวแค่ไหนล่ะครับคุณมึง

“มันแดกเก่งอย่างกับอะไร กินของตัวเองไม่พอ ลามมากินของกูด้วยทุกที” พี่เมษมันว่ากลั้วหัวเราะ

“ก็พี่ชอบกินเหลือ เสียดายของ” น้องเถียงสิครับ พี่มันกินน้อยเกินไป ไม่ใช่น้องกินเยอะเลยจริงจริ๊ง

“ก็แม่งไม่อร่อย ทีหลังมึงก็ซื้ออะไรที่มันอร่อยๆ สิวะ” ยังมีหน้าเถียงกลับอีกแน่ะ ดูมัน

“สนิทกันดีเนอะพวกพี่” ต้ามันแทรกขึ้นมา ทำเอาพวกเราหันมองหน้ากันทันที

“ตรงไหนวะ/ครับ”

“ฮ่าๆๆๆ” ต้าหัวเราะใหญ่เลย เส้นตื้นนะคุณมึง เฮ้อ~ใครๆ ก็คิดว่าพวกเราสนิทกันไปหมดแล้วเนี่ย เพราะพี่เมษเลยทีเดียว

จากนั้นน้องก็นั่งรอพี่เมษซ้อมดนตรี เลยได้รู้ว่าต้าเป็นนักร้องนำนี่เอง เสียงดี เสียงคล้ายใครน้า...พี่หนึ่ง ETC ล่ะมั้ง แบบเท่อ่ะ เพราะดี แต่เพลงที่ซ้อมกันนี่น้องไม่รู้จักหรอก

ประมาณ 6 โมงนิดๆ ก็ซ้อมเสร็จ พี่เมษเหงื่อโชกเลยเชียว ตีกลองมันต้องใช้พลังงานมากขนาดนี้เลยเหรอ น้องเพิ่งรู้ เสื้อนักศึกษาพี่แกนี่ชุ่มโชก แนบเนื้อจนเห็นไปไหนต่อไหน

“ร้อนว่ะ พัดให้หน่อยดิ” พอเดินออกจากห้องซ้อม ไอ้พี่เมษก็ได้ทีใช้งานน้องเลย ทำไงได้ครับ มันเป็นสารถีให้เช้าเย็น เอาใจมันหน่อยก็ได้ ขนาดกับไอ้พิชญ์น้องยังไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ให้เลยนะ

น้องหยิบสมุดวาดรูปที่พกติดตัวตลอด (เผื่อเจออะไรน่าสนใจให้สเก็ตซ์ภาพไว้เป็นแนวคิด) มาพัดๆ ให้พี่มัน

“เดี๋ยวแวะโรงอาหารก่อนนะ หิวมาก” อันนี้มันหันไปบอกเพื่อนมัน พี่ปาล์มกับพี่นัดที่อยู่หอด้วยกันนั่นเอง ส่วนอีกสองคนรู้สึกหอนอก แยกกันไปคนละทางแล้ว

“เออ กูไลน์บอกพวกไอ้วันให้ลงมาจองที่แล้ว ไอ้เห็ดมึงนั่งกับพวกกูเปล่า ไอ้พิชญ์มันอยู่รึเปล่าวะ” พี่นัดหันมาถามน้องต่อ

น้องส่ายหน้า “พิชญ์บอกว่าไปกินกับหนิง...” ฮือออ พูดแล้วเจ็บช้ำว้อยยยย

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะลูก เดี๋ยวให้พ่อนัดดูแลเอง” พี่นัดโอบหัวน้องไปกอดไว้ อยากจิร้องไห้ซบอก แต่ไม่เอาครับ อาย

“พอเลยๆ ไอ้เห็ด! มานี่ ไปได้แล้ว!” โอ๊ยยยย ทำไมต้องดุกูด้วยเนี่ยพี่เมษ จะอ้อนพี่นัดสักหน่อย ลำไยจริงว่ะ! ผีพี่ว้ากเข้าสิงมันรึไงวะเนี่ย! แหกปากซะลั่นมอ

******

ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้าต่อไป ฮ่าๆๆๆ แต่งคลายเครียดไปเรื่อยๆ ก่อนแล้วกันเนาะ
หรือยิ่งเครียดกว่าเดิมหว่า?
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.4 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: wanirahot ที่ 26-02-2018 18:22:45
เอ้า พึ่งรู้ว่าน้องตัวใหญ่ คิดมาตลอดว่าน้องตัวเล็ก พี่ตัวใหญ่ ยังไงละเนี่ย แล่วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.4 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 26-02-2018 22:00:53
น้องเห็ดอาจจะดูใสซื่อ บ๊องแบ๊ว แต่เห็ดไม่เล็กนะครับ ฮ่าๆๆๆ
สนุกมั้ยก็ไม่รู้ แต่คนแต่งแต่งแล้วสบายใจ ฟู่วววว
ดราม่ากันนิดหน่อย พอกรุ้มกริ่ม อยากให้ชิพใครดีๆๆๆ

5
PiTz: มึงอยู่ไหน ว่างเปล่า

หืม? ถามแบบนี้แม่งต้องมีเรื่องให้น้องทำแน่ๆ เปิดอ่านไปแล้ว แต่แกล้งไม่ว่าง ไม่ตอบได้มั้ยวะ

PiTz: อ่านไม่ตอบ อาทิตย์นี้กลับบ้านคนเดียวนะ

ฮึ่ยยยยยย ตอบก็ได้วะ แม่งขู่ ก็ต้องอาศัยซ้อนมอไซค์มันกลับบ้านอ่า

Huge MUSHROOM: ว่าง มีไร


PiTz: กูลืมเลคเชอร์จารย์ศักดิ์ไว้ที่ห้อง 208 ฝากเอามาให้ที่ตึกอักษรที

โหยยย ตั้งไกลนะตึกนั้นอ่ะ คนละทางกันเลย

Huge MUSHROOM: แล้วกูจะไปยังไง มึงมาเอาเองดิ มารับกูด้วย

PiTz: เดี๋ยวมึงมารอหน้าคณะ รถโตโยต้า วีออส สีแดง ทะเบียน xxxx

ไอ้พิชญ์มันขับรถใครมาวะ น้อง งงๆ แต่ก็ตอบเออออไปแล้ว ก่อนจะรีบเดินขึ้นตึกคณะไปเอาสมุดเลคเชอร์ให้มัน แล้วก็รีบวิ่งกลับลงมาที่หน้าคณะ มองหารถเลขทะเบียนที่ว่า อ๊ะ! เจอแล้ว สีแดงๆๆๆๆ (น้องไม่ใช่หนูผึ้งในเรื่องล่านะเฮ้ย อย่าไปออกเสียงตามนั้นล่ะ)

น้องวิ่งๆ มาที่รถ ฟิล์มโครตทึบอ่ะ ใครวะ ไอ้พิชญ์รึเปล่า?

แกร๊ก

อุ้ย ประตูเปิดแล้ว ขาเรียวๆ สวยๆ ไม่ใช่ไอ้พิชญ์แน่นอน เพราะใส่กระโปรง ผู้หญิงนี่!

“เห็ดใช่มั้ยคะ? ผู้หญิงรูปร่างสูงเพรียว หุ่นเหมือนนางแบบ ผมยาวตรงสีน้ำตาลอ่อนแบบย้อมมา ยาวสยายถึงกลางหลัง สวมแว่นกันแดดสีดำ ก้าวลงมาจากรถ ยื่นมือมาที่เลคเชอร์

“พิชญ์ให้มารับเห็ดกับเลคเชอร์” เธอยิ้มสวยมาก ทาลิปสีแดงเข้มตัดกับผิวสีขาว ขาวแทบใสเห็นไปถึงเครื่องใน เล็บยาวแต่งไว้เรียวสวยทาเล็บด้วย แต่สีอะไรไม่รู้บอกไม่ถูก มันเป็นประกายๆ สีขาวๆ

“คะ ครับ” อึ้งอยู่ครับ คือ ปกติน้องไม่เคยสนใจมองใครว่าสวยหรือน่ารักไง ยกเว้นคนที่เอาขนมให้กิน แต่คนนี้ยอมรับว่าสวยจริงจังมาก ตอนที่เธอถอดแว่นกันแดด น้องนี่ตกตะลึงตึงตึง

“ขึ้นรถสิคะ เดี๋ยวพาไปหาพิชญ์เนาะ” เธอเปิดประตูให้น้องเข้าไปนั่งข้างคนขับ ตายห่า นี่กูต้องให้ผู้หญิงเปิดประตูรถให้ เขินเว้ยยยย ไม่รู้หน้าแดงหรือเปล่า แต่หน้ามันร้อนๆ อยู่เหมือนกัน มันอายยยย

“ขอบคุณครับ” น้องยิ้มเก้อๆ แล้วนั่งบนเบาะแบบตัวเกร็งๆ นิดหน่อย

“เราชื่อ อิงอิง นะ เป็นเพื่อนของหนิง แฟนพิชญ์อ่ะ” อ้อ งี้นี่เอง

“ครับ” น้องยิ้มๆ ให้เธอ คือ ที่ผ่านมาแทบไม่เคยได้อยู่ใกล้ๆ ผู้หญิงคนไหน ยกเว้นม๊า เพราะน้องกับพิชญ์เรียนโรงเรียนชายล้วน ไอ้สมัยอนุบาลประถมนี่ไม่นับ เพราะตอนนั้นไม่ได้แยกเพศอะไรเท่าไหร่ พอต้องมาอยู่ในรถแคบๆ กับสาวสวยสองต่อสองมันเกร็งเว้ยยย

“เห็นหนิงกับพิชญ์บอกว่าเห็ดเฟรนลี่นี่นา ทำไมคุยน้อยจังคะ” กับผู้ชายด้วยกันอ่ะเฟรนลี่ครับ ผู้หญิงในคณะก็ไม่นับ เพราะมีน้อยแล้วแม่งแมนไง

“แหะๆ ก็เพิ่งรู้จักกัน” น้องเกาหัวอย่างเก้อเขิน เธอก็ยิ้มอย่างเอ็นดู บรรยากาศเริ่มผ่อนคลายลงทีละน้อย รู้ตัวอีกทีก็คุยกันปกติได้แล้ว

******

“นี่หนิง แฟนกู มึงเห็นจากรูปในไลน์แล้วนี่” พอมาถึงตึกอักษร ไอ้พิชญ์ที่ยืนรออยู่หน้าตึกแล้ว (กับแฟนมัน) ก็แนะนำหนิงให้น้องรู้จัก

“สวัสดีครับหนิง” น้องยิ้มทักทายไป

“ดีค่ะน้องเห็ด” ทำไมเรียกกูอย่างนี้อีกคนละ ไอ้ต้า นักร้องนำวงพี่เมษก็ทีนึง นี่มาแฟนเพื่อนอีก

“เขาอายุเท่าเราไม่ใช่เหรอหนิง” อันนี้เพื่อนหนิง อิงอิง เป็นคนถาม

“อ้าว ก็แหม ใครๆ ก็เรียกน้องเห็ดนี่นา น่ารักดีออก ดูสิ เนี่ย” แล้วเจ้าหล่อนก็เลื่อนๆ หน้าจอมือถือส่งให้เพื่อนดู

“อ๋อ อืม มันก็น่ารักดี แต่เห็ดชอบหรือเปล่าล่ะ” อิงอิงหันมามองน้อง เธอดูเคารพสิทธิส่วนบุคคลของน้องมาก ไม่เคยมีใครถามแบบนี้เลย

“ก็ไม่ได้ไม่ชอบอ่ะครับ ยังไงก็ได้” น้องว่ายิ้มๆ น้องไม่ซีเรียสหรอกเอาจริงๆ

“แต่เราขอเรียกเห็ดเฉยๆ นะ แค่นี้ก็น่ารักแล้ว” อุ มาหยิกแก้มด้วย มือนิ๊มนิ่มมมมม อ๊า~ฟินคร้าบบบบ

“ทำหน้าอะไรของมึง ไปได้แล้ว วันนี้ไปกินข้าวด้วยกัน” ไอ้พิชญ์ตบบ่าน้องดังผัวะ ไอ้เพื่อนเวร ไม่เอาให้ลูกตากูหลุดเลยล่ะ ช่วงนี้งอนมันครับ แม่งเทน้องมาสองอาทิตย์แล้วเนี่ย อาทิตย์นี้บอกจะพากลับบ้าน ถ้าเทอีกมีต่อย

ตรู๊ดดดด

โอ๊ะ มีคนคอลมาครับ

“ครับพี่” น้องกดรับสายทันทีพลางเดินไปที่รถของอิงอิง คนอื่นๆ ขึ้นไปนั่งกันเรียบร้อย ส่วนน้องขอตัวรับสายพี่เมษก่อน

[มึงหายไปไหนเนี่ย กูมารับไม่เจอ ไอ้กันต์ก็บอกเพิ่งเลิกเรียน ไม่เจอมึงเหมือนกัน] ฉิบหาย! น้องลืมไลน์ไปบอกพี่มัน เอาไงดีวะ

“มีอะไรรึเปล่าคะเห็ด” อิงอิงเห็นน้องยึกยักๆ ไม่ขึ้นรถเลยเลื่อนกระจกลงแล้วถาม

“เออ พี่...”

[อ๋อ กูรู้แล้ว แค่นี้นะ] อ้าว? เอ๊ย พี่แม่งวางสายอ่ะ ยังไม่ทันพูดอะไรเลยนะเว้ย อะไรของมันวะ

น้องโครตไม่เข้าใจความติสท์ของพี่เมษ แม่งติสท์ยิ่งกว่าเด็กถาปัดอย่างน้องอีกเอาจริง มันวางสายไปเองแล้วก็ไม่เป็นไรแล้วมั้ง น้องไปดีกว่า

******

วันนี้กินโครตอิ่มอ่ะบอกเลย ไอ้พิชญ์มันให้อิงอิงขับรถพาไปกินที่ห้างในเมือง ไม่ได้กินอาหารญี่ปุ่นมานานมากกกกก ตั้งแต่มาที่มอ กลับบ้านก็กินแต่อาหารจีนฝีมือม๊า แต่จริงๆ น้องชอบกินปลาดิบมากกกกกก โดยเฉพาะปลาทูน่า

ตอนขากลับ อิงอิงขับรถกลับมาส่งพวกเราที่มอ ส่วนเธอกับหนิงก็กลับบ้านไปด้วยกัน ไอ้พิชญ์ก็ขี่มอไซค์พาน้องกลับหอ น้องเอาซูชิมาฝากพี่เมษด้วยนะ ไม่เคยลืมหรอก น้องรู้ว่าพี่เมษชอบกินปลาหมึกเหมือนกัน แล้วก็ชอบปลาดิบทูน่าเหมือนกันด้วย

“พี่เมษ ผมซื้อซูชิกับปลาดิบมาฝาก” น้องเดินเข้าไปในห้องก็เห็นพี่มันกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ สงสัยมีรายงานมั้ง เห็นขีดๆ เขียนๆ อะไรไม่รู้ แล้วมีโน๊ตบุ๊คด้วย

มันแค่เหลือบสายตามามองน้องแล้วก็ทำงานต่อ น้องวางกล่องซูชิลงบนโต๊ะมัน หลบมุมๆ จะได้ไม่เกะกะงานมัน “กินเลยมั้ยพี่ เดี๋ยวผมแกะให้”

“กูกินข้าวแล้ว”

“ก็กินอีกได้ ไม่อ้วนหรอกพี่ พี่ตัวนิดเดียวแค่เนี้ย กินเยอะๆ หน่อยดิ” น้องกะจะแซวมันเล่นขำๆ แต่มันทำหน้าไม่พอใจซะงั้น

“เรื่องของกู มึงกินเองไปเลย เอาไปให้ไอ้ก๋วยเตี๋ยวหน้าหอก็ได้” ก๋วยเตี๋ยว เป็นชื่อหมาที่ลุงประจำหอแกชอบเอาข้าวไปให้ครับ เห็นว่าอยู่มาก่อนพวกน้องจะเข้ามาเรียนที่นี่อีก

“อะไรอ่ะพี่ งอนอะไรผมรึเปล่าเนี่ย” น้องยู่ปากน้อยๆ เอานิ้วจิ้มๆ แขนมัน “อย่าดึงหน้าดิพี่ ไม่ใช่เวลาว้ากแล้ว”

พี่เมษมันคงรำคาญ เขยิบหนีสะบัดแขนใส่อีก “กูจะทำงาน อย่ากวน”

“โอเค งั้นผมไปเล่นห้องไอ้โตนนะ ถ้าพี่ไม่กิน ผมให้พวกไอ้โตนกินก็ได้” ไม่ง้อมึงหรอกพี่ เชอะ คนอย่างน้องไม่เคยง้อใครนะบอกเลย ทำเป็นงอน น้องคว้าถุงซูชิที่อุตส่าห์ตั้งใจซื้อมาขอโทษที่ลืมมันเมื่อเย็นเดินออกจากห้องไป มาเคาะประตูห้องไอ้โตน ก็เงียบสนิท สงสัยไม่อยู่ ลงไปชั้นล่างก็ได้ เจอใครก็ให้กินไปเลย ไม่งั้นก็ลาภปากไอ้ก๋วยไปแล้วกัน

“อ้าว? กลับมาแล้วเหรอวะ” พอลงมาข้างล่างก็เจอพวกพี่นัดเดินกลับมาจากโรงอาหารพอดี ทำไมพวกพี่เพิ่งมาอ่ะ?

“ครับ มาเมื่อกี้ พวกพี่กินซูชิมั้ย ผมซื้อมาให้พี่เมษ แต่พี่มันบอกว่าอิ่มแล้ว” น้องชูถุงให้ดู พี่นัดเลิกคิ้วขึ้น

“อะไร อิ่มได้ไง พวกกูชวนมันมากินข้าว แต่มันบอกจะรอมึงไง”

“จริงเหรอพี่?” น้องขมวดคิ้ว งงใจครับ อะไรของไอ้พี่เมษมัน

“จริงน่ะสิ เนี่ยพวกกูเพิ่งเดินกลับมาจากโรงอาหารเอง มันงอนมึงมั้งไอ้เห็ด” พี่จอนว่า น้องก็คิดอยู่หรอกว่าพี่มันงอน แต่ไม่รู้จะต้องง้อยังไงอ่ะ

“น้องเห็ดน้อยหนีไปเที่ยวกับสาวที่ไหนมาล่ะครับ เมษมันถึงได้งอนเอาน่ะ” ไอ้ตะวันเสนอหน้ามาเลย อย่ามาเกาะไหล่กูววววว

“ผมเปล่าหนี...ก็จะบอกแล้ว พี่เมษไม่รอให้พูด” น้องหน้างอ ก็น้องไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา

“คิดดีๆ ก่อนพูด” พี่ปาล์มที่แทบไม่เคยคุยกันมากกว่าสามคำ จู่ๆ ก็บอกออกมาหน้านิ่งๆ น้องนี่กะพริบตาปริบๆ มองพี่ปาล์มเลย ปกติพี่เขาไม่พูดกับน้องก่อนหรอก

“มีอะไรกันพี่ ไอ้เห็ดมันกวนอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าตาซีเรียสกันจัง” เพื่อนพิชญ์คนดีย์ของน้องโผล่มาได้จังหวะ น้องหันไปมองมันอย่างเว้าวอน ขอตัวช่วย

“เห็ดไม่ได้ทำอะไรพวกพี่หรอกครับน้องพิชญ์” ตะวันมันตอบก่อนเพื่อนเลย “แค่มันทำให้ไอ้เมษโกรธ แล้วไม่รู้ตัว ไม่รู้จะง้อพี่มันยังไง”

“อ๋อ” ไอ้พิชญ์ทำหน้าเหมือนรู้เรื่องทันที “มึงขอโทษพี่เขายังล่ะ”

“มึงน่าจะหัดให้มันคิดอะไรเองมั่งนะพิชญ์” เสียงพี่ปาล์มลอยมาอีกแล้ว วันนี้พี่มันพูดเยอะว่ะเฮ้ย แต่แม่งพูดทีโครตจี้ใจดำกูเลย

“ผมจะพยายามแล้วกันพี่ ไปมึง ขึ้นไปขอโทษพี่เขาก่อน กูเองก็ลืมเตือนให้มึงบอกเขาด้วยแหละ” ไอ้พิชญ์ตบบ่าน้องปั่บๆ ดันหลังให้เดินกลับขึ้นไปบนห้อง คือกูก็เพิ่งเดินลงมาไง แต่ไปก็ได้วะ

“พิชญ์แม่งเหมือนพ่อไอ้เห็ดจริงๆ ว่ะ” น้องได้ยินเสียงพี่ๆ มันดังแว่วมาจากด้านหลัง แต่ไม่ได้สนใจแล้ว น้องรีบไปขอโทษพี่เมษก่อน

“พี่เมษ!” น้องเปิดประตูปังจนพี่เมษสะดุ้งตูดเด้งจากเก้าอี้ (แอบขำอ่ะ) “ผมขอโทษที่ไม่ได้ไลน์ไปบอกก่อน ไปกินข้าวกันเหอะ!” แล้วก็เดินไปฉุดแขนมันเลย น้องเห็ดเป็นคนใจร้อนครับ ถ้าคิดว่าต้องทำ ก็จะทำเลย

“อะไรมึง! เดี๋ยว ไอ้เห็ด!” พี่เมษโดนฉุดกระชากจากเก้าอี้ ลุกมาแบบงงๆ “กูบอกว่าอิ่มแล้วไง”

“ผมเจอพวกพี่นัดเมื่อกี้ เขาบอกพี่ยังไม่ลงไปกินข้าว”

“ก็...กูกินบนนี้ไง” พูดแล้วหลบตาแบบนั้น ถึงน้องโง่ก็รู้นะว่าโกหก

“แล้วไหนกล่องข้าวที่พี่กิน? ถุงที่ใส่มาก็ได้” น้องกวาดสายตามองตามถังขยะและที่วางจาน พี่เมษเหมือนเถียงไม่ออก สุดท้ายก็ยอมลงไปกินข้าวด้วยกัน

“กะเพราปลาหมึกไข่ดาว ของโปรดพี่ใช่ม้า ผมจำได้หรอก” น้องให้พี่เมษนั่งรอแล้วก็เดินไปสั่งข้าวมาให้ ดีที่ครัวยังไม่ปิด เพราะเพิ่งจะสองทุ่ม ของน้องก็กะเพราปลาหมึก แต่ไม่เอาไข่ดาว กินแล้วกินอีกก็ได้ ถ้าพี่มันจะรอขนาดนี้ “แล้วเดี๋ยวกินซูชิด้วยกัน ผมเลือกมาแต่ของที่พี่ชอบเลยนะ ไม่กินจะเสียใจ” ยักคิ้วให้มันทีหนึ่งด้วย

พี่เมษถอนหายใจปุแล้วก็ลงมือกินข้าวเงียบๆ น้องก็เลยกินบ้าง คอยมองหน้าพี่มันตอนกินก็เหมือนจะดูอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยแล้วมั้ง

“พี่ชอบใส่วาซาบิในโชยุ ผมจำได้” เพราะเคยไปนั่งกินด้วยกันครั้งหนึ่ง ตอนวันที่ไปตีแบด แล้วพี่มันพาไปกินซูชิกับไอติม ซูชิหารกัน แต่ไอติมมันเลี้ยงน่ะ

“ทีงี้ทำเป็นความจำดี แต่เสือกลืมว่ากูจะไปรับ” แหม มีบ่นแล้วครับ มันพูดออกมาแบบนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย น้องไม่ชอบให้เงียบ ไม่บอกว่าโกรธอะไร งอนอะไร เพราะจะไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง

“โห่ พี่ ก็ผมมัวแต่ตื่นเต้นอ่ะ เจอสาวสวยด้วย เพื่อนแฟนไอ้พิชญ์มัน สวยมากเลย เด็กอักษร” พอน้องพูดขึ้นมา พี่มันก็หน้าตึงๆ อีกละ อะไรวะ

“เหรอ” มันวางตะเกียบเลยอ่ะ

“อ้าว? เพิ่งกินไปคำเดียวเองพี่ อิ่มแล้วเหรอ?” เหลืออีกตั้งหลายชิ้นเนี่ย ปลาดิบยังไม่ได้แตะเลยสักชิ้น “ร้านนี้อร่อยนะ อิงอิง เพื่อนหนิงอ่ะ เขาบอกมา ผมเลยคิดว่าพี่ต้องชอบ”

“อิ่มแล้ว! กูจะกลับไปอ่านหนังสือ มึงไม่ต้องตามมานะ” แล้วพี่เมษมันก็ลุกพรวด เดินตึงตังกลับหอไปเลย

“อ้าว? พี่ เฮ้ย! ไม่ให้ตามไงวะ ก็ผมนอนห้องเดียวกับพี่! ไอ้พี่เมษ!” งงไปครับ แม่งหาว่าน้องขี้งอน มันน่ะขี้โครตงอนยิ่งกว่าน้องอีกเนี่ย ดูดิ แม่ง...เซ็งเลย

******

วันต่อมา พี่เมษแม่งชิ่งหนี ออกไปแต่เช้ามืดเลย ไม่รอไปส่งน้องด้วย มันโกรธอะไรอีกวะ ไม่เคยเข้าหน้ากันไม่ติดแบบนี้มาก่อนเลย ทุกทีต่อให้ทำมันโกรธยังไง มันก็จะตามมาไล่เตะ ไล่ด่า แล้วมันก็จะหายโกรธเอง มาแกล้งมาแหย่น้องเล่นเอง แล้วทำไมครั้งนี้มันถึงไม่หายโกรธสักทีล่ะ น้องก็ขอโทษไปแล้วนี่นา

แล้วน้องจะทำไงล่ะ ก็ต้องเดินไปเรียนน่ะสิ เฮ้อ~

ปิ๊นๆ

เสียงบีบแตรจากรถที่สวนมาทำให้น้องหันไปมอง รถคันสีแดงชะลออยู่ข้างๆ อิงอิงนั่นเอง

“ให้เราไปส่งมั้ย เห็นเดินก้มหน้าก้มตา” นางฟ้ามาโปรดชัดๆ นั่งในรถแอร์เย็นๆ ก็ดีเหมือนกัน

“จะดีเหรอ?”

“เรามาเร็วน่ะ ยังไม่เข้าเรียนหรอก วนรถไปส่งเห็ดก่อนค่อยไปก็ทัน” เธอว่าพลางปลดล็อคประตูให้น้อง แล้วจะไม่ขึ้นได้ไงล่ะครับ

“เหะๆ กำลังร้อนพอดีเลย” น้องขอแอร์โหน่ยจิ๊ เอาหน้ายื่นๆ ไปให้ลมพัดเย็นๆ สักที อา~สดชื่นนนน

“ปกติเดินไปเรียนเหรอ”

“ปกติไปกับไอ้พิชญ์ แต่มัน...” น้องหน้าสลดลง จะให้พูดถึงเพื่อนของอิงอิงเชิงไม่ดีได้ไงล่ะ

“อ๋อ เราเข้าใจนะ ตั้งแต่หนิงเป็นแฟนพิชญ์ ก็ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับเราเหมือนกัน ทั้งที่เคยอยู่ด้วยกันมาตลอด ตั้งแต่ม.ต้น” อิงอิงถอนหายใจ “คนมีแฟนก็งี้ล่ะมั้ง”

“อิงอิงไม่เคยมีแฟนเหรอ” น้องสงสัย สวยๆ แบบนี้น่าจะมีคนมาขายขนมจีบเพียบเลยนี่นา

“ไม่เคยหรอกค่ะ อิงเอาแต่เรียน จนสอบเข้าได้ เมื่อก่อนขี้เหร่ด้วยแหละ” เธอว่ายิ้มๆ เคยขี้เหร่ด้วยเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ

“แต่ตอนนี้สวยมากเลยนะ น่าจะมีคนจีบเยอะรึเปล่า”

“ไม่มีเลย คณะเราผู้ชายมีเท่าหยิบมือเองมั้ง แล้วเราก็เป็นพวกไม่ค่อยเข้าสังคมด้วย ไม่ได้ไปเดินให้คนมอง อยู่แต่ห้องสมุด” โห เด็กเรียนนี่เอง “แล้วเห็ดเคยมีแฟนมั้ยคะ เห็นออกจะดัง”

“ไม่เคยครับ ใครจะทนคนอย่างผมได้ คบๆ ไปจะรำคาญแล้วก็เลิกหมดน่ะสิ มีแต่ไอ้พิชญ์แหละที่ยอมคบด้วย แบบเพื่อนอ่ะนะ...อ้อ ตอนนี้มีพี่...” อ่า แต่ว่า พี่เมษไม่ใจดีกับน้องแล้ว แถมยังโกรธอะไรน้องก็ไม่รู้

“พี่? มีพี่ด้วยเหรอคะ” อิงอิงเอียงคออย่างสงสัย

“เปล่าครับ ผมเป็นลูกคนเดียว” น้องยิ้มฝืนๆ ไปให้ ก็พอคิดถึงพี่เมษแล้วใจมันโหวงๆ แปลกๆ ทำไมต้องโกรธน้องด้วยนะ น้องทำอะไรผิดอีกแล้วเหรอ เรื่องที่ไม่ไลน์บอกว่าไปกับพิชญ์ก็ขอโทษแล้วไง แล้วมันมีเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย คิดไม่ออกจริงๆ

อิงอิงมาส่งน้องที่หน้าคณะเสร็จก็ขับรถกลับคณะตัวเอง น้องขอบคุณเธอเรียบร้อย ก่อนจะเดินเข้าตึกไป วันนี้ยังไม่เจอไอ้กันต์แฮะ ช่วงนี้ทุกคนดูแยกย้ายกันไปหมดเลย น้องรู้สึกเหงาๆ ขึ้นมาเลย

กว่าจะเรียนเสร็จก็สี่โมงเย็นแล้ว ถ้าจำไม่ผิดพี่เมษมีซ้อมทุกวันอังคารกับพฤหัส จะลองไปดูหน่อยดีมั้ย เผื่อว่าพี่มันจะหายโกรธแล้ว จะได้กลับห้องด้วยกัน

แต่เดินไปก็ไกลอีกอ่ะ เอาไงดีว้า

ติ้ง!

อ๊ะ! ใครไลน์มาหา หยิบมาดูสิ

IngIng: เลิกเรียนรึยังคะ ให้เราไปรับกลับหอมั้ย

OMG!!! นี่มันโครตนางฟ้าแล้ววววว เทพธิดาชัดๆ น้องรีบตอบตกลงไปแบบไม่คิดเลย มีเพื่อนแบบอิงอิงเนี่ย โครตจะดี บอกเลย

“รอนานมั้ย ป่ะ เราไปส่งที่หอ” อิงอิงเปิดประตูให้ น้องก็ขึ้นไปนั่งทันที แอร์เย็นๆ มาแล้ววววว เย็นสบายสุดๆ ไปเลย

“แวะนั่งเล่นที่โรงอาหารหน้าหอเรามั้ย อิงอิงรีบหรือเปล่าครับ” เริ่มสนิทแล้วครับ น้องสนิทกับคนง่ายจะตาย เปลี่ยนมาเรียกตัวเองว่า เรา เลยดีกว่า ดูกันเองดี

“ก็ได้นะ สักทุ่มนึงค่อยกลับก็ได้” เธอยิ้มรับ แล้วเราก็ไปนั่งเล่นที่โรงอาหารหน้าหอของน้องกัน

“เราเพิ่งเคยเข้ามาถึงที่นี่นะเนี่ย เพราะเป็นหอชายด้วยอ่ะ เลยไม่ค่อยได้เฉียดเข้ามา” อิงอิงนั่งลงบนโต๊ะม้าหินริมสระน้ำ ส่วนน้องก็เดินไปซื้อน้ำหวานเย็นๆ กับขนมมาเสิร์ฟ อุตส่าห์ขับรถมาส่งทั้งที น้องเลยใจดีเลี้ยงเพื่อนสักหน่อย

“มุมนี้อ่ะ บรรยากาศดีมาก ตอนค่ำๆ จะเห็นแสงไฟสะท้อนในน้ำ ดาวบนฟ้าก็เยอะ ที่นี่เห็นดาวเยอะกว่าในเมืองมากอ่ะ” น้องเล่าให้เธอฟังไปกินขนมไป

“เห็ดโรแมนติกดีจัง ชอบดูดาวเหรอ” อิงอิงดูดน้ำหวานด้วยความกระหาย นอกรถมันร้อนโครตอ่ะนะ

“ชอบสิ เราชอบไปนอนดูดาวตามต่างจังหวัด เวลาที่ป๊าม๊าพาไปเที่ยว แล้วก็ชอบท้องฟ้าจำลองมากเลย ที่บ้านเรามีกล้องโทรทรรศน์ด้วยนะ แต่ไม่ได้ของแพงหรอก ของเด็กเล่นนี่แหละ” พอได้คุยเรื่องที่ชอบมันก็จะยาวหน่อยๆ ครับ

“โห จริงจังมากเลยนะเนี่ย เราก็ชอบดูดาวบนฟ้านะ เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ไม่ได้สนใจเป็นพิเศษขนาดนั้น”

“อ้าวๆๆๆ น้องเห็ดน้อยที่น่ารักของพี่ตะวัน” โอยยย มาอีกละ ไอ้ตัวป่วน ตะวันมันเข้ามาขัดจังหวะที่พวกเราคุยกันไม่พอ ถือวิสาสะนั่งเบียดน้องเอาแขนมากอดคอเหมือนเคย อิงอิงดูจะงงๆ เพราะเธอคงไม่รู้จักมันหรอก “วันนี้อยู่กับสาวสวยเหรอครับ มีแฟนไม่บอกพี่บอกเชื้อนะเรา”

“ไม่ใช่แฟนกัน นี่เพื่อนผม” น้องเขยิบหนีพลางส่ายหน้าเซ็งๆ อิงอิงก็ดูจะกลัวๆ ไอ้ตะวันนิดหน่อย เด็กวิดวะแม่งป่าเถื่อนจะตาย

“จริงป่าวววว” ไม่ต้องมาลากเสียงยาวเลยมึง ลำไยว่ะ

“จริงค่ะพี่ หนูชื่ออิงอิงนะคะ อยู่อักษรปี 2” อิงอิงรีบแนะนำตัว ไอ้ตะวันมันก็ผิวปากหวือ โครตจะไม่มีมารยาทอ่ะ เฮ้อ~

“ถ้าแค่เพื่อน งั้นพี่ก็จีบได้สิครับ” อ้าวเฮ้ยยยย ไอ้นี่! ม่อเพื่อนน้องซะงั้น มันเอาแขนออกจากคอน้องแล้วหันไปยิ้มหวานให้อิงอิง แถมยังยื่นหน้าไปหาด้วย คนอะไรวะ โครตด้านเลย ส่วนอิงอิงก็แก้มแดงๆ นิดหน่อย ไปเขินมันทำม้ายยยยย ไอ้หน้าเห้เนี่ย!

จากนั้นก็กลายเป็นว่า ไอ้ตะวันมันนั่งเต๊าะอิงอิงไปเรื่อยเปื่อย น้องก็นั่งกินขนมดูดน้ำคอยขัดคอมันเป็นระยะ อย่าบอกนะว่ามันจะจีบอิงอิงจริงๆ หน้าตาท่าทางเจ้าชู้ประตูดินอย่างมันจะจริงจังกับใครได้ แค่เห็นเพื่อนน้องสวยเข้าหน่อยก็มายุ่มย่าม ผู้ชายแบบนี้ ป๊าน้องบอกว่าไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างเด็ดขาด จะรักใครก็ต้องมั่นคงกับคนคนนั้นคนเดียว

“ขอโทษนะอิงอิง ไอ้ต...เอ่อ พี่ตะวันมันกวนประสาทอย่างนั้นแหละ” น้องเดินมาส่งอิงอิงที่รถ เพราะค่ำแล้ว เธอก็ยิ้มๆ

“ไม่เป็นไร พี่เขาตลกดี คุยสนุกด้วย เพิ่งเคยเจอคนแบบนี้” งั้นยิ่งต้องระวังเลยครับเพื่อน

“อย่าไปสนใจมันมากเลย เรากลัวมันทำอิงอิงรำคาญ”

“ไม่หรอกๆ น่ารักดีออก ไว้เรามาส่งเห็ดวันไหน จะเอาขนมมาฝากพี่เขาด้วย” อย่าบอกนะว่าไอ้ตะวันมันเต๊าะเพื่อนน้องจนติดแล้วเนี่ย ไอ้ห่าไวไฟเว่อร์ อิงอิงผู้น่าสงสารของน้อง

“มันขี้หลีจะตายไป อิงอิงต้องระวังด้วยนะ” น้องบอกด้วยความเป็นห่วง อิงอิงก็ได้แต่ส่งยิ้มสวยๆ มาให้

“ไม่ต้องห่วงน่า เราแค่อยากคุยกับเขาเฉยๆ ไม่ได้จะคบเป็นแฟนเลยสักหน่อย” งั้นก็แล้วไป “ไปนะเห็ด พรุ่งนี้ถ้าทันเราจะมารับ”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร ขอบใจมากวันนี้” น้องรีบโบกมือปฏิเสธ รบกวนบ่อยๆ ไม่ดีหรอก ถ้าเธออยู่หอในด้วยกันก็ว่าไปอย่าง จากนั้นเธอก็ขับรถออกไป ส่วนน้องก็โบกมือบ๊ายบายตามหลัง ก่อนจะหันหลังเดินกลับหอ แต่...

ไอ้พี่เมษ! อูยยย ตกใจหัวใจเกือบวาย แม่งมายืนอยู่ข้างหลังตั้งเมื่อไหร่วะเนี่ย

“พี่...ผมตกใจนะเนี่ย เล่นเป็นผีเฝ้าสระรึไง”

“ดีนี่ มีรถรับส่งส่วนตัวแล้ว จากนี้ไปก็ไม่ต้องให้กูเป็นสารถีแล้วสินะ” หน้าตาแม่งโครตบึ้งอ่ะ ยังโกรธอะไรอีกเนี่ย ปกติมันโกรธง่ายหายเร็วนี่หว่า

“อะไรพี่ ไม่ใช่รถส่วนตัวสักหน่อย ถ้าพี่ไม่อยากไปรับส่งผมก็น่าจะบอกกันดีๆ ดิวะ ไม่ต้องประชดกันก็ได้” น้องไม่ค่อยโกรธหรือโมโหใครนะ ถึงหงุดหงิดแค่ไหนก็เก็บไว้ในใจ ไม่ค่อยชอบพูดออกมาหรอก แต่กับพี่เมษ น้องรู้สึกว่าต้องพูดมันออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้นจะต้องคาใจและเป็นแบบนี้กันอีกนาน ทั้งที่เราต้องอยู่ห้องเดียวกันเป็นปี

“มึงคิดว่ากูทำประชดเหรอ ทำไมกูต้องประชดมึงด้วย! กูก็แค่พูดตามที่เห็นไง เมื่อเช้าเขาก็ไปส่งมึงนี่ ทั้งที่กู...”

“อะไรอีกอ่ะพี่ อยากพูดอะไรก็พูดมาดิ”

“เรื่องของกู คืนนี้กูจะไปนอนห้องไอ้นัด มึงนอนคนเดียวไปเลย” แล้วมันก็ผลักอกน้องก่อนจะเดินหนีกลับหอลิ่วๆ

น้องโครตจะไม่เข้าใจอ่ะ แม่งอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับมีประจำเดือน หรือพี่แม่งเป็นผู้หญิงปลอมตัวมาวะ!?

เฮ้อ~กูนี่แหละ ท่าจะบ้าแล้ว
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.4 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 26-02-2018 22:02:34
 :n1:
เอ้า พึ่งรู้ว่าน้องตัวใหญ่ คิดมาตลอดว่าน้องตัวเล็ก พี่ตัวใหญ่ ยังไงละเนี่ย แล่วๆๆๆ
เห็ดมันแอ๊บอยู่ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-02-2018 03:59:11
ต่อไปเรียก "พี่เมษ กับ น้องเห็ด" ไม่ได้แล้ว ต้องเรียก "พี่ตัวเล็ก กับ น้องตัวใหญ่" แทน  :laugh:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 27-02-2018 05:19:48
สนุกอ่านเพลินมากเลยครับ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-02-2018 07:46:30
พี่เมษคิดอะไรกะน้องเห็ดแล้วใช่ไหมคะ ออกอาการหึงซะแล้ว
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 27-02-2018 12:44:40
มาดูมุมมองของพี่เมษบ้างครัช ขอบคุณที่ติชมกันน้า~

6
ตั้งแต่เปิดเทอมมา ชีวิตที่ไม่สงบสุขอยู่แล้ว ก็ยิ่งไม่สงบมากขึ้นอีก จะเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะ...

“ไอ้เหี้ยเห็ด!”

ชื่อนี้เป็นชื่อของรูมเมทคนใหม่ปีนี้ เพราะรุ่นพี่ที่เคยเป็นรูมเมทเก่าของผมเรียนจบแล้ว ผมจำไอ้เด็กนี่ได้ ตอนมันอยู่ปี 1 รูมเมทของมันเป็นรุ่นน้องคณะผมเอง มาบ่นให้ฟังประจำเรื่องของมัน มันเหมือนเด็กขาดสามัญสำนึก ชอบหยิบของคนอื่นไปใช้ ถึงจะขอก็เถอะ แต่แม่งเสือกขอปุ๊บเอาไปปั๊บ ไม่รอคำอนุญาตห่าเหวอะไรเลย กินก็จุฉิบหาย ผ้าก็ชอบหมกไว้ไม่ยอมซัก พอไม่มีเสื้อผ้าใส่ก็มาหยิบของรูมเมทไปใส่อีก เอากับมันสิ

แต่ก็พอเข้าใจนะ เพราะมันเรียนสถาปัตย์ งานแม่งโครตเยอะ วันๆ ต้องเรียนแล้วก็กลับมาทำงาน มันก็เลยซกมกไปบ้าง (แต่ทำไมไอ้พิชญ์ เพื่อนมัน โครตจะสำอางวะ) พอได้มาอยู่ร่วมห้องกับมัน ผมแม่งรู้ซึ้งถึงสันดานมันเลย แต่ผมไม่ยักกะรังเกียจ แถมเห็นใจเวลามันนั่งทำงานงกๆ หน้าเครียดๆ ด้วย อาจจะเพราะปกติเห็ดมันไม่ค่อยทำหน้าเครียดมั้ง เวลาทำงานส่งมันดูจริงจังดี ผมก็เลยช่วยมันเก็บกวาดบ้าง หาข้าวให้มันกินบ้าง วันไหนมันเลิกเร็ว มันก็จะซื้อข้าวไว้ให้ผม หรือลงไปกินด้วยกันบ้าง ถ้าผมไม่ติดไปกับเพื่อนๆ ที่ซ้อมดนตรีด้วยกัน

ก็ไม่รู้ว่าเราสนิทกันหรือเปล่า แต่ผมทั้งไปรับไปส่งมันที่คณะ (หลังจากที่มันโดนไอ้พิชญ์เท) อยู่กับมันหลังเลิกเรียนจนเข้านอน แค่นั่งดูมันทำงานไปเรื่อยๆ จนหลับ ถ้าวันไหนมันไม่ทำงาน เราก็จะนั่งอ่านการ์ตูนหรือฟังเพลงด้วยกัน ไอ้เห็ดมันเหมือนเด็กประถม ทั้งที่ตัวโครตควาย ตัวมันใหญ่กว่าผมเยอะ เวลายืนหัวผมอยู่แค่ปลายคางมันเอง ตัวก็อ้วนหนา ก็แม่งชอบกินแต่ขนม เพราะมีคนเอามาให้บ่อย มันก็แดกเกลี้ยงหมด เฮ้อ~

แต่แล้วก็มีเรื่องที่ทำให้ผมไม่พอใจมันมากถึงมากที่สุด

มันอาจจะดูงี่เง่า และผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำตัวแบบนี้ ผมเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เพียงแค่คำขอโทษก็ใจอ่อนได้แล้ว หรือแค่ทำอะไรที่ดูเป็นการไถ่โทษ ผมก็ยอมยกโทษให้มันเสมอ แต่ครั้งนี้มันก็แค่ลืมผม

ใช่...แม่งลืมกู

แค่ไลน์มาบอกสักสองสามคำว่าจะไปเดทกับสาวก็ได้ป่ะวะ ทำไมแม่งต้องลืม แล้วทำให้ผมเสียเวลาขี่รถวนไปหา ทั้งที่ผมต้องไปซ้อมดนตรี แต่ต้องวิ่งวุ่นตามหามันไปทั่วคณะสถาปัตย์ ถามทุกคนที่เจอว่ามันหายไปไหน มันกลับไปรึยัง

คอลไลน์ไปหลายรอบแม่งก็ไม่รับ เหมือนตอนแรกมันปิดเนต หรือไม่ได้ยินเสียงก็ไม่รู้ แต่สุดท้าย มันก็รับสายผมในตอนที่ผมโครตจะของขึ้นสุดๆ แล้ว กะว่าถ้าสายนี้ไม่รับ จะตัดขาดกับแม่งสักวันเลย

แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องไร้สาระที่สุดเท่าที่ผมเคยโกรธใครสักคน

มันไปกับผู้หญิง แม้จะมีไอ้พิชญ์กับแฟนไอ้พิชญ์ไปด้วย แต่ผมก็หงุดหงิดอยู่ดี ถ้าจะไปเต๊าะสาวที่ไหน จนลืมพี่คนนี้ ก็น่าจะบอกกันบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ผมเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว

แต่ผมยังใจดี นั่งรอมันกลับมา เพื่อจะได้ไปกินข้าวด้วยกัน แล้วพอมันกลับมาพร้อมไอ้ของที่มันซื้อมาฝาก ผมก็รู้แล้วว่าแม่งแดกมาแล้วไง โครตหงุดหงิดหนักกว่าเก่า

สุดท้ายมันก็มาง้อผม พาผมไปกินข้าว แต่ก็ยังเสร่อพูดถึงสาวสวยอะไรนั่นให้ผมของขึ้นอีกรอบ

ที่ผมหงุดหงิดมันเพราะอะไรก็ไม่รู้หรอก แต่ผมไม่อยากฟังเรื่องคนอื่นจากปากมัน คนที่ผมไม่รู้จัก คนที่มันอาจจะกำลังชอบ

ผมก็เลยแกล้งออกมาจากหอก่อนมันตื่น กะจะดัดนิสัยเสียๆ ของมันให้เข็ด การลืมผมและเอาแต่สนใจคนอื่น เป็นเรื่องที่ผมโครตเกลียด ผมแอบอยู่แถวๆ หอนั่นแหละ พอเห็นมันเดินคอตกหงอยๆ ก็สงสารแล้ว อยากจะเข้าไปหา แต่จู่ๆ มันก็ขึ้นรถไปกับใครไม่รู้

ตกเย็น หลังซ้อมดนตรีเสร็จ ผมกลับมาที่หอก็เจอมันอีก แต่มันอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง คงเป็นคนที่มันพูดถึงนั่นแหละ ไอ้เห็ดมันไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิง มีแต่สาวๆ เอาขนมมาให้ กับพี่รหัสมันที่ผมเคยเจอสองสามครั้งแถวหน้าหอ แต่คนนี้มันดูสนิทกัน พอผมเดินไปใกล้ๆ ก็ได้ยินว่าเขาจะมารับมาส่งมันให้

แม่งโครตปรี๊ดอ่ะ

ในหัวผมเหมือนมีเสียงน้ำเดือดปุดๆ ที่มันทิ้งผม ลืมผม ทั้งที่ผมไม่เคยคิดจะทิ้งหรือลืมมัน เพราะมันมีผู้หญิงคนนั้นแล้ว โกรธและโมโหมากถึงมากที่สุด แล้วเราก็ยืนเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระอย่างที่ไม่เคยมาก่อน

มันโครตจะไร้สาระ ผมรู้ดี

แต่มันอดไม่ไหวที่จะพูดแบบนั้นออกไป เพราะผมน้อยใจมัน ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมต้องน้อยใจไอ้เด็กเห็ดไร้สามัญสำนึกนี่ แต่มันเป็นไปแล้ว มันหาว่าผมประชด ก็คงจริงมั้ง ผมพูดจาประชดมัน ทั้งที่ถามมันดีๆ ก็ได้ คุยกันดีๆ ก็ได้ กับอีแค่มันมีคนมารับมาส่งแทนผม แทนไอ้พิชญ์ เห็ดมันก็ขี้ร้อน นั่งรถเก๋งแอร์เย็นๆ น่าจะสบายกว่าด้วย แล้วทำไมผมต้องโกรธล่ะ?

ผมอาจจะเคยชินกับการที่ได้ดูแลใครสักคน และใครคนนั้นดันเสือกเป็นไอ้เห็ด

ก็แค่นั้นแหละมั้ง

“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้เห็ดมาว่ะ” ไอ้ตะวัน เพื่อนต่างคณะของผมเอาศอกมาสะกิดๆ ผมเงยหน้าขึ้น เจอไอ้เด็กโข่งยืนทำหน้าตึงเหมือนยักษ์วัดแจ้งตรงหน้าโต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่ เราอยู่ที่โรงอาหารหน้าหอกันครับ ช่วงนี้ผมไม่ได้กลับไปนอนที่ห้อง อาศัยนอนพื้นอยู่กับพวกไอ้นัดบ้าง ไอ้ตะวันบ้าง

“เมื่อไหร่พี่จะเลิกโกรธผม” มันเปิดประเด็น อาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมา มันคงหัวร้อนแทบระเบิดแล้วมั้ง ผมเชิดหน้าใส่ หยิ่งไว้ก่อน

“กูไม่ได้โกรธมึง”

“งั้นพี่ก็กลับไปนอนที่ห้องดิ” มันว่าหน้าโครตนิ่ง ปกติไอ้เห็ดไม่ค่อยโกรธใครหรอก มีแต่โดนคนอื่นโกรธ

“ก็กูไม่อยากกลับ มึงจะทำไม” ผมก็นิ่งกลับไปครับ ต่างคนต่างจ้องหน้ากัน เพื่อนๆ ผมเริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศมาคุ พวกมันเลยเขยิบๆ หนี

“พี่โกรธหรืองอนอะไรผมก็บอกสิวะ ทำแบบนี้ให้ผมย้ายออกไปเลยยังง่ายกว่า ผมรู้ว่าทำให้พี่ไม่พอใจ ทำพี่เดือดร้อน แต่ผมขอโทษแล้วไง พี่จะเอาอะไรอีกก็บอกดิ” นานๆ ทีจะเห็นไอ้เห็ดหัวเสียว่ะ ก็ตลกดีเหมือนกัน ดูมันทำหน้าตึงใส่ ไอ้เด็กโข่งชอบอ้อนออเซาะคนอื่นไปทั่วแบบมึง ต้องหัดทำหน้าตึงๆ ไว้บ้าง

“ไอ้เห็ดไปแดกยาอะไรผิดขวดมาป่าววะ โครตน่ากลัว...” เสียงไอ้นัดดังแว่วๆ มา พวกมันชอบแกล้งแหย่ไอ้เห็ดเล่น เพราะน้องมันไม่เคยโกรธ พอเห็นโหมดนี้เลยหวาดๆ กันขึ้นมาสินะ ตัวมันใหญ่ เวลาโกรธแม่งเลยดูน่ากลัว เพราะแบบนี้หรือเปล่า ที่มันพยายามจะไม่โกรธใคร เอาแต่ฝืนยิ้มเห่ยๆ ของมันไป

“เห็ด มึงใจเอาๆ เอ๊ย ใจเย็นๆ” ไอ้จอนเข้ามาขัดตาทัพ จอนเป็นคนที่ไอ้เห็ดมันเชื่อฟังที่สุด

“นี่ผมเย็นจนเป็นน้ำแข็งขั้วโลกแล้วพี่ พี่จะเอาไงวะ บอกมาเลย ผมไปทำเรื่องย้ายหอเดี๋ยวนี้เลยก็ได้” มันหันไปพูดเสียงอ่อนกับไอ้จอน แต่กลับมาตาขวางใส่ผมอีก ผมก็หงุดหงิดเป็นนะเว้ย

“กูไม่เอาไง! มึงอยากทำไรก็เรื่องของมึงเลย!” แล้วผมก็ลุกพรวดเดินหนีแม่ง

ทำไมผมถึงป๊อดอย่างนี้วะ แค่บอกไปว่างอนน้องมันเพราะมันไปหลีหญิงไม่บอก แค่เนี้ยยย แค่หัวเราะแล้วบอกไม่มีอะไร กูแกล้งมึงเล่น เหมือนทุกที แค่เนี้ย ทำไมแม่งทำไม่ได้วะ

แล้วถ้าไอ้เห็ดมันขอย้ายออกจริงๆ ผมจะทำยังไง

“เฮ้ย! ไอ้เหี้ยเมษ! มึงก็คุยกับน้องมันดีๆ สิวะ โธ่เว้ย” เสียงไอ้ปาล์มดังไล่หลังมา แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมองแล้ว ผมรีบเดินฉับๆ ออกจากโรงอาหาร แม่ง...ทำไมกูต้องเครียดวะ

“พี่เมษ!” แรงกระชากที่แขนทำเอาตัวผมปลิวติดมือไอ้เห็ด ผมหันไปสะบัดแขน แต่มันไม่ยอมปล่อย “คุยกันดีๆ ได้มั้ย” แววตาและเสียงของมันอ่อนลง แต่ก็ยังดูเกรี้ยวกราด สภาพพวกเราตอนนี้แม่ง เหมือนพระเอกนางเอกนิยายน้ำเน่ากำลังงอนง้อกันเลยว่ะ

“คืนนี้กูจะกลับห้อง” ผมกัดฟันกรอดแล้วพูดออกมาแค่นั้น มันเลยยอมปล่อยมือ “พอใจยัง?”

“พี่อย่าประชดดิวะ” ดูเหมือนมันจะเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง คิ้วหนาๆ ขมวดบึ้งตึง มันกัดปากแล้วก็แลบลิ้นเลีย ท่าทางเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง

“ไม่ได้ประชด” ก็จะกลับห้องจริงๆ ไง มันจะได้ไม่ต้องย้ายออก นี่ผมก็ยอมอ่อนให้แล้วนะ แต่ได้แค่นี้แหละ จะคุยก็คุย

“ก็ที่พูดแบบนี้แหละ เขาเรียกประชด จะให้ผมทำยังไงพี่ถึงจะหายโกรธ ผมจะทำทุกอย่าง แค่พี่บอกมา ถึงจะไม่รู้ว่าโกรธอะไรก็เหอะว่ะ”

“แน่ใจว่ามึงจะทำทุกอย่าง?” เข้าทางล่ะมึง หึๆๆๆ กูหายโกรธให้ก็ได้ ถ้ามึงจะยอมกูขนาดนี้

“เออ แต่อย่าให้ทำผิดกฎหมายก็พอ” แหม ทำเป็นมีจิตสำนึกนะมึง ไอ้เด็กไร้สามัญสำนึก!

“ดี! จากนี้ไป มึงต้องขี่รถไปรับไปส่งกูที่คณะ ที่ห้องซ้อมด้วย ต้องอยู่รอกูซ้อมดนตรี ต้องกินข้าวกับกู จะไปไหนกับใครต้องรายงานกูด้วย เสาร์อาทิตย์ถ้ามึงไม่กลับบ้านต้องไปออกกำลังกายกับกู ต้องช่วยกูทำความสะอาดห้อง ช่วยกูซักผ้าล้างจาน ต้องทำตามที่กูสั่ง โอเคมั้ย!?”

“โหยยย ร่ายยาวแบบนี้ ผมจำไม่ได้หรอก” มันโอดครวญ สีหน้าอิดออดแบบเดิมกลับมาแล้ว

“งั้นกูจะพิมพ์ใส่กระดาษแปะไว้หน้าโต๊ะมึง ผิดสัญญา เป็นหมา!” ผมชี้หน้าคาดโทษไว้ มันพยักหน้าหงึกๆ อย่างร้อนรน

“พี่ไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ย?” แววตามันกลับมาเปล่งประกายปิ๊งๆ เหมือนลูกหมาตัวโตที่เจ้าของสั่งเลิกอดข้าว

“เออ ถ้ามึงทำได้ตามที่กูสั่ง”

“ผมจะทำให้ได้! แต่พี่ต้องไม่โมโหใส่ผม มีอะไรต้องพูดออกมาเลยนะ” แน่ะ ยังจะมีหน้ามาต่อรองกับกูอีก

“นั่นมันเรื่องของกู มึงไม่มีสิทธิมาสั่ง” ผมเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากมันแรงๆ มันก็เอามือมาปัดๆ ทำหน้ายู่ยี่ ลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ

“อะไรวะ พี่แม่งขี้โกง”

******

อยากจะบอกว่า ไอ้เห็ดแม่ง...

น่ารักว่ะ

หลังจากที่เราคืนดีกัน (ทำไมพูดแล้วมันสยิวกิ้วพิกลวะ) เออ เอาน่า พอกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแล้ว ไอ้เห็ดก็ดูจะทำตัวดีขึ้นพอสมควร แม้จะยังเอาแต่ใจและไร้สามัญสำนึกเหมือนเดิมก็ตาม

“ตื่น! จะเจ็ดโมงแล้ว” ผมเอาขาเตะๆ ที่ลำตัวมันซึ่งนอนหงายหลับแบบอ้าปากหวอน้ำลายยืดอยู่บนเตียง เชี่ย โครตซกมก...

“อือ...แจ๊บๆ” นั่น ยังเสือกกลิ้งหลบเข้ากำแพงห้อง นอนกอดไอ้ตุ๊กตาปิกาชูเหลืองอ่อยละเมออะไรไม่รู้

“เห็ด! ไอ้เหี้ยเห็ด! จะตื่นไม่ตื่น!” ผมเตะป้าบๆ เข้าให้อีกหลายที แต่แม่งก็ยังหลับเหอะ ดูๆ ไป หน้าตอนหลับมันก็น่ารักดีนะ เหมือนเด็กน้อย ถ้าไม่ติดไอ้คราบน้ำลายสกปรกๆ ของมันอ่ะนะ

“งืม” เหมือนจะได้สติแล้วครับ กว่าแม่งจะยอมตื่น ไอ้ห่าเห็ด!

“ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เราจะออกไปวิ่งรอบมอกัน” เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ครับ และมันไม่ได้กลับบ้าน เพราะไอ้พิชญ์มีนัดเดทกับแฟนมัน บ้านแฟนไอ้พิชญ์ (รู้สึกจะชื่อน้องหนิงหรือไงเนี่ย) อยู่ที่จังหวัดนี้ แต่คนละอำเภอกับมหาลัยเรา

มันลุกขึ้นนั่งงัวเงียกอดตุ๊กตาเอาคางเกยไว้ โอ๊ยยยย หนูน้อยเอ๊ย มึงจะน่ารักไปไหนวะ แล้วดูชุดนอนมัน ลายกระต่ายน้อยสีฟ้า เป็นแบบแขนสั้น แต่ขายาว ผมเคยเห็นมีอีกชุดลายเดียวกันแต่สีชมพู นานๆ มันจะใส่ที สงสัยแม่มันซื้อให้ ฮ่าๆๆ

“ยังง่วงอยู่เลย วิ่งตอนบ่ายไม่ได้เหรอ” มันทำท่าจะล้มตัวลงนอนต่อ ผมรีบดึงแขนมันทันที

“วิ่งบ่ายได้ร้อนตับแตกไอ้สัส ลุกเร็วๆ เดี๋ยวแดดออก” ต้องพามันไปวิ่งครับ แม่งแดกจนพุงปลิ้นหมดแล้ว เสียดายหุ่น ตอนแรกๆ มันโครตเฟิร์ม ที่ไอ้ตะวันเคยบอกกล้ามแน่นนั่นแหละ แล้วดูตอนนี้ดิ อย่างกับหมูตอน!

“อุ้มไปโหน่ย” แม่งอ้าแขนสองข้างทำท่าเหมือนเด็กสองขวบขอให้พ่ออุ้ม ส้นตีนเหอะเห็ด! เลยจัดการโบกหัวมันไปสองป้าบ

“พ่อง!”

******

“โอยยย หิวววว จะเป็นลมแล้วพี่เมษ...” เสียงบ่นดังมาเป็นระยะตั้งแต่เริ่มสตาร์ทที่หลังหอ

“วิ่งให้ได้ 30 นาที แล้วกูจะเลี้ยงขนมที่มึงชอบ” ใจดีกับมันหน่อยวะ พามาลำบากนี่นะ “แล้วพูดไปวิ่งไปมันจะยิ่งเหนื่อยและจุก มึงควรหุบปาก” แต่ผมพูดได้ครับ เพราะวิ่งทุกอาทิตย์ ร่างกายมันเลยชิน รู้จังหวะในการหายใจเข้าออก

ไอ้เห็ดมันก็เชื่อฟังดีมาก ยอมหุบปากวิ่งตามผมไปเรื่อยๆ จนครบ 30 นาที ผมก็พามันเดินกลับไปที่โรงอาหาร หาข้าวเช้ากินกัน

“บังคับน้องออกมาวิ่งอีกแล้วเหรอวะ” ไอ้นัดเสียงดังมาแต่ไกล พวกมันครบเซททิ้งตัวลงนั่งรวมกับพวกผม ไอ้ตะวันนี่ก็ไม่รู้เป็นห่าอะไร ชอบแกล้งไอ้เห็ด ทั้งที่ดูหน้าก็รู้ว่าน้องมันไม่ชอบ ง่ายๆ คือโครตจะรังเกียจ

ทำไมพวกผมถึงได้ชอบแกล้งไอ้เห็ดน่ะเหรอ ก็...ดูมันดิ ทำตัวน่าแกล้งจะตาย ตัวใหญ่ซะเปล่า แม่งโครตใจเสาะ วันๆ ได้แต่งุ้งงิ้งๆ ของมันไปเรื่อย อ้อนคนนั้นทีคนนี้ที ตั้งแต่ไอ้พิชญ์มีแฟนมันก็เกาะแกะไปทั่วเลย ถ้าผมไม่คอยเบรกไว้คงได้ผัวหมดหอ เอ๊ะ หรือเมียวะ เออ ช่างแม่งเหอะ แต่เห็นเวลามันอยู่กับเพื่อน มันก็กวนตีนอยู่นะ เหมือนเด็กผู้ชายอายุสัก 12-13 มากกว่านักศึกษามหาลัย คงเพราะมันเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เลี้ยงมาแบบประคบประหงมจัด เลยดูปวกเปียกน่าแกล้ง

“ไม่บังคับแม่งก็ได้อืดเป็นศพลอยน้ำในห้องกูสิ” ผมว่าพลางยัดขนมใส่ปากมัน บอกว่าจะเลี้ยงก็เลี้ยงจริง แต่นอกจากซื้อมาให้แล้ว กูต้องป้อนด้วย คืออะไรวะ? ให้อาหารหมารึไงเนี่ย

“อยากให้น้องมันหุ่นฟิตเฟิร์มก็บอก แต่กูแนะนำ ถ้าจะเอาไว้นอนกกนะ ต้องอวบๆ หน่อย เนื้อนิดๆ จะได้นุ่มมือ”

“ค...ยเหอะ” ยกนิ้วกลางให้อีวันทองไปหนึ่งดอก “กูไม่ได้รสนิยมเดียวกับมึงมั้ย”

“กูก็ไม่ได้รสนิยมเดียวกับมึงเหมือนกัน สัสเมษ” ไอ้ตะวันแม่งส่งของลับกลับให้ผมอีก ดูเพื่อนกูแต่ละคน น่าคบมั้ยเนี่ยถามจริง

“แล้ววันนี้ทำไรกันดีวะ ไอ้เห็ดมีงานส่งป่ะเนี่ย กูเห็นไอ้พิชญ์ตื่นมาทำแต่ไก่โห่ เห็นบอกบ่ายมีนัดเดท” พอดีไอ้จอนมันอยู่ห้องเดียวกับไอ้พิชญ์ครับ

“มันยังคบกับสาวอักษรคนนั้นอยู่เหรอวะ” งานนินทาต้องมาครับ เรื่องไอ้พิชญ์ดูเป็นที่สนอกสนใจอยู่ช่วงนี้ เพราะเสือกได้ควงดาวอักษรปีก่อน แต่จริงๆ ไอ้พิชญ์มันก็หน้าตาดีนะ ตัวสูงกว่าผมนิดหน่อย สูงโปร่ง หน้าเรียว ตาคม ออร่าจับเหมือนพวกดารา ไม่รู้คนเพอร์เฟคขนาดนั้นมาเป็นเพื่อนไอ้เห็ดได้ไง อย่างกับคนละโลก เสียดายที่พิชญ์มันไม่ชอบทำกิจกรรมเหมือนไอ้เห็ด พากันโดดรับน้องตั้งแต่ปี 1 พวกรุ่นพี่ตามจับตัวไม่ได้ เลยไม่ได้เป็นเดือนคณะ เผลอๆ ถ้าแม่งประกวดอาจได้เดือนมหาลัยเลยด้วยซ้ำ คนเหี้ยอะไร รูปหล่อพ่อรวย ค...ไม่รู้ครับ ไม่เคยพิสูจน์ รู้แค่มันโครตของโครตเก่ง ท็อปของชั้นปี เห็นไอ้เห็ดมันชมเพื่อนมันให้ฟังตลอดแหละ บอกว่าพิชญ์เก่งมาตั้งแต่เด็กแล้ว แถมยังเรียนศิลปะการต่อสู้มาเกือบทุกแขนง กีฬาเล่นเป็นหลายชนิดเลย และเป็นคนสอนไอ้เห็ดเล่นบาสฯ กับเทควันโดด้วย แต่ไอ้เห็ดเสือกเล่นเทควันโดได้แค่สายแดง แล้วแม่งก็เลิก เพราะเบื่อ...ดูมันดิ

มึงควรเอาอย่างเพื่อนมึงมั้ยเห็ด กูพูดจริงๆ

“ก็ดูไปกันได้ดีอยู่นะ พิชญ์มันก็ทั้งหล่อทั้งรวย หัวดีกีฬาเด่น” ไอ้จอนว่า เพราะอยู่ห้องเดียวกันมาสองปีแล้ว ไอ้จอนก็เลยค่อนข้างสนิทกับพิชญ์อยู่ไม่น้อย

“จริงๆ พิชญ์น่าจะสอบเข้ามอดังๆ ในกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ แต่ก็ตามมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนผม...” ไอ้เห็ดมันหน้าสลดลงอย่างชัดเจน “ผมรู้ว่าเป็นตัวถ่วงมันมาตลอด แต่...ถ้าไม่มีพิชญ์ ก็ไม่รู้จะเป็นยังไง”

“ตอนนี้มึงก็ไม่มีมันแล้วไม่ใช่รึไง อยู่กับกู มึงก็อยู่ได้นี่” ผมโพล่งออกมาแค่นั้นแล้วลุกขึ้น เอามือขยี้หัวมันคล้ายจะปลอบใจ ก็ปลอบใจมันนั่นแหละ แล้วก็เดินไปซื้อขนมมาเพิ่ม ยัดให้ตัวแตกไปเลยมึง

ผมรู้นะว่ามันติดไอ้พิชญ์มาก ตอนปี 1 เห็นพวกมันอยู่ด้วยกันตลอด ทั้งที่อยู่หอคนละห้อง เพราะไอ้พิชญ์บอกว่า อยากให้มันอยู่กับคนอื่นบ้าง อยากให้ช่วยเหลือตัวเองได้ ก็เลยแยกกันอยู่ แต่พอเอาเข้าจริง พิชญ์กับไอ้เห็ดก็ยังตัวติดกันแทบตลอดเวลาอยู่ดี ถึงขนาดมีสาวๆ จับไปลงเพจคู่จิ้นอะไรสักอย่าง แต่พอไอ้พิชญ์มีข่าวว่าควงสาว ทวิตเตอร์กับเพจนั่นแทบถล่ม ผมเองก็เช็คข่าวสารอยู่บ้าง เพราะทำวงดนตรี ก็ต้องอยู่ในโลกโซเชียลหน่อย แต่รู้สึกไอ้เห็ดมันจะไม่เล่นอะไรพวกนี้เลย มีแค่ไลน์ไว้ติดต่อกันเฉยๆ

“มึงไม่หาแฟนมั่งล่ะเห็ด เผื่อจะได้ไม่เหงาแบบนี้” ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ ได้ยินเสียงไอ้นัดมันเสี้ยมน้องแว่วๆ มา

“อืม...” ไอ้เห็ดส่งเสียงในคอเหมือนกำลังคิด “แค่พี่เมษก็พอแล้วมั้ง ถึงไม่มีพิชญ์ ก็มีพี่เมษอยู่ด้วย ไม่เหงาหรอกครับ”

มือสั่นเลยกู...ไอ้เห็ดน้อยเอ๊ยยยย ทำไมมึงน่ารักอย่างเน้~
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 27-02-2018 12:45:41
ต่อไปเรียก "พี่เมษ กับ น้องเห็ด" ไม่ได้แล้ว ต้องเรียก "พี่ตัวเล็ก กับ น้องตัวใหญ่" แทน  :laugh:
จะได้ไม่งงสินะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 27-02-2018 12:46:32
สนุกอ่านเพลินมากเลยครับ

ดีใจที่สนุกน้า เราแต่งแนวนี้ไม่เก่ง จะพยายามน้า
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.5 update 26/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 27-02-2018 12:46:56
พี่เมษคิดอะไรกะน้องเห็ดแล้วใช่ไหมคะ ออกอาการหึงซะแล้ว

พี่มันบร้าาาาา
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-02-2018 15:34:05
คู่เพี้ยน

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 27-02-2018 21:36:25
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-02-2018 03:56:54
เล่นหยอดคำพูดแบบนี้ เล่นเอาพี่ตัวเล็กมือไม้ระทวยไปหมดเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 28-02-2018 13:12:32
น้องเห็ดก็ยังคงเห็ดอยู่วันยันค่ำ...ด้วยนิสัยไม่สนโลกของนาง กว่านางจะรู้สึกตัวคงอีกนาน

7
วันนี้น้องเห็ดขับมอไซค์ของพี่เมษไปส่งพี่มันที่คณะ แล้วก็ขี่มาคณะตัวเองต่อ ตามสัญญาที่เคยให้ไว้น่ะครับ มันให้กุญแจน้องไว้ถาวรเลย ส่วนค่าน้ำมันก็หารกัน

“พี่เห็ด!” พอลงจากมอไซค์ปุ๊บ ไอ้กันต์ สายรหัสที่หายตัวไปพักหนึ่งก็โผล่หัวมาทันที “ข่าวล่ามาแรงอีกแล้วพี่!”

“อะไรของมึงวะ” น้องทำหน้ายุ่งใส่ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบตีสาม ช่วงนี้งานแม่งมาถี่มาก แก้แล้วแก้อีก ไอ้พิชญ์ก็หายหัว ไม่มาช่วยกันเล้ย ยังดีพี่เมษมันว่าง มาช่วยตัดโมเดลจนถึงเที่ยงคืน

“นี่ๆ” มันส่งไอแพดมาให้น้องดู ก็ไอ้หน้าเพจเดิมๆ เอ๊ะ! แต่มันมีรูปน้องกับ...พี่เมษ!!!

“อะไรเนี่ย” น้องขมวดคิ้ว ไอ้รูปที่ถ่ายๆ มา มันมีรูปตอนอยู่ในห้องด้วย เหี้ย แม่ง ใครแอบถ่ายพวกกูเนี่ย โครตโรคจิต

“พวกพี่ถึงขั้นไหนกันแล้วถามจริง นี่ไม่ต้องชิพ แต่คู่จริงเลยป่ะวะ โครตเรียล” ศัพท์ประหลาดๆ แม่งมาเต็ม กูไม่เข้าใจมึงหรอกไอ้กันต์

“ขั้นไหนอะไรของมึงวะ”

“ก็พวกพี่เป็นแฟนกันจริงๆ รึเปล่าอ่ะ ดูดิ แต่ละรูปแม่งเหมือนคู่รักเหี้ยๆ เลย เนี่ย” มันจิ้มไปที่รูปตอนพี่เมษทาโลชั่นให้น้อง ทั้งที่อยู่ในห้อง แต่ยังมีคนซูมถ่ายจนเห็นหน้าน้องโครตชัดอ่ะ แต่พี่มันหันหลัง

“แฟนเหี้ยไร พี่น้องมั้ยวะ” น้องยื่นไอแพดคืนไอ้กันต์ ทนดูไม่ได้ ถ้าจะถ่ายได้มุมเหมือนยืนจูบกันหรือเอากันชัดเจนขนาดนี้ ขนลุกฉิบหายเลย สาวอะไรนะ แม่งน่ากลัวโครต

“จริงดิ? พี่น้องเขาทำให้กันขนาดนี้เลยเหรอ นี่ทำไรกันถามจริง” มันยื่นอีกรูปมาให้ดู เป็นรูปที่น้องอยู่ที่สตูฯ กับพี่เมษ รอพวกเพื่อนพี่มันมาซ้อมดนตรี แล้วเศษผงมันเข้าตา น้องเลยก้มลงไปให้พี่เมษดูให้ แต่แม่งเสือกถ่ายข้างหลังน้องไง มุมมันเลยเหมือนก้มไปประกบปากกัน

“มึงคิดว่ากูกล้าจูบผู้ชายด้วยกันมั้ยล่ะ” น้องว่าหน้าตึงๆ ขึ้นมานิดหน่อย คือตั้งแต่โดนจับคู่กับไอ้พิชญ์ ไอ้กันต์แล้วอ่ะ ทำไมต้องคิดว่าน้องจะเอาแต่ผู้ชายไม่ทราบ!!! ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยจีบสาวที่ไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องจะอยากได้ผู้ชายนะเว้ย!

“อย่างพี่ผมว่าไม่น่าเหลือ” อ้าว ไอ้สัสนี่ “แต่พี่เมษเขาก็...ดูแลพี่พอๆ กับพี่พิชญ์เลยเนาะ ขนาดเพิ่งรู้จักไม่กี่เดือน”

มันก็จริงนะ พิชญ์มันคบมาเป็นสิบปีไง ก็ไม่แปลก แต่คนนี้เพิ่งรู้จักไม่นาน ทำไมพี่มันใจดีกับน้องจังวะ

“ระวังน้าพี่ เดี๋ยวจะได้เสียกันแบบไม่ทันตั้งตัว” ไอ้กันต์หัวเราะลั่น แต่กูไม่ขำเว้ย

“มึงมาได้เสียกับตีนกูก่อนเลยมา!”

******

พอมีเรื่องคู่จิ้นบ้าบออะไรที่ไอ้กันต์มันเอาให้ดู น้องก็รู้สึกว่ามองหน้าพี่เมษมันไม่ค่อยติดบอกไม่ถูก รู้สึกว่าการอยู่ใกล้กันเกินไปมันทำให้คนอื่นคิดและเอาพี่มันไปนินทาเสียๆ หายๆ หรือเปล่า น้องไม่อยากให้พี่เมษเดือดร้อนไปมากกว่านี้ แค่ที่ดูแลอยู่ทุกวันนี้ก็เกินพอแล้ว

“วันนี้น้องเห็ดเป็นอะไร ทำไมซึมๆ” นักร้องนำสุดแนวของวงพี่เมษ (ชื่อวงจำไม่ได้สักที) เดินเข้ามากอดคอน้องตามเคย ตั้งแต่น้องต้องมานั่งเฝ้าพี่มันซ้อมทุกเย็นวันพฤหัส ก็สนิทสนมกับพวกเพื่อนๆ ในวงมันไปโดยปริยาย

“หิวรึไงวะ” ไอ้พี่นัดแซวน้องอีก คนเงียบนี่คือหิวอย่างเดียวเลยใช่มั้ย

“เปล่าสักหน่อย...” น้องนิ่วหน้าใส่พี่นัด “แค่คิดงานอยู่” ไม่ได้โกหกนะ คิดงานด้วย คิดเรื่องที่โดนแอบถ่ายไปด้วย

“เลิกแล้วไปหาไรแดกกันข้างนอกมั่งมั้ย ชวนพวกไอ้วันมาด้วย” เสียงพี่โอม ผู้อาวุโสสุดเอ่ยขึ้น ดูเหมือนคนอื่นๆ จะเห็นด้วย ส่วนน้องยังไงก็ได้ “หรือจะไปปาร์ตี้กันหน่อยวะ ตั้งแต่เปิดเทอมแม่งไม่ได้เข้าผับหลีหญิงเลย”

“เออ ก็ดีนะ ไอ้เห็ดมึงเคยเที่ยวป่ะวะ” พี่นัดหันมามองน้อง หน้าตาน้องออกจะเรียบร้อยขนาดนี้

“ไม่เคยครับ”

“งั้นดีเลย พาน้องเห็ดไปเปิดหูเปิดตากัน!” อันนี้เสียงไอ้ต้าที่กอดคอน้องอยู่ มันชูแขนขึ้นเฮโลเต็มที่

“แต่พรุ่งนี้มีเรียนนะพี่” น้องไม่ได้จะขัดอะไรนะ แต่มันจะดีเหรอวะ

“เฮ้ย แค่ไปแป้ปๆ ไม่ดึกมาก แล้วก็อย่าดื่มเยอะสิวะ มึงโอเคป่ะล่ะ ได้ไปกัน” พี่โอมว่างั้น น้องก็ว่าตามแล้วกันครับ

******

และแล้วน้องก็มานั่งหน้าแป้นในผับมืดๆ เหม็นๆ แถมยังเสียงดังอีก พวกพี่โอมชงเหล้ากินกันเรื่อยๆ ไหนพี่มึงบอกจะไม่ดื่มเยอะไงวะ ส่วนน้องเห็ดไม่เคยดื่มเหล้าครับ ป๊าม๊าดุมาก ไม่เคยปล่อยให้มาเที่ยวแบบนี้หรอก ไอ้พิชญ์ด้วย นี่ถ้ามันรู้ว่าน้องมาที่แบบนี้ ได้โดนรายงานป๊าแน่เลย

“ถ้าไม่สนุกก็กลับมั้ย” พี่เมษทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ น้อง หน้าตาน้องคงดูไม่ค่อยอินกับเสียงเพลงเท่าไหร่ ค่อนข้างหนวกหูเลยล่ะ

“ไม่เป็นไรพี่ ไหวอยู่” น้องฝืนยิ้มกลับไป แต่น้องไม่เคยโกหกสายตาพี่เมษได้เลยจริงๆ

“ไม่ได้ถามว่าไหวไม่ไหว ถ้าไม่ชอบ ไม่โอเคก็บอก จะได้พากลับก่อน” พี่เมษแม่งโครตดี เป็นห่วงความรู้สึกน้องสุดๆ

“อีกสักพักค่อยกลับแล้วกันพี่ เพิ่งมาเอง” เผื่อจะชินจนชอบบรรยากาศแบบนี้ขึ้นมาสักนิด ลองดูวะ พอบอกไปแบบนั้น พี่มันก็เลิกตอแย กลับไปเฮฮากับเพื่อนมันต่อ น้องก็นั่งดูพวกมันจีบสาวคนนั้นคนนี้ที พอเริ่มเมาก็เต้นแร้งเต้นกาอะไรกันไม่รู้

“เหย น้องเห~ด ไปเต้นกับพี่มั้ยจ๊ะ” เอ่อ...ไอ้ต้า กูไม่ใช่สาวนั่งดริ้งค์มั้ยวะ แม่งเมาแล้วเรื้อนมากอดน้องเฉย แถมนั่งตักอีก...ดีนะที่มันตัวเล็กเลยไม่ได้หนักอะไร แต่ก็รำคาญอ่ะ

“ต้า มึงนอนมั้ย” น้องเอามือตบเบาะปุๆ เรียกให้มันนอนลงกับโซฟา จะได้หายเรื้อน แต่แม่งส่ายหน้าอีก

“ม่ายอาวๆ น้องเห็ดดื่มเป็นเพื่อนพี่ต้าหน่อยสิจ๊ะ” มันดันแก้วมาจ่อปากน้อง อี๋ โครตเหม็นอ่ะ แหวะๆๆๆ

“ไอ้ต้า! อย่ายุ่งของกู!” ห๊ะ? อะไรนะ? น้องหันไปตามต้นเสียง เห็นไอ้พี่เมษเดินเซแป้ดๆ เข้ามากระชากคอไอ้ต้าออก แล้วทิ้งตัวลงมานั่งทับต้นขาน้องแทน...โห ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยป่ะครับเนี่ย แล้วไม่ใช่แค่นั่งตักนะ แม่งซบหน้าลงมาบนไหล่ไปอีก น้องเหลือบตาไปมองไอ้ต้า แน่นิ่งไปแล้วเว้ยเฮ้ย

“พี่...เดี๋ยว อย่าไซร้คอ!” ไอ้ห่าพี่เมษ! เรื้อนยิ่งกว่าไอ้ต้าอีก โอ๊ย กูจะบ้า “พี่โอม! ช่วยด้วย!” เห็นไอ้พี่โอมเดินผ่านแว้บๆ พอดีเลยตะโกนเรียก แต่มันเสือกเมินกู เพลงแม่งดังลั่น คงไม่ได้ยินมั้ง ไอ้พวกพี่นัดก็หายหัวไปไหนวะ

“อือ...ง่วง” อ้าว? เฮ้ย มาง่วงอะไรตอนนี้ พี่เมษแม่งผละจากคอน้องตาปรือเต็มที มันคล้องแขนกอดคอน้อง ทำตาเยิ้มใส่ (เพราะง่วง) เผยอปากนิดๆ อุ แหวะ เหม็นเหล้าฉิบหาย นี่แดกหรืออาบ

“พี่อย่าเพิ่งหลับนะ เฮ้ย! ต้า” น้องโอบเอวพี่เมษพยุงให้ลุกขึ้นพร้อมกัน แล้วเอาตีนเขี่ยๆ ไอ้ต้าที่นอนครางงึมงำบนโซฟา “กูกลับก่อนนะ ฝากบอกพวกพี่ๆ ด้วย”

“เออๆ เอิ้ก...” มันโบกมือไปมา ตกลงรู้เรื่องกับกูมั้ยวะ แต่ช่างแม่งละกัน พาพี่เมษกลับห้องก่อนดีกว่า พี่เมษแม่งตัวหนักกว่าไอ้ต้าอีกอ่ะ คงเพราะมันออกกำลังบ่อยเลยกล้ามเนื้อเยอะ เวรกรรมของน้องจริงๆ ไม่น่ามาเลยกู

“พี่ดีๆ” น้องพยายามหิ้วปีกไอ้พี่เมษออกมาจากร้านจนได้ มือข้างหนึ่งต้องคอยประคองมัน อีกข้างล้วงหากุญแจรถ ไม่เคยต้องแบกคนเมาด้วยสิ แม่งโครตวุ่นวาย เพราะไอ้พี่เมษตัวดีไม่ยอมอยู่นิ่งๆ เนี่ย เดี๋ยวกอดเดี๋ยวไซร้อยู่ได้ว้อยยยย กูไม่ใช่เด็กนั่งดริ้งค์นะเว้ย

พอหากุญแจเจอ น้องก็รีบจับพี่เมษให้นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ คือทุลักทุเลมากจริงๆ ไอ้คนเมาแม่งไม่ช่วยอะไรเลย เอาแต่ตัวอ่อนปวกเปียกส่ายไปมา น้องเลยอุ้มแม่งขึ้นไปนั่งบนเบาะท้ายซะ แล้วเบาะท้ายแม่งสูงอีก มันก็ทำท่าจะไหลพรืดลงมาตลอด น้องต้องเอามือยันไว้แล้วรีบคร่อมมอไซค์ ดึงแขนมันมากอดเอวเอามือข้างหนึ่งจับไว้ แล้วค่อยสตาร์ทรถออกไป

งานหนักมากบอกเลย การดูแลคนเมาเนี่ย เกิดมาน้องไม่เคยทำอะไรให้ใคร มีแต่คนคอยทำให้ตลอด เพราะฉะนั้นอย่าถามว่าน้องผ่านค่ำคืนนั้นมาได้อย่างไร ยังดีไอ้พี่เมษไม่อ้วกแตกอ้วกแตนเหมือนที่เห็นในหนังบ่อยๆ ที่พอเมามากๆ จะต้องอ้วก ให้พระเอกไม่ก็นางเอกมาคอยเช็ดให้ ไม่งั้นพระเอกอย่างน้องคงแย่อ่ะครับ มีหวังได้อ้วกตามมันแน่

“เฮ้อ~” น้องนั่งปาดเหงื่อกระพือเสื้อพั่บๆ คือเปิดแอร์นะ แต่แม่งก็ยังเหงื่อแตกอยู่ดี เพราะต้องวุ่นวายกับไอ้ขี้เมาจอมเรื้อน กว่ามันจะหลับคร่อก น้องนี่เกือบเสียความบริสุทธิ์ กระดุมเสื้อน้องหลุดลุ่ยเกือบหมด แถมโดนไอ้พี่เมษตัวดีมันทำรอยทิ้งไว้ที่แถวๆ เหนืออกด้วย ก็แม่งกัดมาเต็มแรง นึกว่าเลือดจะไหลแล้ว ไม่รู้มันเกิดหื่นกามอะไรขึ้นมา เมาแล้วต้องหื่นเหรอวะ เพิ่งรู้เนี่ยแหละ ดีนะที่กูไม่ใช่สายเมา เกิดมาน้องไม่เคยข้องแวะสาวใด อาจจะมีดู AV บ้างตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ไม่ค่อยหมกมุ่นกามารมณ์นะ แต่ถ้าน้องเกิดเมาเหล้าแล้วหื่นเนี่ย คงน่ากลัวอ่ะ บรึ๋ยยย ไม่กล้าคิด

“อืออออ” พี่เมษที่นอนหลับกางแขนกางขาบนเตียงมันเองครางอย่างไม่สบายตัว น้องก็เลยช่วยถอดเสื้อและปลดเข็มขัดกางเกงออกให้ พี่มันไม่ใช่คนผิวขาวใสอะไร ผิวสีน้ำตาลอ่อนๆ รูปร่างก็แบบผู้ชายทั่วไปเนี่ยแหละ ภายนอกมันดูผอมบางนะ แต่จริงๆ ก็มีกล้ามเนื้อพอสมควร สมกับที่มันชอบออกกำลังกาย นอกจากชวนน้องวิ่งตอนเช้าๆ เสาร์อาทิตย์ มันยังไปตีแบดบ้าง ว่ายน้ำบ้าง เล่นบาสหรือเตะบอลกับเพื่อนๆ มันตลอดแหละ โครตจะฟิต ไม่เหมือนน้องที่โครตจะขี้เกียจ ถ้ามันไม่จับไปวิ่งก็คงลงพุง อ้วนเป็นหมีพูห์ไปแล้ว

จัดการคนเมาเสร็จแล้ว ถึงตาน้องนอนบ้างล่ะ นี่ก็ตี 1 เข้าไปแล้ว นอนดึกอีกแล้วกู เฮ้อ~~~

******

“โอ๊ยยยยย ปวดหัว” ตื่นเช้ามาก็ได้ยินเสียงคนบ่นเลยครับ แหงล่ะ แดกเหมือนอาบขนาดนั้น ไม่ปวดหัวก็แปลกแล้วมั้ง ไอ้พี่เมษมันนั่งขัดสมาธิกุมหัวอยู่บนเตียงมัน ส่ายหัวไปมา

“ไหนบอกจะไม่ดื่มเยอะไงพี่ แล้วนี่มีเรียนอีก ไหวป่ะเนี่ย” เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์แห่งชาติ และพวกเราต่างก็มีเรียนเช้าทั้งคู่ น้องน่ะอาบน้ำแล้ว ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพี่มันตื่นมานั่งบ่นพอดีเนี่ย

“ไหวๆ เดี๋ยวแวะซื้อยาที่คณะเภสัชที เผื่อจะได้นั่งเรียนจนหมดคาบได้” พี่เมษว่าพลางลุกขึ้นยืนสะบัดหัว

“ไม่ไหวก็นอนมั้ยอ่ะ บ่ายค่อยไป” น้องชักเป็นห่วง มันยังเดินเซๆ อยู่เลยอ่ะ

“ไม่ได้ๆ คาบนี้อาจารย์โหดว่ะ เช็คชื่อด้วย” อย่างนี้นี่เอง แหม กูก็นึกว่ามึงขยันนะพี่

“มา ผมช่วย” น้องรีบเข้าไปช่วยประคองมันให้ค่อยๆ เดินเข้าห้องน้ำ บางคนอาจจะอาบน้ำแล้วสดชื่นขึ้น แต่ถ้ายังไม่หายเมาค้างจริงๆ ก็คงต้องลองพึ่งยาดู
และเพราะพี่เมษมันยังดูมึนๆ อยู่ น้องก็เลยบอกให้มันนั่งรอที่โรงอาหารแล้วไปซื้อยามาให้ก่อน แต่อ่านในเนตมา เขาบอกว่ามันไม่ใช่ว่าจะได้ผลอ่ะนะ ก็เลยเลือกๆ มาหลายอย่าง ทั้ง Alka-Seltzer, แอสไพริน แล้วก็เครื่องดื่มที่เขาบอกช่วยแก้แฮงค์ ตบท้ายด้วยเกลือแร่

“จะให้กูแดกอันไหนก่อนดีเนี่ย” พี่เมษมันเอานิ้วเขี่ยๆ ถุงดู

“ลองไอ้นี่ก่อน ถ้าไม่หายค่อยกินยา” น้องเลือกอันที่น่าจะกินง่ายที่สุด เป็นเครื่องดื่มแก้แฮงค์ยี่ห้อหนึ่ง แวะซื้อในเซเว่นข้างมอ พี่เมษมันก็เปิดดื่มจนหมดขวด

“กินข้าวมั้ยพี่”

“ยังอ่ะ กูกลัวจะอ้วก” มันว่าพลางฟุบหน้าลงบนโต๊ะ น้องก็เลยเดินไปซื้อข้าวกิน 

“เป็นไงวะไอ้เมษ” ระหว่างกินข้าวและให้พี่เมษนอนพัก พวกพี่จอนก็มาพอดี ไอ้พี่นัดดูจะเซๆ เหมือนกัน เมื่อคืนไปด้วยกันเนี่ยแหละ แต่พี่ปาล์มแม่งดูไม่เป็นไรเลยแฮะ มันคงไม่ได้ดื่มเยอะมั้ง น้องก็ไม่ทันสังเกตหรอก เพราะตอนพี่เมษมาวุ่นวาย พวกพี่แม่งหายไปหมดแก๊งเลย

“ยังไม่ตาย” พี่เมษเงยหน้ามาตอบแล้วก็ฟุบต่อ

“กูบอกแล้วว่าอย่าเยอะ เป็นไงพวกมึง” พี่จอนหัวเราะเยาะใส่อีก เพราะสภาพพี่นัดกับพี่เมษแม่งพอกัน จริงๆ พี่โอมมันชวนทุกคนนะ แต่ไม่มีใครไป เพราะมันไม่ใช่วันศุกร์ไง

“เผลอไปหน่อยว่ะ” พี่นัดว่าพลางเอามือท้าวหัวไว้ หน้าตาเหยเก น้องเห็นแล้วสงสารเลยหยิบยาแบ่งให้พี่นัดไป พอกินข้าวกันเสร็จ โดยที่พี่เมษกับพี่นัดไม่กล้ากินอะไร พวกเราก็แยกย้ายกันไปเรียนตามปกติ

******

พอเรียนคาบเช้าเสร็จราวๆ 11 โมงครึ่ง น้องก็ซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ พวกขนมปังกับน้ำหวาน กะว่าจะเอาไปฝากพี่เมษสักหน่อย เป็นห่วงมัน เพราะมันไม่ได้กินข้าวเช้า แล้วไม่รู้ป่านนี้หายเมาค้างรึยังด้วย ก่อนไปก็ส่งไลน์ไปบอกมันแล้วเรียบร้อย มันอ่านแล้วส่งสติ๊กเกอร์รูป OK มาให้

“มึงจะไปกินที่ตึกรัดสาดเลยเหรอ” ก่อนจะไปหาพี่เมษ ก็ต้องบอกเพื่อนซี้ก่อนครับ ไอ้พิชญ์เจ้าเก่า แม้เช้าเย็นจะไม่ค่อยได้เจอหน้า แต่กลางวันยังได้เจอบ้าง เพราะบางทีแฟนมันก็มีเรียนเที่ยงไง ไม่ได้มากินข้าวด้วยกัน แล้วยังไงพวกเราก็เรียนด้วยกันอยู่ดี ไม่ได้จะแยกจากกันไปไหนเล้ย

“เออ แล้วมึงอ่ะ ไปด้วยกันป่ะ” น้องชวนมัน ไอ้พิชญ์ทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่างแล้วเอามือมาวางบนบ่าน้อง

“กูดีใจด้วยนะเห็ด”

น้องขมวดคิ้ว อะไรของมันวะ “พูดเหี้ยไรมึง”

“กูเพิ่งเคยเห็นมึงสนใจดูแลคนอื่นว่ะ รู้สึกเหมือนมึงดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นบอกไม่ถูก” มันทำสีหน้าปลาบปลื้มยินดี เอานิ้วเช็ดตาทำเหมือนร้องไห้น้ำตาคลอ โครตตอแหลอ่ะ

“แปลกเหรอวะ ก็เขาเป็นรุ่นพี่ที่นอนอยู่ด้วยกันทุกคืน”

“...” ไอ้พิชญ์มันเงียบไปแป้ปหนึ่ง “ถึงคำพูดมึงจะฟังดูทะแม่งๆ แต่กูก็ดีใจจริงๆ นะ ที่มึงรู้จักเอาใจใส่คนอื่น ขนาดกับกู คบมาเป็นสิบปี มึงยังทำอะไรให้กูแทบจะนับครั้งได้”

“มึงก็เว่อร์ไป ก็เพื่อนกูเสือกเพอร์เฟคไง ไม่มีอะไรที่คนอย่างกูจะช่วยมึงได้หรอกพิชญ์” ที่ผ่านมา ไอ้พิชญ์มันดูแลตัวเองได้ดีมาก รวมทั้งดูแลน้องไปด้วยในตัว แล้วมันจะเหลืออะไรที่น้องทำให้มันได้อีกล่ะ ในเมื่อมันทำได้ทุกอย่าง อย่างกับซูเปอร์แมน

ไอ้พิชญ์สบตาผมปริบๆ พลางพ่นลมหายใจสั้นๆ “ไม่มีใครเพอร์เฟคทุกเรื่องหรอก เห็ด กูเองก็มีเรื่องที่ทำไม่ได้ แต่มันต้องอาศัยการเรียนรู้ และมึง...ก็ต้องเรียนรู้เหมือนกัน อย่าดูถูกตัวเอง”

มือของไอ้พิชญ์ตบที่บ่าน้องอีกสองสามที มันยิ้มให้น้องแล้วก็ขอตัวไปหาข้าวกลางวันกิน สรุปว่า ให้น้องไปหาพี่เมษคนเดียวนั่นเอง

คำพูดของไอ้พิชญ์ น้องมาคิดดูแล้วมันก็จริงนะ บางอย่างไม่เคยทำ แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ มันต้องลองดู ต้องอาศัยการเรียนรู้และจดจำ อย่างตอนนี้น้องก็เป็นห่วงพี่เมษ อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ทำกับพี่เมษนี่แหละ คนแรกเลย หลังจากนี้ก็อาจจะมีเรื่องต้องทำกับพี่เมษอีกเยอะแยะก็ได้ ยังต้องอยู่ด้วยกันอีกเทอมกว่าๆ เลย ปีหน้าไม่รู้ว่าพี่มันจะย้ายหนีน้องหรือเปล่า

คิดเพลินไปหน่อย มาถึงหน้าคณะพี่มันแล้ว น้องส่งไลน์ไปบอกว่ารออยู่หน้าตึก เพราะไม่เคยเข้าไปด้านใน เดี๋ยวจะหลงทาง ไม่นานพี่เมษมันก็เดินลงมาหา พร้อมกับเพื่อนๆ มันที่น่าจะเพิ่งเรียนด้วยกันมาเมื่อกี้ พี่นัดพี่จอนหน้าเก่า กับพี่ๆ ที่ไม่รู้จักอีกสองสามคน

“ผมแวะซื้อขนมปังมาให้ เผื่อบ่ายๆ พี่หิวอีก” น้องยื่นถุงเซเว่นให้มัน พี่เมษบอกขอบใจเบาๆ แล้วรับไปถือไว้

“โอ้โห กูเพิ่งเคยเห็นไอ้เห็ดเทคแคร์คนอื่นก็วันนี้ว่ะ” เสียงพี่จอนดังลอยมาเข้าหู น้องหันไปมองหน้ามัน

“อะไรพี่ ผมก็มีสำนึกบ้างไรบ้าง พี่เมษมันเคยดูแลผม ผมก็ตอบแทนไง”

“กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ไปๆ แดกข้าวกันเหอะ ไอ้เห็ด มึงเพิ่งเคยมากินข้าวที่คณะกูใช่มั้ยวะ” ไอ้พี่จอนหัวเราะอารมณ์ดี คว้าคอน้องไปกอดไว้แล้วลากให้เดินไปด้วยกันซะงั้น

“นี่เลย ร้านป้านิ่ม กูโครตชอบ วุ้นเส้นต้มยำ” พี่จอนชอบแล้วเกี่ยวอะไรกับน้องวะครับ น้องมองหน้าไอ้คนที่กอดคอลากมาหน้าร้านอาหารตามสั่งที่คณะมันอย่าง งงๆ

“งั้นผมสั่งซุปมักกะโรนีทะเล” น้องหันไปบอกพี่เมษที่ยืนถือปากกากับกระดาษรอจดเมนู

“ไอ้เห็ดแม่งกวนตีนว่ะ” ด่าน้องอีก อิพี่จอน นี่ “กูเอาวุ้นเส้นต้มยำกุ้งนะ เผ็ดๆ ด้วย” เพิ่งรู้ว่าพี่จอนชอบกินเผ็ด พี่เมษมันก็จดๆ ตามที่ทุกคนบอกแล้วยื่นกระดาษให้ป้าคนขาย จากนั้นเราก็ไปหาที่นั่งกัน โต๊ะว่างเยอะ ไม่รีบร้อน

พอมานั่งที่โต๊ะรออาหารตามสั่ง พี่เมษมันถึงเพิ่งจะแนะนำพี่ๆ อีกสามคนให้รู้จัก ซึ่งน้องเห็ดก็จำไม่ค่อยได้หรอกว่าใครเป็นใคร แม่งพูดเร็วเหมือนรีบไปตามควาย น้องก็แค่ยิ้มทักทายพี่ๆ ทั้งสามแบบรวมๆ

ติ๊ง

โอ๊ะ เสียงไลน์ของน้องเองครับ

IngIng: เห็ดว่างมั้ย เรามีเรื่องอยากรบกวน

หือ? อิงอิงนี่นา ไม่เจอกันพักใหญ่เลย น้องรีบตอบไปว่าว่างทันที

IngIng: พอดีอาทิตย์หน้าวันเกิดพี่ตะวัน เห็ดพอจะรู้มั้ยว่าพี่เขาชอบอะไรหรืออยากได้อะไร

ใครจะไปรู้ฟะ ไม่ได้สนิทกัน ไม่อยากสนิทด้วยเลย แล้วนี่ไอ้ตะวันมันคุยกับอิงอิงไปถึงขั้นไหนแล้ววะ ถึงมีโมเม้นท์ซื้อของขวัญวันเกิดให้กันเนี่ย

Huge MUSHROOM: เดี๋ยวเราถามเพื่อนพี่เขาให้ อิงจะไปซื้อวันไหน

IngIng: ว่าจะไปเย็นนี้เลย เห็ดไปกับเราได้มั้ย เดี๋ยวเราไปรับหน้าคณะตอนสี่โมงเย็น

Huge MUSHROOM: ได้ครับ เจอกัน

“ใครไลน์มา มัวแต่พิมพ์อยู่ได้ ไอ้พิชญ์ตามตัวรึไง” พี่เมษที่นั่งอยู่ข้างๆ ชะโงกหน้ามาดู พอดีกับที่น้องกดปิดหน้าจอ

“เปล่าพี่ เพื่อนคณะอื่น เขาจะชวนไปซื้อของตอนเย็น” เออ จริงสิ ให้พี่เมษไปด้วยดีมั้ยวะ “พี่ว่างมั้ย ไปเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ ตอนสี่โมงเย็น”

“เพื่อนมึงชวนไม่ใช่รึไง กูจะไปทำบ้าไร” พี่เมษขมวดคิ้วงุนงง

“ก็...เพื่อนผมเขาอยากซื้อของขวัญให้คนที่พี่รู้จัก อยากให้พี่ไปช่วยเลือกหน่อย” กะจะถามมันเลยนะ แต่คนอยู่เยอะ น้องกลัวว่าอิงอิงจะไม่ได้อยากให้คนอื่นรู้ เอามันไปด้วยน่าจะดีที่สุด มันดูสนิทกับไอ้ตะวันที่สุดแล้ว

พี่มันทำหน้าเหมือนคิดหนักอยู่พักใหญ่ “ไปในเมืองเหรอ?”

“ครับ ก็คงห้างฯในเมือง เออ ถ้าไงพี่เลยไปนอนค้างบ้านผมก็ได้ ผมกลับบ้านคืนนี้เลยทีเดียวดีกว่า” ใช่ๆ ติดรถอิงอิงกลับบ้านซะเลย ไม่ง้อไอ้พิชญ์แล้วเว้ย คราวนี้พี่เมษดูจะคิดหนักกว่าเก่าอีก

“ต้องขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“เออน่าพี่ ช่วยเพื่อนผมหน่อยนะ” ลองเกาะแขนมัน ใช้ลูกอ้อนสักนิด พี่เมษใจอ่อนชัวร์ สกิลการอ้อนของน้องเห็ดระดับสิบเชียวนะครับ แหม่~

พี่เมษมันก็ทำหน้าเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูลนๆ แปลกๆ ก่อนจะตอบออกมาว่า “ไปก็ไปวะ”
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 28-02-2018 13:14:57
คู่เพี้ยน

 :L2: :pig4:
ออกจะต๊องๆ ด้วย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 28-02-2018 13:15:42
:
:o8: :o8:

 :mew2:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.6 update 27/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 28-02-2018 13:16:08
เล่นหยอดคำพูดแบบนี้ เล่นเอาพี่ตัวเล็กมือไม้ระทวยไปหมดเลย  :laugh:

ดีใจจนสั่น ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.7 update 28/2/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 01-03-2018 13:38:59
เราจะขอเคลียร์เรื่องนี้ให้จบก่อนเลย แล้วค่อยต่ออีกเรื่องที่ค้างคา แถมยังมีฟิคที่แต่งไว้ในอีกเวบด้วย
แต่เรื่องนี้สำหรับเรา เราว่ามันแต่งง่ายสุด ด้วยความที่เราดึงบางส่วนมาจากชีวิตของเราเองเนี่ยแหละ
แต่มันก็จะเรื่อยเปือยไม่มีอะไร จนกว่าเห็ดจะรู้ตัว เอาจิงๆ นะ เราไม่รู้หรอกว่าเราชอบแฟนเราตอนไหน แต่เขาอ่ะคิดมานานแล้ว
ก็คล้ายๆ กันเนี่ยแหละ แต่ไม่เหมือนเป๊ะ พยายามบิ้วจากตอนนั้นให้มากที่สุด

ตอนนี้พี่เมษเล่านะคับ ยังไม่มีอะไร ตอนหน้าเห็ดเล่า จะมาต่อถ้าทันวันนี้

8
คุณเคยรู้สึกชอบใครแบบไร้เหตุผลมั้ย

ตอนนี้...ผมกำลังเป็นแบบนั้น

ทั้งที่มันไม่ได้ดีเด่อะไรเลย มีแต่นิสัยเสียๆ ที่ทำให้หงุดหงิด หัวร้อน ทั้งซกมก เอาแต่ได้ เอาแต่ใจ แต่มันดันน่ารักฉิบหายเวลาที่มาออดอ้อนออเซาะ เวลาที่ทำอะไรให้แล้วมันดีใจกระดิกหางดิ๊กๆ เหมือนหมาตัวโตๆ โครตชอบเวลาที่สั่งอะไรแล้วมันก็ทำ ถึงจะทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ทำ

ตอนที่มันคอยดูแลผมที่ (แกล้ง) เมาก็น่ารัก จริงๆ ผมคิดว่ามันจะโยนผมทิ้งแล้วหนีกลับไปด้วยซ้ำ แต่มันก็พาผมกลับไปถึงห้องอย่างปลอดภัย แกล้งกอดๆ ฟัดๆ มันไปหน่อย โครตหมั่นเขี้ยว เลยเผลอกัดมันไปที แต่มันก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยสักคำ เด็กนิสัยเสียที่ไม่เคยสนโลกอย่างมัน กลับดูแลผมจนถึงเตียง จนมันคิดว่าผมหลับ มันเลยลุกไปนอนบ้าง แต่ผมเนี่ย นอนยิ้มตาค้างเลย

ผมเคยมีแฟนนะ เป็นผู้หญิง คบกันตั้งแต่ม.4 เธอเป็นคนน่ารักและขี้อ้อนเหมือนมันเนี่ยแหละ ผมชอบที่ได้ดูแล ได้เทคแคร์ มากกว่าให้ใครมาทำอะไรให้ ก็ผมเป็นผู้ชาย เป็นฝ่ายเทคแคร์ก็ถูกแล้ว แต่คนที่ผมชอบดูแลตอนนี้ดันเป็น “มัน” ไอ้เด็กตัวโตเหมือนหมีที่โครตเอาแต่ใจ ผมต้องดัดนิสัยมันหลายอย่างเลย กว่าจะคุมมันอยู่

ตอนนี้ไม่ว่ามันจะทำอะไร มันก็ถามผมตลอด และรอให้ผมอนุญาต รู้จักเก็บกวาดห้องและยอมออกไปวิ่งจ๊อกกิ้งกับผมเวลามันไม่ได้กลับบ้านเสาร์อาทิตย์ จะไปทำงานที่ไหนกับใครมันรายงานผมตลอด ช่วงหลังๆ มานี้ เราอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น ทั้งที่เรียนคนละคณะ และไม่ได้ใกล้กันเท่าไหร่ด้วย จนสาวๆ เอาไปจิ้นว่าเราเป็นแฟนกันไปแล้ว

แต่ผมบอกตรงๆ นะ ผมยังขยาดเรื่องความรักอยู่บ้าง หลังจากเลิกกับแฟนเก่าที่คบมาตั้งแต่ม.4 คนนั้น การที่ผมชอบมัน ไม่ได้หมายความว่าผมอยากเป็นแฟนมัน ผมแค่รู้สึกดีที่ได้ดูแลมัน ได้ทำให้มันดีใจ ชอบให้มันมาคอยเกาะแกะ ก็แค่นั้น

แม้ว่าสักวันหนึ่ง มันจะเจอคนที่มันชอบ และอยากอยู่ด้วยมากกว่าผมก็ตาม

“นี่รูมเมทเรา พี่เมษ ส่วนนี่อิงอิง เด็กอักษร เพื่อนที่ผมบอก” ไอ้เห็ดแนะนำให้ผมรู้จักกับสาวสวย ซึ่งผมจำได้ว่าเป็นเจ้าของรถสีแดงคันนั้น

ผมนิ่งอึ้งเล็กน้อย แต่ก็พยายามฝืนยิ้มให้เธอ “สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะพี่เมษ” เธอยิ้มสวยมาให้ “ต้องขอโทษด้วยนะคะที่รบกวนให้มาด้วย”

“มะ ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเกรงใจ” ผมตอบไปตามมารยาท ทั้งสวยแล้วยังมารยาทงามอีก บอกตามตรงนะ ถ้าผมยังไม่มีคนที่ชอบ ก็อาจจะตกหลุมรักแรกเห็นเลย

“เดี๋ยวเรากับพี่เมษขี่มอไซค์ตามไป อิงนำเลย” ไอ้เห็ดมันหันไปคุยกับเพื่อนมัน ตกลงอะไรกันเสร็จ น้องที่ชื่ออิงอิงก็เดินไปขึ้นรถของตัวเอง ส่วนผมกับมันไปมอเตอร์ไซค์ ตอนแรกมันจะขอไปรถเพื่อนมันแหละ แต่ถ้าผมไปด้วย แล้วขากลับจะกลับยังไงล่ะ ก็เลยต้องเอามอไซค์ผมไป

พวกเรามาถึงที่ห้างฯ ในเมือง (ที่ถูกคือชานเมือง) ไอ้เห็ดมันเพิ่งจะมาบอกว่า สาวน้อยแสนสวยคนนี้จะซื้อของขวัญให้ไอ้วัน! ผมนี่อึ้งกว่าเดิมอีก

“ไปรู้จักไอ้วันได้ไงวะ” ระหว่างที่รอน้องอิงอิงไปเข้าห้องน้ำ ผมก็เลยถามมัน

“ก็วันนั้นไง ที่ผมพาอิงไปนั่งเล่นแถวหอ เขาก็เลยเจอกัน” ไอ้เห็ดว่าพลางกดมือถือยิกๆ ไม่รู้คุยกับใครอีกแล้ว

“อ๋อ” ตกลงไอ้ตะวันกับน้องอิงอิงกิ๊กกันเหรอวะ นี่ผมตกข่าวเหรอ ทำไมไอ้วันแม่งปิดเงียบ ปกติจีบสาวคนไหนต้องมาอวดมาโชว์มาเม้าท์แล้ว ยิ่งสวยๆ แบบนี้แม่งต้องยิ่งอยากโม้ หรือมันจะจริงจัง หวงกระทั่งกับเพื่อนฝูง แต่ก็นะ สวยขนาดนี้ ไม่หวงสิแปลก คงกะจีบติดแล้วเอามาโชว์ทีเดียวสิมึง ไอ้วันทองเอ๊ย

“แล้วเขาจะซื้อของให้ไอ้วันแบบนี้...น่าคิดนะมึง” ผมแกล้งเอาศอกสะกิดแขนมัน ไอ้เห็ดเงยหน้ามามอง งงๆ

“คิดอะไรพี่”

“อ้าว มึงไม่ได้จีบคนนี้เหมือนกันเหรอ ไม่นอยด์เหรอวะ เขาชวนมาซื้อของให้ผู้ชายคนอื่น”

“จีบเหี้ยอะไรล่ะพี่ บอกว่าเพื่อนกัน คนอย่างผมไม่จีบใครก่อนหรอก” มันว่าพร้อมยักคิ้วใส่หน้าผม ผมนี่ส่ายหน้าบ๊ายบายเลย

“มั่นหน้ามากนะมึงเนี่ย”

“ก็นิดนึงอ่ะ” ยังมีหน้ามายักคิ้วกวนตีนกูต่ออีก แต่จะว่าไป ก็ไม่เคยเห็นมันจีบใครจริงๆ แหละ คนที่ชอบมาส่งขนมให้มันก็ไม่เห็นมีใครที่ตั้งใจจะจีบมันจริงจังสักคน เหมือนเห็นมันเป็นเด็กมากกว่า เลยเอาขนมเอาน้ำมาให้ เห็นมันดีใจก็ฟินกันไปไรงี้ แถมส่วนใหญ่น่าจะเป็นพวกสาววายซะมากกว่า นิสัยอย่างมันคงไม่จีบใครง่ายๆ และต่อให้มันมีแฟน ก็คงน้อยคนอ่ะจะทนสันดานแม่งได้

“มาแล้วค่ะ โทษที คนเยอะ” น้องอิงอิงออกมาพอดีเลย ไอ้เห็ดก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ส่วนผมก็ยิ้มให้เธอ ครั้งนี้ยิ้มได้เต็มปากแล้วครับ เพราะไอ้เห็ดไม่ได้ชอบน้องอิงอิง และคนที่เต๊าะกันอยู่เป็นเพื่อนผมซะเอง

“แล้วเราจะไปซื้ออะไรที่ร้านไหนกันดีครับ” ผมหันไปถามอิงอิงที่เดินตามหลังมากับไอ้เห็ด เป็นรุ่นพี่ก็ต้องเดินนำหน้า แต่เวรกรรม กูไม่เคยมาเดินห้างนี้เว้ย

“พี่เมษพอจะรู้มั้ยคะว่าพี่ตะวันชอบอะไรบ้าง หรืออยากได้อะไรช่วงนี้”

“อืมมมม” ผมขอใช้หมองแป้ป คือไอ้วันอ่ะ เป็นพวกปากสว่างไง มีอะไรแม่งโพล่งหมด เล่าหมด ช่วงนี้ที่มันชอบพูดถึงบ่อยๆ คงเป็น... “มันติดเกมนะ รู้สึกช่วงนี้จะชอบอยู่เกมนึง ลองหาซื้อพวกตุ๊กตาหรือฟิกเกอร์ตัวละครในเกมไปให้มันสิ”

“งั้นพี่เมษช่วยแนะนำด้วยนะคะ” อิงอิงดูจะตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที ท่าทางจะชอบไอ้วันมากนะเนี่ย

ผมให้ไอ้เห็ดที่ชำนาญที่ทางมากกว่าพาไปที่ร้านขายของเกี่ยวกับอนิเมและเกมในห้าง จะให้ฟิกเกอร์นำเข้าราคาแพงก็คงจะเกินไป เลยเปลี่ยนมาแนะนำอิงอิงให้ซื้อแค่ตุ๊กตาราคาไม่กี่ร้อยหรือพวกพวงกุญแจแทน ก็เลยได้ตุ๊กตาหน้าตาประหลาดๆ ที่เป็นมาสคอตเกมที่ไอ้วันชอบไป จริงๆ มันก็ไม่ได้หน้าตาประหลาดหรอกมั้ง เป็นเหมือนแมวแปลกๆ น่ารักดี ไอ้เห็ดก็เหมือนจะชอบด้วย

“อยากได้มั่งรึไง” เพราะเห็นมันมาหยิบๆ ของเขาเล่น ตัวที่มันหยิบเป็นตุ๊กตาสีขาวกลมๆ อ้วนๆ ในเกมไฟนอลxxx ผมรู้จักเพราะเคยเล่น แต่ชอบตัวละครสาวๆ เซ็กซี่ๆ ในเกมนั้นมากกว่านะ

“อือออ ที่บ้านมีอีกแบบนึง ลูกพี่ลูกน้องซื้อมาให้จากญี่ปุ่น ผมอยากได้ให้มันไปคู่กัน” มันอุ้มตุ๊กตาตัวเล็กๆ นั่นขึ้นมากอด ท่าทางเหมือนเด็กประถมอยากได้ตุ๊กตา “แต่ถ้าซื้อไป เดี๋ยวป๊าจะดุเอา”

แหงล่ะ พ่อมันคงไม่ชอบให้ลูกชายเล่นตุ๊กตาเท่าไหร่หรอกมั้ง ไม่ก็คิดว่าสิ้นเปลือง “งั้นกูซื้อให้มั้ย บอกว่าเป็นของขวัญจากรุ่นพี่อะไรก็ว่าไป”

“เฮ้ย พี่จะมาซื้อให้ผมทำไมอ่ะ แพงอยู่นะ” มันกะพริบตาปริบๆ มองหน้าผม ดูหน้าก็รู้ว่าแม่งอยากได้มากแค่ไหน ผมเลยไม่ตอบ คว้าไอ้หมูขาวในมือมันมาแล้วเดินไปจ่ายตัง เอามาให้มันถือ ตอนแรกมันก็ลังเลๆ แต่ก็ยอมรับไป ท่าทางจะชอบและดีใจมาก ยิ้มขอบคุณผมแล้วกอดไอ้ตุ๊กตาตัวขาวนั่นแน่นเชียว น่ารักชะมัด

“เดี๋ยวไปหาซื้อกล่องของขวัญมาใส่ตุ๊กตาหน่อยนะคะ พี่เมษกับเห็ดไปหาร้านอาหารนั่งรอก่อนเลย เดี๋ยวอิงเลี้ยงข้าว ห้ามปฏิเสธนะคะ!” เธอชี้หน้าพวกผมแถมยังทำตาดุได้โครตจะน่ารัก พวกเราเลยได้แต่หัวเราะแหะๆ แล้วพยักหน้ารับ

เพราะน้องอิงจะเลี้ยง เลยไม่กล้าเลือกร้านแพงมาก เป็นร้านอาหารสไตล์เกาหลี มีพวกมาม่าชีสราคาแค่หลักร้อยนิดๆ ผมกับไอ้เห็ดมานั่งรอที่ร้านก่อน แล้วให้เห็ดมันไลน์บอกอิงอิง เธอว่าอีกสัก 15 นาทีจะถึงร้าน กำลังเลือกกล่องอยู่

“กูไม่ค่อยได้เข้ามาในเมืองเลยว่ะ ทั้งรถติด คนก็เยอะ แออัดฉิบหายเลยเนอะ” ผมชวนไอ้เห็ดมันคุย จะว่าไป นี่ก็ครั้งแรกเลยมั้งที่มากับมันไกลขนาดนี้ แถมเดี๋ยวจะไปนอนบ้านมันด้วย

มันกดมือถืออีกละ มีอะไรคุยกับใครนักหนาวะ “อือ ก็ปกติของกรุงเทพฯอ่ะพี่ กลางใจเมืองติดกว่านี้อีกมั้ง”

“แล้วบ้านมึงอยู่แถวไหนวะ” ผมท้าวคางมองหน้ามันที่เอาแต่ก้มมองจอมือถือ

“สุขุมวิท”

“ไกลจากนี่มากมั้ยวะ”

“ไกลมาก ถ้าดึกเกิน ผมจะพาพี่ไปนอนที่ห้องน้าผมก่อน อยู่แถวนี้แหละ”

“จะไม่รบกวนเขาเหรอ”

“ไม่หรอก เขาไปทำงานต่างประเทศ ห้องว่าง แต่ผมมีกุญแจ” มันยังคงก้มหน้าพิมพ์ยิกๆ จนผมเริ่มหงุดหงิด

“สนใจกูหน่อย!” ผมยื่นมือไปดันมือถือมันออก มันเลยยอมเงยหน้ามามองผม ซึ่งกำลังทำหน้าไม่สบอารมณ์

“อะไรพี่?”     

“ตั้งแต่มานี่ มึงเอาแต่เล่นมือถือ” เดี๋ยวกูงอนนะมึง ส่งสายตาไปบอกมันอย่างนั้น แต่คนอย่างไอ้เห็ดมีหรือจะเข้าใจ...เอวัง

“ผมคุยกับป๊า” มันทำหน้าเหรอหรา

อ้าว? แล้วก็ไม่บอกกูก่อน กูนึกว่าเต๊าะสาวที่ไหนอยู่ในไลน์ ผมเลยทำหน้ามึนใส่แก้เก้อไป

“มาแล้วค่า โทษทีนะพี่เมษ เห็ดด้วย” น้องอิงอิงมาช่วยดึงบรรยากาศให้สดใสได้ทันพอดีเลย

******

สรุปคืนแรก ต้องนอนคอนโดน้ามันไปก่อน เพราะเราอยู่กันยันห้างปิด มันบอกไม่อยากขี่มอไซค์กลางคืนไกลๆ กลัวอันตราย ผมก็เห็นด้วย

“งั้นพรุ่งนี้กูกลับหอเลยแล้วกัน นอนแค่คืนนี้แหละ” ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องที่คอนโดน้ามันแล้วครับ ไอ้เห็ดกำลังจัดเตรียมที่นอน เตียงกว้างนอนได้สองคนสบายๆ

“อ้าว? แต่ผมบอกป๊าไว้ว่าพี่จะไปด้วยอ่ะ เนี่ย ป๊าบอกม๊าเตรียมที่นอนไว้ให้พี่แล้วด้วย ไปค้างพรุ่งนี้ได้เลย”

“แล้วจะรีบบอกเขาทำไมล่ะวะ พรุ่งนี้ไม่ได้มีธุระอะไรแล้ว กูจะไปนอนบ้านมึงทำไม” ผมว่าพลางโยนหมอนใส่หน้ามัน

“ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนผมไง พี่ไม่เคยเข้าเมืองใช่มั้ย ผมจะพาทัวร์เอง” มันดึงหมอนที่แปะบนหน้าออกแล้วยิ้มหวาน “นะพี่ ไปเที่ยวกัน หรือพี่มีนัด?”

“ไม่มี...” เห็นมันยิ้มแล้วรู้สึกหน้าร้อนๆ เลยกู อย่ายิ้มแบบนั้นสิวะไอ้เห็ดไม่สำ!

“งั้นพรุ่งนี้ไปเที่ยวกันแล้วค่อยกลับไปบ้านผม วันอาทิตย์ค่อยกลับมอด้วยกัน โอเค๊?” มียกนิ้วทำท่าโอคงโอเค แบ๊วฉิบหายน้องเห็ดกู ผมก็เลยพยักหน้ารับอย่างเขินๆ

“เออ เคๆ”

จริงๆ ก่อนหน้านี้เคยนอนเบียดกันบนเตียงแคบๆ ที่หอมาแล้วครั้งนึงนะ แต่แบบ...ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรมากไง แค่เห็นมันเป็นน้องชายที่น่ารัก แล้วตอนนั้นก็โครตง่วงด้วย เลยหลับสนิทตลอดคืน แต่คืนนี้มันต่างออกไป แม้เตียงจะกว้างขวางนอนสบาย แต่แม่ง...พอไอ้เห็ดมันมานอนทำหน้าตาน่ารักตรงหน้าแล้ว ใจผมเต้นโครตแรงอ่ะ บอกตรงๆ นะ นอนไม่หลับว้อยยยยยย

แล้วดูมัน นอนแบบไม่สนความรู้สึกกูเล้ย นอนตะแคงกอดไอ้ตัวอ้วนขาวที่เพิ่งซื้อให้วันนี้หันหน้ามาทางผม เสียงลมหายใจเบาๆ ของมันทำให้ผมอยากจะเงี่ยหูไปฟังใกล้ๆ พอคิดแบบนั้น ร่างกายมันก็ขยับไปเองโดยไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็นอนมองหน้ามันในระยะประชิดจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ของมันเลย

“อือ” มันครางในคอพลางขยับตัวเล็กน้อย กระชับแขนที่กอดตุ๊กตาไว้ หัวใจผมก็ยิ่งเต้นรัว หน้าก็ร้อน มือนี่เหงื่อชุ่มเลย ผมนอนมองหน้ามันตอนหลับสักพัก ก็เริ่มง่วงตาม เปลือกตาหนักอึ้งใกล้จะปิดลงเต็มทีแล้ว…ไม่ไหวแล้วล่ะ ราตรีสวัสดิ์ครับ

******

เช้าวันต่อมา ไอ้เห็ดปลุกผมแต่เช้า พาออกไปหาข้าวกินแถวคอนโดแล้วก็ขับรถพาเที่ยวรอบเมืองอย่างที่มันบอกจริงๆ คือลัดเลาะไปเรื่อยๆ ไม่ได้แวะที่ไหนเป็นพิเศษตลอดเช้านั้น ดูๆ ไปมันก็ขี่มอไซค์เก่งนะ แถมยังรู้เส้นทางดีด้วย

“ร้านนี้อร่อย กินก่อนเดี๋ยวค่อยไปต่อ” มันจอดรถพาผมแวะร้านอาหารร้านหนึ่ง รู้สึกแถวนี้จะเรียกว่าบางรัก เป็นร้านเป็ดย่างที่อยู่ตรงข้ามกับห้างแห่งหนึ่ง แต่ก็มีอาหารตามสั่งหลากหลายเมนู บางอย่างผมก็ไม่เคยกิน ไม่เคยรู้จักมาก่อน

ผมมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เกือบ 10 โมงครึ่งแล้ว ข้าวเช้าเพิ่งกินมาตอน 7 โมง เร็วไปมั้ยวะเนี่ย แต่ไอ้เห็ดมันกินจุไง สงสัยขี่มอไซค์เหนื่อย เลยหิวเร็ว

“พี่อยากกินไร สั่งเลย ผมเลี้ยงเอง”

“เลี้ยงกูไม”

“เพราะผมเป็นคนพาพี่มาไง” มันยิ้มกว้าง ตาที่ตี่ๆ อยู่แล้วแม่งแทบมองไม่เห็น ผมต้องรีบเก๊กหน้าไม่ให้ยิ้มตามมัน “ร้อนเหรอพี่?” มันกะพริบตาปริบๆ แล้วยื่นมือมาแตะแก้มผมแบบไม่ทันตั้งตัว สะดุ้งสิครับ ปัดมือมันออกทันที

“เปล่า!” ร้านเปิดแอร์แล้วกูจะร้อนได้ไงเล่า ไอ้นี่

“อ้าว? เห็นหน้าพี่แดงๆ นึกว่าร้อน” มันลูบๆ มือตัวเองที่โดนผมปัดออก สงสัยปัดแรงไปหน่อยมั้ง

“แสงมันส่องมั้ง” ผมพูดมั่วๆ ไป ก่อนจะรีบเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร ไม่ให้มันได้เถียงต่อ

สั่งขาหมูยัดไส้จานใหญ่ กับกะเพราะเป็ดย่างคนละจาน แค่นี้ก็อิ่มจนไม่รู้จะอิ่มยังไงแล้ว ที่ร้านนี้มีน้ำชาบริการฟรีด้วย แต่ไอ้เห็ดมันสั่งน้ำเก๊กฮวยมากิน

“เอามั้ยพี่” มันยื่นขวดเก๊กฮวยมาให้ แต่น้ำชาในแก้วที่ผมเติมไว้ยังไม่หมด มันเลยเปลี่ยนมาเลื่อนแก้วของมันมาให้แทน “ลองชิมแก้วผมก่อนก็ได้”

“ไม่อ่ะ” ผมยิ้มแหยๆ เอามือดันแก้วมันกลับไป

“ลองหน่อยดิ๊ น่า” ไอ้นี่ขี้ตื้ออยู่เหมือนกัน เวลามันมาขออะไรแล้วผมไม่ให้หรือทำเฉยใส่ มันก็งอแงอยู่นั่นแหละ เป็นแบบนี้ประจำ

“เออๆ ลองก็ลองวะ” แล้วผมก็ลองจิบน้ำเก๊กฮวยจากแก้วมัน แม่งรู้สึกเหมือนจูบทางอ้อม กูก็เขินเป็นไรเป็นนะ ไม่ได้ด้านอย่างมึง มันมองหน้าผมแล้วยิ้ม ท่าทางดีใจ

“อร่อยมั้ยล่ะ”

“อือ อร่อยดี”

******

จบมื้อเกือบกลางวัน มันก็พาผมไปเที่ยวต่อ คราวนี้มาแถวบ้านมันแล้ว แถมสุขุมวิท ผมมันคนบ้านนอกอ่ะครับ ไม่ค่อยได้เข้าเมือง ก็ตื่นเต้นไปหมด ทั้งรถไฟฟ้าและการจราจรที่โครตจะติด ขนาดวันหยุดนะ ที่ที่มันพามาเป็นสวนสนุกขนาดเล็กใกล้ๆ ห้างเอ็มโพเรียม ธีมหลักเกี่ยวกับไดโนเสาร์ น่าจะพอรู้จักกันใช่มั้ยล่ะ

“คิดไงพากูมาที่นี่เนี่ย” คือวันเสาร์อาทิตย์มันมีแต่พ่อแม่พาลูกหลานมาเที่ยวอ่ะครับ แล้วก็คนต่างชาติจำนวนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่จะมีเด็กมาด้วยแทบทั้งนั้น พวกคู่รักก็พอมีบ้าง แต่นี่มัน...ผู้ชายสองคนกับไดโนเสาร์...

“ก็ผมชอบอ่ะ นี่ๆๆๆ อันนี้ผมชอบที่สุด มาทีไรต้องเล่นทุกที” มันลากแขนผมไปทางที่มีป้ายเขียนว่า 4D อะไรสักอย่าง คือโซนอื่นดูเหมือนจะมีไดโนเสาร์ปลอมมาโชว์ แล้วก็มีห้องสำหรับให้ความรู้ คำอธิบายเกี่ยวกับโลกยุคล้านปี แต่ไม่ทันได้ดูได้อ่านอะไรเลยครับ มันจะเล่นลูกเดียว

เดินเข้าไปในโซนที่เหมือนกับจำลองถ้ำ จะมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางให้ตลอด คล้ายๆ เข้าบ้านผีสิงบอกไม่ถูก มืดๆ แล้วก็มีแสงสีเสียงเป็นระยะ จนมาถึงห้องที่ทำเหมือนตู้เทรนเนอร์ ต้องสวมแว่นสามมิติ แล้วก็เข้าไปนั่งรอ คนเยอะมากอ่ะวันนี้ ก็นั่งกันเต็มตู้ สักพักตู้มันก็จะสั่นๆ เลื่อนลงไปเรื่อยๆ เหมือนลงไปในเหมือง มีน้ำกระเซ็น มีไอเย็น แล้วก็เสียงไดโนเสาร์หวีดร้อง คือตื่นเต้นดีเหมือนกัน จนลงมาเกือบสุดทาง ตู้ก็เหมือนจะขาดร่วงลงไปลึกสุด เจอไดโนเสาร์กำลังฟัดกัน แล้วมันก็หันมากรี้ดใส่ตู้ เอาตีนถีบงี้ คือแม่งสมจริงจนกูมึนหัวเลยทีเดียว ความรู้สึกเหมือนโดนเหวี่ยงไปมา แล้วก็ตกน้ำ โดนน้ำพัดไปจนเจอทางออก

พอออกมาได้นี่ ผมถอนหายใจเลยทีเดียว แม่งระทึกขวัญสั่นประสาทมาก คนไม่เคยเจออะไรแบบนี้ก็ตกใจพอสมควรครับ แต่มันสนุกดีนะ ไม่เสียวเท่าเล่นพวกรถไฟเหาะตีลังกาหรอก แต่ได้อารมณ์ดี

“ไว้รอดูโชว์ภูเขาไฟระเบิดตอนเย็นแล้วค่อยกลับนะ บ้านผมอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้แล้ว” มันยิ้มร่าคว้ามือผมไปดูอย่างอื่นต่อ เพราะโชว์ภูเขาไฟที่ว่าเหมือนจะต้องรอเวลาตามคิว มันบอกว่าดูตอนเย็นๆ ค่ำๆ จะสวยกว่า ก็เลยเล่นชิงช้าสวรรค์ที่มีชื่อเกี่ยวกับดวงตาของไดโนเสาร์แล้วก็ถ่ายรูปแบบ 7D กันไป พอดีกว่าเราจะมาถึงมันก็บ่ายกว่าแล้ว เวลาเล่นเลยไม่เยอะ เห็นมีกิจกรรมวิ่งหนีแรปเตอร์ด้วย คนกรี้ดกันน่าดู แต่เสียดายไม่ทันได้เล่น

ไฮท์ไลท์ของวันนี้คือ โชว์กลางแจ้งเกี่ยวกับเรื่องราวของไดโนเสาร์และช่วงที่ภูเขาไฟระเบิด ซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุให้พวกมันสูญพันธุ์ ทำได้อลังการงานสร้างคุ้มกับค่าเข้าชมมากอ่ะครับ (อ้อ มันออกตังให้ผมนะ วันนี้ไม่ได้จ่ายอะไรเลยสักแอะ)

“กูเอารูปที่ถ่ายวันนี้ลงเฟซได้มั้ยวะ” ระหว่างดูโชว์ใกล้จบ ผมก็เตรียมจะลงรูปทั้งหมดที่ถ่ายมาวันนี้ด้วยกัน ไม่ได้จะอวดเพื่อนนะ แต่แบบ นานๆ ทีมีแบบนี้ป่ะวะ แต่ก็เกรงใจมันไง มันเองก็ไม่ได้เล่นโซเชียลอะไรพวกนี้ด้วย

“แล้วแต่พี่ดิ” มันว่าพลางจ้องมองการแสดงอย่างสนอกสนใจ ทั้งที่บอกว่ามาหลายรอบแล้วนะ ดูจะชอบจริงจัง

“โอเค งั้นกูลงละ” จริงๆ ผมกดเลือกรูปไว้เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่กดโพสท์ลงไปเท่านั้น พอมันอนุญาตก็ลงเลยครับ แท็กสถานที่ แต่ไม่ได้แท็กมัน ก็มันไม่มีเฟซบุ๊ค...เฮ้อ~

“ไหนดูมั่ง” มันเขยิบเข้ามาใกล้ๆ แล้วยื่นหน้ามาขอดูมือถือผม “ถ่ายรูปผมหล่อรึเปล่า ส่งมาให้ในไลน์ด้วยดิ”

“มึงน่าจะสมัครเฟซบุ๊คไว้มั่งนะเห็ด กูจะได้ไม่ต้องเลือกรูปซ้ำอีกรอบ” ผมบ่นๆ พลางยื่นหน้าจอให้มันดูด้วย เห็นรูปมันทำหน้าตลกตอนถ่ายกับไดโนเสาร์ที่มีคนสวมชุดออกมาเดินแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ “รูปนี้มึงโครตฮา” ผมหัวเราะพลางหันหน้าไปมองมัน แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง หัวใจแทบหลุดออกมานอกอก ก็ไอ้เหี้ยเห็ดแม่งยื่นหน้ามาซะใกล้ หันไปนี่จมูกผมเกือบชนแก้มมัน มันอ่ะไม่ได้คิดอะไร ผมรู้ แต่ผมเนี่ยคิด

“พี่ถ่ายไม่ดีอ่ะ ไม่หล่อเลย ทำไมชอบถ่ายแต่ตอนหน้าผมตลกวะ” มันมัวแต่ก้มดูรูปไม่ได้สนใจผมที่นั่งหน้าร้อนผ่าวๆ อยู่ข้างๆ เล้ย

“มึงมันไม่หล่ออยู่แล้วป่ะวะ ถ่ายยังไงก็ไม่หล่อหรอก” ด่ามันกลบเกลื่อนไปงั้นแหละ ไม่อยากให้มันรู้ว่าผมเขินที่มันนั่งเบียดอยู่ใกล้ๆ พักนี้ผมชักจะหวั่นไหวกับมันมากขึ้นทุกที ถ้ามันรู้ มันอาจจะไม่กล้าเข้าใกล้ผม อาจจะรังเกียจผม เพราะงั้น...ผมจะไม่มีวันให้มันรู้เด็ดขาด

“พี่ห่วยมากกว่าว่ะ” มันหัวเราะแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม “ป่ะ กลับบ้านกันเหอะ ซื้อของฝากมั้ย”

“ไม่อ่ะ” ผมหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วรีบลุกจากแสตนด์ที่นั่งอยู่ เดินหนีมันไปหาทางออก มันเดินตามผมมา ผมรู้สึกได้ แต่ผมก็ไม่กล้าหันไปมองหน้ามันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.8 update 1/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 01-03-2018 20:42:06
ค่อยคืบมานิดนึง เห็ดความรู้สึกช้ามากนะ เอาจิงๆ นี่เร่งสุดละ ของจริงบอกเลยว่าเป็นปีๆ กว่าจะรู้ตัว

9
น้องว่า...ไอ้พี่เมษแม่งแปลกๆ ว่ะ วันนี้อากาศร้อนก็จริง แต่มันหน้าแดงบ่อยจัง แล้วบางทีก็อยู่ในห้องแอร์ มันจะร้อนอะไรขนาดนั้น ท่าทางมันก็พิกล หลบหน้าหลบสายตาน้องบ่อยมาก ตอนที่จับมือมัน ก็รู้สึกว่ามือมันสั่น หรือมันจะป่วยอะไรหรือเปล่า?

น้องได้แต่เก็บความสงสัยเหล่านั้นไว้ในใจ จนกลับมาถึงบ้าน แนะนำให้พี่เมษรู้จักกับป๊าม๊า และพี่อร พี่เลี้ยงที่เคยดูแลน้องมาตั้งแต่เข้าอนุบาล ป๊าม๊าน้องใจดี พี่มันเลยดูสบายใจขึ้นนิดหน่อยมั้ง เห็นเหมือนมันเกร็งๆ ตอนน้องพาเข้าบ้าน

“ขึ้นไปพักผ่อนกันก่อนนะ เดี๋ยวอาหารค่ำเสร็จแล้วจะให้พี่อรไปเรียก” ม๊าบอกพวกเราอย่างนั้น เพราะน้องบอกว่าไปเที่ยวกันมาตั้งแต่เช้ายันเย็น ตอนแรกพี่เมษมันเกรงใจ อยากจะช่วยพี่อร แต่ม๊าก็บอกว่าไม่เป็นไร แค่อุ่นอาหารเฉยๆ น้องก็เลยพาพี่เมษขึ้นห้อง

บ้านน้องเป็นตึกแถวสี่ชั้นขนาดใหญ่ มีที่จอดรถอยู่ชั้นล่างสุด ซึ่งมีแค่รถของป๊าคันเดียวแหละ แล้วก็จักรยานคันโปรดของน้อง มอไซค์ป๊าไม่ยอมซื้อให้ แต่น้องไปแอบหัดขี่ของไอ้พิชญ์มัน มันขี่มอไซค์คันนั้นตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว น้องก็ยืมมันขี่ประจำ ชั้นสองเป็นโซนนั่งเล่น นั่งกินข้าว และห้องพี่อร ชั้นสามห้องป๊าม๊า กับห้องทำงาน ชั้นสี่เป็นห้องนอนของน้องกับห้องหนังสือ ดาดฟ้าก็เอาไว้ตากผ้า ตอนเด็กๆ น้องจะชอบเอาสระยางมาเป่าลมไว้บนดาดฟ้าแล้วก็เล่นน้ำบนนั้นด้วย

“พ่อแม่มึงน่ารักดีเนอะ” พี่เมษมันนั่งลงบนเตียง ชวนน้องคุยพลางหันมองไปทางนั้นทางนี้ ห้องน้องไม่รกหรอก เพราะมีพี่อรทำความสะอาดให้ตลอด

“น่ารักเหมือนลูกแหละครับ” ขอชมตัวเองนิดนึงนะ อิๆ

“ก็น่าจะอย่างนั้นนะครับ น้องเห็ด” อุ มันยิ้มกริ่มทำหน้าล้อเลียนน้อง ก็ตอนอยู่กับป๊าม๊าและพี่อร น้องจะเรียกตัวเองว่า น้อง เหมือนที่เล่าอยู่เนี่ยแหละ ใช้มาตั้งแต่เด็กยันโต มันก็ชินป่าววะ “น้องจะให้พี่เมษนอนที่ไหนอ่ะครับ”

แม่งล้อไม่เลิก ไอ้เชี่ยพี่เมษ น้องเบะปากนิดๆ ใส่มัน “ก็นอนห้องนี้กับผมแหละ ไม่เห็นไง ม๊าวางหมอนกับผ้าห่มไว้ให้แล้ว”

“นอนกับมึงอีกแล้วเหรอวะ!” แล้วมึงจะตกใจทำห่าอะไรพี่

“เออดิ จะนอนพื้นก็เรื่องของพี่นะ” เตียงน้องไม่เล็กนะ นอนได้สองคนสบายๆ (ถึงจะเล็กกว่าของน้าที่คอนโดก็เหอะ)

“งั้นกูนอนพื้นดีกว่า” อ้าว? พี่แม่งเอาจริง

“เฮ้ย ผมล้อเล่น นอนข้างบนด้วยกันน่า” น้องรีบเข้าไปโอ๋มัน ก็ไม่เชิงว่าโอ๋ เพราะมันไม่ได้งอแงอะไร แค่จะลากหมอนกับผ้าห่มลงพื้น น้องเลยยื้อไว้ โยนหมอนผ้าห่มกลับที่เดิมไป “ไม่ดื้อนะพี่ เดี๋ยวน้องให้กินหนม”

เอ๊ะ! ฉิบหายเผลอพูดแทนตัวเองว่าน้อง

ไอ้พี่เมษแม่งจ้องหน้าน้องแบบ...กูโครตเขินเลยพี่ ครั้งแรกเลยที่หลุดกับมัน ถึงจะดูเหมือนพูดแหย่เล่นๆ แต่จริงๆ น้องหลุดครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไม่เคยหลุดพูดแบบนั้นกับคนอื่นนอกจากในครอบครัวเลย

“โอ๊ยยย มึงแม่ง...” พี่มันโวยวายอะไรไม่รู้ เอามือขยี้ๆ หัวตัวเองจนยุ่งเหยิง แล้วก็หันหลังให้น้องซะงั้น หรือมันจะหงุดหงิดวะ น้องรู้ว่าผู้ชายตัวโตๆ อย่างน้อง เรียกตัวเองซะน่ารักแบบนี้ มันคงตลก และบางคนก็อาจจะไม่ชอบใจ

“ขอโทษพี่ ผมเผลอน่ะ ก็อยู่บ้าน เลยชินปากไปหน่อย”

พี่มันก็นิ่งครับ เงียบไปเลย รู้สึกแย่อ่ะ

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำเอาพวกเราต่างสะดุ้ง หันไปมองทันที

“อาหารค่ำเสร็จแล้วค่ะน้องเห็ด คุณเมษ” พี่อรมาตามไปกินข้าวนี่เอง โล่งอกไปที น้องเลยสะกิดไหล่พี่เมษแล้วพยักหน้าให้ลงไปกินข้าวด้วยกัน ก่อนที่บรรยากาศจะแย่ไปกว่านี้

ป๊าม๊านั่งรอที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว พอไปถึงน้องก็ให้พี่เมษนั่งข้างม๊า น้องนั่งข้างป๊า พี่อรก็นั่งทานร่วมโต๊ะกับพวกเราด้วย เป็นแบบนี้มาตั้งแต่น้องยังเด็กแล้ว

“นี่ม๊าลงมือทำเองเลยนะลูก ลองดู” ม๊าตักหมูสามชั้นผัดเต้าซี่ใส่จานพี่เมษ พี่มันก็ผงกหัวขอบคุณ แล้วลองกิน น้องไม่ค่อยพาเพื่อนมาที่บ้านหรอก นอกจากไอ้พิชญ์ที่สนิทกัน “เป็นไงจ๊ะ เค็มไปมั้ย”

“ไม่ครับ อร่อยมากเลย” พี่เมษยิ้มหวานเชียว เห็นมันยิ้มได้อย่างผ่อนคลายแล้วค่อยยังชั่ว น้องกลัวว่ามันจะเกร็งกับป๊าม๊า พวกท่านยังอายุไม่เยอะก็จริง แต่น้องไม่ค่อยพาใครมาไง เลยไม่รู้ว่าจะโอเคมั้ย แต่กับไอ้พิชญ์ รายนั้นมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว มันเลยชิน เรียกป๊าม๊าน้องเต็มปากเต็มคำมาก

แล้วจากนั้นม๊ากับป๊าก็ชวนพี่เมษคุยเรื่องที่หอ ถามว่าอยู่ด้วยกันเป็นยังไงมั่ง พี่มันก็ตอบดีเชียวล่ะ ก็หลังๆ มานี้น้องทำตัวดีกับมันขึ้นตั้งเยอะ ไม่ใช่เพราะกลัวมันนะ แต่น้องก็คิดว่าควรต้องปรับปรุงนิสัยตัวเองบ้าง และพี่เมษก็คอยสั่งสอนได้ดีพอๆ กับไอ้พิชญ์เลย

“น้องเห็ดใกล้ปิดเทอมแล้วรึยังลูก” ป๊าหันมาถามน้องบ้าง หลังจากคุยกับพี่เมษไปเยอะแยะแล้ว อีกไม่ถึงเดือนก็จะสอบปลายภาคเทอมแรกนี้แล้ว

“อีกเดือนเศษๆ มั้งฮะป๊า เนี่ยงานส่งเยอะมากเลย น้องต้องเคลียร์ออก พรุ่งนี้น้องจะรีบกลับไปทำงานต่อด้วย”

“แล้วทำไมไม่เอามาทำที่บ้านด้วยล่ะน้องเห็ด” ม๊าเป็นคนถามบ้าง

“น้องอยากกลับมาพักผ่อนที่บ้านนี่นา” เข้าไปกอดเอวม๊าสักหน่อย แอบเห็นพี่มันนั่งอมยิ้มด้วย “มัวแต่ทำงานไม่ได้อยู่กับป๊าม๊าพอดี”

“แต่ก็กลับมาซะค่ำเลยเชียว คงไม่ใช่เพราะป๊าม๊าหรอกมั้ง เรามันอยากเที่ยวมากกว่า” ป๊าทำเสียงขึงขัง แต่น้องรู้ว่าป๊าไม่ได้ดุจริง ตั้งแต่จำความได้ ป๊าไม่เคยตีน้องสักครั้ง ดุก็นับครั้งได้เลย ไอ้พิชญ์มันบอกว่าป๊าม๊าตามใจน้องเกินไปแล้ว ก็เลยคอยดุด่าน้องแทนให้

“แล้วดูสิ ลากพี่เขามาเหนื่อยด้วยทั้งวันเลย ขอโทษจริงๆ นะจ๊ะ น้องเมษ” อิๆ โดนม๊าเรียกแบบเดียวกันเลยเป็นไงล่า

“ไม่เป็นไรครับ สนุกดี ผมไม่ค่อยได้มากรุงเทพ มีอะไรน่าสนใจเยอะดี” พี่มันรีบตอบ

“อ้าว? แล้วบ้านเมษอยู่ไหนจ๊ะ” ม๊าลูบหัวน้องไปคุยกับพี่มันไป เพลินมากจนน้องชักจะง่วงๆ

“อยู่พิษณุโลกครับ” เออ น้องก็เพิ่งรู้เหมือนกันแฮะ ไม่เคยถามมันเลยว่าอยู่ที่ไหน รู้แค่ไกล เพราะมันไม่เคยกลับบ้านเสาร์อาทิตย์เลย

“เป็นเมืองที่ธรรมชาติสวยแล้วก็อากาศดีมากเลยนะ ม๊าอยากลองไปเที่ยวดูสักครั้ง”

“ไว้น้องเห็ดปิดเทอมไปกันมั้ยล่ะม๊า” แล้วป๊ากับม๊าก็หันไปคุยเรื่องเที่ยวกันซะงั้น อย่างที่บอกว่าพวกท่านยังอายุไม่เยอะ มีน้องตั้งแต่อายุแค่ 20 ต้นๆ ก็เลยยังแข็งแรงฟิตเปรี๊ยะ ชอบท่องเที่ยว และบางทีก็พาน้องไปด้วย

“ให้ผมแนะนำได้นะครับ” พี่เมษก็ร่วมวงสนทนาด้วยอีก น้องนี่ไม่มีอะไรทำ หลับดีกว่า
...............
..........
......
...
“เห็ด...ไอ้เห็ด!”

“งือออ” ทำไมน้องนอนอยู่ดีๆ ก็เจ็บแก้มวะ ลืมตาดูเห็นไอ้พี่เมษนั่งยองๆ อยู่ตรงหน้า มือคาอยู่ที่แก้มน้อง กูรู้สาเหตุละ

“ไปนอนไป ป๊าม๊าเข้านอนหมดแล้ว กูแบกมึงขึ้นชั้นสี่ไม่ไหวหรอกนะ” พี่มันเอามือมาตบๆ ที่แก้มน้องอีกสองสามที ไม่ได้แรงมาก คงเพราะเห็นน้องตื่นแล้ว น้องงัวเงียลุกขึ้นเดินตามพี่เมษขึ้นไปบนห้อง

เข้าห้องปุ๊บ น้องก็ปรี่เข้าไปทิ้งตัวลงเตียงดังตุ้บทันที ไอ้พี่เมษหัวเราะตามหลังมา

“มึงนี่เหมือนเด็กประถมโครตๆ ใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดเลยดิ?” คนง่วง จะนอน มาชวนคุยอะไรว้า

น้องพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาหาพี่มัน มันนั่งเอี้ยวตัวมามองน้อง “อือ แปลกเหรอ”

“ไม่แปลกหรอก น่ารักดี” แล้วพี่มันก็ตาโตรีบเอามือตะครุบปากตัวเอง ช้าไปแล้วพี่ กูได้ยินเต็มสองรูหู “เฮ้ย คือ ไม่ได้มีความหมายแปลกๆ นะเว้ย” มันรีบแก้ตัว

“รู้น่า ผมก็น่ารักอยู่แล้ว”

“หลงตัวเองว่ะ” มันทำเบะปากใส่ ทำไปก็ไม่น่ารักเท่ากูหรอกพี่

“พี่ชมผมเองนี่ วุ้ย ไม่คุยแล้ว จะนอน” น้องหันหลังให้มัน คว้าตุ๊กตาเห็ดตัวใหญ่มากอด หลับดีกว่า
.............
........
....
ปวดฉี่! จู่ๆ ความรู้สึกวูบวาบๆ ก็ทำให้น้องสะดุ้งตื่น คือกลัวมาก ถ้าฝันว่าไปฉี่ เดี๋ยวมันจะออกมาจริงๆ ต้องรีบตื่นไปเข้าห้องน้ำก่อน

ไอ้พี่เมษยังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง มันนอนหงายหลับสบายเชียวว่ะ น้องต้องค่อยๆ ลงจากเตียง ระวังไม่ให้มันตื่น ย่องไปเข้าห้องน้ำแล้วก็กลับออกมานอนต่อ

“อือ...เห็ด...” ตอนเดินออกมาจากห้องน้ำ เหมือนจะได้ยินเสียงพี่มันครางงึมงำอะไรไม่รู้ เลยเข้าไปก้มดูใกล้ๆ อ๊ะ! กลิ่นหอมๆ นี่อีกแล้ว ไม่ได้สังเกตมานาน น้องจำได้ว่าเคยได้กลิ่นนี้จากตัวมัน แต่พอถามมันว่าใช้น้ำหอมมั้ย มันบอกเปล่า ซึ่งก็คงจะจริง เพราะไม่เห็นมันมีน้ำหอมเลยสักขวด แล้วนี่มันก็อาบน้ำแล้ว คงไม่ฉีดน้ำหอมก่อนนอนแน่ๆ

แต่แม่งโครตหอมเลยว่ะ

น้องไม่ได้ทะลึ่งหรือลามกนะ คือแค่อยากดมใกล้ๆ เลยนั่งยองๆ ลงข้างเตียง เอามือเกาะของเตียงไว้แล้วยื่นหน้าไปดมที่ตัวมัน กลิ่นหอมสะอาดสดชื่นดี ชักจะติดกลิ่นนี้แล้วสิ

“เห็ด...” หือ? มันละเมอเรียกน้องเหรอ? ปากพี่มันขยับงึมงำแล้วก็เงียบเสียงไป มีแต่เสียงลมหายใจ น้องก็ไม่ได้คิดอะไร เลยกะจะเดินกลับไปนอนฝั่งตัวเอง

แต่พอทิ้งตัวลงนอนปุ๊บ เชี่ยพี่เมษแม่งหันควับมากอดเฉยเลย! เอาขามาก่ายอีก คือ กูไม่ใช่หมอนข้างมั้ย

“น้องเห็ด...น่ารัก” น้องเหลือบมองหน้ามันที่พูดอย่างนั้นแบบเสียงดังฟังชัดมาก มันยังหลับอยู่ แสดงว่าละเมอสินะ แต่แม่งนอนยิ้มเว้ย

จะว่าไป เวลาพี่เมษยิ้ม มันก็น่ารักดีนะ

เมื่อก่อนนอนกับไอ้พิชญ์บ่อยๆ แต่ไม่เคยกอดกันสักครั้ง มันก็แปลกดีที่มีคนมานอนกอดแบบนี้ รู้สึกใจสั่นๆ พิกลด้วย น้องพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาพี่เมษ ที่ยังนอนยิ้ม ท่าทางจะฝันดีอะไรสักอย่าง

“พี่...ฝันว่าอะไรเหรอครับ” แกล้งกระซิบใกล้ๆ หน้ามัน เขาว่าเวลาคนมันฝัน บางทีถ้ามีเสียงแทรกเข้าไป มันจะตอบกลับมาด้วยนะ

“อือ...” มันย่นคิ้วเข้าหากัน เหมือนจะครุ่นคิด “ฝัน...”

“ฝันว่าอะไรครับ” น้องยังแกล้งแหย่คนหลับต่อ เวลาอยู่ในฝัน มันเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น นี่ถ้ามันลืมตาขึ้นมานะ มีเฮ

มันไม่ตอบ แต่เขยิบตัวเข้ามากอดแน่นขึ้น เฮ้ยๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆ ไอ้พี่เมษ! อย่ากดหัวกู

คือพี่มันคว้าหัวน้องไปกอดไว้ กดหัวลงกับอกมันพอดี เสียงหัวใจของมันดังเป็นจังหวะ สงบนิ่ง เป็นจังหวะการเต้นของคนกำลังหลับแน่นอน แต่...หัวใจน้องเนี่ย เต้นไม่เป็นจังหวะแล้วเว้ยยยยย หน้าซบกับอกมัน รู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก น้องพยายามจะขยับตัวออกมา แต่มันก็รั้งไปกอดไว้อีก คือถ้าพี่มีนมนิ่มๆ มันคงฟินอ่ะนะ แต่ตัวแม่งก็โครตหอมอีก

ในเมื่อทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะกลัวพี่มันตื่นด้วย น้องก็เลยต้องยอมนอนท่านั้น กลิ่นหอมๆ จากตัวมัน ค่อยๆ ทำให้น้องผ่อนคลายและหลับไปในที่สุด

เช้าวันต่อมา พี่เมษมันตื่นก่อนแล้ว อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะมาปลุกน้อง ไม่รู้ว่าตื่นมาตอนเช้ายังอยู่สภาพเดิมกับเมื่อคืนหรือเปล่า ขี้เกียจถามไร้สาระ

“พี่ตื่นเร็วจัง” น้องยังงัวเงียลุกมานั่งแคะขี้ตาอยู่เลย ไม่อยากลุกไปอาบน้ำ

“ก็มึงบอกจะรีบกลับไปทำงานต่อ” มันว่าพลางพับแขนเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน แปลก วันนี้ใส่เสื้อเชิ้ตแฮะ นอกจากเชิ้ตนักศึกษาแล้ว ปกติเห็นมันใส่แต่เสื้อยืดมาตลอด ดูเนี้ยบๆ ดีเหมือนกัน

“อือ...ฝากเพื่อนเรนเดอร์งานไว้ให้แล้วอ่ะ คงต้องกลับไปช่วยกันทำต่อ” การเรนเดอร์ที่น้องว่าก็คือ การสร้างภาพจำลองแบบ 2 มิติ ของโมเดลที่จะสร้างอ่ะครับ ฝากเพื่อนที่คณะทำให้แล้ว เดี๋ยวขั้นตอนอื่นที่เหลือก็ทำเอง

“ให้กูช่วยเหมือนคราวก่อนๆ มั้ยล่ะ”

“ก็ดีครับ แหะๆ” คนจะมีน้ำใจ น้องต้องไม่ปฏิเสธครับ ปกติถ้างานเสร็จเร็ว น้องก็ช่วยเพื่อนทำด้วยนะ บางคนโดนแก้แบบบ่อย ก็ต้องช่วยๆ กันทำ มันจะได้เสร็จๆ ไป

เรียนถาปัดนี่ไม่ง่าย บอกเลย น้องกว่าจะผ่านพ้นปี 1 มาได้ ยิ่งปีนี้งานเยอะและละเอียดกว่าเดิมอีก น้องไม่ใช่คนเก่งเทพเหมือนไอ้พิชญ์ ฝีมือวาดรูปตอนสอบเข้าอยู่ในระดับมาตรฐาน แต่ความคิดสร้างสรรค์มาเต็มครับ ส่วนเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเรียนหรือเรื่องงาน มันไม่เคยอยู่ในหัว อ้อ ป๊าน้องเป็นสถาปนิกอ่ะ น้องก็เลยเลือกเรียนคณะนี้ แต่ที่จริงก็แอบอยากเรียนภาษาแบบอิงอิงนะ

“ขากลับให้กูขี่แล้วกัน มึงจะได้ไม่เหนื่อย พอจำทางได้อยู่ มึงช่วยบอกด้วยล่ะ” หลังกินข้าวเช้าแล้ว น้องกับพี่เมษก็ลาป๊าม๊า เตรียมตัวกลับมอ

“ฝากดูแลน้องด้วยนะน้องเมษ ถ้าทำอะไรไม่ดีก็ตักเตือนหน่อยนะจ๊ะ ไปอยู่ไกลหูไกลตา นอกจากพิชญ์ ก็ยังดีที่มีน้องเมษมาเป็นรูมเมทปีนี้” ม๊าก็รู้สึกจะสนิทสนมกับพี่เมษเหลือเกิน มีการลูบหัวลูบหางกันด้วย

“ครับ ผมจะดูแลให้เอง ไม่ต้องห่วง”

“โหยยย ลูกม๊าดูแลตัวเองได้น่ะ” อดแทรกไม่ได้ครับ ไอ้พี่เมษมาทำยิ้มสวยให้ม๊าน้องอย่างนั้น

“ให้มันจริงเถอะ ตอนจะขอไปเรียนไกลๆ ต้องอยู่หอ ป๊าม๊านี่เป็นห่วงมาก เพราะอยู่บ้านเคยมีพี่อรดูแลทุกอย่าง กลัวจะไปรบกวนคนอื่นเขา” ม๊าก็...

“ถ้าน้องพิชญ์ไม่ไปอยู่ด้วยก็คงไม่ยอมส่งไปหรอก ว่าแต่ ได้ข่าวว่าน้องพิชญ์เขามีแฟนแล้วนี่ เราเป็นหมาเลยสิ น้องเห็ด” ป๊าพูดแทงใจดำอีกแว้ววววว ยิ่งไม่อยากจะคิดถึงอยู่ อุตส่าห์มีพี่เมษแล้ว ไม่อยากไปนึกถึงไอ้เพื่อนทรยศศศศ

“ป๊าอ่า อย่าพูดถึงดิ” น้องออกอาการกระเง้ากระงอดขึ้นมาเลย ไม่ชอบนี่ พูดจี้ใจน้อง พิชญ์แม่งไม่สนใจใยดีน้องเลยหลังๆ แค่เจอเวลาเรียนด้วยกัน กับตอนทำงานที่สตูฯ ที่หอก็เจอบ้าง แต่ส่วนใหญ่มันไปอยู่กับแฟนตลอดเลย

“ดูทำหน้าเข้า งอนเพื่อนสินะน้องเห็ด พี่เมษหัวเราะใหญ่แล้ว ไม่ทำตัวเป็นเด็กนะคะลูกชาย” ม๊าเข้ามากอดๆ น้อง ปลอบใจ

“เราไม่หาแฟนมั่งล่ะน้องเห็ด”

“หูยยย ไม่เอาอ่ะป๊า ไม่มีใครคบน้องได้นานๆ หรอก น้องไม่อยากเสียใจ” หันไปกอดป๊าบ้าง อยากอ้อนป๊าม๊าแบบนี้ไปเรื่อยๆ เลย

“เอ้าๆ ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย แดดร้อน น้องเห็ดนี่ก็ขี้อ้อนจริง” ม๊าว่าพลางดึงตัวน้องเห็ดออกจากอ้อมกอดป๊า “อย่าดื้อกับพี่เขามากล่ะ”

“คร้าบๆ” ย้ำกันจังเล้ย น้องมองหน้าพี่มัน มันก็เอาหมวกกันน็อคมาสวมให้ ป๊าม๊าก็ยืนดูอยู่ใกล้ๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว คงดีใจที่น้องมีพี่ชายน่ารักแสนดีอย่างพี่เมษ

“ไปนะครับ ป๊าม๊า” พี่เมษยกมือไหว้ป๊ากับม๊าของน้อง แล้วก็ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อครอน้องขึ้นไปซ้อนท้าย พวกเราโบกมือบ๊ายบายป๊าม๊าอีกรอบ ก่อนจะเดินทางกลับหอกัน

******

กลับมาถึงหอโดยสวัสดิภาพ น้องโทรหาเพื่อนที่คณะ นัดกันไว้ว่าจะไปทำงานที่นั่น

“พี่ เดี๋ยวผมต้องไปทำงานกับเพื่อนนะ พี่จะไปด้วยมั้ย” น้องหันไปถามพี่เมษที่กำลังนอนอืดหลังการเดินทาง ดูมันเหนื่อยๆ น้องก็ไม่อยากรบกวนหรอก แต่ก็ถามไว้ก่อน เพราะพี่มันบอกว่าจะไปช่วยไง

“ไป ขอกูเปลี่ยนกางเกงแป้ป” มันชี้ไปที่กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำที่ใส่อยู่ มันคงจะนั่งลำบาก เลยอยากเปลี่ยนก่อน น้องก็พยักหน้ารับ

พี่เมษเด้งตัวขึ้นจากเตียง ลุกไปถอดกางเกงหน้าตู้เสื้อผ้า เหลือแค่บ็อกเซอร์ข้างใน แล้วมันก็รื้อๆ หากางเกงขาสามส่วนที่น่าจะใส่สบายมาสวมทับ รอบนี้น้องเป็นคนขี่มอไซค์ให้พี่มันนั่งเองครับ

“มาสักทีมึง!” มาถึงสตูฯ ที่พวกไอ้พิชญ์ทำงานกันอยู่ ไอ้สองตอ เต้โต้ ฝาแฝดเพียงหนึ่งเดียวประจำคณะน้องก็เดินเข้ามาตบหัวน้องกันยกใหญ่ สมองกูไหลออกหมดแล้ว ฮุ้ “แล้วนี่ใครวะ”

น้องหันไปมองพี่เมษ พี่มันก็ทำหน้างงๆ เพิ่งเคยมาช่วยงานที่คณะครั้งแรกไง ไม่เคยเจอเพื่อนน้องคนอื่น นอกจากไอ้พิชญ์กับอีกสองสามคนที่อยู่หอใน เพราะส่วนใหญ่จะอยู่หอนอกกัน ด้วยความที่พวกเราต้องทำงานเยอะจัด การอยู่คนเดียวจะสะดวกกว่า แต่คนที่ต้องการประหยัดก็จะอยู่หอใน ส่วนน้อง เป็นเพราะป๊าบอกให้เรียนรู้การอยู่ในสังคม เพราะคนจะเป็นสถาปนิก นอกจากมีไอเดีย มีฝีมือ มีความรับผิดชอบสูงแล้ว ต้องมีสังคมด้วย

“รุ่นพี่ที่เป็นเมทกูเอง พี่เมษนี่เพื่อนผม เป็นแฝด คนผมน้ำตาลชื่อเต้ ผมดำชื่อโต้” บอกตรงๆ นะ ถ้าไม่มีคนหนึ่งในนี้ย้อมผม น้องก็แยกพวกมันไม่ออกเหมือนกัน

“สวัสดีครับพี่เมษ” มันสองคนประสานเสียงกัน “พี่จะมาช่วยพวกเราทำงานสินะ มานั่งๆ นี่เลย” ไวเชียวมึง มีคนมาช่วยเนี่ย เหลือบตามองบนแป้ป

พอทุกคนประจำที่แล้ว ก็ลงมือทำงานครับ พี่เมษมีหน้าที่ช่วยพวกเราตัดโมเดลไป งานส่งพรุ่งนี้ คืนนี้น่าจะเสร็จอยู่

ระหว่างทำงานก็มีบางคนออกไปซื้ออะไรกินบ้าง เราก็ฝากๆ กันไป พี่เมษทำส่วนของตัวเองเสร็จ ก็เดินมานั่งข้างๆ น้อง มองดูน้องทำงาน

“ให้ช่วยอะไรอีกมั้ยอ่ะ”

“ไม่เป็นไรพี่ รอพวกมันปริ้นท์ก่อนนะ แล้วพี่ช่วยผมตัดที” น้องว่าพลางทากาวประกอบโมเดลเข้าด้วยกัน พี่มันก็นั่งจดๆ จ้องๆ อย่างสนอกสนใจ ปกติมันมีหน้าที่ตัดกระดาษอย่างเดียว ไม่ค่อยได้จับงานส่วนอื่นหรอก

นั่งทำงานไปสักพัก ก็รู้สึกเหมือนมีน้ำหนักกดลงมาข้างตัว น้องหันไปมอง พี่เมษแม่ง...หลับซะงั้น

“ไม่ไหวก็ไปนอนตรงที่มีหมอนนั่นก่อนมั้ยพี่” ตอนนี้ก็ค่ำแล้วด้วย มันเพลียจากการเดินทางไกล แล้วยังต้องมาช่วยงานน้องต่ออีก คงง่วงเร็วเป็นธรรมดา

“อือ ไม่เอา” อะไรคือหลับตาแล้วครางงึมงำว่าไม่เอาครับพี่   “อยากอยู่ตรงนี้”

หืม? มาแปลก แต่นอนพิงไหล่น้องแบบนี้มันทำงานลำบากง่า “ผมทำงานไม่ถนัด หนุนตักแทนได้มั้ย” ถ้ามันอยากนอนตรงนี้อ่ะนะ สงสัยลมพัดเย็น เพราะน้องนั่งริมหน้าต่าง

“อือ” พี่เมษครางรับมาอีกรอบ แล้วเปลี่ยนท่า ทิ้งหัวลงหนุนบนตักน้องที่นั่งขัดสมาธิบนพื้น แล้วก็หลับสนิทไปตอนไหนไม่รู้

“เฮ้ย ไอ้เห็ด”

“ชู่ว” น้องรีบเอามือจุ๊ปากไม่ให้ไอ้โต้ส่งเสียงดัง มันคงกะจะเรียกพี่เมษไปตัดกระดาษต่อ แต่พี่มันหลับอยู่เมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง น้องเลยไม่อยากให้รบกวน

“หลับแล้วเหรอวะ? เพิ่งสามทุ่มเอง” ไอ้โต้นั่งยองๆ ลงชะโงกมองหน้าพี่เมษ

“พี่มันขี่รถมาจากกรุงเทพอ่ะ คงเหนื่อยๆ” น้องว่าพลางยื่นแบบจำลองที่ทำเสร็จแล้วให้เพื่อน มันก็รับไปเช็คๆ ดู

“ถามจริงนะ มึงกับพี่เขาเป็นแฟนกันเหรอวะ”

“ถามได้เหี้ยมากเพื่อน” น้องขมวดคิ้วเหล่มองไปทางอื่น คือแบบ...ทำไมมีแต่คนคิดแบบนั้นวะ

“เอ้า ก็กูเห็นรูปในเนตให้ว่อน แถมเขามาช่วยงานมึง ท่าทางสนิทกันขนาดนอนหนุนต่งหนุนตักงี้ ใครเห็นก็คิดป่ะวะ” มันก็จริงมั้ง น้องก้มมองคนที่หลับสนิทบนตัก สีหน้านิ่งสงบ

เมื่อไหร่ที่พวกเราสนิทกันขนาดนี้วะ

“กับไอ้พิชญ์ กูยังไม่เคยเห็นมึงให้มันหนุนตักเลย”

“กูไม่มีรสนิยมหนุนตักควายว่ะไอ้โต้!” เหี้ยพิชญ์ส่งเสียงโหวกเหวกมาเชียวนะมึง ไม่ติดว่าพี่มันนอนอยู่ กูจะลุกไปถีบสักที

“กูก็ไม่ชอบให้ควายอย่างมึงมาหนุนตักหรอกห่าพิชญ์” น้องโวยกลับ ลืมไปเลยว่าพี่เมษมันนอนอยู่ ต้องเบาหน่อย “ก็กูนอนห้องเดียวกับมันเกือบทุกคืน จะสนิทกันก็คงไม่แปลกมั้ง”

“แปลกดิ” ไอ้โต้เถียงทันที “คนที่จะทนน้ำหน้าอย่างมึงจนเกือบครบเทอมได้เนี่ย แม่งโครตแปลก”

“มึงไม่คิด แต่พี่มันอาจจะคิดก็ได้ป่าววะ” เสียงไอ้เต้สมทบขึ้น พวกมึงจะเอาอะไรจากกู๊ววว ต้องการอะไรจากสังคมถึงได้จุดประเด็นเรื่องนี้กันวะ และแม้แต่ไอ้เพื่อนพิชญ์แสนชั่ว ก็ยังพูดให้น้องคิด

“จริง กูสงสัยนานแล้ว แต่ไม่กล้าพูด ที่พี่มันดีกับมึงขนาดนั้นอ่ะ มันเกินปกติแล้ว ยิ่งกว่าที่กูเคยทำอีกมั้ง”

“น่ะ ไอ้พิชญ์ยังคิดเลยมึง” ไอ้เต้นี่ฝ่ายลูกคู่ สมทบแม่งทุกเรื่อง

น้องนิ่งไปนาน คือ ไม่เคยคิดไง แต่พอเพื่อนรุมกันพูด มันก็คิดป่ะวะ มองหน้าไอ้คนที่หลับสนิทอีกทีดิ มันยังหลับปุ๋ยอยู่เลย

“ไม่หรอกมั้งกูว่า พี่เมษก็แค่เห็นกูเป็นน้องชาย อย่างพี่มันคงไม่ชอบผู้ชายหรอก แล้วกูก็ไม่เคยคิดอะไรกับพี่มันด้วย” น้องตอบอย่างชัดเจน “พอๆ เรื่องนี้ ทำงานต่อเร็วๆ เลย จะต้องเสร็จก่อนเที่ยงคืน! กูจะนอนยาว!” น้องรีบโบกมือไล่ได้โต้ให้กลับไปทำงานต่อ ไอ้พิชญ์กับไอ้เต้ก็เลยเลิกเซ้าซี้
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.9 update 1/3/18 8:41pm
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-03-2018 02:35:24
ถ้าพี่ตัวเล็กได้ยินคงเสียใจน่าดู  :o12:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.9 update 1/3/18 8:41pm
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 02-03-2018 14:15:50
ถ้าไม่มีเพื่อนๆ นางคงไม่มีวันรู้ตัว
โครตชีวิตจริง...คือเราก็ได้เพื่อนบอกเหมือนกันไง ฮ่าๆๆๆ

10
“ช่วงนี้สอบ กูต้องไปติวกับเพื่อนหออื่น คงไม่ค่อยกลับห้องนะ” จู่ๆ พี่เมษก็เดินมาหาน้องที่เตียง ยื่นกุญแจรถมาให้ น้องที่กำลังเรนเดอร์งานผ่านคอมฯ อยู่ เงยหน้ามองมันอย่าง งงๆ

“อ้าว? ติวนานขนาดนั้นเลยเหรอพี่” เข้าใจนะว่าช่วงสอบปลายภาคของคณะมันก็โหดอยู่ ส่วนของคณะน้องส่วนใหญ่จะเป็นงานส่งมากกว่า

“อือ มึงเอารถไปใช้ได้เลย เติมน้ำมันให้ด้วย” มันยัดกุญแจใส่มือน้อง

“แล้วพี่อ่ะ?”

“กูไปกับเพื่อนได้ มึงเก็บไว้ใช้เหอะ” โห ใจดีฝุดๆ

“งั้นก็...ขอบคุณนะครับ” น้องยิ้มหวานรับกุญแจมาด้วยความเต็มใจ

จริงๆ น้องเองก็มีงานที่คณะถี่มากเหมือนกัน นานๆ จะได้กลับมานอนชิวๆ ที่ห้อง อีกไม่กี่อาทิตย์จะได้ปิดเทอม กลับไปนอนอืดที่บ้านยาวๆ แล้ว

“ช่วงนี้ไม่เห็นพี่เมษเลยว่ะ ติดสอบยาวเลยเหรอ” เสียงไอ้เต้ลอยมาเข้าหู น้องก็เฉยๆ นะ ทำงานอยู่ ดึกแล้วด้วย ต้องรีบปั่น เหลือแค่สามชิ้นสุดท้าย จะได้เป็นไทแล้ว เพราะสอบข้อเขียนครบหมดแล้ว ง่ายๆ ชิวๆ

“เห็นว่างั้นนะ บอกไปติวกับเพื่อนหออื่น” น้องตอบไปตามที่พี่เมษเคยบอก

“มึงได้คุยกับพี่มันมั่งรึเปล่า” ไอ้พิชญ์ถามบ้าง น้องก็เงยหน้ามองหน้ามัน แล้วทำหน้านึกๆๆๆ

“ไม่อ่ะ ต่างคนต่างยุ่ง” เท่าที่นึกได้ นอกจากคืนนั้นที่มันมาส่งกุญแจรถให้ ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ไอ้พิชญ์กับไอ้เต้มองหน้ากัน แล้วก็หันมามองหน้าน้องอีกที อะไรของพวกมันวะ

“สองอาทิตย์” ไอ้โต้โพล่งขึ้นมา

“อืม สองอาทิตย์แล้ว” ไอ้พิชญ์ก็ขานรับ เหมือนแม่งเข้าใจกันอยู่สามคนตรงนั้น “กูว่าวันนั้น พี่มันได้ยินว่ะ”

“กูก็คิดงั้น มันคงไม่ได้หลับสนิทขนาดนั้น” พวกมันคุยอะไรกันวะ น้องไม่เข้าใจอ่ะ ได้แต่นั่งฟังด้วยหน้าตาโง่ๆ ไป

“ถ้าไม่ได้คิดจริงๆ คงไม่ตีตัวออกห่างอย่างนี้มั้งกูว่า” ไอ้เต้เอามือลูบๆ คาง ท่าทางครุ่นคิดอะไรแผลงๆ อยู่แน่

“พวกมึงพูดเรื่องอะไรกันวะ” น้องสงสัยไปด้วยเลย

“ก็เรื่องมึงไง” ไอ้เต้หันมาถลึงตาใส่น้อง

“กับพี่เมษ” ไอ้พิชญ์สมทบ

“ทำไมวะ? กูกับพี่เมษมีอะไร?” ยิ่ง งง หนักเข้าไปใหญ่

“ถามจริงๆ นะ เห็ด มึงไม่คิดอะไรเลยเหรอ กับสิ่งที่พี่มันทำให้มึงตั้งขนาดนั้น ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแป้ปเดียว” พิชญ์มันลุกขึ้น เดินมานั่งลงข้างๆ น้อง แล้วก็พูดอะไรให้ยิ่งสับสนหนักกว่าเดิม

“อะไรยังไงวะ?”

“กับกู มันถือเป็นเรื่องปกติ กูไม่ได้ดูแลมึงตลอด แค่อยู่กับมึงมาหลายปี มันเลยดูเป็นอย่างนั้น แต่พี่มันทำนู่นนี่นั่นให้มึงเกือบตลอดเวลา ในช่วงเทอมนึงที่ผ่านมา” ไอ้พิชญ์ว่าพลางวางมือลงบนบ่าน้อง

“คือ เป็นคนทั่วไป หรืออย่างพวกกูเนี่ย กูคิดนะเว้ย เอาจริงๆ ต้องฉุกใจนิดแล้วอ่ะว่า เฮ้ย ทำให้กูยิ่งกว่าพ่อแม่ขนาดนี้ ต้องการอะไรเปล่าวะ แอบชอบกูรึเปล่า ไรงี้ไง” ไอ้โต้อธิบาย ซึ่งบอกตรงๆ นะ กูยังจับใจความไม่ทันว่ะ

“แอบชอบเลยเหรอ?” น้องจับได้แค่เนี้ยแหละ ประโยคสุดท้าย

“มึงค่อยๆ คิดนะเห็ด พี่มันดูแลมึงมายังไง ทำอะไรให้มึงบ้าง มึงอาจจะคิดว่ามันเป็นเหมือนพี่อร พี่เลี้ยงมึงไปแล้ว แต่จริงๆ มันไม่ใช่ มันไม่ได้เป็นอะไรกับมึง ไม่ได้เงินเดือนจากป๊ามึงเลยสักบาท แถมยังเสียเงินเสียเวลาดูแลมึงอีก คิดสิวะ คิด”

ที่ไอ้พิชญ์พูดมามันก็จริงนะ คือที่ผ่านมา น้องไม่ได้ฉุกใจอะไรเลย เพราะตอนแรกๆ พี่มันก็โหดจะตาย ขู่เข็ญน้องสารพัด ด่าน้องปาวๆ แถมยังทั้งแกล้ง ทั้งทำร้ายร่างกายด้วย แล้วจู่ๆ พอมันใจดี ทำอะไรๆ ให้ น้องเลยคิดว่ามันอยากไถ่โทษ แล้วก็เลยชินกับสิ่งที่มันทำ จนลืมนึกไปว่ามัน ไม่ใช่พี่อร...

แต่ถ้ามันชอบน้องจริงๆ มันก็ควรจะต้องอยากอยู่กับน้องช่วงนี้สิ เพราะมันเป็นช่วงสุดท้ายก่อนปิดเทอม จะไม่ได้เจอกันตั้งเดือนเชียวนะ

“ไม่หรอกมั้งกูว่า พี่มันไม่คิดอะไรหรอก คงชอบดูแลไปทั่ว”

“มึงมันคิดน้อยงี้ไง ลองโทรหา ไลน์ไป หรือทำอะไรสักอย่างดูสิ” ไอ้พิชญ์คะยั้นคะยอ

“แต่มันดึกแล้วนะมึง” จะเที่ยงคืนอยู่แล้ว จะให้โทรไปตอนนี้เนี่ยนะ?

“ลองดู” ไอ้พิชญ์เน้นย้ำพลางยักคิ้วส่งสัญญาณทางสายตาให้

น้องกลืนน้ำลายลงคอ จ้องเบอร์โทรพี่เมษที่อยู่บนหน้าจอ “แล้วจะโทรไปเรื่องอะไรอ่ะ”

“ถามมันดิ นอนยัง ทำไรอยู่ มาหาได้มั้ย” ไอ้เต้โต้นี่ก็ลูกคู่จังวะ “พวกกูอยากได้ลูกมือ ฮ่าๆ” ใจจริงพวกมึงสินะ เพื่อนเวร

“แค่ลองดู ว่าพี่มันจะมีปฏิกิริยายังไง แค่นั้นเอง ง่ายๆ ถ้ามันไม่คิด มันก็จะด่ามึง โวยวายใส่ ถ้ามันคิด มันอาจจะอยากมาเจอมึงเดี๋ยวนี้เลยก็ได้” ไอ้พิชญ์ชี้แนะแนวทางให้

ตอนนี้ ห้าทุ่มครึ่งแล้ว พี่มันจะนอนหรือยังก็ไม่รู้ เอาไงดีวะ เพื่อนก็เร่งให้รีบโทรก่อนจะดึกไปกว่านี้อีก โทรก็โทรวะ

ปลายนิ้วของน้องกดปุ่มสีเขียวบนหน้าจอไปแล้ว เสียงรอสายแม่งโครตระทึกขวัญ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ น้องคงไม่รู้สึกอะไรเลยกับการโทรหาพี่เมษ แต่พอคิดว่าพี่มันจะคิดอะไรอย่างนั้นแบบที่พวกไอ้พิชญ์พูด ใจมันก็สั่นแปลกๆ

[ฮัลโหล] เชี่ย! แม่งรับสายด้วย! น้องหันขวับไปมองหน้าพวกไอ้พิชญ์ นิ้วชี้ที่มือถืออย่างลนลาน ไอ้พิชญ์ก็พยักหน้าให้พูดเร็วๆ

“คือ พี่...ยังไม่นอนเหรอ” ทำไมกูต้องเสียงสั่นวะเนี่ย!

[ยัง] โห โครตสั้น ห้วนมากด้วย

“ผมรบกวนรึเปล่า”

[ถ้ามึงคิดว่ารบกวน มันก็รบกวน] อ้าว? ไอ้ห่าพี่ มึงอย่างี้สิวะ

“งั้นผมไม่กวนก็ได้”

[มีอะไร ว่ามา] มันเริ่มหงุดหงิด ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ [ไม่พูดก็วาง จบ]

คำว่า จบ แม่งโครตจี๊ดอ่ะ ไม่รู้ทำไม แต่พอมันพูดแบบนั้นแล้ว น้องไม่อยากให้มันจบจริงๆ คำคำนั้นที่มันพูด ราวกับว่าถ้าน้องวางสายครั้งนี้ จะไม่ได้เจอมันอีกเลย

หัวใจบ้านี่แม่งก็เต้นโครตแรง จะเต้นประกวดแดนซ์คอนเทสต์รึไงวะ

“พี่ว่างมั้ย มาช่วยพวกผมตัดโมเดลได้มั้ย ผมอยากให้พี่ช่วย” น้องรัวใส่แบบไม่ยั้ง ไม่ทันคิดด้วย แต่พวกไอ้พิชญ์ยกนิ้วให้ แสดงว่าทำถูกแล้วช่ะ?

ระหว่างที่พี่มันเงียบไปนาน จนใจน้องเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แทบจะขาดใจให้ได้ แม่งเป็นการรอคอยที่โครตยาวนาน ทั้งที่ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที แต่สุดท้าย คำตอบของมันก็ทำให้น้องหลุดยิ้มกว้างอย่างช่วยไม่ได้

“พี่มันต้องชอบมึงแน่ๆ กูฟันธง” ไอ้เต้เปิดประเด็นอีกรอบหลังน้องวางสาย

“ใช่ กูก็ว่างั้น เป็นกูนะ ไม่มาหรอก ดึกขนาดนี้ แค่โทรไปกูก็ด่าแล้ว” ไอ้พิชญ์ว่า “โดยเฉพาะถ้าเป็นสายจากเหี้ยเห็ดดึกๆ นะ กูไม่รับด้วยซ้ำ”

“สัส ที่กูเคยโทรไปให้มึงช่วยเมื่อก่อน แล้วมึงไม่รับคืองี้สินะไอ้พิชญ์” น้องละอยากเอาตีนตบหน้ามันจริงๆ ถ้าไม่ติดว่านั่งทำงานมือระวิงอยู่อ่ะนะ

“กว่าจะรู้ตัวนะน้องเห็ดสะด๋ำ” ยังมีหน้าหัวเราะใส่กูอีกนะ ไอ้เหี้ยพิชญ์!!!

ตริ๊ง

อ๊ะ เสียงไลน์เด้ง พี่เมษมาถึงแล้วมั้ง มันบอกว่าถึงหน้าคณะแล้วจะไลน์มาบอก ให้น้องออกไปรับมันเข้ามาด้านใน มันมืดแล้ว ไม่อยากเดินเข้าไปคนเดียว น้องก็รีบวิ่งออกไปรับพี่มันหน้าคณะ

พี่เมษยืนกอดอกพิงมอไซค์ที่น่าจะยืมเพื่อนมารออยู่ที่ที่เคยจอดประจำเวลามันมาส่งน้องเมื่อก่อน มาทั้งชุดนอนเลยมั้งเนี่ย เสื้อยืด กางเกงขาสั้น เดี๋ยวยุงได้กัดตายห่า

“พี่ ผมลืมบอกให้ใส่ขายาวมา ยุงมันเยอะนะ” ความผิดน้องเองครับ ลืมจริงๆ ไม่ทันคิดว่ามันไม่ใช่คนในนี้ คงไม่ค่อยรู้อิทธิฤทธิ์ยุงถาปัด

“ไม่เป็นไร ถ้ากูเป็นไข้เลือดออกตาย จะตามมาเอามึงไปอยู่ด้วย” พี่เมษมันว่าหน้านิ่งๆ ท่าทางยังกวนโอ๊ยเหมือนเดิม มันจะชอบน้องจริงๆ รึเปล่าว้า

“อยากเป็นไข้เลือดออกตาย หรืออยากให้ผมไปอยู่ด้วย เอาจริงๆ” ลองแกล้งแหย่มันสักหน่อย อิๆ

พี่เมษแม่งถลึงตาใส่เลย น้องกลัวแล้ววววว “ยอกย้อนนะเดี๋ยวนี้ มึงอยากตายคาตีนกูตรงนี้เลยมั้ยล่ะเห็ด! ไปได้แล้ว เร็วๆ”

“ครับๆ” ฮือออ แม่งก็ยังโหดเหมือนเดิมนี่หว่า ใครบอกมันชอบกูวะ สัส ไม่เห็นเศษเสี้ยวความรักตรงไหนเลยเนี่ย

น้องพาพี่เมษมาทำงานมุมเดิมของมันเป็นที่เรียบร้อย พวกไอ้พิชญ์ดีใจเฮกันยกใหญ่ เอาขนมเอาน้ำมาเซ่นพี่มันน่าดู การมีคนมาช่วยงานจิปาถะเล็กๆ น้อยๆ ถือเป็นเรื่องดีครับ จริงๆ แฟนไอ้พิชญ์ก็เคยมาช่วยบ้าง แต่เขาเป็นผู้หญิงไง จะให้อยู่มืดค่ำก็เกรงใจ

“เออ พรุ่งนี้พี่มีสอบรึเปล่า ผมลืมถามอีกแล้วง่า” น้องเดินมาหามันที่มุมห้อง มันกำลังตั้งใจใช้คัตเตอร์กรีดกระดาษมาก

“ไม่ถามกูพรุ่งนี้เลยล่ะ ไม่มี” แขวะก่อนค่อยตอบอีก คนเรา “ถ้ามีกูจะมามั้ย คิดหน่อยสมองน่ะ”

“แค่นี้ต้องด่าด้วย...ใจร้ายว่ะ” แอบน้อยใจอ่ะ โดนมันด่าแรงๆ ทุกทีเลย ไหนใครๆ ว่ามึงชอบกูไงพี่!

“กูก็ใจร้ายแบบนี้แหละ ไม่เห็นต้องคิดมากอะไรนี่” พี่มันว่าแล้วทำเชิดหน้าใส่ คือไม่ได้เชิดแบบนางเอกหนังไทยนะ แค่หันหน้าหนีน้องไปอีกทาง พอน้องตามไปนั่งใกล้ๆ มันก็เขยิบหนี แล้วก็หันหลังให้เลย “เกะกะ ไปทำงานมึงไป”

“จะดูไง ว่าพี่ไม่ได้หลับในตัดจนมันเบี้ยว” แค่จะแหย่มันเล่นเท่านั้นแหละ ไม่ได้จะดูอะไรหรอก มันตัดให้มาหลายรอบแล้ว ไม่เคยมีพลาด แกล้งเข้าไปนั่งเบียดมันหน่อย น้องเอียงตัวไปหามัน จนไหล่เกยกัน ทำทีเป็นชะโงกหน้าดูจริงจัง พี่มันก็เอียงตัวหลบ นี่มึงเขินสินะ พี่เมษ ไม่เคยเห็นมันเขินน้องมาก่อนเลย (หรือเคยแต่น้องไม่ได้สังเกตเองหว่า)

“กูไม่ทำงานมึงพังหรอกน่า ไม่ไว้ใจก็ไม่ต้องให้ช่วยสิวะ” แน่ะๆ หูแดงแล้วพี่ ไม่เนียนเลย ทำไมมันเขินแล้วน่ารักวะ พอได้อยู่ใกล้ๆ แล้วสังเกตดีๆ ก็รู้เลยว่ามันไม่ปกติ

“ไม่ได้ไม่ไว้ใจ อยากดูแป้ปเดียว ไม่ได้เหรอครับ” คราวนี้ลองยื่นหน้าไปข้างๆ หน้ามัน โอ๊ะ! พี่แม่งหน้าแดงเว้ย มันเอาศอกดันท้องน้องแล้วจะหันมาไล่หรือจะด่าก็ไม่รู้ แต่พอหันมาเจอหน้าน้องจังๆ แม่งอึ้งเว้ย

น้องก็อึ้ง เพราะหน้าเราอยู่ใกล้กันมาก

“ทำเหี้ยไร! ไอ้เห็ดมึงมาพ่นสีเลย อย่าไปกวนพี่เขา เดี๋ยวงานไม่เสร็จ!” สัส พิชญ์! แม่งเอาตีนถีบน้องหน้าเกือบคว่ำลงกองกระดาษ เกิดโดนคัตเตอร์หน้าแหกขึ้นมาทำไงวะ! ดีนะพี่มันเบี่ยงตัวหลบทัน เพราะมันคงเห็นตีนไอ้พิชญ์ก่อนน้องแล้ว ไม่งั้นคง...ไม่อยากจะคิดภาพเลยกู

น้องก็เลยต้องเลิกแกล้งพี่เมษแล้วไปทำงานต่อ กำลังจะ...จะอะไรวะ? เออ นั่นสิ จะอะไร? เอ้อ น้องนี่ท่าจะเพี้ยนแล้วล่ะ ก็พี่เมษเขินมันน่ารักดีนี่นา

และแล้วคืนนั้น ก็มัวแต่ทำงานกันยาวไป เกือบตี 5 เพิ่งเสร็จ ทุกคนขอบคุณพี่เมษที่มาช่วยกันยกใหญ่ ก่อนจะแยกย้ายไปนอนพักรักษาตัว บางคนก็นอนที่สตูฯ เลย เช้าค่อยอาบน้ำแต่งตัว เอางานไปส่งก่อนเที่ยง เป็นอันปิดจ๊อบบบบบบ

ส่วนน้องนอนที่สตูฯ ครับ เพราะหอยังไม่เปิด พี่เมษก็เช่นกัน เช้าค่อยกลับหอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

“พี่ หมอน” น้องยื่นหมอนประจำของตัวเองไปให้พี่เมษ มันรับไป แต่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนก็ยังจะสงสัย

“แล้วมึงนอนไง?”

“เดี๋ยวผมฟุบหน้าบนโต๊ะก็ได้” เพราะบางทีก็โดนขโมยหมอน นอนกับโต๊ะกับพื้นจนชินแล้ว

“งั้นมึงเอาหมอนไปเหอะ กูนอนที่โต๊ะเอง” พี่เมษยื่นหมอนคืนมา

“ไม่เป็นไร พี่นอนเหอะ ผมนอนได้ ชินแล้ว” น้องดันหมอนกลับไป แล้วเตรียมจะเดินไปนั่งหลับ พลันรู้สึกถึงแรงดึงที่ข้อมือ พอหันไปมอง พี่มันก็กระตุกแขนให้นั่งลงข้างๆ

“มึงหนุนหมอน กูจะหนุนแขนมึง โอเคป่ะ?” มันเอาหมอนวางลงบนพื้น ดันตัวน้องให้ลงไปนอน

“ผมก็ปวดแขนอ่ะดิ”

“งั้นกูนอนที่โต๊ะ”

“เฮ้ยๆๆๆ” น้องรีบคว้าตัวมันไว้แล้วจับให้นอนลงหนุนแขนน้องทันที ก็มันทำท่าจะลุกไปจริงๆ “หนุนแขนผมก็ได้ ตามสบายเลยพี่”

พี่เมษมันถอนหายใจแรงทีหนึ่งก่อนจะขยับตัวมานอนทับต้นแขนที่น้องยื่นออกไปรอไว้ แล้วก็พลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้ คือนอนหงายมันก็เมื่อยง่ะ น้องเลยหันตามมันไป

ทุกทีไม่เคยนอนมองพี่มันจากข้างหลังแบบนี้หรอก แต่เพราะไอ้พวกเพื่อนชั่วมันพูดให้คิดมาก น้องก็เลยรู้สึกแปลกๆ กับแผ่นหลังเล็กๆ ของพี่มันขึ้นมา ไม่รู้ว่ามันหลับไปแล้วหรือยัง แต่น้องก็นอนมองมันเพลินจนเปลือกตาเริ่มจะปิดลงเรื่อยๆ...
............
........
.....
...
“...ด ไอ้เห็ด...!”

โอยยย เสียงอะไรหนวกหูแต่เช้าวะ แต่กลิ่นหอมๆ กับหมอนข้างอุ่นๆ เนี่ยแม่ง...โครตสบายจนไม่อยากตื่นเลย อย่าเพิ่งปลุกกูได้มั้ยวะ

“ไอ้เหี้ยเห็ด! ตื่น!”

ไม่ใช่แค่เสียง มันเจ็บๆ ที่ท้องด้วยอ่ะ อือออ น้องง่วงน้า อย่ากวนได้ม้ายยย

“เดี๋ยวมันก็ตื่นพี่ ลองตบหน้ามันแรงๆ ดิ” แล้วนี่เสียงใครอีกวะ แม่ง รบกวน “พวกผมไปอาบน้ำกันก่อนนะ ตามสบายเลยพี่”

“ตามสบายบ้านพ่องสิสัส! ช่วยกูก่อน ไอ้พิชญ์! โว้ย ไอ้เหี้ยเห็ด!”

เพี๊ยะ!!

“โอ๊ยยยยยย” น้องสะดุ้งโหยง ตื่นเต็มตาเลยกู แถมเจ็บที่แก้มซ้ายจี๊ดๆ “พี่ทำอะไรผมเนี่ย!?” คู่กรณีแม่งมีหน้ามานอนจ้องตาเขม็งใส่อีก ปั๊ดดึงแขนออกให้หัวมันโขกพื้นเลยนี่

“ลุกไปเดี๋ยวนี้! จะกลับหอ!” พี่เมษโวยวายหน้าตาถมึงทึงอย่างกับปิศาจในคอนจูริ่ง หน้าก็แดงเป็นกวนอูเลย ฮ่าๆๆๆ ตลกว่ะ แอบขำในใจ เดี๋ยวมันด่าเอา

“กี่โมงแล้วอ่ะ” น้องยังไม่ยอมลุก แถมแขนที่พาดกอดบนตัวมันก็ไม่ยอมเอาออกด้วย คราวก่อนกูยอมให้มึงก่าย คราวนี้ตากูมั่งแล้วพี่

“จะเก้าโมงแล้ว ลุกเดี๋ยวนี้!” แน่ะ ยังโวยวายอีก ตอนนี้ตื่นกันหลายคนแล้ว บางคนก็กลับหอ บางคนเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำหลังตึก และหลายคนก็เดินผ่านเราไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่มันเลยไม่ค่อยกล้าดิ้นมากเท่าไหร่ มันคงอาย

“พี่ไม่มีสอบไม่ใช่เหรอวันนี้ นอนอีกแป้ป เดี๋ยวค่อยไป” ว่าแล้วก็รัดแขนกอดมันแน่นขึ้นอีก นอนต่อดีกว่า

“กูไม่ใช่หมอนข้าง!” มันเริ่มดิ้น เอามือดันอกน้องไว้ น้องหลับตาพริ้ม อา...สบาย

“ผมก็ไม่ใช่หมอน ยังยอมให้พี่หนุน” อิๆ แล้วพี่เป็นคนบอกเองด้วยนะว่าจะหนุนแขนน้อง เอาสิ

“ไอ้!” ได้ยินเสียงมันกัดฟันกรอดๆ แล้ว สงสัยจะโมโหจริงว่ะ ยอมตื่นก็ได้ ชิ

“เออๆ ตื่นแล้วๆ” น้องเอาแขนที่พาดตัวมันออก ปล่อยให้มันลุกไปก่อน แล้วค่อยลุกขึ้นตาม มันรีบเดินหนีออกจากห้องเลย คงจะอายสายตาประชาชีที่เดินสวนไปมา น้องก็เดินตามมันไป

“กลับหอเลยเหรอพี่” น้องเกาหัวแกรกๆ ตามมันมาที่มอไซค์คันที่มันยืมเพื่อนมาเมื่อคืน

“เออ จะเอารถไปคืนเพื่อน” มันว่าพลางขึ้นไปนั่งคร่อมบนมอไซค์ น้องหาววอด ยืนมองมันสตาร์ทรถ

“แล้วสอบเสร็จเมื่อไหร่ จะกลับบ้านวันไหน”

“ถามเพื่อ?” มันมองหน้าน้อง เตรียมจะบิดรถหนีเต็มที่

“อยากรู้ไม่ได้เหรอ น้องส่งงานวันนี้ก็ปิดเทอมแล้วนะ ถ้าพี่ยังไม่กลับบ้าน จะได้อยู่เป็นเพื่อนก่อนไง” น้องเปลี่ยนมาใช้สรรพนามแบบที่ใช้กับที่บ้าน ไม่ได้เผลอ แต่ตั้งใจ พี่มันอึ้งไปนาน แล้วหน้ามันก็ค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ

“อย่าพูดกับกูแบบนั้น!” มันเขินเว้ยเฮ้ย โอ๊ย น่ารักว่ะ พี่เมษเม้มปากใหญ่เลย

“ทำไมอ่ะ? พี่ก็เห็นว่าอยู่บ้านน้องพูดแบบนี้ อยู่กันมาเทอมนึงแล้ว น้องอยากพูดกับพี่เมษแบบนี้บ้าง” ทำตาวิ้งๆ ใส่ด้วยเอ้า ยอมกูซะดีๆ พี่เมษ

“ไอ้!” มันทำท่าฮึดฮัดใส่ใหญ่เลย ฮ่าๆ

“แล้วว่าไง จะบอกน้องได้รึยังครับ ว่ากลับบ้านวันไหน” ยื่นหน้าไปถามใกล้ๆ เลยนี่ เอาให้เขินหนักๆ เลย อายคนเดินผ่านไปมาหน้าคณะมั้ยล่ะพี่เมษ เด็กปี 1 ก็มากันเต็มเลยเนี่ย ดูสิดู ความเป็นต่อของน้องนี้ ช่างรู้สึกดีฝุดๆ!!!

“อ่ะ...วะ...” มันเอียงหน้าหลบ แก้มนี่แด้งแดง “วันเสาร์นี้!”

“ก็แค่เนี้ย งั้นน้องจะอยู่ด้วยจนถึงวันเสาร์นะครับ” แล้วน้องก็หมุนตัวเดินหนีมันอย่างอารมณ์ดี ไปอาบน้ำแต่งตัวเอางานไปส่งจารย์ดีฟ่า อิๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.9 update 1/3/18 8:41pm
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 02-03-2018 14:18:10
ถ้าพี่ตัวเล็กได้ยินคงเสียใจน่าดู  :o12:
แอบนอยนิดหน่อย คิดว่า
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.10 update 2/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-03-2018 03:34:46
ตัวใหญ่ อย่าลืมไปส่งตัวเล็กถึงบ้านด้วยนะ เด๋วพี่เขาหลง นาน ๆ ได้กลับบ้านซะที  :m12:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.10 update 2/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 03-03-2018 14:21:28
น้องเห็ดรุกหนักมากกกก เป็นพวกดับเครื่องชน ตามที่บอกไ้วในแนะนำตัวละคร อิๆ

ขอบคุณคอมเม้นท์เพียงหนึ่งเดียวของเราด้วย แค่มีคนอ่านก็ดีใจแว้ววว
เดทแรกของเราก็ดูหนังผีเหมือนน้องเห้็ดเป๊ะเลย ดูดิอายภาคแรก ฮ่าๆ

11
จากที่ไม่เคยสังเกต ไม่ได้ใส่ใจท่าทางแปลกๆ หน้าแดงๆ ของพี่เมษ ตอนนี้น้องกลับรู้สึกสนุ๊กสนุกที่ได้มองพี่มันเขิน พอมานึกๆ ดู มันก็เหมือนจะเขินบ่อยนะ เวลาน้องเข้าไปใกล้ๆ จากที่ไม่ได้คิดอะไร น้องก็เริ่มคิด มันก็ไม่ค่อยชัวร์หรอก แหม ก็ผู้ชายเหมือนกัน จะให้คิดเข้าข้างตัวเองมากไปว่าพี่มันชอบก็ยังไงอยู่ แล้วน้องก็ไม่ได้มีตรงไหนเหมือนผู้หญิงเลยด้วย นิสัยก็ออกจะแย่มั้ง โดนเพื่อนว่าบ่อยๆ พี่มันก็ยังชอบด่าน้องเลย แต่ทำไมมันถึงได้ดูเหมือนจะชอบน้องนะ ไม่เข้าใจว่ะ

“พี่ ทำไร” วันนี้น้องเข้าสู่ช่วงปิดเทอมแล้ว ส่วนพี่มันเหลือสอบวิชาสุดท้ายพรุ่งนี้ วันนี้มันเลยอ่านหนังสือตั้งแต่เช้า พอบ่ายกว่าๆ น้องกลับมาจากคณะ เพราะไปคุยกับอาจารย์เรื่องงานที่ส่งเมื่อวาน ก็เห็นมันเลิกอ่านหนังสือ ลงไปนั่งพิงผนังห้องอยู่บนเตียง ใส่หูฟัง ฟังอะไรสักอย่างอยู่

น้องเดินเข้าไปหามันตรงข้างเตียง มันเงยหน้ามอง แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ เสียงเพลงดังทะลุออกมาเล็กน้อย “พี่ ฟังเพลงเหรอ? ดังลั่นเชียว เดี๋ยวหูก็แตก” น้องยื่นมือไปจะดึงหูฟังมันออกข้างหนึ่ง แต่มันเอามือมาปัดออก แล้วมองหน้าน้องคล้ายจะไม่ค่อยพอใจ น้องเลยพุ่งตัวลงไปนั่งข้างหน้ามัน พี่เมษรีบยกขาสองข้างขึ้นกั้นไว้ ยอมดึงหูฟังออกข้างหนึ่งด้วยตัวเอง

“มีอะไรวะ” มันขมวดคิ้วใส่

“ฟังไรอยู่ เสียงดังเดี๋ยวหูพังนะ” น้องยักคิ้วให้มันแล้วดึงหูฟังข้างที่มันเอาออกมาเสียบเข้าหูตัวเอง “โห ฟังแนวนี้ด้วยเหรอ”

“ไม ฟังไม่ได้ไง?” ดูมันถลึงตาใส่อีก

“เปล่า ผมก็ชอบฟังไง เพิ่งรู้ว่าพี่รู้จักด้วย” เพลงที่มันฟังหลายคนอาจจะไม่รู้จัก เพราะเป็นเพลง J-Rock ของวง OLDCODEX ซึ่งน้องก็เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าแม่งโครตเจ๋ง ที่โดนๆ อีกวงก็ Crossfaith

“กู...เห็นในเครื่องมึง” หืม? “ก็เมื่อคืนเอาโทสับมึงมาเล่นไง”

“อ๋ออออ” นึกออกละ เมื่อคืนกลับมานอนที่ห้องด้วยกัน (คนละเตียงน่า) แล้วพี่มันนึกไงไม่รู้ ยึดมือถือน้องไปเล่นซะงั้น

“เจ๋งดี แต่ไอ้ต้าคงร้องไม่ไหว ภาษาญี่ปุ่น ฮ่าๆ” มันหัวเราะแล้ว อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายเดือน น้องไม่เคยมองหน้ามันใกล้ๆ แบบนี้มาก่อนเลยมั้ง หลังจากนี้คงต้องสังเกตสีหน้าพี่มันมากกว่านี้แล้วล่ะ สงสัยจะมัวแต่สนใจอย่างอื่นมากไปหน่อย

“แต่ผมร้องได้นะ” น้องยิ้มกว้างอย่างภูมิอกภูมิใจ ก็ฟังอยู่แทบทุกวัน แล้วจริงๆ น้องก็สนใจภาษาญี่ปุ่นมาตั้งแต่ม.ปลายแล้ว เสียดายที่ไม่ได้เรียนอักษร

“จ้า พ่อคนเก่ง!” ดูมันดิ ไม่รู้เชื่อหรือเปล่า แต่แม่งแกล้งเอามือมาดึงแก้มน้องโยกหน้าไปมาซะงั้น ปั๊ดงับแขนซะเลย

“พรุ่งนี้สอบเสร็จกี่โมงครับ” ดึงแก้มกูนักใช่ม้ายยยย เดี๋ยวน้องจะจัดลูกหยอดเด็ดๆ เอาให้พี่มันเขินตัวม้วนเลย ว่าแล้วก็คว้าแขนมันทั้งสองข้างที่กำลังยืดแก้มน้องเนี่ยแหละ เบียดตัวชิดกับขาที่มันยกขึ้นกั้นไว้ ยื่นหน้าไปใกล้ๆ ให้มันตัวเกร็งเล่นสักหน่อย

“ไอ้เห็ด! ถอยไปเลย!” หน้ามันเริ่มแดงแล้ว น่ารักว่ะ มันพยายามดึงแขนออกจากมือน้องใหญ่เลย ยิ่งเบียดเข้าไปหา มันก็ยิ่งเอนตัวหลบ ทั้งที่หลังก็ชิดผนังอยู่ เลยกลายเป็นว่าไหลลงไปนอนบนเตียง มีน้องตามไปคร่อมไว้

“ตอบน้องก่อน สอบเสร็จกี่โมง” ทำไมฉากนี้เหมือนน้องกำลังจะปล้ำมันวะ...เออ ช่างแม่งเหอะ ไม่ได้จะทำอะไรนะเว้ย แค่กดไว้ไม่ให้มันหนีเฉยๆ

“บอกว่าอย่าเรียกตัวเองแบบนั้นกับกู!” ไอ้พี่เมษแม่งดิ้นใหญ่เลย แถมหน้าก็แดงจนเหมือนกางเกงในซูเปอร์แมนอีก (ช่างเปรียบเทียบได้...)

“พี่ก็บอกสิว่าสอบเสร็จกี่โมง” น้องเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ ถ้าไม่บอกจะจี้เอวมันให้กระโดดเลย

“แล้วจะทำไมกูล่ะ” มันโวยวายหน้าดำหน้าแดงใส่ พี่อย่าทำหน้าตาน่ารักดิวะ

“จะพาไปฉลองสอบเสร็จ” แล้วน้องก็ผละออกมาจากตัวมัน นั่งลงข้างเตียง “ผมบอกแล้ว ตอบของพี่มาสิ”

“บ่ายสาม!” เออ ก็แค่นั้นแหละ วุ้

******

วันต่อมา น้องตื่นมาพร้อมพี่เมษ กะจะขับมอไซค์ไปส่งมันที่คณะ และรอรับมันหลังสอบเสร็จด้วยเลยทีเดียว ยังอยู่ในมหาวิทยาลัย น้องก็เลยเลือกใส่ชุดนักศึกษาตามปกติไปนั่งรอมันที่คณะรัดสาด จะได้ไม่ดูโดดเด่นเป็นเป้าสายตามากนัก

“ไม่ต้องมารอก็ได้นะ” พอลงจากมอไซค์ปุ๊บ มันก็ถอดหมวกกันน็อคยื่นมาให้แล้วว่าอย่างนั้น

“ไม่เป็นไร ผมว่าง” เคลียร์ทุกคิวเพื่อมารอพี่เลยเนี่ย จริงๆ เพื่อนในคณะนัดไปเที่ยวกันก่อนกลับบ้านนะ ส่วนใหญ่จะกลับพรุ่งนี้เช้ากัน แต่บางคนอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ ก็กลับตั้งแต่เมื่อวานแล้วก็มี

“ไปหาอะไรทำก่อนก็ได้ มานั่งรอเฉยๆ เดี๋ยวเบื่อ”

“เป็นห่วงผมเหรอ” ยักคิ้วยิ้มมุมปากให้มันทีนึง แม่งเขินเลยวุ้ย โอ๊ย น่ารักอีกแล้วพี่เมษกู เห็นแล้วใจไม่ดีอย่างแรง อย่าเขินบ่อยสิพี่ เมื่อก่อนไม่เห็นน่ารักอย่างนี้เลย

“ไม่ได้ห่วง แค่กลัวเบื่อ อย่าแกล้งโง่” เอาจริงๆ ก็อยากแกล้งโง่ ตีเนียนกับมันไปเรื่อยๆ นะ แต่ดูท่าอย่างพี่มันไม่มีทางลงมือก่อนแน่นอน เหมือนมันแค่อยากดูแล เทคแคร์ โดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทนกลับไปเลย ไม่อย่างนั้นมันต้องรุกจีบน้องแล้ว ถ้ามันชอบน้องจริงๆ อ่ะนะ

อืม...แต่ก็น่าจะชอบแหละ เล่นเขินซะขนาดนี้ หรือถ้ายังไม่ได้ชอบ น้องก็จะทำให้มันชอบเอง

ก็ถ้าพี่เมษไม่รุกก่อน น้องจะเริ่มเองเลยแล้วกัน แม้ชีวิตนี้จะไม่เคยจีบใครมาก่อนก็เหอะ แต่น้องก็ไม่ได้ใสซื่อหรือโง่จนเกินไปสักหน่อย รู้หรอกว่าต้องทำตัวยังไง เพื่อจะเข้าหาพี่มัน เอ๊ะ...แล้วมันเกี่ยวกับที่พี่เมษพูดเมื่อกี้ตรงไหนวะ เออ ช่างแม่งเหอะนะ

“ผมบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ไม่เบื่อ ไม่งอแง จะรออยู่เงียบๆ เป็นเด็กดี สัญญาเลย” ชูสามนิ้วแบบลูกเสือสามัญก็มาครับงานนี้ น้องเด็กดี ไว้ใจได้เลย ทำตาวิ้งๆ ใส่ด้วยเห็นมะๆ กูน่ารักล่ะสิพี่เมษ!

พี่เมษมันเหลือบตาขึ้นมองหน้าน้องอย่างเซ็งๆ แล้วมันก็ขมวดคิ้วใส่ “กวนตีน” อ้าว? ด่ากูซะงั้นอ่ะ “กูไปละ ขี้เกียจเถียงกับมึง งี่เง่า น่ารำคาญ” บ่นไปอีก

“บ่นเป็นตาแก่เลยพี่ ตั้งใจทำข้อสอบนะคร้าบ น้องรออยู่ใต้ตึกนะจ๊ะ จุ๊บๆ” ส่งจูบให้กำลังใจมันหน่อยครับ อิๆ พี่เมษแม่งเดินฉับๆ หนีไปเลยว่ะ ฮ่าๆ สงสัยเขินจัดแน่นอน

******

ระหว่างนั่งรอพี่เมษใต้ตึกคณะรัดสาด น้องก็หยิบมือถือมาเล่นเกมเพลินๆ เกมนี้ไอ้กันต์แนะนำมา เห็นมันเล่นประจำ ไม่ใช่พวก ROV ที่เขาฮิตๆ กันหรอก ไอ้กันต์มันชอบเล่นอะไรที่คนเขาไม่เล่นกัน ฮ่าๆ สายรหัสน้องมันโครตแนว แนวประหลาดเหี้ยๆ ถุ้ย!

“อ้าว? น้องเห็ด มารอไอ้เมษเหรอวะ” น้องหันไปตามเสียงเรียก เจอพี่จอนเดินลงมาจากบนตึก

“ครับ พี่สอบเสร็จแล้วเหรอ”

“เสร็จแล้ว กูสอบคนละตัวกับมันอ่ะ มึงปิดเทอมแล้วป่ะวะ เห็นไอ้พิชญ์มันขนของกลับบ้านเมื่อเช้า” พี่จอนนั่งลงข้างๆ น้อง ชะโงกหน้ามาดูเกมที่กำลังเล่น

“ก็ปิดแล้วแหละพี่” น้องตอบโดยที่ตาก็ยังจ้องเกมในมือ ต้องใช้สมาธิครับเกมนี้

“แล้วมึงไม่กลับบ้านเหรอวะ”

“กลับพี่ แต่อยู่เป็นเพื่อนพี่เมษ” พอน้องตอบไปแบบไม่ได้คิดมากอะไร ไอ้พี่จอนก็เงียบอย่างนาน จนน้องนึกว่ามันกลับหอไปแล้ว

“ทำไมต้องอยู่เป็นเพื่อนวะ พวกมึงนี่สนิทกันแปลกๆ ขึ้นทุกวันนะ” เสียงมึงนี่แหละแปลกพี่ น้องเงยหน้ามองมันอย่าง งงๆ

“ยังไงพี่?”

“ก็...ปกติรูมเมทเขาต้องตัวติดกันขนาดนี้มั้ยอ่ะ กูกับไอ้พิชญ์อยู่กันมาเป็นปีแล้ว ยังไม่เห็นสนิทสนมเท่าพวกมึงเลย”

“นั่นมันไอ้พิชญ์กับพี่ไง แต่นี่มันผมกับพี่เมษ” น้องยิ้มหวานตอบมันไป แล้วก้มหน้าเล่นเกมต่อ มึงจะสงสัยไรก็สงสัยไปพี่จอน โนสนโนแคร์ครับผม

“คือกูก็ไม่ได้จะว่าไรนะเว้ย แค่สงสัยเฉยๆ ถามจริงนะไอ้เห็ด” พี่จอนมันทำเสียงจริงจังขึ้นมา น้องเลยยอมหยุดเล่นเกม รอฟังมันพูดอย่างลุ้นๆ “พวกมึง...”

“ไอ้จอน! ไอ้เห็ด! คุยไรกันวะ” ไม่ทันที่พี่จอนจะได้อ้าปากถาม พี่นัดกับพี่เมษดันมาพอดี พี่นัดวิ่งมานั่งเบียดน้องทันที

“เล่นเกมไรวะมึง”

“True Fear” น้องตอบพลางกดหาคำใบ้ต่อ มันเป็นเกมแนวสืบสวนสยองขวัญ ต้องหาของที่จะใช้เป็นคีย์เวิร์ดในการเปิดด่านต่อไป และไขความจริงเกี่ยวกับการหายตัวไปของพี่สาวของตัวเอกในเรื่อง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากแม่ของพวกเธอตายไม่นาน เนื้อเรื่องโอเค ภาพพอใช้ได้ วิธีเล่นก็ไม่ยากเย็นอะไร แต่พอเล่นแล้วแม่งติดงอมแงม นี่น้องก็เล่นใกล้จบภาคแรกละ ไม่อยากจบเร็วไป เพราะภาคสองแม่งยังไม่มา

“หลอนสัส สนุกเหรอวะ” ไอ้พี่นัดมันมาดูตอนมูฟวี่ผีโผล่พอดี พี่เมษนั่งลงตรงข้ามน้อง เพราะพี่จอนพี่นัดแม่งขนาบข้างกูหมดละ

“หนุกดิพี่ เพลินดี” น้องตอบพี่นัดแล้วเงยหน้าไปมองพี่เมษ “ไปยังพี่”

“เฮ้ยๆ เดี๋ยวนะพวกมึง นี่ไอ้เห็ดมารอไอ้เมษเหรอวะ” โห พี่นัด นี่มึงเพิ่งจะรู้ตัวเหรอ เขาจะไปกันอยู่แล้ว

น้องพยักหน้าให้พี่นัด เตรียมจะลุกตามพี่เมษไปที่รถ

“ไปไหนกันวะ” ไอ้พี่จอนตะโกนไล่หลังมา พี่เมษมันคงกลัวเพื่อนแซว ที่มีเด็กมานั่งรอ เลยรีบโบกมือลา เดินลิ่วๆ ไปก่อนเลย

น้องหันไปมองพี่เมษแล้วก็หันกลับไปยิ้มให้พวกพี่จอน ก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัดด้วยคำที่เรียนรู้มาจากไอ้พิชญ์เรียบร้อยแล้วว่า

“ไปเดทครับ”

เป็นไงล่ะพวกพี่มึง อึ้งแดกกันเลย อิๆ

“คุยเหี้ยไรนักหนา แล้วจะกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องก่อนป่ะเนี่ย” เดินมาถึงมอไซค์ ไอ้พี่เมษก็ใส่น้องใหญ่เลย แค่หันไปตอบพี่จอนพี่นัดไม่ถึง 10 วิเนี่ยนะ...โธ่ ชีวิต

“ก็ดีครับ แล้วขนของที่จะเอากลับบ้านไปด้วยเลยนะ” น้องให้มันช่วยใส่หมวกกันน็อคไปคุยกันไป พี่มันขมวดคิ้วทันที

“เอาไปทำไม”

น้องยิ้มหวานแล้วโน้มตัวลงไปคุยใกล้ๆ ให้พี่มันตกใจเล่น

“เพราะคืนนี้ เราจะไม่กลับมาที่หอแล้วครับ”

******

ตอนแรกมันก็บ่นๆ เหมือนไม่อยากมาค้างกับน้องนอกหอนะ แต่สุดท้ายก็ยอมหอบข้าวของตามมา ซึ่งคนหอบมันน้องชัดๆ! พี่เมษแม่งชอบใช้แรงงานเด็กอ่า แย่ๆ น้องนี่ทั้งกระเป๋าเดินทาง (ใบเล็ก) เป้สะพายบนหลังแล้วยังมีกระเป๋าหิ้วกลมๆ อีกใบ ส่วนพี่เมษแบกแค่กีต้าร์ตัวเดียว...ครับ แล้วไม่ได้ขี่มอไซค์กลับไง ต้องนั่งรถตู้

“แค่ไม่ถึงเดือน มึงขนไรนักหนาวะพี่” หนักไม่เท่าไหร่ แต่แม่งรุงรังครับ!

“ของฝากที่บ้าน หนังสือเรียน”

“มิน่าแม่งหนักๆ พิกล” ไอ้กระเป๋าเดินทางนี่คือกองหนังสือในห้องที่มันเก็บกลับบ้านสินะ ขยันไปไหนวะ

“บ่นมาก กูกลับก็ได้นะ” มีเบะปากใส่ ทำงอนอีกคนเรา

“ไม่บ่นๆ เดี๋ยวผมเรียกอูเบอร์มารับ เอาของไปไว้คอนโดน้าผมก่อนนะ” น้องว่าพลางกดมือถือเปิดแอพอูเบอร์ ระบุพิกัดเรียบร้อย ยืนรอไม่ถึง 10 นาที รถยนต์คันที่เลือกไว้ก็มาจอดรับเราไปที่คอนโด

“นี่แค่จะพากูมานอนนอกสถานที่แค่เนี้ย?” มาถึงที่ห้องน้า ไอ้พี่เมษก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงทันที คือมันเลิกบ่ายสาม กว่าจะมาถึงกทม.ก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว เริ่มจะมืด

“เดี๋ยวไปดูหนังกัน” น้องเตรียมแพลนมาแล้วครับ กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึก กลับมานอนที่ห้อง พรุ่งนี้เช้าจะยืมรถยนต์ของน้าที่จอดทิ้งไว้ไปส่งมันที่บ้าน เป็นไงแผนการของน้อง

“ตอนนี้เนี่ยนะ?” พี่มันเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งมองน้องที่กำลังหากุญแจรถในลิ้นชัก

“กินข้าวก่อน แล้วดูรอบ 3 ทุ่ม” เช็คมาเรียบร้อยละ มีหนังผีตอนสามทุ่มกว่าๆ พอดี พี่เมษมันก็ชอบดูหนังผี น้องหากุญแจเจอพอดี หันไปคว้าแขนพี่เมษให้ลุกขึ้น

“ช่วงนี้มึงแปลกๆ นะ” จู่ๆ พี่มันก็พูดขึ้น เมื่อเราเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยและน้องเตรียมสตาร์ทรถขับออกไปจากลานจอดของคอนโด

“ยังไงล่ะ?” น้องถามพลางเลี้ยวรถวนออกไปเรื่อยๆ ตามทางลาดลงของลานจอดรถ จนออกไปสู่ถนนหน้าคอนโด นานๆ ขับทีไม่ค่อยชินหรอก ไม่เหมือนมอไซค์ มันซอกแซกได้มากกว่า

“ก็...ไม่เหมือนปกติไง”

“แล้วมันยังไงล่ะ” จริงๆ น้องรู้ตัวนะว่าทำอะไรอย่างที่ไม่คิดว่าจะทำกับมัน และมันก็คงไม่เคยคิดว่าน้องจะทำ งงมั้ย เออ น้อง งง โอเคป่ะ เอาเป็นว่า ถ้าจะจีบพี่มัน น้องคงต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง จากคำแนะนำของเพื่อนผองที่น่ารักทั้งหลาย อย่างแผนการออกเดทนี้ ไอ้พิชญ์ก็ช่วยคิดให้ แม้มันจะดูธรรมดาๆ แต่ก็ครั้งแรกป่ะวะที่ทำแบบนี้

“ก็มึงแปลกอ่ะ ไม่เหมือนตัวมึงเมื่อก่อน!” พี่มันเริ่มโวยวายใส่ละ ทำไมมึงขี้โวยจังวะพี่เมษ เมื่อก่อนน้องอาจจะไม่ชอบเวลามันหงุดหงิดใส่ แต่ตอนนี้โครตชอบหน้ามันตอนหงุดหงิดเลย เพราะเรื่องที่มันหงุดหงิดคือเรื่องของน้อง

“ผมก็อย่างนี้แหละ พี่แค่ไม่เคยรู้” ถึงห้างพอดีเลย ก็คอนโดมันใกล้ห้างนี้จะตาย “ไปหาไรกินก่อนนะพี่”

“อือ”

น้องพาพี่เมษมานั่งกินอาหารญี่ปุ่นร้านดัง แต่เป็นอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไทยๆ นะ ฮ่าๆ พวกเรากินอะไรเหมือนๆ กันหลายอย่าง เลยเลือกร้านง่ายดี

น้องสั่งเมนูที่พี่เมษชอบกินมาอย่างละ 2 เพราะน้องกินด้วย ซาชิมิปลาทูน่าของโปรดของพวกเรานั่นเอง ซูชิหน้าหอยปีกนกชุดหนึ่ง ซูชิมิโสะชุดหนึ่งแบบรวมหน้าปลาดิบ ยำปลาโอ แล้วก็สลัดแซลม่อน กับชาเขียวเย็น

“ผมจำได้หมดเลยนะ ว่าพี่ชอบกินอะไร” น้องว่าพลางตักวาซาบิในจานซูชิไปใส่ถ้วยโชยุแล้วคนๆ ส่งให้พี่เมษ

“กูก็จำได้ว่ามึงชอบกินอะไร” แหม ไม่ยอมน้อยหน้านะคนเรา

น้องอมยิ้มนิดๆ “งั้นก็เอามาป้อนผมสักชิ้นสิ รู้นี่ว่าผมต้องกินอะไรก่อน”

“ทำไมกูต้องป้อน” มันขมวดคิ้ว แต่แก้มนี่แดงแป้ด

“เร็วดิ อ้า~” อ้าปากรอแล้ว อย่าให้น้องคอยเก้อ ส่งสายตาวิ้งๆ ขยิบตาให้มันเลือกซูชิใส่ปากน้อง พี่มันทำฮึดฮัดบ่นอุบอิบ แต่ก็คีบซูชิหน้าปลาทูน่าเนื้อแดงน่ากินยื่นมาให้

“งับๆ เข้าไปดิ” ดูมัน...บอกให้ป้อนเว้ยยย แต่เอาเหอะ แค่นี้ก็โอเคแล้ว ยอมก้มลงไปกินเองก็ได้ แต่ไม่กินเฉยๆ นะ คว้ามือมันไว้แน่นแล้วเลียตะเกียบให้ด้วย “ไอ้เห็ด! ทำเหี้ยไร!” มันกระตุกแขน ดุเสียงเข้ม แต่ไม่กล้าส่งเสียงดังพลางเหล่ตามองรอบข้าง ซึ่งไม่มีใครมองหรอก

“ก็ข้าวมันติดตะเกียบอ่ะ” น้องปล่อยมือมันออกแล้วเงยหน้ามากะพริบตาปริบๆ หน้าตาใสซื่อสุดๆ บอกเลย เค้าแค่ไม่อยากให้ตะเกียบพี่เลอะข้าวไง ทำไมเหยอ???

พี่เมษมันเลยเงียบ ไม่เถียงต่อ แถมหน้าโครตแดงอ่ะ ฮ่าๆ

จบการกินข้าวเย็นแสนสุขีของน้อง เพราะได้พี่เมษคอยป้อนให้ตลอดเลย เพิ่งรู้นะว่าการที่มีพี่เมษมาคอยเทคแคร์มันดีอย่างนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้มันเหมือนเป็นเรื่องปกติจริงๆ น้องไม่ทันรู้สึกอะไรหรือคิดอะไร เพราะชินกับการมีคนดูแลอยู่แล้ว แต่อย่างที่ไอ้พิชญ์ว่า พี่เมษไม่ใช่พี่เลี้ยงของน้อง ความรู้สึกที่ได้รับการดูแลจากพี่เมษกับพี่อรมันต่างกัน และความรู้สึกที่น้องมีต่อพี่เมษก็ไม่เหมือนกับคนอื่น

ความรู้สึกนี้มันเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่พวกเราไม่ทันรู้ตัว

แม้มันจะยังคลุมเครือ ไม่ชัดเจน แต่น้องก็ไม่คิดจะปล่อยให้มันหลุดมือไป ถ้ายังไม่ได้ลองทำอะไรสักอย่าง

“พี่...” ก่อนจะเดินเข้าโรงหนัง น้องก็คิดว่าควรจะต้องบอกมันแล้วล่ะ

“ว่า?” พี่เมษหันหลังมามองน้องที่เดินตามมันอยู่

“ผมมีเรื่องจะปรึกษา”

“มาปรึกษาอะไรหน้าโรงหนังวะ” พี่เมษขมวดคิ้วหน้ามุ่ยนิดหน่อย “รีบๆ พูดมาดิ ถ้าคุยยาวไว้หนังจบค่อยคุย”

“ไม่ยาวๆ แป้ปเดียว สั้นๆ” น้องจ้องตามันนิ่งๆ มันเองก็ไม่ได้หลบสายตา “จีบรุ่นพี่นี่ต้องทำยังไงวะ”

“ห๊ะ? อย่างมึงเนี่ยนะจะจีบใคร?” พี่เมษหัวเราะ แต่เสียงหัวเราะนั้นไม่สดใสเลยสักนิด มันเสมองไปทางอื่น สีหน้าเจื่อนๆ “กูจะไปรู้ได้ไง ไม่เคยเหมือนกัน”

“ก็แค่บอกมาว่าทำไงถึงจะจีบติด” น้องขยับเท้าเข้าไปใกล้ๆ มัน

“ก็บอกว่าไม่รู้ไง! ทำไมต้องถามกูด้วย!” มันหน้าบึ้งเลยคราวนี้ โกรธอะไรวะ? ก็แค่ถามดีๆ เนี่ย พี่แม่งดุอีกแล้ว

“บอกมาดิ ทำไงจะจีบติด” น้องเบียดตัวไปที่ไหล่มัน มันยืนหันข้าง กัดปากหน้าตาบูดบึ้ง เอาศอกยันท้องน้องไว้ เหมือนไม่อยากให้เข้าใกล้

“อย่ามาถามกู”

“อ้าว? ถ้าไม่ถามพี่ แล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะ” น้องยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่งแล้วโน้มตัวไปมองหน้ามันใกล้ๆ พร้อมกับกระซิบบอกประโยคถัดมาที่คาดว่าจะทำให้มันระเบิดทั้งตัวแน่นอน

“ก็ผมจะจีบพี่”
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.11 update 3/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 03-03-2018 20:17:27

12
ไอ้เหี้ยเห็ด!!! แม่งงงงง พลังทำลายล้างแรงเหี้ยๆ กับอีแค่ประโยคเดียวที่มันเสือกทะลึ่งมาบอกหน้าโรงหนัง! เลือกสถานที่หน่อยก็ได้มั้ยวะ!

“ผมจีบพี่อยู่เนี่ย ทำไงถึงจะติดครับ”

เชี่ยแม่ง...ดูหนังไม่รู้เรื่องเลยว้อยยยย เสียงไอ้เหี้ยเห็ดแม่งลอยเต็มหัวไปหมดแล้ว! ทำไมต้องทำกับกูแบบนี้ด้วยยยย แล้วดูมันนะ นั่งเคี้ยวป๊อปคอร์นดูหนังผีสบายใจเฉิบ หลังจากทิ้งระเบิดลูกเบ้อเริ่มไว้ให้ผมต้องคิดหนักจนผ่านไปจะครึ่งเรื่องแล้ว กูยังไม่รู้เลยว่ามาดูอะไร!!!

“กินมั้ย?” ยังมีหน้าหันมายื่นถังป๊อปคอร์นให้กูอี๊ก ผมมองหน้ามันอย่างโกรธๆ มึงทำให้กูดูหนังไม่รู้เรื่อง ไอ้เห็ดเหี้ย!

ผมไม่ตอบ แต่เอามือดันถังลายอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งกลับไป ดูหนังผี แต่ซื้อชุดของเล่น...เอากะมันสิวะ ไอ้เด็กอนุบาลหมีควายไม่ยอมโต!

“น้ำล่ะ?” คราวนี้ผมต้องหันไปถลึงตาใส่ มันถึงยอมนั่งดูหนังเงียบๆ ต่อ

ผมหลับตาลง ใจเต้นโครตแรง ตั้งแต่ที่มันบอกจะจีบแล้ว ไอ้เด็กเวร! จริงๆ ก็ไม่ได้เด็กกว่ามากมาย แค่ปีเดียว แต่แม่ง...ทำตัวโครตเด็กไง แล้วจู่ๆ เสือกมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นเด็กวัยรุ่นแล้วกัน ไม่โตพอเป็นผู้ใหญ่ได้หรอก หน้าอย่างไอ้เห็ดเนี่ย!

แล้วมันไปเรียนรู้เรื่องเดทเรื่องจีบมาจากไหน เดาไม่ยากอ่ะ ไอ้เชี่ยพิชญ์!!! เจอเมื่อไหร่กูจะถีบให้คว่ำ เสือกสอนลูกมึงดีนักเนี่ย!

“พี่ ง่วงเหรอ?” เสียงกระซิบแผ่วๆ แต่แม่งดังใกล้มากอ่ะ ผมเลยลืมตาโพลงขึ้นมา แล้วก็ต้องตกใจเกือบหลุดแหกปากร้องลั่นโรง ดียั้งไว้ทัน

“เชี่ยเห็ด! ไปนั่งดีๆ” ผมเอามือดันไหล่มันออก คือมันโน้มตัวมาจ้องหน้าผมใกล้มาก ลืมตามาเห็นแต่ลูกตาแม่ง ตกใจฉิบหายอ่ะ คือรอบนี้คนไม่ค่อยมีหรอก มันเลือกนั่งหลังๆ ข้างหน้ามีคนไม่ถึงสิบคน แถวที่เรานั่งก็ไม่มีคนเลย แต่พนักงานฉายหนังอยู่ข้างหลังป่ะวะ มุมเมื่อกี้แม่ง ดูเผินๆ อย่างกับมันก้มมาจูบปากผม

“ถ้าง่วงพิงไหล่ผมได้นะ” ไม่ต้องมาทำตาปิ๊งๆ ใส่กูเลย ไอ้เด็กสันดานเสีย! คิดจะจีบกูใช่มั้ย! มันต้องเอาคืน! ทิ้งหัวลงบนไหล่แม่งเลย หลับก็หลับ ยังไงมันก็เป็นคนจ่ายตัง ช่างแม่ง! ไม่เสียดายค่าตั๋วแล้ว ยังไงก็ดูไม่รู้เรื่อง
..........
......
...
ฉิบหาย!!!!!!!!!!

นี่ผมหลับไปยาวนานแค่ไหนกัน ทำไมไอ้เห็ดแม่งไม่ปลุกวะ!? เอ๊ะ? ที่นี่มัน...บนเตียง? ในห้อง?

“ไอ้เห็ด!!!” ผมตะโกนลั่นห้อง วิ่งพรวดไปที่ห้องน้ำ เพราะมีแสงไฟจากตรงนั้น “กูกลับมาที่นี่ยังไงเนี่ย!?”

อย่าบอกนะว่ามึง...มึง...

“ผมอุ้มพี่ไปขึ้นรถแล้วก็ขับกลับมาไง” มันตะโกนตอบออกมาจากในห้องน้ำ ผมถึงกับกุมขมับ ทรุดตัวลงนั่งยองๆ หน้าประตูส้วมเลยทีเดียว จะบ้าตายกับไอ้เด็กนี่! อย่าใช้ความหน้าด้านของมึงกับเรื่องแบบนี้ได้มั้ยวะ คนไม่เยอะ แต่มันก็มีคนโรงอื่นเดินออกมาพร้อมๆ กันป่าววะ แล้วนี่...สายตาคนอื่นจะมองยังไงเนี่ยยยย โอยยย กูอายยยยครับ!

แกร็ก!

ผมสะดุ้งผงะถอยลงไปนั่งจุ้มปุ๊กบนพื้น เพราะจู่ๆ ไอ้เห็ดแม่งเสือกเปิดประตูออกมา แถมยังนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอีก!

“ผมล้อเล่นน่า แค่แบกพี่ขึ้นหลังมา ไม่ได้อุ้มหรอก หนักจะตายห่า” ยังมีหน้าหัวเราะกูอีก! จะอุ้มจะแบกก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็ดูน่าอายน้อยกว่ามั้ง

“แล้วทำไมมึงไม่ปลุกกู! จะแบกมาทำซากอะไรครับ” หนอย หาว่ากูตัวหนักด้วย! ผมผุดลุกขึ้น เอากำปั้นขยี้หัวมันด้วยความหมั่นไส้

“โอ๊ยๆๆๆ มันเจ็บนะพี่เมษ!” ดูท่ามันจะเจ็บจริง น้ำตาเล็ดเชียว หึ สะใจว่ะ

“ก็เอาให้เจ็บไง จะได้จำ! ทีหลังปลุกด้วย!” นี่แน่ะๆๆๆ ขยี้เข้าไป

“โอ๊ยยยย พอแล้วพี่ ผมเจ็บจริงนะ...พี่เมษ โอ๊ยยย” มันร้องโอดครวญพยายามจะดึงแขนผมออกน่าดู เอาจริงๆ มันไม่กล้าสู้ผมหรอก (มั้ง) “คราวหน้าจะปลุก...” แล้วมันก็นิ่งไป กระชากแขนผมออกจนตัวผมถึงกับปลิว เหี้ย แรงเยอะนี่หว่า ที่ผ่านมาคือยอมให้ทำสินะ?

“หมายความว่าพี่ จะไปดูหนังกับผมอีกใช่มั้ยครับ?” อย่ามาทำหน้าตาดีใจแบบตอแหลใส่กูนะไอ้เห็ด! ผมจะดึงแขนออก แต่มันบีบโครตแน่น ตัวมันใหญ่อย่างนี้ น่าจะแรงเยอะอยู่แล้วแหละ แต่เพราะมันยอมให้แกล้งไง เลยไม่ต่อสู้ขัดขืน ยกเว้นมันไม่ไหวจริงๆ มันก็จะผลัก แล้วผมก็เคยโดนมันผลักจนหงายหลังหัวกระแทกเตียงมาแล้ว...

“ใครพูด?” ผมขมวดคิ้วใส่มัน

“ก็พี่บอกว่าคราวหน้า” มันยู่ปากน้อยๆ ทำตาแบ๊วใส่ คือ...มันน่ารักอยู่หรอก แต่ตอนนี้กูหมั่นไส้!

“ไม่ได้พูด! อย่ามโน” เอานิ้วดีดหน้าผากแม่ง ไอ้เห็ดร้องลั่น ส่วนผมก็รีบวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ กลัวมันเอาคืนครับ ฮ่าๆ

อ้าว? ฉิบหายอีกรอบ ผมลืมเอาผ้าเช็ดตัวเข้ามาครับ!

“เห็ด...เห็ด!” ลองตะโกนเรียกมันดูก่อน คงยังไม่หลับนะ? แต่ถ้าหลับแล้ว เดี๋ยวย่องไปหยิบผ้าเช็ดตัวเอง “เห็ด หลับยัง?”

เงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ น่าจะหลับแล้วมั้ง นี่ก็ดึกมากแล้ว มันไม่ค่อยได้นอนมาหลายคืนช่วงทำงานส่ง พอได้ปิดเทอมเลยนอนเร็วตลอด

โอเค งั้นผมจะย่องเบาออกไปหยิบผ้าเช็ดตัวเองแล้วกัน รู้สึกจะแขวนไว้ใกล้ๆ ตู้เสื้อผ้า เดินไปอึดใจเดียวเท่านั้นก็ถึงแล้ว ผมเปิดประตูแง้มๆ ชะโงกหน้ามองไอ้เห็ด มันนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อย น่าจะหลับยาวแน่นอน ตื่นยากอย่างมัน คงไม่ลุกพรวดมาหรอก ผมคิดพลางค่อยๆ ย่องออกจากห้องน้ำทั้งตัวเปียกๆ และโป๊เปลือย ไม่มีใครเห็นๆๆๆ ท่องไว้

มือกำลังจะเอื้อมคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่ข้างตู้

พรึ่บ!

ไฟแม่งเปิดพรึ่บ! ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาได้ทันท่วงที แล้วไม่รู้ทำไมต้องเอามาพันทั้งตัวเหมือนสาวน้อยอาบน้ำ! เวรเอ๊ย ตกใจจนลนไปหมด

“ปวดฉี่อ่ะ” เชี่ยเห็ด! แม่งลุกมานั่งสลึมสลือขยี้ตายุกยิก แล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ไม่ได้สนใจมองผมด้วยซ้ำ ฟู่ว~ โล่งอกไปที มันคงไม่ทันเห็นหรอกมั้ง รีบแต่งตัวดีกว่า

แต่งตัวเสร็จ ผมก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ เตียงห้องน้ามันโครตนุ่มจริงๆ เด้งดีมาก นอนแล้วสปริงไปมา หลับสบายโครตๆ ไอ้เห็ดเดินกลับมานอนที่เดิมของมันแล้ว ผมเลยกลิ้งตัวหลบหันหลังให้มัน กำลังเคลิ้มๆ จะหลับอยู่รอมร่อ แล้วจู่ๆ ไอ้เสียงเห็ดเหี้ยๆ แม่งก็เสือกดังขึ้น

“ก้นพี่ขาวเนอะ”

“สัส!” ผมพลิกตัวกลับไปด่ามันทันที หน้าร้อนวูบวาบไปหมด ไอ้เห็ดแม่งนอนหันมาทางนี้แล้วเสือกยิ้มอีก ยิ้มเก่งนักนะมึง! ด้วยความหงุดหงิด ผมลุกขึ้นคว้าหมอนที่ตัวเองหนุนเนี่ยแหละ เอาไปอุดหน้าแม่งเลย “มึงตายซะ! ตายซะๆๆๆ ไอ้เหี้ยเห็ด!”

“อื้ออออ!!!” มันร้องอู้อี้ดิ้นพล่าน มือไม้ปัดสะเปะสะปะไปหมด หึ สะใจว้อยยย ไม่เอาตายหรอก แค่แกล้งมันเฉยๆ แต่ก็ใช้แรงไปมากโข เหงื่อแตกอีกรอบแล้วเนี่ย เพิ่งอาบน้ำมาแท้ๆ ไม่น่าเลยกู

“ปากดีนัก!” ผมโยนหมอนกลับไปไว้ที่เดิม แต่ขอหอบหายใจแป้ป

“แฮ่กกก พี่แม่งบ้าพลังว่ะ” มันเองก็หอบหายใจรัวเลย คงกลัวจะขาดอากาศตายจริงๆ ฮ่าๆ หน้ามันแดงก่ำเชียว แต่ผมเนี่ย...เชี่ย ลืมไปเลยว่านั่งทับอยู่บนตัวมัน!

“เหวอออ” ไม่ทันแล้ว พอผมรู้ตัวจะคลานลงจากตัวมันแล้วกลับไปหาหมอนใบเดิม ก็โดนไอ้เห็ดแม่งจับเอวกดไว้ “ทำเหี้ยไร! ปล่อย!” ผมเอามือยันอกมัน พยายามดันตัวออก แต่แรงแม่งโครตเยอะ ว้อยยย ท่านี้อันตรายโครตๆ ก็ผมนั่งทับแถวท้องน้อยมัน ฮือออ ไม่น่าเลยกู! อย่าแข็งนะมึง ไอ้เห็ด!

“นิ่งๆ!” เป็นครั้งแรกที่มันดุเสียงดังใส่ผม นี่สะดุ้งโหยงหยุดนิ่งทันทีเลยครับ ตกใจมาก “ดิ้นมากเดี๋ยวลูกผมตื่นนะพี่”

“ไอ้เหี้ยเห็ด! มึงก็ปล่อยกูไปนอนสิวะ!” ไม่กล้าดิ้นเลยกู ฮือออ แล้วทำไมผมต้องนั่งนิ่งๆ บนตัวมันด้วยเนี่ย!

“เพิ่งรู้ว่าพี่ชอบออนท็อป ฮ่าๆๆ” แม่งหัวเราะกู! แล้วไอ้เด็กซื่อบื้อแม่งเสือกรู้จักคำนี้ได้ไงวะ! มึงใช่มั้ยห่าพิชญ์! เสี้ยมสอนกันมาดีนัก! (ไอ้เห็ดมันดูหนังโป๊มาพี่...ผมไม่เกี่ยวนะ: พิชญ์)

“ไอ้เหี้ยเห็ด!” ผมก่นด่ามันพร้อมกับเอามือทุบอกมันทีหนึ่ง แต่แม่งก็ยังหัวเราะไม่เลิก “เห็ด ไม่ขำ!”

“ห๊ะ?” มันเงยตัวขึ้นมามองผมแล้วสักพักก็ลงไปนอนหัวเราะเสียงดังลั่น “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ พี่เล่นมุกเหรอ?”

“มุกพ่องสิ! ปล่อยมือ!” ไอ้มือที่เกาะเอวนี่ก็จะแน่นเหนียวหนึบไปไหนวะ!

“ฮ่าๆๆๆ พี่น่ารักว่ะ รู้ตัวป่ะ?” มันเลิกหัวเราะ แต่เปลี่ยนมายิ้มหวานตาหยี ตาเยิ้มๆ เพราะหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ขำมากมั้ยมึง!!! ผมถลึงตาใส่มัน บีบคอมันตอนนี้จะผิดมั้ยวะเนี่ย

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ปล่อยเร็วๆ!” กูไม่เขินแล้วนาทีนี้ จะนอน!

“ยังไม่ทันทำอะไรเลย จะให้ผมเอาที่ไหนมาปล่อยใส่พี่”

เพี๊ยะ!

เสียงผมตบหน้ามันเองครับ “กวนตีนนะ”

“โหย ดุจัง โอเคๆ ปล่อยแล้วครับ นอนนะ พรุ่งนี้กลับบ้านพี่กัน” สุดท้ายมันก็ยอมปล่อยมือ ให้ผมสไลด์ตัวลงไปนอนข้างๆ หันหลังก็เสียว หันหน้าก็ไม่อยากเจอหน้ามัน เอาไงดีวะ นอนหงายแม่งแล้วกัน

แล้วไอ้ ”พรุ่งนี้กลับบ้านพี่กัน” เนี่ย มันคืออะไรวะครับ?

******

เช้าวันต่อมา ไอ้เห็ดมันตื่นก่อนแล้ว แถมยังอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เตรียมอาหารเช้าไว้รอผม โครตอเมซิ่งไทยแลนด์อ่ะ!

“ไม่ต้องทำหน้าหมางง ผมใช้เครื่องปิ้งขนมปังเป็น พี่ไปอาบน้ำแล้วมากินด้วยกันเลย” มันเงยหน้าจากการจัดโต๊ะมาบอกผมที่ยืนมึนๆ มองมัน ผมก็เลยเดินมึนๆ ไปอาบน้ำตามที่มันบอก

เฮ้ย! แม่งงงงง เป็นไปได้ว่ะ!

ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มานั่งกินขนมปังปิ้งทาเนยที่มันทำไว้ให้ ส่วนนมสดของมันกับโอวัลตินของผม มันไปซื้อมาจากเซเว่น ฮ่าๆ อย่างน้อยก็ใช้ไมโครเวฟกับเครื่องปิ้งขนมปังได้สินะมึง แถมยังตื่นมาทำให้แต่เช้า น่ารักจริงวุ้ย

“เออ เห็ด” ผมเคี้ยวๆ ขนมปังแล้วกลืนลงคอ พลางถามขึ้นมาด้วยความสงสัยจริงจัง มันเหลือบมองหน้าผมนิ่งๆ ต่างจากไอ้เด็กทะลึ่งเมื่อคืนลิบลับ เปลี่ยนไวจริงนะไอ้เห็ดไม่สำ! “มึงจะจีบกูจริงเหรอวะ”

มันเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วสบสายตาผมตรงๆ จนผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา เลยต้องหลบสายตามัน

“ไม่ได้เหรอ?”

“ก็กู...เป็นผู้ชายเหมือนมึงนะ” เพราะเรื่องนี้แหละ ที่ทำให้ผมไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้ ทั้งที่ชอบมัน ผมได้แค่เก็บไว้ในใจ ดูแลมันเท่าที่ทำได้ เท่าที่อยากทำ ไม่ได้หวังให้มันต้องชอบผมตอบแม้แต่น้อย

“แล้วผู้ชายด้วยกัน รักกันไม่ได้เหรอ?”

ผมถึงกับสะอึก ก็จริงของมัน ผมไม่เห็นหรอกว่าตอนนี้มันทำหน้ายังไง เพราะได้แต่ก้มมองมือตัวเอง มือแม่งสั่นทำไมก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าหาคำตอบให้มันไม่ได้ ใช่ มันไม่ผิดถ้าคนสองคนจะรักกัน รู้สึกดีๆ ให้กัน แม้เราจะมีทุกอย่างเหมือนๆ กันก็ตาม

“!” ผมสะดุ้ง จู่ๆ มันก็มานั่งขัดสมาธิบนพื้นข้างตัวผม เอามือมาจับมือที่สั่นๆ ของผมไว้ ผมหันไปมองหน้ามัน หน้าตาจริงจังขึงขังของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ราวกับไม่ใช่มันคนเดิม...ไม่สิ ไม่ใช่มันตอนปกติมากกว่า

“พี่ไม่ต้องกลัวดิ ถ้าพี่ชอบผม ก็แค่คบกับผม” เห็ดมันเป็นคนซื่อๆ แสดงออกตรงไปตรงมาเสมอ ชอบก็บอกว่าชอบ เกลียดก็บอกว่าเกลียด ซึ่งนิสัยตรงนี้ ผมคิดว่าเราเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น...

ผมยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วให้มัน “ถ้ากูยอมคบด้วยง่ายๆ มึงก็ไม่ต้องจีบอ่ะดิ?”

******

เอาเป็นว่า ผมจะยังไม่บอกหรอกว่าชอบมันตั้งนานแล้ว จะขอดูหน่อยว่ามันจะจีบผมยังไง จะอดทนได้นานแค่ไหน ไม่ได้เล่นตัวนะครับ อย่าด่าแรง ผมอ่อนไหวง่าย ฮ่าๆๆๆ

“ไม่เห็นต้องไปส่ง มันไกลนะเว้ย” คือมันบอกจะขับรถน้ามันไปส่งผมที่บ้านเลย ป๋ามาก (อย่าผวน!)

“ไม่เป็นไร พอดีนัดป๊าม๊าไว้ที่นั่นแล้ว เขาบอกจะไปเที่ยวกันพอดี”

“อ้อ” ผมพยักหน้าว่าเข้าใจตามนั้น แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถข้างๆ คนขับ ไม่มีโมเม้นท์คาดเข็มขัดให้กันครับ เพราะผมขึ้นปุ๊บคาดเองเลย ไม่มีลืม “ถ้ามึงเหนื่อยบอกนะ เดี๋ยวกูขับแทนเอง” ผมพอขับรถได้อยู่ เคยขับกระบะของพ่อที่บ้านเกิด น่าจะคล้ายๆ กันแหละน่า

“โอเคครับ ช่วยบอกทางผมด้วยนะ เผื่อ GPS มันตอแหล ฮ่าๆ” มันหัวเราะอารมณ์ดีเหลือเกิน คนบ้าอะไรด่า GPS ตอแหลวะ...

“เปิดเพลงมั้ย? เงียบๆ เดี๋ยวหลับ” ผมลองเสนอ เพราะกลัวมันจะง่วง เมื่อคืนก็นอนกันดึกอยู่ แล้วต้องขับนานราวๆ 5 ชั่วโมงด้วย มันขับรถเร็วพอสมควร น่าจะถึงเร็ว ดูมันแหยๆ บางที แต่บางทีก็โครตจะห้าวอ่ะ ตอนมันซิ่งมอไซค์พาผมเที่ยวในเมืองคราวก่อนนี่อย่างระทึก

“แล้วแต่พี่เลย” มันว่า เวลาขับรถยนต์มันดูจะตั้งใจกว่าปกติ คงเพราะนานๆ ขับทีมั้ง แถมไปตั้งไกลแบบนี้ คงใช้สมาธิน่าดู ไม่กวนมันดีกว่า

ผมเอื้อมมือไปกดเปิดวิทยุ เลือกคลื่นที่มีแต่เพลงเล่นเรื่อยๆ ไม่มีเสียงดีเจ แล้วก็นอนเอนหลังกับเบาะรถ ทิวทัศน์ข้างทางค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
............
........
.....
...
แปะ แปะ ซ่า...

เหมือนแอร์ในรถมันจะเย็นขึ้นจนผมขนลุกชัน ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าฝนตกหนักมาก และเห็ดมันกำลังชะลอเพื่อหาที่จอด

“ผมไม่กล้าฝ่าฝนไปอ่ะพี่ มันมองไม่ค่อยเห็นทาง แวะพักที่ไหนก่อนนะ” มันว่าพลางค่อยๆ เลี้ยวเข้าไปหน้าร้านกาแฟร้านหนึ่งริมทาง ที่จอดรถมีเพิง ลงมาก็ไม่เปียกมากเท่าไหร่ คือนี่เดือนธันวานะเฮ้ย แต่ฝนแม่งตกโครตหนัก เหมือนพายุเข้างั้นแหละ

“ตอนนี้ถึงแถวไหนละ” ผมหันไปถามมันตอนเรากำลังเปิดประตูเข้าไปในร้าน มีลูกค้าอยู่พอสมควร เพราะติดฝนเหมือนกัน

“แถวๆ นครสวรรค์แล้วนะครับ” มันขมวดคิ้วตอบ มือที่ผลักประตูเปิดคาไว้ให้ผมเดินเข้าไปก่อน ทำเป็นสุภาพบุรุษนะไอ้เห็ดน้อย กูก็สุภาพบุรุษเหมือนมึงมั้ยล่ะ อายชาวบ้านเขาเว้ย

“ก็ไม่ไกลมากแล้ว เดี๋ยวเปลี่ยนให้กูขับเข้าพิษณุโลกเอง” ผมว่าพลางเช็คสัญญาณในมือถือ แทบไม่มีสักขีด ให้ตายเหอะว่ะ กำลังจะหันไปสั่งไอ้เห็ดที่เดินไปทางเคาน์เตอร์ว่าเอาอะไร ก็พอดีมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งทักขึ้นเสียก่อน

“ขอโทษนะคะ เมื่อกี้ได้ยินว่าจะไปพิษณุโลกกัน?”

“ครับ?”

เดดแอร์อย่างแรงครับผม

“...ภู” คนที่จะเรียกผมแบบนี้ นอกจากพ่อกับแม่แล้ว...ก็มีอีกแค่คนเดียว เท่านั้น
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.12 update 3/3/18 8:17 pm
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 04-03-2018 00:22:33
ใครเอ่ย เกี่ยวข้องกับตัวเล็กอย่างไง  :hao4:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.12 update 3/3/18 8:17 pm
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 04-03-2018 01:14:20
หูย....น้องเห็ดรุกแรงจุง รู้ใจตัวเองแล้วเหรอว่าชอบพี่เค้าอ่ะ   :hao3:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.12 update 3/3/18 8:17 pm
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 04-03-2018 09:35:37
สาวคนนั้นก็คือคนที่พี่เมษเคยพูดถึงนั่นแหละฮะ จบกันไม่สวยเท่าไหร่ นางเลยขยาดๆ
ส่วนน้องเห็ดของเราก็ยังตีมึนต่อไป

13

“กิ่ง...” ผมยังจำชื่อเธอได้แม่นยำ ก็แหงล่ะ “แฟนเก่า” ทั้งคน ทำไมต้องเจอกันตอนนี้ด้วยวะ ผมเผลอถอนหายใจแรงจนเธอถึงกับสะดุ้ง พอดีไอ้เห็ดเดินเข้ามา คงจะถามว่าผมจะสั่งอะไรนั่นแหละ

“มีอะไรรึเปล่าพี่เมษ?” มันมองหน้าผมแล้วก็มองเธอแล้วก็หันมามองผม

“อ๋อ เปล่า เขาจะมาถามทางน่ะ ได้ยินเราคุยกันเมื่อกี้” ผมรีบกลบเกลื่อนทั้งที่ใจแม่งโครตสั่น กิ่งแก้ว ทำหน้าเหมือนจะขัด แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา เมื่อเห็นผมถอยลงไปกอดแขนไอ้เห็ดแน่น หันหน้าเข้าไปซบกับไหล่มัน แล้วกระซิบให้ได้ยินแค่สองคน “มึงเอาอะไร เดี๋ยวกูสั่งเอง ช่วยคุยกับเขาแทนที”

“เอ้ย! แต่ผมก็ไม่ได้รู้ทางนะพี่” แต่กูไม่อยากคุยไง ผมบีบแขนมันเหมือนจะย้ำ มันเลยตอบรับแบบงงๆ “โอเคๆ ผมเอาชามะนาวนะ”

ผมพยักหน้ารับแล้วปล่อยมือ เดินไปทางเคาน์เตอร์ทันที ทิ้งให้ไอ้เห็ดรับหน้าแฟนเก่า โดยที่ไม่ได้บอกอะไรมันด้วยซ้ำ ก็มันพูดไม่ออก ไม่อยากจะเรียกเธอว่าแฟนเก่า หรือกระทั่งคนรู้จัก

สั่งเครื่องดื่มเสร็จ ผมก็เดินกลับมาหามัน ซึ่งหาที่นั่งได้แล้ว แถมยังนั่งคุยกับ...กิ่งแก้ว ท่าทางคุยกันถูกคออีกต่างหาก ก็ไอ้เห็ดมันเป็นคนเฟรนลี่ รู้ๆ อยู่

“พี่อ่ะ ไม่บอกผมว่าพี่เขาเป็นเพื่อนสมัยม.ปลาย” ผมยื่นแก้วชามะนาวให้มันพลางนั่งลงข้างๆ มันก็หันหน้ามาคุยด้วย กิ่งคงจะบอกไปแค่นั้นสินะ ดีแล้วล่ะ ดีแล้ว

“ตอนแรก จำไม่ค่อยได้ ไม่แน่ใจน่ะ” ผมยิ้มๆ ให้มัน พยายามมองเธอให้น้อยที่สุด กิ่งเองก็ดูไม่ได้สนใจอะไรผม เธอคุยกับไอ้เห็ดออกรสออกชาติ เล่าเรื่องที่เที่ยวในพิษณุโลกให้มันฟัง ชี้ชวนให้ดูรูปที่ไปถ่ายมาในกล้องดิจิตอล ส่วนผมได้แต่นั่งดูดกาแฟเย็นจนแม่งหมดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ฝนเริ่มซาสักที เราไปกันต่อเลยมั้ยพี่” เพราะโดนฝนถ่วงเวลามาเป็นชั่วโมง จากนี่กว่าจะถึงบ้านผมคงราวๆ 6 โมงเย็นได้ ตอนนี้ฟ้าก็ยังครึ้มๆ อยู่ เลยดูมืดเหมือนกลางคืนไปแล้ว

ผมพยักหน้าให้มัน พลันกิ่งก็แทรกขึ้นมา เหมือนเป็นความตั้งใจแรกของเธอที่เข้ามาทักเรา

“ภู ขอกิ่งขับนำหน้าได้มั้ย มันมืดแบบนี้ กิ่งไม่กล้าขับไปคนเดียวอ่ะ” ผมมองหน้าเธอผ่านๆ แล้วพยักหน้าให้ ก่อนจะรีบเดินนำออกไป เพราะให้ไอ้เห็ดไปจ่ายเงินแทนแล้ว

กิ่งขับรถมินิคูเปอร์สีครีมนำหน้ารถ BMW สีน้ำเงินของน้าไอ้เห็ดไปเรื่อยๆ ก็ดีเหมือนกัน มีคนขับนำทางให้ เพราะเธอดูจะชินทางมากกว่าพวกเราเสียอีก คงขับรถกลับมาบ้านบ่อย เธอเรียนในกรุงเทพฯ และอยู่หอในเมือง

“พี่เมษ ผมว่าจะถามตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ไอ้เห็ดขยับตัวเอียงมาทางผม “ทำไมเขาเรียกพี่ว่า ภู อ่ะ”

ผมเงียบไปครู่ใหญ่ เห็ดมันซื่อบื้อจะตาย คงไม่เอะใจอะไรหรอกเรื่องผมกับกิ่ง “ที่บ้านเกิด ส่วนใหญ่เรียกอย่างนี้”

“อ๋อ ภูเมษเนาะ” ไอ้เห็ดทวนชื่อจริงผมพลางพยักหน้ากับตัวเอง “ขอผมเรียกด้วยได้ป่ะ”

“ไม่ให้” ผมตอบทันที ไม่ใช่อะไรนะ ผมชอบให้เรียกเมษมากกว่า

“งั้นพี่มีชื่อเล่นอื่นมั้ย” มันส่งสายตาเป็นประกายมาให้ เหมือนรอลุ้นของรางวัลงั้นแหละ

“ไม่มีอ่ะ” เพราะพ่อแม่ไม่ได้ตั้งไว้ให้ ปกติก็เรียก ไอ้หนู อะไรทำนองนั้น แต่ใครจะไปให้ไอ้เห็ดมันเรียกแบบนั้นกันเล่า

“โห่ ทีผมยังมีชื่อเล่นเลย ถึงตอนแรกผมจะเกลียดชื่อนี้มากก็เหอะ”

ผมเหลือบสายตาไปมองมัน ไอ้เห็ดมันนั่งกอดอกหน้าตาเง้างอนแปลกๆ เพิ่งรู้เนี่ยแหละว่ามันเคยเกลียดชื่อเล่นตัวเอง ทั้งที่ตอนนี้เวลาใครเรียกน้องเห็ดนี่หน้าบานขานรับไปทั่ว

“ทำไมเกลียดล่ะ”

“ตอนเด็กๆ ผมตัวเล็กนิดเดียว แล้วหัวโตผมฟูๆ เหมือนหัวเห็ด”

“อุ้บ ฮ่าๆๆ” เผลอนึกภาพตามแล้วมันขำอ่ะ “โทษๆ”

มันค้อนผมประหลับประเหลือก โครตแรดบอกเลย “ก็นั่นไง ขนาดพี่ไม่เคยเห็น ยังขำเลย ตอนเด็กๆ ผมอ่ะโดนล้อโดนแกล้งหนักมาก” มันเล่าต่อ “มีคนเอาเห็ดในแปลงเพาะมาเทใส่หัวผมด้วย แล้วตอนนั้นแหละ ที่เจอไอ้พิชญ์”

แล้วมันก็เล่าวีรกรรมเด็ดๆ ของไอ้พิชญ์ให้ผมฟัง มิน่ามันถึงได้เป็นเพื่อนรักกันมายาวนานขนาดนี้ เห็ดมันซื่อๆ จริงใจ ส่วนพิชญ์ก็เป็นคนรักเพื่อนและรักความยุติธรรมนี่เอง

คุยกันเพลิน รู้ตัวอีกทีก็มาถึงเมืองพิษณุโลกแล้ว บ้านผมอยู่ในตัวเมือง บ้านกิ่งก็เช่นกัน พอเข้าเมืองเธอก็จอดรถข้างทางและขอตัวแยกไปอีกทาง ขอบอกขอบใจที่พวกเราเดินทางมาด้วย ผมไม่ได้ว่าอะไร มีแต่ไอ้เห็ดที่คุยกับเธอ แม้ว่าเธอจะเหลือบมองผมเป็นระยะเหมือนมีเรื่องจะคุยก็ตาม

“ตื่นเต้นอ่ะ จะได้เจอครอบครัวของพี่แล้ว” ไอ้เห็ดเอามือถูกันไปมา แววตาเป็นประกายสดใส ดูน่ารักบอกไม่ถูก

“ตื่นเต้นทำไม พ่อแม่กูไม่ใช่ดาราฮอลลีวู้ดนะ”

“โหพี่ ดูพูดจา ก็พ่อแม่คนที่ชอบป่าววะ เหมือนผมจะเจอพ่อตาแม่ยายงี้”

“ตลกละสัส! พ่อตาแม่ยายเหี้ยไร” เอามือตบหัวแม่งสักที เดี๋ยวเหอะ ไอ้เห็ดน้อย! เล่นวางตำแหน่งเมียให้กูเสร็จสรรพนะมึง

“เอ้า ก็...”มันเหล่สายตามามองผมแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำไมกูขนลุกแปลกๆ วะ

“ก็อะไรของมึง พูดดีๆ นะ ไม่งั้นมีถีบ” ถลึงตาใส่แม่ง ถึงบ้านพอดี รีบลงดีกว่ากู เสียวแปลกๆ

บ้านของผมเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ อยู่มาตั้งแต่สมัยคุณทวด แต่ก็มีการปรับปรุงเป็นระยะ เลยไม่ได้ดูเก่ามากนัก บริเวณบ้านกว้างขวาง ปลูกต้นไม้ดอกไม้แบบที่แม่กับย่าชอบ แต่ตอนนี้ย่าผมเสียไปแล้ว แม่ก็คอยดูแลสวนต่อ หลังบ้านมีบ่อปลาเล็กๆ พ่อผมชอบเลี้ยงปลาหางนกยูงกับปลากัดไว้

ผมพาไอ้เห็ดไปแนะนำกับพ่อแม่ พวกท่านดูจะเอ็นดูมัน เพราะมันพูดจาน่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส ดูนอบน้อมกับผู้ใหญ่ดี แม้ปกติแม่งจะโครตเกรียนก็ตามที

“มากันซะมืดค่ำเลย แล้วให้น้องขับรถตั้งไกล เหนื่อยแย่เลยลูก” แม่รับไอ้เห็ดเป็นลูกชายไปเรียบร้อย โอ๋กันน่าดู ลูบหัวลูบหางกันอยู่นั่น ไอ้เห็ดมันขี้อ้อนมาก อ้อนพ่อแม่ผมเหมือนที่มันอ้อนพ่อแม่มันเลย 

“ไม่เหนื่อยเลยครับ มีพี่เมษดูแลมาตลอดทาง” พูดดี ผมเบะปากอย่างหมั่นไส้ ดูความช่างฉอเลาะของมันสิ

“เดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนนะ แม่ให้น้าใยเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว น้องเห็ดกินเผ็ดได้มั้ยลูก”

น้าใยคือแม่บ้านครับ แม่จ้างไว้ช่วยงานบ้านจิปาถะ อยู่กันมาตั้งแต่ผมเพิ่งเกิด น้าแกไม่มีครอบครัวที่ไหน ตัวคนเดียว ความรู้ก็ไม่มี แม่กับพ่อก็คอยสอนทำงานบ้านและทำอาหาร จนตอนนี้ฝีมือแซงหน้าแม่ไปแล้ว แต่แกก็ไม่ยอมไปไหนครับ ยังคงทำงานให้ที่บ้านเราต่อ ทั้งที่เงินเดือนก็ไม่มากมาย เมื่อ 4 ปีก่อน พ่อผมเลยลงทุนเปิดร้านขายอาหารตามสั่งใกล้ๆ ตลาดให้แกทำมาหากินเพิ่ม พอตกเย็นน้าใยก็จะมานอนที่บ้าน ดูแลทำความสะอาดและทำอาหารให้ด้วย โครตจะขยันอ่ะ

“ได้ครับ” ไอ้เห็ดน้อยยิ้มรับหน้าบานเชียว หมั่นไส้ว่ะ

จากนั้น ผมก็พาไอ้เห็ดขึ้นไปชั้นบน ห้องอาบน้ำมีสองห้อง ชั้นล่างกับชั้นบน ส่วนใหญ่ผมจะใช้ห้องข้างบน ก็เลยพามันไปเก็บข้าวของในห้องก่อน

“ผมนอนกับพี่ใช่มั้ย?” เข้าห้องมาปุ๊บ มันก็สำรวจทันที กลัวว่าจะโดนแยกห้องนอนรึไง

“ก็เออสิ อีกห้องของพี่ชายกู ไม่รู้มันจะกลับบ้านรึเปล่าช่วงปีใหม่” ผมว่าพลางหยิบผ้าเช็ดตัวส่งให้มัน

“พี่มีพี่ชายด้วย? ดุมั้ย? แก่กว่ากี่ปี”

“จะซักประวัติพวกกูรึไงล่ะ” ผมท้าวเอวมองหน้ามันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหยิบรูปถ่ายล่าสุดของผมกับพี่มาให้มันดู

“พี่กูชื่อภพ อายุก็...เกือบ 30 ได้แล้วมั้ง ทำงานอยู่กรุงเทพฯ นานๆ กลับมาที บางปีก็ไม่มาเลยด้วยซ้ำ ยังไม่มีเมีย สนมั้ยล่ะ” ผมยักคิ้วใส่มัน มันเบะปาก

“ไม่อ่ะ ผมไม่สนใจเป็นเมีย อยากเป็นผัวพี่มากกว่า”

“เลว!” ตบหน้าแม่งดังเพี๊ยะเลย ปากดีนักไอ้น้องเห็ด พอมันบอกจะจีบ มันก็รุกเอาๆ จนผมแทบตั้งตัวไม่ติด แต่ไม่ยอมหรอก จะเป็นฝ่ายโดนไล่ต้อนฝ่ายเดียวได้ไงวะ

“มือหนักว่ะ พี่เมษแม่ง” มันเอามือลูบแก้มซ้ายตัวเองป้อยๆ แอบแดงนิดๆ แฮะ สงสัยตบแรงไปหน่อย คือผิวมันขาวไง ตีทีนี่ขึ้นรอยชัดเลย

“เจ็บมากมั้ย” ผมยื่นมือไปลูบรอยแดงบนหน้ามัน ยอมรับก็ได้ว่าห่วงนิดๆ แค่นิดเดียวเฟ้ย!

“เจ็บมาก แดงเลยป่ะ?” มันเน้นเสียงที่คำว่ามากแล้วก้มหน้ามาให้ดูใกล้ๆ ผมก็ตกใจถอยหนีสิครับ ไอ้เด็กเวร! จมูกแทบจะพันกันอยู่แล้วเมื่อกี้

“อือ แดงแป้ดเลยว่ะ” หึ ต้องเอาคืนแม่งบ้างละ ทนไม่ไหว ผมแสยะยิ้มเอามือตีๆ ที่แก้มมัน ชอบยื่นหน้ามานักใช่มั้ย “แต่กูชอบสีแดงสดๆ นะ ขอตบให้เลือดกลบปากเลยได้มะ”

“เฮ้ย!” แม่งตกใจเว้ย พอผมง้างมือขึ้นจริง คราวนี้มันต้องเป็นฝ่ายถอยหนีบ้าง

“ฮ่าๆๆ กูล้อเล่น” ผมตะปบมือลงบนจมูกมันแล้วบิดๆๆๆ มันก็ร้องโอดโอยยกใหญ่ “ไปอาบน้ำได้แล้ว! เร็วๆ เลย”

“คร้าบๆ” มันขานรับเสียงอ่อยก่อนจะเดินออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก

หลังจากอาบน้ำกันเสร็จ ผมก็พามันไปกินข้าวที่ครัว น้าใยเตรียมอาหารไว้บนโต๊ะพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แล้ว วันนี้มีแกงคั่วหอยขมกับน้ำพริกนรกปลาย่างและพวกผักต้ม เป็นเครื่องเคียง แล้วก็ปลาค้าวราดน้ำปลา โห มีแต่ของเผ็ดๆ ไอ้เห็ดมันจะกินได้มั้ยวะ แต่มันก็เคยกินพวกผัดกะเพรา ต้มยำ อะไรพวกนี้นะ แต่กับข้าวบ้านผมอ่ะ ต้องบอกว่าเน้นเผ็ดจริงๆ ต่างจากบ้านมันที่เป็นอาหารรสอ่อนกึ่งเค็ม

“พี่เมษ ไอ้นี่กินไงอ่ะ” ไอ้เห็ดมันตักหอยขมมาใส่จานแล้วนั่งมองอย่าง งงๆ สงสัยไม่เคยกิน

“นี่ไง” ผมหยิบหอยขมจากจานมันมา แล้วเอาไม้จิ้มฟันแคะออกให้ จริงๆ ใช้ปากดูดก็ได้นะ แต่จะดูลำบากเปล่าๆ เลยสอนให้มันแคะดีกว่า

“ผมทำมั่งๆ” มันรีบคว้าหอยขมที่ผมกำลังจะแกะให้อีกไปลองทำเอง ท่าทางชอบใจเหมือนเด็กๆ ได้ของเล่นใหม่

“น้องเห็ดนี่น่ารักจังลูก ไม่เคยกินสินะครับ” พ่อกับแม่เดินมาดูพวกเราในครัว พวกท่านทานกันเรียบร้อยแล้ว เพราะพ่อผมต้องกินข้าวตามเวลา ไม่อย่างนั้นจะป่วยได้

“ฮะ คุณพ่อ น้องเพิ่งเคยเห็น อะไรนะพี่เมษ?” มันหันมาถามผม ผมก็เลยตอบให้

“หอยขม”   

“อ่า ใช่ๆ หอยขมฮะ ไม่เคยเห็น ไม่เคยกินมาก่อนเลยครับ แต่อร่อยดี ชอบ” มันแคะหอยขมเข้าปากไปยิ้มเผล่ไป โอ๊ย โครตเด็ก แต่ก็น่ารักชะมัด!

“เหมือนภูได้น้องชายเลยนะ เอ...หรือว่า...” แม่ทำยิ้มกรุ้มกริ่มมองหน้าผม หอยขมในมือนี่แทบร่วงเลยครับ แม่ผมเซ้นส์โครตแรงบอกเลย

“แม่! ผมอยากกินน้ำตะไคร้ใบเตยอ่ะครับ” รีบขัดเจ๊แกก่อนดีกว่า ไม่งั้นไอ้เห็ดได้รู้ตัวพอดี

“ได้ๆ เดี๋ยวแม่ทำให้นะ น้องเห็ดก็ลองกินด้วยนะลูก รับรองติดใจ” แม่ขยิบตาให้ไอ้เห็ด “ติดใจทั้งน้ำตะไคร้ของแม่และลูกชายแม่เลย”

“คร้าบ!” ไอ้นี่ก็! ขานรับทำเหี้ยอะไรวะ! โอยยยย กูอายยยย โดนแม่จับได้อีกแล้ว พ่อก็ยังจะมาหัวเราะใส่อีก แต่ละคน...

******

“ว่าแต่ พรุ่งนี้พ่อแม่น้องเห็ดจะมาใช่มั้ยลูก” พ่อผมถามมันที่มานั่งออดอ้อนพ่อ คอยนวดขาให้อยู่นั่น โครตจะขี้ประจบอ่ะ

“ใช่ครับ น่าจะถึงประมาณ 7 โมงครึ่ง” พอดีพ่อกับแม่มันจะมาเครื่องบินน่ะครับ เดี๋ยวเช้าพวกผมจะไปรอรับที่สนามบิน แล้วพามารู้จักกับพ่อแม่ผมก่อน ค่อยออกไปไหว้พระกัน

“แล้วจะพาไปไหนกันล่ะ แต่ที่แรกยังไงก็ต้องเป็น “วัดใหญ่” นะ” วัดใหญ่ที่พ่อผมพูดถึงก็คือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ครับ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธชินราช หรือที่ชาวบ้านที่นี่เรียกว่า หลวงพ่อใหญ่ มาถึงพิษณุโลก ที่แรกที่ทุกคนต้องไปก็คือวัดใหญ่นี่ล่ะครับ

“ผมก็ว่าจะไปวัดกันก่อนครับ คงแค่วัดใหญ่กับวัดนางพญา ใกล้ๆ กัน ส่วนที่สุดท้ายคิดไว้ว่าจะไป ภูหินร่องกล้า ว่าจะไปกางเต้นท์นอนกันที่นั่นสักคืนครับ เช้าอีกวันป๊าม๊าก็กลับพอดี”

“มากันวันเดียวเองนะ น่าเสียดาย แต่ไม่ใช่ช่วงหยุดยาวก็อย่างนี้ล่ะ แล้วน้องเห็ดล่ะลูก กลับบ้านพร้อมพ่อแม่เราหรือเปล่า” แม่ทำหน้าเสียดายจริงจังมาก กลัวไอ้เห็ดมันจะรีบกลับรึไงกัน

“ว่าจะขออยู่ต่ออีกคืนค่อยกลับอ่ะครับ ผมขับรถกลับเองด้วย เมื่อไหร่ก็ได้ แม่กับพ่อให้ผมอยู่ด้วยได้มั้ยอ่ะครับ” มีชะม้อยชายตาใส่พ่อแม่ผมอีก โคตรตอแหลเลยมึงงงงง

“โอ๊ย มันต้องได้สิลูก จะอยู่จนเปิดเทอมยังได้ ถ้าไม่ติดว่าพ่อแม่เราจะคิดถึงลูกชายคนเดียวน่ะนะ ฮ่าๆ” พ่อผมหัวเราะร่วนเลย ดูจะถูกใจไอ้เห็ดกันจริงๆ ผมนี่เป็นหมาแล้ว เฮ้อ~

******

และแล้วเช้าตรู่นกกาออกหากิน ผมกับไอ้เห็ดตื่นแต่เช้ามืด เตรียมตัวไปรับป๊าม๊าที่สนามบิน พ่อกับแม่ผมก็ตื่นเช้าอยู่แล้ว แม่กับน้าใยช่วยกันเตรียมอาหารเช้าไว้รอรับป๊าม๊ากันท่าทางสนุกสนานเชียวล่ะ นานๆ จะมีแขกมานี่นะ ส่วนพ่อก็ออกไปจัดสวนรอเลย

กว่าจะพากันมาที่บ้านผม ก็สายๆ แล้ว ป๊าม๊าซื้อของฝากจากกรุงเทพมาให้พ่อแม่ผมด้วย พวกท่านคุยกันถูกคอทีเดียว แม้ว่าอายุจะค่อนข้างห่างกันไม่น้อย ป๊าม๊าต้องเรียกพ่อแม่ผมว่าพี่เลยล่ะ กินข้าวกินปลากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อกับแม่ผมก็ให้เอาปิ่นโตที่จัดอาหารไว้อย่างแน่นให้ติดรถไปกินกันด้วย ป๊าม๊ายังวัยรุ่นๆ กันอยู่ อายุแค่ 40 ต้นๆ เอง ก็เลยกะมาเที่ยวกันแบบจัดเต็มมาก

ที่แรกก็ตามที่พ่อผมบอก คือ วัดใหญ่ สักการะพระพุทธชินราชแล้วก็ต่อที่วัดตรงข้ามกันคือ วัดนางพญา เพราะป๊าม๊ายังไม่ได้อายุเยอะมากด้วยแหละ ผมเลยคิดว่าคงไม่ได้อยากเข้าวัดเยอะ ก็จบแค่สองที่นี้แล้วรีบไปต่อกันที่ศาลหลักเมือง แวะทานอาหารที่ร้านริมน้ำระหว่างทาง แล้วก็เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุมถึง 3 จังหวัดด้วยกัน คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อกางเต้นท์นอนดูดาวในหน้าหนาว อากาศก็เย็นใช้ได้เลย ราว 4-5 องศาเอง

“เสียดายนะ กว่าจะมาถึงนี่ก็คงได้แค่ดูวิวแล้วก็นอนดูดาว ไปไหนไม่ทันละ” ม๊าแอบบ่นด้วยความเสียดาย เพราะป๊าไอ้เห็ดหยุดงานมาได้แค่วันเดียว ดูเหมือนปลายปีจะยุ่งมากจริงๆ

“ไว้คราวหน้านะคุณ รอเคลียร์จ๊อบนี้แล้ว ผมจะพามาเที่ยวอีก” ป๊ากับม๊าคุยกันกระหนุงกระหนิงซะแล้ว ผมกับไอ้เห็ดเลยขอปลีกตัวออกมา เดินเล่นบนเขา ถ่ายรูปวิวสวยๆ ตอนเย็น

เห็ดมันมีกล้อง DSLR ยี่ห้อ Cannon แต่ผมไม่รู้รุ่นหรอก เห็นแต่ชื่อยี่ห้อ ไม่เคยลองจับสักที เพราะมันมักจะเอาไว้ถ่ายรูปเก็บตัวอย่างงานของมันกับอะไรก็ตามที่มันสนใจเอาไว้เป็นแบบ ไม่ค่อยเอาออกมาใช้ถ่ายอย่างอื่น แต่ครั้งนี้มันพกมาเพื่อถ่ายรูปตอนพวกเรามาเที่ยวโดยเฉพาะ กลางวันเห็นมันเดินไปถ่ายไป ไม่รู้มีรูปอะไรแล้วมั่ง ส่วนตอนนี้มันก็กำลังพยายามจะถ่ายผมที่เดินสลับวิ่งไปมา หนาวจนควันออกปากเลยนะเนี่ย แต่ผมชอบอากาศเย็นๆ สบายๆ ดี

“พี่อยู่นิ่งๆ ก่อน” มันยู่ปาก แถมขมวดคิ้วอย่างขัดใจ ผมหัวเราะแล้วก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ ให้มันถ่าย แกล้งมัน สนุกดี “ออกมาหน้าเบี้ยวโทษผมไม่ได้นะ”

“ฮ่าๆๆๆ” ช่างมัน ไม่ได้อยากมีรูปสวยๆ เก็บไว้นี่ แค่รูปธรรมชาติรอบตัวก็พอแล้ว จะถ่ายคนไปทำไมนักหนา “มานี่ๆ ตรงนี้จะยอมให้ถ่าย” ผมกวักมือเรียกมันมาตรงจุดชมวิวตรงลานหินแตก จะได้เห็นพระอาทิตย์ตกสวยๆ ด้วย

“ผมอยากถ่ายคู่กับพี่” มันเปิดกระเป๋าหยิบขาตั้งกล้องออกมา “รอแป้ป” แล้วก็จัดการทำอะไรของมันยุกยิกๆ สักพัก ก่อนจะรีบวิ่งมาหาผมที่เก๊กรออยู่ และ...

จุ๊บ! แช๊ะ!

เสียงชัตเตอร์ดังขึ้น พร้อมกับปากเย็นๆ ของมันที่แตะลงข้างแก้มของผมแบบไม่ทันตั้งตัว เดี๋ยวนะ!

“ไอ้เหี้ยเห็ด!” มันขโมยจูบแก้มผม!!! “ลบเลยนะ รูปเมื่อกี้!”

“ไม่!” มันวิ่งกลับไปคว้ากล้องมาดูรูป ยิ้มหน้าบานอย่างพออกพอใจ แต่เมื่อกี้หน้าผมแม่งต้องโครตเหวอแน่ๆ

“เอามานี่! ลบเลย ไม่งั้นกูโกรธนะ!” ผมขู่เสียงแข็ง ก็มันเล่นทีเผลอ ไม่อยากได้รูปหน้าเหวอว้อยยย

“เมื่อกี้ถ่ายได้ตอนพระทิตย์ตกอย่างสวยเลยพี่ ไว้ผมจะส่งรูปไปให้นะ” มันยิ้มหวานตาหยีอีกแล้ว อย่ามาทำหน้าตาน่ารักใส่กู!

“ไม่เอา เห็ด!” ผมเริ่มกระเง้ากระงอดกับมันบ้าง สงสัยจะติดนิสัยแม่งมาละ “หน้ากูต้องเหวอแน่ๆ ไม่เอารูปนั้นอ่ะ”

“ไม่เหวอน่า พี่น่ารักกำลังดีเลย มาให้ผมจุ๊บอีกทีมะ” มันยื่นมือมาจะกอด เรื่องอะไรจะยอมวะ! ผมก็เบี่ยงตัวหลบสิ ที่นี่กว้างขวาง หนีสะดวกดี

“ไม่ต้องมายุ่ง! กูโกรธแล้ว!” วิ่งหนีแม่งเลย มันมัวแต่เก็บข้าวของอยู่ วิ่งตามมาไม่ทันหรอก สมน้ำหน้าว่ะ

“พี่เมษอ่ะ! รอน้องด้วยสิ! พี่เมษษษษ”

หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.12 update 3/3/18 8:17 pm
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 04-03-2018 09:37:13
 :impress2:
ใครเอ่ย เกี่ยวข้องกับตัวเล็กอย่างไง  :hao4:
นางยังไม่มีบทบาทมากในตอนนี้ อิๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.12 update 3/3/18 8:17 pm
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 04-03-2018 09:43:09
หูย....น้องเห็ดรุกแรงจุง รู้ใจตัวเองแล้วเหรอว่าชอบพี่เค้าอ่ะ   :hao3:
ขอบอกแค่ นิสัยส่วนใหญ่ของเห็ดก็คือตัวเรานี่แหละ อาจจะเข้าใจยากหน่อย อิๆ
แต่เดี๋ยวจะค่อยๆ บอกเรื่อยๆ น้า
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.13 update 4/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-03-2018 03:50:22
พ่อแม่ตัวเล็กเปิดทางให้แล้ว ตัวใหญ่เดินหน้าเต็มที่เลย ผู้ใหญ่หนับหนุน ๆ  :m12:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.13 update 4/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: A_bookworm ที่ 05-03-2018 11:38:39
ดีต่อใจ รอตอนต่อไปจร้าาาา :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.13 update 4/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 06-03-2018 10:49:50
ใกล้จะดราม่าละ
แฟนเก่าพี่เมษกำลังจะกลับมา

14
อิๆ น้องได้รูปคู่กับพี่เมษมาหนึ่งรูปแล้ว หลังกลับจากพิษณุโลก บ้านพี่มัน น้องก็เอารูปมานั่งเช็คดูในคอม ที่ถ่ายมาก็เป็นรูปป๊าม๊ากับสถานที่ต่างๆ ที่ไปมา แล้วก็พ่อกับแม่ของพี่เมษ นอกนั้นก็รูปพี่มันทั้งหมด ไม่ว่าจะตอนนอน ตอนตื่น แต่อย่าบอกมันนะว่าน้องแอบถ่ายมันตอนหลับ ขนาดรูปคู่ที่แอบจุ๊บแก้มมัน มันยังโวยวายให้ลบแทบตาย

อืม...จะว่าไปก็ชักอยากสมัครเฟซบุ๊คเอาไว้ลงรูปที่ไปเที่ยวกับพี่มันมั่งแล้วอ่ะ ว่าแล้วน้องเห็ดก็เซิสหาคำว่า Facebook ในอากู๋ก่อน ดูน่าจะสมัครไม่ยาก เพราะน้องมีอีเมลอยู่แล้ว รู้งี้ทำไว้ตั้งนานละ ชื่อก็ ชื่อจริง นามสกุลจริงเนี่ยแหละ ไม่รู้ปกติเขาต้องใช้ชื่ออะไรยังไงกัน

พอสมัครเสร็จ ก็ส่งไลน์หาพี่เมษก่อนเลย

Huge MUSHROOM: ผมสมัครเฟซบุ๊คแล้วนะ แอดเพื่อนยังไง

สักพักพี่มันก็ตอบกลับมาว่า

PhuuMetz: มึงเนี่ยนะ? คิดไงวะ
Huge MUSHROOM: เออน่า ผมอยากสมัครไว้ลงรูปไง IG ด้วย ไว้พี่ทำให้ผมทีดิ
PhuuMetz: ไม่ให้ไอ้พิชญ์ทำให้ล่ะ

เออว่ะ ไว้เอามือถือไปให้ไอ้พิชญ์สมัคร IG ให้ด้วยแล้วกัน

Huge MUSHROOM: งั้นพี่แค่แอดในเฟซบุ๊คมาที แล้วไว้ค่อยสอนผมเล่น

พี่มันอ่านแล้ว แต่ไม่ตอบ สักพักก็มีเสียงเฟซบุ๊คแจ้งเตือนเข้ามา มันแอดน้องมาเป็นที่เรียบร้อย น้องก็แค่กดรับไป แต่หลังจากเป็นเพื่อนในเฟซกับพี่มันไม่ถึงนาที ไอ้เหี้ยยยย คนแอดมาอย่างไว ใครมั่งก็ไม่รู้ ฉิบหายล่ะกู!

Huge MUSHROOM: พี่ๆๆๆ คนแอดมาเต็มเลย ทำไงดี
PhuuMetz: คนไหนไม่รู้จักก็บล็อกไปซะ

โอเค ตามนั้นพี่!

ดีนะที่พวกไอ้พิชญ์มันลงรูปโปรไฟล์จริงกับชื่อที่พอรู้ว่าใครบ้าง ก็เลยกดรับไว้ นอกนั้นไม่รู้จักก็ทำตามที่พี่เมษบอกไปเรียบร้อย

ติ้ง

PiTz: มึงมีเฟซบุ๊คตั้งเมื่อไหร่วะ ใช่มึงใช่ป่ะ กูเห็นในเฟซพี่เมษมันเด้งมา

รายแรกมาทันที กะอีแค่กูมีเฟซบุ๊คเนี่ยนะ ตื่นเต้นกันจังวุ้ย น้องนี่ถอนหายใจเลย พิมพ์ๆ ตอบมันไป ดีส่งมาในไลน์กลุ่ม จะได้คุยทีเดียวไปเลย ตอบเสร็จพวกแม่งก็แซวกันยกใหญ่ อะไรนักหนา ก็แค่คนอยากใช้เฟซบุ๊ค! ลำไยจริงว่ะ

คุยเสร็จก็เลือกรูปลงเฟซดีกว่า รูปคู่พี่เมษน้องขอตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ละกัน น่ารักดี

จิตริน คงทรัพย์วิเศษ ได้อัพเดตรูปโปรไฟล์ของเขา
เมื่อสักครู่นี้ (สาธารณะ)

ตริ๊งงงงงงง

โอ้โห! แค่กูเปลี่ยนรูปโปรไฟล์แป้ปเดียว แจ้งเตือนรัวมาก เหมือนจะมากดไลค์รูปโปรไฟล์กัน แต่บางอันก็ขึ้นเป็นหน้าเหลืองๆ ปากหวอ มันเรียกอะไรก็ไม่รู้แฮะ แถมมีคนที่ไม่ได้แอดเพื่อนไว้กดให้ได้ด้วยอ่ะ แปลกดี

โอ๊ะ มีคอมเม้นท์แล้วด้วย ไหนดูดิ? น้องไล่สายตาเตรียมจะอ่าน แต่อนิจจา เสียงไลน์แม่งดังซะก่อน จะไม่หยิบมาดูก็ไม่ได้วุ้ย แต่พออ่านข้อความแล้ว กูรู้สึกคิดผิดเลยที่เปิดไลน์ก่อน

PhuuMetz: ไอ้เหี้ยเห็ด! เปลี่ยนรูปเดี๋ยวนี้!!!

******

สุดท้าย น้องก็ต้องยอมใช้รูปโปรไฟล์เป็นหน้าน้องคนเดียวไป เซ็งอ่ะ พี่เมษแม่งขู่ ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนจะบล็อก ก็เลยต้องยอม แต่มันอนุญาตให้ใช้ในไลน์ได้ ก็ยังโอเควะ

“ปีใหม่พี่ไปเที่ยวไหน” วันนี้วันที่ 30 ธันวาแล้วครับ ปิดเทอมมาตั้งแต่วันที่ 20 ของคณะน้องอ่ะนะ ไปอยู่บ้านพี่มันถึงวันที่ 26 ก็กลับมากรุงเทพฯ ทำนู่นนี่นั่นไปพักหนึ่งก็จะปีใหม่ละ

[ไม่ไป อยู่บ้าน] ไอ้พี่เมษแม่งวางมือถือไว้บนโต๊ะ แล้วก็นอนหันปลายตีนมาทางน้อง...เหี้ยมากจริงๆ ครับ ถ้าจะวิดีโอคอลกันแล้วทำแบบนี้ มึงส่งรูปตีนมึงมาให้กูดูเลยดีกว่า [มึงอ่ะ?]

“ป๊าม๊าจะพาไปไหว้พระ กลางคืนก็มีปาร์ตี้เล็กๆ ในบ้าน ไอ้พิชญ์ก็มา กับพวกเพื่อนๆ สมัยม.ปลายผมน่ะ มาเคาท์ดาวน์ด้วยกัน”

[เหรอ ท่าทางน่าสนุกดีนะ]

“ก็เหมือนๆ ทุกปีแหละพี่ แต่ปีนี้...” น้องกลั้นหายใจแป้ป ตื่นเต้น “อยากเคาท์ดาวน์พร้อมพี่จัง”

[นี่จีบอยู่?] แม่งกระดิกตีนใส่หน้าน้องอีก ทำไมเป็นคนจัญไรเยี่ยงนี้ครับพี่

“แล้วติดป่ะล่ะ?” ยักคิ้วกวนตีนมันบ้าง ไหนก็ส่งมาซะขนาดนั้นแล้ว

[ไม่อ่ะ กูคงหลับก่อนถึงเที่ยงคืน ซอรี่นะเห็ดน้อย] มันพลิกตัวนอนคว่ำ เห็นก้นโด่งๆ ขึ้นมาบังจอเลย

“พี่แม่งใจร้ายกับน้องตลอด” งอนแล้วนะมึง ไอ้พี่เมษ!

[ก็บอกแล้วไงว่ากูน่ะใจร้ายแบบนี้แหละ]

“พี่อ่ะ อยู่เคาท์ดาวน์เป็นเพื่อนผมนะ แล้วเปิดเทอมไป พี่อยากได้อะไร อยากให้ผมทำอะไร ผมยอมทุกอย่างเลย” ลองอ้อนดูหน่อยครับ เผื่อมันใจอ่อน ใช้มุกนี้แล้วได้ผลบ่อย

[...] มันเงียบไปแป้ปนึง [แน่ใจ?]

“อื้อ สัญญาเลยเอ้า” ชูสามนิ้วเหมือนเดิมครับ ไม่รู้เป็นไรกะท่านี้นักหนา

[โอเค ดีล]

******

แล้วคืนสิ้นปีก็ได้อยู่รอเคาท์ดาวน์พร้อมพี่เมษจริงๆ ครับ แม้จะวางสายหลังพ้นเที่ยงคืนและ HAPPY NEW YEAR กันไปไม่ถึงสามวิก็ตามที...

จนกระทั่งเปิดเทอม ได้เวลากลับมาที่หอแห่งรักของเรา!!!

“พี่เมษ!!!” น้องโผเข้าหาพี่มันทันทีที่เจอหน้ากันหน้าหอ ป๊าม๊าเพิ่งขับรถกลับไปหยกๆ นี่เอง

“ไอ้เห็ด! ปล่อย! อายเค้า” พี่มันดุเบาๆ แอบหูแดงนิดๆ สงสัยจะเขินแหละ อิๆ

“คิดถึงงงงง ไม่เจอหลายอาทิตย์!” น้องขอกอดให้ชื่นใจก่อน ยังไม่อยากปล่อย พี่มันก็ตีที่แขนน้องใหญ่เลย

“ไงวะ ได้ข่าวว่าไปฮันนีมูนที่ภูหินร่องกล้ามาเหรอไอ้เมษ ไอ้เห็ด” มาละ คนแรก พี่จอนคนจริง แล้วเดี๋ยวต้องตามด้วยพี่นัด

“ทำไมเปลี่ยนรูปล่ะวะ รูปนั้นออกจะสวย พระอาทิตย์ตกเป็นแสงสีทองเชียวนะมึง” นั่นไง เห็นมั้ย แม่งเดินตามตูดกันมาจริงๆ

“ก็พี่เม...!” อื้อออออ พี่เมษมันเอามือมาปิดปากน้องอ่ะ เหมือนโดนคนเมายาบ้าจับเป็นตัวประกันเลย

“อ๋อ กูรู้ละ ไอ้เมษสั่งให้เปลี่ยนสินะ” พี่จอนนี่ฉลาดจิมๆ ฮะ

“เกี่ยวไรกะกู อย่ามามั่ว” คนเราน้า กลบเกลื่อนทั้งที่หน้าแดงก่ำ เขาก็รู้กันหมดแล้วพี่ บู่ววว

“เขารู้กันทั้งมอแล้วมั้ยล่ะมึง ไม่ต้องแอ๊บนะ กูเข้าใจ” พี่นัดตบบ่าพี่เมษแปะๆ “พวกกูอ่ะรับได้ ไม่ว่ามึงจะเป็นอะไร นะเมษนะ”

“สัส! ไม่ต้องทำมาพูดดีเลยเชี่ยนัด กูเห็นมึงไปม่อสาวในผับอีกแล้ว ไอ้อ๋องไลฟ์สดให้ดู...”

แล้วพวกพี่มันก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้ครับ น้องไม่เข้าใจ ก็เลยหลบออกมาเนียนๆ ขนของไปเก็บดีกว่าเนาะ

******

เทอมใหม่กับบทเรียนใหม่ๆ และงาน...โฮฮฮฮฮ น้องเห็ดอยากตายยยยย ไอ้เชี่ยแม่งเปิดเรียนวันแรกปุ๊บ อาจารย์สั่งงานแบบลืมโลก เหมือนชีวิตนี้อยู่สั่งได้แค่วันเดียว นี่น้องอยู่แค่ปี 2 เองนะครับจารย์ แล้วปี 3 ปี 4 จะเจอโหดขนาดไหนวะเนี่ยกูวววว แบบนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปเต๊าะพี่เมษล่ะเนี่ย ปัดถ่อว

“เห็ด ได้ข่าวมึงเดินหน้าจีบพี่เมษเต็มกำลังเลยเหรอวะ” พักกลางวันละครับ พวกไอ้แฝดเต้โต้โผล่มาเกาะไหล่น้องคนละข้างทันทีเหมือนผีกุมารทอง

“ถึงขนาดไปส่งที่พิษณุโลก พาพ่อแม่ไปรู้จักกัน แล้วยังไปนอนดูดาว...” นี่เสียงไอ้พิชญ์ รู้ดีทุกเรื่องอ่ะมัน ก็ใครบอกให้กูทำวะ

“กูไม่อยากเชื่ออ่ะว่ามึงจะจีบใครเป็น แล้วนี่ผู้ชายเลยนะเว้ย” อันนี้คงยังไม่เคยแนะนำ ไอ้อ้น เพื่อนร่วมชะตากรรมในคณะ มันเคยเจอพี่เมษตอนที่มาช่วยทำงานเทอมก่อนแล้ว แต่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะโหมดเข้างานของมันจะจริงจังมาก มันเป็นเหมือนเพื่อนคู่แข่งของไอ้พิชญ์เลย เพราะคะแนนสูสีกันตลอด

“ก็พี่มันน่ารักดี จริงๆ ก็รู้สึกมานานแล้วล่ะ แต่กูไม่อยากไปคิดอะไรแปลกๆ ไง” ตามนั้นครับ น้องพอจะรู้สึกตัวอยู่บ้าง แม้จะความรู้สึกช้าเฉื่อยชาแค่ไหน แต่เวลาพี่มันงอน มันโกรธด้วยเรื่องไร้สาระ ก็พอรู้อ่ะ แต่อีกใจมันไม่อยากคิดมากไง กลัวว่าจะคิดไปเอง พอพวกไอ้พิชญ์ช่วยชง มันเลยอยากลองดู แล้วก็พบว่า พี่เมษแม่งคิดแบบนั้นจริงๆ ด้วย ถึงมันจะยังไม่ยอมพูดออกมาก็เถอะ สีหน้าและท่าทางมันบอกชัดเจนมากพอแล้ว

“มึงแน่ใจว่ารู้สึก? แม่งโครตตายด้านอ่ะไอ้เห็ด พวกกูนี่สงสัยตั้งแต่แรกๆ ละ ที่พี่มันงอนมึงหนีไปนอนห้องคนอื่นคราวนั้นอ่ะ” ไอ้พิชญ์ว่า เพราะรอบนั้นเหมือนพี่เมษจะดอดไปขอนอนห้องมันด้วย เนื่องจากเป็นห้องเดียวกับพี่จอน เพื่อนพี่เมษมัน

“กูไม่ได้ตายด้านนะพิชญ์ เวลาอยู่กับพี่เมษก็...นิดหน่อย” ถ้าไม่ได้รักไม่ได้ชอบ ก็คงไม่มีทางเกิดความรู้สึกต้องการกับผู้ชายด้วยกันหรอก แม้ว่าร่างกายของหนุ่มวัยกลัดมันอย่างพวกน้อง บางคนแค่โดนสัมผัสนิดหน่อยก็ขึ้นแล้ว แต่การที่แค่อยู่ใกล้ๆ เห็นหน้าหรือได้กลิ่นตัวหอมๆ แล้วจะเกิดอารมณ์เนี่ย ไม่ได้เกิดกับทุกคนนะครับ

“โอ้โห ลูกกูโตเป็นหนุ่มแล้วเว้ยพวกมึงงงง ต้องฉลองมั้ยวะ” ไอ้พิชญ์เข้ามากอดคอยกใหญ่ อะไรนักหนาไอ้พวกนี้ ลำไยว่ะ

“งั้นเย็นนี้จัดหน่อยมั้ย น้องเห็ดผู้น่ารักของเราจะก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้วทั้งที” ไอ้เต้ก็เฮโลไปด้วย

“พิชญ์ ไหนมึงบอกว่าไม่ให้กูเที่ยวไง ห้ามกูทุกรูปแบบตั้งแต่ม.ปลายละ” น้องเหล่มองไอ้พิชญ์ที่กอดคออยู่ข้างๆ คือ คณะน้องอ่ะ พวกพี่ๆ เพื่อนๆ ชอบพากันไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ ไม่ก็ตั้งวงแดกเหล้ากันแต่หัววันตลอดแหละ แต่พิชญ์มันไม่ให้น้องไปเที่ยวหรือดื่มของมึนเมา มันบอกว่าเดี๋ยวป๊าว่าเอา แล้วทีงี้ ไหงกลับคำซะงั้น

“งั้นให้ผมแจมด้วยดิพี่ๆ” ไอ้กันต์ยกมือยกไม้สมทบมาอีก พร้อมกับรุ่นน้องปี 1 อีกส่วนหนึ่ง กลายเป็นการสังสรรค์ต้อนรับเปิดเทอมไปเลยแล้วกัน

******

Huge MUSHROOM: เย็นนี้ไปกับเพื่อนที่คณะ กลับดึกนะครับ

น้องส่งไลน์ไปบอกพี่เมษตอนช่วงบ่ายวันนั้น หลังจากเพื่อนๆ กับน้องๆ ตกลงกันเรียบร้อยว่าจะไปไหน แถมยังไปชวนพวกรุ่นพี่มากันอีกโขยงหนึ่ง งานนี้อาจจะลากยาว เผลอๆ ต้องไปนอนหอเพื่อนที่อยู่หอนอก ถ้ากลับไม่ทันหอปิด

PhuuMetz: ไปไหน
Huge MUSHROOM: ไปร้าน xx แถวๆ หอไอ้เต้โต้ครับ
PhuuMetz: จะกลับก็โทรมา จะออกไปรับ ห้ามเกิน 4 ทุ่มครึ่ง

โหยยย โหดว่ะ นี่ขนาดยังไม่ได้มันเป็นเมียนะ จริงๆ ก็โหดมาตั้งแต่รู้จักกันแล้วล่ะนะ น้องไม่อยากเป็นพ่อบ้านใจกล้านะเฮ้ย

Huge MUSHROOM: ค้างหอนอกไม่ได้?
PhuuMetz: ถ้าไม่กลับ ก็ไม่ต้องมาพูดกัน

อุ้ย...ดุจัง คนอะไรวะ นี่นึกน้ำเสียงกับสีหน้ามันออกเลยอ่ะ แม่งโครตข่มน้องเลย น้องจะทำไงให้ข่มมันได้มั่งเนี่ย นอกจากทำให้มันเขินแล้ว ไม่มีอะไรที่เหนือกว่ามันสักอย่าง เฮ้อ~

สรุป น้องก็ต้องทำตามที่พี่เมษสั่งอยู่ดี ก็เคยลั่นวาจาไปแล้วตอนปีใหม่ด้วย ว่าถ้ามันยอมอยู่เคาท์ดาวน์ด้วย จะเชื่อฟังมันทุกอย่างอ่ะนะ

พอตกเย็น พิชญ์มันก็พาน้องไปที่ร้านที่นัดกันไว้ วันนี้มันเองก็ยังยอมไม่ไปเดทกับแฟนเพื่อมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในคณะ เรื่องกิจกรรมพวกเราไม่มุ่ง แต่เรื่องอื่นได้หมด ฮ่าๆ

“ไอ้เห็ด มึงไม่ต้องดื่มนะ ใครชงส่งมาให้ ห้ามรับ ยกเว้นที่กูเอาให้ เข้าใจมั้ย” มาถึงร้าน ไอ้พิชญ์ก็ทำตัวเป็นพ่อที่ดีทันที น้องพยักหน้ารับหงึกๆ คราวก่อนพวกพี่เมษเคยพามาแบบนี้ น้องก็ไม่ดื่มเลยสักหยด กินโค้กวนไป

“โห พี่พิชญ์ ไม่ให้พี่เห็ดมันได้เปิดโลกกว้างมั่งอ่ะ” ไอ้กันต์แม่งถือสองแก้ว เตรียมเมาเต็มที่สิมึง

“มึงดูตัวมันนะ ถ้ามันเมา กูจะเอาอยู่มั้ย? แล้วพี่เมษจะต้องมาพามันกลับ มึงดูตัวพี่มันนะ จะแบกไอ้เห็ดไหวมั้ย” ก็จริงของเพื่อนพิชญ์ครับ

“เออว่ะ งั้นพี่เห็ด มึงไม่ต้องแดกหรอก เดี๋ยวกูแดกเองหมดนี่เลย ฮ่าๆ” ไอ้กันต์หัวเราะร่วน กระดกแก้วซ้ายทีขวาทีอย่างเมามัน เพิ่งมาถึงเองนะเว้ยเฮ้ย

“เบาหน่อยมึงอ่ะ คืนนี้ไอ้เต้โต้รับฝากมึงนี่ สองคนช่วยกันแบกคงพอไหว แต่ก็อย่าเป็นภาระพวกมันมากนักล่ะ” โครตพ่ออ่ะครับพิชญ์

“พี่พิชญ์แม่งขี้บ่น กูหนีไปทางนู้นดีกว่าว่ะ ฮ่าๆๆ” ว่าแล้วไอ้น้องกันต์ก็เดินจากไป ไอ้พิชญ์ถอนหายใจส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ หันมากำชับเรื่องของมึนเมากับน้องอีกรอบแล้วก็ไปสนุกสนานตามประสามัน

น้องก็นั่งกดมือถือเพลินๆ พลางดื่มโค้กในแก้วเรื่อยๆ แค่มานั่งดูทุกคนสนุกกันก็โอเคแล้วครับ ฟังเพลงบ้าง ดูคนเต้นกันบ้าง บางคนพอเมาก็ทำท่าทางตลกๆ ดี

“สวัสดีค่ะ น้องเห็ดรึเปล่าเอ่ย” หือ? ใครมาทักน้อง เงยหน้าขึ้นมองเห็นผู้หญิงสวมชุดเกาะอกสีดำ ปล่อยผมยาวที่ย้อมสีแดงตัดความมืดของผับสยายถึงกลางหลัง หน้าไม่คุ้นแม้แต่น้อย

“เอ่อ เรารู้จักกันเหรอครับ?” น้องไม่ได้กวนตีนน้า

“แหม ไม่รู้จักหรอกค่ะ แต่ราน่ารู้จักเห็ดนะ ในเพจมหาลัยลงรูปออกบ่อย” นี่คือวิธีเนียนบอกชื่อตัวเองใช่มั้ยครับ

“อ๋อครับ” น้องยิ้มนิดๆ อย่างเกรงใจคนแปลกหน้า เธอนั่งฟึ่บลงข้างตัวน้อง จนน้องตกใจต้องเขยิบให้แบบงงๆ เธอยิ้มมา น้องก็ต้องยิ้มไป งงเด้ครับ อะไรของหล่อนวะ

“ตัวจริงดูดีกว่าในรูปอีกนะคะ”

“ขะ ขอบคุณครับ” น้องเขยิบหนีอีกนิด เพราะเจ้าหล่อนเบียดเข้ามาแถมยังเอามือมาลูบๆ คลำๆ ที่แขน จะลามไปที่อก คือ...เร็วไปมั้ยวะ น้องอาจจะดูใสๆ ซื่อๆ แต่ก็รู้ตัวนะว่าเจ๊ราน่าอะไรนี่จะทำอะไร น้องเฟรนลี่ แต่กับคนแปลกหน้าที่มีจุดประสงค์ชัดเจนขนาดนี้ น้องไม่คบครับ กลัวววว

“เห็ดไม่ดื่มเหรอคะ ลองหน่อยมั้ย ของราน่าก็ได้ เป็นค็อกเทลอ่อนๆ เอง” เจ้าหล่อนยังเบียดมาไม่เลิก คือกูจะตกจากโซฟาอยู่แล้วครับ น้องพยายามเอาแขนดันเธอกลับ กลายเป็นว่าศอกไปโดนนมซะงั้น...แถมยัยเจ๊ยังหัวเราะคิกคักถูกใจอีก เมาเปล่าวะเนี่ย

“ไม่ครับ ขอบคุณ เชิญตามสบายเลยฮะ” พอบอกไปแบบนั้น ยัยเจ๊ก็ยิ่งกระเถิบเข้าหา จนแทบจะนั่งบนตักน้อง เอาหน้าอกมาชนแขน แก้วค็อกเทลจ่อปาก คือกูปฏิเสธแล้วมั้ยวะ! “คือ...อึก...” ฉิบหาย แม่งจับกรอกปาก

ฟึ่บ!

“ว้าย!” จู่ๆ ยัยเจ๊ก็โดนกระชากแขนไป น้องที่เริ่มมึนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์จากค็อกเทลแก้วนิดเดียวเงยหน้ามองตามยัยเจ๊ที่ตัวปลิวออกจากเบาะอย่างมึนงง

“ทำอะไร!?” เสียงคุ้นๆ ว่ะ เสียงนั้นเหมือนจะโวยวายใส่ยัยเจ๊คนเมื่อกี้

“นายนั่นแหละทำอะไรยะ! หกหมดแล้วเนี่ย!”

“แล้วเธอทำอะไรไอ้เห็ดล่ะ! ไปให้พ้นเลย ไม่งั้นมีเรื่องแน่!” หืมมมม เสียงคุ้นจริงๆ น้า จ้องดูดีๆ อีกที...

“พี่เมษ!” ตาสว่างเลยครับ มันมาได้ไงวะ

“นายเป็นใคร! กล้าดียังไงมาไล่ฉันยะ!” ยัยเจ๊ผมแดงยังไม่เลิกรา น้องหายมึนนิดหน่อย ลุกขึ้นเกาะแขนพี่เมษไว้ ดูพี่มันหัวเสียมากอ่ะ ไม่รู้น้องทำอะไรให้โกรธหรือเปล่า เลยอ้อนไว้ก่อน เอาหน้าไปถูไหล่มันด้วยเอ้า อย่าโกรธน้องน้าพี่เมษ

“มีอะไรกันพี่” ไอ้พิชญ์กับพวกเพื่อนๆ น้องเดินเข้ามาสมทบ เพราะเห็นวุ่นวายกันอยู่

“นี่เพื่อนพวกมึงรึเปล่า มันจะมอมเหล้าไอ้เห็ด!” พี่เมษหันไปมองพวกไอ้พิชญ์ตาขวาง พวกมันส่ายหน้า ยัยเจ๊ทำฮึดฮัดอย่างเสียหน้าแล้วก็ยอมเดินหนีไปเอง น้องยังเกาะแขนพี่เมษอยู่

“แล้วมันเป็นไรมากมั้ยอ่ะพี่” น้องมึนๆ นะ แต่พอรู้เรื่อง เห็นพิชญ์เดินเข้ามามองอย่างเป็นห่วง น้องก็ส่ายหน้าบอกมันว่าไม่เป็นไร

“มันคงแค่มึน เดี๋ยวกูพามันกลับก่อนนะ พวกมึงสนุกกันต่อเถอะ” พี่เมษว่าพลางคว้ามือน้องไปกุมไว้แล้วดึงให้เดินตาม น้องก็เซไปตามแรงกระชากของมัน ไม่รู้ชนใครมั่ง จนออกไปถึงหน้าร้าน ได้สูดอากาศเต็มปอดเสียที

“ฮ้า~ข้างในแม่งโครตเหม็นเลยพี่” น้องสูดหายใจเข้าแล้วพ่นออกมาซ้ำๆ พี่เมษยังจับมือน้องอยู่ แน่นมากด้วย ชอบจัง

“ไม่ชอบก็ไม่ต้องมาสิวะ” พี่มันว่าให้พลางพาน้องไปนั่งตรงบันได

“ก็เพื่อนๆ พี่ๆ อยากให้มา” น้องยู่ปากใส่มัน “น้องก็อยากมีส่วนร่วมน้า~”

“งั้นถ้ามาอีกคราวหน้า กูจะมาด้วย” มันทำตาดุจ้องหน้าน้อง “โอเค๊?”

น้องพยักหน้ารับหงึกๆ “โอเคคร้าบ”

หลังจากได้นั่งพักสูดอากาศบริสุทธิ์ (มั้ย?) สักพัก พี่เมษเห็นว่าน้องพอจะตั้งสติได้แล้ว ก็ชวนกันกลับหอ ยังดีที่โดนไปแค่แก้วเล็กๆ แต่ก็แรงพอใช้ได้อยู่

“อาบน้ำก่อนไป” พี่เมษยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ แล้วดันหลังน้องให้เดินไปทางห้องน้ำ

“อาบให้โหน่ยยย น้องมึนหัว” ลองอ้อนมันดูสักหน่อย จริงๆ ไม่ค่อยมึนแล้วล่ะ

พี่มันหรี่ตามองเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ น้องก็หัวเราะแหะๆ อย่างเดียว

“น้า~ สระผมให้ด้วยจิ” กอดเอวมันแล้วอ้อนอีกนิด เดี๋ยวมันต้องใจอ่อนชัวร์ เชื่อน้องดิ “น้าครับ~น้า พี่เมษ น้า~”

“นี่อ้อนถูกมั้ย?” มันชี้หน้าน้อง น้องก็พยักหน้ารับ ยิ้มหวานๆ ให้ด้วยทีนึง

“อ้อนได้มั้ยล่า” กอดแขนแล้วเอาหน้าไปถูไหล่มันด้วย อ้อนเหมือนแมวเลยกู...

พี่เมษมันนิ่งๆ ไปพักหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ แล้วมันก็พาน้องไปอาบน้ำจริงๆ สระผมให้ด้วย โครตสบายยยยย

“กูเลยต้องอาบน้ำใหม่อีก เพราะมึงเลยเนี่ยไอ้เห็ดน้อย!” มันบ่นๆ พลางเช็ดผมที่เปียกให้น้องซึ่งนั่งอยู่บนเตียงของมัน

“ขี้บ่นจางงงง” น้องยู่ปาก ส่งเสียงงุ้งงิ้งตามประสา พี่มันก็ขยี้ๆ ผมให้แรงขึ้นด้วยความหมั่นไส้

“ไม่ชอบคนขี้บ่นก็ไปหาคนอื่นสิ” แน่ะๆ มีงอนอีก

“ไม่เอาหรอก ไม่มีใครทนน้องได้เท่าพี่เมษคนดีของน้องอีกแล้ว” ไม่ได้ตอบเอาใจนะ พูดจริงจากใจ

“รู้ตัวด้วย?” มันชะโงกหน้าลงมามองน้องใกล้ๆ สายตาเราสบกันนิ่งนาน พี่เมษตัวห้อมหอมจนน้องอยากจะดมใกล้ๆ กว่านี้ ใกล้อีก ใกล้อีก...อีกนิด

“เดี๋ยว!” ให้ตายเหอะว่ะ อีกนิดเดียวปากจะชนปากมันแล้วอ่ะ แต่พี่แม่งเอามือมาดันหน้าน้องไว้ซะงั้น เหลือบมองผ่านช่องระหว่างนิ้วของมัน เห็นมันหูแดงแก้มแดง โครตน่ารัก เลยเผลอจุ๊บมือมันที่เอามาปิดหน้าน้องไว้ มือแม่งก็นุ่ม หอมด้วย พอทำแบบนั้น มันก็เลยรีบดึงมือออกอีก อะไรว้า พี่เมษแม่งไม่ใจเลย

“นอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย” มันรีบผละออกไป เตรียมจะนอนหันหลังให้

“ผมนอนด้วยนะ” น้องล้มตัวลงนอนตาม กะจะกอดมันจากข้างหลัง มันรีบหันมาผลัก

“ไปนอนเตียงตัวเองดิ มันแคบเห็นมั้ยเนี่ย”

“น่า ผมหนาวอยากกอด” ไม่รู้ละ จะนอนนี่ จะกอดด้วย น้องเขยิบตัวเบียดเข้าหามัน จนหน้าเราแทบประกบกัน ปลายจมูกน้องชนเข้าที่แก้มมัน หอมมมมชื่นจายยยย พี่เมษตัวแข็งทื่อเลย มือที่ผลักอกน้องก็ออกแรงดันนิดหน่อยเท่านั้น

“เร่งแอร์สิ จะได้ไม่หนาว” มันว่า แต่น้องส่ายหน้า หลับตาลงแล้วนอนกอดมันไว้อย่างนั้น ไม่นานแรงผลักที่อกก็หายไป มือของมันเลื่อนไปสอดเข้าใต้แขนของน้องแล้วก็กอดตอบกลับมา น้องอมยิ้มน้อยๆ คืนนี้ต้องฝันดีแน่นอน

******

หลังเปิดเทอมได้สามอาทิตย์ ก็ใกล้จะถึงงานเทศกาลดนตรีประจำมหาวิทยาลัยเรา พี่เมษซ้อมหนักมาตลอดเพื่องานนี้เลย น้องไปดูมันซ้อมตลอด มันจริงจังและตั้งใจกันมาก รู้สึกพี่เมษแม่งโครตเท่เวลาตีกลอง มันสอนน้องเล่นกีต้าร์เวลาว่างๆ ด้วยนะ แต่ยังเล่นไม่ค่อยได้หรอก น้องความจำสั้นอ่ะ

วันนี้พี่เมษส่งไลน์มาบอกว่ามีซ้อมรอบสุดท้ายก่อนขึ้นแสดงจริงมะรืนนี้ น้องก็เปิดอ่านและตอบกลับเรียบร้อยว่าจะไปดู คุยไลน์กันไปมาสักพัก ก็มีเสียงแจ้งเตือนเฟซบุ๊คเด้งมา คือ หลังสมัครไปคราวนั้น นอกจากลงรูปไปเที่ยวพิษณุโลก บ้านเกิดพี่เมษแล้ว น้องก็ลืมมันไปสนิทเลย

เป็นข้อความจากใครก็ไม่รู้ ชื่อไม่คุ้นเลยสักนิด รูปโปรไฟล์เป็นผู้หญิง แต่หน้าตาคุ้นๆ ว่ะ ขอคลิกเข้าไปดูหน่อยแล้วกัน

Kingkeaw Pachara
นี่เฟซน้องเห็ดใช่มั้ยคะ?
จำพี่กิ่งได้มั้ย
เพื่อนพี่เมษสมัยม.ปลาย
เราเจอกันตอนไปพิษณุโลก
รับแอดพี่หน่อยสิคะ

น้องนิ่งนึกอยู่นาน กว่าจะนึกออกว่าเธอคือพี่สาวคนที่เจอในร้านกาแฟ ตอนฝนตกหนักๆ คราวนั้นนั่นเอง น้องก็เลยกดรับแอดเธอแบบไม่ต้องคิดเลย ก็เพื่อนพี่เมษนี่นา

จิตริน คงทรัพย์วิเศษ
รับแอดแล้วค้าบ
พี่กิ่งรู้ได้ไงว่าเป็นเฟซน้องอ่ะครับ

Kingkeaw Pachara
รูปน่ะจ้ะ
ก็สงสัยว่าใช่ตัวจริงมั้ย
แต่ไปดูในเฟซจอมก็ว่าใช่

จิตริน คงทรัพย์วิเศษ
รู้จักพี่จอมด้วยเหรอครับ
น้องเพิ่งหัดเล่นเฟซ
ถ้าพี่กิ่งมีไรคุยในไลน์ได้นะครับ
ID: Huge MUSHROOM

Kingkeaw Pachara

โอเค ขอบคุณน้าน้องเห็ด
พี่แอดไปแล้ว

ไลน์!

เสียงแจ้งเตือนไลน์เด้งมาบ้าง มีข้อความจากพี่เมษด้วย แต่ไม่ได้คุยอะไรสำคัญแล้ว น้องเลยข้ามไปก่อน แล้วไปกดรับแอดของพี่กิ่ง

Pachara.K: ที่พี่แอดไป เพราะสนใจงานดนตรีวันมะรืนนี้น่ะ อยากให้น้องเห็ดช่วยเป็นไกด์ที่มอให้ที
Huge MUSHROOM: ได้เลยคร้าบ แล้วพี่กิ่งบอกพี่เมษยัง?
Pachara.K: ยังค่ะ แต่อย่าเพิ่งบอกเมษนะ ไว้เจอวันงานเลย
Huge MUSHROOM: OK ถ้าพี่กิ่งจะมาก็บอกอีกทีนะครับ
Pachara.K: จ้ะ ขอบใจนะ

แล้วบทสนทนาก็จบลงแค่นั้น สงสัยพี่กิ่งคงจะอยากมาเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ น้องก็เลยยังไม่บอกใคร และไม่ได้ติดใจสงสัยว่าทำไมพี่กิ่งเลือกติดต่อมาทางน้องด้วย ก็แหม ถ้าติดต่อพวกพี่จอม ก็ต้องรู้ตัวกันหมดน่ะสิ ดีๆ น้องชอบอะไรตื่นเต้นๆ และเซอร์ไพรส์ อยากให้ถึงวันมะรืนแล้วสิ พี่เมษต้องดีใจแน่ๆ ที่ได้เจอพี่กิ่ง เนอะ?
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.13 update 4/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 06-03-2018 10:51:05
 :impress2:
พ่อแม่ตัวเล็กเปิดทางให้แล้ว ตัวใหญ่เดินหน้าเต็มที่เลย ผู้ใหญ่หนับหนุน ๆ  :m12:

เห็ดจัดเต็มฮะ บอกเลย อิๆ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.13 update 4/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 06-03-2018 10:51:42
ดีต่อใจ รอตอนต่อไปจร้าาาา :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณที่ติดตามนะคับ มาต่อละ
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.14 update 6/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-03-2018 21:54:26
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.14 update 6/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-03-2018 02:44:16
ตัวใหญ่..... มีแววจะโดนตัวเล็กโกรธแน่ ๆ  o12
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.14 update 6/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 07-03-2018 08:38:33
เรื่องนี้ไม่เน้นดราม่า เอาแค่มีปมนิดหน่อยพอ เพราะตัวละครมีเหตุผลในตัวเอง ไม่นอยพร่ำเพรื่อเนาะ



15

และแล้วก็ถึงวันงานเทศกาลดนตรีของมอเรา น้องนัดพี่เมษไว้ตอน 5 โมงเย็น ก่อนมันจะเข้าไปแสตนด์บายหลังเวที วงแรกเริ่มเล่นตอน 5 โมงครึ่ง วงพี่มันเล่นประมาณ 1 ทุ่ม ชื่อแต่ละวงที่น้องไปอ่านมานี่แม่งประหลาดๆ ทั้งนั้นอ่ะ ส่วนวงพี่เมษน้องจำชื่อได้ละ วง “กิ้งกือผัดฉ่า” โครตอยากถามว่าใครแม่งคิด

 

“เดี๋ยวกูต้องเข้าไปเตรียมตัวแล้ว มึงจะไปเดินเล่นไหนก่อนมั้ย” ตอนนี้แม่งโครตได้โมเม้นท์ พอดียืนหลบอยู่ในเงาต้นไม้ไง พี่มันก็เอามือมาลูบๆ หัวน้อง คงอยากได้กำลังใจ น้องก็จับแก้มมันเอาปลายนิ้วโป้งถูเบาๆ แก้มมันนุ่มนิ่มน่าหอมจัง

 

“เดี๋ยวผมไปรับคนหน้ามอแล้วจะกลับมารอดูอยู่แถวนี้เลย กะจะยืนข้างๆ เวที ให้พวกไอ้พิชญ์จองไว้ให้ มองมาก็เจอแล้ว”

 

“ไปรับใครวะ มีเพื่อนมออื่นมาดูเหรอ”

 

“ครับ” น้องยิ้มรับ “สู้ๆ นะพี่ ผมจะยืนเชียร์เสียงดังๆ”

 

มันเปลี่ยนมาขยี้หัวน้องแทนด้วยความหมั่นเขี้ยว “ออกนอกหน้านอกตาไปแล้วมึง แค่ส่งยิ้มมาก็พอ”

 

“อือ จะส่งยิ้มส่งจูบให้ด้วย จุ๊บๆๆๆ” แกล้งก้มหน้าลงทำปากจู๋จะจุ๊บๆ หน้ามัน มันก็รีบเอนตัวหลบใหญ่เลย ฮ่าๆ

 

“ทะลึ่งละ กูเข้าละนะ เจอกันหน้าเวที” แล้วมันก็โบกมือบ๊ายบายก่อนจะวิ่งหายไปที่หลังเวที น้องก็เลยไปหาพวกไอ้พิชญ์ บอกให้พวกมันยืนจองที่ไว้ให้ แล้วออกไปรอพี่กิ่งหน้ามอ

 

พี่กิ่งมาถึงก่อนงานเริ่มพอดี เราทักทายกันแล้วน้องก็พาเธอซ้อนมอไซค์ของพี่เมษไปที่งาน ซึ่งอยู่ที่สนามบอลท้ายมอ ใกล้ๆ หอชาย เสียงเพลงเริ่มดังกระหึ่มแล้ว วงแรกคงขึ้นเล่นพอดี

 

“คนเยอะมาก ไม่คิดว่ามีคนที่อื่นมาเยอะ รถโครตติดเลยเนี่ย” เสียงพี่กิ่งดังมาจากด้านหลัง น้องก็หัวเราะ

 

“ฮ่าๆ ปีก่อนก็อย่างนี้ครับ พี่กิ่งไม่ได้มาเหรอ”

 

“อืม ปีก่อนไม่ได้มาหรอกจ้ะ” ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า น้ำเสียงพี่เขาดูเศร้าๆ แปลกๆ

 

“งั้นปีนี้ต้องเต็มที่นะครับ แล้วนี่มาคนเดียวเลย ขากลับให้ผมไปส่งเข้าเมืองมั้ย”

 

“รบกวนด้วยนะคะ” เธอตอบรับกลับมา เสียงฟังสดใสขึ้นเล็กน้อย น้องพาเธอมาจนถึงบริเวณงาน หาที่จอดรถไว้แล้วก็พากันเดินมาที่หน้าเวทีเยื้องไปข้างๆ ที่พวกไอ้พิชญ์ยืนรออยู่

 

“อ้าวๆๆๆ ไอ้เห็ด พาสาวที่ไหนมาวะ” มาถึงไอ้แฝดก็ทักก่อนเลย “เดี๋ยวพี่มึงก็หึงโหดหรอก”

 

“พี่เขาเป็นเพื่อนพี่เมษมัน พี่กิ่ง นี่เพื่อนๆ ผมเอง” แล้วน้องก็แนะนำให้ทุกคนรู้จักกันเรียบร้อย น้องยังไม่ได้บอกเธอเรื่องที่จีบพี่เมษอยู่นะ ไม่รู้ที่ไอ้เต้พูดเมื่อกี้เธอจะสงสัยอะไรรึเปล่า แต่ก็ไม่เห็นว่าอะไร

 

พวกเรายืนดูสองวงแรกแสดงสดกันอย่างสนุกสนาน พี่กิ่งค่อนข้างพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พอใกล้ๆ วงพี่เมษขึ้นแสดง พวกเพื่อนมันก็เริ่มทยอยมาดูกัน

 

“ไอ้เห็ดน้อย! เมียมึงเล่นยัง” โอ้โห พี่จอนคนจริง มาถึงก็ใช้คำนี้เลยครับ แหม ยังไม่ทันได้เสียกันสักหน่อย ตกลงเป็นแฟนรึก็เปล่า

 

“ยังพี่” น้องก็ตอบครับ แหะๆ รู้นี่ว่าถามถึงใคร จะไม่ตอบได้ไงล่า “ใกล้ละ”

 

พลันนึกได้ว่าน้องยืนบังพี่กิ่งอยู่ ก็เลยจะเบี่ยงตัวออก ให้พวกพี่มันเจอพี่เขา แต่พอพี่จอนมันเห็นพี่กิ่งหันไปเท่านั้นแหละ แม่งขมวดคิ้วเหมือนอึ้งและไม่พอใจไปพร้อมๆ กัน

 

“เธอมาทำไม” พี่จอนเสียงแข็งๆ ขึ้นมาทันที น้องกับเพื่อนๆ นี่หันขวับอย่าง งง

 

“จอน หวัดดี” ดูเหมือนพี่กิ่งจะรู้จักแค่เพื่อนในคณะเดียวกับพี่เมษ ไม่ได้ทักไอ้ตะวัน ส่วนพี่ปาล์มไม่แน่ใจ เพราะมันก็อยู่หลังเวทีกับพี่เมษ พี่นัด ด้วย

 

“มาคนเดียวเหรอ” พี่จอนยังเสียงแข็งอยู่ ตาก็แข็ง แต่ก็ยังคุยกับพี่กิ่ง

 

“อืม ให้น้องเห็ดเป็นไกด์พามา”

 

“มึงเป็นคนพามาเหรอ?” หวา มันหันมามองน้องตาขวางเลยอ่า อะไรกันวะ

 

“ครับ ก็...พี่เขาเป็นเพื่อนพี่เมษ?” น้องทำหน้าหมางงใส่ ไอ้พี่จอนถอนหายใจแรงมาก แล้วคว้าแขนน้องลากไปอีกทาง คนอื่นๆ มองตามมาด้วยความสงสัย

 

“พี่ๆ พี่จอน พี่เมษจะเล่นแล้วนะ จะไปไหน” น้องพยายามส่งเสียงบอกมัน คือเสียงพิธีกรบนเวทีมันก็ดังแข่งไง เสียงคนข้างล่างอีก

 

“มึงรู้จักกิ่งได้ไง” มันลากน้องมาไกลจากหน้าเวทีแล้วก็กอดอกจ้องหน้าน้องนิ่งๆ

 

“ก็ตอนไปพิษณุโลกอ่ะ” น้องตอบตามจริง “ทำไมเหรอพี่?”

 

“ไอ้เมษไม่ได้เล่า?” พี่จอนถอนหายใจอีกรอบ “คงไม่อยากพูดหรอกกูว่า แต่มึงควรต้องรู้นะ”

 

“รู้อะไรพี่?” น้องชักรู้สึกแปลกๆ ละ หน้าตาพี่จอนแม่งโครตซีเรียส

 

“กิ่งเป็นแฟนเก่าไอ้เมษ เลิกกันไปตอนปี 1”

 

คราวนี้เป็นน้องที่ต้องขมวดคิ้ว “ห๊ะ?”

 

“กิ่งมีคนอื่น แล้วที่จู่ๆ ก็กลับมาเนี่ย กูไม่รู้หรอกเพราะอะไร และมึงไม่ควรไปยุ่งเรื่องนี้ด้วย” พี่จอนมันพูดไว้แค่นี้ แล้วก็เดินหนีน้องเฉยเลย น้องจะเรียกมันมาถามให้ละเอียดกว่านี้ มันก็หายไปแล้ว เลยเดินกลับไปหาพวกไอ้พิชญ์แบบมึนๆ วงพี่เมษขึ้นเล่นแล้ว และพี่กิ่งก็ยืนดูอยู่ แววตาเธอจับจ้องแต่พี่เมษ ซึ่งที่ตรงนั้นมันควรจะเป็นน้องที่ยืนอยู่

 

“น้องเห็ดๆ ดูสิ ภู เอ๊ย เมษเท๊เท่เนอะ” เธอหันมาเห็นน้องก็เข้ามาคว้าแขนเขย่าๆ เรียกให้ดูพี่เมษที่ตีกลองอยู่บนเวที ก็เท่จริงๆ แหละ แต่ตอนนี้น้องเหมือนโหวงๆ ในใจพิกล มองหน้าเธอแทบไม่ติดแล้ว

 

น้องเหลือบมองขึ้นไปบนเวที เห็นพี่เมษจ้องมา พี่มันต้องเห็นพี่กิ่งแล้วล่ะ เพราะหลังจากนั้นมันก็เอาแต่ตีๆๆๆ ไม่หันมาทางนี้อีกเลย

 

เสียงกลองของพี่มันโครตดัง ราวกับระบายอารมณ์ มันรัวมากจนไอ้ต้า นักร้องนำต้องหันไปมอง พวกพี่นัดก็งงกันหมด ได้ยินเสียงพี่ปาล์ม หัวหน้าวงตะโกนบอกว่า “ไอ้เมษ เบาๆ” ด้วย แต่พี่มันก็โหมตี จนสุดท้ายเสียงไม้กลองหักดังสนั่น คนดูตกใจฮือฮากันยกใหญ่

 

“เป็นเหี้ยไรมึงเนี่ย!?” น้องรีบวิ่งไปหาพี่เมษที่หลังเวที ได้ยินเสียงพี่โอมแว่วมา พี่ปาล์มยืนกุมขมับหน้าเครียด งานนี้แม้ไม่ใช่งานใหญ่อะไร แต่ก็ไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวมาทำให้งานพัง น้องพอจะเข้าใจความรู้สึกพวกพี่โอม เลยได้แค่ยืนเฉยๆ ตรงนั้น ไม่กล้าเข้าไปแทรก

 

“ผมขอโทษพี่ มันหลุด” พี่เมษเงยหน้ายกมือไหว้พี่โอมอย่างสำนึกผิด สีหน้ามันยังไม่สู้ดีนัก น้องคิดว่ามันอยากร้องไห้ และน้องก็อยากเข้าไปหา เพื่อกอดมันไว้

 

“สงบสติก่อนแล้วกันมึง เพิ่งเล่นไปแค่สองเพลง ถ้าพร้อมแล้วค่อยบอกสต๊าฟ” พี่ปาล์มที่ใจเย็นที่สุดในวงเอ่ยขึ้น ทุกคนเดินสวนออกมา พี่ปาล์มมองหน้าน้องแล้วก็ตบบ่าเบาๆ ให้เดินเข้าไปหาพี่เมษ ก่อนที่ทุกคนจะหายไปกันหมด

 

แต่น้องก้าวขาไม่ออก เพราะรู้ดีว่าพี่มันโกรธเรื่องอะไร

 

“พี่เมษ...” น้องเรียกมัน แต่เหมือนมันจะไม่ได้ยิน หรือไม่สนใจก็ไม่รู้ มันนั่งก้มหน้าก้มตานิ่งๆ มือถูกันไปมา “พี่...”

 

มันเงยหน้าขึ้น นัยน์ตามีน้ำใสเอ่อคลอ “มาทำไม”

 

“พี่ ผมขอโทษ” น้องรีบวิ่งเข้าไปหามัน พอจะจับตัวมัน ก็โดนปัดมือออก

 

“ขอโทษเรื่องไร มึงรู้รึไงว่าทำอะไรผิด!” มันโวยใส่ ตาแดงก่ำ เหมือนพยายามข่มน้ำตาไว้ไม่ให้ไหล

 

“ผมไม่รู้ เพิ่งรู้เมื่อกี้จากพี่จอน” น้องรู้ว่ามันร้อน น้องเลยพยายามจะเย็น “ผมขอโทษ”

 

“ออกไปก่อน กูยังไม่อยากคุยเรื่องนี้กับมึง แล้วพาเขากลับไปด้วย”

 

“ภู!” ให้ตายเหอะว่ะ ยังไม่ทันเคลียร์เลย พี่กิ่งดันโผล่มาได้จังหวะอีก “กิ่งมีเรื่องอยากคุย ถึงได้มาที่นี่”

 

พี่เมษหันไปมองเธอด้วยแววตาเจ็บปวดอย่างที่น้องไม่เคยเห็นมาก่อน ริมฝีปากสีซีดนั่นสั่นน้อยๆ เธอมองน้องแล้วก็มองพี่เมษ

 

“ให้น้องเห็ดฟังด้วยก็ได้ เห็นรูปในไลน์ ก็คิดอยู่เหมือนกัน” รูปในไลน์? เออว่ะ น้องใช้รูปที่จุ๊บแก้มพี่มันเป็นรูปดิส

 

“ไม่อ่ะ เราไม่อยากคุย กลับไปเหอะ” เสียงพี่เมษอ่อนลงมาก คล้ายจะอ่อนแรงด้วยซ้ำ น้องคว้ามือมันไว้ มันก็ไม่สะบัดออก พี่กิ่งมองพวกเราแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ

 

“ภู เอ่อ เมษก็ได้...เราแค่อยากมาขอโทษ เรื่องตอนนั้น”

 

“มันจบแล้วว่ะ เลิกยุ่งกันเหอะ ขอร้อง” พี่เมษบีบมือน้องที่จับมือมันไว้แน่นขึ้น แม้จะเจ็บ น้องก็จะไม่ปล่อยมือ เพราะคนที่พี่เมษจะยึดเป็นหลักไว้ได้ในตอนนี้มีแค่น้องเท่านั้น

 

“กิ่งเลิกกับโซนแล้วนะ เมื่อปีที่แล้ว”

 

“แล้วไง”

 

“ก็...เราแค่อยากบอกว่า กลับมาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย”

 

“เพื่อน?” พี่เมษกระตุกมือน้องให้หลบไปข้างหลังมัน แล้วมันก็ก้าวออกไปเผชิญหน้ากับพี่กิ่ง “เพื่อนเขาไม่หักหลังกันหรอก เธอกลับไปเถอะ ความไว้ใจของเราที่มีให้ มันหมดแล้วว่ะ”

 

“แค่เพื่อนก็ไม่ได้เหรอเมษ?” พี่กิ่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ น่าสงสารอ่า แต่น้องไม่มีสิทธิแทรกระหว่างพวกเขา แค่ยืนฟังอยู่ตรงนี้แม่งก็โครตอึดอัดละ

 

“ขอโทษจริงๆ” พี่เมษไม่ตอบรับ แต่แค่ปฏิเสธด้วยคำขอโทษ แล้วพี่กิ่งก็ร้องไห้ออกมาก่อนจะรีบวิ่งหายไปจากตรงนั้น

 

บรรยากาศตอนนี้คือโครตอึดครึม เหมือนเวลาฝนฟ้ากำลังจะตก พายุเข้า เมฆครึ้ม พี่เมษยืนนิ่งเป็นรูปปั้น มือที่จับไว้เริ่มสั่น น้องไล่สายตามองมันตั้งแต่ที่มือ จนถึงหัวไหล่ที่สั่นเทา น้องไม่รู้หรอกว่ามันมีเรื่องอะไรเลวร้ายขนาดไหนมาก่อน ระหว่างมันกับพี่กิ่ง แต่คงทำให้มันฝังใจเจ็บและจำมาจนทุกวันนี้ ที่มันไม่กล้าเริ่มก่อนกับน้อง คงเพราะมันยังกลัวและขยาดกับเรื่องความรัก มันเลยต้องการความแน่ใจ ความมั่นใจจากน้อง

 

น้องสูดลมหายใจลึกๆ แล้วโอบแขนรอบตัวพี่มัน กอดไว้หลวมๆ โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ เสียงสะอื้นของมันดังขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกถึงความอุ่นชื้นที่อก พี่เมษตัวสั่นเหมือนลูกนกที่เปียกฝน แม้พยายามกัดปากกลั้นเสียงแค่ไหน เสียงร้องไห้ของมันก็ดังก้องในใจของน้องอยู่ดี

 

สิ่งที่ค่อยๆ แทรกซึมไหลผ่านเข้ามาในตัวของน้องก็คือ ความเศร้าที่ไร้ก้นบึ้ง หากว่าน้องจะช่วยปิดผนึกความเจ็บปวดของมันได้ ก็อยากจะทำมันเดี๋ยวนี้เลย

 

 

วง “กิ้งกือผัดฉ่า” ยังได้กลับขึ้นเวทีอีกครั้งหลังจากพี่เมษมันหาไม้กลองใหม่มาได้แล้ว เล่นเป็นวงปิดอย่างเท่ไปเลยรอบนี้ คนดูกรี้ดกันดังลั่น แสบแก้วหูไปหมด ส่วนพี่กิ่ง เธอไลน์มาบอกว่าขอโทษที่ทำให้น้องเดือดร้อนไปด้วย และขอตัวกลับไปก่อนแล้ว

 

เรื่องของพี่เมษกับพี่กิ่ง น้องไม่ได้ถามจากพี่มันโดยตรง เพราะมันไม่อยากเล่า ไม่อยากพูดถึง แต่พี่จอนมาบอกทีหลังว่า พี่เมษเคยไว้ใจเธอมาก ไม่ว่าใครพูดอะไรก็ไม่เชื่อ เพราะคบกันมานานหลายปี จนมันไปเจอกับตาว่าเธอมีอะไรกับผู้ชายอีกคน ก็เลยเจ็บแค้นมาจนถึงทุกวันนี้

 

น้องก็ไม่อยากเชื่อว่าพี่สาวที่น่ารัก ดูนิสัยดีคนนั้นจะเป็นคนแบบนั้น ก็ไม่แปลกที่คนที่สนิทที่สุดรักที่สุดอย่างพี่เมษจะเชื่อใจและทรมานใจที่สุด

 

พวกเรากลับมาที่หอพักหลังงานเลิก น้องอยากให้พี่เมษหายเศร้า ก็เลยเข้าไปคลอเคลียเอาใจมากกว่าทุกที

 

“คืนนี้ผมอาบน้ำสระผมให้น้า คราวก่อนพี่ทำให้ผมแล้ว” น้องว่าพลางเอาแก้มถูกับไหล่มัน พี่เมษเหลือบตามองแบบไม่ค่อยเชื่อถือ

 

“มาอ้อนเอาอะไรเนี่ย ทำเป็นเอาใจ รู้ตัวว่าผิดสินะ”

 

“ครับ น้องผิดไปแล้วที่ไม่ถาม ไม่บอกพี่ก่อน เชื่อคนอื่นมากกว่าพี่” เพราะพี่กิ่งบอกไม่ให้บอก น้องก็ไม่บอก เก็บเงียบจนเป็นเรื่อง ทำพี่มันเสียใจ นึกถึงความหลังให้เจ็บปวด

 

“ทีหลังมีอะไรต้องบอกกูนะ กูเกลียดคนโกหก ครั้งนี้มึงไม่ได้โกหก มึงแค่ไม่รู้และมึงโง่” อูย มันด่าอ่ะ แถมเอานิ้วมาดีดหน้าผากอีก

 

“ผมจะไม่โกหกพี่ จะไม่หักหลัง จะไม่ทรยศความเชื่อใจของพี่ ผมสัญญา”

 

“ไม่ต้องสัญญาหรอก กูรู้ว่าคนอย่างมึงมันซื่อบื้อ ไม่มีนอกมีใน” แน่ะ ยังหลอกด่ากูอยู่อีก ปั๊ด ปล้ำแม่งเลย

 

“พี่ไม่โกรธน้องเห็ดแล้วใช่มั้ย?” น้องส่งสายตาวิ้งๆ ปิ๊งๆ ใส่มัน

 

พี่เมษหรี่ตามองน้อง “กูไม่ได้โกรธมึงสักหน่อย”

 

“จริงเปล่า?”

 

“ก็แค่ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้มึงเข้าใจกู มึงดูจะโอเคกับกิ่งจนกูแอบคิดว่ามึงจะชอบเขารึเปล่าด้วยซ้ำ” พี่มันหรุบตาลงมองเท้าตัวเองซะงั้น

 

“เพิ่งเจอแป้ปเดียว จะไปชอบได้ไงเล่า ไม่รู้จักนิสัยใจคอเลย” น้องส่ายหน้าเซ็งๆ แม่งไม่ไว้ใจกูแต่เริ่มเลยนี่หว่า

 

“ก็มึงมันเฟรนลี่นี่ คุยไปคุยมา เกิดเขาชอบมึง มึงชอบเขาขึ้นมาล่ะ”

 

“ไม่มีทางอ่ะ และผมจะเลิกคุยกับพี่กิ่งด้วย” น้องทำหน้าจริงจังที่สุดในชีวิตแล้วเนี่ย “ผมยอมให้พี่เช็คมือถือทุกวันเลย”

 

“ไม่ต้องอ่ะ ถ้ามึงพูดแล้ว กูก็จะเชื่อตามนั้น กับคนอื่นที่มาจีบก็ห้ามคุยด้วยนะ” มันยกนิ้วมาชี้หน้าน้อง เลยต้องรีบเข้าไปกอดเอวมันแล้วพยักหน้ารับรัวๆ

 

“หวงขนาดนี้ ยอมเป็นแฟนผมแล้วป่ะเนี่ย” อือออ จะเป็นไม่เป็นไม่รู้ล่ะ แต่พี่แม่ง ตัวห้อมหอม จะทนไม่ไหวแล้วว่ะ ขอดมใกล้ๆ หน่อย ซุกหน้าไซร้คอนิดนึงนะ

 

“อ่ะ ไอ้เห็ด! ทำอะไรเนี่ย อย่าไซร้! กูยังไม่ได้ตอบตกลงนะ!” พี่มันโวยวายเอามือผลักอกน้องยกใหญ่

 

“ลองก่อนค่อยตกลงก็ได้” ดูดคอหน่อยนะพี่เมษ ท่าทางจะอร่อย

 

“พ่องสิ!” ฟึ่ด!

 

“โอ๊ยยยย” ฮือออออออออออ มันจิกหัวน้องอ่า เจ็บน้ำตาเล็ดเลย “ปล่อยน้องงง น้องเจ็บน้าพี่เมษ~”

 

“มึงนั่นแหละปล่อยเอวกูก่อน เดี๋ยวนี้!” มันขู่เสียงแข็ง น้องเลยต้องยอมปล่อยมือที่ลูบเอวมันออก หวงตัวจริงว่ะ

 

“รู้ไว้นะน้องเห็ดน้อย พี่เองก็เป็นผู้ชาย แต่พี่ก็ยังให้เกียรติอดีตแฟน ไม่เคยทำอะไรเขานอกจากจูบ เพราะงั้น มึงก็ต้องทนให้ได้ด้วย!” โอ๊ยยย แม่งสะบัดมือที่จิกหัวน้อง ผมกูหลุดเป็นกำเลยมั้งเนี่ย หัวล้านพอดี

 

“งั้นผมขอแค่จูบ” เอาสิ แค่จูบก็ได้ แต่กูจะจูบแม่งให้ทั่วตัวเลย

 

“ไม่!” มันสะบัดหน้าใส่ โห สาวน้อยมากอ่ะมึง

 

“อะไรวะพี่ ไหนบอกว่าจูบได้ไง” น้องโอดครวญ นี่ตกลงกูทำอะไรได้มั่งนอกจากกอดกับจับมือวะ

 

“กูบอกว่าเคยจูบแฟนเก่า แต่ไม่ได้บอกให้มึงจูบกูได้ อย่ามโน” มันว่าเสียงแข็ง แล้วก็เดินหนีเข้าห้องน้ำไปเลย

 

“อ้าว? เฮ้ย! พี่เมษ! ให้ผมอาบน้ำให้ดิ น้าๆๆๆ” น้องเกาประตูแกรกๆ ส่งเสียงออดอ้อนมันสุดฤทธิ์ แต่มันก็เงียบใส่ และไม่ว่าจะร่ำร้องยังไง แม่งก็ไม่เห็นใจกูเลยจริงๆ ให้ตายสิวะ! แผนออดอ้อนเริ่มใช้ไม่ได้ผลแล้ว ไอ้พิชญ์ ช่วยกูด้วยยยยย

 

******

 

เบื่อออออ เซ็งงงงงง เมื่อคืนพี่เมษมันอาบน้ำเสร็จก็นอนเลย แถมยังเอาปิกาชูน้องไปกอด น้องเลยนอนเตียงมันไม่ได้อีก ทำไมพี่มันเป็นคนอย่างนั้นวะ เมื่อก่อนไม่เห็นจะหวงเนื้อหวงตัวแบบนี้ มีแต่เข้าหาตลอด ทีงี้ทำมาหวง อะไรของมัน

 

“เป็นไรพี่เห็ด นั่งหน้าเป็นตูด” ไอ้น้องกันต์มาถึงก็คว้าขนมของน้องไปกินตามเคย มันนั่งลงอีกฝั่ง หยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกม

 

“อยากกอดพี่เมษ”

 

“พรวด” อันนี้เสียงไอ้พิชญ์พ่นน้ำ น้องปรายตาไปมองมันแล้วก็กลับมามองหนังสือที่กางไว้บนโต๊ะต่อ อ่านไปก็ไม่ค่อยเข้าหัวหรอกบอกตรงๆ แต่ก็ต้องอ่าน ยังดีนะที่บางทีอาจารย์ก็บอกพวกข้อสอบข้อเขียน แค่อ่านๆ จำๆ ก็พอทำได้ละ

 

“ฮ่าๆๆ พี่เห็ดแม่งหื่น”

 

“หื่นพ่องสิ แค่อยากนอนกอด” น้องขยายความ นี่พวกมึงคิดอะไรกันไม่ทราบ

 

“สัส กูก็ตกใจหมด หอไม่เก็บเสียงนะมึง บอกก่อน” น้องเหล่มองไอ้พิชญ์อย่างเอือมๆ

 

“ก็กูบอกว่าแค่นอนกอด พวกมึงเข้าใจไปถึงไหนวะ” พวกมึงนี่แหละตัวหื่น ไม่ใช่น้องแน่นอน น้องใสๆ น่ารัก คริๆ

 

“เออๆ พวกกูจะเข้าใจให้เหมือนมึงแล้วกัน แล้วไม พี่มันไม่ยอมให้กอด?” ไอ้พิชญ์ยื่นป๊อกกี้มาใส่ปากน้อง รสสตอเบอรี่ด้วย มีเด็กคณะอื่นซื้อมาฝาก

 

“อือ...” น้องพยักหน้าหงึกๆ “ก่อนหน้านี้ยังยอมให้นอนด้วยอยู่เลย ช่วงนี้ไม่ยอมอีกแล้วอ่ะ”

 

“ก้าวหน้าแบบข้ามขั้นมากเลยนะมึง มีนอนกงนอนกอด” ไอ้พิชญ์เบะปากใส่ “อยู่ด้วยกันแม่งก็ดีอย่างนี้ ดูกูดิ นานๆ เจอที ได้แค่จับมือ”

 

“ก็นั่นเขาเป็นผู้หญิงป่ะมึง” แถมหนิงก็ดูเรียบร้อยด้วย เท่าที่น้องเคยเจอมาไม่กี่ครั้งอ่ะนะ แต่อิงอิงก็ใสๆ เพื่อนอิงอิงก็คงคล้ายๆ กันแหละ เออ แล้วไอ้ตะวันมันจีบอิงอิงไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ ลืมไปเลยเนี่ย

 

“ก็ใช่ ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวมันก็น่ารักไปอีกแบบ กูก็ชอบแหละ แต่แฟนมึงอ่ะ ผู้ชายเว้ย จะมาหวงตัวเนี่ยแปลก กูว่ามันคิด แต่มันแอ๊บ” เพื่อนพิชญ์นี่ฉลาดคิดเรื่องชั่วจริงๆ ครับ มาหาว่าพี่เมษของน้องแอ๊บใสซะงั้น ทำไมวะ มันอาจจะมีผู้ชายใสๆ อยู่บนโลกนี้ก็ได้ ไอ้คนที่ไม่เคยคิดเรื่องใต้สะดือเลยตั้งแต่เกิดยันโตน่ะ แหม่

 

“แล้วจะแอ๊บทำไมอ่ะ” อันนี้ไอ้กันต์เกิดความสงสัยขึ้นมาแทนน้อง

 

“พวกมึงก็น่าจะเข้าใจนะ วงจรความคิดของผู้ชายด้วยกัน ไม่พ้นเรื่องพวกนี้หรอก แต่ขึ้นอยู่กับว่า คิดแล้วควบคุมตัวเองได้แค่ไหนไง อย่างพี่เมษ ถ้าไอ้เห็ดไม่ไปวอแวใกล้ๆ ก็คงทนได้ล่ะมั้ง แต่ถ้าไอ้เห็ดอยู่ใกล้ๆ บ่อยๆ เดี๋ยวมันไม่ไหวไง” ไอ้พิชญ์ทำหน้าเหมือนมีภูมิ กระแดะสุดๆ อ่ะมึง

 

“ก็จริงของพี่พิชญ์นะผมว่า ขนาดพี่เห็ดดูซื่อบื้อ อุ้ย ผมไม่ได้ว่านะพี่ คือพี่เห็ดใสๆ ยังมีมุมหื่น อยากจับพี่เมษกดไรงี้”

 

“กูไม่ได้หื่น! บอกว่าอยากนอนกอด ไม่ได้กด!” น้องไม่ยอมน้า มาหาว่าน้องหื่นได้ไง น้องยังใสๆ แบ๊วๆ น่ารักๆ อยู่เลย มองตาสิ

 

แต่เรื่องที่ไอ้พิชญ์พูดมา น้องว่ามันก็มีส่วนจริง ถ้าน้องอยู่ใกล้ๆ หรือกอดมันบ่อยๆ พี่เมษมันอาจจะคิดอะไรแบบนั้นก็ได้ หลังๆ มานี้ถึงไม่ยอมให้เข้าใกล้เท่าไหร่

 

หึหึหึ

 

แบบนี้ก็เสร็จน้องเห็ดสิครับ!!!
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.15 update 7/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 08-03-2018 02:16:53
แค่คิดก็ผิดแล้วตัวใหญ่ เล่นไม่ขอตัวเล็ก ระวังตัวเล็กถีบตกเตียงนะ  o18
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา ep.15 update 7/3/18
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 08-03-2018 16:46:14
จบแล้วจ้า ไว้ต่ออีกเรื่องตามไป
ขอบคุณที่ติดตามอ่านและคอมเม้นท์นะคับ
มันเรื่อยๆเปื่อยๆ แบบโครตชีวิตประจำวัน ดีใจที่ยังมีคนอ่านจนจบนะ ฮ่าๆ

16
ยังไงคืนนี้ต้องได้เสีย เอ๊ย! ไม่ใช่ครับ คืนนี้ต้องเนียนไปนอนกอดพี่เมษให้ได้ แค่นอนกอดดดดดดด ห้ามคิดลึกกว่านั้นเด็ดขาด เดี๋ยวความใสๆ ของน้องจะหายไป ห้ามนะ อย่าคิด บอกว่าอย่าคิดไง!!

“ทำหน้าอะไรของมึง ขี้ไม่ออกไง?” ดูมัน เข้าห้องมาเจอหน้าน้องก็ถามอะไรไม่รู้ ไม่มีมู้ดเลย วุ้ พี่เมษมันถามแบบไม่เอาคำตอบหรอก น้องมองหน้ามัน แล้วก็มองตามมันที่เดินหน้านิ่งไปนั่งแปะลงบนเตียงตัวเอง

“มองหน้าหาเรื่องเหรอไอ้เห็ด!” เอ้า กูผิดอีกแล้ว มองหน้าก็ไม่ได้ นี่แฟนหรือผู้บังคับบัญชาวะ

“ไปแดกรังผึ้งที่ไหนมาพี่ หงุดหงิดเหมือนเมนส์มา” น้องหัวเราะคิกๆ แหย่มัน มันคว้าหมอนมาปาใส่หน้าน้องซะงั้น

“รังแตน!” โอ๊ะ มีมาแก้สำนวนโวหารให้อีก สมเป็นพี่เมษผู้จริงจังกับทุกเรื่อง “โยนหมอนกูคืนมาด้วย”

หืม? น้องก้มมองหมอนในมือมาร อิๆ ได้เรื่องละ “มาเอาเองดิ อยากปาใส่หน้าผมก่อน” น้องแลบลิ้นปลิ้นตาใส่มัน แบร่ๆ แน่จริงมาเอาคืนเองเลย

“ไอ้เห็ด! อย่ากวนตีน!” มันยื่นมือมาแล้วกระดิกๆ นิ้ว “เอาคืนมา เร็วๆ”

“ให้ผมนอนด้วยคืนนี้ ผมจะคืนให้” น้องยักคิ้วข้างเดียวให้มันสองที มันไม่ตอบ ลุกพรึ่บเดินพรวดมาถึงตัวทันที

“จะคืนไม่คืน?” มันกอดอกก้มมองหน้าน้องจากมุมสูง มุมนี้มันดูตัวใหญ่กว่าน้องอ่า น้องนั่งอยู่บนเตียงตัวเอง เอาหมอนมันซ่อนไว้ข้างหลัง เงยหน้าสบตามันอย่างหวาดๆ ไอ้เงาทะมึนๆ จากตัวมันนี่คืออะไรวะ

“ไม่คืน ให้ผมไปนอนเตียงพี่ แล้วผมจะคืน” ใจดีสู้เสือสิครับ เรื่องอะไรจะยอมปล่อยโอกาสดีๆ ให้หลุดมือ “หรือไม่ พี่ก็มานอนกับผม”

“ถามจริง เป็นไรมากป่ะที่จะต้องนอนเบียดกันบนเตียงแคบๆ กูเมื่อยมากบอกเลย มึงตัวใหญ่ กูนี่เหลือที่นอนนิดเดียว โครตอึดอัด” มันบ่นๆๆๆ

“พี่ก็นอนบนตัวผมดิ” ยักคิ้วให้อีกที อิๆ

“อย่ากวนตีน! ใครจะนอนบนควายอย่างมึง!” ด่าอีกแล้ว อีพี่เมษอ่ะ ทำไมมันชอบด่าน้องเรื่อยเลย นี่แฟนนะ ไม่ใช่ควาย! ชักโมโหแล้ว กระชากแขนแม่ง “เอ้ย ไอ้เห็ด!” มันตกใจตาโตเชียว น้องดึงแขนมันให้ลงมานั่งอยู่ตรงหว่างขาเรียบร้อย มันดิ้นๆ แต่น้องรัดเอวไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยหรอก หมั่นไส้ เอาขาก่ายรัดขามันไว้ด้วย

“ทำตัวดีๆ กับน้องมั่งสิ น้องทั้งอ้อน ทั้งเอาใจขนาดนี้แล้วนะ แค่ให้น้องนอนกอดไม่ได้เหรอ” น้องว่าพลางเอาคางวางเกยบนไหล่มัน พี่เมษหยุดดิ้นแล้ว ยอมนั่งนิ่งๆ ให้น้องกอดไปเงียบๆ

“แค่นอนกอดนะ?” เสียงมันสั่นนิดหน่อย หรือว่ามันจะกลัวน้อง? แหม ช่างน่ารัก

“นอนกอดอย่างเดียวครับผม หรือพี่อยากให้ทำอย่างอื่นด้วย?” แกล้งแหย่มันไปงั้นแหละ เอาคางถูๆ ไถๆ บนไหล่มันด้วย เหมือนมันจะจั๊กจี้ เอียงตัวหลบใหญ่ แต่มือมันสองข้างถูกน้องกุมไว้ เอามาผลักหัวน้องออกไม่ได้

“ทะลึ่งแล้วมึง...อย่าเล่นดิ มันจั๊กจี้” น้องลอบมองจากด้านหลัง เห็นหูมันเริ่มแดง มันยังพยายามเอียงตัวหลบไม่ให้น้องเอาคางถูไหล่ แต่ก็หลบไม่พ้นหรอก มือสองข้างที่โดนกุมไว้ทำท่าจะกระตุกออก แต่น้องไม่ยอมปล่อยไง

“จั๊กจี้หรือเสียว?” น้องแกล้งกระซิบถามมันข้างๆ หูแดงๆ นั่นเบาๆ แล้วพ่นลมใส่จนมันตัวเกร็ง แก้มนี่ขึ้นสีแดงเป็นริ้วทันที

“ไม่ได้อะไรทั้งนั้น! ปล่อยเลย! ไอ้เห็ด!” มันเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง แต่ไม่ได้รุนแรงมาก แม้เสียงจะขู่ฟ่อๆ ก็ตาม

“เมษ...” น้องลองเรียกชื่อมันแล้วเอาจมูกไถตั้งแต่ขมับข้างๆ ลงมาถึงใบหู จ่ออยู่ที่ข้างแก้มแดงก่ำ สูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของพี่มันช้าๆ

“...” มันเงียบกริบ ตัวสั่นนิดหน่อยตอนที่น้องกดปลายจมูกเข้าที่แก้มแดงๆ และพอแตะปากที่ต้นคอ มันก็ตัวกระตุก ศอกสองข้างกระทุ้งมาที่ท้องของน้องเต็มๆ จุกสิไอ้ห่าพี่เมษ!!! มือที่จับมือมันไว้หลุดออก มันเลยรีบลุกหนีไปที่เตียงตัวเอง

“ไม่เอาหมอนแล้วเหรอ?” น้องเอามือกุมท้องร้องถามมัน หมอนมันยังอยู่ข้างหลังน้อง

“กูหนุนปิกาชูแทนได้ มึงอยากได้นัก ก็เอาไปเลย” เออ ลืมไป มันยึดตุ๊กตาน้องไปถาวรเลยนี่หว่า

“พี่กลัวผมเหรอ?” อันนี้ไม่ได้แกล้งถามนะ น้องอยากรู้จริงๆ ก็เลยถามไปตรงๆ พี่มันยังหน้าแดงอยู่เลย พอน้องลุกขึ้น มันก็สะดุ้ง ก้าวขาไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวมันแล้ว มันรีบคว้าปิกาชูมากอด ถอยกรูดไปปลายเตียง

“กลัวบ้าอะไร อย่างกูเหรอจะต้องกลัวไอ้อ่อนอย่างมึง!” แน่ะ ยังกล้าพูด ตัวสั่นกึกๆ แล้วน่ะ ทำไมน่ารักว้า

“พี่กลัวผม” อันนี้ไม่ได้ถามแล้ว ยืนยันด้วยตาสองข้างเองเสร็จสรรพ น้องตัวโตกว่ามันเยอะก็จริง แต่อ่อนโยนน้า ไม่ใช่ยักษ์มารที่ไหน พี่เมษทำท่าจะลุกหนี น้องรีบคว้าเอวมันไว้ได้ทัน กดให้มันนั่งลงที่เดิม แล้วเอาแขนสองข้างยันกับเตียงคร่อมตัวมันไว้

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ มันไม่เคยกลัวน้องหรอก มีแต่พุ่งเข้าใส่ เวลาแย่งขนมแย่งของกันมันก็ไม่มียอมแพ้ มีแต่น้องเนี่ยต้องถอยให้ โดนมันเตะมันตบก็ทนมาตลอดนะ จริงๆ มันไม่ได้ทำรุนแรง แต่หลายๆ ทีก็เจ็บป่าววะ เพราะฉะนั้น คราวนี้ตาน้องมั่งล่ะ ทำให้มันกลัวได้นี่โครตชอบ ความรู้สึกเป็นต่อแบบนี้ก็โครตชอบ

โครตชอบเวลาที่ต้อนพี่เมษจนมุม ชอบที่ทำให้มันเขินได้ เขินให้ตัวแตกไปเลยมึง

น้องรุกเข้าใส่ หน้าชนกัน จนมันต้องรีบหันหน้าหนี แต่น้องไม่ปล่อยอีกแล้ว อาจจะต้องบังคับนิดหน่อย แต่ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยแน่

น้องคว้าคางมันไว้ บีบเบาๆ ให้เอียงหน้ากลับมาหา มันสบตาน้องวูบหนึ่งแล้วก็หรุบตาลง แพขนตางอนๆ สั่นระริก น้องคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะทาบริมฝีปากแผ่วเบาที่กลีบปากสีอ่อนของพี่เมษ

จูบแรก

โครตหวาน กลิ่นตัวมันหอม และที่ปากมันยิ่งทั้งหอมทั้งหวาน น้องค่อยๆ งับปากมันเบาๆ เล็มเลียตามรอยหยักและแนวปากสวย มันหลับตาปี๋ กอดปิกาชูแน่นจนแทบปริแตก แม่งเม้มปากอีก แต่ไม่เป็นไร...

ไม่รู้ว่าแรงที่บีบคางเล็กๆ นั่นออกแรงมากขึ้นตอนไหน รู้ตัวอีกทีพี่เมษก็เอามือมาดึงแขนน้องจะให้ปล่อย มันครางอู้อี้ในคอ เพราะปากโดนประกบไม่ห่าง

“ถ้าผมปล่อย จะยอมให้จูบอีกมั้ย” น้องผ่อนแรงที่มือ แต่ยังไม่ปล่อยง่ายๆ พี่เมษจ้องตาน้องนิ่งๆ ดวงตาสุกใสสะท้อนแต่ภาพของน้อง รู้สึกดีชะมัด “ผมหมายถึง มากกว่าเมื่อกี้”

“มากไปละ” มันสบถเบาๆ บีบแขนน้องข้างที่จับคางมันอย่างแรง คงกะให้เจ็บจนยอมปล่อย

“ผมอยากจูบพี่” น้องไม่ยอมแพ้หรอก ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ใช่มั้ยล่ะ โน้มหน้าลงคลอเคลียแถวริมฝีปากสวยๆ นั่นอีกสักที ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆ ปากพี่มันโครตนิ่มอ่ะ

“เห็ด...พอแล้ว...” มันพยายามยื้อแขนน้องไว้ คอยจะเอียงหน้าหนีตลอด

“ทำไมล่ะ? ไม่ชอบจูบกับผมเหรอ? พี่ไม่รักผมเหรอ” น้อยใจแล้วนะ ทำไมมันดูรังเกียจน้องจัง แค่จูบก็ไม่ยอม “เมษ?”

“อย่าเรียกห้วนๆ...อ๊ะ” พอมันยอมเปิดปากครั้งนี้ น้องก็ไม่รีรอแล้ว ประกบปากทันทีอย่างหนักหน่วง ไม่ละเลียดละเมียดละไมอย่างครั้งแรกให้แล้ว

พี่เมษเปลี่ยนมาใช้สองมือดันอกน้องเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาโอบรอบคอ เมื่อน้องสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากนุ่มของมัน ตุ๊กตาสีเหลืองตัวโตกลิ้งหายไปไหนไม่รู้ เพราะสัมผัสตอนนี้คือร่างกายของพี่เมษที่เบียดเข้าหา สองมือของมันรุกไล่สอดขยุ้มเข้ามาในกลุ่มผม ลิ้นร้อนๆ ตอบรับกลับมาอย่างเร่าร้อน มันกดหัวน้องไว้แน่น น้องเอียงคอนิดๆ ให้ปากประกบกันถนัดขึ้น ลิ้นของเราพันกันจนยุ่งเหยิง ไม่รู้ของใครเป็นของใคร หัวใจเต้นรัวแรง ลมหายใจร้อนผ่าว

เราจูบกันนานเท่าไหร่ไม่รู้ กว่าจะได้สติอีกทีก็ตอนที่พี่มันนั่งทับบนตัวน้องทั้งที่ปากยังประกับกัน ไม่รู้ตัวเลยว่าหลังแตะผืนเตียงตอนไหน และมือของน้องตอนนี้ก็สอดเข้าไปในกางเกงของมัน กำลังบีบคลึงบั้นท้ายแน่นตึงอย่างเมามัน

“ฮ่า...อา...” พี่เมษครางเสียงหวานตอนที่ผละริมฝีปากออกไป จากตอนแรกที่น้องจูบมัน กลายเป็นว่ามันเป็นคนรุกจูบน้องจนแทบหายใจไม่ทัน โอ๊ยยยย โครตเอ็กซ์! อดไม่ได้ที่จะลูบๆ คลำๆ แล้วบีบก้นมันด้วยความหมั่นเขี้ยว

“พี่...สุดยอดมากอ่ะ” น้องชมมันด้วยตาเป็นประกาย มองปากมันที่มีหยดน้ำใสๆ ไหลยืดย้อยออกมาเคลือบจนปากสีอ่อนมันวาวเหมือนสาวๆ ที่ทาลิปอะไรสักอย่าง

พี่เมษยังไม่พูดอะไร หน้ามันแดงก่ำ ทั้งยังหายใจหอบถี่ จ้องมองน้องที่นอนหงายให้มันนั่งทับ ฝ่ามือมันทาบอยู่บนแผ่นอกของน้อง ปลายนิ้วทั้งห้าขยับยุกยิกไปมาจนเสื้อยืดของน้องยับยู่ยี่

“พอใจยัง?” นานทีเดียวกว่าที่มันจะปริปากออกมาสั้นๆ ก่อนจะลุกออกไปจากตัวน้อง นั่งหันหลังให้ คงเพราะเขิน น้องรีบลุกตามไปกอดเอวมันไว้ เอาแก้มถูไถกับไหล่และหลังของมัน

“พี่จูบโครตเก่งเลยอ่ะ รู้สึกดีสุดๆ” ฮึ่ยยยย ตัวแม่งก็ยิ่งหอมกว่าเดิมอีก อยากจะดมไปทั้งตัว

“ไปห่างๆ ได้ละ แค่จูบก็เกินลิมิตแล้วนะ” มันว่าพลางเอามือมาดันหัวน้องออก ขอดมหน่อยก็ไม่ได้

“เกินลิมิตอะไรอ่า” ทำหน้าแบ๊วใส่เลยนี่

พี่เมษเงียบ กัดปากนิดๆ หน้านี่แดงลามไปที่คอแล้ว “อย่าเซ้าซี้ ไปห่างๆ”

“ทำไมอ่า” ยังแบ๊วอยู่ อิๆ รู้หรอก พี่มันมีอารมณ์ไง มันอยากกกก แต่มันไม่ยอมพูด เพราะน้องก็เป็นเหมือนกัน

“เห็ด!” จู่ๆ มันก็เสียงดัง น้องนี่นั่งตัวตรงทันที

“ครับ?”

“ถ้าไม่ดื้อกับพี่ จะยอมให้จูบอาทิตย์ละครั้งเลยเอามั้ย” ว้าวๆๆๆ ข้อเสนอนี้น่าสน แต่

“ทุกวัน”

“วันเว้นวัน”

“ทุกวันไม่ได้เหรอ” เสียงสองออดอ้อนสักหน่อย เผื่อมันใจอ่อน กอดเอวแล้วคลอเคลียด้วย สงสารน้องเห็ดตาดำๆ นะพี่เมษนะ

“จะเอาไม่เอา วันเว้นวันน่ะ!”

“เอาก็ได้ครับ...” ด่อว สู้พี่เมษไม่ได้อีกแล้ว เห็ดเซ็ง

******

หู้ววววู้วววว ไม่ต้องสงสัยไปว่าเสียงอะไร มันคือเสียงเพลงของน้องเห็ดเองครับ อารมณ์ดีมากช่วงนี้ เพราะนอกจากพี่เมษจะยอมให้นอนด้วยแล้ว ยังยอมให้จูบ (วันเว้นวันเชียวนะเออ)

แล้วจูบของพี่เมษเนี่ย แม่งงงง โครตละลาย น้องอ่ะเคยแต่ดูในเนต อ่านแต่ในโดจิน อิๆ ไอ้กันต์มันเอามาเผยแพร่อ่ะสิ อย่างน้องจะไปสรรหามาจากไหนได้ ต้องเรียนรู้คำศัพท์จากมันอยู่นานเลยล่ะกว่าจะคุ้นเคย ไอ้พิชญ์ก็บอกว่าเป็นการเรียนรู้ ไม่ได้เสียหายอะไร แต่ก็ไม่ควรหมกมุ่นมากไป เดี๋ยวจะตายด้านเอา ฮ่าๆ

เป็นแฟนพี่เมษเนี่ย แม่งก็โครตดีอีก มันดูแลน้อง เทคแคร์น้องแบบเปิดเผยกว่าเดิมเยอะเลย จนเพื่อนๆ มันก็แซวๆ กัน แต่เราก็แบ่งหน้าที่กันนะครับ น้องมีหน้าที่เอาผ้าไปซัก ล้างจาน ซื้อข้าว ส่วนพี่มันก็มีหน้าที่ทำความสะอาดห้อง กับพับผ้าเข้าตู้ เหมือนเราทดลองอยู่กันก่อนแต่งเลยอ่ะ เห็นแบบนั้นพี่เมษมันจริงจังนะ ทำอะไรก็จริงจังไปหมดเลย พูดอะไรหรือสัญญาอะไรไว้ มันจะต้องทำให้ได้ เพราะฉะนั้น ไม่ว่ามันจะเหนื่อยหรือเพลียแค่ไหน หลังจากทั้งเรียน ทั้งซ้อมดนตรี หรือกิจกรรมอื่นๆ มันก็จะต้องจูบน้องก่อนนอนวันเว้นวันตามที่มันลั่นวาจาไว้ โครตจะน่ารัก

เรื่องพี่กิ่ง เรายังไม่ค่อยมีโอกาสได้คุยกันมากกว่านั้น พี่เมษไม่อยากพูดถึง น้องเองก็เข้าใจดี เธอพยายามติดต่อผ่านน้องอยู่อีกหลายครั้ง เพราะน้องไม่กล้าบล็อกเธอ แต่น้องก็จะบอกพี่เมษเสมอว่าเธอถามไถ่อะไรมาบ้าง และพี่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร

แม้เธอจะทำผิดต่อพี่เมษมากจนยากจะให้อภัยได้อีก แต่น้องก็ยังอดเห็นใจเธอไม่ได้ เธอแค่อยากกลับมาเป็นเพื่อนกัน ทั้งที่มันเป็นไปได้ยากมาก พี่เมษไม่พร้อมจะให้เธอกลับเข้ามาในชีวิต แค่จะคุยกันสักคำ มันยังไม่เอาเลย หลบเลี่ยงตลอด

น้องได้รู้จากพี่จอนพี่นัดมาว่า ตอนเลิกกันใหม่ๆ พี่เมษสภาพแย่มาก แทบจะเรียนไม่ได้ กลางคืนก็เมาหนัก เกือบมีเรื่องชกต่อยกับคนนอกถึงขั้นขึ้นโรงพักกันมาแล้ว ดีที่ไกล่เกลี่ยกันได้ก่อน เพราะต่างก็เมา ชีวิตมันช่วงนั้นลุ่มๆ ดอนๆ หวิดจะต้องดรอปเรียน ถ้าพี่นัดไม่กระโจนเข้าไปขวาง ฉุดดึงมันขึ้นมาจากเหว ก็คงทิ้งดิ่งแบบไม่มีวันกลับแน่นอน

ถ้าน้องได้อยู่ข้างๆ พี่เมษตอนนั้นก็คงดี

แต่มันเป็นไปไม่ได้ไง ดังนั้น เวลาที่มีอยู่ตอนนี้ น้องจะใช้ให้คุ้มค่าทุกวินาที เพื่อทำให้พี่เมษมีความสุขและมีแต่รอยยิ้ม จะไม่ทำให้เศร้าหรือเสียใจ อาจจะสัญญาไม่ได้ เพราะคนเรายังไงก็ต้องมีเรื่องให้เสียน้ำตา แต่คนที่จะเช็ดน้ำตาและปลอบใจพี่เมษ จะต้องเป็นน้องเห็ดคนนี้เท่านั้น

มันอาจจะไม่ได้เริ่มจากความรักโดยตรง แต่มันเป็นความผูกพันที่น้องมีให้พี่เมษ ทุกสิ่งที่พี่เมษทำให้ มันทำให้น้องมีความสุข อาจจะทะเลาะกัน ตีกันบ้าง แต่สุดท้าย คนที่จะทำให้น้องยิ้มและหัวเราะได้ ก็มีแค่พี่เมษ

น้องไม่ใช่คนดีเด่อะไร ไม่ใช่คนเพอร์เฟค ทำได้ทุกอย่างเหมือนซูเปอร์แมน เป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่ทั้งงี่เง่า เอาแต่ใจ แต่ความรักของน้องที่มีให้พี่เมษไม่แพ้ใคร

และน้องก็เชื่อมั่น ในรอยยิ้มของพี่เมษ

“อารมณ์ดีเหลือเกินนะ นั่งอมยิ้มอะไรอยู่ได้คนเดียว” พี่เมษเข้ามากอดคอน้องแล้วโยกหัวไปมา น้องนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ แต่มัวคิดเรื่องพี่มันเนี่ยแหละ เลยอมยิ้มออกมาไม่รู้ตัว

“คิดถึงพี่ก็เลยยิ้ม”

“จะคิดถึงทำไม ตัวจริงยืนอยู่นี่ไง” มันโน้มตัวลง กอดคอน้องไว้ เอาหน้าซบบนไหล่ ลมหายใจอุ่นๆ พ่นรดตรงซอกคอ จั๊กจี้แปลกๆ

“คิดถึงพี่ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมาเป็นแฟนน้อง” น้องตอบพลางจับแขนมันไว้แล้วลูบเบาๆ

“ก่อนหน้านี้พี่เป็นยังไง” เดี๋ยวนี้พี่เมษเรียกตัวเองว่าพี่ด้วย แรกๆ ก็เขินนะ แต่เริ่มชินแล้ว พี่มันก็เขิน พอพูดต่อหน้าคนอื่นก็โดนแซว น้องก็เลยเรียกตัวเองว่าน้อง เหมือนตอนอยู่บ้านบ้าง ใครอยากแซวก็แซวแพคคู่มาเลย

“พี่โครต...ชั่ว ฮ่าๆๆ หวาๆๆ” น้องรีบตั้งการ์ดบังหน้า เพราะพี่เมษเงื้อมือจะตบ “แต่พี่น่ารักสุดๆ ใจดีมากๆ”

“หึ ตบหัวลูบหลังเหรอน้องเห็ด” มือที่เงื้อขึ้นเมื่อกี้ลดลงมาตีที่แก้มน้องแปะๆ คงไม่ตบแล้วนะพี่นะ

“น้องเองก็ชอบทำให้พี่โมโหแล้วก็ทำนิสัยเสียใส่พี่ตั้งเยอะ ทำไมพี่ถึงชอบน้องอ่ะ”

“เพราะไม่เคยเจอคนแบบนี้มั้ง ทั้งที่กวนตีน นิสัยเสีย แต่เห็ดก็แสดงออกตรงไปตรงมา จริงใจดี”

น้องหมุนเก้าอี้ไปหาพี่เมษแล้วโอบเอวมันไว้หลวมๆ “น้องก็ชอบที่พี่จริงใจ น่ารัก แล้วก็ดูแลเก่ง”

“เห็นเป็นพี่เลี้ยงรึไงล่ะ” มันบีบจมูกน้องโยกไปมา แต่ไม่ได้บีบแรงจนเจ็บหรอก

“เปล่า ดูแลดีเหมือนเป็นเมีย” น้องหัวเราะแหะๆ

“พูดดี ใครเป็นเมียวะ! ยังไม่ลองไม่รู้หรอกนะครับน้องเห็ดคนดี” มันแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ อูยยย กูนี่เสียววาบๆ ไอ้พี่เมษมันยังไม่ยอมแพ้เรื่องนี้อีกเหรอวะ

“อย่างน้อยก็ให้ผมลองก่อน เพราะพี่เป็นพี่ ต้องเสียสละ” เอาหน้าซบท้องมันแล้วถูๆ ซะเลยนี่ เสียวใช่ม้า หัวเราะตัวงอเชียว

“ฮ่าๆๆ เห็ด...ไอ้เห็ด! ไม่เล่น!” มันเอามือมาจิกหัวน้องอีกแล้ว ผมหลุดจนหัวจะล้านเพราะมันเนี่ยแหละ

“ยอมผมก่อนสิ งั่ม” งับพุงแม่งเลย

“อ๊า จั๊กจี้น้า~เห็ด...ไม่เอา” หือ? เสียงสั่นแปลกๆ อิๆ สงสัยเสียวจริง ของับๆ ที่พุงอีกหน่อยสิ มันหดตัวหนีพลางดันไหล่น้องออก แต่น้องก็กอดเอวมันแน่นขึ้น แล้วฝังหน้าลงกับท้องของมัน งับชายเสื้อให้ถกขึ้นก่อนจะมุดหัวเข้าไปกัดพุงที่มีกล้ามเนื้อเป็นลอนสวยของมัน พี่เมษมันชอบออกกำลังกาย รูปร่างเลยฟิตเฟิร์ม กอดแล้วเต็มมือดี

“แผล่บ” ลองเลียแถวๆ สะดือมันเล่น ตัวมันสั่นกึกๆ น้องรีบคว้าตัวมันไว้ให้นั่งคร่อมลงบนตัก ก่อนที่มันจะทรุดลงกับพื้น เสื้อยืดมันถกขึ้นถึงคอ น้องจ้องมองแผ่นอกบางที่นูนขึ้นมานิดหน่อยและเม็ดเล็กๆ สองข้างนั้น พอคิดว่าอยากดูด ปากมันก็ฉกลงไปเองเลย

“อา...เห็ด...ไม่เอา...อย่าดูดตรงนั้น” ปากก็ห้าม แต่มือมันกดหัวน้องแน่นเลย สงสัยจะชอบมากกว่านะ

“พี่...แข็งแล้วอ่ะ” หมายถึงข้างบนนะครับ ไม่ใช่ข้างล่าง แต่ข้างล่างก็ดูจะมีปฏิกิริยาไม่แพ้กัน กะจากสายตาอ่ะนะ

มันปรือตามามองหน้าน้อง ตาโครตเยิ้ม เลยลองบีบๆ คลึงๆ ที่หัวนมมันอีกที พี่เมษตัวสั่นครางเสียงกระเส่าแบบลืมอาย หรือนี่จะเป็น...จุดอ่อน!

“อย่า...ไอ้เห็ด...อ๊ะ” จริงๆ ด้วย ยิ่งเล่นตรงหัวนมมันยิ่งตัวอ่อนยวบยาบเลย น้องเลยได้ทีทั้งขยี้ทั้งเลียรัวๆ เม็ดไตสองข้างแข็งขันชูชันสู้มือและปากของน้อง ส่วนพี่เมษเข่าอ่อนไปเรียบร้อย นั่งระทวยอยู่บนตัก สองแขนกอดหัวน้องไว้แน่น ส่งเสียงครางหวานๆ กระตุ้นอารมณ์โครตๆ

แต่พอมือของน้องเลื่อนลงข้างล่าง แถวๆ ก้นมัน พี่เมษมันก็ได้สติกลับมา รีบเด้งตัวหนีทันที

“พอเลย! ไม่เล่นแล้ว!” มันรีบดึงเสื้อลงมาปิด ถอยหนีไปที่เตียงตัวเอง น้องแลบลิ้นเลียปากจ้องตามัน แต่ไม่ได้ลุกตามไปหรอก เพราะเดี๋ยวมันก็เดินมาหาเองแหละ

“ไม่ต่อเหรอ?” น้องยิ้มยั่วที่มุมปาก รู้เลยว่ามันต้องการ เพราะร่างกายมันฟ้องขนาดนั้น สีแดงฉาบไปทั่วใบหน้าและเนื้อตัวมันอย่างยากจะห้าม มันยืนนิ่งมือกอดอก

“ต่อบ้าไร!” มันแสร้งโวยวายกลบความอาย

น้องไม่ตอบ แค่จ้องกลับไปนิ่งๆ ในหัวจินตนาการถึงยอดอกสีอ่อนเมื่อครู่ที่เพิ่งทำให้แข็งเป็นไตพลางเลียริมฝีปากช้าๆ น้องรู้ว่ามันรู้ตัว เพราะมันยิ่งเอามือปิดตรงช่วงอกมากขึ้นอีก คล้ายเรากำลังเล่นสงครามประสาท แต่ไม่ได้ต้องการผู้ชนะหรือพ่ายแพ้

น้องยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง มือยื่นไปหาพี่เมษที่ก้าวขากลับมาหา ยังไงพี่เมษก็แพ้ความต้องการของตัวเองอยู่ดีแหละ

น้องกดเอวมันให้นั่งทับลงบนต้นขาตามเดิม โน้มคอพี่เมษให้ก้มหน้าลงมาและประกบปากอย่างดูดดื่ม มันบีบคลึงที่ไหล่ของน้องคล้ายแมวนวด สะโพกบางเบียดเข้าหาอย่างลืมตัวเมื่อเรียวลิ้นร้อนๆ ของน้องแทรกเข้าสู่โพรงปากนุ่ม

“อือ...”

ไม่รู้ว่าเป็นเสียงครางของใครแล้ว รู้แค่ตอนนี้ ขอดับไฟก่อนนะครับ

End
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-03-2018 18:58:55
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-03-2018 03:36:45
 :mc4: จุดฉลองคู่ข้าวใหม่ปลามัน  :bye2:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-03-2018 09:51:58
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-03-2018 02:01:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 11-03-2018 10:07:01
น้องเห็ดอัพสกิลความหื่นเร็วมากเลยนะ ส่วนพี่เมษก็จุดติดง่ายเหลือเกิน สมกันดี   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: NO.409 ห้องเห็ดหรรษา last ep. update 8/3/18 จบแล้วคร้าบบบบ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 12-03-2018 04:07:06
ทำไมน่ารักเบอร์นี้  :-[

อยากได้ตอนพิเศษจัง  :pig4: