พิมพ์หน้านี้ - [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-10-2017 20:30:54

หัวข้อ: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-10-2017 20:30:54
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



Calorie ผมแค่มารอลี่~
 

บทนำ

 
คนบางคนได้สอนให้ผมรู้ว่า ต่อให้ทำดีแค่ไหน

เพรียบพร้อมเพียงใด
 
มันก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของใครบางคนเปลี่ยนไปได้
 
หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไรอีกต่อไป
 
ลาก่อน รักครั้งแรกของผม

 
 
*****************************************************************


          PS. นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของไรท์เท่านั้น โปรดใช้จักรยานในการอ่าน หุหุ
 
          PS. เป็นแนวโรแมนติก คอเมดี้ ดราม่า NC 20+
 
          PS. กดถูกใจหรือคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ
 
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][บทนำสั้นๆ][25/10/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 25-10-2017 20:32:45
รอออออ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][UP!!บทนำสั้นๆ]((25/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-10-2017 23:19:56
          Calorie ที่ 1 อาลี่คนอวบผู้อาภัพ


          " เฮ้ย ไอ้อ้วน เก็บบอลให้หน่อยดิ "  นั่นเป็นสรรพนามที่ผมมักถูกเรียกอยู่บ่อยๆ แต่ว่าผมน่ะ กว่าจะกินได้ขนาดนี้ หมดไปตั้งกี่ตัง โนสนโนแคร์อยู่แล้ว

          ไม่รู้ทำไมน้ำหนักของผม มันถึงชอบไปหนักที่หัวคนอื่นอยู่เรื่อย งี่เง่าจริงๆ

          " เก็บเอง เสียเวลา " ผมไม่สน ยังคงเดินต่อไปพลางเลียไอติมวานิลาในมือ อากาศที่แสนร้อนอบอ้าวในประเทศไทย ทำให้ผมนั้นเบื่อจริงๆ อยากกลับบ้านไปนอนแช่น้ำพร้อมกินน้ำแข็งใสซะแล้ว

          " ลี่จ๋า~ กลับบ้านด้วยกันน้า " นั่นเป็นเสียงเรียกของเพื่อนสนิทของผมเอง มันชื่อไอ้เมี่ยง ไอ้ตัวน่ารำคาญ มึงคิดจะมาแย่งของกินกูอีกละสิ

          ผมชื่อหยาง ลี่หมิง เป็นลูกชายร้านขายทองในตลอด ผมพึ่งขึ้นมหาลัยชั้นปีที่หนึ่ง คณะบริหาร อายุ 18 ปี ส่วนเรื่องความรักน่ะเหรอ ตอนนี้สิ่งที่ผมรักที่สุดก็คือไอติมรสมิ้นท์ช็อคโกแลต และข้าวมันไก่หนังล้วนเท่านั้น 

          ผมเดินกลับบ้านเองทุกวัน เพราะมาม๊าอยากให้ผมลดหุ่นลงบ้าง แต่ระยะทางระหว่างมหาลัยกับที่บ้านผมก็ไม่ไกลมากเหรอกครับ เดินสบายๆ ตามใจม๊า และก็มีเพื่อนเดินกลับด้วยทุกวันอยู่แล้ว เพราะบ้านมันอยู่ใกล้กับผม มันเป็นเพื่อนผมมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว สาวๆ ชอบมันเยอะเพราะมันปากดี หม้อไปเรื่อย ส่วนผมน่ะเหรอ ขอแค่มีของกินผมก็ไป แค่นั้นแหละ

          " อาลี่ของน้า มาเอาขนมไปกินเร็วลูก " แม่ของไอ้เมี่ยงเป็นคุณน้าที่ใจดีมาก ผมชอบแวะมานั่งเล่นที่บ้านมันบ่อยๆเพราะความว่างจัด ผมมองไอ้เกรียน ที่กำลังเสยผมยักคิ้วให้สาวๆที่มาซื้อของบ้านมัน เอ่อ บ้านมันก็ขายทองเหมือนกันนะครับ แต่เป็นทองม้วน ฮ่าๆๆ 

          " หวานๆ กรอบๆ เลยคร๊าบคนสวย สองถุงแถมถุงทองพ่อค้าน้าา~ " ผมแทบจะคายทองม้วนในปากผมออกมาด้วยความคลื่นไส้ นี่มึงเรียกลูกค้าหรือจะไล่ลูกค้าฟะ 

          " เมี่ยง ขายดีไหมวันนี้ ขยันจังนะ " ผมมองลูกค้าสาวๆที่เข้ามาซื้อขนมร้านมันพลางพูดคุยกับมันอย่างออกรส

          ผมหลบตาสาวสวยคนนั้นที่กำลังมองมาที่ผมด้วยแววตายิ้มเยาะ  ผมอาจเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายก็ได้ แต่ในโลกนี้ ต่อให้ใครก็ตามที่หน้าตาดี หรือมีคนรักคนหลงมากมาย ผมก็ไม่เคยสนใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบคนพวกนั้นเหรอกนะ แต่ว่าเราจะหวังไปทำไมกัน ต่อให้มองคนพวกนั้น ส่งยิ้มให้คนพวกนั้น หรือทำความรู้จักกับคนพวกนั้น เขาก็คงไม่เลือกเราอยู่ดี ผมเกลียดความผิดหวัง มันทำให้ผมหมดแรงที่จะมีความรัก ถ้าต้องเสียใจอีกละก็ ผมเลือกที่จะออกมาจากตรงนั้น อยู่ในที่ที่เป็นของเรา ถ้าไม่ตั้งความหวัง เราก็จะไม่ผิดหวัง ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมควรจะเป็น

          "  นั่งอมโศกอยู่ได้ ทำเอารังสีอึมครึมลอยรอบตัวกูหมด " 

          " เรื่องของกู กูไม่ได้ไปอมอะไรมึงนิ " 

          " หรือมึงอยากอม " ผมมองไอ้หอกนี่แบบหรี่ตาพลางตบกะบานไปหนึ่งที 

          " ทะลึ่ง เดี๋ยวได้อมตีนกูนี่ล่ะ " 

          " ยังไม่ทันพูดเลยว่าจะให้อมอะไร ตัวเองแหละทะลึ่ง คนบ้าๆ " ผมถอนหายใจพลางหลบกำปั้นที่กำลังทุบรัวบนอกผม อยากถีบมันจริงๆให้ตายเถอะ

          " ลี่ มึงกินทองกูไปสองถุงเลยนะ เอาทองมึงมาแลกเลยสองเส้น " โครตคุ้มเลยไอ้ห่าดวกส์

          " ถ้ามึงไม่หุบปากกูจะเบ่งทองให้มึงเดี๋ยวนี้แหละ " 

          " อี๋ แม่คร้าบบไอ้ลี่จะขี้หน้าร้านเราแล้ว " 

          " เอาเลยอาลี่ เดี๋ยวแม่ให้ไอ้เมี่ยงมันเก็บ " ฮ่าๆๆๆ แม่มึงโครตรักมึงเลยว่ะ ผมหัวเราะชอบใจ หน้าไอ้เมี่ยงในตอนนี้บูดยิ่งกว่าน้ำเต้าหู้ค้างคืน

          ผมลาแม่ไอ้เมี่ยงและเดินถัดมาสองซอยก็จะถึงบ้านของผมซึ่งเป็นร้านขายทอง เป็นตึกพาณิชย์สองคูหา บ้านผมไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้ยากจนอะไร ผมมีความสุขดีกับการกินและนอนอยู่แบบนี้ ชิลๆ ไปครับ

          " อาลี่ของมาม๊า ทองม้วนติดปากแน่ะลูก ไปบ้านเมี่ยงมาเหรอ " 

          " มีไรกินมั่งม๊า ลี่หิวแล้ว " การถามหาของกินเป็นเหมือนคำทักทายของผม ซึ่งป๊าม๊าจะรู้ดี

          " อาเฮีย อ้วนเป็นหมูแล้วยังกินไม่หยุดอีก อย่าหวังจะหาแฟนได้เลยแบบนี้ " ปากจัดแบบนี้ไม่มีใคร อาเฟยน้องสาวของผมเอง เรียนอยู่ม.3 เป็นติ่งเกาหลีขั้นสุดยอด 

          " เหอะ หล่อกว่าผัวมโนของลื้อแล้วกัน อะไรนะ เอ็กซ์โซติก ก๊อตอีเลฟเว่น กากๆ " ผมหยิบอมยิ้มเข้าปาก เดินขึ้นห้องชั้นสาม พลางได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนอยู่แว่วๆ แตะไม่ได้เล้ย บรรดาผัวเธอเนี่ย

          ผมวางกระเป๋าเป้และนอนกลิ้งไปมาบนเตียงเดี่ยวเล็กๆ ของผม จริงๆ ป๊าจะยกเตียงของป๊าที่เป็นคิงไซส์ให้ผม แต่ผมปฏิเสธ ผมชอบให้ห้องโล่งๆ แต่จริงๆ ก็จัดว่ารกนะครับ ยิ่งตอนม.ปลาย นั่นน่ะคงเป็นช่วงที่รกที่สุด

          ผมนอนยิ้มโง่ๆ ให้เพดานสีเขียวอ่อน ผมนั้นชอบสีเขียว มันทำให้ผมรู้สึกสบายใจเวลาที่ได้มองดูมัน เอาล่ะ อาบน้ำแล้วไปกินข้าวดีกว่า สักสามจานกำลังดี ผมคิดพลางเด้งตัวลุกขึ้น แต่เท้าก็เตะเข้ากับกล่องใบใหญ่ใต้เตียง มาม๊าคงเข้ามาทำความสะอาดแล้วไม่ได้ดันเข้าไปดีๆ ละมั้ง ผมนั่งยอง และจับกล่องเพื่อที่จะดันมันกลับเข้าไป แต่ก็ทำได้แค่จับมันเอาไว้นิ่งๆ และดึงมันออกมาแทน

          สภาพกล่องนั้นเรียกได้ว่าเยินสุดๆ เพราะว่าผมตั้งใจจะเผามันหลายครั้งแล้ว ทั้งทุบ ทั้งโยนทิ้งจากดาดฟ้า แต่สุดท้าย ผมก็นำมันกลับมาไว้ที่เดิมเสมอ ผมมันงี่เง่าจริงๆ ผมเปิดมันออกอย่างช้าๆ และหยิบหนังสือการ์ตูนที่อยู่ด้านบนๆ ออกไป เพื่อดูของที่ตั้งใจเก็บไว้จริงๆ ด้านล่างนั่น ทุกสิ่งทุกอย่างมันคือความทรงจำที่ผมเก็บฝังมันเอาไว้ เก็บไว้จนลึกสุดหัวใจ



ความทรงจำที่ผมนั้นอยากลืมเลือนมันไปตลอดกาล
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 1 อาลี่คนอวบผู้อาภัพ ]((25/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-10-2017 00:43:22
มันมีอะไรอยู่ในนั้นหรอ  :m22:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 1 อาลี่คนอวบผู้อาภัพ ]((25/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-10-2017 01:06:16
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 1 อาลี่คนอวบผู้อาภัพ ]((25/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 26-10-2017 02:01:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 1 อาลี่คนอวบผู้อาภัพ ]((25/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 26-10-2017 19:42:08
          Calorie ที่ 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน


          " มาม๊า ขออีกจานคร๊าบ " 

          ผมมองหน้าไอ้ตัวหน้าด้านที่มาเสนอหน้ากินข้าวบ้านผม และยังเสือกขอเบิ้ลอีก 

          " ใครม๊ามึง ม๊ากูต่างหาก " ผมด่าไอ้เมี่ยงด้วยความหมั่นไส้

          " ฮ่าๆ ไม่ต้องแย่งกัน มาม๊าน่ะของอั๊วต่างหาก " ผมเบะปากให้ป๊าที่หันไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงม๊าอย่างน่าหมั่นไส้อีกคน

          ตอนเช้าๆก่อนไปเรียน ไอ้เมี่ยงมักจะมากินข้าวบ้านผม และเดินไปเรียนพร้อมกัน ซึ่งวันนี้พวกเรามีประชุมเชียร์และกิจกรรมแต่เช้า ผมไม่ได้ขี้เกียจหรืออะไรหรอกนะ แต่มันเหนื่อย ผมแค่เดินไวๆ แปบเดียวลมก็จะจับแล้วครับ 

          ไม่นานผมก็ออกจากบ้านพร้อมข้าวกล่องอีกชุด พลางถือขนมปังปิ้งอีกหนึ่งแผ่น เป็นอันจบพิธี ผมเดินลัดตรอกซอกซอยไปยังมหา'ลัยกับไอ้เมี่ยง ที่กำลังฉีดน้ำหอมในมือฟุ้งจนผมย่นจมูกฟึดฟัด 

          " มึงไม่อาบไปเลยล่ะ แสบจมูกชิบหาย " 

          " จมูกโลวคลาสอย่างมึงก็งี้แหละ ใครได้กลิ่นก็อยากเข้ามาติดพันธุ์กูทั้งนั้น " ผมมองมันด้วยสีหน้าเอือมระอา

          " มึงเห็นไหม ลิชชี่ยังเมินมึงเลย " ผมชี้ให้มันดูน้องหมาสีน้ำตาลตัวเมียที่อยู่แถวๆ ซอยนี้ ที่กำลังมองไอ้เมี่ยงและวิ่งหางจุกตูดออกไปอย่างรวดเร็ว

          " โห ปวดร้าวเลยลิชชี่ มึงเป็นลูกชิ้นแน่คอยดู!! " ผมดึงคอเสื้อไอ้เกรียนที่กำลังชี้หน้าด่าหมาอยู่ให้เดินไปต่อ กูอายคนเขา ไม่น่าชงเลยกู ก็รู้ว่ามันบ้า

          มหา'ลัยที่ผมได้สอบเข้านั้น เป็นมหา'ลัยที่ไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก และอยู่ในภาคเหนือ ผมก็แค่อยากอยู่แถวๆ บ้านเท่านั้น จะได้เดินทางไม่ไกล ผมกับไอ้เมี่ยงเป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล แต่ผมกับมันไม่ได้เรียนคณะเดียวกันนะครับ ไอ้เมี่ยงเรียนอยู่สถาปัตย์ ซึ่งก็นับเป็นเรื่องดี เพราะผมก็ไม่อยากอยู่ใกล้มันตลอดเวลา เพราะมันชอบหาเรื่องปวดหัวมาให้ประจำ 

          " ถ้ามึงพักแล้วมาหากูนะ กูรอใต้ตึกถาปัตย์ " ผมพยักหน้าด้วยสีหน้าเบื่อๆ ให้ไอ้เมี่ยง ซึ่งมันก็เดินสะบัดตูดไปอย่างรวดเร็ว พร้อมแวะหลีสาวตรงนั้นตรงโน้นทีไปเรื่อยตามสไตล์มัน

          ผมกระชับกระเป๋าเป้ พร้อมเดินก้มหน้าก้มตาไปยังคณะตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากของไอ้เมี่ยงนัก เดินผ่านใต้ต้นไม้และโต๊ะหินอ่อนมากมาย

          " น้องปีหนึ่งบริหารรีบเลยจ้า เค้ารวมตัวกันแล้วน้า " ผมเร่งฝีเท้าไปตามเสียงเรียกของรุ่นพี่

          " น้องคณะบริหารใช่ไหม ชื่ออะไร เอกอะไรจ๊ะ " ผมเงยหน้ามองรุ่นพี่คนสวยตาคมที่กำลังจับไหล่ผมอยู่

          " อาลี่ เอกบัญชีครับ " ผมยังคงก้มหน้าหลบตาต่ำพลางพูดเบาๆ

          " อาลี่น่ารักจัง แก้มยุ้ยเชียว นี่ป้ายชื่อนะจ๊ะ เก็บไว้ดีๆ ห้ามหายน้า " ไม่พูดปล่าวรุ่นพี่ยื่นมามาดึงแก้มผมด้วย เอาซะแรงเชียว และคล้องป้ายชื่อให้ผม

          " ขึ้นไปนั่งรอบนอัฒจันทร์เลยจ้า "

          ผมมองตามมือรุ่นพี่และเดินไปยังอัฒจันทร์ที่มีนักศึกษานั่งอยู่บ้างแล้ว ผมเดินเลาะขึ้นไปยังชั้นบนๆ และไม่สบตาใคร นั่งลงเปิดกระเป๋าและหยิบขนมมากินระหว่างนั่งรอ

          " เอาล่ะน้องๆ นั่งประจำที่ให้เรียบร้อยนะคะ เดี๋ยวเราจะมาพูดคุยกันก่อน " ผมนั่งเหม่อมองไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตั้งใจฟังเสียงของรุ่นพี่มากนัก ผมกำลังทำอะไรอยู่นะ ผมเบื่อจัง ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักอย่าง ชีวิตของผมมันน่าเบื่อขนาดนี้เลยรึไง

          " ก้มหน้าลงไป!! "

          ผมสะดุ้งจนขนมในมือร่วงกราว มองซ้ายมองขวาด้วยความตกใจเสียง ซึ่งเป็นเสียงที่ตะโกนดังมาก คนข้างๆที่ผมไม่รู้จักยื่นมือมากอดคอผมให้ก้มลงไปตามเสียงนั้น

          " พี่ว๊ากน่ะ " ผมที่ก้มหน้าลงก็หันข้างไปมองคนที่กดคอผมลงมาและกำลังพูดกระซิบบอกผมเบาๆ และพบว่าเป็นสาวน้อยน่ารักตาโตที่กำลังยิ้มน้อยๆ ให้ผม ผมยิ้มกลับไปให้แต่ก็หลบตาไม่กล้ามอง

          " คุยอะไรกัน!! ไม่เห็นหัวรุ่นพี่เลยใช่ไหม!! "

          ผมสะดุ้งเบาๆ และรีบก้มหน้าลงอีกนิด แต่ว่าเสียงคุ้นจังเลยนะ เหมือนกับเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน อัฒจันทร์นี้ตั้งอยู่ในโรงยิมขนาดใหญ่ ที่พวกรุ่นพี่นั้นปิดประตูและปิดไฟอีกทีทำให้มืดมากจนแทบมองไม่เห็น

          " ตรงนั้นน่ะ เห็นนะคุยอะไรกัน!! " ผมรีบหดคอไปใหญ่ด้วยความกลัว นี่กำลังด่าผมอยู่รึเปล่านะ 

          " ข.ขอโทษครับ " ผมพูดขึ้นแต่ก็ยังก้มหน้าอยู่

          " อะไร ไม่ได้ยิน!! " รุ่นพี่คนนั้นยังคงตะโกนใส่ผมอยู่ข้างๆ

          " ขอโทษครับ!! " ผมเงยหน้าขึ้นและตะโกนสุดเสียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ ผมไม่ชอบการตะโกนใส่กันแบบนี้เลย มันทำให้ผมเครียดง่าย

          แต่แล้วผมก็ต้องหยุดชะงักไป หัวใจเต้นรัวจนผมเผลอกำเสื้อเอาไว้แน่น และรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง ด้วยแววตาสั่นระริก ผมอยากไป ผมอยากออกไปจากตรงนี้ ผมอยากกลับบ้าน

          " อย่าให้เห็นว่ามีใครกล้าพูดคุยกันอีก " เสียงตะโกนยังคงดังขึ้นต่อไป แต่ว่าผมน่ะ ไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว

          " อาลี่ เป็นอะไรไหม " สาวน้อยข้างๆ ยื่นมือมาหาผมด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

          " ผมไม่เป็นไร " ผมพูดเสียงสั่น พยายามสงบจิตใจไว้

          ไม่นานพวกพี่ว๊ากกลุ่มนั้นก็ออกไป และแทนด้วยรุ่นพี่สันทนาการที่เข้ามาปลอบน้องๆและสอนพวกเราร้องเพลง ผมรู้สึกปวดหัว ผมเลยทำท่าจะลุกขึ้น เพื่อขอตัวกลับก่อน

          " อาลี่ไม่สบายเหรอ " 

          " ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อย ขอบคุณนะ " ผมหันไปยิ้มให้สาวน้อยคนนั้นและลุกขึ้น เดินลงมาตรงไปหารุ่นพี่ที่อยู่ข้างล่าง

          " ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายครับ ผมขอไปพักก่อนได้ไหม " 

          " ได้สิจ๊ะ รอตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่เอายามาให้ " ผมยืนรอรุ่นพี่ที่รีบวิ่งไปที่โต๊ะพลางรื้อค้นกล่องพยาบาลใบใหญ่

          ขณะที่ผมยืนรอยาอยู่นั้น ผมพยายามก้มหน้าก้มตาและ หันหลังให้อัฒจันทร์และผู้คนมากที่สุด 

          " ลี่ "  ผมตัวแข็งทื่อ ไม่ยอมหันไปตามเสียงร้องเรียกนั้น และพยายามเดินหนีออกมา

          " อาลี่ใช่ไหม " ผมหยุดเดินและมองดูมือข้างหนึ่งที่จับแขนผมไว้ ทำให้ผมไม่สามารถเดินต่อไปได้

          " ลี่จริงๆ ด้วย จำพี่ได้ไหม พี่นายไง " ผมก้มหน้าลงและปั้นหน้ายิ้ม หันกลับไปมองคนที่จับแขนผมอยู่ คนที่ผม อยากจะเจอเป็นคนสุดท้ายในชีวิต

          " สวัสดีครับ " พี่นาย



ผู้ที่เป็น รักแรกของผม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน ]((26/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 26-10-2017 23:44:44
ค้างเฉย มารอ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน ]((26/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-10-2017 00:28:18
หลานลี่เป็นอะไรไปเนี่ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน ]((26/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 27-10-2017 02:04:36
 :L2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน ]((26/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-10-2017 15:47:35
ติดตามจ้ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน ]((26/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: kasegawa ที่ 27-10-2017 16:53:50
 :o8: ติดตามมม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 2 รักแรกที่อยากลืมเลือน ]((26/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 28-10-2017 12:54:17
          Calorie ที่ 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก


          ผมปั้นยิ้มและนับหนึ่งถึงร้อยในใจช้าๆ พลางมองใบหน้าของคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุด 

          " สวัสดีครับ " ผมยกมือไหว้และส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้

          " โอ้โห จำแทบไม่ได้เลย กินดีอยู่ดีขึ้นสิเรา " พี่นายหยอกผมและส่งยิ้มอย่างใจดีมาให้

          " ครับ ก็นิดนึง ผมคิดว่าพี่ไปเรียนที่กรุงเทพฯ ซะอีก " ผมคิดแบบนั้นจริงๆ ครับ เพราะว่าพี่นายนั้นคือรุ่นพี่ของผมที่โรงเรียนเก่า และสอบติดมหา'ลัยดังในกรุงเทพฯ ใครจะคิดละครับว่าจะเลือกมาเข้าที่นี่แทน

          " พี่ไม่อยากอยู่กรุงเทพน่ะสิ อยู่นี่ก็ใกล้ดี แล้วทำไมตอนปัจฉิมม.6 ลี่ถึงไม่ไปหาพี่ล่ะ พี่ก็รออยู่นะ แต่ลี่ก็ไม่มา " ผมหลบตาพี่นายที่กำลังทำหน้าเศร้ามองผม

          " พอดีผมไม่ค่อยสบายช่วงนั้นก็เลย...ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ " ผมโกหก เพราะเหตุผลที่ผมไม่ไปจริงๆ นั้น มันเจ็บปวดจนผมพูดไม่ออก

          " ไม่เป็นไร ไหนๆ ก็เรียนที่เดียวกัน แถมคณะเดียวกันอีก เย็นนี่พี่เลี้ยงนะ ไปกินข้าวกันนะครับ " พี่นายพูดพลางดึงแก้มผมเบาๆ แต่ผมก็หันหน้าหลบ 

          พี่เป็นแบบนี้เสมอ เป็นมานาน และเป็นกับทุกคน ผมรู้ซึ้งถึงมันดี คนหน้าตาดีนี่เจ้าชู้ทุกคนเลยสินะ

          " แต่ว่าผม.. " ผมอึกอักลังเล 

          " ตกลงนะ " พี่นายยังคงยิ้มและรอคำตอบ

          " ครับ " ผมไม่เคยปฏิเสธคนคนนี้ได้เลย

          ในช่วงบ่าย ผมที่ทั้งง่วง ทั้งหิว ทั้งเหนื่อย ก็ต้องทนตรากตรำเข้าร่วมเล่นเกมส์และร้องเพลงกับเพื่อนๆ ซึ่งพี่นายที่เป็นพี่วินัย ก็ส่งยิ้มมาให้ผมตลอดเวลาที่อยู่ด้านล่าง แต่มันกลับทำให้ผมอึดอัดมากกว่าจะรู้สึกดี 

          ' พี่นายโครตหล่อ ' 

          ' เค้าว่าเป็นเดือนคณะปีที่แล้วไงมึง '

          ' แค่เดือนคณะเหรอ แล้วใครได้เป็นเดือนมหา'ลัยวะ '

          ' เค้าว่ากันว่าอยู่ถาปัตย์เว้ย หล่อที่สุดเท่าที่มหา'ลัยเคยมีมา ' 

          ' หล่อกว่าพี่นายนี่ก็เทพบุตรแล้วมั้ง ' 

          ผมฟังเสียงซุบซิบที่ดังรอบๆ ตัวผมด้วยสีหน้านิ่งเฉย ผมไม่แปลกใจนักหรอกครับ เพราะว่าพี่นายน่ะ ตอนสมัยม.ปลาย ก็เป็นดาวเด่นของโรงเรียน ทั้งหล่อ ใจดี พูดเพราะ สุภาพบุรุษ เทคแคร์ทุกคนจนทำให้พวกผู้หญิงมีเรื่องกันเสมอ และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่ถูกความอ่อนโยนของพี่ล่อลวงไป

          แต่จริงๆ เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้เป็นชอบผู้ชายหรอกนะ ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงเมื่อสมัยม.ปลายเหมือนกัน แต่ก็ไปไม่รอดสักคน ผมอาจไม่เหมาะจะมีใครละมั้ง ไอ้เมี่ยงบอกว่าผมติสเกินไป ชีวิตแม่งโดนทำร้ายแท้ๆ

          ตกเย็น เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นแล้ว พร้อมๆ กับความอดทนของผม ตอนนี้ท้องของผมร้องโครกครากอย่างน่าหวาดหวั่น 

          " ไปกันลี่ กินไรดี " พี่นายเดินมากอดคอผม ซึ่งแน่นอนว่าผมเบี่ยงตัวหลบทันควัน

          " เอ่อ ผมต้องไปคณะสถาปัตย์ก่อน " ผมนึกขึ้นได้ว่าป่านนี้ไอ้เมี่ยงอกแตกตายแล้วมั้ง เมื่อกลางวันผมก็ไม่ได้ไปหามันด้วย 

          " พอดีเลย พี่ก็ต้องไปรับเพื่อนด้วยเหมือนกัน " ผมที่ตอนแรกตัดสินใจว่าจะเดินไป ก็ถูกพี่นายลากขึ้นรถซะได้

          " ตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 3 เท่าเลยนะเนี่ย แต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี " ผมไม่หลงไปกับคำพูดนั้นหรอก พี่หลอกผมไม่ได้อีกแล้ว

          " ผมไม่ใช่ลี่คนเดิมแล้วครับ " ผมพูดและยิ้มให้พี่นายที่ทำหน้างงๆใส่ 

          ไม่นานผมก็มาถึงหน้าคณะสถาปัตยกรรม จริงๆ แค่เดินมาก็ถึงแล้วล่ะ ผมลงจากรถและมองหาไอ้เพื่อนตัวแสบของผม 

          " ลี่~ ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้ โธ่ ทิ้งคนหล่อให้กินข้าวคนเดียวได้ไง " ผมยืนนิ่งๆ มองหน้าไอ้เมี่ยงที่จับไหล่ผมไว้ และเขย่าผมแรงๆ จนแก้มสั่นไปหมด แต่แล้วไหล่ผมที่ถูกจับอยู่ก็โดนบีบแรงขึ้น เอาล่ะ นรกจะแตกหรือเปล่าเดี๋ยวรู้กัน

          " ลี่ ทำไมวะ " ผมหลบตาไอ้เมี่ยงที่มองผมอย่างไม่พอใจ

          " สวัสดีครับ พี่นาย ยังไม่ตายอีกเหรอครับ " ไอ้เมี่ยงเปลี่ยนเป้าหมายจากผม ไปเดินรอบๆตัวพี่นายที่ยืนยิ้มเฉยๆแบบไม่สะทกสะท้านมองไอ้เมี่ยง

          " ปากเก่งเหมือนเดิมนะ "

          ไอ้เมี่ยงกับพี่นายนั้นก็เหมือนน้ำมันกับไฟ เพราะเพื่อนผมมันแค้นคนคนนี้มาก แต่ผมไม่โทษพี่นายหรอกครับ เพราะตบมือข้างเดียวนั้นมันไม่มีวันดัง

          " มึงยังไม่เข็ดอีกใช่ไหม " ไอ้เมี่ยงก้มลงกระซิบข้างหูผมและกัดฟันกรามแน่น 

          " มึงคิดแบบนั้นเหรอ " ผมพูดเบาๆ ด้วยสีหน้านิ่งเฉย

          " มันกำลังมาเล่นกับมึงอีกแล้ว ดูสภาพมึงตอนนี้สิ ขนาดเมื่อก่อนมึงดีแค่ไหน มันยังทำแบบนั้นกับมึงเลย " 

          " แล้วมึงคิดว่ากูจะเล่นกับพี่เขาเหรอ " ผมยังคงพูดเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบกับมันด้วยใบหน้านิ่งเฉยเช่นเดิม

          " มึงเพื่อนกู ถ้าไอ้เชี่ยนี่แตะมึงเมื่อไหร่ กูฆ่ามันแน่ " 

          " สภาพกูแบบนี้พี่เขาจะเอาเหรอ กูรู้น่าไม่ต้องห่วง ไม่มีใครหลอกกูได้อีกแน่ๆ มึงคิดมากนะ " ผมหัวเราะหึ 

          " คุยอะไรกันเหรอ น่าสนุกนะ ให้พี่คุยด้วยสิ " พี่นายยื่นหน้าเข้ามาและส่งยิ้มกวนประสาทให้ไอ้เมี่ยง อย่าต่อยกันตรงนี้เด้อ 

          " อ้าว โรล มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ " ผมหันไปมองตามเสียงของพี่นายกำลังเรียกเพื่อนตัวเองอยู่ 

          " เฮ้ย มึงได้ยินกูไหมเนี่ย " พี่นายเดินเข้าไปหาเพื่อนและโบกมือไปมาอยู่ตรงหน้า แต่เพื่อนคนนั้นก็เหมือนกับอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง แต่เดี๋ยวนะจ้องผมเหรอ 

          ผมมองไปรอบๆ และสังเกตุว่าผู้คนต่างหยุดยืนมอง หรือเดินแล้วเหลียวหลัง และซุบซิบเสียงดัง ผมมองไปด้านหลังของผม แต่ก็ว่างเปล่า ไอ้หมอนั่นมันยังไงกันนะ

          " เออๆ กูไม่ได้หูหนวก " คนคนนั้นดึงหูฟังออกจากหูและเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ในปาก สพายกระเป๋าที่ไหล่ แต่งตัวเซอร์ๆ ตามสไตล์หนุ่มสถาปัตย์ แต่มันแปลกตรงที่ว่า มันดูดีสุดๆเลยครับ ต้องบอกว่าออร่ามันทำเอาคนแถวนี้กลายเป็นอสูรกายไปเลย ขนาดพี่นายที่ว่าหล่อแล้ว ผมว่าก็ยังไม่เท่า 

          แต่ว่านะ ผมไม่สนหรอก อย่าคาดหวังกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งนั้นทำให้ผมได้แค่ก้มมองพื้นและยอมรับชะตากรรมเท่านั้น มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ไอ้ความเพ้อฝันชวนอ้วกแบบในนิยายน่ะ พอเถอะ กลับสู่โลกความเป็นจริงสักที

          " ผมไปรอที่รถนะครับ ป่ะเมี่ยง " ผมกอดคอเพื่อนและลากมันเดินไปยังลานจอดรถ ซึ่งมันก็ตามมาง่ายๆ ผมรู้ว่าเพราะอะไร ก็เพราะว่ามันจะไม่มีวันปล่อยผมไปตามลำพังกับพี่นายไงครับ เพื่อนผมถึงมันจะปัญญาอ่อน แต่มันก็ดูแลผมเสมอ

          ไอ้เมี่ยง มันก็จัดว่าเป็นคนที่หล่อมากๆ คนหนึ่ง และเป็นเสือผู้หญิงละมั้ง เพราะมันชอบแซวหญิง ซึ่งผมคิดว่าเสือสองตัวมักจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ มันเลยฟัดกับเสือรุ่นใหญ่แบบพี่นาย ซึ่งมันก็ต้องแพ้ทุกที อย่างน่าสงสาร ก็อย่างว่าแหละ แค่รวยก็ชนะขาดแล้วครับ 

          " น้องลี่ นี่เพื่อนพี่ ชื่อโรล เอ่อ อย่าไปสนมันมากนะ มันจะแปลกๆ แบบนี้แหละ " ผมมองพี่นายและอีพี่โรลที่เดินตามมา หมอนั่นไม่ยอมมองผมแต่กำลังมองไปยังบนท้องฟ้า พลางฮัมเพลงแบบไม่สนโลก แปลว่าเมื่อกี้ผมคิดไปเองสินะ ว่าหมอนี่มองผมอยู่ 

          พี่นายจงใจไม่แนะนำไอ้เมี่ยงครับ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติ และผมก็คิดว่าดีแล้วล่ะ 

          " พี่โรล หวัดดีครับพี่ เมื่อกลางวันขอบคุณนะครับ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยกมือไหว้คนที่กำลังแกะหมากฝรั่งออกจากแก้มตัวเองอยู่

          " หวัดดีๆ ไหว้พระ " ผมว่าไอ้พี่โรลนี่น่าจะไม่เต็มครับ เสียดายเนอะ ผมอยากหล่อได้สักครึ่งของหมอนี่จัง และผมว่าไอ้เมี่ยงได้คู่หูที่ดีแล้วล่ะแบบนี้ บ้ากว่ามันซะอีกดูแล้ว

          " เฮ้ย อะไรของมึงวะ มานั่งข้างกูดิ " พี่นายร้องบอกทันทีที่ไอ้พี่โรลขึ้นไปนั่งด้านหลังครับ มันแปลกจริงๆนะหมอนี่

          " เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมนั่งข้างพี่เอง " ผมตัดสินใจและเปิดประตูรถเตรียมพร้อมจะขึ้นไป แต่ว่าอยู่ๆไอ้พี่โรลนั่นก็พุ่งพรวดไปที่เบาะหน้า และนั่งทำหน้ามึนแบบไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ อะไรของมันฟะ

          สุดท้ายผมก็นั่งกับไอ้เมี่ยงที่ทำหน้ายักษ์ตลอดเวลา พลางมองดูไอ้พี่โรลที่ตอนนี้ยกเท้าขึ้นมาวางลงบนช่องแอร์ เอ่อพี่ครับ ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์ครับ ไอ้หอกเอ้ย

          " น้องลี่คิดออกหรือยังว่าจะกินอะไร " พี่นายพูดพลางยิ้มแป้น

          " กินอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องจ่าย ขอแพงๆ " ผมไม่ได้พูดนะครับ ไอ้เมี่ยงมันพูด แต่ผมก็คิดแบบนั้นแหละ ฮ่าๆ

          " เอ่อ บุพเฟ่ " ผมอยากกินให้ลืมโลกไปเลยครับ ยิ่งกับคนที่ทำให้ผมไม่สนโลกด้วยแล้ว ต้องจัดหนัก จัดเต็ม

          " มาร์ชแมลโลว์ " ผมมองไอ้พี่โรลที่เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง

          " ผมมีนะ มาร์ชแมลโลว์น่ะ " ผมเปิดกระเป๋าล้วงเอาขนมที่ผมเก็บไว้สารพัดออกมาและก็เจอห่อนึง มันเป็นสีชมพูรูปหัวใจซะได้ ไม่ให้ดีไหมเนี่ย

          ' หมับ '  ผมสะดุ้งน้อยๆ เพราะอยู่ดีๆไอ้บ้าพี่โรลนี่ก็ล้วงมือเข้ามาในกระเป๋าของผมแบบไม่ได้รับอนุญาต และกำขนมผมออกไปหลายห่อเลยทีเดียว เดี๋ยวเถอะไอ้ห่าเอ้ย สมบัติของข้า เอื้อออ

          " แลกกัน " ผมมองมือไอ้พี่โรลที่กำลังล้วงกระเป๋าตัวเองอยู่และยื่นช็อคโกแลตหน้าตาแปลกๆ ที่ดูโครตแพงและน่ากินมาให้ผม อื้อหือ แบบนี้เดล!!

          " กินอะไรที่แคลอรี่น้อยลงดีกว่านะลี่ พี่เป็นห่วง " พี่นายหันมาพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง ชิ อย่ามาขัดลาภนะ

          " พรุ่งนี้จะลดแล้วครับ " 

          " กูเห็นมึงพูดมาเป็นปีละ " ผมเหยียบทีนไอ้เมี่ยงไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

          แต่ผมก็ต้องแปลกใจ เพราะว่าหลังพูดจบ พี่โรลก็ยื่นช็อคโกแลตมาให้ผมอีก ซึ่งเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว และทำท่าจะยกทั้งกระเป๋าให้ผม 

          " เอ่อ พอแล้วครับ " พูดไปงั้นแหละ จริงๆ หนูช๊อบชอบ ฮ่าๆ

          " พี่จะขุนเพื่อนผมเพิ่มใช่ไหมเนี่ย ฮ่าๆ " ไอ้เมี่ยงพูดพลางแย่งขนมไปกิน ซึ่งผมก็แย่งกลับมาจากปากมันเลยด้วยซ้ำ ของกินข้าใครก็ห้ามแตะเฟ้ย

          แต่แบบนี้ก็ดีแฮะ ผมว่าผมอาจจะต้องมองไอ้พี่โรลนี่ใหม่ซะแล้ว นี่มันตู้ขนมเคลื่อนที่ชัดๆ แต่ว่าก็น่าแปลกนะที่คนแบบนี้จะมาเป็นเพื่อนกับพี่นาย สงสัยคงจะมีอะไรคล้ายกันละมั้ง ผมเผลอมองดูพี่โรลที่หันมายื่นขนมให้ผม และพี่โรลก็เหลือบตาขึ้นมามองผมพอดี เหมือนพี่โรลจะชะงักไปเล็กน้อย และทำขนมร่วงกราวลงกับพื้น

          " ผมเก็บเอง ผมเก็บเอง " ผมแย่งเก็บขนมที่ร่วงลงกับพื้นเพราะผมเกรงใจพี่เขา แต่ว่ามันแปลกมาก เพราะอีตาพี่โรลที่เหมือนกำลังจะช่วยผมเก็บขนมที่หล่น แต่กลับคว้าหมับเข้าที่มือผมซะงั้น



ตกลงไอ้บ้านี่มันยังไงกันแน่เนี่ย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ]((28/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 28-10-2017 13:19:06
โรลคือพระเอกใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ]((28/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-10-2017 13:56:08
 :hao7: เอะ อะไร ยังไง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ]((28/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 28-10-2017 15:34:58
 :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ]((28/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 28-10-2017 20:21:35
น่ารักมากเลยค่ะ :katai2-1: มารอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ]((28/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-10-2017 22:52:05
อยากรู้นิสัยนายจริง ๆ ว่าทำอะไรให้หลานลี่เจ็บช้ำน้ำใจขนาดทำให้ตัวใหญ่กว่าเดิม 3 เท่า  :undecided:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 3 พี่โรลผู้แสนติสแตก ]((28/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 29-10-2017 15:22:47
          Calorie ที่ 4 บุพเฟ่ที่แสนวุ่นวาย


          ผมยังคงมองมือของผมที่โดนเกาะกุมไว้ ไอ้หมอนี่มันยังไงกันแน่นะ

          " เหมือนมาร์ชแมลโลว์ " ห๊ะ แกว่าไงนะ   

          พี่โรลแค่พูดเบาๆ และปล่อยมือผม พลางควานเก็บขนมที่ร่วงบนพื้นต่อไป ผมหน้าขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่ก็หยุดตัวเองโดยฉับพลัน หมอนี่อาจจะกำลังล้อเลียนผมอยู่สินะ มันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ผมยิ้มน้อยๆ ให้ตัวเอง เมื่อไหร่จะเลิกคิดไปเองสักทีผมไม่เข้าใจ

          ไม่นานรถพวกเราก็มาจอดลงที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผมกับเมี่ยงเดินคู่กันตามหลังสองคนข้างหน้าที่สูงชะลูดเหลือเกิน ถ้าพูดให้ถูกก็คือแม่งอย่างกับเสาไฟฟ้ากันทั้ง 3 คน มีผมเป็นตอหม้ออยู่คนเดียว ผมเดินก้มหน้าหลบเสียงซุบซิบที่ดังมาตลอดทาง ก็ไม่แปลกหรอก แต่ถามว่าสนไหม บอกเลยว่าไม่ครับ 

          สุดท้ายพวกเราก็เข้าร้านบุพเฟ่ต์ร้านหนึ่งที่มีจานเล็กๆ หมุนวนไปมา เอาเถอะ ตอนนี้ผมกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น หิวจนจะแดกทั้งสามคนนี้ได้อยู่แล้ว ผมรีบวิ่งลั้ลลาเข้าไปคนแรก และนั่งแหมะที่โต๊ะที่ว่าง นั่งชิดด้านในติดกับรางเลยทีเดียว

          " โธ่ นึกว่าจะเลี้ยงของแพงกว่านี้ กระจอกว่ะ " ไอ้เมี่ยงบ่นปากขมุบขมิบดูถูกพี่นาย 

          " ไม่กินก็กลับไป " พี่นายก็ไม่พูดดีกับมันเท่าไหร่ครับ ผมชินแล้ว

          สุดท้ายไอ้เมี่ยงก็เดินมานั่งข้างผม ส่วนพี่นายกับพี่โรลนั่งฝั่งตรงข้าม ซึ่งพี่โรลก็นั่งติดกับรางเหมือนผม ผมไม่รอใคร และเริ่มหยิบเนื้อทุกจานที่ผ่านมา เน้นเบคอนและสามชั้น นี่มันสวรรค์ชัดๆ ซึ่งรางของจานนั้นก็ไหลมาจากด้านของผม

          " ลี่เอาน้ำอะไร เดี๋ยวพี่ไปเอาให้ " พี่นายลุกขึ้นพลางถามผมด้วยรอยยิ้ม

          " เอ่อ ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวไอ้เมี่ยงไปเอาให้ครับ " ไอ้เมี่ยงที่กำลังคีบกุ้งเข้าปากหันควับมาหาผมทันทีด้วยแววตาเกรี้ยวกราด แต่ผมก็สยบแววตานั้นด้วยทีนผมที่กำลังบดขยี้ทีนมันอยู่อย่างร้อนแรง ซึ่งไอ้เมี่ยงจึงต้องจำใจลุกไปเอาน้ำให้ผม ในขณะที่พี่นายก็ไปเอาให้พี่โรลเช่นกัน 

          ' แช่ะ แช่ะ ' 

          ผมที่ได้ยินเสียงแปลกๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงนั้น และก็เห็นว่าอีพี่โรลที่ยังไม่ได้ลงมือกิน กำลังยกมือถือขึ้นสูงและเซลฟี่กดรัวๆ สุดกำลัง 

          ' ว๊าย หล่อมากแก ' 

          ' เข้าไปคุยดิ '

          ผมเหลือบหันหลังไปมองสาวๆ โต๊ะข้างๆ ที่กำลังวี๊ดว๊ายแอบส่องอีพี่โรลพลางหัวเราะคิกคัก เหอะๆ ก็แน่นอนล่ะ ไอ้หมอนี่สาวๆ แค่มองคงแทบอิ่ม แต่ผมอยากอ้วกแฮะ

          ' ไอ้หมูตอนนั่นอะไรอ่ะ เสียวิวดีๆ หมด ' 

          ' สเปกแกไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆ เดี๋ยวไปขอเบอร์ให้ '

          ' ไม่มีวันอ่ะ เดี๋ยวไขมันจุกอกตาย ฮ่าๆ '

          ผมก้มหน้าลงแทบจะมุดลงหม้อ เพราะคำนินทาเสียดแทงนั้นค่อนข้างดัง แต่ก็นะ ก็ทำตัวเองไง จะโทษใครล่ะลี่ 

          ผมไม่สนและมองจานอาหารที่กำลังเลื่อนมาเรื่อยๆ แต่เดี๋ยวนะ มันมีจานหนึ่งที่แปลกๆ เพราะมันมีกระดาษเล็กๆ เสียบกับไม้จิ้มฟันและเสียบลงกับลูกชิ้นอีกที กำลังเลื่อนผ่านผมช้าๆ และถ้าผมเดาไม่ผิด น่าจะมาจากโต๊ะสาวๆ กลุ่มนั้นที่กำลังหัวเราะคิกคัก

          ' ชอบนะคะ มีแฟนหรือยัง ' 

          ผมเหลือบมองตัวอักษรบนกระดาษแผ่นนั้นที่กำลังเลื่อนมาจนเกือบจะถึงพี่โรล แต่ไอ้คนโดนจีบสงสัยยังไม่รู้ตัวมั้ง เพราะว่าหมอนั่นไม่มองที่จานเลย แต่กำลัง เอ๊ะ เดี๋ยวนะ มองผมเหรอ และมองด้วยสีหน้าแววตาที่ดูเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง

          ' เคร้ง ' 

          และผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะอยู่ดีๆ อีพี่โรลนั่นก็หยิบจานที่มีกระดาษปักอยู่ และทิ้งลงพื้นเสียงดัง จนพนักงานวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาด้วยความตกใจ

          " สกปรก " พี่โรลแค่พูดทำเดียว แต่ก็ฉีกยิ้มกว้างสุดๆ มาให้ผม แล้วมันหมายความว่าไงละนั่น

          " มีอะไรวะโรล นี่กูไม่อยู่แปบเดียวก็ก่อเรื่องซะแล้ว " พี่นายเดินกลับมาพอดีด้วยน้ำในมือทั้งสองข้าง และไอ้เมี่ยงก็เดินตามมาด้วยสีหน้างงๆ

          " แมลงสาป " พี่โรลพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่พวกเจ้โต๊ะข้างๆ หน้าเจื่อนไปเรียบร้อย และพากันลุกเช็คบิลออกไปจากร้าน 

          " เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับ นั่งเถอะ " ผมพูดพลางยิ้มให้พี่นาย ผมไม่ค่อยเข้าใจการกระทำพี่โรลเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้รู้ว่าหมอนี่ทำสีหน้าแบบนั้นเป็นด้วยแฮะ

          สักพักพวกผมก็กินกันไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนมากคนที่หยิบใส่หม้อก็คือผม และตอนนี้ไอ้เพื่อนเกรียนของผมก็กำลังยืนเสยผม จีบสาวๆ โต๊ะที่เยื้องกับเรา ไอ้หน้าหม้อเอ้ย และมันจะดีกว่านี้มาก ถ้ามึงไม่เสือกหยิบของกินบนโต๊ะเขาเข้าปากไปด้วย ไอ้หอก

          " ลี่ เมื่อกลางวันพี่ขอโทษที่ตะโกนใส่นะ พี่ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นลี่ " พี่นายกำลังพูดถึงตอนว๊ากครับ

          " ถึงพี่รู้ว่าเป็นลี่พี่ก็ต้องทำไม่ใช่เหรอ ไม่เป็นไรหรอกครับ "  ผมยิ้มเจื่อนๆ เพราะจริงๆ ผมไม่ชอบเลยครับ

          " ลี่ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า ว่างๆ พี่ไปนั่งเล่นนะ " ผมมองพี่นายที่กำลังส่งยิ้มให้ผม ผมไม่เข้าใจ พี่ยังต้องการอะไรจากผมอีก

          " เออพี่โรล ไอ้ตัวแทนเดือนคณะเนี่ย มันต้องทำอะไรบ้างอ่ะพี่ " ไอ้เมี่ยงที่ปากมันแพร่บเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ นี่มึงไปจกของเขามาจนอิ่มเลยสินะ

          " ซ้อม และก็ชนะ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่พยักหน้างึกงัก นี่มึงเข้าใจจริงๆ เหรอวะ คนแบบเดียวกันนี่มันคุยกันรู้เรื่องวุ๊ย แต่เดี๋ยวนะ 

          " มึงเนี่ยนะตัวแทนคณะ " ผมมองมันด้วยสีหน้ารังเกียจสุดๆ สถาปัตย์มันขาดแคลนคนหล่อถึงขนาดเอาคนไม่เต็มบาทมาเป็นตัวแทนเลยเหรอ

          " ของมันแน่นอน " ไอ้เมี่ยงทำท่าเก็กหล่อ ยักคิ้วหลิ่วตามาให้ เอาตะเกือบจกตาแม่งดีไหมเนี่ย

          " ผมต้องได้รับสายสะพายต่อจากพี่โรลแน่นอน สถาปัตย์เราต้องครองแชมป์ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยื่นมือค้างในอากาศแต่พี่โรลก็ไม่ได้สนใจ เพราะกำลังเอาตะเกียบเคาะโต๊ะอย่างเมามันส์

          แต่แบบนี้ก็ชัดเจน เดือนมหา'ลัยที่เค้าลือกันว่าหล่อที่สุดในประวัติศาสตร์มหา'ลัยเราก็คือพี่โรลนี่เอง แต่แบบว่าเอ่อ ไอ้หล่อก็หล่อแหละ แต่คนแบบนี้เนี่ยนะ พี่เขาพูดภาษาคนปกติเป็นหรือเปล่าผมยังไม่แน่ใจเลย อึ้งสุดๆ

          " เหอะ ฝันไปเถอะ แต่เสียดายนะ ถ้าลี่เป็นเหมือนสมัยก่อน พี่ว่าก็อาจเป็นตัวแทนได้ " ผมมองพี่นายที่มองไอ้เมี่ยงด้วยสายตาเหยียดหยามและเปลี่ยนเป็นยิ้มละมุนมองผม

          " ผมเนี่ยนะ " ผมเลิกคิ้วพลางมองพี่นายแบบมึนๆ

          " คงไม่ได้เดือนมหา'ลัย แต่ถ้าตำแหน่งอื่นพี่ว่าอาจจะได้ " เหอะๆ ผู้ชายหน้าแบบผมมันไม่ค่อยนิยมในหมู่สาวๆ ครับ คงจะยาก

          " เห็นด้วย " ห๊ะ เหมือนหูจะแว่ว เพราะพี่โรลก็แค่ก้มหน้าสไลด์หน้าจอมือถือ

          หลังจากกินกันเสร็จ พี่นายก็อาสามาส่งผมที่บ้าน เพราะว่ามันดึกพอสมควร ซึ่งพี่นายบอกว่าคอนโดของพี่โรลนั้นอยู่ใกล้ที่สุด เลยจะไปส่งก่อน แต่พี่โรลก็ไม่ยอมลงจากรถลูกเดียว ไม่รู้เป็นอะไรของเขา เป็นคนที่แปลกสุดๆ จริงๆ

          " ขอบคุณนะครับที่มาส่ง " ผมที่ลงจากรถก็บอกขอบคุณพี่นาย และเหลือบมองพี่โรลที่กำลังจดอะไรยุกยิกในสมุดเล่มเล็กๆ

          " พี่โรลแล้วเจอกันนะพี่ " ไอ้เมี่ยงกอดคอผมพลางยื่นหน้าบอกลาอีพี่โรลรุ่นพี่คณะมันอย่างประจบสอพลอ

          " ฝันดี " พี่โรลเงยหน้าออกจากสมุดและพูดเบาๆ พลางส่งยิ้มมาให้ 

          " อร๊ายยย มึงได้ยินไหมลี่ พี่โรลบอกฝันดีกู หล่อสัดๆ รุ่นพี่กู ถ้ากูเป็นผู้หญิงนี่ช็อตนี้มีท้อง ฮ่าๆ "  ผมมองไอ้เมี่ยงด้วยสีหน้าเอือมระอาพลางมองตามรถที่ขับออกไป จากนี้ผมควรจะอยู่ห่างๆ คนพวกนั้นสินะ เพราะหัวใจของผมมันบอกว่า



ผมไม่อยากกลับไปเป็นคนโง่อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 4 บุพเฟ่ที่แสนวุ่นวาย ]((29/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2017 15:42:59
 :man1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 4 บุพเฟ่ที่แสนวุ่นวาย ]((29/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 29-10-2017 21:14:29
เอาพี่นายให้เมี่ยงไป ไปกัดกันตรงนู่น
ส่วนโรลให้ลี่ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 4 บุพเฟ่ที่แสนวุ่นวาย ]((29/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 29-10-2017 22:31:33
อยากได้ยินหลานโรลพูดอะไรกับลี่มากกว่านี้อ่ะ ส่วนหลานนายช่วยพูดให้น้อย ๆ หน่อย  o16
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 4 บุพเฟ่ที่แสนวุ่นวาย ]((29/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: เพียงเพื่อน ที่ 31-10-2017 00:58:29
ใครกันนะ พระเอก หืมมมมมมมมมมมมมมมมมมม  :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 4 บุพเฟ่ที่แสนวุ่นวาย ]((29/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 31-10-2017 15:08:52
          Calorie ที่ 5 มาร์ชแมลโลว์ที่น่ากิน


          ในวันต่อๆ มาผมก็ยังคงวุ่นอยู่กับกิจกรรมมหา'ลัย ซึ่งตัวผมนั้น ก็หลบเลี่ยงพี่นายอยู่เสมอเพราะพี่เขาชอบที่จะเข้ามาทักผม และตอนนี้ผมก็มีเพื่อนแล้วนะ เป็นสาวน้อยน่ารักตากลม เธอเป็นคนที่คอยบอกผมเสมอเวลาที่ผมเหม่อหรือทำผิดพลาด ถือว่าเป็นคนที่ดีทีเดียว

          " นี่ อาลี่เป็นอะไรกับพี่นายเหรอ " แพรถามผมด้วยแววตาวิบวับ รู้นะว่ากำลังคิดอะไร

          " รุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า " ผมพูดเบาๆ และหลบตาแพรที่มองมาด้วยความสนใจ

          " เหรอ แต่เหมือนพี่เขาชอบมาคุยกับลี่นะ แค่รุ่นพี่แน่ป่ะ " นี่เค้าเรียกว่าอะไรนะ สาววายหรือเปล่า ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว

          " พี่เขาก็เป็นแบบนี้กับทุกคนแหละ ไม่เชื่อแพรลองเข้าไปคุยสิ " ผมพูดพลางยิ้มให้แพร ที่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน ไม่ทันขาดคำพี่นายก็เดินขึ้นมาและยื่นน้ำหวานมาให้ผม 

          " ร้อนไหม กินอะไรบอกพี่นะ " 

          " ขอบคุณครับแต่ผมมีเยอะแล้วฮะ " ผมพูดพลางยกถุงขนมให้ดู ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน แต่มีคนเอามาวางไว้ตรงที่นั่งของผมทุกๆ วัน และมีชื่อผมเขียนติดไว้ซะด้วย สงสัยจะเป็นพวกพี่ๆ นี่แหละ

          " แหม ไม่ถามหนูมั่งเหรอคะพี่ " แพรพูดแซวพี่นายด้วยใบหน้ามีเลศนัย

          " ฮ่าๆ ถ้าอยากกินอะไรก็บอกพี่ได้เลย น้องชื่อแพรใช่ไหม​ ขอบคุณที่ดูแลลี่นะ " พี่นายพูดด้วยรอยยิ้ม

          " พี่ชอบอาลี่เหรอคะ " หืมมมม ผมถึงกับสำลักน้ำเลยทีเดียว เธอจะตรงไปแล้วนะ ยัยบ้านี่

          " พี่..เอ่อ " 

          " ผมไปห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา " ทันทีที่พี่นายเหมือนกำลังจะพูดอะไร ผมก็ลุกขึ้นทันที และเดินอย่างรวดเร็วออกมาจากตรงนั้น ผมไม่ชอบแบบนี้เลยให้ตาย

          ผมที่เดินจ้ำพรวดอย่างรวดเร็ว ก็ชนเข้ากับคนที่กำลังเดินสวนมาพอดีอย่างจัง 

          " ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ " ผมรีบยกมือท่วมหัว ขอโทษขอโพยคนที่ผมชนแบบไม่ลืมหูลืมตา

          " มาร์ชแมลโลว์ " ผมเงยหน้าขึ้นและก็พบว่าคนที่ผมชนนั้น ก็คืออีพี่โรลสุดติสคนนั้นนั่นเอง

          " ผม ชื่อ ลี่ ไม่ใช่มาร์ชแมลโลว์ "  ผมมองพี่โรลและเน้นเสียงว่าผมนั้นชื่อลี่นะเฟ้ย

          " อยากกิน " พี่โรลพูดเบาๆ พลางมองหน้าผม อ๋อ นึกว่าเรียกเรา ที่แท้ก็อยากกินขนมนี่เอง

          " ผมไม่ได้เอากระเป๋ามา ตอนนี้ไม่มีหรอกคร... " แต่ผมที่ยังพูดไม่จบก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าอีพี่โรลนั้น ตอนนี้เอานิ้วชี้มาจิ้มที่อกผม หือออ ผมตอนนี้ขมวดคิ้วเป็นปม แทบจะผูกโบว์ได้เลยทีเดียว

          " อ้าว โรลนี่เอง ขอยืมตัวหน่อยนะ อยากโชว์ให้น้องๆ บริหารได้เห็นเดือนปีที่แล้วน่ะ " รุ่นพี่สาวสวยคณะผมที่ตาคมๆ อยู่ดีๆ ก็เดินมาและดึงแขนพี่โรล ซึ่งพี่โรลที่ถูกลากไปก็ยังคงหันมามองผมครับ พิลึกคนจริงๆ นะหมอนี่

          ผมตัดสินใจเดินกลับไป เพราะจริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากไปห้องน้ำอะไรหรอกครับ แค่เบื่อคนบางคนเท่านั้นแหละ

          และทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในโรงยิม เสียงกรี๊ดที่ดังลั่นสนั่นก็ทำให้ผมถึงกับต้องอุดหูเลยทีเดียว  พี่โรลที่กำลังถูกสาวๆ ดึงไปดึงมา กำลังทำหน้ามุ่ยสุดๆ พี่แกก็อารมณ์หลากหลายดีนะ แต่แค่ไม่ค่อยพูดยาวๆ แค่นั้นละมั้ง

          " น้องๆ จ๋า นี่พี่โรล คณะสถาปัตยกรรมศาตร์ ปี 2 เดือนมหา'ลัยปีที่แล้ว หล่อไหม​จ๊ะ " 

          " หล่อคร่าาาา!!! " เสียงดังสนั่นตอบรับ พลางกรีดร้องทุรนทุรายปานโดนทำของใส่ ทำให้ผมถึงกับถอนหายใจเลยทีเดียว ยิ่งคณะผมที่ส่วนมากเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งหนวกหูชะมัด

          " แต่คณะเราก็ไม่น้อยหน้านะจ๊ะ เพราะพี่นายของเราก็ระดับรองเดือนมหา'ลัยเลยทีเดียว ขอเสียงปรบมือให้พี่นายหน่อยเร็วว " เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือดังสนั่นต่อไป อ๋อ พี่นายเป็นรองนี่เอง ก็สมกับเพื่อนกันละนะ

          ผมค่อยๆ เดินเลาะขึ้นไปนังบนอัฒจันทร์ที่เดิมของผม และจ้องมองพี่โรลที่ยังคงทำท่าเหมือนฝืนใจสุดจะทนที่จะต้องยืนอยู่ตรงนั้น 

          พี่โรลเป็นคนที่ผิวขาวและสูงมากๆ เหมือนตกถังแป้งมา ใส่ยีนส์ขาเดฟสีซีดขาดๆ และเสื้อนักศึกษายัดเข้ากางเกง ทำให้เห็นว่าพี่เขาขาวยาวแค่ไหน แต่รองเท้ากลับหนีบแตะสีแดงครับ เรียกได้ว่าเกือบจะดีทั้งตัวอยู่แล้วเชียว 

          " อ้าว พี่โรลพูดอะไรกับน้องๆ หน่อยสิคะ " พี่โรลที่กำลังแคะเล็บก็อยู่เงยหน้าขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่แล้วพี่แกอยู่ดีๆ ก็มองมาและยิ้มหวานซะงั้น อะไรของเขาวะนั่น

          " มาร์ชแมลโลว์ " หืมมมม ไม่ใช่แค่ผมครับ แต่ตอนนี้ทุกคนเงียบกริบจนแทบจะได้ยินเสียงจักกะจั่นเลยทีเดียว

          " เอ่อ ขอเสียงปรบมือให้พี่โรลสุดหล่อของเราอีกครั้งจ้า "  แต่เสียงปรบมือและกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นอีกครั้ง จนพี่โรลหน้ามุ่ย และยัดหูฟังใส่หูด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

          ตอนนี้ผมมองดูพี่โรลที่ถูกพี่นายกอดคอและพูดคุยอะไรกันสักอย่าง ผมสังเกตุว่าพี่แกก็พูดน้อยแบบนี้กับทุกคน เรียกได้ว่าแทบไม่พูดเลยครับ แล้วแบบนี้ตอนประกวดเดือนเมื่อปีที่แล้ว พี่แกได้ตำแหน่งได้ยังไงวะนั่น มึนเลยแฮะ

          " อาลี่~ ลี่ว่าเมื่อกี้พี่โรลเขามองมาทางแพรป่ะ " ผมเหลือบมองแพรที่กำลังยิ้มหวานเคลิ้มฝัน

          " ไม่แน่ใจอ่ะ คงมองแหละมั้ง " ผมว่าพี่แกมองมาทางนี้จริงๆ แหละ และผมก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เขามองผมอยู่

          " หล่อจังเลยน้า ได้ยินว่าพี่เขารวยมากๆ แต่ทำตัวติดดินน่าดู แพรลองจีบดูดีป่ะ " ผมได้แต่ส่งยิ้มให้แพรเท่านั้น ผมไม่รู้หรอก และไม่อยากรับรู้ด้วย

          หลังจากจบกิจกรรม ผมก็แบกกระเป๋ามุ่งหน้าไปยังตึกคณะสถาปัตย์ เพราะว่าต้องไปรอไอ้เมี่ยงครับ เห็นว่าวันนี้มันซ้อมดึกน่าดู เพราะใกล้เวลาจะประกวดแล้ว มันบอกมันแทบจะนอนเอาทีนก่ายหน้าผาก เพราะว่ามันยังคิดไม่ออกว่าจะแสดงอะไร 

          " ลี่จ๋า ช่วยเมี่ยงด้วยยย " ไอ้เมี่ยงที่เห็นผมเดินเข้ามาในห้องซ้อมก็รีบวิ่งมาด้วยความเร็วแสงพร้อมแหกปากเสียงดัง

          " อย่ามาจับกู ไอ้ติมกูเละหมดแล้ว " ผมมองมือผมที่ถูกเขย่าไปมาจนไอติมแทบจะกลิ้งลงไปกองกับพื้น

          " แสดงไรดีอ๊ะ อีกสามวันเอ๊งง ตายแหน่ " มันยังคงดิ้นแด่วๆ ที่พื้น นี่มึงเป็นตัวแทนจริงป่ะเนี่ย อุจาดลูกตา

          " ไม่ปรึกษาไอดอลมึงอ่ะ " ผมหมายถึงพี่โรลครับ ไอ้เมี่ยงมันปลื้มมาก มันบอกเป็นบุคคลต้นแบบและแรงบันดาลใจ 

          " ไม่รู้พี่เขาไปไหน ชอบหนีไปอยู่เรื่อยเลย เขาตามจับตัวกันอยู่ " ผมขมวดคิ้วมุ่น หนีไปไหนที่ไหนล่ะ ก็เห็นมาแถวๆ คณะผมทุกวัน

          " พูดถึงก็มาเลย ลูกพี่คร๊าบบบ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่เขี่ยผมให้พ้นทางอย่างไม่ใยดีและรีบวิ่งไปเกาะแข้งเกาะขาพี่โรลที่ทำหน้ามึนๆ มองมันแบบสมเพชน่าดู ไอ้สันขวาน ทิ้งกูเลยนะมึง

          ผมมองหามุมเล็กๆ และนั่งกินไอติมพลางมองพี่โรลที่กำลังใช้เท้ายันไอ้เมี่ยงให้ออกห่างๆ จากพี่เขาอยู่ บันเทิงดีแฮะ ผมยิ้มน้อยๆ มองดูคนบ้าสองคนที่กำลังฟัดกันเอง

          แต่แล้วพี่โรลที่สังเกตุเห็นผมก็ชะงักไป และอยู่ดีๆ ก็นั่งลงยองๆ กระซิบกระซาบอะไรสักอย่างกับไอ้เมี่ยง ผมมองคนบ้าสองคนที่ตอนนี้จับมือกันและพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าอกเข้าใจกัน เหอะๆ

          " ลี่จ๋า~ วันนี้ไปนอนเป็นเพื่อนคนหล่อที่ห้องได้ป่ะ พรุ่งนี้ได้พักวันนึง จะได้เล่นเกมส์กัน " ไอ้เมี่ยงเดินมาหาผมและนั่งลงกอดแข้งกอดขา ทำเสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์

          " เอาดิ ให้แม่มึงทำผัดมาม่าให้ด้วยนะ อยากกินอ่ะ " ไอ้เมี่ยงมันมานอนบ้านผมบ่อยครับและผมก็ไปนอนบ้านมันบ่อยเช่นกัน พวกเราเล่นเกมส์โต้รุ่ง เล่นไพ่ ดูหนัง อ่านการ์ตูน ทำอะไรด้วยกันเสมอมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว

          " โอเค โทรบอกม๊ามึงเลย เดี๋ยวกูโทรบอกแม่กูก่อน " ไอ้เมี่ยงพูดพลางลุกขึ้นเดินออกไปโทรศัพท์

          ผมที่กำลังแกะเยลลี่กิน ก็เผลอเหลือบมองพี่โรลซะได้ พี่โรลนั้นกำลังยืนกอดอก หันหน้าเข้าหาเวที แต่เอ๊ะ เดี๋ยวนะ พี่แกหันหน้าเข้าหาเวทีก็จริง แต่สายตากลับเหมือนกำลังเหลือบมองมาทางนี้แบบแปลกๆ และไม่รู้ทำไม ผมรู้สึกสังหรณ์ใจว่าคืนนี้ ผมไม่ควรไปนอนบ้านไอ้เมี่ยงเลย



ถ้าผมเปลี่ยนใจตอนนี้จะยังทันไหม​นะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 5 มาร์ชแมลโลว์ที่น่ากิน ]((31/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-10-2017 16:35:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 5 มาร์ชแมลโลว์ที่น่ากิน ]((31/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 31-10-2017 17:23:25
 :-[ พี่โรลมาแบบงงๆ นะฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 5 มาร์ชแมลโลว์ที่น่ากิน ]((31/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-11-2017 01:29:26
ไม่ทันแล้วลี่ โทรบอกแม่ให้เตรียมทำผัดมาม่าแล้ว  :laugh:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 5 มาร์ชแมลโลว์ที่น่ากิน ]((31/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 02-11-2017 11:27:16
          Calorie ที่ 6 คืนอลวนคนอลเวง


          ผมที่นั่งรอไอ้เมี่ยงจนดึกพอสมควร ในที่สุดก็ได้เวลากลับสักที ซึ่งผมกับมันก็เดินกลับด้วยกันเหมือนทุกๆ วัน และพอถึงหน้าบ้านผม ผมก็ขอแยกตัวเข้าบ้านมาเอาเสื้อผ้าก่อน และบอกให้มันกลับไปรอที่บ้านได้เลย 

          ผมเอาชุดนอนกางเกงขาสั้นที่ใส่สบายๆ และหอบขนมขบเคี้ยวไปอีกสองสามถุงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับคืนนี้ จริงๆ ไม่ต้องเอาขนมไปก็ได้ครับ บ้านมันก็ขนมเยอะเช่นกัน แต่ผมเกรงใจแม่มัน เพราะกลัวจะไปกินของบ้านเขาหมด 

          " ม๊าา พรุ่งนี้ลี่กลับนะ ไปนอนบ้านเมี่ยง "

          " ไปดีมาดีนะอาตี๋ เอาขนมไปฝากน้าจันทร์ด้วย บอกว่าม๊าฝากมา แล้วอย่าแอบกินก่อนไปถึงนะ " สมกับเป็นมาม๊า รู้ทันจริงๆ

          " คร้าบบ "  ผมบอกลาม๊าและป๊า พลางเปิดประตูและออกเดินไปบ้านไอ้เมี่ยงที่อยู่ถัดไปสองซอย

          ระหว่างทางก็แวะซื้อขนมเบื้องเพิ่มนิดหน่อย ขนมจีบก็น่ากิน โรตีอีกสักอันก็โอเค 

          " หวัดดีครับน้าจันทร์ " ผมยกมือสวัสดีแม่ไอ้เมี่ยง พลางยื่นขนมให้พอเป็นพิธี

          " กำลังรอเลยครับ ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะอาลี่ ขึ้นบ้านไปก่อนเลยลูก เดี๋ยวน้ายกขนมไปให้ " ผมก้มหัวเดินผ่านหน้าบ้าน ขึ้นบันไดไม้ที่อยู่ด้านใน

          บ้านของไอ้เมี่ยงเป็นกึ่งปูนกึ่งไม้ครับ และผมชอบมากกก มันรู้สึกโล่งโปร่งสบาย ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนบ้านผม 

          " อ้าว ก็ว่าช้าชิบหาย นี่มึงซื้อมากินหรือมาอาบ "

          ผมเจอไอ้เมี่ยงที่ประแป้งจนหน้าขาวเป็นหย่อมๆ กำลังยืนเกาตูดอยู่หน้าประตูห้องมัน แต่ปากมันก็พูดแบบนี้ทุกที นั่นไง มันเดินมาจกขนมเบื้องผมไปกินเฉย มือข้างที่เกาตูดซะด้วย ไอ้หอกหัก

          " เดี๋ยวกูไปล้างมือก่อน " ผมวางขนมไว้ที่โถงหน้าทีวี ตรงที่มีเก้าอี้ไม้ตัวยาวตั้งอยู่ และเดินไปห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามห้องนอนไอ้เมี่ยง

          ผมผลักประตูห้องน้ำเข้าไป หมายมั่นว่าจะล้างมือที่อ่างน้ำ แต่สายตาผมที่มองพื้นตลอดเวลา ก็ไปสะดุดเข้ากับเท้าคู่หนึ่งที่กำลังยืนหันหน้ามาหาผม 

          " อ้ากกกกกกกกกกก " ผมที่วิ่งด้วยสกิลขั้นสูงเลยดูเหมือนกลิ้งมากกว่า ผมรีบสไลด์ออกมาจากห้องน้ำแทบจะทันที และชนเข้ากับไอ้เพื่อนเกรียนที่กำลังจกขนมจีบของผมอยู่

          " เปงเอี้ยไยมุง " ไอ้เมี่ยงที่ขนมจีบเต็มปาก กำลังตาโตและเขย่าตัวผมพลางพูดพร้อมพ่นกระเทียมเจียวด้วยความเป็นห่วง(เหรอ) 

          ผมยังคงพูดไม่ออก มันแบบว่าขาวมาก แบบซิกแพค แบบว่าผมเปียก แบบว่าใหญ่ เอ้ย ไม่ใช่ๆ 

          " ทำไมถึงไม่บอกกู!! " ผมตะโกนสู้กระเทียมของมันอย่างเดือดดาล

          " อ๋อ แหม ร้องอย่างกับโดนตุ๋ยตูด พี่เขาอาบน้ำอยู่ มึงอย่าเพิ่งเข้าไป " มันที่เคี้ยวของกินของผมหมดแล้ว ก็พูดแบบสบายอารมณ์พร้อมเกาพุงไปด้วย

          " ช้าไปแล้วสัด " ผมตบกบาลไปหนึ่งทีความเครียดแค้น 

          " อาบเสร็จแล้ว " ผมค่อยๆ หันไปมองตามเสียงและก็ต้องรีบหันกลับมาอีกรอบ เพราะอีพี่โรลนั้นกำลังยืนเช็ดผมและนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆ หมอนี่ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยซะงั้น

          ผมรีบเดินเลี่ยงและวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วแสง โอ้ยย จะมาทำไมวะเนี่ย ผมไม่ได้อะไรหรอกนะครับ แต่ผมรู้สึกแปลกๆ อ่ะ บอกไม่ถูก พี่เขาแบบว่าเอ่อ จะนอนตรงไหนละนั่น ห้องไอ้เมี่ยงเล็กอย่างกับรังหนู 

          " ไม่ต้องห่วงครับ ไอ้ลี่มันชอบผู้ชาย "

          ผมที่ออกมาจากห้องน้ำก็ทันได้ยินประโยคชวนกระทืบผู้พูดทันที ไอ้ชิบหาย มึงจะขายกูทำไมเนี่ย แล้วไอ้แบบนั้นน่ะ มันจะไม่น่าเป็นห่วงได้ยังไง โอ้ย กูอยากกลับบ้าน

          " อย่าไปเชื่อมัน มันมั่ว " ผมรีบเดินมากระทืบทีนไอ้เมี่ยงพร้อมแก้ตัวพัลวัน แต่พี่โรลก็แค่หัวเราะชอบใจเท่านั้น ดูมีความสุขจนน่าหมั่นไส้เลยล่ะ

          ผมที่หน้ามุ่ยพลางกินโรตีที่เหลืออยู่เพราะไอ้หอกเมี่ยงมันฟาดขนมที่ผมซื้อมาซะเกลี้ยง หงุดหงิดโว้ย และตอนนี้พี่โรลก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ทำให้ผมนั่งอยู่กับไอ้เมี่ยงแค่สองคนพลางดูทีวีไปด้วย

          " พี่เขามาได้ไงวะ มึงชวนมาเหรอ " 

          " ชวนอะไร๊ ไม่ได้ช๊วน " ผมข่วนหน้ามันไปทีด้วยความหมั่นไส้ ต่อมเสียงพังเชียวนะมึง

          " ก็ แบบว่า พี่เขาจะช่วยคิดการแสดงให้กูอ่ะ แลกกับที่กูให้พี่เขามานอนบ้าน " ไอ้เมี่ยงกระซิบผมเบาๆ ด้วยแววตาล่อกแล่ก

          " แล้วมึงชวนกูเพื่อ ไม่นอนกับพี่เขาสองคนอ่ะ " ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ

          " บ้าหรา!! เห็นแบบนี้กูก็กลัวนะ " ไอ้เมี่ยงพูดพลางกอดตัวเองแน่นอย่างมีจริตจะก้านจนผมคันทีนไปหมด

          " มึงกลัวพี่เขาปล้ำมึง? " ผมพูดพลางเลิกคิ้วขึ้น

          " เปล่า กูกลัวกูปล้ำพี่เขา " ถรุยย โธ่ ไอ้สันขวาน ผมตบกบาลมันแถมไปอีกทีด้วยความเอือมสุดๆ

          " เมื่อกี้พี่เค้าก็ถามกูนะ ว่ามึงจะอึดอัดหรือเปล่า กูเลยบอกว่ามึงชอบผู้ชายไง พี่เขาจะได้ไม่คิดมาก " เหอๆ มึงนี่เป็นห่วงจิตใจพี่เขามากกว่าจิตใจกูที่เป็นเพื่อนมึงอีกนะ กูมีเพื่อนที่ดีจริงๆ 

          " มาๆ ลงมากินมื้อดักกันไหม แม่ผัดมาม่าไว้ให้ " น้าจันทร์เดินขึ้นบันไดมาและเรียกให้พวกเราลงไปกินมาม่าผัดที่ครัวชั้นล่าง

          " เย้ ขอบคุณคร้าบบ " ผมยิ้มกว้างอย่างดีใจ 

          " เมี่ยง เดี๋ยวมาช่วยแม่จัดโต๊ะหน่อย ส่วนอาลี่เดี๋ยวเรียกพี่เขาลงมากินด้วยกันนะลูก แม่ทำไว้ให้ทุกคนเลย " ผมที่ยิ้มหน้าบานเมื่อกี้หุบยิ้มลงทันที ไอ้เมี่ยงได้ทีรีบวิ่งตามแม่มันลงไป พลางหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม หนอย ไอ้เพื่อนทรยศ

          ผมลุกขึ้นเดินช้าๆ ไปยังห้องไอ้เมี่ยงที่เปิดค้างอยู่ ผมค่อยๆ โผล่หน้าเข้าไปทีละน้อย ทีละน้อยอย่างเงียบๆ ทำอะไรอยู่น้า เงียบจัง

          ผมเกาะประตูและหามุมดีๆ ส่องคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่เหนือสมุดเล่มใหญ่ ใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ที่ขอบเตียงนั้นยิ้มกว้างและดูมีความสุข พลางลากดินสอในมือไปมาอย่างขะมักเขม้น

          ผมที่เห็นแบบนั้นจึงเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา ผมตั้งท่าเตรียมพร้อมและดีดพุ่งตัวจากประตู พยายามไปเกาะที่สมุดนั้นอย่างรวดเร็ว

          แต่พี่โรลกลับไหวตัวทัน และกะเวลาเพียงเสี้ยววินาที ยืนขึ้นยืดแขนชูสมุดไปบนอากาศ   

          " วาดอะไรอ่ะ ขอดูมั่งดิ " ผมที่เขย่งสุดปลายเท้าแต่ก็ยังจับได้เพียงแค่อากาศ คนหรือเสาไฟฟ้าวะเนี่ย ผมนั้นสูงแค่ไหล่พี่โรลเท่านั้น  และผมที่เขย่งปลายเท้าสุดๆ นั้นก็พลันงานงอกซะแล้ว

          " โอ้ยยยย " อ้ากกกก ตระคริว ไอ้ชิบหายมึงจะมาแดกอะไรกูตอนนี้ครับ 

          ผมที่ตระคริวกินเฉียบพลัน ก็เสียหลักโถมร่างเข้าใส่พี่โรลที่กำลังยืดแขนไปในอากาศ ทำให้ตอนนี้พวกเราล้มกลิ้งลงไปบนที่นอนไอ้เมี่ยง ในท่วงท่าที่น่าหวาดเสียวที่สุด  ไม่ต้องให้บอกว่าตอนนี้ผมหน้าแดงขนาดไหน อ้ากกก ขยับไม่ได้โว้ย เจ็บชิบ

          " ข.ขอโทษครับ ผมขยับไม่ได้อ่ะ " ผมที่กลัวพี่เขาจะซี่โครงหักไปแล้ว เพราะตัวผมนั้นหนักไม่ใช่เล่นๆ เลยบอกขอโทษพี่เขาไปด้วยความเกรงใจ

          " พี่ช่วยดันผมขึ้นได้ไหม " แต่ผมที่บอกแบบนั้นก็ต้องตกใจ เพราะว่าไอ้แบบนี้ไม่ใช่ดันครับ แต่พี่เขากำลังกอดผมอยู่

          " เฮ้ยพี่ ดันครับดัน ไม่ใช่แบบนี้ดิ " ผมดิ้นขลุกขลักเป็นหมูติดจั่น รู้สึกว่าจะเริ่มขยับได้แล้วเลยพยายามลุกขึ้นสุดฤทธิ์ แต่ไอ้บ้านี่แรงเยอะชะมัด โอ้ยย นี่พี่คิดอะไรอยู่เนี่ย

          " กลิ่นเหมือนขนมเลย " ผมมองหน้าพี่โรลที่กำลังส่งยิ้มมาให้ผม ใบหน้าของเราสองคนห่างกันแค่คืบเดียวเท่านั้น ทำเอาผมใจเต้นตึกตักแปลกๆ เลยทีเดียว 

          " เอ่อ คงไม่ต้องกินของคาวแล้วมั้งแบบนี้ ซัดของหวานซะอิ่มละนี่ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่ยืนพิงประตูพลางยิ้มกริ่มแบบมีเลศนัย

          ผมคลานลงจากตัวพี่โรลและลุกขึ้นยืนด้วยความเร็วแสง พลางยืนพิงกรอบหน้าต่างทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พี่โรลได้แต่นอนหัวเราะเบาๆ อยู่ที่เดิม ทำเอาผมหน้าแดงไปใหญ่

          พี่โรลลุกขึ้น และถือสมุดน่าสงสัยเล่มนั้นไว้ในมือ หันมายิ้มให้ผมและเดินออกไปจากห้อง

          " ร้ายนะมึง กูเผลอแปบเดียวอ่อยพี่เขาใช่ไหม อิหมูตัวเมีย " ไอ้เมี่ยงที่เห็นพี่โรลเดินออกไป รีบซอยเท้าเข้ามาทำสะดีดสะดิ้งชี้นิ้วด่าผมเหมือนนางอิจฉา 

          " กูไม่ต้องอ่อยก็อร่อยอยู่แล้ว " ผมสะบัดบ๊อบเดินตามกลิ่นมาม่าผัดไปอย่างว่องไวพลางเหยียบทีนไอ้เพื่อนเลวไปด้วยตอนเดินผ่าน

          กลิ่นของพี่โรลยังคงติดตัวผม ตั้งสติๆ ไอ้ลี่ อย่าฝันมาก พี่เขาแค่แกล้งมึงเล่นเท่านั้นแหละ ผมที่คิดแบบนั้น แต่จริงๆ แล้ว ผมก็เริ่มที่จะคิดว่า พี่เขาอาจจะไม่ได้แกล้งก็ได้



และผมอยากให้เป็นแบบนั้น
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 6 คืนอลวนคนอลเวง ]((02/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 02-11-2017 22:33:05
รอดูหลานลี่กิน(แยม)โรล  :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 6 คืนอลวนคนอลเวง ]((02/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 05-11-2017 00:12:39
 :hao7: อ่อยแบบไม่ตั้งใจอ่ะนะฮ่าๆๆ มาเชียร์หนูลี่จีบพี่โรล
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 6 คืนอลวนคนอลเวง ]((02/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 05-11-2017 16:50:30
          Calorie ที่ 7 เผลอตัวเผลอใจ


          ผมที่เดินออกมาจากห้องไอ้เมี่ยง ยืนตั้งสติอยู่ตรงขั้นบันไดเล็กน้อย พลางเดินลงจากชั้นสอง ไปยังห้องครัวที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งโต๊ะกินข้าวก็อยู่ในครัวเช่นกัน

          " อ้าวลูก มาเร็ว พี่เขากินจะหมดจานแล้วนะ " ผมมองพี่โรลที่กำลังโซ้ยมาม่าจนเส้นย้อยคาปาก และส่งยิ้มหวานให้ผม เอ่อ พี่ครับ ตอนกินจะยิ้มทำมะเขืออะไรเล่า 

          ผมนั่งลงตรงข้ามพี่โรล พลางก้มลงกินของที่ผมกำลังอยากกิน ผมชอบฝีมือทำกับข้าวของน้าจันทร์มาก เป็นสาเหตุหนึ่งของพุงกะทิผมเลยทีเดียว

          " พี่ชอบกินเหรอ " ผมมองพี่โรลที่ขอเบิ้ลอย่างไม่เกรงอกเกรงใจเจ้าของบ้านเลยสักนิด

          " ไม่เคยกินเลย " พี่โรลพูดพลางยิ้มน้อยๆ มองผม ทำเอาผมเผลอมองค้างไปเลย

          " ไม่เคยกินมาม่าเนี่ยนะ " ผมเลิกคิ้วจนมันแทบจะหายเข้าไปในเรือนผม

          " ที่บ้านไม่เคยซื้อไว้เลย " ที่ได้ยินว่ารวยนี่ไม่คิดว่าจะขนาดไม่เคยกินมาม่ามาก่อน น่าหมั่นไส้โว้ย

          ไอ้เมี่ยงเดินลงมาพอดีและนั่งลงข้างๆ พลางเหล่มองผมกับพี่โรลด้วยสายตากวนบาทา

          " ลูกพี่กับเพื่อนผมนี่เหมาะกันดีนะ ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว "  ผมกระทืบทีนไอ้หอกเมี่ยงทันที พูดอะไรของมื๊งง

          พี่โรลไม่พูดอะไร แค่หัวเราะเบาๆ แต่เดี๋ยวนะ พี่แกตักหมูจากจานของตัวเองใส่จานไอ้เมี่ยงจนพูนเลยครับ มันอะไรฟะนั่น รางวัลงั้นเหรอ

          หลังจากกินกันจนเต็มคราบ ผมกับไอ้เมี่ยงก็ช่วยกันล้างจานเก็บโต๊ะ และกันพี่โรลออกจากการช่วยทุกอย่าง เพราะพี่แกนั้นพังของมากกว่าช่วยครับ นี่พี่แกทำอะไรเป็นมั่งเนี่ย 

          ผมเก็บซากจานที่พี่โรลพยายามช่วยล้างทิ้งลงถึงขยะ พลางเหลือบมองพี่โรลที่กำลังนั่งจ้องผมตาเป๋งพลางส่งยิ้มให้กำลังใจ เป็นคนแปลกๆ ดีนะ เหมือนเด็กน้อยเลยล่ะ ถึงอะไรบางอย่างจะไม่น้อยก็เถอะ อ้ากก เรียกได้ว่าภาพในห้องน้ำนั้นติดตาเลยทีเดียว ไอ้ลี่เอ้ย 

          " คืนนี้ทำไรดี " ไอ้เมี่ยงถามผมพลางเช็ดโต๊ะไปด้วย

          " ไม่รู้ดิ เล่นเกมส์ป่ะ " ผมเสนอ

          " แต่มีแค่สองจอยเองนะ " เออว่ะ มีสามคนนี่นา แบบนี้คนนึงก็ต้องรออ่าดิ

          " งั้นดูหนังละกัน " ผมว่ามันเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันได้ดีครับ และก็มีเรื่องที่ผมอยากดูอยู่ด้วย

          สุดท้ายพวกผมก็ขึ้นไปชั้นสองนั่งเรียงกันหน้าทีวี พลางเปิดซีดีเล่นหนังเรื่องหนึ่งที่ผมอยากดูมานานแต่ไม่ได้ดูสักที เพราะมันเป็นหนังผีครับ ผมโครตกลัวผีเลยล่ะ

          เก้าอี้ที่พวกผมนั่งนั้นเป็นเก้าอี้ไม้ตัวยาวที่นั่งกันได้สามคนพอดีเป๊ะ ผมเลือกนั่งริมสุดและลากไอ้เมี่ยงมานั่งคั่นกลางอีพี่โรลนั่น ซึ่งถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง ดูเหมือนพี่โรลจะหน้าบูดลงเล็กน้อยตอนที่ไอ้เมี่ยงนั่งลงตรงกลาง งอนอะไรของเขาหรือเปล่านะ 

          ผมที่นั่งอยู่อีกข้าง แต่ก็นั่งพิงพนักและเหลือบๆ มองคนอีกฟากเป็นระยะๆ ซึ่งพี่โรลก็กำลังนั่งดูหนังตาโตเลยทีเดียว น่าจะชอบหนังผีนะ 

          " กรี๊ดดด เชี่ยเอ้ยน่ากลัวสัด " ไอ้เมี่ยงกรีดร้องแต๋วแตกและกอดแขนผมแน่น มันก็กลัวผีครับยิ่งกว่าผมอีก

          " สตอๆ ปล่อยกูเลย นั่งดีๆ สิวะ " ผมที่ถูกไอ้เมี่ยงทั้งดึงทั้งทึ้งก็ได้แต่แกะมือมันออกอย่างรำคาญ แต่ที่ผมรำคาญใจกว่าก็คือ อีพี่โรลกำลังหัวเราะขำผีอย่างสนุกสนาน นี่มันหนังผีนะเฟ้ย เกรงใจผีบ้าง

          " เดี๋ยวกูไปเอาหมอนอิงก่อนปวดหลังว่ะ " ไอ้เมี่ยงพูดพลางลุกขึ้นและเดินไปที่ห้อง เอาล่ะสิ ไอ้ลี่เอ๋ยใจเย็น

          ผมที่นั่งอยู่ริมสุดก็เขยิบตัวชิดริมเข้าไปใหญ่ เวลาต้องอยู่สองคนกับพี่โรลทำไมผมต้องประหม่าขนาดนี้นะ ผมยังคงมองจอทีวีอย่างใจจดจ่อ แต่ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันแปลกๆ ไป

          ผมเหลือบมองพี่โรลที่ยังคงมองจอและยิ้มขำอยู่เช่นเดิม แต่เดี๋ยวนะ ดูเหมือนพี่แกตอนแรกจะไม่นั่งใกล้ผมขนาดนี้นี่นา หรือจะคิดไปเอง ผมมองจอทีวีอีกครั้ง พยายามสนใจหนังมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไม ผมนั้นก็ชอบเหลือบมองคนข้างๆอยู่เรื่อย และคราวนี้แม่งชัดเจน อีพี่โรลนี่เข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกว่าเดิม เรียกว่าอีกคืบก็จะขึ้นมานั่งทับผมแล้ว 

          ผมหันไปมองพี่โรลตรงๆ แต่อีพี่ผีทะเลนี่ก็ยังมองแต่หนังและทำเหมือนไม่สนใจผม หนอยย ทำเนียนนะ เดี๋ยวเถอะ ผมนั่งตัวเกร็ง และเขยิบจนตัวผมจะขึ้นไปนั่งบนที่พักแขนอยู่แล้ว อีพี่นี่ยังไงฟะเนี่ย แล้วไอ้เมี่ยงมึงไปเอาหมอนหรือไปถอยหมอนฟะเนี่ย นานไปแล้วโว้ย

          แต่ว่าแบบ เอ่อ หอมจัง อ้ากกก ต้องยอมรับว่าพี่โรลนั้นดูดีทุกระเบียดนิ้วจนผมเผลอใจสั่นเลยทีเดียว ตอนนี้พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีขาวโชว์หุ่นนายแบบและกางเกงนอนขายาวสีเข้มที่ดูสบายๆ ผมที่มักจะเซ็ตตั้งขึ้นอย่างเท่ห์ๆ ตอนนี้กลับลู่ลงจนดูแปลกตา แต่ก็ยังหล่อโครตๆ อยู่ดี อิจฉาอ่ะ

          " อ๊าาา อิย๊าาา รู้สึกดีจังเลยค๊าา " เดี๋ยวๆๆ หนังผีไหงมีฉากเรท 18+ ได้ฟะ

          ผมที่กำลังแอบมองพี่โรล กลับต้องรีบหันกลับไปมองจอเพราะเสียงกระเส่าที่ดูเร่าร้อนกันเหลือเกิน มันอื้อหือ นัวเนียกันอย่างกับตายอดตายอยากมาจากไหน นี่หนังผีหรือสารคดีผสมพันธุ์ฟะเนี่ย 

          ผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าวเล็กๆ เพราะถ้าผมเดาไม่ผิด และจากหางตา อีพี่โรลนี่กำลังจ้องผมครับ ผมก้มหน้าลงเล็กน้อย และตัดสินใจมองหน้าพี่โรลที่กำลังมองผมอยู่ 

          พี่โรลที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กอยู่เสมอ แต่ตอนนี้แววตากลับดูมีประกายแปลกๆ ทำเอาผมหัวใจเต้นรัวเลยทีเดียว นี่พี่คิดอะไรกับผมหรือเปล่านะ ผมสบตาพี่โรลที่ไม่ได้ยิ้ม แต่กลับทำหน้านิ่งๆ และค่อยๆ ยื่นหน้ามาหาผมช้าๆ ผมกลืนน้ำลายลงคอ และหลับตาลงช้าๆ ด้วยหัวใจที่เหมือนกับจะหลุดออกมาจากอก

          " โทษทีแม่งเผลอหลับ " ผมสะดุ้งสุดตัว ผลักพี่โรลออกไปยืนขึ้นและบิดขี้เกียจไปมาแบบเนียนๆ เพราะอยู่ดีๆ ไอ้หอกเมี่ยงก็เดินขยี้หูขยี้ตาออกมา ถ้ามึงง่วงก็นอนไปสิโว้ย กูจะด่าหรือขอบคุณมึงดี กูสับสนเหลือเกิน

          " หนังจบพอดี ไปนอนกันเถอะ " ผมที่เขินหูดำหูแดงก็รีบเดินเข้าห้องไอ้เมี่ยงและปิดประตูอย่างรวดเร็ว

          " ทำอะไรของมึงเนี่ย เปิดประตู นี่ห้องกูนะโว้ย " เออว่ะ ผมที่สมองเออเร่อ ก็เปิดประตูออกพลางยิ้มแหยๆ แบบเขินๆ

          พี่โรลมองหน้าผมพลางส่งยิ้มมีเลศนัยมาให้จากข้างหลังไอ้เมี่ยง โอ้ยย หยุดโปรยเสน่ห์สักนาทีได้ไหมจะบ้าตาย ผมหลบตาพี่โรลด้วยแก้มที่น่าจะแดงสุดๆ และหลบทางให้ไอ้เมี่ยงกับพี่โรลเดินเข้ามา

          " เอาล่ะ โอน้อยออกกันว่าใครจะได้นอนบนเตียง " ไอ้เมี่ยงพูดพลางตั้งท่าเตรียมพร้อม 

          เตียงไอ้เมี่ยงเป็นเตียงเดี่ยวครับ ซึ่งผมกับมันก็ทำแบบนี้เสมอเพื่อว่าใครชนะก็จะได้นอนบนเตียง

          " พี่สละสิทธิ์ " พี่โรลพูดและก้มลงกางฝูกสำหรับสองที่เตรียมพร้อมอย่างรวดเร็ว พลางมองหน้าผมด้วยแววตาแปลกๆ เหมือนกำลังอ้อนวอนผสมสวดภาวนาทางสายตา หนอยย ไม่หลงกลหรอก รู้นะว่าคิดอะไร

          ผมสะบัดบ๊อบและเป่ายิงฉุบกับไอ้เมี่ยงอย่างจริงจัง ต้องชนะ ชนะ ชนะ แพ้ เอ้ยชนะเท่านั้นเฟ้ย 

          " เย้~ " ในที่สุดผมก็ชนะ ผมหันมายิ้มเย้ยหยันคนที่นั่งอยู่ที่พื้น ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ หนอย ไม่สงสารหรอกเฟ้ย อย่าหวังซะให้ยาก ฮ่าๆ 



          เช้าวันนี้ช่างสดใสซะเหลือเกิน ผมยิ้มหน้าตาชื่นบานและลงมาช่วยน้าจันทร์จัดเตรียมอาหารเช้า 

          " อ้าว พี่โรลตื่นเช้าจังเลยลูก เป็นไงนอนสบายไหม " ผมหันไปมองพี่โรลที่หน้านิ่วคิ้วขมวดและดูเหมือนจะไม่ค่อยได้นอน ก็แหงล่ะ ไอ้เมี่ยงนอนดิ้นจะตาย ฮ่าๆ

          ผมทั้งสงสารทั้งขำอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทำไมกันนะ ในส่วนลึกในหัวใจของผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ผมอยากจะแพ้การเป่ายิงฉุบเมื่อคืน  ผมเหลือบมองพี่โรลพลางส่งยิ้มให้อย่างตั้งใจ ทำให้พี่โรลที่กำลังหน้าบูดมองผมอยู่นั้น เริ่มอมยิ้มตามไปด้วย มีความสุขจังเลยนะ 

          แต่ผมที่รู้สึกมีความสุขนั้น ในหัวใจกลับมีความเศร้าเพิ่มขึ้นมาด้วย ผมเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่มันก็จบลงด้วยความผิดหวัง และหยาดน้ำตาที่แสนเจ็บปวด



เพราะฉะนั้น ผมควรจะหยุดหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 7 เผลอตัวเผลอใจ ]((05/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-11-2017 17:41:39
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 7 เผลอตัวเผลอใจ ]((05/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 05-11-2017 19:53:34
น้องมาร์ชเมโล
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 7 เผลอตัวเผลอใจ ]((05/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 05-11-2017 20:01:24
โอ๋ๆ น้องมาชเมลโล่ อดีตเป็นเพียงแค่บทเรียน มันสำคัญที่ว่าเราจะเดินหน้าอย่างไรในอนาคตนะคะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 7 เผลอตัวเผลอใจ ]((05/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-11-2017 22:19:00
อึดอัดอ่ะ หลานโรลช่วยพูดอะไรก็ได้ทีเถอะ เงียบ ยิ้ม มอง มันอึดอัด   o21
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 7 เผลอตัวเผลอใจ ]((05/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 06-11-2017 16:19:25
          Calorie ที่ 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป


          ผมยังคงคิดมาก และหวาดระแวงทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เสมอ แต่มันก็ไม่แปลกหรอกที่ผมจะคิด เพราะว่าพี่โรลนั้นดูยังไงก็ไม่น่าจะชอบผู้ชาย พี่กำลังล้อเล่นกับผมจริงๆ หรือเปล่านะ พี่น่าจะมีคนอีกมากมายให้เลือก แล้วทำไมพี่ถึงคอยอยู่ใกล้ๆ ผม

          " ลี่ เป็นอะไรวะ ไม่สบายหรือ​เปล่า เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่เลย " ไอ้เมี่ยงจ้องมองผมและเอามือมาแตะที่หน้าผากด้วยความสงสัย

          " เปล่าๆ " ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังมองผมด้วยสีหน้าเป็นห่วงเช่นกัน

          " เมี่ยงเดี๋ยวไปซื้อของให้แม่หน่อย แม่จะทำขนมฝากแม่อาลี่เขา " น้าจันทร์ตะโกนเรียกไอ้เมี่ยงจากหน้าบ้าน

          " มึงไม่ต้องเดี๋ยวกูไปเอง กูจะไปซื้อขนม " ผมพูดพลางลุกขึ้นและหลบตาพี่โรลที่มองมา

          ผมเดินไปตามทางพลางคิดอะไรต่างๆ มากมายด้วยความรู้สึกสับสน ผมนั้นต้องการอะไรกันแน่นะ ผมใช้ชีวิตแบบนี้มันจะดีจริงๆ งั้นเหรอ ผมจะหยุดหรือทำตามใจตัวเองดีนะ

          ผมเดินมาถึงร้านขายของชำ เดินซื้อของที่น้าจันทร์ฝาก พลางซื้อขนมตุนเพิ่มอีกนิดหน่อย จริงๆ ที่ผมออกมาเองเพราะผมอยากอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวกลับถึงบ้านไอ้เมี่ยงแล้ว ผมก็จะขอตัวกลับบ้านเลย

          ผมที่ซื้อของเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากร้านเพื่อกลับไปที่บ้านไอ้เมี่ยง

          " เฮ้ย มัดมันดีๆ ดิวะ "

          " มันดิ้นอ่ะ เอาไม้มาดิ๊ "

          ผมหยุดเดินกระทันหันและมองข้างทางดูไอ้พวกเด็กเกรียนหลายคนที่กำลังมัดลูกหมาตัวหนึ่งอยู่ ตรงนี้เป็นทางลัด ซึ่งป่าหญ้าสูงและไม่มีบ้านเรือน จึงไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าไหร่นัก

          " ทำอะไร หยุดเลยนะ ไอ้พวกเด็กเวร " ผมพูดและเดินดุ่ยๆ เข้าไปแบบไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะไอ้พวกเด็กนี่ก็แค่เด็กที่ไม่น่าจะอายุเกิน 10 ขวบเท่านั้น

          " ยุ่งไรวะไอ้อ้วน " ไอ้เด็กเปรตหัวเกรียนขว้างก้อนหินใส่ผมและดูไม่เกรงกลัวผมเอาซะเลย

          ผมมองแขนตัวเองตรงที่โดนก้อนหินขว้างใส่ แดงเลยแฮะ หนอย ผมเดินดุ่ยๆ เข้าไปอีกและหาหยิบไม้แถวนั้นๆ ขึ้นมา ต้องหวดสั่งสอนซะหน่อย

          เด็กพวกนี้เมื่อเห็นผมเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก ก็ทำท่าจะขว้างก้อนหินใส่ผมต่อ แต่อยู่ดีๆ ไอ้พวกเด็กเปรตพวกนี้ก็ชะงักและเดินถอยหลังไปด้วยใบหน้าตื่นกลัว ผมขมวดคิ้วด้วยความมึนงง สงสัยมันเพิ่งคิดได้ว่าผมน่ากลัวมั้ง หึหึ

          " ขี้โกงนี่หว่า หัวหน้ามันมาแล้ว แม่งเอ้ย ถอยก่อน " ผมยิ่งขมวดคิ้วหนักขึ้นไปใหญ่ หัวหน้าอะไรของมันฟะ

          และผมก็เริ่มสังเกตุเห็นว่าเงาข้างๆ ผมนั้นมีสองเงา ของผมอันนึง และของ...

          ผมเงยหน้าเหลียวมองไปด้านหลังและก็ต้องตกใจ เพราะว่าพี่โรลนั้นกำลังยืนตระหง่านชิดด้านหลังผมและมองพวกเด็กๆ ด้วยแววตาน่ากลัว ช่างดูสูงใหญ่และน่าเกรงขามยิ่งนัก

          แต่พอพี่โรลสังเกตุเห็นว่าผมนั้นมองอยู่ พี่โรลก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มอย่างรวดเร็ว และหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากถุงสีขาว

          " รับไปซะ ละอ่อนน้อย!! " พี่โรลหัวเราะและเขย่าขวดน้ำอัดลมในมืออย่างแรงหลายครั้ง ไอ้พวกเด็กตั้งท่าเตรียมวิ่งหนี แต่ก็ไม่ทันขายาวๆ ของพี่โรล ที่แค่สองสามเก้าก็ถึงตัวแล้ว

          ผมยืนมองพีโรลวิ่งไล่เด็กๆ ไปมา แลดูเหมือนจะเล่นกันมากกว่านะเนี่ย แต่อยู่ดีๆ ไอ้พวกเด็กเวรทั้งหลายก็วิ่งวกกลับมาหาผมและหลบข้างหลังผมซะงั้น เดี๋ยวๆๆ พี่ครับ สต๊อปปุ ผมยกมือขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าเชียวนะ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ทันซะแล้ว

          ' พรวดดดดด ซ่าาาาาาาา '

          ผมที่ตอนนี้น้ำหวานไหลเยิ้มและเหนียวหนึบไปทั้งตัว กำลังมองพี่โรลด้วยแววตาเครียดแค้น อ้ากกก นี่คุณพี่ตั้งใจใช่ไหม

          " ฮ่าๆๆ ขอโทษที " เป็นคำขอโทษที่ดูไม่สลดเลยสักนิด

          " ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วจะมาคิดบัญชีแค้น " ไอ้พวกเด็กเปรตชี้หน้าผม และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

          พี่โรลเดินเข้ามาหาผมที่ตัวเปียกไปด้วยน้ำอัดลม พลางดึงผ้าเช็ดหน้ามาช่วยเช็ดให้

          " เหนียวไปหมดเลย " ผมบ่นเบาๆ พลางแย่งผ้าเช็ดหน้าจากมือพี่โรลมาเช็ดหน้าตัวเอง

          แต่ผมก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าอยู่ดีๆ พี่โรลก็จับข้อมือผมและเลียเบาๆ ที่ข้อมือนั้น

          " หวานจัง " ผมตัวแข็งทื่อ เลือดที่ไหลเวียนเบาๆ ในร่างกายของผม ตอนนี้มันน่าจะไหลมารวมกันบนหน้าผมหมดแล้ว

          "  ทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวใครมาเห็นจะทำยังไง " ผมรีบชักแขนกลับด้วยหัวใจที่เต้นรัว

          " ถ้าไม่มีคน ก็ได้เหรอ " โอ้ยยย มันไม่ใช่แล้ว ไอ้พี่โรล ไอ้บ้า ไอ้หื่นเอ้ย

          ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เดินก้มหน้าก้มตานั่งลงแก้เชือกบนตัวลูกหมาจนมันวิ่งหนีหายไป และเดินดุ่ยๆ หนีพี่โรลที่เดินตามหลังผมมาแบบระยะประชิด

          " อาลี่ "

          ผมหยุดเดินและหันหลังกลับไปมองคนที่ร้องเรียกผม สายลมแผ่วๆ ที่พัดผ่านพวกเรานั้น ทำให้บรรยากาศรอบตัวมันช่าง ทำให้รู้สึกดีเหลือเกิน ผมหยีตาผ่านแสงแดดอ่อนๆ จ้องมองใบหน้าของพี่โรล ที่ตอนนี้กำลังยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่สดใสและอ่อนโยน

          " วันมะรืน ฟังนะ พี่ให้ "

          ผมไม่เข้าใจว่าพี่หมายความว่ายังไง แต่รอยยิ้มของพี่นั้น กลับทำให้ผมลืมเรื่องเลวร้ายต่างๆ และทำให้ผมเริ่มยิ้มอีกครั้งหนึ่ง



          ในตอนเย็น ผมก็กลับมาที่บ้านโดยมีคนสะกดรอยตามมาไม่ห่าง เป็นคนที่แปลก แล้วก็ตลกดี ผมอาศัยช่วงที่เดินผ่านตลาดตอนคนเยอะๆ แล้ววิ่งหนีซะเลย พี่โรลที่เดินไปไหนก็มีแต่คนหยุดมองเกะกะเต็มไปหมดก็คงจะตามมาลำบาก สมน้ำหน้า หึหึ​

          " กินอะไรมาหรือ​ยัง มาม๊ามีขาหมูนะ "

          " ครับ เดี๋ยวลี่ลงมากินนะ "

          ผมขึ้นไปเก็บกระเป๋าใบเล็กของผมเข้าที่ และเดินลงมาเพื่อกินข้าวอีกสักจาน ผมยังกินได้อีกหลังจากที่กินมาจากบ้านไอ้เมี่ยงไปแล้วก็ตาม

          " ม๊าไหนอ่ะขาหม... " ผมเดินมาที่หน้าร้านและก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่เห็นคนที่ผมคุ้นเคยดี

          " ลี่ ไปไหนมา พี่มารอตั้งนาน เมื่อวานก็มานะ " พี่นายพูดพลางเดินมาหาผมและส่งยิ้มหวานมาให้

          มาหาตั้งแต่เมื่อวานงั้นเหรอ ดีนะที่ม๊าไม่ได้บอกว่าผมอยู่บ้านเมี่ยง

          " พี่มีธุระอะไรหรือ​เปล่าครับ " มาทำไมกันนะ

          " พูดเหมือนเป็นคนห่างไกลจังเลยนะ " ผมรีบดึงมือพี่นายให้เข้ามาข้างหลังด้วยความจำเป็น เพราะว่าครอบครัวของผมไม่รู้เรื่องผมกับพี่นาย และผมกลัวพี่นายพูดอะไรแปลกๆ ออกมา

          " พี่อยากคุยจริงจังกับลี่ ลี่กำลังหลบหน้าพี่หรือ​เปล่า "

          " ทำไมผมต้องหลบหน้าพี่ด้วย " ผมพูดเสียงเย็น

          " อาลี่ เพื่อนลื้อเหรอ " ผมสะดุ้งตกใจเพราะว่าอยู่ดีๆ ป๊าก็เดินผ่านมา สงสัยเห็นผมทำหน้าเครียดๆ ก็เลยเข้ามาทัก

          " ครับป๊า พี่นายไงครับ รุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า " เมื่อก่อนพี่นายเคยมาที่บ้านผม ป๊าม๊าก็เคยเห็นแต่คงจำไม่ได้

          " สวัสดีครับคุณพ่อ ยังแข็งแรงดีเหมือนเดิมนะครับ " พี่นายยกมือไหว้อย่างสุภาพและทักทายอย่างเป็นมิตร แต่ป๊าก็แค่หรี่ตาลงเท่านั้น

          " อ่อ อั๊วจำได้ล่ะ ตัวโตกว่าเดิมหล่อขึ้นเป็นกอง " ป๊าเดินมาตบไหล่พี่นายเบาๆ (เหรอ) เล่นเอาพี่นายหน้านิ่วไปเลย ป๊าไปแค้นใครมาหรือ​เปล่าเนี่ย

          " อาลี่ เดี๋ยวไปช่วยม๊าในครัวด้วย ม๊ากำลังยุ่ง " ป๊านี่เหมือนเทพบุตรมาโปรด สุดยอดจริงๆ ขอบคุณคร๊าบ

          " มีอะไรคุยที่มหา'ลัยนะครับ ผมกำลังยุ่ง " ผมพูดพลางดันหลังพี่นายให้ออกไปที่หน้าบ้าน

          " ลี่ ไม่ได้ใช้เบอร์เก่าแล้วใช่ไหม พี่ขอเบอร์ใหม่หน่อยสิ "

          " ก็ได้ครับ "

          ผมคิดว่าถ้าไม่บอกไปพี่แกจะตื้อกว่านี้เลยบอกไปดีกว่า หลังจากได้เบอร์แล้วพี่นายก็ขึ้นรถและขับออกไป ผมรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก พี่ยังต้องการอะไรจากผมอีกกันนะ เรื่องของเรามันจบไปตั้งนานแล้ว



          วันรุ่งขึ้น ผมก็เดินไปมหา'ลัยเหมือนเดิม แต่ไอ้เมี่ยงนั้นไม่เหมือนเดิม มันดูเครียดมาก และเงียบขรึมกว่าทุกวัน ปากบ่นขมุบขมิบอะไรของมันอยู่คนเดียว แต่มันที่เป็นแบบนี้ก็เรียกสายตาสาวๆ ได้ดี เพราะปกติมันไฮเปอร์อย่างกับลิงกินยาบ้า

          " มึงเงียบแบบนี้ก็ดีนะ " ผมพูดแหย่มันที่กำลังกรีดไพ่ไปมา มันกำลังซ้อมการแสดงครับ

          " อะไรลี่ นั่นแน่~ อย่าบอกนะว่า เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ " ผมตบกบาลมันจนหน้าทิ่มไปหนึ่งที ให้เอามึงกูเอาหมาแถวนี้สบายใจกว่า

          " แล้วมึงไม่ไปคณะมึงเหรอ "

          " ไม่อ่ะ กูโดด " ผมขี้เกียจครับ ไหนๆ ก็วันสุดท้ายของการซ้อมของไอ้เมี่ยง ผมเลยอยากอยู่เป็นเพื่อนมัน

          " นั่นแน่ๆ~ มาอยู่เป็นเพื่อนกูหรือว่ามาหาใคร~ " โอ้ย ไอ้ห่ามึงรู้ดี เอ้ยคิดมากเกินไปแล้ว กูมาอยู่เป็นเพื่อนมึงจริงจริ๊ง

          " ถ้ายังไม่เลิกกวนทีนกู กูไม่ช่วยมึงซ้อมนะ " ไอ้เมี่ยงมันแสดงมายากลครับ และเพื่อความเนียน ผมก็เลยนั่งดูมันเล่น และคอยบอกมันว่าควรแก้อะไรบ้าง

          เมื่อมาถึงคณะมัน ผมก็ช่วยมันซ้อม พลางเหลือบตามองไปรอบๆ อยู่ตลอดเวลา จริงๆ แล้วคนคนนั้นแทบไม่ต้องเพ่งมองหาเลยครับ ก็แม่งเด่นหราอยู่ตลอด ทั้งความสูง ความขาว ความเท่ห์ เอาซะโอโม้ยังหมอง แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเลยแฮะ ไปไหนของเขากันนะ

          " ไอ้โรล โดดไปเหล่สาวบริหารมาอีกแล้วใช่ไหม " ผมรีบหันหน้ากลับมาทันที เพราะพี่โรลกำลังเดินเข้ามาในโรงยิมนี้ด้วยใบหน้าบึ้งตึง เหมือนไปเจอเรื่องขัดใจอะไรมา พี่ไปไหนมากันนะ

          หรือว่า...

          พี่ไปหาผมหรือ​เปล่า

          " มึงจะช่วยกูไหมเนี่ย พอผัวมาก็ลืมเพื่อนเลยนะ " ไอ้เมี่ยงเอาหน้ามาบังสายตาผมและทำหน้ากระลิ้มกระเหลี่ยจนน่าถีบ

          " ผัวโพ่ง อย่ามามั่ว " ผมพูดพลางจ้องมองมือไอ้เมี่ยงที่กำลังเสกผ้าเช็ดหน้าอยู่ แต่ในใจกลับลอยไปไกลแล้ว ไปไหนกันน้า

          สักพักผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาที่ข้างหลังผม หึหึ รู้อยู่แล้วว่าต้องเดินมาหา ผมเอี้ยวตัวหันหลังไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังผมด้วยรอยยิ้ม แต่ว่ารอยยิ้มของผมนั้นก็ต้องหุบลงทันที

          " ลี่ ทำไมไม่ไปที่คณะล่ะ พี่โทรหาก็ไม่รับ " ผมมองหน้าจอมือถือและก็พบว่ามีเบอร์พี่นายโทรมาหลายสายทีเดียว

          ผมเหลือบไปมองด้านหลังพี่นายก็เห็นว่าพี่โรลกำลังค่อยๆ เดินมาหาด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม

          " ปล่อยผมไปเถอะครับ วันนี้ผมอยากอยู่ที่นี่ " ผมพูดขอร้องพี่นาย

          " พี่เป็นพี่วินัยนะ จะปล่อยไปได้ยังไง " ผมว่าไอ้เรื่องที่พี่เป็นพี่วินัยมันไม่เกี่ยวมั้ง

          พี่นายจับแขนผมและพยายามดึงผมให้ลุกขึ้น ผมไม่อยากมีปัญหาเลย ผมต้องไปสินะ

          " ปล่อยแขนเพื่อนผมซะ หรือจะให้พูดว่า เลิกมายุ่งกับเพื่อนผมสักที " ผมมองมือไอ้เมี่ยงที่กำลังดึงผมอีกแขน

          " เมี่ยง ปล่อยกูเถอะไม่เป็นไร กูไม่อยากมีปัญหา "

          " มึงได้มีปัญหาใหม่แน่ถ้ามึงไป " ผมเข้าใจในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อ

          " มันจะไม่เป็นอย่างที่มึงคิด " ไอ้เมี่ยงปล่อยแขนผมและมองพี่นายด้วยแววตาอาฆาต

          ผมลุกขึ้นยืนช้าๆ ดึงแขนออกจากการเกาะกุมของพี่นายและเดินไปเองเงียบๆ ผมก้มหน้าหลบตาพี่โรลตอนเดินผ่าน พี่โรลนั้นกำลังมองมาที่ผมด้วยแววตาหมองเศร้า



ขอโทษนะ แล้วผมจะรีบกลับมา
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ]((06/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-11-2017 17:16:54
อยากรู้ๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ]((06/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 06-11-2017 17:58:41
ลี่ทพำตัวน่าลำคานเกลียดนาย แต่กลับไปอย฿ใกล้นาย สมควรเสียใจนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ]((06/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 06-11-2017 18:04:44
 :mew5: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ]((06/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-11-2017 00:06:35
มันมีอะไรที่ลับลมคมในมากขนาดนั้นหรือ หลานหลี่  :ling1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ]((06/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 07-11-2017 07:40:52
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 8 รอยยิ้มที่ทำให้โลกเปลี่ยนไป ]((06/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 07-11-2017 10:59:00
          Calorie ที่ 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด


          สุดท้ายผมก็มาเข้าร่วมกิจกรรมของคณะด้วยใบหน้าบูดบึ้ง และไม่ยอมคุยกับพี่นายเลยสักคำ แต่จริงๆ จะโทษพี่นายก็ไม่ได้หรอก ก็ผมโดดกิจกรรมจริงๆ นี่นา ช่วยไม่ได้

          " อาลี่ๆ " ผมมองแพรเพื่อนคนเดียวในคณะของผม กำลังเรียกผมเบาๆ

          " เป็นอะไร หน้าบูดเชียว ทะเลาะกับแฟนเหรอ " ผมขมวดคิ้วทันทีที่แพรพูดจบ

          " แฟนอะไรเหรอ " ผมถามแพรกลับด้วยความไม่เข้าใจ

          " อ่าว ก็วันนั้นอ่ะแพรถามพี่นายว่าชอบลี่ใช่ไหม พี่นายบอกว่าลี่เป็นแฟนพี่นายนะ ตกลงคือไม่ใช่เหรอ " ผมตกใจมาก คงเป็นวันที่ผมเดินหนีออกไปสินะ

          ผมมองพี่นายที่กำลังยืนคุยกับกลุ่มเพื่อนอยู่ แต่ก็มองมาที่ผมอยู่บ่อยๆ นี่มันอะไรกัน พี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ผมไม่เล่นด้วยหรอกนะ

          " ขอโทษนะถ้าแพรยุ่งเรื่องส่วนตัวอ่ะ " แพรยกมือพนมไหว้ผมแบบรู้สึกผิด

          " ไม่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น " ผมยิ้มน้อยๆ ให้แพร พวกผู้หญิงก็คงประมาณนี้ละมั้ง

          " แล้วตกลงเป็นแฟนกันจริงๆ เหรอ อิจฉาอ่ะ พี่นายหล่อสุดๆ ไปเลย " ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้แพร

          " เคยเป็น แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกแล้ว " และจะไม่มีวันเป็นอีก แต่จริงๆ จะพูดว่าแฟนก็ไม่ได้เต็มปากเท่าไหร่หรอกนะ

          หลังจากใกล้เลิกกิจกรรม ผมทำตัวลีบและวิ่งหนีพี่นายที่กำลังเผลออย่างรวดเร็วไปยังคณะสถาปัตย์ โอ้ยย ผอมแน่ๆ ไอ้ลี่ ผมหอบแฮ่กๆ อยู่หน้ายิมที่ใช้ซ้อมการประกวดและกิจกรรมของคณะสถาปัตย์

          " ดื่มสิ " ผมมองน้ำหวานที่ถูกยื่นมาตรงหน้า พร้อมรอยยิ้มของผู้ให้ แบบนี้หายเหนื่อยเลยแฮะ

          " ทีหลังอย่าวิ่งนะ " พี่โรลมองผมแบบดุๆ อ่าวอยู่ดีๆ ไม่พอใจที่ผมซะงั้น

          " ทำไมเหรอ " ผมถามด้วยความแปลกใจ

          " เดี๋ยวไม่นุ่มนิ่ม " หือออ เอาล่ะสิ มาแบบนี้อีกแล้ว ผมละมึนกับพี่เขาจริงๆ

          " พี่โรลคะ ขอถ่ายรูปได้ไหม​คะ " ผมมองสาวๆ สองคนที่ดี๊ด๊าเหลือเกินที่เห็นพี่โรลยืนอยู่ วันนี้พี่แกใส่กางเกงขาสามส่วนสีแดงแจ๋เลยครับ เสื้อยืดสีขาว รองเท้าอีแตะแดงคู่เดิม และคาดผ้าอะไรสักอย่างบนหัว ไม่แปลกใจที่คนจะมอง จะมีสักวันที่พี่ไม่หล่อบ้างไหม​ ผมละอยากเห็น

          " ไม่ได้ " ผมมองพี่โรลด้วยความตกใจ ทำไมถึงพูดแบบนั้นเล่าพี่ท่าน สาวๆ ร้องไห้ตายห่า

          " โหดอ่ะ เท่ห์ชิบหาย กรี๊ด " ผมมองสาวๆ ที่เดินจากไปแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้สลดเลยสักนิด กลายเป็นว่าที่ดุไปนั่นเขาชอบกันครับ

          แต่มันแปลกมากเพราะว่าพี่โรลที่หน้าโครตดุเมื่อกี้กำลังฉีกยิ้มหวานให้ผมอีกแล้ว นี่พี่เป็นไบโพล่าทำนองนั้นใช่ไหม​

          " โรล มาช่วยตรงนี้หน่อย " ผมมองรุ่นพี่ผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่กวักมือเรียกพี่โรลอยู่

          " ไม่ไป " อ๊าว อีพี่โรลนี่ จริงๆ เป็นคนแบบนี้สินะ ผมก็ว่าอยู่ว่าบางทีพี่เขาก็จะหลุดทำหน้าโหดๆ และเอาแต่ใจกับคนอื่นอยู่เหมือนกัน แต่กับผมนั้นพี่โรลกลับดูใจดี และยิ้มแย้มเสมอ

          ผมมองพี่โรลที่ถูกลากไปอีกแล้ว ดูเพื่อนๆ พี่แกจะเข้าใจความติสพี่แกดี น่ารักดีนะ ผมหัวเราะขำพลางเดินตามพี่โรลที่ยังหันมามองผมขณะโดนลากไป ผมโบกมือให้พี่โรลน้อยๆ ยิ้มแลบลิ้นกวนและเดินแยกไปหาไอ้เมี่ยงที่กำลังสับไพ่ในมือที่สั่นเทา ทำให้ไพ่ร่วงกระจายไปทั่วพื้น

          " ล.ลี่.มา.แล้...วเหรอ "

          " มึงเป็นอะไรของมื๊งง " ผมเห็นสภาพอันน่าสมเพชของมันแล้วอดขำไม่ได้

          จริงๆ ผมรู้ครับ ไอ้เมี่ยงเป็นพวกประหม่ายิ่งกว่าผมซะอีก ยิ่งใกล้เวลาต้องแสดงแล้ว สมองมันที่รวนอยู่แล้ว ยิ่งรวนเข้าไปใหญ่ สมัยก่อนเวลาออกไปรายงานหน้าชั้น ประโยคนึงมันก็พูดติดอ่างไปหลายนาทีจนเพื่อนขำกันจนปวดท้อง แล้วเสือกเสล่อประกวดเดือน ถรุ๊ยย ความทะเยอทะยานมึงทำพิษแล้ว กร๊ากก

          " กูว่าแค่มึงไม่สั่นจนขาพับลงไปนอนตอนยืนอยู่บนเวทีก็หรูแล้วเพื่อน ฮ่าๆๆ " ผมตบบ่ามันเบาๆ พลางพูดให้มันถอดใจ ผมนี่มันเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ

          " ให้กำลังใจเพื่อนสิ " ผมมองไล่ตามแขนขาวๆ ก็รู้แล้วว่าใครกำลังขยี้หัวผมอยู่ เขินแฮะ

          " โรล ยังไม่เสร็จเลยนะ!! " ผมมองตามเสียงพวกรุ่นพี่ที่กำลังตะโกนเรียกพี่โรลอยู่ สงสัยพี่แกจะหนีมา

          " พี่อยากให้ผมช่วยพี่ไหม​ครับ จะได้เสร็จไวๆ " ผมถามพลางมองพี่โรลด้วยความรู้สึกอยากช่วยจริงๆ แต่พี่โรลกลับนิ่งไปและส่งยิ้มประหลาดๆ มาให้ หยุดทีได้ไหม​ไอ้สายตาแบบนั้นอ่ะ อ้ากกกก

          " อยากช่วยจริงป่ะ " พี่โรลยื่นหน้ามาใกล้ผมพลางเป่าหมากฝรั่งในปาก ไปเอามาเคี้ยวตอนไหนนะ

          ผมพยักหน้าหงึกหงักอย่างจริงจังจนพี่โรลยิ้มขำ

          " อยากช่วยจริงๆ เหรอ " ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงพี่โรลมีความกระเส่าแปลกๆ ฟังแล้วสยิวเลยทีเดียว แต่ผมก็ยังพยักหน้าอยู่

          " โครตฟิน " หืออออ ผมชะงักมองพี่โรลที่กำลังยิ้มขำและเดินกลับไปยังกลุ่มเพื่อนตัวเอง

          เดี๋ยวๆๆ อย่าบอกนะว่า ผมหน้าแดงเถือกทันทีที่คิดทัน มุกหื่นๆ ของพี่โรลที่เหมือนจะมีแต่พี่แกคนเดียวที่เข้าใจ ไอ้บ้าเอ้ย ไม่ได้ช่วยเรื่องนั้นเฟ้ย แต่ได้ก็ดี เอ้ย ไม่ดีๆ ผมส่ายหัวไปมา นี่มันคนหรือเอเลี่ยนฟะ คุยกันแต่ละทีปวดหัวชะมัด

          " ช..เชิ..ญ..." ผมหันไปมองไอ้เมี่ยงที่กำลังซ้อมบทพูดและเหมือนจะน้ำลายฟูมปากตายคากองไพ่อย่างชวนสังเวช เฮ้อ งั้นเอาแบบนี้ละกัน

          ผมซุบซิบๆ กับมันเพื่อยื่นข้อเสนอบางอย่างให้ และข้อเสนอนั้นก็ทำให้มันเปลี่ยนท่าทางเป็นปลาบปลื้มจนขี้หูขี้ตาเล็ดไปหมด สกปรกชิบหายอย่ามาจับกู

          " มึงเพื่อนรักกูจริงๆ " มันไม่พูดเปล่า หอมแก้มผมดังฟอด โอ้ยยยอี๋หยะแหยง กูจะกลับไปเอาแอลกอฮอล์ผสมน้ำมนต์เจ็ดป่าช้าล้างหน้า

          " หอมด้วยได้ป่ะ " ผมหันไปมองอีพี่โรลที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้กำลังยืนอึ้งและทำท่าอ้อนน้อยๆ ให้ดูน่าสงสาร

          " ไม่ได้!!! " ผมพูดพลางอมยิ้มขำพี่โรลที่ทำตัวเหมือนเด็กน้อย หอมมาหอมกลับนะเฟ้ย อิอิ



          ในที่สุดค่ำคืนอันแสนตื่นเต้นก็มาถึง มันจะไม่ตื่นเต้นเล้ยถ้าผมไม่มีเอี่ยวด้วย ผมที่เสนอตัวเป็นผู้ช่วยให้ไอ้เมี่ยง เพื่อลดความประหม่าของมันลง มีเพื่อนอยู่มันจะอุ่นใจกว่า ยิ่งเป็นผมด้วยแล้ว อาการต่างๆ ของมันจะดีขึ้นจนเหลือเชื่อเลยครับ

          " อ้าวน้องลี่ แต่งตัวสิจ๊ะ " พี่สาวประเภทสองที่แต่งหน้าให้ไอ้เมี่ยงอยู่ดีๆ ก็ดึงตัวผมไปนั่งแต่จัดการแต่งหน้าให้ผมซะงั้น

          " เอ่อ คือผมแค่ไปยืนเล่นเป็นเพื่อนมันแปบเดียวเองครับ ไม่ต้องแต่งตัวหรอกมั้ง " ผมขมวดคิ้วมุ่น ผมไม่อยากเป็นจุดเด่นเลยครับ

          " นิดเดียวเองจ๊ะ น้องลี่ผิวใสแก้มชมพู น่ารักอยู่แล้วแต่งนิดเดียวก็เริศแล้วจ๊ะ "

          " หมูสีชมพู " ผมขว้างหวีในมือใส่หัวไอ้หอกเมี่ยงแบบกลางกบาล หนอย บังอาจว่ากู

          ในที่สุดก็แต่งตัวเสร็จ โอ้ย เปลี่ยนใจยังทันไหม​ หนูอยากกลับบ้าน ผมตอนนี้อยู่ในชุดเอี๊ยมสีดำขาสั้นเสื้อแขนยาวสีขาวมีลูกไม้น่ารักๆ มีหูกระต่าย โอ้ยย ทำไมถึงมีไซส์ผมได้เล่า อ้ากกก อายโว้ยย

          " น่ารักมากเลยยย นี่ขนาดตัวใหญ่นะเนี่ย พี่ไม่อยากจะคิดว่าตอนเราผอมหนุ่มจะแย่งกันแค่ไหน "

          " หนุ่มบ้าอะไรล่ะพี่ ผมผู้ชายนะ " ผมบิดไปบิดมาเขินจริงจังกับชุดที่น่ารักเกินไปแบบนี้

          " แหม ใครเค้าก็พูดกันทั้งนั้น ทั้งเดือนมหา'ลัยปีที่แล้ว รองเดือน และว่าที่เดือนปีนี้ ก็อยู่รอบๆ ตัวเราทั้งนั้น พูดแล้วอิฉา " ผมยิ้มแหยๆ นี่นินทาอะไรกันฟะนั่น มันไม่จริ๊งง

          แต่ผมที่กำลังบิดไปมาเขินตัวเองในกระจก ตอนนี้กลับใจสั่นแบบสุดๆ เหมือนลมจะจับ โอ้ย พ่อคุณ จะหล่อไปไหน หล่อราก หล่อประล้ำประเหลือแต้น้อ ผมยืนมองพี่โรลผ่านกระจกบานใหญ่ ดูเหมือนพี่โรลที่เดินเข้ามาจะยังมองไม่เห็นผม และเหมือนกำลังหาอะไรตามโต๊ะแต่งหน้าอยู่

          วันนี้พี่โรลใส่ชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตาที่แต่งนิดๆ ขับให้ดวงตายิ่งคม จมูกที่เป็นสันโด่งสวย รับกับคิ้วเข้ม ผิวที่ผ่องส่องสว่างเหมือนนีออนเดินได้ ผมที่เซ็ตกึ่งๆ เรียบร้อย แต่ก็ยังดูเท่ห์เหมือนเดิม

          " แตะแดงอยู่ไหน " พี่โรลคิ้วขมวดมุ่น และก้มลงควานหารองเท้าแตะสีแดง โอ้ย คุณพี่แต่งหล่อขนาดนี้ยังจะห่วงคีบแตะอีก ของรักของหวงสินะ

          " ไม่ใส่สักวันก็ไม่ตายหรอกมั้งครับ " ผมพูดขึ้นเบาๆ ทำให้พี่โรลที่ก้มอยู่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ

          ดวงตาของเราสองคนประสานกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่า เอ่อ เดี๋ยวๆๆๆ อยู่ดีๆ พี่แกก็โกยอ้าวออกไปแบบเหมือนวิ่งหนีผีเลยครับ ทำเอาผมเสียเซลฟ์ไปเลย ฮืออ กูอยากกลับบ้านนน

          แต่ว่าพอผมจะเดินตามออกไป พี่แกก็วิ่งกลับมาที่เดิมและพิงกรอบประตูด้วยสีหน้าแปลกๆ เอ่อ พี่ไม่สบายหรือเปล่า จิตหลุดแบบไอ้เมี่ยงไม่เอานะ ผมมองไอ้เมี่ยงที่เริ่มเขียนคิ้วให้ตัวเองเพิ่มจนเป็นสะพานพระรามแปดไปแล้ว ใจเย็นๆ เพื่อน มึงจะได้เป็นอุกกาบาตก่อนเป็นดวงเดือนนะกูว่า

          " เอ่อ..คือ " ผมมองพี่โรลที่เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก เหมือนกำลังสำลักน้ำทุกข์ทรมานอยู่ อะไรของเขาฟะ

          " น.น่ารัก.มาก " พอพี่แกพูดจบก็โกยอ้าวออกไปอีกครั้ง เมื่อกี้ว่าไงนะ อะไร น่ารักๆ ห๊าาา น.นี่ชมผมเหรอ

          ผมตอนนี้ก็เริ่มมีอาการตามไอ้พี่ติ๊งต๊องนั่น หน้าแดงจนเลือดจะพุ่งออกลูกกะตาอยู่แล้ว อ้ากกกก

          " เอาล่ะ ได้เวลาแล้วนะเมี่ยง ว๊ายตายแล้ว รีบลบคิ้วเร็ว " ตอนนี้ได้เวลาที่เหล่าเดือนแหละดาวของแต่ละคณะจะต้องไปเจิดจรัสบนเวทีแล้ว แต่ไอ้หอกเมี่ยงมันสร้างวีรกรรมสุดเกรียนจนพี่ๆ ต้องมาลุมทึ้งมัน แต่ก็เสร็จทันจนได้ กูละอายจริงๆ  หวังว่ามึงจะไม่ทำกูขายหน้าบนเวทีนะ

          และผมก็นึกถึงสิ่งที่พี่โรลเคยพูดไว้ในตอนนั้น มันคืออะไรกันนะที่พี่บอกว่าอยากให้ผมฟัง คืนนี้ผมจะได้รู้สินะ ผมยิ้มน้อยๆ และแอบมองพี่โรลที่ยืนอยู่ข้างเวทีด้วยใบหน้าบูดบึ้งแต่ก็ดูเหมือนจะแอบเหล่มองมาเสมอ เดี๋ยวเถอะนะ ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็มีความสุขจังเลยนะ



ขอให้คืนนี้ผ่านไปได้ด้วยดีด้วยเถอะ ผมหวังอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-11-2017 11:36:01
ตลกแต่ละคน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 07-11-2017 12:57:37
น้องหมูชมพูน่ารัก  :man1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-11-2017 23:00:55
คนแก่กลุ้มหลานแต่ละคน เอ๋อกันถ้วนหน้า นี่ขนาดแค่เริ่มงานนะ ถ้าระหว่างงานจะขนาดไหน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 08-11-2017 00:39:04
งุยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-11-2017 03:30:00
ฟิน :hao7:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 08-11-2017 07:35:02
ฟินนนนน. ลี่น่าจะเป็นรักอรกพบของพี่โรลแล้วลืะม้างงง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-11-2017 07:38:15
ชอบโรล แปลกดี
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 08-11-2017 16:46:18
          Calorie ที่ 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ


          " เอาล่ะค่ะ ตอนนี้เราจะเข้าสู่ช่วงแนะนำตัวของตัวแทนแต่ละคณะกันนะคะ " ผมที่ตอนนี้กำลังหาที่ยืนดูเหมาะๆ ก็มองเห็นชั้นลอยด้านบนที่ไม่มีคนอยู่สักคน เลยหาทางขึ้นไปจนได้

          ตอนนี้พี่โรลยังไม่ได้ออกไปยืนโชว์ตัวหน้าเวที แต่ยืนหลบอยู่ข้างๆ ให้น้องๆ ได้แนะนำตัวเองก่อน แล้วพี่คงจะปิดท้ายสินะ

          " ต่อไปคณะสุดท้าย ซึ่งปีที่แล้วคณะนี้ควบตำแหน่งทั้งดาวและเดือนของมหา'ลัยเลยทีเดียวนะคะ ขอเชิญพบกับ ตัวแทนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ กันเลยค่า "

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่เดินออกมาด้วยความกล้าๆ กลัวๆ สะดุดพรมตรงนั้นตรงนี้ ทำตาลอกแล่ก ไอ้ห่า นี่มึงมาเดินโชว์ตัวหรือ กำลังดูลาดราวปล้นร้านทองฟะ

          ผมถึงกับกุมขมับกับความเละเทะของมัน และทำเอาพี่โรลเริ่มแทะเล็บด้วยความเครียด แล้วใครใช้ให้เลือกมันเป็นตัวแทนละพี่ ฮ่าๆ ถ้างั้นละก็

          ' วิ๊ววิดดด!!! '

          ผมเป่าปากทำให้ไอ้เมี่ยงหันขึ้นมามองข้างบน ผมส่งยิ้มและชูมือไปมาให้มันผ่อนคลายตัวเองลง แต่สิ่งที่ได้แถมมาก็คือ พี่โรลก็กำลังมองมาที่ผมเหมือนกันด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงอะไรหลายๆ อย่าง ผมส่งยิ้มให้พี่โรลที่กำลังฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี ผมรออยู่นะ จะบอกอะไรผมก็รีบๆ พูดมา หึหึ

          " สวัสดีครับ ผมนายมาธวี เอี่ยมสุข ตัวแทนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ฝากเนื้อฝากตัวฝากหัวใจด้วยนะค๊าฟ " เอาล่ะ พอไอ้ความประหม่าหายไป ไอ้ความมั่นใจแบบผิดๆ มันจะเริ่มมาแทน ไอ้ห่า เค้าให้แนะนำตัวไม่ใช่หาเสียง ผมมองไอ้เมี่ยงที่พูดและหมุนตัวสามรอบพร้อมทำมือรูปหัวใจ ถรุ๊ยย เสี่ยวชิบหาย



          " ตอนนี้เราก็ฟังการแนะนำตัวของตัวแทนดาวเดือนของแต่ละคณะไปแล้ว และสุดท้ายที่เราภูมิใจนำเสนอก็คือ ดาวและเดือนประจำปีการศึกษาที่แล้ว ที่จะมามอบสายสะพายให้กับผู้ชนะในวันนี้ค่ะ ขอเชิญพบกับทั้งสองคนได้เลยค่า " พี่โรลและสาวสวยดาวมหา'ลัยเดินควงกันมากลางเวทีพร้อมเสียงกรี๊ดกระหึ่มที่ดังจนผมหูอื้อเลยทีเดียว

          ผมมองพี่โรลที่เหมือนพยายามจะเดินออกห่างจากดาวมหา'ลัยที่ควงและกระชากแขนพี่โรลแบบเหมือนว่าวันนี้ต้องเอาให้คุ้มอะไรแบบนั้น โอ้ยย อยากถลกหนังหน้ามัน เอ้ย ไม่ใช่ๆ พี่เขาสวยดีเนอะ แหะๆ

          พี่โรลยืนอยู่หน้าไมค์นานมากและไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้เพราะเสียงกรี๊ดยังคงดังอยู่หลายนาที

          ผมใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น เพราะว่าพี่โรลนั้นเป็นคนที่เรียกได้ว่ามีบุคลิกที่แปลกมาก และผมก็ไม่เคยได้ยินพี่แกพูดอะไรยาวๆ เลยสักที ปีที่แล้วพี่เขาชนะการประกวดได้ยังไงกันนะ นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากรู้สุดๆ ไม่ใช่ว่าแค่หล่อแล้วยืนเฉยๆ หรอกใช่ไหม
         
          " ดี.. " โอ้ยย ไม่ต้องกรี๊ดทุกคำพูดก็ได้มั้ง แต่เสียงกรี๊ดก็ยังคงดังกึกก้องจนผมรำคาญแทนเลยทีเดียว

          " เงียบได้ไหม​ หนวกหู " ฮ่าๆๆ พี่โรลปี๊ดแตกซะแล้ว เสียงกรี๊ดเงียบลงทันที แต่หน้าตาสาวๆแต่ละคนก็ยังยิ้มหวานเคลิ้มฝันอยู่ดี นี่พวกหล่อนเป็นมาโซคิสม์หรือไงฟะ

          " โรมัน กวินพาณิชย์ " เพิ่งรู้ชื่อพี่แกเต็มๆ ก็วันนี้แหละครับ และพี่แกก็ยังคงคอนเซ็ปเหมือนคนขี้เกียจจะพูดเหมือนเดิม นึกว่าจะได้ยินพี่เขาพูดอะไรยาวกว่านี้ซะอีก ผิดหวังนิดๆ แฮะ

          หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จ เอาล่ะ คราวนี้ก็ถึงเวลาแล้วสินะ โอ้ย ตื่นเต้นเหมือนกันนะเนี่ย ผมค่อยๆ เดินลงจากชั้นลอยและเข้าไปยังหลังเวที ตอนนี้ไอ้เมี่ยงกำลังแต่งตัวด้วยชุดทักซิโด้ที่ดูหล่อเนี๊ยบ แหมเข้ากับมึงดีเหมือนกันนะ

          " ลี่อยู่ไหนวะ " ไอ้เมี่ยงที่ดูเหมือนจะเริ่มสติแตกอีกแล้วร้องเรียกหาผมเหมือนผมเป็นแม่ลูกอ่อนมันอย่างไงอย่างงั้น

          " กูจะไหวไหม​วะ " ไอ้เมี่ยงกำมือผมแน่นด้วยมือที่เหมือนแช่น้ำแข็งของมัน

          " เออน่ามึงทำได้ ที่กูมองบนเวทีนะ มึงหล่อสุดแล้ว เล่นให้เหมือนที่ซ้อม มึงชนะแน่นอน " ผมพูดให้กำลังใจเหมือนทุกๆ ครั้งที่มันมีปัญหาหรือไม่สบายใจ พวกเราดูแลกันเสมอมา ไม่ว่าตอนนี้หรือเมื่อก่อน มันก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม

          ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังกอดอกมองพวกเราอยู่ ด้วยรอยยิ้ม และเดินเข้ามาหาพวกเราช้าๆ

          " ถ้าชนะ อยากได้อะไร จัดให้ " ไอ้เมี่ยงที่เมื่อกี้ดูเครียดๆ ตอนนี้กลับตาโตมองพี่โรล ความโลภของมึงแผ่ออกมาทางสายตาแล้วไอ้หอก

          เมื่อไอ้เมี่ยงนั่งลงพูดซ้อมการแสดงของตัวเองต่อ ผมจึงค่อยๆ เดินลัดเลาะไปหาคนที่กำลังจัดสายสะพายของตัวเองอยู่หน้ากระจก จะเรียกจัดก็ไม่ถูกซะทีเดียว เหมือนกำลังจะพังมันมากกว่า

          " ว่าไงครับเดือนมหา'ลัย " ผมยิ้มขำเพราะพี่โรลนั้นหน้ามุ่ยเหมือนจะไม่ชอบที่ตัวเองเป็นเดือน

          " โดนบังคับประกวด " นั่นไงว่าแล้วเชียว

          " แล้วพี่แสดงอะไรเหรอครับปีที่แล้ว " ผมถามด้วยความสงสัยสุดๆ

          " เดี๋ยวก็รู้ " พี่โรลหันมายิ้มให้ผม ผมไม่ค่อยกล้าสบตาพี่โรลเท่าไหร่ ยิ่งนานวันก็ยิ่งเขินหนัก เป็นสาวน้อยหรือไงฟะกู

          ผมแก้เขินด้วยการแกะอมยิ้มที่พกมากินแม่งเลย ตอนนี้รอเวลาขึ้นแสดงครับ ซึ่งไอ้เมี่ยงนั้นได้ขึ้นคนสุดท้าย

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยกมือบนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลางพนมมือไหว้เจ้าที่สี่ทิศ ทั้งๆ ที่ในมือถือไม้กางเขน มึงไปเอามาจากไหนฟะ ตอนนี้อะไรมันก็เอาหมด ฮ่าๆ

          แต่อยู่ดีๆ ผมที่มองไอ้เมี่ยงอยู่ก็ต้องสะดุ้งโหยง เพราะว่าพี่โรลนั้นดึงอมยิ้มจากปากของผมไปใส่ปากตัวเองอย่างรวดเร็ว

          " เง้ออ นิสัย " งอนแล้วไอ้พี่โรลบ้านี่

          " อยากน่ากินเองช่วยไม่ได้ " พี่โรลอมยิ้มขำหน้าของผมที่บูดบึ้งจากการโดนแย่งขนม แล้วไอ้ที่บอกว่าน่ากินนั่น หมายถึงขนมจริงๆ ใช่ไหม​

          " อ่ะๆ อ้าปากเร็ว " พี่โรลดึงอมยิ้มออกจากปากตัวเองและบอกให้ผมอ้าปาก

          ผมตาโตส่ายหน้ารัวๆ ไม่อ๊าวว ไม่ใช่อะไรนะ แบบว่ามันเขินอ่ะ

          " นั่น ซานต้าแจกขนม!! " พี่โรลพูดพลางชี้ไปที่เพดาน ซึ่งไอ้ผมก็ง่าวมองตามซะงั้น และในทันที พี่แกก็ยัดอมยิ้มคืนใส่ปากที่อ้าน้อยๆ ของผมตอนมองเพดาน นี่พี่เล่นอะไรของพี๊ โอ้ยย ฟันแทบหัก และแบบนี้มัน อ้ากก จูบทางอ้อมแบบนัวๆ

          " คราวหน้าจะไม่ใช้มือแย่ง " พี่โรลยื่นหน้ามากระซิบข้างหู ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าขึ้นสีเลือดอีกทันที อ้ากกก

          ผมเดินหนีความหื่นกระหายของอีพี่โรล และกลับไปหาไอ้เมี่ยงที่กำลังมองผมด้วยสายตากระลิ้มกระเหลี่ยกวนบาทาอีกแล้ว

          " ถ้าจะขนาดนั้นมึงไม่ดูดปากกันไปเลยวะ โอ้ยยๆๆ " ผมที่ฟังมันพูดก็แจกส้นทีนให้มันไปแทะเล่นทันที อย่าพูดสิวะ ถ้ากูท้องได้กูคงคลอดไปเป็นโหลแล้ว อีพี่โรลยิ่งรู้จักยิ่งเหมือนใกล้จะเสียตัว หึยยย

          " ต่อไปขอเชิญพบกับการแสดงปิดท้ายจากตัวแทนเดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ได้เลยค่า " เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังขึ้น ไฟบนเวทีได้ปิดลง

          " สู้ๆ นะ " ผมหันไปยิ้มให้พี่โรล พี่ควรจะบอกไอ้เมี่ยงนะ ไม่ใช่ผม หึหึ

          ผมและไอ้เมี่ยงเดินขึ้นเวทีไปจัดข้าวของต่างๆ ที่ใช้ในการแสดง พอทุกอย่างเรียบร้อย ไฟจากด้านบนก็สาดส่องลงมาที่ตัวไอ้เมี่ยง ที่กำลังถอดหมวกทรงสูงและโค้งตัวลงทักทายผู้ชมอย่างสง่างาม

          ไฟดวงที่สองสาดส่องมาที่ผมไอ้เมี่ยงหันมาแนะนำผมที่เป็นผู้ช่วยจำเป็นของมัน ซึ่งการพูดและการเอนเตอร์เทนของมันนั้นจัดว่ายอดเยี่ยมไม่มีสะดุดเลยทีเดียว เรียกเสียงฮา และเสียงกรี๊ดจากผู้ชมได้เป็นอย่างดี จะมามีสะดุดก็คือ ไอ้ห่า กลที่ต้องให้ผมเข้าไปในตู้และใช้เลื่อยหั่นมึงไม่ได้นัดกูไว้ กูไม่เข้าไปเด็ดขาด มึงคิดจะฆ่ากูใช่ไหม​ ผมยิ้มแย้มให้กับผู้ชมทั้งๆ ที่ในใจอยากจะตะปบหน้ามันจริงๆ ให้ดิ้นตาย

          แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผมเหลือบมองพี่โรลที่ส่งยิ้มหวานมองมาที่ผมตลอดเวลา พี่เป็นเอามากนะเนี่ย

          " ผู้ช่วยน่ารักจัง!! " ใครไม่รู้แม่งตะโกนอยู่ในฝูงชน ทำเอาพี่โรลที่กำลังยิ้มหวานให้ผมรีบหันควับไปหาต้นตอของเสียงด้วยใบหน้าไม่พอใจ พี่ครับใจเย็นๆ ฮ่าๆ

          การแสดงจบลง ด้วยเสียงปรบมือที่ดังกึกก้อง ผมและเมี่ยงจับมือกันและโค้งขอบคุณผู้ชมทั้งหลายที่ตั้งใจดูการแสดงเป็นอย่างดี

          " กูบอกแล้วมึงทำได้ " ผมยิ้มให้ไอ้เมี่ยงที่กำลังยิ้มหน้าบานทั้งๆ ที่เหงื่อแตกเต็มหน้า มันคงตื่นเต้นสุดๆ นั่นแหละ


          " เอาล่ะค่ะ มีข่าวพิเศษสุดๆ จะมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบนะคะ มีรายการแสดงพิเศษที่จะมามอบให้ทุกๆ คนเป็นการขั้นเวลาการรวมคะแนนและประกาศผล ซึ่งการแสดงนั้นก็ไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่เป็นเดือนมหาวิทยาลัยปีที่แล้วของเรานี่เอง ขอเสียงปรบมือให้กับ พี่โรล ของเราด้วยค่ะ " เสียงกรี๊ดและเสียงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นดังไปทั่วทั้งโรงยิม เพราะนี่มันเป็นโชว์ที่พิเศษจริงๆ

          ผมที่ลงมาจากเวทีก็พบกว่าพี่โรลนั้นหายไปแล้ว แต่พอได้ยินประกาศดังนั้นจากพิธีกร ผมก็รีบออกไปจากด้านหลังเวที และเดินแหวกฝูงชนที่กำลังเหมือนจะบ้าคลั่งกันอยู่ตอนนี้จนไปถึงหน้าเวที

          พี่โรลเดินออกมาจากอีกด้านของเวที ในมือถือกีต้าร์โปร่งมาด้วย แค่เพียงเท่านั้น เสียงกรี๊ดที่ดังยิ่งกว่าตอนแนะนำตัวก็ดังสนั่น เรียกได้ว่าพี่แกเป็นขวัญใจของทุกคนจริงๆ ถ้าลงประกวดด้วยในปีนี้ก็คงไม่แคล้วได้ตำแหน่งอีกเช่นเคย

          " อะแฮ่ม เทสๆ มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก หนึ่ง สอง สาม โอเค " ผมหัวเราะออกมา นั่นภาษาคนงั้นเหรอ ไอ้พี่เอเลี่ยนเอ้ย ตอนนี้พี่โรลนั่งบนเก้าอี้กลม พลางปรับสายกีตาร์ไปมา ช่างเป็นคนที่เท่ห์ทุกท่วงท่าจริงๆ

          " เสียงอาจจะไม่ดีมาก แต่ว่าร้องด้วยใจ หลังจากคืนนี้ไป ก็ยอมเป็นของพี่ซะดีๆ " เสียงกรี๊ดยังคงดังสนั่น แต่ผมนั้นถึงกับสำลัก นี่พี่พูดอะไรของพี่ห๊าา ไอ้ที่บอกว่าเป็นของพี่นี่มันยังไงกัน ผมยิ้มขำ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ยินพี่โรลพูดยาวขนาดนี้ครับ ทำเอาผมไม่สามารถหุบยิ้มได้เลยทีเดียว

          ' พี่โรลร้องจีบใครอ่ะ '

          ' อิจฉาอ่ะ อย่าให้รู้กูจะตบให้ '

          ' อ่อยโรลท่าไหนวะ '

          เอาล่ะสิครับ อย่าได้เผลอพูดชื่อผมออกมานะ ไม่งั้นผมได้กลายเป็นหมูแผ่นอยู่ตรงนี้แน่นอน อึ๋ย

          ไฟบนเวทีดับลง เหลือแต่เพียงแสงสว่างสีขาวที่ส่องให้เห็นแต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้น กำลังคล้องแขนดีดกีตาร์เบาๆ ให้เกิดเสียงไพเราะ ด้วยท่วงท่าที่ดูสบายๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาราวเทพบุตรนั้นดูเปี่ยมสุข ยิ้มสดใส ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นเหมือนกับ ตกอยู่ในภวังค์

ก็เป็นคนธรรมดา ไม่พิเศษ

ก็เป็นคนที่เดินดิน อย่างคนทั่วไป

ไม่ได้ดี เกินกว่าคนไหน

มีแค่ใจดวงเดียวให้เธอ



ก็เป็นเพียงคนๆ หนึ่งไม่เลิศเลอ

แค่บังเอิญมาเจอเธอ แต่ไม่รู้ทำไม

ยิ่งใกล้กัน ก็ยิ่งหวั่นไหว

อยากค้นใจเธอดูสักครั้ง



หากบังเอิญ ถ้าเธอต้องการใคร

หากวันใดถ้าเธอนั้นอ่อนแอ



ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม

ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอ เมื่อเธอเหงาใจ

ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน

จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี



          ผมยิ้มเขิน ยิ้มจนแก้มจะแตก นี่เหรอที่บอกว่าเสียงไม่ดี ทำเอาเคลิ้มผสมอายจนจะหน้าม้วนหน้าอยู่แล้ว >///<



หากว่าเธอยังลังเลไม่แน่ใจ

ก็ปล่อยให้มันเป็นไป ให้ตัวฉันได้พิสูจน์

ว่ารักเธอ มากสักแค่ไหน

โปรดไว้ใจฉันดูสักครั้ง



หากบังเอิญ ถ้าเธอต้องการใคร

หากวันใดถ้าเธอนั้นอ่อนแอ



ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม

ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอ เมื่อเธอเหงาใจ

ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน

จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี



          พี่โรลที่กำลังร้องเพลงนั้นสายตาก็จับจ้องอยู่แต่ที่ผม พลางมองมือตัวเองที่ไล่ไปตามเมโลดี้ ไม่ต้องมองมามากก็ได้ ผมจะโดนตื้บแล้วครับ ฮ่าๆ และผมเพิ่งรู้ว่าพี่เล่นหูเล่นตาเก่งมากเวลาจีบใครสักคน แบบนี้ใครจะไม่หวั่นไหวได้เล่า



ให้ฉันดูแลเธอ รักเธอได้ไหม

ให้ฉันเป็นเพื่อนเธอ เมื่อเธอเหงาใจ

ไม่ต้องกลัว จะไม่ไปไหน

จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีกเหมือนเคย จะดูแลอย่างดี~~



          เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดดังกึกก้อง พี่โรลลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ และก้มตัวขอบคุณทุกคนพลางมองหน้าผมที่กำลังหน้าแดงแจ๋ ผมเอามือทั้งสองข้างปิดแก้มตัวเองไว้ เขินจะตายอยู่แล้ว อ้ากกก

          ผมมองพี่โรล เป็นผมจะดีจริงๆ เหรอครับ แต่ถ้าหากว่าพี่มั่นใจแล้วละก็ ลองทำให้ผมเห็นอีกสักนิดนะครับ



แล้วผมจะลองเปิดใจกับความรักครั้งใหม่นี้อีกสักครั้งหนึ่ง































****************************************************************************

Cr. แหนม รณเดช-ให้ฉันดูแลเธอ (Studio Session)

https://youtu.be/TymmIXL7fMA

หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ ]((08/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-11-2017 17:02:24
เขินแทนลี่่ อร้ายยย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ ]((08/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-11-2017 18:40:39
เอาจริงไม่หลอกลี่นะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ ]((08/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 08-11-2017 21:02:05
น่ารักอ่า ปม1,2 โผล่ พี่นายกับพี่สาวคนนั้น ผ่านมันไปให้ได้นะน้องลี่

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ ]((08/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-11-2017 00:52:05
 :z3: คนแก่มึนกับการจีบเด็กของพี่โรล กับอะไรคือของที่เมี่ยงต้องการจากพี่โรล  :hao3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 10 บทเพลงที่มอบให้แด่เธอ ]((08/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 09-11-2017 11:41:31
          Calorie ที่ 11 สาเหตุของความเศร้า


          ผมยังคงยืนอยู่หน้าเวที เขินจนไม่กล้าไปเจอหน้าพี่โรลเลยครับ คือยังไม่รู้จะพูดอะไร ฮ่าๆ ขอแอบอยู่ตรงนี้ก่อนดีกว่า รอดูว่าไอ้เมี่ยงจะได้ที่โหล่หรือเปล่า

          แต่เอ๊ะ ต่อไปป็อปปูล่าโหวตนี่นา ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งไปซื้อดอกไม้ทันที ผมซื้อดอกกุหลาบมาช่อใหญ่เลยทีเดียว จบนี่มึงต้องชดใช้กูสิบเท่า หึหึ

          ผมมองไปบนเวทีก็เห็นว่าพี่โรลก็ยังคงยืนอยู่บนนั้นเพื่อเตรียมมอบสายสะพายให้แก่ผู้ที่ได้รางวัล พี่โรลที่ยืนอยู่นั้น กำลังชะเง้อคอไปมาเหมือนกำลังมองหาใครอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นผม หึหึ

          ผมแกล้งซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน จริงๆ กุหลาบช่อนี้อ่ะอยากให้เดือนปีที่แล้วมากกว่าจริงๆ นะ อิอิ

          และแล้วก็ถึงช่วงการมอบดอกกุหลาบให้แก่ตัวแทนเพื่อหาผู้ที่จะได้รับรางวัลป็อปปูล่าโหวต ผมเดินต่อแถวเข้าไปมอบดอกกุหลาบให้ไอ้เกรียนเพื่อนผม เพราะกลัวมันจะไม่ได้สักดอก แต่ก็ผิดคาด เพราะว่าในมือมันนั้นมีช่อดอกกุหลาบเยอะเหมือนกันครับ ฮอตเหมือนกันนะมึง หมั่นไส้ว่ะ

          ผมแอบหยิกแขนมันตอนส่งช่อกุหลาบให้ จนมันทำหน้าเหยเกเลยทีเดียว สมน้ำหน้ามึง ฮ่าๆ
         
          ผมเดินถอยมาหลังๆ อีกครั้งเพื่อให้คนอื่นได้ยื่นช่อดอกไม้กันโดยไม่เบียดเสียดมากนัก

          แต่ผมที่ยืนอยู่ก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาสะกิดที่หลังผม และพอผมหันไปมองก็พบช่อดอกกุหลาบที่ใหญ่มากๆ มันซะใหญ่จนมองไม่เห็นคนที่ถือเลยทีเดียว

          " ถ้าจะเอาไปให้ตัวแทนคณะก็เชิญหน้าเวทีเลยครับ " ผมพูดพลางถอยหลบทางให้ แต่ว่าคนที่ถือช่อดอกกุหลาบอยู่นั้นก็ยังเดินตามผมอยู่

          " ไม่ได้เอามาให้ตัวแทนหรอก พี่เอามาให้ลี่ " ช่อดอกกุหลาบถูกถือให้ต่ำลง เผยให้เห็นใบหน้าของคนที่ถือมันอยู่

          " พี่นาย " ผมตกใจก้าวถอยหลังหนี แต่ก็ถูกพี่นายดึงมือไว้

          " พี่หาลี่แทบแย่เลย มาเจอก็ตอนอยู่บนเวทีกับเพื่อนเรานั่นแหละ วันนี้น่ารักจัง ทำไมไม่บอกพี่ว่าเราก็ขึ้นไปด้วย "

          " ผม.. " ผมมองพี่นายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " รับไปสิลี่ " พี่นายพูดพลางยื่นช่อกุหลาบให้ แต่ผมก็ไม่รับมัน ผมไม่มีทางรับมันเด็ดขาด

          " ลี่ เราเริ่มต้นใหม่ไม่ได้เหรอ "

          " ไม่ " ผมพูดด้วยเสียงหนักแน่น จนพี่นายเริ่มทำหน้าเครียด

          " ลี่เป็นคนทิ้งพี่นะ พี่ทำอะไรผิด อยู่ดีๆ ลี่ก็หายไป วันปัจฉิมพี่ก็รอลี่อยู่ ที่บอกว่าไม่สบายพี่รู้นะว่าโกหก พี่ตามหาลี่ พี่ไม่เข้าใจเลย " พี่นายเริ่มบีบแขนผมและเขย่าเบาๆ ผมไม่พูดอะไร ผมไม่อยากพูดถึงมัน

          " ลี่จะอ้วนจะดำหรืออะไรพี่ก็ไม่สนหรอก เป็นแฟนพี่ เดี๋ยวพี่จะทำให้ลี่เป็นเหมือนเดิมเมื่อไหร่ก็ได้ "

          " ผมไม่คิดจะลดหรอก แล้วก็อย่ามายุ่งกับผมอีก " ผมยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ

          " พี่ไม่เชื่อหรอก ลี่รักพี่มากแค่ไหนทำไมพี่จะไม่รู้ ยังเก็บของๆ พี่อยู่ใช่ไหม พี่รู้นะ " ผมหลบตาพี่นาย เพราะผมยังเก็บของพวกนั้นอยู่จริงๆ

          " ผมจะกลับไปทิ้งมันวันนี้ ทุกอย่างมันจบไปนานแล้ว ผมเคยรักพี่มากก็จริง แต่ไม่ใช่อีกแล้ว " ผมพยายามดึงแขนจากการเกาะกุมของพี่นายที่เพิ่มแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

          " ลี่ลืมพี่ไม่ได้หรอก ให้โอกาสพี่นะ พี่จะรักแค่ลี่คนเดียว " ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็หลุดขำออกมาเลยทีเดียว

          " นี่พี่ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าทำไมผมถึงหายไป " ผมเริ่มคิดถึงวันเก่าๆ วันที่เคยมีเรา และมีเธออีกคน

          " พี่ยังจำหนิงเพื่อนผมได้ไหม​ " ผมยิ้มให้พี่นายที่ทำหน้าตกใจที่ได้ยินชื่อนั้น ใช่แล้วล่ะ ผมที่ต้องเสียทั้งเพื่อนและคนรักในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผม ไม่เคยลืมว่า ผมจะไม่มีวันกลับไปรักพี่อีกแล้ว



          2 ปีก่อน



          " อาลี่ พี่นายเท่ห์ดีเนอะ โครตใจดีอ่ะ วันนั้นเห็นช่วยคนแก่อยู่หน้าโรงเรียน " ผมยิ้มให้หนิงที่พูดถึงพี่นายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          หนิงเป็นเพื่อนสมัยเด็กอีกคนของผม เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นประถม เป็นคนที่สวยมาก ตาโตผิวขาว และแก่นแก้วเป็นที่หนึ่ง ถึงบ้านหนิงจะอยู่ไกลจากผมและเมี่ยง แต่พวกเราก็เลือกเรียนด้วยกันเสมอ

          " ชอบก็ไปบอกเขาเลยสิ " ผมพูดแหย่หนิงที่รีบส่ายหัวทันที

          " บ้า ไม่ได้ชอบแบบนั้นจริงๆ " หนิงพูดและทำหน้าจริงจัง

          " งั้นหนิงชอบเมี่ยงแบบนั้นได้ป่ะ " ไอ้เมี่ยงได้ทีจีบหนิงตลอด ซึ่งมันก็จีบมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ แต่ดูแล้วจะแดกแห้วชั่วนิรันดร์

          " จะให้ชอบแก สู้ชอบลี่ดีกว่า เนอะ ลี่โครตน่าร้ากก อยากหน้าใสกิ๊กแบบลี่อ่ะ " หนิงพูดพลางกอดผมและดึงแก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว

          " อิจฉาเฟ้ย " ไอ้เมี่ยงงอแงฟึดฟัด ซึ่งพวกเราสามคนก็เป็นแบบนี้มาเสมอ เป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับผม

          จนวันหนึ่งเป็นวันซวยของผมเพราะว่าไอ้เมี่ยงที่อยู่กับผมตลอดมันเสือกไม่มาโรงเรียนเพราะท้องเสีย และมันเสือกบอกให้ผมมาโรงเรียนก่อน มึงหลอกกูนี่หว่า และที่ซวยกว่านั้นก็คือ หนิงก็ไม่มาเหมือนกัน ผมที่เข้ากับใครไม่ค่อยจะได้ ก็รู้สึกว้าเหว่เหลือเกิน เอาวะ ปีนรั้วหนีกลับบ้านแม่งเลย

แต่ความที่รั้วของโรงเรียนนั้นสูงเกินไป ทำให้ความซวยที่ซวยสุดๆ บังเกิด ผมตกลงมาจากรั้ว และลงผิดท่าสุดๆทำให้ขาหักในที่สุด และขณะที่ผมต้องการความช่วยเหลือนั้น คนที่ยื่นมือมาก็คือ พี่นาย...

          " ลี่หมิง เธอกำลังจะโดดเรียนใช่ไหม​ ครูจะเรียกผู้ปกครองของเธอมาพบ " จะมีอะไรซวยไปมากกว่านี้ไหม​

          " ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ ผมเป็นคนให้น้องปีนขึ้นไปเอง ผมเห็นมีคนปีนรั้วออกไป เลยให้น้องช่วยปีนขึ้นไปดูเพราะน้องตัวเบากว่าผม คนที่ผิดก็คือผมครับ " ผมตาโตมองคำโกหกของรุ่นพี่ผู้เป็นดาวเด่นของโรงเรียน พี่ทำแบบนั้นเพื่ออะไรกัน

          และหลังจากนั้นมาพวกเราก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ พี่นายมักมาช่วยพยุงผมในช่วงที่ผมเดินไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตึกเรียนพี่ก็อยู่คนละตึกแท้ๆ ทำเอาไอ้เมี่ยงว่างงานไปเลย

          " อาลี่ หนิงว่าพี่นายเขาชอบลี่นะ " ผมยิ้มน้อยๆ ที่ได้ยินแบบนั้น

          " ได้ข่าวว่าตอนนี้ก็คบเด็กม.4 อยู่นี่ พี่เขาก็ควงไปเรื่อยแหละ " พี่นายเป็นคนใจดีก็จริงแต่เจ้าชู้มากครับ ซึ่งผมก็รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้เลย

          " แล้วลี่ชอบพี่นายหรือเปล่าล่ะ "

          " ไม่รู้สิ อาจจะละมั้ง แต่ให้คบคงไม่เอาหรอก ไม่อยากไปตบตีแย่งเขามา "

          " หนิงจะช่วยให้ลี่คบกับพี่นายเองนะ " ผมมองหนิงที่ทำหน้าตื่นเต้นซะเหลือเกิน นี่อยากให้เพื่อนมีผัวจริงๆ เหรอ

          ผมก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะว่าเมื่อก่อนผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบผู้ชาย แต่พอได้อยู่ใกล้ๆ พี่นายผมก็คิดว่า ผมไม่ได้ชอบผู้ชายจริงๆ นั่นแหละ ผมก็แค่ ชอบพี่นายเท่านั้นเอง

          " ลี่ ไปกินข้าวกัน " พูดถึงก็มาเลยครับ พี่เขามาหาผมทุกวันช่วงพักเที่ยง มีผม เมี่ยง หนิง พี่นาย สี่คนโต๊ะเดียวกันเสมอ

          ผมไม่รู้ว่าพี่นายคิดยังไงกับผม แต่ผมก็คิดว่าผมอาจจะมีหวัง เพราะว่าพี่เขาดูใส่ใจผมมาก ทั้งๆ ที่พี่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมบาดเจ็บสักหน่อย แถมเป็นคนช่วยผมด้วยซ้ำ เป็นคนใจดีจัง พี่จะชอบผมหรือเปล่านะ ชอบแค่ผมคนเดียวได้ไหม​

          ผมแอบถ่ายรูปพี่นายเก็บไว้เสมอ ในวันเกิด พี่นายก็ซื้อของขวัญให้ผม พวกเราดูเหมือนเป็นคนรักกันถึงแม้ว่าจะไม่ได้สารภาพรักกันเลยก็ตาม ในห้องนอนของผมนั้นมีแต่รูปพี่นายและของที่พี่นายให้เต็มไปหมด ผมชอบพี่นายจริงๆ

          " พี่นายครับ พี่คิดยังไงกับผมเหรอ "

          " ลี่เป็นคนพิเศษของพี่ ลี่ไม่เหมือนใคร " พี่นายมักพูดแบบนี้เสมอ เวลาที่ผมถาม

          " ผมขอพี่เรื่องนึงได้ไหม​ครับ "

          " ว่ามาสิ " พี่นายพูดพลางยิ้มให้ผม

          " มองผมคนเดียวได้ไหม​ครับ " พี่นายถอนหายใจเล็กน้อยแต่ก็กลับมายิ้มเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว

          " พี่จะ..พยายาม คือ พี่รู้จักคนเยอะต้องรักษาน้ำใจคนอื่นนะลี่ เข้าใจพี่ใช่ไหม​ " ผมไม่เข้าใจหรอก

          " ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจนะครับ " ผมพูดพลางยิ้มเศร้าๆ

          " ลี่ ขอเวลาพี่หน่อย พี่จะเลิก พี่จะทำให้ได้พี่สัญญา "

          " ขอบคุณนะครับ สัญญากันแล้วนะ " ผมยิ้มน้อยๆ ให้ผู้ชายคนแรกที่ผมรัก

          เวลาผ่านไปเกือบปี และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันปัจฉิมอำลาพี่ม.6 ผมเตรียมของขวัญสุดพิเศษเพื่อพี่นายไว้แล้ว พี่นายจะต้องดีใจแน่ๆ ถ้าได้เห็นมัน

          " ลี่เดี๋ยววันนี้ตอนเย็นพี่มีธุระนะ ขอโทษที่ไม่ได้ไปส่ง ลี่ไม่โกรธพี่ใช่ไหม​ " พี่นายเดินมาหาผมในช่วงพัก จริงๆ ผมรู้สึกเซ็งครับ เพราะพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายที่พวกเราจะได้เจอกันในโรงเรียนแล้วแท้ๆ แต่วันนี้พี่นายกลับจะหนีไปไหนซะนี่

          " ครับ พรุ่งนี้เจอกันนะ " ผมยิ้มให้พี่นายที่เดินออกไป

          " ลี่วันนี้หนิงกลับไวนะ ไม่ต้องรอล่ะ " ผมพยักหน้าให้หนิง เฮ้อ มีแต่คนทิ้งเราเนอะเมี่ยง ผมมองไอ้เมี่ยงที่มองผมด้วยใบหน้าเซ็งๆ เหมือนกัน

          หลังเลิกเรียนผมแวะเอาของขวัญที่สั่งไว้ในร้านๆ หนึ่งที่อยู่ไกลนิดหน่อย แต่ร้านนี้ทำของสวยมาก ผมเลยอุตส่าห์มาถึงนี่เลยทีเดียว ผมมองกล่องของขวัญและยิ้มอย่างมีความสุข พรุ่งนี้ถึงจะเป็นวันสุดท้ายในโรงเรียน แต่มันก็ไม่ใช่วันสุดท้ายของเราสองคนหรอกนะ

          ผมเดินลั้ลลาออกมาจากร้าน แต่เหมือนท้องฟ้าจะกลั่นแกล้ง โอ้ย ฝนบ้ามาตกอะไรตอนนี้ฟะ เดี๋ยวของเสียหายหมด

          ผมกอดกล่องของขวัญแสนรักด้วยความทะนุถนอม พลางมองไปรอบๆ ตอนนี้ผมมายืนหลบฝนอยู่ใต้กันสาดที่ยื่นออกมาจากร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งร้านนี้จัดตกแต่งได้น่ารักและโรแมนติกทีเดียว ผมมองบริกรที่แต่งตัวน่ารัก ดอกไม้กระถางนั้นสวยจังและ...

          ผมที่เอี้ยวตัวมองผ่านๆ แต่ตอนนี้กลับหันหน้าช้าๆ เข้าหากระจกของร้านแบบเต็มตา ผมยืนอยู่ตรงหน้ากระจก ตัวชาและสั่นน้อยๆ แต่ไม่ใช่เพราะความหนาวเย็นของสายฝน ริมฝีปากไม่อาจเปร่งเสียงได้ และหัวใจราวกับแตกสลาย

          ดูเหมาะกันดีนะ ผู้หญิงสวย และผู้ชายก็หล่อมาก ใช่ ผู้หญิงกับผู้ชาย สวรรค์สร้างมาเพื่อเป็นคู่กัน ผมหัวเราะเบาๆ ทั้งๆ ที่น้ำตาไหลออกมา คงนานแล้วใช่ไหม​ ผมมองมือของทั้งสองที่ประสานกันดูมีความสุข ผมคงเป็นคนขัดขวางทั้งสองคนนั่น พี่ไม่ได้เลือกผมแต่แรกแล้ว พี่ก็แค่ลังเล พี่ต้องเลือกคนที่ดีกว่าอยู่แล้ว ทุกวันที่พี่มาหาผม พี่ไม่ได้มาเพื่อผม แต่มาเพื่อเธอ

          ผมมองแผ่นหลังของผู้ชายที่บอกว่าผมนั้นสำคัญ กับใบหน้าของผู้หญิงที่คอยอยู่ข้างๆ ผม และบอกผมว่าพี่นายนั้นรักผมมากแค่ไหน แล้วทำไมถึงไม่บอกล่ะ ว่าเธอนั่นแหละที่รักผู้ชายคนนั้น

          ผมมองดูแผ่นหลังของผู้ชายที่ผมรักเดินไปจากโต๊ะ มือที่สั่นเทาของผม มันทำให้กล่องของขวัญที่ผมถืออยู่นั้นพลันร่วงหล่นจนของด้านในแตกกระจาย

          ผู้หญิงที่ผมนั้นไว้ใจมาเป็นเวลาหลายปีสะดุ้งตกใจ และค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ สองมือกุมหน้าตัวเองไว้และร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ผมถอยหลังหนีและพยายามจะวิ่ง แต่เธอก็จับแขนผมเอาไว้

          " อาลี่ หนิงขอโทษ " เพื่อนรักของผมพูดพลางยกมือขึ้นไหว้ผมและร้องไห้อย่างปวดใจ แต่ผมก็ส่งยิ้มให้เธอ

          " ถ้าพี่นายรักหนิง ลี่ก็ดีใจด้วย ไม่ต้องโกหกกันอีกแล้วเนอะ " ผมบีบไหล่หนิงเบาๆ และเดินจากมาด้วยหัวใจที่เจ็บปวดแสนสาหัส

          หลังจากกลับมา ผมเปลี่ยนเบอร์ บอกป๊าม๊าไม่ให้บอกใครว่าผมอยู่ไหน และหนีไปอยู่บ้านยายของเมี่ยงที่ต่างจังหวัด

          ผมเล่าทุกอย่างให้เมี่ยงที่มาอยู่เป็นเพื่อนผมฟัง และมันก็โกรธพี่นายมาก และที่เจ็บที่สุดก็คือหนิงซึ่งเป็นคนที่มันหลงรักและเป็นเพื่อนรักของเรากลับหักหลังผม มันร้องไห้เป็นเพื่อนผม เสียใจ โกรธแค้น ผมต้องห้ามมันไว้หลายครั้งไม่ให้มันไปแก้แค้นพี่นาย และผมก็ไม่ได้ไปโรงเรียนนับตั้งแต่วันนั้น เพราะจริงๆ ก็ใกล้จะปิดเทอมอยู่แล้ว

          และข่าวที่ทำให้ช็อคที่สุดก็คือ หนิงย้ายโรงเรียนไปแล้ว เธอทิ้งพวกเราไปแล้ว และผมไม่ได้รู้เลยว่า พี่นายนั้นยังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง และไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้หายตัวไป พี่นายที่แรกๆ ก็ตามหาผม และไม่นานก็หายไป เหมือนว่าเรานั้นได้เลิกกันไปแล้วจริงๆ



ปล่อยให้กาลเวลา เป็นตัวทำให้เราแยกจากกัน


หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 09-11-2017 12:38:51
สงสารลี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-11-2017 13:03:38
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-11-2017 13:08:43
 :z6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 09-11-2017 20:11:49
นี่ๆ หนิง  :beat: พี่นายด้วย  :z6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-11-2017 02:21:59
เพื่อนเรา เผาเรือน  :3125:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-11-2017 03:29:38
พี่โรลคืออนาคตที่สดใสจ๊ะลี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-11-2017 07:33:32
รอฟังพี่นายแก้ตัวนะ เพื่อนางจะมีเหตุผลดีๆสักข้อมาอธิบาย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 10-11-2017 11:25:21
          Calorie ที่ 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก


          โรล



          ผมมองหาลี่จากบนเวที และก็ต้องตกใจ เพราะว่าลี่นั้นอยู่กับนาย และกำลังดูลำบาก ทั้งสองคนเหมือนกำลังทะเลาะกันอยู่ ผมต้องไปเดี๋ยวนี้

          " โรล จะไปไหน " รุ่นพี่และคนอื่นๆ บนเวทีต่างตื่นตกใจที่อยู่ดีๆ ผมก็ทำท่าจะเดินลงจากเวที

          แต่ผมไม่สน ใครหน้าไหนก็ห้ามผมไม่ได้

          " พี่โรล ลี่ไม่เป็นไรหรอก มันเข้มแข็งจะตาย " คนที่เดินมาดึงผมก็คือเพื่อนรักของลี่ ผมมองหน้าเมี่ยงที่ยิ้มให้ผมน้อยๆ และมองไปที่นายอย่างโกรธแค้น

          ผมเป็นเพื่อนนายตั้งแต่ตอนเข้ามหา'ลัยช่วงประกวดดาวเดือน หลังจากนั้นก็คุยกันได้ นายนั้นนิสัยดี แต่เฉพาะกับเพื่อนเท่านั้น แต่เรื่องคนที่คบด้วยเนี่ย ต้องบอกว่าค่อนข้างแย่ เจ้าชู้ และเป็นเสือไบ ควงผู้หญิงทีผู้ชายทีเป็นว่าเล่น แต่ผมก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของใครเท่าไหร่ ก็เลยช่างมัน ผมก็ใช้ชีวิตของผมไป ไม่เคยแคร์สิ่งใด

          แต่ครั้งแรกที่ผมพบลี่ ผมทำตัวไม่ถูก ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ผมคิดว่าการมีแฟนเป็นเรื่องบ้าบอสิ้นดี ไม่มีใครเข้ากับผมได้หรอก ผมรู้ไลฟ์สไตล์ของตัวเองดี

          น่ารัก... ผมพูดคำนี้ในหัวเป็นแสนล้านครั้ง รักแรกพบที่แสนงี่เง่า และผมเคยคิดว่ามันไร้สาระ มันมีจริงๆสินะ และผมกำลังจะตายเพราะการหลงรักคนคนนึง

          ผมมักจะไปรอลี่เสมอ แค่ได้เห็นหน้าก็ยังดี ไปคณะบริหารทั้งๆ ที่ตัวเองอยู่สถาปัตย์ เอาขนมไปวางให้น้อง ไม่ให้รู้ตัวว่าเป็นของผม วนเวียนอยู่รอบๆ ตัว ลี่คงไม่ได้สังเกตุละมั้ง น้องดูหม่นหมองเวลาอยู่คนเดียว เหมือนเป็นพวกมองโลกในแง่ลบ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีดีแท้ๆ น่ารักจังเลยนะ แก้มใสๆ ยุ้ยๆ นั่น ทำให้หมั่นเขี้ยวจริงๆ ผมสามารถนั่งมองคนคนนี้ได้ทั้งวัน ผมไม่อาจละสายตาจากลี่ได้

          และจากที่คอยสังเกตุนั้น ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่ลี่เป็นคนรักความยุติธรรม ไม่ชอบการเอาเปรียบ เสียสละ เป็นคนที่ดีมากๆ แต่ผมนั้นกลับไม่ใช่คนดีเท่าไหร่ ผมเอาแต่ใจ งี่เง่า ไม่ค่อยฟังใคร ลี่จะชอบผมไหมนะ ผมคิดว่าผมหน้าตาดีอยู่นะ และยิ่งนานวันผมก็เริ่มเหมือนคนบ้า ที่ต้องคอยคุมตัวเองไว้ เพื่อจะไม่ทำให้น้องเขาตื่นกลัว

          ผมมีสิทธิ์อะไรจะจะแทรกกลางคนสองคนงั้นเหรอ ผมไม่รู้หรอก แต่ผมไม่มีทางปล่อยลี่ไว้กับคนแบบนั้น เพราะว่าผมรู้ดี ว่านายเป็นคนยังไง

          หลังจากคืนแรกที่ผมพบลี่ และพวกเราไปกินชาบูด้วยกันทั้ง 4 คน ผมไม่ยอมลงจากรถตอนขากลับถึงแม้ว่าคอนโดผมจะอยู่ใกล้กว่า และให้นายขับรถไปส่งลี่ก่อนเพื่อจะดูว่าบ้านลี่อยู่ที่ไหน

          " เด็กสองคนนั่น " ผมถามนายในรถหลังส่งทั้งสองคนเสร็จ

          ผมคิดว่าคนเราแค่พูดสั้นๆ ก็เข้าใจกันได้แล้ว จะพูดยาวไปทำไม เหนื่อยเปล่าๆ ประหยัดพลังงานได้เยอะเลย

          " อ่อ รุ่นน้องโรงเรียนเก่า คนนึงแฟนเก่า " ผมตกใจมากที่ได้ยินแบบนั้น แฟนเก่านั่นไม่มีทางเป็นเด็กคนตัวสูงแน่นอน คงต้องเป็นเด็กอีกคน เหมือนกับฝันจะสลาย ถ่านไฟเก่ามันมักจะร้อนแรงเหลือเกิน และผมก็ไม่อยากแย่งแฟนเพื่อน มันไม่ใช่แนวผม แต่ผมก็ชอบลี่มาก เครียดเลยแฮะ

          " แฟนงั้นเหรอ เด็กน่ารักๆ " นายหัวเราะเบาๆ

          " ใช่ น่ารักสุดๆ เลยนะ ถึงตอนนี้จะอ้วนก็เถอะ เป็นคนแรกที่ทำให้ได้ลองคบผู้ชาย แต่อยู่ดีๆ ก็ทิ้งกูเฉย แต่ไม่เป็นไร คราวนี้ไม่รอดหรอก " นายที่หัวเราะ แต่อยู่ดีๆ ก็กำพวงมาลัยรถแน่น เหมือนกำลังโกรธ

          " ยังชอบกันหรือไง " ผมถามหยั่งเชิง

          " ไม่รู้ แต่อยากเอามันว่ะ ต้องทำให้ผอมและจัดการ ทิ้งกูดีนัก ไม่เคยมีใครกล้าทำกับกูแบบนี้ กูจะเอาให้มันไม่กล้าทิ้งกูอีกเลย " นายดูมีความแค้นกับลี่เหมือนกัน ผมที่ได้ฟังแบบนั้นก็เดือดมาก แต่ก็ทำได้แค่ใจเย็นๆ มึงก็แค่ต้องปกป้องน้องเอาไว้แค่นั้นเองโรล



          การประกวดจบลงแล้ว และแน่นอนว่าคนที่ได้ตำแหน่งต่อจากผมก็คือคนที่ผมเลือกมาเอง ผมคล้องสายสะพายให้เมี่ยง บีบไหล่น้องเบาๆ และขอบคุณน้องในใจที่คอยดูแลลี่อย่างดีเสมอมา นายก็คือน้องของพี่คนหนึ่ง

          ผมวิ่งลงมาจากเวทีทันทีที่ทุกอย่างเสร็จสิ้น ลี่กำลังร้องไห้ และนายที่กำลังเกรี้ยวกราด ผมเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างสองคน เพื่อไม่ให้นายทำอะไรลี่ได้

          " ลี่ ไปหาเมี่ยงป่ะ " ผมไม่อยากเห็นลี่ร้องไห้ ผมเจ็บปวดมาก และกูอยากฆ่ามึงมากไอ้นาย

          " โรลมึงอย่าเสือก " นายที่ไม่เคยพูดแรงๆ กับผมวันนี้มันด่าผมขนาดนี้แปลว่ามันกำลังโกรธสุดๆ

          " พี่ไปเถอะ อย่ามายุ่งกับผม " ลี่ไล่ไอ้นาย ส่ายหน้าไปมาร้องไห้อย่างเจ็บปวดหัวใจ สงสัยมันจะพูดอะไรให้ลี่เสียใจสินะ

          " ลี่ พี่ขอโทษ พี่รักลี่จริงๆ นะ เรื่องตอนนั้นพี่ยอมรับผิด แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีก พี่สัญญา " ผมที่เคยได้ยินตอนมันพูดในรถกับตอนนี้ถึงกับหัวเราะเลยครับ เป็นคนที่ตอแหลสุดๆ

          " ผมรักคนอื่นแล้วครับ พี่ไม่ต้องขอโทษหรอก ให้มันจบไปเถอะ " ผมหูผึ่งทันทีที่ได้ยินลี่พูดแบบนั้น ผมมองหน้าลี่และพยายามจะไม่ยิ้มออกมา แต่ลี่ไม่มองหน้าผมอ่ะ หลบตากันซะงั้น ใช่พี่หรือเปล่าลี่ บอกมาสิว่าเป็นพี่ พี่จะอกแตกตายแล้วนะ



          แต่อยู่ๆ ไอ้น้องเมี่ยงที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็พรวดเข้ามากลางวงและต่อยไอ้นายเต็มแรง สงสัยคงจะสะสมความแค้นเอาไว้มานาน ผมรีบเข้าไปห้ามน้องเพราะว่านี่มันในยิมที่กำลังจัดงานนะเฟ้ย และเอ็งก็เป็นเดือน เพิ่งได้รับรางวัลเมื่อกี้มันก่อวีรกรรมทันที ใช่เล่นนะเนี่ย

          และผมที่เข้าไปห้ามมวยก็โดนสอยเข้าหน้าเต็มๆ อื้อหือ มึนเลยครับ ผมที่มึนๆ ก็เผลอเซไปกอดลี่เข้าเต็มเปา แหม่ คุ้มนะเนี่ย ขออีกหมัดจะได้กอดนานๆ ฮ่าๆ

          " พี่โรลเป็นไรหรือเปล่าครับ " ลี่ถามผมแบบร้อนลน อื้อหือ ใกล้มาก หอมมาก นิ่มมาก น่ารักมากเลย

          " จ.จะตายแล้ว " ผมตอแหลป้อแป้แบบหมดสภาพ เอาจริงๆ ผมแชมป์เทควันโด้ และมวยไทยเหรียญทองของมหา'ลัยเลยทีเดียวแต่นาทีนี้แหลเอาไว้ก่อน สวรรค์ชัดๆ ฮ่าๆ

          แต่ต่อมามันก็กลายเป็นสงครามระหว่างคณะ เมื่อเพื่อนผมเห็นว่าผมโดนต่อย พวกมันก็กรูกันเข้ามาซัดไอ้นาย และพวกเพื่อนคณะไอ้นายก็กรูเข้ามาเช่นกัน เพื่อนๆ ใจเย็นๆ เอาจริงๆ ก็พวกมึงก็แค่อยากเสือกเท่านั้นใช่ไหม​

          สุดท้ายอาจารย์ก็เป่านกหวีดเข้ามาห้าม จนผมต้องหนีกันไปคนละทิศละทาง ซึ่งแน่นอนผมดึงลี่ให้วิ่งไปกับผม แต่เหมือนเพื่อนลี่จะเหนียวเหลือเกิน ยังตามมาทันอีก โธ่

          " เผลอไม่ได้เลยนะ จะพาเพื่อนผมไปไหนเนี่ย " เบื่อพวกรู้ทันว่ะ

          " เละเลยนะ " ผมมองหน้าเดือนมหา'ลัยปีนี้ที่โดนทีนต้อนรับตำแหน่ง เอาซะยับเลย ส่วนผมหลบทันทุกหมัด จะมีตั้งใจรับก็แค่หมัดแรกเท่านั่นแหละ ฮ่าๆ คุ้ม

          " เอ่อ คือจะจับอีกนานไหม​ " ลี่ที่เงียบมาตลอดเริ่มพูดขึ้นมา โธ่ อุตส่าห์เนียนจับมือเพลินๆ

          ผมปล่อยมือลี่และยิ้มน้อยๆ ให้ลี่ ยังไม่บอกเลยนะ ที่บอกว่ารักคนอื่นแล้วอ่ะ ใครอ่ะ ใครอ่ะ อยากรู้นะเนี่ย

          " โรงบาลไหม​เมี่ยง " ผมถามน้องด้วยความเป็นห่วง

          " ไม่ขนาดนั้นพี่ นี่อยากอัดมันอีกนะเนี่ย ยังไม่หายแค้น "

          " มันก็ยับพอดูเลยล่ะ " ผมเห็นว่านายก็โดนไปหลายดอกเลยครับ ผมไม่อยากลงมือเองเท่าไหร่เดี๋ยวจะตายเอา

          " พี่เป็นเพื่อนกับพี่นายไม่ใช่เหรอ " ลี่ถามผมพลางหลบตาผม

          " เป็นเพื่อนกันก็ใช่ว่าจะต้องเลวเหมือนเพื่อนใช่ไหม​ "

          " พูดยาวจัง " ลี่พูดและเริ่มยิ้มหวาน

          ดูเหมือนลี่จะชอบอะไรยาวๆ เอ้ย ชอบให้ผมพูดยาวๆ

          " ชอบพี่พูดยาวๆ เหรอ " ผมก้มตัวลงกระซิบข้างหูลี่โดยไม่สนใจเมี่ยงที่หรี่ตามองผมอยู่ หวงเพื่อนน่าดูเลยไอ้เด็กนี่

          " เปล่าครับ แค่แปลกดี " ลี่พูดพลางเขินน้อยๆ ทนไว้ไอ้เสือ

          " พี่ก็อยากฟังยาวๆ เหมือนกัน " ผมยังคงกระซิบต่อ

          " ผมก็พูดยาวอยู่แล้วนะ " ลี่พูดพลางมองผมด้วยสีหน้างงๆ

          " หมายถึงเสียงคราง " ผมกระซิบต่อด้วยเสียงกระเส่า แล้วฉับพลันก็

          ' พลั่ก '

          อื้อหือ แสบถึงทรวง โดนฝ่ามือเข้ากลางหลังเลยครับ หนักมากกกก

          ลี่ไม่พูดต่อแต่เดินกระทืบเท้าหนีเลยครับ ฮ่าๆ น่าร้ากก เขินๆ เขินมากระวังดินทรุดนะที่รัก

          ผมนั่งยองมองลี่ที่หน้าแดงและหนีไปเกาะเพื่อนด้วยความอาย ฮ่าๆ ผมมันนิสัยเสียครับ แก้ไม่หาย แต่ก็ช่วยไม่ได้ ตลอดเวลา 19 ปี ผมไม่เคยรักใคร ผมอยู่แต่กับตัวเองเท่านั้น พอได้มาหลงรักใครสักคน มันทำให้ได้รู้ว่า โลกนี้มันช่างน่าอยู่จริงๆ ผมเจอเหตุผลที่ทำให้ผมมีความสุขสักที รีบรับรักพี่เถอะนะ พี่จะไม่ทำให้ลี่ผิดหวังเลยจริงๆ

          หลังจากตกลงว่าจะแยกย้ายกันกลับ ผมก็เรียกแท็กซี่และไปส่งทั้งสองคนครับ เพราะจริงๆ ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว ผมไม่อยากกลับเลย ผมอยากอยู่ใกล้ๆ ลี่ ต้องทำยังไงผมถึงจะได้อยู่ใกล้ๆ ลี่ตลอดไปกันนะ

          เมื่อส่งทั้งสองคนแล้ว ผมก็นั่งแท็กซี่ย้อนมายังคอนโดที่ผมอยู่ คอนโดของผมก็อยู่ใกล้ๆ มหา'ลัย เพราะไปมาสะดวก และไม่ไกลจากบ้านลี่มาก แค่อยู่คนละฝั่งของมอเท่านั้นเอง และผมไม่ได้อยู่คนเดียวครับ ผมอยู่กับยาหยีของผม

          " มาร์ชแมลยอดรัก " ผมเปิดประตูคอนโดและอ้าแขนเต็มที่ แต่ก็ดูเหมือนที่รักจะไม่สนใจ

          ใช่แล้วครับ มาร์ชแมลโลว์ก็คือแมวที่ผมเลี้ยงไว้ หล่อนตัวกลมสีขาวและน่ารักที่สุด ถึงผมจะได้แผลมาเสมอเวลากอดหล่อน และหล่อนเหมือนจะเชิดใส่ผมตลอดเวลา แต่ผมก็ทั้งรักทั้งหลงหล่อนมาก

          " เหมือนอาลี่เลยน้า " ผมอุ้มมาร์ชมาฟัดพุง งืออ ฟินที่สุด ผมเป็นคนใจร้ายกับเพื่อนมนุษย์ไม่เว้นแม้แต่กับสาวๆ สวยๆ แต่กับแมวอ้วนๆ หรืออะไรกลมๆ น่ารัก ผมมักจะอดใจไม่ไหว เหมือนคนโรคจิตเลยแหละ ผมถึงปิ๊งลี่ตั้งแต่แรกพบ เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็ค ผมอยากกอดอยากน้วย อยากขยำ โอ้ยย เมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนนน พูดแล้วก็อยากร้องไห้ คนหล่อจะทนไม่ไหวแล้ววว

          ผมล้มตัวลงนอนบนที่นอน พลางมองไปรอบๆ ห้องนอนของผมที่ทุกอนูไม่ว่าจะเป็นผนัง ประตูหรือเพดาน ทุกๆ ด้าน มีแต่รูปถ่ายและรูปวาดของคนที่ผมหลงรัก

          " ฝันดีนะอาลี่ของพี่ "



ผมยิ้มให้กับลี่บนเพดานที่กำลังยิ้มกว้างอย่างสว่างสดใส
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-11-2017 12:09:37
โอ้โห หลงจริงหลงจัง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 10-11-2017 12:50:02
พี่นาย เลวจริงจังมาก  ตอนแรกก็ยังคลุมเครือ ว่าลี่อาจเข้าใจพี่นายผิดหรือเปล่า
พอตอนนี้พี่โรลมาเล่านี่ พี่นายเลวร้ายมาก ๆ อ่ะ ดีแล้วที่อาลี่หลุดพ้นมาได้
ดีที่ตอนนั้นได้เห็นพี่นายกับหนิงก่อน ไม่งั้นถ้าลี่ตกลงเป็นแฟนพี่นายจริงจังคงช้ำใจกว่านี้
ตอนแรกเห็นพี่นายกับเมี่ยง จิกกัดกัน ก็คิดว่า หรือสุดท้ายเมี่ยงจะคู่พี่นาย
เจอตอนนี้เข้าไป โห เอาพี่นายไปเก็บเลย ไม่สมควรมีคนรักใด ๆ ทั้งสิ้นอ่ะ
พี่โรล ถึงจะแปลก ๆ แต่ก็น่ารักแสนดีกับน้องลี่คนเดียว รักแรกพบเสียด้วย ฮื่อออ  :m3:
คบกับพี่โรล อาลี่ก็สบาย ไม่ต้องฝืนเรื่องกินใด ๆ เพราะต้องเก็บพุงไว้ให้พี่โรลฟัดนะ
คุณนายมาร์ชแมล อ้วนกลม นึกภาพตามแบบ น่ารักน่าฟัดมาก ยิ่งถูกใจพี่โรล ทาสแมวเหมือนกันเลย 555
เลิกสนใจพี่นาย แล้วมาสวีทหวานกับพี่โรลอาลี่ดีกว่า อ้อ หาคู่มาดามใจให้น้องเมี่ยงด้วยก็ดีน้า
ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-11-2017 13:18:54
พี่โร เป็นเยอะนะคะ
นาย  :z6: :z6: :beat: :beat:

 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 10-11-2017 16:35:21
โหพอเป็นพาร์ทของโรล ไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนที่เพ้อมากเหมือนกันนะเนี่ย มีฝงมีฝันด้วย  :really2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-11-2017 19:35:05
โอเค จบเลยค่ะกับคุณพี่นาย
เลวของจิงไม่อิงนิยาย แบบไม่มีความสำนึกอะไรเลยด้วย ต้องไล่นางไปไกลๆ =_______=

ส่วนคุณพี่โรล นางติ๊งต๊องดีเนอะ 555555555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 10-11-2017 22:32:41
มอบโล่ห์ให้นายเลย เลวแบบไม่รู้ตัวจริง ๆ ไม่คิดบ้างหรอว่าทำไมถูกทิ้ง  :katai1: แล้วยังจะมาแค้นลี่อีก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 11-11-2017 11:42:03
          Calorie ที่ 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง


​          โรล



          ' ก็อกๆ ก็อกๆ '

          อืออ อะไรฟะ แม่บ้านเหรอ แต่วันนี้วันอาทิตย์นะ บอกแล้วว่าให้มาวันที่ไปเรียนไงเล่า กวนใจจังโว้ย

          ผมที่ชอบนอนตื่นสายในวันหยุด แต่ก็ต้องหัวเสียสุดๆ ที่โดนปลุก แบบนี้ต้องไล่ออก ผมหงุดหงิดรำคาญใจ แต่ตื่นแล้วก็ต้องลุกเลย เฮ้อ

          ผมเดินผ่านกระจกบานใหญ่ตรงทางเดิน และก็พบว่าที่คิ้วมีรอยช้ำนิดๆ แฮะ แต่แบบนี้ก็ดูเท่ห์ดี ผมยังจะมีเวลามาเก็กหล่อหน้ากระจกอีกสักครึ่งนาที และเดินกระฟัดกระเฟียดต่อไปยังประตูห้อง

          ต้องด่า ต้องด่าให้ยับเลยคอยดู

          ผมเปิดประตูและอ้าปากเตรียมตัวสวดเต็มที่ แต่ภาพที่เห็น ทำให้ผมต้องรีบปิดประตูทันที ชิบหายแล้วววววว
         
          ผมกรีดร้องในใจ ทั้งดีใจและตกใจ แต่ว่าที่ชิบหายนี่คือ รูปครับ แม่งเต็มห้องเลย น้องเขาต้องหาว่ากูโรคจิตแน่ๆ คิดสิ คิดสิโว้ย ไอ้โรล เกียรตินิยมมึงไม่ได้ซื้อมานะโว้ย

          ผมวิ่งไปมารอบห้อง แกะและยัดทุกอย่างเข้าไปในตู้เสื้อผ้า อย่าเพิ่งไปนะที่รัก ขอเวลาพี่แปบนึง แปบนึงจริงจริ๊งง

          " ทำอะไรอยู่เหรอครับพี่โร... " ผมตกใจช็อคสุดขีดแม่งเมื่อกี้ไม่ได้ล็อคประตูเหรอฟะ ผมหันไปมองไอ้น้องเมี่ยงที่มองผมพลางทำหน้างงๆ และมองรูปเพื่อนรักในมือผมแบบตื่นตะลึง ดีนะที่ลี่ยังไม่ได้เดินเข้ามาในห้องนอน แต่จะให้เข้ามาตอนนี้ไม่ได้ อ้ากกก

          ผมจัดการยัดทุกอย่างเข้าตู้ ทุกอย่างจริงๆ ครับ



          " เอ่อ คือขอโทษที่มากวนครับ " เสี้ยววินาทีเท่านั้น ผมเหงื่อตก กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ลี่โผล่หน้าเข้ามาทักและมองไปทั่วห้องนอนของผม ดีนะที่ผมเก็บทุกอย่างทันครับ แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

          " พี่เห็นเมี่ยงไหมครับ อยู่ดีๆ มันก็หายไป " ผมที่ยืนพิงตู้เสื้อผ้าอยู่และออกแรงดันเอาไว้ แต่ก็ทำหน้ายิ้มๆอย่างอ่อนโยนไปให้ลี่

          " ห้องน้ำมั้ง ลองไปดูสิ " ผมเพยิดหน้าไปอีกทางของห้องนี้ ลี่ยังคงลังเลและมองมาที่ผมด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น

          ' ปึ้ง ปึ้ง '

          หลังผมที่พิงตู้เสื้อผ้าอยู่สั่นน้อยๆ ไอ้ห่านี่ เงียบๆ สิวะ เดี๋ยวพ่อฆ่าปิดปากซะนี่

          ' ปล่อยนะโว้ย!! ไอ้พี่โรล '

          " ฮ่าๆๆๆ " ผมอยู่ดีๆ ก็หัวเราะกลบเกลื่อนเสียงดัง ทำให้ลี่สะดุ้งตกใจเลยทีเดียว แต่ก็เดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ทางขวามือไปแล้ว

          ผมเปิดตู้เสื้อผ้าและดึงคอเสื้อไอ้เมี่ยงออกมา

          " ห้ามบอกลี่ " ผมพูดด้วยเสียงจริงจัง

          " ผมไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่ไอ้หมอนข้างนี่หมายความว่าไง! " ผมตกใจรีบแย่งหมอนข้างที่สกรีนรูปลี่ในมือไอ้เมี่ยงและโยนกลับเข้าไปในตู้เหมือนเดิม

          " เราตกลงกันได้ใช่ป่ะ " ไอ้เมี่ยงมองผมและหรี่ตาลง

          " เงินซื้อผมไม่ได้ " มันพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ แต่สักพักก็ครี่ยิ้ม จีบนิ้วมือยกขึ้นมาอย่างกวนบาทา

          " ถ้าไม่มากพอ " กูอยากฆ่าเด็กหมกตู้ก็วันนี้ล่ะ

          " ไม่เห็นมีเ.. อ้าว ไอ้เมี่ยงไปไหนมาวะ " ลี่ที่ออกมาจากห้องน้ำก็ทำหน้ามึนๆ เพราะเมี่ยงยืนอยู่กับผมครับ

          " ตู้..อื้ออื้อ " ผมปิดปากไอ้เมี่ยงได้ทัน ไอ้เด็กนี่ มันตั้งใจกวนทีนผมแน่ๆ

          " ตรงนั้นไง ระเบียง " ผมพูดและชี้ออกไปยังระเบียงห้องนอน ลี่เลิกคิ้วขึ้นแล้วก็พยักหน้ารับรู้ โอเค น่ารักจริงๆ

          ผมแอบตบกะบานไอ้เมี่ยงไปหนึ่งทีและล็อคคอมันออกจากห้องนอน พาทั้งสองคนไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวี และขอตัวล้างหน้าแปรงฟันสักครู่ แล้วจึงเดินกลับมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม

          " ขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้บอกก่อนว่าจะมา คือผมไม่มีเบอร์พี่ " ผมรีบแบมือขอโทรศัพท์จากลี่และยิงเข้ามือถือผมเลยครับ ยะฮู้ ลัคกี้

          " เป็นห่วงพี่ใช่ป่ะ " ผมคิดว่าเพราะผมโดนต่อยครับ น้องคงรู้สึกผิดเลยมา

          " ผมมาทวงรางวัลต่างหาก ผมได้ตำแหน่งนะ แล้วพี่บอกว่าอยากได้อะไรจะจัดให้ไง " ผมหรี่ตามองไอ้เมี่ยง อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ไอ้เด็กเปรต ใจแป้วเลยกู

          ผมมองลี่ด้วยสีหน้าหมองเศร้า นี่ลี่แค่มาเป็นเพื่อนมันใช่ไหม​ ทำไมถึงทำกับพี่ได้ ฮืออ

          " พี่เป็นยังไงบ้าง " ลี่หน้าขึ้นสีนิดๆ บิดตัวหน่อยๆ เฮ้ยๆๆ แบบนี้มีหวังว่ะ ฮ่าๆ

          " โอ้ยย ยังเจ็บอยู่เลย " ผมที่รู้สึกว่าควรจะตอแหลเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นน้องอาจจะกลับเร็วก็รีบเลยครับ โอดครวญให้เธอเห็นใจ

          " แหลมากอ่ะพี่ ผมหน้าปูดขนาดนี้ยังชิลๆ เลย " ผมแอบเหยียบทีนไอ้น้องเมี่ยง หนอยย อยากเป็นศัตรูกับพี่สินะไอ้น้อง เดี๋ยวจัดให้

          " มึงมันหน้าด้านไง " โอ้นางฟ้าของพี่ ฮ่าๆ ไอ้เมี่ยงที่โดนเพื่อนรักด่ารีบหันไปทำตาขวางเลยครับ สมน้ำหน้า ลี่เข้าข้างผมครับ ฟินอ่ะ

          ทั้งสองคนคงจะจำได้ว่าผมอยู่ที่นี่ตอนนายมาส่งคืนแรกสินะ แต่ช่างเถอะ ผมมีความสุขจัง ลี่ตัวเป็นๆ นั่งอยู่ตรงหน้าผม ถึงจะมากับเอ่อ ไอ้ก้างขัดขวางความสุขก็เถอะ

          วันนี้ลี่ใส่กางเกงขาสามส่วนสีกรม เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว สะพายกระเป๋าน่ารักๆ แก้มแดงๆ ที่ไม่ต้องแต่งเติมเสริมแต่ง ดูแล้วลี่ไม่น่าจะใช่คนไทยครับ

          จากที่ผมดูชื่อลี่เต็มๆ แล้ว คิดว่าเป็นคนจีนแท้ๆ เลยล่ะ ถึงว่าผิวดีจังเลยนะ ผมก็เป็นคนผิวขาวมากๆ เหมือนกัน แต่ไม่ได้ดูขาวใสสุขภาพดีแบบลี่ครับ แบบผมนั้นเขาเรียกขาวซีดแบบผีดิบนั่นแหละ

          " เหมี้ยววววว " ผมมองตามเสียงก็พบว่ามาร์ชตื่นแล้ว และมาอ้อนขอข้าวแบบทุกวัน

          " เหมียวๆๆ น่ารักจัง " ลี่ที่เห็นมาร์ชก็รีบเดินไปลูบและอุ้มขึ้นมาเล่นบนตักครับ ผมถึงกับมือสั่น รีบยกกล้องมือถือถ่ายรัวๆแบบคนไร้สติเลยทีเดียว แอบถ่ายนะครับ ทำเหมือนถือมือถือเฉยๆ แต่ถ่ายรัวเลยแหละ ฮ่าๆ

          ช่างเป็นภาพที่สุดยอดจริงๆ ผมปราบปลื้มจนน้ำตาแทบเล็ด ที่รักทั้งสองของผมกำลังอยู่ด้วยกัน กำลังหยอกล้อคลอเคลียกัน ผมที่ชอบวาดรูปก็หยิบสมุดสเก็ตภาพขึ้นมาทันที ต้องไม่พลาด ช็อตในตำนานแท้ๆ

          " พี่เป็นเอามากนะเนี่ย " ไอ้เมี่ยงแอบเหร่มองผมและทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อเลยทีเดียว

          " ชอบแมวเหรอ " ผมไม่สนใจและถามลี่ต่อด้วยรอยยิ้ม

          " ครับ แต่ม๊าไม่ยอมให้เลี้ยง " ลี่ยังคงลูบขนมาร์ชเบาๆ น่ารักทั้งคนทั้งแมวเลยน้า

          " มันชื่ออะไรเหรอครับ " ลี่ถามไปด้วย คลอเคลียมาร์ชไปด้วย

          " มาร์ชแมลโลว์ " ผมพูดพลางวางสมุดสเก็ตลงและมองลี่ที่ชะงักไปแต่ก็กลับมายิ้มอีกที

          " อ๋อ แบบนี้นี่เอง " ผมไม่เข้าใจที่ลี่พูดเท่าไหร่

          ลี่มองไปรอบๆ คอนโดของผมด้วยสีหน้าที่ดูแปลกไป ผมทำอะไรผิดหรือเปล่านะ ลี่ดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าหึงพี่กับมาร์ชใช่ไหม​

          " พี่ยังไม่ได้คำตอบเลยนะ " ผมลุกขึ้นไปนั่งข้างๆ ลี่ และพูดเบาๆ กับลี่ที่กำลังเกาคางมาร์ชอยู่

          " ตอบอะไรเหรอครับ " ซะงั้น นี่แกล้งลืมเหรอ

          " ในเพลงที่พี่ร้อง มันมีคำถามนะ " ลี่หน้าขึ้นสีทันที และกำลังหลบตาผมอยู่

          " ไม่เห็นรู้เรื่องเลย " อ๊าวว โธ่ อย่าแกล้งพี่ได้ไหม​ นี่สินะคนน่ารักมักใจร้ายยย

          " อะแฮ่ม ผมหิวอ่ะพี่โรล เลี้ยงข้าวหน่อย " ไอ้เมี่ยงมึงนี่ขัดลาภจริงๆ

          " ลงไปซื้อดิ " ข้างล่างคอนโดมีของกินเยอะแยะครับ ผมพูดโดยไม่หันไปมองไอ้เด็กเมี่ยงเลยทีเดียว

          " หมอนข้าง.. "

          " ฮ่าๆ อยากกินอะไรโทรสั่งเลยพี่เลี้ยง พิซซ่าไหม​ ไก่ย่างไก่ทอด สุกี้สั่งมาให้หมดเลย " ผมรีบวิ่งไปตะครุบปากไอ้เด็กตัวแสบที่มันกำลังพยายามจะแฉผม เดี๋ยวเถอะมึงไอ้เมี่ยง

          ผมเห็นลี่ยิ้มกว้างเลยครับ และมองผมแบบขำๆ มองแบบนี้พี่ละลายกลายเป็นไอน้ำทำไงน่ะ

          " พี่พูดยาวอีกแล้ว " ลี่พูดพลางหัวเราะชอบใจ สงสัยผมคงต้องเปลี่ยนนิสัยการพูดของตัวเองแล้วละมั้ง เพราะดูแล้วลี่จะชอบมาก

          ระหว่างที่ไอ้เมี่ยงยืนโทรสั่งของกินผมก็ฉวยโอกาสตะล่อมๆเข้าไปใกล้ลี่ที่กำลังป้อนขนมให้มาร์ชครับ

          " พี่อยู่คนเดียวเหรอ " ลี่ถามผมแบบไม่ได้มองหน้าผมครับ

          " ใช่ อยากมาอยู่กับพี่ไหม​ " ผมแหย่เล่น ผมชอบดูคนเขิน น่ารักดี

          " ไอ้บ้า " นั่นไงอายม้วนเชียว ใช่พี่บ้า บ้ารักไง แต่ผมไม่กล้าพูดครับ เสี่ยวเกิ๊น ฮ่าๆ

          " แล้วพ่อแม่พี่ละครับ " ผมหุบยิ้มลงเล็กน้อย เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากพูดถึงเลยสักนิด

          " พ่ออยู่รัสเซีย แม่อยู่ไทยนี่แหละ "

          คุณพ่อของผมท่านเป็นลูกครึ่งไทยรัสเซีย ผมจึงเป็นลูกเสี้ยว ผมใช้นามสกุลคุณแม่ เพราะทั้งสองคนนั้นหย่ากันแล้ว และคุณแม่ก็ป่วยเรื้อรังสุขภาพไม่แข็งแรง แต่ก็ยังคอยเจ้ากี้เจ้าการสั่งโน้นสั่งนี้ให้ผมทำตาม ผมเกลียดที่จะต้องฟังคำสั่ง จึงหนีออกมาอยู่คนเดียวที่นี่

          ผมแทบจะไม่ใช้เงินจากที่บ้าน ถึงแม้ผมจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ผมก็เลือกที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมถึงไม่มีรถ ใช้ชีวิตติดดิน จะมีก็แต่คอนโดที่ผมเพิ่งซื้อด้วยตัวเองจากการทำงาน ผมอยากเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ



อิสระที่จะได้เลือกคนรักด้วยตัวเอง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 11-11-2017 12:25:23
พี่โรล ทั้งน่ารักทั้งตลกอ่ะ พอเป็นพี่โรลเล่า ค่อยรู้สึกพี่โรลเหมือนคนปรกติหน่อยนะ 555
น้องแอบน้อยใจ คิดว่าพี่โรลเห็นตัวเองเหมือนน้องแมวแน่เลย
นี่ว่าถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ต้องมีดราม่าคุณแม่พี่โรลแน่ ๆ ท่าทางจะร้ายน่าดู เฮ้อ
แต่พี่โรล ดูแลน้องได้อยู่แล้ว เนอะ 
ขอบคุณคนเขียนมากค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-11-2017 12:54:17
เป็นเอามากเนอะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 11-11-2017 13:44:30
โรลนี่ จิตนิ้ดๆ ป่าวอ่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 11-11-2017 14:18:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 11-11-2017 18:56:30
พี่โรลน่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 11-11-2017 19:28:01
เต็มที่เลยหลานโรล เปย์ หยอดและอ่อย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 11-11-2017 21:52:43
อิพี่โรลคือเปนหนักมาก ติดน้องหนักมาก -^-
และเมี่ยงนี่มันตัวแสบจิงๆ 555555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-11-2017 12:58:12
พี่โรลน่ารักอ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 12-11-2017 16:01:30
ไม่คิดจริงๆว่าพี่โรลจะอาการหนักขนาดนี้55555
หลงน้องหนักมากก โคม่าสุดดดด
เหมือนจะจับน้องปั้นแล้วกลืนลงท้องทันทีที่ทำได้อะ
เมี่ยงนี่ได้ทีต้องเอาให้คุ้มใช่มั้ยยย
เก็บทุกเม็ดเลยจริงๆ5555
อาลี่น่ารักกก คิดมากอะไรอีกลูกกก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 12-11-2017 18:43:05
ตอนแรกๆแอบกลัวพี่โรลกับพี่นายจะมาแกล้งจีบน้อง แต่พอเห็นความหลงน้องของพี่โรลแล้ :katai3:ว เรายอมมมม   :katai3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 13-11-2017 00:14:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 13 มาร์ชแมลโลว์ทั้งสอง ]((11/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 13-11-2017 12:59:57
          Calorie ที่ 14 ความกังวลใจของอาลี่


          ในงานประกวดดาวเดือน ผมตกใจมากที่พี่นายมาหาผมและพูดขอคืนดี ผมจึงบอกเหตุผลจริงๆ ที่ผมไม่อยากกลับไปคบกับพี่อีกแล้ว

          พี่นายไม่ได้แก้ตัวอะไร แต่ก็บอกว่า หลังจากที่ผมหายไปพี่นายก็ไม่ได้ยุ่งกับหนิงอีก พี่นายบอกว่าผมคือตัวจริงของพี่ เหอะ งั้นเหรอ แต่มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ ผมไม่อยากกลับไป ผมไม่อยากใช้ชีวิตโดยที่ต้องคอยนั่งระแวงว่าแฟนของผมจะไปแอบพลอดรักกับสาวที่ไหนอีก พอกันที แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ

          ผมมองพี่โรลที่มาขวางผมกับพี่นายไว้ ผมไม่รู้ว่าพี่รู้เรื่องราวของผมมากแค่ไหน แต่ก็ขอบคุณนะครับ

          หลังจากที่พี่โรลนั่งแท็กซี่มาส่งผมและเมี่ยง ผมเดินขึ้นห้องนอนของผม และจัดการทิ้งทุกอย่างที่พี่นายให้ผมไปซะ และในตอนเช้าผมก็ตัดสินใจโทรหาไอ้เมี่ยง ซึ่งไม่นานมันก็รับสาย

          " ฮัลโหล มึงตื่นยัง "

          " อะไรโทรหากูแต่เช้า คิดถึงก็มาเลย เร็วๆ กูเหงา "

          " คิดถึงโพ่ง เอ่อ มึงอยากไปหาพี่โรลไหม​ " อ้ากกก ผมอยากไปหาพี่โรลแต่ไม่กล้าไปคนเดียวครับ ผมเป็นห่วงเพราะว่าพี่โรลก็โดนต่อยด้วยนะเมื่อคืน แต่ถ้าไปคนเดียวมันก็ แบบว่า กลัวจะไม่ได้กลับบ้านอ่ะ ฮ่าๆ

          " แหม เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมงมึงก็คิดถึงพี่เขาแล้วเหรอ "

          " ไม่ช๊าย มึงไม่ไปเอารางวัลเหรอ พี่เขาบอกจะให้ถ้าชนะอ่ะ " ผมพยายามล่อลวงมันด้วยสิ่งอื่นครับ

          " เออว่ะ รีบแต่งตัวเลย เดี๋ยวกูเดินไปหา " ฮ่าๆ เรียบร้อย

          แต่ผมที่ยืนอยู่ก็รู้สึกแปลกๆ ครับ ปวดท้องจังเลยนะ สงสัยเพราะหิวละมั้ง ผมจึงลงมากินข้าวข่างล่างรอไอ้เมี่ยงมา และพอได้กินก็รู้สึกดีขึ้นครับ

          ไม่นานไอ้เมี่ยงก็มาและมาซัดข้าวบ้านผมไปอีกสองกะละมัง ไอ้หอกนี่ เรื่องแดกฟรีขอให้บอกจริงๆ

          ผมกับไอ้เมี่ยงโบกแท็กซี่ไปที่คอนโดพี่โรล ที่รู้ที่อยู่ก็เพราะว่าคืนแรกที่ไปกินชาบูกันพี่นายนั้นขับรถมาส่งพี่โรลก่อนครับ แต่พี่โรลไม่ยอมลงจากรถ ผมเลยรู้ว่าพี่โรลอยู่ที่นี่

          เป็นคอนโดที่หรู และก็สูงมากๆ ด้วย แต่ผมกับไอ้เมี่ยงไม่รู้เลยครับว่าพี่โรลอยู่ชั้นไหน ไอ้เมี่ยงที่สกิลตอแหลขั้นเทพจึงใช้เสนียดเอ้ยเสน่ห์หลอกล่อสาวสวยซึ่งเป็นคนดูแลที่นี่ให้ยอมบอกว่าพี่โรลอยู่ชั้นไหน ซึ่งกว่าจะยอมบอกก็ล่อไปเกือบชั่วโมง

          ผมใจเต้นแรง ยืนอยู่หน้าห้องพี่โรลในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่กล้าเคาะประตูห้อง ไอ้เมี่ยงที่ไม่ได้สนใจอะไรก็ให้ผมหลีกทางไปและเคาะประตูห้องพี่โรลเสียงดัง จนสักพัก ประตูก็เปิดออกและพี่โรลที่ยืนหัวฟูหน้ามุ่ยก็โผล่ออกมา ทำท่าเหมือนกำลังจะอ้าปากพูดอะไร แต่ก็รีบปิดประตูใส่หน้าพวกผมอย่างรวดเร็ว พี่เป็นอะไรพี่๊ วิ่งหนีไปอีกแล้วซะงั้น

          ผมไม่กล้าขยับตัว แบบว่าพี่โรลไม่ได้ใส่เสื้อครับ ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว แต่เผลอแปบเดียวไอ้เมี่ยงก็หายไป โธ่ ไอ้หอก เจ้าของห้องยังไม่ได้เชิญมันเสือกเข้าห้องเขาไปแล้ว ผมเลยจำใจ(เหรอ)ต้องตามเข้าไป ฮ่าๆ

          คอนโดของพี่โรลค่อนข้างกว้างและรกนิดหน่อยครับ ด้านหน้าเป็นโถงรับแขกและทีวีจอยักษ์ ด้านซ้ายเป็นทางเดินที่น่าจะเชื่อมไปที่ห้องนอนที่อยู่ตรงกลาง และครัวที่อยู่ด้านหลังติดกับระเบียงที่ใหญ่มากๆ มีบันใดวนขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นชั้นลอยที่มีห้องอีกห้องหนึ่งด้านบน ที่สามารถมองเห็นได้จากด้านล่าง

          และสิ่งที่แปลกที่สุดก็คือ คอนโดของพี่โรลนั้นมีตุ๊กตาเยอะมากๆ ครับ ผู้ชายแบบพี่โรลกับตุ๊กตามันเป็นอะไรที่ดูเข้ากันไม่ได้ เพราะพี่โรลนั้นออกแนวแมนๆ และเท่ห์มากๆ ครับ ไม่มีความน่ารักอยู่บนใบหน้าและร่างกายพี่เขาเลย แต่กลับมีตุ๊กตาอยู่ทั่วเต็มไปหมด มีตุ๊กตาแมวอ้วนๆ พยูนตัวกลมๆ แมวน้ำ ปลาวาฬ หมี หมู โอ้ยย สารพัดสัตว์ พี่เขาสงสัยจะเหงาละมั้ง

          แต่ไอ้เมี่ยงมันหายไปไหนของมันนะ ผมที่ไม่กล้าเดินเข้าไปในห้องใหญ่เพราะรู้ว่าคือห้องนอนครับ เอาไงดี อยากเห็นอ่ะ ฮ่าๆ เนียนๆ แง้มดูดีกว่า

          " เอ่อ คือขอโทษที่มากวนครับ " ทันทีที่ผมโผล่หัวเข้าไป พี่โรลก็สะดุ้งโหยงเลยครับ ดูร้อนรนเหมือนกับกำลังซ่อนอะไรสักอย่าง แต่ก็นะ เป็นผมก็อาจจะมีของน่าอายที่ต้องซ่อนเหมือนกันแหละ หึหึ

          " พี่เห็นเมี่ยงไหม​ครับ อยู่ดีๆ มันก็หายไป " ผมลองถามพี่โรลดู พี่โรลนั้นกำลังยืนพิงตู้เสื้อผ้าที่กำลังสั่นแปลกๆ

          " ห้องน้ำมั้ง ลองไปดูสิ " ผมขมวดคิ้วและมองไปยังห้องน้ำที่อยู่ข้างๆ จะอยู่ในแน่นั้นเหรอ ผมเหลือบมองพี่โรลที่ยืนกอดอกพิงตู้ แต่อยู่ดีๆ พี่โรลก็หัวเราะลั่นเลยครับ อะไรของพี่เนี่ย ผมเลยรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำแบบงงๆ เพื่อมองหาไอ้เมี่ยงแต่ก็ไม่มีจริงๆ

          อยากแอบดูในตู้นั้นจังเลยน้า เด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าแอบซ่อนอะไรอยู่ ชิ

          และเมื่อผมเดินออกมา ผมก็เห็นไอ้เมี่ยงยืนอยู่กับพี่โรลครับ หนอย สองคนนั้นต้องมีอะไรปิดบังผมแน่ๆ

          พี่โรลพาผมกับไอ้เมี่ยงมานั่งที่โซฟาด้านนอก ผมไม่กล้ามองหน้าพี่โรลตรงๆ เลยให้ตาย ตอนนี้พี่แกใส่เสื้อแล้ว แต่ก็แค่เสื้อกล้ามสีดำ นี่กำลังอ่อยกันใช่ไหม​ พี่โรลหุ่นดีมาก เหมือนพวกนักกีฬา ทำเอาผมที่อ้วนเป็นหมูรู้สึกต่ำต้อยไปเลย

          ผมนั่งอยู่สักพักก็เห็นน้องเหมียวตัวอ้วนเดินเข้ามา โอ้ยย น่ารักมาก ผมรีบเดินเข้าไปลูบและอุ้มขึ้นมา หนักใช่เล่นเลย ผมชอบแมวมาก แต่ป๊าม๊าไม่ชอบก็อดเลย ฮืออ

          พี่โรลถามผมว่าชอบแมวไหม​ ผมก็เลยบอกว่าชอบ ผมเลยถามว่าแมวตัวนี้ชื่ออะไร พี่โรลก็บอกว่ามันชื่อ

          ' มาร์ชแมลโลว์ '

          ผมรู้สึกแปลกๆ ผมเริ่มรู้แล้วว่าทำไมพี่โรลถึงสนใจผม ผมมองแมวอ้วนๆ น่ารักที่กำลังร้องเหมียวบนตักผม และมองไปรอบๆ ห้องที่มีแต่ตุ๊กตาสัตว์ตัวกลมๆ พี่ชอบอะไรแบบนี้นี่เอง แล้วถ้าวันนึงผมกลับไปเป็นแบบเดิมล่ะ พี่จะยัง ชอบผมไหม​ครับ ผมเริ่มรู้สึกกลัวอีกแล้ว

          พอไอ้เมี่ยงเดินไปโทรศัพท์ที่ระเบียง พี่โรลก็เขยิบเข้ามาใกล้ผม ผมแอบเหลือบมองพี่โรลใกล้ๆ ก็พบว่าพี่โรลมีแผลที่คิ้วฮะ มันยิ่งทำให้พี่ดูแบดขึ้น เท่ห์ดีนะ หึหึ

          พี่โรลเข้ามาใกล้ผมและถามเรื่องเพลงที่พี่ร้องเมื่อคืน ผมเขินมาก เสียงของพี่เพราะมาก น่าจะไปเป็นนักร้องนะ แต่ผมก็ไม่กล้าพูดออกไป พี่โรลถามหาคำตอบจากเนื้อร้องของเพลงนั้น ผมเลยแกล้งทำเป็นไม่รู้ไปครับ หึหึ ยังไม่กล้าพูดหรอก รออีกนิดนะครับ

          ผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเลยถามถึงพ่อแม่ของพี่โรล ซึ่งผมคิดว่าผมคิดผิด เพราะว่าพี่โรลสีหน้าเปลี่ยนไป แต่ก็ทำให้ได้รู้อย่างหนึ่งว่าพี่โรลเป็นลูกเสี้ยวรัสเซียครับ ถึงว่าล่ะพี่โรลถึงตาสวยมากๆ และจมูกโด่งแบบเวอร์ดีเหลือเกิน และที่สำคัญไม่ถูกกับคนที่บ้านแน่ๆ

          ผมลุกขึ้นจากโซฟา แกล้งพี่โรล ที่ดูเหมือนจะเลื้อยเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ หึหึ จุดหมายคือตู้เย็น มีไรกินมั่งน้า แต่เมื่อเปิดออกก็ต้องอึ้งไปเลย นี่พี่จะเปิดร้านอาหารหรือไง อาหารเรียกได้ว่าเต็มตู้เย็นแบบสองประตูบานใหญ่เลยครับ อยากอยู่ที่นี่จัง อิอิ

          แต่ผมที่ควานหาของกินก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าพี่โรลมายืนข้างหลังผม เล่นเอาเสียวสันหลังเลยทีเดียว

          " อยากกินกับข้าวฝีมือลี่ " พี่โรลไม่พูดเปล่าแต่เอาคางมาวางบนไหล่ผมครับ ผมเกร็งตัวไม่กล้ากระดุ๊กกระดิ๊กและหยุดหายใจชั่วคราวเลยทีเดียว

          " ผมทำไม่เก่งหรอก " อย่าคิดว่าคนอ้วนจะต้องทำอาหารเก่งทุกคนนะ บางคนก็แค่กินเก่งเฉยๆ แบบผมเนี่ย

          " อย่าให้มันทำเชียวนะพี่ ยาพิษชัดๆ " ไอ้เมี่ยงที่เดินตามมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้พูดขึ้น หนอยย ผมอยากจะปาแครอทในมือใส่มัน มึงนี่จ้องจะแฉกูจริงๆ ไอ้หอก เป็นเพราะผมเคยทอดไข่ให้มันกินครับ และมันต้องนอนซมเพราะท้องเสียไปสามวันเลยทีเดียว ฮ่าๆ

          ไม่นานเสียงกริ่งที่ประตูก็ดัง อ่าวมีกริ่งหรอกเหรอ พวกผมใช้มือเคาะซะงั้น ไอ้เมี่ยงวิ่งไปรับอาหารที่สั่งครับ แต่ผมยังไม่สามารถขยับตัวได้เพราะว่าพี่โรลยังไม่เอาคางออกจากไหล่ผมเลย

          " ไปกินกันเถอะครับ ผมหิวแล้วอ่ะ " ผมพูดพลางขยับตัวหนีจนพี่โรลหน้าแทบทิ่มเข้าไปในตู้เย็นเลยทีเดียว

          " ลี่เกลียดพี่เหรอ " ผมที่กำลังจะเดินไปก็รีบหันมาทันทีเลยครับ เหมือนพี่โรลจะงอนซะแล้ว

          ผมเดินกลับมาหาพี่โรลที่ทำหน้าบูดอย่างน่าสงสาร และเขย่งปลายเท้ากระซิบข้างหูพี่โรล

          " ถ้าเกลียดก็ไม่มาถึงนี่หรอกครับ " นี่ผมพูดอะไรออกป๊ายย แต่พอเห็นพี่โรลทำหน้าหงอยขนาดนั้น ผมก็อดใจไม่ไหว แล้วก็ทันทีทันใด

          ' หมับ '

          ผมตัวแข็งทื่อ เพราะอยู่ดีๆ พี่โรลก็รวบตัวผมเข้าไปกอดซะแน่น ผมหัวใจเต้นรัว ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะผลักพี่ออกไป แต่ตอนนี้ผมกลับยืนนิ่งๆ ให้พี่กอดผมไว้แบบนี้ พี่โรลตัวใหญ่และอุ่นมากเหลือเกิน ผมรู้สึกดีจัง ผมดูเป็นคนใจง่ายหรือเปล่านะ

          " แค่กๆ " แต่อยู่ดีๆ ผมก็ไอออกมา ผมรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว

          " พี่กอดแน่นไปเหรอ " พี่โรลปล่อยผมและจ้องมองผมด้วยความเป็นห่วง

          ผมส่ายหน้า ไอ้บ้า พูดอะไรฟะเขินนะเฟ้ย

          " จะกินข้าวก่อน หรือจะกินกันเองก่อน " ไอ้หอกที่ไม่รู้ยืนมองอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำหน้ากระลิ้มกระเหลี่ยกวนทีนตามเดิม แล้วปากมึงน่ะมันแผล่บเลยนะ ไอ้สันขวาน

          หลังจากนั้นพวกเราก็กินพิซซ่ากันครับ ไอ้ห่าเมี่ยงพอรู้ว่าพี่โรลจ่ายก็สั่งมาซะเหมือนจะแดกได้ตลอดปี ซึ่งผมก็กินได้เรื่อยๆ ครับ ลาภปาก ฮ่าๆ และพี่โรลก็คอยหยิบให้ผมตลอด เติมน้ำหวานบ้างขนมบ้าง นี่พี่จะขุนผมให้เปร่งกว่านี้ใช่ไหม​ ส่วนตัวพี่แกนั้นก็กินจุเหมือนกัน ผมตกใจมากเพราะว่าพี่เขาน่าจะกินพอๆ กับผม แต่เอาไขมันไปเก็บไว้ไหนฟะ มองไปตรงไหนก็มีแต่กล้ามเนื้อสมส่วน

          " มองพี่แบบนี้อยากกินใช่ป่ะ " พี่โรลพูดพลางยักคิ้วกวนประสาท

          " แค่สงสัยว่าทำไมไม่อ้วนอ่ะ " ผมสงสัยจริงๆ นี่นา

          " พี่ชอบออกกำลังกาย " อ๋อเหรอ แล้วทำไมต้องทำตาวิบวับขนาดนั้นตอนพูดว่าออกกำลังกายด้วยล่ะครับ

          " อยากออกด้วยกันไหม​ " ผมส่ายหน้าแบบไม่ต้องคิดเลยครับ ถ้าออกกำลังกายผมก็จะผอมลง



แล้วถ้าผอมลงพี่ก็จะ... ผมคิดมากอีกแล้วสิ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 13-11-2017 13:25:41
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-11-2017 14:47:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 13-11-2017 16:31:59
อะไร ผอมแล้วกลัวเขาไม่รักเหรอ กลัวไปหมดเลยน้าาา แต่กล้ามาหาเขานี่ยังไงอะลี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 13-11-2017 19:06:50
ออกกำลังกายด้วยกันที่ไหนเหรอ  :-[
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 13-11-2017 20:56:17
น้องลี่ต้องมั่นใจในตัวเองนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 14-11-2017 02:58:05
พี่โรลนี่คือคิดหื่นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ตัดภาพมาที่น้องคือคิดมากกไปอีกกกกแล้วว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-11-2017 03:15:39
ต่างคนต่างหลงกันแล้ว จีบกันตอนกินนี้ อ่านแล้วอยากไปแจมด้วยจัง พิซซ่าของโปรดคนแก่เลยล่ะ  :m3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 14-11-2017 04:15:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-11-2017 08:54:41
โถ่วๆๆๆๆ มั่นใจตัวเองหน่อยสิคะน้องลี่!
พี่โรลหลงขนาดนี้ ถึงผอมก้อรัก! 555555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 14 ความกังวลใจของอาลี่ ]((13/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 14-11-2017 12:23:23
          Calorie ที่ 15 เดือนปะทะรองเดือน


          หลังจากกินเสร็จและนั่งเล่นสักพัก ไอ้เมี่ยงก็ลากผมกับพี่โรลให้ออกไปเดินเล่นที่ตลาดนัดแถวมอครับ ผมคิดว่าก็ดี จะได้เดินย่อยอาหารซะหน่อย

          พวกเราเดินมาเพราะว่าตลาดนั้นอยู่ไม่ไกล ผมเดินตามพี่โรลที่กำลังถูกไอ้เมี่ยงลากไปและอ้อนให้ซื้อนั่นซื้อนี่ให้มันเพื่อเป็นรางวัล หนอย จะมากไปแล้วนะมึง ไอ้ของที่มันขอน่ะไม่มากครับ แต่ที่มึงกอดคอพี่เขาตลอดเวลาน่ะ จะมากไปแล้ว ของกู เอ้ย กูเกรงใจพี่เขา

          พี่โรลที่อยู่ดีๆ ก็ถูกลากออกมาพี่แกเลยยังใส่เสื้อกล้ามสีดำตัวเดิม ซึ่งมันอื้อหือมาก สาวๆ ที่เดินอยู่นี่หันกันคอแทบเคร็ด พี่แกช่างส่องสว่างราวสปอตไลท์ หุ่นดีละยังเสือกแต่งตัวล่อแหลมอีก และผมสังเกตุว่าพี่แกชอบสีแดงครับ พี่โรลใส่กางเกงสามส่วนสีแดงแป๋นกับหนีบแตะแสนรักสีแดงตามเดิม ทำให้ดูโครตเด่นไปใหญ่

          ' เดือนสองคน โครตหล่ออ่ะ '

          ' พี่โรลมึง หล่อชิบหาย '

          ' เมี่ยงก็หล่อดีนะ '

          ผมถึงกับขำเลยครับ เดือนมหา'ลัยทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมันช่างเป็นภาพที่น่ามองสำหรับคนอื่น แต่สำหรับผม ไอ้เมี่ยงที่ผมเห็นมาตั้งแต่วิ่งแก้ผ้าด้วยกัน ผมมองมันหล่อแบบคนอื่นไม่ลงครับ ฮ่าๆ

          พี่โรลที่เดินๆ อยู่ก็หันมามองผมแทบจะตลอดเวลา ส่งยิ้มบ้างยักคิ้วบ้าง พี่จะกวนผมใช่ไหม​ แต่ผมก็อมยิ้มตลอดเวลา เพราะถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้สารภาพรักกันตรงๆ แต่ผมก็รู้ดีว่าพี่โรลนั้นชอบผม พี่ไม่เคยปิดบังความรู้สึกตัวเอง ถ้าผมคิดย้อนไป พี่คงชอบผมตั้งแต่แรกเลยใช่ไหม​ และพี่ก็แสดงมันออกมาเสมอ และผมก็ชอบที่พี่เป็นคนแบบนั้น ดูจริงใจ ถึงจะบ้ามากด้วยก็ตาม

          ผมมองสาวๆ หลายคนที่เนียนเข้ามาทักพี่โรลบ้าง เนียนชนพี่แกบ้าง เรียกว่าอ่อยกันเรี่ยราดเหลือเกิน แต่พี่แกก็เขี่ยๆ พวกนั้นออกไป ผมพูดว่าเขี่ยนี่เขี่ยจริงๆ ครับ พี่ครับสาวๆ ไม่ใช่แมลงวันนะครับ ถ้าผมเป็นพวกผู้หญิงพวกนั้นผมคงร้องไห้แน่ๆ กับสีหน้าและสายตารำคาญของพี่โรล สมกับที่ไม่เคยเป็นมิตรกับคนอื่นเลยจริงๆ ฮ่าๆ

          " โรล " ผมมองผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนขวางพี่โรลและทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจอะไรสักอย่าง

          พี่โรลหยุดเดินและมองมาที่ผมเหมือนเป็นเชิงถาม คุยไปเถอะครับ ไม่ต้องสนผมหรอก และผมก็เพิ่งนึกออก ผู้หญิงคนนั้นก็คือดาวมหา'ลัยที่ควงพี่โรลวันประกวดนี่เอง

          " ได้ข่าวว่าคบเด็กผู้ชายเหรอ " ผมถึงกับตกใจเลยครับ เจ๊แกพูดเสียงดังเหมือนประจานพี่โรล

          ผมอึกอักอยากจะเข้าไป แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง

          " เด็กคนไหนล่ะ เมี่ยงนี่เหรอ หรือว่าไอ้เด็กอ้วนนั่น " เจ๊แกสาดสายตาเหยียดหยามมาหาผมครับ เจ็บแฮะ

          " แล้วมีปัญหา? " ผมตาโตมองพี่โรล พี่ครับ นั่นผู้หญิงนะพี่โรลทำท่าเหมือนอยากต่อยพี่ดาวนี่เต็มแก่เลยทีเดียว

          " สวยแต่รูปจริงๆ นะ " ไอ้เมี่ยงงง มึงก็เอากับเขาด้วยเหรอ

          " เพื่อนผมถ้าผอมเมื่อไหร่ เจ๊ก็ดับครับ บอกไว้เลย " อ๊าว อย่ามาพาดพิงกูดิ ไอ้เพื่อนเลว

          " ไม่มีปัญหาอะไรหรอก แค่เสียดาย ของดีๆ มีไม่เอา " ยัยเจ๊นั่นมองผมอีกทีแล้วเดินไปครับ

          " ของเน่า " พี่โรลพูดพลางเป่าหมากฝรั่งในปาก นี่ทั้งสองคนน่ะ น่ากลัวและปากจัดกว่าแม่ค้าในตลาดอีกนะเนี่ย

          และผมก็ต้องตกใจเพราะว่าอยู่ดีๆ พี่โรลก็เดินมาจับมือผมครับ คือพี่ครับ ไม่ต้องไปสนใจที่เขาว่าหรอก ผมไม่สนเลยสักกะติ๊ด พี่โรลเหมือนกับโมโหที่ผมโดนดูถูก พี่แกเลยอวดแบบเต็มสตรีมให้สาวๆ ใจสลายเล่นกันจะๆ ตาไปเลยครับ

          ' เรื่องจริงเหรอวะ '

          ' ไอ้อ้วนนั่นอ่านะ '

          ' ก็น่ารักดีนะ ผอมลงคงน่ารักมาก '

          เหมือนจะมีคนเห็นดีเห็นงามอยู่เหมือนกันนะ แต่พี่โรลนั้นกำมือผมแน่นเลยครับ คงอยากโดดต่อยปากคนพวกนั้นแย่เลยสินะ พี่นี่ช่างซื่อตรงจริงๆ

          " ก็ว่าอยู่ว่ามันแปลกๆ " ผมตกใจอีกครั้งกับการปรากฎตัวของผู้ชายที่ผมไม่อยากเจอ โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว

          " ว่าไงลี่ แบบนี้นี่เอง ค่อยยอมรับได้หน่อย รองเดือนมันจะไปสู้เดือนได้ยังไงละเนอะ " พี่นายมองผมกับพี่โรลพลางหัวเราะเสียงดัง

          " มึงพอได้แล้ว " พี่โรลพูดพลางจ้องพี่นายด้วยสายตาดุดัน

          " ไม่เอาน่าโรล กูไม่ถือสามึงหรอก ถึงมึงจะแทงข้างหลังกูก็เถอะ " พี่นายยังคงหัวเราะกวนประสาท

          " กูแทงอะไรมึง เลิกกันแล้วนิ " พี่โรลตอนนี้ปล่อยมือผมและเดินเข้าไปหาพี่นายครับ และทั้งสองคนนั้นตัวสูงมาก ผมไม่เคยเห็นพี่โรลน่ากลัวแบบนี้เลย

          " ถ้าไม่มีมึงลี่ก็กลับมาหากูแล้ว " พี่นายพูดพลางมองหน้าผม

          " ไม่จริง ผมไม่มีทางกลับไป " ผมพูดอย่างเหลืออด พอทีได้ไหม​พี่นาย

          " ลี่ ลี่อย่าเข้าใจผิดนะ พี่ไม่ได้มาหาเรื่อง " ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมพี่นายถึงยิ้มและดูมีความสุขแปลกๆ

          " ลี่ วันนี้พี่เจอเพื่อนเก่าเราด้วยนะ ก็เลยได้คุยกันนิดนึง ในฐานะคนเคยรู้จักกันแค่นั้น " ผมตกใจ พี่เจอหนิงงั้นเหรอ  แล้วมันยังไงกัน

          " ไม่นานลี่ก็จะกลับมาหาพี่เอง โลกมันกลมสุดๆ เลยนะ ฮ่าๆ " ผมไม่เข้าใจ ทำไมผมถึงต้องกลับไป พี่นายพูดพลางหัวเราะเสียงดัง

          " แล้วมึง โรล กูว่ามึงควรบอกรายละเอียดตัวมึงให้มากกว่านี้นะ ถ้าคิดจะคบกับใครน่ะ " ผมมองพี่นายสลับกับพี่โรลด้วยความไม่เข้าใจ

          " พี่จะรอนะลี่ ยังไงลี่ก็หนีพี่ไม่พ้นหรอก " พี่โรลที่ดูน่ากลัววิ่งเข้าใส่พี่นายทันที และผลักอกพี่นายอย่างแรงจนพี่นายเซถอยหลังไป แต่พี่นายก็ยังยิ้มดีใจอยู่

          " พี่จะไปหาที่บ้านนะ จะซื้อขนมไปฝาก " พี่นายพูดอีกทีแบบไม่สนใจพี่โรล และเดินจากไป

          ผมมองพี่โรลที่ยืนกำมือแน่นจนตัวสั่น ผมจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาพี่โรลและจับมือนั้นไว้ตามเดิม ผมไม่พูดอะไรแต่เงยมองหน้าพี่โรลที่กำลังมองตรงไปข้างหน้า ดูคิ้วเข้มๆ นั่นที่กำลังชิดกันอย่างน่ากลัว ตาคมที่มีขนตาหนากำลังแข็งกร้าว และปากสีแดงได้รูปนั้นกำลังเม้มแน่นเหมือนกำลังอดทนสุดขีด

          " พี่คิดว่าผมจะกลับไปเหรอ " พี่โรลคลายคิ้วที่ขมวดมุ่นออก และมองดูผมด้วยแววตาที่อ่อนลง

          " พี่ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นหรอก " ผมขมวดคิ้วตามเดิม แล้วพี่กลัวอะไรเหรอครับ

          " ลี่มึงห้ามอยู่บ้านเลยนะช่วงนี้ ไอ้เวรนั่นมันไม่เลิกแน่ๆ " ไอ้เมี่ยงที่ยืนอยู่ก็ทำหน้าไม่พอใจเช่นกัน

          " ไม่ได้หรอก ป๊าม๊าจะสงสัย ถ้าเขาอยากมาก็ให้มาเถอะ แต่กูจะไม่ลงไปเจอพี่เขาหรอก " มันช่วยไม่ได้จริงๆ

          " ไม่ได้หรอกลี่ มันขึ้นถึงห้องมึงแน่ๆ มาบ้านกู บอกป๊าม๊าว่าทำรายงานก็ได้ "

          " ก็คงได้ไม่กี่วัน กูไม่อยากรบกวนน้าจันทร์ " ผมไม่มีทางเลือกเท่าไหร่หรอก ผมเคยหนีพี่นายครั้งหนึ่งแล้ว หนีไปอยู่ต่างจังหวัดเป็นเดือนๆ และป๊าม๊าก็เป็นห่วงผมมากจนเครียดและโทรมลงไปเลย ผมสงสารป๊าม๊าไม่อยากให้เขากังวล

          " เถอะน่า แค่อาทิตย์นี้ก็ได้ มาค้างบ้านกูสักสองสามวัน เดี๋ยวกูบอกป๊าม๊ามึงให้ " ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ

          แล้วที่พี่นายพูดนั้นหมายความว่ายังไง พี่มีอะไรที่บอกผมไม่ได้อย่างนั้นเหรอครับ ผมจะเชื่อใจพี่ได้ใช่ไหม​ พี่จะไม่หลอกผมใช่หรือเปล่าครับ

          ผมมองพี่โรลที่ยังคงขมวดคิ้วมุ่น ดูเหมือนกำลังกังวลใจสุดๆ ถ้าพี่พร้อมก็บอกผมละกันนะครับ

          " คืนนี้อยู่กับพี่ " ผมตาโตมองพี่โรล เอ่อ เมื่อกี้เป็นประโยคคำถามหรือคำสั่งครับ

          " ผมด้วยนะงั้น " ไอ้เมี่ยงรีบพูดทันที ขอบใจมากเพื่อน มึงอาจจะยับยั้งการเสียตัวของกูได้

          ผมไม่กล้าพูดอะไร เพราะตอนนี้พี่โรลดูน่ากลัวมากจริงๆ ตอนนี้พี่โรลคงเดือดสุดๆ ไปเลยถึงแผ่รังสีน่ากลัวมาถึงผมขนาดนี้



          ตอนนี้พวกเรากำลังเดินกลับกันครับ พี่โรลยังคงกำมือผมและไม่ยอมพูดอะไรเลยมาพักใหญ่แล้ว

          " ลี่กูขอโทษว่ะ แต่วันนี้กูอยู่ด้วยไม่ได้แล้วอ่ะ " ไอ้เมี่ยงที่เดินคุยโทรศัพท์อยู่ข้างหลัง ตอนนี้วางสายและมากระซิบคุยกับผมครับ

          " ชิบหาย ไม่ได้ มึงต้องอยู่ " ผมบอกมันอย่างร้อนรน ผมชอบพี่โรลครับ แต่ตอนนี้พี่โรลดูน่ากลัวมาก อย่าทิ้งกูไปเมี่ยง กูโดนข่มขืนแน่ๆ

          " มึงก็ขอตัวกลับบ้านดิ " ผมเหลือบมองพี่โรลที่ไม่ได้สนใจผมกับไอ้เมี่ยงแต่ยังเดินสาวท้าวก้าวพรวดๆ ไปข้างหน้า จนจะลากผมอยู่แล้ว

          " มึงลองพูดให้กูหน่อย "

          " ไม่เอากูยังไม่อยากโดนฆ่า " ไอ้หอก ไอ้เพื่อนทรยศ

          " พ.พี่โรล " ผมลองพูดออกไปเบาๆ เพื่อเรียกพี่โรลที่ยังคงสีหน้าอยากฆ่าคนอยู่

          พี่โรลหยุดเดินและกุมขมับตัวเอง ไมเกรนขึ้นหรือไงครับพี่

          " ผมกลับบ้านได้ไหม​ " ผมลองหยั่งเชิงดู ผมคิดว่าวันนี้พี่นายคงยังไม่บุกมาหรอกครับ ถึงมาผมก็ไม่สนซะอย่าง

          พี่โรลไม่พูดอะไรแต่มองหน้าผมด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ดูหมองเศร้าจนผมรู้สึกไม่ดีเลย

          " กลับดีๆ นะ พี่คงไม่ได้ไปส่ง " พี่โรลปล่อยมือผมช้าๆ และเดินหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว พี่เป็นอะไรกันนะ ผมไม่ชอบเวลาที่เห็นพี่เป็นแบบนี่เลย



          โรล



          ผมหงุดหงิดรำคาญใจ ไอ้นายมันพูดเรื่องอะไรของมัน เหมือนกับมันรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวผม แถมยังพูดแบบนั้นกับลี่อีก ผมจะต้องทำยังไงถึงจะไม่ให้มันเข้าใกล้ลี่ได้ เพราะลี่นั้นอยู่คณะเดียวกับมัน และแถมไอ้นายยังดูเหมือนจะเคยเข้าบ้านลี่อีกด้วย ผมเครียดมาก ผมไม่กลัวว่าลี่จะกลับไปหามันหรอก แต่ก็ยังกังวลใจอยู่ดี ลี่คงจะเคยรักมันมาก ดูจากแววตาที่แสนเศร้าของลี่แล้ว ผมร้อนรน ผมรู้สึกอยากจะบ้า อยากจะฆ่ามันจริงๆ

          ผมนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวบนโซฟา พลางกอดมาร์ชเอาไว้ ลี่ไม่กล้าอยู่กับผม ลี่คงจะไม่ไว้ใจผม ก็แน่ล่ะ ชอบแกล้งน้องเขาดีนัก ผมเสียใจมาก แต่ก็ต้องยอมให้ลี่กลับบ้านไป ผมไม่อยากให้ลี่กลัวผม ผมมันแย่จริงๆ

          ' Trrr '

          ผมมองโทรศัพท์ของผมที่กำลังสั่นเบาๆ ผมหัวเสียมาก ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น

          ' Trrr '

          ผมนอนก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟาพลางคิดกังวลอะไรไปเรื่อย แล้วคืนนี้ผมจะหลับตาลงได้ยังไงกัน

          และเวลาแบบนี้ผมมักจะชอบออกแรง ว่าแล้วผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงกีฬาและเสื้อกล้ามตัวเดิม พันมือทั้งสองข้าง และหยิบนวมมวยพาดไหล่ไปด้วย ผมอยากอัด อยากฟัด สงสัยต้องซื้อกระสอบทรายมาไว้ในห้องแล้วมั้ง ไปหวดของฟิตเนตซะแทบแตกบ่อยๆ ก็คงจะโดนด่าเอา

          ผมปลดล็อคประตู และเปิดประตูออกไป แต่ภาพที่เห็นเบื้องหน้า กลับทำให้ผมชะงักไป ผมปล่อยนวมในมือร่วงลงพื้น ก้าวช้าๆ เข้าไปหาบุคคลที่กำลังนั่งกอดเข่าพิงผนัง และหลับตาลงเหมือนกำลังหลับฝันดี แต่เสียงนวมที่หล่นลงพื้นก็ทำให้ คนตรงหน้าผมสะดุ้งน้อยๆ และลืมตาจ้องมองผม พลางส่งยิ้มเล็กๆ มาให้





บุคคลนั้นคือคนที่ผมหลงรักจนหมดใจ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 15 เดือนปะทะรองเดือน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-11-2017 13:27:25
ลี่หรอ?
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 15 เดือนปะทะรองเดือน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-11-2017 14:52:30
ใครหน่ะ ใช่ลี่มั้ย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 15 เดือนปะทะรองเดือน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 14-11-2017 15:29:01
          Calorie ที่ 16 ถ้อยคำที่แสนหวาน


          หลังจากที่เดินตามไอ้เมี่ยงไปสักพัก ผมก็ตัดสินใจย้อนกลับไปหาพี่โรล ผมนั้นเป็นห่วงพี่โรลมาก พี่เขาดูไม่สบายใจ ผมไม่อยากให้พี่เขาคิดมาก ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของผมด้วยแล้ว

          " เมี่ยง คืนนี้กูไปอยู่กับพี่โรลนะ " ไอ้เมี่ยงหยุดเดินทันทีและมองผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

          " พี่เขาดูเป็นคนดีนะ แต่กูไม่รู้ว่ะลี่ เพราะพี่นายตอนแรกก็ดูเป็นคนดีเหมือนกัน " ผมเข้าใจในสิ่งที่มันพูด ขอบใจมากเพื่อนที่เป็นห่วง

          " กูยังไม่ได้ให้โอกาสพี่เขาเลย กูก็อยากรู้ว่าพี่เขาเป็นคนยังไงกันแน่ " ผมอยากลองเสี่ยงดู ผมไม่อยากตัดสินใครทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักเขาดีพอ

          " มีอะไรก็โทรหากูละกัน " ผมตบไหล่มันเบาๆ และเดินหันหลังกลับมา การที่ผมยังมีเพื่อนอย่างมันอยู่ทำให้ผมรู้ว่า ถึงผมจะต้องเจอกับอะไร มันก็จะยังอยู่เคียงข้างผมเสมอ

          ผมเดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงคอนโดของพี่โรล ขึ้นลิฟไปยังชั้นที่พี่โรลอยู่ และยืนอยู่หน้าห้องของพี่โรล

          โอ้ยย ไม่กล้ากดกริ่งเลยครับ มันรู้สึกแปลกๆ ผมใจเต้นรัวสุดๆ ผมกำลังทำอะไรอยู่นะ แต่ตัดสินใจแล้วนี่ เอาวะ

          แต่พอนิ้วจะถึงกริ่ง ผมก็หยุดค้างไว้ซะอย่างนั้น และเป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง อ้ากกก ใจเย็นๆ แค่มาดูพี่เขา และขอนอนที่โซฟานะลี่ เอาแบบนั้นแหละ

          ผมพยักหน้ากับตัวเองหลายครั้งและพยายามจะกดกริ่งอีกที โอ้ยย แบบนี้ละกัน ผมที่แอดเบอร์พี่โรลแล้วเลยลองส่ง เอสเอ็มเอสไปครับ

          [ พี่ทำอะไรเหรอ ]



          ผมลองส่งไปสักพัก และรอว่าพี่เขาจะโทรกลับมาหรือส่งข้อความกลับมาไหม แต่ก็เงียบครับ แย่แล้วสิ พี่เขาอาจจะหลับไปแล้ว ผมควรจะกลับดีไหม​นะ

          ผมคิดว่าผมจะนั่งรออีกสักพักครับ แล้วค่อยกลับ แต่ก็เผลอหลับไปซะได้ ผมที่กินและหลับได้ทุกที่นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ

          แต่เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าพี่โรลนั้นกำลังนั่งอยู่ข้างๆ ผมและจ้องมองผมอยู่ หือออ ฝันเหรอ ฝันดีจังเลยน้า

          เดี๋ยวนะ ไม่ใช่แล้วมั้ง มันแบบว่าชัดเจนขนาดนี้

          ผมขยี้ตามองอีกครั้งและก็พบว่าใช่เลยครับ พี่โรลกำลังนั่งยองจ้องผมอยู่จริงๆ

          " นั่งอยู่นานแค่ไหนเนี่ย " พี่โรลพูดพลางส่งยิ้มให้ผม

          " ไม่รู้สิครับ พี่ไม่อ่านข้อความผม " พอผมพูดแบบนั้นพี่โรลก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดูทันที

          " พี่ขอโทษนะ ไม่รู้ว่าเป็นลี่ " พี่โรลยิ้มกว้างและดึงผมให้ลุกขึ้น

          " พี่กำลังจะไปไหนเหรอ ผมมากวนหรือเปล่า " ผมมองพี่โรลที่หัวยุ่งๆ ใส่เสื้อกล้ามและกางเกงวอร์ม และพันมือแบบนี้จริงๆ ไม่น่าถามนะเนี่ย

          " ไม่ไปแล้วล่ะ " พี่โรลพูดพลางจูงมือผมเข้ามาในห้อง ผมเดินตามแรงจูงนั้น เขินเหมือนกันแฮะ แล้วจะทำอะไรต่อดีนะ

          พี่โรลปล่อยมือผม จับผมนั่งลงที่โซฟาและนั่งลงข้างๆ ผม พี่โรลดูเงียบและแปลกๆ อีกแล้ว ผมนึกว่าพี่จะพูดมากซะอีกถ้าผมมา

          " ดีใจสุดๆ ไปเลย " ผมเงี่ยหูฟังคนที่ก้มหน้าและเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอยู่แบบงงๆ

          " พี่พูดว่าอะไรนะ " ผมเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆ และจ้องมองพี่โรลที่กำลังปิดหน้าตัวเองอยู่

          " ลี่อยู่กับพี่จริงๆ ด้วย " พี่โรลเปิดหน้าออก และจ้องมองผม ตอนนี้พี่โรลหน้าแดงมากๆ ทำเอาผมที่มองพี่โรลนั้นหน้าแดงตามเลยทีเดียว นี่พี่ชอบผมขนาดไหนกันนะ

          " เอ่อ ผมหิว " ผมที่เขินสุดๆ ไม่รู้จะพูดอะไรก็กินไว้ก่อนครับ ฮ่าๆ

          " จะอาบน้ำก่อน หรือจะกินพี่ก่อน " ห๊าา ไม่พูดเปล่า แต่พี่แกกลับโพสท่าซะน่ากินจริงๆ ครับ

          ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูก พี่แกเปลี่ยนมู๊ดไวจริงๆ ทำตัวน่าหมั่นไส้ชะมัด

          " ผมกลับละ "

          " โอ๋ๆๆ พี่ล้อเล่น " พี่โรลรีบวิ่งมาดักหน้าผมทันที

          " ผมก็ล้อเล่น " ผมพูดพลางหัวเราะชอบใจ แค่เห็นพี่หัวเราะผมก็โล่งอกแล้วครับ

          " แพนเค้กไหม​ " พี่โรลพูดพลางจูงมือผมไปที่ครัวและให้ผมนั่งลงที่โต๊ะอาหาร

          " พี่ทำเป็นเหรอ ผมจะต้องเรียกรถพยาบาลรอป่ะ "

          " ติดใจจนไม่ยอมกลับบ้านไม่รู้นะ "

          " เหรออออ " ผมยิ้มพร้อมเบะปากน้อยๆ แบบดูถูก ติดใจแพนเค้กอ่ะไม่แน่ครับ แต่ติดใจเชฟอ่ะแน่นอน หึหึ

          ผมมองพี่โรลที่ไม่เหมาะกับผ้ากันเปื้อนน่ารักๆ เอาซะเลย กำลังทำโน้นผสมนี่ มีโยนของโชว์ด้วยครับ และแน่นอน ร่วงกระจายเต็มพื้น ไม่ต้องโชว์ท่ายากมากก็ได้ ผมแค่หิวครับพี่  แต่ก็ทำเอาผมหัวเราะจนปวดท้อง พี่ไปเป็นตลกคาเฟ่น่าจะดีนะ

          ไม่นานแพนเค้กหอมๆ ก็มาเสริฟพร้อมไอติมวานิลาและราดแยมสตอเบอรี่ ผมตาโตมองขนมหวานที่น่ากินในจาน มันช่างสวยงามน่ากินซะเหลือเกิน แต่พอมองคนทำก็เล่นเอาผมท้องแข็งอีกรอบ พี่แกตั้งแต่หัวจรดเท้ามีแต่แป้ง และแยมเปื้อนหน้า

          " ทานให้อร่อยนะครับ " ผมมองพี่โรลที่ยิ้มกว้างสว่างสไว ทำมือให้ผมชิมขนมในจาน ผมก้มหน้าลงตักไอติมและแพนเค้กอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่อะไรครับ เขินอ่ะ อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหม​ จะโปรยเสน่ห์ไปถึงไหนห๊า

          " อร่อยไหม​ " พี่โรลยื่นหน้ามาใกล้ผมมากๆ และเงี่ยหูฟังรอคำตอบ อ้ากกกก ใกล้มากก ขาวมากก

          ผมเหลือบมองแยมบนแก้มพี่โรล และไม่รู้สวรรค์หรือนรกดลใจ ผมยื่นหน้าเข้าไปเลียที่รอยเปื้อนนั้นเบาๆ

          พี่โรลที่โดนเลียแก้มตอนนี้ยืดตัวตรงตาโต และ เดี๋ยวๆๆ พี่แกโกยอ้าวหนีผมไปอีกแล้วครับ และผมที่ทำแบบนั้นก็กำลังรู้สึกแบบว่า อ้ากกก กูทำอะไรลงป๊ายยย แต่ว่าก็มันน่าอร่อยอ่ะ ช่วยไม่ได้ ฮ่าๆๆ

          ไม่นานพี่โรลก็ค่อยๆ กระดื๊บมาอีกครั้ง หน้ายังคงแดงเป็นปื้นๆ ฮ่าๆน่ารักอ่ะ

          " ขอโทษครับ เผลออ่ะ " ผมเกาหัวเขินๆ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ นะ แค่แบบว่าเสียดายอ่ะ อยากกิน แหะๆ

          " เผลอบ่อยๆ ก็ได้ " ผมหน้าแดงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

          " อยากให้เปื้อนตรงอื่นจัง " เดี๋ยวๆๆๆ ผมที่กำลังกินอยู่ก็สำลักเลยครับ ตรงไหนครับพี่ พูดแบบนี้ผมคิดนะ

          " เดี๋ยวผมล้างเองนะ " ผมที่กินเสร็จก็ลุกขึ้นถือจานไปที่อ่างล้างทันที

          " วางไว้เถอะ เดี๋ยวแม่บ้านเขามาทำ " พี่โรลพูดพลางแย่งจานจากมือผม

          " มีแม่บ้านด้วยเหรอ " ชิ เบื่อพวกคนรวย

          " อะไร หึงพี่เหรอ " พี่โรลพูดพลางยื่นหน้ามาใกล้ ผมหดคอหนีทันที ไอ้บ้า เผลอไม่ได้เลย แต่ถ้าผมเริ่มก่อนก็ได้นะ ฮ่าๆ

          " ไปอาบน้ำกัน " พี่โรลพูดพลางจูงมือผมเข้าห้องนอน อ้ากกก เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นครับพี่

          " ผมไม่มีเสื้อผ้า " ผมพูดพลางบิดไปมา คือลืมนึกไปเลย

          " เสื้อเชิ๊ตพี่ตัวใหญ่นะ " พี่โรลพูดพลางเปิดตู้เสื้อผ้าทันที และ



          ' พรืดดดดดด '



          ผมตกใจตาโตตัวแข็งทื่อกับภาพที่เห็น พี่โรลที่ทำหน้าเหมือนกับกูตายแน่ ตอนนี้ยืนหลับตาปี๋เลยครับ พี่ลืมใช่ไหม​ว่าไม่ควรเปิดมันออก นี่มันอะไรก๊านนนน ไอ้บ้า ไอ้พี่โรล นี่มันเข้าขั้นโรคจิตแล้วโว้ย

          " มีอะไรจะพูดไหม​ " ผมถือรูปแอบถ่ายตัวเองในมือพลางตาโตใส่อีพี่ผีทะเลนี่ หนอยยย แอบถ่ายตั้งแต่ร้านชาบูเลยนะเนี่ย นึกว่าเซลฟี่

          ถึงจะพูดแบบนั้นแต่จริงๆ ผมตกใจผสมดีใจครับ นี่พี่เป็นเด็กน้อยหรือไง แถมเก็บกดด้วยนะเนี่ย และมันทำให้ผมนึกถึงตัวเองตอนที่ชอบพี่นายขึ้นมา ผมรู้ว่าพี่รู้สึกยังไง ผมคงว่าพี่ไม่ได้หรอกครับ แต่เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรฟะนั่น

          ผมเอื้อมมือไปหยิบหมอนข้างลายตัวเองขึ้นมา และก็ต้องมือสั่นน้อยๆ เอ่อ

          " พี่โรล ไอ้... " ผมไม่พูดเปล่าแต่กระหน่ำฟาดไอ้พี่โรคจิตนี่ด้วยหมอนข้างแสนรักของอีพี่นี่ หนอยยย อ้ากกก หมอนข้างนี่มันอะไร มันจะไม่เป็นอะไรเลย ถ้ามันไม่มีรูโว้ย

          พี่โรลวิ่งหนีผมออกไปนอกห้อง และพยายามห้ามผมพลางโดดหลบหมอนข้างนี่ไปด้วย เจ็บใช่ไหม​ จะฟาดให้ตายเลย ไอ้บ้า

          " อย่า! " พี่โรลวิ่งหนีพลางหันมาทำมือห้ามผม

          " สำนึกไหม​ ไอ้บ้านี่! "

          " อย่า เดี๋ยวขาด! " อ้ากกกก นี่ไม่ได้สำนักเลยสักนิด แค่ห่วงของทะลึ่งแค่นั้นเอง หนอยยยย

          " เดี๋ยวๆ ลี่ เข้าใจผิดแล้ว " พี่โรลพูดพลางโดดเข้ามาล็อคแขนผม

          " เข้าใจผิดอะไร รูมีไว้ทำไม " ผมยังคงพยายามตะกายหน้าหล่อๆ ของคนโรคจิตอยู่ครับ

          " มันไม่ใช่รู ฟังพี่ก๊อนน "

          หลังจากเล่นหนังอินเดียกันหลายนาที ผมก็เริ่มจะวิ่งไม่ไหว คนหรือลิงฟะ ไวชิบ แปบๆ พี่แกก็โดดขึ้นไปด้านบนบ้าง บนโต๊ะบ้าง มุมนั้นมุมนี้ จนผมเวียนหัวไปหมด

          ผมที่ตัวอ้วนก็หมดแรง ล้มเผละลงกับพื้น โอ้ยย ไม่ไหวแล่ว ตายๆ ผอมพอดีแบบนี้

          ผมยังคงกำไอ้หมอนข้างของไอ้คนหื่นนี่พลางเพ่งมองดีๆ หนอยย สั่งทำร้านไหนฟะ จะได้ทำมั่ง เอ้ย จะได้ไปพังร้านมัน เป็นหมอนข้างที่มีหูด้านบน ขนาดเล็กกว่าตัวผมนิดนึง เหมือนแมวตัวอ้วนๆ ที่มีหน้าผมอยู่บนนั้น

          ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังค่อยๆ เลาะกำแพงเดินมาช้าๆ พลางยิ้มให้ผม ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ

          " ขอคืนให้พี่เถอะ " ยังๆ ยังจะมีหน้าขอคืนอีก

          " เดี๋ยวพี่ทำให้ดู มันไม่ใช่รูจริงๆ นะ " ผมมองพี่โรลพลางหน้าบึ้ง

          พี่โรลดึงหมอนข้างนั้นไปช้าๆ และทำท่าชี้ให้ดู

          " เห็นหูนี่ไหม​ " ผมมองหูแมวสองข้างน่ารักๆ ที่พี่โรลชี้

          " แล้วนี่ จะเป็นรูได้ยังไง " พี่โรลพลิกกลับด้าน และล้วงตรงที่เป็นรูให้ดูครับ พี่โรลล้วงและดึงข้างในออกมา ทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันคือหางนั่นเอง

          อ๊าวว เวรละกูฟาดพี่เขาไม่ลืมหูลืมตาเลย ฮ่าๆๆๆ

          " แล้วใครให้ดันมันกลับเข้าไปแบบนั้นอ่ะ ยังไงมันก็เหมือนจะเอาไว้ทำเรื่องไม่ดี ได้อยู่ดีแหละ "

          " ถ้าจะทำเรื่องแบบนั้น ทำกับตัวจริงเลยดีกว่า " ผมตาโตมองพี่โรลและแย่งหมอนข้างนั้นมาฟาดพี่แกอีกที

          " ทะลึ่ง " ไอ้บ้า พูดแบบหน้าไม่อายเลย อ้ากกกก เขินโว้ย

          ผมที่ตอนนี้เขินจนหน้าดำหน้าแดงกอดหมอนข้างลายตัวเองไว้แน่น

          " เมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนน้า " ผมที่ได้ยินแบบนั้น ก็ยิ่งเขินไปใหญ่

          " พี่ชอบลี่ " เสียงทุ้มหูที่ไม่มีแววล้อเล่นดังขึ้น

          ผมที่ก้มหน้าอยู่กับหมอนข้างก็เงยหน้าขึ้นมาช้าๆ มองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นและดึงมือผมไปจับเอาไว้

          พี่โรลยิ้มอย่างอ่อนโยน ก้มลงหอมที่มือผมและเอามาแนบแก้มตัวเอง เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่พี่รักและหวงแหนเหลือเกิน

          ผมพูดไม่ออก ไม่คิดว่าพี่จะพูดมันออกมา ถึงแม้ว่าพี่จะแสดงออกชัดเจนอยู่แล้วก็เถอะ ขอบคุณนะครับ ที่บอกให้ผมรับรู้ตรงๆ แล้วก็ รอผมอีกนิดนะ อีกไม่นาน ผมก็จะบอกพี่ออกไปตรงๆ บ้าง





ว่าผมก็ชอบพี่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 14-11-2017 18:15:16
เมื่อไหร่เค้าจะได้เป็นแฟนกันน้า
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-11-2017 20:45:00
อย่าบอกนะว่า หนิงเป็นญาติพี่โร :a5:

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 14-11-2017 21:18:05
ฟินจนเลือดหมดตัวแล้วจ้ะ ขอตัวเติมเลือดแปป
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-11-2017 21:55:42
อุ๊ยยยยยย มีขอเปนแฟนด้วย
แต่ยังมีปริศนาอีกมากมายอ่ะนะ รอดูว่านายจะทำอะไร -________-
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 14-11-2017 22:28:27
นายไม่โผล่มาซัก 4-5 ตอนนี่จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลยนะ   :z6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 14-11-2017 22:45:58
อร้ายยยยยยยยยยยยย เขิน  :-[
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 14-11-2017 22:51:48
น้องอ้วนของพี่ งื้อออออ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 15-11-2017 00:56:49
หนิงต้องกลับมาเกี่ยวอะไรอีกแน่ๆเลยอะ
คนที่พ่อแม่หาไว้ให้งี้หรออ
ช่างมันไปก่อน เราเชื่อว่าพี่โรลเอาอยู่
ขนาดไม่พอใจที่บ้านยังหนีออกมาอยู่เองเลย
อย่างงี้ใครจะมาบังคับได้อีกละะ
ตอนนี้เค้าหวานกันแล้ววว
พี่โรลคือเก็บรวามลับได้ไม่ถึง2ตอนดีเลย ความลับแตกซะแล้ว
โป๊ะเองเลยอะ 555555 คุณเกมได้อย่างไรคะพี่โรลล
อาลี่รับๆบอกพี่เค้าไปนะ แอบชิมเนียนๆแบบนี้มันก้ดีต่อใจจ
แต่ได้กินพี่มันไปเลยก้จะดีกว่านี้เนอะ55555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 15+16 สองตอน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 15-11-2017 11:34:32
          Calorie ที่ 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน


          ตอนนี้ผมกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในห้องน้ำที่กว้างขวางและเรียบหรูซะเหลือเกิน น้ำอุ่นกำลังดี และครีมอาบน้ำกลิ่นของพี่โรล อ้ากกกก ความรู้สึกเหมือนมีพี่โรลอยู่ในอ่างด้วยเลยอ่ะ เขินๆ

          ผมที่คิดถึงพี่โรลก็หน้าแดงอีกรอบ รู้สึกว่าอยู่ที่นี่เลือดลมจะสูบฉีดดีเหลือเกิน แต่แปลกมาก เพราะผมคิดว่าพี่โรลจะพยายามเข้ามาอาบน้ำกับผมซะอีก แต่พี่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรครับ แค่จัดเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวให้ผม เชอะ แต่ก็ดีแล้วล่ะ ใครจะไปกล้าอาบด้วย อายพุงเฟ้ย

          แต่แล้วผมที่กำลังแช่น้ำอยู่ก็แทบจะดำน้ำลงไป เพราะอยู่ดีๆ พี่โรลก็เปิดประตูพรวดเข้ามา นี่ห้องน้ำมันเปิดได้จากข้างนอกเหรอเนี่ย อ้ากกกก เสร็จแน่ เสร็จแน่ๆ ลี่เอ๋ย

          " ไอ้ทะลึ่ง เข้ามาทำไมเนี่ย " ผมหลับตาปี๋ ด่าและมุดลงน้ำตามเดิม จะเล่นในอ่างเลยเหรอ ชอบแบบพิสดารใช่ม๊ายยย ผมยิ่งเกร็งมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหมือนว่าตอนนี้พี่โรลนั้นอยู่ใกล้ผมมากๆ จนเงาดำทาบทับตัวผม

          " โทษทีๆ พี่ลืมโทรศัพท์ " ห๊าา พี่โรลก้มตัวเหนือผมและยื่นมือเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนชั้นใกล้ๆ อ่าง

          ผมหรี่ตามองพี่โรลที่ส่งยิ้มน้อยๆ และรีบออกจากห้องน้ำไป อ่าววว ทำเมินกันนะ แต่ผมงงตัวเองว่าผมต้องการอะไรจากพี่เขากันแน่ แอบผิดหวังซะงั้น ฮ่าๆ

          ผมลุกออกจากอ่าง ล้างตัวด้วยฟักบัวอีกสักครั้งและเช็ดตัวใส่เสื้อผ้าของพี่โรล งื้ออออ กลิ่นพี่โรลล่ะ ผมที่ซู๊ดดกลิ่นอยู่สักพักก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองอยู่ อ้ากกกกก แอบยืนดูตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะ

          " อยากดมก็เอาเลย ตัวเป็นๆ หอมกว่านะ " พี่โรลพูดพลางกางแขนออกทำท่าเหมือนจะให้ผมเข้าไปดม

          ผมทำเชิดและรีบเดินเหยียบทีนพี่โรลที่ยืนอยู่หน้าประตูและวิ่งฉิวไปมุดหมอนบนโซฟาด้านนอกด้วยความอาย ผมนี่ก็โรคจิตเหมือนกันนะเนี่ย

          " อื้อหือ ท่าสวยมาก " ผมที่ก้นกระดกมุดหมอนรีบเก็บก้นนั่งตัวตรงและปาหมอนไปใส่อีพี่หื่นกามนี่ทันที

          พี่โรลหลบหมอนอิงใบเล็กที่ถูกปาออกไปและยืนหัวเราะมองผม

          แต่ว่าเสื้อเชิ๊ตพี่โรลก็ตัวใหญ่จริงๆ ครับ ผมที่ตัวอ้วนนั้นใส่ได้พอดีเลยล่ะ และกางเกงขาสั้นตัวนี้ก็เป็นผ้ายืดๆ ที่นุ่มนิ่มเลยขยายใส่ได้สบายอีกล่ะ ดีจัง

          แต่ผมสงสัยอยู่อย่าง ดูแล้วเหมือนพี่โรลจะเลี่ยงๆ ผมแปลกๆ ครับ เหมือนว่าพอยิ่งดึกพี่เขาก็ยิ่งออกห่างจากผม ไม่เข้ามาใกล้ ไม่มาเล่นคลอเคลียเหมือนปกติ เป็นอะไรของเขาอีกแล้วนะ

          " ไปนอนห้องพี่ เดี๋ยวพี่ไปนอนข้างบน " พี่โรลชี้ขึ้นไปบนชั้นลอยด้านบน ซึ่งผมก็ไม่เคยขึ้นไปครับ เลยไม่รู้ว่ามันคือห้องอะไร

          แปลกอีกแล้ว ผมนึกว่าพี่จะชวนผมไปนอนด้วยซะอีก แต่แบบนี้ก็โอเคครับ คิดว่าพี่เขาจะเล่นมุกทะลึ่งๆ แบบปกตินั่นแหละ

          " ฝันดีครับ " ผมพูดพลางส่งยิ้มให้และเดินดุ่ยๆ ไปนอนเผละอยู่บนเตียงที่นุ่มนิ่มของพี่โรล มีความสุขจัง กลิ่นพี่โรลเต็มไปหมดเลย หึหึ

          ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองดูผมอยู่ด้วยท่าทางแปลกๆ พี่เป็นอะไรแน่เนี้ย ชิ

          " พี่ปิดไฟให้นะ ห่มผ้าด้วย " หนอยยย หงุดหงิดชะมัด ผมมุดหน้าลงกับหมอน

          " ไปเล้ย " ผมหงุดหงิดที่พี่โรลไม่ยอมเข้าใกล้ผมครับ ไหนบอกว่าชอบไง ชิ

          เวลาผ่านไปสักพัก ผมเงยหน้าขึ้นจากหมอนก็พบว่าพี่โรลนั้นไปแล้วครับ อ้ากกกก จุ๊ฟฝันดีอ่ะ ไม่มีเหรอ ไอ้คนป๊อดเอ้ย

          ผมลงจากเตียงหน้าบึ้ง พลางลากหมอนข้างลายตัวเองค่อยๆ ขึ้นบันไดวนไปยังชั้นด้านบน ผมหงุดหงิดสงสัย ในความแปลกของพี่โรล มีอะไรก็พูดสิ อย่ามาทำให้คิดมากนะ

          ผมมองดูชั้นลอยด้านบนที่ตกแต่งแบบอาร์ตๆ มีภาพเขียนวางไว้ตามมุม และมีแสงไฟสีส้มดวงเล็กๆ ส่องอยู่เป็นจุดๆ มันแปลกแล้วก็สวยดีแฮะ ห้องเล็กๆ ด้านบนนั้นเป็นห้องกระจกที่มีโซฟาตัวกลมๆ ตั้งอยู่ เป็นโซฟากึ่งเตียงนอนที่ค่อนข้างกว้างและดูน่านอน ผนังรอบด้านก็มีหนังสือและภาพวาดมากมาย

          ผมแอบย่องช้าๆ มองดูคนที่กำลังนอนอยู่บนโซฟานั้นนอนห่มผ้า แต่ยังคงเปิดไฟเอาไว้ด้านบน เป็นแสงส้มนวลๆ ที่ไม่สว่างมาก

          ผมคิดว่าอยากจะเล่นจ๊ะเอ๋ซะหน่อย ลองโผล่พรวดเข้าไปเลยดีกว่า ผมตั้งหลักและนับในใจ หนึ่ง สอง สาม

          แต่เมื่อผมดันประตูเข้าไปก็ต้องชะงัก รีบหันหน้ากลับและปิดตาอย่างรวดเร็ว

          " ไอ้บ้า ไอ้ทะลึ่ง " ผมแหกปากโวยวายทันทีที่เห็น เพราะใต้ผ้าห่มพี่โรลนั้น มันขยับแปลกๆ เหมือนกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่อ่ะ

          " เดี๋ยวๆๆ ลี่ ไม่ใช่แล้ว " พี่โรลรีบเบรคผม ก่อนผมจะวิ่งหนีไป

          " หันมานี่ " ผมที่ปิดตาอยู่ก็ค่อยๆ หันไปหาไอ้คนบ้ากามช้าๆ พี่โรลหัวเราะขำและเปิดผ้าห่มออก เผยให้เห็นกีต้าร์โปร่งบนตัวพี่แกครับ

          อ๊าวว แล้วใครใช้ให้เล่นใต้ผ้าห่มฟะ ท่ามันส่ออ่ะ ฮ่าๆๆ

          " ใครกันแน่ที่ทะลึ่ง " พี่โรลยิ้มกวนและยักคิ้วให้ผม

          ผมส่งหน้าบูดกลับไป ชิ ทำเป็นยิ้ม

          " มีอะไรหรือเปล่า นอนไม่สบายเหรอ " พี่โรลพูดพลางเกากีต้าร์ในมือไปด้วย

          " พี่เป็นอะไรอ่ะ " พี่โรลทำท่าอึกอักทันทีที่ผมถาม

          " เป็นอะไร พี่ไม่ได้เป็นอะไร "

          " ตั้งแต่หลังอาบน้ำก็ไม่ยอมอยู่ใกล้ผมเลย " ผมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

          " แล้วลี่อยากให้พี่ทำอะไรเหรอ " พี่โรลดูมีประกายในแววตา และวางกีต้าร์ในมือลงข้างๆ

          " เปล่าาาา ผมแค่สงสัย "

          " อยากรู้จริงป่ะ " พี่โรลพูดพลางค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ผมเริ่มคิดแล้วว่าผมไม่น่าขี้สงสัยเลยจริงๆ

          " ค..คือ ผมไม่อยากรู้แล้ว ขอตัวก... " แต่ผมที่ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกรวบตัวเข้าไปกอดจากด้านหลังแบบเต็มๆ พี่โรลกอดผมและทิ้งตัวลงกับเตียงกลมทันที อ้ากกกก ปล่อยนะโว้ยย พาตัวเองมาให้โดนเชือดถึงที่เลยกู

          " ปล่อยยยเลยนะ " ผมดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของพี่โรล ที่กำลังหัวเราะชอบใจอยู่

          " นิ่มจัง " พี่โรลไม่พูดเปล่าแต่กำลังกอดและหอมหลังคอผมเบาๆ ผมรู้สึกหน้าร้อนฉ่า หัวใจเต้นจนเหมือนจะคลั่ง เป็นครั้งแรกที่พวกเรากอดกันในลักษณะนี้ ใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ ผมไม่มั่นใจตัวเองเลย

          " ผมหนักนะ ปล่อยเถอะ " ผมพูดอ้อมแอ้มในลำคออย่างเขินอาย ความรู้สึกที่โดนจมูกโด่งเกลี่ยไปมาที่คอทำให้ผมขนลุกซู่อย่างช่วยไม่ได้

          " พี่ตัวหนักกว่าลี่อีกมั้ง " ผมหดคอไม่กล้าสู้หน้าพี่โรลที่กำลังพูดเบาๆ ข้างๆ หูผม อ้ากกกก เสียงทุ้มๆ และลมหายใจร้อนๆ ผมใจจะละลายแล่ววว งือออ

          " ขอโทษนะ กลัวหรือเปล่า " ผมส่ายหัวช้าๆ ผมไม่ได้กลัว แต่อายมากกว่า

          " น่ารักจังเลยน้า " ผมตอนนี้เลือดมาเลี้ยงบนหน้าจนจะออกจมูกอยู่แล้ว อย่ามาพูดแล้วซุกไซร้แบบนี้นะ ตอนนี้พี่โรลฟัดผมแบบคนหมั่นเขี้ยวสุดๆ งือออ

          " ลี่ไปนอนเถอะ พักผ่อนซะ " แหม พอฟัดจนหนำใจก็ไล่เลยนะ ผมที่ได้ยินแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้น ผมอยากอยู่ตรงนี้ จะได้ไหมนะ และเหมือนพี่โรลจะรู้ว่าผมคิดอะไร พี่โรลเลื่อนแก้มตัวเองมาแนบกับแก้มผมเบาๆ

          " พี่นอนกอดลี่ได้เหรอ " อ้ากกก ไม่ได้มั้ง ขึ้นมาหาถึงนี่เลยนะ

          " เล่นกีต้าร์ให้ฟังหน่อยสิ " ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังยิ้มกว้าง พี่โรลขยับตัวนั่งและผมนั่งอยู่หว่างกลางพี่โรลอีกที พี่โรลหยิบกีต้าร์ขึ้นมาเล่น ทั้งๆ ที่กอดผมไปด้วย

          " ช่ายยเลย~ คือคนนี้เลย~ " โอ้ยยย เลือกเพลงเสี่ยวสุดๆ ฮ่าๆ

          ผมหัวเราะเบาๆ เขินบิดไปมา มันจักจี้จริงๆ ที่มีคนมาร้องเพลงอยู่ข้างหูเบาๆ แถมทุกเพลงนั้น ยังเป็นเพลงรักที่ใครได้ฟังแล้วก็ต้องอายม้วนแน่ๆ

          ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่ผมนั้นไม่สามารถหุบยิ้มลงได้เลย ผมเอนหลังพิงซบพี่โรลพลางหลับตาลง ปล่อยให้เวลาอันแสนสุขนี้ผ่านไปอย่างช้าๆ

          " พี่ชอบผมจริงๆ เหรอครับ " ผมลืมตาขึ้น เอียงคอถามพี่โรลที่ยังคงร้องเพลงเบาๆ อยู่ข้างหูของผม

          และแทนคำตอบนั้น จุมพิตเบาๆ ที่แสนนุ่มนวลก็ประทับลงที่ริมฝีปากของผม มันอ่อนหวาน ลึกซึ้ง



จนผมอยากจะหยุดช่วงเวลานี้ไว้ชั่วนิรันดร์
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 15-11-2017 12:35:08
อร๊ายๆๆๆๆ เขินอีกแล้ว ลี่นี่ไม่ค่อยอ่อยเลยนะ ไปหาถึงที่เนี่ย รักนวลสงวนตัวบ้างดิ  :-[
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-11-2017 13:13:15
บรรยากาศสีชมพู

 :-[ :-[

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-11-2017 20:37:31
อ๊าย เขินแทนลี่ บรรยากาศน่ารัก มุ้งมิ้ง สีชมพูมาก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-11-2017 20:48:59
ดีมากหลาน  สงสัยอะไรถามโลด ถามทุกเรื่องทีสังสัย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 15-11-2017 21:55:40
ตามมาแล้ววว น้องลี่หนูอ้อยมากนะคะ แต่ทำดีมากค่ะ  :hao7:
ชอบตอนพี่โรลอยู่กับหนูลี่จังหมั่นเขี้ยวแทนพี่โรลเลย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 15-11-2017 23:07:25
น้องงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 16-11-2017 02:46:28
ชอบความคาดหวังของลี่อะ555555
พอพี่มันไม่ทำก้ไปหาเค้าถึงที่เลยวุ้ยย
พี่โรลพอได้โอกาสก้รีบตะครุบเลยนะ
หวานขนาดนี้เป็นแฟนกันเถอะะะะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-11-2017 03:48:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-11-2017 08:24:14
น้องลี่ ทำไมหนูอ่อยพี่โรลขนาดนี้
ถ้าอิพี่โรลนางตบะแต่ขึ้นมาจะทำยังไงละหนู~~~
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 17 จุมพิตที่แสนอ่อนโยน ]((15/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 17-11-2017 10:53:43
          Calorie ที่ 18 My Roll My Love


          ผมยังคงหลับตานอนอยู่บนที่นอนที่แสนสบาย และอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น พวกเรานอนหันหน้าเข้าหากัน และกอดกันไว้ตลอดคืน ผมซบหน้าลงกับอกอุ่น พลางฟังเสียงลมหายใจของกันและกัน

          ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ มองใบหน้าของคนที่กอดผมไว้ทั้งคืน ที่กำลัง เอ่อ เดี๋ยวๆๆๆ ผมสะดุ้งตกใจน้อยๆ เพราะว่าเมื่อผมลืมตาขึ้นก็พบว่า พี่โรลนั้นลืมตาอยู่ก่อนแล้ว และสภาพแบบนี้มัน

          " นี่พี่ไม่ได้นอนสักงีบเลยใช่ไหม " ผมลุกขึ้นถาม

          " นอนนะนอน จริงจริ๊ง " ผมถอนหายใจมองหน้าหมีแพนด้าที่แหลเสียงสูง

          คนคนนี้นี่เหลือเกินจริงๆ คงไม่ยอมนอนและจ้องมองผมทั้งคืนเลยสินะ อ้ากกกก ไอ้บ้า รู้แบบนี้ไม่นอนด้วยก็ดีหรอก น่าสงสาร ฮ่าๆ

          " รู้แบบนี้ผมไม่นอนด้วยดีกว่า " ผมพูดพลางทำท่าจะลุก แต่พี่โรลก็ดึงมือผมไว้

          " พี่ขอโทษ แต่แบบว่า พี่ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ ไป พี่กลัวว่าพี่อาจจะแค่ฝันไป " ผมที่ทำหน้าบูดก็ยิ้มเลยครับ อ้ากกกก เบาหวานจะขึ้นแล้ว

          " ขอโทษทำไมครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ผมแค่เป็นห่วง และอีกอย่าง พี่พูดยาวมากเลย " ผมพูดพลางยิ้มกว้าง แหะๆ ผมชอบอ่ะ ผมภูมิใจเล็กๆ ที่เป็นคนคนเดียวที่พี่โรลพูดยาวๆ ด้วย

          " คืนนี้ก็ขอมองอีกคืนนะ โอ้ยย ตีพี่ทำไมอ่า" ผมที่ฟังแบบนั้นก็ฟาดเข้าให้เลย ผมหมั่นไส้คนที่นอนตาค้างทั้งคืน หนอยย ทำไมไม่ปลุก ผมก็อยากมองพี่มั่งนะ ฮ่าๆ

          " อีกคืนอะไร ผมจะกลับแล้ว " ผมแลบลิ้นพลางลุกขึ้นวิ่งฉิวลงไปข้างล่าง ซึ่งก็แน่นอน พี่โรลลุกพรวดตามมาอย่างไว โถๆ พ่อซอมบี้ ฮ่าๆ ผมยิ้มขำพี่โรลที่เดินหลับตาชนนั่นชนนี่ คงจะง่วงจัดเลยสิท่า

          ผมเดินกลับไปหาพี่โรลและดึงแขนให้เดินตามผมมาที่ห้องนอนด้านล่าง ดันพี่โรลให้นั่งลง จัดหมอนให้ และดันให้พี่เขานอนลงบนเตียง แต่พี่โรลตัวแสบก็ยังงอแงจะดึงผมลงไปนอนกอดอีกแล้ว ฮ่าๆ ผมเลยเอาหมอนข้างสุดโปรดยัดใส่อ้อมแขนพี่โรล ซึ่งพี่แกก็เอาไปกอดอย่างรักใคร่ทันที หนอยยย หึงนะเนี่ย ฮ่าๆ คนบ้าอะไรหึงหมอนข้างลายตัวเอง

          " ฝันดีนะครับ " ผมพูดและจุ๊ฟลงที่หน้าผากของพี่โรลเบาๆ พลางยืนมองหน้าคนที่กำลังหลับตาพริ้ม พอคิดว่านอนหลับสนิทแล้ว ผมก็ทำทางจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่มือของพี่โรลก็ยังเอื้อมมาจับผมเอาไว้

          " อย่าทิ้งพี่ไปนะ " ผมจับมือนั้นไว้และนั่งลงข้างๆ คนที่นอนอยู่

          " ผมไปไหนไม่ได้แล้วครับ " พี่โรลยิ้มตอบรับและนอนหลับไป และเมื่อผมแน่ใจว่าพี่โรลหลับไปแล้วจริงๆ ผมก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ใส่มาเมื่อคืน และกลับมานั่งข้างๆ เตียงอีกครั้ง จ้องมอง เฝ้าดูคนที่นอนหลับไหล แม้ยามนอนพี่โรลนั้นก็ยังคงดูดี หล่อเหลาราวภาพวาด

          ' Trrr '

          ผมมองดูโทรศัพท์พี่โรลที่สั่นน้อยๆ อยู่บนหัวเตียง ผมไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของพี่เขาหรอกครับ เลยทำเป็นไม่สนใจจะดีกว่า

          ถึงใจจะคิดแบบนั้น แต่ก็ยังอดเหลือบมองดูหน้าจอไม่ได้เลยแฮะ ยุ่งจริงๆ นะเรา

          และผมก็ต้องตกใจทันทีที่เห็นหน้าจอมือถือของพี่โรลที่มีข้อความสายที่ไม่ได้รับเป็นร้อยสาย และสายที่โทรมาล่าสุดก็คือ Home หรือ บ้านนั่นเอง

          พี่ครับ พี่กำลังต้องเผชิญปัญหาอะไรอยู่งั้นเหรอ แล้วผมจะสามารถช่วยพี่ได้บ้างไหม​ครับ

          มือถือพี่โรลสั่นอีกหลายครั้งและหยุดลง ผมมองหน้าจอมือถือของพี่โรลชัดๆ อีกครั้ง และก็ต้องหลุดขำออกมา เพราะว่าวอลเปเปอร์หน้าจอนั้นมือถือของพี่โรลนั้น เป็นรูปผมครับ ไอ้พี่บ้า อย่าบอกนะว่ากางเกงในก็สกรีนรูปผมด้วยน่ะ

          ผมที่คิดแบบนั้นก็แอบเหลือบมองจริงๆ ซะได้ อ้ากกกก นอนดีๆ สิฟะ อ่อยใช่ไหม​ นี่กำลังอ่อยสินะ พี่โรลนอนถีบผ้าห่มจนลงไปกองอยู่แทบเท้า ผมเลยต้องดึงผ้าจากปลายเท้าขึ้นมาห่มให้อีกรอบ และพยายามจะไม่มองจุดยุทธศาสตร์นั่นที่ขนาดหลับก็ยังเด่นซะเหลือเกิน อ้ากกก ใจเย็นลี่ ใจเย็นๆ ถึงจะเคยเห็นมาแล้วแต่ก็แว๊บเดียวเท่านั้นแหละ หึหึ

          ' Rrrr Rrrr '

          คราวนี้เป็นเสียงโทรศัพท์ของผมที่ดังขึ้น ผมรีบรับทันทีโดยไม่ได้ดูหน้าจอ เพราะกลัวว่าเสียงโทรศัพท์จะไปรบกวนคนที่นอนคุดคู้อยู่

          " ฮัลโหล "

          " ลี่ อยู่ไหนน่ะ พี่มาหาไม่เจอเลย " ผมตกใจกับเสียงที่ได้ยิน ผมรีบเดินออกจากห้องนอนพี่โรลและยกหูขึ้นมาพูดอีกครั้ง

          " โทรมาทำไมครับ ผมวางนะ "

          " เดี๋ยวลี่ เดี๋ยวก่อน พี่ไม่ได้จะมากวนนะ พี่จะไม่ยุ่งเรื่องลี่กับมันหรอก แต่คุยกันดีๆ เถอะ พี่ขอแค่ลี่ไม่เกลียดพี่ก็พอ " มันที่พี่ว่านั่นคือพี่โรลสินะ พี่จะมาไม้ไหนอีก

          " ตอนนี้ลี่อยู่ไหนเหรอ "

          " อยู่กับพี่โรลครับ ตั้งแต่เมื่อคืน " ผมตั้งใจพูดแบบนั้น เพราะไม่อยากให้พี่นายมายุ่งกับผมอีก

          " เหรอ โอเคง้้นพี่ไม่กวนแล้วนะ พี่ซื้อขนมมาฝาก ยังไงก็กลับมากินนะ "

          หลังจากพูดจบพี่นายก็วางสายไป ผมรู้สึกแย่มาก ผมไม่ได้รักพี่นายอีกแล้วก็จริง แต่ก็ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากได้ยินเสียง ไม่อยากอยู่ใกล้ๆ พี่อีก เพราะยังไง คำว่ารักก็เคยเกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่นายมาก่อน มันทำให้ผมเศร้า ผมอยากลืมไม่ได้หรือไงครับพี่นาย

          ' Rrrr Rrrr '

          เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พี่จะโทรมาทำไมนักหนาครับพี่นาย

          " อย่าโทรมาอีกได้ไหม​ " ผมเริ่มโมโหแล้วนะ จะกวนใจผมไปถึงไหน

          " แหม ได้ผัวแล้วลืมเพื่อนเลยนะมึง เป็นไง เมื่อคืนหนักเลยสิ " เสียงกากๆ แบบนี้ไม่มีใคร โธ่ ไอ้สันขวาน

          " หนักโพ่งง กูยังซิงสัด " ผมละนึกหน้ามันออกเลย ว่าตอนนี้หน้าตามันเป็นยังไงตอนแซวผม ว่าแล้วก็คันทีนชะมัด

          " อ๊าวว อะไรวะ กากสัส อ่อยท่าไหนวะ อดแดกสิมึง ฮ่าๆ "

          " อดเชี่ยไร กูแค่มาดูพี่เขาเฉยๆ "

          " แล้วดูท่าไหนกันมั่งวะ อัดคลิปไว้ด้วย กูอยากดูของแปลก ฮ่าๆ "

          ผมกดวางสายทันที ไอ้หอกหัก เมื่อคืนยังปากดีเป็นห่วงอยู่เลย แต่พอบอกไม่ได้ทำอะไรกันมันเสือกสมน้ำหน้าซะงั้น นี่มึงหวังอะไรกันแน่ฟะ

          ' Rrrr Rrrr '

          เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง โอ้ยยย ชิบหายรำคาญโว้ย

          " เชี่ยไรอีกวะ " ผมกรอกเสียงลงไป กะด่าไอ้เพื่อนเลวเต็มที่เลยครับ

          " อาลี่นี่ด่ามาม๊าทำไม แล้วเมื่อคืนไม่กลับบ้านก็ไม่บอกม๊า นี่ไม่คิดว่าป๊าม๊าจะเป็นห่วงเหรอ แล้วก็ไม่ได้ไปค้างบ้านน้าจันทร์ใช่ไหม​ ม๊าโทรไปน้าจันทร์ก็ไม่รู้เรื่อง " ชิบหายแล้วว ผมลืมไปสนิท นี่สินะ เห็นผู้ชายดีกว่าพ่อแม่ กร๊ากก

          " ขอโทษครับ พอดีมาค้างบ้านรุ่นพี่ " ผมพูดเบาๆ และไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมไม่เคยมีเพื่อนคนอื่นนอกจากไอ้เมี่ยง และหนิง ม๊าจะสงสัยไหม​นะ

          " บ้านรุ่นพี่ รุ่นพี่ไหน ใช่อานายหรือเปล่า แต่วันนี้อานายก็มาหาลื้อนะอาลี่ ทำไมไม่กลับมาด้วยกัน "

          " เอ่อ คือเป็นรุ่นพี่อีกคนที่มหา'ลัยครับ เพิ่งสนิทกัน วันหลังจะพาไปหาม๊านะ "

          " ยังไงก็แล้วแต่ รีบกลับมาช่วยป๊าขายของเลยนะ ม๊าจะออกไปข้างนอก ภายในครึ่งชั่วโมงต้องเห็นตัวนะ ไม่งั้นค่าขนมอด " ม๊าไม่พูดเปล่าแต่ตัดสายไปแล้วครับ อ้ากกก แล้วจะเอาตังไหนซื้อของอร่อยๆ เล่า ม๊าใจร้าย

          ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่อยากทิ้งพี่โรลเลย แต่ที่บ้านก็สำคัญ ผมเลยตัดสินใจเขียนโน๊ตทิ้งไว้ให้พี่โรล และเตรียมตัวกลับ

          ผมเดินเข้ามาในห้องนอน ยืนมองพี่โรลที่นอนกอดหมอนข้างและหลับสนิท ผมก้มลงประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของพี่โรลช้าๆ อย่างอดไม่ได้ มันช่างอบอุ่นและนุ่มนิ่มเหลือเกิน

          " ผมชอบพี่ครับ...ไม่สิ ผมรักพี่ " ผมพูดเบาๆ และยิ้มให้คนที่นอนฝันหวานอยู่ พลางแปะโน๊ตลงบนหน้าผากของคนขี้เซา



          M.R.

                 ตื่นแล้วหาอะไรทานด้วยนะครับ

                                                       M.L.
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 18 My Roll My Love ]((17/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 17-11-2017 11:09:59
อิพี่นายต้องมีแผนอะไรแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 18 My Roll My Love ]((17/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-11-2017 11:51:16
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 18 My Roll My Love ]((17/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 17-11-2017 12:35:35
พี่นายจะทำอะไรอะ
ยังไงก้ไม่ไว้ใจ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 18 My Roll My Love ]((17/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-11-2017 02:09:46
ลี่ปลุกเฮียโรลเด๋วนี้ แล้วพาไปไหว้ป๋ากับม๋าด่วน คนแก่สั่ง  :interest:
ไอพี่นาย ตายยยยยยย  :fcuk:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 18 My Roll My Love ]((17/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: yewlyz ที่ 18-11-2017 02:24:20
ไม่ค่อยจะไว้ใจพี่นายเลยเด้ออออ  :angry2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 18 My Roll My Love ]((17/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 18-11-2017 17:53:21
          Calorie ที่ 19 Deep Kiss With M.L


          ผมนั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้าน และโดนม๊าด่าอีกสักพักม๊าก็ออกไปธุระด้านนอก ทำให้ผมตอนนี้อยู่กับป๊าและอาเฟย ผมมองขนมที่พี่นายซื้อมาฝาก ก็พบว่าส่วนมากจะเป็นผลไม้หรือของที่ไม่อ้วนมากกว่า ชิ ไม่เห็นอยากกินเลย

          แต่ผมก็ยังคงเหลือบมองมันอยู่ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วเนอะ ผมหยิบของกินเข้าปากทันที ของกินไม่ได้ทำอะไรผิดครับ กินๆ ไปเถอะ ฮ่าๆ

          บ้านผมที่เป็นร้านทองนั้นจริงๆ จะยุ่งก็แค่ช่วงสิ้นเดือนเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็มีลูกค้าไม่มากนัก ถึงผมจะอยู่บ้านก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ก็แค่นั่งมองไม่ให้ใครมาแอบฉกทอง หรือคอยวิ่งหนีตอนโจรมาปล้นนั่นแหละ

          แต่ผมที่กินขนมอยู่ก็รู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว ผมลุกขึ้นทันทีและวิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว พลางอ้วกทุกอย่างออกมาจนหมด ผมเหงื่อแตกซึมนั่งพิงผนังห้องน้ำด้วยความอ่อนแรง ผมคงจะแพ้ไอ้ที่กินละมั้ง แต่ผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ไปหาหมอดีไหม​นะ

          " เฮีย เป็นไรอ่ะ เห็นวิ่งเข้ามา " อาเฟยเดินตามมามองผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล

          " ไม่มีอะไร แค่คลื่นไส้ " ผมมีอาการปวดท้องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และก็มาคลื่นไส้วันนี้อีก มันเริ่มจะแปลกๆ ซะแล้ว

          " ท้องเหรอ ไปนอนกับใครมาเมื่อคืน " นี่ถามเพื่อเอาไปจิ้นใช่ไหม​ยัยตัวแสบ

          " กวนๆ เดี๋ยวเตะ " ผมพูดพลางลุกขึ้นและเดินไปหน้าร้านเหมือนเดิม อ้วกไปแล้วเสียดายจัง กินอย่างอื่นก็ได้มั้ง

          แต่เมื่อผมที่เดินมาหน้าร้านก็ต้องตกใจ ชายหนุ่มหัวยุ่งหน้าตาเหมือนพึ่งตื่นนอนมายืนด้อมๆ มองอยู่หน้าร้าน เดินไปเดินมาจนป๊าผมเริ่มหรี่ตามองด้วยความสงสัย อ้ากกก ไอ้พี่โรล นี่รีบลุกขึ้นมาและโบกแท็กซี่เลยใช่ไหม​สภาพถึงเป็นแบบนั้น ส่วนผมก็คงเหมือนเมียที่หนีผัวมาอ่ะ พูดแล้วเขิน ฮ่าๆ

          แล้วพี่จะทำตัวหน้าสงสัยทำไมคร๊าบบ จะมาก็บอก ไม่ก็แต่งตัวดีๆ หน่อยสิพี่ พี่แกยังคงความติสกับการใส่เสื้อนอนและกางเกงนอนขายาว และคีบแตะแดงคู่เดิม แต่ก็นะ ขนาดสภาพแบบนั้นคนแถวนี้ยังมองกันแบบตะลึงเลยทีเดียว คนมันจะหล่อแก้ผ้ายังหล่ออ่ะ หมั่นไส้

          " ไอ้ตี๋ มาทำไร " ผมตัวแข็งทื่อเพราะว่าป๊าผมนั้นสาวเท้าเข้าไปเปิดประตูและชะโงกหน้าไปถามพี่โรลที่กำลังเดินสวนสนามอยู่หน้าบ้านผม

          " ซื้อทองสองถุงครับ " เดี๋ยวๆๆๆๆ พี่ครับ บ้านผมขายทองรูปพรรณครับไม่ใช่ทองม้วน

          " ถ้าจะซื้อทองม้วนก็ไปอีกสองซอยโน้น " ป๊าพูดจบก็ปิดประตูใส่หน้าพี่โรลเลยครับ โอ้ยย ลูกเขยกับพ่อตาดูจะไปกันไม่ได้ซะแล้ว

          พี่โรลที่ถูกปิดประตูใส่ก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดและเปิดประตูตามป๊าเข้ามาข้างใน

          " ใครไม่รู้เนอะเฮีย หล่อชิบหาย ตายกี่สิบชาติเฟยถึงจะได้ผัวแบบนี้ " ผมมองหน้าอาเฟยที่กำลังจ้องพี่โรลตาเยิ้ม เหอะๆ โทดทีนะคนนี้ของเฮีย ฮ่าๆ

          ผมทำท่าจะเดินไปหาพี่โรลที่กำลังเหลือบมองผมและมองทองไปด้วย แม่งทำตัวโครตน่าสงสัยเลยเพ่ เดี๋ยวกดสัญญาณเรียกตำรวจเลยดีไหม​ ผมกลั้นขำจนปวดท้องไปหมด

          " เดี๋ยวนะ หรือลื้อจะมาจีบลูกอั๊ว " ชิบหายแล้ว อยู่ดีๆ ป๊าที่หรี่ตามองพี่โรลก็พูดออกมา พูดอะไรของป๊าห๊า

          แล้วพี่ครับ พี่จะพยักหน้าทำม๊ายยย โอ้ยยย ตายๆ

          " ลูกสาวอั๊วยังเด็กอยู่เลย จีบไม่ได้นะ " ผมถอนหายใจพรืดด ดีนะที่เข้าใจแบบนั้น ผมมองอีพี่โรลที่ส่ายหัวรัวๆอย่างตื่นตกใจ

          " เอ่อ ป๊า นี่รุ่นพี่ของลี่เอง " ผมเดินเข้าไปดึงแขนพี่โรลและยิ้มแห้งๆ ส่งให้ป๊า และอาเฟยได้ช็อคไปแล้ว

          " พี่ชื่ออะไรคะ หนูชื่อเฟยค่ะ ม.3 โสดมากกก อีก 3 ปีก็แต่งงานได้แล้วค่ะ " ผมเบะปากมองน้องสาวที่เสนอตัวทำตาวิ๊งใส่พี่โรล หนอยย ยัยเด็กแก่แดด

          " อ่าวแล้วไม่บอกแต่แรก ป๊าเกือบยิงมันไส้แตกแล้วนะ " ป๊าพูดพลางเช็ดปืนในมืออย่างน่าหวาดเสียว ทำเอาพี่โรลเหงื่อตกไปเลย

          " พี่ทำไมมาสภาพนี่ละครับ " ผมพูดพลางหยิกพี่โรลเบาๆ จนพี่โรลย่นคิ้ว

          " ลี่หนีพี่ไป "

          " ผมไม่ได้หนีนะ โน๊ตก็เขียนไว้ให้ " พี่โรลแอบจับมือผมใต้เคาท์เตอร์ อ้ากกก เสี่ยงตายไปไหม​พี่

          " ไอ้โน๊ต มิสเตอร์ ไอ้ไรนั่นเหรอ " ผมขมวดคิ้ว เดี๋ยวนะ ไอ้มิสเตอร์นี่มันคืออะไรครับเพ่ ผมไม่เคยเขียนแบบนั้นนะ

          ผมตัดสินใจลากพี่โรลขึ้นมาบนห้องนอนจนอาเฟยมองตามผมกับพี่โรลตาโต เมื่อเปิดประตูเข้ามา พี่โรลก็พุ่งพรวดแซงผมเข้าไปล้มกลิ้งอยู่บนเตียงผมอย่างรวดเร็ว และกอดฟัดน้องหมีของผม ใจเย็นครับพี่ อย่าปล้ำตุ๊กตาโผม

          " กลิ่นลี่เต็มไปหมดเลย " ผมหน้าขึ้นสีทันที อ้ากก ไอ้พี่บ้านี่ เวอร์ไปแล้วนะ

          " ห้องน่ารักมากก " ผมยืนบิดไปมาอยู่หน้าประตู เขินโว้ยย เดี๋ยวจับขังไว้ในนี้ซะเลยดีไหม​ หึหึ

          " ชอบสีเขียวเหรอ " ผมพยักหน้าน้อยๆ พลางส่งยิ้มให้

          " ลี่อาจจะไม่รู้ แต่พี่ชอบสีแดงนะ " เหอๆ เค้ารู้กันทั้งบางแล้วเพ่ ฮ่าๆ

          " เขียวแดง สุดยอดด " พี่โรลยังคงกอดน้องหมีของผมและชูมือไปในอากาศ นี่พี่เป็นเด็กหรือไง ผมยิ้มขำ

          " นายก็เคยขึ้นมาบนนี้เหมือนกันสินะ " ผมหุบยิ้มลงและเดินไปนั่งข้างๆ พี่โรล

          " พี่นายมาก็แค่หน้าประตูครับ " ผมมองพี่โรลที่ก้มหน้าฟุบกับตุ๊กตาหมีเหมือนเด็กงอแง

          " จริงเหรอ " พอได้ยินแบบนั้น พี่โรลก็เงยหน้าขึ้นและหันมายิ้มกว้างให้ผม

          " ท.ที่จ.จูบกับพี่ ก็เป็นจูบแรกของผม " ผมหน้าแดงเถือกจนหูตาคอแขนขาแดงไปหมด เรียกได้ว่าแดงทั้งตัว แต่ผมก็แค่อยากจะบอกว่า พี่คือคนแรกที่ผมได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งด้วย ซึ่งมันวิเศษที่สุดไปเลย

          พี่โรลตอนนี้จ้องมองผมและทำตาโตอย่างตื่นตกใจ

          " แล้วจะเมคเลิฟครั้งแรกเมื่อไหร่ดี " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาแทบถลน ดึงหมีออกจากมือพี่โรล และฟาดพี่โรลรัวๆ อ้ากกก ไอ้หื่นน พูดอะไรฟะ เขินชิบหาย

          " โอ้ยๆๆ เบาๆๆ "

          " นี่แน่ะ ทะลึ่งนักใช่ไหม​ " ผมที่หมั่นไส้อีพี่หื่นกามนี่เต็มที่ก็โถมตัวใส่และจักจี้เอวพี่โรลรัวๆ และก็เป็นไปตามคาด พี่โรลดิ้นแด่วๆ หัวเราะปานจะขาดใจ ฮ่าๆ จุดอ่อนๆ เจอจุดอ่อนแล้ว

          กลายเป็นตอนนี้ผมคล่อมพี่โรลอยู่บนเตียงและจักจี๋ ฟัดกันนัวเนีย ฮ่าๆ ขอเอาคืนบ้างเถอะ ไอ้พี่ตัวแสบ

          ' แอ๊ดดดด '

          " เฮีย หนูเอา... " ผมและพี่โรลหยุดชะงักมองอาเฟยที่เปิดประตูเข้ามา อาเฟยตาโตพลางรีบปิดประตูเสียงดัง

          " ปาป๊าาาา อาเฮียปล้ำรุ่นพี่คร่าาาาา " เดี๋ยวๆๆๆ ผมรีบเด้งลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และเปิดประตูไปปิดปากอาเฟยอย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่แล้วว ต้องเป็นเฮียโดนปล้ำสิ ถรุ๊ยย ไม่ใช่เฟ้ยย แค่เล่นกันเอ๊งง

          ผมที่เครียกับอาเฟยเสร็จก็เดินกลับเข้ามาและพบว่าพี่โรลกำลังคุ้ยชั้นกางเกงในของผม อ้ากกกก อยู่นิ่งๆเป็นไหม​แล้วบนห้วนั่นอะไร ไม่ใช่หมวกนะเฟ้ย ผมตอนนี้ถึงกับหอบเลยครับ เหนื่อยชิบหาย ผมฟาดพี่โรลอีกทีด้วยความเหลืออดและลากกลับมานั่งบนเตียงตามเดิม

          " หอมจัง " เดี๋ยวๆๆ เห็นนะมีแอบยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้วย ไอ้พี่บ้านี่โรคจิตเข้าขั้นจริงๆ

          " แล้วตกลง M.R. กับ M.L. ในโน๊ตคืออะไรเหรอ " พี่โรลที่เอากางเกงในผมไปคืนในลิ้นชักก็ถามผมแบบเขินๆ ครับ

          " แล้วพี่คิดว่าอะไรล่ะ " ผมยิ้มถามพี่โรล

          " M.R. นี่มิสเตอร์เปล่า " เดี๋ยวๆๆ นั่นมัน MR. เฟ้ย

          ผมไม่พูดอะไรแต่หยิบสมุดในห้องขึ้นมาและเขียนลงไปแทน ผมใช้มือปิดและไม่ยอมให้พี่โรลเห็นก่อนที่จะยื่นสมุดนั้นให้พี่โรล



          M.R. = My Roll = มายโรล = พี่โรลของผม

          M.L. =  My Love = มายเลิฟ = ที่รักของผม



          ผมชี้ข้อความและอ่านให้ฟังเบาๆ ด้วยความเคอะเขิน

          ผมเงยหน้าจากสมุดและมองหน้าพี่โรล แต่ก็ต้องตกใจ เพราะว่าพี่โรลนั้นไม่ได้ยิ้มอยู่ แต่กลับนิ่งไปซะอย่างนั้น

          " พี่โรล ? " ผมเรียกพี่โรลที่เหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่างไปแล้ว

          และทันทีที่ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ พี่โรลก็ดึงตัวผมเข้ามาประกบริมฝีปากและกอดผมไว้แน่น ผมตาโตตัวแข็งทื่อ แต่ก็ยอมปล่อยให้คนตรงหน้าพรมจูบลงที่ริมฝีปากของผมอย่างอ่อนละมุน และผมก็ต้องตาโตอีกครั้ง เพราะผมที่อ้าปากน้อยๆ  ทำให้พี่โรลมีโอกาสและแทรกลิ้นอันอ่อนนุ่มเข้ามาและหยอกล้อกับลิ้นน้อยๆ ของผมเบาๆ

          แต่ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ ก็รีบผลักพี่โรลออกไปทันที

          " เอ่อ คือรสชาติแปลกๆ ป่ะ "  ผมไม่ค่อยมั่นใจในช่องปากตัวเองเลยอ่ะตอนนี้

          " สงสัยเพราะพี่ไม่ได้แปรงฟัน " ผมตาโตและฟาดอีพี่โรลไปอีกที อ้ากกกก ไอ้พี่ทุเรศ ซกมกที่สุด

          แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ผมหัวเราะขำพี่โรลที่มักจะเป็นแบบนี้เสมอ จริงๆ รสจูบของพวกเรานั้นมันไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลย มันดึงดูด หอมหวาน มันหวานยิ่งกว่าขนมหวานใดๆ ในโลกใบนี้

          และหลังจากนั้น พวกเราก็ไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดที่ทำให้ริมฝีปากของพวกเราแนบชิดกัน ผมกับพี่โรลจูบกันอีกหลายครั้งจน ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง



เหมือนกับว่าโลกใบนี้ มีเพียงแค่พวกเราเพียงสองคนเท่านั้น
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 19 Deep Kiss With M.L. ]((18/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 18-11-2017 21:49:36
เค้าจูบ deep  kiss กันแล้ว  เสร็จแล้วก็เข้าหอได้เลย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 19 Deep Kiss With M.L. ]((18/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 18-11-2017 22:18:41
อาเฟย ไปบอกป๊ามาดูเลย เฮียปล้ำผู้ชาย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 19 Deep Kiss With M.L. ]((18/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-11-2017 23:08:09
สงสัยขนมนายมันใส่ยาอะไรลงไปนะ หรือเอาของใกล้บูดมาให้  :confuse:
แล้วหลานโรลนะ ในกระเป๋ากางเกงมีกกน.หลี่ที่จิกไปกี่ตัว เอาไปมากเด๋วหลี่ไม่มีใส่นะ  :m18:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 19 Deep Kiss With M.L. ]((18/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 19-11-2017 02:40:48
หวานหยดย้อย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 19 Deep Kiss With M.L. ]((18/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 19-11-2017 09:01:07
บุกมาบ้านเลยค่าาา ด้านต่อไปก็คุณพ่อสินะ :hao5:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 19 Deep Kiss With M.L. ]((18/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 19-11-2017 14:28:28
          Calorie ที่ 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ


          หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาหลายวัน พวกเราเจอกันและอยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน เหมือนกับว่าพวกเรานั้นได้เป็นแฟนกันจริงๆ แล้ว มันช่างเหมือนฝันไปเลยนะ ผมไม่เคยคิดว่าคนแบบพี่โรลนั้นจะชอบผม พี่โรลเป็นคนที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็มักจะถอดใจไว้ก่อนแล้ว มันเหมือนกับกำลังเอื้อมมือคว้าเดือนบนท้องฟ้า

          และถ้าใครคนไหนที่ทำให้พี่ไม่ชอบ พี่โรลก็จะไม่ยุ่งด้วยและเย็นชาใส่เท่านั้น ถ้าวันนึงพี่โกรธผม พี่ก็จะเย็นชาใส่ผมหรือเปล่านะ เพียงแค่ผมนึกถึงสายตาที่แสนเย็นชาของพี่โรลที่มองมาที่ผม ผมก็เจ็บเจียนตายแล้ว

          ผมขึ้นห้องและนอนกอดหมอนข้าง พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนอีกแล้ว ผมขี้เกียจจัง แต่พอนึกว่าจะได้เจอพี่โรลนั้น ความขี้เกียจของผมก็พลันหายไป

          ในเช้าวันต่อมา ซึ่งก็เหมือนทุกที ผมลงมากินข้าวเช้าพร้อมกับที่บ้านและไอ้เมี่ยงก็มาหาผมและฟาดข้าวที่บ้านผมไปตามระเบียบ ผมที่ปกติจะกินเก่งมากๆ

          แต่ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ผมกลับ กินอะไรไม่ค่อยลง ผมรู้สึกคลื่นไส้และปวดท้องอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่อยากบอกให้ใครรู้ เพราะผมไม่ชอบให้ใครเป็นห่วง ผมเลยแกล้งกินข้าวปกติ และก็ไปอ้วกออกที่ห้องน้ำเสมอ ผมเริ่มรู้สึกว่ามันหนักขึ้นทุกที และมันทำให้ผมน้ำหนักเริ่มลดลง

          ผมกับไอ้เมี่ยงเดินมามหาลัยเหมือนทุกทีและเมื่อเดินมาถึงคณะก็ต้องยิ้มขำ เพราะว่าตอนนี้มีคนคนนึงนั่งอยู่ใต้คณะผมเหมือนทุกวัน ซึ่งแม่งเด่นซะเหลือเกิน พี่แกจะคงสภาพเซอๆ แต่เท่ห์ปรอทแตก กางเกงนั่นน่ะ ขาดจนขาที่สามจะโผล่ออกมาอยู่แล้วนะพี่

          ผมยืนหลบหลังเสาแอบมองพี่โรลที่กำลังถูกล้อมโดยบรรดาสาวๆ บ้างขอถ่ายรูป บ้างยืนนินทากันโต้งๆ

          " พี่โรล ทานน้ำไหม​คะ หนูซื้อมาฝาก " ผมมองสาวน้อยคนหนึ่งที่ยื่นแก้วน้ำให้พี่โรล

          " ไม่กิน เดี๋ยวแฟนหึง " โอ้ยย พี่คร๊าบบ ใจร้ายชิบหาย ผมสงสารสาวน้อยคนนั้นที่ถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว

          " ลี่ ผัวมึงนี่เหลือเกินจริงๆ ช่วงข้าวใหม่ปลามันสินะ " โอ้ยย ไอ้หอกมึงจะเสียงดังทำม๊ายย

          ว่าแล้วพี่โรลก็หันมาเจอไอ้เมี่ยงและวิ่งเข้าชาร์ตผมทันที อ้ากกก พี่ครับ พี่จะประเจิดประเจ้อไปแล้ว

          " มารอตั้งนานแน่ะ " พี่โรลรีบวิ่งมาแย่งกระเป๋าผมถือ

          " แล้วมารอทำไมละครับ พี่ไปที่คณะพี่เลยก็ได้ ไม่ต้องมารอผมทุกวันหรอก " ผมพูดพลางส่งยิ้มหวานให้

          " อยากเห็นหน้าก่อนเรียน อยากไปรับที่บ้านด้วย " พี่โรลพูดพลางจัดคอเสื้อให้ผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว อ้ากก เขินนะเฟ้ย

          " พี่จะขึ้นแท็กซี่มารับผมเหรอ " ผมถามพลางยิ้มกวน ผมว่ามันลำบากไปนะ บ้านก็อยู่คนละฟาก

          " งั้นจะไปซื้อรถแล้ว " พี่ครับ รถนะครับไม่ใช่อมยิ้ม จะได้อันละสองสามบาท

          " โรล จารย์จะเข้าแล้วนะมึง ทำห่าไรตรงนั้นวะ " ผมมองเพื่อนพี่โรลที่เดินผ่านมาและกำลังเรียกพี่โรลกันใหญ่

          " ไปก่อนเลย " พี่โรลโบกมือไล่เพื่อนไปมา ดูพี่แกทำครับ

          ผมมองไปรอบๆ ผมเริ่มเซ็งๆ กับเสียงซุบซิบนินทาและสายตาเหยียดหยาม แต่อีพี่โรลนั้นก็ยังคงยิ้มแป้นร่าเริงสุดๆ

          " พี่ไปเรียนเถอะ แล้วค่อยเจอกันตอนพักก็ได้ครับ " ผมแย่งกระเป๋ากลับมาและส่งยิ้มให้พี่โรล

          " เอางั้นเหรอ " ผมพยักหน้างึกงัก

          " ไม่ต้องห่วงพี่ ผมดูแลอย่างดี " เหรออ ผมมองไอ้เมี่ยงที่ยืดอกเสนอตัวอย่างภาคภูมิใจ มึงก็ดีแต่แย่งของกินกูแหละไอ้หอก

          " ดูแลแป๊ะมึงสิ มึงต้องไปกับพี่เขา " ผมโบกกบาลมันไปหนึ่งที สงสัยมันจะลืมว่ามันอยู่สถาปัตย์

          " เดี๋ยวดูแลให้ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก " ผมที่ได้ยินเสียงแบบนี้รอบที่ล้านแปดก็เริ่มชินชาซะแล้ว ยังไงก็ต้องเจอสินะ ก็คณะเดียวกัน

          พี่โรลที่กำลังยิ้ม ตอนนี้กลับทำหน้าน่ากลัว และเดินเข้าไปหาพี่นายแบบอกชนอกเลยครับ อย่างกับสงครามไททั่น

          " เสือก " พี่โรลพูดเสียงดังและแววตาแข็งกร้าวสุดๆ

          " หยาบคายจริงๆ นะไอ้คุณหนูไฮโซ " พี่นายกับพี่โรลที่เคยสนิทกันกลมเกลียว ตอนนี้เจอกันทีแทบจะวิ่งเข้าใส่กัน เป็นเพราะผมแท้ๆ

          " มึงพอสักทีได้ไหม​ " พี่โรลยังคงชอบพูดคำนี้กับพี่นาย

          " มึงนั่นแหละ คิดว่ามึงดีกว่ากูเหรอ " ผมมองพี่นายที่พูดอะไรแปลกๆ พลางขมวดคิ้วมุ่น

          " มึงก็แค่หวังฟันลี่ " ผมตาโตมองพี่โรลที่พูดอะไรแบบนั้นออกมา นี่พี่นายคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ ผมเนี่ยนะ

          " กูเคยคิดแบบนั้นก็จริง แต่ไม่ใช่แล้ว กูรักลี่ พวกเราเคยรักกันมาก่อน มึงกลับไปหาคนของมึงเถอะ " ผมใจสั่นน้อยๆ มันเรื่องอะไรกัน

          " คนของกูอะไร กูไม่มีใคร " พี่โรลพูดเสียงแข็งและสั่นสุดๆ

          " เหรอ " ผมมองพี่นายที่ยิ้มให้พี่โรลอย่างกวนประสาท

          สักพักพวกเพื่อนพี่โรลก็พากันเข้ามา และมาดึงเพื่อนของตัวเองไป พี่โรลหันมามองผมด้วยแววตาเป็นกังวล แต่ผมก็ยิ้มเป็นสัญญาณบอกว่าผมไม่เป็นไร พี่โรลเลยยอมเดินออกไปจากคณะ

          ผมมองตามพี่โรลจนสุดสายตา และหันไปมองพี่นายที่กำลังเดินเข้ามาหาผม

          " อย่ามาพูดอะไรกับผม ผมไม่อยากฟัง " ผมปิดหูตัวเองและก้มหน้าลง ผมไม่ต้องการฟังเรื่องโกหกจากพี่

          " เมี่ยงมึงไปเถอะ กูไม่เป็นไร " ไอ้เมี่ยงยังคงจ้องมองพี่นายปานอยากฆ่าให้ตาย แต่ก็ยอมเดินตามพวกพี่โรลไป

          " ป่ะ ไปเรียนเถอะ " ผมมองพี่นายที่ทำหน้ายิ้มๆ ให้ผม

          ผมไม่สนใจและรีบเดินหนีพี่นายที่กำลังเดินตามผมอยู่

          " ลี่ " ผมไม่หยุดเดินและเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

          " ถ้าร้องไห้วันไหนก็มาหาพี่นะ ไม่นานหรอก " ผมหยุดเดินและหันไปมองพี่นายด้วยความไม่เข้าใจ ทำไมผมจะต้องร้องไห้งั้นเหรอ แต่พี่นายก็ไม่พูดอะไรต่อ และเดินมาหาผม ลูบหัวของผมเบาๆ และเดินจากไป

          ผมนั่งเรียนด้วยสมองที่ไม่รับรู้ใดๆ คำพูดของพี่นายนั้นทำให้ผมเป็นกังวล แต่ยังไงผมก็เชื่อใจพี่โรล พี่โรลนั้นแสดงออกเสมอมาว่าชอบผมแค่ไหน คนแบบนั้นไม่มีทางหลอกผมได้หรอก ผมกล่อมตัวเองแบบนั้น

          ช่วงกลางวันผมที่ยังคงเครียดๆ ก็หมกตัวอยู่ในห้องน้ำ และเพราะผมรู้สึกไม่ค่อยสบายด้วย ก็เลยยิ่งไม่อยากเจอใคร ผมไม่อยากคิดมาก

          ผมมองหน้าจอมือถือที่มีทั้งสายของไอ้เมี่ยงและพี่โรลแย่งกันโทรมา แต่ผมก็ไม่ได้รับ เพราะผมนั้นกำลังนั่งกอดชักโครกอยู่ ผมทรมานเหลือเกิน เหมือนร่างกายกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

          ' ปึ้งๆๆ '

          " ลี่ กูรู้นะอยู่ในนั้น เปิดประตู " ผมว่าแล้ว ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ไอ้เพื่อนผมคนนี้มันหาผมเจอตลอด

          " เมี่ยง เอาน้ำให้กูหน่อย " มันหายไปสักพักและกลับมา พลางยื่นน้ำขวดให้ผมใต้ประตู

          " ให้กูเข้าไปหน่อย " ผมยังไม่ยอมเปิดประตู ผมกลัวพี่โรลตามมาด้วย

          " กูมาคนเดียว " ผมเลื่อนตัวขึ้นไปเลื่อนกลอนประตูให้มัน

          " มึงเป็นอะไรเนี่ย " ไอ้เมี่ยงตกใจกับสภาพผมและนั่งลงข้างๆ

          " กูแค่ไม่ค่อยสบาย อย่าบอกพี่โรล เดี๋ยวพี่เขาคิดมาก "

          " วันนี้ไปหาหมอหลังเลิกเรียนกับกู "

          " กูยังไหว จริงๆ " ผมพยักหน้าให้มันที่ทำหน้าเคร่งเครียด

          " ดื้อชิบหาย ตายห่ามากูเหงาพอดี ไม่รู้แหละ ไปตอนนี้เลยดีกว่า "

          " กูหายแล้วจริงๆ มึงไม่ต้องห่วง " ผมพูดและลุกขึ้นยืน พยายามทำตัวเหมือนปกติ ล้างหน้าในอ่างน้ำ และไล่ไอ้เมี่ยงให้กลับไปที่คณะมัน

          ผมเดินไปตามระเบียงเตรียมตัวจะเข้าเรียนคลาสต่อไป แต่ผมที่เดินๆ อยู่นั้น ก็ถูกล็อคตัวจากข้างหลัง และลากเข้าห้องที่ว่างอยู่อย่างรวดเร็ว

          ผมตื่นตกใจและกะจะชกไอ้คนที่ลากผมเข้ามาเต็มที่ แต่พอหันมาก็แทบอยากจะตะกายหน้าหล่อๆ นี่จริงๆ

          " ชอบทำให้ตกใจหมด " ผมง้างมือฟาดอีพี่โรลรัวๆ หนอยย ขวัญเอยไปอยู่ไหนแล้ว

          " ทำไมไม่รับสายพี่ " พี่โรลลากผมมานั่งกอดที่มุมห้อง โดยมีเก้าอี้และโต๊ะบังหลบสายตา

          พี่โรลกอดผมแน่น และฟุบหน้าลงกับหลังของผมและเลื่อนหน้าไปมา งอแงที่ผมไม่รับสาย

          " ผมเข้าห้องน้ำอยู่อ่ะ ขอโทษครับ " ผมเอียงแก้มบอกพี่โรลเบาๆ

          พี่โรลไม่พูดอะไร แต่กำลังก้มลงหอมแก้มและจูบซอกคอผมเบาๆ จนผมหน้าร้อนฉ่าและขนลุกชูชัน

          " พี่ครับ ไม่เอา " ผมดันหน้าพี่โรลออกไป ถ้าปล่อยแล้วเป็นแบบนี้ทุกที อีพี่จอมฉวยโอกาส

          " แล้วพี่นายพูดเรื่องอะไรเหรอครับ " ผมถามพี่โรลที่ย้ายไปฟัดหลังคอผมแล้ว

          " อย่าไปฟังที่มันพูด " พี่โรลเงยหน้าจากหลังคอผมและพูดเสียงเข้ม ผมเอียงคอมองหน้าพี่โรลที่กำลังหน้าบึ้งคิ้วชิดกันอีกแล้ว ผมเลยยื่นมือไปกดตรงกลางระหว่างคิ้วคนงอแงเบาๆ และหัวเราะขำ

          ผมเพ่งมองใบหน้าพี่โรลระยะใกล้ หน้าพี่โรลขาวใสมาก ตัดกับคิ้วเข้มๆ ปากสีแดงธรรมชาติ และตาสีน้ำตาลอ่อน

          " หล่อดีนะ " อุ๊ยยย เผลอหลุดปากไป หึหึ

          " หลงรักพี่อีกแล้วใช่ไหม​ " พี่โรลที่ได้ยินแบบนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าและรีบเสนอหน้า ยื่นหน้าเข้ามาแนบแก้มผมเลยครับ

          " พี่หล่อใจละลายเลยใช่เปล่า " แหม ขอคืนคำได้ไหม​ ไอ้คนหลงตัวเอง ฮ่าๆ แล้วอย่าเอาหน้ามาใกล้มากได้ม๊ายยย หัวใจจะวาย

          ผมขโมยจุ๊ฟแก้มพี่โรลเบาๆ และถามด้วยสีหน้าจริงจัง

          " พี่โรล พี่ไม่มีใครจริงๆ ใช่ไหม​ " ผมพูดและหันพลิกตัวหันหน้าไปกอดพี่โรลไว้ ผมชอบพี่โรลมาก ผมไม่อยากร้องไห้แบบที่พี่นายบอก

          " พี่มีแค่ลี่เท่านั้น " พี่โรลหลับตาลงและกอดผมไว้เช่นกัน

          พวกเรากอดกันเนิ่นนาน ผมไม่อยากออกห่างจากความอบอุ่นนี้ ถ้าหากวันนึงผมต้องสูญเสียอ้อมกอดนี้ไป



ผมก็คงไม่อาจกอดใครได้อีกแล้ว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ ]((19/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-11-2017 16:31:13
 :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ ]((19/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 20-11-2017 01:57:18
ไม่ใช่ขนมจากนาย งั้นก็โรคเครียดลงกระเพาะ หรือเอาหนักๆ เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร แต่คิดว่าไม่น่าใช่ หวังว่าอาการคงไม่หนักนะ เมี่ยงพาไปหาหมอหลังเลิกเรียนเลยนะ  :o
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ ]((19/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 20-11-2017 03:15:43
ลี่ควรไปหาหมอนะะ
อาการหนักขึ้นทุกทีแล้วว
พี่โรลยังไม่รู้หรือว่ายังไงละเนี่ย
เราว่าอาจจะโดนที่บ้านจับคู่ไว้รึป่าว
แต่เพราพี่โรลหนีมาอยู่คนเดียวเลยยังไม่มีใครบอกงี้
พี่นายก้แบบอยู่ในวงสังคมเดียวกันอะ
ถ้าไปกะพ่อแม่ตามงานบ่อยอาจจะรู้ข่าวก่อน
เดาล้วนๆๆๆ5555 รอค่าา
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ ]((19/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-11-2017 05:22:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 20 อาการป่วยและคำพูดที่ค้างคาใจ ]((19/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 20-11-2017 12:24:02
          Calorie ที่  21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก


          วันนี้เป็นวันอาทิตย์ซึ่งผมกับพี่โรลนั้นตกลงกันไว้ว่าเย็นนี้เราจะไปเดินเล่นและหาอะไรกินกันในเมือง ผมซึ่งมีเสื้อผ้าค่อนข้างน้อย ช่วงบ่ายนี้เลยแอบแวะมาหาซื้อเสื้อผ้าเพื่อแต่งหล่อก่อนไปออกเดทนั่นแหละ และผมไม่อยากชวนไอ้หอกเมี่ยง มันจะแซวผมอ่าสิ

          ผมเดินดูเลือกซื้อเสื้อที่ดูน่ารักๆ เข้ากับผม ขณะที่เดินเลือกผมก็คิดไปพลางๆ เรื่องร่างกายของผม ผมคิดว่าผมนั้นป่วยและรู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่ก่อนที่ผมจะไปนอนคอนโดของพี่โรลแล้ว และอาการก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น

          แต่ผมก็เตรียมตัวที่จะไปหาหมอแล้ว ซึ่งผมคิดว่าจะไปหลังจากวันนี้นี่แหละ น่าจะเป็นพรุ่งนี้ช่วงบ่ายๆ ที่ผมไม่มีเรียน

          แต่ผมที่มัวแต่มองรองเท้าสวยๆ อยู่ก็เผลอไปเหยียบเท้าคนคนนึงเข้า

          " ขอโทษครับ เจ็บหรือเปล่า " ผมหน้าเสียและรีบเข้าไปถามผู้หญิงคนนั้นทันที

          " ไม่เป็นไรค่ะ " แต่ผมที่เดินเข้าไปหาก็ต้องตกใจ ผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นผมก็หยุดชะงักไปและรีบเดินหนีผมไปอย่างรวดเร็ว

          " หนิง " ผมที่เห็นแบบนั้นก็เรียกเอาไว้ หนิงหยุดเดิน แต่ดูลังเลที่จะหันกลับมาหาผม

          " อาลี่ " หนิงก้มหน้าและทำหน้าเศร้า ซึ่งนั่นผมรู้ว่าทำไม แต่ว่านั่นมันก็ผ่านมานานแล้ว และผมก็ไม่เคยต้องการที่จะให้หนิงหนีผมไป

          " สบายดีไหม​ ไม่เจอกันนานเลย " หนิงยังคงไม่ยอมสบตาผม

          " หนิงสบายดี " หนิงพูดอ้อมแอ้มในปาก

          " ไปหาอะไรดื่มกันไหม​ " ผมเดินเข้าไปช้าๆ และจับไหล่หนิงไว้ หนิงนั้นดูโตขึ้นและเป็นสาวสวยเต็มตัว แต่งหน้าและแต่งตัวดูดีจนผู้ชายต้องเหลียวหลัง ผมดีใจจริงๆ ที่ได้เจอกันอีกครั้ง

          " อาลี่ดูสมบูรณ์ขึ้นนะ " หนิงเริ่มคุยและยิ้มให้ผม พวกเรามานั่งอยู่ในร้านกาแฟเล็กๆ ที่บรรยากาศสบายๆ

          " จะล้อว่าอ้วนก็บอกตรงๆ เถอะ " ผมหัวเราะเบาๆ ผมอยากตามไอ้เมี่ยงมาจัง มันคงจะดีใจที่ได้เจอหนิง

          " ถึงจะเป็นแบบนี้แต่ลี่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม " ผมยิ้มน้อยๆ ให้คำชมนั้น

          " หนิงทำตัวตามสบายเถอะ เรื่องพี่นายมันจบไปนานแล้ว ลี่ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่นายอีกแล้ว " หนิงเงยหน้ามองผมและจ้องมองแก้วกาแฟต่อ

          " เรื่องพี่นายหนิงขอโทษจริงๆ พี่นายมาจีบหนิงเองนะ แต่วันปัจฉิมพี่นายก็มาบอกหนิงว่าพี่นายจะไม่ต้องการคุยกับหนิงอีก พี่นายรักลี่นะ พี่เขาเลือกลี่ ไม่ใช่หนิง " ผมส่ายหน้าช้าๆ ผมไม่สนอีกแล้ว ไม่ว่าพี่เขาจะเลือกผมหรือไม่ก็ตาม

          " ลี่ไม่สนเรื่องนั้นอีกแล้ว ให้มันจบไปเถอะ " ผมพูดและส่งยิ้มให้หนิง ผมยังอยากให้เราเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

          " แล้วหนิงเรียนที่ไหนเหรอตอนนี้ "

          " หนิงเรียนพยาบาลน่ะ ตอนนี้ก็ยังเรียนหนักมากๆ ไม่ค่อยจะได้มีเวลาทำอะไรเท่าไหร่ และก็มีงานต้องดูแลผู้ป่วยทุกวันด้วย "

          " ขยันสุดๆ เลยนะ " ผมยิ้มให้หนิง เห็นเพื่อนได้ดีก็ดีใจ

          " ก็ต้องขยันหน่อย เพราะว่าเป็นว่าที่แม่สามีน่ะ " หนิงพูดด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขและเขินน้อยๆ

          " แบบนี้นี่เอง มีแฟนแล้วก็ไม่บอก อกหักเลยนะเนี่ย " ผมพูดแหย่เล่น

          " แหมอาลี่ อย่ามาพูดเลย รู้นะว่ามีหนุ่มอยู่เหมือนกัน หรือว่าเปลี่ยนกลับไปมีสาวอีก " หึหึ หนุ่มสิ หนุ่มหล่อสุดๆ เลยล่ะ

          " ไหนๆ ขอดูว่าที่สามีหนิงหน่อย ว่าจะหล่อกว่าแฟนลี่หรือเปล่า " หนิงทำท่าเขินน้อยๆ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

          " ว้าา แบตหมดซะงั้น อดเลยลี่ ฮ่าๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าพี่เขาหล่อสุดๆ ไปเลย เป็นนายแบบด้วยนะ "

          " ว้าว แบบนี้แฟนลี่คงสู้ไม่ได้แล้วมั้ง " ผมยิ้มขำ แต่ในใจก็ยังคิดว่าพี่โรล  หล่อกว่าอยู่ดีแหละ ผมนี่มันคนอวยแฟนของแท้ ฮ่าๆ

          แต่หนิงที่ยิ้มอยู่ อยู่ดีๆ ก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมา

          " มีอะไรไม่สบายใจบอกได้นะ " ผมยื่นมือไปจับมือหนิงไว้ ผมทำแบบนี้เสมอในสมัยก่อน ไม่ว่าจะกับหนิงหรือไอ้เมี่ยง ทุกคนนั้นสำคัญกับผม

          " ขอบใจนะลี่ " หนิงยิ้มให้ผม พวกเรายิ้มให้กันและกันเหมือนวันวาน

          ผมกับหนิงแลกเบอร์โทรกัน และผมก็กลับมาที่บ้าน อาบน้ำเตรียมตัวเพื่อที่จะไปเที่ยวกับพี่โรล ผมยืนส่องตัวเองหน้ากระจกอยู่หลายนาทีด้วยความไม่มั่นใจ เสื้อผ้าของผมหลวมลงเล็กน้อยเพราะน้ำหนักที่ลดลงนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไร เพราะผมจะพยายามกินให้มันเท่าเดิม

          พี่โรลนัดผมไปที่ห้างแห่งหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ และทำไมถึงไม่มารับผมแบบปกติ ไม่รู้คุณพี่คิดอะไรอยู่กันแน่

          และเมื่อผมมาถึงที่ห้าง ก็พบว่าตอนนี้ที่ห้างนั้นกำลังมีงานแฟชั่นโชว์อยู่ครับ อะไรของพี่แกฟะ ให้มาทำไมที่คนเยอะๆ แบบนี้งงชะมัด ผมที่เดินหัวเสียและเริ่มหงุดหงิด ก็ยืนมองหนุ่มนายแบบที่เดินร่อนกันไปมาบนแคทวอร์ค แหม่ หล่อล่ำน่าแดกทุกคน ไม่เอาลี่ มีแฟนแล้วนะ ฮึบๆ

          แต่แล้วผมก็ถึงกับต้องตะลึงเพราะว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นตาซะเหลือเกิน ผู้ชายคนนั้น กำลังเดินอยู่บนแคทวอร์คด้วยชุดสูทสีแดงดำ ที่ในท่อนบนนั้นมีแต่สูทตัวนอกคลุมไว้หลวมๆ และเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นๆ และซิกแพคอันสวยงามอลังการ สูงขาวและหล่อเกินหน้าเกินตานายแบบอื่นๆ ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีเข้ม ไฮไลท์ที่ทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาสุดๆ อยู่แล้ว ยิ่งหล่อคูณสิบเข้าไปอีก

          ผมใจเต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่ได้ นี่ใช่ไหม​ ที่พี่อุตส่าห์ให้ผมมา เพื่อที่จะอวดความหล่อของตัวเองว่างั้น ผมก็ว่าอยู่ว่าตัวพี่นั้นเอาเงินมาจากที่ไหน ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ก็ถือว่าใช้หน้าตารูปร่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดดีทีเดียว

          ผมยิ้มให้พี่โรลที่เดินโฉบมาหน้าเวทีซึ่งผมนั้นยืนอยู่ ทรงผมของพี่ที่เซตขึ้นและมีปอยสีแดงๆ แซมอยู่นั้นคงถูกใจพี่ไม่ใช่น้อย ไม่ใช่สิต้องบอกว่าทั้งชุดนั่นน่ะ พี่แกคงชอบมาก เพราะแดงเกือบทั้งชุด มันแบบว่าเท่ห์และโครตเอ็กซ์เลยครับ อะไรจะโชว์เนื้อหนังขนาดน้าน

          และไม่อยากจะพูดว่าพี่แกมืออาชีพจริงๆ เพราะตอนที่พี่เขาเดินผ่านผมนั้น สายตาพวกเราก็ประสานกัน ไอ้บ้าเอ้ยหล่อชิบหายแฟนใครวะ ผมคิดในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ฮ่าๆ แต่พี่แกที่เวลาอยู่กับผมจะเหมือนเด็กน้อยนั้นก็ยังคงสีหน้าเข้มๆ แบบเดิม ไม่มีหลุดยิ้มเลยครับ ฮ่าๆ แม่งแน่จริงๆ ว่ะที่รัก

          ไม่นานหลังจากการเดินจบลง พี่แกที่ยังคงใส่ชุดที่เดินนั้นก็ฝ่าฝูงชนเข้ามาลากผมให้เข้าไปยังห้องแต่งตัวด้านหลัง ทำเอาบรรดาหนุ่มๆ นายแบบคนอื่นมองผมด้วยความประหลาดใจ

          " เห็นพี่ไหม​ " พี่โรลเขย่าผมจนหัวสั่นหัวคลอนไปหมด

          " ที่นัดมานี่เพื่อมาอวดแค่นี้ป่ะ " ผมยิ้มทำหน้ากวน

          " แง่ว คือเซอร์ไพรส์ไง พี่ไม่เคยบอกเรื่องนี้ใช่ไหม​ล่ะ " พี่โรลที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้กลมก็จับให้ผมยืนตรงกลางหว่างขาและยื่นมือมาดึงแก้มผมเล่นด้วยความหมั่นเขี้ยว

          โอ้ยให้ตาย ผมที่หน้านิ่งๆ แบบนั้นแต่จริงๆ ในใจมันกรีดร้องมาก พี่โรลในลุคแบบนี้ทำเอาผมไม่กล้ามองนานๆเลยครับ ผมเหมือนตัวจะลอยไปในอวกาศอยู่แล้ว ผมนี่มันโชคดีแท้ๆ เขินอ่ะ อยากกอดจังแต่อายคน ฮ่าๆ

          " แล้วทำไมไม่บอกอ่ะ " ผมยังคงทำหน้านิ่งๆ และแหย่คนขี้อวดเล่น อวดกับแฟนเท่านั้นนะ ฮ่าๆ

          " ไม่ชอบให้ใครมายุ่งไง " ดีแล้วๆ เพราะผมหวงมาก ฮ่าๆ

          " เหรอ งั้นไม่ยุ่งดีกว่า "

          " โอ้ยยย อย่าป๊ายย " พี่โรลลุกพรวดและกระโดดตระครุบตัวผมแบบไม่สนใจสายตาประชาชีหลังเวทีเลยทีเดียว

          " ทำบ้าอะไรเนี่ย อายเขา " ผมตีพี่โรลและหยิกพุง เอ่อ หยิกซิกแพคหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

          " อยากให้มีรอยจ้ำแดงๆ บนตัวจัง " ผมมองพี่โรลที่ทำหน้ายิ้มแบบมีเลศนัย

          " ยังไงอ่ะ " ผมเลิกคิ้วถาม

          " ทำคิสมาร์กตรงนี้ให้หน่อยสิ นะๆ " ผมตาโตมองจุดที่พี่โรลชี้ซึ่งก็คือที่อกตรงใกล้ๆ จุดสีชมพูของพี่แกครับ ทำเอาผมเลือดกำเดาแทบพุ่ง ไอ้บ้า คนเยอะแยะ เอ้ย ไม่ทำหรอกเฟ้ย

          " ไม่อาววว " ผมหน้าแดงและพยายามจะหนีจากเงื้อมมือมารของพี่แก คนบ้าอะไรเหนียวอย่างกับตุ๊กแก

          " นะๆ เดี๋ยวพี่จะทำให้ลี่บ้าง " ไม่อ๊าววว แบบนั้นยิ่งไปใหญ่เลยพี่ โอ้ยย

          ปัญหามันไม่ใช่แบบน้านน ลองทำกันสองคนในห้องดิ มันจะเลยเถิดนะพี่นะ ผมที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดความลามกของตัวเองทุกที แต่พี่ชอบชงให้ผมคิดอ่ะ ฮ่าๆ

          พี่โรลลากผมมาในมุมที่ไม่มีคนเดินผ่านแถมมืดนิดๆ และยืนกอดผมเอาไว้ ผมใจสั่นและรู้สึกแปลกๆ ทั้งเขินทั้งฟินแบบบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

          " เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นไปอีกรอบพร้อมดีไซน์เนอร์ นะๆ ทำให้พี่หน่อยนะ " ผมว่านั่นมันไม่ใช่เหตุผลในการทำเรื่องแบบนั้นเลยนะ ไม่ต้องมาอ้อน อ้ากกก ใครก็ได้ขอทิชชู่ที เลือดจะหมดตัว

          ผมที่กอดเอวพี่โรลอยู่ก็เงยหน้าที่แดงระเรื่อของตัวเองขึ้นจ้องมองพี่โรลที่ส่งยิ้มให้ผม ตัวผมนั้นสูงแค่อกพี่โรลครับ มันช่างเมื่อยคอซะเหลือเกิน

          ผมเลื่อนมือช้าๆ จากด้านหลังมายังด้านหน้าของเสื้อสูทสีแดงของพี่โรล พี่โรลที่ยืนนิ่งก็ลูบเบาๆ ที่แก้มและเกลี่ยไรผมอ่อนๆ ของผมเบาๆ ผมหน้าแดงจัดและรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด ถึงเราจะเคยจูบกันหลายรอบแล้ว แต่เรื่องมาร์กคิสนั้นผมยังไม่เคยเลยสักที

          ผมเลื่อนใบหน้าช้าๆ เข้าไปหาอกแกร่งนั้น ประทับจูบลงเบาๆ ที่ข้างๆ จุดอ่อนไหวของพี่โรล ผมรู้สึกถึงลมหายใจของพี่โรลที่เหมือนกับจะหยุดนิ่งไป ผมกดจูบลงอีกครั้งตรงที่เดิม แต่เพิ่มแรงและใช้ลิ้นช่วยอีกขั้น ผิวพี่โรลนุ่มมาก ความขาวของพี่โรลช่างตัดกับสีแก้มของผมตอนนี่ซะเหลือเกิน เมื่อผมดูดเม้มจนเกิดรอยแดงเล็กๆ แล้ว ก็ผละริมฝีปากออก และเงยหน้ามองพี่โรลที่กำลังหลับตาและกัดฟันแน่น

          " เสร็จแล้วครับ " ผมลูบเบาๆ ที่รอยนั้น ผิวที่ขาวสุดๆ ของพี่โรล ทำให้คิสมาร์กเด่นซะเหลือเกิน

          ผมขมวดคิ้วมองพี่โรลที่ยังคงนิ่งอยู่

          " เอ่อ คือแย่แล้ว " พี่โรลพูดเบาๆ และทำสีหน้าแปลกๆ จนผมยิ่งขมวดคิ้วยิ่งขึ้นไปใหญ่

          " ทำไมเหรอครับ หรือยังไม่ดี " แต่ผมก็ต้องชะงักไป เพราะพี่โรลนั้นตอนนี้กำลังกุมจุดอันตรายของตัวเองอยู่ อ้ากกกก ไอ้บ้า ไอ้หื่นกาม ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ยังจะให้ทำคิสมาร์กอีก ผมตอนนี้เขินจนจะม้วนหน้าอยู่แล้ว

          " ก็ลี่เซ็กซี่อ่ะ พี่ก็ของขึ้นเป็นธรรมดา " ผมฟาดพี่โรลแทนคำตอบ โอ้ยย ไอ้บ้า สภาพผมเนี่ยนะ เซ็กซี่ เซ็กส์เสื่อมสิไม่ว่า

          " แปบนึงเดี๋ยวก็หาย " พี่โรลพูดพลางดอดหอมแก้มผมเบาๆ ไอ้คนฉวยโอกาส แล้วแบบนี้มันจะลงได้ไงถ้ายังแต๊ะอั๋งผมอยู่อ่ะ

          " ทรมานหรือเปล่า ให้ช่วยไหม​ " อ้ากกก นี่กูพูดอะไรออป๊ายยย ปากดีไปงั้นแต่ไม่รู้จะช่วยยังไงหรอกครับ ฮ่าๆ

          " ไม่ได้ พี่คุมตัวเองไม่ไหวหรอก อย่าเสี่ยงเลย " คำตอบของพี่โรลที่จริงจังกับคำพูดเล่นของผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าวเลยทีเดียว หมายความว่าถ้าผมทำ พี่จะจับกดผมตรงนี้เหรอครับ หึยย น่าลอง เอ้ยน่ากลัว ฮ่าๆ

          ไม่นานทุกอย่างก็สงบลงและพี่โรลก็กลับขึ้นไปบนแคทวอร์คอีกครั้งด้วยรอยคิสมาร์กที่เด่นหรา เรียกเสียงฮือฮาสุดๆ จากคนที่มาร่วมงาน

          ' ว๊ายย ตอนแรกยังไม่มีรอยนี่นา '

          ' หล่อ แซ่บ ร้อนแรง '

          ' ใครคือคนทำวะ ตาร้อนเลยกู '

          ผมหัวเราะเบาๆ ผมภูมิใจเล็กๆ กับร่องรอยนั้น แหม่ ใช้ได้นะเนี่ยเรา



ให้มันรู้ซะบ้างว่าของใครเป็นของใคร หึหึ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-11-2017 12:58:37
หนิงหมายถึงพี่โรลสินะ
เป็นคู่เวนคู่กรรมมากแต่ชาตไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-11-2017 13:05:07
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-11-2017 15:08:40
อย่าให้เป็นโรลเลย อย่าให้เพื่อนต้องตีกันอีกรอบเลยนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 20-11-2017 15:21:17
 :hao7: เขินจุง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: หิมะขาว ที่ 20-11-2017 15:54:50
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 20-11-2017 17:08:54
แฟนเป็นนายแบบ!!!!!
ว่าที่สามี!!!!!!!
หมั้นกันแล้ว!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 20-11-2017 18:59:42
เอาแล้วๆๆไรท์ต้มมาม่าแล้วววว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-11-2017 00:49:58
ไม Iนาย รู้อะไรดีจังเลยเกี่ยวกับโรลและหนิง  :confuse:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 21-11-2017 04:48:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-11-2017 13:05:25
          Calorie ที่ 22 ความเจ็บปวดของอาลี่


          หลังจากวันนั้นผมก็ลืมที่จะไปหาหมอ ทั้งๆ ที่ตั้งใจไว้แท้ๆ แต่วันนี้ผมก็ออกมาและตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไป หลังจากที่ดื้ออดทนและบ่ายเบี่ยงมานาน

          ผมเป็นคนที่แข็งแรงเสมอมา ผมเลยไม่เคยคิดว่าตัวเองจะป่วยหนักขนาดนี้สักที และผมค่อนข้างเกลียดโรงพยาบาลนั่นแหละ เลยเฉไฉไม่ยอมรักษาอยู่เรื่อย แต่ตอนนี้นั้นไม่ได้แล้ว เพราะทั้งคนที่บ้าน และพี่โรลนั้นก็เริ่มถามผมแล้วว่าผมทำไมถึงกินน้อยลงและดูไม่ร่าเริง

          ผมออกจากบ้านในตอนบ่าย คิดอยู่ว่าจะเรียกไอ้เมี่ยงไปเป็นเพื่อนดีไหม​แต่ก็คิดว่าคงไม่นาน และพี่โรลก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ พี่เขายุ่งมากๆ ในช่วงนี้ จนเราแทบจะไม่มีเวลาเจอกันเลย ผมสังสัยว่าพี่เขาจะแอบซุ่มเก็บเงินทำอะไรละมั้ง แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าพวกเราก็เจอกันที่มหา'ลัยทุกวัน และโทรคุยกันทุกคืน พี่โรลงอแงอยากให้ผมไปนอนที่คอนโดพี่โรลอยู่เสมอ รู้นะว่าคิดอะไร ไอ้คนหื่นเอ้ย

          เรื่องหนิง หลังจากที่เจอกันวันนั้นผมก็ไม่ได้ติดต่อหรือพบกันอีก เพราะพวกเราต่างคนก็ต่างมีเรื่องที่ต้องทำ แต่ผมก็อยากเจอหนิงอีกสักครั้งและอยากพาไอ้เมี่ยงไปด้วย ผมอยากให้พวกเรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าไอ้เมี่ยงจะยอมไหม​ เพราะเห็นมันเป็นคนขี้เล่นแบบนั้นก็เถอะ แต่มันเป็นคนรักเพื่อนและเกลียดการหักหลังมาก

          ส่วนพี่นายก็ยังคอยวนเวียนอยู่รอบๆ ผม ถึงจะไม่ได้ทำอะไรก็เถอะ แต่แบบนี้ก็ทำให้พี่โรลแทบคลั่งได้อยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่กวนประสาทคนเก่งจริงๆ ผมไม่รู้ว่าพี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่ ทำไมพี่ถึงยังคงมาหาผม พี่กำลังคิดว่าผมจะยอมกลับไปคบกับพี่อย่างนั้นเหรอ บอกไว้เลยว่าไม่มีทาง

          ผมเดินมาเรื่อยๆ คิดและเครียดมากๆ กับน้ำหนักที่ลดลงไปของผม พี่โรลนั้นดูเป็นกังวลที่เห็นผมผอมลง และดูไม่สบายใจ แบบนี้ผมยิ่งไม่กล้าพูดไปใหญ่ว่าผมนั้นป่วยอยู่ผมกลัวว่าพี่โรลจะผิดหวัง เพราะพี่เขาชอบผม ที่ผมตัวกลมๆ มากกว่ายังไงล่ะ

          ผมมองตัวเองในกระจกใสที่เดินผ่าน ผมนั้นยังคงตัวอ้วนอยู่ แต่ก็ลดไปจากเดิมบ้าง ผมต้องรักษาระดับไว้ รีบรักษาและหายสักทีเถิด

          ผมยืนสำรวจร่างกายตัวเองไปมาหน้ากระจกร้านเบเกอรี่ที่ดูน่ากิน มีคู่หนุ่มสาวมากมายนั่งจับคู่หันหน้าเข้าหากัน เป็นร้านที่น่ารักมาก อยากพาพี่โรลมานั่งด้วยจัง พี่โรลคงจะเด่นมากถ้ามานั่งบนเก้าอี้เล็กๆ ของร้านนี้ แบบผู้ชายคนนั้นที่ตัวสูงใหญ่และไม่เหมาะกับเก้าอี้ของร้านซะเลย

          ผมมองชายหนุ่มที่นั่งหันหลัง ชายหนุ่มตัวสูงผมสีน้ำตาลอ่อน ใส่เสื้อผ้าที่ดูเรียบง่าย กำลังนั่งอยู่กับผู้หญิงตาโตสวย ผู้หญิงคนนั้นที่...

          มันเหมือนกับช่วงเวลาได้หมุนวนย้อนไป ผมรู้สึกเหมือนช่วงเวลานี้ได้เคยเกิดขึ้นไปแล้ว ผมยืนอยู่ตรงนั้น ตัวชาและไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน ผมมือสั่นน้อยๆ มองดูคนทั้งคู่ที่กำลังนั่งคุยกัน

          ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่แสดงออกเสมอว่าพี่รักผมมากแค่ไหน แววตา ท่าทาง การกระทำทุกอย่าง พี่ไม่เคยอยู่ใกล้ใคร ไม่ว่าคนไหนพี่ก็ไม่เคยสน แล้วแบบนี้มันคืออะไรล่ะครับ ถ้าถึงขนาดมานั่งด้วยกันขนาดนี้ ก็คงไม่ธรรมดาแล้วใช่ไหม​ ทำไมล่ะครับ พี่กำลังทำอะไรของพี่อยู่กันแน่

          ผมค่อยๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากจากกระเป๋าเป้เล็กๆ ของผม หยาดน้ำตามันทำให้ตาของผมพร่ามัวจนควานหาโทรศัพท์ด้วยความยากลำบาก แต่ในที่สุดผมก็เจอมัน ผมกดเบอร์โทรคนที่ผมรักด้วยมืออันสั่นเทา และมองไปข้างในร้านนั้น

          ' ตื้ดดดดดดด ตื้ดดดดดดด '

          เสียงรอสายที่รอให้เจ้าของมารับนั้นดังขึ้น แต่ก็ไม่เท่ากับเสียงหัวใจของผมที่กำลังสั่นไหวอยู่ภายใน ผมจ้องมองมือถือที่วางอยู่ข้างๆ ผู้ชายคนนั้น และทันที มือถือนั้นก็กำลังสั่น และผู้ชายคนนั้นก็กำลังมองดูมัน แล้วกดรับสาย

          " ว่าไงเอ่ย " ผมได้ยินเสียงจากปลายสายนั้น

          " พี่ครับ พี่อยู่ไหนเหรอ " ผมกัดปากแน่นและกรอกเสียงลงไปให้ดูปกติที่สุด

          " พี่ยุ่งอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวพี่โทรกลับนะ "

          ผมกดตัดสายโทรศัพท์นั้นทันที ตอนนี้ผมเข้าใจในสิ่งที่พี่นายพูดแล้ว พี่ทำไมถึงปิดบังผมละครับ ทำไมถึงไม่บอกผม พวกเรารักกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมกัน ทำไมกับหนิงถึง...

          ผมยืนมองคนทั้งสองคนที่ดูเหมาะสมกันเหลือเกิน ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงจะดีกว่าใช่ไหม​ พี่จะได้ไม่อายเวลาที่เรามานั่งร้านนี้ด้วยกัน ผมรักพี่ ผมรักพี่มาก และผมก็เจ็บมากเหลือเกิน

          ผมเช็ดน้ำตาและค่อยๆ เดินออกมาจากตรงนั้น ด้วยหัวใจที่อ่อนล้าและชินชากับการถูกหักหลัง

          ผมเดินไปเรื่อยๆ ไม่สนใจน้ำตาที่กำลังรินไหล ไม่สนใจผู้คนที่กำลังมองผม นินทาผม ใช่แล้วครับ ดูผมสิ ผมมันเป็นไอ้โง่อีกแล้วครับ พอใจแล้วใช่ไหม​

          และก็เหมือนนรกจะเกลียดชังผมมากขึ้นไปอีก คนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดก็มายืนขวางทางผม ผมผลักพี่นายออกไปด้วยแรงที่น้อยนิด และเดินต่อไป ไม่สนใจพี่นายที่ดึงแขนผมอยู่

          " ลี่ เป็นอะไรไป " ผมเช็ดน้ำตาและเดินก้มหน้าหนีพี่นายที่ยังคงดักทางผมอยู่

          " อย่ามายุ่งกับผม " ผมแกะมือพี่นายออกและเดินหนีต่อไป

          แต่ผมก็ต้องตกใจ เพราะอยู่ดีๆ พี่นายก็ดึงผมให้เดินตามเข้าไปที่ซอยใกล้ๆ ผมขืนตัวและพยายามแกะมือนั้นออก แต่ก็ไม่อาจต่อต้านได้

          " พี่อยู่มาที่นี่ได้ยังไง " ผมถามด้วยความสงสัย

          " แค่บังเอิญผ่านมา " พี่นายยังคงลากผมและกำรอบข้อมือผมเอาไว้แน่น

          ผมเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ผมเหนื่อย ทำไมผมต้องมาเจอพี่อีก แค่นี่ยังไม่พออีกเหรอ จะเอาอะไรกันอีก ผมขืนตัวไว้และนั่งลงกับพื้นไม่ให้พี่นายจูงผมต่อไปได้ ผมนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ร้องไห้สะอึกสะอื้นให้กับความเฮงซวยทั้งหลาย

          พี่นายที่เห็นแบบนั้นก็หยุดเดินและมานั่งข้างๆ ผม หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้ผมเบาๆ ผมปัดมือนั้นออกไป และพยายามจะหนีอีก แต่คราวนี้ผมก็ถูกกอดล็อคไว้ และพามาจนถึงรถยนต์ของพี่นายจนได้

          ผมถูกผลักให้ขึ้นรถ และพี่นายก็ขึ้นมานั่งข้างๆ ผมที่เบาะหลัง ผมไม่อยากเจอใครทั้งนั้น ไม่ว่าใครก็เหมือนกันหมด ผมง้างมือตบตีพี่นายที่นั่งนิ่งๆ ไม่ตอบโต้ผม ผมโกรธ ผมไม่พอใจ ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว พี่มันเลว พี่มันไอ้คนไม่เคยพอ

          " พอใจหรือยัง " ผมหันหน้าหนีพยายามจะเปิดประตูรถออกมาแต่ก็ถูกกอดไว้จากด้านหลัง ผมดิ้นไปมาร้องไห้เสียงดัง

          " ปล่อย!! ได้ยินไหม​ " พี่นายไม่ฟังผมและกอดผมแน่นขึ้นและเริ่มจูบคอผม ผมตกใจพยายามหนีจากอ้อมกอดของพี่นาย และผมกลัวมากเพราะพี่นายไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย

          พี่นายจับตัวผมดึงขาผมให้ตัวเลื่อนนอนลงและก้มลงมาจูบผม หอมแก้มผมที่เต็มไปด้วยน้ำตา ผมดิ้นรนอย่างอ่อนแรง เพราะผมนั้นทั้งป่วยทั้งเหนื่อย จะไปมีแรงขัดขืนผู้ชายที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง

          " ปล่อยผมนะ ผมเกลียดพี่!! " ผมผลักพี่นายและตบฉาดเข้าที่แก้มเสียงดัง ผมมองพี่นายที่นิ่งเงียบไป ผมตบพี่นายแรงมากจนแก้มพี่นายนั้นขึ้นสีแดง

          " ทำไมเหรอลี่ พี่กับมันก็ทำผิดกับลี่เหมือนกัน แต่ทำไมลี่ถึงไม่เคยให้อภัยพี่เลย " พี่นายยังคงหันไปตามแรงตบของผมและน้ำตาไหลลงมาช้าๆ

          ผมที่เห็นแบบนั้นก็เสียใจมาก ผมไม่รู้ว่าพี่นายจะร้องไห้ออกมาแบบนี้

          พี่นายปล่อยผมและนั่งพิงเบาะเหมือนคนหมดแรง ผมเลื่อนตัวไปชิดประตู และนั่งกอดเข่ามองพี่นายที่กำลังร้องไห้

" พี่ต้องทำยังไง ลี่ถึงจะคืนกลับมา " พี่นายพูดพลางหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ผมมีความรู้สึกหลากหลาย ผมทั้งตกใจและเสียใจเหลือเกินที่เห็นพี่กำลังร้องไห้เพราะผม

          " ผมเคยรักพี่มาก พี่เคยเป็นโลกทั้งใบของผม ผมเคยมีความฝันที่จะได้อยู่กับพี่ิ " ผมพูดเบาๆ และน้ำตาไหลออกมาด้วยความเสียใจ

          " พี่อยากย้อนเวลากลับไป พี่เป็นคนทำทุกอย่างพังเองกับมือ ขอโทษนะลี่ แต่พี่ก็รู้ว่าสายไปแล้ว " ผมมองคนที่ผมเคยรัก ไม่ว่าจะนานแค่ไหน แต่ผมก็ยังคงคิดว่า พี่เป็นเหมือนเดิม ดูใจดีและอบอุ่น แต่ก็ไม่พร้อมที่จะรักใครเพียงแค่คนเดียว

          " เป็นพี่ไม่ได้เหรอลี่ " พี่นายมองผมและจับมือผมไว้ ผมไม่ได้ดึงมือออก และมองมือที่สั่นเทานั้น ผมไม่ได้โกรธพี่อีกแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้รักพี่อีกแล้วเช่นกัน

          " ขอโทษนะครับ อย่าร้องไห้เลย แต่พี่ไม่ได้รักผมจริงๆ หรอกครับ " ผมพูดพลางส่งยิ้มน้อยๆ ให้

          " พี่รักลี่สิ พี่ถึงเสียใจ " ผมส่ายหน้าน้อยๆ ให้คำพูดนั้น

          " ถ้าพี่รักผมจริงๆ พี่จะไม่หยุดตามหาผมจนกว่าจะเจอ พวกเราไม่ได้รักกันอีกแล้ว พี่ก็แค่มาเจอผมอีกครั้ง และอยากกลับไปเหมือนก่อน ถ้าพี่ไม่เจอผม พี่ก็คงไม่เป็นแบบนี้ ผมเคยรอพี่ ให้พี่ตามหาผม ผมคิด ว่าถ้าหากพี่เจอผมละก็ ผมก็จะกลับไปรักพี่เหมือนเดิม แต่พี่ก็หยุดมัน อย่าสับสนเลยครับ พี่จะได้เจอคนที่ดีที่เหมาะกับพี่แน่นอนครับ ให้ความรักของเรา จบลงเท่านี้เถอะครับ "

          พี่นายมองผมและร้องไห้ออกมาอีก ผมก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน วันนี้มันช่างเป็นวันที่เจ็บปวดดีจริงๆ

          " พี่ขอกอดลี่เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม​ " ผมเคลื่อนตัวช้าๆ เข้าไปกอดพี่นายไว้ เป็นครั้งแรกที่เรากอดกันแบบนี้ ผมชอบความเป็นสุภาพบุรุษของพี่เสมอมา มันจึงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา

          " แค่กๆ " ผมผละออกจากตัวพี่นานและไอเสียงดัง

          " ลี่ เป็นอะไรหรือเปล่า " ผมถอยหลังไปชิดประตูและยื่นมือกันพี่นายไว้

          " ผมไม่เป็นไร " แต่ผมที่พูดแบบนั้นก็ยังคงไม่หยุดไอ

          ดูเหมือนลิมิตร่างกายของผมมันจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมันหนักหนาเหลือเกิน ผมมองดูมือที่ปิดปากไอ และก็พบว่ามันมีของเหลวสีแดงอยู่บนนั้น



และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 21-11-2017 13:08:16
          Calorie ที่ 23 เบื้องหลังของความเจ็บปวดนั้น


          โรล



          ในวันหนึ่งซึ่งผมกำลังยุ่งกับทั้งการเรียนและการทำงาน จดหมายฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาถึงผม ผมซึ่งไม่เคยรับโทรศัพท์จากที่บ้านก็ต้องแปลกใจมาก ที่คุณแม่พยายามจะติดต่อผมถึงขนาดนี้

          ซึ่งเมื่อผมอ่านใจความในจดหมายนั้น ผมก็รีบกลับไปที่บ้านทันที เพราะคุณแม่กำลังทรุดหนักและอาจจะจากไปได้ทุกเมื่อ

          ถึงผมจะเกลียดการตัดสินใจของคุณแม่มาก แต่ยังไงท่านก็เลี้ยงผมมา ผมคงไม่อาจปล่อยให้ท่านตายโดยที่ไม่ได้กลับไปดูใจ

          แต่เมื่อผมกลับมาถึงบ้านใหญ่ที่ไม่ค่อยได้มาซะนาน ผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าผมถูกหลอก แขกมากมายและผู้หลักผู้ใหญ่ต่างเดินทางมาร่วมยินดีที่ผมนั้นกำลังจะเข้าพิธีหมั้น ห๊ะ หมั้นงั้นเหรอฝันไปเถอะ

          ผมถูกจับแต่งตัวด้วยชุดสูทหรูและบังคับให้ยืนรับแขกร่วมกับผู้หญิงคนนั้น ผมไม่เคยสนใจเธอเลย ไม่ว่าเธอจะสวยแค่ไหนก็ตาม ทำตัวอ่อนแอ เรียกร้องความสนใจ รู้จักประจบคุณแม่ ทำซื่อตาใส ผมเกลียดคนเสแสร้ง มันทำให้ผมอยากจะอ้วก

          ผมไม่ยอมออกไปจากห้องแต่งตัวและอาละวาดกวาดทุกอย่างลงกับพื้น และพยายามจะปีนหน้าต่างหนีออกไป ผมจะไปหาลี่ ปล่อยกูนะโว้ย แต่ผมก็ต้องสงบลงเพราะว่ามีสายมาจากคุณพ่อ และท่านขอร้องให้ผมทำสิ่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

          ผมถึงกับน้ำตาตก คุณพ่อที่ตลอดชีวิตไม่เคยสั่งผมให้ผมทำอะไร ท่านสอนให้ผมใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง แต่คราวนี้ท่านกลับขอร้องผมในสิ่งที่ผมนั้นตายซะดีกว่าที่จะทำ มันอึดอัดทรมาน ผมจะทำยังไง ผมไม่ยอมหรอก และจะบอกลี่ยังไง ถึงลี่อาจจะเข้าใจและยอมรับได้ แล้วยังไงล่ะ การที่แฟนตัวเองไปหมั้นกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มันจะทำให้ลี่มีความสุขได้ยังไง ลี่จะต้องทุกทรมานเสียใจ ไม่ต่างจากผม ถ้าหากเปลี่ยนเป็นลี่ที่ต้องหมั้นกับไอ้นายล่ะ ผมสาบานเลยว่า ผมจะถล่มงานหมั้นนั้นให้เละ แล้วหัวไอ้นายต้องเละกว่า

          เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะยอมไปก่อน แต่เมื่อถึงวันงานหมั้นจริงๆ ผมก็จะทำตามใจตัวเองเหมือนทุกครั้ง ผมจะพังทุกอย่าง ถ้าจะต้องตัดผมออกจากตระกูลก็เอาเลย ผมไม่สน นี่มันชีวิตของผม ผมมันลูกทรพี และผมไม่แคร์

          ผมยืนหน้าบูดเป็นตูดข้างๆ ผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัวอ่อยเหยื่อ คงคิดจะอ่อยผมมั้ง ลี่น่ารักกว่าเยอะ พูดแล้วก็ขึ้นเลย ไม่รู้ที่รักผมเป็นยังไงบ้างแล้ว ป่านนี้งอแงที่ผมไม่ได้โทรหาแน่นอน

          ผมเหลือบมองยัยผู้หญิงที่ดูมีความสุขเหลือเกินที่อยู่ใกล้ๆ ผม ที่ผมเกลียดหล่อนนั้นเพราะว่าแรกเริ่มเดิมทีเธอก็เหมือนจะดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก ผมก็ได้รู้ว่าเธอคอยพยายามพูดกรอกหูคุณแม่ในทุกๆ เรื่อง เป็นคนที่เข้าใจพูดและมัดใจผู้ใหญ่ได้ดี และหล่อนน่าจะชอบผมมาก เธอทำตัวน่าสงสารเพื่อให้คุณแม่เห็นใจเธอและทำให้คุณแม่ยกผมให้หล่อนโดยไม่ถามผมสักคำ ตลกสิ้นดี

          " พี่โรลคะหนิงเอาน้ำมาให้ " ผมมองผู้หญิงที่ทำตาวิ๊งๆ มองผมเหมือนจะเอาใจผม ผมหยิบแก้วน้ำนั้นขึ้นมาส่องดูน้ำในแก้ว

          " มีขนรักแร้ในแก้วด้วยอ่ะ โสจริงๆ " กร๊ากกก จริงๆ มันของผมเองแหละ ผมพูดจบและปล่อยแก้วตกแตกกระจายเต็มพื้น ทำเอาเจ้าหล่อนหน้าเสียไปเลย

          " เดี๋ยวหนิงเอามาให้ใหม่นะคะ " ผมมองคนที่รีบเก็บเศษแก้วพลางทำน้ำหูน้ำตาไหลไปด้วย โถๆ น่าสงสารจริงๆ ถ้าเธอกำลังคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกในนิยายน้ำเน่าแนวตบจูบนั่นก็เลิกคิดไปเลย นี่มันนิยายวายเฟ้ย และคนที่ผมจะจูบก็มีคนเดียวก็คือลี่ของผม พูดแล้วก็คิดถึงเหลือเกิน อยากฟัดคนน่ารักคนนั้น ผมนี่คิดถึงลี่วันละ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว อาการหนักและเป็นมานานและคงไม่มีวันหาย หึหึ

          " คุณโรมันหล่อเหมือนคุณพ่อจริงๆ นะเนี่ย ยินดีกับงานหมั้นด้วยนะครับ " ผมมองแขกผู้ใหญ่ที่พูดจาชวนอ้วกอย่างหมั่นไส้ ยินดีบ้าบออะไรล่ะ วันงานก็มาร่วมเป็นพยานในความหายนะด้วยนะครับ ผมคิดในใจ

          หลังจากจบงานผมก็รีบปีนออกหน้าต่างและคลานออกจากรั้วด้วยเส้นทางลับที่ผมใช้หนีประจำแล้วก็โกยอ้าวกลับคอนโดเลยครับจะอยู่ให้เขาจับทำผัวหรือไง ผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัว ผมต้องเซฟตัวเองไว้ก่อน ผมยังไม่ได้กินตับลี่เลย ใครก็อย่าหวังจะกินตับผม แฮร่

          ผมกลับมาถึงคอนโดด้วยความรู้สึกเซ็งสุดๆ ผมเลยโทรหาลี่ที่รักสุดสวาทขาดใจของผม ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาให้ลี่มากนักเพราะผมวางแผนไว้ว่าผมจะซื้อรถสวยๆ สักคันและข้บพาลี่นั่งรถเล่นขึ้นเหนือล่องใต้ไปกับผม

          และรถที่ผมจะซื้อนั้นค่อนข้างแพงนิดนึงเลยต้องทำงานหนักหน่อย ซึ่งจริงๆ แค่ผมใช้เงินของที่บ้านผมจะซื้อสักสิบคันก็ได้ครับ แต่ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวคุณแม่จะเอามาเป็นข้ออ้างให้ผมทำตามคำสั่งได้อีก



          และผมก็เครียดๆ เรื่องที่ลี่นั้นเหมือนกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ ลี่ผอมลงเรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้วผมไม่ได้อะไรหรอกนะ ลี่จะอ้วนจะผอมยังไงลี่ก็ยังเป็นลี่ ถึงจะเสียดายแก้มยุ้ยๆ และพุงนิ่มๆ นั่นก็เถอะ เฮ้อ ลี่กำลังทำอะไรอยู่นะ หรือลี่กำลังลดน้ำหนัก แล้วจะทำเพื่ออะไรล่ะ ไอ้นายเหรอ ไม่ใช่ๆ แน่ อย่าคิดแบบนั้น ลี่รักผมครับ ผมมั่นใจ แต่มันที่คอยอยู่รอบๆ ตัวลี่นั้นก็ทำผมประสาทกินเหลือเกิน เข้มแข็งและมองแค่พี่นะลี่ ไม่อย่างนั้นพี่คงขาดใจตายแน่ๆ

          ผมวางสายจากลี่ในตอนดึกและก็มีข้อความแปลกๆ เข้ามาหาผม ผมมองข้อความนั้นที่ถูกส่งมาจากเบอร์ที่ผมไม่ได้เมมไว้ แต่ก็รู้ว่าใคร

          ' ถ้าไม่อยากหมั้น ขอให้มาที่  ร้านxxxเบเกอรี่ ถนนxxx 14.00 น. '

          เหอะ ผมมองข้อความแล้วก็ต้องถอนหายใจ เธอจะมาไม้ไหนอีก แล้วถ้าผมไป เธอจะพูดกับคุณแม่ว่าจะไม่หมั้นกับผมใช่ไหม​ ยัยงูพิษ

          ผมมองข้อความและช่างใจ บางทีเธออาจจะเปลี่ยนใจร่วมกันยกเลิกงานหมั้นกับผมก็ได้มั้ง หรือเธอวางแผนอะไรกัน ผมควรจะบอกลี่ดีไหม​ แต่ถ้าบอกลี่ก็คงจะเครียดแน่ๆ โอ้ย ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริงๆ การนอกใจเป็นสิ่งที่ผมไม่มีวันทำ แต่นี่ก็เพื่อพวกเรานะ พี่อาจจะได้เป็นอิสระสักที ผมคิดและเดินวนไปมาอยู่หลายรอบและตัดสินใจที่จะไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้

          รุ่งขึ้นในช่วงบ่ายผมก็ได้ไปตามที่นัด สถานที่มันช่างมุ๊งมิ๊งเกินกว่าที่จะมาคุยธุระ ผมแทบไม่อยากก้าวเท้าเข้าไปเลยจริงๆ ผมกลัวคนจะเข้าใจผิดคิดว่าผมกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนกัน สำหรับผมแค่ความคิดนั้นก็ถือว่าเป็นการนอกใจแฟนแล้วครับ

          " พี่โรลมานั่งสิคะ ยืนทำอะไรอยู่ " ผู้หญิงคนนั้นที่เห็นผมยืนอยู่ก็รีบมาดึงแขนผมให้เดินเข้าไป แต่ผมก็ดึงแขนตัวเองออกจากมือนั้นทันที อย่ามาจับนะเฟ้ย

          ผมมองสีหน้ามีความสุขของผู้หญิงคนนี้แล้วหมั่นไส้แปลกๆ ยืดทำเบ่งเหมือนกับเป็นเจ้าของผมซะงั้น หน้าไม่อายนะเธอ

          ผมนั่งลงบนเก้าอี้ที่เล็กเกินไปสำหรับผมที่ตัวใหญ่ ทำให้อยากออกไปจากที่นี่เหลือเกินมากขึ้นไปอีก

          " มีอะไรรีบพูด " ผมพูดเสียงเข้ม

          " เอ่อ พี่โรลดื่มอะไรดีคะ เดี๋ยวหนิงสั่งให้ " หนอยนี่เธอจะถ่วงเวลาสินะ แม่งอารมณ์เสีย

          " บอกคุณแม่ยกเลิกงานหมั้น " ผมพูดออกแนวสั่ง และเธอก็มานี่เพื่อจะพูดเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ

          ผมสังเกตุเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้หุบลง แต่ก็รีบกลับมายิ้มอีกครั้ง

          " อย่าฝันไปหน่อยเลย " ห๊าาา เดี๋ยวนะ เมื่อกี้หล่อนว่าอะไรนะ เหมือนได้ยินไม่ชัด

          " หนิงไม่สนว่าพี่มีคนอื่นหรืออะไร แต่พี่ต้องแต่งงานกับหนิง คุณแม่พี่ก็จะตายวันตายพรุ่งอยู่แล้ว ทำเพื่อคุณแม่พี่สักครั้งไม่ได้หรือไงคะ " อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา ผมถึงกับร้องเพลงนี้ขึ้นในหัว หนอยย ยัยตัวแสบหลอกชวนผมมาออกเดทหน้าตาเฉย กูไปละ เสียเวลาไปหลีลี่หมด

          " อย่างน้อยก็มีหลานให้แก แล้วพี่จะเลิกจะหย่ากับหนิงก็ได้ " ผมถึงกับตาโตมองผู้หญิงหน้าไม่อายที่อยากจะได้ผมจนตัวสั่น

          " จะให้สมสู่กับเธอเหรอ " คำพูดของผมทำเอายัยผู้หญิงนี่น้ำตาแทบเล็ดเลยครับ

          " ขอคืนคำนะ อย่าฝันไปหน่อยเลย " ผมยิ้มหวานให้ผู้หญิงที่ทำหน้าเหมือนกำลังกรีดร้องในใจพลางจิบกาแฟที่เพิ่งมาเสริฟไปด้วยอย่างสบายอารมณ์

          แต่ผมที่กำลังจิบกาแฟรอสายฟ้าฟาดก็มีสายเข้ามาพอดี และจะเป็นใครไม่ได้นอกจากยาหยี โอ้ยยย เอาแล้วไง ซวยชิบ เอาไงดี ถึงสมองจะสั่งว่าอย่ารับเดี๋ยวมีเสียงผู้หญิงแทรกลงไปแล้วลี่จะพิโรธแต่หัวใจผมมันกลับรีบคว้าหมับและกดรับทันทีเพราะผมนั้นไม่อาจต้านทานที่จะได้ยินเสียงลี่ได้ อ้ากกก คนมันอินเลิฟมันห้ามใจไม่อยู่

          " ว่าไงเอ่ย " ผมพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆ และลั้ลลานิดๆ

          " พี่ครับ พี่อยู่ไหนเหรอ " ผมเริ่มขมวดคิ้วมุ่นเพราะว่าเสียงลี่นั้นฟังดูแปลกๆ

          " พี่ยุ่งอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวพี่โทรกลับนะ " สายถูกตัดไป ผมตัดสินใจว่าจะผมควรรีบออกจากที่นี่และไปหาลี่ด่วนเลยครับ ไม่รู้องค์อะไรลง น่าจะกำลังกริ้วอยู่

          " พี่จะไปไหน " ยัยผู้หญิงนี่พูดขึ้นทันทีที่ผมทำท่าลุกขึ้น

          " ไป หา เมีย " ผมพูดด้วยน้ำเสียงลั้ลลาสุดๆ

          " ไปเถอะ แต่รู้ไว้นะ ว่ายังไงตัวจริงของพี่ก็คือหนิง " ผมถึงกับสำลักกาแฟที่จิบอีกนิดตอนลุกเลยครับ

          " จริง? อย่าพูดให้ขำ นมยังของปลอมเลยมั้ง " ผมพูดพลางกระดกกาแฟอีกอึกและเดินฉิวออกประตูไปก่อนที่เสียงกรี๊ดดด จะดังตามมา ฮ่าๆ



รอก่อนนะลี่ พี่ไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-11-2017 14:18:08
 :a5:

กรรม

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 21-11-2017 15:37:32
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-11-2017 16:12:40
เข้าใจผิดกันไปใหญ่ แต่ลี่จะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 21-11-2017 16:25:02
น้องลี่อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ มาฟังเหตุผลพี่โรลก่อน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 21-11-2017 17:13:16
แล้วโรลจะมาเห็นฉากลี่กอดกับนายพอดีใช่ไหม   :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-11-2017 02:07:48
ชะนีหนิงที่จะทำร้ายลี่ไปถึงไหนฟะ เมี่ยงจัดการทีซิ รำคาญสุด ๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-11-2017 04:53:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 22+23 อัพสองตอน ]((21/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 22-11-2017 10:35:26
          Calorie ที่ 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย


          " อาการแทรกซ้อนมาก คนไข้ไม่ยอมมาพบแพทย์เลย "

          ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่ผมนอนอยู่ที่นี่ ผมลืมตาสู้แสงจ้าในห้องสีขาว นอนอยู่บนเตียงที่มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด นี่ผมเป็นหนักขนาดต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเลยเหรอ

          ผมตอนนี้ทำได้แค่กรอกตาไปมามองป๊าม๊าที่ยืนคุยกับคุณหมอ พี่นายที่ยืนอยู่ข้างเตียง และไอ้เมี่ยงที่อยู่อีกด้าน แล้วพี่โรลล่ะ ผมกวาดสายตาหาพี่โรลแต่ก็ไม่พบ นี่พี่ไม่รู้หรือกำลังยุ่งอยู่กับหนิงกันแน่ ผมน้ำตาไหลออกมาน้อยๆ อย่างเจ็บปวดใจ

          ผมกระดิกมือด้านที่ไอ้เมี่ยงยืนอยู่ ทำให้มันจับมือผมไว้

          " ว่าไง " มันถามผมและมองพี่นายด้วยแววตาไม่ชอบใจ

          ผมพูดไม่ได้ แต่อยากถามมันว่าผมนอนไปนานหรือยัง
         
          " เอางี้ กูจะพูดเรื่องที่กูรู้ " มึงมันรู้ใจกูจริงๆ

          " มึงนอนไปสามวัน โคม่า ระบบภายในปั่นป่วนติดเชื้อ กระเพาะและลำไส้อักเสบ อีกนิดเดียวมึงก็ไปเจอยมบาลแล้ว " มันที่พูดแบบนั้นก็ถูกอาเฟยที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟาดให้อย่างจัง ดีมากน้องเฮีย

          " พี่โรล กูติดต่อไม่ได้ หายไปไม่มาเรียนด้วย " งั้นเหรอ ผมรู้สึกอยากร้องไห้ยิ่งขึ้นไปอีก พี่หายไปไหนกันนะ

          ผมมองหน้าไอ้เมี่ยงที่ดูแปลกๆ เหมือนกับว่ามันรู้อะไรแต่ไม่บอกผมมากกว่า คงเป็นเรื่องพี่โรลสินะ

          หลังจากนั้นอีกสามวันผมก็ถอดสายออกซิเจนออกและทำอะไรเองได้บ้าง ซึ่งคนที่อยู่กับผมก็เหมือนเดิมครับ แต่ป๊าม๊าจะมาหาผมช่วงเช้าๆ เท่านั้นและกลับไปขายของตามเดิม ซึ่งคนที่อยู่กับผมจริงๆ ก็จะมีแต่ไอ้เมี่ยงกับพี่นายเท่านั้น ตอนนี้ผมยังไม่สามารถกินอะไรได้เลยนอกจากทางสายน้ำเกลือ น้ำหนักผมภายในหนึ่งอาทิตย์นั้นตอนนี้หายไปเป็นสิบกิโล ทำให้เรียกได้ว่าผมกลายเป็นเหมือนสมัยก่อนตอนสมัยมัธยมปลายนั่นแหละ ผมเครียดมาก ผมทรมานเหลือเกิน ผมคิดถึงพี่โรล

          พี่โรลทำไมถึงไม่ติดต่อหาผมเลย ผมนอนร้องไห้ทุกคืนเพราะคิดถึงพี่ เพียงแค่ผมนึกถึงพี่กับหนิง ผมก็แทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือดอีกรอบ หรือว่าที่พี่หายไป อาจเป็นเพราะพี่ไม่ได้รักผมแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้น ก็มาหาผมเถอะครับ ผมอยากเจอพี่เหลือเกิน ผมอยากถามพี่ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่



          " ลี่ กูมีข่าวมาบอก " ในถัดไป อยู่ๆ ไอ้เมี่ยงก็เดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมและทำสีหน้าเคร่งเครียด

          " มึงพึ่งจะอยากบอกกูเหรอ มึงไม่ปล่อยให้กูตายไปเลยล่ะ " ผมตัดพ้อด้วยความเสียใจ การที่ผมยังคงผอมลงอีก ไม่ใช่เพราะป่วยร่างกายอีกแล้ว แต่ป่วยใจต่างหาก

          วันนี้พี่นายคงไปเข้าเรียนก็เลยไม่ได้มาหาผม ไอ้เมี่ยงที่ถ้าพี่นายอยู่ละก็ มันก็จะไม่พูดอะไรมาก

          " ไม่ๆ ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก เอ่อ จะว่าไม่ดีก็ไม่ได้ กูก็งงเหมือนกัน " มันพูดจบและยื่นหนังสือพิมให้ผมหนึ่งฉบับ

          ผมยื่นมือรับมาช้าๆ และอ่านพาดหัวข่าวในหน้าของสังคมไฮโซ

          ' บุตรชายกวินพาณิชณ์ อาละวาดงานหมั้นล่ม '

          ผมเงยหน้ามองไอ้เมี่ยงและก้มลงอ่านข่าวเล็กๆ ในหนังสือพิมอีกครั้งอย่างตั้งใจ ผมมองดูภาพที่เอ่อ ค่อนข้างจะใช่พี่โรล ที่พี่แกชูนิ้วกลางให้กล้องทุกภาพ ทุกช็อตอย่างเครียดแค้น ผมรู้สึกโล่งใจ น้ำตาไหลออกมาช้าๆ ผมรู้แล้วว่าพี่ต้องเจอกับอะไร พี่คงเครียดจนคลั่งเหมือนกับผมนั่นแหละ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ พี่ถึงระเบิดออกมากลางงานหมั้นขนาดนี้

          " วันแรกที่มึงล้ม กูติดต่อหาพี่โรลแต่ก็ติดต่อไม่ได้ และมารู้ว่าพี่โรลกำลังจะเข้างานหมั้นเพราะหนังสือพิมลงไว้ กูไม่กล้าบอกมึง กูกลัวมึงยิ่งทรุดลงไป แล้วก็มาเจออีกฉบับนึงวันนี้นี่แหละ แต่งานหมั้นจัดตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว ตอนนี้พี่แกหนีไปรัสเซียตั้งแต่ล่มงาน อีกไม่นานก็กลับมาแหละ "

          " ขอบใจมึงมาก " ผมร้องไห้เบาๆ เหมือนถูกปลดปล่อยจากความกังวลทั้งปวง มันกอดปลอบผมเบาๆ ที่เห็นแบบนั้น

          " กูคิดอยู่แล้ว ว่าคนที่รักมึงจนแทบบ้าแบบนั้นจะนอกใจมึงได้ยังไง มึงน่ะคิดมาก แต่ว่าทำไมต้องเป็นหนิงด้วยวะ " ผมก็คิดแบบนั้น สวรรค์คงแกล้งเรา ไม่คนใดก็คนหนึ่ง

          แต่ผมที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงโรงพยาบาลก็ต้องสะดุ้ง เพราะอยู่ดีๆ ประตูก็เปิดออก ผมหัวใจเต้นแรง พี่ใช่ไหม​ พี่โรลผมคิดถึงพี่

          แต่ผมก็ต้องหัวใจห่อเหี่ยวลงทันที เพราะคนที่เข้ามาไม่ใช่พี่โรล แต่เป็นคู่หมั้นงานล่มของพี่โรลต่างหาก

          หนิงอยู่ในชุดกระโปรงสีขาวถือตระกร้าผลไม้ในมือและสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ ไอ้เมี่ยงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจและเดินออกไปจากห้อง

          " หนิงไปหาลี่ที่บ้านมา ป๊าม๊าบอกว่ากำลังป่วย เป็นอะไรมากไหม​ " ผมมองหน้าหนิงที่ถามผมเหมือนจะเป็นห่วง แต่สีหน้ากับดูสมน้ำหน้าผม

          " ทำไมอาลี่ ทำไมต้องเป็นอาลี่ " ผมไม่พูดอะไร หนิงคงรู้แล้วสินะ ว่าผมกับพี่โรลเป็นอะไรกัน

          " หนิงคืนพี่นายให้ลี่แล้ว ทำไมต้องมาแย่งพี่โรลไปอีก " ผมเงยหน้ามองหนิงด้วยความไม่พอใจ

          " คืนงั้นเหรอ ไม่ใช่ว่าเขาทิ้งหนิงหรอกเหรอ " ผมไม่ยอมหรอกนะถ้าเป็นเรื่องพี่โรล อย่ามาพูดจาเอาแต่ใจ

          " หนิงกับพี่โรลรู้จักกันก่อนลี่นะ หนิงก็มีสิทธิ์ไม่ใช่เหรอ "

          " แล้วเขารักหนิงไหม​ล่ะ " หนิงตาโตขึ้นทันทีที่ผมพูดแบบนั้น

          " อาลี่ หนิงไม่ได้จะมาหาเรื่องนะ หนิงมาขอร้อง " หนิงพูดและร้องไห้ออกมา

          " คืนพี่โรลให้หนิงเถอะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ เห็นแก่คุณแม่ของพี่โรลที่กำลังจะตายด้วย เขาต้องการเห็นงานหมั้นก่อนเขาจะตาย "

          " ขอโทษนะ แต่เราไม่ได้เอาพี่โรลของหนิงไปหรอก แล้วก็อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกเลย ลี่ไม่เหมือนเมื่อก่อนหรอกนะ พี่โรลเป็นของลี่ พี่เขารักลี่ " หนิงนิ่งเงียบไปแล้วจ้องผมเขม็ง

          " เกย์โสโครก " ผมมองหนิงที่กำลังทำหน้าโกรธแค้นผมอยู่

          " นี่หนิงคิดแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อก่อนเลยใช่ไหม​ " ผมเสียใจจริงๆ ที่ผมนั้นหวังดีกับเธอเสมอมาแต่ลึกๆ เธอกลับเกลียดผม

          " พี่โรลไม่เคยชอบผู้ชาย จนแกนั่นแหละที่ล่อลวงพี่โรลไป "

          " ต้องพูดให้ถูกนะว่า พี่โรลไม่เคยชอบใครต่างหาก และก็ไม่เคยเหลียวแลเธอด้วย ใช่ไหม​ล่ะ " ผมพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย คงไม่ต้องทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดีอีกแล้วมั้ง กับคนเสแสร้งแบบนี้

          " แล้วจะได้เห็นดีกันลี่ คอยดู " หนิงพูดและหันตัวกลับทันทีแต่ก็ไปเจอไอ้เมี่ยงที่ยืนกอดอกพิงประตูอยู่

          " กู่ไม่กลับแล้วนะ กลายเป็นคนน่าขยะแขยงแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ " ไอ้เมี่ยงพูดด้วยแววตาน่ากลัว

          " เมี่ยง " หนิงเดินเข้าไปเกาะแขนไอ้เมี่ยง ทำสีหน้าออเซอะ

          " อย่ามายุ่งกับลี่อีก เธอไม่ใช่เพื่อนของเราอีกแล้ว " ไอ้เมี่ยงพูดพลางดึงมือหนิงออกจากตัวเหมือนมันเป็นสิ่งน่ารังเกียจ

          หนิงกัดฟันแน่นและปึงปังออกจากห้องไป

          " กูเคยชอบคนแบบนี้ได้ไงวะ ดีนะที่แม่งไม่เล่นด้วยกับกู ไม่งั้นแม่งนรกแน่ๆ " ไอ้เมี่ยงเดินมาหาผม พลางนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน

          ผมนั้นทั้งโล่งใจและเสียใจ ผมเคยคิดว่าพวกเรานั้นเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาเสมอ และไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะเกลียดที่ผมนั้นเบี่ยงเบนไป ผมได้เสียคนที่ผมเคยแคร์ไปแล้ว แต่ก็ได้คนที่รักกลับคืนมา



ผมยังคงรอพี่อยู่นะครับ พี่โรลของผม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-11-2017 11:25:48
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-11-2017 11:26:12
ตกลงเป็นโรคอะไร ติดเชื้ออะไรทางไหนถึงอาการหนักแบบนี้
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 22-11-2017 12:28:16
พี่โรลคนจริง2017
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-11-2017 15:45:20
เคลียร์ไปนะพี่โรล แต่ว่าพี่แก ล่มงานแบบนั้น มันน่าจะสนุกน่าดู อยากรู้ว่าฝีปากแกเชือดเฉือนขนาดไหน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 22-11-2017 17:03:17
หนิงน่ากลัวมากเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 22-11-2017 17:15:58
พี่โรลรีบกลับมานะ น้องลี่รออยู่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 22-11-2017 20:05:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 22-11-2017 21:52:05
พี่โรลเป็นพระเอกถุดถุยที่อยากให้มีเยอะๆในนิยายวาย ด่ามันไปเลยชะนีเน่าอย่างดีออกหนิงอ่ะ เห็นแก่ตัว ลัทธิพี่โรลมา หมดยุคพระเอกตามนางร้ายไม่ทันแล้ว ต้องด่าไฟแล่บเป็นสี่จีแบบนี้ดิ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 22-11-2017 23:27:00
ลี่เอ่ย หนูกินอย่างไงให้กระเพาะตัวเองทะลุ  :เฮ้อ:
โรลด้วย หนีจากงานหมั้นแทนที่จะมาหาลี่ ดันหนีออกนอกประเทศเสียได้  :m16:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: หิมะขาว ที่ 24-11-2017 07:48:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 24-11-2017 11:13:22
สนุกมากกก มาต่ออีกเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 24 งานหมั้นที่ล่มสลาย ]((22/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 24-11-2017 12:05:36
          Calorie ที่ 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง


          โรล          ​



          ​ผมที่ออกจากร้านสุดมุ๊งมิ๊งนั่น ตั้งใจว่าจะไปหาลี่ทันทีแต่ก็เจอตอเข้าอย่างจัง ไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงนั่นโทรฟ้องคุณแม่หรือว่ายังไง เพราะทันทีที่ผมออกจากร้านไปได้ไม่ไกล ก็มีรถตู้สีดำของบ้านผม มาดักและพาตัวผมขึ้นรถไป

          ​ผมที่เรียนเรื่องการต่อสู้มานั้น ไม่เคยกลัวกับอะไรแบบนี้ แต่คราวนี้กลับต้องยอม เพราะว่าคนที่มานั้นมีแต่พ่อบ้านแก่ๆ และป้าแม่บ้านที่สนิทกับผมตอนที่ผมยังอยู่ที่บ้าน

          ​ทุกคนดูกลัวและมีความกังวลใจ ผมว่าพวกเขาคงจะต้องโดนลงโทษแน่ๆ ถ้าผมไม่ได้กลับไป

          ​ทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ ลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาเดือดร้อนด้วย ได้เสียสิ อยากให้หมั้นก็จะหมั้น แต่อย่าหวังว่างานจะราบรื่นไปได้ด้วยดี

          ​ผมยอมขึ้นรถและตรงกลับบ้าน คุณแม่นั้นยึดโทรศัพท์ผม และขังผมไว้ในห้องอย่างแน่นหนา

          ​ผมพังทุกอย่างที่อยู่ในห้อง ตีอกชกหัวตัวเองอย่างแค้นเคือง ผมคิดถึงลี่ ป่านนี้ลี่จะเป็นยังไงบ้าง ผมไม่สามารถรู้ได้เลย

          ​อีกสองวันถัดมาอยู่ดีๆ ผมก็ต้องตกใจ งานหมั้นถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่าย มีเพียงผู้ใหญ่และสื่อมวลชนเท่านั้นที่เข้าร่วมงาน คงกะจะไม่ให้ผมตั้งตัวและไม่บอกอะไรผมเลยก่อนถึงวันงาน ร้ายมาก แต่คอยดูว่าใครจะร้ายกว่า

          ​ผมแอบขอดูแหวนหมั้นก่อนที่คนเตรียมงานจะนำมันไปวางไว้ มันเป็นแหวนที่ดูหรูหรา อยู่ในกล่องกำมะหยี่อันใหญ่ ดูมีค่าราคาแพง และดูดีเกินไป ไม่เหมาะที่จะอยู่บนนิ้วของผู้หญิงแบบนั้น และถ้าเป็นอย่างนั้น ผมจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมให้กับเธอเอง

          ​เมื่องานเริ่มขึ้น ผมได้มานั่งอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายที่หน้าตาชื่นบานกันเหลือเกิน ผมหน้าบูดใส่กล้อง และชูนิ้วทักทายเป็นระยะ แต่ก็หันมายิ้มหวานให้กับว่าที่เจ้าสาวของผมเสมอ เธอช่างสวยและดี๊ด๊ามีความสุขเหลือเกิน เดี๋ยวเธอจะสุขล้นจนแทบอ้วกเลยล่ะ พี่รับประกัน

          ​" สวมแหวนให้พี่เขาสิ " ผมมองผู้หญิงตรงหน้า ที่ยิ้มหวานหยดย้อย และเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ และหยิบแหวนสวมนิ้วมือผมด้วยท่าทางกระมิดกระเมี้ยน

          ​ผมส่งยิ้มหวานหยดย้อยกลับไปให้เช่นกัน ถึงเวลาแลกกันแล้วนะจ๊ะคนสวย ผมหยิบกล่องแหวนที่ใส่แหวนของฝ่ายหญิงเอาไว้ และจับมือหนิงเบาๆ อย่างรักใคร่(เหรอ)

          ​" ที่ผ่านมาพี่ขอโทษด้วย พี่ทำผิดไปแล้วจริงๆ หนิงนี่แหละที่คู่ควรกับสิ่งนี้ที่สุด " หนิงมองผมด้วยใบหน้าตกใจและปราบปลื้มน้ำตาแทบเล็ด คงจะดีใจจนเนื้อเต้นเลยล่ะ

          ​" ขอบคุณค่ะพี่... " แต่ทันทีที่ผมเปิดกล่องแหวนออก เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นเร็วมาก หนิงที่ช็อคจนตาค้างและกรีดร้องออกมาสุดเสียง แมลงตัวสีดำมีปีกเล็กๆ ที่น่ารักประมาณฝูงนึงได้กำลังเกาะเสื้อผ้าหน้าผมของเธอ มีบางตัวที่เธอเกือบจะกินเข้าไป และมีอีกหลายๆ ตัวที่บินไปเกาะญาติผู้ใหญ่และลามไปถึงช่างภาพ

          ​ผมที่รู้และเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ได้ตั้งหลักวิ่งเร็วจี๋ออกจากตรงนั้นตั้งแต่เริ่มเปิดกล่องแล้ว

          ​ผมหัวเราะจนตัวงอกับภาพที่เห็น และแย่งกล้องจากช่างภาพมากดชัตเตอร์อย่างเมามัน

          ​" เอารูปนี้ลงฉบับพรุ่งนี้เลยนะพี่ ผมไปละ " ผมตบไหล่นักข่าวเบาๆ และวิ่งฉิวลอดรั้วที่เป็นทางลับของผมออกไป

          ​ใจของผมนั้นตั้งใจว่าจะไปหาลี่ และไปหลบที่บ้านลี่ แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ลี่อาจจะเดือดร้อนก็ได้ เพราะผมรู้ ว่าคุณแม่จะเดือดแค่ไหน และถ้าเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ มีทางเดียว ก็คือต้องไปอ้อนคุณพ่อนั่นแหละ ผมควรจะไปหลบสักพักแล้วค่อยกลับมา และเอาคุณพ่อมาเข้าพวกให้ได้ เพื่อต่อต้านการบังคับผมในครั้งนี้ เพราะว่าผมจะไม่มีวันยอม ไม่ว่าด้วยเหตุผมใดก็ตาม

          ​ผมวิ่งฉิวไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะเพื่อโทรหาลี่ เพราะว่าผมนั้นไม่ทันได้หยิบมือถือของผมออกมาด้วย

          ​แต่ผมที่ยืนรอสัญญาณอยู่นั้น ก็พบว่าไม่มีคนรับ และถูกตัดสาย หมายความว่ายังไงกันนะ นี่ลี่โกรธพี่ขนาดไหนแน่เนี่ย

          ​ผมไม่มีทางเลือก ผมไม่สามารถรอได้นานเกินกว่านี้ ผมจึงรีบกลับไปเก็บของที่จำเป็นและหนีขึ้นเครื่องไปรัสเซียภายในเวลาไม่นาน

          ​แต่เป็นเวรกรรมแท้ๆ ผมที่กะว่าเมื่อลงเครื่องแล้วก็จะติดต่อลี่ทันที แต่เมื่อคุณพ่อที่รู้ว่าผมจะมา ก็มารอต้อนรับและลากผมเข้าไปในป่า ผมมึนมากว่าทำไมถึงไม่พาผมไปที่บ้าน คุณพ่อก็บอกผมว่า คุณพ่อมาตั้งแคมป์ล่าสัตว์อยู่เป็นอาทิตย์แล้ว เมื่อผมมาก็ลากผมมาอยู่ในป่าด้วยซะเลย หมดกันลี่ของพี่ รอพี่สักอาทิตย์นะ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับไป

          ​จนเวลาล่วงเลยผ่านมาหนึ่งอาทิตย์พอดี ผมนั้นขอร้องและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คุณพ่อได้ฟัง คุณพ่อก็รับปากว่าจะคุยกับคุณแม่ให้ ถึงจะไม่อยากยุ่งด้วยก็เถอะ ครั้งที่แล้วเรื่องงานเลี้ยงนั่น คุณพ่อบอกว่ารำคาญคุณแม่ ก็เลยบอกให้ผมทนเข้าร่วมไป

          ​ผมบินกลับไทยทันทีด้วยความคิดถึงลี่อย่างสุดหัวใจ ผมกลับไปที่คอนโด และก็พบว่าไม่ได้มีใครมายุ่งกับของๆ ผม ทุกอย่างยังอยู่ดี คุณพ่ออาจจะเจรจาสำเร็จก็ได้ ไม่มีใครดักรอ ไม่มีใครมาซุ่มตีหัวผม

          ​และวันนี้ก็เป็นวันที่ผมต้องไปเรียนครับหลังจากที่โดดมานาน และลี่ก็คงไปเรียนเช่นกัน ผมจะได้เจอลี่แล้ว ดีใจชะมัด

          ​แต่เมื่อผมที่แต่งตัวเรียบร้อยเตรียมไปเรียน กำลังใส่รองเท้าและเตรียมดึงประตูเปิด ผมกลับเจอซองอะไรบางอย่างที่ร่วงอยู่แถวๆ นั้น น่าจะมีคนเอามาสอดที่ใต้ประตูมากกว่า ตอนเข้ามาผมคงไม่ทันได้เห็นมัน

          ​ผมมองดูจดหมายซองเล็กๆ ที่ไม่มีจ่าหน้าซอง ไม่มีอะไรเลยอย่างสงสัย ผมเปิดซองออกช้าๆ เพื่อดูสิ่งที่อยู่ด้านใน

          ​ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผมไม่รู้ว่าตัวผมนั้นยืนอยู่นานเท่าไหร่ แค่เพียงรูปถ่ายใบเล็กๆ ที่อยู่ในมือ ผมกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะถือมันต่อไป ผมปล่อยให้รูปบานนั้นร่วงหล่นไปบนพื้น พร้อมๆ กับหยาดน้ำตาของผมที่มันไหลออกมาเช่นกัน



          ​อาลี่



          ​หลังจากวันที่หนิงมาที่โรงพยาบาลเวลาก็ผ่านไปอีกสักพัก ผมนั้นออกจากโรงพยาบาลแล้วและเกือบจะหายเป็นปกติ แต่ผมก็ยังคงต้องกินยาเป็นกำ ซึ่งมันน่ารำคาญจริงๆ และสิ่งที่ทำให้ผมเศร้าใจมากที่สุดก็คือ พี่โรลนั้นก็ยังคงหายเงียบไป ผมร้องไห้ ผมเจ็บปวดในหัวใจ ผมนั้นไม่ได้มีความสำคัญกับพี่เลยใช่ไหม​ พี่ถึงทิ้งผมไปนานขนาดนี้

          ​ผมที่เตรียมตัวเดินไปที่มหา'ลัยก็ต้องหยุดชะงัก เพราะว่ารถเบนซ์คันสีดำได้มาจอดขวางผมเอาไว้

          ​" ลี่ขึ้นรถสิ พี่ไปส่ง " ผมมองพี่นายที่เปิดกระจกและถอดแว่นดำออก

          ​" ผมไปเองดีกว่า ผมแข็งแรงดีแล้ว " ผมพูดกับพี่นาย

          ​ระหว่างผมกับพี่นายนั้นเครียกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเราก็เป็นเพียงแค่พี่น้องกันเท่านั้น ที่ผมคิด

          ​" อาลี่ ไปกับอานายเถอะ เราพึ่งหาย ม๊าไม่อยากให้เดินไป เมี่ยงก็ไปกับลี่ด้วยนะ ม๊าฝากลี่ด้วย " ผมมองไอ้เมี่ยงที่ไม่พอใจมากๆ แต่ก็เห็นด้วยกับม๊า เพราะไม่อยากให้ผมออกแรงมาก

          ​ตอนนี้ผมผอมลงจนต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด เรียกได้ว่าเหมือนเป็นคนละคน ผมที่กินข้าวได้แล้วแต่ตอนนี้ก็ยังคงกินไม่ได้เหมือนเก่า ผมอยากจะอ้วนเหมือนเดิม สภาพแบบนี้ถ้าพี่โรลมาเห็นจะเป็นยังไง ผมเครียดจัง

          ​ผมลงจากรถ และเดินไปคณะพร้อมๆ กับพี่นาย เพราะว่าไอ้เมี่ยงนั้นแยกตัวไปที่คณะตัวเองแล้ว ผมเดินไปเรื่อยๆ อย่างเหม่อลอย ในหัวใจนั้นเฝ้าแต่คิดถึงคนคนนึง คนใจร้ายที่ไม่รู้อยู่ที่ไหน

          ​" ลี่ จะเดินชนเสาอยู่แล้ว ใจลอยไปไหนเนี่ย " พี่นายจับแขนผมเอาไว้ ก่อนที่ผมจะเดินชนเสาเข้าจริงๆ พี่นายขยี้หัวผมเบาๆ เหมือนเรียกสติ

          ​ผมมองไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่สั่นไหว บุคคลที่ผมเฝ้าคิดถึงมาตลอดนั้น กำลังยืนอยู่ตรงหน้าพวกเราในระยะที่ไม่ไกลมากนัก ผมยิ้มดีใจที่เห็นพี่โรลยืนอยู่ตรงนั้น ด้วยสีหน้าที่...

          ​ผมค่อยๆ หุบยิ้มลงช้าๆ เพราะว่าแววตาของพี่โรลที่มองผมนั้นกลับเป็นแววตาที่มีแต่เพียงความว่างเปล่า  ผมน้ำตาไหลออกมา สายตาที่เย็นชาของพี่นั้น มันทำให้ผมเจ็บยิ่งกว่าสิ่งไหนที่ผมเคยพบเจอมาทั้งชีวิต

          ​" มันไม่ใช่นะครับ พี่กำลังเข้าใจผิด ใช่ไหม​พี่นาย " ผมรีบเดินไปหาพี่โรลและเกาะเสื้อพี่โรลไว้ และหันกลับไปขอคำสนับสนุนยืนยันจากพี่นาย

          ​" ลี่รู้ไหม​ว่าพี่เกลียดอะไรที่สุด " พี่โรลไม่มองหน้าผมเลยสักนิด พี่โรลนั้นมองออกไปยังอากาศที่ว่างเปล่า ทั้งๆ ที่ผมอยู่ยืนอยู่ตรงหน้า

          ​" พี่ไม่เชื่อผมเหรอ พี่คิดว่าผมจะกลับไปเหรอ " ผมเริ่มกำเสื้อพี่โรลแน่น ผมก็เริ่มโกรธเหมือนกันนะ

          ​" รู้ไหม​พี่เชื่อลี่เสมอมา ถึงจะกลัว แต่ก็เชื่อ แต่ลี่ช่วยบอกพี่ทีได้ไหม​ ว่านี่มันคืออะไร " ผมมองดูรูปถ่ายใบเล็กๆ ที่พี่โรลปล่อยมันร่อนลงไปบนพื้น

          ​ผมส่ายหัวไปมาอย่างตกใจ มันใช่ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น ผมเริ่มร้องไห้ออกมาหนักขึ้น และมองไปที่พี่นายที่ยังคงเงียบอยู่ ทำไมกัน ทำไมถึงมีรูปพวกนี้ได้

          ​" มันดูไม่เหมือนมันกอดลี่ แต่เป็นลี่ที่กอดมัน "

          ​" มันไม่ใช่แบบนั้นนะ คือผมแค่เครียเรื่องเก่าๆ กับพี่นาย ใช่ไหม​ครับพี่นาย พี่พูดอะไรสักอย่างสิ!! " ผมเริ่มพูดเสียงดังและตะโกนไปหาพี่นาย แต่พี่นายก็ยังคงเงียบและไม่พูดอะไรเช่นเดิม นี่เป็นแผนของพี่งั้นเหรอ นี่พี่อยากได้ผมมากขนาดนี้เลยเหรอ ผมน้ำตาไหลจนตัวสั่น ผมมันโง่ มันโง่ยังไงก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง

          ​ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับเฮงซวยและสิ้นหวังนี้

          ​" ผอมลงขนาดนี้ เพื่อมันสินะ " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดชะงักไป และเงยหน้ามองพี่โรลด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

          ​' เพี๊ยะ '

          ​ผมตบพี่โรลเข้าเต็มๆ ที่ใบหน้า ความจริงแล้วผมอยากตบตัวเองต่างหาก ผมมันเหี้ยจริงๆ

          ​ผมเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย โลกเบื้องหน้าทุกก้าวการเดินมันช่าง หนักอึ้งและมืดดำ



มันมืดมัวหม่นหมอง ยิ่งกว่าขุมนรกใดๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-11-2017 12:16:36
เทมันให้หมดไปเลย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 24-11-2017 12:24:17
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 24-11-2017 12:47:27
สงสารลี่ และพี่โรล  :o12: ส่วนพี่นายนะหรือ  :beat:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 24-11-2017 12:53:45
ลี่คะ เทค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 24-11-2017 17:23:33
ม่ายยยย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 24-11-2017 19:44:40
ทำไมอ่อนไหวกันขนาดนั้นนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: หิมะขาว ที่ 24-11-2017 20:06:39
งื้อออ :hao5:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 24-11-2017 20:49:20
ซื้อหวยได้ถูก  :katai3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 24-11-2017 23:54:30
เทให้หมด
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 25-11-2017 00:53:12
เลิกมันทั้งคู่เลยหลานลี่ อยู่กับเมื่ยง 2 คนก็ได้เนอะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 25 ความเจ็บปวดของทั้งสอง ]((24/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 25-11-2017 10:46:04
          Calorie ที่ 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน


          ผมเดินช้าๆ ไปยังตึกคณะของผม ผมเช็ดน้ำตาที่มันดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดไหลได้ ผมอ่อนล้าเหลือเกิน แค่หายใจก็ยังเจ็บปวด

          " เป็นอะไรหรือเปล่าครับ " ผมมองผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยื่นให้จากผู้ชายคนหนึ่ง ผมจำมันได้ทันทีว่าใคร มันเป็นคนที่ชอบมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามเวลาเข้าเรียน และไม่เคยสนใจที่จะคุยกับผมมาก่อน

          " อย่ายุ่ง " ผมปัดมือผู้หวังดีประสงค์ร้ายออกไป มันจำผมไม่ได้หรือยังไงผมไม่เข้าใจ

          " ลี่ๆๆๆ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งหน้าตาตื่นมาแต่ไกล และเหลือบมองไอ้คนที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าเมื่อกี้ ซึ่งตอนนี้มันช็อคตาค้างไปเรียบร้อยแล้ว

          " มึงเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม แล้วก็มึงรู้ไหมว่าพี่โรลเป็นอะไร " ผมดันมันออกและเดินต่อไป ไม่สนใจสิ่งที่มันพูด

          " มึงไปดูพี่โรลหน่อย " มันดึงแขนผมแต่ผมก็ยื้อตัวไว้

          " กูไม่ไป ปล่อยมันบ้าไปเลย มันจะไปฆ่าใครต่อยใครก็ตามสบาย กูปล่อยแล้ว กูโสด " ผมพูดด้วยความโมโห และไม่ได้สังเกตุเห็นอาการหูผึ่งของหนุ่มๆ โดยรอบ

          " ต่อยใครที่ไหนล่ะ พี่แกนอนร้องไห้อยู่กลางโรงอาหารโน้น เพ้อถึงขนาดนั่งคุยกับหมาอ่ะ " ผมขมวดคิ้วมองไอ้เมี่ยง ไอ้พี่บ้านั่น ผิดคาดแฮะ นึกว่าจะอันตพาลไล่ทำร้ายผู้คนซะอีก

          ผมที่สงสัยก็เลยค่อยๆ เดินไปที่โรงอาหารช้าๆ แหวกฝูงชนที่กำลังมุงดูอะไรสักอย่าง และภาพที่ผมเห็น ก็ทำเอาผมที่เศร้าๆ แทบจะหลุดขำออกมาเลยทีเดียว

          " ลี่ตบโผม ดูรอยนี่ เห็นไหม​ 5 นิ้วเนี่ย แรงมาก เจ็บไปถึงขั้วหัวใจ ผมอุตส่าห์ห่วงหวงมานาน แต่ไปกอดคนอื่นซะงั้น แล้วจะให้ผมทำยังไง ยุงมากัดลี่ผมยังแค้นยุงเลย แล้วนี่ผู้ชายมีเจี๊ยวตัวเป็นๆ ผมทำใจไม่ด๊าย " ผมแอบเดินเลาะๆ ไปมองพี่โรลที่กำลังเอ่อ ปลดทุกข์กับน้องหมาตัวอ้วนแถวโรงอาหาร ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองพี่แกด้วยสายตาสงสารปนเวทนา พี่ครับ แค่โดนตบนี่พี่สติหลุดไปถึงดาวไหนเนี่ย

          แล้วไอ้อาการจองหองปากร้ายเมื่อกี้มันหายไปไหน ไม่รู้แหละโกรธมาก ไม่ฟังแถมไม่เชื่อ แต่ผมนั้นก็อาจจะผิดด้วยนั่นแหละ เพราะผมนั้นกอดพี่นายจริงๆ ผมไม่ควรปล่อยตัว ไม่ควรยุ่งกับผู้ชายคนอื่น ในเมื่อผมมีพี่โรลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกรณีใดๆ

          สักพักเพื่อนๆ พี่โรลนั้นก็มาลากพี่แกไปจากน้องหมา ซึ่งพี่โรลก็ยังคงอาลัยอาวรและกอดน้องหมาไว้แน่น จนน้องหมาถูกลากไปด้วย เหอะๆ ไอ้บ้า ไม่ใจอ่อนหรอก เชอะ

          บ่ายวันนั้น ผมนั่งเรียนด้วยความเหม่อลอย ไม่มีสมาธิ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ผมยังคงคิดถึงสายตาที่แสนเย็นชาของพี่โรล ผมคิดถึงพี่โรล

          " อาลี่ ไหวไหม​เนี่ย " แพรโบกมือไปมาอยู่ตรงหน้าผมที่ยังคงตาลอยไปไกล

          " นี่ๆ อาลี่เป็นแฟนพี่โรลจริงๆ เหรอ เห็นเขาลือกันว่าพี่โรลกำลังเฮิร์ทจัด "

          " ไม่รู้สิ เลิกกันแล้วละมั้ง " ผมที่พูดแบบนั้นออกมาแต่หัวใจกลับเจ็บปวดเหลือเกิน

          " ก็ว่าอยู่ว่าทำไมพี่เขาถึงมาที่คณะเราตลอด อิจฉาอ่าลี่จัง อย่าเลิกเลย พี่เขาชอบลี่มาตั้งนานแล้วใช่ไหม​ล่ะ ตอนแรกก็นึกว่าชอบแพรซะอีก โด่ว ที่ไหนได้มองลี่ที่อยู่ข้างๆ แพรต่างหาก  "

          " แพรไม่เกลียดเหรอ ลี่เป็นเกย์นะ " ผมคงไม่สามารถกลับไปชอบผู้หญิงได้อีกแล้วล่ะ เห็นหนิงที่เป็นแบบนั้นแล้วผมกลัวผู้หญิงขึ้นมาจับใจ

          " บ้าเหรอออ นี่มันขุมสมบัติชัดๆ " ผมขมวดคิ้วมองแพรที่กำลังส่งสายตาตื่นเต้นสุดๆ มาให้ผม

          ' เด็กใหม่ที่ไหนวะ '

          ' บ้า นั่นมันไอ้ตี๋อ้วนที่ชื่อลี่ไง '

          ' พ่องมึงเถอะ ผอมแล้วน่ารักเหี้ยๆ '

          ' น่ารักชิบหาย มองเพลินเลยกู '

          ผมที่ดึงสติกลับมาก็พบว่า ตัวผมนั้นกำลังโดนนินทาอยู่ตลอดไม่ขาดสาย แต่ก็นะ ผมไม่สนหรอก

          " แล้วอาลี่หายดีแล้วเหรอ ขอโทษนะที่แพรไม่ได้ไปเยี่ยมเลย แพรก็ว่าอยู่ว่าลี่หายไปไหน ดีนะที่เจอเมี่ยงที่คณะ เขาเลยบอกมา "

          " เกือบปกติแล้วล่ะ "

          " อย่ากลับไปอ้วนอีกนะ ดูแลตัวเองด้วย ตอนลี่อ้วนแพรก็คิดว่าลี่น่ารักนะ แต่พอผอมแพรนี่แทบอยากจะถวายมดลูกให้เลย งืออ โครตน่าร้ากก " แพรไม่พูดป่าวแต่กำลังดึงแก้มผมจนแดงเถือก

          " ลี่ไม่เอาหรอกมดลูกอ่ะ ไม่อยากท้อง " ผมว่าผมอาจจะพูดอะไรผิดไป เพราะแพรนั้นตาเป็นประกายทันทีที่ผมพูดแบบนั้น

          " อย่าบอกนะว่า ได้กับพี่โรลแล้วเหรอ " ผมตาโตรีบอุดปากยัยสาววายนี่ทันที จะบ้าหราเธอ ยังเฟ้ยย และอย่าหวังเลยแบบนี้ หึ

          " ถ้าเกลียดลี่ก็บอกตรงๆ นะ เพราะลี่กลัว ลี่เคยมีเพื่อนที่คล้ายๆ แพรอยู่ แต่ตอนนี้เค้าเพิ่งมาบอกว่าเกลียดที่ลี่ชอบผู้ชาย ลี่ก็เลยช็อคเลยแหละ "

          " ผู้หญิงคนนั้นใครอ่ะ อยู่ในมหา'ลัยเราป่ะ ความคิดต่ำมาก เจอจะตบให้คว่ำ "

          " ฮ่ะๆ ขอบใจนะ  " ผมยิ้มให้แพรที่ขมวดคิ้วจริงจัง แบบนี้คงไม่ต้องห่วงแล้วมั้ง



          ในช่วงกลางวันผมก็เดินลงมาและหาข้าวกินปกติ ผมนัดกับไอ้เมี่ยงที่โรงอาหาร เพราะผมไม่อยากเดินไปที่คณะสถาปัตย์เท่าไหร่ เดี๋ยวจะเจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า

          " ฮิ้ววว คนนั้นอ่ะ คนนั้น แก้มใสๆ มีเจ้าของหัวใจหรือ​ยังจ๊ะ " ผมหรี่ตามองไอ้พวกใส่เสื้อช็อปที่กำลังโห่ฮาแซวผมกันอย่างออกรส นี่คณะพวกมึงไม่มีข้าวกินเหรอ ถึงเหาะมาแดกนี่ได้

          ผมไม่สนใจและเดินผ่านไป แต่เสียงแปลกๆ ที่เกิดขึ้นก็ทำเอาผมหันไปมองพวกมันอีกรอบ และก็พบว่ามีถังน้ำขนาดใหญ่ราดลงมารดหัวพวกมันจนเปียกเป็นลูกหมา น้ำแม่งมาจากไหนฟะ ดีนะที่ผมเดินผ่านไปแล้ว ผมเอียงคอมองระเบียงด้านบน แต่ก็ไม่พบใคร ก็ดี สมน้ำหน้า ปากดีนักพวกมึง

          " คนน่ารัก รอพี่นานไหม​จ๊ะ "  ผมหันไปกระทืบทีนคนพูดทันที หนอย แซวกูอีกคนเหรอ เอาทีนไปแดก

          " โอ้ยยย แรงดีขนาดนี้หายแล้วแน่นอน " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยักคิ้วกวนโอ้ยซะเหลือเกิน

          " อย่ามากวนกู วันนี้อารมณ์ไม่ดี " ผมนั่งลงที่ม้านั่งตัวยาวพลางทำหน้าบูด

          " เล่าให้กูฟังเดี๋ยวนี้ มึงกับพี่โรลเป็นเชี่ยไรกัน "

          " พี่โรลคิดว่ากูกลับไปคบพี่นาย " ไอ้เมี่ยงหน้าเครียดขึ้นทันที

          " อยู่ดีๆ ทำไมคิดงั้นได้วะ บ้าไปแล้ว " ผมเลยยื่นรูปแอบถ่ายตอนที่ผมกอดพี่นายให้มันดู

          " ลี่ มึงทำเชี่ยไรเนี่ย " มันมองผมด้วยสีหน้าโกรธเคือง นี่มึงก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ

          " มึงก็ไม่เชื่อกูเหรอ " ผมคิดตัดพ้อในใจ เออ กูมันเหี้ย กูหลายใจเอง กูจะเอาแม่งหมดอ่ะ พอใจไหม​

          " เชี่ยนายบังคับมึงใช่ไหม​ กูจะไปอัดแม่งเดี๋ยวนี้แหละ " ผมดึงคอเสื้อมันที่กำลังลุกขึ้นให้นั่งลงอีกรอบ

          " ไม่ได้บังคับ "

          " ลี่ อย่าว่ากูเข้าข้างพี่โรลนะ เป็นกูก็โกรธชิบหาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มึงก็ไม่ควรทำแบบนี้ "

          ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่าผมพลาดไปแล้ว แต่พี่โรลที่นั่งอยู่กับหนิงโดยไม่บอกผมนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้องนี่นา ผมเล่าให้มันฟังว่าทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นแบบนั้น ผมโกรธพี่นายมากที่ไม่ยอมพูดอะไร และปล่อยให้มีรูปแบบนี้หลุดออกมาให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่ว่าผมนั้นก็มั่นใจว่าน้ำตาของพี่นายนั้นเป็นของจริง จากความรู้สึกจริงๆ

          " กูสงสารมึงทั้งคู่จริงๆ ส่วนพี่โรลก็ปากร้ายเกินไป แต่เดี๋ยวพี่เค้าเย็นลงก็คุยกันดีๆ เถอะ ส่วนไอ้เชี่ยนายกูจะไปทำให้มันสารภาพ "

          " พอเถอะ กูเหนื่อยแล้ว " ผมพูดเบาๆ และน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง

          " เฮ้อ ตามใจมึงละกัน แล้วเย็นนี้รอกูด้วยนะ กูมีซ้อมบอลว่ะ เลิกดึก "

          " ไม่ต้องอ่ะกูกลับเอง "

          " ไม่ได้ๆ มึงพึ่งหาย ไปนั่งรอข้างสนามบอล "

          " สั่งกูเป็นพ่อเลยนะมึง "



          ตกเย็นผมก็นั่งรอมันซ้อมข้างสนาม ผมคิดไปเองหรือ​เปล่านะว่าเหมือนไอ้พวกที่ซ้อมบอลอยู่นี้มันมองผมแปลกๆ  มองเหมือนจะแดกผมเข้าไปทั้งตัว

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งไปมาไล่ตระครุบบอลด้วยความโชว์พาว เหอะ ไอ้กากเอ้ย ผมว่าผมไม่ไหวละ แม่งยุงจะแดกผมทั้งตัว ผมกลับก่อนดีกว่า ค่อยโทรบอกมัน

          ผมตัดสินใจและลุกขึ้น เดินออกมาจากสนาม และเดินไปเรื่อยๆ ไปตามทางกลับบ้านเหมือนทุกวัน ผมที่รู้สึกว่าไม่อยากจะถึงบ้านไว เลยใช้ทางอีกทาง ที่เป็นทางอ้อม ซึ่งผมไม่ค่อยได้ใช้บ่อยนัก

          ผมเดินไปตามทาง และแวะซื้อไก่ย่างหนึ่งไม้ตรงปากซอย และเดินกินไปเรื่อยๆ ผมคิดไปเองหรือ​เปล่านะ บรรยากาศมันแปลกๆ ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับ มีคนกำลังจ้องมองผมอยู่ ผมหยุดเดิน ถือไก่ไว้ในมือที่เกร็งแน่น

          ผมนับหนึ่งถึงสามในใจ และหันไปด้านหลังทันทีพร้อมที่จะหวดคนที่ตามมาด้วยไม้ไก่ย่างนี่แหละ แต่เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่าเบื้องหน้านั้นว่างเปล่า

          ' หงับๆๆ "

          " โอ้ย ลิชชี่ " ผมถึงกับเอามือทาบอก อิห่าเอ้ย มึงนี่เองตกใจหมด แล้วยังมีหน้ามาแย่งแดกไก่กูอีก วันนี้มันช่างเป็นวันซวยจริงๆ

          ผมยืนมองลิชชี่ หมาพันธุ์ทางกิ๊กไอ้เมี่ยงกำลังกินไก่ของผมอยู่ ชิ จับทำลูกชิ้นแม่งเลยดีไหม​ ผมยืนด่ามันสักพักและก็เดินต่อไป เห้อ มืดชิบเป๋ง ไม่น่ามาทางนี้เลยกู

          ' ครืนนน เปรี้ยง!! '

          ผมมองไปบนท้องฟ้า โอ้ยยย อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนขนาดนี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ เปียกก็เปียก

          ผมเดินไปเรื่อยๆ ไม่สนใจฝนปรอยๆ ที่เริ่มตกลงมา แต่ความรู้สึกเดิมๆ นั้นก็เริ่มกลับมาอีก

          " ลิชชี่ มึงจะเอาอะไรจากกูอีก " ผมหันกลับไปและบ่นหมาที่คิดว่ากำลังวิ่งตามผมมา แต่ก็ต้องตกใจ เพราะว่าด้านหลังของผมนั้นกลับว่างเปล่า ไม่มีใคร

          ' เปรี้ยง!! ' ผมสะดุ้งตกใจเสียงฟ้าผ่าที่ดังขึ้น แสงสว่างวาบน้อยๆ ชั่วพริบตา ส่องให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างดำมืดที่กำลังขยับไหวอยู่หลังพุ่มไม่พุ่มหนึ่ง

          ผมรีบหันกลับไปตามทางและค่อยๆ เดินไปข้างหน้าต่อไป ผมคงคิดไปเอง ต้องตาฝาดแน่ๆ

          ทางเดินที่ผมเดินกลับนั้นดูเหมือนจะมืดลงเรื่อยๆ มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟสองข้างทาง ที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด

          เสียงฝีเท้าและความรู้สึกแปลกๆ เข้าถาโถมตัวผม จนทำให้ผมขนลุกเกรียว ผมกลืนน้ำลาย เหลือบมองไปทางด้านหลังด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน ลนลาน รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามซอยเปลี่ยวด้วยความสั่นกลัว และเหมือนว่าเสียงฝีเท้านั้นจะดังขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

          โจรเหรอ หรือคนโรคจิต หรือว่าจะเป็นผี อ้ากกก ตอนนี้ผมนั้นใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิต วิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

          อย่า!! ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย!!

          ผมคิดในใจ เพราะถึงผมจะตะโกนออกไป ก็คงไม่มีใครได้ยิน เพราะว่าซอยนี้นั้นเป็นซอยเปลี่ยว ที่ไม่มีบ้านสักหลัง

          ผมยังคงวิ่งไป ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองเสียงฝีเท้านั้น ผมรอด ผมรอดแล้ว ผมเห็นแสงไฟข้างหน้า ผมกำลังจะวิ่งเข้าไปในเขตชุมชนแล้ว

          จนในที่สุด ผมก็วิ่งฉิวมาถึงบ้าน และนั่งเหนื่อยหอบอยู่ที่หน้าประตู

          ไม่มีใครตามมา ไม่เห็นมีใคร แต่ทำไมเมื่อกี้้ ผมคิดว่ามีคนวิ่งตามผมแน่ๆ ยิ่งผมวิ่งเร็ว เสียงฝีเท้านั้นก็เร็วตาม โครตน่ากลัว ผมจะไม่ไปซอยนั้นอีกแล้ว

          ผมเดินขึ้นห้อง อาบน้ำและล้มตัวลงนอนบนเตียง ผมเหนื่อยมาก เหนื่อยทั้งกายและใจ ผมยกมือถือขึ้นมามองดูเวลา แต่ภาพหน้าจอมือถือของผม ก็ทำให้ผมร้องไห้อีกครั้งและผลอยหลับไป

          " ลี่ "

          " อืออ ใคร อย่ายุ่งจะนอน " ผมลืมตาขึ้นช้าๆ และหรี่ตามองภาพฝันที่มันช่างสวยงาม ผมมองเห็นพี่โรลกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่ข้างเตียงและก้มหน้ามองผมในระยะประชิด

          " พี่โรล ผมคิดถึงพี่ ผมขอโทษครับ " คนคนนั้นยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกนิดและประกบจูบผมอย่างรวดเร็ว ความอบอุ่น ความนุ่มนิ่ม และ เดี๋ยวๆๆๆ เหมือนจริงเกินไปแล้วโว้ย

          " พี่โรล ไอ้บ้า มาได้ไง " ผมผลักพี่โรลออกและปาตุ๊กตาใส่อย่างรวดเร็ว แต่พี่โรลก็แค่นิ่งเงียบ และทำหน้าเศร้าๆ เท่านั้น

          ผมมองหน้าต่างห้องผมที่กำลังเปิดอยู่ และเสื้อผ้าพี่โรลที่เปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า หนอยยย ปีนขึ้นมายังไงฟะชั้น 3 แล้วไอ้คนที่วิ่งตามผมนี่พี่ใช่ไหม​ ผมละเชื่อเขาเลย

          " พี่ขอโทษ " พี่โรลยังคงนั่งคุกเข่าเหมือนสารภาพผิด

          " ขอโทษที่พี่พูดแรงแบบนั้น เรื่องลี่ผอมลงน่ะ พี่รู้อยู่แล้วล่ะว่าลี่น่าจะป่วย แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ พี่พูดแบบนั้นเพราะพี่กำลังโกรธมาก " ผมมองพี่โรลที่กำลังยิ้มเศร้าๆ ส่งมาให้ผม

          " พี่ไม่เชื่อผม " ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ยังคงไม่ยอมมองหน้าพี่โรล

          " มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก ลี่รู้ไหม​ นายมันมาบอกพี่เมื่อกลางวัน ว่าเหตุผลจริงๆ ที่ลี่กอดมันคืออะไร " ผมมองพี่โรลที่ยังคงหน้าเครียดอยู่ พี่นายบอกงั้นเหรอ แล้วทำไมเมื่อเช้าถึงเงียบกันนะ

          " มันบอกพี่ว่ามันทนเห็นลี่เสียใจไม่ได้อีกแล้ว แต่ถึงมันจะบอกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่หรอก ถ้าพี่ไปกอดผู้หญิงคนอื่นบ้าง ลี่จะทนได้หรือ​เปล่า " ผมส่ายหน้าทันทีที่พี่โรลพูดแบบนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ผมไม่ยอมแน่ๆ

          " ไอ้คนขี้หึง " ผมขมุบขมิบบ่นเบาๆ

          " พี่ไม่ได้คิดว่าลี่จะกลับไปคบมันหรอก ถ้าลี่จะไปก็คงไปนานแล้ว พี่เห็นแก่ตัวเรื่องความรัก เพราะว่าที่ครอบครัวของพี่ต้องแตกก็เพราะเรื่องนี้แหละ พี่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก "

          " อาจจะฟังดูงี่เง่า แต่ว่าพี่จะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ลี่ พี่เป็นคนแบบนั้นแหละ พี่เวอร์ไปใช่ไหม​ เกลียดพี่หรือ​ยัง " ผมมองพี่โรลที่ยังคงยิ้มเศร้าแบบนั้น ผมไม่ชอบเลย พี่เป็นคนสดใส และสร้างรอยยิ้มให้ผมเสมอ

          " ขอโทษที่ทำห้องเปื้อนนะ พี่มาแค่นี่แหละ พี่ไม่สบายใจ ไม่ชอบให้มีอะไรค้างคา " พี่โรลทำท่าลุกขึ้น ส่งยิ้มให้ผมและทำเหมือนจะปีนหน้าต่างกลับไป

          " พี่โรล " พี่โรลรีบหันขวับทันทีเหมือนกำลังรอให้ผมรั้งไว้ หนอยย

          " ประตูอยู่ทางนี้ครับ " พี่โรลที่ดูหน้าตามีความหวังในตอนแรก บัดนี้กลับห่อเหี่ยวลงทันใด

          พี่โรลลากตัวเองในชุดนักศึกษาเปียกๆ เดินผ่านเตียงผมและจับลูกบิดประตู

          ' หมับ '

          ผมวิ่งลงจากเตียงมากอดพี่โรลไว้จากทางด้านหลัง

          " รออะไรแบบนี่อยู่ใช่ป่าว " ผมพูดแหย่พี่โรลที่ทำหน้าเหมือนกำลังกลั้นยิ้มอยู่ หนอยย ร้ายนะไอ้แฟนบ้านี่

          ผมเหมือนรู้สึกตายแล้วได้เกิดใหม่ มันจะมีอะไรดีไปกว่าการที่เราสองคนยังคงรักกัน และได้ฟังความรู้สึก ความคิดของกันและกัน



ขอแค่เราเปิดใจกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน ]((25/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-11-2017 12:04:53
เข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน ]((25/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-11-2017 13:03:53
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน ]((25/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 25-11-2017 13:29:36
ไม่รู้นะเนี่ยว่าลิชชี่ เป็นกิ๊กกับเมี่ยง โถน่าสงสารมามะเรายังไม่มีใคร :m20:
ว่าแต่ลี่กับโรล ดีกันแล้ว ระวังป๊ามาเคาะประตูนะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน ]((25/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-11-2017 02:38:57
ดีกันแล้ว แต่อย่าลืมชะนีหนิงนะ รีบ ๆ จัดการแฉพฤติกรรมที่ทำไว้ให้แม่โรลรู้โดยด่วนนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 26 เพียงแค่เราเข้าใจกัน ]((25/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 26-11-2017 18:12:59
          Calorie ที่ 27 ช่วงเวลาหรรษา


          ผมยังคงกอดพี่โรลและซบหน้าลงกับแผ่นหลังที่เปียกชื้นนั้น

          " ปล่อยพี่เลย งอน " พี่โรลทำท่าดึงแขนผมออก และงอแงทำท่าจะเปิดประตู

          " ฮ่าๆ ไม่ให้ไป หายไปตั้งนาน ไอ้บ้า โครตเคืองเลย คนจะตายห่าอยู่แล้วยังไม่โผล่มาดูใจอีก " ผมบ่นตัดพ้อ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวพี่โรลไป

          " พี่ขอโทษจริงๆ นะ พี่แม่งโครตเหี้ยเลย เวลาสำคัญเสือกไม่อยู่ " ผมไม่น่าพูดแบบนั้นเลย พี่โรลดูเครียดจริงจังขึ้นมาอีกแล้ว

          " แล้วเป็นยังไงแล้วบ้าง ผอมขนาดนี้ กินอะไรบ้างหรือป่าว " พี่โรลหันมาคุกเข่าลงกับพื้นและกอดเอวผมเอาหน้าซบท้องของผมไว้ ทำตัวเป็นเด็กอีกแล้ว

          " ขอโทษนะครับ พี่คงเซ็งเลยใช่ป่ะ พี่ชอบที่ผมอ้วนนี่ "

          " ใช่เซ็งมาก " ผมตาโตและฟาดพี่โรลทันที หนอยยย นี่ชอบผมเพราะแค่ผมอ้วนจริงๆ ใช่ไหม​

          " ลี่เป็นแบบนี้ศัตรูพี่มีแต่จะเพิ่มขึ้น พี่เซ็งมาก จะทำยังไงไม่ให้แฟนถูกจีบ " ผมหน้าขึ้นสีน้อยๆ อ้ากกก แบบนี้เองเหรอ เขินอ่ะ

          " บ้า ไม่ได้หน้าตาดีขนาดนั้น " ผมพูดอ้อมแอ้มในคออย่างเขินๆ

          " เคยส่องกระจกบ้างไหม​ " พี่โรลถามเสียงเครียด

          ผมแกะพี่โรลออกและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้ออกมา

          " อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ เดี๋ยวผมเอาชุดพี่ไปซักให้ " ผมยื่นผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าตอนผมอ้วนให้พี่โรลที่น่าจะใส่ได้พอดี

          " เสื้อผ้าไม่ต้องก็ได้ พี่ไม่คิดจะใส่ โอ้ยยย " ผมฟาดพี่โรลเข้าที่กลางหลังไปอีกดอก ทะลึ่งจริงๆ ตาคนนี้

          " ชู่วว เบาๆ หน่อยครับ เดี๋ยวป๊าม๊าได้ยิน " ผมรีบจุ๊ปากบอกพี่โรลให้เงียบเสียงลงหน่อย และพี่โรลก็เงียบจริงๆ เงียบแบบชะงักไปเลย

          " โอ้มายก๊อตต " พี่โรลทำตาโตเอามือทาบอกอย่างกวนๆ

          " อะไรพี่ " ผมถามแบบงงๆ

          " ขอแบบเมื่อกี้อีกทีได้ป่ะ " พี่โรลยิ้มทำหน้ากวน

          " อะไรเหรอ ผมทำอะไร " ผมละมึนกับพี่แกจริงๆ

          " ชู่วว แบบนี้น่ารักอ่ะ โอ้ยๆๆ " ผมหยิกแขนพี่โรลอีกทีด้วยความเขิน อ้ากกก ไอ้บ้า เวอร์ไปละทำอะไรก็น่ารักหมดอ่าเนอะ

          ผมค่อยๆ เปิดประตูช้าๆ และโผล่หัวออกไปมอง เพราะห้องน้ำนั้นอยู่นอกห้องผมครับ ตรงสุดทางเดิน อยู่ข้างๆ ห้องอาเฟยนั่นแหละ

          เมื่อทางโล่ง ผมก็ดันหลังพี่โรลให้เดินเข้าไปในห้องน้ำ พี่โรลนั้นฉุดกระชากพยายามจะเอาผมเข้าไปด้วยอยู่นาน จนผมต้องฟาดไปหลายทีกว่าจะยอมปิดประตูอาบน้ำดีๆ

          ผมด้อมๆ มองๆ รอพี่โรลอาบน้ำอยู่สักพัก พี่โรลก็ออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่เอว อ้ากกกก นี่ไม่ได้ฟังที่พูดเลยใช่ไหม​

          ' แอ๊ดดด '

          จังหวะพอดีที่พี่โรลเดินมาหน้าห้องผม อาเฟยก็เปิดประตูออกมา

          " เฮีย อาบน้ำเสร็จยั... " อาเฟยที่เห็นพี่โรลก็ตาค้างไปเรียบร้อย ผมรีบวิ่งไปหาน้องและชู่วปากบอกเป็นสัญญาณว่าห้ามส่งเสียง และทำมือให้พี่โรลที่ยืนโชว์หุ่นนายแบบเข้าไปในห้อง

          " เฮีย คนนี้หนูขอ " ผมทำหน้าเอือมระอาความแก่แดดของน้อง

          " อย่าบอกป๊าม๊า "

          " ทำไมบอกไม่ได้ละคะ พี่เขาเป็นเพื่อนเฮียไม่ใช่เหรอ แต่ว่าหล่อสุดๆ ไปเลยอ่ะ เหมือนเฟยเคยเห็นในนิตยสารอ่ะ พี่เขาเป็นนายแบบใช่ป่ะ " อาเฟยทำท่าดี๊ด๊าอย่างตื่นเต้น

          " ตามนั้นแหละ แต่ห้ามบอกป๊าม๊าเข้าใจไหม​ " อาเฟยพยักหน้าและยิ้มหวาน

          " ไม่บอกแต่ขอเบอร์พี่เขามั่งสิ โอ้ยย ขี้งก " ผมดีดหน้าผากน้องและเดินกลับเข้าห้องตัวเอง

          โอ้ยย เจ้าพ่อคุณจะชอบโชว์ไปถึงไหน พี่แกยังใส่แค่ผ้าเช็ดตัวของผมผืนเดียว นั่งยิ้มหน้าบานอยู่บนเตียงเล็กๆ ของผม

          " เตียงเล็กจัง แต่แบบนี่ก็ดี " พี่โรลพูดพลางทำตาเป็นประกาย รู้นะว่าคิดอะไร ไอ้คนหื่นกาม

          ผมเดินไปหาพี่โรลและหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาช่วยพี่โรลเช็ดผม ผมพยายามเลี่ยงไม่มองร่างกายของพี่โรลตรงๆ อ้ากกก จะหุ่นดีไปไหนวะ อยากจับเหมือนกันนะ แต่ไม่กล้า

          พี่โรลนั่งเฉยๆ และเงยหน้ามองผมพลางส่งยิ้มหวานมาให้ ผมสังเกตุเห็นว่าแก้มที่ขาวมากๆของพี่โรลนั้น ยังคงมีรอยมีสีแดงจางๆ อยู่บนนั้น

          ผมหยุดมือที่กำลังเช็ดผม และเลื่อนลงมาลูบเบาๆ ที่แก้มของพี่โรลช้าๆ ผมใส่สุดแรงจริงๆ นะเนี่ย

          " เจ็บมากไหม​ครับ " พี่โรลจับมือผมที่กำลังลูบแก้มตัวเองเอาไว้ ให้มือของผมนั้นแนบที่แก้มของตัวเองลงไปอีกพลางหลับตาลง

          " เจ็บไม่เท่าหัวใจ " พี่โรลพูดทั้งๆ ที่ยังคงหลับตาอยู่

          ผมมองหน้าที่แสนเศร้าของพี่โรล มองริมฝีปากได้รูปที่แดงธรรมชาตินั้นและค่อยๆ โน้มตัวลงให้ริมฝีปากของพวกเราประสานกัน

          ผมงับเบาๆ ที่ริมฝีปากนั้นและเคลื่อนตัวลงไปนั่งบนตัก กอดคอคนที่รัก ให้พวกเราได้แนบชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม

          พวกเรากอดกันแน่นและจูบสัมผัสกันเนิ่นนาน ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ มันร้อนวูบวาบ ทั้งๆ ที่อากาศนั้นก็ไม่ได้ร้อนเลยสักนิด ผมผละริมฝีปากที่โดนดูดจนจะเปื่อยอยู่แล้วออกจากริมฝีปากของพี่โรล

          " พี่เอาแขนออกได้ไหม​ นั่งไม่ถนัดเลย " ผมพูดเขินและถามแบบไม่ได้มองหน้าพี่โรลเลยสักนิด

          " แขนพี่อยู่นี่นะ " พี่โรลพูดพลางยกแขนสองข้างชูขึ้น เดี๋ยวนะ

          อ้ากกกก อื้อหือ นี่แค่จูบนะ พี่ไม่คิดจะเก็บอาการหน่อยเหรอ โอ้ยยย ผมบัดนี้หน้าแดงจนเป็นมะเขือเทศเดินได้ไปแล้ว

          " ทะลึ่ง ที่นี่ไม่ได้นะ เดี๋ยวป๊าม๊าขึ้นมา " ผมพูดอ้อมแอ้มกับอกแน่นๆ ของพี่โรล ไม่กล้ามองหน้าเลยอ่ะ เขินชิบหาย

          " แปลว่าถ้าเป็นที่อื่นก็ได้เหรอ " พี่โรลรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่นขึ้น และเริ่มลูบไปมาบนหลังของผม พลางซุกไซร้แก้มและคอผมไปด้วย

          แย่แล้ว ผมว่าผมรู้สึกว่าร่างกายผมก็เริ่มจะตอบสนองเหมือนกัน โอ้ย ไม่ได้นะลูกพ่อเย็นไว้

          " ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นซะหน่อย " ผมหดคอเอียงหนีพี่โรลที่กำลังจูบและเลียเบาๆ ที่หูสีแดงของผม จนผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

          ' ก็อกๆๆ '

          ผมที่กำลังโดนพี่โรลนัวเนียก็สะดุ้งสุดตัว ชิบหายแล้ว ชิบหายแล้วว เอาไงดีฟะ

          ผมที่คิดไม่ออกก็นอนลงกับเตียงและปิดไฟลง พลางห่มผ้าห่มผืนใหญ่คลุมผมและพี่โรลเอาไว้ และให้พี่โรลทำตัวลีบๆ แบนๆ ให้เล็กที่สุดทับตัวผม

          " อาลี่ ไม่กินข้าวกินปลาหรือไง เขารอกันอยู่นะ แล้วปิดไฟมืดทำไมอ่ะ " มาม๊าเปิดประตูและถามผมด้วยความสงสัย

          " ค.คือลี่ง่วงอ่ะม๊า เหลือไว้ให้หน่อยนะ เดี๋ยวดึกๆ ลี่ลงไปกินเอง "

          " ไม่สบายอีกเปล่า บอกม๊ามานะ ไม่เอาแบบเดิมนะอาลี่ "

          " ลี่ไม่เป็นไรจริงๆ ฮะ แค่ง่วงเฉยๆ ม๊าไปกินข้าวเถอะ " ผมพูดอย่างร้อนรนทันทีที่ม๊าทำท่าเหมือนจะเดินเข้ามา แต่ว่าผมที่นอนอยู่กับรู้สึกแปลกๆ รู้สึกเย็นวาบๆ ที่หน้าท้อง และลามไปยันอก

          อ้ากกกกก โอ้ยย อีพี่โรลอย่านะโว้ยย แกจะเสี่ยงตายเกินไปแล้ว ผมพยายามทำสีหน้าปกติ ทั้งๆ ที่ความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เลย

          ใต้ผ้าห่มนั้น พี่โรลเลื่อนเสื้อยืดของผมขึ้นช้าๆ และไล่จูบที่หน้าท้องของผม ลากจมูกเบาๆ ขึ้นมายังอกของผม และลากลิ้นแผ่วเบาโลมเลียที่ยอดอกนั้นจนผมต้องเม้มปากแน่น พี่โรลยังคงไม่สนใจมือผมที่ทั้งดันทั้งจิกผมพี่โรลอยู่ และดูดเม้มที่ติ่งไตสีชมพูเล็กๆ สองข้างนั้นเหมือนจะแกล้งกัน

          " ไม่ลงไปกินตอนนี้จริงๆ เหรอ " ม๊ายังคงมองผมและไม่ยอมปิดประตูสักที

          " อ..ครับ ม๊าขอลี่นอนเถอะ " ผมพูดออกมาอย่างยากลำบาก ตัวของผมเกร็งและสั่นน้อยๆ อย่างสุดจะทน

          ในที่สุดม๊าก็ปิดประตูและเดินลงไป ผมรีบเปิดผ้าห่มและพยายามดันพี่โรลที่กำลังเมามันกับร่างกายผมให้ออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล ผมบิดเร้าร่างกายไปมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ มันรู้สึกเหมือนกับร่างกายของผมนั้นต้องการ แต่ใจก็คอยแต่จะห้ามและขัดขืนต่อไป

          " ..อ อืออ อย่า  " ผมเริ่มหายใจหอบ และมองพี่โรลที่กำลังคล่อมผมไว้ทั้งตัว และเลื่อนตัวจากอกผม ขึ้นมาดูดเลียแล้วครอบครองริมฝีปากผมเอาไว้อีก

          ผมรู้สึกเคลิ้มปล่อยตัวอ้าปากน้อยๆ ให้เรียวลิ้นของเราสัมผัสหยอกล้อกัน พวกเราเริ่มกอดรัดลูบไล้กันไปมา ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ พวกเราคงไม่สามารถหยุดมันได้อีกแน่นอน

          " พี่โรล " ผมหันหน้าหนีจากริมฝีปากนั้นและจับแก้มพี่โรลไว้ พี่โรลไม่ได้พูดอะไร แต่กลับยิ้มให้ผมน้อยๆ

          " พี่ขอโทษนะ ทำให้กลัวหรือเปล่า " ผมส่ายหน้าน้อยๆ แทนคำตอบ

          " พี่อยากให้ลี่เป็นของพี่ เป็นของพี่จริงๆ พี่กลัวคนที่จะมาแย่งลี่ไป " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นทันที นี่เป็นการขอกินตับแบบเนียนๆ ใช่ไหม​

          " ไม่ได้ " ผมเอามือปิดหน้าเขินสุดๆ ที่ได้ยินอะไรแบบนี้

          " ไม่เป็นไร พี่รอได้ " พี่โรลดึงมือผมออกจากหน้าและลูบแก้มผมเบาๆ

          " เสียงมันจะดังออกไป ห้องนี้ไม่เก็บเสียง " ผมพูดด้วยหน้าแดงก่ำและเอามือมาปิดหน้าอีกรอบ

          พี่โรลที่ได้ยินแบบนั้นก็ก้มลงกระซิบข้างหูผมเบาๆ จนผมรู้สึกจักกะจี๋

          " พี่ทำเบาๆ นะ " อ้ากกกก พูดอะไรกันวะเนี่ย ผมเขินจนจะม้วนหน้าอยู่แล้ว

          " เปิดไฟได้ไหม​ พี่อยากเห็นลี่ชัดๆ " พี่โรลพูดและขยับตัวช้าๆ กดน้ำหนักลงที่ตัวผมพลางพูดเบาๆ ด้วยเสียงกระเส่าจนผมขนลุก

          " ไม่เอา~ " ผมที่พูดแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแรงกดของคนข้างบน

          พี่โรลก้มลงประกบริมฝีปากจูบหยอกเย้าริมฝีปากของผมช้าๆ พลางค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบางของผม และลูบไล้เบาๆ ไปตามผิวกายนั้น

          ผมลูบไล้มือไปตามลำตัวและกล้ามเนื้อสวยของคนเบื้องบนช้าๆ เช่นกัน ดูเหมือนว่าเราจะตื่นตัวกันเต็มที่ซะแล้ว เพราะผมสัมผัสได้ถึงความคับตึงของตัวเองและของคนข้างบน ที่กำลังแนบกันนัวเนียจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียว

          ' แอ๊ดดด '

          " ลี่ ทำไมมึงไม่รอกู... "

          ผมกับพี่โรลสะดุ้งเฮือกและหยุดการกระทำทุกอย่างทันที มองประตูที่เปิดออกและผู้มาเยือนที่กำลังทำหน้ายิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยกวนส้นทีนตามสไตล์มัน

          " แหม พอดีกันแล้วก็สีกันทันทีเลยนะ "

          ผมคว้านาฬิกาปลุกหัวเตียงและขว้างใส่หัวมันเต็มๆ จนมาร้องเจี๊ยก



ผมอยากฆ่ามันจริงๆ ให้ตาย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-11-2017 18:18:46
555สงสารเมี่ยง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: พันธุ์ไทย ที่ 26-11-2017 18:40:58
กำลังจะได้สีกันอยู่5555 :m20:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-11-2017 19:14:55
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 26-11-2017 21:10:04
เสียดายแทนพี่โรล มีคนมาขัดจังหวะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-11-2017 22:14:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 26-11-2017 22:22:58
ลี่เด็กไม่ดี ไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว นี่เมื่ยงเขาอุตส่าห์หวังดีว่ากลัวจะถูกจับได้ ยังไปทำร้ายเมี่ยงได้  :m12:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 27-11-2017 09:16:40
เขินนนน :hao5:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: หิมะขาว ที่ 27-11-2017 09:58:04
ขอบคุณค่าาา :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 27-11-2017 17:18:31
สงสสารเมี่ยง  ไหนเพื่อนก็สมหวังแล้ว
ช่วยหาคู่ไห้นางด้วย ฮ่าๆๆๆ แต่ขอเมี่ยงเป็น รับ นะจะสะใจป้ามากๆๆ

ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 27-11-2017 18:52:45
 :mc4: เมี่ยงนี่ยังไงนะ มาผิดเวลาหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 27 ช่วงเวลาหรรษา ]((26/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 29-11-2017 16:47:48
          Calorie ที่ 28 เพื่อนเก่าที่จ้องจะทำลาย


          หลังจากถูกขัดจังหวะจากไอ้หอกเมี่ยง พี่โรลถึงกับนอนตรอมใจ ไม่พูดไม่จานอนหันหลังให้ผมลูกเดียว งอนซะแล้วสิ ฮ่าๆ

          ส่วนไอ้เมี่ยงที่หัวปูดเป็นลูกมะกรูด และถูกพี่โรลกระทืบไปอีกยก ก็ลากร่างที่แทบจะไร้วิญญาณกลับไป ผมไล่เตะมันลงไปยันหน้าปากซอยเลยทีเดียว ไอ้เพื่อนเลว

          " พี่โรล ลุกมากินข้าวกัน " ผมยกกับข้าวขึ้นมาจากห้องครัว ตั้งโต๊ะเล็กๆ และวางของกินไว้บนนั้น

          พี่โรลยังคงไม่ขยับตัว ทำเป็นเด็กน้อยไปได้

          " ไม่ลุกไม่ป้อนนะเอ้า " พี่โรลที่ได้ยินแบบนั้นก็ลุกพรวดขึ้นทันที ฮ่าๆ มันน่าจริงๆ

          " แล้วเสื้อผ้าอ่ะ ใส่สักทีเถอะครับ ไม่หนาวหรือไง " ผมลุกขึ้นและเดินไปหยิบเสื้อยืดของผมมาสวมหัวให้ไอ้พี่จอมดื้อนี่ที่ยอมให้ผมใส่เสื้อให้อย่างว่าง่าย และเป็นอย่างที่คิด พี่โรลใส่เสื้อผมตอนอ้วนได้พอดีตัวเลยทีเดียว

          " ไม่อยากกินข้าว แต่อยากกินลี่มากกว่า " พี่โรลทำหน้าบูดเท้าคางมองผม อ้ากก พูดหน้าตาเฉยอีกแล้วคนเรา

          " เดี๋ยวไม่มีแรง...กลับบ้านน้า " ผมพูดพลางตักข้าวใส่ปากพี่โรล ที่ตอนแรกนั้นยิิ้มกว้าง แต่สามคำหลังทำเอาห่อเหี่ยวเลยทีเดียว

          " นอนนี่ไม่ได้เหรอ " พี่โรลพูดพลางเลื้อยมานอนตักผมอย่างออดอ้อน

          " นอนยังไงละครับ เตียงแคบจะตาย แล้วเดี๋ยวม๊าขึ้นมาอีกทำไง " ผมตีพี่โรลและลากให้ลุกขึ้นมานั่งตรงๆ อีกครั้ง

          " เตียงแคบไม่มีปัญหา "

          " ผมมีปัญหา " ผมแลบลิ้นใส่ ผมกลัวพี่จะนอนไม่สบายน่ะสิ

          " นอนบนตัวพี่ก็ได้ โอ้ยๆ " ผมหยิกแขนพี่โรล ปากดีจริงๆ พ่อคุณ

          " พี่โรล " ผมเรียกพี่โรลเสียงเบาลง

          " เรื่องหนิง พี่รู้หรือเปล่า " ผมยังคงมีเรื่องกังวลอยู่ในใจที่อยากจะถามพี่โรลออกไป

          " ทำไมลี่ถึงรู้จักผู้หญิงคนนั้น แต่ลี่ก็รู้เรื่องงานหมั้นใช่ไหม​ "  พี่โรลถามพลางจับไหล่ผมเอาไว้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " พี่ไม่เคยยุ่งไม่เคยคิดจะหมั้นกับผู้หญิงนั่น ลี่เชื่อพี่ใช่ไหม​ " ผมพยักหน้าน้อยๆ

          " หนิงเป็นเพื่อนเก่าผมเอง เป็นคนที่ทำให้ผมกับพี่นายเลิกกัน " พี่โรลมองผมด้วยความตกใจ

          " ยัยผู้หญิงนั่น เหลือเกินจริงๆ " พี่โรลทำหน้าอารมณ์เสียทันทีที่พูดถึงหนิง ดูแล้วพี่โรลจะไม่ชอบหนิงน่าดูเลยแฮะ

          " แต่ก็ต้องขอบคุณผู้หญิงคนนั้นนะ แล้วก็ขอบคุณนายด้วยที่ทำตัวสารเลวแบบนั้น ไม่อย่างนั้นพี่ก็คงไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ "

          " ผมรู้ว่าพี่จะไม่ยอมหมั้น แต่ว่าพี่จะหนีไปได้นานแค่ไหนเหรอครับ ถ้าหากจำเป็นต้องหมั้นจริงๆ ผมจะทำยังไงดี " ผมมีความคิดวิตกกังวลใจเรื่องนี้มาตลอด เพราะผมนั้นก็เป็นเพียงคนนอกเท่านั้น ถ้าหากต้องเลือกจริงๆ พี่จะเลือกผมแทนครอบครัวจริงๆ เหรอครับ

          " พี่จะไม่มีวันหมั้น พี่จะไม่มีวันทิ้งลี่ " ผมดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น ผมเขี่ยข้าวในจานไปมาอย่างเขินๆ

          " คุณแม่พี่ป่วยเป็นอะไรเหรอครับ " ผมถามพี่โรลด้วยความสงสัย

          " ก็แค่ร่างกายไม่แข็งแรง เมื่อก่อนก็ยังเดินได้ปกตินะ แต่เมื่อปีก่อนอยู่ดีๆ ก็ทรุดลง พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นอะไร "

          " เหรอครับ น่าแปลกนะ " ผมขมวดคิ้ว โรคนั้นมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่

          " พี่อยากพาลี่ไปหาคุณแม่ ถึงจะรู้ว่าจะโดนด่าก็เถอะ " พี่โรลพูดพลางจับมือผมไว้

          " ขอบคุณนะครับ แต่อย่าเลย "

          " มีพี่อยู่ไม่ต้องกลัวหรอก พี่จะไม่ให้ใครมาทำอะไรลี่ "

          " ขอบคุณครับ " ผมยิ้มเขินๆ ผมดีใจที่พี่โรลให้ความสำคัญกับผม

          หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็นั่งเล่นกับพี่โรลสักพักและแอบย่องพาพี่โรลไปส่งที่หน้าบ้าน พี่โรลงอแงจะนอนที่นี่ แต่ผมก็ยังไม่กล้าเสี่ยง เลยจำใจต้องแยกจากกัน จริงๆ ผมก็เสียดายนะ ผมชอบพี่โรลมาก ผมไม่กลัวอีกแล้วที่จะเป็นของพี่โรล แต่ผมแค่อายเท่านั้นแหละ

          รุ่งขึ้น ผมตื่นแต่เช้าอาบน้ำล้างหน้าและลงมากินข้าวข้างล่าง ซึ่งเมื่อลงมาถึงก็เจอกับไอ้เมี่ยงที่กำลังโซ้ยข้าวบ้านผมอยู่ก่อนแล้ว

          " ไงมึง เมื่อคืน..อื้ออื่ออื้อ " ผมเดินไปด้านหลังมันและปิดปากเอาไว้แน่น พลางดีดหูมันไปหลายที ไอ้หอกนี่มันจะแฉผมกลางวงเลยครับ

          " อาลี่ ร่างกายโอเคแล้วใช่ไหม​ " มาม๊าถามผมด้วยความเป็นห่วง

          " ครับ " ผมนั่งลงดื่มนมและ

          ' พรวดดดดดดด '

          ผมพ่นนมออกมาทันทีจนวงแทบแตก ผมมองออกไปนอกกระจกครัว ก็พบว่ามีรถยุโรปสุดหรูสีแดงแจ๋จอดอยู่หน้าบ้านและมีผู้ชายที่ใส่ชุดนักศึกษาเซอๆ หนีบอีแตะแดง กำลังนั่งยองๆ เขี่ยดินเล่นอยู่

          " อะไรของเฮียเนี่ย สกปรกชะมัด " อาเฟยบ่นผมที่พ่นนมใส่

          " เอ่อ โทษทีๆ เมี่ยงไปเถอะ วันนี้ต้องรีบนิดนึง " ผมดึงไอ้เมี่ยงให้ลุกขึ้นทั้งๆ ที่ไข่ดาวยังย้อยคาที่ปากมันและลากมันให้ตามผมมา

          " ไปก่อนนะครับ " ผมหันไปบอกป๊าม๊าและรีบวิ่งออกมาโดยเร็ว

          " พี่โรล ทำอะไรเนี่ย เด่นเวอร์ไปแล้ว " ผมตีพี่โรลที่กำลังแหย่รังมดจนหน้าแทบทิ่มลงไปกับดิน

          " ก็อยากมารับอ่ะ ไม่รีบเดี๋ยวหมาตัดหน้า " พูดถึงหมาหมาก็มา ผมมองรถเบนซ์สีดำที่กำลังขับมาช้าๆ พี่นายเปิดกระจกลงและมองพี่โรลด้วยสีหน้าเซ็งๆ

          " เหอะ สีโครตเห่ย "

          " ใครบอก นี่เด็ดสุดแล้ว ลี่ชอบใช่ไหม​ " พี่โรลหันมาถามผมด้วยความมั่นใจ

          " ผมชอบสีเขียวครับ " พี่โรลหุบยิ้มลงทันที ก็ผมพูดจริงๆ อ๊ะ

          " ลี่จะไปคันนั้นใช่ไหม​ " พี่นายถามผมด้วยสีหน้าเซ็งๆ จนผมรู้สึกสงสาร

          " ครับ งั้นผมฝากไอ้เมี่ยงด้วยนะ " ผมรู้สึกว่าไหนๆ พี่เขาก็มาแล้ว ผมเลยถีบส่งไอ้เมี่ยงที่กำลังส่องรถพี่โรลด้วยสายตาลุกวาว

          " เห้ยย ไม่เอาโว้ย ถ้าต้องไปกันมันกูเอาหัวเดินไปยังดีกว่า "

          " เหรอ งั้นจัดไป " ผมถีบมันจนหน้าแทบจะทิ่มลงพื้นอย่างสวยงาม ปากดีจริงๆ มึงไอ้หอก

          " อย่าเลยลี่ ให้มันเดินไปดีแล้ว พี่ขี้เกียจเอารถไปล้างน้ำมนต์ " ไอ้เมี่ยงที่ได้ยินแบบนั้นก็โดดพรวดเข้าไปนั่งทันทีแบบที่ไม่ต้องเปิดประตูเลย

          " ลงไปเลย " ผมมองพี่นายที่กำลังไล่ไอ้เมี่ยงที่กำลังปรับแอร์รถพี่นายเหมือนเป็นรถตัวมันเองอยู่

          ไอ้เมี่ยงมันเริ่มทำตัวดีกับพี่นายมากขึ้น เพราะผมโทรเล่าเรื่องพี่โรลกับพี่นายให้มันฟังเมื่อคืนตอนพี่โรลกลับไปแล้ว พี่นายก็เป็นแค่ผู้ชายเจ้าชู้คนหนึ่งที่สูญเสียทุกๆ อย่างไป แต่ก็ไม่ได้เป็นคนที่จิตใจชั่วร้ายพอจะทำร้ายคนอื่นได้ ผมได้แต่หวัง ว่าสักวันพี่นายจะได้เจอคนที่ดีกว่าผม และคนที่พี่อยากจะหยุดอยู่แค่เขาคนนั้น

          ผมขึ้นรถมากับพี่โรลที่ดูดีด๊าเหลือเกินที่ผมนั่งข้างๆ ผมมองพี่โรลที่ผิวปากตลอดเวลาที่ขับรถ

          " ดูแล้วน่าจะโครตแพง เก็บเงินนานไหม​เนี่ย " ผมถามพลางมองหนุ่มรูปหล่อปากแดง ที่วันนี้ทำผมตั้งและยุ่งๆตามอารมณ์พี่แก ผมชอบมองเวลาพี่โรลขับรถ มันเท่ห์มากๆ เอาซะใจเต้นเลยทีเดียว

          " พ่อส่งมาให้ " อ๊าววว ไอ้เราก็คิดว่าทำงานเก็บเงิน ถรุ๊ยย

          " กาก " ผมหรี่ตาและด่าพี่โรลแบบกวนๆ

          " โธ่ ที่รัก เงินเก็บของพี่ พี่มีเป้าหมายอื่นแล้ว "

          " อะไรเหรอครับ " ผมสงสัยจริงๆ ว่าพี่เขาเก็บเงินทำอะไร

          " ความลับบบบ " พี่โรลหันมาแลบลิ้นให้ผมและหันไปมองถนนต่อ หนอยย หมั่นไส้ชะมัด

          " พี่โรล " ผมเรียกพี่โรลเบาๆ

          " หืม ว่าไง... " พี่โรลที่หันมาก็ถูกผมขโมยจูบที่ปากทันที ทำเอาพี่แกนิ่งค้างไปเลย

          " เดี๋ยวๆๆๆ พี่จอดทำไม " ผมร้องขึ้นอย่างตกใจทันที เพราะอยู่ดีๆ พี่แกก็หักเลี้ยวเข้าข้างทางซะงั้น

          " จัดแม่งในรถนี่แหละ " พี่โรลพูดพลางหันมาหาผมถอดเข็มขัดนิรภัยและโน้มตัวมาด้านที่ผมนั่ง ดึงผมเข้าไปกอดรัด ทั้งหอมทั้งฟัดจนผมหัวเราะขำ

          " โอ้ยยย ไอ้บ้านี่ กลางวันแสกๆ " ผมทั้งดันทั้งยันพี่โรลให้กลับไปด้านตัวเองตามเดิม มีรถนี่ก็ดีเหมือนกันนะ อยากลองเช็คสภาพโช๊คจัง กร๊ากก

          กว่าจะมาถึงมหา'ลัยได้ พี่โรลนั้นจอดเข้าข้างทางหลายรอบเลยทีเดียว อ้ากกก คราวหลังจะไม่มาด้วยแล้ว

          เมื่อมาถึงมหา'ลัย และนอนว่ารถสุดเด่นของอีพี่โรลนั้น ทำให้ทุกคนต้องเหลียวมองคอแทบหัก และเมื่อพี่โรลลงจากรถ ก็ยิ่งสุดยอดไปใหญ่ แม่งเด่นทั้งคนทั้งรถจนน่าหมั่นไส้

          " เชิญเลยครับยาหยี " พี่โรลลงจากรถและวิ่งแจ้นมาเปิดประตูฝั่งผมอย่างรวดเร็ว

          " ยาหยีบ้าอะไรเล่า " ผมหน้าแดงไม่กล้าลงจากรถเลยทีเดียว อ้ากกกก แถมนักศึกษาคนอื่นๆ ยังพากันซุบซิบและจ้องมองตาเป็นมัน

          " แหม หวานกันดีนะคะ ว่าไงลี่ "  ผมมองหนิงที่เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม มาทำอะไรที่นี่กันนะ

          " พอได้แล้วหนิง " ผมมองพี่นายที่ขับรถตามหลังมา ลงจากรถ และเดินตรงดิ่งเข้ามา

          " ถึงพี่จะหักหลังหนิงแล้วไปเข้าข้างมันก็ไม่เป็นไร แต่หนิงไม่ยอมหรอก แบบนี้มันไม่ถูกต้อง กับผู้ชายเนี่ยนะ จะไปได้สักกี่น้ำ " ผมมองพี่นายที่จ้องมองหนิงด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

          " เธอมัน... " ผมดึงพี่โรลที่เหมือนจะเดินไปหาหนิงไว้ ผมจับมือพี่โรลและพาเดินออกจากตรงนั้น

          " อาลี่ ป๊าม๊ายังสบายดีใช่ไหม​ " ผมหยุดชะงักและหันไปมองหนิงที่กำลังส่งยิ้มให้ผมอยู่

          " ป๊าม๊าคงดีใจตายเลยเนอะ ที่ลูกชายมีแต่ผู้ชายมาแย่งหัวบันไดไม่แห้งขนาดนี้ " ผมมองหน้าหนิงที่ยิ้มแย้มเหมือนเป็นผู้ชนะ

          " อยากทำอะไรก็ทำเถอะ " ผมพูดเบาๆ และเดินต่อไป ผมมือสั่นน้อยๆ ผมรู้สึกไม่ดีเลย ผมไม่อยากให้ที่บ้านเป็นกังวลเกี่ยวกับตัวผม ผมไม่อยากทำให้พวกท่านไม่สบายใจ

          " ป๊าม๊ามึงต้องเข้าใจแน่ ใจดีจะตาย " ไอ้เมี่ยงเดินมาเกาะไหล่ผมและพูดให้ผมสบายใจ

          " ไม่รู้สิ แต่กูไม่อยากให้รู้เลย "

          " พี่ขอโทษนะ " ผมมองพี่โรลที่ยืนทำหน้าเศร้า

          " ขอโทษทำไมกันครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเป็นแบบนี้เอง ผมไม่ปกติแต่แรกแล้ว "

          " ไม่ปกติอะไรวะ มึงก็คน จะรักผู้ชายหรือผู้หญิงมันสำคัญตรงไหน พูดเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดไปได้ "

          " มึงก็รู้ว่าครอบครัวกูเป็นคนจีน ย้ายมาจากจีนเมื่อตอนกูเกิดนี่เอง กูเป็นลูกชาย กูรู้ว่าป๊าต้องผิดหวังแน่ "

          ผมนั้นก็รู้ตัวดีว่าสักวันหนึ่ง ครอบครัวของผมจะต้องรู้แน่ๆ แต่ผมก็อยากที่จะเป็นคนบอกกับพวกท่านเอง



ไม่ใช่มารับรู้จากคนที่จ้องจะทำลายตัวผมแบบนี้
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 28 เพื่อนเก่าที่จ้องจะทำลาย ]((29/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-11-2017 21:29:02
หนิงคะ รับยาทาแก้คันสักกี่ขวดดีคะ?
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 28 เพื่อนเก่าที่จ้องจะทำลาย ]((29/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-11-2017 03:27:26
ชะนีนางนี้คงเป็นโรคชอบแย่งผู้คนอื่นแน่ ๆ ใครรู้จักหมอเก่ง ๆ บาง จับนางไปส่งหมอหน่อยนะ รำคาญจริงๆ เลย  :angry2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 28 เพื่อนเก่าที่จ้องจะทำลาย ]((29/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: พันธุ์ไทย ที่ 30-11-2017 13:46:26
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 28 เพื่อนเก่าที่จ้องจะทำลาย ]((29/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 30-11-2017 13:54:42
          Calorie ที่ 29 งานกีฬาและแขกที่ไม่ได้รับเชิญ


          ผมและพี่โรลแยกกันหน้าคณะเพื่อไปเรียน ผมสังเกตุเห็นว่าหลายๆ คนนั้นมีความสนใจผมกับพี่โรลมาก ซึ่งพี่โรลนั้นมักจะชอบทำตัวประดุจโลกนี้มีเพียงเราสองเสมอ จนผมต้องคอยห้ามพี่เขา ไม่ให้ทำประเจิดประเจ้อในที่สาธารณะ

          แต่ไม่รู้ทำไม รู้สึกเหมือนวันนี้ผู้คนจะมองผมมากยิ่งขึ้นไปอีก ผมขมวดคิ้วด้วยความมึนงง มีอะไรติดตัวผมอยู่หรือไงนะ

          " อาลี่ ทางนี้ๆ " ผมเดินไปหาแพรที่กำลังกวักมือเรียกผมอยู่

          " วันนี้เรียนห้องไหนเหรอ " ผมถามดูเพราะไม่ได้ดูตารางมา

          " นี่อะไรอ่ะ อาลี่ " แพรจับผมพลิกหันหลังและดึงอะไรบางอย่างออกมา

          " อะไรอ่ะ " ผมมองดูกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่แปะอยู่ข้างหลังผม



          ' ว่าที่ เมีย! โรล ถาปัตย์ปี 2

             ใครแตะเมียกูมึงตาย!! '



          เอิ่ม ผมที่ก้มลงอ่านก็ต้องหน้าขึ้นสีทันที โอ้ยยย แปะตอนไหนฟะ ร้ายกาจชะมัด ทำตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ไอ้แฟนตัวแสบนี่

          " พี่เขาตลกดีนะ " แพรพูดพลางหัวเราะขำ เหอๆ ไอ้ตลกก็ตลกแหละ แต่พร่ำเพรื่อมาก อีพี่นี่ร้องไห้ยังตลกเลย

          " แล้วอาลี่รู้ยังว่าอีกไม่นานจะมีกีฬามหา'ลัยอ่ะ จะลงอะไรดี แพรว่าแพรจะลงวอลเล่อ่ะ "

          " คงว่ายน้ำละมั้ง ลี่เล่นอย่างอื่นไม่เป็นอ่ะ หรือไม่ก็ไม่ลงเลยดีกว่า นั่งดูเฉยๆ " สมัยก่อนผมเคยเป็นนักกีฬาเหมือนกันนะ ก่อนจะอ้วนเนี่ย

          " ลงเถอะ แต่เชื่อสิ หนุ่มๆ ตาลุกวาวแน่ " แพรพูดพลางทำตาระยิบระยับมองผมแปลกๆ

          " เอ่อ อาลี่ ไม่เข้าเรียนเหรอ " ผมขมวดคิ้วมองคนที่เรียกผมอยู่ อะไรของมันฟะ ร้อยวันพันปีไม่ทัก วันนั้นก็มายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ผม ถ้าจะให้ย้อนไปก็ไอ้นี่แหละครับที่เรียกผมไอ้อ้วนแล้วใช้ให้ผมเก็บบอล ชิ

          " แมคเดินไปด้วยกันดิ " ผมเห็นแพรกวักมือเรียกไอ้ผู้ชายตัวสูงย้อมซะสีน้ำตาลยันคิ้ว ทำตัวเกาหลี หมอนี่เป็นตัวแทนเดือนของคณะผมครับ และได้รองซะด้วย แต่ไม่รู้สิ ผมไม่ชอบขี้หน้ามัน

          ผมเดินไปเรียนพลางเหลือบมองไอ้แมคอะไรนี่ไปด้วย เพราะไอ้หมอนี่มันแปลกๆ ครับ มันเดินตามหลังชิดผมมากและผมรู้สึกขนลุกแปลกๆ แถวๆ คอและหูของผม

          ' หอมจัง '

          ผมหยุดเดินและหันไปมองมันที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

          " ว่าอะไรนะ " ผมขมวดคิ้วถาม

          " ไม่มีอะไรรีบไปกันเถอะ " มันพูดพลางดันหลังผมให้เดินไปข้างหน้า ผมคิดไปเองหรือเปล่านะว่าหมอนี่มันดูอันตรายแปลกๆ
         
          หลังจบคาบเรียนนั้น พวกรุ่นพี่ที่คณะผมก็เรียกประชุมและให้ลงชื่อว่าใครจะทำหน้าที่อะไร และลงกีฬาอะไร ความจริงนั้นผมก็คิดว่าผมจะนั่งเฉยๆ นี่แหละ แต่ก็ไม่ได้แฮะ ผมเลยลงว่ายน้ำไป เพราะผมคิดว่าผมอยากจะเล่นน้ำนั่นแหละ ไม่ได้ว่ายนานแล้วด้วย

          " ลงว่ายน้ำเหมือนกันเลยอ่ะ " ผมมองไอ้แมคนี่พลางขมวดคิ้ว

          " เหรอ " ผมพูดแบบส่งๆไปงั้นเอง

          " อยากซ้อมเร็วๆ จัง " ผมเลิกคิ้วมองไอ้หมอนี่ที่กำลังทำตาวิบวับจนน่ารำคาญ

          หลังจากลงชื่อเสร็จ ผมก็เดินไปที่คณะสถาปัตย์ เพราะพี่โรลนั้นโทรมางอแงหิวข้าวตั้งแต่ยังไม่เที่ยงเลยทีเดียว ผมเดินไปพลางแวะซื้อลูกชิ้น นั่งยองๆ แบ่งน้องหมาตัวอ้วนที่พี่โรลเคยปรับทุกข์ด้วย

          ผมมองไปรอบๆ โรงอาหาร สงสัยพี่แกยังไม่ลงมา เพราะปกติผมแทบไม่ต้องมองหาหรือใช้ความพยายามอะไรเลย  พี่แกเด่นจนไม่รู้จะเด่นยังไง สูงขาวปากแดง และหนีบแตะแดง แถมวันนี้ยังสพายกระเป๋าสีแดงที่เพิ่งถอยมาใหม่อีกต่างหาก และเมื่อเช้าผมแอบเหลือบมองขอบกางเกงในพี่เขาตอนนั่งยองๆ เขี่ยดินก็สีแดงครับ กร๊ากก

          " ยอดยาหยี!! " ผมสะดุ้งหน้าตื่นเลยทีเดียว เสียงคุ้นๆ และดังฉิบหาย

          ผมหันไปมองก็พบว่าไอ้คนที่มีของสีแดงบนตัวและกำลังวิ่งหน้าบานมาทางนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน อ้ากกก พูดอะไรฟะ อายเขามั่งสิเฟ้ย

          " ป่ะกินข้าวกัน " ผมนั่งหดตัวแทบจะสิงร่างน้องหมานี่เลยครับ อายอ่ะ

          " ฮ่าๆ แฟนผมครับ ขี้อายๆ " ผมเงยหน้าจากเข่าและฟาดอีพี่โรลที่กำลังป้องปากตะโกนพลางชี้มาที่ผมเต็มแรง เดี๋ยวเถอะนะ

          " หายคิดมากเรื่องเมื่อเช้าหรือยัง " พี่โรลลูบหลังตัวเองและเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ พลางส่งยิ้มให้

          " ผมคิดว่าวันนี้จะกลับไปบอกป๊าม๊าเอง " ถ้าต้องให้คนแบบนั้นไปฟ้องละก็ สู้ผมบอกเองดีกว่า ผมไม่กลัวแล้วล่ะ เรื่องอะไรจะต้องกลัว นี่มันชีวิตของผม

          " พี่ไปด้วยนะ " พี่โรลจับมือผมไว้และบีบเบาๆ

          " ขอบคุณครับ "

          " เหม็นฟามรัก โอ้ยๆๆ " ผมเอาไม้ลูกชิ้นแทงทีนไอ้ตัวปากดีที่เดินตามมานั่งยองๆ ข้างผม แซวกูดีนัก เอาไปแดก

          พวกเราย้ายมานั่งที่โต๊ะและผมจัดการใช้ไอ้เมี่ยงไปซื้อข้าวให้ เพราะมันเป่ายิงฉุบแพ้ หึหึ

          " งานกีฬาลี่จะทำอะไรเหรอ " พี่โรลถามผมพลางดูดน้ำแดงในมือ

          " ว่ายน้ำครับ "

          ' พรวดดดดดด '

          ผมสะดุ้งตาโตมองพี่โรลที่พ่นน้ำแดงไปไกล อะไรของเขาวะนั่น

          " ไปถอนตัวเดี๋ยวนี้เลย รุ่นพี่คนไหนมันบังคับ มันต้องคิดอกุศลแน่ๆ " พี่โรลจับข้อมือผมและลุกพรวดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

          " อะไรของพี่เนี่ย ผมลงเองต่างหากเล่า " ผมยื้อตัวเองไว้ไม่ยอมเดินตาม

          " พี่ไม่อนุญาต พี่ไม่ยอมจริงๆ ด้วย " เอ๊า อะไรของพี่แกฟะ

          " ผมว่ายได้นะ จริงๆ " ผมดึงพี่โรลกลับและจับให้นั่งลงตามเดิม

          " มันไม่ใช่เรื่องนั้น " พี่โรลกุมขมับตัวเอง ผมละงงจริงๆ ผมทำอะไรผิดเนี่ย

          " แล้วอะไรล่ะครับ " ผมหน้าบึ้งพลางดูดชาเขียวมองพี่โรลที่ทำหน้างอน

          " ขาอ่อนลี่พี่ยังไม่ได้เห็นเลย จะให้คนอื่นเห็นได้ยังไง "

          ' พรวดดดดดดด '

          คราวนี้ถึงตาผมแล้ว โอ้ยยย พ่อคุณเรื่องนี้เองเหรอ แล้วพี่จะพูดดังทำม๊ายยย

          " ผมไม่มีอะไรให้ดูหรอกครับ เวอร์ไปแล้ว " ผมเช็ดปากพลางฟาดพี่โรลเสียงดัง

          " ลี่ไม่มีทางรู้หรอก ผู้ชายมันคิดอะไรเวลามองลี่ " ผมขยับตัวตั้งใจฟัง

          " คิดอะไรเหรอครับ " ผมถามด้วยสีหน้าจริงจัง

          " อยาก เย.. โอ้ยๆๆ " ไม่ใช่แล้วมั้ง อันนั้นมันแกนั่นแหละโว้ยย

          " ไอ้ทะลึ่ง " ผมพูดพลางหยิกพี่โรลจนพี่แกร้องเจี๊ยกเลยทีเดียว

          " โรลๆ กูลงบาสให้มึงแล้วนะ " เพื่อนพี่โรลสามคนเดินผ่านมาครับ แต่ละคนนี่อย่างกับน้องชายพี่แอ๊ดคาราบาว เถื่อนแท้

          " เออ " ผมสังเกตุว่ากับคนอื่นพี่โรลก็ยังเป็นโรคขี้เกียจพูดอยู่ครับ แต่กับผมพี่เขาคุยเยอะสุดๆ ผมนี่ยืดเลย หึหึ

          " เมียมึง ใสกิ๊กเลยว่ะ แบ่งกูกอดสักคืนดิ " ผมที่ดูดน้ำอยู่นี่ถึงกับสำลักเลยครับ พี่คุยอะไรก๊านนน

          " ตีนๆ ไปเลยๆ กูหวง " พี่โรลลุกขึ้นเตะไล่เพื่อนเบาๆ สังคมพี่แม่งน่ากลัวจริงๆ

          " ระวังนะน้อง ไอ้โรลมันซิงมานาน ถ้ามันได้จัดเมื่อไหร่ น้องได้คลานแน่ๆ " ผมตาแทบเหลือก โอ้ยยย จะพูดให้คิดทำไมฟะ ไอ้พวกหื่นกาม หน้าแม่งก็ให้ซะด้วย

          " อย่าไปฟังมัน จะให้ไม่มีแรงคลานเลยคอยดู " โอ้ยย แบบนั้นมันหนักมากกว่าเดิมแล้วพี่

          ผมที่หมั่นไส้ความปากดีของพี่โรลเลยหยิบขวดเปล่าโต๊ะข้างๆ ปาหัวพี่โรลเต็มๆ ซึ่งก็เต็มๆ จริงๆ จังหัวไอ้เมี่ยงเต็มๆ ฮ่าๆ

          " เชี่ยไรเนี่ย " ไอ้เมี่ยงที่เดินถือข้าวมาเต็มสองมือถึงกับหน้ามึนไปเลย ใครจะไปรู้ว่าอีพี่โรลจะหลบเล่า

          " โทษฐานที่มึงมาช้า นี่มึงไปซื้อข้าวหรือมึงไปช่วยชาวนาหว่านข้าวเนี่ย " ผมได้ทีทำเนียนๆ ไป ฮ่าๆ สมน้ำหน้ามัน

          " กูซื้อให้ยังจะมาทำร้ายกูอีก " ไอ้เมี่ยงวางข้าวและทำหน้าบูด

          " แล้วเมื่อเช้าเป็นไงวะมากับพี่นาย " ผมถามมันและไม่สนใจพี่โรลที่ย้ายมานั่งฝั่งผมและเอาหัวไถแขนผมอยู่

          " ทีหลังอย่าใส่พานถวายกูให้มันอีกนะ กูขี้เกียจทะเลาะกับมัน " ผมหัวเราะหึหึ บางทีไอ้เมี่ยงมันอาจจะหยุดความเจ้าชู้ของพี่นายได้ก็ได้นะเนี่ย

          "  มึงก็เป็นรับให้พี่เขาดิ " ผมพูดแหย่มัน

          " ส้นทีนนนนนเถอะครับ กูไม่ยอมเสียเอกราชแน่ๆ นอกจากมึงจะยอมให้กูนั่งดูมึงกับพี่โรลตั๊มกัน โอ้ยๆๆ " ไอ้ประโยคหลังมันกระซิบผมครับ และผมก็ขยี้ทีนมันเป็นการตอบแทน ไอ้สันขวานเสือกจริงๆ นะมึง

          " แล้วมึงลงอะไรวะ กีฬาอ่ะ " ผมถามไอ้เมี่ยงที่กำลังขโมยไก่พี่โรลอยู่ ไอ้ห่าราก

          " เป็นอะไรที่ต้องใช้ฝีมือมาก " ผมมองมันที่ทำหน้าเคร่งเครียด มึงเนี่ยนะจะทำอะไรที่มันยากๆ

          " อะไรวะ " ผมถามมันด้วยความสงสัย

          " กินวิบาก " ถรุ๊ยย ผมโบกกบาลมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้ แล้วพี่โรลครับ นั่งดีๆ เป็นไหมเนี่ย อย่างกับคนไม่มีกระดูก เลื้อยเป็นงูเลย

          ตกตอนเย็นผมก็กลับมาที่บ้านพร้อมกับพี่โรล เพื่อมาคุยธุรสำคัญกับครอบครัวของผม ผมมองพี่โรลที่ส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ผมอยู่ไม่ห่าง ผมไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วถ้าผมมีพี่อยู่ข้างๆ

          ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเตรียมข้าวเย็นของบ้านผม ผมจึงเดินผ่านหน้าบ้านและตรงไปที่ครัวที่มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่

          " อ้าวอาลี่ กลับเย็นจังนะ " ผมและพี่โรลชะงักหยุดยืนอยู่ที่ประตูห้องครัว มองบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญที่กำลังยิ้มแป้น พลางจัดโต๊ะกินข้าวช่วยม๊าผมในครัว

          ได้สิ ถ้าเธอต้องการแบบนั้น ผมไม่กลัวอีกแล้ว ยังไงพวกเราก็ไม่มีวันยอมแพ้ ไม่ว่าครอบครัวของผมจะพูดยังไง



ผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือของคนที่ผมรักแน่นอน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 29 งานกีฬาและแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ]((30/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 30-11-2017 18:51:53
ลี่สู้ๆ ลี่สู้ๆ
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 29 งานกีฬาและแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ]((30/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-12-2017 02:39:55
ใครมาฟะ ชะนีหนิง หรือ หมานาย  :o10:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 29 งานกีฬาและแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ]((30/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 01-12-2017 23:34:24
น้องลี่สู้เค้านะ พี่โรลรักหนูขนาดนี้เเล้วว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 29 งานกีฬาและแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ]((30/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 04-12-2017 09:38:29
          Calorie ที่ 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ


          ผมและพี่โรลเดินเข้ามาในครัวและก็ต้องพบว่า มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาถึงก่อนหน้าพวกเราแล้ว เอาสิ อยากทำอะไรก็ทำ แต่ผมจะไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด

          " อาลี่ มาช่วยม๊าจัดโต๊ะเร็ว แล้วอาตี๋โรลด้วย " มาม๊าพูดพลางเหลือบมองพี่โรล แปลกแฮะ มาม๊ารู้จักพี่โรลด้วย

          " อ่าว วันนี้มีคนล้างจานแล้วสินะ " ป๊าผมเดินตามมาจากหน้าบ้านพลางหรี่ตามองพี่โรลแบบไม่เป็นมิตร

          พี่โรลยกมือหวัดดีป๊าม๊าผมด้วยท่าทีที่สงบนิ่งไม่สมกับเป็นพี่แกเลยสักนิด ดูพี่เขาเครียดมาก ก็นั่นแหละนะ จะโดนลูกปืนหรือเปล่ายังไม่รู้ชะตากรรมเลย

          " อาหนิงไม่เจอกันนาน ไม่ตามอาเมี่ยงมาอีกคนจะได้ครึกครื้น " ป๊าพูดพลางนั่งลง

          " นั่นสิ อาลี่ ทำไมไม่ชวนอาเมี่ยงมาด้วย " ม๊าถามพลางนั่ง
         
          " ไม่เป็นไรครับ แค่นี้คนก็ล้นแล้ว " ผมพูดพลางดึงพี่โรลให้นั่งลงข้างๆ เผชิญหน้ากับหนิงที่นั่งตรงข้าม

          " หนิงไม่ได้มานาน อะไรๆ ก็ดูเปลี่ยนไปนะคะ " หนิงพูดพลางตักข้าวให้พวกเราทุกคน ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

          ผมสังเกตุมือพี่โรลกำช้อนแน่นสุดๆ แถมยังสั่นน้อยๆ อีกด้วย ใจเย็นนะครับพี่ อย่าเพิ่งระเบิดตอนนี้เชียวนา

          " แล้วเราหายไปไหนมา ป๊าก็ว่าอยู่ว่าไม่เห็นหน้าเลย " ป๊ากินข้าวพลางเอาตะเกียบชี้หน้าหนิงไปด้วย

          " พอดีมีเรื่องให้ต้องย้ายค่ะ "

          " แล้วตอนนี้ไปเรียนที่ไหนล่ะ มีแฟนหรือยัง " ม๊าถามพลางยิ้มให้หนิง

          " เรียนพยาบาลค่ะ หมั้นแล้วด้วย ใช่ไหม​คะพี่โรล " ที่ใต้โต๊ะพี่โรลจับมือผมแน่น และป๊าม๊าก็มองพี่โรลสลับกับหนิงด้วยความสงสัย

          " ก็อย่างที่บอกนะคะ ว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป ใช่ไหม​อาลี่ " หนิงยิ้มอย่างชื่นบานมองหน้าผมด้วยความเปรมปรี

          " หมายความว่ายังไง " ป๊ามองหนิงและผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

          " อ่าว ป๊าม๊ายังไม่รู้เหรอคะ ว่าอาลี่เขาชอบผู้ชาย และยังเป็นผู้ชายของคนอื่นด้วย " ผมมองหนิงและมองป๊าม๊าโดยไม่หลบสายตาเลยสักนิด

          " ผมกับพี่โรลรักกันครับ เรื่องหมั้น คุณแม่พี่โรลเป็นคนบังคับพี่โรล พี่โรล.. "

          " ผมไม่เคยรักผู้หญิงคนนี้ " พี่โรลพูดและมองหน้าหนิงที่กำลังตาโตจ้องมองผมสองคน

          " แบบนี้มันไม่ถูกนะคะ ป๊าม๊าต้องห้ามอาลี่นะคะ ผู้ชายจะรักผู้ชายได้ยังไง ขยะแขยงจะตาย " หนิงพูดพลางมองป๊าม๊าเหมือนกับกำลังขอความเห็น

          " ใช่ ขยะแขยงมาก " ผมแววตาสั่นระริก มองป๊าที่พูดออกมาพลางก้มลงมองที่โต๊ะ

          " ใช่ไหม​คะ ป๊าต้องสั่งห้ามไม่ให้ทั้งสองคนเจอกันนะคะ อาลี่ยังมีโอกาสหายได้ "

          " ผมไม่ได้ป่วย " ผมกัดฟันพูด เธอจะมากไปแล้วนะ ผมอยากต่อยเธอ ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นผู้หญิงละก็

          " ออกไปซะ " ผมมองป๊าตัวสั่นน้อยๆ

          " ป๊าครับ ป๊าไม่เข้าใจผมเหรอ "

          " อย่าถึงกับต้องไล่กันเลยค่ะ พูดคุยกันดีๆ ตกลงกันได้ค่ะ " หนิงพูดพลางยิ้มแป้น

          " อั๊วไม่ได้บอกลูกอั๊ว ลื้อต่างหาก ออกไปซะ " ป๊าพูดพลางเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ มองหนิงตาขวาง

          ผมมองหน้าหนิงที่หุบยิ้มลงฉับพลัน แต่ลุกขึ้นจากเก้าอี้

          " ป๊าคะ อาลี่เป็นเกย์นะ ป๊ายอมรับได้งั้นเหรอ " หนิงพูดเสียงดังไม่ยอมแพ้

          " ลูกอั๊วจะเป็นอะไรทำไมอั๊วจะไม่รู้ ไม่จำเป็นต้องมาฟังจากปากคนแบบลื้อ ที่น่าขยะแขยงน่ะ ตัวลื้อต่างหาก "  ผมน้ำตาไหลพราก นี่ป๊ารู้มาตลอดเลยงั้นเหรอ

          ผมรู้สึกทั้งโล่งอกและดีใจมาก เพราะไม่ว่าผมจะเป็นยังไง พวกท่านก็ไม่เคยบังคับอะไรผมเลย ผมโชคดีจริงๆ ที่เกิดมาเป็นลูกป๊ากับม๊า
         
          " ไล่ก็ไปสิ คนอื่นเขากินข้าวไม่ลงเพราะเจ้นะ ชิ่วๆ " ผมมองน้องสาวแก่แดดของผมที่ยืนพิงประตูและทำมือไล่หนิงให้ออกไป

          " วิปริตทั้งบ้าน " หนิงพูดและสะบัดตัวเดินปึงปังออกไปด้วยความโกรธ

          " ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะครับ " ผมพูดด้วยร้อยยิ้มเศร้าๆ

          " อย่าคิดอะไรไปเองอาลี่ ป๊ามีลูกชายคนนึงแล้ว จะมีลูกชายเพิ่มอีกคนจะเป็นไรไป " ป๊าหรี่ตามองพี่โรลและหัวเราะเสียงดัง

          ผมมองหน้าพี่โรลที่กำลังยิ้มน้อยๆ พี่ก็คงมีความสุขมากใช่ไหม​ครับ

          " อย่าคิดว่าป๊าม๊าจะโง่นะ รู้ตั้งแต่เรื่องอานายแล้ว มองออกง่ายจะตายไป " ม๊าพูดพลางกอดอกถอนหายใจหน่ายๆ  ผมยิ้มแหยๆ แบบคนรู้สึกผิด

          " จริงๆ เฟยตกใจมากเลยนะเมื่อกี้ ป๊าม๊าทำไมไม่บอกเฟยบ้าง แล้วเฮียโรลคะ เฟยหน้าคล้ายเฮียลี่อยู่นะ จะเปลี่ยนใจก็ยังไม่สายนะคะ " ผมมองอาเฟยที่เกาะแขนพี่โรลพลางยักคิ้วโปรยเสน่ห์ หนอยย ยัยเด็กนี่ เผลอไม่ได้เลยนะ

          " แล้ว ลื้อทำอะไรลูกชายอั๊วหรือยัง "

          ' พรวดดดด '

          ผมถึงกับพ่นน้ำออกมารอบสองของวันเพราะคำถามที่ถามออกมาจากปากบุพการีของผม อ้ากกก

          " ถามอะไรของป๊าเนี่ย " ผมหน้ามุ่ยแต่พี่โรลยิ้มแฉ่งเลยครับ

          " กำลังพยายามครับ โอ้ยๆๆ " ผมกระทืบทีนพี่โรลใต้โต๊ะ หนอยย ตอบอะไรฟะนั่น

          " เห้ย บอกไว้ก่อนนะไอ้ตี๋ อย่ามาทำลุ่มล่ามนะเฟ้ย จะหาว่าป๊าไม่เตือน " ป๊าพูดพลางเอาตะเกียบชี้หน้าพี่โรลเชิงขู่ แต่ก็ดูเหมือนจะเล่นๆ มากกว่า

          " ครับ จะทำแบบไม่ให้จับได้ โอ้ยยย " ผมหยิกแขนพี่โรล โอ้ยย แบบนั้นก็แปลว่าจะทำสินะ ทำเอาป๊าชะงักหรี่ตามองพี่โรลอีกรอบอย่างพินิจพิจารณา

          " ไอ้นี่มันร้าย เหมือนป๊าสมัยหนุ่มๆ " อ่าวป๊า ไหงไปเห็นดีเห็นงามซะงั้นเล่า

          หลังจากนั้นพี่โรลก็ดูจะเข้ากับป๊าม๊าผมได้เป็นอย่างดี ผมมองพี่โรลที่ดูสุภาพเวลาคุยกับผู้ใหญ่ แต่บางทีก็ชอบหลุดทำตัวเกรียนๆ ตามสไตล์พี่แกบ้าง

          หลังกินข้าวเย็น ผมกับพี่โรลก็อาสาเป็นคนล้างจานให้ พี่โรลนั้นก็ยังคงเหมือนเดิม หยิบจับอะไรเป็นแตกแหกไปหมด แต่พี่แกก็สามารถทำอาหารได้ดีกว่าผมครับ ถือว่าเราดีกันคนละด้านนั่นแหละนะ

          " คืนนี้พี่นอนด้วยนะ " พี่โรลที่กำลังเช็ดโต๊ะ อยู่ดีๆ ก็เดินมากอดผมที่ด้านหลัง ทำเอาจานกระเบื้องในมือแทบหลุดหวือออกไป

          " เดี๋ยวใครเข้ามาทำไง " ผมตีมือพี่โรลที่กอดผมและเอาหน้าซุกข้างแก้มผมอย่างออดอ้อน

          " ป๊าม๊าไม่ว่าหรอก " พี่โรลยังไม่หยุดและยังดอดหอมแก้มผมไปหลายที

          " ไม่ได้ครับ ถึงเค้าจะไม่ว่าแต่ก็ต้องเกรงใจบ้าง " ผมมองพี่โรลที่ทำหน้างอและเดินกระทืบเท้าเหมือนเด็กๆ

          " งั้นวันนี้ไปนอนคอนโดพี่ "

          " อยากไปอยู่นะครับ แต่ผมมีการบ้านนิดหน่อยอ่ะ "

          " เดี๋ยวพี่ช่วยทำ " ผมหรี่ตามองพี่โรล ไอ้การบ้านที่พี่บอกนั่นน่ะ ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องเดียวกันแน่ๆ

          " ถึงนอนนี่ไม่ได้ แต่ขึ้นไปนั่งเล่นสักพักก็ได้นะครับ " ผมพูดเขินๆ พลางจัดจานไปด้วย ได้สักนิดสักหน่อยก็ยังดี ฮ่าๆ

          หลังทำอะไรเสร็จเรียบร้อยผมก็พาพี่โรลขึ้นไปนั่งเล่นในห้องและขอตัวอาบน้ำก่อน แล้วผมจะทำตัวเตรียมพร้อมทำไมเนี่ย อ้ากก เดี๋ยวอีพี่หื่นกามนี่ก็คิดลึกกันพอดี

          " พี่โรลจะอาบ... " ผมมองดูพี่โรลที่กำลังมองดูรูปถ่ายใบหนึ่งอยู่ ผมค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ และก็ต้องตกใจมาก เพราะว่ามันคือรูปคู่ของผมกับพี่นายเมื่อสมัยก่อน

          " ไม่ใช่นะครับ สงสัยมันหล่นตอนผมเอาไปทิ้งน่ะ " ผมรีบแย่งรูปถ่ายใบนั้นมาอย่างตื่นตกใจ พี่โรลหึงโหดแค่ไหนผมรู้ดี

          " พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย " พี่โรลพูดพลางทิ้งตัวลงกับเตียงของผม

          " ลี่ อยู่กับพี่มีความสุขหรือเปล่า " พี่โรลพูดพลางหลับตาลง

          " พี่ขอโทษนะ อะไรหลายๆ อย่าง "

          " พูดอะไรน่ะ ไม่สมกับเป็นพี่เลย " ผมพูดพลางมานั่งข้างๆ พี่โรลที่นอนอยู่

          ' จุ๊ฟ '

          ผมก้มลงจุ๊ฟเบาๆ ที่ริมฝีปากแดงนั้น จนพี่โรลลืมตาขึ้นทันทีด้วยความตกใจ ผมมองพี่โรลที่นอนจ้องมองผมและยิ้มน้อยๆ เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องถามก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว



แค่เพียงพวกเรามองตากัน ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกในหัวใจ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ ]((04/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-12-2017 10:20:19
 :L2: :pig4:

ดีใจกับลี่
หนิงจะเห็นแก่ตัวไปไหน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ ]((04/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 04-12-2017 11:19:49
ผ่านด่านป๊าม๊าแล้วสินะ สะใจเล็กๆ กับหนิง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ ]((04/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 04-12-2017 11:25:19
ทีมคุณพ่อเลยจ้างานนี้ ขยะแขยงหนิงมาก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ ]((04/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 04-12-2017 11:46:44
ดีใจกับลี่ ที่ป๊าม้าเข้าใจ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ ]((04/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-12-2017 00:50:17
มอบโล่ห์ดีเด่น "พ่อนายเอกดีเด่น 2560" ให้ป๊าเลย  :a1: :a2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 30 ครอบครัวที่แสนสำคัญ ]((04/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 05-12-2017 14:47:48
          Calorie ที่ 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ


          " ขอกอดหน่อยได้ไหม​ " พี่โรลชูแขนทั้งสองข้างขึ้นเพื่อให้ผมได้ซุกตัวเข้าไปในอ้อมอกนั้น และผมก็ไม่รอช้า โถมตัวเข้าสู่อ้อมกอดนั้นทันที

          พี่โรลหอมผมและกอดผมไว้แน่น และลูบเบาๆ ที่หลังของผม

          " เอ่อ พี่ครับ " ผมเริ่มเงยหน้ามองพี่โรลที่ลูบหลังผมเพลินซะเหลือเกิน แล้วทำไมมือถึงลงต่ำเรื่อยๆ ฟะ

          " ผิวนุ่มมากเลย " อ้ากก เผลอไม่ได้เชียว

          " เอามือออกไปเลยนะ " ผมเอี้ยวตัวพยายามจับมือปลาหมึกของพี่โรลไว้ แต่ก็ได้แต่จับนั่นแหละ

          " อย่าาา " พี่โรลไม่พูดอะไรแต่ยิ้มและจ้องหน้าผมเหมือนจะแกล้งกัน

          " จูบพี่หน่อย " ผมทำหน้าบูด อ้อนได้อ้อนดี แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น ผมก็ก้มลงให้ริมฝีปากของเราผสานกัน พี่โรลรุกเร้าผมทั้งจูบทั้งดูดริมฝีปากของผมจนเกิดเสียง ผมตัวอ่อนลง ปล่อยให้คนข้างล่างกอดผมเอาไว้ลูบเบาๆ ทั่วร่างกายของผม

          " พี่โรล " ผมหันหน้าหนีริมฝีปากนั้น

          " ขอโทษนะ แต่พี่อดใจไม่ได้หรอกถ้าได้กอดลี่แบบนี้ " ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

          " รอไปที่คอนโดก่อนไม่ได้เหรอ ให้ผมทำการบ้านก่อนนะ " ผมตอบอ้อมแอ้มในลำคอด้วยความเขินอาย

          " ขอมัดจำไว้ก่อน "

          " ไอ้บ้า " ผมพูดเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้

          " เดี๋ยวสิครับทำอะไรเนี่ย " ผมถูกกอดและเลื่อนตัวขึ้นอีก โดยพี่โรลยังคงนอนอยู่ด้านล่างผม ตัวของผมเลื่อนขึ้น จนลำตัวท่อนบนของผมอยู่ตรงหน้าพี่โรล

          " อย่า ไม่เอาจริงๆน้า " พี่โรลกอดเอวผมดึงให้ตัวของผมแนบลงมาและเลื่อนเสื้อผมขึ้นด้วยมือข้างเดียว

          " อื้ออ อ๊ะ " พี่โรลได้โอกาสกดหลังของผมและจูบเลียที่ยอดอกสีชมพูของผมอย่างรวดเร็วจนผมเหลอร้องออกมา

          ผมหลับตาแน่น แอ่นอกรับเพราะไม่อาจต้านทานความรู้สึกวาบหวามนี้ได้ คนเบื้องล่างยังคงกดตัวผมลงและขยับเลื่อนริมฝีปากย้ายไปยังติ่งไตสีชมพูอีกด้าน และดูดเลียจนจุดอ่อนไหวนั้นเริ่มเป็นสีแดง

          ผมหน้าแดง และรู้สึกร้อนวูบวาบด้วยแรงกระตุ้น และก็เหมือนคนข้างล่างจะสามารถรับรู้ได้ มือของคนเบื้องล่างลูบเอวผมต่ำลงมาเรื่อยๆ และค่อยๆ ถอดกางเกงผมออกช้าๆ

          " ไม่เอา " ผมจับมือนั้นไว้และส่ายหน้าเบาๆ แต่คนเบืื้องล่างก็แค่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์และเลื่อนตัวผมให้สูงขึ้นไปอีก ท่านี้มันแบบว่า

          " ไม่เอาเด็ดขาด " พี่จะฮาร์ดคอไปไหนครับ ผมอายจนเลือดจะออกตาอยู่แล้ว

          " นะ ขอให้พี่ทำเถอะ " ผมโอนอ่อนตามเสียงขอร้องนั้น จนกางเกงนอนขาสั้นของผมหลุดออกจากตัว เผยให้เห็นส่วนอ่อนไหวที่แข็งขืนขึ้นน้อยๆ ผมนั่งชันเข่าอยู่บนอกของพี่โรล ปิดหน้าที่แดงก่ำของตัวเองเอาไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง และยันตัวเองไว้กับหน้าท้องพี่โรลอีกข้างหนึ่งเพื่อไม่ให้ตัวผมทิ้งน้ำหนักลงไปมาก

          ผมถูกดึงและกอดเอวให้เลื่อนมาข้างหน้าอีกเรื่อยๆ ให้จุดอ่อนไหวนั้น อยู่ตรงที่ที่สะดวกต่อคนเบื้องล่างมากที่สุด

          " ห..ห้ามพูดอะไรนะ ไม่งั้นผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย " ผมยังคงปิดหน้าและขยับตัวตามแรงของคนข้างล่าง
         
          " ไม่พูดอะไรหรอก เอาสิ ใช้พี่ตามที่ต้องการเลย " ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่แบบนี้ใครจะไปกล้าคล่อมหน้าพี่กันล่ะ

          " ไม่เอาท่านี้ไม่ได้เหรอ " ผมพูดพลางไม่กล้าขยับตัว

          " ไม่เป็นไร พี่ชอบ " หนอย ไอ้ M เอ้ย

          ผมขยับตัวขึ้นช้าๆ ลูบแก้มคนเบื้องล่างที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข แล้วอย่ามาบ่นทีหลังละกัน

          คนเบื้องล่างที่เห็นผมไม่ลงมือทำอะไรสักที ก็เริ่มเลื่อนตัวขึ้นมาเล็กน้อยจัดการจุดอ่อนไหว โลมเลียเบาๆ และลากลิ้นครอบครองทั้งหมดนั้น จนผมต้องเม้มปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงไม่ให้ออกมาจากความเสียวซ่านนั้น คนเบื้องล่างเมื่อครอบครองส่วนอ่อนไหวของผมแล้ว ก็กอดและลูบไล้สะโพกกลมนั้นเบาๆ และกดให้ตัวผมแนบชิดกับใบหน้าของตัวเองมากขึ้นไปอีก

          คนเบื้องล่างทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง โดยที่ริมฝีปากแดงยังคงทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี ผมถูกดึงให้ทับลงไปแต่ก็ชันแขนตัวเองไว้กับหัวเตียง ไม่ให้ลำตัวของผมกดน้ำหนักลงไปมากกว่าเดิม

          " อ๊ะ อื่อ " ผมตัวสั่นน้อยๆ พยายามไม่ขยับเอวแต่ก็ถูกคนเบื้องล่างบังคับล็อคสะโพกของผมไว้แน่น

          " อ๊า ผมจะ..ปล่อยผมก่อน " ผมถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แต่คนเบื้องล่างก็ยังไม่ยอมปล่อยเอวผมให้เป็นอิสระ ผมพยายามขืนตัวเองออกแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ผมกระตุกเกร็งและปล่อยของเหลวออกมาพลางหอบหายใจ

          " ไอ้บ้า ไอ้ทะลึ่ง คายออกมาเลยนะ " ผมดันตัวเองออกและตีพี่โรลที่ดูท่าจะอิ่มหมีพลีมันมีความสุขเหลือเกิน

          ผมรีบใส่กางเกงและไปนั่งแหมะที่พื้นฟุบหน้าลงกับเตียงด้วยความอาย

          ผมรู้สึกถึงตัวพี่โรลที่ลุกขึ้นมาและมานั่งลงซ้อนด้านหลังผมพลางกอดผมและเอาหน้าไถไปไถมาบนหลังผม

          " แฟนพี่โครตน่ารักเลย " งืออ ทำไงดีไม่กล้ามองหน้าแล้ว ผมมีอารมณ์มากไปเลยตะเลิดตามใจคนหื่นซะได้

          " อย่า ไม่เอาแล้วน้า " ผมเริ่มจับมือพี่โรลที่กอดรัดผมแน่นขึ้นอีกแล้ว

          " กลับตอนนี้เลยได้ไหม​ " พี่โรลนี่เอาแต่ใจของแท้ งอแงเป็นที่หนึ่ง

          " ขอผมทำการบ้านก่อนนะ แปบเดียวเอง " เหมือนพี่โรลจะฟังผม เพราะตอนนี้แค่กอดผมไว้เท่านั้น

          ผมเอื้อมมือลงควานหากระเป๋าใต้เตียงและลากออกมา เปิดเอาหนังสือและสมุดออกมากางวางบนเตียง

          " ไม่เกินครึ่งชั่วโมงนะครับ " ผมพูดและรีบลอกงานอย่างรวดเร็ว แต่เดี๋ยวนะ เหมือนอีพี่ความอดทนต่ำนี่จะเริ่มคึกอีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้พี่โรลกำลังกอดและลูบเสื้อด้านหน้าของผมแผ่วเบา

          " พี่จะ เอ่อ ทำ...รอผมก็ได้นะ " ผมพูดอ้อมแอ้มกับสมุด เพราะผมรู้ดีว่าพี่โรลยังคงค้างอยู่จากการช่วยผมเมื่อกี้ มันดูไม่แฟร์สินะที่ผมเสร็จคนเดียว

          " ทำได้เหรอ " พี่โรลพูดกระซิบข้างหูผมด้วยเสียงกระเส่าจนผมขนลุกไปทั้งตัว

          " ก็ทำสิครับ ใครไปว่าอะไร " แต่เมื่อผมที่พูดแบบนั้นก็ต้องชะงัก เพราะว่าพี่โรลที่นั่งกอดผมอยู่นั้นกลับกอดผมแน่นขึ้นและดันผมจนลำตัวของผมทับอยู่กับหนังสือที่วางอยู่บนเตียง

          " พี่ทำอะไรเนี่ย ไม่ใช่แบบนี้นะ " ผมดิ้นไปมาแต่พี่โรลก็โน้มตัวลงมากอดผมไว้แน่นจนตัวของผมด้านหลังขนาบกับด้านหน้าของพี่โรลแบบทั่วทุกส่วน นี่อย่าบอกนะ

          " ไม่ได้นะ ปล่อยเลย เดี๋ยวม๊าขึ้นมา " ผมยังคงดิ้นขลุกขลักหันหน้าหนีพี่โรลที่กำลังซุกไซร้แก้มผมคอผมอย่างเมามันส์

          พี่โรลนั้นแรงเยอะมากและไม่ค่อยพูดอะไรออกมา ทำเอาผมเกร็งไปหมด ในเวลาแบบนี้พี่เขาก็ดูน่ากลัวนิดๆ นะ จริงๆ ไม่นิดแล้วแหละ ผมเสร็จแน่ๆ แต่ความจริงแล้วจะบอกว่าผมไม่อยากก็ไม่ใช่ แต่ผมกลัวคนขึ้นมาเจอต่างหาก

          " ถ้ามีคนขึ้นมาล่ะครับ " ผมถามเสียงเบาก้มหน้าลงกับสมุด

          " ไม่นานหรอก นะ " พี่โรลพูดพลางค่อยๆ เลื่อนกางเกงนอนของผมลงช้าๆ ทุกการกระทำนั้นพี่โรลยังคงกอดแนบผมที่ชันเข่าคว่ำหน้าอยู่เอาไว้ ความตัวใหญ่ของพี่นั้น ทำเอาผมโดนทับซะมิดเลยทีเดียว

          " อย่าน้า ไม่เอาแบบนั้น " ผมตกใจ เพราะอยู่ดีๆ พี่โรลก็ปล่อยตัวผมและเลื่อนตัวลงไปเอาแก้มแนบกับก้นของผม ผมเอี้ยวตัวเอามือดันหน้าพี่โรลที่ดูสุขขีเหลือเกินบนแก้มก้นนั้น

          " ใสกว่าหน้าพี่อีก " โอ้ยย ไอ้พี่บ้า โรคจิต ผมหยิกแก้มพี่โรลทันทีที่เอื้อมถึง แต่ดูตอนนี้พี่แกจะหน้าด้านหน้าทนเหลือเกิน

          " คราวหน้าซื้อหางฟูๆ มาใส่ให้ดีกว่า "

          " พอเลย ห้ามมองนะ " ผมทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกมือข้างหนึ่งของพี่โรลกดหลังไว้

          " ปล่อยเลยน้า " ผมเอื้อมมือไปด้านหลังปิดช่องทางสีชมพูของตัวเองไว้สุดกำลัง แต่ผมก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าความรู้สึกของผมกำลังบอกว่าตอนนี้ คนข้างหลังนั้นกำลังเลียที่ขาอ่อนของผมขบเม้มเบาๆ ให้ความรู้สึกหวาดเสียวผสมกับเจ็บจิ๊ดๆ ที่ต้นขานั้น ลิ้นอุ่นไล่ขึ้นมายังแก้มก้นใสที่เริ่มเป็นสีแดงระเรื่อจากการบีบเฟ้น

          ผมก้มหน้าลงกับสมุดเกร็งตัวรับสัมผัสที่วูบไหวนั้น ทุกกสรสัมผัสทำเอาผมแก้มร้อนผ่าว และเริ่มตื่นตัวขึ้นมาด้วยแรงกระตุ้นนั้น

          " อ๊ะ อย่า " ผมสะดุ้งอีกครั้งเมื่อลิ้นอุ่นๆ นั้นกำลังแตะสัมผัสกับช่องทางอ่อนนุ่มด้านหลังและกำลังโลมเลียจนผมแอ่นตัวเกร็งมือกำสมุดไว้จนยับยู่ยี่ไปหมด

          ผมขาสั่นน้อยๆ พยายามกลั้นเสียงอย่างสุดกำลัง

          " น่ารักจัง เตรียมเอาไว้ก่อนแล้วนี่นา " ผมหน้าแดงก่ำทันทีที่ได้ยินแบบนั้น พี่โรลเลื่อนตัวขึ้นมากอดรัดผมไว้อีกครั้งและกำลังจูบใบหูสีแดงของผมอยู่

          " ก็มันสกปรกนี่ ก็ต้องล้างตลอดอยู่แล้ว " ผมก้มหน้าพูดกับหนังสืออย่างเขินอาย จริงๆ ตอนอาบน้ำผมก็ชอบทำความสะอาดอยู่แล้ว แต่วันนี้กันเอาไว้เผื่อเหตุการณ์แบบนี้ไง ช่องทางด้านหลังของผมเลยเหมือนถูกเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว แบบนี้ก็เหมือนเราเตรียมตัวให้เขาทำมิดีมิร้ายเลยสินะ ฮืออ

          " จูบพี่หน่อย " พี่โรลที่ทับตัวผมนั้นกำลังยื่นหน้ามาใกล้ๆ เพื่อให้ผมหันหน้ามารับสัมผัสจากริมฝีปากอ่อนนุ่มได้ถนัด  ผมเอี้ยวตัวตอบรับจูบนั้นให้เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดแลกเปลี่ยนความหวานกันอย่างแนบแน่น

          " อื้ออ อื่ออ " ผมลืมตาขึ้นทันทีด้วยความตกใจ เพราะว่าผมรู้สึกถึงบางสิ่งที่มีขนาดใหญ่กำลังค่อยๆ แทรกช่องทางอ่อนนุ่มนั้นทีละนิด ผมดิ้นน้อยๆ แต่ก็ถูกแขนแกร่งจับล็อคแก้มผมไว้ไม่ให้ริมฝีปากผละออกจากกัน และแขนอีกข้างของคนด้านหลังก็กำลังล็อคต้นขาของผม ตรึงผมเอาไว้ให้สอดใส่ได้โดยง่าย

          ยิ่งแก่นกายนั้นสอดลึกมากขึ้นเท่าไหร่ แรงจูบและเสียงหายใจของพี่โรลนั้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ทั้งความกลัวว่าประตูจะเปิดออกและความรู้สึกคับแน่นภายในช่องทางนั้นผสมปนเปกันจนผมหูอื้ออึงไปด้วยความเสียว ผมอ้าปากร้องครางแต่ก็ถูกคนตรงหน้าปิดปากไว้แน่นด้วยริมฝีปากของตนเอง

          ท่อนกายร้อนนั้นเข้ามาลึกทีละนิดๆ จนสุด และนิ่งค้างไว้แบบนั้น พี่โรลปล่อยริมฝีปากผมและพรมจูบลงที่แก้มและดวงตาที่รื้นน้ำตาของผม

          " อุ่นจัง รัดพี่แน่นมากเลย " พี่โรลพูดเสียงกระเส่าและซืดปากน้อยๆ อย่างพึงพอใจ

          " อ..อย่.าพูดนะ " ผมก้มหน้าลงพยายามหายใจเข้าออกให้ปกติ ยิ่งได้ยินผมยิ่งอยากจะหนีหายไปด้วยความอาย

          " พี่ขยับได้ไหม​ " พี่โรลยังคงกอดรัดแนบตัวผมทั้งๆ ที่ช่วงล่างของเรายังตรึงกันแน่น ทุกการขยับตัวของพี่โรลนั้นทำเอาผมเสียวจนแทบทนไม่ไหว

          " ..เร็.วเถอะครับ " พี่โรลจูบไซร้หลังคอผมและค่อยๆ ขยับตัวเลื่อนแก่นกายออกช้าๆ ทำเอาผมเผลอร้องครางออกมา

          " อ๊ะ อื้.. " คนข้างหลังกอดรัดซบหน้าลงกับหลังของผมและเลื่อนมือเข้าไปด้านหน้าจากใต้เสื้อ เข้าไปลูบเบาๆ ที่ยอดอกน้อยๆ ที่กำลังแข็งชูชัน ผมเอามืออุดปากตัวเองแน่น ไม่ให้ร้องออกมา พร้อมๆ กับที่คนด้านหลังเริ่มขยับเอวดันท่อนกายแทรกเข้ามาอีกครั้งจนสุด และหอบหายใจเบาๆ ข้างหูของผม

          " อึก..ดีจัง ให้ทำทั้งคืนยังได้เลย " พอผมได้ยินแบบนั้นคนด้านหลังก็เริ่มขยับเอวเข้าออกจากช้าๆ เป็นไวขึ้นกว่าเก่า แต่ก็ยังคงกอดตัวผมลูบไล้กอดจูบไปด้วย
         
          " อ๊ะ อึ๊ก " ผมทั้งเม้มปากทั้งกัดแขนตัวเองก็แล้ว ก็ยังคงไม่อาจกลั้นเสียงได้หมด ผมเกร็งตอดรัดท่อนกายนั้นด้วยความลืมตัว อ้าปากหอบหายใจพลางส่งเสียงครางเล็กๆ เป็นระยะ

          คนด้านหลังหลับตาแน่นเหงือผุดซึมทุกการเคลื่อนไหว และครางในลำคอเบาๆ อย่างพึงพอใจข้างๆ แก้มผม

          " จะไปแล้ว ทนหน่อยนะ " พี่โรลจากที่นอนทับกอดผมอยู่นั้น ลุกขึ้นและล็อคจับเอวผมไว้แน่นและเริ่มขยับตัวเข้าออกถี่ขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ  ตัวผมร่นขึ้นหน้าด้วยแรงกระแทกนั้น แต่ก็ถูกดึงกลับและยกก้นให้ลอยขึ้นอีกเพื่อรับแรงเสียดสีนั้น

          " อ๊ะ ผม.จะ. " ผมแอ่นรับท่อนกายร้อนนั้นด้วยความเสียวจนแทบขาดใจ คนข้างหลังยังคงใส่แรงเข้ามาเรื่อยๆ จนแก้มก้นที่ถูกแรงกระแทกนั้นแดงขึ้นพร้อมกับแรงบีบจากมือที่จับล็อคเอาไว้

          สัมผัสจากความร้อนที่สอดเข้าและออกตามความยาวนั้นยังคงดำเนินต่อไป ผมหน้าแดงด้วยความทรมานจากการกลั้นเสียง แต่ก็เสียวจนเสร็จไปก่อนหนึ่งรอบ โดยที่คนด้านหลังนั้นก็ยังคงไม่หยุดกระหน่ำเอวเข้ามาเรื่อยๆ ถี่กระชั้นและแรงจนผมแทบสำลัก ผมครางออกมาและตอดรัดแก่นกายร้อนนั้นอีกครั้งพร้อมปล่อยหยาดน้ำออกมาอีกเป็นครั้งที่สาม และคนด้านหลังก็ใส่แรงเป็นครั้งสุดท้ายและหยุดนิ่งค้างโน้มตัวมากอดรัดผมไว้แน่นและหายใจหอบตัวโยน

          " แฮ่ก ร..รีบเอา.ออกเถอะ "  ผมพูดพลางยังไม่หยุดหอบหายใจ

          " ชอบจัง อยากทำอีกอ่ะ โอ้ยย " ผมเอี้ยวตัวไปหยิกขาไอ้พี่บ้านี่ ไอ้เราก็คิดว่าจะเบา ที่ไหนได้ โยกมันเลยทีเดียว

          " ยิ้มอะไร " ผมหน้าบูดเอี้ยวตัวมองคนที่ยังกอดรัดผมอยู่

          " ลี่เป็นของพี่ ของพี่จริงๆ ด้วย " พี่โรลพูดพลางยืดตัวมาหอมแก้มผม

          " ไอ้บ้า " อ้ากก เขินจนพูดไม่ถูกเลยทีเดียว

          ' ตึ้งตึ้งตึ้ง '

          ผมรีบสลัดพี่โรลออกและใส่กางเกงโดยเร็ว เสียงฝีเท้าที่เดินขึ้นบันไดมานั้นแทบไม่ต้องเดาเลยว่าใคร

          " ลี่ ไปนอนเป็นเพื่อนคนหล่อหน่อย " ไอ้เมี่ยงเปิดประตูเข้ามาและหรี่ตามองผมกับพี่โรลทันที โอ้ยย ถ้ามึงมาไวกว่านี้กูได้ฆ่ามึงแน่

          ผมพยายามปรับหน้าตาให้ดูเรียบๆ มากที่สุดทั้งๆ ที่เจ็บก้นมากๆ เพราะนั่งลงแรงเกินไป เชื้อต่างชาติของพี่โรลนั้นแรงจริงๆ ไซส์พี่มันไม่ใช่ไซส์เอเชียเลยให้ตาย ฮืออ

          " พี่โรลก็อยู่เหรอเนี่ย สนใจไปนอนกินหนมบ้านผมไหม​ค๊าฟ " ไอ้หมาขี้เหงาแบบมึงนี่ไปหาเมียไม่ก็ผัวได้แล้วมั้ง

          " ก็ดีนะ แต่ว่าคืนนี้พี่มีภารกิ.. " โอ้ยยยย ไอ้บ้าเอ้ยจะพูดสองแง่สามง่ามเพื่อ ผมหันขวับไปตาเขียวใส่ทันควันจนพี่แกหยุดแพล่มทันที

          ไอ้เมี่ยงยังคงหรี่ตามองอย่างสงสัยใคร่รู้ ไอ้สันขวาน มึงจะเล่นเกมส์จับผิดใช่ไหม​ เดี๋ยวกูจัดให้ ผมนั่งยืดขาพยายามบังแหล่งน้ำปริศนาที่ยังทำลายไม่ทัน ดีนะที่มันเลอะใต้เตียง ฟู่ว

          " ลี่ มึงทำการบ้านเหรอ "

          " อือ จารย์แม่งสั่งงาน "

          " ทำหนักน่าดูเลยนะ สมุดยับเชียว โอ้ย " อ้ากกก ผมคว้าปากกาและขว้างปักพุงมันเต็มๆ สมน้ำหน้า

          " กูแค่เผลอเท้าแขนทับมัน มึงกลับไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป " พี่โรลหันขวับมาหาผมทันทีด้วยสายตาที่บอกว่า อ๊าว แล้วพี่ละ

          " เหรอ กูรอได้ พี่โรลก็ไปด้วยกันนะ พรุ่งนี้ไม่มีเรียนใช่ป่ะ "  พี่โรลทำหน้าเหมือนอยากฆ่าไอ้เมี่ยงแต่ก็ฉีกยิ้มขึ้นทันที

          " พี่ยืมห้องได้ใช่ป่ะ โอ้ยย " ผมหันไปฟาดพี่โรล หนอยย นี่ยังคิดจะทำอีกเหรอ
         
          " ตามสบายเลยครับพี่ แค่ขอผมดูด้วย ฮ่าๆ " ผมมองไอ้บ้าสองคนที่หัวเราะรับกันเป็นลูกคู่

          " เดี๋ยวกูไปรอข้างล่างนะลี่ " ไอ้เมี่ยงทำท่าจะปิดประตูและเดินออกไป แต่ก็โผล่หัวกลับเข้ามาอีกที

          " เอ่อ อีกอย่าง พี่ลืมรูดซิบนะครับ " ไอ้เมี่ยงทำหน้าตากระลิ้มกระเหลี่ยมองผมกับพี่โรลพลางหัวเราะหึหึในลำคอก่อนเดินออกไป



อ้ากกกก ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อนกู กูต้องฆ่ามึงแน่ๆ ไอ้หอกหัก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-12-2017 16:11:20
ลุ้นระทึก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 05-12-2017 17:44:23
เขินแทนลี่ ในที่สุดพี่โรลก็สมหวัง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 05-12-2017 17:47:31
อุ๊ย โป๊ะ! ลืมรูดซิป
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 05-12-2017 18:32:12
แล่ว ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ พี่โรล อะไรกันเนี่ย เขาได้กันแล้ว
แต่ ๆ ๆ ๆ ๆ ชอบเมี่ยงที่สุดตอนนี้ แซวได้สุดยอด
 :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 06-12-2017 04:23:44
ลี่ ห้ามหนูว่าเมี่ยง นี่เขาเตือนไว้ก่อนไงให้แต่งตัวให้เรียบร้อย เด๋วป๊ามาเห็นนะจะโดนว่าเอา  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Somporn ที่ 06-12-2017 05:12:34
เขิลแทนเลยครับ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 06-12-2017 14:00:56
โอ๊ยยตายแล้ว อยากจะฟาดเมี่ยงสักทีจังหวะดีตลอด

พี่โรลนะพี่โรลไม่ระหวังเลย ป๊ากับม๊ามาจะทำไง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: plearnly ที่ 06-12-2017 15:27:01
สนุกดีอ่านเพลินเลย  ชอบพี่โรลที่สุดเลย :-[
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 08-12-2017 16:39:11
          Calorie ที่ 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ


          พอไอ้เมี่ยงออกไปและประตูห้องปิดลง ผมก็หันไประดมหมัดฟาดพี่โรลรัวๆ โอ้ยย ไอ้บ้า มันเอาจนได้ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้ามันเปิดประตูเข้ามาตอนกำลังเข้าได้เข้าเข็มผมจะทำหน้ายังไง

          " แบบนี้ไม่เอาแล้วนะ " ผมทำหน้างอน และยังคงฟาดไอ้คนที่ทำหน้าเหมือนกำลังบินได้อยู่

          " เสียวดีออก โอ้ยๆๆ " ผมหยิกหูไอ้คนไม่รู้จักฟัง ดื้อสุดๆ

          " ถ้าทำแบบนี้อีกต่อไปผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย " ผมกอดอกหน้าบึ้ง ผมเอาจริงนะ

          " คร๊าบบ เมีย " ผมฟาดพี่โรลที่ยิ้มหน้าบานอีกที โอ้ยย เขิน

          " แล้วทำไมไปนอนบ้านเพื่อนล่ะ แบบนี้ก็ทำลำบากสิ " หนอยย นี่ยังคิดจะทำอีกจริงๆ เหรอเนี่ย

          " ทำบ้าอะไรล่ะ ไปนอนนั่นแหละ " ผมจะได้ปลอดภัยไง แบร่

          " พี่นอนไหนก็ได้ถ้าลี่ไปนอน " โอเค ค่อยคุยกันรู้เรื่องหน่อย แต่ผมไม่ได้ทันเห็นตาเป็นประกายของพี่โรล ที่น่าจะมีแผนร้ายอยู่ในใจ

          ผมพยายามตั้งใจทำการบ้านอีกครั้ง โดยมีคนที่กวนใจอยู่ข้างหลังตลอดเวลา

          " พี่โรล " ผมเรียกพี่โรลที่ยังคงกอดผมพร้อมฮำเพลงไปมาอย่างอารมณ์ดี

          " อยากอาบน้ำอีกรอบอ่ะ เหนียวตัว " ผมพูดพลางหันไปมองพี่โรลที่ตาเป็นประกายอีกแล้ว โอ้ยย

          " อยากอาบกับพี่ใช่ไหม​ " นั่นไงว่าแล้ว

          " ไม่ใช่ซะหน่อย ช่วยทำงานหน่อยดิ " พี่โรลที่ยิ้มกว้างก็หุบยิ้มทันที

          " จะได้รีบไปบ้านเมี่ยงอ่ะ นะ " ผมได้ทีออดอ้อนตาใส

          " จ้า พี่ทำแปบเดียว " พี่โรลพูดพลางขยับตัวมาเขียนให้ผม หึหึ ใช้งานง่าย และเดี๋ยวนะ ลายมือหรือตัวพิมพ์ฟะ สวยชิบ

          ผมยืนขึ้นและเหลือบมองคนที่กำลังทำการบ้านให้ หึหึ สบายละกู ฮ่าๆ

          ผมค่อยๆ เดินช้าๆ เข้าห้องน้ำ โอ้ยย รู้สึกแปลกๆ ทุกย่างก้าว แต่จะพูดว่าไงดี มันรู้สึกดีมาก อ้ากก จริงๆ ผมก็อยากทำแบบที่ได้มองพี่โรลไปด้วย ผมอยากเห็นร่างกายของพี่เวลาไม่ได้ใส่อะไร จริงๆ ผมนี่โครตหื่นเลยนะ แต่เงียบไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนบางคนได้ใจ ฮ่าๆ

          ผมอาบน้ำและจัดการล้างทุกอย่างอีกครั้ง และผมก็ต้องหน้าแดงจัด ไอ้พี่บ้านี่ปล่อยใส่ผมเยอะขนาดไหนฟะเนี่ย นี่พี่เก็บมาทั้งชีวิตเลยหรือเปล่า กี่ลิตรฟะเนี่ย

          ' ก็อกๆๆ '

          " อะแฮ่ม อย่าแอบทำอะไรนะ เดี๋ยวพี่ทำให้ " ผมสะดุ้งน้อยๆ ไอ้บ้าพูดอะไรฟะ เดินตามมาเคาะถึงห้องน้ำเลย ดูคนเรา

          " เปิดประตูหน่อยย "  ผมยืนฟังเสียงคนตะกายประตู หนอย ผมรีบล้างรีบอาบรีบใส่เสื้อผ้าโดยเร็ว ไม่ปล่อยให้เข้ามาตอนนี้หรอกเฟ้ย

          " เขียนเสร็จแล้วเหรอครับ " ผมเปิดประตูและดันอีพี่หื่นกามนี่ไว้และเดินฉิวเข้าห้องตัวเอง

          " เสร็จแล้ว พี่ขั้นเทพอยู่แล้ว " จ้าๆ พ่อคนเก่ง แบบนี้อาจารย์แม่งจะด่าไหม​ฟะ ลายมือต่างกันฟ้ากับเหว

          ผมมองสมุดและโยนเก็บไว้ที่เดิมและเดินลงไปหาไอ้เมี่ยงที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์บ้านผมและแดกป็อปคอร์นของผม ไอ้สลัดผัก

          " โห่ นึกว่ามึงต่อรอบสองกันนะเนี่ย นี่กูรอจน.. "

          " จนแดกขนมกูหมดตู้เลยใช่ไหม​ " ผมหรี่ตามองมันที่กำลังยิ้มจนผมเห็นซากช็อคโกแลตของผมบนฟันมันอีก ไอ้หอก

          " นิดเดียวเอง เอ่อ พี่โรลผมไม่ได้ว่าพี่นะครับ เชิญตามสบาย " ผมมองคนบ้าสองคนที่ชูนิ้วโป้งให้กันเหมือนเป็นสัญญาณอะไรสักอย่าง เฮ้อ

          พวกเราเดินกันออกมาจากบ้านของผมและเดินไปตามถนนที่มีคนพลุกพล่าน มีร้านค้า ของกินยามค่ำคืน ผมมองพี่โรลที่จับมือผมเอาไว้แบบไม่อายสายตาประชาชี และทุกย่างการเดินของพี่แกก็ไม่เคยมองทางเลยครับ จ้องจนผมจะไฟลุกอยู่แล้ว

          " มองหน้าทำไมเนี่ย " ผมถามพลางดึงมือออกเพราะอายชาวบ้านเขา

          " หลงรักเธอตั้งแต่แรกเจอ~ โอ้ยย " ผมเหยียบทีนไอ้คนบ้านี่ด้วยความอาย อาการหนักกว่าเก่าอีกนะเนี่ย

          " เขาเรียกคนหลงเมีย " ไอ้เมี่ยงกระซิบข้างหูผม และก็โดนผมตบกบาลไปหนึ่งทีเต็มๆ เสล่อจริงๆ มึง

          " ลี่เดินนำพี่ไปสิ "  ผมขมวดคิ้วพลางเดินนำไปแบบงงๆ

          " โอเคไม่มองหน้าแล้ว " เดี๋ยวนะ ผมหยุดเดินและหันไปมองด้วยความสงสัย และก็ชัดเจน แม่งมองก้นผมชัดๆ โอ้ยยย

          " แหม่ อยากจะสอยอีกสักที "

          " ถ้ายังไม่เลิกกวนผมนี่แหละจะสอยพี่ " ผมเท้าเอวหรี่ตาขู่

          " ถ้าลี่ต้องการแบบนั้น พี่ก็โอเค " ผมมองไอ้คนที่ทำท่าเหนียมอาย เอานิ้วชี้ชนกันแบบเขินๆ เอ่อ พี่ครับ คนละสอยแล้วโว้ย

          ผมถอนหายใจ นับหนึ่งถึงสามในใจและใส่เกียร์หมาทันที ไม่คุยด้วยแล้วโว้ย วิ่งหนีแม่งเลย ฮ่าๆ

          " เดี๋ยวลี่ อย่าวิ่ง เดี๋ยวแท้ง " โอ้ยยย กูอยากฆ่าคนโว้ย ผมวิ่งและได้ยินเสียงหัวเราะตามหลัง สนุกเนอะ สนุกกันจริงๆ ไอ้สองคนพี่น้องนั่น ผมที่วิ่งไปได้ไม่ไกลก็เหนื่อยซะแล้ว ผมหยุดวิ่งและก้มลงหอบหายใจ

          " เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย ปล่อยเลย " พี่โรลที่วิ่งตามมาพอเห็นผมหยุดก็วิ่งมาอุ้มผมขึ้นเลยครับ อ้ากกก แกจะแรงเยอะไปไหน อุ้มเป็นหมากระเป๋าเลย ไอ้บ้าเอ้ย

          " อุ้มเจ้าสาว ฮ่าๆ " ผมฟาดก้นไอ้พี่โรลไปหลายที อุ้มเจ้าสาวบ้านพี่แบบนี้เหรอห๊า อยู่ดีๆ ก็จับพาดบ่าซะงั้น แถมวิ่งเร็วจนผมจุกเลยทีเดียว

          " อ้าว มาไงกันเนี่ย แล้วอาลี่เป็นอะไรลูก พี่เขาถึงอุ้มมา " น้าจันทร์ที่เห็นผมโดนอุ้มก็ถามทันที

          " ไม่มีอะไรครับ เล่นกันเฉยๆ " ผมพูดและฟาดพี่โรลให้วางผมลง

          " แม่ หิวแล้วอ่ะ " ไอ้เมี่ยงพูดอ้อนแม่มัน นี่มึงซัดขนมกูไปยังไม่พออีกเหรอ

          " ขึ้นไปข้างบนกันเลย เดี๋ยวแม่ทำให้ อาลี่ผอมแบบนี้แปลกตาเลย แต่น่ารักจังเลยลูก " ผมเกาหัวยิ้มเขินๆ จริงๆผมไม่ดีใจเลยสักนิดที่ถูกบอกว่าน่ารัก ผมหล่อครับ ผมหล่อ ได้ยินม๊าย

          " ใช่ น่าร้ากก " ผมหันไปทำหน้าบูดมองพี่โรลที่ยิ้มหวานมองผม

          " พี่โรลไปอาบน้ำ " ผมขึ้นมาบนบ้าน และดันหลังพี่โรลให้เข้าห้องน้ำเพราะพี่แกยังไม่ได้อาบเลย แต่ผมก็หยิบเสื้อผ้าผมมาให้พี่เขาแล้ว

          " อาบกับพี่นะ " พี่โรลกระซิบและพยายามดึงผมให้เข้าห้องน้ำไปด้วย

          " ไม่เอา นี่มันไม่ใช่บ้านเรานะ " ผมยื้อตัวเองไว้แบบเอาเป็นเอาตาย

          " เอาเลย คิดซะว่าผมไม่มีตัวตนนะพี่นะ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังกินน้ำหวานและยืนมองพวกผมในระยะที่แค่เอื้อมมือก็จับมันได้ มึงจะเสนอหน้าเกินไปแล้วโว้ย

          สุดท้ายผมก็ไล่พี่โรลเข้าไปอาบจนได้ และมานั่งหอบหายใจที่เก้าอี้ตัวยาวตัวเดิมหน้าทีวี

          " มึงลงกีฬาอะไรแน่ไอ้เมี่ยง " ผมถามพลางมองมันที่กำลังกดรีโมทไปมา

          " บอลแหละ " ก็ว่างั้น เห็นมันซ้อมบ่อยๆ

          " แต่จริงๆ กินวิบากก็เหมาะกับมึงนะ แต่ถ้าเหมาะกับมึงที่สุดก็คงเป็นกินอุบาทมากกว่า ฮ่าๆ " ผมพูดพลางหัวเราะเสียงดัง

          " กูหล่อจะตาย " มันพูดพลางทำท่าเก็กหล่อ

          " ถรุ๊ยย " ถึงกับคันคอเลยทีเดียว

          ผมแย่งน้ำหวานในมือมันมาดื่ม ทำเอามันทำมือถือแก้วค้างในอากาศและหรี่ตามองผม

          " ลี่ มันเป็นไงมั่งวะ " อยู่ดีๆ มันก็มาล็อคคอผมและกระซิบเบาๆ

          " อะไรเป็นไงวะ " ผมเลิกคิ้วถาม

          " ก็โดนเปิดซิงไง "

          ' พรวดดดด '

          ผมถึงกับสำลักน้ำหวานเลยทีเดียว นี่มึงมั่นใจจังเลยวะ รู้ดีชิบหาย

          " มึงก็รู้ กูเป็นเพื่อนมึงมานาน กูมองแปบเดียวก็รู้แล้ว ว่ามึงโดนสอยไปเรียบร้อย " ผมโบกกบาลมันอีกครั้ง ถามเชี่ยอะไรหยาบคายจริงๆ

          " อยากรู้ก็ลองดิ " ผมแหย่มันเล่น

          " มึงจะให้กู 3P ด้วยเหรอ โอ้ยย " ผมกระทืบทีนมันทันที 3P โพ่ง

          " 3P อะไรกันเหรอ " ผมสะดุ้งโหยงทันที โอ้ยย ออกมาจากห้องน้ำเมื่อไหร่ฟะ พี่แกเดินมาหลังเก้าอี้และยื่นหน้ามาร่วมวงด้วยซะงั้น

          " ไม่มีอะไรซะหน่อย ไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลย " ผมลุกจากเก้าอี้และไปลากพี่โรลที่ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอีกแล้ว ให้เข้าไปในห้อง

          แต่เมื่อผมเข้ามาในห้องไอ้เมี่ยง พี่โรลก็รีบไปล็อคประตูอย่างไว เห้ย พลาดแล้ว

          " พี่ครับ นี่มันห้องคนอื่นนะ " ผมไม่กล้วหรอกครับ เพราะรู้ว่าพี่แกกวนผมเล่น

          " โธ่ กลัวพี่มั่งไหม​เนี่ย " ฮ่าๆ ผมว่าแล้ว พี่โรลกระทืบเท้าแบบเด็กๆ งอแงตามสไตล์พี่แก

          ' ปึ้งปึ้งปึ้ง '

          " พี่โรลคร๊าบบ เมี่ยงขอเข้าไปด้วย " ไอ้ตัวเสือกกำลังตะกายประตูห้องอยู่ข้างนอกสุดฤทธิ์ แต่คิดอีกทีนี่มันห้องมันนี่หว่า กร๊ากกก

          " อะไรของมึง " ผมพูดพลางเปิดประตูไปตบหัวมันอีกรอบ

          " อ่าว ชิ นึกว่าจะจัดกันอีก "

          " ถ้ากูจะทำ กูจะอัดมึงให้สลบก่อนแน่นอน " ผมพูดพลางเดินเชิดออกไปข้างล่าง หาของกินดีกว่าเบื่อพวกติ๊งต๊อง

          ผมลงมาในครัวและจัดการกินข้าวต้มรอบดึกที่น้าจันทร์อุตส่าห์ทำให้ ซึ่งไม่นานพี่โรลและไอ้เมี่ยงก็ตามลงมาและสวาปามกันเต็มคราบ

          ตกดึกพวกผมก็เข้าไปนอนเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือคราวนี้ผมต้องนอนข้างล่างกับพี่โรลครับ ตอนนั้นที่ไม่ได้นอนด้วยกันพี่โรลนี่โครตเคือง แต่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกันนี่เนอะ ช่วยไม่ได้ ฮ่าๆ

          ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว ยิ่งเป็นบ้านแบบนี้ยิ่งไปใหญ่ ผมนอนนิ่งๆและมองพี่โรลที่นอนหลับตาอยู่ แปลกแฮะ ผมคิดว่าพอได้นอนอีพี่นี่คงมาเลื้อยเกาะแกะผมแน่ๆ แต่นี่กลับหลับก่อนซะงั้น แถมยังนอนห่างอีกด้วย หนอย ผมแอบเตะพี่โรลใต้ผ้านวมผืนใหญ่ เชอะ ทำตัวห่างเหินนะ งอนอ่ะ

          ผมนอนหันหลังให้พี่โรลและมองไอ้เมี่ยงที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งมันก็นอนหันหลังให้ผมกับพี่โรลเช่นกัน แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวไอ้หอกนี่จะมาล้อผมอีกถ้าพี่โรลมากอดผม

          แต่เมื่อผมที่นอนอยู่ก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะความรู้สึกของผมมันบอกว่า ก้นผมกำลังโดนลูบอยู่ ผมหดตัวลงและเอื้อมมือไปหยิกไอ้คนที่นอนกระเถิบมาชิดด้านหลังผม แนบลำตัวและกอดผมเอาไว้

          " อย่าาา " ผมไม่ได้ออกเสียงแต่หันไปพูดขยับปาก แต่ก็โดนพี่โรลประกบริมฝีปากและจูบผมอย่างรวดเร็ว ผมตกใจเหลือบตามองไอ้เมี่ยงบนเตียง แต่ก็ต้องโล่งใจเพราะมันยังคงนอนหันหลังอยู่

          ผมยังคงนอนหันหลังให้พี่โรลที่แนบด้านหลังของผม พี่โรลล็อคแก้มผมให้หันหน้าไปและจูบปากผมอย่างเมามันส์ ไอ้คนคนนี้นี่ จะเอาแบบนี้จริงๆ เหรอ ผมรู้สึกถึงส่วนที่คับตึงของพี่โรลที่ชนก้นผมอยู่ ผมที่ใส่กางเกงขาสั้นนั้นก็ขนลุกทั่วร่างเลยทีเดียว พี่โรลยังคงจูบผมและลูบไปมาบนเรียวขาของผม และเลื่อนมือเข้าไปในใต้เสื้อของผมและลูบไล้ยอดอกผมเบาๆ

          ผมดิ้น และส่ายหน้าน้อยๆ พยายายามจับมือพี่โรลไว้

          " ไม่เอา "

          " ชู่วว "  ผมที่เผลอพูดเบาๆ ทำให้พี่โรลจุ๊ปากบอกผมให้เงียบเสียงลง และมองที่ไอ้หอกเมี่ยงที่ยังคงหันหลังอยู่

          " พี่รักลี่ " ผมหน้าแดงขึ้นทันทีที่อ่านปากพี่โรลออก หนอย ทำตัวแบบนี้ยอมดีไหม​นะ อ้ากกก

          " ผมก็รักพี่ " ผมพะงาบปากกลับไป

          " ทำให้พี่หน่อย " พี่โรลพูดเบาๆ ข้างใบหูสีแดงของผม

          หน้าผมที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงขึ้นไปใหญ่ อ้ากก ไอ้ทำนี่ใช่แบบนั้นใช่ไหม​ ผมไม่เคยนะ ผมทำไม่เป็นง่า ผมเหลือบมองพี่โรลที่ยิ้มให้ผมและชี้ลงไปข้างล่าง โอ้ยยย ตายๆ

          ผมรู้สึกหัวใจเต้นระส่ำ เอ่อ ก็คงไม่ยากหรอกมั้งเหมือนที่พี่โรลทำให้ผมนั่นแหละ ผมกลืนน้ำลายและค่อยๆ ขยับตัวเลื่อนลงช้าๆ มุดผ้าห่มเข้าไป ผมมองไม่เห็นอะไร แต่ใช้มือคลำเบาๆ ไปตามอก หน้าท้อง และหยุดลงที่กางเกงของพี่โรล

          ผมมือสั่น ค่อยๆ ลูบเบาๆ ตรงส่วนที่นูนแข็งนั้น สายตาของผมที่เริ่มชินกับความมืดก็ทำให้ผมมองเห็นส่วนนั้นขึ้นมา อ้ากก พอมองแบบนี้ก็สุดยอดจริงๆ นั่นแหละ แต่ผมไม่กล้าเอาออกมาอ่ะ ทำไง

          เหมือนพี่โรลจะรู้ใจผม ถึงเลื่อนมือมาข้างล่างและจับมือผมไว้ ให้มาจับลงบนส่วนที่คับตึงของตัวเอง อ้ากกก ไอ้ทะลึ่ง ขอทำใจก่อนไม่ได้หรือไงฟะ

          ผมดึงมือออกและหยิกมือพี่โรลเบาๆ ผมทำเองได้น่าอย่ายุ่งสิ ผมค่อยๆ เลื่อนมือไปบนขอบกางเกงของพี่โรลอีกครั้งและเลื่อนขอบกางเกงนั้นลง ให้ส่วนที่กำลังแข็งอยู่เปิดออกมา

          ผมถึงกับตะลึง เพิ่งเห็นจังๆ ก็คราวนี้แหละ อ้ากก พี่กินอะไรเข้าไป ถึงได้ขนาดนี้ ถึงว่าโดนทีเหมือนจุกไปถึงลิ้นปี่ ผมน่าแดงจัดแต่ก็เลื่อนมือไปกอบกุมส่วนนั้นไว้ช้าๆ และเลื่อนตัวเข้าไปใกล้ๆ เพื่อจะได้ทำให้ถนัด

          ผมค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปช้าๆ และเลียเบาๆ ที่ส่วนแข็งขืนนั้น ผมรู้สึกถึงอาการกระตุกเกร็งของคนที่นอนอยู่ พี่โรลเลื่อนมือมาลูบหัวผมช้าๆ เดี๋ยวนะ แบบนี้ไม่ใช่ลูบแล้วเฟ้ย ใจเย็นๆ สิฟะ พี่โรลกำลังออกแรงดันผมให้ทำมากกว่านี้ครับ หนอย ไอ้คนใจร้อน

          ผมเลียลากยาวจากโคนและจรดริมฝีปากเม้มตรงส่วนบนนั้น และครอบริมฝีปากลงไป พลางดูดเม้มจนเกิดเสียงเล็กน้อย ขนาดของมันทำเอาคนปากเล็กๆ แบบผมทำได้แค่ส่วนบนเท่านั้นเอง

          พี่โรลเลื่อนมือมาลูบแก้มผมเบาๆ และเกร็งไปทั้งตัว ผมเริ่มใช้ปากทำเปลี่ยนจังหวะและใช้มือรูดเบาๆ ที่โคนไปด้วย แต่อยู่ดีๆ พี่โรลก็จับผมให้หยุดและดึงผมขึ้นมาข้างบนเหมือนเดิม เดี๋ยวสิ พี่ยังไม่เสร็จเลยนี่

          ผมทำหน้ามึนทันทีที่โผล่หัวออกมา แต่ก็ถูกพี่โรลจับพลิกให้ผมนอนหันหลังให้พี่โรลตามเดิม นี่อย่าบอกนะว่า อ้ากกก ไม่เอาโว้ยย ใครจะไปกลั้นเสียงได้ฟะ ผมพยายายามยื้อกางเกงตัวบางของผมไว้สุดชีวิต พลางเหลือบมองไอ้เมี่ยงที่ยังคงนอนหันหลังท่าเดิม ทำไมวันนี้มึงนอนนิ่งจังวะ แต่ผมก็ไม่มีเวลาคิด เพราะว่าตอนนี้กางเกงของผมได้ถูกเลื่อนลงไปที่ต้นขาเรียบร้อยแล้ว

          ผมหดตัวหลับตาแน่น พี่โรลกอดผมและซุกไซร้จูบผมที่ลำคอและลูบไล้ไปทั่วตัวผม ผมหน้าร้อนผ่าว ส่วนแก่นกายของพี่โรลนั้นกำลังถูไปมาที่ก้นของผม พี่โรลเลื่อนมือลงไปด้านล่างและกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่ผมพยายามเอามือปิดเอาไว้ มือที่กอบกุมอยู่นั้นกำลังรูดขึ้นลงเบาๆ พร้อมๆ กับค่อยๆ สอดนิ้วเข้ามาช้าๆ ที่ช่องทางด้านหลังของผม

          ผมเม้มปากหลับตาแน่น พยายามไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา พี่โรลที่เหมือนจะรู้ ก็ก้มลงจูบปากผมเพื่อให้ผมกลั้นเสียงไว้ ไม่นานผมก็เกร็งตัวและปลอดปล่อยหยาดน้ำออกมาเลอะมือพี่โรล พี่โรลใช้นิ้วที่เปื้อนคราบน้ำนั้น สอดนิ้วเพิ่มเข้ามาอีก และนวดรอบเพื่อเตรียมพร้อม ผมจิกแขนพี่โรลที่กอดผมเอาไว้ พยายามอ้าปากหายใจช้าๆ พี่โรลถอนนิ้วมือออกมาจากช่องทางอ่อนนุ่มนั้น และเลื่อนมือลงไปถอดกางเกงผมที่ค้างอยู่ที่ต้นขาออกจนพ้นจากตัว ขยับตัวนอนลงแนบลำตัวชิดผมมากขึ้นอีก

          " อื้อออ "  พี่โรลขยับตัวมาประกบริมฝีปากปิดปากผมอีกครั้ง พร้อมๆ กับจ่อปลายของแก่นกายลงที่ช่องทางนั้น และค่อยๆ ดันเข้ามาเรื่อยๆ อย่างช้าๆ พี่โรลจับขาข้างหนึ่งของผมยกขึ้นน้อยๆ และยังคงดันแก่นกายเข้าไปจนสุด

          พวกเรายังคงประกบปากเพื่อกลั้นเสียงไว้ มันเสียวจนผมแทบจะเสร็จโดยที่พี่โรลยังไม่ได้ขยับ ผมอ้าปากน้อยหายใจให้เบาที่สุดด้วยความอดกลั้น

          ผมมองพี่โรลที่กำลังหลับตา และก้มลงจูบผมไปทั้งหน้า กอดรัดผมและหอมแก้มผมเพื่อคลายความกระสันนั้น

          " อ่า ดีจัง ดีจนจะตายอยู่แล้ว " ผมก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน

          " เบาๆ นะ "  ผมกระซิบและเงยหน้าขึ้นจูบพี่โรลอีกครั้ง

          ร่างกายท่อนล่างลองเรายังคงประสานกันและพี่โรลก็เริ่มขยับตัวเบาๆ ผมกอดแขนพี่โรลที่รองคอผมไว้กลั้นเสียงคราง พลางมองไปยังไอ้เพื่อนเลวที่ยังคงนิ่งอยู่ พี่โรลขยับตัวขึ้นอีกนิดและเพิ่มแรงที่เอว ผมปิดปากแน่น เอื้อมมือไปจับแขนพี่ที่กำลังยกขาข้างหนึ่งของผมอยู่

          " อ.อื่..อ๊ " ผมกลั้นเสียงสุดกำลังแต่ก็ยังคงไม่สามารถทำได้ พี่โรลไม่ได้ทำไว แต่ค่อยๆ ขยับตัวเข้าออกช้าๆ และเน้นๆ แทน ทำเอาผมเสียวจนแทบขาดใจ

          พี่โรลยังคงจังหวะเข้าออกและกอดรัดผมพลางหายใจข้างๆ หูผม ต่างคนต่างกลั้นเสียงอย่างสุดกำลัง

          " อึก.. จะไปแล้ว " พี่โรลก้มลงจูบที่หูผมและพูดเบาๆ และยกขาผมขึ้นสูงอีกนิด และขยับเอวเข้าออกถี่ขึ้น ผมจิกมือลงกับผ้าปูที่นอนและกัดปากแน่น เผลอร้องครางออกมาในจังหวะสุดท้าย ก่อนที่เราสองคนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน

          พี่โรลวางขาผมลงและลากผมไปกอดแน่น พลางหายใจหอบ และเหงื่อเต็มตัวทั้งๆ ที่ตอนนี้นั้นอากาศเย็นมากๆ

          ผมและพี่โรลหลับไหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน โดยไม่รูเลยว่า ไอ้เพื่อนตัวแสบนั้นไม่ได้หลับตาลงเลยสักนิด แต่นอนจมเลือดกำเดาที่ไหลหยดย้อยเปื้อนไปทั้งหมอน



" พี่แม่งคนจริงว่ะ "
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2017 20:04:49
สงสารเมี่ยง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fahsida ที่ 08-12-2017 20:19:43
เมี่ยงจะตายไหมน่ะ สงสารเมี่ยงจริงๆ 555+
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-12-2017 20:38:18
พี่โรล ไม่เกรงใจบ้านคนอื่นเลยนะ สงสารแต่เมี่ยงนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 08-12-2017 21:23:42
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 08-12-2017 22:25:29
พี่โรลคนจริง 2017
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-12-2017 02:39:43
เมี่ยงนอนฟังทั้งคืน จำได้หมดป่ะ จำไว้จะได้ไว้ใช้กับแฟนตัวเองไง แต่เมี่ยงต้องหาแฟนให้ได้ก่อนนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-12-2017 09:17:25
โถๆๆๆเมี่ยงน้อยผู้น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 12-12-2017 12:36:35
          Calorie ที่ 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา


          ในรุ่งเช้า ผมสะดุ้งตื่นขึ้นและตกใจมากที่ตัวเองยังนอนอยู่ในสภาพที่ตัวเปรอะและกางเกงยังคงไม่ได้ใส่ แถมมีพี่โรลเกาะติดหนึบอยู่ไม่ห่าง

          แต่โชคยังดีที่มีผ้าห่มผืนใหญ่คลุมตัวพวกเราอยู่ โอ้ยย นี่เพลียจนเผลอหลับน็อคกันทั้งคู่ พูดแล้วก็หมั่นไส้ไอ้ตัวการ

          ผมพยุงตัวลุกขึ้นและฟาดแขนอีพี่โรลที่ยังนอนขดตัวและควานหาผมเพื่อจะนอนต่อ และผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าชิบหายแล้ว นี่มันห้องไอ้หอกเมี่ยง แล้ว...มันล่ะ

          ผมค่อยๆ หันไปที่เตียงของไอ้เมี่ยง และก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก มันหายไปแล้วครับ แปลกมากที่มันตื่นแต่เช้าขนาดนี้

          ผมจัดการใส่กางเกงให้ตัวเองและอีพี่โรลพลางฟาดก้นไอ้คนหื่นกามนี่อีกรอบ ก่อนจัดท่าให้พี่แกนอนดีๆ และห่มผ้าให้

          ผมลุกขึ้นนิ่วหน้าเล็กน้อยด้วยความเจ็บนิดๆ เพราะถ้านับแล้วเมื่อคืนตั้งแต่ที่บ้านผมก็สองรอบเลยทีเดียว อ้ากก ถ้าต้องใช้ชีวิตกับพี่โรลจริงๆ ผมคงบอกได้เลยว่า ผมเละแน่นอน

          ผมเดินเข้าห้องน้ำจัดการอาบน้ำล้างหน้าและเอาผ้าหมาดๆ มาเช็ดตัวให้ไอ้คนที่ยังนอนขี้เซาอยู่ แปลกแฮะ ไอ้เมี่ยงมันหายไปจริงๆ นะเนี่ย

          " งืมม เมียจ๋า เอาอีก " หนอยยย ผมเอาเท้าเขี่ยอีพี่โรลที่ละเมอเคี้ยวลิ้นตัวเองให้กลับไปนอนดีๆ นี่พี่ไปจัดต่อในฝันอีกเหรอเนี่ย ผมละเชื่อเขาเลย

          ผมออกจากห้องมองหาไอ้เพื่อนเกรียนของผมว่ามันไปแอบนอนละเมออยู่ในหลืบไหนหรืออย่างไร และก็ต้องพบว่า มันอยู่ในครัว กำลังนั่งเด็ดชะอมอยู่นี่เอง และเดี๋ยวนะ

          " มึงเป็นอะไรน่ะ " ผมถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้ามัน เพราะสภาพมันตอนนี้เรียกได้ว่า โทรมสุดๆ เหมือนคนอดนอน หน้าซีด และมีทิชชู่ยัดอยู่ในรูจมูกมันทั้งสองข้าง

          " แม่ก็ถามมันอยู่ แต่มันไม่ยอมพูดอะไรเลยอาลี่ " น้าจันทร์หันมาบอกผมขณะที่กำลังทอดไข่อยู่หน้าเตา ผมเดินไปนั่งข้างๆ มันและแย่งชะอมมาเด็ดบ้าง

          " ไม่สบายก็ไปนอนไป " ผมไล่มันที่กำลังเด็ดชะอมและหรี่ตามองผมอยู่

          " อยากรู้จริงๆ เหรอ " มันพูดเบาๆ และมองผมด้วยแววตากวนบาทาปกติของมัน

          " เสียงมึงโครต... " ผมตาโตรีบเอาชะอมที่กำลังเด็ดยัดปากมันทันที นี่อย่าบอกนะว่ามึง อ้ากกกก กูว่าแล้วทำไมมึงถึงนอนนิ่งเป็นศพขนาดนั้น

          ผมหน้าแดงเป็นเมือเทศและบีบคอมันไว้ พลางเขย่าน้อยๆ

          " หุบปากของมึงซะ เข้าใจไหม​ " ผมเขยิบไปใกล้มันและส่งเสียงขู่ฟ่อในลำคอ

          " กูไม่อะไรหรอก แต่อิจฉาว่ะ อยากมีบ้างไรบ้าง " ผมปล่อยคอมันและนั่งลงตามเดิม

          " มึงไม่เอาเองนี่ หน้าแบบมึงจะหากี่คนก็ได้มั้ง " ผมก้มหน้าก้มตาเด็ดชะอมตามเดิม

          " ยอมรับแล้วสิว่ากูหล่อ " ผมชะงักมือและมองมันอย่างเอือมระอา

          " เออ มึงหล่อ หล่อชิบหาย หล่อตายห่า พอใจยัง " ผมมองมันที่กำลังเคี้ยวชะอมดิบและยืดอกอย่างภูมิใจ

          " แต่จะมีใครหล่อกว่าพี่อีกล่ะจริงไหม​ " ผมชะงักทันที หนอยย ตื่นมาก็ปากดีเลย

          ผมมองพี่โรลที่ค่อยๆ เดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามผม และจ้องผมพลางยิ้มกวน

          " เมี่ยง ไม่สบายเหรอ " พี่โรลหันไปมองไอ้เมี่ยงและขมวดคิ้วงงๆ กับสภาพมัน

          " เอ่อ มันเป็นโรคโลหิตจางแบบนี้แหละ ฮ่าๆ " ผมหัวเราะและเหยียบทีนไอ้เมี่ยงเอาไว้ไม่ให้มันพูดอะไรไม่เข้าเรื่อง

          ผมมองพี่โรลที่กำลังลุกขึ้นไปดูกับข้าวในหม้อ ผมก้มหน้าลงน้อยๆ รู้สึกเขินเวลามองร่างกายของพี่โรลมาก พวกเราเป็นของกันและกันแล้ว และพวกเราก็เห็นกันทุกส่วน พี่โรลนั้นมีร่างกายที่เพอร์เฟคมากจนผมคิดว่า คนแบบนี้มาชอบผมได้ยังไงกันนะ

          ไม่นานพวกเราก็กินข้าวกัน ซึ่งกับข้าวหลายๆ อย่างนั้นพี่โรลบอกว่าเพิ่งเคยจะได้กิน พี่เขาคงกินแต่พวกอาหารขยะแน่ๆ ผมตักกับข้าวให้พี่โรลและหลบสายตาวิบวับบ้าๆ บอๆ ของพี่แกไปเรื่อย ผมอมยิ้มอย่างมีความสุข แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจสายตานั้น

          สายๆ พวกเราก็ขึ้นไปนั่งดูทีวีและผลัดกันเล่นเกมส์ ซึ่งผมนั้นต้องยอมแพ้สองคนนี้เลยทีเดียว มันเล่นกันเอาเป็นเอาตาย และเล่นเก่งกันมาก ทำเอาผมได้แต่นั่งมองเลยทีเดียว

          ' พี่โรล พี่โรล พี่โรล~ '

          ผมมองหาต้นตอของเสียงประหลาดๆ นั้นด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น และหันไปมองพี่โรลที่ตัวแข็งทื่อและอยู่ดีๆ พี่โรลก็ลุกขึ้น วางจอยเกมส์และวิ่งฉิวหนีเข้าไปในห้องไอ้เมี่ยงพลางปิดประตูเสียงดัง

          ผมตาโตขึ้นทันที เดี๋ยวนะ ไอ้เสียงเมื่อกี้น่ะ มันจะไม่คุ้นได้ยังไง เพราะมันคือเสียงของผมทั้งนั้น อ้ากกกก นี่พี่บ้าขนาดไหนฟะเนี่ย ถึงเอาเสียงผมมาตัดทำเป็นริงโทนขนาดนี้

          " ลี่ กูว่าผัวมึงน่าจะไปถ้ำกระบอกแล้วนะแบบนี้ โอ้ยๆ " ผมหยิกไอ้เมี่ยง พลางวิ่งไปเอาหูแนบที่ประตูห้องที่พี่โรลซ่อนตัวอยู่

          แต่ผมก็ต้องย่นคิ้วหนักไปใหญ่ เพราะว่าเสียงที่ได้ยินนั้นมันแปลกมาก ผมฟังไม่รู้เรื่อง มันเหมือนกับไม่ใช่ภาษาไทย และผมก็เข้าใจทันทีว่า พี่โรลน่าจะคุยกับคุณพ่ออยู่ และภาษาที่ได้ยินก็น่าจะเป็นภาษารัสเซีย ซึ่งแปลกมากๆ ผมพึ่งจะเคยได้ยินพี่เขาพูดรัสเซียก็วันนี้แหละ

          " แอบฟังแบบนี้น่าจับทำโทษ " ผมสะดุ้งถอยหลังออกจากประตูทันที เพราะพี่โรลอยู่ดีๆ ก็เงียบไปและเปิดประตูออกมา

          " หนอย แอบคุยทำไมอ่ะ " ผมหน้าบูด

          " ไม่ใช่กิ๊กนะ พี่คุยกับคุณพ่ออ่ะ " พี่โรลคุกเข่าและกอดผมแน่นอย่างออดอ้อน โอ้ยยย ไม่ต้องขนาดนั้นครับพี่

          ผมหันไปมองไอ้เมี่ยงที่เบะปากมองบน ทำหน้าเหม็นเบื่อฟามรัก
         
          " ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย " ผมฟาดพี่โรลและดึงให้ยืนขึ้นมาคุยกันดีๆ

          " ลี่ไปกับพี่นะ " ผมขมวดคิ้วมองพี่โรลที่อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์ไป

          " ไปไหนเหรอครับ "

          " ไปบ้านพี่ " ผมตาโต และส่ายหน้าทันทีแบบหัวแทบหลุด

          " ไม่เอา ผม.. " ผมที่คิดว่าผมยังไม่พร้อม ผมกลัวมากๆ แต่พอคิดถึงหน้าหนิง คิดถึงผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างๆ คุณแม่ของพี่โรล ผมก็รู้สึกว่าผมควรจะไป

          " ครับ วันนี้เลยเหรอ " ผมเงยหน้ามองพี่โรลด้วยสายตาแน่วแน่

          " น่ารักจัง ไม่ต้องกลัวนะ คุณพ่อพี่ก็มา " หืมมม ผมคิดว่าผมยิ่งต้องกลัวเลยนะนั่น นี่มันสงครามที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยแท้ๆ

          ไม่นาน ผมก็บอกลาไอ้เมี่ยงและลองถามมันดูเผื่อมันจะอยากไปด้วย แต่มันก็ปฏิเสธเพราะไม่อยากเจอหนิง ผมกับพี่โรลเลยกลับไปที่บ้านของผม เพื่อรอให้ผมแต่งตัวใหม่ด้วยชุดที่เรียบร้อยกว่านี้

          และผมกับพี่โรลก็ขึ้นรถของพี่โรลที่จอดอยู่หน้าบ้านผม และตรงไปยังคอนโดของพี่โรลอีกที เพื่อให้พี่โรลเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เช่นกัน

          " ผมควรจะไปจริงๆ ใช่ไหม​ครับ " ผมบีบมือตัวเองและมองพี่โรลที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีดำที่ดูเท่ห์มาก พี่โรลกำลังขับรถและเหลือบมองผมเป็นระยะ

          " ลี่เป็นเมียพี่ " ผมตาโตมองพี่โรลด้วยความตกใจ นี่อย่าบอกนะว่า

          " ห้ามพูดอะไรแบบนี้ออกมานะครับ " ผมยื่นมือไปหยิกพี่โรลเบาๆ

          " ทำไมอ่ะ พี่ออกจะภูมิใจ " พี่โรลพูดด้วยสีหน้าจริงจัง นี่พี่เอาจริงใช่ไหม​

          " คุณแม่พี่จะหัวใจวายตายเอาสิครับ "

          " พี่พูดเรื่องจริงนี่นา จัดโชว์ซะเลยดีไหม​ " ดูพี่แกพูด อ้ากกกก

          " ไอ้บ้า " ผมบ่นเบาๆ หันหน้าหนีคนหื่น

          " พี่รักลี่ พี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลี่อยู่กับพี่ " ผมหันหน้าจากกระจกจ้องมองพี่โรลที่พูดแบบนั้นออกมา

          " ผมก็จะทำทุกอย่าง เพื่อให้พี่อยู่ข้างๆ ผมเหมือนกัน " ผมยิ้มให้พี่โรล ที่หันมายิ้มให้ผมเช่นกัน

          ' ปรี้นนนนนนนนนนนนนน '

          เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างนั้นกำลังหยุดลงช้าๆ ผมมองและไขว่คว้าหาคนที่รักเอาไว้ ภาพเบื้องหน้าที่เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เศษกระจก เศษแก้ว และแสงไฟที่พุ่งเข้ามา



และนั่น ก็เป็นภาพสุดท้ายของพวกเราสองคน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 12-12-2017 13:51:29
 :ling3:
อย่าโหดร้ายนักนะคนเขียน คนอ่านใจบอบบาง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-12-2017 14:05:27
 :a5:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 13-12-2017 02:30:34
ฮ่วยยย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-12-2017 02:46:49
อย่าบอกนะว่าคู่กรณี หรือผู้ว่าจ้างเป็นชะนีเน่าตัวนั้น  :fire:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 13-12-2017 05:19:22
อย่าเป็นอะไรนะทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 13-12-2017 15:15:43
          Calorie ที่ 34 ความรักที่ถูกลืมเลือน


          ผมลืมตาขึ้นอีกครั้งโดยมีมือของเพื่อนรักจับเอาไว้ และอีกข้างหนึ่งนั้นก็คือป๊าม๊าและน้องสาวของผม และพี่นายที่ยืนอยู่ที่ปลายเตียง ผมปวดหัวไปหมด รู้สึกเจ็บไปทั้งตัว แต่ก็ยังคงสามารถขยับตัวได้ ผมตัวสั่น หัวใจเต้นรัวทันทีที่มองไม่เห็นคนอีกคน คนที่ผมนั้นรักหมดหัวใจ

          " พี่โรล "  ผมพูดด้วยเสียงแหบแห้ง ถามเพื่อนของผมที่ยังคงหน้านิ่งและมองผมด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ผมเริ่มน้ำตาไหลออกมาช้าๆ ความกลัวทำให้ผมตัวชา

          " ไม่ๆ พี่เขาไม่เป็นไร เขายังอยู่ " ผมค่อยๆ ร้องไห้ออกมาอย่างโล่งใจ พี่ยังอยู่ พี่ไม่เป็นไร พี่จะต้องอยู่ข้างๆ ผมอยู่แล้ว แต่ทำไมกันนะ ผมมองหน้าเพื่อนของผมที่ไม่เคยโกหกผม มันกำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

          " ครั้งนี้มึงก็จะผ่านมันไปได้ กูอยู่กับมึงเสมอ " ผมค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้น ผมไม่เข้าใจ มันหมายถึงอะไรงั้นเหรอ

          " ผมหลับไปนานแค่ไหนเหรอครับ " ผมหันไปถามป๊าม๊าที่กำลังทำหน้าเศร้าเช่นกัน

          " เกือบสามวัน แต่อาลี่ไม่ได้โดนเยอะนะลูก แค่ร่างกายฟกช้ำ บาดแผลภายนอก และหัวกระแทกเท่านั้น " ม๊าพูดพลางบีบมือผมแน่นขึ้นไปอีก

          " แล้วพี่โรลละครับ " ผมมองทุกคนที่เงียบไป

          " โรลสาหัส ผ่าตัดสมองมาสองรอบแล้ว รถพุ่งมาชนด้านคนขับแบบเต็มๆ เลย รอดมาได้นี่ปาฏิหาริย์แล้วนะ " ผมรู้สึกอ่อนแรงลงทันที หัวใจมันเจ็บปวดเหลือเกิน ผมยังคงจำรอยยิ้มของพี่โรล รอยยิ้มที่บอกว่าพี่นั้นดีใจมากแค่ไหน ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป

          " อีกอย่าง สมอง..." ผมมองพี่นายที่กำลังจะพูดอะไร แต่ไอ้เมี่ยงก็รีบหันไปมองหน้าพี่นายทันที

          " ลี่พักก่อนเถอะ ถ้าลี่อาการดีขึ้นพี่จะพาไปหาโรลเอง "

          " ผมจะไปเดี๋ยวนี้ฮะ " ผมพูดและพยายามลงจากเตียง แต่ทุกคนก็เข้ามาจับผมเอาไว้ ทำไมล่ะ ผมไม่เข้าใจเลย

          " ปล่อยผมเถอะ ผมไม่เป็นไรแล้ว " ผมร้องไห้ออกมา ผมต้องไป ผมอยากไปหาพี่โรล ผมเป็นห่วงพี่ พี่จะเป็นยังไงบ้าง

          " กูจะพาไปตอนดึก " ไอ้เมี่ยงก้มลงกระซิบข้างหูผมเบาๆ ผมมองไปรอบๆ และตัดใจนอนลงเหมือนเดิม

          ผมมองพี่นายที่ส่ายหัวน้อยๆ และมองหน้าไอ้เมี่ยงที่ทำหน้าไม่สนใจพี่นายต่อไป

          ผมหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาช้าๆ หรือเพราะว่าคนบนท้องฟ้านั้นกำลังแกล้งพวกเรา พวกเราถึงต้องเจ็บปวดกันขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจเลยสักนิด

          ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง ไฟในห้องตอนนี้นั้นดับมืดลงแล้ว ผมค่อยๆ ขยับตัวและมองไอ้เมี่ยงที่นั่งอยู่ข้างๆ และหลับตาอยู่ ภายในห้องมีเพียงแค่เพื่อนผมคนเดียวเท่านั้น

          " เมี่ยง เมี่ยง " ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงคอเสื้อเพื่อนเบาๆ เพื่อปลุกมัน มันค่อยๆ ลืมตาขึ้นและลุกขึ้นพยุงผมทันที ผมมองหน้ามัน ผมรักมันมาก มันเป็นเพื่อนรักผม ถ้าไม่มีมัน ผมก็เหมือนไม่มีใครเลย

          ผมค่อยๆ เดินไปช้าๆ โดยมีเพื่อนพยุงเอาไว้ไม่ห่าง ค่อยๆ เดินหลบเลี่ยงห้องที่มีพยาบาลเฝ้า และขึ้นไปยังชั้นที่สูงกว่า เป็นชั้นของห้องที่ระดับดีที่สุดของโรงพยาบาล

          ผมหัวใจสั่นไหว หยุดอยู่ที่หน้าประตูที่มีชื่อพี่โรลอยู่บนนั้น ผมค่อยๆ จับลูกบิดประตู และเปิดเข้าไป

          ผมปิดปากตัวเองน้ำตาไหล ผมสงสารพี่เหลือเกิน พี่โรลนั้นนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าพันแผลพันไว้เกือบทุกที่ แขนและขาถูกเข้าเฝือกแน่นหนา สายน้ำเกลือและเครื่องช่วยต่างๆ มีอยู่เต็มข้างเตียงไปหมด ผมมองคลื่นหัวใจของพี่โรลที่ยังคงเต้นอยู่ แต่เหมือนจะเบาเหลือเกิน

          " มาทำไม " ผมสะดุ้งน้อยๆ หันไปมองผู้หญิงที่นั่งกอดอกไขว่ห้างอยู่ทีโซฟามืดๆ

          " เงียบๆ หน่อย " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังพูดขู่หนิงที่ทำหน้ายักษ์มองผม

          " ตัวซวยแท้ๆ " ผมมองหนิงที่กำลังทำหน้าโกรธเคืองผม ผมไม่ค่อยมีแรง ไม่อยากต่อปากต่อคำเท่าไหร่

          " พี่โรล " ผมพูดเบาๆ และจับที่แก้มที่โรลที่ตัวเย็นเฉียบ

          " อย่าไปแตะต้องนะ พี่เขาฟื้นมารอบนึงแล้ว อย่าไปรบกวน " ผมมองหนิงที่เดินมายืนข้างหลังผม

          ฟื้นมาแล้วรอบนึงงั้นเหรอ ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมยังคงพยายามเอื้อมมือไปลูบที่แก้มพี่โรลเบาๆ พี่โรลครับ รีบลุกขึ้นมานะ ผมอยากเห็นพี่ยิ้มให้ผมอีกครั้ง และพวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

          แต่ผมที่กำลังลูบแก้มพี่โรลนั้นก็ต้องชะงัก เพราะว่าดวงตาที่กำลังหลับอยู่ กำลังลืมขึ้นช้าๆ และคิ้วที่เข้มเป็นเส้นตรงนั้นกำลังย่นน้อยๆ

          " พี่โรล พี่ครับ " ผมรีบก้มหน้ามองพี่โรลใกล้ๆ ด้วยใบหน้าดีใจ

          " ใคร " ผมชะงักแต่ก็ยังคงยิ้มให้พี่โรล

          " ผมเองครับ มันมืดใช่ไหม​ เดี๋ยวผมเปิดไฟให้นะ " ผมทำท่าจะเดินไปเปิดไฟ แต่ก็ต้องหยุดลงทันที

          " ไม่ต้อง " ผมหันกลับไปมองพี่โรล ผมขมวดคิ้ว สีหน้าพี่โรลนั้นดูแปลกไป

          " พี่โรลคะ นอนเถอะค่ะ อย่าไปสนใจเลย เอาอะไรบอกหนิงเลยนะคะ " ผมน้ำตาไหลออกมาและมองไอ้เมี่ยงที่กำลังมองผมอยู่เช่นกัน นี่ใช่ไหม​ที่มึงต้องการจะบอกกู

          " เธอก็ด้วย อย่ามายุ่ง " ผมหันไปมองหนิงที่ชะงักไปเช่นกัน ดูเหมือนพี่โรลนั้น จะจำใครไม่ได้เลยต่างหาก

          ผมค่อยๆ เดินไปจับเพื่อนไว้ และหันกลับไปมองพี่โรลที่กำลังจ้องผมพลางขมวดคิ้ว

          " เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาเยี่ยมใหม่นะครับ ผมชื่อลี่ครับ ถ้าพี่อยากรู้นะ " ผมส่งยิ้มให้พี่โรล และหันมาเกาะเมี่ยงไว้ และค่อยๆ เดินออกจากประตู

          ผมค่อยๆ เดินมาอย่างเงียบๆ โดยมีไอ้เมี่ยงประคองไว้ จนมาถึงห้องของผม ที่อยู่ถัดลงมาสองชั้น

          ผมรู้สึกเหมือน ผมไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไร ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไป ผมนึกถึงสายตาของพี่โรลเมื่อกี้ นึกถึงเสียงที่เย็นชานั่น ผมไม่สามารถทำใจรับรู้ได้ว่า ในความทรงจำของพี่นั้น ไม่มีผมอยู่อีกแล้ว

          " อยากกอดกูไหม​ " ผมมองเพื่อนที่ยิ้มน้อยๆ ให้ผมและอ้าแขนกว้าง ผมเดินไปกอดมันเอาไว้และร้องไห้ออกมาอย่างสุดหัวใจ

          ครั้งนั้นที่เราทะเลาะกัน แต่พวกเรานั้นยังคงรักกัน พวกเรายังคงมีความรักต่อกันอยู่ในแววตา แต่บัดนี้ ความรักทั้งหมดที่มีมันหายไปแล้ว หายไปพร้อมกับความทรงจำที่ล้ำค่าของเราสองคน

          " เอาพี่โรลคนเดิมกลับคืนมาให้ได้ มึงทำได้ พี่เขาเคยหลงรักมึงมาแล้วครั้งนึง เขาก็จะต้องหลงรักมึงอีก กูแน่ใจ " ผมยังคงร้องไห้กอดมันไว้แน่น ขอบคุณมาก ผมทำได้ และผมต้องทำ ผมจะทำให้พี่จำได้ว่า พี่นั้นรักผมมากแค่ไหน



และผมจะไม่มีวันปล่อยพี่ไป
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 34 ความรักที่ถูกลืมเลือน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 13-12-2017 16:31:10
          Calorie ที่ 35 ข้างในหัวใจที่ว่างเปล่า


          ผมตื่นมาในวันรุ่งขึ้นในสภาพที่ตาบวมปูดไปหมด ผมกินข้าวต้มที่แสนจืดชืด โดยมีไอ้เพื่อนเกรียนที่ยังคงเฝ้าผมไม่ห่าง คอยชวนผมคุยและทะเลาะกับคนอีกคนอยู่ตลอดเวลา ผมว่าพี่นายกับมันนี่เข้ากันดีนะ ถึงผมจะไม่อยากให้มันเสียใจแบบผมกับสิ่งที่พี่นายทำ แต่ผมก็อยากจะลองให้โอกาสพี่นายดู แต่สิ่งนั้นผมไม่ได้เป็นคนตัดสิน คนที่ต้องตัดสินใจก็คือเพื่อนผม ว่ามันจะคิดยังไงกับผู้ชายที่มันเคยเกลียดเสมอมา

          " ลี่ เป็นไงบ้างวันนี้ " ผมมองพี่นายที่ยิ้มแย้มแบบคนใจดีปกติ

          " พี่นายก็รู้อยู่แล้วใช่ไหม​ครับ เรื่องพี่โรล " ผมพูดและยิ้มเศร้าๆ

          " โรลตอนนี้สมองจำได้ถึงตอนอายุ 18 เองมั้ง ยังไม่รู้จักใครเลย แต่เหมือนจะจำพี่ได้นะ เพราะเคยเจอกันในงานสังคมสมัยม.ปลาย แต่ก็ไม่สนิทพอจะพูดคุยด้วย พี่บอกได้เลย โรลน่ะ ดีแค่กับคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นเพื่อนเท่านั้น นิสัยตอนนี้จะน่ากลัวหน่อย ปากร้ายและเข้าหายากสุดๆ แต่ลี่เข้าใจใช่ไหม​ " ผมพยักหน้าและยิ้มน้อยๆ แปลว่าผมกำลังจะเผชิญกับจอมวายร้ายของแท้เลยสินะ แต่ผมก็อยากรู้นะ ว่าพี่ตอนที่ไม่ได้รู้จักผม ไม่ได้ รัก..ผม นั้นเป็นยังไง ตอนนี้ผมนั้นถึงแม้จะอยากร้องไห้ออกมามากแค่ไหน ก็คงต้องอดกลั้นเอาไว้ มันไม่มีประโยชน์อะไร ผมจะต้องสู้ เพื่อเอาชีวิตของเราสองคนกลับคืนมา

          หลังจากจัดการตัวเองหลายๆ อย่าง ผมก็ค่อยๆ เกาะไหล่เมี่ยงและเดินขึ้นไปยังชั้นบน เพื่อไปหาพี่โรล โดยมีพี่นายช่วยประคองอีกข้าง ผมมองคนที่ช่วยประคองผมทั้งสองคนที่แยกเขี้ยวยิงฟันเหมือนจะกัดหูผมอยู่แล้ว ให้ตายเถอะ

          เมื่อมาถึงชั้นบน ผมก็ค่อยๆ เดินเอง และเดินไปยังหน้าห้องของพี่โรล ซึ่งวันนี้ผมต้องตกใจมาก เพราะมีคนอยู่ในห้องเยอะทีเดียว ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนวีลแชร์นั่นผมคิดว่าคงเป็นคุณแม่ของพี่โรล และผู้ชายตัวสูงหล่อเหลาหน้าออกไปทางชาวต่างชาตินั้นก็คือคุณพ่อ พี่โรลได้พ่อมาเยอะเลยทีเดียว และคนอื่นๆ น่าจะเป็นคนจากที่บ้านพี่โรล และผู้หญิงที่กำลังเข็นวีลแชร์ของคุณแม่พี่โรลอยู่นั้น แน่นอนว่าคือหนิง

          ผมค่อยๆ เคาะประตูห้องเบาๆ และเปิดเข้าไป ทุกสายตาจ้องมองมายังผมทันที ผมมองพี่โรลที่ยังคงหลับอยู่ และมองผู้หญิงบนวีลแชร์ที่กำลังทำสีหน้าไม่พอใจผม สักพักหนิงก็เข็นวีลแชร์นั้นมาทางผมที่ยืนอยู่ที่ประตู

          " เธอเองสินะ เธอไม่ได้รู้เลยเหรอ ว่าไม่ควรมายุ่งอีกแล้ว โรลจะได้ชีวิตใหม่ เริ่มต้นใหม่ " ผมกำมือแน่น ชีวิตแบบไหนเหรอครับ ผมมั่นใจ ว่าถึงผมจะไม่ปรากฎตัวตรงนี้ พี่โรลก็จะไม่มีวันหมั้นกับผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว

          " หนู ไม่ต้องไปฟัง เข้ามาสิ " ผมเงยหน้ามองคุณพ่อของพี่โรลที่กำลังยิ้มให้ผม และค่อยๆ พยุงผมเข้าไป ผมตัวเกร็ง คุณพ่อพี่โรลนั้นหล่อและยังหนุ่มมาก ช่างเหมือนพี่โรลเหลือเกิน เอ๊ะ ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นพี่โรลโหมดใจดี

          ผมเหลือบมองเห็นคุณแม่พี่โรลแทบจะพ่นไฟ ฟึดฟัดไม่พอใจ และหนิงที่หน้าตาดูโกรธแค้นผมมาก

          " หนูลี่ใช่ไหม​ " คุณพ่อพี่โรลพาผมมานั่งและนั่งลงข้างๆ

          " ครับ " ผมตื่นเต้นลิ้นชาจนไม่กล้าพูด

          " โรลกลับไปรัสเซียคราวที่แล้ว พ่อนี่ฟังเรื่องของหนูจนหูชาไปหมด ฮ่าๆ พอมาเจอตัวจริงนี่อึ้งไปเลย น่ารักสุดๆ เลยนะ " ผมรีบยกมือไหว้คุณพ่อพี่โรลและยิ้มน้อยๆ อย่างดีใจ

          " ตอนนี้พี่เขาป่วย ให้เวลาพี่เขาหน่อยนะ " ผมมองหน้าคุณพ่อของพี่โรลด้วยแววตาสั่นระริก ผมดีใจมาก ผมคิดว่าผมจะโดนไล่ออกไปซะแล้ว

          " ขอบคุณครับ " ผมยกมือไหวอีกครั้ง

          " โรล เป็นยังไงบ้างลูก " ผมตกใจรีบมองตามเสียงนั้น และก็พบว่าพี่โรลเพิ่งลืมตาขึ้นและขยับตัวน้อยๆ

          " น้ำ " ผมลุกขึ้นยืนช้าๆ และค่อยๆ เดินเลาะไปเพื่อมองดูพี่โรลให้ใกล้ที่สุด ผมสงสารพี่โรลที่หายใจแรงเหมือนกำลังเจ็บปวดอยู่ ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาน้อยๆ และยืนมองอยู่ห่างๆ

          " พี่โรลคะเดี๋ยวหนิงป้อนนะ " ผมมองผู้หญิงที่ทำท่าเสนอตัวด้วยใบหน้าชื่นบาน

          " เธอ เป็นใคร ยุ่ง " ผมยิ้มน้อยๆ มองหนิงที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ พี่โรลนั้นเป็นพวกใจยักษ์ใจมารไม่ว่าหน้าไหนๆ เหมือนเก่า

          " นาย ยิ้มอะไร " ผมชะงักและมองพี่โรลที่กำลังจ้องมองผม ผมสังเกตุว่าพี่โรลนั้นกลายเป็นคนพูดคำสั้นๆ อีกแล้ว

          " เปล่าครับ " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ

          " นายเป็นใคร " คำถามของพี่โรลทำเอาผมนิ่งอึ้งอีกครั้ง ผมหลุบตาลงต่ำ ผมจะอ่อนแอไม่ได้ พี่โรลเป็นของผม

          ผมมองหนิงที่กำลังมองผมด้วยสีหน้ายิ้มเยาะ งั้นเหรอ ผมเป็นใครงั้นสินะ ผมเงยหน้าขึ้นและตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจที่สุด

          " ผมเป็นเมียพี่ " หลังจากสิ้นคำตอบของผม ในห้องก็เงียบกริบจนเหมือนจะได้ยินเสียงจั๊กจั่นที่เกาะอยู่ด้านนอก ผมมองหน้าหนิงที่ตาโตและปากสั่นน้อยๆ และพี่โรลที่กำลังสำลักน้ำออกทางจมูก

          พี่โรลมองผมพลางหรี่ตา และขมวดคิ้วมองผมอีกที

          " เมื่อกี้ว่าไงนะ " พี่โรลถามผมอีกครั้งพลางกวักมือเรียกผมให้ไปใกล้ๆ

          ผมหน้าแดงขึ้นน้อยๆ แต่ก็จ้องหน้าพี่โรลและพูดออกไปอีกครั้ง

          " ผมเป็นเมียพี่ " ผมตอบฉะฉานเสียงดังฟังชัด เอาซะแม่พี่โรลควานหายาดมเลยทีเดียว

          ผมเหลือบมองไอ้เมี่ยงที่ชูนิ้วโป้งให้ผมทั้งสองมือแบบอึ้งๆ

          พี่โรลไม่ได้พูดอะไร แต่กำลังกุมขมับตัวเองพลางนวดเบาๆ

          " นี่เรื่องจริงเหรอเนี่ย " พี่โรลทำหน้าแบบเหวอเลยทีเดียว ผมก็เข้าใจนะ เพราะพี่โรลนั้นไม่ได้เป็นเกย์ ไม่เคยมีแฟน แต่อยู่ดีๆ มีผู้ชายแบบผมมาบอกว่าเป็นเมีย เป็นใครก็ช็อคแหละครับ

          " เรื่องจริงผมเป็นพยาน..จ๊ากก " ผมคว้าส้มในตระกร้าเยี่ยมไข้พี่โรลและปาหัวไอ้ตัวเสือกที่มันกำลังจะแฉผม

          " พี่ไม่เชื่อก็เรื่องของพี่ แต่ผมเป็นเมียพี่จริงๆ " ผมพูดพลางเดินไปเกาะที่ปลายเตียงพี่โรล

          พี่โรลมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น และส่ายหน้าน้อยๆ เหมือนไม่อยากจะเชื่อ

          " แต่นายไม่ใช่สเปคฉันเลยนะ " ผมเงยหน้ามองพี่โรลด้วยแววตาสั่นระริก นั่นสินะ ผมลืมไปได้ยังไงว่าพี่โรลชอบผมเพราะอะไร ผมในนอนนี้ผอมแห้ง ไม่ใช่ลี่แบบที่พี่โรลหลงรักในตอนแรก

          " เป็นผู้ชายที่หน้าด้านหน้าไม่อายจริงๆ " ผมหลบตาคุณแม่พี่โรลที่กำลังชี้หน้าด่าผมอยู่

          " ยังไม่ได้ยินหรือไง ออกไปได้แล้ว " คุณแม่พี่โรลพูดไล่ผม และคำพูดของพี่โรลนั้น ทำเอาผมรู้สึกเหมือนกับถูกพี่โรลตบหน้า ผมตัวสั่นน้อยๆ และทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง

          " เดี๋ยวก่อน " ผมหันหลังไปอีกครั้ง พี่โรลกำลังทำมือเรียกผมอยู่

          " ตาโรล พอได้แล้ว เห็นชัดๆ ว่ามันโกหกนะลูก "

          " เงียบได้ไหม​ ผมปวดหัว " คุณแม่พี่โรลเงียบทันทีและมองผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ

          ผมค่อยๆ เดินกลับไปช้าๆ ไปข้างๆ เตียงของพี่โรล

          " แผลโดนอะไร " พี่โรลจ้องมองผมและมองรอยแผลรอยฟกช้ำบนตัวผม

          " รถชนครับ " พร้อมพี่นั่นแหละ ผมยิ้มน้อยๆ มองหน้าพี่โรล ซึ่งพี่โรลก็มองหน้าผมและทำมือให้ผมนั่งลง

          " ทุกคนออกไปให้หมด " ผมตกใจและทำท่าจะลุกขึ้น แต่พี่โรลก็ทำมือให้ผมนั่งลงเหมือนเดิม

          " เล่าเรื่องของนายให้ฟังหน่อย " ผมมองพี่โรลที่หลับตาลงเหมือนกำลังรอฟังสิ่งที่ผมพูด

          " ผมไม่มีอะไรจะเล่าหรอกครับ " พี่โรลลืมตาขึ้นอีกครั้ง และขมวดคิ้วมองผม

          " ทำไม " ผมมองพี่โรลที่ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ พี่ในตอนนี้นั้นไม่มีพี่โรลที่ผมรู้จักเหลืออยู่เลย พี่จะไม่มีวันทำสายตาแบบนี้ใส่ผมแน่นอน

          " มันเป็นสิ่งล้ำค่าที่ผมอยากให้พี่จำมันได้เอง " ผมมองพี่โรลและยิ้มน้อยๆ

          " ถ้านายโกหกล่ะ " ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่ให้ไหลออกมา

          " กับผู้ชายเนี่ยนะ " ผมน้ำตาไหลออกมาช้าๆ อย่างสุดจะกลั้น พี่ครับ พี่จำผมไม่ได้จริงๆ เหรอ พวกเราเพิ่งจะกอดกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเองนะครับ



พี่ไม่มีผมอยู่ในนั้นแล้วจริงๆ เหรอ ข้างในหัวใจของพี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 13-12-2017 17:18:16
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-12-2017 17:57:48
 :z3:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 13-12-2017 20:33:57
 o3 จริงๆ เลย เมี่ยงเนี่ย อย่าลืมหาคู่ให้ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-12-2017 20:53:46
เห้อแบบนี้ก็ต้องรอนานเลยสิ
ดูแม่จะกีดกันอีกด้วย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-12-2017 21:07:32
ความสุขมักจะมาไว และไปไว  สู้ ๆ นะหลานลี่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-12-2017 07:57:59
อดทนไว้ลี่ เด่วพี่โรลก็หายแล้ว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 34+35 สองตอน]((13/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 14-12-2017 10:52:12
          Calorie ที่ 36 คำขอโทษที่มีความหมาย


          หลังจากที่คุยกับพี่โรล ผมก็ขอตัวกลับมาพักที่ห้องของผม ผมน้ำตาไหลตลอดเวลาที่อยู่ใกล้ๆ พี่ และพี่ก็เหมือนจะทำตัวไม่ถูก ได้แต่มองผม และบอกให้ผมหยุดร้องไห้ซะ ผมอยากเข้าไปหาพี่ใกล้ๆ และกอดพี่เอาไว้ ผมรู้ว่าพี่กำลังเจ็บปวดและสับสน ผมจะต้องอดทน รอวันที่พี่จะกลับคืนมา

          ผมนอนอยู่บนเตียงของตัวเอง เหม่อลอยคิดถึงวันเก่าๆ วันที่พวกเรานั้นเพิ่งเจอกัน มันเหมือนกับเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน วันแรกพี่ที่แอบจับมือผม หยิบขนมออกจากกระเป๋าของผม ร้องเพลงให้ผม บอกว่าชอบผม จูบผม และกอดผมเอาไว้ ผมจำวันเวลาพวกนั้นได้ดี ผมมีความสุขมากที่พี่มักจะทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีค่า ผมพิเศษกว่าใครๆ พี่ลืมมันทั้งหมดไปแล้วจริงๆ เหรอ ผมห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ แต่ก็ไม่เคยทำได้ ผมเจ็บปวดใจเหลือเกิน ผมร้องไห้เบาๆ และผลอยหลับไป แต่ก็รู้สึกถึงเสียงที่กำลังเรียกผมเบาๆ

          " ลี่ "  ผมลืมตาขึ้นและพบว่าเมี่ยงกำลังเขย่าผมอยู่

          " มีอะไรเหรอ " ผมถามมันที่กำลังยิ้มน้อยๆ ให้ผม
         
          " คือคุณลี่คะ ขอโทษที่รบกวน แต่คุณโรลไม่ยอมทานยาไม่ยอมทานข้าวเลยค่ะ คอยแต่จะอาละวาดลูกเดียว ยังไงช่วยไปดูหน่อยได้ไหม​คะ " ผมขมวดคิ้วมองดูผู้หญิงคนหนึ่งที่น่าจะเป็นแม่บ้านของบ้านพี่โรล ผมค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินตามผู้หญิงคนนั้นไปยังห้องของพี่โรลที่ชั้นบน

          ผมเปิดประตูเข้าไปและก็ต้องตกใจมาก เพราะว่าพี่โรลกำลังขว้างของลงพื้น และทำท่าเหมือนกำลังปวดหัวอยู่ ถ้าผมไม่เคยรู้จักพี่โรลมาก่อน ผมคงจะพูดได้เลยว่า พี่โรลนั้นน่ากลัวและดูร้ายกาจมากแค่ไหน

          " พี่ครับ ใจเย็นๆ นะ " ผมค่อยๆ เดินเข้าไปและเก็บของที่ร่วงอยู่ตามพื้น ผมนิ่วหน้าน้อยๆ เพราะผมก็เจ็บแผลของผมเหมือนกัน ผมเหลือบมองหนิงที่ยืนแอบอยู่ข้างผนัง และคุณแม่พี่โรลที่กำลังขมวดคิ้วมองผมเช่นเคย แต่คุณพ่อพี่โรลไม่อยู่ครับ

          ผมค่อยๆ เดินเลาะเข้าไปและไปนั่งข้างๆ พี่โรลที่กำลังทำหน้าอารมณ์เสียอยู่

          " ปวดหัวเหรอครับ " ผมถามเบาๆ และมองพี่โรลที่กุมหัวตัวเองอยู่ นี่ขนาดแขนหักไปข้างนึงนะ ยังฤทธิ์เยอะดีจริงๆ

          " เอาตัวเองให้รอดเถอะ " พี่โรลเหลือบมองผมพลางขมวดคิ้ว

          " ผมไม่เป็นอะไรครับ "

          " คนโกหก " พี่โรลยังคงมองผมไปทั่วทั้งตัว รู้ดีจริงๆ เลยนะ

          " พี่ไม่กินยาก็ไม่หายสิ ทำไมถึงปาของละครับ " ผมถามพลางหยิบยาที่พยาบาลกำลังยื่นให้อย่างกล้าๆ กลัวๆ ดูทุกคนจะกลัวพี่โรลกันแฮะ ก็นะ ร้ายจริงๆ เลยล่ะ

          " รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย " ผมตกใจรีบลุกขึ้นจับตัวพี่โรล

          " จริงเหรอครับ เจ็บตรงไหนอีกครับ จะได้ให้หมอมาดู " แต่ผมที่ทำหน้าตาตื่นก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของคนที่บอกว่ากำลังจะตาย

          " หลอกง่ายนะเราน่ะ โอ้ยยย " อ้ากกก ผมเผลอฟาดพี่โรลเข้าให้ด้วยความเคยชิน ทำเอาทุกคนตาเหลือกกันเลยทีเดียว

          " ซาดิสม์หรือไง " ผมนั่งลงและหน้าบูดใส่ไอ้คนจอมแหลนี่ ขนาดจำไม่ได้ยังกวนเหมือนเดิม

          " อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีกนะ " ผมพูดและทำหน้าดุแข่งกับคนกวน

          " อ่ะ กิน " ผมทำมือยื่นยาให้พี่โรลที่กำลังมองผมอยู่

          " แขนหักกินไม่ได้ " พี่โรลส่ายหน้าและไม่ยอมรับยานั้น

          " หักข้างเดียวนะรู้สึก เมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลย " ผมยังคงหน้ามุ่ย หนอย สำออยเป็นเลิศ

          " เดี๋ยวหนิงป้อนก็ได้ค่ะ " ผมมองหนิงที่ทำท่าจะเสนอตัวมาช่วย

          " เธอ น่ารำคาญ " ผมแอบขำน้อยๆ เป็นไงล่ะ ให้มันรู้ซะบ้าง พี่โรลทำมือไล่หนิงอย่างไม่ใยดี

          " คนอื่นออกไป เกะกะ " ผมมองทุกคนที่ทำหน้าเจื่อนๆ แต่ก็ออกไป นี่พี่จะโหดไปไหน ในคนพวกนั้นมีแม่พี่ด้วยนะ ไอ้เด็กเกเรเอ๋ย

          " กินยากินข้าวแล้วจะได้พักผ่อน " ผมพูดและยังคงยื่นยาให้

          " ป้อน " หือออ ผมตาโตมองไอ้คนที่อ้าปากรอเหมือนเด็กน้อย

          " เร็วดิ " ผมลุกขึ้นและป้อนยาใส่ปากพี่โรลและหยิบน้ำป้อนให้อีกที ก็ดูกินง่ายนี่ ทำไมต้องวิ่งไปตามผมกันละเนี่ย

          พี่โรลมองผมเหมือนกำลังคิดอะไร แต่ก็ไม่พูดออกมา ผมยังคงจำสิ่งที่พี่พูดเมื่อเช้าได้ ซึ่งมันทำให้ผมเสียใจเหลือเกิน

          " นาย เอ่อ ลี่เป็นเมียจริงเหรอ " ผมมองหน้าพี่โรลและพยักหน้าน้อยๆ

          " ผู้ชายกับผู้ชายนี่ ทำยังไงกันเหรอ " ผมตาโตขึ้นทันทีด้วยคำถามบ้าๆ นั่น อ้ากกก จะให้พูดยังไงละครับเพ่ โอ้ยยย ถามทำไมฟะ แล้วแหม อีตอนทำแม่งโครตดูเชี่ยวชาญ พอตอนนี้ละเจือกมาถาม ผมนี่อยากจะตะกุยหน้าไอ้พี่บ้านี่จริงๆ

          " ใครจะไปพูดเล่า " ผมพูดพลางทำหน้าบูด

          " งั้น...ขอดูนมหน่อยได้ไหม​ " ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่โรลและต้องยั้งใจไม่ให้ฟาดไอ้พี่บ้านี่อีกที หนอยยย

          " มีที่ไหนล่ะ "

          " ไม่มีก็อยากดูอ่ะ " พี่โรลพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย อ้ากกก จำไม่ได้แม่งยังหื่นอีก

          " ไม่เอา " ผมพูดพลางทำหน้าบูด

          " อายทำไมผัวเมียกัน "  เหรออออ อ๋อเหรอออ เมื่อเช้าใครฟะพูดเหมือนรับไม่ได้ที่มีเมียเป็นผู้ชาย

          " ไอ้ทะลึ่ง "

          " อ่ะ แลกกันดูก็ได้ " พี่โรลพูดพลางทำท่าจะถกกางเกงให้ดู อ้ากกกก ใครจะไปอยากดูหนอนเหี่ยวๆ ของแกตอนนี้ฟะ ผมรีบตะครุบมือพี่โรลที่กำลังจะถกกางเกงลงจริงๆ และก็เหมือนเข้าไปติดกับดัก พี่โรลปล่อยมือจากกางเกงเปลี่ยนมาจับข้อมือผมไว้แน่น พลางดึงผมและจ้องหน้าดูใกล้ๆ จนผมแก้มขึ้นสีระเรื่อ

          " หน้าตาน่ารักดีนะ " ผมหน้าแดงจัดขึ้นมาทันทีและแกะมือพี่โรลออก

          " น่ารักบ้าอะไรล่ะ " ผมนั่งลงและหยิบจานข้าวมาเตรียมป้อน

          " เอ้า อ้าปาก "  ผมพูดและอ้าปากให้ดูและพี่โรลก็หัวเราะเบาๆ

          " ปกติพวกเราเป็นแบบนี้กันเหรอ " ผมหุบปากลงและมองพี่โรลที่กำลังยิ้มให้ผม ผมมือสั่นน้อยๆ รู้สึกอยากร้องไห้ออกมาอีกแล้ว

          " อย่าร้องไห้ " ผมมองพี่โรลที่พูดบอกผมด้วยเสียงจริงจัง

          " มันเจ็บมากเลย ตรงนี้ " พี่โรลพูดพลางชี้ที่หัวใจ

          " ไม่อยากเห็นลี่ร้องไห้ " พี่พูดแบบนี้ แล้วผมจะไม่ร้องไห้ได้ยังไงละครับ ผมวางชามข้าวต้มและก้มลงร้องไห้กับฝ่ามือ ผมทั้งดีใจและเสียใจที่ทำตามที่พี่บอกไม่ได้

          " ผมขอโทษครับ " ผมรู้สึกถึงสัมผัสที่พี่โรลค่อยๆ เอื้อมมือมาแตะที่หัวของผมเบาๆ นั่นยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักไปใหญ่

          หลังจากนั้น ผมก็ป้อนข้าวให้พี่โรลจนหมด ผมกินบ้างพี่กินบ้าง พี่โรลนั้นถึงจะยังจำผมไม่ได้ แต่ก็ดูจะเปิดใจให้ผมมากขึ้น พี่คงอยากรู้ใช่ไหม​ ว่าพี่เคยชอบผมจริงๆ หรือเปล่า ผมไม่โทษพี่หรอก เชิญเลยครับ มองผมให้เต็มตา มองและสัมผัสตามที่พี่ต้องการ ผมเป็นของพี่ ของพี่ทั้งตัวและหัวใจ

          " ผมไปแล้วนะ พี่ก็นอนพักซะ " ผมจับให้พี่โรลนอนลง ผมคิดไปเองหรือเปล่านะ เหมือนผมจะเห็นพี่โรลทำหน้าเหมือนกำลังเจ็บปวดอยู่ แต่พอผมมองดูดีๆ พี่เขาก็จะทำหน้านิ่งๆ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย

          " ลี่ " ผมที่กำลังจะเดินออกไปก็หันกลับมาอีกครั้ง

          " อยู่ข้างๆ ก่อนได้ไหม​ จนกว่าพี่จะหลับ " ผมเดินกลับมาและนั่งลงใกล้ๆ ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปจับมือของพี่โรลเอาไว้ พี่โรลยิ้มน้อยๆ และค่อยๆ หลับตาลง

          ผมมองพี่โรล ผมรู้สึกดีใจมาก ขอบคุณนะครับ ที่อยากให้ผมอยู่ใกล้ๆ ถึงพี่จะจำผมไม่ได้ แต่พอเป็นแบบนี้ผมก็ยังรู้สึกว่า ผมมีหวัง อีกไม่นานพี่จะกลับมาใช่ไหม​ครับ และพวกเราจะไม่มีวันพรากจากกันอีก

          " ขอโทษนะ " ผมขมวดคิ้วมองพี่โรลที่หลับไปแล้ว ผมไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมพี่ถึงพูดแบบนั้น มันเหมือนกับจะเป็นคำบอกลา



เหมือนกับจะเป็นถ้อยคำสุดท้าย ที่ผมจะได้ยินจากพี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 14-12-2017 11:50:20
คนป่วยเจ้าเล่ห์จังเลยนะ ลี่เขินน่ารัก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-12-2017 12:16:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-12-2017 03:34:27
หรือว่าต้องไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ เลยต้องห่างกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-12-2017 06:43:51
สงสาร
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-12-2017 08:03:09
Happy end ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 15-12-2017 08:25:21
ลี่ สู้ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 36 คำขอโทษที่มีความหมาย]((14/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 15-12-2017 13:00:23
          Calorie ที่ 37 เพราะว่ามันคือรักแท้


          ผมกลับมานอนที่เตียงหลังจากที่แน่ใจว่าพี่โรลนั้นหลับไปแล้ว ผมนอนลงกินยาของผมที่คุณหมอจัดไว้ให้และค่อยๆ หลับตาลง



          ผมเดินอยู่บนระเบียงที่ดูคุ้นตา มองไปยังท้องฟ้าด้านนอกที่มืดครึ้มและดูน่ากลัว ผมมองเท้าที่เปลือยเปล่าของผมกำลังก้าวเดินไปตามทาง ขึ้นไปยังบันไดที่ทอดตัวขึ้นไปสู่ด้านบน ทีละก้าว ทีละก้าว

          ผมไม่รู้ว่าผมกำลังไปที่ไหน รู้แต่เพียงว่า มีใครสักคนกำลังเรียกผมอยู่ ผมเดินขึ้นมาเรื่อยๆ มาจนถึงชั้นบนสุด ผมมองไปรอบๆ ที่มีแต่พื้นที่ว่างเปล่า ท้องฟ้าที่ไร้แสง และลมที่โหมกระหน่ำราวกับกำลังก่อพายุ

          ผมมองไปรอบๆ อีกครั้ง และสะดุดเข้ากับร่างของคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้น บนริมขอบความชัน หันหน้าแหงนมองไปบนท้องฟ้าที่มืดมนนั้น

          ผมค่อยๆ เดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจสั่นสะท้านด้วยความกลัว พี่ครับ พี่ใช่ไหม​ ทำไมพี่ถึงอยู่ตรงนั้น

          ผมที่ค่อยๆ เดิน ก็ก้าวท้าวเร็วขึ้น จนกลายเป็นวิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่ตัวเองมี เพื่อไขว่คว้าหาคนคนนั้น

          " พี่ขอโทษ พี่รักลี่ " คนคนนั้นหันมามองผมและยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันหลังและทิ้งร่างของตัวเองลงไปสู่ความมืดมนเบื้องล่าง

          " พี่โรล!!! " ผมตะโกนและสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างตื่นตกใจ พลางหันไปมองรอบๆ ผมหัวใจเต้นแรง ตัวสั่นและเหงื่อไหลซึม



          " ลี่!! " ผมหันไปมองประตูที่เปิดออกมาอย่างแรง และไอ้เมี่ยงที่หน้าตาตื่นเข้ามา

          " ลี่ ลี่ ไปกับกูเดี๋ยวนี้ " ไอ้เมี่ยงไม่พูดเปล่าแต่กำลังอุ้มผมขึ้นจากเตียงและวิ่งอย่างรวดเร็วขึ้นบันได

          ผมตกใจกำเสื้อของมันไว้ มันกำลังทำหน้าตาตื่น กำลังทำท่าเหมือนจะร้องไห้ และผมก็เริ่มที่จะรู้แล้วว่า เป็นเพราะอะไร

          มันพาผมมาถึงหน้าห้องของพี่โรลและปล่อยผมลง ผมค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปพลางมองกลุ่มคนที่กำลังร้องไห้ และกลุ่มคนในชุดสีขาวที่กำลังลุมล้อมรอบตัวพี่โรลอยู่ ทุกคนดูสีหน้าเคร่งเครียดและเหนื่อยอ่อน ผมมองร่างกายที่โรลที่ถูกเหล็กแนบที่หัวใจ และช็อตไฟฟ้าเข้าไป แต่ก็ยังคงนิ่งอยู่

          นี่ผมคงยังไม่ตื่นสินะ ผมเดินช้าๆ ตัวสั่นเทาไปด้วยความกลัว สมองมึนงงยังคงไม่รับรู้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ผมน้ำตาไหลยืนมองความชุลมุนด้านหน้าด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า เสียงกรีดร้องและเสียงร้องไห้นั้นไม่ได้เข้ามาในโสดประสาทผมเลยสักนิด

          ผมเดินเข้าไปช้าๆ พยายามจะเอื้อมมือเข้าไปหาพี่โรล แต่ก็ถูกคนในชุดสีขาวกันออกมา ผมยังคงไม่สนใจและพยายามจะเดินเข้าไปใหม่ พี่ครับ ผมอยู่นี่แล้ว มองผมสิ

          ผมที่เริ่มรู้สึกตัวก็เริ่มร้องไห้ออกมา แบบนี้ไม่ได้ พี่จะทิ้งผมไปไม่ได้ ผมนึกถึงวันข้างหน้า วันที่ไม่มีพี่อยู่นั้น ผมนึกมันไม่ออกอีกแล้ว

          " คุณหมอ ต้องการอะไรหรือเปล่าครับ " ผมพยายามเดินเข้าไปเกาะแขนคนนั้นคนนี้เพื่อขอความช่วยเหลือ

          " ผมมีเลือดนะ ผมมีทุกอย่าง เอาของผมไปก็ได้ ช่วยด้วยครับ ช่วยพี่โรลด้วยครับคุณหมอ " ผมโดนชนจนหกล้ม แต่ก็ยังคงพยายามจะลุกขึ้นใหม่ทุกครั้ง

          ผมได้ยินเสียงคุณแม่พี่โรลที่กำลังร้องไห้ราวจะขาดใจ ผมมองหนิงที่ตัวสั่นน้อยๆ และคุณพ่อของพี่โรลที่โอบคุณแม่ไว้

          " คุณหมอครับ ฮึก..ฮ ผม ผมมีหัวใจ เอาของผมไปก็ได้ ฮืออ " ผมรู้สึกว่าผมถูกกอดเอาไว้ไม่ให้เดินไปข้างหน้าได้อีก ผมพยายามแกะมือเพื่อนออกและพยายามจะเดินเข้าไปหาพี่โรล ขอแค่เพียงนิดเดียว ผมอยากจับมือพี่ไว้ ผมอยากให้พี่รู้ว่าผมอยู่ข้างๆ พี่เสมอ

          " คนไข้อาการทรุดลงมาก ต้องผ่าตัดใหญ่อีกรอบ ต้องใช้เลือดเพิ่มด่วนที่สุด "

          " ฮืออ หนิง หนิงช่วยพี่เขานะลูก พี่เขาเลือดกรุ๊ปพิเศษนะ จะทำยังไงดี ของแม่คงไม่ได้แน่ๆ " คุณแม่ของพี่โรลกำลังร้องไห้และหันไปหาคนที่คิดว่ารักลูกตัวเองที่สุด

          " ไม่ค่ะ ห.นิงกลัว ถ้าหนิงตายไปอีกคนล่ะ " หนิงนั้นร้องไห้และส่ายหน้าไปมา

          คุณแม่ของพี่โรลนั่นนิ่งค้างสงบลง และกำลังจ้องมองเด็กหนุ่มที่กำลังตะเกียกตะกายเกาะแขนคุณหมอไว้สุดกำลัง

          " ผมครับ เอาของผมไป ผมเลือดกรุ๊ปหายากครับ เอาไปหมดเลยก็ได้ ช่วยพี่โรลด้วย ต้องช่วยพี่ให้ได้ " ผมเหมือนคนเสียสติพูดไม่รู้เรื่อง ผมไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไร กำลังพูดอะไร ผมรู้อย่างเดียวว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี ผมให้พี่ได้ ขอเพียงแค่ให้พี่ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง พี่ไม่ต้องจำผมได้ก็ได้ พี่จะลืมผมไปชั่วนิรันดร์เลยก็ได้ แต่ผมขอเพียงแค่ ให้พี่กลับมา ลืมตาขึ้นมา มีชีวิตอยู่ แค่นี่ผมก็เพียงพอแล้ว
         
          " คุณยังเห็นต่างเรื่องนี้อยู่หรือเปล่า "  คุณพ่อพี่โรลพูดและบีบมือภรรยาตัวเองด้วยน้ำตาเช่นกัน คุณแม่พี่โรลส่ายหน้าน้อยๆ และร้องไห้ออกมาเบาๆ แทนคำตอบนั้น

          " ลี่ มึงกำลังป่วยนะ " ผมยังคงขอร้องคุณหมอให้เอาเลือดผมไป แต่ก็ถูกเพื่อนดึงเอาไว้

          " กูไหว กูไม่เป็นไร จริงๆ " ผมไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก เลือดของพวกเรานั้นเป็นชนิดหายากเหมือนกัน ผมอยากช่วย และต้องช่วยพี่โรลให้ได้

          สุดท้ายแล้ว ผมก็ได้บริจาคเลือดตามที่ตั้งใจ จะใช้ได้หรือไม่นั้น ผมก็ยังไม่รู้ แต่จะให้ผมอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ผมทำไมได้ ส่วนไอ้เมี่ยงและพี่นายก็พยายามหาเลือดกรุ๊ปพิเศษนี้จากที่ต่างๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยโรงพยาบาลอีกทาง คุณแม่ของพี่โรลนั้นมีกรุ๊ปเลือดพิเศษนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถบริจาคได้ เพราะร่างกายและโรคประจำตัวของท่าน

          ผมนอนบนเตียงเพื่อบริจาคเลือด ผมภาวนาให้พี่ตื่นขึ้นมา กลับคืนสู่โลกใบนี้อีกครั้ง โลกที่พวกเรานั้นต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไปอีกนานแสนนาน แต่ถ้าหากว่าไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าหากว่าพี่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก ผมแทบไม่กล้าคิดถึงมัน ผมคงหัวใจแหลกสลาย และเหมือนตายทั้งเป็น

          ผมค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ อย่างอ่อนแรง ผมขอภาวนาอีกเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง ขอให้ผม ได้พบพี่ ขอให้พี่ ยังอยู่กับผม หายใจไปพร้อมๆ กับผมด้วยเถิด

          การหลับไหลที่ดูเหมือนจะยาวนาน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในห้วงความฝัน ความอบอุ่น ผ่อนคลาย ตัวเบาเหมือนกำลังร่องลอยไป ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ในแสงที่สว่างจ้าจนแสบตา นี่ผมตายไปแล้วงั้นเหรอ ผมอยู่บนสวรรค์แล้วใช่ไหม​ ผมขมวดคิ้วน้อยๆ เพ่งมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดูดีๆ ก็รู้สึกว่า ผมอยากตบไอ้ตัวที่ทำให้ผมเห็นแสงสว่างคาตาแบบนี้ ใครเขาใช้ให้มึงเอาไฟฉายส่องตากูฟะ

          " สนุกไหม​ เดี๋ยวเถอะมึง " ผมส่งเสียงขู่ฟ่อทันที

          " ลี่!! ลี่ลืมตาแล้ว " ผมมองทุกๆ คนรอบเตียง มีไอ้เมี่ยง ป๊าม๊า อาเฟย พี่นาย

          " ทำอะไรของมึง กูน้ำตาไหลพรากเลยเห็นไหม​ " ผมขยับตัวและขยี้ตาน้อยๆ

          " กูกลัวมึงไม่ตื่น กูกลัวมึงหลงทางไปยมโลก โอ้ยย " ทุกคนร่วมใจกันโบกกบาลไอ้ตัวปากพล่อยนี่ กูแค่บริจาคเลือดไม่ได้บริจาคหัวใจซะหน่อย แต่เอ๊ะ หัวใจผมก็อยู่ที่พี่โรลอยู่แล้วนี่นา ถรุยย เวลาแบบนี้ยังจะคิดเรื่องน้ำเน่าอีกเรา

          " พี่โรล! แล้วพี่โรลล่ะ " ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ก็รีบส่งเสียงดังถามพลางเด้งลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไอ้เรื่องที่ควรคิดเจือกไม่คิด

          " ไม่ต้องรีบลุกหรอก นอนพักซะ " ผมถูกกดตัวให้นอนลงไปเหมือนเดิม

          " ร่างกายก็ไม่ใช่จะแข็งแรง ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเลย " ผมมองม๊าที่กำลังทำหน้าเศร้า ผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันที

          " ขอโทษครับ " ผมพูดเบาๆ อย่างรู้สึกผิดจริงๆ

          " ทีหลังมีอะไรก็ถามป๊าม๊าก่อนนะ พวกเราก็อยากช่วยอยู่แล้ว " ผมยิ้มน้อยๆ ให้ป๊า

          " ความรักทำให้คนตาบอด โอ้ยย " ผมขยับมือไปหยิกไอ้ตัวปากมากทันที

          ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังยิ้มและชี้ให้ดูด้านหลังที่มันยืน ผมมองผ่านช่องข้างตัวมันและก็ต้องยิ้มกว้าง เพราะว่าเตียงของพี่โรลนั้นก็อยู่ข้างๆ ผมไม่ได้ห่างมากนัก และพี่โรลนั้นก็กำลังหันมามองผมเหมือนกัน

          ผมน้ำตาไหลออกมาอย่างดีใจ ผมไม่ได้เสียพี่ไป พี่ดูสีหน้าดีขึ้น และกำลังจ้องมองผมอยู่จริงๆ แต่ผมที่กำลังยิ้มดีใจนั้นก็ต้องหุบยิ้มและขมวดคิ้วสงสัย เพราะว่าอยู่ดีๆ พี่โรลก็รีบหันหน้าไปอีกทางทันทีที่รู้ว่าผมมองอยู่ ทำไมละครับ พี่เป็นอะไรไป

          ผมรู้สึกเศร้าในหัวใจ โดยไม่รู้เลยว่าเหตุผลที่คนอีกคนรีบหันหน้าหนีไปนั้น ก็เพราะว่า



คนคนนั้นแค่ต้องการซ่อนใบหน้าสีแดงของตัวเองเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 15-12-2017 14:41:48
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-12-2017 14:47:48
โอ๊ยยยยย เหม็นฟามรัก
ก้อจริงแหละต้องบอกพ่อแม่ก่อนไหมล่ะคนเราจะตัดสินใจเรื่องใหญ่ขนาดนี้คนเดียวได้ไง อีพี่โรลเด็กน้อยอายุ18เป็นไงบ้างล่ะนั่น ต่อไปต้องอยู่ในโอวาทเมียนะเอ้อ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-12-2017 15:31:07
ดีใจแทนน้องลี่กับพี่โรล รักแท้ชนะทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 15-12-2017 16:10:48
เหม็นความรักจริงๆ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Phat25 ที่ 15-12-2017 20:59:20
เราชอบนิยายเรื่องนี้มากๆค่ะ คนเขียนแต่งดีมาตลอด
แต่ตอนนี้เราของติงนิดนึงนะคะ
1 เรื่องที่พี่โรลไตไม่ทำงาน มันไม่มีที่มาที่ไปค่ะถ้าบอกว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของอุบัติเหตุ ไตไม่ทำงานจะต้องเกิดหลังอุบัติเหตุทันทีค่ะ เช่นไตฉีกขาด คนเราอยู่ดีๆไตไม่ทำงานมันเป็นไปไม่ได้นะคะ ไม่มีบวมน้ำ ไม่มีปัสสาวะไม่ออก ไม่มีหายใจเหนื่อย ไม่มีผลเลือดผิดปกติ
2 ถ้าคนไข้ไตไม่ทำงาน โดยเฉพาะคนที่ต้นทุนเดิมยังหนุ่มและแข็งแรงแบบพี่โรล อันดับแรกของการรักษาไม่ใช่การเปลี่ยนไตค่ะ แต่จะเป็นวิธีอื่นเช่น การฟอกไตแบบฉุกเฉิน
3 การเปลี่ยนไตไม่ได้ทำง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าร่างกายของผู้บริจาคไม่แข็งแรง มีความเสี่ยงเสียชีวิตจากการบริจาค เท่ากับว่าหมอฆ่าคนคนหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตอีกคนหนึ่ง ถ้าไม่แข็งแรงคุณสมบัติไม่ผ่านตั้งแต่ต้นค่ะ
ต่อให้ยินยอมอย่างไรก็ไม่ได้
4 การแสดงออกถึงความรัก เราเข้าใจนะคะว่าลี่รักพี่โรลมาก คนแต่งอาจจะต้องการแสดงให้เห็นในจุดนี้ว่าต่อให้อาจจะต้องตายก็ทำเพื่อคนรักได้ แต่เราไม่เห็นด้วยค่ะ การที่คนๆหนึ่งเลือกบริจาคอวัยวะที่พ่อแม่ให้มา โดยที่รู้ว่าทำไปแล้วอาจจะต้องตาย โดยไม่นึกถึงพ่อแม่ที่เฝ้าถนุถนอมมา ไม่นึกถึงว่าพ่อแม่จะรู้สึกยังไง มันดีแล้วเหรอ ถ้าลี่ตายพี่โรลรอด แล้วพ่อแม่ลี่ล่ะคะจะอยู่ยังไง

สำหรับเรานิยายมีผลต่อคนอ่าน ทั้งเรื่องความรู้สึก ความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่เป็นแค่สิ่งบรรเทิงอย่างหนึ่ง ทุกอย่างมีผลกระทบค่ะ ทุกวันนี้มีคนที่เข้าใจผิดๆเกี่ยวกันโรค การรักษา โรงพยาบาลมากพอแล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่อ่านนิยายสามารถแยกแยะได้ วิเคราะห์ได้ทุกย่าง แต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ

ถ้าความเห็นเราทำให้รู้สึกไม่ดีเราขอโทษค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 15-12-2017 21:34:04
เอาแล้วไง อีพีโรล ทำหนูลี่น้ำตาตกอีกแล้ว  :katai1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 15-12-2017 23:26:01
เราชอบนิยายเรื่องนี้มากๆค่ะ คนเขียนแต่งดีมาตลอด
แต่ตอนนี้เราของติงนิดนึงนะคะ
1 เรื่องที่พี่โรลไตไม่ทำงาน มันไม่มีที่มาที่ไปค่ะถ้าบอกว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของอุบัติเหตุ ไตไม่ทำงานจะต้องเกิดหลังอุบัติเหตุทันทีค่ะ เช่นไตฉีกขาด คนเราอยู่ดีๆไตไม่ทำงานมันเป็นไปไม่ได้นะคะ ไม่มีบวมน้ำ ไม่มีปัสสาวะไม่ออก ไม่มีหายใจเหนื่อย ไม่มีผลเลือดผิดปกติ
2 ถ้าคนไข้ไตไม่ทำงาน โดยเฉพาะคนที่ต้นทุนเดิมยังหนุ่มและแข็งแรงแบบพี่โรล อันดับแรกของการรักษาไม่ใช่การเปลี่ยนไตค่ะ แต่จะเป็นวิธีอื่นเช่น การฟอกไตแบบฉุกเฉิน
3 การเปลี่ยนไตไม่ได้ทำง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าร่างกายของผู้บริจาคไม่แข็งแรง มีความเสี่ยงเสียชีวิตจากการบริจาค เท่ากับว่าหมอฆ่าคนคนหนึ่งเพื่อช่วยชีวิตอีกคนหนึ่ง ถ้าไม่แข็งแรงคุณสมบัติไม่ผ่านตั้งแต่ต้นค่ะ
ต่อให้ยินยอมอย่างไรก็ไม่ได้
4 การแสดงออกถึงความรัก เราเข้าใจนะคะว่าลี่รักพี่โรลมาก คนแต่งอาจจะต้องการแสดงให้เห็นในจุดนี้ว่าต่อให้อาจจะต้องตายก็ทำเพื่อคนรักได้ แต่เราไม่เห็นด้วยค่ะ การที่คนๆหนึ่งเลือกบริจาคอวัยวะที่พ่อแม่ให้มา โดยที่รู้ว่าทำไปแล้วอาจจะต้องตาย โดยไม่นึกถึงพ่อแม่ที่เฝ้าถนุถนอมมา ไม่นึกถึงว่าพ่อแม่จะรู้สึกยังไง มันดีแล้วเหรอ ถ้าลี่ตายพี่โรลรอด แล้วพ่อแม่ลี่ล่ะคะจะอยู่ยังไง

สำหรับเรานิยายมีผลต่อคนอ่าน ทั้งเรื่องความรู้สึก ความรู้ความเข้าใจ ไม่ใช่เป็นแค่สิ่งบรรเทิงอย่างหนึ่ง ทุกอย่างมีผลกระทบค่ะ ทุกวันนี้มีคนที่เข้าใจผิดๆเกี่ยวกันโรค การรักษา โรงพยาบาลมากพอแล้วค่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่อ่านนิยายสามารถแยกแยะได้ วิเคราะห์ได้ทุกย่าง แต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ

ถ้าความเห็นเราทำให้รู้สึกไม่ดีเราขอโทษค่ะ

ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ ขออนุญาตแถ เอ้ย แจกแจงนิดนึงนะคะ 555+ เรื่องไตไรท์อาจพลาดจริงๆเลยค่ะ ต้องขออภัย แต่จริงๆพี่โรลนั้นอาการสาหัสมากกว่าที่ตาเห็น แต่พี่แกเก็บอาการเอาไว้ด้วยนะคะ หมอนี่แทบจะตรวจไม่ได้เพราะพี่แกจะฟัดเอา ไรท์พยายามจะไม่ลงลึกรายละเอียดมาก เพราะกลัวจะยืดเยื้อเกินไป
ในส่วนที่ลี่นั้นรักพี่โรลจนพูดได้ว่ายอมทุกอย่าง และไม่คิดถึงพ่อแม่นั้น อันนี้ตั้งใจใส่ให้เป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้เห็นดีเห็นงามไปซะหมดนะจ๊ะ หลังจากที่ลี่ฟื้นนั้น จะเห็นได้ว่าแม่ของลี่นั้นได้ว่ากล่าวน้องด้วยความเสียใจค่ะ และลี่ก็คิดได้จากคำพูดนั้น ในเรื่องนี้นั้นน้องเป็นคนอ่อนแอเรื่องความรักค่ะ เพราะความรักจึงทำร้ายตัวเองมาตั้งแต่ต้นเลยค่ะ ในท้ายที่สุดน้องจะต้องโตขึ้นและได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะค่ะ ขอบคุณจริงๆที่ติดตามอ่านนะคะ อาจมีการแก้ไขเนื้อหาเพื่อให้เป็นไปตามความถูกต้องมากขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 16-12-2017 12:19:46
          Calorie ที่ 38 อีกครั้งและอีกครั้ง


          หลังจากเหตุการนั้นเวลาก็ผ่านไปสักพัก ผมในตอนนี้แทบจะหายเป็นปกติแล้ว และอีกไม่กี่วันผมก็จะต้องออกจากโรงพยาบาลและเริ่มที่จะกลับไปเรียน

          พี่โรลนั้นร่างกายถือว่าดีขึ้น แต่ก็ยังเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ คุณหมอบอกว่ายังคงต้องดูอาการต่อไปอีกสักระยะ

          และที่สำคัญที่สุดก็คือ พี่โรลนั้นยังคงจำผมไม่ได้ แต่ผมก็ไม่เป็นไร ผมพอใจแล้วกับสภาพในตอนนี้

          " หนูลี่พ่อฝากพี่เขาด้วยนะ " คุณพ่อของพี่โรลเดินเข้ามาหาผมและพูดคุยอยู่เสมอ ส่วนคุณแม่ของพี่โรลนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรผมอีกแล้ว แต่ก็ยังคงไม่ได้เข้ามาพูดคุยกับผมเช่นเดิม

          " อย่าคิดมากเรื่องคุณแม่ของพี่เขาเลยนะ " ผมพยักหน้าและยิ้มน้อยๆ ให้คุณพ่อของพี่โรล

          ตอนนี้ในห้องเหลือแต่ผมกับพี่โรลแล้ว เพราะไอ้เมี่ยงก็มีเรียน และพอเรียนเสร็จมันก็จะมาขลุกตัวอยู่กับผมประจำ ผมค่อยๆ เดินมาหาพี่โรลและนั่งลงข้างๆ เตียงนั้น

          " เป็นยังไงบ้างครับ " พี่โรลส่วนมากก็จะไม่ได้ทำอะไร เอาแต่จ้องมองผมเหมือนกับกำลังนึกอะไรอยู่
         
          " ลี่อยู่คณะอะไรนะ " พี่โรลถามผมพลางขมวดคิ้ว

          " อยู่บริหารครับ " ผมตอบพลางแกะน้ำเต้าหู้ใส่แก้วให้พี่โรล

          ถึงจะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ผมก็เพิ่งจะได้มานั่งคุยจริงๆ จังๆ กับพี่โรล เพราะที่ผ่านมาพี่โรลต้องใช้เวลาพักฟื้นเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ทำให้ผมไม่กล้าที่จะรบกวน เวลาที่ผ่านไปส่วนมากก็เลยมีแต่นอนกับนอนจนพวกเราแทบจะไม่ได้คุยกันเลย

          " พี่ครับ พี่จำมาร์ชได้ไหม​ " ผมที่เพิ่งนึกขึ้นได้ ก็รีบถามพี่โรลด้วยความตกใจ แต่พี่โรลก็ได้แต่ขมวดคิ้วเท่านั้น

          " แมวของพี่น่ะครับ " พี่โรลส่ายหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ แย่ละสิ ป่านนี้ไม่ตายไปแล้วเหรอ

          ผมลนลานรีบกดโทรศัพท์หาคุณพ่อพี่โรลทันที เพราะคุณพ่อให้เบอร์ติดต่อไว้ฮะ เพื่อมีเรื่องฉุกเฉินอะไร

          " ฮัลโหลคุณพ่อครับ แมวของพี่โรล "

          " อ๋อ มาร์ชแมลโลว์น่ะเหรอ อยู่ที่บ้านใหญ่นานแล้วล่ะ เดี๋ยวโรลหายดีแล้วพ่อก็จะเอากลับไปไว้ที่คอนโดให้เหมือนเดิม " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะพี่โรลนั้นรักแมวตัวนั้นมาก ถ้ามันตายไปพี่โรลคงเสียใจน่าดู

          " แมวชื่ออะไรนะ " ผมวางสายจากคุณพ่อของพี่โรลและหันไปหาพี่โรลที่กำลังถามและทำหน้าสงสัย

          " มาร์ชแม... "
         
          " คนหล่อมาแล้วววว " ผมหันไปมองไปตัวเสล่อขาประจำเช่นเคย และที่ติดสอยหอยตามมาด้วยก็คือพี่นายที่เดินตามไอ้เมี่ยงมาติดๆ

          " หนวกหูเฟ้ย นี่มันโรงพยาบาลไปแหกปากที่อื่นไป๊ " ผมถอนหายใจอย่างเอือมระอากับมัน

          " พี่โรล ดูนี่สิ มีของมาเซอร์ไพรส์ " พี่โรลขมวดคิ้วมองไอ้เมี่ยง

          " แต่นแตนแต๊นนน " พี่โรลมองอีหนีบสีแดงที่ไอ้เมี่ยงเอาออกมาจากถุงตาโตและยื่นมือออกไปรับไว้อย่างไว

          ผมมองพี่โรลที่มองรองเท้าคู่โปรดของตัวเองด้วยหัวใจที่สั่นไหว พี่จำมันได้งั้นเหรอ

          " สวยดี ซื้อมาฝากเหรอ " ผมค่อยๆ หุบยิ้มลงและก็เหมือนทุกๆ คนที่ทำสีหน้าผิดหวัง

          " มันเป็นของพี่ครับ " ผมพูดพลางยิ้มน้อยๆ พี่โรลดูอึ้งๆ ไปแต่ก็จ้องมองดูมันด้วยความสนใจ

          " เมี่ยง มึงไปคอนโดพี่เขามาเหรอ " ผมหันไปถามไอ้เมี่ยงที่กำลังหยิบกินของเยี่ยมอยู่

          " กะว่าจะไปหาของที่มันสำคัญๆ น่ะ พี่เขาอาจจำอะไรได้บ้าง "

          " ขอบใจมากนะ " ผมยิ้มให้มัน

          " ลี่ แต่พวกรูปภาพ หมอน ภาพวาด ทุกอย่าง หายไปหมดเลย " ไอ้เมี่ยงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

          " ถูกเอาไปซ่อนหรือทำลายแน่ๆ และพี่ก็คิดได้อยู่แค่คนเดียว มีคนเดียวที่จะทำเรื่องแบบนี้ " พี่นายบอกผมด้วยสีหน้าเบื่อๆ

          ผู้หญิงคนนั้นสินะ ผมที่หวังว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างดี ตอนนี้มันกลับสูญเปล่า ผมอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ก็ต้องยิ้มเข้าไว้ เพราะผมไม่อยากให้พี่โรลไม่สบายใจ

          " รูปภาพอะไรเหรอ " พี่โรลพูดถามอย่างสนใจ

          " ถ้าพี่ได้เห็นพี่จะรู้เลยว่าพี่เนี่ยอาการหนักสุดๆ ผมเห็นครั้งแรกผมอึ้งไปเลย " ไอ้เมี่ยงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

          " อย่าไปสนใจเลยครับ มันไม่ได้สำคัญอะไรหรอก " ผมพูดและยิ้มอย่างเศร้าๆ

          " ทำไมพูดแบบนั้นล่ะลี่ " ไอ้เมี่ยงถามผมอย่างสงสัย

          " ก็ตัวจริงนั่งอยู่ตรงนี้ ยังช่วยอะไรไม่ได้เลย " ไอ้เมี่ยงทำหน้าเศร้าและบีบไหล่ผมเบาๆ

          " ขอโทษนะ " ผมหันไปมองพี่โรลที่ทำหน้าไม่สบายใจ

          " พี่ขอโทษทำไมกัน พี่ไม่ได้ตั้งใจจะลืมสักหน่อย " ผมพูดและยิ้มให้พี่โรล

          สักพักไอ้เมี่ยงก็บอกว่าจะลงไปหาข้าวกิน และพี่นายก็เดินตามไปด้วย ผมเลยจัดอาหารให้พี่โรลเช่นกัน อาหารของโรงพยาบาลไม่ถูกปากเลยสักนิด ม๊าของผมและน้าจันทร์เลยทำกับข้าวมาให้บ่อยๆ ซึ่งทำให้พวกเราเจริญอาหารดี

          ผมแกะกับข้าวให้พี่โรล และทำท่าจะป้อนให้พี่โรลเช่นเคย

          " เบื่อหรือเปล่า " พี่โรลถามผม

          " เบื่ออะไรครับ จะเบื่อได้ยังไง ผมชอบอยู่กับพี่ "

          " ปกติถ้าอยู่ด้วยกัน ทำอะไรกันเหรอ " ผมชะงักมือที่กำลังตักข้าวและหน้าขึ้นสีน้อยๆ

          " เอ่อ ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ คุยกัน เล่นกัน " พี่โรลจ้องหน้าผมแบบจริงจังเหมือนกำลังจับผิดอะไรอยู่ จะให้พูดได้ยังไงล่ะ ว่าส่วนมากพี่คอยแต่จะจับตัวผม เกาะแกะ ผม ทำตัวติดผมอย่างกับอะไรดี ตอนนี้ผมสำหรับพี่โรลนั้นก็เป็นเหมือนแค่คนแปลกหน้า คงยากที่ผมจะได้อยู่ใกล้ๆ พี่โรลแบบแนบชิดอย่างนั้นอีก

          " พวกเราจูบกันบ่อยไหม​ " ผมที่หน้าขึ้นสีอยู่แล้วตอนนี้หน้าแดงเถือกไปใหญ่ ถามอะไรละเนี่ย

          " ก็มีบ้าง " ผมตอบอ้อมแอ้มในลำคอ จะเขินทำไมฟะ ยิ่งกว่าจูบก็ทำมาแล้ว

          " แล้วพวกเรา.. "

          " ไม่ต้องถามเลยนะ " ผมหรี่ตามองพี่โรลและรู้คำถามนั้นดี คงไม่พ้นเรื่องทะลึ่งแน่นอน

          " ขี้งก "  ผมแลบลิ้นน้อยๆและตักข้าวยัดปากไอ้คนช่างถามนี่

          พี่โรลเคี้ยวข้าวและจ้องมองผม ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือพี่โรลจ้องมองผมตลอดเวลา ไม่เคยละสายตาไปจากผมเลย พี่เริ่มจะโรคจิตคล้ายกับพี่โรลคนเดิมแล้วนะ

          " อยากจูบไหม​ " อยู่ดีๆ พี่โรลก็รีบกลืนข้าวและถามผมด้วยใบหน้ามีความหวัง

          ผมมองพี่โรลด้วยแววตาสั่นระริก คงไม่ต้องถามหรอกครับ ผมรักพี่มาก ผมอยากจูบพี่ อยากกอดพี่เอาไว้ไม่ห่าง

          ผมลุกขึ้นยืนช้าๆ แตะที่แก้มของพี่โรลและค่อยๆ โน้มตัวให้ริมฝีปากของเราแนบชิดกัน ผมน้ำตาไหลออกมาช้าๆ  ผมคิดถึงพี่ ผมคิดถึงสัมผัสนี้ ถึงทุกอย่างจะยังคงไม่เหมือนเดิม แต่ก็ดีกว่าที่จะสูญเสียมันไป

          " อย่าร้องไห้ " พี่โรลผละริมฝีปากออกและพูดเบาๆ พลางเกลี่ยเช็ดน้ำตาที่แก้มของผมอย่างอ่อนโยน

          " ขออีกทีได้ไหม​ " ผมยิ้มน้อยๆ ให้พี่โรลที่ทำหน้าอ้อนวอน และหยิกแก้มพี่โรลด้วยความหมั่นไส้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมก็ยื่นหน้าเข้าไปประทับริมฝีปากลงอีกครั้งอย่างแผ่วเบา

          " อีกครั้งนะ " ผมหัวเราะน้อยๆ แต่ก็จูบพี่โรลอยู่อย่างนั้น กลายเป็นว่าพวกเราจูบกันอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะสักกี่ครั้ง ผมก็รู้สึกว่า มันยังไม่สามารถเติมเต็มพวกเราได้ พวกเราหัวเราะ และจูบกันเหมือนวันวาน



เหมือนกับไม่เคยมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเราสองคน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 38 อีกครั้งและอีกครั้ง]((16/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2017 13:56:20
จุ๊บๆไปอาจจะนึกอะไรออกนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 38 อีกครั้งและอีกครั้ง]((16/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 17-12-2017 01:05:39
ขอร่วมด้วยคน  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 38 อีกครั้งและอีกครั้ง]((16/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 18-12-2017 10:17:48
พี่โรลจำลี่ได้เร็วๆเน้อ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 38 อีกครั้งและอีกครั้ง]((16/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 20-12-2017 18:25:24
          Calorie ที่ 39 เสียงหัวเราะที่แสนขมขื่น


          ผมเดินไปเรื่อยๆ บนถนนที่ดูคุ้นเคย เงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามอ่อนที่แสนสดใส ผมยิ้มให้กับตัวเอง ยิ้มให้กับชีวิตที่ยังต้องดำเนินต่อไป

          " ลี่ " ผมหันไปมองคนที่เรียกผม ซึ่งก็ไม่มีใครนอกจากเพื่อนเพียงคนเดียวของผม

          " อะไร " ผมขมวดคิ้วน้อยๆ และมองหน้ามันที่กำลังหน้าบูดอยู่

          " วันนี้เชียร์กูด้วยนะ บอลรอบชิงอ่ะ " ผมหรี่ตามองมันด้วยความหมั่นไส้

          หลังจากอุบัติเหตุครั้งนั้น เวลาก็ผ่านมาประมาณสามเดือนแล้ว ตอนนี้ที่มหา'ลัยกำลังอยู่ในช่วงงานแข่งขันกีฬา และผมก็ไม่ได้ลงแข่งตามที่หวังเพราะไม่มีเวลาซ้อมและยังไม่สามารถออกกำลังกายได้เต็มที่ แต่ก็เอาเถอะ แบบนี้ก็ดีแล้ว

          " ชิงกับพี่นายไม่ใช่เหรอ มึงคงไม่รอดว่ะ "

          " กระจอก จะอัดให้เละเลยคอยดู " ผมมองหน้ามันที่ดูจริงจังซะเหลือเกิน นี่มึงอยากชนะบอล หรืออยากชนะคนกันแน่ และผมก็คิดว่าอย่างหลังแน่นอน

          ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายพลางเดินตรงไปข้างหน้าอีกครั้ง

          " มึงว่า พี่โรลตอนนี้จะหายดีหรือยังนะ " ผมถามไอ้เมี่ยงที่เดินตามหลังผมพลางผิวปากเบาๆ

          " พี่เขาทั้งอึดทั้งดวงแข็ง อีกไม่นานหรอก " ผมยิ้มน้อยๆ ให้กับความคิดนั้น

          " แล้วมึงคิดว่า อีกนานแค่ไหน พี่เขาถึงจะจำกูได้ " ผมหยุดเดินและหันไปยิ้มน้อยๆ ให้มัน ไอ้เมี่ยงหยุดผิวปาก และทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที

          " ลี่ " มันเรียกผมด้วยสีหน้าสงสาร

          ผมมองขึ้นไปยังท้องฟ้า ผมนั้นไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว ถึงแม้ว่าพี่โรลจะยังจำเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้เลยสักนิด

          หลังจากที่เราจูบกันคืนนั้น ในไม่กี่วันถัดไป พี่โรลก็ถูกย้ายไปรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในรัสเซีย คุณพ่อของพี่โรลนั้นเฝ้าแต่จับมือผมเอาไว้ และพูดขอโทษผมหลายครั้งด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ ท่านช่างเป็นพ่อที่ใจดีและเข้าใจพวกเรา ท่านไม่อยากให้พวกเราแยกจากกัน แต่ผมก็บอกท่านว่าผมยินดีให้พี่โรลไป ถ้ามันเป็นสิ่งที่จะช่วยให้พี่โรลดีขึ้น ผมนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรั้งตัวพี่ไว้

          ในรุ่งเช้าของวันนั้น วันที่พวกเราจะต้องแยกจากกัน ผมมองใบหน้าของคนที่ผมรักที่ผลอยหลับไปด้วยฤทธิ์ยา ก้มลงจุมพิตเบาๆ บนริมฝีปากนั้น กุมมือพี่เอาไว้และกระซิบบอกพี่ ว่าผมนั้นรักพี่มากแค่ไหน เมื่อพี่หายดีแล้ว พวกเราจะพบกันอีกครั้งแน่นอน ผมจะรอพี่เสมอ ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหน

          ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณพ่อพี่โรลอยู่บ่อยครั้ง ท่านมักจะโทรหาผม และบอกเล่าถึงอาการต่างๆ ของพี่โรลให้ผมฟัง   ในช่วงแรกๆ ที่พี่โรลไปนั้น คุณพ่อพี่โรลบอกว่า พี่โรลโกรธมากที่ไม่ได้บอกลาผม และโกรธที่ผมปล่อยให้พี่ไป และตั้งแต่พี่โรลไปที่นั่น พี่โรลก็ไม่เคยยอมคุยกับผมเลย ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมก็เชื่อว่าพี่คงจะมีเหตุผลของพี่ ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ และรอเสมอมา

          ผมนั่งอยู่บนอัฒจันทร์เพื่อมองดูไอ้เมี่ยงที่กำลังซ้อมบอลอยู่ในสนาม ตอนนี้ที่มหา'ลัยคนเยอะมาก ทั้งคนนอกและคนใน ผมหาที่ว่างๆ เพื่อนั่งลงหลบผู้คนที่กำลังโหวกเหวกโวยวาย หรือผมจะไปดูการแข่งอื่นก่อนดีนะ บอลกว่าจะเริ่มแข่งจริงๆ ก็อีกเป็นชั่วโมง พอจะมีเวลาอยู่บ้าง

          " เจอตัวจนได้ " ผมหันไปมองแพรที่กำลังส่งยิ้มให้ผม

          " เก่งอ่ะ คนตั้งเยอะหาเจอได้ยังไงเนี่ย " ผมพูดพลางยิ้มขำ

          " ลี่น่ะ หาไม่ยากหรอก เด่นซะขนาดนั้น " ผมขมวดคิ้วมองคนอีกคนที่เดินตามหลังแพรมา เห้อ ผมเบื่อไอ้หมอนี่ชะมัด แต่นอกจากผม แพรก็ถือว่าสนิทกับมันอยู่มากทีเดียว มันจะไม่เป็นอะไรเลย ถ้าไอ้หมอนี่ไม่มองผมด้วยสายตาแปลกๆ

          " แหมแมค จะบอกว่าลี่น่ารักเด่นสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ " แพรพูดพลางศอกเบาๆ ที่ไอ้เปรตที่กำลังมองผมและยิ้มน้อยๆ

          " ก็พูดไป น่ารักอะไรกันล่ะ " ผมพูดด้วยสีหน้ารำคาญใจ

          " ไม่ได้สังเกตุหนุ่มๆ แถวนี้เลยเหรอ มองลี่จนจะงาบเข้าไปทั้งตัวอยู่แล้ว " ผมเหลือบมองไปรอบๆทันทีที่แพรพูดแบบนั้น และก็เหมือนจะจริงแฮะ พอผมมองรอบๆ หลายๆ คนที่แอบมองผมอยู่ก็รีบหันหน้าหนีกันจ้าละหวั่น

          " ลี่เอาอะไรไหม เดี๋ยวแพรไปซื้อให้ "

          " อะไรก็ได้ " ผมพูดพลางล้วงกระเป๋าเพื่อเอาเงินให้แพร

          " ไม่ต้องๆ แพรเลี้ยงเอง " แพรพูดและเดินลงไปทันที ผมเหลือบมองไอ้ตัวที่ยังยืนมองผมอยู่ และหันหน้ามองสนามอีกครั้งอย่างไม่สนใจ

          " ขอนั่งข้างๆ นะ " ไอ้แมคพูดและนั่งลงทันทีพลางจ้องมองแต่ผม

          " ร้อนหรือ​เปล่า แก้มแดงหมดแล้ว " มันพูดและทำท่าจะยื่นมือมาแตะที่แก้มผม จนผมต้องขยับตัวถอยห่างจากไอ้หมอนี่เล็กน้อย

          " ไม่เป็นไร " ผมพูดด้วยสีหน้ารำคาญใจ

          " เขาลือกันว่า พี่โรลจะไม่กลับมาเรียนที่นี่แล้วจริงหรือ​เปล่า " ผมหันไปจ้องมองมันทันที

          " ใครพูด " ผมถามเสียงเย็น

          " ลี่ได้คุยกับพี่โรลบ้างหรือ​เปล่าช่วงนี้ " ผมอึกอักทันที ที่พี่โรลไม่ได้ติดต่อผมจะต้องมีเหตุผลแน่ๆ ผมจะไม่คิดมากเรื่องนี้

          " ไม่เกี่ยวกับนาย " ผมพูดและจ้องมองสนามอีกครั้ง

          " คนดีๆ ยังมีอีกเยอะนะลี่ " ผมถึงกับหัวเราะออกมาน้อยๆ

          " คนดีๆ ที่ว่า ใช่นายหรือ​เปล่า " ผมหันไปจ้องมองมันตรงๆ ผมเกลียดคนแบบไอ้หมอนี่ที่สุด ตอนที่ผมเข้าเรียนแรกๆ ผมยังจำได้ว่ามันมองผมด้วยสายตาแบบไหน

          " ขอโทษนะ เราแค่ไม่อยากเห็นลี่ทำหน้าเศร้าน่ะ " ผมขมวดคิ้วมองหน้าไอ้หมอนี่ แหม พ่อคนดี

          แต่จะว่าไปไอ้บ้านี่ก็มีส่วนคล้ายพี่โรลนะ ทั้งส่วนสูงและใบหน้า แต่ตาคมน้อยกว่า จมูกไม่โด่งเท่า และคิ้วที่ดูจะเรียวกว่า หมอนี่แต่งหน้านิดๆ ด้วยแฮะ กลิ่นน้ำหอมฟุ้งเชียว ไอ้เมี่ยงประกวดชนะไอ้หมอนี่ได้ยังไงกันนะ

          " จ้องนานๆ ก็ได้นะ " ผมหันหน้าหนีทันทีที่ได้ยินแบบนั้น

          " ลี่! " ผมสะดุ้งน้อยๆ และมองไอ้เมี่ยงที่วิ่งพรวดขึ้นมาจากสนามและมานั่งแทรกกลางทันที

          " ร้อนว่ะ ขอน้ำหน่อยดิ " ไอ้เมี่ยงพูดกับผมแต่ไม่มองหน้าผมเลยสักนิด มันกำลังมองหน้าไอ้แมคนี่แบบชวนหาเรื่องแท้ๆ

          " ไม่มีอ่ะ แต่แพรไปซื้อให้อยู่ " ผมถอนหายใจเบาๆ และจับหัวให้มันหันหน้ามาหาผม แต่มันก็หันกลับไปอีก

          " ถ้าคิดว่าเพื่อนกูจะหวั่นไหวละก็ มึงคิดผิดแล้ว " ไอ้เมี่ยงพูดข่มขวัญไอ้แมคด้วยสีหน้าจริงจัง ถ้าพี่โรลยังอยู่แถวๆนี้ มึงคงได้รางวัลอย่างงามเชียวล่ะ

          " ลองดูก็ไม่เสียหาย " ไอ้แมคพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งใดๆ

          ผมดึงไหล่ไอ้เมี่ยงที่จ้องหน้าไอ้แมคจนจะจูบมันอยู่แล้ว มึงนี่มันเหลือเกินจริงๆ

          " พี่นาย ช่วยทีสิครับ " ผมมองพี่นายที่เดินตามขึ้นมาและกอดอกมองไอ้เมี่ยงกำลังตั้งท่าจะฟัดไอ้แมคนี่ ในสามคนนี้ไอ้เมี่ยงตัวเล็กสุดครับ ไอ้แมคกับพี่นายนั้นตัวพอๆ กันเลยทีเดียว แต่คนที่ตัวใหญ่ที่สุดยังไงก็คือพี่โรลอยู่ดี

          " ทำตัวอย่างกับพ่อหวงลูกสาว " พี่นายพูดแหย่ไอ้เมี่ยง

          " เงียบๆ ไปเลย " ไอ้เมี่ยงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นลุกขึ้นไปหาพี่นายแทน

          " สองคนนั้นเจออะไรกันมาบ้าง ก็รู้นี่ ไม่เชื่อเพื่อนหรือ​ไง " พี่นายยังคงพูดด้วยท่าทีสบายๆ

          " ลี่อาจจะถูกมันหลอกไปก็ได้ ผู้ชายไว้ใจได้ที่ไหน " สองคนนั้นกำลังพูดกันเบาๆ แต่ผมก็ได้ยินทุกคำ

          " กูก็ผู้ชายนะ ถ้ามึงลืมไปละก็ " ผมพูดพลางเท้าคางเบื่อๆ ผมไม่ได้โง่หรอก และก็ไม่ได้หวั่นไหวเลยสักนิด ผมคงรักใครไม่ได้อีกแล้ว หัวใจของผมมีแต่พี่โรลเท่านั้น

          ไม่นานแพรก็กลับมาและผมก็ไล่สองคนนั้นที่กำลังเถียงกันให้กลับลงไปที่สนามเหมือนเดิม

          ไม่นานการแข่งรอบชิงก็เริ่มขึ้น ผมมองดูเพื่อนผมและพี่นายที่กำลังแย่งบอลกันอย่างดุเดือดจนผมเสียวว่าจะโดนใบแดงซะเหลือเกิน อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาลงกับการแข่งสิฟะ ผมมองทั้งสองคนที่ทั้งดึงทั้งผลัก กอดบ้าง ล็อคคอบ้างจนกรรมการเป่านกหวีดไปหลายรอบเลยทีเดียว

          ' นี่ๆไปดูบาสกันป่ะ '

          ' รุ่นพี่ที่แข่งหล่อมากเลยนะ '

          ผมเหลือบมองสาวๆ ที่นั่งเยื้องๆ กับผมที่กำลังพูดคุยกัน บาสงั้นเหรอ ถ้าพี่โรลอยู่ ผมก็คงจะได้เห็นพี่โรลลงแข่งสินะ ผมมองไปข้างหน้าด้วยแววตาที่เศร้าหมอง ตอนนี้พี่กำลังทำอะไรอยู่กันนะ

          ' พี่โรลน่ะเหรอ '

          ' ใช่ๆ เล่นเก่งมากเลยนะ '

          ผมหัวใจสั่นไหว และลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งทันทีจนคนที่นั่งอยู่แถวๆ นั้นต่างตื่นตกใจ ผมหยิบกระเป๋า และเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความรวดเร็ว ไม่สนใจเสียงตะโกนของแพรที่กำลังเรียกผมอยู่

          ตอนนี้ผมไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว ผมออกวิ่งด้วยแรงทั้งหมดที่มีไปที่โรงยิมใหญ่ของมหา'ลัย ซึ่งเป็นสถานที่ที่กำลังจัดการแข่งขันบาสเกตบอลรอบชิงชนะเลิศเช่นกัน

          ผมวิ่งผ่านผู้คนมากมายรีบร้อนจนสะดุดล้มลง แต่ผมก็ลุกขึ้นใหม่อีกครั้งและวิ่งต่อไปยังจุดหมายที่ผมต้องการไปถึงให้เร็วที่สุด

          ผมวิ่งมาถึงโรงยิมและวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นที่กำลังจัดการแข่งขัน ผมรู้สึกเหนื่อยจนแทบจะอาเจียน รู้สึกเวียนหัว รู้สึกเหมือนโลกนี้กำลังจะมืดลงทุกขณะ แต่ผมก็ไม่อาจหยุดวิ่งได้

          ผมผลักประตูเข้าไป และเดินเข้าไปยังข้างสนามที่มีผู้เล่นของทั้งสองทีมยืนดูและส่งเสียงเชียร์เพื่อนในทีมอยู่ และในสนามนักกีฬาก็ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด ผมเดินช้าๆ มองไปรอบๆ สนามด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยหยาดเหงื่อ

          " น้อง มองหาใครอยู่เหรอ เป็นอะไรหรือ​เปล่า " รุ่นพี่ในชุดบาสสีดำคนหนึ่งสังเกตุเห็นผมและเดินเข้ามาหา

          " พ.พี่โรล " ผมเหนื่อยจนไม่มีแรงจะพูดอะไรมากกว่านี้

          " หืม โรลเหรอ เราหมายถึงโรมหรือ​เปล่า นั่นไง อยู่ในสนาม " รุ่นพี่คนนั้นชี้ให้ผมมองดูรุ่นพี่คนหนึ่งที่ตัวสูง ผิวขาวและอยู่ในชุดบาสสีแดงสด

          " ร.โรม เหรอครับ " ผมพูดเบาๆ อย่างอ่อนแรง

          " ใช่ โรมไง สถาปัตย์ปี 3 หรือที่เราถามพี่เนี่ย หมายถึงโรลเดือนมหา'ลัยปี 2 " ผมพยักหน้าน้อยๆ

          " โรลปี 2 ยังไม่กลับมาเรียนเลยนี่ ได้ยินว่าประสบอุบัติเหตุสาหัสนะ " ผมยืนอยู่ตรงนั้น และทรุดตัวนั่งลงกับพื้นจนพวกพี่ๆ ตกใจ ผมหัวเราะน้อยๆ ด้วยขาที่สั่นเทา นั่นสินะ พี่โรลสภาพแบบนั้นจะมาลงแข่งบาสงั้นเหรอ ผมนี่มันงี่เง่าจริงๆ

          พวกพี่ๆ ต่างช่วยกันพาผมมานั่งที่ม้านั่งข้างๆ และใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าให้ผมด้วยความเป็นห่วง ผมไม่ได้ร้องไห้ ผมทำแค่เพียงหัวเราะให้กับความโง่เขลาของตัวเองเบาๆ เหม่อลอยมองไปยังสนามบาสที่ไร้ซึ่งคนที่ผมรัก



ผมมาทำอะไรที่นี่กันนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 38 อีกครั้งและอีกครั้ง]((16/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 20-12-2017 18:30:56
          Calorie ที่ 40 มาร์ชแมลโลว์ที่แสนรัก


          ผมยังคงนั่งอยู่ริมสนามบาสด้วยความสิ้นหวัง ถึงแม้ว่ารอบตัวนั้นจะมีแต่เสียงเชียร์และเสียงกรี๊ดที่ดังกึกก้อง แต่หัวใจของผมนั้นมันช่างเงียบสงบนัก

          ผมมองสิ่งต่างๆ รอบตัวที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป การแข่งขันที่จบลง รุ่นพี่ที่เข้ามาถามไถ่ผม ผู้คนที่เริ่มบางตา และสุดท้ายก็เหลือแต่เพียงผมที่นั่งอยู่ลำพัง

          ผมค่อยๆ ยืนขึ้นช้าๆ และเดินกลับลงไปยังถนนข้างล่างนั่น ผมมองโทรศัพท์มือถือของผมที่กำลังสั่น และสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับเป็นจำนวนเกือบร้อยสาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นเพื่อนของผมไอ้เมี่ยง พี่นาย แพร และใครกันนะ ผมขมวดคิ้วก้มมองดูเบอร์แปลกๆ ที่โทรเข้ามาเพียงสายเดียวเท่านั้น แต่มันก็คงไม่ได้สำคัญอะไรหรอก

          ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ยังคงส่องแสงสว่างจ้า ตอนนี้น่าจะเกือบเย็นแล้ว และการแข่งขันของไอ้เมี่ยงก็คงจบลงไปนานแล้วเช่นกัน

          ผมค่อยๆ เดินลัดเลาะไปยังถนนที่เป็นทางกลับบ้านของผมแต่เพียงลำพัง เดินมาเรื่อยๆ และตั้งใจว่าจะไปหาไอ้เมี่ยงที่บ้านก่อน เพราะมันเล่นโทรหาผมซะขนาดนั้น ถ้ามันไม่เจอผมวันนี้ มันอาจจะคิดมากจนอกแตกตายก็เป็นได้

          ผมสวัสดีน้าจันทร์ที่ยืนขายของอยู่หน้าบ้านและเดินขึ้นบันไดไม้ไปยังชั้นบน

          ' ฟิ้วว~ ปั้ง ปั้ง ปั้ง! '

          ผมตาโตตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจทันทีที่กระดาษสีสวยพุ่งใส่หน้าผม ผมกวาดตาไปรอบๆ มองผู้คนที่กำลังถือพลุกระดาษที่เอาไว้ใช้ในงานปาร์ตี้อยู่ในมือ และดึงใส่หน้าผมซะอย่างนั้น ผมขมวดคิ้วงงๆ มองไอ้เมี่ยงที่สวมหมวกปาร์ตี้อยู่บนหัว พลางชี้ขึ้นไปยังป้ายผ้าน้อยๆ ด้านบน

          ' HAPPY BIRTHDAY อาลี่ 19 ขวบ!! '

          ผมหัวเราะเบาๆ ออกมา นี่ผมอาการหนักถึงขนาดลืมวันเกิดตัวเองเลยเหรอเนี่ย สุดยอดเลยแฮะ

          ผมยิ้มให้เพื่อนๆ ที่อุตสาห์จัดงานไร้สาระแบบนี้ให้ผม ใครมันต้นคิดฟะเนี่ย ผมมองไอ้เมี่ยง พี่นาย แพร และใครก็ไม่รู้อีกโขยงนึงได้ นี่บ้านมึงจะไม่พังลงไปจริงๆ เหรอเนี่ย

          " ตอนแรกพี่บอกว่าให้ไปจัดบ้านพี่ แต่มีหมาตัวนึงมันไม่ยอม ก็เลยได้แบบที่เห็น " พี่นายพูดพลางเหลือบมองไอ้เมี่ยงที่กำลังแอบโซ้ยไก่ทอดที่มันซ่อนเอาไว้

          " ขอบคุณนะครับ แต่จริงๆ ไม่ต้องจัดก็ได้ " ผมพูดพลางยิ้มน้อยๆ

          ทุกๆ ปีนั้น จะมีแค่เพียงผมกับไอ้เมี่ยงแลกของขวัญกันอยู่สองคนเท่านั้นเป็นส่วนใหญ่ บางปีก็ไปเที่ยวกับครอบครัวบ้าง แต่ส่วนมากผมไม่ได้สนใจอะไร เลยไม่ชอบทำอะไรให้มันใหญ่โต ปีนี้ถือว่าครึกครื้นกว่าทุกปีเลยทีเดียว

          ผมเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวและกินขนมที่แพรยื่นให้ แพรบอกว่าที่ตัวเองรู้ก็เพราะว่าไอ้เมี่ยงแอบกระซิบบอกเรื่องจัดงานวันนี้ ก็เลยขอตามมาด้วย ผมมองไอ้เมี่ยงและพี่นายที่กำลังแย่งของกินกัน นี่ทั้งสองคนน่ะ แอบวางแผนเอาไว้นานแล้วสินะ ร้ายจริงๆ ส่วนคนอื่นๆ ที่ผมไม่รู้จักก็เข้ามาทักทายผม และผมก็พบว่าจริงๆ แล้วคนพวกนี้ก็ดูคุ้นตาอยู่ เพราะว่าทุกคนก็คือเพื่อนของพี่นาย เพื่อนในเอกของไอ้เมี่ยง และเพื่อนของพี่โรล ทุกๆคนมักจะพูดให้กำลังใจผมเรื่องพี่โรล และบอกผมว่าผมนั้นเข้มแข็งมากเพียงไหน ชมผม และบอกให้ผมยืนหยัดต่อไป ผมได้แต่ยิ้มและบอกตัวเองว่าผมยังไหว ผมจะต้องทนไหว

          เมื่อก่อนนั้นผมเคยคิด ว่าผมกับพี่โรล พวกเราจะได้มีโอกาสฉลองวันพิเศษๆ ต่างๆ ด้วยกัน ได้ตัดเค้ก ได้อวยพร ได้หัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่ข้างๆ กัน ถึงตอนนี้มันจะยังเป็นไปไม่ได้ และผมนั้นก็รู้สึกเหงาเหลือเกิน แต่ผมก็คิดเสมอว่า ผมยังมีเวลาอีกยาวนาน ยังมีอีกหลายโอกาสพิเศษที่เราจะได้ทำร่วมกันถ้าพี่กลับมา และผมสัญญา ว่าถ้าหากผมได้มีโอกาสอยู่กับพี่อีกสักครั้ง ผมจะทำทุกวันให้มีค่า ให้ทุกวันเป็นวันพิเศษของเราสองคน

          ผมที่นั่งจิบน้ำหวานเงียบๆ อยู่ดีๆ ก็ต้องสะดุ้งตกใจ เพราะว่ามีมือคู่หนึ่งมาปิดตาของผมไว้ ทำให้ทุกๆอย่างนั้นมืดลง

          " เล่นอะไรเนี่ย " ผมบ่นเบาๆ และลุกขึ้นยืนช้าๆ พยายามแกะมือที่ปิดตาผมออก แล้วทำไมทุกๆ คนถึงนิ่งเงียบกันนะ

          ผมหัวใจสั่นไหว และพยายามไม่คิดถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังนึกฝันอยู่

          หรือว่า พี่โรล...

          พี่กลับมาแล้วงั้นเหรอครับ แอบมาเซอร์ไพรส์ผมใช่ไหม

          ผมยิ้มกว้างและรอเวลาที่ไอ้เมี่ยงจะเปิดตาให้ผม ผมจำมือมัน จำกลิ่นมันได้ ถึงรู้ว่ามันเป็นคนปิดตาผมอยู่

          ผมตัวสั่นน้อยๆ กำมือตัวเองแน่นด้วยความตื่นเต้น พี่ครับผมคิดถึงพี่

          แสงสว่างค่อยๆ ลอดผ่านตาผมและค่อยๆ ปรากฎชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผมมองคนที่กำลังเดินขึ้นบันไดมา โดยมีเค้กก้อนใหญ่บังอยู่ด้านหน้า คนคนนั้นตัวสูง ผิวขาว และ... แต่ผมที่กำลังยิ้มกว้างก็ค่อยๆ หุบยิ้มลงน้อยๆ ผมบังคับตัวเอง ให้ยิ้มต่อไป และห้ามน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา

          " เซอร์ไพรส์!! เค้กนี่สั่งพิเศษเลยนะ กูออกเงินเยอะสุดเลยด้วย " ผมมองไอ้เมี่ยงที่ยิ้มหน้าบานและกอดอกเชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ ผมจ้องมองคนที่ถือเค้กมาให้ หมอนั่นยิ้มน้อยๆ และมองผมด้วยสายตาเป็นประกาย คนคนนี้ไม่ใช่คนที่ผมเฝ้ารอ

          " ขอโทษที่มาช้านะลี่ พอดีต้องไปรอเอาเค้กที่สั่งเนี่ยแหละ " ผมมองแมคที่วางเค้กลงและเดินเข้ามาหาผมใกล้ๆ

          ผมกระพริบตาถี่ และยิ้มให้เพื่อน ยิ้มให้ทุกคนที่อุตส่าห์หวังดีกับผม ผมจะทำทุกอย่างพังไม่ได้

          " ขอบคุณมากเลย " ผมพูดเสียงสั่นและพยายามฉีกยิ้มกว้าง

          " ใครกินน้ำหวานหมดฟะ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่กำลังหน้าบึ้งและเทขวดน้ำหวานที่มีแต่อากาศ

          " เดี๋ยวกูไปซื้อให้ " ผมบอกและรีบเดินทำท่าจะลงบนได

          " เห้ย มึงเป็นเจ้าของงาน จะไปได้ไง " ไอ้เมี่ยงวิ่งมาดึงผมเอาไว้

          " ไม่เป็นไร กูอยากไปซื้อขนมเพิ่มพอดี แปบเดียวเอง " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ให้เพื่อน มันทำหน้ามึนๆ แต่ก็ยอมปล่อยแขนผม ผมจึงเดินลงมา และรีบออกมาจากตรงนั้น

          ผมเดินมาเรื่อยๆ เดินไปตามทางด้วยจิตใจหมองหม่น ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะหมดแรง ผมอ่อนล้าเหลือเกิน ผมไม่เคยเข้มแข็งเหมือนที่ใครๆ คิด ผมเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ข้างในหัวใจ ผมสับสน มันมืดมน ดูไร้ซึ่งหนทาง ผมกำลังทำอะไร ผมกำลังโดนทิ้งเอาไว้ใช่ไหม​ พี่ไม่ได้รักผมอีกแล้วใช่หรือ​เปล่า

          ผมน้ำตาไหลออกมาช้าๆ และร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ โลกที่ไม่มีพี่อยู่ข้างๆ มันทำให้ผมเจ็บปวดเหลือเกิน ผมที่เคยได้พบพี่แล้ว ก็ไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีก ผมคิดถึงพี่ ทุกเวลา ทุกนาที ทุกเสี้ยววินาที ทุกลมหายใจ

          ผมยังคงเดินมาเรื่อยๆ มายังซอยที่ร้างบ้านเรือน ซอยที่มีแต่ต้นหญ้าสูงสองข้างทาง ผมจำสถานที่นี้ได้ ผมเจอเด็กๆ ที่กำลังรังแกลูกหมา และพี่โรลก็เข้ามาช่วยผมและทำตัวผมเลอะไปด้วยน้ำหวานเต็มไปหมด

          ผมเดินช้าๆ เหม่อมองท้องฟ้าที่เป็นสีส้มตัดกับสีฟ้าจางๆ สายลมอ่อนๆ ที่กำลังพัดผ่านนั้นช่างดูเงียบเหงา เหมือนกับหัวใจของผมในตอนนี้

          ' ให้ ฉัน ~ ดู แล เธอ รัก เธอ ได้ ไหม ~ '

          ผมหยุดชะงัก เงี่ยหูฟังเสียงเพลง เสียงที่เหมือนกับเสียงกระซิบของสายลมอันแผ่วเบา นี่ผม คิดถึงพี่มากขนาดไหนกันนะ ถึงได้ยินอะไรแบบนี้





          โรล ( 12 ชั่วโมงก่อน )



          ผมกลับมาจากรัสเซียด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า ตลอดเวลาผมเฝ้าแต่ถามตัวเองว่าผมเป็นใคร มีบางอย่างที่แสนสำคัญขาดหายไป ผมใช้เวลาที่พักฟื้นทั้งหมด ไปกับการพยายามนึกถึงสิ่งสำคัญเหล่านั้น ร่างกายของผมไม่ได้เจ็บปวดอีกแล้ว แต่หัวใจของผมกลับเจ็บปวดเหลือเกิน

          " โรล แน่ใจนะว่าอยากกลับไปที่คอนโด กลับไปอยู่บ้านจะมีคนดูแล แบบนั้นไม่ดีกว่าเหรอ " คุณพ่อพูดกับผมที่สนามบิน

          " ไม่ครับ ผมอยากไปที่คอนโด " ผมอยากไปที่นั่นจริงๆ

          " โทรหาน้องด้วยนะโรล น้องเขารอลูกอยู่ตลอดเวลานะ " ผมมองคุณพ่อที่ยิ้มน้อยๆ ให้ผม

          ผมรู้ครับ ผมคงดูเหมือนคนใจร้าย ที่ปล่อยให้คนที่รักนั้นเฝ้ารออย่างไร้จุดหมาย แต่มันไม่ใช่เลย ไม่เคยมีวันไหนที่ผมจะไม่คิดถึงใบหน้าของเด็กคนนั้น

          ลี่มักจะยิ้มให้ผม บอกผมว่าไม่เป็นไร ผมมองแววตาที่วูบไหวของเด็กคนนั้นที่กำลังแตกสลายอยู่ภายใน ผมไม่รู้เลยว่าตัวผมนั้นเป็นอย่างไรเมื่อตอนที่ยังจำได้ ตัวผมนั้นใช้ชีวิตอย่างไรเมื่อตอนที่เราคบกัน

          ผมนั้นเกิดมามีพร้อมทุกสิ่ง ทั้งชื่อเสียงเงินทอง รูปร่างหน้าตาที่ไม่ต้องมีความพยายามใดๆ ที่จะได้มา ผมเคยคิดว่าผมนั้นเป็นคนที่โชคดีกว่าใครๆ แต่เมื่อครอบครัวผมเริ่มแตกออก ผมก็เริ่มที่จะคิดใหม่ ว่าทุกอย่างมันช่างเปราะบาง และไม่มีอะไรที่ยั่งยืน ผมเริ่มเอาแต่ใจและเจ้าอารมณ์ ผมใช้ชีวิตด้วยการไม่ผูกติดกับใคร ไม่ไว้ใจใคร และไม่คิดจะรักใคร

          แต่อยู่ๆ เด็กคนนั้นก็เดินเข้ามาและบอกผมว่าตัวเองนั้นเป็นเมียของผม ผมรู้สึกว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมที่ใช้ชีวิตแปลกๆ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะแปลกถึงขนาดคบกับผู้ชายได้หรอกนะ แต่ไม่รู้ทำไม ผมที่คิดว่านี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และปฏิเสธมัน แต่ในหัวใจกลับรู้สึกว่าผมอยากเห็นหน้าเด็กคนนั้น เด็กคนที่มองผมเหมือนผมเป็นคนสำคัญ เด็กที่ซ่อนความรู้สึกไว้ข้างในหัวใจ เด็กคนนั้นคือคนที่ผมรักจริงๆ หรือ​เปล่า ผมอยากรู้ ผมอยากจำสิ่งเหล่านั้นให้ได้

          ยิ่งได้พูดคุย ยิ่งได้จ้องมองแววตา ผมก็รู้สึกอ่อนลง แต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าของเด็กคนนั้น การที่ผมนั้นลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป มันคงทำให้เจ็บปวดมากสินะ ผมไม่อยากเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองนั้น ผมรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นน้ำตานั่น นายเป็นใครกัน ทำไมนายถึงมีอิทธิพลต่อผมมากถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่สมองนั้นได้ลืมไปแล้ว แต่หัวใจของผมกลับไม่เคยลืม

          ผมตั้งใจไว้ว่า เมื่อผมจำทุกสิ่งทุกอย่าได้อีกครั้ง ผมจะกลับไป กลับไปหาลี่ ผมกลัว ผมไม่กล้าพูดคุยกับลี่ เพราะผมกลัวที่จะห้ามใจไม่ได้และรีบกลับไปทั้งๆ ที่ยังคงจำลี่ไม่ได้เหมือนเดิม ผมรู้ว่าลี่จะดีใจที่ได้พบผม ถึงผมจะจำไม่ได้เลยก็ตาม แต่ผมนั้นก็รู้อีกว่า ความดีใจของลี่นั้น ก็ยังไม่เท่าความเสียใจที่อยู่ภายใน

          ในวันนี้ ผมกลับมาที่ไทยแล้ว ทั้งๆ ที่ยังคงจำอะไรไม่ได้เหมือนเดิม ผมรู้สึกสิ้นหวัง ผมคิดว่าผมใช้เวลานานเกินไปแล้ว ผมควรจะทำใจยอมรับความพ่ายแพ้นี้ และไปหาลี่เพื่อสร้างความทรงจำใหม่ๆ

          " เดี๋ยวพ่อจะให้คนเอามาร์ชมาให้ มีอะไรก็โทรมานะ " คุณพ่อมาส่งผมที่หน้าห้องและกลับไป

          ผมเข้ามาในห้องที่ไม่คุ้นเคย ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผมอยู่ที่นี่งั้นเหรอ แต่เมื่อผมมองไปรอบๆ ห้อง ผมก็เริ่มคิดว่า ที่นี่คือที่ที่ผมอยู่จริงๆ มันมีแต่ของที่ผมชอบ ผมเหมือนคนโรคจิตที่ชอบอะไรกลมๆ แบบนี้ มันน่าขำแต่ก็ต้องยอมรับ

          ผมเคยคิดว่า ถ้าผมจะตกหลุมรักใครสักคนจริงๆ คนคนนั้นคงต้องตัวกลมๆ น่ารักๆ แบบเจ้าพวกตุ๊กตาพวกนี้ แต่เมื่อผมคิดถึงลี่ ผมก็มักจะเริ่มคิดว่า ทำไมกันนะ ทำไมถึงเป็นเด็กร่างผอมคนนั้น ไม่ใช่ว่าลี่ไม่น่ารักหรอกนะ ลี่เป็นผู้ชายที่ผมเชื่อว่าถ้าใครได้เห็น ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวว่า เด็กนั่นน่ารักเหลือเกิน ผิวพรรณที่ขาวใสและส่องสว่างราวไข่มุก แก้มสีชมพูระเรื่อ ดวงตาดูมีเสน่ห์น่ารัก จมูกโด่งสวย และปากบางเล็กๆ สีชมพู แต่ทั้งหมดนั้นสำหรับผมแล้ว ก็ยังไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ผมเข้าหาลี่ได้อยู่ดี

          ผมเฝ้าแต่ถามตัวเองว่าทำไม ทำไม และทำไม จะบอกว่าผมชอบลี่เพราะนิสัยหรือจิตใจ มันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะว่าผมไม่ชอบเข้าหาใคร ผมไม่ได้สนใจหรือใส่ใจรายละเอียดขนาดนั้น มันไม่มีทางที่ผมจะเดินเข้าไปจีบลี่และบอกว่าชอบลี่เพราะนิสัยดี มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ ต้องมีอะไรบางอย่าง ดึงผมเข้าไป แล้วมันอะไรกันล่ะ

          คุณหมอบอกผมว่า สมองผมนั้นย้อนกลับไปเกือบสองปีได้ แต่ผมคิดว่านั่นไม่ใช่ สมองของผมนั้นจำไม่ได้แม้กระทั้ง ชื่อโรงเรียนม.ปลายของผม นี่เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่ผมไม่อยากเอ่ยบอกใคร ผมอาจจะไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม ผมคงต้องทำใจ

          ผมเดินไปรอบๆ ห้อง สำรวจทุกซอกทุกมุมด้วยความสนใจ ถ้าผมเคยคบกับลี่จริงๆ ละก็ ทำไมกันนะ ทำไมถึงไม่มีอะไรเลย ผมไม่เข้าใจ หรือจะเป็นเรื่องที่ผมได้ยินในตอนนั้น ว่าเหมือนมีคนเข้ามาเอามันไป มันคืออะไรกันนะ

          ผมนอนมองเพดานห้องที่ว่างเปล่าและก็ทำเหมือนทุกๆ วัน ผมหลับตาและพยายามนึกถึงสิ่งต่างๆ ที่ผมได้ลืมมันไป คิดถึงใบหน้าของลี่ รอยยิ้มที่แสนเศร้า เสียงหวานที่ก้องกังวาลอยู่ในหัว

          ผมนิ่วหน้าน้อยๆด้วยความเจ็บปวด ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่กำลังไหลออกมาช้าๆ จากจมูกของผม เป็นแบบนี้อีกแล้ว ทุกครั้งที่ผมนึก ทุกครั้งที่ผมพยายาม ผมเช็ดเลือดกำเดาที่ไหลออกมาจากจมูก ยอมแพ้และหลับไหลไปด้วยความเสียใจ

          ในช่วงบ่ายๆ ของวันต่อมา มีคนมากดกริ่งที่หน้าประตูห้องผมและยื่นกรงที่ใส่บางสิ่งไว้ให้

          ผมวางกรงลงที่พื้นและเปิดประตูกรงนั้นออก รอดูสิ่งที่ยังอยู่ข้างใน และผมก็ต้องยิ้มกว้างทันทีที่ได้เห็นเจ้าตัวที่วิ่งอุ้ยอ้ายออกมาจากกรงนั้น มันคือแมวสีขาวตัวอ้วนกลม ผมพยายามคลานตามมันที่มุดหนีผมไปทุกซอกทุกมุม ผมอยากจะจับตัวมัน ผมอยากจะกอดมันด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายๆ เอาซะเลย

          ผมยอมแพ้นั่งมองมันที่กำลังวิ่งขึ้นไปด้านบนด้วยความเหนื่อยอ่อน ไอ้ตัวนี้สินะที่ลี่บอกผม รู้สึกจะชื่อ มาร์ช หรืออะไรประมาณนี้ เป็นชื่อที่แปลก มันดูเหมือนจะเป็นตัวเมีย แต่ชื่อมาร์ชงั้นเหรอ ผมไม่เข้าใจการตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงของตัวเองเลยจริงๆ

          ผมมองมือถือตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะ เอาล่ะ ถึงเวลาแล้วสินะ ผมจะโทรหาลี่ บอกลี่ว่าผมจะไปหา บอกลี่ว่าพวกเราจะเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง มันคงยังไม่สายเกินไปใช่ไหม​

          ผมหยิบโทรศัพท์ และกดโทรหาลี่ด้วยหัวใจที่เต้นรัว ผมจะเริ่มพูดยังไงดีนะ ผมนั้นรู้สึกว่านี่มันแย่เหลือเกิน ผมตัดสินใจกดวางสายด้วยมือที่สั่นเทา และหัวใจที่ไม่มีความกล้ามากพอ

          ผมเดินอย่างหัวเสียไปรอบๆ และเตะเข้ากับอะไรบางอย่างที่ใต้โซฟา ผมก้มลงและหยิบมันขึ้นมา และก็พบว่ามันคือสมุดวาดรูปของผมนั่นเอง ผมนั้นถึงแม้จะยังจำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งที่ผมรู้และถนัดนั้นก็คือการวาดรูป การอยู่ในโรงพยาบาลและไม่ได้จับดินสอเลยทำให้ผมหงุดหงิด เอาล่ะ มาดูสิว่า ฝีมือจะหายไปเหมือนความทรงจำหรือ​เปล่า

          ผมเปิดดูในสมุดวาดรูปของผมด้วยความสนใจ แต่ก็ต้องผมขมวดคิ้วน้อยๆ มองดูสมุดที่มีรอยเหมือนกับถูกฉีกบางหน้าออกไป ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะทุกหน้า ใครกันที่ทำแบบนี้ และทำเพื่ออะไร

          ผมเปิดสมุดหน้าที่ยังว่างและลากมือไปบนกระดาษเบาๆ ผมยิ้ม ผมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้วาดภาพ มันเหมือนกับการปล่อยจินตนาการให้ล่องลอยไป ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกำลังวาดอะไร แต่มือของผมมันเหมือนกับคุ้นเคยกับสิ่งนี้ และวาดไปมาโดยอัตโนมัติ แต่ผมที่กำลังยิ้มแย้มก็เริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ ถึงสิ่งที่ปรากฎอยู่บนกระดาษ

          ผมหยุดยิ้มและวาดลายเส้นลงไปด้วยความตั้งใจ วาดด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งลากเส้นมากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็เริ่มรู้ว่าผมกำลังวาดอะไร

          ผมกำลังวาดภาพของคนที่ผมรัก การที่มือของผมจะวาดสิ่งนี้ออกมาได้โดยที่ไม่ต้องคิดนั้น มันแปลว่าผมได้เคยวาดภาพคนคนนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งลายเส้นปรากฎชัดมากขึ้นเท่าไหร่ หัวใจของผมก็เหมือนจะระเบิดออกมามากขึ้นทุกครั้ง

          ผมหยุดมือลง และมองภาพวาดบนกระดาษนั่น ลูบเบาๆ ที่รอยยิ้มกว้างของเด็กหนุ่มบนภาพวาดนั้น ผมน้ำตาไหลหยดลงบนภาพร่างตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน มันคือภาพของลี่จริงๆ เป็นลี่แน่นอน แต่ว่าทำไม ลี่ในภาพวาดนี้ถึงไม่ใช่ลี่ที่ผมเห็นในโรงพยาบาล แต่เป็นลี่ที่แก้มยุ้ยและดูอ้วนกว่าที่ผมเห็นมาก ผมรู้สึกปวดหัว ผมปล่อยดินสอร่วงลงกับพื้นและกุมหัวตัวเองด้วยความปวดร้าว อีกแค่นิดเดียว เหมือนผมกำลังจะนึกออก แต่มันก็ยังเหมือนกับจะเลือนหายไป

          แต่ผมที่หลับตาแน่นและกุมขมับตัวเองอยู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่เท้า

          ผมลืมตาขึ้นและมองมาร์ชที่กำลังกลิ้งตัวออดอ้อนผมอยู่ ผมเอื้อมมือไปลูบแมวอ้วนกลมของผมช้าๆ และอุ้มมันขึ้นมากอดเอาไว้ ผมรู้สึกดีขึ้น เหมือนกับอาการปวดของผมนั้นทุเลาลง

          " ขอบใจนะ " ผมจับมันพลิกตัวนอนหงายบนตักและเกาที่คอของมันเบาๆ มันน่ารักมาก ผมชอบมันมาก

          ผมมองปลอกคอสีแดงของมันด้วยความสนใจ ปลอกคอนี้ผมคงเป็นคนเลือกสินะ เพราะว่าผมชอบสีแดงมาก ผมจับป้ายชื่อสีเงินรูปก้างปลาพลิกดู เพราะเรื่องชื่อมาร์ชนี่แหละที่ผมสงสัย มันดูเหมือนยังมีอะไรขาดหายไป

          " มาร์ช " ผมขมวดคิ้วน้อยๆ

          " มาร์ช แมล โลว์ " ผมอ่านชื่อเต็มๆ ของมันเบาๆ ด้วยแววตาที่สั่นระริก มือของผมสั่น และน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุด

          ' เหมือนมาร์ชแมลโลว์ '

          ' มาร์ชแมลโลว์ '

          ' อยากกิน '

          ' เหมือนอาลี่เลยน้า '

          ' พี่ชอบลี่ '

          ' พี่นอนกอดลี่ได้เหรอ '

          ' ลี่เป็นของพี่ ของพี่จริงๆ '

          ' พี่รักลี่ '

          ราวกับสมองของผมกำลังฉายภาพไปมาอย่างรวดเร็ว เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวของผมนั้นบอกเล่าทุกสิ่งที่ผมกับลี่นั้นได้ทำร่วมกันมา ผมร้องไห้ออกมาอีกครั้งอย่างเจ็บปวดใจ ผมทำอะไรลงไป ผมนึกถึงสีหน้าของลี่ตอนที่ผมปฏิเสธลี่ที่โรงพยาบาลนั่น ผมพูดอย่างนั้นได้ยังไง ลี่ต้องเจ็บปวดเสียใจขนาดไหน ตอนนี้ผมได้รู้ซึ้งแล้ว





          ลี่



          เสียงเพลงนั่นทำให้ผมหัวใจสั่นไหว แต่ผมก็ยังคงเลือกที่จะเดินต่อไปข้างหน้า ความผิดหวังซ้ำๆ มันทำให้ผมนั้นกลัว ความกลัว ทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับไป แต่เสียงกีต้าร์นั้น ก็ยังคงดังอย่างแผ่วเบาเรื่อยๆ และหยุดลงในที่สุด

          มันคงเป็นสิ่งที่ผมนึกฝัน เป็นสิ่งที่ผมอยากจะได้ยินสินะ มันเป็นเพลงที่พี่มอบให้ผม เป็นเพลงที่มีค่า มีความหมาย และทำให้ผมยิ้มได้ทุกๆ ครั้งที่ได้ยิน

          ' มาร์ชแมลโลว์ '

          ผมชะงักและหยุดเท้าลงด้วยแววตาที่สั่นระริก น้ำตาที่ไหลอยู่แล้วนั้น ตอนนี้ผมไม่สามารถหยุดมันได้ ผมหันไปช้าๆ หันไปตามเสียงเรียกที่ผมเฝ้าถวิลหา

          ภาพตรงหน้าทำให้ผมยิ่งร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ผมค่อยๆ เดินไปหาคนตรงหน้า เท้าที่เดินช้าๆ ตอนนี้ค่อยๆ เร่งฝีเท้าขึ้น มากขึ้น จนผมนั้นออกวิ่งไปหาคนข้างหน้า คนที่ผมคิดถึงสุดห้วใจอย่างสุดกำลัง

          คนตรงหน้าวางกีต้าร์ลงข้างๆ และอ้าแขนออกกว้างด้วยรอยยิ้ม ผมพุ่งเข้าหาอ้อมกอดนั้น อ้อมกอดที่แสนคิดถึง อ้อมกอดที่ผมคิดว่าอาจจะไม่มีวันได้สัมผัสอีก ผมกอดคนตรงหน้าไว้แน่น และร้องไห้กับอ้อมแขนนั้น

          " ไอ้บ้า " ผมที่ยังคงซุกหน้าอยู่ที่อกนั้นก็เริ่มทุบตีคนตรงหน้า

          " ทำไมไม่ติดต่อมา ทำไมไม่ยอมคุยกับผมเลย " ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นและเงยหน้ามองคนที่ยังคงยิ้มและจ้องหน้าผมอยู่

          " ขอโทษ " ผมมองพี่โรลที่ค่อยๆ ย่อตัวลงคุกเข่าและกอดเอวผมเอาไว้

          " ขอโทษ พี่ขอโทษ " ผมตกใจมากเพราะว่าพี่โรลนั้นตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างหนักและกอดผมเอาไว้แน่น

          ไม่ใช่เพียงแค่ผมที่เจ็บปวด แต่คนที่ลืมคนที่ตัวเองรักที่สุดแบบพี่ก็คงเจ็บปวดไม่แพ้กัน

          ผมค่อยๆ นั่งลงและกอดพี่โรลเอาไว้ เป็นพี่จริงๆ ผมไม่ได้กำลังฝันไป ผมกอดพี่โรลเอาไว้และลูบหลังเบาๆ อย่างปลอบโยน

          " คนขี้แย " ผมพูดเบาๆ ข้างหูพี่โรลและจูบเบาๆ ที่หูนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว

          พี่โรลยังคงกอดผมและไม่ยอมเงยหน้าขึ้น ผมมองกางเกงและขาของผมกับพี่โรลที่มีฝุ่นลูกรังสีแดงเกาะเต็มไปหมด

          " ลุกขึ้นเถอะครับ เปื้อนหมดแล้ว " ผมพยายามแกะมือพี่โรลและลากพี่โรลให้ลุกขึ้น โอ้ยย เพิ่งหายทำไมตัวยังหนักอย่างกับช้างแบบนี้

          " สุขสันต์วันเกิดนะ " พี่โรลยังคงไม่ลุกขึ้นและยื่นห่อของขวัญที่ซ่อนอยู่ในกีต้าร์ให้ผมด้วยรอยยิ้มและดวงตาที่แดงก่ำ

          ผมยิ้มกว้างอย่างดีใจ นี่พี่รู้ได้ยังไง ผมจำไม่ได้ว่าผมเคยบอกพี่ด้วยซ้ำ

          " แกะเลยได้ไหม​ " ผมถามพี่โรลที่พยักหน้าแรงๆ ให้ผม

          ผมคว้าหมับและแกะดูของที่อยู่ข้างในด้วยความตื่นเต้น ของขวัญชิ้นแรกอย่างเป็นทางการ

          แต่ผมที่ยิ้มกว้างนั้นก็ต้องหุบยิ้มลงน้อยๆ และเปลี่ยนเป็นคิ้วที่ขมวดมุ่นแทน ผมหยิบขนฟูๆ นิ่มๆ สีขาวออกจากห่อ มันมาพร้อมกับหูและถุงมือแปลกๆ

          " พี่ซื้อก่อนจะจำได้อีกนะ เพราะคิดว่าลี่จะต้องใส่เหมาะแน่ๆ " พี่โรลพูดพลางเกาหัวเขินๆ

          ผมตาโตมือสั่นน้อยๆ มองจุกหางที่มันเหมือนเอาไว้ใช้ยัดอะไรบางอย่างเพื่อให้หางสามารถติดอยู่กับก้นได้

          " พี่โรล ไอ้?#%@!! " ผมพูดและง้างมือทำท่าจะฟาดไอ้ตัวทะลึ่งนี่ แต่ก็เหมือนพี่โรลจะไหวตัวทัน พี่โรลคว้ากีต้าร์และวิ่งฉิวหนีไปแบบไม่คิดชีวิต หนอย

          ถึงผมจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็วิ่งตามพี่โรลไปด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ผมวิ่งไปตะครุบพี่โรลที่วิ่งเร็ววิ่งช้ารอผม จนกลายเป็นวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเราเดินไปด้วยกัน จับมือประสานกันไว้แน่น



ของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของผมในปีนี้ จริงๆ แล้วก็คือคนที่อยู่ข้างๆ ผมตอนนี้นั่นเอง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-12-2017 18:44:43
จำได้แล้วนะอาลี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-12-2017 19:27:22
จำอาลี่ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 20-12-2017 19:35:52
 :z2: :z2: ยิ้มได้แล้วสิลี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-12-2017 19:55:33
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-12-2017 00:23:28
นี่ขนาดซื้อมาตอนจำไม่ได้ แววหื่นของพี่โรลก็ยังอยู่นะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 21-12-2017 01:58:48
พั่โรลกลับมาหื่นแล้วจาน้องลี่ไม่รอดแน่นอน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# UP!! 39+40 สองตอน]((20/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 23-12-2017 18:45:08
          Calorie ที่ 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง


          ผมจับมือพี่โรลเดินกลับไปยังงานปาร์ตี้ ผมเฝ้ามองพี่โรลที่กำลังยิ้มหน้าบานมองผมอยู่เช่นกัน พี่โรลนั้นผอมลงเล็กน้อย ผมสั้นขึ้น แต่ก็ยังคงหล่อมากๆ เหมือนเดิม

          " โอ้ยยยย ทำอะไรเนี่ย หยิกพี่ทำไม " ผมหยิกไหล่พี่โรลอย่างแรงขณะที่กำลังเดินอยู่

          " อยากรู้ว่าฝันอยู่หรือเปล่า " ผมตอบพลางยิ้มแป้น

          " เขาต้องหยิกตัวเองกันไม่ใช่เหรอ " พี่โรลพูดพลางขมวดคิ้ว

          " ขออีกทีได้ป่ะ " ผมพูดและยืนดักหน้าพี่โรล

          " ฮืออ ก็ได้ แต่เบาๆ นะ " ผมมองพี่โรลที่หลับตาปี๋อย่างกลัวๆ

          ผมยิ้ม พลางดึงพี่โรลให้ก้มตัวลง และยื่นหน้าเข้าไปจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากนั้น พี่โรลลืมตาขึ้นทันทีและดึงผมเข้าหาตัว กอดผมไว้แน่น พวกเรายืนจูบกันอยู่เนิ่นนาน ผมคิดถึงพี่ คิดถึงรอยยิ้ม คิดถึงแววตาที่พี่มองผมด้วยความรักทั้งหมดของพี่ ผมเกือบจะหมดหวัง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้สัมผัสมันอีกซะแล้ว

          " ผมรักพี่ ผมคิดถึงพี่เหลือเกิน " ผมกอดพี่โรลจนตัวลอย ผมคงตัวเบามากสำหรับพี่โรล

          " พูดอีกทีได้ไหม " ผมขมวดคิ้วมองพี่โรลที่ชูมือถือขึ้นมา หนอย ชอบแอบอัดเสียงอยู่เรื่อย

          " ผมรักพี่โรลที่สุดในโลก " ผมแย่งมือถือพี่โรลมาและตะโกนเสียงดัง ผมหัวเราะพี่โรลที่ทำตาโตอย่างตื่นตะลึง ผมไม่อยากจะเก็บเอาไว้อีกแล้ว เพราะผมกลัวว่าผมจะไม่มีโอกาสได้บอกพี่อีก เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมา มันได้สอนผม จากนี้ไปผมจะทำทุกๆ วันให้มีค่า ให้เหมือนกับเป็นวันสุดท้ายของเราสองคน

          " แหม หวานหยดย้อยอร่อยเหาะ ก็นึกว่าตายห่าข้างพงหญ้าไปแล้ว " ผมสะดุ้งและหน้าแดงขึ้นทันที

          กลุ่มคนหลายคนนำทีมโดยไอ้เมี่ยงที่กำลังยืนกอดอกมองผมกับพี่โรลด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม ผมรีบปล่อยพี่โรลและลงมายืนเขินๆ ที่พื้น

          ไอ้เมี่ยงเดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้มและกอดคอผมไว้

          " กูดีใจด้วยนะ "

          " ขอบคุณมึงมาก กูรักมึงมาก " ผมกอดมันเอาไว้ มันเป็นเพื่อนรักผม ถ้าผมไม่มีมันผมก็ไม่รู้ว่าผมจะเป็นยังไงตอนนี้

          ผมมองพี่โรลที่กำลังถูกเพื่อนๆ ลุมกอดลุมขยี้หัว ทุกๆ คนก็คิดถึงพี่โรลมากเช่นกัน

          " บอกรักคนอื่นนอกจากพี่ได้ไง บอกมาเลยนะ ลี่จะเลือกใคร พี่หรือไอ้เมี่ยง " พี่โรลพุ่งตัวออกจากฝูงเพื่อนและยื่นหน้ามาจ้องหน้าผม ผมดันหน้าพี่โรลออกไปพลางหัวเราะขำ

          " ถ้าให้เลือกจริงๆ ผมเลือกเพื่อนดีกว่า " ผมพูดพลางแลบลิ้นให้พี่โรล และกอดคอไอ้เมี่ยงเดินกลับ ปล่อยให้พี่โรลกรีดร้องโหยหวนต่อไป

          คืนนี้มันยังอีกยาวไกลนัก บ้านไอ้เมี่ยงที่เล็กอย่างกับรังหนูไม่สามารถจุคนที่กำลังรื่นเริ่งได้อีกต่อไป พวกเรานั่งอัดยัดเป็นปลากระป๋องทั้งรถของพี่นาย และรถของเพื่อนๆ พี่โรลอีกไม่กี่คัน ยัดกันไปที่บ้านของพี่นายที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่  ไอ้เมี่ยงเป็นคนเดียวที่ค้านหัวชนฝาจะไม่ยอมไปบ้านพี่นายลูกเดียว นี่มึงกลัวอะไรกันแน่ ถ้าพี่เขาจะปล้ำมึงที่ไหนเขาก็ทำได้โว้ย

          บ้านพี่นายนั้นเป็นอย่างที่คิด เป็นบ้านหรูที่โครตอลังการมีสระว่ายน้ำหน้าบ้าน และพ่อแม่พี่นายก็อยู่เมืองนอกกันหมด เป็นคุณชายที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว เป็นหมาป่าเดียวดายของแท้ ผมมองไอ้เมี่ยงที่เบะปากมองบนตลอดเวลาที่ลงจากรถ และพี่นายที่ยืนคุยกับพี่โรลพลางหัวเราะกันอยู่สองคน คนเป็นเพื่อนกัน โกรธกันยังไงก็ยังกลับมาเป็นเพื่อนกันได้สินะ แต่มันคงไม่เกิดขึ้นกับผมและหนิงแน่นอน

          ไม่นานเหล้ายาปาปิ้งก็ถูกนำมาเสริฟอย่างเต็มอิ่ม ผมมองผู้คนที่เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ยินข่าวของพี่โรล จนตอนนี้เรียกได้ว่าคนเยอะขึ้นมากจนเต็มสนามหญ้าและสระว่ายน้ำเลยทีเดียว

          " โหลๆ เทสๆ มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก หนึ่ง สอง สาม " ผมขมวดคิ้วหันไปมองตามเสียงที่คุ้นหูเหลือเกินและก็พบว่าพี่โรลกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้หลังไมโครโฟน และถือกีต้าร์ตัวเดิมของพี่แก ขนาดพูดเทสไมค์ยังเหมือนเดิม ผมละเชื่อเขาเลย

          " ให้ ฉัน ~ ดู แล เธอ รัก เธอ ได้ ไหม​มม ~ "

          ผมปิดปากยิ้มอย่างเขินอายอยู่ข้างสระ ไอ้บ้าเอ้ย ไม่ต้องมาส่งตาหวานเลยนะ ทุกคนในงานต่างโห่ร้องเป่าปากแซวผมกับพี่โรลกันอย่างสนุกสนาน จนผมอายแทบจะมุดโดดลงสระเลยทีเดียว

          พี่โรลยังคงรวมเมดเล่เพลงจีบผม ร้องแต่เพลงรักและเปลี่ยนเนื้อเพลงเป็นชื่อผมทุกเพลง จนผมต้องไปลากพี่แกออกมาจากไมค์ ซึ่งพี่ก็ยังคงกอดไมค์อย่างอาลัยอาวร อะไรจะขนาดนั้นฟะ นี่พี่แค่อยากร้องเพลงใช่ไหม​ห๊ะ

          หลังจากนั้นสองชั่วโมงที่พวกเราดื่มกัน ผมนั่งอยู่บนเสื่อที่ล้อมรอบด้วยสาวๆ ที่อยากรู้เคร็ดลับหน้าใสของผม ผมเหลือบมองหาพี่โรลที่หนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เผลอไม่ได้เลย และก็พบว่า ไอ้คนที่ดิ้นเป็นไส้เดือนอยู่หน้าเวทีนั่นไม่ใช่ใคร โอ้ยย จะทำอะไรก็เกรงใจหน้าหล่อๆ ของตัวเองมั่งสิฟะ ผมถึงกับถอนหายใจเลยทีเดียว พี่แกดูเมามันส์ในอารมณ์มาก และคู่หูเท้าไฟก็ไม่ใช่ใคร เพื่อนรักผมนั่นเอง มันเป็นคนหล่อที่โครตจะติ๊งต๊องกันทั้งคู่ เป็นสองพี่น้องสุดรั่วของคณะจริงๆ

          ผมขอตัวจากสาวๆ และเดินมายืนเท้าเอวมองดู อีพี่โรลที่กำลังเต้นทำท่าสะพานโค้งโดยไม่ดูสังขารตัวเองเลยสักนิด พี่เพิ่งโคม่าเมื่อสามเดือนก่อนนะครับ ผมละปวดหัวจริงๆ

          " จากนี้ไปก็มีความสุขมากๆ นะลี่ " ผมมองพี่นายที่เดินมายืนกอดอกอยู่ข้างๆ ผม

          " ขอบคุณพี่มากนะครับ " ผมบอกพี่นายที่คอยอยู่ข้างๆ ผมและเพื่อนเสมอ

          " พี่ยังชอบผมอยู่หรือ​เปล่า " พี่นายหันมายิ้มทันทีที่ผมถาม

          " ไม่มีใครที่รู้จักลี่แล้วจะไม่ชอบลี่หรอก " ผมขมวดคิ้วมองพี่นายที่ยิ้มน้อยๆ

          " อย่างไอ้หมอนั่น " ผมมองตามมือพี่นายและก็เห็นว่าไอ้แมคยืนมองผมอยู่ด้วยแววตาเศร้าๆ

          " ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่ได้ชอบลี่แบบนั้นอีกแล้ว ที่ลี่เคยบอกพี่น่ะ ถูกต้องแล้ว พวกเราไม่ได้รักกันถึงขนาดนั้น เพราะไม่อย่างนั้น พี่ก็คงไม่หยุดตามหาลี่ " ผมยิ้มและมองพี่นายที่กำลังมองไปยังเวที

          " พี่เลิกเจ้าชู้ได้ไหม​ครับ " ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

          " เหมือนพี่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน " พี่นายพูดและหัวเราะน้อยๆ

          " พี่ไม่ได้มีใครเลยมาพักใหญ่แล้ว พี่รู้สึกเบื่อที่จะต้องใช้ชีวิตแบบนั้น ยิ่งได้มองเห็นเรากับโรล พี่ก็ยิ่งคิดว่าบางทีการที่เรามีคนที่เรารักจริงๆ ก็ดีนะ สักวันพี่ก็อาจจะโชคดีบ้าง ได้เจอคนที่พี่อยากจะอยู่ด้วยตลอดชีวิต "

          " พี่ยังไม่เจออีกเหรอครับ " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ

          " มันไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ " พี่นายยิ้มเหมือนกับจะบอกอะไรเป็นนัยๆ

          " สู้ๆ นะครับ แต่ถ้าพี่ทำร้ายพวกเราอีก คราวนี้ผมจะฆ่าพี่จริงๆ ผมเจ็บได้ แต่เพื่อนผม ผมไม่ยอม " ผมพูดด้วยใบหน้าจริงจัง

          " สัญญาเลย " ผมชนมือกับพี่นาย และยิ้มให้กัน





          เมี่ยง





          คืนนี้มันสุดเหวี่ยงจริงๆ เพิ่งรู้ว่าพี่โรลก็เท้าไฟใช่เล่น แบบนี้ยิ่งมันส์ ผมดีใจที่เห็นเพื่อนยิ้มได้สักที ผมพยายามทำทุกๆอย่างเพื่อให้มันดีขึ้น ให้มันลืมเรื่องเศร้าๆ ข้างในหัวใจ ผมคิดว่าผมทำดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำเพื่อเพื่อนได้แล้ว

          ผมกับลี่ พวกเราเป็นเพื่อนกันมานาน และใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากที่สุด ผมไม่ได้เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่แรกหรอกนะ ผมเคยเก็บตัว และชอบอยู่คนเดียวมาก่อน พวกเราที่มีอะไรคล้ายๆ กันก็เลยหันมาเล่นด้วยกัน และสนิทกันในที่สุด

          ผมไม่เคยมีแฟนจริงๆ จังๆ และไม่คิดจะคบกับใคร ผมกลัวว่าคนพวกนั้นจะดึงผมออกไป ผมกลัวว่าผมจะทำให้ลี่โดดเดี่ยว ลี่เป็นที่ชอบคิดมาก และเก็บทุกอย่างไว้ในหัวใจ ผมไม่เคยรู้สึกไม่ดีที่ลี่ชอบผู้ชาย อาจเป็นเพราะว่าผม ก็ชอบผู้ชายเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่เคยบอกใครเลย และมันก็ไม่เคยถามผมด้วย พวกเราเชื่อใจกัน ไม่ว่าเรื่องไหน พวกเราก็ยอมรับกันได้ พวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เป็นเพื่อนที่ยิ่งกว่าเพื่อน เหมือนพี่เหมือนน้องที่ดูแลกันเสมอมา

          และคนที่ทำให้เพื่อนเสียใจที่สุด ตอนนี้มันกำลังทำตัวแปลกๆ กับผม นี่มันงี่เง่า แฟนเก่าของเพื่อน ยิ่งเป็นแฟนเก่าที่เคยนอกใจด้วยแล้ว นี่มันบ้าชัดๆ ถึงหลังๆ มันจะทำตัวดีขึ้น ดูจริงใจขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยยืนยันว่ามันจะไม่กลับไปทำตัวแย่ๆเหมือนเดิม ผมอยากต่อยมันทุกครั้งที่เห็นหน้า ตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว มันคิดว่ามันหล่อกว่าใคร รวยกว่าใคร หมั่นไส้ชะมัด

          แต่เอาจริงๆ มันก็หล่อจริงๆ นั่นแหละ คนละสไตล์กับหนุ่มตาน้ำข้าวนิดๆ แบบพี่โรล เป็นคนวางตัวนิ่งๆ ที่ดูนิ่งซะจนเหมือนเก็ก แว่นกรอบดำนั่นผมต่อยจนมันแตกไปหลายรอบแล้ว แต่มันก็ยังใส่อยู่ ชอบพูดจาเพราะๆ ปากดี ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยพูดดีๆ ด้วยเลย ดูสุภาพจนน่าหมั่นไส้ ผมชอบยั่วโมโหมัน เพื่อให้มันด่าผมกลับ แต่ก็ไม่เคยเลย ไม่เคยได้ยินคำหยาบออกมาจากหมอนั่น แปลกดี  แต่พี่โรลเคยบอกผมนะว่ามันเคยพูด จริงเหรอ ผมอยากได้ยินจัง หรือผมจะโรคจิตกันนะ

          ผมรู้สึกว่าผมเมาสุดๆ ทุกอย่างมันหมุนและดูร่าเริงไปหมด ผมมองดูเพื่อนที่กำลังหนุงหนิงกับพี่โรล แหม ผัวมาแล้วทิ้งกูเลย ใช่ซิ๊

          ผมเดินมึนๆ ไปหาไอ้คนน่ารำคาญที่กำลังดื่มเบียร์พิงผนังอยู่ไกลๆ เหอะ เก็กทุกงาน รอสาวมาติดกับดักใช่ไหม​ห๊ะ

          " เมามากแล้วนะ กินหรืออาบ " ผมหรี่ตามองไอ้แว่นที่มาถึงก็สั่งสอนผมเลย ให้มันได้แบบนี้

          " ยุ่งไม่เข้าเรื่อง " ผมพูดและไปยืนพิงผนังข้างๆ

          " นี่ไปกินดินที่ไหนมา มอมอย่างกับหมา " ผมเหร่มองคนที่กำลังหยิบผ้าเช็ดหน้าและเช็ดแก้มผมเบาๆ

          " นี่ ชอบเหรอ " ผมพูดออกไปทำเอาไอ้หมอนี่ชะงักมือทันที

          " ชอบอะไร " ไอ้แว่นพูดและทำหน้ามึนๆ ผมเลยชี้หน้าตัวเองจนมันหัวเราะขำออกมา

          " แฟนเก่าเพื่อน แฟนเก่าเชี่ยๆ " คำพูดของผมทำเอาไอ้พี่นายชะงักและเงียบไปทันที ผมนี่มันปากเสียจริงๆ

          " เข้าใจ ไม่ต้องพูดหรอก " ผมมองคนที่ยกเบียร์ขึ้นดื่ม ดื่มแบบรวดเดียวหมดขวด นี่พี่กำลังมอมตัวเองเหรอ

          " อยากลองทำกันไหม​ "

          ' พรวดดดดดดดด '

          ไอ้พี่นายที่ดื่มเบียร์อยู่ก็พ่นพรวดออกมาทันทีที่ผมพูดจบ

          " ทำอะไร " ไอ้พี่นายสำลักและขมวดคิ้วมองผม

          " หึหึ อยากอ่าดิ๊ " ผมหัวเราะกวนและชี้หน้าไอ้พี่นายที่จ้องมองผมอยู่

          " ไม่อ่ะ " ผมหุบยิ้มทันที ห๊าา แกว่าไงนะ นี่กล้าปฏิเสธคำเชิญชวนงั้นเหรอ หนอยย

          " ลี่เคยบอกไหม​ว่า ตอนคบกับพี่ พี่แทบจะไม่เคยจับมือลี่ด้วยซ้ำ " ผมขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าแบบงงๆ แล้วมันยังไงล่ะ

          " ถ้าพี่ชอบใครแบบจริงจัง พี่จะไม่แตะต้องคนคนนั้น พี่เป็นคนแบบนั้นแหละ " ผมอึนๆ ขมวดคิ้วงงๆ แล้วมันหมายความว่าไงกันล่ะ

          แต่เมื่อผมใช้สมองประมวลผลสักพัก ผมก็เริ่มหน้าแดงขึ้น และค่อยๆ เดินเป๋ๆ ออกไปจากตรงนั้น นี่เมื่อกี้มันบอกชอบผมใช่ไหม​ ผมคิดว่าใช่นะ

          ผมเดินมึนๆ ไปเจอพี่โรลทีกำลังยกซดของกินในชามอยู่ ผมเดินไปเกาะไหล่รุ่นพี่ที่เคารพของผม ผมว่าผมควรปรึกษาคนนี้ล่ะ

          " นี่ พี่ เอิ้กกก ครับ " ผมเรียกพี่โรลไปเรอไปด้วยเพราะความอิ่ม

          " ว่าไง น้องพี่ " พี่โรลกอดคอผมและเต้นไปมาจนผมมึนไปใหญ่

          " ถ้าพี่ ชอบใครสักคน มากๆ พี่จะ ทำยังไง " ผมถามพี่โรลที่กำลังโบกมือไปมาในอากาศ

          " ลากไป &#?@& " เป็นคำหยาบที่หื่นและถึงกับต้องเซ็นเซนร์เลยทีเดียว ผมถึงกับมองหน้าพี่แกอีกที ผมว่าพี่อาจจะฟังคำถามไม่เข้าใจนะ

          " เอา ใหม่ ถ้าพี่ชอบใครมากๆ พี่จะทำอะไรกับคนคนนั้น "

          " เจ็ดยับ " ผมหรี่ตามองพี่โรลที่กำลังหัวเราะลั่นอย่างสนุกสนาน นี่เพ่เป็นพระเอกนะโว้ย พูดจาให้มันสมกับเป็นพระเอกสิฟะ

          " พี่ล้อเล่น ฮ่าๆ " พี่โรลหัวเราะใส่หน้าผมที่กำลังหน้ามุ่ยอยู่

          " ความรัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องพวกนั้น ทำอะไรก็ได้ที่ทั้งสองคนจะมีความสุข เอาง่ายๆ แบบพี่กับลี่นี่ไง พี่ตามใจลี่ทุกอย่าง "

          " เหรอออออออออออ " ผมที่ได้ยินเสียงลากยาวของเพื่อนผม ทำให้รู้ว่า อีพี่นี่เชื่อไม่ได้และแหลทั้งเพ

          ผมเดินมึนๆ กลับไปหาคนที่ยังยืนนิ่งๆ พิงกำแพงอยู่ที่เดิม

          " เมา อยากนอน พาไปส่งหน่อย " ผมพูดและตัวอ่อนปวกเปียกเรียกร้องความสนใจ

          " หญ้านี่ก็นุ่มนะ ลองดูสิ " โอ้ยยย พ่อคุณ พ่อสุภาพบุรุษ กลัวผมจับปล้ำหรือ​ไง หงุดหงิด

          ผมเดินกลับหลังและขาพับลงไปทันที และก็อย่างที่คิด ไอ้บ้านี่รีบวิ่งมาหิ้วปีกผมทันที ฮ่าๆ

          ผมรู้สึกว่าผมกำลังถูกหิ้วอย่างทุลักทุเลไปในห้องๆ หนึ่งที่มีเตียงดูนุ่มสบาย และภายในห้องก็เป็นสีโทนขาวดำที่สวยมากๆ

          ผมไม่ใช่คนตัวเล็กๆ ที่จะถูกอุ้มได้โดยง่าย แต่ผมก็ตัวเล็กกว่าไอ้พี่นายนี่แหละนะ

          " นอนนี่แหละ อย่าลุกไปไหนนะ " พี่นายวางผมลงกับเตียงและยืนมองผมไกลๆ

          " นี่ห้องใคร " ผมถามเบาๆ

          " ห้องพี่นี่แหละ " บ้านก็ออกจะตั้งกว้างแต่ลากผมขึ้นมาชั้นสามห้องนอนตัวเอง ฮ่าๆ ไอ้บ้านี่ก็น่ารักดีนะ

          " ขอบคุณครับ พี่นาย " ผมพูดเบาๆ ขณะที่พี่นายกำลังจะออกจากห้อง พี่นายหันมาทันทีที่ได้ยินผมเรียกชื่อตัวเอง



เพราะนี่เป็นครั้งแรก ที่ผมได้เรียกชื่อคนคนนี้ออกไป
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-12-2017 19:54:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-12-2017 19:54:35
เริ่มดีละ


 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 23-12-2017 20:01:07
เมี่ยง .. นี่อ่อยใช่ไหม เราก็นึกว่าเมี่ยงเมะมาตลอดนะเนี่ย ไม่จริงใช่ไหม  :katai1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 23-12-2017 20:56:49
เมี่ยงรถอ้ออยคว่ำแล้วลูก 5555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 23-12-2017 21:36:45
 :a5: o22 แต่หนูเมี่ยงก็ทำได้ดีนะ  o13
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 23-12-2017 21:38:33
นี้ไม่เคยคิดว่าเมี่ยงมันหล่อเลยนะ ตั้งแต่ตามอ่านแรกๆเลย เพราะความติงต็องกลบความหล่อมันล้วนๆๆ

หนะๆมีอ่อย นะไอแสบ  นี้ชอบตัวละครเมี่ยงที่สุด ชอบในความรักเพื่อน ปกป้องเพื่อน บวกความบ้าๆบอๆของมันนี้แหละ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 24-12-2017 13:59:19
บางทีเมี่ยงก็ต้องมีใครสักคน พี่นายก็เช่นกัน คู่ใหม่
ดีใจที่โรลจำได้ เป็นของขวัญที่ดีมากเลย จำได้ปุ๊บ หืนปั๊บ ฮาดี

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 41 ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง]((23/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 26-12-2017 17:34:20
          Calorie ที่ 42 ความรักที่หลากหลาย


          หลังจากที่นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว ทุกคนก็เริ่มที่จะพูดไม่รู้เรื่องและนอนสลบเกลื่อนกลาดอยู่เต็มสนามหน้าบ้านพี่นาย ผมพยายามลากพี่โรลที่กำลังนั่งคุยกับรูปปั้นประดับสวนของพี่นายด้วยความเอือมระอาและมองหาไอ้เมี่ยงไปด้วย มันหายไปไหนกันนะ

          " ถ้าหาเพื่อนเราอยู่ละก็ ไม่ต้องห่วง นอนอยู่ข้างบนห้องพี่น่ะ " ผมหันไปมองพี่นายที่กำลังเดินมาช่วยผมหิ้วปีกพี่โรลอีกข้าง

          " แอบขโมยเพื่อนผมเหรอ " ผมหรี่ตามองพี่นายที่เลิกคิ้วมองผมอยู่

          " เปล่านะ หมอนั่นบอกอยากนอน พี่ก็เลยพาไป แค่นั้น " ผมยิ้มน้อยๆ มองดูพี่นายที่เหมือนกำลังแก้ตัวอยู่

          " ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย แต่เป็นห่วงมัน นึกว่าไปนอนอยู่ก้นสระซะแล้ว " ผมพูดพลางยิ้มขำ

          " คงเช้าแหละกว่าจะสร่างเมา ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ไปส่งให้ " จริงๆ ผมอยากให้มันกลับกับผมตอนนี้เลย แต่อยู่กับพี่นายคงไม่เป็นไรหรอก

          " งั้นฝากด้วยนะครับ " ผมยิ้มให้พี่นายที่พยักหน้าตอบ

          " เดี๋ยวพี่ไปส่งเราก้บโรลที่คอนโดละกัน เราแบกไอ้บ้านี่ไม่ไหวหรอก ตัวใหญ่จะตาย " ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่นาย

          ไม่นานพี่นายก็มาส่งผมกับพี่โรลที่คอนโดและแบกพี่โรลขึ้นมาส่งให้ถึงเตียงเลยทีเดียว ผมขอบคุณพี่นายและฝากฝังเพื่อนรักอีกที จากประสบการณ์การเคยคบกับพี่นายของผมนั้น ผมคิดว่าไอ้เมี่ยงน่าจะปลอดภัย นอกจากมันจะปล้ำพี่เขานั่นแหละ หึหึ

          เมื่อพี่นายกลับไปแล้ว ผมก็จัดการลอกคราบไอ้แฟนตัวดี ของผม ด้วยการถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นออกและเช็ดตัวด้วยผ้าที่ชุบน้ำอุ่นๆ จริงๆ แล้วผมก็ดื่มนะ แต่ก็ดื่มให้ไม่ถึงกับเมาแต่ก็มึนๆ นิดๆ กำลังดี

          ผมลังเลไม่กล้าถอดกางเกงยีนส์ขายาวของพี่โรลออก ถึงพวกเราจะแบบว่าเคยมีอะไรกันแล้วก็ตาม แต่พวกเราก็ยังไม่เคยทำกันแบบดีๆ เลย มีแต่แอบทำและก็แอบทำ อ้ากกก และพวกเราก็ห่างกันไปนานพอสมควร ผมก็เริ่มกลับมาอายเหมือนเก่า

          ผมมองพี่โรลที่นอนหลับและหายใจเข้าออกช้าๆ พี่โรลถึงแม้ว่าจะป่วยแต่ร่างกายนั้นก็ไม่ได้ซูบลงมาก ผิวขาวที่ขาวซีดกว่าเดิม ผมสีน้ำตาลตัดสั้น ปากสีแดงจางๆ และขนตาหนา ผมยิ้มน้อยๆ และดึงจมูกโด่งๆ นั้น พลางก้มลงหอมแก้มคนเมาด้วยความหมั่นเขี้ยว ผมมองกางเกงยีนส์สีซีดของพี่โรลอีกครั้ง และลูบเบาๆ ที่ท่อนขายาวของคนตรงหน้า ช่างใจว่าจะถอดให้ดีไหม

          เอาวะ ก็แค่กางเกง ผมที่กลัวว่าพี่โรลจะไม่สบายตัว ก็ค่อยๆ ปลดเข็มขัดคนที่นอนหลับตานิ่งออกช้าๆ ก็ไม่เห็นจะยากเลย หึหึ ผมค่อยๆ ถอดมันออกจากตัวพี่โรลจนเหลือแต่กางเกงชั้นใน และคิดว่าพอแล้วล่ะ ให้ถอดมากกว่านี้ เดี๋ยวพี่แกตื่นขึ้นมาผมจะซวยเอา

          แต่ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเปล่า ผมในตอนนี้รู้สึกร้อนๆ แปลกๆ ทั้งที่แอร์ก็เปิดจนเย็นฉ่ำ ผมหน้าร้อนนิดๆ และจ้องมองพี่โรลที่กำลังหลับเป็นตายอยู่ ไม่เอาน่า จะดีเหรอฟะ ผมทะเลาะกับตัวเองในใจ ร่างกายของผมมันไม่รักดีเอาซะเลย คงเป็นเพราะผมอัดอั้นมานานมาก ผมไม่ค่อยได้ช่วยตัวเองเท่าไหร่ เพราะความเครียด และอะไรหลายๆ อย่าง ซึ่งมันทำให้ผู้ชายแบบเราไม่สบายตัวเอาซะเลย ไหนๆ พี่โรลก็หลับไม่รู้เรื่องแล้ว ผมว่าคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

          ผมที่เมานิดๆ ก็เกิดความใจกล้าขึ้นมา ผมค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกช้าๆ คลานขึ้นมาคร่อมบนลำตัวของพี่โรล และก้มลงจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากแดงนั้น

          " พี่ครับ ผมรักพี่ " ผมหอมคนเบื้องล่างที่คอเบาๆ และกระซิบด้วยเสียงกระเส่า

          ผมแลบลิ้นเลียนิ้วมือของผม พลางก้มตัวต่ำ เอื้อมแขนไปยังช่องทางด้านหลังของตัวเองและค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปทีละนิด ผมก้มหน้าลง ขาสั่นน้อยๆ ด้วยความรู้สึกร้อนลุ่ม

          แต่ผมที่กำลังก้มหน้านั้นก็เหลือบไปเห็นถุงอะไรบางอย่างตรงปลายเตียง และก็นึกออกทันทีว่ามันคืออะไร มันคือไอ้หางบ้าๆ นั่นที่พี่โรลซื้อมาให้ ถ้าเป็นปกติผมคงอยากจะเผามันทิ้งซะ แต่ตอนนี้ผมที่กำลังอารมณ์พลุ่งพล่านนั้น คิดว่ามันเป็นอุปกรณ์ช่วยที่ดีทีเดียว

          ผมค่อยๆ ขยับตัวและเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา ผมโยนหูและถุงมือทิ้ง ผมสนใจแต่หางฟูยาวสีขาวเท่านั้น ผมชันเข่าก้มตัวลงอีกครั้ง และค่อยๆ สอดแก่นตรงโคนหางเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มช้าๆ พลางหายใจเบาๆ ผมนิ่วหน้าน้อยๆ เมื่อสิ่งนั้นเข้าไปด้านในจนหมด

          ผมยืดตัวเหลียวหลังไปมองพวงหางฟูฟ่องสีขาวที่ก้นของผม มันให้ความรู้สึกเสียวน้อยๆ ในช่องท้องและต้องออกแรงเกร็งรัดแท่งสิ่งแปลกปลอมนั้นไว้ เพื่อให้หางยังคงติดอยู่กับช่องทางสีหวานนั้น

          ผมขยับตัวคร่อมพี่โรลไว้อีกครั้งก้มลงจูบเลียที่อกแกร่งของคนเบื้องล่าง พลางรูดขึ้นลงเบาๆ ที่แก่นกายร้อนของตัวเอง

          ผมอ้าปากหอบหายใจน้อยๆ หลับตาแน่น และเม้มปากกลั้นเสียงเป็นระยะ ช่องทางด้านหลังตอดรัดสิ่งแปลกปลอมเบาๆ ตลอดเวลา มันทำให้ผมเสียวซ่านและรู้สึกดีไปหมด

          แต่เมื่อผมที่ก้มลงหอบหายใจกับหน้าท้องของพี่โรลนั้น ก็เผลอเหลือบไปมองท่อนกายภายใต้กางเกงชั้นในของคนที่นอนหลับอยู่ ผมหยุดมือลงและขมวดคิ้วน้อยๆ เพราะสิ่งที่เห็นอยู่ในสายตานั้นมันไม่ได้กำลังหลับอยู่เหมือนเจ้าของ

          ภายใต้กางเกงชั้นในของพี่โรลนั้น มีบางสิ่งกำลังตึงแน่นจนแทบจะระเบิดออกมา ผมค่อยๆ เลื่อนสายตาจากตรงกลางลำตัวของพี่โรล ไล่มาเรื่อยๆ จนไปถึงใบหน้าของพี่โรลที่หลับอยู่

          และก็เป็นอย่างที่คิด พี่โรลนั้นคิ้วกระตุกเล็กน้อยและดวงตาที่ปิดสนิทนั้นก็ค่อยๆลืมขึ้น ผมตกใจจะขยับตัวหนี แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว พี่โรลยิ้มน้อยๆ และดึงแขนผมเอาไว้ พลางดึงผมลงไปนอนกอดทั้งตัว

          " น..นี่พี่แกล้งเมาเหรอ " ผมตอนนี้หน้าแดงจนเลือดจะออกจมูกอยู่แล้ว

          " ว่าจะทนจนกว่าลี่จะเสร็จสักหน่อย แต่ไม่ไหวแล้วอ่ะ โครตเซ็กซี่เลย "

          " ไอ้บ้า ไอ้... " ผมอายมาก อายจนได้แต่มุดไม่ยอมมองหน้าคนที่กำลังหัวเราะน้อยๆ และลูบก้นผมอยู่

          " ใส่แล้วเหมาะมากเลย " พี่โรลพูดพลางลูบพวงหางเบาๆ และจงใจหมุนขยับมันน้อยๆ ทำเอาผมตัวสั่นไปด้วยความเสียว

          " อย่าจับนะ~ " ผมพูดเสียงอ่อยและได้แต่ก้มหน้ากับอกคนขี้แกล้งนั้น

          แต่ผมก็ถูกดึงตัวขึ้นมาและถูกคนตรงหน้าประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว ผมหลับตาปล่อยให้เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันอย่างนัวเนีย ผมตัวสั่นน้อยๆ เมื่อพี่โรลลูบไล้ไปตามขาของผมและกำลังดึงหางของผมเข้าและออกเบาๆ

          " อ๊ะ อ.อย่า " ผมเอื้อมมือไปจับมือพี่โรลไว้

          พี่โรลค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นพิงหมอน ตัวผมที่ทับพี่โรลนั้นเลยเลื่อนลงไปเรื่อยๆ จนทับส่วนแข็งขืนนั้นของพี่โรล นี่พี่ถอดกางเกงในไปตอนไหนเนี่ย

          ผมชันเข่ากอดพี่โรลไว้ ไม่กล้าทิ้งน้ำหนักนั่งลงตรงส่วนนั้น พี่โรลจูบไซร้ซอกคอผมเบาๆ และค่อยๆ ออกแรงดึงหางออกจากช่องทางด้านหลังของผม

          ผมกอดรัดคนตรงหน้าไว้แน่น ตัวสั่นน้อยๆ แต่ก็รู้สึกโล่งขึ้นทันทีที่สิ่งแปลกปลอมหลุดออกจากตัว แต่ผมที่กำลังผ่อนคลายก็ต้องสะดุ้งอีกครั้ง เพราะสิ่งที่ใหญ่กว่ากำลังแทรกเข้าไปแทนที่อย่างรวดเร็ว

          " อ๊า บ.เบาหน่อย " ตัวของผมถูกกดลงให้ทับลงไปบนท่อนกายของคนเบื้องล่าง

          ผมหลับตาแน่น ผ่อนลมหายใจและร้องครางออกมาอย่างสุดจะกลั้น คนตรงหน้ายิ้มน้อยและทิ้งตัวลงพิงหมอนอีกครั้ง จ้องมองผมเหมือนกับกำลังรอให้ผมทำอะไร

          " ผมทำไม่เป็น " ผมพูดเบาๆ ด้วยหน้าที่แดงจัด

          " แค่อยู่เฉยๆ พี่ก็จะไปแล้ว " ผมมองพี่โรลที่กำลังหายใจแรงๆ และทำหน้าบ่งบอกว่ารู้สึกดีมาก

          ผมค่อยๆ ขยับตัวยันแขนไปที่หน้าท้องของคนตรงหน้า และเลื่อนตัวขึ้นลงเบาๆ

          " อ่าาา ดีจัง " คนตรงพูดเบาๆ ด้วยเสียงต่ำๆ ผมพยายามขยับตัวต่อไปเบาๆ เฝ้ามองคนตรงหน้าที่กำลังครางในลำคออย่างพึงพอใจ คำพูดพี่โรลทำผมยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นไปอีก ผมชอบที่พี่บอกความรู้สึกออกมา ผมอยากทำให้พี่มีความสุข ไม่ว่าสิ่งไหนก็ตาม

          ดูเหมือนคนตรงหน้าจะเริ่มทนไม่ไหว พี่โรลจับเอวผมและเริ่มเด้งเอวสวนผม และผมก็รู้สึกว่ามันเริ่มถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆ

          " อ๊ะ พี่ครับ " ผมตกใจทันทีที่พี่โรลผลักผมให้นอนลงไปและสลับเป็นตัวพี่ที่คร่อมผมอยู่ พี่โรลยกขาของผมขึ้นและกอดจูบเบาๆ ขณะที่พวกเราก็ยังคงเชื่อมต่อกันอยู่

          " ขอโทษนะ พี่รักลี่ " พี่โรลก้มลงจูบปากผมซ้ำๆ และพูดกระซิบเบาๆ ข้างหูผม

          ผมไม่รู้เลยว่า คำขอโทษนั้นหมายถึงอะไร จนกระทั่งกิจกรรมสุดดุเดือดนั้นดำเนินไปตลอดทั้งคืน





          เมี่ยง



          มึนหัวจัง ผมนอนอยู่บนเตียงหนานุ่มและอุ่นสบาย นี่ผมอยู่ไหนกันนะ มันสบายมากเกินไป แม่ซื้อเตียงใหม่ให้เมี่ยงเหรอ ผมคว้าหมอนข้างและกอดรัดแน่นอย่างอารมณ์ดี อุ่นโครต แถมกลิ่นก็หอมด้วยนะ ถึงจะแข็งๆ ไปหน่อยก็เถอะ ผมเริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อลูบไปมาบนหมอนข้างนั้นและพบว่ามัน เอ่อ แปลกเกินไป

          ผมพยายามนึก ลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดช้าๆ เดี๋ยวนะ เมื่อคืน พี่โรลกลับมา มีปาร์ตี้ฉลอง ผมเมามาก และ...

          ผมลืมตาขึ้นทันทีและตัวแข็งทื่อไปเรียบร้อย เพราะไอ้หมอนข้างแข็งๆ นั่นไม่ใช่ใครอื่น กูว่าแล้วไง ผมรีบกลิ้งถอยหลังจนตกเตียงและหมอบลงกับพื้น สำรวจร่างกายอันสวยงามของตัวเอง โอเค ไม่เจ็บก้นแฮะ กูรอดจริงๆ เหรอเนี่ย

          " ทำบ้าอะไรน่ะ " ผมเหร่มองไอ้คนที่ลุกขึ้นนั่งและจ้องมองผมด้วยสีหน้าขบขัน

          " ฟ้องแม่แน่ " ผมทำท่ากอดตัวเองไว้ด้วยความหวงแหน ทำเอาไอ้พี่นายหัวเราะออกมาเบาๆ

          " นี่นอนขอบเตียงจนจะตกเตียงอยู่แล้ว ใครกันแน่ที่ขยับมานอนติดเอง คนบ้าอะไรนอนดิ้นสุดยอดไปเลย " ผมทำหน้าตาเหรอหราไม่ยอมรับผิด

          " ใครใช้ให้มานอนข้างๆ เล่า " ผมขมวดคิ้วและลุกขึ้นช้าๆ โลกยังหมุนอยู่แฮะ หนักเอาเรื่องเลยนะเนี่ย

          " นี่มันห้องพี่ " ผมเลิกคิ้วมองไปรอบๆ อีกครั้ง ก็ว่าอยู่ หรูขนาดนี้

          " นอนต่อเถอะ ตีสามเอง " พี่นายพูดพลางมองนาฬิกาที่ผนัง

          ผมส่ายหัวรัวๆ และพยายามจะลุกขึ้นแต่ก็สะดุดล้มลงวัดพื้นอีกรอบ

          " ดูซิว่าจะไปถึงบ้านไหม​ " ไอ้พี่นายนั่งเท้าคางมองดูผมพลางยิ้มขำ หนอย

          ผมนั่งอยู่กับพื้นพรมนิ่มๆ และตัดสินใจนอนแม่งตรงนี้แหละ

          " มานอนบนเตียง " ผมไม่สนใจนอนหันหลังแม่งเลย เอาจริงๆ ผมนอนพื้นสบายมาก บ้านผมพื้นแข็งกว่านี้อีก

          " จะมาดีๆ หรือให้อุ้ม " ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็เด้งตัวด้วยความไวแสงและพุ่งตัวมุดเตียงพลางเอาผ้าห่มห่อตัวเหมือนดักแด้

          ผมขมวดคิ้วมองไอ้พี่นายที่หัวเราะเบาๆ และลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่โต๊ะที่มีชั้นหนังสือวางอยู่เต็มไปหมด เปิดไฟเล็กๆ และนั่งเปิดหนังสือเงียบๆ

          เพราะผมหรือเปล่านะ หมอนั่นถึงเดินหนีไป ผมขมวดคิ้วจ้องมองไอ้เสือไบจอมร้ายกาจ หึหึ ไม่หลงกลหรอก กำลังหลอกผมให้ตายใจสินะ ผมยังจำที่หมอนี่พูดเมื่อคืนได้ จะไม่แตะต้องคนที่ชอบงั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า ยิ่งชอบก็ยิ่งอยากพุ่งเข้าใส่สิเฟ้ย มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว

          " ทำให้นอนไม่หลับหรือ​เปล่า " ไอ้พี่นายหันมาขมวดคิ้วมองผมที่ยังคงไม่หลับและดิ้นไปมาอยู่ในผ้าห่ม

          " เพิ่งรู้หรือ​ไง " ผมพูดพลางเบะปากน้อยๆ

          ผมจ้องหมอนั่นที่ปิดไฟลงและถอดแว่นออก พลางเดินไปที่ประตู

          " จะไปไหนอ่ะ " ผมถามด้วยความสงสัย

          " นอนไง " พี่นายพูดเบาๆ อ๋อเหรอ ลืมไปว่าห้องเยอะ

          " เคยพาคนมานอนที่นี่เยอะแยะเลยใช่ไหม​ล่ะ " อยู่ดีๆ ผมก็หลุดปากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป ผมพูดบ้าอะไรฟะเนี่ย

          พี่นายที่กำลังกำลูกบิดประตูหันมามองผมด้วยสีหน้าแบบไหนผมก็เห็นไม่ชัด

          " ใช่ " คำตอบนั้น ทำให้ผมกำผ้าห่มแน่นอย่างลืมตัว ผมไม่รู้เลยว่าผมรู้สึกยังไง แต่ผมไม่ชอบที่จะได้ยินอะไรแบบนี้เลย แล้วผมจะถามเรื่องที่รู้อยู่แล้วทำไมก็ไม่รู้ ไอ้โง่เอ้ย

          " แต่ไม่เคยพาใครเข้ามาในห้องนี้หรอกนะ " พี่นายพูดต่อไปด้วยเสียงเรียบๆ ตามเดิม

          " คิดว่าได้ยินแบบนั้นแล้วจะดีใจหรือ​ไง ไอ้งี่เง่า " ผมพูดและดึงผ้าห่มคลุมโปงทันที

          ผมหลับตาลงหายใจเข้าออกช้าๆ ด้วยความรู้สึกสับสนในหัวใจ แต่อยู่ดีๆ ผมก็ต้องลืมตาขึ้นอีกครั้ง เพราะสัมผัสที่อบอุ่นที่ประทับลงบนหน้าผากของผมนั้น มันบอกให้ผมรู้ว่า ในตอนนี้



มีเพียงผ้าห่มผืนบางเท่านั้น ที่กั้นกลางระหว่างเราสองคน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-12-2017 17:55:21
วรั้ยดีงาม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 26-12-2017 17:57:35
ลี่นี่เซ็กซี่เหลือร้าย ว่าแต่เมี่ยงจะรอดหรือเปล่านะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-12-2017 19:22:56
ว๊ายตายแล้ววววว~ :o8:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 27-12-2017 04:04:57
 :jul1: :jul1: โอ้ยเมี่ยงโคตรน่ารัก น่ารักมากกกกก
นี้คือไปเมี่ยงเดือน ติงต๋องจิงดิ

ทำไมอยู่กับพี่นายแล้วไอแสบมันน่ารักนัก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-12-2017 04:29:48
ลี่ทำไปได้ แต่ชอบอ่ะ   :m30:
ส่วนไอ้พี่โรล คงจะ......  :m2:
ส่วนเมี่ยงเมามาก ๆ บ่อย ๆ ระวังจะ....  :z13:
 ส่วนพี่นายบอก ถ้าเป็นคนที่ชอบจะไม่..... เพราะงั้นทำได้เพียง  :a12:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 27-12-2017 22:57:50
โง้ยยยยย อยากอ่านคู่เมี่ยงงง จะกลอกล่อพี่นายยังไงนะ 5555555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 28-12-2017 14:56:01
ง่อวน้องเมี่ยง55555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 28-12-2017 16:17:56
หมดดราม่าแล้วเนอะ ไม่เอาแล้วนะ ขอความสดใสหน่อย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#42 ความรักที่หลากหลาย [NC20+]((26/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 28-12-2017 18:22:39
          Calorie ที่ 43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง


          ผมลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า พลางเหลือบมองไปรอบๆ ด้วยความแปลกใจ เพราะว่าที่ที่ผมนอนอยู่นั้นไม่ใช่บนเตียง แต่เป็นบนโซฟาตัวใหญ่หน้าทีวี ผมมาอยู่นี่ได้ยังไงน่ะเหรอ

          ผมหันไปฟาดไอ้คนที่ยังหลับอยู่ที่พื้นในสภาพที่ชวนสังเวชเหลือเกิน และ อ้ากกก ผมที่ขยับตัวเพียงนิดเดียวก็ต้องนิ่วหน้าออกมาด้วยความเจ็บปวด สมองของผมค่อยๆ ประมวลผลช้าๆ และผมก็ค่อยๆ นึกออกว่าผมมาที่นี่ได้ยังไง

          ไอ้พี่โรลจอมหื่นนั้นลากผมไปทั่วห้องและทำกันทั่วทุกมุม ผมไม่รู้ว่าพวกเราทำกันมากแค่ไหน เพราะหลังๆ ผมนั้นคงหลับกลางอากาศเลยทีเดียว แบบนี้ไม่ไหวนะ ผมตายแน่ๆ ถ้าต้องอยู่กับพี่โรลจริงๆ

          " ตื่นเลยนะ " ผมเอาเท้าเขี่ยพี่โรลด้วยความหมั่นไส้

          " งืมม ไม่ไหวแล้ว " ผมมองพี่โรลที่ละเมอบ่นงึมงัมพลางพลิกตัวหนี หนอยย

          " ตื่นสิโว้ย พี่โรล " ผมที่ตอนแรกก็เขี่ยดีๆ ตอนนี้กระทืบแม่งเลยดีกว่า

          พี่โรลเด้งตัวลุกขึ้นขยี้ตาน้อยๆ และหันมามองผมตาปรือ

          " จะต่อเหรอ " ผมหน้ามุ่ยมองพี่โรล และพี่โรลที่เห็นแบบนั้นก็ตาสว่างขึ้นทันที

          " เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บเหรอ " ผมส่ายหน้าน้อยๆ แต่จริงๆ โครตเจ็บเลยแหละ

          พี่โรลค่อยๆ คืบคลานขึ้นมาบนโซฟาและแทรกตัวเข้ามากอดผมในผ้าห่มจากด้านหลัง

          " อย่าทำหน้าแบบนี้สิ เดี๋ยวพี่ร้องไห้นะเอ้า " ผมแอบยิ้มน้อยๆ

          " ไม่ชอบที่พี่ทำหรือ​เปล่า ต่อไปพี่ไม่ทำแล้วก็ได้ " ผมแอบเหลือบมองคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้จริงๆ

          " จะอดได้จริงๆ เหรอ " ผมพิงพี่โรลและเงยหน้ามองคนขี้โม้

          " ถ้าลี่ไม่ชอบพี่ก็ไม่ทำ "

          " ไม่ใช่แบบนั้น " ผมพูดพลางกอดแขนพี่โรลที่กอดผมเอาไว้

          " ผมมีความสุขมาก เหมือนฝันไปเลยที่พี่กลับมา ผมนับคืนวันรอพี่เสมอ ทำไมพี่ถึงไม่คุยกับผมตอนที่อยู่รัสเซียเหรอ " พี่โรลเงียบไปสักพัก เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

          " เพราะพี่ไม่อยากให้ลี่เสียใจ พี่อยากจำทุกอย่างให้ได้ ก่อนจะกลับมาหาลี่ที่นี่ "

          " แต่หายไปเลยแบบนี้น่ะ ใจร้ายนะ ผมเครียดแทบตาย ถ้าไม่มีเพื่อน ไม่มีครอบครัวละก็ ผมไม่รู้จะเป็นยังไง " ผมตัดพ้อเสียงเศร้า

          " ไม่ว่าทางไหนก็เสียใจใช่ไหมล่ะ พี่ไม่รู้ว่าควรทำยังไง ขอโทษนะ จะไม่ทำอีกแล้ว "

          " ผมคิดว่าผมเสียพี่ไปแล้ว " ผมยังจำความรู้สึกสิ้นหวังนั้นได้ดี และคงจะจดจำไปชั่วชีวิต

          " ทุกเวลาทุกวินาทีของพี่ พี่เฝ้าแต่คิดว่า พี่จะทำยังไงลี่ถึงจะรักพี่ ต้องทำยังไงถึงจะรักษาลี่เอาไว้ ยิ่งพี่มองดูลี่ พี่ก็ยิ่งคิด ตอนนี้พี่ก็ยังคิดอยู่ พี่รักลี่มาก พี่ไม่เคยรู้สึกกลัวอะไรแบบนี้มาก่อน พี่กลัวว่าสักวันลี่จะหายไป " ผมขมวดคิ้วมองพี่โรล พี่พูดอะไรน่ะ ผมต่างหากล่ะที่ต้องกลัวอะไรแบบนั้น พี่ดีเกินไป สมบูรณ์แบบมากเกินไป ผมมันก็แค่คนธรรมดาที่โชคดีเหลือเกินที่ได้รับความรักนี้

          " เลี่ยนจัง " ผมยิ้มให้พี่โรลที่กำลังทำหน้าจริงจังเหลือเกิน

          " พี่จริงจังนะเอ้อ " พี่โรลเริ่มพูดติดตลกตามเดิม ผมไม่อยากให้พี่คิดมาก ยิ่งเรื่องแบบนั้นยิ่งไม่ต้องคิดเลย

          " ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ไปไม่ได้แล้ว ถึงไปได้ก็ไม่ไป พี่รู้ไหม​ว่าตอนพี่ไม่อยู่มีคนมาจีบผมเยอะแค่ไหน " พี่โรลที่กำลังยิ้มน้อยๆ ก็หุบยิ้มลงทันที

          " ใคร คณะไหน " พี่โรลทำหน้าจริงจังซะน่ากลัวเชียว

          " ไอ้คนขี้หึง เป็นหมาบ้าหรือ​ไง จะไปกัดเขาเหรอ " ผมดึงจมูกคนที่ยังทำหน้าขึงขังอยู่

          " อย่าให้รู้ "

          " น่ากลัวจัง " ผมยิ้มกวนๆ

          " พี่ไม่ได้ล้อเล่น " พี่โรลหน้ายังตึงอยู่

          " คร้าบๆ พ่อคนโฉด จะด่าผมเหมือนครั้งนั้นไหม​ล่ะ จะได้ทำใจไว้ " ผมยังจำความหึงโหดของพี่โรลได้ ทำเอาผมช้ำใจไปเป็นวัน ไอ้หมาบ้าเอ้ย ปกติจะติ๊งต๊องแท้ๆ

          " พี่เชื่อลี่ "

          " เหรอออออ " ผมลากเสียงกวนๆ ทำเอาพี่แกตึงไปใหญ่

          " พี่ขอโทษ ขอโทษไปแล้วไงคราวนั้น " ผมยิ้มขำ ตอนนี้พี่โรลซุกผมแบบคนหนีความผิด

          " ครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เชื่อผมได้ไหม​ " ผมพูดและจุฟเบาๆ ที่มือของคนรักที่กุมอยู่นี้

          " พี่ก็เหมือนกัน " ผมยิ้มให้พี่โรลและเอียงหน้ารับสัมผัสอุ่นๆ จากริมฝีปากนั้น





          เมี่ยง





          ผมยังคงลูบเบาๆ ที่หน้าผากของตัวเองข้างใต้ผ้าห่ม พี่นายออกไปแล้ว แต่หัวใจของผมก็ยังคงเต้นรัว นึกว่าจะไม่รอดแล้วเชียว จะหุบปากมั่งได้ไหม​เนี่ยเมี่ยงเอ้ย

          ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ นี่ไม่ใช่ห้องผม ไม่ใช่ที่ของผม และเจ้าของห้องก็ไม่ยอมเข้าใกล้ผมเท่าไหร่ ผมทำให้พี่เขาลำบากหรือ​เปล่านะ

          พวกเรานั้นอาจจะดูเหมือนใกล้ชิดสนิทสนมกันก็จริง แต่ที่จริงแล้วเวลาที่ผ่านไปส่วนใหญ่ก็มีแต่ทะเลาะกันเท่านั้น ไอ้อารมณ์ใคร่เสน่หาอะไรแบบนี้ผมไม่ชินเอาซะเลย หนีกลับเลยดีไหม​นะ แต่ก็คงไปไม่ถึงไหนหรอก ยังมึนอยู่เลย

          ไอ้ลี่ ไอ้เพื่อนทรยศ หนีไปกับผัวแล้วใส่พานถวายกูให้พี่นายเชียวนะมึง หึ่มม

          ผมที่ใจเต้นอย่างกับกระดกกาแฟไปสัก 3 แก้ว ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ ผมนอนไม่หลับซะแล้ว หิวน้ำด้วยอ่ะ ตู้เย็นอยู่ไหนนะ

          ผมค่อยๆ เดินย่องไปบิดลูกบิดประตูและเดินเกาะผนังไปตลอดทาง บ้านแม่งก็อย่างกับวัง จะหาทางกลับมาที่เดิมถูกไหม​เนี่ย ผมยังคงเดินไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ก้าวลงบันไดจากชั้น 3 เพื่อลงไปหาห้องครัวที่น่าจะอยู่ชั้นล่างสุด โอเคผมลงมาถึงชั้น 2 แล้ว ผมพยายามเดินให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้มีใครมาจ๊ะเอ๋เข้า

          " นายยย กอดเราหน่อยสิ " ผมชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างท่ามกลางความมืด ผมหันไปตามเสียงนั้นและก็พบว่ามีห้องห้องหนึ่งที่เปิดไฟและแง้มประตูไว้

          ผมหัวใจเต้นรัว ขออย่าให้เป็นแบบที่คิด ไม่อย่างนั้นผมคง... แล้วทำไมล่ะ ก็ช่างมันสิ มันเป็นคนแบบนั้นแหละ มึงก็รู้อยู่แล้วนี่ ผมพร่ำบอกตัวเอง ไม่ให้หลงไปกับความดีเพียงน้อยนิดของมัน ผมเคยเกลียดพี่นายมาก และไม่เป็นไรถ้าผมจะเกลียดต่อไป

          ผมค่อยๆ ก้าวเท้าช้าๆ เกาะไปตามผนัง และเดินไปหยุดที่ประตูที่แง้มไว้ กำมือแน่น เตรียมพร้อมรับทุกสิ่งสำหรับความผิดหวัง

          ผมตัดสินใจยื่นหน้าเข้าไปช้าๆ เหลือบมองเข้าไปด้วยแววตาที่สั่นไหว และก็เป็นอย่างที่คิด ผมนั้นใจสั่นจนเหมือนกับจะหายเมาเลยทีเดียว ผมมองภาพตรงหน้า มองพี่นายที่ก้มตัวลงอยู่เหนือผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นกำลังคล้องแขนรอบคอของพี่นาย และพูดจาเหมือนคนเมา

          " นายยยย ทำไมล่ะ " ผมไม่ได้ยินว่าพี่นายพูดอะไร ผมยังคงมองดูภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ผมนั้นรู้สึกเสียใจและผิดหวังมาก ถึงจะเตรียมใจไว้อยู่แล้วก็ตาม  และเหมือนเป็นคราวซวยของผม ผมที่กำลังเกาะประตูแอบดูอยู่นั้น ก็พลาดทิ้งน้ำหนักลงที่ประตูมากเกินไปจนมันค่อยๆ เปิดกว้างขึ้น จนคนที่กำลังโดนกอดรัด หันมามองผมด้วยใบหน้าตกใจ

          แต่ผมก็ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างชัดเจนขึ้น ภายในห้องนั้นไม่ได้มีแค่ผู้หญิงคนนั้น แต่เรียกได้ว่ามีคนนอนอยู่เต็มไปหมด น่าจะสัก 10 คนเห็นจะได้ ทุกคนต่างหมดสภาพและเมาเละเทะยิ่งกว่าอะไร ผมเผลอถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก นี่พี่แบกคนพวกนี้ขึ้นมาคนเดียวงั้นเหรอ

          ผมสบตากับพี่นายอยู่เสี้ยววินาที ก่อนที่ผมจะรวบรวมสติและรีบเดินหนีกลับไปที่บันไดเพื่อลงไปชั้นล่างต่อไป

          แต่ผมก็พลาดอีกครั้ง ผมที่ยังคงไม่สามารถโฟกัสการทรงตัวได้ และรีบร้อนก้าวเท้าเกินไป ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างมันช้าลง ผมรู้สึกวูบไหวเหมือนตอนกำลังตกจากที่สูง ผมคงจะหล่นลงไปกระแทกพื้น และผมคิดว่า ผมจะต้องเจ็บแน่ๆ

          ผมรู้สึกว่าทุกอย่างจบลงแล้ว ผมหลับตาแน่น และเตรียมตัวร้องโอดโอยเต็มที่ แต่เดี๋ยวนะทำไมถึงไม่เจ็บเลยสักนิด นี่ผมตายแล้วเหรอ แค่ตกบันไดเนี่ยนะ แต่ผมที่ลืมตาขึ้นช้าๆ ก็พบว่าผมนั้นไม่ได้นอนอยู่ที่พื้น แต่กำลังนอนทับอยู่บนลำตัวของคนต่างหาก และคนคนนั้น

          " พี่ เห้ย เป็นอะไรหรือ​เปล่า " ผมตกใจมองพี่นายที่นอนหลับตาและที่ปากก็มีเลือดไหลออกมา ผมต้องไปกระแทกพี่เขาแน่ๆ

          " พี่ พี่นาย ตายแล้วเหรอ " ผมเขย่าคอเสื้อคนตรงหน้า นี่คิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์แมนหรือ​ไง ถึงคว้าตัวผมและเอาตัวเองรองรับผมตอนตกลงมาเนี่ย ผมก็ไม่ใช่จะตัวเล็กๆ นะ

          " ปากเสีย " ผมถอนหายใจอีกครั้งด้วยความโล่งใจ บ่นผมได้แบบนี้คงไม่เป็นไรหรอก

          แต่ผมที่กำลังตกใจก็ไม่ได้ทันได้คิดว่าตัวผมนั้นอยู่บนไหน อื้อหือ ตอนนี้ผมนอนทับพี่แกอยู่แบบแนบแน่นเลยทีเดียว ผมที่คิดได้แบบนั้นก็ลุกขึ้นทันที

          " โอ้ย เบาๆ หน่อย " พี่นายร้องโอดครวญทันทีที่ผมตะเกียกตะกายลุกขึ้นกระทันหัน

          " ขอโทษ ลุกไหวไหม​ " ผมนั่งคุกเข่าจ้องมองคนที่ยังนอนอยู่

          " ไม่เป็นไร " ไอ้คนอวดเก่งค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง

          " ปากแตกอ่ะ " ผมพูดและจ้องมองปากไอ้พี่นาย

          " ไม่เป็นไรเดี๋ยวใส่ยาก็หาย ไปนอนเถอะ จะเอาอะไร เดี๋ยวเอาไปให้ น้ำเหรอ " ผมรู้สึกว่าไอ้บ้านี่มันจะมากไปแล้วนะ ทำตัวน่าหมั่นไส้ชะมัด

          ผมมองพี่นายลุกขึ้นยืนและเดินขากะเผลกไปช้าๆ ผมหงุดหงิดรำคาญใจ ไอ้ความเป็นสุภาพบุรุษกับผู้ชายด้วยกันมันถือว่าเป็นการหยามเกียรติกันนะ ไอ้งี่เง่า

          ผมที่เจอเหตุการณ์อันอกสั่นขวัญหายก็รู้สึกว่าผมแทบสร่างเมาเลยทีเดียว ผมเดินตามไอ้พี่นายช้าๆ เดินไปยังห้องครัวมืดๆ ผมมองเห็นกล่องยาที่ผนังจึงค่อยๆ หยิบยาที่จำเป็นออกมาและเดินตามไอ้คนอวดดีต่อไป

          พี่นายเปิดตู้เย็นและรินน้ำให้ผม ผมเดินเข้าไปช้าๆ และจับประตูตู้เย็นไว้

          " ตกใจหมด " พี่นายสะดุ้งหันมามองจนน้ำกระฉอกหกลงพื้น ผมหยิบแก้วน้ำในมือพี่นายมายกขึ้นดื่ม

          " มานี่ " ผมวางแก้วเปล่าลงกับเคาท์เตอร์และดึงไอ้พี่นายให้เดินตามผม ผมดันพี่นายให้นั่งลงที่เก้าอี้ในครัวที่มืดสลัว มีเพียงแสงสว่างน้อยๆ จากไฟในสวนที่ลอดหน้าต่างเข้ามา

          " บอกว่าไม่... "

          " หุบปาก " ผมลากเก้าอี้มานั่งลงตรงหน้าไอ้พี่นายและดึงคอคนตรงหน้าให้ยื่นหน้ามาใกล้ๆ พี่นายเงียบเสียงลงและนั่งนิ่งๆ จ้องมองผม

          ผมจ้องมองริมฝีปากบวมแดงนั้นและจัดการเช็ดและทายาเบาๆ

          " จ้องๆๆ จ้องเข้าไป " ผมละสายตาจากริมฝีปากแดงบวมนั้นและจ้องมองเข้าไปในแววตาคนตรงหน้าบ้าง

          พี่นายไม่ได้พูดอะไร แต่แค่มองผมอยู่เงียบๆ เท่านั้น ผมไม่ได้เป็นพวกนิสัยสาวน้อยเท่าไหร่ ก็เลยจ้องกลับแม่งเลย

          " ชอบผมจริงๆ เหรอ " ผมถามพี่นายที่ทำหน้านิ่งๆ ตอนนี้ใบหน้าของพวกเรานั้นห่างกันแค่ไม่กี่คืบ ผมจ้องมองนัยตาที่แน่วแน่ของคนตรงหน้า เวลาไม่มีแว่นอยู่บนใบหน้าไอ้บ้านี่ก็ดูดีมากๆ แต่ก็นะ ยังไงผมก็หล่อที่สุด หึหึ

          แต่อยู่ดีๆ พี่นายก็หลบสายตาของผมและจ้องมองที่พื้น ผมไม่เข้าใจเลย ผมจะเชื่อพี่ได้จริงๆ เหรอ ผมเจ็บมากที่เห็นเพื่อนเคยเสียใจ ต่อไปมันคือตาผมสินะ บอกผมทีว่าผมเชื่อพี่ได้ บอกผมทีว่าพี่จะมองแค่ผมคนเดียว

          " มันก็แค่คำคำนึง " พี่นายพูดและจ้องมองผมอีกครั้ง

          " จะบอกว่าให้ดูการกระทำว่างั้น " ผมหรี่ตามองคนที่กำลังยิ้มน้อยๆ

          " ไม่กอดคนที่ชอบ แต่ไปกอดคนอื่นแทน แบบนั้นเหรอที่ทำกับคนที่ชอบน่ะ " ผมรู้สึกเสียใจมากที่พูดแบบนั้นออกไป พี่นายที่ยิ้มน้อยๆ ตอนนี้กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมา

          " บางทีนั่นอาจจะเป็นเหตุผลจริงๆ ที่ทำให้พี่ไม่กล้ากอดเราหรือลี่ เพราะพี่ไม่สมควรได้รับมัน " พี่นายพูดและลุกขึ้น ทำท่าจะเดินหนีผมไป

          ผมรีบลุกขึ้นตามและดึงเสื้อพี่นายเอาไว้ สิ่งที่พี่เคยทำนั้นมันเลวร้ายมาก แต่ผมก็คงเลวร้ายไม่ต่างกันถ้ามัวแต่ตอกย้ำความผิดนั้น

          ถึงผมจะเคยสับสนกับความรู้สึกนี้มากๆ แต่ตอนนี่ผมคิดว่า ผมรู้แล้วว่าผมควรจะทำยังไง

          ผมเดินไปยืนด้านหลังของพี่นาย และโน้มตัวเอาหน้าผากพิงแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าไว้
         
          " โอกาสมีแค่ครั้งเดียว อย่าทำให้ผิดหวังละกัน " ผมพูดเบาๆ กับแผ่นหลังนั้น

          พี่นายไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่แค่ยกมือขึ้นช้าๆ ผมมองมือนั้นและยื่นมือออกไป ให้มือของเราทั้งสองคนประสานกัน

          ทุกคนล้วนมีความมืดอยู่ในหัวใจ แต่อยู่ที่ว่าเราจะยอมให้ความมืดนั้นมันกลืนกินเราไปทั้งหมดหรือไม่ มันยังคงเป็นสีขาวได้เสมอ หากเพียงเราคิดจะเปลี่ยนแปลงมัน



และผมเชื่อในสิ่งนั้น
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-12-2017 22:12:01
ดีใจกับลี่
ตามเชียร์เมี่ยง
ทุกอย่างกำลังไปได้ดี
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-12-2017 22:54:51
คือมันดีอะ กำลังไปได้สวย อิอิ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-12-2017 23:10:59
ความหื่นของพี่โรลเสมอต้นเสมอปลาย   :z1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-12-2017 00:25:35
 o13

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 29-12-2017 00:48:29
ได้กันจนน้องสลบไป ไอ้พี่โรลคนหื่นนนนนน บ้าบอๆๆๆ ดีใจ ผ่านพ้นช่วงร้ายๆ มาแล้ว
พี่นาย เริ่มใหม่ๆ รักแท้รออยู่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 29-12-2017 01:47:13
 :jul1: ยอมใจคู่ นายเมี่ยงงง  ไอตัวแสบมันอ่อยอิพี่นายไช่มะ

คู่นี้ท่าจะสนุกๆ อีกคนก็สุภาพบุรุษ ส่วนอีกคนก็อยากไห้เขาสัมผัส ฮ่าๆๆๆๆ
นี้รอดูแผนไอแสบเมี่ยงเลยว่า จะอ่อยอิพี่สำเร็จไหมมม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 29-12-2017 02:13:43
แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-12-2017 08:34:23
พี่โรลหื่นมากๆๆๆๆ พอจำได้ก็ฟัดน้องลี่อ่วมเลย พี่นายพยายามจีบเมี่ยงเข้านะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#43 โอกาสที่มอบให้อีกครั้ง]((28/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 29-12-2017 15:22:44
          Calorie ที่ 44 สีสันของความรัก


          ​เมี่ยง



          ​ดูเหมือนอะไรๆ มันจะง่ายใช่ไหม ผมก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเป็นคนใจง่ายขนาดนี้ แค่ไอ้บ้านั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ผมก็เผลอตัวเผลอใจไปเลยซะได้ แบบนี้มันเหมือนผมขอไอ้พี่นายเป็นแฟนเลยสิ มันเป็นแผนการอะไรหรือเปล่า แต่ถึงผมจะมานั่งคิดมากถึงเรื่องนี้ มันก็สายไปแล้ว

          ​หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ดูเหมือนอะไรหลายๆ อย่างจะเป็นใจใช่ไหม​ แต่มันผิดแล้ว ผมกับพี่นายจับมือกันได้เพียงสิบวิเท่านั้น ไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้แม่งเสือกเดินมาหาของกินในครัว ผมรีบกระเด้งตัวถอยห่างจากพี่นายออกมาร้อยเมตรเลยทีเดียว

          ​ในตอนเช้าของวันนั้น พี่นายก็มาส่งผมที่บ้านและก็กลับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมรู้สึกเสียเซลฟ์ชะมัด ตกลงตอนนี้เราเป็นอะไรกันผมก็ไม่เข้าใจ ยิ่งคิดยิ่งเซง

          ​" เมี่ยง มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย " ผมนั่งอยู่กับเพื่อนรักผมในโรงอาหารตอนพักเที่ยง ผมเหลือบมองพี่โรลที่คอยแต่จะดอดหอมแก้มเมียอยู่ตลอดเวลา เหมือนแมวที่กำลังจ้องปลาย่าง เห้อ ให้มันได้อย่างงี้สิ อิจฉาเหรอ ม๊าย มันไม่ช๊ายเล้ย จริงจริ๊ง

          ​" ซื้อข้าวมาหรือ​ยัง " ผมไม่มองหน้าไอ้คนที่เพิ่งนั่งลงตรงข้ามผม เหอะ มาก็ช้า ไม่อยากมาก็บอก

          ​" ลี่ เพื่อนเป็นอะไรอ่ะ " ไอ้พี่นายที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมหันหน้าไปถามลี่และขมวดคิ้วน้อยๆ

          ​" ไม่รู้มันอ่ะพี่ สงสัยเมนส์มา ฮ่าๆๆ " ผมตวัดสายตาอันแหลมคมไปทิ่มแทงไอ้เพื่อนปากดีของผม

          ​" เอาอะไร จะได้ไปซื้อให้ " ไอ้พี่นายมองผมพลางถอนหายใจ

          ​" อะไรก็ได้ " ผมตอบส่งๆ ไปงั้น

          ​" โหย พี่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจ นิสัยไม่ดี อย่าไปตามใจมันมากพี่นาย ซื้อให้ลี่ก็ได้ ลี่เอาข้าวมันไก่ " ลี่มึงเป็นเพื่อนใครแน่ฟะ และดูจากการกินมึงแล้ว มึงได้กลิ้งอีกแน่ๆ

          ​" กูเอาข้าว... " พี่นายลุกหนีไปก่อนที่พี่โรลจะพูดจบ ทำเอาไอ้ลี่หัวเราะท้องแข็งเลยทีเดียว แต่สุดท้ายพี่โรลก็ลุกไปกอดคอพี่นายและเดินไปด้วยกัน หึ่ยย ให้มันได้อย่างงี้สิ คนหล่อเซ็ง

          ​" นี่ กูถามจริงๆ นะ พี่นายไม่จัดให้มึงเหรอ หน้าถึงเป็นตูดขนาดนี้ ฮ่าๆๆ " ผมหรี่ตามองไอ้ลี่และดึงแก้มมันแรงๆ  หนอยย ชีวิตดี๊ดีนะมึงน่ะ

          ​" จัดหอกอะไรล่ะ ทำไมต้องจัด " ผมไม่รู้ว่ามันรู้มากแค่ไหน พี่นายบอกมันหรือ​ยัง แต่จริงๆ ผมก็จะบอกมันอยู่แล้ว เราไม่มีอะไรปิดบังกัน

          ​" เจ็บนะเฟ้ย ฟ้องพี่โรล " เหอะ ผมมองไอ้ลี่ที่แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม

          ​" เป็นแฟนกันแล้วใช่ป่ะ " ไอ้ลี่ทำหน้ายิ้มแบบที่ผมชอบทำ ผมเริ่มรู้แล้วว่า หน้าแบบนี้แม่งทำให้คันเท้าดีจริงๆ

          ​" แฟนอะไรล่ะ ไม่เห็นจะเหมือนเลย " ผมคิดจริงๆ นะว่า คืนนั้นอาจจะแค่ฝันไป ผมคงเมาจนมโนสุดขีดไปเลย

          ​" แล้วตกลงมึงรับใช่ไหม​ ไหวเหรอ " ผมส่ายหัวรัวๆ เอาจริงๆ ผมคิดว่าถ้าดูจากขนาดตัวแล้วผมด้อยกว่า แต่ผมก็ไม่อยากรับอ่ะ ดูแล้วน่าจะทรมานน่าดู แค่คิดก็ปวดมวนในท้องแล้ว
          ​
          ​" กูจะรุก " ผมพูดอย่างแน่วแน่ แต่ไอ้ลี่กลับรีบหันหน้าหนีผมซะงั้น เป็นห่าอะไรอีกมึง

          ​แต่ผมก็รู้สึกว่าเหมือนมีเงามืดอยู่ด้านหลังผม ทำให้ผมแหงนคอขึ้นไปมอง และก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เพราะพี่นายนั้นตอนนี้ยืนอยู่ด้านหลังผมด้วยใบหน้าตกใจเล็กน้อย

          ​ผมรีบนั่งตัวตรงมองพี่นายที่เดินมานั่งตรงข้ามผมพร้อมวางจานข้าวให้ตรงหน้า

          ​" ไอ้ที่คิดอยู่น่ะ เลิกซะ เพราะมันไม่มีทาง " พี่นายพูดเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เหรอๆๆ จะรับหรือจะเลิกห๊ะเลือกเอา แต่ผมก็ได้แค่คิด ไม่กล้าพูดออกไปหรอก ชิ

          ​" ไม่เลิก " ผมพูดด้วยใบหน้ากวนประสาท ของแบบนี้ใครเสียบก่อนได้เปรียบเฟ้ย

          ​ผมเหลือบมองพี่โรลที่กำลังป้อนข้าวป้อนน้ำภรรเมียอย่างประเจิดประเจ้อ รำคาญลูกกะตาเฟ้ย

          ​และเมื่อเทียบกันแล้ว ผมมองไอ้คนตรงหน้าที่กินข้าวแล้วยังเจือกเปิดหนังสืออ่านไปด้วย มันใช่เวลาไหม​ห๊า

          ​พี่นายที่เหมือนจะรู้สึกได้ถึงรังสีของความอิจฉาตาร้อนก็ละสายตาจากหนังสือมามองหน้าผมพลางเลิกคิ้วน้อยๆแบบคนสงสัย
          ​          ​
          ​" ไม่อร่อยเหรอ เอาอย่างอื่นไหม​ " พี่นายวางหนังสือลงและจ้องมองผมแทน

          ​" ไม่ใช่ผู้หญิงนะ ไม่ต้องมาทำเอาใจ " บางทีผมก็อยากตบปากตัวเองจริงๆ แล้วมึงต้องการอะไรกันแน่ฟะ ไม่นานพี่เขาต้องเกลียดมึงแน่ๆ

          ​" พี่นาย มันกวนทีนแบบนี้แหละ เรียกร้องความสนใจ " ไอ้ลี่ทำท่าป้องปากพูดเบาๆ กับพี่นายแต่ผมได้ยินทุกคำ เดี๋ยวเถอะมื๊งง

          ​" ลืมไปเลย พรุ่งนี้ไปสวนน้ำกันนะ นาย เมี่ยงด้วย " อยู่ดีๆ พี่โรลก็พูดขึ้นมาเสียงดังลั่นโต๊ะ

          ​" มีงานเหรอครับ " ลี่ถามพี่โรล

          ​" ไม่ใช่เดินแบบนะ อันนี้ถ่าย MV เพลง " หืมมม พี่โรลกลับคืนสู่วงการแล้วสินะ หมั่นไส้ไอ้ลี่ ดูจะปลาบปลื้มผัวซะเหลือเกิน

          ​" หูยย แบบนี้นางเอก MV ต้องน่ารักมากแน่ๆ " ผมพูดแหย่ไอ้ลี่ที่หุบยิ้มลงอย่างรวดเร็ว ผัวมึงโดนชะนีลวนลามแน่ลี่เอ้ย ฮ่าๆๆ

          ​ในวันรุ่งขึ้น พี่นายนั้นขับรถมารับผมกับลี่ด้วยเบ๊นซ์สีดำคันเดิม ผมเมินพี่นายที่เปิดประตูด้านข้างคนขับให้ผม และเดินไปนั่งกับลี่ที่เบาะหลังแทน ทำเอาพี่นายหน้าซึมไปเลย ผมแกล้งพี่นายมากไปงั้นเหรอ เปล่าหรอก ผมอยากให้ไอ้บ้านี่ตะบะแตกและทำตัวเหมือนชอบผมจริงๆ บ้างอ่ะ แม่งโครตจะนิ่ง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่

          ​ไม่นานพวกเราก็มาถึงสวนน้ำขนาดใหญ่ สถานที่ถ่ายทำมิวสิควีดีโอของพี่โรล พวกเราถือว่าเป็นแขก VIP เลยสามารถเข้าไปในกองถ่ายเพื่อดูเบื้องหลังการถ่ายทำได้ ผมเห็นไอ้ลี่ดูตื่นเต้นดีใจเหลือเกิน ก็นะ เป็นใครก็ต้องภูมิใจที่แฟนกำลังรุ่งขนาดนี้

          ​ผมมองพี่โรลที่ใส่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นและกำลังยืนมองหน้าจอภาพที่ถ่ายทำอยู่กับทีมงาน เดี๋ยวนะ นี่พี่เพิ่งจะบาดเจ็บสาหัสมาเมื่อไม่กี่เดือนเองนะ พี่เอาเวลาไหนไปฟิตหุ่นวะ พี่แม่งโครตไอดอลผมเลย

          ​" น้ำลายหกแล้ว " ผมเอามือลูบหน้าเพื่อนที่กำลังมองผัวตัวเองด้วยรอยยิ้ม หมั่นไส้ๆ

          ​" น้องคะ พอดีนักแสดงคนนึงมาไม่ได้อ่าค่ะ ช่วยพวกพี่หน่อยได้ไหม​ มีค่าตอบแทนนะ " ผมหันไปตามเสียงนั้นและพบว่าพี่นายกำลังโดนทีมงานล้อมหน้าล้อมหลังอยู่

          ​" ผมไม่ได้เดือดร้อนเงินซะหน่อย " พี่นายส่ายหน้าและพยายามเดินหนีทีมงานพวกนั้น ผมแอบยิ้มขำ เอาเงินไปล่อคนที่มีเงิน พวกพี่พลาดแล้ว

          ​" ตกลงครับ พี่นายช่วยเล่นอยู่แล้วเนอะ ใช่ป่ะ " ผมรีบเดินเข้าไปตอบตกลงแทนพี่นาย ผมอยากเห็นพี่นายปล่อยไก่หน้ากล้อง ฮ่าๆ

          ​พี่นายมองผมด้วยสีหน้ารำคาญใจ และก็ถอนหายใจรัวๆ เลยทีเดียว

          ​" เอ้อ หนุ่มแว่นนี่หล่อมากเลย เป็นเพื่อนกับโรลเหรอ แบบนี้เยี่ยมเลย " ผมแอบขำพี่นายที่ทำท่าเหมือนจะตาย พี่แกคงไม่อยากจริงๆ นั่นแหละ ซึ่งมันแปลกมาก พี่นายเป็นนักกิจกรรมตัวยง เป็นพี่วินัย และก็ดูเหมือนจะได้เป็นประธานสภานิสิตเร็วๆ นี้ด้วย แต่กลับกลัวกล้องถ่ายหนังซะงั้น ฮ่าๆ

          ​" กลัวกล้องหรือ​ไง " ผมแอบเดินเข้าไปพูดเบาๆ ข้างหลังพี่นาย

          ​" เปล่า " พี่นายพูดและทำหน้าบูดเหมือนเดิม

          ​" แล้วทำไมอ่ะ " ผมถามด้วยความสงสัย

          ​" ก็ วันนี้อุตส่าห์ได้มาเดททั้งที อยากอยู่ด้วยกัน อยากไปเล่นเครื่องเล่น อยากทำอะไรตั้้งเยอะ ไม่อยากติดอยู่ตรงนี้ " พี่นายจับไหล่และจ้องตาผมพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าเปลี่ยนสีไปเรียบร้อย ไอ้บ้า พูดอะไรฟะเนี่ย นี่คิดแบบนั้นอยู่หรอกเหรอ

          ​" ถ่ายเสร็จก็ไปเล่นก็ได้ " ผมพูดอ้อมแอ้มในลำคอ อ้ากกก เขินดิแบบนี้

          ​ผมเดินขาแข็งหนีพี่นายออกมาและมากอดคอเพื่อนรักไว้

          ​" อารมณ์ดีอะไรของมึง " ไอ้ลี่หันมายิ้มให้ผมด้วยใบหน้ารู้ดี

          ​" เปล่า " ผมพูดและเหลือบมองพี่นายที่กำลังเดินตามทีมงานเข้าไปด้านหลัง

          ​' คัดๆๆๆ '

          ​' เอาใหม่ๆ อีกรอบ '

          ​ผมหันไปมองพี่โรลที่กำลังเข้าฉากกับนางเอก MV แสนสวย คนที่เล่นเป็นนางเอกนั้นดูจะปลื้มพี่โรลไม่ใช่น้อย ก็นะ พี่โรลนั้นทั้งหุ่นดี แถมหน้าตาดีขั้นเทพ และพี่โรลนั้นการแสดงก็ไม่ใช่ย่อย สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมานั้นถือว่าทำได้ดีมากๆ ไม่มีหลุดติ๊งต๊องบ้าๆ บอๆ เหมือนตอนอยู่กับเมียเลยสักนิด มืออาชีพสุดๆ

          ​' พี่รักลี่ แต่ว่า... '

          ​' คัดๆๆๆๆ '

          ​' นางเอกชื่อมิ้นครับน้องโรล ทำไมมันกลายเป็นลี่ไปซะทุกที '

          ​ลี่ที่กำลังกินน้ำหวานที่ทีมงานเดินแจกอยู่ก็พ่นพรวดออกมาทันที ผมหัวเราะจนตัวงอ ไอ้พี่โรลดูเหมือนอะไรจะดีหมดทุกอย่าง แต่มาตกม้าตายตอนพูดตามบทนี่แหละ หัวใจพี่แกไม่ทำตามสมองเลยสักนิด จ้องแต่จะพูดชื่อลี่อยู่นั่นเอง ผมละปวดหัวแทนผู้กำกับ พี่นี่มันบ้าของแท้

          ​" กูไปดีกว่า อายชิบหาย " ผมคว้าไหล่ไอ้ลี่ที่กำลังจะวิ่งหนีด้วยความอาย ก็นะ เป็นผมก็คงอายแทบแทรกแผ่นดินหนีเลยทีเดียว

          ​และผมที่กำลังแหย่ไอ้ลี่และล็อคคอมันไว้ก็ต้องชะงัก ผมมองพี่นายที่เดินออกมาจากหลังกองถ่ายเพื่อมาเข้ากล้องด้วยใบหน้าเบื่อๆ พี่นายถูกถอดแว่นออกและเซ็ตผมใหม่ เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่นายเปลือยท่อนบน ผมเคยนึกสงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าหนอนหนังสือแบบพี่นายนั้นหุ่นจะเป็นแบบไหน และผมก็ต้องบอกว่าผมคิดผิด พี่นายกับพี่โรลนั้นมีรูปร่างใกล้เคียงกันมาก แต่พี่โรลนั้นกล้ามเนื้อจะชัดเจนกว่าเพราะเป็นพวกชอบเล่นกีฬาอย่างมวยอะไรแบบนี้ แต่พี่นายเนี่ยนะ นี่เอ็งเอาเวลาไหนไปเข้าฟิตเนสฟะ

          ​" น้ำลายหกแล้ว " ผมรู้สึกว่าผมโดนลูบหน้า นี่มึงเอาคืนกูเหรอลี่

          ​ผมมองพี่นายที่กำลังถือบทและเถียงกำผู้กำกับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นี่พี่ได้บทแบบไหนกันถึงทำให้พี่ปรี๊ดแตกขนาดนั้น

          ​พี่นายที่กำลังก้มลงอ่านบทนั้น อยู่ดีๆ ก็เหลือบตาขึ้นมามองผม ทำให้ผมที่กำลังแอบมองพี่นายอยู่นั้น ต้องรีบหันหน้าหนีอย่างรวดเร็ว ขวัญเอ้ยขวัญมา กูจะเขินทำมะเขืออะไรฟะเนี่ย

          ​' พี่รักลี่ แต่... '

          ​' โอ้ยย คัดๆๆๆ โอเคๆ เปลี่ยนชื่อนางเอกเป็นลี่ละกัน ไม่งั้นวันนี้ไม่จบแน่ๆ '

          ​ผมหัวเราะก๊ากอยู่ข้างๆ ไอ้ลี่ที่นั่งยองๆ กับพื้นและปิดหน้าไว้แน่นด้วยความอาย มึงควรจะดีใจนะลี่ ไม่มีใครซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองได้เท่าไอ้พี่โรลอีกแล้ว แม่งยอมเขาเลย ผู้กำกับยังยอมแพ้ถึงขนาดต้องเปลี่ยนชื่อนางเอกตามใจพี่แกอ่ะแม่งโครตไม่ธรรมดา กร๊ากกก

          ​ผมมองพี่นายที่เริ่มเข้ามาร่วมฉากกับพี่โรล ดูเหมือนทั้งสองจะเป็นเพื่อนรักกัน ซึ่งก็คงไม่ยากเพราะว่าพี่โรลกับพี่นายนั้นก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว แต่ใน MV มันดูแปลกๆ มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

          ​ผมมองพี่นายที่ทำท่าทางเหยียดๆ พี่โรลเล็กน้อยเวลาต้องกอดคอกัน หืมม ปกติก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ ก็รักกันดี และอยู่ดีๆ นางเอก MV ก็เข้ามาและตบพี่โรลซะงั้น ผมเพิ่งเห็นฉากเนื้อเรื่องเต็มๆ ก็ตอนนี้แหละ ดุเดือดทีเดียว ผมกับลี่นั่งลงมองการถ่ายทำตรงหน้าแบบเพลินๆ พลางกินน้ำกินขนมของกองถ่ายอย่างสบายใจ

          ​' พี่รักลี่ แต่ว่า พี่เลือกเพื่อนมากกว่า '

          ​ผมกับไอ้ลี่พร้อมใจกันพ่นน้ำพรวดดดดออกมา และไอ้ลี่ถึงกับบีบแก้วน้ำแหลกคามือเลยทีเดียว นี่มันเพลงอะไรของม๊านน แนววายนี่หว่า ถึงว่าพี่นายดูไม่อยากเล่นน่าดู ฮ่าๆๆๆๆ

          ​ผมมองพี่โรลที่หันไปกอดพี่นายไว้แน่น และพาพี่นายวิ่งหนีชะนีที่ร้องกรี๊ดกร๊าดดปานจะขาดใจ ผมก็จะขาดใจเช่นกัน หัวเราะเนี่ย ไม่ไหวแล้วโว้ย ฮ่าๆๆ

          ​ผมยังคงนอนดิ้นหัวเราะอยู่กับพื้นจนพี่นายกับพี่โรลที่ถ่ายเสร็จแล้วเดินมาหาและไอ้ลี่ก็เหยียบผมด้วยความหมั่นไส้

          ​" ไหน ใครรุกใครรับ " ผมพูดแหย่และหัวเราะก๊ากต่อไป พี่นายหน้าบูดสุดๆ แต่พี่โรลกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ ทั้งสิ้นยังคงยิ้มและดูมีความสุขกับงาน

          ​" ปากดีตลอด เดี๋ยวจะโดน " พี่นายพูดกับผมด้วยสีหน้าเหมือนเดิม เปิดตัวทั้งทีโดนจับเล่นเป็นแนวชายรักชายซะงั้น แต่เอาจริงๆ พวกพี่ก็แนวนั้นนี่ แต่จับรุกทั้งคู่มาชนกันนี่ฮาชะมัด

          ​หลังจากถ่ายทำเสร็จ พวกเราก็ยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อย ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและลงไปว่ายน้ำเล่นกัน ในตอนแรกนั้นผมรู้สึกค่อนข้างจะพอใจในรูปร่างตัวเองมาก เพราะผมนั้นไม่ได้ผอมแบบผอมแห้ง ผมนั้นก็เล่นกีฬาและฟิตร่างกายบ้าง เรียกได้ว่าผมมีร่างกายสมส่วน ไม่อ้วนไม่ผอมและมีกล้ามเนื้อพอเห็นรางๆ ไม่เหมือนลี่ที่ตัวเล็กและดูนุ่มนิ่มนวลเนียนไปหมด ทำเอาผู้ชายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามองตามก้นกันตาเป็นมัน และแน่นอน ผมปกป้องเพื่อนเสมอ ผมเดินปิดหน้าปิดหลังเป็นบอดี้การ์ดจำเป็น ผมละเห็นใจมันจริงๆ ที่มีร่างกายแบบนี้ มึงเป็นผู้ชายแน่เปล่าเนี่ย

          ​" น่ารักดีจัง " ผมรีบเดินไปหาไอ้คนที่มองพวกเราอยู่ ผมไม่ชอบให้ใครแซวเพื่อนผม เสียมารยาท

          ​" เพื่อนกูมีแฟนแล้ว อย่าเสือก " ผมไม่สนใจไอ้ลี่ที่เดินมาดึงผมเบาๆ

          ​" เพื่อนน้องก็น่ารัก แต่พี่ชอบแบบน้องมากกว่า " ผมขมวดคิ้วก้าวถอยหลัง นี่มันแซวผมหรอกเหรอ หนอย กัดฟันไว้เลย ไอ้หนวด กูจะอัดมึงแน่ๆ

          ​" มีแฟนแล้วทั้งสองคนนั่นแหละ " ผมหันไปมองพี่นายที่พูดเรียบๆ และเดินมายืนขวางระหว่างผมกับไอ้หนวดไว้ และพี่โรลที่เหี้ยมกว่า เดินเข้าไปชนมันจนเซถอยหลังไปเลย

          ​" อย่ายุ่งกับเมียกู เมียเพื่อนกูด้วย ถ้าไม่อยากเจ็บตัว " ผมหันขวับไปมองพี่โรลทันที พี่ครับ ผมยังซิงครับ เพื่อนพี่มันยังไม่จัดผมเลยครับ หึ่ยย

          ​ผมที่ได้ทีก็ดึงไอ้ลี่แล้ววิ่งโกยออกจากตรงนั้น โดดพุ่งลงน้ำอย่างรวดเร็ว ปล่อยมันต่อยกันไป เราไปเล่นกันเถอะเพื่อน

          ​" ลี่ รอพี่ด้วยยย "  ไม่นานพี่โรลก็วิ่งตามมาและรีบไปตะครุบเมียตัวเองในน้ำทันที หนอยย เหม็นฟามรักโว้ย

          ​ผมเหลือบมองพี่นายที่เดินตามมาช้าๆ ค่อยๆ หย่นตัวลงน้ำและดำน้ำมาทางผม และก็แน่นอนผมรีบฟรีสไตล์สี่คูณร้อยเมตรหนีสิคร๊าบบ รออะไรล่ะ หึหึ

          ​แต่ผมที่มั่นใจในสกิลการว่ายน้ำของตัวเองนั้นก็แทบจะร้องกรี๊ด เพราะขาของผมตอนนี้กำลังถูกดึงจากคนที่ว่ายตามมาอย่างรวดเร็ว นี่พี่เป็นฉลามหรือ​ไงนะ

          ​" อย่าไปที่ลึกมาก อันตราย " พี่นายดึงแขนผมและลากให้กลับไปที่เดิม

          ​" ไม่เป็นไรหรอกน่า ว่ายน้ำเป็น เก่งด้วย " ผมพูดและพยายามจะว่ายออกไปตามเดิม

          ​" อย่าดื้อ " ผมถูกดึงเอาไว้อีกครั้ง หนอยย เป็นพ่อหรือ​ไงเนี่ย ดุผมอีกแน่ะ

          ​" เมี่ยงงง ไปเล่นสไลเดอร์กัน " ผมหันไปมองไอ้ลี่ที่กำลังกวักมือเรียกผม

          ​ผมมองสไลเดอร์ที่โครตจะสูงเลยครับเพ่น้อง น่ากลัวชิบหาย แต่ไม่ได้ๆ จะให้ไอ้คนข้างหลังรู้ไม่ได้เสียฟอร์มหมด

          ​ผมค่อยๆ กระดึ๊บๆ หนีจากพี่นาย ว่ายน้ำตามเพื่อนรักไปสู่สไลเดอร์ที่สูงสักตึกสามชั้นได้

          ​ผมค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนสุดของสไลเดอร์ ตามตูดไอ้ลี่กับผัวมัน พี่โรลนั้นให้ลี่นั่งลงก่อนและตัวเองก็นั่งซ้อนหลังอีกที กอดกันกลม และไหลลงไปพร้อมกัน เหม็นฟามรักโว้ยย ชิ

          ​ผมที่คิดว่าผมมีความกล้าอยู่เต็มเปี่ยม แต่พอต้องมายืน ณ จุดๆ นี้จริงๆ กับขาสั่นใช่เล่น ผมมองลงไปด้านล่างด้วยใจหวิวๆ โอ้ย ไม่เอาดีกว่า ไม่ไหวอ่ะ ฉี่จะราด

          ​แต่ผมที่หันหลังกลับก็พบว่า ไอ้พี่นายนั้นยืนอยู่ข้างหลังผมและกำลังกอดอกจ้องมองผมอยู่

          ​" ทำอะไร นั่งลงสิ " ผมขาสั่นน้อยๆ และพยายามจะลอดใต้แขนไอ้พี่นายเพื่อกลับลงไปข้างล่าง แต่พี่นายก็กางแขนออกกั้นเอาไว้และยิ้มน้อยๆ เหมือนกำลังแกล้งผมอยู่

          ​พี่นายกางแขนและเดินเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ผมก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ

          ​" จะรีบไปไหนล่ะ เล่นด้วยกันก่อนสิ " หนอย ขี้แกล้งเหมือนกันนะเนี่ย ไอ้บ้าเอ้ย

          ​" ไม่เอาไม่เล่นแล้ว " ผมไม่กลัวกลัวเสียฟอร์มอีกแล้ว ผมจะออกไปจากตรงนี้ อย่าแกล้งกันสิโว้ย

          ​แต่ผมที่ถอยมาจนสุดแล้วก็รู้สึกว่าผมกำลังจะตกลงไปบนราง ผมที่ตกใจสุดๆ ก็คว้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและกอดเอาไว้แน่น ผมหลับตาและฟังเสียงหัวเราะเบาๆ ของไอ้คนที่แกล้งผม

          ​ผมรู้สึกว่าแขนของคนตรงหน้านั้นก็กำลังโอบกอดผมเอาไว้เหมือนกัน กลายเป็นว่าพวกเรานั้นกำลังกอดกันไปมา ผมหลับตาลงและยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข เป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่า



การที่เรากอดใครสักคนด้วยความรัก มันเป็นแบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-12-2017 17:48:29
 o13 :-[

ขอบคุณมากมาย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-12-2017 18:10:24
น่ารัก^^
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 30-12-2017 00:31:13
 :oo1: :-[ เมี่ยงน่ารัก ไม่ไหวแล้วววววว :ling1: :ling1:

แอบอ่อยอิพี่มันละสิ ดีใจละสิที่พี่มันกอด

 :ling2: :ling2: จะมีตอยพิเศษคู้นี้ไหมน้าาาา  ชอบคู่นี้มากๆๆ
อยากรู้ว่าแสบมันจะรุก อิพี่ได้ไหมแล้ว พี่นายจะจัดการตัวแสบยังไงงงงงง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-12-2017 01:01:15
เมี่ยงรับ ๆ ไปเถอะ เด๋วค่อยไปรุกตอนพี่นายเผลอก็ได้  o18
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 30-12-2017 07:27:49
น้องเมี่ยงคนงาม555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 30-12-2017 08:58:04
พี่โรลคนฮา โรลรักลี่มาก55555
พี่นายอยากให้เมี่ยงกอดอ่ะดิเลยแกล้งน้อง อิอิ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#44 สีสันของความรัก]((29/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 07-01-2018 13:25:51
          Calorie ที่ 45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป


          ผมนั่งอยู่บนเตียงในห้องนอนสีเขียวเล็กๆ ของผม สิ่งต่างๆ มากมายหลายอย่างในชีวิตนั้นก็ยังคงดำเนินต่อไปดั่งเช่นทุกวัน

          ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นถึงแม้จะมีทั้งความสุขและความทุกข์ ปนเปกันไป แต่มันก็ทำให้ผมนั้นเรียนรู้และเติบโตขึ้น และที่แน่นอนที่สุดก็คือ ตอนนี้ผมมีความสุข ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปในทางที่ดี

          " อาเฮีย รีบลงมาเร็ว จะเริ่มแล้วนะ! " ผมหันมองตามเสียงเรียกของน้องสาวจากด้านล่าง

          ผมค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง เดินไปอุ้มมาร์ชแมลโลว์ขึ้นมาจากพื้น ตอนนี้มาร์ชมาอยู่ที่บ้านของผมได้สักระยะหนึ่งแล้ว ผมรู้สึกว่าเราทั้งสองนั้นช่างคล้ายกันเหลือเกิน กินๆ นอนๆ และน่ารัก หึหึ

          " เมี๊ยวววว " แกก็คิดถึงพี่โรลเหมือนกันใช่ไหมนะ ผมเกาคางย้อยๆ และพุงย้วยๆ ของมันเล่น

          " อาเฮีย!! "

          " รู้แล้วๆ " ขืนปล่อยให้เรียกมากกว่านี้จากเฮียคงกลายร่างเป็นสัตว์ที่ชอบกินไก่ดิบเป็นแน่

          ผมวางมาร์ชลงกับพื้นและเดินลงบันไดไปที่ชั้นล่าง และเมื่อลงมาถึงก็พบกับเพื่อนซี้ที่กำลังจกขนมบ้านผมอยู่เช่นเคย

          " ไง หล่อว่ะ "

          " แน่นอน " ผมยักไหล่ชิลๆ ให้ไอ้เมี่ยงที่เบะปากมองผมอย่างหมั่นไส้ มันเดินมากอดคอผมและพวกเราก็กำลังยืนมองจอทีวีในโถงรับแขกของบ้านผมด้วยกัน

          ผมมองละครในทีวีที่กำลังฉายและยิ้มกว้างทันทีที่บุคคลคนหนึ่งปรากฎขึ้นมา

          พี่โรลนั้นเป็นคนเก่ง และมีความสามารถรอบด้าน ถ้าลองนึกย้อนกลับไป ถ้าผมไม่ได้ถูกตาต้องใจพี่โรลแล้วละก็ จะมีทางไหนกันนะ ที่ผมจะสามารถคว้าหัวใจของคนที่มีทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมแบบนั้น คนที่ต่อให้ผมหลงรักแค่ไหนก็คงได้แต่ยืนมองเท่านั้น

          " พี่โรลแม่งหล่อชิบหาย ไอดอลกู "

          " แต่น้อยกว่าผัวมึงใช่ไหม​ " ผมพูดและหัวเราะเบาๆ ไม่รู้วันนี้พี่นายหายไปไหน ปกติจะเห็นมาหาไอ้เมี่ยงบ่อยๆ

          " ผัวอะไรล่ะ นอนแก้ผ้ากูยังปลอดภัยเลย " โถ เพื่อนผู้อาภัพของผม ฮ่าๆ

          " อ่อยอ่ะเป็นไหม​ " ผมพูดแหย่มัน

          " กูแมนๆ อ่อยเอ่ยอะไร ไม่มี๊ ว่าแต่มึงเถอะ พี่โรลไม่ค่อยกลับเชียงใหม่เลยนี่หว่า รูแห้งหมดแล้วมั้ง โอ้ยย " ผมเขกกบาลมันไปหนึ่งที ปากดีจริงๆ

          พี่โรลนั้นพอเริ่มเข้าวงการก็รับงานจนแทบจะไม่มีเวลากลับมาที่บ้าน ผมรออยู่ที่นี่โทรหาและคุยโทรศัพท์กันทุกวัน ทุกเวลาที่พี่โรลว่าง หลายๆ คนก็เป็นห่วงผม เพราะว่าตอนนี้รอบๆ ตัวพี่โรลนั้นมีแต่คนหน้าตาดีๆ แสงสีและสตรีอาจทำให้ผู้คนหลงผิดไปได้ แต่ไม่ใช่กับแฟนของผม ผมพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่า พี่โรลนั้นไม่มีทางนอกใจผมได้

          Rrrr Rrrr

          ว่าแล้วก็โทรมาทันที นี่เราเพิ่งคุยกันเมื่อ 20 นาทีก่อนเองนะเพ่

          ' ดูอยู่หรือเปล่า ผัวหล่อไหม​เมีย ' ผมรีบตะครุบปิดลำโพงมือถือทันที โอ้ยย จะตะโกนทำไมเนี่ย

          ' เปิดกล้องหน่อยยย คิดถึงงง ' ผมเดินหลบมุมมาตรงที่ไม่มีคนและเปิดกล้องขึ้น

          ' งือออออ น่าร้ากกก '

          ' ไอ้บ้า ' ผมเขินและทำแก้มป่องใส่ไอ้คนชอบโอเวอร์

          ' ของขึ้นเลยนะเนี่ย คืนนี้เซ็กส์โฟนไหม​ที่รัก '

          ' พูดอะไรเนี่ย เดี๋ยวม๊าก็ได้ยินพอดี ' ผมหันมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง

          ' โอ้ย อยากกลับ อยากกอด อยากน้วย ' ผมหัวเราะมองพี่โรลที่กำลังพยายามจะเลียหน้าจอ

          ' ก็กลับมาสิ ผมคิดถึง ' ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ปิดบังความเหงา

          ' จูบบบหน่อยย ' พี่โรลพูดและทำปากจู๋ ผมหน้าแดงน้อยๆ และประทับริมฝีปากลงบนกล้อง

          " เหม็นฟามรัก " ผมสะดุ้งทันทีที่เห็นไอ้หอกเมี่ยงยืนพิงผนังมองผม

          " ยุ่งไม่เข้าเรื่องนะมึง " ผมยิ้มและมองหน้าจอโบกมือบ๊ายบายพี่โรลในกล้องและวางสายไป

          " มึงว่าพี่นายเขา ชอบกูจริงๆ หรือ​เปล่าวะ " ผมมองไอ้เมี่ยงที่ยิ้มเศร้าๆ

          " คนเราจะแสดงความรักเหมือนกันได้ยังไง พี่เขาก็เป็นตัวเขานั่นแหละ " แต่ผมก็ว่าพี่นายทำเกินไปแล้วนะ แบบนี้เพื่อนผมหงอยแย่ ถ้าเจอจะต้องว่ากล่าวกันหน่อยแล้ว

          " ก็ดูดิ วันนี้หายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่รับสาย ไม่โทรกลับ " ผมเดินไปกอดคอเพื่อน

          " แต่เมื่อคืนพี่เขาก็ไปนอนบ้านมึงนี่ "

          " นอนพื้น ตื่นเช้ามาก็หายไป กูจะไม่ทนแล้วนะ "

          " มึงจะเลิกเหรอ " ผมพูดด้วยความตกใจ

          " ปล้ำ "

          " ถรุ๊ยย "

          " พูดอย่างเดียวก็ได้ เอฟเฟคมึงแน่นมาก " ไอ้เมี่ยงพูดพลางลูบหน้าตัวเอง

          พี่โรลนั้นไปทำงานที่กรุงเทพฯ เกือบเดือนแล้ว ถึงผมจะยินดีกับสิ่งที่พี่โรลทำแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเรานั้นมักมีเรื่องให้ไกลห่างกันอยู่เสมอ เหมือนกับครั้งนั้นที่พี่โรลป่วยและรักษาตัวอยู่ที่รัสเซีย มันเป็นอะไรที่ทรมานมาก

          แต่จะให้ผมห้ามไม่ให้พี่โรลไป ให้ผมเห็นแก่ตัว ผมก็ทำไม่ได้ อะไรที่ทำให้พี่มีความสุข ผมก็มีความสุข

          ผมเดินไปเรื่อยๆ ผ่านผู้คนหลากหลายในยามค่ำคืน ผมมองเพื่อนรักที่เดินข้างๆ ผม มันก็ไม่ต่างอะไรจากผมเท่าไหร่ ความเหงาความเศร้าที่อยู่ในหัวใจ แต่ของมันหนักกว่าที่มีความไม่เข้าใจเพิ่มขึ้นไปด้วย

          ' ข่าวบันเทิงรอบค่ำวันนี้ สัมภาษณ์พระเอกน้องใหม่คนดังของเรา ' ผมที่เดินผ่านร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าก็บังเอิญได้เห็นพี่โรลบนจอภาพพอดี

          ' อันนี้แฟนๆ ถามกันเข้ามาเยอะมาก ตอนนี้โรลมีคนที่คบหาดูใจอยู่หรือ​เปล่าคะ '

          ผมค่อยๆ เดินเข้าไปดูจอทีวีนั้นใกล้ๆ จ้องมองดูคนที่ผมรัก กำลังพูดคุยกับผู้หญิงที่เป็นพิธีกรสวย พี่โรลนั้นดูหล่อขึ้นมาก ออร่าที่แผ่ออกมานั้น ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างก็ต้องหลงไหล

          ' เรื่องความรัก คือ... ' ผมมองพี่โรลที่ทำท่าทางลังเล ดูฝืนใจกล้ำกลืนคำพูดเอาไว้ ผมยิ้มน้อยๆ พี่ทำได้ครับ ถ้าพี่อยากไปได้ไกลกว่านี้ ก็จงทิ้งผมเอาไว้ข้างหลังซะ บอกเขาไปสิว่าพี่ไม่มีใคร ผมไม่เป็นไร นี่เป็นคำขอของผม ก่อนที่พี่จะไปทำงานในแวดวงนี้

          ' ไม่มีแฟนครับ ' ผมหัวใจสั่นไหวอยู่ภายใน พี่ทำดีแล้ว ผมจะฉุดรั้งพี่ไว้ไม่ได้ ผมค่อยๆ หันหลังจากจอภาพนั้น โดยมีเพื่อนอยู่ข้างๆ

          ' หล่อขนาดนี้แต่ไม่มีแฟน เป็นไปได้เหรอคะ ' ผมยังคงได้ยินบทสัมภาษณ์นั้น ผู้คนรอบๆ ตัวผมต่างกำลังสนใจจอทีวีตรงหน้า เรียกได้ว่า พี่โรลนั้นประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว และเป็นดารานายแบบที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ

          ' มีแต่คู่หมั้นครับ ' ผมที่กำลังหันหลังก็รีบหันหน้ากลับไปที่จอทีวีทันที นี่พี่พูดบ้าอะไรเนี่ย

          ' ที่รัก ดูอยู่หรือ​เปล่า ' ผู้คนต่างมึนงงกับพระเอกสุดหล่อในจอที่อยู่ดีๆ ก็เดินไปที่หน้ากล้องและโบกมือไปมา

          ผมรู้สึกว่า แย่แล้ว ไอ้พี่โรลกำลังจะทำอะไรกันแน่ แล้วคู่หมั้นนั่นมันอะไร พี่หมายถึงใคร

          ผมมองพี่โรลในจอที่จ้องมองกล้องด้วยรอยยิ้มกว้าง

          ' ทุกๆ อย่างที่พี่ทำก็เพื่อลี่เท่านั้น อย่าบอกให้พี่โกหกแบบนั้นเลยนะ ' พี่โรลนั้นอยู่ดีๆ ก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และคุกเข่าลงไปกับพื้นหน้ากล้อง

          ' อยากพูดว่าแต่งงานกันนะก็คงจะเร็วเกินไป ฮ่ะๆ เอาเป็นว่า อยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะนะ ' ผมชะงักค้าง แล้วมันต่างกันตรงไหละนั่น

          ผมมองพี่โรลในจอที่ชูแหวนขึ้นมาและยิ้มหน้าบานสุดๆ ผมปิดหน้าตัวเองไว้ด้วยความเขินอาย แต่จริงๆ ผมแค่ซ่อนน้ำตาเท่านั้น ผมดีใจมาก พี่โรลนั้นให้ความสำคัญกับผมเสมอมา ไม่เคยโกหกหัวใจตัวเองได้เลยสักครั้ง ผมผิดเองที่ขออะไรเห็นแก่ตัวแบบนั้น พี่คงเจ็บปวดใจใช่ไหม​

          " แล้วคำตอบล่ะ " ผมสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นจากฝ่ามือและหันหลังไปตามเสียงที่ได้ยิน

          ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมยิ้มทั้งน้ำตา พี่โรลยืนอยู่ตรงหน้าผมด้วยช่อ เอ่อ ช่อขนมที่จัดเหมือนดอกไม้ช่อใหญ่ มันดูน่ารักและน่ากินมาก

          พี่โรลอยู่ในชุดลำลองสบายๆ อย่างที่ชอบใส่ หนีบแตะแดงแสนรัก แต่ก็ยังดูหล่อออร่าล้นทะลักเหมือนเคย ผมมองด้านหลังพี่โรลที่มีมาสคอตน่ารักตัวใหญ่เป็นน้องแมวที่ถือป้ายเอาไว้ในมือ เขียนว่า

          ' หมั้นกับพี่นะ มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก '

          ผมรับช่อขนมนั้นและยิ้มจนปวดแก้มไปหมด ผู้คนรอบด้านนั้นต่างมุงดูพวกเราและถ่ายรูปกันรัวๆ ผมที่ตอนแรกคิดว่าพวกเราอาจจะถูกแอนตี้ หรือถูกต่อว่า แต่ที่จริงแล้วรอบๆ ตัวนั้นผู้คนต่างยินดีกับเรา โดยเฉพาะสาวๆ ที่จับกลุ่มกรี๊ดกร๊าดกันปานจะขาดใจ

          ผมมองพี่โรลที่ซ่อนของอีกอย่างไว้ด้านหลัง และผมรู้ว่ามันคืออะไร

          " ยังไม่ตอบเลยอ่ะ พี่รออยู่นะ " พี่โรลเริ่มทำคิ้วย่นด้วยความงอน

          " เลือกสถานที่ดีจริงๆ " ผมส่ายหัวน้อยๆ และหัวเราะขำ พี่โรลนั้นเริ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ซะแล้ว ไอ้คนเอาแต่ใจ

          " ครับ ช่วยดูแลผม ตลอดไปด้วยนะ " เสียงกรี๊ดและร้องตะโกนเชียร์โหวกเหวกจากรอบข้างนั้นยิ่งทำให้ผมเขินไปใหญ่

          ผมยิ้มจนตาหยีมองพี่โรลที่จับมือผมและกำลังสวมแหวนที่นิ้วนางให้ผม แหวนที่เอ่อ

          ผมที่ยิ้มก็หุบยิ้มลงทันทีด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น ดูเหมือนทุกคนก็คิดเหมือนกัน นี่มันแหวนบ้าอะไรเนี่ย มันขนมชัดๆ ไอ้อมยิ้มรูปแหวนนี่ยังมีขายอยู่อีกเหรอห๊าา ช่างไปสรรหามาจริงๆ

          แต่ผมที่เพ่งมองแหวนอมยิ้มนี่ดีๆแล้ว ก็พบว่าข้างในอมยิ้มที่เป็นสีเขียวใส มันมีแหวนวงเล็กๆ ถูกซ่อนอยู่ตรงกลาง

          " กว่าจะได้ใส่ก็ฟันผุพอดี " ผมพูดและฟาดพี่โรลไปหนึ่งที

          " เรื่องดูดๆ เลียๆ ที่รักพี่ถนัดอยู่แล้ว โอ้ยย " ผมหยิกพี่โรลแถมไปอีกทีด้วยความหมั่นไส้

          " ขอบคุณครับ " ผมพูดและกอดคนตรงหน้าไว้

          ผมยิ้มและมองเพื่อนรักของผมที่กำลังถูกมาสคอตแมวเหมียวไล่กอดอยู่ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น แบบนี้นี่เอง พี่นายนะพี่นาย ก็ว่าอยู่ว่าหายไปไหน

          " แอบขโมยแฟนเพื่อนผมไปนี่ต้องเครียกันนะ "

          " ง่า ปล่อยเขาเครียกันเองเถอะ เราไปฉลองกันต่อ ที่ห้อง " ผมมองพี่โรลที่กำลังทำตาวิบวับ หนอยย

          ผมใช้ทีเผลอมุดออกจากอ้อมแขนของพี่โรลและใส่เกียร์หมาทันที พลางดึงแขนเพื่อนรักมาด้วย กลายเป็นผม และไอ้เมี่ยง กำลังวิ่งหนีพี่โรล และพี่นายที่อยู่ในชุดมาสคอตวิ่งตามมาอย่างทุลักทุเล

          พวกเราหัวเราะและเล่นกันอย่างสนุกสนานเหมือนที่ผ่านๆ มา มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่า เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขที่สุด

คืนนี้ผมนั้นมาค้างที่คอนโดของพี่โรล และจัดปาร์ตี้เล็กๆ เฉพาะพวกเรา 4 คน พี่โรลนั้นไม่ทำอะไรเลยนอกจากจ้องมองผมและซุกไซร้ตัวผม ยังคงเป็นคนที่ทำตัวเหมือนเด็กเช่นเคย

          " พี่เหนื่อยหรือ​เปล่า ทำแต่งาน แต่ว่าทำไมต้องทำงานหนักด้วยละครับ " ผมถามด้วยความสงสัย จริงๆ พี่โรลนั้นไม่ได้ลำบากเรื่องเงินเลย แต่กลับทำงานอยู่ตลอดเวลา

          " ยังมีอะไรที่พี่อยากทำให้ลี่อีกเยอะ พี่อยากให้มันมาจากความพยายามของพี่เอง "

          " ผมดีใจนะที่พี่คิดแบบนั้น แต่ผมที่อยู่เฉยๆ ก็เหมือนเอาเปรียบน่ะสิ "

          " อย่าคิดแบบนั้นเลย พี่มีความสุขที่ได้ทำ " พี่โรลพูดและยิ้มให้ผม

          " แล้วเรื่องหมั้นนี่ เอาจริงเหรอครับ คือว่า คุณแม่ของพี่... "  ผมรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้เลย

          " ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี เชื่อพี่สิ "

          " แล้วเรื่อง หนิง " ผมรู้สึกว่าบางทีคนคนนี้อาจจะกำลังวางแผนร้ายทำลายงานของพวกเราอยู่ก็ได้

          " พี่ยังไม่ได้บอกเหรอ ผู้หญิงคนนั้นน่ะ ถูกจับแล้วล่ะ "

          " เอ๊ะ เรื่องอะไรเหรอครับ " ผมตกใจมาก ถูกจับนี่หมายความว่ายังไงกัน

          " ผู้หญิงคนนั้นให้ยาแม่พี่มาเป็นปี เป็นยาอันตรายที่จะออกฤทธิ์เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ คุณพ่อให้คนคอยตามสืบและก็ตรวจสอบยาที่คุณแม่กิน พี่ก็ว่าอยู่ว่าทำไมคุณแม่ถึงอาการแย่ลงเรื่อยๆ " ผมไม่เคยคิดเลยว่า ความคิดของหนิงจะเลวร้ายขนาดนี้ ทำไมกันนะ แปลว่าตลอดมาก็คิดจะฆ่าคุณแม่พี่โรลอยู่แล้วงั้นเหรอ

          " ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก พี่ไม่อยากให้ลี่ไม่สบายใจ " พี่โรลพูดพลางกุมมือผมเอาไว้

          " ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ตกใจ " ลึกๆ ในหัวใจของผมนั้นยังคงคิดว่า สักวันพวกเราอาจจะเป็นเพื่อนกันอีก แต่มันคงไม่มีวันนั้นแล้วสินะ

          " เมี่ยงเคยชอบผู้หญิงคนนั้น " ผมมองไอ้เมี่ยงที่อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมา แต่พี่นายก็ดูไม่ได้ตกใจอะไร

          " ต้องบอกว่าพวกเราทุกคนเคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหนิง เพิ่งมาพูดตอนนี้คงเหมือนแก้ตัว แต่พี่ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับหนิงก่อนนะ " ผมกับไอ้เมี่ยงหรี่ตามองพี่นายที่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

          " เหรอ แล้วไปนั่งเดทกันทำไมมิทราบครับ " ไอ้เมี่ยงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

          " ผิดไปแล้วครับ " พี่นายพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ผมมองไอ้เมี่ยงที่ทำท่าทางฟึดฟัด นี่พี่เขานอกใจกูหรือมึงกันแน่กูเริ่มสับสน

          " แล้วเมื่อไหร่มึงจะจัด โอ้ยย ตีพี่ทำไมเนี่ย " ผมฟาดพี่โรลเข้ากลางหลังทันที ผมรู้ว่าพี่โรลจะถามพี่นายว่าอะไร

          " กูไม่ใช่มึง " พี่นายพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

          " ทีน้องดรีมมึงจัดซะ โอ้ยๆๆ " ผมกระทืบทีนไอ้แฟนปากดีของผม และมองเพื่อนผมที่ถือแก้วน้ำในมือด้วยมืออันสั่นเทา

          " แบบนี้แหละดี ยิ่งทะเลาะยิ่งได้เสีย " พี่โรลกระซิบข้างหูผม หนอยย ก็ผมไม่ชอบเห็นเพื่อนเศร้านี่ครับ

          " เดี๋ยวขอตัวแปบนะ " ว่าแล้วไง ไอ้เมี่ยงพูดเบาๆ และลุกขึ้นจากโต๊ะ ผมฟาดไอ้พี่โรลรัวๆ และทำท่าจะลุกขึ้นตามเพื่อน

          " ไม่ต้องหรอก พี่ไปเอง ขอบใจนะ ไอ้... " พี่นายพูดและชูนิ้วกลางให้พี่โรลที่ยืนขึ้นก้มโค้งเหมือนกำลังบอกพี่นายว่า ' เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ' เป็นไงล่ะไอ้แฟนเกรียนของผม

          ด้วยความเป็นห่วง ผมก็สลัดหนีจากไอ้พี่โรลและย่องเดินไปที่ระเบียงด้านหลัง เพื่อแอบดูพี่นายกับไอ้เมี่ยง ทั้งสองคนเป็นคนที่ผมรัก ผมอยากให้ทั้งสองคนมีความสุข

          ' ทำอะไร ' ผมมองพี่นายที่พูดและเดินไปยืนข้างๆ ไอ้เมี่ยง

          ไอ้เมี่ยงนั้นกำลังยืนเกาะราวระเบียงและมองออกไปบนท้องฟ้ายามดึก

          ' อย่ายุ่ง ' ผมได้ยินเสียงไอ้เมี่ยงนั้นพูดเบาๆ และผมได้กลิ่นบุหรี่ นี่มึงทำอะไรของมึงเนี่ย กูจะฟ้องน้าจันทร์

          ผมมองพี่นายที่ยื่นมือไปแย่งบุหรี่ออกจากปากไอ้เมี่ยงและเหยียบดับไฟที่พื้น

          ' พี่ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ '

          ' แล้วยังไง นี่มันเรื่องของผม ผมจะทำอะไรแล้วมันเกี่ยวกับพี่ตรงไหน ทำไม... '

ผมตาโตมองภาพตรงหน้า พี่นายนั้นไม่ฟังที่เพื่อนผมกำลังพูด แต่จับล็อคแก้มคนตรงหน้าและกดจูบลงที่ริมฝีปากนั้นอย่างรวดเร็ว

          ผมหน้าแดงและรีบหันหลังให้ภาพตรงหน้าทันที โอ้ยยย เพื่อนกู แววเสียตัวมาแรง

          " เด็กไม่ดีแอบดูคนอื่น " ผมที่หันหน้ามาก็เจอพี่โรลที่ยืนอยู่ด้านหลังพอดี พี่โรลเท้าแขนกับผนังและก้มตัวจ้องมองหน้าผมใกล้ๆ

          ผมหลบตาพี่โรลที่กำลังยิ้มน้อยๆ อย่างเจ้าเล่ห์มองผม

          " เพื่อนกันก็เหมือนกันสินะ " ผมพูดและยิ้มน้อยๆ ช้อนตามองคนตรงหน้า

          " ไม่เหมือนหรอก พี่ร้ายกว่าเยอะ " พี่โรลพูดและก้มลงเลื่อนหน้าเข้ามาให้ริมฝีปากของเราประสานกัน


          งานหมั้นของพวกเรานั้นถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายที่บ้านของพี่โรล ที่มีแต่ญาติของฝ่ายผมและพี่โรล ผมนั้นมีความกลัวตั้งแต่ถูกขอหมั้นแล้ว เพราะว่าคุณแม่ของพี่โรลนั้น ผมไม่รู้ว่าท่านจะยอมรับพวกเราหรือ​เปล่า แต่พี่โรลก็บอกผมเสมอว่า ทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี

          ผมแต่งตัวด้วยชุดสูทสีขาว มืิอสั่นน้อยๆ ด้วยความประหม่า ยืนอยู่ในห้องแต่งตัวไม่กล้าออกไปด้านนอก

          " ได้เวลาแล้วนะ ทำอะไรอยู่ " เพื่อนรักของผมเดินเข้ามาจัดคอเสื้ิอให้ผม

          " แขกเป็นยังไงบ้าง แล้วมีใครบ้าง " ผมลองถามหยั่งเชิงดู

          " ก็เกือบครบแล้ว ขาดแต่คุณแม่ของพี่โรล " ผมจิตใจห่อเหี่ยวลงทันที ยังไงก็เป็นไปไม่ได้สินะ ที่ท่านจะเห็นดีเห็นงามด้วย ยังไงผมก็ไม่ใช่คนที่ท่านยอมรับ ผมเป็นผู้ชาย ผมไม่สามารถมีลูกหลานให้ท่านได้

          พิธีการเริ่มขึ้นแล้ว แต่โซฟาตรงหน้าพวกเราก็ยังคงมีแต่ ป๊าม๊าของผม และคุณพ่อของพี่โรล

          " จากนี้ไปก็ฝากตัวด้วยนะครับ " ผมมองพี่โรลที่จ้องมองผมด้วยแววตาหวานเยิ้ม สวมแหวนที่นิ้วนางให้ผมด้วยความอ่อนโยน

          ผมยิ้มให้พี่โรล สุภาพแบบนี้ผมรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ วันนี้พี่โรลหล่อมาก ชุดสูททางการสีดำ ถ้าไม่ห้ามไว้พี่แกก็คงจะจัดสีแดงซะแล้ว ผมสีน้ำตาลที่เซ็ตเป็นทรงเรียบร้อย ดวงตาสีน้ำตาลอมเทาและใบหน้าหล่อเหลาที่ดูมีความสุข มันทำให้หัวใจของผมพองโต

          มันอาจจะดูเร็วเกินไปที่พวกเราจะทำอะไรแบบนี้ แต่ไม่ว่าพวกเราจะหมั้นกันหรือแต่งงานกันหรือไม่ สิ่งที่มั่นคงและแน่นอนที่สุดก็คือ พวกเราจะไม่มีวันปล่อยมือจากกัน พวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปอยู่ดี

          " ฝากตัวด้วยเช่นกันครับ " ผมพูดและสวมแหวนให้คนที่ผมรักที่สุด ผมยังคงกุมมือพี่โรลไว้แน่น ให้รู้ว่าเรื่องนี้ในนี้ผมไม่ได้กำลังฝันไป พี่เป็นของผม พวกเราเป็นของกันและกัน

          แต่มือของพวกเราสองคนนั้นก็ถูกกุมไว้อีกทีด้วยมือของผู้ที่เพิ่งมาใหม่ ผมมองตามมือนั้น และก็พบว่ามันคือมือของคุณแม่พี่โรล ท่านมองผมด้วยรอยยิ้มน้อยๆ บนใบหน้าที่ดูอิดโรยแต่ก็ยังคงดูสวยงาม

          " แม่ฝากโรลด้วยนะ " ผมน้ำตาไหลออกมาด้วยความดีใจ คุณแม่ของพี่โรลนั้นติดภารกิจและมาช้าเท่านั้นเอง ท่านอวยพรพวกเรา และกลับขึ้นไปนั่งข้างๆ คุณพ่อของพี่โรล ผมสังเกตุว่าท่านดูแข็งแรงขึ้น และสามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว

          " ขอบคุณครับ " ผมกับพี่โรลพูดพร้อมกัน และกราบลงแทบเท้าผู้มีพระคุณของเราทุกคน วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขจริงๆ จากหัวใจ



          ผมนั่งอยู่บนรถยนต์คันใหม่ของพี่โรลที่เหมือนเดิมก็คือสีแดงที่เจ็บจี๊ดเช่นเคย สายลมอ่อนๆ ที่พัดโชยมาทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย ผมป้องสายตาสู้แดดจ้าในยามบ่ายและมองวิวเทือกเขาสวยที่ติดริมชายทะเลสีฟ้า พี่โรลหยิบแว่นกันแดดสีดำอันใหญ่มาใส่ให้ผม และหอมแก้มผมเบาๆ

          " เราจะไปไหนกันดีที่รัก "

          " ที่ไหนก็ได้ครับ ขอแค่มีพี่อยู่ข้างๆ " ผมยิ้มให้กับคนรักของผม พวกเรายิ้มให้กันในช่วงเวลาที่แสนวิเศษนี้

          เส้นทางบนถนนที่ดูคดเคี้ยวนี้ถึงแม้ว่าจะยาวไกลสักแค่ไหน ถึงอย่างไร เส้นทางนั้นก็ยังมีจุดสิ้นสุดของมัน แต่สำหรับความรักของพวกเราแล้ว มันจะไม่มีจุดวันสิ้นสุด หากแม้ว่าในสักวันหนึ่ง หากคนบนท้องฟ้าต้องการจะแยกพวกเราทั้งสองคนออกจากกัน แต่ผมก็เชื่อว่าความรักนี้ จะยังคงอยู่เสมอ เป็นรักแรก รักเดียว และรักสุดท้ายของพวกเราตลอดไป







THE END









********************************************************************************************

จบลงไปแล้วกับ Calorie ผมแค่มารอลี่~ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ติดตามเสมอมา ทั้งผู้ที่คอมเม้นเป็นกำลังใจอยู่เสมอและนักอ่านเงาทั้งหลาย สำหรับเรื่องนี้จะมีรวมเล่มแน่นอนค่ะ ใครที่สนใจก็คอยติดตามได้จาก Fanpage : Gloomy Sunday Tk. นะคะ สามารถกดไลด์เฟจและติดต่อสอบถามเข้ามาทางอินบล็อคได้ตลอด 24 ชม. ค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-01-2018 15:03:26
 :L2: :L1: :pig4:

ดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-01-2018 15:36:17
ขอบคุณมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 07-01-2018 18:42:19
 :เฮ้อ: :L2: :กอด1:
ขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-01-2018 19:15:52
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 07-01-2018 20:06:35
 :jul1: " ผัวอะไรล่ะ นอนแก้ผ้ากูยังปลอดภัยเลย "  โอ้ยยย ทำไมชีวิตนางน่าสงสสารแบบนี้ ไอแสบ

ถ้าพี่เขาไม่จัด หนูก็ยั่ว เค้าซิลูก ยั่วนะ  ปรึกษาเพื่อนซลูก
ชอบคู่นี้มากเลย ยังไม่อยากไห้จบเลยยยย

แยกเรื่องเลบคะ อิอิ
ขอบคุ


รนักเขียนมากๆเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 07-01-2018 20:13:16
ขอบคุณมากเลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 07-01-2018 20:25:06
สมหวังไปแล้วคู่นึง รอบทสรุปของเมี่ยงกับนาย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-01-2018 20:44:48
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 07-01-2018 21:42:28
มีหลายรสชาติ..กลมกล่อมสุด ๆ  o13

น่ารัก  :m3:

รักเรื่องนี้  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 07-01-2018 21:45:07
ขอบคุณที่แต่งมาให้ได้อ่านนะคะ  o13 :L2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 08-01-2018 03:27:34
เหม็นความรัก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 08-01-2018 11:34:07
          Calorie Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง]


          ผมมองเพื่อนที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขในงานหมั้น หลังจากที่ผ่านอะไรมามากมาย ผมเห็นมันมีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วย ไม่ว่าจากนี้ไป พี่โรลจะรักมันตลอดไปหรือไม่ แต่สำหรับผมนั้น ผมจะเป็นเพื่อนมัน พวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป

          เรื่องคืนนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของผม จูบแรกของผมกับพี่นาย ผมนั้นรู้สึกว่าตัวผมอาจจะงี่เง่าหรือเปล่า ผมไม่รู้ ในความเป็นจริงแล้ว ผมก็ไม่ใช่ว่าจะต้องการทำเรื่องแบบนั้น ไม่ได้ต้องการให้จูบผม ไม่ได้ต้องการให้กอดผม แต่ถ้าเป็นไปได้มันก็ดีอ่านะ ฮ่าๆ

          จริงๆ แล้ว สิ่งที่ผมคิดนั้นมันก็แค่ พี่นายนั้นเป็นคนที่ใจดีและดูสุภาพต่อคนรอบข้าง ไอ้ความใจดีไปทั่วของไอ้บ้านี่ทำผมรู้สึกรำคาญใจ

          สิ่งที่ทำให้ผมสับสนว่าคนคนนั้นชอบผมจริงๆ หรือเปล่า นั่นก็เพราะว่า พี่นายนั้นถึงจะใจดีกับผม แต่ก็ใจดีกับทุกคนด้วย ถึงเหมือนว่าจะใจดีกับผมเป็นพิเศษก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ชอบแบบนี้เลย ความเป็นมิตรนั้นอาจทอดสะพานให้คนอื่นโดยง่าย

          ผมไม่แปลกใจเลยว่าพี่แกจะเป็นคนเจ้าชู้ ก็เพราะทุกอย่างมันเอื้อกับนิสัยพี่แกน่ะสิ แบบนี้คนเป็นแฟนก็ปวดหัวตายล่ะ ผมเข้าใจแล้วว่าไอ้ลี่รู้สึกยังไงเมื่อมายืนจุดนี้ด้วยตัวเอง

          ผมมองดูพี่นายที่พูดคุยประสานงานกับคนอื่น งานหมั้นในครั้งนี้ เรียกได้ว่าพี่นายเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดงานทั้งหมด เป็นผู้ออกแบบ วางแผน ผมต้องยอมรับจริงๆ ว่าพี่เขามาทางนี้ และทำทุกอย่างได้ดี

          ผมมองดูงานที่เริ่มจะไม่มีอะไรแล้ว ก็เดินออกไปสูดอากาศในสวน บ้านพี่โรลนั้นใหญ่โตมาก สวนดอกไม้ที่ถ้าเข้าไปแล้ว ผมไม่รู้จะออกมาถูกหรือ​เปล่า นี่มันสุดยอดจริงๆ

          " แอบมาสูบอีกแล้วเหรอ " ผมมองตามเสียงที่ได้ยินและก็พบว่าพี่นายนั้นยืนกอดอกมองผมอยู่ ชุดสูททางการช่างเหมาะมากๆ กับรูปร่างพี่นาย แต่ผมไม่พูดหรอก เดี๋ยวแม่งได้ใจ

          " นิดเดียวน่า "

          เป็นเรื่องจริงที่ผมไม่ใช่เด็กดีอะไรแบบที่ใครคิดเท่าไหร่ ผมมีเพื่อนรักเพียงคนเดียวก็คือลี่ แต่จริงๆ แล้วผมก็ยังมีเพื่อนที่คุยกันได้หรือเพื่อนในคลาสเรียนอยู่อีกหลายคน ซึ่งพวกมันก็สูบบุหรี่ดื่มเหล้าหัวราน้ำกันทุกคน และผมก็ติดมาบ้าง

          แต่ผมไม่เคยทำตัวแย่ๆ หรือสูบบุหรี่ตอนอยู่กับลี่หรอกนะ ผมไม่อยากให้มันเป็นห่วง ซึ่งจริงๆ ผมไม่ได้ติดไอ้บุหรี่นี่หรอก นานๆ สักชาติถ้าเครียดๆ ก็จะสูบ ซึ่งมันทำให้หัวโล่งดี และก็เลิกไปนานแล้วด้วย แกล้งคนเล่น ดูเหมือนพี่นายจะไม่ชอบเอามากๆ

          " ขอได้ไหม " พี่นายหยุดยืนอยู่ข้างหลังผม

          " จะสูบอ่ะ มีไร... " ผมชะงักทันทีที่พี่นายยื่นมือมา ที่บอกว่าขอได้ไหม​นั้นไม่ใช่ว่าขอให้ผมเลิกหรอกเหรอ เพราะว่าพี่นายนั้นยื่นมือมาดึงบุหรี่ออกจากมือผมและจุดสูบขึ้นเอง

          " ไม่ให้ " ผมรีบดึงมันออกจากปากพี่นายและเหยียบดับมันที่พื้น ผมไม่ชอบเลย ผมไม่เคยเห็นพี่สูบเลยด้วย

          " ไม่ชอบที่เห็นเหมือนกันใช่ไหม​ ไม่อยากให้พี่สูบใช่หรือ​เปล่า " ผมทำหน้าบูดมองพี่นาย เหอะ รู้ดีนัก

          แต่ผมก็ต้องตัวแข็งทื่อทันทีที่พี่นายยื่นมือมาช้าๆ และลูบที่ริมฝีปากผมเบาๆ

          " แบบนี้แหละดีแล้ว ไม่อยากให้มันเปลี่ยนสีไป พี่ขอเถอะ นะ " พี่นายพูดและยื่นหน้าเข้ามาช้าๆ ไอ้ที่บอกว่าขอน่ะ หมายถึงขอให้เลิก หรือขอสิ่งที่ทำอยู่นี้กันแน่

          " อย่า แม่มาด้วย " ผมพูดไปงั้นแหละ แม่ผมกำลังคุยกับแม่ไอ้ลี่ คุยกันทีก็ยาวแน่นอน ไม่มาเตร่แถวนี้หรอก

          " ขอโทษนะ " แบบนี้อีกแล้ว ผมเบื่อคำนี้

          " ถ้าไม่ชอบพี่ก็จะไม่ทำ จริงๆ พี่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว "  งั้นเหรอ เพราะผมเป็นคนพิเศษอะไรแบบนั้นใช่ไหม​

          " เหรอ คิดว่าผมคงจะดีใจใช่ไหม​ เฮ้ แฟนผมไม่เคยแตะต้องผมเลยครับ เจ๋งใช่ไหม​ สุภาพบุรุษใช่หรือ​เปล่า " ความจริงแล้วผมก็แค่ต้องการรู้ว่า ผมพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ อยากให้พี่ทำเหมือนรักผมมากๆ ทำเหมือนผมเป็นคนสำคัญ ไม่ใช่ทำกับผม ใจดีกับผมเหมือนๆ กับคนอื่นแบบนี้

          " ต้องการแบบนั้นเหรอ " พี่นายถามผมเป็นนัยๆ ด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น

          " ไม่ต้องการ " ผมพูดและเดินหนีคนตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

          ผมเดินเข้ามาในงานอีกครั้ง และเดินไปหาเพื่อนรักของผม วันนี้มันหล่อมากๆ เอาจริงๆ เวลามันยิ้มแล้วน่ารักครับ แต่ถ้ามันทำหน้านิ่งๆ และทำผมแบบนี้ มันก็จัดว่าหล่อทีเดียว แต่ผิวพรรณมันทำให้ดูน่ารักมากกว่าด้วยแก้มสีชมพูระเรื่อ

          " ไง " ผมเข้าไปจี้เอวมันข้างหลัง

          " มึงไปไหนมา กูมองหาซะทั่ว "

          " แหม มีกูอยู่ในสายตาด้วยเหรอ นึกว่ามีแต่ผัว " ผมพูดเบาๆ และมองพี่โรลที่ยืนคุยกับป๊าไอ้ลี่ พี่โรลนั้นหล่อเกินไปที่ผมจะไปยืนข้างๆ จริงๆ ลูกออกมาคงน่าตาดีแน่ๆ อ่าว ลืมไป เพื่อนกูไม่มีมดลูกนี่หว่า

          ผมเดินออกมาจากเพื่อนเมื่อเหล่าญาติๆ เข้ามาคุยกับมันและพี่โรล ผมมองหาพี่นายอัตโนมัติ เมื่อกี้ผมรุนแรงเกินไปหรือ​เปล่านะ อีกไม่นานพี่นายคงต้องหมดความอดทนกับผมแน่ๆ

          ผมเดินไปรอบๆ งานและมองหาพี่นายไปทั่ว ไม่ใช่ว่าหนีไปนั่งร้องไห้แล้วนะ

          ' นาย ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่โทรหาเราเลย ' ผมหยุดชะงักด้วยหัวใจที่สั่นไหว เสียงผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นในสวนใกล้ๆ กับงาน

          ' คืนนี้หลังเลิกงาน ไปด้วยกันไหม​ ไม่ได้ทำกันมานานแล้วนี่ อยากเหมือนกันใช่ไหม​ล่ะ ' ผมตัวชาทันทีที่ได้ยินอะไรแบบนี้ ผมว่า ผมพอแล้วล่ะ ผมควรหยุดก่อนจะเสียใจไปมากกว่านี้ ผมก้าวต่อไปช้าๆ ผมไม่ใช่นางเอก ผมไม่หนีหรอก ผมจะไปต่อยไอ้เฮงซวยนี่

          ' ไม่ได้หรอก ตอนนี้มีแฟนแล้ว ' ผมหยุดชะงักอีกครั้งที่ได้ยินเสียงพี่นาย

          ' เอ๊ะ อะไรกัน ปกติมีแต่คบเล่นๆ ไม่ใช่เหรอ '

          ' คนนี้จริงจัง ' ผมหยุดยืนนิ่งๆ พิงผนังและยืนฟังต่อไป

          ' อย่ามาพูดให้ขำเลยนาย มีแฟนแล้วก็แอบทำก็ได้นี่ แฟนไม่รู้หรอก นี่นายตัวจริงเปล่าเนี่ย ทำป๊อดไปได้ ' หนอย คันมากเลยนะหล่อน

          ' นายไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ไม่อยากเสียใครไปอีก ' ผมมองหน้าด้านข้างของพี่นายที่สูงพ้นแปลงพุ่มไม้ขึ้นมา ใบหน้าจริงจังที่แสนเศร้า ขอบคุณครับ ขอโทษที่ทำให้พี่เสียใจอยู่เรื่อย

          ผมเดินออกมาจากตรงนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว

          " หายไปตลอดเลย มึงห้ามไปไหน อยู่ข้างๆ กูนี่ " ผมโดนไอ้ลี่ลากไปทันทีที่โผล่ออกมาที่งาน นี่กูเพื่อนมึงนะไม่ใช่ผัวมึง เพื่อนผมมันคงประหม่าถ้าไม่มีผมอยู่ โถๆ ทีตอนมึงทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันไม่เห็นชวนกูไปดูด้วยเลย

          " ลี่ เรื่องพี่นาย กูตัดสินใจแล้ว " ผมพูดกับเพื่อนด้วยสีหน้าจริงจังจนไอ้ลี่ทำหน้าเศร้าๆ ด้วยความเป็นห่วง

          " กูอยากให้มึงคิดดีๆ พี่เขาเปลี่ยนไปแล้วนะ " นี่กูกับมึงพูดเรื่องเดียวกันอยู่หรือ​เปล่าวะเนี่ย

          เรื่องที่ผมตัดสินใจนั้น มันคือเรื่องอะไรงั้นเหรอ หึหึ

          ในตอนกลางคืน หลังจากงานหมั้น ก็มีงานเลี้ยงฉลองกันที่โรงแรมหรูห้าดาวในเครือบริษัทของครอบครัวพี่นาย เหอะๆ พ่อคุณหนูผู้เอางานเอาการก็ยังคงทำตัวยุ่งๆ กับงานเลี้ยงอีก โถๆ

          ผมคิด ว่าถ้าผมได้คบกับพี่นายไปจนสุดทางนั้น ผมก็คงไม่อยากย้ายออกจากบ้านไม้ของผม ถึงพี่นายจะอยากให้ผมย้ายไปอยู่ด้วย แต่ผมก็คงทิ้งแม่ผู้โดดเดี่ยวของผมไม่ได้ พี่จะอยู่กับผมไหม​นะ พี่จะทิ้งบ้านสวยๆนั้น และมาอยู่บ้านไม้หลังเล็กๆ กับผมหรือเปล่า

          " ดื่มกับผมหน่อย " ผมเดินมายืนข้างๆ พี่นายที่กำลังสั่งงานพนักงานเรื่องเครื่องเสียงอยู่

          ผมยื่นแก้วไวน์สีสันสวยงามให้พี่นายและยิ้มน้อยๆ พี่นายมองผมและยื่นมือมารับแก้วไวน์นั้นไว้

          " หายโกรธพี่แล้วเหรอ " พี่นายถามผมและยังถือแก้วไว้ในมือ

          " ไม่ได้โกรธสักหน่อย " ผมพูดและดื่มไวน์ในมือผม

          " อย่าดื่มมากนะ เดี๋ยวปวดหัวอีก " พี่นายพูดและยังคงถือแก้วไวน์ไว้เฉยๆ ดื่มสิ ดื่มสักที๊

          " อร่อยดีนะ ลองดิ " ผมมองแก้วไวน์ในมือพี่นายพลางกลืนน้ำลายลงคอ โอ้ยย ดื่มสิโว้ย

          พี่นายมองผมและยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ผมยิ้มและทำท่าให้พี่นายดื่มอีก และพี่นายก็ทำท่าดื่มตาม เสร็จกูล่ะ ฮ่าๆ

          หลังจากนั้นมันก็เป็นเหมือนช่วงเวลาที่หมุนผ่านไปอย่างรวดเร็วของคนตรงหน้า ผมเดินไปเดินมาอยู่ตรงหน้าแฟนผู้เป็นสุภาพบุรุษของผม หึหึ คืนนี้ตายเป็นตาย

          ด้วยความสามารถและความฉลาดอันแสนบรรเจิดของผม ผมนั่งยองๆ มองพี่นายที่ถูกผมจับมัดติดกับเก้าอี้ของโรงแรมอย่างแน่นหนาอยู่ภายในห้องของโรงแรมพี่นายเอง นี่ผมวางยาแรงไปหรือ​เปล่านะ พี่แกถึงหลับยาวขนาดนี้

          ผมถอดเสื้อสูทด้านนอกของพี่นายออกจนเหลือแต่เสื้อเชิ๊ตสีขาวตัวใน และมัดมือทั้งสองข้างติดกันไขว้หลัง และมัดรอบเอวพันรอบกันเก้าอี้ ต่อให้เป็นเดอะฮัคก็ดิ้นไม่หลุดหรอกเฟ้ย

          ผมถอดแว่นที่ดูเกะกะบนใบหน้าของพี่นายออก พี่นายนั้นหลับตาและก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ ตัวหนักชะมัด แทบตายแน่ะ แล้วก็อึดสุดยอด กว่าพี่แกจะหลับเล่นเอาลุ้นจนหัวใจจะวาย

          เอาจริงๆ ผมก็แค่อยากแกล้งน่ะ มาถึงตอนนี้ผมเริ่มหวั่นใจแล้วว่า ผมเล่นแรงไปหรือ​เปล่านะ จะแก้มัดดีไหม​ พี่เขาจะเจ็บแขนหรือ​เปล่านะ ผมดื่มไปพอสมควรเพื่อย้อมใจอ่อนๆ ของผมให้มันแข็งขึ้น ผมอยากเห็นสีหน้าตกใจ สีหน้าทรมานจากคนตรงหน้า ผมก็โรคจิตใช่ย่อยนะ

          ผมหัวใจเต้นรัวทันทีที่คนตรงหน้าขยับตัวน้อยๆ เงยหน้าและค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ผมรีบคว้าถุงกระดาษมาคลุมหัวตัวเองอย่างรวดเร็ว

          " อะไรเนี่ย แล้วแว่นไปไหน " ผมมองผ่านรูบนถุงที่เจาะไว้และมองดูพี่นายที่หรี่ตามองตัวเองที่ถูกมัดและมองผมที่ยืนอยู่ตรงหน้า ในห้องนั้นค่อนข้างมืด ผมเปิดแค่ไฟที่หัวเตียงไว้เท่านั้น

          " ฮ่าๆ คืนนี้แกจะต้องทรมา... "

          " เมี่ยง เอาแว่นให้พี่ " จบกัน รู้ได้ยังไงฟะ

          " ม..ไม่ใช่นะ " ผมพยายามแก้ตัว

          " เล่นอะไรเนี่ย เจ็บข้อมืิอไปหมดแล้ว " ง่า เจ็บจริงๆ ด้วย เอาไงดี ไม่ๆๆๆ ห้ามใจอ่อนเฟ้ย

          " เมี่ยง งานไปถึงไหนแล้ว พี่ต้องไปช่วยงานนะ " เหอะ งานๆๆ งานจบไปแล้วเฟ้ย ป่านนี้สองคนนั้นคงไปถึงสวรรค์ชั้นไหนกันแล้ว สนใจคนตรงหน้าสิฟะ

          ผมถอดถุงกระดาษออกจากหัวและหน้าบึ้งมองไอ้คนบ้างาน จ้างคนแล้วก็ปล่อยพวกนั้นทำไปก็ได้ จะต้องคุมอะไรขนาดนั้นเล่า

          " เล่นสนุกพอแล้วก็ปล่อยพี่เร็วๆ เลย " หนอยย สั่งเหรอ ไม่ทำเฟ้ย

          " ยังไม่รู้เหรอว่าตัวเองกำลังจะโดนอะไร " ผมพูดขู่ไปงั้นแหละ จริงๆ ยังไม่ได้คิดเลยอ่ะ ฮ่าๆ

          พี่นายเงียบและจ้องมองผมด้วยใบหน้าเบื่อๆ ฉุนโว้ย กลัวผมบ้างดิ๊ ผมน่ากลัวนะ

          " ไม่กล้าหรอก ใช่ไหม​ล่ะ " โอ้โห ขึ้นเลยแบบนี้ ดูถูกกกกันชัดๆ

          ผมเดินไปมาตรงหน้าพี่นาย เอาไงดีฟะ แต่ดูถูกกันแบบนี้คงจะปล่อยให้ไปไม่ได้ ต้องสั่งสอนกันหน่อยแล้ว หึหึ

          " ทำเอง งอแงเองไม่เอานะ " โอ้ยยย ผมหยุดเดินและย่อเข่านั่งลงตรงหน้าคนพูดทันที

          " กำลังท้าทายใช่ป่ะ คิดว่ายิ่งท้าผมยิ่งทำใช่ไหม​ " รู้ทันหรอกนะ ไม่หลงกลหรอก หึหึ

          " ไม่หรอก จะทำก็ได้นะไม่ว่า แต่ขอเตือนว่าอย่า " พี่นายพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนผมใจสั่นน้อยๆ แกล้งขู่ผมใช่ไหม​ คิดว่ากลัวหรือ​ไง ถ้าพี่จะทำพี่คงทำผมไปนานแล้ว

          ผมลุกขึ้นและเดินไปหยิบแว่นของพี่นายขึ้นมาและใส่เอาไว้ โอ้ยย นี่สั้นเท่าไหร่เนี่ย เล่นเอามึนเลยแฮะ ผมเดินเข้าไปหาพี่นายและนั่งทับลงที่ตักนั้น จ้องหน้าคนที่ทำหน้านิ่งๆ เอาไว้

          " อยากให้ผมทำอะไร " พี่นายยังคงนิ่งสนิท และจ้องหน้าผมตาแทบไม่กระพริบ

          " แก้มัด " เหอะ เรื่องสิ

          " อยากจูบไหม​ " ผมคล้องแขนโอบรอบคอคนตรงหน้า พี่นายยังคงทำหน้านิ่งๆ หนอยย ไม่หวั่นไหวบ้างเลยเรอะ

          ผมถอดแว่นออกและรุกเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าทันที พี่นายดูอึ้งชะงักค้างไป แต่ก็ตอบรับสัมผัสจากผมอย่างรวดเร็ว ผมลืมตาขึ้นทันทีที่คนตรงหน้าเริ่มลุกเร้าผมมากขึ้นด้วยเรียวลิ้นอันร้อนแรง หึหึ นึกว่าจะแน่

          ผมผละริมฝีปากออกกะทันหันจนคนตรงหน้ายังคงยื่นหน้าตามมา เป็นไงล่ะ ชอบละสิ

          " รู้สึกการกระทำจะสวนทางกับคำพูดนะ " ผมหัวเราะ หึหึ อย่างอารมณ์ดี

          " ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย จริงไหม​ " ผมหุบยิ้มลงทันที หนอยยย ถ้าเป็นแบบนี้ละก็

          ผมเลื่อนมือวางบนหน้าขาคนตรงหน้าและลูบไปมาเบาๆ จนพี่นายที่ทำหน้านิ่งๆ เริ่มขมวดคิ้วน้อยๆ

          " อย่าดีกว่านะ " พี่นายพูดเสียงเรียบๆ

          " กลัวอะไรเหรอ "

          " ไม่ได้กลัว "

          " ถามจริงๆ เถอะ เคยคิดอยากกอดผมบ้างหรือ​เปล่า " ผมยื่นหน้าไปใกล้ๆ และถามด้วยความสงสัย

          " เชื่อสิว่าไม่อยากได้ยินคำตอบหรอก " ผมขมวดคิ้วสงสัย แล้วมันยังไงกันเล่า

          " เหอะ น่าเบื่อ " ผมลุกขึ้นจากตักอย่างโมโห เป็นคนที่กวนชะมัด

          " ปล่อยเถอะ แขนชาหมดแล้ว " พี่นายทำหน้าเจ็บปวดและเร่งเร้าให้ผมแก้มัด

          ผมที่เริ่มโมโหก็เดินเข้าไปใกล้คนตรงหน้าและนั่งลงคุกเข่าตรงหว่างขาคนที่นั่งอยู่

          " เมี่ยง " พี่นายทำหน้าดุและเรียกผมเสียงดังขึ้น แต่ผมก็ไม่ฟัง เริ่มเลื่อนมือไปบนกางเกงของคนตรงหน้า เลื่อนช้าๆ ไปที่ซิบกางเกงอย่างท้าทาย

          " พี่ไม่อยากทำเหมือนที่ทำกับคนอื่น ไม่ได้เหรอ "

          " ผมไม่ใช่คนอื่น หรือว่าพี่ก็มองผมเหมือนคนอื่น เลิกทำตัวแบบนี้สักที มันทำให้ผมอึดอัดนะ " พี่นายนิ่งเงียบไปทันที ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยมองคนตรงหน้า เพราะอยู่ดีๆ ไอ้บ้านี่ก็เริ่มยิ้มน้อยๆ ซะงั้น

          " งั้นเหรอ พี่ทำได้เหรอ " ผมเริ่มตาโตมองคนตรงหน้าที่ค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เชือกที่มัดรอบเอวและข้อมือนั้นค่อยๆ หล่นลงกับพื้นพรมสีเข้ม พี่นายถือมีดเล็กๆ ไว้ในมือและกำลังยิ้มให้ผม

          โอ้ยยย ที่เห็นนั่งนิ่งๆ นี่นั่งหั่นเชือกตลอดเวลาเลยงั้นหร๊า

          ผมลุกขึ้นยืน และถอยหลังช้าๆ อ้ากกก ชิบหายแล้ว ซวยละเมี่ยงเอ๊ย อยู่ดีไม่ว่าดี นี่มันไม่ใช่อย่างที่คิดเอาซะเลย ผมที่คิดว่าผมจะทรมานสวาทคนคนนี้ทั้งคืน ตอนนี้ ความคิดทั้งหมดนั้นกำลังย้อนเข้าหาตัวผม

          พี่นายก้มลงหยิบเชือกสีแดงที่พื้น ดึงมันจนตึงและยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์

          " จะเริ่มกันหรือ​ยัง ที่รัก "

          ผมกลืนน้ำลายลงคอ พ่อสุภาพบุรุษของผมลอกคราบซะแล้ว ผมว่าค่ำคืนนี้มันคงยังอีกยาวไกลนัก



ลาก่อน ความซิงของผม
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 08-01-2018 12:13:23
กรี๊ดๆๆๆๆๆ ทำไมมาแค่นี้ :ling1: :ling1: :ling1: ค้างงงงงงง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 08-01-2018 12:42:36
บวกเป็ดสิจ้ะ รออะไร :m25:

แล้วเค้าทำไรกันหน่ะ..พี่นายน้องเมี่ยง..สงสัยเล่นโดดเชือก :haun4:

ก็มาตอนสั้น ๆ เลยนึกไม่ออกนี่!!! :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 08-01-2018 13:40:32
 :เฮ้อ: :z3: ทำไมมาแค่นี้ ฮืออออออ

อยากอ่าน...คู่นี้

เมี่ยงว่าแสบแล้วเจออิพี่เข้าไป เจ้าเล่ห์กว่าเยอะ อิพี่ชนะขนาดไปเลยคะ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-01-2018 13:50:02
อยากอยู่ในเหตุการณ์ (ปลอมตัวเป็นหลอดไฟจะทันไหม ฮา)
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 08-01-2018 13:58:07
เมี่ยง พี่จองวัดให้เอามั้ยลูก ศาลาไหนดี
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-01-2018 18:21:55
เมี่ยงหนูกดเปิดสวิชต์แล้วหาทางปิดเอาเองนะ
ค้างเจ้าค่า
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-01-2018 19:45:47
ค้างงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 09-01-2018 03:06:43
มีพิเศษของเมี่ยงแล้ว ขอพิเศษของพี่นายด้วยนะ เรื่องแบบนี้มันต้องมองกนคนละมุม สองมุม  :laugh:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 09-01-2018 07:44:42
โชคดีน๊าเมี่ยง5555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-01-2018 12:17:24
เมี่ยงงงง มาบอกให้จบก่อนว่าโดนอะไรบ้าง5555 แสดงว่าพี่นายเก็บกดมานาน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 09-01-2018 13:43:57
ยาวไปนะเมี่ยงนะ

คนเขียนเราแอบอยากอ่าน อ้ะ ต่อเถอะพลีสสส
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-01-2018 03:30:34
น้องเมี่ยง แย่แน่ๆ พี่นายสายโหดแน่เลย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 19-04-2018 23:12:33
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 21-04-2018 02:00:10
 :z13: จิ้มไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่านค่ะ  :mew1:


-----------------------------
เดี๋ยวนะ  :laugh: เอ็กโซติก  ก็อตอีเลฟเว่น 55555555

แต่ว่านะความทรงจำนั้นมันเลวร้ายหรือไม่ดีมากเลยเหรอลี่

ทำไมถึงอยากลืม ว่าแต่มันจะเกี่ยวกับใครน้า~
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 1 อาลี่คนอวบผู้อาภัพ ]((25/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 07:47:27
อ้าว อะไรยังไงล่ะเนี่ย บอกไปแล้วไม่สมหวังหรือยังไม่ได้บอกอาลี่
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 5 มาร์ชแมลโลว์ที่น่ากิน ]((31/10/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 08:15:47
โรลเหมือนเคยรู้จักลี่มาก่อนอ่ะ แถมน่าจะชอบลี่ด้วย

แต่ฮามากตอนให้พูดอะไรให้น้องๆหน่อยอ่ะ  :m20: :jul3: ขำก๊าก
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 6 คืนอลวนคนอลเวง ]((02/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 08:24:57
เมี่ยงงงงงงงงงงงง  5555555555 ซกมกแท้ล่ะ  คือแบบขำมาก

 นึกภาพตามตอนเกาตูด ตอนกระเทียมพ่นออกจากปาก  :m20:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 9 ค่ำคืนแห่งงานประกวด ]((07/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 08:50:24
ขำเตียงสั่น 555555555555  อ่านเรื่องนี้แล้วขำจะบ้า  :laugh:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 11 สาเหตุของความเศร้า ]((09/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 09:23:16
โห นายแม่มโคตรเลวอ่ะ เจ้าชู้มาก  :z6:

ส่วนหนิงนั้นเสียดายความเป็นเพื่อนที่ลี่เคยมีให้อ่ะ ทำกันได้
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 12 มาร์ชแมลโลว์ยอดรัก ]((10/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 09:33:07
อ้อหออออ อิผี อิพี่นายเลวมาก ส่วนโรล นาย!แม่มร้ายว่ะ 555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 15 เดือนปะทะรองเดือน ]((14/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 10:18:21
 :z3: วร้อยยยยย อิพี่นายนี่มัน  :fire: ทำไมพูดเหมือนจะไปฟ้องแม่

โรลอ่ะ แถมรู้อะไรเกี่ยวกับหนิงหรอ คงไม่ใช่ว่าหนิงเป็นคู่หมั้น

ไรเทือกนี้หรอกนะ โอ๊ยๆๆๆๆ  :z6:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 21 เพื่อนเก่าและรอยคิสมาร์ก ]((20/11/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 10:56:05
 :z3: ฮืออออ นี่สินะม่า ลี่ต้องเชื่อใจพี่โรลเข้าไว้นะ

โอ๊ย อะไรโลกจะกลมขนาดนั้นนนน
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 31 คนรักจอม(เอา)แต่ใจ [NC20+]((05/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 12:12:04
เหิกกกก  :sad4:  :m10:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 32 คนรักที่ยังคง(เอา)แต่ใจ [NC20+]((08/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 12:31:32
เมี่ยงว้อยยยยยย  :laugh: :m20: 5555565555
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 12:37:51
เหยยยยยย  :katai1: อย่าบอกนะว่าโรลจะความจำเสื่อมอ่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 33 แสงที่สาดส่องเข้ามา]((12/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 12:42:33
กรี๊ดดดดด  นั่นไง ฮือออออ ความจำเสื่อมจริงๆด้วย ม่ายยย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][# 37 เพราะว่ามันคือรักแท้]((15/12/60))
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 12:59:21
โอ๊ยยย เมี่ยง!  :laugh: จะม่าก็ม่าได้ไม่เต็มร้อยเพราะแกอ่ะแหละ
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#45 รักแรก รักสุดท้าย และรักตลอดไป][ END ](7/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 14:52:02
ขอบคุณมากนะคะ ชอบนิยายที่คลายเครียดแบบนี้จัง

ม่าก็ไม่จัด ดีมากค่ะ ฮาทุกตอน 555 ถึงตอนนี้ลุ้นเมี่ยงอย่างเดียว

ส่วนหนิงนั้นเราคิดไว้แล้วล่ะว่านางคงวางยา แล้วนางก็ทำจริงๆด้วย
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 22-04-2018 15:01:42
คู่นี้มาโซแน่เลย  :haun4: มีแววจะลงต่อไหมคะ

อยากอ่านตอนพิเศษคู่นี้ต่อสักนิสสส
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 23-04-2018 17:41:58
สมใจอยากน้องเมี่ยง
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-04-2018 20:43:13
  งุ้ยยยย น่ารัก

เมี่ยงจะมาต่อไหมอ่า
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 11-08-2018 11:51:50
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#Special สุภาพบุรุษสาย S [นายเมี่ยง][ END ](8/1/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Gloomy Sunday ที่ 07-09-2018 11:30:33
​ขออนุญาตแจ้งข่าวนะคะ

ตอนนี้ตัวรูปเล่มหนังสือออกแล้วนะคะ วางขายในงาน Gen Y วันที่ 9 ก.ย.นี้เป็นที่แรก รายละเอียดติดตามได้ที่แฟนเพจ สนพ.เฮอร์มิทเลยค่ะ ในเล่มจะมีตอนพิเศษ 4 ตอนที่ไม่ได้ลงในเวปนะคะ ใครที่ลุ้นคู่นายเมี่ยงมีฟินค่ะ 555+ ยังไงช่วยสนับสนุนด้วยนะคะ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ (รูปลงไม่เป็นค่ะ 555+ เข้าไปดูรูปปกได้ที่เพจ สนพ. เฮอร์มิทนะคะ)
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: P_Methayot ที่ 10-09-2018 08:33:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 10-09-2018 22:25:16
ไว้อาลัยให้เมี่ยง อยู่ดีๆก็หาเรื่องใส่ตัว เจอสาย SM แน่นอน :impress2:
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 14-09-2018 22:15:52
สนุกมากเรื่องนี้ ขอบคุณ ผู้แต่ง ^^
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: yumenari ที่ 15-09-2018 13:00:45
มีต่อเมี่ยงในนี้รึป่าวค่ะ แล้วมีเปนอีบุ๊คมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 26-11-2018 12:12:46
 :L2:
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 27-11-2018 10:53:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [สนพ.เฮอร์มิท]Calorie ผมแค่มารอลี่~ [YAOI][#แจ้งข่าวรูปเล่มหน้า 12 นะคะ](7/9/61)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 14:22:32
 :pig4: