พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องสั้น) ##Hot love ##นายซินหัวร้อนกับมาเฟียหน้านิ่ง อัพ 13/07/2017]
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: the moonlight ที่ 26-06-2017 22:23:55
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
intro
once up on a time..
เพล้ง!!!! เสียงจานกระเบื้องลายครามอย่างดีตกกระทบลงบนพื้นพร้อมกับอาหารที่อยู่ภายในหกเลอะเทอะเต็มพื้นไปหมด
“ออกไป!!! ฉันไม่อยากเห็นหน้าแกออกไป!!!”เสียงแหบแห้งสำเนียงแปร่งดังออกมาจากปากของชายอายุสี่สิบต้นๆ ที่นอนอยู่
บนเตียงใบหน้าที่เคยมีเลือดฝาดอย่างคนสุขภาพดีตอนนี้กลับซีดเซียวแทบไม่มีเลือด
“เฮ้อออออออออ…แด๊ด…ถ้าไม่อยากกินก็บอกดีๆดิจานกระเบื้องลายครามมันแพงนะ -_- ^” ผมพูดไปตามที่คิดพร้อม กับมองหน้าชายวัยกลางคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อนิ่ง
“อย่ามาเรียกฉันว่าแด๊ดไอ่ลูกไม่รักดี!! แกไม่เคยเชื่อฟังอะไรฉันเลยแถมยังทำร้ายคนที่ไม่มีทางสู้อีกแกมันเลว!!”
“หึ…ก็แล้วแต่จะคิดยังไงผมแม่งก็ผิดเสมอนั่นแหละถ้าจะฟังความข้างเดียวแบบนี้คราวหลังก็ฝากบอกนมยิ้มด้วย
ว่าไม่ต้องโทรรายงานเรื่องที่บ้านให้ผมฟังอีกบ้านแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะอยู่นักหรอกนะ!” ผมพูดเสียงเย็นก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากห้องโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของพ่ออีก…พ่อเป็นแบบนี้เสมอ…ไม่เคยฟังไม่เคยถามเอาแต่สรุปเองคนเดียวบางครั้งผมก็อยากรู้ว่าผมเป็นลูกพ่อจริงๆหรือเปล่าหรือเป็นแค่เด็กเก็บมาเลี้ยงกันแน่ ตั้งแต่แม่ตายพ่อก็เอาแต่ทำงานโดยไม่สนใจผมเลย ผมเหมือนเหลือตัวคนเดียวในบ้านหลังใหญ่
“หึ..เสนอหน้ามาหาพ่อถึงที่แต่กลับโดนไล่กลับอย่างกับหมูกับหมาสมน้ำหน้า” เสียงแหลมบาดแก้วหูของหญิงสาวตรงหน้าทำเอาคนที่กำลังถูกด่าว่าอย่างผมทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันทีเดินลงมาชั้นล่างแม่งก็เจอยัยผีสองตัวนี้อีกล่ะ
“เสือกอ่ะ…รู้จักไหม”
“กรี๊ดดดดดดด…นี่แกว่าฉันเหรอ…พี่ไหมดูไอ่เรมันว่าฝ้ายสิค่ะ” ยัยฝ้ายที่แต่งหน้าหนาเตอะราวกับจะไปเล่นงิ้วกรีดร้องขึ้นมาแล้วหันไปฟ้องพี่สาวของตนที่กำลังนั่งดื่มน้ำส้มอยู่ข้างๆ
“ไอ่เร…แกไม่มีสิทธิ์มาว่าพวกฉันแบบนี้นะ!อีกอย่างแกก็ไม่สมควรเข้ามาเหยียบในบ้านนี้ด้วยซ้ำ” คนเป็นพี่วางแก้วลงแล้วหันมาจ้องเขม็งเริ่มออกอาการโวยวายอีกคนทำเอาคนโดนโวยอย่างผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“เหรอ…ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์ก็ในเมื่อบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านของแม่ผมครึ่งหนึ่งเหมือนกันพวกเธอนั่นแหละพวกกาฝากเกาะคนอื่นกินไปวันๆแม่ของพวกเธอทำอะไรไว้อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ!” ผมตอกกลับอย่างโมโหก่อนจะเดินหนีออกจากห้องอาหารไปทิ้งสองพี่น้องนกหวีดที่กรี๊ดลั่นไว้เบื้องหลัง…
“เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออ…..” ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายทันทีที่กลับมาถึงคอนโด
กระผมนายเรหรือเรวัฒน์ คนหล่อเองครับส่วนยัยศรีพี่น้องที่โวยวายผมเมื่อกี้คือยัยไหมกับยัยฝ้ายสองพี่น้องที่เป็นลูกติดของป้าป่านแม่เลี้ยงผมเองครับ…แม่ผมเสียตั้งแต่ผมอายุ 16 ซึ่งมันทำให้พ่อเปลี่ยนไปเป็นคนละคน พ่อมีเมียใหม่หลังจากนั้นหนึ่งปีซึ่งก็คือป้าป่านที่มีลูกติดมาสองคน
ป้าป่านแกเป็นเพื่อนเก่าแม่ครับแต่ผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าแม่ลูกสามคนนั้นจะไม่จ้องเล่นงานผมตลอดตั้งแต่เด็กเฝ้าใส่ร้ายผมกรอกหูคุณพ่อตลอดเวลาว่าผมคอยแกล้งลูกหล่อนอย่างนั้นอย่างนี้ จนผมขึ้น ม.หกเหตุการณ์หักเหในชีวิตผมก็เกิดขึ้นเมื่อสามแม่ลูกวางแผนที่แยบยลและร้ายกาจ จนผมโดนพ่อไล่ออกจากบ้าน..และนั่นทำให้ผมต้องย้ายมาอยู่คอนโดที่คุณยายเคยซื้อให้แม่ผมแทนคุณยายท่านใจดีมาก คอยแวะเวียนมาหาผมบ่อยๆบางครั้ง ผมก็ไปนอนบ้านคุณยาย
หลังจากนั้นผมก็แทบจะไม่กลับบ้านใหญ่เลยครับใช้ชีวิตสิงอยู่ที่คอนโดราวกับมันเป็นบ้านไม่ติดต่อไม่ขอเงินจากพ่อไม่พูดถึงราวกับว่าชีวิตผมมีแค่คุณยายคนเดียวเท่านั้น ส่วนพ่อก็ไม่คิดติดต่อมาเหมือนกันเหมือนพ่อจะดีใจด้วยซ้ำที่ผมไม่กลับบ้าน
เพราะพ่อคิดมาตลอดว่าผมเป็นสาเหตุให้แม่ต้องตาย แต่สาเหตุที่ผมต้องกลับบ้านใหญ่และทะเลาะพ่อและยัยปีศาจสองตัวนั่นก็เพราะนมยิ้มที่ดูแลผมมาตั้งแต่เด็กโทรมาบอกว่าพ่อป่วยผมก็เลยกลับบ้านใหญ่เพื่อไปเยี่ยมแกพร้อมกับทำข้าวต้มไปให้ด้วย
เพราะยังไงพ่อก็เป็นพ่อถึงพ่อจะเกลียดผมแต่ผมก็ยังคงเคารพและรักท่านแต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคือการด่าทอว่าเป็นลูกไม่รักดี..เป็นลูกเลวทั้งๆที่พอไม่เคยจะสนใจผมด้วยซ้ำ จะว่าไปชีวิตผมนี่ก็เหมือนนังซินในนิทานซินเดอเรร่าเลยแฮะ..แต่ติดตรงที่ผมเป็นผู้ชายและผมก็ไม่ยอมให้ใครมากดขี่ข่มเหงได้ง่ายๆเหมือนกันใครร้ายมาผมร้ายกลับนี่แหละนิยามตัวผม!!!
ครืด…ครืด……
ไอโฟนในกระเป๋ากางเกงผมสั่นขึ้นทันทีเมื่อผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาลางห้องนั่งเล่นในคอนโด
“ว่าไงโชแปงเพื่อนรัก ^^” ผมทักเสียงใสอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นว่าคนที่โทรมาคือโชแปงเพื่อนรักตั้งแต่สมัยประถมผู้ซึ่งรู้ทุกเรื่องของผมและยังควบตำแหน่งที่ปรึกษาปัญหาชีวิตอีกต่างหาก
“ไม่ว่าไงหรอกเร…วันนี้มึงว่างไหม”
“อือ…ตอนนี้กูว่างมีไรวะ”
“มึงมาช่วยงานที่คณะกูหน่อยดิ…แม่งไม่มีคนวาดฉากว่ะถือซะว่าช่วยกูนะเรนะ” ไอ่แปงส่งเสียงออดอ้อนมาตามสายนี่ถ้าเดาไม่ผิดถ้ามันอยู่ต่อหน้าผมมันเอาหัวมาถูแขนผมแน่นอน
“อือได้ๆๆ…เพื่อนคนเดียวกูช่วยได้อยู่แล้วงั้นเดี๋ยวกูไปหาที่คณะนะ”
“ครับผม..เร็วหน่อยนะ”
“เออ..รู้แล้วน่า…” ผมตอบเบาๆก่อนจะวางสายไป ผมกับไอ่แปงเรียนที่เดียวกันครับแต่คนละคณะไอ่แปงมันเรียน
นิเทศสาขาภาพยนตร์ในขณะที่ผมเรียนจิตรกรรมแต่ถึงยังไงเราก็สนิทกันมากเหมือนเดิมครับแล้วที่ไอ่แปงมันโทรมา
อ้อนให้ผมไปช่วยวาดฉากเนี่ยเพราะวันมะรืนจะมีงานนิทรรศการหางบเข้าคณะให้คนภายนอกมาศึกษาดูแนวการเรียนนิเทศด้วยซึ่งพวกมันก็จัดการแสดงละครเวทีเรื่องโรมิโอครับ แต่สงสัยจะไม่มีแรงงานวาดฉากไอ่แปงเลยต้องโทรมาตามแบบนี้….เอาละผมว่าผมรีบไปดีกว่าขืนช้าเดี๋ยวไอ่แปงจะแดกหัวเอาได้
“มาแล้วเหรอเร..มึงมานี่ๆ มาช่วยไอ่แสงมันวาดฉากนี้หน่อย” ไอ่แปงที่พอเห็นผมมาถึงก็กวักมือเรียกหยอยๆ
“ทำไมมีแค่กูกับไอ่แสงว่ะฉากแม่งโคตรใหญ่เลยนะเว้ยแถมมีตั้งหลายฉากอีก” ผมบ่นทันทีที่เห็นสภาพของไอ่แสงเพื่อนในคณะที่สนิทกันมากพอควร ตอนนี้ไอ่แสงแม่งเปื้อนไปทั้งตัวครับไม่เว้นแม้แต่หน้าส่วนฉากคฤหาสน์อลังการที่มันวาดก็เสร็จไปแค่ครึ่งเดียวเอง
“เอาน่าอย่าบ่นๆวาดเสร็จเดี๋ยวกูเลี้ยงข้าว”
“กูเคยกินแล้วเว้ยข้าวอ่ะ”
“แสดงว่ามึงจะไม่แดกใช่ไหม”
“แดกสิ!!ใช้แรงงานกูทั้งทีเลี้ยงกูให้คุ้มนะเว้ยไอ่แปง”
“เออๆรู้แล้วรีบวาดเลยมึงเดี๋ยวกูต้องไปดูเขาซ้อมละครกันต่อ”
“อือๆ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงข้างไอ่แสง
“เหลือฉากไรบ้างวะแสง”ผมหันไปถามไอ่แสงที่กำลังลงสีอย่างเมามันจนคิ้วขมวด
“อือ…เหลือฉากในสวนกับฉากในโบสถ์อ่ะมึงวาดแล้วกัน”
“โห..แม่งมึงวาดเสร็จไปกี่ฉากแล้วเนี่ย”
“ฉากเดียวยังไม่เสร็จเลยมึง…ไอ่ที่เสร็จไปทั้งหมดอ่ะฝีมือผัวไอ่โชแปงมัน”
ไอ่แสงไขข้อข้องใจผมพร้อมกับสบัดสีใส่ไฮไลท์ต่อไป
ท่านผู้ชมคงสงสัยว่าโชแปงที่เป็นผู้ชายมีผัวได้อย่างไร..มีได้ครับเพราะโชแปงเป็น มนุษย์ที่น่ารักน่าฟัดมากกกกกกกก
ตัวเล็กๆสูงร้อยหกสิบกว่าๆผิวขาวตาโตปากแดง คงไม่ต้องถามต่อนะครับว่ามีคนมาจีบไหม….แม่งเยอะ
แล้วส่วนมากก็เป็นผู้ชายซะเก้าสิบเปอร์เซ็นแล้วไอ่คนที่สามารถจีบไอ่แปงติดก็คือเฮียอ๋อง อังเดร เดอลามาชร์ หนุ่มลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสสูงร้อยเก้าสิบกว่าตาสีเขียวเข้มไม่ต้องถามเรื่องความหล่อ…ชนะผมกับไอ่แสงขาดลอยไม่งั้นพี่แกคง
ไม่ได้เป็นเดือนมหาลัยหรอก…อีกอย่างพี่แกอยู่ปีสามเป็นพี่รหัสผมที่อยู่ปีสองคณะจิตรกรรมนี่แหละสาเหตุที่ผมรู้จักเฮียอ๋อง -_-
“แล้ววันนี้เฮียอ๋องแกไม่มาเหรอ”
“ไม่ว่ะ…สงสัยติดธุระเห็นมีคนไปบอกเฮียแกว่ามีคนตามหม้อไอ่แปงเฮียแกก็เลยละทิ้งฉากไปเฝ้าเมียแล้วให้กูกับมึงมาได้เสียกับไอ่ฉากเวรพวกนี้แทนไง” ไอ่แสงบ่นแล้วยกมือขึ้นปาดเหงื่อ ผมยิ้มให้มันนิดหน่อยก่อนจะหันไปวาดโครงร่างของฉากอันมหึมาตรงหน้า
“เออ..เร..ได้ข่าวว่ามึงกลับบ้านใหญ่ไม่ใช่เหรอ”
“อือ..แต่มีเรื่องนิดหน่อยกูก็เลยรีบกลับแล้วต้องมานั่งทำงานกับมึงนี่ไง แล้วพวกไอ่กานกับไอ่ทศไปไหนกันหมดวะแม่งไม่เคยมาช่วย” ผมถามหาไอ่ลิงสองตัวที่ผมสนิทเหมือนกันไม่รู้พวกมันหายเฮดไปไหนกันหมด แก๊งจิตกรรมผมมีสี่คนครับ เรียกได้ว่าเป็น F4 ของสาขาเลยก็ว่าได้ขึ้นชื่อเรื่องความจังไรและหน้าหม้อสุดๆ
“ปั่นรายงานส่งอาจารย์อยู่ว่ะ” กูว่าละ -_-^^
“เออๆ…พวกขี้เกียจก็เงียะแหละ” ผมบ่นกระปอดกระแปดส่วนมือก็วาดโครงร่างโบสถ์ต่อไป จะว่าไปไอ่แสงนี่มันก็หล่อนะครับแต่ไม่เห็นมันมีแฟนซักที ตัวมันสูงมากครับร้อยแปดสิบเจ็ดส่วนผมนี่ร้อยเจ็ดสิบต้นๆเอง ส่วนไอ่กานกับไอ่ทศนี่ไม่ต้องถามครับเปลี่ยนหญิงบ่อย ยิ่งกว่าทิชชู่อีกตัวก็สูง บางครั้งผมก็หมั่นไส้เพราะแม่งหล่อกันทุกคนไงพอเดินข้างๆ ผมแล้วความหล่อที่ผมเคยภูมิใจแม่งหายวับอ่ะแถมผมยังเตี้ยที่สุดในกลุ่มอ่ะ เพราะงั้นเดินกับไอ่แปงนี่แหละดีสุด เพราะมันไม่หล่อ(แต่น่ารัก) และที่สำคัญมันเตี้ย!! นี่แหละสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมมีจุดยืน 555555 ^^
หลังจากที่หน้าดำคร่ำเครียดกับฉากหลังจนเสร็จไปได้หนึ่งฉากก็ถึงเวลาพักเที่ยงแดกข้าวพอดี ผมกับไอ่แสงแทบจะถลาออกมาตามกลิ่นข้าวเพราะได้กลิ่นสีตั้งแต่เมื่อเช้าผมก็อยากได้กลิ่นอย่างอื่นบ้าง หน้าผมนี่เหมือนคนเมากาวไปทุกที
“แปงงงงงงงงงงงงงงง….กูหิวข้าวววววววววววววววววววววววว” ผมลากเสียงยาวแล้วเดินลูบพุงไปหาไอ่แปงที่กำลังแจกข้าวกล่องให้กับบรรดานักแสดงของมันอยู่ส่วนไอ่แสงนี่มันเดินไปเอาข้าวกล่องอีกทางซึ่งเป็นข้าวผัดส่วนผมมาทางข้าวขาหมูของไอ่แปงครับกลิ่นมันหอมยวนใจผมยิ่งนัก
“อือๆ..รอแป๊บๆ” ไอ่แปงคุ้ยข้าวขาหมูในถุงพร้อมน้ำซุปที่แม่งเหลือเป็นกล่องสุดท้ายพอดีแล้วยื่นมาให้ผมแต่ยังไม่ทันที่ผม
จะได้เอื้อมมือไปรับกลับมีมือใหญ่ๆหนาๆของใครบางคนมาหยิบตัดหน้าผมไปเฉยหลึ่ม ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมองไอ่คนแซง
คิวอย่างโกรธจัด ไอ่เวรนี่สูงมากครับสูงกว่าเฮียอ๋องอีกมั้งหน้าตานี่หล่อบรรลัยแต่นิสัยชิบหายแบบนี้ผมไม่ปลื้มว่ะครับ
“ห่า..ไม่เห็นเหรอว่าไอ่แปงมันยื่นข้าวมาให้กูอ่ะแซงคิวแบบนี้ได้ว่ะ” ด้วยความเป็นคนเลือดร้อนผมเลยกระชากแขนไอ่เวรนั่นอย่างแรงโดยไม่สนเรื่องส่วนสูงหรืออะไรทั้งนั้น..โมโหหิวเว้ย!!!
“แล้วไง” สั้นๆง่ายๆแต่กวนตีนกูมากไอ่ฝรั่ง!
“แล้วไงพ่อมึงดิแซงคิวคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเหรอไอ่สัด!”
“กูพอใจ..แล้วปล่อยแขนเสื้อกูได้แล้วกูหิว”
“เหี้ย!!แล้วคิดว่ากูไม่หิวหรือไงว่ะกูต้องนั่งทาสีตั้งแต่เช้าร้อนก็ร้อนหิวก็หิวแล้วมึงมาแย่งข้าวขาหมูกล่องสุดท้ายกูเนี่ยนะ”
ผมตะคอกเสียงดังจนไอ่แปงเข้ามาดึงแขนผมเพื่อให้ผมใจเย็นๆแต่แบบนี้ใครจะไปเย็นลงล่ะครับ
“น้องแปงครับข้าวอย่าอื่นไม่เหลือแล้วเหรอครับ…ถ้ามีก็รีบให้อาหารหมาได้แล้วนะครับพี่กลัวมันกัด” ไอ่เวรนั่นหันไปพูดกับ ไอ่แปงที่อยู่ข้างๆผมแต่คำพูดมันกระทบผมเต็มๆ
“นี่มึงว่ากูเป็นหมาเหรอ!!”
“ไม่ได้เจาะจงนี่ใครอยากรับก็รับไป”
อ๊ากกกกกกกกกกกกก….ไอ่เรไม่ไหวทนอีกต่อปายยยยยยยยย _*_^^^
“เชี่ย!!” ผมสถบเสียงดังแล้วผลักอกไอ่เวรนั่นอย่างแรงแต่มันกลับแค่ไหล่ขยับนิดเดียวแต่ใครแคร์ล่ะ ยอมรับว่าหัวร้อนมากครับปกติก็เป็นคนมือไวตีนไวอยู่แล้ว ทุกวันนี้กลัวไม่ได้แก่ตาย แต่ไอ่เวรนี่ทำผมหัวเสียมากกว่าปกติยิ่งมองหน้านิ่งๆของมันแล้วตีนผมนี่กระตุกรัวๆเลย
“มึงจะเอาไงว่ามาเลยดีกว่าเพราะคนผิดก็คือมึงที่มาแย่งกล่องข้าวกู”
“อย่าทำตัวเป็นอันธพาลสินี่มันมหาลัยนะ”
“แล้วไงว่ะ..โอ๊ย!!ขอสักทีเหอะกูเกลียดขี้หน้ามึงจนทนไม่ไหวแล้วเว้ย!”
ความอดทนผมไม่มีอีกต่อไปเมื่อเจอคนหน้านิ่งแต่กวนส้นตีนสุดพลังแบบไอ่เหี้ยนี่ ผมโวยลั่นก่อนจักการกระแทกหมัดลงบนหนังหน้ามันที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าทันที
พลั่ก!!!!เสียงกำปั้นผมกระทบกับหน้าไอ่เวรนั่นเสียงดังลั่นจนคนรอบข้างอึ้งสนิทเพราะผมทะเลาะกับเหี้ยนี่มาตั้งแต่เมื่อกี้
แล้วใครๆก็เห็นแต่ไม่มีใครมาห้ามนอกจากไอ่แปงที่โดนผมดันกระเด็นไปตกอยู่ในอ้อมกอดผัวมันที่ยืนดูผมยิ้มๆเรียบร้อย
แต่ใครจะดูก็ช่างผมก็ไม่สนใจหรอกครับนาทีนี้ขอเอาเลือดออกจากปากหมาๆของมันก่อน รู้จักกูน้อยไปซะแล้ว
“หึ…หมัดหนักจริงนะมึง…นี่รู้ไหมว่ากูเป็นใครไม่กลัวกูเลยเหรอ” ไอ่เวรนั่นถ่มน้ำลายเปื้อนเลือดลงพื้นแล้วหันมาจ้องตาผมนิ่งพร้อมกับยิ้มมุมปากแบบโคตรหล่อแต่ในสภาพหิวโซแบบนี้รอยยิ้มของมึงกวนตีนกูมากขอบอก -_- ^^
“ขนาดมึงไม่รู้ว่ามึงเป็นใครแล้วกูจะรู้เหรอไอ่เหี้ย…โดนต่อยจนสมองกลับหรือไง!”
“หึๆ…น่าสนใจดีนี่…”
“สนใจเหี้ยไรล่ะ!!” ผมสบถอย่าหัวเสียก่อนจะจ้องมันนิ่ง ซึ่งมันก็มองผมกลับนิ่งๆเหมือนกันแต่แววตาฉายแววขบขัน อิเวรรร
“เอ่อ..ไอ่เรมึงไปกินข้าวข้างนอกกับกูดีกว่าเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ไอ่แปงยื่นมือมะสะกิดแขนผมยิกๆแถมด้วยหน้าตาเหมือนหมาป่วย ผมเลยค่อยๆผ่อนลมหายใจออกเพื่อข่มอารมณ์โกรธ
“ก็ได้..เห็นแก่มึงกูไม่เอาเรื่องไอ่เวรนี่ก็ได้”
“เออ..รับไปเถอะกูกลัวมึงโดนกระทืบ” ไอ่แปงบ่นเบาๆก่อนจะเข้ามาลากผมออกไปโดยมีไอ่ฝรั่งหน้านิ่งยืนมองยิ้มๆ
ยิ้มหาพ่อง!!!!!!คิดแล้วแค้นอย่าให้กูเจออีกนะแม่งไอ่ฝรั่งกูจะเอาพวกไปรุมกระทืบมึง!!!
สวีดัดสวัสดีท่านผู้อ่านที่น่ารักจิ๊บิโกะทุกคนนนนน
เรื่องนี้แต่งไว้นานแล้วแต่ไม่ได้เอาลงสักที แถมยังเป็นนักเขียนมือใหม่อีก
หลังจากที่ซุ่มเงียบอ่านนิยายในเล้ามานานก็ถึงคราวลงบ้าง
อ่านแล้วคิดเห็นยังไงเม้นบอกด้วยนะจ๊ะ
ดรั๊กกกกกกกก
-
ขิงก้อราข่าก้อแรง น่าสนุก แต่อย่าลืมลงกฎเล้าด้วยนะจ๊ะ :pig2:
-
ขอคุณจร้าาาา เราลืมมมมมม พึ่งโพสเรื่องแรกอ่าาาา
ขอคุณที่เตือนจร้าาา
-
ขอคุณจร้าาาา เราลืมมมมมม พึ่งโพสเรื่องแรกอ่าาาา
ขอคุณที่เตือนจร้าาา
ยินดีครัช รออ่านจ้า :pig2:
-
นิยายเรื่องนี้เป็นจินตนาการล้วนๆไม่มีเหตุการณ์จริงในเรื่องแม้แต่น้อย
โปรดใช้จักรยานในการรับชม
ขอบคุณค่าาาาาาา
1- เจ้าชายมาเฟีย
“เชี่ยกานพวกมึงมีอะไรถึงเรียกให้กูออกมาแต่เช้าว่ะวันนี้มีเรียนสิบโมงนะเว้ยจะให้กูมาเข้าแถวเคารพธงชาติหรือไงแสรด”
ผมถามขึ้นพร้อมกับหย่อนตูดลงนั่งกับพวกมันที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะ วันนี้ผมมีเรียนสิบโมงครับแต่ไอ่เพื่อนเวรกลับโทรมา ปลุกผมตั้งแต่เจ็ดโมง ผมเลยมาถึงมหาลัยในเวลาแปดโมงครึ่งในสภาพหัวกระเซิงหนังตาแทบปิดแบบนี้ไง
“มึงนั่นแหละ…เมื่อวันเสาร์ไปทำอะไรมา” ไอ่ทศถามขึ้นพร้อมกับสายตาสามคู่จ้องมาทางผมแบบจับผิดสุดๆ
“เชี่ยไรล่ะ! กูก็ไปช่วยไอ่โชแปงวาดฉากหลังอ่ะดิไอ่แสงแม่งก็ไป”
“อันนั้นพวกกูรู้…แต่ที่กูอยากรู้คือมึงรู้ไหมว่าคนที่มึงไปฝากตราประทับบนใบหน้าอ่ะเป็นใคร” คราวนี้ไอ่กานถามบ้าง
“ไม่รู้หรอก..คนเหี้ยๆแบบนั้นรู้จักไปแม่งก็รกสมองกู”
“เชี่ยยยยย….” ไอ่กานไอ่ทศและไอ่แสงสบถพร้อมกันพร้อมกับทำท่าเหมือนกับอยากตายซะเต็มประดา
“มึงนี่แม่งไม่เคยรู้ห่าอะไรนอกจากการ์ตูนและศิลปะจริงๆ โลกโซเชี่ยลอ่ะมึงหัดติดตามซะบ้างมีโทรศัพท์ไว้เป็นนาฬิกาปลุกเหรอห่า” ไอ่แสงบ่นเบาๆแล้วขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย
“อะไรของพวกมึงเนี่ยอยู่ดีๆก็มาบ่นอะไรกู ก็กูไม่ชอบนี่หว่าทำไม่กูต้องสนใจ…มันไม่ได้มีผลต่อชีวิตกูซักหน่อย”
“ไม่มีผลเชี่ยไรล่ะ...มึงดูนี่” พูดจบไอ่ทศก็ยื่นโทรศัพท์มันที่มีคลิปผมต่อยหน้าไอ่เวรหน้านิ่งนั่นเมื่อวานซึ่งยอดวิวพุ่งทะลุไปหลายพันแล้วด้วย
“แล้วไงวะ...ก็แค่คลิป..ทำอย่างกับกูไปเหยียบหางพวกมึงงั้นแหละดูทำหน้าทำตาเข้า”
“เปล่า..มึงไม่ได้เหยียบหางพวกกูแต่มึงดันไปกระตุกหนวดเสืออะดิ”ไอ่ทศพูดเบาๆก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมพร้อมกับไอ่กานและไอ่แสง
“มึงรู้ไหมคนที่มึงต่อยเมื่อวานอ่ะแม่ง…ลูกมาเฟียนะเว้ยพ่อของพี่เค้าเป็นมาเฟียที่คอยหนุนหลังนักการเมืองหลายคนแถมยังคอยช่วยงานตำรวจตลอดเรียกได้ว่าเส้นใหญ่ชิบหายขนาดอาจารย์ในมหาลัยยัไม่กล้าเถียงพี่แกเลยนะเว้ย!”
“แล้วไงว่ะ ลูกมาเฟียแม่งไม่ใช่คนหรือไงวะพวกมึงจะกลัวอะไรกันนักหนา”
“เชี่ยเรมึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอวะ…ว่าถ้าพี่แกจะสั่งเก็บมึงอ่ะหายเงียบเลยนะมึง…มึงรู้ไหมยังไม่มีใครเคยกล้าบ้าบิ่นไป
ตะโกนโต้งๆว่า ‘กูเกลียดมึง’แบบมึงมาก่อนเลยด้วย คราวนี้มึงซวยแน่ๆไอ่เร” ไอ่แสงพูดพร้อมกับทำท่าปาดคอจนผมแอบ
ลอบกลืนน้ำลาย…นี่ไอ่นิสัยเหี้ยนั่นน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอว่ะ หรือว่าพวกนี่แม่งหลอกผมกันแน่?
“แล้วมึงเคยได้ยินฉายาพี่แกไหมไอ่เร..เจ้าชายมาเฟียอะ แม่งสำหรับคนน่ารักๆสาวๆสวยๆน่ะพี่แกใจดีมากแต่สำหรับ
หนุ่มหล่อโสดอย่างพวกกูกับมึงอ่ะพี่เค้าไม่ค่อยปลื้มนะมึงสองมาตรฐานชัดๆอ่ะแต่กูก็ไม่ได้อยากให้พี่แกปลื้มเท่าไหร่
ขนลุกว่ะสาด” กานพูดติดตลกผมเลยยื่นมือไปผลักหัวมันเบาๆ
“เฮ้ย..เชี่ยกานหนุ่มหล่อโสดอ่ะกูมึงกับไอ่แสงพอแล้วไอ่เรอ่ะมันต้องหนุ่มปากหมาขึ้นคานเว้ย!กร๊ากกกกกกก”
“ไอ่เชี่ยทศ!!” ผมเรียกชื่อไอ่ทศเสียงดังลั่นก่อนจะรีบลุกขึ้นเพื่อไล่เตะไอ่เวรนั่นแต่สงสัยจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปหน่อยผมเลย
ไปชนกับหน้าอกแข็งๆของใครไม่รู้เข้าแต่ที่รู้ๆไอ่เวรนี่แม่งโคตรสูงอ่ะผมเกือบไม่ถึงไหล่มันด้วยซ้ำ
“ขอโทษครับๆ” ผมรีบก้มหัวขอโทษทันทีมันเป็นมารยาทอะครับผมติดมาตั้งแต่เด็กแม่สอนมาดีครับ ^^
“หึ..พูดขอโทษก็เป็นเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นเหนือหัวผมเลยเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอเข้ากับเจ้าของฉายา ‘เจ้าชายมาเฟีย’ของ
ไอ่กานที่กำลังส่งยิ้มกวนตีนมาให้ผม ส่วนไอ่พวกเพื่อนรักไม่รู้ว่าวิ่งไปนั่งลุ้นสถานการณ์แบบเกาะติดขอบสนามที่ม้าหินอ่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ดูจากสภาพแล้วไม่มีใครสำนึกที่จะเข้ามาช่วยผมซักคนอ่ะ…กูละซึ้ง T^T
โชคดีที่คณะผมยังไม่ค่อยมีคนมาเพราะยังเช้าอยู่แถมไอ่คณะลูกเมียน้อยผมยังตั้งอยู่ในป่าห่างไกลจากคณะอื่นมากพอดู
เลยไม่ค่อยมีคนจากคณะอื่นมาเท่าไหร่เรียกได้ว่าถ้าไอ่เวรนี่จะเก็บผมตรงนี้ก็ไม่มีคนรู้อ่ะ
“ก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นมึง..ถ้ารู้กูคงไม่พูดให้เปลืองน้ำลาย” ตบปากตัวเองตอนนี้ทันไหมไวเหลือเกินแต่เหงื่อนี่แตกเต็มหน้าไปหมด..
“ปากดีเหมือนเดิมเลยนะ”
“เกี่ยวกับมึงหรือไง…แล้วมึงมาทำอะไรที่คณะกูได้ข่าวว่ามึงไม่ได้เรียนคณะนี้นะเพราะคณะกูรับแต่คนไม่รับเหี้ย”
คำพูดของเล่นเอาท่านเพื่อนชมทั้งสามตบเข่าฉาดพร้อมกับขยี้ผมตัวเองอย่างขัดใจพ่วงมาด้วยสีหน้าอยากตายแบบสุดๆ
“พูดกับกูแบบนี้รู้รึยังว่ากูเป็นใคร” มันพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้แต่ผมไม่ถอยหลังหรอกนะ ถอยก็กลัวเด้ ถึงขาจะสั่นก็เถอะ สั่นสู้อ่ะรู้จักไหม 5555
“รู้…แล้วไงมาเฟียแล้วไง มึงก็คนกูก็คนล่ะว้าเดี่ยวกับกูเลยไหมล่ะ”
“สัดเร!!!!!” คราวนี้ท่านเพื่อนชมประสานเสียงเรียกผมเลยครับแต่ผมกลับหันไปยักคิ้วกวนตีนมันสองทีแล้วหันมาพูดกับไอ่
เวรนี่ต่อ
“ว่าไง…กล้าป่ะมึง”
“หึๆ…ได้…เดี่ยวก็เดี่ยว…แต่เดี่ยวแบบตัวๆเสื้อผ้าไม่เกี่ยวนะ ”
“เหยดดดดดดดดดดดดดด…ไอ่เรโดนแล้วไง!” สิ้นเสียงไอ่หน้านิ่งไอ่สามตัวก็พร้อมเพรียงกันอุทานกันอีกรอบ ทีแบบนี้พร้อมเพรียงเลยนะไอ่พวกเหี้ยย...ผมหันไปชูนิ้วกลางให้เพื่อนเวรก่อนจะหันมาเถียง
“พ่องสิ….ไปเดี่ยวกับเมียมึงเลยไป!!”
“ก็นี่ไง…ว่าที่เมียกูในอนาคตเตรียมตัวไว้ให้ดีล่ะ ” พูดจบมันก็คว้าตัวผมเข้าไปใกล้ตัวมันโดยที่ผมยังไม่ทันตั้งตัวก่อนจะก้มลงมาทาบทับริมฝีปากลงมา
“oxo” ผมเบิกตาโตอย่างช็อกๆเกิดมาผมแม่งไม่เคยมีเรื่องคนรักในหัวเพราะฉะนั้นลืมเรื่องจูบไปได้เลยเพราะแน่นอนว่าผม
ไม่เคย แต่อยู่ดีๆไอ่คนที่ผมด่าปาวๆว่าเกลียดกลับได้จูบแรกผมไปอย่างหน้าตาเฉยแถมมันยังเป็นผู้ชายที่ตัวโตยิ่งกว่าควาย
แทนที่จะเป็นสาวน้อยน่ารัก อ๊ากกกกกกกกกก….กูอยากตายยยยยยย T^T
“อื้อ..อื้ออออออออออ” ผมพยายามดิ้นแต่ไอ่เวรนี่ก็แรงดีชิบหายรัดผมซะแน่นริมฝีปากของมันบดเบียดขบเม้มกับปากผม
จนระบมไปหมดราวกับว่าอยากจะแก้แค้นสำหรับหมัดและคำพูดที่ผมด่ามันไป ลิ้นร้อนพยายามจะแทรกเข้ามาแต่ผมก็เม้มปากแน่นแต่นานๆไปผมก็เริ่มจะหายใจไปออกเลยเปิดปากรับออกซิเจนเท่านั้นแหละครับ ลิ้นของมันก็ฉกเข้ามาในโพรงปากผมทันที ผมยอมรับว่าไอ่เวรนี่มันจูบเก่งมาก..แต่กูไม่ปลื้มนะเว้ย..ดูไอ่เสือกสามตัวนั่นดิแม่งนั่งแข็งค้างเป็นหินแล้ว!!
“อ่อยยยยยยยยยย….” ผมพยายามส่งเสียงแต่ลิ้นร้อนที่กำลังเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นผมกลับไม่มีทีท่าว่าจะล่าถอยเลย
กลับรุนแรงและเร่าร้อนขึ้นด้วยซ้ำแต่ผมกำลังจะตายเพราะหายใจไม่ออก..ซึ่งมันคงจะรู้ถึงได้ผละริมฝีปากออกไปนิดหน่อย
แต่ก็ยังรัดตัวผมไว้เหมือนเดิมถือว่ามันรอบคอยครับเพราะถ้ามันไม่รัดผมได้ต่อยมันแน่ พอทำอะไรไม่ได้ไอ่ผมก็รีบโกยสิครับเอาอากาศเข้าปอดก่อนเดี๋ยวขาดออกซิเจนตายห่านี่ไม่ดีครับไม่ดี
“หึๆ…น่ารักนะมึง…จำไว้กูชื่อเฮดีสว่าที่สามีในอนาคตของมึง ^^” ผมเหลือบตาขึ้นมองมันในขณะที่ยังหอบแฮ่กเพราะพิษจูบ
“กูไม่มีทางเป็นเมีย…แฮ่กๆๆ..มึงหรอก”
“หึ…คอยดูล่ะกัน” มันพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะปล่อยผมออกจากอ้อมแขนแล้วเดินจากไปทิ้งให้ผมยืนเช็ดปากเจ่อๆของตัวเอง
อย่างหัวเสียกับไอ่เพื่อนสามเสือกที่สติยังไม่กลับคืนมา….
คอยดูเหอะ…ผมไม่มีทางเป็นเมียมันแน่นอนมันนั่นแหละที่ต้องมาเป็นเมียไอ่เรสุดหล่อคนนี้!!!!!!
“ไอ่ทศมึงตบหน้ากูทีดิ๊…นี่กูไม่ได้ฝันไปใช่ไหม o_o” ไอ่แสงพูดขึ้นแล้วจ้องหน้าผมที่กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
เพี๊ยะ!!!! ผมเลยจัดการสนองความต้องการของมันเสียงดังลั่นกลางกบาลเต็มๆ
“โอ๊ย!! เชี่ยเรมึงทำไรอ่ะ”
“ก็มึงบอกให้เชี่ยทศตบหน้าไม่ใช่เหรอกูก็ช่วยไงเห็นไอ่ทศมันเงียบๆ”
“สัด! แล้วนี่มึงจะเอาไงต่อวะเนี่ย..บอกตรงๆพวกกูแม่งคิดไม่ถึงสุดๆอะ”
“ใช่…อย่างที่ไอ่แสงมันพูดนั่นแหละตอนแรกกูก็นึกว่าพี่เค้าจะมาตามเก็บมึงซะแล้ว…ที่ไหนได้ดันมาจูบมึงโชว์ต่อหน้า
พวกกูแถยังบอกว่าจะเอามึงทำเมียอีกโอ้วววววววววววววว…เซอร์ไพรส์ชีวิตกูมากเหอะ” ไอ่กานบอกพร้อมกับทึ้งหัวตัวเอง
“แล้วตกลงมึงเอาไง” ไอ่ทศที่เงียบไปนานถามขึ้น ทำให้ไอ่บ้าสองตัวที่เหลือหันมารวมสายตาที่ผมเป็นจุดเดียวคล้ายๆการ
กดดันภายในตัว
“เอาไงล่ะ…กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะเว้ย! แถมเชี่ยนั่นยังตัวโตอย่างกับความยกูเอามันเป็นเมียไม่ลงหรอกนะ -_-^”
“โห…มึงก็คิดได้ว่าจะเอามันเป็นเมียดูสภาพมึงกับมันก่อนเหอะไอ่สัดเร ตัวแค่เอวเค้าทำเก่งทุกวันนี้ยังสอยพริกแดกอยู่เลย
ไม่ใช่เหรอมึงอ่ะ =_=^”
“ไอ่เหี้ยแสงมึงว่าใครว่ะ!!! กูสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบสองนะเห้ย! กูสอยพริกแดกที่ไหนถ้ากูสอยพริกไอ่แปงแม่งไม่ต้องสอยคะน้า
แดกเหรอว่ะสัด!!”
“แต่ก็นั่นแหละมึงรู้ไหมพี่เฮดีสมันสูงเท่าไหร่” แหมไอ่เชี่ยแสงพอรู้ชื่อล่ะเรียกชื่อซะสนิทเลยนะมึงสลิดดกเอ้ย
“ไม่รู้..ไม่อยากรู้เว้ย”
“แต่กูอยากบอกไง…เออไอ่กานพี่เฮดีสแม่งสูงเท่าไหร่ว่ะ”
“ถุย!!เชี่ยแสงพูดอย่างกับรู้ดีกูก็ไม่รู้เหมือนกันเว้ยถามไอ่ทศดิเด็กมันแม่งอยู่วิศวะเยอะ ต้องมีเรื่องพี่เฮดีสผ่านหูมาบ้างแหละ”
“นี่มึงไปเต๊าะเด็กไกลขนาดนั้นเลยเหรอวะทศ” ผมถามไอ่ทศอย่างสงสัยเพราะตึกผมกับตึกวิศวะนี่คนละฟากมหาลัยเลยนะนั่น
“ก็คนมันหน้าม้อไงมึงไกลแค่ไหมหม้อก็พาไปถึง 5555” เป็นไอ่กานที่ตอบแทนไอ่ทศ ผมก็เลยพยักหน้าเข้าใจ เข้าใจในสันดานขี้ม่อชอบเสือกของเพื่อนตัวเอง
“ว่าแต่ทศตกลงพี่เฮดีสมันสูงเท่าไหร่ว่ะ” ยังครับ..เชี่ยแสงแม่งยังไม่จบมึงจะเอาส่วนสูงไอ่เหี้ยนั่นไปทำพันธุ์ไงว่ะสาด -_-^^
“อืม…ร้อยเก้าสิบห้ามั้งเห็นน้องแจงบอกว่าเป็นลูกครึ่งอิตตาลีอ่ะ”
“อื้อหือออออออออออ…สูงกว่ามึงตั้งยี่สิบสามเซ็นแหนะไอ่เร!!!! O[]O” สาบานได้ว่าไอ่แสงทำหน้าตกใจได้กระตุกตีนผม
แบบสุดๆ ปกติเชี่ยนี่เกลียดวิชาเลขจะตาย แต่ทีเรื่องแบบนี้นี่คิดเร็วชิบหาย ตอกย้ำกูดีจริงๆเพื่อนเวร
“ก็กูอะมาตรฐานชายไทยแต่มันอ่ะเกินมาตรฐานเว้ยอีกอย่างมันก็เป็นลูกครึ่งนี่หว่ามันก็ต้องสูงเป็นธรรมดา”
“เหรออออออออออออออออออ…ได้ข่าวว่าพ่อมึงก็ฝรั่งนะเร ผู้ดีอังกฤษซะด้วย” ไอ่กานจีบปากจีบคอพูดจนหน้าหมั่นไส้
ผมแทบอยากจะยกเท้าถีบแม่งเรียงตัว ที่กานมันพูดก็ถูกครับผมเป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษแต่หน้าตาผิวพรรณนี่ผมได้แม่ที่
เป็นคนไทยมาหมดยกเว้นสีตาที่เป็นสีฟ้าเหมือนพ่อแต่ส่วนสูงนี่ผมไม่รู้ว่าได้ใคร เพราะพ่อผมสูงร้อยแปดสิบเจ็ดส่วน
แม่ผมสูงแค่ร้อยหกสิบแปด สงสัยผมคงจะได้มาอย่างละครึ่งละมั๊งส่วนสูงผมเลยมาอยู่ที่ร้อยเจ็ดสิบสองแบบนี้อ่ะ
“ก็กูเก๋าไง..พอๆๆๆๆเลิกพูดเรื่องเหี้ยนี่ซักทีได้เวลาเรียนแล้วมึงขึ้นตึกๆ” ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง (อันน้อยนิด) ก่อนจะจ้ำพรวดเข้าตึกทันทีโดยไม่สนพวกที่หัวเราะตามมาจากด้านหลัง หึ..เตี้ยกว่าแล้วไง ผมจะทำให้รู้เองว่าความสูงไม่มีผลในแนวราบ!!!!!!!
เข็นตอนที่สองมาให้แล้วจร้าาาาาา
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ รู้สึกปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล
ยังไงก็ช่วยเม้นเป็นกำลังใจให้นักเขียนมือใหม่คนนี้ด้วยนะคะ
ดรั๊กกกกกกกกกกกกก
-
สนุก..กกกก ช่วยห้อยวันที่อัพต่อท้ายชื่อเรื่องไว้หน่อยน๊า ตามอ่านอยู่ :t2:
-
-2- ละครเวที
แดดร่มลมตกหลังอาจารย์ยกเลิกคลาสชีวิตกระผมนายเรวัฒน์ก็สบายใจนั่งเป็นคุณชายอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าคณะอย่างแฮปปี้รอพวกเพื่อนเวรที่กำลังเอารายงานไปส่งย้อนหลังอยู่
แต่อารมณ์สุนทรีย์ชมนกชมไม้ก็ต้องหายวับไปเมื่อเฮียอ๋องพี่รหัสสุดหล่อพาไอ่หมากระเป๋าโชแปงมาทำหน้าตาอ้อนตีนอยู่ตรงหน้า
“น้า….เรถือซะว่าช่วยกูอีกสักครั้งนะเรคราวนี้กูเอาอาหารมาเซ่นมึงเพียบรับรองไม่ต้องแย่งใครแดกแน่นอน”
ไอ่โชแปงเพื่อนรักพูดพร้อมกับชูถุงอาหารที่ขนมาเต็มไม้เต็มมือให้ผมดูเป็นหลักฐานพร้อมทำหน้าตาออดอ้อน
“ไม่..กูไม่แสดงผู้หญิงคณะมึงเยอะแยะก็หาเอาสักคนดิว่ะ สาขาการแสดงก็ถมถืด”
“กูรู้มีคนเสนอตัวเยอะแยะแต่แม่งมีแต่พวกที่จ้องจับโรมิโอไงแล้วแสดงไม่ดีซักคนกูลองแคสมาตั้งแต่หกโมงเช้าแล้วเนี่ย…นะเรนะมึงช่วยกูหน่อยเหอะต้องแสดงตอนบ่ายสองนี่แล้วนะเว้ยตอนนี้ก็สิบโมงกว่าแล้ว”
“ไม่…เรื่องอื่นกูช่วยมึงได้แต่ยกเว้นเรื่องนี้กูขอปฏิเสธ!!”
“โธ่..ไอ่เรอ่ะ -3-“
พอผมปฏิเสธอย่างชัดถ้อยชัดคำไอ่แปงก็ตัดพ้อพร้อมกับทำปากจู๋อย่างน่ารักก่อนจะสะบัดตูดไปหาเฮียอ๋องที่นั่งรออยู่ด้านหลัง ไอ่หมาแปงมันมาขอร้องให้ผมไปแสดงบทจูเลียตให้ ซึ่งกระผมนายเรวัฒน์คนนี้เมื่อครั้ง ยังละอ่อนตอนมัธยมปลายเคยได้รับบทเป็นจูเลียตและเล่นได้ดีมากจนอาจารย์ชมเปาะแต่ผมก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่หรอกนะเพราะหลังจากนั้นแม่งชอบโดนผู้ชายด้วยกัน
มองด้วยสายตาแปลกๆ บางครั้งโดนแซวจนส้นตีนผมกระตุกไปเตะปากก็หลายครั้งเดือดร้อนคุณยายต้องมาห้องปกครองบ่อยจนรู้จักอาจารย์ฝ่ายปกครองแทบจะทุกคนอยู่แล้ว พอมาเรียนมหาลัยผมเลยไม่อยากจะมีเรื่องให้คุณยายท่านปวดหัวอีกเลยลดๆการมีเรื่องลงบ้าง (นี่ขนาดลดแล้ว) แต่เพราะจูเลียตคนเมื่อวานท้องเสียกระผมนายเร คนหล่อนิสัยดีมีน้ำใจเลยโดนเพื่อนสนิทนามว่าโชแปงมาขอร้องให้ไปแสดงแทนเป็นกรณีเฉพาะกิจเพราะหาคนที่เล่นแทนไม่ได้ไงล่ะ
“นี่เร..ถือซะว่าช่วยแปงเค้าหน่อยไม่ได้เหรอ” คราวนี้เป็นเฮียอ๋องพี่รหัสสุดหล่อของผมเดินเข้ามาขอร้องผมแทน
“ไม่ครับ…เฮียก็รู้ว่าผมไม่อยากเด่นอีกอย่างผมก็เพิ่งมีเรื่องกับไอ่เหี้ยเฮดีสนั่นเมื่อวันก่อนเองจะให้ผมไปแสดงกับมันเนี่ยนะ!!! ไม่มีทาง”
ผมบอกตามตรงพร้อมกับจ้องหน้าเฮียอ๋องแน่วแน่…นี่แหละครับสาเหตุหลักที่ผมไม่ยอมไปแสดงให้ เพราะว่าไอ่โรมิโอมันคือไอ่เหี้ยเฮดีสไอ่ลูกมาเฟียกวนตีนหน้าตายนั่นยังไงล่ะ!!! ขืนแสดงไปมีหวังจูเลียตอย่างผมได้เอาส้นตีนยันหน้ามันก่อนแสดงจบแน่
“งั้นกูเปลี่ยนโรมิโอให้มึงก็ได้นะเร..ขอแค่มึงไปเป็นจูเลียตให้กูหน่อยกูหาคนไม่ได้แล้วจริงๆ” คราวนี้ไอ่แปงเดินเข้ามายืนข้างเฮียอ๋องพร้อมทำหน้าตาน่าสงสารแบบสุดๆจนใจผมอ่อนยวบ อืมมมม….เอาไงดีว่ะกูไอ่เรื่องแสดงก็ไม่น่ามีปัญหาแค่ประกาศชื่อนักแสดงคนเก่าไปก็พอเท่านี้ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าผมแสดงแทนส่วนเรื่องพระเอกไอ่แปงก็บอกว่าจะเปลี่ยนให้มันก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว อีกอย่างผมก็เห็นใจไอ่แปงเหมือนกันเห็นมันทุ่มเทเตรียมงานมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว
“แล้วเปลี่ยนตัวโรมิโอมึงจะไม่มีปัญหาเหรอ..ขนาดจูเลียตมึงยังหาไม่ได้เลย” ผมถามอย่างสงสัย ไอ่แปงหันไปมองเฮียอ๋องแปบนึงก่อนจะยิ้มแหยๆมาให้ผม
“คือ...กูมีโรมิโอสำรองน่ะ..เรื่องนี้มึงไม่ต้องห่วง”
“อืม…ก็ได้ถ้ามึงพูดแบบนั้น”
“จริงเหรอ!!!! นี่มึงจะช่วยกูแสดงแล้วใช่ไหม!!”
“อือ…”
“เย้!!!!! ขอบคุณมากนะเรมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลยยยย^^” ไอ่แปงกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจพร้อมกับกอดผมแน่นจนเฮียอ๋องต้องกระแอมขัดจังหวะ ไอ่แปงเลยปล่อยผมแล้วหันไปอ้อนผัวมันแทน เห้ออ..เกิดเป็นไอ่เรนี่ลำบากนะครับนอกจากหล่อแล้วยังมีน้ำใจอีก
“ว่าแต่กูแสดงเป็นจูเลียตตั้งแต่สองปีที่แล้วมึงคิดว่ากูจะจำบทได้เหรอนี่มันก็เสิบโมงครึ่งแล้วด้วยไม่ทันแล้วมั้ง”
“ไม่เป็นไรหรอกน่ามึงแค่ขยับปากตามก็พอวันนี้ลิบซิ้งเว้ยแต่มึงก็น่าจะเอาบทไปดูหน่อยจะได้ขยับปากตามถูก”
“อือ..แล้วเพื่อนกูล่ะ”
“พี่อ๋องจะจัดการให้ไม่ต้องห่วง ^^”
“เออๆๆ..เฮ้ออออออ..แล้วนี่กูต้องทำอะไรบ้างเนี่ย” ผมถามอย่างปลงตกเพราะไปตกปากรับคำไอ่แปงมันแล้วก็ต้องทำให้ ถึงที่สุด
“งั้นไปแต่งตัวที่คณะกูก่อนเลยล่ะกัน ”
………………………………….
สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งให้บรรดาสาวแท้สาวเทียมมารุมทึ้งหัวและละเลงหน้าอย่างเมามันที่ห้องแต่งตัวหลังหอ ประชุม ไอ่ผมมันจะทำอะไรได้นอกจากก้มหน้าก้มตาท่องบทเพื่อความถูกต้องในการลิบซิ้งจนเวลาผ่านไปสองชั่วโมงทุกสิ่ง ทุกอย่างก็หยุดลงพร้อมกับผมที่ท่องจำบทได้ขึ้นได้
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด…สวยมากเลยค่ะน้องเรนี่ถ้าไม่รู้นี่พี่คิดว่าเป็นผู้หญิงเลยนะเนี่ย” เสียงของรุ่นพี่กระเทยนางหนึ่ง ดังขึ้นพร้อมกับมองผมด้วยสายตาวิบวับผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆไปให้..ฮืออออออออออ….กูควรดีใจไหมที่โดนชมว่าสวยเนี่ย เตะปากกระเทยนี่กูจะโดนรุมตีนไหม
“จริงด้วยเรนี่สวยจริงๆเลยนะเนี่ยสวยจนเราอายอ่ะ” คราวนี้เป็นเสียงจากเพื่อนผู้หญิงคณะเดียวกับไอ่แปงก่อนที่คนอื่นๆ จะช่วยกันลงความเห็นบ้างไอ่ผมก็ได้แต่ครับๆขอบคุณครับพร้อมกับฉีกยิ้มทั้งๆที่ในใจกูอยากจะร้องให้ T^T ทำไมกูต้องใส่วิกด้วยว่ะ U_U
“เรเสร็จยังว่ะ” เสียงของไอ่แปงดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาสำรวจสภาพผมส่วนคนอื่นๆก็ขอตัวไปกินข้าวกันหมดใน ห้องเลยเหลือแค่ผมกับไอ่แปง
“อือ…สวยเหมือนเดิม…”
“สวยพ่อง” ผมมองตาขวางทันทีที่ไอ่แปงพูดจบ คำนี้เป็นคำต้องห้ามครับ ใครพูดชมแบบนี้ปากแตกมาหลายรายล่ะ
“เออๆไม่สวยๆอยากหลอกตัวเองก็เชิญ..เดี๋ยวมึงเข้าไปเปลี่ยนชุดเลยนะน่าจะใส่ได้เพราะตัวเท่ากันเดี๋ยวกูไปเอาข้าวเที่ยงมาให้”
พูดจบมันก็เดินออกไป กูเตะปากเพื่อนตัวเองจะผิดไหมตั้งแต่คบกะเฮียอ๋องนี่พูดจาปากหมาขึ้นทุกวันผมหันหน้าไปมองกระจกพร้อมกับทำหน้าอยากตาย
ไม่ดีใจเลยนะที่โดนชมว่าสวยอ่ะ แล้วไอ่ผู้ชายตาโตๆปากแดงๆที่อยู่ตรงหน้ากูนี่ใครว่ะใช่กูแน่เหรอ? ทำไมหน้าหวานขนาดนี้ นี่พวกช่างแต่งหน้านี่เก่งขนาดแต่งคนหล่อๆอย่างผมให้เหมือนผู้หญิงได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เริ่มขนลุกกับสกิลเมคอัพของผู้หญิงแล้วสิ
หลังจากที่ยัดตัวเข้าไปในชุดอันฟูฟ่องของจูเลียตได้แปงก็มาพร้อมกับอาหารหลากหลายเอามาประเคนให้ผมถึงโต๊ะ ไอ่ผมจะรออะไรครับเขาเสนอเราก็สนองแดกแบบอิ่มหนำสำราญใจกับของฟรีมีคุณภาพนะสิครับ แต่พอหลังจากแดกเสร็จไอ่แปงก็พูจาชวนช๊อกขึ้นมาอีกเรื่องคือ….
“ใส่เข้าไปซะไอ่เรยังไงมึงก็ต้องใส่”
“แต่ไอ่แปง…กูเป็นผู้ชายนะเว้ย T^T”
“ก็จูเลียตเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย =_=”
“แต่ตอน ม. ปลายกูไม่เห็นต้องใส่นี่ UOU”
“ก็นั่นมันโรงเรียนชายล้วนใครๆก็รู้ว่ามึงเป็นผู้ชายแต่อันนี้มึงมาแสดงแทนยังไงมึงก็ต้องยัดนม!!!!” ไอ่แปงยื่นคำขาด ไอ่ผมจะทำอะไรได้ครับนอกจากรับซิลิโคนอันใหญ่ยักษ์จากมือไอ่แปงมาแล้วยัดใส่บริเวณหน้าอกอันแบนๆของตัวเอง
ใช่ครับ…ไอ่โชแปงเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดมันสั่งให้ผมยัดนม..โอ…หมดสิ้นแล้วศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของไอ่เร T^T
“อืม…คราวนี้เหมือนผู้หญิงจริงๆแล้วดีนะเนี่ยที่ลูกกระเดือกมึงเล็กจนมองไหมเห็น^^”
“TT^TT” ไอ่โชแปงไอ่เพื่อนเวร อย่าไปเชื่อมันครับจริงๆลูกกระเดือกผมใหญ่มากแต่แค่โดนเหนียงบังไอ่แปงมันตาถั่วเลยมองไม่เห็นคนแมนๆอย่างผมจะไม่เห็นลูกกระเดือกได้ไง 55555 (หลอกตัวเองสัสๆ)
“ไม่ต้องมาทำหน้าป่วยเลยนะเรไปเตรียมตัวหลังเวทีได้แล้วจะถึงคิวมึงแล้วไปๆ” ไอ่แปงพูดพร้อมกับดันหลังผมให้ผมเดิน
ไปที่หลังเวที ผมที่ทำอะไรไม่ได้ก็เลยเอามือขึ้นมาจับตรงหน้าอกที่นูนขึ้นมาของตัวเอง…เอิ่ม..นี่ตกลงที่ผู้หญิงเค้าหน้าอก ใหญ่ๆกันนี่เค้ายัดไอ่นี่กันใช่ไหมเนี่ยขนาดผมไม่มีนมพอยัดแล้วแม่งเหมือนกับว่าตัวเองแม่งโคตรอึ๋มอะสุดยอดดด O{}O
แต่นี่มันคงไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องนมปลอมของตัวเองสินะ… =_=^
“จูเลียตเตรียมตัวนะครับอีกหนึ่งนาทีขึ้นเวทีนะครับ” พี่ที่คุมเวทีตะโกนลงมาผมก็พยักหน้ารับก่อนจะรับหน้ากากขนนกมา จากคอสตูม
“จูเลียตขึ้นเวทีเลยครับ”
สิ้นเสียงเรียกผมก็เดินขึ้นเวทีไป แสงไฟที่สาดส่องมาจากทุกด้านพร้อมกับสายตาหลายร้อยคู่
เล่นเอาผมเกร็งไปเหมือนกันแต่ในเมื่อไอ่แปงมันทุ่มเทขนาดนี้แล้วผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดเหมือนกัน
เอาวะ!!! เพื่อเพื่อน ทำไมกูช่างเป็นคนดีอะไรเบอร์นี้...น้ำตาจะไหลกับความดีของตัวเอง
ผมเดินไปเดินมาในงานเลี้ยงขนาดใหญ่พร้อมแก้วไวน์ที่ความจริงคือน้ำแดงแฟนต้าที่หน้าผมมีหน้ากากขนนกใส่ไว้อยู่ตามเนื้อเรื่องผมต้องเดินไปชนกับโรมิโอซึ่งไอ่แปงบอกว่าใส่หน้ากากขนนกสีเงินซึ่งมีอยู่แค่คนเดียว และไอ่โรมิโอนั่นก็ตัวสูงชิบหายตัวเท่าไอ่เฮดีสเลยมั้งนั่นแต่ก็ดีที่ไม่ใช่มัน
ผมเล่นไปตามบทก็คือเดินเข้าไปชนกับไอ่เปรตนั่นก่อนจะสบตาหวานซึ้งแต่ผมว่าสายตาของไอ่โรมิโอนี่แม่งคุ้นชิบหายเลยนะปากก็คุ้นจมูกก็โคตรคุ้นหรือผมคิดไปเองหว่า…
“ท่านชื่ออะไรเหรอเลดี้ผู้สูงศักดิ์” เสียงคนพากย์ดังขึ้นมาไอ่โรมิโอตรงหน้าก็ขยับปากตาม
“เราชื่อจูเลียตแล้วท่านล่ะ” คราวนี้เป็นผมที่ขยับปากตาบ้าง..แต่ผมว่าอีคนพากย์เสียงผมนี่แม่งโคตรกระแดะเลยว่ะ -_-^^
“เราชื่อโรมิโอ..”
หลังจากฉากแนะนำตัวเสร็จก็มาถึงฉากที่โรมิโอกับจูเลียตพากันมาที่สวนหลังบ้านและนั่นเป็นฉากที่ถอดหน้ากากและผมก็ได้บรรลุสัจธรรม…ไอ่โชแปงไอ่เพื่อนเวรมึงหลอกกูววววววววววววววววววววววววววววว T^T
เพราะไอ่โรมิโอที่ไอ่แปงบอกว่าจะเปลี่ยนให้มันโกหกโรมิโอก็คือไอ่เฮดีสไอ่เหี้ยกวนตีนนั่น!!! มิน่าล่ะถึงว่าหน้าแม่งคุ้นชิบ
หายสัดหมาเอ้ย T^T
“แต่งตัวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะครับเมีย” ไอ่เฮดีสก้มลงมากระซิบข้างหูภายนอกอาจจะเป็นฉากที่แสนจะสวีท หวานแต่ที่จริงแล้วผมกำลังทำศึกกับเชี่ยนี่อยู่ครับ -_-^^
“ไอ่สัด!! เมียพ่อง ไหนไอ่แปงบอกว่าจะเปลี่ยนตัวโรมิโอไงว่ะ”
“หึๆ..ก็กูอยากแสดงกับมึงนี่จะเปลี่ยนตัวทำไมล่ะ” มันพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์แต่สาวๆในหอประชุมกลับกรี๊ดลั่นไอ่ผมจะทำอะไรได้นอกจากยิ้มตอบมันแบบกัดฟันยิ้มสุดๆ
“จบฉากนี้กูจะกลับบ้าน!!!” ผมโวยวายเบาๆเพราะเป็นฉากกอดกันทำให้ไม่ค่อยมีใครเห็นหน้าผม
“ทำไม….กลัวเหรอ…ก็เงี้ยแหละพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อทำอะไรไม่เคยเป็นชิ้นเป็นอัน” อื้อหือ..จี๊ดครับ..นกหวีดขึ้นสมองเลย โดนคนที่เกลียดดูถูกนี่มันนั่นสุดๆอ่ะ เหมือนโดนเหยียบหน้าด้วยรองเท้าที่เปื้อนขี้หมาสดๆอ่ะแค่คิดกลิ่นก็ลอยมาอย่างกับ 4D
“ใครบอกว่ากลัว!!! กูจะแสดงให้จบมึงจะได้รู้ว่าคนอย่างไอ่เรไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว!!!!” ผมประกาสกร้าวทันทีหลังจากม่านปิดลงเพื่นเริ่มฉากใหม่
“อือ..จะคอยดู..ว่าแต่นมใหญ่ดีนี่ ” ไม่พูดเปล่าไอ่เวรนี่ยังยื่นมือมาบีบนมผมอีกถึงจะเป็นแค่นมปลอมแต่แม่งโคตรหยามกูเลยสัสสสสส
“ไอ่เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!” ผมร้องลั่นแล้วปัดมือมันอออกอย่างแรง ดีที่ดนตรีประกอบฉากมันดังขึ้นพอดีคนอื่นๆเลยไม่ได้ยินที่ผมโวยวาย ลังจะต่อยหน้ามันให้แหกอีกรอบแต่พี่คอสตูมก็เข้ามาเรียกไว้ก่อน ผมเลยได้แต่ชี้หน้าคาดโทษแล้วเดินกระทืบเท้าปังๆลงเวทีไปอย่างหัวเสีย ฝากไว้ก่อนเหอะมึง!!!!
ละครดำเนินต่อไปเรื่อยๆโดยที่ผมกับไอ่เหี้ยเฮดีสยังคงเถียงกันตลอดแม้ใบหน้าจะยิ้มแต่ถ้อยคำที่พูดนั้นตรงกันข้ามกับหน้าแบบสุดๆ จนกระทั่งมาถึงฉากที่ใกล้จะจบคือฉากที่โรมิโอดื่มยาพิษที่ทำให้ตัวเองเหมือนตายแต่ยังไม่ตาย
แล้วจูเลียตก็ดันหน้าโง่คิดว่าตายจริงๆเลยแทงตัวเองตายห่าตามไป ผมจะไม่ว่าอะไรสักคำถ้าก่อนตายอีจูเลียตมันจะไม่เสือกก้มลงไปจูบโรมิโอถึงจะไม่ได้จูบจริงๆก็เหอะแต่แค่อยู่ใกล้ๆไอ่เวรนี่ผมก็แทบอยากจะต่อยหน้ามันทุกขณะจิต
แล้วนี่ผมกลับต้องก้มลงไปทำท่าจะจูบมันแบบนี้เอามีดมาแทงคอหอยกูเถอะ…นี่ถ้าเป็นชีวิตจริงผมเจอไอ่เหี้ยเฮดีสในสภาพแบบนี้ ผมคงกระทืบซ้ำแถมเอาปืนยิงให้มันตายเร็วขึ้นอ่ะพูดเลย กูไม่เสียเวลาดูใจแน่นอน แต่ก็ทำได้แค่คิดแหละความจริงแม่งทำไรไม่นอกจากทำตามบทนั่นแหละ
“โอ้..โรมิโอ..เหตุใดท่านจึงทิ้งเราไปเช่นนี้เล่า” อีตัวพากย์เสียงนี่แม่งก็อินเหลือเกินนะ หมาที่บ้านตายหรือไงว่ะ -_-^
“หากไม่มีท่านข้าก็คงอยู่ไม่ได้จุมพิตสุดท้ายนี้ข้าขอมอบแด่ท่านแล้วเราจะเจอกันในภพหน้ายอดรักของข้า” สิ้นเสียง ผมก็ก้มหน้าลงไปใกล้หน้าของไอ่เฮดีสเหมือนกับว่าจะจูบ แต่ปากผมคงไม่โดนปากมันหรอกถ้ามันจะไม่เสือกกระตุกชุดผมอย่างแรงด้วยมืออีกข้างที่อยู่ใกล้ผม ทำให้ผมปากผมลงไปกระแทก...ผมขอเน้นคำว่ากระแทก!!! ลงไปโดนปากมันเต็มๆ
อื้อหือ....รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือด
แต่ภาพที่คนดูเห็นคงเป็นภาพที่ผมกับมันจูบปากกันเต็มๆเลยพากันโห่ร้องกันทั้งหอประชุม ช่วยเชกสภาพปากของกูที่เลือดอาบก่อนโห่ด้วยครับ
"ทำเหี้ยไรของมึงเนี่ย..โรคจิตหรือไง!!!" ผมกระซิบลอดไรฟันก่อนจะรีบผละออกมาทันที รู้สึกอยากจะลุุกขึ้นกระโดดถีบไอ่เวรนี่ให้ตกเตียงแต่ก็กลัวว่า การแสดงจะล่มสุดท้ายเลยได้แต่ข่มความโกรธกับอาการตีนกระตุกไว้แล้วเล่นตามบทต่อ
“ลาก่อนโรมิโอยอดรัก”
ผมดึงมีดออกมาจากข้างเอวของเฮดีสแล้วทำท่าแทงตัวเองแล้วล้มตัวลงนอนด้านล่างเตียง ซักพักไอ่เวรนั่นก็ลุกขึ้นมาเล่นตามบทบ้างแต่ผมจะไม่ว่าอะไรเลยถ้ามันจะไม่ช้อนตัวผมที่แกล้งตายขึ้นมาแล้วประกบจูบลงมา…จูบแบบจูบจริงๆไม่ใช่กระแทกรุนแรงเลือดอาบแบบเมื่อกี้ จูบที่อ่อนโยนจนไม่น่าเชื่อ ผู้คนในหอประชุมต่างร้องโห่กันเสียงดังอีกครั้ง
แต่ในหูผมตอนนี้กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยหูมันอื้อไปหมดรู้สึกแค่เพียงสัมผัสแผ่วเบานุ่มนวลที่ริมฝีปากแรงดูดดุนเบาๆจนผมเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นเวลาผ่านไปซักพักไอ่เฮดีสก็ผละออกแล้วกระซิบข้างหูผมเบาๆ
“จูบนี้แก้ตัวที่ทำให้มึงปากแตก..แล้วต่อไปนี้…กููจะจีบมึง..จำไว้"
มันพูดแค่นั้นแล้วเล่นตามบทต่อตามปกติแต่หัวใจผมนี่แหละที่ไม่ปกติเพราะมันดันเผลอเต้นผิดจังหวะไปแปบนึงน่ะสิ แต่อย่าไปสนใจมันเลย สนใจคำพูดของมันดีกว่า หึ...คิดจะจีบคนแมนอย่างกูมันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะไอ่เวรเฮดีส!!!!
เอาตอนที่สองมาฝากกกกก
ขอบคุณสำหรับนักอ่านที่หลงเข้ามาน้าาาาาละก็ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นด้วยนะจ๊ะ
เราจะเก็บไปพัฒนาตัวเองต่อไปจร้าา
จะพยายามอัพทุกๆวันนะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันน้าาาาาา
เม้นเยอะๆนะเป็นกำลังใจให้เราอิอิ
ดรั๊กกกกกกกก
-
สนุกกกกกครับ รอนะครับ
-
แล่วๆๆๆ......เฮดีส ก็มาแสดงเป็นโรมิโอ
ทั้งที่แปงบอกว่าเปลี่ยนคนแสดงแล้้ว
เร คงจะสวย หน้าหวานมากแน่ๆ
เจอฉากจูบซะ ปากแตกเลือดออกเลย
แถมบอกว่าจะจีบ ? :z3: :z3: :z3:
งี้สาวๆ ไม่มารังควานเรแย่เรอะ
สาวๆที่ว่าคงไม่ใช่ลูกเลี้ยงนะ
พ่อเร แปลกๆนะแม่เรตาย ก็คว้าเพื่อนแม่มาเป็นเมียเลย
ถูกจับหรือเปล่า ก็รักแม่เร ไม่น่ามีเมียใหม่ไว
แปลกๆอีกอย่างคือ ทำไมหูเบาซะขนาดนี้
ไม่น่าเชื่อรักลูกเลี้ยงมากกว่าลูกจริงๆ งงมาก
:L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ประกาศจีบอย่างเป็นทางการแล้ว :o8:
-
ประกาศจีบอย่างเป็นทางการแล้ว :o8:
มันจะมีปมอ่ะค่ะค่อยๆแก้ไปเนอะ นี่พึ่งตอนที่สองเอง
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ...คนเขียนมือใหม่มั่กๆสติกเกอร์ยังใส่ไม่เป็นเลยค่ะ 555555
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยนะคะ
ดรั๊กกกกกก
-
เชียร์ ๆ คาบ :o8:
-
-3- จีบ
“เรรรรรรรรรรรรรรรรรร..กูขอโทดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงครวญครางของไอ่แปงดังมาตามสาย คาดว่าเจ้าตัวน่าจะเบะปากร้องไห้ไปแล้ว
“ไม่ต้องมาพูดเลยเชี่ยแปงไหนมึงบอกจะเปลี่ยนตัวเจ้าชายให้ไงแล้วนี่อะไร..มึงเห็นไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“กูขอโทษษษษษษ....ก็พี่เฮดีสค้ไม่ยอมเปลี่ยนตัวอ่ะกูไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนี่กูชักแม่น้ำทั้งโลกมาพูดพี่แกยังไม่ยอมเปลี่ยนใจอ่ะ กูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว..มึงอย่าโกรธกูเลยนะ” ไอ่แปงทำเสียงอ้อน
“เอาน่า...เชี่ยเรอย่าไปโกรธไอ่แปงมันเลยมันเป็นเหตุสุทวิสัย..เฮียก็พยายามช่วยมึงแล้วไอ่เฮดีสมันไม่ยอมจริงๆ
เดี๋ยวเฮียพาไปเลี้ยงชาบูปลอบใจ”
“เหอะ..เฮียคิดว่าชาบูจะซื้อผมได้เหรอ”
“มึงจะไม่แดกใช่ไหม”
“แดกสิเฮีย”
“ถุยยยยย..แล้วมาทำเป็นพูด”
“แต่ผมยังไม่หายโกรธหรอกนะ...แต่ก็ลดลงมานิดนึง”
“จริงๆเหรออออ...ขอบใจนะเรเดี๋ยวกูว่างแล้วจะซื้อขนมไปง้ออีกรอบ” เสียงไอ่แปงดังขึ้นมาดูจากน้ำเสียงแล้วคงหยุดร้องไห้ไปแล้ว
“อืมๆแค่นี้นะ”
“ครับผม” ผมวางสายแล้วเดินไปหาพวกไอ่แสงที่ร้านนมหน้าคณะ ระหว่างทางก็มีสายตามองมาอย่างสนใจ...เป็นแบบนี้อีกแล้วไม่ชอบเลยวุ้ยยยยยยย
หลังจากวันที่ผมไปแสดงละครให้กับไอ่แปงผู้คนก็เริ่มมองผมด้วยสายตาแปลกๆ บางวันถึงกับมีสาวต่างคณะแวะเวียนมาหาถึงที่ ทั้งที่เกิดมายี่สิบปียังไม่เคยมีสาวใดแลเหลียว
แต่อย่าคิดว่าพวกเธอจะมาจีบผมนะครับเพราะที่พวกนั้นแวะเวียนมาอ่ะเพื่อที่จะถามว่าผมใช่คนที่แสดงเป็นจูเลียตไหมและเป็นอะไรกับไอ่เวรเฮดีส เพราะตอนที่แสดงดันมีคนถ่ายคลิปไว้แถมคนถ่ายคลิปแม่งไม่รู้ใช้เหี้ยไรถ่าย
ซูมหน้าผมตอนโดนไอ่เฮดีสจูบชัดชิบหายแถมยังเอาไปลงเพจเฟสบุ๊คอะไรไม่รู้อีก ดีนะผมไม่โดนพวกหล่อนตบไม่งั้นผมได้ตามไปต่อยไอ่เวรเฮดีสตัวต้นเหตุอีกรอบแน่ๆ
แต่พอผมทุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไอ่เพื่อน สามตัวก้รีบมานั่งขนาบข้างแล้วล๊อคคอผมก่อนจะนั่งจ้องหน้าผมอย่างจับผิดพร้อมโทรศัพท์ที่วางอยู่กลางวงโดยมีคลิปผมเปิดอยู่
“พวกมึงมีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่าจ้องหน้ากูอยู่นั่นแหละเดี๋ยวปั๊ดโบก!!!!” ผมโวยวายอย่างทนไม่ไหวไอ่แสงเลยพูดขึ้นก่อน
“เมื่อวานมึงไปแสดงเป็นจูเลียตใช่ไหม”
“โถ่..เชี่ยแสงเห็นหน้าชัดยันรูขุมขนขนาดนั้นควายมันก็ดูออกมั้งว่าเป็นไอ่เชี่ยเรมึงถามทำซากไรวะ” ไอ่กานขัดขึ้นก่อนจะโบกหัวไอ่แสงไปทีนึงแล้วหันมาจ้องหน้าผมอีกครั้ง
“จูบจริงใช่ไหม” คราวนี้เป็นไอ่กานที่ถามบ้าง แต่คำถามมึงทำเอาภาพเหตุการณ์เมื่อวานย้อนเข้าหัวกูเลยวะ T^T
“ก็อย่างที่เห็นไง”
“แล้วตกลงมึงกับพี่เฮดีสนี่ยังไงวะ” คราวนี้เป็นไอ่ทศที่ถามขึ้นมาบ้าง คำถามเดียวกับพวกผู้หญิงต่างคณะที่มาถาม แต่พวกนั้นเป็นคนอื่นไม่ได้รู้จักสนิทสนมอะไรกันผมก็เลยทำเมินหรือแวปหนีไปได้แต่ไม่ใช่กับพวกเพื่อนเวรที่มานั่งจ้องหน้าผมแถมยังมานั่งขนาบข้างกันหนีแบบนี้
แล้วไอ่ประโยคบ้าๆที่มันพูดกับผมเมื่อวานก็ลอย เข้ามาในหัว..และเพราะประโยคนี้แหละทำให้แสดงเสร็จผมก็รีบเปลี่ยนชุดและหนีกลับบ้านอย่างไว…ผมไม่ได้กลัวมันนะผมแค่กลับบ้านไปตั้งหลัก
“ก็ไม่ได้เป็นไรกันไง...กูยังเกลียดมันเหมือนเดิม”
“เกลียดเชี่ยไรถึงจูบกันดูดดื่มขนาดนั้นวะ..ปกติแค่ผู้ชายแซวมึงก็ฟิวส์ขาดไล่กระทืบแล้วไม่ใช่เหรอ”
“มันเหตุสุทวิสัยป่าววะไอ่เหี้ยมึงจะให้กูลุกขึ้นมาต่อยหน้ามันกลางเวทีไง..การแสดงก็ล่มหมดดิห่า”
“เออ..จริงด้วยว่ะกูลืมคิด” ไอ่แสงเกาหัวแกรกๆเหมือนขี้กลากขึ้นกบาลก่อนจะยิ้มแหยๆมาให้ผม
“เร!!! เมื่อวานทำไมไม่รอกู” เสียงทุ้มๆดังขึ้นด้านหลังชิบหายความควายไม่ทันหายความเหี้ยเข้ามาแทรกอีก เวรเอ้ยย!!!
“มาทำเหี้ยไร” ผมรีบลุกขึ้นถามไอ่เวรเฮดีสที่มาในชุดเสื้อช็อบสีเลือดหมูเด่นหราท่ามกลางประชากรอาร์ทติสเสือสีขาวอมเหลืองในคณะ ส่วนไอ่สามตัวบาทนั่นก็กำลังส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้จนผมอยากจะเอาตีนสะกิดหน้าคนละทีสองที
“ก็บอกแล้วไงว่าจะจีบ!”
“ เหยดดดดดดด…เชี่ยเรไหนบอกไม่มีไรไง” ไอ่กานแซวขึ้นมาจนผมต้องหันไปส่งสายตาอาฆาต
“สัด!! พูดให้มันดีๆใครจะให้มึงจีบไอ่ห่า”
“ก็มึงไง…ตอนนี้อาจจะไม่ยอมแต่ในอนาคตมึงจะไม่ใช่แค่ยอมให้จีบนะมึงจะยอมเป็นแฟนกูแน่นอน ” ให้ตาย..เกิดมาไม่เคยเจอใครหน้าดานเท่ามันมาก่อนเลยว่ะบ่องตง -_-^
“ว่าแต่วันนี้เลิกเรียนกี่โมงกูจะมารับ” ไอ่เฮดีสไม่ได้สนใจผมที่ทำหน้าปลาตายแต่กลับถามถึงตารางเรียนผมหนาตาเฉย แต่มีเหรอที่คนอย่างไอ่เรจะบอกไม่มีทาง !! -^-
“วันนี้เลิกเรียนห้าโมงครับพี่เฮดีส” อืม…แต่ผมคงลืมไปสินะว่ายังไอ่พวกขายเพื่อนอยู่อีกสามตัว ไอ่พวกเพื่อนเชี่ย =_=^^
“ก็ดี..งั้นเดี๋ยวกูมารับห้ามหนีห้ามหายไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน!”
“ทำไมว่ะ!!! ผู้หญิงที่แม่งเข้ามาหามึงก็มีเยอะแยะแล้วจะมายุ่งกับกูทำไมปล่อยกูใช้ชีวิตแบบปกติสุขเหอะ” ผมถามอย่าง เหนื่อยใจขี้เกียจเถียงขี้เกียจจะยุ่งกับคนแบบมัน....
“ก็…ไม่มีใครเหมือนมึงไงเร…ที่กูตามจีบมึงก็เพราะมึงเป็นมึง…กูชอบ^_^”
“o_o//////////////” สิ้นคำไอ่เวรเฮดีส ผมก็ทำได้เพียงยืนขาแข็งเลือดสูบฉีดเต็มใบหน้ามองมันตาค้างอยู่อย่างนั้น จนมันเดินเข้ามาจุ๊บแก้มนั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัว ไอ่เหี้ยยยยยย..รอยยิ้มมึงดาเมจรุนแรงมากเล่นเอาคนแมนๆอย่างกูไปไม่เป็นเลย
ไม่คิดว่าคนหน้านิ่งอย่ามันจะยิ้มได้หล่อบาดตับขนาดนี้...กูตายยยยยยยยยT^T
“ทำบ้าอะไรวะ!!>/////////<” ป่าว..ใครหน้าแดง..ไม่มี..ผมไม่ได้เขินจริงๆนะ ถึงแม้พวกเพื่อนเวรมันจะมองผมด้วยสายตาล้อเลียนก็เถอะ ผมไม่ได้เขินจริงๆ
“ก็มึงน่ารัก เฮ้ย..พวกมึงอ่ะฝากดูแลว่าที่เมียกูด้วยนะเว้ยถ้ามีใครมายุ่งก็กระทืบได้เลยกูรับผิดชอบเอง” ประโยคแรกมันคุยกับผม แต่ประโยคหลังมันหันไปพูดกับพวกลิงสามเสือกที่อยู่ด้านหลังด้วยเสียงเย็นๆ
ไอ่พวกนั้นก็พยักหน้ารับอย่าง แข็งขันก่อนที่ไอ่เฮดีสจะลูบหัวผมอีกครั้งแล้วขึ้นรถขับออกไป….ในขณะที่ผมยังคงยืนหน้าแดงอยู่ที่เดิมพร้อมกับรอยยิ้มล้อเลียนของเพื่อนทั้งสามตัว
อืม....ใครก็ได้เรียกสติผมกลับเข้าร่างทีรู้สึกแพ้ยังไงก็ไม่รู้
………………………………………………..
ตกเย็นรถเฟอรารี่สีดำสนิดก็มาจอดเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าคณะผมร้อมกับเจ้าของรถที่นั่งรอแถวๆร้านนมที่ผมนั่งเมื่อเช้า
“โอ้โหหหหหหหหหหหห….เดี๋ยวนี้ไอ่เรแม่งมีสารถีแล้วเว้ยแถมยังเป็นรถสปอร์ตอีกต่างหากอิจฉาเว้ย!” เสียงของไอ่กานเห่าแซวขึ้นมาก่อนใครทันทีที่เดินมาถึงหน้าตึกแต่ไอ่เฮดีสยังไม่เห็นพวกเราหรอกครับเพราะมันก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่แล้วหน้าตึกกับตรงที่มันนั่งก็ห่างกันพอควรมันเลยไม่ได้ยินเสียงพวกผม
“เออๆจริงว่ะแต่ก่อนนี่โหนรถเมล์กับเราทุกเย็นเดี๋ยวนี้คงไม่ต้องไปยืนโหนเป็นลิงแล้วล่ะสิ” ตามมาด้วยไอ่ทศที่เอานิ้วเขี่ยหน้าผมไปมา..หน้ากูไม่ใช่ขี้นะสัด =_=^^
“แล้วมันจะไปโหนทำไมให้เมื่อยล่ะในเมื่อมีเฟอรารี่มาให้มันนั่งถึงที่แถมสารถียังหล่อชิบหายแบบนี้มีเหรอที่ไอ่เรจอมงกจะ ปฏิเสธน่ะ..ไม่มีท้างงงงงงงงงง” ปิดท้ายด้วยไอ่แสงก่อนที่พวกมันจะหันมามองหน้าผมยิ้มๆ
“แซวหาบิดามึงเหรอรับเพื่อนสัตว์ทั้งหลาย….แล้วกูเป็นคนขอร้องให้มันมารับหรือไงว่ะมันมาเองนะเว้ย!”
“อันนั้นพวกกูรู้…แต่กูว่าพี่เฮดีสแม่งเอาจริงแน่เลยว่ะ…เพราะเท่าที่กูเรียนที่นี่และได้ยินชื่อเสียงพี่มันมาอ่ะกูไม่เคยเห็นพี่ มันจะไปตามเฝ้าใครถึงคณะมาก่อนเลยนะเว้ยมีแต่คนตามไปเฝ้าอ่ะแต่นี่แม่งลงทุนมารับมึงถึงคณะจิตรกรรมที่อยู่ในป่า ขนาดนี้แม่งต้องจริงจังกับมึงแน่ๆเชื่อกูดิ” ไอ่กานพูดพร้อมกับตบอกตัวเองอย่างมั่นใจ
“หึ….คนเราอ่ะมันดูที่ภายนอกไม่ได้หรอกและกูก็ไม่มีทางเชื่อด้วยว่ามันจะรักจะชอบกูขนาดพ่อกูแท้ๆยังไม่รักกูเลย” ผมพูดเสียงเรียบจนพวกไอ่แสงต้องบีบไหล่ผมเบาๆเพราะพวกมันรู้ว่าผมไม่ค่อยลงรอยกับพ่อเท่าไหร่
“อย่าคิดมากดิวะเร คนเรามันต่างความคิดต่างจิตต่างใจนะเว้ยไม่เหมือนกันทุกคนหรอกเชื่อกู อีกอย่างไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูกหรอก” ไอ่ทศตบไหล่ผมเบาๆผมก็พยักหน้ารับแต่ในใจก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าจะมีคนรักผมจริงๆเหรอ นอกจากคุณยายเพื่อนสนิทอย่างไอ่แปงกับไอ่พวกนี้ กับแม่ที่จากไปแล้วมันยังจะมีคนที่รักและหวังดีกับผมจริงๆเหรอ
“นี่…เรียนเสร็จแล้วทำไมไม่เรียกล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาที่ขยี้หัวผมเบาๆ
“ฮู้ววววว…เล่นไรเนี่ยผมกูเสียทรงหมดสัด!” ผมสบถเบาๆแล้วขมวดคิ้วมองไอ่เฮดีสอย่างเคืองๆนี่มันมาเมื่อไหร่เนี่ยทำไม ผมถึงไม่รู้เรื่องแล้วไอ่เพื่อนเวรนั่นทำไมพร้อมใจกันสลายโต๋แบบนั้นล่ะพวกมึงทิ้งกูได้ไงว่ะ T^T
“เอ้า…ขึ้นรถได้แล้วต้องไปทำงานพิเศษไม่ใช่เหรอเดี๋ยวไปส่ง” ไอ่เฮดีสพูดพร้อมกับดึงแขนผมให้เดินตามก่อนจะยัดผมเข้า มาในรถแต่ผมก็ยังยื้อขอบประตูรถไว้ก่อนจะหันไปถาม
“มึงรู้ได้ไงว่ากูทำงานพิเศษ..แล้วรู้ได้ไงว่ากูทำงานที่ไหน”
“หึ...คนอย่างกูถ้าอยากรู้อะไรสักเรื่องมันไม่ใช่เรื่องยากหรอกเด็กน้อย”
“มึงมันโรคจิต”
“ยอมรับ..ก็เป็นกับมึงคนเดียวนี่แหละ” ไอ่เฮดีสยิ้มมุมปากก่อนจะดันผมเข้ารถอีกรอบผมเลยเข้าไปนั่งให้มันจบๆไป
แล้วไอ่เฮดีสก็ขึ้นไปนั่งที่คนขับและออกรถ ระหว่างทางไม่มีเสียงพูดคุยอะไรเลยนอกจากเสียงแอร์กับเสียงเพลง
ที่ไอ่เฮดีสมันเปิดไว้เบาๆ จนถึงร้านเค้กน่ารักๆร้านหนึ่งซึ่งผมทำงานเป็นพนักงานพาทไทม์อยู่ โดยที่ไอ่คนขับมันไม่หันมาถามทางผมซักคำ
ความจริงค่าเทอมค่ากินอยู่อะไรพวกนี้คุณยายก็จ่ายให้ผมทุกเดือนนะแต่ผมก็ไม่อยากจะรบกวนท่านมากเลยเก็นเงินนั้นไว้แล้วมา ทำงานพิเศษหาเลี้ยงตัวเองแทนตอนแรกคุณยายก็คัดค้านเพราะไม่อยากให้ผมลำบากแต่ผมก็ยืนยันคำเดิมคุณยายก็เลย ยอมแต่มีข้อแม้ว่าค่าเทอมผมต้องให้ท่านจ่ายให้และให้ท่านโอนเงินมาให้ทุกเดือนแต่จะใช้ไม่ใช้ก็แล้วแต่ผมสุดท้ายผมก็เลยยอมรับข้อเสนอของคุณยายเพราะกลัวว่าท่านจะไม่สบายใจอีก
“นี่มึงทำงานที่นี่มากี่ปีแล้วเนี่ย” มันถามทันทีที่เดินตามผมเข้ามาในร้าน
“ก็ตั้งแต่ม.ห้าอะ ทำไมเหรอ” ผมหันไปถามอย่างสงสัยไม่รู้ว่ามันจะถามทำไม
“ก็ได้ข่าวว่าพ่อมึงรวยไม่ใช่เหรอ…ไม่เห็นว่ามึงจะต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยนี่”
“ คนที่รวยอ่ะพ่อกูไม่ใช่กู….เค้าไม่นับกูเป็นลูกด้วยซ้ำ” ผมพูดเสียงเบาแล้วหลบสายตาของไอ่เฮดีสที่จ้องมองมา
“เฮ้อออออออ….คิดมากจังเด็กน้อย” มันยีหัวผมเบาๆก่อนจะส่งยิ้มให้ อืม...ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว...รอยยิ้มที่สว่างไสวเหมือนพระอาทิตย์นั้นมันทำให้ใจ ของผมอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดก่อนที่จังหวะการเต้นของหัวใจผมจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเต้นแรงอย่างน่ากลัว..ให้ตายดาเมจรอยยิ้มไอ่เหี้ยนี่มันรุนแรงจริงๆสงสัยต้องระวังตัวแล้วกู
“กูโตแล้วเหอะ!” ผมโวยวายกลบเกลื่อนก่อนจะรีบเดินไปเปลี่ยนชุดที่หลังร้าน
ยูนิฟอร์มของร้านนี้ผู้ชายจะใส่เสื้อยืดคอปก สีแดงกับกางเกงขาเดฟสีขาวครับตรงอกเสื้อจะมีชื่อร้านปักอยู่ส่วนผู้หญิงเสื้อก็จะเหมือนผู้ชายแต่จะใส่กระโปรงสั้นๆสีขาวแทน พอเดินออกมาก็เจอไอ่เฮดีสยืนคุยกับผู้จัดการร้านอยู่ ผมก็เลยแยกตัวออกไปทำงานเพราะเห็นมันบอกว่าจะรอจน กว่าผมจะเลิกงาน…
บางทีมันก็เป็นคนที่แปลกและบ้าใช้ได้เลยทีเดียวเพราะตอนนี้มันแค่หกโมงแต่ผมเลิกงานตั้งสามทุ่ม หรือว่ามันจะไม่รู้ว่าผมเลิกงานสามทุ่ม...เหอะ...อยากรอก็รอไปเลย
………………………
Hadis Part
ผมนั่งมองไอ่เรหน้าหวานอยู่ตรงโต๊ะวีไอพีที่ผู้จัดการร้านจัดให้ ความจริงร้านนี้เป็นร้านแม่ผมเองครับแต่ท่านไม่ค่อยได้มาดูแลเท่าไหร่เลยเป็นผมมากกว่าที่จะคอยเข้ามาดูแลเรื่องต่างๆตั้งแต่ขึ้นปีหนึ่งแต่ผมกลับไม่เคยเจอหน้าไอ่เด็กเรนั่นเลยซักครั้ง
อาจเป็นเพราะมันมาทำงานช่วงเย็นตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ในขณะที่ผมมักจะชอบเข้าร้านแค่ในวันอาทิตย์เท่านั้น บางครั้งผมก็ไม่เข้าร้านด้วยซ้ำเลยทำให้ไม่เคยเจอหน้ามัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอ่หนาสวยนั่นทำเอาผมเพ้อเลยทีเดียว
เพราะเกิดมาบนกองเงินกองทองเลยมีแต่คนคอยตามเอาอกเอาใจบวกกับที่พ่อผมเป็นคนมีอิทธิพลเลยไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับผมซึ่งๆหน้าทั้งหญิงทั้งชายต่างพากันกลัวผมไม่ก็เสนอตัวให้ผมกันซะส่วนใหญ่
จนกระทั่งผมได้เจอกับไอ่เร ผู้ชายหน้าสวยปากแดงตาโต บวกกับเอวคอดๆผิวขาวๆนั่นแค่เห็นแวบแรกก็รู้สึกเลยว่าน่ารักไหนจะเสียงหวานๆนั่นอีกล่ะ แค่ได้ยินมันคุยกับเพื่อนมันก็ทำให้ผมเริ่มสนใจแต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะคนสวยๆผมเจอมาเยอะเอามาเยอะแล้ว…
แต่ไม่คิดว่าการที่ผมแกล้งไปเอาข้าวตัดหน้ามัน จะทำให้ผมได้เห็นนิสัยโผงผางของมันคำพูดหยาบๆที่ไม่เข้ากับใบหน้าเสียงสบถกับคิ้วขมวดๆนั่นผมจำติดตาชิบ แถมมันยังทำสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อนเพราะหลังจากที่ผมกวนตีนตอบมันหมัดลุ่นๆกระทบหน้าผมแบบจังๆ แปลก….ที่ผมไม่โกรธ
แววตาใสๆแบบไม่ปิดบังไม่มีเล่ห์เหลี่ยมของไอ่เด็กนั่นทำเอาผมเก็บไปเพ้อยิ่งตอนมันแสดงละครเวทียิ่งแล้วใหญ่ ร่างบางในชุดของจูเลียตเล่นเอาผมมองจนตาค้างยิ่งได้จูบยิ่งต้องการมากขึ้นปากหวานๆของมันผมไม่อยากให้ใครได้ลิ้มลองนอกจากผมหน้าแดงๆของมัน ผมอยากเก็บไว้มองคนเดียว ยิ่งใกล้มันมากเท่าไหร่หัวใจผมยิ่งเต้นรัวมากเท่านั้น นี่แหละมั๊งที่เค้าเรียกว่า
“ตกหลุมรัก”
“ผู้จัดการนั่นอะไร” ผมลุกขึ้นอย่างรวดเร็วสติที่เพ้อพกเมื่อกี้กลายเป็นผงแทนที่ด้วยอารมณ์ที่เริ่มเดือดขึ้นเมื่อเห็นไอ่เรนั่งหันหน้าเข้าหากันกับ ผู้ชายแปลกหน้า ไอ่เรมันไม่รู้เรื่องอะไรเห็นนั่งขีดๆเขียนๆอะไรไม่รู้ลงกระดาษแต่ไอ่เวรที่นั่งตรงกันข้ามนี่สิมึงยื่นหน้าเข้า ไปใกล้ทำเตี่ยอะไรว่ะ!!แถมยังนั่งกันในโซนวีไอพีที่ลับตาคนแบบนั้นอีกแม่งกูขึ้นอย่างแรง!!!!
“อ่อ..น้องเรเค้ารับจ้างวาดภาพเหมือนอะค่ะใครที่มาที่นี่ส่วนมากก็จะไปนั่งให้น้องเรวาดภาพเหมือนให้รูปล่ะสองร้อยค่ะ คุณเฮดีสสนใจเหรอค่ะ” ผู้จัดการถามหน้าซื่อแต่ผมนี่สิโคตรไม่พอใจ
“นี่เค้าวาดมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามเสียงต่ำพยายามกดความไม่พอใจไว้ลึกๆ
“ตั้งแต่ปีหนึ่งค่ะ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะค่ะลูกค้าเข้าร้านเยอะมากเลยตอนน้องเรมา โดยเฉพาะลูกค้าผู้ชายที่ชอบ มานั่งให้น้องเรวาดรูปให้อ่ะค่ะบางรูปนี่ให้ห้าร้อยเลยนะค่ะ” ยัยผู้จัดการร้านยังคงพล่ามต่อไปแต่ผมนี่สิแม่ง…โคตรไม่สบอารมณ์
นั่นมันว่าที่เมียผมนะจะให้ผู้ชายคนอื่นมานั่งจ้องเอาๆแบบนี้ได้ไงผมไม่ยอมหรอก!! ไม่รู้หรือไงว่าผมอ่ะโคตรหวงของโดยเฉพาะของที่เป็นของผมหรือของที่ผมอยากได้อ่ะ
“เอาหน้ามึงออกไปไกลๆเลยไอ่หน้าส้นตีน” ไวเท่าความคิด ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงที่เรนั่งพร้อมกับดันหน้าไอ่เวรนั่นออก ไอ่นั่นทำหน้าไม่พอใจแต่พอเห็นว่าเป็นผมก็ยอมเงียบปากไว้แล้วเดินกลับโต๊ะไป
“ทำอะไรของมึงเนี่ยไอ่เชี่ยนั่นลูกค้ากูนะเว้ย”
“ช่างแม่งดิ…ทำไมมึงต้องให้คนอื่นมานั่งจ้องแบบนี้ด้วยว่ะกูไม่ชอบเลย” ผมพูดตามตรงแล้วจ้องหน้ามันนิ่ง ไอ่เรขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะตอบกลับมา
“แล้วทำไมกูต้องทำตามที่มึงชอบ…มึงเป็นอะไรกับกูอีกอย่างนั่นมันก็งานกูมึงเสือกไรเนี่ย -_-^”
“ก็บอกแล้วไงว่ากูจะจีบมึง....งั้นก็แสดงว่ามึงเป็นว่าที่แฟนกูเพราะฉะนั้นมันไม่มีสิทธิ อีกอย่างนี่อ่ะร้านกู” ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูไอ่เรแล้วขบหูมันเบาๆอย่าง หยอกล้อจนมันหน้าแดงไปหมด..ให้ตาย..น่าฟัดชะมัด -_-^
“ระ…ร้านมึงเหรอ…มึงมั่วป่าวกูไม่เคยเห็นมึงมาดูร้านซักหน่อยอีกอย่างคนที่เป็นเจ้าของร้านน่ะชื่อคุณทิพย์ต่างหาก กูเคยเจอแล้วด้วยอย่ามามั่วนะ!”
“เหอะ…นั่นมันแม่กูแล้วท่านก็ยกร้านนี้ให้กูแล้วด้วย”
“o[]o” ไอ่เรอ้าปากหวออย่างตกใจจนผมขำในท่าทางของมัน มันเลยรีบหุบปากแล้วหันไปบ่นอะไรของมันไม่รู้คนเดียว
“มึงไม่ต้องมาแอบด่ากูเลยกูได้ยินนะ”
“เออกูด่าแล้วไงอ่ะ...แต่มึงจะมาโวยวายแบบนี้ไม่ได้เพราะนี่เป็นงานอีกอย่างถ้านี่เป็นร้านแม่มึง มึงก็ควรจะสงบสติอารมณ์ก่อนเค้าเป็นลูกค้ามึงไม่ควรทำแบบนี้“ ไอ่เรพูดพร้อมทำสีหน้าจริงจัง
“แต่ก็ไม่เห็นต้องนั่งใกล้กันขนาดนั้นนี่!!!”
“เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะไอ่สัส..อีกอย่างกูยังไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าจะให้มึงจีบอะไรคือการที่มึงมั่นหน้าแล้วมาโวยวายแบบนี้”
“เหอะ...ยังไงกูก็มั่นใจว่ากูจีบมึงติดแน่” ผมพูดอย่างมั่นใจแล้วมองหน้าไอ่เรตรงๆ มันเม้มปากอย่างขัดใจก่อนจะเชิดหน้าขึ้นมองผมอย่างไม่ยอมแพ้
“ก็ถ้ามั่นใจขนาดนั้นก็ควรให้พื้นที่ส่วนตัวกูบ้างไม่ใช่มาทำตัวแบบนี้...ถ้ามึงไร้เหตุผลแบบนี้อย่าหวังว่าจะจีบกูติดเลย”
“หึ..ก็ได้ๆ..งั้นถ้ากูทำตามที่มึงบอกก็แสดงว่ากูสามมารถจีบมึงได้ใช่ไหมล่ะ”
“กูไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นนะ” ไอ่เรทำตาโตตกใจจนผมเผลอยิ้มออกมา...น่ารักจริงๆเลยน้า...
“ก็ได้ๆ...กูจะให้พื้นที่ส่วนตัวและจะไม่มากวนงานของมึงถ้าไอ่พวกที่มาจ้างมึงวาดรูปมันไม่ทำอะไรเกินกว่าขีดความอดทนของกูอ่ะนะ”
“เหอะ...มันก็เรื่องของมึงกูไม่เห็นจะสนใจ” ไอ่เรพึมพำเบาๆแต่ผมเห็นนะว่ามันแอบหน้าแดงอ่ะ ยิ่งมองยิ่งน่ารักจริงๆนะว่าที่เมียผม
ตอนที่ 3 แล้วจร้าาาา
ปาดเหงื่อออออออออ
เรื่องนี้เราว่าจะแต่งสักสิบตอนอ่ะ..ไม่รู้ว่าจะเรียกเรื่องสั้นดีไหม 55555
มันก็จะมีปมหลายๆปมที่จะคลายในตอนหลังๆนะคะยังไงก็อดใจรอก่อนเด้ออออ
ขอบคุณทุกคอมเม้นและทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ
เป็นกำลังใจที่ดีให้เราพัฒนาตัวเองเลย
ยังไงก็ฝากนักเขียนเอ๋อๆคนนี้ด้วยนะคะ
"ดรั๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
ปล. สติกเกอร์ดุ๊กดิ๊กๆนี่ใส่ยังไงหรอมมม 5555
ปล.2 เราตอบเม้นผิดขอโทษนะช่วงนี้มันจะเบลอๆหน่อยเรียนหนักสติไม่ค่อนจะมี 55555
-
#ทีมเฮดีส พี่เค้าน่ารัก :m1:
ติ๊กเกอร์ใส่ในเรื่องนี่..ทำไม่เป็นเหมือนกัน แต่ถ้าใส่ในเม้นท์ เลือกแล้วกดเลย ตอนพิมพ์จะขึ้นเป็นโคด พอตั้งกระทู้จะเป็นติ๊กเกอร์ ลองดูน้องหนู o13
-
แวะเวียนมาอ่าน
สนุกดีคับ :hao3:
-
-4- เปลี่ยนแปลง
Ray Part
ผมตื่นนอนด้วยสภาพหัวชี้ฟูขี้ตาเกรอะกรังมาเปิดประตูให้คุณยายที่มักจะมาหาผมทุกวันเสาร์อาทิตย์ของสัปดาห์
เมื่อคืนหลังจากทำงานเสร็จไอ่เฮดีสมันก็พาผมมาส่งที่หน้าคอนโด แล้วก็ขับรถกลับไป ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างมันจะมีความอดทนสูงขนาดนี้
ความจริงมันก็ขอขึ้นมาที่ห้องแหละแต่อย่าหวังครับคนแมนอย่างผมไม่มีทางให้ไอ้ตัวที่จ้องจะสอยประตูหลังผมได้ย่างกรายเข้าไปในห้องเป็นอันขาด หึหึหึหึ...
ด้วยการที่ไม่มีอะไรทำเพราะงานอาจารย์ผมก็ทำเสร็จหมดแล้วแถมยังไม่ง่วงด้วยผมก็เลยนั่งเล่นเกมจนถึงตีสามทำให้สภาพแลดูอนาถแบบนี้แหละ
“นี่น้องเรทำไมแต่งตัวแบบนี้ละหืม….ดูไม่ได้เลยนะเรา” คุณยายว่าเสียงนุ่มผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆไปให้แต่ยังไม่ทันที่จะปิด ประตูมือใหญ่ๆของใครบางคนก็ดันปรตูเอาไว้ก่อน
“เฮ้ย!! สัดหมามึงมาได้ไงวะ o_o” ผมอุทานอย่างตกใจเมื่อเจ้าของมือหนาคือไอ่เวรเฮดีสเท่าที่จำได้เมื่อวานผมไม่ได้บอกมัน นะว่าผมอยู่ห้องไหนแล้วแม่งมาถูกได้ไงว่ะครับ =_=^
“นี่น้องเร…พูดกับพี่เค้าดีๆหน่อยสิลูกพี่เค้าอุตส่าห์มาหา..แล้วทำไมไม่บอกพี่เค้าละว่าอยู่ห้องไหนดีนะเนี่ยที่ยายพามา” อ้อ..ต้นเหตุอยู่ที่คุณยายสุดสวยของผมนี่เองไม่น่าเลยคุณยายที่รัก T^T
“มาไมอ่ะ” ผมหันไปถามไอ่เฮดีสที่กำลังยิ้มประจบคุณยายอยู่
“มารับไง…” หืม….น้ำเสียงตอแหลนี่มันคืออะไรแล้วกูบอกตอนไหนวะว่าจะไปกับมึงน่ะไอ่ตับห่านสตอเบอรี่ -_-^^
“มารับไปไหนกูจำไม่ได้นะว่านัดกะมึงอ่ะสัส”
“น้องเร! บอกให้พูดกับพี่เขาดีๆไงลูกไม่น่ารักเลย” คุณยายทำเสียงดุใส่ผมเลยได้แต่ยิ้มแหยๆไปให้ก่อนจะลากไอ่ตัวปัญหา คุยกันในห้องครัว
“อะไรของมึงเนี่ย..มาทำเชี่ยไรแต่เช้ากูไม่ได้บอกว่าจะไปไหนกับมึงเลยนะ-*-“
“อ้าว…ก็กูบอกว่าจะจีบมึงกูก็ต้องพามึงเดทเพื่อทำการเรียนรู้ซึ่งกันและกันสิ”
“ก็เรื่องของมึงดิ…อย่าเอากูไปเกี่ยว”
“ไม่เกี่ยวได้ไงในเมื่อกูจะจีบมึงอ่ะ”
“กูไม่ไป”
“แต่ว่า….”
“น้องเร..มานี่หน่อยสิลูกยายมีเรื่องจะคุยด้วย” ยังไม่ทันที่ไอ่เฮดีสจะหาเหตุผลมาโน้มน้าวผม คุณยายก็เรียกผมไปหาซะก่อนผมเลย เดินออกมาหาท่านที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับไอ่เฮดีสที่ตามหลังผมมา
“อะไรครับคนสวยมีอะไรจะพูดกับสุดหล่อคนนี้ครับ”
“หึๆ..น้องเร..มีความสุขดีใช่ไหมลูก”
“หืม…ทำไมถามแบบนั้นล่ะครับ” ผมถามอย่างสงสัยเพราะคุณยายไม่เคยถามอะไรแบบนี้
“คือ…ยายต้องบินไปดูแลธุรกิจที่อเมริกาหน่อยน่ะลูก..พ่อเราบอกว่ากำลังมีปัญหา”
“แล้วทำไมแด๊ดไม่ไปเองล่ะครับ ทำไมไต้องให้คุณยายไปด้วยแล้วเราล่ะ..เรจะอยู่กับใคร..ฮึกกก”
“เอ้า…ร้องไห้ซะแล้วหลานขี้แยคนนี้นี่…ยายไปไม่นานหรอกสักสองสามเดือนเอง”
“ตั้งนานอ่ะ!! ทำไมแด๊ดทำแบบนี้..นี่เขาต้องการอะไรจากเรนักหนาอะครับฮึก..คราวที่แล้วไล่เรออกจากบ้านไม่พอคราวนี้จะมาเอา คุณยายไปอีก..ฮึก.เรไม่ยอม” ผมพูดพร้อมกับน้ำตาไหลพรากไม่สนใจว่าไอ่เฮดีสจะมองอยู่ คุณยายลูบหัวผมเบาๆ แล้วยิ้มให้
“ยายไปแป๊บเดียวเองลูกพออะไรๆเข้าที่แล้วยายก็กลับมา..แต่ระหว่างนี้น้องเรก็ดูแลตัวเองไปก่อนนะลูก”
“ครับ..ฮึก..ผมจะดูแลตัวเอง ฮึก..ฮือออ”
“น้องเร…ที่พ่อเค้าทำไปเค้ามีเหตุผลนะลูก” คุณยายบอกผมเสียงอ่อน
“เหตุผลอะไรครับ...เหตุผลที่ว่าแด๊ดเกลียดผมเพราะผมทำให้แม่ตายงั้นเหรอครับ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้น...แต่ที่พ่อเค้าทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของเรนะ..ยิ่งเรรู้น้อยเท่าไหร่มันจะปลอดภัยสำหรับเรมากเท่านั้นนะลูก”
ผมอยากจะเชื่อคุณยายว่าพ่อเป็นห่วงผมแต่การกระทำของแด๊ดมันทำให้ผมทำใจเชื่อไม่ลงจริงๆ
“......” ผมไม่ตอบอะไรนอกจากก้มหน้าก้มตาร้องไห้ต่อไป
“เดี๋ยวผมจะช่วยดูแลเรให้เองครับคุณยาย” เสียงไอ่เฮดีสแทรกขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้คุณยายบางๆ
“แล้วมันจะไม่รบกวนเกินไปเหรอพ่อหนุ่ม หลานยายมันดื้อนะ 55555”
“ไม่เป็นไรครับ…ผมถนัดในการปราบเด็กดื้ออยู่แล้ว” พูดจบมันก็มองหน้าผมที่กำลังเช็ดน้ำตายิ้มๆ
“อืม..ได้ยินแบบนี้แล้วยายค่อยสบายใจขึ้นหน่อย...น้องเรไว้ยายจะโทรหาบ่อยๆนะลูก” ประโยคหลังคุณยายพูดกับผมพร้อมกับลูบหัวอย่างเอ็นดุ
“ฮึก..แล้ววันเสาร์อาทิตย์ใครจะมาทำกับข้าวให้เรกิน..ใครจะอยู่ให้เรอ้อนล่ะ”
“ไม่งอแงนะเร..เดี๋ยวยายก็กลับมาแล้ว..นะครับคนเก่ง” ให้ตายสิ..พอเป็นเรื่องครอบครัวทีไรทำไมบ่อน้ำตากูตื้นจังวะ ไอ่เวรเฮดีสแม่ต้องกำลังหัวเราะเยาะผมในใจแน่เลย
“ยังไงก็ฝากดูแลหลานยายด้วยนะพ่อหนุ่ม....ว่าแต่พ่อหนุ่มชื่ออะไรล่ะ”
“ชื่อเฮดีสครับคุณยาย ^^” ไอ่เฮดีสยิ้มประจบคุณยายอีกครั้ง จนผมรู้สึกหมั่นไส้
“อ้อ..พ่อน้องเรหายดีแล้วนะลูกได้ไปเยี่ยมเค้าบ้างหรือเปล่า” คุณยายหันมาถามผมที่กำลังเบะปากเพราะหมั่นไส้ไอ่เวร
เฮดีสอยู่
“ไปแล้วครับ..แต่โดนไล่กลับมาอย่างกับหมูหมา เค้าจะเป็นยังไงก็ช่างเค้าเถอะครับ..ถ้าเค้าไม่เห็นผมเป็นลูกก็ไม่จำเป็นที่ผม จะต้องเห็นเค้าเป็นพ่อนี่ครับ” ผมตอบเสียงเรียบน้ำตาหยุดไหลไปแล้วครับเหลือแต่ความเจ็บปวดและน้อยใจที่ผมกดไว้ ลึกๆในใจ
“เฮ้อออออ…เรานี่น้า…อ๊ะ..เดี๋ยวยายต้องกลับไปเก็บของก่อนฝากดูแลหลานยายด้วยนะพ่อเฮดีสถ้าน้องเรดื้อ ก็ทำโทษได้เลย ^^”
“ด้วยความเต็มใจครับ ”
“คุณยายอ่ะ..ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ -3-“ ผมทำปากจู๋อย่างเคืองๆแล้วเดินไปส่งคุณยยายลงลิฟต์
“ดูแลตัวเองดีๆนะน้องเร”
“ครับคุณยาย” ผมกอดคุณยายครังสุดท้ายก่อนคุณยายจะลงลิฟต์ไป
“ยืนเหม่ออะไรไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว” เสียงกระซิบเบาๆที่ข้างหูทำเอาผมสะดุ้งหันไปมองคนกระทำตาเขียวปั๊ด
“เล่นเชี่ยไรของมึงเนี่ยกูตกใจหมด!”
“ไม่ได้เล่นเชี่ยแต่มาเร่งมึง…ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยว่ะสัดกูง่วง -*-“
“เดี๋ยวค่อยไปนอนต่อในรถกู..เร็วๆกูหิวข้าวแล้วจะได้รีบไปกินข้าวกัน”
“โธ่..ไอ่เหี้ยลากสังขารมาซะเช้าเสือกยังไม่แดกข้าวนี่มึงโง่หรือมึงควายว่ะเฮดีส”
“เรื่องของกูน่ารีบอาบน้ำเร็วๆหรือจะให้กูกินมึงแทนอาหารเช้าล่ะ” ไอ่เฮดีสพูดด้วยเสียงเจ้าเล่ห์แล้วสาวเท้าเข้ามาใกล้ผม ผมเลยต้องรีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำในห้องอย่างรวดเร็วเพื่อสวัสดิภาพของตัวเองและประตูหลัง
ถึงจะบอกว่าส่วนสูงไม่มีผล ในแนวราบก็เถอะแต่ขนาดตัวแม่งมีผลในการคุมเกมครับและผมนายเรวัฒน์ไม่ขอเสี่ยงในเรื่องแบบนี้
หลังจากใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวโดยใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ได้ฤกษ์ออกเดินทาง
ความจริงผมอาบน้ำเสร็จตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้วล่ะครับแต่อยากแกล้งไอ่เวรเฮดีสเลยนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ในห้องน้ำกะว่าจะเล่นแปบเดียวครับแต่ดันติดลมนี่ถ้ามันไม่มาเคาะประตูห้องน้ำนี่ผมคงยังไม่ออกมาอ่ะ 55555
“มึงจะพากูไปไหนอ่ะ” ผมถามขณะที่มือก็กดเลือกเพลงในรถมันเล่น
“เดี๋ยวถึงมึงก็รู้เอง” มันบอกแล้วยิ้มมุมปากแบบไม่น่าไว้ใจจนผมขมวดคิ้วอย่างระแวง
“กูไม่พามึงไปปล้ำหรอกไม่ต้องทำหน้าระแวงขนาดนั้น หึหึหึ” ไม่ให้กูระแวงแล้วไอ่รอยยิ้มหลอนๆของมึงคืออะไรไอ่สัส ผมไม่ได้กลัวมันนะผมแค่ระแวงไง
ไม่นานนักรถมันก็เลี้ยวเข้ามาจอดยังคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากคอนโดผมไม่มากแต่ดูหรูหรากว่าคอนโดผมพอสมควร
“มึงพากูมานี่ทำไม”
“อ้าว...ก็กูรู้จักห้องมึงแล้วกูก็อยากให้มึงมารู้จักห้องของกูบ้างแฟร์ๆไง”
“แฟร์เหี้ยไร...กูไม่ได้อยากมาสักหน่อย”
“เอาน่า..รู้เค้ารู้เราไงสาวๆออกจะอยากมาที่นี่เยอะแยะแต่มีมึงคนเดียวนะเนี่ยที่กูพามา”
“นี่กูต้องปลื้มปริ่มจนน้ำตาไหลไหม” ผมพูดกวนๆก่อนที่เฮดีสมันจะพาผมขึ้นลิฟต์มายังชั้นเกือบบนสุดทั้งชั้นแม่งมีห้องอยู่ไม่กี่ห้องเองครับผมนี่อึ้งในความหรูหรามาก
แต่ข้างนอกว่าหรูแล้วเทียบข้างในไม่ติดเลยครับหรูกว่าเยอะห้องผมนี่เทียบไม่ติดเพราะห้องมันมีชั้นลอยด้วยครับแถมระเบียงก็โคตรกว้างควายนี่วิ่งเล่นได้เป็นฝูง มาเฟียนี่แม่งรวยขนาดนี้เลยเหรอวะ
“อ้าปากค้างจนแมลงวันบินเข้าปากละมึง”
“สัส..กูก็แค่ตกใจนิดหน่อย..ทำไมมึงรวยจังวะค้ายารึเปล่า”
“ปากมึงนี่นะ...พูดแบบนี้อยากโดนดูดปากเหรอ..หืม..”
“สัสลองดูสิมึงได้ปากแตกแน่!!” ผมพูดพร้อมกับโชวืกำปั้นคนแมนให้มันดูไอ่เฮดีสส่ายหัวก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้อง
“มานั่งนี่สิ” มันพูดแล้วตบที่ว่างข้างๆตัวแปะๆ สัดกูไม่ใช่เด็กนั่งดริ๊งนะเว้ย
“กูบอกให้มานั่งนี่” ไอ่เฮดีสพูดอีกครั้งเมื่อผมไปนั่งโซฟาตัวข้างๆแทนที่จะเป็นข้างๆมัน
“นั่งตรงไหนก็เหมือนกันแหละมึงอย่าเยอะ ละพากูมาที่นี่ทำไมมึงพูดมาเลยดีกว่ามันน่าจะมีเหตุผลมากกว่าที่มึงบอกกูแน่นอนใช่ไหม”
“หึหึ..ฉลาดเหมือนกันนี่น่า”
“อ่าววว..นี่มึงจะบอกว่าที่ผ่านมากูโง่เหรอสัส!!!”
“ใจเย็นก่อนสิ..มึงนี่หัวร้อนตลอดเวลาเลยนะโดนคนรอบข้างสปอยเยอะล่ะสิ”
“มันก็เรื่องของกู..มีไรก็พูดมาเลยดีกว่า”
“กูอยากรู้เรื่องมึงกะพ่อ”
“.......” ผมเงียบทันทีที่เฮดีสมันพูดจบผมไม่อยากจะพูดถึงเท่าไหร่ เพราะยิ่งพูดถึงเหมือนมันยิ่งตอกย้ำว่าพ่อไม่รักผมพ่อเห็นคนอื่นดีกว่าและพ่อคิดว่าผมป็นสาเหตุทำให้แม่ตาย มันเจ็บ แม้แต่พวกไอ่แสงกับไอ่แปงผมยังไม่เคยเล่าอะไรให้มันฟังเลย ไม่รู้สิ..คงเพราะไม่อยากให้พวกมันคิดมากมั้ง
“กูรู้...ว่ามึงเจ็บปวดเหมือนกัน..ปากมึงบอกไม่สนใจเค้าแต่ความจริงแล้วมึงเป็นห่วงเค้ามากใช่ไหมล่ะไม่งั้นมึงคงไม่ยอมโดดเรียทันทีที่รู้ว่าเค้าป่วยหรอก..จริงไหม?”
“อย่างมึงจะไปรู้อะไรล่ะ..คนอย่างมึงที่มีแต่คนมารุมรักมารุมให้ความสนใจ..คนอย่างมึงที่มีทั้งพ่อและแม่..มึงจะมาเข้าใจอะไรกู..อย่ามาทำเป็นรู้จักกูดีหน่อยเลย”
“ใช่...กูไม่เข้าใจมึงหรอก..แต่กูแค่อยากให้มึงเข้าใจกูว่าความรู้สึกที่กูมีให้มึงอ่ะมันคือความจริง..เพราะมึงคิดว่าไม่มีใครรักไงกูเลยอยากให้มึงรู้ว่ายังมีกูที่ตกหลุมรักมึงตรงนี้”
“.............”
“มึงไม่ต้องรีบรักกูหรอกแต่กูแค่อยากให้มึงรู้ว่ากูอยู่ตรงนี้กูพร้อมจะรีบฟังทุกอย่าง..และกูสัญญาว่ากูจะไม่ไปไหน” ไอ่เฮดีสพูดพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งข้างๆผม
“ถ้ามึงพร้อมจะเล่าให้กูฟังเมื่อไหร่ก็บอกนะ ” รอยยิ้มแบบนี้อีกแล้ว...รอยยิ้มที่ทำให้ผมอบอุ่นหัวใจแต่ก็ทำให้ใจเต้นแรงไปด้วยเหมือนกัน
“ไหนมึงบอกอยากรู้อะไรก็รู้ได้ไง..เรื่องแค่นี้มึงไม่ต้องมาถามกูก้ได้มั้งแค่ใช้คนของมึงไปสืบก็น่าจะรู้เรื่องแล้วมั้ง”
“หึ...ก็จริง...แต่เรื่องบางเรื่องกูก็อยากให้มึงเล่าให้กูฟังเองมากกว่า..เพราะกูอยากเป็นคนที่มึงไว้ใจ” เหอะ...
หล่อสาสสสสสสสสสส..ไอ่เหี้ยยยยยดาเมจทั้งคำพูดและรอยยิ้มทำเอากูเป๋ไปหมดแล้วขอกล่องพยาบาลมาฮีลตัวเองด้วยครับผมกำลังแพ้..แพ้อย่างแรงหัวใจสั่นไหวจนเหมือนเกิดสึนามิในอกแล้วครับ น้องเรอ่อนแอออออออ T^T
แต่เราจะเสียฟอร์มไม่ได้ครับเดี๋ยวคนอื่นจะมองคนแมนๆอย่างผมว่าใจง่าย..มันต้องมีชั้นเชิงในการพูดกันหน่อย
“เหอะ...เห็นแก่ความเสือกของมึงนะ..กูจะเล่าให้ฟังก็ได้”
“ครับๆน้องเร” ไอ่เหี้ยยยยย..ยิ้มอีกแล้วนี่มึงรู้ใช่ไหมว่ารอยยิ้มมึงมีผลรุนแรงเลยขยันยิ้มเนี่ยสัสสสส
“อะแฮ่มมม..ก็อย่างที่มึงรู้ว่าแม่กูเสียตั้งแต่กูอายุ 16 ซึ่งแด๊ดกูก็คิดว่าสาเหตุมาจากกูถ้าวันนั้นกูไม่ขอให้แม่พาไปเที่ยวทะเลเพราะดีใจที่สอบได้ที่หนึ่ง...ถ้าวันนั้นกูฟังคำห้ามของแด๊ดว่าให้ไปอาทิตย์หน้าเพราะอาทิตย์นี้แด๊ดไม่ว่าง...ถ้ากูฟัง..กูก็คงไม่เสียแม่”
“............”
“แม่พากูไปทะเล..แอบหนีแด๊ดไปกันสองคนกับคนขับรถอีกหนึ่ง..แต่ไปได้แค่ครึ่งทางรถมันก็ส่ายแปลกๆเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก..ฮึก”
พูดถึงตอนนี้น้ำตาผมก็ไหลผมพยายามกลั้นแล้วแต่นึกถึงทีไรผมรู้สึกอ่อนแอกลายเป็นคนไม่แมนทุกที เฮดีสดึงผมเข้าไปกอดก่อนจะลูบหัวเบาๆ
“แม่กอดกูแน่นมาก..รู้สึกตัวอีกทีรถที่นั่งมาก็คว่ำไปหลายตลบแล้ว..คนขับรถไม่รอดเหลือแค่กูกับแม่..ฮึก..กูพยายามเรียกแม่ที่กอดกูไว้..แต่แม่ก็ไม่ตอบ”
“กูเรียกแม่ซ้ำๆ..กูกลัวมาก..กูกลัวว่าแม่จะไม่ตื่น..กลัวว่าจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มอบอุ่นของแม่..น้ำเสียงที่คอยดุและตักเตือนกู
กูรีบดึงแม่ออกมาจากรถก่อนจะรีบโทรเรียกรถพยาบาลเพราะจุดที่รถคว่ำมันยังมีสัญญาณโทรศัพท์อยู่”
“กูพาแม่ไปโรงพยาบาลทัน..แต่มึงรู้ไหม..ฮึก...แม่กูไม่รอด..ฮึกกก”
“พอเถอะ..กูไม่อยากรู้แล้วถ้าไม่ไหวก็พอนะเร กูไม่อยากเห็นน้ำตามึง” เฮดีสพูดพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลเปรอะเต็มใบหน้าของผม
“ไม่..กูจะเล่า..ฮึกกก..นั่นเป็นครั้งแรกที่แด๊ดตบหน้ากูและเป็นครั้งสุดท้ายที่แด๊ดเรียกกูว่าลูก...แด๊ดเกลียดกูก็คงจะไม่ผิดหรอกเพราะมันเป็นอย่างที่แด๊ดพูดทุกอย่าง..เพราะกูแม่เลยตาย”
“อย่าโทษตัวเองสิ..มันเป็นอุบัติเหตุ..ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก”
“แต่ถ้ากูไม่ดื้อ..ถ้ากูไม่อ้อนแม่..แม่ก็คงไม่ตายแด๊ดก็คงไม่เกลียดกู..ฮึกกกก..ฮืออออ..กูเลวมากเลยใช่ไหม
ขนาดป้าป่านโดนวางยาแด๊ดยังคิดว่ากูเป็นคนทำเลยแค่เพราะว่ากูทะเลาะกับป้าป่านบ่อย แด๊ดไล่กูออกจากบ้านโดยไม่ฟังกูอธิบายเลยด้วยซ้ำ..ฮึกกกก”
“ไม่เอา..ไม่ร้องไห้ละนะ..กูรู้มึงไม่ได้เป็นคนทำแล้วก็เลิกโทษตัวเองซะนะ..สักวันพ่อมึงก็เข้าใจเองแหละว่าอะไรเป็นอะไร
เพราะฉะนั้นมึงต้องเข้มแข็งไว้นะ..น้ำตาไม่เหมาะกับคนแมนๆอย่างมึงไม่ใช่เหรอ..หืมมมม”
ไอ่เฮดีสพูดแล้วกอดผมแน่นขึ้นก่อนจะลูบหลังผมเบาๆ น้ำตาผมไหลเรื่อยๆ แต่พอมีคนรับฟังแบบนี้แล้วเหมือนความรู้สึกหนักอึ้งที่ผมแบกเอาไว้มันเบาบางลงเยอะ..ทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะร้องไห้ให้ใครเห็นแท้ๆ..แต่กับมันแค่คำพูดสองสามคำกับรอยยิ้มอบอุ่นที่มันมอบให้ทำไมผมถึงปล่อยตัวเองขนาดนี้ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..แต่มันก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมากเลยล่ะ...
ไม่รู้ผมร้องไห้หนักแค่ไหนแต่หนังตาผมมันเริ่มหนักแล้วล่ะสงสัยเมื่อคืนพักผ่อนน้อยแล้วยังมาร้องไห้ติดๆกันแบบนี้อีกแต่ก่อนที่สติผมจะเลือนหายไปผมได้ยินเสียงกระซิบเบาๆข้างๆหู
“มึงยังมีกูนะน้องเร”
เฮดีส part
เรหลับไปแล้วครับ..หลับไปทั้งๆที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา..เห้อออ..ผมไม่ชอบเลยที่มันร้องไห้มันจี๊ดใจแปลกๆใบหน้าของมันเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่านะผมว่า
ผมค่อยๆอุ้มมันขึ้นมาเบาๆแล้วพาเข้าไปนอนในห้องนอนก่อนจะกดจูบที่หน้าผากเนียนแล้วห่มผ้าให้
“กูสัญญาว่าจะไม่มีใครจะทำให้มึงร้องไห้อีก..ฏูจะปกป้องรอยยิ้มมึงเองน้องเร” ผมพูดเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
หิวครับ...ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยเรตื่นมาก็คงหิวสงสัยต้องทำกับข้าวไว้ให้สักหน่อยแล้วล่ะ
อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นครับเพราะผมทำอาหารเป็น..นอกจากหล่อรวยและกระบวยใหญ่แล้วการทำอาหารก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมถนัดมากเพื่อนๆนี่มาฝากท้องประจำถึงมันจะไม่เข้ากับเง้าหน้าแต่ผมหล่อครับผมไม่ผิด หึหึหึ
ของสดในตู้เย็นผมมีเพียบเลยครับแต่ผมหิวเลยทำอาหารแบบเร่งด่วนดีกว่าและสิ่งที่ผมทำคือข้าวผัดอเมริกันกับน่องไก่ ทอดอีกหกชิ้นครับ ทำเสร็จก็ยกมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว
“มึงทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” เสียงงัวเงียดังขึ้นทางด้านหลังพร้อมกับเจ้าของเสียงที่เดินขยี้ตามาทางโต๊ะกินข้าว
“จมูกดีจังนะมึงนี่ตื่นมาก็เดินตามกลิ่นมาเลย”
“สัสกูไม่ใช่หมา!!”
“กูยังไม่ได้พูดเลยว่าเป็น...ร้อนตัวขนาดนี้แสดงว่าเป็นสินะ”
“ไอ่เหี้ยยยยยยยยยย!!!!” 555555 เห็นมันโวยวายแบบนี้แล้วตลกดีครับน่ารักกว่าตอนที่ร้องไห้อีกไม่อยากเห็นน้ำตามันเลย
“กูเป็นรุ่นพี่มึงนะน้องเรช่วยเรียกกู พี่ หน่อยได้ไหม”
“ฝันไปเถอะห่า!!”
“หึ..งั้น..ถ้ามึงพูดคำหยาบกูจับดูดปากนะ”
“คิดว่ากูจะยอมเหรอ!!”
“มันก็ต้องลองดู”
“เหอะ...แล้วทำไรกินเนี่ยแดกได้เหรอ???”
“กินได้สิเพื่อนกูก้มากินบ่อยๆ”
“มึงมีคนคบด้วยเหรอ..ปกติเห็นเดินไปไหนมาไหนคนเดียวนึกว่าไม่มีคนคบ” กวนตีนไปแล้วครับน้องเรสงสัยคิดว่าผมไม่กล้าทำอะไร รู้จักพี่เฮดีสน้อยไปซะแล้วครับหนู
“อะ..อื้อออออ” ผมไม่ตอบคำถามแสนกวนตีนของมันแต่เปลี่ยนเป็นดึงมันเข้ามาแล้วประกบริมฝีปากลงไปบนปากนุ่มๆของเร มันยืนค้างเติ่งอย่างตกใจปล่อยให้ผมดูดปากมันตามสบาย ก่อนที่ผมจะค่อยๆแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวาน เกี่ยวเล่นกับลิ้นเร ลิ้นร้อนลามเลียสำรวจไปทั่วโพรงปากหวานของเรอย่างช่ำชอง
ผมบดจูดอย่างดูดดื่มมือก็ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบางอย่างช้าๆก่อนจะค่อยๆแทรกเข้าไปในเสื้อตัวบางเพื่อสัมผัสกับผิวขาวและเนียนนุ่มของเร ให้ตายเหอะ..ยิ่งจูบยิ่งหวานยิ่งสัมผัสผมยิ่งมีอารมณ์จนกลางกายผมปวดหนึบไปหมดจนผมจะคลั่งแล้วเนี่ย!!! แข้งขาของเรเริ่มไม่มีแรงจนต้องใช้แขนคล้องคอผมไว้เพราะไม่งั้นได้คงลงไปกองกับพื้นแน่
“หวานจัง…” ผมกระซิบที่ข้างหูเรเบาๆหลังจากที่ผละออกมา เพราะเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มจะไม่ไหวแล้ว เล่นเอาเรหน้าแดง ดวงตากลมโตที่มีน้ำตาคลออยู่ตรงขอบตาช้อนมามองผมนิ่งจนผมแทบอยากจะกดมันซะตรงนี้..ให้ตายย..
“ไอ่..ไอ่..มึง... >//////<”
“ด่าอีกกูต่อจากเมื่อกี้นะ” ผมขู่ก่อนจะหอมแก้มมันอีกรอบ
“ไอ่..หึ้ยยยยยยย!!!!!”
“หึๆ…รีบกินข้าวกันเถอะน้องเรก่อนที่กูจะอดใจไหวกินมึงแทนข้าว”
“สัสเอ้ย!! อย่าให้ถึงตากูบ้างนะมึง..ร้องไม่ออกแน่!!!!” มันโวยวายเบาๆแล้วรีบดึงตัวออกจากอ้อมกอดผมก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม เพื่อกินข้าวของตัวเอง
“มึงพูดไรนะ..กูได้ยินไม่ชัด”
“แดกข้าวไปอย่ามายุ่งกับกู” เรโวยวายทั้งๆที่หน้ายังแดงอยู่..ให้ตายมันน่ากลัวตรงไหนวะนั่น 5555
“มึงกินก่อนเลย”
“อ่าว..แล้วไม่กินด้วยกันล่ะ”
“ได้นะ..ถ้ามึงไปช่วยกูเอาออกก่อน” ผมพูดแล้วเหลือบตามองลงตรงแก่นกายของผมที่แข็นเป็นท่อนอย่างเห็นได้ชัด เรมองตามสายตาผมก่อนจะโวยวายออกมาเสียงดัง
“มึงจะไปตายที่ไหนก็ไปเลยไอ่โรคจิตไอ่เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
55555555555+ ให้ตายเหอะโวยวายแต่หน้าแดงแป๊ดนี่คืออะไรครับ อะไรมันจะน่ารักขนาดนี้นะว่าที่เมีย ยิ่งรู้จักยิ่งหลงรักนะเนี่ยสงสัยต้องรีบจีบแล้วล่ะครับจะได้ไม่เป็นภาระของแม่นางทั้งห้าอีก หึหึหึ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/hao7.gif
มาแว้ววววววววววววววววววววววววววว...
น้องเรโดนจ้องจับกดแล้วเด้อออออ ถถถถถถถถถถ....
ถ้างป่วงๆหน่อยก้ขออภัยนะครัชช่วงนี้สมองไม่ค่อยแล่น 555555
ขอบพะใจทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามเน้อเจ้า เป็นกำลังใจที่ดีให้แต่งต่อเลยล่ะค่ะ
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะคะ
ดรั๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล. ใส่สติกเกอร์เป็นแล้วค่ะขอบคุณที่บอกนะคะ อิอิ
พูดคุยกันได้ที่นี่นะจ๊ะ
https://www.facebook.com/themoonlightyaoi/
จะรีบตอบเลยจร้าา(พึ่งสร้างเสร็จเมื่อกี้จ่ะ 55555)
-
น่าร๊าก.....กกกกกกกกกก เฮดีสเรียกน้องเรด้วย เขิลเหอะ :m3:
-
-5-
แสดงความเป็นเจ้าของ
ผ่านมาสามอาทิตย์กว่าแล้วครับตั้งแต่วันที่เฮดีสบอกว่าจะจีบผมหลายๆอย่างระหว่างผมกับมันเปลี่ยนไปมากเลยล่ะครับ จากตอนแรกที่ผมโคตรเกลียดขี้หน้าแต่ตอนนี้ผมยอมรับเลยว่าหวั่นไหวกับมันสุดๆทั้งคำพูดและรอยยิ้มของมันทำให้ผมใจเต้นแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ผมก็ไม่กล้าบอกมันหรอกครับ ไม่รู้ว่ามันคิดยังไงกับผมกันแน่ เพราะจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่ได้เอ่ยปากขอคบผมจริงๆจังๆสักที แถมยังชอบหลอกแต๊ะอั๋งผมบ่อยๆอีกต่างหาก มันน่ากระทืบให้ไส้ไหลจริงๆคนแบบนี้
“อะแฮ่มๆๆ..น้องเรจ๋าไม่ทราบว่าวันนี้ใครมาส่งเหรอจ๊ะ” เสียงกวนตีนๆดังขึ้นมาจากข้างหลังจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอก จาก……..
“ป้ามึงมาส่งกูแหละไอ่แสง”
“ห๊า!!! นี่มึงริอ่านเป็นชู้กับป้ากูเหรอกูจะไปฟ้องลุง!” มันพูดแล้วทำสีหน้าจริงจังจนผมต้องยื่นตีนไปสะกิดตูดมันดังป้าบ นั่นแหละมันถึงเลิกบ้าแล้วนั่งลงข้างผมพร้อมกับอมยิ้มแบบจิตๆ
“เป็นเชี่นไรยิ้มอยู่ได้..แล้วไอ่สองตัวร้อยแม่งไปไหนว่ะ” ผมถามพร้อมกับมองหาไอ่กานกับไอ่ทศที่หายหัวไปไหนไม่รู้ ปกติแม่งต้องมาก่อนผมไม่ใช่เหรอ
“ไอ่สองตัวนั้นไปหากิ๊ก แล้วมึงล่ะ…ตกลงคบกับพี่เฮดีสยังวะเห็นมารับส่งทุกวันแถมมึงยังเริ่มทำตัวสะดิ้งขึ้นทุกวัน” ไอ่แสงถามพร้อมกับทำหน้าลุ้นจนน่าหมั่นไส้
“สะดิ้งห่าไรล่ะ..กูคนแมน...อีกอย่างกูเป็นผู้ชายมึงไม่ติดขัดเลยเหรอวะที่กูจะคบมันอ่ะ -_-^”
“ไม่หรอก....ยังไงมึงก็เพื่อนกูและกูคิดว่าพี่เค้าน่าจะดูแลมึงได้..”
“เหอะ..คนแมนๆเค้าดูแลตัวเองได้เว้ย”
“หรา..กูอยากให้มึงเห็นสีหน้าตัวเองตอนอยู่กับพี่เฮดีสชิบหาย..อย่างกับอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์อ่ะหมั่นไส้”
“เอ้า..ไอ่เวรนี่กัดกูทำเหี้ยไร”
“แล้วสรุปเมื่อไหร่จะคบกันกูเห็นสาววายตั้งเพจเรดีสเชียร์มึงให้ได้กับพี่เค้าทุกวันจนกูเคลิ้มตามแล้วเนี่ย”
“ก็ไม่รู้ดิมันยังไม่ขอกูคบสักทีอ่ะ”
“แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม...แรดนะมึงรอพี่เค้าขอคบอยู่อ่อออออ”
“กูเปล่า!!! แต่มันมาจีบมันก็ต้องมาขอกูคบดิ”ผมโวยวายกลบเกลื่อนแล้วหันมองไปทางอื่น เหมือนอยากจะทำวิจัยสภาพ อากาศในวันนี้ขึ้นมา
“อืม…ไอ่เร…แล้วพวกมึงได้กันยังวะ”
ป้าบบ!!!!
สิ้นคำถามสัปดนของไอ่แสงผมก็รีบหันกลับไปจัดฝ่ามือพิชิตมารให้มันหนึ่งดอกโทษฐานปากหมาแบบสุดๆ
“โอ๊ย!!!เชี่ยเร มึงตบหัวกูทำไมเนี่ยสัดกูเจ็บนะ TOT”
“ไม่ต้องมาสำออยไอ่สัด ถามเชี่ยไววะกูยังไม่ได้เป็นอะไรกันจะไปได้กันได้ไงสัดหมา…กูไม่ได้ง่ายนะเว้ย!!”
“เฮอะ!!!!แล้วไอ่แสงสุดหล่อคนนี้จะคอยดูวันที่มึงเดินไม่ตรง…วันนั้นแหละกูแม่งจะล้อตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยเชี่ยเร!!”
“มึงไม่มีทางได้ล้อกูหรอกเก็บปากกไว้แดกข้าวเถอะสัดแสง!!!”
หลังจากเถียงกันพอเป็นกระสัยผมกับไอ่แสงก็ได้ฤกษ์เข้าเรียนซักที แต่ก้าวขายังไม่ทันพ้นขอบประตูอาจารย์โหน หรือที่พวกผมชอบเรียกว่าป๋าโหนก็วิ่งมาคว้าคอเสื้อผมกับไอ่แสงหมับป๋าแกเป็นคนตัวสูงครับพอๆกับไอ่แสงเลย
แถมยังเป็นกันเองกับนักเรียนสุดๆอายุก็เพิ่มจะยี่สิบหกเองมั๊งหน้าตานี่ไม่ต้องพูดถึงหล่อลากมากครับแต่แกติสมาก เหมือนกันบางครั้งผมก็ไม่เข้าใจแกเพราะโลกส่วนตัวป๋าเข้าสูงเกินไป -_-
“คาบนี้เรียนของป๋าใช่ไหมไอ่แสงไอ่เร” ป๋าถามพร้อมกับทำสีหน้าจริงจัง ผมกับไอ่แสงเลยพยักหน้าอย่างงงๆ
“งั้นก็ดี..คาบนี้ไม่ต้องเรียนแต่ช่วยป๋าทำอะไรอย่างหนึ่งก่อนเดี๋ยวจะเพิ่มคะแนนพิเศษให้”
“จริงเหรอป๋า! *_*” ผมกับไอ่แสงตาลุกวาวทันทีเพราะปกติป๋าแกไม่ให้คะแนนใครง่ายๆหรอกได้เอวิชานี้ยากบัดซบมาก ขอบอก
“จริงแต่พวกมึงต้องช่วยป๋า..ตามมานี่” แล้วผมกับไอ่แสงก็โดนลากมาที่ห้องพักสำหรับอาจารย์ที่ของป๋าจะแยกออกมา คนเดียวเพราะป๋าแกติส
“แสงมึงใส่ชุดนี้ ส่วนเรมึงใส่ชุดนี้” แล้วป๋าแกก็คว้าชุดที่เตรียมไว้ในตู้ให้ผมกับไอ่แสง
ดูคร่าวๆแล้วชุดของไอ่แสงนี่เป็นชุดของโงกุนในเรื่องดราก้อนบอลครับแต่ของผมนี่เป็นชุดของลูฟี่ในเรื่องวันพีช
“ใส่ทำไมอ่ะป๋า…จะไปแสดงคอสเพลที่ไหนเหรอ” ผมถามอย่างสงสัย
“ป๋าจะไปง้อคนเว้ยรีบๆแต่งตัวเข้าสิวะพวกเอ็งเดี๋ยวไปไม่ทันนะเว้ย”
“ครับๆ” ผมรีบรับคำก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดนห้องน้ำ แหมะ..ผู้หญิงคนนี้คงจะสำคัญกับป๋าจริงๆนั่นแหละเพราะปกติ แล้วคนอย่างป๋าโหนไม่มีทางขาดสอนอย่างเด็ดขาด แต่นี่ขนาดลงทุนลากผมกับไอ่แสงแต่งคอสเพลมาซะขนาดนี้ถ้าไม่ใช่ เมียในอนาคตก็แม่บังเกิดเกล้าแล้วล่ะครับ
“โอ้โหป๋า…จัดเต็มเลยนะเนี่ย o_O” ผมอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของป๋าไอ่แสงก็คงจะเหมือนกันเพราะมันตาโตไม่ ต่างจากผมซักนิด ก็ปกติป๋าแม่งแต่งตัวแบบเสื้อยืดกางเกงเลหนีบแตะไปสอนอะไรแบบนี้ แต่วันนี้ป๋าเค้าลงทุนใส่สูทแถม ยังลงทุนเอานกตัวปลอมเหลืองๆมาใส่ไว้ตรงกระเป๋าเสื้ออีก เหมือนฮิบาริในรีบอร์นเลยว่ะ
“ป๋า..ฮิบาริเหรอ” ไอ่แสงถามอึ้งๆ
“เออดิ..ก็เค้าชอบแบบนี้อ่ะ” ป๋าเกาแก้มเขินๆแล้วหันมามองผม
“หืมมมมมมมมมม…ไอ่เรมึงจะขาวไปไหนวะเนี่ยมึงยังไม่มีผัวใช่ไหม”
“ป๋า!!! พูดไรเนี่ย!”
“ยังไม่มีหรอกครับป๋าแต่กำลังจะมี หึๆ” สัดแสงกูเกลียดมึง -_-^^^
“เออๆ..ก็ขอให้ว่าที่ผัวมึงไม่เห็นตอนมึงใส่ชุดนี้ไปเดินร่อนก็แล้วกันถอดถุงเท้าด้วยนะเร”
“หมายความว่าอะป๋า” ผมรีบถามแต่ป๋าแกไม่ตอบคว้ารอเท้าเกี๊ยะโยนมาให้ผมเสร็จก็เดินไปรอที่รถทันที อะไรของแกวะ
เดินร่อน??? ป๋าจะให้ผมกับไอ่แสงไปเดินร่อนที่ไหนกันเนี่ยแต่สงสัยไปก็เท่านั้นผมทำได้แค่ถอดถุงเท้าแล้วใส่เกี๊ยะตามที่ป๋าบอกโดยไม่ลืมหยิบกระเป๋ากับของส่วนตัวออกมาด้วยเดี๋ยวไม่มีตังค์กินข้าวครับ
“อ่ะหมวกมึงไอ่เร…ส่วนมึงไอ่แสงเอาเยลไปทาให้หัวตั้งๆเหมือนโงกุลหน่อยดิ๊” ป๋าพูดพร้อมกับโยนหมวกมาให้ผมและโยนกระปุกเจลแต่งผมให้ไอ่แสง
“ป๋าจะไปไหนอ่ะ” ผมถามอย่างสงสัยเพราะตอนนี้พวกเราออกนอกเขตจิตรกรรมมาแล้วครับแต่ป๋าแกกลับไม่ออกไปทาง ประตูใหญ่แต่กลับเลี้ยวเข้าทางที่จะพาไปยังคณะต่างๆของมหาลัยแทน
“เดี๋ยวถึงก็รู้เองแหละน่าเร” ป๋าแกตอบเบาๆก่อนจะหันไปตั้งใจขับรถต่อ
“คณะวิศวกรรมศาสตร์” ป้ายตัวเบ้อเริ่มเฮิ่มติดเด่นหราอยู่หน้าคณะสงสัยว่ากลัวคนจะมองไม่เห็นแต่ผมนี่สิอยากจะตาย ขึ้นมาซะดื้อๆคณะในมหาลัยมีเป็นสิบๆแล้วทำไมไอ่ป๋าบ้านี่ต้องมาง้อคนที่คณะนี้ด้วยว่ะคณะนี้แม่งมีอาจารย์ผู้หญิงด้วย เรอะ!!!!
“ป๋า..แน่ใจนะว่ามาถูกคณะ -_-^” ผมถามอย่างหวาดๆ
“เอ้า..ไอ่นี่..ถูกสิว่ะป๋าสอนที่นี่มาตั้งแต่เรียนจบจะมาผิดได้ไงไอ่บ้า” ป๋าพูดยิ้มๆ
“แล้ว..ถึงแล้วยังไงต่ออ่ะป๋าผมตื่นเต้นนะเนี่ย” ไอ่แสงระริกระรี้จนผมอยากจะถีบมันลงรถไปซะเดี๋ยวนี้เลยแม่ง
“ตามป๋ามานี่” แล้วป๋าแกก็ลงรถไปผมกับไอ่แสงก็เลยตามลงมารู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ป๋ามาจอดรถแอบๆตรงแถวๆ มุมอับ เลยไม่ค่อยมีใครสังเกตุเห็นแต่ไอ่ดอกกุหลาบสีแดงพันกว่าดอกข้างหลังรถนี่หมายถึงอะไรว่ะแล้วไหนจะภาพเฟรมใหญ่เท่าฝาบ้านนั่นอีกนี่ยังไม่รวมตุ๊กตาหมีตัวเท่าควายที่อัดแน่นอยู่หลังรถป๋าแกนะเนี่ย
“อะไรเนี่ยป๋า…o[]o” ผมามอย่างอึ้งๆป๋าแกยิ้มบางๆแล้วตอบกลับมา
“อุปกรณ์ง้อคน..เอ้าแสงดอกกุหลาบพันดอกอ่ะหน้าที่มึงขนใส่รถเข็นที่อยู่เบาะหลังได้เลย ส่วนเรตุ๊กตาหมีหน้าโง่นั่นแหละหน้าที่โดยตรงของมึงยกขึ้นแล้วตามป๋ามา” ป๋าแกสั่งงานเสร็จแกก็จัดการยกเฟรมเท่าฝาบ้านอันนั้นขึ้นมา
แล้วเดินมุ่งหน้าไปยังเป้าหมาย ผมอยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นรูปอะไรแต่ป๋าแม่งเอากระดาษปิดไว้อีกรอบอ่ะ
ผมรีบเดินตามป๋ามาโดยมีไอ่แสงเข็นรถดอกกุหลาบอยู่ข้างๆแต่ยิ่งเข้ามาลึกเท่าไหร่คนยิ่งมากขึ้นเท่านั้นแถมยังมองผม อย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อนบางคนถึงกับยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปไว้อ่ะ อะไรว้า..บ้านพวกมึงไม่มีทีวีดูกันเหรอห๊า!!
วันพีชอ่ะวันพีชมองอยู่ได้เดี๋ยวแม่งจิ้มตาบอดเลยสัด
“อ่า..ถึงแล้วๆ” ป๋าแกพูดเบาๆแล้วหยุดกึกตรงหน้าห้องบรรยายที่มีเสียงดังแว่วๆออกมาแต่ถ้าจำไม่ผิดตึกนี้เป็นตึกของวิศวกรรมยานยนต์นี่หว่า…ชิบหาย!! ตึกไอ่เฮดีส!!!!หวังว่ามันจะไม่ได้มานั่งเรียนห้องนี้นะไม่งั้นผมคงอายมันน่าดู
ก็ดูสภาพผมดิแม่งกางเกงขาสั้นเท่าเข่ากับเสื้อสีแดงแขนกุดคอกว้างแบบที่ลูฟี่ชอบใส่พร้อมกับหมวกฟางที่ครอบ หัวเพิ่มพร๊อบความอนาถด้วยตุ๊กตาหมีที่ตัวแม่งใหญ่กว่าผมอีกแลดูเหมือนเด็กเอ๋อยังไงไม่รู้อ่ะผมอายไม่รู้ว่าน่ายังไงแต่กูก็อายอ่ะดูจากสายตาคนอื่นที่มองพรึ่บพรั่บตั้งแต่เดินลงรถมาแล้วมันคงจะตลกน่าดู
“ป๋า..แน่ใจแล้วเหรอ” ผมถามอย่างหวาดๆ
“แน่ใจสิวะ..พวกเอ็งตามป๋ามาอย่างเดียวไม่ต้องทำอะไรเลยเข้าใจ๊”
“ครับ T^T” ไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจล่ะว่ะงานเนี๊ยะ แต่ดูเหมือนเชี่ยแสงจะมีความสุขแปลกๆนะห่านนี่ -_-^^
แอ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด…………..
พรึ่บ!!!!
O_o
สายตาของทุกคนในห้องต่างจับจ้องมาที่พวกผมอย่างกับไม่เคยเห็นมาก่อนการเรียนการสอนหยุดไปชั่วขณะ แต่ดูเหมือนป๋าแกจะไม่สนใจสายตานับร้อยคู่นั่นเลยเพราะแกดันเดินดุ่มๆไปทางอาจารย์ที่ยืนอยู่ด้านหน้าผมกับไอ่แสงเลยต้องรีบตามไป…
ตอนแรกผมคิดว่าป๋าแกจะมาง้อผู้หญิงแต่ที่ไหนได้…แม่งมาง้อผู้ชาย! ใช่ครับผู้ชายจริงๆแต่แม่งตัวเล็กน่ารักสุดๆ
ผมว่าไอ่โชแปงแม่งน่ารักแล้วนะครับแต่เจออาจารย์คนนี้เข้าไปแม่งมีหมองอ่ะคนเชี่ยไรว่ะหน้าตาอย่างกับตุ๊กตา แม่งวิศวะมีอาจารย์แบบนี้ด้วยเหรอ!!!!!ไอ่เรไม่อยากจะเชื่อโว้ยยยยยยยยย Y^Y
“ปอง…โหนรู้ว่าโหนผิด..โหนขอโทษจริงๆยกโทษให้โหนได้ไหม” ป๋าคุกเข่าลงตรงหน้าอาจารย์ตุ๊กตาแล้วทำหน้าสำนึก ผิดสุดๆแต่อาจารย์แกกลับหันหน้าหนีไปทางอื่นป๋าก็ไม่ละความพยายามเดินตามไปคว้าตัวอาจารย์ตุ๊กตามาแล้ว…..
จับจูบ!!!
ท่ามกลางสายตานักศึกษากว่าร้อยชีวิตเนี่ยนะ! ป๋าแม่งที่สุดแล้วว่ะผมยกนิ้วให้ เอาโด้วโคตรคูล -*-
“โหหหหหหหหหห…..นี่แหละ..มายไอดอล o_o” ไอ่แสงเพ้อเบาๆข้างๆผม ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับความบ้าของไอ่แสง แล้วหันไปสนใจเหตุการณ์ตรงหน้าต่อ อาจารย์ตุ๊กตาแกดิ้นเบาๆพร้อมกับทุบหลังป๋า
ป๋าแกเลยผละออกพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่อาจารย์ตุ๊กตาแกหน้าแดงเถือกเลยครับไม่รู้เพราะโกรธหรืออายกันแน่ คราวนี้ปาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้งแล้วลากภาพที่แกอุตส่าห์แบกมาเอามาไว้ด้านหน้าแล้วฉีกกระดาษออกเผยให้เห็นรูปของอาจารย์ตุ๊กตาตอนกำลังยิ้มครับรูปนี่โคตรสวย ลายเส้นและสีโคตรเป๊ะจนผมอดทึ่งไม่ได้ ส่วนอาจารย์ตุ๊กตาเจอแบบนี้เข้าไปถึงกับอึ้งครับ
“หะ..โหน..”
“ขอโทษจริงๆนะปอง..กูรู้ว่ากูผิดแต่กูรักมึงจริงๆ…และกูก็คิดมาอย่างดีแล้วด้วยที่มาทำแบบนี้”
พูดจบป๋าแกก็เรียกเสียง ฮือฮาอีกรอบโดยการกวักมือเรียกผมกับไอ่แสงให้เดินเอาอุปกรณ์ไปให้
ป๋าแกหยิบตุ๊กตาหมีจากมือผมไปแล้วลากรถเข็นของไอ่แสงมาไว้ตรงหน้าอาจารย์ตุ๊กตาก่อนจะบิดจมูกตุ๊กตาหมีออกเผยให้เห็นแหวนเพชรเม็ดเป้งที่อยู่ข้างใน อื้อหือ……นี่กูเดินถือแหวนเพชรร่อนไปร่อนมาตั้งนานไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย -_-^
“ปอง….แต่งงานกับโหนนะ ^^”เอาล่ะครับหมัดตรงแบบไม่ทันตั้งตัวอาจารย์ตุ๊กตาแกหน้าแดงเถือกเลย
“หะ..โหน..แต่ว่า”
“นะครับ”
“อะ..อื้อ” และแล้วอาจารย์แกก็ตกลงเป็นผม ผมก็ตกลงอ่ะแหวนก็แพงคนให้ก็หล่อแถมยังพูดเพราะอีกไอ่คำว่า นะครับ ของป๋าเนี่ยผมโคตรฟินอ่ะ ^^
“ไอ่เรๆ..กูว่ามึงเค้าลางที่จะซวยว่ะ” ไอ่แสงที่เงียบไปนานสะกิดผมยิกๆ อะไรของแม่งวะคนกำลังอิน
“ไรมึงเนี่ยสัดแสงกูกำลังอินอย่าขัดสิวะ”
“แต่พี่เฮดีสกำลังมองมึงอยู่นะ”สิ้นคำเตือนของไอ่แสงผมก็หันขวับไปมองทางกลุ่มนักศึกษาร้อยกว่าชีวิตที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายแต่ไอ่คนที่เปล่งออร่าดำทมึนแม่งมีอยู่คนเดียวนั่นแหละจ้องผมอย่างกับผมไปฆ่าใครตาย
“เอ่อ….ดีๆ ^++++++^” ผมหันไปโบกมือให้ไอ่เฮดีสพร้อมกับฉีกยิ้มยิงฟันไปให้เพื่อหวังว่าจะกลบออร่ามันได้บ้างแต่ ไอ่พวกคนอื่นๆเสือกคิดว่าผมยิ้มให้โบกไม้โบกมือกันเป็นแถบๆแถมยังมีตะโกนขอเบอร์อีกพ่องเถอะสัด
“เอาละนักศึกษาวันนี้ปล่อยก่อนนะครับ” อาจารย์ตุ๊กตาพูดใส่ไมค์ผมเลยหันไปมองป๋าที่ยิ้มแก้มแทบแตก
“มองไรเร..พวกมึงจะไปไหนก็ไปไป๊ป๋าจะไปหาอะไรทำกับเมีย” พูดจบป๋าแกก็ลากอาจารย์ตุ๊กตาออกไปเลยทิ้งให้ผม กับไอ่แสงยืนเหวอ
“เอาไงดีวะแสงโทรเรียกให้ไอ่กานมารับไหมแม่งคณะเรานี่โคตรไกลอ่ะป๋าแม่งได้เมียแล้วลืมเด็กว่ะ”
“อือ..กูอ่ะต้องให้ไอ่กานมารับแต่มึงอ่ะกูว่ามีคนไปส่ง” ไอ่แสงพูดด้วยเสียงหวาดๆแต่ยังไม่ทันได้ถามแรงกระชากอย่าง รุนแรงที่แขนก็ตอบคำถามในใจผมได้เป็นอย่างดี
“เอ่อ…กูไปก่อนนะเรโชคดีเว้ยเพื่อน ^^v” ไอ่แสงไอ่เพื่อนเลวมึงทิ้งกู…ไอ่ปรสิตเห็บหมา T^T
“ใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้” เสียงเย็นๆของไอ่เฮดีสดังขึ้นมาจากด้านหลังเล่นเอาน้ำลายผมฝืดขึ้นมาทันที
“อะ..เอ่อ..ก็ป๋าไง…ป๋ามาง้ออาจารย์มึงอ่ะ”
“แล้วแต่งแบบนี้ไปเดินที่ไหนมาบ้าง”
“อืม..กะ…ก็ตั้งแต่หน้าคณะอ่ะ T^T” อ่า…หน้าตาไอ่เฮดีสตอนนี้นี่แม่งโคตรน่ากลัวอ่ะคิ้วเข้มๆขมวดกันเป็นปมจ้องผมนิ่ง แล้วไหนจะออร่าที่แม่งไม่หายไปซักทีอีก แง้งงงง..กูร้องจริงๆนะ T^T ทำไมช่างนี้รู้สึกอ่อนแอวะ
“กลับบ้าน!” สั้นๆง่ายๆก่อนที่เฮดีสจะจัดการลากผมไปยังรถของมันดีที่รถมันจอดอยู่ใกล้ๆแต่ที่ไม่ดีคือระหว่างทาง คนแม่งโคตรเยอะแถมยังจ้องผมซะอย่างกับผมเป็นตัวประหลาดและมันยิ่งทำให้ไอ่เฮดีสอารมณ์เสียขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้ไปเดินต่อหน้าคนอื่น!!“ พอกลับมาถึงคอนโดผมไอ่เฮดีสก็โวยวายทันทีเลยครับเล่นเอาผมกลัวจนหัวหด ปกติกูปากดีมากนะแต่เจอมันเวอร์ชั่นนี้กูควรเก็บปากไว้แดกข้าวสินะ
“ก็บอกแล้วไงว่าป๋ามันใช้ T^T”
“แล้วทำไมไม่ปฏิเสธล่ะ!”
“ก็มันได้คะแนนพิเศษนี่ TOT” แง้….ทำไมต้องขึ้นเสียงใส่วะถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเถียงขาดใจพร้อมส้นตีนแล้วแต่นี่แม่งทำหน้าตาน่ากลัว แบบนี้ใครมันจะไปกล้าวะขืนมันโมโหฆ่าผมหมกคอนโดมันขึ้นมมาก็จบเห่สิครับงานนี้
“มึงนี่แม่ง…รู้บ้างไหมว่ากูไชอบให้ใครมองมึงน่ะหา!! แล้วยังไปเดินร่อนให้คนอื่นมองอยู่ได้ฮึ่ย!!”
“ละ..แล้ว..ทำไมล่ะ..ไม่ได้เป็น..อะ…อะไรกัน..มะ..ไม่ใช่เหรอ” ผมถามเสียงสั่นระดับความกลัวพุ่งจนใจหาย
“โอ๊ย!!!น้องเรกูทำขนาดนี้แล้วมึงยังไม่รุ้นี่มึงโง่หรือมึงเซ่อกันเนี่ยยยยย!!” ไอ่เฮดีสตวาดลั่นจนผมตกใจน้ำตาร่วงอย่าง ห้ามไม่อยู่…สัดหน้ากลัวเกินไปแล้วอ่ะ T^T
“กะ..ก็..มะ..มึง..ฮึก…ไม่บอก..กะ..กู..ฮึก..จะรู้ไหม…ฮืออออออออออ ToT” ร้องเลยครับคราวนี้ แง้..ผมไม่ได้อ่อนด๋อยนะ แต่ไอ่บ้านี่แม่งหน้ากลัวเกินไปต่างหาก
“ร้องไห้ทำไมเนี่ยน้องเรกูยังไม่ไดทำอะไรมึงเลยนะ!”
“ฮึกๆ…ก็มึงนั่นแหละ! คิดยังไงก็ไม่บอก..ฮึก..ใครมันจะเข้าใจกันเล่า..ก็กูมันโง่อ่ะมึงไม่บอกแล้วกูจะรู้ไหม ฮือออ T^T”
“เฮ้อออออออออ…มึงนี่น้า..” ไอ่เฮดีสถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆก่อนจะดึงผมที่ร้องไห้จนตัวสั่นเข้าไปกอด
“งั้น...คบกับกูได้ไหม” มันถามเบาๆข้างๆหูผมเลยพยักหน้าหงึกหงักไป
“ถ้าคบแล้วกูก็แสดงความเป็นเจ้าของได้สินะ”
Hadis Part
“ถ้าคบแล้วกูก็แสดงความเป็นเจ้าของได้สินะ” ผมถามอีกครั้งไอ่น้องเรก็พยักหน้าอีกรอบ น่ารักจริงๆเลยให้ตายทำไมรู้สึกเหมือนกำลังล่อลวงเด็กน้อยเลยวะ
“กูรักมึง” ผมพูดความรู้สึกในใจให้คนในอ้อมกอดฟังไอ่เรเงยหน้าแดงๆของมันขึ้นมามองผมอย่างอึ้งๆตาโตๆที่ตอนนี้ มีน้ำตาคลออยู่ด้านในทำเอาสติผมแทบหลุดไหนจะปากแดงๆที่อ้าค้างอย่างคนตกใจจนเหวอนั่นอีกล่ะ ไม่ไหวๆขอทีเหอะ
“อุบ..อื้อออออออ…” ผมก้มลงจูบปากแดงๆนั่นอย่างห้ามใจไม่อยู่ถึงจะเคยจูบอยู่หลายครั้งแล้วก็ตามแต่มันก็ไม่เคยพอ สักทีมีแต่อยากได้มากขึ้นเรื่อยๆ เรดิ้นไปมาในตอนแรกแล้วค่อยๆหยุดนิ่งให้ผมจูบได้ถนัดขึ้นใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงจัดอย่างน่ารัก
ผมค่อยๆแทรกลิ้นเข้าไปหาลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนีแต่สุดท้ายร่างบางก็ตอบสนองกลับมาแบบเงอะๆงะๆนี่ขนาด ผมสอนไปไมรู้กี่ครั้งแล้วนะเนี่ย…แต่เพราะแบบนี้แหละผมถึงชอบรู้สึกดีกว่าพวกเจนจัดตั้งเยอะ
ลิ้นของผมเกี่ยวกระหวัดไปทั่วโพรงปากหวานอย่างหิวกระหายก่อนจะดูดดุนลิ้นเล็กๆนั่นอย่างหมั่นเขี้ยวจนเจ้าตัว ต้องทุบหลังผมเบาๆเพราะหายใจไม่ออกผมเลยดูปากเรแรงๆไปอีกหนึ่งทีก่อนจะค่อยๆผละออก น้ำใสๆไหลออกมาจากมุม ปากของเจ้าตัวเล็ก ดูน่าเอ็นดูชิบหาย ให้ตาย…อยากฟัดว่ะ -_-^^^
“พี่บอกน้องเรไปแล้วนะ..แล้วน้องเรล่ะหืม…” ผมถามพร้อมกับก้มลงไปหาร่างเล็กที่ย่นคอหนีหน้าแดงเถือก
“ก็..ก็…เหมือนกัน” เรตอบเสียงแผ่วหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างเขินอาย
“อะไรนะครับ…ไม่ได้ยินเลย”
“ก็บอกว่า..รักไงล่ะ หูหนวกรึไงสัสสส>O</////” คราวนี้โวยลั่นเลยครับสงสัยจะลืมตัวแถมโวยเสร็จก็ทำท่าจะวิ่งหนีทันทีผมเลยรีบคว้าเอว ขอเจ้าตัวเล็กไว้ก่อนเกิดหนีเข้าห้องขึ้นมาผมจะซวยไม่ได้กินของหวานครับ
“รักเหรอครับ….งั้นขอชิมได้ไหม”
“ชิมอะไรล่ะ..กู..มะ…ไม่ใช่ของกินนะ!”
“หึ…ไม่ใช่ก็จะกินไม่สนแล้ว!” พูดจบผมก็ประกบปากลงไปอีกครั้งแต่คราวนี้กลับไร้เสียงโวยวายของร่างเล็กแถมยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีอีกต่าง หากน่ารักเป็นบ้าเลยว่ะให้ตาย
ผมค่อยๆเลาะเล็มริมฝีปากหวานของเรส่วนมือก็ทำหน้าที่ปลดกระดุมเสื้อที่คนตัวเล็กใส่อยู่แล้วค่อยๆล้วงมือเข้าไปสะกิด ยอดอกขนาดเล็กเบาๆจนเรครางในลำคออย่างพอใจ ผมผละริมฝีปากออกมาจากปากหวานก้มลงมาไซร้ที่ลำคอหอมกรุ่นแทน
ใช้ลิ้นเลียเบาๆ ส่วนมือก็ยังคงละกิดยอดอกและลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนๆนั่นอย่างเมามัน ผิวเรแม่งโคตรเนียนแถมยังขาวอมชมพูจนผู้หญิงยังอายเหอะ แต่คิดถึงเรื่องเมื่อกี๊เล่นเอาผมอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
นี่เรไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าตัวเองรูปร่างหน้าตาล่อเสือล่อตะเข้ขนาดไหนถึงได้ใส่เสื้อสีแดงแขนกุดคอกว้างกับกางเกง ตัวเล้กเดินร่อนไปร่อนมาอ่ะ แค่ใส่ให้ผมเห็นนี่ไม่ว่าแต่คนอื่นเห็นนี่สิฮึ่ย!!! ผมแทบจะควักลูกตาของคนที่มองเรเมื่อกี้ออก มาแล้วกระทืบซ้ำด้วยซ้ำ ด้วยความหมั่นไส้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างเรผมเลยจัดการดูดผิวเนื้อบริเวณคอของเจ้าตัว แรงๆจนขึ้นเป็นรอยแดงๆยิ่งผิวขาวๆแบบนี้ยิ่งเห็นชัดครับ หึ…ให้มันรู้ไปเลยว่าของใครเป็นของใคร
“อ๊ะ..ตะ..ตรงนั้น” เสียงหวานครางแผ่วข้างๆหูผมเมื่อมือข้างนึงของผมเลื่อนลงไปปลดกาเกงของร่างบางก่อนจะลูบไล้ ไปตามแก่นกายขนาดไม่ใหญ่มากจนมันแข็งขึ้นมา ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะจัดการถอดเสื้อแสนเกะกะของร่างบางออก พร้อมกับครอบริมฝีปากลงไปบนยอดอกสีแดงเข้มที่ล่อตาล่อใจผมอยู่ขณะนี้
“อ๊ะ…อะ..ไอ่เฮดีส..อื้อออออออ…” เรสะบัดหน้าไปมาอย่างเสียวซ่านเหงื่อเม็ดเป้งผุดออกมาตามหน้าผากสวย ผมดันเรให้นอนลงบนโซฟาที่อยู่ใกล้ๆก่อนจะเร่งจังหวะในการดูดดุนยอดอกเร็วขึ้นมือข้างที่กอบกุมแก่นกายร่างบางไว้ก็ เริ่มขยับเป็นจังหวะ ร่างบางครางเสียงหวานแล้วบิดตัวไปมาภาพที่เห็นเล่นเอาน้องชายผมที่สงบนิ่งแข็งขึ้นมาอย่างห้าม ไม่อยู่ ให้ตายเหอะ..เรนี่แม่งเอ็กซ์เซ็กแตกชิบหายเลยว่ะ
“อ่ะ..อ๊ะ.จะ..จะไปแล้ว…อ๊า” เรครางเสียงกระเส่าเมื่อผมเร่งจังหวะมือขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับใช้ลิ้นเลียใบหูของร่างเล็ก ไปด้วยก่อนที่ร่างเล็กจะกระตุกอย่างแรงร้อมกับปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาเต็มหน้าท้องเลอะมือผมไปหมด
“แฮ่ก…แฮ่กๆ..”
“เหนื่อยเหรอ….อดทนอีกนิดนะขอกูบ้าง” ผมกระซิบข้างๆหูเรก่อนจะค่อยๆแทรกนิ้วที่เปื้อนน้ำลื่นๆของเรเข้าไปในช่องทาง รักสีหวาน อ่า…แน่นจริงๆให้ตายนี่ขนาดแค่นิ้วยังตอดชิบหายถ้าเป็นน้องชายผมคงสุขสุดๆอ่ะ
“อ๊ะ..เจ็บ..เฮดีสกูเจ็บ..อื้อออ”
“อย่าเกร็งสิน้องเรผ่อนคลายนะถ้าเกร็งจะเจ็บนะ”
“อื้อออ…เจ็บอะ..เอาออกไปนะ”
“อืม…จะทำเบาๆนะอย่าเกร็งนะครับ” ผมปลอบร่างเล็กที่น้ำตาเริ่มคลอเบ้าอีกรอบแล้วค่อยๆแทรกนิ้วที่สองเข้าไป
“อ๊า..จะ…เจ็บ” คราวนี้ดิ้นพล่านเลยครับผมเลยจัดการใช้มือที่ว่างรูดแก่นกายของร่างเล็กอีกครั้งพร้อมกับเอาขา ข้าหนึ่งของเรมาพาดบ่าไว้เพื่อง่ายต่อการขยับตัว นิ้วของผมควานไปทั่วช่องทาสีหวานเพื่อหาจุดกระสันในตัวของเร
ก่อนจะไปพบจุดหนึ่งที่ทำให้เรครางลั่นผมเลยแทรกนิ้วที่สามเข้าไปแล้วกดย้ำๆกับจุดนั้นจนเรกระตุกหน้าอกบางกระเพื่อม ขึ้นลงอย่างรุนแรง เองบางบิดไปมาอย่างเสียวซ่านริมฝีปากเจ่อๆอ้ากว้างก่อนจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง
“อ๊าาาาาาาาา…”
“เรครับ…ช่วยพี่หน่อยนะ” ผมพูดเบาๆก่อนจะถอดกางเองเอาเฮดีสน้อยออกมาเผชิญโลกและค่อยๆแทรกตัวเข้าไปในช่องทางรักที่คับแน่นเรเกร็งใน ช่วงแรก แต่ก็ผ่อนคลายลงตามที่ผมบอกจนผมสามารถเข้าไปได้หมด ผมกดตัวแช่ไว้สักพักก่อนจะเริ่มขยับเบาๆเพราะ กลัวคนตัวเล็กเจ็บพร้อมกับก้มลงฝากรอยรักเอาไว้ตามตัวของเรจนผิวขาวๆนั้นเต็มไปด้วยรอยสีแดงเป้นจ้ำๆเต็มไปหมด เอาให้คนอื่นแม่งรู้ไปเลยว่าเรอ่ะของผมห้ามยุ่ง!!!
“อื้อ…อ๊ะ..เร็ว..เร็ว” เรเร่งขึ้นมาแล้วจับแขนผมแน่นผมก็เลยจัดตามคำขอขยับสะโพกแบบรัวเร็วแรงจนร่างบางตัวสั่น
“อือออ..เร..สุดยอดดด”
“อื้ออออ..อ๊า..ลึก..ลึกไปแล้ว…อื้ออ”
“ฮ่า..มึงตอดกูสุดๆเลยว่ะน้องเร…อ่า..”
“เฮ..เฮดีสข้างใน..ข้างในกู..อื้อออ…”
“อ่า..เร…” เสียงครางของผมกับเรดังระงมจนแยกไม่ออกว่าเสียงใคร ผมกระแทกสะโพกเข้าออกอย่างรุนแรงจนเรเสร็จ ไปอีกหนึ่งรอบผมก็จัดการพลิกร่างบางให้อยุ่ในท่าคลานเข้าจนเจ้าตัวครางลั่นแต่นาทีนี้ขอผมเสร็จก่อนเหอะ
ผมกระแทกสะโพกเข้าไปอีกครั้งพร้อมกับรูดรั้งแก่นกายของร่างบางขึ้นมาอีกรอบร่างบางครางลั่นแถมยังตอดผมสุดๆ ผมจับสะโพกของเรไว้แน่ก่อนจะจัดการกระแทกรัวจนโซฟาขยับเสียงร่างกายกระทบกันดังลั่นห้องพร้อมกับเสียงครางดัง ระงมก่อนที่ผมจะกระแทกอย่างแรงครั้งสุดท้ายแล้วปลดปล่อยออกมาเต็มช่องทางรักพร้อมกับเร ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆร่างบางอย่างเหนื่อยอ่อน
“เร..รักนะครับ..”
“อื้อ..รู้แล้วน่า >////<” ร่างบางตอบเบาๆพร้อมกับหน้าแดงผมเลยดึงคนน่ารักเข้ามากอดแล้วอุ้มเข้าไปในห้องนอน
ศึกนี้ยังอีกยาวไกลครับยิ่งมาหน้าแดงซุกอกผมแบบนี้ไม่จบที่รอบเดียวแน่นอน หึหึหึหึ
ยังไงก็ขอตัวก่อนนะครับทุกคน
เค้าได้กันแล้ววววววววววววววววว
อัพถี่ๆอัพทุกวันนนน 55555 อย่าพึ่งเบื่อกันน้าาาาาา
เนื้อเรื่องมันจะไปเร็วหน่อยนะเพราะเราแต่งเป็นเรื่องสั้น
ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
ฉากเรตนี่ต้องเค้นมากถ้าอ่านแล้วแปลกๆก็ขอโทษอีกรอบค่ะ อิอิอิอิิ
ขอบคุณทุกเม้นทุกกำลังใจและนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
เห็นแล้วมีกำลังใจเหมือนโดฟยาชูกำลังสิบขวด
ดรั๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปล.พึ่งรู้ว่าถ้าจะอัพวันที่ต้องอัพตรงกระทู้แรกเราก็อัพตรงกระทู้ปัจจุบันทุกอันมันเลยไม่ขึ้นให้
555555555+
-
ขอบคุณนะครับสนุกมากๆเลย :pig4:
-
:jul1: :oo1: :jul1: จมกองเลือด..ดดดด
-
6
เรื่องโกหก
Ray Part
อ่า…ให้ตายเจ็บตูดเจ็บสะโพกระบมแม่งไปหมดทั้งตัวเลยว่ะสาดดดด…นี่กูไปออกรบที่ไหนมาวะเนี่ยยยยย T^T ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากปวดตัวไปหมดไม่อยากจะลุกไปไหนเลยด้วยซ้ำ
“อ้าว…ตื่นแล้วเหรอน้องเร…หิวมั๊ย?” ไอ่เฮดีสเดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยใบหนึ่งที่มีกลิ่นหอมโชยออกมาจนผมรู้สึกหิว
“อื้อ..หิวแล้ว” ผมตอบไปแล้วมองหน้ามันงงๆ แต่แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อ คืนก็แล่นเข้ามาในหัวผมอย่างกับแผ่นค้าง….ให้ตายสิก็ว่าทำไมถึงเจ็บสะโพกแปลกๆเมื่อคืนผมโดนมันเอานี่หว่า
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก…หมดกันศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่สั่งสมมาT^T ที่จริงมันต้องเป็นฝ่ายโดนกดไม่ใช่ผม YOY
“กินไหวไหมให้กูป้อนหรือเปล่า” ผมสะบัดหน้าหนีไปอีกทางอย่างเคืองๆ แม่ง…ทำไมมึงไม่ยอมให้กูกดวะ แล้วกูไปยอม ให้มึงกดทำไมเสียหน้าที่สุดอะ T^T
“เป็นอะไรน้องเรหิวไม่ใช่เหรอ..”
“ไม่กินแล้ว..” ผมตอบเบาๆแต่ก็ยังไม่หันหน้าไปอยู่ดีจนรู้สึกถึงอ้อมกอดอุ่นๆที่กอดมาจากด้านหลังนั่นแหละผมเลยดิ้น แต่ยิ่งดิ้นแผลยิ่งกระเทือนครับสุดท้ายเลยต้องอยู่นิ่งๆให้ไอ่เฮดีสมันกอด
“เป็นอะไรครับน้องเร.....งอนอะไรกู”
“เปล่า…ปล่อยได้แล้วกูร้อน”
“ไม่ครับ..บอกมาเร็วๆไมงั้นโดนกดอีกรอบนะ” ไม่พูดเปล่าเฮดีสมันยังล้วงมือเข้ามาใต้เสื้อยืดตัวโคร่งที่ผมใส่อยู่ด้วยผมเลย ต้องรีบดึงมือมันไว้แล้วหันไปทำสัญญาสงบศึก
“เออๆๆๆ..พูดแล้วๆปล่อยก่อนดิ”
“หึๆ..ก็ได้ครับ”
ฟอดดดดด….
ปล่อยไม่พอแม่งยังก้มลงมาหอมแก้มผมอีก สาดกูก็อายเป็นมั่งเหอะแทะจนกูสึกหมดแล้วเนี่ย เวร !!!!
“ตกลงงอนเรื่องอะไรครับ”มันถามย้ำอีรอบแล้วลุบหัวผมเบาๆ
“ก็มึงอ่ะ… “
“กู…กูอะไรล่ะ”
“ก็มึงไม่ยอมให้กูกดอ่ะ >O<”
“หืมมมมมมมมมมมมม…..นี่งอนอะไรกันกันเนี่ยน้องเร ฮ่าๆๆๆๆ…^O^”ไอ่เฮดีสหัวเราะลั่นเลยครับผมเลยต่อยแขนมัน อย่างหมั่นไส้มันถึงยอมหยุดหัวเราะแล้วโน้มตัวลงมากอดผมอีกรอบ
“น้องเร…กูกดมึงหรือมึงกดกูยังไงเราก็รักกันไม่ใช่เหรอหืม..”
“อะ..อือ..เรื่องนั้นมัน..”
“เพราะงั้นมึงไม่เห็นต้องแคร์นี่..เพราะยังไงมึงก็กดกูไม่ได้อยู่แล้วจริงไหม ” เชี่ย!! ประโยคแรกนี่ก็ซึ้งอยู่หรอกแต่ประโยค หลังมึงนี่หมามากไอ่ห่านเฮดีส
“งั้นคราวหลังอย่าหวังที่มงจะกดกูเลยไอ่ตับห่านกูไม่ยอมมึงอีกแล้ว!!”
“หึๆ..มันก็เป็นเรื่องของอนาคตแต่ตอนนี้กินข้าวก่อนเถอะจะเที่ยงแล้วนะเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะอีก”
“เออ!!! แล้วมึงล่ะแดกยัง”
“กินแล้วครับไม่ต้องเป็นห่วง ^^”
“ใครเป็นห่วงมึงกันหลงตัวเองว่ะ”
“แน่ใจเหรอ….ว่าไม่เป็นห่วงน่ะหืม..” ไอ้เฮดีสพูดเบาๆก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์
“นะ…แน่ใจดิ” แล้วทำไมกูต้องเสียงสั่นว่ะ T^T
“อืม..สงสัยต้องทำโทษคนปากไม่ตรงกับใจซักหน่อยแล้วมั๊งเนี่ย” ไม่พูดเปล่ามันก้มหน้าลงมาจูบปากผมแรงๆครั้งหนึ่งก่อน จะผละออกแล้วถามอีกครั้ง
“ว่าไง…เป็นห่วงไหมหรือต้องให้ทำโทษอีก”
“อื้อๆๆ…เป็นห่วงแล้ว..มึงเอาหน้าเหียกๆของมึงออกไปไกลๆกูเลยกูจะแดกข้าวแล้ว” ผมรีบตอบทันทีเพราะกลัวแม่งจะจูบอีก ฮึ่ย..ทำไมรู้สึกเป็นรองแบบนี้วะอย่าให้ผมกดมันสำ เร็จบ้างนะวันนั้นแม่งจะเป็นวันที่ผมจะประกาศศักดาให้ชาวโลกรู้คอยดู!!!
“ยิ้มอะไรคนเดียวอ่ะน้องเรรีบๆกินข้าวซะเดี๋ยวกูจะไปหยิบยามาให้กินดักไว้ก่อน”
“เออๆ..รู้แล้วน่าขี้บ่นนะมึงอ่ะ ”
“ก็มีแฟนคนเดียวนี่ครับ…ไม่บ่นแฟนแล้วจะให้ไปบ่นหมาที่ไหนล่ะหืม” โอ๊ย!!!ไอ่สัดกูเขินนนนนนนนนน >//////<
“แฮ่มๆ..อือ..รู้แล้วน่าจะแดกแล้ว -//////-“
“หึๆๆ..น่ารักนะเราอ่ะ” ไอ่เฮดีสพูดยิ้มๆก่อนจะเดินออกจากห้องไปผมเลยตักข้าวเข้าปากพร้อมกับสำรวจความเสีย หายของร่างกายตัวเองอีกครั้งเมื่อคืนมันปล่อยข้างในแต่ผมกลับไม่รู้สึกเหนียวตัวเลยสงสันมันจะล้างตัวให้แล้วเพราะชุดที่ผมใส่ก็ไม่ใช่ชุดที่ใส่เมื่อวาน แต่มันล้างตัวผมตอนไหนผมก็ไม่รู้ >//////<
แล้วทำไมแค่คิดถึงผมต้องหน้าร้อนด้วยวะสาด ฮึ่ยๆๆๆๆ เปลี่ยนๆ ผมรีบกินข้าวจนเสร็จเพื่อดับอาการฟุ้งซ่านก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำซะหน่อยกลิ่นปากแม่ง เน่ามากเฮดีสแม่งกล้าจูบกูไปได้ไงวะเนี่ย -_-^
กว่าผมจะแบกสังขารอันอ่อนระโหยโรยแรงเข้ามาในห้องน้ำได้เล่นเอาแทบรากเลือดแต่สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้เล่นเอาผมแทบ อยากจะบ้า…ไอ่เวรเฮดีสแม่งไปตายอดตายอยากมาจากไหนวะแม่งทำรอยไว้เต็มตัวผมไปหมดกลัวคนอื่นเค้าจะไม่รู้หรือไงว่ามึงได้กูแล้วนะสาด
ผมขมวดคิ้วอย่างเคืองๆก่อนจะรีบอาบน้ำจะได้รีบกลับไปเล่นเกมสักทีไหนๆวันนี้ก็ไปเรียนไม่ไหว อยู่แล้วอยู่เล่นเกมที่คอนโดนี่แหละ โคตรคูล
ก๊อกๆๆๆ…
“น้องเรอาบน้ำเหรอ..” เสียงของไอ่ตัวการดังขึ้นพร้อมกับเคาะประตูไปด้วย
“เออ…อาบน้ำอยู่มีอะไร”
“เปล่าก็นึกว่าหายไปไหน…อาบเร็วๆนะคิดถึง”
“สัด!!!!น้ำเน่ากูจะอ้วก>/////<” ด่ามันไปแล้วทำไมผมต้องหน้าแดงด้วยวะเนี่ยยยยยยยย…..ไม่เข้าใจว่ะ T^T
แต่พออาบน้ำเสร็จด้วยความทุลักทุเลพอควรผมก็เพิ่งจะสำเหนียกได้ว่า…ผมลืมผ้าเช็ดตัว -_-^ ให้ตายสิซาร่าทำไมผม ขี้ลืมแบบนี้นะ
สุดท้ายผมก็ต้องจำใจใส่เสื้อยืดสีขาวที่ใส่เข้ามาตอนแรกแล้วเดินกะเผลกออกไป
“อ้าว…อาบเสร็จ..ละ..แล้ว….o.,o” ไอ่เฮดีสที่ตอนแรกนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมาถามก่อนจะเบิกตาโพลง ปากอ้ากว้างและเลือดกำเดาค่อยๆไหลออกมาจากโพรงจมูก
“เฮ้ย!!! มึงเลือดกำเดาไหลอ่ะเฮดีส…เป็นไรวะ” ผมรีบกะเผลกเข้าไปดูอาการแฟนหมาดๆของตัวเองทันที มันปาดเลือดออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นหูแดงจัด…มันเขินเหรอ?
“เพราะมึงนั่นแหละ…ใครเค้าให้แต่งตัวแบบนี้กัน”
“อ้าว..ก็กูลืมหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปนี่ก็เลยต้องใส่เสื้อตัวนี้ออกมาก่อน มึงจะให้กูเดินเปลือยออกมาไงวะ -*-“
“ก็มันเอ็กซ์อ่ะ!!! >o<”
“ก็มึงมันหื่นไงไอ่บ้า!” ผมด่าพร้อมกับผลักหัวไอ่เฮดีสอย่างแรงแต่ยังไม่ทันที่จะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเปลี่ยนชุด ไอ่เฮดีสก็ดึงแขนผมแล้วดึงลงให้นั่งทับตักมัน
“ก็หื่นกับมึงคนเดียวนี่แหละ…รักขนาดนี้”
“ชิ…ไม่เขินหรอกเฟ้ย >/////<”
“แล้วหน้าแดงทำไมล่ะ..หืม”
ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ไม่ถามเปล่าแม่งยังหอมแก้มผมอีกอยู่กับไอ่เวรนี่เปลืองตัวชะมัดเลยวะ -_-^^
“กูเปล่านะ!”
“อืม….อยากโดนทำโทษอีกเหรอครับแต่คราวนี้ไม่หยุดแค่จูบนะ ” ไอ่เฮดีสกระซิบที่ข้างหูผมก่อนที่มือมันจะเลื้อยเข้า ไปในเสื้อตัวเดียวที่ผมใส่อยู่จนผมต้องรีบจับมือซนๆนั่นไว้แล้วยอมรับเสียงสั่น
“อย่ามาไอ่สัส..แผลเก่ายังไม่หายเห็นกูยอมหน่อยเอาใหญ่เลยนะมึงเดี๋ยวปั๊ดยันโครมไปนู่น”
“ครับ..ขอโทษครับเมีย...ว่าแต่…คราวนี้เราก็เป็นแฟนกันจริงๆแล้วใช่ไหม” ให้ตายเวลามันพูดเพราะนี่ไม่ชินเลยจริงๆแต่ทำไมผมดัน ชอบวะ -_-^
“เป็นแล้วสิ..เอากูจนเดี้ยงขนาดนี้ยังมีหน้ามาถามอีก…ละได้กูแล้วมึงห้ามนอกใจกูล่ะถ้ากูรู้ละก็ต่อให้มึงเป็นใครมาจากไหนกูไม่สนกูจะตัดน้องชายมึงทิ้งเข้าใจไหม!!!”
“จ้าๆๆ..รักขนาดนี้อ่ะไม่มองใครอีกแล้ว…รักนะครับน้องเรของผม..”
“รู้แล้วน่า…กูก็รักมึงเหมือนกันนั่นแหละ” ประโยคหลังผมพูดเสียงเบาแต่ไอ่เวรเฮดีสเสือกหูดีหอมแก้มผมไปอีกฟอดใหญ่ แม่งเอาเปรียบกูตลอดแต่ทำไมผมแม่งโคตรมีความสุขเลยล่ะวะ ฮ่าๆๆๆๆ >o<
..............................................................
“แฮ่มๆๆ…ได้ฤกษ์มาเรียนแล้วเหรอครับท่านหญิงเร” เสียงกวนส้นตีนดังขึ้นทันทีที่ผมเดินมาถึงบริเวณม้าหินอ่อนโต๊ะ ประจำซึ่งไอ่คนแซวจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ่พวกเพื่นสามแสบสุดกวนตีนของผม
“ท่านหญิงพ่อมึงสิสัดทศ..แล้วกูมาเรียนนี่มันผิดปกติมากนักเหรอห๊า”
“มันก็ไม่แปลกอะไรหรอก..ถ้าหากไม่ใช่ว่าเมื่อวันก่อนมึงหายหัวไปกับพี่เฮดีสแล้วโผล่มาอีกทีวันนี้ ซึ่งเท่ากับว่ามึงหายไป สองวันเต็มๆสาวๆที่คณะพูดกันให้แซดไม่รวมในเพจเรดีสที่เม้ามอยกันเต็มอีกว่ามึงพากันไปฮันนีมูน”
“ฮันนีมูนเชี่ยไรล่ะ!!..กูแค่ไม่สบายนิดหน่อย”
“แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม…แล้วทำไมมึงเดินแปลกๆล่ะจ๊ะ” ไอ่กานถามพร้อมสายตาระยิบนะยับจนผมอยากจพอัปเปอร์คัตใส่หน้ามันสักทีสองที
“กะ…กูเจ็บขา..ขาเคล็ดนิดหน่อยอุบัติเหตุอ่ะ -_-^”
“แล้วรอยที่คอมึงล่ะน้องเร..จะอธิบายยังไงอย่าบอกว่ายุงกัดเพราะพวกกูอาบน้ำร้อนมาก่อนมึงเยอะ!”
เชี่ย!! นี่ขนาดผมกลัดกระดุมจนถึงคอหอยเพื่อปกปิดแล้วนะไอ่พวกนี้ยังเสือกตาดีเห็นอีกสัดหมา! นี่พวกมึงเป็นเพื่อนกูหรือโคนันไอ่สัสตาดีไปอีก
“ถ้าจะต้อนกูขนาดนี้กุก็ไม่มีไรปฏิเสธละพวกเวร”
“เฮ้ย!!!นี่ตกลงมึงเสร็จพี่เฮดีสแล้วเหรอเนี่ย o[]o”
“สัดแสงมึงจะโวยวายหาพ่อมึงเหรอ!!คิดว่ากูไม่อายหรือไงวะ”
“เฮ้ออออออออ….แล้วมึงก็เดินตามไอ่โชแปงเพื่อนมึงไปนะไอ่เรเพื่อนยาก T^T” ไอ่กานพูดพร้อมกับตบไหล่ผมแปะๆอย่าง เห็นอกเห็นใจซึ่งมันเป็นอะไรที่กวนตีนมากผมเลยแจกฝ่ามืออรหันให้มันเต็มกบาลไปหนึ่งที
“โอ๊ย!!เจ็บนะ…ทำไมมงชอบทำร้ายร่างกายคนหล่อๆแบบกูวะสาด”
“ถุย!หล่อตายล่ะไอ่ควาย..ไป..ไปเรียนได้แล้วถึงเวลาเข้าคาบเรียนแล้วเนี่ย” ผมบ่นเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินนำเข้าห้อง เรียนโดยมีพวกสัมภเวสีโห่แซวตามหลังมาติดๆ
……………………………………………….
“เอ่อ..แปงกูว่ามึงฟังเฮียอ๋องบ้างก็ดีนะเว้ยอย่าตัดสินอะไรแต่ภายนอกสิ -_-;” ผมปลอบโชแปงเพื่อนรักที่กำลังนั่งร้องไห้ อย่างเอาเป็นเอาตายตรงหน้าอย่างเครียดๆ คือพอดีตอนเที่ยงที่ผมกับไอ่สามตัวบาทเรียนเสร็จก็กำลังจะไปกินข้าวอ่ะครับ แต่ดันมาเจอโชแปงนั่งรออยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าคณะแถมยังร้องไห้อีกไอ่ผมกับพวกก็เงิบแดกสิครับ
เพราะไอ่เวรนี่หายหัวไม่ค่อยติดต่อมาพอมาเจออีกทีดันมาร้องไห้หน้าคณะซะงั้นไอ่เรงงครับบ่องตง แต่สาเหตุที่ไอ่แปงมัน เล่าให้ผมกับพวกฟังก็คือไอ่แปงมันไปเจอเฮียอ๋องของเรากำลังยืนจูบกับผู้หญิงแบบดุเดือดเลือดพล่านที่สระว่ายน้ำของ คณะไอ่แปงแถมเฮียแกจับนมยัยนั่นเต็มๆเบ้าตาไอ่แปงอีก พอเจอแบบนี้ไอ่พวกผมก็หนักใจไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร เหมือนกัน
“มึงจะให้กูฟังอะไรวะเรแค่นั้นมันยังไม่ชัดเหรอ..ฮึก..ไหนแม่งบอกว่าจะรักกูคนเดียว..ฮึก..ใช่สิ..ได้กูแล้วนี่!!!”
“ใจเย็นๆดีกว่านะแปงนะ..เอิ่ม..คือ..เฮ้ยเชี่ยแสงพูดอะไรบ้างดิวะ” ผมหันไปโบ้ยให้ไอ่แสงที่ทำหน้าเหลอหลา
“สัดเรเชี่ย…โยนมาเฉย..เอ่อ..แปงกูว่ามันอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้นะ”
“เข้าใจผิดเหรอ!!!!แล้วที่กูเห็นนั่นละ..ฮึก…เพราะกูมันไม่มีนมเหมือนผู้หญิงใช่ไหมล่ะ…ฮึกๆๆ..ฮือออออออออ”
“แปงงงงงงงงง..มึงอย่าร้องดิวะ..โอ๊ยยยย..เอาดีวะพวกมึง” ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆที่หน้ารักแต่ทุกคนก็ล้วน แต่ส่ายหน้ากันหมดพึ่งไม่ได้เลยไอ่พวกนี้นิ
“แล้ว…มึงโทรถามเฮียอ๋องยัง” ไอ่ทศที่ดูจะฉลาดที่สุดถามขึ้น
“ถามเหรอ…ถามทำไม..แค่นั้นมันยังไม่พออีกเหรอทศ..ฮึก…มันไม่รักกูแล้ว..ฮืออ” อ่า…ดูเหมือนจะยิ่งไปกันใหญ่เลยนะ เนี่ย เอาไงดีวะกู-_-^^
“น้องเร..กินข้าวยังเนี่ยยย ^^”เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังข้นก่อนจะเดินเข้ามานั่งแหมะข้างๆผมโดยมีสายตาล้อเลียนจากไอ่ พวกเพื่อนเวรทั้งหลายที่ส่งมา กูลุกขึ้นกระทืบพวกึมึงตรงนี้ได้ไหมล้อกูจังไอ่พวกเพื่อนเหี้ยยยยยย!!!!
“ยัง…แล้วมาทำไมเนี่ยได้ข่าวว่าคณะมึงกับคณะกูอยู่กันคนละฟากเลยนะ”
“ก็คิดถึงอ่ะเลยจะมากินข้าวด้วย”
“ตอแหลจริงๆมึงนี่”
“เอิ่ม…ไอ่เรและพี่เฮดีสครับก่อนจาสวีทหวานกันเนี่ยช่วยดูสภาพไอ่แปงนิดนึงนะครับ” ไอ่แสงพูดขัดขึ้นผมเลยตีไหล่
ไอ่เฮดีสอย่างแรงโทษฐานทำให้ผมเขินแถมยังโดนเพื่อนแซวอีกอายเว้ย><
“แล้วโชแปงเป็นไรอ่ะ” เฮดีสถามพร้อมกับทำหน้าหมางงจนผมต้องแอบกระซิบตอบมัน
“เฮียอ๋องเล่นชู้แล้วไอ่แปงไปเห็นพอดี”
“หืมมมม…ไม่น่าเชื่อว่ะ..” ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้เสียงโทรศัพท์ของมันก็ดังขึ้นมันกดรับแล้วลุกออกไปคุย
“มึงว่าใครโทรหาเฮียวะเชี่ยเร”
“กูจะรู้เหรอกูก็นั่งอยู่กับพวกมึงปะวะ”
“น้องเรกูกลับคณะก่อนนะพอดีมีเรื่องนิดหน่อยอ่ะ”
“มีเรื่องไรเหรอ..”
“ไม่มีไรมากหรอกไม่ต้องเป็นห่วง” เฮดีสยิ้มแล้วเดินออกไป
“มีกิ๊กป่าววะ” สัสกานเสี้ยมขึ้นทันทีที่เฮดีสเดินออกไปพ้นรัศมีกลุ่มผม
“สัส...พึ่งได้กูจะรีบมีกิ๊กไรขนาดนั้นมึงอย่ามาเสี้ยมไอ่สัส”
“เอ้า..กูเดาเล่นเห็นเมื่อก่อนเฮียแกเจ้าชู้อย่างกับอะไรดี” ผมเริ่มขมวดคิ้วกับคำพูดของไอ่กาน
“เชี่ยกานมึงก็พูดให้ไอ่เรมันคิดมาก...มันไม่เป็นแบบนั้นหรอกดูจากสภาพเมื่อกี้เฮียติดมึงแจขนาดนั้นคงไม่มีเวลาไปหากิ๊กที่ไหนหรอก”
“งั้นช่างแม่งเถอะ..แล้วมึงล่ะแปงจะเอาไงต่อ..”
“แปง!!!!” ยังไม่ทันที่ผมจะถามจบเสียงไอ่พี่อ๋องก็ดังขึ้นด้านหลัง ไอ่แปงเลยรีบลุกหนีทันที
“แปง...โชแปง!! ฟังพี่อธิบายก่อน” เฮียอ๋องตะโกนไล่หลังก่อนจะรีบวิ่งตามไป
“สัส..กูนึกว่าดูหนังอินเดียอยู่” ไอ่แสงบ่นขึ้นก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์
“หืม...เชี่ยเร..นี่มันพี่เฮดีสกับยัยพี่ฝ้ายไม่ใช่เหรอ”
ผมรับโทรศัพท์ของไอ่แสงมาดูก่อนจะกำหมัดแน่น มันเป็นคลิปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งครับในคลิปเฮดีสโดนฝ้ายเกาะแขนไว้แน่แล้วยังมีการป้อนอาหารอีกหน้าตาทั้งสองดูแฮปปี้ดี๊ด๊ามากครับ นี่เหรองานของมึงน่ะเชี่ยเฮดีส
“มึงไปเอาคลิปมาจากไหน”
“เพจเรดีสอ่ะ...กูกดติดตามอยู่ 555555+ แอดมินโพสเมื่อกี้มึงลองอ่านสเตตัสคลิปดิ”
“น้องเรอยู่ไหนคะมาตามเก็บชะนีด่วนค่ะ!!! แท๊คน้องเรบุคคลที่ไม่เล่นโซเชี่ยลใดๆ”
“หึ...มึงเจอกูแน่ไอ่เฮดีส!!!”
ผมกับไอ่สามหน่อพากันมายังร้านอาหารในคลิปที่อยู่ใกล้ๆมหาลัยโดยมีไอ่ทศเป็นคนขับรถพามา พอมาถึงผมก็รีบเดินเข้าไปในร้านเพื่อมองหาไอ่เวรเฮดีสกับยัยฝ้าย
“กี่ท่านคะ” พนักเดินเข้ามาถามผมที่ยืนมองซ้ายขวาอยู่ก่อนที่สายตาผมจะไปปะทะกับรอยยิ้มตอแหลของยัยฝ้ายตรงโต๊ะมุมขวาสุด
“พอดีผมมากับโต๊ะนั้นครับ” ผมพูดแล้วชี้ไปยังโต๊ะของไอ่เฮดีสก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไป ของอย่างนี้มันต้องถามกันซึ่งๆหน้าครับมีอะไรมือกับตีนจะได้ไปทัน
“เชี่ยเรมึงใจเย็นๆนะเว้ยมันอาจจะไม่มีอะไรก้ได้” ไอ่ทศเตือนสติผมที่กำลังเดินดุ่มๆไปที่โต๊ะ
“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย..มึงไม่ต้องห่วง..ถ้ามีเรื่องจริงสัญญาว่าไม่ถึงตายสักคน” ผมยิ้มเย็นก่อนจะเดินไปถึงโต๊ะ
“อ้าว...น้องเร ^_^;” เป็นพี่ฟิวส์เพื่อนสนิทของเฮดีสที่ทักผมขึ้นมาโดยข้างๆมีไหมพี่สาวของฝ้ายนั่งขนาบข้าง ก่อนที่เฮดีสจะเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าตกใจ
“นี่เหรองานมึงอ่ะ”
“คือ..น้องเรกูอธิบายได้นะ”
“อือ..อธิบายมาสิ” ผมพูดแล้วจ้องหน้าเฮดีสนิ่ง
“อะไรกันคะเฮดีส...นี่ไม่ได้บอกเรเหรอว่าเราเป็นคู่หมั้นกันดูเหมือนพี่จะเล่นจนเลยเถิดไปไกลแล้วนะคะ”
“หมายความว่าไง???” ผมถามอย่างอึ้งๆกับสิ่งที่ได้รู้มา
“ก็หมายความว่าฉันกับเฮดีสเราเป็นคู่หมั้นกันไงล่ะเรื่องนี้คุณพ่อและพี่เฮดีสก็รู้..ความจริงพี่ก็บอกให้เฮดีสบอกเรแล้วนะแต่เฮดีสไม่ยอมบอกสักทีแต่มารู้แบบนี้เรจะได้เข้าใจอะไรๆได้ดีขึ้น..จริงไหม”
ให้ตายกูตบผู้หญิงนี่จะผิดไหมหน้าตาล่อมือล่อตีนเหลือเกิน..และเหมือนพวกไอ่แสงจะรู้ความคิดผมแม่งรีบเดินเข้ามาล๊อคตัวผมไว้แล้วกระซิบข้างหู
“ใจเย็นไอ่สัสคนเยอะ..เดี๋ยวรอกระทืบตอนลับตาคนดีกว่า” เอิ่ม..เชี่ยกานกูนึกว่ามึงจะห้าม -_-; ผมพยักหน้าแล้วหันไปจ้องตาเฮดีสตรงๆ
“มีอะไรจะอธิบายไหมพี่เฮดีส” ผมเค้นเสียงออกมาอยากได้ยินคำอธิบาย อยากให้มันพูดว่าเรื่องที่ฝ้ายพูดไม่ใช่เรื่องจริง อยากให้มันอธิบายถึงความรู้สึกที่มันพร่ำบอกผมว่ารัก ที่มันจีบ ที่มันกอดต่างหากที่เป็นเรื่องจริง
“เรื่องนี้กูอธิบายได้นะเร”
“มึงก็อธิบายมาสิ...บอกมาสิว่าฝ้ายมันโกหกมึงไม่ได้เป็นคู่หมั้นมัน!!แค่มึงพูดก็ก็พร้อมจะเชื่อ..มึงพูดมาสิ!!!”
“กูขอโทษเร...แต่กูเป็นคู่หมั้นฝ้ายจริงๆ” เคยรู้สึกไหมครับ..เจ็บจนร้องไห้ไม่ออกอ่ะตอนนี้ผมกำลังเป็นอยู่ ไม่คิดเลยว่าคนที่ผมไว้ใจ คนที่ทำให้ผมรัก คนที่ผมยอมมอบทั้งหัวใจและร่างกายให้จะหักหลังกันได้เลือดเย็นขนาดนี้
“แล้วที่ผ่านมามันคืออะไร...มึงทำแบบนี้ทำไม..มึงหลอกกูทำไมมึงสนุกมากเหรอ!!!!” ผมตะคอกถามเสียงดังความโกรธความเสียใจมันประดังประเดเข้ามาจนผมยืนแทบไม่อยู่ดีที่พวกไอ่แสงมันประคองผมไว้อยู่
“เหอะ...ก็แกโง่เองนี่จะมาโทษเฮดีสฝ่ายเดียวได้ยังไงล่ะ”
“กูไม่ได้ถามอย่าเสือกสิ”
“เอ๊ะอินี่!!!”
“ฝ้าย!!!หุบปากน่า” เฮดีสหันไปด่าฝ้ายที่ทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นมาตบผม ก่อนที่ยัยนั่นจะฮึดฮัดแล้วนั่งลงอย่างขัดใจ
“เรกูขอโทษแต่กูมีเหตุผลนะ..มึงต้องฟังกูอธิบายก่อน”
“แล้วอะไรล่ะ..มึงก็พูดมาสิ”
“กูพูดตรงนี้ไม่ได้”
“เหอะ...งั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ..กูเข้าใจแล้วกูโง่เองขอบใจที่เข้ามาเล่นกับความรู้สึกกู..หวังว่าจะไม่เจอมึงที่คณะกูอีกนะเพราะกูไม่รับประกันว่ามึงจะกลับออกไปโดยไม่โดนกระทืบ”
ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น...เฮดีสพยายามจะลุกขึ้นตามผมมาแต่โดนฝ้ายรั้งแขนไว้แล้วพูดอะไรสักอย่างแต่ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากขอกลับไปตั้งหลักก่อนทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมดไม่กี่ชั่วโมงก่อนมันยังหยอกล้อเล่นกับผมอยู่เลย ไม่กี่วันก่อนเรายังกอดกันเรายังบอกรักกันอยู่เลย
มันเหมือนภาพฝัน..ที่พอตื่นขึ้นมาแล้วต้องพบกับความเป็นจริงว่าที่ตรงนี้มีแค่ผม..ไม่มีมันแล้วเรื่องทุกอย่างเหมือนเรื่องโกหก
เจ็บว่ะ
เจ็บเหี้ยๆเลย
“เร...มึงไหวนะ” ไอ่แสงถามขึ้นเมื่อเรากลับมาถึงรถ
“ไม่..กูไม่ไหวว่ะ...อกหักนี่มันเจ็บขนาดนี้เลยเหรอวะ..กูไม่น่าใจง่ายเลยว่ะแสง..กูคิดว่าความรู้สึกที่มันให้กูอ่ะมันจริงแต่มันไม่ใช่เว้ยมีแต่กูที่คิดไปเองคนเดียว..กูโง่มากใช่ไหม”
“มันไม่มีคนโง่หรอกมีแต่คนที่ไม่รู้เท่านั้นแหละ...กูไม่คิดว่าพี่เค้าจะทำแบบนี้เหมือนกัน..”
“เรมึงอย่าร้องไห้สิพวกกูใจไม่ดีเลย” ผมเอามือจับหน้าตัวเองเบาๆนี่ผมร้องไห้เหรอ...ทำไมผมไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตามันไหลออกมาตอนไหนถ้าไอ่ทศไม่บอก
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ...กลับไปเรียนคงไม่ไหวมั้ง..ไปบ้านกูไหม”
ไอ่กานเสนอขึ้นผมเลยพยักหน้า ให้ไปเรียนต่อตอนนี้ก็ไม่ไหวจริงๆแหละสภาพผมตอนนี้ขอเวลาไปตั้งหลักก่อนสิ่งที่ประดังประเดเข้ามาตอนนี้ผมตั้งรับไม่ทันจริงๆมันเร็วเกินไป...
อุ๊บบบบบบบบบบบบบบบ
หวานอยู่ดีๆดราม่าซะงั้น 5555555 หลบเกิบแปบบ
เอาแน่เอานอนกับนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะแต่งตามอารมณ์และทรงผมล้วนๆ
ขอบพะใจทุกคอมเม้นและคนอ่านทุกคนนะคะ
ยอดวิวการอ่านเพิ่มกำลังใจก็เพิ่มอิอิอิ
ดรั๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
หืม..อยู่ดีดีมาม่าอืดเต็มถ้วยซะงั้น o22
-
รอต่อจ้าาาาาา
-
รออ่านทุกวันเลย :pig4:
-
7
ความจริง
ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วครับตั้งแต่วันที่ผมรู้ความจริงว่าเฮดีสเป็นคู่หมั้นกับฝ้าย ร่องรอยตามร่างกายที่มันทำไว้ก็จางหายไปแล้วแต่ความเจ็บปวดที่หัวใจผมยังอยู่และดูเหมือนมันจะไม่หายไปง่ายๆด้วย
“เชี่ยเรอย่ามัวแต่เหม่อรีบแดกข้าวบ่ายโมงต้องเรียนของป๋านะเว้ย” ไอ่กานเตือนผมก่อนที่มันจะรีบจ้วงข้าวเข้าปาก แต่ผมกลับทำได้แค่เขี่ยข้าวในจานเล่น มันรู้สึกตื้อๆจนกินไรไม่ลงอ่ะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันนั้นแหละ
“เรกินข้าวดิวะนี่มึงผอมลงจนจะปลิวตามลมได้อยู่แล้วนะ”
“เชี่ยแสงกูเป็นคนไม่ใช่เศษหญ้าแห้งไม่ปลิวไปง่ายๆหรอกน่า”
“ปากดี..รีบแดกได้แล้ว” ผมพยักหน้าแต่กินไปได้ไม่กี่คำผมก็หยุดกินจนทั้งสามหน่อเงอยหน้าขึ้นมามอง
“แดกแค่นี้อิ่มแล้วเหรอ”
“อืม”
“เห้อออ...เชี่ยแสงเมื่อไหร่เพื่อนเรของเราจะกลับมาเป็นคนเดิมวะให้มันเป็นเชี่ยเรจอมหัวร้อนดีกว่าเป็นซากศพแบบนี้นะทุกวันนี้
อยู่กะมันเหมือนอยู่กับศพอ่ะ”
“มึงก็พูดเกินไปกูก็ปกติดีนี่สัสทศ”
“เออ...ปกติมากกกกกกก..แล้วโทรศัพท์อ่ะเมื่อไหร่จะเปิดเครื่องทำตัวเป็นมนุษย์ยุคหินไปได้มึงรู้ไหมคนที่คุณก็รู้ว่าใครนี่โทรมาจนโทรศัพท์พวกกูจะไหม้แล้ว” ไอ่ทศพูดแล้วดูดน้ำดังจ๊วบ..คนที่คุณก็รู้ว่าใครเป็นโค้ดลับที่ใช้เรียกแทนไอ่เฮดีสครับ พวกเกรียนนี่ลงความเห็นกันว่าสภาพผมตอนนี้คงไม่อยากจะได้ยินชื่อเฮดีสพวกมันเลยเรียกกันแบบนี้
“ก็ไม่ต้องรับ...ถ้ารับก็ไม่ต้องบอกว่าอยู่กับกู”
“แหม่..พูดง่ายนะมึงไม่รับพี่มันก็โทรวนหาพวกกูสามคนเนี่ยแล้วบอกว่าไม่อยู่ด้วยทุกวันนี้นี่จะเป็นแฝดสี่กันแล้วมึงคิดว่าพี่เค้าจะเชื่อเหรอวะ”
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมัน”
“สัส!!!” เพื่อนทั้งสามประสานเสียงพร้อมกันผมขำนิดหน่อยก่อนจะแย่งน้ำไอ่ทศมากิน
“กูว่ามึงน่าจะลองฟังพี่เค้าอธิบายหน่อยไม่ดีกว่าเหรอวะ..มึงจะเอาแต่หนีแบบนี้ไม่ได้นะเว้ยคอนโดมึงนี่ร้างแล้วมั้งตอนนี้”
“มึงจะให้กูฟังไรอีกวะกาน..วันนั้นมันก็เคลียร์หมดแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันเป็นคู่หมั้นของฝ้าย..ส่วนกูมันก็คงแค่รู้สึกผิดมั้งที่มาหลอกกูหรือไม่ก็แค่สงสาร..แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใดกูยังไม่พร้อมจะเจอมันว่ะ..กูขอโทษนะที่ขี้ขลาดแบบนี้แต่กูยังรับเรื่องอะไรไม่ไหวทั้งนั้นแหละพวกมึงเข้าใจกูได้ไหม”
“เห้ออออ..พวกกูเข้าใจเว้ยแต่แค่คิดว่าถ้าเคลียร์กันมึงคงอาการดีขึ้น..พวกกูเป็นห่วงนะเว้ย”
“กูรู้...สักวันมันก็คงเป็นเหมือนเดิมของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา” ผมพูดแล้วยิ้มบางๆให้
“ก็ตามนั้น” ไอ่แสงพูด ก่อนที่เราจะพากันยกขโยงกันเข้าเรียนในภาคบ่ายต่อ
ตอนนี้ผมมาอยู่กับไอ่กานครับพ่อมันซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรรแถวมหาลัยให้เพราะมันเป็นเด็กต่างจังหวัดเหมือนไอ่ทศครับอยู่จังหวัดเดียวกันจบโรงเรียนเดียวกันมันเลยชวนไอ่ทศมาอยู่ด้วยเพื่อแชร์ค่าน้ำค่าไฟส่วนไอ่แสงนี่เป็นเด็กเมืองกรุงเหมือนผมครับ
พ่อมันซื้อคอนโดให้ใกล้ๆผมแหละแต่ช่วงนี้ทั้งผมทั้งมันไม่มีใครกลับคอนโดเลยครับมาสิงอยู่ที่บ้านไอ่กานแทนแต่ไอ่กานก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับนอกจากบ่นเรื่องไอ่แสงชอบทำห้องรก
บ้านไอ่กานหลังค่อนข้างใหญ่ครับเพราะบางทีครอบครัวมันก็ขึ้นมาเยี่ยมจากทางใต้พ่อมันเลยซื้อบ้านหลังใหญ่ให้พอสมควรผมกับไอ่แสงเลยมาอยู่ได้โดยที่เจ้าของบ้านไม่เดือดร้อน
“งานชิ้นนี้ส่งเดือนหน้านะครับนักศึกษา” เสียงป๋าโหนดังมาจากหน้าห้องเรียกสติผมที่หลุดลอยไปไกลให้กลับมาก่อนจะหันไปถามไอ่ทศ
“ป๋าสั่งงานไรวะ”
“together แกให้หัวข้อมาแบบนี้อ่ะ..กูนี่ตึ้บ”
“อ้ออ...เลิกเรียนแล้วแสง กานและทศไปพบป๋าที่ห้องด้วย..รายงานมีปัญหา..เอาล่ะเลิกคลาสได้”
“ชิบหาย..แม่งได้แก้อีกแน่เลยสัสเอ้ย” ไอ่แสงบ่นขึ้นมาเบาๆ
“มึงไปกับพวกกูไหมเร”
“ไม่อ่ะ..กูว่าจะไปหาขนมกินสักหน่อยเดี๋ยวกูไปรอที่ร้านนมหน้าคณะก็แล้วกัน”
“อื้ม..งั้นเจอกัน”
“เครๆ”
หลังจากแยกออกมาผมก็เดินลงมาจากตึกเพื่อไปยังร้านนมแต่ตึกที่เรียนกับร้านนมมันก็ห่างกันพอควรเลยต้องใช้เวลาในการเดิน
นานหน่อยแต่เดินไปได้ครึ่งทางผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงที่คุ้นเคยกำลังเดินมาทางนี้
ผมรีบหันหลังแล้ววิ่งไปอีกทางทันทีโดยมีไอ่เฮดีสวิ่งตามมา มันมาบ่อยมากครับแต่ทุกทีผมจะอยู่กับพวกสามหน่อไม่ได้แยกออกมาแบบนี้มันเลยเข้ามาประชิดตัวผมไม่ได้ นี่ผมลืมคิดไปได้ไงวะว่ามันรู้ตารางเรียนผม
“เรหยุดฟังกูก่อน” ด้วยช่วงขัมนที่ยาวกว่าทำให้มันไล่ตามผมมาทันก่อนที่มันจะดึงแขนผมไว้
“ปล่อยกู”
“ไม่..มึงต้องฟังกูอธิบายก่อน”
“กูไม่อยากรู้อะไรแล้ว...กูไม่อยากฟังคำโกหกอะไรอีกแล้ว..พอสักทีเถอะ!!!!” ผมตะคอกมันเสียงดัง ดีหน่อยตรงที่ผมวิ่งมามันเป็นสวนหย่อมมหาลัยเลยไม่มีคนเท่าไหร่เลยไม่ต้องกังวลว่ามครจะมาแอบถ่ายคลิปอะไรอีก
“แต่ความรู้สึกที่กูบอกมึงคือความจริงนะ”
“.........”
“กูรักมึงจริงๆนะเร” รัก...รักเหรอ...มันกล้าพูดคำๆนี้ออกมาได้ยังไงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมามันยังกล้าพูดคำนี้ได้ยังไงกัน!!!
“มันจบแล้ว...เรื่องของมึงกับกูอ่ะ..มันจบแล้ว..มึงมีคู่หมั้นแล้วเลิกมาทำแบบนี้สักทีกูเป็นคนกูมีความรู้สึกกูเจ็บเป็นอย่ามาทำเหมือนว่ายังรักถ้าที่ผ่านมามันเป็นค่เรื่องโกหก”
“ความรู้สึกที่กูมีให้มันเป็นเรื่องจริงนะเร”
“เหรอ...กูไม่รู้ว่าจะทำใจเชื่อมึงอีกได้ยังไงว่ะในเมื่อความเชื่อใจที่กูให้มึงมันโดนทำลายไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว...กูเคยขอให้มึง
อธิบายกูเคยรอให้มึงพูดแต่สิ่งที่กูได้คือการที่เห็นมึงไปไหนมาไหนมาไหนกับฝ้ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!”
“............”
“พูดไม่ออกสินะ...ความจริงมันจุกปากล่ะสิ..ไม่ต้องโทรมาไม่ต้องมาหากูอีกนะไม่ต้องเจียดเวลาอันมีค่าของมึงมาสนใจกูอีกมัน
สายเกินไปแล้วความรู้สึกกูไม่เหมือนเดิมแล้ว..จบแค่นี้เถอะนะถือว่ากูขอ”
พูดจบผมก็ดึงแขนออกมาแล้วหันหลังเดินจากไปโดยไม่เหลียวกลับไปมองอีก..ให้ตาย..เจ็บสัส ใครว่าอกหักดีกว่ารักไม่เป้นผมขอเถียงได้ไหม ผมยอมรักไม่เป็นดีกว่าต้องมาเจ็บปวดแบบนี้มันไม่โอเคเลย
ผมเดินเหม่อมาเรื่อยๆรู้สึกตัวอีกทีผมก็มาโผล่แถวหลัง ม. แล้ว ให้ตายนี่กูเดินมาไกลขนาดนี้ได้ไงเนี่ย
ปั๊ก!!!!!!!!!
วัตถุแข็งๆกระทบเข้ากับท้ายทอยผมอย่างแรงอย่างไม่ทันตั้งตัวจนผมร่วงลงไปกองกับพื้น
“เอาตัวมันไปขึ้นรถ” นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ให้ตายนี่มันเกิดเรื่องบ้าไรขึ้นเนี่ย !!!
...................................................................
ซ่า!!!!!!!!!!!!!!!
น้ำเย็นกระทบหน้าผมอย่างแรงจนหน้าชา ผมค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมองก่อนจะต้องซี๊ดปากด้วยความเจ็บเพราะความเจ็บที่คอ
แม่งแล่นปร๊าดเข้าสู่ก้านสมอง ไอ่เชี่ยยยใครตีกูวะแรงควายสัสคอกูจะหักไหมเนี่ย TT
“ตื่นแล้วเหรอมึง” เสียงผู้ชายที่สาดน้ำใส่ผมพูดขึ้นผมเลยเงยหน้าขึ้นมอง ชิบหาย!! นี่กูอยู่ในดงโจรหรือไงวะแต่ละคนถึงได้หน้า
ตาน่ากลัวแถมยังดูกระหายเลือดขนาดนี้นี่ไม่นับปืนในมืออีกนะแม่ง กะจากสายตาแล้วนี่จะมีประมาณห้าคน
แล้วกูจะหนีไปได้ยังไงมือตีนแม่งโดนมัดติดกับเก้าอี้ขนาดนี้
“พวกมึงแป็นใครจับกูมาทำไม!!” ผมถามพร้อมกับพยายามดิ้นเผื่อว่าเชือกมันจะคลาย
“เดี๋ยวมึงก็รู้เองไม่ต้องพยายามดิ้นหรอกพวกกูมัดเชือกแน่นมึงดิ้นไม่หลุดแน่นอน” สัสไอ่หน้ากะหล่ำปลีเน่ามึงไม่ต้องมายิ้มให้กู
“แต่จะว่าไปหน้ามันก็สวยเหมือนผู้หญิงเลยนะพี่ดำ เรามาเล่นสนุกกันก่อนดีไหมผมว่า” ไอ่หน้าเหียกที่อยู่ด้านซ้ายพูดขึ้นทำเอาหนังตาขวาผมกระตุกรัวๆ
“ก็จริงอย่างที่มึงพูด..กูก็อยากลองของแปลกเหมือนกัน”
“พวกมึงอย่าทำอะไรบ้าๆนะเว้ย...ช่วยด้วยยย...ช่วยกูด้วยครับ!!!” ผมแหกปากทันทีเมื่อไอ่หน้ากะหล่ำปลีเดินเข้ามาใกล้
“แหกปากไปเถอะไม่มีใครได้ยินมึงหรอก”
“พวกมึงอย่าทำไรกูนะอยากได้อะไรกูให้หมดเลย..เอาเงินไหมกูมีเงินนะแต่อย่าทำไรกูเลย”
“เงินอ่ะพวกกูมีเยอะแล้ว...กูไม่ได้อยากได้เงินมึงหรอกเก็บเงินไว้แล้วเตรียมตัวมาเป็นเมียพวกกูดีกว่า” ไอ่หน้ากะหล่ำปลีพูดแล้ว
ใช้มือฉีกเสื้อนักศึกษาผมออกจนกระดุมหลุดกระเด็นกระดอน เชี่ยเอ้ย!!! ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้เนี่ยผมไปทำอะไรให้พวกมันทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ โทรศัพท์ก็ไม่ได้พกนี่ผมจะต้องเป็นเมียไอ่พวกสวะนี่จริงๆเหรอ
“อยะ..อย่าทำอะไรกูเลยนะกูขอร้องกูเป็นผู้ชายนะ” ผมพูดทั้งน้ำตา พยายามดิ้นหนีจากมือที่เริ่มลูบไล้ไปตามหน้าอก
“ถ้าเป็นผู้ชายแล้วขาวเนียนขนาดนี้กูก็ไม่เกี่ยงหรอกว่ะ”
“ไม่..ไอ่สัส..ออกไป!!!” ผมตะโกนเสียงดังพยายามดิ้นแต่มันก็ไม่ขยับเพราะโดนมัดแน่นมากนี่ผมจะต้องเป็นเมียไอ่พวกนี้จริงๆ
เหรอ..
“นี่พวกแกจะทำอะไรกันน่ะ!!!” ไอ่หน้ากะหล่ำปลีที่กำลังจะล้วงมือเข้าไปในกางเกงผมหยุดชะงักก่อนจะผละออกจากผมทำให้ผม
เห็นคนมาใหม่ได้เต็มตา
“ป้าป่าน??? มาช่วยผมเหรอครับแล้วทำไมมาคนเดียวล่ะ” ผมถามหญิงวัยกลางคนแต่งหน้าจัดที่เดินเข้ามาคนเดียวอย่างดีใจแต่ก็
อดสงสัยไม่ได้มาคนเดียวแบบนี้นมยิ้มจะสู้พวกนี้ยังไงล่ะ
“โถๆๆๆๆ...เด็กน้อยช่างโง่เง่าเหมือนเดิมเลยนะคะ” ป้าป่านเดินเข้ามาจับหน้าผมก่อนจะตอบยิ้มๆ
“ป้าป่านหมายความว่าไง” ผมถามอย่างหวาดๆ
“งงล่ะสิ ฮ่าๆๆๆๆ..ไม่ต้องงงหรอกเด็กน้อย...ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ่พวกนี้จับตัวแกมาเองแหละ!!!”
“จับตัวผม...ทำไมล่ะ..ผมไปทำอะไรให้ป้า” ก็เข้าใจว่าป้าป่านกับลูกไม่ชอบผมเท่าไหร่แต่ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ
“แกไม่ได้ทำหรอก...แต่แม่แกทำ....แกรู้ไหมว่าฉันแอบรักแอนดริวมานานแค่ไหนฉันรักแอนดริวก่อนที่แม่แกจะมาเจอด้วยซ้ำแล้ว
ทำไมคนที่ได้ทั้งตัวและหัวใจแอนดริวไปกลับเป็นแม่แกที่มาที่หลัง มันไม่ยุติธรรมกับฉัน!!!!แม่แกแย่งแอนดริวไปจากฉัน!!!!” ป้าป่านพูดเสียงสั่นแล้วจ้องผมเหมือนเกลียดชังกันมาสิบชาติ
“แม่ไม่ได้แย่งแด๊ดซักหน่อย!!!แด๊ดเป็นฝ่ายเลือกแม่เอง..จะมาโทษแม่ไม่ได้นะ”
“แม่แกมันร่านไง..ถ้าแม่แกไม่อ่อยแอนดริวก่อนเค้าก็คงเลือกฉัน!!!”
“ป้าพูดแบบนี้ได้ไง...ป้าเป็นเพื่อนแม่นะทั้งๆที่แม่รักป้าขนาดนี้แท้ๆ”
“หึ...รักเหรอ...ตลกจริงแม่แกเนี่ยนะรักฉันนังนั่นก็แค่แสดงละครจริงๆแล้วแอบสมเพชฉันล่ะสิ” ป้าป่านพูดก่อนจะบีบกรามผมแน่นแล้วสะบัดทิ้ง
“ป้ามันใจแคบ..มองโลกแค่มุมแคบๆของตัวเองป้าเอาแต่โทษคนอื่นโดยไม่มองที่ความผืดพลาดของตัวเองเลย..ถ้าเกลียดแม่ขนาดนั้นแล้วป้ามาเป็นเพื่อนกับแม่ผมทำไมล่ะ”
“คิดว่าฉันอยากเป็นเพื่อนกับมันรึไง...เพราะแอนดริวสนใจแม่แกต่างหากฉันเลยเข้าไปตีสนิทเผื่อวันหนึ่งเค้าจะมองมาที่ฉันบ้าง..แต่ไม่เลยเค้าสนใจแต่มัน”
“แต่ป้าก็แต่งงานนะ มีลูกตั้งสองคนป้าไม่รักสามีป้าบ้างเหรอ”
“ก็เพราะว่าพ่อแม่แกแต่งงานกันไงล่ะ ฉันเสียใจขนาดไหนแกรู้ไหมจนมันเกิดเรื่องผิดพลาดทำให้ฉันต้องแต่งงานกับไอ่เลวนั่น..ฉันต้องทนมองพวกแกมีความสุขกันทั้งๆที่ฉันเหมือนตกนรก” ผมมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า..นี่เหรอคนที่แม่เรียกว่าเพื่อน..คนที่แม่ให้ความไว้ใจ ผมไม่คิดเลยว่าป้าป่านจะจ้องแทงข้างหลังแม่ตลอดเวลาแบบนี้
“แต่แล้วโอกาสที่ฉันรอคอยมานานก็มาถึง โอกาสที่ฉันจะได้กำจัดเสี้ยนหนามในชีวิตไปพร้อมกันสองคน ฮ่าๆๆๆ”
“หมายความว่ายังไง!!!”
“แกจำได้ไหมว่าก่อนที่แกกับแม่จะไปเที่ยวฉันบอกให้แม่แกแวะมาที่บ้านฉัน” คำพูดของป้าป่านทำให้ผมเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ วันนั้นก่อนที่จะไปทะเลแม่ไปหาป้าป่านแปบนึงป้าป่านพาผมแม่และคนขับรถเข้าไปในบ้านก่อนจะชวนคุยเรื่อยเปื่อยแต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร
“ป้าป่าน..ป้าเป็นคนฆ่าแม่ผมเหรอ..ทั้งๆที่ท่านไม่ได้ทำอะไรผิดเนี่ยนะ!!ทำไมป้าโหดร้ายแบบนี้แม่ผมท่านใจดีกับป้าแค่ไหนทำไมป้ายังทำได้ลงนี่ป้ายังเป็นคนอยู่รึเปล่า!!!”
“ใช่...ตอนแรกแค่สั่งคนไปตัดสายเบรกแต่พวกแกแม่ลูกมันดวงแข็งไงเลยไม่ตาย..ฉันเลยจัดการให้อะไรๆมันง่ายขึ้น ฉีดยาเข็มเดียวแม่แกก็ไปเฝ้ายมโลกโดยคนอื่นคิดว่าเป็นอุบัติเหตุแล้ว โทษฉันไม่ได้นะแม่แกมันโง่เอง..คนโง่ก็ต้องโดนกำจัด มันถูกแล้ว”
ผมจ้องหน้าป้าป่านนิ่ง..คนตรงหน้าผมเหมือนคนแปลกหน้าไม่เหมือนคนที่ผมเคยรู้จัก ไม่คิดเลยว่าคนที่แม่ให้ความไว้ใจแต่หักหลังแม่ได้เลือดเย็นขนาดนี้
“แกรู้ไหมหลังจากแม่แกตายฉันดีใจขนาดไหน..ฉันกันผู้หญิงทุกคนที่เข้ามายุ่งกับแอนดริวออกไปฉันยอมแม้กระทั่งวางยาฆ่าสามีตัวเองเพื่อที่จะได้แกล้งเข้าอกเข้าใจแอนดริวมันเหมือนเราอยู่ในโลกเดียวกันเลยแหละ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ป้าบ้าไปแล้ว!!!มันไม่ใช่ความรักแล้วแบบนี้” ผมตะโกนลั่นหลังจากที่ป้าป่านพูดจบ
เพี๊ยะ
หน้าผมหันไปตามแรงตบทันทีที่พูดจบ ป้าป่านมองกน้าผมนิ่งใบหน้าที่เคยสวยนั้นบูดเบี้ยวจนน่าเกลียด
“อย่างแกจะไปรู้อะไร..ที่ฉันทำอะถูกแล้วถ้าฉันไม่ทำมันก็จะอยู่เป็นอุปสรรคระหว่างฉันกับแอนดริวสิต้องขอบคุณแกด้วยซ้ำที่เป็นคนมอบโอกาสให้ฉันได้ฆ่าแม่แก”
“พอแล้ว..ฮึก...ผมไม่อยากฟัง!!!”
“แต่แกต้องฟัง..ฉันจะเล่าอะไรดีๆให้ฟังก่อนตายไงล่ะยังไงแกก็ไม่มีโอกาสได้ไปพูดที่ไหนแล้ว..คนตายพูดไม่ได้นะจ๊ะ หึหึหึ” ป้า
ป่านกระชากผมของผมอย่างแรงก่อนจะกระซิบที่ข้างหูผม
“ความจริงแอนดริวคงยังไม่ได้แต่งงานกับฉันหรอกถ้าคืนนั้นเค้าไม่เมาแล้วโดนยาปลุก หึหึหึ..แต่จะด้วยวิธีใดก็ตามสุดท้ายเค้าก็เป็นของฉันล่ะนะ...แต่แก..ลูกของนังนั่นถ้าแกยังอยู่มันก็จะเป็นขวากหนามเค้าก็จะรักฉันไม่เต็มที่ ถึงเค้าจะเริ่มเกลียดแกเพราะแกเป็นสาเหตุให้นังนั่นตายก็เถอะ แต่นั่นมันยังไม่พอ..ฉันเลยทำให้แกอยู่ในบ้านหลังนั้นไม่ได้อีกต่อไปไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
“ป้ามันโรคจิต..อย่าบอกนะว่าที่ป้าโดนวางยาก็ฝีมือป้าเอง..ฮึก..ป้าบ้าไปแล้ว..”
“ใช่..ฝีมือฉันเอง..แกลืมไปแล้วเหรอว่าฉันกับแม่แกเรียนเภสัช กะปริมาณยาแค่นี้เรื่องง่ายๆ..ฉันก็แค่ไปเป่าหูแอนดริวอีกนิดหน่อย
สุดท้ายแกก็กระเด็นออกจกบ้านแล้ว”
“แล้วป้าจับตัวผมมาทำไมอีกในเมื่อป้าก็ได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วนี่..ฮึก..ป้าต้องการอะไรอีก” ผมสะอื้นตัวโยนความจริงที่ได้ฟังมันหนักหนาเกินไป..ที่จะทนแบกรับเอาไว้ได้
“โถๆๆๆ..เด็กน้อย..แค่นี้ก็ร้องไห้แล้วเหรอจ๊ะ..อยากรู้เหตุผลใช่ไหม..งั้นฉันก็จะบอกให้เอาบุญ ผู้ชายที่แกกำลังยุ่งด้วยน่ะมันเป็น
ของลูกสาวฉันนอกจากจะแรดร่านเหมือนแม่แกแล้วแกยังผิดเพศอีกนะไอ่วิปริต!!!!”
“อย่ามาว่าแม่ผมนะ!!!”
“นี่แกกล้าขึ้นเสียงกับฉันงั้นเหรอ!!!!!”
เพี๊ยะ!!!
ป้าป่านตบหน้าผมอีกรอบจนผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งปาก
“อย่ามาลองดีกับฉัน..นอกจากแม่แกจะเป็นอุปสรรคในความรักของฉันแล้วแกยังจะมาเป็นอุปสรรคของลูกฉันอีกนะ..เห็นทีคงเอา
ไว้ไม่ได้แล้วล่ะ แต่แกตายๆไปก็คงไม่มีใครรู้สึกอะไรหรอกจริงไหม”
“..........” ผมไม่พูดอะไรนอกจากจ้องหน้าป้าป่านนิ่งแล้วถุยน้ำลายเปื้อนเลือดใส่หน้า นาทีนี้ไม่สนหัวหงอกหัวดำละครับยังไงก็จะ
ตายกูขอสักทีเถอะ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...แก!!! กระทืบมันจนกว่าฉันจะสั่งให้หยุด!” สิ้นเสียงป้าป่านทั้งมือทั้งตีนของไอ่พวกโจรก็ระดม
เข้ามาจนเก้าอี้ที่ผมโดนจับมัดไว้ล้มแต่พวกมันก็ยังไม่หยุด สติของผมเริ่มรางเลือน อยากจะหัวเราะให้กับชะตากรรมตัวเองจริงๆ
โดนพ่อเกลียด มีแฟนแม่งก็โดนหลอกแถมยังเป็นสาเหตุให้แม่ตัวเองตายอีก...แต่กูก็ไม่อยากตายกลางดงตีนแบบนี้นะเว้ยยยยยย
ใครก็ได้ช่วยกูที
ไม่น่ากร่างเลยกู T^T
“เสียดายนะที่วันนั้นแกไม่ตายตามแม่แกไป...แต่ไม่เป็นไรอีกไม่นานแล้วแหละเดี๋ยวแกก็ได้ตามแม่แกไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ”
ป้าป่านหัวเราะดังลั่นก่อนจะหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าพกที่ถือมาแล้วจ่อเข้าที่ขมับผม ผมหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
แม่ครับ..น้องเรจะไปหาแล้ว T^T
“หยุด!!!นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางปืนลงเดี๋ยวนี้!!!!”
กูรอดแล้วเว้ยยยยยยย !!!!!!! ผมยิ้มมุมปากก่อนที่หนังตาจะเริ่มหนักแล้วผมก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย...
อัพแล้วจร้าาาาาา
พอดีเมื่อวานทำการบ้านที่ค้างเอาไว้เลยไม่ได้ลง
ดีใจจุงที่มีคนรอ..นึกว่าไม่มีใครอ่าน 555555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ดรั๊กกกกกกกกกกกกกก
-
กำลังสนุกเลย
รอๆๆๆ :mew6:
-
น้องเรของพี่ :ling1:
-
เข้ามารอ อย่างใจจดใจจ่อ :mew2:
-
8
เป็นห่วง
เฮดีส Part
ผมไม่คิดเลยว่าความั่นใจผิดๆของผมจะทำให้ผมต้องเสียเรไป ผมคิดว่าผมสามารถจัดการทุกอย่างได้ คิดว่าไม่เป็นไร ผมรู้แล้วว่าคิดผิด ผมเป็นคู่หมั้นของฝ้ายจริงแต่มันเป็นเพียงแค่เรื่องที่พ่อเรขอร้องไว้เฉยๆพอทุกอย่างเรียบร้อยผมจะเป็นอิสระ
ผมไม่ได้รักฝ้าย..ข้อนี้ผมว่าฝ้ายน่าจะรู้ดีและผมรักเร..แต่ไม่รู้ว่าเรจะรู้รึเปล่า น้ำตาของเรยังคงติดอยู่ในความทรงจำผม
ผมทำให้เรร้องไห้ ทำให้เรเจ็บปวดทั้งๆที่สัญญาไว้แล้วแท้ๆ
“เป็นไรลูกชาย...ยังง้อน้องเรไม่ได้เหรอ”
“โถ่..พ่อแค่หน้าผมเค้ายังไม่อยากจะเห็นเลยจะเอาไรไปง้อล่ะพ่อ...เดี๋ยวนี้ฝ้ายก็เริ่มจะเกาะติดผมเป็นเห็บแล้วด้วย”
ผมทำหน้าเบื่อหน่ายจนพ่อหัวเราะ
“แล้วได้อะไรมาบ้างล่ะ...ยิ่งได้เบาะแสเร็วแกก็ได้คืนดีกับน้องเรเร็วนะ”
“ก็ได้มาบ้างอ่ะ..เรื่องพ่อที่แท้จริงของฝ้ายเห็นบอกว่ากินยานอนหลับเกินขนาดจนตาย”
“หืม...ฆ่าตัวตายเหรอ???”
“ฝ้ายบอกแบบนั้นครับ..เห็นบอกว่าพ่อติดหนี้พนันในบ่อนเยอะเลยฆ่าตัวตาย”
“อืม...รู้เพิ่มอีกอย่างแล้ว..แต่ก็รีบๆสืบนะเดี๋ยวน้องเรของแกจะมีแฟนใหม่ไปซะก่อนหน้าตายิ่งน่ารักๆอยู่ด้วย”
“ไม่ต้องมาพูดเลย..ทุกอย่างเป็นเพราะพ่อแหละ”
“อย่ามาทำหน้าอ้อนตีนกูนะ..ไอ่นี่” พ่อตบหัวผมไม่เบานักก่อนจะเปิดหนังสือพิมพ์อ่านอย่างสบายใจโดยไม่สนใจผมที่ทำหน้าเป็นตูดโทรหาเรรอบที่พันแล้วมั้ง ตั้งแต่วันที่เรเข้าใจผมผิดจนวันนี้เรยังไม่เปิดเครื่องเลยครับผมเลยได้แต่โทรถามอาการจากเพื่อนเรแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้เลยเตี๊ยมเพื่อนไว้ทุกทาง แวปไปหาที่คณะก็ไม่เจอ ผมนี่จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว
ทุกคนอาจจะงงเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับว่าเรื่องมันเป็นยังไงทำไมผมถึงไปเป็นคู่หมั้นฝ้ายได้
คือพ่อผมรู้อยู่แล้วครับว่าผมจีบเรเพราะท่านให้คนคอยตามดูผมตลอดอยู่แล้วไม่รวมเพื่อนปากสว่างของผมอีกสองสามตัวที่คอยเมาท์ผมให้พ่อฟังอีก ตอนแรกพ่อก็แปลกใจครับเพราะผมไม่เคยจีบใครหรือสนใจใครได้เกินสองอาทิตย์ แต่พอได้เห็นรูปเรที่เพื่อนผมเอาให้ดูท่านก็ลากผมไปคุยเลยครับ
ทฤษฎีโลกกลมแม่งมีจริงครับ..เพราะพ่อเรกับพ่อผมดันเป็นเพื่อนรักกันซะงั้นพ่อเลยบอกว่าถ้าไม่จริงจังก็อย่าจีบ..ผมนี่ขึ้นเลย จีบขนาดนี้ยอมขนาดนี้ไม่จริงจังก็บ้าละครับ
และเพื่อความสบายใจของคุณพ่อที่รักวันรุ่งขึ้นแกเลยพาผมไปหาพ่อเรครับเอาซะผมตั้งตัวไม่ทัน กลัวได้แดกกระสุนปืนพ่อเรชิบหาย..แถมพาไปเสร็จท่านก็หายต๋อมไปเลยทิ้งให้ผมนั่งเหงื่อตกต่อหน้าพ่อเรอย่างหวาดๆดีที่ท่านไม่ได้ว่าอะไรแต่สิ่งที่ท่านพูดนี่สิทำเอาผมคิดหนัก
“จะจีบเรพ่อไม่ว่าหรอก..แต่เฮดีสรู้ไหมว่าฝ้ายพี่สาวต่างแม่ของเรก็ชอบเฮดีสน่ะ”
“แต่คุณอาครับ..ผมชอบเรนะครับผมไม่ได้ชอบฝ้าย”
“เรื่องนี้อารู้...อาก็คอยดูเรอยู่ห่างๆเหมือนกัน...เหมือนว่าเรก็ชอบเฮดีสนะ..แต่ปัญหามันอยู่ที่ฝ้าย”
“ยังไงครับ???” ผมถามอย่างงงๆเพราะผมไม่ได้ชอบฝ้ายอยู่แล้วมันจะเป็นปัญหาได้ยังไง
“ความจริงมันก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวล่ะนะแต่อาอยากจะขอให้เฮดีสช่วย หลานเข้ามาในเวลาที่อาต้องการพอดี”
“.............????”
“คืออาสงสัยว่าป่าน..เอ่อ..แม่ของฝ้ายน่ะ...เค้าจะมีส่วนกับการตายของณิดาแม่ของเร”
“!!!!! ทำไมคุณอาคิดงั้นล่ะครับในเมื่อตอนนี้ป้าป่านเป็นภรรยาของคุณอาไม่ใช่เหรอครับ”
“มันก็มีหลายๆอย่างที่เชื่อมโยง..อาแน่ใจมาได้สักพักแล้วล่ะ..อาเลยให้เรอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ไง”
“งั้นแสดงว่าที่คุณอาไล่เรออกจากบ้านก็เพราะเป็นห่วงเรสินะครับ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้..อาเองก็ผิดที่หลังจากณิดาตายอาเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของเรจนลืมคิดไปว่าพอไม่มีแม่ เรก็เหลือแค่อาคนเดียว..จนอาได้มารู้อะไรบางอย่างที่ทำให้อาตาสว่างและรู้สึกผิดไปพร้อมๆกัน”
“ผมถามได้ไหมครับว่าคุณอารู้อะไรมา”
“หึ...ได้สิ...จริงๆตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ อาก็เฝ้าณิดาไม่ห่างแต่ป่านก็เข้ามาเฝ้าด้วยเหมือนกันอาเห็นว่าป่านเป็นเพื่อนกับณิดามานานเลยวางใจแต่หลังจากผ่าตัดอาการณิดาก็แย่ลงเรื่อยๆจนสุดท้ายณิดาก็จากอาไป...หมอบอกว่าณิดาทนพิษบาดแผลไม่ไหว”
“แต่ตำรวจที่ทำคดีกลับบอกว่ารถของณิดาโดนตัดสายเบรก อาพยายามหานักสืบมือดีมาหาคนทำผิดแต่ทุกคนก็คว้าน้ำเหลวหมด..ไม่มีใครรู้ว่าสายเบรกถูกตัดได้ยังไงกล้องที่ติดกับรถก็พังแม้แต่เมมก็ไม่เหลือตอนนั้นอามืดแปดด้านมาก
แล้วป่านก็เข้ามา...พยายามพูดปลอบใจให้กำลังใจอา...จนอาคิดไปเองว่าเรอาจจะต้องการคนที่เปรียบสเหมือนแม่มาดูแลเพราะอาก็ยังเข้าหน้าเรไม่ติดอาเลยตัดสินใจพาป่านเข้าบ้าน”
“แล้วป้าป่านแกไม่มีสามีเหรอครับ..เห็นมีลูกตั้งสองนี่ครับ”
“สามีป่านตายก่อนณิดาประมาณปีหนึ่งแล้วล่ะ...แต่หลังจากที่อาพาป่านเข้าป่าน..เรก็เริ่มก้าวร้าวมีปากเสียงกับป่านบ่อย ป่านเองก็ชอบมาพูดให้ร้ายเรตลอดแต่อาก็พยายามทำหูทวนลมแต่ก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้จนวันนึงความรู้สึกแปลกๆของอามันก็ชัดเจนขึ้น วันนั้นอาลืมเอกสารไว้ที่บ้านเลยกลับมาเอาแต่เห็นนมยิ้มแม่บ้านที่บ้านถือยาเบื่อหนูกำลังจะเข้าไปในห้องเร แล้วเย็นนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ...ป่านโดนวางยาในน้ำจนต้องรีบพาไปส่งที่โรงพยาบาล”
“งั้น..นมยิ้มเป็นคนทำเหรอครับ???”
“ตอนแรกอาก็คิดแบบนั้น...แต่มันไม่ใช่ หลังจากพาป่านไปส่งโรงพยาบาลแล้วอาก็เรียกนมยิ้มมาคุยเลยได้รู้ว่าป่านให้นมยิ้มไปซื้อยาเบื่อหนูมาแล้วเอาไปไว้ในห้องเรโดยขู่ว่าถ้าไม่ทำตามคำสั่งป่านจะฟ้องอาเรื่องที่นมยิ้มติดการพนันแล้วมายิมเงินป่าน”
“คุณอาจะบอกว่าป้าป่านวางยาตัวเองงั้นเหรอครับ??”
“อาก็คิดไว้แบบนั้นแต่ที่รู้ๆคือป่านต้องการที่จะใส่ร้ายเรและอาไม่คิดว่าคนที่ยอมวางยาตัวเองจะเป็นคนที่จิตปกติ อาเลยต้องแกล้งโง่ทำเหมือนเชื่อคำพูดยุแยงของป่านโดยไล่เรออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัยของเรเพราะอาไม่มั่นใจว่าป่านจะทำอะไรเรอีก อาติดต่อกับยายของเรไว้แล้วส่วนนมยิ้มก็ให้ความร่วมมือกับอาอย่างดี...หลังจากเรออกจากบ้านอาก็พยายามจะหาหลักฐานเกี่ยวกับการตายของณิดาว่ามีป่านเกี่ยวข้องไหม..แต่ก็ไม่เจอ”
“อาเลยอยากให้เฮดีสรับปากว่าจะหมั้นกับฝ้ายก่อนได้ไหม...ฝ้ายสนิทกับแม่มาก..อาคิดว่าถ้าเฮดีสทำให้ฝ้ายไว้ใจได้อาอาจจะได้ข้อมูลดีๆก็ได้เพราะปกติอาไม่ค่อยได้พูดคุยกับลูกๆของป่านเท่าไหร่ อากลัวว่าป่านจะทำร้ายเรอีกคนเพราะตอนนี้ป่าน
รู้แล้วว่าเฮดีสจีบเรอยู่...การที่หมั้นกันไว้อาจจะถ่วงเวลาให้อาหาหลักฐานเพิ่มเรก็ปลอดภัยด้วย”
“แต่คุณอาครับ..แล้วเรล่ะครับคือตอนนี้ผมก็คุยๆกับเรอยู่อย่างที่คุณอาทราบ”
“อารู้ว่าเฮดีสชอบเรมาก..แต่ถือซะว่าเพื่อความปลอดภัยของเรนะ..ช่วยอาหน่อย..”
“แล้วถ้าเรรู้ล่ะครับ”
“อาเชื่อว่าเฮดีสจะรับมือได้...แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆเดี๋ยวอาจะช่วย”
“ก็ได้ครับ..ผมจะหมั้นกับฝ้าย”
ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน.....
“พ่อ...ผมจะบ้าตายอยู่แล้วววววว” ผมโวยวายลั่ยก่อนจะทึ้งหัวตัวเองอย่าจนปัญญาเพราะเรไม่ยอมเปิดเครื่องสักที
“หึๆๆ..เป็นเอามากนะแกอ่ะ...โทรไม่ติดก็ไปดักรอหน้าคณะเลย...ที่ๆน้องเรชอบไปบ่อยๆน่ะ”
“ไปมาหลายรอบแล้วพ่อ..ไม่เจอเลย”
“ก็ไปอีกสิวะเผื่อรอบนี้เจอไง”
ผมถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปลานจอดรถ...เอาวะลองไปดูอีกรอบยังไงก็ต้องอธิบายให้เรฟังก่อน
แล้วมันก็ไม่เสียเที่ยวจริงๆครับพอจอดรถเสร็จผมก็เจอเรเดินยู่คนเดียวเหมือนจะไปร้านนมที่ไปบ่อยๆผมเลยรีบเดินเข้าไปหาแต่เหมือนเรจะเห็นผมคนตัวเล็กรีบวิ่งหนีทันที ถึงจะรู้สึกเจ็บที่เรไม่อยากจะมองหน้าผมแต่ผมก็ต้องอธิบาย
“เรหยุดฟังกูก่อน”
“ปล่อยกู” ผมวิ่งตามจนทันก่อนจะดึงแขนเรไว้ แต่เรก็สะบัดแขนอย่างแรงผมเลยต้องเพิ่มแรงจับขึ้นไม่งั้นเรก็คงหนีผมไปอีกเราก็จะไม่เข้าใจกันสักที
“ไม่..มึงต้องฟังกูอธิบายก่อน”
“กูไม่อยากรู้อะไรแล้ว...กูไม่อยากฟังคำโกหกอะไรอีกแล้ว..พอสักทีเถอะ!!!!” เรตะคอกเสียงดังน้ำตาเริ่มคลอ ผมเจ็บนะที่เห็นเรเป็นแบบนี้ไม่ชอบเห็นน้ำตาเรเลยและไม่ชอบด้วยที่สาเหตุมันมาจากผม
“แต่ความรู้สึกที่กูบอกมึงคือความจริงนะ”
“.........”
“กูรักมึงจริงๆนะเร”
“มันจบแล้ว...เรื่องของมึงกับกูอ่ะ..มันจบแล้ว..มึงมีคู่หมั้นแล้วเลิกมาทำแบบนี้สักทีกูเป็นคนกูมีความรู้สึกกูเจ็บเป็นอย่ามาทำเหมือนว่ายังรักถ้าที่ผ่านมามันเป็นแค่เรื่องโกหก”
“ความรู้สึกที่กูมีให้มันเป็นเรื่องจริงนะเร”
“เหรอ...กูไม่รู้ว่าจะทำใจเชื่อมึงอีกได้ยังไงว่ะในเมื่อความเชื่อใจที่กูให้มึงมันโดนทำลายไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว...กูเคยขอให้มึงอธิบายกูเคยรอให้มึงพูดแต่สิ่งที่กูได้คือการที่เห็นมึงไปไหนมาไหนมาไหนกับฝ้ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!”
“............” ผมเงียบ...อยากจะอธิบายมากกว่านี้แต่ผมดันเห็นฝ้ายกำลังเดินมาทางนี้ถ้าผมบอกความจริงเรตอนนี้ฝ้ายก็ต้องได้ยินทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมามันก็จบกันพอดี...ให้ตายเหอะทำไมอะไรๆมันวุ่นวายงี้วะ!!!!
“พูดไม่ออกสินะ...ความจริงมันจุกปากล่ะสิ..ไม่ต้องโทรมาไม่ต้องมาหากูอีกนะไม่ต้องเจียดเวลาอันมีค่าของมึงมาสนใจกูอีกมันสายเกินไปแล้วความรู้สึกกูไม่เหมือนเดิมแล้ว..จบแค่นี้เถอะนะถือว่ากูขอ”
เรดึงมือผมออกแล้วหันหลังเดินจากไป ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังเล็กๆนั่นอย่างปวดใจ..ชิบ..ฝ้ายจะมาทำไมตอนนี้วะแม่ง!!
“เฮดีสคุยอะไรกับไอ่เรคะฝ้ายโทรไปก็ไม่รับ” พอมาถึงฝ้ายก็ถามผมทันทีแล้วจ้องหน้าผมอย่างคาดคั้น...ให้ตายเหอะไม่ชอบจริงๆผู้หญิงแบบนี้
“ไม่มีอะไรหรอก..อย่าสนใจไปเลย”
“หึ..อย่าคิดว่าฝ้ายไม่รู้นะคะว่าเฮดีสมาหามันทุกวันพี่เฮดีสเป็นคู่หมั้นฝ้ายนะคะจะมัวมาตามไอ่วิปริตนั่นไม่ได้นะ”
“ฝ้าย!!!พูดอะไรให้เกียรติเรหน่อยเค้าเป็นน้องฝ้ายนะ” ผมพยายามควบคุมอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นของตัวเอง ยิ่มคำพูดดูถูกของฝ้ายที่ว่าเรมากเท่าไหร่มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงผู้หญิงคนนี้มากเท่านั้น..นี่สินะที่เค้าบอกว่าดูนางให้ดูแม่ ลูกเป็นแบบนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าแม่จะขนาดไหน
“นี่เฮดีสปกป้องมันเหรอ..หึ..ได้ค่ะอยากปกป้องก็ทำไปแต่มันคงจะอยู่ให้เฮดีสปกป้องอีกไม่นานหรอก”
“หมายความว่ายังไง!!!!” ผมถามเสียงเย็นคำพูดของฝ้ายมันเหมือนกับว่าเธอมีแผนจะทำอะไรเรซึ่งมันทำให้ใจผมร้อนรุ่ม
“แหม...ฝ้ายก็แค่พูดไปงั้นเองเฮดีสอย่าคิดมากสิคะ”
“ผมพูดจริงๆนะฝ้าย...อย่ายุ่งกับเรยังไงผมก็หมั้นกับฝ้ายแล้วอย่าลืม” ผมพูดเสียงแข็ง
“ค่ะ...ฝ้ายไม่ยุ่งหรอกค่ะเราไปกินข้าวกันดีกว่านะคะฝ้ายหิว” ฝ้ายเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นว่าหน้าผมเริ่มตึง ก่อนจะให้ผมพาไปร้านอาหารที่อยู่ไกล ม. พอสมควรแต่เพื่อทำตามแผนต่อผมเลยต้องพยายามปรับอารมณ์ที่อยากจะบีบคอฝ้ายเอาไว้
แต่ผมว่าวันนี้ฝ้ายทำตัวแปลกๆ..ปกติเวลาอยู่กับผมฝ้ายจะชวนคุยตลอดเวลาจนผมรำคาญแต่วันนี้ฝ้ายกลับไม่สนใจที่จะชวนผมคุยเลยเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์แล้วยิ้มโรคจิตๆออกมาจนผมขนลุก
“ฝ้ายไม่กินเหรอไหนบอกหิว” ผมถาม ก่อนที่ฝ้ายจะวางโทรศัพท์แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม
“จัดการอะไรบางอยู่น่ะค่ะ..อะไรๆมันทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น”
“ผมว่าวันนี้ฝ้ายดูแปลกๆนะ”
“ไม่นี่คะ..ฝ้ายปกติ” รอยยิ้มของฝ้ายมันทำให้ผมเริ่มไม่ไว้ใจมันต้องมีอะไรแน่ๆเลยให้ตายผมว่าผมต้องทำอะไรสักอย่าง
“คุยกับใครเหรอเห็นฝ้ายนั่งยิ้มตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
“กับแม่น่ะค่ะไม่มีอะไรหรอกเฮดีสไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ” ฝ้ายบอกยิ้มๆแต่กลับรีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าอย่างมีพิรุธ ทั้งๆที่ปกติฝ้ายไม่ได้เป็นคนติดโทรศัพท์สังเกตได้จากการที่ฝ้ายเกาะผมเป็นปลิงมาอาทิตย์กว่าๆมันทำให้ผมเห็นอะไรๆมากขึ้น ผมต้องรู้ให้ได้ว่าในโทรศัพท์มีอะไร
“ผมไปเข้าห้องน้ำแปบนึงนะครับเดี๋ยวมา”
“อ่อ..ค่ะเร็วๆนะคะฝ้ายไม่อยากนั่งคนเดียว”
“ครับ” ผมลุกออกมาด้วยจิตใจกระวนกระวายก่อนจะติดต่อหาพ่อทันทีที่เขามาในห้องน้ำแล้ว
“พ่อครับผมว่าเรื่องมันชักแปลกๆแล้วครับ”
“หืม...มีอะไรลูกชายได้เรื่องอะไรมาละตอนนี้พ่อเรก็อยู่กับพ่อ”
“คือวันนี้ผมว่าฝ้ายพูดจาแปลกๆอะครับแล้วก็ดูหวงโทรศัพท์ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยจะเล่นด้วยซ้ำเหมือนกับว่าไม่อยากให้ผมรู้เรื่องที่คุยกันอ่ะครับ...ยังไงรบกวนพ่อกับคุณอาส่งคนไปเฝ้าเรหน่อยได้ไหมครับผมรู้สึกใจคอไม่ดีเลย”
“อืม...ได้สิ..แต่ปกติเรก็มีคนของพ่อเรเฝ้าแล้วนะแต่พ่อจะส่งคนไปเพิ่มด้วยก็ได้เพื่อความปลอดภัย”
“ครับ..เดี๋ยวผมจะพยายามหาวิธีเอาโทรศัพท์ฝ้ายมาเองครับ..ขอบคุณนะครับ”
“อื้ม...ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
“ครับพ่อ” ผมวางสายแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะชนเข้ากับเด็กเสริฟต์ที่เดินถือจานเปล่าผ่านมาพอดี แต่ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก..หืม...อุบัติเหตุงั้นเหรอ...ผมว่าผมคิดไรดีๆออกแล้วล่ะ
“น้องๆมานี่หน่อย” ผมเรียกเด็กเสริฟต์คนเดิมที่เดินออกมาพร้อมน้ำส้มสองแก้วเหมือนกำลังจะเอาไปเสริฟต์
“สองแก้วนี้พี่ขอเดินเอาไปทำหกใส่ผู้หญิงที่ใส่ชุดนักศึกษาโต๊ะ 8 หน่อยเดี๋ยวพี่เคลียร์กับผู้จัดการให้”
“มันจะดีเหรอครับผมกลัวโดนไล่ออก” เด็กนี่ทำสีหน้าหวาดกลัวจนผมต้องควักตังในกระเป๋าออกมา
“3000 พอไหมและพี่ยืนยันว่าน้องไม่โดนไล่ออกแน่นอน...ทำยังไงก็ได้ให้มันเหมือนอุบัติเหตุ”
“ครับๆผมจะทำให้ดีที่สุด” พูดจบมันก็เดินไปทางโต๊ะที่ฝ้ายนั่งอยู่ระหว่างที่คอยดูการแสดงของไอ่เด็กนั่นอยู่ผมก็เดินไปเคลียร์กับผู้จัดการ ดีที่พ่อผมเป็นคนที่กว้างขวางพอควรเรื่องเลยไม่ยากนัก
แล้วก็เป็นไปตามคาดครับฝ้ายโวยวายเสียงดังจนผู้จัดการต้องเข้าไปไกล่เกลี่ยผมเลยถือโอกาสนี้เดินกลับไปที่โต๊ะ
“มีไรกันรึเปล่าครับ”
“เฮดีส...เฮดีสต้องจัดการให้ฝ้ายนะคะดูสิไอ่เด็กนี่มันทำน้ำส้มหกใส่ฝ้ายค่ะ” ฝ้ายพูดแล้วชี้ไปทางเด็กเสริฟต์ที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆผู้จัดการร้าน
“ได้ครับเดี๋ยวผมจัดการให้แต่ผมว่าฝ้ายไปล้างตัวก่อนดีกว่าไหมเดี๋ยวจะเหนียวไม่สบายตัว”
“ก็ได้ค่ะ..อย่าลืมจัดการให้ฝ้ายนะคะ” พูดจบฝ้ายก็สะบัดหน้าเดินออกไป หึ..ตามแผนครับ..ผมรู้อยู่แล้วว่าถ้าฝ้ายโมโหจะไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นรวมถึงกระเป๋าบนโต๊ะนั่นด้วย ให้ตายสินอกจากหล่อยแล้วยังฉลาดอีก หึหึหึ
“เช็กบิลเลยก็ได้ครับ” ผมหันไปบอกผู้จัดการที่ยืนงงๆอยู่
“อ่อครับสักครู่นะครับ” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ฝ้ายออกมา...แต่ข้อความสุดท้ายที่แม่ของฝ้ายส่งมาทำเอาผมตัวชาไปทั่วร่าง
‘ไม่ต้องห่วง..เดี๋ยวไอ่เรมันก้ได้ตามแม่มันไปแล้วจ่ะลูกรัก’
“เอ่อ..นี่ค่าอาหารครับ”
“เอาไปแล้วไม่ต้องทอน” ผมวางแบงค์พันไว้สองใบก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากร้านอาหารแล้วรีบขับรถกลับบ้านทันที..
ความคิดตีกันวุ่นวายไปหมดหวิดจะชนเสาไฟตั้งหลายครั้ง ผมพยายามจะเข้าไปดูข้อความที่เหลือแต่ฝ้ายล็อคหน้าจอเอาไว้ทำให้ผมเห็นแค่ข้อความสุดท้ายที่แม่ฝ้ายส่งมา...ให้ตายขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเรนะ...เพราะตอนนี้ผมเป็นห่วงเรจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
แต่เหมือนคำภาวนาของผมจะไม่มีผลเพราะทันทีที่กลับถึงบ้านผมก็ต้องพบกับข่าวร้าย พ่อบอกว่าเรถูกจับตัวไป
คนของคุณอาที่คอยดูแลเรถูกเล่นงานจนถูกส่งไปโรงพยาบาลคนของพ่อไปไม่ทัน
ตอนนี้ที่บ้านมีตำรวจเต็มไปหมดพ่อโทรเรียกมาเองครับตำรวจพวกนี้เป็นหน่วยพิเศษที่เป็นคนของพ่อทั้งหมดพ่อจะโทรตามตอนมีภารกิจสำคัญเท่านั้น
“ยังไงเราก็ต้องรู้ก่อนว่าเรถูกพาไปที่ไหน ผมได้โทรศัพท์ฝ้ายมาแต่ผมไม่รู้รหัสผ่านคุณอาพอจะทราบไหมครับเผื่อเราจะได้
อะไรเพิ่มขึ้น” ผมหันไปพูดกัพ่อของเรที่ทำหน้าเรียดอยู่ข้างพ่อผม
“อืม..ลองวันเดือนปีเกิดของฝ้ายไหม”
“ผมไม่ทราบครับคุณอาลองเองดีกว่า” คุณอาพยักหน้ารับก่อนจะเอาโทรศัพท์ไปจิ้มอยู่สองสามทีก่อนจะส่ายหน้า
“หรือว่าจะเป็นวันเกิดป้าป่านครับ..เห็นคุณอาบอกฝ้ายรักแม่มาก”
“นั่นสินะ..แปบนะ” แล้วคุณอาก็เอาไปจิ้มอีกครั้งก่อนที่หน้าจอโทรศัพท์จะปลดล็อกแล้วขึ้นเป็นหน้าแอพไลน์ที่ฝ้ายคุยค้างไว้ คุณอาค่อยๆเลื่อนดูสิ่งที่ฝ้ายคุยกับแม่ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้ผมด้วยมืออันสั่นเทา แล้วเงียบไป
ผมรับโทรศัพท์มาแล้วเลื่อนดูอีกครั้ง
ข้อความในไลน์ที่ปรากฏต่อหน้าผมทำเอาผมกำหมัดแน่นในใจร้อนรุ่มไปหมด
ฝ้ายคุยกับแม่เรื่องเรมาสักพักแล้วและดูเหมือนฝ้ายจะรู้ว่าผมรักเรแต่เธอไม่สนใจฝ้ายต้องการให้ผมเป็นของเธอ
โดยการกำจัดเรทิ้ง และดูเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้จะเป็นตัวจุดชนวนทั้งหมดเพราะดูจากเวลาที่ส่งข้อความแล้วหลังจากที่ผมพาฝ้ายมาที่ร้านอาหารได้ไม่นานฝ้ายก็ส่งข้อความไปให้แม่ว่าให้จัดการเร
สามสิบนาทีต่อมารูปเรที่สลบอยู่บนเก้าอี้โดยถูกมัดแขนและขาติดกับเก้าอี้ก็ถูกส่งเข้ามา และข้อความสุดท้ายที่ฝ้ายส่งให้แม่ทำเอาผมแทบอยากจะกลับไปกระทืบเธอด้วยตัวเองโดยไม่สนใจว่าเธอจะเป็นเพศแม่..แต่ผมมีเรื่องที่ต้องทำมากกว่านั้น
(ทำให้มันหายไปตลอดกาลนะคะแม่)
“เราจะเอายังไงต่อดีครับคุณอาเราไม่รู้ว่าเรอยู่ไหนยิ่งเสียเวลาเท่าไหร่เรจะยิ่งมีอันตรายมากเท่านั้นนะครับ”
“อาก็คิดแบบนั้นแหละ...แต่เราไม่รู้ว่าป่านจับเรไปไว้ที่ไหน..ในแชทก็ไม่ได้บอกไว้ด้วย..อาไม่น่าพาป่านเข้ามาเลยจริงๆ”
“มันไม่ใช่เวลาโทษตัวเองครับคุณอาเรารีบหาวิธีช่วยเรก่อนดีกว่าขืนชักช้าจะไม่ทันการนะครับ...คุณอาดูรูปนี้แล้วพอจะคุ้นๆสถานที่บ้างไหมครับ”
“ไม่นะ...อาไม่คุ้นเลยสถานที่มันเหมือนเป็นโรงงานเก่าๆอ่ะอาไม่แน่ใจว่ามันอยู่ที่ไหน”
“ผมว่ามันไม่น่าจะไกลกับกรุงเทพเท่าไหร่เพราะเวลาที่ฝ้ายส่งข้อความไปหาแม่กับเวลาที่รูปส่งกลับมามันแค่สามสิบนาทีเพราะงั้นโรงงานน่าจะอยู่ไม่ไกลนะครับ...คุณอามีโรงงานเก่าๆที่ปล่อยร้างไว้บ้างไหมครับ”
“อืม....อาไม่มีหรอก”
“แต่สามีเก่าของป่านมี” คำพูดของพ่อทำเอาผมกับคุณอาหันไปมองหน้าพ่อพร้อมกัน
“พ่อรู้ได้ไงว่าเป็นของสามีเก่าป้าป่าน”
“เอ้า...ก็เวลาพ่อจัดการอะไรๆพ่อก็ชอบไปที่นี่แหละมันเป็นโรงงานร้างไม่ค่อยมีคนเข้าไปใกล้เท่าไหร่สะดวกดี เจ้าของก็ไม่มีด้วย เห็นแวปเดียวก็จำได้แล้วล่ะ..เราไปกันเลยไหมล่ะเดี๋ยวพ่อขับเอง”
“ครับพ่อรีบไปเลยครับแต่ผมขอจัดการอะไรนิดหน่อยก่อนแล้วผมจะตามไปนะครับ”
“อืม..ยังไงก็รีบมาละกัน”
“ครับ”
หลังจากจัดการอะไรๆเสร็จผมก็รีบตามพ่อไปทันที พอไปถึงผมก็รีบวิ่งเข้าไปหาพ่อด้วยความร้อนใจเพราะเสียงข้างในโกดังดังมากเหมือนคนกำลังมีเรื่องกัน
เหงื่อผมชุ่มหลังไปหมดด้วยความเป็นห่วงเร แต่พ่อดึงแขนผมไว้ก่อนแล้วตบบ่าผมเบาๆเพื่อเรียกสติ
“ใจเย็นลูกชายอย่าพึ่งวู่วามมันอันตราย”
“แต่เรอยู่ข้างในนะครับพ่อ”
“เชื่อพ่อ..เรต้องไม่เป็นไร” พอพ่อพูดจบก็หันไปสั่งการตำรวจ พวกเขารีบแยกกันไปล้อมโกดังไว้ส่วนผมก็ตามพวกที่บุกเข้าประตูหน้าพร้อมกับคุณอาและพ่อ
“หวังว่าสิ่งที่แกไปจัดการมามันจะเวิคร์นะ”
“หึ...คอยดูละกันพ่อเชื้อไม่ทิ้งแถวหรอก”
ต่อข้างล่าง...(หรือหน้าต่อไปนี่แหละจ้า)
-
ต่อ ตอนที่ 8
“เสียดายนะที่วันนั้นแกไม่ตายตามแม่แกไป...แต่ไม่เป็นไรอีกไม่นานแล้วแหละเดี๋ยวแกก็ได้ตามแม่แกไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะของป้าป่านดังลั่นก่อนจะหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าพกที่ถือมาแล้วจ่อเข้าที่ขมับของเร ที่อยู่ในสภาพเลือดเต็มหน้าใบหน้าหวานเต็มไปด้วยแผลแตกและรอยช้ำมากมายเสื้อนักศึกษาที่ใส่ก็ถูกฉีกจนกระดุมหลุดออกเกือบหมดเผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียนที่มีทั้งรอยช้ำและรอยถลอกเต็มไปหมด
ให้ตาย...ยัยป้านี่ทำกับเมียผมแบบนี้ได้ไงวะ!!!
“หยุด!!!นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจวางปืนลงเดี๋ยวนี้!!!!” สิ้นเสียงตำรวจที่ตะโกนออกไปป้าป่านก็หันมาทางพวกผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับปลายกระบอกปืนที่หันมาทางพวกผมด้วยก่อนที่แกจะเปิกตาโพลงอย่างตกใจที่เห็นคุณอายืนอยู่ข้างๆผม
“อะ..แอนดริว..คุณมาได้ยังไงคะไหนบอกว่าจะไปหาคุณแม่ที่อเมริกาไง” ป้าป่านถามเสียงสั่น แต่ดูเหมือนคุณอาจะโกรธมากแววตานิ่งๆของเขาดูแข็งกร้าวขึ้นมาจนน่ากลัวจนผมแอบขนลุกเบาๆ
“หมายความว่ายังไงป่าน....ที่เธอบอกว่าไม่ตายตามแม่ไปมันหมายความว่าไงเธอฆ่าเมียฉันแล้วเธอจะฆ่าลูกฉันอีกคนเหรอ!!!!” คุณอาตวาดลั่นก่อนจะชักปืนขึ้นมาแล้วเล็งไปที่ป้าป่านที่ยืนน้ำตานองหน้าอยู่ตรงข้ามโดยมีลูกน้องด้านหลังเล็งปืนไปที่เรที่ตอนนี้ดูเหมือนจะสลบไปแล้ว...
“ใช่!!!ฉันเป็นคนฆ่าณิดาเองมันแย่งคุณไปจากฉัน ฉันทำแบบนี้ก็ถูกแล้ว..ส่วนมัน!!!คุณเกลียดมันไม่ใช่เหรอแล้วจะสนใจทำไมถ้ามันจะตายไปอีกคนยังไงคุณก็ยังมีฉันมียัยไหมกับยัยฝ้ายอยู่ไม่มีมันเฮดีสก็จะได้แต่งงานกับฝ้ายไงคะลูกเราจะได้มีความสุขไง”
“หุปปาก!!!!!!สองคนนั้นไม่ใช่ลูกผม..และผมไม่เคยเกลียดเร!!!ที่ผมทำไปทั้งหมดก็เพียงเพื่อป้องกันเรจากคุณผมรู้ทุกอย่างหมดแล้ว...คุณเอาทุกอย่างไปจากผมป่าน..คุณพรากณิดาไปจากผมตอนนี้ผมเหลือแค่เรแล้วคุณยังจะพรากเรไปจากผมอีกเหรอ...ได้โปรดหยุดสักทีเถอะ”
“ไม่ค่ะ..ป่านไม่ยอมคุณต้องรักป่านสิ..ฝ้ายกับไหมก็เป็นลูกของคุณนะคุณจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้!!! ...เพราะมันใช่ไหมคุณถึงพูดแบบนี้” ป้าป่านพูดด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยวก่อนจะก้มลงไปกระชากผมเรขึ้นมาแล้วเอาปืนจ่อไปที่ใต้คางของเร
“ป่าน..วางปืนแล้วค่อยๆพูดกันดีกว่านะ”
คุณอาพยายามไกล่เกลี่ย แต่การกระทำของป้าป่านทำให้ผมเริ่มหมดความอดทน จริงๆแล้วผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลยนะครับคำว่าลูกมาเฟียฟังก็รู้ว่าเส้นทางของผมกับพ่อไม่ได้เป็นสีขาวอย่างแน่นอน ผมต้องเคยฆ่าคนอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้ฆ่าไม่เลือก แต่ถ้ามาเล่นกับของรักของหวงผมแบบนี้ผมก็ปล่อยไว้ไม่ได้หรอกนะครับ
“ปล่อยเรครับป้าป่านอย่าทำอะไรบ้าๆ” ผมพูดเสียงเย็นแล้วจ้องผู้หญิงตรงหน้านิ่ง
“แกจะทำไมห๊ะ...เอาสิ..ขืนพวกแกเข้ามาอีกก้าวเดียวสมองไอ่เรกระจายแน่”
“ป้าจะทำให้ผมหมดความอดทนนะครับผมไม่ได้ใจดีเหมือนคุณอานะครับป้าป่าน” ผมยิ้มบางๆไปให้ก่อนจะล้วงปืนออกมาจากทางด้านหลังแล้วเล็งไปที่หัวของป้าป่าน...อ้อ..ผมแม่นปืนครับไม่ต้องห่วงเป็นลูกมาเฟียมันก็ต้องมีเขี้ยวมีเล็บกันบ้างไม่งั้นผมคงไม่รอดมาจนถึงทุกวันนี้หรอกครับ
“แกจะทำอะไรฉันได้ฉันมีทั้งลูกน้องและตัวประกันอย่ามาพูดให้ขำเลย..ทำตัวดีๆแล้วเตรียมตัวเป็นลูกเขยฉันดีกว่า”
“ลูกน้อง????...คนไหนครับ..คนที่นั่งฉี่แตกบนพืนคนเดียวนั่นรึเปล่าเพราะที่เหลือเป็นศพหมดแล้วนะครับ”
“กะ...แกหมายความว่ายังไง”
“ลองหันไปมองสิครับ” ป้าป่านหันไปมองลูกน้องที่นอนกองเป็นศพด้วยฝีมือตำรวจหน่วยพิเศษของพ่อแล้วหันกลับมามองผมหน้าซีด
“กะ..แกทำได้ยังไง”
“ผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกป้านะครับแต่อย่าลืมว่าโลกนี้ยังมีบุคคลแม่นปืนที่มีชื่อว่าสไนเปอร์นะครับและผมจะบอกคุณป้าว่าสไนเปอร์ในโกดังนี้ไม่ได้มีคนเดียว”
“..........” ป้าป่านเหงื่อแตกมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง
“ปล่อยเรครับคุณป้า”
“ไม่!!!เอาสิไหนๆก็ไหนๆแล้วแกยิงฉันฉันก็จะยิงมัน...หึ..คิดว่าฉันกลัวตายรึไง ถ้าไม่อยากให้มันตายก็หลีกไปซะ”
“ผมก็คิดไว้แบบนั้นแหละครับคยจนตรอกส่วนมากก็พูดงี้...งั้นเรามาเล่นเกมส์กันดีกว่าครับ” ผมพูดเหมือนไม่เดือดร้อนก่อนจะเดินไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบที่สั่งลูกน้องไปจัดการเอามาให้เมื่อกี้แบบเงียบๆก่อนจะมาถึงที่นี่
“คุณป้าจะเลือกใบไหนครับสีฟ้าหรือชมพูดี”
“แกเล่นบ้าอะไรหา!!! ถ้าไม่อยากให้ไอ่เรมันตายพวกแกถอยไปแล้วเอารถมาให้ฉันดีกว่า!!!”
“งั้นผมจะถือว่าคุณป้าเลือกใบสีฟ้าละกันนะครับ” ผมไม่สนใจคำพูดป้าป่านแต่กลับเปิดกระเป๋าใบสีฟ้าทางขวามือก่อนจะดึงร่างของฝ้ายที่โดนมัดแขนขาพร้อมสก็อตเทปปิดปากออกมากจากกระเป๋าแล้วเอาปืนจ่อเข้าที่คอฝ้ายเหมือนที่ป้าป่านกำลังทำกับเร ฝ้ายพยายามดิ้นจนผมต้องกดปืนลงไปแรงขึ้นแล้วแสยะยิ้มให้
“ยัยฝ้าย!!!!!!แก...แกปล่อยลูกสาวฉันนะ”
“เอาสิครับ...ถ้ายิงเรผมก็ยิงลูกสาวป้าได้เหมือนกันอย่าคิดว่าผมไม่กล้าคุณป้าก็รู้จักตระกูลผมดีนี่ครับ ฆ่าคนๆนึงมันไม่ได้ยากอะไรเลย นี่ผมยอมเสียเวลาเปลืองน้ำลายกับคุณป้านานแล้วนะครับ” ผมพูดแล้วจ้องหน้าป้าป่านนิ่ง
“ยัยฝ้ายลูกแม่...”
“อย่าลีลาครับถ้ายังมัวร่ำไรปืนผมอาจจะลั่นนะครับอ้อ...อีกระเป๋านี่คงไม่ต้องเดาให้ยากนะครับว่ามีใครอยู่”
“ก็ได้ๆฉันยอมแล้วๆ” พูดจบป้าแกก็ทิ้งปืนลงพื้นผมเลยพยักหน้าให้ตำรวจมารวบตัวป้าป่านก่อนที่ผมจะรีบวิ่งไปหาเรที่นอนสลบอยู่กับพื้นดีที่พ่อโทรเรียกรถพยาบาลไว้แล้วผมเลยรีบอุ้มเรขึ้นรถทันที
เรื่องที่เหลือคงต้องให้พ่อกับคุณอาจัดการตอนนี้ผมขอมาดูแลเรก่อนยิ่งเห็นรอยฟกช้ำที่เริ่มเป็นสีม่วงเข้มผมยิ่งอยากจะกลับไปกระทืบป้าป่านให้ซี่โครงหัก แต่พ่อคงจัดให้แล้วล่ะ...ตอนนี้ก็เป็นห่วงแต่เรไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรมากไหม แต่ขออย่าให้เรเป็นไรไปเลยยังไงก็ช่วยตื่นมาฟังคำขอโทษจากผมก่อนก็ยังดี....
มาแล้วจร้าาาาาาาาาาาา
หายไปนานเบยมีใครรออยู่ไหม
ช่วงนี้งานชุมยิ่งกว่ายุงอีกจ่ะ...ก็อย่างว่าปีสี่งานก็จะเยอะนิดนุงหายไปบ้างก็อย่าพึ่งงอนกันนะจ๊ะ
เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วเหลืออีกแค่สองตอน
เราว่าจะลงเรื่องใหม่มีใครอยากอ่านไหมเอ่ย
ยังไงก็เม้นบอกกันด้วยะจ๊ะ
ดรั๊กกกกกกกกกกกกก
-
ขอบคุณนะคาบ ชอบจัง.. :mew1:
-
มาแล้ว ๆๆๆ ขอบคุณครับ :pig4:
-
รอตอนใหม่ :ling1: :ling1: :ling1:
-
เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง..ปักธงรอตลอดนะเจ้าค๊ะ :m13:
-
:pig4: :pig4:
-
เมื่อไหร่จะมาน๊าาาาา :katai5:
-
9
เข้าใจ
เร part
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสีขาวไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นโรงพยาบาลดูจากสายน้ำเกลือที่ติดกับหลังมืออยู่ตอนนี้อ่ะนะ
พี่ตำรวจไปทันสินะดีที่ยังไม่ตายยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย ดีที่ตอนโดนกระทืบผมงอตัวป้องกันส่วนสำคัญไว้เลยไม่เป็นไรมากเท่าไหร่จะมีก็แต่รอยฟกช้ำตามตัวกับแผลปากแตกนิดหน่อยนี่แหละ
โครกกกกกกกกกกก
หืม....ใครอยู่ในห้องน้ำวะนี่ผมไม่ได้อยู่คนเดียวเหรอ...หรือจะเป็นพวกไอ่แสงวะแต่พวกมันรู้ละอ่อว่าผมมานอนแบ็บอยู่ที่โรงบาลเนี่ยหรือจะเป็นนมยิ้มหรือจะเป็น...
“น้องเรตื่นแล้วเหรอ” ไม่ต้องสงสัยให้เปลืองสมองแล้วล่ะครับเจ้าของเสียงปริศนาในห้องน้ำเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว แถมยังส่งยิ้มหล่อที่มักจะทำให้ผมเขินอายอีกต่างหากแต่ทำไมวันนี้มองแล้วมันเจ็บแปลกๆวะ สงสัยเพราะรอยยิ้มนี้มันไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไปแล้วมั้ง
“มาทำไม”
“พี่เป็นห่วง...พี่อธิบายเรื่องทุกอย่างได้นะเรช่วยฟังพี่ก่อนได้รึเปล่า”
“พูดแบบนี้มากี่รอบแล้วว่าจะอธิบายอ่ะ...สุดท้ายก็เงียบ..เล่นตลกอะไรอยู่” ผมถามเสียงนิ่งแล้วเปือนหน้าหนีสายตาที่จ้องมาทางผมอย่างอ้อนวอน
“ฟังพี่เค้าหน่อยได้ไหมเร...แล้วแด๊ดมีเรื่องจะคุยด้วย” ผมหันหน้าไปตามเสียง...เสียงที่มักจะตะโกนด่าผมตลอดแต่วันนี้มันกลับดูขอร้องแปลกๆ
“แด๊ด...มาได้ยังไง”
“ขับรถมา” พ่อใครวะกวนตีน!!!!
“ไม่ใช่แบบนั้นดิ..แล้วแด๊ดรู้ได้ไงว่าเรอยู่นี่..แล้วป้าป่านล่ะ”
“พี่เค้าเป็นคนไปช่วยเรและพาเรมาส่งที่นี่” แด๊ดพูดแล้วชี้ไปยังเฮดีสที่ยืนอยู่เยื้องๆไป
“แล้ว....”
“อยากรู้อะไรให้พี่เค้าอธิบาย..แด๊ดจะออกไปรอข้างนอกฟังพี่เค้าหน่อย...พี่เค้าไม่ได้ผิดเลยเชื่อแด๊ดสักครั้งนะ” แด๊ดพูดขัดขึ้นมาก่อนเปิดประตูแล้วเดินออกไป ทิ้งให้ผมอ้าปากค้างแบบงงๆ
“ฟังพี่ได้รึยัง”
“มีไรก็พูดมาดิ” ผมพูดแล้วสะบัดหน้าไปอีกทางให้ตายสาวแตกขึ้นทุกวันเลยกู
เฮดีสอธิบายให้ผมฟังตั้งแต่เรื่องที่มันเข้าไปหาแด๊ดเพราะพ่อมันที่เป็นเพื่อนแด๊ดลากไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ สาเหตุที่มันต้องหมั้นกับฝ้ายและปิดผมไว้ เรื่องที่มันไปช่วยผมพร้อมแด๊ดกับพ่อมันจนกระทั่งพาผมมาส่งที่โรงพยาบาล
“แล้วตอนนี้ป้าป่านเป็นยังไงบ้าง”
“ก็คงต้องอยู่ในคุกแหละเรก็รู้ว่าพ่อพี่เป็นใครคงยากที่ออกมาได้อีก..อีกอย่างพ่อเรก็ยังไม่ยอมให้เรเสี่ยงอันตรายอีกเป็นแน่”
“แล้วไหมกับฝ้ายจะทำยังไงล่ะ”
“เป็นห่วงเหรอ...”
“ก็นะ..นิดนึงยังไงก็อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีถึงจะตีกันตลอดก็เถอะ”
“แฟนใครเนี่ยใจดีจัง”
“สัส...กวนตีนนะมึงอ่ะ”
“โถ่ววววววว...พี่ล้อเล่นหรอก ..ไหมกับฝ้ายพี่ไม่แน่ใจแต่พ่อเรขอเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าพ่อเรรักเร
ขนาดไหน”
“รู้แล้วน่าก็ปากแข็งกันไงมีอะไรก็ไม่ยอมบอกเรื่องราวเลยบานปลายขนาดนี้..นี่ถ้าบอกกันสักนิดกูคงไม่ต้องมารู้สึกแย่เป็นปีๆไม่ต้องมานั่งดราม่าน้ำตาไหลหรอก”
“พี่ผิดเอง...พี่ขอโทษต่อไปนี้มีอะไรพี่จะบอกเรเป็นคนแรกเลยโอเคไหมครับ” ไอ่เฮดีสพูดแล้วเดินเข้ามากอดผมแบบเนียนๆ
“มึงไม่ต้องมาเนียนไอ่สัส..ปล่อยกูเลย”
“ก็พี่คิดถึงนี่นาไม่ได้กอดไม่ได้หอมแบบนี้มาตั้งเกือบสองอาทิตย์พี่จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว” พูดจมมันก็กอดผมแน่นขึ้นจนผมดิ้นไป
ไหนไม่ได้ก่อนจะประกบริมฝีปากลงมาอย่างรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน ริมฝีปากของมันดูดดุนอยู่ที่ริมฝีปากผมเบาๆ
ก่อนจะเริ่มบดขยี้แรงขึ้นจนผมเริ่มรู้สึกเจ็บแผลที่ปากแต่ยังไม่ทันที่จะทำไปมากกว่านี้ประตูก็ถูกเปิดออกมาซะก่อน ผมตกใจเลยผลักมันออกอย่างแรง เฮดีสฮึดฮัดอย่างขัดใจก่อนที่เสียงของคนขัดจังหะจะดังขึ้นมา
“น้อยๆหน่อยไอ่หลานชายพ่อมันยังอยู่นี่กะจะปล้ำลูกชายอาเหรอ..ให้อธิบายไม่ใช่ให้ปล้ำนะน้องเรยังไม่หายดีเลย” แด๊ดพูดเสียงเย็นก่อนจะเดินเข้ามายืนแทรกกลางระหว่างผมกับเฮดีส
“นิดนึงเองครับคุณอาก็คนมันคิดถึง”
“แกนี่มันกะล่อนได้พ่อจริงๆ” พ่อพูดขำๆก่อนจะหันมามองผมแล้วลูบหัวเบาๆ
“แด๊ดขอโทษสำหรับทุกอย่างนะเร ขอโทษที่เป็นพ่อที่ไม่ดี ขอโทษที่พาคนที่คิดร้ายกับครอบครัวเรามาตลอดเข้ามาในบ้าน ขอ
โทษที่ทำอะไรไม่บอก...แด๊ดขอโทษจริงๆนะ”
“ไม่เป็นไรครับ...เรเข้าใจแต่จากนี้มีอะไรแด๊ดต้องบอกเรนะเราเหลือกันอยู่แค่สองคนแล้วนะครับเรโตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว”
“อืม..เรไม่โกรธแด๊ดนะ”
“เรไม่เคยโกรธแด๊ดหรอกครับ...เรเคยอยากโกรธแต่ก็โกรธไม่ลงสักทียังไงแด๊ดก็เป็นพ่อนี่เน๊อะ”
“หึ...ตัวแสบเอ้ย” แด๊ดพูดหยอกก่อนจะจุ๊บเหม่งผมเบาๆ ไม่ได้รู้สึกอบอุ่นหัวใจแบบนี้มากี่ปีแล้วนะ...ตั้งแต่ที่แม่จากไปผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอดจนได้มาเจอกับเฮดีส...ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปมันทำให้หัวใจของผมอบอุ่นขึ้นทำให้ผมรู้จักคำว่าความสุขทำให้พ่อกับผมได้เข้าใจกันอีกครั้ง..ให้ตาย..หุบยิ้มไม่ได้เลย
“เฮดีสกลับไปก่อนก็ได้นะอาไม่ว่า”
“ไหงงั้นครับคุณอาผมยังคุยกับเรไม่จบเลย”
“คุยหรือจะทำอะไรกันแน่ตราบใดที่เรยังไม่หายห้ามทำอะไรเรเด็ดขาดถึงแม้เรจะแค่ฟกช้ำไม่ไดเป็นไรมากก็ตาม..แต่ลูกชายอา อาหวง”
“คุณอา....” เฮดีสลากเสียงยาวก่อนจะส่งสายตามาทางผมอย่างต้องการความช่วยเหลือ แต่ถึงจะรักมันแต่ผมก็มีความหมั่นไส้กับไอ่ความมือไวของมันไหนจะที่มันไปกับฝ้ายแล้วไม่ยอมบอกผมอีก..ถึงแม้จะทำเพื่อผมก็เถอะ..แต่มันก็เตี๊ยมกันได้นี่หว่าทำตัวเป็นพระเอกเกินไปแบบนี้ต้องสั่งสอนครับ
“ก็ทำตามที่แด๊ดบอกนั่นแหละพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ก็ได้”
“แล้วใครจะนอนเฝ้าน้องเรล่ะ”
“อาเอง...ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอก...หึหึหึ”
“โถ่...ก็ได้ครับยอมแพ้..ถือซะว่าให้พ่อลูกมีเวลาอยู่ด้วยกัน...งั้นผมไปล่ะ... สวัสดีครับคุณแด๊ด” พูดจบเฮดีสก็รีบโกยอ้าวออกไป
ทันทีไม่รอให้แด๊ดได้เขกกบาล
“เหมือนพ่อมันจริงๆนั่นแหละ...แล้วนี่เป็นไงบ้างยังเจ็บๆอยู่ไหมคุณหมอเค้าให้นอนพักสักสองสามวันก่อนแล้วค่อยออกจากโรง
พยาบาล..ดีนะที่ไม่ได้หักตรงไหน”
“ก็เรแข็งแรงเหมือนแด๊ดไง ^^”
“ครับๆลูกรัก...เอ้อ...แด๊ดโทรบอกพวกเพื่อนๆลูกให้แล้วนะว่าลูกไม่สบายเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงพากันมาเยี่ยม..อยากกินอะไรไหมหิวรึ
เปล่าแด๊ดจะได้ให้คนซื้อขึ้นมาให้”
“นิดนึงครับเรอยากกินต้มยำกุ้งอ่ะ”
“แผลที่ปากยังไม่หายเลยกินไรอ่อนๆไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวแด๊ดให้คนซื้อโจ๊กเจ้าอร่อยมาให้”
“ก็ได้ครับ..” ผมพยักหน้าเบาๆแด๊ดเลยดึงผมเข้าไปกอดผมค่อยๆยกมือขึ้นกอดแด๊ดช้าๆ..นานเท่าไหร่แล้วนะกับอ้อมกอดแบบนี้
คิดว่าจะไม่ได้รับมันอีกแล้ว...ผมดีใจจริงๆมี่แด๊ดกลับมาเป็นแด๊ดคนเดิม...ผมมีความสุขจริงๆ
ผมกับแด๊ดเรากอดกันนานมากเหมือนจะซึมซับช่วงเวลาที่ขาดหายไป..จนกระทั่ง
โครกกกกกกกกกกกก....
ครับ..ท้องผมร้อง..ก็คนมันหิวอ่ะ
“เดี๋ยวแด๊ดโทรศัพท์บอกให้รอแปบนะครับ หึหึ”
จากนั้นไม่นานข้าวก็มาส่งแด๊ดนั่งกินเป็นเพื่อนผมด้วยเป็นมื้ออาหารที่มีความสุขจนผมหุบยิ้มไม่ได้เลยครับ
แด๊ดอยู่เฝ้าผมจริงๆอย่างที่บอกครับพี่แกเตรียมชุดมาเปลี่ยนเรียบร้อยจนตอนนี้สามทุ่มกว่าแด๊ดก็อยู่ในชุดนอนเรียบร้อยแล้วครับส่วนผมก็อาบน้ำเรียบร้อยขึ้นมานอนเป็นปลาตากแห้งบนเตียงอีกรอบ
เรามานอนดูทีวีกันครับโดยผมนอนอยู่บนเตียงส่วนแด๊ดนอนโซฟาซึ่งสิ่งที่แด๊ดเปิดให้ผมดูคือ..สารคดีสัตว์โลกเกี่ยวกับ
ชีวิตนกแพนกวิ้นครับ...แด๊ดชอบนกแพนกวิ้นมากขนาดชุดนอนยังเป็นรูปนกแพนกวิ้นเลย...ให้ตายนี่แด๊ดอายุสี่สิบกว่าแล้วนะถึงจะหน้าเด็กก็เถอะ..แต่แบบนี้มันดูมุ้งมิ้งไปหน่อยสำหรับท่านประธานบริษัทนะครับผมว่า
“แด๊ด..แล้วไหมกับฝ้ายอ่ะเรถามได้ไหม”
“น้องเรอย่ารู้เลยดีกว่าเอาเป็นว่าแด๊ดส่งให้สองคนนั้นไปที่ไกลๆโดยที่เค้าจะกลับมาทำร้ายเรไม่ได้อีกแน่นอน”
“หมายความว่าไงอ่ะ”
“ไม่ตายหรอกเรยังไงพวกเค้าก็เคยเป้นลูกเลี้ยงแด๊ด”
“ครับ...” ผมตอบเบาๆก่อนจะหันไปจ้องพวกแพนกวิ้นที่กำลังตีปีดพับๆแล้วสไลด์หน้าท้องกลมๆไปกับพื้นน้ำแข็งก่อนที่หนังตาผม
จะหนักขึ้นเรื่อยๆแล้วหลับไปเพราะฤทธิ์ยาที่กินไป..ฝันดีครับทุกคน
เช้าวันถัดมา....
ผมค่อยๆลืมตาตาตื่นอย่ารำคาญเพราะเสียงดังภายในห้องใครแม่งมาคุยกันวะคนจะหลับจะนอนสัส ดีดจองห้องพิเศษให้ไม่ใช่เหรอ
“อ่าว..เชียเรตื่นแล้วเหรอ” ไอ่แสงที่เห็นผมคนแรกทักขึ้นก่อนจะหยิบแอปเปิ้ลที่ไอ่กานเป็นคนปอกเข้าปาก สัส นั่นมันตะกร้าผล
ไม้ที่เฮดีสเอามาเยี่ยมผมเมื่อวานนี่ กูยังไม่ทันได้แดกเลยนะพวกมึง
“มาทำไมแล้วของเยี่ยมกูล่ะพวกเหี้ย มาแดกผลไม้กูทำไม”
“อ่าวๆ..ไมพูดแบบนี้ล่ะครับน้องเร..ของเพื่อนก้เหมือนของเรา ส่วนของเยี่ยมพวกกูก็ต้องเอามาอยู่แล้วแต่มึงต้องรอแปบนึง”
“อะ..มาแล้วๆ” พูดจบประตูก็ถูกเปิดเข้ามาโดยเฮดีสที่ถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“นี่ไงของเยี่ยมพวกกู น่าจะมีคุณค่าทางจิตใจมึงนะน้องเร 555555” ไอ่ทศพูดก่อนจะหัวเราะ เฮดีสที่พึ่งเข้ามาขำนิดหน่อยก่อนจะเดินเอาของไปวางไว้บนโต๊ะเยี่ยมแล้วเข้ามาหาผม
“ดีขึ้นรึยังครับยังเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่แล้วล่ะ..แล้วมาได้ไงมี่เรียนเหรอ”
“โถ่วววว...พวกกูก็มานะไม่ถามพวกกูบ้างอ่ะ” ไอ่แสงสอดปากขึ้นมาทันทีที่ผมถามพี่เฮดีสจบ
“ไอ่แสง...เรามันแค่เพื่อนจะไปสำคัญเท่าผัวได้ไงวะทำใจๆนะเพื่อน..เพื่อนเรออกเรือนไปแล้ว” ไอ่ทศทำหน้าเศร้าแล้วตบบ่าไอ่แสงเบาๆ
“ยังไงพวกเราก็แค่ของเก่านี่เน๊อะ” ไอ่กานพูดอีกคนจนผมรู้สึกตีนกระตุก ไอ่พวกเชี่ยนี่แม่งกวนตีนครับ
“สัส...ไม่ต้องมากวนตีนกูเลยกูรู้หรอกว่าวันนี้ไม่มีเรียนพวกมึงถึงโผล่หัวมานี่ได้น่ะป๋าโทรมาบอกแด๊ดกูเมื่อวานแล้ว”
“อ่าวเหรอ...อดดราม่าเลยกู” สัสแสงไอ่เหี้ย!!!
“อย่าไปทะเลาะกับเพื่อนเลย..หิวไหม”
“หิวดิ..แล้วโดดมาเหรอ”
“อืม..วิชานี้ไม่มีไรมากอ่ะแต่ตอนบ่ายต้องกลับไปเรียนมีควิซ”
“อ่อ..งั้นกูไปอาบน้ำแปบนะเดี๋ยวมา” ผมพูดแล้วลุกขึ้นกำลังจะลงจากเตียงแต่เฮดีสกลับช้อนตัวผมในท่าอุ้มเจ้าสาวแล้วยกขึ้นแนบอกจนพวกไอ่แสงที่อยู่ในห้องพากันโห่แซว ผมพยามดิ้นแต่มันก็เจ็บแผลอย่าลืมว่าผมโดนกระทืบมานะครับรอยช้ำนี่มีทั้งตัวแหละแต่ไม่ถึงกับเดินไม่ได้ไงเมื่อวานผมยังอาบน้ำเองอยู่เลย
“ปล่อยกูนะ”
“เดี๋ยวพี่พาไปห้องน้ำเองไม่เป็นไรอย่าดิ้นนะเดี๋ยวกระเทือนแผล” พูดจบมันก็พาผมเข้าไปในห้องน้ำทันทีโดยมีพวกไอ่แสงส่งยิ้มกวนส้นตีนไล่หลังมา
“กูไม่ได้เป็นไรมากไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย”
“ก็อยากดูแล..ได้ไหมครับ” ถ้าจะพูดแล้วยิ้มแอคแทคมาขนาดนี้กูจะทำไรได้ล่ะ
“อืม..ก็ดูแลไปสิ...แต่กูอาบน้ำก่อนมึงออกไปได้แล้ว”
“ก็ถ้าให้ดูแลพี่ก็จะอาบน้ำให้ไง”
“ไม่ต้องงงงง...ออกไปเลยกูอาบเองได้เมื่อวานกูก็อาบเอง”
“แต่พี่อยากอาบให้นะ” ไม่พูดเปล่ามันยังเดินเข้ามาปลดเชือกเสื้อผู้ป่วยของผมออก ผมพยามยามดันมือมันออกแต่มือแม่งก็ปลา
หมึกชิบหายปัดข้างนั้นข้างนี้ก็เข้ามาปลดต่อจนผมเริ่มรำคาญ
“กูอาบเองได้ไอ่สัสสสสสสสสสสส....อื้ออออ” ยังไม่ทันที่จะโวยวายไปมากกว่านี้ริมฝีปากของมันก็ทาบทับลงมาก่อนจะดันผมไปติดผนังมือหนาก็ไม่หยุดนิ่งยังพยายามปลดเชือกตรงเสื้อผมต่อจนสุดท้ายร่างกายท่อนบนผมก็เปลือยเปล่า
มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังผมก่อนเลื้อยลงมาที่กางเกงเฮดีสจัดการกับกางเกงผมก่อนจะค่อยๆถอนจูบออก
“รอก่อนนะเดี๋ยวพี่เปิดน้ำในอ่างอาบน้ำให้” ผมพยักหน้ารับเบาๆเหมือนสติหลุดลอยรู้ตัวอีกทีก็โดนเฮดีสอุ้มลงอ่างพร้อมกับร่างเปลือยเปล่าของมันที่ก้าวตามลงมาในอ่างด้วย
“อ๊ะ..ลงมาทำไมกูบอกว่าจะอาบเองมึงออกไปได้แล้ว”
“น้องเรยังเจ็บอยู่เดี๋ยวพี่ถูหลังให้”
“กูมีมือกูถูเองได้”
“พี่ถูให้...นะ” อย่ามาทำสายตาอ้อนตีนใส่กูนะสัสส
“นะ...” อิเหี้ยยยย..กูแพ้
“เออ..อยากทำไรก็ทำ”
“ครับ” เฮดีสยิ้มอย่างดีใจก่อนจะค่อยๆบีบครีมอาบน้ำที่แด๊ดเอามาทิ้งไว้เมื่อคืนใส่ฟองน้ำแล้วเริ่มลูบไล้บริเวณหน้าอกผมแต่ดู
เหมือนมันจะจงใจถูแค่ส่วนยอดอกเป็นส่วนใหญ่จนมันเริ่มแข็งเป็นไต
“ไหนบอกจะถูหลังไง..”
“ใจเย็นๆสิ..มันต้องค่อยๆถู” เฮดีสพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะค่อยๆไล้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือฟองน้ำลงด้านล่างแล้วจับน้อง
ชายผมที่เริ่มแข็งเบาๆก่อนจะค่อยๆรูดขึ้นลง
“อ๊ะ..จับอะไร...ปละ..ปล่อย”
“พี่ขอนะเร...ให้พี่ได้รักเรนะ”
“ขออะไร...กูเจ็บอยู่นะ...อีกอย่างเดี๋ยวพวกข้างนอกมันได้ยิน”
“พี่สัญญาว่าจะทำเบาๆ..นะ” ให้ตาย..นี่มันรู้ใช่ไหมว่าผมแพ้สายตากับรอยยิ้มแบบนี้ขี้โกงนี่หว่า เอาตีนตบหน้าให้หายหล่อดีไหม
เนี่ย
“สัญญาแล้วนะ..อ๊ะ” พูดไม่ทันจบมันก็ก้มลงมาจูบผมอีกครั้งคราวนี้ร้อนแรงกว่าเมื่อกี้เยอะเล่นเอาผมหมดเรี่ยวแรงขัดขืน ไม่รู้ว่าเราจูบกันนานขนาดไหนแต่ตอนนี้ท่อนล่างเฮดีสแข็งโป๊กและพร้อมกระซวกผมทุกเมื่อซะแล้ว
“เข้าไปแล้วนะ” พูดจบมันก็ยกตัวผมขึ้นเบาๆก่อนจะค่อยๆขยับตัวเข้ามาใกล้และแทรกตัวเข้ามาช้าๆไม่รู้มันไปเตรียมความพร้อมให้ผมตอนไหนตอนนี้ผมมึนมากเอาแต่จ้องริมฝีปากมันด้วยสายตาปรอยๆ
“อ๊ะ...แน่น” ผมอุทานออกมาเบาๆเมื่อส่วนหัวเริ่มผ่านเข้าไปในช่องทางรัก
“ซี๊ดดดด..อย่าพึ่งรีบตอดสิเดี๋ยวพี่จะเสร็จก่อนนะ”
“ก็มัน...อ๊ะ..อื้ออ”
“พี่ขยับนะ”
“อืมมมม...” หลังจากคำตอบรับมันก็ขยับทันทีจากเบาๆเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆถึงจะปวดแผลตามตัวไปบ้างแต่ความรู้สึกดีมันมีมากกว่า
ผมรู้สึกได้ถึงตัวตนของมันที่ขยับเสียดสีกับช่องทางรักของผมจนร้อนผ่าว เหงื่อเม็ดเป้งผุดออกมาจากหน้าผากทั้งๆที่อยู่ในน้ำเสียงน้ำในอ่างและเสียงครางของผมกับเฮดีสดังสลับกันไปมาเสียงดังจนผมกลัวว่าพวกข้างนอกจะได้ยิน แต่คนที่กำลังขยับอยู่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้นริมฝีปากของมันโลมเลียและฝากรอยรักไปทั่วทั้งตัวผมไม่เว้นกระทั่งซอกขา
“พี่รักเรนะครับ..อา..”
“อึก..อ๊ะ..กูก็รัก..อึก...มึงง”
“อา..พี่ใกล้จะเสร็จแล้ว...พร้อมกันนะครับ”
“อื้ออออ” ผมครางในลำคอเมื่อเฮดีสเร่งจังหวะการกระแทกทำให้น้องชายมันเข้ามาลึกขึ้นจนกระแทกเข้ากับจุดเสียวในตัวผมมากขึ้น ผมบิดตัวด้วยความเสียวแล้วกอดคอมันแน่น
“อ๊า...จะไปแล้ว..”
“อืมมมม” สิ้นเสียงครางเฮดีสก็ปลดปล่อยเข้ามาในช่องทางรักของผมพร้อมกับน้ำรักของผมที่ปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องมัน
น้ำของมันเยอะจนล้นออกมาด้านนอกก่อนจะค่อยๆไหลออกมาผสมกับน้ำในอ่าง ผมหอบหายใจด้วยความเหนื่อยพร้อมกับโถมตัว
กอดมันไว้
“เหนี่อยแล้วเหรอ..”
“อืม...ไหนบอกจะอาบน้ำให้เฉยๆไง”
“ก็อาบน้ำไง...แต่ยังอาบไม่เสร็จเดี๋ยวพี่อาบให้ต่อนะ” พูดจบมันก็จับร่างอ่อนเปลี้ยของผมอุ้มขึ้นจากน้ำไปตรงใต้ฝักบัวก่อนจะดันผมไปติดผนังแล้วยกขาผมขึ้นและค่อยๆแทรกตัวเข้ามาอีกรอบ
“อ๊ะ..อีกแล้วเหรอ”
“อืมมมม..ทำไมแน่นแบบนี้เนี่ย” ไม่พูดเปล่าไอ่เวรนี่ก้มลงมาจูบผมก่อนจะลากริมฝีปากลงมาที่ซอกคอแล้วเริ่มขยับอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าเฮดีสมันไปตายอดตายอยากมาจากไหนเล่นเอาพื้นที่ในห้องน้ำซะครบไม่เว้นแม้แต่อ่างล้างหน้า
จนตอนนี้ผมแทบไม่มีแรงจะยืนแล้วครับแต่เหมือนมันยังจะต่ออีก
“พอ...อ๊ะ...พอแล้ววว”
“อีกครั้งเดียวได้ไหม..พี่ยังไม่พอเลย”
“แต่กู..ไม่ไหวแล้วนะ..อ๊ะ..อื้ออออ”
“อีกรอบเดียวพี่สัญญา” กูเกลียดรอยยิ้มมึงไอ่สัสสสสสสส...ไหนบอกว่าจะทำเบาๆที่กระแทกจนเครื่องในกูพังหมดแล้วมั้ง
ผมอยากจะลุกขึ้นมาต่อต้านโดยการผลักมันออกแต่ตอนนี้แค่ยืนให้ตรงยังไม่ไหวเลยครับ
เฮดีสกระแทกเข้ามาเรื่อยๆพร้อมกับรูดน้องชายผมไปด้วยจนผมทนไม่ไหวปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง ให้ตายเถอะ...ผมรู้สึกว่าหนังตาผมมันหนักๆแล้วอ่ะรู้สึกว่าวันนี้ใช้ร่างกายหนักไปแล้ว ลาก่อยครับทุกคน
มาหะแว้ววววววววววววว
กราบบบบบบขออภัยที่มาช้าาาาาา
งานเยอะมั่กๆไม่งอนกันเน้อออออ
ตอนหน้าก็เป็นตอนสุดท้ายแล้วก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านกันมานะคะ
สัญญาว่าจะมาต่อให้จบแล้วจะเอาเรื่องใหม่มาลงนะคะ
ยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ
ดรั๊กกกกกกกกกก
-
รอตอนจบนะ
-
พี่เฮดีสจับน้องเรอาบน้ำซะ...เลือดสาดเลย :katai2-1:
-
รออ่าน อย่างใจจดจ่อ
:impress2:
-
รอรอรอ อยู่น๊าาาา
-
รอ รอ รอ รอ น้องเร กะ พี่เฮดิส o22
-
:call: :call:
-
สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกก :hao7:
รอตอนจบเด้อ o13 อยากอ่านคู่เพื่อน...มันต้องมีซักคู่ที่กินกันเองสิน่า :z2:
5555555555555555555555555555555555555555555555555555
-
อิพี่น้องช้ำหมดแล้วว้อย :hao7:
-
รอจ้า :impress2:
-
เรน่ารักมากเลยยยยย เฮดีสนี่กะล่อนจริงๆพ่อคุณ55555 น้องช้ำหมดแล้ว เรารอตอนต่อไปอยู่น้าาาาาา :mew1: :hao7: