พิมพ์หน้านี้ - 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: thitema3 ที่ 06-12-2015 19:26:48

หัวข้อ: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 06-12-2015 19:26:48
 ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

------------------
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

*********************************************

 เมื่อ หนุ่ม จอมจอมเฟอะ ฟะ อย่าง (เจ) ผู้ซึ่งมีลางสังหรณ์ ที่แม่นยำราวกับตาเห็น

กับหนุ่มจอมเนี้ยบปากร้ายแต่หน้าหล่อ แถมยังรวยอีก (กาย)

 ต้องโคจรมาเจอ กัน อาจเป็นเพราะโชคชะตาหรือฟ้ากลั่นแกล้ง ที่ทำให้เขา สอง คน มีปากเสียงกันตั้งแต่แรก เห็น แล้วความวุ่น

ในครั้งนี้ จะเป็นเช่นไร และ สุดท้ายเรื่องราวของพวกเราจะเป็นต่อไปเช่นไร มาร่วมติดตามและให้กำลังใจไปกับ 

"Falling In Love หลุดพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง"ไปติดตาม กันเล้ย ! ><




*********************************************



นี้ก็เป็นเรื่อง ก็เป็นนิยายเรื่องแรกที่คิมเองได้มาลอง แต่งน้อ ! ก็อยากให้เพื่อนๆลองเปิดใจอ่านกันดู ภาษาอาจจะงง นิดๆ! (พึ่งประเดิมแต่งนี้นา หลังจากที่ได้ลองอ่านนิยายดีๆจากเล่าเป็ดมาก็หลายเรื่องทำให้มีกำลังใจที่อยากจะลองแต่งดูบ้าง )

ยังไงก็ ฝาก   กาย&เจเจ ไวในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะจ๊ะ ปล.(นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมานะครับ เรื่องราวและเนื้อหาไม่ได้มีความจริงแต่อย่างใด!เด้อ)


ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅)             (̲̅❤̲̅)หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง(̲̅❤̲̅)





Chapter:1 จุดเริ่มต้น (ของหนี้ก้อนแรก)
 


!เห้ย ไอห่ายืนอึ้งอะไร ส่งบอลมาซะทีสิวะ(เสียงตะโกนสุดถ่อยจากบุคคลปริศนา(ตรงไหน) ที่ยืนตะโกนเรียก ผมจากในสนาม จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก มาร์วินเพื่อนรักคนสนิทของผมเอง) o13
(ผมกับไอวินเราคบกันมาตั้งแต่ม.ต้น มันเป็นทั้งเพื่อนสนิทคนสำคัญและที่สำคัญมันยังเป็นเพื่อนกินที่ดีอีกด้วย(อันนี้มันเคยบอกว่าสำคัญกว่าผมซะอีก)ฮ่า ฮ่า  )
“เออก็กำลังเก็บให้อยู่นี้ไง ไอห่า กูพึ่งจะเดินมาเองนะเว้ย จะให้กูกระโดดไปรับเหมือน เดอะแมททริก เลยรึไงไอควายย ”

(ผมยืนสบถด่ากลับไปขณะที่กำลังก้มเก็บลูกบอลและส่งกลับไปให้มัน)
 จะเตะไปแล้วนะ ! (ผมตั้งท่าพร้อมที่จะเสริฟ์ลูกบอลคืนให้กับมันแต่ดูเหมือนเรด้าของผม จะไม่ตรงกับเป้าที่วางไว้แหะมันกำลังลอย ไปหล่นอยู่ที่หน้ากระจกรถยนต์คันหรู  )
เพล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!
(เสียงของลูกบอลที่หล่นคาอยู่ที่กระจกหน้ารถ ทำเอาผู้คนบริเวณนั้นต่างพากันหันมามองกันอย่างตกตะลึง ! OoO)
ชิบบหายย แล้วกู !
(ผมรีบวิ่งไปดูสถานการณ์ จากที่เกิดเหตุ พบว่า รถคันดังกล่าว ที่มีมูลค่า 7หลัก(เดาเอาล้วนๆ) มีรูโบ๋อยู่ที่หน้ากระจก)
ผู้คนในระแวกนั้นต่างพากันกรู่วิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์กันอย่าง มิได้นัดหมาย)



ฝีมือของใคร?(เสียงของผู้ชายนั้นดูเย็นชาและดูอึมครึมแปลกๆแต่ก็ใช่ว่าจะทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบลงแต่อย่างใดแต่กลับมีเสียงกรี๊ดกร๊าด จากสาวน้อยสาวใหญ่ สาวแท้ สาวเทียม กรู่ร้องกันอย่างคลั่งไคร่ ก่อนที่เสียงร้องเหล่านั้นจะค่อยๆเงียบลงหลังจากที่ มันพูด ประโยคเดิมครั้งทั้งสอง)
“กูถามว่าฝีมือของใคร” 
(ทำเอาผม ที่กำลังจะเอ่ยปากพูดนี้ถึงกับชะงัก แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายที่มีอยู่เต็มร้อย ทำให้ผมไม่กลัวที่จะยอมรับความผิด ผมรีบเอ่ยปากพูดไปทันที)
“เห้ย นาย เราขอโทษวะ ” (คือคำพูดแรกของผมที่หลังจากเดินมาถึงก็ไม่พูดพล่ำทำเพลง ก่อนจะรีบกล่าวขอโทษมันไป)
“ใครจะรับผิดชอบ?” (เสียงของมันบวกหน้าที่นิ่งราวกับฟรอสซิวน้ำแข็ง(ช่างเปรียบเปรยเน้อ)ทำเอาบรรยากาศโดยรอบมาคุเข้าไปใหญ่ )
“คือ เรา ขอโทษ วะ เราไม่ได้ตั้งใจ ที่จะเตะบอลมาโดนรถของนายเลยนะ” (มันนิ่งไปพักนึง ก่อนที่มันจะค่อยๆเดินมาหยิบลูกบอลที่คาอยู่ที่หน้ากระจกรถของมันและเอ่ยปากพูดอะไรกับผม) :katai5:
“มึงจะรับผิดชอบยังไง?”
“ก็ กูบอกว่ากูไม่ได้ตั้งใจไงวะ” ! (ผมที่ตอนนี้กำลังพูดประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้มันฟังแต่ดูเหมือนมันจะเริ่มกวนตีนผมเล็กๆแล้ว)
“แล้วยังไง “
“แล้วมึงจะให้กูทำยังไงวะ”(ในตอนนี้ผมเริ่มมีน้ำโห นิดๆ ละ ก็แหม่ดูมันพูดกวนตีนวกไปวนมาอยู่อย่างนี้)
“รับผิดชอบ”
“ยังไง”
“ค่าเสียหาย” (โหย ไอผมก็นึกว่า อะไร ห๊ะ ค่าเสียหาย ดูสภาพหน้ารถที่พังยับเยินไปในตอนนี้ ราคาไม่ใช่ขี้เลยๆ นะ)

“ท..ท.เท่าไหร?” (น้ำเสียงของผมเริ่มสั่นเครือ เพราะกลัวว่าสิ่งที่มันจะบอก คือราคาที่ผมเองต้องรับผิดชอบให้กับมัน
โอ้ยยย สงสัยผมคงจะต้องขายตับ ขายไตใช้หนี้แล้วละมั้งเนี้ย (เผลอๆแบ่งขายทั้งตัวนี้คงยังไม่พอค่าซ่อมให้กับมันเลย?)

“มึงก็ลองใช้สมองของมึงคิดดูสิ ว่าราคามัน น่าจะเท่าไหร่” (มันเริ่มแสะยิ้มที่มุมปาก หน้าหมั้นไส้ชะมัด อยากกระโดดเข้าไปถีบปากมันจริงๆ = =’ แต่ก็ต้องระงับสติ ของตัวเองเอาไว้ ยุบบ หนอ พองหนอออ หลายยตังงง หนอออ)

“แต่กูว่า อย่างมึงคงไม่มีปัญญาจ่ายกูหรอก” (เออแต่ก็จริงอย่างที่มันว่า ต่อให้ผมขาย หมดทั้งตัวนี้ยังไม่พอจ่ายเงินให้กับมันเลยนะ )

แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ?

“ก้ม”

“ก้ม ?” (ตอนนี้ผมเริ่มงุนงง กับสิ่งที่มันกำลังจะทำแล้ว)

“กราบ ขอโทษกู”(หลังจากมันพูดจบทำเอาผมและคนอื่นๆที่ยื่นอยู่โดยรอบอึ้งไปตามๆกัน)

“มึงจะบ้าหรอ จะให้กูก้มกราบ เพื่อแลกกับค่าซ่อมรถของมึงเนี้ยนะ ให้ตายเถอะไอสัตว์ เอาปืนมายิงหัวกูเลยดีกว่า ถ้ามึงคิดว่ากูจะยอมทำตามใน”สิ่งที่มึงบอก”(เดือดแล้วครับตอนนี้อารมณ์ของผมอยู่ในระดับที่ควบคุมไม่ได้แล้ว ก็แหม่ จะให้ผมก้มกราบมันเพื่อแลกกับการจ่ายค่าซ่อมเนี้ยนะ เหอะๆ ชาติหน้าตอนบ่ายๆ เหอะมึง) :angry2:

“งั้นก็จ่ายมา”

“โถ่เว้ยมันจะเท่าไห่รนักวะกับไอแค่ค่าซ้อมรถกากๆของมึงเนี้ย ” (จริงๆแล้วไม่กากนะ แต่บรรยากาศและฟิลลิ่งมันพาไป เลยพาลไปทั่วเลยทีนี้)

“สองแสน”

“………………………….”

“ส…ส..แสนนนน มึงบ้าป่ะ มันพังแค่กระจกเองนะ ไอห่า เวอร์ไปป่ะ”
(บ้าแล้วบ้าไปแล้วแค่กระจกรถเสียให้กูจ่ายสองแสน มึงคิดอะไรอยู่ OoO)

“ว่ายังไงจะจ่าย หรือไม่จ่าย”
(ถึงตอนนี้อาการปากเก่งของผมเมื่อครู่ก็หยุดทำงานชะงักเลยละครับ แค่กระจกแตกนิดหน่อย(อย่างนี้ไม่เรียกว่าหน่อยนะ) ปาไปสองแสนกระจกของมันนี้กันกระสุนหรือไง แม่งแพงชิบหาย ผมในตอนนี้ได้แต่ยืนตะกุกตะกักไม่กล้าที่จะพูดอะไร แม้แต่หายใจตอนนี้ ยังไม่กล้าเลย)

เห้ย ! (นั้นไงโผล่มาแล้ว ไอ วิน ไอวินเพื่อนรัก) T_T :sad4:

 ทำไมช้าจัง ว่ะ  กับอีแค่มาเก็บบอลเนี้ย (แหม่ไอวินไอเพื่อนเลว มึงไม่ดูสถาการณ์ตอนนี้บ้างเลยรึไง กูจะตายแหล่ไม่ตายแหล่อยู่แล้วยังมีหน้ามาห่วงฟุตบอลอีก)

“อ้าวไอกาย”

“!มึงรู้จักไอเหี้…..นี้ด้วยหรอวะ?”

“อือ ! กูกับมันเรียนคณะเดียวกัน”  :katai1:

“………………………………………”(แดกจุดเลยยกู)

“อ้าว พี่เต้ยยหวัดดีครับบ” (เสียงของไอวินกล่าวทักทายบุคคลซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของพื้นที่นี้แต่ก็ทำให้ชาวบ้าน
(พวกที่ยืนอยู่รอบๆ) ต่างพากันวิ่งไปคนละทิศคนละทางก็แหม่พี่แกเป็นพี่ว้ากสุดโหดของคณะวิศวกรรมศาสตร์นะสิจะ ไม่ให้กลัวหัวหดกันได้ยังไง ทำเอาตอนนี้พื้นที่โดยรอบ เหลือสิ่งมีชีวิตเพียง สามตน ก็คือ ผม ไอวิน และ ไอกาย
เสียงหายใจของผมเริ่มดังขึ้นเรื่อยและถี่ขึ้นเรื่อยๆก็เล่นเกร็งจนกลั้นหายซะนานขนาดนั้น ถ้าผมเอาความสามารถนี้ไปประกวด ดำน้ำทีมชาติ
นี้ ผมคงได้เหรียญทองไปแล้ว = =’




“แล้วมึงสองคนมายืนจ้องหน้าทำตาขวางใส่กันทำไมเนี้ย ไม่กลัวท้องกันรึไง”

.”ท้องบนหน้ามึงหน่ะสิ  คนนะไม่ใช่ปลากัดที่จะได้มองแล้วท้องหน่ะ”(ผมพูดด่ามันกลับไปก็แหม่ มาว่าหน้าหล่อๆอย่างผมเหมือนปลากัดได้จั่งได๋ เจ รับบ่ได้ (อ่อใช่ๆ ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อเจตรินทร์ วงค์วิริยะไพยบูณณ์ ชื่อเล่นชื่อ เจเจ ตอนนี้อยู่ปี2 คณะมนุษย์ศาสตร์)


“ก็เพื่อนมึงพังรถของกูซะเยินเลยแหกตาดูดิ”

“ไหนๆ ขอกูดูผลงานหน่อย !”(มันค่อยๆเดินเข้าไปสำรวจกระจกบริเวณหน้ารถ ใกล้อีกๆๆ จะสิงรถแล้วสิน่ะเพื่อนกู= =’)

“ หืม ไอเจ มึงเตะมาอีท่าไหนหล่ะเนี้ย รูแม้งถึงได้โบ๋ขนาดนี้  :katai5:.” (ไอวินหันมาถามผมด้วยหน้าตาที่ดูจริงจัง(เสือกนั้นเอง))

“กูก็เตะ มาของกูเฉยๆนี้แหละ มันต่างหากเอารถมา โดนฟุตบอลกูเองทำไม?”
 “สรุปคือกูผิดที่จอดรถไม่ดูตาม้าตาเรือว่างั้น ?”

“เออมึงนั้นแหละที่ผิด”  (ระหว่างที่ผมพยายามโบ้ยความผิดไปที่มันแต่ในขณะเดียวกันมันก็ส่งสายตาอัมหิตมาจ้องหน้าผมชนิดที่ว่า มองตาไม่กระพริบเลยละ )O…O

“เห้ย มึงสองคนจะมายืนทะเลาะกันเพื่ออะไรวะ  ไอห่า  กับอีแค่กระจกรถทำจะเป็นตาย”

“ก็มันกวนตีนกูก่อน แม้งบ้าจะให้กูนั่งคุกเข่าขอโทษมัน”  :angry2:

  “เฮ้อมึงสองคนนี้เกินการจริงๆ กายมึงก็อีกคน แค่นี้ต้องทำให้เป็นเรื่องเลยหรอวะ”

“แล้วถ้าอยู่ดีๆกูไปทุบรถมึงบ้าง มึงจะโกรธกูไหมห้ะวิน?” (เอาละสิครับไอวิน ถึงกับพูดไม่ออกเลย หลังจากที่มันยืนแพร่มอยู่คนเดียวมาซักพัก ก็โดนไอหน้านิ่งตอกกลับซะจุกเลย )

“ก็ถ้ามันเป็นอุบัติเหตุกูก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามึงจงใจ ก็อาจจะมีเคลีย” (ไอวินเป็นฝ่ายพูดกลับไปบ้าง ทำเอาสีหน้าของไอนิ่ง(ผมเรียกมันว่าไอนิ่ง) ที่ยืนแสะยิ้มอยู่เมื่อครู่ ค่อยลดลงๆ จนที่สุดก็กลับมาหน้าบึ้งอีกครั้ง(ทำเป็นอยู่หน้าเดียวสินะ) )

“แต่กูมั่นใจว่ายังไงกูก็ไม่ผิด มันต่างหาก ที่แตะบอลมาโดนรถของกู ”


“ก็กูขอโทษมึงไปแล้วแต่มึงไม่รับคำขอโทษจากูเองช่วยไม่ได้”
“แล้วคำขอโทษของมึงมันช่วยให้รถของกูกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมละ?”

“………………………………………..” (เงียบครับเจอแบบนี้ไปเงียบเลย ผมปะติดปะต่อคำพูดไม่ถูกเลย จริงอยู่ที่ว่าผมผิดที่ทำรถมันเสียหายแต่ผมก็ขอโทษมันไปแล้ว แต่มันดันไม่รับเองให้ทำยังไงได้หละ -3- )

“คุกเข่า ขอโทษกู ไม่งั้นก็ ชดใช้ค่าเสียหายมาให้กู เลือกเอา ?”
“……………………………………………” (เงียบช็อตที่สองแล้วครับพี่น้องไปไม่เป็นเลย ผมครุ่นคิดอยู่พักนึง ว่าควรจะทำอย่างไรดี จนในที่สุดผมก็แน่ใจ)

“ได้”


“รีบทำสิ กูไม่ได้มีเวลา มานั่ง มานอนรอมึงทั้งวันหรอกนะ” (พูดจบมันก็หันมาจ้องหน้าผมและแสะยิ้มเลวๆที่มุมปากของมันก่อนจะยืนกอดอกและเหลือบตาหันมองทางอื่น)

“ใครบอกว่ากูจะคุกเข่าให้กับมึง?”
“…………..”

“กูจะจ่ายค่าเสียหายให้มึงเอง!”  :serius2:

“ค่ากระจกกี่ตังละวะนั้น” (เสียงของไอวินที่เอ่ยปากถามออกมาด้วยใบหน้าที่ชวนสงสัย(หน้าเสือก))


“สองแสน!”(เสียงที่นิ่งขรึมของมันทำเอา ไอวินถึงกับแหกปากร้องลั่นด้วยความตกใจ )
“สองแสน! หืมแค่กระจกรถแม้งสองแสนเลยหรอวะมึงเข้มไปป่ะไอกาย” (เสียงของไอวินที่ยืนถามบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้า ของผม)   
=…………………………………=
“หึหึ”(เสียงขำเลวๆ บวกกับหน้าเลวของมันทำผมตอนนี้กลั้นอารมณ์ไว้แทบไม่อยู่ แต่ก็ต้องเก็บกาการไว้เพราะขืนปล่อยออกไปตอนนี้ผมคงจะได้ฆ่ามันหมกสนามๆแน่ๆ) =[]=


“มึงก็รีบขอโทษมันไปสิวะ ไอเจ”

“ไม่ กูไม่มีทางคุกเข่าให้กับคนอย่างมันเด็ดขาด” (ผมยังยืนยันคำเดิมแม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีวิธีหรือหนทางที่จะแก้ไขอะไรได้เลยก็ตาม)

“หน้าติ๋มๆอย่างมึง จะไปได้ซักกี่น้ำ?”

“มึงก็คอยยดูเอาละกันว่าหน้าติ๋มอย่างกูเนี้ยแหละจะหาเงินมาชดใช้ให้มึงเอง” (แล้วผมจะไปยอมรับมันว่าผมหน้าติ๋มทำไมกันหล่ะเนี้ยโอ้ยยย  = =’)

“งั้นกูให้เวลา มึง หนึ่งเดือน”

“ห๊ะ ” (ผมตะโกนออกมาด้วยความตกใจเงินสองแสนกับเวลาหนึ่งเดือนผม จะไปหามาจากที่ไหนได้ ) :a5:
“มึงจะบ้าหรอ เดือนเดียว กูจะหาเงินมาจากไหนตั้ง สองแสน ”

“นั้นมันก็เรื่องของมึง กูไม่ได้อะไรอยู่แล้ว เงินแค่สองแสน ขนหน้าแข้งกูไม่ร่วงหรอก?”

(คิดว่าเป็นลูกหลานคนรวยแล้วมึงคิดจะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นหรอ! (เออมึงคงทำได้!)จะพูดเพื่ออะไรวะเนี้ย)

“งั้นกูขอเวลาสามเดือน”

“สามเดือน”
“ใช่สามเดือน กูจะหาเงินมาใช้มึงภายในสามเดือน”

“แล้วถ้ามึงทำไม่ได้อย่างที่พูดละ?”

“มึงจะทำอะไรกับกูก็ได้”
“………………………………”



“งั้นเตกลง”
(พูดจบมันก็เดินหันไปขึ้นรถก่อนที่มันจะถอยเข้ามาใก้ลผม แล้วค่อยๆเปิดกระจกพูดอะไรกับผมบางอย่าง)

“ถ้าคิดว่าไม่ไหว ก็ถอนตัวได้นะ กูไม่ถือเด็กตาดำๆ อยู่แล้ว หึหึ!” (มันเลื่อนกระจกรถกลับเข้าไปก่อนจะโบกมือบ๊ายบายและขับขับไปอย่างช้าๆ) “กูละเกลียดเสียงขำเลวของมึงจริงๆ ”

“คนอย่างกูพูดแล้ว ไม่คืนนคำหรอกเว้ยย!!” (ซักพักมันและรถของมันก็ค่อยห่างหายไปจากสายตาของผม!)

“ไอเจ มึงมีทางใช้หนี้คืนมันอยู่หรอวะ?”

“มีมึงทั้งคนจะกลัวอะไร” (ตอนนี้มีผมมีมันเป็นความหวังสุดท้ายของชีวิตแล้ว ถ้าเกิดมันไม่ช่วยผมขึ้นมาละก็งานนี้ มีเล๊ะแน่ๆ(ผมนะไม่ใช่มัน)ที่จะเละ)

“เอ่อกูยังไม่ได้บอกมึงใช่ไหม ว่าเกรดของกูเทอมที่ผ่านมามัน ไม่ค่อยดี พ่อกูคิดว่ากูเอาแต่เที่ยวเตร่และไม่สนใจเรียน เขาเลยอาญัติบัตร ทุกธนาคาร ทุกบัตรเครดิตกูเลยวะ”

“ห๊ะ!แล้วทำไมมึงพึ่งจะมาบอกกูวะไอเหี้….วิน”

“ก็มึงไม่ได้ถามกูนี้หว่า”


“แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่เสือกค้านน” (ผมเริ่มฟึดฟัดหันหน้าไปมองมันตาขวาง)

“ก..ก.ก็มึงไม่เว้น ช่องให้กูพูดเลยนี้หว่า กูเห็นมึงแม้งเล่นแรปใส่ไอกาย ซะขนาดนั้น ให้กูเอาเวลาไหนเข้าไปสอดได้ละ”
(เออแต่จะว่าไปมันก็จริงอยู่เพราะเมื่อครู่ ผมมัวแต่ด่าไอนิ่ง ชนิดที่ว่าหูดับตับไหม้กันเลย ทีเดียว ตอนแรกก็ตะหงิดๆ ที่เห็นไอวินมันเอ่อๆ อ่าๆ คิดว่ามันทำท่าทำทางเฉยๆ แต่ที่ไหนได้ทำเซอไพทร์ซะกูพูดไม่ออกเลย) = =’

“โอ้ยแล้วจะทำยังไงดีวะเวลาแค่สามเดือนกับเงินตั้งสองแสนกูจะไปหามาจากไหน”
(ผมพยาเหล่หน้าไปมองไอวินที่ตอนนี้มันทำหน้าหงอยไปเลย ขืนผมโทรไปบอกพ่อน่ะ ได้ช็อคตายกันพอดี )



“มึงไม่ต้องมาทำตาแบ๊วใส่กูเลยนะไอเหี้..เจ ต่อให้กูกับมึงขายไตกัน มันก็ยังไม่พอใช้หนี้เลย”

“แล้วกูจะทำยังไงดีวะเหี้…วินน”(พูดแล้วอยากจะร้องไห ในตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลย ได้ยืนสะอื้น ขอความเห็นใจจากไอวินมัน)

“กูมีวิธีมึง ไม่ต้องเปลืองเวลา ถึงสามเดือนด้วย แต่ต้องใช่ความใจกล้าหน่อย”

“อย่าบอกนะว่า มึ’…งงง จะพากู ไป ไป …..ไปปปปปป ขายยตัววว ไอเพื่อนเหี้ยยยยย !”

“ขายตัวห่าอะไรกันละ?”


“ไม่ให้กูขายตัวแล้วจะให้กูเอาความมั่นใจมาทำไมหล่ะห้ะ”

“ที่กูหมายถึงคือให้มึงไปขอโทษไอกายมันต่างหากละเว้ยย ” :impress2:

“……..”

“ กูก็นึกว่ามึงจะฉลาดที่แท้มึงแม้งก็โง่ไอห่าคิดจะขายเพื่อนรึไง เลววระยำจริงมึงเนี้ย”


“กูยอมขายตัวดีกว่าที่จะต้องไปนั่งคุกเข่าต่อหน้ามันอีกรู้ไว้ซะด้วย”


“แล้วมึงจะเอายังไงต่อละวะไหนลอง อธิบายให้กูฟังซิ”

“กูว่า…………..”

“?????????????????????”


“กูคงต้องหาจ็อบเสริมแล้ววะ!! ฮืออออออออออ”
 
“จ็อบเสริม! ขี้เกียดตัวเป็นขนอย่างมึงเนี้ยนะ จะไปทำงานให้กูออกลูกเป็นลิงยังจะง่ายซะกว่า”  :z3:



“อย่างกูนะ ถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้วอะมันก็ต้องทำได้เว้ยย!” (ผมพูดปลอบบใจตัวเอง ตั้งแต่ผมเกิดมานี้การงานนี้ อย่าว่าแต่แตะเลยแค่คิดยังไม่เคยด้วยซ้ำ (แลดูเหมือนขี้เกียดเน้อ แต่จริงๆแล้วผมขยันมากนะ แต่แค่ไม่อยากจะทำมันเฉยๆ))
=3=


“กูขอให้เก่งอย่างที่มึงพูดละกันไอสัด อย่ามาโอดครวนกับกูที่หลังก็แล้วกัน”


“มึงรอดูกูได้เลย!!!” :z13:



TBC………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

(นี้เป็นนิยายเรื่องแรกของ คิมเองหากมีคำพูดที่ขัดหู ขัดใจ ผู้อ่านก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ มือใหม่ยังไม่ค่อยชิน)

(เพื่อนๆ สามารถ ว่ากล่าวติเตียนได้ตามสบายเลยนะครับ)

(หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี ด้วยจ้า )
#คิมกอนนอูววว!!! =3=

   :bye2:                               
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) (̲̅❤̲̅)หลุมพรางหัว โดย คิมกอนอู :3
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 06-12-2015 20:08:27
Chapter2 : ความ(บังเอิญ) :katai2-1:
(เช้าวันอาทิตย์)
“สองแสน สามเดือน  สองแสน สามเดือน โอ้ย กูจะไปหามาจากที่ไหนวะ” (ผมนอนครุ่นคิดอย่างหนักกับสิ่งที่พึ่งเกิดเมื่อวานก่อน นี้ถ้าผมเดินผ่านสนามไปเฉยๆ เรื่องทุกอย่างคงจะไม่เป็นอย่างนี้แน่ๆ ไอวินก็อีกตัว ไม่รู้จะไปเข้าข้างไอห่านั้นทำไมนึกแล้วมันเดือดดด ไอเพื่อนทรพี!)

Trrrrrrrrrrrrrrr!!
(เสียงสั่นดังขึ้น ผมรีบเอื้อมมือไปหยิบ ไอโฟน ที่วางอยู่หัวเตียงก่อนจะมองรายชื่อ ผู้ที่โทรเข้ามา) :hao3:

“วินเพื่อนเยิ้บบบบบ! ไอห่านี้ตายยากจริงๆ ผมปล่อยสายไว้พักนึงก่อนจะกดรับ” (พึ่งจะบ่นถึงมันอยู่เมื่อกี้ ไม่สิเรียกว่านินทาถึงจะถูก)

“ฮัลโหล!”

(ว่าไงน้องเจคนสวย!)

“สวยหน้ามึงสิ โทรมาทำไมมีอะไร?”
(ยังไม่หายนอยกูอีกอ่อ โอ๋ๆ กูขอโทษที่ปล่อยให้มึงพลีกายอยู่คนเดียว)
“พลีห่าอะไรละ กูไม่ได้ขายตัว! ไอสัส” (ผมแหกปากตะโกนด่าไปยังปลายสาย ไม่ช่วยแล้วยังจะมาซ้ำเติมกันอีก) T^T
(แหม่ๆ ว่าจะแวะไปใช้บริการของแปลกซะหน่อย น่าเสียดาย เออนี้ แล้วมึงหาจ็อบเสริมอะไรของมึงได้บ้างรึยัง?)
“ก็มีคิดๆไว้อยู่แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้รึเปล่า!”
(เออ ถ้ามึงไม่ไหวก็บอกกูนะเว้ย กูจะหาทางช่วยมึงเอง)
“……………………….”(ได้ยินมันพูดแบบนี้แล้ว น้ำตาของผมนี้แทบจะไหล ตั้งแต่คบกันมาวันนี้มันคงจะพูดดีที่สุดแล้วละมั้ง ฮ่าๆ)
(เงียบบ! แอบโฮ อยู่รึไง ไอสัด อย่ามาดราม่า แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหนเนี้ย)

“อยู่บ้านพี่ อิน มึงมีอะไรรึเปล่า หรือคิดถึงพี่อินกูจะได้บอกให้” (พี่อินแกเป็นพี่สะใภ้ของผม แกมาเปิดร้านอาหารอยู่ห่างจาก มหาลัยผม ประมาณ 5-6กิโลน่าจะได้ พี่อินแกสนิทกับผมและไอวินมาก บางทีที่ไอวินมันมาที่ร้านมันก็จะมาช่วยงานพี่อิน จนลูกค้าหลายๆ คนเริ่มแอบเขิลๆ กับความหล่อขั้นเทพ ของมัน รวมถึงพี่อิน ทีแอบหลงสเนห์มันเข้าไปเต็มๆ พี่แกเคยบอกกับผมว่า ถ้าเกิดตอนนี้ พี่แกยังไม่แต่งงานนะ จะจับไอวินทำผัวซะให้เข็ด (หล่อสู้ผมก็ไม่ได้ ) ฮ่าๆ) :hao6:

(ป่าวๆ กูว่าจะพาไปซื้อของ มึงทำอะไรอยู่ ว่างรึเปล่า)
“เออก็ว่างอยู่ มึงจะมาเมื่อไหร่กูจะได้บอกพี่อินไว้”
(กูจะพามึงไปไม่ใช่พี่อิน!!)  (จริงๆผมก็รู้อยู่แล้วหล่ะว่ามันชวนผมไปเป็นเพื่อน กะจะแกล้งลองใจมันเล่นเฉยๆ เอิ่ก! = 3 =)
“เออๆกูว่าง จะกินข้าวมาเลยไหม กูจะได้บอกพี่อินของมึงทำกับข้าวไว้ให้”
(ไม่เป็นไร เดี๋ยวค่อยไปกินทีเดียวเลย)
“แล้วมึงจะมากี่โมง?”
(อืมมม ประมาณ สิบเอ็ดโมงกว่าๆนั้นแหละวะมึงอาบน้ำแต่งตัวรอกูเลยนะเสร็จแล้วโทรมาบอกกูด้วย)
(ผมหันไปมองดูนาฬิกาที่ติดอยู่ตรงฝาผนังของห้อง ขณะนี้เวลา! สิบโมงห้าสิบ กว่าๆ )
“โอเคร ไว้เจอกัน”


“น้องเจตื่นรึยังค่ะ รีบอาบน้ำแปรงฟันและลงมาทานข้าวน่ะ!” (เสียงหวานๆของพี่อินที่ตะโกนมาจากด้านล่าง ในทุกๆเช้าพี่อินจะเป็นคนเดินขึ้นมาปลุกผมถึงที่ห้องเพราะไอ(หมีบราวว)นาฬิกาปลุกเจ้ากรรมดันไม่ทำงาน พี่แกเลยต้องลงทุนขึ้นมาปลุกผมเองอยู่บ่อยๆ) :hao5:

(แก๊ก!ๆแอ๊ดดดดดด) (เสียงของพี่อินแกเปิดประตูเข้ามา ให้บรรยากาศเหมือนตอนดูหนังผีเลยหล่ะครับ สงสัยประตูคงจะเฟื่อนว่างๆคงต้องหาน้ำมันมาหยอดซะหน่อยแล้ว)

.”ครับ ตื่นแล้วครับพี่อิน” (ผมหันไปยิ้มให้พี่อินที่เดินเข้ามาอยู่ที่หัวเตียงของผมพี่แกค่อยๆ เดินอ้อม ไปเปิดม่านที่หน้าต่างเพื่อรับแดดจากแสงอาทิตย์พร้อมวิตามิน (แต่เดี๋ยวนะนี้มันปาไปสิบโมงแล้ว มีแต่มะเร็ง มะเร็งเท่านั้น)เพราะปกติผิวคนเราจะได้รับวิตามินจากแสงแดดเวลาประมาณ หกโมงเช้าถึงเก้าโมง แต่หลังจากเก้าโมงขึ้นไปก็มะเร็งดีๆนี้เอง)

“รับวิตามินให้ผิวซักหน่อย !” 

“โถ่พี่อินนี้มันจะสิบเอ็ดโมงแล้วนะครับ มีวิตามินที่ไหนกันเล่า” (ผมรีบคลุมโปงขณะเดียวกันพี่อินก็เดินเข้ามาดึงผ้าห่มออกไปจากผม)

“ฮ่าๆ !รู้แล้วก็รีบตื่นไปอาบน้ำซะทีสิ เดี๋ยวก็ไปเรียนสายหรอก?”

“แต่พี่อินครับ วันนี้มันวันอาทิตย์นะครับ”

“เอ้า!นี้พี่หลงวันหลอกหรอเนี้ย”

“ผมบอกแล้วว่าอย่าทำงานข้ามวันข้ามคืนขนาดนี้เห็นไหมหลงวันหลงคืนเลย ”

“แหม่ถ้าพี่ไม่ทำแล้วใครจะทำละจ้ะ สามีของพี่ก็ไปทำงานอยู่ที่สวิตไม่ยอมกลับมาซักที ทิ้งน้องชาย ขี้เซา นอนตื่นสายกับพี่ไว้ เดี้ยๆ พี่จะโทรไปบอก”

“โฮ้ๆ ไม่เอานะๆพี่อิน เดี๋ยวเจไปแล้วขออีก ห้า นาที น่ะๆๆๆ ”

“ไม่ได้น่ะค่ะน้องเจเจ รีบตื่น ครั้งที่แล้วก็บอกกับพี่อย่างนี้ แต่ก็ไปตื่นเอาตอนเกือบบ่ายสามมโมงนู้น”

“แหม่พี่อินก็ยังจำได้เน้อ !” “จำได้สิค่ะเพราะมันเกิดซ้ำกันแทบจะทุกวันวัน จนพี่คิดว่าพี่เป็นเดจาวูวันละหลายรอบๆแล้วเนี้ย”
(แหม่พี่อินก็พูดไป =3=)

“เดี๋ยวพี่จะไปข้างนอกซักแปปนึง แต่ถ้าพี่กลับมาแล้ว น้องเจยังไม่ลุกจากเตียงละก็ น่าดู ”

“คร๊าบบบบบบบบบบบบบบ!”

.”อ่อแล้วก็อย่าลืมกินข้าวเช้าด้วยหล่ะพี่ทำไว้ให้แล้วอยู่ในตู้เย็น ถ้าหิวก็เอามาเวฟกินได้เลยนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่อิน เช้านี้ไอวินมันจะนัดผมไปกินข้าวข้างนอกแล้ว ไว้เย็นๆ เดี๋ยวเจ ค่อยกลับมากิน”

“อุ้ยยตาย น้องวินจะมาบ้านหรอ ไม่ได้การละ งั้นกลับกัน มาเย็นๆให้น้องวินอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะจ๊ะ พี่คงต้องไปเสริมสวยหน่อยแล้ว ”
(>.<)

“อ่าครับไว้เจจะบอกให้นะ แล้วนี้พี่อินทำไมไม่ รีบไป ซุปเปอร์ละ เจได้ข่าวว่าวันนี้มี Sale! ไม่ใช่หรอ”

“อุ้ยตายยลืมมไป! งั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะฝากความคิดถึงให้น้องวินของพี่ด้วยนะ ”

“ครับๆ”(หลังจากพูดจบพี่อินก็รีบวิ่งลงบันไดอย่างเร่งรีบ นี้สินะที่เขาพูดกันว่า ผู้หญิงกับของ Saleมันเป็นของคู่กัน !อ้าวตายห่าละ จะสิบเอ็ดโมงกว่า ยังไม่ได้อาบน้ำเลย ผมรีบลุกจากที่นอนและวิ่งตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำในทันที )

หลังจากนั้น 10 นาที (นั้นอาบหรือวิ่งผ่าน = =’ ) ผมก็รีบแต่งตัวก่อนจะวิ่งลงมาชั้นล่าง แต่ไม่ยักจะเห็นมีใครอยู่ สงสัยออกไป ซุปเปอร์กันหมดแล้วละมั้ง! (ปกติในร้านมีคนดูแลอยู่สองคน คือ พี่อิน กับน้อง ชื่้อยัยเอิร์น)   

ตื้อ ดื่อ !!!!! (เสียงออดดังขึ้นเมื่อมีคนเดินมาเปิดประตู ) (เสียงเดียวกันกับต้องเข้าเซเว่นเลยละครับ)
 o13

“เฮลโล่วบว๊อยยยยย!” (จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ไอวิน ที่เดินเข้ามาในร้าน ก็เอาแต่มองซ้ายมองขวา เหมือนหาอะไรอยู่)

“คือ..คือ กูอยู่นี้ มึงมองไม่เห็นกูหรอ หึ(รึว่าตอนอาบน้ำเมื่อกี้ ผมจะลื่นหัวฟาดชักโคกตายซะแล้วโถ่ถังกะละมั้งหม้อ มึงมองไม่เห็นกูจริงๆ ใช่ไหม ไอวิน!)” o22

“แป๊ะ!”(ฝ่ามือยาวๆของไอวินบินมาโฉบเข้ากับหน้าผากของผมอย่างจังงานนี้มีสะดุ้งครับ)

“โอ้ยย!! มึงจะตบหัวกูทำไมเนี้ย”

“กูยืนเรียกมึงตั้งนานสองนานแล้วไอ่ห่า ไม่ตอบบ ยืนเหม่อห่าอะไรอยู่”

“เปล่าๆ ไม่ได้เหม่อ แล้วเมื่อกี้มึงยืนมองอะไร กูเห็นตั้งแต่เข้ามาแล้ว ไม่ยอมพูด”

“หาที่รักกู” :o8:

“ที่รักมึง ใคร อ๋อ พี่อินนะหรอ เขาไม่อยู่หรอก ออกไปช็อปของ SALE ที่ซุปเปอร์นู้นบ่ายๆถึงจะกลับ  รึจะให้กูโทรตาม?”

“ป่าวไม่ใช่ น ..น้องเอิร์น ไม่อยู่หรอวะ ” :hao4: (น้องเอิร์นหลานสาวของพี่อิน พอดีทางคุณพ่อคุณแม่น้องเขา ฝากให้น้องเอิร์นมาเรียนต่อที่กรุงเทพนะครับ สวยพอๆกันเลย ทั้งพี่ทั้งน้อง แต่น้องเอิร์นแบบ ไม่ใช่สเปคผมอะ พอดีผมหล่อเลือกได้  อย่าขว้างหม้อ ขว้างไห มานะ จับเก็บใส่บ้านจริงๆด้วย ฮ่าๆ)

“วันนี้น้องเอิร์นไปเรียนพิเศษกลับมาเย็นๆ เออพี่อินบอกว่าให้มึงอยู่กินข้าวเย็นด้ว…..”

“โอเคร ตกลงกูว่าง กูจะรีบมาเลยย”( ทีผมถามอะไรหน่อยมันไม่ค่อยอยากจะตอบผมเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องหญิง นารี ไอนี้ รีบตอบแบบทันควันเลยนะไอสัด )

“แหม่ที่เรื่องแบบนี่นี้แม้งรีบตอบเลยนะไอห่า”

“มึงจะปล่อยให้ผู้หญิงเขารอกูหรือยังไง” :hao6:

 “แหม่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มึงยัง ทิ้งกูไว้ในโรงหนังคนเดียวเลยไอสัด พอสาวโทรมาหน่อย แม้งงก็ทิ้งกูเลย โคตรจะนอยย”

“เอาน่าไหนๆ ก็ผ่านมันก็ผ่านมาแล้ว เจ๊าๆกันไปเถอะ น่ะๆ ๆ” (กูคิดถูกคิดผิดเนี้ย ที่คบมึงเป็นเพื่อนมาสิบกว่าปีเนี้ย ห่า!)

“เออๆ ไปกันซักทีเห้อ”

“Let Go ….!” :z6:

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

“ตอนนี้พวกผมก็ยืนอยู่หน้า โรบินสัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ” :hao3:
“ไอวิน แล้วสรุปมึงจะพากูมาซื้ออะไรเนี้ยกูว่าจะถามมึงตั้งแต่คุยกันในโทรศัพท์ละ?” (จะว่าไปผมก็ลืมถามมันตั้งแต่เนิ่นๆ ว่ามันจะพาผมมาซื้ออะไร ไอผมก็อึนๆ ตามมากับมันจนถึงแล้วเนี้ย เกิดมันหลอกผมมาฆ่า ทิ้งจะทำไงหล่ะ)

“ก็ของทั่วไปนั้นแหละมึง ถามมากจัง ป่ะๆ รีบไปซื้อกันเหอะ”(พูดจบมันก็รีบพาผมวิ่งตรงดิ่ง เข้าไปใน Top ทันที)
(แต่เดี๋ยว)

“คือ ….กูขอถามอีกครั้งนะมึงพากูมาซื้ออะไร คือห้าง แถวๆร้านพี่อินก็มีป่ะ ”(ไอวินมันพยายามเบี่ยงประเด็นทุกครั้งที่ผมถาม ส่วนสายตาของมันก็ไม่ยอมจ้องมาทางผมเลยเหมือนคนโกหก ที่กลัวโดนจับได้ มันเป็นอย่างนั้นเลยหล่ะครับ )

“ก…ก.ก็ บ เบ เบเกอรรี่ไง ม๊ากุบอกว่า เบเกอรรี่ ของ Topแม้งอร่อยเขาเลยใช้ให้กูมาซื้อแค่นั้นเองจริง”

“พี่สาวมึงก็ทำเป็นไม่ใช่หรอวะ?”

“ก..กก็พี่แหวนไม่สบายนอนอยู่โรงพยาบาลนะสิ มึงจะ สงสัยกูทำไมหนักหนาเนี้ย ห่า กูไม่ได้หลอกมึงมาข่มขืนนะเว้ย”
“แล้วมึงหลบสายตากูทำไม? กลัวโดนกุจับไต๋ได้หรอ?” ()

“ไต๋เต๋ยอะไรกันเล่า กุเปล่.....ซะหน่อย” (มันหันหน้ามายิ้มเจื่อนๆให้กับผมแต่ก็แค่แปปเดียว แล้วมันก็รีบหันกลับไปยืนเลือกเบเกอร์รี่ที่วางอยู่ด้านหน้าเหมือนเดิม) :m16:

“แค่นั้น??”

“แล้วก็มีของอีกนิดหน่อยที่กูต้องมาซื้อ”

“อย่างเช่น?”

“ครีมอาบน้ำ,ยาสระผม,ขนม,ของกิน,บลาๆๆๆ ” (ผมก็ไม่ได้แสดงทีท่า ที่จะเค้นคำตอบอะไร จากมัน อีก ระหว่างผมกับไอวิน คบกันมา ก็ ปาเข้าไปสิบปีแล้ว ทำไมอาการเพียงแค่นี้ผมจะไม่รู้ว่ามันกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ แต่ตอนนี้ผมเองได้แต่ยืนมอง (มันตอแหลต่อไป))
 :3125:

Trrrrrrrrrrrrrrrrrrr (เสียงไอโฟนของมันดังขึ้นขณะที่มันกำลังยืนเลือกเบเกอรรี่ อันเดียวกันซ้ำไปซ้ำมาจนตอนนี้ในถาด มีแต่บราวนี่ประมาณ สิบชิ้นหน้าจะได้ มันรีบวางที่คีบลง ก่อนจะหยิบไอโฟนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของมันขึ้นมารับ)

“ฮัลโหล……อ๋อเออๆถึงแล้ว……ตอนนี้กูอยู่ทอป……มุมเบอเกอรรี่……เออ…เร็วๆหล่ะ…”

“ใครโทรมาวะ?”(หลังจากที่มันวางสายผมรีบชิง ยิงคำถามใส่มัน แต่ท่าทางมันเริ่มแสดงพิรุธออกมากกว่าเมื่อกี้ซะอีก  )

“อ่อ ม๊า กูเองแหละเขาโทรมาถามว่าจะ เสร็จรึยังให้รีบกลับบ้าน”

“อ๋อกูพึ่งจะรู้นะ ว่าเดี๋ยวนี้มึงพูดขึ้นกู กับม๊าของมึงด้วย”

 (………………………..) (มันเงียบไปพักนึงขณะที่มันกำลังยืนเลือกบราวนี่อยู่ไม่คีบก็หล่นออกจากมือของมัน! หึโดนจับไต๋ได้ แล้วสิ ไอวิน !)

“คือ ก..กูขอโทษนะ กูจำเป็นจริงๆ”

“จำเป็นอะไ……..” :jul1:




“อ้าวนึกว่าใคร ที่แท้ก็ลูกหนี้นี้เอง บังเอิญจังเลยนะ” (ผมรีบหันควับมองไปตามเสียงที่ได้ยินมาจากด้านหลังก็ต้องตกใจเมื่อบุลคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมคื…อ ไอกาย ?)

“ไอ..กาย”

“เจอกันครั้งเดียว ก็จำชื่อ กัน ได้แล้วหรอแหม่เก่งจังเลยนะ” (จะไม่ให้ผมจำได้ยังไงหล่ะก็ไอคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนี้แหละ ที่ทำให้ผมนอนไม่หลับมาวันสองวันแล้ว เพราะมัวแต่นั่งคิด นอนคิด ว่าจะหาเงินมาใช้ให้กับมันได้ยังไง? ผมยืมจ้องหน้ามันอยู่พักนึง ก่อนจะเอ่ยปากถามมัน ตามมารยาทออกไป)

“มึงมาทำไม?” (ตอนนี้ผมพยามมองหาไอวินที่อยู่ๆ ก็หายไปจากลานเบเกอรรี่ ซะดื้อๆ อย่าให้กูรู้นะว่ามึงมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่งั้น ศพมึงไม่สวยแน่กูขอบอก !)

“มาซุปเปอร์กูคงมาร้องเพลงมั้ง ถามโง่ๆ” (น้ำเสียงราบเรียบของมันทำเอาผม ชะงักกับคำตอบที่ได้ยินเลย กูถามดีๆ เสือกตอบกวนตีนกูนะมึง ไอสัด  )

“ถ้าอยากร้องก็ตามสบายแล้วกัน อยากทำอะไรก็รีบๆทำ ก่อนที่มึงจะไม่มีโอกาศที่จะได้ทำ ”(เพรากูจะฆ่ามึงกับมุขควายๆของมึง หมกอยู่ลานเบเกอรรี่นี้แหละ)

“พูดอย่างงี้ หมายความว่าไง?”

“ก็เปล่า?” :laugh:(ผมยืนเบ๊ปากใส่มันก่อนจะถือถาด บราวนี่สิบกว่าชิ้นเพื่อไปจ่ายเงิน แต่ บราวนี่ที่ผมถืออยู่ในมือ ก็หล่นออกจากถาด เมื่อมี มือยาวๆของไอกายจับผมเอาไว้และดึงเข้าไปหาตัวมัน ทำเอาตอนนี้ บราวนี่ สิบกว่าชิ้น ของไอวิน ไปวิ่งเล่นอยู่บนตัวไอกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ? ) (ถึงผมจะตกใจกับสิ่งที่มันทำ แต่ผมซะใจมากกว่า ฮ่าๆ กูขอคืนซักหน่อยเถอะหว่ะ หมันไส้!)

“มึง .. ทำ ..อะไร.กับเสื้อของกู”  :fire:(หน้าหล่อๆ คิ้วเข้มๆของมันตอนนี้ขมวดเข้าหากันเป็นปมเลยละครับ อยากให้เพื่อนๆ ได้มาเห็นสีหน้าของมันตอนนี้เลยจริงๆ)

“ช่วยไม่ได้มึงดึงกูเข้าไปหาเอง สงสัยเสื้อของมึงมันคงจะหิวละมั้ง แดกที สิบกว่าชิ้นเลยย ฮ่าๆ” (ผมยืนขำมัน และเสื้อ ของมัน ที่ตอนนี้ เจ้าตัวยืนห้นาจ๋อยพูดอะไรไม่ออกเลย)

(ผมกำลังจะเดินไปมุม ของกินอื่นๆขณะเดียวกันที่ผมกำลังหันหลัง มันก็คว้ามือผมเอาไว้จับไว้ซะแน่น ) :laugh:

“มึงจะไปไหน ”

 “ก็ไปซื้อของอย่างอื่นสิ ถ้าไม่มีก็ค่อยกลับ”  :katai1:

“แต่มึงยังกลับไม่ได้” (ทำ ไม ทำไมกันหล่ะ ทำไมผมถึงจะกลับไม่ได้ ? รึว่ามัน….คิดที่จะแก้แค้นกับสิ่งที่ผมทำกับมันไว้เมื่อกี้ ไม่น๊า ม้ายยยยยยยยยย เห็นผมอย่างนี้ๆผมไม่สู้คนนะบอกไว้ก่อน =3=)

“ทำไมกูถึงจะกลับไม่ได้มึงมีสิทธิอะไรถึงมาสั่งกู”

“สิทธิของการเป็นเจ้าหนี้มึงไง?” (เงียบครับเจอแบบนี้ไปเงียบเลย ผมปะติดปะต่อคำพูดไม่ถูกเลย อยู่ดีๆก็เอาเรื่องหนี้มาอ้างมึงเคี่ยวเกินไปป่ะเนี้ย ! >< ถถถถถ)
  :hao5:

“เป็นเจ้าหนี้แล้วไงยังไงวะ เวลาอีกตั้งหลายเดือน กูหาเงินมาใช้หนี้ให้มึงได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก ”

“มึงไม่รู้หรอว่าการเป็นลูกหนี้ที่ดีเขาต้องทำตัวกันยังไง เจ้าหนีสั่งอะไรมึงก็ต้องฟังสิ ไม่ใช่เถียง”

“แล้วทำไมกูต้องฟังมึงด้วยหล่ะ พอๆ ปล่อย กูจะกลับ ละแม้ง หมดอารมณ์”

“ถ้าไม่ฟัง งั้นก็จ่ายเงินกูคืนมาเดี๋ยวนี้เลย ?  ” (เอ่อ! เมื่อครู่ผมได้ยินว่าไงนะ เสียงอู้อี้ๆ ได้ยินไม่ค่อยชัด ช..ใชช้เงินตอนนี้เลยเนี้ยนะ บ้าไปแลล้ววว )

“………………………………..”

“อ้าวจะเอายังไงรีบพูดมา จะยู่หรือจะไป ?” (เวลานี้ผมคงไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆสินะ อย่างนี้ผมคงต้อง……)

“เออ กูอยู่ก็ได้วะ” (พ๊าง พ่าง (หลายคนคงคิดว่าผมจะไปละสิแหม่ๆ)เงินทองยิ่งไม่ค่อยมีอยู่ช่วงนี้ จะหนี้ไปก็จะดูไร้ความรับผิดชอบบเกิน ผมก็เลยต้องจำใจ(จริงๆแล้วต้องเรียกว่าไม่มีทางเลือกถึงจะถูก) อยู่กับมันไปก่อน) :katai1:

“ดี ทำตัวดีๆกับกูไว้ เผลอๆ กูอาจจะลืมเรื่องที่ผ่านมาเลยก็ได้”(กูจะถือว่าเป็นจ็อบเสริมละกันนะ) :hao6:

“ห้ะ จ…จริ… หึบบ (ไม่สิผมต้องเข้มไว้เพื่อไม่ให้เสียหน้า) โถ่ไม่จำเป็นกูมีปัญญาพอเหอะ”

“ก็ดูๆกันไป ตามกูมา ” (เรื่องเบียดๆเสียดๆนี้มึงถนัดดีนักนะไอ “อสูรกาย” (เออเว้ยชื่อนี้เหมาะกับมันดีแหะ)มันเดินนำหน้าผมไปตรงมุม สิ่งบริโภค(ของกิน ฮิฮิ)  )

“มึงจะซื้ออะไรก็รีบๆซื้อสิ กูไม่ได้มีเวลามานั่งๆยืนๆรอมึงทั้งวันหรอกนะ” (ผมแสดงอาการไม่พอใจกับการกระทำของมัน ถึงมันจะเป็นเจ้าหนี้ผมก็เถอะ แต่ก็น่าจะให้เวลาส่วนตัวกันบ้าง ไม่ใช่ให้มายืนๆเฉย นั่งมองเฉย คือ คือไรอ่ะ?)

“แต่กูไม่รีบ” (น้ำเสียงเรียบๆบวกด้วยใบหน้าที่ๆรู้สึกของมันทำเอาผมเริ่มคันไม่คันมือขึ้นมาหน่อยแล้ว(ป่าวจะโดดไปตบมัน โดนบุ้งไต่เมื่อวานอยู่ๆก็เลยรู้สึกคันๆ) กร๊ากกก ! (อ้าวๆไม่ขำกันหรอกเหรอๆ)ผมสัญญาว่าจะไม่เล่นมุขนี้รอบที่สอง  บ๊ายบาย มุขบุ้งไต่ = =’ )

“เออแล้วแต่มึงเหอะ”

“หิวไหม ไปกินข้าวเป็นเพื่อนกูหน่อยสิ”(หึ ถ้ามันคิดว่าของกินเพียงแค่นั้นสามารถซื้อใจผมได้มัน…คิดถูกแล้วแหละ (พูดเพื่ออะไรวะเนี้ย ) ผมก็ไม่ได้ปฎิเสธน้ำใจมันไปแต่อย่างได้ อารการแบบนี้เขาเรียกว่าเกรงใจใช่ไหม ฮ่าๆ)

“อืมๆ”

“หิวก็บอกมาเหอะ ไอชั้นใน” o22

“ชั้นในอะไรของมึง ?” (ตอนนี้ ผมงุนงง กับชื่อที่มันเรียกผมเอามากๆ )

“ก็ชื่อมึงไง เหมือนกางเกงชั้นใน ที่เพื่อนกูใส่อยู่เลย” (โอ้ว ขึ้น สิครับบ ขึ้น คิดได้ยังไงเอาชื่อผมไปเปรียบกับกางเกงในผมละอยากกระโดดไปซัดปากมันซักทีให้หายแค้น แต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้ขืนนปล่อยไปกลางห้างแบบนี้ได้ตกเป็นเป้าสายตาของคนในนี้แน่ พุทธ โท ทัมโม สังโฆ ! หึ้ย) :beat:

“ แล้วไง ”.

“ป่าวไม่มีอะไร รีบตามมาเหอะ” (ผมรีบเดินตามมันโดย ว่าง่าย จะว่าไปผมมักจะใจอ่อน เมื่ออยู่ต่อหน้าอาหารหรือของกินอยู่เสมอ แหม่ๆก็พอเห็นทีไรนี้เป็นต้องใจสั่นตล๊อดๆเลย ^ ^ สัยสัยดวงผมกับน้องหารคงจะสมพงค์กันละมั้ง ฮ่าๆ)
(ระหว่างทางที่เดินมาสายตานับร้อยของผู้คนในห้างต่างก็จ้องมองมาที่ผมกับไอ อสูรกาย ดูเหมือนเขาคงคิดว่า ไอสองคนนี้มันคงเป็นอะไรกันแน่ๆ - -‘)

“ผมและมันเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าแคชเชียร์ ที่มีพนักงานเป็นสาวน้อยน่ารักดูเหมือนจะยังเป็น นักเรียน อยู่เลย สงสัยจะมาทำพาทไทม์ ”

“รบกวนวางสินค้าด้านหน้าเลยค่ะ”(เสียงหวานๆของน้องผู้หญิงตรงหน้าทำเอาไอ อสูรกาย มันแอบยิ้มที่มุมปากเลยละครับ )

(ระหว่างที่น้องพนักงานกำลังยืนคิดเงินให้พวกผมอยู่ก็มีพี่ที่อยู่เคาท์เตอร์ใกล้ๆมาช่วยน้องเขาจับของใส่ถุงก็มันซื่อ(ยังกะจะเหมาหมดทั้งห้าง) แต่บังเอิญผมเหลือบไปเห็นน้องผู้หญิงคนดั่งกล่าว แอบเหล่สายตามาทางผมอยู่บ่อยๆ แหม่ สงสัยจะหลงในความหล่อของผมเข้าแล้วละสิ คงจะถอนตัวอยากซะด้วยนะน้องนะพี่บอกไว้เลย แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะถามน้อง คนนั้นไป)

“เออน้องมองพี่มีอะไรหรือเปล่าครับ?”(ลองเชิง ซะหน่อย) ^^’’’ :-[

“อ๋อเปล่าคะ  หนูแค่คิดว่าพี่สองคนน่ารักจัง เป็นแฟนกันหรอค่ะ o22 ” (ห๊ะๆ พัง  พังหมด ความคิดที่ผมมีครู่ไปหมดแล้วว น้องครับ น้องคิดได้ยังไงว่าพี่กับ ไออสูรกายนี้จะเป็นแฟนกัน น้องคิดแบบนี้กับพี่ได้ยังง๊ายยยย อร้ายยย!!!(นั้นไงเริ่มออกอาการละ) แฮะๆ มันเป็นฟิลลิ่งหน่ะ อย่าพึ่งเข้าใจผมผิดไปนะครับผู้อ่าน)

“เอ่..อๆ ไม่ใช่ใช่อย่า.งนั้นนะครับน้อง คื…ออ.”

“อ๋อ ใช่ครับ แฟนพี่มันก็เป็นงี้แหละครับ มันยังไม่ค่อยชินกับสถานะที่เป็นอยู่นะ ” (โอ้ยไอห่า แล้วมึงจะไปยอมรับทำไมละเนี้ยโอ้ยย หมดกันภาพพจน์ผู้ชายที่สุดจะหล่อและแสนดี หมดก๊านนน! แล้วยังงี้กูจะไปสู้หน้าใครเขาได้ละเนี้ย!)

“ไอเหี้ยการมึงไปพูดอย่างนั้นกับน้องเขาได้ยังไงไอสัดกูเสียหายนะเว้ย”(ผมเลื่อนปากไปกระซิบที่ข้างๆหูของมัน ตอนนี้ผมไม่มีหน้าที่จะเดินเข้าที่นี้อีกต่อไปแล้ว ต่อไปนี้คงต้องอยู่แต่บ้านแล้วจริงๆ อายยครับบ อายมาก อายจนไม่กล้าจะสบตาน้องคนนั้นเลย ><)

“อ๋อ ทีที่แท้ก็ยังไม่ชินนี้เอง แหม่ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ ตอนนี้  เรื่องพวกนี้สังคมเขายอมรับกันหมดแล้วละค่ะ หนูชอบพวกพี่ๆสองคนมากเลย พี่พอจะมี Line’WhatApp’IG’Fb หรืออื่นๆ ไหมค่ะ หนูจะได้ไปกดติดตาม o22 ” (พูดเสร็จน้องผู้หญิงก็ยื่นโทรศัพท์มาที่หน้าของผม แต่ไออสูรกาย กลับคว้าโทรศัพท์ไปพิมพ์อะไรอยู่นานสองนาน ก่อนจะคืนให้กับน้องผู้หญิงคนนั้น)

“นี้วันๆหล่อน จะเอาแต่ขอเบอร์ผู้ชายไปทั่วรึไง จริงไหมค่ะ สุดหล่อ! ” (เสียงของพี่ผู้หญิงที่เข้ามาช่วยงานน้องเขาแต่ดูเหมือนว่าจะผิดถนัดแหะพี่เขาไม่ใช่ผู้หญิงแต่กลับเป็นผู้ฉิ่ง โอ้ว คือพี่เขาเหมือนผู้หญิงเอามากๆ (ถ้าผมไม่สะดุดกับเสียงเอาซะก่อน)ทำเอาผมในตอนนี้ยืนอึ้งยิ่งกว่าเก่าอีก)

“แหม่เจ๊ก็ไม่ได้ต่างจากหนูเท่าไหร่หรอกค่ะ จริงๆ เจ๊ก็ไม่เห็นจะต้องมาช่วยหนูก็ได้นิ่ค่ะแค่สองคนเองหนูทพเองได้” :hao3:

“โอ้ยหล่อนคิดจะหุบผู้ชายสองคนไว้กินคนเดียวรึยังไง ไม่คิดจะแบ่งกันเลยใช่ไหม ไหนตอบบ !! ” (เสียงของพี่ผู้(ฉิง)ตะโกนด่าทอน้องน่าหวานอย่างไร้วี่แววว่าจะหยุด แต่ผมกลับคิดผิด ตอนแรกคิดว่าน้องเขาจะป็นคนซื่อๆใสๆ แบบอารมณ์ประมาณ นางเอกถูกพวกนางร้ายรุมด่า แต่ก็ต้องเฉยๆ ไว้ แต่เปล่าเลย น้องคนนั้นหับยืนเถียงฉอดๆ กันอย่างถูกปากถูกคอ ส่วนไอห่านั้นก็มัวแต่ยืนยิ้มเขินๆ ส่งสายตาไปให้พี่น้องสองคนนั้น ทำเอา คนที่มองแอบ ยิ้มเขิลไปตามๆกัน จ๊ะมึงหล่อ กูรู้ว่ามึงหล่อ = =’ )

“ทั้งหมด สามพันสี่ร้อยหกสิบเก้าบาทห้าสิบสตางค์คะ” (ห่ะ อะไรนะนี้ผมซื้อของแค่ไม่กี่อย่างเองนะ ทำไมราคามันถึงพุ่งปรี๊ดขนาดนั้นหล่ะ ตายๆ ตอนผมจะซื้อของนี้ ห้าร้อย ยังคิดแล้วคิดอีก แต่นี้ สามพันสี่ โอ้ยตายๆ สงสัยของข้างในนี้ต้องหุ้มทองไว้ๆแน่ๆเลย)

“นี้ครับ” (ไออสูรกายยื่นแบงค์พันให้น้องผู้หญิงคนนั้นไป สี่ใบ แต่มือของเจ๊คนนั้นกลับไวกว่าเจ๊แกรีบคว้ามือของไออสูรกาย(กับพร้อมเงิน)จำนวนสี่ใบ)

“อ้าวแล้วช็อคโกแลตที่พี่ถืออยู่ จะคิดรวมเลยรึเปล่าค่ะ”(น้องผู้หญิงยืนชี้นิ้วมาทางผมก่อนจะถามถึงสิ่งของที่ผมเผลอถือมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม้รู้)

“อ๋อไม่ครับคิดแยก ต…แต่ หึ้ย ซวยแล้วผมลืมหยิบกระเป๋าตังมาจากห้อง” (ก็เมื่อกี้ได้ยินว่าไอวินให้ผมพามาซื้อของเป็นเพื่อนเฉยๆ ไม่ได้คิดว่าจะซื้อเอง แต่ดันเผลอหยิบของมาตอนไหนก็ไม่รู้(สงสัยพออยู่ต่อหน้าของกินแล้วมันเผลอหยิบมาเอง))

“ว่ายังไงค่ะ จะคิดรววมหรือคิด แยก”

“เอ่ออ……”

“คิดรวมครับ” (เสียงของไออสูรกายพูดขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังยืนงงอยู่ โอ้ย ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆครับพี่กายบุญคุณครั้งนี้ ผมจะไม่มีวันเลย(รึเปล่า)อิอิ)

“เอ่อรบกวนขอสินค้าด้วยค่ะพี่”(น้องผู้หญิงและเจ๊คนนั้น หันหน้ามามองที่ผมเหมือนพูดอะไรซักอย่างแต่ผมไม่ทันที่จะได้ฟัง)

“ควับ!” (ไออสูรกายหยิบช็อคแลตในมือผมให้กับน้องผู้หญิงไปทำเอาผมที่ยืนงงๆอยู่นี้ ถึงกับสะดุ้งเลย)

“ทั้งหมด สามพัน…….ค่ะ” (น้องคนนั้นรับแบงค์พันไปก่อนจะหยิบเงินทอนมายื่นให้ที่หน้าผม)

“เงินทอนค่ะพี่” :o8:

(ผมยื่นมือไปรับมาอย่างปลงๆ ไอคนจ่าย ละเสือกไม่รับ)

“ขอบคุณนะค่ะโอกาสหน้าเจอกันใหม่ค่ะ บ๊ายบายยย” (เสียงน้องและเจ๊คนนั้นพูดมาหลังจากที่ผมและไออสูรกายเดินออกห่างมาจากห้างได้ซักระยะนึง)

“ครับบ”(ไอนี้ก็อดไม่ได้ที่จะส่งยิ้มก่อนจะโบกมือบ๊ายบาย ให้กับสาวๆใช่ซี้! มึงหล่อนิ่ T^T) :bye2:

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) (̲̅❤̲̅)หลุมพรางหัว โดย คิมกอนอู :3
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 06-12-2015 20:09:37
“นี้มึงกะจะไม่ช่วยกูถือเลยใช่ไหมเนี้ย ”(ถึงของที่ซื้อมาจำนวนมันจะน้อยก็จริง แต่น้ำหนักของมันนี้ ไม่น้อยเอาซะเลย)

“ใช่หน้าที่ของกูที่ต้องถือ ไหม?”(เอ้าไอนี้ น้ำใจ น้ำใจ หน่ะ มีบ้างก็ได้นะไอห่า พออยู่ต่อหน้าหญิงละ สุภาพบุรุตเชียว กูละอยากให้ เขามาเห็นมึงในด้านนี้จริงๆ)

“ซักพักมันก็พาผมเดินมาที่รถของมัน แต่คราวนี้ไม่ใช่คันเก่านะสิครับ เป็น รถเบนส์ สีดำป้ายแดง รู้สึกจะดูเด่นที่สุดในที่จอดรถเลยก็ว่าได้ เพราะรถคันอื่นก็มีแต่ ป้าย ขาว ป้ายดำ ป้ายส้ม ป้ายชมพู ไอหลังๆไมใช่ละฮ่าๆ”

แอ๊ด แอ็ด ! (เสียงรถเบนส์มันหน่ะ) ประตูรถของมันค่อยๆ เปิดออกคณะเดียวกันไออสูรกายมันก็เดินอ้อมไปเปิดกระโปรงจากด้านหลัง

“ยื่นบื้อทำห่าอะไรเอาของมาไว้นี้สิ ” (เสียงของมันตะโกนเรียกผมจากด้านหลังของรถ(จริงๆแล้วต้องเรียกว่าด่าถึงจะถูก)แต่มีหรือที่ผมจะขัดใจของมันได้ ก็เลยต้องยอมเดินไปแต่โดยดี มันยื่นมือมารับถุงในมือผม ก่อนจะวางมันก็(คุ้ยถุงเหมือนหมาเลยเน้อ = 3=) หาของในถุงก่อนจะหยิบช็อคโกแลตยื่นมาให้กับผม

“อ่ะเอาไป”(ผมก็ไม่ค่อยกล้าที่จะรับของจากมันซักเท่าไหร่หรอกครับ แต่ก็ต้องรับไว้เพราะมันเป็นมารยาทที่ดี(จริงป่าว) ฮ่าๆ)

“อ่ะ”ผมหยิบเงินจากกระเป๋ากางเกงคืนให้กับมัน (เงินทอนเมื่อกี้)

“แค่เศษตั้งเก็บไว้กินหนมเหอะ” (สี่ห้าร้อย มึงเรียกเศษตัง หึหึ มึงนี้เห็นคุณค่าของเงินบ้างรึเปล่าเนี้ยกว่าจะหามาได้แต่ละบาทแต่ละสตางค์ มันยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน แต่ก็นะมันเกิดมาอยู่บนก่อนเงินกองทองคงไม่เคยจะได้สัมผัสกับคำว่า  “ลำบากหรอก” แต่ก็ถึงว่าเป็นโชคของไอเจไป ละครับ ฮ่าๆ มาทวงที่หลังไม่ได้แล้วนะเว้ย ให้แล้วให้เลย ^ ^)
(ผมรีบเก็บเศษเงิน(แบงค์สีแดงห้าใบลงกระเป๋ารูดซิบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วกูไปก่อนนะ”

“มึงจะไปไหน?”(มันยื่นห้นามาถามผมจากข้างหลังรถก่อนจะเอามือขาวๆและยาวๆของมันปิดฝากระโปรงลดลง)

“ก็กลับบ้านสิ  ทำไม มึงจะใช้แรงงานอะไรกูอีก”

“ก็เปล่าไม่มีอะไรจะใช้หรอก แล้วนี้ มึงจะกลับยังไง?”

“กูมากับไอวินก็รอกลับกับไอวินสิวะถามได้”

“แต่ไอวินมันกลับไปตั้งนานแล้วนะ มึงไม่รู้หรอ” (คิดจะหลอกคนอย่างกูหรอไอคุณชาย หึ ไอวินมันไม่มีทางทิ้งเพื่อนหรอกจริงไห…..)

(ผมพยายามมองหารถฮอนด้าแจสคันสีขาว เพราะว่าตอนนมาไอวินมันก็มาจอดรถบริเวณนี้ผมจำได้แม่น รอยที่เขียนอยู่ตรงผนัง(มันเขียนว่าที่จอดกูใครรอย่าเสือก)ก็ยังมีอยู่ผมแน่ใจว่าผมไม่ได้จำผิดไปแน่ๆ รึว่าไอวินนนมึงงงงง!!!!!)
Trrrrrrrrrrr.(เสียงไอโฟนสั่นอยู่ในกางเกง ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองรายชื่อ)
“วินเพื่อนเยิ้บบบบบบ”(ไอเหี้..ยวินนนน)

“ฮัลโหล” (ผมพยายามใช้นำเสียงนุ่มๆคุยกับมันเผื่อว่ามันอาจจะอธิบายเหตุผลที่(ฟังขึ้น)ให้กับผมก็ได้)

“ว่าไง เจเจ เพื่อนรัก อยู่ไหน แล้ว ซื้อของเสร็จรึยังเอ่ย ?” (มึงยังมีหน้ามาหยอกกูอีกหรอไอห่าวิน ถ้ามันอยู่ใกล้ๆผมในระยะร้อยเมตรนี้ ผมคงกระโดดไปงับหัวมันแล้ว)

“เสร็จแล้วตอนนี้ เพื่อนเจ อยู่ที่ลานจอดรถนะ แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้ เพื่อนวิน(ไอเหี้..วินผมอยากจะพูดอย่างงี้แต่ต้องแสร้งพูดดีๆ กับมันไปก่อน)อยู่ที่ไหนหรอ”(ผมกัดฟันพูดทุกๆช็อตที่คุยกับมัน)

“อ๋อ ตอนนี้ เพื่อนวิน อยู่ ที่ร้านกับพี่อิน ฟังเสียงไหม”

“น้อง เจเจ รีบกลับมาร้านเลยนะจ๊ะ พี่มีเซอร์ไพทร์”

“เชื่อรึยัง จ๊ะเพื่อน เจ ว่าเพื่อนวินอยู่ที่ร้านจริงๆ” (ไอเชื่อหน่ะกูเชื่อ แต่ไอที่กุไม่อยากจะเชื่อก็คือมึงทิ้งกูไว้กับซาตาน มึงปล่อยให้กูต้องแบกรับชะตากรรมอันแสนสาหัสไว้เพียงผู้เดียว ไม่ไหว ไม่ไหวแล้วโว้ยย)

“ไอสัด!!!!!! วินมึงทำอย่างนี้กับกุได้ยังไง มึงปล่อยให้กูอยู่กับอสูรกาย สองต่อสองทั้งวันส่วนมึงไปนั่งชิวสบายใจเชิ่บที่ร้านพี่อินเนี้ยนะ ไอเหี้… ไอเพื่อนเลว ไอชั่วว”(ตอนนี้ผมเดือด จริงๆ ครับ ถ้าหากมันทิ้งผมเพราะอยู่กับสาวจริงๆ อันนี้ผมเข้าใจแต่นี้ ทิ้งกันไป แล้วทิ้งขี้(ไอกาย)ไว้กับผมทั้งวันเนี้ยมันใช่เรื่องไหมห๊ะ!!!! หวื้ยยยย โมโหจนจะกินพิษซ่าได้ ยี่สิบถาด (เอ๊ะๆวกมาเรื่องของกินอีกละ)ทุกอารมณ์ของผมมักจะมีของกินโผ่ลมาด้วยเสมอทุกที่ ทุกเวลาจริงๆ)

“โหย อย่าโกรธกูดิ่ แต่ก่อนกูจะออกมากูก็บอกมึงแล้วนะ”


“หึ บอกกู หรอ เมื่อไหร่กั…….”(จะว่าไป)……(เริ่มนิมิต) “คือ ก..กูขอโทษนะ กูจำเป็นจริงๆ”)

“ไอ…..หึ้บบ(ผมพยายามเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้)”

“ฮ ฮะโหล ฮะโหล ไอเจ ฮัลโหล”

“เออ..มีอะไรจะบอกกูอีกไหม”

“ม …ไม่มีแล้วมึงจะกลับมาเมื่อไหร่”

“เดี๋ยว!   เจอ!   กัน!   มาร์!   วิน! แค่นี้น่ะ” (ผมรีบกดตัดสายจากไอวินทันทีขณะเดียวกันก็มีเสียงจากอสูรกายใต้พิภพเรียกชื่อ ก่อนที่ผมจะเดินออกไป)

“แล้วนั้นจะไปไหน ไอ“ชั้นใน” 

“กูจะกลับบ้าน”

“ขึ้นมาเดี๋ยวไปส่ง”(ตอนนี้สีหน้าและท่าทางของมันไม่ได้ยียวนกวนปรสารทผมแต่อย่างใด มีแต่สีหน้าที่นิ่งและดูจริงใจที่ผมสามารถสัมผัสได้) :mew6:
(ผมยอมขึ้นรถตามที่มันบอกแต่โดยดี ขณะที่ขับรถไปได้ซักพักนึง ไออสูรกายมันไม่ยอมพูดอะไรเลย ได้แต่นั่งนิ่งขับรถไปเฉยๆ บรรยากาศเริ่มมาคุขึ้นเรื่อยๆ (ต้องทำลายบรรยากาศนี้ซะหน่อยแล้ว)ผมรีบเอื้อมมือไปเปิดเพลงขณะเดียวกัน ไออสูรกายก็หันมาสบตากับผมเข้าอย่างจัง OoO)

“จะทำอะไร?” (น้ำเสียงของมันดูตึงเครียดเงียบขรึมไร้อารมณ์และไร้ความรู้สึกอย่างมาก ทำเอาผมที่เป็นคนฟังถึงกับรู้สึกถึงความไม่ปกติของมันได้ )

“ก..ก็เปิดเพลง นะ ก็เห็นว่ามันเงียบๆ มึงไม่อยากฟังหรอวะ ?” :mew2:
“อืมอยากเปิดก็เปิด!” (ผมไม่รอช้ารีบเอื้อมมือไปกดเปิดเพลงทันที) (หืมมอินโทรมาก็รู้เลยย พี่ตูนน!!! ><) :กอด1:

ยังไม่เคยลืม ยังไม่เคยเลือน มันก็คงเป็นเหมือน เรื่องค้างคา
เราต้องจำจาก ทั้งที่เรายังรัก แล้วเราต้องร่ำลา

ไม่หวั่นไหว แม้ใจจะสุดเหงา
อยากให้เรามั่นคงอยู่อย่างนี้ เก็บไว้หัวใจที่มี ได้ไหม

ฉันอยากจะย้ำ อีกสักครั้ง ให้เธอฟังฉัน อีกสักครั้ง
แต่อยากจะย้ำ อยากจะย้ำ จนเธอนั้นมั่นใจ ถึงต่อให้นาน อีกนานสักเท่าไร
ก็อยากให้เชื่อใจ ว่าฉันรออยู่ (และฉันจะรอต่อไป อย่างที่ได้เคยบอกไว้ จะรอเธอ)

ชีวิตคนเรา แม้ไม่ง่ายดาย ยอมรับในความหมายของมันเถิด
ถึงแม้เราห่าง ขอให้ความอ้างว้าง ทำให้เราคิดถึงกัน

ไม่หวั่นไหว แม้ใจจะสุดเหงา
อยากให้เรามั่นคงอยู่อย่างนี้ เก็บไว้หัวใจที่มี ได้ไหม

ฉันอยากจะย้ำ อีกสักครั้ง ให้เธอฟังฉัน อีกสักครั้ง
แต่อยากจะย้ำ อยากจะย้ำ จนเธอนั้นมั่นใจ ถึงต่อให้นาน อีกนานสักเท่าไร
ก็อยากให้เชื่อใจ ว่าฉันรออยู่

และย้ำ อีกสักครั้ง ให้เธอฟังฉัน อีกสักครั้ง
แต่อยากจะย้ำ อยากจะย้ำ จนเธอนั้นมั่นใจ ถึงต่อให้นาน อีกนานสักเท่าไร
ก็อยากให้เชื่อใจ ว่าฉันรออยู่ และฉันจะรอต่อไป
อย่างที่ได้เคยบอกไว้ และย้ำให้เธอได้มั่นใจ   ว่าฉันรักเธอ


(เพลงจบคนไม่จบผมที่หึมหัมร้องเพลงตามพี่ตูนไปก็เหลือบมองเห็น…หื้ยยไออสูรกายมัน….กำลังร้องไห ผมในตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะกำลังตกใจกับภาพที่ตาตัวเองเห็น คือ กูร้องเพลงเพราะขนาดนั้นเลยหรอวะแม้ง สงสัยจะอิน)

“ไงหล่ะเพราะจนน้ำตาไหลพรากเลยสิมึง”  o18 (ผมหันไปคุยกับมันเพราะคิดว่าอาจจะทำให้มันหายจากอาการนี้ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย)

“เพราะอะไรถึงร้องนะสิไอห่า :hao7: กูทนฟังจนแสบแก้วหูหมดแล้วเนี้ย ฮ่าๆ !” (มันยิ้มหัวเราะทั้งน้ำตา นี้คงเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันยิ้มและร่าเริงได้ขนาดนี้ เห็นแล้ว ดูแปลกตาดีแหะๆ สงสัยอยู่บ้านคงจะนั่งคุยแต่กับเงินคนไม่ค่อยจะคุย ฮ่าๆๆๆๆๆ)

“ ซอยหน้าเลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้ว ” (ผมรีบบอกทางมันขณะที่มันกำลังเร่งความเร็วอยู่ที่ 80-90 กิโลกเมตรต่อชั่วโมง(ประเด็นคือกลัวเลยบ้านไงไม่ใช่อะไร))

……………………………………………………………………………………………………………………..
“ซักพักรถของไออสูรกายก็มาจอดอยู่ที่หน้าร้านของผม(จริงๆแล้วของพี่อิน)”


(ผมรีบเปิดกระจกรถ พยายามมองหาไอเพื่อนเลว คือสิ่งแรกที่ผมคิด แต่มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สงสัยกลัวโดนผมตื้บบละมั้งเลยไปแอบซ้อนตัวอยู่ในร้าน อย่า อย่าให้กูเจอนะมึง พ่อจะเล่นไม่เลี้ยงเลย)

ตื้อ ดื่อๆ !!! (ประตูร้านถูกเปิดออมาจากแรงผลักของพี่อิน แต่พี่อินกับทำหน้าเอ๋อเหมือนกำลังจะตกใจว่าผมมากับใคร)

“อ้าวน้อง เจเจ เองหรอพี่ก็นึกว่าลูกค้ามา รีบเข้ามา สิ เอ๊ะ! แล้วนั้นใครหน่ะเพื่อนหรอ ?”(พี่อินถามผมด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม)

“อ่อใช่ครับบ พอดีหมามันทิ้งผมเอาไว้ ผมเลยต้องกลับมากับไอเนี้ย แล้วที่รักของพี่อินไปไหนซะละ ”

“อ๋ออยู่ในครัวกำลังทำช่วยน้องเอิร์นทำอาหารอยู่ห่นะรีบๆลงมาแล้วไปเปลี่ยนชุดแล้วมาช่วยพี่ทำกับข้าวเดี๋ยวนี้เลย”

“คร๊าบบบบบบบบบบ!”

“อ่อแล้วก็อย่าพึ่งให้เพื่อนรีบกลับนะ อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อน” (พี่อินพูดเสร็จก็รีบวิ่งเข้าร้านไปเหมือนกำลังรีบจะทำอะไรซักอย่าง เอ๊ะแต่เหมือนว่าก่อนที่ผมจะมาพี่อินก็บอกกกับผมว่ามีเซอร์ไพทร์นี่นา สงสัยคงจะรีบจัดเซอร์ไพทร์ให้ผมอยู่แน่ๆ แต่มันคือ
อะไรหล่ะ? วันเกิดก็ไม่ใช่ วันสำคัญอะไรก็ไม่น่ามี…ช่างเถอะเดี๋ยวพอลงไปก็คงจะรู้)

“ถึงบ้านมึงแล้ว ถ้าไม่มีอะไร งั้นกูกลับก่อนนะ”(เสียงของไออสูรกายมันเรียกสติขณะที่ผมกำลังครุ่นคิดเรื่องจัดทำเซอร์ไพทร์ของพี่อินอยู่)

“เห้ยทำไมรีบกลับจังวะมึงมีธุระด่วนหรอ?”

“ก็เปล่าหรอก กูแค่อยากกลับบ้านไปนอนก็เท่านั้นเอง”

“นอนหน่ะนอนเมื่อไหร่ก็ได้ ผู้ใหญ่เขาชวนมึงจะปฎิเสธรึไง”

“กูก็ไม่อยากจะปฎิเสธหรอกนะแต่กูง่วง ฮ้าว!!!” (มันหาวอาปากซะเห็นลิ้นไก่ชัดเจนซะขนาดนั้นผมเชื่อแล้วแหละว่ามันคงจะง่วงจริงๆ)

“งั้นเดี๋ยวกูทำอะไรให้มึงกินแก้ง่วงเอง ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่มึงอุตส่าห์ขับรถมาส่งกูถึงที่บ้าน”

“ไม่เป็น…..” (ผมไม่สนใจคำตอบว่ามันจะพูดว่าอะไร แต่ ผมรีบดึงแขนของมันตามผมลงมาจากรถทันทีมันก็ แต่เหมือนมันจะร้องอะไรซักอย่าง)

“โอ้ยๆ กู เจ็บ สายคาดดดด!”(อ้าว กรรมห่าตัวติดสายคาดซะงั้น ผมรีบกลับเข้าไปในรถก่อนจะก้มลงไปดึงสายคาดที่อยู่ด้านข้ามของคนขับ)

“โอ้ยยมันติดกาวตาช้างไม่รึไงแม้งดึงออกยากชิบหายย (ผมบ่นอรัมพบท ถึงผู้ที่สร้างไอสายคาดเฮ็งซวยอันนี้ว่า แม้ง กลัวจะหายรึยังไงถึงได้ทำซะเหนี่ยวขนาดนี้ คารารวยยย)”

(ผมพยายามก้มดึงอยู่นานก็ เผลอหันไม่สบตา ไออสูรกาย เข้าอย่างจัง ตอนนี้ระหว่างหน้าผมกับหน้ามันห่างกันไม่ถึงคืบจมูกนี้แทบจะชนกันอยู่แล้ว มันกระพริบตาปริบๆเหมือนกำลังได้สติก่อนจะถอนหน้ามันออกจากผม)


“ เดี๋ยวกูทำเอง นี้ดู นะ เขาต้องดึงเข้าอย่างนี้บีบออกอย่างนี้ เข้าใจไหมห้ะ” (คือสรุปนี้คือกูโง่ใช่ไหม ) = =’

“ใช่มึงโง่มากเลย”

“เดี๋ยวนะมึงรู้ความคิดกูได้ยังไงเนี้ย? มึงเป็นหมอผีหรอ?” (ผมถอยห่างออกจากมันก่อน จะเอ่ยปากถามมันไปด้วยความสงสัย)

“ดูออกง่ายจะตายไป ไม่ต้องมีเซนต์ใครหลายๆคนก็คงคิดแบบกู ฮ่าๆ”

“ขำๆ ไอห่า กูก็แค่ไม่ชินกับการนั่งรถคันเป็นล้านๆแบบมึงซะหน่อย ป่ะๆรีบเข้าไปพี่อินรออยู่ ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอมันหน้าเกลียดนะมึง”

“รู้น่า มึงก็รีบออกไปซักทีเหอะ”

“แค่นี้ทำไล่ ไอห่ากูก็ไม่อยากจะนั่งนานนักหรอก กลัวจะติดเสนียจ คนรวย”

“เออแล้วกูต้องไปจอดไว้ตรงไหนวะ ”

“”ก็จอดไว้ตรงนั้นนะแหละ เย็นๆแล้วไม่ค่อยมีลูกค้าหรอก ทุ่มกว่าๆนู้น ถึงจะมี” (ไออสูรกายมันรีบถอยรถออกไปจากหน้าทางเข้าร้าน (เออมีมารยาทเหมือนกันนี้หว่า)ไปจอดไวว้ด้านข้างของร้านแทน ก่อนที่ผมและมันจะเดินเข้าไปในร้านพร้อม กัน)

ตื้อ!!!!!! ดื่อ!!!!! (ไม่ต้องบอกก็รู้เสียงเปิดประตู ฮ่าๆๆๆ) :hao7:
“แต่ แต่ ทำไมบรรยากาศภายในร้านมันมาคุจังเลยหล่ะ พีอิน น้องเอิร์น ไอเพื่อนเลวว หายไปไหนกันหมด” (ผมพยายามมองหาทั่วร้านแต่ก็ไม่แม้จะเห็นเงาของใคร แต่แอบได้ยินเสียงดังมาจากในครัวผมไม่รอช้า รีบวิ่งกรู่เข้าไปในครัวทันที)





“เซอร์ไพรท์ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” (ผมสะดุ้งตกใจเสียงของพี่อิน น้องเอิรน์ ไอเพื่อนเลวว และ………………………………..)



“ไอติน” :monkeysad:

TBC…………………
>>>>>>>>>>>>>>

#เกร็ดความรู้นิดๆหน่อย# (เดจาวู) คืออาการที่เกิดขึ้นเองแบบไม่ทันตั้งตัวมันจะเป็นคล้ายภาพลางๆ(บางคนอาจจะเห็นชัดเจน) เป็นภาพที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหรือยังไม่เคยเกิดขึ้น อาจจะเกิดในอนาคต หรือไม่ก็ปัจจุบัน ซึ่งคนที่มีอาการเหล่านี้เขา ว่ากันว่า (อาจจะมี สัมผัสที่หก) :a5:
ก้ออออออ เป็นนนนนนน ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย! ฮ่าๆๆๆ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า นะฮาฟ!!! สำหรับวันเน้ๆ บ๊ายย บายยย !!!           :bye2: :bye2: :bye2:         
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 12-12-2015 20:49:24
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 3  (อดีต)คู่มั่น
:n1:

“ไอ ต…….ติน ไอตินน นั้นมึงใช่ไหม“(ผมตะโกนออกไปด้วยความตกใจ เพราะบุคคลที่อยู่ตรงหน้าผมไม่ใช่ใครที่ไหนแต่

เป็นเพื่อนสนิท ในวัยเด็กของผมเอง ถ้าจะให้เล่าให้ฟังก็คงยาว แต่นิดๆหน่อยๆคงไม่ว่าอะไรกันเน้อ) …….(ภาพเริ่มเลือน

ราง ลองคิดแบบในละครสิแบบ ตอนนี้ตัวเอกกำลังคิดถึงอะไรซักอย่างมันมักจะมีภาพลางๆมาก่อนเสมอๆ ขอยืมมาใช้
หน่อยละกัน ฮ่าๆ มาๆเข้าเรื่องกันต่อ)

นิสัยโดยรวมแล้วในสมัยเด็กๆ ผม ไม่ค่อย สุงสิงกับใคร  ไม่ใช่เพราะผมหยิ่ง หรืออะไร นะ แต่เป็นเพราะว่า ผมไม่กล้าที่จะ

เข้าหาใครก่อนก็เท่านั้นเอง  คนอื่นๆ อาจจะมองว่าผมเป็นคนที่ถือตัว (โลกส่วนตัวสูง) ด้วยมาดที่ให้มาแต่เกิด ใครเห็นผม

แรกๆ ก็คิดแบบเดียวกันหมดนั้นแหละ แต่ถ้าหากใคร ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริง ของผมแล้ว ต่างกลับกันโดยสิ้นเชิง ผมเป็น

คนๆ ฮาๆ รั่วๆแถมยัง แคร์ ความรู้สึกคนอื่นมากกว่าตัวเองซะอีก แต่ก็อย่างว่าแหละนะ  มันก็ยังมีคนที่รู้จัก ตัวตนที่แท้

จริงๆของผมอยู่จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก ‘ติน’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผม ตั้งแต่สมัยเด็กๆ หรือจะเรียกว่าเพื่อเป็น :hao3:

เพื่อน ตาย เลยก็ยัง ได้ ติน เป็นเพื่อน เพียงคนเดียว ที่อยู่กับผม มาตั้งแต่สมัย อนุบาล ด้วย บุคลิก หน้าตา

ส่วนสูง(ที่เกินวัย) นิสัย และการเรียนที่ดีๆ เอามากๆ (อะไรจะเกิดมาเพอเฟคขนาดนั้นพ่อคูณณณณ) พูด แล้วเหมือนจะโม้ ก่อนที่ผมกับ
ไอติน จะมาเป็นเพื่อนรักกันได้ขนาดนี้ เราผ่านอะไรด้วยกันมาก็มากมายเพราะไอตินมันเป็น คนที่มีจิตใจดี มาตั้งแต่เด็กๆ

แล้ว จึงมักจะคอยช่วยเหลือเพื่อนคนอื่นๆ อยู่เสมอ รวมถึงตัวผม“ก็ได้ ไอติน นี้แหละ ช่วยชีวิต เอาไว้  จากการพลัดตกน้ำ
 
เมื่อครั้งที่ผมยังเป็นเด็ก หลังจากเหตุการณ์ นั้น ทำให้ผมไม่สามารถ อยู่ใกล้บริเวณ ที่มีน้ำมาก ได้อีกเลย แต่มันก็คุ้มนะที่

อย่างน้อยผมก็ยังได้เพื่อนดีๆ  อย่างมันมา แต่ก็มีหลายครั้งที่มันพยายาม ช่วยให้ผมเลิกกลัวน้ำ แต่ ไม่ว่าจะลองซักกี่ครั้ง
 
ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยังเหมือนเดิมอยู่ดี ฮ่าๆ” ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมาทำให้พวกผมสองคนสนิทกันเอามากๆ จนใครหลายคนใน  โรงเรียนคิดว่า ผมกับมันเป็น ผัว เมียกันไปซะแล้วแต่ดูเหมือนกับว่ามันจะไม่ได้ใส่ใจอะไรคงจะมีก็แต่ผมนี้แหละ ที่

กังวลอยู่ ฝ่ายเดียว ทั้งทีอีกฝ่ายไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเล๊ยยย    - -‘

ถ้าจะมีเรื่อง ดีๆเกิดขึ้นกับผมทั้งสองคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องน้อยก็ตามเราก็มักจะไปฉลองด้วยกันสองคน เสมอ

รวมถึงงานวันเกิด  ของ ผม ที่มีเพียงแต่มัน คนเดียวเท่านั้น ที่จำได้ ส่วน คนในครอบครัวของผมเหรอ ไม่เคยคิดจะใส่ใจกับ

มันเลยด้วยซ้ำ ผมมีพี่ชายคนโตอยู่หนึ่งคน  ฉลาด และเรียนเก่ง ส่วนพี่คนรอง ก็ได้ความฉลาดและหัวดีกันมา

ติดๆ คงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม พ่อแม่ถึง รักและเอาใจใส่พี่สองคนได้มากขนาดนี้ แตกต่างจากตัวผม ที่เกิดมาก็เหมือน

จะกลายเป็นส่วนเกิน ของครอบครัวนี้ไปโดยปริยาย(และก็เป็นวันเดียวกันกับที่แม่ของผมต้องตายด้วยอาการตกเลือด

อย่างหนัก) และด้วยการที่ผมเรียนไม่เก่งและไม่ฉลาดเหมือนพี่ชายและพี่สาว ทั้งสอง ทำให้ผมรู้สึกเหมือน ว่า ตัวเองอยู่ตัวคน

เดียว ทั้งๆ ที่ในตัวผม ก็ยังมีสายเลือดของพวกเขาอยู่ ยังอาศัย นามสกุลของพวกเขาอยู่ แต่ทำไม ผมยังรู้สึกเคว้งคว้าง

แปลกๆ        ผมต้องใช้เวลาในวัยเด็ก ของ ผมแทบจะทุกวัน กับการเรียนพิเศษ ซึ่ง มันไม่ได้เข้าไปในหัวสมอง ผมเลย

แม้แต่นิดเดียว ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมมีเวลาแม้แต่จะทำความรู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆที่ โรงเรียน แต่ดูเหมือน ฟ้าจะมีตา

ภายในไม่กี่วันก็ มีเพื่อนบ้านเข้าย้ายมาอยู่ใหม่ ซึ่งก็ทำให้ผมได้พบกับ ติน เพื่อนคนสนิทข้างบ้านที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่ ซึ่งไอ

ติน ก็เป็นเด็กที่มี ไอคิว สูงมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และเหมือนจะเป็นความบังเอิญเข้าไปอีก เพราะ พ่อ ของ ติน กับพ่อของ ผม

เป็นเพื่อนสมัย ม.ปลายที่เคยเรียนอยู่ด้วยกัน เรียกได้ว่า ซี้กันมากๆ เลยหละ ถึงขั้นมีชื่อที่ไว้ใช้เรียกกันสองคนเข้าใจกัน

สองคน และด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้ทำให้ผม กับไอตินสนิทกันตั้งแต่นั้นมา จนพ่อ ของมันแกล้งๆ พูดออก มา  ว่า

“นี้ถ้าลูกชายของเอ็งโตขึ้นมาเมื่อไห่รนะ ข้า จะให้ลูกของเอ็ง มาเป็นคู่มั่นของลูกชายข้าเลยเว้ย ฮ่าๆ”(อารมณ์คนเมามักจะเป็นงี้แหละ)

ซึ่งทั้งสอง ต่างความคิดเห็นตรงกัน และต่างคนต่างคิดว่า ผมกับไอตินป็นแฟนกันไปโดยปริยาย

น่าจะถามความคิดเห็นลูกๆหน่อย ผมชายทั้งแท่งนะพ่อ ><

(นี้แหละคือเรื่องราวสมัยเด็กของผมอาจจะดูน้ำเน่านิดๆแต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เรื่องที่ผมพูดมา (ล้วนเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นทั้ง
นั้นก็นี้มันฟิคนี้นา)ล้อเล่นๆเป็นเรื่องจริง ทั้งหมดแหละครับ )

เซอร์ไพรท์ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

“แท้แดมมมมมมม!!!!!!!! ตกใจละสิมึง วันนี้กูพาผัว ไม่สิต้องเรียกว่าที่คู่มั่นจริงไหมครับพี่อิน”

“จริงค่ะน้องวินนน”

“ผัวห่าผัวเหวอะไรกันละ เมื่อไห่รแต่ง” กร้ากกกกก เสียงหัวเราะของไอวินขำแบบแทบจะกลิ้งอยู่ในห้องครัวเลยด้วยซ้ำแต่จะว่า

ไปมีแต่มันที่ขำฟินสุดๆอยู่คนเดียวนี้แหละ เกินการไปนะมึงบางที = =’

“ไม่เจอกันนานคิดถึงกันไหม?”(คราวนี้กลับเป็นเสียงนุ่มๆของไอตินที่กำลังเดิน(ไม่สิเรียกว่าวิ่งถึงจะถูกมาเร็วปานสายฟ้าฟาด)กรู่

เข้ามากอดผมอย่างแรง(ย้ำว่าแรง))

“โอ้ยๆ เบาๆ ไอห่าหายใจไม่ออก”(มันก่อนรัดผมไว้ซะแน่นทำเอาผมที่ยืนนิ่งๆอยู่นี้ถึงกับหายใจไม่ออกเลยหล่ะ)

“เออ ไม่เจอกันนาน จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ปาไป สิบสองปีได้แล้วมั้ง” (พ่อของไอตินทำธุรกิจอยู่แถบยุโรปซึ่งคงยากถ้าจะบินกลับ

ไปกลับมาคอยรับคอยส่งไอตินเหมือนทุกๆที พ่อของไอตินเลยตัดสินใจให้มันไปเรียนต่อและอยู่กับพ่อมันที่เมืองนอกแทน)

“ ! แล้วมาทำไมถึงไม่โทรมาบอกกู”

“ก็ตอนแรกกะจะมาเซอร์ไพทร์เจที่บ้านเนี้ยแหละ แต่เจไม่อยู่มาถึงตินก็เห็นแต่น้องเอิร์นอยู่คนเดียวเลย จริงไหมจ๊ะน้องเอิร์น”

“จริงค่ะพี่ติน”(ไอตินมันมันมักจะเป็นเป้าสายตาของสาวๆอยู่เสมอ  อาจเป็นเพราฐานะ หน้าตา และการเรียนที่ดีเอามากๆทำเอา

สาวๆหลายคนนี้แถบจะถวายมดลูกใส่พานทองให้กับมันเลย ได้ข่าวว่าได้เกีรยตินิยมมาจากที่นู้นด้วยนะเออออ !)

“แล้วนั้น ใคร หรอ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง เจ อ่ะ ?” (ไอตินมันเป็นคนที่อารมณ์แปรปวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาอะไรกับมันไม่ค่อยได้เลย)

“ไหนใคร”(ผมรีบหันหลังกลับไปมองบุคคลที่ยืนจ้องตาทะเม้งอยู่ด้านหลัง) “อ๋อมันชื่อ อสูร..เอ้ยย ชื่อกาย มันชื่อไอกาย เป็น

เพื่อน ของไอวินนู้น” (พูดเสร็จไอติน พี่อิน และน้องเอิร์นก็หันไปสบตาปิ้งๆใส่มัน (แต่คงจะมีแต่พี่อินกับน้องเอิร์นนี้แหละที่ส่งสาย

ตาปิ้งๆให้ไออสูรกาย) ไม่รอช้า พี่อิน ที่กำลังเกาะแขนเกาะขาของไอวินอยู่ก็รีบปล่อยซะแบบ ….ก็นะ อาการเดียวกันกับที่กำลัง

ซื้อของอยู่ๆเหลือบไปเห็นป้าย SALE 70%ไรงี้ อารการเป็นอย่างงั้นแหละครับสองสาว )

“ไอกายที่ตอนนี้ คงจะตกใจกับสายตาพิศวาสของสองสาวเข้าอย่างจัง แต่มันก็ไม่รอช้าที่จะกล่าวสวัสดีพี่อินกับน้องเอิร์นน”

“เอ่อ สวัสดีครับ” (อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!! ><)

(เพียงเท่านั้นแหละครับห้องครัวในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสองสาวที่กำลังคลั่งไอกายซะแบบไม่ลืมหูลืมตา ) แหม่ที่กับผม นี้เฉยชากันเลยนะ T^T พูดแล้วมันแซดดดด !!)

“เออพี่กายค่ะ พี่กายเรียนอยู่คณะอะไรหรอค่ะ พี่กายชอบอะไรหรอค่ะ แล้วพี่ มีแฟนรึยังละคะ ถ้าไม่มี หนูขอสมัคเป็นแฟนพี่กาย

ยเลยยจะได้ไหมค่ะ” (หมดกันภาพพจน์น้องสาวที่น่ารักของผมไปหมดแล้ว เห็นคนหล่อๆ เป็นไม่ได้ต้องออกอาการตลอด ดีนะที่

พี่อินไม่เป็นไปด้วยอีกคน = =’ เฮ้อๆ)

“เบาค่ะน้องเอิร์นเก็บอาการหน่อยลูก ว่าแต่ ยังไม่มีแฟนจริงๆ ใช่ไหมค่ะ ตอนนี้พี่โสดนะค่ะสนใจอยากจะเป็นเจ้าของร้านอาหารที่นี้รึเปล่า” (น่านนไงพูดไปยังไม่ทันขาดคำเป็นไปอีกคนแล้ววว โอ้ยยย เอือมม กับสองสาวนี้จริงๆ)

“ไม่จริ๊ง! นะค่ะ พี่กายขา พี่อินหน่ะมีผัวเอ้ยย มีสามี แต่งงานกันแล้วด้วย จะมีก็แต่หนูนี้แหละค่ะ ที่ยังโสด!!(ตะโกนใส่หน้าพี่อิน)

 ฮ่าๆ เป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ พี่อินตอนนี้ ยืนหน้าเสียไปเลยหล่ะครับ ก็ใครจะไปคิด ว่าน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง จะกล้าหักหน้าพี่สาว ต่อหน้าชายยหนุ่มได้ถึงขนาดนี้ ! 5555 ”

“อะแฮ่มมม ไหนๆน้องเจก็มาถึงแล้ว งั้นก็จัดโต๊ะได้เลยจ๊ะ”(พี่อินพูดพลางเดินไปลากน้องสาวตัวดีที่ตอนนี้ ยืนเกาะแขนของไอ

กายอยู่ ชนิดที่ว่า ตุ๊กแกยังอายยย มานี้เลยยัยน้องสาวตัวดีมานี้มาช่วยงานพี่ในครัวเร็ว)

“แต่หนูอยากอยู่กับพี่กายนี้ค่ะ” งั้นสิ้นเดือน ก็ไม่ต้องเอาแล้วนะ Iphone 6 plus หน่ะ”

“อุ้ยพี่กายหนูขอโทษนะคะที่ต้องไป แต่หนูมีธุระด่วนที่ต้องไปทำก่อน ไว้จะกลับมาหลังจากหนูเสร็จงานแล้วนะ ค่ะ ไม่ต้องคิดถึง

หนูนะค่ะ หรือถ้าคิดก็แว๊ะมาหาหนูที่ห้องครัวได้ ตลอด เลยนะ” (พูดจบน้องสาวสุดสวยก็วิ่งตามพี่อินต้อยๆ เชื่องดีนะน้องเรา ฮ่าๆ)

“อ่อหนุ่มๆ ไปรอที่โต๊ะกันเลยนะจ๊ะ เดี๊ยวพี่กับยัยเอิร์นจะเอาอาหารไปเสริฟ์ให้เองจ้ะ” (หลังจากที่พี่อินพูดจบพี่แกก็เดินหายเข้า

ไปในห้องครัว ส่วนผมก็เดินนำทางเพื่อนๆ (ทั้งสองคน) ตอนนี้ผมตัดขาด(กับไอวินนมันนแล้ว ครับ นอยยยย))

“พวกมึงจะกินอะไรกันไหม เดี๊ยวกูทำมาให้” (เมื่อมาถึงโต๊ะผมก็อาสาจะทำอะไรเย็นๆให้เพื่อนๆ ทุกคนดื่ม(ยกเว้นไอวิน ชิสสสส!))

“กูเอา……….”

“หา แดกเอง”

“ต…ต แต่ๆ!”

“แต่อะไร กูยังไม่ได้คิดบัญชีแค้นกับมึงนะไอวิน นั่งเงียบๆ ไว้ไอห่า” (จ๋อยเลยครับบตอนนี้ไอวินได้แต่นั่งก้มหน้าไม่กล้าที่จะสบ

ตากับผม เลย สงสัยคงจะกลัวผมฟรีคิ๊กใส่หน้ามันแน่ๆ แต่ผมก็แค่พูดไปอย่างนั้นแหละครับไม่ได้โกรธอะไรมันหรอกกะจะแกล้งอำมันเล่นเฉยๆ)

“ของติน เอา โอวันตินปั่นละกันเน้อ”(อ่อลืมบอกไปว่าถึงพี่อินจะมีร้านอาหาร แต่ก็มีมุมของเครื่องดื่มอยู่นะ อยู่ห่างกันแค่ห่างกัน

แค่สิบก้าวเองมั้ง เป็นมุมของกาแฟ ที่ได้บาริสต้าหนุ่มมือดี(อย่างผม)มาช่วยดูแลตรงนี้อยู่บ่อยๆ )

“ส่วนของมึง หากินเอาเองไอวิน”(ฮ่าๆ)

“ส่วนของมึงอสูรกาย เดี๋ยวกูจะทำอะไรเด็ดๆมาให้มึงกินเอง หึหึ !” (สีหน้ามันชะงักหลังจากที่ได้ยินคำว่าเด็ดๆจากปากของผม

สงสัยมันคงจะกลัวผมใส่ยาเบื่อลงในกาแฟมันละมั้ง(น้านคนอ่านรู้หมดเลยย)แหมม่ )




………………………………………………………………………………………………………………………..

“แท๋นน แท๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนน!” เสร็จแล้วเคื่องดื่มอันน่าพิศวงของเพื่อนๆทุกคนๆ ยกเว้นมึงไอวิน(ยังไม่เลิกแกล้งมัน

อีก ฮ่าๆ จริงแล้วผมก็ทำมาเพื่อมันนั้นแหละแค่แกล้งพูดไปงั้น)

“อะอันนี้ของมึง ไอตินน โอวันตินปั่น ” (Thank You My Daling) เสียงขอบคุณของไอตินที่ทำเอาผมในตอนนี้เสียวสันหลังวูป

เลยละครับ”

“นี้ของมึงไอเพื่อน ระยำ นมสดปั่น ”(ไอวินมมันชอบนมสดปั่นเอามากๆ มันเคยบอกว่าติดใจฝีมือที่ผมทำ ถ้าวันไหนๆว่างมักก็มักจะมาซื้อหรือ(ปะเลาะแดกฟรี)อยู่บ่อยๆ)

“นึกว่ามึงจะลืมกูซะแล้วว ไอเพื่อนเวร”

“กูไม่ลืมมึงหรอกน่า แดกๆ ไป อย่าบ่น”

“อ่ะ แล้วนี้ ของมึง ไออสูรกาย !! หึหึ” (มันนั่งจ้องแก้วกาแฟที่เต็มไปด้วยฟองนมพร้อมกับลวดลายอันสวย(สะพรึง)ที่ผมวาดให้

กับมัน ผมแอบเห็น มันนั่งยิ้มอยู่คนเดียวไปพักนึงก่อนมันจะค่อยๆกินอย่างผู้ดี(ต่างจากไอสองตัวที่ผมพึ่งให้ไปก่อนหน้านี้ ซึ่ง

ตอนนี้ เหลือเพียงแต่แก้วที่ว่างเปล่า?)เหอะๆ กูจะคิดว่า พวกมึงแค่ หิวน้ำเฉยๆก็แล้วกัน )



……………………………………………………………………………………………………………………………..

(ผ่านไปได้ซักพักนึก พี่อินกับน้องเอิร์นก็เดินมาพร้อมกับอาหารที่สุดแสนจะอลัง(ย้ำว่าอลัง)เพราะของที่พี่อินถือมาในมือนี้

ต้องเรียกว่าเย๊อะเอามากๆ ผมกับไอวินนั่งจ้องตากันปริบๆพร้อมพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจอะไรตรงกัน! ได้เวลาสวาปามมแล้วเรา ฮ่าๆๆ )

“มาแล้วจ้า กุ้งอบวุ้นเส้นฝีมือพี่แล้วก็ปลากะพงนึ่งมะนาว พร้อมกับสลัดน้ำใสๆ และ(อาหารอย่างอื่นอีก)บลาๆๆ”

(ประมาณอีกสองสามอย่างครับ ส่วนน้องเอิร์นที่เดินมาพร้อมกับจานสองใบ ที่มีใครเจียว ใช้ซอสวาดเป็นรูปหัวใจมาสอง

จาน ผมนี้แอบยิ้มกุ่มกิ่มอยู่คนเดียว นานๆที จะได้กินอาหารฝีมือน้องเอิร์น คงจะมีก็แต่ไอวินนี้แหละครับที่มักจะได้กิน

อาหารฝีมือน้องเอิร์นอยู่บ่อยๆเพราะมันชอบมาช่วงตอนนี้ ผมไม่อยู่บ้าน จะได้มา(ม่อ)น้องเอิร์นได้สะดวกๆ)


‘”เย้พี่ดีใจจังเลยในที่สุดพี่ก็มีโอกาสได้ทานกับข้าวฝีมือน้องสาวบ้างแล้ว”(น้องเอิร์นวางจานไข่เจียวไว้ข้างหน้าของผม

ในขณะผมกำลังจะตักไข่เจียวเข้าปาก…..)

“แป๊ะ” โอ้ยยยย น้องเอิร์นตีมือพี่ทำไมละค่ะ ? ผมถามนน้องเอิร์นกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ?

“กินไม่ได้นะคะ จานนี้น้องเอิร์น ทำมาให้พี่กายต่างหาก” (น้องเอิร์นส่งสายตาหวานหยดย้อยปานจะกลืนกิน ไปให้ไอกายที่นั่ง

จิ้มๆ โทรศัพท์อยู่ ก่อนจะเงย หน้าขึ้นมายิ้มให้กับน้องเอิร์น ทำเอามือที่ถือจานไข่เจียวอีกข้างนิ่ แถบจะคว้ำใส่หัวผม )
= =’

“อ๋องั้นอีกจานคงของพี่สินะ”(น้องเอิร์นวางจานไข่เจียวจานที่สองไว้ตรงด้านหน้าผมเหมือนเดิม”

“พี่จะกินแล้วน้า !!! อ้าๆๆๆๆ”

“แป๊ะ น้องเอิร์นตีพี่อีกทำไมหล่ะค่ะอย่าบอกนะว่า……” ใช่ค่ะจานนี้ก็ไม่ใช่ของพี่เจ เหมือนกัน”  จานนี้ ของพี่ตินต่างหาก พี่ติ

นค่ะ เอิร์น ทำไข่เจียวมาให้พี่ค่ะ (พลางส่งสายตาคล้ายๆกันกับที่ส่งให้ไอกายไปเมื่อครู่)

“โถ่ แล้วของพี่ละคะน้องเอิร์น ไม่มีของพี่ บ้างเลยหรอ T^T ”

“มีคะ”  จริงหรอไหนละจานไหน รึว่าน้องเอิร์นจะเอามาเซอร์ไพทร์พี่ ที่หลังใช่ไหมล๊า!! รีบเอาออกมาได้แล้ว ตอนนี้พี่หิวจนไส้จะขมวดเป็นปมแล้ว”     

“ แต่ไม่ใช่วันนี้” “ทำไมน้องเอิร์นทำกับพี่อย่างงี้ละค่ะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ ฮือๆ”(ต่อมมารยาของผมเริ่มทำงาน)

“โอ่ๆก็พี่เจ ก็อยู่กับน้องทุกวัน เอาไว้วันหลังน้องค่อยทำให้พี่เจกินใหม่ก็ได้นิ่คะ แต่พี่ กายกับพี่ติน ไม่รู้ว่าเมื่อไห่รจะมาอีก เอิร์นก็

เลย ถือโอกาส(ที่แสนจะหายากนี้)ทำอาหารให้พี่ๆทั้งสองคนทานน เป็นไงชอบบกันไหมเอ่ย ”(น้องเอิร์นพูดพลางขยิบตาข้าง

หนึ่งเป็นสัญญาณอันตรายว่า(ให้พวกมันสองตัวระวังตัวเอาไว้)ฮ่าๆ มึงสองคนโดนเข้าแล้วไง)

“ชอบครับ”

“ชอบครับ” (มันสองคนพูดพร้อมกัน(ยังกะเตี๋ยมกันมาก่อนที่น้องเอิร์นจะลงไปนอนบนพื้นด้วยความเขินน)แหม่เห็นแล้วอยากระโดดถีบหน้าหล่อๆของพวกมันสองคนเลยจริงๆ = =’)
 :katai1:

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 12-12-2015 22:58:24
นายเอก ซื่อ กับ โง่มาก เส้นบางๆกั้นแค่นั้นเอง
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-12-2015 10:29:13
ประมาณ ว่าไม่ได้มีความรักมานานอะไรงี้ไง ! 55 แต่เดี๋ยวๆดูไป ก็น่าจะพัฒนาขึ้นเองครับ ^ ^
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-12-2015 11:14:06
อ่ะเจลองกินหน่อยไหม?”(เป็นไอตินครับที่พูดขึ้นมาขณะที่ผมตอนนี้หิวจนแทบจะกินช้อนที่คาอยู่ที่ปากได้แล้ว (อารมณ์คนหิวนี้

มันนน่ากลัวจริงๆนะครับบพี่น้อง)ผมก็ไม่กล้าที่จะปฎิเสธน้ำใจของมัน (ก็เลยต้องจำใจ(หรอ)กินไข่เจียวฝีมือน้องสาวของผมเป็นเพื่อนมัน))  :hao6:

จะทานแล้วนะค๊าบบบบ อ้า อ้ำ !!! หงับบบๆ! อึก! ! ”(สิ่งแรกที่ผมคิดหลังจากทานไขเจียวฝีมือน้องสาวเข้าไปในปาก คือ นึกว่า

รถโรงงานน้ำตาลคว้ำใส่ อะไรมันจะหวานขนาดเน้ !!! ผมน่าจะเอะใจตั้งแต่มันยอมแบ่งผมตั้งแต่ที่แรกแล้ว หืมม ถึงกินหมดนี้ได้

เบาหวานลงกันพอดี = =’)

พอหันแฉลบไปมองไอคุณชายเท่านั้นแหละครับ (ผมก็ต้องอึ้ง อึ้ง!! จริงๆ ที่ไอคุณชายนั่งกินไปนั่งเล่นโทรศัพท์อย่างสบายใจเชิบ ทำเอาผมที่กำลังอึ้งอยู่เนี้ยต้องเอ่ยปาก(ไม่สิเรียกว่ากระซิบถึงจะถูก)บอกมันไป)

“เฮ้ย ไออสูรกาย มึงไม่ต้องฝืนกินนขนาดนั้นก็ได้ เดี๋ยวก็ได้เบาหวานแดกกันพอดี” (พอผมพูดจบไอกายมันก็ละสายตาจากหน้าจอก่อนจะหันมาพูดกับผม)

“ก็ไม่เห็นเป็นไร นิ่ อร่อยดีออก !” (หึ้ยย รึว่า น้องเอิร์นจะวางยาแค่ไอติน ไม่ได้ละสงสัยจะต้องลองชิม ผมรีบแย่งซ้อมอยู่ที่มือ

ของไอกาย(มันทำหน้าเหวอๆ ) ก่อนจะรีบตักไข่เจียวเข้าปากไป หงับบบ!!! เอื๊อกกกก!!!! หนักกว่าเก่าอีกคครับพี่น้อง นี่มันรถ

น้ำตาลคว้ำสองคนแล้วมั้งเนี้ย (สงสัยจะเป็นน้ำตาลมิตรผลแน่ๆแม้งหวานนชิบบหายย )(ไม่ได้มีการโฆษณาแอบแฝงแต่อย่างใด ))
“ผม ได้แต่พยายามเคี้ยวๆ และกลืนเข้าไป เพราะตอนนี้น้องเอิร์นทีพึ่งจะลุกขึ้นมา(จาก อาการเขินแล้วนอนดิ้นไปดิ้นมา)ยืน

กอดอกจ้องหน้ามาที่ผม เหมือนจะรอ คำตอบอะไรซักอย่างจากผมอยู่)

“อื๊มมมม อร่อยยมากเลยครับบน้องเอิร์น”(สถานการณ์มันบังคับนะครับเลยต้องพูดอย่างงี้ไป ขืนบอกว่าไม่อร่อยไปมีหวังซี้แหงแก๋กันพอดี)     

  “จริงๆหรอค่ะ เอิร์นว่าแล้ว ว่าพี่กับเพื่อนๆพี่น่าจะชอบ งั้นเดี๋ยว เอิร์นจะไปทำส่วนของพี่เจมาให้นะคะรอ แปปเดียว ”

“เอ่อๆๆ!!!! น้องเอิร์นไม่ต้องลำบากหรอกนะครับ ตอนพี่ก็ได้กินฝีมือของน้องเอิร์นแล้วไม่เป็นไรจริงๆ”(ผมรีบหาทาง

พยายามปฎิเสธน้ำใจของน้องเอิร์นอย่างไวเลยหละครับ ผมแอบเหลือบไปเห็นไอคุณชายนั่งหัวเราะคิกๆ อยู่ในลำคอ

 เหมือนมันจะแอบขำผมอยู่ แต่ก็แอบคิดไม่ได้นะ ว่าที่ไอวิน มันมาที่นี้ทุกๆวันๆเนี้ยมันทนกินอาหาร(ต้องเรียกว่ายาพิษ)

ฝีมือน้องเอิร์นเข้าไปได้ยังไง ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ หรือนี้คือสิ่งที่เขาเรียกว่า (พลังแห่งความรัก ฮ่าๆ))

“ส่วนอีกรายวิ่งออกไปคุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอกแล้ว สงสัยมันคงรู้ชะตากรรม”

“อ้าวๆ มัวแต่กินไข่เจียวอยู่นั้นแหละ แล้วอาหารบนโต๊ะที่เหลือนี้หล่ะทำยังไง”  :fire: (เสียงของพี่อินเริ่มบ่นฟึดฟัดหลังจากที่พวกผมทั้งสี่คนไปให้ความสนใจกับอาหารของน้องเอิร์นมากกว่าสงสัย พี่อินแกคงจะนอย)

“โอ๋ๆ ไม่นอย สิพี่อิน เจ ก็แค่ลองชิมอาหารฝีมือน้องดูเฉยๆ เจไม่มีทางลืมกินอาหารฝีมือของพี่อินหรอกน่า จริงไหม ไอวิน มัน

พยักหน้าแทนตอบ ว่า อืมม ใช่ ความเห็นตรงกัน !”

“อ้าวแล้วน้องตินน หายไปไหนแล้วเนี้ย พี่เข้าไปหยิบของมาแปปเดียว หายไปไหนซะละ”

“มันออกไปคุยโทรศัพท์กับกิ๊กมันละมั้งพี่อิน เห็นมันออกไปได้ซักพักแล้วอ่ะ” (ตายยากจริงๆพอผมพูดจบไอตินก็เดินเข้ามาพอดี)
“ฮัลโหลล ดาลิ้ง!! ว่าไง ไอ ออกไปแปปเดียว ก็บ่นถึงไอเลยหรอ” (มันเดินดุ่มๆมาก่อนดินมาข้างๆและก้มลงหอมของแก้มของผม)
“มั้ว!!!!(เสียงจูลหน่ะ แบบ มั่วๆ ม๊วฟๆ จุ๊ฟๆ อะไรงี้ ฮ่าๆๆๆ) เป็นไงหายคิดถึงรึยัง”
 :hao7:
“คิดถึงห่าคิดถึงเหว อะไรมึง แล้วอยู่ดีๆ มึงมาหอมกูทำไมเนี้ย”(ผมรีบผลักหน้าของมันออกไป ก่อนจะยกมือของตัวเองขึ้นมาเช็ดหน้าอย่าง หย่ะแหยงง !)

“อ้าวก็เห็นยูบ่นถึงไออยู่ ไอก็เลยคิดว่า ยู คิดถึงไอมาก ไอก็เลยให้รางวัลอยู่ไปแทนความคิดถึงไง”(พูดจบมันก็ยืนขำอยู่คน

เดียวพักนึงก่อนจะนั่งลงข้างๆผม ) (แต่หลายคนคงจะแปลกใจว่าอยู่ๆไอตินก็เดินเข้ามาหอมแก้มผมทำไมถึงไม่มีใคร

เอะอะอะไรเลย เป็นเพราะว่า พวกพี่เขาชิน ใช่(พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก)สมัยที่ผมมีมันเป็นเพื่อนตอนเด็กผมกับมันมักจะ

เดินไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด บาง ครั้ง ตอนที่คุณครูให้เล่นเกม ครูก็มักจะให้จับคู่หญิงชาย มีแต่ผมกับไอตินนี้แหละที่

เล่นคู่กันอยู่เสมอ ไอวินมันจะชอบหอมแก้ม ผม เวลาที่ผมทำหน้าบึ้ง รึตอนที่ผมร้องไห มันจะตบไหล่ผมเบาๆแล้วกระซิบ

ข้างๆหูผมว่า (ในวันที่เจเจไม่เหลือใคร เราอยากให้เจเจ นึกถึงเราเป็นคนแรก จะได้ไหม ?) ซึ่งพี่อิน ก็มักจะแอบเห็นอยู่บ่อยๆ

รายนี้เลยเฉยไป คงจะมีก็แต่ น้องเอิร์น ไอวิน และ..ไออสูรกาย ที่ตอนนี้มันทำหน้าอึ้ง ทึ่ง(ไอกายถึงกับทำซ้อมหล่นจากมือเลย

ย ท่าทางคงจะช็อคหนักมาก)  กับสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อครู่ สงสัยคงจะช็อคไปตามกัน)

“เงียบกันทำไมวะ?”(บรรยากาศที่ครึกครื้นเมื่อครู่ตอนนี้กับมีแค่เสียงของแอร์ภายในร้านที่ดังสะนั่น ถ้าหากตอนนี้ใครแอบตดนะ

รับรองได้ยินถึงปากซอยย )

“มึงกับไอติน………..”

“พอ พอเลยมึงคิดอะไรกันอยู่เนี้ย กูกับไอตินแค่เพื่อนกัน อย่าคิดอะไรกันไปทั่วหล่ะ”

“แต่เมื่อกี้พี่เจกับพี่ติน……..อร้ายยยยย หอมแก้มกัน ><”(อ้าวไอผมก็นึกว่าน้องเอิร์นจะตกใจซะอีกที่ เห็นไอตินมันเข้ามาหอมแก้ม ผม ไหงเป็นีง้ไปก็ไม่รู้)

“มันชอบลวนลามพี่อย่างงี้แหละครับน้องอินอย่าไปสนมันเลย ! (ส่วนผมก็รู้สึกเฉยๆแล้ว นะกับการกระทำที่อุกอาดของมัน)”

“ตายๆ ทำมานานแล้วด้วยย อร้าย!”(หน้าของน้องอินตอนนี้แดงเป็นลูกตำลึงเลยละครับ ไม่รู้จะน้องแกจะเขินอะไรกันนักกันหนา)

“มึงกับมันเป็น……..”

“มึงเลิกคิดอะไรเลวๆได้เลยไอกาย กูก็เพิ่งจะบอกไปหยกๆ ว่ากูกับมันแค่เพื่อนกัน จริงไหมไอติน?”

“ห๊ะ หืมม จริง ครับ จริง”(มันมัวแต่มองโทรศัพท์และยิ้มเหม่อเหมือนคนไม่ค่อยจะเต็มอยู่ข้างผม สงสัยมันจะไม่ได้ฟังที่ผมพูดไปเลยแหะ)

“งั้นเพื่อนๆทุกคนก็สามารถทำอย่างนี้ กับมึงได้เหมือนกันหรอ”(ไอคุณชายหันกลับมาถามผมที่ตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตากินกุ้งอบวุ้นเส้น ฝีมือของพี่อินอยู่)

“ก็ถ้าพวกมึงบริสุทธิใจ กูก็ไม่ว่าอะไร”(ผมหันไปมองคุณชาย ซึ่งหน้าของมันในตอนนี้คงจะอึ้งกับคำตอบของผมเป็น อย่างมาก

ทำเอามันหยิบจับอะไรไม่ถูกเลย หยิบช้อนมากินกุ้งอบวุ้นเส้น ส่วนส้อมมันก็ไปจิ้มอยู่ที่ต้นขาของไอวินทำเอาตอนนี้มันสั่งเสียง

ร้องควรญครางด้วยความเจ็บปวด)

“โอ้ยย ไอคุณชายย มึงจะจิ้มขาของกูเพื่อ มันแดกไม่ได้นะสัด!!!! ร…….รึว่ามึงจะเป็นลูกหลานของซีอุยยย ไม่นะ ม้ายยยย”

พลั่ววววว!!! (กลางกะบาลนั้นแหละผมละโคตะระ ซะใจจริงๆ)

“ฝ่ามือยาวๆของไอคุณชายเอื้อมไปตบหัวของไอวินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของมัน (ระยะห่างกันเพียงนิดเดียว )”

“จะแหกปากทำไม เดี๋ยวคนอื่นเขาก็พากันตกใจกันหมดหรอก”(คนอื่น ? ผมมองหาทั่วร้าน ก็เจอลูกค้า อยู่ประมาณ สองสามโต๊ะ

ที่ดูจะคุ้นหน้ากันอยู่บ้าง สงสัยจะเป็นลูกค้าประจำของพี่อินแกละมั้งนอกนั้นก็มีแค่กลุ่มของพวกผมนี้แหละ)

“แล้วมึงเหม่อลอย จิ้มกูทำไมละครับ ไอคุณชาย น่องกูนะ ไม่ใช่น่องไก่ แม้งจิ้มกูจะพลุนเลย มึงดูดิ่เจ”(มันเอามือไปถูที่น่อง

เบาๆ ก่อนนจะหันหน้ามามองที่ผม เห้อๆ น่าจะทำแรงๆ กว่านนี้นะไอคุณชาย)

“ไหนๆ เออ ๆ ไอคุณชายมึงจะไปแกล้งมันทำไม เห็นไหมมันเจ็บหมดไปหมดแล้วเนี้ย”(พอผมพูดจบไอวินก็เดินอ้อมเข้ามาตรง

ที่ๆผมนั่งอยู่มันเอาหัวเข้ามาซุกอยู่ที่อกของผมเหมือน (ตอนที่โดนเพื่อนแก้งสมัยเด็กไอวินมันจะชอบวิ่งเข้าไปกอดและฟ้องคุณ

ครู) สมัยนั้นมันกะโหลกกะลามากครับ มันมักจะโดนเพื่อนแกล้งอยู่ตลอดๆ ฮ่าๆ)

“โอ๋ ไม่ร้องนะวินนี่ของพี่ ไหนๆ มาหอมที”(ไอวินที่กำลังนั่งกอดกับผมก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะหันแก้มที่ขาวๆของมันเข้ามาใกล้กับริมฝีปากของผม)

“ผม ไม่เป็นไรแล้วครับ พี่เจ ขอบคุณพี่เจมากๆนะครับ อะซิกๆ” (เสียงร้องไหของมึงนี้มารยาจริงๆผมรีบผละตัวมันออกก่อนจะแถมฝ่ามือพิฆาตไปให้มันอีกที)

“พอๆ ลุกไปได้แล้วมึง เดี๋ยวน้องเอิร์นเดินมาเห็นเข้า ได้ กรี๊ดบ้านแตกแน่ (กรี๊ดนี้ชอบนะไม่ใช่ตกใจ ฮ่าๆ) และมันก็เดินกลับนั่งที่โซฟาของมันแต่โดยดี”



……………………………………………………………………………………………………………………………
(ผ่านไปซักพักนึง อาหารที่เคยมีอยู่จนแทบจะล้นโต๊ะก็หายไปในพริบตา (สาบานนะว่าไม่หิว = =’) สภาพของไอวินในตอนนี้ ดู

ไม่ได้เลยครับ มันนอนแอ้งแม๊ง อยู่บริเวณโซฟา ส่วนไอติน ก็ออกไปคุยโทรศัพท์รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ส่วนไอคุณชาย ก็

เผลอหลับไปเพราะความเพลีย สงสัยมันคงจะง่วงจริงๆนั้นแหละ ผมไม่รอช้า รีบ หยิบไอโฟนของผมขึ้นมาก่อนจะกดถ่ายรูปของ
ไอวินและไออสูรกาย แช๊ะๆ!)

(ตอนนี้ทั้งตัวผมและอีกสองชีวิตที่นอน อืดอยู่ตรงนี้ได้แต่บ่นว่าหิวน้ำๆ อะไรซักอย่าง ถ้าตอนนี้มีอะไรมาล้างปากด้วยก็คงจะดี ทัน

ใดนั้นเองไอวินก็สะดุ้งตัวเองขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยปากพูดอะไรที่ดูจะเข้าหูผมเอามาก หึหึ)

“มึงๆ ไม่รู้สึกคอแห้งกันบ้างหรอวะ?” (ไอวินหันหน้าของมันไปถามเพื่อนทุกคน ด้วยสีหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ ก่อนที่ได้กายจะพูดแทรกขึ้นมา)

“มีอะไรวะ ” “นี้ไง แท่น แทนน แท๊นนนนนน ไอวินก้มหน้าไปหยิบอะไรสักอย่างจากกระเป๋าเป้ที่มันหิ้วมา”

“มันคือ?” “เหล้าขาวมั้งไอสัด ก็เห็นกันอยู่ มันคือ น้ำปฏิเสธ”

“น้ำอะไรวะน้ำปฏิเสธ”

“น้ำเปล่า แฮ่”

“มึงรีบลุกหนีไปให้ไว ก่อนที่กูจะโดนถีบมึง ไอห่าวิน !!” (มุขหรือเปลือกหอยกันวะ ไม่ฮาแถมกูเคียดอีก ไอห่า)

” ( ไอตินที่พึ่งจะเดินเข้ามาหลังจากทีออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกอยู่นานสองนานก็ทำหน้างง ที่เห็นหน้าไอวินมันแดงก่ำขนาด

นั้น ก่อนที่มันจะเดินกลับมานั่งที่โซฟาของตัวเอง)

“เงียบทำไมกันวะ”(เสียงของไอตินเอ่ยปากถามหลังจากที่มันเดินเข้ามานั่งข้างๆผม)

“กูก็ไม่รู้ว่าแม่งจะเงียบกันทำเชี่ย!!!!!!!!!!!!อะไร กูแค่เอาน้ำปฏิเสธมาให้พวกมันแดกกันเนี้ย”(ไอคุณชายที่สะดุ้งตื่นจากเสียง

ของไอวิน ที่มันตะโกนโหวกเหวก อยู่ในร้าน ตอนนี้ก็เวลาประมาณสองทุ่มกว่าๆ ลูกค้าหลายๆคนพอกินอาหารเสร็จก็ต่างพากัน

กลับไปหมดแล้วจะเหลือก็แต่ โต๊ะผมอยู่ตัวเดียวภายในร้าน ที่ยังนั่ง งุ้งงิ้ง คุยอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ผมก็เริ่มจะไม่เข้าใจกับภาษาที่ไอวินมันพูดแล้วเหมือนกัน)

“น้ำปฏิเสธอะไรวะ?” (นั้นไงสงสัยมุขกระบือเข้าอีกคนละ)

“พอๆเป็นอะไรเนี้ยไอเหี้…วินมึงเมากาวรึเปล่า?”(ผมตวาดมันกลับไปหลังจากที่นั่งฟังมันบ่นอะไรพึมพำเกี่ยวกับไดโนเสาซักอย่าง)

“กูไม่ได้เมากาว แต่กูเมา ไอนี้ แท้แด่มม” (ไอวิน ยื่นขวดน้ำคริสตัล ที่มีน้ำใสๆ อยู่ใน ขึ้นมาชูไม่ที่หน้าของผม)

“มึงเมาน้ำเปล่าเนี้ยนะ”

“หึ้ยยยย ไม่ช่ายยยๆ มึงลองงงกินดู” (หลังจากที่พูดจบไอวินก็ยื่นขวดน้ำมาให้กับผม ซึ่งผมก็รับแบบลวกๆก่อนจะค่อย เปิดฝาขวดน้ำออก)

“หึ้มม ไอเหี้…ยย ชัดเลยย เหล้านี้หว่า”(ที่จริงก็แอบสงสัยมาตั้งแต่แรกๆแล้ว ว่าทำไม เห็นมันก้มไปกินน้ำเปล่าจากขวดบ่อยจังๆ

ทั้งๆที่บนโต๊ะก็มีทั้งโค้ก แปปซี่ โคล่า แฟนต้า สไปร์(จริงๆแล้วก็มีแค่โค้กกับน้ำเปล่านั้นแหละพูดให้มันดูเย๊อะนี๊ดดดนึง))

(กว่าจะรู้ตัวอีกที ตอนนี้ไอวินมันก็หน้าแดงก่ำ(คงเพราะพิษของแอลกอฮอล)จนตอนนี้มันก็เปิดประเด็นเกี่ยวกับไอโนเสาอีกครั้ง

แล้วละครับ มันพูดไปพลางรินเหล้าที่อยู่ในขวดแก้วของมันอีกหนึ่งขวดให้กับ ไอติน และไอกาย ส่วนผมไม่ได้กินกับพวกมันด้วย
หรอก กลัวจะเพ้อถึงไดโนเสาเหมือนมัน )

“นี้ พวกมืงงง รู้อะไรมั้ยย ก่อนไดโนเสาจะออกลูกเป็นไข่เนี้ย มันออกลูกเป็นตัวมาก่อนน้าเว้ยยย เอิ่กๆ” (ไปหมดแล้วสินะสติมึง

ไหนๆ ก็มีหลุดมาแล้ว ขอถ่ายวดีโอไว้ประจานซักหน่อยก็แล้วกันผมรีบควานหามือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก่อนจะยกขึ้นมาถ่าย
ช็อตเด็ดของไอวินเอาไว้ก่อน) (มึงเสร็จกูแล้ววไอวินน ฮ่าๆ)

“แล้วมึงรู้ได้ไงวะว่ามันออกเป็นตัว ที่กูเรียนมาเขาก็บอกว่ามันออกลูกเป็นไข่นี้หว่า” ไอคุณชายที่ยั่งนิ่งอยู่นาน อยู่ๆก็เปิดประเด็นถามไอวินเกี่ยวกับเรื่องของไดโนเสา)

“รู้แล้วมึงอย่าไปบอกใครนะ เอื้อก ! เอาหู มานี้ คือมันเป็นอย่างนี้น่ะ  @)*^(IY^&^%#$#*& เรื่องทั้งหมด มันก็เป็นอย่างนี้แหละ”

“อ๋อเป็นอย่างงี้นี้เอง” (หลังจากที่ไอคุณชายขยับหูเข้าไปใกล้ๆ กับปากของไอวิน มันก็พูดอะไรซักอย่างดูแล้วไม่เหมือนจะใช่

ภาษาของมนุษย์โลกอย่างเราๆหรอกนะ คงเป็นภาษาของ ยุคหินมันละมั้ง หึหึ ! ไอนี้ก็บ้าจี้ฟังไปกับมัน)

“มึงฟังมันรู้เรื่องด้วยหรอวะ ”(ผมหันไปถามมันทันที ที่มันพยักหน้าหลังจากได้ยินคำตอบของไอวิน)

“ป่าวหรอก กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันพูดว่าอะไร” “แล้วเมื่อกี้มึงจะอ๋อทำพระแสงอะไร?”

“ก็แค่แกล้งๆ เข้าใจ ไป ไม่งั้นเดี๋ยวมันได้บ่นยาวถึงเช้าอีก ” (ดูเหมือนจะไม่ใช่ผมเพียงคนเดียวแล้วที่รู้เรื่อง ไอวินตอนเมาเนี้ย

สงสัยมันสองคนคงจะสนิทกันจริงๆถึงได้รู้เรื่องพวกนี้) (ผมพยักหน้าเข้าใจไอคุณชายหลังจากที่มันพูดจบขณะเดียวกัน พี่อินก็
เดินออกมาจากครัวพอดี)

“อ้าวนี้หนุ่มๆ ยังไม่กลับกันอีกหรอจ๊ะ” (นั้นสินะ ผมนั่งฟั่งไอวินมันบ่นถึงญาติ ยุคไทไดโนซอรัสของมัน ตั้งนาน จนลืมดูเวลาไป

 เลย ตอนนี้ก็เวลาสามทุ่มกว่าๆ ได้เวลาที่ผมและพี่อินจะช่วยกันเก็บข้าวของ ปิดร้านแล้ว)

(ส่วนไอตินมันกลับไปได้ซักพักแล้วเห็นบอกว่ามีธุระต้องรีบไปทำ ส่วนน้องเอิร์นตอนนี้ที่กำลังจะเข้านอน  ก็ชงนมอุ่นๆ สี่แก้ว มาให้มาให้พวกผมที่ตอนนี้กำลังนั่งนอนๆ  ด้วยความเมา  )

“อ้าวพี่ตินไปไหนแล้วละค่ะพี่เจ ” (น้องเอิร์นเดินถือถาดมาวางไว้ที่หน้าของผม ก่อนจะเอ่ยปากถามถึงบุคคลซึ่งไม่ยู่ตรงนี้แล้ว)

“อ๋อมันขอตัวกลับบ้านไปแล้วครับ น้องเอิร์น” (เสียงไอวินตอบบบ)

“อ๋องั้นหรอค่ะ เอิร์นยังไม่ทันจะได้บอกลาพี่เขาเลย ว้า! น่าเสียดาย”

‘เสียดายที่ไม่ได้ลา เขา หรือเสียดายที่ไม่ได้เบอร์ของเขามากันแน่ จ้ะ ยัยเอิร์น ” (เสียงพี่อินตะโกนข้ามฟากมาจากอีกมุมนึง ทำเอาน้องเอิร์นนี้ถึงกับเขิลจนพูดอะไรไม่ถูกเลย ^^ )

“แหม่พี่อินก็ พูดดักคอน้องอยู่เรื่อยเลย อุ้ย พี่กาย ยังไม่กลับอีกหรอค่ะ ”(เสียงหวานๆของน้องเอิร์นเรียกชื่อไอกาย ที่ตอนนี้มันกำลังนั่งหัวสัพหงกอยู่ตรงโซฟาด้วยความเมาเช่นกัน)

“อ๋อพี่ว่าจะกลับบ้านแล้วละครับ ” (สำเนียงมันตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ไหวเลยแหะ ไอกายมันกินไปได้ไม่กี่แก้วเอง ก็ แทบจะสลบอยู่แล้ว หึ คออ่อนชิบหายเลยไอคุณชาย สงสัยจะยังไม่ชินกับเหล้าขาว ฮ่าๆๆๆๆ)

“อุ้ยดู พี่กายของน้องเอิร์นจะไม่ไหวเลยนะคะ ให้พี่เจไปส่งดีรึเปล่า?” (น้องเอิร์นคงจะยังไม่ชินกับการเห็นคนหล่อๆลากไส้อย่างกาย จะเมาเสียสติได้ถึงขนาดนี้ ถือว่าเป็นบุญตาของน้องเอิร์นจริงๆ)

“นี้ยัยเอิร์นรีบมาช่วยพี่เก็บข้าวเก็บของปิดร้านเร็ว อย่าไปยุ่งกับหนุ่มๆ เขา”(พี่อินแกเดินถือตะหลิวมาแต่ไกล ทำเอาน้องเอิร์นที่กำลังยืนคุยกับพวกผมอยู่ถึงกับชะงัก)

“ค่า!! จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” (น้องเอิร์นรีบเดิน เข้าไปในห้องครัว ก่อนจะสิ้นเสียงของพี่อิน)

(เอาละสิ แล้วผมจะทำยังไง กับศพของไอสองตัวนี้ดีละ? โอ้ย ไอห่าตินแม้งก็รีบชิงกลับไปซะก่อน เห้อ รึจะปล่อยให้มันนอน

พะเนินกันอยู่ตรงนี้ดี (ผมไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกน่า)ผมรีบลุกพยุงไอวินเดินขึ้นไปบนห้องของพี่ชายผม(สามีพี่อิน)ห้องนี้ไม่ได้

ใช้งานมาซักพักแล้วละครับเลย มีฝุ่นอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าเยอะมาก อย่างน้อยก็น่าจะพอให้มันใช้ซุกหัวนอนได้ซักคืน (ใครที่มีเพื่อนอย่างนี้ก็ทำใจกันหน่อยละกันนะครับบบ เห้ออออ) เหนื่อยๆ!)

(หลังจากที่ส่งไอวินเข้าไปนอนตายข้างในห้อง ผมก็รีบเดินลงมาที่โต๊ะเพื่อดูอาการของไอคุณชาย ตอนนี้มันตื่นแล้วครับ ดูเหมือนมันกำลังจะหาอะไรอยู่ด้วยผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหามันทันที)

เห้ยไออสูรกาย มึงกำลังหาอะไรอยู่ ให้กูช่วยไหม

“หืมม! อ๋ออออกูหาโทรศัพท์อยู่หน่ะไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหนนน”(โอ้ยอาการชักจะหนัก ผมเดินเข้าไปใกล้ๆมันก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เหน็บหาหูของมันอยู่)

“นี้ไง โทรศัพท์ของมึงเนี้ย ควาย เมาแล้วเลอะเลือนนะมึงอ่ะ”

“มึงเอาโทรศัพท์กูไปซ่อนใช่ไหมห้ะ ๆ”

“ซ่อนเซิ้นอะไรหล่ะ กูเห็นเหน็บอยู่ที่หูของมึงเนี้ย”(ซักกพักมันก็นั่งยิ้มกับโทรศัพท์ของมัน อยู่นาน ทำเอาผมที่เป็นคนมองงยังรู้สึกเอือมไปกับมัน )

“อ้อออ อยู่นี้นี่เองแม้งสงสัยจะมีขาแน่ๆแม้งวิ่งไปทั่วเลย”(มันบ่นพึมพำกับโทรศัพท์ของมันไปพักนึงก่อนจะหยิบขึ้นจิ้มๆหาเบอร์ใครซักคนอยู่ แต่ด้วยอาการที่มันเมาบวกด้วยตาของมันที่แทบจะลืมไปขึ้นอยู่แล้ว ด้วยความที่ผมเป็นหนุ่มที่หน้าตาและจิตใจดี(><พูดเองเขิลเอง) จึงยื่นมือเข้าไปแสดงน้ำใจ ช่วยมันกดโทรศัพท์หาเบอร์ให้)

“อ่ะๆ เอามานี้เดี๋ยวกูกดให้ บอกเบอร์มา”(ผมคว้าโทรศัพท์จากมือมันมา ก่อนจะที่จะกดเบอร์ปลายสายตามที่มันบอก)

“ศ ศูนนย์    ป ป แปดด    ก้าววววว ”

 “โอ้ยชาตินี้มึงจะได้โทรไหมเนี้ย”

“ก้าวว ศูนนนย์ สี่ๆๆ แปดดด สองง สา….ฟุบบบ” (ไปแล้วครับ มันเดินทางไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้หน้าของมันฟุบลงอยู่ที่หน้าอกของผม มันหายใจ ฟืดๆๆ ใส่ที่เสื้อของผม ก่อนที่มันจะบ่นพึมพัมๆอะไรซักอย่าง จนผมต้องแนบบหูเข้าไปใกล้ๆถึงจะได้ยินในสิ่งที่มันกำลังจะพูด)  :hao6:

มึงงงงเกลียดดด กู ขนาดนั้นเลยหรออออ

“ห้ะ ใครๆ กูรึไง”

“ก็เอ่ออสิว้าแค่มาเดินช่วยยกูซื้อของงงแค่เนี้ยยยมันน่ารำคาณณมากกเลยยรึ ไงง” (หลังจากที่มันพูดจบก็ทำให้ผมอึ้งกับสิ่งที่มัน

พูดเลย ก็วันนี้ตอนนี้ผมไปช่วยมันซื้อของ(ไม่สิถือของ)ผมก็เอาแต่บ่นๆมันจนถึง ตอนที่กำลังจะเอาของไปเก็บไอวินก็โทรเข้ามา

แล้วผมก็ใส่ๆไปไม่ยั้งเลยไม่คิดว่ามันจะแอบน้อยใจขนาดนี้ (ผมแคร์ความรู้สึกของเพื่อนทุกๆคนที่ผมรู้จักนะ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เกิด

ขึ้นเพราะผมนะผมยิ่งรู้สึกผิดเขาไปใหญ่ ช่วยไม่ได้เหมือนกันมันกลายเป็นนิสัยของผมไปซะแล้ว ไอเรื่องแคร์ คนอื่นมากกว่าตัวเองเนี้ย))

(ซักพักไอคุณชายมันก็ผลอยหลับไปด้วยความเมา ผมพยายามพยุงตัวมันขึ้นแต่ก็เกินกำลังที่คนอย่างผมจะลุกขึ้นไหว ก็ดูจาก

ขนาดตัวแล้วมันสูงกว่าผมตั้งเยอะ ผมสูงแค่ร้อย เจ็ดสิบต้นๆ ส่วนมัน น่าจะประมาณ ร้อยแปดสิบเก้าได้มั้ง (บวกด้วยหุ่นล่ำๆ

ของมัน หนักตรงนี้สินะ)ยิ่งทำให้ตัวของมันหนักเข้าไปใหญ่) ผมเลยต้องพยายามสะกิดมันอยู่เรื่อย เพื่อให้มันตื่นแต่ดูเหมือนคง
จะหลับลึกแหะ ไม่เห็นมันรู้สึกอะไรเลยๆ)

Trrrrrrrrrrrrrrrrrrrr! (เสียงโทรศัพท์ของไอคุณชายสั่นอยู่ในมือของผมที่กำลังจะพยุงมันไว้ที่โซฟาผม รีบทุ้มตัวมันลงและ

มองกลับไปที่โทรศัพท์ของมันทันที)

เอื้อย” (ขอถือวิสาสะ หน่อยละกันนะ ไอกาย)

“ฮัลโหล สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ กายอยู่รึเปล่าค่ะ  ”(เสียงหวานๆของบุคคลที่ส่งเสียงมาจากปลายสายทำเอาผมที่ได้ยินนิ่ถึงกับเขิลเลยทีเดียว)

“อ๋อๆอยู่ครับ แต่ คงจะไม่สะดวกรับสายหรอกครับ”

“ห่ะ กายเป็นอะไรไปหรอค่ะ ”(ดูเหมือนบุคคลปลายสายจะตกใจกับสิ่งที่พึ่งจะได้ยินไป ทำเอาเสียงหวานๆเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นเสียงของกาการตกใจแทน )
“ไม่ได้เป็นอะไร หรอกครับมันแค่เมา( และสลบเป็นตายก็เท่านั้นเองครับบบ  ^^” )

“อ๋อค่ะๆ เอื้อยก็ตกใจหมด นึกว่ากายจะเป็นอะไรไปซะอีก แล้วนี้ คุณณณณณ”

“ผม เจเจครับ เรียกเจเฉยๆก็ได้”

“อ๋อคุณ เจเจ เป็นเพื่อนของกายหรอค่ะ”

“ใช่ๆครับผมว่าจะพามันไปส่งบ้านอยู่พอดี แต่มันดันหลับไปซะก่อน เลยไม่รู้เลยว่าบ้านมันอยู่ที่ไหนอะครับ คุณเอื้อยพอจะรู้ที่อยู่ของมันรึเปล่าครับ”

“รู้ รู้ค่ะ แต่ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วขับรถดึกๆดื่นๆ มันอันตราย ให้ กายนอนอยู่ที่นั้นแหละค่ะ จะเป็นการรบกวนไหม?”(แหม่ถ้า คุณเอื้อยพูดมาซะขนาดนี้ผมจะปฎิเสธไปก็ยังไงๆอยู่)

“ไม่รบกวนเลยครับคุณเอื้อยให้มันนอนอยู่ที่นี้ซักคืนนึงก็ได้ครับ”

“ค่ะแล้วบ้านของคุณเจเจ อยู่ที่ไหนหรอค่ะ ตอนเช้าเอื้อยจะได้ให้คนไปรับกลับมา”

“ตั้งอยู่ ที่ร้าน  อิน&เอิร์น คอฟฟี่ ครับคุยเอื้อยพอจะรู้จักรึเปล่าครับ”

“แหม่ทำไมเอื้อยจะไม่รู้จักละคะ เอื้อยนี้แหละค่ะแฟนตัวยงของร้านนี้เลย”

“คุณเอื้อยมาบ่อยขนาดนั้นเลยหรอครับ?”

“.ก็บ่อยนะคะ แต่ช่วงนี้ เอื้อยไม่ค่อยได้ไป เพราะว่าเอื้อย ติดธุระนิดหน่อยหน่ะค่ะ”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”

“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เอื้อย ฝากคุณเจเจ ดูและ กายให้ด้วยนะคะ ไว้พรุ่งนี้เอื้อยจะให้คนไปรับ”

“อ๋อๆได้ครับบคุณเอื้อยไม่ต้องห่วงเลยนนะครับเดี๋ยวผมจะดูแลมันเป็นอย่างดีเลยละครับ”

“ค่ะๆขอบคุณมากๆนะคะคุณเจเจ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”

“ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับคุณเอื้อยย”

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

“คร๊าบบบ ไม่เป็นไรเลยครับบบ”

ตื๊ดดดด !!!!!!! (เสียงตัดสายจากปลายทางทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมาด้วยความเขิลอาย อาจเป็นเพราผมไม่ได้คุยโทรศัพท์กับสาวๆมาพักนึงแล้วพอได้มาคุยใหม่อาการมันเลยกำเริ่บฮ่าๆ)
(ผมนั่งยิ้มคนเดียวอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ว่ามีหัวอันทรงคุณค่ากำลังหล่นมาซุกอยู่ที่หน้าอกของผมอีกรอบ เห้อ หลับลึกจริงๆนะคุณชาย)


หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-12-2015 11:14:38
…………………………………………………………………….
“อ้าวนี้ น้องกาย ยังไม่กลับบ้านอีกหรอจ๊ะ” “สภาพนี้ให้มันกลับยังไงละครับพี่อิน”

“อื้มๆงั้นวันนี้ให้น้องกายไปนอนกับพี่ข้างบนก็ได้น่ะจ๊ะห้องพี่ว่าง ห้อ ๆๆๆ (เสียงขำเหมือนอาซ้อในตำนานรักดอกเหมยเลยละครับฮ่าๆ ท่าพวกคุณเกิดทันกัน ฮ่าๆๆๆๆ)”

“ไม่ไปเป็นไรหรอกครับ เจไม่รบกวนพี่อินดีกว่า”

“ไม่ได้รบกงรบกวนอะไรเล๊ยยยย(เสียงแอบสูงนะเนี้ย)”

“ป่าวหรอกเจ กลัวว่ามันจะไม่มีชีวิตรอดถึงพรุ่งนี้ต่างหาก ฮ่าๆ”

“แหม่น้องเจก็พูดเกินไป พี่ก็แค่แซวเล่น ให้น้องกายไปน้องห้อง เจมส์สิ (เจมส์คือขื่อพี่ชายของผมซึ่งเป็นสามีของพี่อิน งงกันไหม? )

“ไม่ได้หรอกครับห้องนั้นมีเจ้าที่คุมอยู่”

“เจ้าที่ ?” (สังสัยพี่อินคงกำลังงงว่าเจ้าที่ ที่ผมว่าไปเนี้ยมันคือใคร ไม่ใช่ภูติ ผี ที่ไหนหรอกครับบแต่เป็นไอวิน ที่ผมไม่อยากให้ไอกายไปนอนกับไอวินก็เพราะ กลัวว่ามันสองคนจะฟิตเจอร์ริ่งกัน ฮ่าๆ ไม่ใช่ละ แต่เป็นเพราว่าไอวินมันเป็นคนที่นอนดิ้นมากๆ โดยเฉพาะเวลาที่มันเมา บางครั้งก็จะลุกมาละเมออยู่หัวเตียง บางครั้งก็ขึ้นมาคล่อมตัวผม และบางครั้ง มันก็นอนฟาดงวงฟาดงาใส่คนที่นอนอยู่ข้างๆมัน ผมนี้โดนไปแค่ครั้งเดียวก็เข็ด )เลยละครับไม่กล้าจะเอาชีวิตของใครไปเสี่ยงกับคน เมาอย่างมันอีกเด็ดขาดด!)

“ก็ไอวินนั้นแหละพี่อิน เจ กลัวว่าดึกๆมันจะตื่นมาฟรีคิ้ก ใส่ไอกายเอานะสิเลยไม่อยากให้มันสองคนนอนด้วยกัน  พี่อินพยยักหน้าแทนคำตอบ”

“อืมๆแล้วจะให้น้องกายไปนอนที่ไหนหล่ะ ตรงโซฟานี้ หรือจะให้ไปนอนที่ห้องคุณทวด”

“โอยอย่าเลยพี่อินเกรงใจคุณทวดเขา ปล่อยให้เขาอยู่อย่างสงบๆละดีละ(ทวดผมแกเป็นคนที่หวงของเอามากๆเลยละครับตอนนี้แกก็ตายไปแล้วด้วย หึหึ) เดี๋ยวเจ ให้มันไปนอนกับเจก็ได้ แต่ตตอนนี้ พี่อินช่วย เจ แบกมันขึ้นไปหน่อยได้ไหม ตัวมันหนักมากๆเลยเนี้ย ไม่รู้ยัดเอาอะไรเขาไปนัก”

“มาๆ พี่ช่วย”(พี่อินพูดเสร็จก็วิ่งกรู่เข้ามารับตัวไอกายไว้แทบไม่ทัน พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละหัวของมันนี้แทบจะทิ่มใส่กระเบื้อง โอ้ยขืนฟาดไปนี้ออกไทยรัฐหน้าหนึ่งแน่ๆ (หนุ่มไฮโซลูกหลานธุรกิจพันล้านเมาหัวทิ่มกระเบื้องตาย ฮ่าๆ))
(ผมกับพี่อินช่วยกันพยุงตัวไอกายที่หนักยังกับช้าง ตัวของมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมายหรอกนะแต่ทำไมตัวมันถึงหนักได้ขนาดนี้ตัวผมเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน)


………………………………………………………………………………………………………………………….

ในที่สุด ก็มาถึงหน้าห้องของผม พี่อินใช้มืออีกข้างนึง (ที่อีกข้างนึกตอนนี้พยุงร่างของไอยักอยู่)เอื้อมไปเปิดประตูก่อนที่ผมและพี่อินจะวางตัว(เรียกว่าโยนดีกว่า)ของไอกายลงที่ตียงของผม  เห้อ! ผมและพี่อิน สบถคำขึ้นมาพร้อมกันด้วยความเหนื่อย(และหนัก)!

“เฮ้อ ที่เหลือพี่ก็ฝากเจเจ ดูแลด้วยแล้วกันนะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เหนียวตัวไปหมดแล้วเนี้ย”(พูดจบพี่อินก็เดินไปที่ชั้นล่างเพื่อปิดไฟในครัวและหน้าร้าน ก่อนจะเดินขึ้นมาและกลับเข้าห้องไป (รู้ได้ยังไงนะหรอ ฟังจากเสียงเดินขึ้นลงๆเอาหนะเก่งใช่ไหมล๊าๆ) จริงๆแล้วเดามั่วๆนั้นแหละครับ ^ ^ )

(ผมพลิกตัวไอคุณชายที่ตอนนี้นอนคว้ำหน้าอยู่ที่เตียง ก่อน จะจัดท่าให้มันได้นอนหงายไม่งั้นเดียวไอขาดอากาศหายใจตายไปซะก่อนมันนอนไออะแฮ่กอยู่นานสองนานก่อนจะเงียบไป) (เหนื่อยไอเจอีกแล้วสิ = =’ )

(หลังจากจัดท่านอนให้คุณชายเสร็จผมก็รีบเดินไปอาบน้ำที่ด้านล่าง(พอดีน้ำที่ห้องผมมันไม่ไหลหน่ะ)ก็เลยต้องลงไปอาบ

ด้านล่างแทน กว่าจะทำอะไรเสร็จตอนนี้ก็ปาไป ห้าทุ่มแล้ว ก่อนที่ผมจะนอนก็ไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุก (ไอหมีบราว) ไม่

ว่าจะตั้งกี่ครั้งๆ ผมก็ไม่เคยตื่นเพราะเสียงของมันซักที นี้ถ้าหากพรุ่งนี้ผมไม่ตื่นเพราะเสียงของมันนะ หึหึ! มีชำแหละแน่ๆ

งานนี้ ผมรีบเดินไปปิดไฟก่อนจะล้มตัวลงนอน ไอกายมันนอนนิ่งมาก(ต่างจากไอวิน)จนผมคิดว่ามันตายแล้วรึเปล่า เลย

ลองแกล้งๆเอามือไปสัมผัมที่ปลายจมูกของมันดู ฮู้ยย โชคดีนะที่มันยังไม่ตาย ไม่งั้นผมคงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอหน้าคุณ

เอื้อย แน่ๆเลย) ผมเอื้อมมือไปกดเปิดแอร์ไปที่ 20 องศา(รักโลกจริงๆกู)พอดีผมป็นคนขี้ร้อนหน่ะก็เลยปรับต่ำๆ เคยมีครั้งนึ

งผมปรับไปที่ 16-17กว่า ตื่นเช้ามาเท่านั้นแหละครับ หึ (ไข้แดกฮ่าๆ) ผมก้มลงไปหยิบผ้าห่มที่อยู่ตรงปลายเท้าของไอกาย

(ตอนนี้เท้ามัน กำลังทับผ้าห่มของผมอยู่ )ผมพยายามดึงอยู่นานสองนานกว่าที่มันจะยกขาออกไปนอนท่าตะแคง เล่นเอา

ซะเหงื่อกูตกเลยนะมึง)(บอกร้อนแต่ชอบห่มผ่าเวลานอนเนี้ยนะ เพื่อนๆเป็นเหมือนกันไหม?ผมคนนึงแล้วที่เป็นอย่างนั้น)

(ผมหลับตานอนไปได้พักนึงก็สะดุ้งตื่น กับเสียงอูอี้ๆข้างๆหูผม (ผมพยายามหลี่ตามองว่ามันคือเสียงอะไรก็ต้องตกใจกับ
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือหน้าของคน จนผมเผลอตะโกนออกมา))

เฮ้ย!!!!! ผีอำ(แต่ทำไมผมถึงพูดได้ละ)ผมพยายามเอื้อมมือไปเปิดไฟที่ตั้งอยู่ข้างหัวเตียงของผม”

“หนึ่งง ส่องงง ซั่มมม”(สิ้นเสียงนับครั้งสุดท้ายผมก็ตัดสินใจกดปุ่มสวิตไฟทันที) อ๊าๆๆ เฮือกก!(มันเป็นฟิลลิ่งเวลาตกใจจะ

ชอบร้องอะไรออกมานะครับบ)โถ่ ไอกายกูก็ตกใจหมด นึกว่าผี แต่ดูเหมือนมันจะไม่รู้สึกตัวนะ เพราะขณะที่มันกำลังนั่ง

ค่อมตัวผมอยู่เนี้ย ตาของมันยังปิดอยู่เลย สงสัยมันคงจะละเมออยู่ละมั้ง  มันค่อยๆโน้มตัวเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ เรื่อยๆ จน

ตอนนี้หน้าของมันอยู่ห่างจากผมประมาณ สิบเซน มันพะงึมพะงัมเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ในขณะที่ผมกำลังจะหลี่

หูฟังเพียงเท่านั้นแหละครับ”


“อั้วววววววววววววววววววววววววววว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”(ไอห่า มันอ้วกใส่เต็มตัวของผมเลยย)






“ตอนนี้กูเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว ว่าสิ่งที่มึงพยายามจะบอกกับกูมันคืออะไร? ไออสูรกาย !”

TBC……………………………………………………………………………………………………………………………
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

#เกร็ดความรู้นิดๆหน่อย# ผีอำ (เป็นอาการที่เกิดขึ้นในเวลากึ่งหลับกึ่งตื่นมักจะเกิดขึ้น ตอนที่เราๆ กำลังหลับกันอยู่ โดยประสบการณ์ ส่วนตัว(ของคิมเอง) ก็เคยเจอมาอยู่เหมือนกัน มันจะขยับตัว ไม่ได้ พูดอะไรก็ไม่ออก เป็นอย่างนี้อยู่พักนึง)
(วิธีแก้ก็คือ สวดมนต์ ท่องนโมสามจบ หรือบทแผ่เมตตาไป ก็พอจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้)  (ปล.เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ที่หลงเขามาอ่าน จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ตามความสรัทธาเลยจ้า) (ตามหลักวิทยาศาสตร์ คิมไม่รู้นะว่าเขาเรียกว่าอะไร)
(ใครพอจะรู้ก็ช่วยบอกกันหน่อยละกัน เดี๋ยว จะหาว่าคิมพาเพื่อนๆที่หลงเข้ามาอ่านทุกคนงมงายยเอา อิอิ ^ ^)

(สนุกไม่สนุกยังไง เพื่อนๆทุกคนสามารถ ติเตียนได้เลยนะจ้า ไม่ว่ากันจ้า ) (คำอาจจะกำกวมหน่อย ก็เพิ่งจะมาลองแต่งครั้งแรกเหมือนกัน ถ้ามีคำใดที่ผิดหรือไม่เหมาะสม ตัวคิมเองก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยจ้า)
#คิมกอนนอูววว!!! =3=
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-01-2016 09:27:11
Falling In Love   :katai2-1:

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:4 กระทู้(รัก)


เหตุการณ์เมื่อคืน ทำเอาผม ที่กำลังนอน อยู่รู้สึกผวาแปลกๆคงเพราะด้วยความ ที่ผมแอบระแวง(ไม่แอบมั้ง)กลัวไอกายมันนจะละเมอมาอ้วกใส่ผมอีกรอบบ

(เช้าวันจันทร์)

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากเสียงนาฬิกาปลุกของ(ไอหมีบราว) ตั้งแต่ที่ซื้อมันมาเนี้ยนี้คงจะเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากเสียงของมันได้ (สงสัยจะหลับลึก)

พอผมเริ่มรู้สึกตัวได้สักพักสายตาของผมก็ เริ่ม มองไปรอบๆ บริเวณห้อง ก็เจอเพียงสิ่งมีชีวิต สิ่งหนึ่ง ที่เรียกว่าไอ อสูรกาย ที่

ตอนนี้มันกำลัง นอนเอาขามาพาดอยู่ที่คอของผม(รู้แล้วทำไมเมื่อวานรู้สึกหายใจไม่ค่อยจะออก) ผมรีบปัดขาของมันออก สภาพ

ของของมันในตอนนี้นี่ดูไม่จืดเลยละครับ เห็นแล้วอยากจับ…….ถ่ายรูปแล้วเอาไปประจานซะจริงงๆ ฮ่าๆ (คิดอะไรกันอยู่ อิอิ)

ผมรีบลุกขึ้นมานั่งท่าขัดสมาธิ ก่อนจะค่อยๆ เอามือทั้งสองข้างกุมขมับอยู่พักนึง ภาพลางๆเริ้มค่อยๆวิ่งเข้ามาในหัวของผม(ภาพ

ของไอคุณชาย ที่กำลังเมาเสียสติอยู่ข้างล่าง ผมจำได้ว่าผมและพี่อินเป็นคนที่ช่วยกันพยุงไอคุณชายมันขึ้นมาบนห้องของผม

หลังจากนั้นก็……..อ้วก….อ้วกครับ ..อ้วกแน่ๆผมมั่นใจว่าผมไม่ได้มโนไปเองหรือฝันไปอย่างแน่นอน (ทั้งน้ำทั้งกลิ่นและสิ่ง

แปลกปลอมหลายๆ อย่างที่ไหลออกมาจากคอของมันน (หยีๆพูดไปแล้วอย่านึกภาพตามกันนะครับเดี๋ยวจะกินข้าวไม่ลงกันป่าวๆ))

เหมือนว่าตอนนี้มันกำลังนอนเหมือดไม่ได้สติอยู่) “อึมมมมมมมมมม!”(เสียงอึมๆกึ่งหลับกึ่งตื่น ของไอคุณชายที่ตอนนี้กำลังนอน บิตซ้ายบิดขวา ก่อนที่มันจะค่อยๆ หลี่ตามาจ้องที่หน้าผม)

“มองอะไรไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง?”(มันไม่เถียงอะไรผมสักคำหลังจากนั้นประมาณ(0.00001วิ)มันก็กลับลงไปนอนสลบบอยู่

เหมือนเดิม แต่ผมก็ไม่ได้พยายามที่จะพูดแดกดันอะไรมันนะ เพราะตัวผมเอง ถือคติประจำใจที่ว่า “อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคน

เมา”) ผมนั่งด่ามันในใจอยู่พักนึงก่อนจะพยายามลุกออกจากเตียง(เพราตอนนี้มันเอาขาของมันพาดอยู่ที่ตักของผมอยู่เห้อๆ กวนตีนดีจริงๆผมรีบปัดขาของมันและลุกออกมาจากเตียง )

(ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้อง ก็มีเสียงของ ผู้ชายตาดำ คิ้วเข้มใส่ชุด สีขาวว(อ้าวไม่ใช่นอกเรื่องละ ฮ่าๆ)เสียงของไอกายเรียกผมเอาไว้ซะก่อน)

“จะไปไหน?”(เสียงของไอคุณชายตอนนี้ที่กำลังสะลึมสะลือ เหมือนคนที่ยังเมาไม่ส่าง)

“เช้าวันจันทร์กูคงจะไปนั่งตกปลาอยู่สยามมั้งถามแปลกๆ”

“เดี๋ยวนี้แถวสยามเขามีบ่อให้คนตกปลากันแล้วอ่อว้ะ!พากูไปด้วยสิกูอยากไป”(ยัง ยังไม่รู้ตัวอีก ว่า กูแค่พูดประชด เรียกสติมึง

แค่นั้นเอง แม้งยัง เสือ..ก เชื่อคิดว่าผมจะไปนั่งตกปลาที่สยามจริงๆ นี้ถ้าไม่ซื่อหรือโง่จริงๆ เนี้ยคิดไม่ได้อย่างมันเลยหล่ะ)

“เชิญมึง ไปนั่งตกปลาคนเดียวเถอะครับ กูจะไปเรียน”

“อ้าวแล้วมึงจะไม่ไปตกปลาเป็นเพื่อนกูแล้วหรอวะ” (มันพยายามใช่มือทั้งสองข้างของมันพยุงตัวเองขึ้นมาก่อนจะขยี้ตา
และหัวของมัน เห้อ! กูละปวดหัวับมึงจริงๆไอคุณชายย)

“รึมึงจะไปก็จะได้ไปส่ง แต่ไปแล้วมึงต้องตกนะ ปลาหน่ะ”

“เออไปๆ”

“ไอสัดกูประชด”(ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเอือมระอากับสติที่มีอันน้อยนิดของไอคุณชายมันจริงๆ ผมรีบเดินไปเปิดประตูก่อนที่จะ
เดินลงไปข้างล่าง) = =’



……………………………………………

“อ้าวน้องเจ อรุณสวัสดิ์จ้ะ”(เสียงหวานๆของพี่อินกล่าวทักทายผมในตอนเช้า ที่กำลังเดินลงมา หน้าของพี่อินแกดูท่าจะแปลกใจ

ที่อยู่ๆ คนที่นอนตื่นสาย ไปไหนมาไหนไม่ทันชาวบ้านเขาอย่างผมจะตื่นเช้าเพื่อมาทานหารเช้าของแกได้ (ปกติผมตั้งปลุกไว้

ตอนประมาณ 9-10 โมงกว่า เพราะส่วนมากภาควิชาผมจะไม่ค่อยมีเรียนเช้า)โดยที่พี่อินแกไม่ต้องลำบากเดินขึ้นลงไปปลุกผม

เลย)

“ อรุณสวัสดิ์ครับพี่อินคนสวยย” (ผมรีบขานรับเสียงหวานๆ ของพี่อินที่ตอนนี้ พี่แกกำลังทำอาหารเช้าอยู่ แต่ที่แปลกไปก็คือ บน

โต๊ะมีจานอยู่แค่สองใบ ทั้งที่ในบ้านก็มีกันแค่สองคน(ไม่รวมน้องเอิร์นเพราะรายนี้ไปเรียนแต่เช้าทุกวันหึหึ ต่างกับผมลิบลับ))พี่

อินแกจะทำเพื่อใครกันแน่นะ)

“พี่อินทำไมวันนี้ทำอาหารเยอะแยะจังละครับ อยู่กันแค่สองคนแท้ ๆ หรือพี่อินจะกินด้วยกัน ไหนบอกกับเจว่าไม่ชอบทานข้าวเช้าไง แล้วไหงวันนี้ถึง …..


“โอ้ยๆ ใจเย็นๆ ค่ะน้องเจถามรัวขนาดนี้พี่จะไปตอบน้องเจทันได้ไงละคะ พี่ทำให้น้องวินกับน้องกายเขาหน่ะ” (อ้าวแล้วผมละ

คร๊าบบบบบ ดูๆ เอาละกัน ความยุติธรรมมันไปอยู่ที่ไหนหมดพี่อินถึงเห็นคนอื่นดีกว่าผมม (เหมือนยัยเอิร์นเป๊ะๆเลย) เจอคน

หล่อทีไรก็เป็นแบบนี้ทั้งพี่ทั้งน้องทุกที)

“ใช่ซี้ ผมมันลูกเมียน้อย ใครจะทำข้าวเช้าให้ผมกินเหมือนลูกเมียหลวงอย่างพวกมันหล่ะ”(ผมเริ่มเข้าบทดราม่านิดๆละ ฮ่าๆๆ)

“โถ่ เอ่ย ลูกเมียน้อยพี่ก็รักแหม่ พี่แค่แซวเล่นเฉยๆ ก็นั้นแหละของเจกับของน้องกาย”

“อ้าวแล้วไหงเมื่อกี้พี่อินยังบอกว่า ของไอวินกับไอกายอยู่เลย”

“ก็ทีแรกก็ของน้องวินเขานั้นแหละจ้ะ พี่ทำเผื่อไว้สองจาน กะทำไว้ให้น้องวินกับน้องกายเขา ส่วนของเราๆ สายๆพี่จะได้ทำให้

ใหม่ ก็พี่ไม่เคยเห็นเราตื่นเช้า อย่างน้องวินเขาซักที พี่ก็เลยทำส่วนนี้ ไว้ให้น้องเขาสองคน ยังจะมาเรียกร้องอะไรอีกห้ะไหนตอบบบบ???”

“เอ….อออ…อ”

“ไม่ต้องเอ่อต้องอ่า มานั่งนี้เร็วๆ เดี๋ยวอาหารเช้าจะเย็นซะหมด ” (ผมได้แต่เดินมานิ่งๆ ไม่กล้าพูดอะไรเพราะสิ่งที่พี่อินพูด

ทุกอย่างล้วนแต่เป็นความจริง(เกือบทั้งหมดๆ)จริงๆทั้งหมดนั้นแหละ ฮ่าๆ) พอพี่อินแกเห็นภาพที่ผมเดินก้มหน้าก้มตามานั่งที่โต๊ะ
พี่แกก็ขำ หึหึ! อยู่ในลำคอ (เสียงดูเหมือนพวกตัวโกงในละครเลยละครับบหน้าพี่แกตอนนี้ดูเจ้าเลห์มาก)


“ก็ไหนๆ วันนี้เจ ก็อุตส่าห์ ตื่นเช้าแล้ว ก็ขอถือโอกาสที่(หายากมากๆๆๆๆๆๆ)นี้มาชิมมๆ อาหารของพี่อินดูหน่อย ว่าจะสู้ฝีมือ

อาหารขอคุณย่าผมได้บ้างรึป่าว” (ย่าของผมท่านเคยอยู่ในวังมาก่อน เลยชำนาญพวกเรื่องอาหารของชาววัง)

“แหม่พูดขนาดนี้ก็ เททิ้งซะดีไหม ทิ้งไปๆให้หมดเลย > <’ ” (ดูเหมือนพี่อินแกแสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่นิดหน่อยที่อยู่ๆ ก็ไป

เปรียบพี่อินกับคุณย่าเข้า พี่อินกับคุณย่า ไม่ค่อยจะถูกกันเท่าไหร่ เวลาสองคนนี้เจอหน้ากันทีไร ก็มักจะมีปากมีเสียงกัน

อยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเขาไม่โกรธอะไรกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนรึเปล่า แต่โดยส่วนตัวของผม ผมจะชอบเวลาที่คุณย่าแกยืนด่าพี่อิน ผมทั้งขำทั้งฮา แต่ก็แอบสงสารพี่อิน ฮ่าๆ คำด่าของคุณย่าไม่ได้สะทกจะท้านอะไรกับพี่อินแกหรอกครับ เวลาคุณย่าด่า

บางครั้งแกจะเถียง (แต่น้อยครั้ง) ส่วนมากแกจะเงียบไปซะมากกว่า สงสัยรู้ว่า เถียงไปคงเสียน้ำลายเปล่าๆ แต่สองคนนี้

เขาก็ยังรักกันดีนะครับ พี่อินแกเป็นคนใจเย็น ส่วนคุณย่าของผมท่านเป็นคนที่ตรง(บางทีก็ตรงเกินไป๊คุณย่า! = =’)ท่านเป็น

คนปากร้ายพูดจาขวานผ่าซากแต่ลึกๆ แล้ว แกเป็นคนที่รักลูกหลานทุกคนเอามากๆ ยิ่งกับผมที่ตอนนี้กลายเป็นหลานสุดที่

รักของคุณย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แกบอกว่ารัก พ่อ น้อยกว่ารักผมซะอีก จนบางครั้งพี่อินแกเดินผ่านมาเห็น คุณย่ากำลังกอดผมอยู่ พี่อินแกก็จะโห่แซว จนผมนี้แทบจะเสียสูญ)

“อุ้ย อินก็พึ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เอง ว่าคุณแม่รับลูกหมามาเป็นลูกบัญธรรมซะแล้ว ห้อๆ!”(แกชอบแบ๊ะปากตอนที่แกพูดเวลาเจอ
หน้าผมกับย่าอยู่ด้วยกัน ฮ่าๆ (แจ่แกจะเป็นอย่างนี้ก็ตอนที่คุณย่าท่านเอ็นดูผมนี้แหละ))

(แต่พอคุณย่าเห็นแบบนั้นก็ไม่ได้ปล่อย ผมแต่อย่างใด คุณย่าแกยิ่งกอดผม แน่นขึ้นกว่าเดิมอีก (สงสัยคงจะประชดพี่อิน พี่อินแกก็จะเดินฟึดฟัดๆหายไปในบ้านทันที ^ ^)(คุณย่าผมท่านเป็นคนตลกหน่ะ)

“โอ๋ๆ เจแค่ล้อเล่นเองนะ ใครจะไปทำอาหารได้อร่อยเท่าพี่อินของเจละคร๊าบบบ!(ผมต้องรีบประจบไม่งั้นอดไปตลอดชีวิตๆ แน่เลยๆ ฮ่าๆ)”

“ย่ะ แล้วนี้ ไม่รีบอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนหรอ เดี๋ยวก็ไปสายกันพอดี”(พี่อินแกยืนพูดไป มือแกก็ยังวนๆ อยู่กับตะหลิวอยู่)
“อ๋อ เจมีเรียนสายๆ อ่ะครับ ช่วงเช้าเลยว่าง” (พี่แกพยักหน้าเข้าใจก่อนยื่นมือไปหยิบจานที่วางอยู่ข้างๆเพื่อมาใส่ไข่ดาวที่กำลังทอดอยู่)

(ระหว่างที่รอพี่อินแกทำกับข้าวอยู่ ผมก็เดินไปหยิบ ไอแพด ของพี่อินที่วางอยู่ตรงที่นั่งใยห้องรับแขกพี่แอบมานั่งเล่นตรง

มุมนี้ เพราะแกบอกว่า WI-FI เข้าถึงได้ดีกว่า แต่ผมว่ามันไม่นาจะเกี่ยวกันนะ เพราะ ในบ้าน มีเลาเตอร์ตั้งสองตัว  คือใน

ห้องนี้กับ ข้างบนชั้นสองในห้องของผม ผมว่าสาเหตุที่พี่อิน แกชอบมาตั้งตรงนี้ ก็เพราะว่ามันได้มุมต่างหากหล่ะ (พี่อินแกชอบ
มานั่งแอบมองหนุ่มๆวัยรุ่นๆราวคราวเดียวกับผมนี้แหละ แต่เรียนกันคนละมหาลัย)จริงๆพี่แกก็เคยเกริ่นๆ

กับผมนะว่า ผู้ชายที่ชอบมาสั่งกาแฟกินตอนเช้าๆคนนั้นหน่ะเป็นผู้ชายในอุดดมคติของพี่อินแกเลย นี้ถ้าไม่ติดว่าแต่งงานแล้วนะ  ผมว่าผู้ชาย คนนั้นคงจะไม่รอดเงื้อมมือของพี่แกแน่ๆ ฮ่าๆ

(แอบโทรฟ้องพี้ชายผมดีไหมละเนี้ย แต่รับรองได้ว่าถ้าพี่อินแกรู้เรื่องเมื่อไหร่ ผมคงต้องตายยั้ง เขียดแน่ๆ รับประกัน (สามปีเลยฮ่าๆๆ))   

( ̄ー ̄)




(ผมรีบเดินกลับมาที่โต๊ะอย่างไว เพราะกลัวพี่อินแกจะจับได้ว่าผมแอบนินทาแกอยู่(ผมยังไม่อยากตายยย) )

(ผมชอบเปิดเข้าไปอ่านคอมเม้นในกระทู้ของ SIAM ZONE(สยามโซน) อยู่บ่อยๆ ผมชอบโพสรูปอาหารที่ผมได้กินทุกๆ

วันๆ และบรรยากาศ ภายในร้านดูๆแล้วเหมือนพวกคนที่ชอบตะเวนไปชิมอาหารตามที่ต่างๆซะมากกว่า แต่ส่วนมากผมก็มี

ที่สิงสถิตอยู่ที่เดียวนี้แหละครับ ก็คือร้านของพี่อินแก หลังจากที่ผมถ่ายเสร็จ ผมก็จะลงรูปเลยทันที เหมือนกับว่า มาเช็คอิน

กินเสร็จแล้วก็กลับ(แอบโปรโมทร้านไปในตัวฮ่าๆ) แต่ถึงกระทู้ของผมจะไม่ได้โด่งดังอะไรซักเท่าไห่ร ก็มีผู้ติดตาม ของผม

อยู่เหมือนกันนะ ประมาณ สองร้อยสามร้อยกว่าๆ คอมเม้น ต่อวันก็ประมาณ  50-130 กว่าเลยหล่ะ  แต่คอมเม้นที่ผมรู้สึก

ชอบมากสุดๆเลยก็จะเป็น ของ “สมายอโลน(SMILE ALONE)” ที่เขาคนนี้ จะมาวิจารณ์(ไม่สิเรียกว่าชื่นชมจะดีกว่า เพราะ

เขาพูดในแง่บวกล้วนๆ > <)ทุกกระทู้ที่ผมตั้งเลยก็ว่าได้ เขาชอบมาแอบให้กำลังใจผมอยู่บ่อยๆจนเพิ่มเริ่ม รู้สึกดีๆ กับบุคคน

ปริศนาคนนี้เขาแล้วสิ ผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกนะว่าความรู้สึกพวกนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ยิ่งผมรู้จักเขาคนนี้มาก

เท่าไหร่ยิ่งรู้สึกว่า ถ้าวันไหนไม่มี คอมเม้นให้กำลังใจ จากเขาเนี้ย ผมก็ไม่เป็นอันจะทำอะไรเลยทั้งวัน และถึงผมจะไม่รู้ว่า

เขาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย  แต่ผมก็ยัง ชอบความรู้สึกในตอนนี้ อยู่ดี บางครั้งผม็คิดนะว่าอยากจะเจอหน้าเขาซักกครั้ง แล้ว

บอกชอบให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย) ! หึหึ ผมนั่งคิดเพ้อเจ้ออะไรอยู่ก็ไม่รู้ บ้าจริงๆ  (。→‿←。)


“มันจะไปมีได้ยังไง พวก (ความรักบนโลกออนไลน์เนี้ย)   ”(ผมเขกหัวตัวเอง สองทีเพื่อเรียกสติ แต่ก็เหมือนทำไปก็เท่านั้นผมยิ่งคิดหนักมากกว่าเดิมอีก )

“ เอาวะไหนๆ ก็คิดแล้วมาลองกันซักตั้งไปเลย ” (วันนี้ก็เลยได้โอกาสที่จะตั้งกระทู้(แบบโพล)ซึ่งไม่เกี่ยวกับอาหารการกินหรือเช็คอินแต่อย่างใด มีแต่ความสงสัยที่อยู่ในหัวผมล้วนๆ)

“เอา ละน้า !.....  “พวกคุณคิดว่า ความรักที่มีอยู่บนโลกออนไลน์นั้น มีอยู่จริงหรือไม่ และเพราะอะไร? จิ้มๆ ” ” (ผมกดตั้งกระทู้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็มารอดูความเห็นของคนอื่นๆกัน)

………………………………………………………………………………..

ภายในเวลาไม่กี่นาที (จริงๆก็หลายนาทีอยู่น๊า ^ ^ ) ก็มีผลโหวตและคอมเม้นต่างๆ บางคนก็เชื่อบ้าง บางคนก็ไม่เชื่อบ้าง แล้ว
แต่คน แต่ส่วนใหญ่แล้ว จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เชื่อ ? (ผมคงไม่ได้เพ้อเจ้อไปคนเดียวแล้วสินะ ฮ่าๆ)

ผมไล่ลงมาอ่านคอมเม้น ที่มีเพื่อนๆเข้ามาแสดงควมคิดเหนกันอย่างมากมาย ลงมาเรื่อยๆๆ จนผมสะดุดตากับผลโพลและคอมเม้น ของใครคนนึงเข้า (SMILE ALONE แสดงความคิดเห็นต่อโพลของคุณ)

“ส่วนตัวแล้วเรา เชื่อนะ และเราก็คิดว่าความรู้สึกพวกนี้หน่ะ มันมีอยู่จริง แต่ถ้าถามว่าเพราะอะไร เราก็ยังตอบให้ไม่ได้

เหมือนกัน  สงสัยเจ้าของกระทู้คนจะแอบชอบใครเ ข้าละสิ ถึงได้ตั้งกระทู้แบบนี้ขึ้นมาฮ่าๆ แต่ก็สู้ๆไว้นะ อย่าเครียดมาก

เดี๋ยวหน้าจะแก่ เหมือนปู่เอาน่า 55555 # You Are My Smile  (>ω<o) ”

ไม่ว่าผมจะเครียดมากขนาดไหน แต่พอได้มาระบายในบอร์ดๆนี้ ผมว่ามันรู้สึกดีมากๆเลยนะที่มีคนเข้าใจในตัวของผม ถึงมันจะ

เป็นแค่ความรู้สึก ที่ลอยไปมาตามลม แต่ผมก็ ขาดมันไม่ได้ซักวันเลยหล่ะๆ ฮ่าๆ (แลดูน้ำเน่าเน้อ) พอได้มาอ่านคอมเม้นของคน

อื่นๆยิ่งรู้สึกมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองว่า มันคงไม่ใช่สิ่งที่ผมเพ้อฝันไปวันๆ อย่างแน่นอน ผม เชื่อ ว่า ความรู้สึกเหล่านี้มัน มีอยู่จริงๆ
(⌒‐⌒)


พอได้อ่านคอมเม้นของ คนๆนี้ทีไรก็อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมาอยู่คนเดียว  ทำเอาพี่อินทียืนถือตะหลิวอยู่นี้ แทบจะเดินเข้ามา

จิ้มตาผม (ข้อหาเรียกแล้วไม่ยอมตอบเพราะมัวแต่นั่งยิ้มให้ไอแพดอยู่ ฮ่าๆ) แกมักจะเป็นอย่างงี้ทุกวันแหละครับผมชินแล้ว

…………. หลังจากที่ผมทานอาหารเช้าเสร็จผมก็รีบเดินไปอาบน้ำ(ผมชอบกินข้าวก่อนแปรงฟันหน่ะจะได้ไม่มีกลิ่นติดปาก) แต่งตัวก่อนจะเข้าม. ได้ข่าวว่าวันนี้จะมีกิจกรรมรับน้องกันที่นั้นด้วย (จะได้เป็นพี่หรัสกับเขาก็วันนี้แหละนะ เอิ้กๆ )

ตอนนี้ผมเดินมาอยู่ตรงมุม กาแฟภายในร้านกำลังอยู่กับการ ทำชาเขียวปั่น และ นมสดปั่นไปให้ไอเพื่อนเวรทั้งสองคนที่ส่งแมสเสท มาบอกผมตอนที่กำลังจะอาบน้ำว่า

“อย่าลืม (เอาของฟรี) มาให้พวกกูรับประทานด้วย หล่ะ น้องเจ คนงามม (กูจะไม่ทำให้ก็ไอตรงงามๆ นี้แหละ ไอห่าวินนน)

“เจเจมอล วันนี้อยากกินชาเขียวปั่นฝีมือ ของเจจังเลย อย่าลืมซื้อมาฝาก ด้วยนะ เดี๋ยวค่อยมาเก็บตังที่ มอ โอเค๊ รีบมานะจ้ะ แม่ยอดยาหยี (พอๆกันแหละพวกมึงสองตัวเนี้ย)” ไม่แขวะกูกันซักวนชักวันมันจะตายไหม !!! พวกห่า

(ตอนนี้ไอวินมันกลับมาจากต่างประเทศแล้วครับเลย ลงเรียนเก็บหน่วยกิตที่เดียวกับผมเลย เรียนคณะไหนอะไรยังไงผมก็ไม่ได้ถามมันเหมือนกัน)

(づ ̄ ³ ̄)づ   


………………………………………………………………………………………………………………………….


ตื้อ ดื่อ !!!!! (ไม่ต้องบอกก็รู้ครับเสียงประตูหน้าร้านแน่ๆ) เสียงของประตูด้านร้านดังขึ้นทำเอาพี่อินที่กำลังก้มๆจัดข้างของอยู่แถวนั้น ต้องรีบเดินไปบอกกับลูกค้า (เพราะตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเปิดร้าน)

เอ่อ ต้องขอโทดด้วยนะค่ะ พอดีว่า ตอนนี้ ยังไม่ใช่เวล…………………….. ย….ยัยเอื้อย !!!!

 (ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินพี่ อินเรียก ชื่อ ของบุคคลที่เดินเข้ามาภายในร้าน )

“เมื่อกี้พี่แกเรียกชื่อของใครนะ อ…เอิ้อ.. อ่อคุณเอื้อยๆ โอ้ววว แม่จ้าววว ผู้หญิงที่กำลังเดินเข้ามาหาผมที่มุมกาแฟเธอใช่

มนุษย์โลกแบบเราๆจริงๆหรอ นี้ผมตายแล้วหรือไง ถึงได้มองเห็นนางฟ้าตัวเป็นยืนอยู่ที่หน้าของผมได้แบบนี้  ผมอึ้งทึ่ง กับ

ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าจึงอดไม่ได้ ที่ปากมันจะอ้าค้างขึ้นมาแบบอัตโนมัติ ผมอ้าปากค้างอยู่นานสองนาน ก่อนที่นางฟ้า จะค่อยๆ

เดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ทำให้ผมได้เห็นใบหน้าของเธอได้ชัดขึ้น (หลายคนจะบอกว่าผู้หญิงถ้ามองระยะไกลแล้วจะดูสวย

มาก แต่ถ้าพอแวลาเจอใกล้ๆ แล้วจะพูดไม่ออกกันเลย ) ผมว่าคนที่มีความคิดแบบนี้เขาคงคิดผิดมหันแล้วหล่ะ ใบหน้าของ

เธอช่างเรียวได้รูปอะไรอย่างนี้ ปากอมชมพู ดวงตาสีน้ำตาล และจมูกที่โด่งได้รูป หู้ยย ยิ่งมองแล้วใจสั่นหึหึ ผมว่าใครที่ได้

เธอคนนี้เป็นแฟนนี้ คงต้องมีบุญเยอะ หรือไม่ก็คงต้องเป็นเทพบุตรที่หล่นมาจากชั้นดาวดึงแน่ๆเลยหล่ะครับ”

“ขอโทษค่ะ ใช่ เจ เจรึเปล่าค่ะ?”(เสียงหวานๆของเธออบวกกด้วยตัวของเธอที่ขาวยิ่งกว่า เสื้อ นศ ที่ผมกำลังใส่ในตอนนี้ซะ

อีก  ปล.คงเพราะซักบ่อยละมั้งตอนนี้เลยดูเหลืองไปเลย ฮ่าๆ) (ผมไม่ลังเลที่จะรีบตอบคำถามของเธอคนนั้นไป)

“เอ่อออ ใช่ ใช่ครับ ว่าแต่คุณคือ ?(มนุษย์โลกใช่ไหมผมอยากถามไปอย่างนี้แต่กลัวว่าเธอจะไม่เกทกับมุขของผมแถมเสี่ยงที่จะโดนเธอตบอีกด้วย ฮ่าๆๆ)”

“เอื้อยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ เจเจ เสียงเจ เจในโทรศัพท์ว่าหล่อแล้ว ตัวจริงนี้หล่อยิ่งกว่าอีกนะค่ะ ” (โอ้ยๆ ถ้าคุณเอื้อยจะชมผม ขนาดนี้ ก็รีบๆ เอามีดปาดคอผมเลยดีกว่าไหม ตอนนี้ผมละอยากลงไปนอนดิ้นอยู่ข้างล่างจริงๆ แต่ต้องรีบเก็บอาการ ฮึ่บบบ!)


“แล้วคุณเอื้อยมีธุระอะไรรึเปล่าครับ”(เป็นคำถามที่ดูสิ้นคิดมาก มาร้านกาแฟเขาคงจะมาซักผ้ามั้ง ไอเจเอ๊ยย !)

“อ๋อเอื้อยก็มา……”

“นี่ๆ ทั้งสองคนแหละหย่ะ เห็นหัวชั้นกันไหมเนี้ย ยัยเอื้อยนี้ก็อีกคน แหม่มาถึงก็วิ่งเข้าใส่ผู้ชายเลยนะย่ะ”
(ผมรีบหันควับไปมองพี่อินที่ เดินเข้ามาจากด้านหลังของคุณเอื้อย แต่ทำไมสองคนนี้เขาถึงพูดดูเหมือนสนิทกันมาก่อนเลยหล่ะหรือว่า…. อ๋อลืมไป คุณเอื้อยบอกผมเมื่อคืนนี้นา ว่าเป็นลูกค้าประจำ จะรู้จักหรือสนิทกับพี่อินก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร)


อ้าว พี่อิน ยังอยู่อีกหรอ! ” (ผมช็อคกับคำกล่าวทักทายของคุณเอื้อยเมื่อครู่มาก ลุดสวยๆ มาดคุณหนูเมื่อกี้หายไปหมดแล้วเหลือเพียงคำถามที่แปะอยู่ที่หัวของผมว่า พวกเขาสองคนเป็นแค่ ลูกค้าและแม่ค้าที้สนิทกันจริงๆเหรอ พูดคุยกันยัง กะ เพื่อน แหนะ ???)


หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-01-2016 09:28:29
“แหม่ ก็ยังอยู่คอยรังควานแกนั้นแหละย่ะ แล้วนี้ลมอะไรหอบมาย่ะ ถึงได้วิ่งกรู่เข้ามาเข้ามาหาผู้ชายเนี้ย”

“อ๋อพอดี มาหาที่รักหน่ะค่ะ !”(คุณเอื้อย อยุ่ๆก็ส่งสายตาปิ้งๆมาที่ผม 。◕‿◕。 เอ่อพระเจ้านี้ก็ช่างกลั่นแกล้งกันจริงๆนะนี้กะจะไม่
ให้ได้พักผ่อนกันบ้างเลยรึยังไง ถึงได้ส่งสาวๆนับร้อย มายืนเรียงคิวกันขนาดนี้ เห้อ แอบสงสาร ผู้ชายคนอื่นๆจจริงๆนะที่ต้องมายืนเช็ดน้ำตาเพียงเพราะผู้หญิงเข้าเลือกโผมมม ฮ่าๆ (จริงๆแล้วไมมีหรอก ผมรู้ว่าคุณก็รู้ ฮ่าๆ))

“ห้ะ !! ไอน้องเจ เนี้ยนะ ถถถถ โถ่น้องสาวของคุณพี่ๆว่าน้องคงต้องนั่งราชรถ ให้เขาไปส่งที่ทอปเจริญเดี๋ยวนี้เลยละค่ะ”


“ไปกันทำไมหล่ะคะ หนูสาย ตาออกจะดี แล้วอีกอย่าง เจเขาก็น่ารักดีออก (เอิ่มไม่ได้ด่ากันใช่ไหม =  =’) พี่อินจะไปว่า เจเขาทำไมละคะ” (นี้สินะที่เขาพูดกันว่านางฟ้านอกจากจะสวยจิตใจมีเมตตาแล้ว ปากยังหวานอีก ผมอยากจะนอนดิ้นอยู่ตรงนี้เลยจริงๆ ><)


“รอกินแห้ว ได้เลยค่ะ น้องขา  เจ มันเป็นตุ๊ด” (ห…ห..ห้ะ ต..ตุ๊ดๆ ผมฟังอะไรผิดไปรึเปล่า เมื่อกี้พี่อินแกบอกว่าผมเป็นตุ๊ด…….ต่อหน้าคุณเอื้อยด้วยเนี้ยนะ )

“เอ่อ คุณเอื้อย ครับคือมันไม่…….” (ยังไม่ทันที่ผมจะได้บอกอะไรคุยเอื้อยก็พูดขึ้นมาซะก่อน)

“ต่อให้เป็นตุ๊ด แต่หน้าตาอย่าง เจ เจ เอื้อย ก็เอาค่ะ”(หึหึ คงด้วยความหล่อที่มากมายก่ายกองขนาดนี้ คงทำให้คุณเอื้อยมองออกสินะ ว่าผม ไม่ใช่อย่างที่พี่อินแกกล่าวหา ผมรีบหั่นไปยิ้มมุมปาก ก่อนจะส่งสายตายียวนกวนประสาทไปให้พี่อิน ๆแกทำหน้าเหวอๆ นิดหน่อยสงสัยจะตกใจที่ได้ยินคุณเอื้อยแกพูดอย่างนั้น เป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ เลยละครับ ฮ่ะๆ  )



“อ่..อ่ะจ๊ะ แล้วแต่คุณน้องเอื้อยเลยละกันจ้ะ อยากตบกับแฟน เจมันก็เชิญ แล้วสรุปรีบมาทำไมกันย่ะ ร้านชั้นยังไม่เปิดเหอะ แกก็น่าจะรู้ดี ยัยเอื้อย แล้วนั้น !!!!   
ถือถุงอะไรมาหน่ะดูรุงรังเชียว อ๋อ!!! หรือว่า จะเป็น ของฝากจากมาเก๊าครั้งที่แล้ว แหม่!!! ยัยเอื้อยไม่เห็นจะต้องลำบาก”(ปากพี่อินแกก็พูดไปส่วนมือก็เดินไปหอบถุงจากมือของคุณเอื้อย เรียบร้อยแล้วละครับ ผมเชื่อแล้วละว่าสิ่งของ ซื้อใจอาของผมไม่ได้เล๊ยยย(จริงๆ ฮ่าๆ))


“อ๋อป่าวๆค่ะอันนี้ของแฟนหนูเอง” (ห..ห้ะ ค..คุณ เอื้อยมีแฟนแล้วงั้นหรอ ไม่น่ะคุณเอื้อย อย่าทิ้งกันไป อย่างนี้ สิ!!!! )


╯︿╰


“แฟนคนไหนในคอลเล็คชั่นของหล่อนละย้ะ”


“ก็คนนั้นไงค่ะ”(คุณเอื้อยพูดไปพลางชี้นิ้วไปที่บุคคลที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน อย่ามบอกนะว่ามันคือ….)

“อ อ ไอ กา ยย ยย!!!!”(ผมเผลอชื่อของมันออกมาเสียงดังทำเอาพี่อินกับคุณเอื้อยหันมามองผมพร้อมกัน แต่ก็แค่มองแว็ปเดียวแหละครับจากนั้นก็หันกลับไปมอง ไอกายมันเหมือนเดิม)

“เอ่อแฟนที่พูดถึง…คือน้องกายใช่ไหม … หึหึ แต่เช็ดน้ำตารอเลยจ้ะ เหมือ วาน น้องเขาเป็นของชั้นเรียบร้อยแล้วย่ะ” พีอินแกเดินไปเกาะแข้งเกาะขาไอกายอย่างทะลุกทุเล ก็ตัวมันสูงนี้ครับ พี่อิน ตัวก็พอๆ กับผมนี้แหละ ไม่เตี้ยไม่สูงจนเกินไป แต่มันเนี้ย เกินคนละ = =’

“แหม่ เบาๆ หน่อยก็ดีค่ะ คนเนี้ย ของเอื้อย”( แล้วคุณเอื้อยก็เดินเข้าไปเกาะแขนมันอีกคน )

เห้อทำเอาผมตอนนี้ต้องหันไปมองหน้าไอคุณชายด้วยความเกลียดชัง แต่ดูๆ ไปเหมือนมันจะแอบ(ไม่แอบมั้ง)มองผมตั้งแต่มัน

เดินลงมาแล้ว ส่วนผมหน่ะหรอ หึ ไม่กล้าสบตามันหรอกครับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมเองก็ไม่เข้าใจ แต่ช่างมันเถอะใครจะสนใจ

 ผมรีบเดินกลับมาก้มหน้าก้มตาปั่นชาเขียวต่อไป

“อะนี้”


“อะไรเหรอ”

“ก็ข้าวของเครื่องใช้ไง เค้าเก็บมาจากในห้องให้หมดแล้วมีอะไรขาดอีกไหมลองเช็คดูสิ” ไอกายมันยื่นมือมารับถุงจากคุยเอื้อยก่อนจะรีบเปิดดูเพื่อเช็คข้างของตามที่คุณเอื้อยบอก


“อืมม ไม่มีนะครบหมดแล้ว อย่าบอกนะว่าอุตส่าห์ขับรถมาถึงที่นี้เพื่อเอาของมาให้เค้าแค่เนี้ย”

“ป่าวหรอกแค่อยากมาเจอหน้า เจ เจ เขาต่างหาก” เออเอาอีกแล้วสิครับตอนนี้ผมก็ตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งสามอีกแล้ว ทั้งสามหันมามองผม กันอย่างพร้อมเพียง (เดี๊ยวทิ่มตาเรียงคนเลยยหึ)

“หึหึ” ยังมีหน้ามาขำอีกไอห่านิ่ เมื่อวานมึงทำวีรกรรมอะไรกับกูบ้าง มึงคงยังไม่รู้ใช่ไหม แต่ช่างมันเถอะครับ มันอยากมองก็ปล่อยให้มันมองไปผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว ผมรีบเท นมสดและชาเขียวปั่นใส่แก้วก่อนจะปิดฝาและใส่ไปในถุงกระดาษสองใบ (กันละลายเร็ว) หลังจาก ทำน้ำปั่นให้สองตัวมันเสร็จ ผมก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นสอง หยิบกระเป๋ามาอย่างลวกๆก่อนจะเดินลงมาขอเงินกับพี่อิน


“คนสวยย ขอเงินหน่อยสิ” (ผมพูดไปพลางแบมือไปด้านหน้าของพี่อินแกก็ทำท่าควักๆ เงินจากกระเป๋าแก และหยิบแบงค์สีเทายื่นมาให้กับผม)

วันนี้วันดีอะไรของผมกันละเนี้ย ปกติพี่อินแกให้ผมแค่วันละสามสี่ร้อยเอง ไหง วันนี้ให้มาซะเยอะเชียวแต่ผมไม่ถามหรอกครับว่า ทำไม กลัวโดนลิบคืนครับ

“ขอบคุณครับ งั้นเจไปเรียนก่อนนะ สวัสดีครับ พี่อิน คุณเอื้อย….. มึงด้วยย” ผมหันไปมองมันอย่างกล้าๆกลัวๆมันก็มองตอบผมมาเหมือนกัน แต่ทำหน้าเฉยๆ ช่าง มึงสิครับ ผมก็หวัดดีตามมรรยาทเท่านั้นแหละ มันจะรับหรือไม่รับอันนี้ก็อีกเรื่อง ผมรีบเดินกำลังจะเปิดประตูออกจากร้านพี่อิน แกก็เรียกผม ให้หันกลับไปซะก่อน

“อ้าว เดี๋ยวๆ ไม่รอไปพร้อมน้องกายหรอเจ”

“ผมกับมันเรียนคนละคณะกัน พี่อิน ไม่ค่อยจะสนิทกันด้วย” ไอกายมันหันมามองหน้าผมก่อนจะส่งสายตา หวานๆ (เดี๋ยวๆ

หวานๆ หรอผมมองอะไรผิดไปรึเปล่า สายตาที่มันส่งมาให้ผม ตอนนี้ไม่ใช่สายตาที่ดูขรึมๆ หรือดุดัน แต่กลับเป็นสายตาที่จ้อง

มองผมด้วยสีหน้าที่ดูปกติ ผมเห็นมันแอบยิ้มที่มุมปากด้วยหล่ะ) เอิ่มมม สงสัยจะเมื่อวานคงจะกินเหล้าแล้วลืมเขย่าขวดละมั้ง วันนี้

ถึงได้ดูปั้มๆ เป้อๆอยู่อย่างงี้ ผมจ้องสายตากับมันได้แปปเดียว ขืนจ้องนานกว่านี้ ผมคงต้องเสร็จมันแน่นอน หวืยย ! ขนาดแฟน

มันอยู่ต่อหน้าแท้ๆ ยังกล้า ผมละยอมมันเลยจริงๆ
(อย่าจ้องนานสิเว้ยย กูเขิลลลล >.< )

 :katai5:
………………………………………………………………………………………………………………………………..

TBC……………………………………………………………………………………………………………………………
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ต้องกราบ(ประธานโทษเป็นอย่างสูงที่หายไปซะนาน พอดีช่วงนี้ติดเรียน กับติว V –NET อยู่ครับเลยไม่ค่อยมีเวลาว่างมาอัพให้เลย) ต้องขอโทษจริงๆ  วันนี้ วันดี เป็นวันเด็กก็เลย ขอใช้โอกาสแบบนี้ มาอัพให้เลยยละกัน ถึง คนอ่นจะไม่ค่อยเยอะเท่าไห่ร แต่ผมก็ แอบดีใจ น่ะ ที่อย่างน้อยก็มีคนแว๊ะเข้ามาอ่านบ้าง ไม่มากก็น้อย แล้วนี้ก็เป็นครั้งแรกของผมด้วย
หาก มีอะไรผิดพลาดประการใดต้อง ขอ อภัยยย อย่างสุดซึ่งเลยย จ้า !
ไว้พบ กันตอนใหม่จ้า
 #คิมกอนอู
 :katai4: :bye2:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 10-01-2016 01:07:13
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วววว รีบๆพัฒนาความสัมพันได้ล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 10-01-2016 18:46:55
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:5   ☜ ข้อแลกเปลี่ยน ☞


ผมเดินเดินออกมาจากร้าน ตอนนี้หน้าของผมแดงก่ำ สงสัยข้างในอากาศคงจะร้อน

『ได้ข่าวว่าในร้านเปิดแอร์ 20 o ไม่ใช่หรอครับน้องเจ 』แหม่พี่คนเขียนก็ ถ้าอยู่ๆ มีไอคนหน้าหล่อๆมาจ้องหน้าขนาดนั้นผมว่าเป็น

ใครๆก็เขิลกันทั้งนั้นแหละ แล้วอย่างงี้จะไม่ให้ผมเขิลได้ยังไงละ นี้ถ้าเมื่อกี้มัน แดกหัวผมได้นี้คงจะแดกไปละ จริง {@_@}

ผมยกมือขึ้นดูนาฬิกา ตอนนี้ก็เวลา 09 . 22 น .ก็ได้เวลาอัน…. 〖ห้ะ!!! 〗เก้าโมงครึ่งแล้วหรอเนี้ย ชิบหาไม่เจอแล้วไง

〖ชิบหายไงครับ ตึกโป๊ะ! แฮร่!! มุขไม่ฮาต้องขออภัย!!  = =’ 〗ก็วันนี้พวกพี่ที่คณะผมเขานัดให้ผมไปช่วยเรื่องรับน้องนะสิ

“แถมวันนี้ยังจะต้องเป็นพี่หรัสกับน้องคนไหนก็ไม่รู้ โอยยย!จะทำยังไงดีละเนี้ย !

(อ่านึกออกแล้วครับ เวลาแบบนี้ต้องโทรถามไอวินว่าอยู่ไหนแล้วจะได้ให้มันมารับซะหน่อย) ผมรีบมือหยิบโทรศัพท์มา

จากกระเป๋ากางเกงอย่างทุลักทุเล ก่อนจะกดเบอร์ปลายสาย “หมาวิน” (ผมเปลี่ยนชื่อให้มันแล้วครับ ฮ่าๆ ซะใจ)

“ตื๊ด!!!!!ๆๆๆ”


〖ฮัลสิบสองชิ้น(ฮัลโหล 5555 คิดได้ไงวะ)ไอวินตอนนี้มึงอยู่ไหนแล้ววะ〗


〖 กูมาถึงได้ซักพักนึงแล้ว ตอนนี้มึงอยู่ไหน〗


〖กูพึ่งออกจากร้านเมื่อกี้เองวะ พอดีกูลืมไป ว่าวันนี้มีนัดกับพวกพี่ริวแกไว้อ่ะ 〗(พี่ริวแกเป็นพี่รหัสของผมครับเรียนอยู่คณะเดียวกัน)


〖ตายยั๊งเขียดแน่มึงห่า มึงก็รู้ว่าพวกพี่ริวกับพี่ก้องเวลาเขาโมโหแล้วมันจะเป็นยังไง แล้วทำไมพึ่งจะโทรมาบอกกูตอนนี้ห้ะ!! 〗


〖 โอ้ยยอย่าพึ่งมาพูดอะไรตอนนี้ได้ไหม แล้วมึงมารับกูได้ปะนะ〗(ผมถามวินกลับไปหลังจากโดนมันเทศนาอยู่พักนึง)


〖ตอนนี้กูกระดิกไปไหนไม่ได้เลยวะ พวก พี่ก้อง เขาใช้งานกูอยู่เลยวะ โทรหาอะไรตินรึยังมึง มันน่าจะว่างโทรให้มันไปรับมึงดิ 〗
(เออจริงด้วยแฮะ ยังมีไอตินอยู่นี้นา )

〖เออๆ จริงด้วย แต่มันจะว่างอยู่หรอวะ ขนาด มึงยังไม่ว่างเลย แล้วมัน จะว่างหรอ! 〗


〖ยังไงก็ลองโทรดูก่อนละกัน กูต้องไปช่วยงานพี่เขาต่อละ ออกมานานเดี๋ยวพี่เขาว่าเอา!  ไปละ รีบมาละมึง〗
〖เห้ยย! ไอเชี่ย วิน เดี๋ยวๆ! 〗


“ตื๊ดดดด !!ๆๆๆ”(มันตัดสายไปละครับบโอยยังไม่ทันขอเบอร์ไอตินกับมันเลย ตั้งแต่มันไปอยู่กับพ่อแม่มันที่ต่างประเทศ มันก็เปลี่ยนเบอร์ไปหลายหนแล้วครับบ ไม่คิดจะบอกกันเลยใช่ไหมเนี้ยย )


┳︻┳


〖อ่าๆ ใช่ๆ ยังมีพี่แท็ก อยู่นี้ครับ (TaXi) แต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีคันไหนจะจอดให้เลยแหะ!〗



ปี๊ดดดด! เหี้ยยยยยย!!!! ตกใจหมด”เสียงบีบแตร ดังมาจากด้านหลัง ผมรีบหันไปดูตามต้นเสียงที่ได้ยิน... รถคันนี้ ทะเบียนนี้ ท่าทางแบบนี้ ชัดเลย


〖ไอเชี่ยกาย!!〗ผมเผลอสบถ ชื่อจริงมันออกมาไม่รู้นานเท่าไหร รถของมันค่อยๆ ขับเข้ามาเทียบผมกับทางฟุตบาท  เกือบ เหยียบตีนผมแหนะ ดีนะกระโดดขึ้นทัน


มันค่อยๆเลื่อนกระจกรถลงมาก่อนจะทักทายชื่อที่มันใช่เรียกผม
〖ไอชั้นใน นึกว่าใคร เห็นออกมาตั้งนานแล้วนิ่ ทำไมยังมายื่น บื้ออยู่ข้างฟุตบาทอีก〗(ทักทายซะกูอยากจะตอบมากเลยห่ากูหนีมึงมานี้แหละ)

〖ซักผ้ามั้งห่า ถามได้รอรถสิ !〗


〖ถามดีๆ ทำไมต้องตอบกวนตีนด้วย ห้ะ〗(ก็ถ้าถามดีๆ ผมก็จะตอบมันอยู่หรอก มาถึง ก็ เรียกชื่อกูซะเสียเลยไอห่า)


〖กูจะไปม. จะไปด้วยไหม ถ้าไปก็ขึ้น〗(มันทำหน้าดุๆใส่ผมก่อนจะหันไปสนใจด้านหน้าต่อ)


〖。。。。。。。〗

〖เงียบแสดงว่า ไม่ไปใช่มั้ย?〗(ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรมันไป มันก็ทำทีท่าจะเลื่อนกระจกขึ้นจนเกือบจะสุด แต่ผมรีบเอามือไปกันไว้ก่อน.. โอ้ยยย! หนีบครับกระจกหนีบมือผมเข้าอย่างจัง ท่าทางมันดูตกใจ มันค่อยๆ เลื่อนกระจกลงมาอีกครั้งก่อนจะจ้องมาที่หน้าผม)


〖กูขอติดรถไปด้วยคนดิ〗(เสียหน้ามากครับไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้ผมจะต้องมาขอร้องมัน แถมยังโดนกระจกหนีบเมื่อกี้อีกยิ่งอายเข้าไปอีก)


〖ขึ้น รถสิ !ยืนบื้อทำไมอีก〗( ผมกำลังจะเปิดประตูด้านหลัง แต่ดันมีเสียงของมันค้านผมเอาไว้ซะก่อน )


〖กูไม่ใช่คนขับรถมึงนะ มานั่งหน้านี้ กูไม่ทำอะไรมึงหรอกหน่ะ!〗มันตบที่เบาะด้านหน้าสองสามก่อนที่ผมจะเปิดประตูไปนั่งคู่กับมัน


“ผมเองกก็ไม่กล้าเถียงอะไรมันหรอกครับได้แต่นั่งหน้า เจ๋อ อยู่กับมันเหมือนผมเป็นคนใบ้เลยครับ”



⊙✕⊙
……………………………………………………………………………………


ขับรถออกมาได้ซักพักนึง ตอนนี้ รถเริ่มติดครับ อากาศข้างนอกนี้ร้อนหน้าดู แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกร้อนอะไรเลยหล่ะทั้งๆ ที่มีแดด

ส่องมาที่ผมนั่งอยู่ อ่อ สงสัยจะมันคงจะติดฟิลม์กันร้อนละมั้ง หึหึ! (ทัมด๊า คนมีกระตาง) = 3=


〖มื........〗 (ไออสูรกายมันบ่นอะไรพึมๆอยู่คนเดียวตั้งแต่เมื่อกี้ละ ภาษาชนเผ่ากอลิล่าหม่าง 555)


〖มือ..... เอ่อออ〗

〖จะด่ากูก็ด่ามาตรงๆเลยยไม่ต้องบ่นพึมพำหรอกห่า กูรำคาณ〗(เอาแต่นั่งบ่น งุ้ง งิ้งๆ เหมือนแมงหวี่ไปได้ เห็นแล้วมันรำคาณตามากครับ)


〖มือมึง เป็นอะไรรึเปล่า〗(เอิ้มมม..... เงียบเลยครับสิ่งที่มันบ่นมาตลอดทางเมื่อกี้ไม่ใช่คำด่าหรือภาษาชนเผ่าของมันแต่ออย่างใด แต่มันถาม เพราะเป็นห่วงผม อย่าง งั้น หรอ ถถถถ ให้เต่าบินได้ผมยังจะตกใจน้อยกว่า )

⊙o⊙

〖ก็ไม่เป็นไงอ่ะ หนังกูเหนียว ขับรถมองทางไปเหอะ ไม่ต้องมามองกู เดี๋ยวได้ตายห่าทั้งคู่หรอก!〗(จริงๆ แล้วก็ไม่เชิงเจ็บ

หรอกครับ ปวดซะมากกว่า โดนตรงข้อพอดี ผมเลยนั่งกุมมือมาตลอดทางเลย) “อีกทางแยกข้างหน้าเลี้ยวซ้ายก็ถึงม. แล้วครับแต่มันดันเลี้ยวขวา จอดที่หน้าเซเว่นซะก่อน (เซเว่นอยู่หน้าม.ครับ ส่วนข้างในก็มีแต่อยู่ใกล้ๆ ตึก นิเทศ)จะมาหิวอะไรตอนนี้เนี่ย คนยิ่งรีบๆ อยู่ มันเดินเข้าไปในเซเว่นพักนึงก่อนก่อนจะเดินออกมา พร้อมกับถุงเซเว่น เล็กๆ แต่ไม่เห็นจะมีของกินซักชิ้นเลยรึว่ามันกินข้างในเรียบร้อยแล้ว ”

〖อ้ะ!...〗(ก่อนจะขับยูเทริน ออกมามันก็โยนถุงที่พึ่งเดินถือมาเมื้อกี้ให้กับผม)

〖อะไรวะ!ยาเบื่อ อ่อ!〗

〖ถ้าหาเจอก็รีบแดก ไป จะได้หลับสบาย〗 (ที่ผมถามเพราะสงสัย ไม่ได้ตั้งใจจะกวนตีนมันหรอก แต่ผม ก็ยังไม่ได้เปิดดู
หรอกว่าข้างในมันมีอะไร)


... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ... ...

ตอนนี้ผมถึงม. ด้วยร่างกายครบสามสิบสองครับ ไม่มีตรงไหนบุบหรือเสียหายอะไร ก่อนจะลงจากรถผมก็ไม่ลืมพูดคำๆนึงให้กับมันไปl

〖ข..อบใจมากนะเว้ยที่ขับมาส่ง แล้วก็ไอนี้ ด้วย (ซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไว้เจอไอวินค่อยเปิด เพื่อเป็นระเบิดจะได้ตายพร้อมกัน555) คิดได้เน้อผมเนี้ย〗


〖ไม่ต้องขอบใจ เพราะกูไม่ได้ให้ฟรีๆ〗(อ้าวไอห่าผมก็อุตส่าคิดว่าคนอย่างมันจะมีน้ำใจแต่เปล่าเลย สุดท้ายแม้ง ก็เหมือนเดิม)


〖อ้ะ.. 〗(ผมยื่นแบงค์พันที่เพิ่งได้มาจากพี่อินเมื่อกี้ให้ไอกาย มันทำหน้าเหวอๆ ก่อนจะยื่นมือมาตบหัวผมทีนึงเน้นๆ)

〖โอ้ย! มึงตบหัวกูทำไมอีกเนี้ย กูก็ให้แล้วไงเงินเนี้ยก็รับไปสิ〗

〖กูไม่ได้ต้องการเงิน แต่กู.... 〗(มันพูดไปพลางมองผมตั้งแต่ขาขึ้นมาหน้า ทำไมรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้แหะ )(ถ้ามองงจากบนลงล่าง ผมยังจะรู้สึกดีกว่านี้อีก สงสัยผมคงจะคิดมากไปเอง)


Trrrrrrrr.....เสียงสั่งมาจากประเป๋ากางเกงผม รีบหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมา “หมาวิน”(ผมรีบกดรับสายทันที)

〖ฮัลโหล (คราวนี้ไม่มุกแหะ ) เออ... ถึงแล้ว...เปล่ากูไม่มีเบอร์มัน...หมาแถวนี้แหละ(พูดถึงหมามันหันมามองห้นาผมเลยครับ

บ 555) เออออกมารับกูดิ่... เค รีบมาละ......〗ผมกดวางสายไอวินไป แต่ไอกายมันจ้องหน้าผมอยู่เลยครับ (นี้มึงแค้นฝั่งหุ่นก็
ขนาดนี้เลยรึไงห้า!!)


〖กูเปล่าด่ามึงนะ?〗(ใครจะไปยอมรับละครับว่าผมด่ามัน )


〖กูก็ไม่ได้ส่าอะไรนิ่ ร้อนตัวอีก 〗(อ้าวสรุปนี้กูร้อนตัวไปเองใช่ไหมเนี้ย = =’)


〖ไม่เอาก็ดี..... แล้วสรุปมึงจะเอาอะไร?〗(ผมรีบเก็บเงินใส่กระเป๋าเสื้อเหมือมเดิมทันที กลัวมันจะเปลี่ยนใจมาเอา 55)


〖ไว้คิดออก....เดี๋ยวบอก〗(อืมมม ทำไมคำพูดมันดูเหมือนมีอะไรแอบแฝงเลยน้าน่าสงสัยจริงๆ)


“ก๊อกๆๆ!!!”

〖เหี้ยๆๆ!〗ตกใจหมดครับไอวินอยู่ๆก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ผม เอื้อมมือไปเลื่อนกระจกลงก่อนจะสบสายตาปิ้งๆ กับไอวินมัน

〖ว่าไงที่รัก มากับใครละวันเนี้ย แรด จริงๆ นะมึงเนี้ย อ้าว ไอกาย มาไงวะมึง〗(บินมาละมั้งห่าถามแมวๆ ผมละอยากตอบแทน

ไอกายมันจริงๆก็เห็นๆกันอยู่ว่าขี่รถมายังจะมาถามอีก)

〖ก็ขับรถมา แหละวะ พอดีขับบรถมาเจอ หมาอยู่ข้างทาง เลยเก็บมาด้วย〗(ไอๆ หมาๆ คงไม่ได้หมายถึง กูกันใช่ไหมครับมึงๆ)

〖มึงด่าใคร!〗 :hao3:

〖ป่าวด่าใครนิ ทำไมร้อนตัวหรอ ?〗(จะว่าไปก็จริง แหะ มันอาจจะว่าคนอื่นก็ได้ แต่มันก็มีผมแค่คนเดียวนี้นาที่นั่งรถมากับมัน

เนี่ย จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่ผม  ผมไม่ได้เถียงอะไรมันกลับไป หรอก เดี๋ยวยาว

〖ไหน ของฝากกู อะ  〗 (ไอวินมันเปิดประตูรถ ก่อนจะยื่นมือมาที่หน้าของผมแหม่ สุดท้ายแล้ว แม้งก็เห็นของกินดีกว่ากู ไอเพื่อนเลว= =’)

ผมปิดประตูรถให้อสูรกายมัน ก่อนที่มันจะ ขับรถหนีออกไปอย่างไว

〖อ้ะ..(ผมยื่นถุงที่มีนมสดปั่นใส่แก้วอยู่ข้างในยื่นให้กับมัน)〗

〖เฮ้!ดาริ้งง!!!〗(มาแล้วครับ มาอีกตัวแล้ว มาวันแรกก็เอาเล่นผมซะแล้ว จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอติน เพื่อนสุดซี้ (ที่หน้า

ถีบ)ตะโกนทักทายผมมาแต่ไกล มันไม่ค่อยจะเรียกชื่อผมหรอก เรียกแต่ๆ ฮันนี่ ดาริ้งๆ อะไรของมันนี้แหละ ผมชินแล้ว)

〖อ้ะนี้ ของมึง..〗ทันทีที่ไอตินเดินเข้ามาถึงผมก็ยื่นให้ชาเขียวให้มัน

〖แหม่ ที่กู ละต้องขอ ที่ไอตินนี้ แทบประเคน ฆวย เพื่อนกันมันดูตรงนี้แหละน้า〗

〖หึ ไอสัสทำเป็นนอยกู ที่บอกให้ไปรับละเสือกไม่ไป ไหนว่างานมึงเยอะมือเป็นระวิงเลยไง ไหนเสือกเดินมารับกุได้ละห่า〗(ไอวิน เงียบไปพักนึงก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ส่งมาให้ผม)

〖แล้วทำไมเจ ไม่โทรหาตินละ 〗

〖ถ้ากูมีเบอร์มึงก็คงจะดี ห่า เปลี่ยนเบอร์เดือนละกี่รอบ มึงหน่ะ〗


〖เออ ใช่ๆ  ลืมไปแฮร่ๆ〗(ไม่ต้องมายิ้มเลยนะสัส มึงก็ผิดที่ไม่ยอมบอกเบอร์กู เอ๊ะ หรือผมไม่ขอมันเองกันแน่)


〖งั้นเจเอาโทรศัพท์มา เดี๋ยวตินพิมเบอร์ให้ 〗(ผมยื่นโทรศัพท์ไปให้มันก่อนที่มันจะหยิบไปพิมอะไรงิกๆ และส่งคืนมาให้กับผม)

〖เรียบร้อย อ้ะ!〗


〖แล้วนี้มึง ซิ่วมารึไงเนี้ย ตกลงเข้าคณะไหน ?〗


〖อืมยังไม่รู้เลย ไว้ดูๆ ก่อน 〗 (เออๆแล้วแต่มันเลยละกันครับไอนี้เรียนคณะอะไรแม้งก็รอดไอคิวสูงปรี๊ดดดด ซะขนาดนั้นต่างจากผมเลยแหะ ในหัว ไอคิวไม่มีกับเขาหรอก มีแต่ ขี้เลื่อย 555)


〖อ้าวๆ แล้วจะยืนบื้ออีนานไหมเนี้ย คร้าบบพี่วินน ไหนว่าที่คณะยุ่งอยู่ไม่ใช่หรอ ก็ไปกันสิครับ หรือต้องรอให้มีฝ่าตีนมาประเคนกันก่อนถึงจะไปกันได้〗ไอวินมันเชิ่ดหน้าใส่ผมก่อนจะเดินนำหน้าผมไปที่ตึกมนุษย์ศาสตร์


มาถึงคณะ เสียงกลองก็ดั่งกระหึ่มเลยครับ วันนี้ มีกิจกรรมรับน้องปีหนึ่งหน้าใหม่กันนี้นา ตึกผมดูคึกคักมากเลยครับ ส่วนวิศวะ

ผมๆเดาว่าคงจะหน้าเคร่งเครียดกันน่าดู ได้ข่าวว่า พี่ว้ากคณะนั้น โหด สัสรัสเซีย ต่างจากคณะผม ต้องเรียกว่าพี่อ้อน ถึงจะถูก ใจ

ดี พูดเพราะ ไม่ป่าเถื่อน เหมือนคณะอื่นๆ เขา


〖น้องเจ .. น้องเจ ครับบบบบ!!〗เสียงตะโกนเสียงดังมาจากซุ้มด้านหลัง ทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปมอง ..

〖พี่ริว!!〗

TBC...............................................................

ตอนนี้อาจจะจบแบบดื้อๆ หน่อยนะครับ พอดี พอทเรื่องมันยาวเลย ต้องตัดจบบแบบ นี้ เอาไว้พรุ่งนี้จะมาต่อเรื่องให้นะครับ ขอประทานโ :hao4:
                                  (。→‿←。)〖#คิมกอนอู〗
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-01-2016 18:33:32
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:6 ✟วันรับน้อง✟


เจ!!〗(เสียงตะโกนที่ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงกลองที่ดังเป็นจังหวะตามมาด้วยเสียงร้องเพลงจากพี่ๆนันทนาการ)

พี่ริว!!〗(ผมขานรับเสียงจากพี่ริวก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่เขาที่ซุ้มด้านหลัง)

พี่ริวแกเป็นรุ่นพี่ปีสามที่ขณะของผมเองครับ (จริงๆแล้วแกเคยเป็นรุ่นพี่ผมมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วผมกับพี่เขาเราเรียนที่

เดียวกัน) เลยทำให้ผมสนิทกับพี่แกมากๆ แต่คงไม่ถึงขั้นตบหัวกันเล่นได้หรอกนะ ฮ่าๆ พี่ริวแกเป็นคนที่มีรูปร่าง ที่โคตรจะดี

(เห็นว่ามีซิกแพกด้วยนะ ผมคยเห็นตอนพี่แกถอดเสื้อเล่นบอลเมื่อปีที่แล้วหน่ะ) ส่วนสูงที่เกินมาตรฐาน หน้าตานี้ ก็ยังดีอีก
 
เรียกได้ว่า เกิดมาเพอเฟคเลยทีเดียวเชียว เลยตกเป็นเป้าสายตาของคน แทบจะทั้งคณะ ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่สาวแท้สาม

เทียม เพื่อนๆ ผมนี้ตามจีบกันเป็นพรวน แต่ดูเหมือนพี่แกจะไม่ได้สนอะไรใครเป็นพิเศษซักที อย่างเพื่อน ผมที่ว่าสวยๆยัง

โดนพี่แกปฏิเสธมาแล้วเลย สเปคพี่แกคงจจะสูงมากแน่ๆ ละผมว่า = =’

〖มีอะไรให้เจช่วยรึเปล่าครับ พี่ริว!〗(ผมเดินมายิ้มแกล้มปริเลยหลังจากที่เดินมาที่ซุ้มผมก็กล่าวสวัสดดีพวกเพื่อนๆพี่ๆของพี่ริวเลย มีพี่นุ้ก(นิเทศ) พี่เจน(วิศวะคอม) พี่บีม(วิศวะอะไรไม่รู้ผมไม่แน่ใจ) พี่ริวแล้วก็ พี่ปอนด์ส่วนพี่ปอนด์เรียน รัฐศาสตร์ทั้งกลุ่มเขาสนิทกันมากๆครับ เห็นเวลาพี่ริวไปไหน เดินตาม กันเป็นระวิงเลย)

〖ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่เห็นพี่ก็เลยเรียกดูเฉยๆ ได้ข่าววันนี้มีพี่ชายคนใหม่มาส่ง นึกว่าจะลืมพี่ชายเก่าซะแล้ว!〗


〖แหม่ พี่ก็พูดไปพี่ชงพี่ชายใหม่ที่ไหนกันละ เพื่อนไอวินมันหน่ะ ผมไม่มีทางลืมพี่ชายที่แสนดีอย่างพี่ริวได้หรอกคร้าบบ! 〗(ผมพูดพลางชี้นิ้วไปที่ไอวิน แหม่ ขยันขายข่าวกูจริงๆ นะมึง เรื่อง เผา เพื่อนนี้ขอให้บอก ไอวิน มันถนัดนัก)

〖เดี๋ยวนี้หัดพูดจาหวานๆกับพี่ก็เป็นนะเราอะ〗(พี่ริวพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานๆ ส่งมาให้กับผม เห็นแล้วมัน แปลกๆ ดีครับ ขนาดผมเองเป็นผู้ชาย ยังหลงรอยยิ้มของพี่ริวแกเลย ^ ^)

〖รู้ได้ไงว่า หวาน เคยลองแล้วอ่อ ?〗 (โฮ!!!!!!!! กันทั้งซุ้มเลยครับคงไม่คิดไม่คิดละมั้งว่าผมจะกล้าหยอดมุกใส่พี่ริวทั้งๆ ที่คนยังเต็มซุ้มขนาดนี้ )

〖ก็ อยากหาโอกาสลอง อยู่เหมือน กันแต่ไม่รู้ว่า จะมีรึเปล่า !!〗 (โหยยยย! เสียงนกเสียงกาโห่แซวอีกแล้วครับ พี่แกนี้ก็ขยัน หยอดมุขกลับมาจริงๆ)


ผมยืนนิ่งไปไม่พูดอะไรกะจะลองแกล้งพี่แกเล่นซะหน่อย!


〖ฮึ่ย พี่ล้อเล่น ยังไม่ชินอีกหรอ โกรธพี่ปะหน่ะ?〗 (พี่แกหันมาง้อผมเลยครับว่า แล้ว ว่าพี่แกต้องใจอ่อนจนได้ฮ่าๆ จริงๆ ผมมมีแผนการแอบแฝงครับ อิอิ)


〖………〗(ผมเดินหันหลังออกมาจากซุ้ม แต่พี่ริวแก เอื้อมมือมาดึงผมไว้ก่อน)


〖โอ๋ๆ ไม่นอย พี่สินะคนดี นะๆ เดี๋ยวตอนเย็น พี่พาไปเลี้ยงขนมปลอบใจ ไปไหม?〗 ถ้าพี่คิดว่าผมเป็นคนเห็นแก่กินอย่างนั้นละก็  หึหึ พี่ (คิดถูกแล้วครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!! เล่นตัวก็อดเส้)


〖ร้านกาแฟ ☆یŦαя Café บราวนี่สองชิ้น คาราเมล หวานน้อยหนึ่งแก้ว เวลา 16.00 น. ห้ามสาย ห้ามเรท ห้ามเบี้ยว โอ เค มั้ยครับพี่ริว ?ฮิฮิ〗(พี่ริวแกดูหน้าเหวอไปเลยครับ หลังจากที่ผมตอบรับคำเชิญ ก่อนจะบอกร้านสถานที่และเวลากลับไป อย่างไว)


〖อะ... ค...ครับ〗

〖ถุ้ย ที่แท้ก็ประเหลาะ แดก ห่านน〗(เสียงไอวินครับ ไม่แขวะกูซักเรื่องนี้มึงนอนไม่หลับใช่ไหมห้ะไอห่าวิน) อ้าวแล้วมันโผ่ลหัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันละเนี้ย


〖ว้า ตอนแรกก็ว่าชวนไปด้วย คิดไปคิดมาไป แดก!!(เน้นคำว่าแดกครับ) คนเดียวดีกว่าเปลือง〗มันรีบวิ่งมาเกาะแขนผมก่อนจะเอาหัวมันมาถู่กับไหล่ของผมเลยครับ แหม่ มึงก็ไม่ได้ต่างอะไรจากกูเล๊ยไปไอวิน)


〖เมื่อกี้ละยังด่ากู  ขยันเปลี่ยนสีจริงๆ นะมึงอ่ะ〗(ผมตบเน้นๆไปที่กระบาลมันหนึ่งทีครับข้อหาหมันไส้ มันยืนลูบหัวตัวเองก่อนจะเอาหัวของมันกลับมาซบที่ไหล่ผมดั่งเดิม

〖งั้นไว้เจอกันนะครับพี่ริว!〗(ผมบอกพี่ริวไปขณะที่กำลังจะเดินออกจากซุ้ม )

〖โอเคร งั้น เย็นๆ  เจอกัน ว่าแต่เจเปลี่ยนเบอร์แล้วรึยัง?〗

〖อ่อ ยังครับ เจยังใช่เบอร์เดิมแหละ โทรหาได้ตลอด 24 ช.ม เลยครับ〗。→‿←。 (พี่ริวแกพยักหน้ารับหงึกๆ และโบกมือ บ๊ายบาย

ก่อนที่ผมและไอวินจะเดินจากซุ้ม ออกมาด้านนอกครับ (จริงๆ แล้วต้องเรียกว่ามันลากผมมาถึงจะถูก ) ก่อนจะเดินออกมานี้ ผม

ถูกสายตานับร้อยคู่จ้องมองมาที่ผมกับไอวินเลยครับแหม่ ยืนคุยกับคนดังของคนทั้งคณะอย่างนี้ จะไม่ให้ถูกมองได้ยังไงละจิงไหม?)

ผมกับวิน เราเดินออกมาจากห้องประชุม ก็รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ สงสัยเมื่อกี้ตอนอยู่ข้างในจะโดนแย่งออกซิเจนกันไป

ซะหมด เล่นหายใจกันไม่ทันกันเลย  (ก็ข้างในมันร้อนนี้นา) ⊙ω⊙ หลังจากออกมาได้พักนึง ไอวินก็พาผมเข้ามา ตรง จุดลับตา

คน (ซอกตึกข้างๆแหละครับ) ไอวินมันหยิบ บุหรี่ พร้อมจุดไฟ ยื่นมาให้กับผม

〖กูไม่ดูด มึงก็รู้ ยังจะเสือกยื่นมาทำไม?〗

〖ก็เห็นมึง เครียดๆ ไม่ลองหน่อยหล่ะช่วยนะเว้ย〗มันยังดื้อดึงจะยัดเยียดให้ผมจนได้ ผมเลยหยิบ รับมาแบบลวกๆ ก่อนจะโยนข้ามกำแพงไป

〖เห้ย! ไอห่า ทำไรวะ มีตัวเดียวนะนั้นหน่ะ〗ไอวินมันยืนด่าผมๆ ฉอดๆ หลังจากที่ผมโยนลูกรักมันข้ามกำแพงไป

〖จะดูดทำห่าอะไรนักวะ ดูดไปกูก็ไม่เห็นแม้งจะมีเชี่ยอะไรดีขึ้นมาเลย มีแต่ตัวมึงอะ ที่แย่ลง ?〗

มันเอามือล้วงตรงกระเป๋าเสื้อ อยู่นานสองนาน แต่ก็ไม่เห็นจะหยิบอะไรขึ้นมาเลย ผมคิดว่ามันคงจะหาบุหรี่ตัวใหม่ แน่ๆ

〖ไม่มีแล้วละสิ สมแล้ว อยากมาดูดต่อหน้ากูเองทำไม〗จริงๆ ผมก็ไม่ได้เกรียดคนที่สูบบุหรี่อะไรขนาดนั้นหรอกแต่แค่ไม่ชอบให้คนทุกคนที่ผมรู้จัก ยุ่งกับของแบบนั้นเท่านั้นเอง เหม็น ก็เหม็นข้อเสียก็เยอะ ไม่รู้จะดูดกันไปทำไม? ผมละไม่เข้าใจความคิดมันเลยจริงๆ

〖อ้าว!ไอกาย〗แค่ได้ยินเสียงเรียกชื่อมันทำให้ผมผวาไปทั้งตัว ไม่ต้องหันไปมอง ไปมองก็รู้สึกได้ว่า กำลังมีสิ่งชีวิตตัวหนึ่ง (ย้ำ!ตัวหนึ่ง) กำลังคลืบคลานจากด้านหลังของผม

〖อ้าวนึกว่าใคร ไงครับ ลูกหนี้!〗 ชิหายละครับมาถึงก็คุยเรื่องหนี้เลย ทำไมมันถึงไม่ไปสนใจคนที่เรียกชื่อมันเมื่อกี้เล้า มาสนใจกูทำม้ายย  (⊙...⊙ ) นึกๆ ไปแล้วเมื่อกี้ผมไม่น่าเขวี้ยงลูกรักไอวินมันทิ้งเล๊ยจริงๆ พลาดแล้วตู ปีนไปเก็บตอนนี้ทันไหมวะ  (แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมันกลับไป ได้แต่ยืนหันหลังให้มัน ขณะเดียวกัน มันสองคนก็ยืน คุยกัน ชนิดที่ว่า ลืมหัวผมไปเลยหล่ะ ดีๆ ละ ทำต่อไป อย่าเห็นหัวกูเลยยย)

〖กูขอบุหรี่ตัวนึงดิ〗มุดคอนกรีตหนีไปตอนนี้จะทันไหมวะ  แปะ! เสียงฝ่ามือของบุคคุลใดบุคคลหนึ่ง กระทบที่บ่าของผมออร่าความเลวมันบ่งบอก ว่านี้คือฝ่ามือ ของไอ….


〖ทักแล้วทำไมไม่ตอบละหึ !〗นั้นไงกูเดาไม่ผิดจริงๆ แล้วตอนนี้ไอเชี่ยววินมันหายไปไหนละเนี้ย ไม่มาช่วยกูออกไปก่อนเล่า ไอเพื่อน ตะหลิวทับพี (ทรพี แฮร่ๆ ยังๆจะตายห่าอยู่แล้วยังจะเล่นอีก)


〖ว่าไงละครับที่รัก!〗ห.ห..ห้ะ ท.ท..ที่ รัก

〖ใครที่รักมึง!!〗ผมตกใจกับชื่อที่มันเรียกผมมากน้ำเสียงของมันทำให้ผมต้องหันหลังกลับไป มันยืนเอามือพิงกำแพงข้างส่วนอีกมือก็ท้าวสะเอวอยู่ แถมยังแสะยิ้มเลวๆ ที่มุมปากของมันอีก เห็นแล้วสยองดีครับ บรื๊ยย!

〖กว่าจะหันมาดีๆ ได้〗

〖แหนะๆ แอบไปแซ่บกันเมื่อไห่ร แล้วไม่บอกกูกันรึเปล่าพวกมึงสองคน หน่ะ ห้ะ !〗ทีตอนกูอยากให้อยู่ละไม่เสือกอยู่ แต่พอตอนมีเรื่องหน้าอายเกิดกับกูทีไร แม้ง โผ่ มาเหมือนผีทุกที

〖ถ้ามึงเชื่อมัน มึงก็แมวและ 〗ผมตะโกนไปที่ด้านหลังของไอกายมัน ตอนนี้มันยืนบังผมมิดเลยครับ ห่า จะแข่งกันสูงไปไหน


〖จะด่ากูควาย ก็ด่า ห่ากูขี้เกรียดคิดตาม 〗 แหนะ มียอมรับกลับมาด้วยครับ ผมเปล่าพูดหน่ะ  มันยอมรับของมันเอง
ฮ่า ฮ่า

〖ไอ วินมึงออกไปก่อนได้ป่าววะ กูมีธุระต้องคุยกับมันสองคนก่อน〗 ห..เห้ยย สองคนอ่อ เดี๋ยวสิไอเหี้..วิ.. ผมยังไม่ทันที่จะได้เรียกชื่อ มันก็เปิ่นแน่บหายไปซะก่อน ฮือ ฮือ พ่อแก้วแม่แก้ว ลูกคงมีบุญเพียง เท่านี้ ลาก่อน ชาวโลก



…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฟิ้วว(ๆๆเสียงลมๆ 555) มันเงียบมากจนทำให้ผมได้ยินเสียงลมที่พลิ้วไหวไปมารอบตัว บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด เสียงกลอง

 ที่เคยดังอยู่เมื่อครู่ กลับเงียบหายไป ราวกลับไม่มีสิ่งมีชีวิตได้ๆอยู่ตรงนั้น เลย สิ่งที่ผมได้ยินในตอนนี้ คือเสียง ของผมที่หายใจ

ออกมา เสียงดัง คงเพราะตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเกร็งๆ กับ ท่าทีของมัน ที่อยู่ก็ซึมๆ เงียบไป ทีท่าเริ่มไม่ดีแล้วสิ ผมเลยถือโอกาสนี้พูดกลับไปบ้าง

〖คือเรื่องเงิน หน่ะ ถ้าจะมาทวงตอนนี้ กูไม่มีให้มึงหรอกนะ ม..ไม่ใช่ ว..ว่ากูจะเบี้ยวนะ..แต่..กู..กำลัง. ฮึก..〗 โอ้ยบ้าจริงอยู่ๆ

หยาดน้ำตาของผมก็ไหลออกมา พอเวลาผมอยู่ในสถาการณ์ที่กดดัน โดยที่ยังหาทางแก้ไม่ได้ทีไร มันก็จะเป็นอย่างนี้แหละครับ
เสียหน้าชะมัด    ︶︵︶

〖เฮ้ย แล้วมึงจะร้องไหทำไมเนี้ย กลัวกูขนาดนั้นเลยหรอ〗ยิ่งได้ยินเสียงมันยิ่งทำให้น้ำตาผมไหลพรากกว่าเก่าอีกครับ เมื่อกี้แค่ซะอื้นแต่ตอนนี้ร้องแล้วครับ T_T

〖เด็กจริงๆ〗

〖ใครเด็ก!〗ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลพรากอยู่ที่แก้มทั้งสองข้างก่อนเงยหน้าขึ้นไปสบตาเข้าอย่างจัง กับมัน  :hao3:

〖ก็มึงไง ร้องไห ยังกะเด็ก โตขนาดนี้แล้ว แค่กูพูดแค่นี้ น้ำตาก็ตกแล้วหรอ หึหึ !〗

〖เงินแค่สองแสน ทำเป็นทวง(ตั้งสองแสน)〗โอ้ยพูดอะไรออกไปวะนั้นผม แล้วอย่างงี้ จะไปหาเงินมาจากไหนคืนให้มันได้เล่า เกิดมันทวงขึ้นมาตอนนี้ละแย่เลย

〖กูยังไม่ได้พูด ถึงเรื่องเงินซักคำ คิดเองเออเอง เด็กชิบหาย〗ห..ห้ะ อ้าว นี้สรุปมันไม่ได้จะคุยกับผมสองคนเพราะเรื่องเงินหรอกเหรอเนี้ย แอบกลัวจนฉี่แทบราด ห่าเอ้ย


〖แล้วมึงมีเรื่องอะไร ถึงคุยต่อหน้าไอวินไม่ได้ละ ทำไม ต้องคุยกันสองคนด้วย〗 นั้นหน่ะสิ ถ้าไม่ใช่เรื่อง เงินแล้ว จะเป็นเรื่องอะไรอีกหล่ะ หรือผมไปทำอะให้คุณชายแกไม่สบายใจอีกรึเปล่าเนี้ย ? ⊙﹏⊙ แต่ลึกๆ ก็โล่งครับ ที่ไม่ใช่เรื่องเงิน ฟู้วว!!!


〖คือ ..กูจะมา.เอ่อ.. ขอบ..〗

〖เจ!〗เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลังของไอกาย แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงไอวินครับแต่ เป็น “พี่ริว” ผมรีบปัดแขนไอกายที่ยืนท้าวกำแพงอยู่ ก่อนจะรีบเดินไป หาพี่ริว ที่ยืน อยู่ตรงด้านหน้า ของตึก พี่ริวแก เดินเข้ามาหาผมที่กำลังถูกไอาย เอาแขนยืนกันผมไว้อยู่


〖. . .  .〗

〖เจเป็นอะไรร้องไห หรอ 〗

〖ป่าวนิครับ . . .〗พี่แกคงเห็นตาผมยังแดงก่ำอยู่เลยถามขึ้นมาแบบนั้น

〖ใครทำอะไรเจ บอกพี่มา ?〗หน้าของพี่ริวดูไม่พอใจกับคำตอบผมอย่างมาก ก่อนจะเดิน ลึกเข้าไปเพื่อจะคุยกับไอกาย แต่ผม ดึงมือพี่แกเอาไว้ก่อน

〖ฝีมือกายมันใช่ไหม!〗 :z3:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-01-2016 19:03:19
〖มันไม่ใช่อย่างนั้นพี่ คือ... เอ่อ..ผมแพ้ควันบุหรี่หน่ะ〗แหม่ คำตอบแลหน้าเชื่อมากเลยเน้อไอเจเอ้ย

〖ควันบุหรี่ เนี้ยนะ ?〗พี่แกดูตกใจหลังจากที่ผมตอบไปแบบนั้น ดูจากหน้าที่ตอนนี้ ยืนขมวดคิ้วให้กับผม ∪▂∪

〖ครับใช่ครับ ผมแพ้ควันบุหรี่หน่ะ ไอกายเลยมาช่วยดูให้ผมแค่นั้นเองครับ〗ไหลยาวแล้วครับผมไม่รู้ว่าพี่แกจะเชื่อไหม แต่ดูจากหน้าแล้วคงไม่

〖จริงหรอ?〗 ป่าวถามผมครับพี่ริวหันไปถามไอกาย ที่ยืนมองตาขวางให้ผมอยู่ ไอกายเดินเข้ามาดึงมือผมให้เข้าไปหามันก่อนจะกระซิบเบาๆ ข้างหูว่า

เย็น นี้เจอ กัน ที่ตึกวิศวะ รีบมาหล่ะ กูจะรอ〗หลังจากที่พูดจบ มันก็หันไปมอง ที่หน้าพี่ริว ก่อนจะเดิน หายออกไปจากบริเวณนั้น โดยที่ไม่รอฟังคำตอบอะไรจากผมเลยครับ

………………………………………………………………………………

ตอนนี้ก็เสร็จกิจกรรมรับน้องในช่วงเช้าและบ่ายแล้วครับๆ เหล่าพี่ๆนันทนาการก็ปล่อย ให้พวกน้องๆ ปีหนึ่งทุกๆคนได้กลับเข้าไปในที่พักก่อนจะนัดมาพร้อมกันช่วงค่ำๆ

(แต่ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรหรอก ครับ แค่รู้มาเฉยๆ จริงๆก็อยากไปช่วยและครับแต่วันนี้ มีนัดกับพี่ริวซะก่อนไม่งั้นคงมาช่วยพี่ๆ เขาแล้ว)  (∩_∩) หลังจากที่ได้พี่ริวไปช่วยผมไว้ จากก่อน ถูกข่มขุ่ที่ซอกตึก

ตอนนี้ผมอยู่ที่ร้านกาแฟ ☆یŦαя Café เป็นที่เรียบร้อยแล้วคร้าบบ เรื่องกินๆนี้ พลาดไม่ได้เลย วันนี้ที่ร้านไม่ค่อยจะมีลูกค้าเลย

ครับ เพราะช่วงนี้ ที่มหาลัยยุ่งกับกิจกรรมรับน้องอยู่ เลยไม่ค่อยมีใครมาใช้บริการกัน (ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกเด็ก มหาลัยเนี้ย

แหละครับรองลงก็เป็นพวกหนุ่มสาวๆวัยทำงาน) ผมเลือกนั่งตรงมุมกลางร้านหน่อยครับบรรยากาศดี แทบวิวก็สวยอีกต่างหาก

ส่วนพนักงานนี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ นะครับ น่ารักทุกคนเลย มิน่า ไอวินมันถึงชอบมาแถวนี้อยู่บ่อยๆ อ้าว คุยซะเพลิน จนลืมคนเลี้ยงเลย

 ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ปลายทางไปที่  “หมาวิน”

ตื๊ดๆ!!!!!

〖เออ มีไร?〗 จะมีซักครั้งที่ผมโทรไปแล้วมันจะทักทายปกติแบบคนอื่นเชาบ้างได้ไหมเนี้ย

〖ตอนนี้วินอยู่ไหนครับ〗ผมพูดไปพลางกัดฟันไป กระดาบปากมากครับที่ต้องพูดเพราะๆกับมันเนี้ย(⊙...⊙ )

〖กูอยู่ที่คณะทำไมคิดถึงกูหรอ?〗ดูๆมันยังไม่เลิกกวนตีนผมอีกครับ

〖ก็นิดหน่อยครับ คือตอนนี้เพื่อน เจ รอเพื่อนวิน อยู่ที่ร้านนานแล้วนะเมื่อไห่รเพื่อนวินจะโผล่มาเอ่ย?〗ผมเริ่มไม่ไหวที่จะแอ็บคุยดีๆ กับมันแล้วครับ

〖ร้านไหนอะไร ไปทำไ.... อ๋อ เออ กูลืมวะ ตอนนี้มึงอยู่ร้านแล้หรอ?〗 ยังมีหน้ามาถามอีกผมเพิ่งจะบอกมันไปแหม่บๆ

〖ก็เออสิ สัส กูมานั่งรอตั้งนานแล้วเนี้ย เมื่อไห่รมึงจะมาห้ะ ฆวย〗

〖ตอนนี้กูช่วยพี่ๆ เขาทำลูกโป่งอยู่วะคงอีกซักพักนึงกว่าจะเสร็จ แต่กูเห็นพี่ริวเขาออกไปพักนึงแล้วนะ น่าจะไปหามึงที่ร้านนั้นแหละ แดกรอไปก่อนเลยเดี๋ยวกูตามไป〗

〖เออ จะมาเมื่อไห่รก็โทรมาหากูละกัน〗

〖เออ ๆ งั้นกูไปก่อนนะ พี่ เขาเรียกแล้วหว่ะ ไว้เจอกัน〗

〖เออบาย!〗


ตึ๊ด!!!
เฮ้อ ถ้ามันเดินตามผมออกมาตั้งแต่ตอนบ่ายๆ ป่านนี้คงจะได้มานั่งกินด้วยกันละ ดันเสือก อยู่นั่งม่อสาวอยู่ได้ สมควรแล้วละมึง !! หึหึ อ้าเกือบลืม มาถึงร้านทั้งที ก็ต้องเช็คอินซะหน่อย !! แช๊ะๆๆ ผมถ่ายรูปตัวเองคู่กับบรรยากาศในร้าน(แอบติดลุงที่นั่งอยู่ข้างหลังผมด้วยฮ่าๆ) เดี๋ยวกินเสร็จค่อยอัพลงบอรด์ละกัน

จ๊ะเอ๋!!!〗 เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!! ผมตะโกนออกไปเสียงดังลั่นร้านเลยครับ อยู่ดีๆ พี่ริวแกก็ มายืนอยู่ข้างหลังผม โอ้ย ขวัญเอ้ยขวัญมา
 
 〖โอ้ยพี่ ริว เจตกใจหมด มาให้ซุ้มให้เสียงกันหน่อย สิ เดี๋ยวก็ตกใจช็อคตายกันพอดี วู้ว!! ●﹏☉ 〗

〖ฮ่า ฮ๋า พี่หยอกเล่นนะ เห็น เจนั่งถ่ายรูปอยู่ เลยกะจะมาทักทายซะหน่อยไม่คิดว่าเจจะตกใจขนาดนี้ 〗มาอย่างนั้นเป็นใคร ก็ตกใจคร้าบบพี่ริ๊วว (╥﹏╥)

〖อ้าวแล้วนี้ยังไม่ได้สั่งอะไรกินอีกหรอ ? หรือรอใคร?〗นั้นสินะ เมื่อกี้คุยกับไอวินซะเพลินจนลืมสั่งอะไรมากินเลย นึกขึ้นได้ผมก็เดินไปที่หน้าเคาท์เตอร์เลยครับ

〖เอ่อ..ผมเอา..〗

〖นี้ แกรู้ป่ะ เมื่อตอนบ่ายๆ เจ้านายเขาโทรมาดุพนักงานใหม่ด้วยหล่ะ เห็นบอก บริการไม่ดีลูกค้าเขาเลยมาว่าเอา นี้ พอเจ้านายรู้เรื่องนะ เขานี้ขู่จะตัดเงินเดือนชั้นเลยแหละแก๊ โอ้ยย คือชั้น แบบ เซ็งจิตมากอ่ะแก คือ แบบบ [บลาๆ]〗

 〖เออชั้นก็เพิ่งรู้มาเหมือนกัน เห็นว่า พนักงานใหม่คนนั้นทำไม่ไหว ก็เลยขอลาออกไปเลยอะแก ชั้นเห็นแล้วก็แอบสงสารน้องเขาไม่ได้เลย หึก ๆ〗

〖เอ่อ......〗

〖เออแล้วก็อีกเรื่องเว้ย คือ...〗

〖ขอโทษ นะครับ!!!〗พนักงานสองคนที่คุยกันเมื่อกี้เงียบกริ๊บเลยครับ หลังจากที่ผมตะโกนเสียงดังๆ ออกไป  ทั้งสองคนก็หันกลับมามองหน้าผม เอ่อ ผมแค่จะมาสั่งของกินนี้ผิดมากไหมเนี้ย ? เห้อๆ

〖สมัครงานเชิญติดต่อผู้จัดการร้านด้านในเลยค่ะ〗ห้ะ.. คือ เอ่อ. ผมจะมาสั่งของนะไม่ได้จะมาสมัครงาน พนักงานพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมดเนี้ยโอ้ย ผมยืนกุมขมับอยู่พักนึงก่อนที่พี่ริว จะเดินเข้ามายืนข้างๆผม

〖ขอโทษนะครับสาวๆ ผมขอ ลาเต้ คาราเมลปั่น แล้วก็เค้ก อีกสองชิ้นครับ 〗

〖อู้ยยได้เลย ค่ะ กรุณารอซักครู่นะค่ะ เชิญนั่งรอก่อนได้เลยคะ เดี๋ยวตามไปเสริฟ์ให้ถึงโต๊ะเลยค่ะ〗

〖ขอบคุณครับ (*⌒ヮ⌒*)〗เออ สรุป พนักงานสองคนเมื่อกี้นี้เขามองไม่เห็นรึมองข้ามหัวผมไปกันแน่เนี้ย ผมยืนตะโกนจนคอแทบแตก กลับไม่สนใจ แต่พอมี หนุ่มหน้าเกาหลีเดินเข้ามากระซิบเท่านั้นแหละ หูเพิ่งกันเป็นแถว เนี้ยแหละน้า ที่เขาเรียกสองมาตรฐาน


ผมกับพี่ริวเรากลับมานั่งรอ กันที่โต๊ะ ก่อนที่พนักงาน จะเอา ลาเต้ คาราเมล และเค้กอีกสองชิ้นที่พึ่งจะสั่ง ไปมาวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะเดินจากไปก็ไม่ลืมที่จะส่งสายๆตาวิ้งๆ มาที่พี่ริว พี่แกยิ้มรับเจื่อนๆ ก่อนจะหันมาคุยกับผม

〖อ้าวแล้วไหน วินว่าจะมาด้วยหล่ะ พี่ไม่เห็นวินแลย〗

〖อ๋อ ไอวินมันติดงานที่คณะอะพี่ ผมลองโทรไปถามมันดูแล้วอีกซักพักคงจะตามมา〗

〖อ๋อ!〗ตอนนี้ก็ได้เวลาสวาปามแล้วครับ ผมกำลังจะตักเค้กเข้าปากก อึ่ม!อร่อยมากๆ เลยครับ ไม่เหมือนที่พี่อิน

แกเคยทำให้ผมกินเลย เค้กของที่นี้รสชาติจะออกกลางๆไม่หวานและไม่เลี่ยนจนเกินไปรวมๆ แล้วอร่อยมากครับ! ยกนิ้ว

ให้เลย นั่งกินมาได้ซักพักเค้กก็หายไปจากจานแล้วครับ หนึ่งชิ้น ผมป่าวหิวนะป่าวเลย จริงๆ ว่าจะกินอีกชิ้นด้วยซ้ำแต่

เกรงใจหน่ะกลัวพี่แกด่า เอา พี่ริวแกก็นั่งไข่วห้างจิบลาเต้ร้อนที่อยู่ในแก้ว อย่าง ดูดี (คือทำไมเวลาผมทำไม่เห็นเป็นแบบ

นั้นมั้งวะ  เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะทำอะไรให้ดูดีเหมือนคนอื่นสิ่งแรกที่ควรคำนึง คือ เบ้าหน้า ฮ่าๆ ) แกก้มๆเงยๆ มามองหน้า

ผม พอผมสบสายตาแกก็ก้มไปมองโทรศัพท์ต่อ เออ จ้องไป จ้องเข้าไป เอาให้ตาบอดกันไปข้างหึ้ยย

ตื๊ดดด !!!!! (เสียงโทรศัพท์สั่นมาจากกระเป๋ากางเกงของผม ผมหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะกดรีบสายทันที)

〖ฮัลโหลว่าไงเมื่อไห่ร มึงจะมา ?〗

〖คือกูจะโทรมาบอกว่ากูไปไม่ได้แล้ววะ งานรัดตัวไปหมดเลย ยังไงก้กินเผื่อกูด้วยละกัน. . 〗

〖อ้าวหรอ ว้ามึงน่าจะมา กูเลยนั่งกิน เค้กกกับพี่ริวแค่สองคนเลยเนี้ย 〗

〖เออ ถ้า กินเสร็จ ก็รีบมาหากูด่วนเลยนะ ชีวิตกูขึ้นอยู่กับมึงแล้วนะไอเจ〗

〖มีอะไรรึเปล่าวะ ?〗 ผมถามมันกลับไปด้วยความอยากรู้

〖ก็เปล่าอะ ก็แค่เหงาๆ รีบมาช่วยงานกูหน่อยกูกลัวผี〗

〖อ้าวแล้วเด็กมึงกับพี่ๆคนอื่น ละ〗

〖เขาออกไปซื้อของข้างนอกยังไม่กลับกันมาเลย กูนั่งรอ โดนยุงกัดไปหลายตัวละเนี้ย〗

〖หู้ย น่าสงสาร〗 จริงๆ แอบซะใจมากกว่าครับ ฮ่าๆ แก้แค้นที่ตอนเช้าดันทิ้งผมไว้กับอสูรกายได้! หึหึ นึกแล้วมึนขึ้น!

〖เออ เดี๋ยว กูถามพี่ริวอีกทีว่าจะกลับบไปม.ตอนไหน กูไม่ได้นั่งวินมา ทีแรก กะจะให้มึงมารับมาส่งเนี้ยแหละ แต่มึงก็เสือกไม่มา〗

〖เออกูขอโทษ งั้นมึงก็รีบมาละกันนะ กูฝากชีวิตไว้ทีมึงแล้วนะไอเจ อะ ฮึก อะฮึก !〗 ตื้ดๆๆ !!

. . . . .

〖ใครโทรมาหรอครับ น้องเจ !〗

〖อ๋อ ไอวินหน่ะพี่ มันโทรมาบอกว่ามาไม่ได้แล้ว ให้ผมรีบกลับไปช่วยงานมันที่ม. แล้วนี้ พี่ริวจะกลับตอนไหนครับ ผมขอติดรถไปลงด้วยคนได้ไหม ?〗ตอนนี้ผมนั่งกุมมือทั้งสองข้างไว้เป็นสัญญาณของการอ้อนวอน ใช่มุขนี้ทีไรพี่แกใจอ่อนทุกที

〖อีกซักพักนึงหน่ะ เจรีบหรอ ให้พี่ไปส่งก่อนไหม?〗ใจนึกก็อยากรีบตอบกลับไปครับว่ารีบ แต่อีกใจนึงก็เกรงใจ ก็ติดรถพี่เขาไปแล้วยังจะเรื่องมากอีก

〖รอไปพร้อมพี่ก็ได้ครับ!〗ผมนั่งลงก้มเงยๆ เล่นโทรศัพท์ซักพักนึงก่อนที่พนักงานสาวสวย(ยัยสองคนเมื่อกี้)จะเดินมาบอกกับผมที่โต๊ะว่าได้เวลาปิดร้านแล้ว ผมก็รีบเดินออกมานอกร้าน ก่อนจะยกมือขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้สาม ทุ่มกว่าๆ แล้ว นนี้ผม มานั่งกินเค้ก ชิ้นเดียว ตั้งสี่ชั่วโมงเชียวหรือนี้ บ้าไปแล้ว พี่ริวก็ค่อยๆ เดินตามผมออกมาจากร้านหลังจากทที่ไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์เสร็จ

〖ให้พี่ไปส่งที่ม.ใช่ไหม?〗

〖ใช่ครับ ไอวินมันรอผมอยู่! ผมต้องรีบไปช่วยงานมันหน่ะ〗ไม่รู้หรอกครับว่างานๆอะไรแต่รับปากไปแล้วก็ต้องไปแหละครับทำไงได้

〖แต่นี้มันก็ดึกมากกแล้วนะ วินยังอยู่ที่ม.อีกหรอ ?〗 ก็มันบอกว่า จะรอ..รอ เหรอ เอ๋ ทำไมคุ้นๆเหมือนได้ยินคำพวกนี้มาก่อนหน้าไอวินละอึมมม!

〖เห้ยยย!!!!!〗ผมตะโกนออกมาด้วยความตกใจสุดขีด ก็ก่อน จะมาร้านกับพี่ริวไออสูรกายมัน บอกให้ผมไปหามันที่คณะ มันบอกว่าจะรอผมอยู่นิ  พี่ริวแกหันหน้ามามองผมเลยครับสงสัยแกคงจะตกใจที่อยู่ๆ ผมก็ตะโกนขึ้นมา


〖มีอะไรรึเปล่า ?〗มีครับ มีหนักด้วย ตอนนี้ผมเข้าใจที่ไอวินพูดแล้วว่าไอที่มันฝากๆ ชีวิตเนี้ยหมายความว่าไง ป่านนี้โดนไอกายมันฆ่าหมกป่าแล้วม้างเพื่อนโผมม!!!!


〖รีบไปกันเหอะพี่! เดี๋ยวไอวินมันจะรอนาน〗ผมรีบตอบพี่แกแบบปัดๆ ไป

…………………………………………………………… ………………….

พี่ริวพาผมขี้รถออกมาจากร้านได้สักพักนึงแล้ว กว่าจะมาถึงม. ก็ใช่เวลาเกือบ ครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึง พอมาถึงหน้า มอพี่ริวแกก็บอกว่าจะรอกลับพร้อมผม แต่ผมปฏิเสธแกไป บอกว่าคุงจะอยู่คุยกับไอวินอีกนาน ให้พี่แกกลับไปก่อน พี่ริวก็ยอมทำตามโดยง่ายครับ ผมดูให้แน่ใจ ว่าพี่แกขับรถออกไปไกลแล้ว (ไม่อยากให้เจอไอกายครับ สองคนนี้เจอกันที่ไร น่ากลัวทุกที) ผมเดินเข้ามา ที่ตึกคณะ วิศวะ ตอนนี้ บรรยากาศเงียบมากครับ ที่คณะนี้ไม่มีใครอยู่เลย ไอกายมันจะหลอกผมให้มากันแน่ หึหึ ! ผมไม่น่าโง่เชื่อมันเล๊ย เสียรู้จนได้ ขณะที่ผมกำลังจะหันหลังเดินกลับ ก็ได้ยิน เสียง อะไร ซักอย่างก่อน

〖อะ แฮ่กๆๆ!!!!!〗 เสียงไอของใครก็ไม่รู้ครับ ดังมาจาก โต๊ะด้านในของตึก แต่ดึกขนาดนนี้แล้วใครจะมานั่ง ไออยู่กันละ

บรรยากาศก็ยิ่งวงเวง อยู่ แต่เอาวะ ใจดีสู้เสือ (มันมีเสือที่ไหนกันเล่า ⊙ω⊙ จะมีก็แต่ ผ..ผ..ผี )

ผมเดินเข้ามาด้านในตามเสียงที่ได้ยินก็เห็นคนนอน ฟุบหัวลงที่โต๊ะอยู่ครับใจนึงก็กลัวอีกใจนึงก็อยากรู้ ผมเลยรวบรวมความกล้าที่มีไปผลักที่ไหล่ของมัน

〖เห้ย!ๆ ดึกดื่นๆ มานั่งทำอะไรที่นี้คนเดียววะ〗ผมสะกิดถามไอคนที่นอนฟุบอยู่แต่ไม่ยักจะมีเสียงตอบกลับมาเลยแหะ ผมเลยลองสะกิดมันดูอีกครั้ง

〖เห้ย!!!! เหี้ยย!〗ยังไม่ทันที่มือของผมจะถูกตัวมันเลย มันก็เงยหน้าขึ้นมาก่อนครับ ใบหน้านี้ชัดเจนมากครับ ไอกาย ของแท้แน่นอนรับประกันสองปี แบร่ๆ (ยังจะเล่นอีก= =’) มันปรือตาขึ้นมามองผมก่อนจะลุกขึ้นมา เอามือจับที่ไหล่ผมทั้งสองข้าง  ก่อนจะดันหลังผมให้ติดกับเสาที่อยู่ข้างๆ โต๊ะที่มันนั่งอยู่

ท..ทำไม.มึ..ง พึ่งจะมา รู้ไหมมม..ว่ากูรอ.มึง นาน.แค่ไหนหน่ะ..ห้ะ!!〗ตอนนี้ผมขยับตัวหนีออกห่างไม่ได้เลยครับ มือของมันล็อคผมไว้อยู่ ระหว่างที่พูดผมก็จ้องหน้า ของมัน มันดู เหนื่อยๆ เหมือนคนที่พึ่งตื่นมา เสียงก็กระออดกระแอด แลเหมือน

เหนื่อยๆ ยังไงอย่างงั้นเลย ผมสังเกตได้ว่าที่บริเวณหน้าของมันมีเหงื่อไหลท่วมเต็มไปหมด!เห็นแล้วผมก็แอบตกใจมากครับ

〖กู..ถาม.ทำไมถึงไม่ตอบ..วะ!!〗ไอกายมันพุดด้วยน้ำเสียงที่ดุดดัน ก่อน จะง้างมือข้างนึงของมันขึ้น

 ผมหลับตาพริ้มเลย กลัวกว่ามันจะต่อยผมครับ ผมค่อยๆ หลี่ตาขึ้นมาหลังจากที่ไม่รู้สึกเจ็บอะไรที่ใบหน้าเลย ไอกายมัน
พยายามลืม ตาขึ้นมาเพื่อมอง ผม แต่ตอนนี้สภาพของมัน เหมือน คนที่ วิ่งมาราทอนมาประมาณ ร้อยกิโลเมตรครับ หน้า
ของมันดูซีดมากกว่าเมื่อกี้อีก ตาของมันเริ่มที่จะลืมไปขึ้นแล้วครับ มันง้างหมัดเข้ามาใกล้ๆ ผมก่อนจะ ... ฟุบ! ไอกาย
มันไม่ได้จะต่อยผมครับแต่ มันฟุบตัวลงที่ไหล่ข้างซ้ายของผม ผมได้ยินเสียงมันหายใจถี่ๆ! ก่อนจะล้มตัวของมันลงมา
ทั้งตัวเลย โอ้ย! โอ้ยยคนรึควายวะเนี้ย ทำไมถึงได้หนักอย่างนี้ผมพยายามจะผลักหัวมันออก แล้วผมก็สัมผัสได้ถึงความ
ร้อน พอๆกับไฟๆ ได้จากตัวมันครับ ตอนที่ตัวของมันกำลังฟุบลงกับพื้น ผมรีบคว้ารับตัวมันไว้ซะก่อน

〖ไอกายๆ! เห้ย ตื่น ดิวะ !มึงจะมานอนอะไรตรงนี้เนี้ย! ตื่นๆ〗ผมลองเอามือไปแตะที่หน้าผากมันอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

หืม!ตัวมันร้อน มากครับ เหงื่อก็ไหลออกมาไม่ยอมหยุด ตอนนี้ผมอยู่ในท่านั่งกางขา และมีไอกายนั่งซุกอกผม อยู่ระหว่าง

ขาผมพอดี เอาไงดีละทีนี้ พี่ริวก็กลับไปแล้ว ด้วย ขืนปล่อยให้มันนอน

 อยู่ตรงนี้ทั้งคืน คงจะแย่แน่ๆเลย !


 TBC................................................................

! เรื่องราว ชักแย่ขึ้นแล้วสิ เรื่องราวของกายและเจเจ จะเป็นยังไงต่อไปนะ ไว้รอลุ้นกันตอนหน้าจ้า !!  :katai5:
⊙▽⊙ จุบุ๊ !!                         〖#คิมกอนอู〗εїз
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-01-2016 18:42:40
 :hao4:

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:7 『คุณชาย ไม่สบาย 』
+﹏+


〖ไอเห้ยไอกาย ตื่นดิวะ!〗 ผมลองเขย่าตัวมันอยู่หลายทีแต่ไม่มีวี่แวว ที่มันจะตื่นหรือโต้ตอบผมแต่อย่างใด ผมรีบหยิบ

โทรศัพท์ โทรไปหาไอวินทันทีเลยครับ สักพักผมก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของไอวินขับมาจอดอยู่ที่หน้าคณะ ก่อนที่มันจะรีบ
วิ่งกรู่เข้ามาหาผมและไอกายที่นอนสลบอยู่ มาถึงมันก็ถามผมชุดใหญ่เลยครับ

〖ไอกาย มันเป็นอะไรวะ แล้ว มันสลบไปได้ยังไง มึงทำอะไรมัน แล้ว แล้ว ...〗

〖โอ้ยหยุดพูดและมาช่วยกันพยุงมันขึ้นก่อนดีไหม ห่ากูหนัก !〗พอผมพูดจบไอวินก็วิ่งโผมตัวลงมาดึงมือไอกายข้างหนึ่งไปไว้ที่บ่าของมันส่วนมืออีกข้างนึง ผมก็ช่วยมันพยุงตัวไอกายขึ้นมากันครับ โอ้ย เห็นตัวๆ มันอย่างนี้ น้ำหนักนี้ไม่ใช่เล่นๆเลยครับ


ผมช่วยกันพยุงไอกายไปไว้ที่รถของไอวิน ก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวมันให้นั่งระหว่างกลางครับ ผมเป็นคนขับครับ ส่วนไอวิน

คอยประคองตัวไอกายจากด้านหลัง ผมบิดไม่เร็วมากครับ กลัวไอวินมันจะตกรถเอา ลองนึกภาพถึงรถ MSX ดูสิครับ

พื้นที่นั่งมันน้อยแค่ไหน แต่ยัง ต้องอัดกันมาตั้งสามคน แค่คิดก็ไมม่น่าเป็นไปได้แล้วครับ แต่ตอนนี้มันเป็นไปได้แล้วครับ

ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงความร้อนจากหน้าของมัน ที่นาบอยู่ข้างหลังของ ผม นี้มันคงต้องป่วยหนัก เพราะ ผมแน่ๆ เลย นี้ถ้ามันฝืน

ขึ้นมานี้ผม คงจะตายแน่ๆเลย เอ๊ะ หรือจะปลิดชีพมันทั้งๆที่ยังเป็น งี้ดี มันจะไม่ต้องตื่นขึ้นมาฉีกผมเป็นชิ้นๆ หวืยย แค่นึก

ภาพก็สยองแล้วครับ ผมบิดมาเรื่อยๆ จนตอนนี้มาจอดอยู่ที่หน้าร้าน ผม เรียบร้อยแล้วครับ  ผมรีบจอดรถให้ไอวินมันลงไป

พยุงไอกายก่อนที่ผมจะค่อยลงตาม (ขืนลงก่อนนี้คงได้เตะปากกายแน่ๆเลย ฮ่า ฮ่านั่งชิดผมซะขนาดนั้น) ผมเดินไปเคาะประตู

หน้าร้าน เรียก คนที่อยู่ข้างในให้ มาเปิดประตูให้ ซักพักนึงพี่อินแกก็วิ่งลงมาด้วย ทีท่าที่ดูตกใจ (ก็ผมเล่นเคาะรัวขนาดนั้น ดีนะพี่

แกไม่ถือถืออะไรมาด้วย ไม่งั้นป่านนี้ คงได้ลงใส่หัวผมแน่ๆ) พอพี่อินแกเปิดประตูมาหน้าเครียด เมื่อครู่ก็หายไปเลยครับ กลับเปลี่ยนมายิ้ม ให้ผมกับไอวินแทน)

〖อ้าวแล้วนั้น น้องกายมาได้ยังไงจ๊ะ เมามาหรอ ห้องพี่ว่างนะพาขึ้นข้างบนก่อนสิ〗พี่อินแกเมื่อหันหน้ามาสนใจไอกายที่ถูกพยุงอยู่ แต่ตอนนี้หัวมันนี้แทบจะทิ่มพื้นอยู่แล้วครับ

〖เมาเมิว อะไรละพี่ มันป่วยจนสลบไปแล้วเนี้ยมา ช่วยผมพยุงมันขึ้นไปข้างบนหน่อยสิ〗พูดจบพี่อินนแกนี้แทบจะถลาตัวเข้ามารับไอกายเลยละครับ ผมละอยากให้พี่เจมส์ได้มาเห็นภาพนี้จริงๆ ไอกายนี้ คงจะเละเป็นโจ๊กแน่ๆ

〖พาไปไว้ห้องพี่ใช่ไหมจ๊ะ〗ยังๆครับบยัง พี่อินแกยังมีอารมณ์มาตลกตอนนี้อีก

〖ปล่อยให้มันมีโอกาสได้ตื่นขึ้นมาเถอะครับพี่ อิน ทางที่ดีเอามันไปไว้ห้องผมจะดีกว่า〗พี่อินทำเสียงจึ๊ๆ! ก่อนจะเราสามคงจะ

ช่วยกันพยุงมันขึ้นไปบนห้องผมครับ พอเข้ามาถึงนี้แทบ จะสลบกันทั้งสามคนเลยครับหมดแรง ไม่ใช่อะไร คนๆเดียวขนาดช่วย

กันพยุง สามคน ยังหนักอยู่เลย  สักพักพี่อินแกก็ขอตัวกลับไปที่ห้องก่อนเห็นบอกว่า จะหาผ้ามาเช็ดตัวให้ ส่วนไอวิน ก็นอน

หายใจถี่ๆ อยู่ข้างๆ ผมพักนึง ก่อนจะ ขอตัวกลับไปอีกคน ในห้องเล็กๆ ตอนนี้ มีเพียงแค่ ผมกับไอกาย สองคน ผมลุกขึ้นมามอง

ไอคนที่นอนอยู่ข้างผมอยู่ตอนนี้ เหงื่อของมันยังไหลอยู่เลย เห้อ เห็นอย่างงี้แล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาเลย นี้มันคงป่วยเพราะ นั่งรอผม

ตั้งแต่ตอนเย็นเลยใช่ไหมเนี้ย ช่วงดึกๆ แถวนั้น ยุงก็เยอะด้วย คงต้องโดนกัดบ้างแหละผมว่า เป็นอีกครั้งครับที่มือผมไวกว่าความ

คิด ผมเลยลองปลดกระดุมตรงแขนเสื้อนักศึกษาของมันออก ตรงแขนไม่มีน่าจะมีรอยอะไรครับดูปกติดีเลยลองสังเกตส่วนอื่นๆ

ดู  หืม!ตรงคอนี้รอยโดนกัดเยอะมากครับ ยุงนี้คงจะกระแตมากเลยหล่ะ ถึงเลือกกัดได้ถูกจุดแบบนี้ ฮึฮึ!นึกแล้วก็แอบหลุดขำขึ้น

มาไม่ได้ สักพักพี่อินก็เปิดประตูเข้ามาผมตกใจมากครับ พี่อินก็ดูอึ้งๆปนตกใจอยู่บ้าง ที่เห็นผมก้มหน้าไปดูรอยที่คอของไอกาย

ขนาดนั้น ผมหันไปยิ้มแหยะๆ ให้พี่อิน ก่อนที่พี่แก จะยื่นกะละมังใส่น้ำอุ่นมาให้กับผม (รู้ได้ไงว่าน้ำมันอุ่นไม่อุ่นหรอ ไม่ยากครับ

ก็ไอควันที่ลอยๆ อยู่เนี้ยก็น่าจะพอเป็นคำตอบได้อยู่ครับ ก่อนที่พี่อินแกจะเดินออกไปก็หันมาแสะ ยิ้มที่มุมปาก (เหมือนที่ไอกาย

มันชอบยิ้มให้ผมบ่อยๆ)มาให้ผมก่อนจะเปิดประตูออกไป หึหึ ! พี่อินแกคงจะคิดว่าผมจะทำอะไรไอกายแน่ๆ เลยถึงได้ยิ้มแบบนั้นส่งมาให้ผม

〖ไอกาย!ๆ ได้ยิน กูไหม กายๆ !〗ผมลองเอามือแตะหน้ามันเบาๆ พร้อมกับเรียกชื่อของมันเพื่อปลุกให้มันตื่น แต่ก็เหมือนเดิม

ครับ ไม่มีการโต้ตอบใดๆกลับมาเลย ผมเลยถือโอกาสนี้ (จริงๆถ้ามันตื่นผมคงจะบอกมันก่อน)ค่อยๆ ปลดกระดุมจากชุดนักศึกษา

มันออกครับ มือผมนี้สั่นๆมากเลยไม่คิดว่าเกิดมาจะต้องทำอะไรแบบนี้ ถ้าเป็นไอวินกับไอตินนี้ ผมจะกระชากเสื้อมันออกเลยก็ได้

แต่ไม่รู้ทำไม พอเป็นไอกาย ผมกลับไม่กล้าทำ (กลัวมันจะตื่นมาซัดผมเอาครับ หึหึ !) หลับไปแหละดีแล้ว ! ผมค่อยๆดันตัวไอ

กายขึ้น แต่ อึ้ย! หนักครับไอวินไม่น่ารีบกลับเลย ไม่งั้นผมเองคงจะสบายกว่านี้ เพราะมีมันค่อยช่วยพยุงขึ้น แต่ตอนนี้ มีผมแค่

คนเดียว  เลยต้องพึ่ง ตัวเองแล้วหล่ะงานนี้ ผมใช้มือทั้งสองข้างล็อคที่ต้นคอมันก่อนจะค่อยๆดันเอาให้หัวมันขึ้นมาแล้วค่อยเอาขาของผมไปสอดไว้แทน เพื่อให้ง่ายต่อการถอดครับ ตอนนี้ผมอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิโดยมีหัวของมันหนุนตักผมอยู่ จั๊กจี้ดีครับ ผมของมันนุ่มมากๆเลย ผมค่อยๆยกแขนมันขึ้นข้างนึงก่อนจะใช้อีกมือนึงดันเสื้อที่แขนของมันให้หลุดออกทำอย่างนี้อยู่นานครับกว่าจะถอดเสื้อมันออกมาได้ทั้งสองข้าง  เล่นเอาเหงื่อตกเลยครับ ผมค่อยเลื่อนขาออกตัวเองออกก่อนจะเอาหมอนมารองแทนที่แทน ฮู้ย ผมหันไปมองนาฬิกาตอนนี้บอกเวลา เที่ยงคืนกว่าๆแล้ว หืม เมื่อกี้ตอนที่อยู่มอ ยังสามสี่ทุ่มอยู่เลย ไหงเวลาเดินไวยังงี้หล่ะ ผมรีบเดินอ้อมไปหยิบกะละมังที่พี่อินใส่น้ำมาให้เมื่อกี้ ที่หัวเตียงก่อนจะหยิบผ้าขนหนู ผืนเล็กมาซับน้ำอุ่นและบิดพอหมาดๆ

ก่อนจะค่อย ละเลงเช็ดมันตั้งแต่หน้า คอ แล้วก็ตามลำตัวเลยครับ (น่าจะเช็ดตีนมันก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมาเช็ดหน้าให้มันนะ

ครับ ฮ่า ฮ่า ผมไม่ใจร้ายกับมันขนาดนั้นหรอกนะ ถึงจะอยากทำมากก็ตามเถอะ)ผมเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงมาก

นัก หยิบเสื้อยืด ลายหมีลีลัคคุมะ ที่น้องเอริน์ซื้อให้ผม เมื่องานวันเกิดปีที่แล้วให้มันใส่ไป จริงๆ ผมใส่แค่ครั้งเดียวเองครับ (ใส่มันซะวันนั้นเลยกลัวน้องเอริน์แกน้อยใจ)แล้วก็ไม่เคยใส่อีกเลย เขิล ครับ! ฮ่า ฮ่า ดีนะที่เป็นเสื้อยืดไอกายมันเลยใส่ได้พอดีเลย

หู้ย! ถ้ามันตื่นขึ้นมาแล้วพบตัวเองใส่เสื้อแบบนี้ มันคงจะตกใจมากเลยละครับ คุณชายที่เคยใส่แต่เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช่แบ

รนด์เนม กับใส่เสื้อลายการตูนปัญญาอ่อน อยู่อย่างงี้ ผม ว่ามันคงช็อกแน่ๆ กว่าจะเช็ดตัวทำอะไรให้มันเสร็จก็ป่าไป ตีหนึ่งกว่าๆ

 แล้วครับ ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำเลย(พอดีน้ำไหลแล้วเลยไม่ต้องเสียเวลาลงไปอาบข้างล่าง) พอผมอาบน้ำเสร็จ ผมก็หันไปมอง

นาฬิกาที่หัวเตียงนี้ก็ปาไปตีสองกว่าๆ ละ (สรุปเวลามันเดินเร็ว หรือ ผมอาบน้ำนานกันแน่= =’)ผมรีบแต่งตัวอยู่ในห้อง แต่ทำไม

ถึงรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้ (ก็ปกติผมอยู่ห้องคนเดียวนี้ครับ ไม่ค่อยมีใครเข้ามาในห้องผมเลยนอกจากไอวิน) พอผมแต่งตัวเสร็จก็เดิน

 ขึ้นมาที่ตัว กำลังจะปิดไฟนอน ก็เหลือบไปเห็นไอกาย นอนกุมท้องอยู่ เห็นแล้ว ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ครับ

ผมยื่นมือไปจับแขนมันข้างหนึ่ง ก่อนจะเขย่าเบาๆเพื่อเรียกให้มันตื่น หน้ามันตอนนี้ดูอิดโอยมากเลยครับ เห็นแล้วสงสารจริงๆ

〖เห้อ! อาการเริ่มแย่ละ สงสงต้องโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับแล้วหล่ะ!〗 ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงขณะที่กำลัง

จะโทรออก ไอกายก็ยื่นมือมันมาจับแขนผมไว้ซะก่อน ทำให้ผมหันกลับไปมองมันแทน ตอนนี้มันลืมตาแล้วครับ แต่อาการของ

มัน ยังเหมือนเดิมเหงื่อไหลเป็นสายน้ำเลย มันพยายามพูดอะไรกับผมซักอย่างแต่ผมไม่ได้ยินเลยต้อง ก้มหน้าไปใกล้ๆเพื่อฟังว่ามันกำลังพูดอะไรอยู่

〖อย่าโทร..นะ..กูไม่..ไป〗เสียงของมันแหบมากจนผมแทบจะไม่ได้ยินเลยครับ มือข้างนั้นของมันยังจับที่แขนผมไว้แน่น พร้อม

มองจ้องผมด้วยสายตาที่อ้อนวอน ขอให้ผมอย่าโทรเรียกรถพยาบาลมา มันจับมือผมอยู่อย่างนั้นพักนึง ก่อนที่ผมจะเริ่มรู้สึกชาๆ ที่มือ จึงค่อยๆเอ่ยปากบอกมันไป

〖เออๆ กูไม่โทรแล้ว มึงก็ปล่อยมือกูได้ละ ชาไปหมดละเนี้ย〗ไอกายมันค่อยๆปล่อยมือออกก่อนจะเผลอพล้อยหลับไป เห้อ

กว่าจะหลับได้ เนี้ย เล่นเอาผม แทบจะอาบน้ำรอบสองเลย ร้อนมากครับ แอร์ก็เปิดไม่ได้ กลัวมันจะไข้แตกหนักกว่าเก่าอีกผม

เลยต้องทนนอนทั้งๆ ที่เหงื่อไหลอยู่เต็มหลังขนาดนั้น ! o(╥﹏╥)o  น้ำตาจิไหล!



……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

〖กรี๊ง!!!!!!!!! 〗เป็นอีกครั้งที่ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียง ปลุก ของ ไอหมีบราว  เริ่มมีประโชยน์บ้างแล้วสิ

ผมลุกขึ้นมาก็งัวเงียเลยครับ เมื่อคือนกว่าจะได้นอน ก็เกือบๆ ตีสี่ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ต้องตื่นขึ้นมาเช็ดตัวให้ไอคุณชายมัน

อีกรอบ ก็เล่น นอน ร้องอะไรอู้อี้ๆ ทั้งคืน กว่าจะสงบได้ก็เกือบเช้า เฮ้อ ผมเองได้นอนไม่กี่ชั่วโมงเอง คิดไปคิดมา ไอกายนี้มันบื้อ

หรือโง่กันแน่ถึงนั่งรอผมทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้บอกอะไรกับมันเลย นั่งรอ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าผมจะมารึเปล่า แถมนั่งรออยู่ที่คณะคนเดียว

อย่างนั้นในที่มืดๆ อีก ถ้าผมไม่ไปหามันในตอนนั้น  มันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้เน้อ เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาอีกแล้วครับ ผมค่อยๆ ย่องออกมาจากห้องตัวเองอย่างช้าๆ ก่อนลงมาข้างล่างเพื่อหาอะไรกินซักหน่อย ก็ตั้งแต่เมื่อวาน ผมได้กินแค่เค้กที่พี่ริวซื้อให้แค่ชิ้นเดียว

 นอกจากนั้นก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย ทั้งวัน หิวก็หิวท้องก็ร้อง ไหงพี่อินจะไม่อยู่อีก เอ๊อ ให้มันได้อย่างงี้ สิวะ ชิวิตจะมีอะไรดีอย่างคนอื่นเข้าบ้างไหมเนี้ย ! o(‧'''‧)o

ผมเดินไปที่ตู้เย็นมองหาว่าพอจะมีอะไรทำกินเองได้บ้าง ในตู้มีแต่ ผัก ผัก ผัก แล้วก็ผักครับ แหม่ จะกินเจกันทั้งปีเลยรึไง (ㄒoㄒ)
แต่แล้วก็มีทางสว่างครับ ผมเหลือบไปเห็นหมูกับไก่ชิ้นใหญ่ๆ ที่แช่ไว้อยู่ในช่องฟรีซ อืม! หมู ผัก ไก่ ทำอะไรกินดีว้า(ทำเสร็จ

แล้วค่อยนึกชื่อเอาละกัน!ฮ่า ฮ่า) !! คิด หนักเลยผมเนี้ย อ๊า! ทำข้าวต้มแล้วกัน ใส่แม้งรวมกันหมดเนี้ยแหละ ถามว่าผมทำเป็น

ไหม บอกเลยครับ ว่า(ไม่ ไม่เลยสักนิดเกิดมาไม่เคยทำอาหารมาก่อนเลย มากสุดก็เป็นแค่ลูกมือพี่อินแค่นั้นแหละครับแต่ผมก็

พอจะจำสูตรข้าวต้ม พอลางๆ ได้เหมือนกัน) ขั้นตอนแรกก็ หาข้าว ก่อนสินะ อืม อ่ะนั้นไงข้าว ผมเดิน หยิบหม้อ กับทับพี เดินไป

ที่หม้อหุงข้าว (พี่อินหุงไว้ให้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว(แต่ไม่ทำกับข้าวด้วยนี้สิประเด็น) ถ้าถามว่าออกไปซื้อได้ไหม มันก็ได้นะครับ ถ้าไม่ติดว่าขี้เกียด ก็คงไปแล้ว) 〖อย่างนั้นก็สมควรที่จะอดแล้วแหละครับน้องเจ!หึ〗(แหม่พี่ก็พูดไปเรื่อย ^ ^)

อ่ะ มาเริ่มทำ ข้าวต้ม(พิศดาน)กันต่อดีกว่า ใส่ข้าวหุงแล้วลงหม้อไปสี่ทับพี(เผื่อไอคนที่นอนอยู่ข้างบนด้วย)จากนั้นก็ใส่น้ำ เอ

ประมาณเท่าไหร่หว่า เริ่ม ไม่แน่ใจในสูตรของตัวเองแล้วผมใส่น้ำไปประมาณครึ่งหม้อ (เอาให้พอท่วมข้าวที่ตักมา) ก็ตอนพี่อิน

แกทำเห็นน้ำท่วมตลอดเลย น่าจะเหมือนกันแหละ(มั้ง) ผมจุดไฟตั้งแก๊สไว้พักนึง ก่อนจะเดินกลับมาดูทีที่ครัวดังเดิม (แอบไป

ส่อง กระทู้SIAM ZONE ที่ห้องนั่งเล่นมาครับ) ตอนนี้ฟองท่วมหม้อเลย โอ้ยตายๆ ไม่มีพี่อินอยู่เนี้ยจะกินอะไรก็ลำบากครับ ผมเดินไป

ปิดแก๊สก่อนจะนั่งกุมขมับอยู่พักนึง ก็นึกไอเดียขึ้นมาได้ ทำไมไม่ลองโทรไปหาพี่อินละวะ เออใช่ ผมรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ ที่ ชาตแบตไว้ที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะกดเบอร์ปลายสายไปที่พี่อิน !

ตื๊ดด!(หืมกดรับไวมากครับ) ผมรีบยกโทรศัพท์ไว้ที่หูก่อรจะกล่าวสวัสดีกับพี่อิน

〖ฮัลโหลครับ คน ส..ว〗

〖อร้ายยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!〗ยังไม่ทันที่ผมจะได้กล่าวทักทายอะไรก็มีเสียงกรี๊ดดังมากออกมาจากโทรศัพท์ ผมเอามืออุดหูอยู่แปปนึง ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ปลายสายว่าใช่พี่อินรึเปล่า พอมองดู ก็ แปลกใจครับ ก็นี้เบอร์พี่อินนี้นา แล้ว

เมื่อกี้สียงใคร ที่ไหน กรี๊ดออกมาละ ผมรีบยกโทรศัพท์ไว้ที่หูอีกรอบ ก่อนจะกล่าวทักทายกลับไปที่ปลายสายใหม่
〖ฮ..ฮัลโหลครับ นั้นใช่พี่อินรึ้เปล่าเอ่ยย นี้เจเอง นะ! ฮัลโหลววว!〗

〖ใช่สิ ย่ะ สวยๆ อย่างนี้มีคนเดียวแหละย่ะโทรมาทำไมตอนนี้เนี้ย ชั้นกำลังทำลายสถิติอยู่เลย อีกนิดเดียวแท้ๆ (เอ่อ ที่แท้ก็ติดเกมอยู่นี้เอง สงสัยผมจะโทรไปตอนที่พี่อินแกเล่นเกมอยู่แน่เลย ไม่น่าหล่ะถึงกรี๊ดออกมาขนาดนั้น)〗เรื่องความสวยอันนี้ผมว่าอาจไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นเรื่องความโหด ป่าเถื่อนและดุร้าย ผมให้พี่อินเต็มครับ หึหึ ! แต่ทำยังไงได้ละครับ ผมมีธุระด่วนจริงๆ นี้นา

〖คือ ผมจะโทรมาถามวิธีทำข้าวต้มอะพี่อิน พอดีเพื่อนผมมันป่วยอยู่หน่ะ〗ผมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อยไม่กล้าพูดดังครับ เดียวโดนพี่อินแกวีนใส่เอา

〖ทำไมไม่ไปซื้อ ร้านข้างซอยเอาละจ้ะ คุณน้องขา ร้านก็ใกล้ๆ แล้วนี้มาถามวิธีทำจากพี่เนี้ย คิดจะว่างยาฆ่าเพื่อนคนไหนอยู่รึเปล่า อย่าทำน้องวินของพี่เชียว ถ้าพี่รู้ว่าน้องวินของพี่เป็นอะไรละก็ พี่เอาตายค่ะ !〗เอ่อแค่ได้ยินคำว่าตาย ผมไม่กล้ายุ่งกลับคนของพี่อินหรอกคร๊าบบบ!

〖ป่าวครับ ไม่ใช่ไอวินหรอก แต่เป็นไอกายหน่ะ〗

〖เออใช่พี่ลืมไปเลย แล้วน้องกายเป็นยังไงบ้างหน่ะอาการดีขึ้นบ้างรึยัง?〗

〖ก็ดีขึ้นนิดๆ แล้วอะพี่ เมื่อคืนผมเช็ดตัวให้มันจนผมเองนี้แทบจะไม่ได้นอนเลยนะ〗

〖น่าๆ ยังไงก็ช่วยดูแลน้องกายของพี่ด้วยละกันเดี๋ยวเย็นๆ พี่กลับ งั้น ไปเอาสมุดปากกามาจดสูตรนะ...〗

ผมหยิบสมุดกับปากกามาจดสูตรที่พี่อินบอก อยู่นานสองนาน ก่อนจะวางสายไป ลองอีกซักครั้งจะเป็นไรไป




………………………………………………………………………………
ผมยืนหยิบๆ จับๆ ทำตามสูตรที่พี่อินแกบอกมาทุกขั้นตอนเลยครับ ตั้งแต่ประมาณน้ำ  นู้นนี้นั้น จนตอนนี้ ออกมากายเป็น

อาหารของคนเรียบร้อยแล้วครับ หน้าตาใช้ได้ เหมือนคนทำเลยครับ อิอิ (แอบหัลงตัวเองเบาๆ) ผมรีบตักใส่ถ้วยก่อนจะเดินขึ้น
ไป ชั้นบน ที่มี คุณชายนอนแผ่อยู่บนเตีงของผมอยู่ หึ! ไอมาดคุณชายเมื่อข่าวก่อนหายไปไหนหมดแล้ววะ หมดสภาพมากเลยมัน ผมเดินตรงเข้าไปสะกิดไหล่มันอยู่สองสามที ก่อนที่มันจะลืมตาขึ้นมา และมองจ้องที่หน้าของผม

〖มึงไปไหนมาเมื่อวาน ทำไม่มาหากู!〗นี้คือคำกล่าวทักทายของไอคนที่พึ่งตื่นเมื่อกี้นี้ครับ ถามอย่างงี้ใครจะไปตอบได้ละครับ จะให้บอกว่าไง ละกูไม่อยากไปอย่างนั้น เหรอ เหอะ ! รับลอง ได้ลงไปกลิ้งอยู่ที่พื้นแน่(ผมนะไม่ใช่มัน)

〖ก็ กูมีธุระนิดหน่อย นะ 〗จริงแล้ว ลืมครับ พึ่งมานึกได้เมื่อตอนดึกๆ เอง

〖ธุระของมึง คือการไปนั่ง กินกาแฟกับไอนั้น หน่ะ นะ〗เอิ่มมันรู้ได้ไว้วะ ว่าผมไปนั่งกินกาแฟอยู่กับพี่ริว หรือว่า มันจะแอบส่งคนไปตามติดชีวิตผม ..ไม่ใช่หรอก ม้าง อ๋อ ลืมไป มีเพื่อนรักของมันทั้งคนคอยรายงานข่าวอยู่นี้นา มินา ถึงรู้ความเคลื่อนไหวของผมอยู่ตลอด อย่างนี้ผมคงต้องห่างกับมันบ้างแล้วครับ (ไอวินไอเพื่อนทรยศ)

〖เออกูขอโทษละกันน่า กูไม่รู้นิ่หว่า ว่ามึงจะรอกูจริง กูนึกว่ามึงแค่พูดเล่น〗เห้อๆ มีข้อแก้ตัวที่ดีกว่านนี้ไหมใครก็ช่วยบอกผมหน่อยแล้วกัน

〖คิดว่าคนอย่างกูจะพูดเล่นอย่างงั้นหรอ!หึ ตลกละ〗มันจ้องตาผมเขม้งก่อนจะส่งรอยยิ้มที่มุมปากมาให้กับผมเหมือนเดิม เห้อน่าจะหลับไปเหมือนเดิมซะ ไม่น่า ตื่นขึ้นมาเล๊ย เวลามันหลับเนี้ย แลน่าดูแลกว่าตอนมันตื่นเยอะเลยครับ ดูไม่มีพิษมีภัยดี

〖แต่กูก็ไม่ได้บอก ว่ากูจะไปซะหน่อยนิ่ มึงอะคิดเองเออเองตลอด〗เอาสิ คราวนี้มันนอนเงียบหน้าเจ๋อไปเลยครับ พอพูดความจริงหน่อยละเถียงไม่ออกเลยสิมึง

〖แต่มึงนี้ก็บ้าดีเน้อ ไปนั่งรอกูทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ากูจะมารึป่าว  . . 〗 ที่รู้เพราะว่าก่อนที่ไอวินมันจะกลับไปเห็นมมันบอกว่า ไอกายมานั่งรอผมตั้งแต่ตอนเย็น แล้ว ลึกๆผมก็รู้สึกผิดอยู่นะ แต่กลัวเสียฟอร์มอะเลยต้องพูดแบบนั้นออกไป

〖หึ!〗มันไม่ตอบอะไรผมครับได้แต่หัวเราะในรำคอ หึ หึ ! อะไรของมันอย่างนั้นแหละครับ มันบ้า ปล่อยมันไปเถอะ

〖แล้วนั้นอะไร?〗มันลุกขึ้นมาอยู่ที่หัวเตียงก่อนจะชี้นิ้วไปที่ถ้วยข้าวต้มที่ผมพึ่งทำเสร็จหมาดๆ

〖อาหารหมา ทำมา เผื่อแต่ไม่รู้มันอยู่ไหน!มึงก็กินๆ ไปแล้วกัน เดี๋ยวเสียของหมด〗มันนั่งมองผมตาขวางเหมืนเดิมก่อนที่ผมจะลุกออกจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำ เหนียวตัวมาตั้งแต่เมื่อคืน แล้วครับ แต่ขี้เกรียดตื่นมาอาบใหม่เพราะมัน ดึกมากแล้วกลัวจะตื่นมาเจอ ผีคุณทวดเอา !

〖แล้วนั้นมึงจะไปไหน〗เออนี้กูต้องบอกมึงทุกอย่างเลยใช่ไหมห้ะ ไอบ้านิ่ กูไม่ใช่ทาสมึงนะเว้ย!

〖คือคุณกูจะไปอาบน้ำหน่ะครับ คุณมึงจะทำไมหรอ !〗

〖ก็ไม่ทำไมอะ แต่ก่อน ไป ป้อนข้าวกูกก่อนสิ〗หึใช่เรื่องที่กูต้องมาทำให้มึงไหมเนี้ย  :katai1:

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-01-2016 18:44:09
〖มีมือก็หยิบแดกเองสิครับ คนเขาอุตส่าทำมาให้แล้ว ยังต้องให้กูป้อนอีกหรอห้า !〗เยอะครับ ผู้ชายยห่าอะไรเยอะมากครับ นี้ถ้าไม่ติดว่าผมเป็นหนี้มันอยู่นะ คงกระโดดถีบในความเยอะของมันไปละ  :fire:

〖เป็นลูกหนี้ก็หัดทำตัวให้มันดีๆ หน่อย เดี๋ยวเจ้านี้เขาโมโหมาจะมา หาว่าเขาใจร้ายไม่ได้นะ〗นั้นไง สมพรปากแล้วครับนี้ขนาดยังไม่ได้พูดนะเนี้ย นี้มันแอบอ่านใจผมได้รึเปล่าเนี้ย ลืม ตะหงิดๆ ละ

〖ว่าไงจะทำหรือไม่ทำ?〗มันนั่งมองหน้าผมแล้วก็กอดอกไปครับ แหม่ เป็นภาพที่มองแล้วหมั้นไสมากครับอยากถีบมันให้ได้เลยครับ  :hao5:

〖เออก็ได้วะ!〗 สุดท้ายแล้วผมก็ต้องยอมทำตามคำขอของมันครับ เรื่องมากจริงๆ มึง ! ผมหยิบถ้วยข้าวต้มที่หัวเตียยงมาก่อนจะใช่ช้อนตัก(ดีนะไม่เทกรอกปาก) ขึ้นมา พูน ช้อนก่อนจะยื่นไปทั้ปากของมัน

〖อ้ะ ยื่นมาแล้วก็อ้าปากสิครับคุณชาย ต้องให้กูเคี้ยวให้ด้วยไหม ถึงจะแดกได้เนี้ย ห้ะ !〗ไอกายมันค่อยอ้าปากช้าๆ ผมเลยถือโอกาสนี้ ยัดเข้าปากมันเลยครับ เห็นเคี้ยวหงับๆ สองสามที ก่อนจะกลืนลงไป

〖ร้อน เป่าหน่อยดิ่วะ !〗 จะแดกเองอยู่แล้วยังจะเรื่องมากอีก ผมก็ได้แค่บ่นแหละครับ สุดท้ายก็ต้องทำตามคำขอของมันอยู่ดี

〖อ้า!อ้ำ !〗เหมือนตอนป้อนข้าวเด็กเลยครับ มันนั่งเคี้ยวข้าวแก้มตุ้ยๆ ก่อนที่ผมจะตักเนื้อให้มันกินบ้าง มันก็อ้าปากรับโดยที่

ผมไม่ต้องบอกเลยครับ ถ้ามันว่าง่ายอย่างงี้ตั้งแต่แรกผมก็อยากดูแลมันอยู่หรอกครับ แต่นี้เล่นกวนตีนตั้งแต่เช้า ใครจะไปอยาก

ดูแลมันกันเล่า (เวลาตอนมันเคี้ยวดูน่ารักมากๆ เลยครับ เหมือนผมตอนเด็กๆ เลย ตอนนี้ พ่อป้อนข้าวให้แล้วพ่อก็จะนั่งยิ้มเวลาผมนั่งเคี้ยวอยู่อย่างนั้น )

〖เอ้า กินเองละกันกูจะไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวไปมหาลัยสาย 〗 ผมยื่นชามข้าวต้มไปให้มัน ที่ตอนนี้เหลือแค่ครึ่งชามเองครับ

แหม่ๆ สงสัยจะอร่อยน่าดู เห็นกินไม่หยุดเลย มันยื่นมือมารับถ้วยข้าวต้มผมโดนที่ไม่พูดอะไรซักคำ เออให้มันได้อย่างงี้สิวะ !

ผมเดินเข้าไปหยิบสบู่แปรงสีฟันยาสีฟัน และยาสระผม ก่อนจะเดินออกมาพร้อมผ้าขน หนูและเสื้อผ้าที่ต้องใส่ในวันนี้ [น้ำมันไหลไม่แน่ไม่นอนเลยจริงๆ เมื่อคืนยังไหลอยู่แต่ตอนนี้แห้งสนิทแล้วครับ ]ส่วนไอกายมันก็นั่งกินของมันไปครับส่วนผมก็เดินลงมาที่ด้านล่าง มาถึงก็รีบ วิ่ง ฟิ้วว เข้าห้องน้ำไปเลยครับ กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กินเวลาไป

เกือบชั่วโมง ผมเลยมานั่งที่ โต๊ะเพื่อตักข้าวต้มฝีมือของตัวเองกินบ้าง ตักมาซะเยอะเลยครับ ก็หิวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนิ

〖จะกินแล้วนะคร้าบบบ! อ้า อ้ำ!〗เฮือก!!! เออ ทำไม มันถึงได้เค็มขนาดนี้หล่ะ มีใครแอบมาวางยาข้าวต้มแสนอร่อยของผมรึ

เปล่าเนี้ย ผมรีบบ้วนข้าวต้มออกมาจากนั้นก็อมๆน้ำตามแล้วบ้วนทิ้งเลยครับ นึกว่ารถเกลือคว้ำใส่ เล่นเอาซะโรคไตแทบจะแดก

ผมก็ว่าผมใส่น้ำตาลเยอะนี้หว่าแต่ทำไมมันถึงเค็มได้ละ ผมเดินไปตรงเครื่องปรุงที่พึ่งใช่ทำข้ามต้มเมื่อกี้อีกครั้ง เพื่อดูให้แน่ใจว่า

ไม่ได้ใส่อะไรผิดหรือเกินไปใช่ไหม เอิ่ม ! และแล้วภาพที่ผมมองก็ทำให้สมาธิของผมแตกฉาน เมื่อมองไปที่กระปุกที่ผมเทของ

สิ่งที่ใส่อยู่ด้านในซะเยอะ(ผมชอบกินหวานหน่ะ) มันก็ทำให้ผมเก็ทขึ้นมา ว่าทำไมมันถึงเค็มปี๋ได้ขนาดนี้ ข้างขวดเขียนว่า เกลือ

นะจ้ะ (อันนี้เป็นน้ำตาล) ส่วนไอกระปุกที่ใส่น้ำตาล เขียนว่า (เกลือจ้ะ) (เขียนหลอกมดมันหน่ะ!) หลอกมด แต่ทำเอาผมเกือบ

ช็อคตายแทนมดเนี้ยนะ พี่อินน้า พี่อิน ทำอะไรน่จะบอกกันก่อน ดีนะที่ผมกินไปแค่คำเดียว แต่ เอ๊ะ !!! เมื่อกี้ ไอกายมันกินเข้าไปซะเยอะเลยนิ่ มันจะไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ!!

พอนึกขึ้นได้ผมก็รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของตัวเองเลยครับ แต่ตอนนี้บนเตียงกลับว่างเปล่าครับ ไอกายไม่อยู่แล้ว สงสัยจะเข้าห้องน้ำ อยู่ พอผมเดินไปเปิดประตูดู ก็เห็นมันอยู่จริงๆ ครับ มันนั่งโก่งคออ้วกอยู่ที่ชักโครกอยู่เลย ผมเดินเข้าไปหามันและช่วยมันลูบหลังอยู่หลายทีกว่ามันจะเงยหน้าขึ้นมา คุยกับผม

〖กูอ้วกเพราะว่ากูมึนหัวเฉยๆ หน่ะ ไม่ใช่ว่าข้าวต้มที่มึงทำมามันไม่อร่อยนะ!〗ยังอีกมันยังจะมาโกหกผมอีกมันจะไม่รู้ว่าตอนนี้ ผมได้ลองชิมข้าวต้มที่อยู่ตรงหัวเตียงดูแล้ว รสชาติไปต่างกันเลยครับ เค็มปี๋เหมือนกัน

〖ก่อนจะห่วงความรู้สึกกู ห่วงตัวเองก่อนดีไหม ไอห่า มึงบ้า ป่ะ ทั้งที่รู้ว่ามัน เค็มขนาดนั้น แล้วยังจะเสือกแดกเข้าไปอีกทำไม

ห้ะ !〗ผมด่ามันซะยาวเลยครับ ให้กับความโง่ของมัน ดันมาห่วงความรู้สึกผม โดยที่ตัวเองกำลังแย่ลงอย่างนั้นหน่ะหรอ ผมไม่มี

ความสุขหรอกนะ ยิ่ง แค่สาเหตุเมื่อวานผมก็รู้สึกแย่มากแล้ว ไหนยังจะต้องมาคิดมาเรื่องนี้อีก พูดแล้วมันก็อดไม่ได้ครับ ผมยื่นมือไปตบหัวมันอย่างแรงเลย หัวมันนี้แถบจะทิ่มลงชักโครกเลยละครับ

〖โอ้ยมึงจะตบหัวกูทำไมเนี้ย !〗ดูมันยังมีหน้าจะมาถามผมอีกครับ

〖ก็ตบให้กับความโง่ของมึงไงควาย!〗 ผมนั่งเกาหัวตัวเองพักนึงก่อนจะลุกขึ้นและกลับไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิม
หลังจากผมและมันเดินมาที่เตียง ผมก็รีบชิงพูดก่อนมันเลยครับ

〖กูขอโทษนะ กูไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งมึงนะเว้ย แต่มันเป็นอุบัติเหตุหน่ะ〗ต้องโทดพี่อินถึงจะถูก ดันมาเขียนหลอกมดทำไมก็ไมรู้

〖แล้วก็เรื่องเมื่อวาน กูก็ต้องขอโทษที่ผิดนักมึง กูพึ่งมานึกได้ก็ตอนที่ไอวินมันโทรมา แต่พอกูรู้กูก็รีบ มาหามึงที่คณะเลยนะเว้ย กูไม่ได้ตั้งใจ ให้มึงไม่สบาย กูไม่ได้ตั้งใจให้มึงนั่งรอกู กู ..กู.. ฮึกๆ!〗 เอาอีกแล้วครับ เวลาผมตกอยู่ในสถานะการณ์ที่กดดันแบบนี้ทีไร น้ำตาของผมก็ไหลออกมาเองแบบ อัตโนมัติเลยครับ ผมนั่งก้มหน้าคุยกับมันโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นไปมองมันเลย ตอนนี้ผมไม่กล้าสบตากับมันเลย ครับ รู้สึกผิดมาก ที่เป็นต้นเหตุให้มันเป็นอย่างนี้

〖มึงก็ขอโทษกูตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วไง จะเก็บมาคิดมากอีกทำไมว้า !พอๆหยุดร้องเถอะ ยิ่งมึงร้องกูยิ่งรู้สึกผิดนะเว้ย〗ยิ่งได้ยิน

เสียงมันน้ำตาของผมยิ่งไหลออกมามากกว่าเดิมอีกครับ ก็คนมันรู้สึกผิดนิ ตอนนี้ผมรับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ใบหน้าของผมถูกเลื่อนให้เข้ามาซบอยู่ที่อก ของไอกาย ทำเอาผมที่ร้องสะอึกสะอื้นอยู่ตอนนี้ต้องหยุดส่งเสียงไปเลยละครับ ใช่ครับ ไอกายมึนดึงผมเข้าไปกอด มือข้างนึงของมันลูบหัวผมอยู่ส่วนอีกข้างนึงก็ลูบหลังผมอย่างปลงๆ หน้าของผมแนบชิดกับอกของมันมาก ทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจของมันที่เต้น ดังและรัวมาก ไม่ต่างจากผมเลย! ผมรีบตั้งสติก่อนจะค่อยๆ ถอนหน้าออกมาจากอกของมัน

〖มึงทำอะไรของมึงห้ะ ไอกาย!〗ผมถามมันกลับไปที่อยู่ก็ดึงผมเขาไปกอดแบบไม่ทันตั้งตัวอะไรเลย

〖ถ้ากูไม่ทำอย่างงี้แล้ว มึงจะหยุดร้องซะทีไหมละ !〗คงเพราะตกใจกับการกระทำมันมั้งครับ ทำให้ผมตอนนี้หยุดร้องไหสนิทเลย

〖บอกดีๆ ก็ได้นี้หว่าไม่เห็นต้องกอดเลย〗

〖กูบอกมึงดีๆ ตั้งแต่แรกแล้ว มึงก็ยังร้องอยู่ จะให้กูทำยังไงละ〗ผมไม่รู้สิว่ามันพูดอย่างนั้นเมื่อไห่รสงสัยผมมัวแต่ร้องอยู่เลยไม่ได้ทันฟังสิ่งที่มันพูดมาก่อนหน้านี้ละมั้ง (คงงั้นแหละ)

〖เออ กูไม่ได้ฟังมึงเองแหละกูขอโทษ〗

〖นั้นไง พูดขอโทษกูอีกแล้ว มึงเลิกโทษตัวเองซักทีเถอะ !  〗

〖ก็มึง..〗

〖พอๆ ไม่ต้องพูดแล้ว กูจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก ส่วนมึงก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องกูด้วย ตอนนี้กูไม่ได้ติดใจเรื่องเมื่อวานแล้ว แค่มึงช่วยกู หาที่นอนให้กู เช็ดตัวให้กู แล้วก็หาเสื้อ..ให้กูกูก็หายโกรธมึงแล้ว (มันดูตะหงิดๆกับเสื้อที่ใส่อยู่มากนะ)〗มันก้มลงไปมอง เสื้อ ลายหมีลิลัคคุมะ ที่ผมหาให้มันใส่เมื่อคืน ก็แอบหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาไม่ได้ครับ ฮ่า หน้ามันตลกมากเลย

〖หึ ขำออกแสดงว่าเลิกคิดมากแล้วสิมึง !〗ก็มึงทำตัวให้ขำเองทำไมหล่ะ 555

〖เขากันว่า ตอนที่คนร้องไหแล้วหัวเราะไปด้วยเนี้ย ของมันจะขึ้น จริงรึเปล่าวะ ? 〗 มันพูดพร้อมกับเหล่ตามามองที่เจน้อยของผม ผมรีบเอามือไปบังไว้ทันที ถึงได้รู้ว่า เป็นอย่างที่มันพูดจริงๆ ครับ ทฤดีบ้าบออะไรเนี้ย ไอกายมันหลุดหัวเราะออกมาเลยครับหลังจากที่เห็มผม นั่งหน้าแดงอยู่อย่างนั้น เหอะๆ จะว่าไปก็น้อยครั้งมากนะครับ ที่ผมจะเห็นไอกาย มัน ยิ้ม มีความสุขแบบนี้ ส่วนมาก พอเวลาเจอผมมันก็ชอบทำหน้า บึ้งตึง หรือบาง ครั้งก็แอคหล่อซะจนหน้าถีบ พอมาคราวนี้ เห็นมันยิ้มได้ผมเองก็เลยแอบยิ้มตามมันเลยละครับ

〖ขำกูก็มองหน้ากูสิ จะมองข้างล่างทำไม!〗 อายครับ ทั้งอายทั้งเขิล ><

〖โอ้ยของเล็กแค่นั้นกูไม่มองให้เสียสายตาหรอก!〗หู้ย เป็นคำพูดที่เหมือนจะเบาๆ แต่ผู้ชายอย่างเราๆฟังแล้วมันเจ็บครับเจ็บจี๊ดเลยย!

〖ทำอย่างกับของมึงใหญ่ตายหล่ะไอห่า ทำเบ่ง ใหญ่กว่านิ้วก้อยกูเองมั้ง 5555〗

〖หึ เดี๋ยวเห็นแล้วจะพูดไม่ออก〗มันจ้องหน้าผมพร้อมกับส่งสายตาที่ดูๆแล้ว เอิ่ม มันก็น่าสยองอยู่นะไม่ใช่สายตาที่มันมองผมทุกครั้งหรอกครับ ครั้งนี้มัน มองผมด้วยสายตาที่ดูมีเล่ห์สนัย พร้อมกับไอรอยยิ้มที่มุมปากนั้น ทำเอาผม นี้ขำ ไม่ออกเลยนี้สิ !

〖อ้าวเงียบทำไมหล่ะ ?  อยากวัดไม่ใช่หรอ มาเดี๋ยวกูจะเปิดให้ดูเอง ว่าของกูจะเท่านิ้วก้อยที่มึงบอกรึเปล่า〗 มันพูดพลางล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าผ่มก่อนจะถอดเข็มขัดที่ใส่มากับชุดนักศึกษาของมันเมื่อวาน มันปัดผ้าห่มให้ออกห่างจากตัวมัน ทำให้ผมเริ่มเห็นทีท่าของมันชัดเจน มันคงไม่ได้จะล้อหรือแกล้งผมเล่นแน่ๆ มันพยายามจะเอามือปลดซิบออก ผมเลยรีบเดินลุกออกมาจากเตียงซะก่อน ( :ruready

〖เออๆ พอๆกูเชื่อแล้วว่ามึงไม่เล็ก เอ่อ..เออ..งั้น.เอ่อกูไปเรียนและนะ ฝากล็อคประตูหน้าบ้านด้วย!〗ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องด้วยความอายเลยครับ ก่อนออกมามันก็ตะโกนเรียกผมไว้ก่อน แต่ผมไม่กลับไปหรอกครับ กำลังอายอยู่

〖อ้าวจะรีบไปไหน ไม่อยากดูแล้วหรอ! 555〗 แหม่ผีสางเทวดา นางไม้ ไอกายมันไม่คิดจะกลัวบ้างเลยรึไง ขืนผมอยู่ในห้องนานกว่านี้ คงได้เห็นอนาคอนด้าน้อยของมันแน่ๆ

〖ไม่อยากเห็นโว้ยย!!!〗

ตอนนี้ผมเดินลงมาใส่รองเท้าเตรียมจะไปที่มอเรียบร้อยแล้วครับ ผมเดินออกมาข้างนอกด้วย อาการทุลักทุเล ทำอะไรไม่ถูกเลยครับ เจอมุกนี้มันไป สู้ให้มันโหดป่าเถื่อนกับ ผม ผมยังจะชินกว่าเลย

ผมเดินออกมายืนรอแท็กซี่ ที่หน้าซอบอีกครั้ง ไม่รู้ ว่า ผ่านไปแล้วกี่คัน ตอนนี้สิ่งที่ผมกำลังสนใจมันไม่ใช่แท็กซี่ แต่เป็นเสียงหัวใจของผมที่เต้นรัวถี่ยิบ เหมือนจะระเบิดออกมาให้ได้ ผมไม่รู้ว่าเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง แต่สิ่งที่ผม แน่ใจเลยก็คือ หัวใจของผมที่กำลังเต้นแรงอยู่ ตอนนี้ เกิดขึ้น เพราะ ไอกาย


เพราะมันหรอ .....เป็นคนทำให้หัวใจของผมทำงานหนักถึงได้ขนาดนี้ ! ความรู้สึกนี้มันคือ อะไร

ผมกำลังเป็นอะไรไปเนี้ย ! ><  :ling1:

TBC.............................................................

#เอาละสิเจเจเริ่มอ่อนไหวเพราะกายแล้วละสิ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปน้า (อันนี้ยังนึกไม่ออกจริงๆ) ไว้นึกออกจะมาต่อให้ละกันนะครับ ฮ่าๆ ช่วงนี้ก็นั่งคิด ถึงกันไปก่อนนะครับ ไว้หลังสอบ เสร็จแล้ว คิมรีบมาต่อให้อย่างด่วนจี๋เลยละครับ!!!

⊙ω⊙  #คิมกอนอู!#

สำหรับวันนี้ (ขอตัวไปอ่านหนังสือสอบก่อนละ) บรัยยยย!!!!        :bye2:      )(づ ̄ ³ ̄)づヾ

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-01-2016 19:16:09
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:8〖ทำไมหัวใจถึงสั่นไหว?〗

หลังจากที่ผม ตั้งสติได้ผมก็รีบโบกรถแท็กซี่ที่ผ่านไปแล้วไม่ต่ำ กว่า สิบคัน นี่ถ้าพลาดคันนี้ไป ก็ไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นอีกเมื่อไห่รเพราะแต่ละคันนี้ป้ายว่างนี้ไม่เคยจะเปิดกันเล้ย!หรือต่อให้เปิดเขาก็คงไม่จดกันหรอก ผมเจอมากับตัวละ = =’

..............................................................
ตอนนี้ผมก็มาถึงมหาลัยแล้ว ในเวลา เกือบสิบโมง (หวุดหวิดไปนิดเดียวหึหึ !)
〖เห้ย เจ! 〗ไม่ทันไรเสียงเปรตขอส่วนบุญก็ดั่งมาแต่ไกลแล้วครับ เหมือนมันติด GPS ไว้ที่ตัวผมอย่างงั้นแหละ เวลาไหนที่ผม เท้า แต่พื้นถึงที่หน้ามหาลัยเมื่อไห่ร ไอวินมันก็จะโผล่มาทุกๆ ครั้ง บางทีผมยังแอบสยองมันลึกๆ เลย ⊙﹏⊙ 

〖เออมีอะไร〗ผมถามมันหลังจากที่มันวิ่งเข้ามาหาผมถึงที่หน้าประตู ด้วยอาการที่ดูตื่นตะหนก
〖ไม่มีอะไรอะกู คิดถึงเฉยๆ〗แหน๊ะ วันนี้มันไม่แขวะผมครับ มันชักยังไงๆแล้วนะมาแปลกแหะวันนี้
〖มาประจบกูมึงต้องการอะไร วันนี้กูไม่ได้หิ้วอะไรมาด้วยนะบอกไว้ก่อน〗ก็วันไหนที่ผมมีของกินหรือของอะไรติดไม้ติดมือมาหน่อย ไอนี้ มันจะชอบ วิ่งเข้ามาประจบ ชนิดที่ ว่า ผมอายเลยหล่ะ! ป่าวอายในสิ่งที่มันทำหน่ะ (แต่อายสายตาที่มีคนมองมาต่างหากหล่ะ!)

〖แหม่ เห็นกูเป็นคนเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยรึไง ห้ะ !〗ก็เออ สิวะ วันไหนกู มาแบบไม่มีของหิ้วมา นี้ หน้ากูนี้มึงยังไม่คิดจะมองเลย ห่านน!

〖ไม่คิดอย่างงั้น!ก็ดี๊ 〗อย่าให้รู้ที่หลังละกันว่ามันมีอะไรแอบแฝงมา หึหึ !

〖เออแล้ว ไอกายมันเป็นไงมั้งวะเมื่อวานกูเห็นอาการแย่เชียว?〗หึ! อย่าพูดถึงชื่อมันได้มั้ย ยิ่งพูดผมยิ่งนึ่งถึงสายตาที่จ้องมองของมันเมื่อกี้ขึ้นมาทันทีเลย บรื้ยย!!

〖เจ ไอเจ ไอเหี้ย เจ!!!!〗ผมสะดุ้งเฮือกที่อยู่ๆไอวินมันก็ตะโกนชื่อผมขึ้นมากลางโรงอาหารซะดัง พี่ น้องๆ แถวนั้น ต่างหันกลับมามอง ที่ผมกับไอวิน แทบจะทุกสายตาในที่นั้นเลยก็ว่าได้ โอ้ย อายครับอาย ไอวินกับผมเลยรีบหันไปส่งยิ้มเจื่อนๆให้ทุกสายตาเลย ครับ ! หมุนจนคอแทบหักแหนะ + +’

〖มีอะไรวะตะโกนซะเสียงดังเชียว!〗

〖กูเรียกมึงตั้งนานแล้วพอ ห่า นั่งเหม่อะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้ละ กูถามแม้งก็ยังไม่เสือกตอบ เรื่องไอกาย สรุปมันเป็นไงวะ?〗อะ..อ้าวหรอ สรุปนี้ผมเหม่อมาได้พักนึงแล้วใช่ไหมเนี้ย แหม่ไม่รู้ตัวเลย สะดุ้งอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงไอวินมันตะโกนเรียกชื่อผมนี้แหละ!

〖เออ ก็ไม่ไงอะ ก็ดีขึ้นนะ กูนี้แทบจะไม่ได้นอนเลย?〗

〖 ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ห่า มึงแอบทำอะไรเพื่อนกูป่าวเนี้ย ห้ะ ไอเจ!〗

〖มึงนี้ก็คิดได้เน้อ ในหัวมึงมีแต่เรื่องพวกนี้ใช่ไหม ที่กูไม่ได้นอน ก็เพราะต้องมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้เพื่อนรักของมึงทั้งคืนนี้แหละ 〗หึหึ มันนี้ก็ช่างคิดได้นะ ว่าผมจะทำอะไรเพื่อนรักของมันเนี้ย โอ้ย ว่าจะไม่คิดถึง ชื่อมันแล้วเชียว เพราะไอเชี่ยวินคนเดียวเลย มึงนะมึง!

〖คนที่มึงต้องห่วง คือกูนี้ไม่ใช่มัน ขนาดป่วย ยังมีกะจิตกะใจตื่นขึ้นมากวนสร้นตรีนกูแต่เช้าเลย กูละยอมมันจริงๆรู้งี้
น่าจะปล่อยให้แม้งนอนตรงนั้นซักคืนนึง!〗คิดถูกคิดผิดว๊า ที่ผมช่วยมันเนี้ย ! เห้อ
〖ทำนอย แหม่ก็ห่วงๆมึงทั้งสองคนนั้นแหละ เออ ไอเรื่อง งานหน่ะกูหาที่ให้มึงได้แล้วนะ  !〗ที่ทำงาน? อ๋อ คงเป็นตอนช่วงแรกๆที่ผมก่อเหตุแน่ๆเลย ตอนนั้นผมจนหนทางมาก ไม่มีวิธีไหน จะดีเท่ากับการหางานเสริมได้เลย ผมเลยให้ไอวินมันช่วยเรื่องหางานให้ผมหน่อยหน่ะ (เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ)

〖เออ ๆ งานอะไรแถวไหน ยังไง งานสบายไหม เหนื่อยมากหรือเปล่า โอทีละ แล้วๆ ...〗

〖โอ้ย เลิกแรพใส่กูซักพักเหอะกูตอบไม่ทัน ! เอาทีละคำถามสิวะกูจะได้ตอบมึงถูกๆหน่อย〗

〖แล้วไองานที่ว่านี้มันอยู่ที่ไหนบนโลกวะแล้ว.. แล้วถูกกฎหมายไหม !〗เออนั้นสิ ขืน มันพาผมไปปล่อยม้าขายยาไอซ์ขึ้นมาละได้เสี่ยงคุกเสี่ยงตารางกันพอดี !

〖มึงเห็นกูเป็นคนอย่างนั้นรึไงไอห่า กูรู้น่าว่าอะไรถูกอะไรผิด  กูไม่พาเพื่อนเสียคนหรอกน่า〗 แหม่ๆถ้าดูจากที่ผ่านๆมาก็น่าจะรู้ได้เลยว่าใครพากูเสีย! หึหึ อย่าให้กู สเม้าท์ สมอย!พูดละมันก็คันปากขึ้นมาเลยทันที ⊙▽⊙

〖แล้วสรุปอยู่ตรงไหน งานยากไหม?〗ถ้าเป็นงานที่ใช้แรง ผมแอบสู้ตายแต่ถ้าเป็ฯงานจำพวกเอกสารนี้ผมขอบายเลย เห็นตัวหนังสือนานๆไม่ได้ จะสลบทุกที
〖ร้านกาแฟที่มึงไปบ่อยๆ ไง วันก่อนกูไปนั่งกิน กับแพมมา กูเห็นป้ายเขาเขียน ว่ารับสมัครพนักงานชาย หลายตำแหน่ง
เห็นว่า คนเก่าๆ ติดเรียนกัน เลยไม่ว่างมาทำเลยขอลาออกกันไปหลายคน กูเลยไปถามน้องผู้หญิงตรงเค้าท์เตอร์ว่าจะ
สมัครต้องทำยังไงบ้างน้อง   เขาก็บอกว่า ต้องให้มารายงานตัวกับผู้จัดการร้านก่อน ถึงจะพิจารณาอีกทีนึง〗 อ๋อแสดง
ว่าเมื่อวานที่ ผมไปน้องผู้หญิงสอง คนนั้นที่ทักผม เขา คง คิดว่าผมมาสมัครงานแน่ๆ (เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง)ขอบใจมาก
วะไอวินเพื่อนรัก (╥﹏╥)o ซึ่งน้ำตาจิไหล
〖เอองั้นวันนี้เย็นๆ เดี๋ยวกูลองไปดู ละกัน มึงว่างไปเป็นเพื่อนกูป่าววะ ?〗ตอนบ่ายๆ ผมไม่มีเรียน แต่ไม่รู้ว่า ไอวินมันจะว่างตอนบ่ายเหมือนผมรึเปล่านี้สิ ?
〖กูก็ไม่แน่ใจหว่ะแต่ถ้าเป็นไอกายน่าจะว่างนะ มันโทรมาบอกว่า มันจะมาหากูตอนบ่ายๆ เห็นว่าวันนี้มันคงไม่ได้เข้า
เรียนคงเพราะป่วยอยู่หน่ะ〗หึ! ถ้ามันมาผมขอไปคนเดียวจะดีกว่า ไม่อยากเจอหน้ามันตอนนี้เลยจริงๆพูดเลย
〖งั้นกูไปคนเดียวดีกว่า เกรงใจเพื่อนมึงป่าวๆ ปล่อยให้มัน ไปอยู่ที่ชอบๆของมันเถอะ !〗พอพูดถึงมันผมก็นึกขึ้นได้ ว่า
ให้มันปิดประตู้ร้านไว้ ไม่รู้ว่ามันได้ปิดไว้ให้ผมรึเปล่าขืนเปิดเอาไว้ได้โดนยกเคาท์หมดร้านกันพอดี ต้องลองโทรถามมัน
หน่อยและ เอ่อ! ลืมไปผมไม่มีเบอร์มันนี้หว่า จะขอไอวินก็กลัวมันจะแซว! ต้องแกล้งๆหลอกๆขอมันทางอ้อมซะหน่อย
〖อะหึ่มๆ! แต่ก่อนที่กูจะออกมาเนี้ย อาการมันดูกะปริบปะปอยอยู่นะ มึงไม่ลองโทรไปถามอาการมันดูละ เผื่อมันอาจจะนอนตาย ที่บ้านกู แล้ว ก้อ เป็น ด้ายย!!!5555〗
〖ไม่น๊ามันพึ่งจะโทรมาบอกกูก่อนจะเช้าโรงอาหหารนี้เอง เห็นว่า โอเคดีแล้ว เอ แต่ลองโทรถามหน่อยก็คง ไม่เป็นไรหรอกมั้งเน้อ 〗รีบโทรหามันให้กูเดี๋ยวนี้เลยนะไอห่าวิน !
〖เออๆรีบโทรหามันให้กูเอ้ยย..ไปถามมันเดี๋ยวนี้เลยนะไอห่าวิน เพื่อมันเป็นอะไรจะได้ช่วยมันทัน !〗หึหึ! จะหลอก วินกี้ครั้งนี้ก็ช่างง่ายดายเหลือเกิน เหมือนหลอกเด็กยังไงยังงั้นเลย ละครับ ฮ่า ฮ่าๆ

ไอวินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งจิ้มๆ กดเบอร์ของเพื่อนมัน ส่วนผม ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนกัน แต่ป่าวโทรหาใครนะ เล่นเกมครับ ! ปล่อย มือให่ว่างไม่ได้เลยจริงๆ 
ตื๊ดดด !!!!! (ใครโทรมาขัดจังหวะตอนกูกำลังเล่นเกมวะ เสียอารมณ์มาก แต่ก็ต้องกดรับไป ก่อนจะรับผมก็ไม่ลืมที่จะดูเบอร์ที่โทรเข้ามา อื๊มม! เบอร์ไม่คุ้นเลยแหะ แต่ก็นะ อาจจะเป็นเบอร์สาวๆที่ไหนโทรผิดมาก็ได้ !ลองรับๆ ดูหน่อยละกัน ฟรื๊ดด!(เสียงสไลด์โทรศัพท์ 555555))

〖ฮัลโหลสวัสดีครับ!เจพูดสายอยู่นั้นเบอร์ใครหรอครับ?(แอบอ็คเสียงหล่อด้วยหล่ะ)〗 ขณะเดียวกันอยู่ๆไอวินมันก็พูดขึ้นมา
〖สายไม่ว่างหว่ะ สงสัยโทรคุยกับสาวอยู่ไว้สายๆ ค่อยโทรไปใหม่แล้วกัน〗
〖ฮัลโหล สวัสดีครับ ได้ยินไหมครับฮัลโหล!!〗ผมตะโกนอยู่หลายครั้ง ก็ไม่ยักจะมีเสียงใครตอบกลับมาจากเบอร์ที่โทรเข้ามาเลย สงสัยจะเป็นคนที่โทรมาผิดจริงๆ ละมั้ง อื๊ม! ขณะที่ผมกำลังจะกดวางสายก็มีเสียงพูดดังออกมาจากโทรศัพท์ซะก่อน!

〖ฮัลโหล!〗 เอิ่มเสียงผู้ชายแหะ แอบผิดหวังเบาๆ ฮ่าๆ จริงๆถ้าเป็นผู้หญิงผมอาจจะคุยเพราะๆ กว่านี้ แต่นี้เห็นเป็นเสียงผู้ชาย เลยขอคุยแบบ ห้วนๆ หน่อยละกัน

〖ครับ หวัดดีครับ ไม่ทราบว่าโทรมาหาใครรึเปล่า ?〗ไร้เสียงตอบรับอีกแล้วครับ

〖เอ่อฮัลโหลๆ !〗

〖เออ ได้ยินแล้ว จะพูด ซ้ำอะไรหนักหนาวะ !〗อ้าวไอนี้ ก็กูพูดไปตั้งนานแล้วไปเสือกตอบกูกลับมาละห่า

〖เออแล้วนั้นใครพูดอยู่หน่ะ (เริ่มไม่สุภาพแล้วครับ)โทรมามีอะไร〗

〖ใครก็ได้ไม่ต้องสนใจหรอก แค่จะโทรมาบอก ว่าล็อคบ้าน ล็อคร้านให้เรียบร้อยแล้วนะ กุญแจอยู่บนกระถางดอกไม่ที่
ห้อยอยู่ตรงประตูนะ อย่าลืมมาหยิบไปด้วยละ〗 เอิ่มตอนนี้ผมเริ่มแน่ใจแล้วว่า ไอสายที่โทรเข้ามาเนี้ยไม่ใช่ใครอื่น แต่
เป็นไอกาย แน่ๆ แต่สิ่งที่ผมสงสัยอยู่ก็คือ มันได้เบอร์ผมมาจากไหนหล่ะ ผมเลยหันไปสบตาไอวินก่อนจะกระซิบแบบไม่มี
เสียงบอกมันว่า “มึง ให้ เบอร์ กู กับ ไอกาย หรอ”มันส่ายหัวส่ายหัวกัลบมาแทนคำตอบว่าไม่ได้ให้ แล้ว ? ไอกายมันได้เบอร์ผมมายังไงละ ผมละยังงอยู่เลย

〖เออขอบใจมากนะมึง แล้วมึงได้เบอร์กูมาจากใครเนี้ย จากไอวินหรอ ?〗มันไม่ตอบผมครับ แต่เงียบไปพักนึงเลยกว่าจะตอบผมกลับมาก็ถือสายรอซะนานเลย

〖ไม่ต้องรู้หรอกน่า เอาเป็นว่ากูหามาได้ละกัน !〗หึ ยึกยักไม่ตอบคำถามกูอีก เหมือนเพื่อนรักมึงไม่มีผิดเลยจริงๆ
 
〖เออโทรมาจะบอกกูแค่นี้ใช่ไหม ถ้าไม่มีอะไรแล้ว กูไปเรียนก่อนนะ〗ผมกำลังจะกดวางสายก็มีเสียงของมันตะโกนดัง กลับมาซะก่อน

〖เอ้ยๆ เดี๋ยวๆ คือ..〗

〖ห้ะ มึงว่าไงนะ〗

〖เอ่อ พรุ่งนี้..มึง〗

〖โอ้ย จะให้กูลุ้นคำตอบอีกนานไหมเนี้ย กูรีบมีอะไรก็รีบๆพูดมาสิ〗ไอพวกที่ชอบยึกยักๆคำตอบ นี้มันน่าโดนฝ่ามือซักทีแหม่ กลัวกูไม่ลุ้นรึยังไง?

〖เออ เอาไว้กูคิดออก เดี๋ยวจะโทรไปบอก อ่อ อีกอย่าง ถ้าโทรไปแล้วไม่รับ นะมึง !ตายยย!〗เอ่อ เจอคำขู่อย่างนี้ไปผมก็เถียงไม่ออกเลยสิครับ ผมกำลังจะง้างปากด่ามันอยู่แล้วเชียว

〖เออ ถ้าว่าง ก็จะรับ แต่ถ้าไม่ว่าง ก็ไม่รับ เข้าใจ๊ ! เออแค่นี่แหละกูจะไปเรียนแล้ว บายย!〗ผมไม่รอฟังคำตอบจากปลายสายว่าจะพูดว่าอะไรเลยรีบกด วางสายไปในทันทีเลย

ผมเดินหอบกระเป๋าตัวเองมาจากโรงอาหารก่อนจะเดินตรงเข้าคณะของผม ส่วนไอวิน เปิ่นแนบไปได้สักพักนึงแล้ว  กว่าจะ
เรียน เสร็จ ก็เกือบเที่ยง ผมลองโทรไปเช็คไอวินว่า มันว่างจะไปส่งผมรึเปล่า ก็ได้ คำปฎิเสธกลับมาครับ เห้อๆ เห็นมันตอบกลับมาว่าติดเรียนไปไม่ได้ ให้ลองโทรหาไอกายดู หึ ถ้ามันคิดว่าผมจะโทรไปหาไอกายละก็ มันคิดผิดละครับ ผมรีบเดินไป
หาไอวินที่คณะ ว่าจะยืมรถมันขับไปที่ร้านกาแฟซะหน่อย พอเดินมาถึงที่คณะ ผมเห็นไอวินนั่งอยู่กับผู้หญิงคนนึงครับ แต่
คราวนี้ไม่ใช่ น้องแพม เป็นสาวคณะอื่นแทน ไอนนี้มันเสนห์แรงในหมู่สาวๆมากครับ เนื้อหอมสุดๆ ส่วนผมนี้ เนื้อหอมไม่
ต่างงจากมัน แต่ไม่ใช่กับผู้หญิงนะ ผู้ชาย ครับ ใช่ครับ คุณๆฟังไม่ผิดกันหรอกครับ ผม เป็นที่หมายหมอง ของผู้ชาย หลาย
คนในคณะ และต่างคณะมากครับ เช็คได้จากสายตาที่พวกนั้นมองผม มองแบบชนิดที่ว่า จิกตั้งแต่เดินเข้ามา ยัน เดิน
ออกไป นี้ถ้าไม่ติดว่ายิ้มไปด้วยมองไปด้วยนี้ผมคงคิดว่า มันจะเล่นผมกันทั้งคณะแล้วละสิ อย่า อย่านะ ผมไม่สู้คน
ผมกำลังจะเดินเข้าไปสะกิดหลังไอวิน แต่เหลือบมองเห็น ร่างสูงๆ ของบุคคลที่คุ้นหน้าเป็นอย่างมาก กำลังเดินตรงเข้ามา
ผมรีบหันหลังกลับวิ่งไปหลบอยู่ตรงต้นเสาข้างๆ ไม่รู้ว่าหลบพ้นมันรึเปล่า แต่ผมคิดว่ามันคงไม่เห็นผมแน่ๆ เลยอยู่อย่างนัน้พักนึง ก่อนที่มันจะเดินห่างออกไป

〖เห้ยๆ ไอวินๆ〗ผมตะโกนเรียกชื่อมันเบาๆ มันก็หันมามองผมอย่างปลงๆ ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมที่ยืนหลบมุมอยู่ที่ต้นเสาข้างๆ

〖เออ มีอะไร! ไม่เห็นหรือไงกูยุ่งอยู่?〗

〖กูยืมรถมึงหน่อยดิ่ กูจะลองขับไปดูที่ร้านเรื่องสมัครงาน !〗

〖เอ่อ กูพึ่งให้ไอกายไปเมื่อกี้เองวะ เห็นมันบอกว่าจะไปทำธุระที่ไหนนี้แหละพักนึงอ่ะกว่าจะกลับมา 〗ผมก็นึกว่ามันจะ
เข้ามาทักไอวินเฉยๆ กลับมายืมรถตัดหน้าผมไม่ก่อนซะงั้น ฮึ้ยย นึกแล้ว เจ็บใจชะมัด
〖โอ้ยแล้วกูจะไปยังไงละเนี้ย รถก็ไม่มี ขืนนั่งแท็กซี่ไปมีหวังได้เดินกลับแหง่ๆ 〗

〖ก็ไปพร้อมกับกันสิ เดี๋ยวกูไปส่ง〗ผมรีบหันไปมองตามเสียงที่ได้ยินมาจากด้านหลัง ผมมั่นใจแน่ๆ ว่าเสียงนี้ไม่ใช่เสียง
ของไอวินแต่เป็น เสียงของ .. ไออสูรกาย!

〖เอ่อ..ไม่เป็นไรวะ กูไม่รบกวนดีกว่ามึงไปทำธุระของมึงเถอะ เออ ใช่กูนึกขึ้นได้ เมื่อกี้พี่ริวเขาเรียกให้เราไปหาที่
ห้องสมุดไม่ใช่หรอวะ ทำไมไม่รีบไปกันหล่ะปล่อยให้พี่เขา รอนานมันไม่ดีนะเว้ย〗 ผมรีบหาข้ออ้างเพื่อที่จะได้ หนี
ออกไปจากที่นี้ให้ไวที่สุเท่าที่จะไวได้เลย หากไอวินมันไม่พูดดัดคอผมไว้ซะก่อน
〖แต่วันนี้ พี่ริว เขาไม่มานี้หว่า มึงจำผิดวันรึเปล่า มึง ?〗โอ้ย ไอสัด วิน กูก็พยายามส่งสายตาให้มึงอยู่นี้มึงไม่ได้มองกู
เลยใช่ๆไหมเนี้ย มันเงยขึ้นมาสบสายตากับผมอีก ที แต่คงคิดว่าไม่ทันแล้วละครับ หลุดปากไปซะขนาดนั้น มันรีบยื่นมือ
ของมันมาจับมือผมไว้ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ให้ผม เหมือนรู้สึกผิดที่ได้ทำลายแผนการผมไปซะหมดแล้ว ชิ๊ ผมรีบปัดมือมันทิ้งเลย ข้อหาไม่รู้เชิง !


〖ไปกับไอกายก็ได้นี้หว่า ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย จริงไหม?〗มันพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าไอกาย มันก็เหล่ๆหันมองตามก็เห็นไอกายมันพยักหน้า หนึ่งที แทนคำตอบ โอย สรุปกูต้องไปกับมึงให้ได้เลยใช่ไหมเนี้ย !

〖แล้วทำไมมันไม่ไปรถมันละวะเก๋งก็มีให้ขับไม่ขับ เสือกกระแดะจะมาขี่มอไซด์〗 ผมพูดลอยๆไปไม่ได้เจาะจงใคร จริงๆ แค่แอบแขวะมันเบาๆ เฉยๆ ฮิ ฮิ

〖รถมันเสียอีกอย่าง มันก็ยังไม่ได้หลับบ้านมันด้วย มึงก็ไปๆ กับมันเถอะ ยังไงมันก็ผ่านทางนั้นอยู่แล้ว !〗แหม่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจริงๆ นะพวกมึงสองคนเนี้ย !

〖เออๆ ไปก็ไปวะ จริงกูก็ไม่ได้อยากไปด้วยหรอกนะ ถ้าไอวินไม่บังคับกูก็ไม่ไปด้วยหรอก ฮึ๊ !〗
〖หรอ กูบังคับมึงหรอวะเจ?〗ผมทำตาขวางส่งไปให้ไอววินครางนี้เหมือนมันจะรู้เชิงเลยรีบตอบคำตอบที่เข้ากับหูผมมากๆเลยละ

〖เอ่อใช่ๆ ขืนขับไปขับกลับเปลืองน้ำมันแย่เลย มึงไปกันสองคนแหละดีแล้ว อย่าลืมเติมน้ำมันคืนกูกันด้วยหล่ะสองคนมึงหน่ะช่วยกันออก เต็มถังนะมึงกูบอกก่อน 〗แหม่ ทีแท้ก็มีอะไรแอบแฝง แบบนี้นี้เอง กะจะหลอกให้กูเติมน้ำมันให้งั้นสิ !หึฝัน

〖กูไม่ได้ขี่ กูเป็นคนซ้อน ให้ไอคนขี่มันเติมนู้นกูไม่เกี่ยว〗

〖เออยังไงก็ช่างเถอะพวกมึงสองคนรีบไปได้ละกุรำคาณ เสียเวลา เห็นไหมน้องพิมเข้านั่งหน้าจ๋อยแล้วเนี้ย〗 อ๋อที่แท้ก็น้องชื่อน้องพิมนี้เองแหม่ๆ กะจะคบสาวตะกูลพ พานทั้งมอเลยใช่ไหมเนี้ยห้ะ

〖ไล่ ก็ไป แต่ไม่รู้นะ ว่าจะเผลอ พูดอะไรออกไปตอนเจอแพมเขารึเปล่า〗ผมหันมาแขวะไอวินมัน ก่อนจะเดินห่าง
ออกมา มันชูนิ้วกลางให้ผมมก่อนจะหันกลับไปคุยกับเด็กคนใหม่ของมันต่อ ! ตอนนี้ ไอคนถือกุญแจมันหายหัวไปไหน
แล้วไปทราบครับ หายไปแบบไร้ร่องรอยเลยทีเดียว ! อ๋อ เจอแล้วครับ อยู่ที่จอดรถข้างๆ คณะนี้เอง ไหงเดินไปไวนักละ
สงสัยขามันคงจจะยาว (แหม่พี่คิมไม่ต้องเน้นมากก็ได้ครับ ผมรู้ตัวครับว่าผมมันนขาสั้น= =’แหม่ย้ำปมด้อยผมันซะจริง!)


........................................................

ระหว่างที่ขี่มาไอคุณชายมันก็เอาแต่บ่นๆๆ แล้วก็บ่น ครับ สงสัยเวลาอยู่ที่บ้านไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วย เก็บกดแหงๆ น่าสงสารจริงๆ ชีวิตคุณชาย ⊙ω⊙ 

ตอนนี้ผมก็มาถึงร้าน ☆یŦαя Café เรียบร้อยแล้วครับ ใช่เวลาแค่ ยี่สิบนนาทีกว่าเอง (ปกติถ้าจากมอมาร้าน ก็
ประมาณ 30-40 นาที) แต่นี้คุณชาย ไม่รู้ผีเดอะฟาทเข้าสิงหรือยังไง บิตมาซะหน้าตั้ง ผมที่อุตส่าห์เซ็ททรงมาตั้งแต่เช้าไป
หมดละครับ ! ก่อนลงจากรถผมก็ยื่นหมวกกันน็อคไปให้ไอกายมัน (ขามามันไม่ใส่ครับ มันบอกอึดอัด มันเลยยื่นให้ผมใส่
แทน)คนขี่ไม่ใส่คนซ้อนใส่ คือ..ดีงาม หึหึ ! ผมกำฃึ่งกำลังจะเดินเข้าร้าน กำลังจะเปิดประตูแล้ว อยู่ๆไอกายก็เรียกผม
ขึ้นมาซะก่อน ผมเลยต้องจำใจปิดประตร้านไว้ดังเดิมก่อนจะหันหลังไปคุย กับมัน

〖เดี๋ยว!!〗

〖มีอะไรอีกละครับคุณชาย!!〗พอผมขานกลับไปละก็ไม่เสือกตอบ คนยิ่งรีบๆ อยู่ = =’

〖เอ่อ..เอ่อ คือ〗

〖คิดให้ออกแล้วค่อยโทรมาบอกละกันนะครับคุณชาย บายย!〗ไอนิสัยยึกยักๆ นี้มันได้มาจากใครกันน้า ผมเห็ฯละเอือมจริงๆ คนจะฟังนี้ สิเสียอารมณ์สุดๆ

〖เดี๋ยวๆ ! คือพรุ่งนี้ว่างไหม? ไปช่วยซื้อของหน่อย !〗โถ่ ไอเราก็นึกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไร ที่แท้ก็แค่ซื้อของ ว่าแต่ ทำไมมันถึงต้องชวนผมหล่ะ ? เออนั้นสิ ?

〖คนใช้ที่บ้านคุณชายไม่มีคนใช้หรือไงกันครับ ถึงต้องมาชวนกูเนี้ย  ห่า กูไม่ว่างต้องทำงาน!〗กายมันทำท่าขมวดคิ้ว ก่อนจะเริ่มพูดต่อ

〖ทำงาน ? มึงเนี้ยนะ ทำงาน ทำที่ไหน ?〗แหม่หน้าอย่างกูนี้ ไม่เหมือนคนน่าจะไม่มีงานทำเลยรึไง ! ถามซะกุเสียเซลฟ์เลยห่าน

〖ก็ที่เนี้ยแหละ ? กูมารอคุยกับผู้จัดการเขา มึงจะไปไหนก็รีบๆ ไปเหอะ โทรนัดเขาไว้แล้ว มาสาย แม้งจะน่าเกลียดเอา
ยัง อีก ไล่แล้วยังไม่ไปอีก ชิ้วๆ ไปสิไป๊!!!〗ก่อนไอกายมันจะขับรถออกไปก็ไม่ลืมส่งไอรอยยิ้มเลวๆ นั้น ที่มุมปากของ
มัน ก่อนจะรีบบิต ร้อยยี่ หายแว้บ เข้าไปในซอย เห้อ ! เสียเวลาชะมัดคนยิ่งรีบๆอยู่ อ้าว แล้วผมมายืนบื้ออะไรตรงนนี้
ละเนี้ย ทำไมถึงไมม่รีบเข้าร้านวะ ฮ่า ฮ่า พอนึกขึ้นได้ผมที่แทบจะวิ่งทะลุประตูร้านเข้าไปเลยละครับ  ในร้านวันนี้
บรรยากาศ กูเงียบๆมากๆเลยไม่มีลูกค้าซักคน ! ผมกวาดสายตามองไปทั่วร้านก็ไปสะดุดกับ น้องผู้หญิงคนนึง คนนี้ไม่คุ้นหน้าแหะ สงสัย จะเป็นพนักงานคนใหม่ ผมไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไป หาน้องเขาเลย !!

〖เอ่อ ขอโทดนะครับ!!คือ..〗

〖สวัสดีค่ะ ร้าน☆یŦαя Café ยินดีต้อนรับค่ะไม่ทราบว่าต้องการแบบไหนดีค่ะ〗น้องพนักงานหล่าวคำทักทาย
ผมพร้อมกับส่งสายตาวิ้งๆ เหมือนรอคำตอบจากผมอยู่ ถ้าผมจะบอกน้องเขาว่าผมไม่ได้มาสั่งของแต่มาสมัครงานน้องเขา
จะเสียเซลฟ์ไหมละนี้ ! หืมม! คนอย่างไอเจไม่ใจร้ายกับสาวๆ หรอก หึ!

〖ขอคาราเมลนมสดละกันครับ!〗

〖คาราเมลนมสด หนึ่งที่นะค่ะ จะรับเค้ก ช็อคโกแลตหรือ เป็นขนมอย่างอื่นดีค่ะ?〗เอ๊ะๆ ได้ข่าวว่าผมสั่งแค่น้ำนี้นา ขนงขนมมาไง ไม่อ๊าว ไม่เอา!

〖เอ่อผมเอาแค่น้ำอย่างเดียวนะครับ ^ ^〗
〖วันนี้โปรโมชั่นพิเศษของทางร้านค่ะ ! ซื้อน้ำหนึ่งแก้วแถม เบเกอรรี่ฟรี 1ชิ้นค่ะ 〗ว้าว มีโปโมชั่นดีๆ ออย่างนี้ก็ไม่รีบ บอก แหม่ อย่างนี้ใครจะกล้าปฏิเสธได้ลงละครับ ^^

〖งั้นผมขอเป็น ช็อคโกแลตเค้ก แล้วกันครับ〗

〖ทั้งหมด 69บาทค่ะ〗ผมยื่นแบงค์ร้อยให้น้องพนักก่อนน้องเขาจะรับไปแล้วทอนเงินกลับมาให้ผม

〖เงินทอน 31 บาทค่ะ ขอบคุณค่ะ〗พอทอนเงินผมเส็รน้องเขาก็มีทีท่าจะเดินเข้าหลังร้าน ผมเลยรียเรียกน้องเขาไว้ซะก่อน

〖เอ่อ น้องครับ ไม่ทราบว่าผู้จัดการร้านอยู่ไหมอะครับ พอดีผมนัดคุยธุระกับเขาไว้หน่ะ !〗

〖อ่อ คุณเจมาธุระเรื่องสมัคงานใช่มั้ยค่ะ พอดีว่าวันนี้ผู้จัดการร้านไม่ว่างมานะค่ะพอดีติดธุระด่วน กว่าจะมาก็เย็นๆ เลยโทรมาบอกเมื่อสักครู่ ว่าจะมีคนมาติดต่อเรื่องสมัครงาน ผู้จัดการร้านบอกว่า ให้เริ่มงานได้พรุ่งนี้เลยค่ะ!〗

〖ห้ะ.. เอ่อ ไม่คิดจะสัมพาษหน่อยหรอครับ?〗

〖ผู้จัดการบอกว่าไม่ต้องค่ะเริ่มงานได้เลยๆ!〗เอิ่ม!ผมว่าเจ้าของร้านนี้ก็ยังไงๆแน่นะ อยู่ๆ ให้คนที่ไม่เคยเห็นหน้าข้า
ตา มาทำงาน แถมยังไม่รู้นอสัยใจคออีก หึๆ แต่ก็ดีอย่างแหละครับ จะได้ไม่ต้องหาที่ทำงานใหม่ ทำงานในห้องแอร์โอ้ยย สบายย บรื๊อ !!

〖งั้นผมฝากขอบคุณ ผู้จัดการด้วยนะครับ พอดีวันนี้ผมมีธุระต่อ เลยไม่สะดวกอยู่รอ ! ผมฝากขอโทด/ขอบคุณด้วยนะครับ〗เห้อได้ไปแล้วหนึ่งที่เหลืออีกสามที่ที่วันนี้ผมต้องไป พอดีผมสมัครงานไว้หลายที่หน่ะครับ กะจะรีบๆ หาเงินมาใช่ค่ารถให้ไอคุณชายมัน จะได้หมดเวรหมดกรรมกันซะที

〖งั้นผมไปแล้วนะครับ ขอบคุณมากๆครัย ^ ^〗

〖ค่า ! โอกาส หน้า.เอ้ยย พรุ่งนี้เจอกันนะค่ะ 〗

ก่อนผมจะเดินออกมาน้องเขาก็ส่งรอยยิ้ม พร้อมกับโบกมือลาให้กับผม แหม่ๆ ! ก็เสนห์เหลือล้นขนาดนนี้ จะไม่ให้สาวๆ
หลงรักตั้งแต่แรกเห็นได้ยังไงละ ! แอบหลังตัวเองเบาๆ -.- มาถึงหนน้าร้านผมก็ยืนรอรถ เหมื๊อนเดิม แต่วันนี้ดีหน่อย
ที่พี่แท็กเชาอารมณ์ดีจอดรถให้ผม แบบ เรียกครั้งเดียวจอดเลยอะไรงี้ ! นานๆทีจะเจอแบบนี้ครับ พอถึงที่หมายผมก็ควัก
เงินจ่ายพี่แท็กเขาไป ก่อนจะเดินลงมาจากรถ และวิ่งตรงไปที่ ร้านก๋วยเตี๋ยว ข้างๆ ร้านของผมพอดิบพอดี ! หูยร้านนี้คือ
แบบ ลูกค้าเยอะมากครับ เรียกได้ว่า แน่น ตั้งแต่เช้ายัน ค่ำเลย ผมเห็นร้านนี้กว่าจะปิดนี้ก็ เกือบ ตีสองตีสามกันเลยทีเดียว
! แม่ค้านี้มือเป็นระวิงเลยครับ คนเสริฟ์ก็เสริฟไปแต่คนล้างจานนี้สิผแอบสงสารจริงๆ ล้างให้ตาย ก็ไม่หมด มีมาทั้งวันอ่ะ
ฮ่าๆ ผมวิ่งตรงเข้ามา ซึ่งก๋วยเตี๋ยว กับอาอึ้ม!(แกตัวขาวๆแก่ๆ หน่อย ก็คนเชื้อจีนอะเน้อน่าจะพอนึกกันออก)
〖อ้าว! อาเจ ทัมมลาย วังนี่ ลื้อมาช้า !〗เสียงอาอึ้มแก่กล่าวทักทายทันที่ที่ผมเดินมาถึง ตาก็มองผมบ้าง แต่มือก็ยังตักเส้นลวกเส้นอยู่เลย !

〖เจไปทำธุระมาหน่ะอาอึ้ม ! วันนี้เหนื่อยมากเลยอยากกินก๋วยเตี๋ยวฝีมืออาอึ้มซะหน่อยจะได้หายเหนื่อย !〗

〖แหม่ ทำปักหวาน!นะลื้ออ่า ไปนั่งรออึ้มตงนุ้นไป เดี๋ยวอาอึ้มให้เด็กเอาไปเสริฟอ่า!〗ผมชอบสำเนียงอาอึ้มแกมากเลยผมว่ามันดูน่ารักดีนะ ถึงใครๆ จะไม่คิดแบบผมก็เถอะ ^^

〖คร้าบบ! รีบๆ ละกันอาอึ้ม เจหิว ไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันเลย T+T〗ผมเบ้ปากใส่อาอึ้มทีนึงก่อนจะเดินมาที่โต๊ะ
ประจำ อยู่ด้านในสุดนู้น! เพราะตรงนนี้ไม่ค่อยมีคนนะครับ ผมเลยชอบมานั่ง กินอยู่คนเดียว ส่วนมากเขาจะนั่งกินหน้า
ร้านหรือก็สั่งไปกินที่บ้านกัน ประเด็นคือ ! ไอเด็กมัธยมกลุ่มนึงหน่ะครับ มันชอบมาที่นี้บ่อยๆ หน้าตานี้ก็ไม่ได้จัดว่าแย่ นะ
ครับออกแนว แบบ หล่อเถื่อนๆ คือจริงๆ มันชอบจ้องหน้าผมหน่ะไม่ใช่อะไรหรอก เกร็ง ผมไม่กล้าพูดอะไรมากหรอก มัน
มากันหลายคน เลยปล่อยให้มันมองผมไป ไปงั้นป่านนี้คงได้กินตีนแทนก๋วยเตี๋ยวแล้วละครับ ! ฮ่า ๆ แต่ก็นะปากผมพูด
ยังไงได้ยังงั้นเป๊ะ ! ไม่ทันไร ไอกลุ่มเด็กเถื่อน (น่าจัประมาณ มอ ห้า มอหกมั้งดูจากการแต่งตัวแล้ว)ก็วิ่งเข้ามานั่งโต๊ะ
ข้างๆผม แหม่โต๊ะข้างนอกก็หว่างไม่เสือกไปนั่งกัน กู อุตส่าห์มาหลบมุมแล้วนะ ฆวย เวลาซื้อหวยกไม่เห็นถูกอย่างงี้บ้าง
วะ ! เซ็งจิต ซักพักนึงก็มีคนเอาก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟที่โต๊ะของผม ชามใหญ่มากๆเลย (ทัมด๊าหลานรักอาอึ้มให้พิเศษผม
ตลอดอ่ะ) บางทีผมก็กินฟรีเฉยๆ เลยนะ พอจะไปจ่ายตังอาอึ้มแกก็ไม่เอาเห็นบอก ว่าแกเห็นผมเหมือนลูกหลานคนนึงเลย
ไม่คิดตัง แต่บางครั้งด้วยความที่ผมเกรงใจ เลยต้อง แอบไปจ่ายเงิน กับ น้องพนนักงานอีกคนนึงแทน 
〖ขอบคุณคร๊าบ จะทานแล้วน๊า อ๊า อ้ำ !! หงับๆ !〗 หู้ยยอร้อยย! เชียวคุณ(นึกถึงเสียงอาจารย์ยยิ่งศักดิ์ 555)
กินกิครั้งๆรสชาติก็ยังอร่อยเหมือนเดิม ผมนั่งกินปำด้พักนึงก็เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศที่มันดูแปลกๆ ไม่ใช่ โต๊ะข้างๆหน่ะ แต่ที่
ผมรู้สึก คือข้างหน้าของผมต่างหาก ผมเงยหน้าขึ้นมองนิดหน่อยแต่ปากก็ยังจมอยู่ที่ชามนั้นแหละ ผมยังเห็นคนที่เอา
ก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟให้ผมยืนอยู่กับที่อยู่เลย อ้าวทำไมยังไม่ไปอีกละหรือจะรอเก็บจาน !

〖เออ พี่ครับ เดี๋ยวผมเอาชามไปเก็บเองก็ได้ครับ 〗 ผมพูดไปทั้งๆที่หน้าก็กำลังซู๊ดเส้นเข้าปากอยู่

〖ไม่เป็นไรครับ พี่รอได้ ^ ^〗 เอ๊ะๆ เสียงนี้มันคุ้นๆ ผมรีบเงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวกก่อนจันขึ้นไปมอง อ้าว!!

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-01-2016 19:17:30
〖พี่ริว !!!〗 ผมตกใจมากครับที่อยู่ๆ หนุ่มหล่อคนดังของคณะ ก็มายื่นอยู่ตรงหน้าผม (ประเด็นที่ตกใจไม่ใช่ตรงนั้น ) แต่ตกใจตรงที่พี่แกมาเสริฟก๋วยเตี๋ยวนี้แหละ

〖มาได้ยังไงอ่ะพี่ มากินก๋วยเตี๋ยมหรอ ?〗พี่ริวแกยืนยิ้มให้ผมพักนึงก่อนจะลงมานั่งตรงเก้าอี้ข้างๆ ผม

〖พี่เป็นเด็กเสริฟ์ไม่รู้รึไง ?〗ถ้าหล่อรวยอย่างพี่เป็นเด็กเสริฟ์ ผมก็เด็กสลัมแล้วละครับพี่ริวว!

〖ตลกแล้วพี่ สรุปมาทำไมอ่ะรับจ็อบเสริมอ่อ ?〗

〖ป่าวๆ พี่มาช่วยเสริฟ์เฉยๆ 〗อู้ว!ตายๆ พ่อพระจริงๆ ใครได้พี่ริวแกเป็นแฟนนี้ผมว่าคงโชคดีมากๆ เลยหล่ะ! หล่อแถมยังมีน้ำใจอีกต่างหาก นี้ถ้าผมเป็นผู้หญิงนะ จะตามแจพี่แกทั้งวันเลยละ ฮ๋า ฮ๋าๆ

〖ช่วยทำไมเล่า มีผมทั้งคน ลูกชายอาอึ้ม !ฮ่า ฮ่า〗

〖พี่ได้ข่าวว่าเขามีแต่ลูกสาวคนเดียวนี้นา ลูกชายมาไงละทีนี้ ?〗ดักมุขตผมอีกแหม่ พี่ริวก้อ! ผมนั่งคุยกับพี่ริวแกไป
พักใหญ่ๆ  ไม่รู่นานเท่าไหร่ อยู่ๆ อาอึ้มแกก็เดินเข้ามาแบบไม่ให้ซุ้มให้เสียง ทำเอาผมนี้ตกใจขึ้นมาอีกรอบที่เท่าไห่รแล้วก็
ไม่รู้ บางที ก็ตกใจพี่ริว บางทีก็ตกใจไอโต๊ะหัวเกรียนข้างๆ ไหงยังจะเจออาอึ้มแกอีก กะจะให้ชช็อคตายกันให้ได้เลยใช่ไหมคนพวกนนี้ ใจร้ายกันจริงๆ


〖โอ้ย อาอึ้ม เจตกใจหมด มาไม่ให้ซุ้มให้เสียง ระวังเถ๊อะวันไหนถ้าเจเป็นอะไรไปอึ้มจะเสีย ใจที่ไม่ได้เจอหน้า หลานรักสุดๆ อย่างผมอีก ฮึฮึ〗

〖อึ้มจะเสียใจทัมมัย ก็หลังชายตัวจิงๆ ลื้อ นั่งอยู่ตรงนี้แร้วนี้งาย!〗ตรงนี้หืม นอกจากผมก็มีแค่ …พิ่ริว ?

〖อึ้มอย่าบอกนะว่าพี่ริว ..〗

〖ช่ายเลี้ยว อย่างที่ลื้อคิดหน่านแหละ อาริว อีเป็นตี๋น้อย ของอั๋วอ่า〗อ่อที่แท้พี่ริวแกก็เป็นหลายชายของอาอึ้มแกนี้เอง แหม่ๆ อยู่ใกล้กันแค่นี้เองทำไมผมพึ่งจะเคยเห็ฯหน้าพี่แกอยู่แถวนนี้ละเนี้ย

〖อ๋อ ที่แท้ก็เป็นหลานชายตัวจริงนี้เอง แล้วทำไมพี่ไม่ริวไม่บอกเจ ปล่อยให้เจโม่เรื่องอาอึ้มได้ตั้งนาน〗

〖ขืนบอกก็อดเห็น ของดีนะสิ ! ฟังเจโม้เรื่องอาม่าพี่ สนุกดีออก  ฮ่า ฮ่า〗หึหึ ! ทำตลกผมนี้ตลกไม่ออกเลย อุตส่าห์
โม้ไว้ซะเยอะ ว่าเป็นหลานชายสุดที่รักของอาอึ้มแก ทั้งๆ ที่หลานชายตัวจริงเขานั่งหัวโด่ฟังผมโม้อยู่ตรงนี้แท้ๆ แหม่ แอบอายเล็กๆ

〖หึหึ! พี่ริวแกล้งเจ เจจะฟ้องอาอึ้ม! ไม่สิ เจจะฟ้องอาม่าพี่ริว !〗หึหึให้มันรู้สิ ว่าผมจะไม่กล้าประจะอาอึ้ม .. ไม่สิ
ต้องเรียกอาม่า เพราะแกมีหลานชายจริงๆ ออยู่แล้ว เดี๋ยวพี่ริวแกจะโกรธเอาที่ไปเรียกชื่ออาม่าแกอย่างนั้น

〖โอ๋ๆ ไม่ฟ้องนะคนดี เดี๊ยวพี่โดนม่าดุเอา อย่างฟ้องเลยน้า น่ะๆ!〗

〖หึ ชี๊ส์!〗ผมสะบัดหน้าหนีพี่แกเลยป่าวงอลนะ แกล้งๆ แกเล่นๆเฉยๆ

〖ทำไมเรียกม่า ว่าม่าแล้วหล่ะอาเจ ทัมมัย ไม่เรียกอาอึ่มแร้วล่า!〗
〖ก็อาอึ้ม..เอ้ย อาม่ามีหลานตัวจริงอยู่แล้ว เจก็เป็นหมาหัวเน่านะสิ !ฮือ ฮือ〗ต่อมตอแหลของผมเริ่มทำงานละ
ครับ ⊙ω⊙ 

〖เอาน่ายังไงอึ้มก็รักอีเหมือนหลานระกคนนึงแหละน่า! งั้นต่อไปนี้ ลื้อต้องเรียด ม่า ว่า ม่า เข้าใจมรั้ย!อาเจ〗

〖แล้วพี่ริว เขาจะไม่ว่าเจหรอ !〗

〖อย่างอีจะกล้าว่าอะไรลือเล่า จริงมรั้ย อาตี๋น้อย 〗

〖คร๊าบบม่า ได้น้องเจมาเป็นน้องซักคน ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ^ ^〗

〖งั้นต่อไปนี้ลื้อ สองคน ต้องเป็นพี่น้อง ร่วม สาบานกันนา อย่าพากันทาเหล่ทาไหลกันหล่า! เข้าจายมรั่ย อาตี้เล็ก อาตี๋
ใหญ่ 〗อาม่าแกพูดพลางยื่นมือมาลูบหัวผมกับพี่ริวอย่างเอ็นดู  แรกๆผมก็ณุ้สึกดีนะแต่หลังๆ นั้นซักพักนึงทำไมผมรู้สึก
เหวงๆ แบบนี้หล่ะ ผมไม่เคยได้รับสัมผัสที่อุ่นแบบนี้มาก่อนเลย ผมไม้คยรู้ด้วยซ้ำว่ามันหน้าตาเป็นยังไง แต่ผมกก็ไม่คิดจะ
ตามหามันหรอกครับ เพราะผมรู้ดีกว่า  ก่อนที่ผมจะเกิดมาได้ มันก็เกิดมาจากความรักของพ่อและแม่ที่มีให้กัน ส่วนผมก็
ได้รับความรัก มากมาย ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่อยู่แล้ว แค่นี้ ผมก็ ดีใจมากๆแล้ว ถึงผมเองจะไม่เคยได้เจอแม่เลยซักครั้งก็ตาม
เถอะ ! บ่อน้ำตาผมตื้นอีกแล้วครับ คิดถึงแม่ ทีไรน้ำตาไหลทุกที พี่ริวแกดูตกใจ ที่อยู่ๆ ผมก็ร้องไหขึ้นมา อาม่าแกยื่นมือ
ไปตบหลังพี่ริวทีนึง แกถามพี่ริวว่า แกล้งอะไรผมทำไมผมถึงร้องไห  พี่ริวก็บอกว่าเปล่า จนอาม่าแกต้องหันมาถามผมแน
〖อาตี๋เล็กลื้อเป็นอารรายร้องไหทัมมัย ใครทำลื้อบอกม่ามา อาตี๋ใหญ่ช่ายมรั้ย?!〗

〖ป..ป่าวครับ ม่า! เจแค่คิดถึงแม่หน่ะ! ไม่เกี่ยวอะไรกับพิ่ริวหรอก ! อาม่าหยุดตีพี่ริวได้แล้ว !〗อาม่าแกหยุดตีพี่ริวแล้วหันมาคุยกับผมแทน

〖ม่าบอกลื้อแล้วว่าให้เรียกพี่ริงของลื้อว่าตี๋ใหญ่ๆ ไม่ฟังม่ากันเลยรึยางงาย!〗

〖คร๊าบได้คร๊าบบ ไอตี๋เล็ก/พี่ตี๋ใหญ่〗 อยู่ผมกับพี่ริวก็เรียกชื่อแทนตัวเองขึ้นมาพร้อมกัน ผมมองหน้ากันพักนึงก่อนจะหลุดขำกันออกมาซะเสียงดัง

〖เออ ม่า ออกมาตั้งนาน แล้วลูกค้าไม่รอแย่หรอ!〗นั้นสิผมก็ยังงงๆอยู่ อาม่าแกมายืนอยู่นี้แล้วใครจะยื่นขายก๋วยเตี๋ยวหล่ะ !

〖อ๋อ ม่าให้ อี พนักงานคงใหม่ จัดการให้เลี้ยวอ่ะม่าย ต่องเปนห่วง !〗อ่อแล้วไปไอผมก็นึกว่า ปล่อยร้านทิ้งไว้แล้วมานั่งคุยๆ กับลูกหลานๆอยู่ในร้านแทน!

〖วันนี้ม่าปวดหลังมากเลยขายของมาทั้งวัน อยากนนอน พักซักงีบ แต่ลูกค้ามาแบบ ไม่หยุดม่ายหย่อนเลย ม่าไม่มีเวลาพักเลย!〗หืมได้ยินอาม่าแกกพูดอย่างนี้ผมก็แอบเป็นห่วงขึ้นมาเลยสิครับ ยิ่งได้ยินว่าอาม่าแกขายมาทั้งวัน ยิ่งเป็นก่วงเข้าไปอีก

〖งั้นเดียว เจ เอ้ย..ตี๋เล็กจะช่วยม่าขายเอง ม่าขึ้นไปนอนพักเถอะ 〗

〖แล้วร้านอั๋วจะเจ๊งม่ายอ่า!〗

〖แหม่ อาม่าก็ทำพูดไป เดี๋ยวคอยนับเงินแสนได้เลยม่า !〗

〖หึหึ ห้ายมานจริง งั้นม่า ขึ้นไปนอน พักก่อนก่อน เหลียว จาลง มาใหม่?〗 พออาม่าแกพูดจบพี่ริวแกก็เดินขึ้นไปส่ง ส่วนผมก็เดินตรงไปที่หน้าร้านเลยครับ เห็นพี่พนักงานกำลังยืนๆทำอยู่เลย ท่าทางจะยุ่งมากด้วย แถวนี้ยาวเป็นหางว่าวเลย นี้ถ้าไม่ติดป้ายว่าราคานะผมคนคิดว่า มีการแจกของฟรีแถวนี้ซะอีก พอผมเดินเข้าไปใกล้ๆ พี่เขาก็ทำท่างงๆ แต่ไม่พูดอะไร คงคิดในใจ ว่า ไอนี้มันมายืนบื้อทำไมตรงนี้ว้า น่าจะประมาณนี้ครับ ! ฮ่า ฮ่า คิดแง่ลบจริงๆ ไอเจเอ้ย !

〖พี่ศรี วันนี้ กลับบ้านได้แล้วครับเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวผมช่วย ขายต่อให้เอง ! 〗และแล้วคุณชายแห่งวังจุทาเทพ
ก็เดินทางมาถึง .. ถ ถ ถุ้ย! พี่ริวครับพี่ ริวเดินลงมาข้างล่างแล้ว เห็นยืนพูดอยู่กับพี่คนขายเมื่อกี้ พี่เขาพยักหน้าหงึกๆ
ก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปหลังร้าน หยิบกระเป๋ามาหนึ่งใบ ก่อนจะเดินออกจากร้านไป
〖พี่ริว ม่า เป็นไงบ้างอ่ะ〗ผมถามพี่ริวกลับไปทันที ที่พี่ริวแกมายืนอยู่ข้างตัว ผม ตอนนี้พี่ริวแกเปลี่ยนมาใส่กางเกงยีนต์
เข่าขาดเสื้อยืดคอปกสีเท้า มีผ้ากันเปื้อนทับอยู่ครับ พี่แกแต่งอะไรก็ดูดีไปหมด ต่าง จากผมนี้ สิ ! จะใส่อะไรก็ต้องดู
ทรวดทรงตัวเองก่อน ถึง หุ่นผมจะเล็ก ก็ใช่ว่าจะหาเสื้อผ้า ไซด์เดียวกันเป๊ะๆใส่ได้นะเอ่อ มันต้องเพื่อด้วยนิดนึงไม่งั้น รัด หึหึ ฟ้านี้ก็ชั่งลำเอียงกับผมจริงๆ ! o(╥﹏╥)o

〖งั้นเดี๋ยวเจ คอยลวกเส้นนะ เดี๋ยวพี่ทำที่เหลือเอง ทำเป็นไหม ?〗เอิ่ม! จะพูดว่าไงดีละ ถ้าผมบอกพี่แกไปว่าไม่เป็ฯนี พี่แกจะโกรธผมไม่ ผมยืนอึ้ง กึ๊กกกั๊กๆ เหมือนจะทำแต่ก็ไม่ทำ ก็คนมันไม่เป็นนี้นา !

〖คือ..ไม่เป็นอะพี่ ! เดี๋ยวผมไปช่วยเก็บจานที่หลังร้านก็ได้นะ〗ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกเลยว่าจะช่วยอาม่ากับพี่ริว
ได้ยังไง ไม่อยาก มาเป็นตัวถ่วงของพวกเขาด้วย ผมกำลังจะเดินออกมาจากบริเวณ นั้น แต่พี่ริวขว้ามือผมให้หันไปดูพี่แกก่อน

〖มานี้..เดี๋ยวพี่จะสอน ! เริ่มแบบนี้นะ!$#$&^*()$%^&&_+ อ่าทีนี้เข้าใจรึยัง !〗 หู้ ! พี่ริวแกทำเซียน
เหมือนเรียนมามากครับ มือนี้ไว้ชนิดที่ว่า เอ่อ มือโปรนะ! อย่าคิดเป็นอื่นกันหล่ะ อิอิ ผมก็ลองๆ ทำตามที่พี่ริวแกทำเป็นตัวอย่างให้ดู เออ มันก็ไม่อยากจริงๆ แฮะๆ ผมได้ลองทำครั้งสองครั้งคราวนี้เริ่มคล่องมือแล้วครับ ! รีบทำต่อรัวๆ เลย  ไม่รู้
ว่าผมทำไปนานเท่าไหร่ตอนนี้ ลูกค้า ก็เริ่มๆ น้อยลงๆเรื่อย จนตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่คนเอง ผมรู้สึกปวดที่แขนเอามากๆ เล่น
ตัก ล้วกๆ อยู่อย่างนั้น แล้วยิ่งคนไม่เคยทำมาก่อนด้วย มันเลยเกิดอาการแบบนี้ ผมยืนกำที่ข้อมืออย่างเบามือ ปวดครับ
ปวดมาก แล้วบังเอิญพี่ริว แกคงหันมามองพอดีถึงได้ถามว่าผม เป็นอะไร ผมก็ไม่ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรก็รีบๆชว่ยๆ พี่ริวแก
ทำก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิม ตอนนี้ลูกค้าหมดแล้วครับ การแจกของฟรีเมื่อกี้จบลงแล้วครับ โอ้ย! พี่ริวแกหันมายิ้มให้ผมก่อน
จะดึงมือผมเข้าไปดูใกล้ๆ พี่ริวแกลองบีบๆ ตรงข้อมือของ ผมดู โอ้ย!! เจ็บครับ ผมร้องเสียงหลงเลยทีนี้ พี่ริวแกส่ายหน้า
เอือมๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหลังร้านหยยิบกล่องออะไรมาซักอย่าง (บางทีดูก็น่าจะรู้นะน้องเจ สัญลักษณ์ตัวบวกสีแดงขนาด
นั้น)อ่าคร๊าบ พี่คิม เลิกแซวผมเถอะ = =’ พี่ริวแกถือกลล่องปฐมพยาบาลจากหลังร้านก่อนจะกววักมือเรียกผมมาที่
โต๊ะข้างๆ พี่ริวแกจับมือผมพลิกสองสามที เหมือนดูเชิง ว่าเจ็บบริเวณไหน ก่อนจะท่าเคาเตอร์เพ็นสูตรเย็นที่ข้อมือผมอย่าง
เบามือ หืม! สาวๆ คนไหน อยู่ในนสถานการณ์แบบผมนะครับ รับรอง! เขิล!! (≧0≦)

〖เอ่อ พี่ริวครับ ! เดี๋ยวเจทำเองก็ได้นะพี่ไปพักผ่อนเถอะ !〗ผมปฏิเสธความช่วยเหลือพี่ริวไปแต่ดูเหมือนแกจะไม่ค่อยเชื่อฟังซักเท่าไห่ร(จริงๆไม่ฟังเลยแหละ= =’ พูดเพื่ออะไรละนี้)

〖อยู่นิ่งๆ เถอะ น่า ⊙﹏⊙ 〗ตอนนี้พี่ริวแกดึงมือผมไปเป่าครับ ><’โอ้ย ทำไมผมถึงหน้าแดงอย่างนี้เนี้ย ไม่เคยเป็ฯแบบนี้มาก่อนเลย จากที่พี่ริวก้มๆ อยู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม พี่ริวแกหลุดขำหึหึในลำคอเบาๆ ก่อนจะค่อยหุ้มยิ้มไป แหม่ ทำผมหน้าแดงได้นี้สนุกกันมากใช่มั้ย ? ミ●﹏☉ミ
 

〖โอ้ย!〗
〖พอๆเลย เดี๋ยวเจทำเอง หึหึ〗

ผมยื่นมือไปตีที่ไหล่แกทีนึง ตีโคตรจะเบา แต่เสียงร้องนี้เหมือน โดนมีดแท้งครับ ฮ่า ฮ่า แอคติ้งดีรึเกิน น่าจะเปลี่ยนจาก คณะมนุษย์ศาสตร์  ไปอยู่นิเทศเอกการแสดงนะเนี้ย 555

〖โอ้ยยย!!เจ็บ เจตีพี่ทำไมอ่ะ ฮือๆ !〗ยัง ยังครับยังไม่หยุดร้องอีก

〖เจตีเบาๆ พอเหอะ ไม่ได้ออกแรงด้วยซ้ำ 〗 เอ๊ะหรือแรงวะ ! ไม่เคยเช็คฝีมือกับใครซะด้วยนอกจากไอวิน สงสัยไอนี้
ผิวหนังมันคงด้านชาแล้ว มันเลยไม่ไม่รู้สึกอะไรเลย ผมยื่นมือไปลูบที่ไหล่พี่ริวแกเบาๆ เห็นแกหลุดยิ้มออกมาด้วยแหละ
55 จากร้องตอนนี้เงียบแล้วครับ แต่อยู่ๆ พี่แกก็ดึงมือของผมไปซะงั้นสิ ผมนี้งงเลย พี่ริวแกดึงไปพร้อมกับสงสายตาหื่น !
มองมานี้ผผมก่อนจะบอกกับผมว่า
〖อย่าทำแบบนี้อีกนะมัน....จั๊กจี๋หน่ะ 5555〗ไอผมนี้ก็นึกไปซะไกลเลย แอบระแวงหลังเบาๆ ละเนี้ย เห็นพี่ริวๆ
แกหล่อๆ นิสัยดีแบบนี้ แต่พอถึงคราวโหมดกวนตีนนี้ก็แบบ... ก็นะ ไม่ต่างจากไอวินเลยครับ หน้าถีบสุดๆ เราสองคนนั่ง
ขำกันดังลั่นร้าน ก็ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้วนิ่ครับ กำลังจะปิดร้านแล้วด้วย จะมมีใครมาด่าผมหึหึ ไม่มีหรอก ....

〖ไอเหี้ยเจ!〗 เอ่อหรือจะมีวะ ใคร ใครกันที่มาขัดกับความคิดผมได้พอหันไปมองเท่านั้นแหละถึงได้รู้

〖เออ เชี้ยวิน มีอะไรมาซะดึกเชียว ?〗ตอนนี้เวลา แค่สี่ทุ่มห้าสิบกว่าๆ เอง จริงๆ ร้านปิดดึกกว่านี้นะแต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ถึงได้ปิดเร็วนัก

〖มาหามึงนั้นแหละ แต่ดูเหมือนกูจะมาถูกที่แต่ผิดเวลาแหะ ขัดจังหว่ะมึงรึเปล่าหน่ะ!〗ไอวินมันส่งสายตากวนตีนๆ มาที่ผมกับพี่ริวๆ พี่ริวแกนั่งขำๆอยู่ในลำคอส่วนผมนี้ แททบจะล้มตัวลงไปนอนข้างล่างแล้วครับ

〖ขัดเวลาเชี้ยอะไรของ มึง แล้วนี้มายังไงละ ได้รถคืนแล้วหรอ มันถอดอะไหล่มึงไปขายซ่อมรถของมันป่ะนะ〗 ผมแอบแขวะไอคนในนความคิดเบาๆ (คิดเสียงดังมันก็คงไม่ได้ยินหรอก นี้มันความคิดนะครับ นอกซะจากมันจะอ่านความคิดของผมได้= =’)

〖เคยหรอถึงรู้ !〗อื้ม! พรุ่งนี้วันที่  16 แล้วครับ ผมจะไปซื้อหวย เพื่อจะถูกอย่างคนอื่นเขามั้ง ปากนี้เป็นมงคลมากครับนี้ขนาดแค่คิดหน่ะ แม้งยังเสือกโผล่หัวมาอีก ! ผมนี้แอบสยองเลยครัชช!

〖…〗 ผมไม่ได้ตอบอะไรมันกลับไป ผมรีบถือกล่องตัวบวก(ผมชอบเรียกแบบนี้อ่ะ)ไปเก็บไว้ที่หลังร้านดังเดิมเลย พี่ริว
แกจะเดินตามผมไปแต่ผมห้ามแกไว้ซ่ะก่อน นี้ถ้า ผมปวดขี้ พี่แกจะตามเข้าไปไหมเนี้ย !เอ๊อ มันก็ต้องมีบ้างละเน้อ !
หมายถึงเป็นห่วงบ่อยๆ หน่ะครับ (ไม่ใช่ตามไปดูนั่งขี้นะ ) พอผมเดินกลับมาที่โต๊ะ เหมือนเกิดเดจาวูอีกแล้วครับ ทุกภาพ
เมื่อกี้ยังอยู่เหมือนเดิม คน สองคนยังยืนอยู่ที่เดิม ส่วนคายธนาธรณ์ ก็ยั่งนั่งอยู่กับที่เหมือนเดิม (เอ่อถ้าใครไม่เคยดูจะไม่
เก็ทนะ)
〖อ้าว! แล้วนั้นจะยืนบื้อทำอะไรกันละ รอกูหรอ〗ผมพูดหลังจากที่ ตูดของผมสัมผัสกับเก้าอี้

〖เออ สิครับ! กูอยากกินนมสดปั่น ทำให้กูกินหน่อยสิ ! 〗หึ ! จะมีวันไหนบ้างที่ไอวินมาหาผมแล้วไม่ได้ต้องการ
อะไรตอบแทบเนี้ย !

〖หึ ใช่เรื่อง〗
〖แหม่วันนี้ก็ยืมรถกูไป แล้วยังไม่เสือกเติมน้ำมันให้กู แล้วยังจะมาแพล่มอีก ห่าน〗 เออกู่ไม่ดี้ข้นะเว้ยกูคนซ้อน นู้น ไอคนขี่ยืนๆข้างหลังมึงนู้น
〖เออๆ รอแปปเดี๋ยวกูไปเก็บของก่อน !〗ผมเดินเข้าไปที่หลังร้าน(รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้)เดินมาก็หยิบกระเป๋าเดิน
ออกมาข้างนอก ก่อนจะเดินออกจากร้าน พี่ริวแกก็ยื่นเงินมาให้กับ ผม !! สองพัน !! ผมมงงสิอยู่ๆ พี่แกจะยื่นเงินมาให้ผมทำไมตั้งสองพัน

〖เออ ให้ผมทำไมครับ พี่ริว ?〗

〖ค่าเหนื่อยวันนี้ไง!!!〗

〖ห้ะ/ห้ะ ! 〗 ผมกับไอวินตะโกนออกมาด้วยความตกใจพร้อมกันครับ แค่ช่วยงานพี่แกไม่ถึงสี่ชั่วโมง ได้มาแล้วตั้งสองพัน ! นี้ผมลาออกจากร้านกาแฟแล้วมาเป็นเด็กเสริฟ์กับพี่แกเลยดีไหมเนี้ย 555

〖ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ !ริว ผมมาช่วยเฉยๆ ไม่ได้ต้องการตังอะไรตอบแทนหรอก  〗แค่ก๋วยเตี๋ยมชามเดียว ทีม่า แก
เลี้ยงผมมันก็เป็นค่าตอบแทนที่มีค่า (ทางจิตใจกับผมมากๆแล้ว) ขืนรับเงินแกมาอีกผมคงจะดูดแย่มากเลย (ในสายตาดูเองนี้แหละ)
〖รับไปเถอะ ! ม่าบอกให้พี่เอามาให้ เห็นบอกว่าช่วยทดลองงานหน่ะ !〗

〖ทดลองงาน!!!〗ไอวินหูเพิ่งเลยครับที่ได้ยินแบบนั้น จริงๆ ผมมาช่วยเฉยๆ แหละไม่ได้เป็นประจำ ซะหน่อยแล้วก็
ไม่ได้หวังอะไรตอบแทนด้วย(ก๋วยเตี๋ยมชามเดียวก็โอเครแล้ว) ^ ^

〖อ้าวแล้วสรุปร้านกาแฟที่กูติดต่อให้นี้ยังไงเขาไม่รับหรอวะ?〗

〖หึ! ระดับนี้แล้ว〗

〖ไม่ผ่าน〗

〖ผ่านสิวะห่าน นั้นปากเหรอน่ะ ขนาดยังไม่เคยเห็นหน้ากู เขายังรับกูเข้าทำงานเลย หุหุ เจ๋งใช่ปะล้า〗จริงๆ ไม่ได้อยากจะยอตัวเองหรอก ครับ แต่ฟิลลิ่งมันมาก็เลยจัดเบาๆซะหน่อย!!

〖เชื่อ!〗

〖เอ้ากูพูดจริงๆ〗

〖เออกูก็บอกเชื่อไง ได้ยินกูพูดว่าอะไร ไม่เชื่อหรอ ฆวย นั้น หูหรือ ห..〗แหนะๆ ดูก็รู้ครับว่ามันจะพูดต่อว่าอะไร แต่ไม่พูดจะดีกว่า อิอิ

〖ผมไม่เอาอะครับพี่ริว ฝากขอบคุณอาม่าด้วยน่ะ วันนี้ผมไปละ 〗ขนาดพูดไปขนาดนี้แล้ว พี่ริวแกก็ยังยื่นให่ผมอยู่ แหม่ๆ จาก ตอนแรกไม่ลังเล ตอนนี้ชักสอวจิตสองใจขึ้นมาแล้วสิ จะรับๆ ไปก็กลัวจะเสียเชิง แถมไอวินก็จ้องตาไม่ก็พริบอยู่ด้วย

〖เอาเถอะน่า น่ะๆ ถือ เป็นค่าขนม ที่อุตส่ามาช่วยงานพี่ซะดึก อีกอย่าง ตอนนี้ เราก็เป็ฯพี่น้องกันแล้ว อย่าบอกนะว่าเจลืม !〗เออ เมื่อกี้ผมพึ่งงผูกพันธะสัญญากับพี่ริวแกไปเอง ฮ่า ฮ่า นึกแล้วอดขำอาม่าไม่ได้เลย 555

〖คร๊าบบบพี่ตี๋ใหญ่ ขอบคุณครับบ!〗 ผมนี้แทบจะก้มลงไปกราบเลยถ้าพี่แก ... ไม่ดึงตัวผมเข้าไปกอดซะก่อน ><

〖ครับ ขอบใจมากนะตี๋เล็กที่มาช่วยพี่ทำงานวันนี้  วันหน้าถ้าว่างอีกก็มานะ เดี๋ยวพี่มีค่าแรงให้ 〗หึ! พรุ่งนี้ผมจะโทรไปลาออกจากร้านกาแฟเลยดีไหมเนี้ย 555 เงินง่ายรายได้สูงแบบนี้ไม่ได้หากันว่ายนะครับ คุณๆ

〖ค..ครับ พี่..ริว ..เอ่อ ปล่อยเจได้รึยังครับเจหายใจไม่ค่อยออก〗จากวงแขนที่แน่นๆ จนผมหายใจไม่ออกเมื่อี้ก้ค่อยๆ คลายลง วู้ยย!! หวุดวิแล้วกู (กลัวใจจะสั่นจนระเบิดอยู่ข้างพี่แกเนี้ยแหละ) อันตรายดีจริงๆ

〖ครับบงั้นเจไปก่อนนะ ฝาก จุ๊บอาม่าทีนนะพี่ !〗

〖จุ๊บพี่แทนได้มั้ย?〗

〖............〗เอิ่มเจอมุขผมนี้ไป แดกจุดยาวเลยครับ (⊙▂⊙✖

〖เห้ย พี่ล้อเล่น ฮ่า ฮ่า เดินกลับดีๆ ละระวังรถด้วย !〗พี่ริวแกโบกมือลาส่วนผมก็โดนไอวินลากข้ามถนนมา ผมยืน สตันอยู่สิประเด็น เดินก้าวขาไม่ออกเลยครับเจองี้ไป แอบเห็นพี่ริวแกโบกมือลาก่อนจะเดินเข้าร้านไป

〖ชอบละสิ!〗ไม่ใช่เสียงไอวินครับแต่เป็น...ไอกาย

〖ไม่เสือกสิ! จ๊ะคนดี〗หึหึ โดนตอกกับไปซะบ้างไอคุณชาย ขยันแขวะกูซะจริง

ผมเดินเข้าร้านมา ก็เดินไปเปิดไฟร้านแล้วเดินตรงเข้าไปตรงที่ประจำของผมเลยครับ(มุมบาลิสต้า) (พี่อินแกไปธุระยังไม่กลับมาเลยส่วนยัยเอริน์ ยัง ไม่กลับบ้านมาเลยสงสัยจะนอนค้างบ้านเพื่อนละมั้งไม่เห็นโทรมาบอกผมเลย .. สงสัยจะบอกพี่อินแล้วมั้ง)

〖ฮัลโหล!! สวัสดีเค้อ !!! อร๊ายยยยยย ><〗นั้นไงแม่ตัวดีมาแล้วครับ พอเข้ามาในร้านก็เดินเข้าไปเกาะแขนไอกายเลยครับ แหม่ๆ ที่รัก ของน้องเขานิ่ !

〖แหม่ พี่กายมาก็น่าจะรีบโทรบอกหนูหน่อยสิ จะได้กลับบ้านมาไวๆ หน่อย ปล่อยให้พี่กายรอหนูซะนานเลย จริงไหมค่ะพี่กายขา !〗 แหม่ๆ เจอกันแค่ครั้งสองครั้ง เริ่มมีคะขาแล้ว หึหึ ! น้องผมนี้ แบบ แกแดดจริงๆ

〖เอริ์นค่ะ มาถึงแล้วต้องทำยังไง !〗

〖สวัสดีไงค่ะ〗

〖แล้วยังไงต่อ〗

〖แล้วก้อ..เออ พี่กายพี่วินเดี๋ยวเอิร์นมานะคะ〗

〖ไม่ต้องเลยมันดึกมาแล้ว อาบน้ำเสร็จก็ขึ้นไปนอนเลย เข้าใจที่พี่พูดไหม?〗ถึงภายนอกยัยเอริ์นจะดูก้าวร้าวแต่ลึกๆ จริงๆแล้วเป็นเด็กที่เชื่อฟังผู้ใหญ่มากเลยละครับ ผมกับพี่อิน บอกครั้งเดียวคือรู้เรื่องตลอด

〖ค..ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะพี่เจ แต่ เอริ์นขอลงมาดื่มนมก่อนนะค่ะ พี่เจ〗เห้อๆ นิดๆ หน่อยๆ ก็เอาเน้อ น้องผม !

〖โอเคร โอเครคร๊าบบ รีบขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วพี่เริ่มได้กินตุๆ แล้วเนี้ย〗

〖อ๋ออย่างนั้นคงไม่ใช่กลิ่นของเอริ์นแล้วละคะ ของพี่เจเองต่างห่าง แบร์ !〗จะขึ้นไปแบบดีโดนไม่แขวะผมนี้ไม่ได้เลยนะ น้องสาวของผมเนี้ย


…………………………………………………………

〖เพื่อนๆ จะแดกอะไรครับ?〗ผมยื่นคอไปถามไอบื้อทั้งสองคนที่นั่งจิ้มๆ ที่จอไอโฟนของพวกมันอยู่ ไอวินยื่นหน้าขึ้นมามองก่อนจะบอกกับผม

〖ของกูเอานมสดปั่น!เร็วหล่ะๆ〗

〖แล้วมึงหล่ะ?〗

〖มีของกูด้วยเหรอ ? 〗แหม่มึงกับไอวินก็เพื่อนกูทั้งคู่นั้นแหละถึงจะควบตำแหน่งเจ้าหนี้ด้วยก็เถอะแต่ผมถือคติว่าอย่าเอา บุคคลสองคนมารวมกันๆ หึหึ ! งงกันละสิ ผมยังงงเลย ฮ่า ฮ่า

〖ก็เออสิ จะกินอะไรก็รีบๆ สั่ง 〗

〖เอาอะไรก็ได้แล้วแต่มึงเลยละกัน〗 เห้อๆ อยากได้อย่างงี้แต่แรกก็ไม่บอก เดี๋ยวไอเจนนี้จะจัดให้อย่างงามเลย
ผมเดินมาเสริฟ์ด้วยนมสดปั่นกับชาเขียวปั่นหนึ่งแก้วพอมาถึงโต๊ะปุ๊ปไอวิน มันรีบละสายตาจากเกมแล้วรับ แก้วไปจากมือ
ผมเลยทันที ! แหม่ เรื่องของ กิน ผมกับไอวินมีเหมือนกันแค่ตรงนี้แหละคร๊าบ! หึหึ

〖อ่ะนี้〗ผมยื่นแก้วชาเขียวให้ไอกายไป แต่มันทำหน้ากึ๊กๆ กั๊กๆ (เพื่อออะไรอันนี้ไม่รู้)ไม่ยอมรับไปซักที

〖กูไม่ชอบกินชาเขียว !〗

〖เอ้า แล้วเมื่อกี้ก็บอกเองว่าแล้วแต่กู พอทำให้ก็ไม่เสือกแดก สรุปจะเอาอะไรไหนตอบกุสิ!〗

〖เอาอะไรก็ได้แล้วแต่มึง อ่ะ ยกเว้นชาเขียวก็พอ〗

〖งั้นเอาชาเย็นดีไหมห่า เรื่องมากจริง〗

〖เอาตามนั้นละกัน〗 ฆวยเหอะ เกิดมาไอเจคนนี้ไม่เคยต้องมาง้อใครเลย มีมันคนแรกนี้แหละที่ ทำให้ผมสติแตกอยู่ตลอด !

〖ได้งั้นรออแปป!นึง〗 หึห่าน กูจะจัดให้เหมือนเมื่อเช้าเลย

〖เอาหวานนนะไม่เอาเค็มแบบเมื่อเช้า〗 เอิ่ม คือ? มันอ่านความคิดผมได้หรอวะนี้ขนาดคิดเบาๆ แล้วนะเนี้ย แม้งยังเสือกได้ยินอีก

〖อ..เออๆ รอแปป〗หู้ย ว่างๆ ผมคงต้องไปหาคุณริวจิตสสัมผัสหน่อยแล้วครับ(ไปหาทำไมวะ) นั้นสิสไปทำไม 5555
คราวนี้ผม ก็ทำชาเย็นปั่นที่มันบอก คราวนี้ มันยื่นมือมารับโดนที่ผมไม่ต้องบอกมันเลยละครับ ดีหน่อย ขืนริอยากแดกอีกรอบ คงได้ซัดมันตรงนี้แน่ๆ ข้อหา เยอะเกินเหตุ

〖แล้วชาเขียวหล่ะ มึงไม่แดกหรอ เห็นตั้งไว้ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว〗ครางนี้ไอวินยอมหยุดเกมที่มือถือของมัน แล้วหันมาถามผมครับ

〖เออนั้นสิ จะทิ้งก็เสียดาย..อืม! อ่านึกออกแล้ว〗จะทิ้งมันก็ยังๆอยู่ๆ ทำอีกสักแก้วละกันจะได้เอาไปฝากอาม่ากับพี่ริวแกด้วย วันนี้ พี่ริวแกน่าจะนอนอยู่ที่นั้นแหละครับ ผมยังเหลือบเห็นรถของพี่แกจอดไว้อยู่เลย ผมเลยจัดชาเชียวสดไปอีก หนึ่งแก้ว ขืนทำกาแฟให้ม่ากินได้นอนตาค้างกันพอดี

〖เดี๋ยวกูมานะไอวิน〗ผมเดินถือชาเขียวมาสองแก้วกำลังจะเดินออกจากร้านไอวินดันเรียกผม ไว้ซะก่อน

〖เห้ยจะไปไหนดึกแล้วนะมึง!〗

〖ไปหาม่า แปปเดียว!〗

〖ม่าไหนมึงอีก อ๋อ ม่า แม่ยายมึงอะนะ〗

〖แม่ยายมึงสิสัด !ปากดี หึหึ!〗

〖งั้นเดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน〗

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-01-2016 19:17:49

〖ไม่ต้องอะ เชิญมึงเสวยสุขกับเกมของมึงไปเถอะ กูไปแปปเดียวเดี๋ยวก็มา〗 พูดจบผมก็ไม่รอฟังคำตอบของมัน ผม
รีบเดินออกมาจากร้านเลย หู้วว บรรยากาศข้างนอกตอนดึกๆ นี้หนาวดีแท้ !จะเดินกลับไปเอาเสื้อคลุมก็เสียเวลาแค่ข้าม
ถนนไปเอง ทนสักหน่อยละกัน วู้วว!!! ผมเดินข้ามถนน มาระหว่างทางรถว่างมากครับ ไม่มีรถเลยแถวนี้ แต่เอ๊ะๆ เห็น
อะไรเงาๆ อ่าห้า ! เหรียญสิบตกอยู่ครับๆ แหม่ (ผมเป็นคนที่มีโชคเรื่องเจออะไรพวกนี้มากเลย )บางทีน่าจะมีโชคกับแบงค์
บ้างนะเบื่อเหรียญละ ผมรีบวิ่งไปเก็บเหรียญที่ตกอยู่แต่ไม่รู้เดินอิท่าไหน พลาดท่า เหยียบไม่เสียบลูกชิ้นเอาซะได้ โอ้ย !!
〖เชี่ยแม้งใครมากินแล้วทิ้งไม้ไว้แถวนี้วะ !〗 ผมฟุบลงกับพื้นเลยครัยโอ้ย ไม้ยังเสียบคาทะลุรองเท้าอยู่เลยโอ้ยเจ็บก็
เจ็บ แต่ขเก็บตังก่อนละกัน ระหว่างที่ผมกำลังจะยื่นขึ้นอย่างทุลักทุเล ก็มีรถกระบะ ขี่มาด้วยความเร็วเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่ผม
รู้สึกว่ามันไวมาก ไวจนผมตั้งสติของตัวเองไม่อยู่ ผมหลับตาพริ้มเน้นๆ เพราะรู้ว่ายังไงก็คงหลบไม่ทันแน่ๆ ทันใดนั้นเอง ผม
รู้สึก อุ่นๆ ที่ตัวอย่างบอกไม่ถูกผมรู้สึกได้ถึงหลังที่สัมผัสเข้ากับพื้นสลับกับนอนนับใครไปมาๆ นี้ผม ลง มาอยู่ในนรกแล้วใช่
ไหมเนี้ย(ทำบาปทำกรรมไว้เยอะ) ผมค่อยๆ หลี่ตาขึ้นมามอง ถึงได้รู้ว่าไม่ใช่นรกครับ แต่รู้สึกว่าคนที่นอนคล่อมผมอยู่
ตรงหน้าเหมือนยมทูตเอามากๆ ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ไอกาย ! เมื่อกี้เหมือนผมได้ยินเสียงดังปั๊ก! กระจกข้างรถก็หลุด
ออกมาด้วย สงสัยจะชนกับอะไรมาซักอย่างถึงได้หลุดเป็นชิ้นๆ ขนาดนั้น แต่ตอนนี้อย่าพึ่งสนใจตรงนั้นเลยครับ ห่วงตัวเอง
ก่อนดีกว่า ทันที่ผมตั้งสติได้ ก็รีบผละตัว ออกห่างจากไอกายที่มันดึงผมเข้าไปกอดอย่างแนบชิด ชนิดที่ว่า เนื้อแนบเนื้อกันเลยทีเดียว(แหม่เข้าใจสันหาคำมาพูดเน้อผมเนี้ย ล้อแหลมดีจริงๆ)

〖เป็นอะไรไหม?〗คือคำแรกที่มันเริ่มคุยกับผมและเป็นครั้งแรกครับที่มันถามผมโดยที่ไม่ได้ด่าหรือแกล้งผมก่อนผมรู้สึกแปลกใจมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ได้พยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบออกไป

〖เดินกลางถนนดึกๆ มันอันตราย ไม่หัดระวังบ้างวะ เกือบตาย เพราะไอเงินแค่สิบบาทมันคุ้มนักรึไง !〗

ผมโดนไอกายมันเทศยาวเลยครับ แหม่ ยังดีหน่อยที่มันไม่ด่าผม ตอนนี้น้ำที่กะจะเอามาให้พี่ริวกับอาม่าเมื่อกี้ โดนแดกไปแล้วครับ(ล้อแดก เหยียบซะบี้เลย)

〖เออกูก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี้ไง ทีนี้ปล่อยกูได้รึยัง 〗ถึงผมจะผละตัวออก แต่ ไอกายมันก็ยังกอดผมไว้เหมือนเดิม คือ ออกมาแค่หน้า จากที่ซบอกของมันอยู่หน่ะ 

〖แล้วถ้ากูมาไม่ทันละมึงจะเป็นยังไง ! !〗เอิ่มทีท่าไอกายดูแปลกมากครับ มันเป็นห่วงผมแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมนี้รู้สึกโหว้งเลย ถ้าให้มันโหดกับผมยังจะชินซะกว่า มาโหมดนี้ผมทำตัวไม่ถูกเลย

〖เออกูขอบใจ แล้วก็ขอโทษด้วย ที่ทำให้มึงเป็นห่วง〗เห้อๆ ถึงมันจะออกแนวๆ เถื่อนๆ คุณชายๆ สันโดษหน่อย แต่พอได้มาเห็นมุมนี้ของมันก็รู้สึกดีครับ 555 แปลกตาดี
〖ใครบอกว่ากูเป็นห่วงมึง ! กูกลัวว่าจะไม่มีใครใช้เงิน แสนแปดกูต่างหาก!〗โถ่ๆ แอบคิดว่ามันดีไปซะตั้งนาน ที่แท้ก็กลัวกูตายก่อนจะได้ใช้หนี้มันนี้เอง ฆวยเหอะ ว่า แต่ เท่าที่ผมจำได้นี้ผม ติดเงินมันสองแสนไมม่ใช่หรอวะ! ทำไมตอนนี้เหลือแสนแปดหล่ะ ? อ้าวงานแดกจุดก็มาครับ...

〖แสนแปด ?〗

〖ก็เออไงแสนแปด หรือจะเอาสองแสนเหมือนเดิม ?〗

〖เออๆ แสนแปดก็แสนแปด แล้วมันหายไปสองหมื่นได้ยังไงวะ?〗 นั้นสิอยู่ๆหายไปตั้งสองหมื่น เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาครับ แต่ไม่กล้าถามมันต่อหรอกกลัววมันเปลี่ยนใจอีก ยิ่งเยอะๆ อยู่


〖ค่าดูแลกูเมื่อวานไง กูยกให้ !〗อ๋อ ค่าดูแลคุณหนูเมื่อคืนนี้นี่เองนึกว่าเรื่องอะไร แถมยังมีข้าวต้ม(อาบเกลือ)ให้มันอีก คงจะสำนึกพระคุณขึ้นมาได้ละสิถึงได้ทำแบบนี้หึหึ !ตอนนี้มันคลายวงกอดเมื่อครู่แล้วครับ เป็นอิสระซักทีผมค่อยลุกยื่นขึ้น หลังจากที่มันนั่งคล่อมผมอยู่ซะนาน กลางถนนเนี้ยนะ (นี้ท่าใครมาเห็นนี้คงจะคิดกันไปไกลเลยละ)

〖แหม่คุณชายก็ มีโมเม้นแบบ นี้เหมือนคนอื่นเขาเหมือนกันนะเนี้ย!〗โอ้ย!!!!!!!!!!!!!!!! ไอกายมันแหกปากร้องลั่น หลังจากที่ผมเอามือไปตบที่ไหล่ซ้ายของมันเบาๆ ย้ำว่าเบาๆ เอง นะจริงๆ ) (⊙...⊙ )

〖แหม่กูตีเบาๆ ร้องซะเจ็บเชียว!〗ตอนนี้น้ำตาไอกายหยดแหมะเลยครับ! ไม่รู้ว่ามันแกล้งหรืออะไร แต่ตอนนี้หน้าผมถอดสีเลยครับบทำอะไรต่อไม่ถูกเลย

〖เห้ยกายกูขอโทษ มึงเจ็บขนาดนั้นเลยหรอวะ หรือมึงเป็นอะไรไหนลองบอกกูดิ่!〗ไอกายมันเอามือข้างขวาของมันยื่นไปจับด้านซ้ายอย่างเบามือ
〖กูก็ไม่รู้เหมือนกันตอนกูช่วยมึงเมื่อกี้ กูได้ยินเสียงปั๊ก! แล้วก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย พึ่งจะมารู้สึกตอนนี้มึงตีแขนกูเนี้ยแหละ〗หืมงั้นก็ชัดเลยครับไอกายมันโดนรถเชี่ยวแน่ๆ ถ้าทางจะแรงมากด้วยถึงขนาดกระจกรถหลุดกันเลยทีเดียว ไม่ได้การละ อย่างงี้ต้องไปแจ้งความ ทันทีที่ผมคิดได้ก็รีบช่วยพยุงไอกายเข้าไปในร้านดังเดิม แต่โอ๊ะ !!!! ลืมไป ไม้เสียบลูกชิ้นยังคาอยู่ที่ รองเท้าแตะของผมอยู่เลยโอ้ย !ตอนนี้เข้าเนื้อลึกแล้วครับ !

〖โอ้ย!!〗คราวนี้เป็นผมที่ร้องเสียงหลงบ้างครับ จากที่จะช่วยพยุง ตอนนี้ ต้องให้มันพยุงผมแล้วแหละครับ เดินต่อไม่ไหวเลย เลือดนี้ก็ไหลไม่หยุดเลยจริงๆ

〖วินๆ! ไอวินน !!!!!〗ไอกายมันเรียกตะโกนไอวินที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ภายในร้าน จริงๆ ถ้าพูดข้างนอกมันไม่ได้
ยินหรอกครับ แต่ไอวินไม่เสือกได้ยินซะงั้น ผมก็แปลกใจนะที่มันได้ยินได้ยังไง สงสัย เซนต์มันส่งถึงกันนะผมว่า เห็นน้อง
เอริ์นก็เดินออกมาด้วยอีกคน ทั้งสองคนวิ่งหน้าตื่นมาเลยละครับ หน้าตาดูตกใจกับภาพที่เห็นเอามากๆ เสื้อของไอกาย
ขาดๆ ถลอกๆ ไปข้างนึกส่วน ผมไม่มีอะไรเสื้อหาย นอกจาก ท่าเพียงอย่างเดียว ไอวินกับน้องเอริ์นช่วยวิ่งเข้ามาช่วยกัน
พยุงผมสองคนไอกายแค่ประคองนะ ส่วนผมนี้ไอกายกับไอวิน ช่วยกัน ดึงด้วยแขนคนละข้างชนิดที่ว่าตัวผมลอยขึ้นได้เลย
ละ (แอบสนุกเบาๆ ขออีกซักรอบได้ไหม 5555) เดินเข้าร้านมาน้องเอริ์นก็เดินไปหยิบไอกล่องตัวบวก กล่องเดียว
เหมือนกับกับของพี่ริวแหละครับ  มาวางที่โต๊ะด้านหน้าของผม ไอวิน โชวรูปนักร้องที่ผมชื่นชอบ พร้อมตะโกน บอกว่า คน
นี้เมียกู โอ้ยยย!!! ขณะเดียวกันที่ผมกำลังจะลุกไปตบหัวไอวิน มันก็ดึงไม่เสียบลูกชิ้นออกจากเท้าผมแบบไม่ปานีเลย
ครับ จากจะลุกไปตบมัน ตอนนี้ผมนอนกุมขมับบเลยครัย ปวด และเจ็บมากๆ เลือดนี้ก็ไหลพุ่งเป็นสายน้ำเลยครับ ฮ่า ฮ่า เห็นแล้วดูสวยดี (ใช่เวลาไหมเนี้ย = =’)ทำแผลอะไรกันอยู่พักนึงก็ช่วยๆ กันทำความสะอาดส่วนไอกายก็นั่งจ้องผมซะตาไม่กระพริบเลย เห็นแล้วมันเกร็งๆดีครับ ผมแอบซาดิสเบาๆ รึเปล่าละเนี้ยพักหลังอยู่กับมันบ่อยๆ คงต้องห่างหน่อยละ !

〖ขอบใจมากนะมึง! ส่วนน้องเอริ์นค่ะ ขึ้นไปนอนได้นอน มันดึกมาแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นสายเอานะค่ะ อ้อ ก่อนไปนอนอย่าลืม ดื่มนมที่พี่ทำไว้ด้วยละ  〗น้องเอิร์นก็พยักหงึกๆ ก่อนจะดินไปหยิบแก้วนมอุ่นๆที่วางอยู่ตรงโต๊ะ ก่อนจะดื่มที่เดียวหมดเกลี้ยงเลย แล้วค่อยๆ เดินขึ้นไปนอน ตอนนี้เหลือแค่ผม ไอ วิน กับไอกายสามคนบรรยากาศ เงียบมากครับ อึมครึมสุดๆ เหมือนตตอนจะเล่าเรื่องผีๆ กันเลย

〖แล้วมึงไปทำอิท่าไหนกันวะ ถึงได้เจ็บกันทั้งสองคนขนาดนี้ 〗

〖ทำแม้งทุกท่าแหละ ! ปวดตัวชิบหายกลิ้งกับพื้นๆ ไปมาๆ 〗

〖หึ! มึงทำอะไรกันกลางถนนจริงๆหรอวะ〗

〖ถ้ามึงเชื่อก็ควายแล้ว !ไอวิน〗

〖เจมันเกือบโดนรถเชี่ยวส่วนกูนี้โดนเต็มแขนเลยเนี้ย! 〗ไอกายมันร้องอิดโอยเหมือนคนใกล้ตายมากครับเห็นแล้ว แอบสงสารมันเลยละ

〖เออกายกูขอบใจกมากๆนะเว้ย นี้ถ้าไม่ได้มึงกูไม่รู้จะเป็นยังไง〗คราวนี้มันเงยหน้าขึ้นมาบสายตากับผมแล้วครับ

〖ถ้าสำนึกบุญคุณก็รีบๆทำงานหาเงินมาใช้กูละกัน อย่าเอาเวลาไปอยู่แต่ไอนั้นให้มากนัก〗ไอนัน้ที่มันว่า คงไม่ได้หมายถึงพี่ริวแกใช่ไหม ใช่น่า เอ๊ ไม่ใช่ม๊าง! เออช่างมันเถอะ เอาเป็นว่ายอมให้มันซักครั้งแล้วกัน

〖คร๊าบบคุณชายย ผมจะรีบทำงานเก็บเงินมาใช้หนี้ให้คุยชายอย่างเร็วเลยคร๊าบบ!!!〗ห่าน ตอนแรกกะจะทำซึ่ง
แล้วเชียว! เสียอารมณ์หมด

〖เอองั้นเดี๋ยวกูมานะปวดขี้หว่ะ! น้ำไหลป่ะวะ! 〗ไอวินหันมาถามผม ที่กำลังนั่งกอดอกเหม่อๆอยู่ๆ

〖ห้ะๆ อ๋อๆไหล แต่ข้างบนนะข้างล่างเหมือนท่อจะเสียไว้ให้พี่อินแกมาดูให้ละกัน〗เห็นพี่อินแกเป็นแบบนี้งานช่างนี้แก
ถนัดนักแล สมกับเป็นผู้หญิงมาก ทำเป็นแทบจะทุกอย่างตั้งแต่งานช่าง ยัน ปีนหลังคา ผมเป็ฯผู้ชายยังอายพี่อินแกเลย หึหึ
หลังจากชี้ทางสว่างให้ไอวินเสร็จมันก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองเพื่อเข้าห้องน้ำที่ห้องของผม

บรรยากาศตอนนี้วังเวงกว่าเมื่อกี้ยังมีสามแต่ตตอนนี้ เหลือสองคนแล้ว ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก ไอนี้ก็นั่งจ้องหน้าผม มาตั้ง
นานละ มึงจะแดกหัวกูรึยังไง !!ห่าน

〖.......〗

〖.......〗 คือต่างคนต่างเงียบครับ!!

〖พรุ่งนี้ถ้าว่างไปกินเหล้าที่ห้องไอวินกันไหม ?〗เป็นไอคุณชายครับที่เปิดประเด็นขึ้นมา

〖เอ่อก็ไม่รู้วะพรุ่งนี้กูต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟวันแรก คงจะไปไม่ได้วะ〗ขืนขาดงานเพราไปกินเหล้าตั้งแต่วันแรกนี้ได้
โดนถีบส่งแน่ๆ ครับ !จริงๆ แล้วแอบเสียดายนะ จริงๆ ก็อยากจะไปด้วยอยู่หรอกถ้าไม่ติด ว่าต้องหาเงินใช้หนี้ให้มันเนี้ย

〖เดี๋ยวมึงก็ไปได้เชื่อกูสิ !!〗
〖ทำไมมึงจะไปคุยกับผู้จัดการร้าน ให้กูหยุดตั้งแต่วัยแรกเลยรึไง!ถ้าคุยได้กูจะไป〗 ฮ่า ฮ่า ทำเป็นตอบเหมือนรู้ดี
ห่าน! ใครเขาจะให้หยุดบ้าละ !  ผมรีบลุกออกจากโซฟา กะว่า จะเดินขึ้นไปอาบน้ำข้างบนซะหน่อยป่านนี้ ไอวินมันขี้
เสร็จแล้วมั้งก่อนจะเดินออกไปก็ต้องเดินอ้อมคุณชายเขาก่อน (ก็ทีมันแคบนิ่ !) เดินไปได้ครึ่งทางเริ่มเจ็บๆ ที่เท้าแล้วครับ
ผมยกเท้าขึ้นก่อนจะเอามือจับขี้ขาเบาๆ แต่ โอ้ยๆ! เหมือนโลกมันเอียงผมล้มลงไปนอนทับที่ตัวของไอกาย แต่ประเด็น
ไม่ใช่แค่ที่ตัวนะสิ! ตอนนี้ ปากของผมกับไอกาย กำลังสัมผัสกันอยู่ !! อุ๊บ!
ผมเริ่มรู้สึกเหมือนวันและเวลาหยุดทำงานเหมือนมีคนกดปุ่มพอส ให้ผมหยุดอยู่แค่ตรงนี้ ทั้งๆ ที่ตกใจ แต่ผมไม่อาจจะถอน
ตัวจากปากของมันได้เลยจากที่กำลังตกใจอยู่ตอนนี้ เริ่มเคลิ้มแล้วครับจากที่ปากแค่ประกบกันเฉยๆ ตอนนี้ ผมเริ่มรู้สึก ว่า
ไอกายมันเริ่มจูบตอบผมบ้างแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันออกไปก็จูบมันตอบอย่างเบาๆคราวนี้ผมหลับตาพริ้มเลยครับไม่
รู้ทำไมมือของไอกายเริ่มไม่อยู่สุขแล้วครับ ป๊วนเปี้ยนอยู่ที่หลังของผมเนี้ยมันกำลังจะดึงเสื้อของผมออก แต่ผมรั้งมือของ
มันไว้ซะก่อนจากมือที่ลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังของผมตอนนี้กลายเป็นล็อคเอวผมเข้าไปกอดแน่นๆ ซะแล้วจากก่อนๆ ตอดนี้
กลายเป็นไอกายมันดันหัวผมให้ลงไปจูบกับมันแบบแนบชิดยิ่งกว่าเก่าอีกครับ ผมหายใจไม่ค่อยออกเลย แต่ทันได้นั้น !
〖เห้ย!!!พวกมึงสองคนทำอะไรกันหน่ะ!〗เสียงไอวินครับ มันเพิ่งเดินลงมาจากบันได ก็ตะโกนมาหาพวกผมที่นั่งนั่ง
อยู่ตรงโซฟาตัวเดียวกันพอผมตั้งสติได้ก็รีบ ถอยหน้าออกห่างจากมันเลยครับ อากรกับความรู้สึกเมื่อกี้มันคืออะไร ทำไม
ผมถึงไม่ปฏิเสธหรือถอยออกห่าง แต่ผมมกับสนองความรู้สึกไปแบบนั้น หัวใจนี้ก็แปลก เต้นถี่รัวยิบมาก เหมือน จะระเบิด
ออกมาให้ได้ผมรีบผละตัวออกห่างจากไอกายมัน มันก็ลุกขึ้นมานั่งท่าปกติ ปากของมันแดงมากไม่ต่างจากผมเลย สงสัยเป็นเพราะ การจูบที่รุนแรงเมื่อกี้แน่ๆ ผมคิดว่างั้นนะ

〖แหนะๆ พวกมึงทำอะไรกันอย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะไอสัด แอบแซ่บกันเหรอ?〗มาถึงไอวินก็เดินเข้ามาถามผมซะแบบไม่เว้นช่องๆไฟให้ผมได้ตอบเลยครับ

〖แซ่บเหี้ยอะไรไม่มีทั้งนั้นแหละกูก็แค่สะดุดขาโต๊ะ! แล้วไปนอน ทับเพื่อนของมึงก็เท่านั้นเอง จริงไหม ?〗ผมหันไปขอความเห็นจากไอกายครับ

〖จริงหรอวะไอกาย?〗 มันพยักหน้าหลายทีมากเหมือนกำลังสับสนอะไรอยู่ อาการคงไม่จากผมเลยแน่ๆ ทำตัวมีพิรุธอีกแล้วมัน

〖อย่าให้กูมารู้ทีหลังก็แล้วกัน!หึหึ !〗

〖เออนี้ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้มึงไม่มีเรียนเช้าหรอ กลับบ้านไปได้แล้วๆ ไปๆๆๆ  !〗ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเลยครับ ขืนให้มันยืนแซวนานกว่านี้คงได้เขินหน้าแดงจนหลุดปากออกไปแน่

〖ก็มีนะแต่วันนี้กูจะนอนไมอ่ะ?!〗

〖แล้วพึ่งจะมาบอกกูไม่ได้จัดห้องไว้ให้หรอกนะห่ากลับไปนอน บ้านมึงแหละดีแล้วจะได้ไม่ต้องเสือกตื่นเช้าน่าตั้งไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านมึงอีก〗

〖เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะกูเตรียมมาเรียบร้อยแล้ว〗เอิ่มหรือต้องเรียกว่า เตรียมตัวมาดี!!!

〖ก็ถ้ามาซะขนาดนั้นก็นะ ตามสบาย!!〗เอาเลยครับ มึงอยากทำอะไรมึงทำเลยบ้าน มึงนิ่ !

〖เออไอกายมึงจะกลับบ้านก่อนไหมเดี๋ยวกูไปส่งมึงที่คอนโด!〗

〖ม..ไม่เป็นไรอะเดี๋ยวกูกลับเอง มึงขึ้นไปนอนเหอะทิ้งกุญแจรถไว้ก็พอ !〗

〖พอๆ นอนนี้กันทั้งคู่นั้นแหละจะได้จบๆ ห่า ดึกดื่นแล้วจะขี่รถขี่ลาไปทำไมกัน ใกล้ๆ ซะที่ไหน ?〗 อยู่ผมก๋พูดขึ้นมาไม่รู้ทำไมถึงทำอย่างนั้นเหมือนกัน!
〖งั้นกูนอนห้องเดิมนะ แล้วไอกายละจะให้มันนอนห้องไหน?〗ไอวินมันหันมถามไอกายที่ทำหน้าอึนๆ เหมือนคนพึ่งตื่น

〖เอ่อ เมื่อวานกูนอนที่ไหน ก็ที่นั้นแหละ !〗

〖แหม่!! อยากรอรกับไอเจก็ไม่บอก !แหมะๆ งั้นกูขึ้นไปนอนละ เชิญพวกมึงสองคนตามสบายเลยละกันนะครัช!ส่วนกูขอตัวละ〗

พูดเสร็จไอวินก็วิ่งเปิ่นแนบขึ้นชั้นสองไปเลยตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับไอกาย นี้ไม่กล้าที่จะสบตากันเลย ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ๆ
อาการเมื่อกี้มัน ก็จุกขึ้นนมาที่อกของผมอีกครั้ง ใจผมกลับมาเต้นรัวดังเดิม ทุกครั้งเลยจริงๆ ที่อยู่กับมันสองต่อสองเนี้ย รึว่า ผม! จะชอบ ผู้ชาย เข้าให้แล้ว ? ) (⊙...⊙ )



TBC............................................................

#แหม่ก็จบกันไปอีกตอนหลังจากที่ไม่ได้อัพมาหลายวัน ! เอาละสิ เจเป็นอะไรไปนะถึงไอทำทีท่าอย่างนั้น ส่วนกายนี้ก็ไม่ได้ต่างกันไปเลย เรื่องราวของสองคนนี้จะไปอย่างไรต่อไปไว้ติดตามต่อ ตอนหน้านะค่า!
(*⌒ヮ⌒*)                  ╠ ∧ηġ ℓℯ ℓαЈ υ η Ә ღ ╣    ●ω●  



วันนี้พี่คิมข้าวของเรื่องไม่ว่างมาอัพนิยายค่ะติดสอบ แองเลย!มาอัพแทนให้เอง ! ยังไงก็ฝากติดตามผลงานกันด้วยนะค่ะ !
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 18-01-2016 07:52:31
ช่วยใส่วันที่อัพสักนิดก็ดีนะ

กาย ถ้าชอบเค้าก็จีบเค้าไปเลย มัวแต่มาอ้างเรื่องหนี้อยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวก็ไม่ทันพี่ริวหรอก
พี่ริวก็ดีนะ สมาร์ท แฮนด์ซั่ม แถมขยันทำคะแนนด้วย
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! (̲̅❤̲̅) :3KimGonAu
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-01-2016 12:45:39
ขอบคุณสำหรับคำติชมค่ะ ! ไว้ อัพครั้งหน้า แองจะใส่วันที่ อย่างที่บอกให้เลยนะค่ะ !  :hao7:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง〖24/01/59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-01-2016 18:51:26
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง ♥
Chapter9 : ทำงานวันแรก!(ก็เจอ)ซุปตาร์!
⊙ω⊙ 

เหตุการณ์เมื่อครู่ ทำเอาหลับนอนไม่หลับเลย คือเหตุการณ์ มันเกิดขึ้นไว มาก ซึ้งผมเองก็ตั้งตัวไม่ทันเหมือนกันอยู่ๆ ไม่รู้
ทำไมถึงทำอย่างนั้นลงไป ก็ไม่แน่ใจ แต่สิ่งที่ผมๆแน่ใจในตอนนี้เลย ก็คือ ผม ชอบไอกาย ใช่ ผมชอบมัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่
รู้ รู้ตัวอีกทีก็ชอบมันไปแล้ว ทีแรกผมเองก็ไม่แน่ใจหรอก นึกว่า ข้างในมันแค่สั่นเฉยๆ พอเอาเข้าจริงๆ ถึงได้รู้ ว่ามันไม่ใช่
ผลข้างเคียงจากการกินอะไร (ปกติเวลาผมกินกาแฟหรือพวกเหล้าอะไรพวกนี้หัวใจมันจะเต้นแรง) แต่อาการพวกนี้เกิดขึ้น
เพราะ มัน เพียงคนดียว ที่ทำให้หัวใจของผมทำงานหนักได้ถึงขนาดนี้ ! โอ้ย ยิ่งคิดแล้วยิ่งปวดหัว!

………………………………………………….

 ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในโรงอาหารของคณะคนเดียวครับ คนอื่นๆ ยังไม่มากันเลย รึอาจจะเป็นที่ผมเอง มาเช้าเกินเหตุ ขนาด
ลุงยามที่เฝ้าอยู่หน้าประตู ยังตกใจเลยที่เห็นผมมาตั้งแต่เช้า (อะไรมันจะเป็นเรื่องแปลกอเมซิ่งขนาดนั้น ก็ไม่รู้)
โรงอาหารที่เคยเงียบๆ ตอนนี้เริ่มเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาน้อยใหญ่ ที่แห่กันมาตั้งแต่เช้า ! (ประเด็นที่ผมมาเช้าคือ จะ
มานอน เอาแรงหน่อยเมื่อคืนไม่ได้นอนเลย คิดมากเรื่องไอกายอยู่ แต่เมื่อวานไม่มีเหตุการณ์อะไรในก่อไผ่แน่ๆ ครับต่างคน
ต่างนอน มันนอนหันหลังผมก็หันหลังให้กันไม่ได้คิดอะไร มันจะรู้ไหมนะ ว่าสาเหตุที่ผมนอนไม่หลับ เกิดขึ้นเพราะมัน)
เห้อ ! เสียงเริ่มดังๆ ขึ้นเรื่อยๆจนผมไม่สามารถที่จะข่มตานอนได้เลยเผลอพูดออกไป เสียงดัง!
〖โว้ย เสียงดังเว้ย คนจะหลับจะนอน อยู่บ้านไม่เคยคุยกันรึยังไง!!〗 เงียบครับ เสียงเจี๊ยวจ๊าวเมือครู่หายไปในทันที
ที่ผมพูดขึ้นมาเลยครับผมค่อยๆเหล่ๆตามองผู้คนรอบค้าง อะหื้ม! ชัดเด๊ะๆ เลย ทุกสายตาในที่นั้น หันมาจ้องมองที่ผมคน
เดียวเลย โอ้ย กูทำอะไรลงไปวะเนี้ย ผมรีบก้มหน้าฟุบหมอบลงกับโต๊ะเลย หวังว่า มันคงจะไม่ลงทุนก้มมองมาตามผม
หรอกนะ !หึหึ! ใครมองกูจิ้มตาแตก

....................................

〖ตี๋น้อย !〗กำลังจะหลับอยู่แล้วเชียวใครบังอาจมาสะกิดติ่งกูวะ!

〖ใครวะแม้ง มาเรียกตอน...ผมกำลังจะนอน!หึหึ พี่ริว !〗เกือบเผลอด่าพี่แกออกไปแล้วไหมละ กู พี่ริวแกทำหน้า
อึ้งๆ ก่อนจะขำ หึหึ ในลำคอ แล้ววางแก้วอะไรไม่รู้ เห็นมีควันๆ ลอยอยู่ด้วย น่าจะเป็นกาแฟมั้ง ผมขอเดา

〖อ่ะนี้ พี่ซื้อกาแฟมาฝาก!〗 นั้นไง! วันนี้ เจจะไปซื้อหวยครับ พ่อแม่พี่น้อง ใครไม่อยาก ขายบ้านขายรถ รีบ ปิดร้าน
หนีไปเลยครับ แหม่ อะไรจะ แม่นขนาดนั้น ! อีกหน่อยคงต้องเปิดสำนักหมอดูเป็นรายได้เสริมแล้วหล่ะ !

〖เจไม่ค่อยชอบกินกาแฟพี่ก็รู้ !〗 ผมจำได้ว่าเคยบอกพี่ริวแกไปรอบนึงแล้วเหมือนแกจะจำไม่ได้อะแหละ ถึงซื้อกาแฟมาให้ผม

〖พี่รู้น่า แต่เห็นเจนั่งสัพหงกนานแล้ว เลยซื้อมาให้ เมื่อคืนไม่ได้นอนเหรอ ดูเพลียเชียว?〗

〖ดูออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอพี่ ! 〗

〖หืม ของอย่างนี้ มองแวปแรกก็รู้แล้วไปทำอะไรไม่หลับไม่นอน คิดถึงพี่อยู่หรอ !〗พรวด!!! จากจิบๆ กาแฟเมื่อกี้
ตอนนี้ กระจายใส่หัวใครแล้วก็ไม่รู้ครับ คิดถึงพี่หรอ ก็มีบ้างนะ แต่คนที่ผม คิดถึงมากกว่า มันคือ ไอกายครับ ไม่ใช่ พี่ริว !
〖อะแฮก!! เอาซะเจตกใจหมดพี่ !กาแฟขมปี๋เลย ของพี่อะไรอ่ะ〗ผมชี้นิ้วไปที่แก้วของพี่ริว เห็นควันๆ ลอยออกมา
เหมือนกันแต่รู้แน่ๆว่ามันไม่ใช่กาแฟ เลยถามไปแปปนั้น ! เพราะผมจำพวกกลิ่นกาแฟได้แม่นเลย  จะไม่ให้แม่นได้ยังไงละ
ดมอยู่ทั้งวันตอนอยู่ร้าน !ของ แค่นี้ สิวๆ

〖โกโก้ ! ทำไมเจจะกินเหรอ พี่ไปซื้อใหม่ให้เอาไหม ?〗

〖ไม่เป็นไรครับเจกิน กับพี่ก็ได้〗

〖แต่พี่กินแล้วไม่เอาหรอกเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ใหม่เองดีกว่า นะ !〗

〖พี่ริวรังเกรียดเจหรอ !〗ดูสิพี่แกจะพูดอะไรต่อ

〖พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ ทำไมเจถึงคิดอย่างนั้นหล่ะ?〗

〖แหม่ก็ทีท่าของพี่มัน..ก็นะ แต่ช่างมันเถอะ เจกินกับพี่ได้สบาย! 〗หมับบ! ไม่ทันที่พี่ริวแกจะตอบอะไร ผมก็หยิบแก้วโกโก้ของพี่ริวขึ้นมายกดื่มเลยครับ

〖แต่เจจจจจจ...!〗

〖พรวดด!!คร็อกๆ!! ทำไมพี่ริวไม่บอกเจละว่ามันร้อน!  〗โอ้ยย ร้อนครับ ร้อน !! ลิ้นพองแล้วมั้งเนี้ย!
o(╥﹏╥)o

〖พี่กำลังจะบอก..แต่เจไวกว่าพี่อีก  ฮ่า ฮ่า ๆๆ〗ยังจะมาขำผมอีก รอบแรกที่บ้วนยังไม่มีใครเห็นหรอกครับ แต่รอบสองนี้หันมามองกันเต็มเลย ไม่มีอะไรจะมองกันแล้วรึไงห้า!!! ><  เพรี้ย! โอ้ยย! ใคร ตบหัวกูวะ

〖หึหึ!ควายชิบหาย!〗 จะเป็นใครไปได้ละครับ นอกจากไอหมาวิน !ที่ อยู่ๆเดินมาถึงก็ซัดหัวผมซะดังเพรี้ย!! ลั่นโรงอาหารเลย โอ้ย ทักกูดีๆ ก็ได้มั้ง ไอหมาวิน (จริงๆ มันชื่อมารวินครับ แต่ผมเรียกมัน หมาวิน)

〖เอี๊ยกอูอีอี อ้ออ้ายอั้งไออ่าไอเอ้น อ้อง อบอั้ว อุเอย (ลิ้นพองอยู่ครับเลยพูไม่ชัด)〗

〖พูดเหี้ยอะไร กูฟังไม่รู้เรื่อง!〗

〖เจ บอกเรียกดีๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องตบหัวกันเลย〗พี่ริว ครับเสียงพี่ริว (ซับไทย ฮ่า ฮ่า) แปลให้หมามันฟัง

〖อ๋อพี่ริวฟังภาษามันออกด้วยหรอครับ !〗หึ อย่างพี่ริว เซนต์เขาดีครับเรื่องแค่นี้สบายบรื๊ออ!!

〖ป่าวหรอก พี่ก็เดาๆเอาล้วนๆ หน่ะ ไม่รู้แปลถูกรึเปล่า〗อ้ะ อ้าวๆ! ไหงหักหลังกันอย่างนี้ละครับบ พี่ริวว! ถึงผมจะไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่ผมกับไอวินก็รู้เชิงกันดีครับ ประมาณว่า มองตาก็รู้ใจ หึหึ!

〖อ่ะ แดกๆ ไป จะได้หาย!〗วินมันยื่นแก้วน้ำแดงของมัน มาให้กับผมครับ แต่มันก็ยังไม่หยุดขำอีก หึ! แค่กูพูดไม่ชัดนี้มึง จะล้อ ยันกูบวชเลยไหมไอห่านิ่ ผมรับแก้วน้ำแดงของไอวินมากระเดือกลงคออย่างปลงๆ โดยที่ไม่หันไปมองหน้ามันเลยครับ เสือกขำกูดีนัก

〖เจ เจ! ฮัลโหล!ได้ยินที่กูพูดมั้ยเนี้ย?〗หึได้ยินแต่ผมแกล้งไม่ตอบมันครับหมั้นไส้

〖ทำไมวันนี้มึงถึงแหกขี้หูขี้ตามาก่อนกูได้เนี้ย อะไรเข้าสิงไม่ทราบบ!〗... เงียบครับ ผมไม่ตอบมันอีกแล้ว

〖เมื่อวาน วินนอนบ้านเจหรอ ทำงานอะไรกัน ? อยู่ถึงดึกรึเปล่า เจถึงได้โทรมขนาดนี้?〗

〖อ๋อไม่มีหรอกครับพี่ริว ไปถึง ก็อาบน้ำนอนเลย ส่วนไอเจ ผมไม่รู้เพราะมันอยู่กับไอกายจนดึก ไม่รู้นั่งทำอะไรกันอยู่ข้างล่างดึกๆ ดื่นๆ〗 หึหึ! ไอวินมึงจะเล่นกับกูมุขนี้ใช่ไหมเนี้ย ผมเคยบอกมัน ว่า อย่าพูดเรื่องไอกายต่อหน้าพี่ริว เพราะพอพูดทีไร อารมณ์พี่แก บ่จอยทุกทีเลย ! ดูจากสถานการณ์ที่เจอกันคราวก่อนแล้ว ก็น่าจะพอรู้ครับ

〖พอๆ หยุดเห่าหอนได้แล้ว มึง ! ไอนี้ พูดถึงกุเสียๆ หายๆตลอด!〗

〖อ้าวยอมพูดกับกูแล้วหรอ !นึกว่าจะไม่คุยกับกูแล้วซะอีกหึหึ!〗ขืนไม่พูดกับมันมีหวัง ได้สเม้าสมอย เรื่องผมกับไอกายเมื่อคืนแน่ ผมเองยังไม่ค่อยแน่ใจเลย ว่าเมื่อคืนตอนที่ไอวินมันเดินลงมา มันเห็นผม กับไอกาย...เอ่อ! จูบกันรึป่าว.. ไม่รู้ละครับระแวงมันไว้ก่อน เดี๋ยวความลับหลุด!  ⊙△⊙


〖แล้วเมื่อวาน กายมัน นอนไหนหรอเจ ?〗เอ่อ จะตอบว่าไงดีละ !!

〖เอ่อคือ ..เอ่อ ซ ..ซ..โซฟา ครับ โซฟา ใช่ ๆ มันนอนอยู่ตรงโซฟาข้างล่าง ส่วนเจนอนข้างบน〗 ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงต้องพูดโกหกออกไปแบบนั้น แต่เพื่อความสบายใจ ของพี่เขา ก็ไม่เสียหายอะไรครับ

〖แน่นะ? 〗
〖แน่สิครับพี่ริว เจจะโกหกพี่ริวทำไมจิรงมั้ย ไอวิน เน้อ!〗ผมใช้เท้าสะกิดขามันเบาๆ เพื่อให้มันเอ่ยปากพูดอะไรออกไป แต่มันก็ไม่ยอมปริปากครับ เอาแต่นั่งแบ๊ะปาก ก้มเล่นโทรศัพท์ ผมเลยถือโอกาสนี้ จัดทีเด็ดให้มันซักหนึ่งที
〖โอ้ย! ไอเชี่ยเจ มึงเยียบตีนกูทำไมเนี้ยห่า〗นั้นแหละครับทีเด็ดของผม

〖ก็พี่ริวเขาคุยกับมึง มึงไม่คุยกับพี่เขาละห่า !〗หึหึ แอบสะใจมันเบาๆครับ

〖พี่ริวถามผมว่าอะไรนะครับ?〗ไอวินมันยื่นหน้ายื่นไปถามพี่ริว ครับ ชนิดที่ว่า ปากนี้แทบจะชนกันอยู่แล้ว มึงไม่จูบๆ พี่เขาไปเลยละไอห่าวิน !

〖เอ่อ! ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่ก็ถามไปเรื่อยเปื่อยแหละ อย่าสนใจเลย!〗^^ พี่ริวแกส่งยิ้มแห้งๆ ให้ไอวินก่อน จะค่อยๆ ถอยหน้าตัวเองออกห่างจาก หน้าหมาๆ ของไอวินมัน ฮ่า ฮ่า ! (ทำไมชอบวรรคนี้จังวะ)
คราวนี้บรรยากาศรอบข้างก็กลับมาเงียบอีกครั้งครับ (เฉพาะโต๊ะที่ผมนั่งอยู่นะ) นอกนั้น โต๊ะอื่นยังเสียงดังกันอยู่
เหมือนเดิม ต่างคนต่างนั่งเงียบกัน ไอวินก้มหน้าให้กับไอโฟนของมัน ส่วนพี่ริวกับผมกำลังสบสายตากกันอยู่ครับ ไม่รู้พี่แก
มองผมทำไม แต่ แววตาของพี่ริวแก ดูเศ้ราหมองไป เห้อ ว่าแล้ว พูดเรื่องไอกายขึ้นมาต่อหน้าพี่แกทีไร แกจะเป็นงี้ขึ้นมาทุก
ทีเห็นพี่ริวไม่สบายใจผมเองก็ไม่สบายใจเหมือนกันครับ !

〖ฮัลโหล! เออ..อยู่โรงอาหาร..กับที่รักมึงแหละ.. เอออยู่ๆ..สามคน..มีอะไรรึเปล่าวะ..อ๋อ.โอเคๆ..
เดี๋ยวกูบอกให้ละกัน..แค่นี้นะกูเล่นเกมอยู่..〗ตอนนี้ทั้งผมและพี่ริวหันไปมองไอวินตาไม่กระพริบเลยครับ จ้องจนมัน
เริ่มเหล่ตาเงยขึ้นมาจากหน้าจอแล้ว หันมามองผมกับพี่ริว เลยละครับ (ของแบบนี้เซนต์มันจะเกิดขึ้นมาเองครับ ไอพอ
เวลา นั่งก้มๆเงยๆหรือสนใจทำอะไรอยู่เนี้ย มันจะรู้สึกประมาณว่า มีคนจ้องมองอยู่อะไรประมาณนี้แหละครับผมเป็นบ่อย)

〖เอ่อ มีอะไรกันรึเปล่า ? จ้องตาไม่กระพริบเลย กูทำอะไรผิดรึเปล่าวะ ?〗ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดหรอก แต่ที่ผิดผมที่อยากรู้เองว่า เมื่อกี้มันคุยกับใคร

〖เมื่อกี้วินคุยกับใครหรอ?〗เป็นพี่ริวครับที่เอ่ยปากถามไอวินมัน แหม่ๆ ผมกำลังจะอ้าปากถามมันอยู่แล้วเชียว

〖อ๋อ..〗ไอวินหันหน้ามามองที่ผมก่อนจะใช้ทำสะกิดเป็นเชิงว่า คนที่โทรมาน่าจะเป็นคนเดียวกับที่ผมคิดอยู่ตอนนี้ ผมก็สะกิดตอบมันกลับไปเหมือนกัน (มันน่าจะถามผมว่า ควรจะบอกดีไหม) (ผมก็สะกิดกลับไปสองที เป็นคำตอบว่าไม่ควรครับ) รู้เรื่องกันอยู่สองคน!หึหึ! แปลกไหมละ คุยกันด้วยภาษาจิต! ⊙﹏⊙ 

〖อ๋อเพื่อนที่คณะ หน่ะพี่ มันโทรมาถามผมว่าเมื่อไหร่จะเข้าเรียน ให้โทรไปบอกมันด้วย? 〗หืม มึงคุยกันซะยาวขนาดนั้น แต่มึงตอบแค่นี้ เด็กเท่านั้นแหละที่จะเชื่อมัน !! หึหึ! ไปหลอกเด็กไปไอห่าวิน

〖อ๋ออย่างงั้นเองหรอ!〗เอิ่มๆ พี่ริวคงจะไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ไอวินมันพูดไปเมื่อกี้ใช่ไหม หึหึ ! แปลกแหะ ยังมีคนหลงเชื่อ มันอีก เห้อๆ


〖.........〗

〖..........〗


〖..........〗 เอิ่ม จะเงียบกันอีกนานกันไหมครับพี่น้อง ผมเริ่มหวิวๆ แล้วสิ ไม่ได้การละ สงสัยต้องเปิดประเด็นซะหน่อย

〖เอ่อ! เย็นๆ นี้ พี่ริวว่างไหมครับ !〗

〖อึ่ม ก็ว่างนะ มีอะไรรึเปล่า ?〗

〖คือ..ไปดูหนังกันไหมพี่ผมมีตั๋วอยู่สามใบ ว่าจะชวนพี่กับไอวินหน่ะ ไปไหม?〗โอ้ยผมพูดอะไรออกไปวะเนี้ย บัตรเบิ่ดอะไรผมไม่มีหรอกอยู่ฟิลลิ่งมันก็พาไปเอง!ผมละอยากจะบ้าตายย

〖โอเคครับ เดี๋ยวพี่ต้องขึ้นไปเรียนก่อน ไว้ตอนเย็นๆ เจอกันนะครับ บาย!ครับน้องเจ น้องวิน〗

〖คร้าบ/คร้าบ พี่ริว!〗
พี่ริวแกเดินออกไปได้ซักพักแล้วครับ ค่อยโล่งอกหน่อย จากที่เมื่อกี้ ผมกับวินนั่งเกร็งจนตะคริว
ขึ้นเลยละครับ ปวดขากันอยู่ตั้งนาน ส่วนเท้าผมนี้ก็บวมเป่งเลยครับเมื่อวานยังแค่ชาๆอยู่เลยแท้ๆ แต่พี่ริวกับไอวินคงยังไม่เห็นหรอกครับว่าผมใส่รองเท้าแตะมา ไม่งั้นคงได้สังเกตเห็นกันแน่ๆ

〖ป้าป!〗เสียงอะไรไม่รู้ดังอยู่ข้างๆ หูผมรู้สึกว่าระยะมันใกล้มากครับได้ยินเสียงชัดแจ๋วเลย ผมเลยเหล่หันไปมอง ก็เห็นฝ่ามือยาวๆของ...ไอกายวางอยู่บนหัวของไอวินมันครับ

〖โอ้ย ไอกายเรียกกูดีๆ ก็ได้มั้งห่า〗หึสมแล้วครับ ทำคนอื่นเขาไว้เยอะโดนซะจะได้รู้ ว่ามันรู้สึกยังไง

〖กลัวมึงไม่ได้ยินไง!เลยต้องใช้วิธีนี้ !〗 จะคุยกับมันก็หันไปมองหน้ามันสิวะ มาจ้องหน้ากูทำไมละเนี้ย ! ห่านกูไม่ได้คุยกับมึงด้วยซะหน่อย

〖ไงชั้นในขาดีขึ้นแล้วหรอ ?〗หึ!มาถึงก็เสียวสันหลังเลยครับ มันไม่ด่า ไม่อะไรผมนะ (เรียกผมแต่ชั้นในๆ ผมชินแล้วละครับ )แต่แปลกที่มันเป็นคนเดียวที่ถามผมด้วยเรื่องนี้ ต่างจากไอวิน ที่นั่งคุยกันตั้งนานไม่คิดจะถามเรื่องขาของผมซ้ากกกคำ แต่จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอกครับ มาถึงก็กก้มๆ มองโทรศัพท์อย่างเดียว ไม่เคยสนใจโลกภายนอกเล้ย ผมแอบเหล่สายตาไปที่แขนของไอกาย มันไส่เฝือกมาเลยครับวันนี้ หืมท่าทางจะเป็นหนัก โดนเฉี่ยวซะกระจกหลุดขนาดนั้น ไม่เป็นก็แปลกแล้วละครับ ผมนี้แอบรู้สึกผิดลึกๆเลย ที่เป็นต้นเหตุให้มันเป็นแบบนี้เนี้ย !

〖ก็ดีแล้ว แขนมึงอะ เป็นไงมั้ง?〗

〖ก็ใส่เฝือกมากูคงสบายดีมั้งเนี้ย〗กลับมากวนตีนกูได้ คงไม่เป็นอะไรมากแล้วละสิไออสูรกาย!เห้อค่อยโล่งอกหน่อย

〖ไหนว่าอยู่กันสามคนไงอีกคนไปไหนซะละ ?〗อีกคนที่ว่านี้คงไม่ได้หมายถึงพี่ริวแกหรอกใช่ไหม ?

〖อ๋อพี่ริว เขาขึ้นไปเรียนแล้ว  ทำไมมึงอยากคุยกับเขาหรอ เดี๋ยวกูโทรเรียกมาให้ 5555〗 รู้ทั้งรู้ว่าสองนี้ไม่ค่อยถูกกันไอมันนี้ก็ขยันแขวะดีจริงๆห่าเอ้ย

〖กวนตีน!ป้าป〗ผมนั่งขำไอวินกร้ากเลยครับ สงสัยจะขำเสียงดังไปหน่อย จนไอวิน หันมาจ้องตาผมเขม้งเลย 555 ถึงแขนข้างนึงของไอกายมันจะเดี้ยง ก็ไม่ได้เป็นผลอะไรต่อการทารุนไอวินเลยครับ ฮ่า ฮ่า

〖ขำๆ ไอสัด ตลกนักสิ เดี๋ยวกูจัดให้ซักทีเป็นไง?〗

〖กล้าก็ลองดู ?〗หึหึ ถ้าคิดจะตบหัวของไอเจแล้ววิ่งหนีไป มันคิดผิดมหันต์ละครับ

〖เออเย็นนี้ว่างกันไหม ไอวิน ไปกินเหล้า กัน!〗จะกินกันทั้งทีไม่คิดจะชวนกูกันเลยรึไง แม้งน้อยใจหว่ะ

〖เออเอาไงก็เอา! แล้วไอเจ มึงจะไปกับพวกกูด้วยปะนะ〗 เอ่อ ผมจะตอบว่าไงดีละ ถ้าตอบตกลงก็ต้องพลาดงานวันนี้ไป แต่ถ้าปฏิเสธไป ก็แค่อดเหล้าครั้งเดียวเอง ใช่ แค่กินเหล้าครั้งเดียว ไม่ตายก็หาโอกาสใหม่ได้วะ !คิดได้ดังนั้นผมก็รีบตอบไอวินกลับไปเลย

〖เอ่อ เย็นนี้กูไม่ว่างว่ะ มึงไปกินกันสองคนเหอะ กูต้องไปทำงาน〗ใช่ๆ งานต้องมาก่อน!!

〖ก็นะ เลิกงานแล้วรีบมาละกัน เดี๋ยวกูรอ กาย ไปกินห้องกูนะ!〗

〖เออเอาไงก็ได้ ขึ้นไปเรียนกันได้ละเข้าสายโดนเช็คขาดกูไม่รู้ด้วยนะมึง〗

〖เออเชี่ยแม้งกูลืมเลย ขืนขาดอีกกูคงได้ลงเรียนใหม่แน่ๆ งั้นกูไปรอที่ห้องก่อนนะ มึงอยากคุยอะไรกันก็คุย กูไม่กวนละบาย! รีบตามมานะมึง〗พูดจบไอวิน ก็รีบวิ่งออกจากโรงอาหาร ไปที่คณะของมันเลยครับ แต่ๆ! ทำไมเพื่อนของมันยังยืนจ้องหน้าผมอยู่อีกหล่ะ

〖ไม่มีเรียนรึไง ถึงมายื่นจ้องหน้ากูเนี้ย〗ขนาดผมด่ามันมัน ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยครับ ยื่นจ้องหน้าตาเฉ๊ย!เหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูดอย่างนั้นแหละ

〖ไม่ตอบใบ้แดกรึไงห้ะ〗ยังครับ ยังไม่สะทกสะท้านอีก!

〖เดี๋ยวก็ไปแล้ว  พูดมากวะ ! เออ..เรื่องเมื่อคืน〗เอ่อผมพอจะเดาทางคำตอบของมันได้แล้วครับ ว่ามันจะพูดต่อว่าอะไร มันต้องพูดถึงเรื่อง เมื่อคืนขึ้นมาๆ แน่ๆ โอ้ย อย่าพูดเชียวนะมึง!

〖เออ ใช่ๆ กูต้องรีบไปเรียนแล้วเหมือนกัน !มึงก็มีเรียนไม่ใช่หรอ รีบขึ้นไปเรียนสิ !ป่ะๆ 〗ไม่เอาแล้วครับ ขืนอยู่นานกว่านี้ คงได้เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนขึ้นอีกแน่ๆ รีบสลายโต๋ก่อนดีกว่า ฟิ้ว!! ทันทีที่ผมวิ่งออกมาก็มีเสียงแว่วคนเรียกชื่อผมกังตามหลังมาครับ (จริงๆ ไม่เชิงวิ่งหรอกครับ ต้องเรียก ว่า เดินกระเผกๆออกมาต่างหาก) ไม่ไม่ได้หันไปพูดกับมันแต่เดินตรงขึ้นอาคารเรียนไปเลยครับ! อูย ทำไมอยู่ดีๆ หน้าของผมถึงแดงขึ้นมาก็ไม้รู้ ! สงสัยอากาศคงจจะร้อน !

………………………………………………………….

ตอนนี้ผมนั่งเรียนอยู่ในห้องครับอาจารย์ก็สอนไป ส่วนผมก็เอาแต่นั่งเหม่อ ทำอะไรไม่ถูกเลยครับสมองมันไม่ยอมแล่นเลย
มัวแต่คิดถึงฉากพิศวาสเมื่อวานของผมกับไอกายอยู่ โอ้ย ตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่กันแน่วะ! แต่จากที่ดูๆแล้ว ไอกายมันเฉ)
ยมากเลยครับ ไม่เห็นคิดมากเหมือนผมเลย เห้อ สงสัยมันคงจะจูบใครต่อใครจนชินแล้วละสิ หึหึ ! ส่วนผมนี้ไม่เลย มัน
จะรู้ไหมนะ ว่าจูบเมื่อวาน มันคือ จูบแรกของผมเลย  เห้อๆ คิดมากๆ เผลอหลับไปจนหมดคาบ จนตอนนี้ในห้องเรียน
เหลือผมที่นั่งหลับอยู่คนเดียวเองครับนอกนั้นหายกันไปหมดแล้ว ! แต่ช่างเถอะ ขอนอนต่ออีกซักแปปละกัน ไว้ค่อยไป
ถามงานคนอื่นๆเอาที่หลังละกัน ทันที่ที่ผมกำลังฟุบหลับ ก็มีเสียงเรียกชื่อผม ไม่รู้ดังมาจากไหน (ชอบมีคนเรียกตอนผมจะหลับทุ๊กที !!) ไม่เห็นตัวขอไม่ขานละกัน คร่อกก !!! ฟี่ๆ ขอหลับต่อละครับ


〖พี่เจๆ พี่เจ !! !〗

〖ใครเรียกชื่อกุวะ!!!〗คราวนี้ผมตื่นเลยครับ ผมหันไปมองตามทิศทางของเสียงที่ได้ยิน(หูดีเหมือนหมาเลย)มองซ้าย
มองขวาก็ไม่เห็นเจอใคร ผมเลยนั่งฟุบหลับต่อ แต่คราวนี้ไม่มีมีแค่เสียงเรียกครับ มีข้าวของอะไรลอยมาด้วย หืม! เกือบ
โดนหัวกูละ ใครวะใคร กัน ผมหันไปมองตาม เศษกระดาษที่ลอย มาก็ไปสบสายตาเข้ากับ ...! ไอเอิ่น!

〖ไอเอิ่น!!!〗เอิ่นเป็นรุ่นน้องของผมกับไอวินครับ้ราเคยเรียนอยู่ที่เดียวกัน เอิ่นมันเป็นลูกรักของไอวิน ครับ ตอนนั้น
ไอวินชอบหิ้วไปไหนมาไหนด้วยตลอด ผมเลยมีโอกาสได้รู้จักกับมัน  เอิ้ลมันตัวเล็กขาวๆ คิ้วดำหนาๆ ดวงตาก็ดูกลมโต !
รวมๆ แล้วก็ถือว่าโอเคครับ พอพาไปวัดไปวาได้ 555 ขยันแขวะคนอื่นจริงๆเลยผมเนี้ย ว่าแต่มันมาโผล่ที่นี้ได้ยังไงละเนี้ย
〖โห่ นึกว่า พี่เจ จะลืมผมซะแล้ว ซึ่งใจหว่ะ แม้ง〗 เออเกือมันเกือบจะดีแล้วนะ ถ้าไม่มีไอคำว่าแม้งเนี้ย !

〖มาที่นี้ได้ไงวะ ?〗

〖 ก็มาเรียนสิ พี่ ถามแปลกๆ มาหมาลัยผมคงจะมาซักผ้ามั้ง !〗หึ ไอนิสัยกวนตีนนี้คงได้มาจากพี่ชายของมึงสินะ

〖กวนตีน! แล้วนี้เรียนอยู่คณะไหนละเนี้ยทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย〗 นั้นสิอยู่มาตั้งปีกว่าละ ! ไม่ยักจะเคยเห็นหน้ามันเลยซักที เอ๊ะ หรือมัน เพิ่งสอบเข้ามาใหม่?

〖ผมพึ่งสอบเข้ามาหน่ะพี่ เรียนนเทศ  แล้ว ..พี่วินอยู่ไหนอ่ะพี่ !〗

〖มาถึงก็ถามหาผัวเลยสินะ ! หึหึ !〗ตอนเรียนอยู่ที่โรงเรียนเก่ามันมีฉายาให้ไอพี่น้องสองคนนี้ครับ พวกสาวๆ(Y)
ม.4 ม.5 เข้าตังให้กัน ไอวินเป็นผัวหลวง ผมเป็นเมียน้อย ส่วนไอเติ้ลเป็นเมียหลวงครับ (เข้าใจคิดกันเน้อสาวๆ เนี้ย)ผม
อยู่ใกล้ไอวินทีไร สาวๆ กลุ่มนั้นมักจะกรี๊ดกร๊าดกันเสมอ ไม่ว่าจะเช้ารึจะเย็น (หรือต้องเรียกว่า ตามไปทุกที !)

〖พี่ยังไม่ลืมชื่อบ้าๆ พวกนี้อีกหรอ? 555〗
〖หึหึ! กูเป็นน้อย คงลืมยากวะ ! 555〗
〖555/555〗ผมกับไอเติ้ล หลุดขำมาพร้อมกันเลยครับ ๆ เหมือนจะ เข้าใจมุขตรงกัน ฮ่า ฮ่า

〖ว่าไงจ้ะ เมียๆ ทั้งสอง คิดถึงผัวมากขนาดนั้นเลยเหรอ?〗 เสียงเชี่ยไอวิน ดังมาจากประตูทางเข้าครับ เดินแขวะมาแต่ไกลเลยครับโผล่มาได้ไงวะเนี้ยใครไปสเด็จอันเชิญมันมา

〖อ้าวมึงมาได้ไงเนี้ย !〗

〖กูมีตีนก็เดินมาสิ สาด!〗

〖ห่ากูหมายถึง มึงไม่มีเรียนหรอ ถึง เที่ยวเดินไปเดินมาแถวนี้เนี้ย?〗

〖ไอมีหน่ะมันก็มีแต่กูไม่อยากเข้าหว่ะ ! เบื่อ ฟังแล้วแม้งง่วงชิบ หาย ไม่รู้ไอกายยมันทนฟังไปได้ยังไง ! 〗อารมณ์เดียวกันเลยวะเพื่อนรัก

〖เบ๊ะปากทำเชี่ยอะไร นินทากูอยู่รึไง ห้ะ !〗 ผมอุตส่าห์เบ๊ะแอบๆ ละนะยังจะเสือกเห็นอีก 555

〖เรียนคณะไหนละไอเตี้ย !ได้พี่รหัสกับเขารึยัง ?〗พอมันเดินเข้ามาถึงก็เดินเข้าไปโอบไหลไอเอิ่นเมียหลวงของมันเลยครับ

〖เรียนนิเทศ ครับพี่วิน ส่วนพี่รหัส ผม พอจะรู้แล้วว้าเป็นใคร 〗

〖ใครว่ะ /ใคร〗นั้นสิผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าใครจะถูกตกเป็นเป้าสายตารุ่นต่อไป! หวังว่าคงจะไม่ใช่ผมนะ แอบลุ้นลึกๆ นะเนี้ย ! เพราผมเองไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องซักเท่าไหร่ พอจะเข้าทีไร ก็มีปัญญาหาเกิดขึ้นตลอด เห้อ เลยไม่รู้กันเลยว่าผมได้น้องรหัสเป็นใคร หญิงรึชายกันแน่ก็ยังไม่รู้ ไว้ว่างๆ ไปถาม พวกๆ พี่นันทนาการซะหน่อยละกัน !
〖ไม่รู้เหมือนกันอ่ะพี่ แต่ได้ข่าวมาว่า อยู่คณะวิศวะ !ผมเองก็ไม่รู่เหมือนกันว่าใคร!〗 วิศวะหรอ เท่าที่ผมรู้จักก็มีอยู่ไม่กี่คนเอง แค่ไอวิน กับ..ไอกาย! หึ้ยย ไม่น่าใช่หรอกมั้ง !!
ไม่ทันไรก็เที่ยงซะแล้ว ! พอนาฬิกาเดินถึงเที่ยงปุ๊ปท้องของผมมันก็ร้องขึ้นมาปั๊บเลยครับ แหม่ ตรงต่อเวลาดีจริงๆ คุณกระเพาะเนี้ย ^ ^

ผมเดินมาโรงอาหาร พร้อมๆกับหมาๆทั้งสองตัว เดินตามกันมาต๋อยๆ เลยครับ มาถึงผมก็สั่งราดหน้ามาทานเลยครับ หิว
มาก ! แต่พอจะกินอะไรเส้นๆ นี้ต้องใจเย็นหน่อย ! กลัวติดคอ (พี่อินบอกผมว่าตอนกินเส้น อะให้ค่อยกินๆ เดี๋ยวมันจะ
เข้าไปดิ้นอยู้ในท้อง )พี่อินแกหลอกผมมาแต่เด็กว่ามัน เป็นหนอนบ้างเอย พยาธิบ้างเอย ! ผมก็เชื่อนะ ตั้งแต่เด็กๆ จนโต
มาเหมือนมันติดกลายเป็นนิสัยไปแล้วอะ ทั้งๆที่รู้ว่ามันแค่เรื่องหลอกเด็กก็ตาม แต่ผมก็ยัง ทำอยู่เลยครับ !
〖เออเปลี่ยนเมนูไหมไอเจ ! กูยังไม่อยากนอนรอมึงกิน !〗ไอวินมันรู้ครับว่าเวลาผมกินเมนูเส้นๆ สภาพของมันจะ
เป็นยังไง มันรีบค้านผมไว้เลยครับ55 แต่คงไม่ทันแล้วหล่ะ ป้าแกยื่นราดหน้ามาให้ผมแล้ว ผมรับจากราดหน้ามาดมๆดู
หืม กลิ่นหอมมากครับ เห็นแล้วน้ำลายนี้แทบจะไหล ขอตัวไปกินก่อนละกัน ผมแอบเห็นไอวินนั่งกุมขมับเลยนะ ! ส่วนไอ
เอิ่นนะหรอหึหึ! หนีไปแล้วละครับ เห็นว่าเขาเรียกรวมตัว แต่มันดันแอบโดดมา ! กูขอให้มึงโดนซิดอัพ สักร้อยทีเถอะ อิ
เมียหลวง! 5555 หลังจากกินเสร็จก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง ผมเห็นไอวินมันฟุปหลับไปสองสามทีเลยครับ! ถ้าทางจะรอ
นาน !ไปหน่อย (ไม่หน่อยม้างเนี้ยย 555) กินหรือดมก็ไม่รู้ หลังจากกินเสร็จผมก็เข้าไปเรียน ของภาคบ่าย ตอนบ่ายผม
มีเรียนแค่ไม่กี่วิชาเองครับ เลยว่างเลยตอนนี้ ! ใครจะนัดจะชวนไปกินอะไรขอให้บอก ตอนนี้ เจ พร้อมครับ 5555
ครื๊ดดด!!!! เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ข้างในกระเป๋ากางเกงผมอีกแล้วครับแหม่ โทรมาตั้งแต่ ผมเรียนอยู่ แล้ว จนตอนนี้ก็ยัง
ไม่เลิกโทรอีก รอบแรกๆ เป็นพวกแก้งคอลเซ็นเตอร์ครับ โทรมาประมาณว่า คุณมียอดหนี้บัตรเคดิต จำนวน... คือกูไม่มี
บัตรดบิตครับ ห่าน! คิดจะหลอกช่วยเช็คเงินในกระเป๋ากูด้วย 555 ส่วนสายที่สองเป็นพวกเอิ่มเรียกว่าไงดีละ โทรมา
ประมาณว่า เบอร์ของคุณได้รับสิทธินู้นนี้นั้นให้กดหมายเลข ดอกจัน ห่าเหวอะไรของพวกมันเนี้ยแหละ ตอนมอต้นผมเลย
หลงเชื่ออยู่ครั้ง นึง  ! หลอกว่า หมายเลขของคุณได้รับ สิทธิเติมเงินฟรี ผมก็เลยลองกดที่มันบอกมา ปรากฏว่า มันเป็น
ข้อความขยะ ครับ ประเด็นคือกินตังด้วยไง ข้อความละตั้งหลายบาท ผมเลยต้องยกเลิกซิมไปเปลี่ยนไปใช่เบอร์ใหม่เลยละ
ครับมาวันนี้เจอเข้าไปอีก พอรับสาย ฟังเสียงแปปนึง แล้วก็วางไปเลยครับคือ  รู้เชิงมันละไง ! แต่คราวนี้เป็นเบอร์แปลก
ครับไม่ใช่สองเบอร์เมื่อกี้ เอ !!ครางนี้แป็นแก้งอะไรอีกละ ! โทรมาทั้งวี้ทั้งวัน นี้มันหลอกคนอื่นไม่เป็นรึไง ! ถึงได้โทร
มาหาผมคนเดียวเนี้ย ! ห่า พูดแล้วมันขึ้นครับ ขอรับสายด่ามันหน่อยละกัน พอผมมกดรับสายก็รัวด่ามันเป็นชุดเลยครับ

〖โอ้ย จะโทรมาทำไมนักหนาวะ บอกแล้วไงว่าไม่สมัครไม่มีตัง บัตรเครดิตก็ไม่มีเพราะชะนั้นไม่ต้องมาอ้างนะว่ามีเครดิต ผมรู้ทันครับ เลิกทำแบบนี้เถอะหากินกับการหลอกคนอื่น มันไม่เจริญ หรอกนะครับ〗

〖เอ่อ ! ผมแค่จะโทรมาบอกว่าให้มาเข้างานได้แล้วนะครับ !ตอนนี้ที่ร้านวุ้นมากเลย ผู้จัดการบอกให้ผมโทรมาหาคุณเจนะครับ แต่ถ้าไม่ว่างเดี๋ยวผมบอกผู้จัดการให้ก็ได้〗ตายห่าละครับ ไม่ใช่แก้งคอลเซ็นเตอร์ แค่เป็นพนักงานในร้านที่ผมไปสมัครงานโทรมาตามให้ผมไปทำงานหรอนี้ ! โอ้วตายยั้งเขียดแน่เลยผมเนี้ย ว่าแต่เขาได้เบอร์ผมมายังไงละเนี้ย ผมไม่เคยเขียนรายละเอียดทิ้งไว้เลยนะ ! ว่าแล้วก็ขอถามซะหน่อยละกัน

〖เออ ขอโทษนะครับ พอดีซ้อมบทละครอยู่นะ (ตอแหลได้โล่จริงๆ ผม)แล้วนี้ที่ได้เบอร์ผมมาจากใครหรอครับ!〗ผมว่าจะถามไอวินตั้งนานแล้วครับ แต่มันยึกยักๆ ไม่ยอมตอบผมซะที

〖ผู้จัดการร้านเอามาให้ครับ ! ผมก็เลยลองโทรดู ! ถ้ารบกวนก็ขอโทษด้วยนะครับ

〖โอ้วๆ ไม่รบกวนอะไรเลยครับ เดี๋ยวผมมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยครับ ! ว่าแต่ผมต้องใส่ชุดอะไรไปหรอครับ ?〗นั้นนะสิ จะว่าไปยังไม่มีชุดสูทเอาไว้ใส่ทำงานเลยต้องวิ่งไปหาซื้อมาใส่แล้วมั้งเนี้ย แต่ถ้าไปซื้อตอนนี้ มันจะทันไหมละเนี้ย ?

〖เรื่องชุดให้มารับที่นี้ได้เลยนะครับ ผู้จัดการเข้าเตรียมไว้ให้แล้ว ! ยังไงก็รีบมารีบมาภายในหนึ่งชั่วโมงนะครับที่ร้านตอนนี้ยุ่งมากเลยงั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนครับ มาถึงให้ถามหาพี่โชนที่เคาท์เตอร์ด้เลย 〗

〖ครับๆ ขอบคุณมากนะครับ ผมจะรีบไป...〗

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖24-01-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-01-2016 18:55:25
หลังจากวางสายเสร็จผมก็รีบแบกกระเป๋าวิ่งออกมาจากห้องเรียนเลยครับ ก่อนจะไปก็ไม่ลืมที่จะไปยืมรถกับไอวินมันก่อน ขืนนั่งแท็กซี่ไปกว่าจะถึง คงเป็นชั่วโมงแน่ๆ
คราวนี้เป็นผมครับที่ได้กุญแจรถ MSX มาครอบครอง ! 55 แอบระแวงกลัวไอกายมันมาแย่งตัดหน้าไปอีก ผมขับ
ออกมาจากมอ ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงหน้าร้านแล้วครับ !! ผมรีบวิ่งเปิดประตูเข้าไปในร้าน อึหื้ม !! วันนี้
มีดารามา หรือแจก ของฟรีที่ร้านใช่ไหมเนี้ย  ลูกค้านี้แบบ ล้นร้านมากครับ จะหาทางเดินยังยากเลย ผมเดินอ้อมไปทีเคาท์
เตอร์ข้าง ๆเพื่อจะถามหาคนที่ชื่อ โชน ที่พนักงานในสายบอกผมมา แต่สิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่คำตอบครับ แต่เป็นสายตาของ
ลูกค้า ผู้หญิงคนข้างหน้า! ครับจ้องผมตาเขม้งเลย เธอคงคิดว่าผมจะมาแทรกคิวของเธอลแน่เลย ผมส่งยิ้มเจื่อนๆไปให้
เธอก่อนจะมี..โอ้วแม่เจ้า ซีวอนบังเกิด  :pighaun: ! ซีวอนในคราบพนักงานครับ ผมตาฝาดอยู่ใช่ไหมเนี้ย ถึงเห็น นักร้องเกาหลีชื่อ
ดังของวง SJ มายื่นอยู่ต่อหน้าอยู่แบบนี้ คือ พูดไทยได้ด้วยคือผผมมงง!! อะไรกันวะ

〖พี่โชนค่ะไอซ์มอคค่า แล้วก็ลาเต้อย่างละที่ค่ะ〗

〖โอเค ครับ รอซักครู่นะครับ !〗อ่อ ที่แท้ก็ซีวอนเมืองไทยดีๆ นี้เองครับ แหม่ หล่อพระกาฬจริงๆนี้ถ้ามีติ่งเกาหลียื่นอยู่ใกล้ๆแถวนี้ ผมว่าคงมีกรี๊ดกันบ้างหล่ะ !

〖เอ่อ น้อง น้องครับ !〗  :hao6:
〖ค..ครับ〗อะไรกันพี่เขาคุยกับผมใช่ไหม เอ่อๆ คือตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกครับได้แต่ยืนอึ้งๆ มองหน้าพี่แกอยู่ (กำลังวิเคราะห์อยู่ครับ ว่ามีจุดไหนมีไม่เหมือนกันบ้าง 555 )

〖รับอะไรดีครับ〗แหม่ผมไม่แปลกใจจริงๆ เลยว่าทำไมวันนี้ ลูกค้า ถึงได้เยอะจนล้นร้านขนาดนี้ ก็พี่แกเล่นมายื่นขายและแจกรอยยิ้ม (ที่สามารถฆ่าสาวๆได้เลย)บ่อยซะขนาดนี้ใครมองก็หลงครับ (แต่ยกเว้นผมแล้วคนนึง!) เพราะกำลังวิเคาะห์พี่แกอย่างละเอียดอยู่ครับ

〖เอ่อ ผมมาหา! ผู้จัดการร้านนะครับ!เห็นว่าชื่อ โชนๆอะไรนี้แหละครับ !〗

〖อ๋อใช่น้องคนที่มาสมัครงานไว้รึเปล่า?〗ขนาดพี่เขารู้ว่าผมไม่ใช่ลูกค้านะเนี้ย ยังพูดดีกับผมอยู่เลยแถมสีหน้าก็ไม่ได้เปลี่ยนอารมณ์ไปด้วย ยังยิ้มให้ผมอยู่เหมือนเดิม เอิ่ม จากไม่คิดนี้ผมเริ่มคิดนิดๆ แล้วนะ ฮ่า ฮ่า ล้อเล่นครับ

〖อ่าใชครับพี่! (∩_∩) 〗คราวนี้เป็นผมที่ยิ้มกลับไปให้พี่เขาบ้าง พี่เขาก็ไม่ยอมหุบยิ้มซักที ! เห้อๆ ผมว่าสาวๆ ข้างนแกนี้คงแอบอิจฉาผมเป็นแน่แท้(เข้าใจหาคำมานะเออ!)

พอเดินมาถึงหลังร้านพี่เขาก็หยิบกุญแจล็อคเกอร์ยื่นมาให้ผมสองดอก(ดอกหลักกับสำรอง) ผมก็ยิ้มๆรับพี่เขาไป หลังจาก
นั้นพี่เขาก็เดินเข้าไปในห้อง คาดว่าน่าจะเป็นห่วงส่วนตัวของพี่เขานะ ! ก่อนจะเดินออกมากับชุดสูทของทางร้านพร้อม
เอี้ยมสีดำ อย่างละสองตัวมาให้กับผมอีกทีพี่เขาชี้นิ้วไปทาง ห้อง ที่อยู่ข้างๆ ตู้ล็อคเกอร์ของผม พี่เขาบอกว่าเป็นห้องที่
เอาไว้ใช้อาบน้ำแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าหน่ะ! (จริงๆ แล้วเวลาเปิด-ปิดร้านที่นี้เขาไม่มีเวลาแน่นอนครับ ถ้าลูกค้าไม่มีช่วง
สามสี่ทุ่มไปก็จะปิดครับ ส่วนถ้าวันไหนมีลูกค้าก็จะเปิดยันเช้าเลยละครับ เห็นว่า ตอนช่วงที่มหาลัยมีสอบนี้ ร้านจะเต็มไป
ด้วยเหล่านักศึกษาหลากหลายสถาบันมานั่งจิบกาแฟที่นี้ทั้งคืนเลยละครับโอ้ว กะจะเปิดแข่งกับ 7-11 เลยรึไงกัน 555 )
หลังจากผมเปลื้องผ้า (คำโบราณมาก)ออกจนหมดก็เปิดฝักบัวอาบน้ำเลยครับ หู้ย มีเครื่องปรับน่ำอุ่นด้วย! จริงๆ ที่ร้านพี่
อินก็มีอยู่แหละครับแต่แกไม่ค่อยชิบให้เปิดเห็นบอกว่าเปลืองไฟ แหม่ๆ ทีตัวแกนี้อาบน้ำอุ่นแทบจะทุกวันทีกับผมละทำงก
ชิส์ ผมรีบจัดแจง อาบน้ำถูสบู่ร่วมถึงสระผม! (ที่ไม่ได้สระมาเป็นเวลานาน) หลังจากล้างหัวล้างตัวล้างอะไรต่างๆ เสร็จก็
ถึงเวลาที่จะต้องเดินออกไปให้ โลกได้มองเห็นความหล่อ(ที่มีอันน้อยนิด)กันแล้วแต่!! เอิ่มๆ ผมลืมหยิบ เสื้อผ้ากับ
ผ้าขนหนูเข้ามานะสิ ติดนิสัยจากที่บ้าน มาอะครับชอบวางไว้ทตรงที่นอน แล้วก็นุ้งผ้าขนหนูออกไปแต่ง แต่ๆนี้มันไม่ใช่
บ้านอีกอย่าง ผ้าขนหนูก็ไม่มี โอยจจะทำยังไงดีละทีเนี้ย มีใครจะช่วยผมได้บ้างเนี้ย !! ถ้าผมตะโกนออกไปตอนนี้จะมี
ใครได้ยินเสียงของผมบ้างไหมเนี้ย ผมเลยลอง ตะโกนดูครั้งสองครั้ง แต่ก็ ไม่มีเสียงใดๆ ตอบรับเลย! แล้วจะทำยังไง
ต่อไปดีละทีเนี้ย ! ฮึก ฮึก !บ่อน้ำตาตอแหลเริ่มทำงานอีกแล้วครับ จนมุมทีไรเป็นแบบนี้ทุกที !แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียง
เคาะประตูดังออกมาจากด้านนอก
〖เอ่อมีเรื่องอะไรรึเปล่า ! พออดีเมื่อกี้ พี่ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยหน่ะ ใช่เสียงของน้องรึเปล่า ?〗 ฮึกๆ !สวรรค์มา
โปรดครับ เทพบุตรแห่งวง SJ มาช่วยผมแล้วโอ้ว ซีวอนอปป้า ช่างใช่ดีกับข้าเยี่ยงนัก ผมรีบเดินไปแง้มๆ ประตู พี่แก
ทำหน้างงๆ คงจะคิดว่าทำไมผมถึงไม่เงยหน้าเปิดประตูออกมาซะที แต่อยู่ๆ พี่แกก็ผลักประตูออกมาซะกว้าง ! เอิ่ม เป็น
ภาพที่บาดตาสาวๆมากครับ ! หมดกันชีวิตไอเจ ขอไปโดดน้ำตาย หรือลาบวชตลอดชีวิตตอนนี้เลยจะได้ไหม อะเฮือก!
พี่เขาจ้องมองที่เจน้อยของผมตาค้างเลย ตอนนั้นผมยังตกใจอยู่เลยไม่ทันได้มองว่าพี่แกแอบจ้องผมอยู่ พอผมตั้งสติด็รีบ
เอามือไปกุมไว้ที่หว่างขาจนมิดเลย!(ย้ำว่ามิดเลย คงไม่ต้องพูดนะ หึหึ ! พอเลยพี่คิม ><) ผมรีบนั่งยองลงกับพื้นเลย
ครับแม้ง มาวันแรกก็เอาซะแล้ว อวด หนอนน้อยให้พี่เขาเห็นเข้าซะแล้ว เขาจะไล่ผมออกข้อหาอนาจารในที่สาธรณะไหม
เนี้ย พี่แกยืนกระพริบตาสองทีก่อนจะเดินหายออกไปจากหน้าประตู โอ้ย อาย คืออายมากครับ สู้ให้ไอวิน กับไอตินมาเห็น
ผมยังจะชินตาซะกว่า ! ของมันทั้งคู่ผมก็เห็นมาหมดแล้ว เรียกได้ว่า รู้ทุกจุดกันเลยละ (ใช่เวลามาบรรยายให้ฟังไหมเนี้ย)
คราวนี้น้ำตาไหล นองเลยครับ ทั้งอาย ทั้งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อไปดี ผมนั่งกุ่มเข่าร้องไหไม่กล้าเดินออกจาก
ห้องน้ำเลยผมปิดประตูห้องน้ำก่อนจะหลังไปพิงกำแพงข้างๆ นั่งกอดเข่าร้องไหอยู่พักนึงซักพักนึงผมเองได้ยินเสียงประตู
ห้องน้ำเปิดเข้ามาผมตกใจมากครับ แต่พอหันไปมองถึงได้รู้ ว่าพี่ โชน เขาไปหยิบ ผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าที่ผมถอดไว้เอามาให้
พี่เขายื่นพาเช็ดตัวมาคลุมตัวผมไว้สองผืนใหญ่ๆ แบบ ไม่อายอะไรเลย(แต่ผมอายนะอายมากด้วย) ผู้ชายอยู่ด้วยกันสอง
ต่อสองกันในห้องน้ำคนนึงไม่ใส่อะไรเลยส่วนอีกคน ! แทบจะแต่งตัวออกงานกาล่าได้เลย โอ้ว อะไรมันจะต่างกันขนาดนี้
พี่โชนเขาล้มตัวมานั่งข้างๆผมก่อนจะใช่มือนึงลูบที่หัวของผมก่อนจะดันตัวผมให้ไปซบอยู่ที่อกของพี่เขา ไม่รู้นานเท่าไหร่
จนผมเริ่มเรียกสติกลับมาได้เลยผละตัวออกห่าง พี่โชนยิ้มๆให้ผมก่อนจะแขวนเสื้อผ้าไว้อยู่ตรงราวในห้องน้ำก่อนจะเดิน
ออกไป ทันทีที่พี่แกออกไปผมรีบหยิบนู้นใส่นี้จนเสร็จออกมาในชุดพนักงานร้านกาแฟเลยละครับ ชุดนี้แบบพอดีมากเลย
ครับ (ไปแอบวัดไซด์ผมมาตอนไหนละนี้)เสื้อแขนยาวสีขาว เสื้อกั๊ก กับกางเกง สแล็ก ที่ใส่เข้ากันได้ดีมากเลย อารมณ์ด
ราม่าเมื่อกี้ของผมหายไปแล้วครับ ตอนนี้กำลัง ตกตะลึง (ในความหล่อของตัวเองอยู่ในกระจกอยู่)

〖ว่ะ ! เรานี้ก็หล่อไม่เบาเลยเว้ย เห้ย! น่าจะไปประกวดเดอะสตาร์นะเนี้ย !〗

〖น้องครับเสร็จรึยังครับ!〗พี่แกเดินเข้ามาแง้มๆ มองอยู่ที่ประตูแหม่ ไม่เปิดเขามาเลยละครับ ไหนๆ ก็เห็นกันหมดไส้หมดพุงละ

〖เอ่อเสร็จแล้วๆครับ!〗ผมก้มหน้าคุยกับพี่แกครับ ไม่กล้ามองหน้าเลย อาย ! หน้าแดงไปหมด (อาบน้ำอุ่นแล้วตัวมันจะแดงๆ อ่ะครับ ไม่รู้ว่าผมเป็นแค่คนเดียวรึเปล่า !)

〖งั้นก็ไปที่หน้าร้านเลย เดี๋ยววันนี้พี่สอนงานเอง! เออพี่ลืมแนะนำตัว! พี่ชื่อ..〗

〖พี่โชน พี่โชนใช่ไหมครับ?〗

〖เอ่อใช่ครับ ว่าแต่น้องรู้จักชื่อพี่ได้ยังไง!〗

〖อ๋อผมได้ยินน้องผู้หญิงคนเมื่อกี้เรียกนะครับผมก็เลยร้องเรียกดูเพื่อจะใช่ สรุปก็ใช่จริงๆแหละครับ ^ ^ 〗ผมเดาแม่นปะละ เออจะว่าไป ลืมซื้อหวยเว้ย !! แหม่ออกไปตอนนี้จะทันกินไหมเนี้ย

〖อ๋ออย่างงั้นเองหรอครับ พี่ชื่อพี่โชนนะ เป็นผู้ช่วยผู้จัดการของที่นี้ มีปัญหาเรื่องการทำงานอะไรสามารถคุยหรือถามพี่ได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ〗

〖อ๋อครับๆ ขอบคุณมากๆนะครับพี่ที่ช่วยผมไว้เมื่อกี้!〗หน้าผมเริ่มแดงก่ำขึ้นมาอีกแล้วครับ คราวนี้ผมมั่นใจว่าไม่ใช่เพราะน้ำอุ่นๆ แน่ๆ แต่เป็นเพราะผมหุบยิ้มเวลาคุบกับพี่แกไม่ได้ต่างหากละ

〖ไม่เป็นอะไรหรอกครับ พี่เป็นบ่อยตอนอยู่บ้านพี่ก็เป็นไม่ต้องกลัวนะพี่ไม่ใครหรอก !〗

〖แน่นะพี่! 〗

〖แน่สิ พี่ไม่บอกใครหรอกสัญญา〗 พี่แกพูดพลางบื่นนิ้วก้อยมาที่หน้าของผม ผมก็ยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวไว้กับพี่แกเพื่อทำพันธะสัญญาว่าความลับในวันนี้จะไม่มีการแพล่งพลายอย่างแน่นอน

〖ว่าแต่เราก็รู้จักชื่อพี่แล้ว แล้วเราหล่ะ ชื่ออะไร ?〗

〖ผมชื่อ JJครับ ! เรียก J สั้นๆ ก็ได้〗

〖JJ หรอ ชื่อเหมาะกับหน้าตาดีนิ่ !〗หึหึ ! พี่จะว่าผมว่าหน้าเหมือนพวกชุดชั้นในอย่างไอกายใช่ไหมห้ะ ><

〖หน้าเหมือนกางเกงในใช่ไหมพี่ !อะหึ อะหึ!〗

〖ป่าว ชื่อน่ารัก เหมือนหน้าตาดี!〗เอิ่ม ผมโดนคำพูดพี่แกสตันไปสามสิบแปดจุดเก้าห้าวินาทีเลยครับ โอ้ย!นี้ผมเขินผู้ชายด้วยกันเหรอเนี้ย สติ ลูกสติ ! หึ้บบ เก็บอาการ

〖แหม่พี่ก็พูดไปไม่ต้องรักษาน้ำใจผมหรอก ! เพื่อนผมก็บอกมาว่าหน้าผมเหมือนชั้นใน จะน่ารักได้ยังไงกันเล่า ><〗

〖หึหึ! พี่ว่าเพื่อนน้อง เจเจ คงสายตาไม่ดีกันแล้วหล่ะถึงได้มองน้องเจแบบนั้น〗พี่รู้ตัวไหมว่าพี่เป็นคนแรกเลยที่พูดได้เข้าหูเกี่ยวกับชื่อของผมได้ขนาดนี้ ! ร้องไหจะทันไหมตอนนี้ ซึ้งจัด ! 55

〖อ้ะๆขอบคุณครับ ว่าแต่ พี่โชนจะให้เจ เริ่มงานที่ตรงไหนดีครับ เจทำได้ทุกอย่างเลยนะตั้งแต่ปัดกวาดเช็ดถู ยันปีนหลังคาเลยพี่เจทำได้ทุกอย่างเลย〗ไอแรกๆ ก็อาจจใช่ครับ แต่หลังๆ นี้ไม่ละครับกลัวความสูง เป็นหน้าที่ของสาวที่แมนที่สุดในบ้านครับ พี่อินนั้นเอง 5555

〖เก่งจังเลยทำได้หลายอย่างเชียว! งั้นอย่างแรกปีนหลังคาก่อนเลยละกัน〗เอ่อพี่เขาจะรู้ไหมว่าอันหลังนี้ผมพูดเล่น

〖เอาจริงดิครับพี่โชน?〗หน้าเสียเลยสิผมอุตส่าห์โม้ไว้ซวะเยอะ ขืนทำไม่ได้นี้เสียหน้าแน่ๆ เลย

〖ฮ่า ฮ่า พี่ล้อเล่น เจเจ นี้หลอกง่ายจริงๆ เหมือนน้อง ของพี่! นิสัยเหมือนกับเจเปี๊ยบเลย〗

 หึหึหลอกผมได้นี้สนุกกันมากใช่ไหมห้ะ ถ้าไม่เห็นว่าเบ้าหน้าพี่เหมือนซีวอนนะ ผมกระโดดสกายคิ้กเข้าไปแล้วหึ !
(กระโดดถึงหรอ 555)]ลืมบอกไปพี่แกนี้สูงเกือบ ร้อย เก้าสิบแหนะ ! น่าจะประมาณ 88-89 มั้ง ดูจากรูปร่างละ
ไม่ต่างจากไอวินกับไอกายเล๊ย จะแข่ง กันสูงไปไหนเนี้ย เดี๋ยวนี้ส่วนสูงชายไทยเขาอยู่ที่ 170 กว่าๆ แล้ว 180-190 คือ
แบบ เชยอ่ะ 55555555 ปลอบใจตัวเอง เกิดมาไม่สูงก็ต้องทำใจครับ ฮือๆ! o(╥﹏╥)o

ผมเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับพี่โชนที่เดินนำผมอยู่ด้านหน้า พี่ โชนเริ่มสอนงานผมจากง่ายๆ ขั้นตอนแรกเลยก็ล้าง
ถ้วยล้างจาน ล้างแก้ว(อันนี้คือเบสิคมาก) ต่อมาก็ ปัดกวาดเช็ดถูร้าน เช็ดกระจก (อันนี้งานถนัด)! แล้วก็เก็บแก้วที่ลูกค้า
กินเสร็จมาล้างครับ กว่าจะเดินเก็บครบแต่ละโต๊ะ ก็ เล่นเอาซะขากลากเลยครับเดินไปเดินมาคือเหนื่อย!ผมเลยค่อยๆเดิน
กลับเข้ามาประจำที่เคาท์เตอร์เหมือนเดิม โอย! ปวดขาจริงๆ (คนในร้านไม่มีใครรู้หรอกครับว่าผมเจ็บขาอยู่เพราะ ไม่ได้
บอกใคร ขืนบอกไป เดี๋ยวโดนหาวาสำออยอีกครับ มาวันแรกก็ จะหาเรื่องอู้งานแล้วอะไรประมาณนี้ ครับ กลัวคนอื่นจะ
มองไม่ดี ผมเลยใส่ถุงเท้าทับไป ทั้งๆ ที่ยังเจ็บอยู่ ตอนใส่นี้เหมือนกับโดนมีดกรีดที่เท้าเลย! หืมม! ซี๊ดดด!!

〖สั่งของหน่อย!〗โอยพึ่งจะเดินมาเองขอพักซักหน่อยไม่ได้หรอ!!
〖ครับไม่ทราบว่าจะรับอะไร...〗เอ่อ!วันนี้ผมคงจะทำงานเหนื่อยมากไปใช่ไหม ถึงมองใครต่อใครเป็นไอกายมันซะหมดโอ้ยสงสัยคงจะตาลายไม่มีอะหรอกมั้ง กลับบ้านไปคงต้องกินยาสักหน่อยละ  ⊙﹏⊙ 

〖มอคค่า’โกโก้อย่างละแก้ว〗คำพูดของลูกค้าคนนี้ ดูห้วนๆ ดีเน้อ ฟังแล้วผมนึกถึงใครบางคนขึ้นมาเลยละ

〖มอคค่า โก โก้ อย่างละแก้ว ... ทั้งหมด หนึ่งร้อยหกสิบบาทครับ! สะดวกชำระเป็นเงินสดหรือบัตรดีครับ !〗

〖สด!〗อือ คือสั้นได้ใจมากครับ! ผมรับเงินแบงค์ร้อยสองใบมาก่อนจะคิดเงินพร้อมกับยื่นใบเสร็จไปให้ลูกค้าเขา

〖กรุณารอซักครู่นะครับ!〗ผมเดินไปที่ข้างๆเคาท์เตอร์เพื่อทำ มอคค่า กับโกโก้ ตามที่ลูกค้าสั่ง พอทำเสร็จผมก็เดินเอากลับมาวางให้เขาที่เคาท์เตอร์ แต่ผมก็ตกใจที่อยู่ๆลูกค้าคนนั้น เขาก็ยื่น แก้วโกโก้มาไว้ที่หน้าของผม

〖เป็นอะไรไอชั้นใน ไม่สบายหรอ ?〗

〖เห้ย! ไอกายนี้มึงเองหรอ ?〗ตอนนี้จากที่ผมง่วงๆ กำลังจะหลับ ตอนนี้ตื่นแล้วครับ หลับไม่ลงเลย! เจอมันแบบนี้ รอยยิ้มแบบนี้สายตาแบบนี้ ชัด แน่ ผมคงไม่ได้ตาฝากไปแน่ๆ ไอคนที่ยืนข้างหน้าผมอยู่ตอนนี้มันคือไอกายตัวจริงเสียงจริงอย่างแน่นอน ! มันมาทำอะไรที่นี้นะ(มาร้านกาแฟมันคงมาหาข้าวผัดกินมั้งละถามแปลกๆ ซื้อกาแฟสิเอ๋อ!)

〖เห็นกูแล้วมันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรอ?〗เออสิวะ ! วันทั้งวันที่ผมไม่เป็นอันเรียนเพราะนั่งคิดถึงมันกับเรื่องเมื่อคืนอยู่นี้แหละ โอ้ย วันนี้ ว่าจะหาทางหลบหน้าอยู่แล้วเชียวไหงมาเจอกันแบบนี้ได้วะ จะหนีก็หนีไม่ได้ !คงต้องยืนรับกรมมอยู่ตรงนี้แล้วละครับ

〖ป..ป่..ป่าวหรอก! ล..แล้..แล้วมึงมาทำอะไรที่นี้วะ ไหน..ว.ว่าจะไปแดกเหล้าบ้านไอวินมันไง!〗มันมาร้านกาแฟมันคงจะมาสั่งผัดกระเพรามั้งห่า ถามโง่ๆ อะไรลงไปวะเนี้ยโอ้ย

〖อยากกินก็เลยมา! อ่ะ กินซะจะได้โตไวๆ〗 คราวนี้มันยัดเยียดแก้วโกโก้ใส่มือผมเลยครับ แหม่เห็นกูเป็นเด็กรึไงกัน

〖แล้ววันนี้พี่ริวสุดที่รักของมึงเขาไปไหนซะแล้วหล่ะไม่มาเฝ้ามึงทำงานด้วยเหรอ ?〗

〖ไม่เสือกสักเรื่องคงไม่ตายหรอกมั้ง ครับคุณชาย!อย่างน้อยเขาก็มีที่ดีๆ ของเขาก็แล้วกัน ไม่มาเดินเพ้นพ้าน แบบ
คุณชายหรอกครับ!〗หึ้ย! พอมันพูดถึงพี่ริวผมก็เพิ่งจะนึกออก  วันนี้ผมนัดพี่ริวกับไอวินไว้นี้หว่า ว่าจะไปดูหนังกันโอ้ย
ไหงลืมซะได้วะไอเจ! ผมรีบยกดูนาฬิกาที่ข้อมือ บอกเวลา สี่ทุ่มกว่า ป่านนี้ห้างคนปิดละมั้ง คงไปไม่ทันแล้วแน่ๆ  พอคิด
ได้ดังนั้น ผมก็เรียกพี่ๆ คนอื่นให้มายืนเฝ้าที่เคาท์เตอร์แทน ส่วนผมเองก็รีบวิ่งเข้าหลังร้าน ไปถึงก็เปิดล็อคเกอร์หยิบ
โทรศัพท์ขึ้นมาดูถึงได้รู้ หืม! 132 Miss Call ? โอ้ว ร้อยกว่าสายเลยหรอ ! พี่ริวแกคงไม่ได้โกรธผมใช่มั้ย? ไอวิ
นด้วยอีกคน ป่านนี้ คงนั่งรอกันจนห้างปิดแล้วมั้งเนี้ย
〖น้องเจทำอะไรอยู่หรอครับ?〗โอ้ย ทางสว่างเดินผ่านมาพอดี ผมรีบเดินสะพายกระเป๋าก่อนจะเดินไปหาที่โชนที่เพิ่งจะเดินมาถึงที่หน้าล็อคเกอร์

〖คือพี่ โชน ครับ คือ เอ่อ..เอ่อ คือ!!〗เอาไงดีวะ ไม่กล้าพูดวะ กลัวพี่เขาจะหาว่าผมละทิ้งหน้าที่ เอาไงดีละทีนี้

〖เอ่อคือ!〗

〖จะกลับบ้านแล้วใช่ไหม กลับได้เลยนะเดี๋ยวที่เหลือพี่จัดการเอง〗ห้ะๆ! คือๆ ผมไม่ได้ฟังอะไรผิดไปใช่ไหม พี่โชนเขาให้ผมกลับบ้านได้แล้วใช่ไหม ว่าแต่พี่เขารู้ได้ยังไงว่าผมจะพูดเรื่องนี้กลับพี่เขานะ ... แต่ช่างมันเถอะ ยังไงพี่เขาก็ให้กลับแล้ว! จะยึกยักอีกทำไม

〖ใช่เรื่องนี้ไหมที่เจจะคุยกับพี่! หื้อ?〗พูดเฉยๆ ก็ได้ครับ สายตานั้น ไม่ต้องหรอกหึหึ !

〖ช..ใช่ครับขอบคุณมากนะครับพี่โชนไว้วันหลังเจจะมาทำชดเชยให้นะครับ!〗

〖 ไม่ต้องคิดมากหรอก รีบไม่ใช่หรอ! ไปสิ เดี๋ยวก็ไปเดทสาย หรอก ! 〗เอ่อเท่าที่ผมนึกออกผมไม่ได้นัดเดทกับใครไว้นะวันนี้ ไหงพี่โชนถึงคิดแบบนั้นหล่ะ! แต่ช่างเถอะรีบไปก่อนดีกว่า

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖24-01-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-01-2016 18:56:20
ผมรีบเดินออกมาจากหลังร้าน แต่ก่อนออกมาก็ไม่ลืมยกมือไหว้พี่ๆ ที่ร้านๆ รวมถึงพี่โชนพ่อพระของผม ที่อุตส่าห์เดินมาส่ง
ถึงที่หน้าร้าน ผมรีบกระโดดขึ้นรถ มอเตอร์ไซด์ของไอวิน ต..แต่ มันกลับไม่เป็นใจให้มนี้สิครับประเด็น โอ้ย จะมาเสีย
อะไรตอนนี้วะเนี้ย ! คนยิ่งรีบๆ อยู่ๆ ผมลองสตาร์ด อยู่หลายทีแต่ก็ไม่มีวีแววว่ามันจะติดอย่างที่ใจตัวเองคิดเลย เอาไงดี
ละวะทีนี้ ผมลองหันซ้ายหันขวา ไปมอง ! อืม วินมอไซด์ยังมีอยู่นี้หว่า! ไปวินเอาก็ได้วะ ผมกำลังจะเดินไปหาพี่วินมอ
เตอร์ไซด์ที่อยู่ซอยข้างๆ ก็มีเสียงเรียกทำให้ผมต้องหันกลับไปซะก่อน

〖จะรีบไปหาที่รักหรอ !ไอชั้นใน!〗 หึหึ! ใช่เวลาจะมาแควะกูไหมเนี้ย! กูไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะเว้ย

〖กูจะไปไหนก็เรื่องของกูเถอะน่า ว่าแต่มึงเถอะ ไม่มีที่จะไปแล้วรึไง ถึงมาป้วนเปี้ยน แถวนี้ อะห้ะ!〗มันไม่ตอบผม
ครับได้แต่ส่งไอรอยยิ้มเลวๆ ของมัน ส่งมาพร้อมกับสายตาที่ดูหน้าหมั้นไส้ นี้ท่าไม่ติดว่า ผมรีบอยู่นะคงได้กระโดดถีบมัน
ไปแล้ว ผมรีบวิ่งไปที่พี่วิน แต..แต่ มีผู้หญิงคนนึง มานั่งวินตัดผมไปซะก่อนครับ เห็นอย่างงี้ ผมก็วิ่งตอไม่ออกเลยครับ
หมดแรงแล้ว ตอนนี้ผมลงไปนั่งกองฟุบกับพื้นเลยครับ พอรู้สึกตัวอีกที ก็เริ่มๆ ชาที่ขาของตัวเองแล้วครับ โอ้ยสงสัยเมื่อกี้คง
จะตกใจมากไปจนลืมว่าตัวเองเจ็บขาอยู่ โอ้ย! ลุกไม่ขึ้นแล้วครับ จากที่เจ็บๆ แค่ข้อเท้าตอนนี้ลามไปทั่วขาแล้วครับ ฮึก ๆ
! แล้วผมจะทำยังไงดีละทีนี้ ไอวิน กับพี่ริวจะรอผมอยู่ไหม แล้วพี่เขาจะโกรธผมไหม?  ทำไมต้องมีแต่เรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นกับผมคนเดียวบ้างก็ไม่รู้ 

〖 ให้มันได้อย่างนี้สิวะ ชีวิตกู จะมีอะไรซวยกว่านี้ไหมเนี้ย ฆวย เอ้ยย!! !〗ไม่รู้สิครับตอนนี้ ผมไม่อยากรับรู้อะไร
จากโลกภากนอกเลย อยากจะอยู่เงียบๆคนเดียว แต่ถ้าขืนนั่งอยู่ริมถนนนานกว่านี้ละก็ ได้โดนหามเข้า หลังคาแดงแน่ๆ ผม
รีบดันตัวเองให้ลุกขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง แต่ทำไมรู้สึกตัวมันหนักๆขึ้นก็ไม่รู้ ทันใดนั้น ก็มีมือขาวๆอีกข้าง (ตอนแรกผม
ตกใจนึกว่ามือผีเห็นขาวๆมาเลย) แต่พอหันกลับไปมองถึงได้รู้ ไอ...กาย ครับ นึกว่ามันจะกลับไปซะแล้วเห็นออกมา
จากร้านก่อนผมอีก ไหงยังอยู่อีกละเนี้ย  กายมันช่วยพยุงตัวผมขึ้นด้วยแรงแขนข้างซ้ายเพียงข้างเดียว  ทั้งๆทีแขนอีกข้างของมันยังใส่เฝือกคาอยู่เลย เห็นอย่างนี้แล้ว มันจุกที่อกอยู่ลึกๆครับ 

〖นั่งดราม่าทำห่าอะไรข้างถนนเนี้ย เดี้ยวพวกก็พากันหามเข้าศรีทันยาหรอกไอนี้! 〗ช่วยกูเฉยๆ ก็ได้มั้งไม่ต้องมาแค
วะกูหรอกครับไอคุณชาย คอนนี้ผมกับมันช่วยกันพยุงสังขาล(ของผม)มาที่รถของไอกายครับ แต่ววันนี้ มันไม่ได้มาคนเดียว
นะสิ มีพี่ๆ ใส่แว่นดำสองคนเป็นคนขับรถให้! เอิ่ม ไดอารมณ์สายลับมากเลยครับ หวังว่า คงจะไม่มี การยิงกันเกิดขึ้นแถวนี้ใช่ไหม (พอดูหนังพวกบอดีการด์แบบนี้ทีไรมียิงกันทุกทีสาธุ อย่ายิงกันเลยนะ ขอให้ผมคนนี้ได้ลงจากรถก่อน นอกนั้นพี่ๆ อยากจะทำอะไรก็ทำได้เต็มที่เลยครับ ผมไม่ว่า!!!) ●﹏☉

〖ไปไหนครับคุณหนู〗อันนี้พาคนขับหันมาถามครับ! ตัวอย่างใหญ่ !แฮนซั่มมากครับ

〖ไปคอนโด〗เอิ่มกูไม่ได้จะไปคอนโดซะหน่อยปล่อยกูลงนะเว้ย แต่พูดไปก็เท่านั้นแหละครับขึ้นมาถึงขนาดนี้แล้วแถม
ยังมีสายตาของๆพี่บอดี้กาด ที่นั่งข้างหน้าสองคนมองผมผ่านกระจกอยู่นี้สิเกร็งกว่าเยอะ หลังจากขับออกมาได้สักพัก ผม
ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งแมสเสจ ไปหาไอวินมันครับ (ลาก่อนเพื่อนรัก อะซิกๆ)ซะที่ไหนเล่า ผมจะส่งไปถามมันว่าตอนนี้อยู่
ไหน แล้ว คงไม่ได้รอผมอยู่ที่โรงหนังอยู่ใช่ไหม ? แต่พอกำลังจะกด Send: มันก็โทรมาซะก่อนครับ แหม่รู้เวลาดีจริงๆ ขอเตรียมใจโดนด่าก่อนละกัน ฮึ่บ!!

〖ฮัลโหลสวัสดีครับ เพื่อนวิน!〗ถ้ากวนตีนไปตอนนี้ ผมคงได้ตีนกลับมาแน่ๆ ขอดีๆ กลับมันก่อนละกัน

〖เอ่อเจ้าของโทรศัพท์อยู่ที่นั้นรึเปล่าครับ?〗 เออนี้มึงเล่นมุขอะไรกับกุอยู่ใช่ไหม ห้ะไอวิน

〖เห้ย กุเอง เจไง มึงแกล้งจำกุไม่ได้ใช่ไหมไอวิน〗

〖อ้าวนี้มึง เองหรอ ! แหม่ คุยกับกูอย่างเพราะกูก็นึงว่าคนอื่นมารับสายแทนมึงตอนนี้มึงอยู่ไหนเนี้ย เลิกงานรึยัง?〗

〖เออ เลิกแล้ว กำลังจะไป ... คอนโดไอกาย(อันนี้กระซิบคุยกันครับ)〗เพื่อผมเป็นอะไรไปไอวินจะได้บอกกับพ่อกับ
พี่ชายของผมได้!
〖เอ่อ รีบมาดิ กูก็อยู่ห้องไอกายเหมือนกัน ที่รักมึงก็อยู่นะ สองคนเลย〗

〖ที่รัก กู ใครวะ ? เออช่างเหอะ ว่าแต่ว่า มึงกับพี่ริวนั่งรอกูที่โรงหนังนานปะวะ ขอโทดนะเว้ยที่ผิดนัดพอดีว่ากูต้องอยู่ทำงานหว่ะเลยไปไม่ได้ ว่าจะโทรไปบอกอยู่ แต่ไม่มีเวลาเลย?〗เห้อ รู้สึกผิดครับรู้สึดผิดเต็มๆ

〖อ่อกูไม่ได้ไป อ่ะ กูก็ไม่ว่างเหมือนกัน〗

〖แล้วพี่ริวละ?〗พอพูดชื่อนี้ขึ้นมาไอกายหันมามองผมตาขวางเลยครับ

〖พี่ริวหรอ ไม่รู้สิ เดี๋ยวกูถามให้ 〗

〖เห้ยๆ ไม่ต้องๆ เดี๋ยวกูโทรไปบอกเขาเอง งั้นรออยู่นั้นแหละ เดี๋ยวกูไป แปปเดียว〗

〖เออ รีบมาหล่ะ ๆ〗

〖อืมๆ ไว้เจอกัน..〗

〖ใครโทรมา?〗เอิ่มๆ กูพอเข้าใจนะว่าเรื่องบางเรื่องมึงมีสิทธิถามกุ แต่นี้มันเรื่องส่วนตัว กูคงไม่ต้องบอกกูได้มั้ง (ความคิดครับความคิด ) ผมต้องตอบมันกลับไปอยู่ดีไม่งั้นโดนอัดคารถแน่ๆ (แอ๊ะๆ) กระถืบครับๆ ใช่คำผิดที่อีกแล้วกู
= =’

〖เพื่อนวิน ของกระผมเองครับ คุณชายอยากจะคุยด้วยรึไหม กระผมจะได้ต่อสายกลับไปให้อีกรอบหึ!?〗
〖กวนตีนเดี๋ยวตบ!〗ผมเหล่ๆ เห็นมันง้างมือ ก็เลยแกล้ง สลบไปเลยครับแหม่ ไอนี้ชอบใช้ความรุนแรงกับกูซะจริง

ตอนนี้ผมรู้สึกว่ารถ จอดอยู่กับที่แล้ว สงสัยจะถึงแล้วละมั้ง ผมลองหลี่ๆตามองที่กระจกรถ ก็เห็นตึกสูงประมาณ  ยี่สิบ
สามสิบชั้นได้ครับ หืม! อยู่ที่ใหญ่โตดีจริงๆ นะไอคุณชาย คอนโดบอกฐานะมากครับ ถ้าเดาไม่ผิดผมว่ามันต้องอยู่ห้องที่
สูงๆแน่เลย   พี่ๆบอดี้กาดสองคนเดินลงจากรถมาเปิดประตูให้ผมกับไอกาย แต่กายนี้ แทบอุ้มครับ ส่วนผมหรอ หึ! คลาน
ออกมาครับ นี้ไม่คิดจะมีน้ำใจกับคนพิการหน่อยเลยรึยังไง ! แต่งตัวดำยังใจดำกันอีก(อุ้ยย! ไม่เอาไม่พูด ไม่งั้นได้เป็ฯศพ
อยู่ตรงนี้แน่ๆ เจเอ้ยย) พี่ๆ เขาพาผมกับไอกายเดินมาที่ลิฟฟ์ กดเลขชั้นไปที่ 30 แหม่ๆ เดาถูกอีกแว้วครับพี่น้อง พอประตู
ลิฟฟ์เปิดพี่ๆ เขาก็พาเดินไปส่งถึงหน้าห้อง ตอนนี้ผมมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง 602 เอิ่มเลขสวยดีแหะ!แต่ทันทีที่พี่ๆ เขากำลังจะเปิดประตูไอกายก็ค้านขึ้นมาซะก่อน

〖เอ่อ กลับกันไปได้แล้วละครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง〗พี่เขาๆนี้ก็แบบเชื่อฟังมากครับ คำเดียวรู้เรื่องเดินหนีไปขึ้นลิฟฟ์ทั้งสองคนแล้วครับ

〖กูต้องเข้าไปด้วยไหมเนี้ย ?〗ถ้าเลี่ยงได้ผมก็อย่างเลี่ยงนะ ถ้าไม่ติดว่าไอวินอยู่ข้างใน ผมคงไม่กล้าเดินเข้าห้องไปพร้อมมันสองต่อสองแน่ๆ

〖มาถึงขนาดนี้แล้ว จะรออยู่หน้าห้องก็ได้นะกูไม่ว่า?〗

ตอนนี้เป็นผมครับที่เป็นคนเปิดประตูเข้ามา ! ข้างในนี้คือแบบ ได้ฟิลมากครับ(อารมณ์ประมาณคุณหนูอะไรงี้)ภายใน
ตกแต่งสวยมากครับ ผมเหลือบๆ แอบเห็นประตูห้องน้ำที่เปิดอยู่อึ่ม! ใหญ่กว่าห้องนอนของผมอีกแหะ เดินเข้ามาได้ไม่
นานเสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้น อีกแล้วครับ ! “หมาววิน”
〖ฮัลโหลเออ จะโทรมาทำไมกูอยู่ที่ห้องมันแล้ว มึงอะ อยู่ไหนออกมารับกูที〗! ทันทีที่ผมพูดเสร็จไอวินมันก็โผล่หัว
ขึ้นมาจากโซฟาเลยครับ แหม่ สรุป นั่งอยู่ตรงนั้นกันตั้งนานแล้วใช่ไหมหน่ะ มองไม่เห็นเลย สงสัยโซฟาแม้งคงจะตัวใหญ่
เกิน บังซะมิดเลย ไอวินเดิน มาถึงก็กระโจนเข้ามากอดผมเลยครับ ดูจากสภาพแล้ว คงไปหมดแล้วหล่ะ(สติหน่ะ)มันเป็น
อย่างนี้ตอนเมาแหละครับ ผมชินละ ถ้าไม่ติดที่ว่าเดินมาเหยียบตีนกูด้วยเนี้ย กูจะชินกว่านนี้อีกนะ

〖โอ้ย มาแล้วหรอครับ เพื่อน เจ!เพื่อนวินนี่ คิดถื้งคิดถืง ไม่ได้เจอกันเลยทั้งวัน ไหนๆ มากอดให้หายคิดถึงหน่อยสิ!
อื่มม! มั่วๆๆ!!〗อี้ย!!! แค่กอดกูเฉยๆ ก็ได้มั้งจะหอมกูทำไมละเนี้ย หึ! แต่มันเมาครับ ผมเข้าใจว่ามันเมา เลยต้องปล่อยมันไป

〖พอรึยังสัดเยอะละ ๆ แล้วนี้มารอกูนานรึยัง〗

〖ก็ซักพักนึงแล้วอ่ะปะๆไปนั่งกินเป็ฯเพื่อนกูหน่อย〗เหอะๆดูจากสภาพมันแล้ว ผมว่าคงจะไม่ใช่พักนึงแล้วแหละ ! ผมกำลังจะหันไปชวน .. แต่ตัวมันไม่อยู่แล้วครับไอคุณชายเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้

ตอนนี้ไอวินพาผมเดินมาที่โต๊ะที่อยู่กลาง ห้องครับ มี คนมากันเยอะเลยวันนี้ แต่ๆ เดี๋ยวๆ นะ ไอเอิ่นมาได้ไง คือผมงง ! ที่
เหลือก็เป็นพี่ๆ น้องๆ ของไอวินมันแหละ ผมเดินผ่านบ่อยๆ เลยคุ้นหน้า ผมเดินลงมานั่งข้างที่ไอวินมันครับ มาถึงก็ ยกแก้ว
น้ำสีออกๆ ส้มๆน้ำตาลๆ(เหมือนน้ำชา แต่จริงๆ แล้วมันคือน้ำจันครับ) น้ำเมาดีๆ นี้เอง ผม รับแก้วมาด้วย มือที่สั่นๆ ไม่รู้
ทำไม่ กระดกลงคอไปกำลังจะกลืนอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่มีใครเรียกชื่อผมไว้ซะก่อน

〖เจ/เจ〗ผมหันกลับไปมองด้านข้างตามเรดาห์ที่ได้ยิน .. พรวดดด!!!!! เต็มมันเลยครับ บุคคลที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ คือ !! พิ่ริว...... กับไอติน

TBC.............................................................

เอาละสิ อดีตแฟน(คู่มั่นตั้งแต่เด็ก)กับพี่แสนดีสุดหล่อมาเจอหน้ากันครั้งแรก จะเป็นยังไงต่อไปนะ แล้วอย่างนี้หนุ่มกายของ เราจะทำยังไงต่อไปหล่ะ ไว้ติดตามกันใหม่ตอนหน้าจ้า

วันนี้มาอัพช้าไปต้องขอโทดด้วยนะค่ะ วันนี้วุ่นอยู่กับงานทำงานบ้านทั้งวันเลยค่ะ(แอบเหนื่อยเบาๆ) ! ไว้เจอกันไหม่ตอนหน้ากับพี่คิมคนเดิมค่ะ สำหรับวันนี้ บรัยย!! 


(*⌒ヮ⌒*)                  ╠ ∧ηġ ℓℯ ℓαЈ υ η Ә ღ ╣    ●ω●  

ส่วน ใครครไหนอยากเห็น รูปร่างหน้าตาของแต่ละตััวละครละก็ ไว้คราง หน้าแองจะ แนบมาพร้อมกันเลยนะค่ะ !

หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖24-01-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-02-2016 17:38:42
ตอนนี้ ผมติดเรื่องสอบเข้า มหาลัยอยู่ครับ เลยไม่มีเวาได้มาอัพตอนต่อไปเลย ไว้ผมจะลงไว้ ให้ครบอีกตอน นึง

แล้วต้อง ขอจบ EP.1 ไปก่อนนะครับ หลังจากเสร็จธุระจะมาต่อให้ใหม่ ขอโทดด้วยจริงๆ ครับ :hao5:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖13-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-04-2016 19:24:17
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter10 :  วันเฮ้งซวย!  :katai4:

〖เจ/เจ〗ผมรีบหันควับเพื่อมองหาต้นเสียงที่กำลังเรียกชื่อของผมอยู่ พรวด!! เต็มหน้าไอวินเลยครับ! น้ำเมาเมื่อครู่ตอนนี้ แบ่งให้หน้าไอวินมันกินจนหมดแล้วครับ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผม ทั้งสองคนนี้ โผล่ ไม่สิต้องเรียกว่ามาอยู่ที่นี้ได้ยังไง ถ้าหากเป็นที่อื่นๆ ผมคงคิดว่ามันเป็นแค่ความบังเอิญแน่ๆแต่ นี้ ห้องไอกาย คอนโดไอกาย ทำไมพี่ริว กับไอตินถึงมาอยู่ที่นี้ได้หล่ะ ? (นั้นแหละคือคำถามที่ผมกำลังหาคำตอบในตอนนี้อยู่)

〖เอ่อๆ สวัสดีครับพี่ริว หวัดดีวะตินน! เอ่อ มากันได้ไงครับเนี้ย !〗 ทั้งพี่ริวและไอตินยืนจ้องหน้าของผมด้วยสายตาที่ดูนิ่ง(ผิดปกติ)ไอตินไม่เท่าไหร่หรอกครับแต่ที่แปลกนี้คือพี่ริว ครับ พี่แกไม่เคยมองผมด้วยสายตาที่นิ่งและดูเย็นชาแบบนี้มาก่อนเลย หรือพี่ริวแกจะโกรธผมกันแน่ที่ผิดสัญญากับแก ในวันนี้กันแน่! โฮ้ย! เจเอ้ย ไม่น่าลืมนัดสำคัญกับพี่เค้าเล๊ย! แต่จะทำไงได้ละครับ มันผ่านมาแล้ว จะให้ย้อนเวลากลับไปก็คงทำไม่ได้อยู่ดี ไอเจคนนี้คงต้องแบกหน้ารับชะตากรรมต่อไปแล้วกัน!! หึ้ยย! o(╥﹏╥)

〖อ๋อ พอดีตินกับวินเจอกันอยู่ที่ร้านหนังสืออะ มันเลยชวนมากินเหล้าไม่คิดว่าจะเจอเจ ที่นี้เหมือนกันนะ !〗เอิ่มในที่สุดก็ยอมปริปากคุยกับผมแล้วคนนึง ส่วนอีกคนนึง ยังเงียบอยู่ครบ ยืนเก๊กหล่อท่าเดิมเลย!! โถ่ พี่ริว ครับ เจขอโทด !!

〖เอ่อ...เจ พี่...ขอโทดนะที่วันนี้ไม่ได้ไปตามที่สัญญา คือพี่มีธุระด่วนหน่ะ ต้องขอโทดด้วยจริงๆนะ!〗ห้ะๆ ! เอิ่มจริงๆ แล้วต้องเป็นผมสิไม่ใช่พี่ริวที่ต้องเป็นฝ่ายมาขอโทดเนี้ย ว่าแต่สรุปวันนี้ ไม่ได้มีใครไปตามที่ผมนัดเลยใช่ไหมโห้ย! ค่อยโล่งอกหน่อย นึกว่าพี่ริวแกจะโกรธไม่คุยกับผมซะแล้วว!

〖โอ้ย ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เรื่องเล็กน้อย! มาๆ นั่งกินกันดีกว่าพี่!มาตินมานั่งข้างๆกูนี้มา!〗เรื่องเนียนนี้ไม่ต้องบอกครับเจคนนี้เก่งตั้งแต่เกิด เนียนทุกสถานการณ์ ฮิฮิ

〖อ๊าวว!! พี่ริวมาตั้งแต่เมื่อหร่ายยคร้าบบพี่ เอื๊อก! ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย แล้วนั้นไอติน...อุ้บบ!!!อึ้ยย!〗ไม่ทันที่ไอวินมันจะพูดจบ พี่ริวกับไอติน ก็เอามือไปปิดปากของไอขี้เมาซะก่อนครับ ! เอ่อไหนว่ามาด้วยกัน สรุปยังไงๆ เนี้ย! ไว้ไอวินมันสติดีๆ ก่อนละกันไว้ค่อยหลอกถามมันที่หลัง

〖แล้วเจมานานรึยังครับ/เจมานานรึยัง〗เตี๊ยมคำพูดกันมารึยังไง ทำไมถึงพูดอะไรพร้อมกันขนาดนี้แหม่!บังเอิญเกินไปไหม

〖เอ่อ เจก็พึ่งจะมาถึงเมื่อกี้นี้เอง อะครับ!มีอะไรกันรึเปล่า? หึหึ〗บรรยากาศชักยังไงๆ แล้วสิ!

〖เอาหล่ะตอนนี้ ก็ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอเชิญคู่บ่าวสาว〗

〖เฮ้ยย!!!〗เสียงพี่ๆ น้องญาติไอวินมันครับ ไม่รู้ใครนักหนา!

〖อ๋อไม่ใช่ๆ ครับโทดๆที พอดีผมเมานิดหน่อยต้องขออภัย ขอใหม่ๆ เทสๆ ขอเชิญ แขกผู้มีเกรียด ทุกท่านดื่มฉลองให้แกพี่ต๋อง พี่ใหญ่ของเราหน่อยคร๊าบบ! เนื่องในวันเกิดปีนี้ โผมก็ขอให้พี่มีความสุขมาก ๆ ขอให้เจ็บไข้ได้ป่วย〗

〖เฮ้ยย!!〗มุขควายมากครับ แต่ต้องแกล้งๆ ขำตามน้ำพวกมันไป ไม่งั้นคงได้โดนฝ่าตีนของไอพวกที่เหลือแน่ๆ

〖อุ้บบ! ขออภัยๆ ขอให้พี่ต๋อง ของเราอย่าเจ็บไข้ได้ป่วย ! ถูกแล้ว ถูกแล้วใช่ไหม ไอเจเพื่อนรักฮึ้ม!!〗สภาพไอวินตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากหมาดเลยครับ! ไอวินมันยื่นหน้าของมันเข้ามาใกล้ก่อนจะค่อยก้มลงมาหอมที่แก้มของผมทีนึง! เอ่อผมเข้าใจครับว่ามันเมา! เพราะถ้ามันปกติดีผมคงได้สกายคิ้กใส่มันไปแล้ว ! หู้วว ใจเย็นไว้ไอเจ!! ใจเย็นไว้เพื่อนนะเพื่อน หู้ว! แต่..แต่ ผมก็เริ่มรู้สึกได้ถึง การถูกจ้องมองจากระยะประชิด เอื่มๆ ที่เฮฮา กันอยู่เมื่อกี้ ทุกเสียงกับหยุดนิ่งและหันมาสนใจผมกับไอวินแทน! พี่ๆ เขาคงไม่ได้คิดอะไรกันใช่ไหม ถ้าจะมีคนชินกับภาพพวกนี้คงมีแต่ผม กับไอตินสองคนเท่านั้นแหละครับ ที่เข้าใจตรงกันดี นอกนั้น ผมว่าเขาคงคิดกันไปไหนต่อไหนแล้วแหละ!


〖เอ่อ! เงียบ กันทำไมหล่ะ ครับ อ้าว ชนน!!!〗คราวนี้เป็นไอตินครับที่เป็นคนทำรายความเงียบสงบของทุกคนๆ ให้กลับมามีเสียงพูดคุยกันอีกครั้ง ! หู้ยโล่งอก ว่าแต่ ไอคุณชายมันหายไปไหนหล่ะ เมื่อกี้ก่อนที่ไอตินกับพี่ริวจะเดินมามันก็ยังอยู่เลยนิ่ ! ฮึ่ม สงสัยจะเพลีย เลยไปนอนละมั้ง ! นั่งไปนั่งมาผมเองก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา ทั้งวันยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยสักครั้ง ไหนๆก็ปวดแล้วขอไปปลดทุกข์หน่อยละกัน ว่า แต่ห้องน้ำมันอยู่ตรงไหนละว้า! อ๋อเมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาเห็นอยู่แวบๆ น่าจะใช่ห้องนั้นนะ
ผมรีบลุกออกมาจากวงเหล้า และเดินไปตรงห้องที่มีแสงจากโคมไฟสีส้มๆ เปิดขึ้นอยู่ข้างใน ทันทีที่ผมเดินเข้ามาถึงก็รีบกวาดสายตามองหาห้องน้ำ อ่าในที่สุดก็เจอ ผมรีบวิ่งแจ้นเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะปิดประตูลงกอนและปลดซิบกางเกงเพื่อปลดทุกข์ ฉี่ได้พักนึงผมเริ่มรู้สึกว่าท้องไส้ของตัวเองเริ่มปั่นป่วนครับไหนๆ ก็มาแล้ว เอาให้มันเสร็จที่เดียวเลยละกัน ทันทีที่ก้นผมสัมผัสกับชักโครก ก็มีเสียง ปิดประตูดังปัง !! ผมเริ่มรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที ที่ได้ยินเสียงคนที่กำลังค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆๆ ซักพักเสียงฝีเท้าก็เริ่มหายไปครับ หวังว่า มันคงไม่ได้ พังประตูเข้ามาหรอกใช่ไหม? หึหึ! บรรยากาศข้างนอกเริ่มเงียบผิดปกติครับ ผมเลยใช้โอกาส นี้รีบกดชักโครกก่อนจะค่อยๆแง้มประตูออกอย่างเบามือวู้ว! ไม่เห็นมีคนเลยแหะ สงสัยเมื่อกี้ผมคงจะหูฟาดไปเอง !หึหึ เล่นเอาซะตกใจจนขี้ไม่ออกเลย! ระหว่างนั้นเองที่ผมกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำออกกว้าง ก็เห็นมีเงาคนยืนอยู่ที่ระเบียงครับ! หึ้ย! อย่าบอกนะว่ามันคือ !!! ฮึ่บ ไม่เอาไม่พูดครับกลางค่ำกลางคืน ไม่พูดจะดีกว่า ผมรีบใส่เกียร์ที่มีวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิตละครับ คนรึผีก็ไม่รู้ ! แต่ไม่ขอเสี่ยงจะเจอดีกว่า อันตรายทั้งคู่ๆ ทันทีที่ออกมาจากห้องได้ผมก็เดินตรง เข้าไปนั่งที่เดิมเลยครับ มาถึงก็ไม่พูดอะไรกับใครหรอก กินลูกเดียว ! หหยิบจับอะไรได้ตอนนี้ เจกินหมดครับ !แก้กลัวหน่อย !

〖เจเป็นอะไรรึเปล่า?!〗ไอตินเป็นคนถามผมขึ้นมาครับ

〖ป่..ป่าวนิ่ๆ ไม่ได้เป็นอะไร〗

〖แล้วทำไมหน้าดูซีดๆ ไปทำอะไรมาหรอ หรือเจไปเจออะไรมา?〗หืม! ผมมีคู่แข่งเรื่องการเดาเป็นเพื่อนแล้วละครับ

〖เมื่อกี้..ไปเข้าห้องน้ำมาหน่ะหน้าเลยซีด กินๆ ไปเถอะไม่มีอะไรหรอก ! หึหึ〗

〖ก็อยากจะกินอยู่หรอก แต่เจ กินหมดแล้ว ให้ตินกินไหนหล่ะ?〗

〖ก็นี้.....ไงงงง〗เหล้า เบียร์ กับแกล้มอะไรที่มีวางอยู่เมื่อครู่ ตอนนี้หายไปหมดแล้วครับ ผมก้มลงไปมองที่มือของตัวเองที่หยิบจับอะไรไม่รู้อยู่เต็มไม้เต็มมือ เข้าใจแล้วละครับ ว่าของพวกนั้นมันหายไปได้ยังไง ตกใจทีไรเป็นงี้บ่อยๆ ทุกที ! ^ ^

〖งั้นเดี๋ยวกูไปเอาให้ใหม่นะ มึงรออยู่นี้แหละ〗ขณะที่ผมกำลังจะลุกเพื่อไปหาอะไรมาให้ไอตินมัน แต่มันกับรั้งมือผมไม่ให้ลุกออกไปซะนี้

〖ไม่เป็นไรหรอก ! ตินกินมาบ้างแล้ว เลยไม่ค่อยหิว เจกินเหอะ ไม่ต้องห่วงตินหรอก !〗

〖อืมม...เอางั้นอ๋อ〗จริงๆ ผมพอใจกับคำตอบของไอตินมากครับ ขี้เกรียดเดินไปหา อีกอย่างคือไม่รู้ด้วยว่าไอของที่พูดถึงกันเนี้ยมันอยู่ตรงไหน  ของห้องนี้กันแน่ (ก็ไม่ใช่บ้านผมนี้น่า)

〖อือๆ เจก็กินช้าๆ หน่อยสิเดี๋ยวก็ติดคอเอาหรอก !〗หึ!ไอตินมึงประเมินกูต่ำไปแล้วคร้าบ ข้าวผัดสองจาน มาม่าสามถ้วย กับแป็ปซี่อีกหนึ่งขวดกูยัดมาหมดแล้วครับ ของแค่นี้ไม่ระคายเคืองอะไรหรอก

〖ของแค่นี้ ไม่.. คร่อก!!โอ้ยๆ!ถั่วติดคอๆ ใครก็ได้ !!ขอน้ำหน่อย〗ผมพยายามยื่นมือของตัวเองไปทุบที่ไหล่ซ้ายของไอตินมัน แต่มันดันทำหน้าเมินแถมยัง หัวเราะผมอีกครับ ! ห่าไม่ช่วยยังจะกวนตีนอีก หึ้! หยิบเองก็ได้วะ  ผมเอื้อมตัวข้ามหัวไอติน(ต้องเรียกว่านอนแผ่ถึงจะถูก)เพื่อไปหยิบแก้วน้ำน้ำที่วางอยู่ข้างตัวมัน ! ก่อนจะยกมาจิบสามสี่ทีจนหมดแก้ว!เกือบตายแล้วไหมหล่ะกรู(เอ่อไม่เรียกจิบแล้วม้าง!)แต่ผมว่ารสชาติมันปะแล่มๆยังไงชอบกลแหะ ! ผมเลยลองยกแก้วที่ตัวเองเพิ่งดื่มเสร็จมือครู่ พอมองดูดีๆก็เห็นน้ำสีขาวๆเกือบเหลืองที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ก้นแก้วก่อนจะหันไปถามไอตินที่นั่งอยู่ข้างๆ


〖ติน นี้น้ำอะไรวะ รสชาติแปลกๆ!〗ยังครับ ยังไม่หยุดขำอีก ไม่รู้จะขำไปถึงไหน มันค่อย หุบยิ้มที่มุมปากของมันก่อนจะหันมาตอบคำถามผม

〖ไหนน..น้ำอะไรยังไง เห้ย !〗ตินมันหันมามองแก้วที่ผมถืออยู่ในมือแล้วหันไปหาแก้วที่เคยวางอยู่ข้างตัวของมันก่อนที่จะเฉลยคำตอบมาให้กับผม

〖ที่เจกินไปเมื่อกี้นั้นมัน...〗เอาละสิยึกยักไม่ตอบแบบนี้ผมว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่

〖อะไร..?? บอกมาสิ ! รึว่ามีคนใส่ยาพิษ!!!ลงไปในแก้ว เฮื๊อกก!〗คิดได้ไงละเนี้ย = =’

〖ป่าวอ่ะ..ไม่ใช่ยาพิษอะไรทั้งนั้นแหละ มันก็แค่ !.. Full Moon!〗อ่ออที่แท้ก็แค่ฟูลมูน ห้ะ!!!!! อะไรนะที่กูพึ่งจะกระเดือกลงคอไปเมื่อตะกี้มันคือฟูลมูนหรอวะ !!เอาละไง!!!

〖ฟ...ฟ..ฟ.ฟูลมูน. อั๊กกูขอสลบตรงนี้เลยเลยละกัน!!อรั๊กก!!!.〗คร่อก ! อันที่จริงมันไม่ถึงขั้นตายอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ! ที่จริงผมก็แค่แพ้อะไรส่วนประกอบอะไรบางอย่างใน Full Moon นี้หล่ะ พอกิน ไม่สิ แค่จิบไปนิดเดียวก็รู้เรื่องแล้ว หน้าแดง คอแดง ไปหมดทั้งตัว แต่ที่หนักกว่านั้นก็คือ คลิปหลุดครับ ! เวลาผมเมาทีไรมักจะมีคลิปหลุดขึ้นมาทุกที ไม่ในไลน์’ก็หน้าวอเฟสบุ๊ค นี้แหละ ! ไอตัวดีที่ไหนไม่รู้เป็นคนถ่าย ผมยังจำได้ ไม่เคยลืมตอน ม.หก ประมาณกลางๆเทอมหนึ่ง ไอวินมันหลอกให้ผมไปที่บ้านมันครับ บอกว่ามีเรื่องให้ช่วย ไอผมก็หลงเชื่อไป !นึกว่าจะมีเรื่องคอขาดบาดตายอะไร แต่ที่ไหนได้ ! สุมหัว กินเหล้ากันอยู่ในห้องกับเพื่อนๆ ของมันอีกสามสี่คนครับ(ช่วงนั้นตินอยู่ต่างประเทศเลยไม่ค่อยได้เจอผมกับไอวินวันนั้นมันเลยไม่เห็นภาพติดตา!ดีละครับที่มันไม่อยู่ แค่ไอวินเห็นคนเดียวผมก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วครับ)ตอนนั้นมันบอกว่านี้ คือ น้ำผลไม้(จริงๆมันก็น้ำผลไม้แหละ เห็นว่าผสม แอลกอฮอล์ แค่ 5%เอง ) แต่ด้วยความโง่ครับ ลิ อยากลองไง ก็รับมาแบบปลงๆ จับขวดมากระเดือกลงคอเลยครับ ! กินได้ประมาณ ครึ่งขวด หลังจากนั้นใช้เวลาประมาณ สิบนาทีครับ รู้เรื่อง โรคหื่นกามเริ่มออกลาย ! ในคลิปคือผม ! คลานไปรอบวง เพื่อหอมแก้มคนนู้นคนนี้ ! ไอหอมแก้มหน่ะไม่เท่าไหร่ครับ ประเด็นมันอยู่ที่ ไอวินมันยื่นตีนขึ้นมาแล้วผม ก็โง่ไปจูบมันเนี้ยแหละ ! ที่อายที่สุด ! ไอพวกสี่ห้าคนที่เหลือก็ไม่ห้ามกูเลยปล่อยให้กูทำอย่างนั้นอยู่ได้ ! เอาเป็นว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่ผมเคยเจอมาหลัง จากที่กิน Full Moon ไปเลยละครับ แล้ววันนี้ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยแล้วไง !! หึหึ ! ใครไม่อยากโดนไอเจคนนี้ลวนลาม ! รีบกลับห้องของตัวเองไปซะ (จริงๆ หาเชือกมามัดผมไว้เลยก็ได้ !! อย่าปล่อยให้ผมทำอะไรพวกมันเลยน้าๆ ขอร้องหล่ะ) o(╥﹏╥)o


〖ตินไอเจมันเป็นอะไรของมันว่ะนั่งหน้าจ๋อยเชียว ?〗 ถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นเสียงไอวินครับท่าทางสติของมันเริ่มที่จะกลับมาแล้ว

〖มึงคิดว่าสถาการณ์นี้เป็นเพราะอะไรหล่ะ?〗ห้ะ! พูดอะไรกันวะ พูดเสียงดังๆ หน่อยสิกูไม่ได้ยิน (หูอื้อครับ!!)

〖อย่าบอกนะว่า..〗

〖โป๊ะเช๊ะเลย!〗

〖เท่าไหร่?〗

〖แก้วนึงเต็มๆ〗

〖ตินกล้องพร้อม ! เดี๋ยวกูจัดฉาก ขอไปเรียกไอกายมาก่อนรอกูแปปนึง!〗 ก่อนที่ไอวินจะลุกไปมันก็เดินมาขยี้หัวผมเล่นครับ เอ่อออออ!! ทัมมัยมันหนักหัวนักว้า!!! (สี่นาทีผ่านไป) เริ่มกึ่มๆ แล้วครับ
สักพักนึงผมเริ่มรู้เหมือนมีคนยืนค่ำหัวหัวด้านหลัง แต่ไม่ได้หันไปมองหรอกครับ ! ขี้เกรียดหนักหัวด้วย ขอ นั่งก้มหน้าเงียบๆคนเดียวอย่างนี้ดีกว่าครับ! ⊙﹏⊙ 

〖มันเป็นอะไรของมัน?〗ไม่รู้เสียงใครครับดังมาจากข้างหลังผม

〖เมา นะสิถามได้! 〗แต่นี้มันใจว่าเป็นไอวินครับ

〖กินไปเยอะสินะ 〗


〖ป่าวแค่แก้วเดียว!〗

〖แค่แก้วเดียว กูว่ามันแกล้งแล้วแหละ !หึหึ !มึงนี้ก็โง่เชื่อมันกันเน้อคนบ้าอะไรจะเมาเพราะ Full Moon แค่แก้วเดียว 〗

〖แก้วเดียวก็เกินพอแล้วสำหรับมัน ! เดี๋ยวมึงรอดูอีกสักพักได้เห็นหนังสดแน่ๆ〗ผมไม่รู้หรอกครับมันคุยอะไรงุ้งงิ้งกัน ได้ยินมันพูดอะไรไข่เจียวๆนี่แหละ ไม่รู้ฟังถูกรึเปล่า (เวลาผมเมาฟังอะไรก็เป็นของกินไปซะหมด)ตอนนี้ น่าจะประมาณสิบนาทีผ่านไปแล้วครับ ! อ่า ได้ฤกษ์ แล้ว ไปแล้วครับ สติสตางค์ ใคร พบเจอผมอยู่ข้าง ถนน โปรด โทรเรียก 191 มารับตัวไปได้เลยย วู้วๆๆ !! นี้แหละครับ ของจริงมันเริ่มจากวินาทีนี้ต่างหาก !
................................................................



 〖เอาหล่ะ ไหนๆ ก็เป่าเค้กกันไปแล้ว วันนี้  มารวินสุดหล่อคนนี้ก็มีเกมมาเสนอให้เล่นกัน แต่ต้องเล่นทุกคนนะ ห้ามมีข้อแม้ ตกลงไหม ! 〗ทุกคนพยักหน้า อย่างเข้าใจ รวมถึงผมที่นั่งเหม่อลอย เหมือน อยากอะไรซักอย่าง(สงสัยอยากจะกินอะไรขึ้นมาอีก แหม่เรื่องนี้พลาดไม่ได้เลยจริงๆ)

〖กฎ มีอยู่ว่าท่าขวดนี้ ชี้ไปที่ใคร ! คนนั้นต้องทำตาม คำสั่งของคนที่ตูดขวดชี้อยู่! .ใครทำไม่ได้...เอ่อ ยังไม่ได้คิดบทลงโทษแหะ เอาเป็นว่าโดนละกัน โดนอะไรเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที มาเริ่มกันที่ ผมก่อนเลยละกันนะครับพี่น้อง เอาละ น้า นืง ส่อง ซั่ม!〗ผมรู้สึกเหมือนเห็นหมูหันเสียบไม้เหล็กตัวเล็กๆ กำลังหมุนอยู่ตรงหน้า ถึงจะไม่ได้กลิ่น แต่ พอได้เห็นมันอยู่ตรงหน้าอย่างนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะ หยิบขึ้นมาแล้ว ...

〖เฮ้ยย! ล็อคแขนมันไว้สิ!! ไอนี้นิ่เกมยังไม่ทันเริ่มเลย จะแดกขวดซะละ ! จับไว้นะมึง อย่าปล่อย มาๆเริ่มใหม่ๆ อ้าว !〗ผมไม่รู้ทำไมมันถึงต้องหวงหมูหันชิ้นนั้นกับผมก็ไม่รู้ ไอวินมันไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยนิ ฮึก ๆ!

〖อ่า กินซะ! 〗 ผมรู้สึกประหลาดใจที่อยู่ๆ ก็มีขาหมูน้องใหญ่ๆ(จริงๆแล้วมันคือน่องไก่ แต่ด้วยความเมาเลย... ก็นะ)  มายื่นอยู่ข้างหน้า ทีแรกก็นึกว่าตัวเองตาฝากเลยลองขยิบตาปริบๆสองสามที่ ก่อนจะค่อยๆใช้จมูกสูดดมกลิ่นเข้าไป หืมม!! คราวนี้ได้กลิ่นแหะ สงสัยจะกินได้ อ่า อ้ำ งั่ม !!! รสชาติเหมือนไก่เลยแหะ!แต่ช่างเถอะ ยังไงตอนนี้มันก็คือขาหมูสำหรับผมไปแล้วหล่ะ อิอิ

〖เอาอีกไหม ?〗เป็นตินเพื่อนรักครับ ที่ยื่นหน้ามาถามผมใกล้ๆ ก่อนจะยื่น ขาหมู(น่องไก่)มาตรงหน้าผมๆ ก็อ้าปากกินเลยสิครับ ! นานๆทีจะมีอะไรลอยมาตรงหน้าสักที !ก็ขอชิมซักหน่อยละกัน ตินมันยิ่นให้ผมอยู่อย่างนั้นอีกประมาณ สองสามครั้งมันก็ลุกขอตัวไปเข้าห้องน้ำครับ ส่วนผมก็นั่งหลังค่อมรอตินมันเลยครับ (ตอนนี้แรงจะนั่งตรงๆผมยังไม่มีเลยครับ ยิ่งไม่มีคนให้พิงหลัง ยิ่งจะหงายท้องเลยครับ ทันที ที่สติของผมเริ่มหลุดๆเหมือนจะวูบลงไปแล้ว ก็มี ตักของใครคนนึงมารับผมไว้ ก่อนจะร้องเสียงโอ้ยลากยาวทีนึงแล้วก็เงียบไป สงสัยจะเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วมั้งไวดีจริง ผมก็เลยพิงเต็มที่เลยสิครับ เริ่มง่วงๆ แล้วด้วย ! และนี้อาจจะเป็นภาพสุดท้ายที่ผมจำได้ หลังจากนั้น ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ก็คงไม่ใช่ตัวผม(ที่สติเต็มร้อย) แล้วละครับ
 ̄□ ̄
…………………………………………………………………………………… :mew5:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖13-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-04-2016 19:25:47
〖เจ ไอเจ!!!〗ผมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากเสียงคนตะโกนเรียกชื่อผมดังอยู่ลั่นห้อง ผมค่อยหลี่ตา มอง ก่อนจะกวาดสายตามองไป :katai1:ที่รอบๆห้อง อืม! ทำไมบรรยากาศในห้องนี้มันคุ้นๆวะ  เหมือนเดจาวูเกิดขึ้นอีกแล้ววะ โอ้ย ปวดหัว คราวนี้ผมตื่นขึ้นมาเต็มตาพร้อมกับอาการปวดหัว จากที่เมื่อวานเมื่อวานโง่เองครับ ซัดฟูลมูลเข้าไป เลยง่อยแดกขนาดนี้ไง ตึ้บๆอยู่ในหัวนี้แหละครับ แต่ระหว่างที่ผมนั่งก้มๆกุมขมับของตัวเอง อยู่ๆ ก็เหมือนมีใครดุ้กดิ๊กอยู่ที่ใต้ผ้าห่ม เอาละสิ นี้คงไม่ใช่ ผีผ้าห่มในตอนเช้าหรอกใช่มั้ย ? ผมพยายามรวบรวมความกล้าอยู่นาน ก่อนจะใช้ ตัดสินใจเปิดผ้าห่มออก ฟึบ!!

…………………………………… ตอนนี้สิ่งที่อยู่ใต้ห่มน่ากลัวยิ่งกว่าผีอีกครับ คนที่นอนไม่ได้สติอยู่ใต้ผ้าห่มในตอนนี้  คือไอกายครับ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์ของผมดัง ขึ้นมา จำได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ผมเลยล้วงมือไปคลำหาโทรศัพท์ แต่ก็ต้องตกใจ ชอตที่สองครับ เมื่อลองใช้มือคลำอยู่ที่ใต้ผ้าห่ม กับไม่เจอ ทั้งโทรศัพท์ (ทั้งกางเกง หึ้ย!) แล้วเสียงมันดังมาจากไหนหล่ะที่นี้ ! ผมรีบรวบรวมสติคว้าผ้าห่ม จากไอกายที่นอนสลบอยู่ข้างผม (ขนาดดึงมาซะขนาดนั้น มันก็ยังไม่ตื่นเลยครับ )หลับเป็นตายจริงๆ นะไอคุณ ชาย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นหลักครับ กลับมาที่เรื่องของผมกันดีกว่า
ผมคว้าผ้าห่มมาคลุมไว้ที่ตัวเอง ก่อนจะเดิน ไปรอบห้องเพื่อตามหาเสียงโทรศัพท์ ที่ดัง ผมเดินไปเรื่อยจนเริ่มรู้สึกว่าเสียงมันอยู่ใก้ลขึ้นทุกทีๆ จนผมเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้งเลยลองก้มไปดูที่ข้างเตียง อ่า เจอแล้วครับ ! ผมรีบหยิบกางเกง ที่ไม่มี (กางเกงในกับเจๆ)อ้าวมันหายไปไหนซะละ หมาที่ไหนเสือกคาบกางเกงในกูไปอีก คราวนี้ผมลองล้วงมือคลำๆดูใต้ผ้าห่มที่คลุมตัวผมอยู่โอ้ย รอดตัวไป นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็ยังใส่อยู่นี้เอง ทันทีที่ทราบคำตอบ ผมก็รีบหยิบโทรศัพท์ ที่ดังขึ้นมาก่อนจะกดรับไปอย่างปลงๆ (รับแบบไม่ได้มองเบอร์)แอบเห็นเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นแหะ แต่ก็ลองรับหน่อยละกัน มันคงไม่มีอะไรเซอร์ท์ไปมากกว่านี้แล้วล่ะ

〖ฮัลโหล!ส..สวัสดีครับ! ไม่ทราบต้องการคุยกับใครหรือเปล่าครับ ?〗

〖ฮัลโหลล!!!! เจ หรอ เจตื่นรึยังแล้วเป็นไงบ้าง ไอนั้นมันทำอะไรเจรึเปล่า〗อืม ฟังจากเสียงทางโทรศัพท์แล้วดูคุ้นแหะ แต่ก็คงไม่พ้นไอวินกับไอตินมันสองคนหรอกครับ

〖เออ ก็ดี แล้วเมื่อวานกูเป็นไงมั้งวะ ?〗ใช่สิอย่างแรกต้องถามอาการของตัวเองก่อนเลย ! หลังจากที่ตื่นขึ้นมา ผมก็เริ่มๆรู้สึกเจ็บๆที่ตัว แต่ที่ตกใจหนักสุดคือเจ็บที่ก้น ไม่รู้ว่าเมื่อวานมันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอะไรขึ้นกับผมบ้างรึเปล่า ?

〖มึงเมาหนักมาก จนพี่ริวเขาบอกว่าจะพามึงกลับบ้าน แต่มึงไม่ยอมกลับ บอกขอนอน ที่นี้〗

〖กูเนี้ย นะขอนอนที่นี้?〗ให้ผมนอนอยู่ที่นี้ผมขอไปนอนอยู่ข้างถนนให้รถชนเล่นซะยังดีกว่า ต้องมานอนร่วมชายคากับไอกายมันซะอีก หึหึ ! ผมไม่ได้รังเกรียด อะไรไอกายมันหรอกครับ เพียงแค่กลัว (กลัวใจตัวเอง)

〖ก็เออสิ มึงนั้นแหละ !〗

〖แล้วยังไง เกิดเหตุการณ์อะไรชึ้นอีกป่ะวะ〗

〖จะให้กูเล่าจริงๆป่ะ?〗

〖เออเล่ามาเหอะ กูทำใจไว้ละ 〗ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ o(╥﹏╥)o

〖………………………………………………บลาๆๆๆๆ!!!!!!!〗

สรุปใจความก็คือ ประมาณว่า สะดุ้งตื่นขึ้นมา ตอนประมาณ ตี สองกว่า ๆเห็นไอวินมันบอกกับผมว่า(คุยกันไปพักนึงครับกว่าจะรู้ว่าไอวินมันโทรมา แต่ใช่เบอร์ตินโทรมาหาผมแทน พอดีเมื่อคืนตินมันค้างที่บ้านของไอวินครับ !)

เมื่อวาน ไม่สิต้องเรียกว่าวันนี้ ตอนที่ผมตื่นมาก็เรียกหาแต่ไก่ๆๆ อยู่อย่างนั้น จนเพื่อนของมันหลายๆคนชักรำคาณ เลยโยนจานที่มีน่องไก่(โยนเหมือนหมาเลยแหะ= =’)มาให้กับผม แต่ยัง ยังไม่จบแค่นั้นครับ ไอวินมันยังเล่าต่อว่า หลังจากที่กินเสร็จ ก็เดิน ไปนั่งอยู่ที่กลางวง(ดีนะไม่มีใครถีบออกมา)รวมวงเล่นเกมกับพวกมัน มันบอกว่าพอผมว่าถึงคราวที่ปากขวดชี้มาที่ตัวผม ส่วนตูดขวดชี้ไปที่พี่ริว ๆ แกถามกับผมว่า (แต่ผมว่าคุยในห้องไม่ค่อยสะดวกครับ ขอใส่กางเองออกไปคุยข้างนอกห้องละกันหึหึ!)
〖น้อง..เจ มีคนที่ชอบอยู่รึยังครับ???〗 มันบอกว่าช่วงที่พี่ริวถามผม เพื่อนๆของมันทุกคน เงียบกันทั้งหมดเลยครับ และวินมันยังบอกกับผมอีกว่า ผมตอบพี่ริวกลับไปว่า ผมมีคนที่ชอบมากๆอยู่แล้ว แล้วอยู่ผมก็ร้องไหขึ้นมา (อันนี้ร้องด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่ทราบครับผมเองยังจำไม่ได้เลย) หลังจากนั้น ผมก็สลบลงไปอีกรอบด้วยอาการเมาที่เริ่มหนักขึ้น มันบอกว่าผมนั่งซัดเหล้าอะไรอยู่ก็ไม่รู้หลายแก้วเลยด้วย จนในที่สุดก็…อย่างว่าและครับ! นอนเป็นหมาอยู่กลางวงนั้นเลย

ส่วนไอวินก็ยังเล่าต่ออีกครับ ว่าหลังจากที่ผมสลบไป พี่ริวแกก็อุ้มตัวผมไปที่ห้องแต่ผมไม่ยอมไปร้องจะกลับบ้านๆ แต่ก็นะครับ คนเมาจะไปสู้คนมีสติได้ยังไงละ พี่ริวเขาเลยพาผมเข้าไปในนอน(ในห้องของไอกายหึ้ยย!!)แล้วพี่แกก็ปิดประตูไป แต่จุดที่พีคที่สุดมันอยู่ตรงนี้แหละครับ  วินมันบอกว่า พอพี่ริวเข้าไปส่งผมในห้องเสร็จ พี่แกก็ล็อคประตูด้านใน จากนั้นพวกเพื่อน มันทุกๆ คนรวมถึงไอติน เอาหูมาแนบฟังในห้อง อย่างใจจดใจจ่อเลยละครับ เห็นว่าไอ้ยินเสียงผมร้อง อิ๊ อึ๊ โอ้วว อ้าวว  อิคึๆ(หลังๆไม่ใช่ละ= =’) พวกมันได้ยินดังนั้นก็เลยกลับมานั่งที่วงเหมือนเดิมครับ มีแต่ไอคุณชายคนเดียวที่มันไม่ได้(ขี้เสือก)เหมือนพวกมันนั่งเก็กหล่อกินหล้าดูทีวีอย่างสบายใจ แต่เปล่าหรอกครับ พอวินมันเดินไปถึงก็ถามอ๊าวถามเอาว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ไอวินมันก็เล่าๆ จนอยู่ไอคุณชายก็ลุกขึ้นไปหยิบกุญแจ ก่อนที่จะมาไขประตูที่หน้าห้องนอนของมันเอง ! มันบอกกับผมว่า ไอกายดูสีหน้าเคร่งเครียดมากตอนที่เดินมาถึง(มันจะเครียดทำไมวะ! มันไม่ชอบหน้าผมจะตายชัก ) พอมันไขประตูเข้าไปมันก็เดินเข้าไปไปหาผมที่นอนไม่ได้สติอยู่ที่เตียงเห็นว่ามันกระชากคอเสื้อผมขึ้นมาอย่างแรงจนผมต้องปล่อยมือจากคอของพี่ริว(แล้วผมไปเกาะคอพี่ริวแกทำไมละเนี้ย= =’) ก่อนจะหันไปล็อคคอของไอกายแทน!

〖พี่ริว ออกมาเหอะครับ ตัวจริงเขามากันละ ! ป่ะๆ〗ไอวินมันพูดพร้อมกับดึงมือของพีริวให้ออกมาพร้อมกับมัน(มึงทำอย่างน้านทำม้ายย ไอเพื่อนชั่ว!จะปล่อยให้กูอยู่กับมันสองตัวสองเลยรึไง!เกิดกูทำอะไรมันขึ้นมาละ(ผมเองนะครับไม่ใช่มันที่จะทำอะไร)หึหึ!) จนสุดท้ายพี่ริวต้องเดินออกไปเพราะมีเสียงโทรศัพท์ของแกดังขึ้นมาสงสัยมีเรื่องด่วน! อะไร หน้าพี่ริวดูตกใจมาก ก่อนจะหันมาบอกกับไอวินว่า ฝากดูแลผมด้วย แล้วแกก็รีบวิ่งเปิ่นแนบออกจากห้องไปเลยละครับ! ไอวินก็ไมรอช้าสิครับ! จัดแจง สถานที่ให้ผมกับไอกายอยู่ในห้องด้วยกัน ส่วนมันหรอครับ !! หึหึ ! ใส่ประตูลงกลอนแล้วก็เดินออกไปครับ หลักจากนั้น เกิดเหตุการณ์อะไรอีกมันก็ไม่รู้แล้วละครับเพราะมันต้องพาไอตินไปส่งที่บ้านครับ แต่ดูท่าแล้วตินมันคงตอบอะไรไม่ได้เพราะเมา มาก จนไอวินต้องพาร่างที่ไร้วิญญาณ ของไอตินไปอยู่ที่บ้านของมัน! เหตุการณ์ทั้งหมดก็น่าจะพอสรุปได้ประมาณนี้แหละครับ

〖ปั๊ง!!〗อยู่ๆประตูห้องของไอกายก็ถูกเปิดออกครับ ผมตกใจมาก(แทนที่จะตกใจเสียงประตู แต่เปล่า ผมกลับตกใจที่เห็นหน้าของมันต่างหาก)

〖อื๊อ! ตื่นแล้วหรอ ตื่นนานรึยังกินอะไรหน่อยไหม?〗อ่ะเห้อๆ วันนี้มันมาแปลกจนผมเสียวเลยครับ(สันหลังนะสันหลังอย่าคิดเป็นอื่นกัน)

〖ก็เอ่..ออสิ ตื่นได้สักพัก แล้ว แต่ไม่เป็นอะไรหรอกไว้กลับไปกินที่บ้านก็ได้〗แต่เหมือนโดนฟ้ากลั้นแกล้ง เสียงท้องของผมดังโครกครากๆ จนไอกายมันได้ยินเสียงมันก็ยื่นเอามือข้างนึง(ที่ไม่เดี้ยงไปพิงที่ประตู) ก่อนจะยืนหัวเราะอย่างสบายใจเชิบ

〖หิวก็บอกสิ ..จะโกหกทำไม? ตามมานนี้มา!〗มันเดินออกมาจากประตูห้องผมเองก็เพิ่งจะสังเกตเห็นครับ ว่ามันใส่กางเกงบอลขาสั้น กับสื้อยืดตัวสีขาวๆ หึ้ม! มองอย่างนี้แล้วทำให้ผมเห็นหุ่นของตัวมันชัดมากเลยละครับ เห็นแล้ว มัน.... บรึ๊ยย!!! ส่วนผมที่ว่ายากกับใครแค่ไหน แต่พออยู่กับมันในตอนนี้ สถาการณ์แบบนี้ เสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้ (เสื้อผ้าไม่น่าจะเกี่ยวนะๆ ฮ่า ฮ่า)ก็หรี่มากครับ ง่ายสัดๆ อ่ะ จนผมเผลอเดินตามมันไปแต่โอ้ยย!! ลืมไปครับ ขายังพิการอยู่เลยแหม่ เพื่อ เหยียบซะเต็มแรงเลยผมเริ่มทรงตัวไม่อยู่เหมือนตัวเองกำลังจะล้มลงทันใดนั้นเองครับ(ฉากหลักๆในละครหลังข่าว) ไอกายมันรีบวิ่งเอาตัวของมันมารับผมไว้ที่ด้านล่าง ตอนนี้ผมเลยอยู่ในท่า นอนหน้าทับอกของมันอยู่ แรกผมก็รู้สึกตกใจที่อยู่ๆก็ล้มลงไปทับมันแบบนั้น แต่หลังๆ สิ่งที่ตกใจไม่ใช่ที่ผมลงไปทับมันหรอกครับ แต่ตกใจเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นดังรัวๆอยู่ที่อกด้านซ้ายของผม แต่ มันใช่แค่ผมคนเดียวไงครับ ผมรู้สึกได้ว่า สิ่งที่อยู่ในอกด้านซ้ายของไอกาย ก็เต้นเร็วและแรงไม่ต่างอะไรจากผมเลย ! ผมนอนซุกทีอกมันอยู่อย่างนั้นไม่รู้นานเท่าไหร่ จนเริ่มๆรู้สึกว่าหน้าของ ตัวเองเริ่มร้อนผ่าว(ยางอายเริ่มกำเริบแล้วครับ) ผมเลยรีบใช้มือทั้งสองของดันอกของไอกาย แล้วดันตัวเองขึ้นมา แต่ถ้าผมจะลุกคนเดียวก็กลัวจะโดนมันด่าว่าแร้งน้ำใจครับ เลยยื่นมือของตัวเองไปข้างนึกก่อนจะดึงตัวของไอกายขึ้นมาชนิดที่ว่าใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมดดึงมันขึ้นมา หื้มม! ตัวก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเลย แค่ล่ำๆ เฉยๆ แต่ทำไมแม้งหนักจังวะ !! = =’พอไอกายกับผมยื่นขึ้นมาได้ ต่างคนต่างก็ยื่นมองหน้ากัน ส่วนมือคนละข้าง ก็เกาๆอยู่ที่ต้นคอครับ! (อาการแบบนี้เขาเรียกว่าเขินใช่ไหมเนี้ย) (∩_∩) อายครับ อาย ผมรีบทำลายบรรยาการนี้ด้วยการ !

〖โอ้ยหิว ข้าวจังโว้ย !! ไหน ๆมีอะไรให้กินมั้งบ้านคุณชาย〗ผมรีบเดินไปเปิดตู้เย็นที่มีของคาวหวานมากมายอยู่ภายในหืม !!! หรือต้องเรียกว่า ของครบกันเลยทีเดียว ผมหยิบๆ จัดแจง เอาผักข้าวโพด แครอท บล็อกโคลี่ กับแต่งกว่าออกมาจากตู้เย็น พอจะเดาได้แล้วใช่ไหมครับว่าผมจะทำเมนูอะไร ใช่ครับ ! ข้าวผัดนั้นเอง แท่ม แทม แท้มมม!!! บางคนอาจจะถามไหนว่าทำกับข้าวไม่เป็นไง (เว้นแต่ข้าวผัดนี้ละครับ เป็นอยู่อย่างเดียวนอกนั้นง่อยหมด หึหึ !)

〖ทำเป็นหรอไอที่หยิบๆ มาเนี้ย ?〗 เป็นเสียงไอคุณชายที่เดินตามหลังผมมาต้อยๆ หึหึ ! อยากกินละสิมึง !

〖ระดับนี้ละ อาจารย์ยิ่งศักดิ์ นี้ศิษเก่ากูนะพูดเลย〗ตอแหลไว้หน่อยละกันจะได้ช่วยกันกะรันตี หึหึ !(ถ้ามันโง่เชื่อนะ )

〖หึหึ!ยิ่งศักดิ์หรือยิ่งแย่กันแน่จะทำอะไรก็ทำไปแต่อย่าเผาครัวกูก็พอ〗จะว่าไปมองไปรอบข้างนี้ฟอรนิเจอร์เครื่องครัวทุกอย่างยังเงาวิปวัปอยู่เลยครับ แหม่สงสัยจะไม่เคยได้ใช้เลยมั้งเนี้ย ! สภาพเหมือนพึ่งแกะถุงล้าเอามาวางไว้หึหึ ! นี้แหละน้า โรค คุณชาย มีของไว้ประดับบ้านดีจริงๆ !

…………… ผมไม่รอช้าครับ รีบหยิบจับลงมือทำอาหารเช้าให้ตัวเอง(และไอคุณชายให้มันได้ทานหึหึ แอบใส่ยาลงไปดีไหหมเนี้ย) แต่อย่าเลยผมก็กินกับมันด้วยเหมือนกัน

〖อ้ะ กินก็กิน กินไม่ได้ก็ทิ้งไป !〗 5555 ลอกยันคำพูดครับ ผมพูดขึ้นมาหลังจากที่วางจานข้าวผัดลงตรงหน้าของไอคุณชายมัน มันดูอึ้งๆ ไปพักนึงก่อนจะหยิบจาน ขึ้นมาดม (เหมืนหมาเลยแหะ 55) ก่อนจะวางลงและตกใส่ปากไปคำนึง … หึหึ ! ถ้าไม่อร่อยคงต้องโทษอาจารย์ยิ่งศักดิ์แล้วหล่ะครับ [ชั้นเกี่ยวอะไรย้ะ] เดี๋ยวๆ อาจารย์มาได้ไง 555

ผมเห็นไอคุณชายมันตั้งอกตั้งใจกินมากเลย หืม! ท่าทางคงจะไม่เคยกินข้าวผัดที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนละเซ้ !! ผมไม่รอช้ารีบตักข้าวผัดเข้าปากกินตามมันไปเลยครับ ขืนมองนานกว่านี้น้ำลายไหลแน่ๆ หลังจากที่ผมกินเสร็จก็ไม่ลืมที่จะหันไปแซวไอคุณชายมัน

〖หึ! ไม่เคยกินแล้วผัดที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนละสิ〗วันนี้ไอวินไม่อยู่แหะ ขอแควะเพื่อนมันหน่อยละกันครับหึหึ

〖ใครบอก หิวเฉยๆ เหอะ !〗เฮ้อๆ ร้องหิวกินซะเกลี้ยงกระทะขนาดนั้น เออก็คงจะจริงอย่างที่มันว่าแหละครับ แม้งล้อซะเกลี้ยงกระทะเลย ! หึหึ

〖ก็เอาที่สบายใจแล้วกัน !!〗 ครืดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

!เสียงโทรศัพท์สั่นมาจากในกระเป๋ากางเกงของผมครับ ผมเลยหยิบขึ้นมาดู เบอร์ที่โทรเข้าไม่ใช่เบอร์ของหมาวินครับแต่เป็นเบอร์ของ “แม่จ๋า” ?????????? ใครวะแม่จ๋า ? ชื่อนี้มันมาอยู่ในเครื่องผมได้ยังไง ? ขอรับให้หายสงสัยหน่อยละกัน

〖ฮัลโหสวัส......〗

〖นี้ จะไปไหนมาไหน ทำไมไม่หัดโทรมาบอกพี่อินคนสวย คนนี้ละค่ะ รู้ไหมที่บ้านเป็นห่วงกันแค่ไหน นี้พี่กับเอริน์ ว่าจะโทรหาพ่อเราแล้วนะว่าจะไปแจ้งความคนหายแล้ว ไปไหนทำไมไม่โทรมาบอกพี่ แล้วนั้นอยู่กับใครน้องวินใช่ไหมไหนๆ พี่ขอคุยกับน้องวินหน่อยสิ เปิดลำโพงเลยนะพี่จะด่าให้ตรงนี้ทั้งคู่แหละ〗

〖เอ่อพี่อินครับคื....〗

〖ไม่ต้องหือต้องอืออะไรทั้งนั้นแหละรีบเปิดลำโพงเดี๋ยวนี้เลยนะ !!!〗 เอิ่มไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะครับว่านี้ใครเสียงโหดๆ อย่างนี้มีแค่พี่อินของผมคนเดียวแหละครับ !หึหึ ว่าแต่ใครมาเม็มชื่อแกล้งผมกันแน่เนี้ย คงจะไม่พ้นพวกมันสองตัวเลยแน่ๆ เจอหน้าเมื่อไหร่ละมึงพ่อจะซัดใหเดิ้นเลย...+ ผมรีบเลื่อนนิ้วมือไปกดที่ปุ่มตรงรูปลำโพงก่อนจะยื่นไปที่หน้าของไอกาย ที่แรกมันทำหน้างง เหมือนคิดว่าผมกำลังถ่ายรูปมันอยู่ยังงั้นแหละ ผมเลยใช้นิ้วมือสัมผัสที่หน้าจอหนึ่งทีให้มันเห็นรายชื่อที่โทรเข้ามา มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับโทรศัพท์ ผมเลยดันโทรศัพท์ให้มันดูใกล้ๆ เลยครับ อย่างกะ โทรศัพท์ 3D ฮ่าฮ่า เข้าเบ้ามันไปเต็ม ๆมันเอามือกุมที่ตาของมันข้างนึงก่อนจะหันมาส่งค้อน ให้กับผมและรับโทรศัพท์ผมไปไว้ที่มือของมัน

〖ฮัลโหลสวัสดีครั......〗

〖นี้น้องวินจะพาเจไปไหนมาไหนทำไมถึงไม่โทรบอกพี่รู้ไหมว่าตอนนี้ที่บ้านวุ่นวายแค่ไหน แล้วนี้อยู่ที่ไหนกันจะกลับบ้านเมื่อไหร่ ทำไมถึงไม่พูดละ แอบทำอะไรไม่ดีกันอยู่ใช่ไหม?〗ผมเดาไว้แต่แรกแล้วแหละว่ามันคงโดนแร็ปไม่ต่างจากผมแน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ครับๆ ฮ่า ฮ่า น่าจะเอาพี่อินไปแข็งแร็ปฟันนี้นะครับ ผมว่าน่าจะได้ที่หนึ่งมาครองอย่างสบายๆ 555

〖ใจเย็นนะครับๆ ค่อยๆพูด ..ผมกายครับไม่ใช่วิน 〗

〖อุ๊ยตาย! แล๊ว !! นี้น้องกายเองหรอกเหรอ ! พี่ขอโทดจ้ะ พี่คงเมา เลยพูดออกไปอย่างนั้น จริงๆ พี่เป็นคนเรียบร้อยนะ จริงไหม !! จ้ะ น้องเจ (เสียงที่แรกก็ดูดีๆอยู่หรอกครับ แต่ทำไมพักหลังเหมือนกับกัดฟันพูดเลยละ)〗

〖คร้าบ พี่อินของผมเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมากเลยครับบ!!(ผมลองกัดฟันพูดบ้างครับหวังว่าพี่อินแกคงไม่รู้หรอกนะว่าผมทำ ฮิฮิ)〗

〖แล้วพี่อินมีธุระอะไรรึเปล่าครับโทรมาแต่เช้าเชียว ?〗(9โมง บเนคุณชายเรียกเช้าหรอครับ บ้านผม เรียกสายแล้วครับเวลานี้ !!)

〖อ๋อไม่มีอะไรหรอกจ้ะ พอดีพี่แค่จะมาถามว่าตอนนี้น้องเจของพี่อยู่ที่ไหน พอดีเมื่อคืนไม่ได้กลับมาบ้านไง พี่กับเอริ์นเลยเป็นห่วง แล้วตอนน้องวินอยู่ที่นั้นด้วยรึเปล่าจ้ะพี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ〗คงจะหาเหยื่อรายต่อไปรอฟังแร็ปอีกละสิ!

〖อ๋อไม่อยู่หรอกครับ วินมันกลับห้องมันไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ !ตอนนี้มีแค่ผม กับ..เจ สองคน〗

〖อ่อๆ พี่ก็นึกว่าเจมันเป็นอะไรไป ซะอีกเห็นโทรไปก็ไม่ยอมรับสาย  น้องเจนี้ก็จังเลย นะ จะโทรมาบอกพี่หน่อยก็ไม่ได้ปล่อยให้คนอื่นเขาเป็นห่วงอยู่นั้นแหละ หึ้ยย!〗เอ่อ ผมอยากจะบอกพี่อินจังเลย ว่าถ้าตอนนั้น สติผม เต็มร้อย อยู่ผมก็คงจะโทรไปบอกพี่อินแล้ว แต่เมื่อคืนแค่จะลืมตา ยังจะไม่ขึ้นเลยแล้วจะให้ผมเอาแรงจากที่ไหนไปโทรหาพี่อินกันละคร้าบบ

〖ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ! เดี๋ยวผมจะรีบไปส่งไอชั้นในมันถึงที่เลยครับ〗

〖ชั้นใน? อะไรหรอจ้ะน้องกาย〗

〖อ๋อๆ ผมหมายถึงเจมันนะครับ หึหึ!!〗

〖อ้อจ้ะ งั้นพี่รบกวนพาเจมาส่งที่ร้านทีนะ จ้ะ น้องกาย ^ ^〗 ทำไมเวลาพูดกับผมเสียงมันคนละโทนกันละครับพี่อิน T-T

〖ครับไม่รบกวนเลยครับ งั้นผมขอเวลาไปอาบน้ำเตรียมตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะรีบขับไปส่งให้ถึงที่เลย〗

〖จ้าๆ !〗… หลังจากที่ผมวางสายจากพี่อินเสร็จกายมันก็โทรบอกให้คนขับรถที่บ้าน(พี่เฮี้ยมสองคนนั้น)ให้ขับไปส่งผมที่บ้านโดยมี ไอกายนั่ง อยู่ด้านหลังอีกคน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะลำบากมาด้วยทำไมกัน?
……………………………………………….
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖13-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-04-2016 19:28:59
หลังจากที่รถมาจอดที่หน้าร้านผมก็รีบเปิดประตูลงจากรถไปโดย ที่ไม่ได้หันไปคุยกับไอกายเลยซักคำ ระหว่างทางผมกับมันเหมือนจะผลัดกันมองหน้า(ผ่านกระจก)พออีกคนนึงมองอีกคนนึงก็หลบสายตา เป็นอย่างงี้ตั้งแต่ ขับออกมาละครับ !

ตื้อ ดื่อ !!!
พอเปิดประตูเดินเข้ามาในร้าน  ผมก็รีบกวาดสายตามองไปทั่วร้าน (ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้นะครับว่ามองหาใคร หึหึ ! พี่อินเจ๊โหดของบ้านไงครับ)
〖อ้าววันนี้พี่อินไม่ไปทำงา.....? 〗แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค  ก็โดนพี่อินแกแร็ปใส่ซะหูดับดับตับไหม้ เหมือน ผมไปทำร้ายน้องใบตองของพี่อินแกงั้นแหละ(หลุย์) (อ่อลืมบอกไป พี่อินแกหวงกระเป๋า ยิ่งกว่าของๆ อื่นๆ ในบ้านซะอีกครับ ยิ่งถ้าผมหรือเอริน์ไปยุ่งกับน้องใบตอง ของพี่อินแกละก็ หึ!! ไม่อยากจะคิดครับ บ่นสามวันยังไม่จบเลย)
〖เมื่อคืนอยู่ไหนทำอะไรทำไมไม่บอกพี่ รู้ไหมพี่กับยัยเอิรน์ เที่ยวตามหากันซะทั่ว นี้ถ้ากลับมาช้าอีกซักแปปนึงนี้ พี่จะไปแจ้ง ตำรวจเลยนะรู้ไหม ทำอะไรอย่าให้คนอื่นเป็นห่วงสิ !〗
〖โอ๋ๆ เจก็กลับมาปลอดภัยทุกอย่างแล้ว นี้ไง เห็นไหม ครบสามสิบสองเลย นี้ไง〗
〖เฮ้อ! ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว 〗จากหน้าที่เคร่งเครียดเมื่อครู่ตอนนี้ อารมณ์ของพี่อินคงค่อยๆ ดีขึ้นแล้ว ดูจากไหนหน่ะหรอครับ (ก็ดูจาก เส้นสี่ห้าชั้นบนหน้าผากของพี่อินแกไง 555) ปล.จริงๆ ไม่มีหรอกครับ
〖แล้วไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมจ้ะ〗
〖แหม่พี่อินเจก็บอก ไปแล้วว่าเจ...〗ทีแรกก็นึกว่าพี่แกถามผมซะอีกแต่ป่าวเลยครับ รีบวิ่งกรู่กันทั้งพี่ทั้งน้องเดินเข้าไปออเซอะไอคุณชายขี้สำออย ที่ยืน ทำหน้าเหมือนคนขี้ไม่ออกอยู่ข้างหลังผม ซะงั้น ผมนี้เกบหน้าตัวเองแทบไม่ทัน ดีนะที่ช่วงที่ผมพูดไม่มีใครสนใจ ไม่งั้น ละแหกกระเจิงต่อหน้า ไอขี้สำออยนี้แน่ๆ
〖ไหนๆ น้องกายของพี่เป็นอะไรมากรึป่าว เมื่อคืน น้องเจได้รบกวนอะไรบ้างไหม?.. บลาๆๆ〗

〖พี่กายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมค่ะๆ แล้วๆ เอ่อ เมื่อคืนพี่เจได้ทำอะไรพี่กายรึป่าวค่ะ (พร้อมกับหันมาทำตาขวางใส่ผม)〗
〖นี่ๆ น้อง เอิร์น พี่ต่างหากหล่ะที่เป็นฝ่ายโดนทำ ไม่ใช่มัน คนที่เอิร์น ควรจะเป็นห่วงหน่ะ ควรเป็นพี่นะไม่ใช่ ไอกายมัน      〗
〖เอริ์นไม่เห็นว่าพี่เจ จะเจ็บอะไรตรงไหน เลย เอริ์นเห็นแต่พี่กาย เดิน กระเพกๆ เข้ามาในร้าน แถมพี่เจ ยังไม่ช่วยประคอง พี่เขา อีก ดูแค่นี้ก็รู้แล้ว ว่า พี่ เจ อ้ะเป็นคนทำพี่กายเจ็บ บลาๆๆ〗สรุป  ผมก็ ผิดไปอีกโดยปริยาย โดยที่ไม่ได้โต้เถียงหรืออะไรกลับไปเลย !!  (แต่ถ้าสังเกตดีๆ คงจะเห็น นะ ว่า ขาขอองผม ก็ไม่โอเครเหมือนกัน ) แต่จะทำไงได้  ฮึกๆ  ไอเรามันลูกเก็บ มาเลี้ยง ต่อให้โดนแทงมาปางตาย สองคนนี้ ก็ยังไม่เห็นเลยมั้ง ฮึกๆ ชีวิตของ ไอเจนั้น มันน่าเศร้า

อย่า !..... มึง อย่าพลาด บ้างละ กัน ไอคุณชายยยยยยยยยยยยย!!!!!!!! ย๊ากกก!


TBC.............................................................


 :katai2-1:

 :katai4:




สำหรับ ตอนต่อไป คิม จะรีบมาต่อให้อย่างไวเลย นะครับ ตอนนี้ คิมได้วางพล็อตเรื่องไว้หลายตอนแล้ว แต่ยังไม่ได้มาเรียบเรียงซะที ขอโทด นะครับที่หายไปซะนาน  :mew2: หวังว่า คงจะยังไม่ลืมกันเน้อ !!

#Kim Au Gon

และด้วยเหตุขัดข้องบางอย่าง ทำให้ ลิ้ง ภาพไม่สามารถใช้งานได้ชัวคราว คิมเลย มีลิ้งมาให้เพื่อที่ใครอยากจะ เห็นอิมเมจของแต่ละตัวละครอยู่ วันนี้ ขอแนะ นำแค่สามนนะครับ เพราะ ตัวละครอีกทีเหลือ ยังหาบุคลิกได้ไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ !!


<a href="http://www.mx7.com/view2/z2sQlyfjf1XscsQi" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a40/caWLMz.jpg" /></a>


<a href="http://www.mx7.com/view2/z2sQkujgowENOhZG" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/be9/7uChdm.jpg" /></a>

<a href="http://www.mx7.com/view2/z2sQk8kA6HXvrqW4" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/184/co0SgL.jpg" /></a>
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖14-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-04-2016 11:37:12
 :hao7:
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter11:  คุณสกาย&ลูกรัก และ อดีตที่ไม่ดีนัก ของ กาย&ริว


“หลังจากที่ผมกลับมาจาก ห้อง ของไอกาย ก็ผ่านมา อาทิตย์กว่าๆแล้ว ตอนนี้ อาการของผมยังไม่ดีขึ้นเท่า ไหร่
เนื่องจาก แผล ที่ขายังอักเสบไม่ยอมหาย แถมบวมอีกต่างหาก จะเดินไปไหนเองก็ลำบาก แต่พออยู่ต่อหน้าคนที่
บ้าน ผมก็ต้องแกล้งว่า ยังโอเค อยู้เพราะ ไม่อยากให้ใครต้องเป็นห่วง ถึงภายนอกพี่อินกับน้องเอริ์นจะดูกวนๆ ไม่
ค่อยสนใจอะไรผมเท่าไหร่แต่ลึกๆแล้ว สองคนนี้ ทนเห็นผมเจ็บ หรือป่วยไม่ได้หรอกครับ ถึง จะดูเหมือนไม่ใช่
อย่างนั้นก็เถอะ เคยมีครั้งนึงตอนนั้น น่าจะประมาณ 13 ปีได้แล้วมั้ง ตอนนั้นผมป่วยเป็นไข้ทับฤดู บังเอิญวันนั้น ไอวิน มาเฝ้าผมที่โรงพยาบาล ไอวินมันบอกกับผมว่าวันนั้น เห็นพี่ อินนั่ง ร้องไห้อยู่หน้าเตียง กับยัยเอริ์น (เหมือนผมตายแล้วยังงั้นหล่ะ = =’) เห็นร้องครวนครางกันอยู่พักใหญ่ จน พยาบาล ต้องเดินมา ดู พร้อมกับบุรุษพยาบาลอีกสองคน ที่เดินมา พร้อมกับมือที่ ยืน ถือผ้าสีขาวผืนใหญ่ๆ (ที่เขาเอาไว้ใช้ปิดหน้าเวลาคนไข้เสียอะครับ)อันนั้นเลยหล่ะ พอไอวิน เล่า ผมก็อดที่จะเขาไม่ได้ เห็นว่าตอนนั้น นางพยาบาล กับบุรุษทั้งสอง โดนพี่อินแร็ปใส่ซะหน้าสั่นกันทั้งหมดเลย 555 ก็พี่อินแกเล่นนั่งจับมือผมอยู่ที่หน้าเตียง แล้วก็ร้องไห้ซะเสียงดัง (คงจะดังออกไปด้านนอก)จนพยาบาลได้ยิน เลย คิดว่าผม
ม่องเท่ง  เลย ตามสองบุรษพร้อมผ้ามา . . .  หลังจากวันนั้นแหละครับ ผมเลย บอกกับตัวเองว่า ต่อให้ ผมจะเจ็บปวดมากมายแค่ไหน ผมก็จะไม่ทำให้ให้พี่อินกับน้องเอริ์นไม่สบายใจอีก ผมสัญญากับตัวเอง ตั้งแต่นั้นมา
จนมาถึงวันนี้ ผมเลยอยาก จะย้อนเวลากับไปแก้จริงๆ น่าจะบอกๆให้รู้แล้วรู้รอด ปวดขาจะตายกันอยู่แล้ว ไม่รุ้กัน บ้างเลยรึไงห๊า >< (หัวร้อนหนัก 555)

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   และด้วยวันนี้ ที่เป็นวัน อาทิตย์ ด้วยสภาพร่างกายที่เหมือนศพเดินได้อยู่ในห้อง ตอนนี้ ทำให้ผม ต้อง นอน กกอยู่ในห้อง กับ ไอโด้ (ตุ๊กตาม้ายูนิคอน )ที่ผมแอบไปจิ๊กมาจากห้องของ น้องเอิร์น ดูๆ แล้วผมว่าเจ้าตัวคงยังไม่รู้แน่ๆ ว่าตุ๊กตาของตัว ได้ถูกพี่ชายสุดหล่อ และแสนดี เอามาซะแล้ว !! หึหึ ที่หยิบมาไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผม ชอบ ที่ว่า มันมีเขาอยู่ตรงหน้า ผาก แถม ยังมีเวทย์มนต์อีกต่างหาก ผมชอบมันก็ตรงนี้ละ เลยหยิบมาโดยไม่ได้บอกเจ้าตัวซ่ะก่อน
และก็เป็นธรรมดาอีกแหละครับ ที่พอเวลา ผู้ชายๆ โสดๆ อยู่ในห้องคนเดียว เงียบๆ เหงาๆ บรรยากาศเปลี่ยวๆ ก็อดไม่ได้ที่จะ . . . . . .  หยิบบบ…. หนังสือขึ้นมาอ่านเพิ่มเติมความรู้กันหน่อย ฮ่าๆ คิดกันไปไหนแล้วนั้น 555
ผมจึงค่อยๆ พยุงตัวเอง ขึ้นก่อนจะค่อยๆ เดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ (จริงๆ ซื้อมาไม่เคยเขียนหรอกครับ) ส่วนมากจะหลับอย่างเดียว ถ ถ ถ ถ ชีวิต
ผมลองเปิดลิ้นชักกะจะหาดู หนังชื่อ (ผจญภัยในประเทศ…)มันมีหลายประเทศหน่ะครับ ที่ผมซื้อมามีประมาณ 7เล่ม อ่านไปแล้ว 4 เหลือ 3 เล่มจำไม่ได้ว่าไปลืมไว้อยู่ไหน อึมม อยู่ไหนว๊า อ๊ะ ผจญภัยที่ญี่ปุ่นน.. แต่เอ๊ะ มีสิ่งที่ดึงดูดผมมากกว่าหนังสือเล่มนี้ซะอีก สิ่งนั้นก็คือ  “หนังสือลับของนาย มารวิน เอิ่มๆ แค่ชื่อหน้าปกที่ปริ้นมาแป๊ะนี้ผมก็สงสัยมากแล้ว แต่นี้ มีชื่อไอวินด้วยอีก ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ ” ไหนๆ ก็เจอ แล้วขอลองเปิดดูความลับของมันหน่อยเถอะไอเพื่อน ทรยศ !! แต่พอเปิดหนังสือออกมาหน้าแรก เท่านั้นแหละครับ

〖อื้อหือ! เชี้ยย. .. . ด.ด.โด.จินครับพี่น้อง 〗นี้หรือคือความลับของมึงไอวิน !! มึงพลาดแล้วที่ลืมไว้ในห้องกู  แบล็คเมย์กูไว้เยอะ ขอคืนหน่อยก็แล้วกัน แช๊ะๆ !! ผมรีบจัดแจง ควักโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมถ่ายรูปเก็บเซฟไว้ทันที หึหึ!! คราวนี้มึงเสดกูแน่ ไอหมาวินน!!

.. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ตื๊ดดด!!!!!!! ระหว่างที่ผม กำลังนั่งเล่นคอมอยู่บนโต๊ะอยู่ก็มีสายโทรเข้ามา โชวเบอร์ที่ ผม ไม่คุ้นอีกแล้วครับ ใจนึกก็ไม่อยากรับหรอกครับ แต่กลัวว่าเพื่อจะเป็นพี่ที่ทำงาน โทรมา เพราะผม ไม่ได้ไปทำงานที่ร้านมาเป็นอาทิตยย์แล้ว แต่ที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นคือ ไม่ได้บอกใครเลย แม้กระทั้งพี่ซีวอน(พี่โชน) ขืนกลับไปนี้คงโดนสับเละแน่ๆ เลยไอเจเอ้ย ไม่น่าเลยตู
เอาละวะเป็นไงเป็นกัน!!

〖ฮะ.. ฮัลโหลสวัสดีคัรบ ฮัลโหล ไม่ทราบว่านั้น...〗

〖ฮัลโหลวันนี้ มึงว่างมั้ย ไอชั้นใน?〗เสียงหล่อๆ บวกด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะขนาดนี้มีมันคนเดียวเท่านั้นแหละครับ ที่พูดแบบนี้ได้

〖วันนี้กระผมไม่ว่างทั้งวันเลยครับ พอดีกำลังช่วยงานที่ร้านอยู่ ไม่ทราบว่าคุณมึงมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ? 〗

〖ก็มีนะ ด่วนมากด้วย 〗

〖เออ แล้วไงครับ ต้องให้กุไปด้วยเหรอ?〗

〖ก็คงงั้น?〗

〖แต่กูช่วยงานพี่อินอยู่มึงไม่ได้ฟังเลยรึไง?〗

〖 แต่เมื่อกี้ กูพึ่งจะคุยกับพี่อินเองนะ เขาบอกว่าวันนี้ ไม่ได้เปิดร้านนะ ?〗อ้าวกรรม สองคนนี้แอบไปคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ละเนี้ย เอ่อออ!!

〖ก้อ...ก็ งานในบ้านไง เออ ใช่ งานในบ้าน กูกำลังยุ่งอยู่เลย หึหึ หึหึ!!〗คงจะมีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละครับที่จะเชื่อ!
〖กูให้เวลา 20 นาที  มึงต้องมาถึงที่ร้านกาแฟ〗

〖บ้ะๆบ้าๆ มึงจะบ้าเหรอ 20นาที ไปร้านกาแฟ ตอนนี้เนี้ยนะ บ้าไปแล้วกูไปไม่ทันหรอก มึงโทรไปชวนไอวินเพื่อนรักมึงแทนสิ 〗

〖มันบอกไม่ว่าง〗

〖แล้วคือกูว่าง?〗

〖เพราะกูรู้ไงว่ายังไงมึงก็ต้องมา〗= =’ คือมึงไปเอาความมั่นใจอย่างนั้นมาจากไหน?

〖แต่กูไม่รับปากนะ ถ้าว่าง กูอาจจะไปแต่ถ้าไม่ว่างก็อา...〗 ╯︿╰

〖โอเคงั้นเจอกันบาย〗


ตื๊ด!!!! นี้แหละครับไอกายตัวจริง ไอจอมบงการ ⊙﹏⊙ มันมักจะชอบคิดเองเออเองโดยที่ไม่รอฟังคำตอบอะไรจากผมเลย! แต่ก็ค่าเท่ากันแหละครับ จะพูดหรือไม่พูด ก็เหมือนเดิม อยู่ดี – 3 –  เฮ้อ เกิดเป็นเจ นั้น ช่างลำบาก แต่เดี้ยว นะ มันบอกว่า 20 นาทีใช่ไหม นี้ก็ปาไปเกือบสิบนาทีแล้ว ผมยังนั่ง เอ๋ออยู่ที่โต๊ะ อยู่เลย  .. . . . . . ทันทีที่ผมคิดออก  ผมก็รีบวิ่งกรู่ชนิดที่ว่า แทบทะลุผนังเข้ากันเลยทีเดียว ผมใช้เวลาในการอาบน้ำ ไม่ถึง 5นาที  ก่อนจะรีบออกมาแต่งตัว ออกจากบ้านมา แต่..
〖เชี่ย ! ลืมรถไว้ที่ร้านกาแฟนี้หว่า ห่าเอ้ย แล้วทีนี้ จะไปไงดีละเนี้ย คิด สิเจ คิด 〗. . . . อ๋อ โทรให้ไอวินมารับดีกว่า พอคิดได้ดังนั้นผม ก็รีบหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมากดโทรออกไปที่เบอร์ของไอวินเลยทันที
. . . .  [บริการฝากหมายเลขโทรกลับ. . .]

〖ห่าเอ้ย มาปิดเครื่องอะไรตอนนี้อีกวะ〗บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่นั่ง วิน มอเตอร์ไซด์ เพราะอะไรนะเหรอครับ ผมหากระเป๋าตังของตัวเองไม่เจอ จำไม่ได้เหมือนกันว่าอยู่ที่ไหนๆ แต่พอจำลางๆ ได้ว่า น่าจะเป็นที่ร้าน รึไม่ก็ ... ห้อง ไอกาย!! เอาไงดี ละ จะเดิน ไปเลย ดีไหม ? ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว เอาก็เอาวะ

ผมรีบก้าวเท้าออกจากบริเวณหน้าบ้านของตัวเอง ก่อนจะเดินทางด้วย พาหนะคู่ใจ(เท้านั้นเอง)ระยาทางจากบ้านผม ห่างจากร้านกาแฟประมาณ 5-6 กิโล! แต่ระทางแค่นี้ เจบ่ ย่านหรอกครับ ถ้า ไม่ติดที่ว่ายังเป๋อยู่อย่างนี้ ระหว่างทางที่เดินผมก็ ก้มมอง ตามทางว่ามี ไม้เสียบลูกชิ้นหล่นอยู่ ไหม (ตอนนี้ผมเริ่มกลัวขึ้นมาละครับ ไอไม้เสียบลูกชิ้นเนี้ย)ไม่ได้การละ โดนเสียบก็ แค่ตาย แต่ ถ้าไม่ไป ก็ต้องตายอยู่ดี คงไม่มีอะไรต้องเสียแล้วสินะ จากเดินๆ ตอนนี้ผมเลยใส่เกียร์สอง ตามด้วยเกียร์สาม ตบท้ายด้วย เกียร์ 4 5 6!! ตอนนี้ผมวิ่งจวนจะถึงแล้วครับ น่าจะอีกประมาณ ร้อยเมตรได้ แต่ด้วย ขาของผมเองที่ยังไม่หายดี บวกกับตอนที่วิ่งมา แบบไม่คิดชีวิต ทำเอาลืมเจ็บ ไปเลย แต่พูดมารู้สึกตัวอีกที ผมเองก็พยุงตัวเองแทบจะไม่ไหว ..แต่ไม่ได้สิ ไหนๆ ก็จะถึงแล้ว อดทนอีกนิด ไอเจ จะถึง แล้ว  จะถึงแล้ว ฟุ้บบ

〖โอ้ยย.. .〗แต่เอ๊ะ ทำไมหน้าของผมถึงไม่คว่ำลงไปนอนกับพื้นซะละ ดูจากการวัดระยะเมื่อกี้แล้ว ไม่น่าพลาดนิ่ ผมค่อยๆ หลี่ตามองบุคคลที่ยื่นแขนดึงตัวผมจากด้านข้าง

〖เกือบไปแล้วไหมละ!!〗 เป็นพี่ริวครับ ดีนะที่ช่วยดึงผมไว้ไม่ให้ลงไปนอนยิ้มอยู่ทางฟุตบาตร

〖พี่ ริว. . .〗และนั้นก็เป็นภาพเห็นสุดท้ายที่ผมได้เห็น ก่อนจะไปปรโลก (ซะเมื่อไหร่ละ)



[ณ บ้าน พี่ริว :>]

ผมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาหลัง จากที่รู้สึกเย็นๆ บริเวณ หน้าผากก่อน จะค่อยๆ หลี่ตามองไปรอบๆ  แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อ..
〖เหี้ยย!〗บุคคลที่ผมเห็นอยู่ตตอนนี้ไม่ใช่พี่ริวครับ แต่เป็นไอวินมัน (มาได้ไงวะ)

〖เอ้ย อะไร ๆ มึงเป็นอะไร ห้ะ เมาแดดจน หลอนเหรอ!ห๊ะ〗


〖ตอนนี้ กูอยู่ที่ไหน วะ!〗


〖วังจุฑาเทพมั้งสัด ห่าถามแปลกๆ ก็ในห้องหน่ะสิ〗


〖ต้องไม่ใช่บ้านมึงแน่ๆ〗

〖ทำไมวะ?〗

〖กุมั่นใจว่าบ้านของมึงต้องไปสะอาดแบบนี้แน่!〗

〖ปาก ดี สัด งั้นกู ไม่เช็ดแม้งละ ตัวเตอเนี้ย รู้งี้ปล่อยแม้งน่าจะปล่อยให้นอน ดม ฟุตบาตร อยู่อย่างนั้นแม้ง
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖14-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-04-2016 11:37:54
〖เออๆ กูขอโทด แต่มึงคงไม่ได้ถุ้ยน้ำลายมาเช็ดหน้ากูหรอก ใช่ไหมม?〗

〖อยากไหมละเดี๋ยวกูจัดให้ซักดอก !ข๊ากกกกก!!〗

〖โอ๊ะๆ ผมล้อเล่นครับ พี่วิน อย่าทำผมเลย ครับ ผมไม่สู้คน〗รอให้กูหายดีๆ ก่อนเถอะมึง !!!

〖แล้วสรุปกูอยู่ที่.. .〗

〖บ้านพี่เองครับ น้องเจ ! ไม่ต้องลุกนะเดี๋ยวจะปวดหัวเอา    อ้ะนี้พี่ให้ป้าอิ่ม ทำข้าวต้มมาให้ กินเสร็จแล้วจะได้กินยาตามแล้วนอนพักผ่อนซะนะ 〗

〖แล้วผมมาอยู่ที่นี้ได้...〗

〖ก็เจ เป็นลมหมดสติ อยู่ตรงทางฟุตบาตรก่อนใกล้ๆกับร้านกาแฟหน่ะ บังเอิญ พี่ไปทำธุระแถวนั้นพอดี เห็นเจ รีบวิ่งมานึกว่ามีธุระอะไรพี่ก็เลยออก ไปดู แต่ ยังไม่ทันที่พี่จะได้พูดอะไร เจก็สลบล้มลงไปซะก่อน   〗

〖ร้านกาแฟเหรอ นั้น สิ เราจะไปทำอะไรแถวนั้นว้า คิด สิคิด เห้ยยย!!〗

〖อะไรๆ กูป่าวนะ กูไม่ได้แอบกินข้าวต้มมึงเลยแม้แต่นิดเดียว ป่าวเลยกูไม่ได้ทำอะไรเลยย〗บางที คนร้ายมักจะเสียทีเพราะความตกใจนี้แหละครับบ หึหึ !! แต่เรื่องนี้ไว้ก่อน ผมต้องรีบไปที่ร้าน ก่อน เพราะไอกายมันอาจจะรอ ผมอยู่ก็ได้ ผมไม่ชอบ เลย จริงๆ ที่ต้องปล่อยให้มันรอ  ผม กลัว กลัวว่ามันจะเป็นอะไรไปเพราะผมเหมือนคราวที่แล้วอีกก !

〖ผมต้องไปรีบไปแล้วละครับ ขอบคุณมาก นะครับ พี่ ริวที่อุตส่าห์ช่วย ผมไว้ ขอบคุณมากจริงๆ 〗

〖เจ จะไปไหน ขาของเจ ยังไม่หายดีเลยนะ พี่ว่า เจนอนพักดีกว่าไหม ?〗

〖ไม่ได้หรอกครับพี่ ริว ผมต้องรีบไป ที่นั้นก่อน〗

〖ที่นั้นแล้วมันที่ไหน ของมึงวะ〗

〖เออเหอะน่าที่ไหนก็ช่างแม้งมันสิวะ !!!! กูรีบ〗


〖เฮ้ย เจ กู ขอโทษ กุไม่ได้ตั้งใจ กูไม่รู้ว่ามึงมีธุระสำคัญขนาดนี้นี่หว่า 〗อยู่ๆ ผมก็เผลอ ตะคอกใส่ไอวินมันโดยที่ไม่รู้ตัวเลย

〖ไม่หรอกกูขอโทด ละกันที่ตกคอกใส่มึง〗

〖เออ ไม่เป็นไรแล้ว นี้มึงจะรีบไปไหน ให้กูไปส่งไหม?〗

〖ร้านกาแฟ〗

〖ร้านกาแฟ? ที่ไหน วะ〗

〖ก็ที่ที่กูทำงานอยู่ไง〗

〖แต่นี้มันจะห้าทุ่มอยู่แล้วนะ ร้าน กาแฟที่ไหนเขาจะเปิดดึกขนาดนี้?〗ทันทีทีผมได้ยินไอวินมันพูดดังนั้น ผมก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วก็ไปหยุดอยู่ที่นาฬิกาไม้เรือนใหญ่ชี้ไป ที่ เลข 11 แสดงให้เห็นถึงเวลาห้าทุ่มกว่าๆ ไมได้การแล้ว ผมพยายามพยุงตัวเองขึ้นออกห่างจากเตียง แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ ไม่ค่อยเอื้ออำนวย เลยต้องให้ไอวินเข้ามาช่วยผมอีก แรง

〖สำหรับเรื่องวันนี้ผมขอบคุณมากๆ นะครับ พี่ริว ไว้ ผมจะมาชดใช้ให้ทีหลังนะครับ ตอนนี้ผมขอตัวก่อน...〗
ผมไม่ยืนรอฟังคำตอบใดๆ รีบสะกิดให้ไอวิน ช่วยพยุงตัว ผมออกมาจากห้อง ก่อนจะเดินลงไปที่ด้านล่าง

〖เออวิน  ตอนมึงไปเอามอไซด์ มา มึงเห็น เป้ ของกูบ้างไหม?〗

〖เป้ เหรอ เท่าที่กูดู แล้วไม่มีนะ มีอะไรรึป่าว?〗

〖ป่าวๆ กุแค่คุ้นๆว่าลืมไว้ที่รถมึง(รึไม่ก็ห้องของไอกาย) ช่างเหอะรีบไปกันดีกว่า〗
................................................................

ระหว่างทางที่ขับรถมา ไอวิน มันเอาแต่บ่นๆ ว่าผมจะมาที่ร้านทำไม เวลานี้ ไม่มีใครอยู่ แล้ว หล่ะ แถมร้านก็ค
ปิดด้วยแล้วมั้ง บลาๆๆ! ผมขอให้วันนี้มีลูกค้าเยอะๆ ด้วยเถอะ (เวลามีลูกค้าเยอะร้านจะปิดตอนดึกๆ)
ไอวินใช้เวลาในการขับรถประมาณ 15 นาที ตอนนี้ ผมก็มายืนอยู่ที่ร้านกาแฟ แล้ว  แสงไฟหน้า ร้าน ยังเปิดอยู่ทำให้ผมรู้ว่าตอนนี้ ร้าน คงยังไม่ปิด(แสงไปเหล่านั้นทำให้ผมเริ่มที่จะมีความกล้าอีกครั้ง)ครั้งนี้ คงเป็นโชคของผมแล้วละ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ทันทีที่ผมกำลังจะก้าวเดินเข้าไปในร้าน ก็มีเสียงของไอวินเรียกชื่อผมไว้ซะก่อน

〖เห้ยเจ ! มึงมีเรื่องอะไรจะบอกกับกูรึป่าว ?〗เรื่อง ที่ยังไม่ได้บอก เหรอ ? เท่าที่ผมจำได้ตอนนี้ผมไม่ได้ปิดบังอะไรมันนะ

〖ก้อ.... ป่าวนิ่ ไม่มีอะไรนี้หว่าทำไมวะ?〗

〖ป่าวหรอก กูก็แค่แปลกใจ ที่อยู่ๆมึงก็ตะคอกใส่กู ทั้งๆที่ มึงไม่เคยทำมามันมาก่อนเลย 〗จะว่าไปก็จริงอย่างที่ไอวินมันพูดแหละครับ พวก ผมสามคนตั้งแต่คบกันมา ยังไม่เคยมีครั้งไหน ที่คุยกัน แล้วต้องใส่อารมณ์โมโหกันเลยสักครั้ง นี้คงเป็นครั้งแรก ที่ ผมตะคอกใส่ มันคงจะตกใจน่าดูแหะ แต่จะทำไงได้ละก็ธุระของผมมันสำคัญจริงๆ นี้นา แต่ยังไงผมเองก็แอบรู้สึกผิดไม่ได้ที่ไปทำ ตัวอย่างนั้นกับเพื่อนอย่าง ไอวินมัน

〖เออๆ กูขอโทดมึงละกัน พอดีตอนนั้นกูรีบวะ กูแลบพูดออกไปอย่างนั้น〗

〖มึงไม่ต้องขอโทด หรอก ! กูไม่ได้โกรธอะไรมึง ว่าแต่มึงไม่รีบเข้าไปแล้วเหรอ〗

〖เชี่ย .. เออลืมเลยไงมัวแต่พากูคุยอยู่นั้นแหละ ไอห่า 〗

〖แล้วยังไง ให้กูรอรับกลับเลยไหม?〗

〖ไม่ต้องอะ กูหาทางกลับเองได้น่า แถวนี้ถิ่นกูนะมึง ห่า ลืมไปแล้วรึไง〗

〖เออ ถ้ามีอะไร ก็โทรมาบอกกูนะ เออ แล้วก็ พรุ่งนี้ตอนสายๆ เดี่ยวกูมารับไปทำแผล อย่าลืมติ่นด้วยหล่ะ〗

〖คร้าบบ !〗

〖เออไปได้ละ ! เดี๋ยว ผัมมึงรอนาน〗

〖ผัวพ่อ..〗ยังไม่ทันที่ผมจะด่าไอวินก็ขับรถหนีไปแล้วละครับ แหม่ แต่เดี๋ยว นะ ไอวินมันรู้เหรอ ว่า ผมจะมาพบกับ ใคร หึ้ย ไม่หรอกมั้ง มันอาจเดาๆ มั่วๆ ไปงั้นเอง คิดมาก หน่ะ แต่ช่างเถอะตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่า

〖เอาวะ !!〗ผมสูดเอาออกซิเจนเข้าปอด สองสามที ก่อนจะ เดินเข้าไปด้วยความมั่นใจที่มีอยู่เต็มร้อย .. แต่พอเห็นหน้า พี่โชน ที่ยืนอยู่ตรงเค้าเคอร์ บวกด้วย บรรยากาศวังแวงภายในร้านที่มีลูกค้าอยู่เพียงคนเดียวภายในร้าน ทำเอาความมั่นใจผม กลับ เป็น

〖สะ..สะ หวัดดีค ะ..ครับ พี่โชน〗

〖อ้าวเจ หายไปไหนมา ตั้งหลายวัน ทำไมไม่เห็นบอกใครไว้เลย〗 แง่ว! สิ่งที่ผมคิดไว้คงเป็นคนละอย่างกับสถานกาณ์ตอนนี้แหะ ที่ผมคิดไว้คือพี่ โชนแก คงแร็ปใส่ผม  และคงไล่ตะเพิดออกมาจากร้านเลยบัดดล  แต่กลับกันซะงั้นกลับ เปนห่วงเป็นใย ผมซะอีก หึก ๆ!! ได้ยินอย่างงี้แล้วมันจุกๆ อยู่ในอกเลยครับ

〖พอดีผมเจ็บขาอยู่หน่ะครับพี่โชนเลยมาทำงานไม่ไหว〗

〖อ้าว แล้วทำไมไม่เห็นโทรมาบอกที่ร้านหล่ะพี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง〗

〖เอ่อ... คือ ผม ..ไม่มีเบอร์ใครที่ร้านเลยอะครับ〗

〖น่าจะบอกพี่ให้เร็วกว่านี้นะ = =’ เอาโทรศัพท์ มาเดี๋ยวพี่ เมมเบอร์ให้〗ทันทีที่พี่โชนพูดผมก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะยื่นไปให้กับพี่โชน

〖อ้ะ เสดแล้ว มีอะไร ก็โทรหาพี่ได้ตลอด 24 ช.ม นะ 〗

〖โทรหาพี่?〗

〖ใช่ !อย่าบอกนะว่าเบอร์ที่ให้มานี้ไม่ใช่เบอร์ของที่ร้าน แต่เป็นเบอร์ ส่วนตัวของพี่แก !!! หึหึ ! ได้เบอร์คนดังแล้วกู 555

〖โอเครครับบ〗

〖แล้วเจ พร้อมกลับมาทำงานวันไหนเหรอ?〗

〖เอาเป็นพรุ่งนี้เลยครับ แฮ่ๆ 〗

〖เอางั้นเหรอ อืมๆ ตกลง งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ พี่ขอไปจัดหลังร้านก่อน!〗หลังจากที่พี่แกพูดจบก็เดินหันหลังใส่ผมเดินตรงเข้าไปที่ประตูด้านหลังเค้าเตอร์เลย

〖โอเคร ครับ .. แต่ๆ พี่โชนๆ ครับพี่โชน〗

〖ว่าครับน้องเจ?〗พี่นหันหลังกลับมาก่อนจะทำสีหน้าที่ดู งง ๆ

〖เออ คือวันนี้ มีลูกค้า ผู้ชาย ที่ตัวสูงๆ ขาวๆ หน้า  ขี้เก๊ก มาที่นี้บ้างไหมครับ〗

〖ใช่คนที่ชอบ ปัดผม ไว้ด้านขวาด้วยใช่ไหม?〗

〖ใช่ครับไอนั้นแหละ ตอนนี้มันอยู่ที่ไหนเหรอครับ?〗ทีท่าของพี่โชนดูเงียบๆ ไปพักนึงก่อนจะตอบคำถามผมกลับมา

〖ก็ .. ข้างหลังเจไง?〗อึ๊ก!!! หลังจากที่ผมได้ยินคำตอบจากพี่โชน ผมก็เริ่มรู้สึกได้ถึงพลังงานบาง อย่างที่ กำลังยืนจ้องมองผมจากด้านหลัง !! หวืยยย!! ขนาดผมยังไม่ได้หันหลังกลับไปมองนะเนี้ย ยังเสียวสันหลังได้ถึงขนาดนี้ ถ้า หันไปเจอจังๆ นี้ไม่ช็อคเลย เหรอ ! ผมค่อยๆ หันหลังไปสบตาวิ้งๆ กับไอคนด้านหลังก่อนจะต้องตกใจเมื่อ … คนที่ยืนอยู่ข้างหลังของ ผม ไม่ใช่ ไอกาย ครับ แต่เป็น พี่พนักงานอีกคนในร้านต่าง หาก ! ผมรีบเดินหลักทางให้พี่เข้าก่อนจะหันไปส่งค้อนให้พี่โชน

〖โถ่ พี่โชน ผมตกใจหมด นึกว่ามันอยู่จริงๆ ซะอีก !〗แต่ ..ถ้านี้ไม่ใช่ไอกาย แล้วผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้างๆหน้าต่างนั้น ใครละ คงไม่ใช่ ...  ผมค่อยๆ ย่อง เข้าไปใกล้ๆก่อนจะใช่นิ้วสะกิด จิ้ม

〖เอ่อ นี่ๆ〗 ผมใช้นิ้วจิ้มสะกิดเบาๆ ที่ไหล่ ของ บุคคลที่นั่งจิมกาแฟอยู่บริเวณ ข้างๆ กระจก ก่อนที่เขาคนนั้นจะค่อย หันหลังมาช้าๆ ขณะเดียว กัน ผมก็หลับตาพริ้ม รอลุ้นว่าคนที่ กำลังหันมานั้น ใช่ไอกาย รึเปล่า แต่ ก็ ! ไม่ใช่อยู่ดีครับ

〖มีอะไรรึป่าวครับ ?〗

〖อ๋อขอโทดทีครับ พอดีผมจำคนผิด หน่ะ 〗หลังจากนั้น ผมก็ยืนก้มหน้าขอโทด พี่เขา ไป แล้วก็ก้มลงเก็บเศษหน้าของตัวเองที่ทำหล่นไว้

เห้อกูนี้ก็เพ้อเจ้อเน้อ ใครมันจะบ้ามานั่ง รอ เป็นๆ สิบๆ ชั่วโมง ญาติก็ไม่ใช่ คน สนิท ก็ไม่ใช่ เพื่อน……..ก็เกือบจะใช่  แต่ช่างมันเถอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรไปขอโทดมันก็แล้วกัน ดึก แล้ว กลับบ้านดีกว่า แต่ก่อนจะกลับผมก็ไม่ลืมที่จะไปบอกลา พี่ๆ ทุกคนในร้าน ก่อน ถึงผมจะขาดไปเป็นอาทิตย์กว่าๆ แต่ที่แปลก ก็คือพี่ๆ ทุกคนไม่บ่นรึดุด่าผมเลย ซักคำ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนยังส่งใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม เหมือนวันแรกๆ ที่ผมเข้ามาทำงาน เฮ้อ! แต่ถึงยังไงผมก็ยังรู้สึกผิดกับตัวเองลึกๆ อยู่ดี

ทันที ที่ผมออกมาจากในร้านผมก็หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมา กะว่าจะโทรหาให้ไอวินมารับซะหน่อย ที่สิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ โทรศัพท์ของผมตอนนี้ คือ ราย ชื่อ สายที่ไม่ได้รับ ……. 146สาย ?? ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เป็นชื่อ ของ (เจ้าหนี้หน้าเลือด)
ไอกาย ครับ  ผมรีบกดเข้าไปดู เบอร์ที่โทรเข้ามาล่าสุด ประมาณ 5 นาทีที่แล้ว แต่ ทำไมผมถึงไม่ได้อะไรเลยละ ตายๆ ไอคุณชายมันต้องฆ่าผมหมกป่าแหง่มๆ ไม่ได้การ ต้องโทรกลับไปหามันซะหน่อย ขณะ ที่ผ.ม กำลังโทรศัพท์ กลับ ไป หาไอคุณชาย ภายในร้าน ก็เปิดเพลง รักๆ อะไรซักอย่าง ฟังดูแล้วคุ้นๆ ดีแหะ แต่ช่างเรื่องของเพลงมันก่อนเถอะ ตอนนี้สิ่งที่ผมกำลังกังวลอยู่ก็คือ ไอกายมันจะโกรธ ผมอยู่มั้ย?
รับ สิๆ ๆ ! (แตงโมจ้า แตงโม อร่อย สดๆ หวานๆ ทางนี้เลยนะ จ้ะ เชิญมาลองชิมก่อนได้เลยจ้า แตงโม จ้ะ แตงโม)(ใครมาขายเวลานี้กัน = =’)
.. อ่ะ ติดแล้ว…. เอาละตั้งสติน้า ตั้งสติ ! 

〖ฮัลโหลไอคุณชาย.....ฮัลโหลอ้ายย!〗

〖เออมีอะไร ?〗เสี่ยงของมัน ดูนิ่งๆ ชอบกล

〖อ๋อๆ ป่าว หรอก กูแค่จะโทรมาบอกว่า...〗

〖มึงมีอะไรจะพูดกับกูใช่มั้ย?〗

〖เอ่อ..จะว่างั้นก็ได้ แต่. ตอนนี้มึงอยู่ไหนอะ〗น้ำเสียงของผมดุอ้อยอิ่งลงทุกทีเวลาคุยกับมัน

〖ข้าง..〗

〖ข้าง ....อะไรวะ ?〗

〖ข้างหลังมึง?〗พึ่บๆ ทันทีที่ไอกายมันพูดจบ ผมก็เริ่มรับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่ กำลัง ยืนหันมาจ้อง ผมจากด้านหลัง กุว่าแล้ว ทำไม เมื่อกี้ ก่อนมัน จะรับ สาย ทำไมขึ้นกูถึงลุก หวืยยย !!  ผมรีบกดตัดสายจาก เบอร์ปลายทางก่อนจะค่อยๆ หันไปสบตากับไอคุณชายมัน


〖คือ ... เอ่อ .. กาย เรื่องวันนี้ กู ... 〗ตอนนี้ผมรู้สึกผิดมากๆ ครับ ยิ่ง เวลาสบตากับมันแล้วพูดไปด้วยเนี้ย สั่นไปทั้งตัวเลยครับ
〖มึงรู้มั้ย ว่ากุ นั่งรอ มึงกี่ชั่วโมง?〗จะกี่ชั่วโมงผมก็ไม่สามารถรู้ได้ ถึงจะเป็นแค่ชั่วโมงเดียว แต่การที่ผมสายเกินกว่า 20 นาที ที่มัน กำหนดไว้ ยังไงผมก็ผิดอยู่ดี ไม่สามารถ โต้เถียงอะไรมันกลับไปได้เลย

〖กู... ไม่..รู้  แต่ถึงยังไง กู ก็ขอโทษ นะ ที่ไม่ได้มาตามที่นัดไว้ คือ กู มีธุรด่วนมากจริงๆ เลยต้องไปที่ นั้นก่อน〗 คืนบอกไปว่าเหตุที่ผมไม่มา เพราะ ผมเป็นลม แดด ล้มอยู่ข้างถนน มันคงหาว่าผมโม้ อีกแน่ๆ

〖คงสำคัญมากเลยสินะธุระของมึงอะ มึงคงเตรียมใจไว้แล้วใช่ไหม ว่ามึงต้องโดนอะไรบ้างต่อจากนี้〗เออ ยังไงกูก็คงไม่รอดจากเงื้อมมือของมึงอยู่ดี อยากๆ ทำอะไรก็ทำ ก็เตรียมใจมา แล้ว T_T

〖คงไม่มีอะไรหน้ากลัวกว่ามึงตอนนี้แล้วแหละ〗 ผมแอบพูดโดย หันหน้าไปทางอื่น (กลบเกลือน)ดีไหมละ

〖มึง ว่าไงนะ?〗

〖อ๋อป๊าว!!!!! 〗วุ้ยย หวิดอายุไขสั้นแล้วกู (ขาสั้นยังไม่พอ = =’)

〖นินทากูอยู่ละสิ แต่ช่างเถอะ ยังไงมึงก็ทำอะไรกูไม่ได้อยู่แล้ว 〗ทำไมมึงถึงมั่นใจขนาดนั้นหล่ะครับ ไอคุณชายย !! >< แต่ก็จริงอย่างที่มันพูดแหละครับ ผมก็แค่ล้าพูดแต่ไม่กล้าทำอะไร มันหรอก !! แต่ถ้าเป็นไอวิน หรือไอติน นี้ก็อีกเรื่อง !

〖ปะ !!〗ระหว่างที่ผมกำลังยืนครุ่นคิดหาวิธีแก้แค้นมันอยู่คนเดียวๆ จู่ๆ มันก็มาดึงข้อมือผม ก่อนจะลากผม ไปตามแรงของมัน
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖14-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-04-2016 11:38:27
〖จะไปไหน ? 〗

〖ไม่ต้องรู้หรอกน่า ตามมาเร็วๆ〗

〖ไปไหนก็ บอกให้กูรู้ก่อนสิ วะ ห่า 〗

〖กูไม่พามึงไปฆ่าหรอกน่ามาเร็วๆ〗ถึงจะขัดขืนมันแค่ไหน แต่สุดท้าย ผมก็ต้องเดินตามมันต้อยๆ อยู่ดี
 ........................................................

ตอนนี้ผมโผล่มาอยู่ ที่คอนโดสุดหรู ของไอคุณชาย โดยมีพี่ๆ แว่นดำ (สองคนเมื่อวาน) ขับรถมาส่ง ผมกับไอกายถึงที่  พอมาถึงมันก็เปิดประตูเดินเข้า ห้อง ของมันไปปล่อยให้ผม ยืน งงหน้า อยู่ที่หน้า โซฟา สรุปผมก็ยัง ไม่เข้าใจเลยว่ามันพาผมมาที่ห้องของมันอีกทำไม ! หึหึ ! คงไม่ได้พากู มาฆ่าหั่นศพ หรอก !! ใช่มั้ย? ผมเริ่มกังวลขึ้นมานิดๆ แล้ว ไอคุณชายมันเข้าห้องไปอยู่ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับกล่อง สีน้ำตาลใบใหญ่ๆ สองใบ ที่วางซ้อนกันมา ก่อนจะเรียกให้ผมเดินเข้าไปหามัน

〖เห้ยๆๆ !〗

〖เจ กูชื่อเจ เว้ย ไม่ใช่ชื่อเห้ย〗

〖เออจะชื่ออะไรก็มาเถอะ ห่า อย่าลีลา 〗

〖มีอะไรให้ผมรับใช้มิทราบครับ คุณชาย〗

〖อย่ากวนตีน รีบ หยิบๆ ไป 〗

〖มึงให้กูหยิบกล่องไหนละ〗

〖ก็ทั้งสองอันนั้นแหละ จะต้องให้กูบอกวิธีหยิบลงด้วยเลยเอามั้ย ?〗ได้ก็ดีนะครับคุณชาย อิอิ ขืนพูดออกไป มีหวัง ซี้แหง่แก๋

〖แล้วยังไงต่อ  จะให้กูไปวางไว้ไหน?〗

〖บนหัวมึงก็ได้ 〗

〖สัดกูถามดีๆ ทำกวนตีน〗

〖เอากลับไปให้ พี่ อิน กับน้องมึงหน่ะ〗

〖ของฝากรึไงวะกล่องซะใหญ่เชียว?〗หรือว่าจะเป็นระเบิด C4 นี้มึงคงไม่ได้แค้นกูจนขนาดจะ ระเบิดบ้านกุหรอก ใช่มั้ย ????

〖เออ ที่แรก เอื้อยจะเอาไปให้ แต่บังเอิญติดธุระด่วน กูเลยฝาก มึงไปอีกทีนึง 〗

〖แล้วคือมึงมีธุระด่วน! ถึงไม่เอาไปให้?〗

〖จะไปให้เสียเวลาทำไม มีมึงอยู่ทั้งคน ?〗 เออ สรุปคือ กู กลายเป็นทาส ของมึงจริงๆ แล้วใช่ไหมไอคุณชาย
(¬_¬)

〖อ้ะ แล้วก็นี้ ของมึง !เอาไป〗ฟึบๆ อยู่ๆ ไอกายมันก็โยนกระเป๋าเป้สี ดำที่ดูคุ้นตา (ของผมไง) มาให้กับผม

〖มึง ไปเจออยู่ไหนวะ กูตามหาซะทั่วเลย〗

〖ข้างทาง แถวๆ ถังขยะ!〗คือตอนแรกนี้เกือบ จะซึ้งในพระคุณแล้ว ถ้าไม่ติดที่เจอแถวถังขยะ เนี้ย = =’ เมื่อวานกูไปแถวถังขยะซะที่ไหน หึ!

〖เออ ขอบใจ แล้วไอธุระที่มึงบอกจะคุยกับกู คือเรื่องนี้ใช่ไหม?〗

〖ป่าว〗

〖แล้วเรื่องอะไร?〗

〖ยังคิดไม่ออก ไว้คิดออกเมื่อไหร่เดี๋ยวกูบอก〗จริงๆ มึงก็หาเรื่องแกล้งกูไม่ได้แล้วละซี้ไอคุณชาย ! ถึงได้ทำลีลาไม่ยอมบอก  ไอฟอร์มจัดเอ้ย !

〖เออ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นกู....〗ท้องผมร้องเสียงดังมาก ผมแน่ใจว่ามันได้ยินเสียงๆ แน่ๆ ดู จาก รอยยิ้มเลวๆ ที่มุมปากของมัน แล้ว ทำให้ผม อาย จนไม่รู้ว่าจะหาที่ ซ้อนได้ที่ ไหน  เอากล่องบังหน้าแม้ง  ผม เดิน ตรงไป โดยที่ยังมีกล่อง สูง กว่าหัว หลายเซนต์ เดินไปก็สะดุดชนกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ ขอแค่ไม่ต้องมองหน้ามัน ยอมม ครับบ ผมยอมม !! T_T ไอท้องบ้า มาร้องอะไรเวลา นี้ นี่ถ้าแอบกินข้าวต้มที่พี่ริว ทำมาให้ซะหน่อย คงไม่ต้องเกิดเหตุการณ์หน้าอายต่อหน้าไอกายแบบนี้แน่ ! หึ้ยย คิดแล้ว มันเจ็บใจจริงๆ (╥﹏╥)

〖เดี๋ยว แล้วนั้นจะไปไหน ?〗

〖ก็กลับบ้านสิ ถามได้ !〗

〖แต่นั้นมันทางไปห้องน้ำนะ?〗อ้าว ห่า แล้วผมควรจะโทดกล่องที่สูงกว่าหัว หรือควรโทดสัดส่วนของตัวเองกันแน่ ที่มีอยู่เพียงเท่านี้ ! ฮือๆ

〖กู..ปวดฉี่เฉยๆ หร่อก กะจะแว๊ะซะหน่อย〗

〖หรา!!! สัด ไอฟอร์มจัด มานี้มา กูช่วย 〗โอ้ยย อาย ครับอาย ทำอะไรไม่ถูกเลย ยิ่งเวลา ที่ไอกายมันยื่นมือของมันมาสัมผัส โดนมือของ ผม ร่างกายของ ผมก็เหมือน คนไม่มีแรง ขาแขนนี้แบบ อ่อนไปหมดเลย ครับ !! เหมือนโดนมันสะกดจิตยังไงก็ไม่รุ้ แหะ ! เอาซะกูเคลิ้มเลย

〖จะเข้า ก็รีบ เข้าเร็วๆ ลีลา〗

〖เออ กูจะเข้าเดี๋ยวนี้แหละ〗 ทันทีที่ผมเข้ามาในห้องน้ำผมก็ทำเสียงปู้ดป๊าดๆ เป็นเชิงเหมืนว่า ผมปวดอยู่จริง แต่ที่จริงแล้ว ผมไม่ได้ปวดอะไรเลย ที่เข้า มา เพราะ ตอนนี้ ผมเองเริ่มรู้สึกเหมืนหน้าของ ตัวเองเริ่มร้อนผ่าว เหมือน มีใคร มาก่อไฟอยู่บนหน้าของผมงั้นแหละ หู้ยย สูดหายใจเข้า พุทธ หายใจออกโท พุทธ โท ๆ จนผมเองเริ่มที่จะควบคุมสติของตัวเองได้ก่อนจะ เดินออกมา แต่ก่อนจะออกมก็แอบแง้มประตู ดุก่อนว่ามันยังอยุ่ในเรด้าอยู่ไหม พอสังเกตดีๆ ว่าไม่มี ผมถึงเดินออกมาได้ ! แต่อ้าว กล่องสองใบกับกระเป๋าของผม รวมถึงเจ้าของห้องหายไปไหนแล้วหล่ะ เอๆ น่าแปลกๆ


〖ไอคุณชายย มึงอยู่ส่วนไหนของห้องเนี้ย แฮลโหลลวว!〗ผมตะโกนเสียงดังลั่น ห้องเรียกชื่อมัน แต่ไม่ยักจะ มองเห็น เงาหัวของมันเลย

〖เออ กูอยู่นี้!!!!〗 ไอกายมันตะโกนกลับมาจากมุมไหนของห้องมันก็ไม่รู้ห่า ห้องแม้งก็กว้าง แล้วมันจะไปซ้อนอยูส่วนไหนของบ้านกันละเนี้ย เห้อเหนื่อยใจกับมันจริงๆ  ผมลองตะโกนอีกสอง สามที เพื่อจะได้ยินเสียงมันชัดๆ ก่อนจะเดิน ตามเสียงนั้น ไป !! สุดท้ายผมก็เจอครับ มาหมกตัวอยู่ที่ห้องครัวนี้เอง !! 

〖เรียกทำห่าอะไรนักหนา หาทางมาไม่ถูกรึไง ห้องออกจะเล็ก〗

〖ถ้าห้องมึงเรียกเล็กห้องของกู คง รังหน้าแล้วแหละ สัด !〗

〖ตะโกนเรียกทำไม คิดถึง กูหรอ?〗

〖ตีนกูครับ คงเป็นตีนกูต่างหากที่คิดถึงมึง!! 〗ไอสัดอย่าทักงี้สิ กู ไอเชี้ยย !! >.<

〖มานั่งๆ นี้ 〗 ผมก็แบบนะ ว่าง่ายเลย ตามไปนั่งโดยที่ไม่ปริปากพูดอะไรซักคำ อยู่ๆ มันก็วาง จาน ไข่เจียวหมูสับไว้ด้านหน้าของผม

〖อะไร?〗

〖ขี้มั้ง พึ่งเดินไปขุดจากบ่มาเมื่อกี้?〗หวืยย พูดซะกูเห็นภาพเลยย

〖เออไข่เจียวไง แล้วไงต่อ?〗

〖กินสิ ให้ลองกิน?〗หวังว่ามึงคงไม่ได้วางยาเบื่อกู ใช่มั้ย?

〖แดกเถอะสัดกูไม่ได้ใส่ยาเบื่อให้มึงแดกหรอก!〗ไงหล่ะ เริ่มมีออร่าของหมอดูขึ้นมาแล้วไหม หล่ะ !!แหม่ๆ ใครสนใจ สามารถ โทรมาดูดวงได้ที่ www.*^&*$^I*O%.com (ค้นไปก็ไม่เจอหรอกครับ 555) แม่นไหมละกู 55
ผมค่อยๆ ตัก เขียเขี่ยไข่เจียวออกเป็นชิ้นๆ เผื่อจะมีวุตถุแปลกปลอมเข้ามาด้วย จนโดนมันตบกระบาลไปทีนึง เนื่องด้วย ที่กระผม เล่นกับของกิน !! ดูแล้ว น่าจะปลอดภัย แต่ๆ อ้ะๆ เดี๋ยวๆ จะวางใจไม่ได้ ผมตักข้าวพร้อมกับไข่เจียวพอดีคำ ก่อนจะยื่น ไป ที่หน้าของไอคุณชายมัน มันทำหน้างงๆ ก่อน จะยอมอ้าปาก และ อ้ามมม หงับๆ ผมเห็นมันเคียวๆ พักนึงก่อนจะกลืนลงไป เป็นอันว่า ปลอดภัยไร้สารตกค้างครับ ได้ เวลา ปอปลงละครับบ!! ผมใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ในการ กินไข่คุณชายยเอ้ยย(ลืมเจียวแฮ่ๆ)ไข่เจียวคุณชาย รสชาติก็ถือว่าโอเคร (รสชาติดีกว่าผมทำเยอะ) T+T

〖ไง อร่อยละสิ ?〗

〖ใคร บอก ก็งั้นๆ แหละ! ก็พอกระเดือกลงคอได้〗

〖หรา!!〗

〖กูดีใจนะที่มึงชอบ?〗

〖ห..ห..ห้ะ〗คือผมป่าว ติดอ่างนะ อยู่ๆ มันก็ไปเอง อะไรวะอยู่ๆ มาดีใจกูชอบอะไรยังไงงง !!บลาๆ อย่า มองกูด้วยสาย ตาอย่างงั้น สิ เดี๋ยว กูก็...

〖กูดีใจนะที่มึง ชอบ ถ้า มึงชอบ หมุตุ๋นก็คงชอบ !〗

〖หือ?หมูตุ๋น?〗วอส อีส ดิส?? หมูตุ๋น?

〖หมูตุ๋นๆ มาหาพ่อมาเร๊วๆๆ !! โม่ๆ 〗สุดท้าย ความฟินของผมก็ต้องจบลง เมื่อ ไอหมูตุ๋น  หมาพันธุ์ โกลเด้นของไอคุณชาย เดินออกมาจากมุมหนึ่งของห้อง เอ่อ !!  คือกู ขอไปโก่ง คออ้วกแปปได้ไหม ??

〖นี้ไง หมุตุ๋น เห็นรึยัง〗ไอหมาตัวนั้นเดินมาเกาะแข้ง เกาะขา ของผมก่อน จะใช้เท้าของมันเขี่ยๆ อยู่ที่ ขาของผม หึ้ยยย!!

〖กู    เห็น   แล้ว !!〗 ให้มันรู้ไปเลยว่ากุไม่พอใจอย่างแรง !!!! ไอเหี้ยเอากุไปเปรียบกับหมา

อย่าๆ เผลอทั้ง คนทั้ง หมา กูจะเล่น ทั้งพ่อทั้งลูกแม้งเลยย!!หึ้ยย! ไปรีบเดินไปหาพ่อง มึงซะ ก่อน กู จะเตะให้ปลิวว เดือดครับ เดือด ๆ จริงๆ ผมไม่ได้เกลียดอะไร มันหลอกนะครับแต่ คงเป็นเพราะ ตอนนี้ ผมเสียหน้า ให้กับหมาไง !! เลย ไม่ชอบ หน้าของมันในเวลานี้

〖เป็นไง หิวข้าวไหม ลูกๆ โอ๋ๆ  คงจะหายหิวแล้วสิเน้อ ๆ!!〗ใช่หาย......กูหายปลิดทิ้งเลยละ!

〖แล้วไหน ของเมื่อกี้หล่ะ ?〗

〖วางอยู่  กลางห้อง ตรงโซฟา! โอ๋ๆ ! 〗คือมึงคุยกับกูแต่กับสนใจหมาเนี้ยนะ !!! = =’แต่ก็เอาเถอะนะ ผมเป็นคนใจบุญไง เลยไม่อยากทำทั้งหมาทั้งคน ขอฉวยโอกาส นี้ หนีกลับไปพร้อมกับเศษหน้าของตัวเองเลยละกัน ทันทีที่ผมคิดได้ก้รีบลุกออกจากตรงนั้นทันที

〖แล้วนั้นมึงจะไปไหน?〗คราวนี้มันหันมามองผมแทนลูกของมันแล้วครับ!

〖กลับบ้านสิ ถามได้ ?〗

〖ตีสองเนี้ยนะ ?〗ตายห่าละสิ ตีสองตั้งแต่เมื่อไหร่ขืนผมกลับบ้านไปตอนนี้ ต้องโดน หมวดอินสอบสวนเป็นแน่แท้ ทำไงดีละ

〖ก็..อ..เออ สิ〗มันจะเชื่อผมไหมละนิ่? น้ำเสียงดูจริงใจซะขนาดนั้น(ตรงไหนกันฟร้ะ)

〖ก็นอนนี้ เลยสิ ! เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกลับ ดึกแล้ว ข้างนอกมันอันตราย〗ถึงมันจะเป็นถ้อยคำที่ดูเรียบง่ายสำหรับใครหลายคนๆ แต่พอคำพูดพวกนี้ออกมาจากปาก ของไอคน ที่ ผมเริ่มรู้สึก(แปลกๆ)ด้วยนี้ มันทำให้ร่างกายของผมเกิดอาการแปลกๆ แบบนี้ทุกครั้งเลยย!! >.< นี้มึงกำลังอ่อยกูอยู่ใช่มั้ย ไอคุณชายย แต่ฝันไปเถอะครับบ !! ผมจะไม่มีทางใจอ่อนให้กับไอคุณชายมันเด็ดขาดไม่มีวัน (รวมถึงไอหมูตุ๋นด้วยนะ)

〖เออ!น่า กูหาทางกลับเองได้ละน่า กูอึดจะตายย!〗

〖งั้นพรุ่งนี้ สอง แสนก่อน เที่ยงโอนมาด้วยนะ!〗แอ๊ะ แอ๋!!!! มามุขนี้ กุไปไม่เป็นเลยย ครับบ สุดท้ายผมก็ต้องตรอมใจ (จริงๆ ไม่กล้าขัดมันมากกว่า !!)นอนอยู่ที่ห้องของมันเป็นเวลา หนึ่งคืน
...................................................
เวลาหนึ่งคืนผ่านไป อย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรในก่อไผ่แน่ๆ ! แต่ที่แปลก็ คือ อยู่ๆก็ มีผ้าห่มผืนใหญ่  วางอยู่ที่ตัวผม !! ฮั่นแน่ คงไม่ใช่ใครหรอกครับ!! ถ้าไม่ใช่ ไอหมูตตุ๋น 〖ถ้าหมาทำได้ขนาดนั้นก็ดีเลย!〗ผมจะขโมยไปเลี้ยงซักตัว 55 คงเป็นฝีมือไอคุณชายมันนั้นแหละครับ  ทีผมขอตอนแรก มันก็ไม่ให้ผม หรอก บอกทั้งห้องมีแค่ผืนเดียว หึหึ ! กูคงเชื่อหรอก!ห้องหรุซะขนาดนี้ มี ผ้าห่มผืนเดียว บ้า ไปและ ! มึงไปหลอกไอหมูตุ๋นนู้นไป

อยู่ๆไอคุณชายมันก็เดินย่องๆมาที่ โซฟาที่ผมนอนอยู่ก่อนที่มันจะนอนคร่มอยู่บนตัวของผม และโน้มตัวลงมาใช้ ลิ้นสัมผัสที่ริมฝีปากด้านล่างของผม ทำอย่างนั้นอยู่นานสอง นาน  ..... โอ้ว ไม่นะ ไอกาย อย่า ทำแบบนี้ นะ ไม่ ไม่ ไม่ !!!
ฟึบบบบ!!!!!! ผมสะดุ้งตื่นชึ้นมาด้วยเสียงอะไรซักอย่างนึง
แฮ่ๆๆๆๆๆ!!!!!!

〖เชี่ย !!!!〗 ไอหมูตุ๋นแหวะ !!! ถุ้ยยๆ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงหายใจหอบ ถี่ๆ ที่ดังอยู่ใกล้ๆ กับหูของผม

〖อ้าวตื่นแล้วเหรอ! หมูตุ๋น ทำดีมากลูก〗ยัง ยังจะให้ท้ายมันอีกนะมึง!! ไอเลว

〖ลูกชายมึงแอบลักหลับกู ! 〗

〖มันคงชอบมึงละมั้ง ฮ่าๆๆ!〗ยังมีหน้าจะมาขำอีก

〖อ้ะเอาไปแล้วอาบน้ำแปรงฟันซะ〗ไอคุณชายมันยื่นผ้าขนหนูกับแปรงสีฟันด้ามใหม่มาให้ผม ก่อนจะชี้นิ้วไปทางห้อง นอนของมัน

〖ของใหม่จริงๆ ใช่ไหม? มึงคงไม่ได้แอบแปรงให้ไอ้หมูตุ๋นแล้วเอามาให้ใช่ม้ะ〗

〖ไม่เอ๋อจริงกูว่าคิดไม่ได้แน่ๆไปๆ 〗

〖แต่..กูไม่มีชุดเปลี่ยนวะ จะใส่งี้กลับไปเขาคงว่ากุซกมกหน้าดู〗

〖ไปหาเอาในห้องแหละ มีครบ 〗

〖ขะ..ขออบ ..จ 〗หึ้ย แค่คำว่าขอบใจมันพูดยากตรงไหนวะ !! ถ้าเป็นกับคนอื่นผมคงพูดป๋อไปแล้ว แต่พอต้องพูดคำพวกนี้กลับไอคุณชายมัน ทำไมผมถึง พูดไม่ออก ก็ไม่รู้

〖มีอะไร?〗

〖อ๋อป่าว กูหาทางไป ห้องมึงไม่เจอ ไปทางไหน วะ 〗 ไม่มีเหตุผลที่ดีกว่านี้แล้วรึไงวะกู !! แบบนี้ใครเขาจะเชื่อเล่า

〖มึงหันหลังกลับไปนะมัน จะมีประตู อยู่ใช่มั้ย แล้วมึงก็จะเห็น ลูกบิตใช่ไหมแล้วก็... 〗

〖ละเอียดไปครับ ! กูไม่ได้เอ๋อขนาดนั้น!〗

〖อ้าวหรอกเหรอ! ฮ่าๆๆ〗หึหึ!! ทีใครทีมันละกันมึง

................................................................
ผมใช้เวลาอาบน้ำอย่างใจเย็น!!เวลาประมาณ เกือบ ครึ่งชั้วโมง ครับ  หลังจากที่อาบเสร็จผมก็ควานหาผ้าเช็ดตัว แต่ที่ซวยหนักก็คือ ผมดันลืมไว้ที่ เตียงซะนิ่!แต่มันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่เดินออกไปเอาก็สิ้นเรื่องๆ เห้อๆ คิดได้ดังนั้น ผมก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยร่างกายที่ เปียกไปทั้งตัว บวกกับ สภาพตอนนี้ที่เปลือยเปล่า! ไม่ได้ใส่ อัลไลเลยย!! ผมก็เลยเดินตรงไปที่เตียงก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหัว เช็ดหน้าเช็ดตัว แต่จังหวะที่ ผมเองกำลัง เพลิดเพลิน กับการเช็ดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอยู่นั้น จู่ๆ  ไอคายมันก็เปิดประตู ขึ้นมา ดัง ปั้ง !!

〖ทำอะไรอยู่นาน จังว้าา า า า า า〗หึ้ก! ผมกับมันยืนจ้องตากันอยู่ นาน แล้วๆ อยู่ๆสายตาของมันก็มอง ต่ำลงๆ จนผมเริ่มจะรู้สึกตัว เลยแหกปากร้องลั่นด้วยความตกใจ

〖โว้ยยยยย!!!! ไอ กาย ไอเหี่ยยยยยยย ออกไปก่อนนนนนน!!!!!!〗ผมตะโกนร้องอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจและความอาย ก็เป็นอย่างทุกทีเหมือนเดิมครับ  ผม ไอวิน ติน  แก้ผ้าเล่นน้ำกันมาตั้งแต่เด็ก เห็นกันมาหมดทุกอณูแล้ว แต่ไม่ใช่กับไอกายย โว้ย! กูอยากขุดหลุมหนีจากที่นี้จริงๆ

〖จะแหกปากทำไมวะ! เออๆ รีบออกมานะ กูจะใช้ห้องน้ำ〗

〖เออรู้แล้วออกไปก่อนกูโป้อยู่ ไอเหี้ย!〗

〖อ้าวนั้นโป้อยุ้เหรอกูพึ่งจะรู้ ฮ่าๆๆ〗หื้มมไอสัด พูดงี้ !! เอาไม้จิ้มฟันมาแทงกูให้ตายเลยดีกว่า จะเหยียดหยามว่ามองไม่เห็น งูยักษ์กูสินะ !!  หลังจากที่ไอกายมันออกไปผมก็รีบวิ่งไปปิดประตูลงกลอนให้เรียบร้อยก่อนจะกลับมาถอนหายใจอย่างโล่งอก! แล้วบรรจงแต่งตัวอย่างไวเลย!
..................................
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) Xลุມ ωລาง หัวใจ V ∂ J ЊาઈㄨЊ้า นิ่ง ! 〖14-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-04-2016 11:40:31
〖อึอึ้มม!!〗

〖เสร็จแล้วเหรอ?〗

〖เมื่อกี้ .. อื้มม!! มึงเห็นอะไรรึเปล่า ?〗

〖ก็เกือบเห็น!รึไม่เห็นวะ〗

〖สัดเอาดีๆ กูซี เรียส〗

〖ไม่รู้วะตา เบลอๆ มองไม่เห็นอะไรเลย ฮึกๆ ฮ่าๆๆ〗

〖เหี้ยบอกไม่เห็นแล้วมึงขำทำไม!〗

〖จะเห็นหรือไม้เห็นก็ค่าเท่ากัน นั้นแหละ !! 5555〗

〖 มึงอย่า เอาเรื่องนี้ไปบอกวินมันนะกูขอละ!!〗

〖ไอวินเหรอ! เอ๋ มันเพื่อนนี่หว่าอีกอย่างกูกับมันก็ไม่เคยมีความลับกันด้วยนิ้สิ ! !〗

〖นะ นะ กูขอหล่ะ ครั้ง นี้ครั้ง เดียว ปล่อย กูไปเถอะ ขืนมึงบอกมันไป มันสองคน ล้อกูยันลุกบวชแน่ๆ 〗

〖เออๆ! กูไม่บอกใครหรอก ว่าของมึงเล็ก! ฮ่าๆ〗หื้ยยย!! ไอเชี่ยกายยยยยยยยย

〖มานั่งนี้ก่อน!มา มาลองชิม!〗

〖แต่ก่อน ชิม แป๊ะโป้ง กูก่อนอย่ามึงจะไม่เอาเรื่องไปบอกกับใครทั้งสิ้นตกลงไหม? 〗

〖อ้ะ ๆ〗สุดท้ายมันก็ยอมทำตามที่ผมขอโดยดี ครับบ โล่งอกไปหนึ่งอย่าง!

〖อ้ะลอง!〗

〖เหี้ยอะไรเนี้ย〗

〖ออมเรต! เคยแดกมั้ย?〗

〖เรทเริทห่าอะไรกูไม่เคยแดกหรอกกุเด็กไทย!! รักวัฒธรรมไทย ใช้ของไทย กินของไทยเฟ้ยย!〗แต่ขณะที่ผมกำลังจะตักไอเรทๆ เข้าปากผมเองก็นึกขึ้นมาได้ ว่ามันนอาจจะใช้แผนเดิมอย่างเมื่อคืน หลอกให้ผมกินอาหารของไอหมูตุ๋นมัน แต่คราวนี้ฝันเถอะครับกูรู้ทันหึหึ !

〖กูรู้ทันหรอก น่า ไอคุณชาย มึงจะหลอกให้กูกินอาหารของไอหมูตุ๋นใช่มั้นล่า ไอห่า!! เลวยันกระดูกดำเลยนะมึง!〗

〖ป่าว อันนี้กู ทำให้กินจริงๆ เนี้ย ของกูก็มี !〗เอ่อนี้ผมเผลอมองมันในแง่ร้ายใช่มั้ยเนี้ย! ดูจากสีหน้าและแววตาแล้ว ! มันดูจริงจังน่าดู ครั้งนี้ ผมว่ามันคงจะไม่มีอะไรหรอกมั้ง ....

หลังจากที่กิน ไอออมเรต อะไรของมันเสร็จ ไอกาย ก็ไปอาบ น้ำ ในห้องมัน ! หึหึ !! ได้คราวกูแล้วไง ! ถึงคราวกูแล้วฮ่าๆๆ !ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง !! ไอ คุณชาย มึงเสร็จกูแน่ๆ อะเฮือกๆๆ !(มั่นใจว่านี้เสียงขำ !)= =’

ผมแอบย่องเบาๆ เดินตรงเข้าไปที่ห้องของไอกาย(อยู่หน้าประตู) จนได้ยินเสียง แกร่กๆ เป็นสัญญาณว่าไอกาย เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้ว หึหึ ! คนพร้อม กล้อง พร้อม ! 1 2 ซั่มม พ่างๆ ผมเปิดประตูเข้าไปเสียงดังแต่ภาพทีเห็นอยู่ตรงหน้าคือ ไอกายที่ มีผ้าขนหนู คาดเหน็บที่เอวอยู่ พร้อมกับหันมาจ้องหน้าผมผมด้วยสายตา ที่ดูงง ๆ
แผนผมพังอย่างไมเป็นท่า ทั้งๆ ที่ไอกายต้องอาย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ กับผม เองซะงั้น T+T

〖มีอะไรรึเปล่า ?〗เชี่ยกายจะถามก็ถามเฉยๆ สิ มึงจะกัดปากให้ดูเซ็กซี่ทำไม!!! กูป่าวเขิน นะ ป่าวเลย กูไม่ได้เขิน อะไรมึง เลย จริง จริ๊ง!

〖อ๋อกูลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องหน่ะเลยว่าจะมาเอา !〗เหตุผลดีมั้ยอย่างนี้ไม่มีใครสงสัยผมแน่ !!

〖ใช่เครื่องที่มึง ถืออยู่รึเปล่า ?〗.. . . ผมไปต่อไม่เป็นแล้วครับ จนมุม มันจริงๆ

〖หึหึ! จะมาแอบดูกูแต่งตัวรึไง  อยากเห็นเหรอ ?〗

〖บ้าๆบ้าบอแล้วมึง !คิดอะไรของมึง ! มั่วแล้ว งั้นกูไปรอข้างนอกก่อนนะ !〗 เหี้ยย !! เอ้ยย แกล้งไม้สำเร็จที่แรกกะจะทำให้มันหน้าเสียซะหน่อย แต่กลับเป็นผมเองที่หน้าแตกออกมา ! >< ผมสามารถทำอะไรมันได้บ้างเนี้ย !

〖อ้าว ไม่อยู่ดูก่อน หรอ ! กะว่าจะเปิดโชวซักหน่อย !! ไม่คิดตังนะเว้ยยย !นี้ๆ  ฮ่าๆๆ〗 ผมรีบปิดประตูก่อนจะเดินเอาโทรศัพท์ปิดหน้า(คงจะมิดละมั้ง)ออกมาให้ห่างจากบริเวณนั้น!

..........................................................

ตอนนี้ผมกับไอคุณชายนั่งรถออกมาจากคอนโดได้ซักพักแล้วครับ โดยมีพี่ๆ (หน้าโหด) สองคนเป็นคนขับเหมือนเดิมครับ !! ทัมด๊า!ชีวิตคุณหนู (มันนะไม่ใช่ผม) หึหึ ! ระหว่างขับรถมา ไอกายมันชวนผมคุยตลอดทาง ดูแปลกไปมากครับ ไม่เหมือนเมื่อก่อน มันจะเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร จนผมนี้นั่งเกร็งตลอดเลยแต่ไหง วันนี้ กลับต่างกันยังกะเป็นคนละคน
.................................................

ตอนนี้รถมาจอดที่หน้าร้านของผมแล้วครับ(อนาคตต้องเป็นของผมแน่ๆ ฮ่าๆ)
บรรยากาศโดยรอบก็ยังเช่นเดิมครับ อาม่า ของพี่ริว ก็ยังเปิดร้ายขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิม คุณลุงขายโจ๊ก ก็ยังเปิดร้าน เช้าเหมือนทุกครั้ง และ!พี่ออินขาแร็ปเจ้าเก่า ก็ยัง ด่าผม ได้ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือคำด่า(สันหามาด่าได้ทุกวัน)ไม่ซ้ำกันเลยจริงๆ หึหึ ! พี่สะใภ้ผม เทพใช่ไหมละ! ฮ่าๆ
ตื่ดดื้อออ!!!!!

〖อ้ายยยยยยเจหลานรักของพี่อินจ๋าหายไปไหนมาทั้งคืนไม่เห็นจะโทรบอกพี่บ้างเลยละจ้ะ〗เอ่อผมพอจะเดาทางออกว่าถ้าหากไม่มีไอกายเดินเข้ามาพร้อมกับผมละก็ !! หึหึ ! เอาพี่อินไปแข่งประกวศ Rap Is Now ได้เลย ครับ คงแร็ปใส่ผมเป็นแน่แท้ !

〖พี่อินสวัสดีครับ !〗

〖ไหว้พระเถอะจ้ะน้องกาย แล้วนี้ไปไงมาไงกันจ้ะ เมื่อวานไอ้เจ เอ้ย น้องเจ ได้ไปรบกวนอะไรน้องกายบ้างรึป่าวเอ่ย?〗

〖อ้อ ก็ มีบ้างแหละครับแต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร〗ถ้ามึงพูดว่าไม่มีอะไร กูว่ามันจะน่าฟังกว่านี้นะไอคุณชาย

〖แล้วนี้ทานอะไรมารึยังจ้ะ〗

〖กินมาแล้...อึ้บบ〗อยู่ไอคุณชายมันก็เอามือเค็มๆ ของมัน มาปิดปากผมไว้ !! เพื่ออะไรของมันวะ

〖ยังไม่ได้ทานมาเลย ครับ  วันนี้ก็เลยว่าจะมาฝากท้อง ที่นี้ซักหน่อย!ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนพี่อินรึป่าว〗

〖อุ้ยตาย รบกวนอะไรกันจ้ะไม่เลย ดีออก นานทีๆพี่จะได้นั่งทานข้าวกับหนุ่มหล่อถึงสองคน ไม่เป็นไรเลยจ้ะ〗

〖หนุ่มหล่อ สองคน คงหมายถึงผมกับไอกายช่ายม้า!แหนะๆ จะชมก็หัดชมผมอ้อมๆหน่อยสิผมเขินเป็นนะพี่อิน!〗

〖ป่าว ป่าวเลยจ้ะ พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้นมาก่อนเลย ! น้องเจป่วยมาเหรอ! ขึ้นไปกินยานอนพักก่อนมั้ย?〗ใช่ ซี้ ใครมันจะไปล่อลากไส้อย่างไอกายมันละ ใช่ สิ ! ผม มันก็แค่ หลานหน้าตาดีๆ คนนึง! ที่อาไม่สนใจ ชริส์! ไปก็ได้โถ่
ระหว่างนั้นผมก็ปล่อยให้วัยรุ่นหนุ่ม(กับคน)ที่ไม่สาว ได้เปิดอกคุยกันให้หายคิดถึงไปเลย หึ!งอน
ระหว่างจะเดินขึ้นไปผมก็แอบเหล่ๆเห็นที่ห้องครัว มีเสียงเหมือนคนกำลัง ทำอะไรอยู่ด้านใน ผมเลยแง่มๆ หน้าเขาไปสอดส่องดูซะหน่อย ! แต่ ภาพที่ผมเห็นคือ สุภาพบุรุทธิ์ จุฑาเทพ พี่ ริว ผู้แสนดีนั้นเอง โอ้ว พ่อพระของทำอะไรในที่แห่งนี้กันนะ ! แต่เดี๋ยวก่อน นั้นไม่ใช่ประเด็น สำคัญ จุดคลายแมค มันอยู่ที่ ว่า ถ้าสอง คนนี้เจอหน้ากัน เมื่อไหร่ ผมว่า ต้องมีเรื่องๆ เกิดขึ้นแน่ๆ  คิดได้ดังนั้น ผมก็ค่อยๆ ย่องออกไปจาก องครัวอย่างช้าๆ (กลัวพี่ริวได้ยิน) แต่ก็...

〖อ้าวเจ!ไหงวันนี้ตื่นเช้าจัง! พี่กำลังจะขึ้นไปปลุกเลย〗เออพี่ริวคงไม่รู้ใช่ไหมว่าเมื่อคืนผมไม่ได้นอนอยู่ที่บ้านตัวเอง แต่ไปกกอยู่(อุ้บบบส์)ใช้คำไม่ค่อยดี เออ ไปนอนค้าง คอนโดไอคุรชายมัน

〖ปกติแหละครับ〗ปกติของผมคือช่วงบ่ายโมงต่างหาก ฮ่าๆ ขอโทษนะครับ ที่ผมพูดปรด!!

〖พี่ริวขา อย่าไปเชื่อ พี่เจ เขา นะ พี่เจ อะ ตื่นสายเป็นประจำทุกวันเลย ไม่เว้นวันหยุด วันศุกร์ วันเสาร์ หรือวันทำงานเลย!พี่ อ้ะ อื้อ อ่อย อู้ อ้า อี้ เอ 〗

〖แฮ่ๆ ยัยเอิร์นนี้ชอบพูดเล่นกับเพื่อนๆ ของผมอย่างนี้เป็นประจำแหละครับพี่ริวอย่าใส่ใจเลยนะครับ ^ ^〗กลบเกลือนดีไหมละครับ ท่านผู้ชมม!!หึหึ !!

〖งั้นผมขอพายัยเอริ์นขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียนก่อนนะค้าบบบโอ้ยยย!! น้องเอริ์นพี่เจ็บกัดพี่ทำไมค่ะ〗

〖ก็พี่เจ เอามือมาปิดปาก เอิร์นทำไม เอิร์นก็แค่พูดความจริง ให้พี่ริวฟังก็เท่านั้นเอง อีกอย่างวันนี้ บราเดอร์ เขาปลดเกษียณ ที่โรงเรียนเลยไปเลี้ยงส่ง วันนี้เขาเลยให้หยุด พี่เจ นี้ไม่รู้อะไรเอาซะเลย นี้แหละ นะ มัวแต่สนใจคนอื่น จน ลืมน้องของตัว เอง ใส่ สิ เอิร์นก็เป็นแค่น้อง ใครจะไป เหมือนเพื่อนๆ ของพี่เจได้ละ เวลาอยู่กับเพื่อน พี่เจก็ยิ้มแกล้มปริ แต่พอเวลาอยู่กับเอริ์นกับพี่อินเนี้ย พี่เจก็เอาแต่ทำหน้าบึ้ง ใช่ สิ !! ฮือๆ เห็นไหมค่ะ พี่ริว พี่เจไม่รักหนู ! เออ ว่าแต่ ช่วยรับหนุเป็นน้องสาว ซักคนได้รึ้เปล่าค่ะ?〗

〖ยัยเอริ์นมานี้ !!〗

〖ได้สิครับ พี่ นะ อยากมีน้องสาวเหมือนคนอื่นเขามาตั้งนานแล้ว งั้นตั้งแต่วันนี้ เอริ์นเป็นน้องสาวพี่แล้วนะ !〗

〖ได้เลยค่ะ !! แบร่ๆๆ〗หันมาทางผม = =’ ยัยน้องบ้า !

〖จ้าๆ รักกันเหลือเกินนะ ไปๆ ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน ไปอาบน้ำได้แล้วไป พี่เริ่มกลิ่นตุๆ แล้ว〗

〖กลิ่นเหรอค่ะ ไม่นะ หนูว่าหนูไม่มีกลิ่นตัวนะพี่ เจ อะ หลอกเอิญไม่สำเร็จหรอก!ชิ〗ยัยเอิร์น เป็นเด็กผู้หญิงที่ ห่วง เรื่องภาพลักษณ์ ตัวเองอย่างมาก ยิ่งถ้ามีคนเข้ามาทักว่ากลิ่น ตัวอย่างนี้ แต่ง ตัวอย่างนี้ ใส่ อะไรต่างๆ นาๆ แบบนี้ ยัยเอิร์นจะขาดความมั่นใจและก็ รีบไปปรับปรุงตัวเองอย่างไวเลย

〖จริงหรอค่ะ พี่ ริว พี่ริวได้กลิ่นอะไร จากตัวเอริ์นรึแปล่าค่ะ?〗พูดไปพลางทำตาแบ๊ว ! = =’+ได้ใครมากันนะเด็กคนนี้
ขณะที่ยัยเอริ์นหันหลัง ผมก็ส่งสัญญาณ ทางสายตาไปให้พี่ริว พี่แกก็เข้าใจโดยง่าย เลยบอกกับยัยเอิร์นไปว่า..

〖เหม็นหรอไม่นิ่!〗

〖เห็นไหมละพี่เจ อะ มั่ว !〗

〖แต่พี่ว่า หน้าน้องเอริ์นดดูมันๆ นะครับ คงเพราะช่วยพี่ทำครัววเมื่อกี้แน่เลย รีบไปล้างก่อนดีไหม!เดี๋ยว สิวขึ้น แล้วไม่สวยนะ !〗

〖จริงเหรอค่ะ ! งั้นเดี๋ยวเอริ์นขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะค่ะพี่ริวรอหนุแปปนึงนะค่ะ〗

〖ได้สิครับ น้องสาวพี่นี้พูดง่ายจังเลย เอาอย่างนี้ดีกว่า เดี๋ยวอาบน้ำทานข้าวทำอะไรเสร็จเดี๋ยวพี่พาไปซื้อของเอามั้ย?〗

〖จริงๆนะค่ะพี่ริว〗

〖ฮ่าๆ จริงครับ〗

〖โอเครค่ะ งั้น เดี๋ยวเอริ์นขอตัวก่อนนะค่ะ แล้วจะรีบลงมาอย่างไวเลยค่ะ อะแล้วก็ เอริ์นฝากดูแล พี่!!! ชายย ! ขิงเอิร์นด้วยนะค่ะ ! พี่ เจ ขา!!!〗แหม่ทำไมน้ำเสียงมันถึงได้ต่างกันขนาดนี้ละจ้ะ น้องเอิร์นจ้า ลืมพี่เจคนนี้ซะแล้วเหรอ !! แต่ช่างเถอะ !! ผมยังมีธุระสำคัญที่ต้องคุยกับพี่ริวๆ สองคนอยู่ ต้องรีบหาทาง ให้ยัยเอิร์นออกไปก่อน

〖คร้าบ ผมจะดูแลพี่ริวสุดที่รัก(ของน้องเอิร์น)เป็นอย่างดีเลยครับรีบไปได้แล้วไปๆชิ่วๆ〗และแล้วยัยเอริ์นก็ยอมไปแต่โดยดีหวูยยย!! ขอผมเปิดประเด็นเลยแล้วกัน

〖เอ่อพพี่ริวไป รู้จักกับยัยเอิร์นตั้งแต่เมื่อไหร่หรอครับ ทำไมลุ สนิทกันจัง〗

〖วันนี้เอง〗

〖วันนี้!! เจกันวันเดียวสนิทกันแล้วเหรอ ครับ! 〗

〖ใช่ๆ พี่ว่าน้องเอิร์นเค้าน่ารักดี ดูนิสัยดี ขี้เล่นอีกด้วย อีกอย่างพี่ก็อย่างมีน้องสาวเหมือนคนอื่นเขาเหมือนกัน〗เออ ไอที่ว่านิสัยดีก็แค่ๆ ช่วงแรกๆ แหละครับ หลังๆไป เดี๋ยวก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกับผมT-T

〖ว่าแต่เจมีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่เหรอ เห็นดูรีบร้อนเชียว!〗เอาละสิที่แรก ผมกะจะบอกว่าไอกายอยู่ที่นี้ ผมไม่อยากให้พี่ไม่สบายใจ เลย จะบอกให้พี่ริวกลับไปก่อน แต่ผมคงทำกับผู้มีพระคุณมากมาย กับผมอย่างนั้นไม่ได้ !! ข้อนี้เลยตัดไป

〖เออ ผมจะมาขอบคุณเรื่องเมื่อวานอะครับ ที่พี่ช่วยผม ไว้ ! เออ ว่า แต่ พี่ริว ทำอะไรอยู่เหรอครับ ! ดู น่ากินเชียว!〗

〖อ๋อสปาเก็ตตี้นะ พอดีมีลูกมือดีเลยเสร็จไว !〗ดีแล้วหล้ะที่ให้ยัยเอิร์นเป็นแค่ลูกมือ ขืนให่มีส่ววนร่วมในการทำด้วยละก็ หึ!! เบาหวานกันทั้งบ้านครับพี่น้อง

〖อ๋อครับ แต่ ยังไงก็ขอบคุณพี่ริวมากนะครับ ถ้าไม่มีพี่ริวนี้ผมคงแย่เลย แต่พี่ริวก็ช่วยผมมาหลายครั้งแล้ว ผมยังไม่มีอะไรตอบแทนพี่ได้เลย เอาเป็นว่า ถ้าพี่มีอะไร ให้ผมช่วย พี่บอกผมได้เลย นะ ผมเต็มใจช่วยพี่อยู่แล่ว!!〗 สำหรับพี่ริวไม่ว่าจะให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนผมก็พร้อมเสมอครับ (เพราะผมรู้ไงว่าพี่แกคงไม่ให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟแน่ๆ )หึหึ ! รึต่อให้จริง...ผมก็ไม่ทำหรอก ก๊าก กรั่กๆ!

〖งั้นวันนี้ ไปช่วยพี่ซื้อของ เข้าร้านหน่อยสิ เดี๋ยวพาน้องเอริ์นไปด้วยเลยจะได้ไม่เสียเที่ยว〗

〖แค่นี้เองครับ สบายได้อยู่แล้ว!..แต่พี่ริว ผมหิวอ่ะ ขนาดผมกินมาบ้างแล้วนะเนี้ย พอมาเจอกับข้าวฝีมือพี่ริว ผมก็หิวขึ้นมาเลย!〗

〖ตอแหล! ที่ เมื่อกี้อยู่บนรถยังบอกอิ่มกินอะไรไม่ลงอยู่เลย!〗ในที่สุด ไอยมทูตร่างคนก็ปรากฏกายให้ผมเห็นในเวลา ที่ไม่เหมาะสมอีกแล้วครับ ! เอาละสิ ! ในขณะเดียว กัน จากใบหน้ายิ้มๆ ของพี่ริว กับเหลือ แต่ หน้าที่ดูนิ่ง เงียบขึม !
(จะเห็นก็เฉพาะเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันทุกที) อย่านะ อย่าต่อยกันในนี้นะ กูขอร้องหล่ะ!

〖นี้ไอเตี้ย พี่อิน เรียกให้มึงไปช่วยอยู่ข้างนอกหน่ะ รีบไปสิ〗

〖เอ่อบอกว่าเดี๋ยวกูตามไปละกัน นะ!〗

〖พี่อินบอกรีบ!〗

〖เอองั้นกูไปก็ได้ แต่มึง จะไปกับกูด้วยใช่ไหม?〗 ขืนปล่อยให้มันอยู่กับพี่ริวสอง ต่อสองได้เกิดเหตุการณ์ สะบะระหึ้บ แน่ๆ !

〖ก็จะมาหยิบของไปทุบอะไรซักหน่อย! หาเจอเดี๋ยวกูตามไป〗

〖ให้กูช่วยหาไหม?〗สาบานได้ว่าคราวนี้ผมไม่ได้กวนตีนมันแต่อย่างใด ผมตั้งใจที่จะช่วยมันหาจริงๆ เพราะไม่อยากให้มันอยู่ที่นี้นานนัก


〖ไม่ต้องวุ่น มีอะไรก็รีบไปทำไป!〗

〖เออ งั้นกูไปก่อนนะ ! พี่ริว ผมไปช่วยงานพี่อินก่อนนะครับ บ๊าย!〗ไม่มีใครสนใจกูเลย T_T
สุดท้ายก็ต้องเป็นผมที่ต้องเป็นฝ่ายเดินออกมาจากห้องนั้นใจ นึง ผมก็นึกห่วง กลัวว่ามันจะมีเหตุการณ์อะไรไม่ดีเกิดขึ้นรึเปล่า และ อีกอย่างที่ผมไม่เข้าใจก็คือ ทำไมเวลา สองคนนี้ เจอหน้ากัน ถึงได้อารมณ์บูดกันขนาดนั้น เหมือน ไปทำอะไรให้แค้นเคืลองใจ กันมาแต่ชาติปางก่อน! ผมละไม่เข้าใจเลยจริงๆ
กู หวัง ว่า คงไม่มี ข่าวหน้าหนึ่ง เกิด ขึ้น ใน บ้านของกู หรอกนะ !  กู ขอหล่ะ !!!  :z3:

TBC..........................................................
 :hao5: :katai4:


อ่านจบกันแล้ว ช่วยแสดงความคิดเห็นให้ ผมหน่อยน้า !! จะได้มีกำลังใจอัพตอนต่อๆไปจ้า  ^ ^ :mew3:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [11]〖14-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 14-04-2016 12:17:38
ตัวเอง สู้ๆ นะ เข้ามาอ่านเพราะชื่อนิยายอ่ะ แบบว่าโค้ดมันเยอะดี แต่ใส่โค้ดเยอะๆ ในนิยายแล้วมันแอบอ่านยากอ่ะค่ะ สู้ๆ น้าาา  :bye2:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [11]〖14-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 16-04-2016 13:12:52
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:12 เรื่องสำคัญ
(づ ̄ ³ ̄)づ

หลังจากที่ผมเดินออกมาจากหลัง ครัว ก็ไม่ได้ยินเสียงข้าวของเสียหายแต่อย่างใด ไม่ได้ยินแม้กะทั้งเสียงหายใจของทั้งสองคน (ถ้าได้ยินนี้ก็เทพเกินไปละ= =’) ระหว่างเดินผมก็เอาแต่หันหลัง ตลอด กลัว ผมกลัว ว่า จะมีอะไรไม่ได้เกิดขึ้น กับ ทั้งสองคน แต่เดินๆอยู่ ผมก็ไปชนกับอะไรเข้าซักอย่าง !ดัง ตุ้บ
〖ยอโบ้!!!〗ฟุ้บ อยู่ๆไอคนที่อยู่ ข้างหน้าก็ดึงผมเข้าไปกอด โดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว ประเด็นคือไม่รู้ว่าใครด้วยไง! ไม่ได้มอง ตอนนี้ ผมเห็นแค่ข้างหลังของมันเพียงอย่างเดียว ผมเลย ค่อยๆ ดันตัวเองออกห่างก่อนจะ มองหน้าของมันชัดอีกครั้งๆถึงจะรู้

〖อ้าวไอติน!〗คราวนี้เป็นผมครับ ที่ดึงมันเข้าไปกอด ที่แท้ก็เพื่อนรักของผมนี้เอง ฮ่าๆ เรียนที่เดียวกัน แท้ๆ แต่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลย เจอแต่ไอเพื่อน ทรพีนั้น ไหนๆ มาให้พี่กอดให้คิดถึงหน่อยสิ
〖นี้ขนาดกลับมาเรียนที่เดียวกันแล้วนะ ยังไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลย มึงไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกันห้ะ ไอติน!〗
〖ก็อยู่ที่คณะนั้นแหละ แต่มันไม่ค่อยมีชั่วโมงว่างเลย ตินเรียนจนเย็นอะกว่าจะเลิก ก็หกโมงกว่าๆ แล้ว บางวัน ก็ทุ่มนึงนู้น เลยไม่ค่อยมีเวลาไปหาเจเลย ทำไม คิดถึงตินเหรอ !〗

〖โอย ถามได้คิดถึงดิ่ !ขนาดอยู่ไกลจากเมืองนอกไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี ยังคิดถึง แล้วนี้ขนาดอยู่ใกล้กันแล้วยังไม่ได้เจอกันอีก นี้ โคตรๆๆ ของโคตรคิดถึงเข้าไปอีก อ่ะ !〗ผมค่อยๆ คลายอ้อมกอดของมิตรภาพออก ก่อนจะดึงหน้าตัวเองให้ออก ห่าง จะได้คุยกันสะดวกๆ

〖มาๆนั่งนี้ก่อน แล้วไปไงมาไงละเนี้ย จำถนน แถวนี้ได้แล้วเหรอ!〗

〖ก็พอดีวันนี้ว่าง น้องเอริ์นเลยโทรไปชวนตินมาหน่ะ เห็นว่าวันนี้ มีเรื่องๆหนุกๆ กันตินก็เลยมา〗ไอเรื่องหนุกๆ ที่ว่านี้คงไม่รวม ถึงสองคนที่อยู่ในครัวหรอกใช่ไหม? ขอให้อย่าเป็นอย่างที่ผมคิดเลยสาธุ

〖แล้วตินมาไงอ่ะใครมารับมาส่ง 〗นั้นสิ ถ้าจะบอกว่ามาเอง ผมว่ามันคงจะอเมซิ่งมาก เพราะ คนที่ขี้หลงๆ ลืมๆ อย่างไอติน จะจำทางบ้านผมได้ในการมาแค่ครั้งเดียว นี้เป็นเรื่องที่ยากๆ มากๆ ผมเลยคิดว่าน่าจะมีคนมาส่งมันอย่างแน่นอน

〖อ๋อ ตินมากับวินอะ พอดี ตอนแรกวินโทรมาชวนบอกว่าจะพาไปดูหนังที่ เออ ที่นี้ก็เป็นเวลาเดียวกับที่น้องเอิร์นโทรมาตินเลยขอพักสายแล้วรับสายน้องเอริ์นที่นี้ตินก็คุยกับน้องเอริ์นๆและๆ〗

〖เอ่อ ขอเนื้อไม่เอาน้ำได้ไหม ไอเกาหลี!〗ลืมบอกไปครับไอตินมันเป็นลูกครึ่งเกาหลีครับ หน้าได้แม่มาล้วนๆ เลย ทั้งสีผิวและหน้าตาดูดีๆ ก็หล่อลากไส้เหมือนกันครับ ถ้าไม่ติดที่ว่ามันเอ๋อนะ ผมว่าคงจะเพอเฟคกว่านี้

〖ก็น้องเอิร์นโทรมาพอดีบอกว่าจะชวนมากินข้าวที่บ้าน 〗

〖อะต่อๆ〗

〖แล้วทีนี้น้องเอิร์นเขาก็วางสายไปแล้วตินก็สลับสายไปคุยกับวินต่อ วินก็ถามว่าคุยกับใครตินก็บอกว่าคุยกับน้องเอิร์น แล้วตินก็เล่าให้วินฟังว่าน้องอิร์นชวนไปอย่างนี้อย่างนั้น จนในที่สุด วินก็มาส่งแล้วก็อยู่รอกินที่นี้ด้วยเลย〗เออนี้มึงมันใจว่านี้เนื้อ ใช่ไหม ถ้าทั้งน้ำทั้งเนื้อ กู ว่าคงค่ำกว่าจะฟังจบบ! คิดให้ดีๆ นะครับถ้าใครจะฟังเรื่องอะไรจากไอตินมัน ! เห้อ เหนื่อยใจจริงๆ คิดถูกคิดผิดวะ ที่ผมถามมันเนี้ย !

〖แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนละ ไอ นั้นหน่ะ !〗

〖อ๋อเจหมายถึง ..〗

〖ก็ไอคนที่มาส่งตินนั้นแหละ ตอนนี้มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไม่เรียกมันเข้ามา〗

〖เค้าอยู่นี้แล้ว เตง !!นี้ๆ แต่เค้าไม่ได้มามือเปล่านะ นี้ ฟึบบ!〗อยู่ ไอวินมันก็วิ่งมากอดผมจากด้านหลัง จากนั่งก็ห้อยพวงกุญแจ ม้ามีเขา(ยูนิคอนน!)หู้ยสวยมากครับ มันประกายเงาๆ ดูสวยแปลกๆ แต่ผมก็ต้องทำท่าทางปกติครับ ทำเหมือนไม่สนใจมัน ไอเพื่อนทรพี

〖หืมว่าไง!ไม่อยากได้เหรอ !งั้น กูจะเอาไปทิ้งแล้ว...!〗

〖อ้ะๆ เดี๋ยวๆ  ที่กูรับนเนี้ยไม่ใช่เพราะว่ากูอยากได้หรอกนะ ! กูก็แค่รับๆ ไว้ เพื่อจะเก็บไว้ให้น้องเอริ์น ได้ไง  อย่าเข้าใจผิดเชียวละ〗

〖หรา!!!! แหนะๆ ยิ้มๆ หายโกรธกูแล้วละ สิ  !! โอ๋ๆ มา ให้พี่หอมทีมาม้ะ ๆ 〗

〖อย่าไอเชี่ยวินเดี๋ยวฟ้าผ่าเอา〗

〖แหม่ที่ไอตินละไม่เห็นว่า !ห่าทำห่วง〗

〖ไอตินมันกรณีพิเศษ มันเป็นคู่มั่นกู พ่อกูยอมรับมันแล้ว ! เข้าใจบ่!〗

〖มันน่าน้อย ใจวะมึงแม้ง มึงอะรักเพื่อนไม่เท่ากัน ! 〗

〖แหม่ แค่นี้กู ก็เปลืองตัวมากพอละเหอะ ห่า ! ทำยังกะกูเป็นเมียพวกมึงไปได้!ฆวย〗

〖เออแล้วที่รักมึงวันนี้ไม่มาด้วยเหรอวะ !〗

〖ที่รักกูใครวะ ?〗

〖ก็ไอกายผัวใหม่มึงไง!〗ป้าป!! ซักทัสองทีให้กับปากเสีย ๆ ของมัน

〖มันอยู่ในครัวนู้นคุยอะไรอยู่กับพี่ริวก็ไม่รู้ แม้งคุยตั้งนานแล้วนะ ยังไม่ยอมออกมาอีก แล้ว แม้งมาหลอก บอกว่าพี่อินเรียกกู กูยังไม่เห็น ตัวพี่อินแกเลย ว่าไปอยู่ส่วนไหนของร้านเนี้ย !〗ป้าป! คราวนี้ไม่ใช่ไอวินที่โดนครับแต่เป็นผม อูย ฝ่ามืออรหันต์ คงมีแค่คนเดียวเท่านั้นอแหละครับ พี่อินจ๋านั้นเอง หึหึ แรงดีไม่มีตก

〖นินทาอะไรชั้นอยู่ย้ะ ! อ้ะอ้าว น้องตินนี้จ้ะ น้องวินก็มาด้วย ตายยๆ หัวใจพี่จะวาย วันนี้มีหนุ่มๆ ตั้ง สี่คนๆ มาลุมล้อมพี่ โอ๊ะ พี่ เลือกไม่ถูก จริงๆ พี่ขอเวลากก่อนนะ ใจเย็นนะไม่ต้องแย่งกัน ได้(ความรัก)ทุกคน〗สี่คนหรอ แต่เดี๋ยวนะ ตอนนี้ในบ้านมี ผช อยู่ ห้า คนนะพี่อิน นับตกอะไรไปรึเปล่า

〖ตอนนี้มีอยู่ห้า คนไม่ใช่เหรอพ่อิน 〗พลางส่งสายตาวิ้งๆ!

〖ไม่นิ่สี่ คนแหละถูกแล้ว น้องกาย น้อง ริว น้องติน แล้วก็น้องวิน ! ครบแล้วไง〗

〖เดี๋ยวๆ แล้วเจละ !!เจก็เป็นผู้ชายนะพี่อิน T+T〗

〖เว้นเจไว้คนละกัน ! เจมีคู่มันแล้วพี่ไม้นับบ!〗

〖กรรม〗แค่เพียงลมปากของลุงขี้เมาสองคนพูดเล่นกันนี้ ผมเลยกายเป็นผญเลยใช่ม้ะห๊า ! หึ้ยย

〖งั้นก็สามคนแหละพี่ ไอตินมันคู่มันผม จริงมั้ย เตง!〗(。→‿←。)

〖จริงคร้าบบ!!〗(◡‿◡❀)

〖เหลือไว้ให้ชั้นหน่อยเถอะหย่ะ แค่นี้ ชะนีอย่างชั้นนก็หากินยากพอแล้ว อย่าทำร้ายจิตใจชั้นด้วยการกินกันเองอีกเลยย! ฮึกๆ ชั้นขอร้องหล่ะ!〗

〖เออว่าแต่พี่อินเรียก มามีอะไรให้เจช่วยหรอ ?〗

〖ช่วยเหรอ ป่าวนิ่ ! พี่ไม่ได้ขอให้ช่วยอะไรซะหน่อย〗สรุปผมก็โดนไอคุณชายต้มจนเปื่อยเหมือนเคย!! อ่อนจริงๆกู

........................................................
และแล้วเวลาก็ผ่านไปซักพักใหญ่ๆ อาหารทุกอย่างก็ถูกจัดเตรียมไว้ที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  (อ้อลืมบอกไปอย่างวันนี้พอดีที่ คณะ ผมกับคณะของไอกายมีกินกรรมอะไรกันไม่รุ้น่าจะเกี่ยวกับการรับน้องนี้หล่ะ แต่ งานส่วนของพวกผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เลยได้เวลาหยุดพักอีกหนึ่งวันเต็มๆ เห้อ สบายละกู !) หลังจากนั้งแขกหล่าทุกคนก็มานั่งโดย แบ่งตามโซนคือ ไอวิน ผม ไอติน ผมนั่งกลางส่วนพพวกมันนั่งข้าง ด้านข้างไอวินมีพี่ริว ส่วนด้านข้างของไอตินมีไอกาย ส่วนโต๊ะตรงข้าม สองสาว ต้องยอมนั่งแต่โดยดีเพียงเพราะ สองนาง อิจฉาริษยากันว่า คนนี้จะนั่งกับคนนี้ อีกคนนี้ก็จะนั่งกับคนนั้นเลยเป็นเหตุตกลงกันว่า นั่ง ฝั่งตรงข้ามเลยทั้งคู่ ผมนี้แอบซะใจเบาๆ เลยฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ก็ไม่วาย ที่สาวๆ จะพยายามหาพี่ธี แซะๆ พวกเพื่อนๆ ผมต่อ

〖นี้ๆ พี่ริวขา อันนี้กุ้งชุบแป้งทอดชิ้นนี้ เอริ์นตั้งใจทำสุดฝีมือให้พี่ริวเลยนะค่ะ〗โชคดีนะครับพี่ริว !! แล้วพี่ริวจะลืมอาหารมื้อนี้ไปลงไปชั่วชีวิตของพี่เลยละหึหึ !!

〖ขอบคุณมากครับ น้องสาวของพี่นี้น่ารักจังเลยนะ〗

〖น้องสาว!〗

〖อ๋อเอิร์นคงลืมบอกพี่อินไปอะค่ะ ว่าตอนนี้ เอิร์นกับ พี่ริวเราสองคน... ตกลงปลงใจ เป็นพี่น้องกันแล้วค้ะ〗

〖อ้ะโห้ๆ!!! นึกว่าเป็นอะไร แค่พี่น้องกันนี้เอง หุหุ ! ของจริงมันอยู่ตรงนี้ย้ะ ยัยเอริ์น〗

〖เอ่อ พี่ๆ ทุกคนค่ะ วันนี้ น้องอินสุดสวยตั้งใจทำกับข้าวให้พวกพี่ๆ ทุกคนได้ทานกันหวังว่าคงจะถูกปากทุกคนนะค่ะห้อๆๆ〗ใครก็ได้ขอกระโถนให้ผมทีผมรู้สึกเริ่มจะกินอะไรไม่ลงแล้วหล่ะตอนนี้ อยากโก่งคออ้วกมาก!! ฮั่วๆ !!

〖อะนี้ของพี่ กาย นี้ของพี่ วิน และนี้ของ พี่ตินอปป้าค่ะ ! >.< ทานให้อร่อยนะค่ะๆ〗

〖อีกแล้วนะน้อองเอริ์นแล้วของพี่เจคนนี้ละ T_T ลืมพี่อีกแล้วเหรอ? ฮือๆ〗

〖แหม่ๆ เอริ์นจะไปลืมพี่ชายสุดที่รักอย่างพี่เจได้ยังไงละค่ะ อ่ะนี้ค้ะ ...〗... ผมสาบานได้ว่าไอที่ปรากฏอยู่ที่จานของผมมันคือกุ้งก็จริงๆ แต่ที่ ต่าง คือ ขนาดครับ คือ ของพี่ริว ไอกาย ไอวิน ไอติน คือ อย่างกะกุ้งมังกร ไหงของผมดันเล็กยังกะกุ้งฝอยอย่างนี้ละ !! ผมใช้ซ้อมจิ้มกุ้งที่น้องเอริ์นตักมาให้กินด้วยน้ำตา ก่อนจะแอบเช็ดๆ น้ำตาของความดีใจที่อาบอยู่ที่แก้ม สองสามที !หึกๆ มันน่าน้อยยใจไหมละหึ!]

〖อ่ะ เจ ! กินของพี่ก็ได้〗หึหึ!! คราวนี้ผมกลับมาผงาดอีกครั้งแล้วครับ ผมหันไปด้านข้างก่อนจะเหล่ตามาที่น้องเอิร์น และขำหึๆ และยักไหล่ไปด้วย ฮ่าๆ เหมือนที่โอปอลชอบทำไง 55555  ซะจายย เบาๆ

〖ถ้าเจไม่ถือ เอาของ ตินไปกินด้วยก็ได้อ้ะ ! ^ ^〗 ถ ถ ถ ไอเกาหลีนี้มันนอกจากหน้าจะหล่อแล้วใจแม้งล่อยิ่งกว่า  ดีกว่า หมาแถวนี้ ที่แม้งไม่ยอมพูดอะไรเลยซักคำ !ผมใช้สอก สะกิดไอวินมันเป็นเชิง ว่า ! แล้วมึงละ ?

〖ก็กูเห็น มี พระเอกให้มึงแล้ว กูไม่อยากไปเป็นมือที่สามของใคร! แค่สองก็น่าจะพอแล้วห่าน คบเยอะระวังผล เลือดเป็น บวกนะมึง ฮ่าๆ〗 แล้วมันก็ก้มหน้าก้มตากินกุ้งของมันต่อไปครับบ! จบข่าว แต่สิ่งที่ผมอยาก ได้ในตอนนี้ ไม่ใช่ กุ้งหรืออาหารอะไรหรอกครับ ผมสงสัยและอยากจะรู้แค่ว่า ระหว่างไอกาย กับพี่ ริว มีเรื่อง อะไรซ้อนอยู่ ที่ผมยังไม่รู้กันแน่ ผมตะหงิดใจอย่างบอกไม่ถูกเวลา มองหน้าของมันหรือหน้า ของพี่ริว เหมือนสองคนนี้มีอดีตอะไรที่ไม่ดีต่อกันอยู่ เลย เกลียดกันได้ขนาดนี้ ! แต่ ช่าง เถอะ ผมเป็นคนนอกไม่ขอรับรู้จะดีกว่า ถึงอยากจะรู้มากแค่ไหนก็ตามม จบ..
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [12]〖16-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 16-04-2016 13:17:58
ซะเมื่อไหร่เล่า หลังจากกินอาหาร
รอะไรเสร็จ ผมก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวอีกรอบเพราะเหนียวตัว ! กะว่าช่วงบ่ายๆจะไปช่วยงานที่ร้านอาม่าซะหน่อยตกเย็นก็ไปทำพาทไทม์ต่อ เห้อ อยาก นอนอยู่เงียบๆ แบบนี้นานๆ จัง และแล้ว ผมก็พล้อยหลับไปด้วยบรรยากาศที่เย็นสบายบวก ด้วยพึ่งจะกินอิ่ม(ประชด) อาบน้ำเสร็จเป็นอันว่าครบทุกกิจกรรมสำหรับวันนี้แล้วครับ ก็ได้เวลาที่ผมจะขอพักผ่อนสายตาซักหน่อยแล้ว . . .. . . . .. . . . . .และแล้วช่วงเวลาอันเงียบสงบของผมก็จบลงเมื่อ ...

〖พี่เจ ตื่นๆ พี่เจๆ !!!〗

〖อ่าๆ พี่ตื่นแล้วมีอะไรค่ะน้องเอิร์น 〗ผมงัวเงียตอบน้องเอริ์นไปโดยที่ตัวเองยังไม่ทันจะได้ลืมตา

〖พี่ริว ให้เอริ์นมาบอกพี่เจว่าจะพาไปห้างซื้อของเข้าร้าน〗อ๋อใช้ ผมเกือบลืมไปซะสนิทเลย นี้ถ้าน้องเอริ์นไม่มาตามนี้ผมคงนอนต่อยาวๆไปละ ไม่ได้การละต้องรีบไปช่วยพี่ริวซื้อของ ก่อน

(อ่อส่วนพวกไอกาย ไอติน ไอวิน นั่งอยู่ข้างงล่างครับ มันบอกว่าร้อนขอพักกันก่อน เพราะแดด เมืองไทยนี้มัน อิส อะเวรี่ โซฮอตหลายๆ  )พวกมันเลยขอให้แดดเบาๆ ลงก่อนถึงค่อยกลับกัน แต่ไม่รวมถึงไอคุณชายที่แม้งมารถยนต์แท้ๆ แต่เสือกกะแด๊ะกลัวร้อนกับเขาด้วย พวกมันก็เลยนั่งอยู่ด้วยกัน สามคนเพื่อนรัก ฮ่าๆ

.......................................................
ตอนนี้ พี่ริวขับรถมาจอดให้ผมลงที่สยาม เพราะอะไรนะเหรอ ครับ ก็เพราะน้องสาวตัวดี รึยากจะซื้อของ จุกจิกขึ้นมาเลย ต้องแว๊ะ ไปพักใหญ่ๆ ก่อนจะยอมขึ้นรถ และตะลุยไปหาของตามลิสที่อาม่าสั่ง (ก่อนมาอาม่ากำชับว่า ถ้าหาซื้อของมาไม่ครบห้ามกลับบ้าน)แม้แต่พี่ริว ก็โดนเช่นเดียวกัน ผมละสงสารพี่ริวซะจริง สุดท้ายของทุกอย่างก็ครบตามลิสเป๊ะๆ โดยมีผู้ช่วย อย่าง เจตรินทร์ สุดหล่อคนนี้เป็นผู้ช่วยอยู่นั้นเอง ! 55  พอกลับมาถึงอาม่าก็เอาแต่บ่นๆ บอกว่า ทำไมถึงช้ากันขนาดนี้ มัว แต่พาไปไปถเหลถไหลที่ไหนกันอ่า ตามประสาคนแก่หวงหลาน ฮ่าๆ ผมมักจะโดนอาม่าบ่นอยู่ตลอดๆ เลย ส่วนน้องเอิร์นตอนนี้กลายไปเป็นอาหมวยเล็กของบ้านนี้ไปซะแล้ว อาม่าบอกว่าถูกใจน้องเอิร์นมาก อาม่าถามพี่ริวว่า พร้อมแต่งเมื่อไหร่บอก เดี๋ยวอาม่า จัดการค่าสินสอดให้เอง พิ่ริวแกก็อธิบายว่า นี้น้องเอิร์นเป็นแค่น้องสาวนะ ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้เลย บลาๆ อาม่าก็บ่นพึมๆ พัมๆ ว่า น่าจะเป็นอาหมวยคนนี้นะ อาม่าชอบ แต่ซักแปปอาม่าแกก็หันมาสบตาผมแล้วบอกกับพี่ริว ว่า  รึจะเป็นอาตี๋น้อย ก็ได้นะ ม่าไม่ว่า พี่ริวๆ แกยิ้มๆ ก่อนจะก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูอาม่า พักนึง จากนั้นอาม่าแกก็เดินมาหาผม แล้วพูดกับผมว่า
〖  อาตี๋น้อยลื้ออยากได้ค่าสินสอดเท่าไหร่ 〗เท่านั้นแหละครับ !!! กรี๊ดลั่นเลย แต่ไม่ใช่ผมนะที่กรี๊ดเป็นยัยเอิร์นตากหาก !! = =’ มันใช่เวลามาจิ้นไหมเนี้ย ผมก็แอบๆ หลุดๆ ขำกลบเกืลอนไปเพราะคงคิดว่าอาม่าแกพูดเล่น แต่ทำไมสีหน้าของพี่ริวดู ดีใจผิดปกติก็ไม่รู้ รึเป็นเพราะผมคิดมากไปเองก็ไม่รู้ หึหึ !! และแล้วเวลายามบ่ายก็มาถึง ผมเตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการช่วยงานอาม่า ที่ร้าน แต่เอ๊ะ เหมือนผมจะลืมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากห้องด้วยสงสัยตกอยู่บนห้องแน่ๆ
ผมเลยบอกอาม่ากับพี่ริวว่าจะกลับไป เอาโทรศัพท์ก่อนเดี๋ยวกลับมา อาม่ากับพี่ริวก็ไม่ได้ว่าอะไรผม เพราะวันนี้มีลูกสมุนมือดี ยัย เอิร์นคอยซับพอรต์ผมอยู่ เลยสบายไปอีก อย่าง กรั่กๆ
ผมเดินข้ามถนนมาก็รีบเดินตรงเข้าไปในร้านแต่สิ่งที่เห็นคือ สภาพของ หมาสามตัว กำลัง นอนเกือกกลิ้งอยู่บนโซฟา ด้วยความสงสารผมจึงอันเชิญพวกมันทั้งสามตัวขึ้นไปนอนข้างบนห้องผม แถมเปิดแอร์ให้อีกอ่ะ ! ปล.ตอนที่มันอยู่ข้างล่างมันก็มีแอร์แหละครับ แต่ด้วยที่ว่าพี่อินแกลืมว่าไปวางรีโมทต์ไว้ทีไหน ก็เลยเปิดกันไม่ได้ เห้อๆ อนาถจริงๆ ชีวิต
โอ้ยสภาพแต่ละคน! สุดท้ายผมก็เจอโทรศัพ์เจ้ากรรม วางอยู่บนที่นอนครับ คงหล่นจากกระเป๋าจริงๆ แหละ

〖นี้ๆ พวกคุณมึงทั้งหลาย ถ้าจะกลับกันแล้วก็อย่าลืมปิดไฟปิดแอร์ในห้องให้เรียบร้อยด้วยนะ 〗

〖คร้าบบบ〗สองคนมันพูดพร้อมกันนครับบ ผมเห็นละ แบบ ! เหมือนพวกมันเตี๊ยมกันมาไงไม่รู้ ส่วนไอคุณชาย ยัยนอน สลบไม่ได้สติอยู่เลยครับ แต็ช่างเถอะ เห็นพวกมันรักกันแบบนี้ก็ดีแล้ว ! เห้อถ้าไอกายมันดีกับพี่ริวอย่างนี้บ้างก็คงดี

〖งั้นกูไปก่อนนะ ! อยากกินอะไรก็ลงไปบอกพี่อินเอาละกันนะกูไปละ〗

〖เจจะไปไหนตินไปด้วย !〗

〖เจจะไปทำงาน หน่ะ ตินทำไม่ได้หรอก ! มันเหนื่อยนะ〗

〖เจทำได้ตินก็ทำได้สิ นะ นะ ให้ตินไปด้วยน้า นะคร้าบบ!〗

〖พอๆ ไม่ต้องมาทำตาหวานเลยติน ! นอนพักเฉยๆ นี้แหละ พึ่งกลับมาเมืองไทยแท้ๆ ไม่รู้ ซะแล้วว่าแดดเมืองไทยมันร้อนขนาดไหน!หึ〗

〖ก็ได้งั้นเจรีบกลับมานะ เดี๋ยวตินรออยู่ที่ห้อง !〗

〖อืมๆ เคๆ〗

〖มึงก็ด้วย อย่ามัวแต่ม่อหญิงไอวิน ฝากดูแลคู่มั่นกูด้วยเข้าใจ๋〗

〖รับแซ่บบบ!!〗

〖เออส่วนไอกายกูฝากดูมันด้วยนะ แขนมันยังไม่หายดี ฝากดูมันแทนกูหน่อยละกัน〗ตอนนี้ไอกายมันเข้าเฝ้าพระอินเป็นทีเรียบร้อยแล้วครับ

〖เจ !〗

〖อะไร?〗
〖แล้วขามึงหล่ะหายดีรึยัง เมื่อ วาน ยิ่ง เป็นลมเป็นแร้งอยู่แดดแม้งก็ร้อนขนาดนี้ 〗

〖เอาน่า กูไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกแผลแค่นี้ไกลหัวใจเยอะ!〗

〖เออตั้งใจทำงานนะมึง !〗

〖เออ!〗

〖เดี๋ยวเจ!!〗

〖มีอะไรอีก〗

〖คู่มั่นมึงมันร้อง ! มาโอ๋มันหน่อยๆ 〗และวิธีโอ่ของผมก็คือการคิสเบาๆที่หน้าผากของมัน !!  มันเป็นเรื่องปกติครับที่พวกผมจะทำอะไรแบบนี้ แต่ถ้าเป็นสังคมที่กวว้างขวางกว่านี้ผมว่า พวกเขาคงคิดว่าผมเป็นคู่เกย์ทรีโอ้อยู่แน่ๆ เลยๆ ฮ่าๆ

〖แล้วกูละ !〗 อ้ะจัดไปหนึ่งที

〖เดี๋ยวแล้วไอนี้ละ !〗

〖เว้นมันไว้คนเหอะกูไม่กล้า กูกลัว 〗กลัวจะห้ามใจของตัวกูเองไม่ไหว?

. . . . . . . . .. . . . . . . . .  .  . ..  . .  . . . .  .

[ณ ร้านอาม่า]

ตอนนี้ลูกค้าเต็มร้านไปหมด คงเพราะช่วยบ่ายๆ เป็นเวลาพักของใครหลายๆ คนในบริเวณนี้ จัง มักจะมีพวกคนหนุ่มสาว ลุงพี่ป้า น้า อา รวมถึงเด็กๆ ตัวเล็กๆ ที่แว๊ะมาทานก๋วยเตี๋ยวกันที่นี้ ! เห็นว่าร้านอาม่าเคยออกรายการทีวีด้วยนะ ช่องอะไรผมก็ไม่แน่ใจ !

 〖เจ! มาช่วยพี่ข้างในหน่อยคนเยอะมากเลย พี่ทำไม่ทัน !〗เป็นเสียงของพี่ริวครับที่ตะโกนเรียกผมมาจากด้านในสุดของร้าน ผมก็เดินตามไปโดยว่าง่ายพอไปถึงพี่ริวก็ยื่นสมุด ลิส เมนู ต่างๆที่ลูกค้าสั่งให้ผมก่อนจะเดินเอามาให้พี่ๆพนักงานที่มีหน้าที่เป็นคนทำ ส่วนผมเป็นคนเสิรฟ์ แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ

〖ห้ะ ว่าไงนะ ...พ่อตกบันได หรอ ...แล้วตอนนี้ อาการพ่อเป็นไงบ้าง.. อ้ะๆ เดี๋ยวพี่รีบไป〗พี่ที่ร้านขอหยุดงานครึ่งวันเพื่อไปดูพ่อที่โรงพยาบาล ส่วนผมนะหรอหึหึ ! รับช่วง ต่อสิครับ ถึงจะเคยทำมาครั้งนึงแล้วก็เถอะ แต่มันก็ยังไม่ค่อยจะชิน! เลยต้องให้พี่ริวมาช่วยสอนทำอีกรอบส่วนยัยเอิร์นก็มาช่วยลิสเมนูอาหารแทน พอพี่ริวสอนผมจะพอเข้าใจ ผมก็ลองทำดูทีนี้คล่องมือแล้วครับ ผ่านไปพักใหญ่ๆ ลูกค้าเริ่มเบาลง หลังจากที่แห่กันมาจากทั่วทุกสารทิศ ผมนี้ทำแทบไม่ทัน ! มือเป็นระวิงเลย ! ปวดก็ปวด  ปวดขาไม่ไม่พอปวดแขนเข้าไปอีก เออ ดี !! มาซะให้หมด !! ฮือๆ 

และแล้วเวลาก็ผ่านไปๆ หลายชั่วโมงจนตอนนี้ได้เวลาที่ผมต้องไปทำพาทไทม์ต่อแล้ว !จริงๆ ผมไม่อยากไปเลยเพราะตอนนี้ปวดขาเอามากๆ จะเดินยังเจ็บเลย แต่ด้วย สปริทที่มีบวก ด้วย ! ผมบอกกับพี่ๆ ไปแล้วว่าวันนี้จะไป ต่อให้ไม่ไหวยังไงผมก็ต้องไป  ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ !ก่อนจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวผมก็ไม่ลืมที่จะไปกล่าวคำลาขอตัวกลับบ้าน กับอาม่าก่อน !แต่คราวนี้ม่าไม่ได้พดกับผมเฉยๆ ครับ ม่ายังยื่น เงินให้กับ ผมน่าจะ 2-3พันได้มั้ง ผมก็ยิ้มรับด้วยความเขินๆ แต่ก็ไม่ได้รับมาหลอกครับ ที่ผมมาช่วย เพราะ ผมต้องการ ตอบแทนผู้มีพระคุณอยากพี่ริว บ้าง เพราะ ตลอดที่ผ่านมาผมเป็นผู้รับอยู่คนเดียว โดยมีพี่ริวที่คอยช่วยเหลือผมตลอด !แต่ถึงจะปฏิเสธยังไงพี่ริวแกก็ยังยัดเยียดที่จะให้ผมรับอยู่ดี จนผมต้องยอมๆรับมาอีกเช่นเคย  ถึงจะ รู้สึกตะหงิดๆ อยู่ในใจก็เถอะ แต่ผมก็ไม่อยากทำลายความหวังดีของอาม่าและพี่ริว แค่ผมได้เห็นร้อยยิ้มของพวกเขาทั้งสอง ผมก็ ดีใจมากๆ แล้วหล่ะครับ

[ณ บ้านตัวเอง]
 
 :katai1:
ตอนนี้เวลา 18.05 ผมกำลัง ยุ่งอยู่กับการอาบน้ำแต่งตัว ไปทำงานต่อ แต่สิ่งที่ผมกำลังงงๆ อยู่ก็คือทำไมพวกมันสามคนถึงยังไม่กลับกันไปอีกนี้แดดก็ไม่มีแล้วนะ พวกมันยังนอนกกกันอยู่สามคน โดย มีไอติน นอนกลาง ส่วน ไอกายกับไอวิน นอนกอดไอตินจากด้านข้างครับ ฮ่ะๆ เป็นภาพที่หาดูได้ยากมากครับ ! ผมไม่ขอรบกวนพวกมันจะดีกว่า ขอเดินออกไปออย่างเงียบๆ ละกัน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
กว่าจะทำงานเสร็จตอนนี้ก็เป็นเวลา 23.12 น. ขามาผม กะว่าจะนั่งวินไป แต่บังเอิญพี่ริว เดินออกมาเห็นผมพอดีเลย อาสามาส่ง ซึ่งผมก็ไม่ขัดสรัทธาพี่แกครับ ยอมมาแต่โดยดี ส่วนขากลับ เป็นพี่ที่ร้านอีกคนมาส่งผมครับ ประเด็นที่มาส่งคือ ผมได้ลองคุยกับพี่เขาวันนี้วันแรกเขาบอกว่า บ้านเขาก็อยู่ ที่เดียวกับผมเหมือนกัน แต่ห่างกันแค่ 500 ว่า เมตรเลย มาส่งได้ ที่จริงถ้าวันนี้พี่โชนอยู่ก็คงมาส่งผมแหละครับ แต่เผอิญ วันนี้พี่แกไม่ได้มาทำงานลูกค้าที่ เป็น FC ของพี่แก ก็พากันไม่มาไปด้วย !!  ทำให้บรรกาศที่ร้านในวันนี้ดูหงอยเป็นพิเศษ
ตอนนี้ผมกลับมาถึงห้องแล้วครับพอเปิดออกมาก็มีเพียงความมืดมิดและความว่างเปล่า ผมนั่งก้มลงเอนหลังพิงเก้าอี้ที่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือแล้วจู่ๆ ผมก็ ผุดคิดเรื่องไอกายขึ้นมาทันที เห้อ พอคิดแล้วยิ่งเป็นห่วง ถ้าผมอยู่ในสถานี่มั่นแน่ชัดกว่านี้ ผมคงมีสิทธิเข้าไปปลอบโยน เหมือนคนอื่นๆผมไม่ชอบความรู้สึกของตัวเองที่มีอยู่ตอนนี้เลย อยู่ๆ ผมก็เริ่มรู้สึกแน่นที่อกไม่รู้ว่าผมรู้สึกผิด หรือเพียงเพราะ อาการอะไรกำเริบกันแน่ ! ในเวลา นี้ผมยังตอบตัวเองไม่ได้ ด้วย ซ้ำ ว่า กำลังทำอะไรอยู่?

〖ถ้าเพียงกู มีความกล้า มาก พอนะ ! ถ้าเพียงกูแค่ได้บอกมึงไป เพียงแค่มึงรับมันไป แต่กูก็คงได้แค่คิดแหละ นะ เพราะใจกูยังไม่แข็งพอ กูกลัว กูกลัวว่ามึงจะรับไม่ได้กับความรู้สึกของกู กูลำบากใจนะเว้ย เวลาที่กูอยู่ต่อหน้ามึง แล้วทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางทีกูก็เหนื่อย ที่ต้อง วิ่งตามไปทุกๆ ที่มึงบอกให้กูไป ถึงกูจะไม่เต็มใจไปก็เถอะ แต่เพียงแค่มึงพูดใจตอแหลของกูมันก็รีบวิ่งแจ้นไปหามึงแล้ว กูไม่รู้ตัวเองหรอกนะว่าเผลอ ชอบมึงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ พอมารู้อีกที มันก็เกินที่กูจะห้ามใจตัวเองแล้ววะ  ทั้งๆ ที่รู้ว่า มึงมีคนที่มึงชอบอยู่แล้ว ก็เถอะ !แต่หัวใจของกู มันไม่ยอมฟัง! เห้อเหี้ย เอ้ยย กู มานั่งเพ้อถึงมันทำไมกันละเนี้ย ! ห่า ป่านี้กลับบ้านนอนแล้วละมั้ง  ฝันดีนะมึงไอคุณชาย หึ้ย ดึกแล้วไปอาบน้ำนอนดีกว่า〗คิดได้ดังนั้นผมก็หยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าก่อนจะเดินหยิบ และเดินเข้าห้องน้ำไป
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จผมก็เริ่มรู้สึกว่า อารมณ์ดราม่ามันยังค้างคา อยู่ใหหัวผมเลย !! จัดการ ตั้งกระทู้  ลงบอรด์เพ้อฝัน ในทันที ! :katai4:
หัวข้อ: Re: ⒻⒶⓁⓁⒾⓃⒼ ⒾⓃ ⓁⓄⓋⒺ(̲̅❤̲̅) หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [12]〖16-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 16-04-2016 13:20:03
คุณ เคย แอบ รัก คน ที่ คุณ ไม่ ชอบ หน้า กัน ไหม?
ตื้ดดึ่ง!! เม้นแรกมาแล้ว
〖L:เคย ค่ะ ทีแรก  เราก็คือ ไม่ ชอบ หน้ากันอะค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปเรา เริ่มรู้สึกว่า อาการ ของเรามันยิ่งหนักข้อขึ้นทุกวัน จน มาถึงวันนึง เรารวบรวมความกล้า ทั้งหมด ที่เรา พอจะมี สารภาพกับ เขาคนนั้นไป ?〗

〖ผม: แล้วคำตอบคืออะไรครับ?〗

〖L:เขาตอบตกลงในทันทีเลยค่ะ เขาบอกว่าก็แอบชอบเรามาได้พักนึง แล้วเหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกที่บอกออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลยอะค่ะแอด ของอย่างนี้มันต้องเจอกับตัวค่ะ ถึงจะเข้าใจ !〗

〖ผม: ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะครับ!〗

〖L:อ่อ อีกอย่าง ตอนนี้แอดคงกำลัง  ผเชิญ กับเหตุการณ์แบบนี้อยู่ใช่ไหมละค่ะ ! หึหึ ! เราอยากจะบอกแอดว่า อย่าไปกลัวค่ะ มันน่ากลัวแค่ช่วงแรกๆ แต่พอได้ลองพูดออกไปเท่านั้นแหละค่ะ ตัวเบาหวิวเลย ! อย่ากลัว คำตอบ แล้วก็ต้องเผื่อใจเจ็บไว้หน่อยนะค่ะ แอด เพราะแอลว่า คงไม่ได้สมหวังกันกันทุกคู่หลอก ค่ะ  สู้ๆ นะคะ แอด!ขอให้แอดสมหวังนะค่า ฟิ้วๆ[ส่งกำลังใจไปให้ 555]〗

〖ผม: อะเฮือก โดนกำลังใจกระแทกใส่หน้า ขอบคุณมากครับ น้องแอล ! ฟิ้วๆ 〗
ตื่อดึ่ง !! มาแล้วเม้นที่สอง

〖บลาๆๆๆๆๆๆๆ〗 มีคอมเม้นเข้ามาให้กำลังใจผมอีกเป็นร้อย แต่มีคอมเม้นนึงที่ทำให้ผม ตกใจกับคำถามเขาคนนั้นอยู่เหมือนกัน
〖B:PKON แอดชอบ ผู้ชายหรือผู้หญิงครับ ?〗

〖ผ: ชอบผู้หญิงครับ〗

〖B:PKON ผมว่าตอนนี้แอดคงกำลังสับสนอยู่ชัวร์?〗

〖ผม:ทำไมคิดอย่างนั้นหล่ะครับ?〗

〖B:PKON เพราะผมคิดว่าถ้าเป็นปัญหาความรักหญิงชายทั่วไปแอดคงไม่มาตั้งกระทู้ให้รกแบบ นี้หรอก !〗

〖ผม:อาจจะเป็นอย่างที่ B:PKON พูดก็เป็นได้!555〗

〖B:PKON ไหนแอดลอง เล่า เรื่องราวหรือจุดเริ่มต้นให้ผมฟังหน่อยสิครับผมอยากรู้ ว่ามันเป็นไงมาไง?〗

〖ผม:อยากฟังจริงๆ หรอครับเรื่องมันยาวนะ ?〗

〖B:PKON ผมอ่านนิ่ยายจนชินแล้ว ยาวแค่ไหนผมกก็อ่านได้ ! 〗

〖ผม: งั้นแอดจะเล่า แล้วนะ คือ เรื่อง มันมีอยู่ว่า บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ〗

〖B:PKON สรุป ก็คือ เขาเป็นเจ้า หนี้ของแอด แล้วแอดก็แบบ ไม่ค่อยชอบหน้าเขาใช่ม้าแล้วที่นี้ ก็แบบ เหมือนในละครใช่ป่ะ ที่แบบ พอเขาทำดีหรือมาช่วยเหลืออะไรเราหน่อย แอดก็เลยไหวหวั่นกับเขา ซึ่ง เขาเป็นทั้ง คนที่แอดไม่ชอบหน้า และแถมยังเป็นเจ้าหนี้ของแอดอีก !อืมแล้วอยู่ๆไปๆ มาๆ ก็ไปชอบเขาซะนี้นะ ! แล้วแอดได้บอกเขาไปบ้างรนึยังอะ? ผมว่าน่าจะรีบได้แล้วนะ ก่อนที่เขาจะมี ใครไปซะก่อน บางทีสิ่งที่แอดเห็นมันอาจะจะไม่ใช่อย่างที่แอดคิดก็ได้นะ ตั้ง สติวางถุงกาว(อันนี้หยออก555) กลัวแอดเครียจ ทำใจให้สบายๆ สู้ๆ ไว้เหมือนเม้นแรกข้างบนที่บอก ลองทำดูซักครั้งเถอะแอดเชื่อผม อย่าไปกลัวเลย ถ้าเขาตอบ ตกลงก็แค่ดีใจ แต่ถ้าไม่ก็แค่เสียใจ! ขืนเก็บไว้นานกว่านี้ผมว่าจะเป็นแอดมากกว่านะที่จะเจ็บ จอบอ…จบ〗

〖ผม:จะให้แอดพูดแบบนั้นจริงๆ หรอ?〗

〖B:PKON ไม่กล้าแล้วจะได้รักกันไหมละแอดดด?〗เจอคอมเม้นนี้ไปทำเอาผมจุกจนพูดไม่ออกเลยครับ ถึงมันจะดูมึนๆ หน่อยก็เถอะ แต่ผมว่ามันก็น่าจะเป็นเพียงวิธีเดียว ที่จะได้พูดความรู้สึกที่ผมมีอยู่ตอนนี้ให้มันฟัง จริงๆ อยู่ว่าถ้าขืนผมบอกช้าไป กว่านี้ อาจจะเป็นผมเองก็ได้ที่จะเป็นฝ่ายที่เสียใจ ทันทีที่คิดได้ดังนั้น ผมก็ควานหาโทรศัพท์ไปซะทั่วห้อง แต่ก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอไปลืมไว้ที่ไหนอีก เห้อ สมงสมองไปหมดแล้วกู

แต่อยู่ๆ ผมก็ได้ยอนเสียงโทรศัพท์เจ้ากรมมโทรมาที่เครื่องของผม ผมรีบเดินหาตามต้นเสียงที่ได้ยิน เยส! ในที่สุดก็เจอซักที ว่าแต่ ใครโทรมาซะดึกดื่นขนาดนี้วะ ! “เจ้าหนี้หน้าเลือด”เหมือนใจผมกับใจมันส่งถึงกันได้อย่างงั้นเลยแหะ ขนาดแค่คิดนะเนี้ยยังไม่ได้พูดออกไปยังโทรมา ที่ถ้าขืนเผลอพูดออกไป ลอยๆ นี้มันคงไม่โทรมาบอกรักผมเลยรึไง 555
〖คร้าบบ ว่าไงครับ คุณเจ้าหนี้ !〗

〖ฮัลโหล!! ไอคุณชาย 〗

〖เออ คือกูมีเรื่องจะบอก ! คือกู〗 บอกสิ บอกเลย !! สัดกูลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้วเนี้ย!

〖คือ?〗

〖คือกู... กูลืมแล้ววะว่าจะพูดอะไรไว้คิดออกเดี๋ยว โทรไบอกใหม่〗 ถถถ โถ่ถังกะละมังหม้อ !!  ≡(▔▔﹏▔)≡

 〖ยึกยักอยู่ได้อยู่ได้ห่าน! เออ ถ้านึกออกแล้วค่อยโทรมาบอกกูละกัน กูจะไปนอน ละ บายย!〗

〖เดี๋ยวๆ ไอเจ!〗

〖หือ!!!〗ถ้าขืนมึงยังบอกว่ามึงลืมอีก !!! กุจะตามไปเค้นคำตอบมึงถึงห้องเลยอะ!! เอาสิ ! = =’ [ได้แต่คิดนะ ไม่กล้าทำหรอกครับ555]

〖ป่าว..ไม่มีอะไร.ฝันดี!〗. . . . . ฝ..ฝัน..ฝันดีหรอ?

〖อ..อ..อือ ฝัน    ดี     !〗ถ้ากูนึกถึงหน้ามึงตอนดึกนี่  ถือว่าเป็นฝันดีรึเปล่าวะ?
สุดท้ายสิ่งที่ผมลุ้น ก็ไม่เป็นไปตามอย่างที่ผม คิดไว้ ส่วนเรื่องความกล้า ที่เตรียมไว้ตั้งแต่ที่แรก ก็มลายหายไปหมดแล้วครับ เพียงเพราะ คำพูดคำเดียว ของมัน ทำให้ผม สูญเสียการควบคุมตัวเองไปเลยจริงๆ เห้อ อย่าทำให้กู คิดไปไกล มากว่านี้ จะได้ไหม?


......................... กาย!

TBC..............................................................................




เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ : ยอโบ้ เป็นคำที่ใช่เรียก แฟน หรือสามีภรรยา ความหมายประมาณ ว่า ที่รักนั้นเอง มักจะใช้สำหรับผู้ที่แต่งงานกันแล้ว นั้นเอง








หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [13]〖18-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-04-2016 09:16:25
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:13
  คุณแฟน(จำเป็น) ∩_∩

เช้าวันอังคารที่ ไม่ค่อยจะสดใสซักเท่าไหร่ ผมเดินลง มาด้วยเรื่องต่างๆ มากมายที่ มันยังค้างคาอยู่ในหัว มีทั้งเรื่องไอกาย เรื่องงาน เรื่องเรียน แถมยังเรื่องหนี้สินอีก เห้อ ! อายุผมยังไม่เข้าขั้น 30 ปี ก็มีหนี้ท่วมหัวเอาซะแล้ว ! หนักสุดก็ตรงที่บอกใครไม่ได้นี้แหละครับ ที่ทำให้ผมคิดหนักอยู่อย่างนี้ มาทั้งคืน เห้อ รู้สึกเหนื่อยใจยังไงก็ไม่รู้

〖เฮลโล่วว! กู๊ด สะมอนิ่ง !〗เป็นเสียงโหยหวนของไอวินครับ ! เป็นไงมาไงถึงโผล่มาแต่เช้าเนี้ย !

〖เฮอรีเคนอะไรซัดมึงมาห้ะ ไอวิน ถึงได้มาที่บ้านกูเช้าขนาดเนี้ย ! ถ้าจะมาหาน้องเอิร์นคงไม่ทันแล้วแหละ ออกไปได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว〗

〖ป่าว... กูไม่ได้มาหาน้องเอิร์น กูมาหามึงนั้นแหละ ! รีบไปอาบน้ำแต่งตัวไป เดี๋ยวไปพร้อมกัน〗ห..ห้ะ.. ไอวินเนี้ยนะจะมาหาผม หึหึ! ฟังแล้วดูพิลึกๆ ยังไงไม่รู้แหะ !
〖เอองั้นรอแปปนึง ! กูขอไปอาบน้ำก่อน  พี่อินๆ !!!!!〗

〖ว่ายังไงค่ะ พ่อหนุ่ม ! 〗เห็นผมเป็นผู้ชายกับเขาแล้วเหรอพี่อิน T_T

〖ป่าว เจจะบอก ว่า ช่วยหาอะไรให้ผมไอวินมันกินหน่อย ! เดี๋ยวเจจะขึ้นไปอาบน้ำก่อน ฝากพี่อินดูมันด้วยนะ〗

〖ย้ะ! ไม่ต้องบอกชั้นก็ทำให้อยู่แล้ว จริงไหม จ้ะ พี่วิน!?〗 ยังๆ พี่แกยังไม่เลิกแอ๊บเด็กอีก ผมเห็นแล้วสยองลูกตาจริงๆ  งั้นก็ผมก็ไม่ขอเสียเวลา ขอตัดไปตอน ที่ลงมาเลยก็แล้วกัน ชะแวปปปๆ! !

…………………………………………………………………………………………………….

〖ป่ะ !〗

〖ป่ะ แต่เดี๋ยว ก่อนมึงคงไม่ได้ลืม กระเป๋าตัง สะพาย เป้ หรือโทรศัพท์ หรอกใช่มั้ย?〗

〖แหม่มึงเห็นกูเป็นคนขี้หลงขี้ลืมขนาดนั้นเลยรึไง ?〗

〖เออ!!!ใช่กูเห็นมึงเป็นแบบนั้นแหละ !〗 = =’

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
[ณ โรงอาหารคณะ มนุษย์ศาสตร์] วันนี้ผมและไอวินมาถึง ที่ม. เช้ากว่าทุกที เพราะเนื่องด้วยสาเหตุอะไรผมก็ไม่อาจทราบได้!รึอาจจะเป็นเพราะ ไอวินมันแอบนัดเด็กของมันไว้ที่นี้อีกรึเปล่าผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ !

〖เจ เจ  ไอ้เจ!!!! 〗

〖ห้ะๆ ว่าไง มีอะไรมึง?〗

〖เหม่อ อะไรของมึง วะเจ ป้าเขา ยื่น จานข้าวให้มึงตั้งนานละ ไม่ยอมรับซักทีละ〗หลังจากไอวินพูดจบ ผมก็หันไปรับจานข้าวจากป้าคนขายอย่างปลงๆ ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะ!

〖ไอ่เจ มึงมีอะไรรึเปล่า ไหงวันนี้มึงเหม่อ หลายรอบ จัง นั่งรถมาก็ทีละ กูบอกให้จับชายเสื้อกูไว้ก็ไปจับ เกือบหงาย ท้อง ไปให้สิบล้อด้านหลังมันแดกแล้วไหมละนี้ ถ้ากูไม่เอื้อมมือไปดึงงมึงไว้นะป่านนี้ มึงตายห่าไปนานละ?〗แต่ที่ไอวินพูดมันก็จริงๆครับเพราะ ตั้งแต่เช้าที่ผมตื่นมาก็นั่งกุมขมับคิด เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้น ก็ยังดีๆ อยู่แท้ๆ ไหงเป็นงี้ไปได้วะไอเจ!!

〖กูก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแหละ อย่าใส่ใจเลย แดกเหอะ !!〗ขืนผมบอกความจริงไปว่าคิดมากเรื่องไอกายอยู่ มันต้องตกใจมากแน่ๆ เลยเลือกที่จะไม่บอกความจริงกับมันดีกว่า!

. . . . . . . . . . . . .  . . . . ..
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จผมกับไอวิน ก็แยกย้ายกัน ไปเรียน ไอคนที่ผมอยากเจอมากที่สุดวันนี้ มันก็ไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยซักนิด ! เห้อๆ มันจะรู้รึเปล่านะ ว่าผมกำลัง คิดมากเรื่องเมื่อคืนอยู่? 

ครืดดดๆ!! เสียงโทรศัพท์ที่สั่นดังขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อของผม “เพื่อนธรพี”(ขยันเปลี่ยนดีไหมละ! )= =’

〖เออ !〗

【ห้วนจริง นะมึง เรียนเสร็จรึยัง?】

〖ใกล้แล้วอีก ครึ่งชั่วโมง ทำไม มีอะไรรึเปล่า?〗

【ป่าว บ่ายๆกูว่าง ไปดูหนังกัน !】
〖มึงเนี้ยนะ ชวนกู ไปดูหนัง เฮ้อ ! อะไรเข้าสิงมึงห้ะไอวิน〗 สำหรับผมไอวินและไอติน การไปกินข้าวดูหนังกันถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ครับ แต่จะเกิดขึ้นก็ นานๆ ที(เวลามันโดนสาวทิ้งมันจะชอบพาพวกผมไปเที่ยว)  ผมก็ริ่มเอ๊ะใจนิดๆ อยู่เหมือนกันที่ อยู่ ก็โทรมาชวนผม   หึ สงสัยจะโดนสาวทิ้งมา


【ไม่มีเหี้ยอะไรสิงกูทั้งนั้นแหละ มึงจะไปไหม กูจะได้โทรไปชวนไอติน】
〖กูไปไม่ได้วะ บ่ายกูมีเรียน〗

【ห่า แค่สองสามวิชาเอง เพื่อ เพื่อน อ่ะ เพื่อเพื่อน มึงสะกดเป็นมั้ย ห้า!】

〖 แต่กูไม่รับปากนะ ถ้าไอตินไป กูก็ไป !〗
【เออน่า แค่กูบอกว่ามึงไปด้วยมันก็ตามมาแล้วแหละ งั้น เรียนเสร็จรออยู่ที่คณะนะเดี๋ยวกูไปรับบ!】

〖เคๆ ไว้เจอกันมึง รีบมาหล่ะ!〗หลังจากที่นัดแนะกันเสร็จผมก็กดวางสายมันไป . . .



ครืดดดๆ !! คราวนี้มีอะไรอีกวะ!เห้อ ผมสบถด่ามันใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ถึงได้รู้ว่าไม่ใช่ไอวิน แต่เป็น ... ไอกาย ครับ
【อยู่ไหน?】
〖อยู่...คณะ...〗
【ว่างไหม?】

〖ยังไม่ว่าง กูเรียนอยู่ มีอะไรหรอ?〗

【มึงลืมของไว้ที่ห้องกู จะมาเอาไหม?】

〖ของหรอ ของอะไรวะ 〗

【ของที่ เอื้อยฝากให้พี่อินไง】

〖มึงเอาออกมาให้กูหน่อยไม่ได้เหรอวะ ?〗

【ใช่ปัญหาของกูซะที่ไหนอยากได้ก็มาเอาเอง!】

〖ห่า..แร้งน้ำใจชิบหาย〗

【มึงว่าไงนะ ไอชั้นใน ?】

〖แล้วมันจริงป่าวละห่า จะออกแรงถือมาให้กูหน่อยไม่ได้รึไง กลัวมือเสียทรงรึไง ?〗

【กูไม่ได้กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ กูก็พึ่งนึกออก เมื่อกี้นี้แหละ คนเขาอุตส่าห์หวัง ดี !หึ 】

〖เออๆ งั้นเดี๋ยวกูไปเอาตอนเย็นละกัน มึงเปิดห้องไว้ก็พอ 〗

【ไม่ได้!!!!มึงต้องมาเอาตอนนี้เลย ไม่สิ มึงเรียนเสร็จเมื่อไหร่ก็มาเอาเลยละกัน】

〖ห่า แต่ตอนบ่ายกูมีนัดแล้ว มึงจะให้กูไปเอายังไงละ〗

【นัดมึงกับของพี่อินมึงว่าอะไรสำคัญกว่ากันละ?】พูดซะกูรู้สึกผิดกับพี่อินขึ้นมาทันทีเลยไหมละมึง = =’

〖เออๆ แต่ขอบอกไอวินมันก่อนละกัน เดี๋ยวให้มันไปส่ง〗

【ไม่ต้อง ! เดี๋ยวกูไปส่งเอง?】. . .

〖มึง’กูกลัว พี่คนขับมึงวะ เดี๋ยวกูไปเองก็ได้ 〗

【รออยู่นั้นแหละ เดี๋ยวอีก 5นาทีกูไปรับ 】ตื๊ด ๆ!!! เออ บางทีมึงช่วยฟังที่กูอธิบายบ้างจะดีมากเลยนะ ไอคุณชาย = =’
. . .. . . . . . . . . .
เวลาผ่านไปซักพักนึงจนผมเรียนเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องและตรงไปที่หน้าคณะเลยทันที แต่จริงที่ทำให้ผม ตกใจหนักก็คือ “ไอกายครับ” มันโผ่ลหัวมาจริงๆ ด้วย แถมคราวนี้ ขี่ มอไซด์ มาอีกต่างหาก นั้นยิ่งทำให้ผมตกใจหนักขึ้นไปอีก โอ๊ะ แต่ผมเองก็ไม่ทันสังเกตว่าเฝือกที่แขนของมันตอนนี้ไม่มีแล้ว คงจะหายดีแล้ว ต่างจากผมที่ยังเป็นไอเป๋ เดินไม่ตรงอยู่เลย หึหึ! และการที่คุณชายเสด็ดมา ก็ทำให้พื้นที่โดยรอบนั้น เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษา ทั้งหญิง และ ชาย ทั้งแท้ทั้งเทียม ยืน มุงอยู่ราวกับว่า มีดาราโผล่มาอย่างนั้นแหละ แต่ก็ไม่น่าจะใช้เรื่องแปลกอะไร ครับ ชื่อเสียงคุณชาย เขาออกจะปัง ขนาดนั้น ใครไม่รู้จักนี้ก็บ้าแล้ว ทีแรกผมก็นึกว่า มันจะมา รถยนต์ ซะอีก นี้เล่นมาอย่างนี้ ใครมันจะกล้าเดินเข้าไปหาวะ ขืนผมเดินเข้าไปนี้ถูก ตกเป็นเป้าสายตาแน่ๆ เลย ลองแกล้งๆโทรเปลี่ยนสถานที่พบเจอกันน่าจะดีกว่านะ ! คิดได้ดังนั้น โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมาทันทีเลย ครับบ !! หืมม ตรงเวลาดีจริงๆ นะมึง

【มึงอยู่ไหนแล้ว ตอนนี้กูอยู่หน้าคณะมึงเนี้ย  เรียนเสร็จรึยัง?】ว่าแต่มันก็ทำให้ผมตงิดใจอยู่นะ แค่ไปเอาของเองทำไมไอกายมันถึงได้กระตือรือร้นขนาดนี้ แถมยังเป็นเดือดเป็นร้อน กว่าผมซะอีก = =’ ชักน่าสงสัยขึ้นมาแล้วแหะ

〖อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลมึงนี้แหละ แต่กูว่าเราเปลี่ยนสถานที่พบเจอกันจะดีว่าไหมอะมึง !กูกลัววะ〗

【รีบมาเร็วๆ ไอห่าอย่ายึกยัก เวลากูจำกัดนะ】
〖แต่กู...ฟึบ〗 ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร ไอกายมันก็เดินมาจากไหนไม่รู้ครับ เดินมา จับ (เรียกว่าลากดีกว่านะ),,มือผมเดินไปขึ้นมอไซด์พร้อมกับมัน เชี่ยย ! แล้วก็เป็นไปตามอย่างที่ผมคิดไปเป๊ะๆ เลยครับ ทุกสายตาในที่นั้น หันมาสนใจที่ผมแทน ผมได้แต่เอาหน้าของตัวเอง ซุกไปที่แผนหลังของมันกันอาย
〖ไอ..กายมึงรีบขับรถออกจากที่นี้ได้ไหม กูอายย!〗ทันทีที่ผมพูดจบมันก็สตารด์รถออกจากบริเวณนั้นเลยทันที เหี้ย กูเกือบหงายท้อง !!

.... . . . .............................................
หลังจากขับออกมาจากตรงนั้นได้ระยะนึง ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาไอวินเลยทันที ! กะจะโทรไปขอโทษที่ผิดนัดของมันซะหน่อย

〖ฮัลโหล ไอวิน คือกูจะโทรมาบอกว่า..〗(รับไวมาก = =’)

〖มึงจะไม่มาแล้วใช่ไหม ?〗

〖 กูขอโทดทีนะที่ผิดนัดพอดีกูมีธุระด่วนจริงๆต้องรีบไปทำ มึงไม่โกรธกูนะ〗

〖เออกูเข้าใจว่ามึงมีธระด่วนจริงๆ ไม่งั้นมึงคงไม่ไปกับมันหรอก!〗

〖เดี๋ยวๆมึงรู้หรอว่ากูจะไปไหน?〗

〖รู้สิผัวมึงบอกกูเมื่อกี้〗

〖แล้วมึงก็ปล่อยให้มันมากับกูเนี้ยนะ〗

〖แหม่ ทำเป็นพูดไป ถ้ามึง ไม่สมยอม แล้ว จะหนีตามมันมาทำไม !〗

〖สมยอมห่าอะไรกูโดนมันบังคับมาเหอะ ! เออ แล้วไอตินว่าไงวะ มึงได้ชวนมันรึยัง〗

〖ชวนแล้ว กำลังจะไปกัน〗

〖ไปกันสองคนเองหรอวะ〗

〖ป่าว ไปกันสามคน มีกู พี่ริว แล้วก็ไอติน〗

〖แล้วพี่ริวมาเกี่ยวอะไร?〗

〖ก็พี่ริว เขาเป็นคนโทรมาชวนกูเอง เขาบอกให้กูชวนมึงไปด้วยอีกทีนึง ! ผัวมึงก็นั่งอยู่ไม่เชื่อมึงก็ลองถามมันสิ〗 เออ ตอนนี้ผมเริ่มพอจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นนมาๆ นิดๆ แล้วสิ แต่ที่ผมยังแปลกใจอยู่ก็คือ ทำไมมันถึงต้อง ทำให้ผมผิดนัดกับพี่ริว ด้วยก็ไม่รู้ รึ ว่ามัน คิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ !

〖เอองั้นเอางี้ เดี๋ยวกูไปเอาของเสร็จแลล้วเดี๋ยวตามไป โอเคป่าว !〗

〖ไม่ต้องหรอก มึงก็อยู่กับผัวมึงสองต่อสองไปนั้นแหละ ไม่ต้องเสือกมาเชียว ! 〗

〖แหม่ ไม่ค่อยจะสปอยเพื่อนมึงสักเท่าไหร่เลยนะสัด !  เอองั้นแค่นี้แหละ เดี๋ยวเสร็จละกูตามไป〗

〖เออ ถ้ามึงมีชีวิตรอดกลับมานะ ฮ่าๆ กูไปละ บายย!〗 มึงนี้ไม่ค่อยจะแช่งกูเท่าไหร่เลยนะไอห่าวิน !

หลังจากที่ผมวางโทรศัพท์จากไอวิน ไอคุณชายมันก็พาผม ขับรถออกมาจากใน ม. แต่ที่แปลกก็คือมัน ดันขับรถ ออกไปคนละทาง กับ คอนโดมันนี้สิ ! ที่ผมแปลกใจ

〖นี่ไอคุณชายมึงเมาแดดจนหลอนรึเปล่า คอนโดมึง มันอยู่ทาง นู้นไม่ใช่หรอ?〗

〖.......〗

〖.......〗 ระหว่างทางตั้งแต่นั้นมา ทั้งผมและมันก็ไม่มีใครปริปากพูดอะไรอีกเลยต่างคนต่างก็เงียบใส่กัน

(。→✕←。)
………………

จนผมต้องเป็นฝ่าย เปิดประเด็นพูดขึ้นมา เมื่อ ! ตอนนี้ ไอคุณชายมันพาผมมาโผล่อยู่ที่  สยามพาราก้อน (มาเพื่อ?) พอลงมาจากรถได้ มันก็ลากผมให้เดินตามมันเข้าไปข้างใน

〖คือ มึง จะพากูมาชม สยามโอเชี่ยน เวิลด์ รึไง ไอสัด พากูมาที่นี้ทำม๊ายย! ! ! 〗

〖มึงช่วยเงียบๆ ซักแปปจะได้ไหม กูไม่พามึงมาขายหรอกน่า !จะกลัวทำซากอะไร〗

〖แล้วมึงลากกูมาด้วยทำไมละเนี้ย อย่าบอกนะว่ามึงพากูพัวพันกับพวกแก้งนักเลงแถวนี้〗ไม่เอานะสัด กูกลัว !

〖ก็อยากที่มึงพูดมาทั้งหมดนั้นแหละ !!〗

〖เหี้ย เรื่องจริงใช่ไหมเนี้ย !〗

〖เปล่ากูโม้เล่น !!〗ผ่าง ผ่างๆ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [13]〖18-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-04-2016 09:21:04
〖สัดใช่เวลามาเล่นสามช่าแถมนี้ไหมไอคุณชาย ไม่รู้แหละ ถ้ามึงไม่บอก กูจะกลับละ〗แต่ทันที ที่ผมหันหลังกลับผมก็บังเอิญไปเหลือบเห็นยัยเอิร์นกับเพื่อนๆผู้หญิงอีกสองสามคน เดินตรงมาทางนี้พอดี !

〖นั้นไงเรื่องที่กูจะบอก〗

〖อ้าวพี่ เจ พี่กาย สวัสดีค่ะ บังเอิญจังเลยนะค่ะ〗แน่ใจกันนะว่านี้คือความบังเอิญ

〖นี้แก คนนี้ พี่ชั้น ชื่อพี่ เจ ส่วนนี้ พี่กาย เขาสองคน... เป็นแฟนกัน ??〗ห..หา ๆ ฟ..แฟน.. กูไปตกลงเป็นแฟนมึงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

〖อร้ายย!!!!!!!! แกเรื่องจริงหรอเนี้ย!ทีแรกชั้นก็คิดว่ายัยเอิร์นโม้ซะอีกแหม่ๆ มี หนุ่มๆ ให้จิ้นนี้ก็ไม่บอกเพื่อนกันเลยนะยะ กะฟินคนเดียวเลยรึไง!〗

〖สวัสดีค่ะพี่กาย หนู คิดตี้นะค่ะ สวน คนนี้ชื่อ พิมมี่ แล้วก็คนนี้ชื่อ มาราเรียค่ะ〗

〖แหม่ๆ ทำสตอค่ะ อย่าไปเชื่อพวกนางค่ะพี่กาย อินี่ ชื่อคิด อินี้ชื่อพิม ส่วนอินี้ชื่ออิเรีย ค่ะ ชื่อมันพิสดารกว่าชาวบ้านเขาเลยต้องเรียกมาเรีย !!〗

〖อ๋องั้นหรอครับ หวัดดีครับ พี่ชื่อกายนะ เป็น แฟนกับพี่คนนี้〗 ชี้นิ้วมาทางกู

〖เชี่ยมึงจะให้กูพูดว่าอะไรเล่า.. 〗ผมยื่นไปกระซิบที่ข้างหูมัน(เสือกตัวสูงไง) ส่วนมันก็ใช้ศอก ดันๆ อยู่ข้างผมก่อนจะกระซิบกลับมาว่า...

〖ตามน้ำไปก่อน ..〗

〖ใช่เรื่อง..〗

〖เรื่องหนี้กูลดให้ครึ่งนึงเลย..〗จัดไป!!

〖อ๋อสวัสดีครับ พี่ชื่อ เจเจ นะ พี่เป็นแฟนของไอนี้ มาซักพักแล้ว พอดีวันนี้พวกพี่สองคนว่าง ก็เลยพากันมากินข้าว แล้วก็มาแว๊ะดูหนังซักหน่อยนะ แล้วสาวๆ มาที่นี้ทำไมกันหรอ〗

〖อ๋อพอดีวันนี้ พวกหนูเลิกเรียนไวอะคะ ยัยเอิร์นก็เลยชวนพวกหนูมาเดินเที่ยวเห็นบอกว่า จะพาพี่ชายมาด้วย พวกหนูก็เลยมา ไม่คิดว่าจะมาแฟนพี่ที่นี้เลยนะค่ะ ! อร้ายยย!!〗

〖จริง หรอ ค่ะ น้องเอิร์น. . .〗 กัดฟันพูด แง่มๆ กัดหัวน้องสาวตัวเองซะดีไหมเนี้ย !!! ทำอะไรไม่เห็นบอกกันซักคำ

〖จริงค่ะ! พี่กาย พี่เจ ! 〗แหม่แทนที่จะสลด !! แต่กลับเดินมาเกาะแขนของผมกับไอกายให้เดินตามไปดื้อๆ ซะงั้นๆหึหึ !! พอจะรู้แล้ว ว่ายัยเอิร์นมันได้ใครมา = =’ ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ครับ หึหึ !

สรุปวันนี้ ผมก็เลยต้องมาเดินห้าง (ทั้งๆที่ไม่อยากมาเลยซักกะติ๊ด) แถมยังต้องมาแกล้งเป็นแฟนกับมันอีก (แอบนอกเรื่องไปบ้างบางที คึคึ) กว่ายัยเอิร์นจะเดินชอปของเสร็จก็เล่นผมซะขาลากเลยทีเดียว ก็นางเล่นแว๊ะซะแทบจะทุกร้าน แถมบางร้านก็เหมาเกือบหมด แต่คนจ่ายสิครับ ตังมันถึงไง!! เลยสบายไปอีกเรื่อง ขืนยัยเอิร์นสะกิดให้ผมจ่ายขึ้นมาละก็ ! หึหึ  ตัวใครตัวมันครับ!
. . . . . . . . . . .

〖พี่กาย ค่ะวันนี้เอิร์นขอบคุณมากๆ นะค่ะที่อุตส่าห์มาช่วย แถมยังซื้อของให้อีก เอิร์นไม่รู้จะตตอบแทนพี่ยังไงดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่กายมีเรื่อง อยากให้เอิร์นช่วย บอกได้นะค่ะ เอิร์นจะช่วยพี่กายเต็มที่เลย〗

〖ไม่เป็นไรหรอกครับ น้องเอิร์นก็เหมือมน้องสาวพี่คนนึงเหมือนกัน เรื่องแค่นนี้ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ?

〖แต่กูเป็น!! เหี้ย คือกูเปลืองตัว มาก !กูไม่รุ้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลย ขืนรูปกูหลุดขึ้นมา ละก็ มีหวัง สาวๆ ในคอลเลคชั่นกูหายหมดแหง่ม! 〗

〖เอิร์นได้ข่าวว่า มีแต่ ผช มาจีบพี่เจไม่ใช่หรอค่ะ ฮ่าๆๆ !!〗จริงอย่างที่ยัยเอริ์นพูดครับ สตีรส่วนมากจะแค่เดินและมองข้าม ผมไปเฉยๆ ส่วนบุรุษแต่ละคนที่เดินเข้ามานี้ !! หืมม คงไม่ต้องพูดนะครับ หึหึ! เหมือนโดนฟ้ากลั่นแกล้งยังไงก็ไม่รู้ T-T

〖จริงหรอค่ะน้องเอิร์น〗

〖จริงค่ะพี่กาย ขนาดตอนนั้นพี่เจ ลืมของ ไว้ที่บ้าน เลยโทรมาบอกพี่อินให้เอาของไปให้ แต่บังเอิญวันนั้น พี่อินไม่ว่างเลยให้
เลยช่วยเอาของไปให้แทน วันนั้นเอิร์นเดินเข้าไปหน้าคณะ เห็นมี ผู้ชาย หล่อๆ ทั้งนั้นเลยๆ มายืนแซว!พี่เจ อู้ย เอิร์นเห็นละแบบ !! ฟินมากอะคะพี่ กาย พี่กายต้องเห็นเอง ! 5555〗
〖ยัยเอิร์น!!!〗
〖อ้ะๆ พอๆ เอริ์นไม่แกล้งพี่เจ แล้ว !! งั้นเอิร์นขอตัวกลับก่อนนะค่ะ ส่วนพี่สอง คนจะไปทำอะไรต่อ ก็เชิญตามสบายเลยค่ะ !
เอิร์นไปรบกวนแล้วดีกว่า !! ขอบคุณมากๆ นะค่ะสำหรับวันนี้  บ๊ายๆ ค่ะพี่ ชายย ทั้งสอง!!〗พูดยัยเอิร์นก็เดินหายไปพร้อมกับถุงนับสิบใบ ที่ ไอคุณชายอุตส่าห์ ซื้อให้ด้วยความเต็มใจ !! หึหึ ทีกูเปลืองเนื้อเปลืองตัวซะขนาดนี้ ยังไม่เห็นได้อะไรซักอย่าง ! แม้งเอ้ยย

〖หิวรึยัง!ไปกินข้าวกัน〗

〖......กูแดกไม่ลง〗

〖มึงยังเขินไม่หายอีกหรอ?〗

〖กูไม่ได้เขิน ! แต่กูอายย〗

〖เอาน่าไหนๆ ก็มาแล้ว เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง !〗 คิดว่าคราวนี้ ของกินจะซื้อกูได้หรอ หึหึ มึงคิดผิดแล้ว ไอกาย !

〖ไม่ กูไม่กิน กูจะกลับบ้าน !〗

〖ตามสบาย งั้นเดี๋ยวกูไปหาอะไรกินก่อนละกัน เดี๋ยวตามไป ไปรอกูที่รถแหละ !〗

〖ไม่ต้องบอกกูก็จะไปอยู่แล้ว!〗 นี่ ไอกาย มึงจะไม่ลองง้อกูหน่อยหรอวะ ! ถ้าง้ออีกที กูไปเลยนะเว้ยย

〖เออ ไว้เจอกัน〗 เชี่ยตัดบทสนทนาได้เจ็บใจกูมาก สุดท้ายมึงก็ไม่ง้อกู ชิกูไปก็ได้วะแม้ง = =’

. . . . . . . . .

อู้ย หิวก็หิว ! ตั้งแต่เช้ามายัวไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลย !! รู้งี้กินกับไอวินตั้งแต่เมื่อเช้าซะก็ดี โอ้ยย ปวดท้อง ! ขอหาซื้ออะไรกินหน่อยละกัน ! แต่..อ้าว เป้ เป้...เป้ผมอยู่ไหน? กรรมห่าสงสัยจะลืมไว้ที่รถแน่ๆ เลย คิดได้ดังนั้นผมก็รีบวิ่งไปหากระเป๋าเป้ของตัวเอง ที่รถเลย ! แต่พอมาถึง ก็ไม่มีกระเป๋าซักใบ วางอยู่บนรถเลย !

〖เชี่ยเอ้ย กูไปลืมไว้ไหนอีกละเนี้ย !ไปง้อไอคุณชายตอนนี้จะทันปะวะ !〗แง่วๆ ไม่ได้ๆครับ ต่อให้หิวยังไงแต่ถ้าต้องแบกหน้าไปขอโทดมันผมไม่เอาด้วยหรอกครับ ยอมหิวตายดีกว่า หึหึ ! เอ๊ะรึจะไปง้อดีวะ = =’ ชักสับสน
ตุ้บบ!! อยู่ๆ ก็มีผู้หญิง หน้าตาสะสวยมาเดินชน ไหล่ผม จนเกือบจะลงไปนอนยิ้มอยู่ด้านล่าง !

〖อุ้ยย โทดทีค่ะ พอดี  เราหน้ามือนิดหน่อยขอโทดทีคะไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมค่ะ〗

〖อ้อไม่เป็นอะไรหรอกครับ ว่าแต่คุณเอง บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ?〗

〖อ้อไม่เลย เราเองต้องเป็นฝ่ายขอโทดนายมากกว่านะ เราเป็นคนเดินไปชน นายไม่ผิดหรอก !〗

〖ต่างคนต่างไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ งั้น ผมขอตัวก่อนนะ พอดีผมมีธุระต้องไปทำต่อหน่ะ ขอโทดอีกทีนะครับ^ ^〗นานๆ ทีนะที่ผมจะเจอคนแบบนี้ เพราะปกติ เวลามีคนเดินชน ผม ก็จะแกล้ง ทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินผ่านหนีไป แตกต่าง จาก ผู้หญิง คนนี้ ! ที่เธอยังไม่หนีไปไหน แถมยังรู้สึกผิดกับผมอีก ! ถ ถ โถ่ ถ้าใครโกรธเธอลง นี้ก็ ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วละครับ ! แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินออกจากตรงนั้น ก็มีเสียง เรียก ผมให้หยุดเดิน ซะก่อน

〖เฮ้ย!มึงคุยอะไรกับแฟนกูวะ !〗เออ..ผมไม่ได้ตอบเพราะมัวแต่งงอยู่ว่า ผู้ชาย หน้าโหดๆคนนั้น กำลังพูดเรื่องถึงอะไรอยู่ ?

〖เฮ้ย กูถามมึงไม่ได้ยินรึไง?〗

〖ใคร ผมหรอ?〗พลางชีนิ้วมาที่ตัวเอง !

〖ก็มึงนั้นแหละ !เจาะแจ๊ะอะไรกับแฟนกู〗

〖เออแฟนพี่คนไหนหรอครับ ผมไมเห็นรู้เรื่องเลย !〗

〖ก็ผู้หญิงคนที่มึงคุยด้วยเมื่อกี้ไง แฟนกู มึงเป็นใครเป็นชู้มันหรอ?〗

〖เฮ้ยๆ พี่ชักจะไปกันใหญ่แล้ว ผมกับน้องคนนั้นแค่บังเอิญเดินชนกันเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรจริงๆ ครับพี่ 〗

〖บังเอิญเดินชนหรอ! !〗 ปั๊ป!! อยู่ๆ ที่แกก็ง้างหมัดมามาประทับที่แก้มของผมเข้าอย่างจัง โดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเลย

〖บังเอิญหรอ!! บังเอิญ ..งั้นหมัดของกู ก็คงบังเอิญไปโดนหน้าของมึงด้วยเหมือนกัน !〗ปั้ปๆๆๆ ผมจำไม่ได้เลยว่าตัวเองโดน
ต่อยไปทั้งหมดกี่หมัด รู้สึกแค่ว่า หน้าของตัวเองชาไปหมด ผมได้ยินแค่เพียงเสียงของผู้หญิง คนนึง กำลัง ตะโกนร้องขอความ
ช่วยเหลอจากคนแถวนั้นอยู่

〖ช่วยด้วยค่ะช่วย ด้วย!! มีโจรโรคจิตอยู่แถวนี้ค่ะช่วยด้วย!!!!!!!〗

〖เห้ย มึง ทำอะไรหน่ะ หยุดเดียวนี้นะเว้ย!!〗สิ่งที่ผมเห็นคือ เท้าของใครคนนึงที่ ถูกยื่นมาจากด้านข้าง ถีบลงไปที่กลางหลัง ของไอคนที่กำลังต่อยผมอยู่ ผมเห็นมันกำลังโดนกระทืบหนักโดย คนที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี จากนั้นไม่นาน ก็มีผู้หญิง เดินมาพร้อมกับพี่ๆ ร.ป.ภ แล้วจากนั้นไอผู้ชายคนนั่งก็วิ่งหนีไป ทางทิศใดทิศหนึ่ง จากนั้น ผมก็รู้สึกมึนหัว และหมดสติไปในที่สุด
. .. . . . . . . . . . . . . . . . . .

[Special Mini Talk กาย]

〖นายค่ะ ๆ เป็นอะไรรึเปล่า !นี้ๆ ได้ยินเรารึเปล่าค่ะนาย!!!〗

〖ผมว่ามันคงยังไม่ได้สติหรอก แต่คุณพอจะรู้ไหมว่าไอผู้ชายคนที่ต่อยเพื่อนผม เมื่อกี้ มันคือใคร?〗

〖อ๋อ แฟนเก่า เราเองอะค่ะ เราเลิกกันนานแล้ว แต่ มันยยังตามตอแยเราไม่เลิก เราก้ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน〗

〖แล้วทำไมอยู่ๆมันถึงมาต่อยเพื่อนผมได้ละครับ〗

〖เรื่องนี้เราก็ไม่ค่อยแน่ใจนะ แต่เมื่ครู่ก่อนที่จะมีเรื่อง เราเดินมาชน นายคนนี้ แล้ว เราก็ขอโทษเขาไป เขาก็ขอโทษเราเหมือนกัน เราว่าน่าจะเป็นตอนนั้นแหละ ที่แฟนเก่าของเรามาเห็นเข้าพอดี ! ก็เลยมีเรื่องกัน เพราะแฟนมันขี้หึงมากเลย เราถึงทนไม่
ไหวเลยขอเลิกไป〗

〖จะยังไงก็ชั่งเถอะ ครับ ช่วยเรียกรถพยาบาลทีได้ไหม?〗

〖ได้ค่ะ รอสักครู่นะค่ะ ...〗

ถ้าเมื่อกี้ผม ไม่มัวไปซื้อของอยู่ ป่านนี้ เจมันคงไม่โดนซ้อมหนักขนาดนี้หรอก ! ผมรู้ดี ว่ามันเป็นคนที่ปากกล้าขนาดไหน แต่ถึง มันจะปากกล้ายังไง แต่ พอเข้าเรื่องจริงๆ มันกับกลัวจนหัวหด ! และก็รู้ผมรู้ว่ามันไม่สู้คน

. . . . . . . .
ระหว่างที่ผมนั่งขึ้นมารถรถพยาบาล ไอเจมันก็เอาแต่ละเมอ เรียก พี่เช ช่วยด้วยๆ! อย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา จนมันหยดเพ้อและสลบไป
. . . . . . . .

ผมสะดุ้ง ตื่น ขึ้นมาด้วยอาการ มึนงง คงเพราะหัวได้รับการกระทบกระเทือนจากหมัด มาแน่ๆ โดนไม่ยั้งซะขนาดนั้น ผมจำได้ว่าโดนเคยโดน แบบนี้ครั้งนึงตอน ม.4 ตอนนั้น ผมโดน เพื่อนๆ ต่างโรงเรียน มารุมทำร้ายพวกไอวินมัน ซึ่งตอนนั้น ผมกับมันยังไม่ค่อยมีพักพวกเท่าไหร่เพราะเราพึ่งจะย้าย เข้ามาแถวกรุงเทพ เลยยังไม่ค่อยมีเพื่อน ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้นพวกมันมีกันอยู่ 11 ส่วนผมมีแค่ไอวินรวมกันสองคน ด้วยวัยเด็ก ไอวินมันเป็นคนที่ปากสุนัข ชอบละลานคนอื่นเขาไปทั่ว ซึ่งผมก็ชินแล้ว เพราะ เราต่างรู้นิสัยของกันและกัน  และด้วยความปากสุนัขของมึงเลยทำให้ผมโดนลูกหลงเข้าไปด้วย ตั้งแต่นั้นมา ทำให้ผมเกิดภาวะ(โรคกลัวความรุนแรง) ภาพหลอนซ้ำไปซ้ำมา ผมกลัวการที่ มีคนมาหาเรื่องหรือชกต่อย พอเวลาเห็นร่างกายผมจะสั่นไปหมดเรี่ยงแรงก็จะหายตามไปด้วย แล้วใจของผมก็จะสั่นไปหมด จนหายใจไม่ออก  เลยทำให้ผมไม่กล้าที่จะมีเรื่องกับใคร ตั้งแต่นั้นอีกเลยถ้าเลี่ยงได้ผมก็จะเลี่ยง แต่โดยส่วนมากถ้าผมอยู่กับไอวิน มันจะค่อยปกป้องผมตลอดเลย ! เพราะมันคงจะรู้สึกผิดที่ ผมต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ผมอยากปกป้องทุกๆคนที่ผมรัก ผมทนเห็นไม่ได้จริงๆถ้าคนที่ผมรัก เจ็บไปต่อหน้าต่อตา แต่เรื่องนี้ มีเพียงผมกับไอวินเท่านั้นที่รู้! นอกเหนือจากนั้นไม่มีใครอีก เลย รวมถึงไอตินด้วย  //(ㄒoㄒ)//

〖เฮ้ย ไอชั้นใน!! ไอชั้นใน  ได้สติ รึยัง ? 〗

〖เออ..ก..กู..ได้..ยิน!..จะโกนทำซากอะไร แล้วนี้กูอยู่ที่ไหนวะ ?〗

〖ห้องกู !〗

〖ห้องมึงหรอ ..เฮ้อขอบใจนะที่พากูมาที่นี้! ว่าแต่มึงรู้ได้ ว่ากูไม่ชอบโรงพยาบาล〗

〖ก็มึงละเมอ มาทั้งทางจะไม่ให้กูรู้ได้ยังไงละ !!〗

〖เออ.จะยังไงก็เหอะ กูขอบใจมึงมากนะเว้ย!ถ้าไม่ได้มึงช่วยไว้นะ กูคงช็อคตายไปละ 〗

〖ช็อคตายอะไรวะ?〗

〖เออช่างมันเหอะ ! แต่..กาย กูมี..เรื่อง...จะ.บอก〗

〖เรื่องอะไรวะ?〗

〖คือกู...〗

〖กู...〗

〖หิวข้าววะหาอะไรให้กูกินหน่อยดิ่ !〗

〖หึ!นึกว่าเรื่องอะไร เออ งั้นนอนรออยู่นี้แหละเดี๋ยวกูไปทำมาให้!〗

〖อย่าทำข้าวไอหมูตุ๋นมาให้กูกินอีกละ !!〗

〖หึหึ! เออน่ากูไม่ชอบทำร้ายสัด〗

〖ไอสัด!!〗

. . . . . . . . . . . .  หลังจากนั้นไอกายมันก็หายออกจากห้องไปพักนึง ... ก่อนจะเดินเข้ามาพ้รอมกับ ถ้วย ห่าอะไรซักอย่าง ควันเต็มมาเลย !! คงไม่ได้เผากระดาษมาให้กูกินหหรอกใช่ไหม ?
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [13]〖18-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-04-2016 09:21:43
〖เอากูทำมาให้ละมึงลุกกินเองไหวไหม?〗

〖หึ ฉายากูคือ เจ จอม ถึกเว้ย ! เรื่องแค่นี้ สบาย โอ้ยย!!!!〗

〖ถึก ห่าอะไรละ จะหยิบช้อนยังร้องขนาดนี้ มานี่มา นั่งเฉยๆ เดี๋ยวกูป้อน〗 เดี๋ยวกูป้อน ... มานี้มาเดี๋ยวกูป้อน..เดี๋ยวกุป้อน.. ทำไมผมถึงรู้สึกชอบ คำพูดพวกนี้ก็ไม่รู้แหะ เอิ้กๆ !

〖เห้ย! เจ อ้าปากซะทีดิ่ กูเมื่อยแล้วนะ มัวเหม่ออะไรอยู่ !จะกินมั้ยถามตอบ!〗

〖กินคร้าบบ!〗หึ เวลาใจดีก็ดีจนกูเคลิ้ม ! แต่พอเวลา โหดมานี้ คนละเรื่องเลย สัด น่าถีบจริงๆ !

〖อ้าๆอ้ามม ... เชี่ยยร้อนนน!!! โหยมึงแกล้งกูหรอไอคุณชายเหี้ยนิ่ กู เจ็บอยู่นะ〗

〖โอ๊ะๆ โทดที เมื่อกี้กูลืมเป่าหน่ะ มาๆ เด๊ะกูเป่าให้ใหม่ !! อ้า ฟุวววว!!〗หงับเข้าปากมันไปแล้วครับ !! มึงมั่นใจว่านั้นเป่า ไม่ได้จะแดก เอง ! แล้วอยู่ๆมันก็เอาช้อนออกมาจากปากของมันครับ หยืยยย!ยะแหยง

〖อ่ะ อ้า ๆ !!หมับ!〗หน้ามันดูตกใจเล็กน้อย!

〖งงดิ่ ห่าน! หึหึ! แค่นี้กูไม่ถือหรอก! อ้วกมึงกูยังเคยแดกมาแล้ว?〗จริงๆ เรียกว่ากระเด็นเข้าปากจะดีกว่านะ!! หวืยย

〖กูเคยเมาขนาดนั้นด้วยหรอวะ?〗

〖หืมอย่าให้กูเล่า! เออ นี้ไอคุณชาย ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ !〗

〖ตอนนี้หรอ !สองทุ่มครึ่ง?〗

〖เชี่ยกูต้องรีบกลับบ้านแล้ว วะ ! มึงช่วยไปส่งกูหน่อยได้ไหม ไอคุณชาย〗

〖ส่งหน่ะส่งได้ แต่มึงจะกลับไปด้วยสภาพ อย่างนี้หรอ?〗 เออจะกลับไปแต่ดันลืมดูสังขารตัวเองซะงั้นโอย ! ขืนไปสภาพนี้ พี่อินยัยกับเอิร์น ได้พากันช็อคแน่ๆ

〖มันก็จริง .. งั้นกูยืมโทรศัพท์หน่อยสิ!〗

〖ถ้าจะโทรหาพี่อินกับพวกเพื่อนๆ มึง กูบอกเขาไปเรียบร้อยแล้ว!〗

〖แล้วพวกมันไม่ตกใจกันเลยรึไงวะ?〗

〖จะตกใจทำไม กูไม่ได้บอก ใคร ว่ามึงโดนกระทืบสะหน่อย! ไม่ต้องห่วงไปหลอก !〗

〖เออๆยังไงก็ขอบใจมากนะ! ที่มึงอุตส่าห์ช่วยกูเอาไว้ ไม่งั้นป่านนี้กูคงจะนอนจมตีนตายไปแล้ว! !〗

〖ถ้าซึ่งพระคุณนัก ก็หัดทำตัวดีๆ กับกูซะ!กูขะได้ไม่ต้องลำบากใจ〗

〖ลำบากใจ...เรื่องอะไรวะ?〗

〖อ่อ..ป..ป่าวๆไม่มีอะไรช่างมันเหอะ แล้วนี่ มึงยังอยากกินอะไรอยู่มั้ยกูจะได้ไปทำมาให้?〗

〖ไม่เอาแล้ว ! เดี๋ยวมึงแอบถุ้ยน้ำลายใส่อีกกู ขี้เกลียด มานั่งระแวง!!〗

〖หึหึ!!เดี๋ยวกูทำจริงซะนี้!〗

〖เออ  แล้วคืนนี้มึงนอนไหน?〗

〖โซฟาไง!〗

〖เฮ้ยได้ไง มึงเจ้าบ้าน มึงมานอนนี้เดี๋ยวกูไปนอนโซฟาเอง〗

〖เห็นกูอย่างนี้ กูก็ไม่ได้ใจดำจนขนาด ไล่ไอเป๋หัวปูดไปนอนนอกห้องหรอกนะ!〗

〖ไม่ได้ๆยังไงก็ไม่ได้ มึงอะมานอนนี้ เดี๋ยวกูไปนอน นั้นเอง〗

〖ไม่ๆ มึงแหละนอนนี้ เดี๋ยวกูไปนอนโซฟาเอง〗

〖งั้นกูกลับไปนอนบ้านจบ!〗เงียบครับบ เจ้าบ้านถึงกับเถียงผมไม่ออกเลยซักคำ! ให้มันรู้บ้าง ต่อให้กูไม่ใช่เจ้าของบ้านกูก็ใหญ่ได้ ! หึหึ แอบสะใจเบาๆ

〖งั้น ก็นอนนี้ ทั้งคู่แหละ ! ตกลงมั้ย?〗กูยังจำฝังใจได้เลยว่าครั้งล่าสุดที่กูนอนกับมึง มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวกูบ้าง หึหึ !!  . . . .

〖ไม่ตอบ..แสดงว่าตกลง โอเคแล้วนะ !〗

〖อ..อือ.อ.อ〗 อะอ้าว ไหงๆ อยู่ๆ เผลอตอบตกลงไปซะงั้น วะกู แต่ ครั้งนี้ต่างคนต่างไม่ได้เมา มันคงจะไม่ละเมอ มาคล่อมหรืออ้วกใส่ผมหรอกใช่ไหม  หวังให้เป็นอย่างนั้นนะ 555 !

〖งั้นเดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนะ อยากได้อะไรมึงก็ตะโกนเรียกเอาละกัน กูอยู่ ในห้องนี้แหละ!〗

〖ครับผม!!〗

〖เออจะว่าไปนี้มึงก็เลี้ยงง่ายอย่างที่ไอวินมันพูดไว้อยู่นะ  ฮ่าๆ !〗ได้โปรดอย่าเอากูไปเปรียบกับไอหมูตุ๋นจะได้มั้ย !

〖จงรีบ ไสหัวไปซะ ป๊ายย!〗สุดท้ายไอคุณชายมันก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำ แต่โดยดีหึหึ !

. . . . . . . .
ผมไม่รู้ว่าเวลาเดินไปเร็วเท่าไหร่ แต่ คงเพราะวันนี้ร่างกายของผมเริ่มไม่ไหวบวกกับอาการอ่อนเพลีย ทำให้ง่านต่อการหลับไหลเป็นอย่างมาก  ... แต่ผมก็เริ่มจะรู้สึกตัวเมื่อ อยู่ๆ ผมเริ่มรู้สึกถึงลมร้อนๆ อะไรบางอย่าง กำลังพัดมาที่หน้าของผมเข้าอย่างจัง

〖เหี้ย!!〗ทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมาผมก็เห็นใบหน้าของ ผู้ชาย ที่มันกระทืบผมในวันนี้ ! มันกำลัง ยืนจ้องหน้าของผมอยู่ ร่างของมันค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ๆ ผมเรื่อยๆ จนกระทั้งมันกระขึ้นมาคล่อมผมและ ต่อย ผมซ้ำไปซ้ำมา อย่างนั้น............

〖อย่า ...อย่า...อย่า อย่าทำ ผมพี่ อย่า !!!〗

〖เจ! เจ ! มึงเป็นอะไร เจ มึงตั้งสติหน่อย นี้กู กายนะ มึงได้ยิน กูรึเปล่า ไอเจ !!!! 〗ฟึบ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเสียงตะโกนของไอกายที่ดังก้องอยู่ทั่วห้อง ทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็น สีหน้าของไอกายดดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ผมดีใจมากที่สุดคือภาพที่ผมเห็นเมื่อครู่มันเป็นเพียงแค่ฝันนร้าย เท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องจริง !!

〖กาย..นั้นมึงใช่ไหม!!〗

〖เออดิ่! มึงเป็นอะไรเนี้ย !〗

〖กู..กู..กูฝันร้าย! กูไม่ได้โหกจริงๆ นะกาย คือ มัน..〗ฟุบ อยู่ๆ ไอกายมันก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด จนแนบชิดกับอกของมัน

〖มึงไม่..ต้องพูดอะไรหรอก หายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้มึงปลอดภัยแล้ว มันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละเพราะชะนั้นมึงไม่ต้องคิดมาก นะ! กูอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วนะ〗ผมจำไม่ได้ว่า เคยได้รับ อ้อมกอดและการปลอบโยนที่อบอุ่นแบบนี้มานานเท่าไห่รแล้ว รู้เพียงว่า ผมเคยได้รีบ ความรู้สึกแบบนี้เพียงแต่ในตอนนี้ เขาไม่ได้อยู่ที่นี้ด้วยกันกับผมแล้ว เขาไปอยู่ในที่ที่ดีแล้วและผมแค่หวังว่าเขาคงจะมองลงมาดูผมจากที่ใดที่หนึ่ง ของที่นั้นแน่ ๆ!หรืออาจจะส่งตัวแทนมาคอยดูแลผมอยู่ห่างๆ ก็เป็นได้ ^ ^ ขอบคุณนะครับ แม่ !  ถึงผมจะไม่เคยเห็นหน้าแม่เลยก็เถอะ แต่พี่ เจมส์ ก็เคยบอกกับผมว่า แม่ผมเป็นคนที่สวย มาก แถมยังเก่งไปซะทุกด้าน ทำให้หนุ่มๆ ในสมัยนั้นต่าง หมายตาแม่ผมกันทั้งตำบล ตามจีบกันเป็นขบวน แต่ก็ไม่รู้อิท่าไหน ดันมาแต่งงานกับพ่อผมได้  ซึ่งตอนนนั้น ไม่ได้หล่อและรวยอะไรเลย แต่ทั้งสองคนก็ผ่านเวลา ช่วงนั้นมาได้ จนตกลงปลงใจว่าอยากมีลูก ต่อมาก็เลยมีทายาส เป็นลำ ก็คือ พี่ เจมส์ (พี่ชายคนโต) พี่แจง (พี่สาวคนรอง)และ ผม เจ ! (น้องชายคนสุดท้องนั้นเอง) ผมแค่หวังว่า ซักครั้งนึงจะได้ เห็นหน้า แม่ พร้อมกับเดินเข้าไปกอดเขาซักครั้ง แต่มันคงเป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะ ตอนนี้ ผมกับแม่ เราอยู่คนละโลกแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่ผม จะสมหวังในสิ่งที่ผมปรารถนา มาทั้งชีวิต และก่อนที่ผมจะพล้อยหลับไป ผมก็รู้สึกได้ถึงไออุ่นอะไรซักอย่าง ประทับอยู่ที่หน้าผากของ ผม!..  .

. . . . . . . . . . .
ตื่นเช้ามา ผมก็รีบลุกขึ้นแบสังขารตัวเองไปอาบน้ำก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวข้างนอก และทานอาหารเช้าพอเป็นพิธีก่อนที่ไอคุณชายจะเป็นคนขับรถมาส่งผมที่หน้าร้าน แต่ก่อนที่มันจะช่วยพยุงผมเข้าไปด้านในมันก็ยื่นผ้าปิดปากสีดำ  ยื่นมาให้กับผม ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในร้านพร้อมกัน !
ตื่อดื่อ !!!

〖ตายแล้ว ไอน้องเจ !!〗พี่อิน

〖ไอเจ!!〗ไอวิน

〖เจ!!〗ติน

〖น้องเจ!!〗พี่ริว

〖พี่เจ!!〗เอิร์น

〖หายไปไหนมา !!ทำไมพึ่งกับมาเอาป่านนี้ !!!!〗. . . . . .  เสียงของทุกคนพูดออกอย่างพร้อมเพียงออกมาเป็นเสียงเดียวกัน = =’

เอ่อๆ วันนี้มันวันนัดรวมญาติสนิทมิตรสหายกันรึไงถึงได้มาเตรียมตอนรับผมกันเยอะขนาดนี้ แต่ถึงยังไง ผมก็ไม่สามารถรอดพ้นจากคดีที่ก่อไว้ ได้หรอกครับ เลยโดนพี่อินจับเทศไปพักนึงก่อนที่ ก่อนจะค่อยอธิบายเรื่องราวต่างๆให้ทุกคนฟัง ให้พอเข้าใจ แต่ที่ผมแปลกใจหนักก็คือ ทำไมพี่อินกับไอวิน ถึงทำหน้าไม่รู้เรื่องอย่างนั้นหล่ะ อาจจะเป็นเพราะผมคิดมากไปเอง หรือ จะเป็นเพราะ ... . . . .. .  ไอกาย มันได้โทรบอกใครเลย . . . +. +
งานนี้ มีเคลียนอกสนามแน่ครับไอคุณชาย!!

TBC. . . . . . . . . . . . . . .  :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [14]〖20-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 20-04-2016 11:25:47
 o18

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:14 ละคร [หรือเรื่องจริง]
 


หลังจากที่พึ่งผ่าน การนั่งฟังพี่อินเทศนาใส่ แถมยังโดนเพื่อนๆ ลุมล้อม สอบปากคำผมไปยกใหญ่ก็ผ่านมาแล้วถึงสามวัน ! ผม โทรไปขอลางานพี่ๆ ที่งาน เขาสามวัน พี่ๆ เขาก็ไมได้ว่าอะไร บอกแค่ ว่าหายเมื่อไหร่ค่อยกลับมาทำก็ได้ เรื่องนี้ผมเลยเบาใจไปอย่าง ส่วน เรื่องที่ผมยังเคลียไปเสร็จเลย ก็คือ เรื่องของ ไอคุณชาย มันครับ แหม่ หลอกว่าโทรหาพวกพี่อินแล้ว ไอผมก็นอนสบายอย่างหมดห่วง ! แต่ที่ไหนได้ มันกลับ หลอก ต้มผมซะจนเปื่อยไม่เหลือชิ้นดี เลย แถม ยังโดนด่าจนหูชาอีก !! แค้นนี้ ต้องมีชำระแน่มึง !! (ลืมบอกไปว่าที่บ้านในตอนนี้ไม่มีใครรู้เลว่าผมถูกซ้อมมา เพราะวันนั้นผมแค่บอกว่าป่วยเลยไปนอนพักที่บ้านของไอกาย ซึ่งทุกคนก็ดุเหมือนว่าจะเชื่อสนิทใจกันอยู่เลย !) สามวันที่ผ่านมา ผมไม่ได้ถอดผ้าปิดปากตามที่ไอคุณชายมันบอกไว้ ซึ่งผมก็บ้าจี้ทำตาม ที่มันบอก ! แต่ก็จริงอย่างที่มันบอกแหละ นะ ขืนถอดออกไป พี่อินแกคงได้เห็นรอยหมัดที่ประทับอยู่ที่โหน่งแก้มแน่ๆ
วันนี้ ผม ตื่นเช้า เพราะอะไรดลใจให้ตื่นก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนคิดอะไรแล้วแท้เชียว วันนี้ผมตื่นมาทันเห็นพี่อินกับน้องเอิร์นกำลังตักข้าวใส่บาตรกัอยู่เลย ! ส่วนผมนะหรอ หึหึ ! ไม่ค่อย ถนัดสายทำบุญหรอกครับ ผมถนัดสายทำบาปมากกว่า  อ่าๆ กรั่กๆๆๆ!


〖เจ!!! มานี้ มา 〗เสียงพี่อินเรียกชื่อผมตะโกนออกมาจากหน้าบ้าน ! หู้ย กำลังจะเดิน เข้าไปหาอะไรกินในครัวอยู่แล้วเชียว สุดท้ายผมก็เลยต้องเดิน ไป หาพี่อิน  ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยอยากจำไปซักเท่าไหร่(สงสัยจะกลัวหลวงพ่อ 555)

〖มีอะไร ครับ พี่อิน เจกำลังจะเดินเข้าครัวอยู่แล้วเชียว !〗ผมถามคำถามไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไห่รนัก

〖นี้จับ แล้วใส่ ให้หลวงพี่เขาไป หัดทำบุญซะบ้างชีวิตจะได้มีอะไรดีๆ เข้าหน่อย ไม่ใช่ขยันจะทำแต่บาปอย่างเดียว〗
แหม่สรุปพี่อินแกจะเรียกผมมาทำบุญหรือเรียกมาด่ากันแน่ละเนี้ย !! = =’

〖อ่ะๆ ทำก็ได้ไหนๆ จะให้เจใส่อะไร〗 แล้วพี่อินแกก็ยื่น ถุง แกงต้มจืดกับ ดอกไม้มาให้ผม ก่อนจะใส่บาตร ให้ลวงพี่เขาไป (ไหงบอกไกลๆ หน้าเหมือนหลวงพ่อฟระ )กรรมนินทาพระนอกจากจะไม่ได้บุญแล้วนรกยังจะกินหัวผมอีก ฮ่าๆ หลังจากที่ ผมใส่อะไรเสร็จพี่อินก็สะกิดให้ผมนักลงแล้วพนมมือ ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เพราะ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมทำบุญแบบ นับครั้งได้เลยละ เลยมีอาการหลงๆ ลืมไปบ้าง เป็นธรรมดา


〖ไงละ รู้สึก ตัวเบาขึ้นมาบ้างรึยังจ้ะ!〗 พี่อินแกหันมาถามผมที่กำลังจะช่วยเก็บพวก ถาดที่ใส่ของ ทำบุญกันเมื่อครู่

〖ไม่เลย อะพี่อิน เจจะรู้สึกตัว เบาก็ตอนที่ ....〗


〖โป้ก! ซักที ไอเด็กคนนี้ วันๆ คิดแต่เรื่องพวกนี้รึไงกันห้า!!〗พี่แกตวัดเสียงดุใส่ผมที่ดันเว้นช่องว่างไว้ให้แกคิดไปไกล ที่จริงผมกะจะพูด ว่า ตอนที่ผม ขี้ ต่าง หาก พอออกมาปุ้ปตัวก็เบาหวิวเลยไม่รู้พี่แกคิดไปไหนแล้ว 555 เลยเจ็บตัวฟรีไปแบบ ไม่ทันตั้งตัว

.  . . . . . . . . . . . .. . . . . . . .

หลังจากที่ผมเข้ามาผมก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างใจเย็นเพราะเวลาตอนนี้พึ่งจะ ตีห้า ครึ่ง เอง (หู้ยผมแอบตกใจตัวเองที่ ตื่นเช้าได้ขนาดนี้) หลังจากนั้นผมก็ออกมาแต่งตัวโดยวันนี้ผมใส่เสื้อยีนต์มีฮูดทับอีกตัวนึงเพราะเริ่มรู้สึกหนาว ขึ้นมาชอบกล ! สงสัยพายุจะเข้าเพราะผมตื่นเช้า ก็ได้ ฮ่าๆ

. . . . . . . . .. . .
ผมรีบเดินลงมาอย่างไม่เร่งรีบ เพราะ ยังเหลือเวลาอีกเยอะเลยกว่าที่ผมจะไปถึง ม. โฮ๊ะๆ  แอบแปลกใจตัวเองไม่หายย

〖พี่อินคร้าบ ข้าวเช้าเสร็จรึยัง อ่า ผมหิวแล้วน้า !! พี่อินๆๆ〗 แต่ไม่ว่าผมจะเรียกหาพี่อินเท่าไหร่ก็ไม่มีวี่แว่ว ว่าจะมีเสียงของใครตอบกลับมาเลย !  อืมมม หรือว่าจะไปเดินตลาด ตอนเช้า กับยัยเอิร์น !! ก็อาจจะเป็นไปได้นะ ผมเองก็ไม่ได้คิดมากอะไรเลยเดิน ไปนั่ง อยู่ที่ห้องนั่งเล่น ซะเลย ! ก็มันว่างนี้น่า ผมเลยหยิบไอแพดที่พี่อินชาตแบตไว้มาเล่นซะหน่อย !! เอวันนี้ ไม่เห็นมีอะให้ดูเลยวะ ไลน์ ก็ไม่มี What app ‘We Chat ก็ว่างเปล่า เอ้จะทำอะไรดีว้า อ่าใช่แล้ว อวดพวกไอวินว่าผมตื่นเช้าดีกว่าพวกมันคงต้องตกใจ มากแน่ๆ คิดได้ดังนั้นผมก็กดอัพสเตตัสขึ้นมาเลยทันที

〖ว้า !! ทำบุญตอนเช้าความรู้สึกมันเป็นแบบนี้นี้เอง ฮ่าๆ #แฮทแท็ค @v’win pongskon @ T.Tinnaphop〗 เวลาผ่านไปสามนาที ไล?ดีดขึ้นมา 104 แล้วครับ ! ฮ่า ตามมาด้วยคอมเม้นของ ไอเพื่อนเวรทั้งสอง

V’Win:เชี่ย ไอไจตื่นเช้ากูช็อคแปป @ T.Tin ตามมาด้วย เม้นแรกแอบกูกวนๆ แต่เม้น สองนี้ ยิ้มตามเลยจริงๆ

T.Tin :เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอเจ เป็นห่วงนะหาอะไรกินด้วย!
J’JataRin:ครับผมคุณแฟน ! ก็หาอะไรกินด้วยหล่ะเค้าเป็นห่วงรู้เปล่า ตามมาด้วย

V’Win:อู้แหวะๆๆ!! กูละอิจคนมีคู่ซะจริง เชี่ย !!

J’Jatarin: อิจฉากูก็บอก สาด อย่ามา !! 5555 แต่ไม่ได้มีคอมเม้นมันเฉยๆ ครับ มันยังแฮทแท็คไปหาใครอีกคนนึง

!I’am’Sky??? ใครวะ ผมนั่งบ่นพึมพำในห้องนั่งเล่นอยู่คนเดียว  ซักพักนึงก็มีคอมเม้นของคนที่ไอตินแท็กตอบกลับมา !

I’am Sky: เช้าแล้วกินอะไรยัง หิวรึเปล่า เดี๋ยวกูเอาไปให้?

J’Jatarin: . . . . . . . . . . . !! ผมทำนั่งงง ก่อนจะลองจิ้มเข้าไปดูที่โปรไฟล์ของไอสกายอะไรนี้ ! มันใช่รูป ท้องฟ้าเป็น รูป

ประจำตัวครับ ส่วนหน้าปก เป็น รูป พระจันทร์กับพระอาทิตย์อะไรของมันวะ ?? ผมค่อยเลื่อนๆ ลง มาดู ก่อนที่ตัวเองจะเผลอ

สะดุ้งตัวเห้ย!! นี้มัน... ไอกายนี้หว่า ผมเลื่อนลงมาดูเลื่อยๆ มีรูป ที่มันถูกแท็ก โดย Pimnapa! นี้มัน เฟสของยัยเอิร์นนิ่ ในนั้น ถ้า

ผมมองไม่ผิด ! มีรูปของผมกับมันกำลังยืนจับมือกันอยู่ด้วย ! เหี้ยเอ้ย ดัง ไหมละกู !! แต่ที่ตกใจหนักคือ พอผมลองกดเข้าไป

ส่องเฟสของยัยเอริ์น . . . . เชี่ยยย รูปผม ตามบอรด์เว็ปเกย์เต็ฒเลยครับ โอ้ยย !! ยัยเอิร์นไหงทำกับพี่อย่างนี้เนี้ย !! ผมนั่งสบถ

ด่าตัวเองอยู่คนเดียวภายในห้อง ก่อนจะมีเสีงประตู ถูกผลักเข้ามาซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะ กำลัง เครียดรอยู่กับภาพ

ของตัวเองที่ไปปรากฏอยู่บนโซเชียว แถมยังเป็นเว็ปเพจ คู่รักเกย์งี้อีก !!! โอ้ยยย  ตายๆ ไอเจคนนี้ไม่เหลือหน้าไปมอง ใครแล้วครับบ



〖พี่อินน! ช่วยผมด้วย ยัยเอิร์นแกล้งผมอะ 〗

〖แกล้งอะไรหรอ?〗

〖ก็ยัยเอิร์น . . . . .〗แต่เดี๋ยวนะ นั้นไม่ใช่เสียงของพี่อินนิ่แต่เป็นเสียงของ ผู้ชายแถมพอฟังแล้วยุงคุ้นๆ หูดีอีกด้วย ! ผมรีบตั้งสตินับ 1 .2 .3 แล้วหันไปมองในทันที

〖แท่น แท่นนนน ! เซอร์ไพท์ไหมละค่ะ พี่เจ ! วันนี้ น้องเอิร์นคนนี้ พาแขกคนสำคัญมาทานข้าวด้วยน้าค้า !!〗


〖. . . 〗 ผมไม่กล้าพูดอะไรนอนจากทำตาปริบๆ ให้กับ ไอกายไป

〖อ้าวไม่ดีใจหรอค่ะ ! เอิร์นอุตส่าห์!... อร้ายย พี่ เจ ปล่อยเอิร์นเดียวนี้นะอร้ายย 〗 ผมรู้สึกหน้าดำหน้าแดงแถมยังรู้สุกโกรธที่อยู่ๆ ยัยเอิร์นก็เอารูปของผมกับไอคุณชายไปโพสไว้ในเว็ปแบบ นั้น แถมตอนนี้ ยอดไลค์ก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วด้วย 8พันกว่าแล้ว !! ผมเลยลุกขึ้นกะไปจะเขกกระบาลยัยเอิร์นซักที แต่รายนั้นวิ่งหนีไปหลบอยู่ข้างหลังของไอกาย ผมเลยทำอะไรไม่ได้เลยสิ !


〖พี่กายช่วยเอิร์นด้วยค่ะ พี่เจจะแกล้งหนู ฮือๆ!〗

〖ไม่ต้องมาบับน้ำตาเลยัยเอิร์นไหงเอรูปพี่ไปโพสในเว็ปแบบนั้นได้ละ เกิดคนอื่นเข้าใจผิดมาจะว่ายังไง!〗ยัยเอิร์นทำหน้ายู้

ก่อนจะทำหน้าแลบลิ้นหนึ่งทีและวิ่งหนีออกจากประตูด้านหลังไป . . . ตอนนี้ทั้งห้องเลยมีแค่ผมกับไอกยแค่สองคนที่กำลังยืน

จ้อง หน้ากัน ตาแทบไม่กระพริบ !!... จ้องทำห่าอะไรนักกู เขิน เดี๋ยวจิ้มตาแตกเลยสัด! >< ผมพยายาม หลบสีหน้า และผลัก

ไหล่ให้มันถอยห่างออกไปจากประตู แต่ผลักเท่าไหร่ก็ไม่ไปนี้สิประเด็น เพราะหุ่นผมกับมันห่างกันขนาดนั้น ยังกะ ผีเปรต กับคน

แคระ !!... เอิ่ม เข้าใจเปรียบตัวเองดีน้อกู . . แต่สีหน้ามันดูเหมือนเริ่มเครียดๆ ขึ้นมาแล้วนิดๆ (เซนต์ผมมันบอก) ใบหน้าที่เกือบ

จะยิ้มให้ผมตอนที่เจอกันเมื่อครู่กับเหือดหายไป เหลือไว้เพียงสีหน้าที่ไร้อารมรณ์ราวกับว่า ผมไปทำอะไรให้มันไปสบายใจอย่งานั้นแหละ ...
〖. . . เอ่อ..ถอย..ก่อนดิวะ..กู..เอ่อ..จะไป.ขี้ !!!〗ใช้ขี้นี้แหละเหตุผลดีที่สุด ! มันต้องเชื่อและยอมหลีกทางให้ผมแน่ๆพูดแล้วผมก็เลยลองเดินอ้อมหลังของมันดู แต่มันก็ดันเดินมาขว้างไว้ดังเดิม ... เอ่อ บรรยากาศเริ่มแปลกๆ แล้วสิ นี้ผมเผลอไปทำอะไร

ให้มันไม่พอใจรึเปล่าเนี้ย !!!

〖ที่ มึง พูด เมื่อกี้ . . . . จริงหรอ ที่ว่า. . .. . . . . . เราแกล้งคบกัน〗เชี่ยผมรู้สุกสะท้านกับคำถามที่ตัวเองได้ยิน เอ่อ เมื่อกี้มันถามเรื่องที่ผมแกล้งคบกับมันใช่ไหม !! เอ่อ วัน นั้นผมกับมันแค่แกล้งแสดงละครให้เพื่อน น้องเอิร์นดูไม่ใช่หรอ ที่แรก ผมก็นึกว่ามันเล่นๆ เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร ไหง มันกลับคิดจริงจังแบบนี้ละ  . . . ผมเริ่มรู้สึกไปชอบตัวเองแล้ว ที่พูดอะไรอกไปโดยไม่คิดให้รอบคอบซะก่อน . . หึ้ยย จะเอาไงต่อดีวะ ! ถึงผมจะเต็มใจก็เถอะ ! แต่ผมก็เขินนะ ถ้าจะ พูดความจริงไป ผมเลยเลือกที่ ...

〖ก็เออ สิ วะ เราก็แกล้งคบต่อหน้าเพื่อนๆ น้องเอิร์นไม่ใช่เหรอวะ ! อย่าบอก นะ ว่ามึง .. คิดจริง...〗ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนักที่พูดแบบนี้ออกไปทั้งที่ในใจจริงๆ ผมอยากจะเดินเข้าไปกอดมันแล้ว บอกว่า ! “กูคิดจริงจัง ตั้ง แต่มึง ยังไม่ได้แกล้งเป็นแฟนกันเลย !” เห้อแต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะผมก็ไม่กล้า ที่จะพูดไปอยู่ดี!

〖แล้วนี้มึง มา...〗 ยังไมทันที่ผมจะได้พูดอะไรต่อ ไอกายมันก็เดิน หน้าขรึมออกไป แถมไม่ยอมพูดอะไรก่อนไปกับผมซักคำ . . . มันรู้สึกไม่ชินนะครับ พอเวลาจากกันแล้วมันไม่พูดอะไรแบบ นี้ ปกติ มันจะต้องด่า ผม แซว ผม หรือเรียกชื่อผมให้หันหลังกลับไปมอง มัน แต่วันนี้.... มัน .. ไม่ยอมพูดอะไรกับผม..เลย ..

ผมเดินออกมาเหมือนพวกร่างไร้วิญญาณ ผมเดินมองพื้นมาจนถึงโต๊ะกินข้าวก่อนจะนั่งลงมองกับข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า !ข้าว ต้ม หรอ !! “อ้า อ้ามม เชี่ยย ร้อนน นี้มึง ตั้งใจจะแกล้งกูใช่ไหมไอคุณชายย” ผมนั่งคิดนึกถึงวันที่ผมไปนอนที่ห้องของไอกาย วันนั้น มันอุตส่าห์ ทำข้าวต้มมาให้ผม มันแกล้งผม มันเป่าให้ผม และมันก็ยังป้อน ผม. .. . ผมเผลอทำอะไรไม่ดีกับมันใช่ไหมเนี้ย นั่งนั่งยิ้มเหม่ออยู่คนเดียว ก่อน ที่จะสะดุ้งขึ้นมา จากเสียงของพี่อิน..

〖ตาย แล้ว นั่งยิ้มอะไรอยู่คนเดียวจ้ะพ่อคุณ แล้วเมื่อกี้ ไปทำอะไรให้น้องกายเขารึเปล่า ถึงเดินหน้างอออกไปแบบนั้น มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า〗. . .

〖เปล่าไม่มีอะไรหรอกครับ ! ผมอิ่มแล้ว ขอตัวขึ้นไปจัดกระเป๋าก่อนนะครับ〗. . . ผมลุกขึ้นดันเก้าอี้ให้ห่างจากโต๊ะก่อนจะเดินหันหลังหลังแล้วเดินขึ้นห้องของตัวเองไป ผมบอกว่าอิ่มทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้กินเลยซักคำ ... ผมรู้สึกผิดที่ ตัวเองเผลอพูดไม่ดีกับมันไป แต่จะไงได้ละ ก็ผมทำมันลงไปแล้วนิ่ จะ ย้อนเวลากลับมาก็ไม่ได้ . . .


[8.21 ]
ผมนั่งฟุบลงกับเป้ของตัวเองอยู่ในโรงอาหาร เสียงของผู้คนรอบข้าง ทำให้ผมรู้ว่า เริ่มได้เวลา ที่ นักศึกษา หลายๆคนจะมาที่ม.กันแล้ว บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้นมาทันที แต่ไหง ผมกับไม่มีอารมณ์ร่วม อย่างทุกวันซะนี้ ! เฮ้อ

〖โอ้ย!!!〗เชี่ยใครตบหัวผมวะ ! ผมเงยหน้าขึ้นมามองที่ด้านหลังก็พบ ไอวิน

〖เป็นเหี้ย อะไรเนี้ยมาตบกูทำไม กูเจ็บนะสัด 〗

〖แหม่ๆ แค่หยอกเล่นนิดหน่อยเองทำเป็นน้อยกิ้วๆ〗มันพูดก่อนจะยื่นมือมาเขี่ยที่คางของผมเล่น เหมือนลูกหมา

〖สัดกูไม่มีอารมณ์〗

〖โอ๋ๆ ไหน เครียดอะไร ลองบอกให้พี่ วินฟังหน่อยสิครับบ! หืม!〗

〖เปล่า!ไม่มีอะไร แล้วมึงโผล่มาทำไมแต่เช้าเนี้ยไหนว่ามีเรียนบ่ายไง〗

〖กูขี้เกลียดอยู่บ้านคนเดียว พ่อแม่พี่น้องกูไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดหมดเลย!กูเลยอยู่บ้านคนเดียว〗

〖ก็เลยมา ว่างั้น ?〗

〖อือ.. งั้นคืนนี้ กูไปนอนด้วยคนนะกูไม่มีเพื่อนวะ...〗

〖โซฟาข้างล่างว่างก็ไปหาที่นอนเองเองละกัน !หึ〗

〖เชี่ยมึงนอยอะไรกูรึเปล่าเนี้ย เห็นหน้าบึ้งตั้งแต่กูเดินมาละ โกรธ กู หรอ กูให้ตบคืนก็ได้อ่ะจะได้หายกัน . . .〗 ผมไม่ตบหรือทำอะไรมันเลยครับ ผมรู้สึกว่าสิ่งรอบข้างหน้าเบื่อไปหมด รวมถึงการที่ได้ตบหัวไอวิน .. ซึ่งเป็นเรื่องที่หาโอกาสได้ยากมาก เพราะมันไม่เคยหยุดให้ผมตบเลยซักที หรือถึง หยุดมันก็จะยืดตัวให้สูงที่ สุด แล้วให้ผมลองตบ ... สัดก็เตี้ยกูตบมึงไม่ถึง !!

〖ไม่ละ ทำมึงก็เหมือนทำหมา !กูกลัวบาป〗

〖แหม่ๆ หัดเป็นพ่อพระเหมือน กิ๊กมึงแล้วรึไงห่า แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น มึงถึง ตื่นไปทำบุญได้หน่ะฮ้ะ !〗 คงเพราะ ผมได้นอนเต็มอิ่มมาสามคืน แถมยังรู้สึกดีทุกครั้งที่คิดถึง เรื่องวันนั้นอยู่ด้วย . . . . . ถึงผมจะเป็นคำที่ทำมันพังลงไปแล้วก็เถอะ . ..
〖ไม่รู้เกิดอยากทำขึ้นมาก็เลยลองดู. . 〗 ผมตอบมันแบบปัดๆไปไม่อยากให้มันถามอะไรอีกรำคาณ ผมเลยหันไปมองทางอื่น . . .แต่กต้องแปลกเมื่อทุกคน ในโรงอาหาร . . . ต่างหันมาจ้องมองผมผลัดกับมองโทรศัพท์ เหมือนผมเป็นตัวอะไรซักอย่างที่ดูน่ารังเกรียดขนาดนั้น แต่บาง คนก็มองผมแล้วยิ้มๆ ส่วน บางคนทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห ...

〖เห้ยๆ เจ เรื่องจริงหรอวะ?〗ไอวินสะกิดให้ผมหันไปมองมัน ที่กำลังนั่งจ้องโทรศัพท์ เหมือนตกใจอะไรซักอย่างอยู่

〖เรื่องจริงอะไรของมึงวะ!!〗 ผมทำหน้า งง ๆก่อนจะถามมันไป มันก็ยื่นหน้าจอโทรศัพท์มาให้ผมดู โดยที่มีรูปผมกับไอกายยื่นจับมือกันอยู่

〖ก็นี้ไง !lสรุปมึงกับมัน .. คบกันจริงๆ หรอวะ〗

〖. . .〗 ผมไม่ตอบอะไรมันไปได้แต่นั่งเงียบแล้ว ลองเลื่อนรูป ของผมกับมัน ที่มีอยู่เต็มไปหมด

〖มึงเอารูปพวกนี้มาจากไหนวะ ?〗

〖กูไม่รู้อ่ะ เพื่อนๆกูแท็กมา จากเพจของคณะ ตอนนี้ ยอดไลค์เป็นหมื่นแล้วด้วย !!〗เชี่ย ผมรู้สึกตกใจมาก ที่ มีรูป ผม ไปโผล่อยู่ใน เพจของคณะวิศวะ ซึ่งเป็นคณะ ที่ถูกเข้าค้นหามากที่สุดในที่นี้ . . .ป่านนี้เรื่องของผมกับมันไม่รู้กันไปทั้ง ม.แล้วหรอ . . . ผมลองเลื่อนดูหาว่าไอ กายได้มากดถูกใจหรือเข้ามาแสดงความคิดเห็นอะไรไหม ก่อน ที่สายตาของผม จะไปสะดุดเข้ากับใครบางคนที่เดิน เข้ามาพร้อม กับผู้หญิง ที่ มีเพียง คนเดียว ใน โรงอาหารแห่งที่

〖คุณเอื้อย!〗อยู่ๆ ผมก็เผลอพูดชื่อเธอคนนั้นออกมา สายตาที่มองดูผมเมื่อครู่ ตอนนี้กลับ ไปจ้อง ไอคนทีเดิน เข้ามาพร้อมกับคุณเอื้อย คนๆนั้นก็คือ “กาย”มันเดินจูงมือคุรเอื้อยเข้ามา ก่อนจะหันมาสับตากับผมแค่แว็ปเดียว และ พาคุณเอื้อยไปหาที่นั่ง พร้อมกับ สั่งอะไรซักอย่างให้ เธอทาน . ..

〖เชี่ย นั้น คนหรือนางฟ้า วะ ทำไมสวยขนาดนี้ ! เจๆ มึงเห็นอย่างที่กูเห็นไหม วะ . . .〗ตอนนี้สติไอวินมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วครับ เห็นคนสวยทีไร มันเป็นงี้ทุกที - -*

〖เออกูเห็นแล้ว แต่มึงไม่ต้องคิดจะจีบ เขา หรอกนะ . . . คุณเอื้อย ...เขามีเจ้าของแล้ว?〗ความรู้สึกผมเหมือน อะไรติดคอผมซักอย่าง เวลา ที่ต้องบอกว่ คุณเอื้อยมีเจ้าของแล้ว ! ผมมีความรู้สึกเจ็บๆที่อกอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าผม กำลังฝืนพูดมันออกไปอยู่!?

〖เอื้อยเหรอ ชื่อแม้ง น่ารักวะ แต่เดี๋ยว นะ สรุปมึงรู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอ?〗

〖เออ!〗

〖แล้วไหงมึงถึงเงียบอย่างนั้นวะ ! ไม่เห็นบอกให้กูรู้บ้างเลย〗

〖มึงเคยเจอเขาซะที่ไหนละ ถ้าเคยเจอก็ว่าอย่าง อยู่ จะให้กูบอก เอ้ย วิน กูรู้จักคนนี้ๆนะเว้ย อย่างงู้นอย่างงี้ รึไง ห้ะ ?〗
〖เฮ้ยกุก็ถามเล่นๆ ทำไมต้องทำสีหน้าเครียดขนาดนั้นด้วยวะ. . 〗ไอวินมันเหมือนจะรู้สึกได้ว่าผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยเดินเอามือมาตบไหล่ผม เบาๆ

〖เออ ช่างเถอะ งั้นกู ขึ้นไปเรียนก่อนนะ มึงก็อยู่ดูไปละกัน กูไปละ〗ยังไม่ทันที่ผมจะลุกไอวินก็ดึงแขนผมให้นั่งลงดังเดิม

〖เชี่ยอย่าพึ่งไปดิ่ว้า กูอยากรู้จัก กับคนนั้นอยู่เลยพากูไปแนะนำทีดิ่ !〗

〖เฮ้ยไม่เอา อยากรู้จัก มึงก็เข้าไปทักเขาเองดิ่ กูไม่เกี่ยว〗

〖เกี่ยวดิ่มึงรู้จักเขา ช่วยไปแนะนำกูให้เขาที !〗

〖แต่เขามีเจ้าของอยู่แล้วนะ มึงยังอยากรู้จักอยู่อีกหรอ?〗

〖เออน้ะ สวยอย่างนั้นเป็นกิ๊กกูก็ยอม...〗ทันทีที่ไอวินพูดจบ มันก็ตะโกนเรียกไอกาย ทำให้คุณเอื่อยที่กำลังนั่งจิ้มๆ โทรศัพท์อยู่หันมาสบตากับผมเข้าอย่างจัง ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินเข้ามาหาผมกับไอวินที่โต๊ะ แล้วก็ทำให้สายตา ราว 2-3ร้อยคู่ หันมามองที่โต๊ะผมในทันที

〖อ้าวสวัสดีค่ะ เจเจ ! ไม่ได้เจอกันนาน ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะค่ะ 〗

〖เห้อๆ ขอบคุณครับๆ〗ผมรับยิ้มคุณเอื้อยแบบเขินๆ ทั้งที่ จริงไม่อยากทำเลยแม้แต่นิดเดียว

〖ส่วนผมชื่อวินครับ เป็นเพื่อน กับไอเจ ไอกายมัน ยินดีที่ได้รู้จักครับ 〗มันพูดพร้อมกับยิ่นมือไปแสดง ความ รู้จักกับคุณเอื่อยเขา

〖คุณเอื้อยก็สวยไปเปลี่ยนเลยนะครับ〗

〖แหม่เจเจ ก็ ! เออ เมื่อกี้ กายสั่งของมากินเต็มเลย เจเจกับวินก็ไปกินด้วยกันสิ ค่ะ〗คุณเอื้อยมองมาที่ผมแล้วทำหน้ายิ้มๆ
 เหมือนรอฟังคำตอบอยู่ ผมแอบมองเหล่ๆไปที่ไอกายเห็นมันทำหน้าไม่พอใจ ผมเลยตัดสินใจ..

〖อ๋อพอดีว่าผมต้องรีบขึ้นไปเรียนนะครับ เชิญ คุณเอื้อยทานกันตามสบายเลยครับ ผมยังไม่ค่อยหิว 〗ไอวินใช่นิ้วสะกิดผมก่อนจะทำหน้าอ้อนๆ เหมือนว่าให้ผมพามันไปหน่อย จริงๆ ผมก็อยากตอบตกลงไปนะ ถ้าไม่บังเอิญไปเห็นสีหน้าของมันซะก่อน
〖เอ่อยังไงผมก็รบกวนคุณเอื้อยช่วยพาไอวินมันไปกินด้วยคนนะครับ ผมต้องไปแล้ว...〗

〖เดี๋ยวสิค่ะคุณ เจ ไหนๆ ก็ยังไม่มีใครทานข้าวเช้ากันมา ก็ไปกินด้วยกันเลยสิค่ะมื้อนี้เอื้อยเลี้ยงเอง 〗ยิ่งผมเห็นสีหน้าอ้อนวอน ของคุณเอื้อยผมก็อยากจะตอบตกลงไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ผมรู้ดีว่าถ้าผมตกลงไป ไอกายมันคงไม่สบายใจแน่ ที่ผมไม่ยุ่งกับคนของมัน

〖ไม่เป็นไรดีกว่าครับคุณเอื้อยพอดีผมทาน....〗

〖พี่เจ !!〗ฟึบ ผมหันหลังกลับไปมองตามต้นเสียงที่ได้ยิน ก็ทำให้ผมแอบแปลกใจไม่ได้ ที่ .. อยู่ๆ ยัยเอิร์นก็มาโผล่อยู่ที่โรงอาหาร ....

〖พี่เจ นี่ๆ พี่อินบอกให้เอิร์นเอามาให้ เห็นบอกด้วยนะว่าต้องกินให้หมด ไม่งั้นไม่ต้องเข้าบ้าน〗

〖ยัยเอิร์นเบาๆหน่อย!!〗ผมกระซิบๆ ข้างยัยเอริ์นเป็นเชิงบอกให้พูดเบาๆ หน่อย เพราะผมพึ่งจะบอก กับคุณเอื้อยไปเมื่อกี้เองว่าทานอะไรมาเรียบร้อบแล้ว..

〖แล้ว พี่ คนนี้ คือ ???〗 ยัยเอิร์นทำหน้างง ก่อนจะหันไปสนใจที่คุณเอื้อยจนผมต้องหันหลังตามและแนะนำให้คุณเอื้อยรู้จัก
〖อ๋อนี้ น้อง ผมครับคุณเอื้อยชื่อยัยเอิร์นครับ ยัยเอิร์นนี้คุณเอื้อยหวัดดีพี่เขาสิ〗 ยัย เอิร์นทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะทำมือไหว้แบบปลงๆ แบบรีบทำรีบกลับ

〖หวัดดีค่ะ !〗ห้วนไปไหมนี้บางที - -*

〖เออ ต้องขอโทดทีนะครับ พอดี ว่าน้อง ผม ยังเด็กอยู่นะครับ เลย อาจจะดื้อๆหน่อย〗

〖หน่อย เด็กอะไรกันละค่ะ เอิร์น 15จะ 16 แล้วนะคะ เอิร์นไม่ใช่เด็กๆ แล้ว อีกอย่าง เอิร์นก็สุภาพกับคนที่ควรสุภาพด้วยเท่านั้นแหละค่ะหึ๊ !!〗 โอ้ย ไปได้นิสัยแบบนี้จากใครมากันนะ - -* !! คิดแล้วเหมือนคุ้นๆ ว่าเป็นคนใกล้ตัวเลย หึหึ!พอยัยเอิร์นพูดจบก็วิ่งไปเกาะแขนข้างนึงของไอกายซึ่งทำให้ทุกในโรงอาหารตกใจกันเป็นอย่างมาก เหมือนกำลังจะมีศึกชิง พระเอกเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าอย่างไงอย่างงั้น

〖ยัยเอิร์นมานี้มา ! ไปเกาะแขนพี่เขาทำไม มานี้ๆ 〗 คุณเอื้อยทำหน้ายิ้มๆ ก่อนจะพูดออกมา

〖เอาเถอะค่ะเจ เจ ! ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอื้อยชอบ〗 . . . หือ.. คุณเอื้อยชอบที่จะมีสงครามประสาท กับยัยเอิร์นเนี้ย นะ ผมว่าคุณเอื้อย คิดผิดแล้วหล้ะ = =’
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [14]〖20-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 20-04-2016 11:30:18
〖ไม่เอา เอิร์นจะอยู่กับพี่กาย พี่กายของพี่เจ ! ไม่ใช่ของพี่คนนี้ ..〗. . . สีหน้าคุณเอื้อยดูตกใจอยู่ไม่ใช่น้อยแต่ก็แค่แปปเดียวเท่านั้นแหละครับ ซักครู่ คุณเอื้อยก็กลับมายิ้ม ปนขำๆ เหมือนเดิม แต่ ผมเริ่มร้สึกทนไม่ได้ที่น้องสาวของตัวเองไปทำตัวแบบนั้นต่อหน้าคุณเอื้อย เลยเรียกให้ยัยเอิร์นถอยห่างออกมา  แต่ผมก็พึ่งจะสังเกตครับว่าวันนี้ยัยเอิร์นแต่งตัวในชุดลำลองธรรมดา เหมือนกับว่าได้ไปโรงเรียน

〖. . . ยัยเอิร์นพี่ บอกให้มานี้〗ผมเริ่มทำเสียงดุๆ ขู่ให้ยัยเอิร์นกลัวแต่แทนที่จะกลัวเปล่าเลยครับ ยืนเกาะแขนไอกายอยู่เหมือนเดิม


〖ไม่เอาเอิร์นมีเรื่องต้องคุยกับพี่กายก่อน ถ้าไม่ได้คุยเอิร์นก็ไม่กลับ〗

〖แล้ว ..ทำ.. ไมวันนี้ถึงไม่ไปโรงเรียน พี่อินรู้เรื่องรึเปล่า?... 〗 ได้ผลเกินค่ดครับ ยัยเอิร์นดูหน้าเสียไปเลยทันทีที่ผมเอ่ยชื่อพี่อินขึ้นมา แสดงว่า พี่อินคงไม่รู้ไมเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ๆ หึหึ ...


〖ไม่ตอบก็ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวพี่โทรถาม พี่ อินเอง . . . 〗ผมแกล้งๆ ยกโทรศัพท์ขึ้นมากำลังจะกดโทรออก ยัยเอิร์นทำท่าดูลุกลี้ลุกลน ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูไอกาย ... และเดินกลับมาหาผมแต่โดยดี !

〖โอเคนะค่ะ !〗

〖. . .〗ไอกายไม่ยอมพูดอะไรได้แต่พยักแทนคำตอบของมัน ! - -* ชักสงสัยขึ้นมาแล้วสิ ว่าสองคนนี้แอบคุยอะไรกันลับหลังผมอยู่กันแน่ !

〖งั้นผมกับยัยเอิร์นขอตัวก่อนนะครับ ทานกันให้อร่อยนะครับ ส่วนผมขอตัวไปเรียนก่อน ถ้าคุณเอื้อยว่าง ก็อย่าลืมไปทาน กาแฟที่ร้านผม บ้างนะครับ เดี๋ยวผม จะบริการให้เป็นอย่างดีเลย〗

〖ค่า ไว้ ว่างเอื้อยจะไปนะค่ะ ! บายค่ะ〗...

ส่วนไอวินมันไปตามผมาหรอกครับ เห็นหญิงสวยๆ ทีไรทิ้งผมไว้คนเดียวทุกทีเลย เห้อ ! กุควรคบกับมึงต่อดีไหมเนี้ยไอเชี่ยวิน !!
〖พี่ เจ ! เย็นนี้ พี่ว่างมั้ย จะไปไหนรึเปล่า ?〗ยัยเอิร์นเดินเกาะแขนมาพร้อมกับผมแถมยังถามซอกแซก ว่าผมว่างอย่างนู้นอย่างนี้รึเปล่า พอดีตอนเย้นมีอะไรให้ช่วยก็ว่าไป ! หึหึ ผมเริ่มมีลางสังหรณ์ ว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ๆไม่ดีแน่ๆ


〖ไม่ว่างหรอก เอิร์นพี่ต้องไปทำงานกว่าจะกลับก็คงดึก ลองโทรไปชวนเพื่อนๆ มาช่วยกันทำสิเดี๋ยวก็เสร็จ !〗

〖พวกเพื่อนเอิร์นไม่ว่างกันเลยค่ะพี่เจ นะ นะ นะ ช่วยหนูซักครั้งนะ ค่า นะค่ะ นะ นะ〗 ยัยเอิร์นทำเสียงออดออ้อนคง คิดว่าผมจะใจอ่อนจึ้นาละสิ !! หึหึ ! ถูกแล้วครับ ผมแพ้ทางพวกขี้อ้อนจริงๆ

〖แต่กว่าพี่จะกลับมาก็ดึกนะรอได้หรอ ?〗

〖งั้นพี่เจก็ไปทำแล้วลามาสิ ! อย่าเห็นงานสำคัญกว่าน้องนักสิ !〗

〖อ่ะๆ แต่พี่ไม่รีบปากนะ ว่าจะมาช้ารึเปล่า แต่พี่จะพยายามมาให้เร็วที่สุด โอเคมั้ย ทีนี้เราก็รีบกลับบ้านไปได้แล้ว ก่อนที่พี่จะโทรบอกพี่อิน... 〗
. ..  ทันทีที่ยัยเอิร์นกับไปก็มีใครที่ไหนไม่รู้เดินมาสะกิดไหล่ถามผมว่า น้องคนเมื่อกี้เป็นใครหรอน่ารัก ดี มีทั้งหญิงและชาย ทั้งดี้ทั้งทอม เอ๊อ เอาเข้า ไป  !! ผมก็เลยตอบปัดๆ ไปว่าเป็นแฟนของไอวินมัน ก่อนที่คนพวกนั้นจะค่อย สลายตัวกันไป ไม่งั้นวันนี้ผมคงไม่ได้ขึ้นเรียนแน่ๆ

. . . หลังจากที่ผมใช้เวลาในการเรียนคาบเช้าไป เล่น หัวสมอง ผมมึนตึ้บ ! คิดอะไรไม่ค่อยออก มันตื้อไปหมด เพราะมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระ ของใครคนนึงอยู่จนไม่เป็นอันจะเรียนอะไรเลย ผมเลยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก่อนจะหมดคาบ หลับพักผ่อนหัวสมอง ซะหน่อย . . . . .


. . . ครืดดด ครืดดด ๆๆ  ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะ พอเงยหน้าขึ้นถึงร้ว่า มีคนโทรเข้ามา ! ผมเลยกดรับสายไป โดยที่ไม่ได้มองรายชื่อที่โทรเข้ามา


〖โหล มีไร ? โทรมาทำไมคนจะหลับจะนอน เข้าใจ ป่าว วุ้ๆๆ!!〗คนยิ่ง ง่วงๆ อยู่โทรมาแม้งไม่รู้เวลาร่ำเวลาเลย

〖เอ่อ ผมขอสายน้องเจหนอยได้รึเปล่าครับ ? 〗หึ ผมเริ่มเอ๊ะใจเมื่อน้ำเสียงที่ได้ยิน ไม่ค่อยรู้สึกคุ้นหูเท่าไหร่เลย . ผมเลยถาม

ด้วยน้ำเสียง ที่ดูนิ่มๆ ออกไป

〖ให้บอกว่าใครโทรมาดีครับ  !!〗เสียงนั่นดูนิ่งไปพักนึงก่อนจะตอบกลับมา

〖อ่อ บอกว่า พี่ โชน จาก ร้านกาแฟโทรมา ครับ !〗ตายห่าแลวพี่โชนโทรมาตายๆ อยู่ๆ พูดงี้เง้างั้นออกไป พี่โชนเขาจะไล่ผมออกรึเปล่าเนี้ยวุ้ยย ไม่น่าเลยกุ

〖ฮ.ฮ..ฮัลโห ฮัลโหล ครับ นั้นพี่โชน〗

〖อ่อสวัสดีครับน้องเจ เมื่อกี้ใครรับสายหรอ?〗 เออถ้าผมบอกพี่แกไปว่า ผมรับเองเขาจกตกใจไหมนะ

〖อ่อเพื่อนนะครับ พอดีมันเอาโทรศัพท์ผมไปเล่น พี่โชนโ?รมามีอะไรด่วนรึเปล่าครับ ?〗

〖อ๋อพอดีพ่จะโทรมาถามหน่ะ ว่าวันนี้เจ จะมาทำงานรึเปล่า เพราะวันนี้ พนักงานคนอื่นๆ ขอลาหยุดกันหมดเลย แล้วกเมื่อเช้าก็พึ่งจะมาลาออกไปสองคน ! วันนี้พี่เลยดูร้านอยู่คนเดียวเลย ก็เลยกะว่าจะหาคนมาช่วยหน่อย น่ะ พี่มีค่า OTให้ด้วยนะสนใจรึเปล่า?〗

〖อ๋อครับๆ พี่โชน งั้นเดี่ยวผมเรียนคาบบ่ายเสดอีกวิชานึงแล้วผมจะรีบไปเลยนะครับ !〗

〖โอเคครับ งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะลูกค้าเริ่มถยอยกันมาแล้ว ! รีบมาหน่อยละเจ พี่อยู่คนเดียวแล้วมันเหงาๆไงไม่รู้แหะ 555〗

〖โอเครครับบไว้เจอกันครับพี่โชน〗 ตื๊ดๆๆ ๆ!! ทันทีที่วางสายผมก็รีบลุกออกจากห้องเลยทันที กะว่าวันนี้จะโดดไปช่วยงานพี่โชนเขาซักหน่อย   . . . แต่จะว่าไปมันก็ใกล้เส้นตายของผมกับไอกายแล้วนี้นา ตอนนี้ ก็ ผ่านไป เดือนกว่าๆ แล้วยังไม่มีวี่แวว ว่าผมจะหาเงินใช้คืนมันได้เลย ลำพังแค่เงิน ที่ทำอยู่ร้านกาแฟก็คงไม่เท่าไหร่เพราะผมหยุดบ่อยวะขนาดนั้น แถมเงินในบัญชีผมเองก็มีแค่ สี่หมื่นกว่าๆ ถ้ารวมที่ผมเก็บไว้เองด้วยก็ราวๆ หกหมื่น ยังขาดอีกตั้งแสนสี่ เอะแต่จะว่าไป คราวก่อนที่ผมช่วยแกล้งเป็นแฟนกับมีมันนี้ มันบอกว่าจะลดหนี้ให้ผมอีกครึ่งนึงใช่ไหม งั้นก็ คงเหลือแค่สี่หมื่นสิน่ะ ! . .แต่ ตอนนี้ ผมไม่ได้ช่วยมันในฐานะนั้นแล้วแถมตัวจริงของมันก็กลับมาแล้วด้วย สัญญาเหล่านั้นก็คงถูกยกเลิกไป . โดยปริยาย .  . .ฮึก ฮึก !



. . . . . .
〖12.34 ณ ร้านกาแฟ〗

ผมเดินมารอรถที่หน้าม.ก่อนจะขึ้นรถแท็กซี่มาที่ร้าน พอเข้ามาถึงผมก็มองดู ด้วยความตกใจ ! ลูกค้าอยู่กันเต็มร้านไปหมด (รวมถึง FC ของพี่โชนแก ดูจากป้ายไฟที่ถืออยู่) ทำให้พี่โชนแกยุ่งอยู่มากจนไม่ทันหันมาสังเกตเลยว่าผมมาถึงที่ร้านแล้ว ผมเลยเลือกที่จะไม่ตะโกน ทักพี่แกเหมือนเคย เลยเดินเบียด ๆ เพื่อเข้าไปเคาท์เตอร์ ที่หลังร้าน ผมรีบเปลี่ยนชุดก่อนจะเดินออกมาช่วยงานพี่โชนที่เคาท์เตอร์ . . .

〖มอคค่าสองคาปูชิโน่เย็น อย่างละ1 หวานน้อยไม่วิปค่ะ〗

〖คร้าบบรอสักครู่นะคร้าบบ〗สีหน้าของพี่โชนเต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่คุยกับลูกค้า แต่ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือน ว่า พี่โชน แกล้งทำ ผมรีบสะบัดความคิดนั้นออกไปจากหัว  คนอย่างพี่โชนเนี้ยนะจะแกล้ง ทำ ไม่หรอกน่า พ่เขาก็เป็นแบบนี้กับทุกคนนั้นแหละ หึหึ 1

〖อ้าวน้องเจมาแล้วหรอไหนว่ามาบ่ายไง หึหึ !〗พี่โชนพูดทักทายผม โดยสายตาก็ยัง หันไปมองที่ลูกค้าอยู่

〖อ๋อพอดี อยู่ๆ ก็ว่างขึ้นมาหน่ะครับ เลยรีบมา เห็นว่าไม่มีคนช่วยที่ร้าน ด้วย กลัว ผมกลัว พี่โชนจะเหนื่อย. . 〗 สิ้นสุดเสียงของผมพี่โชนแกหันมาสบตากับผม พักนึง . . . . ก่อนจะหันกลับไปรับออเดอร์ลูกค้าอีกคนที่ อยู่ด้านหลัง . . . ผม พูดอะไรให้พี่โชนไม่สบายใจรึเปล่านะ . . .

เวลาผ่านล่วงเลยไป ชั่วโมงกว่า ๆ ตอนนี้ลูกค้าเริ่มบางตาขึ้นมาหน่อยแล้วครับ จากที่แรก ต่อแถวกัน ยังกะแจกของฟรีในงานวันเด็ก ผมเลยมีเวลาที่จะออกไปเก็บแก้วต่างตามโต๊ะเพื่อมาล้าง ก่อนจะเข้าไปช่วยพี่ โชย ทำกาแฟเหมือนเดิม . . .

〖เหนื่อยมั้ย?〗 พี่โชนถามผม ด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อยเอามากๆ ก่อนจะยื่นแก้ว นมสดที่วางไว้อยู่ในชองฟรีชมาให้ ผมรับแก้วมา
ด้วยความเกรงใจ ทั้งๆคนที่ทำงานหนักกว่าคือพี่เขาไม่ใช่ผม แต่พี่โชน ดันยื่นมาให้ผมกินแทนที่ตัวเองจะได้กินก่อน 

〖พี่โชนกินก่อนสิครับพี่ทำงนหนักมากกว่าผมอีกนะ เดี่ยวจะเป็นลมเป็นแร้งเอา ฮ่าๆ!〗พี่โชนรับแก้วกลับไปดูดดนึงที่ก่อนจะยื่นกลับมาให้ผมดังเดิม ผมยืนยิ้มๆรับแก้วมาดื่มก่อนจะเดินเข้าหลังร้านไปทำความสะอาด ต่อ

. . ท้องฟ้าจากที่มีแดดส่องจ้ากลับกลายเป็นความมืดที่มาก่อตัวแทน บอกให้เห็นถึงเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว. . .

จนตอนนี้ ถึงเวลาเลิกงานแล้วครับ ตอนนี้เวลา ประมาณ 20.22  วันนี้เลิกงานเร็วกว่าปกติ. . . ผมออกมายืนที่หน้าร้าน เพราะรอ

 พี่โชนที่กำลังเดินไปสับคัดเอ้าท์ไฟอยู่ ก่อนจะเดินออกมา พร้อมกับกระเป๋าที่ผมดันลืมไว้อยู่หลังร้าน พี่แกยื่นมาให้ก่อนจะใช้
กุญแจล็อคไว้ทีประตูและปิดม่านเหล็กลงมาทับอีกที - -หู้ย ซับซ้อนจัง !

ผมกลับมาบ้าน โดย มีเพื่อนทรพีที่เห็นหญิงดีกว่าเพื่อนอย่างไอวิน มาส่งผมครับ มันมารอตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ แล้ว ทีแรกผมก็แอบแปลกใจเลยถามมันออกไป แต่พอมันบอกว่าจะมาเหล่ สาวเท่านั้นแหละ ผมเลยไม่มีอะไรจะพูดกับมันต่อเลย . .

พอมาถึงไอวินก็เดินเข้ามาพร้อมกับผม ในร้านดูเงียบสงบผิดปกติ แถมไฟในร้านก็ไม่ยอมเปิดกัน แต่พผมหันหลังมาอีกที ไอวิน

มันก็ไม่อยู่แล้วครับ ! ผมเริ่มรู้สึกเสียงสันหลังขึ้นมาแล้วสิ   ผมรีบรวบรวมความกล้า ที่มีเดินไปเปิดสวิตไฟที่อยู่กลางบ้าน แต่เปิด

เท่าไหร่ก็ไม่เห็นติด ผมชักเอ๊ะใจแปลกๆที่อยู่ๆ ไฟก็เปิดไม่ติดขึ้นมา ทั้งๆที่บ้านหลังข้างผมกับบ้านอาม่าของพีริวตรงข้ามก็ยัง

เปิดไฟได้ปกติ ผมเริ่มได้ยินเสียงแกร่ก เหมือนมีใครกำลังแงะอะไรซักอย่งาอยู่ภายในห้อง ผมค่อยเดินย่องไปเบาๆ สายตาก็

พลางมองหาอะไรซักอย่างที่พอเป็นอาวุธได้(ได้ไม้หวาดมา)ก่อนยื่นมือไปที่กลอนประตู่นับ นึ่ง ส่องงง และ ซั่มมมมมมมม .......... . . . .. .
เซอร์ไพทร์!!!!!!!! ทั้งพี่ อิน พี่ริว  ไอติน คุณเอื้อย น้องเอิร์น และไอวินที่เดินเข้ามาจากด้านหลังผม (ดีนะที่ไม่สอกกลับ - -*)เ ดินออกมาพร้อมกับถือเค้ก ช็อคโกแลต ก้อนใหญ่ (ประมา 3.-4ปอนด์)มาพร้อมกับเทียน ที่มีตัวเลข 19 เป็นเครื่องเตือนใจว่าตอนนี้ ผม กำลังก้าวเข้าสู่ ความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกหนึ่งขั้นแล้ว . . .ผมซึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ยังไม่ทันที่เค้กมาอยู่ตรงหน้าของผม น้ำตาของผมก็ไหลพลากออกมา  ด้วยความตื่นตันอย่างบอกไม่ถูก ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า  งานวันเกิดครั้งล่าสุดของผมนั้นคือปีไหน เพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว !

[สมัยเด็กผมมักจะนั่งอยู่ในห้องคนเดียว ในงานวันเกิด เพียงเพราะผมไม่อยากรับรู้อะไรจากคนรอบข้าง เท่านั้น ผม เกลียดตัวเอง ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ต้องตาย จนวันนึงที่ ผมได้รู้จัก เพื่อน คนแรก อย่าง ติน . . .  ตอนนั้นผมยังจำได้ไม่เคย ลืม มันบอกกับผมว่า แม่ ของผมกำลัง ยิ้มให้ผมอยู่บนท้องฟ้า เพียง แต่ผมไม่เห็นเท่านั้น แม้มันอาจจะเป็นแค่เรื่องหลอกเด็ก แต่ผมก็เลือกที่จะเชื่อ และยิ้มให้กับ ท้องฟ้าทุกๆ ครั้ง ในวันเกิดของผมเอง และผมเชื่อมาเสมอว่า ไอติน มันต้องเป็นคน ที่แม่ ส่งมา ให้คอยดูแลผมอยู่แน่ๆ เลย   ]

〖เอาแต่จ้องแล้วเมื่อไหร่จะเป่าซักทีละย้ะ ! มันนักนะเนีย รู้รึเปล่า !〗พี่อินยื่นเค้ก มาให้ผม แล้วทำหน้า เอียดโอย ฮ่าๆ เห็นแล้ว ซะใจเป็นบ้า

〖เจไม่รีบอะพี่อิน รอแปปนะ ขอไปแปรงฟันก่อน!〗

〖ปะงั้นพวกเรา กลับบ !!!〗

〖โหยๆ เค้าหยอกเล่นๆ ฮ่าๆ มาๆเป่าให้ได้! ฟู่วววว〗

〖อั้วๆ! ให้เหี้ยอะไรตายวะ 〗อยู่ๆไอเชี่ยวินมัน ก็พูดขึ้นมา ทำเอาซะผมเสียเซลฟ์ไปเลย = =’

〖เวอร์ละ สัด 〗

〖ฮ่าๆ แฮปปี้ เบิรด์เดย์ มึง แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะมึง ! กูขอให้มึงมีความสุขมากๆ แล้วก็ . . .. ขอให้มีความสุขกับ ผ..อั้วอึ้งงไอ๊อ๊าก อ๊า.. 〗ไอตินรีบเอามาไปตะคุบปากหมาๆ ของไอวินไว้ทันครับ ไม่งั้นได้พูดจาอะไรไม่ดีในงานวันเกิดผมแน่ หึหึ !

หลังจากที่ผมเป่าเทียนทำอะไรเรียบร้อยเสร็ดต่างคนก็วุ้นๆ ไปช่วนพี่อินทำกับข้าวข้างในครัว รึจะเรียกว่าโดนพี่อินแกบังคับก็ไม่รู้ เพราะขนาดพี่ ริว สุดที่รักของพี่อิน ยังต้องลงมือทำกับข้าวเอง เลย ส่วนนางนั้น มายืน คุยสเม้าท์สมอย กับคุณเอื้อย อยู่ที่ห้องรับแขกครับ ส่วนไอตนกับไอวิน ขึ้นไปเปิดคอมของผมเล่นอยู่ข้างบนครับ ตอนนี้ก็มีแค่ผม นั่งถือ แก้วใสๆ ที่มี แบล็คเลเบิ้ล ใส่อยู่ขอดๆ แก้ว ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ นั่งจิบ อยู่ที่ม้านั่งข้างนอกอยู่คนเดียว . ..  แต่ผมนั่งชิวๆได้แค่แปปเดียว น้องเอิร์นก็เดินเข้ามา นั่งกับผม สีหน้าของเอิร์นดูไม่ค่อยดีเลย เหมือนกำลังอมทุกข์อะไรอยู่ . .

〖!ว่าไ งน้องสาวของพี่ จะมาอวยพรพี่หรอ มาๆ พี่พร้อมแล้ว !〗น้องเอิร์นนั่งก้มทำหน้าเศร้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม

〖พี่ เจ. . . ไม่อยากได้คำอวยพรจากพี่กายบ้างหรอ?〗คำถามของเอิร์นทำเอาผมทำอะไรต่อไม่ถูก ผมถึงกับสำลัก แบล็คเลยเบิ้ลออกมา ทางจมูก = =’ อนาถดีไหมละ หึหึ!

〖ทำไมพี่ต้องอยากได้ คำอวยพรจากมันด้วย แค่คำอวยพรจากคนในครอบครัว พี่ก็ ไม่อยากได้อะไรจากใครอีกแล้วเพราะชะนั้น เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ !〗

 〖พี่ เจ โกหก !!!〗ผมตกใจที่อยู่ๆ เอิญก็พูดขึ้นมาว่าผมโกหก ?

〖โกหก พี่โกหกอะไรค่ะเอิร์น  ?〗

〖พี่จะโกหกเอิร์นก็ได้นะค่ะ เอิร์นไม่ว่าพี่หรอก แต่พี่ไม่ทางโกหกตัวเอง ได้เด็กขาด พี่เจรู้อะไรไหม เมื่อเช้าตอนที่ พี่ กายมาบ้านเรา พี่กายเขาดูดีใจมากๆเลย นะ เอิร์นเห็นพี่เขายิ้มด้วย แล้วพี่เขาก็ยังถามอีก ว่าพี่เจอยู่บ้านมั้ย พอเอิร์นบอกว่าพี่อยู่บ้าน เขาก็รีบวิ่ง ขึ้นรถมาหาพี่เลย แต่พอเอิร์นกับพี่อินมาถึงบ้าน ก็ยังเห็นพี่กายยืนรออยู่ที่หน้าประตูอยู่เลย ทีแรก เอิร์นก็คิดนะ ว่าพี่เขาอาจจะกลัวอะไรซักอย่างรึเปล่า ถึงไม่ยอมเข้าไป เอิร์นก็เลยเดินไปพาพี่กายเขาเข้ามาพร้อมกับพวกเรา แต่พอ เอิร์นเผลอให้พี่กายคุยกับพี่เท่านั้นแหละ พี่กายก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไหแล้วก็เดินออกไป โดยไม่รอให้เอิร์นได้พูดอะไร
ก่อนเลย ? 〗หลังจากที่ผมฟังเรื่องเล่าต่างๆ จากเอิร์นก็ทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่าเผลอพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจของไอกายไปแน่ถึงจะยังไม่ค่อยเข้าใจก็เถอะ. . .


〖พี่เจยังไม่บอกกับเอิร์นตอนนี้ก็ได้น่ะค่ะ ! แต่ เมื่อไหร่ที่สมองของพี่ไม่ยอมบอก  ความเจ็บปวดจะเป็นคำตอบให้พี่เอง สู้ๆนะค่ะ เอิร์นเชื่อว่าพี่ชายเอิร์นทำได้อยู่แล้ว〗ผมรู้สึกตกใจที่ยัยเอิร์นเหมือนจะอ่านความรู้สึกของผมที่มีกับมันได้  ถึงแม้ทุกอย่างที่เราสองคนแกล้งทำเป็นเล่นละคร เพียงเพราะต้องการตบตาใครหลายคน แต่สำหรับผม แล้ว . . . สิ่งที่ผมทำมันไม่ใช่ละคร แต่มันคือ . . .เรื่องจริง?  กาย........กู..... ชอบมึง? (-’_’-)


TBC. . . . . . . . . . . . .
[#คิมกอนอู]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [14]〖20-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-04-2016 22:47:42
คือจัดหน้าอ่านยากมากค่ะ อ่านแล้วงงอ่ะว่าใครพูด ตรงไหนบทบรรยาย ตรงไหนบทสนทนา แถมสัญลักษณ์บทสนทนาน่าจะเป็น "..." มากกว่านะคะ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [14]〖20-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 22-04-2016 09:25:23
ขอบคุณสำหรับ คำติชมนะครับ ไว้ โพสคราว หน้า จะแก้ให้ใหม่หมดเลยนะครับ !! ขออภัยด้วยจริงๆ T-T
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 22-04-2016 13:43:20

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:15 พร 3 ประการ
  :o12:

“เมื่อไหร่ ที่หัวใจของพี่ ไม่ยอมบอก ความเจ็บปวด จะเป็นคำตอบให้พี่เอง.”! ผมคิดทบทวนเรื่องความรู้สึกของ

ตัวเองอยู่พักนึงก่อนจะ ตัดสินใจทำในสิ่งที่ ใจของผมเป็นคนสั่ง นั้นคือการ . . .พูดความจริง  . . .เพราะผมไม่อยากที่จะแกล้งทำ
เป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกแล้ว  . .หลังจากที่ผมนั่งคุยกับยัยเอิร์นพักนึงผมก็เดินเข้ามาในบ้าน และเดินขึ้นห้องของตัวเอง เพื่อไปหยิบ
กุญแจรถ ก่อนะรีบวิ่งลงไปที่รถ แล้วสตารท์รถ บิตออกมาทันที ระหว่างที่ขับรถ ผม มัวแต่คิดเรื่อง ที่เอิร์นพูดให้ผม ฟัง เมื่อครู่นี้ จนเกือบจะขับรถชนข้างทางซะแล้ว เห้อ. . .เกือบไม่มีโอกาสพูดแล้วไหมละ  ตอนนี้ ผมมาถึงที่หน้าคอนโดของไอกายแล้วครับ เวลาในตอนนี้ก็เกือบจะ 5ทุ่มแล้ว ผมรีบจอดรถแล้วเดินเข้าไปด้านในทันที ระหว่างทางแอบเห็นพี่ยามแกหลับอยู่ ผมถึงเข้ามาได้ครับ ไม่งั้นคงต้อง เคลีย กับพี่แกแน่ๆ ข้อหาบุกที่พื้นที่ส่วนบุคคลยามวิการ! หึ ! แค่ฟังข้อหาก็แอบสยิวละครับหึหึ!แต่นี้ยังไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาห่วงเรื่องของตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่ผมห่วงมากที่สุดก็คือความรู้สึกของ ไอกายมันครับ ผมว่า มันต้อง เสียจากแน่ๆที่ได้ยินคำพูดพล้อยๆ อย่างนั้นจากผม แล้วก็บวกด้วยกับตอนที่ยัยเอิร์นเล่าเรื่องของมันเมื่อเช้าให้ผมฟัง ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดทวีคุณเข้าๆไปอีก เห้อๆ เลิกได้ผมก็อยากเลิกครับ ไอนิสัย ชอบแคร์คนอื่นเนี้ย !เห้อตอนนี้ผมมารออยู่ที่หน้าลิฟท์ แต่มันยังขึ้นลูกศรขึ้นลงๆ แสดงให้เห็นว่ามีคนกำลังใช้ อยู่ ผมเลยไม่อยากที่จะต้องเสียเวลาอะไรไปมากกว่านี้ผมเลยตัดสินใจใช้บรรได  แทนการขึ้นลิฟท์(แอบประหยัดไฟไปในตัว แต่ก็เหนื่อยไมเบา) ผมใชเวลาเกือบ 20นาที ในการวิ่งขึ้นมา จากชั้นที่1ถึงชั้นที่30 แทบล่วงครับ !! ผมยืนหอบแฮกๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งไปห้อง ของกาย 602 . . .  ตอนนี้ผมยืนอยู่ที่หน้าห้องของไอกายครับ จากอาการที่เหนื่อย เมื่อครู่ผมก็หายเป็นปลิดทิ้งในทันที  ผมสูดลมหายใจเข้าออก สองสามทีก่อนจะตัดสินใจเคาะประตู . . . ก๊อก ก๊อก ก๊อก . . . . ผมเคราะประตูอยู่นานสองนานแต่ก็ไม่มีวี่แวว ว่าจะมีใครเดินมาเปิดให้เลย ! ผมเลยตัดสินใจที่จะ พังมันเข้าไป . . . เอาวะ เป็นไงเป็นกัน 1. . . 2 . . . ซ ซ ซั่ม !เอี๊ยด!! อยู่ประตูก็ถูกเปิดออกจากคนด้านในครับ ผมตกใจมากที่ อยู่ๆ มันก็เปิดขึ้น พร้อมกับจังหว่ะที่ผมทิ้งตัวทั้งหมดไปไว้ที่ไหล่แล้ว !!ผม ก็ ล้มลงไปพน้อมกับคนที่เปิดประตูออกมา . . ตุ้บบบ!!.


“โอ้ย”ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปผมรู้สึกได้ถึงแรงกระแทก เข้ากับพื้นอย่างจัง ! แต่คงไม่ใช่แค่ผมที่ล้มลงไป ยังมี . ไอกายที่ล้มไป
นอนกับพื้นโดยมีตัวผมนอนทับ ที่หน้าอกของมันอยู่ !! ตึกๆ!! แรงสั่นสะเทือนจากด้านในทำให้ผมรับรู้ได้ถึงเสียงหัวใจ ของไอกายที่เต้น รัว ไม่ต่างจากผมในตอนนี้เลย ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของมัน ที่จ้องผมก่อนหน้าแล้ว เราสองคนจ้อง ตากันไม่กระพริบ แววตาสีดำกลมโตของมัน แสดงให้เห็นถึงความดีใจที่ได้เห็นผมในตอนนี้ แต่ก็เพียงแค่แปปเดียว ก่อนที่มันจะบ่ายเบี่ยงหันไปมองทางอื่น แล้วพูดคุยกับผม


“มาทำไมดึกดื่น!”จู่ๆไอกายมันถามผมขึ้นมาโดยที่สายตาของมันยังจ้องมองแจกกันดอกไม้ที่อยู่เหนือหัวของมัน


“กูมีเรื่องอยากคุยด้วย ?”ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ


“มีเรื่องอะไร ก็รีบพูดมาจะปิดห้องนอนแล้ว” มันยังไม่เลิกหันไปมองทางอื่นอีก ผมเลย เลื่อยๆ ร่างกายของตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ สูงเหนือหน้าอกของมัน ก่อนที่ผมจะใช้มือทั้งสองข้างของผม จับไปที่ใบหน้าของมันให้มันมาคุยกับผมดีๆ


“กูไม่รู้หรอกนะกายว่า เมื่อเช้ามึงเป็นอะไร ถึงโมโห กูแล้วเดินออกไปแบบนั้น กูก็ไม่เข้าใจที่อยู่ๆ มึงก็เหวี่ยง แถมยังทำหน้าบึ้ง ไม่ยอมพูดกับกูในโรงอาหารอีก . . . กูเลยอยากมาข.อโทด  ถ้าหากวันนี้กูทำอะไรให้มึงไม่พอใจหรือทำให้มึงไม่สบายใจ กูขอจริงๆ ..กูรู้สึกไปชินเลย เวลาที่มึง เงียบแล้วเมินหน้าหนีกูแบบนั้น มึงจะหาว่ากูโรคจิตหรือวิปหลิดหรือซาดิส ก็ได้นะเว้ย แต่กู
ชอบ ที่มึงเหวี่ยงๆโหดๆ กับกูมากกว่าตอนที่มึงจะมาเมินใส่กูแบบนี้ อีก . . .”

พอหลังจากที่ผมพูดจบ. . สีหน้าของไอกายมันก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลงครับ ก่อนจะหันมาสบตาผมตรงๆ (โหยผมทำสำเร็จแล้วใช่มั้ย เนี้ย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเกิดมาจะต้องทำเรื่องอะไรแบบนี้ มันรู้สึกไม่ใช่ตัวผมเอาซะเลย - -*)


“เรื่องที่จะพูดมีแค่นี้ใช่มั้ย?. .”ไอกายมันพยาดันตัวผมให้ลุกออกจากอกของมัน แต่ ไม่มันไม่มีทางทำได้หรอกครับ ผมยิ่ง กดน้ำหนักให้มันกลับลงไปนอนเหมือนเดิม .. ถ้าหากวันนี้ผมไม่ได้พูด ความในใจของผมให้มันฟัง ผมคงต้อง อกแตกตายแน่ๆผมเลยตัดสินใจที่จะ ... ระหว่างที่ผมเองกำลังจะพูด (ก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความร้อนที่ตีแผ่ขึ้นมาที่หน้าของตัวผมเอง แต่ผม ไม่สนใจหรอกครับ ว่ามันเป็นอะไร ตอนนี้สิ่งที่สำคัญ ที่สุด . . คือ ผมต้องพูด .. พูดบางสิ่งบางอย่างออกไปให้มันได้ยิน . . . เสียงเรียกร้อง . . .จากใจของผม. .


“กูยังมีอีกนึงเรื่องที่ต้องบอกมึง . . . คือ กูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่ามันเป็นเชี่ย อะไร แต่กู . . .รู้แปลกๆทุกครั้งที่กูได้อยู่ใกล้ๆ กับมึง ถึงในตอนแรกกูจะไม่ชอบขี้หน้าของมึงก็เถอะ แต่. .. มึงจำวันที่ วันที่กูจะโดนรถเฉี่ยวได้ไหม?”ไอกายมันพยักหน้าหงึกๆก่อนจะตั้งใจฟังในสิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อ


“ วันนั้นวันที่กูเริ่มรู้สึกแปลกๆกับมึง วันที่กูเผลอ...จูบกับ มึง กูยอมรับ นะว่า ทีแรกกูก็ตกใจไม่ต่างอะไรจากมึงเลย แต่หลังจาก ที่
มึงกดหัวกูเข้าไปจูบ. . .ตอนนั้นแหละ ใจของกูก็สั่นแปลกๆมันเต้นไม่เป็นจังหว่ะเลย กูว่าทีมันเป็นแบบนั้นน่าจะเป็นเพราะมึง. .
กูไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับใครเลยที่ไม่ใช่มึง. . .กู..จะให้พูดไงดีละ ...คือกูสับสน กูไม่แน่ใจตัวเองว่ากูเกิดบ้า ชอบผู้ชายขึ้นมารึ
เปล่า . . .แต่มันก็ไม่ใช่อย่างที่กูคิดยังชอบผู้หญิง กูยังอยาก.รู้สึกดีๆกับผู้หญิงอยู่. . อยู่ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ กูก็ยังรู้สึก
แบบเดิมทุกครั้งที่ได้อยู่กับมึง ยิ่งมาวันนี้ ตอนที่อยู่โรงอาหาร มึงพาคุณเอื้อยมา แถมไม่ยอมคุยกับกูอีก . . กูเจ็บ. .  . .กูเจ็บที่
เห็นมึงอยู่กับคุณเอื้อย ก. .กูไม่ชอบ. .ไม่ชอบเลยเวลาที่มึงอยู่กับเขาสองคน . . เพราะมันทำให้กูเหมือนไม่มีตัวตน กูกลายเป็น
คนที่ถูกมึงมองข้าม. . .ถึงใครจะมองกูยังไงกูไม่เคยแคร์เลยนะ ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่มึง . . .ใช่ กูแคร์มึง. .กูอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้หรอกนะแต่สิ่งที่กูสามารถบอกมึงได้ตอนนี้ก็คือว่า. . . . . . ..  กู. . .ชอบมึง. . .กูชอบมึงไอกาย!มึงได้ยินไหม กูชอบ มึง”.
. .สีหน้าของไอกายดูนิ่ง ไป มันคงจะตกใจกับสิ่งที่ผมพึ่งจะพูดให้มันฟัง



“แต่มึง ไม่จำเป็นต้องตอบรับความรู้สึกของกูก็ได้นะ กูแค่พูดในสิ่งที่กูอยากพูดก็เท่านั้น มึงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะกูก็ไม่ได้หวังให้มึง มาขอกูเป็นแฟนซะหน่อย. . . ถึงกูจะต้องการมึงมากซักแค่ไหนก็ตาม แต่กู ก็ไม่เลวพอที่จะไปแย่งมึงมาจากคุณเอื้อย
ได้หรอกนะ  !"
 ทันทีที่ผมพูดจบ ผมก็ปล่อยมือตัวเองออกจากหน้าของมัน ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้น . . . จากอกของมัน แต่อยู่ๆมันก็ดึงตัวผมให้กลับไปแนบชิดกับตัวมันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพาะตอนนี้หน้าของผมห่างอยู่กับหน้าของมันอยู่ไม่กี่เซนต์ . . ผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจถี่ๆ ของมัน รดต้นคอของผมอยู่ จนตอนนี้ปากของผมกับมัน แทบจะถูกกันอยู่แล้ว ผมยังคง งงอยู่ว่า กายมันคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่ ด้วยความไม่แน่ใจ ผมเลยทำลายบรรยากาศนี้ด้วยการถอนหน้าตัวเองออกมา แต่ยังไม่ทันที่ผมจะจะได้ถอนหน้าของตัวเองออก กายมัน ก็พูดสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมใจแป๊วขึ้นมาทันที. . .


งั้นก็เลิกกันสิ!”เลิก? ผมกำลังงงกับคำพูดของมัน ว่ามันกำลังหมายความถึงอะไร?

“เลิก ?”. . . ภายในหัวของผมตื้อไปหมด. .

“เลิก เล่นละคร แล้วมาเป็นแฟนกันจริงๆจังซักที”. . . .. .  ผมหูฝาดไปรึเปล่า กาย ผมได้ยินไอกายมันบอกว่าให้เราเลิกเล่นละคร แล้วมาคบกันจริงๆ อย่างนั้นหรอ?. . . .แต่ผมก็ดีใจได้แค่ครู่เดียวก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่า ไอกายมันมีตัวจริงของมันอยู่แล้ว


“กูดีใจนะกาย ที่มึงก็มีความคิดที่ไม่ต่างจากกู แต่กู ทำไม่ได้วะ . . .กูไม่อยากทำลายความรู้สึกของคุณเอื้อยเขา กู...กลัวเขาเสียใจวะ. . .”     ผมถึงอยากจะตอบตกลงมันมากแค่ไหน แต่ความริงก็คือความจริง ผมไม่ใช่ตัวจริง ผมเป็น แค่ ตัว สำลอง ก็เท่านั้น . . .นี้แหละสถานะของผมในตอนนี้. . .แต่ความคิดเหล่านั้นของผมก็ลอยหายไปในอากาศ เมื่ออยู่ๆ ไอกายมันก็หัวเราะดังขึ้นมา  เหมือนสะใจอะไรบางอย่างอยู่ . . .-


“ฮ่าๆๆๆๆ!!!!”

“มึงขำเชี่ยอะไรกูพูดเรื่องจริง “ผมเสียเซฟล์มากที่มันมองความรู้สึกของผมเป็นแค่เรื่องตลกขำขัน ? เชี่ย ไม่คุยกับมันแม้งแล้ว ผมรีบเดินลุกออกมาจากตัวมันก่อนจะเดินออกไปที่หน้าประตู อย่างไม่สบอารมณ์


“กูกับเอื้อย. . .เราเป็นแค่พี่น้องกัน.” . .คำพูดของมันที่ผมได้ยิน หลังจากที่เดินออกมาจากห้องได้ไม่กี่ก้าว มันทำให้ผม . . . . แปลกใจจนตองเดินกลับมา ที่หน้าประตูอีกครั้ง . .

.
“พี่น้องกัน “ทันทีที่ผมเดินกลับมาที่หน้าประตู ผมก็ถามมันกลับไปอีกครั้ง เพื่อยืนยันคำตอบของมัน ว่าสิ่งที่ผมได้ยินเมื่อกี้ ผมเองไม่ได้หูฝาดไปเอง


“ก็เอ่อ..สิวะ กูกับเอื้อย เราสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อีกอย่างเอื้อยเขาก็มีแฟนแล้ว นี้อย่าบอก นะ ที่มึงหน้าบึ้งเดินออก ไปจากโรงอาหารเมื่อเช้า เพราะมึง หึงกูกับเอื้อย ?.”


“ก็เออ...ดิ..เอ้ยยบ้ ากูไม่ได้หึงมึงกับคุณเอื้อยเขาซะหน่อยมึงมั่วใหญ่ละไอกาย”ชะอุ้ยย นี้ผมเผลอพูดอะไรออกไปละเนี้ย ผมเผลอยอมรับออกไปได้ไงกันว่าหึงมันกับคุณอื้อย. . . ><

“ มากลับคำตอนนี้คงไม่ทันแล้วมั้ง ไอชั้นใน ! ยอมรับมาเถอะว่ามึง หึงกู กับเอื้อย ?”

“กู..ป่า...ววว ซะหน่อย” . . .ยังจะแถอีกนะผมนี่ = =’

“กูให้โอกาส มึง ตอบอีกครั้ง 1. . .2. . ส..สา มมม”

“เออก็ได้กูยอมรับก็ได้กูหึงมึงกับคุณเอื้อยพอใจยังสัด - -*”เรื่องที่ทำให้ผมหน้าเสียนี้ขอให้บอก ไอกายมันถนัดนักแล

“ดีแล้ว ที่มึง หึง กู งั้นก็แสดงว่ามึง ก็มีใจให้กูแล้ว ... งั้นสิ ?”

“จงใจอะไรกูไม่มีให้มึง หรอก ไอ ห่า นี้มึงแกล้ง โกรธ ให้กูมาบอกรักมึงใช่มั้ยเนี้ย ?”

“กูไม่ได้หลอกอะไรเลยอยู่ๆมึงก็เดินเปิดประตูเข้ามาบอกรักกูเอง กู ไม่ได้วางแผนอะไรไว้ด้วยซ้ำ รึมึงจะเถียง ?”ประโยคของมันทำเอาผมนี้เถียงไม่ออกเลยครับ ก็ถูกอย่างที่มันพูดครับ มีแต่ผมที่ร้อนรนเปิดประตู เขามาบอกรักมันถึงห้อง โอ้ย ทำอะไรลงไปวะกู นี้ท่าเรื่องพวกนี้แพล่งพลายไปถึงหูไอวินละก็ ๆ หึหึ มันคงล้อผมยันลูกบวชแน่เลยครับ
(╥﹏╥)เอาหล่ะแล้วคราวนี้ผมควรจะทำอะไรต่อดีนะ ควรจะกลับ หรือควรจะอยู่ต่อดี  แล้วถ้าผมเลือกที่จะอยู่ต่อ ผมควรจะทำยังไงต่อไปดีละ ?? คิดสิคิดๆ!!


“แล้วสรุปเรื่องของมึงกับกู  . . .ว่า . . .ไง?”ไอกายมันไม่พูดเปล่าครับ ค่อยๆ เดินมาใกล้ผมเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะดึงตัวผมให้เข้าไปอยู่กับมันข้างในห้อง ก่อนจะปิดประตูล็อคกลอนในทันที. . . .

“กู. . .ไม่. . รู้ . . กูไม่ได้คิดเพื่อไว้. . กูคิดแค่ว่าจะบอกมามึงแล้วกูก็จะกลับ. . .”

“มึงแค่พูดมา ว่า อยากจะคบหรือไม่อยากคบก็แค่นั้น. ..”ทั้งๆที่จริงๆไอกายมันก็น่าจะรุ้คำตอบอยู่แล้ว แต่มันก็ยังถามเซ้าซี้ เหมือนต้องการ ฟังให้แน่ใจอีกครั้งว่า ผม จะพูดตอบมันไปยังไง . . .

“คือ. . “

“ไม่ตอบ แสดง ว่า ไม่อยากคบ งั้นกู. . . .”

“เออ คบ ๆ คบก็ได้วะ !!”. . . . พอผมพูดประโยคสุดท้ายนั้นจบ ผมก็เอาแต่ก้มหน้า เพื่อเก็บ อาการเขิน ที่แสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน  ><

“ก็แค่นั้น. . .”หลังจากที่มันพูดจบ มันก็เดินเขามาใกล้ๆ ผมก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด อย่างแนบชิด ชนิดที่ว่า แนบชิดกันทุกส่วนเลยทีเดียวรวมถึง....ด้วย คึคึ!ผมเริ่มรู้สึกได้ ถึงบาง. . สิ่งบางอย่างที่มันพองตัวขึ้นจากด้านล่างตัวของมัน ทำให้ผมรีบคลายอ้อมกอดของมัน ก่อนจะเดินถอยห่างจนยืนติดอยู่ที่ประตู. . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 22-04-2016 13:46:40
“ไอคุณชาย มึงกำลังคิดอะไรของมึงอยู่กันแน่ฮ้ะ !”ผมรู้สึกตกใจขึ้นมานิดๆ ที่อยู่ ของมันก็ขึ้นๆมาจนผมไม่ทันได้ตั้งตัว ดีนะที่ถอยห่างออกมาก่อน ไม่อยากนั้น คงมีเหตุการณ์หนังสดหน้าประตูแน่. . .หึ! คิดแล้ว สยิวเป็นบ้า อุบบส์ นี้ผมเผลอพูดอะไรออกไปกันละเนี้ย วู้ยย><


“เปล่าซะหน่อย ! กูยังไม่ได้คิดอะไรเลย มึงคิดมากไปเองรึเปล่า?” คิดสิ กูคิดมากเลยด้วย !!!

“อ..อ้ะๆ กูอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ งั้น . . . ถ้าไม่มี อะไรแล้ว กูขอตัว กลับบ้านก่อนนะ. . .ฟึบบ”พอผมพูดกายมันก็พยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่ผมจะหันหลังไปปลดก่อนที่มันล็อคไว้ อยู่ที่ประตู แต่ยังไม่ทันที่ผมจะใช้มือ จับกลอน. . .ไอกายมันกูเดินมาอุ้มผม จากด้านหลังก่อนจะพาดไปที่บ่าของมัน


“ไอกาย มึงจะทำอะไร ปล่อยกูนะ ปล่อยกู . ..!ย๊ากๆๆ”ผมใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมด ก่อนจะใช้มือกำกำปั้นทุบไปที่หลังของมันหลายที แต่ดูเหมือนจะไม่ระแคะระคลายผิวหนังของมันเลยครับ. .. แต่ช่างมันเถอะ . . ตอนนี้ไอกายพาผมเปิดประตูเดินเข้าห้องนอน ของมันไปแล้ว ไม่นะ ม้ายยยยยยยย...!!!! ฟึบ กายมัน โยน ผม (ไม่สิต้องเรียกว่าทุ่ม)ลงไปที่เตียงก่อนที่มันจะค่อยๆ ถอดเสื้อ ยืดสีขาวของ มัน เผยให้เห็นถึง กล้ามหน้าอกของมัน ที่ดูตึงเป็นพิเศษหัวนมสีชมพูคล้ำของมันทำให้ผมกลืนน้ำลายของตัวเองแทบไม่ลง แถมยังมีกล้ามท้องช็อคโกแลต โอ้วแม่เจ้า ซิกแพ็คคค!!! ที่ใครๆเห็นก็คงจะหวั่นไหวไม่ต่างจากผม [แต่มันใช่เวลาที่ผมจะมาวิจารย์ไหมเนี้ย. ..]


“ไอคุณชาย. . .มึงปล่อยกูไปเถอะนะ . . .กูสัญญาว่ากูจะทำตัวดีๆ กับมึงกูจะเชื่อฟัง กูจะทำตามที่มึงบอกทุกอย่างเลยนะ แต่กูขออย่างเดียวอย่าทำอะไรกูเลยนะ[กูยังไม่พร้อม><]” กายมันค่อยๆไต่ตัวผมขึ้นมาตั้งแต่ส่วนขา สะโพก เอว หัว นม รวมถึงไข่..เอ้ยยไหล่ๆ แฮ่ๆ ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ที่หน้าผม . . . ผมกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูกเลยหันหน้าไปด้านอื่นไม่กล้าสบตากับมัน แต่แทนที่มันจะหยุดมันกับเริ่ม ใช้จมูกของมัน จิ้มลงที่แก้มของผม อย่างใจเย็น จมูกโด่งๆ ของมันที่วางอยู่ที่แก้มด้านขวา ทำให้ผมเริ่มรู้สึก เสียวไปทั้งตัว ขนผมลุกชนไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะ ผมกลัว หรือผมรู้สึกดีกันแน่ ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกตอนนี้ ออกมาเป็นคำพูดได้เลย แต่ทันได้นั้นเอง . . .ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงของผม .  . .
ครืดดดด ครืดดดด ๆๆ!!!! ทำไมผมถึงรู้สึกดีใจ ที่มีคนโทรมาเวลานี้ก็ไม่รู้ ถึง จะเป็นแก้งคอลเซนต์เตอร์หรืออะไร ก็เถอะ ผมอยากรีบ แกล้งๆ กดรับ แล้วเดินออก ไปจากที่นี้เร็วๆ จัง . . .  และดูเหมือนกายมันจะดู ตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ๆก็มีเสียงโ?รศัพท์ดังขึ้นมาขัดกับจังหว่ะที่มันกำลังจะทำอะไรผมอยู่ ผมเลยถือโอกาส นี้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ ทันที


“ฮัลโหลสวัสดีครับนั้นใครพูดอยู่ . . .”อยู่ๆไอกายก็ใช้มือข้างนึงของมันมาปิดปากของผมไว้ก่อนจะดึงโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของผม ขึ้นไปคุยแทน

“โหลๆ เจๆ มึงอยู่ไหนเนี้ย ที่บ้านรอตัดเค้กอยู่. . เมื่อไหร่มึงจะกลับมาเนี้ย โหลๆ”ผมได้ยินเสียงของไอวินพูดทุกคำ แต่ด้วยมือของไอกาย[ใหญ่ยังกะใบตาล]ปิดปากของผมอยู่ทำให้ผมไม่สามารถ ตอบอะไรวินมันได้เลย

”ฮัลโหล วินหรอ เออ ว่าไง มีอะไร รึเปล่า ?”

“เอ้าไอกายนั้นมึงเหรอ แล้วมึงมารับโทรศัพท์ของไอเจได้ยังไง มันอยู่กับมึงเหรอไอกาย ?”

“อืม มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่า”

“ป่าวๆ กูอยากแดกเค้กแล้ว แต่ไอเจ้าของวันเกิด มันยังไม่มาตัดแบ่งให้กูเลย ไม่รู้แม้งหายไปหน แถม รถกูก็น่าจะไปพร้อมกับมันด้วย แหนะ หรือมึงมกับไอเจ จะ. . .  อึ้ยๆ อย่านะเว้ย หน้าต่างมีหูประตูมีช่องนะเว้ย ทำอะไรอย่าคิดว่ำม่มีใครรู้กันนะมึง.”วันนี้วันเกิดมึงเหรอ? กายมันก้มลงกระซิบถามผมใกล้ๆหู ผมได้แต่พยักๆหน้า ไปแทนคำตอบ

“เออกูบอกให้มันเอาของมาให้กูเองแหละ”

“แล้วมันจะกลับตอนไหน”กายหันมามองหน้าผมเหมือนจะขอความคิดเห็น

“เดี๋ยวก็กลับแล้ว คงอีกพักนึงแหละ !”เชี่ย วิน ถ้ามึงได้ได้ยินเสียง กู ได้โปรดมาช่วยย กู ที่เถิด!!! ฮือๆ

“โอเคร งั้น รีบๆ กลับมาละ พวกพีริวไอกับไอตินเริ่มไม่ไหวกันละ เมาหัวทิ่ม อยู่ข้างๆกูเนี้ย !”

“เออไว้เจอกัน บาย!”ติ๊ดดด!!! เสียงสัญญาณถูกตัด ไป เหมือน ใกล้ถึงเวลาตายของผมแล้ว ผมไม่สามารถปริปากร้อขอความ
ช่วยเหลืออะไรได้เลย ฮึกๆ พอถึงคราวที่หมดหน ทาง บ่อน้ำตาของผมก็ไหลพรากอีกครั้งแล้วครับ ผมไม่ ได้ตั้งใจร้องเพื่อให้มันเห็นใจ แต่ผมร้อง เพียงเพราะผมไม่สามารถทำอะไรได้เลยต่างหาก
สีหน้าของไอกายที่มองผม มันมองด้วยความ เป็นห่วง ปนหื่นๆ [แต่หน้าหื่นจะหนักกว่า] มันค่อยๆ ปล่อยมือของมันที่ปิดปากผมอยู่ให้เป็นอิสระ ก่อนที่มันจะลุกขึ่นและเดินถอยออกไปนอกห้อง . . ..
ผมรู้สึก ยังไงตอนนี้บอกไม่ถูก แต่ผมแค่รู้สึกอาย ในเวลาที่ผมเองไม่สามารถห้ามน้ำตาของตัวเองได้ ยิ่งเฉพาะตอนที่อยู่กับมัน ผมยิ่งไม่อยากทำตัวอ่อนแอให้มันเห็นเลยจริงๆ . . .ซักพักนึงหลังจากที่ไอกายมันเดินออกไปนอกห้อง มันก็เดินเข้ามาพร้อม กับกระเป๋ารูปตัวบวกสีแดง[กระเป๋าปฐมพยาบาลผมชอบเรียกแบบนั้น!] มาวางไว้ทีเตียงก่อนที่มันจะยื่นมือของมัน มาดึงตัวผมให้ขึ้นไปนั่งอยู่ที่ปลายเตียง ส่วนมันก็นั่งลงอยู่ที่พื้นด้านล่าง . . . มันนั่งนิ่งอยู่เฉยๆไม่ยอมพูดอะไร ผมเองก็เหมือนกัน ไม่กล้าพูดอะไรได้แต่นั่งก้มหน้าดูนิ้วของตัวเอง ก่อนที่สายตาของผมจะไปสะดุดเข้ากับ แผ่นหลังกับท้ายทอยของของ มันที่มีรอย ช้ำขียวๆ เหมือนพึงถูกของแข็งกระแทกมา ผมเลยลองใช้นิ้วจิ้มๆ ที่รอยเขียวพวกนั้น  แต่ไม่ยักจะเห็นว่ามันจะร้องอะไรออกมา ผมเลยเอ่ยปากถามกับมันว่า. ..


“เจ็บมั้ย?”มันไม่ตอบผมได้แต่พยักหน้าหงึกๆแทนคำตอบ เห้อ! เจ็บก็ร้องออกมาสิวะไอคุณชาย จะแอ็คไปถึงไหนกัน
จากท่าทีที่ผมระแวงมันในช่วงแรกๆกลัวว่ามันจะทำอะไรผม ตอนนี้กลับการเป็นความห่วงใยที่มีให้มันแทนครับ ผมรู้สึก
เอือม กับความด้านชาของมัน การเก็บอารมณ์เก็บความรู้สึกของมัน ทำให้ผมเกิดความรำคาณ ว่าทำไมมัน ถึงไม่ยอมพูด
โอดครวณ หรือร้องเจ็บปวดเหมือนคนอื่นเขา. . .ผมยื่นมือไปหยิบกล่องตัวบวกที่ข้างเตียงก่อนจะเปิดหาแผ่นพลาสเตอร์ยา
ขนาดใหญ่แก้ปวดเมื่อย ก่อนที่ผมจะหยิบไปแปะ ไว้ทีข้างหลังและท้ายทอยของมัน ผมไม่รู้ว่าผมกดแรงไปมากหรือน้อย
เท่าไหร่แต่ผมคิดว่า คงไม่น่าจะถึงกับแรง หรอก พอผมติดพลาสเตอร์ให้มันเสร็จ ผมก็เก็บของต่างเข้ากล่อง ก่อนจะใช้มือ
ของตัวเองกดลงไปทีบ่าของมันอย่างเบามือ และค่อยนวดให้มัน ผมเผลอทำโดยที่ไม่ทันรู้ตัว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ๆ มือผม
ไมปวางอยู่ที่ไหลของมันได้ยังไง แต่ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ช่วยๆ นวดๆ ให้มันหน่อยก็แล้ว กัน . ดูเหมือนมันไม่ว่าอะไร
ผมด้วยครับผมเลย สงเคราะห์นวดให้มันไปอีกพักใหญ่ ก่อนที่ตัวผมเองจะนึกขึ้นมาได้ว่าต้องรีบกลับบ้านแล้ว เพราะทุก
คนกำลังรอผมอยู่ . .. ทันทีที่ผมนึกขึ้นมาได้ ผมก็ปล่อยมืออกจากบ่าของมันแล้วเดินออกมาที่นอกห้อง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะ
ได้ออกไปไอกายมันก็ดึงมือผมให้ไปนั่งข้างมันเหมือนเคย. . .


“มึงจะกลับแล้วเหรอ. . .?”สีหน้าของมันดูเศร้ากว่าทุกครั้ง ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้มันสบายใจ ถึงผมจะอยากกลับมากแค่ไหนก็เถอะ แต่ถ้าแลกมาด้วยความไม่สบายใจของ มันผมก็จะไม่ทำ

“อ๋อกูจะไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกินหน่อยหน่ะ กูยังไม่ได้กินอะไรเลย!”ทันใดนั้นเอง เสียงท้องของผมก็ร้องดังโครกครากกกๆ ออกมาเสียงดังจนไอกายมันหลุดขำออกมา ถึงผมจะแอบอายหน่อยๆ ก็เถอะ แต่ถ้าเพื่อรักษารอยยิ้มของมัน แล้ว ผมก็ขัดค้องอะไร!≧V≦


หลังจากที่มันเผลอหัวเราะหึหึ! จนสาแกใจมันแล้ว มันก็ดึงมือพาผมออกมานั่งรอที่ห้องครัว ! ก่อนที่ตัวมันจะเดินอ้อมเข้าไปด้านในเหมือนทุกที . . .สงสัยมันคงจะทำอะไรให้ผมกินแน่ๆ เลย หึหึ! ขออย่าเป็นอย่างเดียวกับไอหมูตุ๋นก็พอครับ = =’
แต่ทันใดนั้นเองไอหมาเจ๋ากรมมมันก็เดินเข้ามาออเซาะอยู่ที่ขาของผมครับ วันนี้มันแอบทำหน้างง ตอนที่ผมก้มลงไปจ้องหน้ากับมัน . . .หึ ๆ! คุยกับหมากูได้เว้ยกู. . .


“อ้ะ!”และระหว่างที่ผมกำลังก้มเล่น กับไอหมูตุ๋น อยู่ๆ ไอคุณชาย มันก็ ถือจากที่มีเค้กกล้วยหอมอยู่3ชิ้น พร้อมกับเทียน ที่ปักอยู่ข้างบน 10 กว่าเล่ม!หืมม บาลานซ์กันมากครับเค้กสามชิ้นเทียนสิบเล่ม[ประชดครับๆ]ก่อนที่มันจะมาวางอยู่ที่หน้าของผม. . .
บรรยากาศตอนนี้ผมพูดไม่ถูกเลยครับ . . .ไม่รู้จะดีใจ ตื้นตัน หรือ เสียใจดี . . .


“แหม่งานวันเกิดกูปีเดียวมีครั้งนึง จะให้อะไรที่มันอลังกว่านี้ไม่ได้เลยรึไงวะ ไอคุณชาย ฮ่าๆๆ!”ผมสบถด่ามันกลับไปด้วยรอยยิ้ม ถึงตรงหน้าผมในตอนนี้จะมีแค่เค้กกล้วยหอมแค่สามก้อน  แต่ผมว่ามันก็ยัง ดีกว่า ที่ มีเค้ก เป็นร้อยๆปอนด์ แต่ไม่มีมันเป็นคนถือมาให้ก็เท่านั้นแหละครับ ถ้าให้ผมเลือก ผมก็ขอ เลือก เค้กกล้วยหอมสามก้อนละกันครับ . . .ฟินกว่าเยอะเอิ้กกๆๆ


“ก็กูไม่รู้ล่วงหน้านี้หว่า ใครจะไปรู้ อยู่ๆ มึงก็วิ่งมาบอกรักกูในงานวันเกิดของตัวเอง แถมยังมาทำให้หลังกุเจ็บอีกมึงนี่น้า


“อ้าวสรุปที่หลังมึงเขียวหน่ะเป็นเพราะกูหรอ?”ผมรู้สึกตกใจขึ้นมานิดหน่อย ที่หลังของมันมีรอยเขียวปูดๆอยู่นั้น เป็นฝืมือ ของผม รึนี้ แต่พอนึกย้อนกลับไปคิดก็น่าจะจริงอย่างที่มันพูดครับ มาถึง ผมก็กระโจนเข้าหาจนมันล้มลงเสียงดัอั้กๆ! ทันทีที่ผมนึกออก ความรู้สึกผิดก็ถาโถมมาที่ผมเต็มๆเลยครับ. ..

“ก็เออ นะสิ!”

“แล้วทำไมมึงไม่เห็นพูดอะไรเลยวะ จะปิดปากเงียบทำห่าอะไร. . . เจ็บ ก็บอกว่าเจ็บสิวะ. .”

“เพราะกูไม่อยาก แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น ไง กูคิดแค่ว่า ถ้าทำตัวให้เป็นปกติก็คงดีเพราะต่อให้ก็ร้องไห ยังไง เขาก็ไม่สนใจกูอยู่ดี”. ..จบประโยคของมันทำเอาผมอึ้งกับคำตอบที่ตัวเองได้ยินเลยครับ. . . ไอกายมันคงมี ภูมิหลังที่ไม่ดีอยู่แน่ๆ ถึงได้ติดความคิดมาแบบนี้มา. . .

“เฮ้ยมาๆ อย่าดราม่า ไอสัด ใช่เวลาไหมเนี่ย นี้กูเจ้าของวันเกิดนะ มาๆ. . . ร้องเพลงกัน 3. . .4 แฮปปี้เบิรด์เดย์ทูยูๆๆเฮ้ๆ. . .”

“เดี๋ยวอย่าพึ่งเป่า !! อธิฐานก่อนสิ!!”

“เออวะ กูเกือบลืม!. . . [ขอให้มึงมีความสุขมากๆนะไออสูรกาย. .] อ่ะเสร็จแล้วกูเป่าได้ยัง!”

“อือ!”ฟู่ววววววววว!!!! ทันทีที่แสงของเทียนทั้งสามเล่มดับ ผมก็หยิบ เค้กกล้วยหอม ขึ้นมากิน ทันที หมับ!!

“หึ้ย!. . มึงกินเข้าไปจริงหรอ!”

“อ้าว ของกินก็มีไว้กินสิครับ มึงจะให้เอาไปตั้งขึ้นหิ้งไว้ ให้หนอนแดกรึไง มึงนิ่!”


“ป่าวกูจะบอกว่ามันอยู่ในตู้เย็นสองสามวันแล้วกูไม่รู้ว่ามันหมดอายุรึยัง?!”

“อ่อ หรอ อยากรู้มั้ย งั้นมึงก็ลองเป็นเพื่อนกูสิ. . .งับบ!!!”ผมฉวยโอกาสตอนที่มันอ้าปากยัดเค้กกล้วยหอมเข้าไปเต็มปากของมัน  แต่อย่าหวังว่าจะได้คายออกครับ เพราะผมเอามือปิดปากมันไว้อยู่ทั้งสองข้างเลยหึหึ ! คิดจะวาง ยากู งั้นก็ตายแม้งด้วยกันหมดนี้แหละ . . .


“เออ  แล้วไหน ของขวัญกูละ !”คนก็พร้อมแล้ว เค้กก็พร้อมแล้ว . . .แล้วไหน...ของขวัญหล่ะ ของขวัญ .. ของกูละ

“ไม่มี กูไม่ได้เตรียมไว้ ใครจะไปรู้ละ ว่าวันนี้วันเกิดมึง . . .”ก็จริงอย่างที่มันพูด แหละครับ อยู่ๆ ใครมันจะเอาของขวัญมาให้กับคนที่วิ่งเข้ามาบอก [เห้ย วันนี้วันเกิดกูนะ ไหนของขวัญกูละ] ใครทำได้ก็สุดยอดแล้วครับ หึหึ !


“แล้วมึง อยากได้อะไรละ ?”ที่จริง ผมก็ไม่ได้อยากได้ของขวัญอะไรจากมันหรอกครับ  ที่ผมมา ในวันนี้ ก็กะแค่ว่าจะมาบอกแล้วก็กลับ . . . ไม่ได้หวังอะไรแบบนี้เลยจริงๆ ... แต่ไหนๆ โอกาสก็มาแล้ว ลองแกล้งๆ. .อยากได้หน่อยละกันหึหึ . .จริงๆ ไม่แกล้งนะ อยากได้จริงๆ 555


“อื้อ จะเอาอะไรดีน้า!!! เที่ยวรอบโลกเลยเป็นไง หรือจะเอา ทองสักสิบบาท รึจะ....”ป้าป เข้าเต็มๆ ครับ ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าใครโดน .  . . มันบอกที่ทำเพราะหมั่นใส้ที่ผมเยอะใส่มันครับ= =’ เหตุผลดีไหมละ ?

“อย่าเยอะ นับ 1...2....”

“หนี้!!!  . . . ยกหนี้ให้กูสิ นี้หละของขวัญวันเกิด . .”เงียบบครับบบรรยากาศในห้องตอนนี้เงียบมากครับ เงียบจนผมได้ยิมเสียงลมหายใจของไอหมูตุ๋นที่ อยู่ในห้องข้างๆเลยละครับ!


“. . . .อะไรอีก. . .”ห้ะเดี๋ยวๆ งั้นก็แสดงว่ามันตอบตกลงที่จะยกเลิกหนี้ระหว่างผมกับมันแล้วละสิ. . . นี้ ผม ไม่ได้หูฝาดไปเอง ใช่มั้ย. . . หึหึ สบายแล้วกุ -.-


“หมายความว่ามึงจะยอมยกหนี้ทั้งหมด แล้วใช่ไหมไอคุณชาย !!. แหม่ๆ นอกจาก เบ้าจะหล่อแล้วจิตใจยังงดงาม อีก ขอบพระคุณหลายๆ ครับมึง!! หึหึ”

“เปล่า แค่ครึ่งนึง. . .. “สัดเอาคำชมกูคืนมา - -*

“ส่วนนึงแล้วมันเท่าไหร่วะ?”


“ก็ลองคิดเองสิ. . .”อืมคิดเองหรอ . . .คราวที่แล้วผมเคยช่วยมันไว้ ก็เหลือ แสนแปด. . .ครั้งล่าสุด ก็ตอนแกล้งเป็นแฟนกับมันอีก แสนนึง เหลือแปดหมื่น. .. ครึ่งนึงของแปดหมื่น ก็. . .. สี่หมื่น! เย้ เหลือแค่สี่หมื่น. . .แต่มันก็ยังเป็นเงินจำนวนที่เยอะสำหรับผมอยู่ดี = =’ แหม่ จะลดทั้งทีก็ไม่ยอมลดให้หมด ! นะมึง


“สี่หมื่น. . .”

“กว่าจะคิดออก กูหลับจนตื่นมาสองรอบแล้วมั้ง . ..

“ปากดี . . .แล้วไออะไรอีกที่มึงว่า ..หมายถึงอะไร. . .”หลังจากที่ผมตอบมันไปตอนแรก มันก็ยัง ถามผมต่อว่าอะไรอีก นั้นก็หมายความว่า มันยังจะมี ของให้ผมอยู่อีกงั้นหรอ?. . .

“อยากได้อะไรก็พูดมาสิ อีกสองอย่าง. . .”

“ทำไมต้องสามอย่างวะ ?”จริงๆ แค่ลดหย่อนหนี้ของมันเพียงอย่างเดียวผมก็ไม่อยากได้อะไรอีก แล้ว แต่เมื่อเขาเสนอ เราก็ควรสนอง จริงมั้ยละครับ 555

“ป่าวกูแค่ชอบเลขสาม. . .”เหตุผมฟังขึ้นมากครับมึง . . . ตอนนี้ผมยังไม่อยากได้อะไรซะด้วยสิ . . . .อืมม...

“งั้น กูขอติดไว้ก่อนละกัน ไว้คิดออกว่าอยากได้อะไรเดียวจะมาบอก โอเครป่าว. . .”

“เออ จะเอาไงก็เอา! ว่าแต่มึงเถอะ รีบกลับรึเปล่า ! จะเที่ยงคืนแล้วนะ . . เดี๋ยวพี่อินก็เป็นห่วงหรอก”. . พอมันพูดขึ้นมาผมถึงนึกออกครับ ว่าตัวเอง มีบ้านต้องให้รีบกลับไปอยู่ . .. ส่วนเรื่องของ ผมกับ มัน ยังไม่ขอสรุป อะไร ในตอนนี้ก็แล้ว กันนะ . . .! หึหึ!


. . . . . . . . . . . . . . .

ผมเดินออกมาจากห้อง โดยมีไอกายเดินมาส่งที่ด้านล่าง เป็นครั้งแรกครับ ที่มันเดินมาส่งผม .[ปกติมีแต่ผมที่วิ่งตามมัน] ถึงจะยังไม่ค่อยชิน กับสถานการณ์แบบนี้ก็เถอะ แต่ผม ก็ยังแอบรู้สึก ดีอยู่ลึกๆ อยู่เลย ถึงผมจะไม่ได้คาดหวัง ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนี้ แต่ ผม ก็รู้สึก ดีทุกครั้ง ที่ได้ . . .นึกถึงมัน . .
ผมเดินไปขึ้นรถ ก่อนจะขับออกมา  ไอกายมันก็โบกมือบ๊าย บาย ผม อย่างที่มันไม่เคยทำมาก่อน ก่อนที่มันจะทำมือ เป็นรูปเขาควายน้าแอดคาราบาว ที่ข้างหู เหมือนจะส่งสัญญาณมาที่ผม ว่า (เดี๋ยวโทรหานะอะไรประมาณนี้ คึคึ) [รู้สึกสยิวแปลกๆ ไงไม่รู้แฮะ] ระหว่างทางที่ผมขับ ออกมาก็เอาแต่นึกถึงคำพูด คำๆนึงที่ กายมันพูดขึ้น วนอย่าเดิมซ้ำไปซ้ำมา จนผมแอบคล้อย ตาม .  .. แต่เกือบได้ไปคล้อยกับ ยมบาลแล้วไหมละ . . .หึหึ = =’


พอมาถึงร้านผมก็เดินตรงเข้าไปหา ยัยเอิร์น ที่กำลังนั่งคุย อยู่ กับพวกไอติน กับไอวิน แล้วก็พี่ริวส่วนผมก็เดินตรงเข้าไปกอดยัยเอิร์นแบบไม่ทันตั้งตัว . ..  ทุกคนในที่นั้นดูตกใจมากที่ผมไปกอดยัยเอิร์นแบบนั้น ทุกสายตาในที่นั้นจ้องมองมาที่ผมกับยัยเอิร์นที่กำลังกอดกันอยู่ แต่ผมไม่ สนใจ ว่าใครจะมองยังไง ผมแค่อยากจะขอบคุณยัยเอิร์นมากๆ ที่ทำให้ผมมีความกล้า ที่ สามารถที่บอกความในใจกับมันได้ ผมอยากขอบคุณน้องสาวคนนี้ ที่ช่วยเตือนสติผม และผมอยากขอบคุณ ที่ในวันนี้ ผมมีน้องสาวดีๆ อย่างยัยเอิร์น

“สำเร็จมั้ยพี่เจ!”ยัยเอิร์นยิ้มพร้อมกับกระซิบเสียงหวานข้างๆ หูของผม . . ผมได้แต่พยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ
ส่วนคนอื่นๆ ที่กำลัง นั่งงง กับการกระทำของผม อยู่ๆก็ลุกขึ้นแล้วเดินมากอดผมกันทุกคนไม่เว้น แต่พี่ริวเอง . . .
ผมเคยคิดนะ ถ้าหากวันนั้น ไม่มีเพื่อนๆทีดีอย่างไอติน หรือไอวินเดินเข้ามาในชีวิต ผม จะสามารถกล้าเปิดปากพูดคุยกับใครได้ไหม แล้วถ้าหากผม ไม่ได้การช่วย เหลือในทุกด้านๆ จากพี่ริว ชีวิตของจะเป็นยังไงกัน . .. และถ้าหากวันนี้ ผมไม่ได้ที่ปรึกษาดีๆ ที่คอยเตือนสติ ผม . . . อย่างยัยเอิร์น . . . ความรักของผม มันจะเป็น ยังไงกัน. . .. . 


ขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่เกิดมาเติมเต็มช่องว่างที่หายไปในชีวิตของผม. . . ถึงผมจะไม่คอยเชื่อเรื่องโชคชะตาเท่าไหร่นัก แต่ผมก็เชื่อว่า เรื่องเหล่า นี้ . . . จะไม่สามารถ เกิดขึ้นได้ . . . . หากขาดคนพวกนี้ไป . . . .


[ผมจะไม่มีวันลืมวันเกิดตัวเองตอนอายุ 19 ในวันนี้เลย  ^ ^] ขอบคุณมากน่ะทุกคน #เจ

TBC. . . . . . . . . . . . . . .  :bye2: :mew3:

[คิมกอนกู]

#สำหรับเพื่อนๆ คนไหน ที่ รู้สึกขัดข้องอะไรตรงไหน สามารถ ทิ้งคอมเม้นไว้ด้าน ล่างได้เลยนะครับ ไว้คราว หน้า ไว้คิมจะกลับมาแก้ไข ให้ใหม่  น้า  :impress2:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 23-04-2016 07:11:51
เค้าคบกันแล้วอ่ะ กรี๊ดดดดดด!! อย่าฟอร์มเยอะนะกาย อยากพูดไรก็พูดมาเลย
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 23-04-2016 21:33:20
อ่านง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-04-2016 21:58:07
เพิ่งเข้ามาเห็นขอติงสองสามเรื่อง
ชื่อเรื่องเขียนผิด หลุมพราง. เขียนแบบนี้จ้า
หน้าแรกมันโหลดนานเพราะอีโมที่แทรกมากับเนื้อหาและก็อ่านยากเพราะไม่ค่อยเว้นวรรคบรรทัด พื้นที่สีขาวมีน้อย
ลองแก้ไขไปดูนะคะ คนแก่ตาไม่ค่อยดีจ้า
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพลางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-04-2016 09:52:03
 :impress2: ขอบคุณทุกทุกคอมเม้นที่เข้ามาแสดงความคิดนะครับ คิมจะเอาไปปรับปรุงและแก้ไขตามที่บอกทุกอย่างเลย ^ ^  :hao7:
ขอบคุณมากๆ นะครับ !

[ตอนนี้ผมได้แก้เรื่องการเว้นบรรทัดใหม่ ของทุกตอนแล้วน่ะ ^ ^]  :hao7:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [15]〖22-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-04-2016 11:25:27

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง   
Chapter:16 เพื่อนเก่า Vs แฟนใหม่
[Part.1/2]

เช้าวันพฤหัส ผมตื่นมาด้วย อาการ ปวดหัวนิดๆบวกกับอาการมึนหัวหน่อยๆ จากการกิน อะไรซัอย่าง เข้าไปแต่คับคล้ายคับคาว่า
ต้องเกี่ยวกับ Full Moonแน่ๆ สงสัยจะโดนพวกมันมอมเมื่อคืน ! หึหึ
ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวก่อนจะลงมา ที่ชั้นล่าง ทุกคนยังนั่งกันอยู่พร้อมหน้า เว้นแต่ยัยเอิร์นที่ ไปโรงเรียน
ตั้งแต่เช้าแล้ว ขนาดพี่ริวๆที่นั่งๆ อยู่ยังเหล่ส่งยิ้มมาให้ผมเลย ! ผมก็ยิ้มตอบพี่แกกับไปย่างไม่ได้คิดอะไร ส่วนไอเพื่อนเวนทั้ง
สองคนของผมนะหรอ ! พวกมันกำลังประจบพี่อินที่ยืนทำกับข้าวในครัวอยู่ครับ ซักพักไอวินมันก็เดินหน้าตั้งออกมาพร้อมกับโทรศัพท์ ที่ดูคุ้นตา[ของผงเอง- -] ก่อนจะยื่นมาที่หน้าของผม



“ไอเจมีคนโทรมา แหนะ เห็น ชื่ออะไรหน้าเลือดนี้แหละ!! กูรับสายแล้วแต่มันไม่ยอมพูดวะ ??” สิ้นสุดเสียงของไอวินผมนี้ถึงกับทำอะไรต่อไม่ถูกเลย หลังจากที่มันพูดคำว่าหน้าเลือด เพราะนั้นมันเป็นเบอร์ ของไอกายที่ผมเมมไว้นี้นา . .  ผมรีบรับโทรศัพท์จากมือของไอวินก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไป ชั้น บนปิดประตูลงกลอนและล็อคห้องในทัน ที . .

“ฮ..ฮ.ฮัลโหล อื้อ.. มีอะไรโทร...มาแต่เช้าเชียว!”น้ำเสียงของผมสั่นเครือเพียงเพราะกลัวว่ามันจะโมโหใส่. . .


“มัวทำอะไรอยู่ทำไม พึ่งจะมารับสาย.. . กูโทรหาตั้งแต่เมื่อคืนเป็นสิบๆ รอบแล้ว . . แต่พอมีคนกดรับ . . แต่ก็ไม่ยอมพูด “ ชะอุ้ย ตั้งแต่เมื่อคืน . . . ตอนนั้น ผมยังนอนสลบ ไม่รู้เรื่องอยู่เลย ว่าแต่...ใครเป็นคนรับโทรศัพท์หล่ะ สงสัยจะเป็นไอวินมั้ง  ผมขอเดา. .


“เออๆ กูขอโทษนะ เมื่อวาน กูโดนพวกไอวินมันมอมเหล้า แล้วเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้. .ก็เลยไม่ได้รับโทรศัพท์ของมึงเลยกูขอโทษละกันนะๆ”


“พอๆ กูบอกซักคำว่าโกรธมึง กูก็แค่สงสัยว่า เมื่อวานใช่มึงที่รับโทรศัพท์รึเปล่า. . ถ้าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร. .”โล่งอกไปอีกผมนึกว่ามันจะโกรธที่ผมไม่รับโทรศัพท์ของมันซะอีก

“อย่าบอกนะว่าที่มึงโทรมาแต่เช้า เพราะจะถามกู . .แค่เนี้ย. . [แอบเสียงสูงนิดๆ]”

“เปล่าก็มีหลายเรื่องที่อยาก ถาม ว่าแต่ตตอนนี้ ทำอะไรอยู่อ้ะ.  .”แอ๊ะ วันนี้มันมาแปลกครับ . . .

“ก็เปล่ากำลังจะไปอาบน้ำ[ที่จริงผมอาบแล้วแต่แกล้งพูดไปให้เหมือนนว่าผมพึ่งจะตื่นนอน. .] แล้วมึงละ ทำอะไรอยู่”

“อยู่ในห้องน้ำ กำลัง. .”

“แอ๊ะๆ อย่าบอกนะว่ามึง เล่นกับน้องอุ้มอยู่หน่ะ ฮ่าๆกรู้หรอก”

“น้องอุ้มอะไรของมึง. . .?” น้ำเสียงของมันดูสงสัยอย่างมากครับ

“ก็น้องอุ้มมือไง ฮ่าๆๆ”

“หึๆ ตลก ละ กูเข้ามาล้างหน้าแปรงฟันเฉยๆ เหอะ ไม่ได้หมกมุ่น อย่งามึงซะหน่อยๆ” หนอยๆ ให้มันน้อยๆหน่อยไอคุณชาย
ไม่ใช่มึง  หรอที่จะทำอะไรกูเมื่อคืน หน่ะ นี้ถ้า น้ำตาของกูไม่ไหล ป่านนี้ ผมกับมันคง. . .กัน ไปแล้วมั้ง . . ..

“จ้า พ่อคนดีพ่อคนมีศีลธรรม !”

“แล้วมึงจะไป.มกี่โมง. . .”หลังจากที่ไอกายพูดจบผมก็หันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ฝาห้อง.  . บอกเวลา 07.42

“น่าจะ 08.30 ทำไมมึงจะมารับกูรึไงกันหึหึ “ผมแกล้งพูดหยอกมันไปครับไม่คิดว่ามันจะมจริงๆ หรอก . . . ถึงจะแอบหวังนิดๆ ก็เถอะ. . .

“เออๆ เดี๋ยว แปดโมงกูไปหา มึงรออยู่นั้นแหละ.”

“เฮ้ยๆ กูพูด เล่น มึงจะมาจริง อ่อ . .!”

“คนอย่างกูพูดคำไหน คำนั้นอยู่แล้ว ไม่มัวมาพูดเล่น โกหกปิ้นป่อน เหมือนมึงหรอก”แรกๆ ก็เกือบดีนะ แต่หลังๆเหมือนตัวเองถูกหลอกด่ายังไงไม่รู้แฮะ. . . = =’

“เออๆ จะมาก็มาเหอะ ! จะได้รับพวกไอวินกับไอตินไปด้วยทีเดียวเลย”

“อ้าวพวกมันยังไม่กลับกันไปอีกหรอ!”

“ยังอะ เมื่อคืนมันเมากัน ก็เลยนอนค้างกันที่ นี้ สองคนเลย. .”

“แล้ว. . .มัน. . .ไม่มาด้วยหรอ?”มันที่ ว่า คงไม่ได้หมายถึง. . ..

“พี่ริวนะหรอ ! เออเขาก็มาแหละแต่มาแค่แปปเดียวแล้วก็กลับ” ขืนผมบอกมันไปว่าพี่ริวอยู่ด้วยทั้งคืนจนจบงานละก็มีหวังงานนี้มีเฮ. .. แต่เอ๊ะ. . ทำไมผมถึงต้องอธิบายอะไรอย่างนี้ให้มันฟังด้วยละ . . .เอ. . . อ่อ. .เกือบจะลืมไป.. ตอนนี้ ผม กับไอกาย เราไม่ใช่ แค่เจ้าหนี้ กับลูกหนี้กันแล้ว นะสิเน้อ. . . คึคึ ^ ^

“อย่าบอกนะว่ามึงหึงกู ! . .”

“หึง. . . หึหึ ติ๊งต๊อง  รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วไป อีกครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวกูไปรับ”

“คร้าบ ไอคุณชาย”

“เออ แล้วก็เลิกเรียก กูว่าคุณชายซักที . . ”

“อ้าวไม่ให้เรียกว่าคุณชาย แล้วจะให้กระผมเรียกว่าอะไรดีละครับ คุณหนู คุณกาย หรือ อสูรกาย...”

“เห้อๆ จะเรียกอะไรก็เอาเหอะ. . ถึงยังไงมึงก็มีชื่อเรียกกูตั้งเยอะอยู่แล้วนิ่ .”หึหึ ! ผมชักเริ่มเอะใจที่อยู่ๆไอกายมันรู้เรื่องราวของผมเยอะขนาดนี้ รึ มันอาจจะส่งสาย คอยตามติดชีวิตผมอยู่ก็เป็นได้ .หึหึ .

“งั้น กูไปแบน้ำก่อนนะ ฝากจุ๊บตูดไอหมูตุ๋นที ฮ่าๆ”

“หึหึ กวนตีน รีบไป อาบเถอะก่อนที่จะไม่มีโอกาส”

“คร้าบขอโทด คร้าบ ผมจะไม่กวนตีน คุณชาย เอ้ย คุณกาย แล้ว คร้าบ!”      ตื๊ดๆๆ !! หลังจากนั้นไม่นาน ไอกายก็มาถึง ที่หน้า บ้านของผม ครับ มาถึงก็ไม่พูดอะไรเลยครับเดินเข้ามาฉุดกระชากลากถู ผมเดิน ออกไป ยังกะนางเองในเรื่อง นางทาส ยังไงยังงั้นเลยละครับ แต่ดีหน่อย ที่มีบ่าวๆ สองหน่อ มาคอยคุมกันผม ในตอนที่นั่งรถมากับไอกายมันด้วย . .  ระหว่างทางมันก็จอดรถซื้อกินที่มีขายตอนเช้าๆ อาธิเช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง โจ้ก น้ำ เต้าหู . . คือ มึงช่วย ทำตัวให้เป็นปกติหน่อยได้ไหม ผมว่าไอกายมันคงจะลืมแน่ๆ ว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับมันอยู่ด้วยกันแค่สอง คน แต่ยังมี . . องค์รักษ์ ตามผมมาด้วย .. . นึกๆแล้วก็เหมือนดาบสองคม . . ถ้าหาก ผมมากับกายแค่สองคน ผมอาจจะไม่ต้องระแวงหน้าระแวงหลังขนาดนี้ แต่ถ้ามีพักพวกของผมมาด้วยสอง คนละก็ อย่างน้อยถ้ามีอะไรเกิดขึ้น กับผม ก็น่าจะมีข่าวถึงครอบครัวของผมบ้าง [เผื่อจะได้รู้ว่าศพผมซ่อนอยู่ตรงไหน] คิดมากไปรึเปล่ากู = =’.ก็นะ ก็มันไม่ชินนี่ !


พอมาถึงที่หน้าม.เราต่างคนต่างก็แยกย้ายกันเข้า ตามคณะของตัวเอง  โดยผมก็รีบวิ่งตรงเข้าคณะของตัวเองก่อนพวก เลย

เพราะตึกคณะของ ผม ใกล้ กับทางเข้าประตู มากที่สุด ส่วนพวกคณะวิศวะต้อง นั่งวิน หรือถ้าใครมีรถมาก็คงต้องขับเข้าไปอีกสัก

พัก กว่าจะถึง . .      และแล้วเวลาก็ผ่าน ไปไวอย่างกับโกหก ครับตอนนี้ ผมเรียนเสร็จ หมดทุกวิชาแล้วกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้านอยู่พอ ดี !

ตื้อดึ่ง!! [เสียงแมสเสทดังขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อของผม] ผมเป็นคนที่ขี้ระแวงพวกข้อความมากเลยๆ หล่ะเคยมีครั้งนึง ตอนั้นน่า
จะประมาณ ม.4 จำได้ว่าวันนั้น เป็นวันที่ผมพึ่งจะเลิกเรียน แถมฝนยังตกหนักอีกด้วยผมเลยเดินไปหลบฝนอยู่ที่ห้องสมุดกับไอ
วินมันสอง คน แล้ว แล้วอยู่ๆ ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาจากโทรศัพท์ของผมพอดี และด้วยบรรยากาศตอนนั้น ที่ฝนตกโหมกระหน่ำ
มาอย่างแรง แถมฟ้ายังร้องอีก ทำให้ผมไม่กล้าที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นในเวลาฝนตก (เพราะกลัวฟ้าผ่า -.-) ผมก็เลยไม่ได้
ใส่ใจอะๆไร จนกลับมาถึง บ้าน คุณ พี่ เอม (แม่บ้านที่บ้านของพ่อผม)แกก็บอกว่า พ่อผมลื่น หัวฟาดพื้นในห้อง น้ำ ตอนนั้น ผมก็
นึกว่าพี่แกพูดเล่นเลยไม่ได้ คิดอะไร แต่ พอไปถามป้านอยกับป้าช้อย อีกที ผมถึงรู้ว่ามันคือ เรื่องจริง แล้วทำไมถึงไม่มีใครโทร
ไปบอกผมซักนิดเลยหล่ะ. .. ในระหว่างที่ผมกำลังนั่งโทดตัวเองอยู่ พี่เอมแกก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่า ได้ส่งข้อความ ไปให้ผม
ตั้งแต่ เลิกเรียนแล้ว แต่ผมไม่ยอม อ่าน . . ซึ่งครั้งนั้น ก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผมระแวงทุกครั้งที่มีข้อความเข้ามา เพราะผม ไม่อยากที่จะให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิด ขึ้น เป็นครั้งที่สองอีกเป็นอันขาด . ..


[ขอเชิญร่วมงานคืนสู่เย้า ณ ร้าน ☆یŦαя Café เวลาโดยประมาณ 16.30น.หวังว่าทุกคนคงจะมานะ] หลังจากที่ผมอ่านข้อความก็ทำเอาผมสตันไปสามวินาที เพราะไอคนที่ส่งข้อความเชิญ มาในแชทกลุ่มรุ่น ของผม มันคือ “ไอเปรม”เปรม สมัยก่อน ตอนที ผมยังเรียนอยู่มัธยม มัน เป็นแก้งหัวโจกในการทำเรื่องเลวๆ ผิดกฎ หรือ ที่เขาไม่ให้ทำอยู่เสมอ โดยสมาชิก ของมันก็จะมีอีกสอง คน คือ ไอ เดย์ กับ ไอฮาฟ [ซึ่งสองคนนี้ได้มาขอโทดในสิ่งที่เคยทำผิดไว้ กับผมก่อนวันที่เราจะเรียนจบกัน] ส่วนไอเปรม มันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับสิ่งที่มันทำไปเลย ครับ นี้ ถ้าเป็นคนอื่นมาชวน ผมกะว่าจะไปอยู่นะ แต่นี้ เป็น มัน . . . . . ผมกับมันเรายังมีอดีตที่ ไม่ค่อยดีต่อกันอยู่อีกเยอะเลย. .


ตื้อดึ่ง!


“โอเคไว้เจอกันนะเปรม”อันนี้น่าจะเป็นอุ้มเพื่อนผู้หญิงในห้องครับ เปลี่ยนไปซะจนผมจำหน้าไม่ได้เลย ^ ^

“ ห้าโมงได้ไหมกลัวไปไม่ทัน”นี้ไอติ๋ม[จอมเฉื่อยครับ] ที่จริงมันชื่อโน้ตครับ แต่ด้วยบุคลิก นิ่งๆ บวก เอ๋อๆ ของมันเพื่อนๆ เลยขนานนามของมันว่า ไอติ๋ม (มันใส่แว่นด้วยไงเลยหมือน)

“ไม่รู้แหละ ถ้า ไอเจ ไปกูก็ไป ”. . ผมรู้สึกอึ้งที่อยู่ๆ ก็มีคนพูดถึงผมขึ้นมาด้วย. . .และคนๆนั้นก็คือ ไอเดย์ครับ

“ใช่ๆ ถ้า เจ ไม่ไปกูก็ไม่ไป”[ฮาฟ] เอา. . ละสิ ไหงจะไปไม่ไปทำไมอยู่ดีๆ ถึงเกี่ยวกับผมได้ละนี้ .. . ผมนี้ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเลย

“เอาสิ เจไป ชั้นไป โฮ๊ะๆ ว่าไงว่ากัน”คราวนี้ เป็น ไอมินนี่ครับ มันเป็นเพื่อน ผู้ชาย(เกือบๆหน่ะ) ที่แอบชอบผมมาตั้งแต่ม.ต้น แล้ว มาเกี่ยวอะไรกับผมอีกละเนี้ย . . .แล้วก็มีคนที่คอมเม้นเกี่ยวกับผมราวๆ อีกสิบคนเห็นจะได้  . .

ยิ่งมีคนกล่าวถึงผมมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งคิดหนักมาขึ้นเท่านั้น เพราะผมเองไม่อยากเป็นสาเหตุ ที่ทำให้เพื่อนๆคนอื่นๆ ไม่ได้ไปงานด้วย ผมจึงตัดสินใจ . . .

“เออ สี่โมงใช่มั้ยเดี๋ยว กูไป. . .” เท่านั้นแหละ ครับ แชทผมดัง ขึ้นรัวๆๆๆๆเลย  เห้อ ไหนๆ วันนี้ผมกก็ต้องไปทำงานที่นั้นอยู่แล้ว คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเลี่ยงได้เลยสิ นะ . . .

ปี๊ดดดดดๆๆๆๆ !!!!! เสียงบีบแตรถที่ ดังขึ้นมา จากระยะไม่ไกลนัก แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมามอง ระยะมันก็ห่างจากตัวผมอีกนิดเดียวเท่านั้น เอง แต่โชคดีหน่อยที่มีนคน ดึงตัวผมเข้ามาข้างทางซะก่อน ซึ่งคนๆ ก็คือ. . ใครที่หลายๆ คนก็คงรู้กันดี ไอกายครับ มาช่วยผมไว้ได้ทันเวลาพอดีเลย

“อยากตายมากนักรึไง ถึงไปยืนกลางถนน ขนาดนั้น!”

“กูไม่ทันมองนี้หว่า อยู่ๆ รถแม้งก็ขับมาเร็วขนาดนั้น เป็นมึง มึงหลบทันหรอ!”  ถึงผมจะชอบที่มีมันโผล่เข้ามาบ่อยๆ แต่ผมก็ไม่ค่อยชอบให้ใครมาซ้ำเติมผมในเวลาแบบนี้. . 

“มองหน่ะทัน ถ้ามึงเงยหน้าจากจอซักแปปนึงแล้วเดินข้ามฝั่งมาเนี้ย คิดดูซิถ้ากูไม่มาไม่ทันเนี้ย มันจะเกิดอะไรขึ้นกับมึงบ้างห้ะ”
“จริงๆ มึงไม่ต้องมาช่วยกูก็ได้นะ น่าจะปล่อยให้กูตายๆ ไป ซะ จะได้ไม่มีใครมากวนใจมึง ไง รึกลัว ว่าจะไม่มีใครคอยปนนิบัติใช้หนี้มึงรึไงกัน”

“กูไม่ได้เป็นห่วง เรื่องนั้น แต่สิ่งที่กูเป็นห่วงกูคือ. . .มึง . . .”สิ้นสุดคำพูดของกาย  มันเหมือนมีอะไรทิ่มทะลุผ่านตัวผมเข้าไปด้านในจนรู้สึกชาไปหมด . . . . นี้ ผม เผลอทำตัวไม่ดีอะไรลงไปเนี้ย ผมเผลอตะคอกใส่มันหรอ . . สีหน้าของมันดูจริงจังกับคำพูดมากราวกลับมาทุก สิ่งที่มันพูดนั้นล้วนออกมาจากใจ ของมันเอง  . . ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกผิด. .


“ค..คือ..กาย..กูขอโทษกูนะเว้ย ที่ตะคอกใส่มึง คื. . .”

“พอ.ไม่ต้องพูดอะไรหรอก กูรู้หมดแล้ว ไอวินมันเคยเล่าเรื่องของมึงให้กูฟังอยู่. .กูเข้าใจว่ามึงไม่ชอบให้ใครมาซ้ำเติมมึงใช่มั้ย?” ผมไม่กล้าพูดอะไรอีก เลยได้แต่พยักหน้า สองครั้งแทนคำตอบ


“กูก็ต้องขอโทดละกันที่ พูดกับมึงออกไป แบบนั้น ก็มัน อดไม่ได้นิ่หว่า คราวนั้นก็ทีละนี้ถ้ากูมาไม่ทันเวลา. . .มึงจะเป็นไงบ้างเนี้ยรู้ตัวบ้างไหมห้ะ!”.  . .  น้ำเสียงของมันยังดุผมไม่ห่าง แต่สายตากับต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ^ ^

 :hao3:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [16]〖24-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-04-2016 11:34:05
“กูขอโทด..”

“พอๆ เลิกโทดตัวเองเถอะ กูไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว . .เย็นนี้มึงว่างไหม?”น้ำเสียงของไอกายดูสดใสขึ้นจากเมื่อกี้มากครับ แถมสีหน้าก็ดูปกติขึ้นแล้ว ด้วย ถึงผมจะมีอารมณ์แบบนี้ไม่บ่อยมากนัก แต่ผมขอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำตัวแบบนี้ให้ให้กายมันเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง . . .เพรา ผมไม่อยากเป็นสาเหตุที่ทำให้กายมันไม่สบายใจ ยิ่งสถานะในตอนนี้ของผม กับมันแล้ว ยิ่งทำให้ผมแคร์ มันยิ่ง กว่าเมื่อก่อนซะอีก . . .


“เย็นนี้ กูมีนัดเลี้ยงรุ่น ที่ร้านกาแฟวะ แต่ถ้า มึงมีธุระด่วนกูจะได้โทรไปยกเลิกให้ก็ได้. .”

“เห้ยๆ อย่าทำงั้นเชียว เรื่องของกูไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก . . ก็แค่จะชวนไปกินข้าวไปดูหนังก็แค่นั้น ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง. . “แล้วไอเรื่องอื่นที่มันว่านี้หมายถึงอะไรกัน??? ผมชักจะงง กับคำพูดสองแง่สองงามของมันแล้วสิ . .

“งั้นเปลี่ยนเป็นวันเสาร์อาทิตย์ดีไหมละกูว่างทั้งวันเลย. .”

“อือๆเอาไงก็ได้ เออแล้วมึงมีช่องทางการติดต่ออะไรนอกจากเบอร์มึงบ้างมั้ย ?”

“ทำไม.มึงโทรหากูไม่ติดหรอ?”

“ก็ติด แต่หลายครั้งมันก็ขึ้น บริการฝากหมายเลขบ้าง .. ไม่มีสัญญาณตอบรับบ้าง. .พอกูโทรไปแล้วเจอแบบนี้มัน หงุดหงิดวะ”

“กรมม.. นี้แสดงว่ามึงโทรหากูบ่อยมากเลยละสิ ฮ่าๆ แหม่ๆ ยังไงๆ ติดกูเข้าแล้วละสิห่านน 5555”

“. . .ติด อะไรของมึงม...ม มั่วละ . . เออ ไหน ว่ารีบไป ไหน ไม่รีบไปรึไง เดี๋ยวเพื่อนมึงก็รอนานกันหรอก ไปๆ ได้แล้วไปเหม็นขี้หน้า”ฮ่าๆ ในที่สุดวันนี้ผมก็ได้เห็นช็อตเด็ดครับ เวลาไอกายมันเขินมันจะก้มหน้า บ่นพึมพำอะไรแปปนึงแล้วก็เงยหน้าขึ้นมาวีนใส่ 555 เห็นมันในมุม นี้ แล้ว แตกต่าง ไปจากมุกๆ ที่คนอื่นเคยเห็นเลยละครับ [เหมือนพวกปัญญาอ่อนฮ่าๆ]

. . . หลังจากนั้มผมกับกายเราต่างก็แยกทางกันกลับ .. ที่แรกมันอาสาบอกว่าจะมาส่งผมที่บ้านครับ แต่ พบังเอิญไอวิน ขับมอไซด์มาที่หน้าคณะของผมพอดี ผมเลยอาศัยติดรถมันไปด้วย คน [กลัวไอกายมันเขิน แล้ววันแตกใส่ผมในรถครับ] ที่จริงถ้าหากมันตื้อผมอีกหน่อย ผมคงต้องไปกับมันแน่ๆ ฮ่าๆ แต่ผมว่ามันคงจะไม่กล้าเพราะตอนนี้มีไอวินอยู่ด้วย .  .มันก็เลยเดินก้มหน้าก้มตา ขึ้นรถมันก่อนจะขับออกไป. . .

หลังจากที่ไอวินพาผมมาส่งผม มันก็รีบขับรถกลับไปที่บ้านของมัน ไปอาบน้ำแต่งตัว ก่อนที่จะกลับมารับผมในอีกครึ่งชั่วโมง. .  ซึ่งผมก็ใช้เวลาเพียง 20 นาที ในการอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะรีบลงมารอไอวินข้างล่าง

“พี่เจ! จะไปไหนค่ะแต่งตัวซะหล่อเชียว”

“อ๋อพี่จะไปงานเลี้ยงรุ่น ที่ร้านกาแฟ ตรงนู้นนะ ถ้าพี่อินกลับมาจากจ่ายตลาดแล้วก็ฝากบอกให้พี่ด้วยนะ เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

“อ๋อถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะเอิร์นโทรบอกเรียบร้อยแล้ว. . .”

“หมายความว่าเอิร์นรู้หรอว่าพี่จะไปที่ร้านไหน?”

“รู้สิค่ะ เอิร์นเป็นน้องสาวพี่นะ [ถึงจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็เถอะ.]ทำไมจะไม่รู้เรื่องของพี่ชายตัวเองบ้างละค่ะ”ถึงจะแอบแปลกใจเล็กๆ ก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรยัยเอิร์นต่อเพราะคิดว่าต่อให้ถามยังไงยัยเอิร์นก็คงไม่บอกผมแน่ๆ
ยัยเด็กความลับเยอะ! -.-

“ไปที่นั้นระวังจะช็อคเพราะเจอหนุ่มหล่อเอานะ หึหึ ! อย่าหาว่าพี่ไม่เตือน. .”

“หมายถึงพี่โชนหรอค่ะ ?”

“หึ้ยไหงเอิร์นถึงรู้จักพี่เขาได้ละ. .”

“แหม่ก็พี่เจกับพี่โชนจู๋จี๊กันซะขนาดนั้น . . ก็คงไม่พ้นฝีมือของ เดอะแก้งของเอิร์นหรอกค่ะ มองเห็นเรย์ด้า Y ตั้งแต่ร้อยกิโลเมตรแล้ว นี้ไง รูปพี่เจ กับพี่เขาเต็มเลย” พอยัยเอริ์นพูดจบ ก็ยื่นโทรศัพท์ที่มีรูป ผม กับพี่โชน กำลัง ช่วยกัน ขายกาแฟอยู่ (น่าจะเป็นเมื่อวาน) ประมาณสิบกว่าภาพครับ แต่ภาพหลังๆ เป็นภาพสมัยที่ผมยังทำงานช่วงแรกๆ อยู่เลย เลยมีภาพสวีท ตอนที่พี่โชนสอนงานผมอยู่. . ยังไม่พอนะ ยังมีรูปผม กับพี่ ริว รวม ถึง. . .ผมกับไอกาย  เป็นตอนที่ ไอกายมันเมา[เพราะลิตรเหล้าขาวครั้งนั้น] เป็นภาพที่ไอกายมันเอาหัวซุกอยู่ที่อกของผม ตอนกดโทรศัพท์หาคุณเอื้อยเมื่อ นานมาแล้ว. . ตั้งแต่ที่ดูรูปแรกจนมาถึงรูปสุดท้ายไม่มีรูปไหน ที่ทำให้ผมเขินได้เท่ากับรูปของผม กับไอกาย เลยจริงๆ ^ ^. .

“แหมะๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ชอบละ สิ ให้เอิร์นส่งให้เอามั้ย .. คึคึ !!”

“บ้าๆ พี่ไม่ได้อยากได้ซะหน่อย”

“อ๋อถ้าไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร งั้นเอิร์นลบทิ้งดีกว่าจะได้มีพื้นที่ว่างให้กับรูป อื่นๆบ้างๆ”

“ด...เดี้ยว.... อย่า..อย่าลบ นะ พี่ขอหล่ะ ส่งมาให้พี่ก็ได้ นะๆ น้องเอิร์นคนสวยของพี่ ^ ^”

“ก็แค่นั้นแหละค่ะที่เอิร์นอยากเห็น ฮ่าๆ เห็นพี่เจเป็นแบบนี้ แล้วเอิร์นก็รู้สึกดีไปอีกแบบนะค่ะ ว่า แต่ ระหว่างพี่กับพี่กายเนี้ย . . . มีอะไรที่เอิร์นยังไม่รู้อีกรึเปล่า. . เนี้ย.หึหึ !”โป้ก นี้ ซักที

“เรื่องของคนโต เขาเด็กอย่าง เราไม่ต้องรู้หรอก น่า”

“โถ่เอิร์นไม่ใช่เด็กนะ พี่เจ เอิร์นโตพอจะรู้ว่า . . ว่า. . พี่เจ...กับพี่กาย..ไม่ใช่เพื่อนกัน แต่เป็น...”)(&(&$^#$%
แต่ก่อนที่ยัยเอิร์นจะเผลอหลุดปากอะไรไปผมก็ กระโดดเข้าไปปิดปากของยัยเอิร์นซะก่อน ก็อยู่ๆ ดีๆ ไอวินมันก็วิ่งเข้ามาเปิดประตู จากข้างหลังของผม [โชคดีหน่อยที่แอบๆ เห็นมันเดินมาไม่งั้นแย่]

“เซอร์ไพรท์ . .. .อ้าว ไหงเงียบกันจัง ที่บ้านไม่มีคนอยู่หรอจ้ะ น้องเอิร์นจ๋า”ยัยเอิร์นทำเสียงๆ อู้ๆ อี้ๆ ก่อนจะกัดมือผม และดิ้นหลุดออก ไปยืนข้างๆ ไอวินมัน

“พี่เจไม่มีทางปิดบังเอิร์นตลอดหรอกนะ  ถ้าพี่เจไม่บอก เอริ์นจะเดินเข้าไปถามด้วยตัวของเอิร์นเลย”

“. . .เออ ฮัลโหล . . พี่มาแล้วจ้า . .พี่วินไง จ้ะ”. . ผมรู้สึกว่ายัยเอิร์นคงจะยังไม่รู้ตัวนะว่าไอวินมันยืนอยู่ข้างๆ

“โอ๋ๆ ไม่เอาๆ นะเอิร์นเอาไว้เดี๋ยวพี่กลับมาแล้วเดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟังนะค่ะๆ”

“จริงน่ะ?”

“จริงสิคร้าบ คนดีของพี่ไม่โกรธพี่เน้อ !!”

“เอิร์นไม่โกรธพี่เจ ก็ได้แต่พี่เ จต้อง สัญญากับเอิร์นนะ ว่าพี่เจ จะพูด ความจริงกับเอิร์นทุกอย่าง!!! สัญญาสิ” เอิ่มผมไม่เคยรู้สึกกดดันอะไรขนาดนนี้มาก่อน สีหน้าของ ยัยเอิร์นดูจริงจังกับเรื่องนี้เอามากๆ นี้ผมเริ่มชักจะกลัวๆ สาววายขึ้นมาแล้ว ละสิตอนนี้ !!
“ตกลงตามนี้นะ . แต่ตอนนี้พี่ต้องรีบไปแล้วเดี๋ยวจะเข้างานสายเอา ส่วนเอิร์นถ้าจะตามไปกับพี่ด้วย ให้รอ ไอวินมารับนะ”

“ต...แต่..”

“ไม่เต่อไม่แต่อะไรทั้งนั้นแหละ พอมึงไปส่งกูแล้วก็กลับมารับเอิร์นอีกรอบด้วยนะ. .”

“อ๋อไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่เจน เดี๋ยว อีกแปปนึงเพื่อนเอิร์นก็มารับแล้วละคะ พี่สองคนก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวเข้างานสายเอิร์นไม่รู้ด้วยนะ.”

“โอเค ไว้เจอกันที่ร้านนะครับน้องเอิร์น. .”

“ค่า ขับรถดีๆ นะค่ะพี่ เจ พี่ วิน”

“คร้าบบ!!” หลังจากที่เดินออกมาที่หน้าร้านผมกับไอวินเราส่องคนก็รีบเปิ่นแนบ ขึ้นรถ ขับออก มาจากร้านแล้ว มุ้งตรงไปที่ร้าน กา เลยทันที -.-

พอผมกับไอวินมาถึงที่ร้าน ก็ ถึงกับอึ้งกันจนพูดไมออกเลยครับ   เมื่อเพื่อนของพวกผมกับไอตินราว 40 กว่าคนกำลังรวมตัวกันอยู่ ณ ร้านกาแฟแห่ง นี้ . . เพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่ภายในร้านต่างพากันจ้องมองออกมาที่กระจกหน้าร้าน นี้ขนาดยังไม่ได้เปิดประตูเข้าไปกันนะ อะไรจะสายตาดีกันขนาดนั้น หึหึ !  พอไอวินเดินเข้าไปเปิด เพื่อนๆของไอวินก็เดินกรู่กันเข้ามารุมกอด ไอวิน จนมันสดุดล้มไป. . .ส่วนผม นะหรอ . . . ผมไม่ค่อยมีเพื่อนอย่างไอวินมันหรอก ครับ เลยรู้จักแค่ไม่กี่คน ส่วนไอพวกที่นัดแนะ ว่าถ้าผมไม่มามันก็จะไม่มา ตอนนี้ . . ยังไม่เห็นหัวพวกมันซักตัวเลยครับ. .

“ไอเจ ช่วยกูด้วย. .”ไอวินมันตะโกน ขอความช่วยเหลือจากผม ที่กำลังเดินเข้าหลังร้านไป ทำให้สายตาหลายๆ คู่ในบริเวณนั้น หันมาจับจ้องผม แทนไอวินซะก่อน. . . ผมนี้ถึงกับเดินไปไหนไม่ออกเลย . . . สายตาทุกคนเหมือนกับ ว่าผมไม่ทำอะไรไม่ให้อย่างนั้นแหละ. .

“หวัดดี !”ผมกล่าวทักทายเพื่อนๆทุกคนไปด้วยมิตรไมตรีที่ดี แต่ดูเหมือนว่าจะๆไม่มีใครสบอารมณ์ร่วมกับผมเลยซักคน = =’

“เจ คงไม่ได้หมายถึง เจตรินทร์ ห้องสามหรอกใช่ป่ะ?” อยู่ๆก็มีเพื่อนผู้หญิงคนนึงของไอวินพูดชื่อผมขึ้นมาครับ

“นั้นแหละมัน. . .[เสียงวินมันครับ]”เอาสิครับบรรยากาศในตอนนี้เงียบกว่าเมื่อ เมื่อกี้ซะอีก . . เธอคนที่เอ่ยปากถามคนนั้นค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ๆ ผมก่อนจะใช้มือของเธอ ยื่มาจับที่แก้มของผม ทั้งสองข้าง

“เอ่อ. . มีอะไรกับเรารึเปล่า รู้จักเรา....ด้วยหรอ!” ผมยิ้มเจื่อนๆ ส่งไปให้เธอคนนั้น . . แต่ไม่รู้ว่าเธอได้สนใจผมอยู่รึเปล่านะ. .
“ใช่เจตรินทร์ จริงๆ ด้วย เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ แล้ว นี้ไอคนที่ชอบ แก มันไม่มาด้วยเหรอ ?”คนที่ชอบผม. . .. ใครกันละใครกัน. . . อ่อ สงสัยเธอคงจะหมายถึง

“มินนี่หน่ะเหรอตอนนี้เราก็ยังไม่เห็นเหมือนกัน. . ไม่รู้มัวไปทำอะไรกันอยู่. . ถึงมาช้ากันขนาดนี้. .”

“ป่าว ๆช่างมันเถอะ ว่าแต่ ทำไมวันนี้ ถึงแต่งตัวแปลกๆ  อย่าบอกนะว่าแกเป็นพนักงาน อยู่ที่นี้. .”

“อืมๆ. . มีอะไรหรอ...”สิ้นสุดเสียงของผมปุ๊ป เพื่อนทุกคน ดูอึ้งกับคำตอบของผมเอามากๆ . . .จะอึ้งอะไรกันขนาดนั้น. .

“น้อง เจ ครับ รีบเอาของไปเก็บ แล้วตามมาช่วยงานพี่ข้างหลังร้านได้แล้ว. . . ลูกค้ามากันเยอะแล้วเห็นมั้ย?. .”เพียงเท่านั้นแหละครับ จากสายตาที่จ้องมองผมของทุกคนก็เปลี่ยนไปสนใจที่พี่โชน รวมถึงเพื่อนๆ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ก็ไม่เว้นครัยต่างพากันเดินเข้ามา พร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าด ที่ดังตามมา ... หืม หรือต้องเรียกว่า มาทันเวลาพอดี . . .หึหึ . ผมเลยฉวยโอกาสที่ ไม่มีใครสนใจผมในตอนนี้ สะหลายโต๋ เข้าหลังร้าน ในทันที. . .

หลังจากที่ผมเดินเข้ามาที่หลังร้านก็ยังได้ยิน เสียง ของเพื่อนๆ ผู้หญิง พวกนั้น คุยกับ พี่โชน ราวกับ ว่ารู้จักกันมาซักสิบปียังไงอย่างงั้นเลย . . ที่จริงๆ ผมจะไม่สนใจก็ได้นะ ถ้าไม่บังเอิญ พี่ชื่อ ผมอยู่ ในการนินทาครั้งนั้นด้วย. . . หึหึ !

ผ่านไปพักนึงพี่โชนแกก็เดินยิ้มๆ เข้ามาที่หลังร้าน ก่อนจะ เปิดปากแซวผม ตั้ง แต่หน้าประตู . .. .พี่โชนแกก็เล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนกำลังแปลกใจที่อยู่ๆ ก็เห็นผม . . มาทำงานอะไรอย่างนี้. . .เพราะเมื่อก่อน สมัยมัธยม บ้านของผมมีฐานะที่มั่นคงมากๆ ช่วงนั้นเลยโดน พวกแก้งของไอเปรม เดินเข้ามาไถเงินผมอยู่บ่อยๆ . .  แต่ด้วย ที่เศรษฐกิจ ในช่วงนี้ ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำให้งานที่พ่อผมกำลังทำอยู่เกิดปัญหาไปด้วย ส่วนเรื่องอะไรนั้นผมก็ไม่เคยถามพ่ออย่างจริงๆ จังๆนักหรอก พ่อเอาแต่บอกปัดๆกับผมว่า มันก็ธุรกิจค้าขายอะไรทั่วไปนี้แหละ แต่เหมือนลูกค้า หันไปสนใจ จ้าวใหม่แทน  เลยทำให้ครอบครัวของผมเกิดวิกฤอย่างหนัก บ้านผมติดหนี้สินหลายสิบล้าน จนพ่อของผมต้องไปทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ กับพี่เจมส์พี่ชายของผมด้วยอีกคน. . . ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยได้ข่าวอะไรจากพ่อและพี่ชายอีกเลย. . .รู้ตัวอีกที ผมก็ถูกส่งตัวให้มาอยู่กับพี่อิน เรียบร้อยแล้วละครับบ. ..

 พอเวลาผ่านไปซักพักใหญ่ๆ ผู้คนก็แห่มากันอย่างล้นหลามชนิดที่ ว่า ที่โต๊ะไม่พอเลยที เดียว แต่ที่หน้าแปลกใจก็คือ. . . มันมีแต่คนที่ผม รู้สึกคุ้นหน้าเลยละสิ ไม่รู้ว่า ผมคิดไปเอง มั้ย ? เลยลองเดินไปถามพี่โชน ที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ดู ก็ได้คำตอบมาว่า. . . วันนี้ มีค้นซื้อชั่วโมงทั้ง วัน ให้พวกเพื่อนผม (จริงๆ เพื่อนไอวินมันหมดแหนะ) เพื่อนผมมีอยู่ไม่กี่คนหรอก . . .(เพราะอัธยาศัย ของผมไม่ได้ดีอย่างไอวินมัน) . . ผมยังแอบคิดในใจ ว่า มันลงทุนเลี้ยงรุ่นถึงขั้นปิดร้านเลี้ยงกันเลยหรอ. . โห๊ะ . . .คงจะหมดกันหลายตังหน้าดู. .แต่ช่าง เถอะครับ ถึงยังไง ผมก็ไม่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อยู่ดี.  .
ระหว่างที่ผมกำลัง เอาเครื่องดื่มไปเสริฟ์ ให้เพื่อนๆ ที่โต๊ะ อยู่ๆ ก็มี้เสียงข้อความ ดังขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงของผม . . . ผมอาศัย จังหว่ะที่พี่โชนแกเผลอๆ หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมากดดู . . “เพื่อนหมูตุ๋น”. . .คึคึ  ผมรีบเดินออกไปข้างนอกร้านก่อนจะ กดรับสายของ มัน

“หวัดดีเพื่อนหมูตุ๋น โทรมามีอะไรรึเปล่า ฮ่าๆ”

“กวนตีน.ละ . เลี้ยงรุ่นเป็นไงมั้ง. .สนุกมั้ย?”ถ้าถามว่าสนุกมั้ยผมก็ไม่สามารถตอบไอกายได้เหมือนกัน เพราะผมเอาแต่ทำงานง้อกๆ ช่วยพี่โชน แกตั้งแต่เข้าร้านมา  แต่เพื่อความสบายใจของมันผมจึงตอบมันกลับไป ..

“อืมก็หนุกดีๆ ทำไมอยู่บ้านเบื่อหรอมึง จะมาก็ได้นะ เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง ฮ่าๆ”ถึงผมจะพูดเล่นๆ ออกไป ก็เถอะ แต่ผมลืมคิดไปว่าคนอย่างไอกาย . . .มันไม่เคยล้อเล่นกับใคร. . ..

“อืม งั้นอีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวกูไป . .ไว้เจอกัน. . .”

“ต.แต....ตื๊ดๆ”ไม่ทันแล้วครับ ผมเผลอ ออกปากชวนไอกายมัน ไป ทั้งๆ ที่วันนี้ร้านปิดอยู่ๆแท้ๆ - -* โอยทีนี้จะทำไงดีละเนี้ย หายตัวไปอยู่นอกอวกาศเลยดีมั้ยไอเจเอ้ยย  ปากพล้อยจริงๆ กู  แต่ในระหว่างที่ ผมกำลังสบถออยู่คนเดียวอย่างหัวเสีย ก็มี ลูกค้าไม่สิคงเป็นเพื่อนๆ ของไอวินมันนั้นแหละเดินมากันประมาณ 4-5 คน  ผมจึงรีบเดินไปรับๆ พวกเพื่อนๆของมัน ที่กำลังเดินมาจากด้าน ล่าง . . แต่ผมคิดผิดครับ คราวนี้. . .ไม่ใช่เพื่อน ของๆ ไอวินแต่เป็นเพื่อนๆ ของผมเอง แต่สิ่งที่ทำให้ผมอยากเดินกลับขึ้นไปมากที่สุด. . .ก็ตอน เห็น หน้าของไอเปรมนี้แหละครับ . . . ผมกับมันเราจ้อง ตา กันพักนึง สภาพของมันในตอนนี้ดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมากครับ ไม่ต่างจากผมเลย . . . ไอเดย์กับไอฮาฟ ยังทำหน้างง อยู่ คงจะจำผมไม่ได้แน่ๆ เลย นอกจาก . . . ไอมินนี่กับไอติ๋ม ที่พอผมเดินลงมา มันสองคนนี้แทบกระโดด กอด จนผมเกือยจะล้มหัวทิ่มลงไป ข้างล่าง.เลยครับ

“ว้ายยยยย !!! นี้ เจ หรอ หู้ย ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เนี้ย ดูสิ โตขึ้น แล้วหล่อ ขึ้นมาเชียว” เอ่อ แสดงว่าตอนเด็กนี้กูดูแย่มากใช่ไหม ห้ะ อิมินนี่. . - -*

“เจเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ว่าแต่สบายดีรึเปล่า”. .ส่วนคนที่ยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยก็น่าจะเป็นไอติ๋มนี้แหละครับ สมัยก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย . . . (มันชอบพูดนิ่งเรียบๆ พร้อมกับใบหน้าที่ดูไร้อารมณ์เหมือนทุกที) ผมเห็นแล้วก็อดขำกับการกระทำของมันไม่ได้เลยครับ

“เห้ย/เห้ย นี้ ถ้าอิโกมินมันไม่ทักนี้ จำไม่ได้เลยนะ” เดย์&ฮาฟ ส่วนไอ่.นั้น  ไมยอมพูดอะไรครับ. . หึหึ

“นี้ๆ อิคุณฮาฟค่ะ กู บอกมึงตั้งกี่ครั้งแล้วค่ะ ว่าไม่ให้เรียก โกมิน กูชื่อมินนี่ เข้าใจตรงกันน่ะค่ะ !! มินนี่พร้อมกัน สามสี่!!”

“อิโกมิน ฮ่าๆๆๆ” และแล้วพวกมัน 4คนก็รีบวิ่งหนีอิมินที่วิ่งไล่จับตูดของพวกมันเข้าร้านกันไป. . .ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ผมกับไอเปรม. . ที่กำลังยืนจ้อง หน้า โดย ที่ต่างคนต่างไม่พูดอะไร. . . แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะเรื่องราวระหว่างผมกับไอเปรมมันก็ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้ว ถ้าจะคิดโกรธมันอยู่ก็จะดู ว่าผม ทัษนคติไม่ดีกับคนอื่นอีก . . ผมเลยตัดสินใจยอมเปิดปากเป็นฝ่าย ชวนมันเข้าไปด้านในก่อน

“เพื่อนก็ไปหมด แล้ว มึงจะไม่เข้าไปหรอ . . .” ผมพูดไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก  ผมเลยเดินนำมันเข้าไปที่หน้าร้านแต่ขณะที่ ผมกำลังจะเปิดประตูเข้าไป ไอเปรมมันก็พูด ประโยค ที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของคนอย่างมัน

“เจ! เรื่องเมื่อ 5 ปีก่อน . . กูขอโทษนะ.  .”คำพูดของมันทำให้ผมรู้สึกดีใจและตกใจในเวลาเดียวกัน ก็เพราะคนอย่างมัน การที่จะพูดขอโทดได้ นี้นับว่าเป็นเรื่องที่อเมซิ่งมากๆ เลยครับ. .

“อะไร นี่มึงป่วย ขนาด ต้องมาขอโทดกูเลย หรอ อะไรเข้าสิงมึงวะไอเปรม.”ถึงผมจะยังตกตะลึงกับคำพูดของมัน อยู่แต่ผก็ไม่อยากจะเชื่อหูของ ตัวเอง . ว่างสิ่งที่เปรมมันพูดขึ้นมา มันจะเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ แค่ผมหูฝาดไป. .

“กูพูดเพราะกูรู้สึกผิดจริงๆ เจ กูไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มึงเป็นแบบนั้นเลยนะ ที่กูทำไปทั้งหมดก็เพราะ”

“ไอแคระ. .มัวยืนทำอะไรอยู่ทำไมไม่เข้าไปข้างใน. . .”เสียงทักทายเรียกผมดังมาจากด้านหลังของไอเปรมมันครับ . .. ชิบหายละ  . . อยู่ๆ ไอกายัมนก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แถมยังมาเห็นผมยืนคุยกับไอเปรมสอง ต่อสอง อีก . . ถึงผมจะยังไม่รู้ว่า นิสัยของไอกาย เป็นยังไงก็เถอะ. . .แต่ด้วย ความรู้สึกผิด(อะไรก็ไม่รู้) ทำให้ผม ต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจและเดินเข้าไปหาไอกายแทน

“อ๋อ พอดีกูออกมารับเพื่อนหน่ะ ว่าแต่มึงเหอะ ไหนว่า อีกครึ่งชั่วโมงถึงจะมาไง นี้ผ่านไปแค่ 20 นาทีเอง”

“กลัวกูจะมาขัดจังหว่ะ ของมึงสองคนรึไง ? “เอาแล้วไง . . . . อยู่ๆ ไอกายมันก็ดูแปลกไปคำพูดของมันดูประชดประชันผมยังไงก็ไม่รู้ .. สงสัยมันคงจะไม่พอใจ ที่ผมคุยกับไอเปรมแน่ๆ เลย . .

“ขัดอะไรเล่าไม่มีหรอก กู ก็แค่อยู่คุยกับมันด้วยเฉยๆ ก็เพื่อนกันทั้งนั้น มึงอย่าคิดมากดิ่. .” นี้ขนาดผมตกลงเป็นแฟนกับมันแค่วันเดียวนะ อาการยังหนักขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่า จะเป็นยังไงต่อไป. . ..

 “เออ งั้นก็รีบๆเข้าไปสิ. .. . จะยืนตากลมอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ย?”  :ruready

“เออๆ ไปแล้วๆ”แล้วจู่ๆ ไม่รู้อะไรเข้าสิง ผมถึงเดินไปจูงมือไอกายเดินเข้าร้านไปพร้อมกัน. .  พร้อมกับไอเปรมที่เดินตามหลังของผมมา มันทำหน้าเหมือนแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เห็นผมเดินจูงมือ ไอกาย มา แต่มันก็ไมได้ เอ่ยปากถามอะไร . ..
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [16]〖24-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-04-2016 11:38:15
ทันทีที่ผมเดินเข้าร้านมา พร้อมกับไอกาย และไอเปรม ทุกคนในงานต่าง พากันหันมามองพวกผมสามคนที่ยืนอยู่หน้าประตู. . . ด้วยสายตาที่ชวนสงสัย. . . แต่ทันได้นั้นเองไอวินก็เดินตรงมาทีผมก่อนจะ เหวี่ยงหมัด ของมัน ดังปัก !! ผมรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อย รวมถึงทุกคนในงาน . . . ไอวิน . . .มันต่อยจนไปเปรม ล้มไปนอนกับพื้นเลยครับ . . .ผมตกใจมาก ที่อยู่ๆ ไอวินมันก็ทำแบบนั้น. . เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้ มา...ก่อน. . . แต่ยังมันยังไม่จบแค่นั้นครับ มันวิ่งจะเข้าไปต่อยอะเปรมอีกรอบ แต่ ที่มีเพื่อนๆ มาคอย ห้ามไว้ได้ทันครับ ไอ้เปรมมันเลยรอดตัวไป

“เห้ยไอวินมึงเป็นบ้าอะไรของมึงห้ะ”ทันทีที่เปรมลุกขึ้นมาได้มันก็เกือบจะวิ่งเข้าไปใส่ ไอวิน ซะให้ได้ครับ แต่ผมดึงแขนห้ามมันไว้ก่อนไม่งั้น ป่านนี้งานฉลองคงต้องล้มแน่ๆ

“ก็มึงเคยทำเลวๆ อะไรไว้กับไอเจบ้างละ มึงเคยจำได้ไหม ?” ตอนนี้ผมพอจะเข้าใจเหตุผผลที่ไอวินมันต่อยไอเปรมแล้วละครับ ที่ทั่นก็กำลัง เอาคืนที่ไอเปรมเคยทำกับผมไว้สมัยก่อนนี้เอง. . . แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ . . .ยังไงไอเปรมมันก็ขอโทด ผม ก็ถือว่าแล้วต่อกันไป . .

“พอๆ พวกมึงทั้งสองคน ไอวิน มึงใจเย็น ก่อน ไอเปรมมัน มาขอโทด กูแล้ว ส่วน ไอเปรมกูก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับมัน แล้ว วันนี้ มันงานเลี้ยงรุ่นนะสัด มึง คิดว่า ที่เพื่อนๆ หลายคนอุตส่าห์ ถ่อมาถึงที่นี้ เพื่อดูพวกมึงสองคนตีกัน รึไง กันห้ะ. . .!!”

“…กูขอโทด. เจ .กู ไม่ได้...”

“เอาเถอะนะ มึงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว . . . ไหนๆ เรื่องพวกนั้น มันก็ผ่านมานาน มากแล้ว . . กุ ก็ขอให้มันแล้วกันไปไม่มีอะไรค้างคากันอีก เข้าใจไหม . ..  ตอบบบ!!...”

“เข้าใจ/เข้าใจ”

“ดี!! ทีนี้ก็ต่าง คนต่าง ก็แยก ย้าย กันไปหาที่นั่งซะ ขาดเหลืออะไรก็บอก. .  แล้วอย่ามีเรื่องให้กูเห็นอีกนะพวกมึงสองคนหน่ะ”ไอวินกับไอเปรมดูหน้าจ๋อยกันไปทั้งคู่เลยครับ ขนาดผมเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเผลอทำอะไร ลงไป . .แบบ สถานการณ์มันพาไปอะ ครับ . . .พวกมันสองคนค่อยๆ เดินเข้าไปหาที่นั่ง ผมกำลังเดินหาที่นั่งให้ไอกายมันอยู่ครับ. . .  แต่ระหว่างที่เดินมา . . พวกเพื่อนๆ ผู้หญิงต่างก็พากันมอง หน้าไอกาย อย่าง ประหลาดใจ [ไม่รู้ประหลาดใจเรื่องอะไรนะ]
ก่อนที่ผมจะเจอที่นั่งดีๆ ที่อยู่ด้านในสุดของร้าน. . .แต่ที่หน้าแปลกใจก็คือ ยัยเอิร์น เข้ามานั่งอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน. . .. . .



TBC . . . . . . . .

[คิมกอนอู]



 :katai4: :bye2:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [16]〖24-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 26-04-2016 09:38:11
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter:17 เพื่อนเก่า Vs แฟนใหม่ [Part.2/2]   
  หมายเหตุ :“[]”=  แทนการพูดแบบกระซิบ หรือการนึกคิด


ผมรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากที่อยู่ๆ ยัยเอิร์นก็โผล่เข้ามา นั่งอยู่ในร้านพร้อมกับผองเพื่อนทั้งสอง ของยัยเอิร์น
[คนที่เจอที่ห้างวันก่อนไงครับ] ก่อนจะนั่งส่งยิ้มมาให้ผมกับไอกายที่กำลังเดินเข้ามา. . .

“เอิร์นเข้ามาได้ยังไงค่ะ วันนี้ ร้าน ปิดนะ”ผมถามยัยเอิร์นออกไปด้วยความสงสัย..

“แหม่ๆ พี่เจคิดว่าจะเข้ามาได้คนเดียวหรอค่ะ เอิร์นก็มีเส้นสายของเอิร์นเหมือนกันนะ คึคึ !” ฟังจากเสียงหัวเราะแล้ว ผมว่ายัยเอิร์นต้องมีแผนการที่กำลังจะลงมือทำอะไรซักอย่างแน่ๆ เซนต์ผมมันบอก มาแบบนั้น - -*

“ถึงจะยังงั้นก็เถอะ... ว่าแต่กินอะไรกันมารึยังหิวรึเปล่าเดี๋ยวพี่หาอะไรมาให้ทานรองท้องก่อนเอามั้ย ?”

“เรื่องนั้นเอิร์นไม่วอรี่เลยค่ะพี่เจ ! เดี๋ยวอีกซักพัก ก็มีคนเอามาเสริฟ์ให้ถึงที่แล้วละค่ะ นั้นไงคะเดินมานู้นแล้ว” ผมรู้สึกตกใจมากที่พี่โชน เป็นคนเดินเอามาเสริฟ์ด้วยตัวเอง ทั้งๆ ที่ พนัก งานคนอื่นก็มีอีกตั้งสองสามคน. . .ผมเลยรีบวิ่งเข้าไปรับถาดจากพี่โชนแกที่กำลังเดินมาที่โต๊ะ . ..


“แหม่ พี่โชนไหง เดินเอาออกมาเสริฟ์เองละครับ ทำ ไมไม่เรียกพี่คนอื่นๆ มา รึเรียกผมก็ได้. . ไม่เห็นต้องลำบากเอามาให้เองอย่างนี้เลย. . .[พี่โชนแกได้แต่ยิ้มๆ ไม่พูดอะไร ก่อนจะเดินเข้าหลังร้านไป]”ชะอุ้ยย!!! ผมเริ่มรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังจับจ้องผมอยู่ที่ด้านหลัง . . . ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าสายตาของใคร ผมรีบหยิบถาดก่อนจะรีบมาวางเสริฟ์ที่โต๊ะ พร้อมกับกดบ่า ของไอกายให้นั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะแกล้งๆ นวดที่ไหล่ของมัน สองสามที และวิ่งเข้าหลังร้านไป..... หวุดหวิด ตายรอบสองแล้วไหม ละ ผมเนี้ย . . . .!
ระหว่างนั้นเองที่ผมกำลังยุ่งๆ อยู่กับการทำเครื่องดื่ม จู่ๆ ก็มีเสียงคนกดกริ่งที่อยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์ ทำให้ผมที่กำลังยืนชงเห้ลาให้พวกมันอยู่ ต้องเดินออกไปดู. . .


“อ้ะ อ้าว นึกว่าใคร เป็นไงบ้างละมึง สงบสติได้รึยัง”เป็นไอวินที่เดินเข้ามาครับ - -* แหม่สภาพตอนนี้อย่าให้คุยเลย ครับ เลื้อนยิ่งกว่าหมาอีก


“เอื๊อก! แหม่ เจ กู ขอเอื๊อก โทดนะเว้ยที่ กูเผลอ เอื๊อก!” ผมรู้สึกเอือมที่มันมาสะอึกอยู่ข้างหน้าผม ก่อน จะรีบเดินไปหยิบน้ำเปล่าที่อยู่หลังร้านมาให้มันดื่มแก้สะอึก - -* ไม่งั้นคงจับใจความไม่ได้แน่ว่ามันพยายามจะพูดอะไรให้ผมฟัง

“เป็นไงดีขึ้นมั้ย ? แล้วสรุปมึงจเล่าอะไรให้กูฟังกันแน่...”

“โอเคขึ้นเลยวะเพื่อนว่า แต่ . . . . ไอห่านั้นมันไปมุด หัววว อยู่ที่ไหนนนน ว้า!”ไอห่าที่มันพูดถึงน่าจะหมายถึงไอเปรมมั้งครับ ผมขอเดาว่าเป็นมัน

“อยู่ข้างหลังมึงนู้นไง ลืมตาดูดีๆ สิ”ผมพูดพลางชี้นิ้วไปข้างหลังของมัน ไอวินมันก็มองตามนิ้วของผมก่อน จะหลี่ๆ ตา มอง เหมือนพวก ลืมตาไม่ค่อยจะขึ้น  ก่อนจะ จะร้องอ๋อ ออกมา

“อ๋อ แล้วมันไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ . . กูไม่ยักจะเห็นเลย. .เอิ้กๆ !!”คือบางทีมันก็นั่งเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ตั้งนานแล้วปะวะ มีแต่ไอวินนี้แหละครับ นี้เมา แล้ว นั่งบ่นอะไรของมันอยู่คนเดียว .. . นี้สงสัยจะพุดมากจนพวก พากันรำคาณ แล้วไล่มา ตรงนี้ ก็อาจจะเป็นได้ 5555


“เออออ เจจจ นี้มึง รู้ อะไรเกี่ยวกับ ไอตัวมีปีกบินได้ ที่มันมีเขาแหลมๆ รึเปล่าวะ . . . คือกูสงสัยวะ ว่ามันมีเขาได้ยังไง .. . . “คงได้ที่ของไอวินมันแล้วแหละครับ อาการเริ่มมาแล้ว ไอเมาๆ แล้วเพ้อถึงสิ่ง ที่ไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แ ล้ว ยิ่งพอนึกภาพตาม ยิ่งมองไม่ออกเลยว่าไอสิ่ง ที่มันกำลังพร่ำเพ้อ อยู่ตอนนี้ ปัจจุบัน มันยังมีชีวิตอยู่ รึเปล่า . . . คงจะเป็นเพื่อนๆ ยุคได้โดเสาร์ ของมันนั้นแหละครับ . . หึหึ !

“นี้ๆ มึงมองตามนิ้วกูนะ มึงเห็นไอคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นไหม” ผมชี้นิ้วไปที่ผู้เคราะห์ร้ายหมายเลข 1 ไอกายครับ

“ไหนน เออ อ่อ เห็ น  ไอกาย . . .แล้วยังไงว้า “ผมแอบเห็นไอกาย มันส่ายหัวเหมือนเอือมระอา . . มันคงจะรู้ดีครับ ว่าตอนนี้ เพื่อนของมันกำลังเป็นอะไร เห็นแล้วผมเองก็อดขำไม่ได้ครับ ฮ่าๆ

“ไอนั้นแหละ รู้เรื่อง ของไอตัวมีปีกมีเขาที่มึงกำลังพูดถึงอยู่มึง ลองไปถามดูดิ. . เดี๋ยวกูไป ทำนมสดมาให้รออยู่นั้นแหละ”พูดจบไอวินมันก็เดินเซ เข้าไปหาไอกาย พอเดินถึงตัวปุ้ปมันก็ฟุ้บเข้าไปซบอกของไอกาย เลย ครับ  ถึงผมจะไม่ชอบให้ใครยุ่งกับไอกายของผมก็เถอะ[อุ้ยหลุดปากอีกแล้ว^ ^]แต่เพราะไอวินมันเมามาก ครับ เลยปล่อยๆมันไปซักครั้งจะดีกว่า. . .
พอผมเดินจะกลับเข้าไปช่วยงานพี่โชนที่หลังร้าน ก็โดนพี่โชนไล่ออกมา  พี่โชนแกบอกว่า งานแบบนี้ นานๆ ทีจะมีที เลย บอกให้ผมใช้เวลาอยู่กับเพื่อนน่าจะดีกว่า.  . . ผมเองก็ขัดข้องอะไรไม่ได้ครับ เลยต้องเดินออกมาอย่างที่พี่โชนแกบอก  . . . ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะก็ไม่ลืมที่จะทำนมสด ของโปรด ของไอวินมาด้วยครับ แต่เหมือนตอนนี้ มันจะนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่ตักของไอกายอยู่ครับภาพที่เห็นคือ มันนั่งหันหน้า ไปหาไอกายแล้วก็ซุกหน้าของมันไปที่ไหล่ของขวาของไอกาย ส่วน ตัวไอกายได้แต่นั่ง ลูบหัวลูบหลังของไอวินอยู่ครับ แหม่ๆ เป็นภาพที่ผมเห็นแล้วนึกถึงนิทานเรื่องนึงขึ้นมาเลย .. . แต่ลืมไปชื่อไปแล้ว หึหึ ! [พูดขึ้นมาเพื่ออะไรกันละนี้ !!ฮ่าๆ]


“น้องเอิร์นค่ะ เดี๋ยวน้องเอิร์นกับเพื่อนช่วยกัน พาพี่วินไปนั่ง โต๊ะที่หน้าร้านที นะ  พอดีพี่มีธุระต้องคุยกับพี่กายเขาหน่อยหน่ะ !”

“แหม่ๆ ! อยากอยู่กันสองต่อสองก็ไม่บอกไม่เห็นต้องเอา พี่วินมาอ้างเลยนี้ค่ะ บอกกันดีๆ ก็ได้เน้อพวกเราเน้อๆ”ยัยเอิร์นพูด พลางพยักหน้าให้เพื่อนๆสาวๆ อีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วย ซึ่งสามคนต่างความคิดเห็นตรงกันครับ ยอมเดินลากตัวไปวินไปแต่โดยดี . . . จริงๆ ผมก็ไม่มีอะไรจะคุยกับไอกายมันหรอกครับ เพียงแคไม่อยากให้ไอวินมันมาเจาะแจ๊ะ กับคนของผมก็เท่านั้น เอง . . .[ขนาดสองคนมันเป็นเพื่อนกันผมยังหวงเลย ฮ่าๆ] พอ .. . พวกน้องเอิร์นกับไอวินเดินไปได้ซักพักไอกายมันก็นั่งท้าวคาง มองผม ด้วยสายตา... ที่ . .. เอิ่ม !! ชวนสหลงสไหล!! มองเฉยๆ ก็ได้ไม่ต้องขยิมตาไอห่า กูเขิน

“เอ่อ..ตอนมามึงมาไงอะ ขับรถออกมาเองหรอ!” - -* คิดจะหาคำถามที่มันดีกว่านี้ไม่ได้เลยรึไงกัน ไอเจเอ้ยย

“ให้ คนขับรถที่บ้าน พามาส่ง ! ดึกแล้วขี้เกรียจขับรถออกมาเอง มีอะไรรึเปล่า”. . .

“ก..ก.ก็เปล่าหรอก ว่าแต่ ดึกขนาดนี้แล้ว มึง กินอะไรมารึยัง?”

“ก็นิดหน่อย . . . อย่าบอกนะว่าเรื่อง ที่จะถามมีแค่เรื่องพวกนี้ . . .?” เอาละสิ ผมจะทำยังไงต่อดีละที นี้ ผมยังไม่ได้คิด ถึงเรื่องสำคัญๆที่จะคุยกับมันเลย . . . .   ผมควรจะถามันว่าอะไรดีละ . . . คิดสิวะเจคิดๆ

“เอ่อ... พรุ่งนี้ว่างมั้ย ...”

“ก็มีเรียนถึง 4 โมงเย็น . . ถามทำไม?”

“ไปดูหนังกัน “เชี่ย ผมเผลอหลุดปากพูดอะไรออกไปฟระเนี้ย  ><

“อืม”เท่านั้นแหละครับหัวผมตื้อคิดอะไม่ออกเลย. . . จากที่ในใจคิดว่ามันจะปฏิเสธ. . . แต่ไหงกลับตกลงกลับมาซะงั้นละ . .

“เออ โอเค งั้น เดี๋ยว เลิกเรียนเสร็จกูโทรหาละกัน นะ . . .. งั้น กู ขอ ตัว ไป ทำ งาน ก่อน นะ”

“เดี๋ยว . . จะรีบไปไหน อยู่คุยด้วยกันก่อนสิ”เอาละสิผมกะว่าจะกลับเข้าไปหลบหลังร้าน ซะหน่อย อยู่ๆ ไม่รู้มันนึกคึกอะไรถึงอยากคุยกุบผมในเวลาเน้ ! >.<

“อื้อ มีอะไรก็คุยมาสิ. . . .”

“ไอคนที่มึงคุยอยู่หน้าร้าน มันเป็นใคร. . .!.” เหมือนผมถูกไอกายสงสัยว่าผมแอบเล่นชู้ยังไงไม่รู้แหะ แล้วไหง ผมต้องตกใจขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้

“อ๋อ หมายถึงไอเปรม น่ะหรอ  มันก็เป็นเพื่อนเก่าสมัยมัธยม รุ่นเดียวกัน แต่ กูสองคนไม่กินเส้นกันไง ก็เลยเป็นอย่างที่มึงเห็นตอนเดินเข้ามานั้นแหละ”

“แล้วทำไมไอวินมันถึงต้องเดือดขนาดนั้นด้วยวะ. . .”


“จะให้พูดยังไงดีละ . . สมัยก่อนกูไม่ค่อยจะมีเพื่อนไง เพราะบุคลิกท่าทางและสีหน้าของกู ออกแนวเดียวกัน กับพวกโลกส่วนตัวสูงแบบนั้นเลย พวกมันก็คงจะหมั้นไส้กูละมั้ง คิดว่ากูหยิ่ง ก็เลยแกล้ง แต่ กู . . .แต่พอถึงวันรับวุฒิ พวกเพื่อนๆ มันอีกสองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นหน่ะ [พลางชี้นิ้วไปที่ ไอเดย์กับไอฮาฟที่หันมาส่งยิ้มให้ผมพอดิบพิดี] ส่วนไอเปรม หัวโจกของทีมมันพึ่งจะมาขอโทด กู เมื่อกี้เอง ตอนก่อนจะเดินเข้ามาอ่ะ . . เรื่องทั้งหมดมันก็มีอยู่แค่นี้แหละ. .”
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [16]〖24-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 26-04-2016 09:40:59
“อ๋อ กูก็นึกว่ามันเป็นแฟนเก่าของมึงซะอีก เห็นคุยกระหนุงกระหนิงซะขนาดนั้น. .”

“ไอเหี้ยกูไม่ใช่เกย์!!!”บรรยากาศภายในร้านเงียบ ราวกับไม่มีผู้ใดอยู่ด้านใน หลังจากที่ผมพูดประโยคกับไอกาย. . . ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจผมกันอย่างล้นหลาม . . . ไม่เว้นแม่กระทั้งพี่โชนที่เดินถือถาดออกมา ด้วยสีหน้าที่ดูอึ้งๆ . . .เหมือนกำลังตกใจกับพูดของผมเมื่อครู่อยู่. .   ผมเลยเปิดประเด็นทำลายความเงียบโดยการ. . .เข้าไปหลังร้านช่วยพี่โชนแกทำงานเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่วายที่พี่แกจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่กับผมอยู่ดี

“ที่พูดกันเมื่อกี้หมายถึงเจ หรอ !!”

“อ๋อพอดีเพื่อนผมมันเข้าใจผิดอะไรนิดหน่อยครับพี่ ก็เลยเผลพูดอะไรออกมาโดยไม่รู้ตัว. . .”กริ่งๆๆ !! เสียงกริ่ง ดังอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์อีกแล้วครับ สงสัยจะเป็นไอวินเดินเข้ามา เคาะแน่ๆ เลย

“เดี๋ยวพี่ออกไปดูเอง . . เจก็”

“ไม่เป็นไรเลยครับพี่โชน เดี๋ยวผมไปดูเอง เชิญพี่โชนตามสบายเถอะ ครับเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ที่เหลือให้ผมจัดการเองเถอะ. . “ พี่โชนแกส่งยิ้งกรุ่มกริ่ม ดูแปลกๆ ยังไงชอบกล ก่อนจะลูบหัวผมเหมือนที่ผู้ใหญ่เขาชอบทำกัน ซึ่งผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร มาก ก็ เลยปล่อยเลยตามเลย. . . พอออกมาถึงที่หน้าเคาท์เตอร์ ผก็แอบแปลกใจไม่ได้ที่อยู่ๆ คนที่เดินเข้ามากด ก็คือ ไอกาย. . . .
“อือ . . อยากรู้อะไรอีกรึเปล่า เดี๋ยวจะตอบให้. . .”ผมรู้สึกไม่สบอามรมณ์อย่างมากที่อยู่ๆไอกายมันก็คิดว่าผมเป็นแฟนเก่าของไอเปรมมัน . .. ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันเอาสมองซีกไหน ของมันคิดเรื่องพวกนี้ออกมาได้. .  ผมเลยคุยกับมันด้วยน้ำเสียงที่ดูห้วนๆ
“นี้มึงยังโกรธเรื่องเมื่อกี้อยู่หรอ. . .กูขอโทดที่ถามออกไปแบบนั้น กูไม่รู้ว่ามึงจะซีเรียสขนาดนี้.  . กูก็แค่   ไม่ชอบ.. ให้มึงกับมันอยู่ด้วยสองต่อสอง ก็เท่านั้นเอง. . . กูผิดมากหรอวะ !”

“จริงๆ กูก็ไม่ได้โกรธ อะไรมึง ขนาดนั้นหรอกนะ. . กูก็แค่ไม่ชอบให้ใคร. .มาหาว่ากูเป็นเกย์ก็แค่นั้นเอง. . แล้วมึงก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรอีกนะ เพราะ กู ไม่ได้โกรธมึงแล้ว อีกอย่างนะ ผู้ชายที่กูรู้สึกดีด้วยก็ มีแค่มึง นอกเหนือจากนั้น แล้ว ก็แค่เพื่อนหรือพี่น้องกัน เข้าใจที่กูพูดไหม ไออสูรกาย ! กู ไม่ ใช่ เกย์”

“เออๆ ส่วนกูอยากขอให้มึงจำไว้เหมือนกัน ว่า คนที่กูรู้สึกดีด้วยอยู่ตอนนี้ก็แค่. . . . . .. . .มึง. .  คนเดียว 〗ประโยคหลังๆ มันแอบทำเสียงเบาๆ ครับ ผมรู้หรอกว่ามันกำลังเขิน อยู่ . . . เลยแกล้งมันซักหน่อยละกัน

“ห้ะว่าไง นะ . . กูไม่ได้ยิน “

“แค่มึงคนเดียวไง.”

“ห้ะว่าไงนะกูไม่ได้ยิน”

“มึง ไง แค่มึงคนเดียวไง ได้ยินชัดรึยัง !!!”สีหน้าไอกายตอนวีนแตกนี้ก็ ดู น่ารักไปอีกแบบนะครับ ^ ^ เวลามันเขินนิ่ แอบเหมือนผมตอนเด็กๆเลยหล่ะ[ผมจะชอบก้มหน้าเหมือนพูดอะไรงึมงำๆ อยุ่คนดียว พอถึงเวลาเขินมากๆ ก็จะทำเป็นวีนเพื่อกลบเกืลอน อาการ ฮ่าๆ  ]”

“เออกูได้ยินชัดแล้ว!!. . .แล้วนี้มึงไปทำอะไรมาหน้าแดงๆ เขินกูหรอ !”ผมเอ่ยปากถามไอกายที่สภาพตอนนี้ เริ่มมีอาการกึ่มๆ แล้ว สงสัยจะโดนสาวๆ พวกนี้มอมเหล้า เข้าแล้ว. . หึหึ !

“ไม่รู้วะ กูนั่งกินอะไรของกูอยู่ดีๆ ก็เผลอไปหยิบแก้วของไอวินขึ้นมากิน สองสามที. . .สงสัยจะเป็นเหล้าหว่ะ”

“เรียกโง่แล้วละ ทีนี้ ! ไปๆ ไปนั่งรอที่โต๊ะไป อีกครึ่งชั่วโมงกูเลิกงานเดี๋ยวไปส่ง. . .ที่คอนโด”พอผมพูดจบไอกายก็ยอมเดินไปนั่งที่โต๊ะ[เรียกว่านอนจะดีกว่า] แต่โชคดีหน่อยครับ ที่ยังมีพวกยัยเอิร์นมานั่งคุมไอกายกับไอวินไว้  . . . ไม่งั้นป่านนี้คงโดน เพื่อนๆ ผู้หญิง ของไอวินที่มอง ตามไอกายเป็นระวิง . . .จับกินไปแล้วละครับ หึหึ !!! ปล่อย ไอหล่อให้นั่งคนเดียวไม่ได้เลยจริงๆ

. . . .  .. .  ..  . . . .

เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลข 1 แสดงให้เห็นถึงเวลาที่พวกผมและผองเพื่อนคนอื่นๆจะต้องร่ำรากันอีกครั้ง ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ของตัวเอง ตอนนี้ มีแค่ผม ไอกาย แล้วก็ไอเปรมที่ยังนั่งอยู่ ภายในร้านส่วนพวกเพื่อนๆ คนๆอื่น บอกลากลับกันไปหมดแล้ว ส่วนไอวิน ผม ได้ฝากมันหิ้วกลับไปพร้อมกับสามสาว เรียบร้อยแล้ว จากบรรยากาศ ครื่นเครง เมื่อครู่ ตอนนี้ กลับ เงียบ เฉา ราวกับป่าช้า เสียงผู้คนที่เคยดังกึกก้องตอนนี้เหลือ เพียงแค่ เสียงแอร์ที่ดังสนั่นหวั่นไหว กับลมหายใจที่ของผมทั้งสามคน . . .เห้อ สรุปมันงานเลี้ยงรุ่น หรือแค่อยากเมา แล้วก็นัดกันมาแดกกันละเนี้ย. . . สุดท้าย คนที่ลำบากทั้สุดก็น่าจะเป็นผม ไอเจคนนี้นี้แหละ ที่ต้องคอยแบกศพของแต่ละองค์ลากไป ขึ้นแท็กซี่บางและ ขับไปส่งบ้าง แต่รายของไอวินโชคดีหน่อยที่มีคนช่วยแบ่งเบาภาระไป ส่วนศพสุดท้าย ก็น่าจะเป็น ไอกายนี้แหละครับ นอนสลบเหมือดไม่ได้สติอะไรเลย . . .รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองแพ้แอลกอฮอล์แล้วก็ยังริจะแดก ! - -* มันคงลืมนึกไปมั้งครับ ว่าเวลามันเมา คนที่รับกรรมหนักมากที่สุดก็คือ ผม นี้ถ้ามันกินอยู่คอนโดผมจะไม่ว่าอะไรมันเลยซักคำ แต่นี้ ห่างไกลจาก คอนโดของมันตั้งหลายกิโล จะให้ผมถ่อแบก ร่างมันไปส่งก็เกรงว่าจะไม่ไหว ก็ดูขนาดตัวของผมกับมันสิครับ ห่างกัน ยังกับคนละรุ่น แถมกระดูกยังคนละเบอร์อีกต่างหาก ขืนแบกไปมีหวัง ซี้แหง่แก๋ก่อนได้ถึงที่แน่ๆ วันนี้ก็เลยต้องอัญเชิญ ร่าง ของมันไป ทิ้งไว้ที่บ้านผมซักคืนก่อน .  . ..

ผมรีบช่วยพี่โชนเก็บของตามโต๊ะ ต่างๆ ที่พวกมันนกินและทิ้งกันไว้ . . แอบเห็นมีอ้วกใส่แก้วกันด้วยครับ อี๋. . เห็นแล้วผมนี้แทบอ้วกตาม ผมรีบกลืนไอสิ่งปติกูน ที่มันแทบจะพรุ่งออกมาจากคอของผม ก่อนจะตั้งใจก้มตาก้มตาเก็บของในร้านต่อไป .หลังจากที่ผม ทำความสะอาดภายในร้านเสร็จ ก็ได้เวลาที่ ผมจะต้องมาแบก ร่างอันใหญ่ยักษ์ของไอกาย กลับไปที่บ้านของผมแล้วครับ โชคดีหน่อยที่พี่โชนเดินออกมาจากหลังร้านพอดี พี่แกเลยเข้ามาช่วยผมแบกไอกายไปที่ รถของไอวินที่จอดอยู่หน้าร้าน ด้วยสภาพที่ทุลักทุเล นี้ขนาดช่วยกันสองคน ยังเซ ขนาดนี้ ผมไม่อยากนึกภาพตามเลยว่าถ้าผมต้องแบก มัน ด้วยแรงของผมเพียงคนเดียวสภาพของผม จะเป็นยังไง . . .หลังจากที่พี่โชนช่วยผมจัดแจงท่านั่งให้กายเสร็จ จังหว่ะที่ผกำลังจะสตาร์รถ ก็มีเสียงเรียก ที่ทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปมอง. . . เจ้าของเสียงก็คือ เปรมครับ . . .ผมแอบแปลกใจว่าดึกขนาดนี้ทำไมมันถึงยังไม่กลับไปอีก . . .ผมไม่ค่อยชอบเลย บรรยากาศอึมครึมแบบนี้ยิ่งพอเวลาอยู่กับมันสองคนไม่มีสิ ตอนนี้มีไอกายอยู่ด้วย ถึงมันจะไม่ได้สติก็เถอะ แต่ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่ผมจะต้อง อยู่ กับไอเปรมสองต่อสอง จริงไหมละครับ !

“เจ จะกลับแล้วหรอ ?”ดึกขนาดนี้จะอยู่ทำซากอะไรละครับมึง. .

“เออดิ่ ดึกขนาดนี้ทำไมมึงยังไม่กลับบ้านไปอีก”

“เปรม ยัง มีเรื่องต้องคุยกับเจอยู่นะ . . . กะว่าบอกเสร็จก็จะกลับเลย. .”

“อ๋อถ้าเป็นเรื่องนั้น กูไม่ติดใจ อะไรแล้ว เลิกคิดมากได้แล้วมึง เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วตั้ง 5 ปี ยังจะเสือกคิดมากอยู่ทำไมวะ ไม่สมเป็นมึงเลยวะไอเปรม?”. . ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่า เป็นเพราะมันเมา หรือดมกาวมากไปรึเปล่า ภายในเวลาไม่กี่ปีถึงเปลี่ยนไอเปรม นักเลงหัวไม้จอมโหดได้ถึงขนาดนี้. . . แต่ก็อย่างว่าแหละนะ เวลา มันเสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้หลายอย่าง น่าจะรวม ถึง นิสัยของมันด้วยนะผมว่า . . .

“ขอบคุณนะเจ ที่ ไม่โกรธหรือติดใจกับเรื่องพวกนั้นแล้ว พอกลับมาคิดดูแล้วช่วงนั้นเปรมดูเลวในสายตาเจมากเลยใช่ไหม”

“เห้ยๆ!  มันก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอก !เอาเป็นว่า กูยกโทดให้มึงทุกเรื่องเลยละกันอ่ะ คราว นี้ก็คงไม่มีอะไรติดค้าง กันแล้วนะ. . ส่วนมึงก็เลิกรู้สึกผิดได้แล้วโอเค ไหม” . .อยู่ๆ ไอกายมันก็ล้วงมือเข้ามาในเสื้อของผมครับ . . .มันใช่เวลาจะมาหื่นตอนนี้ไหมเนี้ย . .

“แต่เปรมมีเรื่องที่ต้องบอกเจอยู่นะคือ. . . เปรม”

“มีอะไรเอาไว้บอกวันหน้าได้ไหมมึง ตอนนี้ สภาพเพื่อนกูมันไม่ไหวแล้ว . . ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้คงได้มี. . .[ข่มขืนกันข้าถนนแน่ๆ ผมนะที่จะข่มขืนมัน .. 555]”

“อือๆ แล้วตอนนี้เจพักอยู่ที่ไหนอ่ะ ว่าง ๆ เปรมจะได้แว๊ะไป”

“เอ่อจะพูดยังไงดี ละ ถ้า มึงขับมาจากทางขวานะ ..มึงจะเจอ มหาลัย....ใช่ม้า แล้วที่นี้ มึงก็เลี้ยวซ้ายไปสองที จากนั้น มึงจะเห็นซอย แคบๆ จริงๆ ก็แคบไม่มากหรอกเอาเป็นว่าปานกลางๆ แล้วกัน เออที่. .นี้. . . .. . เข้าใจรึยัง?”สีหน้าของมัน ดูอึ้งกับการอธิบายอย่างละเอียดของผมมากครับ = =’

“ขอเบอร์เจแทนได้ไหมมีอะไรจะได้โทรถาม เปรมจำไม่ทันอ่ะ”พูดจบไอเปรมมันก็ยื่นไอโฟน 6s Plus หืมมรวยกันนักนะพวกมึงเนี้ย - -* ก่อนที่ผมจะกดเบอร์ อยากรีบๆให้มันไป

“โอเคขอบใจมากนะเจ ว่าแต่. .อีกนานไหมกว่าเจจะถึงบ้าน”

“ประมาณ 20 นาทีน่าจะได้มั้ง ทำไมอ่ะ?”

“เดี๋ยวเปรมโทรหา”

“เออจะทำอะไรก็แล้วแต่มึงเหอะ แต่ตอนนี้ก็ต้องรีบกลับ แล้ว ไว้เจอกันใหม่มึง.”พูดจบผมก็บึ่นรถออกมาด้วยความเร็วเท่าไหร่ก็ไม่รู้ . . พอมาถึงที่หน้าบ้าน ผมก็ตะโกนเรียกยัยเอิร์นให้มาช่วย แบกเอา ไอกายขึ้นไปบนห้องนอนของผมส่วนไอวินตอนนี้ น่าจะนอนอยู่ที่ห้องของพี่ เจมส์เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ถือว่าภารกิจของผมภายในวันนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี เห้อ เล่น เอาผมหอบแดกกันเลยทีเดียว หลังจาก วางไอคุณชายไว้ที่เตียงเสร็จ ผม ถือผ้าขนหนู เดินตรงเข้าห้องน้ำไปผมใช้เวลาอาบไม่ถึง 5นาที เพราะเดี๋ยวต้องรีบ มาเช็ดตัวให้ไอคุณชายมันอีก . . . แต่พอออกมาโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมาทันทีครับแหม่ๆ โทรมาได้เวลาดีจริงๆ ใครวะ . .

“โหล่ใครวะโทรมาเอาป่านนี้ที่บ้านไม่มีนาฬิการึไง ว่านี้มันกี่โมงแล้วอะห้ะ. . .”ผมตะโกนสบถด่าออกออกไปอย่างหัวเสีย

“เอ่ออ. นั้นใช่เบอร์ เจ รึเปล่าครับ”ใครวะน้ำเสียงดูคุ้นๆ

“นั้นใครพูดสาย..”

“เปรมครับ. .”ชิบหาย. . .ไอเปรมโทรมา . . . ผมรีบเปลี่ยนน้ำเสียงของตัวเองก่อนจะกล่าวคำทักททายมันใหม่อีกรอบ.

“อะ ฮึ่มๆ. . เออ ว่าไงมึง. . โทดทีเมื่อกี้น้องรับสายหน่ะ”ใครเชื่อก็โง่แล้วละครับ - -*

“เจมีน้องกับเขาด้วยหรอ ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลย”แหม่อย่าพึ้งมาสงสัยอะไรในเวลานี้เลยไอเปรมเอ้ย. .

“แล้วนี้มึงโทรมามีธุระอะไรรึเปล่า โทรมาซะดึกเชียว”ดึกดื่นป่านนี้น่าจะเข้าบ้านอาบน้ำนอนได้แล้วมั้ง. . มึง

“อ๋อป่าวแค่โทรมาเช็คดูหน่ะว่าเจได้ให้เบอร์ผิดมารึเปล่า. . แล้วนี้เจถึงบ้านยังอ่ะ”

“เออ ถึงแล้ว. . แล้วมึงอ่ะ ถึงบ้านรึยัง”

“พึ่งถึงเมื่อกี้นี้เอง. . ว่าแต่เจจะนอนรึยังอะ เปรมโทรมากวนเจรึเปล่า”แหม่ถึงจะรบกวนยังไงก็เถอะ แต่ด้วยความดีที่มีอยู่เต็มร้อยผมจึงตอบมันกลับไปว่า

“ไม่. .ขนาดนั้นหรอก. พอดี.กูพึ่งอาบน้ำเสร็จด้วยไง เลย สร่าง ขึ้นเยอะเลย แล้วมึงละ ดึกป่านนี้ ทำไมยังไม่นอนอีก”
“ก็กะว่าจะโทรมาคุยกับเจซักแปปนึง แล้วค่อยหลับ”-.-

“เห็นกูเป็นยานอนหลับว่างั้น?”

“ป่าวๆก็แค่เป็นห่วงเห็นเจ แบกเพื่อนขึ้นรถมาด้วยกลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นไง แล้ว เจส่งเพื่อนถึงบ้านรึยังละ”

“อ๋อ ส่งบ้านเรียบร้อยแล้ว.”ที่จริงผมก็ไม่อยากจะพูดโกหกอะไรใครหรอกนะครับถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อีกอย่างผมแค่ไม่อยากให้มันถามอะไร ผม ไปมากกว่านี้ ด้วยไง เลยตอบแบบ ส่งๆ มันไป

“อ๋องั้นก็ดีแล้ว เอ่อ พรุ่งนี้ เจอยู่บ้านไหมเดี๋ยวเปรมจะไปหา”

“อื่อ ไม่แน่ใจวะ พรุ่งนี้ กูเลิกเรียนเย็นๆ แหละหว่ะอีกอย่างกูก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านด้วย ทำไมมึงจะมาอ๋อ.”

“อืมๆ ว่าจะไปดูร้านของเจหน่อยๆ เห็นเพื่อนๆ บอกว่าสวยดี”ใคร วะ ใครบอกกัน - -*

“รับรองต่างกันกับที่มึงจินตนาการไว้เยอะเลย. หึหึ .. .  เออนี้ก็ดึกมากแล้ว มึงก็ไปนอนได้ละนะ”
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [16]〖24-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 26-04-2016 09:44:02
“อ้าวเจจะนอนแล้วหรอ ว้า ทำไมรีบจัง”จริงๆ ผมก็ไม่รีบหรอก แต่ขี้เกลียดคุย. . เมื้อยไปทั้งตัวแล้วเนี้ย. .

“อือๆ”

"งั้นฝันดี นะเจ . . .ก่อนนอนอย่าลืมห่มผ้าด้วยละ. . "เมื่อไหร่ผมจะชินกับไอพฤติกรรม แปลกๆ ของมันซะทีนะ แต่ช่างเถอะๆ ไหนๆ เปลี่ยนไปในทางนี้ก็ หน้าจะดีสำหรับมันแล้ว

“เออ ๆฝันดีมึง.”ห้วนได้อีกนะผมเนี้ย จริงๆ อยากจะคิดคำพูดที่มันดีกว่านี้นะ แต่พอนึกภาพย้อนไปแล้วการที่จะพูดดีกับคนอย่างมันนี้ เป็นเรื่องอะไรที่ยากสำหรับผมมากครับ . ..  และแล้วไอเปรมมันก็เป็นฝ่ายที่วางสายไป. .

ได้เวลา ที่ผมต้องกระทำชำเรา[เอ่อหมายถึงได้เวลาเช็ดตัวให้ไอกายหน่ะ = =’] ผมเริ่มต้นด้วยการเดินลง ไปหยิบ กระละมัง พร้อม กับผ้าขนหนูผืนสีขาวที่ตาก ไว้ข้างล่าง แล้วผมก็เดินว่อนหาน้ำอุ่นอยู่นานกว่าจะเจอ. . . ก่อนะจะรีบวิ่งไปขึ้นปรนนิบัติมัน ยังกะผมเป็นทาส มันยังไงอย่างงั้นเลยละครับแหม่ แต่พอเห็นสภาพที่มันนอนอยู่ตอนนี้ . . .มันคนละเรื่องกันเลยครับ ภาพลักษณ์คุณชายผู้สูงศักดิ์ ตอนยังสติดีๆอยู่ ช่างน่าชื่นชมและน่าเกรงขามมากๆครับ แต่สภาพตอนนี้นะเหรอ ผมอยากให้คุณๆลองนึกไปถึง พวกยาจกที่แต่งตัวเสื้อผ้าขาดๆ หัวกระเซอะกระเซิง ที่ชอบนอนอยู่ข้างถนนนะครับ สภาพไอกายมันเป็นอย่างนั้นเลย . หึหึ ! ผมเริ่มต้นเช็ดมันที่หน้าของมัน แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจเริ่มที่เท้าจากนั้นค่อยเลื่อนมาเช็ดที่หน้าก็เป็นได้ ฮ่าๆ จากนั้นผมก็ ลูบไล้ๆไซ้ๆ ที่ซอกคอของมัน[ชักไปกันใหญ่แล้ว-.-]ผมก็เช็ดบริเวณคอ รวมถึงอกแต่ถึงมันจะเมาก็เถอะถ้าจะให้ผมถอดเสื้อ มัน เพื่อเช็ดตัวด้วยเนี้ย . . ผม. . .ว่า. . . เอ๊ะแต่มันเมาอยู่นี้นาคงไม่น่าจะรู้เรื่องอะไรหรอก คิดได้ดังนั้น ผม เลยตัดสินใจ ทำการใหญ่เริ่มจากการ ถอดเสื้อของมันก่อน . . .ฮึก !! หน้าอกขาวๆ ของมัน . .ทำให้ผมรู้สึกสั่นๆ ทุกครั้งเวลามอง นี้ขนาดมันไม่ได้สติอยู่นะ ผมยัง เช็ดถูๆ บริเวณนั้นโดยไม่มองหน้าของมันเลยซักนิดเดียว -.- เมื่อไหร่ผมถึงจะชินกับสถานการณ์แบบนี้ซะทีนะ! ผมพยายามรีบเช็ดอย่างลวกๆ  ส่วนด้านล่างแค่เปลี่ยนกางเกงให้มันก็น่าจะพอ. . . [ขนาดแค่ช่วงบนหัวใจผมยังเต้นแรงขนาดนี้ไม่อยากคิดเลยว่า ช่วงล่างจะเป็นยังไงแค่นึกภาพตามก็น่ากลัวแล้วครับ หึหึ !]

หลังจากที่ผมเปลื้องผ้าออกจากตัวของไอคุณชายทั้งหมด ผมก็รีบเดินไปหยิบ เสื้อของผม ที่อยู่ในตู้เสื้อผ้า ก่อนจะลองหยิบๆ เลือกๆดู หาตัวที่หุ่นยักษ์ๆอย่างไอกายมันจะใส่ได้ ก็ บังเอิญเหลือบสายตา ไปเห็นเสื้อยืดสีขาว ลายหมีลิลัคคุมะ ที่ไอกายมันเคยใส่ ! หึหึ พอผมนึกถึงสีหน้าเวลาที่มันตื่นเห็นตัวเองกำลังใส่เสื้อตัวนี้อยู่ผมยังจำได้ดีเลย ! สีหน้าของมันตอนนั้นตลกๆ มากๆ เลยละครับ แต่คราวนี้ขอผ่านหน่อยละกัน ไม่อยากใช้มุขเก่า .. ฮ่าๆ ผมเลยเลือกที่จะหยิบชุดบอล ที่แขวนคู่กับกับเกงไว้ให้มันใส่นอนในคืนนี้แทน. . .

“อื้อ!ๆ”เสียงของไอกายมันละเมอตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ ก่อนจะเหล่ๆ ตามองมาที่ผม กำลังยืนเลือกเสื้อผ้าให้มันอยู่ แต่ดูถ้าแล้วไอกายเองมันคงยังไม่รู้ตัวแน่ๆ ว่าตอนนี้ เนื้อมันไร้ เสื้อผ้าหรือสิ่งนุ่งห่มใดๆ นอกจาก บ็อกเซอร์ของมันแค่ตัวเดียว . . .

“เอ่อมีอะไรวะ . .ตื่นมาทำไมดึกดื่นๆไม่รีบนอนไปละมึง.  ฮือๆ !!” ผมส่งยิ้มเจื่อนๆ ส่งไปให้มันที่กำลังนอนจ้องหน้าของผมอยู่

“น้ำ. . .อยากกินน้ำ. .”เสียงมันนดูแหบจนผมฟังแทบบไม่ออกเลยครับว่ามันกำลังบ่นพรรณณาถึงเรื่องอะไรอยู่. . ผมรู้สึก ว่าตัวเองได้ยินเสียงของมันไม่ค่อยชัด จึงเดินเข้า ไปนั่งลงข้างๆ มัน ก่อนจะลองก้มๆฟังในสิ่งที่มันพูดใกล้ๆ

“มึงว่าไงน. . . . .อะ..อุ้บบ.”จู่ๆ ไอกายมันก็ดึงหน้าของผมเข้าไปจูบกับมันโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว  ไอกายมันใช้มือนิ่มๆ ของมันกดที่ท้ายทอยของผมอย่างเบามือเพื่อดันให้ผมแนบชิดกับมันขึ้นไปอีก แต่แรงของมันในตอนนี้ ไม่อาจที่จะสู้แรงของผมได้แม้แต่น้อย ผมจึงรีบผละตัวออกห่าง ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่าย ก้มลงไปจูบมันแทน ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอ ทำแบบนั้นไปได้ยังไง ผมรู้แค่ว่า ผมไม่อาจห้ามความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ได้แล้ว . . .ผมจึงปล่อยทุกอย่างให้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ปล่อยตัวเองให้ทำในสิ่งที่ใจต้องการ ผมค่อยๆ ระดมจูบไอกายตั้งแต่ หน้าผาก ขมับ คิ้ว จมูกและลงมาที่ . .ปาก กายมัน ขบกัดริมฝีปากผมซ้ำๆ ย้ำๆจนผมรู้สึกวาบหวิวในอก แต่ผมก็ไม่คิดจะยอมมันฝ่ายเดียว ลิ้นเรายังหยอกล้อเกี่ยวกันไม่ห่าง มันเป็นรสจูบที่อ่อนหวานและหนักหน่วงอยู่ในที และทำให้ผมรู้สึกดีจนต้องจูบไปยิ้มไป

ผมกับกายจูบกันอีกครั้งและอีกครั้ง  จนมือของมัน เริ่มอยู่ไม่สุข เริ่มราบละล้วงเข้าไปในเสื้อ ของ ผม ผมรู้สึกเคิ้ลมตาม กับการกระทำของมันจนผมเองไม่สามารถที่จะหักห้ามใจของตัวเองได้ เลยปล่อยเลยตามเลย . . .แต่คราวนี้เป็นไอกายครับที่เป็นฝ่ายเข้ามารุกผมบ้าง.แต่ยังไม่ทันที่ไอกายมันจะได้ทำอะไรผมจริงๆ จังๆ . . . ก็มีเสียงประตูถูกเปิด ขึ้นมา ทำเอาผมกับไอกายที่กำลังทำกิจกรรมอย่างว่าอยู่ ถึงกับต้องหยุดทำกะทันหันเมื่อ. . . ยัยเอิร์นเดินเข้ามาพร้อมกำกะละมัง และผ้าขนหนูผืนสีขาว ที่พาดอยู่ตรงบ่าของยัยเอิร์น . . . ยัยเอิร์นดูท่าทางจะตกใจกับภาพที่ตัวเองเห็นไม่ใช่น้อย ถึงกับทำกะละมังที่ถืออยู่ในมือหล่นลงพื้นจนน้ำน้ำที่ใส่มากระเซ็นหกไปทั่วห้องของผม.. . ผมรีบผละตัวออกห่างจาก [ไม่สิเรียกว่าถีบจะดีกว่า] ก่อนจะรีบเดินออกห่างจากเตียงแล้วเดินเข้าไปหายัยเอิร์นแทน. . .


 “เออ. .  คือ. .  เมื่อกี้. .  มัน. .ไม่ใช่อย่างที่ เอิร์น คิดนะ คือมัน เอ่อ. .. .”

“แหม่ๆพี่เจค่ะ จะทำอะไรก็น่าจะล็อคห้องให้ดีก่อนสิ ไม่ใช่เปิดอ้าซ้าไว้ขนาดนั้น เกิด พี่อินขึ้นมาเห็น เข้า เค้าคงจะไม่ใจเย็นอย่างเอิร์นหรอกนะค่ะ . . .แต่เอิร์นก็ต้องขอโทดด้วยละกันที่ เข้าห้องมาโดยที่ไม่ได้เคาะประตู. . เลยทำให้พี่เจ เสียบรรยากาศ หมดเลย ฮ่าๆ ![ว่าแต่. . สรุปเรื่องพี่เจกับพี่กายมันคืออะไรหรอค่ะ เล่าให้เอิร์นฟังได้รึยัง]?”  ยัยเอิร์นพยายามกระซิบกระซายยถามผมถึงเรื่องสถานะระหว่างผมกับไอกาย ที่ ยังไม่ได้เปิดเผยให้ใครรู้. . ถึงจะเป็นยัยเอิร์นก็เถอะแต่ผมก็กลัว. .  กลัวว่าพวกเขาจะรับไม่ได้ ที่ผมเป็นแบบ นี้ เลยไม่รู้จะเริ่มต้นบอก ยังไงก่อนดี. .

“[ไว้พรุ่งนี้พี่จะเล่าให้ฟังนะ แต่ตอนนี้ดึกมากแล้วเอิร์นรีบไปนอนเถอะเดี๋ยวจะตื่นไปโรงเรียนสายเอานะ]”

“กลัวเอิร์นขัดจังหว่ะรึไงกัน.คะ หึหึ ! ”

“เรื่องของผู้ใหญ่นะ เด็กๆ ไปนอนได้แล้วไป”

“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก. .นี้เอิร์นอายุจะ 16 แล้วนะค่ะ เลิกเรียกเอิร์นว่าเด็กได้แล้ว. .”ยัยเอิร์นทำหน้ายู่ไม่พอใจที่ผมชอบพูดเรื่องที่เป็นเด็กอยู่บ่อยครั้ง. . . แต่จะยังไงก็เถอะผมแค่เพียงอยากไล่ให้ยัยเอิร์นเข้าไปนอนแค่นั้นเอง เพราะเห็นว่ามึนดึกแล้ว . .[ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด] จริงๆ นะ ^ ^

“คร้าบ โตก็โตครับ  งั้นคนโตก็น่าจะรู้ได้แล้วนะว่าเวลานี้มันเวลาอะไร ?  ”

“พักผ่อนไงค่ะ”

“ใช่ค่ะ เพราะชะนั้นก็อย่าดื้อกับพี่แล้วรีบไปเข้านอนซะ. .”

“เอิร์นเข้าใจแล้วค่ะพี่เจ แต่ก่อนที่เอิร์นจะไปอยากบอกอะไรกับพี่เจอย่างนึงได้รึเปล่าค่ะ. . .”ผม เดาทางไม่ถูกเลยว่า ยัยเอิร์นคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่. .

“[ล็อคห้องดีๆนะค่ะระวังจะมีคนมาเห็นเอาหึหึ]” - -*  เอิ่มมมม !

“ทะลึ่งน่า ยัยเอิร์น พี่ไม่คิดจะทำอะไรไอกายมันหรอก ! พอๆ เลิกคิดแล้วไปนอนได้แล้วไป. . ชิ้วๆ ”

“ฮ่าๆ โอเค ค่ะ ไม่คิดก็ไม่ คิด แต่ก่อนจะไปอ่ะนี้ค่ะ เอาไว้ใช้ เผื่อจำเป็น . . .  ”ผม กำลังยืนงงๆ กับสิ่งที่ ยัยเอิร์นยื่นมาให้ รูปทรงมันคล้ายๆขวดอะไรเล็กๆ ซักอย่าง แต่ผม พอจะเดาได้ว่า ข้างในขวด น้ำใสๆ อยู่เต็มไปหมด . . .

“อะไร  อ่ะ เอิร์น. . .”

“. . .. ”
“เจล หล่อ ลื่นค่ะ !”

“ห้ะ!!!!!!” ผมรู้สึกตกใจคำตอบเป็นอย่างมาก แต่ที่ตกใจไม่ใช่ เพราะยัยเอิร์นรู้เกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในขวดนี้ แต่ที่ผม ตกใจ คือ ยัยเอิร์นมีของพวกนี้อยู่ที่ตัวได้ยังไง ??

“[เอิร์น มีของพวกนี้ได้ยังไงกัน. . .]”

“[เพื่อนเอิร์นเขาฝากมาค่ะเห็นบอกว่า ที่ ไหน มีคู่ที่พวกเอิร์นจิ้นกัน ที่นั้น ก็ย่อม มี . . . ]” ผมตกใจกับความคิดของน้องสาวตัวเองมากไม่คิดเลยว่าในหัวของยัยเอิร์นจะมีเรื่อง พวกนี้อยู่ด้วย เห้อๆ หมดๆ กัน น้องสาววัยใส ของโผมม
T-T

“[เอากลับไปห้องเลย นะแล้วรีบไปนอนได้แล้วไป . .  ก่อนที่พี่จะโทรบอกพี่อิน. . ]” ยัยเอิร์นดูท่าทางจะตกใจอยู่เล็กน้อย ตอนที่ผมพูดถึง พี่อิน. . . สงสัยจะได้ผลแหะ

“ค่ะๆ เอิร์นไปแล้วก็ได้ ค่ะ แต่ เดี๋ยวเอิร์นหาผ้าอะไรมาเช็ดให้ก่อนดีไหมค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา ของพี่เจกับพี่กายด้วย ^ ^”
“พอๆ ไปเลย ที่เหลือเดี๋ยวพี่จัดการเอง . .”

“งั้นเอิร์นไปจริงๆ แล้วนะ . . .ถ้าต้องการ ไอนี่ เมื่อไหร่ ไปเคราะ เรียกที่ห้องเอิร์นได้ตลอดเลยนะค่ะ . .” พูดจบยัยเอิร์นก็เดิน ถือกะละมัง  แล้วรีบเดินเข้าห้องไป . . . สงสัยจะรีบไปกระจ่ายข่าวให้พวกพวกทราบกันอย่างทั่วถึง . . .หึหึ !!!  คิดๆดูแล้ว ผมว่า คงต้องมองยัยเอิร์นมุมใหม่ แล้วละครับ ! - -* ผม เลื่อนมือไปปิดประตูก่อนจะหันหลังกลับไปมอง ตอนนี้ ไอคุณชายมันหลับแล้วครับ สงสัยผมกลับยัยเอิร์นจะ ยืนคุยกันนานไปหน่อย . . ฟังจากเสียงกรนแล้ว ผมว่าน่าจะหลับ ลึกน่าดู ป่านนี้ คงไปเข้าเฝ้าพระอินเรียบร้อยแล้วละครับ เห้อๆ หมดเวรหมดกรรมของไอเจ ซักที ผมเหลือสายตาไปมองที่ หัวเตียงตอนนี้บอกเวลา ตีสามกว่า ใกล้จะตีสี่แล้ว  . .เห้อ จะทำไงตอนนี้ผมนอนไม่หลับ แล้วละสิ. . . เป็นเพราะยัยเอิร์น เอ๊ะไม่สิ เป็นเพราะมัน คนเดียว ที่ . . . โอ้ย ไม่คิดแล้ว ยิ่งคิดยิ่งปวด หัว เอาเป็นว่า ขืน ผมยังนอน อยู่กับไอกายสองต่อสอง มีหวังคืนนี้ไม่ได้นอนแน่ครับ ผมเลยตัดสินใจ อาศัยตอนที่มัน กำลังๆ หลับ นี้แหละย่องออกจากห้องเบาๆ เลยละ กัน หึหึ . ..

แต่พอออกมาก็เพิ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้ไม่มีห้องไหนที่สามารถ ให้ผมซุกหัวนอนได้เลยนอกจากห้อง ของไอวิน  .. . แต่ขืนไปนอน กับ มัน ผม คงได้ คอเคร็ด เอวเคร็ดบ้างแหละ ครับ แม้ง นอนดิ้นถีบผมทั้งคืน หึหึ !! !ไปนอน ห้องนั่งเล่นก็ได้ฟระ หึหึ
อนาถจริงๆ ชีวิต ไอเจ อะซิกๆ . . .

. . . .. . . . . . . . .

“นี้ๆ ตื่นได้แล้วย้ะ จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไงกัน. . .นี่ !!!! .” ใครวะใครบังอาจมารบกวนเวลานอนของท่านเจผู้นี้ได้คนนั้นๆมันเป็นใครกัน ว๊ากกก !!!! ผมสะดุ้ง ตื่น ด้วย อาการ ตกใจอย่างหนัก ก็สิ่งแรกที่เห็น หลังจากที่ลืมตา ก็คือ หน้าอะไรไม่รู้เขียวๆ แถมพูดได้อีกต่างหาก ผมดีดตัวถอยห่างออกจากโซฟาก่อนจะก้มลงไปตั้งสติ ซัก สองสามวิ และ  โผล่หัวขึ้นมาดู ใหม่ ถึงรู้ครับ ว่าคือพี่อิน . . .โห้ยยย หัวใจจะวายย อ้าว แล้วจู่ๆ ผ้าห่มมาไงละนี้   !!

“อะไรกันเนี้ย พี่อิน เจ ตกใจหมด ! มาไม่ให้ซุ้มให้เสียง. เดี๋ยวก็ได้หัวใจวายตายกันพอดี. .”

“โอ้ย ชั้นยืนเรียกแก. . มาสามชั่วยามแล้วย้ะ แต่ ไม่ยอมสเด็ดตื่นซักที. . แล้วนี้ ทำไมถึงมานอนอยู่ข้างล่าง ละ ห้องตัวเองไม่มีนอนรึยังไง  อย่าบอกนะ  ว่าเมื่อคืนพากันไปถเหลถไหลที่ไหนมาหน่ะหึ้!”ตื่นมาถึงผมก็เจอพี่อินแกแร็ปใส่ชุดใหญ่เลยครับ ไม่รู้ว่า พี่แกเก็บกดมาจากไหน เวลาเจอหน้า ผมนี้ ถึงต้อง บ่นชนหูชาทุกทีเลย . .  เห้อๆ !! อาศัยจังหว่ะที่พี่อินเผลอๆ ขอเดินหนี ขึ้นห้องก่อนแล้วกันครับ หึหึ . .  . . .

“โห้ย หัวใจจะวาย พี่อินนะพี่อิน. . .มาไม่ให้ซุ้มให้เสียง. . นี้ขนาดหนีมาข้างล่างแล้วนะ ยังอุตส่าห์เจออีก. . เห้อ. . ฟุ้บ. . ” ระหว่างผมเดินขึ้นมา ก็มั่ว แต่เหม่อ มองข้างหลังอย่างเดียว จน ลืมมองทางด้านหน้า จนเผลอเดินไปชนอะไรเข้าซักอย่างลักษณะไม่แข็งไม่อ่อนมากนัก แต่พอ. . ลองหันกลับมามองดีๆ . . .หืม!  เชี่ย หัวนมชมพูในตำนาน. . . ไอกาย ครับ ผมเดินชนเข้ากับหน้าอกของไอกายเข้าอย่างจัง. . แถมตอนนี้หน้าของผม ยังเข้าไปซุกอยู่ที่อกของมันพอดีอีกต่างหาก . อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น . . แต่ดูถ้า. .  เจ้าตัว คงกำลังสะลึมสะลืมอยู่ครับ ตายังไม่ลืมเลย . . สงสัยจะละเมอเดินออกมานอกห้อง. . . ผมเลยฉวย โอกาส ที่หาได้ยาก นี้ . .. บีบไปที่หัวนสีชมพูของมัน ด้วยความหมั้นไส้ . .  โป้ก... !! ฝ่ามือนั้นลอยเข้ากะบาลผมอย่างจังเลยครับ โอยย !!

“ทำอะไร. . .”ชะอุ้ย ผมเผลอทำอะไรลงไปละเนี้ย. .. แต่พอมารู้ตัวอีกที่ ไอกายมันก็ก้มลงมาสบตากับผมก่อนแล้วครับ

“แฮ่ๆ !! แค่หยอกๆ หน่ะ .เมื้อกี้กูนึกว่ามึงละเมออยู่. . ก็เลย. . .อุบบ!!”อ๊าก ยังไม่ทันที่ผมจะได้แก้ตัวอะไร ไอกายมันก็กดหัวผม ไปที่อกของมัน .แต่ยังไม่พอครับ มันยังดีดนิ้วใส่หัวของผมอีก . .แต่ มันจะรู้ตัวไหมนะ ว่าตอนนี้ ปากของผม กำลัง สัมผัสกับหัวนมของมันอยู่ . .. ถึงจะอึดอัดไปหน่อย. . แต่ก็รู้สึกดีแหะ. .ขอยืนแบบนี้นานๆ หน่อยละกัน เอิ้กๆ กำลังเคลิ้ม. . .เอ๊ะ แต่เดี๋ยวไอกายมันจะได้ใจ ผมเลยต้องแกล้งขัดขืนมันหน่อย. .ใช่ผมต้องแกล้ง ขัดขืน. . . แต่ไหนๆ ผมก็โดดมันดีดหัว จน เจ็บขนาดนี้แล้ว ผมไม่ยอม ถูกมันกระทำฝ่ายเดียวหรอก . .. . หึหึ คิดได้ดังนั้น ผมก็รีบอาป้าก แล้ว งับหัวผม มันไปเลยครับ หึหึ !! ทั้งสะใจและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆ

“โอ้ยๆ! ไอเตี้ยปล่อยๆ โอ้ยๆ! เจครับ ปล่อยกายเถอะนะกายไม่ทำแล้วนะๆ ปล่อยเถอะมันเจ็บโอ้ยย” หึหึ !! นาน ๆทีจะได้ยินเสียงมันอ้อนวอน ขอผมซักที ขอฟังให้มัน ซะใจหน่อยแล้วกันฮ่าๆ [ออกแนวซาดิสไงไม่รู้แหะ 55]


“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!”ผมสะดุ้งโหยงหลังจากที่ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาจากด้านหลังของผม ผมรีบปล่อยน้องฟันของตัวเอง ออกจากหัวนมของไอกายก่อนจะหันหลังกลับไปมอง. . .. . . ยัยเอิร์น. . . ทำไมน้า ทำไม ยัยเอิร์นต้องเป็นคนที่มาเห็น ฉากเรทๆ อย่างนี้ทุก ทีเลย ทำไม กัน ทำม้ายยยย!!!!

“คือ..น้องเอิร์นพี่แค่. .”

“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!” แต่ดูเหมือนสีหน้าของยัยเอิร์น จะไม่ได้ตกใจกับการกระทำของผมเอาซะเลย ต่างจากที่ผมคิดไว้เยอะ ยัยเอิร์นป้องมือไว้ที่หน้า ทั้งสองข้าง ก่อนจะวิ่งลงไป โดยที่ไม่รอฟัง คำอธิบายใดๆ จากผมเลย. . . = =’ ชะอุ้ย!! แต่ผมพึ่งจะมารู้สึกตัวว่าเมื่อกี้เผลอไปทำวีรกรรมเจ็บแสบอะไรกับมันเอาไว้ ตอนนี้ มันยืน จ้องห้าผมตาเป็นเขม้งเลยครับ - -* ผมกลัวละคร้าบบ พี่กาย อย่าทำอะไรผมเลย ฮือๆ. . .ผมรีบวิ่งหนี ลงมาข้างล่าง โดยมี มีฝ่ามือ ของไอกาย ที่ เกือบ. .จะเฉียดโดนหัวผมอยู่ร่อมร่อ !


“อ๊ากกกกกกๆๆ!!! พี่อิน ช่วย เจ ด้วย ไอกายมัน จะฆ่าเจ ช่วยด้วยๆๆใครก็ได้. . ”


“น้อง เจ ! ลงมาหาพี่หน่อยสิ” ยังไม่ทันที่ผมจ.วิ่งหนีไอกายพ้น. . พี่อินแกก็เรียก ผมให้เดินไปหาซะก่อนครับ เห้อ ช่วยชีวิตผมไว้ทันเวลาพอดี หมับ แต่เหมือนจะไม่เป็นผลอะไรเลยครับ. . .ไอกายมัน ยังอุตส่าห์วิ่งออ้อมหลังพี่อินมาล็อคคอผมอยู่เลย [เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การกระทำชำเลาผมต่อหน้าผู้ใหญ่ไม่มีผลต่อไอกายมันครับ จบ. .  ผ่าง ผ๊าง!]

“พี่อินช่วยเจด้วย ไอกายมันแกล้งเจ . . . ฮือๆ ” เอ่อ กับพี่อินก็เช่นกัน ครับ แทนที่จะช่วยผม กลับ มองไอกายตาไม่กระพริบ แถมยังส่งยิ้มหวานไปให้มันอีก . . . สรุป ผมรึไอกายกัน แน่ ที่เป็นน้อง พี่เจมส์เนี้ย ฮ๊า !!! รักกัน จิง สองคนเน้ !!

“โอ้ยๆ ไอกาย กูขอโทด ที่แกล้ง มึง กูไม่ได้ตั้งใจ อ๊ากก ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ไอกาย ”ฮ่าๆ เสียงครวณครางของผม  ไม่ได้มีผล ต่ออารมณ์ ของคุณชายแต่อย่างใด มันยังล็อคหัว แล้ว ตบหัว ผม อยู่ อย่างนั้นต่อไป . . .เออๆ เอาเข้าไป เข้า ขากันดีจริงๆ นะสองคนนี้ ฮึกๆ

ตื่อดื่อ!!!!! และแล้วเสียงของประตูสวรรค์ก็ถูกเปิดออก. .  ไอกายมันหยุดตบหัวผม แล้วหันไปมองที่หน้า ประตูแทน . . . จะใครก็ช่างเถอะแต่ ผมจะรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่มัน ช่วยยยย..ผม... จาก. . . . ไอเปรม?

“เปรม?”

“อ้าวเจอยู่ที่นี้จริงๆ ด้วย นึกว่าจะมา ผิดที่ซะอีก ” ทำไม ทำไมกันนะ ทำไมผมถึงอยาก ให้สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ เป็นเพียงแค่ความฝัน . . . ไป. . .แต่คิดไปก็เท่านันแหละครับ ในเมื่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อจากนี้ล้วนเป็นความจริง ทั้งหมด . ..  สายตาที่เปรมมันจ้องผม ด้วยความดีใจ กับสายตาที่ดูเหมือนจะอาฆาตแค้นของไอกาย. .  ทำไมผมถึงรู้สึกไม่ดี เวลาที่มันสองคนเจอหน้ากันเลยนะ . .[แค่พี่ริวกับไอกายผมก็จะบ้าตายอยู่แล้ว] ไหงตอนนี้ จะเป็นไอเปรมอีก.. โอ้วว !!


ใครก็ได้ช่วย บอก ผม ที ว่า สิ่ง ที่เป็นอยู่.มันไม่ใช่เรื่อง จริง อ๊าก !!!!!  [ขอยาสลบด่วนๆ !!]


TBC. . . . .. . . . . . . . . .. . . . . . .
[คิมกอนอู]




 :hao5:


   
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [17]〖26-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-04-2016 12:14:28
ง่า คือ อยากจะถามว่าคุณนักเขียนได้แก้คำผิด/สะกดผิด บ้างไหมคะ? เพราะแต่ละตอนมาทีนี่เยอะเหลือเกิน มันดูไม่เป็นมืออาชีพอ่ะค่ะ  จะดีมากๆถ้าคุณนักเขียนมาแก้ย้อนหลังนะคะ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [17]〖26-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 26-04-2016 12:39:05
อ่อ ไว้จะรีบแก้ไขให้โดยด่วนเลยนะครับ
ปล. ผมเป็นมือใหม่หัดแต่งนะครับ ไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ  หาก มีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยด้วย เพราะนี้ก็คือเรื่องแรก เหมือนกัน ^ ^   :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [17]〖26-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 26-04-2016 14:12:04
อ่อ ไว้จะรีบแก้ไขให้โดยด่วนเลยนะครับ
ปล. ผมเป็นมือใหม่หัดแต่งนะครับ ไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ  หาก มีข้อผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยด้วย เพราะนี้ก็คือเรื่องแรก เหมือนกัน ^ ^   :hao5:

เราเป็นคนอ่านนะคะ จะคิดทำนองว่า โอเค ถ้านักเขียนแต่งลงเว็ปพร้อมให้คนอื่นอ่านแปลว่าคนนั้นเป็นมืออาชีพแล้วค่ะ :D หวังไว้มากในเรื่องการสะกดคำอย่าให้ผิด เพราะเวลาคนอ่านเจอคำผิดจะหมดอารมณ์เลย จริงๆนะ

เราเลยนั่งมุ้งมิ้งแต่เรื่องนี้ ><  ถ้ามันมากไปต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ ;P
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [17]〖26-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 26-04-2016 14:15:28
งานเข้ามั๊ยล่ะเจๆ กายขี้หึงเนอะ ชอบจัง
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [17]〖26-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 26-04-2016 14:18:55
#BlueCherries

ไม่เป็นอะไร เลยครับ สัญญาว่ากลับมารอบหน้าจะรีบแก้ไขให้ทั้งหมดเลยคร้าบ 
 
[ขอเวลาให้เค้า นิดนึงน้า  ปิ้งๆ]   :z13:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [17]〖26-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 28-04-2016 18:21:18
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:18 : อดีตของ [กาย] & [ริว]  [Part1/2]


“เปรม?”

“อ้าวเจอยู่ที่นี้จริงๆ ด้วย นึกว่าจะมา ผิดที่ซะอีก ” หลังจากที่ไอเปรมเปิดประตูเข้ามาภายในร้าน ผมทั้งสามคนต่างตกตะลึงกับการปรากฏตัวอย่างไมมีปี่ไม่มีขลุ่ย ของไอเปรมมัน . . แต่จริงๆมี แค่ผมกับไอกายเท่านั้นแหละที่ตกใจ ส่วนพี่อินหน่ะหรอ หึหึ ! เห็นคนหล่อๆ ไม่ได้หรอกครับ ! คุณเธอวิ่งเข้าใส่อย่างเดียว . . . ชนิด ที่ว่า ใคร ไม่หลบ นี้ เป็นเสร็จครับ

 “จัดการให้เลยไหม?”จู่ๆ ไอกายมันก็พูดข้างหูผม เหมือนกำลัง รอฟังคำสั่งจากผมอยู่แต่ประทานโทดนะครับมึง จะนักเลงเกินไปไหม ไอคุณกาย. . . เขามาของเขา ดีๆ ไอนี้ก็สายบวกอย่างเดียวเลย แหะ  ผมตบที่บ่าไอกายสองที ก่อนจะรีบไล่มันขึ้นไปใส่เสื้อข้างบน ที แรก มันก็ ไม่ยอมไปดีๆ หรอกครับ แต่พอผมแยกเขี้ยวเท่านั้นแหละ เดินป๋อ ขึ้นห้องไปเลยครับ หึหึ ! กลัวกู กัดนมขนาดนั้นเชียว ไอคุณ ชาย ฮ้อๆ . . . เข้าเรื่องกันต่อ

“มึงมาที่นี้ได้ไงอะเปรม. ”

“ก็เมื่อวาน เจบอกทางมาที่บ้าน เจ กับเปรมไง จำไม่ได้หรอ ?” อ่อ . .เมื่อวานคงจะเป็นตอนก่อนกลับบ้านที่ ผมคล้อยตามถึงยอมบอกมันไป แต่ไม่คิดเลยนี้สิ ว่ามันจะมาถูกทางเป๊ะๆอย่างนี้ . .. .

“เห้อๆ มึงนี้ก็เก่ง เน้อ ยังอุตส่าห์จำได้ด้วย หึหึ ว่าแต่ มาทำอะไรแต่เช้าอะมึง นี้พึ่งจะหกโมงเช้าเองนะ”

“อ๋อ พอดี พ่อของเปรมพึ่งกลับมาจากสวิดหน่ะ เค้าซื้อของมาฝาก เปรมก็เลยเอามาฝากเจอีกทีนึง. . ”

“ มึงนี้ก็อุตส่าห์เอามาให้กูเน้อเปรม แล้วนี้ มาแต่เช้ากินอะไรมารึยังมึงหิวรึป่าว เดี๋ยวกูหาอะไรให้กิน. . ”แต่ผมไม่ได้จะทำให้มันกินหรอกนะครับ . . . ยังไงก็คงต้องลำบากพี่อินทำให้กินอยู่ดี . . .

“เอางั้นก็ได้กำลังหิวอยู่พอดีเลย”

“เออๆงั้นมึงไปรอ ที่โต๊ะในห้องนั้นก่อนเลย เดี๋ยวอีกพักนึงก็ตามเข้าไป โอเคนะ. ... ”หลังจากที่ผมพูดจบไอเปรมมันก็เดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น โดยมีพี่อินนำทางให้อยู่ ส่วนผม หน่ะหรอ! . . หึหึ ต้องรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วครับ กะรอ จังหว่ะ มันเผลอๆ แล้วโดด หนีออกทางหน้าต่างเลยเป็นไง [อันนั้นก็แลจะลงทุนไป] เอาเป็นว่าแค่หลบหน้าก็พอ . .ละกัน หึหึ พอผมเปิดปรตูกำลังจะเข้า ห้อง จู่ๆ ไอกายมันก็กระโจร เข้า เข้ามาผลักจนหลังของผชนเข้ากับประตู ดัง อั๊ก ! โอ้ย จุก. . .  กายมันยืดแขน ทั้งสองของของมันตรึงผม ไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหน ก่อนที่มันใช้ ดวงตาสีดำกลมโตของมัน  จ้องเข้ามาที่นัยต์ตาของผม . . สีหน้าของมันดูแปลกไปราวกับ ว่ากำลังครุ่นคิดหนักใจเรื่องอะไรซักอย่างอยู่. . . ถึง ผมจะ ไม่สามารถ อ่านใจ ของคนได้ แต่ผมก็ มีเซนต์ ที่สามารถ บอกได้ว่า คนๆนั้นกำลังรู้สึกอะไรได้ จาก ทางแววตา ที่ผมมอง . . ซึ่ง แววตาของกายในตอนนี้ เต็มไปด้วยคำถามมากมายที่ มันยังไม่กล้าพูด . .. ผมและมันต่างคนก็ต่างเงียบไม่กล้ากระดุกกระดิกไปไหน . . ผมได้แต่ยืนฉนจ้อง หน้า มัน จนรู้สึกปวดๆ ที่หลังขึ้นมา เลยขัดขืดไปนิดหน่อย . . .  จนในที่สุด . . กายมัน ก็เป็น ฝ่าย ที่ทำลายความเงียบทั้งหมดลง. . .ด้วย การเปิดปากถามผมขึ้นมา
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [18]〖28-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 28-04-2016 18:22:58
“มันมาได้ยังไง!...”

“. . . . .”

“ถามก็ตอบสิ จะเงียบทำซากอะไร?”น้ำเสียงของมันตวาดใส่ผมจนรู้สึกกลัวไปหมด . . . ตั้งแต่รู้จักกับมันมานี้คงเป็นครั้งแรกครับ ที่มันขึ้นเสียงกับผมถึงขนาดนี้. . .

“เฮ้ย ไม่เอาไม่เครียด ดิมึง . .มัน ก็แค่เอาของฝากมาให้กูแค่นั้นเอง มึงอย่าคิดมากดิมันไม่มีอะไรหรอกเชื่อกูสิ. .”ผมพยายามฝืนยิ้ม เจื่อนๆ ไปที่ไอกาย แต่ตัวเหมือน มันจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย สายตาของกาย ยังจ้องมองผมอยู่แบบเดิมนัยต์ตาที่สาดส่องเข้ามาเหมือน อยากรู้คำตอบ


“กูเชื่อใจมึง แต่กูไม่เชื่อใจมัน . . มองตากูก็รู้แล้วว่ามัน ชอบมึง. . .”

“ไปกันใหญ่แล้วมึง. .  ดูปากกูดีๆนะ กู กับ มัน เป็น แค่ เพื่อน กัน . . ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นแน่นอน..”สีหน้าของกายดูผ่อนคลายลงครับดูเหมือนมันจะพึงพอใจกับคำตอบที่ได้ยินจากผมมากครับ . . แต่ก็อดคิดไม่ได้นะ . . . ที่อยู่ไอกายมันก็ขึ้นเสียงใส่ผม แถมยัง สาย ตาดุๆ แบบนั้นอีก . . . ถ้า ไม่ใช่ เพราะมันอยากรู้คำตอบ. . .ผมคงคิดว่า . . .ไอกาย . . มันหึงผมกับไอเปรมเข้าแล้วละสิ  ความคิดเมื่อครู่ทำเอาผมเผลอระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ฮ่าๆๆ

.”ขำอะไรของมึงไอเตี้ย. . .เห็นเป็นเรื่องตลกหรอ?”หึหึ ยิ่งได้เห็นสีหน้าตอนมันเครียดเวลาถามเรื่องพวกนี้ผมยิ่งกลั้นขำไว้ไม่อยู่ครับคึก คึก ฮ่าๆๆๆ  โอ้ย ฮ่าๆ

  “ฮ่าๆ มึงแน่ใจนะกายว่า มึงอยากรู้แค่คำตอบ. . ไม่ใช่เพราะมึงหึงกูกับไอเปรมห้ะ? ฮ่าๆ”ไอกายมันหน้าถอดสีไปเลยครับ หลังจากที่ผมพูดคำว่าหึง เพียงคำเดียว โอ้ยย ไม่ไหวๆ ซะเลยไอคุณชาย ของผม เวลามันหึง นี้ มันน่ารักมากครับ . . 5 5 5 มันจะชอบหลบ สายตา โมโห กลบเกลื่อน แต่ไม่มี การกระทำไหนสามารถปกปิด ความเขิน ที่แสดงอยู่บนหน้าของมัน ได้หรอกครับ . . .โดยเฉพาะไอกายเนี้ย ดูง่าย กว่าคนอื่นๆ ที่ผมเคยมองมาเยอะเลย.

“หึงเหิงอะไรบ้าบอ.เหอะ . . กู ป.. ป.ไปอาบน้ำดีกว่าส่วนมึงก็. . .”ระหว่างที่ไอการกำลังเบี่ยงประเด็นเดินหนีผม ๆ ยื่นมือไปจับ แก้มของมันทั้งสอง ข้างให้หันมาจ้อง ตากับผมก่อน . .

“จะทำอะไร. . .กูจะไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวไปเรียนสายกันพอดี. ”

“ไม่หึงแล้วทำไมถึงไม่มองหน้าเจละ . .. กายหึงเจหรอครับ.หืม! หึงก็บอกหึงสิ เจจะได้ไม่ทำไง. . รึว่ากาย..อยาก.. ”ถึงตอนนี้ ตอนผมพูดไปนี้ แอบกลั้นขำไปพลางๆ ครับ ทั้งคำพูดตัวเอง แล้วก็ขำอาการของมันด้วย . . แหนะๆ มีหลบสายตา 555

“เออๆ หึงก็หึง พอใจมึงรึยัง กูจะไปอาบน้ำ แล้ว โว้ยย ! น่า เบื่อ วุ้ยย !!”แหม่ๆ ทำเป็นโกรธโมโหกลบเกลือน . . ฮ่าๆ  ถึงมึง จะโหด แต่มึงก็อยู่ในโหมด น่ารักน่ะ รู้ตัวไหม ไอน้องกาย ฮ่าๆ วู้ยย พูดเองเขิลเอง นะเนี้ย ฮ่าๆ ^^

หลังจากที่ผมรอผลัดคิวอาบน้ำ สักพักไอกาย มันก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวที่คลุมอยู่แค่ช่วงเอวของมันอยู่ เผยให้เห็น หุ่น ที่ เซ็กซี่ของมัน [พูดแล้วน้ำลายไหล. .แหล่บๆๆฮ่าๆ] หยดน้ำตามตัวที่หล่นลงพื้น ไหนจะท่าสะบัดผมของมันอีกเล่นทำเอา ใจของผมสั่นวูบไปทั้งตัวเลยละ .ครับ หึหึ ! [พอๆตั้งสติ. .แล้วไปอาบน้ำซะ] ผมเดินสวนทางกับไอกายโดยอาศัยช่วงที่มันไม่ระวังตัว ดึงผ้าเช็ดตัวแม้ง  . .. แต่แป่ว. . .มันใส่บล็อกเซอร์อยู่ครับ แหม่อดเลย. .. [อดที่ว่านี้คืออดแกล้งนะครับ ไม่ได้ใช่..อด.....แบบนั้นนน่ะ แหะๆ] ไอกายหันมามาส่งรอยยิ้ม ที่ไม่ต้องเดาก็พอจะดูออกครับ ว่ามันหมายควายเอ้ยหมายความอะไรหึหึ. . .ก่อนที่มันจะวิ่งกระโจรเข้ามาผมก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้วครับ . .. ผมขอสัญญากับตัวเองเลย ว่า จะไม่แกล้งอะไรพิเรนๆ แบบนี้เป็นครั้งที่สองเด็ดขาด [เพราะครั้งหน้าหากไม่มีห้องน้ำเป็นบังเกอร์ให้ผมละก็หึหึ]มีหวัง เสร็จ ไอกายมันแน่เลย. .!!!
  ผมใช้เวล่อาบน้ำเพียง 15 นาที พอออกมาก็เห็นไอกายนั่งอยู่ที่เตียง แถมยังใส่ชุดลำลอง ในตู้เสื้อผ้าของผม . . .โดยที่ไม่ถามหรือขออณุญาติกูซักคำ ห่า คิดจะหยิบก็หยิบ. . แต่ . . จะว่าไปแล้ว การที่เห็นไอกาย มันแต่งตัวบ้าน แบบผมนี้ ก็ดู ดีไปอีกแบบนะครับ ปกติมันจะชอบใส่กางเกงสแล็กสีดำ กับเสื้อแขนยาวสีขาว เหมือน พกวนักธุรกิจเข้าชอบใส่กันนะครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่า มันจะใส่ตรีมขาวดำอะไรได้ทุกวันขนาดนั้น  ดูอย่างผมเป็นตัวอย่างนี้สิ. . สีส้ม สีเหลือง สีม่วง สี เขียว สีชมพู ใส่แม้งตามแต่ละวัน  ยิ่งถ้าวันไหนคึกๆผมก็จะใส่แม้งทุกสี ไปเลย . . . [ปล..ใส่แค่ตอนอยู่บ้านนั้นแหละครับ ขืน ใส่ออกไปนอก บ้าน . . เดี๋ยว พี่หมอๆ เค้าอาจจะมารับผมไปอยู่ด้วยก็เป็นได้ 5555 ทางที่ดีชุดเจ็ดสี ควรใส่อยู่แต่บ้านละกันครับ ฮ่าๆ]

“จะใส่ก็ไม่บอก. . ห่า นึกจะหยิบก็หยิบ”มันไม่ตอบอะไรผมได้แต่ยักคิ้วกวนๆ มาให้ผม . ..ให้ผมก็ลืมไปว่าคำด่าของผมมันไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตของมันเลย. . สู้ผผมไปด่าหิน ด่า ต้น ไม้ยัง จะรู้สึกดีกว่ามานั่ง ด่า มัน แต่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย. .
 [ผมว่า เพื่อนๆ น่าจะเคยเป็นนะครับ 55]

“แคนี้หวงเหรอ. . .ถอดคืนให้ก็อ่ะ. ..”กายมันทำท่ายกแขนกำลังจะถอดเสื้อครับแต่ผมห้ามันไว้ซะก่อน. .

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนดี ผมแค่หยอกเล่นแค่นั้นเองอะกิ้วๆ [พลางใช้มือเขี่ยๆที่คางของมัน]”

“ทำไมอาบน้ำนานจัง .. นี้อาบหรือแอบทำอะไรอยู่กันแน่. .”

“ผมนะครับไม่ใช่คุณชาย เอ้ย คุณกาย. . ที่วันๆ จะได้คิดแต่เรื่องหมกมุ่นแบบนั้นเออแล้วนี้ มึงจะไปม.ทั้งชุดนี้เลยอ่อ“ การแต่งตัวของมันเรียบง่ายสมกับเป็นไอกายมากครับ เสื้อยืดแขนยาวสีขาว. .กางเกงสแล็กสีดำ
[เสพติดสีขาวรึไงกัน สีอื่นมีตั้งเยอะแยะในตู้= =’]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [18]〖28-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 28-04-2016 18:25:17
“ป่าววันนี้ไม่ได้ไป เมื้อกี้พ่อพึ่งโทรมาบอกกูว่า จะให้ไปกินข้าว กับคน คนรู้จักหน่อย. .แล้วกูก็ไม่รู้ว้าเป็นใคร . .เหมือนกัน . .”

“แต่กูยังไม่ได้ถามอะไรมึงเลยนะ. .ร้อนตัวไปเองรึเปล่ามึง ฮ่าๆ”แต่คำตอบของไอกายทำเอาผมเผลอหัวเราะออกไป

“กูไม่ได้ร้อนตัว. . แต่กูแค่ไม่อยากมีความลับกับมึง.ก็แค่นั้น . ซึ่งกูก็อยากให้มึง . . เป็นแบบนี้เหมือนกัน. . เจ มึงสัญญากับกูได้
ไหม. . ถ้าเกิดวันไหนมึงมีเรื่องอะไรไม่สบายใจขึ้นมาละก็. . . ให้มึงพูดความจริง. . และนึกถึงกูเป็นคนแรกจะได้ไหม ?”ตั้งแต่รู้จักกับมันมาวันนี้ ทุกการกระทำของไอกายดูจริงจังมากครับ. . ผมรู้สึกได้ถึง อะไรบางอย่างซึ่งผมเองก็อธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้เหมือนกัน แต่สามารถ บอกได้เพียงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพูดออกมา เมื่อครู่นี้ . .ล้วนเป็นสิ่งที่ออกมาจากจิตใจของมัน ล้วนๆ . . ไม่ได้มีการปรุงแต่งแต่อย่างใด. .

“ได้ ดิ่ ! ถึงกู จะ ชอบหยอกล้อขี้เล่นกับมึง แค่ไหน . .แต่กู. . ก็จริงใจกับทุกสิ่งที่กูทำให้มึงเลยนะเว้ย แต่มึงยังไม่ต้องเชื่อ ทุกคำพูดของกในตอนนี้ก็ได้. . . กูอยากให้มึงใช้เวลา . .. ในการหาคำตอบ. . . แล้วมึงก็จะรู้เอง.. ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่กูพูดหรือที่กูทำ. . ล้วนมาจากใจของกู ไม่ต่างจากมึงเลย”

“มีใครเคยบอกมึงไหมเจ ว่ามึงน้ำเน่าได้มากขนาดนี้ หึหึ”เชี่ยกูเกือบจะซึ้งแล้วเชียว แม้ง ขัดฟิลลิ่งกูมากไอห่า กาย เสียรมณ์หมด ฮ่าๆ

ครืดด ครืด !!! เสียงโทรศัพท์ของผมกำลัง สั่นอยู่ตรงหัวเตียง ผมรีบเดินไปดู ก่อนจะดูเบอร์ .. พี่ริว สายตาของกายจ้องมาที่ผม. . เหมือนไม่ค่อยไว้ใจ. .  ถึงมันจะไม่เอ่ยปากถาม . .แต่ผมก็ไม่อยากที่จะมีความลับกับมัน

“พี่ริวโทรมาหน่ะ กูขอรับสายแปปนะ”มันไม่ยอมพูดอะไรได้แต่. . .นั่งก้มๆจิ้มอยู่ I Phone ของมัน [ตามองแต่หูนี้แบบ แถบชิดจอครับ ฮ่าๆ มาดเยอะจริงๆ มึง]

“ครับพี่ริว..(ตอนนี้เจอยู่ไหน).อ่ออยู่บ้านครับ.(แล้ววินละไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอ) . . อ่ออยู่ครับเมื่อคืนมันเมาหนักเจก็เลยให้ค้างทีนี้ซะเลย พี่ริวมีธุระอะไรกับมันรึเปล่าครับ ผมจะได้รีบไปตามมันมาให้ (ป่าวๆ พี่แค่เป็นห่วงเฉยๆ นะ เลยโทรมาถามดู. .วินเมายังงี้แล้วเจ จะมาที่ ม. ยังไงละ ให้พี่ขับรถไปรับไหม). . อ่อถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ตอนนี้ ผมม  บอดี้กาด แล้ว ^ ^ [ดุแถมยังน่ารักซะด้วย] (อ่อ โอเคๆ งั้นวันนี้ รีบมาที่ ม.หน่อยนะ พี่มีเรื่องให้ช่วยอยู่พอดีเลย). . อ่อได้ครับ. .ไว้เดี๋ยวผมจะหาลูกสมุนไปช่วยด้วยอีกแรง 5 5 5 (ถ้าเจหมายถึงตินละก็ อาสามาช่วยพี่ เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องขออะไรเลย ฮ่าๆ) ทำดาแหละพี่คู่มั่นผมเอง[ผมแอบเห็นมันเหล่สายตามามองตอนที่ผมพูดคำว่าคู่มั่นด้วยแหละ หุหุ]  (โอเคงั้นไว้เจอกันนะ) . . คร้าบไว้เจอกันคร้าบ หวัดดีครับ ตื๊ดด !!!”หลังจากที่ผมกดวางสาย . . .มาอีกแล้วครับ ลำแสงสายตาอมหิตย์. . . กำลังจ้องมาที่ผมอยู่ครับ . . . พอหันกลับไปมองเท่านั้นแหละ ชะอุ้ยย . . แอบมองอยู่จริงๆ ด้วย แหะๆ

“อ๋อเมื่อกี้ พี่ริว เขา โทรมาถามหน่ะ ว่า อยู่ ไหน จะไปม. เมื่อไหร่ มีใครมารับไหม . . แค่นี้เอง. .”ท่าทีไอกายมันดูนิ่งไปครับ รึว่ามันจะไม่เชื่อที่ผมพูดกันแน่.. ผมชักไม่มั่นใจแล้วสิ . .

“อ้ะ ถ้ามึงไม่เชื่อ จะลองคุยกับพี่เขา ก็ได้นะ เดี๋ยวกูต่อสายให้ก็ได้ อะ . . ”แต่ยังไม่ทันที่ผมจะกดเบอร์ปลายทางกายมันก็คว้ามือถือของผมไปซะก่อน

“กูไม่ได้บอกซักคำ ว่า กูไม่เชื่อใจมึง . . แต่กู. . ไม่ไว้ใจมัน. . ”

“เห้ย แต่กูกับพี่ริวเป็นแค่พี่น้องกันนะ . . มึง คิดมากไปรึเปล่ากาย. . ”

“. . . .”กายมันเงียบไปสงสัยกำลังนอยผมอยู่ครับ . .แหม่ คนอะไรจะขยันงอลดีจริงๆ  ถ้าไม่เห็นแก่หน้าหล่อๆของมันนี้ ผมถีบคว้ำแล้วนะครับ พูดจริงๆ

“อ้ะ แล้วมึงจะให้กูทำยังไงถึงจะเชื่อ ละ. .หืม. ..”กายมันทำท่ายึกยักก่อนจะเอ่ยปากพูด

“เอาโทรศัพท์มา. .”

“ห้ะ! เอาโทรศัพท์ไป แล้วกูจะเอาเครื่องไหนใช่ละ?”

“เครื่องกูนี้ไง?”มันพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของมันมาให้ผม

“เอิ่ม. . .เอาจริงดิ่. . ”

“คนอย่างกู. . ”

“พูดคำไหนคำนั้น. . บลาๆ กูจำได้หรอก เออ เอาไงก็เอา. . ที่กูยอมเพราะเห็นมึงโกรธกูเฉยๆ หรอกหึ !”

“แสดงว่า กูต้อง โกรธมึงก่อนใช่ไหม ถึงมึงจะยอม. .กู ”ป้าปเข้ากะบาลของมันหนึ่งทีครับ ข้อหา หื่นไม่รู้เวล่ำเวลา

“ถ้ามีสาวๆ โทรมาก็บอกให้เขารอคิวกันก่อนนะ บอกว่า กูไม่ว่างรับสาย . . ”. . จริงๆ ผมไม่มีหรอกครับๆ สาวๆ หน่ะๆ ส่วนมาก เบอร์ในโทรศัพท์ ของผมจะมีก็แต่ เบอร์ ผู้ชายด้วยกันนี้ละ . . แต่นอกจาก เบอร์ ไอวิน ไอติน แล้วก็พี่ริว ผมก็ไม่เคยรับสายของใครเลยครับ [นอกจากเบอร์น้องกายคนเดียว ^ ^]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [18]〖28-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 28-04-2016 18:27:44
“ถ้ามึงมีสาวกูคงลาบวช วะ”อู้วแรว๊ง!! สาดดๆ วาจาเชือดเฉื่อนยิ่งนัก . .ไอเวนนี่ ! และแล้วเราต่างคนต่างก็ สลับกันใช้โทรศัพท์ของกันและกันครับ . . ผมใช้ของมัน มันใช้ของผม . .. แต่ก็ถือว่าดีอยู่เหมือนกันครับ. . ผมจะได้แอบสอดความเคลื่อนไหวของมัน ได้ด้วย . . .ไม่ต้องเสียแรงไปตาสืบเองเลย 555

พอผมแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมาพร้อมกับไอกาย . . . ส่วนไอเปรมตอนนี้ไม่อยู่แล้วครับ . . เห็นพี่อินแกบอกว่า ที่บ้านของมันโทรมาบอกมีธุระด่วนให้รีบกลับไป ! เห้อ . .  ถ้าไม่ว่างนักก็อย่ามาเลยมึง หึหึ ! กูจะได้ปลอดภัยทั้ง กาย ทั้งใจด้วย คึคึ !
ส่วนไอคุณชายวิน ตอนนี้ มันยังนอน แอ้งแม๊งอยู่บนห้องของพี่เจมส์อยู่เลยครับ รายนี้. . . อาจถูกทุกคนลืมก็เป็นได้ ฮ่าๆ เพราะตั้งแต่เช้ามายังไม่มีใครพูดถึงไอวินเลย . . . สงสัยไม่ยอมตื่นยังงี้ผมคงต้องส่งสมุนที่รักของมันไปปลุกซะหน่อยแล้ว . . จริงๆ คงไม่ต้องใช้หรอกครับ เพราะเจ้าตัว คงจะเต็มใจไปเองโดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยปากขออะไรเลย . . . ฮ่าๆ พี่สะใภ้ผมเธอก็เป็นแบบนี้ของเธอแหละครับ ผมชินแล้ว 555


[08.35 นาที] ผมนั่งรถมาพร้อมกับกายที่อุตส่าห์ ขับมาส่ง ทั้งๆ ที่บอกว่ามีธุระกับครอบครัวแท้ๆ แตมันก็ยัง . . . เลือกที่จะมาส่งผมก่อน . . หึหึ  จัดลำดับความสำคัญได้ดีมากมึง. .  ที่แรกมันกะจะเดินมาส่งผมที่คณะด้วยซ้ำ แต่ด้วยการ แต่งตัว . ของมันทำให้ผมถึงกับรีบปฏิสนธิเอ้ย ! ปฏิเสธมันไปอย่างไว . . หึหึ ! 
[เด็กผมน่ารักใช่ไหมล้า ^ ^] 

หลังจากที่ผมเดินมาที่คณะของตัวเองเพียงลำพัง ก็รีบ วิ่งกรู่เข้าไปหาพี่ ริว ที่กำลังยืนโบก มือเรียกผมให้ไปหาอยู่ แต่เท่าๆ ที่ผมมองแล้วไองานที่พี่ริวจะให้ผมช่วยนี้ มัน. . .ออกแนวใช้แรงยังไงไม่รู้แหะ. .  = =’ หึหึ
หลังจากที่วันเวลาล่วงเลยมาแล้วทั้ง วันตอนนี้ ก็เวลา 16.47น. โดยประมาณ ซึ่งได้เวลาที่ผมจะถ่อสังขารของตัวเองกลับไปบ้านแล้ว หู้ย ! ก็วันนี้เล่นใช่แรงไปซะเยอะ ไหง แถมพวกเดอะแก้งของผมนี้ก้ไม่หัวกันมาซักคน ไอตินก็ไม่รู้หายหัวไปอยู่ไหนเห็น มาช่วยแปปเดียว แล้วออกไปยืนโทรศัพท์ จนสักพักมันก็หายไป  ส่วนไอวินรายนั้นยังคงเมาไม่ส่าง อยู่ที่บ้าน มีแต่ไอเอิ้นน้องหรัสของไอวินเท่านั้นแหละครับ ที่เข้ามาช่วยงานของผมกับพี่ริวเมื่อตอนบ่ายๆ  เห้อ พี่กับน้อง ไหงช่างต่างกับได้ถึงเพียงนี้. . .  ผมละอยากให้มันมองไอเอิ้นให้เป็นตัวอย่าง เลยจริงๆ .  . .

ผมนั่งแท็กซี่กลับมาบ่ายใช้เวลาเกือบ 20 นาที ระหว่างทางผมก็กดเบอร์ โทรไปหาน้องกาย. . .แต่ดั้น โทรไม่ติดนี้สิ. . . พอลงจากรถ ถึงพึ่งจะมานึกออก ว่าเบอร์ ของมันหน่ะอยู่นี้ส่วนเบอร์ของผมอยู่กับมันนู้น ! ยั่งโง่จิ้มๆ อยู่ได้ตั้งนาน. . พี่คนขับนี้ก็ไม่ยอมบอกผมเล๊ย [เดี๋ยวๆ พี่คนขับเกี่ยวอะไร  ฮ่าๆ โมเม้นพานไปทั่วก็มา]  0.0 ผมรีบเดินขึ้นห้องก่อนจะทิ้งตัวลง นอนที่เตียงของตัวเองทันที . . . ขอนอนพักซักแปปนึงละกันค่อยโทรไปใหม่. . .คร่อกๆ . . แต่ยังไม่ทันที่ผจะหลับสนิท ก็มีสาย จากใครก็ไม่รู้ . . .ดังขึ้นมาซะก่อน . . แถมยังไม่ได้เมมไว้ชื่อด้วย แหะ . . . จะเป็นใครก็ช่างเถอะ . . แต่ถ้าโทรมาที่เบอร์ของงกายมันแบบนี้ ผมว่า คงไม่ใช่แค่บังเอิญโทรผิดแล้วแหละ คิดได้ดังนั้น ผมก็รีบกดรับสายเลยทันที. . .

“ฮัลโหลสวัสดีครับ. . .”ปลายสายยังเงียบไม่ยอมพูดอยู่ครับ. .

“เออ สวัสดีครับ ไม่ทราบว่า ต้องการเรียนสายกับใครรึเปล่าครับ .. เอ่อ...สวัสดี. . ”

“ค่ะ หวัดดีค่ะนั้นใช่เบอร์ของกายรึเปล่าค่ะ”เป็นผู้หญิงที่โทรเข้ามาครับ แต่ไม่ใช่คุณเอื้อย. . แถมยังเรียกหาแต่ไอกายด้วย

    “เอ่อ ใช่ครับ ว่าแต่คุณคือ. .”ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่โทรเข้ามาหาไอกายเนี้ย . . มีความสัมพันธุ์แบบไหนกับไอกายมันอยู่. .กันแน่

“นิ้ง เองค่ะ กายจำได้ไหม?”ดูเหมือนเธอจะยังไม่รู้ตัวครับว่าคนที่คุยอยุ่กับเธอในตอนนี้ไม่ใช่กาย แต่เป็นผม . . .ผมเลยต้องแกล้งเป็นกายต่อไป

“อ่อ นิ้งหรอ . .ว่าไงสบายดีรึเปล่า. .”

“เอ่อ..กายหายโกรธนิ้งแล้วหรอค่ะ” โกรธหรอ โกรธเรื่องอะไรกันละผมจะไปรู้ด้วยไหมเนี้ย โอยย !

“อืมแน่สิ. . ว่าแต่นิ้งโทรมามีเรื่องอะไรด่วนหรอ. .”

“คือนิ้งจะโทรมาบอกกายว่า. .. นิ้ง . . . . .ขอโทดกับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมานะ. . .เรา . . . . กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม. .

”พอเธอพูดจบผมมีความรู้สึก ชาไปทั้งตัว . . แขนขาของผมเริ่มอ่อนแรง เพียงเพราะคำพูดของผู้หญิงคน เมื่อกี้ เพียงไม่กี่คำ. . ผมรู้สึกหน่วงๆ อยู่ทีอกแปลกๆ ความรู้สึกที่ผมกำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ อะไรที่อธิบยยากมากครับๆ . . . ในหัวของผมว่างเปล่า ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี จึงปล่อยให้สาย ว่าง แบบนั้นซักพักนึง จนปลายสายเป็นคนที่กดตัดสายไปเอง . . ผมนอน อยู่บนเตียงนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ที่พึ่งจะได้ยินมากับ หู . .. ‘นิ้งหรอ’ผู้หญิงคนนั้น มีความสัมพันธ์กับมันยังไงกันแน่. . แล้วไอเรื่องเริ่มต้นใหม่ นี้ หมายถึงอะไร คงไม่ได้หมายถึง. . คบกันใหม่หรอกใช่ไหม . . .  กาย กูยังเชื่อใจมึงได้อยู่ ใช่ไหม ?

แต่ยังไม่ในระหว่างที่ผมกำลังคิดะอะไรฟุ้งซ่านอยู่อย่างนั้น จู่ไอกายก็โทรเข้ามาครับ . . โชวเบอร์ที่ผมรู้สึกคุ้นเคย เป็นเบอร์ผมเองครับ มันเมมชื่อไว้ว่า“173. .”    คืออะไรผมก็ยังไม่แน่ใจหรอก . . แต่สิ่งที่ผมอยากร้ากที่สุดมันไม่ใช่เรื่อง นี้. . แต่เป็นเรื่องที่ถึ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้ต่างหาก. .

“ฮัลโหล เตี้ย มึงอยู่ไหน แล้วหน่ะ. . ตอนนี้กูรอมึงอยู่ที่ เมเจอร์แล้วนะ นัดกูไว้สี่โมง แต่นี้จะ5โมงครึ่งอยู่แล้วนะเมื่อไหร่จะมาซักที่. . .หรือคิดจะเบี้ยวนัด. . อยากตายใช่ไหมห้ะ. . ”น้ำเสียงของกายดูมีความสุขเวลาที่มัน ดุ หรือด่าผม . . ผมรับรู้ได้ถึงความสุขเหล่านั้นผ่านเสียงของมันที่ผมได้ยิน. . ในทุกๆ ครั้ง มาดที่ดูนิ่งกับสีหน้าที่เงียบขรึมของมัน . . ถ้าคนทั่วไปเห็นอาจจะมองว่ามันเป็นคนที่สูงศักดิ์ถือตัว และโลกส่วนตัวสูงแต่สำหรับผมแล้ว กายมันเป็นเพียงผู้ชายๆ ธรรมดาๆคนนึง . . . ที่อยากจะพูดคุยกับใครก็ได้ทุกคนๆ ‘เพียงแต่มันมีบางสิ่งบางอย่างที่ปิดกั้นการกระผมเหล่านั้นของมัน’ซึ่งผมเองก็อยากจะรู้. . เหมือนกันว่า ที่มันแกล้งทำไปทั้งหมดนั้น มันคืออะไรกันแน่. . ผมรีบเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดูเป็นปกติที่สุดเท่าที่ผมเองจะทำได้พูดสายกับมันไป . . .

“กู. . .ขอโทด ละกันมึง พอดีวันนี้ กูมีธุระต้องรีบไปทำหน่อย. .กูคงไปดูกับมึงด้วยไม่ได้แล้ววะ. . ”ถึงผมจะเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดูปกติมากแค่ไหน แต่อาการของผมในตอนนี้. . ผมทำดีที่สุด ในเท่านี้จริงๆ . .

“มึงมีอะไรรึเปล่าเตี้ย. .  ธุระอะไรของมึงทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย. . ”จะกูบอกมึงยังไงดีละ . . ให้บอกว่า เห้ยกายมี ผู้หญิงโทรมาขอคืนดีกับมึง นะเว้ย. .. แบบนี้หน่ะหรอ . . . ผมไม่ใช่คนแสนดีขนาดที่ จะต้องทำแบบนั้น แต่กลับกันผมอยากจะกลายเป็นคนที่เห็นแกตัวด้วยซ้ำ ยิ่ง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับมันด้วยละก็ ผมไม่มีทางถอยห่างเด็ดขาด. ..

“เปล่า วันนี้ กูต้องไปช่วยพี่อินแกซื้อของเข้าร้านหน่ะเลยไปด้วยไม่ได้. .ไว้คราวหน้าละกันมึง. . ”

“ให้มันจริงอย่าให้รู้นะ ว่ามึงแอบเล่นชู้. . ถ้า.กูรู้นะ เอาตายจริงๆ”

“หึหึ ! มึงโหดขนาดนี้กูคงจะกล้ามีหรอกเน้อ กูก็รักตัวกลัวตายเป็นนะมึง. . ”

“แล้วตั๋วจะว่ายังไง กูซื้อมาแล้วนะเนี้ย รอบ  1ทุ่มตรง มึงซื้อของนานขนาดนั้นเลยหรอวะ. .  ”

“ก็ไม่หรอกซื้อของ ชั่วโมงเดียวก็น่าจะเสร็จแล้วแต่ววันนี้กูเพลียวะ ใช้แรงมาทั้งวันเลย ขอนอนพักอยู่บ้านดีกว่า. . ส่วนเรื่องตั๋วถ้ามึงเสียดาย. . จะชวนกิ๊กเกิ๊กของมึงมาดูเป็นเพื่อนด้วยก็ได้นะ กูไม่ว่าหรอก. .หึหึ !”

“กิ๊กอะไรกูไม่มีเหอะ กลัวก็แต่มึงนั้นแหละ. .  บอกอยู่บ้าน ไม่ใช่ไปโผล่อยู่ที่ร้านของ มันหรอกนะ.หึหึ . ”

“มึงได้ยินเสียงเขาไหมละ ห่า . . กูบอกอยู่บ้านก็อยู่บ้านดิ่กูไม่โกหกมึงหรอก . . ”

“เออๆ งั้นเดี๋ยวกูกลับเลยก็ได้. .  เดี้ยว ทุ่มกว่าๆ จะไปหา. .”. . . ทำไมคราวนี้ เวลาที่ผมได้ยิน คำว่า”จะมาหา”ของมัน แต่ผมกลับไม่ดีใจอะไรเลย . .. หรือเป็นเพราะ ผม อาจจะกลัวว่า จะเผลอหลุดปากถามเรื่องนี้มันไปก็ได้. . .ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากจะเก็บเรื่อง ไว้คนเดียวแบบนี้ ไม่อยากให้มันรับรู้. . . แต่ถ้าผมไม่พูด . . ผมก็รู้ ว่า ความรู้สึก ทรมาณพวกนี้ จะเบาบางลงไปได้ยังไงเหมือนกัน . . . เห้อๆ . . .
. . .
ตอนนี้เวลาตอนทุ่มกว่าๆ  ผมสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยเสียงโทรศัพท์ ที่สั่นอยู่ตรงอกของผม . .  “173..” ไอกายงั้นหรอ ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาก่อนจะกดรับสายของมัน
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [18]〖28-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 28-04-2016 18:33:37
“อืม.”คือคำแรกที่ผมพูดกับมัน.  .

“อยู่ไหน”

“บนห้อง ?”

“กูอยู่หน้าบ้านมึงแล้ว ไม่เห็นมีใครอยู่เลย. . .”

“เออๆ สงสัยจะออกไปข้างนอกกัน เดี๋ยวกูลงไปรับแล้วกัน รออยู่นั้นและ”ตื๊ดๆ . . ผมกดตัดสายมันก่อนจะรีบวิ่งเดินลงไปหามันที่กำลัง ยืนรอผมอยู่ ที่หน้าร้าน . ..

“จะเดินเข้ามาเองไม่ได้เลยรึไงกัน ถึงต้องให้กูเดินลงมารับเนี้ย แหกตาดู ประตูไม่ไดล็อค. . วู้!”มาถึงผมก็ตะโกนโหวกเหวกใส่หน้าของไอกายแบบ ที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน(หรอ)มันทำท่ายิ้มๆ ก่อนจะเดินมาตบหัวผม ดังป้าป หนึ่งที. .  นี้แหละครับไอกายตัวจริง . . . มาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ ผมรีบเดินน้ำมัน ขึ้นห้องของผมเลย . .[พอดีไอกายมันมีแผ่นหนังมาด้วยเรื่องนึง เลยกะว่าจะใช้ห้องของผมเป็นที่ฉายหนังในคืนนี้.ซะเลย .หึหึ ! เปลืองไฟดีไหมละมึง.. ] ไม่ได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด หึหึ ! พอขึ้นมาถึง. . คุณชายแกก็ใช้ให้ผมต่อสาย แจ็ค กับจอทีวี  . . ด้วยเหตุผลที่ว่า ทำไม่เป็นครับ จอบอ จบเลย . . ไม่ต่อไม่ได้ละ หึหึ หลังจากที่ผมจัดแจงอะไรทุกอย่างเสร็จ ไอกายมันก็ยื่นแผ่น CD มาให้ผม . . พอก้มลงดูชื่อเรื่องแค่นั้นแหละครับ  ผมร้อง อ๋อ เลย“สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก”เท่าที่ผมจำได้. . นี้. .ดูไปประมาณ 20-30 รอบน่าจะได้แล้วมั้ง ผมจำได้แทบทุกฉากทุกตอน ทุกคำพูดเลยที เดียว . .

“นี้ไอกาย เรื่องนี้กูดูเป็น สิบๆ รอบแล้ว ไม่มีเรื่องอื่นบ้างหรอวะ. . ”

“ไม่มีอ่ะ กูเอามาแค่เรื่องเดี๋ยว เห็นในห้องเอื้อยมีหนังเต็มไปหมด. . แต่มีเรื่องนี้ เรื่องเดียวที่กูยังไม่เคยดู. . ”หึหึ ! นึกๆแล้วก็แอบเอ๊ะใจ นี้ไอคุณชายมันติดละครติดหนังเหมือน คนอื่นเขาด้วยเหรอเนี้ย ! . .

“เออๆ จะดูก็ดูเหอะ. . งั้นกูลงไปรอข้างล่างนะ ดูจบแล้ว มึงค่อยลงไปตามกูแล้วกัน”แต่สิ่งที่ผมไปมันก็เป็นแค่เพียงลมปากครับ . ..  มันยังดึงแขน ของผมให้นอน ที่เตียงดูหนงด้วยกับมัน คือ กู ก็บอกอยู่ไงครับ ว่ากูดูจนจำได้หมดแล้ว . . ผมทำท่าทีจะลุกออกอีกครั้ง แต่มัน ดึงผมเข้ามาล็อคคอซะก่อน เออ เอาเลยอยากทำอะไร ทำ . . . ผมไม่ขอสู้รบกับมันตอนนี้จะดีกว่า. . ขอนอนพักผ่อนให้หาย. . เหนื่อยหน่อยละกัน. . . . เห้อคิดได้ดังนั้นผมก็ซุก หน้า ของตัวเอง กับหน้าท้องของมันเลยละกันครับ . . .
. . . . . . . . . . . . . . . . . . .

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยสาเหตุอะไรก็ไม่รู้. . แต่ตอนนี้ ไอกายมันไม่อูย่ที่เตียงแล้วครับ. . สงสัยคงจะกลับไปแล้วละมั้ง. . . หนังน้องน้ำกับพี่โชน ก็ยังไม่จบแท้ๆ เห็นกดพอส ไว้ตอนที่น้องน้ำยังควงคฑาอยู่เลยหึหึ !ร้องอยากดูแต่ไม่ดูให้จบเนี้ยนะ . .โอ้ย บ่นมา ทั้งวัน รู้สึกคอแห้ง ขอลงไปหาอะไรกินให้มันสดชื่นขึ้นหน่อยละกัน . . . ผมรีบเดินออกจากห้องแล้วเดินมาด้านล่างทันที. . แต่อยู่ๆ ก็มีเหมือนมีคนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่. . . คุ้นๆ หน้าจะเป็นเสียงของไอกายครับ. .  นึกว่ามันจะหนีกลับบ้านไปซะแล้ว . . .แต่ที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ . . .โทรศัพท์ของไอกาย ที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อ นักศึกษาของผมตอนนี้ มันไม่อยู่ที่นี้แล้วครับ. . . อย่าบอกนะว่ากาย มันกำลังคุยกับ . . นิ้งอยู่ ? ไม่ได้การแล้ว ผมต้องรีบไปแอบฟังมันคุยซะหน่อยแล้ว. . . แต่ตัวของผมไวยิ่งกว่าความคิดของตัวเองอีกครับผมรีบวิ่งไปหลบๆ อยู่ที่ใต้โซฟา ส่วนไอกายนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นครับ . . .


“อ๋อ กายอยู่บ้านเจ. . . .เอื้อยจะมาหรอ. . . .ตอนนี้พี่อินไม่อยู่หรอก อยู่แค่กายกับเจ. . . อืมๆ ไว้พี่แกกลับมา เดี๋ยวกายโทรบอก. . . คร้าบบ. . . ”ที่แท้ก็คุยกับคุณเอื้อยนี้เอง ไอผมก็คิดไปซะไกล นึกว่ามันจะคุย กับ นิ้ง อยู่ซะอีก . .โล่งอกไปที.  หึหึ . . .ระหว่างนั้นเอง กายมันก็เดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง ของผมเลยครับ วู้ย ! . .  นี้ผมผิดที่คิดระแวงมันมากไปใช่ไหมเนี้ย ! . . . .

“กูรู้น่าว่ามึงหลบอยู่ตรงนั้น  รีบขึ้นมาได้แล้ว. . ”. . . เสียงของไอกายที่อยู่บนห้องตะโกนดังลงมาที่ชั้นล่างครับ  .. . มันรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ละเนี้ยว่าผมหลบอยู่ตรงนี้. . .! หึหึ  ตาดีจริงๆ นะมึง.. สุดท้ายผมก็ต้องเป็นฝ่ายที่เดินไปหามันอู่ดีแหละครับถึงจะรู้สึกอายๆ ที่ถูกจับได้. . แต่ถ้าลอง เดิน หน้านิ่งๆ เข้าไป คงไม่น่าผิดสังเกตอะไรหรอก[มั้ง] . . พอผมเปิดประตูเข้าไปไอกายมันก็กดเพลย์รัน หนังต่อทันที แถม ยังใช้มือ ทุบๆ ที่เตียง เหมือนเรียกให้ผมเข้าไปนอนด้วย  . . เห้อจะทำยังไงดี . . ผมมัวแต่กังวลเรื่องของมัน กับ ผู้หญิงที่ชื่อนิ้งอยู่เลย ถึงในตอนนี้ผมจะยังไม่กล้าเปิดปากถามเรื่องพวกนี้กับไอกาย แต่ผมว่า . . ถ้า ซักวันนึงที่มันพร้อม . . ผมว่ามันคงอธิบายให้ผมฟังเองแหละ. . . ที่เหลือก็คงต้องให้เวลากับมันแล้วหล่ะ. . 

ผมเดินเข้าไปนอนซุกอยู่ที่หว่างแขนของกาย. .ก่อนที่มันจะใช้มืออีกข้างมากอดผมไว้ อ้อมกอดของมันยังอบอุ่นอยู่เสมอ.ทุกครั้งที่ผมได้สัมผัส . . ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้นอนกอดมันแบบนี้. . . ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ผมก็รู้สึก หนักหนังตาขึ้นมา . . จนเผลอพล้อยหลับไป  . . . 

. ครืดดด ครืดดด !!!! ผมสะดุ้งดีดตัวเอง ขึ้นมาจากแรงสั่นสะเทือน ที่หน้าอก . .  คงเป็นสายใครซักคนโทรเข้ามาครับ. ผมใช้มือขยี้ตาทั้งสองข้างก่นอจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ถึงได้รู้ 061xxxxxxx .  ผมรู้สึกคุ้นๆเบอร์นี้เป็นอย่างมาก. . แต่ที่น่าแปลกใจคือ นี้คือโทรศัพท์ของกาย. .  สงสัยมันจะใส่คืนตอนที่ผมเผลอหลับอยู่แน่ๆ เลย  . . ผมลองเงยหน้าขึ้นไปมอง กายมันยังปิดตาสนิทอยู่ครับ ฟังจากเสียงแล้ว ถ้าทางจะหลับลึก. . ผมไม่ขอกวนมันดีกว่า เลย อย่าอาศัยจังหว่ะที่มันนอน หลับไม่ได้สติอยู่นี้แหละครับ พยาๆ ดิ้นๆ เพื่อให้ตัวเองคลายจากวงกอด ของมันซะที . . แต่กว่าจะออกมาได้ ต้องเสียแรงไปเยอะเลยครับ . . เล่นกอดผมซะแน่นขนาดนั้น . . แถมยังต้องทำอย่างเบามืออีก . . หึ้ย ! ผมเลยรีบเดินออกมาจากห้องอย่างไวที่สุดก่อน จะรีบกดรับรับสาย ที่ โทรเข้ามา แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร คนในสายก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน . .

“ฮัลโหลกายค่ะ. . . ข้อความที่กายส่งมาเมื่อตอนเย็น คงไม่ได้หมายความอย่างนั้นหรอกใช่ไหมค่ะ . . นิ้งรู้นะค่ะว่าลึกๆ แล้วกายก็ยังรู้สึกดีกับนิ่งอยู่ ”

“. . . . .” ผมได้แต่เงียบเพราะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสำหรับผมในตอนนี้ กำลังยืนอยู่ตรงจุดไหนของสองคนนี้ และไม่รู้ว่าผมควรจะพูด
ตอบเธอไปในฐานะอะไรดี. . ผมอยากรู้ แค่ว่าสิ่งที่สองคนนี้คุยกันคือเรื่องอะไร . .แล้วสรุปเมื่อตอนเย็น ที่ผมได้ยินกายมันคุยกับเอื้อยคืออะไร? . .  ผมไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ ผมนั่งกอดเข่าคิดอยู่ที่หน้าประตู แต่ยังแอบได้ยินเสียงปลายสายเธอพูดกลับมาอยู่เพียงแต่ผมไม่ได้ตอบอะไรเธอเลยซักคำ . . . ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าไอกาการน้ำท่วมปาก มันเป็นยังไง . . .
เอี๊ยดด !! เหี้ยย! ผมเผลอสบถด่าเสียงดังออกมา ก็อยู่ๆ ประตูห้องผมก็ถูกเปิดออกโดยไอกาย ที่กำลังยืนค้ำหัวผมอยู่. . ก้มลงมองผมด้วยสายตา . . ที่ดูเหมือนแปลก ใจ ว่าผมมานั่ง บื้อทำบ้าอะไรอยู่ที่หน้าห้องของตัวเองในเวลาแบบนี้ . . .

“มานั่งข้างนอกคนเดียวทำไมๆไม่เข้าไปข้างใน. .ป่ะ เข้าห้องๆ!”พูดจบไอกายก็ยื่นแขนมาดึงผมให้เข้าไปในห้องพร้อมกับมัน  . แต่ตอนนี้ ผมไม่มี กะจิตกะใจ จะทำอะไรแล้ว . . และด้วยอารมณ์บ้า หรือฉุนเฉียวอะไรของผมก็ไม่รู้ ทำให้ตัวเอง เผลอ ปัดแขนมันออกไป  . . . .

“มึงเป็นอะไรของมึงเนี้ย เจ . ? ”กายมันถามผมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวราวกับอารมณ์ของคนโกรธแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง

“กาย. ..  มึงมีเรื่องอะไรที่ยังไม่ได้บอกกูรึเปล่า ?”ไอกายมันทำหน้าตกใจอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงที่ท่าว่าจะหลบสายตาของผมเลยซักนิดเดียว. . . กลับมองจ้องตาเขม้งมาที่ผมเลยด้วยซ้ำ. . 

“มึงมีอะไรก็บอกกูมาตามตรงเลยดีกว่าเจ . . กูพร้อมจะอธิบายให้มึงฟังทุกอย่างเลย. .  ”ถึงมันจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ. . . แต่การที่ผมอยากรู้เรื่องราวอดีตของมันแบบนี้ มันจะเป็นการก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของมันไหม. . . แล้วถ้าหาก ผมถามมันออกไปตามตรงมันจะยอมพูดความจริงกับผมรึเปล่า. . ..  แต่ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ถามให้มันรู้ๆกันไปเลยละกัน. .

“กาย. . . สมมุตินะ. . .ถ้าอยู่ๆ แฟนเก่า ของ มึง มาขอคืนดี. . มึง. . .จะกลับไปหาเขาไหม? ”. .  . .  . . ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป. .. แต่นั้น ก็เป็นแค่เพียงถามเดียวที่ผมอยากจะได้ยิน คำตอบจากปากของมันเอง. .

“มึง. .คุยกับนิ้งแล้วหรอ?”ห้ะ. . .อ้าวนี้สรุปมันรู้เรื่องที่ผมแอบรับโทรศัพท์ของมันเมื่อตอนเย็นแล้วหรอ. . แต่ช่างเถอะสิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดในตอนนนี้ มีแค่คำตอบของ มันเพียง เท่านั้น. . .


 “อือ. . ”


“เจมึงฟัง กูนะ . . กู กับนิ้ง เรา เป็นแค่เพื่อน กัน ถึงเมื่อก่อน กูกับนิ้ง จะมีความสัมพันธุ์ ที่ต่างไปจากตอนนี้. . แต่กูกล้าพูดได้เต็มปากเลย ว่า มันไม่มีอะไร แล้วกูก็ไม่รู้ด้วย. . ว่านิ้งได้เบอร์กูมาได้ยังไง. . กูเองยังงงอยู่เหมือนกัน ที่อยู่ๆ นิ้งก็โทรมา ขอเริ่มต้นกับกูใหม่. . แต่กูก็ไมได้ตอบตกลงอะไรเขาไปนะ กูบอกกับนิ้งว่ากู มีแฟน แล้ว . . แล้วคนๆนั้นก็   คือมึง. . ”คำตอบจากปากของไอกายที่ผมได้ยิน . . . ทำเอาผมถึงอึ้งกับพูดอะไรไม่ออก . . ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อในสิ้งที่มันพูดเพียงแต่. . ผมกำลังรู้สึกตื้นตันกับคำพูดของมัน. . . จนตัวผมพูดอะไรไม่ออกเลย. .  จากอารมณ์ที่ผมรู้สึกหน่วงๆ ตอนนี้แปรเปลี่ยนมาเป็นความร้าสึกดีแทนแล้ว ละครับ >.< ยิ่งเวลามันพูดไปด้วยจ้องหน้าผม ไปด้วย ผมไม่รู้เลยว่าควรจะหลบสายตาของมันยังไงดี. . .. .

“มึงพูดยังงี้ไม่กลัวเขาเสียใจหรอ. . . เขาอาจกำลังฟังมึงพูดอยู่ก็ได้นะเว้ย”. . .เพราะตอนนี้ สายของคนที่ชื่อนิ้ง ยังไม่ได้วางไปครับ . .. แต่ดูเหมือนกายมันยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้. . ผมกำลัง คุยกับใครอยู่ ?

“ได้ยินก็ดีจะได้รู้ไปเลย. .  ว่ากูเป็นแฟนมึง. .  จะได้เลิกยุ่งกับกูซะที. . .”ผมรีบกดตัดสายของนิ้งทันที. .

“มึงจะไม่เสียใจภายหลังใช่ไหมที่เลือกกู.  . .”ถึงมันจะเป็นคำถามที่ดูสองแง่สองง้าม แต่ผม ก็อยากได้รับคำยืนยันของมันอยู่ดีครับ

“ถ้ากูจะเสียใจ.  . . ก็คงเป็นเพราะกูไม่ได้เลือกมึงนี้แหละ! ไอเตี้ย. . ”เชี่ยยยย ตอนนี้ ผมทำอะไรต่อไม่ถูกแล้วครับสติ ของ ผมในตอนนี้หายลอย ขึ้นไปชั้นบรรยากาศหมดแล้ว . . . โอ้ยย 

“กาย. . .กูจะกัดหัวนมมึง. . .”

“มึงจะกัดหัวนมกู.. . ?”

“กูเขิลล”>< พูดจบผมก็กระโจนเข้าไปกอดไอกายมันเดินเซจนแทบล้มลงไปอยู่กับพื้น ผมรู้สึกดีใจ กับ ทุกคำตอบที่ผมได้ยิน จากปากของมัน และผมก็อยากขอโทษ ที่ทำตัวงี้เง้าใส่มัน . . . ทั้งๆที่เรื่องจริงมันไม่ได้มีอะไร เลย มีเพียงแต่ผมที่คิดมากไปเอง . . จากนี้ไปผมสัญญา ว่าถ้าหากมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ. . ผมจะเอ่ยปากถามมันไปตรงๆ จะไปเก็บมานั่งคิกมากคนเดียวอย่างนี้อีกแล้ว. . ผมสัญญา ! ^ ^


“อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!”มาแล้วครับตัวทำลายบรรยากาศ แต่คราวนี้ผมไม่ได้แก้ตัวอะไรออกไปเพียงแค่ปล่อย. . ให้ตัวเองทำในสิ่งที่ใจต้องการ เท่านั้นก็พอครับ แต่ด้วยความเขิน หรือเพราะอาการหมั้นไส้ไอกายไม่รู้ . . ผมเลยเผลอ งับหัวนมมันไป คาชุดของมันนี้ละ . . . แล้วสิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ฝ่ามือ ของมันครับ หึหึ !. . . . ทำไงได้ก็คนมันเขิน นิ่ ! ><

หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เดินลง มาด้านล่างเพียงคนเดียวครับ ส่วนไอกาย  . กำลังอาบน้ำอยู่ . . .  ส่วนยัยเอิร์นกับพี่อินเห็นว่าพึ่งกลับกันมาสักพักนี้เองครับ จากที่สองพี่น้องคู่นี้เขาพากันแห่ซื้อ Sale! 80 % ซึ่งของที่ได้กลับ มา ต้องยอมรับเลยครับว่า สองคนเธอมีความสามารถสูงมากๆ ถึงเอากลับบ้านมาได้แทบเป็นคันรถ ผมเห็นที่แรกผม ยังตะลึงเลย . . สงสัยเพราะครางนี้มียัยเอิร์นไปด้วยเลยได้ของมาเยอะ  ! อย่างนี้แหละครับ ผู้หญิงกับ ของลด ราคา เป็นของคู่กันครับ . . หึหึ ! . . แล้วเงินใช้จ่ายในบ้านจะเหลือถึงผมบ้างไหมเนี้ย. . เล่นเอาไปช้อปซะกระจายกันขนาดนี้. . . ผมคงไม่ต้องต้มผ้าต้มกระโปรง ต้มเครื่องสำอางกินหรอกใช่ไหม . . . แค่คิดก็อนาถแล้วครับ . .   = =’แล้วอีกพักนึงก็ตามมาด้วย ไอวิน กับไอตินครับ . . .คู่ดูโอ้อีกคู่นึงแล้ว. . รายนี้ก็ใช้ย่อย . . .ถือถุงอะไรเข้ามาในร้านเต็มไปหมด. . สงสัยจะไปที่เดียวกันกับพวกพี่อินแน่ๆ หึหึ !

“ฮัลโหลวว บักเจ  ! เป็นไงบ้าง วันนี้ไปเรียนคนเดียวเหงามากป่ะมึง. . คึกๆ โอ๊ะๆ ลืมไป. . คงไม่เหงาแล้วสิ. . มีตัวจริงคอยดูแลใกล้ชิดขนาดนั้น จริงมั้ยไอติน. . .”ไอวินมันหันหน้าเข้าไปหาไอตินเหมือนจะขอความเห็น

“หือ..กูไม่รู้อ่ะ” .. . ไอนี้ก็ตัดบทสนทนาได้สุดยอดมากครับ เห็นแล้วแอบซะใจเบาๆ

“เออ แล้วไปซื้อของอะไรกันมาเนี้ย. . ถืออกับมาซะเยอะแยะเชียว. . มาๆ เดี๋ยวกูช่วยถือ.  ”จุดประสงค์หลักๆ ของผมคือการสอดส่องหาของกินครับ . .ถุงไม่ใช่ไม่  . . . ก็ปล่อยให้ไอวินมันถือต่อไปครับ. . ส่วนตินเพื่อนรักของผม นี้แบบ น่ารักมากครับ เดินถือถุงขนมยื่นมาให้ผม เลยต่างจากไอเพื่อนเวร นี้ . . จะซื้อของมาทั้งที ไม่คิดจะซื้อมากฝากกันบ้างเลยรึไง กัน หัดมอง ไอตินเป็นตัวอย่างบ้างซี้ !! พูดแล้วผมก็เดินเข้าไปกอดคอไอตินส่วนไอวินนะหรอครับ ผมใช่เท้าอีกข้างนึงดัน ท้องของมันอยู่ๆ 5 5 5 ! ทำตัวน่ารักเหมือนไอติน ได้แล้วนะ มึง . . คึคึ

.ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ เวลา สองทุ่มกว่าๆ แล้วครับ พวกไอวินกับไอติน ขึ้นไปเล่น คอมบนห้องของผมอยู่ส่วนไอกาย กำลังนั่งคุยแตกฟอง กับน้องเอิร์นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นครับ . . อ่อลืมไปบอกไปตอนแรกที่ไอเพื่อนหนึ่งคนกับหนึ่งตัว เดินขึ้นไปเห็นไอกาย มันก็ส่งสายตากวนตีนๆมาให้ผมก่อนจะเอ่ยปากแซวเหมือนทุกๆ ทีที่มันทำ แต่ก็เป็นแค่เฉพาะไอวินเท่านั้นแหละครับ ส่วนไอติน ผมเห็น มันทำหน้าหงอยไปเลย. . . เห้อๆ เพื่อน ผมจะมีปกติซักคนไหมเนี้ย  . .. 
ส่วนผมก็บรรจงทำกาแฟ นมสด ชาเขียว นมเย็น แล้วก็ลาเต้ อยู่ที่มุมบาริสต้าคนเดียวครับ . . นานๆทีจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย ก็ขอ ทำอะไรให้เพื่อนๆประทับใจหน่อยละกัน [จริงๆ กะทำให้ไอกายคนเดียวต่างหากครับ แต่ผมกลัวมันจะผิดสังเกต กับพี่อิน เลยทำ แม้งทั้งหมดนี้ละ . . หึหึ  ขยันดีไหมละ!]
หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยหมดทุกย่างผมก็เดินไปที่ห้องครัว พร้อมกับ ไอวิน ไอติน และน้องกาย  ^^
[เห็นมันแอบส่งยิ้มที่มุมปากมาให้ผมด้วย ><  ]ที่พึ่งจะเดินลงมา. .
พอเข้ามาถึงพวกผมสี่คนถึงกับร้อง อื้อหื้อ เพราะอาหารที่วาง อยู่ บนโต๊ะรวมๆแล้วเกือบ สามสิบอย่าง ครับ ไม่รู้วันนี้คุณนายอินแกถูกหวยรึ คลั่งอะไรถึงได้ทำอาหารอะไรมากมายการกองขนาดนี้ . . .  ผมเผลอกลืนน้ำลายดังเอื้อก แต่ไม่ใช่เพราะหิวหรอกนะครับ .. . น่าจะเป็นเพราะกำลังกลัวมากกว่า [เพราะถ้าหากกินไม่หมด. . คนที่ถูกหักเงินก็คือผม] ข้อหากินของทิ้งๆ ขว้างๆไง ครับ . .  .นี้แหละครับเหตุผลของคุณเธอ. . แล้วผมไปเกี่ยวอะไรด้วยละเนี้ย วู้ๆ
ผมเดินเลือกหาที่นั่งดีๆ ที่อยู่ทางซ้าย โดยมีไอวินกับไอตินนั่งประกบผมทั้งสองคนเลยครับ . . .แหม่ยังงี้น้องกายของผมก็เหงาแย่สิ. . . คึคึ !! แต่ในทางกับกันครับ. . มันกลับนั่งยิ้มๆกับยัยเอิร์นที่เดินเข้าไปนั่งข้างๆ ไอกายแทน หึ้ย เห็นแล้วมันเดือดครับ ถึงจะเป็นพี่น้องกันก็เถอะยัย เอิร์น แต่ถ้า เจาะแจะกับแฟนของพี่มาก . . .พี่ก็เดือดเป็นนะครับคุณน้อง ฮ่าๆ
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะตักอะไรเข้าปาก พี่อินแกก็พูดเสียงดังขึ้นมาว่า. . .

“เดี๋ยว น้องเจ อย่าพึ่งกิน ไปตาม สุดหล่อบ้านนู้นมาก่อน. . .” ผมหันไปสบสายตากับไอกายแบบอัตโนมัติ. . . สุดหล่อบ้านนู้นที่พี่คงจะหมายถึงพี่ริวครับ .  . . ไอกายมันนั่งหน้านิ่งไม่ยอมพูดอะไรเลย . .. ใจนึงผมก็อยากที่จะปฏิเสธไป. . แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงผมคงต้องไปอยู่ดี เห้อ. . . แต่ที่จริงสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดก็คือ  กาย.ครับ . ผมไม่รู้ว่าเวลาที่มันกับพี่ริวเจอหน้า  กันสีหน้าของมันในตอนนั้นจะเป็นยังไง. .ผมไม่ชอบ หน้าบึ้งๆ ของมัน เลยจริงๆ เวลาเห็นสีหน้าของแบบนั้นทีไรใจของผมก็แป้วตามไปมันไปทุกที . . . ..

ผมมายืนอยู่ที่หน้าร้าน อาม่าตรงข้ามอีกฝั่งของถนนครับ . . ลูกค้าของอาม่า ยังล้นร้านเหมือนทุกวัน . . .แต่สิ่งที่ผมภาวนาในตอนนี้ คือขออย่าให้พี่ริวอยู่ที่นี้เลย . . ไม่ใช่เพราะผม เกลียดอะไรพี่ริวนะครับ เพียงแต่ผมอย่างจะเลี่ยงเท่าที่จะเลี่ยงได้เพื่อไม่ให้สองคนนี้เจอ หน้ากัน ถึงมันจะเป็นเรื่อง ที่ยาก แต่ผมก็คงต้องทำใจและยอมรับความจริง อยู่ดี. . . ผมเดินเข้าไปหาอาม่าที่หลังร้าน อาม่ากำลังนั่งนับเงินอยู่เลยครับ สีหน้าของอาม่าดูมีความสุขเอามากๆ ก่อนที่แกจะละสายตาออกจากเงินและหันมาจ้อง หน้าผมแทน. . .

“อาตี๋น้อยอ่า ลื้อ ไปไหนมา ม้ายเหง มาหาม่าเลยอ่า รู้มั้ย อาตี๋ใหญ่ เขาบ่น ถึงลื้อมาสองสามวันแล้วอ่า ”รอยยิ้มของอาม่ายังสดใสเหมือนเดิม

“ช่วงนี้ ผมมีงานที่คณะเยอะอ่ะ ม่า เลยไม่ค่อยมีเวลามาหาม่าเลย”

“แล้วนี้ลื้อกิงอารายารึยังอ่ามาทำก๋วยเตี๋ยวให้ลื้อกินดีไหม. .. ”

“อ๋อไม่เป็นไรหรอกครับม่า. .ว่าแต่พี่ริวอยู่บ้านรึเปล่าครับ. .”

“งั้นรอแปปนึงเดี๋ยวมาเรียกให้ อาตี๋ ใหญ่น้องชายลื้อมาหาแหนะ. . รีบลงมาเดี๋ยวนี้เลยน้า. . .”

“คร้าบ มาแล้วคร้าบม่า อ้าว เจ มาได้ยังไงอ่ะ” สีหน้าของพี่ริวดูจะตกใจเล็กน้อยครับ . .ถ้าผมเกิดตอบพี่แกไปว่าเดินข้ามถนนมาจะเป็นการกวนตีนพี่ริวแกไหม 5555

“พี่อินให้เจมาตาม พี่ริวไปกินข้าวด้วยกันอะครับ ไม่รู้พี่ริวจะว่างรึเปล่า !”

“ว่างสิ . .เจอุตส่าห์เดินมาตามพี่ทั้งที จะไม่ไปมันก็ยังไงอยู่ ม่าไปด้วยกันไหม ?”พี่ริวแกหันไปถามอาม่าด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนล้อเล่น. . .แต่เอาเข้าจริงๆ ม่ากลับตอบ ออกมาว่า . . .

“ไปก้อไปสิ่ม่าอยากไปเจอหน้าอิเด็กเมื่อวางซืนอยู่เหมือนกัน” หือ!!! เด็กมือวานซืน ใครกันนะ ผมกับพี่ริวเผลออุทานขึ้นมาพร้อมกัน . . .แต่พอไปถึงก็คงรู้เองแหละครับ. .   

ผมกับพี่ริวเราสองคนช่วยกันเดินจูง. .ไม่สิต้องเรียกว่าเดินจับมืออาม่าข้ามถนนกันออกมาจากร้านแล้วเดินตรงเข้าที่ร้านของผมทันทีเลย. . .บรรยากาศในร้านตอนนี้วังเวงมากครับ เพราะทุกคนต่างก็อยู่ในห้องครัวกันหมด. .เลยไม่ได้เปิดไฟที่หน้าร้านกันไว้ . . ผมเลยต้องเดินนำ อาม่าและพี่ริวเข้าไปในห้องครัว แต่พอเปิดประตูไปถึง สีหน้าของ ทุกคนดูตกตะลึงเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ไอกาย กับพี่อิน . . ที่ พูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า . . อาม่า ! ผมกับพี่ริวเราหันหน้ากับมาสบตากันอีกครั้ง . . เหมือนจะความเห็นตรงกันว่า . .  ไอเด็กเมื่อวานซืนที่พูดถึง . . .คนจะไม่พ้นคนใดคนนึงในสองคนนี้แน่ๆ เลย ผมกำลังจะเดิน นำพี่ริวไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้าม แต่อาม่ากับดึงแขนพี่ริว. . ให้ไป นั่งข้างๆ ไอกายซะงั้น  . . . ยัยเอิร์นก็ดูท่าจะตกใจไม่ใช่น้อย แต่ก็ยอม สละที่นั่งข้างๆ ไอกาย ให้พี่ริวไป. .ก่อนจะเดินอ้อมย้ายเก้าอี้มานั่งข้างๆ อาม่าที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะริมสุดแทน  บรรยากาศตอนนี้ผอธิบายบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเลย มันทั้ง เงียบและวังเวงไปหมด ขนาดผมจะกลืนน้ำลายยังต้อง หันไปมองหน้าแต่ละคนเลย ว่ากำลังจ้องมองผมรึเปล่า . . ..  แล้วจู่ๆกอาม่าก็เป็นคนเปิดประเด็นพูดขึ้นมาครับ. . 

“แล้วนี้พวกลื้อจะนั่งมองหน้ากันอีกนานมั้ย. . ทำไมไม่กินกันซักทีอ่า ! รึอาหารมันห่วย รสชาติ หมาไม่แหล็ก ถึงไม่ยอมกิน กันซักที.. ”. . ผมรู้สึกอึ้งตึง[อึ้ง+ตะลึง] กับคำพูดของอาม่ามาก. . ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครที่สามารถกล้าว่าพี่อินได้ถึงขนาดนี้ . . .
“อินก็ทำให้เด็กๆเขากินกันนะฝีมือก็มีเท่านี้แหละ ใครจะไปสู้ฝีมือของม่าได้ละค่ะ. .”ทำไมผมถึงมีความรู้สึกเหมือนว่าสองคนนี้รู้จักกันมานานแล้วละ. . . ความรู้สึกเหมือนกับว่า พวกเขา สองคนรู้จักกันมา ก่อนที่ผมจะรู้จักกับอาม่าอีก . . .

#(และเพื่อการรับฟังที่ง่ายขึ้น ผม จะขอทำซับไทยขึ้นมาเพื่อให้สะดวกต่อการรับชม. .แทนคำพูดของอาม่านะครับ. .^ ^)
“ถ้าไม่ใช่เพราะมัวแต่ติดผู้ชายป่านนี้แกคงเรียนกับชั้น ถึงขั้น ชาววังแล้ว. .ไม่มาติดแหง็ก แบบนี้หรอก” . . . พี่อินดูหน้าจ๋อยไปเลยละครับ นับว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากรองลงมาจากไอกายเลยละครับ ฮ่าๆ . . . แต่ๆ ไอติดผู้ชายที่ อาม่าพูดถึงนี้คงไม่ได้หมายถึง . .พี่เจมส์ พี่ชายผมหรอกใช่ไหมหึหึ !! ถ้าใช่ผม ขอตัดพี่ตัดน้องกันซักวันก่อนละกัน . . . ครับ ฮ่าๆ

ผมแอบเหล่ๆ ไปมองคนรอบข้างก็มีอาการไม่ต่างจากผมมากครับ . . .จะมีปกติที่สุดก็น่าจะเป็นไอตินนี้แหละครับ นิ่งได้ทุกสถานะการณ์ผมลละทึ้งในความสามารถของมันเลยจริงๆ  = =’ส่วนไอวินรายนี้ ที่ว่าแนๆ ยังไม่กล้าแม้แต่จะแตะช้อนส้อมเลยครับ . . ขนาด จะ กินน้ำทียังสะกิดขาผมเลย  หึหึ ! ส่วนรายที่หนักสุดในสายตาของผมตอนนี้คงจะไม่พ้นพี่ริว กับไอกาย ที่ตอนนี้ต่างคนต่างก็หันหน้าไปมองคนละทาง ไม่ยอมปริปากพูดอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว . . นอกเหนือจากนั้นทุกคนดูเป็นปกติ โดยเฉพาะยัยเอิร์น ขณะที่คนอื่นเขากำลังเครียดกันอยู่ ยัยเอิร์นก็เดินเข้าไปประจบ อาม่าราวกับว่าเป็นลูกสาวของบ้านนั้นไปซะแล้ว . . .   
“อ้าวๆ เด็กๆ จะเครียดกันทำไมละจ้ะ รีบๆ กินกันได้แล้วเดี๋ยวอาหารเย็นก็ไม่อร่อยกันพอดี . ”คราวนี้เป็นพี่อินที่พูดขึ้นมาทำลายความเงียบครับ. . คงเพราะเห็นพวกผมนั่งเงียบกันนานเกินไปจน พี่แก ก็เริ่มเกร็งๆ ตาม . . . มันก็น่าอยู่หรอก !! หึหึ

“จริงด้วย ๆ ผมก็หิวแล้วเหมือนกัน. .  จะทานแล้วนะคร้าบบ อ้าม หงับๆ [หู้ย กุ้งอบวุ้นเส้นอร๊อยอร่อยๆ].”ผมได้แต่คิดครับแต่ไม่กล้าพูดหรอก . . . ตราบใดที่ทุกคนยังนั่งนิ่งอยู่แบบนี้. . . ในเมื่อทุกคนไม่กล้าเปิดงั้น ท่านเจผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ จะเป็นคนบริการทุกคนเอง . .. คิดได้ดังนั้น ผมก็รีบตัก อาหารทุกอย่างเท่าที่ตัวเองจะตักได้มาใส่จานของตัวเอง ก่อนจะเริ่มเดินป้อน ไปที ละคนเริ่มด้วย คนริ่มซ้ายของผมก่อนเลยละกัน  ไอตินของเรานั้นเองครับ มันทำหน้างงๆ ตอนที่ผมยื่นช้อนไปที่หน้ามัน ก่อนจะยอมอ้าปากแล้วอ้ามม ! มันนั่งเคี้ยวๆก่อนจะส่งยิ้มกลับมาให้ผมครับ. . รายต่อมาก็คือไอวิน. . รายนี้ไม่ต้องยื่นช้อนเลยครับ อ้าปาก รอตั้งแต่ผมยังไม่ได้ตักอะไรเลย. . .ส่วนคนต่อมา คืออาม่าของผมเอง. . [จริงๆ ของพี่ริวเขานะ ยืมตัวมาเฉยๆ หน่ะ แห่ๆ] สีหน้าของอาม่าตอนทานแรกๆก็เฉยครับ แต่พอกินไปได้ซักพักนึงแกก็หันมายิ้มให้ผม. . ส่วนยัยเอิร์นกระซิบบอกผมว่าให้ข้ามตัวเองไปเลย . .  เพราะอยากเห็นผมป้อนพี่ริวกับกาย ของผมทั้งสองคน  เหตุผลฟังขึ้นมากเลยละ หึหึ คนต่อมาเป็นพี่ริวครับ รายนี้นั่งยิ้มตั้งแต่ผมยังไม่ได้ป้อนเลย [แอบได้ยินเสียงยัยเอิร์นกรี๊ดเบาๆ]ผมเองเริ่มรู้สึกเกร็งๆ ไม่รู้จะป้อนดีไหม แต่มาถึงขนาดนนี้แล้ว จะ ผ่านไปเฉยมันก็จะดูยังไงอยู่เลยตักๆ กุ้งอบวุ้นเส้นพอดีคำ. . ป้อนพี่แกไปครับ. .รายนี้นั่งยิ้มแก้มปริตั้งแต่ตอนก่อนป้อนยันตอนเคี้ยวก็ยงไม่ยอมหุบเลย. . .ส่วนคนต่อไป. .แท่ม แท่ม แท๊ม  ก็คือ. . น้องกาย[ของผมนั้นเอง] รายนี้ สีหน้าดูเหมือนมันจะโกรธอะไรผมอยู่แหะ ไม่ยอมยิ้มไม่พูดไม่จาเหมือนคนอื่นเขาเลย. . แต่มันก็ยอมอ้าปากกินดีๆ ครับ ลองไม่อ้าดูสิ พ่อจะกัดหัวนมให้ขาดเลย = =’ ออกแนวจิตนิดๆ นะ ส่วน พี่อิน ก็อาการเดียวกับไอกายครับ. . หน้านิ่งๆ แต่ก็ยอมกินดีๆ . . ตอนนี้ทุกคนในห้องนี้ได้ทานอาหาร ที่ผมป้อนครบหมดทุกคน เลย ขาดก็ แต่ ความกล้าที่จะเริ่มลงมือทานก็เท่านั้นเอง ครับ. . ผมเลยถือโอกาสนี้เปิดประเด็นขึ้นมาบ้าง

“อาหารของพี่อินในวันนี้อร่อยไหมครับทุกคน. . .” ทุกคนพยักหน้าหมด ยกเว้น อาม่าคนเดียว

“ถ้าอร่อยแล้วทำไมถึงไม่กินกันซะทีละ ถ้าจะให้เจเดินป้อนอีกคงไม่ไหวแล้วนะเหนื่อย !พูดจริง เพราะชะนั้นกินกันเถอะ เจขอหล่ะ. . ”ทุกคนหันมาจ้องหน้า ผมและหัวเราะ พร้อมกันๆ ถึงจะไม่รู้ว่าตัวเองเผลอทำตัวรั่วๆอะไรออกไปก็เถอะ. . แต่ผมแค่อยากให้อาหารมื้อ นี้ เป็นมื้อที่มีแต่รอยยิ้ม ของทุกคน . . ผมไม่รู้หรอกนะว่าอดีตของใครจะเป็นยังไง . . .แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วอยู่ในบ้านของผมแล้ว ทุกคนต้องมีแต่ความสุข. . และรอยยิ้มเสมอ . . .ผมแอบยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากตอนที่หันไปเห็น กายกับพี่ริวนั่งข้างๆ และหัวเราะออกมาพร้อมกันๆ . . . ถึงผมจะยังไม่รู้ว่าสองคนนี้ บาดหมางเรื่องอะไรกันอยู่ แต่ผม ว่า อีกไม่นาน ผมต้องเค้นความจริง ออกมาจากปาก ของทั้งสอง คนได้แน่ๆ. .
[ผมคิดว่าน่าจะได้นะ ^ ^  หึหึ]


TBC. . . . . . . . . .
[คิมกอนอู]
 
  :sad4:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [18]〖28-04-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 28-04-2016 19:38:09
 :mew5:เอาแล้วไง เค้ามีเรื่องอะไรกันรึป่าว
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [19]〖01-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 01-05-2016 16:06:10
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:19 : อดีตของ [กาย] & [ริว]  [Part2/2]

หลังจากที่ผ่านอาหารมื้อ[กดดัน]สุดพิเศษมาได้. . ไอวินกับไอตินก็ขอตัวกลับบ้านก่อนครับ เห็นว่ามีธระด่วนกันทั้งสองคนเลย ตอนนี้ในคนที่ยังอยู่ในบ้าน ก็มี แค่ผม กาย พี่อิน พี่ริว ยัยเอิร์น แล้วก็อาม่าครับ สองสาวกำลังนั่งเม้าแตกฟองกันอยู่ในห้องนั่งเล่นๆ ผมแอบ ๆไปสืบๆ มาก็พอจะรู้เรื่องคร่าวๆ ว่า สมัยก่อน นู้นน! นานมาแล้ว พี่อิน แกเคยเป็นลูกสิทธิ์เรียนทำอาหารชาววังกับอาม่าอยู่ พักนึง [เพราะพี่อินแกไม่ค่อยถูกกับคุณย่าของผมไงหล่ะถึงต้องมาเรียนกับอาม่าแทน เพราะคุณย่าของผมกับอาม่า แกเป็นเพื่อน กันมาตั้งแต่สมัยสาวๆแล้ว โลกกลมได้อีก = =’]แต่ด้วยช่วงนั้นพี่อิน ดันไปหลงพี่ชายของผมเข้าซะก่อน.  . เลยเรียนไม่จบหลักสูตรการทำอาหารชาววัง อาม่าแกถึงได้เคืองพี่อินมาถึงปัจจุบันนี้แหละครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี . . จากความโกรธเครืองที่อาม่ามีต่อพี่อิน ก็เบาบางลงขึ้นเยอะครับ เห็นแค่พี่อิน แกเข้าไปคุยด้วยนิดหน่อย ก็ดีกันแล้ว . . .ต่าง จาก คู่ไอกาย กับพีริวมาก . .  คู่นี้แค่หน้ายังไม่ยอมมองกันเลย แล้วจะไปปรับความเข้าใจกันได้ยังไงหล่ะ [อ่อลืมบอกไปครับอาม่าสั่งว่าห้ามไอกายกับพี่ริวออกจากห้องครัว ถ้าหากทั้งสองคนยังไม่ยอม เคลียกันให้เสร็จ]. ซึ่งผมก็ได้รับภารกิจอันใหญ่หลวงก็คือคอยเฝ้าดูอย่าให้ นักโทษทั้งสองหลุดออกมาครับ . . . หึหึ !

ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรที่ผมทำมารึเปล่า ถึงได้มีส่วนร่วมใน เรื่องพวกนี้ทุกทีเลย !! เห้อๆ พรุ่งนี้กะว่าจะไปทำบุญที่วัดล้างซวยซะหน่อยเผื่อจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง !
เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า อาม่ากับพี่อินยัง คุยกันต่อไม่เลิกครับ  ส่วนสองคนนั้นก็ยังนั่งหันหน้า ไปคนละทางไม่ยอมคุยกันอยู่ในห้องเหมือนเดิมครับ ไม่ว่าผมจะเดินผ่านกี่รอบภาพที่เห็นก็ยังเหมือนเดิมทุกที. . . ผมเลยตัดสินใจ ทำการใหญ่. . .ไหนๆ ผมก็มีส่วนในเรื่องพวกนี้แล้ว จะให้ไม่รู้เรื่องของสองคนนี้.. มันก็ยังไงอยู่ผมเลยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปที่ห้อง. . .สองคนนั้นหันมาจ้องมองผมโดยอัตโนมัติ.. หืมอะไรจะพร้อมเพียงกันขนาดนั้น. . . ผมยืนสูดหายใจเข้าปอดพักนึงก่อนจะเริ่มถามทีละคนเลยครับ. . . เริ่มที่ไอกายเลยครับ. . แต่งานนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากสำหรับผมครับ นี้ขนาดผม เปิดปากถาม แต่ละคนแล้วนะ ยังไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไรให้ผมฟังซักอย่าง. . . อาจเป็นเพราะ สองคนนี้ยังนั่งอยู่ด้วยกันเลยไม่กล้าที่จะพูดเรื่อง แต่ละคนก็เป็นได้ ผมเลย เดินไปบอกให้ไอกายเดินออกจากห้องไปก่อน. . สีหน้าของผมตอนนั้นจริงจังมาก ไอกายเลยไม่กล้าขัดขืนและยอมเดินออกไปโดยว่าง่ายครับ. .. แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้เป๊ะ. . ครับ พี่ริวยอมเปิดปากคุยกับผมแล้ว ผมเลยเปิดประเด็นถาม เรื่องที่ทั้งสองคน ผิดใจต่อกัน . . เริ่มด้วยคำถามนี้เลยแล้วกัน. .


“พี่ ริว มีเรื่องอะไร ไม่ดีต่อกายมันรึเปล่าครับ ?”ตอนนี้ผมจริงจังกับเรื่องนี้มากแต่ไม่ใช่เพราะ หน้าที่ที่ผมได้รับจากอาม่ามาหรอกครับ แต่เป็นเพราะผมอยากรู้เองว่า เรื่องที่สองคนบาดหมางกันมันคือเรื่องอะไรกันแน่. .

“กาย เคยเป็นรุ่นน้องสมัยมัธยมของพี่ ช่วงนั้นพี่กับกายสนิทกัน มาก เหมือนพวกพี่น้องคู่อื่นๆ เลย ช่วงนั้นมันกายมันติดพี่ชนิดที่ว่า มีสาวมาจีบมันยัง มันยังต้องพาพี่ไปนั่งฟังมันคุยกันด้วยเลย . . จนมีอยู่ช่วงนึง ที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะต้องใช้เวลาในการสอบเข้ามหาลัย พี่เลยไม่ค่อยได้เจอหน้า มัน ที่แรกพี่ก็คิดว่ามันจะโกรธพี่ ที่ช่วงนั้นพี่เอาแต่หลบหน้ามัน แต่เปล่าเลย พอพี่เลิกเรียน พี่ก็ไปนั่งรอมันที่โต๊ะหินอ่อนเหมือนทุกวัน จนวันนึงกายมันก็เดินมาที่โต๊ะแต่มันไม่ได้มาแค่คนเดียวนะมันยังควงผู้หญิง คนนึงมาด้วย. . .


“ชื่อนิ้งรึเปล่าครับ”

“ใช่เจรู้จัก นิ้งด้วยเหรอ”พี่ริวดูตกใจกับคำถามของผมไม่ใช่น้อย แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรพี่แกกลับไป เลย ต้งใจฟังเรื่อง ที่พี่ริวจะเล่าให้ฟังต่อ

“กายมันรักผู้หญิงคนนั้นมาก ถึงขั้น พากันมาให้ที่บ้านรู้จัก. . ตอนนั้นพี่ก็สบายใจแล้วไง ที่มันมีคนอื่นคอยดูแลมันแทนพี่แล้ว แต่ในทางกับกัน ผู้หญิงที่ชื่อนิ้งคนนั้น กับหักหลังไอกาย. . นิ้งเดิน มาขอเบอร์พี่ถึงที่ห้อง ทั้งๆ ที่ ตอนนั้น เพื่อนๆพี่ก็ยังอยู่เต็มห้องไปหมด . . แต่พี่ก็ไม่ได้ให้เบอร์นิ้งไปหรอกนะ . . คงจะเป็นเพื่อนๆ พี่มากกว่าที่เป็นคนให้เบอร์พี่กับนิ้งไป. . จนช่วงนั้นก็มีข่าวว่าพี่กับนิ้งเราสองคนคบกัน. . ดังไปทั่วโรงเรียน จนกาย เริ่มมองพี่ไปในทางที่ไม่ดี  พี่เลยคิดหาวิธีที่จะปรับความเข้าใจและเล่าความจริงทั้งหมดให้มันฟัง. . จนวันเกิดเหตุวันนั้น พี่นัด กันไปพูดคุยเรื่องของนิ้งที่คอนโด ของกาย วันนั้นนิ้งเมาหนักมาก เมาจนไม่ได้สติ อยู่ๆ นิ้งก็เข้ามากอดมาหอมพี่ แล้วก็เป็นจังหว่ะเดียวกับที่กายเดินเข้ามา พอดี . . กายมันคงคิดว่า พี่หักหลังมัน . . .วันนั้นพี่กับกายเลยมีเรื่องกัน แล้วตั้งแต่นั้นมากายกับพี่เรา ต่างคนต่างก็ไม่ยอมพูดคุยด้วยกันเลย แต่ไม่ใช่ว่าพี่จะไม่พยายามอธิบายนะ พี่พยายามหาทุกวิถีทางที่จะบอกความจริงกับกายมันแล้ว แต่มันไม่เคยเปิดโอกาส ให้พี่ได้พูดอะไรบ้างเลย. . . เรื่องทั้ง หมดมันก็เลย เป็นอย่างที่เจเห็น ในปัจจุบันนี้แหละ. . ”. . สิ้นเสียงของพี่ริว ผมถึงกับ อึ้ง กับอดีตของสองคนนี้เอามากๆ ผมไม่เคยคิดเลย . . ว่า พี่ริวกับไอกายจะเคยมีเรื่องบาดหมางถึงขั้นตัดพี่ตัดน้องกันขนาดนี้ . . .และผมก็พอจะรู้สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สองคนนี้บาดหมางกันแล้วครับ . .  ซึ่ง ต้นเหตุก็คือ ยัยนิ้ง. . คนนี้คนเดียวเลยละครับ หลังจากที่ผมพูดคุยอะไรกับพี่ริวเสร็จ รายต่อไปก็เป็นไอกายบ้างครับ ผมขอให้พี่ริวไปรอผมข้างนอกก่อน พี่ริวก็ทำตามคำขอของผมโดยว่าง่ายครับ จังหว่ะที่พี่ริวเดินออกไป ผมก็แอบๆ เห็น สองคนนั้น มองกันตาขวางอยู่เลย . . แต่ไม่ว่ายังไง วันนี้ผมต้องทำให้สองคนนี้ปรับความเข้าใจกันให้ได้. .  ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไรก็ตาม. . .

กายเดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมก่อนจะเป็นคนเอ่ยปากถามผม ถึงเรื่องที่คุยกับพี่ริวเมื่อคูร่ . . . แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมันกลับไป ผมรีบตั้งคำถามสวนกับไอกายมันเลยทันที . . .

“มึงกับพี่ริว มีเรื่องอะไรที่ กูยังไม่รู้รึเปล่า” สีหน้าของไอกายดูนิ่งไปมากครับเวลาที่ผมพูดถึงชื่อของพี่ริว . .ถึงผมจะรู้ว่ามันเหมือนจะเป็นการตอกย้ำบาดแผลในอดีตของมันกับพี่ริว แต่จะทำยังไงได้ละครับ ขืนผมไม่ยอมพูดทั้งสองคนนี้ คงไม่มีโอกาศที่จะปรับความเข้าใจกันได้แน่ๆ  ผมเลยต้อง ยอมจำใจทนเห็นมัน ทำหน้าง๋อย แล้วถามมันต่อไป ซึ่งกายมันก็ยอมพูดความจริงกับผมแต่โดยดีครับ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [19]〖01-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 01-05-2016 16:07:25
“กูกับพี่ริว เราสองคนเคยเป็นพี่น้องกัน”เป็นครั้งแรกครับที่ผมได้ยินมันเรียก ‘พี่ริว’

“เมื่อก่อนกูกับพี่ริวเราสนิทกันมาก จนอยู่มาวันนึง กูไปหลงรักผู้หญิงคนนึง ซึ่งคนนั้นก็คือ. . ”

“นิ้ง กูรู้จากพี่ริวมาบ้างแล้ว มึงเล่าต่อเถอะ”. .

“เออ พอกูกับนิ้งคบกัน ได้สักพักนึง ก็มีข่าวที่โรงเรียน ว่าพี่ริว กับนิ้ง กำลังคบกันอยู่. . ตอนนั้น กูตื้อไปหมด กูไม่อยากเชื่อ กับสิ่งที่กูได้ยิน เพราะกูรู้ดีว่าพี่ริวเป็นคนยังไง . .  กูรู้ว่ายังไงพี่ริวเขาคงไม่กล้าหักหลังของกูแน่ วันนั้น พี่ริวเลยโทรมาบอกกูว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดระหว่างพี่ริวกับนิ้งให้กูฟัง. . แต่พอกูไปถึงห้องเท่านั้น แหละ. . กูเห็นพี่ริว กับนิ้งกำลังนอนอยู่ด้วยกัน. . .กูตกใจกับสิ่งที่กูเห็นมาก กูพยายามบอกกับตัวเองว่า ผู้ชายที่นอนกอดกับนิ้งอยู่ที่เตียงของกูในตอนนั้น ต้องไม่ใช่พี่ริว . . .เพราะถ้าเป็นพี่ริวจริงๆ ละก็ เขาต้องไม่มีทางทำแบบนั้นกับกูแน่ . . แต่กูกลับคิดผิดเพราะผู้ชายที่นอนอยู่กับนิ้งในคืนนั้น คือ พี่ริวจริงๆ . . กูเสียใจมากที่พี่ริวทำกับกูอย่างนั้น จนเกิดมีปากเสียงกัน ตั้งแต่นั้นมา กูเลย บอกกับตัวเองว่า กูจะไม่เชื่อใจใครอีก  เพราะกูกลัว กลัวการหักหลังมากที่สุด มันฝังใจกู จนกูกลัวทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด กูกลัวผู้คนที่เข้ามาในชีวิต เพราะกูไม่รู้ไง ว่าคนที่เขามา เขาจะจริงจังมากน้อยกับกูแค่ไหน  . ..  จนกูได้มาเจอกับมึง เจ . . . มึงทำให้กูรู้ว่า คนที่คอยห่วงและจริงจังกับทุกเรื่องที่ทำกับกู ยังมีอยู่บนโลกใบนี้ ถึงครั้งแรกที่กูกับมึง เจอกัน มันจะไม่ค่อยดี นัก แต่มันก็ได้พิสูท อะไรได้หลายๆ อย่าง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มึงจริงใจกับกูมาก น้อย แค่ไหน . . ส่วนทุกอย่างมันก็มีเท่านี้แหละ ”จบคำพูดของไอกายผมถึงกับตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกเลยครับ ใจของผมเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผม ทั้งดีใจและรู้สึกเห็นใจไอกายในเวลาเดียวกัน ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่า เรื่องราวครั้งนั้น จะทำให้มันฝังใจ มาจนถึงทุกวันนี้. . จนทำให้ไอกายมันหวาดกลัว ผู้คนได้ถึงขนาดนี้. .ยิ่งได้เห็นมันทำหน้าเหมือนจะร้องไห ในตอนที่มันเล่าให้ผมฟัง ผมยิ่งเจ็บจนอยากจะเข้าไปกอดปลอบมันตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ผมต้องแข็งใจ ที่จะไม่ทำ แล้วรีบเดินออกไปตามพี่ริวให้เข้ามาในห้องแทน. . . ผมกลับพาพี่ริวเข้ามานั่งข้างๆ ไอกายอีกครั้ง แต่ที่แปลกไปคือคราวนี้มีผมนั่งฟังทั้งสองคนรอยู่ด้วย ขืนปล่อยให้อยู่กันสองคนต่อ สิ่งที่ผม ทำไว้เมื่อครู่ก็คงพังลงหมดทุกอย่างแน่ๆ . . . ตอนนี้ทั้งสองคนหันมาจ้องหน้าผมเหมือนกำลังลุ้น ว่าผมกำลังจะพูดอะไรต่อไป. . .




“ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าพี่ริวกับกายจะมีอดีตที่ไม่ดีต่อกันยังไง แต่วันนี้และตอนนี้ ที่ผมมานั่งอยู่ที่นี้ ผมอยากให้พี่ริวกับกายลองเปิดใจคุยกันเกี่ยวกับเรื่องในอดีตอีกครั้ง. . .”ถึงผมจะรู้อยู่แล้วว่า กายมันจะต้องเจ็บปวดแค่ไหน เวลาที่ต้องพูดถึงเรื่องในอดีต . .. แต่ผมไม่อยากที่จะเห็นกายมันเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับเรื่องของพี่ริวอีกแล้ว . . .เลยต้องยอมทนเห็นมันเจ็บต่อไป. . .


“พี่ริวครับ พี่ริวช่วยพูดความจริงที่พี่พึ่งจะเล่าให้ผมฟังเมื่อกี้อีกซักทีสิครับ. .”พี่ริวทำท่าอึ้งๆ แต่ก็ยอมเล่าออกมาแต่โดยดีครับ

“วันนั้นที่พี่โทรบอกกับกาย ว่ามีเรื่องจะบอก . . ก็คือ เรื่องของพี่กับนิ้ง  พี่อยากจะบอกกับกายว่าระหว่างพี่กับนิ้งเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียว พี่ไม่ได้คิดอะไรกับนิ้งเกินพี่น้องจริงๆ แล้วความจริงที่พี่อยากจะบอกกับกายก็คือ. . นิ้ง เป็นคนที่หักหลัง กายไม่ใช่ พี่ นิ้งเดินเข้ามาขอเบอร์พี่ที่ห้อง จนเพื่อนๆ ในห้องคิดว่าพี่คบกับนิ้งจริงจังไปแล้ว ส่วนวันนั้นที่กาย เห็น เป็นเพราะนิ้ง เมามาก  เลยทำตัวแบบนั้นออกไป . . พี่ไม่ได้รู้เห็นเรื่องอะไรด้วยเลย ระยะเวลา 4ปี ที่กายกับพี่รู้จักกันมาก็น่าจะบอกกับกาย ได้ ว่าพี่ . . .ไม่เคยโกหกกายเลยแม่แต่ครั้งเดียว พี่ไม่รู้นะ ว่ากายจะเชื่อในสิ่งที่พี่พูดไหม แต่พี่ ได้พูดความจริงออกไปทั้งหมดแล้ว . . .ส่วนจะเชื่อรึไม่เชื่อนั้น กายต้องเป็นคนตัดสินใจเอาเอง ”ผมแอบเห็นกายนั่งก้มหน้า. . .แถมมันยังร้องไหอีกต่างหาก ผมไม่ชอบเลย . . แล้วนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ผมได้เห็นน้ำตาของมัน ตอนนี้ผมเดาทางไม่ถูกเลย ว่ากายมันจะพูดยังไงต่อไปกันแน่ . . แต่อยู่ๆ กายมันก็เงยหน้า ขึ้นเช็คน้ำตาของมันด้วยแขนเสื้อของตัวเองก่อนจะหัน ไปมอง หน้า กับพี่ริว ที่นั่งอยู่ข้างๆ กับมัน . .


“พี่ริว”คือคำแรกที่มันพูดต่อหน้าพี่แกครับ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ยินมันพูดคำว่าพี่ต่อหน้าของพี่ริว. .พี่แกก็ดูตกใจไม่ใช่น้อยครับ ที่ได้ยินไอกายมันพูด.. . คำว่าพี่ออกมา. .

“ผม . . . .ขอโทษ. . ที่เข้าใจพี่ผิด. .. คือ..ผม. . ..ฮึกๆ”น้ำตาที่ไหลออกมาทำให้ผมรับรู้ได้ถึง. . ความเสียใจที่หลังไหลออกมาพร้อมๆ กัน. .กายมันคงจะรู้สึกผิดไม่ใช่น้อย. . แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนในการที่จะพูดคำขอโทดออกมา. . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [19]〖01-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 01-05-2016 16:10:52
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว กาย. . พี่เข้าใจว่ากายรู้สึกยังไง ถ้าเป็นพี่อยู่ในสถานการณ์แบบนั้น พี่ก็คงรู้สึกไม่ต่างจากกายในตอนนี้เลย เพราะฉะนั้น เราเลิกโกรธ กัน แล้วกับมาเป็นพี่น้อง ในแบบที่เราเคยเป็นกันดีกว่านะ ^ ^”พี่ริวพูดพร้อมกับดึงไอกายเข้าไปกอดด้วยรอยยิ้ม.  . อยู่ๆ ผมก็เผลอน้ำตาร่วงร้องไหออกมาตามๆ กัน . . คงเพราะจะอินกับความรักของสองพี่น้องคู่นี้มากไปหน่อย . . .บ่อน้ำตาของผมเลยมันหลั่งไหลออกมาไม่ยอมหยุด. . ผมพยายามสูดน้ำมูกกลับไปให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้. . เพราะไม่อยากให้เสียงนี้ไปขัดจังหว่ะดีๆ ของสองพี่น้องเขาคุยกัน และระหว่างที่สอง พี่น้องกำลังทำหนังซึ่งกันอยู่ ผมก็แอบเดินออกมาเงียบๆ โดยที่สองคนนั้นไม่ทันรู้ตัวเลยละครับ

พอผมเดินออกมาจากห้องได้ก็ปล่อยโฮเต็มที่เลยครับ. . ไม่รู้ว่าซึ่ง เสีย ใจ หรือเพราะดีใจกันแน่ ที่ผมสามารถทำให้สองคนนี้กลับมาคืนดีกันได้ ผมเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปก็ร้องไหไป แล้วก็บังเอิญเป็นจังหว่ะเดียวกับ อาม่ากับพี่อินเดิน ออกมาด้วยกันพอดี ผมเลยรีบเดินหันหลังแล้วเดินกลับทันที. . . แต่คงเพราะเมื่อครู่นี้ ไม่พี่อินหรืออาม่าอาจจะเห็นว่าผมกำลังร้องไหอยู่ ทั้งสองคนเลยเดินมาแนบกับผมทั้งคู่ก่อนจะจับไหล่ให้ผมหันหน้าไปสบตากับเขา . . . ฟุบ! อยู่ผมก็เกิดอยากกอดสองคนนี้ขึ้นมาเลยเผลอกอดไปโดยไม่ทันรู้ตัว . . . ระหว่างที่กอดผมรับรู้ได้ถึงไออุ่นหลายอย่างที่ ผมเคยได้รับมาจากไอกายบ้างแล้ว . . แต่คราวนี้มันไม่เหมือนกัน . . คงเป็นเพราะเป็นอ้อมอก ของคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า มันเลยทำให้ผม รู้สึกดี ขึ้นมากๆ จนเผลอพลั้งปากพูดอะไรออกไปโดยไม่ทั้นตั้งตัว. . .

“ผมทำสำเร็จแล้ว ผมทำสำเร็จแล้ว ฮึกๆ ผมทำให้เขาสองคน กลับมาคืนดีกันได้แล้ว. . พี่อินกับอาม่าได้ยินผมไหม ผมทำได้แล้ว. . ”และแล้วน้ำตาของความตื้นตันที่มีอยู่มากมายก็พรั่งพรู่ไหลออกมาไม่หยุดเลยครับ . . .อาม่ากับพี่อินต่างก็ลูบหัวลูบหลังผม เหมือนกำลังจะบอก ว่า   .. . ผมทำได้ดีแล้ว. . ผมรับรู้และรู้สึกได้ จากแรงสัมพัส จากมือของทั้งสองคน. .. ผมรีบเช็ดน้ำตาทั้งสองข้างด้วยเสื้อของพี่อินข้างนึง และของอาม่าอีกข้างนึง . . .แต่พี่อินแกก็ไม่ได้ว่าอะไรผมกลับมาทั้งๆ ที่เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อตัวโปรดที่พี่อินแกหวงเอามากๆ . . พี่อินได้แต่กอดผมให้กระชับแน่นยิ่งขึ้น ส่วนอาม่า ก็ยังคงลูบหัวผมแบนั้นต่อไปสักพักนึง จนผมเริ่มรู้สึกว่า น้ำตาของผมได้หยุดไหล หมดแล้ว จึงถอนหน้าของตัวเองออกมาจากบ่าของทั้งสองคน  และเดินยิ้ม พา อาม่ากับพี่อินไปดูผลงานที่ผมได้ทำเอาไว้ . . ครับ  พอมาถึง พี่อินก็ดูตกใจไม่ใช่น้อยที่เห็นไอกายกำลังนั่งกอดพี่ริวอยู่ ส่วนคนที่ดูท่าจะตกใจมากจนถึงกับต้องเอามาป้องไว้ที่ปากเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาก็คืออาม่าครับ แกคงคิดว่าจะไม่ได้เห็นหลานชายตัวเอง คืนดีกับ น้องรักของเขาซะแล้ว [อ่อลืมบอกไปอย่างครับ ไอกายกับอาม่ารู้จักกันมาก่อนผมอีกครับและดูเหมือนอาม่าก็คงจะรู้เรื่องระหว่างไอกายกับพี่ริวแกด้วย ถึงขั้น ซึ้งน้ำตาไหลซะขนาดนั้น]นับว่าวันนี้  เป็นวันที่ดีที่สุดของผมเลยก็ว่าได้ครับ ได้เห็นคนที่ผมรักทั้ง สอคนกลับมาคืนดีกัน . . แค่นี้ ผมก็นอนตายตาหลับแล้วละครับ [แต่...ยังๆสิ ผมต้องยังไม่ตาย จนกว่าจะได้ . . เอ่อๆๆ.  ไว้เฉลยตอนต่อๆ ไปละกันครับ อิอิ]

หลังจากที่ยืน สะอื้นเช็ดน้ำตากันอยู่พักนึง สองพี่น้องที่สุดแสน จะเป็นที่รักของผม ก็เดินออกมา จากห้องครับ ทั้ง สองเดินออกมาด้วยรอยยิ้มแถมเอามือเกาะไหล่กันออกมาอักต่างหาก. .  ถึงจะเป็นพี่น้อง กัน . . .แต่ผม ก็รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้แหะ เหอะๆ [คิดมากไปรึเปล่าเนี้ยไอเจเอ้ยย] !! จากนั้น สองคนพี่น้องก็เดินเข้ามากอด ผมไม่สิต้องเรียกว่ากระโจนเข้ามากอดเพราะผมยังไม่ทันตั้งตัวอะไรเลย โชคดีหน่อยที่มีโซฟาข้างหลังรับน้ำหนังของผมเอาไว้ ไม่งั้นมีหวัง. . . ล้มคว้ำแน่ๆ ครับ ทั้งสอง คนไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่ส่งสายตายิ้มๆให้กันส่วนผม หน่ะหรอ กอดไปเอ๋อแดกไปครับ ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะเปิดประเด็นพูดอะไรดี. . . รู้แต่ว่าตอนนี้สีหน้าของทั้งสอง คน มีแต่ความสุขที่มั่นเอ่อล้นออกมาจนผมสามารถรับรู้ได้จากสายตาคู่นั้น . . .. ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อดี .  .เลยได้แต่พูดกับตัวเองในใจ ว่า . . . สำเร็จแล้วนะ . . เจ . . .



หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ดราม่ามาได้ซักครู่.  . . ผมก็รีบเดินขึ้นไปบนห้อง กะว่าวันนี้ จะอัพกระทู้ อะไรซักหน่อย . . แต่ตอนนี้เริ่ม รู้สึกเหนียวตัวแล้ว ครับ ขอตัวไปอาบน้ำให้สดชื่นหน่อยละกัน [อ่อส่วนไอกายบอกกับผมว่าวันนี้มันจะไปนอนกับพี่ริวที่บ้านอาม่าครับ ผมเองก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรเพราะอยากให้สองคนนี้ปรับความเข้าใจกันอยู่ด้วย เลยปล่อยให้มันไปตามยถากรรมของมันครับ. .รวมถึงพี่อินด้วยนะ ]. .. คึกๆ  พออาบน้ำเสร็จผมก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อน จะรีบลงไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อหยิบ I Pad ที่ชาตแบตอยู่ที่โต๊ะครับ. . .[พอดีเน็ตข้างบนห้องผมมันล่มหน่ะไม่รู้ไอวินมันไปทำอะไรของมัน] ก็เลยต้องลำบากเดินมาเล่นไวไฟข้างล่างเนี้ย เห้อ !! สร้าง แต่ปัญหาจริงๆ นะมึง. .

เอาละวันนี้ .  . จะตั้งกระทู้เกี่ยวกับอะไรดี . . .น้า อ่า ไหนๆ วันนี้ ก็เคลียกันเกี่ยวกับเรื่องอดีตแล้ว. . ก็ตั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยละกัน
“เคยมีอดีตที่ปัจจุบันยังไม่ได้เคลียรปัญหากันบ้างไหม?[ช่วยแชร์ประสบการณ์กันโหน่ย]”ตื๊ด !! ผ่านไปสามนาที เริ่มมีความเห็นโผล่มาบ้างแล้วครับ. . .

AnGlelaJung:เคยค่ะ ตอนนั้น จำได้ว่าตัวเองทำเลาะกับแฟน. . เรื่อง ใบมะกรูดกับใบมะนาวคะ. .

[เอ่อรายนี้ผมว่าอาการค่อนข้างหนักขอผ่านไปเลยก็แล้วกัน. . . . ชะแวปปปป !]  อีกซักพักก็เริ่มมีความเห็นต่อมาเรื่อยๆ เลยครับ

MiHaRu:เคยค่ะ ตอนนั้น หนูแอบชอบ พี่ คนนึงอยู่ สมัยมัธยม หนูแอบชอบพี่เขามา 4ปี ค่ะ แต่พอมาวันที่พวกพี่เขาเรียนจบ กัน

หนูไปบอกสารภาพกับพี่เขา  . . .แต่สิ่งที่หนูได้กลับ มาคือการ ปฏิเสธค่ะ . . .เพราะพี่เขาเป็นเกย์ เกือบโดนแฟน เขาที่เดินมาด้วยต่อย เอาค่ะ ดีนะ ที่หนูพลิ้วก็เลยหลบมาได้อ่ะ ค่ะ 555555

[เอิ่มผมแอบตกใจกับ คอมเม้นนี้ไม่ใช่น้อย. . .อาจจะเป็นเพราะประโยคหลังก็เป็นได้ๆ เพราะแรกๆ ที่อ่านมาผมคิดว่าเธอคนนี้จะมีหวังซะอีก แต่ที่ไหนได้ โดน หักมุมซะงั้นไป ฮ่าๆ]

ผม:ความรักมันก็มีหลายรูปแบบอย่างนี้แหละครับ พี่ว่าน้องควรทำใจ และไปหาใหม่ซะ เอาให้หล่อกว่าคนเก่าเลย. .

MiHaRu:หนูก็อยากทำอย่างที่พี่บอกนะค่ะ แต่ยุคพ.ศนี้ ผู้ชายแท้ๆ หากินยากเหลือเกิน ตอนนี้คานของหนูสูงเท่ากับตึกใบหยก
แล้วค่ะพี่ขา ฮ่าๆ [T-T]  . . สงสัยเธอจะหัวเราะประชดชีวิตเธอละมั้งผมว่านะ หึหึ  และแล้วก็มีคอมเม้นต่อมาครับ

ก้องเจ้าพิภพวิ่งฝุ่นตะหลบแล้วคลุกนอนคุกอีกสามที: [สาบานครับว่านี้ชื่อ = = ‘อะไรดลใจให้ใช่ชื่อนี้กันละนี้] ผมขอย่อๆ เป็นก้องเฉยๆ ก็แล้วกัน

ก้อง:เคยครับเฮี่ย คือตอนนั้น ผมกับแฟน เราต่างคนต่างความคิดครับ ผมอยากไปเที่ยวทะเล แต่แฟนผมอยากไปน้ำตกเราเลย
ยืนเถียงกันพักนึง จนผมต้องเป็นฝ่ายยอมพาเธอไปน้ำตก แต่พอไปถึงเธอกับเปลี่ยนใจเพราะตอนนี้เธออยากไปทะเลแทนผมเลย ยืนเถียงกับเธอจนถึงตอนดึกจนป่านนี้ ผมก็ยังไม่รู้เลยครับ ว่าควรจะไปน้ำตกหรือทะเลดี ?

[ผมถึงกับนั่งกุมขมับกับคอมเม้นนี้เลยไม่รู้ว่าตัวเอง ตัวเองโง่หรือคนโพส สติไม่ดีกันแน่. . .หึหึ !]

ผม: จะทะเลหรือน้ำตกก็ดีทั้งคู่นั้นแหละครับ อยู่ที่ว่า แฟนของคุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน. . .

ก้อง:งั้นผมขอไปน้ำตกละกันครับ ส่วนเธอเดี๋ยวผมจะไปปล่อยไว้ที่ทะเล น่าจะดีกว่าเน้อแอดเน้อ [เออตามใจมึงเถอะครับ = =’] คอมเม้นหลังมาๆ ผมรู้สึกว่าเริ่มหาสาระไม่ได้เลย ถ้าไม่บังเอิญไปเจอคอมเม้นของใครคนนึงที่พึ่งเด้งเข้ามาละก็ ผมกะจะลบโพสออกเลยนะ ซึ่งคอมเม้น ที่ผมรอก็มาแล้วครับ บ

Smile Alone:  ผมเคยครับ ตอนนั้นสมัยมัธยมผมกับพี่ชายเราเคยมีเรื่องกันเหตุเกิดเพราะผู้หญิงคนเดียวกัน ซึ่งคนๆ นั้น เธอเข้ามาปั่นหัวผมและพี่ชายให้แตกคอไม่มองหน้ากัน มา 5 ปี แต่มาวันนี้ ผมกับพี่ชายเราได้ปรับความเข้าใจกันแล้วละครับ

 [เอ จากที่ผมฟังดูแล้วเรื่องมันคับคล้ายคับคาเหมือนพึ่งเกิดขึ้นกับผมยังไงไม่รู้แหะ. .  ผมจึงตั้งคอมเม้นตอบกลับไปว่า]

ผม:แหม่อย่างนี้ คงมีผู้ช่วยที่ดีแน่เลยสิครับ ถึงปรับความเข้าใจกันได้เนี้ย. .

Smile Alone: แน่นอนสิครับ นี้ถ้าไม่ได้แฟนผม เขามาช่วยพูดให้นะป่านนี้ พี่ กับผม คงไม่ได้คุยกันเหมือนตอนนี้หรอกครับ . . . จบประโยคผมเริ่มรู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ แล้วละครับ เพราะทุกเรื่อง ที่ Smile Alone พูดมา เหมือนกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นกับผมเมื่อกี้ทุกอย่างเลย ผมเลยเขียนคอมเม้น สุดท้ายกับไปว่า. . .

ผม: กาย ! 10 วินาทีมีคอมเม้นกลับมาครับ. . .

Smile Alone:แอดรู้ชื่อผมได้ยังไงครับ ?. . . . . เพียงเท่านั้นแหละครับผมรีบล็อคเอาท์ออกจากระบบอย่างด่วนเลย. . . สรุป คือคนที่ผมแอบชอบมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้าคือไอกายงั้นหรอ. . .ผมเริ่มชอบมันตั้งแต่ที่ผมเข้ามาเล่นกระทู้ในช่วงแรกๆ ซึ่งผมใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการ ค้นหาตัวตนของคนๆนี้ แต่หาเท่าไหร่ผมก็หาไม่เจอ เพราะชื่อ ที่มันใช้ตั้งในทุกอย่างๆ ล้วนเป็นแค่นามสุมุติขึ้นมาเท่านั้น. . . จนวันนี้ ผมถึงได้รู้ความจริงๆ ว่าคนที่ผมคุยด้วย มาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นคนที่อยู่ใกล้กับตัวผมมากทีสุด ซึ่งคนๆ นั้นก็คือ. . . กาย

ผมรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องเพื่อคว้าโทรศัพท์ก่อนจะรีบกดเบอร์ไปที่เครื่องของผม[ที่อยู่กับไอกาย] . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [19]〖01-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 01-05-2016 16:12:16
“ฮัลโหล คร้าบ”น้ำเสียงของมีนดูมีความสุขมากครับ ไม่ต่างจากผมในตอนนี้เลยจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงไม่ยอมพูดถึงเรื่อง กระทู้ เมื้อกี้กับมันไป. .

“ทำอะไรอยู่ !”

“กำลังรอพี่ริวอาบน้ำอยู่ ทำไมครับ คิดถึงกูหรอ ให้กูไปหาไหม?”ตอนนี้คือผมต่างหากครับที่อยากจะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปกระโดดกอดมัน ให้หน้าทิ่มไปเลย ขอหาที่ปิดบังเรื่องนี้กับผมมาได้ตั้งนาน [ประเด็นมันอยู่ที่ว่าผมไม่เคยถามมันซักทีไงก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นใคร. .แถมยังไม่รู่ด้วยว่ามันแอบเล่นกระทู้เหมือนชาวบ้านเขาด้วย ]

“เชิญอยู่ย้อนรอยความหลังกับพี่ชายมึงไปเถอะครับ กูไม่ขัดจังหว่ะหรอก. .แล้วพี่อินอยู่นั้นเป็นไงบ้างวะ”

“อ่อเห็นพี่อินช่วยอาม่านั้งนับเงินอยู่ข้างล่างหน่ะ เห็น นั่งกันตั้งนานแล้วไม่ยอมขึ้นมาบนบ้านซะที. . สงสัยกำลังคุยถึงเรื่องของกูกับพี่ริวแน่เลยวะ”จะว่าไปพอผมได้ยินมันพูด พี่ริวๆผมก็อดยิ้มตามไม่ได้เลยครับ

“เออดีๆไม่มีใครอยู่บ้าน กูจะได้เปิดหนังโป๊ให้เสียงดังลั่นบ้านไปเลยหึหึ”จริงๆ ผมไม่ได้กะจะเปิดดูหรอกครับ กะจะนั่งเล่น เฟสบุ๊คอีกพักนึงค่ยขึ้นไปนอนครับ แต่คำตอบของไอไอกายทำเอาผมสตันไป สามสิบปแปดจุดเก้าหกวินาที. . .

“ดูแต่หนังไม่อยากลองของจริงบ้างหรอ !กูจัดให้ได้นะ. . ”มันจะรู้ไหมว่าที่ผมพึ่งจะพูดไปหน่ะ ผมแค่ล้อเล่น แต่ไหนๆ มันก็อ่อยผมขนาดนี้แล้วก็ลองแกล้งๆ อ่อยมันกลับหน่อยละกัน ฮ่าๆ ถึงจะแอบคิดจริง. .ก็เถอะ. .  กรั่กๆ

“อย่าดีแต่ปาก มาเถอะครับกูพร้อมทุกสถานการณ์.ฮ่าๆ . ”ก๊ากๆ นี้ผมเผลอ พูดเล่นอะไรกับมันไปวะเนี้ย. . .เกิดมันคิดจริงขึ้นมาทำไง. . .

“อย่าหนีก็แล้วกัน”ตื๊ด!! อยู่ไอกายมันก็วางสายของผมไปครับ. . ไม่รู้มันอึนอะไรของมันนี้กะจะบอกฝันดีซะหน่อย เห้อ พลาดแล้วน้องกายเอ้ยย
ผมใช้เวลานั่งออนเฟสบุ๊ค อีกสักพักนึงลองเลื่อนดูๆ สถานะของคนอื่นๆ ก็ดันไปสะดุดเข้า กับสถานะของไอวินครับ. . .

“เงี้ยนจุงอยากได้อยากโดน. . ”เออผมไม่คิดเลยนะว่าเพื่อนผมมันจะลามกออกสื่อได้ถึง. ขนาดนี้.สงสัยจะโดนเพื่อนของมันแกล้งละมั้ง .ผม เลยคอมเม้นตอบมันกลับไปว่า  .. 

“นี้มึงอยากถึงขั้นมาออกสื่อเลยหรอวะ @พิมประกายดาว”พิมคือเด็กคนปัจจุบันของมันครับ หึหึ ! แกล้งกูไว้เยอะดีนักคราวนี้เขอกูเอาคืนหน่อยก็แล้วกัน  สาแก่ใจอิช้อยยิ่งนักๆ 5 5 5
จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นต่อผมก็ไม่ได้สนใจแล้วละครับถือว่าภารกิจภายในวันนี้ ลุล่วงไปด้วยดีละค๊าฟ.. 55
หลังจากทำวีรกรรมอันชั่วร้ายเสร็จผมก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องเลย วันนี้ผมรู้สึกดีเป็นพิเศษ ที่ตัวเองสามารถ ทำให้สองพี่น้องกลับมาคุยกันได้อีกครั้ง แถมยังแอบสะใจที่ได้แก้แค้นไอวินอีกด้วย. .  .นับว่าเป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆ เลยละครับ  แต่ในระหว่างที่ผมกำลังจะหลับตานอนอยู่ๆ ก็มีเสียงคนเคาะประตู จากด้านนอกดังเข้ามา. .  ที่แรกก็แอบแปลกใจเล็กๆ ดึกขนาดนี้ใครจะมาเคราะประตู แต่ลองคิดๆดูใหม่ ผมไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวนี้นาผมยังอยู่กับ ยัยเอิร์นอีกทั้งคน. . ก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร ก่อนจะลุกเดิน ไปเปิดประตู. . . ผ่าง ผ๊าง . . .  สิ่งที่ผมเห็นสิ่งแรกตอนที่เปิดประตูออกมาคือ. . . บักกายครับ . . .อ้าวมันโผล่มาได้ยังไงละนี้ เมื่อกี้ยังบอกอยู่บ้านพี่ริวอยู่เลย. . .ผมเลยเปิดประเด็นถามมันออกไป

“มาทำอะไรวะดึกดื่นๆ อย่าบอกว่ามึงหนีพี่ชายมาหากูเนี้ย ฮ่าๆ กลับไปได้แล้วไปมึงกูจะเปิดหนังโป๊ดูคนเดียวไปๆชิ้วๆ” ผมยืนขำใส่หน้ามันก่อนจะค่อยๆ ปิดประตูเข้ามาดังเดิม ถ้าหากไม่มีมือของมันมาดันประตูไว้ซะก่อนนะ. . .

“กูไม่ได้ดีแต่ปากนะอย่างอื่นกูก็ดีด้วย. . .หึหึ”รอยยิ้มเลวๆที่มุมปาก. . ของ มันหมายความว่ายังไงกัน นะ?

“นี้มึงกำลังหมายความว่าอะไรไหนลองแกล้งๆ แปลให้กูฟังหน่อยสิ. . ”ผมยังไม่ค่อยเก็ทกับมุขของมันเท่าไหร่เลยถามมันกลับไป

“แล้วเมื่อกี้มึงท้าอะไรกับกูไว้ละ. . ” ท้าหรอ ผมไปถ้าอะไรไอกายตั้งแต่ตอนไหนกัน. . .เอิ่มๆ ระหว่างที่ผมเริ่มคิดๆก็เกิดมีภาพลางๆ ขึ้นมาในหัวครับ “อย่าดีแต่ปาก มาเถอะครับกูพร้อมทุกสถานการณ์” ชิบหายละอย่าบอกนะว่าที่มันมาเพราะมันจะ. . .. ไม่นะไม่จริง. . ผมจึงแกล้งเล่นละครความจำเสื่อมใส่มันไปครับ. . .

“เอ่อกูจำไมได้หน่ะ มึงก็รีบๆ กลับไปหาพี่ชายมึงเถอะนะๆ เผื่อพี่เขาอาจจะกำลังบ่นคิดถึงมึงอยู่ก็ได้. . หึหึ”ตอนนี้ผมยิ้มต่อไม่ออกแล้วครับ เพราะเริ่มไม่มั่นใจว่าตอนนี้ในใจของไอกายมันคิดอะไรอยู่กันแน่ มันคงไม่ได้คิดจริงจังกับเรื่องที่ผมพูดไปเมื่อกี้หรอกใช่ไหม . . .หึหึ !! . ไอกายมันเริ่มวีกรรมของมันด้วยการผลักมือผมออกจากประตูก่อนที่มันจะกระโจนตัวของมันเข้ามาในห้องของผมและหันกลับไปล็อคประตู. .จากด้านหลังของมัน  . ก่อนที่มันจะค่อยๆ เดินก้าวเข้ามาหาผมสลับกับผมที่เดินถอยห่างมันทีละก้าวๆ จนตอนนี้ขาผมติดอยู่ที่ปลายเตียงแล้วครับ ขืน ถอยอีกก้าวละก็ได้หงายท้อง ลงที่เตียงแน่ๆ แต่กายมันก็ยังไม่ยอม หยุดเดินครับ จนตอนนี้ล่างของผม ล้มไปนอนอยู่ที่เตียงโดยมีไอกายกำลังนั่งค่อมตัวของผมอยู่ ครับ สถานการณ์ตอนนี้ผมอธิบายไม่ถูกเลยว่า มันรู้สึกยังไง ใจนึงก็กลัว อีกใจนึงก็อยาก . . .[สงสัยจะอยากมากกว่ากลัวนะกรั่กๆ ] ผมพยายามคลานถอยห่างตัวเองออกจากหน้าของมัน . . ถ้ามันไม่เผลอเห็นมันทำท่ากัดฝีปากล่างที่ดูเซ็กซี่ใส่ผมก่อนผมคนจะหนีไปได้มากกว่านี้   ไอกายมันค่อยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับผม ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของผมว่า

“คนอย่างกูพูดจริงทำจริงวะ โทดที. . ”เท่านั้นแหละครับ ไอกายมันก็เป็นฝ่ายปู้ยี้ปู้ยำผม. . ซึ่งผมเองก็ได้แต่ร้องโอดครวณบอกให้มันหยุด แต่ก็เหมือนจะเป็นการเล้าอารมณ์ของมันมากกว่าครับ เลยได้แต่นอนนิ่งๆ ให้มันทำอะไรต่อมิอะไรผมมจนสาแก่ใจ ของมันครับ ๆ ฮึกๆ T-T

ผมไม่น่าปากพล้อยไปท้าอะไรมันแบบนั้นเลย แต่มานึกได้ตอนนี้ทีมันก็คงสายไปแล้วละครับ
 
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพูดจาล้อเล่นอะไรกับไอคุณชายเป็นอันขาด เพราะถ้ามันคิดจะทำขึ้นมาจริงๆ ละก็ คนที่ ลำบาก . . .

[ก็คือผมเอง T-T] ไม่ใช่ใครอื่น. . . ต่อไปนี้ผมจะระวังคำพูดของตัวเองให้มากขึ้นครับ ผม ขอ สัญญา ฮือๆ!


TBC. . . . . . . . . .
[คิมกอนอู]


  :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [19]〖01-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 02-05-2016 08:53:50
นี่ตกลงเค้าได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้วหรอ??
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [19]〖01-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 02-05-2016 09:43:50
สงสัยต้องรอดูตอนหน้าว่าผลจะออกมาเป็นไง 5555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [20]〖11-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-05-2016 09:02:15
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter: 20   เซอร์ไพรท์ [ จนได้เรื่อง!]

หลังจากที่พึ่งจะผ่านวันคืนอันแสนโหดร้ายที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาทั้งชีวิต. . .ผมตื่นเช้ามาก็มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงก็เมื่อคืนไอคุณชายมันเล่น. . . .จัดหนัก กับผมซะขนาดนั้นตื่นมาเลยไข้แตก ลุกขึ้นเดินเองไม่ได้เลยครับ หึหึ ! ส่วนเจ้าตัวมันก็นอนอยู่ข้างๆผมนี้แหละครับ . . .ดีหน่อย นึกว่าตื่นมาแล้วจะเจอตังอยู่ที่หัวเตียงซะอีก. . อย่างงี้กูต้องเรียกร้องค่าเสียหายซัก 50-60ล้านซะหน่อยเป็นไง เกิดมาผมยังไม่เค๊ยไม่เคย จะ....ให้กับใคร แต่เมื่อวานก็ดันพลาดไปมีอะไรกับมันซะงั้น เห้อ ชีวิตผมจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้างไหมละเนี้ย !!

กายมันเริ่มขยับตัวนิดๆก่อนจะค่อยๆ หลี่ตามองผมที่นอนอยู่ข้างมัน ด้วยแววตา ที่หวานฉ่ำราวกับว่า อยากจะเล่นหนังรักกับผมรอบที่สอง แต่ประทานโทดครับ มึง ช่วยดูสังขารของกูตอนนี้หน่อยได้ไหม แค่แรง ที่ผมจะลุกขึ้นไปซัดมันยังไม่มีเลย จะให้เอาแรงจากไหนไป เล่นกิจกรรมกับมัน อีกละครับ หึหึ ! . . . เกิดมันนึกคึกขึ้นมาตอนเช้านี้ ผมคงตาย หยังเขียดแน่ครับ. . . ไม่อยากจะนึกภาพตามเลย. . แต่ในทางกลับกันกายมันเลื่อนหน้าของมันเข้ามาใกล้กับหน้าของผม ก่อนจะใช้ริมฝีปากของมันกดประทับไว้ที่หน้าผากของผม . . . อาการตอนนั้นผมอธิบายความรู้สึกไม่ถูกเลยมันตื้อไปหมด . . คงเพราะ. พิษไข้แน่ๆ แต่สีหน้าของไอกายมันคงดูตกใจผมไม่ใช่น้อยนะ. . ถึงกับอ้าปากค้างเลย

“มึงมีไข้ด้วยนิ่ ตัวร้อนยังกะไฟเลย!”มึงยังมีหน้าจะมาสงสัยกูอีกหรอครับ ที่กูเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะน้ำมือของมันรึไง กัน

“ก็เพราะ. . .มืง...อึ่มๆ ไม่...ใช่รึไง. . ที่ทำ..ให้ . ..”ผมพยายามเปล่งเสียงตัวเองให้พูดออกมาแต่เหมือนจะเป็นการฝืนตัวเองมากเกินไปครับ ผมรู้สึกว่ารางกายของตัวเองชาไปทั่วทั้งตัว แถมเสียงก็ดันมาแหบ อีก . .

“พอๆ ไม่ต้องพูดแล้ว . . เอาเป็นว่าวันนี้ มึงนอนอยู่เฉยๆ เถอะ เดี๋ยว กูจะดูแลมึงทั้งวันเองโอเคไหม. . ”ผมพยายามพยักหน้า
หนึ่งครั้งแทนคำตอบให้มันไป. . . ระหว่างนั้นเองกายมันก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ตู้ของผมมาใส่ให้กับตัวมันเองก่อนจะเดินลงไป
ข้างล่าง ผมเดาว่าน่าจะลงไปนะ เพราะเห็นตอนที่มันขึ้นมาก็มีกะละมังสีขาวเล็กๆ พร้อมกับผ้าผืนสีขาวขึ้นมาด้วย. . .   คงเตรียมที่จะมาเช็ดตัวผมอยู่แน่ๆ เลย . . แต่ก่อนจะทำอะไรช่วย หาเสื้อผ้ามาให้กูใส่ก่อนก็จะดีมากเลย . . .ถึง จะเกิด. . เรื่องแบบนั้นขึ้นแล้วก็เถอะ. . .แต่ผมก็ยังมี ยางอายอยู่นะครับ . . จะให้นอนแก้ผ้าให้มันเช็ดตัวให้ก็จะดูยังไงอยู่. . ขนาด ผมกับมันเราต่างคนต่างเห็นของกันหมดทุกอย่าง แล้วผมยังไม่รู้สึกชินเหมือนกับมัน เลย สู้ ไปแก้ผ้าให้ไอวินกับไอตินดูผมยังเขินน้อยกว่าเลย แต่ จะทำยังไงได้ละครับ ร่างกายของผมในตอนนี้ไม่สามารถต่อกร กับ แรงยักษ์ของไอกายได้เลยจึงต้องทนยอมนอนอาย ให้มันลูบไล้อยู่บนตัวผมอย่างนั้น ต่อไป พัก นึง . . .  และไม่นาน ผมก็เริ่มรู้สึกหนักหัวตึ้บๆ จนเผลอพล้อยหลับไปครับ . . .

ผมตื่นขึ้นมาเมื่อเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายของผมเหมือนถูกมือของใครสัมผัสอยู่ที่หน้าผากอย่างออนโยน ผมค่อยๆ หลี่ตาขึ้นมามองบุคคลที่นั่ง อยู่ข้างๆ ตัวผม . . ไม่ใช่กายครับ แต่เป็นไอติน. . . .

“อ้าวเจตื่นแล้วหรอ .  ”สายตาของไอติน ยังคงมอง เป็นห่วงผมเหมือนทุกทีครับ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ผมยังแปลกใจไม่หายว่า ตินมาโผล่อยู่ที่บ้านของผมในเวลาแบบนี้ได้ยังไง. . .แล้วกาย หล่ะ. . .กายหายไปไหน. .

“อื้อ. . .” เสียงของผมเริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้วครับคงเพราะยาแก้อักเสบที่ไอกายให้กินก่อนที่ผมจะนอน

“เป็นไงบ้างหายปวดหัวบ้างรึยัง ?”ตินถามยิ้มๆและมองหน้าผมด้วยความเป็นห่วง. .

“ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว ว่าแต่ ตินมาที่นี้ได้ไงอ่ะ. . ”

“อ๋อพอดีตอนสายๆ กายโทรมาบอกกับตินว่า เจไม่สบายเห็นว่า พากันไปเล่นน้ำที่ไหนมา. . ถึงป่วยได้ขนาดนี้ ตินฟังที่แรกก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลย นะ . . ว่าเจหายกลัวน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่กัน. . แต่พอมาดูก็คงต้องเชื่อแล้วแหละ มาถึง ตัวเจนี้ร้อนเป็นไฟเลย ตินไม่รู้จะทำยังไงก็เลย คอยหาผ้ามาเปลี่ยนให้เ สองรอบแล้วเผื่ออาการจะดีขึ้นด้วยไง . . นี้กะว่า ถ้า ครั้งนี้ไข้ยังไม่ลดลง ตินจะพาไปหาหมอแล้วนะเนี้ย แต่โชคดีที่ เจ ฟื้นขึ้นมาก่อน ตินเลยไม่ต้องพาไป เพราะตินรู้ดีไง ว่าเจไม่ถูกกับคุณหมอ  ใช่ไหมล๊า!”ถึงภายนอกไอตินมันจะดูเอ๋อๆ เหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แต่ ถ้าหาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับผมแล้วละก็ จะไอวินหรือไอกาย ก็ไม่มีใครรู้ใจ ผมเท่ากับไอตินแล้วละครับ ตินมันรู้ทุกอย่างว่าผมชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือแม้แต่สิ่งที่ผมกลัวๆ ต่างๆ นาๆ  ไอตินก็น่าจะเป็นคนเดียวครับ ที่รู้เรื่องของผม ดีกว่าคนอื่นๆ. .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [20]〖11-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-05-2016 09:04:19
“แหม่เจถามนิดเดียว ตินตอบซะยาวเลยนะ ฮ่าๆ ว่าแต่ หนีมาดูแลเจแบบนี้ตอนบ่ายไม่มีเรียนหรอ? ”

“จะว่ามีมันก็มีน่ะ แต่ตินเป็นห่วงเจมากกว่า เลยแอบโดดมาหาเจนี้ไง” ฟังไอตินมันพูดเขาสิครับ ผมแทบจะสำลักน้ำตาออกมาหึกๆ นี้ถ้าไอวินมันได้ซักเศษเสี้ยว ของไอตินไปบ้าง นะ ผมว่ามัน คงจะเป็นผู้ชายที่แสนๆ ดี พอๆ กับพี่ริวเลยละครับ แต่ก็อย่างว่า แหละ นะ นิสัย ของคนมันยังพอเปลี่ยนกันกัน แต่สันดานนี้สิ . . มันเปลี่ยนกันไม่ได้หรอกครับ หึหึ

“โอ้ย ซึ้ง น้ำตาจิไหล เออ แล้วกายมันได้บอกติน ไหมว่ามันไปไหน?”นั้นสิๆ ทีแรกยังบอกว่าจะดูแลผมทั้งวันอยู่เลยไหง มันถึงกลับคำพูดเร็วขนาดนี้น่ะ

“เห็นว่า ที่บ้านโทรมาตามให้ไป พบญาติผู้ใหญ่ หน่ะ กายมันก็เลยให้ตินมาเฝ้าเจอย่างที่เห็นนี้ละ . ”

“อ๋ออย่างนี้นี่เอง แต่ตอนนี้ เจก็โอเคแล้วนะ ตินก็รีบกลับไปเรียนได้แล้ว เดี๋ยว เกรด ตก เจไม่รู้ด้วยนะ” ครอบครัวของไอตินเป็นอะไรที่เคร่งเกี่ยวกับเรื่องเกรดของไอตินมากครับ เพราะตั้งแต่ผมเรียนกับตินมันตอนช่วงประถม ตินมันก็เรียนได้ที่หนึ่งมาตลอด ทุกปีเลยละครับ นี้ถ้าช่วงนั้น ผมไม่ได้ตินมันช่วยเรื่องเรียนไว้นะ ป่านนี้ผมคงตกซ้ำชั้นไปไม่รู้กี่รอบแล้วเหมือนกัน

“โดดวันเดียว คงไม่ทำให้ตินถึงกับเกรดตกหรอกน้า ฮ่าๆ ไหนๆ ก็มาแล้ว ออกไปหาอะไรกินกัน.เหอะเจ . ”ก่อนจะพูดช่วยดูสภาพของกูตอนนี้ก่อนได้ไหมครับมึง. . .แค่ ลุกผมยังไม่มีแรงเลยแล้วจะเอาแรงไหน ออกไปกินข้าวกับมันได้ละห๊า !

“เออตินก็ลืมไป ว่าเจยังไม่หายดีนี้นา งั้นเอาเป็นว่าเดี๋ยวตินออกไปซื้อให้เองก็แล้วกัน เจอยากกินอะไรละ”

“ไม่เป็นไรหรอกตินตอนนี้เจยังไม่หิวเท่าไหร่เลยอีกอย่างเจ ก็ยังเจ็บคออยู่นิดหน่อยด้วยเลยไม่ค่อยอยากกินอะไรแต่ ถ้าตินหิว ก็ออกไปหาอะไรกินก่อน ก็ได้ เจอยู่คนเดียวได้สบายอยู่แล้ว. .^ ^”ถึงผมจะพูดขนาดนั้นก็เถอะแต่ตินมันก็ยังคะยั้ยคะยอจะให้ผมกินกับมันด้วยให้ได้ ผมเลยสังโจ๊กกับโอวันตินกล่องนึงไป . . . ทีแรกก็ไม่ค่อยหิวอะไรหรอกครับ แต่พอมีของมาวางตรงหน้าเท่านั้นแหละ อื้อหือ ตะบะแตก เลยละครับ ฮ่าๆ

หลังจากที่ผมกินโจ๊ก โดยมีไอตินเป็นคนป้อนให้จนหมด ตินมันก็เดินถือกะละมัง ไปใส่น้ำมาเช็ดตัวผมอีกรอบนึง ก่อนที่ผมจะไล่มันให้กลับบ้านของมันไปครับ.  แต่กว่าจะยอมกลับไปก็โดนผมบ่น จนหูชาไปหลายรอบ.อยู่เหมือนกัน . . . .

ผมตื่นขึ้นมาตอนทุ่มกว่าๆเพราะอาการหิวน้ำอย่างหนัก ตอนนี้ภายในห้องห้องผมไม่มีใครอยู่แล้วครับ บรรยากาศวังเวงมากเลย ผมพยายามขยับตัวแต่เอ๊ะ. . .ตอนนี้ผมขยับตัวได้แล้ว. . แถมยังคล่องซะด้วย คงเพราะวันนี้มีคุณหมอมือดีทั้งสองคนมาช่วยดูแลผมแน่ๆ เลย หายดีเป็นปลิดทิ้งเลย. . . เห้อ นึกแล้วก็อยากขอบใจไอกายมันนะครับ ขนาดตัวไม่อยู่ยังอุตส่าห์ส่งลูกสมุนมาดูแลผมเลย. . ทำตัวน่ารักอย่างนี้กลับมาทั้งทีจะให้รางวัลให้สมกับความดีที่ทำเอาไว้เลยหึหึ ! แต่ขอให้ร่างกายหายดีก่อนละกันครับ. ..  ผมเดินลงมาที่ชั้นล่าง. . .ไฟในร้านก็ยังไม่ได้เปิดแถมในร้านตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่อีกด้วยผมจึงเดินไปที่ห้องครัวเพื่อกดสวิตส์ไฟแต่จู่ๆ ก็มีมือของใครไม่รู้. . เดินเข้ามาปิดปากผมจากด้านหลังผมตกใจมากไม่รู้ว่าเป็นมือของใครใจนึงก็คิดไปไกลแล้วว่าโจรขึ้นบ้านแน่นอนผมพยายามต่อสู้เท่าที่แรงตัวเองมี แต่ ผมในตอนนี้ก็สู้แรงของมันไม่ได้หรอกครับ มันเดินปิดปากพาผมมาตรงมุมมืดตรงห้องนั่งเล่น ก่อนจะยอม ปล่อยมือของมันออกจากปากของผมตอนนั้นผมรู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าที่จะขยับหนีไปไหน ได้แต่ขอร้องอ้อนวอนขอให้มันอย่าทำอะไรผมเลย แต่กลับมีเสียงหัวเราะที่มากกว่าหนึ่งคนดังออกมาในบริเวณใกล้ๆ กันครับ. .. .  ทันใดนั้นก็มีแสงจากไฟฉายสาดส่องไปที่หน้า ของ พวกคนที่รุมหัวเราะของผมครับ ผมค่อยๆ หลี่ตามองให้แน่ใจชัดๆ . .บุคคลที่เห็นอยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้คือ. . .

/ยัยเอริ์น/คุณเอื้อย /พี่ริว/กาย/ไอวิน/ติน/ รวมถึงอาม่าด้วย . .  ทุกคนมานั่งทำอะไรกันตรงเน้ ! แต่ก่อนจะสงสัย ขอ ตบกระบาลหายแค้นหน่อยเถอะ ป้าปๆๆ ! มือของผมไวกว่าความคิดของตัวเองอีกครับ บินไปโฉบ เข้ากับกระบาลของพวกมันทั้งสามคนเข้าอย่างจัง . . . เกือบเผลอตบหัวพี่ริวแล้วไหมละผม. . .หึหึ

“พวกมึงสามตัวเล่นเชี่ยอะไรกันเนี้ย เดี๋ยวก็ได้ช็อคตายกันพอดี. . . ”

“[พวกกูไม่ได้เล่นกัน มีแต่มึงนั้นแหละเดินโง่ทึ่มๆ ลงมาแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้เสียแผนกันพอดี]. . ”อยู่กันแค่นนี้มึงจะกระซิบเพื่ออะไรครับ ไอห่าวิน


“แผนอะไรของมึง?”ตอนนี้ผมนั่งเกาหัวแกร่กๆ เพราะไม่รู้ว่าแผนที่ไอวินมันพูดถึงหมายถึงเรื่องอะไรกันแน่

“ก็วันนี้วันเกิดพี่อินไง มึงไม่รู้เรื่องหรอ?”วันเกิดอินไหนอะไรยังไง อ๋อ !! พี่อิน งานวันเกิดพี่อินจริงๆ ด้วยผมลืมไปซะสนิทเลย. . .ว่าแตทำไมคนสมองช้าๆอย่างไอวินมันถึงจำวันเกิดพี่อินได้ละ. . . = =’

“ทำไมจะไม่รู้ละ เค้าเป็นพี่สะใภ้กูนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจะ. . .”

“หรา !!”เสียงของพวกมันทั้งสามคนครับ ประสานเสียงกันดีมากๆเลย ฮ่าๆ  ^ ^

“ก็กูลืมนี่หว่า.  .แหม่ใครจะไปจำได้. . ”

“พวกกูก็จำไม่ได้ ขนาดน้องเอิร์นยังลืมเลย. . .”อ้าวแล้วสรุปมันยังไงกันละเนี้ย สรุปใครรู้เรื่องอะไรมั้งเนี้ย ห๊า ผมชักเริ่มจะงงกับพวกมันแล้ว

“อ้าว สรุปไม่มีใครจำได้แต่ไหง มากันพร้อมหน้างี้ละ” . .

“วันนี้มึงได้เปิดเฟสบุ๊คดูบ้างไหม ห้ะ ไอเด็กสลัม. . ”ป้าปเข้าให้ครับ .. แต่ไม่ใช่มือผมหรอกนะ เป็นมือของไอติน กับไอกาย. . แหม่ รู้ใจผมจริงๆ เลย ^ ^

“วันนี้เจมันป่วย แค่แรงจะลุกขึ้นมันยังไม่มีเลย. .แล้วจะให้เอาแรงไปไปกดออนเฟสเล่นโทรศัพท์คุยกับสาวแบบมึงละไอมาร์วิน !”แหม่จัดมาซะเต็มยศเลยครับคุยชาย ของผม !ฮ่าๆ

“แหม่ปกห้องจังนะ ไอหนูเจของพวกมึงสองคนเนี้ย กูละหมั้นไส้ . . เอื้อยดูสิครับมันสองคนแกล้งวินอะครับ ฮือๆ อะซิกๆ”มันพูด พร้อมกับหัน ไปขอความเห็นใจจากสาวๆ ครับ . . .คุณเอื้อยก็ดันเล่นไปกับมันด้วยนี้สิเห้อ . . ระหว่างที่ไอวินกำลังร้องอิดโอย [เห็นบ่นว่าเจ็บหัว- -*]ระหว่างนั้นเองประตูของร้านก็ถูกเปิดขึ้น พี่อินเดินเข้ามาด้วย ด้วยทีท่าเหมือนจะแปลกใจว่าดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่มีใครเปิดไฟร้านอีกกัน. .พี่อินแกเลยเดิน ไปเปิดสวิตซ์ไฟกลางบ้านกับหน้าร้าน. . พร้อมกับบ่นอะไรพึมพำๆซักอย่าง ผมเองก็จับใจความไมไดเหมือนกัน แต่ที่แปลก ก็คือผมเห็นพี่อินแกยืนกดอยูตั้งนานแล้ว แต่ทำไม ไฟมันถึงไม่ยอมเปิดให้ซักทีละ ผม เลย กระซิบถามไอวิน . . ว่าได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับเรื่องไฟที่ไมติดด้วยรึเปล่าและคำตอบที่ได้มาก็คือ. .

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [20]〖11-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-05-2016 09:06:14
“[เออกูเป็นคนสับคัตเอาท์ลงเองแหละ มึงอย่าพึ่งสงสัยอะไรมากเลยดู เฉยๆไปก่อน]”พูดจบไอวินมันก็ คลานไปที่ห้องครัวเลยครับ เห็นซุบซิบกันว่าจะไปหยิบเค้กที่อยู่ในตู้เย็นมาเซอร์ไพทร์คุณนายเขา. . . แต่ไอวินนนี้ก็ความสามารถสูงนะครับ ขนาดคลานอยู่ยังสามารถใช้มือข้างนึง ถือเค้กมาพร้อมกันได้เลย ผมละทึ่งในความสามารถของมันจริงๆ

หลังจากที่พวกผมจุดเทียนจุดอะไรเสร็จที่เหลือก็รอแค่จังหว่ะที่พี่อินเดินมาแถวห้องนั่งเล่นครับ และในที่สุดพี่อินแกก็เดินเข้ามาพร้อมกับไฟฉาย อันโตครับ สงสัยจะเดินมาซ่อมไฟ . . . และก็เป็นจังหว่ะเดียวที่พวกผม นับ 1 . . 2 . . 3 และลุกขึ้นพร้อม พูดคำว่าเซอร์ไพทร์พร้อมๆ กันครับ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นตามที่คาดเอาไว้ครับ พี่อิน แก ร้องตกใจออกมาเสียงดัง พร้อมกับเควี้ยง ไฟฉายอันใหญ่ที่อยู่ในมือ เข้ากระบาลของไอวิน. . .แต่ป่าวครับมันหลบได้. . .เลยลอยไปโดนหัวของไอกาย ที่ยืนอยู่ข้างหลังของมัน ดังปั๊ก !! โอ้ยฟังจากเสียงที่ถูกกระทบเข้ากับหัวแล้วไม่น่ารอด ครับ เตรียมเรียก ปอเต๊กตึ๋งได้เลย. . . ระหว่าง ที่กำลังยืนตกใจกันอยู่นั้น ไอวินมันก็รีบวิ่งไปสับคัตเอาท์ ขึ้นดังเดิมจนไฟทุกดวงที่อยู่ในร้าน[รวมถึงนอกร้านอีกสองดวง]สว่างจ้าขึ้นมาทันทีครับ. . สิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากที่ไฟสว่าง คือเลือดครับ . . .เลือดที่ไหลอยู่ที่หัวของไอกาย. . .ทุกคุณร้องเรียกชื่อของมันพร้อมกันด้วยความตกใจ ส่วนเจ้าตัวตอนนี้ กำลังยืนเอามือข้างนึงของมันกุมหัวตัวเองไว้อยู่ ท่าทางจะเจ็บน่าดูทุกคนต่างรีบเดินเข้าไปหาเพื่อถามอาการมัน แต่ดูเหมือนร่างกายของผมจะไปไวกว่าคนอื่นครับ พอผมถึงตัวมันแล้วก็รีบจับมือของมันอีกข้างนึงให้เดินตาม เข้าไปที่ห้องครัว. . .ส่วนคนอื่นๆ ผมบอกให้ไปฉลองข้างนอกกันก่อนได้เลยครับ ในห้องตอนนี้เลยมีผมกับกายแค่สองคนครับ. . . ผมรีบเดินพาไอกายให้ไปนั่งพักอยู่ที่เก้าอี้ก่อน จะเดินไปหยิบกล่องตัวบวกที่วางไว้อยู่บนตู้เย็นครับ. . ผมรีบวิ่งหยิบกระเป๋ามาและวางลงที่โต๊ะเพื่อหาผ้าก็อตหรือสำลีอะไรก็ได้. . ที่พอจะช่วยซับเลือด ที่ยังไหลไม่หยุด แต่ในกล่อง ตอนนี้ ไม่มี ผ้าก็อตหรือสำลีอะไรเลย . . ผมเลยตัดสินใจยืนลุกขึ้นเหนือหัวของไอกาย ก่อนจะดันหัวของมันให้ซับลงมาที่หน้าท้องของผมแทน เพื่อซับเลือดที่อยู่ตรงหัวของมันไว้. . ผมยืนอยู่อย่างนั้น พักนึงไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ อาการเลือดไหลที่หัวของมันทุเลาลงรึยังแต่ดูจากท่าทีก่อนหน้านี้แล้ว . . ก็ถือว่ายังดีขึ้นมานิดหน่อยนึง ครับผมกดหัวของไอกายให้ลึกลงไปอีกที ก่อนจะรีบดันหัวของมันออกแล้วดูอาการอีกที เห้อ !!!. . . ผมร้องออกมาด้วยความดีใจ เพราะ ตอนนี้ เลือดที่หัวของไอกายหยุดไหลแล้วครับ ผมค่อยโล่งใจหน่อย แถมตอนนี้. . สีหน้าของกายมันก็ดีขึ้นมาแล้วด้วย. . . และยังไม่วายหันมาส่งยิ้มให้ผมอีกต่างหาก. . หึหึ ใช่เวลามานั่งยิ้มไหมเนี้ย ผมเลยตบหัวมันไปนึงทีก่อนจะดึงมันเข้ามากอด. . .พร้อมกับลูบที่หัวของมันเบาๆ

“มึงไม่เป็นอะไรแล้วนะไอคุณชาย. . ”ผมถามพร้อมกับลูบหัวของมันไป กายมันก็ตอบผมด้วยการพนักหน้าอยู่ที่อกของผมก่อนจะกระชับกอดให้แน่นยิ่งกว่าเดิม. . . ผมพยายามดันหัวของมันให้ออกห่างแต่มันก็ไม่ยอม ขยับเขยือนอะไรเลย . .

“ปล่อยก่อนกายเดี๋ยวกูออกไปหา ผ้าก็อตมาติดแผลให้มึงก่อน นะ นะครับ ปลอยเจก่อนนะ. .”กว่าไอกายจะยอมปล่อยผมต้องนั่งอ้อนมันอยู่นานเลยครับ . .

“รีบมานะ!”มันหันมาสบตากับผมด้วยรอยยิ้ม. .

“ได้กูจะรีบกับมา อย่าชิงตายไปซะก่อนละ” ผมเลยเดินมาลูบหัวของมันอีกครั้งนึงก่อนจะเดินออกไป . . .แต่ทำไมไม่รู้ผมถึงรู้สึกใจสั่นๆ อย่างบอกไม่ถูกไม่ใช่ว่า ผมเขินมันหรืออะไรนะ มันเป็นอาการคล้ายๆ เหมือนร่างกายอ่อนเพลียยอะไรซักอย่าง. . แต่ผมก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร . . และค่อยๆ เดินออกมาที่หน้าประตู. . . . . แต่ทุกคนยังยืนอยู่กับที่ไม่มีใครเดินไปไหนเลยครับ

“อ้าว เจ บอกให้ไปฉลองกันก่อนเลยครับ มายืนทำไมกันตรงนี้เนี้ย หา !”

“เจ!!!”พี่อิน

“พี่เจ!!!”น้องเอิร์น

“ไอเจ!!!”ไอวิน

“เจ!!”ไอติน . .. ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมดถึงได้มองผมแล้วทำหน้าตกใจกันขนาดนั้น. . .

“อะไรกันนี้ผมคนนะไม่ใช่ผีจะตกใจอะไรกันขนาดนั้น. . .”สีหน้าของทุกคนดูนิ่งมากจนเริ่มรู้สึกเกร็งๆ

“...ล...ล..เลือด ที่เสื้อของมึง. . ”สุดท้ายไอวินมันก็เป็นคนเปิดประเด็นพูดขึ้นมาทำลายความเงียบครับ. . แต่ เมื่อกี้ไอวินมันพูดว่าอะไรนะ. . . ผมฟังไม่ค่อยชัด


“เลือด!!”พี่อินพูดพร้อมกับเอามือมาป้องปาก สายตาของทุกคนมองลงมาที่เสื้อของผม. . ห้ะ. .เลือด หรอ. . จะว่าไป. . เสื้อของผมมันมีเลือด.  . ล. .ล. . .ล. เลือด. . . . . . .  .. ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนจะล้มลงไป. . คือเลือด. . ที่ติดอยู่ที่เสื้อของผม . .

หลังจากนั้น ผมก็สลบไปและไม่รับรู้. . อะไรต่อจากนั้นอีกเลย. . . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [20]〖11-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-05-2016 09:08:23
. . . .. . . . . . . . . . . . .

“เจๆ !! มึงตื่นมาคุยก่อนดิ่เจ . . เหี้ยเจ. . .”ผมรู้สึกดูเหมือนกำลังถูกใครเรียกชื่อของตัวเองอยู่. . ผมค่อยๆ หลี่ตาขึ้นมามอง คนที่อยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้คือ ไอวิน . . ทำไมผมถึงรู้สึกไม่ดีตอนที่ลืมตาแล้วเจอไอวินมันด้วยนะ . . . ใช่ กาย . . กายละ กายเป็นยังไงบ้าง. . . ทันทีที่ผมนึกออกถึงคนที่ต้องเป็นห่วงมากที่สุด. . ในตอนนี้ผมก็รีบ ผลักตัวเองขึ้นจากตักของไอวินมัน . . .แต่. . .ผมก็ต้องล้มกลับไปอีกครั้ง เมื่อเริ่มรู้สึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเริ่มจะเอียงไปคนละทิศกับสายตาของผม . . .ทุกสิ่งมันหมุนวนมั่วกันไปหมดจนผมทรงตัว ไม่อยู่ จนเกือบจะล้มหัวฟาดโต๊ะไป โชคดีของผมหน่อยที่มีไอวิน คอยรับผมเอาไว้. . ..  ทำยังไงดีผมอยากไปหาไอกาย. . แต่ด้วยร่างกายในตอนนี้ มันไม่เอื้ออ้ำนวยเอาซะเลย ยิ่งผมบอกกับตัวเองว่าอยากลุกขึ้นไปมากเท่าไหร่ก็เหมือนจะเป็นการยิ่งฝืนตัวเองมากเท่านั้น คงเป็นเพราะอาการจากไข้เมื่อเช้าด้วย เลยทำให้ผมอ่อนแรงได้ถึงขนาดนี้. . .ผมเลยเปลี่ยนวิธีหันไปส่งสายอ้อนวอน ไปที่ไอวินแทน  . . .แล้วก็เหมือนไอวินมันจะอ่านคำถามทางสายตาของผมออกครับ มันเลยตอบผมกลับมา

“มึงไม่ต้องลุกไปไหนหรอก ที่เหลือ คุณเอื้อยเขาจัดการให้แล้ว ส่วนพี่ริว ไอติน กับน้องเอิร์นช่วยพี่อิน กับอาม่าทำกับข้าวอยู่ในครัว กูรู้นะเจ ว่ามึงเป็นห่วงไอกาย . แต่ตอนนี้มึงช่วยห่วงตัวมึงเองก่อนได้ไหม. . .เหี้ย ร่างกายมึงไม่ไหวแล้วนะ. . รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองกลัวเลือดแล้วยังเสือก จะไปช่วยทำแผลให้มันอีก. . . กูเห็นทีแรก กูกะจะตะโกน บอกมึงแล้ว แต่ดูเหมือนตอนนั้นมึงคงจะตกใจจนลืมกลัวละมั้ง . . .กูก็ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์แบบนั้นเหมือนกัน. . แต่มึงนี้ก็แปลกเน้อเจ ทำความสะอาดเช็ดเลือดอะไรออกจนเสร็จ แต่เดินออกมาได้สบายบรื้อโดยไม่รู้สึกเหี้ยอะไรเลย. .  กุเห็นทีแรกกูยังตกใจเลย. .  นี้กะว่าถ้ามึงยังไม่ออกมาภายในห้านาที กูจะวิ่งเข้าไปแบกมึงออกมาแล้วนะ . . ถ้าพวกกูไม่ทักนี่ มึงคงจะไม่รู้ตัวไปอีกนาน ”ผมไม่ได้ตอบอะไรไอวินกลับไปได้แตซุกหน้าของตัวเอง เข้ากับท้องของมัน แล้วปล่อยน้ำตาของตัวเองให้ไหลออกมา . . ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์กดดันหรืออะไรที่ทำให้น้ำตาของผมมันไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย หรือเป็นเพราะความเป็นห่วงกาย มากเกินไปกลัวว่ามันจะไปอะไรไป . . แต่จะอะไรก็ช่าง เถอะ .แต่ . ผมไม่ชอบ เลย ที่เห็น กายมัน เจ็บ.ยิ่งกายเจ็บ  . . . . ผมเจ็บยิ่งกว่า. .ผมกำเสื้อของไอวินแน่นก่อนจะปล่อยเสียงสะอื้นที่อั้นไว้ออกมา. . .

“เจ กู รู้นะ ว่ามึงรู้สึก ผิด แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง มึงไม่รู้ล่วงหน้าไม่ใช่หรอวะ . . มึงก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ คงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอกจริงไหม เพราะชะนั้นมึงไม่ต้องรู้สึกผิดเจ . . มึงทำดีที่สุดแล้ว อีกอย่างตอนนี้ ไอกาย มันก็มีคุณเอื้อยดูแลอยู่ใกล้ๆ แล้วด้วย มึงเลิกเป็นห่วงมัน แล้วกลับมาดูแลตัวมึงเองก่อนเถอะ. . ”ผมค่อยๆ เช็ดน้ำตาของตัวเองกับเสื้อของไอวินมัน ซึ่งมันก็ไม่ได้แสดงทีท่า ดุด่าหรือรังเกลียดอะไรผมทั้งนั้น กลับดูเป็นห่วงผมด้วยซ้ำ. . .

“เจ!”มันพูดพร้อมกับก้มลงมาสบตากับผม

“อือ. .”

“กูรู้นะว่ามึงกับไอกาย. .. ไม่ใช่เจ้าหนี้หรือลูกหนี้อะไรนั้นแล้ว. . .กูรู้ว่าเรื่องของมึงกับมันมีอะไรมากกว่านั้น. . แต่กูจะไม่ถามมึงหรอก นะ. . ว่าความสัมพัน์ของพวกมึงทั้งสองคนมันคืออะไร.. เอาไว้วันที่มึงพร้อมจะเล่าให้กูฟังเมื่อไหร่ วันนั้นแหละมึงค่อยบอกกู. . .”สิ้นสุดน้ำเสียงของไอวินทำให้ผมรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ส่งมาพร้อมกับสายตาคู่นั้น . . . ทุกคำพูดและการกระทำของมัน  ล้วนเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจของมันทุกอย่าง. . .

แต่. . . ซักวันนึงนะวิน. .. รอให้กูพร้อมกับสถานะ ของกูในตอนนี้ก่อน กูสัญญา . . กูจะเล่าให้มึงฟังเป็นคนแรกเลย. . .

“น้องวิน น้องเจเป็นไงบ้างจ้ะ  ตื่น ขึ้นมารึยัง”. . เสียงของพี่อินดังมาจากฝั่งตรงข้ามขอโซฟาครับ

“อ๋อไอเจมัน. . .”ผมใช้มือหยิกที่เอวของมัน. . เป็นการบอก ให้มันตอบปฏิเสธไป. .

“ยังไม่ตื่นเลยครับ สงสัยจะช็อคหนักเลือดท่วมจอซะขนาดนั้น คงพรุ่งนี้มั้งครับ กว่าจะตื่น. .”

“จะว่าไปพี่ก็อึ้งกับเจ้าเจ อยู่เหมือนกัน นะ ว่าทำไม ถึง ไม่เป็นลมไปตอนที่ ทำแผลให้น้องกาย ตั้งแต่อยู่ในห้องแล้ว พึ่งจะมารู้สึกตัวตัวพี่ทักไปเองมั้ง เนี้ยถึงจะรู้ตัว . . ”

“แล้วไอกายเป็นยังไงบ้างครับพี่อิน” เหมือนไอวินมันจะรู้ในสิ่งที่ผมจะขอให้มันทำต่อครับ.. มันเลยชิงถามที่อินไปก่อน

“อ๋อน้องกายตอนนี้ทำแผลเสร็จแล้วละจ้ะ เห็นยัยเอื้อย บอกมาอย่างนั้นนะ พึ่งเดินออกมากันเมื่อกี้นี้เอง เออ. . จะว่าไปเมื่อกี้ตอนเดินออกมา น้องกาย เอาบ่นถึงแต่ เจ้าเจไม่ยอมไปไหนเลย  เห็นเดินวนหาอยู่ทั่วบ้านมาพักนึงแล้ว ทีแรกพี่ก็กะจะบอกไปว่าน้องเจมันช็อคสลบไปแล้ว . . แต่ดูเหมือนจะยิ่งเป็นการทำให้น้องกายคิดมากไปอีก พี่เลยบอกว่าเจมันง่วงเลยขอตัวขึ้นไปนอนแล้ว . . ”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ว่าแต่พี่อินเป่าเค้กรึยังครับ . . ”

“ยังเลยจ้ะ พี่กะว่าจะรอเจ้าเจตื่นก่อน ถึงค่อยเป่า แต่ดูทรงแล้ว. . ไม่น่าจะไหว ไว้อีกพักนึงละกันจ้ะ”

“พี่อินครับ วินอยากกินนมปั่นจังเลย แต่ไอเจมันหลับไปแล้ว . .. ผมรบกวนให้พี่อินช่วยทำให้กินหน่อยจะได้รึเปล่า?”

“รบกงรบกวนอะไรกันละจ้ะเรื่องแค่นี้เอง. . งั้นรอพี่อยู่ตรงนี้แปปนึงนะ เดี๋ยวพี่ไปทำมาให้”

“คร้าบบ! ^ ^ พี่อินสุดสวย”สักพักนึงเสียงของการสนทนาระหว่างไอวินกับพี่อินก็เงียบไปครับ. .

“เป็นไงละ หลับฝันดีรึยัง เด็กมึงมันไม่เป็นอะไรแล้ว ทีนี้มึงก็รีบขึ้นไปนอนจริงๆ ได้ละ ห่า ตะคิวจะแดกขากูละเนี้ย. . ”พูดจบไอวินมันก็ผลักหัวผมออกจากขาของมันก่อนจะดันหัวผมไปหนุนอยู่ที่ของโซฟา . .  แต่แล้วเสียงที่ผมไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ

“ไอวิน”ผมมั่นใจว่านี้คือเสียงของไอกาย. . 

“เออว่าไง”

“เจ. .”

“มึงจะถามหาไอเจอีกคนใช่ไหมละ ดีเลย มันนอนสลบอยู่ตรงนี้มาพักนึงละ ช่วยดูแลต่อกูที ตะคิวจะแดกขากูอยู่แล้วเนี้ยหนักชิบหาย. .  ”ไอวินใช้มือตบที่เบาะตรงโซฟาสองทีก่อนจะเดินลุกออกไป พร้อมกับ สัมผัสที่ผมคุ้นเคยเข้ามาแทน ถ้าเดาไม่ผิดตอนนี้ไอกายมันน่าจะนั่งอยู่ตรงนี้กับผมแล้ว

“ที่เหลือกูฝากต่อด้วยนะ กูจะไปช่วยงานพี่อินเขาต่อละ  ไว้เจอกันมึง . .”สักพักเสียงไอวินก็เงียบหายไป ตอนนี้คงมีแค่เพียงเสียงลมหายใจของผมทั้งสองคน. .  ที่กำลังนั่ง หายใจอยู่ข้างๆ กัน. . ตอนนี้ผมแกล้งทำเป็นหลับอยู่ที่ขอบโซฟาอยู่กายมันคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผมได้ตื่นได้สติแล้ว. . แต่แค่ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงแค่นั้นเอง . .  ผมพอจะรู้สาเหตุที่ไอวินมันทิ้งผมและเดินเข้าห้องครัวไปแล้ว . . .เพราะถ้าปกติเวลาผมป่วยหรือเจออะไรหนักมาๆ ไอวินกับไอตินมันจะคอยอยู่เคียงข้างผมไม่ห่าง แต่คงเพราะไอวิน มันเห็นไอกายเดินเข้ามาหาผมอยู่แล้ว มันถึงรีบหาข้ออ้าง แล้วปล่อยให้ผมกับกายอยู่ด้วยกัน สองคนแน่ . .. ผมเริ่มรับรู้ถึงฝ่ามืออุ่นๆที่กำลังสัมผัสกับใบหน้าของผมอยู่ทั้งสองข้าง. . กายมันค่อยๆ จับหน้าของผมให้ไปนอนอยู่ที่ตักของมัน . .

.ก่อนจะใช้มือที่จับแก้มของผมอยู่เมื่อกี้เปลี่ยนมาเป็นรูปหัวผม และเอ่ยปากนั่งพูดอะไรของมันคนเดียว ?

“เจ!กูขอบใจมึงมากๆนะ ที่อุตส่าห์มาช่วยทำแผลให้กู ทั้งๆ ที่มึงก็ไม่ถูกกับเลือด. .  สีหน้าของมึงตอนที่วิ่งมาช่วยกู.มันดูแปลกมากเลยนะ . กูไม่รู้หรอกนะเจ ว่าความรู้สึกตอนนั้นมันคืออะไร แต่กูก็รู้สึกได้นะ ว่ามึงเป็นห่วงกูมาก ไม่ต่างจากใครคน อื่นๆ ในตอนนั้นเลย มึง วิ่งเข้ามาช่วยกูโดยที่ไม่ได้คิดอะไร ทั้งๆที่ตัวมึงเองก็กลัวเลือดมากถึงขนาดนั้น แต่มึงก็ยังยืนยันจะทำแผลให้กูต่อ มึงรู้อะไรไหมเจ ตอนที่มึงบอกให้รอ กูนั่งรอมึงตั้งนานสองนาน มึงก็ไม่ยอมเข้ามาซักที ใจนึงกูก็นึกไปแล้วว่ามึงคงหลอกให้กูรอมึงเล่นแน่ๆ.แต่กูกลับคิดผิด เอื้อยเดินเข้ามาในห้องแล้วบอกกับกูว่า มึงเป็นลมหมดสติอยู่หน้าห้อง ที่แรกที่กูได้ยิน กูแทบจะวิ่งออกมาตอนนั้นเลยนะ แต่เอื้อยห้ามกูไว้บอกต้องรอให้กูทำแผลให้เสร็จก่อนถึงจะออกมาได้ กูขอโทดนะเจที่กูไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับมึงเลย ถ้าหาก กู รู้ อะไรให้มากกว่านี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คงไม่ป็นแบบนี้. .  ฮึกๆ. . .”

อยู่ๆ ก็มีหยดน้ำอุ่นๆ ที่ไหลจากดวงตาทั้งสองข้างของกาย  หยด ลงที่หน้าผากของผม . . กาย. .มันกำลังร้องไห. .อยู่ . ผมรับรู้ได้แบบนั้น ผมค่อยๆ ลืมตาของตัวเองขึ้นมา และภาพที่เห็นก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆครับ . .กายมันกำลังนั่งเช็ดน้ำตาของมันอยู่. . ก่อนจะก้มหน้ามาสบตากับผมเข้าอย่างจัง. . สีหน้าของกายดูตกใจและดีใจในคราวเดียวกัน มันยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะดึงตัวของผมขึ้นไปกอด เหมือนทุกที แววตาของมันคู่นี้ . . ผมอยากให้มันมีแต่ความสุข. . ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ใดๆ ปะปนอยู่เลย. . ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นเรื่องยาก. .. แต่ผมอยากบอกกับตัวเอง. . . ต่อจากนี้ไม่ว่าผม จะทุกข์หรือจะสุข   ผม. . .ขอสัญญา ว่า จะยิ้มอย่างมีความสุขให้ กายมันทุกครั้ง . . . . ผมสัญญา. .

. . . . . . เวลาร่วงเลยไป. . จนตอนนี้ ที่ข้างนอกดูเงียบไป ท่าทางงานเลี้ยงคงจะเลิกกันแล้ว . . ตอนนี้ในห้องนั่งเล่นเลยมีแค่ผมกับกายอยู่ด้วยกัน ภายใต้แสงไฟสะหลัวๆ . . . กายมันยังให้ผมนอนหนุนตักมันอยู่เลย. . .ผมกลัวว่ากายมันอาจจะปวดขาเอาได้เลยตั้งใจจะเปลี่ยนท่านอน  ใหม่. .  ผมค่อยคยับหัวของตัวเองออกห่างจากขาของกาย แต่ขยับได้เพียงครู่ผมก็ต้องชะงักเมื่อกายมันใช้มือข้างนึงจับที่ต้นคอผมไว้ . .

“จะไปไหน ป่วย ก็นอนอยูเฉยๆ สิ”กายมันทำสีหน้าดุๆ ตอนคุยกับผม. .

“จะเปลี่ยนท่านอนเฉยๆ กูไม่อยากเอาเปรียบมึงไง. . ”พูดจบผมก็ปัดมือของมันที่จับต้นคอของผมไว้ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น แล้วใช้มือข้างนึงที่มีแรงอันน้อยนิดของผมดันที่คอของไอกายให้มันอนลงที่โซฟา. . ดีหน่อยครับที่กายมันไม่ได้ขัดขืนอะไร  ไม่อย่างนั้นคงจจะต้องใช้แรงของตัวเองมากกว่านี้แน่ๆ เลย  กายมันยอม นอนลงแต่โดยดีแต่ก็อดไม่ได้ที่มันจะบ่นพึมพำขึ้นมา ครับ ถึงผมจะรู้สึกชินกับการบ่นของมันแล้วก็เถอะ. . แต่ในเวลานี้ผมอยากให้มันอยู่เงียบๆ เหมือนคนอื่นเขาบ้าง . . . เลยใชมือข้างนึงปิดปากของมันไว้. ก่อนจะก้มตัวของผมลงไปนอนสบตากับกายมันถึงยอมเงียบครับ. .  แต่สิ่งที่ผมคิดก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้นทุกอย่างหรอกนะครับ ผมกะว่าจะนอนลงแล้วหลับไปเลย แต่ในทางกลับกัน ตราบใดที่แสงไฟบนหัวผมยังสว่างโล่อยูแบบนี้ ยังไงผมก็หลับไม่ลงหรอกครับ . .[ไม่ใช่เพราะผมหรอกนะที่กลัวความมือ น่าจะเป็นไอกายมากว่า]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [20]〖11-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 11-05-2016 09:13:25
“กาย. .. ”ผมถามมันด้วยน้ำเสี่ยงอ่อยๆ ที่อ่อยๆนีเพราะไม่มีแรงนะ ไม่ใช่อะไร. .

“หืม ว่าไง !” แต่ด้วยสายตาและน้ำเสียงของไอกายในตอนนี้ มันตั้งใจอ่อยกันชัดๆ . . อ๊ากๆ ใจเย็นเจ มึงป่วยอยู่น่ะ.  .ห้ามไปหลงสายตาของมันเด็ดขาด . . ><   

“กูนอนไม่หลับ.  .”

“อยากทำกิจกรรมกลางดึกหรอ. . . ”ป้าป! ฝ่ามือของผมลอยไปกระทบเข้ากับหัวของมัน โดยอัตโนมัติครับ. 

“กูจะบอกให้มึงลุกไปปิดไฟให้กูต่างหาก กูแสบตานอนไม่หลับ.หื่นไม่รู้เวล่ำเวลาเลยนะมึงเนี้ย”กายมันนอนยิ้มๆ และใช้มือลูบหัวของผมเหมือนลูบหัวหมา. . แถมยังเกาคางให้อีกตั้งหาก . .  = =’[ เอ่อกูคนนะครับมึง. . .] ก่อนมันจะยอมลุกขึ้นและเหมือนจะเดินไปปิดไฟแต่เปล่าครับ มันดันตะโกนออกไปที่ด้านหลังของโซฟาแทน. .

 
“น้องเอิร์นครับ พี่รบกวนขอผ้าห่มผืนนึงหน่อยได้ไหม. . .”เดี๋ยวๆ ยัยเอิร์นมายังไง. . .

“แหม่ !! หนูว่าหนูซุ้มเนียนแล้วนะ พี่กายยังจะเห็นอีกหรอค่ะ ฮ่าๆ  รอแปปนะค่ะเดี๋ยวเอิร์นขึ้นไปเอาผ้าห่มมาให้”สิ้นสุดบทสนทนาของไอกายยัยเอิร์น ผมรีบหันไปมองหน้ามันเลยละครับ.

“มองหน้าสงสัยอะไรอีกละทีนี้ . . ?”มันถามผมขึ้นมาหังจากที่ผมแสดงทีท่าสงสัยมันขึ้นมา

“เปล่า มึงเห็นเอิร์นนานแล้วหรอ ?”

“ก็พักนึงแล้ว ตั้งแต่ไอวินมันเดินออกไป. . ”ชิบหายละสิ อย่างงี้ น้องเอิร์น ก็เห็นทุกอิริยาบถที่ผมทำกับไอกายแล้วละสิ . . หึหึ !

“ กลัวน้องเอิร์นจะไปเล่าเรื่องของมึงกับกูให้คนอื่นฟังหรอ.?”

“ก็เปล่า แล้วนี้มึงทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ดึกแล้วนะมึง. .  เออแล้วคนอื่นๆ ละ กลับกันหมดแล้วหรอ”กายมันนั่งครุ่นคิดอยู่พักนึงก่อนจะตอบผมกลับมา

“ที่ยังอยู่ก็มี อาม่ากับ พี่อิน แล้วก็พี่ริวอีกคน นอกนั้นกลับกันไปหมดแล้ว. . ”

“อ๋อ. .”

“ถามแบบนี้ยังกับว่ามึงแอบคิดถึงใครที่ไม่ใช่กูอยู่ใช่ไหมห้ะ”

“ห้ะๆ บ...บ้า ป่าวซะหน่อย . . ” แอบเสียงสูงครับกะอำมันเล่นเฉยๆ ฮ่าๆ เสี่ยงตีนดีไหมละเจเอ้ย

“หึ. .แต่ยังไงก็ได้แค่คิด แหละนะ เพราะตอนนี้ มึง . . เป็น     ของ    กู. . สำเนียกไว้ด้วยว่ากูไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร. .”สีหน้าของไอกายดูจริงจังขึ้นมาทันทีครับ . .

“แหม่ๆเป็นห่วงตัวมึงเองดีกว่าไหมครับไอคุณชาย. . ไอที่ต่อคิว ยาวเป็นทางรถไฟเมื่อก่อน ไม่ใช่เด็กมึงรึไงห่า. . ”

“. . . . ”กายมันไปเงียบครับ พอผมสวนเขาหน่อยละมันเถียงต่อไม่ออกเลย . .นี้สินะที่เขาเรียก.  แทงใจดำ .. หึหึ แทรงตรงจุดซะด้วยผม เอาซะไอคุณชายมันหงอยไปเลยละครับ . . .เออแต่จะว่าไป วันนี้ ตั้งแต่เช้ากายมันหายไปไหนของมัน นะ . .  เห็นไอตินบอกว่ากายไปหาญาติผู้ใหญ่อะไรของมันนี้ละ .. . . ไหนๆ ก็เผลอคิดมาได้แล้วก็ลองแกล้งๆ แถมมันดูหน่อยก็แล้วกัน. . หวังว่ามันจะไม่เป็นการก้าวก่ายมากเกินไปนะ . .

“นี่คุณชาย”

“หืม. . ”

“วันนี้ที่มึงบอกไอติน ว่าไปหาญาติ หน่ะ ใครหรอวะ . . . .  ”กายมันดูตกใจกับคำถามที่ผมพูดเมื่อครู่มาก. . . ดูจากสีหน้าและแววตาของมันตอนนี้แล้วเหมือนมันกำลังปิดบังอะไรผมอยู่ . .

“มาแล้วค่า! . . .”และในที่สุดตัวจังหว่ะก็มาครับ. . .ยัยเอิร์นชอบโผล่มาตอนที่ผมกับลำเข้าเรื่องสำคัญกับไอกายอยู่เรื่อยเลย = =’

“ขอบคุณครับ. . ”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ  .. งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นเอิร์นขอตัวก่อนนะคะ . .. อ๋อ อีกอย่างถ้าเกิดมีอะไร ที่เอิร์นพอจะช่วยได้ตะโกนเรียก ได้ตลอดเลยนะค่ะ เอิร์นเต็มใจค่ะ ^ ^”ทีกับผมยัยเอิร์นนี้คนละเรื่องเลยครับ . . หลังจากที่ยัยเอิร์นพูดจบก็รีบวิ่งขึ้นห้องของตัวเองไป เหลือ ไว้แค่เพียงผมกับกาย ที่ห้องนั้ง เล่น พร้อมกับไฟที่สว่างอยู่กลางห้องเพียงดวงเดียว กายเดินไปปิดไฟก่อนจะกลับ มานอน ข้างๆผม.  .  .

“.แต่. . .กายปิดไฟงี้มึงจะนอนหลับหรอวะ. . มึงไม่กลัวความมืดแล้วหรอ?”ถึงการปิดไฟจะสามารถช่วยให้ผมนอนหลับสนิทได้. . แต่ถ้าต้องแลก ด้วยการที่กายไม่ได้นอน . . .  ผมก็ไม่ ต้องการหรอกครับ. .

“ก็กลัว. . .”

“กลัวแล้วปิดทำไม เดินไปเปิดไปเดียวก็นอนไม่หลับหรอก ”กายมันยังนิ่งไม่ยอมขยับขเยื่อนไปไหนเลยครับ . . จนผมตัดสินใจที่จะลุกขึ้นไปเปิดไฟเอง หากแต่ ไม่มีมือของกายกดที่ไหล่ให้ผมนอนนลง ซะก่อน . . ผมคงทำได้ไปแล้ว  . .

“อะไรของมึงเนี้ยกาย. . กูจะไปเปิดไฟ. .”

“ถ้าเปิดไฟมึงก็นอนไม่หลับน่ะสิ นอนอยู่นิ่งๆ แหละดีแล้ว. . ”

“มึงไม่นอนกูก็ไม่นอนเอาสิ. . .”ผมยังยืนยันคำตอบเดิมว่าครั้งนี้ผมจะไม่ยอมมันแน่ๆ

“อย่าดื้อดิ่เจ . มึงป่วยอยู่นะ ”ผมไม่สนใจคำพูดของไอกายแล้วรีบพยุงตัวเองลุกขึ้นจากโซฟา. . .แต่ดูเหมือนผมจะลืมไปว่าอาการของผมในตอนนี้ ไม่เหมาะที่จะเดินหรือวิ่งไปไหนเลยทันทีที่ผมลุกขึ้นร่างกายของผมมันก็ล้มกลับไปนอนที่เดิม.

“ไงละ. . ยังจะลุกขึ้นอยู่อีกไหม บอกแล้วว่าอย่าฝืนตัวเอง..  รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองป่วยอยู่มึงก็ยัง. จะ. เห้อ . . พอๆ หยุดเลย ไม่ต้องร้องไห . . ”ผมไม่สามารถกลั้นน้ำตาของความกดดันนี้ออกมาได้ ผมเองก็ไม่รุ้เหมือนกันว่าที่ตัวเองร้องออกมาเป็นเพราะสมเพศสภาพตัวเองในตอนนี้หรือ. . เป็นเพราะผม. .เป็นห่วงไอกายก็ไม่รู้. .

“กูขอโทดนะเจ . . ที่ทำให้มึงไม่สบายใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่กูทำไปก็เพราะกูเป็นห่วงมึงมาก.. เพราะชะนั้นมึงไม่ต้องเป็นห่วงกูหรอกเจ. .แค่มึงกอดกูไว้แบบนี้กูก็ไม่เป็นอะไรแล้ว. . ”ในหัวของผมตอนนี้มีแต่คำถามอยู่มากมาย. . ที่อยากจะถามกับกายมันไปตรงๆ. . .แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย แถมยังเป็นสภาพของผมในตอนนี้อีก ทำให้ผมไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้เลย ตอนนี่สิ่งที่ผมทำได้ก็มีแต่พักผ่อนตัวเองให้หายดี ก่อน แล้วค่อยมาต่อเรื่องความสงสัยของผมกันครั้งหน้า. .. ถึงผมเองจะยังไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความกล้าที่จะพูดเมื่อไหร่ก็เถอะ. .  . .


. . . . . . . . . . . . . . . . .. .


หลังจากที่ผมพึ่งจะผ่านวันคืนอันโหดร้ายมาได้ตอนนี้ เวลาก็ได้ผ่านล่วงเลย ไป หลายเดือนแล้ว . . . สภาพของผมตอนนี้ ก็ถือว่าดีขึ้นมามากแล้ว [คงเพราะมีหมอดี]คอยดูแลผมทั้งวี่ทั้งวัน . . ส่วนเรื่อง เรียน ผมก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับการก็พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมกับกายแทบจะรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วครับ .และ . . อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะถึงช่วงสอบไฟนอลแล้ว ช่วงนี้ผมกับกายเราเลยไม่ค่อยได้ติดต่อกันเพราะต้องเอาเวลาไปติวหนังสือกันหมด . . .แต่กายมันก็ไม่วายที่จะหาเวลาที่มีอันน้อยนิด โทรมาถามไถ่ว่าผมทำอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่อย่างนี้เป็นประจำทุกวัน รวมถึงไอวินที่ชอบโทรมากวนประสาทผมเวลากำลังจะอ่านหนังสือทุกทีเลย ไม่เว้นแม้แต่วันนี้. .

“(ฮัลโหล เจ มึงอยู่ไหน)?”

“กูอยู่บ้านโทรมาทำไมมีอะไร. . ”

“ป่าวก็แค่จะโทรมาถามดูว่ามึงว่างไหม จะชวนไปเที่ยวซักหน่อย!”คือ อีก สามวันจะ สอบแล้วแท้ๆ ทำไมเพื่อนผมมันถึงอินดี้ได้ขนาดนนี้ก็ไม่รู้นะ = =’

“หึ ! อีกไม่กีวันก็สอบแล้วยังจะเสือกชวนกูไปเที่ยวอีกนะมึงนิ่. .  กูไม่ว่างหรอกอ่านหนังสืออยู่”

“ว้าน่าเสียดาย ไอกายก็ไปด้วยอย่างงี้แม้งมันคงจะเหงาแย่”

“ห้ะ! กาย กายไหน ? ”

“ก็ น้องกายของมึงไง มีอยู่คเนดียวนั้นแหละ สรุปไงจะไปไหม.  . .” ทีแรกผมก็สองจิตสองใจนะ แต่ พอได้ยินชื่อของไอกายขึ้นมาก็อดไม่ได้ที่จะ...

“อือ..จะว่าไปหนังสือไว้อ่านวันหลังก็ได้เน้อ ไปก็ไปสิ. . ”เพียงเท่านั้นแหละครับไอวินมันระเบิดเสียงหัวเราะใส่ผมใหญ่เลย - -*

“ว๊ากกๆๆ ฮ่าๆ ๆ ๆ [เห็นไหมกูบอกมึงแล้ว]   ”ผมมีความรู้สึกเหมือนไอวินมันกำลังคุยซักคนอยู่ในสาย.. .

“แต่กูไม่มีรถนะ ถ้าอยากให้ไปก็มารับกูด้วยละกัน. . .”

“เออ เอาไงก็เอางั้น อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันนะ มึง ก๊ากกกๆๆ !!!”ไอวินนี่มันยังไม่เลิกขำผมอีกครับ  ไอนี้ท่าทางจะบ้า !

ตื๊ด! ผมกดตัดสายมันไปก่อนจะปิดสมุดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่แล้ววิ่งตรงเข้าไปที่ห้องน้ำทันที . . . .แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เปิดประตูห้อง น้ำ ก็มีเสียงเรียกเข้าจาก ไอโฟนของผมดังขึ้นมซะก่อน . . .ขัดจังหว่ะกูซะจริง

“เพื่อนหมูตุ๋น”อุ๊ ไอกายนี้น่า

“ฮัลโหลสวัสดีครับ คุณแฟน. . เจสุดหล่อพูดสายครับ ” ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวันขอตอดๆ คุณชายมันซักหน่อยละกัน..คิคิ

“โทดครับผมโทรผิด”. . . . เอ่อนั้นมุขมึงใช่ไหม?

“เฮ้ย กายกูเอง เจ ไง มึงจำไม่ได้อ่อ?”

“อ๋อมึงเองหรอ . . ”ตีหน้าซื่อจริงนะมึง = =’

“เออสิวะจะให้กูเป็นใครละครับ โดมปกรณ์ หรือหมากปริณดี คึคึ”

“หึ กวนตีน”

“มึงโทรมาเพื่อจะขำให้กูฟังใช่ไหมไอห่ากาย = =’”

“ป่าวจะโทรมาถามว่าทำอะไรอยู่ เลิกอ่านหนังสือรึยัง?”

“เออเลิกอ่านเมื่อกี้นี้เองกำลังจะไปอาบน้ำรอไอวินมารับกู . .”

“รับ ? รับไปไหน”อ้าว. . ไหง กายมันถึงไม่รู้เรื่องเลยละ

“ก็รับไปเที่ยวกับพวกไอวินไง มึงก็ไปกับพวกมันด้วยไม่ใช่หรอ ?”

“เที่ยวบ้าอะไรละ. .เวลาอ่านหนังสือยังแทบจะไม่มีเลย แล้วจะเอาเวลาไหนไปเที่ยวได้ละ. . ”อ้าวสรุปนี้ผมโดนไอวินมันต้มจนเปื่อยอีกแล้วใช่ไหมเนี้ย. . ..ผมน่าจะเอ๊ะใจตั้งแต่มันชวนทีแรกแล้ว แหม่ มึงนะมึง เจอหน้าเมื่อไหร่พ่อจะซัดให้เดี้ยงเลย. . . . กล้าดียังไงเอาไอคุณชายมาหลอกผมได้เนี้ย. . .

“เออสงสัยกูโดนไอวินมันหลอก ฃ่างแม้งเถอะ. แล้วนี้มึงทำอะไรอยู่อะว่างนักรึไงถึงโทรมากวนกูเนี้ย.. .  ”

“ก็ไม่ถึงกับว่างหรอก หายใจอยู่!”งั้นเดี้ยวกูจะเป็นคนปลิดลมหายใจมึงเองละกันไอห่ากาย - -

“เอองั้นแค่นี้แหละ. .!! ”กูอุตส่าห์ถามดีๆ แท้ๆ กลับกวนตีนมาได้หึหึ !

“อ้ะๆ เดี๋ยวๆ กูโม้เล่น ไม่ฮากับกูหน่อยหรอ ?”

“จุดไหนที่กูต้องฮาไม่ทราบครับมึง ?”

“กูขอโทด. . .กูไม่หยอกแล้วก็ได้. . โถ่ๆ”

“แล้วสรุปมึงทำอะไรอยู่?”

“ก็กำลังจะเลิกอ่านหนังสือ แล้วก็นอนพักซักหน่อย แต่บังเอิญ คิดขึ้นมาได้ ว่ามีคนให้คิดถึงอยู่ก็เลยโทรมาถามดู ไม่รู้เขาจะคิด เหมือนกับที่กูคิดรึเปล่านะ?” >.< เอิ่ม  . . .เขินครับพูดอะไรไม่ออก . . . .อย่าบอกนะที่ไอคุณชายมันหายไปหลายวันเพื่อจะคิดมุขมาหยอดผม แบบนี้เนี้ยนะ เห้อๆ  . . .  ไอห่า กลัวกูจะไม่เขินรึไง . . .

“ . . . .”ผมเงียบไม่ยอมตอบมันเพราะกำลังเขินจนพูดอะไรไม่ออกอยู่. . . .

“เจ. . .เงียบทำไมอ่ะ. . . ฮัลโหล . . เจ. . . เจครับ เจไม่คิดถึงกายแล้วหรอ . . .หื้อ!”โอ้ยย น้ำเสียงหลังๆของมันทำเอาใจผมแทบ. . แต่ถ้าขืนผมยังเงียบอยู่ต่อไปมันคงทำเสียงอ้อนผมแบบนี้ไม่หยุดแน่. . เลยต้องยอมๆ ตอบไอกายมันไปครับ. .

“ก. . . ก. .ก็คิดถึง. . .”

“คิดถึง... . . กู. .. หรือคิดถึงใคร  ?”น้ำเสียงของไอกายดูนิ่งและจริงจังมากครับ ถึงขนาดมันยอมปิดเสียงเพลงที่อยู่ในห้องมันเพื่อรอฟังคำตอบจากผมเลยทีเดียว 5 5 5

“คิดถึง. . .. หมูตุ๋น. . .. ไม่เจอหน้าหลายวัน กูโคตรอยากกอดมันเลยวะ ฮ่าๆ”

“เออ ใช่สิ เดี๋ยวนี้สนิกับหมูตุ๋นจนลืมกูแล้วนิ่. ... งั้นกูไม่มีอะไรจะคุยละ แค่นี้ นะ. . ”

“ด..เดี้ยวๆ. . .กาย กูยังพูดไม่จบ. . .”ผมรรีบชิงพูดก่อนที่ไอกายมันจะกดวางสายไป. .

“มีอะไรอีก?”แหนะๆ น้ำเสียงมีแอบนอยๆ ฮ่าๆ

“ที่กูบอกคิดถึงหมูตุ๋นมันก็จริง. . . แต่. . . . กู. . . . คิดถึงเจ้าของๆมัน . . . มากกว่านะเว้ย. ”จบคำพูดผมรีบวางโทรศัพท์ไว้ที่เตียงก่อนจะรีบวิ่ง ออกมาพร้อมกับ ตะโกนดังๆ ว่า . . .

“โอ้ยย ไอเหี้ย กูเขินโว้ยยย !!!”แต่หลังจากที่ผมออกมาตะโกนเท่านั้นแหละครับ . . .พี่อินแกก็รีบเดินขึ้นมาโดยที่มือข้างนึงถือกะทะอีกข้างถือตะหลิว ยืนจ้องหน้าผมตาขวางเลย

“นี่ พ่อหนุ่มจ้ะ นี้ที่บ้านนะไม่ใช่คอนเสริต์ . . นึกจะตะโกนก็ตะโกนขึ้นมา ดังซะขนาดนั้น ”ผมรีบหันไปสบตาพี่อินช้าๆ ก่อนจะส่งยิ่มเจื่อนๆ ไปให้พี่แกก่อนจะเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป . . .

“ฮัลโหล. .เจ .. ฮัลโหลล . ”

“เออ ยังอยู่. . . พอดีออกไปคุยธุระข้างนอกมา. .  ”

“ธุระอะไร มีใครมาหารึไง?”

“เจ๊โหดของบ้านไง. . เมื่อกี้เขาจะเอากระทะฟาดหน้ากู หึหึ! ”

“แล้วมึงไปทำอะไรให้ข้าวของขึ้นละ  . .ขืนหลุดปากบอกไอกายไปว่า ที่พี่อินแกเดินจะเอาของมาทุบหัวผม เป็นเพราะผม ตะโกนออกไปด้วยความเขินละก็ มีหวัง โดน ไอคุณชายมันล้อ ยันลูกบวชแน่เลยครับ. . .

“ก็เปล่าหรอก เขาเรียกไปใช้งานแต่กุยังไม่ลงไปเข้าเลยขึ้นมาตาม. .”เหตุผลฟังขึ้นไหมละ หึหึ

“แต่เมื่อกี้เหมือนกูได้ ยิน เสียงใครตะโกน ว่า อะไรนะ เขินอะไรๆ ซักอย่างกูฟังไม่ค่อยถนัดเลย. . ”อะจึ้ยย ไหงไอกายถึงได้ยิน ซะละ(ตะโกนเสียงดังขนาดนั้น ปากซอยก็ยังได้ยินครับน้องเจ !)

“เออช่างเถอะ.  . ว่าแต่. .”อยู่ๆ ผมก็นึกถึงเรื่องคำถามต่างๆ ที่ตัวเองสงสัยขึ้นมา . . . ตั้งแต่วันที่ผมเป็นลมหมดสติไป. . คำถามที่ยังค้างคาอยู่ในใจ.  . ที่ยัง รอฟังคำตอบจากปากของเจ้าตัวอยู่. . ถ้าติดที่ว่าผมจะกล้าพูดออกไปป่านนี้ คงได้รู้คำตอบหมดทุกอย่างไปแล้ว. .

“กาย หลังสอบเส็รจแล้วว่างไหม ?”

“ก็ว่างนะ. .ทำไมมีอะไรรึเปล่า?”ถึงมันจะเป็นสิ่งที่ผมอยากจะรู้มากเท่าไหร่ก็เถอะ. .  แต่ถ้าหากผมพูดมันออกไปตรงๆ มันอาจจะดูเป็นการก้าวก่ายชีวติส่วนตัวของกายมันก็ได้

“ก็มี. . .”แต่อยู่ที่ว่า ผมจะกล้าเอ่ยปากถามมึงรึเปล่า ? เท่านั้นเอง
 :katai1:





TBC. . . . . . . . . .. .
#[คิมกอนอู] #ขอโทดนะครับที่หายไปโดยไม่บอกกล่าวพอดีมีธุระกับทางบ้านนิดหน่อยเลยไม่มีเวลาว่างเท่าไหร่  :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [21]〖15-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-05-2016 18:34:30
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter: 21 ปิดเทอม . . .กลับบ้าน[Go Home Chantaburi!!]
[อักษรสีแดง=เจ] [อักษรสีน้ำเงิน=กาย]

หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาการสอบไฟนอลที่ชวนปวดหัวเป็นอย่างมาก . . ตอนนี้ก็ได้เวลา ที่หลายๆ คนควรจะพักผ่อนแล้ว. . .นั้นก็คือ . . ..ช่วงปิดเทอมไงล้า. . . แต่คงจะเป็นผมแค่คนเดียวเท่านั้นแหละครับที่แฮปปี้แบบนี้ได้. . ส่วนคนอื่นๆ หลัง สอบเสร็จก็จะมีงาน หลายๆ อย่างเข้ามาอีกอาธิเช่น . . . ป๊า ของไอวิน บอกให้ไอวินกลับไปช่วยงานที่บ้าน ส่วนไอติน กลับไปอยู่เกาหลีกับพ่อของมัน[เกือบลืมโทรบอกว่าให้เอาของฝากกลับมาด้วย . . .แต่เจ้าตัวคงจะรู้ดีแหละครับอิอิ ว่าควรจะทำยังไง] ส่วนพี่ริว เวลาช่วงปิดเทอมก็วุ่นอยู่กับธุรกิจของที่บ้าน. . . ส่วนกายหลังจากสอบเสร็จมันก็ปลิวหายเข้ากลีบเมฆไปแล้วละครับตามจับตัวมันไม่ได้เลย กะว่าจะถามอะไรมันสักหน่อย แผนการนี้เลยต้องคราดเลื่อนไป . . ส่วนตัวผมนี้ หลายๆคนอาจจะสงสัย ว่าไม่ได้ไปทำงานที่ร้านกาแฟแล้วหรอ . . .ตอนนี้ ผมลาออกจากที่นั้นแลวละคร้าบ อาจเปนเพราะ ว่าช่วงนี้ผมรู้สึกวางใจที่ไม่ต้องรีบหาเงินใช้หนี้ไอกายมันแล้ว. .  เลยไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปทำไม . .ก็เลยกายสภาพเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั้นแหละครับ แต่ก่อนออกมาก็ยัง มีเงินเดือน พอให้ผมอยู่บ้างนิดหน่อย ไม่มากไม่น้อยเกินไป พี่โชนแกยังแอบกระซิบบอกผมก่อนจะออกมาว่า ถ้า ช่วงไหน ว่างๆ ไม่มีงาน ทำ ก็มา สมัครใหม่ได้นะ พวกพี่ๆ เขา พร้อมต้อนรับกลับมาเสมอ. . ตอนนั้นผมรู้ศึกซึ่งมาก จนแทบจะกระโดไปกอดคอ พี่โชน ถ้าไม่ติดที่ว่า ตอนนั้นมีไอกายไปเป็นเพื่อนด้วยผมคงทำไปแล้ว อิอิ


. . . . . . . . . . . . . 
เช้าวันเสาร์ ผมรีบเก็บข้าวของเครื่องใช้ของตัวเอง ที่ จำเป็นลงใส่กระเป๋าเตรียมตัวที่จะกลับ บ้าน ที่จันทบุรี . .  เห็นว่า ครั้งนี้ยัยเอิร์นบอกจะลงไปกับผมด้วยแต่คงไม่ได้ไปลงไปพร้อมกัน อาจจะเป็น ซัก 1 สัปดาห์ หลังจากที่ผมกลับไปแล้วก็เป็นได้. .  ผมเดิน แบกเป้กับกระป๋าเดินทางอีกน้อยใหญ่[สาบานว่านั้นของจำเป็นไม่ได้ขนไปหมดบ้าน. . .]ก่อนจะรีบเดินตรงไปขึ้นแท็กซี่แล้วไปรอคิวรถตู้ที่หมอชิด . . .

. . . . . . . . .


หลังจากที่ผมใช้เวลา แบกร่างกายของตัวเองอันน้อยนิดบวกด้วยกระเป๋าเป้สัมภาระที่แทบจะล้มทับตัวผมได้ลงมาจากรถ ตอนนี้
ผมถึง จังหวัดจันทบุรีแล้วละคร้าบ จากที่นั่งมา เกือบ 3 ชั่วโมงก็ถึงที่ซักที เล่นเอา  ซะปวดตูดกันเลยทีเดียว ผมรีบเดิน สะพายเป้แล้วเดินขึ้น วินมอไซด์เพื่อไปรอตรงจุด รถประจำทาง[รถเมล์เขียวหากใครเคยอยู่จันทบุรีจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี. . ] ระหว่างนั่งรอ ผมเองก็รู้สึกหิวขึ้น มาเพราะตั้งแต่ออกมาก็ยังไม่ได้แตะอะไรบนโต๊ะเลยซักอย่าง อาจเป็นเพราะรีบหรือขี้เกลียดก็ไม่รู้นะ แต่ช่างเถอะ แถวระแวก นี้มีร้าน ของกินเยอะแยะ แถมตอนนี้ก็พึ่งจะ สิบเอ็ดโมงกว่าๆ เองด้วย เลยมีร้าน อาหารต่างๆ มากมายให้ได้เลือกซื้อกิน . . .ผมรีบเดินตรงไปที่ร้านขายหมูปิ้งร้านนึง . .ที่ตอนนี้มีคนต่อคิวอยู่เยอะมากๆ ชนิด ที่ว่า เหมือน ปิ้งมาแจก ฟรี ก็เจ้านี้เขาทำอร่อยนี้ น่า จะมีคิวเยอะก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร. . ผมอยู่คิวรั้งท้ายของแถวคงอีกนานกว่าจะถึงคิวของผม เลยหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาเล่นรอเพื่อฆ่าเวลา .   . . จนตอนนี้ก็ถึงคิวของผมแล้วครับ


“กี่ไม้ดีจ้ะพ่อหนุ่ม. . ”เสียงของป้าคนขายถามผมขึ้นมา ขณะที่ผมมัวแต่จ้องอยู่กับโทรศัพท์

“อ๋อ เอา 6ไม้ครับ แล้วก็ ข้าวเหนียวสองห่อ”สั่งเสร็จป้าแกก็จัดแจงของที่ผมสั่งทุกอย่างใส่ถุงก่อนจะยื่น มาให้กับผม. .

“ขอบคุณครับ” ผมรับถุงก่อนจะเดินออกมาจากแถวแต่ป้าคนขายแกกับเรียกผมไว้ซะก่อน . .

“นี้พ่อ หนุ่ม ตัง ยังไม่ได้จ่ายป้าเลยนะ . . ”ชิบหายละ เพราะเมื่อกี้ผมอาจจะกำลังเบลอๆอะไรซักอย่างอยู่. . ถึงลืมจ่ายเงินป้าแกซะได้ ผมรีบ ควัก แบงค์ร้อย ยื่นไปให้ป้าแก ก่อนจะรีบเงินทอนยี่สิบบาทกลับมา  และรีบวิ่ง ไปรอ แถวคิวรถในทันที . . ขืนยังยื่นบื้ออยู่ตรงนั้นมีหวัง . . . ได้โดนคน นินทาแน่ๆ หึหึ. . .ภายในเวลาไม่กี่นาทีหลังจากนั้น คิวรถเขียวก็มาถึง ผมรีบขึ้นไปจองที่นั่ง. . โดยวางกระเป๋าไว้บนรถก่อนจะรีบวิ่ง ลงเพื่อไปซื้อน้ำเปล่าที่เซเว่นที่อยู่ข้างๆ

ผมกลับขึ้นมาที่รถ ผมใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีในการวิ่งเข้าเซเว่นไป ซื้อ น้ำ แต่ พอกลับมาตอนนี้ ผู้คนเริ่มนั่งจับจองที่กันหมดแล้ว . . โชคดีของผมหน่อยที่ก่อนไป ได้เอากระเป๋าของตัวเองมาวางกันที่ไว้แล้ว เลยไม่มีใคร กล้าแย่งที่นั่งของผมเลยแม้แต่คนเดียว . . . อีกไม่ถึงห้านาทีรถก็จะออกแล้ว[รถจะออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง] จากที่ตอนแรกก็ยังพอมี ที่ให้ผมหายใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้ กลับแทบไม่มีเหลือ เพราะตอนนี้ บนรถเต็มไปด้วยผู้โดยสารมากมาย. . ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ยืนเกาะราวกันอย่าง แน่นหนา นี้ยังไม่นับรวมกับที่เกาะรถอยู่ข้างนอกนะ. . สักพักนึง. . ก็มีพี่กระเป๋าผู้หญิงคนนึงเดินมาเก็บเงิน

ผมรีบก้มลงเปิดกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ด้านล่างของที่นั่ง ก่อนที่ตัวเองจะอึ้งแดก.  . . เพราะกระเป๋าเป้ด้านนอกของผม ที่ใส่กระเป๋าตังไว้ ถูกเปิดออก แถมกระเป๋าเงินก็ไม่อยู่แล้วด้วย . . .สงสัยจะโดนขโมยตอนที่ไปซื้อน้ำเมื่อกี้ แน่ๆ เลยๆ . . .สายตาของพี่คนเก็บมองมาที้ผมอย่าง ดูถูก . . .บวกด้วยสายตาของคนรอบข้างที่เริ่มมองผมในทางแปลกๆ คงไม่ได้คิดกันว่าผมจะไม่มีเงินจ่ายกันหรอกใช่ไหม. . หึหึ. . คิดผิดละครับเพราะ ต่อให้เดินทางโดยรถเมลเขียว ตลอด จังหวัดจันยังไง ค่าบริการสูงสุดก็ไม่น่าจะเกิน 60 บาท ผมรีบควักเงินออกมานับจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะลองนับเหรียญบาทเหรียญสิบ เหรียญห้า . .  แต่เศษเงินที่ผมนับมีเพียงแค่ 40 กว่าบาทแค่นั้นเอง . .ผมเงยหน้าขึ้นไปถาม พี่คนเก็บเขาก็บอกว่า แต่งตัวปกติ[50บาท แต่ถ้าใส่ชุดนักเรียนหรือชุดนักศึกษาจะได้รับส่วนลด ครึ่งราคานั้นก็คือ 25บาท] แต่ด้วยตอนนี้ผมแต่งตัวธรรมดาบวกด้วยสัมภาระใบใหญ่เลยบวกราคาไปด้วยรวมๆแปดสิบบาท. . ผมนั่งปาดเหงื่อที่หน้าผาก ก่อนจะลองล้วงดูตามกระเป๋ากางเกงเสื้อนอกเสื้อใน[บ้าหรอใครเข้าใส่เสื้อในกัน ><]รวมๆ  แล้วก็ได้เพียง54.50บาท เท่านั้นเองเพราะเงิน 3000+ของผมถูกใครก็ไม่รู้หยิบไปหมดแล้วโอ้ย ทีนี้ผมจะทำยังไง . . ผมรับรู้ได้ถึงสายตาที่กดดันของพี่คนเก็บ เงินที่ส่งสายตามองผม. . . สายตาที่เต็มไปด้วยการดูถูก . . .ผมได้แต่ก้มหน้าไม่กล้ามองขึ้นไปสบตา. . แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ทำให้ผม ต้องหันกลับไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [21]〖15-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-05-2016 18:40:02
“สองคนเท่าไหร่ครับ”พี่ชายหน้าตาดีคนนึงกำลังพูดคุยกับพี่คนเก็บเงินอย่างยิ้มแย้ม . . แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นๆ หน้าพี่คนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก . . .

“สองคน . .ลงที่เดียวกันรึเปล่า”พี่คนเก็บเงินหันมาถามผม

“ผมลงสอยดาวครับ”

“อ๋องั้นก็ที่เดียวกันท้งหมดก็130 บาท ”หลังจากที่พี่คนเก็บเงินพูดจบก็ยื่นมือไปรับเงิน แบงค์ พัน กับพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม พี่เขาก็หันมาส่งยิ้มพร้อมกับเหล็กที่อยู่ในปากที่ดูเหมาะอย่างบอกไม่ถูก ครบสูตร (หล่อ ขาว ตี๋ เกาหลี ใส่เล็กดัดฟัน) ทันทีที่พี่เขารับเงินทอนก็รีบเก็บใส่กระเป๋าก่อน จะลุกขึ้นกดกริ่งเพื่อส่งสัญญาณให้รถจอด. . . .

ผมกับพี่เขาลงที่เดียวกัน. .  . . ไม่นานนักรถเมลเขียวก็วิ่งออกไปไกลจากสายตาของผมเรื่อยๆ นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมเอาแต่เหม่อมอง ตามรถคนนั้น จน พี่คนข้างๆ ต้องใช้มือ เพื่อเรียกสะกิดผม. . ให้ตื่นจากภวังค์

“นี้ๆ น้องคนแถวนี้หรอ ทำไมพี่รู้สึกคุ้นหน้ายังไงก็ไม่รู้แหะ เหมือนเคยเจอกัน. . ”ถ้าเป็นคนอื่นผมอาจจะคิดว่านี้เป็นการใช้มุขจีบทำความรู้จักกันไปแล้ว แต่เป็นเพราะสายตาบวกกับ ท่าทางที่ดูจริงจังของพี่เขา ทำให้ผม เลิกคิดอะไร มั่วๆ แบบนั้นออกจากหัวไป . .

“อ๋อใช่ครับผมคนแถวนี้แหละครับ แต่ไปอยู่กรุงเทพมานาน. .”แต่ผมก็ยังรู้สึกคุ้นๆ หน้า พี่เขาอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้าถามออกไป. .

“เออแล้วนี้จะกลับยังไงหล่ะ ให้ที่บ้านมารับหรอ?”พี่เขาหันมาถามผมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มบวกกับสายตาที่มองเป็นประกายดูเป็นกันเองสุดๆ

“ผมกำลังจะโทรให้ที่บ้านมารับอ่ะครับ. ”คิดได้ดังนั้นผมก็รีบควักโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมาเตรียมที่จะกดโทรออกถ้าไม่ติดที่ว่า ..  .มันเปิดไม่ติดนะสิ . . .หึหึ ! ชัดเลยแบตหมด. .  ผมยืนจ้องโทรศัพท์โดยที่ไม่ขยับขะเยื่อนอะไร เป็นเพราะกำลังอึ้งกับความซวยของตัวเองอยู่. . .

“เป็นอะไรรึเปล่า ยืนนิ่งเชียว ”พี่เขาใช้นิ้วจิ้มๆ ผมที่ยืนจ้องโทรศัพท์อยู่ ผมรีบละสายตาก่อนจะ หลุดปากพูดออกมาอย่างไร้อารมณ์ในทันทีว่า . . .

“โทรศัพท์ของผม. . . .แบตหมด. . ”ผมแอบไอยินเสียงหัวเราะคิกๆ ก่อนที่เสียงนั้นจะค่อยๆ เงียบไป

“อ้ะ ”พี่เขายื่นโทรศัพท์ IPhone 6s plus สีทอง ยื่นมาที่หน้าของผม . . . ผมจ้องมองโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าสลับกับมองหน้าของคนที่ยื่นมาให้อย่างสงสัย. .

“โทรให้ที่บ้านมารับสิ พี่ให้ยืม. . ”ผมรู้สึกซึ่งจนแทบจะก้มลงไปกราบเท้างามๆ ให้พีเขาซักที. .

“ขอบคุณมากนะครับพี่. .”ผมพูดขอบคุณพี่เขาก่อนจะรับโทรศัพท์ที่อยู่ในมือก่อนจะกดโทรออก. . ตื๊ดๆ. . . ไร้เสียงตอบรับ. .  .ลองใหม่อีกที . . . .ตื๊ดๆ ก็ยังไร้เสียงตอบรับ ผมแอบ เห็นท่าที่ของพี่เขาเหมื่อนกำลังร้อนมากๆอยู่ๆ ยิ่งเห็นพี่เขาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้ว ผมยิ่งรู้สึกผิด . . . ทั้งๆ ที่พี่เขาจะกลับไปเลยก็ได้. . แต่กลับต้องมายืนรอตากแดดเพื่อ รอ ให้ผม ใช้โทรศัพท์ ให้เสร็จก่อน . . ในเวลานั้นเองจิตใต้สำนึกถูกผิดของผมอยู่ๆ ก็เกิดทำงานขึ้นมา. . ผมเลยแกล้งๆ เหมือนคุยกับคนในสายๆทั้งๆที่ไม่ได้กดโทรออก. .

“อ๋อครับ ผมอยู่นี้แล้ว ครับ ออก. . มารับผมเลยนะ คร้าบขอบคุณมากครับ”หลังจากที่แกล้งเล่นละครอะไรเสร็จผมก็รีบคืนโทรศัพท์พี่เขาไป. . .เป็นเพราะความเกรงใจ บวกกับความรู้สึกผิดที่ต้องทำให้พี่เขา มายืนตากแดดกับผม เลยรีบๆ คืนๆ พี่แกไป . .  แต่สีหน้าของพี่เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย พี่เขายังคงส่งยิ้มกลับมาให้ผมเหมือนเดิม. . ทั้งๆ ที่เหงื่อเต็มหน้าของพี่เขาขนาดนั้น . . ก็ยังไม่มีทีท่า ว่าจะโกรธเคืองอะไรผมแม้แต่นิดเดียว. .

“ให้รอเป็นเพื่อนไหม!”พี่เขาหันมาถามขณะที่ผมกำลังก้มลงมองพื้นอยู่

“อ๋อไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยว คนที่บ้านผมก็มารับแล้ว . . แล้วทำไมพี่ถึงยังไม่กลับอีกละครับ หรือว่ารอแฟนมารับ”


“ป่าวหรอกพี่รอน้องชายมารับ ไม่รู้ป่านนี้ มัวไปเถลไถลที่ไหนอยู่ ถึงมาไม่ถึงซักที อ่อ. . นั้นไงมานู้นแล้ว. ”พี่เขาพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่รถ เบนซ์สีดำป้ายแดงที่กำลังเคลื่นอนเข้ามาใกล้ตัว. .  ผมมองแล้วก็แอบกลืนน้ำลายตาม  คนอะไร จะหล่อ รวย และแถมยังมีน้ำใจได้ขนาดนี้. . นึกๆแล้วผมก็แอบคิดถึงพี่ริวขึ้นมาเลยแหะ ฮ่าๆ

ระหว่างที่รถเบนซ์คันหรู่ก็เข้ามาจอดอยู่ด้านหน้าของผมไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออกโดย คนที่ทำให้ผมต้องร้อง อ๋อขึ้นมา. ฝั่งนั้นดูอึ้ง ส่วนตัวผมก็อึ้งไม่ต่างกัน . .

“ไอเดย์!”

“เจ!” นี้มันโลกกลมความบังเอิญหรือพรมหมลิขิตกันแน่ที่ทำให้ผมกับคู่อริถึงมาเจอกันได้ในเวลาแบบนี้. .

“สองคน รู้จักกันหรอ?”ไม่ใช่เสียงผมหรือเสียงของไอเดย์ แต่เป็นพี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมต่างหาก . .

“ไนท์รู้จักเจด้วยหรอ?”คราวนี้เป็นไอเดย์ที่เปิดประเด็นคำถามขึ้นมาครับ . . . . แต่เดี๋ยว นะ ไนท์ กับเดย์ ชื่อสอดคล้องกัน บวกด้วยเมื่อกี้พี่เขาบอกว่าน้องชายจะมารับ งั้นก็แสดงว่า . . .สองคนนี้ เป็นพี่น้องกัน งั้นเหรอ .. .เอื้อก  !!!

“ก็ไม่รู้สิแต่พี่รู้สึกคุ้นหน้าน้องคนนี้ยังไงก็ไม่รู้. . ”. . .ผมได้แต่เงียบไม่พูดอะไร . . . เพราะตัวกำลังอึ้งแดกอยู่. . เลยปล่อยให้สองพี่น้องยืนคุยกัน. . .

“ก็เจ. . .คนนั้นน่ะ คนที่ เดย์ เล่าให้พี่ฟังว่าไอเปรมมันชอบแกล้ง . .ที่เดินผ่านบ้าน แล้วก็ร้องไห ตอนนั้นไง . . .”

“อ๋อน้องคนนั้น นี้เองว่าอยู่ทำไมพี่ถึงคุ้นหน้าจัง. . ว่าแต่. .บ้านน้องเขาอยู่แถวไหน. . ”

“ก็ห่างจากบ้านเราไปประมาณ 5-6หลังไง บ้านเรือนไทย ที่หลังคาสูงๆอ่ะ”

“อ๋อน้องไอเจมส์หรอ?”ผมถึงกับต้องหันหน้าไปมองพี่ชายของไอเดย์ ที่อยู่ๆ พี่แกก็เรียกชื่อพี่ชายผมออกมา . .

“พี่รู้จักพี่เจมส์ด้วยหรอ?” สีหน้าของพี่เขายังยิ้มอยู่ตลอดเวลา. .

“สนิทกันเลยหล่ะ เมื่อก่อนหลังเลิกเรียน พี่ ก็ไป ซ้อมบอลอยู่ที่บ้านเจมส์บ่อยๆ แต่ไม่เคยเห็น เจ เลย แต่จะว่าไปพี่ก็ไปที่นั้นบ่อยนะ ไม่รู้สึกคุ้นหน้าพี่บ้างเลยหรอ?”

. .  .นึกๆ ไปสมัยที่ผมยังอยู่ม.ต้น ช่วงนั้นผมไม่ค่อยได้สนใจเพื่อนๆ ที่เข้าออกบ้านของพี่เจซักเท่าไหร่ เพราะแต่ละวันนี้มากันเยอะมากจริงๆ มาไม่ต่ำกว่าวันละ 10 คน ช่วงนั้นผมเลยคิดว่า พี่ชายของผมต้องเป็นพวกหัวหน้าแก้งนักเลง แน่ๆ ถึงได้มีคนคอยตามมากมายขนาดนั้น แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องซ้อมฟุจบอลที่บ้าน ก็คงมีอยู่เหตุการณ์นึงที่ผมจำได้ขึ้นใจ คือ เพื่อนคนไหนซักคนของพี่เจมส์นี้แหละ เตะฟุตบอลไปโดน กระจกหน้าต่างห้อง ของพ่อผมแตก พ่อของผมลงมาโวยวายกันยกใหญแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เอาแต่ๆ บ่นๆ แล้วก็เดินกลับขึ้นไป. .  พอนึกได้ผมก็ถึงกับร้อง อ๋อ ออกมา . . . ที่อ๋อไม่ใช่ว่าผมจำได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อะไรหรอกนะ แค่ลองเดาๆ ดูอาจจะถูกก็ได้. .


“อ๋อ ที่กระจกหน้าต่างห้องพ่อผมแตก เป็นฝีมือพวกพี่ใช่ไหม . . .”

“พี่คนส่งไม่ใช่คนเตะ ไอเจมส์มันเตะพลาดไปโดนเองพี่ไม่เกี่ยวนะ . . ”เอาไปเอามาสรุปก็คือฝีมือพี่ผมเองนั้นแหละครับ หึหึ = =’

“แล้วนี้จะยืนโม้กันอีกนานไหมละไนท์ อากาศเริ่มร้อนแล้วนะ ไม่รีบกลับบ้านกันหรอ. .”

“ปะๆ กลับก็กลับ ”พูดจบพี่ไนท์แกก็เปิดประตู ขึ้นรถไปนั่งข้างหน้าทันที . .

“อ้าวเจ ยืนอึ้งทำไม ไม่ขึ้นรถมาละเดี้ยว เราไปส่ง ”. . .  ถึงผมจะอยากตอบตกลงมากแค่ไหนก็เถอะ แต่ด้วยความที่ผมกับไอเดย์ เราสองคนไม่ค่อยกินเส้น กัน เลย เป็นเรื่องยากที่ผมจะตอบตกลงมันไป . .

“อ๋อไม่เป็นไรหรอก อีกสักพักเดี๋ยวคนที่บ้านก็มารับแล้ว เราไม่รบกวนดีกว่า ” ผมส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้ไอเดย์ที่นั่งอยู่เบาะหลัง .  .  .

“เถอะน่านะๆ ไปด้วยกัน. . ฟึบ”ผมยังไม่ทันได้ตอบตกลงอะไร แต่ไอเดย์กลับเปิดประตู  แล้วดึงมือผมเข้าไปนั่งกับมันข้างใน  เป็นทีเรียบร้อยแล้วครับ. . แต่ทำไมอยู่ๆ ผมถึงได้นึกถึงการกระทำที่อุกอาท แบบไม่ขอความคิดเห็นอะไร จากผมแถมยังดื้อดึงที่จะทำอีก. . .อ๋อ [จะเป็นใครไปไม่ได้นอก จาก คุณชาย ]  หายไปหลายอาทิตย์ โทรไปก็ไม่เสือก รับอีก . .หึหึ ดี รอถึงคราวไอเจคนนี้ เมื่อ ไหร่ .  . . ก็เมื่อนั้นแหละ . . . หึหึ[พูดเพื่ออะไรละเนี้ย = =’]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [21]〖15-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-05-2016 18:45:38
. . . . . .  . . . . . . . . . . . . . .


“หะ . หะ ห๊าดดด ชิ่วว !!!”หลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ผมมัวแต่ช่วยงานที่บ้านอยู่เลยไม่ค่อยมีเวลาได้พักผ่อนเลยวันๆ ก็ได้แต่จ้องหน้า คอม เช็คเอกสารแถมยังต้องเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศกับครอบครัวของผมอีก กะว่าช่วงที่สอบเสร็จจะพา เจ มันไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก ซะหน่อย แต่ความเป็นจริงมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ผมหวังขนาดนั้น เพราะเวลาของผมเกือบ 98% หมดไปกับธรุของที่บ้าน ช่วงนี้ผมเลยไม่ค่อยได้ติดต่อกับเจเลยไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

. . . . . . .

[19.20 น.] ผมเดินเข้าห้องน้ำ รีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปนอนที่เตียง พอหัวถึงหมอนผมก็แทบจะฝืนตาให้ลืมไม่ขึ้น แต่ภายในเวลาไม่กี่เซี้ยววินาที ที่ผมหลับตา อยู่ๆ ก็นึกถึงหน้า ของ เจขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะช่วงนี้ผมทำงาจนเบลอไปเอง หรือเป็นเพราะผมคิดถึงมันก็ไม่รู้ [ใช่ ผมคงจะคิดถึงมัน] ผมลองโทรไปที่เบอร์ ของเจ อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไร้วี่แวว ว่า เจมันจะรับสาย อาจเป็นเพราะเจกำลังโกรธ ที่อยู่ๆ ผมก็หายไปโดยที่ไม่ได้บอกอะไรให้เจมันฟังเลย . . ผมล้มเลิกความคิดที่โทรไปหา แต่เปลี่ยนมาเป็นทักแชท ไปแทน  . .  [J’Jatarin] ปุ่มสีเขียวด้านข้างแสดงให้เห็นว่า กำลังออนไลน์อยู่ ผมไม่รอช้ารีบ ทักแชทเจ . . .

Sky:เจ. .  เจ เจ . . .  เจคร้าบ! [พร้อมส่งอีโมชั่นรูปแมวอ้อนๆ] ผ่านไปสองสามนาทีก็ไร้วี่แววที่จะมีคนตอบบ. .

[ดูโดย J’Jatarin]  และนั้นก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ผมมั่นใจว้ามันกำลังโกรธผมอยู่แน่ๆ เลย

Sky:อ่านแล้วทำไมไมตอบละ โกรธอยู่หรอ ?

[ดูโดย J’Jatarin]  . . . .

Sky: อย่าเงียบอย่างนี้ดิ เจ ! กูผิดไปแล้วกูขอโทด กลับมาคุยกัน เหมือนเดิมนะๆ น้าๆ’ถึงผมพยายามจะขอโทดไปแค่ไหน แต่สุดท้าย สิ่ง ที่ได้กลับมาก็คือความเฉยชาของมันอยูดี. .  ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่หน้าอกพลางคิดถึง เจที่กำลัง นอนซบ อยู่ที่หน้าอก. . เวลาที่มีอะไรมาทับอยู่ที่บริเวณ หน้าอกของผม ผมมักจะหายใจไม่ค่อยออก เป็นเพราะทางเดินหายใจของผมไม่ค่อยดี  . .  แต่พอเห็นหน้า ของเจตอนที่นอน อยู่แล้วยิ้มอย่างมีความสุข มันทำให้ผมลืมเรื่องอาการหายใจติดขัดไปหมดเลย. . เหลือไว้แค่เพียงเสียงหัวใจที่เต้นดังอยู่ข้างในอกของผม. . . หรือบางเวลาผมแกล้งหรือหยอกอะไรที่ทำให้เจมัน เขิน มันจะชอบหลบสายตาหันหน้าหนีไปทางอื่น หรือถ้าหาก หมดหนทางหนีแล้วละก็ เจมันจะเปิดเสื้อ และก้มลงกัดที่หน้าอกของผมด้วยฟันของมันทุกที เห้อ ยิ่งนึกก็ยิ่งทำให้ผมคิดถึงมันมากขึ้นไปอีก. . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [21]〖15-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-05-2016 18:54:13
ตื้อดึ่ง !! เสียงการแจ้งเตือนดังขึ้นมาจาก ปุ่มติดตามที่ผมกดไว้ทีหน้าวอของเจ. .

“โสดๆ บอกต่อด้วย !!!”เมื่อสักครู่นี้ . . . . ถ้าหากเป็นคนอื่นโพสผมจะไม่สนใจอะไรและเลื่อนปล่อยให้มันผ่านไป แต่นี้ เป็น เจ. . คนที่ผมกำลังคิดถึงในตอนนี้ แต่ อยู่ๆ มันมาโพสแบบ นี้ ผมเลยรู้ขึ้นมาทันทีว่า เจมันกำลัง เอาคืนผมอยู่แน่ๆ . . .ผมไม่รอช้ารีบกดเบอร์โทรไปหาเจมันทันที . . . . 


ตื๊ดดด !!! ผมนั่งรอสายอยู่นานจนมันดับไป . . . .ผมกดโทรซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนเกือบ ห้าสิบ สาย และในที่สุดก็เจ้าของเบอร์ปลายทางก็กดรับสายจากผม. . .

 “ฮัลโหล. ล ล ล ล..”ผมยื่นโทรศัพท์เข้ามาแนบกับหูให้ใกล้กว่าเดิม ไม่รู้ว่าเพราะผมพักผ่อนน้อยหรือเป็นเพราะปลายสายกำลังทำอะไรอยู่ผมถึงได้ยินเสียงของเจไม่ค่อยชัด. .

“ฮัลโหล. . เจ  ฮัลโหล ได้ยินไหม?”

“ห้ะ. . .ฮัลโหล  (เอ่อรอแปปนึงนะ)[เหมือนเจกำลังคุยกับใครอยู่]. . . . . นั้นใครครับ ?”. . .

เสียงบิรเวณรอบข้างนั้นค่อยๆ เงียบๆ ลง แต่สิ่งที่แปลกไป คือ คนที่รับสายในตอนนี้ ไม่ใช่เจ แต่เป็นใครก็ไม่รู้ . . .
“แล้วคุณเป็นใครครับ. . ”

“อ๋อผมเพื่อนเจ มันครับ มีธุระอะไรด่วนรึเปล่า. .

.”ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แต่ผมขอคุยกับ เจหน่อยได้ไหม”ผมถามไปอย่างมีหวัง. . .

“ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่สะดวก หรอกครับ ตอนนี้ เจมันเมานั่งอยู่ในบ้านกับพวกเพื่อนๆอยู่ครับ พอดีช่วงงานเลี้ยงรุ่น นัดเจอกันไม่ไม่หมด เลยมาต่อกันที่นี้อีกรอบนึง ”

“เพื่อนๆที่ไหน?”นอกจากไอวินแล้ว เจมันยังมีเหมือนคนไหนที่ผมไม่รู้จักอีกนะ?

“เพื่อนเก่า สมัยมัธยมนั้นแหละครับ (เห้ยย ไอเปรมมึงจะพา ไอเจ ไปไหนวะ . . . จะโยนมันลงสระเลยรึไง!)”ทันทีที่เสียงของปลายสายเงียบลงทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ . . .ว่าคนที่ชื่อเปรมมันเป็นใคร..  ผมไม่รอช้ารีบถามปลายสายกลับไป

 “ตอนนี้เจมันอยู่ที่ไหน?”

“อ๋อตอนนี้อยู่ที่. . . .  . . .”ตื๊ดๆๆ เสียงสัญญาณปลายสายถูกตัดไป โดยที่ผมยังไม่ได้ยินคำตอบ. . . ผมบอกอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูกเลยว่าตัวเองรู้สึกยังไง บอกได้แค่ว่า ในใจของผมตอนนี้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข. . ผมพยายามโทรกลับไปที่เบอร์ของเจอยู่หลายครั้ง แต่กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ ราวกับว่าปลายสายตั้งใจจะปิดเครื่องหนี ... ใจนึงผมก็รู้สึกหึง อีกใจนึงก็ห่วง ไม่รู้ว่าส่วนไหนมันมากกว่ากัน. . . แต่สิ่งที่ผมอยากรู้ในตอนี้ก็คือ เจ อยู่ที่ไหน ?ทำอะไร? กับใครอยู่กันแน่?


ครืดๆๆๆ!!! ระหว่งที่ผมกำลังนอนคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่คนเดียวจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ ก็ดัง ขึ้น . . . ผมรีบกดรับ โดยไม่ทันได้มองเบอร์ . . . 

“ฮัลโหล. . ”ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูกระวนกระวาย

“โหลๆ ไอกาย มึงอยู่ไหนของมึงวะ . . ”ถึงผมจะแอบผิดหวังเล็กน้อย ว่าคงที่โทรมาน่าจะเป็นเจมากกว่าไอวินก็เถอะ . . แต่ยังไงผมก็คงต้องคุยกับมันไปอยู่ดี ก็ดันกดรับสายไปแล้วนิ่. . .

“อยู่บ้าน พึ่งกลับมาจากจีน. . มึงมีธุระอะไรด่วนรึเปล่า”

“ธรุของกู ไม่มีหรอก แต่ถ้าเป็นคนข้างกูก็ไม่แน่. . .”

“คนข้างๆ?”

“ก็ไอเจเด็กมึงไง ตั้งแต่กูมาถึง มันก็เอาแต่ๆ บ่นๆ ว่าโดนทิ้งเชี่ยอะไรของมันอยู่คนเดียวนี้แหละ พอกูถามแม้งก็ไม่ยอมพูด”

“มึงว่าไง นะ มึงอยู่กับเจมันหรอ ?” ผมถามไอวินกลับไป อย่างโล่งใจ. . . [ตอนแรกผมคิดว่าเจมันจะอยู่กับพวกไอเปรมอะไรนั้นซะอีก]

“เออดิ่ . . กูพึ่งเดินไปแย่ง ตัวจาก พวกเชี่ยนั้นมา แม้ง จะเมาแล้วเหว๋อ จะโยนไอเจ ลงน้ำเฉย ดีนะกูเข้าไปดึงตัวมันไว้ทัน ไม่งั้นป่านี้ได้ตาย ห่ากันไปละ . . ”

“งั้นกูขอคุยกับเจหน่อยดิ่”

“ถ้ามึงฟังรู้เรื่องก็เอา. . (อ่ะเด็กมึงโทรมา)”

“ฮัลโหลววววววววววววววววววววววววววววววววววววววคร้าบบบ เอื้อกๆ !!”ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ครับว่าตอนนี้ ไอเจมันคงเมาไม่ได้สติอยู่แน่ๆ

“เจ อยู่ไหน  อยู่กับใครทำอะไรอยู่”

“ห้ะ  . .ว่างายยย น่ะ เอื๊อก!”

“อยู่   ที่    ไหน”

“อ๋อ กินข้าวแล้ว เอื้อก มึงกินข้าวยังอ่ะ. .เอื้อก ว่าแต่มึงเป็นใครวะ. .(พอๆ ไอห่ามานี้กูคุยเอง) เออ เห็นไหมกูบอกแล้ว มึงคุยกับมันตอนนี้ไม่รู้เรื่องหรอก?”

“วินๆ ตอนนี้มึงกับไอเจอยู่ที่ไหน. . ?”

“ตอนนี้หรออยู่บ้าน ไอเดย์ ที่จันทบุรี. . ”

“จันทบุรี..แล้วมึงไปทำอะไรที่นั้นกันวะ . .  ”

“กูก็ไม่ได้ตั้งใจมาหรอก ถ้าเจมันไม่โทรชวนกูมาเนี้ย. . แต่จะว่าไปก็โชคดีของมันไปอีก ถ้าเกิดวันี้กูไม่มาละ ก็ป่านนี้มันได้กลายเป็นผีเฝ้าสระไปแล้วหึหึ”

“ไหนมึงลองบอกทางไปบ้าน ไอเกย์อะไรนั้นให้กูฟังหน่อยสิ”

“เดย์ มันชื่อเดย์ ไอห่าไม่ใช่เกย์”

“เออจะเกย์ จะเดย์อะไรก็ชั่งแม้งเหอะ. . รีบบอกมาเร็วๆ”

“อ่ะตั้งใจฟังนะ . . .. . . . .(*(^*&%^#^%*&$%!@!#@#!6 เข้าใจยัง”

“เออๆ เข้าใจแล้ว อีกพักนึงกูคงถึง มึงนั่งอยู่นั้นเฝ้าไอเจไว้ให้ดีๆ ละอย่าให้มันไป ยุ่งกับ พวกนั้นเข้าใจไหม.. ”

“กูรู้หรอกน่า . . แต่มึงรีบมาหน่อยก็ดีนะ ขืนมึงมาช้ากว่านี้ กูคงรับรองไม่ได้เหมือนกันว่ากูจะทำอะไรมันรึเปล่าหึหึ. . ”

“มีเรื่องอะไรวะ ?”


“มึงเองก็รู้ดีเวลาไอเจมันเมาแล้วสภาพมันเป็นยังไง. . ”ตอนเจมันเมาหรอ. . . ผมลองนึกภาพตามไปตอนช่วงแรกๆ ที่ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับเจมันตอนนั้น. . .ที่ห้องผม. . เจมันเมา. . . .และ. มันก็เริ่มเกิดอาการ. . หื่น! (ชนิดที่ว่าถ้าไม่ได้ลวนลามมันก็จะไม่หยุด. .)

“เออ งั้นมึง หาโซ่ห่าอะไรล่ามมันไว้เลยนะไม่เกิน สองชั่วโมง น่าจะถึง ”

“รีบๆ มาละบายย!”ทันทีที่กดวางสายจากไอวินผมรีบวิ่งลงไปที่ด้านล่างหยิบกุญแจรถก่อนจะรีบขับมาตามเส้นทางที่มันบอก . . .  รอพึ่งไปลวนลามใครนะเจ . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [21]〖15-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-05-2016 19:06:09
. . . . . . . . . . . . . . . . . . .  . . . . .

“เจๆ เงยหน้าขึ้นมาคุยกับกูหน่อยดิ่ไอห่า. . ไหวปะเนี้ย. . ”ผมรูสึกว่าเสียงเรียกของคนรอบข้างดูอู้อี้ไปหมด ฟังยังไง ก็ไม่รู้เรื่อง. . .แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ไอกายเต็มไปหมด ตรงริมสระก็ใช่ ห้องครัวก็ใช่ สนามนอกบ้านก็ใช้ . . แถมไอคนที่นั่งข้างๆ ผมตอนนี้ก็ใช่. . .เห้อ . . กายกูคิดถึงมึง . . ไหนๆ มึงก็อยู่ใกล้ ๆแล้ว กูขอจูจุ๊บให้หายคิดถึงหน่อยละกัน อื้อ!!


“เห้ย เจ มึงจะทำอะไร ยื่นหน้ามาทำไม อย่านะเว้ย กู . .อุ้บบส์!”อ่าส์ในที่สุดผมก็ได้จูจุ๊บไอกายมันซะที หลังจากที่มัวแต่นั่งคิดถึงมันอยู่นานในทีสุดผมก็ได้ทำตามที่ใจตัวองอยากซักที ^ ^

“อื้อๆไอเออ่อยอู่ๆ . . อั้ววว ! ไอเชี่ยเจ มึงจูบกูทำไม เนี้ย ถุ้ย แหวะ. .. มึงจูบกูแล้ว เรียกแม่มึงมาขอกูเลยนะสัด. .”

“สินสอดเท่าไหร่ดีละ เค้าทุ่มให้ตัวเองหมดตัวเลยน้า ^ ^ ”

“ร้อยล้านเลยสัด. . ”

“แต่ก่อนจะจ่าย เอื้อก! ขออีกทีได้มั้ย น่านะๆ”

“อย่านะเจ ถ้ามึงเข้ามาอีกที ต่อยมึงจริงๆ ด้วย. .”

“นะ น่ะ ทีเดียวเองนะๆ ขอเจหอมก็ได้นะๆ ”

“จะจูบหรืจะหอมกูก็ไม่ให้ทั้งนั้น . . .อย่าๆ เข้ามานะมึง ม้ายยยย !!”ในเวลานั้นเองระหว่างที่ผมกำลังนั่งสวีทอยู่กับกายอยู่ๆ ก็มีเสียงหมาที่ไหนไม่รู้ว่าขัดจังหว่ะ ผมกับกายเอาซะได้. . .แต่เอ๊ะ. . ทำไมไอกายถึงมีสอง คนละ เห้อๆ

 “พอๆ หยุดได้แล้ว วินมึงรีบลุกออกมาเลย”

“หื้ออะไรอินๆ นะ พี่อินมาเหรอพี่อินหวัดดีคร้าบบบ เจไม่ได้เมานะ เจ แค่ อั้ว !!” . . . .

 
“โอ้ยย สวรรค์ กูขอบคุณจริงๆ ที่มึงมา มึงไม่รู้หรอกกาย ว่ากูต้องเจออะไรมาบ้าง ไหนๆ มึงก็มาแล้วกูฝากรับช่วงต่อเลยละกันกูขอตัวไปอ้วกก่อน ”เอ้านั้นไอกายจะหนี ไปไหน พึ่งได้เจอกันแท้ๆ ทำไมถึงรีบไปนักละ ผมค่อยๆ รวบรวมสติของตัวเองให้ยืนขึ้น ก่อนจะรีบวิ่งไปรั้งแขนของกาย[ไอวิน]ที่กำลังวิ่งออกไป แต่ดันมีมือของใครก็ไม่รู้ดันหัวผมไม่ให้วิ่งตามไปไอกายไป. . ผมค่อยๆ เบิกตาให้กว้างขึ้นเพื่อมอง บุคคลที่ยืนอยู่ด้านหน้าผมด้วยสีหน้าที่ดูเย็นชาแปลกๆ

“อ้าวกายอยู่นี้ แล้วไอกายที่วิ่งไปนั้น[ไอวิน]ยังไงกันแน่วะ  เอื้อก! ช่างเถอะ. .นั่งลงก่อนผมยังคุยเรื่องของเราไปจบเลยนะ”พูดจบผมก็นั่งยิ้มแล้วดึงมือไอกายให้ลงมานั่งข้างผม. .ก่อนจะเริ่มภารกิจรักระหว่างผมกับไอกายต่อ ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าที่ดูเย็นชาของกายมันก่อนจะค่อยๆ สูดดมตามต้นคอ ใบหน้า และแก้มของมันอย่างช้าๆ แต่ที่แปลกคือครั้งนี้กายมันไม่เห็นพูดอะไรเหมือนเมื่อกี้เลยละ กลิ่นเหงื่อหอมอ่อนๆ บวกกับน้ำหอมที่กายมันชอบใส่มาบ่อยๆ พอสูดดมเข้าไปทีไร มันก็ทำให้ผมเริ่มเกิดอาการหวั่นไหวขึ้นมาทุกที. . . ผมไม่อาจที่จะห้าม การกระทำของผมในเวลานี้ได้. .  แถมเจ้าตัวก็ยังนั่งนิ่ง ไม่ยอมพูดจาอะไรอีก เงียบๆ อย่างนี้สิ ถึงจะใช่ไอกายมัน ผมล่อยเลื่อนลิ้นเข้าไปสัมผัสบริเวณคอของกายมันช้าๆ ผมแอบได้กลิ่นสบู่อ่อนๆ ทั้งที่เมื่อกี้ตอนจูบ[ไอวิน]ก็ไม่เห็นจะได้กลิ่นนี้เลย ร่างกายของมันเริ่มขยับนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ทำทีท่าว่าจะขัดขืนอะไรออกมา ผมเลยยิ่งได้ใจดูดเลียบริเวณซอกคอจนสาแก่ใจก่อนจะเลื่อนขึ้นมาที่กกหู. . หน้า แก้ม และลงมาที่ปาก. . รสจูบครั้งนี้ถือว่าอ่อนหวานกว่าเมื่อครู่มาก หลังจากที่จูบอยู่นาน จนผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเอง ลืมตาแทบจะไม่ขึ้นแล้ว ผมรู้สึกเคลิ้มจนขนลุกซู่ไปทั้ง ตัว คนตรงหน้าก็คงจะไม่ต่างกัน. .แต่ในช่วงที่อารมณ์ของผมกำลังพรุ่งพร่านก็เริ่มรู้สึก. . มึนหัวขึ้นมาแปลกๆ ผมผลักหน้าของตัวเองให้ออกห่างจากไอกายก่อนจะค่อยๆนั่งดึงสติที่มีอันน้อยนิดของตัวเอง มอง ที่หน้าของมันใหม่อีก ครั้ง. . ก่อนจะ. . ฟุ้บ...ปั๊ก!!!และตัวผมก็เผลอพล้อยหลับไปด้วยความเมา. .. . .
 

. . . . . . . . . . . . .

เช้าวันต่อมาผมดีดตัวเองตื่นขึ้นมาจากเตียงได้เพราะเสียง ไก่ที่ขันอยู่ข้างๆบ้าน [ผมมานอนอยู่ที่ห้องตัวเองได้ยังไงนะ ] แต่ลุกมาได้พักเดียวก็ต้องนั่งกุมขมับของตัวเองอีก คงเพราะอาการแฮ้งจากเมื่อคืนยังไม่หายดี ตื่นมาถึงได้มึนหัวตึ้บๆ ขนาดนี้ โอยย. .

“อื้อ. . ” การกระทำทุกอย่างของผมถูกหยุดลง อยู่ๆ ก็มีเสียงอู้อี้ ปริศนา ดังขึ้นมาจากใต้ผ้าห่ม . . ผมละมือทั้งสองข้างออกจากหัวของตัวเองก่อนจะยื่นมือไป ไปดึงผ้าห่มที่ดูเหมือนกำลังปกคลุมร่างกายอันใหญ่ยักษ์ของใครอยู่. . แต่พอเปิดออกมาก็ทำเอาผมแทบจะอึ้งแดก. . เพราะไอคนร่างควายที่กำลังซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มคือ.. ไอกาย. . มันมาได้ไงวะ เนี้ย . .

ผมรีบปิดผ้าคลุมหน้าของมันไว้ดังเดิมก่อนจะลองใช้มือทังสองข้างขยี้ตาของตัวเองอีกที ก่อนจะลองเปิดใหม่. . อืมมม ชัดเจน  ครับ เป็นไอกายไม่ผิดแน่.  . .แล้วไหงมันถึงนอนเปลือยท่อนบนอย่างนี้ละ . . . โอ้ยๆ ตายๆ เมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันละเนี้ย ผมพยายาม นั่งหลับตานึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน. .แตนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก . . .ผมเลยลองตวรจสอบตามร่างกายของตัวเองดู . . ทุกอย่างยังดูปกติหมด จึงแน่ใจได้ว่า เมื่อคืน ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับผมอย่างแน่นอน [เอะรึจะมี !!]

“ตื่น แล้ว หรอ!”เสียงอู้อี้ของไอกายดังมาจากใต้ผ้าห่ม ก่อนจะใช้มือดึงผ้าที่ปกคลุมหัวขอมันอยู่และหันมามองหน้าผมด้วยสายตาที่.ไม่สามารถบ่งบอกอารมณ์ของมันในตอนนี้ได้เลย . . ผมรีบกระโดดลงมาจากเตียงพร้อมกับดึงผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ มาปกคลุ่มร่างกายของตัวเองไเอาไว้

“มึง มาได้ไง .?”

“ขับ รถมาสิ. . จะให้เหาะมารึไง. .” ยังมีหน้าจะมาตอบกวนตีนอีก. .

“แล้วใครให้มึงเข้ามา แล้วมึง มาที่นี้ได้ยังไง ใครบอกอะไรมึง แล้วทำไมมึงถึง. . .”

“โอ้ย ใจเย็นๆ ค่อยพูดก็ได้ กูฟังไม่ทัน. . ”ผมพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงก่อนจะค่อยถามมันกลับไปใหม่.


“มึงมาที่นี้ได้ไง แล้วใครให้มึงมา?”น้ำเสียงผมแอบเหวี่ยงๆ มันเบาๆ ถึงลึกๆ ผมจะแอบดีใจที่มันมาก็เหอะ แต่การหายตัวไปหลายอาทิตย์ของมัน ทำให้ผมไม่สามารถ แสดง อารมณ์แบบนั้นออกมาได้เลย

“ไม่มีใครบอกให้มาหรอก กูอยากมาของกูเอง.”

“แล้วมึงมาถูกได้ยังไง ”

“ก็มีสายคอยบอกไง”

“สายมึง. . .ใคร?”ผมยืนจ้องตาเข้มงไปที่ไอกายแต่ดุเหมือนมันจะไม่รู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวอะไรบ้างเลยแหะ. . สีหน้าของมันนิ่งมากราวกับว่ามันไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย.

“ไม่มีอะไรหรอกน่า ช่างมันเถอะ มาถึงก็ดีแล้วนิ่. .”

“แต่กูไม่ได้บอกให้มึงมาซะหน่อย. . ”

“พูดอย่างงี้อยากให้กูกลับหรอ”

“เออกลับไปเลย ออกไปตอนนี้ได้เลยยิ่งดี. .มาทางไหนมึงรีบกลับไปทางนั้นเลยนะ ” ผมเผลอพูดออกไปโดยไม่ทั้งยั้งคิด. . .ผมแอบเห็นกายมันแสดงสีหน้าเศร้าๆ ออกมา. .

“มึง. . โกรธกูหรอ !. ”ผมไม่ตอบได้แต่นิ่งไม่ยอมพูดและหันหน้าไปมองทางอื่น[ใครดูก็รู้ครับ ว่าอาการแบบนี้มันเหมือนโกรธกันอยู่ชัดๆ]


“. . . . .. . . ”

“พูดอะไรกับกูหน่อยสิเจ. . กูเป็นห่วงความรู้สึกมึงหรอกนะกูถึงมาททีนี้” [ไม่ใช่เพราะหึงกลัวน้องเจจะไปลวนรามคนอื่นหรอกหรอ. . คึคึ] [คนเขียนอยากตายหรอครับ. . ] [อุ้ยย!ขอโต๊ดก๊าบบ T-T]

“. . . . .. ”ผมอยากจะเอ่ยถามเหตุผลว่าทำไมอยู่ๆ มันถึงหายไป . .  แต่เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมากั้นไม่ให้ผมทำสิ่งนั้นเอาไว้.

“ที่กูหายไปเพราะกูมีธุระที่บ้าน. .  มึงรู้ไหมเจ ในหนึ่งอาทิตย์กูต้องเดินทางไปต่างประเทศไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้วทุกครั้งที่กูไปก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่กุไม่คิดถึงมึง. กูพยายามจะหาเวลาว่างเท่าที่กูมีติดต่อมึงกลับมาเลยนะ. . แต่กูก็ทำไม่ได้. . ถึงช่วงเช้าจะเป็นเวลาว่างของกู . . . แต่ในอีกซีกโลกนึกก็คือเวลาผัพผ่อนของมึง กูอยากจะโทรหามึงแทบตาย แต่กูต้องห้ามตัวเอง ไว้ เพราะมันไม่ใช่เวลาที่กู ต้องโทรไปรบกวนมึง.. อีกอย่างคือกูไม่อยากให้มึงเป็นห่วง. . และสิ่งที่กูกลัวมากที่สุด คือ การได้ยินเสียงมึง. . .กูกลัว. . .กลัวว่าจะห้ามใจของตัวเองให้กลับมาหามึงที่นี้ไม่ได้. . กูเลยเลือกที่จะห้ามใจของตัวกูเองไว้ไม่ให้คิดถึงมึง และขาดการติดต่อไป. . "จบประโยคพูดของไอกายทำให้ผมกลับมานึกคิด.ถึง . ว่าทุกการกระทำ. . ทุกอย่างของไอกายมันสื่อแบบนั้นจริงๆ ทั้งสีหน้าแวว ตา และ . . ..เอ่อ [ผมเกือบจะเชื่อสิ่งที่มันพูดทั้งหมด ถ้าไม้บังเอิญไปเห็น มันก้มหน้าแอบยิ้มอยู่มุมปาก. . ]

“รีบเช็ดน้ำตาปลอมๆ ของมึงซะ. . . ไอห่ากูรู้หรอกว่ามึงแกล้ง”ผมแกล้งๆ พูดลองใจมันเล่น. .แต่ไม่คิดว่าคำตอบที่ได้ยินจะทำให้ผมอึ้งไปตามๆ กัน

“มึงมองออกด้วยหรอ ว้า . . ไหน แซมบอกว่าแอคติ้งดีไงวะ แม้งหลอกลวงกันชัดๆ” ก็นั้นนั้นแหละครับที่ทำให้ผมอึ้งแดก คนที่ไหน เขาจะกล้ายอมรับหน้าซื่อๆ ว่าตัวเองเล่นละคร หลอกคนอื่นอยู่ได้แบบนี้ . . .หึหึ ! คงจะมีก็แต่ไอกายมันคนเดียวนี้แหละครับ ที่กล้าทำ . . . ตอบได้นา่ตายมากเลยครับมึง !!
  :fire:

 TBC . . . . . . . . .

 :bye2:

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [21]〖15-05-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 15-05-2016 23:39:29
กายไม่ได้มีอะไรปิกบังเจใช่มั๊ย??
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [22]〖05-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-06-2016 12:19:53

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter: 22 วัน ธรรมดา [ที่ไม่ธรรมดา]

[เช้าวันอาทิตย์]

  หลังจากที่ส่งไอคุณชายไปเดินพรมแดงชิงรางวัลออสก้าเสร็จ ผมก็รีบเดินลงมาที่ด้านล่าง . . ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านของผมยังดูเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ต้นไม้นาๆ พันธ์ ที่ผมปลูกไว้อยู่ที่สวนหลังบ้านตั้งแจ่สมัยที่ยังเรียนอยู่มัธยม[แต่ส่วนใหญ่พี่เอมจะปลูกเองทั้งนั้น ส่วนผมเป็นแค่ลูกมือช่วยทำอะไรเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง. . ]

 “อ้าวน้อง เจ ตื่นแล้วหรอค่ะ.  ”เสียงหวานๆ ของพี่เอมแม่บ้านที่น่ารัก ที่เป็นเหมือนทั้งพี่และเพื่อนของผม

“เจพึ่งตื่นเมื่อกี้นี้เองครับ”แต่จะว่าไป. . .

“พี่เอมครับเมื่อวานเจกลับมานอนที่ห้องของตัวเองได้ยังไงหรอ?”

“อ๋อเมื่อวาน . .มีผู้ชายหน้าตาหล่อ ตัวสูง มาส่งน้องเจที่บ้านหน่ะค่ะ . .  ไม่รู้ป่านนี้ไปไหนแล้ว. .”

“หึ. มันยังไม่ไปไหนหรอกครับพี่เอม  มันนอนตายอยู่ข้างบนห้องเจนนู้น! ”

“อ๋อ พี่ก็นึกว่าจะกลับไปแล้วซะอีก งั้นน้อง เจ นั่งรอพี่อยู่ที่ครัวก่อนนะค่ะ !”

“แล้วพี่เอมจะไปไหนละครับ ไม่อยู่กินด้วยกันก่อนหรอ?”

“พี่ว่าจะขึ้นไปตามน้องผู้ชายข้างบนก่อนหน่ะค่ะ แล้วค่อยลงกินพร้อมกันเลยทีเดียว”

“แต่พี่เอม. . .”ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรพี่เอมแกก็รีบวิ่งขึ้นไปตามไอกายลงมาข้างล่างแล้วครับ - - * . . .พอไอกายลงมามันก็เดินๆมาเลือกที่นั่งที่ใกล้กับผม. . ก่อนจะคีบอาหารนู้นนี้นั้นใส่จาน จนพี่เอมแกเริ่มแปลกใจ จนหันมาส่งสายตาที่เหมือนจะแฝงไปด้วยคำถามมากมาย. .

“เอ่อ. . นี้น้องเจ. . .”พี่เอมแสดงทีท่าเหมือนจะเอ่ยปากถาม แต่ผมรีบพูดตัดบทสนทนาพี่แกซะก่อน

“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่เอม ก็แค่เด็กหลงทาง ถ้ามันกินเสร็จแล้ว ก็ช่วยไล่มันกลับไปทีละกันนะครับ ”พูดจบผมก็ดีดตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะเดิน ออกมาโดยไม่หันไปมองหน้าไอกายแม้แต่นิดเดียว. .

“แล้วนั้นจะไปไหนละค่ะน้องเจ ”พี่เอมทำหน้านิ่วคิ้วขมวดหันมาถามผม

“ไป หา อะไร กิน ข้าง นอก หน่อย ครับ !”แต่เหมือนผมจะเผลอใส่น้ำเสียง ประชดๆ ยังไงไม่รู้แหะ

“แล้วอาหารบนโต๊ะที่พี่ทำนี้ละ ไม่ถูกปากน้องเจบ้างเลยหรอ. .”

“อาหารของพี่เอมก็อร่อยเหมือนเดิมนั้นแหละครับ[แต่ที่ไม่เหมือนเดิม คือมี ไอกายมันมานั่งกินอยู่ข้างผมนี้ไง]แต่วันนี้เจอยากไปตลาดหาซื้ออะไรกินง่ายๆหน่อย พี่เอมคงไม่โกรธเจหรอก. . . ใช่มั้ย?”แต่ประเด็นจริงๆ มันอยู่ที่ว่าผมยังไม่อยากะเจอหน้ามันอยู่ด้วยไง ช่วงนี้ผมเลยอยากเอาคืนด้วยไม่คุยกับมันบ้าง. .มันอาจจะดูเหมือนเป็นวิธีที่(เด็กมาก)แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะหาวิธีเอาคืนไอกายมันยังไงให้สาสมได้เหมือนกัน. . เอาเป็นว่าเริ่มด้วยแผนการนี้ก็แล้วกัน. .

“พี่ไม่โกรธน้องเจหรอกค่ะ แตถ้าตอนเย็นอยากกินอะไรก็บอกได้นะ พี่จะได้ทำไว้ให้”   

“คร้าบบ!”เป็นอันว่าเริ่มต้นได้สวย. . .

. . . . . .

ระหว่างทางที่เดินมาตลาดผมก็แอบเหล่ซ้ายเหล่ขวา ว่ามีบุคคลต้องสงสัย ตามผมมาด้วยรึเปล่า . . แต่จริงๆ น่าจะเป็นผมที่คิดไปเองมากกว่า . .  . พอเดินมาถึงที่ตลาดผม็เดินตรงเข้าไปที่ร้านโจ๊ก เฮียอ้วน เฮียแกขาย มาตั้งแต่สมัย ตั้งแต่ผมยังไม่เกิด . .  ลุงอ้วนแกสนิทกับพ่อผม(เพราะเคยเป็นเพื่อนอยู่ในกรมทหารด้วยกัน)ผมเลยมักจะเห็นหน้าลุงอ้วนบ่อยๆที่บ้าน ตอนสมัยเด็กๆ   . . .ไหนๆ ก็ไม่ได้มาตั้งนานแล้ว ขอรื้อฟื้นความหลังหน่อยละกัน ฮิ ฮิ

“รับอะไรดี?”น้ำเสียงห้วนได้อีก ลุงแกพูดโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผม. .

“เอาข้าวมันไก่จานนึงครับ”

“นี้มันร้านโจ๊กช่วยแหกตาดู. . . . ไอหลาน เจ  ไอหลานเจจริงๆ ใช่ไหม โห่ ไม่ได้เจอกันนาน เปลี่ยนไปจนลุงจำไม่ได้เลยนะเนี้ย”

“หล่อขึ้นจนจำไม่ได้เลยใช่ไหมลุง. . ฮ่าๆ”

“หล่อกะผีสิ ขี้เหล่เหมือนพ่อของเอ็งไม่มีผิด”

“ดูลุงพูดเข้า ! ว่าจะมาอุดหนุน ซะหน่อย พ่อค้าปากไม่ดี ไปดีกว่า . . ”ผมแกล้งๆ เดินหันหลัง เหมือนจะเดิน จากไป แต่ลุงอ้วนแกก็เดินมารั้งแขนของผมไว้แถมยังส่งยิ้มแปลกมาให้ผมอีก

“โอย นี้เอ็งยังไม่ชินกับฝีปากของลุงอีกรึไง เอาเป็นว่า วันนี้ ไม่ต้องซื้อ หรอกเดี๋ยวลุงเลี้ยงเอง ตกลงไหม?”

“ตกลงครับ!”ตกลงแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย ของฟรีมีหรือไอเจคนนี้จัดพลาด . 

“ไม่คิดหน่อยเลยหรอ แบบ ว่า โอ๊ะไม่เป็นไร ครับ เดี๋ยวลุงจะขาดทุนเอานะ ไม่มีแบบนี้มั้งหรอ?”ถ้ามีก็คงจะเป็นคนอื่นแหละครับลุง คงจะไม่ใช่ผมคนนี้แน่นอน !

. . . . .
ลุงอ้วนใช่เวลาทำโจ๊กให้ผมไม่ถึงห้านาที ตอนนี้ที่โต๊ะของผมมีโจ๊กชามใหญ่(ย้ำว่าใหญ่มาก)พร้อมกับเครื่องเคียงอีกสารพัด. . ผมนั่งกลืนน้ำลายตัวเองดังเอื้อก ที่กลืนนี้ไม่ใช่เพราะผมหิวหรืออะไรนะ . . แต่เป็นเพราะว่ากำลังตกใจกับไอโจ๊กชามเท่ากะละมังที่วางอยู่บนโต๊ะนี่ต่างหาก . ..

“ลุงครับเอาโจ๊กแบบนี้อีกชามนึง”เสียงที่ฟังแล้วดูคุ้นหูดังมาจากกด้านหลัง . . ก่อนที่ร่างสูงๆนั้นจะเดินอ้อมมานั่งอยู่ตรงข้ามกับผม . . . ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ครับ ว่าใคร. .


“ทำไมหนีมากินข้างนอกคนเดียวละ . . ”. . . . . . ผมนั่งก้มหน้าตักโจ๊กเข้าปากต่อไปโดยไม่ได้หันขึ้นมามองหน้ามันเลย. .

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [22]〖05-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-06-2016 12:22:25
“นี้ๆ. . . . .  นี้ๆ เจมึงยังโกรธอยู่หรอ. . .หื้อ. .”มันพูดพลางยื่นมือยาวๆ ของมันมาจิ้ม ที่แขน ของผม อยู่หลายครั้ง . . จนผมต้องเก็บแขนมาวางไว้ที่หน้าขาของตัวเอง.  .

“. . . ”แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ละความพยายามที่จะก่อกวนผมเลยครับ มันยัง ขนาดวางมือไว้ใต้โต๊ะแล้วนะ ยังมานะจะเอาตีนมาเขียมือผมอีก . .  . ผ่านไปซักพักมันก็ยังทำอยู่แบบเดิมไม่ยอมหยุด จนผมเริม่รู้สึกรำคาณ เลยตะคอก มันกลับไป .

“โว้ย ห่ากาย มึงจะเขี่ยทำเชี่ยอะไรนักหนานี้ขากูนะ ไม่ใช่ ขี้ เขี่ยจริงๆ เลยมึงเนี้ย วุ๊ !”

“สุดท้ายก็ยอมคุยกับกุดีๆ แล้วสินะ” แถวบ้านมันคงเรียกว่าคุยดีสินะ  - -*

“คุยดีไม่ดีแล้วเกี่ยวอะไรกับมึงห้ะไอกาย . . .”

“จะไม่เกี่ยวได้ยังไงหล่ะ ก็มึง เป็นแฟนกูนิ่ !!!”จบประโยยคคำพูดเมื่อครู่ของไอกายทำเอาชาวบ้านบิรเวณนั้น ต่างพากันเงยหน้าขึ้นจากจานแล้วหันมาจ้องที่โต๊ะผมกันหมด บรรากาศเดียวกันกับตอนที่ผมเจอกับไอกายครั้งแรกเลย. . . แต่ช่างเรื่องเก่าก่อนเถอะครับ ตอนนี้มาสนใจ สายตานับร้อยที่จับจ้องมาที่ตัวผมดีกว่า ผม พยายามใช้มือปิดหน้า ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกมา . .อย่างช้าๆ  . .แต่ในขณะนั้นเองไอกายมันก็ดึงมือผมไว้พร้อมกับพูดขึ้นว่า . .

“ทุกๆ ครับ ผม กับ ไอนี้ เราสองคนเป็นแฟนกันครับ ที่ผมมาที่นี้วันนี้ ก็เพราะอยากจะมาอธิบายเรื่องราวต่างๆ ให้ เขา ฟัง แต่ทุกคนดูสิครับ เขาเอาแต่หลบหน้าไม่ยอมมองผม แถมยัง ไม่พูดกับผมอีก ทุกคนคิดว่าการกระทำแบบนี้มันสมควรแล้วหรอครับๆ ”. . . .หมดแล้วครับหน้า กู. .แล้วต่อจากนี้ผมจะเอาหน้ามาเดินตลาดได้ยังไงละ . . . ถึงผมจะชินกับนิสัยเสียบ้าๆ ของไอกายมาบ้างแล้ว แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าไอกายมันจะกล้า ทำเรื่องแบบนี้ต่อสาธราณชนได้  . .  ผมรีบ เดินก้มหน้าไปดึงมือมันก่อนจะรีบวิ่งฝ่าดง ของสายตานับร้อย ที่จับจ้องผมกับไอกายอยู่ . . . อารมณ์ของผมในตอนนี้อธิบายไม่ถูกเลยว่า กำลังโกรธหรือรู้สึกดีอยู่กันแน่. . . ใจนึงผมก็รู้สึกดีที่กายมันกล้าเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมกับมันว่าเราเป็นอะไรกัน  อีกใจนึงก็รู้สึกไม่ค่อยดี ที่มันมันชอบเอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลตลอด ผมว่านี้มันอาจจะเป็นข้อดีและข้อเสียที่มีอยู่ในตัวของไอกายก็ได้ ทางที่ดี ควรจะมีเป็นกลางๆ ไว้น่าจะดีที่สุด. .  o22

ระหว่างทางที่เดินกับมาผมวิ่งจับมือนำไอกายวิ่งไปด้านหน้าโดยไม่ได้สนใจกับสายตาที่กำลังจับจ้องผมกับไอกายเลย จนตอนนี้ผมกับไอกายก็ถึงข้างบนห้องกันแล้ว . . .ผมรีบปิดประตูล็อคกลอนก่อนจะหันมาสนใจกับไอเวนที่กำลังนั่งยิ้มอยู่ที่ขอบเตียงอย่างมีความสุข. . .

“ทำกูหน้าแตกกลางตลาดเลยไหมละ  แล้วอย่างงี้กุจะกล้าไปเดินตลาดคนเดียวอีกได้ยังไงละ”

“ช่วยไม่ได้ ก็มึงเอาแต่หลบหน้าไม่ยอมคุยกับกูเองนิ่”

“ก็!ใครใ ช้ให้มึง (หายไปโดยไม่ไม่บอกอย่างนี้ละ). . ” ประโยคหลังๆอาจจะฟังไม่ค่อยได้ยินเพราะมันเป็นเสียงพึมพัมของผมเอง. .

“ห้ะ!”

“ก็!มึง (หายไปโดยที่ไม่ติดต่อกูกลับมาเลยซักครั้ง. . )”

“พูดดีๆ ดิ่เจ ?”

“เออช่างแม้งเหอะไม่มีอะไรหรอก. . ”ตัดประโยคจบได้เหี้ยมาเลยกู - -*. .

 “มี อะไร เจ ! พูดมาดิ่ ไม่พูดแล้ว เมื่อไหร่มึงกับกูจะปรับความเข้าใจกันได้ละ ?”สีหน้าที่ฟ้องถึงความเบื่อหน่ายเมื่อครู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ดูจริงจังกับทุกคำที่มันพูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ก็. . .(ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว. .)ใครใช้ให้มึงหายไปตั้งหลายอาทิตย์โดยที่ไม่ติดต่อกูมาซักครั้งเลยละ  มึงรู้ไหมแต่ละวันกูโ?รถ้ามึงวันละกี่ครั้ง บางครั้ง ครั้งแรกที่กกูโทรไป ก็ก็พอเข้าใจนะ ก็เลยบอกกับตัวเองว่า มันคงไม่มีอะไรหรอก มันอาจกำลัง นอน พักผ่อนอยู่ก็ได้ไม่เป็นไรไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรใหม่ .. แต่พอมาอีกวันก็โทรไป กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ เป็นสิบๆ ครั้ง ในใจของกูตอนนั้นเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว กูเลยขับมอไซด์ ไปหามึงถึงที่ คอนโด ระหว่าง ทาง รถก็ติดแดดก็ร้อน แถว หมายังเสือกตัดหน้ารถ กูอีก เนี้ย ! มึงเห็นรอยแผลที่ขากูนี้ไหม เพราะมึงไง ไม่ใช่เพราะมึงเป็นคำทำหรอกนะ แต่เป็นเพราะกูเองที่ห่วงมึงมากไป กูกลัวว่ามึงจะเป็นอะไรไป . .แต่พอกูไปหามึงที่ห้อง แม่บ้าน เขาก็บอกว่ามึงไม่ได้กลับห้องมาตั้งหลายวันแล้ว ตอนนั้น ในใจของกันร้อนรนไปหมดอยู่ไม่เป็นสุขเลย . .  กูเลยโทรไปหาไอวิน เพราะคิดว่า ถ้าเกิดมึงไม่อยู่ที่คอนโดมึงก็คงอยู่กับพวกไอเชี่ยวิน แต่คำตอบ ที่กู ได้มา . . มันก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นห่วงของกูลดลงได้เลย. .ทั้งไอวิน พี่ ริว  เพื่อนๆ คนสนิทมึงคนที่กูเคยรู้จักมาบ้างกูเข้าถามพวกมันหมด ว่ามีใครพอจะเห็นมึงไหม แต่ทุกเสียงก็ตอบ เหมือนกันหมดว่าไม่ . . .กูจนหนทางไม่รู้จะทำยังไง. . .จนวันต่อมามีข้อความขึ้นมาว่า “หมายเลขสามารถติดต่อได้แล้ว” ตอนนั้นกูดีใจมากจนต้องรีบ กดโทรศัพท์หามึง อยู่เป็นร้อยๆ สาย. . แต่ไม่ว่าจะโทรเท่าไหร่แม้งก็ไม่มีคนรับ . . . จนอยู่ๆ มึงก็โผล่มา ดื้อๆ แบบ นี้ มึงจะให้กูปกติอยู่ได้ยังไงวะ ไอกาย!!!. . . มึงลองบอกกูทีสิ!”ทันทีที่ผมพูดจบผมเริ่มเห็น มุมปากของไอกายมันเริ่มแสะยิ้มขึ้นมาบางๆ ถ้าไม่สังเกตจริงๆ ก็คงจะไม่มีใครเห็นแต่. . เพราะหลายๆ คนจะมองเห็นแค่เพียง. . ใบหน้าที่นิ่งดูไร้อารมณ์ของมันเท่านั้น ต่างจากผม . . เพียงแค่เห็นสิ่งอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ปรากฏอยู่ที่หน้าของมันก็ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าอารมณ์ของมันตอนนั้นกำลังรู้สึกยังไงอยู่. . .

“มึงโทรหากูทุกวันจริงๆหรอ. . !”

“หน้าของกูเหมือนคนโกหกมากเลยรึไง. .  .”ปากผมก็พูดไปส่วนมือล้วงหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่ก่อนจะเควี้ยง ไปโดนที่หน้าอกของมันดังปั๊ก!! จังห่วะที่โทรศัพท์โดนที่อกของมันผมอยากจะเข้าไป ถามมันดูว่าเจ็บไหมเป็นอะไรมากรึเปล่าแต่ด้วยสถานะการณ์ตอนนี้ทำให้ผมต้องข่มความรู้สึกเป็นห่วงมันเอาไว้ข้างใน. .  กายมันทำสีหน้างงๆ แต่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเจ็บอะไรมาก ที่ถูกโทรศัพท์เควี้ยงใส่ กายมันนั่งหยิบโทรศัพท์ของผมขึ้นมาดูพักนึงพลางเลื่อนขึ้นเลื่อนลงอยู่นานจนผมเริ่มแปลกใจว่ามันกำลังดูประวัติการโทรหรือกำลัง สืบค้นอะไรในโทรศัพท์ของผมอยู่กันแน่ๆ

“พอเลยๆ สัดดูนานไปละ แค่กดจิ้มตรงนี้ปุ่มเดียวมันยากตรงไหน. . ”ผมพูดพร้อมกับเดินกำลังจะไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของไอกายกลับมาไว้กับตัว แต่มันเล่นยึกยักไม่คืนโทรศัพท์ผมนีสิประเด็น.. .

“เดี๋ยวๆ ขอดูอะไรอีกแปปนึง. .  กาย. .มึงหายไปอยู่ไหนนะ . . มึงรู้บ้างไหม ว่ากูคิดถึงมึงมากขนาดไหน. . ปล.คิดถึงแต่ไม่กล้ากดส่ง. .  เชี่ย . . .เจ นี้ มึง คิดถึงกูมากถึงขั้นเขียนข้อความร่างไว้เลยหรอวะ. . ”และสิ่งที่ผมระแวงเมื่อครู่มันก็เกิดขึ้นจริงแล้วครับ. . ไอกายมันไล่อ่านข้อความที่ผมร่างไว้อีกประมาณ 6-7 ข้อความแต่ยังไม่ได้กดส่ง. .  มันก็นั่งอ่านไปยิ้มไป บางข้อความมันก็หัวเราะออกมาจนเสียงดังลั่นห้อง . .ส่วนผมถ้าถามว่าอายหรือเขินไหม บอกได้เลย ตอนนี้ ผมคงไม่มีอะไรที่ต้องอายมันแล้วละครับ มันอยากทำอะไร ก็เอาตามที่มันสบายใจเลย ก็แล้วกัน ? . .

“ถ้ามึงไม่กลับมาอีก สองวัน กูจะตามไปเผาคอนโดนพร้อมกับจุ๊ ของในห้องมึงออกมาขายแล้วหนีไปอยู่ที่ต่างประเทศ . . .  ฮ่าๆๆๆ ความคิดแบบนี้ถ้าไม่ใช่เด็กจริงๆ นี้คิดไม่ได้เลยนะเนี้ย . . .ฮ่าๆๆๆ. . .อะ. . .เอือก.... เอ่อ ไม่ขำหน่อยหรอวะ. .”กายมันละสายตาจากโทรศัพท์ก่อนจะหันมาสนใจทีใบหน้าของผมที่นิ่งไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย. .. .

“เลิกขำได้รึยัง?”เสียงผมนี้เย็นชาได้อีก. .

“ครับไม่ขำแล้วครับ”

.”ทีนี้ก็ถึงตามึงอธิบาย แล้ว. . บอก มา ที่หายไป อาทิตย์ๆ มึงไปอยู่ไหนมา”กายมันดูนิ่งไปพักนึงก่อนจะยอมเปิดปากพูดออกมา
“ก็อย่างที่กูบอกมึงเมื่อคืนทั้งหมดนั้นแหละ  กูมีธุระต้องไปต่างประเทศกับพ่อเลย ไม่มีเวลา ติดต่อกลับมาหามึงเลย อีกอย่างสัญญาณ โทรศัพท์มันก็ไม่ค่อยดี แถมกูก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัวไว้ด้วย.  . เรื่องทั้งหมดมันก็มีอยู่เท่านี้แหละ”ผมพยายามเพ้งสายตาซูมไปที่สยตาและมุมปากของมันว่าได้แสดงทีท่าอะไรที่ดูจะเป็นการมีพิรุธรึเปล่า. . แต่ทุกอย่างกลับนิ่งสนิทไม่มีทีท่าว่าจะขยับอะไรเลย . . .เป็นอันว่า ทุกอย่างที่มันพูดมาล้วนเป็นความจริงทั้งหมดครับ. .

“ก็แล้ว ไป . . แต่ก่อนที่จะไปนี้มึงจะช่วยโทรมาบอกกูซักครั้งก่อนไม่ได้รึไงห้ะ. .. ”ผมหันหลังควับคุยกับมันเพราะขี้เกลียดมองหน้ามัน. . แต่ถามอยู่นานก็ไร้วี่แววว่าจะมีใครตอบ ผมเลยต้องหันหลังกลับมามองมันอีกครั้ง ก็เห็นมันเอาแต่จิ้มๆ อะไรอยู่ในโทรศัพท์ของผมอยู่นานสองนาน. .

“ทำอะไรของมึงกาย. . ”

“ส่งข้อความ. .”

“หือ ข้อความ อะไร .? . ”

“ก็ข้อความที่ มึงร่าง ไว้อาทิตย์ก่อนไง . . ”

“แต่มึงก็อ่านหมดแล้วไม่ใช่รึไง มึงจะส่งเพื่อ ?”

“เก็บไว้อ่านตอนเครียดๆ ไง จะได้มีกำลังใจ ”เอ่อ . . . .   -///-

“พอเลยๆ เอามานี้. ฟึบ.”ผมรีบคว้าโทพศัพท์ที่อยู่ในมือของไอกายมากดดู. . ก็พบว่าทั้งเจ็ดข้ความที่ร้างไว้ถูกส่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ. .  หึหึ ! แต่อยู่ๆ ก็มีแมสเสตของ “เพื่อนหมูตุ๋นขึ้นมา” ขอบคุณนะครับ (ที่รัก.) . . .ถึงผมจะแอบเขินมากเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ยังต้อง คุม อารมณ์ เอาไว้. .

“ทีลงที่รักอะไรมึงกาย หยุดมโน แล้วไปอาบน้ำซะ วันนี้ต้องใช้แรงงาน .. ”

“แรงงาน ?”

“บูรณะบ้านใหม่ไงครับมึง. . ”

“แล้วกูต้องทำด้วย . . .?”

“แหง่สิครับ มึง มาอยู่บ้าน คนอื่นเขาทั้งที.  จะอยู่ฟรีกินฟรีมันก็ยังไงอยู่ . . มีแต่พวกหน้าด้านเท่านั้นแหละที่อยู่ได้โดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร. . ”

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [22]〖05-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-06-2016 12:24:08
“งั้นวันนี้กูขอเป็นคนหน้าด้านซักวันละกัน. . ”

“ทุกวันนี้มึงก็ด้านมากพอละกาย รีบไปอาบน้ำแล้วตามกูลงมาด่วน!!” พูดจบผมก็รีบเดินออกมาที่นอกห้องแต่ก็ยังแอบได้ยิน เสียงของไอกายตะโกนดังมาจากในห้องว่า . .

“แต่กูไม่ได้เอาเสื้อผ้าอะไรมาเปลี่ยนเลยนะ จะใช้ชวยงานทั้งชุดนี้เลยรึไง!!” ผมเลยตะโกนกลับไปว่า .

“มีสิ อยู่ในตู้เสื้อผ้าไง อยากใส่ตัวไหน เลือกเอาเลย นะ  ไม่ต้องเกรงใจ !!” ผมเดินระเบิดเสียงขำลงมา พร้อมกับ ผิวปากออกมาพร้อมๆ กันๆ ฮ่าๆ (ไม่เทพจริงทำพร้อมกันไมได้นะเนี้ย 5555)

. . . . . . . . .

เวลาผ่านไปราวเกือบชั่วโมงผมไม่ยักจะได้ยินเสียงกลอนประตูหน้าห้องถูกเปิดออกมาเลยซักครั้ง จนตัวเองเริ่มรู้สึก แปลกใจ . .เอ๊ะหรือมันจะหัวฟาดชักโครกตายไปแล้ว . . หึหึๆ อย่างนี้ต้องขึ้นไป ดู ซะหน่อย เพื่อตายจริง ขึ้นมาจได้โยนลงเมรุ ทัน . . คิดได้ดังนั้นผมก็รีบเดินขึ้นไปตามขั้นบรรใดทีละก้าวๆ แล้วแต่ละก้าวผมก็ย่ำเท้าได้เบามากๆ . .จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงเอี๊ยดๆ ตรงบรรใดเลย จนตอนนี้ ผมมายืนอยู่ที่หน้าห้องของตัวเองแล้วครับ. . ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ พักนึงก่อนจะเปิดประตูเข้าไป . . พ่าง พาง  !! สิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากที่เปิดประตูเข้ามา คือ. . .หนอนน้อย . . ของไอกายที่โผล่ ออกมาเซฮัลโหล ผมอยู่ที่หน้าประตู . . แต่โชคดีหน่อยที่พักนี้ผมเริ่มจะชิน กับภาพพวกนี้บ้างแล้ว เลย ไม่ได้แสดงทีท่า เขิลหรืออายอะไรเหมือนช่วงแรกๆ เลย . .  ผมเลยแกล้งๆ จ้องเพ่งเล็งไปที่ . . . ของไอกายก่อนจะสลับขึ้นมามองที่หน้ามัน ด้วยสีหน้าที่ดูไร้อารมณ์แบบสุดๆ  . . แต่ด้วยความหนาของหน้ามันทำให้ไม่ได้แสดงสีหน้าที่จะดูเขินอายอะไรออกมาเลย. .


“มองอะไร?”

“ก็แค่ส่งสัยว่ามันคือหนอน หรืออะไรกันแน่ ทำไม่มันถึงเล็กได้ขนาดนั้น”ผมพูดพร้อมกับชูนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยขึ้นมาวัด. .  จากระยะไกล. .

“หนอนยักสิไม่ว่า. . แล้วนี้จะยืนวัดอีกนานไหม ไม่เดินเข้ามาจับซะเลยละ . . ”

“อย่าถ้ากู นะ กาย. . .”ช่วงนี้ผมเริ่มติดนิสัยของไอกายมาบ้างแล้วครับ. .ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอเป็นอย่างนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ตัวอีกที . . . ก็เป็นอย่างที่เห็นกันนี้แหละครับ. . . แต่หลังจากที่ผมยืนจ้องได้พักนึงก็เริ่มรู้สึกว่าสายตาของไอกายที่จ้องมองผมมันเริ่มเปลี่ยนไป. . แถมตรง . . ..  ของมันก็เริ่มมีการวิวัฒนาการ ขึ้นมาบ้างแล้ว . . ผมเริ่มเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี จึงรีบตัดประโยคสนทนาระหว่างผมกับมันไป . .

“เอ่อ ๆ  อาบ ส ส ส เสร็จ ก ก ก็ดีแล้ว มึงรีบแต่งตัวแล้วลงตามมา งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้ว กูไปรอข้างล่าง นะ . . ฟิ้ว”หลังจากทีพูดจบผมรีบใส่เกียร์ หมา+แมววิ่งลงมาจากชั้นลง ด้วย ความกระวนกระวายย.. (เรื่องอะไรวะ) . . แต่ช่างเถอะเอาเป็นว่าขืนยืนโง่อยู่ตรงนั้น ต่อ มันต้องเกิดอะไรที่ไม่ดีขึนกับตัวผมแน่ๆ  หึหึ แค่คิดก็เสียวสันหลังแล้วละครับ. . .

. . . .

[12.30]เป็นช่วงเวลาที่แดดชวนทำร้ายผิวเอามากๆ ผมยืนหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้ที่ท้ายไร่ โดยมีไอกายเข้ามาประจบหลบแดด อยุ่ที่ไหล่ของผมด้วยอีก คน . . . อากาศก็ร้อนแถมมันยังมีคนมายืนเบียดอยู่ข้างๆ ผมอีกทำให้ความร้อนยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก. . แต่ด้วยเวลาที่มีอันน้อยนิด. . . ผมเลยตัดสินใจเดินออกจากที่ร่มเริ่ม ทำงานทั้งๆ ที่อากาศไม่เอื้ออำนวย เพราะช่วงบ่ายๆ ผมต้องรีบไปช่วยงานพี่เอมในครัวอีกเห็นว่า วันนี้ จะมีแขกมาบ้าน . .  แต่จะเป็นใครนั้น ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน. ..  .ผมเดินนำไอกายไปตรงจุดเหมาะๆ ที่เริ่มลงมือ ใช้แรง. . 

“อ้ะตรงนี้แหละ. .”พลางยื่นจอบที่อยู่ในมือ. .ให้กายมันไป

.”เอามาทำอะไรอ่ะ?”

“เอามาดอปของมั้งสัด. .  ขุดหลุมสิ?”

“ขุด ยังไงอ่ะ?”

“มึงอย่ามาตอแหลไอกาย. . มึงกล้าสะบานมั้ยว่ามึงขุดหลุมไม่เป็น?”ผมพูดไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ส่วนไอกายก็พร้อมใจยื่นสามนิ้วขึ้นมาด้วยที่ท่าที่ดูจริงจังไม่ต่างกัน

“อ่ะๆ ไม่เป็นก็ไม่เป็นงั้น ดูนะ  นี้เริ่มจากตรงนี้. . . . ”ผมเริ่มต้นอธิบายวิธีการขุดดินให้ให้กายมันดูเริ่มต้งแต่ขั้นเบสิค. . ไปจนถึงการจับจอบอย่างถูกวิธี. .

“อ้ะ ลองดู!”ผมยื่นปาดเหงื่อที่ไหลย้อยอยู่ตรงขมับก่อนจะยื่นจอบไปให้ไอกายที่กำลังนั่งใต้ร่มเอาเสียมค้ำคางของมันอยู่

“สรุปเริ่มยังไงน่ะ.. ขอใหมอีกทีได้ไหมอ่ะ?”ถ้าหากตอนนี้เป็นสภาพอากาศที่ดีมีร่มหน่อยๆ ผมคงทำให้มนดูอีกรอบแล้วแต่นี้ แดดร้อนจนหน้าแทบจะไหม้แบบ นี้ผมคงไม่มีกระจิตกระใจจะมานั่งอธิบายอย่างใจเย็นให้มันฟังได้อีกรอบหรอกครับ.  .

“หยุดคิดแผนตื้นๆ ของมึงได้เลย.กุไม่หลงกลมึงหรอก. .  รีบๆขุดเร็ว จะได้รีบไปพักในบ้านกันซักที. .  ”

“แต่กูร้อน กูเหนื่อย แถมไม่อยากทำอีก ไว้วันหลังไม่ได้หรอ?”

“กูก็ร้อน แถมเหนื่อยมากกว่ามึงอีกนะกาย ถ้ามึงไม่ทำ ก็กลับวังมึงไปเลยนู้นไป. . ”ประโยคพูดของผมเมื่อครู่ทำเอาสีหน้าของไอกายเปลี่ยนไป จากสายตาที่ดูเล่น ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่ดู จริงจังขึ้นมาบ้างแล้ว. ..  กายมันนั่งบิซ้ายบิดขวาอยู่พักนึงก่อนจะยอมเดินออกจากร่ม และเดินมารับจอบจากมือผม เพื่อเริ่มลงมือทำ. . เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไอกายมันทำงานนำหน้าผมเกือบ 80% ไม่รู้ว่ามันไปเอาแรงหึดสู้มาจากไหน จากที่ใช่เวลาในการขุดหลุมแต่ละที่เกือบ 10 นาที แต่ตอนนี้กายมันใช้เวลาไม่ถึง 5นาที จนตอนนี้ หลุมประมาณเกือบๆ 20 กว่าหลุมถูกขุดลึกตามที่ พี่เอมแกต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้วละครับ ^ ^
“เหนื่อยไหมมึง. . ” ก่อนจะถามผมก็แอบเหล่ๆ เห็นเสื้อแขนยาวที่มันใส่ . . ตอนนี้ชุ่มไปด้วยเหงื่หมดแล้วครับ . . .

“ไม่เหนื่อยมั้งถามแปลกๆ?”น้ำเสียงของมันแอบใส่อารมณ์เบาๆ

“ดีเลยงั้นลงมือทำต่อเลยละกัน. .”ผมแกล้งพูดหยอกๆ ไป ไม่คิดว่ามันจะทำจริงหรอก

“อ้ะ. . (ยื่นจอบมาให้ผม)ทำคนเดียวเลย กูเข้าบ้านละ. . ”ฮ่าๆ ถึงน้ำเสียงของมันจะดูประชดประชันผมแต่ด้วยสภาพของมันตอนนี้ ทำให้ผม แทบจะกลั้นเสียงขำของตัวเองไม่ไหว . .. คุณชายผู้สูงศักดิ์บัดนี้ได้กลายมาเป็นคนงาน ที่ไร่ของผม ลองนึกภาพ ผู้ชาย ตัวสูงๆ ขาวๆ หน้าหล่อๆ ต้องมายืนเป็นกรรมกรขุดดินให้ผมอยู่ท้ายไร่สิครับ. . .ฮ่าๆ นับว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากว่า ภาพหลุดๆ ที่ผมเคยแอบไอกายมันได้อีกครับ คิดขึ้นได้ ผมก็หยิบ ไอโฟนของ ผมที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อ ขึ้นมาถ่ายรูป ตอนที่มันยังไม่รู้ตัวนี้แหละครับ แชะๆ^ ^

“เห้ยย !! กายรอกูด้วย. . .” แต่ดูเหมือนกายมันจะไม่ได้สนใจอะไรผมเลยครับ แม้แต่น้อยเลยครับ จังหว่ะที่ผมวิ่งตาม   ไอกายมันก็เอาแต่วิ่งหนีกันจนต่างคนต่างเหนื่อย ผมอาศัยช่วงที่มันกำลัง ยืนหอบแฮ่กๆ กระโดดขึ้นไปขี่หลังของมันโดยไม่ทันตั้งตัว. . แต่ก็ยังดีหน่อย ครับ ที่มันไม่ได้ปล่อย หรือผลักผมลง. .  แต่ยัง ยอมเดินหน้าต่อไปทั้งๆ ที่เหงื่อก็ยังไหล อยู่บนหน้าของมันแสดงให้เห็นถึงอาการที่เหนื่อยล้าเต็มที  . . . แต่มันก็ยังเดินโต้งๆ แบกผมไปอย่างนั้น ไปจนถึงหลังบ้าน มันถึงจะยอมปล่อยผมลง. .

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [22]〖05-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-06-2016 12:26:53
ตอนนี้ผมกับกายเราสองคนเดินขึ้นมาที่ห้องของผมโดย ไอกาย ขอตัวเข้าไปอาบน้ำก่อน. .เพราะทนสภาพอากาศที่นี้ไม่ไหว จะเรียกว่ากันดารก็ได้นะเพราะที่บ้านผมแทบจะไม่มี สิ่งอำนวยความสะดวก เหมือนตอนที่อยู่กรุงเทพเลย อย่างมากสุด ก็มีแค่พัดลม เครื่องปรับ น้ำอุ่น เท่านั้นเอง ส่วนแอร์หรือสิ่งเอื้ออำนวยต่างๆ คงต้องรอ รับทรัพย์จากพ่อของผมก่อนถึงจะมีแพลนได้ลงมาทำซักที . .

“เจ! . .”ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดอะไรอยู่เรื่อยเปื่อยจู่ๆ ไอกายมันก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง. .

“อยู่แค่นี้ จะตะโกนทำซากอะไร ห่า ตกใจหมด. . มีอะไร ?”

“หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อยดิ่. . ”

“ห้ะว่าไงนะ.. ..”ผมแกล้งไม่ได้ยิน

“ผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่หัวเตียงอ่ะหยิบมาให้หน่อย. . ”

“ห้ะ อะไรนะ”

“กูจะนับ 1 ถึง 3       1 . . . . 2  ... ส ส ส า ”ผมดีดตัวออกจากเตียงก่อนจะรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางห้อยอยู่ที่หัวเตียง ก่อนจะรีบวิ่งพรวด ตรงไปที่หน้าประตูและเคาะเรียก ไอกายมัน. . . [เพราะผมรู้ดี ว่า 1 . 2 .3 ของไอกาย นั้นคือสัญญาณอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวผมแน่. . ถ้าหากผมยังเมินเฉยอยู่ ]


“อ้ะ” ผมยื่นผ้าขนหนูให้กายผ่าน ทางช่องแคบๆ ประตูเล็กๆที่มันแง้มๆ ออกมา . . . แต่แทนที่มันจะคว้าผ้าขนหนูมันกลับคว้า มือ ของผมแทน. . .

“ผ้าขนหนูก็อยู่ที่มือกูแล้วนี้ไง มึงก็หยิบ ไปสิ . . จะคว้าแขนก็ไปด้วยทำซากอะไร?”ไอกายมันเงียบไปก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ ต้องแสดงอาการ สั่น แปลกๆ

“มาอาบด้วยกันเลยสิ น้ำเย็นจะตาย.. . .”ถ้าหากเป็นสภาพอากาศ ดีกว่านี้ ผมคงจะยอมเดินเข้าไปเล่นกับมันแล้ว แต่นี้ อากาศก็ร้อน . . . แถมผมยังมีธุระที่ต้องรีบลงไปทำอีก . . .ทำให้ต้องรีบบอกปฏิเสธมันกลับไป . . .กว่ามันจะยอมปล่อยมือ ทำเอาผมเหงื่อ ออกไป หลายเม็ดเลยละครับ . . .หึหึ

[13.40 น.]

ผมเดินเข้ามาเป็นลูกมือช่วยพี่เอม ทำกับข้าวอยู่ในครัว เห็นพี่เอมแกบอกว่าช่วงบ่ายๆจะมีแขกอันทรงเกียรติจะเส็ดจมาที่บ้าน ไอผมคนนี้ก็เลยต้อง.มารับชะตากรรม เป็นลูกมืออยู่ในครัวแบบนี้นั้นแหละครับ. .

“น้องเจ ค่ะ ช่วยหั่น หัวหอมให้พี่ทีนะ . .  เอาขนาดปานกลางไม่เล็กไม่ใหญ่มากเอาพอดีๆ”. . .

“เออ สรุป พี่เอมจะให้เจ หั่นขนาดไหนอ่ะครับ เล็ก ใหญ่ ปานกลาง หรือ ???”ผมชักเริ่มจะงงๆ กับคำสั่งของพี่เอมเข้าให้แล้ว. .
 
“อ่ะๆ ดูตามพี่นะ หั่นแบบนี้ ช้าๆ ไม่ต้องรีบ . . . ชะแว่บบ นี้ไง แบบนี้เข้าใจรึยัง”

“ระดับนี้แล้ว เดี๋ยว รอดูผลงานได้เลยครับพี่เอม”

“จ้ะ พี่จะรอดู”. . . แต่ทันใดนั้นเองก็ปรากฏเสียงของบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญดังขึ้นมา

“พี่เอมครับ พี่คนมาหาอยู่ที่หน้าบ้านอะครับ”เป็นเสียงของผู้ชายร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาจากประตูด้านข้าง. . . และทันใดนั้นเอง. . .ปั๊ก !!! เสียงกะโหลกของไอกายกระทบเข้ากับประตูห้องครัวเข้าอย่างจัง ทำเอาผมกับพี่เอม ที่กำลัง ยืนทำกับข้าวกันอยู่ ต้องล้มตัวลงไปนอนขำอยู่กับพื้น โอ้ย ไม่โง่จริงทำไม่ได้นะเนี้ย ประตูก็อยู่ของมันดีๆ แต่มันดั้น เอาหัวไป ชนประตูเองซะงั้นฮ่าๆๆๆ

“อุ๊ยเป็นไงบ้างคะน้องกาย เจ็บมากรึเปล่า” เสียงของพี่เอมทักยืนทักไอกาย ขึ้น ขณะที่ผมกำลังนอนขำไอกายอยู่กับพื้น. .

“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ”

“หืมไม่เป็นไรได้ไงชนซะเสียงดังเชียวไหน ให้พี่ลองดูใกล้ๆ สิ. .  ”

“กูอยู่บ้านนี้มา 17-18 ปี กูยังไม่เคยเดินชนประตูเลย 5555”

“เป็นเพราะตัวมึงเตี้ยรึเปล่า ถึงไม่เคยเดินชน. .. ” ชะอุ้ยย คำพูดของมัน ทำเอาผมจุกที่อกแปลกๆ . .
.
“สัด. . ”ผมพูดอะไรไม่ออกแต่อย่างน้อย ขอแค่ได้ด่าไอคุณชายมันนิดๆหน่อยๆ ก็แล้วกัน. .

“แหม่แต่น้องกายมาก็ดีเลย มานี้ๆ ช่วยมาเป็นลูกมือพี่อีกซักคนนะ เดี๋ยวพี่จะออกไป ดูแขกข้างนอกก่อนสงสัยจะมากันแล้ว ยังไงก็ฝากทางนี้ด้วยนะจ้ะ . .อ่อ ถ้าเกิดไม่เป็นอะไรถามน้องเจเอาได้เลยนะ พี่สอน ไปหมดแล้ว. . ”

“แต่พี่เอมเจ. . ”

“ไม่ต้องมาแต่เลย. . . ตั้งใจหั่นต่อไปเอาขนาดที่พี่บอก นะ อย่าเกินจากนั้น  ”

“ป่าว ๆ เจแค่จะถามว่าแขกที่มาวันนี้ หน่ะ ใคร หรอ เจเห็นพี่เอมดูกระตือรือร้นรึเกิน. . ”พี่เอมแกเงียบไปพักนึง. .

“เดี๋ยวมาก็รู้เองแหละน่า. . ”แทนที่พี่เอมแกจะตอบคำถามผมกับทิ้ง อะไรไว้ให้ผมคิดตามก็ไม่รู้. .

.  . . . . . . . . .

หลังจากที่พี่เอมเดินออกจากห้องครัวไป วันนี้ ผมเลยได้ควบตำแหน่ง (ผู้คุมงาน) วันที่สุดวันผท รอคอยก็มาถึง เอิ้กๆ กูจะจิก หัวใช้มึง ยิ่งกว่านางทาส เลยคอยดูไอคุณชาย หึหึ !!

“ไหนมีอะไรให้กูช่วยทำบ้าง. . ”กายมันถามผมด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง

“เยอะเลยหล่ะ จะเริ่มจากไหนดีละ . .  อือ... งั้นเริ่ม จาก ล้างผักนะ แล้วก็เอามาปลอกเปลือก จากนั้นก็เอามาหั่น. . แล้วทีนี้ก็. . .”

“ทำไมเป็นอ่ะ ไหน ลองแกล้งๆ สอนกูหน่อยสิ”ถ้ามันคิดว่าแผนนี้จะใช้กับผมได้ . .หึหึ ฝันเอาเถอะครับ มึง กูรู้ทัน

“ถ้าแค่นี้ ยังทำไม่เป็นก็เชิญ เสด็จกลับวังไปเถอะครับคุณชาย. .”สีหน้าของไอกายดูอึ้งๆ อยู่บ้างเล็กน้อย แต่มก็ไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมา. . ทางกลับกัน กายมันเดินหยิบตะกร้าผักที่วางอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะเอาไปวางไปตรงซิ้งที่อยู่ด้านข้างตัวมันเอง . . . 
ที่ท่า ของกาย ดูเงียบไป  จนผมชักเริ่มเอะใจ ว่าตัวเองจะเผลอทำอะไรไม่ดีลงไปรึเปล่า. .

“นี้ๆ กาย”

“. . . .”กายมันยังยืนล้างผักนิ่งๆต่อไปไม่ยอมพูดอะไร

“ กาย. . มึงได้ยินก็ป่ะนะ. . ”

“อือได้ยิน. ..” ถึงผมจะรู้สึกดีใจที่กายมันตอบผมกลับมา แต่. . การที่มันถามคำตอบคำของมัน ทำเอาผมไม่ค่อยสบายใจเลย . . เห้อรึมันจะโกรธเรื่องที่ผมใช่มันล้างผักกันละ .

“ไหนๆ ทำอะไรอยู่”ผมเดินอ้อมไปยืนอยู่ข้างๆ ไอกายพลางกล้มหน้าส่งสายตามองใบหน้าที่คมกริบของมันกับแววตาเป็นประกาย . ยิ่งบอกบ่อยเท่าไหร่ยิ่งหลงเสนห์มันมากขึ้นทำนั้น ผมจึงมักจะบอกกับตัวเองว่าเวลาที่กายมันจะขออะไรจากผม ให้พยายามอย่ามองที่ตาของมัน . . เพราะหากมองเมื่อใด . . . ความปรารถนาของมันก็จะกลายเป็นจริงขึ้นทันที

“ก็มึงใช้ให้กูล้างผักอยู่ไม่ใช่รึไง. . ”น้ำเสียงแอบดู ขรึมๆยังไม่ไม่รู้แหะ

“มึงโกรธที่กูใช้มึงล้างผักหรอกาย. . ”

“เปล่า!”กายมันยังทำทีท่าเมินเฉย ผม แถมยังละสายตาไปมองทางอื่นอีกด้วย ผมเลย เริ่มรู้สึกอารมณ์ขึ้นมาบ้างเล็กน้อย จึกใช้มือเล็กๆ สองของของผม จับไปที่คางของมัน แล้วบิดให้หันมามองหน้าของผม

“บอกกูมา. . ”ถึงผมจะรู้ว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ดีสำหรับตัวผมเวลาที่จ้องตากลับมันแต่ถ้าหากผมกับกายเราสองคงยัง ถามคำตอบคำกันแบบนี้ ผมเองก็ไม่ไม่สบายใจเหมือนกัน. .

“ก็. . มึงชอบไล่กู ”

“ห้ะ!”ถึงคราวนี้ผมพูดอะไรต่อไม่ออกเลย ไล่หรอผมไปไล่มันตอนไหนกัน. . แต่ถ้าลองย้อนคิดกลับไป . . ไล่ หรอ . . อ๋อ ที่ผมบอก ว่า ให้มันกลับวังของมันไปนะเหรอ เห้อๆ . . .

“อย่าบอกนะที่มัน ทำเมินๆ กูอยู่เนี้ย เป็นเพราะ ไอเรื่องที่กูพูดเมื่อกี้อ่ะ . . .”

“ก็. . .กูไม่ชอบให้ใครมาไล่นี้หว่า มันดูเหมินกับว่าเค้ารำคาณ กู. . ”

“โถ่เอ้ย กายนี้ มึง 20 จริงๆ รึเปล่าเนี้ย ทำไมชอบคิดเล็กคิดน้อยเหมือนเด็ก2ขวบด้วยวะ. .”สองขวบตอนนั้นผม ยังนั่งคลานอยู่เลยมั้ง. . หึหึๆ

“ไม่รู้แหละก็กูไม่ชอบ อ่ะ ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงจะรู้สึกเฉยๆ แต่นี้เป็นมึง. . .กูถึงคิดมากแบบนี้ไง เพราะกูกลัวว่ามึงจะรำคาณกู แล้วก็คงจะทิ้งกูไป. . ”ถ ถ ถผมว่าไอกายนี้มันชักไปกันใหญ่แล้ว เพียงเพราะคำพูเบางคำจากปากของเราที่พูดเล่นไปเรื่อย แต่ในทางกลับกันมันอาจเป็นคำต้องห้ามที่ อีกฝ่ายที่ได้ยิน รู้สึกไม่ชอบใจก็เป็นได้ เพราะชะนั้นต่อจาก นี้ ผมคงจะบอกกับตัวเองว่า . . ก่อนจะพูดอะไรก็ควรจะคิดให้ดีก่อน จะได้ไม่ไป พูดทำร้ายจิตใจของใครต่อใครอีก. . .

“เออๆ กูขอโทดละกันกูจะจำไว้. . ”

“แต่ถ้าวันไหน มึง รู้สึกเบื่อหรือรำคาณกูขึ้นมา. . ก็พูดมันออกมาได้เลยนะ ”สีหน้าของกายดูจริงจังกับคำพูดของมันมาก

“เออ ไว้กูเบื่อๆ มึงก่อน คงจะอีกซัก 60-70ปีมั้ง รอไปก่อนละกันแต่ถ้าเป็นตอนนี้ กูคงไม่อ่ะ เพราะกูรู้สึก มีความสุขตอนที่มีมึงอยู่ข้างกูแบบนี้ไง”(พลางแอบเดินเข้าไปจับมือมัน) +(เขิล) กายมันหันหน้ามามองผมด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม +เขิลๆ หน่อยๆ ก่อนจะค่อยๆ จับกระชับมือของผมที่จับมันไว้ให้แน่นยิ่งขึ้น . . 


ผมขอสัญญากับตัวเอง ว่า ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น . . ผมจะไม่มี วันปล่อนมือ (ใหญ่ๆ)ข้างนี้ของมันไปเด็ดขาด รึต่อให้ พายุจะถล่มแผนดินจะสะเทือนสึนามิจะท่วมกรุงเทพ (เริ่มออกแนวเวิ่นเว้อแล้วไหมละนิ่- -*) ผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือของมันไปเด็ดขาด . . แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เรื่องทุกเรื่อง มันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะอนาคต เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน . . .ใครจะไปรู้ ซักวันนึง กายมันอาจจะเบื่อผม แล้วเดินจากผมไป ก็เป็นได้ ใครจะไปรู้ได้ละ จริงมั้ย ?

TBC . . . . . . . .                         [คิมกอนอู]


#ขอโทดนะครับที่หายไปนาน พอดีว่าช่วง นี้คิม ติดกิจกรรมท ี่คณะอยู่อะครับ เลยไม่ว่างลงมาอัพให้เลย ^ ^  :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [23]〖21-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-06-2016 20:01:01
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 23 [พ่อตา & ลูกเขย.] ♥

หลังจากที่ผมยืนง้อไอกายมัน ซะนาน กว่ามันจะหายงอล นี้ทำเอาผล เหงื่อตกกันเลยที่เดียว . . ผมยืนช่วยกายมันล้างผักอยู่ที่หน้าซิ้งเกือบครึ่งชั่วโมง. . .สาบานว่านั้นล้างผัก [อะไรจะนานขนาดนั้น = =’] จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่ล้างผักอย่างเดียวหรอกครับ ผมล้างแปปเดียวไม่ถึง 10 นาที [ผักเป็นกิโล เลยต้องล้างนานนิดนึง] เวลานอกเหนือจากนั้นก็คือ การทำ แผลให้กับมืออันทรงคุณค่า ของคุณชายเขาแหละครับ เหตุเกิดเนื่องจาก มือ ทั้งสองข้าง นี้ พองจนเกิดกล้ามเนื้ออักเสบอะไรของมันนี้แหละครับ จริงๆ ไอกายมันก็ไม่รู้ตัวหรอก แต่พอ เอามือจุ่มน้ำไปซักพักมันก็เริ่มบ่นว่าแสบๆ จนผมเริ่มเอะใจ พลิกมือมันขึ้นมาดูถึงรู้. .  ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า คุณบชายอย่างมัน คง จะไม่เคยทำงาน ที่มัน ลงแรงขนาดนี้แน่ๆเลย บางที่ผมก็แอบรู้สึกผิดนะที่ พา
ลูกชายตะกูลเขา มาลำบากด้วยกันกับผมเนี้ย . . . แต่อีกใจนึง ก็รู้สึกสะใจอยู่ไม่ใช่น้อย . . .


[รู้สึกผมจะชอบแบบหลังมากกว่านะ กรั่กๆๆ !!]

กว่าที่พี่เอมจะต้อนรับแขก เสร็จ แล้วเข้ามาทำกับข้าวในครัว ก็ใช้เวลา เกือบ 3 ชั่วโมง ผมกับกายนี้มือเป็นระวิงเลยครับ ไม่รู้เป็นเพราะ เหนื่อยกายหรือเหนื่อยใจกันแน่ . . จริงๆ งานแค่นี้ ผม ช่วยพี่เอมคนเดียวสบายเลยนะ แต่พอมีไอกายมาอยู่ด้วยไม่รู้เป็นอะไร มือไม้ของผมรู้สึกอ่อนแรงไปหมด . . หึหึ แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า ไอคุณชายมันยืน หั่นแตงลูกเดียวใช้เวลา เกือบ ครึ่งชั่วโมง ทั้งๆ ทีตอนหันผักอย่างอื่นทีแรกก็ใช้เวลาแค่แปปเดียวแท้ๆ แต่ไหงพอกลับมาหันแตงถึงเป็นอย่างนี้ไปก็ไม่รู้ แถมยังหั่น ทั้งใหญ่ทั้งหนาอีก ต่าง หาก . .  ผมเลยต้อโชวฝีมือหั่นแต่งขั้นเซียนให้ไอคุณชายมันชมไปหนึ่งผลงาน [ที่แรกผมเกือบจะหลุดปากพูดไล่มันไปแล้ว แต่กลัวมันนอยผมอีก เลย เดินเนียนๆ ไปสอนใกล้ ] กายมันก็พยักหน้ามองอย่างเข้าใจก่อนจะลองทำลูกต่อๆ ไป . .  . .

เวลาเกือบจะห้าโมงเย็น ผมกับกายเดินช่วยกันหยิบกับข้าวไปวางไว้ที่โต๊ะ แต่ที่แปลกใจก็คือ พี่เอม แกบอกว่าแขกมากันแล้ว แต่ไหนพอผมเข้ามาถึงไม่เห็นเงาใครเลยซักคนละ . .หึหึ


“พี่เอม ไหน ว่าไหนว่าแขกมาแล้วไง . .เจไม่เห็นมีใครเลยซักคน. . ”


“อ๋อสงสัยจะออกไปเชิญเพื่อนๆ มาบ้านละมั้ง. . .เห็นว่าวันนี้จะจัดงานเลี้ยงฉลองอะไรกันก็ไม่รู้”


“หือฉลอง ในบ้านเราเนี้ยนะพี่เอม เป็นแขกแท้ๆ แต่ไหนถึงไม่มีความเกรงใจถามเจ้าของบ้านก่อนเลยซักคำ. .”ทันใดนั้นเองก็มีเสียงที่ดูคุ้นๆ หู ดังมาจากด้านหลังของผม


“ก็เจ้าของบ้านจริงๆ ยืนอยู่ตรงนี้แล้วไง จะให้ไปขอใครอีกละ ไอลูกเวน ?”ผมหันหลังกลับไปมองตามเสียง ทำเอาผมเก็บสีหน้า อารมณ์  และบังคับตัวเองไม่ได้ที่จะไม่ รีบเดิน ไปกอดบุคคล สองคนที่ผมรักมากไม่ต่างจากไอกาย ก็คือ ป๊า กับพี่เจมส์. . ผมวิ่งเข้าไปสวมกอดแรงจนป๊ายืนเซบ้างเล็กน้อย แต่อยู่ๆ บ่อน้ำตาของผมกับตื้นไหลเองขึ้นมาซะงั้น. . แต่ผมไม่สนใจว่าใครจะมองผมเป็นเด็กขี้แยยังไงผมรู้แต่เพียงว่า ผม ไม่สามารถ เก็บกั้น อารมณ์ในเวลานี้ได้อีกต่อไป

“เป็นอะไรของเอ็งไอเจ. . ร้องไหเป็นเด็กไปได้. . ”ผมไม่ได้ตอบอะไรป๊าได้แต่ยืนกอดทั้งน้ำตาต่อไป

“เห้อ ! ถ้าอยากเป็นเจ้าของ บ้านสงสัยเอ็งต้องรอป๊าตายก่อนละวะ เจเอ๋ย ! ฮ่าๆ ”เสียงหัวเราะของป๊ายังสดใสเหมือนเดิมยิ่ง
พอได้ฟังทีไร ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ทุกที  ผมค่อยๆ คลายวงกอด ก่อนจะแอบทำเนียนๆ เช็ดน้ำตาจากเสื้อข้างแขนๆ ของป๊าไปหลายที [ผมแอบสั่งน้ำมูกไปด้วยทีนึง นะ ไม่รู้ว่าป๊าจะรู้ตัวรึเป่ลา ?]

“ไม่ต้องมาพูดเลยป๊า หายไป ตั้งหลายปีไม่คิดจะติดต่อกันมาบ้างเลย รึไง เจมส์ ก็อีก คนดู แล ป๊ายังไงเนี้ย ถึง ได้ตัวผอม ขนาดนี้. . . ”ผมพูดบ่นออกไปทั้งยิ้มทั้งหัวเราะและสะอื้นในเวลาเดียว กัน . . .ทำให้คนบางคนที่ฟังอาจจะ จับใจความไม่ได้ว่าผมกำลังพูดอะไรอยู่. .

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [23]〖21-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-06-2016 20:03:05
“ถ้า พ่อผอม ตัวก็คงไม้เสียบผีแล้วแหละ เจ . . แล้วไอเรื่องที่บอกว่าพี่ไม่ติดต่อมานี้ยังไง พี่ติดต่อไปแล้ว ทางอีเมล หน่ะ หัด

อ่านซะบ้าง. . ไม่ใช่มัวแต่หลีหญิง ไม่สิ คงจะ ม่อผู้ชายไปวันๆ เลยไม่ค่อยมีเวลามาใส่ใจกับจดหมายที่พี่สงไปเลยละสิ. . ”ถึงเวลานี้ ผมแอบได้ยินเสียงหัวเราะคิกๆ ที่ดังจากข้างๆ ตัวผม. . .ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ครับว่าเสียงใคร. .

“พี่เอม อย่าบอก นะ ว่าแขกที่พี่เอมพูดถึง คือ ป๊ากับเจมส์ สองคนเนี้ย . . .”ทั้งป๊าและพี่เจมส์เงียบไปก่อนจะตอบกลับมาพร้อมกัน

“เออ/ใช่”

“แล้วจะจัดฉลองกันทำไมบ้านเราก็มีกันแค่นี้ วุ๊ ใช้ เงินฟุ้มเฟือยอย่างนี้ นี้เอง ถึงไม่มีเงินส่งมาให้ลูกชายสุดหล่อคนนี้ใช้บ้าง หึ้ !”

“ตลกแล้วป๊ากับพี่ส่งเงินไปให้เอ็งใช้ ทุกๆ สองอ่ะทิตย์เลย จะมาร้องว่าไม่มีเงินใช้ได้ยังไง. .”

“ถ้าส่งมาเจก็ต้องได้สิเจมส์ แต่นี้ คือ  เจ ไม่ได้ไง เจถึงกล้าพูด. . ”

“จะไม่ได้ๆยังไงก็เมื่อ. . .”

“พอเถอะเจมส์ พ่อ พอจะรู้แล้วว่าทำไมเงินถึงไม่ถึงมือไอเจมัน. . ”ผมกับพี่เจมส์แหงนหัวตามมองหน้าพ่อด้วยความสงสัย. .

“ทำไมละพ่อ?”

“ก็เพราะเราดัน ส่งไปบัญชี ยัยอินแทนที่จะเป็นบัญชี เจ มันไงละ หึหึ เอ็งก็น่าจะรู้นะ ไอ่เจมส์ ว่าเมียเอ็งมันใช่เงินเก่งขนาดไหน. ..”

“อ่อ ใช่ๆ ผมเองก็ลืมเหมือนกันอ่ะพ่อ”[พลางหันหน้ามาส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับผม]

“ไม่ต้องมายิ้มเลย เจมส์. . ไหนละตัง ... . ”พอพูดเรื่องเงินเรื่องทองปุ๊ป พี่เจมส์ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีเลยละครับ ฮ่าๆพี่เจมส์ ทำทีท่า เหมือนจะควักเอาเงิน ออกมาจากระเป๋าสตางค์ ผมเห็นเจมศ์ยืนนับแม้งพันประมาณเกือบ 20 ใบ ที่อยู่ในกระเป๋า ทำเอาผมนี้แอบกลืนน้ำลายตามกันเลยทีเดียว . . .จนสุดท้าย เจมส์ก็ยืนเงินมาให้ที่ผม

“อ่ะ. .” ผมรู้สึกอึ้งกับจำนวนเงินที่เจมส์ยื่นให้มา

“20 ใช่ไหม ได้. . .งั้นวันนี้ เชิญ นอกบ้านกันทั้ง พ่อทั้งลูกเลย. . นะ กับข้าว นี้ ก็ของบ้านนี้ . .. เชิญไปหาอะไรกินข้างนอกกันสองคนเลยไปๆ วุ๊ !!”

“โถ่ๆ เจมส์ เอ็งนี้ก็ชอบแกล้งน้องจริงๆ อ่ะ เอาเงินนี้ไป . . ”ป๊าควักเงินออกมาจากกระเป๋าเสื้อยื่นมาให้ผม ประมาณ 6พันกว่าบาท . .หู้ววว วันนี้ ป๊าของผมดูหล่อที่สุดเลย. .

“งั้นวันนี้ ป๊า นอนที่ห้องด้านซ้ายชั้นบนสุดได้เลยนะป๊า ส่วน ลูกชายอีกคนของป๊า คนนี้ เชิญไป เปิดบังกะโล ข้างๆ นี้นอน ซักคืนนะครับพี่น้องเอิ้กๆ ”

“หึหึๆ พี่ไม่อยู่แล้วเอ็งจะเสียใจ. . .ว่าแต่ คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ็งนั้นใครวะ. .?”

“ใช่ๆ ป๊าก็กำลังจะถามเอ็งอยู่พอดี. .”

“อ๋อ คนนี้อ่ะหรอ. . อืม... แฟน เค้าเอง. .  !!”ป๊ากับเจมส์สีหน้าดูตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงที่ท่าว่าจะเอ่ยปากถามอะไรกันต่อ ได้แต่ยืนขำแล้วหันไปมองที่ไอกายกันทั้งคู่. . . ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ว่าสอง คนจะคิดว่าผมพูดเล่นกันรึเปล่า?

“ไหนๆ ไอหนุ่ม เอ็งลองเดินมาให้ข้าดูใกล้ๆสิ. . ”ผมหันมองตาม เห็นไอกายเดินก้มยิ้มแห้งๆ เข้ามาใกล้ๆ หน้าของมันในตอนนี้ดูตลกชะมัด ฮ่าๆ แคปเจอร์ทันไหมละนิ่. .

“เอ็งชื่ออะไร/ชื่ออะไร”ทั้งพ่อและพี่เจมส์ถามขึ้นมาพร้อมกัน

“ชื่อ กายครับ. .”

“ลูกเต้าเหล่าใครละ เอ็งนะ ”

“ลูกพ่อ สุรเชษฐ์ ครับ ”ผมเห็นสีหน้าพ่อดูอึ้งๆ ตอนที่ได้ยินคำตอบของไอกาย. . แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“ อ่อ แล้วเอ็งมารู้จักกับลูกลุงได้ยังไงละ  ไม่มีคนจะคบแล้วหรอถึงมาคบกับไอนี้หน่ะ”ไอกายถึงกับหลุดขำออกมาหลังจากที่พ่อผมพูดจบ

“เดี๋ยวๆ นะหนวดๆคบกับเขาแล้วทำไม มันไม่ดีตรงไหน ไหนลองๆแกล้งๆ พูดมาสิ . . ”

“เปล่าหรอก พ่อแค่สงสารไอหนุ่มคนนี้ก็เท่านั้นเอง ไม่น่าเลย เน้อ เอ็งว่าจริงไหมละเจมส์. .”

“จริงที่สุดครับพ่อ. . ”แล้วทั้งสามคนก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันจนตอนนี้ภายในห้องมีแต่เสียงของคนที่ตาลุงๆ แก่ๆ คนนึงกับ ไอผู้ชายหน้าตาดีๆ สองคนกำลัง ยืนขำผมอย่างชอบใจ. . .หึหึ! ทีใครทีมันละกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ . . .

. . . . . เวลาผ่านไปจนเกือบ สองทุ่ม พ่อ พี่ เจมส์ แล้วก็ไอกาย กำลังนั่งคุยกันแตกฟอง อยู่ในห้องนั่งเล่นส่วนผม ก็เดิน ออกมาโทรศัพท์เชิญพักพวกที่อยู่แถวนี้ มาปารตี้ที่บ้านซักหน่อย ทีแรก ผมไม่อยากจะชวนใครหรอกครับ เพราะไหนๆ วันนี้ พ่อกับเจมส์ก็กลับมาจากต่างประเทศกันแล้วผมเลยอย่างให้มีแต่สมาชิกในครอบครัวกับคน[ของผม]แค่นี้จะดีกว่า แต่พ่อบอกว่า ฉลองทั้งที ก็เชิญ ชวนแขกให้มาเยอะๆ หน่อยสิ  จะได้ไม่ดูเป็นการเสียหน้าของเศรษฐีเก่าอย่างข้า. .  ก็นั้นแหละครับ ผมถึงต้องมายืนกดโทรๆสับยิกๆ อยู่แบบนี้

สายแรก. .  เริ่มต้นด้วยไอวินเลยละกันครับ . . .รู้สึกคิดถึงมันขึ้นมาคนแรกเลย. .

“ตื๊ดๆ . . .ฮัลโหลๆ เออมึงอยู่ไหน อะวิน ตอนนี้กูอยู่บ้านนะ ที่นี้มีฉลอง มึงจะมาป่ะ. .”

“. . . . .เออ . . ไม่แน่ใจวะ  . . คือ . . .”

“ไอสัด ตอบ จะมารึไม่มา กูจะได้โทรไปชวนคนอื่น. . ”

“เออไปก็ไป . . .แต่วันนี้ กูใส่พระไปด้วยนะ. . ”

“ใส่ไม่ใส่แล้วเกี่ยวอะไรกับกู. . ??”

“เออช่างเห้อะ เดี๋ยวซักพักเดี๋ยวกูไป. . เออใช่ตอนนี้กูอยู่ตลาด มีแต่คนพูดถึง ชื่อมึง . . .มึงทำเรื่องอะไรไม่ดีไว้รึเปล่าวะ. . . กุเห็นน้องเอ๋ลูกป้าจัน ที่ขายเบเกอร์รี่ ยังทักถามถึงมึงอยู่เลย เค้าฝากกล่องห่าอะไรมาให้มึงด้วยไม่รู้. . เขียนว่า. To. . พี่สุดหลอ&พี่เจ. . . ”สงสัยข่าวของผมกับไอกาย คงจะดังกระฉ่อนไปทั่วตลาดแล้วสิถ้า หึหึ งั้นงดเดินตลาดสัก เดือนนึง รอจนกว่าข่าวของผมกับไอกายจะซาลงก็แล้วกัน

“ไม่รู้วะช่างเหอะ เออรีบๆ มาละกันกูโทรไปชวนคนอื่นละบายย”

“งั้นคนต่อไป ก็ต้องเป็น ไอตินเพื่อนรักอีกคนขอมผมก็แล้วกัน. . . ”แต่ก่อนจะกดเบอร์โทรไปหาไอตินมันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าตอนนี้ ไอตินมันไม่ได้อยู่ในประเทศนี้หว่า เกือบแล้วไหมละ  ต่างประเทศค่าโทรยิ่งแพงหูฉี่อยู่ด้วย เอาไว้โอกาสหน้าละกันนะมึง
หลังจากนั้นผมใช่เวลาเกือบสิบนาทีโทรติดต่อทั้งเพื่อนๆทาง FB Line Instagram Twitter เท่าที่พอจะติดต่อได้ให้มารวมตัวกันที่บ้านของผมเวลาสองทุ่มตรง โดยที่ไม่ลืมส่งข้อความเชิญชวนพวกเพื่อนเก่าๆ ของผมให้มาร่วมงาด้วย ในกลุ่มรุ่น. . .

[20.00 น.] เวลานัดรวมพลเดอะแก้งของผมได้มาถึงเพื่อนๆ ทุกๆคนต่างถยอยกันมาจนเกือบจะครบ ขาดก็แต่แก้งสาม ตัวหัวโจก เดย์ ฮาฟ เปรม ที่สามคนมันยังไม่มีใครโผล่หน้ามาให้ผมเห็นเลยซักคน สงสัยจะกลัวโดน ลูกปืนของพี่หนวดผมละมั้งถึงไม่กล้า มา เพราะช่วง เด็กๆ ผมกับพวกไอเปรมชอบมีปัญหากันบ่อยครั้ง เลยโดย ขึ้นห้องปกครองกันบ่อย พ่อเลยบอกว่าไม่ค่อยชอบขี้หน้าสามคนมันซะเท่าไหร่ แต่เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วผม ว่าพ่อคงน่าจะลืมหน้าพวกมันไปหมดแล้วแหละ. . . .
เวลา สามทุ่มเกือบจะครึ่งเพื่อนๆทุกคนมากันครบถ้วนหน้าแล้วส่วน ป๊า พี่ เจมส์ เดินออกมาพร้อมกันที่สวนหลังบ้าน ป๊าทำหน้าอึ้งๆ ที่อยู่ๆ มีแขกมากหน้าหลายตาที่ไหนก็ไม่รุ้มาอยุ่ที่บ้านของม ยั้ว เยี้ยขนาดนี้ แต่ถึงพ่อจะทำสีหน้าดูเหมือนจะตกใจ [ป๊าผมเป็นคนที่ตกใจยากมาก ถ้าหาก เรื่องนั้น มันไม่อเมซิ่งจริงๆ ก็คงจะไม่ได้เห็น . . ]

“อ่ะๆ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันที่ เศรษฐี เก่า กลับมา ไอเรามันก็เป็นคนใจกว้างซะด้วยไงติดนิสัยมาจากลุงแกนี้หล่ะ วันนี้เลยได้โอกาศ จัดงานเลี้ยงฉลองการกลับมาของลุงแกซะหน่อย  ถ้าเกิดเพื่อนๆ คนไหนๆ อยากกินอะไร ให้เดินไปบอกพี่สาวคนสวยๆได้ที่ ห้องครัวเลย นะ [พลางชี้นิ้วไปที่พี่เอม ที่ยืน ยิ้มๆ อยู่ข้างๆ ผม]”
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [23]〖21-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-06-2016 20:07:03
“แล้วก็อีกเรื่อง. . . ถ้าเกิดวันนี้ ไม่เมา ไม่เลิกนะเว้ย อ้าวว ระยองง!!!!”

“ชน/ชน!! = =”

“ฮ่าๆ โทดทีๆอ้าวชน . .” และแล้วเวลาแห่งการฉลองก็ได้เริ่มคนโดยเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ของผมก็ดูเชิงเหมือนว่าจะรู้มารยาทดี คือจะทำอะไร ก็ต้องไป ให้พ่อผมเป็นคนเปิดก่อนทุกอย่าง ไม่เว้น แม้แต่เรื่องแดกเหล้าที่พวกห่า มันพากันยกโขยงเข้ามาทีละคนๆ จนตอนนี้ พ่อของผมเมาแอ๋ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ. . หลังจากนั้นเหยื่อลายทัดไป ก็คงจะไม่พ้น พี่ชายสุดหล่อของผม ที่ตอนนี้ มีอิมิคกี้ คอยนั่งคลอเคียอยู่ข้างๆ แล้ว ส่วนไอวินไม่ต้องไปพุดถึงมันหรอกครับ เมา ที่ไรก็เลื้อน ทุกที แต่ครั้งนี้ไหง มัน กลับดูกึ่มๆ ยังไม่ถึงกับเมาด้วยก็ไม่รู้ ! แต่ภาพที่ทำให้ผมติดตามากที่สุดหน้าจะเป็น ไอแก้ง สามตัวหัวโจก เดินถือพวงมาลัย มาไหว้พ่อผมกันทั้งสามคน แอบๆ ได้ยินว่ามาขอโทด เรื่องราววต่างๆ ที่เคยทำไม่ดีกับผมในสมัยเรียน อยู่ พ่อผมก็นั่งรับพวงมาลัยพวกมันทั้งสาม คนก่อนจะ ยืนรับ กอด ของพวกมันจนครบ หึหึ นับว่าเป็นอีกภาพที่ผมคิดว่าหาดูได้ยากมากเลยครับ. . . แต่จะว่าไปตั้งแต่เริ่มงานมาผมยังไม่ยักจะเห็นหน้าของไอกายเลย รึว่า มัน จะนั่งเม้าส์กับพ่อผมจนเผลอหลับไปแล้วอย่างงี้ นักสืบโคนันอย่างผมคงต้องขอสวมรอยไปตามสืบหน่อยแล้วหึหึ
.. . .

พอผมเดินเข้ามาในบ้านได้ก็รู้สึกโล่งหูขึ้นเยอะอาจจะเป็นเพราะ ข้างนอก เปิดเพลงกันเสียงดัง พอเดินเข้ามา ทำเอาหูผมชาไปหลายวินาทีเลยทีเดียว . . . . ผมเดินสอดสังเกตแถวห้องนั่งเล่นมองซ้ายมองขวา ก็ไม่ยักว่าจะเห็นเงาของไอกายเลยซักนิด ถ้ามัน ไม่อยู่นี้แล้วมันจะไปอยู่ไหนกันละเนี้ย ผมชักเริ่มเป็นห่วงมันขึ้นมาแล้ว สิ ! แต่ในระหว่างที่ผมจะเดินขึ้นห้องไป ก็เหลือบๆ เห็น ไฟที่ ห้อง ของแม่เปิดอยู่ แต่สว่างไม่มาก นัก . . . ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผม เลยเปิดใช้มือบิดประตูอย่างเบามือก่อนจะแง้มๆ เปิดเข้าไปอย่างช้าๆ แล้วก็พบ บุคคลที่ผมกำลังตามหาออยู่ด้วย ครับ มันกำลังยืนยิ้มให้กับดอกเบญจมาศที่ปลูกใส่กระถางเล็กๆ ไว้ ข้างๆ ระเบียง ประมาณ สิบกว่าต้น. . .

“แอ๊ะ แอ่ม ประธานโทษนะครับ นั้นดอกไม้ นะครับ ไม่ใช่ ใบกัญชา ยืนยิ้มทำห่าอะไรอยู่คนเดียวในที่มืดๆ เนี้ย?” แต่เหมือนคำพูดของผมจะไม่เป็นผลอะไรต่อไอคุณชายมันเลยครับ มันยังคงยิ้ม และดึงมือผมให้ไปยืนอยู่ข้างๆ กับมันอีก . . . หลอนคนเดียวไม่พอนี้กะจะชวนกุหลอนเป็นเพื่อนด้วยรึไง กัน = =’ ผมละไม่เข้าใจความคิดของมันเลยจริงๆ

“เห็นอะไรนี้ไหม?”

“เออเห็นดอกไม้ไง  มึงคิดว่าใบกระท่อมหรอ?”และด้วยการพูดจาของผมที่คงจะไปรบกวนระบบประสาท ของมันเลยทำให้ผมได้รับรางวัลเป็นการ ถูกฝ่ามือลูบหัวเข้าอย่างจัง เน้นๆ ข้างๆ กกหูดังป้าป . . .

“ลองมองดูดีๆสิ. . .เห็นไหม”ผมพยายามเพ่งเล็งไปที่ดอกเบญจมาศทั้งสามสีตามที่ไอกายมันบอกแต่ไม่ยักจะเห็นความผิดปกติอะไรบนดอกไม้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ขืนพูดจากวนมันอฃอีกผมคงได้โดนฝ่ามือพิฆาตของมันแน่ๆ เลยต้องยอม อือ ออ ตามน้ำมันไปก่อน ทั้งๆ ที่ตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่ามันต้องการจะสื่ออะไรกับผม?

“อือเห็นละ. . ”

“เข้าใจความหมายของมันรึเปล่า?”

“มั้งแต่กูลืมไปหมด แล้วจำได้แค่ว่าสาม สี นี้ความหมายมันต่างกัน.. แต่ลองสมมุติ ถ้าเป็น มึง มึงอยากให้ดอกสีไหนกับกูละ?”ผมนั่งลุ้นรอฟังคำตอบของมัน จนเมื้อยขาเลยต้องไปนั่ง พิง อยู่ ที่ระเบียงรอฟังคำตอบของมันอยู่นานๆ จริงๆ ผมไม่ได้ลืมความมหมายของมันหรอกนะ แต่แค่อยากจะรู้เฉยๆ ว่า มันอยากจะให้สีไหนกับผมกันแน่. .

“อือ สรุปว่าไง คิดได้รึ ยัง กับอีแค่ดอกไม้สาม สี นี้คิดนานยังกะกูให้เลือกซักร้อยสีงั้นแหละ . .”

“อืมม สีเหลือง?”

“เห็นหน้ากูอายุแก่เท่าปู่ทวดของมึงเลยรึไง ห้ะไอกาย สีเหลือง เขาไว้ให้ผู้สูงอายุเฟ้ย ! ”

“ไม่รู้แหละ กูว่ามึงน่าจะชอบ นะ สีเหลือง ออกจะดูสดใส สวยกว่าตั้งเยอะมึง อะคิดมาก . . ”ไหนๆ ตอนนี้ก็ค่ำแล้วผมไม่อยากจะเสียเวลายืนเถียงกับไอกายเรื่องพวกนี้หรอก . . .
 
“อ่ะ สีอะไรก็แล้วแต่มึงเลยแล้วกัน. . แล้วนี้ มึงจะลงไปข้างล่างกับกูไหม ข้างล่าง มีเพื่อนกูมากันเยอะเลย ไอวินก็มานะ มึงจะไม่ลงไปหามันหน่อยหรอ?”

“ไม่อะคนเยอะ น่า เบื่อ มึงลงไปฉลองกับพวกมันเหอะกูไม่ไปอ่ะ”ในเมื่อชวนดีๆ ไม่สำเร็จ . . ก็ต้องงัดไม้เด็ดออกมาใช้ ซะแล้ว

“อ่ะ ไม่เป็นไร งั้นก็ ลง ไป แดกเหล้า กับพวก ไอเปรมข้าง ล่างกันก็ได้ มึงอยู่บนห้องก็รีบอาบน้ำปะแป้งนอนซะนะ เดี๋ยวก่อนไป จะชงนมมาให้รอไม่นานหรอก . .  ”แล้วก็เป็นไปตามอย่างที่ผมคาดคิดไว้ครับ จากสีหน้าของมันที่ดูจะเพิกเฉยกับทุกสิ่งๆ แต่พอได้ยินชื่อของไอเปรมขึ้นมาเท่านั้นแหละครับ มันรีบหันมาจ้องตาผมเขม้งเลย. .

“เดี๋ยว กูเปลี่ยนใจแล้ว กูจะลงไปกับมึงด้วย”

“หึ แล้วทีแรก บอก ไม่ไป เห้อ หึงกูก็บอกกาย ^ ^”

“. . .”มันเงียบไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่หลบสายตาของผมก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปโดยไม่รอผมเลย. ..
[เช้าวันต่อมา]

ผมตื่นขึ้นมาด้วย เสียงกรนของไอเชี่ย วินที่ดังสนั่นหวั่นไหว ไปทั่วห้องแถมยัง มีศพของคนอื่นๆ นอนตายเกลื่อนกลาด แต่ที่หน้าแปลก สุดก็คือ ผมมานอน ใต้วงแขน ของพี่ไนท์ ได้ยังไง  จำได้ว่าเมื่อวานก่อน จะหลับไป ผมนังไม่เห็นหน้าพี่แกเลย. . แต่ช่างเถอะถ้าขืนผมยังนอนงงอยู่อย่างนี้ เกิดไอกายเดินเข้ามาเห็นแล้วจะซวยกันไปใหญ่ ผมรีบลุกออกจาก วงแขนของพี่ไนท์ และค่อยๆ เดินกระโดด ข้ามศพของแต่ละคนออกจากห้องไปอย่างช้าๆ . . แค็กๆ! เสียงของลูกบิดดังขึ้นขณะที่มือของผมกำลังจะถึง พอดี . . . ทำให้ผมเห็นใบหน้าที่ดูไร้อารมณ์อย่างบอกไม่ถูกจับจ้องมาที่หน้าของผม

“แฮ่ๆ มอนิ่ง ก๊าบ”

“เมื่อคืนหลับสบายดีไหม?”ก็ดีนะแขนพี่ไนท์นุ๊มนุ่ม หนุน สบายหัวฝุดๆแต่ ถ้าขืนผมพูดแบบนี้ออกไป คง ได้ลงไปนอนกองกับพื้นแน่ครับ . .  เลยต้องแกล้งๆ พูดเอาใจ ไอหนู ซะหน่อย

“เกือบดี แล้วเมื่อวานมึงนอนไหน อ่ะ ทำไมไม่เข้ามานอนที่ห้องกู ?”จะว่าไปในเมื่อเพื่อนๆ ของผมตั้งหลายคนรวมถึงตัวผมยังนอนอยู่ในห้องแล้วเมื่อคืนไอกายมันไปนอนอยู่ที่ไหนละ ?

“เอ่อออ. . .”

“เอ่ออะไรรีบพูดมา รึว่า มึงจะแอบขึ้นไปนอน บนหลังคาบ้านกู”

“ป่าว กูไปนอน กับพี่มึง ?”

“หือ พี่ พี่ไหน ใครพี่กู มึงคงไม่ได้หมายถึงพี่เจมส์ พี่ชายกุหรอกใช่ไหม ?”

“ก็มีอยยู่คนเดียวไม่ใช่หรอพี่มึงอะ ไม่เชื่อกุหรอ ?”

“ก็ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ ..  แต่อย่างเจมส์เนี้ยนะ จะให้ใครไปนอน ด้วย ขนาดกูเป็นน้องแท้ๆ กูยังแทบจะไม่เคยย่างกายเข้าไปในห้องของเจมส์ได้เลย. . รึว่า . . . อย่าบอกนะว่ามึง กับเจมส์ ./ . .”

“พอๆ เลิกคิดอะไรไร้สาระได้แล้วมันไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ เมื่อวานพี่มึงเมาหนักไง กูก็เลยช่วยพยุงขึ้นมานอนที่ห้อง ที่แรกกูก็ว่าจะรีบไปส่งพี่เขา แล้วรีบมานอน กับมึงที่ห้องนี้ แต่พี่มึงนะสิ เมาแล้วล็อค กู จนหลังก็เคร็ดแล้วเนี้ย. . ”

“ฮ่าๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในก่อไผ่รึเปล่าวะ ?”

“อาจจะไม่เกิดกับไผ่ แต่มัน กำลังจะเกิดขึ้น กับมึงในอีกไม่ช้านี้แหละถยังกวนตีนไม่เลิก” ชะอุ้ยย ผมไม่กวนแล้วก็ได้คร้าบบ!!
[ช่วงสายๆ] ผมกับกายเรามีแพลน จะออกไปซื้อของ เข้าบ้าน ที่ Big C ‘Top’และร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใก้ลเคียง [เพราะช่วงนี้ผมต้องหลีกเลี่ยงการเดินในตลาดซักพักนึง คงต้องรอให้ข่าวของผมเงียบลงไปซะก่อน = =’] แต่ระหว่างที่ ผมกำลังจะขี่รถออกจากบ้าน พ่อก็ทัก ผม ขึ้นมาจากห้องข้างบน บอกให้ผมอยู่ช่วยงานที่บ้านก่อน ส่วนที่เหลือให้เป็นหน้าที่ ของผู้ชายเขา [เดี๋ยวๆ แต่ผมก็เป้นผู้ชายนะพ่อ] แต่ไม่ว่าผมจะสรรหาอะไรมาพูด พ่อก็ยังเป็นพ่ออยู่ดีแหละครับ นิสัยเอาแต่ใจไม่เปลี่ยนเลย ไม่แปลกใจเลยที่ผมได้นิสัยเด็กๆ นี้มาจากใคร . .  แล้วนั้นก็คือเหตุผลที่ผมต้องอยู่บ้านคอยช่วยงานพ่อกับพี่เอมทั้งวัน 

[13.21.]หลังจากที่ผ่านการบูรณะบ้านใหม่เสร็จผมกับพ่อ เราก็เข้าไปนั่ง พักอยู่ที่สวนหลังบ้าน ส่วนพี่เอมก็ทำกับข้าวอยู่ในครัว ผมแอบเดินวนๆ ดูว่าเมื่อไหร่ไอกายมันจะกลับมาซักที ออกไปตั้งแต่ตอนสายแล้วป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย [อ่อ ผมอาจจะลืมบอกไป ว่าเจมส์ ก็ไปกับไอกายด้วย]

“เออนี้ไอ เจ เอ็งจะกลับมาอยู่กับข้ากี่วัน ?”

“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ เบื่อๆ เดี๋ยวก็ไป ฮี่ๆ”

“ดี รีบๆเบื่อรีบๆไป ข้าชักจะเบื่อขี้หน้าเอ็ง กับไอหนุ่มนั้นแล้ว. . แต่จะว่าไปไอหนุ่มนั้นมันก็ดูมีฐานะไม่ใช่น้อยนะ ยามไม่มีจะกิน เอ็งก็ต้องประจบไอหนุ่มนั้นเข้าไว้นะ จะได้ไม่อดตาย”

“แหม่ๆ ดูพ่อพุดเข้าสิ แนะ นำลุกแต่ละอย่างเนี้ยนะ เห้อ . . . เออ ไอจุกๆ สีขาวๆ แถบเว้นแถบนั้นอะไรอะ ไปทำไฮไลท์ มาหรอ เท่ ดีจัง ”

“ไฮไลท์บ้าบออะไรละนี้เขาเรียกผมหงอก”

“เอ่อจริงด้วย แหะ. . แฮ่ๆ แล้วทำไมพ่อไม่ย้อมสีดำกลับละ”

“ก็เจมศมันไม่ค่อยมีเวลาว่างอีกอย่างพ่อก็ทำงานทั้งวันจะเอาเวลาไหนมา นั่ง ทำได้ละ”

“เอางี้นะพ่อเดี๋ยวเจย้อมให้พ่อเอง พ่อนั่งรออยู่ตรงนี้นะ. .เดี๋ยวเจอมาแปปเดียว”จังหว่ะที่ผมเดินออกมา พ่อก็ทำทีท่าเหมือน จะตะโกนบอกผมอะไรซักอย่างแต่ผมคงไม่ทันได้ฟัง ระหว่างนี้ผมก็แอบโทรไปหาไอกายด้วย. .

“อยู่ไหน”

“อยู่ข้างนอกกับพี่เจมส์ มีอะไรรึเปล่า ?”จริงๆ ผมก็มีเรื่องจะถามมันเยอะเลยนะ แต่เอาไว้ให้มันกลับมาก่อนดีกว่าค่อยถามทีเดียว
“เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก แค่โทรมาถามว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ เห็นออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว ”

“คิดถึงกูมากละสิ”

“คิดถึงฝ่ามือกูดีกว่านะกาย  เออ เดี๋ยววันนี้กูจะเข้าครัวกับพี่เอม อยากกินอะไรรึเปล่าจะได้บอกให้พี่เอมทำให้”

“แล้วแต่เจเลยครับเจกินอะไรกายก็กินได้หมดแหละ”แหนะๆ เดี๋ยวนี้มีทำเสียงออดอ้อน . ..  –///-

“แต่เอาที่กินแล้วไม่ตายนะ” สัดกูอุตส่าห์ฟินตั้งสิบวิ = =’
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [23]〖21-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-06-2016 20:15:08
“หึหึ ไม่ต้องแดกงั้นอ่ะ กูจะวางยาเบื่อ แม้งทุกจานเลย  ”

“กล้าก็ลอง. .  เออ ตอนนี้กูอยู่ Big c อยากได้อะไรมั้ยเดี๋ยวซื้อไปฝาก”

.”ไม่อ่ะ . . ”ซักพักดูเหมือนจะมีเสียงอะไรดังๆ มาจากที่ไอกายกำลังยืนอยู่

“เออๆ งั้นกู แค่นี้นะ พี่เจมส์เรียกกุแล้ว”แต่ระหว่างนั้นเองผมก็พึ่งจะนึกออก

“เออ ใช่ กาย!! กูฝากซื้อ สีย้อมผมหน่อย”

“ห้ะ! อะไรนะพูดใหม่อีกทีสิ”

“กูฝากซื้อ สีย้อมผมหน่อย ”

“สีย้อมผม เออแล้วเอาอะไรอีก”

“เออแล้วก็ถุงมือยาง. . แล้วก็เออแค่นี้แหละ ”

“อือๆเดี๋ยวซื้อไปให้ละกัน แค่นี้ก่อนนะเสียงข้างๆดังมากเลย ”

“อ่ะๆไว้เจอกันมึงรีบกลับมาละ ตื๊ด !!”

[14.14] เวลาสวยเลขสวย ทั้ง พี่เจมส์และกายหอบหิ้วของกลับมา ชนิดที่ว่า พี่อิน กับยัยเอริ์น นี้ ดูดอปไปเลยละครับ ไม่รู้ว่าไปเหมาห้างกันมาหรือมันมีโปรโคตร Super Sale!  กันแน่นะ= =’

“โห เจมส์ วันนี้ ที่ห้างมีโปร ซื้อ 1 แถม 10 รึไง ทำไมของมันถึงได้เยอะขนาดนี้เนี้ย”ผมเดินดุ่มๆ เข้ามาถามพี่ชายตัวเองอยู่ที่หน้าประตู แต่สายตาของผมก็แอบเหล่มองไอหน้าหล่ออีกคนนึงที่กำลัง เดินแบกของเข้าบ้านอยู่ คนเดียว ถ ถ ถ  คุณชายของ ผม โดนพี่เจมส์ใช้งาน แวบแรกผมก็อยากเดินไปช่วยอยู่นะ แต่หลังรู้ๆ สึกว่ายืนมองอยู่เฉยๆ จะดีกว่า  ถึงคราว ที่มันต้องชดใช้กรรม ที่มันเคยทำไม่ดีกับผมไว้ซะหน่อย แต่ผมก็ทนได้แค่แปปเดียวก็ต้องเดินแบกหน้า หล่อๆ ของตัวเอง เข้าไปช่วยมัน เพราะพึ่งมานึกได้ว่าเมื่อวานผมแกล้งให้มันขุดดินอยู่คนเดียวจนมือมันพอง ทั้งสองข้าง
 :z10:
ผมกับกายเราเดินเข้าออกบ้านประมาณ เกือบ ยี่สิบรอบ กว่าจะหยิบของเข้าบ้านครบทุกอย่าง แต่สิ่งที่ผม อึ้งถึงมากที่สุดก็น่าจะเป็น ถุงหลังๆ ที่ถือเข้ามา ทุกถุงล้วนมีแต่สีย้อมผมประมาณ เกือบ ห้าสิบกล่องได้ ด้วยความสงสัยผมเลยแกล้งๆ ถามไอกายมันไป และคำตอบที่ได้มา ก็ทำเอาผม กุมขมับไปหลาย นาที กายมันบอกว่า ผมสั่งให้ซื้อสี แต่ไม่ได้บอก ว่าเอาสีอะไร มันก็เลยเหมามาทั้งชั้นเลย ตั้ง แต่สีดำยัน สี เทาอ่อน ม่วง แดง เขียว สม เหลือง มันเหมามาหมด = =’ แต่จะนึกๆ ไปแล้ว ฝ่ายที่ผิดหน้าจะเป็นผมมากกว่าที่ไม่ได้บอก มันให้รู้เรื่องก่อน ก็ใครจะไปรู้ละว่าไอกายมันจะเซนต์ต่ำขนาดนี้ หมดไปกี่ตังละงานนี้ แต่ละกล่องนี้ของแบรนด์ทั้งนั้น ส่วนของ อื่นๆ ที่ซื้อมากนอกจากนั้นจะเป็นพวก ของกินของใช้ในบ้านซะสวนใหญ่ นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นของเบ็ดเตล็ด เล็กๆ น้อยๆ

“พ่อ มาเปลี่ยนสีหัวกัน พ่ออยากได้สีอะไรบอกเจ เลยเดี๋ยวเจ ย้อมให้”พ่อทำสีหน้าไม่ต่างจากผมตอนเห็นแรกๆ พ่อเองก็อึ้งไปนานพอควร  ก่อนจะถามผมออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“นี้เอ็งโกรธแค้นอะไรพ่อรึเปล่าไอเจ. . ”

“โกรธอะไรละพ่อ”

“แล้วนั้นเอ็งเหมามาหมดโรงงานรึยังละหน่ะ หึ ทำไมถึงซื้อมาเยอะขนาดนั้น”

“ถามเด็กส่งของของพ่อสิ มันเป็นคนซื้อมาเจซื้อมาเองซะที่ไหน? ”

“จริงๆหรอไอหนุ่ม. .”ชะอุ้ย อยู่ๆ ผมก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวของผม

“จริงๆครับพ่อ แต่ผมคงฟังไม่ดีเอง ไม่รู้จะเลือกสีไหนมา ผมเลย ซื้อมาทุกเฉดสีที่ร้านมีเลย  ”

“หมดไปกี่ตังละนั้น ดูท่าไม่ใช่ถูกๆเลยนะ”

“ไม่เท่าไหร่หรอกครับพ่อ”

“แล้วไอไม่เท่าไหร่ของเองหน่ะมันเท่าไหร่ละ?”พ่อผมคะยั้นคะยอถามไอกายพลางยื่นมืออีกข้างไปหยิบกระเป๋าตังที่วางไว้อยู่ที่โต๊ะข้างๆ

“เจ็ดพันกว่าบาทครับ ที่จริงมันก็เกือบแปดพันกว่าๆ แต่เจ้าของร้านเขาคงเห็นผมซื้อเยอะเขาเลยให้ราคาส่งผม มาครับ”

“จ จ เจ็ดพัน!!/เจ็ดพัน!!” ทั้งผมและพ่อเราสองคนต่างอุทานขึ้นมาพร้อมกันด้วยความตกใจตั้งแต่เกิดมาที่ ผมเคยซื้อ สีอะไรมาใส่ลงบนหัวนี้ กล่องยังไม่เคย ถึงร้อยเลยด้วย ซ้ำแล้วนี้มันบ้าอะไร กัน ไอสีที่วาง อยู่ข้างๆ ผมตอนนี้ มีราคาเกือบ เฉียดหมื่นเลยหรอนี้ มันอะไรกันละนี้!

 “งั้นเดินมานี้ไอหนุ่มมาเอาเงินไป เอ็งคงหมดไปหลายตังเลยสิท่า”

“ไม่เป็นไรหรอกครับพ่อเรื่องแค่นี้ เอง ”

“ไม่ได้ๆ ของราคาไม่ใช่น้อยๆ จะให้เอ็งซื้อให้ได้ไง เอ็งยังเป็นหนุ่มกันอยู่แท้ๆ ยังมีเรื่องต้องใช้จ่ายกันอีกเยอะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เอาเงินนี้ไป  ”ทั้งพ่อและกายต่างเล่นบทละครน้ำเน่ากันอยู่นานจนผมชักเริ่มรำคาณ เลยเผลอพูดออกไป

“ช่างมันเหอะป๊าเงินแค่นี้ ขนจมูกกายมันไม่ร่วงหรอก  ”

“แต่จะว่าไป เอ็งก็มีส่วนผิดนะ ไอเจ เอ็งไปสื่อสารกับไอหนุ่มนี้ยังไง ถึงได้ซื้อมาผิดขนาดนี้”

“เจแค่ลืมบอก สีที่จะซื้อเท่านั้นเองอ่ะป๊า แต่กายมันก็มีส่วนผิดนะ กายมันไม่ยอม โทรมาถามเจเองอ่ะ”

“ไม่ต้องเถียงกัน เอ็งนั้นแหละผิดไอเจ เพราะชะนั้น เดือนนี้ ป๊าจะหักจาก เงินค่าขนมของเอ็งไปให้ไอหนุ่มนี้”

“แต่ป๊า. . ”ผมยังไม่ทันได้เถียงอะไรพ่อก็ยื่นเงิน แบงค์พันมาให้ผม แปดใบ ส่วนอีกเจ็ดใบที่เหลือตอนนี้ กลับไปอยู่ที่ไอกายเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ . . . แถมคราวนี้ ไอกายมันยังไม่ปฏิเสธอะไรอีก ยิ้มหน้าระรื่นรับเงินไป แถมยังแอบส่งสายตาเยาะเย้ย มาที่ผมอีก . ..

“โถ่กาย เพราะมึงอ่ะ กูเลยโดนตัดเงินค่าขนมของเดือนนี้เลย T-T ”พลางส่งสายตาอาฆาตแค้นไปที่มัน

“ไม่ต้องกลัวนะไอหนุ่ม ถ้าไอเจมัน ข่มขู่หรือทำอะไรเอ็ง ก็มาบอกพ่อได้เดี๋ยวพ่อจะจัดการมันเอง”

“ครับคุณพ่อ ^ ^” ได้ทีพ่อกูให้ท้ายเข้าหน่อย ก็เอาใหญ่เลยนะมึง หึหึ ! เดี๋ยวๆ รอกลับไปก่อน กูจะคิดบัญชีแค้นกับมึง
. . . . . . .
“อ่ะ”อยู่มันก็ยื่นถุงสีดำอะไรไม่รู้มาให้ผม แถมตอนยื่นมายังแอบเห็นมันทำท่าเกาทีท้ายทอย เหมือนกำลังเขิลอะไรอยู่

“อยู่ๆ ก็ ยิ้มคนเดียว ไหนๆ ซื้ออะไรมา. . .”แต่พอผมเปิดถุงดูเท่านั้นแหละ. . .  ถ ถ ถุง ถุงยาง ? ผมช้อนหน้าขึ้นไปมองไอกายที่กำลังยืนยิ้มเลวๆ ให้ผมอยู่

“ยิ้ม ห่าอะไร กาย แล้วนี้มึงซื้อถุงยางมาทำไม เนี้ย ?”หวังว่ามันคงไม่ได้คิดจะทำอะไร กลางวันแสกๆ หรอกใช่ไหม?

“อ้าวก็เห็นมึงบอกให้กูซื้อ . . กูก็เลยหยิบมาอะไรของมึงเนี้ย เป็นคนบอกกูแท้ๆ ทำลืมหรอ ?”

“เดี๋ยวๆ กูไปบอกอะไรแบบนี้กับมึงตอนไหนกายไหนลองอธิบายให้กูฟังสิ”

“ก็ตอนที่มึงบอก ให้ซื้อสีแล้ว ก็. . .ถุงยาง ”

“ถุงมือยาง!!!โอ้ย กายกูว่ามึงควรไปหาหมอเช็คหูดูหน่อยนะ กูว่า อาการเริ่มแย่ละ = =’”

“อ้าว เหรอ ! ก็เสียงมันดังนิ่ ใครจะไปรู้ละ แต่ไหนก็ซื้อมาแล้ว. .ถ้าไม่ใช้ก็คงจะเสียดายตังแย่. . .”(ออกอาการทางสีหน้า) ตอนนี้มันกำลังอ่อยผมอย่างรุนแรง

“สองกล่องทำเสียดาย ไอสีย้อมผม เมื่อกี้มึงควรเสียดายมากกว่าป่ะห่า
!”
“เออช่างมันเหอะเก็บไว้ที่มึงนั้นแหละ เผื่อวันไหนจำเป็นค่อยเอาออกมาใช้ ”คงอีกนานเลยครับมึง ครั้งที่แล้วเล่นเอาผมซะเดี้ยง เลยต้องขอเวลาพักฟื้นตัวยาวๆหน่อยก็แล้วกัน

ผ่านไปหลังจากนั้น อาทิตย์ กว่าๆ พ่อกับพี่เจมส์ ก็ต้องรีบกลับไปทาธุระกันที่ต่าง ประเทศ แต่ก่อนจะไปก็ไม่ลืมทิ้งเงินไว้ให้ลูกชายสุดหล่ออย่างผมไว้ยาไส้ ส่วน ไอกายวันๆ มันก็เอา แต่เดินตามผมทุกฝีก้าว ยังกะแฝดสยาม ระยะเวลาช่วงปิดเทอมของ ผม ก็มี แต่มัน มัน มัน แล้วก็มัน (ปล.มันในที่นี้ =กาย เน้อ) ไม่ใช่มันส์! อย่างที่หลายๆ คนกำลังคิดกันอยู่ ก็นั้นแหละครับ คือช่วงเวลาปิดเทอม อันแสนวุ่นวายของผม ตอนนี้ก็เหลือเวลา เพียงแค่ไม่กี่วัน ก็จะเปิด เทอม ใหม่กันแล้ว แล้วสิ่งที่แปลกใหม่ไปจากนั้นก็คือ ที่อยู่ของผมนั้น เอง หลังจากที่เดินทางกลับไป คุณนายอินเธอก็เนรเทศ ผมให้ไปหาหอ อาคาร อพาทเม้น อยู่อาศัยชั่วคราวไปก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่า ตอนนี้ พี่อินแกกำลัง ปรับปรุง รื้อร้านใหม่หันอยู่ครับ ส่วนยัยเอริ์นรายนี้ไม่น่ามีปัญหาเพราะมีเพื่อนพวกแก๊งสาววายคอยช่วยเหลือกันอยู่ใกล้ๆ เวลา สามสี่วันหลังจากนี้ ผม เลยต้องใช้ เวลา เกือบทั้งวัน ในการหาหอพักดีๆ ที่อยู่ไม่ไกลจาก ม. เท่าไหร่ (แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า วงเงินมันจำกัดนะสิครับ) เลยเลือกมากไม่ได้ เลยต้องหาที่พัก ที่ตัวเองพอจะอยู่ได้แล้วก็รวม ถึง ราคาที่ถูกอีกด้วย . .  แต่ที่อย่างนั้นมันจะไปมีได้ยังไงละครับ  . . .  แต่ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วิที่ผมกำลังเพ่งเล็งไปที่ข้อความในเว็ป จู่ ฟีดข่าวข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมา ว่า

“สัญญา เช่า เหลือหนึ่งเดือน มีใครสนใจไหม ครับ ห้องพักดี ฟอร์นิเจอร์ครบสิ่งเอานวยความสะดวกทุกอย่าง และอย่างอื่นอีกบลาๆๆ สนใจทักแชทได้นะครับ ราคาคุยกันได้”ผมไม่รอช้ารีบกดแอดเฟส ไปในบัดดล

ผม:“หวัดดีครับ พอดีผมตามมาจากข้อความที่นายโพสไว้อ่ะครับ เห็นว่ามีที่พักดีๆ ราคาถูก คือผมสนใจอะครับเลย อยากมาสอบถามเรื่องราคาซะหน่อย”

เขา:”อ่อ ครับ ยินดีเลยครับ ราคาก็ ห้าพันเก้า ต่อเดือน นายโอเครใช่ไหม”พร้อมส่งรูปภายในห้องมาให้ผมดู แต่พอดูไปดูมาทำเอาผมแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ที่อยู่ที่ ว่ามานี้ มันจะอยู่ที่ ห้าพันเก้า เพราะข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ว่าเยอะแล้ว ยังมีของ จุกจิกอีกเพียบ . . ราคาห้าพันเก้าเนี้ยนะ โม้กันรึเปล่า

ผม:“เอ่อ ผมสนใจมากนะครับ แต่ขอถามอะไรอย่างทำ ไม ที่พักดีฟอร์นิเจอร์ครบแบบนี้ ถึงราคาแค่นี้เองละครับ รึว่า แถวนั้น จะมีผี. . ”

เขา:“อ๋อไม่มีผีอะไรหรอกครับ ที่จริงห้องนี้ มี ผมกับเพื่อนๆอีกสามคน มาอยู่ด้วยกัน ช่วยกันจ่าย ที่นี้ พวกเพื่อนๆสองคนของผมมันก็จ่าย ค่าห้องตามปกติแหละช่วยๆ กัน แต่ ย้ายไปอยู่อีก ที่ (หนีพ่อแม่ไปเที่ยวแน่ๆ เลย)มันก็เลยปล่อยห้องว่างไว้ เก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เฉยๆ ”

ผม:”แล้วทำไมถึงหาคนเช่าต่อละครับ ผมว่า ก็ดีออก”

เขา:“อ๋อ อาจจะดีสำหรับบางคนนะครับแต่สำหรับผมคงไม่ เพราะที่ นี้ มี หุ่นยนต์อยู่ในห้อง ด้วย คนนึง”หือ? หุ่นยนต์ คนนึง ?
เขา:“หมายถึง พวก สันโดษนะครับ มันไม่ค่อยพุดคุยกับใครจนผมคิดว่ามันเป็นใบ้ไปแล้ว แล้วอีกอย่างผมก็เป็นพวกที่เฮฮาด้วยไง มาเจอ คนอารมณ์แบบนี้ ก็ หมดไฟกันพอดี เลยรู้สึกเบื่อ ก็เลยปล่อยให้เช่าต่ออย่างที่เห็นนี้แหละครับ ถ้านายสนใจ ราคา คุยกันได้อีกนะ . .  แต่คงมีมันพ่วงอยู่ในห้องด้วยกันอีกคน. . ”

ผม:“อ่อ เรื่องแค่นี้ ผมไม่ถือหรอกครับดีซะอีก ผมอยากมีเมทเหมือนคนอื่นตั้งนานแล้ว เอาเป็นว่า ผมตกลง ขอเช่าห้องต่อก็แล้วกัน ไว้ พรุ่งนี้ตอนเย็น เจอกันที่.. . . .  เวลาตามนี้นะครับ ขอบคุณครับ. . .” และในที่สุด เวลา นอน ของผมก็มาถึง ผมเหลือบหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงบอกเวลา ตีสอง สี่สิบ โอย นี้ทั้งวัน ผมมัวแต่นั่งจ้อง หน้า I Pad ทั้ววันเลยรึนี้ จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่ละสายตาออกมาจากจอพึ่ง เที่ยงกว่าๆ เอง

 สายตา ไม่เสีย ก็ให้มันรู้ไปสิ ! ปล. เพื่อนก็อย่าจ้องหน้าจอ เป็นเวลานานนะครับ . .
[ด้วยความปรารถนาดี จาก เจ &คิม]

TBC. . . . . . . . . . . . . . .. . . .. . . . .
[คิมกอนอู]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง 〖แจ้งข่าว〗〖10-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 10-10-2016 18:02:49
หลายๆ เดือนที่ ผ่านมาทางผู้เขียน (คิทเองฮ้ะ) ติดกิจกรรม ที่ มหาลัยทำให้ไม่มีเวลา มาอัพ ตอนใหม่ๆ เลย (ต้องขออภัยใน ที่นี้)
หลัง จากที่ กิจจกรรม ต่าง ได้ผ่านพ้นไปก็ได้เวลา ที่ จะกลับมาอัพอีกครั้ง (เย้ๆไม่รู้มีใครดีใจเหมือนกับเค้ารึป่าวน้า^ ^)

ท้าย นี้ ตัวคิม เอง ต้องขอ เวลาเรียบเรียงและ แก้ไข อะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วจะกลับมาอัพตอนใหม่ๆ ให้น้า ค๊าบบ



อย่าพึ่งลืมกัน น้า ชุปๆ

10.10.59 :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter: [23]〖21-06-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-10-2016 18:05:31
ชุ้บๆ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :24〗〖12-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 12-10-2016 08:30:52

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 24 :  Who Are You ?

เย็นวันต่อมา
ผมโทรนัดเรียก ทำสัญญาเช่า ต่อจากเพื่อนต่างคณะ ที่กำลังจะย้ายออกจากคอนโด ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากมอ มากนัก

“สรุปกฎก็มีอย่างที่ผมพึ่งพูดไปนั้นแหละครับ ส่วนที่เหลือ นายจะจัดการยังไงก็ขึ้นอยู่กับนายก็แล้วกัน”เสียงพูดปนยิ้มของเพื่อนต่างคณะ ที่ กำลังสาธยาย กฎ ของ คอนโด ที่ผมเองกำลังจะย้ายสัมโนครัวเข้าไปอยู่ภายในไม่ช้าให้ฟัง. .  จะว่าไปกฎก็ไม่ได้มีมากหรอกครับ แค่ห้ามเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด และห้ามส่งเสียงโวกเหวกโวยวายรบกวนห้องอื่นๆ


“เรื่องแค่นี้เอง ผมทำได้สบายอยู่แล้วครับ ว่าแต่ ผม เข้ามาพักที่ห้องได้เมื่อไหร่ ?”
“แล้วแต่ที่สะดวกเลยละกันครับ ส่วนนี้กุญแจ ห้อง 302  ชั้น 10 เปิดลิฟฟ์ไปห้องจะอยู่ทางขวามือนะครับ.  .  อ๋อแล้วก็อีกอย่าง. . . ”
“ . . . ” มันเว้นช่วงพักนึกกว่าจะยอมเปิดปากพูดต่อ

.”ถ้านายเข้าไปอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้าเห็น เมทอีกคน มัน ไม่พูดไม่จา . . .เพื่อนผมมันบอกว่า น่าจะเป็นใบ้ แต่อย่าใส่ใจเลยครับ มันไม่ค่อยอะไรกับใครหรอก . .” คงจะหมายถึงเพื่อนหุ่นยนต์ที่มันพูดถึงเมื่อวานสินะ

“อ๋อเรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ ผมอัธยาสัยดี เรื่องแค่นี้สบายมั่กๆ”

“ถ้างั้นก็ โชคดีนะครับ ส่วนเรื่องเงิน ไว้ค่อยโอนให้ผมช่วงเย็นๆ ก็ได้นะครับ พอดี ผมมีธุระต้องรีบไปทำต่อ”และยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไร บุคคล เมื่อ ครู ก็ได้บริ้ง หาย ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ ไวจริงๆ

. . . . . . . . . .

และแล้วก็ได้เวลาที่ผมจะมาสำรวจห้องใหม่ เพื่อน ใหม่ซะที ผมเดิน มาหยุดอยู่ที่ห้อง 302 ที่สลักด้วยไม้สวยงาม ผมไม่รอช้า

รีบไขกุญแจและเดินเข้าไปแทบจะทันที ถ้าไม่บังเอิญ เดิน สะดุดกับขวดอะไรเข้าอย่างจัง. . หืม.. 

สิ่งแรกที่ผมเห็นหลังจากเดินเข้ามาภายในห้อง คือขวด สุราแบรนด์ดัง เกือบๆ สิบขวด วางนอนเรียงกันอยู่ที่หน้าประตู . .. ผม

รู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าการที่ จะมีขวดเหล้าอยู่ในห้องคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และคงเป็นธรรมดา

ของชีวิตนักศึกษาที่อาจจะมีสงสรรค์เฮฮาปาตี๋กันบ้าง. . . ผมค่อยๆ เดินสำรวจห้อง ตามรูป ที่เพื่อนต่างคณะเมื่อครู่ได้ส่งรูปมาให้

ผมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน  ผมยกไอโฟน มองดู ขึ้นลงๆ เพื่อเปรียบเทียบภาพที่ได้รับกับสภาพที่เป็นจริง. . . และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่

มีในภาพเป๊ะทุกอย่างครับ ถ้าไม่ติดที่ว่า มีกางเกงลิงของใครมาเซฮัลโหล อยู่ใกล้ๆ กับโซฟา ผมก็คงจะแฮปปี้มากกว่านี้นะ - -* .

. .  แก๊กๆ เอี๊ยดดด เสียงของประตูบานไม้ภายในห้องถูกเปิดออก พร้อม กับบุลคล ที่ผมคิดว่าน่าจะใช่คนเดียวกับ ที่ เพื่อนต่างคณะ(ผมลืมถามชื่อมัน เลยเรียกเพื่อนต่างคณะซะเลย)ได้เคยเกริ่นไว้. .. .  แล้วก็เป็น ไปตามที่มันบอก ทุกอย่างเลยครับ ไอนี่. . .ถึงหน้า ตา เกือบๆ จะดี (จริงๆ ก็ดีแหละครับ แต่อาจจะน้อยกว่าผมหน่อย อิอิ) หน้ามันนี้บ่งบอกถึงการต้อนรับแขกมาก

ครับ(ประชด - - )ไอร่างสูงๆ นั้นเดิน ผ่านหน้าผมไปราวกับว่า ผมไม่มีตัวตนอยู่ในห้องนี้เลย ไม่สิต้องเรียก ว่า มันไม่แลตามองผมแม้แต่นิดเดียวเลย จะดีกว่า. . .. เอาน่า มันอาจกำลังเหม่อหรือละเมออยู่ก็ได้ ใจดีสู้เสือเว้ย!

“เห้ยนาย หวัดดี เราเป็นเมทใหม่ที่จะเข้ามาอยู่ในวันนี้เราชื่อ เจ นะ แล้วนายละ ชื่อ. . .” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกๆ ตื๊ดๆ ไอเจยืนคุยคนเดียวอีกแล้วครับท่าน จากที่คิดว่า มันอาจจะละเมอ ตอนนี้ผมชักแน่ใจแล้ว ว่า มัน ตั้งใจจะเมินผมเองต่างหาก

ไอร่างสูงหน้าหล่อนั้น ยังยืน กระเดือกน้ำลงคอของมันสองสามอึกก่อนจะปิดตู้เย็นดังปั๊ก.. . และ เหมือนจะเบิกตา มอง ผม อยู่นิดนึง(นิดนึงจริงๆ )เหมือนจะขยิบแต่ก็ไม่น่าจะใช่ เรียกว่ามองผ่านๆ จะดีกว่าครับ. .. ไอนี้วอนกูซะแล้ว . .

“อือ” และนั้นคือคำพูดเดียวที่ออกมาจากปากของไอร่างสูงหน้าหล่อคนนั้น ครับ. . .เป็นการต้อนรับเพื่อนใหม่ที่ดีมากเลยนะมึงไอสัด.

“ไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยหรอ. .”ผมพยายามพูดที่คิดว่าน่าจะไพเราะและน่าฟังที่สุดออกไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้ ผมแทบจะกระโดดเตะปากของมันได้อยู่แล้ว

“อะตอม.  ” และนั้นก็คือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ ร่างสูงหล่อนั้น จะเดินกลับเข้าประตูบานไม้ของมัน เช่นเดิม. . .

. .  . .. . . . . .

ผมเดินออกมาจากคอนโดได้ซักระยะพร้อมกับ กับการข่มอารมณ์ของตัวเองไม่ให้ระเบิด โหวกเหวก ออกมา หู้ย เกือบแล้วไหมกู เกือบ ได้ กระทืบคนเข้าแล้วไง . .  นี้ท่าไม่ติดว่ามันรีบวิ่ง หนีเข้าห้องไป นะ ผมจะเดิน ไปโบกหัวมันซักทีสองที หึ้ย คนบ้าอะไรวะ อัธยาสัยแย่เป็นบ้า นอกจาก จะเงียบไม่ยอมพูดแล้ว ยังมีหน้าเดินทำเมิน ถามคำตอบคำใส่ผมอีก .  .เย็นๆ ไว้มึงไอเจ นี้แค่วันแรกๆ เย็นไว้ เหลืออีกตั้ง เกือบเดือน ทนๆ ไปหน่อยละกัน สู้เว้ย. . .

ในคณะที่ผมกำลังพูดกับตัวเองเหมือนคนบ้า ไอหมาบ้าก็โทร มาพอดี (ผมเปลี่ยนชื่อให้มันอีกแล้ว!)

“เออ!”น้ำเสียงผมดูไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่.. .

 “เป็นไร โมโหอะไรมา”กายมันถามผมกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างกัน

“เบื่อคน”

“มึงกล้าเบื่อกูหรอ” เสียงของกายเริ่มดุๆ ขึ้นมาบ้างละครับ. . .อะจึ้ยย นี้ผมเผลอไปแหย่หนวดของมันใช่ไหมเนี้ย

“เปล่า แค่มีเรื่องเครียดๆ นิดหน่อย แล้วโทรมามีอะไร?” ผมพยายามเบี่ยงคำตอบและถามมันกลับไปบ้าง
 
“ก็คิดถึง. เลยโทรหา กู จะโทรหาแฟนตัวเองบ้าง ไม่ได้รึไง. . ” .  .     = ///=  อยู่ๆ ก็พูดคิดถึงกันโต้งๆ น้องหมาสายพันธ์ต่างในปากผมก็ไม่กล้าออกมาเดินเล่นเลยสิครับ. .

“. . . .”ผมเงียบ

“. . . . ” มันก็เงียบ

“เงียบทำไม ก๊อง !”ก๊องคือ ชื่อใหม่ของ ผมเองครับสารยานามนี้ถูกตั้ง ขึ้น เมื่อตอนคุณชายแก บังเอิญ เปิด จูนหาช่องให้คุณนายอินที่ร้านหลายวันก่อน (ก่อนที่จะรื้อร้าน) และดันบังเอิญไปหยุดอยู่ที่ช่องการตูนคลับ. และดันไปจ๊ะเอ๋กับ ได้โนเสาตัวสีเหลืองตัวนึง เข้า . .  ไอคุณชายมันก็นั่งดูด้วยความสงสัยของมันไป ซึ่งในตอนนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะมัวแต่ก้มหน้าคุยแชทกับไอติน แล้วมันก็พูดขึ้นมา ว่า

“เจ ไอตัวเหลืองนี้มันนิสัยเหมือนมึงเลยเน้อว่าป่ะ. . ” :m20:

“นิสัยดีน่า รัก เมตตา กรุณา. .” :o8:

“ปากหมา ก๋ากั่น ชอบโวยวาย  ขี้โมโห โคตรเหมืองมึงเลยอ่ะเจ” เอ่อ ตลอดเวลาที่คบกันมานี้มึงมองกูเป็นแบบนั้นมาตลอดเลยใช่ไหมห้ะไอหมา กาย   :m31:
และนั้นก็ เป็น ที่มาของชื่อไดโนเสาร์ ตัวสีเหลืองที่มี นามว่า ก๊อง. .

“คิดจะหยอดก็หยอดคิดวะกูเขิลไม่เป็นรึไงไอหมากาย. . ”และนั้นก็คือชื่อที่ผมไว้เรียกชื่อแทนตัวมัน ที่แรกผมกะจะเรียกว่าแค่ไอหมานั้นแหละครับ แต่เหมือนมันจะไม่ค่อยรู้ตัวเลยเติมชื่อมันเข้าไปอีก เรียกทีนี้หันควับคอแทบเคร็ดเลยละครับฮ่าๆ

“แล้วตอนนี้อยู่ไหนว่างรึเปล่า หาอะไรกินกัน. .” ผมก้มมองดูนาฬิกา ตอนนี้ก็เกือบๆ จะทุ่มแล้ว ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องของผมเลยตั้งแต่เช้า พอไอกายทักขึ้นมาท้องของ ผมก็ร้องดังโครมคราม ยังกับเสียงฟ้าร้อง ขึ้นมาทันที

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :24〗〖12-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 12-10-2016 08:33:30
.”อื่อ กำลังจะไปหาอะไรกินอยู่พอดีเลย ตอนนี้กูอยู่ที่คอนโดใกล้ๆ ม.หน่ะ พอดีพึ่งทำธุระเสร็จ”

“ธุระ ธุระอะไร ไปกลับใคร แล้ว จะกลับเมื่อไหร่ ?”

“ก็เรื่องหาที่อยู่ชั่วคราวนั้นแหละ กูมาคนเดียว จะให้กูมากับใครละ. .  ”

“เอองั้นรอกูอยู่ตรงนั้นแหละ อีก สิบนาทีถึง  .  . ”

“คร้าบ!”. . .

. . . .


ครึ่งชั่วโมงผ่านไป . . .  ยังไม่มี รถคันไหน ขับ เข้ามาที่ศาลาไม้ทรงไทยหน้าตึกเลย. . . ผมเลยหยิบโทรศัพท์ ขึ้น มาเล่นเกมส์บ้าง แชทกับพวกไอวิน บ้าง เพื่อฆ่าเวลา

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป. ก็ยังไร่วี่แวว .  . .ว่ากายจะปากฎตัวอยู่ตรงหน้าผม . . . ผมเดิน เล่นไปมา อยู่ที่ศาลา

สองชั่วโมงผ่านไป. . ..  จากที่ผมพยายาม เดินเล่น เพื่อที่จะทำให้ตัวเองหัวไม่ว่าง จะไม่ต้องคิดอะไรให้มันหนัก หัว แต่หลายๆ สิ่งๆ หลายๆอย่างเริ่มทำให้ผมกังวน. .. . . . .กายมันไปอยู่ไหนของมันนะป่านนี้แล้วยังไม่มาอีก. . .ผมเริ่มชัก หงุดหงิด. . .  จากหงุดหงิด . . . . ก็กลายเป็นกังวล. . .

เห้อ สงสัยรถคงจะติด ไม่น่ามีอะไรหรอก. . . เวลาผ่านไปเกือบราวๆ สี่ชั่วโมง . . กายก็ยังไม่มา. . . เอะรึมันจะหลงทางใช่ มันคงจะหลงทาง. . .คิดได้ดังนั้นผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหามัน. . .  ติด ติดครับ แต่ไม่มีคนรับสาย. . . จากความกังวน ตอนนี้ผมเริ่มชักจะเป็นห่วงมันขึ้นมาแล้ว สิ .. .

เวลาล่วงเลยไปผมยังคง กดโทรศัพท์ โทรหามันตลอด ไม่เว้นช่องว่างให้เสียงโทรศัพท์หยุดพูดประโยคเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา. และแล้ว ในที่ สุดปลายสายก็กดรับ. ..แต่ที่หน้าแปลก. . คือเสียงคนที่รับนั้น ไม่ใช่กาย.

“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ”เสียงปลายสายดูไม่ค่อยคุ้นหู.ผมเท่าไหร่

“ฮ่ะ ฮัลโหล นั้นใช่เบอร์กายรึเปล่าครับ” ผมนี้ก็ถามอะไรออกไปโง่ๆ นะครับ ถ้าไม่ใช่เบอร์ของไอ กาย แล้วจะ มี ชื่อ ขึ้นอยู่ที่หน้าจอผมได้ยังไงละ. .

“อ๋อๆ ใช่ค่ะ  แต่ตอนนี้ กายคงไม่สะดวกรับสายอะค่ะ พอดีกำลังเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่.” ประโยคของผู้หญิงในสายที่พูดขึ้นมาเมื่อครู่ ทำให้ความคิดต่างๆ ที่ผมพึ่งจะคิดไว้ก่อนหน้า แปรเปลี่ยนไป. . 

“ฮัลโหล.  ฮัลโหล ได้ยินรึเปล่าค่ะ ฮัลโหล. . . ” เสียงของปลายสาย ยังคงพูดไม่หยุด ต่าง จากผมที่ ได้แต่ยืน ฟังเสียง ที่เข้ามา แล้วก็ออกไป ซ้ำๆ. .

“ครับ ได้ยินครับ.. .” เสียงของผมเรียบ นิ่งเหมือนกับคนไร้อารมณ์แบบสุดๆ. . ไม่ต่างจาก คนที่ผมพึ่งเจอ มันอยู่บนห้องเมื่อกี้เลย

“(กายคะฝากล้างตัวให้ลูกด้วยนะ )อ๋อแล้วก็อย่าลืมเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ด้วยนะ เดี๋ยวแยมเสร็จจากตรงนี้แล้วจะรีบ ไปช่วยนะค่ะ (ครับๆ)”เสียงของผู้หญิงปลายสายกำลังพูดคุยกับบุคคลที่ผมคิดว่าน่าจะไม่ใช่มัน .  .  แต่กลับเป็น มัน คนที่ผมพึ่งจะนึกถึงอยู่ในตอนนี้ กาย. . . ลูก . . . . ลูกงั้นเหรอ . . .กายมันไปแอบมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่  . . .  แล้วผู้หญิงคนนี้คือ. ..  ใคร. . ..  ตลอดเวลาที่ผ่านมา กายมันโกหกผมมาตลอดเลย งั้น เหรอ. . .

“(มีอะไรรึเปล่าครับแยม. .) เสียงตะโกนดังกึกก้องออกมาจากปลายสาย ผมแน่ใจว่านั้นคือเสียงของกาย) อ๋อ มีคนโทรมาหากายนะค่ะ แต่ไม่ได้เม็มชื่อไว้. .”อะไรนะ กาย มันไม่ได้ เมมเบอร์ผมไว้ในเครื่องเลยงั้นเหรอ. . ผมอธิบายอารมณ์ของตัวเองในตอนนี้ไม่ถูก เลย . . มัน ตื้อ มันช้า ด้านไปหมด. . . ผมอยากให้สิ่งที่พึ่งจะได้ยิน ทั้งหมดเป็นเพียงแค่การเข้าใจผิด.. . ขอให้เบอร์ ที่ผมกำลัง คุยสายอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่เบอร์ของมัน  . . . . แต่จะหลอกตัวเองไปได้ซักกี่น้ำ . . . ในเมื่อความจริงก็คือความจริง . . . นี้คือเบอร์ ของกาย. . กับเมียของมัน. .

“สักครู่นะค่ะกายกำลังเดินมาพอดีเล. .. ” ยังไม่ทันที่ปลายสายจะพูดจบผมก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ไม่เป็นไรครับ บอกว่าผม โทรผิด ขอโทษด้วยครับที่รบกวนเวลา. . ” ผมกดวางจากปลายสายไป ไปได้พักนึงแล้ว. . .แต่มือของผมยังคงแนบโทรศัพท์ไว้ที่หู. . . ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมยังคงนั่งพูดกับโทรศัพท์อยู่คนเดียว . . . ผมนั่งเฝ้าถามตัวเองว่า ที่ผ่านมามันคือ อะไร . .  ตอนนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่ แล้ว สิ่งๆ ต่างๆ เรื่องราวที่ผ่านมามันคืออะไรกัน. . แค่เพียงคำว่าลูกคำเดียว คงแทนคำตอบได้ในหลายๆ คำถามที่ผมตั้งขึ้นมา โดยที่มันไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกเลย . . . 
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :24〗〖12-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 12-10-2016 08:35:24
ผมเดินออกมาจาก ศาลาทรงไทยหน้า คอนโด ออกมาแถวทางฟุตบาตร เตรียมรอที่จะข้ามถนน . . ผมรู้ตัวว่าตัวเองพึ่งทำโทรศัพท์ตกจากมือไป
 แต่ผมก็ไม่ได้สนใจที่จะหันหลังกลับไปเก็บมัน. . ผมยังคงเดินเหม่อลอย. . มาเรื่อยๆ รอจนสัญญาณไฟสีเขียว สว่างขึ้น ผู้คนราวๆ สิบคนที่ยืน ขนาบข้างผมเมื่อครู่ตอนนี้ ค่อยๆ เดินหายไปทีละคนๆ . .

ผมจึงเริ่มก้าวเท้าซ้ายของตัวเองไปข้างหน้าอย่างช้าๆ โดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง. . ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียง คนเรียกผมอยู่ตลอดเวลา ..แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรและยังคงก้าวขาตัวเองต่อไป . .ผมเริ่มรู้สึกมองทางด้านหน้าไม่ค่อยชัด เพราะแสงไฟที่สว่าง อยู่ข้างตัวผมนั้น สว่างจนเกินไป . .

ตุ้บ!! เสียงเหมือนมีอะไร หลนลงที่พื้น  ภาพถนนของผมตรงหน้าเมื่อ ครู่ ตอนนี้กับแปรเปลี่ยนกลายเป็น เสาไฟต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างๆถนนแทน. . เสียงเด็กผู้หญิงมัธยมกลุ่มนึง ร้องขึ้นด้วยความตกใจ บางคนก็ยกมือขึ้นมาป้องปากของตัวเอง. . ผมไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงพวกนั้นกำลังตกใจอะไรกันอยู่ . .  . ระหว่างนั้นเอง สายน้ำอุ่นๆบางๆก็ไหลมานองอยู่ที่แก้มของผม อย่างห้ามไม่ได้. . ผมได้แต่ นอน มองเสาไฟต้นนั้น พร้อมกับเสียงสะอื้นของตัวเอง ที่ดังขึ้นมาเรื่อยๆ . . .

“เห้ย อยากตายมากนักรึไง ถึงเดินเหม่อไม่มองทางแบบเนี้ย!!” เสียงตะโกนโหวกเหวกดัง ข้างๆ หูของผม ผมเอียงคอกลับมามองตามเสียงที่ได้ยิน. . และทำให้ผมได้พบกับ .  . . อะตอมรูมเมท ของผม. .  ที่พึ่งเจอหน้ามันเมื่อเย็น. .ตอนนี้มันกำลังคุยกับผมอยู่ใช่มั้ย?. . .ประโยคเมื่อครู่ผมยังจับคำไม่ได้ว่ามันพูดว่าอะไร. . . แล้วผมควรจะพูดตอบกลับมันไปว่ายังไง ดี. . .

ผมใช้มือของตัวเองพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น . . แต่มือของผมกลับไม่มีแรงเลยสักนิด มันชาไปหมด. . ชาทั้งแขน ทั้งตัว. . และหัวใจของผม. . . ที่ตอนนี้ แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย. . ผมนอนหลับตาสะอื้นเสียงดังอีกครั้ง. . และปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามอย่างที่มันควรจะเป็น. . ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อรู้สึกเหมือนว่าตัวของผมเอง กำลัง ลอยขึ้น . . .  เหนือพื้นถนน ใช่. . ตอนนี้ ยมบาล คงจะมาตามตัวของผมแล้ว ตาย แบบไม่รู้สึกตัวเป็นแบบนี้เองสินะ. .  แต่ความคิดฟุ้งซ่านต่างของผมได้หมดลงเมื่อตัวของผมกำลังถูกอุ้มขึ้นโดย .. อะตอม. . มันกำลังแบกผมขึ้นหลังและเดิน กลับเข้าไป ตามทางที่ผมพึ่งจะเดินออกมา. .
 
เหมือนอะตอมจะ ก้มลง ทำอะไรซักอย่างแปปนึงก่อนจะยืนหยัดขึ้นมาดังเดิมและเดินไปข้างหน้าโดยที่ไม่ได้หัน พูดคุยกับผมอีกเลย. . .น้ำตาของผมยังคงไหล อยู่ไม่ยอมหยุด. .และ ได้แต่คิดอยู่คนเดียวว่า . . ..ทำไมกูถึงได้โง่ขนาดนี้ นะ. . และทำไม มึงต้อง ทำลายความรู้สึกของกู ที่มีให้กับ มึงด้วย

. . . . กาย #

 
TBC.

 หลังจากที่ห่างหายไปนาน พอได้เวลากลับมาลงจอก็เริ่มบทมาม่าเลย ฮือๆ  อย่าคิดมากนะฮับน้องเจ เรื่องต่างๆ มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ คิดก็ได้นะ(แอบสปอย) -3- ไว้เจอกันใหม่ อีพีหน้า น้า  ^ ^  #ทีมน้องกาย


หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :24〗〖12-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 14-10-2016 07:02:23
เจใจเย็นๆสิ อาจจะเข้าใจผิดกันก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :24〗〖12-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-10-2016 12:31:22
มาให้กำลังใจจ้า

กำลังตามอ่านอยุ๋
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :25〗〖15-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-10-2016 18:16:45
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 25 : แค่เข้าใจผิด  o22

ระหว่างทางที่อะตอมแบกผมเดินมา ใบหน้าผมซบอยู่ที่ต้นคอ ของอะตอมมาตลอดทาง น้ำอุ่นๆที่ไหลรินออกจากตาของผมก็ค่อยๆเหือดแห้งลง จนหยุดไปในที่สุด . . .

“  มีปัญหาอะไรรึเปล่า? เพื่อนทิ้ง . . . . หรือว่าอกหัก. . . จบคำพูดของอะตอมเหมือนมีบางอย่างพุ่งเข้ามาทิ่มแทงที่อกด้านซ้ายของผมเข้าอย่างจัง มันรู้สึก ปวด จน ผมแทบจะหายใจไม่ออก.. . ผมได้แต่นิ่งไม่ได้ตอบอะไรอะตอมไป

หลังจากที่ลิฟฟ์เปิดออกอะตอมก็พาผมเดิน มาหยุดที่ๆไหนซักแห่งผมก็ไม่แน่ใจ . . ว่าที่นี้จะใช่ ที่ผมพึ่งจะเข้ามาเยือนเมื่อช่วงเย็นรึเปล่า อะตอมเดินพาผม มาพักอยู่ที่โซฟา ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ส่วน ตัวมันหลังจากที่วางผมลงกับ โซฟาแล้ว มันก็เดินหายเข้าไปในห้องของมันดังเดิม. .ปล่อยให้ผม นั่งอยู่คนเดียวที่กลาง ห้องอย่างเงียบ เหงา. . .

ผมเงยหน้ามองฝ้าเพดาน พร้อม กับถอนหายใจ เสียงดัง ในหัวผมตอนนี้เพียงแต่ความเปล่า มันโล่งไปหมด ผมคิดอะไรไม่ออกได้แต่นั่ง หัวพิงโซฟา และเริ่มๆ รู้สึกหนักที่หนังตาขึ้นมา จน ผมพล้อยหลับไปในที่สุด. . .  แม้แต่ในความฝันทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเห็นก็ยังคงว่างเปล่า . . .ผมมองเห็นทุกๆ อย่างที่อยู่รอบตวมืดมัวไปหมด. . ผมเดินตรงไปตามเส้นทางนั้นโดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเดินไปที่ไหน . . จนในที่สุดก็มีแสงสว่างสาดส่องลงมาที่ดวงตาของผมเข้าอย่างจัง จนผมรู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่ ผมเห็นหลังจากที่ลืมตาขึ้นมา คือ แสงไฟนีสีขาวคล้ายๆ กับแสงแฟลช กำลังส่องมาที่ หน้าของผม อยู่ ผมใช้มือขยี้ตา เพื่อพยายามมอง ภาพข้างหน้าให้ชัดเจน ก็เห็น. . .ไอ้อะตอม กำลังยกไฟฉาย ส่องที่หน้าของผมอยู่. . . .มันทำหน้าอึนๆ ก่อนจะยอมกดปิดไฟฉายที่มือของมัน

“จะส่องหาลายแทงบนหน้ากูรึไง .กูแสบตา !” ทันทีที่ ผมเริ่มโฟกัสสายตาให้คงที่ได้ ปากของ ผมก็ไปไวกว่าความคิดอีกเช่นเคย. .  ทั้งๆ ที่ผมไม่มีอารมณ์จะด่า แต่ปากมันก็ไปเองตลอดทุกที. .

“ป่าวหรอกแค่นึกว่าจะช้ำในตายซะแล้ว เลยเดินออกมาดู แล้วนี้ ไม่ปวดแผลบ้างรึไง ?” มันพูดพร้อมกับ ชี้นิ้วไปที่แขนของผมทั้งสองข้าง. .  จะว่าไปพอมันทักขึ้นมาอาการชาที่ตัวผมก็ถูกแทนที่ด้วยความปวดไปทั้งตัวแทน โอ้ยย ! เจ็บ....

“ก็นิดหน่อย. . .โอ้ย !! แล้ว มึงจะจิ้มทำไมเนี้ย” อยู่มันก็เอานิ้วมาจิ้ม ตรง รอยม่วงๆที่แขนของผมเล่นเอาผมสะดุ้งจนเอวลอยเลย. .

“ก็เห็นบอกว่าไม่เจ็บก็แค่ลองทดสอบ ไม่นึกว่าจะร้องขนาดนี้. . ”หน้ามันนิ่งได้อีก. . .

“ประชดๆหน่ะครับผมชด. . ” -  - * ซื่อหรือบื้อว่ะไอนี้

 “แล้วเมื่อกี้ เป็นอะไร กูเห็นเหมือนมึง จะเดินไปให้รถชน...เล่น”

“กู. . . ไม่ได้เดินเล่นๆ กูแค่. . . . ”ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจนจบประโยคมันก็พูดแทรกผมขึ้นมา..

“มึงโง่ไป ป่ะ ห่ะ ชีวิตนะเว้ย ชีวิต มึงจะมาทิ้งให้กับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเลยรึไง . . ปีนี้มึงอายุเท่าไหร่. . ”จากที่มันพึมพัมๆอะไรอยู่คนเดียว จู่ๆ ก็เปลี่ยนบทกลับมาถามผมแทน..

“ย ...ยี่สิบ”

“นี้ไง อายุ ตั้ง 20 แล้ว มึงยังคิดเองไม่ได้อีกหรอวะ  กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงมีเรื่องเครียด อะไรแต่การที่มึง คิดจะฆ่าตัวตายมันเป็นความคิดที่ โง่มากนะเว้ย...”

“ด.เดี๋ยวๆนะๆ”

“กูรู้นะเว้ย ว่ากูอาจจะไม่มีสิทธิพูด เพราะกูกับมึง เราไม่ได้รู้จักกัน จริงอยู่ว่าการที่มึงจะตาย มันก็เป็นสิทธิของมึง ชีวิต ของมึง . .แต่มึงได้ลองหาทางออกบ้าง รึยัง ลองได้หาวิธีแก้ไขบ้างรึเปล่า ถึง คิดได้แค่นี้?” ผมเริ่มไม่ไหวกับ คำสบประมาทต่างๆ ที่มันพูดโดยที่ไม่ฟังคำตอบของผม . . ผมเลยอาสัยจังหว่ะที่มันพักหายใจพูดขึ้นมามั้ง

“เดี๋ยวๆ มึงฟังกูพูดก่อน ดูปาก กู น่ะ กู ไม่ ได้ จะฆ่าตัวตาย. .  ”จบคำพูดของผมไอ้นั้นมันเงียบไป. . เหมือนสมองกำลังประมวลผลอยู่. .

“ถ้ามึงไม่คิดอยากจะตาย แล้ว จะเดิน ไปให้รถบรรทุกทับเล่นรึไง. .” ประโยคหลังๆ มันพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนไม่ค่อยมั่นใจกับคำพูดของตัวมันเองว่า ถูกรึเปล่า . .

“กู...ก็แค่ คิดอะไรเพลินๆ ” ผมตอบมันไปสั้นๆ

“เพลินจนเกือบโดนรถเหยียบนี้นะเพลิน . .”บางทีผมก็แอบคิดว่า การที่มันมานั่งด่าผมฉอดๆแบบนี้มันเป็นเหมือนการล้ำเส้นกันจนเกินไป ถ้าหากเป็นไอวินหรือไอ้.... พอนึกถึงชื่อนั้น คำด่าที่ผมพึ่งจะคิดไว้ในหัวก็หลุดลอยไป. .

“เอ่อ.....กูขอโทษกูผิดเองกูมันไม่ดีเอง. .. ”จากคำที่ผมเตรียมจะด่าคนตรงหน้ากับเปลี่ยนเป็น กล่าวโทดตัวเองแทน. .เพียงแค่นึกถึงชื่อ นั้น บ่อน้ำใต้ ตาของผมก็แทบจะเอ่อล้นขึนมาอีกรอบ. .

“เห้ย กู ไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะเว้ย กูแค่พูดในฐานะเพื่อนมนุษย์คนนึง ก็แค่นั้น อีกอย่างกูก็พูดไปตามที่กูเห็น..  .กูผิดเองแหละที่ด่วนสรุปอะไรไปเอง. . . แล้วนั้นมึงจะร้องไหทำไมหน่ะ. .”คนตรงหน้าดูตกใจไม่ใช่น้อยเหมือนมันกำลังประมวนผลว่า ระหว่าง การสนทนาระหว่าผมกับมันใครผิดถูกมากกว่ากัน. .
 
..”กูขอโทษ. .กูไม่ดีเอง. . แต่มึงก็ไม่น่าหลอกกู ไม่น่าให้ความหวังกู มึงไม่น่าโกหกกู กูไม่น่ารักคนอย่างมึงเลย . .” จบประโยคน้ำตาของผมก็ไหลออกมาอย่างกับก๊อกแตก คนตรงหน้าค่อยขยับตัวเข้ามานั่งข้างผม ก่อนจะยื่นมือมาคว้าตัวผมเข้าไปสวมกอด.. พร้อมกับลูบหลังของผมอย่างแผ่วเบา. . เวลาเศ้ราหากมีคนมาช่วยปลอบโยน มันยิ่งจะทำให้ อารมณ์อ่อนไหวมากกว่าเก่า น้ำตาของผมไหล ลง ที่บ่าของมันจนเปียกชุ่ม. . ความรู้สึกที่อยู่ในหัวของผมตอนนี้ มีเพียง ความไม่เข้าใจ ว่าทำไม. ทำไม ต้องหลอกกัน ?

. . . . . . . . . . .  . . .

เวลาผ่านไปนานพอที่ผมจะควบคุมสติของตัวเองได้ผมนั่ง มอง ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ มันเอามาวางไว้ให้พร้อมกับเสื้อแขนสั้นกับกางเกงใส่นอนขายาวนุ่มๆ วางไว้ให้ผม ส่วนตัวมัน เดินกลับเข้าห้องของมันไปแล้วครับ. . .  ผมกลับมามีสติเหมือนคนปกติอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ นึกคิดตามถึงคำพูดของใคร เมื่อช่วงเย็น

(  อ๋อแล้วก็อีกอย่าง. . . นายเข้าไปอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลกใจนะ ถ้าเห็น เมทอีกคน มัน ไม่พูดไม่จา
 . . .เพื่อนผมมันบอกว่า น่าจะเป็นใบ้ แต่อย่าใส่ใจเลยครับ มันไม่ค่อยอะไรกับใครหรอก .) สำหรับพวกมันนี้ . . .คือคนที่ไม่พูดไม่จาใช่มั้ย. .แล้วไอบ้าที่นั่งด่าผมฉอดๆ นี้ นะที่เป็นใบ้. .  ผมว่าคนที่สติไม่สมประกอบน่าจะเป็นเมทคนเก่าของมันต่างหาก . . ครับ ไม่ใช่มัน

... . . . . . . . .

ผมล้มตัวนอนที่โซฟาหวังจะหลับเพื่อให้ลืมเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่พอ หัวถึงหมอนอิงข้างโซฟา ก็พึ่งนึกได้ว่าตัวเองยังไม่ได้อาบน้ำ. .  ว่าอยู่ทำไมถึงรู้สึกเหนียวตัวแปลกๆ ผมไม่ค่อยชินกับการที่นอนโดยไม่ได้อาบน้ำ เลยใช้แขนข้างนึงที่ยังพอมีแรงเพื่อโน้มตัวหวังจะถอดเสื้อตัวเก่าออก แต่กลับทำไมได้เพราะรู้สึกปวดแขนอีกข้างนึง จนแทบจะกรี๊ดออกมา (ถ้าผมกรี๊ดเป็นนะ) ผมลองแขมวตัวให้เข้ากับรูปของเสื้อแต่ไม่ว่าจะพยายามกี่ท็เหมือนเป็นการฝืนตัวเองเกินไป . . .

เอี๊ยดดด. . เสียงประตูบานไม้ถูกเปิดออก  ไอหน้าหล่อร่างสูง เดินออกมาพร้อมกับแสง สปอตร์ไลท์ ที่ส่องเป็นแบล็คกราวให้กับมัน (จริงๆ เป็นแสงไฟจากในห้องของมันครับ ที่ดูเด่นๆ (เพราะตอนนี้ข้างนอกห้องมืดสนิทมีเพียงแสงสว่างจากห้องของ ไอสูงหน้าหล่อนี้ท่านั้น) มันเดินมาพร้อมกับกะลัมังใบเล็กพร้อมกับ ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่เดินตรงตรงเข้ามาหยุดที่หน้าของผม. .ผมกับมันเรามองตากินปริบๆ ผมไม่รู้ว่าจะพูดอะไร . .  เลยได้แต่นั่งจ้องหน้ารอมันเปิดประเด็นพูดขึ้นมาเอง. .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :25〗〖15-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-10-2016 18:19:50
“เอ่อ. . เหนียวตัวมั้ย”มันทำเสียงอ้ำอึ้งๆ

“อื่อ ก็นิดหน่อยรู้สึกไม่ค่อยชินวะ ไม่ได้อาบน้ำแถมนอนต่างที่อีก เกรงใจวะ. .”

“เห้ยเกรงใจทำไมเป็มรูมเมทกันแล้ว คิดมากทำไมวะ. .”ประโยคพูดเป็นการเองของมันทำให้ผมคลายความเกร็งไปได้มากเลยทีเดียว. . .

“เออขอบใจนะเว้ย งั้น วางไว้แหละ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง มึงเข้าไปในต่อเถอะ. .”

“เดี้ยงขนาดนี้จะทำเองได้ไง. .มาเดียวกูทำให้”มันแอบหลบสายตาผมเล็กน้อย . .

“แต่..”เหมือนมันจะไม่ยอมทำมในสิ่งที่ผมพูดเลยแม้แต่น้อย . .  นึกไปนึกมานิสัยมันก็คล้ายๆ. . .  ผมขอไม่พูดในตอนนี้จะดีกว่า  ระหว่างนั้น มันบอกให้ผมก้มตัวลงและค่อย ดึงเสื้อผมออกเริ่มจากด้านหลัง ล่นๆ เสื้อให้เขาหากันเป็นวงๆ และบอกให้ผมยื่นแขนไปข้างหน้า ตรงๆ แล้วมันก็ค่อยๆดึงเสื้อออกกตัวผม จนเสร็จ.  ก่อนที่มันจะหันไปหยิบผ้าขนหนูที่พาดบ่าข้างซ้ายของมันอยู่ก่อนจะจุ่มลงที่น้ำในกะละมังและบิดจนหมาด  จังหว่ะที่มันยกผ้าขึ้น เตรียมจะเช็ดตัวให้ผมมันมอง ผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนกับว่ากำลังคุ่นคิดอะไรอยู่. . .  แต่แม้งก็ไม่ยอมพูด และพยายามเช็ดตัวให้ผมอย่างเบามือ ระหว่างนั้นผมเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไป . .และมันอาจจะดูแปลกๆ ที่ผู้ชายสองคน (มีสติทั้งคู่)กำลังนั่งเช็ดตัวให้กันพร้อมกับความเงียบ . . ผมเลยถือโอกาสนี้ หาเรื่องคุยกับ มันเพื่อทำลายบรรยากาศพวกนี้ให้หายไป. .


“อะตอม..  มึงชื่ออะตอมใช่ไหม . .” เป็นประโยคถามที่ดูโง่ๆ แหะ ก็ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มคุยกับมันด้วยคำถามอะไรนี้  . .  เลยเลือกที่จะพูดไป เท่าที่ตัวเองพอจะคิดออก. .

“อืม”คำตอบสั้นๆ แต่หน้าของมันก็ยังวุ่นกับการเช็ดตัวให้ผมอยู่. .

“แล้วทำไมเมื่อเย็น มึง ถึงทำตัวนิ่งจัง.  . ทั้งๆที่มึงก็พูดมากไม่ต่างจากกูเลย” จบประโยคอะตอมช้อนตาขึ้นมามองผม..

“กูอินดี้ไง.. ” อิดี้ห่าอะไรละ. . แถวบ้านกูเขาเรียก พวกมนุษย์สัมพันธ์แย่เว้ย

“เออใช่จะว่าไป เมื่อตอนเย็นกูเจอเมทเก่าของมึงมันบอกว่า มึง ไม่พูดไม่จากับพวกมันเลย จนมันคิดว่ามึงเป็นใบ้ไปแล้ว ทำไมถึงเป็นอย่างั้นวะ ?”

“เพราะ. . .กูเลือกคบ. . .”

“แย่ แย่โคตร. . การที่มึงทำอย่างนี้นะเว้ย มันทำให้คนอื่นมองมึงในทางไม่ดีนะเว้ย. . ”

“แต่ทุกการกระทำมันมีเหตุผลนะเว้ย” จบคำพูดของอะตอมทำให้ผมต้องคิดตาม. . .

“เหตุผลอะไรวะ ?”

“คนที่มึงเจอ เมื่อเย็น คงจะเป็นไอ บีม ไอตัวขาว หน้า เข้มๆ คิ้วหนาๆ ตาตี่ๆ ใช่ไหม. .” อะตอมนั่งสาธยายถึงบุคลิคหน้าตาของบุคคลที่พึ่งเจอเมื่อตอนเย็น. . พอเอามารวมๆ กันกูคือคนเดียวกันกับที่ผมเจอเมื่อเย็นนี้เองแหละครับ. .

“อือใช่ๆแล้วยังไงวะ”

“มึงเห็นมันเฟรนลี่ ขนาดนั้น มึงอาจจะมองว่ามันเป็นคนดีนะเว้ย แต่กูไม่เลย กูอยู่กับมันมาเกือบปี กูเห็น แต่ละวันมันควงผู้หญิงหน้าไม่ซ้ำกันเลย”

“มึงหึงแล้วก็ตามไปตบผู้หญิงเพื่อแย่งมันมา. . .”ผมพยายามหยอดมุข เพื่อให้ การคุยของผมกับอะตอมสนุกขึ้นแต่. . . เหมือนผมกำลัง เล่น มุขกับ น้องรัก น้องยม เพราะ ไอเหี้ยตรงหน้ามันไม่ยอมรับมุขของผมเลย. . สาดด

“ก็ธรรมดาป่าววะ คนแม้งหล่อจะคบหลายคนก็ไม่แปลก. . .”อะตอมขมวดคิ้วเหมือนอารมณ์เสีย. .

“จะคบกับใครกูไม่ว่าหรอกนะ แต่มันมา หรอก หลานสาวกู พอได้แล้วก็ทิ้ง. . จนหลานสาว แทบเป็นบ้า เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เพราะ ชอบทำร้ายตัวเอง. . ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาก็เพราะมัน. .”ผมพอจะเข้าใจ ความรู้สึกของอะตอมขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งการที่คนเราบุคลิคนิ่งเงียบ เป็นไปได้ว่า คน ส่วนมากจะมองว่า หยิ่ง  ถือ ทิถิ โลกส่วนตัว ส่วน แต่ถ้าหาก ลองมองในมุมที่กลับกัน อาจจะมีเรื่องราว ที่ซับซ้อนเกินยากจะอธิบายได้ มากกว่านั้น. . ตอนนี้ผมเข้าใจดีแล้วครับ. .

“โห่ชีวิตแม้งแย่พอๆ กับกูเลย. .กูยอมรับนะเว้ย ว่ากูเป็นเฟรลี่ก็จริงแต่กูไม่ได้เจ้าชู้เสเพลเพลยบอยนะเว้ย กูรักเดียวใจเดียว อีกอย่างนะเว้ยมึงคบกับกูเหมือน มึงหีบโซเหล็กลยนะเว้ย. .”มทำหน้า งง หยุดเช็ดที่แขนผมและหันมาให้ความสนใจกับบทสนทนาแทน. .

“โซเหล็กมาเกี่ยวอะไรด้วยว???”

“ปกติกูญแจโซเหล็กขอดีของมันคืออะไรละ?”

“ป้องกันกุญแจผี. .. . มั้ง” 

“ใช่ แต่ความหมายของกูไม่ได้เกี่ยวกับกุญแจผี ที่กูจะสื่อถึงก็คือ. . . ถ้า เปรียบเหมือนกับมึง เป็นเจ้าของหีบสมบุติหีบนึง วันนึง มึงเขียน แทงลายแผนที่ๆมีสมบัติมากมาย  แล้วปิดเก็บไว้ในหีบนั้น. . แต่สิ่งที่มึงลังเลก็คือการเลือกแม่กุญแจ เพราะถ้าเลือกไม่ดี ใครก็สามารถ ที่จะสะเดาะ แล้ว เอาความลับในลายแทงนั้นไปเผยแพร่ได้. . ถ้าถ้าหากมึงใช้แม่กุญแจที่ดี สมมุติว่าแม่กุญแจ่นั้นเป็นกู. . มึงก็สามารถสบายใจได้เลยว่า จะไม่มีใครเอาความลับออกจากหีบนี้ไปได้แน่นอน เพราะกูคือแม่กุญแจที่แม่แต่กุญแจผี ก็ทำอะไรกูไม่ได้ไงละ. .”จบคำพูดของผมไออะตอมแอบยิ้มที่มุมปากเหมือนมันเตรียมจะหลุดขำออกมาทุกเมื่อ. . .ไอสัดกูอุตสาห์จริงจัง  . .. อย่าทำกูเสียเซลส์ดิวะ

“ตอนแรกกูก็นึกว่ามึงจะฝังมุขอะไรเข้าไปด้วยที่แท้ความหมายมันก็เป็นอย่างนี้นี้เอง ขอบใจมากนะเว้ย ว่าแต่มึงชื่ออะไรนะ.  .” เกือบจะซึ่งกับคำพูดของมันแล้วเชียวถ้าแม้งไม่ลืมชื่อของผม เนี้ย - - *

“จ่ายมาพันนึงแล้วกูจะบอก” มันกระตุกคิ้วข้างนึงเหมือนพยายามจะกวนตีนผม. .

“เอาดีๆ ชื่ออะไร”มันยังคะยั้นคะยอ. .จะถามผม แต่ใสเจีย เสียใจครับ น้อง พี่บอกได้รอบเดียว. .

“หึ่ ไม่บอก ไอสัดที่กูยังชื่อมึงได้เลย กูไม่บอกมึงรอบสองให้โง่หรอก . หึ้!” จว่าไปการที่ผมได้คุยกับเพื่อนใหม่อย่างมันก็ทำให้ผมลืมความเครียด ที่พึ่ง พบเจอกับตัวไปได้บ้างแล้ว ถึงจะลืมได้แค่ส่วน นึง.  .แต่ ก็ยังดี กว่า ที่ผมไม่ได้ระบายออกมาเลย ซะอีก.

“เออเดี๋ยวกูสืบเองก็ได้. . . เยอะนะมึงเนี้ย. . ” พ่อมึงเป็นโมริโค โกโร่หรอครับ ไอสัด 5  5 คิดจะตามสืบพี่คงยากครับน้องเพราะที่อยู่ของพี่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่งหรอก. .

กว่าจะเช็ดตัวเสร็จ  ก็เล่น ไปเกือบ ตีสาม คงเพราะคุยเพลิน จนลืมดูเวลา กว่าจะสลายตัวแยกย้ายกันไปนอนได้ก็เกือบตีสี่. . แต่อย่างน้อย เวลานี้ ก็ช่วยทำให้ผมลืมเรื่องราวแย่ ๆ ไปได้บ้าง ก็ยังดี. . ไว้ตอนเช้าค่อยคิดไหม้ก็ได้. . . ไม่เป็นไร. . . ผมหลับตานอนปลอบตัวเอง . . หลับตาลงจากนั้น ก็พล้อยหลับไป. . . . . :sad4:


. . . . .. . . . .  . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :25〗〖15-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-10-2016 18:24:06
เช้าวันใหม่ ต้อนรับด้วยเสียง เพลง ที่ผมรู้สึกคุ้นๆหู แต่จำชื่อเพลงไม่ได้.  . ดังมาจากห้องของไอ้อะตอม นี้มันจะเปิดแข่งขายกับรถขายกับข้าวรึไง โอะ (แถวบ้านผมช่วยเช้าๆจะมีรถกระบะขายกับข้าว เปิดเพลง เหมือนคอย ปลุก ผมในช่วงเช้าของทุกวัน ) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ในกรุงเทพมันจะไปมีแบบนั้นได้ยังไงละ. .

แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ครับ ก่อนนอนอุตส่าห์ลืมเรื่องได้. .  แต่ตอนนี้ผมก็กลับมาคิดกับเรื่องเดิมๆ เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้. . .

เอี๊ยยยดดด ! เสียงประตูหลอนได้อีก(ว่างผมจะหาน้ำมันมาหยอดให้มันหน่อยละ)เปิดออกมาพร้อมกับ ไออะตอมที่มาพร้อมกับชุดนักศึกษา ที่ดู. . ดีไปซะหมด. .ตั้งแต่หัวยันเล็บแม่โป้งตีน. . คนห่าอะไรจะเนี๊ยบขนานนั้นวะ. มันยืน นิ่งเอามือค้ำประตูเหมือนกำลังแสกนผมแบบถี่ยิบ แม้งคงจะเปรียบระหว่างผมที่แต่งตัว ซอมซ่อ  กับมันที่อยู่ในคราบเทพบุตรชุดนักศึกษาสินะ หึ. . กูอ่านความคิดมึงออก ไอห่าตอม!.

“อ้าวตื่นแล้วหรอเป็นไงบ้าง หลับสบายดีไหม”มันยักคิ้วแสะยิ้มที่มุมปาก. ถามผมด้วยทีท่าที่กวนตีนไม่ใช่เล่น มันเดิน ถือพระเป๋าสะพาย เท่ๆ เดินมานั่งที่โซฟาข้างๆผม มันขยับหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมแล้วทำจมูกฟุดฟิดเหมือนกำลัง จะหาสิ่งผิดปกติที่อยู่บริเวณนี้อยู่. . .

“มึงได้กลิ่นอะไรแปลกๆ ปะวะ ” มันมองจ้องตาถามความคิดเห็นจากผม. .

“มึงจะบอกว่า ได้กลิ่นตัวกูว่างั้นสิ.  .ห่า ก็กูไม่ได้อาบน้ำนี้หว่า อีกอย่าง เสื้อ ผ้ากูก็ไม่มีจะเปลี่ยน แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่าไอเสื้อผ้าที่มึงเอามาให้กูใส่เนี้ย ไปขุด มาจากกองเก็บผ้าที่ใช้แล้วรึเปล่าก่อนเอามาให้กูเนี้ย. . .” คิดจะด่ากูก็ด่าซึ่งๆ หน้าเลย ครับ แหม่ ชอบทำให้คิดตาม กูยิ่งโง่ๆอยู่

“รู้ได้ไงวะไปแอบดูมาเหรอ อุตส่าห์หาตัวที่เลอะน้อยที่สุดมาให้แล้วนะเนี้ย  . ” มันระเบิดเสียงขำข้างๆหูผม. . ถ้าไม่ติดที่ว่า แขนผมเดี้ยงอยู่นี้ผมคงเบิ๊ดกระโหลดมันแล้วครับ รอกูหายดีก่อนเถอะมึง

“ทำคงไม่มีทางสู้เขาว่ากันว่าบาปหน้ามากนะมึง ระวังตัวไว้ไอสัด . .”

“โอ้ยกูโม้เล่น กูไม่กล้า รังแกคนป่วยน่ารักอย่างมึงหรอก. . . ”พูดเฉยๆผมไม่ว่าหลอก แต่ทำไมต้อง เอามือมาหยิกแก้มผมด้วยก็ไม่รู้. .

“กูหล่อเว้ย  ไม่ได้น่ารัก”

“มึงน่ารัก ไม่ได้หล่อเลย. .”

“เอ๊ะมึงนิ่ . . ช่างเถอะ แล้วนี้มึงจะนั่งรังแก คนไม่มีทางสู้อีกนานไหม ไอห่าไม่รีบไปเรียนรึไง เดี๋ยวก็สายหรอก. .”มันก้มมองดูนาฬิกาที่แขนแขนมัน ก่อนจะหันหน้ากลับมาคุยกับผมต่อ

“วันนี้กูมีเรียนบ่าย. .. ”

“ประทานโทษนะครับ แล้วมึงจะแต่งตัวเต็มยศตอนเก้า โมงสามสิบเอ็ดนาที สี่สิบเอ็ดวินาที เพื่อ ?”

“ให้มึงถามเล่นไง กลัวมึงจเหงา ฮ๋าๆ”ผมว่าผมอยากเจออะตอมในร่างเมื่อวานมากกว่าตอนนี้อีก อย่างกับคนละคนแหนะ- - - * ทีเมื่อวานเงียบยักกับเป่าสากพอมาวันนี้ พูดแม้งไม่หยุด โอ้ย หล่อเซ็ง. .

“ไม่หรอก พี่สายรหัสจะสวน ไปทำธุระหน่ะ บอกให้แต่งตัวสุภาพๆ  ก็เลยแต่งเตรียมไว่ก่อน. . .”

“แต่กูว่าชุดนี้แม้งโคตรไม่สุภาพเลย. . ”ผมพูดยิ้มๆ ที่มุมปากเหมือนที่มันทำกับผม

“ชุดนักศึกษาเนี้ยนะไม่สุภาพ. . แล้วชุดแบบไหนวะที่สุภาพ”

“มันต้องเป็นเสื้อสีขาวเว้ย แล้วกางเกง ก็ต้องเป็นสีขาว ส่วนรองเท้าไม่เคร่งสี จะเป็นสีสายรุ่งก็ได้ ส่วน. . .”

“เดี๋ยวๆ. . นั้นมันแต่งตัวเข้าวัดแล้วมั้งห่า . .”

“เอ้าเสือกรู้อีกกูอุตส่าห์พูดอ้อมๆ ให้มึงงแล้วนะเนี้ย. .ฮ่าๆ”

“พอดีผมฉลาดครับ ^ ^” อ่ะจะพ่อคุณ. . แล้วบรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง. . ทั้งผมทั้งมันต่างหมด คำถามที่จะมาคุยกัน. . .ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ. .  ชอบกล
 
“แล้วนี้มึงจะนั่งจ้องหน้ากูอีกนานไหมเนี้ย ถ้าเกิดกูท้องขึ้นมาจะว่าไง”

“เดี๋ยวให้พ่อไปขอเอง สินสอดเท่าไหร่ดีครับ”จริงๆ กูก็แค่พูดลอยๆอะครับ ไม่ต้องเก็บไม่จริงจังก็ได้นะครับมึง - -*

“สิบล้าน” อ้าวแล้วไหงผมเล่นตามน้ำกับมันไปละเนี้ย ฮ่าๆ ฮาตัวเองหว่ะ

“แค่สิบล้าน. .” มึงใช้คำว่าแค่กับเงินตั้งสิบล้านเนี้ยนะ โอ้ว แสดงว่าบ้านแม้งต้องไม่ธรรมดา

“ป่าวสิบล้านที่ว่านั้นค่าเห็นไรขนกู ค่าตัวกูร้อยล้านเว้ย. . .ก๊ากๆ”หน้ามันซีดไปครับ คงจะเป็นเพราะหมดมุขจะหยอดผมแล้วละ สิ . . ฮ่าๆ ก็อย่างว่าแหละครับ เรามันคนละระดับกันครับน้อง . .


 Tr . . .. . . . . . . เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางวงสนทนาระหว่างผมกับอะตอมมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามอง ว่าใครโทรมาก่อนจะยื่นคืนมาให้ผม. . . เอ้าไอ บ้านี้โทรศัพท์ดังแล้วยื่นมาที่กูทำไม. . .ผมมองหน้ามันอย่างสงสัยแต่ถ้าลองมองดูดีๆ แล้ว ไอโฟนเครื่องนี้มัน . . ของผมนิ่ ที่เมื่อวาน ทำตกไว้ แถวหน้าประตูทางเข้า นี้มันอุตส่าห์เก็บไว้ให้ผมเลยหรอ เนี้ย ! ผมยื่นมือไปหยิกแก้มข้างขว้าก่อนจะยิ้มๆ ให้มัน แล้วค่อยหยิบโทรศัพท์มาจากมือของมัน. . และรอยยิ้มความสุขต่างๆ ของผมก็จบลงเมื่อ เบอร์ที่โทรเข้ามาคือ . . กาย. . . ผมคงหุบยิ้มเร็วไปทันทีที่มองจอทำให้อะตอมที่มองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว ถึง กับเกิดความสงสัย  ถามผมขึ้นมา. . .

“มีอะไรรึเปล่าวะ ?”ผมส่ายหน้าพร้อมกับ วางโทรศัพท์ที่ยังสั่นไม่เลิก ไว้ข้างตัว.  . 

“ไม่มีอะไรหรอกแก้งคอลเซ็นเตอร์อย่าใส่ใจเลย. .”ผมพูดปัดๆ เพราะไม่อยากตอบคำถาม. . เลยจำใจต้องโกหกไป. .

“แก้งคอลเซ็นเตอร์บ้าอะไรจะโทรมาบ่อยขนาดนี้. .” คำว่าบ่อย ทำเอาผมที่นั่งก้มหน้าต้องหันไปสบตากับมัน

“เบอร์นี้โทรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนกำลังจะนอนพอดีเลย ตอนแรกก็ว่า จะเอามาให้แต่เห็นหลับแล้ว เลย ปล่อยไว่อย่างนั้น”

“บ่อยของมึงนี้กี่สายวะ. .”

“ดูมิสคอลเองดิ่.  ” Miss call 76 สาย (กาย)  ผมก้มลงมองไอโฟนของตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับตั้งคำถามที่สงสัยของตัวเองว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ผมควรจะโทรกลับไป เพื่อ ฟังมันอธิบาย หรือควรจะปล่อย ให้ มันมิสคอล ไปเรื่อยๆ แบบนี้ดี. .. ตอนนี้ผไมรู้จริงๆ ว่าควรทำไงดี. .  อะตอมยื่นมือมาแตะที่บ่าของผมเหมือนเป็นการให้กำลังใจ. .. แล้วบอกผ่านนัยต์ตานั้นว่า สู้เว้ง  ถึงแม้ผมกับมันจะได้ไม่พูดกันแต่สาย ตา ก็คงจะสื่อถึงกันได้. .  ผมตัดสินใจกดรับ โทรศัพท์ ที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง.

“ฮัลโหล”น้ำเสียงผมดูหดหู่กว่าทุกครั้ง. . .

“เจ เมื่อวานมึงเป็นอะไร โทรไปทำไมไม่รับ ” ผมควรจะตอบมันกลับไปว่าไงดี. . เพราะกูไม่พอใจที่โทรหามึงได้ได้คุยกับเมียมึง แบบนี้ หรอ? ถ้าเป็นคนอื่นผมอาจไม่รู้ แต่สำหรับ ผม แล้ว ไม่กล้า แม้แต่จะพูดออกไปเลย. .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :25〗〖15-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 15-10-2016 18:31:05
“โทรมาตอนไหนละ ถ้าช่วงดึกหน่อย กูคงหลับแล้ว..” สิ่งที่ผมนึกก่อนที่จะกดรับสานมันคือ รีบพูดในสิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในใจให้

หมดๆ ไป . .แต่พอเอาเข้าจริงๆ ดันทำอะไรไม่ๆได้เลย. . .แต่แต่จะพูดกับกายผมยัง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฝืนใจตัวเองฝืนใจ ในที่นี้ของผมคือ การ ใจดีเข้าสู้ . . .. ผมจะไม่ยอมให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลเด็ดขาด. .แม้การกระทำเมื่อวานของผมอาจจะสื่อไปทางแนวนั้น แต่ถ้านั้นทำให้ผมกับมันยังคุยดีๆ กันได้ ก็ถือว่า ผลลัพธ์ที่ออกมา ดีที่สุดแล้ว . . .

“เหรอ แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหนอยู่กับใครทำอะไรอยู่ ”

“อยู่บ้าน (แต่ผมไม่ได้บอกว่าบ้านหลังไหน)อยู่กับเพื่อนพึ่งตื่นตอนมึงโทรมาเนี้ย”

“แล้วมีเรียนกี่โมงให้กูไปรับมั้ย ?”ถ้าเลือกได้ตอนนี้ผมยังอยากจะขอเวลานอกสักหน่อย ถ้าต้องเจอหน้ากับมันตอนนี้จริงๆ ผมคงได้วีนแตกแน่ๆ. .

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูหาไปทางไปเองได้.  . มึงละไม่มีเรียนเช้าเหรอ . .” ผมพยายามถามมันด้วยน้ำเสียง ขำปนยิ้ม. .กลบเกื่อน

“มีสายๆกำลังแต่งตัวอยู่เลย เออ แล้วเมื่อวานได้กินข้าวรึป่าว มึงคงไม่ได้รอกูใช่มั้ย?. .. ” มาถึงจุดนี้ผมควรจะพูความจริง หรือควรเก็บมันไว้ต่อไปดี. .ผมนั่งถามตัวเองอยู่หลายครั้ง สุดท้าย ความปอดก็ครอบงำจิตใจผม . .

 “ที่แรกก็รอ ครึ่งชั่วโมงเอง กูหิวจัดเลย  ขี้เกลียดรอ เลยแดกก่อนเลย . .”

“เออดีแล้ว นึกว่ามึงจะรู้กูอยู่ซะอีก” ใช่กูรอมึง . . .แต่มึงก็ไม่มา . . .

“กูไม่ได้ความอดทนสูงขนาดที่จะต้องมานั่งรอใครหลายๆ ชั่วโมงหรอกนะ ” เว้นแต่มึง . . .

“เอองั้นเดี๋ยวกูไปเรียนก่อนนะ  คิดถึงนะครับ ไว้เย็นจะแวะไปรับหาอะไรกินกัน” มันจะเป็นการรอที่เสียเวลาอีกครั้งรึเปล่า ? ผมตอบด้วยท่าทีที่ลังเล

“ไม่แน่ใจเหมือนกันวะ. .ไม่อยากรับปาก. . ไว้เดี๋ยวกูบอกอีกทีละกันนะ”

“คร้าบ โอเคคร้าบ รัก นะ ครับ  จุ้บก่อนๆ”

“จุ้บตีนกูเถอะไปเรียนเถอะไป. .” ผมกดตัดสายทันทีโดยที่ไม่รอฟังคำตอบของปลายสาย. . . ขืนผมฟังมันพูดอะไรมากกว่านี้ คง  จะเก็บความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ไม่ไหวแน่ๆ . . .

ผมพึ่งสงเกตุว่าอะตอมยังไม่ไปไหน มันยังนั่งเสนอหน้า มามองจิกผม เหมือนผม ทำอะไรผิด. . .

“กูไปขโมยของอะไรมึงรึไง. .  มองกูซะตาไม่กระพริบเลย. ..”

“ใช่มึงขโมย. .” หือ. .ผมหันข้างไปมองหน้ามันด้วยความสงสัย. .

“กูไปขโมยของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ห้ะ. . .”มันยังทำทีท่าจะกวนตีนผมอยู่ผมก็อยากเล่นกับมันนะ แต่ตอนนี้อารมณ์ของผมเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ

“เมื่อกี้เอง. . ก็มึงขโมย.. . . .”มันทำท่าเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด - -* จนผมชักรำคาณการทำตัวของมันเต็มที. .

“พอกูไม่อยากรู้ละ มึง ก็รีบๆ ไปเรียนได้ละ เบื่อขี้หน้าจะตายชัก. .”มันลุกขึ้นเอามือมาขยี้หัวผม ก่อนจะเดินยิ้มๆ ออกไปที่หน้าประตูพร้อมกับกระเป๋าสะพายคู่ใจของมัน

“เจ!!! ”ตัวของมันอยู่ข้างนอกแล้วครับแต่หัวของมันยักเสือกอยู่ข้างใน. .

“ห้ะ. . ”ไอรอยยิ้มกวนตีนนั้นหมายความว่าไง. .กัน

“ช่วงที่กูไม่อยู่. . .มึง. .. อย่าคิดถึงกูนะ. .  ”  โถ่ๆ จะไปแล้วยังไม่วายจะหันมาหยอดกูอีกเน้อมึง - -*

“ครับแน่นอนครับ ! ไปเรียนเถอะครับไปๆ ชิ่วๆ ”

“โอเคๆ งั้น ไปละนะ ถ้ามีอะไร กดเลขหนึ่ง ค้างไว้นะ กูจะรีบมาหามึงเลย . .” มันกำลังสื่อถึงอะไรกันแน่ผมเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ. .แต่ตอนนี้มันไป ที่ชอบๆ ของมันแล้วละครับ. .  เหลือ ไว้แต่ผม ที่มีความคิด ฟุ้งซ้านอยู่เต็มหัวไปหมด. . .ใครก็ได้ช่วยผมที. . .. .  ช่วยผมคิดทีว่าควรทำยังไงต่อไป

. .  . . .....

ช่วงบ่ายๆ ผมนอนอ่านนิตยสารที่วางอยู่ข้าง โซฟา เล่มเดิมซ้ำไปซ้ำมาจนแทบจะจำคำพูด ที่เขียนไว้ได้ทุกหน้าแล้ว เห้อ เบื่อๆ ช่วงนี้ผมทำอะไรมันก็รู้สึกเบื่อไปหมด จะไปตีแอลแก้เคีรยดก็ไม่ได้ เพราะมือยังเดี้ยงอยู่. .ผมวางนิตยสาร จากมือ แล้วค่อยเอนหลังพักผ่อน หวังเพื่อที่จะหลับจะได้ไม่ต้องคิดอะไร.  . .  ขอแค่ ผ่านช่วงนี้ไปขอเวลาที่ผมกล้าพอที่จะพูดความรู้สึกที่อยู่ในใจทั้งหมดออกไปให้มันฟัง ได้ ก็คงจะดี. . 
. . . . .  .  .

Tr….. เสียงโทรไอโฟนแพดเสียงดังอยู่ที่หน้าอกของผมว่าอยู่ทำไม่รู้สึกใจสั่นแปลกๆ - *-  ผมกดรับโดยที่ไม่ได้มองรายชื่อที่โทรเข้ามา

“ครับ” ใครก็ไม่รู้แหละ แต่ผม ไม่ค่อยจะอยากคุยกับใครเลยในตอนนี้

“แหม่พูดสะเพราะเชียวทำไรอยู่กินข้าวรึยังน้ำเสียงฟังดูไม่คุ้นแหะ. .” .ใครกันวะ. .

“นั้นใครครับ ”

“ให้เดา ถายสิใครเอ่ยย ?”

“งั้นกูวางละ” ผมกำลังจะตัดสายวางไปแต่เหมือนได้ยินเสียงปลายสายตะโกนออกมาซะก่อน

“โห่เดี๋ยวดิแค่ แซวเล่นๆ เลย เจ แม้ง ”

“แล้วมึงใคร. . จะบอกกูรึยัง ไม่บอกกูวาง 1 2 .. ”

“อะๆ กูบอกก็ได้ อะตอมไง มึงจำเสียงกูไม่ได้จริงๆอ่อวะ” ..ไอที่มันโทรมาหน่ะผมไม่แปลกใจหรอก แต่ที่มันมีเบอร์ผมนั้นแหละที่แปลกกว่า . . .

“แล้วมึงได้เบอร์กูมาจากไหนวะ อย่าบอกนะว่า พ่อมึงเป็นโมริจริงๆ ห่ากูชักกลัวแล้วนะเนี้ย. . ”

“หาแค่นี้ไม่ต้องใช้นักสืบหรอก.  แค่ลองกดดูมัวๆ ก็เข้าพาสเวิด มึงได้ละ ตั้ง ห่าอะไรได้เด็กมากอ่ะชิบหาย ”

“ก็ไม่เด็กนะ แค่ 1 2 3 4 เด็กตรงไหนวะ  . . .”

“หลานกูอยู่ ป.1 รหัสเครื่องมันยัง ใช้รหัสที่ยากกว่านี้เลย ” ห่านี้มันกล้าเอาหลานมาเปรียบเทียบกับผมเลยเหรอเนี้ย . .

“เออกูโง่ สมองกูช้าพอใจรึยัง.  แล้วโทรมาทำห่าอะไรเนี้ย คนจะหลับจะนอนวุ๊.”

“ก็แค่จะโทรมาถามว่า ตอนเย็นๆอยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวซื้อเข้าไปฝาก. . ?”

“ตังมึงเยอะขนาดนั้นเชียว ไม่ต้องมาทำตัวป๋ากับกูหรอกกูไม่หิว อยากกินอะไรมึงก็ซื้อมากินเองดิ่. .”

“ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวมาตายในห้องกูๆทำใช้คืนพ่อแม่มึงไม่ได้นะเว้ย” มันยังคะบั้นคะยอ จะซื้อ มากินกับผมจนได้จนผมชักรำคาณเลยตอบส่งๆ ไป

“เออ อะไรก็ได้ซื้อมาเหอะ กูแดกได้หมดแหละ. . ”

“โอเค งั้นเดี๋ยวกูไปเรียนก่อนนะ อย่าลืมนะเว้ย ถ้าเกิดปัญหาอะไรกดเลขหนึ่งข้างไว้นะเข้าใจป่าว ?”

“คร้าบๆ พ่อคุณ ไปเรียนเถอะมึงหน่ะไป . . ” ผมกดวางสายจากเบอร์ของ มันก็เกิดความสงสัยตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ว่าไอเลข 1 ของมันที่ว่า มันคอะไร ผมลองกด 1 ค้างตามที่มันบอก ก็โชวเบอร์โทรออกฉุกเฉิน . . อะตอมคุง อ่อ ที่แท้มันก็เม็ม ชื่อ เบอร์ของมันนี้เอง . . นึกว่าแอบเมมเบอร์คุณตันไว้ให้ผมซะอีก. .. .!! . . ผมละสายตาจากไอโฟน และ ค่อยๆเดินย่องเข้าไปที่ห้องน้ำ ว่าแต่ห้องน้ำมันอยู่ส่วนไหนของ ภายในห้องนี้กันละ. .  ผมมองซ้ายมองขวา สายตาก็ไปหยุดอยู่ ที่ ประตูบานไม้ที่เปิดเข้าออก บ่อยที่สุดห้อง ไออะตอมครับ. . ผมเดินตรงเข้าไปสำรวจดู อืม จะว่าไปห้องมันก็มีหลายๆ อย่างคล้ายกับห้องผมอยู่นะทั้ง หนังสือสมุดกาตูน ที่เก็บสะสม  มุมคอมพิวเตอร์ ฟอรนิเจอร์สีโทนทึบ  . . เลิกสงัเกตุตามห้องและรีบวิ่งตรงเข้าห้องนำทันทีเพราะเริ่มรู้สึกว่าข้าสึกเริ่ม เข้ามาบุกยึดพื้นที่แล้ว. . . พอปลดทุกข์เสร็จผมก็รีบเดินออกมาจากห้องมันโดยไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ผิดสังเกตุ. .

. . . . .

ตกเย็นกายโทรมาหาผมนักกันไปเจอ ที่ร้าน กาแฟของพี่โชน ที่ผมเคยทำงานอยู่ ใจจริงผมก็ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่หรอก . .ถ้า มันไม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับผมจริงๆ . .. . และก็คงเป็นผมเองที่ยอมบ้า จี้มาตาม ที่มันโทรนัดไว้. . . ก่อนออกมาผมก็ไม่ลืมที่จะหาเสื้อแขนยาวและก็บังเอิญไปเจอเสื้อฮู้ดสีดำแขนยาวที่อยู่ในห้องของอะตอมยืมมาใส่เพื่อ ปิดบัง รอยบวมช้ำๆ ที่แขนของผมไว้.และรีบออกไปตามสถานที่ที่ได้นัดกันไว้. . .

. . .

ผมมาถึงก่อนเวลา ที่นัดกันไว้ครึ่งชั่วโมง เพราะไม่อยากให้มันรอ ผม แต่ในทางกลับกันกายมันมาถึง ที่ร้าน เร็ว กว่าผมอีก ผม รีบเดิน เปิดประตู เข้าไปในร้าน ก็เห็นพี่ๆ ภายในร้านส่งร้อยยิ้มมาให้ผม ผมก็ไม่ลืมที่จะกล่าวคำทักทายพี่ที่ร้าน และเดินเดินตรงไปที่เค้าเตอร์

“อ้าวน้องเจ กลับมาแล้วเหรอ พร้อมเริ่มงานวันไหนดีละ ^ ^” เป็นเสียงของพี่ออมแคชเชียร์หน้าสวยที่ยิ้ม จนตาปิดหันมาถามผม . ”   

“อ่อยังหรอกครับพี่ออม พอดีผมนัดเพื่อนไว้ ที่ร้าน อะครับ ”ผมยิ้มแบบพอเป็นพิธี ส่งให้ที่พี่ออมๆก็ดูเหมือนจะดูออกว่าผมคงมีธุระเลยไม่ๆได้ถามอะไรต่อและปล่อยให้ผม เดินตรง เข้า ไปนั่ง เก้าอี้ตรงข้าม กับบุคคลที่ นั่งรอผม อยู่ก่อนแล้ว. . .

“ไงมึง. .”ผมทักกายด้ยน้ำเสียงที่คิดว่าปกติที่สุด.

“ทำไมมึงมาเร็วละ. . นี้ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะ” มันหันมาตอบผม โดยที่ใบหน้าของมันดูหมองๆ มันป่วยรึเปล่าน่ะ.

“ว่าแต่กูตัวมึงเหอะมาก่อนกูกี่ชั่วโมงแล้วละ รอนานรึเปล่า . . ”

“เปล่าพึ่งมาเหมือนกัน. . แล้วนี้มึงกินอะไรมารึยัง อยากกินอะไรรึเปล่าสั่งได้เลยนะ  พี่ครับ !. .”กายมันยกมือขึ้นจะขอเมนูแต่ผม ขัดจังหว่ะ การพูดของมันไว้ซะก่อน. .

“กูไม่ค่อยหิว ไม่เป็นไร ว่าแต่มึงเถอะเรื่อง สำคัญที่ว่า จะคุยกับกู . .. คือเรื่องอะไร . .”จากบรรยากาศเสียงเพลงภายในร้านที่เปิดคลอกับเสียงพูดคุยของ คนภายในร้านกลับถูกเปลี่ยนเป็นความเงียบแบบเฉียบ พลัน. . ทุกสิ่งทุกอย่าง ยัง เดินไปตามปกติ เพียงแต่ผมโฟกัส จุดสำคัญไปที่ กาย แค่คนเดียว. . . ท่าทางกายดูกุกกักมันพยายามยกน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม เพื่อดับความกังวนในใจของมันเอง. . จนเมื่อมัน เริ่มพูดขึ้น. .

“เจ กูขถามอะไรตรงๆเลยนะ เมื่อวาน....  มึง. . .ได้รอกูรึเปล่า ?” กายถามผมด้วยน้ำเสียงสั่นๆเหมือนกำลังกลัวคำตอบ. . ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว โกหกมันต่อไปจะได้อะไรขึ้นมา. . ผมเลยตัดสินใจที่จะพูดความจริงออกไป. .

“อืม. .” ตอนคุยกับมันหน้าผมนิ่งไม่แสดงอาการอะไรทั้งสิ้น

“นานมั้ย?”

“3 เกือบ 4ชั่ว โมง”หน้ามันดูเสียไป . .  แต่ก็ยังถามผมต่อ

“แล้วตอนที่มึงโทรหากู มึงได้คุยกับแยมมั้ย ?” แยมคงหมายถึงเมียของมันสินะ ถ้าใช่. . ก็

“อืม ได้คุย แล้วยังไง อยากจะอวดเสียงเมียกับลูกมึงมากรึไง ?”จากสายตามันที่เอาแต่หลบๆ หน้าผม ก็รีบ เงยขึ้นมามองหน้าผมแทบจะทันที. .

“เมีย  ใครเมียกู ?” เรื่องแค่นี้มันยังต้องให้ผมอธิบายเพิ่มเติมอีกเหรอ. .

“อย่าแกล้งโง่เลยกาย ก็คนที่กูคุยด้วย ตอนที่โทรไปหามึงนั้นไง ?” ผมเริ่มมีน้ำโหนิดๆ แล้ว

  “เดี๋ยวๆ นะเจ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วกูกับ แยม เรา สองคนเป็นแค่เพื่อน กัน”

“เพื่อนห่าอะไรมีลูกด้วยกัน แบบไหนที่เขาเรียกว่าเพื่อนกันวะ!!” เหมือนผมคงจะใส่น้ำเสียงมากไป จนคนในร้านต่างหันมามองที่โต๊ะผมกับกายกันให้ควับ

“เจ . . .ฟังกูนะ กูกับ แยม เราสองคนไม่ได้มีอะไร กัน แล้วอีกอย่าง พ่อของลูกแยมคือเพื่อน กู ไม่เชื่อก็ดูนี้. .”มันพูดพร้อมกับยื่นไอโฟนที่มีรูปของ ผู้หญิงสวยๆคนนึง อุ้มลูกพร้อมกับผู้ชายที่ นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ. . . และมีแคปชั่น แยม&แจ็ค และลูกของเรา. . . หลังจากที่อ่านข้อความในไอโฟนของมันเสร็จผมก็กลับ มาคิดประมวลผลต่างๆตามภาพที่ได้เห็น แล้วสรุปเรื่องเมื่อวานที่ ผมนั่งคิดไปเองอยู่คนเดียวนี้มันคืออะไรกัน . .แล้วถ้าเมื่อวาน ผม ไม่ได้อะตอมช่วยผมไว้ ผมจะได้มานั่งฟังความจริง ที่มันอธิบายให้ผมฟัง ในวันนี้มั้ย? ผมนั่งถามตัวเองในใจพร้อมกับ ความ รู้สึกจุกอยู่ที่อกจนยากที่จะหักห้าม ไม่ให้มันไหล ออกมา. .ผมนั่งก้มหน้า สะอื้นเบาๆ . .โดยไม่กล้าที่แม้จะสบตามัน

“เจ กูไม่เป็นไรไม่ต้องร้อง. . ถ้าเป็นกูๆก็คงคิดมากไม่ต่างจากมึงหรอก เพราะชะนั้นไม่ต้องร้อง . .กูไม่ได้โกรธ มึง หยุดร้องได้แล้ว. .”ให้กายมันดูมันด่าผมแบบเมื่อก่อน ยังจะดีซะกว่า ยิ่งกายมันพูดปลอบโยนผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก..

“กาย. .. . ” เสียงของผมยังคงสั่นสะอื้น. .เพียงแต่ไม่กล้าที่จะขึ้นมาสบตามองคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

“หืม. .. . ” เสียงของกายยังดูใจดีจนผมแทบอยากจะลงไปกอดขาขอโทษมัน. .

“กูขอโทษ. . . ” มีพียงคำเดียวที่ผมสามารถพูด มันออกมาได้ในตอนนี้ .  .คือคำว่า ขอโทษ ขอโทษ และขอโทษ. .

“ขอโทษ ทำไม บอกแล้ว ว่าไม่ได้โกรธ . .” กายพูดพร้อมกับเขยิบเข้ามานั่ง ข้าง เก้าอี้ตัวยาวข้างผมพร้อมกับตัวผมให้ไปซบที่ไหล่ของมัน. . พลางลูบหัวผมอย่างเอ็นดู. .โดยที่มันไม่แคร์ถึงสายตาของคนอื่นๆ ในร้านที่กำลังจองมอง มันอยู่เลย

“กูขอโทษนะกาย ที่ด่วนสรุปคิดไปเอง ขอโทษ นะที่กูไม่ยอมฟังเหตุผลมึงก่อน กู ขอโทษ นะกาย ที่กู ไม่ไว้ใจมึง. กูขอโทษ ขอโทษ ขอ. ...”

“ไม่เป็นไรเจ. .กูยกโทษให้ กู รู้ดีว่าความรู้สึกของมึงตอนนั้นมันเป็นยังไง . . มันคงเหมือนการที่เราถูกคนที่เรารักหักหลัง ถ้าถามว่าทำไม กูถึงรู้ เพราะกู เคยผ่านมันมาแล้วไง มึงยังจำตอนที่กูกับพี่ริวกลับมาคุยใหม่ๆได้มั้ย.. ถ้าไม่ใช่เพราะมึงที่คอยช่วยในวันนั้น กูก็คงจะเข้าใจผิดๆไปอีกนาน และถ้าไม่ใช่เพราะมึง กูกับพี่ริวเราก็คงไม่ได้กลับมาเป็นพี่น้องกันอย่างทุกวันนี้หรอก.  เพราะชะนั้นเลิกร้อง ไหเถอะ.  .กูไม่ชอบที่เห็นน้ำตาของมึงเลยเจ  มึงรู้ตัวมั้ย ตอนมึง ร้องไหนี้โคตร อุบาตส์ เลย เหมือนพวกลิง ชิมแปนซี เวลามันอ้าปากอ่ะ มึงว่าป่ะ. ฮ่าๆ ” กายมันไม่ได้โกรธผมเลยแม้แต่น้อยแถมยัง คอยปลอบโยน ผมในแบบ ของมันอีก .  เห้อ ผมไม่อยากคิดเลย ว่าถ้าตัวเอง ไม่มีโอกาส ที่จะมานั่งข้างๆ ฟัง คำตอบของมันในวันนี้ ผมคงจะต้องตายไปพร้อม กับความเข้าใจผิด แน่ๆ เลย . . .

“หน้ากูอุบาตส์แล้วมึงรักมั้ยหล่ะ ?” ผมยิ้มขำๆ ตอบมันไปทั้งน้ำตา แห่งความสุข. .

 ”รักมั้ยหรอ กูคงบอกตอนนี้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าจะถามความคิดกู... ลิงอุบาตส์แบบมึงนี้ คงหาใหม่ได้ยากวะ ฮ่าๆ ” ผมเกือบจะซึ่งอยู่แล้วเชียวถ้ามันไม่เปรียบผมๆ เป็นอะไรแย่ๆ ตามที่มันคิดออก ผมก็คงจะรู้สึกดีมากกว่านี้อีก ฮ่าๆ . .แอบขำตาม



. . ..  ท้ายนี้ผมได้แต่พูดพร้อมกับบอกตัวเองอยู่ภายในใจ
ขอโทษนะกาย ขอโทษที่ดูถูกความรู้สึกมึง ขอโทษที่กู. .กลัวมัวแต่มองสิ่งที่เห็นจนลืมมองสิ่งที่เป็นควมจริงไป  . . .กุสัญญานะ ว่าต่อจากนี้ไป กู จะ พยายามเข้าใจมึง และถึงแม้ มันจะเป็นคนที่เข้าใจยากมากแค่ไหน. .ผมก็ยังอยากที่จะลอง . . .  ลองที่จะได้เข้าใจ. . และต้องพยายาม ให้มากกว่าเดิม. . 
 
.สัญญา. . จาก ♥   (∩_∩)   :n1:

เจ...



TBC.   ⊙ω⊙ 


 
ขอขอบคุณทุกคอมเม้น ที่ยังคอยติดตามกันอยู่นะครับ (รู้สึกมีกำลังใจ)  :hao6: {KIM}
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖New!〗〖Episode :25〗〖15-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-10-2016 19:13:02
ตามอ่านอยู่ครับ

ยังอ่านไม่ทัน
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special〗〖Episode :〗〖17-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-10-2016 08:50:49
Falling In Love

หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

【special】【Part】เรื่องคืนนั้น 【By Guy】

“กาย. .มึงหายไปอยู่ไหนนะ . . มึงรู้บ้างไหม ว่ากูคิดถึงมึงมากขนาดไหน. . ปล.คิดถึงแต่ไม่กล้ากดส่ง.

“ ถ้ามึงไม่กลับมาอีก สองวัน กูจะตามไปเผาคอนโดนพร้อมกับจุ๊ ของในห้องมึงออกมาขายแล้วหนีไปอยู่ที่ต่างประเทศ” .

“กายมึงมุดหัวหายไปอยู่ที่ไหนของมึง วะ มึงไม่อยู่กูเหงานะเว้ย !” ผมนอนอ่านข้อความหลังจากที่กลับ มาจากบ้านของเจได้

สองสามวันอ่านซ้ำไปซ้ำมา . . .  จนจำประโยคคำพูดต่างๆ ของเจ ได้ขึ้น ใจ ผมไม่เคยคิดเลยว่า เจมันจะมีมุม น่าๆ รักแบบนี้

ด้วย สำหรับผมแล้ว การ ที่ คนที่รักของใครคนนึงอยู่ๆก็หาย ไปคงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เรา จะคิดถึงเขา จะบ่นถึง เขา หรือแม้

กระทั่ง ร่าง ข้อความปัญญาอ่อนแบบ นี้ (ก็มีด้วย) ช่วงที่ผมอยู่มัธยมปลาย ผมได้รับจดหมายบอกรัก ไม่ต่ำกว่า วันละ 20 ถึง 30

ซอง ผมเปิดอ่านอันเว้น อันเพื่อพอจะเป็นพิธี แต่ตั้งแต่อ่าน จดหมาย หรือข้อความที่เคยได้รับมา ผมก็ไม่เคย ที่จะยิ้มตาม

เหมือนคนบ้า จนได้มาเจอ ข้อความ ของ เจ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ตอนนี้ มันได้กลายเป็นตัวป่วนของชีวิตผม ไปแล้ว . . วันวานที่

แสนจะหน้าเบื่อของผม จบลง เมื่อเจอ กับ มันเพียงครั้งเดียว . . ผมยังจำได้ดี. . วันแรก ที่ผมกับมันได้เจอกันเป็นครั้งแรก . . วัน

นั้นเป็นวันศุกร์ ของการเปิดภาคเรียนใหม่ วันนั้น ผมถูกเพื่อนที่คณะ กอดคอพาผมวิ่งไปที่ โรงอาหารคณะวิศวะ เพื่อ ไปหยิบ

โทรศัพท์ ที่มันดันวางลืมไว้ ที่โต๊ะ แต่พอ มาถึงมันกลับบอกกับผมว่า เจอแล้ว อยู่ในกระเป๋าเสื้อของมันเอง และเป็นธรรมดาที่

ผมจะแสดงสีหน้าไม่พอใจให้กลับมัน แต่ผมก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรมัน และเดินกลับมา ที่ รถ จังหว่ะนั้น เอง ผมได้ยิน เสียง ดังเพล้

งง. !! เหมือนมีสิ่งของหรืออุกาบตร หล่นลงมาที่รถของผมเข้า อย่างจัง ตอน แรก ผม คิดแค่ว่า นี้อาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุ สนาม

บอลจากที่ๆผมจอดรถตรงนี้ก็ไม่ห่างกันมาก จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ้าง ก็ไม่น่าเดือดร้อนอะไร กระจกแตกก็แค่เปลี่ยน ใหม่

 ผมไม่วอรี่เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว. . แต่ความคิดต่างนั้นๆของผมก็จบลง เมื่อ มีผู้หญิง เอ้ย ไม่สิ . . ผมมองคนที่กำลังวิ่งมาด้วยทาที่

รีบ ร้อน อย่าง สงสัย  ว่า มันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายกันแน่. . แต่พอคำนวณดูดีๆ แล้ว มันคือผู้ชายครับ. . มาถึง มันก็ไม่พูดพร่ำทำ

เพลงครับ รีบกล่าว คำขอโทษ ผมซะยก ใหญ่ แต่เหมือน บรรดาโทษะ อะไรสักอย่างเลยทำให้ผมพูดถึงเรื่องการรับผิดชอบไปที่

มัน และนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด พอเจอหน้า มัน ถึง ต้อง ตีหน้าซึม เงียบ ไม่ยอมพูดกับ มันๆ ทั้งๆ ที่ในใจผม

กำลังแอบ ขำถึงการกระทำของมันอยู่. . . พวกคุณคงจะไม่รู้ ว่าตอนที่ มันพูด ขอโทษ กับผม หน้า ตา ของมันน่าสงสารแค่ไหน

 มันเหมือนกับ ว่า ตัวเองไปฆ่าพ่อของใครตาย มันจะก้มหน้า แล้วก็พูดน้ำเสียงสั่นๆ หรือ บาง จังหว่ะที่มันกวนตีน ก็กวนตีน ได้

แบบ ยากที่จะให้อภัย. . หรือบาง ครั้ง เวลา มัน ยิ้มหัวเราะ ผมก็แอบยิ้ม หรือหัวเราะ ตามในมุขตลกของมันในบางครั้ง  ที่มัน

ชอบพูดกวนๆ กับผม . .  แต่จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบการหัวเราะซักเท่าไหร่เพราะคิดว่าการ หัว เราะนั้น เป็นเหมือน

การ ดูถูกดูหมิ่น หรือเหยียดหยาม คนๆนั้นๆ  บางคนนอาจจถามผมว่า แล้ว การหัวเราะ เนี้ย มันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมกล่าวมาตรง

ไหน . .  พวกคุณคงไม่รู้ว่าช่วงเวลา สมัยที่ผมยังเด็ก ผมเคยถูกให้ออก ไปร้องเพลงที่หน้า ชั้นเรียน ผมเขิน ผมอาย ผมไม่กล้า

ทำอะไร . .  แต่ครูประจำชั้นก็ยังคะยั้นคะยอให้ผม ร้องทั้งๆ ที่ไม่อยาก แต่พอผมเอ่ยปากร้อง ทุกๆ คนที่อยู่ในห้องรวมถึงอาจารย์

 ก็ต่างพากันหัวเราะ เยาะผม บอกว่าผมเป็นอย่างนี้อย่างนั้นบ้างแหละ. . แล้วนั้นก็คือสาเหตุที่ผมเกลียดการหัวเราะมากที่สุด

ตั้งแต่ผมเคยมีเพื อน มีแฟน สมัย ม.ปลาย ผมก็เคยยิ้มบ้าง หัวเราะบ้างเป็นบางครั้ง แต่พอ เกิดเหตุการณ์บางอย่าง เกิด ขึ้นใน

ช่วง นั้น ผมก็ เหมือน คนที่ถูกลืม .  ไม่สิต้องเรียกว่า ผมเป็นฝ่ายลืมพวกเขาเอง ต่างหาก มันเป็นช่วงที่ผมอยากใช้เวลาทบทวน

อยู่คนเดียวให้มากที่ สุด แต่ชีวิตอันเปล่าเปลี่ยวของผมก็จบลง เมื่อได้มาเจอ กับ ไอเจ ผู้ชาย หน้า หวานสายตาออดอ้อนคนนี้ .

 .  ตอนแรกที่มันบอกผมว่าจะหาเงินมาใช่หนี้ค่าซ้อมรถ ให้ผมๆก็ไม่เชื่อหรอก ว่าคนอย่างมันจะทำได้.ร่างกายของมันทั้งเล็กทั้ง

เตี้ย ไม่มีอะไรสมส่วนเลยซักอย่าง มีดีก็แค่ตาโต กับปากสีส้ม. . กับสีผิวที่ขาว แบบเรืองแสง. .แค่นั้นเอง. .จะเอาแรงจากไหนไป

ทำงาน. .  จนเมื่อวันนั้น ผมขับรถไปทำธุระแถวร้านกาแฟ ของอาผม เห็นเจ มันเหมือนจะมาสมัครงาน  ผมไม่ค่อยเชื่อในสปิริต

ของมันสักเท่าไหร่ แต่พ่อผมสอนว่าการให้โอกาส คน มันได้บุญเยอะ ผมก็เลยอย่างลองเสี่ยงดูสักครั้ง เลยโทรบอกให้ อารับมัน

เข้าทำงาน. . แล้วก็เป็นไปตามคาครับ มันทำงานได้ดี ไม่บ่นสักแอะ แถม วันๆ ยังเอาแต่ทำงานจนลืมกินข้าว  บางทีก็ทำงานล่วง

เวลา จนลืมพักผ่อน  จากความสะใจที่เห็นมันทำงานเหนื่อยๆ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็น ความ เป็นห่วง ถึงผม จะไม่ค่อยถูกหน้ากับ

มัน (มันก็ไม่ค่อยชอบหน้าผม) แต่ผมก็คงทนเห็นมัน เป็นแบบนี้ไม่ได้อีกต่อไปเหมือนกัน ผมมีความคิดที่จะเลิกแกล้งมัน อยู่

หลายครั้งเหมือนกัน แต่พอเห็นหน้า มันขึ้นมาเมื่อไหร่ก็อดไม่ได้ ที่ จะแกล้ง หยอก ให้มันโกรธ ตะโกน โวยวาย ผมเหมือน เคย

ได้ และความประทับใจนึงที่ ยังจำได้ไม่เคย ลืม . .  ก็คือเจ มันเป็น คนที่จำพวก ชอบเป็นห่วง คนอื่นมากกว่าตัวของมันเอง ไม่

ว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนที่ มันรู้จัก หรือไม่รู้จักก็ตาม  ผมกะจะขอบใจมันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาส ได้บอก  ซักที . . . ตั้งแต่ที่
มันช่วยดูแล ผมหลายๆ ครั้ง ทั้ง ที่ไม่ใช้หน้าที่ของมันแต่มัน ก็ยัง ทำ

 ผมไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่มันเต็มใจ รึเปล่า แต่ทุกครั้ง ที่ผม เห็น สีหน้า มัน . . . เหมือนสีหน้าและแววตาของมันจะแลเปลี่ยนไปเวลา ที่ผม หรือคนรอบข้าง หรือป่วยไม่สบาย ก็มีแต่มันนี้แหละ  ที่คอยดูแลและช่วยเหลือคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียว. . และ นี้ก็คือสิ่งหนึ่งที่ผม ยังคงจำได้ไม่เคยลืม. .  ว่า เจ มัน ชอบ แจกจ่าย ความ มีน้ำใจและความน่ารัก ของมันไป ทั่ว  จนผม เหนื่อยที่จะต้องตามไปหึงหวงมันแล้วละครับ เลยปล่อยเลยตามเลย. . 
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special〗〖Episode :〗〖17-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-10-2016 08:54:57
Tr…….. ไอโฟนของผมแผดสั่น เรียกสติของผมที่กำลัง นอน ยิ้มคิดอะไรอยู่คนเดียว. .

“เออ ตั้ม ว่า ไง ”  เสียงเพื่อนที่คณะ ของผม โทร เขา มา ขนาดผมเองยังแปลกใจเลย ปกติถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายมันคงไม่ลำบากโทรมาหาผมหรอก. .

“กายตอนนี้มึงอยู่ไหนเนี้ย.  . ”เสียงของมันดูร้อนรน

“อยู่บ้าน มีรึไรรึเปล่าวะ ?”

“ไอโอมันโดน รถชนเว้ย ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล พวกกูกำลังไปดูอาการมันอยู่ไม่รู้แม้งเป็นไงมั้ง มึงจะไปด้วยกันป่ะ .” แล้วการที่มันโทรมาก็ เหมือนลางบอกเหตุจริงๆ ครับ

“เออ ได้ๆ เดี๋ยวกูรีบไป . .  . มันอยู่โรงบาลไหนวะ.. . เออได้โอเคเดี๋ยวกูจะรีบไป. . เออไว้เจอกันมึง” หลังจากที่วางสายผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปโรงพยาบาลอย่างเร่ง รีบ . . . พอไปถึงก็เห็นไอโอเพื่อนผม มันยิ่งนั่งยิ้มกวนตีนส่งมาให้พวกผมอยู่เลย สรุปมันโดนรถชน จนเอ๋อ หรือมันโดน ขอบรถกระแทกหัวจนสติกลับกันแน่ แต่พอๆ ถามๆ มันก็บอกว่าแค่โดนรถเฉี่ยว แต่ไอตั้มนี้ สิ ทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมจนพวกผมต้องรีบ พากันปลีกตัวจากงานกัน เพื่อมาเยี่ยมไอโอมัน . . เห้อ เล่นเอาซะพวกผมใจหายกันหมด . .. 

. . . .

ขากลับผมไม่ได้แวะเข้าบ้านก่อน เพราะจะแวะไปเอา สมุดแล็กเชอร์ ที่ ไอวินมันฝากเอาไว้แต่ทุกคนอย่าพึ่งคิดว่าไอวินมันจะกลับตัวกลายมาเป็นเด็กเรียนเกรียรตินิยมนะครับ มันแค่ จดเบอร์เด็กของมันไว้ในสมุดแค่นั้นเอง แล้วก็ดันบังเอิญเขียนในสมุดของผมด้วย ไง ก็เลยต้องลำบากมาหยิบให้มัน ด้วยทั้งๆ ที่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของผมด้วยเลย. . . พอหยิบสมุดเสร็จผมกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ได้ปิดน้ำในห้องน้ำเลยเดินไปปิด แต่สายตาของผมก็บังเอิญ ไปเห็นอะไรเข้า. . เหมือนจะเป็นกางเกง ซับใน ที่ เจมันลืมไว้ตั้งแต่ ช่วงแรกๆ ที่มัน เข้ามาที่ห้องของผมแล้ว ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็อดที่จะคิดถึงมันไม่ได้เลย . ป่านนี้จะทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คิดได้ดังนั้นผมก็รีบกดเบอร์ โทรออกไป ที่ปลายสาย. .

. .  . .  ผมรอสายอยู่สักพัก ในที่สุดก็มีคนรับ 

“เออ!” น้ำเสียงของมันเหมือนกำลังโกรธใครอยู่. .

“เป็นอะไรโมโหอะไรมา” ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ามันกำลังโกรธใครอยู่กันแน่ หวังว่า คงไม่ใช่ตัวผม

“เบื่อคน” อ้าว พอคำตอบเป็นงี้ไปผมก็ทำอะไรไม่ถูกเลยสิครับ ผมก็เลยตวาดมันกับไป และเหมือนมันเองก็คงจะตกใจที่อยู่กลับเป็นผมที่วีนมันกลับ

“เปล่าแค่มีเรื่องเครียดๆนิดหน่อย แล้วโทรมามีอะไร” คนเป็นกันจำเป็นต้องมีธุระทุกครั้ง งั้นเหรอครับ ถึงจะ โทรคุยกันได้. .

“. . . .” เหมือนเจมันจะเงียบไปสงสัยกำลังเขินหน้าแดงอยู่แน่ๆ เลย

.”เงียบทำไมก๊อง !” แล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดเดาไว้ครับ เจมันแอบเขิลผมอยู่จริงๆ ด้วยที่มันเงียบไป คงเพราะต้องการจะเก็บอาการเขินของมันมากกว่า  ผมออกมาดูนาฬิกาที่ห้อง นอน บอกเวลา  หกโมงกว่าเกือบจะทุ่มแล้ว ป่านนี้ เจมันคงยังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ เลย ผมเลย เอ่ยปากชวน กันไปหาอะไรกิน ซึ่งเจก็ตอบตกลง ผมยังไม่ได้คิดล่วงหน้าว่า จะไปที่ ไหน เพราะอยากให้มื้อนี้เจเป็นคนเลือกเองมากกว่า . .

ร ะหว่างทางที่ผมขับ รถกำลัง ไป หาเจที่นัดพบกัน. . . อยู่ๆ ก็มีผู้หญิงที่ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุณตาเป็นอย่างมากโบกมือเรียก

ทำให้ผมต้องรีบชลอรถลงไปดู พอ ผมจอดรถและเพ่งมองดีๆ ก็ทำให้ผมร้องอ๋อออกมา

“อ้าวแยม หวัดดีครับ มายืนทำอะไรดึกๆดื่นๆข้างถนนแบบนี้. .”ผมเอ่ยปากถามเพื่อน ผู้หญิงของผมตั้งแต่สมัยม.ต้น ถึงแยมจะไม่ใช่เพื่อนคนแรก ของผม ก็เธอก็เป็นเพื่อนคนสำคัญไม่ต่างจากพวกไอวินเลย.

.”อ๋อ กาย กายใช่ป่ะ ค่ะ  ”ผมพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ครับแล้วแยมมายืนทำอะไรคนเดียวเนี้ย มัน อันตรายนะรู้รึ่เปล่า?”

“ก็ใช่ว่าแยมเองอยากจะมายืน ในที่แบบนี้ ในเวลานี้ซะเมื่อไหร่ ถ้ารถไม่บังเอิญเสีย อยู่ข้าง ทาง แยมก็คงขับ ไปต่แล้วละคะ” จบคำพูดของแยมผมหันมองตามนิ้วที่ชี้ไปที่ล้อหลังของเบ้นคันสีบรอน ที่จอดไว้ข้างๆทาง. .

“อ้าวแล้วแจ็คไปไหนแล้วหล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้แยมยืนคนเดียวแบบนี้” แจ็คคือแฟนของแยม ครับ ถึงผมจะไม่ค่อยสนิทกับแฟนแยมเท่าไหร่ แต่ก็พอจะรู้จักกันบ้างเล็กน้อย. .

“แจ็คติดงานอยู่ค่ะ แยมกับลูกเลยว่าจะขับรถไปรับด้วยกัน. .แต่รถดันมาเสียซะก่อน แถมแบตโทรศัพท์ ก็ดันมาหมดอีก . .แยมเลยไม่รู้จะทำไง เลยเดิน ออกมาขอความช่วยเหลืออย่างที่กายเห็นนี้แหละค่ะ ไม่นึกว่าจะได้เจอกายที่นี้น่ะ ^ ^” แม้ตัวเองกำลังเจอเรื่องซวยๆ แต่แยมก็ยังส่งยิ้มมาให้ผมทุกครั้งที่เราคุยกัน

“งั้นเดี๋ยว กายดูให้เอง ”

“กายดูเป็นด้วยเหรอค่ะ” เธอหันมาถามผมด้วยความสงสัย

“ก็พอเป็นนะ เคยอ่านเจอผ่านๆ”

“อ๋อแยมก็ลืมไปว่ากำลังคุยอยู่กับ เด็กอัจฉริยะ อยู๋ ฮ่าๆ” ผมไม่ได้หันไปมองตอนแยมพูด แต่กำลังเพ่งเล็ง มองดูอาการของ ล้อ ว่า สาเหตุที่แบนจนติดพื้นขนาดนี้ เกิดจากอะไร . .

“สังสัยจะขับไปเหยียบโดนตะปูเข้าอ่ะครับแยม แถวที่แยมพึ่งขับออกมา คงกำลังก่อสร้างกันอยู่แถวนั้นใช่ไหมครับ”

“กายรู้ได้ยังไง ค่ะ” เธอเดินมานั่งยองๆ ข้างผมและทำหน้างงเหมือนสงสัย. .

“ผมเดาเอาหน่ะ ”

“กายชักจะน่ากลัวขึ้นทุกวันแล้วนะค่ะเนี้ยรู้ตัวรึเปล่า ”จากความสงสัยก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใสที่ยิ้มมาให้ผมแทน. .
ผมขับรถออกไปซื้อ ยางพร้อมกับแยมเพราะไม่อยากทิ้งเธอไว้นที่เปลี่ยนพร้อมกับลูก  กว่าจะเปลี่ยนยางอะไรเสร็จก็ปาไปชั่วโมงกว่า. .

“เสร็จแล้วครับแยมลองไปติดเครื่องดูสิ” แยมยอมขึ้นรถทำตามโดยว่าง่าย  ก่อนจะลองติดเครื่องยนต์และลองขับเดินหน้าดู. .
.”โอเคแล้วค่ะกายขอบคุณมากๆนะค่ะ ส่วนเรื่องเงินไว้แยมจะโอนคืนไปให้พรุ่งนี้นะค่ะพอดีว่า บัตรของแยมอยู่ที่แจ็คอ่ะค่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับแยม เพื่อนกัน ผมไม่ คิดเงินหรอก อีกอย่างผมก็เป็นฝ่ายที่อยากจะช่วยแยมเองด้วย เพราะชะนั้นไม่ต้องคิดมากนะ”

“ขอบคุณกายมากๆ นะค่ะถ้าไม่ได้กาย แยมคงแย่แน่ๆ เลย”

“ครับไม่เป็นไรครับ”

“ว่าแต่กายจะรีบไปไหนรึเปล่าค่ะ” จะว่าไปผมลืมตัวไปเลยว่ากำลังโทรนัด เจไว้อยู่ป่านนี้ผม ยังรอผม อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้. .พอนึกขึ้นได้ผมก็แทบจะรีบวิ่งขึ้นรถเพื่อรีบขับออกไป ถ้าไม่ติดที่ว่าแยม เรียก ให้ผมต้องหันไปสนใจกับคำพูดของเธอซะก่อน. .”แล้วกายจะไปทั้งๆอย่างนี้เหรอค่ะ” ผมก้มมองลงดูตัวเอง ตามนิ้วที่แยมชี้มาที่ผม ก็เห็นเป็นคราบเขม่าดำๆ เต็มตัวผมไปหมด. .

“เอ่ออ . .”ผมพูดอะไรไม่ออกจริงถามว่าผมกล้าไปเจอ เจมันทั้งๆ สภาพนี้มั้ย ผมตอบได้เลยว่ากล้า แต่ผมกลัวว่า เจมันจะอายคนอื่น มากกว่า ผมเลยต้อง ขับรถตรงไปที่บ้านของแยมที่อยู่ไม่ไกล มากนัก. .
ผมเดิน เข้าบ้านแยม ด้วยอาการตะกุกตระกัก เพราะการที่ผู้ชายอย่างผมจะเข้าบ้าน ผู้หญิง  มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกใช่มั้ยครับแล้วอีกอย่าง ที่บ้านแยมก็ไม่มีใครอยู่ด้วย ผมยิ่ง ไม่กล้า แม้แต่ จะกล้า เดินขึ้นห้องของเธอเลย. .

“กายทำตัวตามสบายเลยนะค่ะ แยมบอก แจ็คแล้ว ว่ากายมาบ้าน แจ็คก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ แถมยังบ่นบอกให้แยมดูแล ดีๆ ด้วย เลิกคิดมากได้แล้วค่ะกาย ฮ่าๆ”แยมดูจะขำท่าทีลุกลี้ลุกลนของผม แม้แต่ลูฏของแยม ยัง หันมาส่งยิ้มให้ผมเลย หึหึ
พออาบน้ำเสร็จผมเดินออกมาหยิบเสื้อของยืด ของแจ็คแฟนของแยม วางไว้ที่เตียงบอกให้ผม เอาไปใส่ ได้เลยไม่ต้องเอามาคืน . .แทนการขอบคุณ ช่วยเหลือในวันนี้ พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมเดินลงมาข้างล่าง เห็นแยมกำลังยืนคุยโทรศัพท์ อยู่ทำหน้าเคร่งเครียด

“ฮัลโหล.  ฮัลโหล ได้ยินรึเปล่าค่ะ ฮัลโหล. . .” อุ้ยตายแล่ว ไปทำ อะไรถึงตัวเลอะขนาดนี้ ค่ะอิคิว . . อยู่ลูกของแยมก็เดินมาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มๆ ปนขำๆ ตามภาษาเด็ก. .ผมแอบเห็นแยมมองตามลูกขึ้นมา.. เห็นหน้าเด็กมอมแมมไปหมด เสื้อผ้าก็เลอะคราบอะไรมาไม่รู้  . . ระหว่างนั้นแยมตะโกนขึ้นมาบอกฝากให้ผมล้างตัวให้ลูกของแยมหน่อย ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร และทำตามโดยว่าง่าย พอล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกของแยมเสร็จผมก็เดินลงมาด้านล่าง เห็น แยมยืนจ้องโทรศัพท์ของผมที่อยู่ในมือของแยมอยู่. .


“มีอะไรรึเปล่าครับแยม”

“อ๋อมีคนโทรมาหากายค่ะ แต่ไม่ได้เม็มชื่อไว้” ที่ไม่มีรายชื่อก็ไม่แปลกหรอกครับ เพราะ โทรศัพท์เครื่องเก่าของผมโดนน้องน้ำ เอาไปกินเรียบร้อยแล้วครับ พึ่งจะซื้อเครื่องใหม่ ก่อนที่ผม จะไปหาเจที่จันทบุรีเอง. . และด้วยความสงสัยผมเลยเดินไปหาแยมที่กำลังยื่นโทรศัพท์ให้

“สักครู่นะค่ะกายกำลังเดินมาพอดีเลย นี้ค่ะกาย. . ”

ผมรับโทรศัพท์ที่มือของแยมก่อนจะ ลองพูดผ่านไปสายไปโดยที่ยังไม่ทันได้มองหน้าจอ  . .  ผมพูดอยู่หลายคีรั้งแต่ก็ไร้วี่แววว่าจะมีเสียงตอบรับ เลยลองกดที่หน้าจอ เพื่อดูรายเบอร์ที่ปลายสายโทรเข้ามา. .  และนั้นก็ทำเอา ผมอึ้งไปพักนึง เมื่อเบอร์ที่โทรมาคือเบอร์ ของเจ ซึ่งผมเองจำได้ขึ้นใจ  เจโทรหาผม ตั้ง แต่ช่วง สองทุ่ม จนตอนนี้ สี่ทุ่มกว่าๆ แล้วมันก็ยังโ?รมาไม่ขาดสาย. . แต่พอผมกดโทรกลับ ไม่มีทีท่าว่าปลายสายจะยอมรับเลย . .ระหว่างนั้นเองที่ ป้าภา คนดูแล ที่บ้านของผมก็โทรเข้ามา. .
“ฮัลโหลสวัสดีครับ มีอะไรรึเปล่าครับป้าภา. .”

“มีค่ะพอดี ว่าคุณ หนู เอ่อ คุณหนู. .”

“ซีเกมๆทำไมครับ” ซีเกมคือลูกพี่ลูกน้องกับผมครับ แต่ พ่อแม่ของซีเกมเสียไปพ่อกับแม่ผมเลยรับซีเกมมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคน  ผมกับมันเลยกลายมาเป็นเหมือนพี่น้องท้องเดียวกันไปโดยปริยาย (ไว้ถ้ามีโอกาสคราวหน้าผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับซีเกม ให้ฟังนะครับ. )

“คือคุณหนูไปทะเลาะวิวาทกับเพื่อนห้องเดียวมาค่ะคุณชาย ป้าเลยไม่รู้จะทำยังไงเกิดคุณท่านมาเห็นเข้า รับรองได้เลยว่า. . คงไม่จบเรื่องแค่นี้แน่ๆ เลยค่ะ”

ผมนั่งครุ่นคิดสองจิตสองใจว่าควรจะเอาอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ดี .  . คนนึงก็น้อง ส่วนอีกคนก็แฟน . .ผมควรจะเลือก ทางไหนดี. .  แวปแรกผมตัดสินใจจะรีบไปหาเจ แต่ ป้าภาแกก็คะยั้นคะยอบอกให้ผมรีบไปดูอาการน้องของตัวเอง ก่อน ผมเลยจำเป็นต้องไปหาไอตัวปัญหาที่ก่อเรื่องไว้ที่บ้านก่อน . . เพราะคิดว่า ดึกป่านนี้แล้วเจคงมันไม่บ้ามานั่งรอผมหรอก . .ใช่ไหม. .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special〗〖Episode :〗〖17-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-10-2016 08:59:30
พอกลับถึงบ้าน ผมก็เข้าไปเคลียปัญหาที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น . . แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะนิ่ง ไม่ได้สะทกสะท้านกับความผิดที่ตัวเองได้ทำลงไปเลยแม้แต่น้อย. . ผมก็จนปัญญาที่จะพูด คุยหรือต่อว่าแล้วเหมือนกัน. . เลยปล่อย มันไปก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อย เริ่ม คุยกันใหม่. .

ผมเดินล้มตัวนอนที่เตียงของตัวเอง สายตาแอบมองไปที่นาฬิกา บอกเวลาตีสองกว่า ทำให้ผมถึ่งนึกถึงเจขึ้นมาได้เลย ลอง โทรไปหามันทั้ง ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงจะหลับไปแล้ว แต่ผม ก็ยัง คงโทรต่อไปเรื่อย. .  โทรจนตัวเองแองเริ่มสะลึมสะลือ และเผลอหลับไปพร้อมกับ โทรศัพท์ที่ยังแนบชิดอยู่ที่หู ไม่ห่าง. . .

. . . . ผมสะดุ้ง เมื่ออยู่ๆ ก็รู้สึกนึกถึงเจมันขึ้นมา. .  ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ผมละเมอหรือคิดไปเองกันแน่ถึงรู้สึกว่า เจมันกำลังนอนอยู่ข้างๆตัวผมแต่พอลองกวาดสายตามองไปทั่วห้องกลับพบแต่ความว่างเปล่า ใช้ผม คงจะคิดถึงมันมากไปแค่นั้นเอง ผมหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง บอกเวลา สิบโมงเป๊ะๆ ผมคิดว่าเจมันน่าจะตื่นแล้ว เลยลองกดโทรไปหาเจ มันอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไมมี คนกดรับเหมือนเมื่อคืน เลย.  . ผมพยายามโ?รอีกหลายครั้ง จนในที่สุดมันก็ยอมรับสายผมครับ

“ฮัลโหล” เสียงของเจดูแปลกไป. .  ตลอดเวลา ที่คบกันมาทำให้ผมสามารถแยกแยะอามรมณ์ของมันออก รวมถึงตอนนี้ที่น้ำเสียงนิ่งเหมือนไมค่อยมีอารมณ์จะคุยกับผมสักเท่าไหร่เลย.  ได้ทีผมก็ใส่คำถามรัวๆ ไป กะจะแกล้งๆ ให้มันอารมณ์เสีย จะได้ด่าผม เหมือนทุกที.  แต่เปล่าเลย เจมัน ไม่ได้ด่าผมซักคำแถมยัง พูด ด้วยน้ำเสี่ยงหดหู่อย่างเดิม

“แล้วนี้อยู่กับใครทำอะไรอยู่”ผมมั่นใจว่าเจมันคงอยู่กับ วิน หรือไม่ก็พี่ริว  แล้วก็เป็นไปตามนั้นครับ ถึงน้ำเสียงของมันจะยังเหมือนเดิม ก็ยังดี กว่าให้มันอยู่คนเดียว. . ผมอาสาจะไปรับไปส่ง เจเผื่อจำได้ไปขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วย แต่คำตอบทีได้มาคือ การปฏิเสธ แผนที่ผมเตรียมจะง้อ . .มันก็เลยล้มเหลวไม่เป็นท่า แล้วกลับเป็นมันเองที่ย้อนกลับ คำถามเดิมๆ มาที่ผม ซึ่งผมก็ตอบไปตามความจริง ส่วนตอนนี้ เจกำลังคิดอะไรอยู่นั้น ผมไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ ก่อนจะวางสายผมก็ แอบหยอดมุขไปบ้างกะให้มันแสดงทีท่าเขินๆ  แต่มันกลับไปเขินแถมยัง กวนตีน ผมกับมาด้วย ถึงแม้ มันจะไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะเขินออกมาแต่การที่มันกวนตีนผมกลับมาบ้างนั้นก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นไปเยอะเลย ^ ^


.  . . . . . . 

ผมมาถึงม.เกือบๆ เที่ยง ผมเดินตรงไปที่โรงอาหารคณะวิศวะ ระหว่างทางผมเอาแต่คิดถึง มัน. .จนไม่เป็นอันจะทำอะไร มันจะกินข้าวรึยัง มันกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนกับใคร นะ มันกำลัง. . .โป้ก.  .ผมกำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวแต่อยู่ๆ ก็มีฝ่ามือของใครก็ไม่รู้ลอยเข้ามาหยุดอยู๋ที่หัวผมอย่างจัง.. . . หันไปถึงได้รู้ครับ ว่าเป็นไอ้วิน . . ว่าแต่ไหง ตอนนี้มันมาคนเดียวละ เจไปไหน.  .
ผมชวนมันนั่งข้างๆ แล้วก็ถามเกี่ยวกับเจต่างๆนาๆ แล้วก็ได้ข้อสรุปมาว่า ไอวิน ไม่รู้เรื่องอะไรเลยครับ มันบอกว่าเมื่อวานมันไม่ได้ติดต่อไอเจ เลย เพราะมันคิดว่าเจอยู่กับผม เลยไม่ได้คุยกัน.  . . . ถ้าไม่ใช่ไอวินงั้นก็ต้องเป็น.. . ผมกดโทรศัพท์ไปหาพี่ริว พอพี่ริว รับสายผมก็รัวคำถามใส่พี่แกแบบที่พึ่งพูดกับไอวินไปเมื่อครู่. .  แล้วคำตอบที่ได้มาก็ทำเอาผมคิดหนักไปมากกว่าเดิมอีก . .  เพราะคำตอบที่ได้มาก็ไม่ต่างจากไอวินเลย . .

ระหว่างนั้นไอวินก็เดินไปหาของกิน ส่วนผมก็ได้แต่นั่งเครียดกุมขมับ อยู่ๆ หูผม ก็แอบได้ยิน เสียงโต๊ะข้าง คุย อะไรกันเสียงดัง. .

“นี้แกรู้ข่าวเรื่องที่ มีเด็กในม. เรา โดนรถชนแล้วรึยัง. แถวๆหอข้างม.เรานี้เอง.”

“เออก็พอรู้นะแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร. . แกรู้จักพี่เขาหรอ. .”

“ถามว่าร็จักมั้ยก็ไม่เชิงรู้จักหรอกแค่เคยเห็นหน้า. .”

“ที่ไหนเมื่อไหร่อะไรยังไง ?”

“ก็พี่คนที่น่าตาเขาน่ารักๆ อ่ะแก ที่ แบบ ชอบโดนผู้ชายหลายๆ คณะแซวบ่อยๆ อ่ะ” อยู่ๆ ทำให้ผมนึกถึงเจขึ้นมา

“แซวๆหลอ อืมก็คุ้นๆนะ แต่ฉันยังมโนไม่ออกอะไหนแกลองอธิบายเชิงลึกมากกว่านี้สิ. . ”

“ก็พี่ที่ตัวขาวๆ เรืองแสง ไว้ผมปกหน้า แล้วก็. ก็. . .. ก็”

“โอ้ยจะก็อีกนานป่ะค่ะคือรอฟังอยู่อ่ะค่ะ เกร็งจนฉี่จะราดแล้วเนี้ย. .”

“เดี๋ยวสิแกฉันนึกอยู่ เอ่อ.. อ๋อ ฉันจำได้แล้ว ก็คนที่เคยมีข่าวกับพี่กายช่วงนั้นไง แกพอจำได้ป่ะ”เหงื่อผมเริ่มแตก. .

“อ๋อ ถ้าเกี่ยวพันธ์ กับพี่กายของฉันหรอ มีอยู่คนนึง  แปป ฉันเคยแค็บรูปไว้อยู๋ ใช่ คนนี้ป่ะแก ฉันไม่แน่ใจ”

“ไหน เออใช่ๆ คนนี้แหละ แต่ ฉันนึกชื่อพี่เขาไม่ออกวะแก. .  ”

“ เจเจ !”

“เออใช่ พี่เจเจ อยู่คณะมุษย์ศาสตร์ปีสองไง มันติดอยู่ริมฝีปาก อ่ะ  ”

“แล้วทำไมแกถึงรู้ลึกยันชื่อจริงเขาขนาดนั้นหล่ะ”

“แหม่ข่าวสารหัดติดตามบ้างสิค่ะ พี่เขาเป็น Cute Boy ของ ม.เราไง ได้ข่าวว่าติดทอปไฟท์ ด้วยนะ เพื่อนๆ เก้งกวางของฉันนี้ ตาม จีบกันให้ควับ แต่ได้ข่าววงในมาว่าแกมีเจ้าของแล้ว .  เลยไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยอีกเลยอะแก” จบคำบอกเล่าของน้องผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะ ถัดจากผมไปสอง โต๊ะ. .ผมก็รีบลุกขึ้น ทันที ผมรีบเก็บกระเป๋า พร้อมกับมือถือของตัวเองที่วาง อยู่บนโต๊ะก่อนจะรีบเดินออกมาจากบริเวณนั้น แต่ ไอวิน ดันเรียก ผมไว้ก่อน

“เห้ยไอกายไปไหน. .” วินมันทำหน้างง ปน สงสัยหันมาถามผม

“กูจะไปหาไอเจ. . ”

“จะไปหามันทำไม”

“นี้มึงไม่รู้หรอว่าเจมัน. . ”

“โดนรถเฉี่ยว  ถ้าเป็นเรื่องนี้กูรู้แล้ว”

“แล้วไหงมึงถึงใจเย็นจังวะ มันก็เพื่อนมึงไม่ใช่หรอ?” ผมรู้สึกไม่เข้าใจไอวินมาก ที่มันยังนั่งนิ่ง ใจเย็นเหมือนทองไม่รู้ร้อนไปได้.
 
“เออกูรู้แต่ ไอเจมันไม่เป็นอะไรมากหรอก. . เมื่อกี้กูเจอคนที่ช่วยมันไว้แล้ว มันบอกว่า ไอเจนอน พักอยู่ที่คอนโดมัน ไอเจสบายดี ทุกอย่างยังครบ 32 อีกอย่างตอนนี้มันกินยานอนไปแล้ว ไปตอนนี้ ก็รบกวนมันเปล่าๆ”จบคำพูดของไอวินทำให้บางสิ่งบางอย่างที่หน่วงๆ อยู่ในอกของผมก็ค่อยๆ เบาบางลง

“แต่กูอยาก. .”

“เออน่าก็เข้าใจว่ามึงอยากไปหามัน แต่ตอนนี้ เรามี เรียนที่สำคัญเหมือนกันนะเว้ยอาจารย์วิชานี้แม้งยิ่งเคร่งๆ อยู่ด้วย ถ้าไม่อยากติด F ก็ไปกับกู”

“แต่..”

“ไม่ต้องแต่ อะไรทั้งนั้นแหละ เลิกเรียนเสร็จแล้วค่อยโทรไปหามันก็ได้ห่า ป่ะๆ”

“เดี๋ยวๆ ไอวิน แล้วไอเพื่อนคนที่ช่วย ไอเจนี้คือใครวะ. .  ” ไอวินมันทำหน้าครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนจะตอบผมมา

“อืม. . .กูก็ไม่แน่ใจวะ แต่มันเรียนอยู่วิศวะนี้ละ  น่าจะเอกคอมมั้งดูจากช็อปแล้ว ”

“เอองั้น เรียนเสร็จมึงพากูไปหามันทีนะ. . กูอยากขอบใจมันหน่อย .. ”

“ได้ๆ เดี๋ยวกูพาไป”

. . . . . . .  ระหว่างที่เรียนในช่วงภาคบ่ายผมแทบไม่มีกระจิตกระใจที่จะนั่งเรียนเลย ในหัวผมเอาแต่คิดถึง ไอเจ. . ผมอยากรู้ว่าตอนนี้สภาพมันเป็นยังไงบ้าง. .คนที่ช่วยเหลือ มันจะดูและมันดีเหมือนที่ผมเคยดูแลย รึเปล่า . . ตอนนี้มันอาจจะตื่นแล้ว ทำอะไรอยู่ มีใครเช็ดตัวให้มันรึยังผมเป็นห่วงๆ มันไปหมด.  . จนไม่อันจะทำอะไรแล้ว. .

. .  . . .
พอจบคลาสเรียนผมรู้สึกกดีใจเหมือนยกอภูเขาออกจากอกมันเหมือนการ ที่เรากำลังตั้งใจจำทำไรสักอย่าง แล้วสิ่งๆ นั้นก็สำเร็จในที่สุด . . ในวันนี้สิ่งที่ผมคิดอย่างเดียวในหัวก็คือ อยากไป หา มัน อยากเจอ หน้า มัน อยากรู้ว่าตอนนี้ มันเป็นยังไงบ้าง. . ถึงไอวิน จะคอยบอกผมอยู่หลายครั้งว่าเจ มันไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ผมเองก็ยังอดเป็นห่วงมันไม่ได้อยู่ดี. . ผมกับวินเราแยกกันที่หน้าตึกเพราะมันเองพึ่งนึกออกว่า จะต้องไปรับ เพื่อน คนสำคัญของมัน ซึ่งผมเองก็งง ว่าเพื่อน คนสำคัญที่มัน ว่า จะคือ เพื่อน หรือ เด็ก ของมันกันแน่ . . แต่ผมเองก็ไม่ได้เอ่ยปากด่าอะไรมันไปหรอก ครับ ยิ่งเห็นมันกระติอรือร้นแบบนั้นด้วยก็คงยากที่จะพูดบอกให้มันอยู่ต่อ เลยปล่อยเลยตามเลย. . ผมเดินกลับมาที่รถของตัวเองที่จอดไม่ใกล้ไม่ไกลจากตึกมากนัก . . .
ระหว่างทางที่ผมขับรถออก มาจาก หน้า ตึกออกจากม.ไปได้พักนึง ก็มีมอเตอร์ไซด์ ที่ไหนไม่รู้อยู่ๆ ก็โผล่มาผมเลยต้องหักเลี้ยวหลบ จนเกือบจะชนกับรถคันที่ชับสวนมาข้างๆ . .. และแน่นอน ครับว่าคนอย่างผมคงจะไม่อยู่นิ่ง ผมเปิดประตูลงจากรถ ออกมาดูสภาพ รถของตัวเองและ คู่กรณี  มันกำลังยืนถอดหมวกกันน็อคและหันมาจ้องหน้าผมตาเขม้ง . .   และเหมือนกับว่าการเจรจาระหว่างผมกับมันเหมือนจะไม่รู้เรื่อง เลยต่างคนต่าง ใช้หมัดพูดคุยกัน มันได้ผมไปสองหมัด ส่วน ผมได้ไปแค่หมัดเดียวเพราะไอวิน มันวิ่งมาห้ามไวซะก่อน. .


“มึงจะเอายังไง วะสัด ขับรถออก มาไม่ดูตาม้าตาเรือ แล้ว ยัง เสือกจะ มากวนส้นตีนกูอีก เหี้ยเอ๊ย.  .” ไอวินยังคงรั้งตัวผมไว้ ที่พร้อมจะพุ้งเข้าไปหาไอห่านั้นได้ทุกเมื่อ 

“มึงขับมาผิดเลนเองมาโบ้ย กูได้ไงวะสัด กูไม่ต่อยแม้งให้คว้ำก็บุญหัวแม้งละ สัดเอ้ย. .”

“พอๆ ไอสัด พวกมึง ก็ผิดแม้งทั้งคู่แหละ กายมึงเองก็ผิดขับออกมาเสือกไม่ดูเลน มึงก็ผิดที่ ขับมาแต่ไม่ดูสัญญาญไฟให้ดีก่อน”

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ให้กูกราบขอโทษมันรึไง ไอเหี้ยวิน มึงบอกกูดิ่. . ” ตอนนี้ในหัวผมเดือดไปหมดไม่พร้อมจะรับฟังเหตุผลอะไรจากคนรอบข้างแล้วครับ

“โอ้ยกูก็”ไม่รู้หรอกนะ ว่าใครผิดไม่ผิด . . แต่ตอนนี้มึงสอง คนควรจะเลิกจ้องหน้ากัน แล้วหลบรถให้คนที่พวกเขาอยู่ข้างหลัง
พวกมึงบ้างสิวะ. . ” ผมกับไอเหี้ยตรงหน้า หันกลับไปมอง สายตานับร้อยคู่ที่กำลังบีบแตรล่พวกผม กันอย่างพร้อมเพียง.. . .
 
“กูจะถือว่าครั้งนี้ โชคช่วยมึงละกันไอสัด อย่ามาให้กูเห็นนะอีกนะมึง. . ”

.”คิดว่ากูกลัวมึงรึไงไอสัด อยากได้ก็เข้ามาดิ่วะ” เหมือนเลือดนักเลงในตัว ผมกำลังพุ่งพล่าน ผมแทบจะกระโดด ไปต่อย มันได้ อีกรอบ ถ้าไม่ติดที่ว่า เสียงสัญญาณ ไซเลน กำลังดังไกลๆ มาจากมุมไหนซักมุมของถนน ผมกับมันเลย ยอม  ขับรถหลบเพื่อให้คนที่กำลังรอรถอยู่ข้างหลัง ได้ขับออกไปซะที. . .


.  .  . .


ก่อนจะขับออกมาไอวินก็ยังบอกผมว่าให้สงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ เพราะตอนนี้ ผมกำลัง จะไปพบ กับเจ ที่ร้าน กาแฟ ข้างม. ก่อนจะแวะร้านเข้าร้าน กาแฟ ผมก็ จอด ที่ปั้มข้างๆ เดินเข้าไปซื้อยาทานิดหน่อยๆ ก่อนจะกลับขึ้นรถ และ ตรงไปที่ร้านกาแฟ. .
ถ้าเจมันเห็นผมในสภาพนี้มันคงจะตกใจไม่ใช่น้อย ผมเลย ใช้เวลา เตรียมตัวอยู่ในรถก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอ ในร้าน ที่ๆนัดเจอกับมันไว้. เกือบชั่วโมง.  ผมอาจจะลืมบอกไปว่าในร้านไม่มีใครรู้จักผมในฐานะหลานชายของเจ้าของร้านเลยแม้แต่คนเดียว . . .
ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อ เพื่อโทรหา เจ  แต่ขณะที่กำลังจะกดก็มีเสียงกล่าวคำทักทายที่ผมรู้สึกคุ้นหูดี. .ดังมาจากด้านหลัง


“ไงมึง”สีหน้าของมันดูซีดๆ ไป จนผม ชักเป็นห่วงเลยแสดงสีหน้า ที่ไม่ค่อยต่างจากมัน เลย

“ทำไมมาถึงเร็วละ  นี้ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะ ” เจไม่ได้ตอบคำถามผมแต่ดันตั้งคำถามขึ้นมาถามผมแทน

“ว่าแต่กูมึงเหอะมานานรึยัง รอนานรึเปล่า ” สำหรับ มัน นานแค่ไหนผมก็รอได้

“เปล่าพึ่งมาเหมือนกัน  อะไรมารึยัง อยากกินอะไรรึเปล่าสั่งได้เลยนะ  พี่ครับ !”ผมกำลังยกมือจะขอเมนูพนักงานในร้าน แต่ เจ มันก็ดันพูดดักหน้า ผมไว้ซะก่อน

“กูไม่ค่อยหิว ไม่เป็นไร ว่าแต่มึงเถอะเรื่อง สำคัญที่ว่า จะคุยกับกู . .. คือเรื่องอะไร” ใจจริงคำถามแรกที่ผมอยากจะถามมันคือ เป็นอะไรมากมั้ย เจ็บจรงไหน บ้างรึเปล่า แต่ไม่มีรู้เพราอะไร ผมถึงเลือก คำถาม ที่ไม่ได้อยู่ในหัวผมเลยแม่แต่น้อย. .

“เจ กูขถามอะไรตรงๆเลยนะ เมื่อวาน มึงได้รอกูรึเปล่า ?” ทั้งที่ผมเองก็พอจะเดา ทางออกว่าเจมันคงจะไม่รอผมอยู่แล้ว แต่คำตอบที่ผมได้ยิน ทำเอาผมหน้าแทบถอดสี

“อืม” เพียงคำเดียวเป็นเหมือน กระสุนนับร้อยๆ นัดที่สาดมา เข้าที่ตัวผมเต็มๆ  ผมรู้สึกจุกๆ อยู่ที่อก นี้เจ มัน รอผมอย่างนั้นหรอ ?

“นานมั้ย ” ผมถามไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ อย่างกลัวคำตอบ

“3-4 ชั่วโมง”ผมแทบสำลักน้ำเปล่าที่ตัวเองพึ่งกลืนลงไป แต่ที่แย่ไปกว่านั้น คือสีหน้าของเจ มันดู หม่นหม่องลงไป เหมือนมันพยายาม ปิดบังอะไรผมอยู่ . .
 
“แล้วตอนที่มึงโทรหากู มึงได้คุยกับแยมมั้ย”ผมถามโดยที่ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่า เจคงจะเข้าใจ . .ว่าผมกับแยมเราไม่ได้เป็นอะไรกัน

“อืม ได้คุย แล้วยังไง อยากจะอวดเสียงเมียกับลูกมึงมากรึไง ?”ผมรู้สึกงงๆกับคำพูดของ เจมันเมื่อครู่จากที่คิดว่ามันจะเข้าใจแต่ไหง กับเป็นแบบนี้ไปได้. . ผมเลิกสนใจแก้วน้ำเปล่าที่ว่างอยู่ตรงหน้าและหันมาให้ความสนใจกับ เจแทน . .

“เมียใครเมียกู?”

“อย่าแกล้งโง่เลยกาย ก็คนที่กูคุยด้วย ตอนที่โทรไปหามึงนั้นไง ?” เรื่องตอนนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว สายตาที่ดูหม่นๆ ตอนนี้ กลับแทนที่ด้วยน้ำใสๆ ที่ตามัน แทบจะเอ่อล้นออกมา จนผมเองต้องรีบอธิบายความจริงให้มันเข้าใจ. .

  “เดี๋ยวๆ นะเจ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วกูกับ แยม เรา สองคนเป็นแค่เพื่อน กัน”

“เพื่อนห่าอะไรมีลูกด้วยกัน แบบไหนที่เขาเรียกว่าเพื่อนกันวะ!!” เจมันจะกลั้นอารมณ์ของมันไว้ไม่อยู่ น้ำตาเลยเอ่อออกมาจากดวงตาของมันทั้งสองข้าง. . ผู้คนในร้าน หันมามองที่โต๊ะ ผมกับเจ อย่างพร้อมเพียง ผมรู้สึกไม่เข้าใจทั้งๆ ที่ผมเองก็พยายามอธิบายให้เจมันฟังแต่ดูเหมือนมันเอง จะเชื่อ ความคิดของตัวเอง มากกว่าจนผมเองเริ่มรู้สึกหงุดหงิด. . และถ้าหากผมใส่อารมณ์ไปแน่นอน เรื่องราวมันต้องบานปลายไปมากกว่านี้แน่ . . . ถ้าตอนนี้ เจ กำลัง ร้อน ผมเองก็ต้องเย็นเข้าสู้ ขืนร้อนๆ กับร้อนเจอ กัน เรื่องได้แย่มากไปกว่านี้แน่ ผม พยายามกดค้นหารูป ของแยมกับแฟนแยม ก่อนจะยกมือถือขึ้นให้เจดู เพื่อให้มันเข้าใจผมซักที และเหมือนคำตอบของผมเองก็คงจะชัดเจน จนเจ ชะงักไป เจดูเงียบ เหมือนกำลังคิดอคำตอบอะไรให้ผมอยู่.  . แต่คำตอบที่เจให้ผมมานั้นกลับไม่ใช่คำพูด แต่เป็นรอยน้ำตาแทน ผมชะงักไปไม่ต่างจากเจ ที่เห็นมันร้องไหออกมา

“กาย” มันเรียกชื่อผม ทั้งๆ ที่ไม่กล้าสบตากับผม

“หืม”ผมเป็นฝ่ายยอมแพ้ให้กับสงครามในครั้งนี้ แม้ว่าผม จะเป็น คนถูกหรือคนผิดแต่ในเวลา นี้ ผมก็ พร้อมจะน้อมรับโทษๆทุกๆ อย่างที่ตัวเองกำลังจะได้รับ

“กูขอโทษ. . . ”คำพูดของเจ ทำเอา ผมใจแทบล่วงไปตามมัน ผมไม่ได้ต้องการคำขอโทษจากมัน ผมแค่ต้องการ อธิบายความจริงให้มันฟังก็เท่านั้น 

“ขอโทษ ทำไม บอกแล้ว ว่าไม่ได้โกรธ . .” ผมไม่รู้ว่าจะปลอบให้เจมันหายงองแงได้ยังไง เลยเลือกวิธีที่ผมทำบ่อยตอนมันโกรธผมมากที่สุดนั้นก็คือการเข้าไปนั่งๆ ข้าง พูดคุย กันด้วยเหตุผลและพลางรูปหัวมันเบาๆ

“กูขอโทษนะกาย ที่ด่วนสรุปคิดไปเอง ขอโทษ นะที่กูไม่ยอมฟังเหตุผลมึงก่อน กู ขอโทษ นะกาย ที่กู ไม่ไว้ใจมึง. กูขอโทษ ขอโทษ ขอ. ...”

“ไม่เป็นไรเจ. .กูยกโทษให้ กู รู้ดีว่าความรู้สึกของมึงตอนนั้นมันเป็นยังไง . . มันคงเหมือนการที่เราถูกคนที่เรารักหักหลัง ถ้าถามว่าทำไม กูถึงรู้ เพราะกู เคยผ่านมันมาแล้วไง มึงยังจำตอนที่กูกับพี่ริวกลับมาคุยใหม่ๆได้มั้ย.. ถ้าไม่ใช่เพราะมึงที่คอยช่วยในวันนั้น กูก็คงจะเข้าใจผิดๆไปอีกนาน และถ้าไม่ใช่เพราะมึง กูกับพี่ริวเราก็คงไม่ได้กลับมาเป็นพี่น้องกันอย่างทุกวันนี้หรอก.  เพราะชะนั้นเลิกร้อง ไหเถอะ.  .กูไม่ชอบที่เห็นน้ำตาของมึงเลยเจ  มึงรู้ตัวมั้ย ตอนมึง ร้องไหนี้โคตร อุบาตส์ เลย เหมือนพวกลิง ชิมแปนซี เวลามันอ้าปากอ่ะ มึงว่าป่ะ. ฮ่าๆ ” ผมลองย้อนนึกไปหากเรื่อง แบบ นี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมว่าคงยากที่จะเข้าใจ. . และผมคิดว่าความผิดในครั้งนี้คงเป็นหมือนความผิดที่บริสุทธิ เพราะ ต่อให้ เรื่องราวจะแย่ซักแค่ไหนแต่ถ้าตอนท้าย เราคุยกันด้วยเหตุผล ข้อกล่าวหา หรือข้อสงสัยข้างต้นก็ไรมลทิน. .


ตลอดเวลาที่ เริ่มคบกับมัน มาผมรู้สึกได้ถึง ตัว ผมเอง ที่เปลี่ยนไป . . จากผมที่ ไม่ค่อยจะกล้า เผชิญ เข้ากับสังคม หรือผู้ใหญ่ผมก็มีความกล้ามาขึ้น ผมรู้สึกกล้า แสดงความรู้สึก กล้า หัวเราะ กล้าแสดง ออก ตั้งแต่ มี มันเข้ามาในชีวิต ความเปล่าเปลี่ยวที่ผมเคยมี มันก็ค่อยๆ หาย ไป . .  ตั้งแต่มีมัน ผมรู้สึกว่าตัวเอง ยิ้มเยอะ ขึ้น. .  ตั้งแต่มีมันผมรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองมีสีสันขึ้น . . .และถ้าหากวันนี้ ผมไม่มีมัน . . อยู่ข้างๆ แบบ นี้ ผมไม่รู้เลย ว่าจะได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของตัวเองแบบนี้อีก เมื่อไหร่

ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างกันนะ ไอลิงดื้อ. . . .#กาย   :m16:

 :m20:






TBC. . . .. . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special〗〖Episode :〗〖17-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-10-2016 10:50:29
หลังจากที่ตรวจสอบอะไรนิดหน่อยๆ แล้ว คิมเองก็พบว่ามีคำบางคำ หลายๆ จุด ที่ ยันเขียน ผิดพลาด . . ต้องขออภัยด้วยนะครับ ไว้มีเวลา ผมจะรีบกลับมาแก้ไขให้เลยนะครับ

 :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special〗〖Episode :〗〖17-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 18-10-2016 22:24:44
รูมเมทเจ จะชอบหนูเจรึป่าวน๊า
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special〗〖Episode :〗〖17-10-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 20-10-2016 14:01:21
ติดตามๆ จ้า !  :bye2:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :26〗〖05-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-11-2016 19:34:54

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter: 26 :  Don’t Worry

หลังจากที่พึ่งจะผ่านมหกรรมความเศร้าไป กายมันก็เดินออกมาส่งผมที่นอกร้านแถมยังบอก ให้ผมไปนอนที่คอนโดกับมันด้วย ไอจริงๆ ผมเองก็ไม่ได้เล่นตัวอะไรหรอกนะ เพียงแต่ กลัวว่ากลายมันจะจับได้ว่าตอนนี้ร่าง กายของผม ยังไม่โอเค  ขืนมันรู้รับรองได้ นอน บ่น นั่งบ่น ตีลังกาบ่นผมถึงเช้าแน่ๆ . ผมก็เลยต้องหาข้ออ้างปฏิเสธแบบงามๆ ไป นั้นคือการ บอกว่า พี่อิน เรียกผมไปคุยธุระด่วนที่บ้าน ซึ่ง แผนการก็ใช้ได้ผลดีครับ กายมันยอมให้ผมกลับไปที่ร้านแต่มีข้อแม้คือ มันต้องไปส่งไม่ให้ผมกลับเองไม่รู้มันเกิดระแวงอะไรขึ้นมา พอมาถึง ร้าน ผมกำลังปลดเข็มขัดแหนะๆ คิดอะไรกัน ผมหมายถึงเข็มขัดนิรภัยต่างหาก. . ผมกำลังจะก้าวขาตัวเองออกจากรถของมันแต่กลับถูกดึงให้หันไป   . . คิสเบาๆ  เป็นค่ามาส่งผมกลับบ้าน. . แหม่ ค่ามาส่งคราวนี้มันแพงไปมั้ย. . . แต่ต่อให้แพงแค่ไหน ผมคนนี้ก็พร้อมจ่ายละ ครับเอิ้กๆ และจังหว่ะที่ผมกำลังจะก้าวขาลงจากรถอีกครั้งไอกายมันก็ดึงแขนผมไว้อีกครั้งแต่คราว เหมือนมันจะดึง แขนของผมแรงจนเกินไปจนผมเผลอ ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด. . เพราะรอยอุบัติเหตุเมื่อคืน. . เลยทำให้ผมเผลอร้องเสียงหลงขนาดนั้น . .  กายมัน มันมองสแกนตัวและพยามมองหาสิ่งผิดปกติ  ผมก็ได้แต่หันไปมอง ด้านนอกกลบเกลื่อนจนกายมันต้อง ดึงแก้มของผมให้กลับมา มอง ที่หน้ามันดังเดิม

“เจ. .”

“หื้อ !”มันใช้มือบีบปากผมเป็นรูปตัวโอ.  ก่อนจะเค้นหาความจริง. .   (รู้สึกตลกหน้าตัวเอง ฮ่าๆ)

“ไปทำอะไรมา บอกมา... . ”

“อำอะไอไอ้เอ้นอ่ะอุ๋เอื้องเอย”

“พูดว่าอะไรฟังไม่รู้เรื่อง”ก็มึงเล่นบีบ ปากกูขนาดนี้กูคงจะพูดชัดหรอกไอควาย. . ผมเลยใช้มืออีกข้างนึงบีบปากของมันมั้ง. . คราวนี้ผมแอบได้ยินเสียงไอกายมันร้องออกมาเหมือนกัน ยิ่งถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นถึงสิ่งที่ผิดปกติไปนั้นก็คือปากด้านซ้าย ของมันมีรอยทะลอก เหมือนมันไปมีเรื่องกับใครมา ผมพลิกบทบาทจากผู้ต้องสงสัย มาเป็นผู้สอยสวนแทน ผมใช้มืออีกข้างนึงปัดมือมันออก และเป็นฝ่าย สืบสวนมันแทน

“พูดมา. . ไม่งั้นอย่าหวังว่ากูจะปล่อย”

“อื้อ !” กายมันยังทำปากจู๋แถมยังแอบสายหัวเหมือนไม่กลัวผมเลยแม้แต่น้อย แต่แม้ง. . โคตรน่ารักเลยวะ แม้ง เอ้ย ผมเองอยากจะถ่ายเก็บไว้ถ้าไม่ติดว่าต้องเค้นความจริงจากมันก่อนผมคงทำไปแล้ว

“จะบอกดีๆ รึบอกด้วยน้ำตากาย”ผมจ้องหน้ามันเขม้ง แต่ไม่ได้กะจะใช้กำลังกับมันหรอกนะครับ. . ผมเองเป็นคนนึงๆที่เกลียดการใช้กำลังในการแก้ปัญหามากครับ. . และก็เกินคาดครับ กายมันยอมพยักหน้าหงึกๆ เหมือนเป็นอันตกลงว่าจะยอมบอก ผมเลยค่อยๆ ปล่อยมืออกจากปากของมัน.  แต่มันก็ยังไม่วาย แลบลิ้นล้อเรียนใส่ผมอีกไอนี้ จะบอก ยังจะเสือกลีลาอีก. .

“มึงไปมีเรื่องกับใครมาใช่ไหม. . .”กายนิ่งไปเหมือนมันกำลังคิดคำตอบ.

“เปล่า”

“แล้วไปโดนอะไรมา. .”ผมยังถามคะยั้นคะยอรอ ฟังคำตอบ

.”กู. . .เดินชนประตู. .” ตึกโป๊ะ . . เดินชนประตู ควายไปมั้ยครับ ผมแทบจะระเบิดเสียงขำออกมา ถ้าไม่ติดที่ว่า มันดันมองค้อนผมอยู่ผมก็คงจะขำออก. . .

“แล้วมึงละ . . แขนไปโดนอะไรมา”อ้าวแล้วไหงๆ ไปๆ มา ผมถึงกลับมาเป็นผู้ถูกสอบสวนอีกละเนี้ย กรรมของเวร
.”ก็ล้มนิดหน่อย. . ”แต่ไม่ได้บอกว่าล้มเพราะสาเหตุอะไร. . ขืนบอกไปมันได้ช็อคแน่ๆ

“แน่ใจ. . ”กายมันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อผม แต่ก็ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“ก็ ..เออ ดิ่ กูจะโกหกมึงทำไม เล่าวุ๊  อ้าวนั้นพี่อินมาพอดี เลย พี่อิน หวัดดีฮ้ะ”ตามแผนครับ ผมอาศัยช่วงที่ไอกายมันหันหลังกลับไปมอง รีบวิ่งออกจากรถ แล้วเดินตรงไปที่หน้าร้านเลยทันที. . ไอกายเองก็คงงงไม่ใช่น้อยครับ. .ดูจากหน้าเหวอๆ ที่มองผมผ่านกระจกรถ. .คันงาม

“คิดจะหนีรึไง มานี้เลยนะ . . ” กายมันเปิดประตูเดินมาเหมือนจะเอาเรื่อง ผม แต่เสียใจครับ พี่ไวกว่าครับน้อง ผมรีบวิ่งเข้าร้านโดยมีไอกายวิ่งตามเข้ามา กอดล็อค คอผมแน่น พร้อมกับเดินตบ หัวผมไประหว่างทาง. .

“จะยอมบอกดีๆ รึยังห้ะ” และแน่นอนผมตอบว่าไม่

“ไม่บอกเว้ย ยังไงก็ไม่บอก พี่อิน พี่อินช่วยเจ ด้วยไอกายมันแกล้ง เจ. .”ทันใดนั้นนางมารหน้าเขียวก็ปรากฏกายออกมาให้เห็นครับ.หวื้ยย ตกใจหมด.  นี้ถ้าไม่ติดว่าไอกายมันล็อคคอผมอยู่นะป่านนี้วิ่งทะลุกำแพงเหมือนทอมแอนเจอรรี่ไปแล้วหึหึ

“ตายๆ สองหนุ่มเล่นอะไรกันเป็นเด็กๆ ไปได้ แล้วน้องกายมาทำอะไรดึกดื่นๆ จ้ะ แหนะๆคิดถึงพี่ละสิแหม่แต่พี่มีแฟนแล้วนี้สิ ต้องขอโทษทีนะ. . แต่ไมเป็นไรพี่จะยอมให้น้องกายมาเป็นกิ๊กของพี่ก็ได้สักสองสามวันๆ ”

“แอ๊ะแอ่ม”ไม่ใช่เสียงใครหรอกครับเสียงผมเอง แหม่ๆ คิดจะแทะโลมเด็กผม คงอีกไกลครับพี่อิน และดูเหมือนไอกายมันก็คงรู้ว่า ผมกระแอ่มเสียงทำไม . . ผมยังแอบได้ยินเสียงมันหัวเราะๆ หึๆอยู่ในคอเหมือนที่มันชอบทำบ่อยๆ

“โอ้ยกายปล่อยก่อนกูหายใจไม่ออก” กลายมันยอมปล่อยผมโดยว่างายครับ ทั้งๆที่ตอนแรกนี้แทบจะร้องขอชีวิต แต่พออยู่ต่อหน้าพี่อินแม้งก็แสร้งทำตัวเป็นคน ดี ตอแหล ชิบหาย . . เอ๊ะๆ พูดไปพูดมาเหมือนเข้าตัวเองยังไม่รู้แหะ ฮ่าๆ

“สวัสดีครับพี่ อิน  พอดีผมไปเจอมันอยู่ข้างทางหน่ะครับ เลยเก็บ มาส่ง แล้วนี้ ทำไมสภาพร้านถึงเป็นแบบนี้ละครับ. . พายุเข้าหรอ . . ”

“อ๋อเปล่าหรอกจ้ะ พอดีพี่จะต่อเติมร้านอะไรนิดๆ หน่อยๆ เลยดูรกๆ แต่ก็ใกล้เสร็จแล้วแหละจ้ะ อีกไม่เกินสอง อาทิตย์ ร้านก็เปิดตามปกติแล้ว. .”

“แล้วนี้น้องเจ กลับมาทำไม กันหล่ะ ยังหาที่พักไม่ได้อีกหรอ. . ” พี่อินค่อยเดินลงจากบรรใดมาจับมือผมกับไอกายให้เดินตามเข้าห้องครัวไปนั่งคุยกัน. .

“หาได้แล้วครับ แต่ว่าจะมาเก็บกระเป๋าพอดีเมื่อวาน เจ ลืมเอาไปด้วย วันนี้ก็เลยกลับมาเอา”

“อ่อ แล้วนี้ค่าห้องพอดีมั้ยขาดเหลืออะไรรึเปล่า ”

“ก็พอดีครับ แต่ยังไม่ได้จ่ายเลย เพราะ ATM ก็อยู่ในกระเป๋าเสื่อผ้าเจเหมือนกันแฮ่ๆ”

“เออ ใช่จะว่าไปทำไมถึงไม่ไปอยู่กับน้องกายละ สบายกว่ากันตั้งเยอะ แถมยังมีคนคอยไปรับไปส่งอีกด้วย ไม่ชอบรึไง” เหมือนพี่อินจะหันไปสบตาและส่งยิ้มให้ไอกายมันก็ยิ้มตอบแต่ก็ไม่วายส่งสายตามองค้อนมาที่ผม .  . . เหมือนกำลัง จะถามผมว่า มึงไปนอนกับใคร อะไรประมาณนี้ แฮ่ๆ อย่าพึ่งสอบสวนกูตอนนี้ เลยนะไอคุณชาย. . พลีสสส

“กายมันนอนดิ้น กลนเสียงดัง แถมน้ำท่ายังไม่ค่อยอาบอีก เจเลย ไม่อยากไปอยู่กับมัน ฮ่าๆ ” ทันทีที่ผมพูดจบไอกายหันมายิ้มให้ผมแบบ เหมือนกัดฟันยิ้ม และยังยื่นมือมาบีบที่ไหล่ของผมอย่างเบามือ (ที่ไหนกันเล่า)

“อ่ะ นี้ก็ดึกมากแล้ว ขึ้นไปอาบน้ำนอนกันได้แล้วไป เดินทางตอน กลางคืนมันอันตราย ส่วนน้องกาย ถ้าไม่รังเกลียดคืนนี้ ก็นอนกับน้องเจ ได้เลยนะพี่อนุญาต. .”

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :26〗〖05-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-11-2016 19:43:46
“ไม่รังเกลียดเลยครับ ขอบคุณมากครับพี่อิน” มันแสะยิ้มมุมปากใส่ผม เหมือนสะใจ - - *

“แต่พี่อินเจ. .” รายนี้ก็เหมือนกันครับ ส่งสายตาอัมหิตมองมาที่ผมจนผมเองต้องหลบสายตา เฮ้อ ! สุดท้าย คืนนี้ ผมเลย ต้องนอน กับไอคุณชายอย่าง หาข้ออ้างที่จะเลี่ยง มิได้. .

. . . .  กว่าจะผลัดกันอาบน้ำเสร็จก็ใช้เวลา ไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมงผม รีบปูผ้าจัดเตียงใหม่โดยมีหมอนค้างกั้นกลางจริงๆ ไม่ใช่ว่าผมรังเกลียดอะไรกายมันหรอกครับเพียงแต่ไม่อยากให้แขนของตัวเองไปถูกตัวมันมากนัก เพราะกลัวตัวเองจะเจ็บจนร้องออกมา ไม่อยากให้มันคิดมาด้วย ต้องจำใจทำไป ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยอยากจะทำ. . . เห้อช่วยเข้าใจกูทีนะกาย. . .
ผมขึ้นมานอนก่อน ส่วนไอกายยังคงสำอางยืนส่องกระจกอยู่ในห้องน้ำ และยังแอบมองผมลอดผ่านกระจก มาขยิบตาให้ผมอีก . . วันไหน มันไม่ได้ทำนี้คงจะนอนไม่หลับแน่ๆ เลยครับ . .  ผมคิดว่างั้นนะ 
แสงไฟในห้องน้ำถูกปิดลง กายล้มตัวนอนๆข้าง ผมโดยมีหมอนข้างกั้นกลางอยู่ ตอนแรกก็คิดว่ามันจะนอน หลับไปเลย แต่เปล่าครับ มันยังคงลืมตา แหกปากร้องเพลงอะไรของมันอยู่คนเดียว. . .

.”ทำไมเธอต้องยิ้ม ทุกทีที่เดินสวนกัน”

“ทำไมเธอต้องหวาน ทุกคำที่เอ่ยวาจา”

“ทำไมเธอต้องซึ้งเวลาที่ฉันมองตา ฉันจะบ้า อยู่แล้ว ”

“เหมือนเธอมีเวทมนต์ทำให้ใจฉันอ่อน รู้มั้ยเธอว่าใครเดือดร้อน”

“ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน”

“อยากบอกเธอสักครั้ง โปรดเถิดนะขอวอน หยุดน่ารักได้มั้ย ใจฉันกำลัง ละ ลาย อู่ อูวว*” มันจะรู้ไหมนะ ว่าผมกำลังแอบยิ้มตามเหมือนคนบ้าอยู่ข้างๆ มัน ผมรีบดึงผ้าห่มมาคลุมโปง โดยที่มันก็ยังแหกปากร้องไม่หยุด. .

“คนหน้าตาอย่างฉัน นั้นมันต้องเจียมหัวใจ”

“เก็บอาการเอาไว้แม้ใจจะสั่น ระรัว”

“อยากจะให้ดอกฟ้าเอนดูหมาวัดสักตัว ก็ไม่กล้าเอ่ย ออกไป”

“เหมือนเธอมีเวทมนต์ทำให้ใจฉันอ่อน รู้มั้ยเธอว่าใครเดือดร้อน”

“ฉันแพ้ทางคนอย่างเธอ มันเอาแต่เพ้อไม่กินไม่นอน”

“อยากบอกเธอสักครั้ง โปรดเถิดนะขอวอน หยุดน่ารักได้มั้ย ใจฉันกำลัง ละ ลาย อู่ อูวว*”   เพลงจบคนไม่จบ. . กายมันยังพยายามขยับตัวแทรกกลางระหว่างหมอนข้างกับตัวของมัน จนในที่สุด มันก็เขยิบเข้ามานอนเอาขาก่ายผมจนได้ครับ เห้อ แล้วผมจะกั้นหมอนข้างเพื่ออะไรกันละเนี้ย. . กายมันพยายาม ดึงผ้าห่มออก ขณะที่ผมพยายามดึงผ้าห่มกลับมาแต่แรงของผมหรือจะสู้แรงมันได้ ต่อให้ผ้าห่มหลุดไปแต่ผมจะไม่ยอมให้มันเห็นอาการเขินอาย ของผม เด็ดขาด มีอย่างที่ไหน มาร้องเพลงหวานๆซึ่งๆ ให้ ฟังก่อนนอนกัน ไอบ้า !

“อื้อ. คืนนี้หนาวจังเลย ไหนขอนอนกอดแฟนให้หายหนาวหน่อย. เร้ว.” จากแค่กายก่ายจากขามันตอนนี้ผมเริ่มเหมือนว่าผมกับมันกำลังรวมร่างกันแล้วครับ กายมันดึงตัวผมให้หันหน้าไปนอน ซบอยู่ที่อกของมันโดยมีมือของกาย ที่ช้อนคอของผมขึ้นไปนอนทับแขนของมันตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ รู้แต่ว่า ผม ฟิน >< ก๊าก ผมเผลอพูดอะไรออกไปเนี้ย

“เอามือปิดหน้าทำไม เขินหรอ หืม” ยังๆไม่เลิกทำเสียงออดอ้อนแบบนั้น อีก มันก็รู้ว่า ผมแพ้ทางมันในโหมดนี้ทุกทีเลย. .

“ตอนนี้หน้ากูอุบาตส์ไม่อยากให้ใครเห็น”ผมพูดตอบมันโดยที่ไม่ได้หันไปสบตากับมัน

“ปกติก็ไม่ได้ดูดีนี้จะปิดเพื่ออะไรหล่ะ. . เอามือออก ไหนๆ ขอดูหน้าหน่อย. .” แล้วสุดท้ายผู้พ้ายแพ้อย่างราบคราบก็คือผมคนนี้นี้เองครับ แพ้ไปด้วยคะแนน 100-0 แพ้ขาดลอยเลยครับพี่น้อง.... พอผมค่อยๆ เอามือออก ก็รู้สึกอุ่นๆ ที่หน้าผากของตัวเองจนต้องหลับตาพริ้ม หลับไปพร้อมกับใจที่สั่น ระรัวว ตลอดทั้งคืน . .   . ..

. . . . . . . .

กรี๊งงงงง!!! ผมตื่นขึ้นมาด้วยเสียงไอหมีบราวเจ้ากรรมตัวเดิม ที่ส่งเสียงร้อง ดังจนหูของผมแทบละเบิดนี้ ถ้าจับค้อนได้ผมคงหยิบมาทำลายให้มันหยุดร้องไปแล้ว. . ไม่นานนักเสียงปลุกจากไอหมีบราว ก็เงียบไป ผม ควานมือ หาบุคคลที่ ส่มสู่ เอ้ย ที่นอนด้วยกัน เมื่อคืน แต่ควานรอบเตียงก็ไม่เห็นมีใครผมเลยลืมจาขึ้นมามอง ก็ต้องพบกับความว่างเปล่าครับ . .ไอคุณชายมันหายหัวไปไหนของมันละเนี้ย. .  จะว่าไป อาการใจสั่นของผม ยังมีกาการแบบเดิมไม่ยอมหยุดเลย . . ตอนนี้มันเลยกลายเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ไปแล้ว เมื่อใดที่ ผม เจอหน้ามัน ในระยะใกล้เคียงอาการ แบบนี้ก็จะเกิดขึ้น แบบอัตโนมัติเลยละครับ ^ ^
. . .. ผมรีบลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะเดินลง มา ก็เห็น ยัยเอิรน์กำลัง นั่ง คุยกับไอคุณชายอยู่ข้างล่างครับ . .ผมเลยแอบยืนส่องสองคนนั้นคุยกันอยู่ที่ราว บรรได.  .

“พี่กายว่า อันนี้สวยมั้ยค่ะ”ยัยเอิรน์ ยื่นกระดาษที่มีรูปอะไรซักอย่างผมมองไม่ค่อยชัดเพราะอยู่ไกลแถมกำลังแอบฟังสองคนนั้นคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่ . .อยู่ด้วย  - -*

“ก็สวยดีครับ แต่พี่ว่าแบบแรกสวยกว่านะ”

“เหรอค่ะแต่เอิร์นว่ามันยัง ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะค่ะ งั้นพี่กายลองดูอันนี้ เอิร์นว่าพี่กายต้องชอบแน่ๆ เลย” ยัยเอิร์นพูดพร้อมกับ หยิบกระดาษอีกใบที่วางอยู่ใต้สมุดยื่นไปที่ไอคุณชาย. .   

“เป็นไงค่ะ”

“อือ สวยอย่างที่น้องเอิร์นบอกจริงๆด้วย งั้นพี่เอาแบบนี้ละกัน เท่าไหร่เหรอ. . ”

“อู้ยเอิร์นไม่คิดเงินหรอกค่ะ เพื่อ พี่กาย แค่นี้สบายมั่กๆ ” เพื่อพี่กายแค่นี้สบายมั่กๆ แหยะๆ ผมเบ้ปากพูดตามยัยเอิร์นทุกคำ ที่กับพี่ของตัวเองละไม่เคยเห็นมี โม้เม้นแบบนี้เลย แต่พอเป็นกับไอกายนะ ออดอ้อน หึ . .. มัน น่านนอยๆ จริงๆ

“ ขอบคุณมากนะครับว่าแต่ อีกนานไหมครับกว่าจะเสร็จ”

“อืมอันนี้ เอิร์นเองก็ไม่ค่อนแน่ใจเหมือนกันนะค่ะ ต้องรอ ถามเพื่อนดูอีกทีนึง.. แล้ว นี้ แฟนพี่กายยังไม่ตื่นอีกเหรอค่ะนี้ก็จะ แปดโมงแล้วนะ ” อะแฮกๆ ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ตอนที่ยัยเอิร์นพูดว่า แฟนพี่กาย .-.-

“ไม่รู้สิ เมื่อกี้ตอนพี่ลงมายังนอนอ้าปากค้างอยู่เลย สงสัย กำลังฝันดีอยู่มั้ง ฮ่าๆ ”

“พี่เจก็เป็นอย่างนี้ประจำแหละค่ะ ยิ่งวันเสาร์อาทิตย์นี้ไม่ต้องพูดถึง กว่าจะตื่นทีนี้ หกโมงเย็นยังเคยมีมาแล้วค่ะ”

“เว่อๆ พี่ไม่เคยตื่นสายขนาดนั้นซะหน่อยแล้ว นี้มีเวลามานั่งเผาพี่ให้กายฟังมากรึไง ทำไมถึงไม่รีบไปโรงเรียนห้ะ. .”ผมรีบเดินลงมาขัดจังหว่ะการสนทนาระหว่างไอคุณชายกับ ยัยเอิร์นไว้ ขืนมาช้า กว่านี้รับรอง ความลับๆ ต่างๆ ของผมได้เผยแพร่ให้มันรู้แน่ๆ เลยครับ

“วันนี้บราเดอร์ที่คุมนักเรียนไม่อยู่ค่ะ เอิร์นเลยไม่รีบ ว่าแต่พี่เจ เถอะ ทำไมถึงตื่นสายจัง ไม่รีบไปเรียนเหรอ” ยังครับ ยัยเอิร์นยัง มีหน้ามาย้อนคำถามผมกลับอีก และก่อนที่ผมจะกระโดดแฮ่มหัวน้องสาวตัวเอง ยัยเอิร์นก็รีบวิ่งออกจากร้านไปเรียนแล้วละครับ. .
“อ่ะ” กายมันเขี่ยๆแก้วกาแฟที่วางไว้ก่อนหน้า มาให้ผม ..  ผมหันไปสบตากับมันตาปริบๆ

“กูไม่กินกาแฟ. .” เหมือนมันจะดูเหวอๆ

“แล้วทำไมไม่บอก”

“ก็มึงไม่ถาม. . ” มันทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองผม. .เพื่อนผมไปพูดอะไรไม่เข้าหูมัน

“แล้วอยากกินอะไร เดี๋ยวกูไปทำมาให้” กายทำทีท่า กำลังจะลุกออกจากโต๊ะไป แต่ผมรีบรั้งแขนของมันเอาไว้ก่อน

“แล้วมึงกินอะไรอยู่. .”

“โอวันติน?”

“กินด้วยกันก็ได้ ^ ^.. นั่งลงเถอะ. .” ผมแอบเห็นกายมันอมยิ้ม แต่ก็ยอมนั่ง ลงพร้อมกับขยับมานั่งข้างๆ ผม

 แต่กว่าจะกิน กันเสร็จ (เอ่อหมายถึงโอวันตินหน่ะครับ) ก็ใช่เวลานานพอควรเพราะ มัว แต่กินหนึ่งคำ มองตาที. .สลับไปมาจนหมดแก้ว. . ผมรีบเดิน ขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวไป ม. พร้อมกับกาย แต่ผมก็ยังแอบแปลกใจอยู่นิดๆ ว่าไอกายมันไปแอบเอาชุดนักศึกษามาจากไหน เพราะดูๆ แล้ว เสื้อที่มันใส่คงไม่ใช่ไซด์ของผมแน่ๆ นอกซะจากว่ามันจะแอบกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดในตอนเช้า แล้วกลับมาทำทีเหมือนกลับว่า ยังไม่ได้ไปไหน. . เพื่ออะไรนั้นสิ.. (มึงจะมานั่งคิดมากเพื่ออะไรวะเจ . . 
เวลาเกือบ ๆสิบโมงเช้า ตอนนี้ ผมอยู่ที่หน้าตึกคณะมนุษย์ศาสตร์ โดย มี คนขับรถประจำกายเป็นคนขับมาส่งครับๆ ทั้งๆ ที่ก็อุตส่าห์บอกแล้ว ว่าให้รีบ เข้าตึกเรียนของมันไปเลย แต่มันก็ยังจะรั้น มาส่งผมจนได้. . .

“อ้าวเจ  ว่าไง ไม่ได้เจอหน้านาน หล่อขึ้นรึเปล่าเนี้ยเรา ” จะเป็นเสียงใครไปไม่ได้ครับน้องจากพี่ริว พี่ชายสุดรักของผมเอง ^ ^ ไม่ได้เจอพี่แกมาเกือบเดือนแล้ว ความหล่อยังมีเท่าเดิม เพิ่มเติมคือพี่แก ขาว ขึ้นรึเปล่าเนี้ย สีผมก็แอบดูแปลกตา หล่อกะสวกไส้มากครับ -.-

“แหม่พี่ริวก็พูดไป. . แล้วนี้ กลับมาเมืองไทยนานรึยังครับ แล้ว....”

“ถ้าหมายถึงของฝากละก็. . นี้ไง !” พี่ริว ยื่นถุง ใบสีน้ำตาลใบใหญ่ที่วางไว้อยู่ข้างๆ ตัวแกมาให้ผม. . 

“ไหนๆ ไปต่างประเทศทั้งทีจะมีอะไรมาฝากน้องบ้างน้า อื่มมมม โห้!!!” ผมค่อยๆเปิดปากถุงสีน้ำเพื่อดูสิ่งของที่อยู่ข้างใน แล้วก็ทำให้ผมได้พบ.... ช็อคโกแลต...แม่เจ้า กี่แบรนด์กันละนี้  แต่ละชิ้นนี้ ไม่ใช่ถูกๆ เลยนะครับ โอ้ย ถูกใจ. . ไอเจหลายๆ ผมเข้าไปนั่งใกล้ๆ พี่ริว พร้อมกับเอาหัวของตัวเองถูๆไถๆ ที่ไหล่ของพี่ริวจนแกต้องหันมายิ้มให้กับการกระทำของผม

“ขอบคุณครับพี่ริว ว่าแต่ทำไมพี่ริวถึงรู้ว่า ผม ชอบกินช็อคโกแลตละ. .”

“พี่มีสายบอกมา. .” น้องชาย . สายหรอ เอ๊ะหรือจะเป็น . .

“มันไปแอบบอกพี่ตอนไหนอ่ะเจ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย. . ”

“ซักประมาณ สองอาทิตย์ที่แล้วมั้ง เห็น บ่นว่า อยากให้พี่กลับมาเร็วๆ  แต่พอพี่กลับมาก็ยังไม่เห็นหน้าเลย. . เจเห็นบ้างรึเปล่า” พี่ริวยิ้ม ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวผม อย่างเอ็นดู

“เมื่อกี้ มันพึ่งมาส่ง เจ เองนะ แต่เจไล่มันกลับไปตึกเรียน แล้ว พี่ริวอยากเจอหน้ามันเหรอ ให้ เจโทรตามให้มั้ย. .”ผมกำลังกดโทรออกเบอร์ปลายทาง แต่พี่ริวบอก ยังก่อน .  . ไว้ว่างๆ ค่อย นัด ไปกินกาแฟสามพี่น้องกัน. .ผมก็พยักหน้าอือออตามพี่แกก่อนจะเก็บไอโฟนของตัวเองเข้ากระเป๋าไป.  .
ผมแยกตัวออกมาจากพี่ริวได้พักนึงแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลา ที่ผมจะต้องไปเอาความรู้มาใส่สมองหน่อยแล้ว . . หลังจากที่ห่างเหิน ไปนาน พอกลับมาอ่านทีนี้ลมแทบจับ ครับ ผมมองเห็นหนังสือเป็นตัวหนอน มองเห็นตัวอักษรเป็นดักแด้เลยครับ ทีแรกก็ตั้งใจ ว่าจะนั่งตั้งใจเรียน แต่พอเวลา ผ่านไปได้ไม่ถึงสิบนาที. .  หลับครับ กว่าจะสะดุ้งตืนมาอีกที ก็ตอน. . มีเพื่อนๆ ต่างคณะในคลาส เขย่าตัวเรียก ผมถึงตื่น. . .
ตกบ่ายผมมีเรียนอีกแค่วิชาเดียว แต่เป็นวิชา เดียว ที่ผมแอบโดดบ่อยมากที่สุด แต่วันนี้ไม่รู้ตัวเองนึกคึกอะไรถึงเดินเข้าห้องไปตั้งใจเรียนจนจบคลาส ต่างจาก เมื่อเช้าลิบลับเลย ละครับ ฮ่าๆ

 เวลาเกือบบ่ายสามโมง ผมนั่งรอ ไอวินที่ คณะของผมเองครับ เหตุเพราะขี้เกียจเดินไป คราวนี้เลยให้มันเป็นฝ่ายมาหาผมเองบ้าง ระหว่างนั้น ผมก็แอบส่องเฟส คุณแฟน.  . เห็นวันนี้มันโพสบ่นว่าเรียนหนัก. . อยากกลับบ้าน ซึ้งผมเองก็ไม่ได้กะจะแซวอะไรมันหรอกครับ ก็เลยได้แค่กดไลค์ แล้วเลื่อนผ่านๆ ไป. .  แต่เอ๊ะ. . คำข้อร้องเป็นเพื่อนเด้งขึ้นมา ผมกดเข้าไปดู ปรากฏใบหน้าที่ ค่อนข้างจะคุ้นเคย. . ไออะตอมครับ. .ผมกดตอบรับคำขอเป็นเพื่อนจากมัน และ กลับมาสนใจฟีดเพื่อนๆ คนอื่นๆ ต่อ . . และมันก็ยังไม่วายก่อกวนผมด่วน การส่งสติ๊กเกอร์มารัวๆ จน ไอโฟน ผมค้างไปหลายนาที . . 

“พ่อ  มึง  ตา ย. . ” ผมตอบแชทสั้นๆ ไปหาไออะตอมครับ ไม่รู้มันจะด่าผมกลับมาว่าไง

(ยัง ยังไม่ตาย เขา บอกรอ ได้อุ้มหลาน ก่อน) ไอนี้ก็ดันแช่งพ่อตัวเองอีกเอ้อ!

“ไม่มีเรียนอ่อมึง ว่างมานักรึไง ถึงมากวนตีนกูเนี้ย ”

(ก็ไม่ถึงกับว่างหรอกพักเบรก  ห้านาที)  เออจะว่าไป

“แล้วมึงหาโปรไฟล์กูเจอได้ไงวะ . .อย่าบอกนะว่าตามแกะรหัส ผ่านกูอีกนะ. . ”

(ป่าวๆ ที่แรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาหรอก แต่พอดีเข้าไป หน้าวอ ไอบีม แล้วเห็นหน้าคุ้นๆ ก็เลยลองแอดมา). .  บีมคงหมายถึงเพื่อน สุดที่รักของมันสิ น่ะ คึคึ

.”อ่ออย่างนี้นี้เอง”

.(เออเจแค่นี้ก่อนนะ หมดช่วงพักแล้ว ไว้ว่างๆ เดี๋ยวทักไปนะ)

“เออ มึง . . ตั้งใจเรียนนะ” ผมแอบหยอดๆมุขให้มันไปบ้างแต่ไม่คิดว่ามุขที่มันตอบกลับมาจะทำเอาผมช็อคไปเกือบๆ สามวิ

“ค้าบผม....จุ้บๆ ”  -3- จุ้บตีนกูมั้ยละมึง. . ห่า
.. . . . . .  . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :26〗〖05-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-11-2016 19:49:23
“แฮ่!!”

“เหี้ย !!!” ผมสะดุ้ง แทบเขวี้ยงโทรศัพท์หลุดมือ หลังจากที่มีเสียงใครมาตะโกน อยู่ข้างหลังผม.  ไอเหี้ยวิน.

“แหม่ แค่นี้ทำ ขวัญอ่อน โอ๋ๆ  แต่ๆ เอ๊ะๆ เมื่อกี้กูเห็นนะ มึงแอบคุยแชทกับผู้ชายอยู่ใช่มั้ย ไอเจ เดี๋ยวนี้หัดแรดแล้วนะมึง ฮ่าๆๆ”

“แรดพ่อง เพื่อนกูต่างหาก”

“ใช่ปาว เจ!! (แอบเสียงสูงๆ)  มึงก็รู้เซนต์กูมันแรงเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้”

“(เซนต์เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ นี้มึงคงภูมิใจมากสินะ)”ผมแอบเบ้ปากบ่นพึมพัมไม่ให้มันได้ยิน

“แอบด่ากูอยู่ในใจละสิ สัด กูรู้หรอก” ป่าวครับกูด่ามึงออกสื่อเลย....

“อ้าวแล้วไหงมาคนเดียวแล้ว. .ไอกายละไม่มากับมึงด้วยเหรอ..” ไอวินมันทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะยอมบอกผม

“อย่าไปพูดถึงมัน เพื่อน ธรพี ! ว่าแตทำไมเดี๋ยวนี้ ทั้งมึงทั้งไอกายทำไมถึงถามหากันบ่อยจังวะ. . . แหนะๆ อย่าบอกนะว่ามึงสองคน แอบทำอะไรลับหลัง กัน แล้วกูไม่รู้ใช่มั้ย ไอเจ บอกกูมา. . ” ไอวินมันทำหน้า กวนๆชวนสงสัย เข้ามาใกล้ ผม แถมยังคะยั้นคะยอ. จะให้ผมตอบมันให้ได้ด้วย.  แต่ประทานโทษครับมึง. . สกิลเอาตัวรอดกูมีเยอะกว่า. .  ผมรีบถามแทรก จากคำถามที่ไอ วินพูดไว้ก่อนหน้าทันที

“ไอกายมันไปทำอะไรให้มึงโกรธอีกรึไง” แล้วก็ได้ผลเหมือนเคยครับ ไอวิน ลืมเรื่องที่จะแควะผมไปชั่วคราว และกลับมาเข้าโหมดดราม่าเหมือนเดิม

“แน่นอนว่ามันทำ?”

“ทำอะไร” จากที่ผม แค่แกล้งๆ ถามไม่ได้สนใจกับคำตอบ . . แต่ตอนนี้กลับอยากได้ยิน ถึงสิ่งที่ไอวินกำลังจะพูด. .ซะงั้น

“มัน. .  .. ไม่ยอมโดดเรียน มาเที่ยวกับกู ”พ่างๆ. . - -*

“แล้วมึงก็มานั่งด่ามันเนี้ยนะ ไอห่า คนที่ควรถูกด่าคือมึงไม่ใช่มัน. .”

“แต่กูก็พยายามหาเหตุผลดีๆ แล้วนะ แต่แม้ง ก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจด แม้งอย่างเดียว ไม่ยอม สนใจกูก็เลยนอย มันโดด เรียนมานั่ง คุยอยู่กับมึงเนี้ย” สรุปผม ควรจะด่ามันกลับไป รือควรปลอบโยนมันดีละเนี้ย เห้อๆ มีเพื่อน สติฟั่นเฟือนต้องทำใจครับ. .

“เออน่ากูเข้าใจ แต่กูว่าไอกายมันทำถูกแล้วแหละ ถ้ามันไม่คอยจดลิสไว้ แล้วถ้าคราวหน้ามึงจะตาม งานที่พวกอาจารย์เขาสั่งได้ยังไงละ จริงมั้ย. .” คำพูด ของผมน่าจะทำให้ไอวินคิดตามได้บ้าง

“เออ มันก็น่าจะจริงอย่างที่มึงพูดแหะ . . แล้วนี้ เราจะโดดไปไหนกันดีวะ กูยังไม่ได้คิดแผนการล่วงหน้าไว้เลย. .”

“ไปบ้านมึง กู อยากเล่น Ps4”

“อย่าเลยมึงป๊ากูอยู่ไม่อยากโดนบ่น งั้นไปที่ร้านกันมึง.  .กูอยากกินลาเต้..”

“ไม่ต่างกันแหละมึง.  . ” ที่บ้าน ถึงพ่อไอวินมันจะเป็นคนขี้บ่นมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ามาเทียบกับพี่สะใภ้ผมแล้ว. .แพ้ขาดลอยครับ ผมกล้าคอนเฟิม 5555

“งั้นจะไปไหนดี. .. ”

“นั้นสิไปไหนดี” ผมกับไอวินเอามือเกาคางใช้ความคิดอยู่นาน. . . .

.”งั้นไปทะเล  . ”

“พ่องมึงสิ”

“งั้นไปน้ำตก”

“แม่งมึงสิ”

“งั้นไป.  ”

“พอๆ ไอห่าพูดแต่ละอย่างยังกับว่ากูไปได้งั้นแหละ. ”

“เออจริงด้วยแหะมึง กลัวที่ๆมีน้ำเยอะๆ นี่หว่ากูลืมไปเลย. .  งั้นๆ”

“พอๆ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ นั่ง รอ. ด้วยกันที่นี้แหละ. . โอเคนะ!! ”ไอวินมันเงียบไปยอมตอบ แสดงว่าตกลง . .แต่พอผมหันไป กลับไม่เจอไอวินมันนั่ง อยู่ข้างๆ ผมแล้วละครับ ไอเวร นี้ไวจริงๆ - - * ผมก็เลยจำเป็นต้องนั่งรอคุณชายผู้ใฝ่เรียนอย่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย อะซิกๆ. . . สุดท้ายนั่งรอนานจัดหลับรอแม้งเลย. .ละกันคร่อก
Tr………. เสียงสั่นๆ อยู่ที่โต๊ะทำเอาหัวผมสั่นไปด้วย โอย เมื่อกี้ ก๋งกำลังจะให้เลขเด็ดผมเลย ใครมาขัดจังหว่ะว่ะ ..  . ผมเงยหน้ามอง รายชื่อ. . .กาย. . ผมรีบกดรีบสายทั้งที่ตัวเองยังสะลึมสะลือ. . 

“โหล” พูดไปพลางหาวไปด้วย . . ก็คนพึ่งจะตื่นนี่นา . .

  “เป็นอะไรเสี่ยงอ่อยๆ”

“อ่อยห่าอะไรกูพึ่งตื่นแล้วเมื่อไหร่มึงจะมาเนี้ย. . กูนั่ง นอน รอมึงนานละนะ. .   ก่อนจะหลับไปผมยังจำได้ว่าท้องฟ้ายังมีแสงแดดสาดส่องลงมาอยู่เลยแต่พอมองไปรอบๆ ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มครึ้มๆ ละครับ. . สงสัยจะหลับยาวไปหน่อย”

“รออยู่ไหน . ” เอ้าก็รอ. . . และก่อนที่คำพูดในความคิดผมจะหลุดปากออกไป ผมก็พึ่งคิดออกได้ ว่าตัวเอง ไม่ได้โทรไปนัดแนะหรือส่งข้อความบอกกายมันเลย. . . นั้นสิ มันจะไม่มาก็คงไม่แปลก. .เห้อช่างเถอะ ครั้งนี้ถือว่าผมพลาดเองที่ดันลืม. .

“อ๋อ..ยย อยู่ร้าน กูนึกว่ามึงจะมา. . ว่าจะช่วยติวหนังสือให้หน่อย. . ”

“ติวหนังสือ. . !! . ” แอบลากเสียงยาวๆ มัน คงคิดในใจ หน้าอย่างมึงเนี้ยน่ะอ่านหนังสือ . .ผมว่ามันคิดงี้ชัวเลย

“เออ แต่ช่างเถอะ แล้วมึงอยู่ไหน ละถึงบ้านรึยัง. . ”

“ยัง กำลังรอคนอยู่. . ” น้ำเสียงมันเหมือนแอบขำๆ อยู่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่านะ. .

“รอ รอใคร ?” . . ผมชักเริ่มไม่สบอารมณ์

“ก็. . มึงไง. . ”  .. . .  รอผม?

“รอกู รอทำไม?” มันจะรอผมทำไมกันในเมื่อผมอุตส่าห์บอกว่าตัวเองอยู่ร้านแล้วแท้ๆ - -* ชักงงๆ

“รอมึงเดินออกมาจากคณะซะทีไง กูยืนรอนานละเนี้ย” จบคำพูดของมันทำให้ผมต้องรีบลุกยืนขึ้นและหมุนตัวมองไปรอบด้าน ก็ไปสะดุด กับ. . ชะอุ้ย ไอกาย กำลังยืนยิ้มให้ผมอยู่ที่หน้าตึก .  .  ผมได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ รีบเก็บกระเป๋าและสมุดที่ไอวินมันวางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะก่อนจะรีบวิ่ง ไปหา มัน. .

“ไหนบอกอยู่ร้าน. หึ้”.. . .  ผมพูดอะไรไม่ออกเพราะกำลังหน้าแตกอยู่ ได้แต่ยืนยิ้มๆปนขำ หันซ้ายหันขวา โดยไม่มองหน้ามัน ทำเชิงๆ เมินๆ กลบเกลือน จริงๆ แล้ว ผมเสียเซลส์จนไม่กล้าสบตากับมันต่างห่างละ

“ห้ะๆ อะไรนะ ใครพูดอะไร ห้ะ ว่าง ง ไง. . .”การกระทำบ้าๆของผมถูกหยุดลงเมื่อ กายใช้มือทั้งสองข้างของ มันจับที่แก้มของผม และโน้มคอ ลงมาใกล้ๆกับ. . ปากของเราสองคนสัมผัสกันอย่างแผ่วเบาและรวด เร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยืนอ้าปากค้าง. . จนคนตรงหน้าผมต้องดีดนิ้วเพื่อเรียกสติ. .

“ไงละหึ้ หยุดเล่นได้รึยัง. . ป่ะกลับบ้านได้แล้วเดี๋ยวไปส่ง. .” ผมยืนนิ่งเหมือนคนไม่มีสติ  แต่ก็ยังพอรู้สึกได้ว่ามันกำลังดึงมือผมให้เข้าไปในรถพร้อมกับมัน. .

 กาย มัน ขับออกมาจากม.ได้สักพัก ผมได้แต่นั่งหันข้างมอง บรรยากาศ ข้างนอก พร้อมกับ จับ ริมฝีปากของตัวเอง ลูบเบาๆไปมา เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ นี้ผมกำลังเป็นอะไรอยู่. . นี้อาจจะไม่ใช่จูบแรกของผมกับกายผมรู้ดี. .แต่ทำไมการจูบครั้งนี้ ถึงทำให้ผมรู้สึก เหมือนพึ่งจะมีเฟิส คริส เลยละ . . . ยิ่งคิดใจของผมก็ยิ่งเต้นรัว. .ผมไม่กล้าที่จะหันสบตากับมันเลยทำไงดี.  .   ผมนั่งคิด ๆ จนนึกข้ออ้างที่จะไม่ต้อง หันไปมองหน้ามันตลอดทาง ออก

“ห๊าว. . ง่วงวะ. .  กาย ไปส่งที่ร้านทีนะ วันนี้เดี๋ยวจะไป ก . ก เก็บของ. . ถึงแล้วปลุกกูด้วยนะ.  .” กายไม่ได้ตอบ. . ผมก็ไม่ได้หันไปพูดอะไรรอบสองได้แต่นอน ข่มตาเอนหัวไปทางกระจก. .ตลอดทาง. .

  . . .  . . . . . .

ไม่นานนัก ผมก็มาถึงที่ร้านพร้อมกับไอกาย ผมชวนมัน เข้าไป กินอะไรก่อนกลับ แต่มันก็ส่ายหัวเพราะบอกว่าต้องรีบไปทำธุระ กับคุณพ่อ ผมก็เลยเออออ ห่อหม่กตามมันไป . .  ดี แล้ว ที่มันกลับไป ไม่งั้น ผมเองคงจะหาคำตอบให้กับอาการสั่นๆ เมื่อกี้ไม่ได้แน่ๆ . . .  ผมก้มมองดูนาฬิกา . . ตอนนี้เวลาทุ่มกว่าๆ ผมรีบเดินขึ้นห้องไป ขนสัมภาระ เตรียม พร้อมที่จะย้ายถิ่น. . ไปที่คอนโด หลังใหม่.  . โดยมีวินประจำตัวนั้นก็คิไอเหี้ยวินนั้นแหละครับ ที่มา รับส่งผม. . ตอนแรกก็กะจะพามันขึ้นไปชมห้องด้วยกันหน่อยแต่ไอเวรนี้ พอส่งผมถึงหน้าประตูปุ๊ป มันก็เปิ่นแน่บหายไปอย่างรวดเร็ว. . เหอะ มันจะรีบไปไหนของมันนะ. .
. . . . . . .  . . .
ผมเดินมาถึงหน้าห้อง 302  ยืนเคาะเรียกบุคคลด้านในแต่ก็ดูเหมือนจะไร้เสียงตอบกลับ . . สงสัยมันคงจะออกไปข้างนอกละมั้ง.  แต่ถ้าลองนึกดีๆ แล้วรู้สึกเหมือนผมเองก็มีกุญแจสำรองอยู่ดอกนึง.. ถ้าไม่ติด ที่ว่า เผลอลืมวาง ไว้ที่โซฟาเมื่อวันก่อน  โง่ดีมั้ยละ ไม่งั้นป่านนี้ ผมคงจะได้ เข้าไปนอนสบายใจเชิ่บ แล้ว เห้อ เบื่อกับความขี้หลงขี้ลืมของตัวเอง.  . ผมเลยนั่งฟุบเล่นเกมส์ในไอโฟนอยู่ที่หน้าประตูเพื่อรออะตอมมันกลับมา

. . . . .  ..  . . .   และไม่นาน นักเสียงของลิฟฟ์ก็เปิดออกพร้อมกับอะตอม ที่เดิน ถือถุงอะไรไม่รู้เยอะแยะเต็มไปหมด
“อ้าว เจ มาได้ยังไงอะ แล้วนั่งรอตรงนั้นทำไมๆถึงไม่เข้าไปนั่งในห้อง. . ”ประเด็นคือถ้ากูมีกุญแจ กูก็คง ลงไปนอนยิ้มอยู่บนโซฟาแล้ว ละครับ มึง. .

“รอเจ้าของห้องเขามาเปิดให้  ไม่อยากเปิดเข้าไปเอง มันเสียมารยาท. .” จริงๆ ก็อยากจะพูดออกไป นะครับว่า ผมลืมกุญแจไว้  ในห้องแต่เพราะมัวแต่ติดนิสัยขี้ระแวงกลัวหน้าแตก . .  เดี๋ยวมันจะล้อผมเอา(เหตุการณ์นี้ส่วนมากจะเกิดกับ ผมกับไอเชี้ยวินเท่านั้น) ถึงมันอาจจะไม่เกิดขึ้นระหว่างผมกับไออะตอม แต่ จะไม่ให้คิดมันก็ไม่ได้ . .

“ไม่ใช่ว่าลืมนี้หรอกหรอ” อะตอมมันล้วงหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อของมัน ชูขึ้นมาเหนือหัว.  . ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากเดินไปหยิบกุญแจที่มือมันอย่างเงียบๆ และเบา มือ แอบเห็น มันขำคิกๆ อยู่ในลำคอ. .  เหมือนสะใจที่ยืน มองดูผมตอแหล แบบเนียนๆ ใส่มัน
.  . . . . . . . . .

พอเดินเข้ามาในห้องผมก็สามารถรับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่ดูเปลี่ยนไป. .  กางเกงในที่เคยวางไว้ข้างๆ โซฟาตอนนี้ ก็ไม่มีอยู่แล้วครับ. .เห้อโล่ง อกนึกว่าจะต้องนอน พร้อมกับ กางเกงในอีกรอบซะอีก.  แต่ถ้าลองสังเกตที่โซฟาดูดีๆ แล้วก็จะเห็น ตุ๊กตาหมีบราวตัวโตๆ วาง อยู่ ข้างๆโซฟาอีกฝั่งนึง. .ครั้งก่อนที่ผมามันยังไม่มีนิ่ ผมค่อยๆ เดินนิ่งๆ เข้าไปนั่งแบบเนียน จนมือของตัวเองเผลอไปคว้า หมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีก ที ก็ได้ยินเสียง หัวเราะดัง ลั่น จาก คนที่ กำลังยืนค้ำหัวผมอย่างสะใจ. 


“ขำอะไรของมึง. . ”

“ก็ขำมึงนั้นแหละ. . ฮ่าๆ ” ทำไมๆกันเด็กผู้ชายจะชอบตุ๊กตาหมีไม่ได้เลยรึไงกัน.. . โด่วว นี้มันยุคไหนละหนู

“กูก็แค่ชิน มือ ปกติตอนนั่ง มันก็ต้องมีอะไรมาวางที่ตัก. . ก็เลยหยิบๆ มาเฉยๆ ไม่ได้ชอบอะไรเลย จริ๊งๆ”

“แต่หมอนอิงข้าง ๆ ก็มีนะ. ”ผมรู้สึกหน้าชาทันทีที่หันมองตาม. .

“เอาหน่ะๆ  ความลับนะมึง ว่าแต่มึงออกไปไหนมาดึกๆ ดื่นๆ ไม่หมกตัวอยู่ในห้องแล้วรึไง. .”

“ก็ออกไปหาอะไรกินนิดหน่อย. .” แต่จะว่าไป ตั้งแต่ตอนบ่าย ผมก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยแหะ พอได้ยินเรื่องของกินขึ้นมาปุ๊ปทอมันก็ร้องขึ้นมาปั๊ปเลย. .  ผมกลืนน้ำลายตาม เอื้อกๆ พร้อมกับ มองไปที่ ถุงในมือมัน. .

“แล้วนี้กินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่า ”หู้วดีใจจังเลยที่มันถามม”

“ก็กินมาบ้างแล้วหล่ะ แต่ถ้ามึงเอ่ยปากชวนขนาดนี้กูจะกินเป็นเพื่อนตามมารยาทก็ได้เอ้า. .”

“เปล่าชวนแค่ถามเฉยๆ คิดไปถึงไหนละหน่ะ ฮ่าๆ” โถ่ไอฟลัด !

“กูออกไปหากินเองก็ได้ ถ ถ ถ น้ำใจคนไทย”

“อ่ะๆ ล้อเล่นๆ งั้นไปช่วยหยิบจานให้ที สิ อยู่ในครัว ตรงตู้ริมฝั่งซ้ายนะ ถ้าไม่เจอ ก็ลอง ดูตรงลิ้นชักข้างล่างอะ” ผมรีบวิ่งไปพร้อมกับสอดส่องหาจานชาม ตามจุดที่มันบอก ก่อนจะหยิบ มานั่ง ลงที่โซฟากลางห้องดังเดิม. .

“เออ เจเดินไปหยิบน้ำกับแก้วให้ทีสิ. .” ได้ทีละใช้กูใหญ่เลยนะ   . . แต่พอเปิดตู้เย็นก็ทำเอาผมเอะใจเล็กน้อย. .ทั้งๆ ที่ในตู้เย็น ก็มี เนื้อ นม ผักและสารพัดของอื่นๆ ที่สามารถทำกินเองได้ แต่ไหง กลับ ออกไปซื้อกินข้างนอกซะละ

หลังจากที่กินเสร็จผมก็ช่วย อะตอมเก็บถ้วยชามไปล้าง. .โดย อะตอม ล้าง น้ำแรก ผมล้างน้ำสะอาด . . ระหว่างนั้นผมก็หาเรื่องมันชวนคุย เพราะกลัวบรรยากาศในห้อง จะเงียบเกินไป 

 “เออ อะตอม เมื่อกี้ตอนกูเปิด ตู้เย็น กูเห็น เนื้อ หมู ไก่ ผัก บลาๆ เยอะแยะไปหมด. . แล้วทำไมถึงออกไปซื้อกินเองข้างนอกละ. .ทำไม่เป็นหรอ. ”

“ไอเป็นหน่ะมันก็เป็น. .แต่ ทำกินคนเดียวแล้วมันแปลกๆ นานๆทีถึงจะทำ”

“แล้วปกติตอนมึงอยู่กับไอ้....มันชื่ออะไรวะ เออ ไอบีมอ่ะ มึงเคยทำให้มันกินป่ะ . .” อะตอมยืน นิ่ง ทำหน้าเครียดๆ เหมือนใช้ความคิด

“เอ่อคือถ้าจะคิดนาน ขนาดนั้นกูว่าอย่าบอกเลย มึง”

“อืมก็มี ครั้งสองครั้ง ”

“แล้วต่อจากนั้นหล่ะ”

“ไม่เคยอีกเลย.  ”

“แล้วมึงทำอะไรเป็นบ้างละ ” ผมจัดจานที่ล้างเสร็จใส่ตะแกลง ข้างๆ ก่อนจะแอบ เช็ดมือกับเสื้อของมัน

“ก็หลายอย่าง. . แต่จะเลิกเนียนเช็ดได้รึยัง เปียกหมดละเนี้ย”อะอ้าวรู้ตัวหรอกหรือนี้แหม่อุตส่าห์ทำเนียนๆ ละนะ

 “งั้นพรุ่งนี้ทำกินกัน”

“ไม่เอาอะขี้เกลียดทำไปก็ไม่มีใครกิน. ”

“ทำไมอะ รสชาติมันแย่ขนาดนั้นเลยอ่อ”

“ก็เปล่าหรอกแค่พอเวลาทำ แล้วคนกินมันไม่ค่อยอยู่ ” คงหมายถึงเพื่อนเก่ามันสินะ

“เอาน่าๆ เดี๋ยวกูอยู่กินเป็นเพื่อนเอง ช่วยเป็นลูกมือด้วยก็ได้อะ. .” ผมแอบเห็นๆ มันแสะยิ้มเหมือนกำลังวางแผนอะไรอยู่

“อืมไว้ดูก่อนละกัน ถ้าเลิกไว อาจจะกลับมาทำ แต่ ถ้า เย็น ก็ เอาไว้วันอื่นนะ. ” ผมพยักหน้าตอบเป็นอันตกลง. .
. . . . . . ..

ผมกับอะตอมรีบช่วยกันล้างจากให้เสร็จก่อนจะรีบแยกย้ายกันไป อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอน . . ผมกลับมานั่งที่โซฟาของตัวเอง นั่งเล่นโทรศัพท์ อ่านฟีดคนอื่นๆ แต่แล้วจู่ๆ . .ไอกายก็โทรมา.

‘โหล โทรมาดึกดื่นมีธุระอะไรคนจะหลับจะนอน วุ๊” ผมจะกล้าพูแบบนี้ก็ต่อเมื่อ เวลาอยู่ห่างจากมันเท่านั้นแหละครับ ขืนพูดไปในระยะเผาคนมีหวังผมได้ซี้แหงแก๋แน่ครับ

“ก็อยากได้ยินเสียง แล้ววันนี้นอนไหน ได้นอนที่ร้านรึเปล่า”

“เปล่าวันนี้ นอน หอข้างๆ ม. อะ ”

“หรอ แล้ว พี่อินเป็นไงบ้าง”เดี๋ยวๆนะผมเริ่มแหม่งๆ ละ

“โทษนะครับคุณชาย ถ้าจะโทรมาถามไถ่ความเป็นอยู่ของ คุณนายอิน รบกวนติดต่อ เบอร์อื่นนะครับ ห่า ”

“ ป่าวๆ ฮ่าๆ อยากจะแกล้งให้หงุดหงิดเล่นเฉยๆ”ไอนี้ท่าทางจะจิตเบาๆ นะมึง

“เออคุณชาย มึงไปแอบคุยกับพี่ริวตอนไหนวะ ตอนอยู่ที่บ้าน กูก็เห็นมึงอยู่กับกูตลอดนี้หว่า.  ” จะว่าไปผมก็พึ่งจะนึกเรื่อง เมื่อเช้าออก เรื่องที่พี่ริวบอกว่ากายแอบโทรไปหา ไม่รู้ว่าแอบเผาเรื่องของผมบ้างรึเปล่า. .

“เปล่าแอบนิ ก็โทรคุยแค่ครั้งเดียว ตอนที่ไป BIG C กับ พี่เจมส์  และก็ไม่ได้โทรหาอีกเลย. ”

“เออ แล้วไป ” นึกว่ามันจะแอบเผาเรื่องผมกับพี่ริวแล้วซะอีก

“ถามแบบนี้มีอะไรรึเปล่า?”

“เปล่าๆไม่มีอะไร นี่ก็ดึกมาแล้ว นอนได้ละมึง. .”

“รีบไล่กูเพราะจะแอบไปคุยกับใครใช่มั้ย”

“คุยบ้าอะไรเล่า ดึกดื่นขนาดนี้ กูจะคุยกับใครได้ละจะมีก็แต่. . มึงนี้แหละ ”

“ให้มันจริง เจ อย่าให้กูรู้ว่ามึงแอบไปคุยกับคนอื่น ที่ไม่ใช่กูนะ ไม่งั้น ทั้งมึงและ มัน. . . คงไม่ต้องให้กูพูดนะว่าจะเกิดอะไรขึ้น !!”

“คร้าบ ผม แฟนผมดุขนาดนี้ผมไม่กล้านอกใจหรอกคร้าบบแหม่ๆ ” ผมแอบเหล่ มองเวลา ตอนนี้ก็เกือบๆจะเที่ยงคืนแล
ว คงได้เวลาเหมาะแกการ นอนเต็มที

“เออกาย เดี๋ยวกูต้องไปนอนละนะ  พรุ่งนี้กูมีเรียนเช้าด้วย กลัวตื่นสาย”

“ทำอย่างกับมึงเคยตื่นเช้า. ขนาดมีนาฬิกาปลุก มึงยัง ไม่ยอมตื่นเลย”. . นี้มันคงตั้งใจจะแควะผมเรื่องนี้ใช่มั้ยห้ะ. .

“เออน่า กูง่วงแล้ว.  .นอนนะๆ”

“อื่อๆ งั้น คืนนี้ก็ฝัน ดีละกัน. . อย่าลืมฝันถึงกูด้วยละ. ” ถ้าได้นอนฝันถึงมึงกูคงนอนไม่หลับแน่ๆ ละครับมึง. .

“เออ มึงก็ รีบๆ นอนซะละ อย่าอ่านหนังสือหนักเกินไปนะมึง ระวังเดี๋ยวฉลาด. .”

“มึงก็หัดอ่านหนังสือบ้างนะ จะได้ไม่โง่”ฉึก ไอสัด รู้สึก เหมือน ถูกมันหลอกด่า
 
ผมวางสายจากไอคุณชายไปแต่ก็ยังไม่วายจะส่งข้อความมากวนประสาทผมอีก.  .

“ถ้ามึงฝัน ถึงคนอื่น มึงตาย คุยกับคนอื่นก็ตาย แอบส่อง ก็ตาย . .  หึหึ.. ” นับวันสกิลความหึงหวง+ระแวงมันก็ ยิ่งอัพ ความโหด ป่าเถื่อน เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนผมเองก็แอบคิด ลึกๆ นะ ว่า ไอกายเวอร์ชั่น ก่อน กับปัจจุบัน นั้น มีความต่างกัน ถึง เกือบ 10 เท่า. . แต่ในสิบเท่านี้อาจจะมีทั้งด้านดีและด้านเสียปะปนกันอยู่แต่ก็อย่างว่าแหละครับ หากขาด องค์ประกอบ ส่วนใดส่วนหนึ่ง ของ ด้านนึง ไป  มันก็อาจไม่ใช่ตัวของมันเองก็ได้. .  ยิ่งพูดมาก ยิ่งงง เอง งั้น รีบจบๆ ตอนเลยละกันละครับ

บรัยย !! -.-


TBC . . . . . . .  . . . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :26〗〖05-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-11-2016 22:52:36
 :L2: :pig4:

ติดตามกันต่อ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :26〗〖05-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 10-11-2016 23:28:25
อยากเห็นกายหึง
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :27〗〖24-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-11-2016 09:45:12

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter27: วันสำคัญ【ที่ดันลืม 】

เช้าวันศุกร์สุดทรหด ณ โรงอาหาร ตึกคณะ มนุษย์ศาสตร์ ผมกับไอวินเราสองคนพากัน ออกมาจากที่พักกัน ตั้งแต่เช้า เหตุผลเพราะว่า ไอวิน มัน บอกว่ามีธุระสำคัญ ซึ่ง ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ ว่าจะรีบโผล่หัวมาทำซากอะไร (แล้วจะลากผมมาด้วยทำไม. .)

ทั้งๆที่มันบอกว่านัดไว้ตอน เที่ยงๆ แต่เวลาในตอนนี้ พึ่งแปด โมงกว่าๆเอง ตัวผมทั้งเครียดทั้งปวดหัว เมื่อคืนก็นอนน้อยกว่าจะหลับได้ก็เกือบๆ ตีสี่ แถมวันนี้ ยังต้อง ตื่นมาที่ม. พร้อมกับมันตั้งแต่เช้าอีก. . .  วันนี้เลยถูกนับว่าเป็นวันสุดบัดซบวันนึงที่ผมต้องพบเจอมาตลอดทั้งสัปดาห์เลยละครับ หึหึ !

“เจ มึงว่า ตุ๊กตาหมีสีขาว กับตัวนี้สีน้ำตาลตัวเนี้ย มึงว่าตัวไหน แพม เขาจะชอบวะ. .” วินมันยื่นไอโฟนของมันที่ มีรูปหมีสอง ตัวกำลังนั่งอยู่ข้างๆ กันพร้อมกับถามความเห็นผม แล้วผมก็มารู้ความจริงที่หลังว่า ธุระสำคัญที่มันพูดถึง น่าจะเป็น เรื่องผู้หญิงครับ เหอะๆ. .

“กูว่าก็เหมือนๆ กันแหละ ”

“เหมือนห่าอะไรละ ตัวนี้สีขาวส่วนตัวนี้สีน้ำตาล . . ”

“ก็แค่สีปะวะ มึงลองสังเกตดูขนาดตา จมูกปาก แถม ไอโบสีแดงๆนั้นยังมีเหมือนกัน อยากได้ตัวไหนมึงก็ซื้อเอาดิ่. .”จริงๆ ผมเองก็ไม่ค่อยจะเข้าอารมณ์ในการเลือกอะไรสักอย่างของ มัน แต่นานๆ ทีจะเห็นมันเริ่มที่จะจริงจังกับใครสักคน. .เพื่อนสุดแสนจะดีอย่างผมเลยต้องอยู่เป็นที่ปรึกษาก่อนลง สนามจริงให้กลับไอเชี้ยวินมันนั้นแหละครับ

“แล้วมึงว่าตัวไหนสวยอ่ะ” ผมเริ่มชักเบื่อๆ กับความเยอะของมัน ที่เอาแต่ถามเซ้าซี้ ผมเลยชี้ นิ้วเลือกอย่างสุ่มๆ แต่ผลที่ออกมาก็คือตรงกันข้าม ครับ . . . โดย เพื่อนวินสุดที่รัก ให้เหตุผลที่โคตรจะฟังขึ้นว่า

“ที่กูขอให้มึงเลือกเนี้ยเพราะกูรู้ว่าเซนต์เรื่อง เลือกของๆมึงเนี้ยโคตรรจะห่วย เลยลอง ถามดู แล้วแม้งก็เป็นอย่างที่กูคิดไว้ไม่มีผิดเลย . .แต่ยังไงก็ขอบใจนะมึงที่อุตส่าห์ ช่วยเลือก”  หึหึ ถ้า ผมจะเลิกคบกับไอเชี้ยวินวันนี้ตอนนี้เลยจะมีใครว่าอะไรมั้ย หึหึ ไอเราก็อุตส่าห์หวังดีมานั่งช่วยเลือก ยังจะสอใส่เกือกมานั่งด่าผม อีกซะงั้น ไอเพื่อนเวร.  . .

ผมกับไอวินเรานั่ง รอกันอยู่ ที่คณะจนเกือบๆ จะเที่ยงๆ แต่ก็ยังไม่เห็นมีวี่แวว ว่าจะมีสาวๆ คนไหน โผล่ หน้ามาให้ผมกับไอวินได้เห็นกันเลย. .  นึกๆ แล้วประชากร ผู้หญิงในคณะผม นับว่าขาดแคลนมากครับ . . แต่ถ้าจะให้เทียบคณะผมกับ คณะนิเทศศาสตร์  นับว่า แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยละครับ. . .

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ จนชนะด่านสุดท้ายใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงกว่า แต่ก็ยังไม่เห็นจะมี ใครเดินเข้ามาที่ โต๊ะที่ผมกับไอวินนั่งอยู่เลย จนผมชักเริ่มเอะใจว่า ทางฝั่งผู้หญิงน่าจะเป็นฝ่ายเบี้ยวนัด ผมกำลังจะหันไปถาม ขอความเห็นจากไอวินว่าควรจะเอาไง ต่อ เพราะ อีกไม่ถึง 20 นาที ก็จะได้เวลา ที่ผมต้องเข้าห้องเรียนกับเขาบ้างแล้ว. . 

“ไอวิน ไหน คนที่มึงนัดไว้วะ ไม่เห็นจะมา.... ” อ้ะ อ้าว ไอวินมันหายไปไหนของมันอีก แล้ว เป็นอย่างนี้ทุกทีเผลอไม่ได้เป็นหายตลอด ผมรู้สึกนึกโมโหขึ้นมา กะว่าจะโทรด่ามัน สักหน่อย แต่ระหว่างที่ กำลังยกโทรศัพท์กดเบอร์ไปหาไอวิน ก็มีสายเข้ามาซะก่อน นับว่ามันโชคดีไปครับ หึหึ .  .. กาย

“เออ”

“เป็นอะไร. . ”

“ป่าว”

“ป่าวแล้วทำเสียงอย่างนั้นทำไม. ”

“เออไม่มีอะไรหรอกน่า”

“ โทรมามีอะไร”

“ถ้าไม่อยากคุยวางไปก็ได้นะ กูไม่ว่าหรอก อีกย่าง ถ้ากูจะโทรหามึงจำเป็นต้องมีธุระด้วยเหรอ ? .  .” อ้าวๆ ซวย แล้วนี้ผมเผลอใส่อารมณ์กับไอกายไปหรอกเหรอเนี้ย ผมไม่รู้ตัวเลยจริงๆ นึกว่าตัวเองกำลังคุยกับไอวินอยู่ซะอีก. . ชักมึนๆ

.”เห้ย ๆ กาย อย่านอยกูนะเว้ย กู แค่เครียดๆ เรื่องไอเหี้ยวินนิดหน่อย หว่ะ กู ขอโทษ คือ. . ”

“เออกูไม่ได้โกรธอะไรมึงหรอกแค่แปลกใจ แล้วนี้อาบน้ำแต่งตัวรึยัง ให้กูไปรับมั้ย?”

“อ่อไม่เป็นไร ตอนนี้กูอยู่ที่คณะแล้วกำลังจะเข้าเรียน   แล้วมึงอะอยู่ไหน ทำอะไรกับใครอยู่. . ไม่มีเรียนอ่อ”

“วันนี้ไม่มีเรียน เลยนอนอยู่บ้าน มึงเรียนเสร็จกี่โมงอะ เดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน. .”

“เกือบๆสี่โมงอะมึงๆงั้นเดี๋ยวกูบอกให้ไอเซิฟ จดไว้ให้ก็ได้ มึงอยากกินอะไรละ?”ในระหว่างที่ผมกำลัง รอฟังคำตอบจากปลายสายก็เริ่มๆรู้สึกว่าทางนั้นเงียบไป
“ฮัลโหล. . ฮัลโหล ได้ยินกูมั้ยเนี้ยกาย.ฮัล”
“เซิฟคือใคร ?” น้ำเสียงของมันดูนิ่งๆ ฟังแล้วชวนเอาผมเสียวสันหลังวาบ

“เซิฟมันเป็นเพื่อนในคณะกูมึงคิดไปไหนละนั้น อย่าบอกนะว่ามึง .  หึงกู. . .”

“เออกู หึง แล้วกูก็ไม่ชอบใครใครมายุ่งกับคนของกูด้วย. .” ผมเผลอยิ้มออกมาตอนได้ยินที่มันพูดว่า .คนของกู. . . ฟังแล้วมันรู้สึกหวิวๆ ยังไงไม่รู้แหะ  ><

 “คร้าบ รู้แล้วคร้าบ  งั้นเดี๋ยวกูรีบวิ่งเอาสมุดขึ้นไปให้ไอเซิฟมันก่อนนะ เดี๋ยว กูรีบลงมา”

“กูไม่รีบ. .มึงขึ้นเรียนเถอะ.  . ” คนเขาอุตส่าห์จะโดดเรียนเพื่อไปหาแท้ๆ กลับไม่ชอบ. . เอ๊ะๆ แต่ไหงวันนี้ ไอกายมันดันปฏิเสธซะได้. .

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :27〗〖24-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-11-2016 09:47:58
“กายมึงโกรธกูป่าวเนี้ยถามจริงๆ ทำไมวันนี้ทำตัวแปลกๆ ห้ะ ปกติ มึงไม่เป็นแบบนี้ๆนี่หว่า”

“ที่กูบอกให้ขึ้นไปเรียนเพราะมึงจะได้ไม่ต้องไปนัดพบเจอ  เรื่องเอาสมุดกับมันทีหลังอีกไง. . ” แต่บางทีผมกับมันก็เจอกันแทบจะทุกวันป่าววะ เรียนคณะเดียวกันนะเฟ้ย จะให้เอากระสอบคุมหัวเรียนรึไงกัน . 

“อ๋อ เออๆ งั้นเดี๋ยวกูขึ้นไปเรียนก่อนละกันงั้นอะ คิดได้ละโทรมาบอกนะครับ. .ตัวเอง”

“อือ”

“เคๆงั้นกูขึ้นไปเรียนละนะ อย่าลืมหาอะไรลงพุงด้วยหละมึง. . =3=”

ผมวางสายจากไอกายได้ 5 นาทีก็ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องเรียน กำลังที่จะเปิดเข้าไป แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดันดันขึ้นมาซะอีก(ขยันดังจริงๆ)(วิชานี้อ.ปราโมทย์แกเข้มเรื่องการตั้งใจเรียนของนักศึกษามากๆครับ ต้องปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดและห้ามแอบเล่นในชั่วโมงเด็ดขาด เพราะถ้าหากอ. แกเกิดเห็นขึ้นมารับรองได้รับ D ด็อกตัวใหญ่ๆ ไว้รับประทานแทนข้าวเที่ยงแน่ๆ ครับ) ผมมองดูไปที่เบอร์ที่โทรเข้ามา. . อะตอม. .  ผมทำท่าลังเลว่าควรจะรับสายตอนนี้ดีมั้ย เพราะอีกมีกี่ นาที

อ.ปราโมทย์ก็จะล็อคห้องแล้ว แถมเพื่อนๆ สองสามคนในนั้นที่เห็นผมยืน งึกๆงักๆ อยู่ก็กวักมือเรียกผมให้รีบเข้าไป ในคลาส ในหว่ะหว่างนั้นผมยืนคิดอยู่สองจิตสองใจว่าควรจะรับ ดีมั้ย หรือควรจะรีบเดินเข้าไปเรียน ดีแต่สุดท้ายผมก็กดรับเพราะคิดว่ามันอาจจะมีธุระอะไรก็ได้ แต้ถ้าหากโทรมาหยอดมุขห่าส้นตีนอะไรตอนนี้ละก็รับรอง กลับไปมีตื้บครับ. .

“ฮัลโหล. . ว่าไงมึง” ผมกล่าวคำทักทายด้วยน้ำเสียงที่ดูไพเราะ(มั้ง)

“ฮ.ฮะ.....”ปลายสายยังทำเสียงอ้ำๆอึ้งๆ ทำเอาผมจับใจความไม่ได้เลยว่ามันกำลังจะสื่ออะไรกับผมอยู่

“ถ้าจะโทรมากวนตีนไว้เวลาอื่นนะมึง ตอนนี้กูมีเรียน ไว้ กลับไป. . . ”

“เพล้ง!!” เสียงมีสิ่งของอะไรบางอย่างตกแตกดังมาจากปลายสาย ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูไว้และตั้งใจ ฟังเสียง จากคนในสายให้ชัดมากที่สุด เท่าที่ตัวผมเองจะพอได้ยิน

“ฮัลโหลอะตอม มึงได้ยินกูมั้ย ฮัลโหล เห้ย อะตอมมึงเป็นอะไร??”

“เจจจจจจจ!”ผมได้ยินเสียงอะตอมมันกำลังเรียกชื่อผมอย่างยาวเยียดเหมือนมันพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูโอดครวณ เหมือนมันกำลังเจ็บปวดปวดอะไรซักอย่างอยู่. . .

“เฮ้ยอะตอมใจเย็นๆ มึงเป็นอะไรบอกกูดิ่. . ตั้งสติหายใจช้า. .แล้วค่อยๆ พูด” ผมยืนลุ้นคำตอบของอะตอมอยู่ที่หน้าประตู ทั้ง เพื่อน ในคณะและอาจารย์ ต่างพากันหันมามองผมที่ยืนอ้ำอึ้งๆอยู่ที่หน้าประตูไม่ยอมเข้ามาสักที ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง นาที ที่ผม จะสามารถเดินเข้าห้อง เพื่อเข้าเรียนร่วมคลาสกับเพื่อนได้. . แต่ในจังหว่ะเดียวกัน ผมก็ตัดสินใจที่ จะปล่อยมือออกจากบานประตูและ รีบวิ่งออกจากตึกคณะของตัวเอง เพื่อ รีบ ตรงไปที่ คอนโดข้างๆ ม.ที่ ไออะตอมมันอยู่. .  ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้

อะตอมได้อยู่ที่ห้องมั้ยผมรู้แต่ ว่าถ้าหากผมไม่ไปหามัน อะตอมมันก็ไม่มีใคร เลย นอกจากผม. .แล้วยิ่งตอนฟังน้ำเสียงผ่านโทรศัพท์ผมยิ่งแอบ คิด มากไม่ได้ทุกที กลัว มันจะเป็นอะไรไป บาง คนอาจจะตั้งคำถามขึ้นมาว่า มันใช่เรื่องหรอ ที่ผมต้องมา เที่ยววิ่ง ตามดูแล คนอื่นๆ ไปทั่วขนาดนี้ . .สำหรับคนอื่นผมก็ไม่สามารถให้คำตอบได้นะ แต่ถ้าสำหรับผมแล้ว เพื่อนๆ ทุกคนก็เปรียบ เหมือนคนในครอบ ครัวของผมแล้วทั้งนั้นแหละ. . ให้ทำไงได้  นิสัย แบบนี้ ของผมมันแก้ไม่เคยหายสักที . .. . .

ระหว่างขึ้นลิฟฟ์ผมคิดอยู่อย่างเดียวคือ ขออย่าให้มันเป็นอะไรเลย . . หรือถ้าหากเกิดเหตุการณ์อะไรที่ๆไม่คาดฝันก็ขอให้มีคนมาเห็นและ ช่วยมัน ที . . ..  ลิฟฟ์ถูกเปิดออก ขณะที่ตัว ผมกำลัง วิ่งตรงไปยัง ห้อง 302 ผมไม่รอช้ารีบหยิบกุญแกขึ้นมาไขห้อง และรีบเดินไปเคาะ ห้องของอะตอม แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ. .ผมลองหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่าอะตอมต้องอยู่ด้านในของประตูไม้บานนี้แน่ เพราะเสียงริงโทนของมัน ยังดังแพดเสียงดังอยู่ข้างใน. .  ผมใช้มือทุบๆ เรียก ชื่อมันอยู่

หลายที แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ จนผมคิดที่จะพังประตูเข้าไป แต่ ถึงจะพยายามแค่ไหน ร่างกายของผมมันก็ไม่เอื้ออำนวยอะซะเลย ประตูไม้บานใหญ่กว่าผมมาก  ผมพยายามใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมด.  . ตั้งท่าวิ่งเข้าชนประตูบานหวังจะพังเข้าไป แต่เหมือนยิ่งทำไปก็เสียแรงเปล่า. .  ผมเลยลองชิวิธีสุดท้ายนั้นก็คือ การสะเดาะกลอน.  . แต่มันก็เหมือนมีใครมาเล่นตลกผมเมื่อลองบิดดู

ปรากฏว่าห้อง ของอะตอมมันไม่ได้ล็อค อยู่ ผมเลยรีบวิ่งเข้าไปด้านในห้องและภาพที่ผมเห็นคือ  . . .อะตอม. . .กำลังนอน หน้าฟุบอยู่กับพื้นอยู่ แถมยังมีเศษแก้วแตกกระจายอยู่ทั่วห้อง ผมรีบเดินไปพยุงตัวอะตอมที่นอน สลบอยู่ ให้หงายหน้าขึ้นมา. . . ระหว่างที่มือของผมสัมผัสเข้ากับต้นคอของอะตอมผมรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แผ่ซ้าน ไปทั่วมือของผม. . ผมรีบช่วนพยุง ดันตัวของอะตอมให้ขึ้นไปนอนอยู่ที่เตียงก่อนจะรีบเดินเข้าไปหา กล่องตัวบวกที่คิดว่าหน้าจะมีอยู่ภายในห้องนี้บ้าง แต่กลับมีเพียงถุงยาเพียงไม่ กี่ อย่าง มีแค่ยาแก้ไอ แก้เจ็บขอ และ ยาบรรเทาอาการปวดเมื้อยกล้ามเนื้อเท่านั้นเอง. .  จนอยู่ๆ ก็ลืมนึกขึ้นได้ว่า

ตัวผผมเองอาจจะเอาพวกยาสามัญ ติดกระเป๋ามาบ้าง แล้วก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ ครับนับว่าโชคดีไป. . ผมเดินไปหยิบน้ำ ขวด ที่อยู่ในแพ็คข้างๆ ตู้เย็นถือมาพร้อมกับยา 4 เม็ด ผมพยายามพยุงพอให้มันลุกขึ้น และเรียกสติ อะตอมมันหลี่ๆ ตามมามองผม แต่ก็ยัง มีกะจิตกะใจจะส่งยิ้ม กวนๆ ให้ผมอีก เห้อ ผมรีบ วางยาไว้บนมือของมันก่อนจะ ยกขวดน้ำ ให้มันดื่มตาม. . .

ผมนั่งเฝ้าดูอาการของอะตอม อยู่พักใหญ่ จากที่มันนอนขดตัวเหมือนกำลังเจ็บปวดอยู่ จนตอนนี้มัน กลับมานอนเหยียดตรงอย่างปกติแล้วครับ.  . . แต่จะว่าไปไออะตอมมันก็เก่งเหมือนกันนะครับ ทั้งๆ ที่ร่างกายของตัวเองเป็นหนักขนาดนี้แต่ก็ยังพอมีสติโทรไปหาผมได้ ผมไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าหากผมมาช้ากว่านี้ มันจะเป็นยังไงบ้าง. . ไม่อยากจะคิดภาพตามเลยจริงๆ ผมเฝ้า คอยเช็ดตัวให้มันสลับกับเปลี่ยนผ้าที่คอยประคบอยู่ที่หน้าผาก สอง สามครั้ง จน ผมเองเริ่มรู้สึกเพลียๆ เลยเผลอหลับไปโดยที่ผม ไม่ทันได้รู้ตัว .  . . 


. . . . . . . . . . . . .

ผมตื่นมาอีกทีเพราะเริ่มรู้สึกถึงแรงขยับตัวของมัน ผมปรือตาขึ้นมองก็เห็นมันกำลังมอง นอนจ้องหันหน้ามาทางผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว. .

“ตื่นแล้วอ่อมึงเป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง. .”อะตอมไม่ได้พูดตอบผมได้เพียงแต่พยักหน้า. .แทนการพูด

“เออไม่เป็นไรก็ดีแล้ว รู้มั้ยกูโคตรตกใจเลยนะเว้ย ตอนที่มึงโทรมาแล้ว ได้ยินเสียง ห่าอะไรแตกสักอย่างเนี้ย. .  แล้วสรุปเรื่องราวมันเป็นยังไงวะ เล่าให้กูฟังดิ มันเกิดอะไรขึ้น...” อะตอมมันพยายามจะใช้มือของมันกดไปที่ลำคอของตัวเองเพื่อพยายามเค้นเสียงออกมาตอบคำถามของผม. . พอผมเห็นผมก็รีบ ดึงมือมันออกและบอกให้มัน นอนอยู่เฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร แค่ตอบ ว่าใช่หรือไม่ใช่ ด้วยการพยักหน้า หรือส่ายหน้าก็พอ. . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :27〗〖24-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-11-2016 09:51:48
“มึงป่วยมานานรึยัง ” (อะตอมส่ายหน้า)

“เออแล้วนี้กินอะไรรึยัง หิวรึ เปล่า เดี๋ยวกูออกไปซิ้อให้ก็ได้นะ . ” คำตอบของมันก็ยังเหมือนเดิม

“หรองั้น มึงก็ควรพักผ่อนเยอะๆ นะเดี๋ยววันนี้กูอยู่เฝ้าไข้มึงเองไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถ้าอยากได้อะไรก็ เรียก เอ้ย ไม่สิ มึงยังพอมีแรงยกแขนอยู่ใช่มั้ย”อะตอมพยักหน้า

“มึงหยิบอะไรก็ได้เขยี้วงใส่ประตูละกัน เดี๋ยวกูได้ยินแล้วจะรีบวิ่งเข้ามาเอง โอเคนะ” ในระหว่างนั้น สายตาของผมก็แอบเหล่ไปมองเวลาที่ ข้างหัวเตียง บอกเวลา  20.46 น. ดึกมากขนาดนี้แล้วหรอเนี้ย จำได้ว่าขามาพึ่งจะบ่ายๆ เอง . . . เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เร็วจนผมเองก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน. . และ จังหว่ะที่ผมกำลังจะยื่นลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง ก็มีเสียงสั่นๆ ดังออกมาจาก กระเป๋าเสื้อของ ผม “กาย”

“อื่อว่าไงมึง. . ”

“เมื่อไหร่มึงจะมาเนี้ยเจ กูรอนาน แล้วนะ . . ” จังหว่ะนั้นเองผมก็พึ่งนึกออกว่า ตัวเองมีนัดกินข้าวกับกายเมื่อช่วงบ่ายๆ เอาไว้อยู่. . . แต่กว่าจะนึกออกอีกทีนี้ก็เกือบ สามทุ่มแล้ว ตอนนี้ผมกำลังคิดอยู่สองแง่ว่าควรจะไป ในตอนนี้ แล้วทิ้ง อะตอมไว้หรือควรจะอยู่เฝ้าอะตอมแล้วเลื่อนนัดไปเป็นวันพรุ่งนี้แทน. . . ก็ในเมื้อผมได้กล่าวลั่นว่าจาสัญญากับทั้งสองคนไปแล้ว ถ้าหาก ผมไปกับคนใดคนนึง อีกคนนึงก็คงต้องอยู่คนเดียว ใจนึกผมก็อยากรีบไปหายกายแต่กลัวว่าไปแล้ว จะไม่มีใครคอยอยู่ดูแลอะตอมอยู่ที่

ห้อง. .แต่ถ้าผมไม่ไปหากายมันก็ผิดคำที่เคยพูดไว้อีก . .  .เห้อ ผมควรจะเลือดทางไหน ดี ถ้าเพื่อนๆ คนไหนพอจะมีไอเดียก็ช่วงแน่นำ ผมได้ นะครับ ตอนนี้รู้สึกในหัวผมว่างเปล่าไปหมด . . . คิดอะไรไม่ออกเลย. . .แต่ระหว่างนั้น  ผมก็ชุกคิดขึ้นมาว่า การกินข้าว กับการดูแลชีวิต คนมัน มี อะไรที่ต่างกัน กินข้าวผม อาจจะกินวัน ไหน ตอนไหน เวลาไหนก็ได้ แต่ชีวิต คนคือสิ่งที่ไม่แน่นอน ผมยอมรับว่าลำบากใจมากในการตัดสินใจครั้งนี้และหวังว่ามันคงจะเข้าใจผม ๆเลยเลือกที่จะอยู่อะตอมเพื่อคอยดูแลมันในคืนนี้ส่วนเรื่องนัดกินข้าวระหว่างผมกับกายก็ขอผลัดไว้เป็นวันหน้าละกัน . . . พอผมคิดประมวณผลหาเรื่องต่างๆ มาอธิบายได้จึงค่อยๆ เริ่มคุยๆ กับ กาย อย่างสงบๆ

“กาย คือ เอ่อ เรื่องกินข้าวอ่ะ ไว้เป็นวันอื่นได้ปะวะ คือกูติดธุระหว่ะ ”

“ธุระ. . สำคัญมากเลยหรอ”

“ก็”ถ้าถามผมว่าสำคัญมั้ย มันก็สำคัญแหละครับแต่ผมควรจะเรียบเรียงคำพูดอธิบายยังไงให้กายมันเข้าใจดีนะ. .

“ก็. . .สำคัญ แต่มึงเข้าใจกู. . . .”

“สำคัญมากขนาดนั้นเลยหรอ. .”

“คือ กูก็อยากไปนะกายแต่” ถ้าผมเผลอพูดออกไปว่าที่เลื่อนนัดมันเพราะต้องมาดูแลอะตอมมันมีหวังไอกายมันโกรธ ผมตายแน่ๆ ผมเลยจำเป็นที่จะต้องโกหกเพื่อ. . ไม่ให้มันคิดมาก และก็คงเป็นทางเดียวที่จำทำให้กายไม่ผิดหวังจนเกินไป

“กูติดธุระอยู่ที่ร้าน กับพี่อินวะ กว่างานจะเสร็จคงอีกนานเลยอะมึง ยังไงวันนี้กูขอโทษนะ เว้ยกาย ไว้วันไหนเดี๋ยวกูชดเชยให้ มึง ไม่โกรธกูใช่มั้ย. .”

“งั้น ก็รีบไปทำงานเถอะเดี๋ยวพี่อินรอนาน.  . ”เหมือนกายมันกำลังโกรธผมอยู่ทั้งๆ ที่ผมถามคำถามนึง มันกลับตอบอีกคำถามขึ้นมาอีกข้อหนึ่งเลยทำให้ผมรู้ว่า กายกำลังโกรธผมอยู่แน่ๆ . . ผมได้แต่พูดขอโทษ ๆ อยู่ในใจ เพราะตอนก่อนที่ผมจะตกลงเป็น แฟนกันผมได้ให้สัญญากันไว้ว่ามีอะไร ผมกับมันเราต่างคนต่างจะช่วยให้คำปรึกษา กัน พูดคุยกันทุกๆ เรื่องๆ และสิ่งหนึ่งที่กายย้ำนักย้ำหนากับผมเลยก็คือ.  มันเกลียดการโกหกเป็นที่สุด. . .เพราะการโกหกคือจุดเริ่มต้น ของ การผิดคำสัญญา. . . พอผิดสัญญา ความเข้าใจที่เคยมีให้กันก็จะลดน้อยลง. .  พอความเข้าใจน้อยลง. . .ก็ทำให้ความเชื่อใจที่เคยมีให้กันก่อนหน้า น้อยลงถดถอยลงไปอีก. . . ผมทั้งรู้สึกผิดและไม่อยากที่จะโกหกกาย กลัวมันจะเสียความรู้สึก และสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดเลย คือ. . .ถ้าหากมันรู้ความจริง แล้ว . .. กาย มันอาจ ไม่เหมือนเดิม  นั้นคือสิ่งที่ผมกลัวมากที่สุดในตอนนี้ . . . เห้อ จะทำไปได้ซักกี่น้ำวะ เจ .  .


ก่อนวางสายกายมันไม่พูดเหมือนทุกๆ ครั้งที่เราเคยคุยกันปกติแล้ว มันจะต้อง พูดบอกกับผมเสมอว่าอย่านอนดึกนะ ฝันดีนะ เป็นห่วง นะแต่คราวนี้กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาจากปลายสายเลย มีเพียง ความรู้สึกเหงาๆ เท่านั้น ที่ผมพอจะสัมผัสได้. . อย่างน้อย ถ้ามันด่า ผมหรือต่อว่าผมสักนิดผมก็ยังดีแต่นี้ กลับวางสายไปดื้อๆ ไม่พูดไม่จาเลยแม้แต่คำเดียว  . .

ตกดึกเกือบๆ เที่ยงคืนผมเดินลุกไปที่ห้อง อะตอมเพื่อเช็ดตัวให้มันอีกครั้ง ตอนนี้ ไข้ของมันก็ลดลงเรื่อยๆ แล้วครับ ถึงจะตัวอุ่นๆ อยู่นิดหน่อย แต่ก็นับว่า ยังดีกว่าช่วงบ่ายเยอะเลย. . .

ผมรู้สึกทั้งง่วง ทั้งเพลีย ข้าวปลาก็ยังไม่ได้กิน จะเดินออกไป ซื้อก็กลัวว่า ระหว่างนั้น อาการมันจะแย่ขึ้นรึเปล่า ผมเลยได้แต่อดทนแล้ว บอกกับตัวเอง ว่า เอาให้มันโอเคขึ้นก่อน ส่วนมึงจะไปไหนก็ค่อยไปนะเจ. .ผมบอกตัวเองอย่างนั้น ซ้ำๆ อยู่ในหัว จนเวลาเลื่อนลอยผ่าน ไป ผมก็เผลอหลับไปโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว. . . .


Trrrr.  .  . ..   เสียงไอโฟนดังแพดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ทำให้ผมปรือตาขึ้นมามองว่าใครโทรมา. . จังหว่ะที่ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็พึ่งสังเกตว่า ตัวเอง ทำไมถึงมา มานอนข้างๆ เตียง แล้วทำไมมือผมถึงไปจับ มือของอะตอมได้. . คิดว่าผมเองน่าจะละเมอไปจับมือมันเอง ผมไม่ได้ใส่ใจและ พยายามดึงมือตัวเองออกจากมือของอะตอมอย่างเบามือ (กลัวมันจะตื่น) ก่อนจะค่อยๆ เดินย่องๆ ออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกห้อง. .

“อืม มีไรมึง ไม่มีเรียนรึไงถึงโทรมาหากูแต่เช้าเนี้ย” ผมกล่าวคำทักทายไอเพื่อนเวร ที่ดันโทรมาปลุกในเวลาพักผ่อนของผม
.”กู อ่ะไม่มี . .แต่มึง. . ”ยังไม่สิ้นสุดคำพูดของไอวินดีก็ทำให้ผมชุกคิดขึ้นมาได้ว่า ตัวเอง มีเรียนตอนเช้า กว่าจะนึกออก ผมก็หันไปมองนาฬิกาทั่ว ห้อง บอกเวลา 08.24 น. เหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่า โชคดีหน่อย ที่ตอนนี้ ผมย้ายมาอยู่ข้างๆ ม.เลยทำให้ง่ายต่อการเดินทางไปคณะมาก ปกติแล้ว ผมจะใช้เวลา จากที่ร้าน มา ม. เกือบครึ่งชั่วโมง. . แต่ตอนนี้ ผมใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการเดินเข้า ม.

“ งั้นเดี๋ยวอีกสิบนาทีเจอกัน ”

“เออกูอยู่ ตึกวิศวะนะเว้ย  รีบมาละกูรอแดกข้าวอยู่. . ”

“เออ ๆเดี๋ยวกูจะรีบไป แค่นี้นะ กูไปอาบน้ำก่อน” ผมกดวางสายไอวิน ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่ห้อง น้ำด้านนอก เตรียมตัวกำลังจะอาบน้ำแต่น้ำ. . ดันไม่ไหล. .  แต่ในระหว่างนั้นก็พึ่งจะคิดออกว่า ในห้อง ของอะตอมก็ยังมีห้องน้ำอยู่อีกห้อง ผมเลยรีบเดินที่คิดว่าน่าจะส่งเสียงรบกวนอะตอมมันเบาที่สุด และรีบ อาบน้ำอย่างที่ตัวเองตั้งใจไว้. . .  ผมใช้เวลาอาบในวันนี้ไม่ถึง 5 นาที เพราะต้องรีบทำเวลา. . พอเดินออกมาก็ยังเห็นอะตอมนอนหลับตาอยู่เลยจะว่าไปไอนี้มันก็ขี้เซาเหมือนกันนะครับ ขนาดเสียง น้ำ
กระทบพื้นเสียงดังขนาดนั้นมันยังไม่ได้ยินอีก . .  สงสัยคงจะหลับลึก ผมเลยอาศัยจังหว่ะนั้น ใส้เสื้อผ้ามันซะตรงนั้นเลย แต่. . . ก็ไม่ได้โป๊ร่อนจ้อนขนาดนั้นนะครับ มีผ้าเช็ดตัวคลุมช่วงเอวผมไว้อยู่. . .พอใส่กางเกงเสร็จก็พึ่งจะนึกออกว่าลืม หยิบเสื้อเข้ามาด้วย แต่ถ้าลองนึกดูๆ แล้ว เสื้อที่ผมใส่ไว้เมื่อวานเป็นตัวสุดท้ายแล้วนิ่. .จะให้ซักรีดใหม่วันนี้ก็คงไม่ทันด้วย แต่ถ้าจะให้ใส่ ตัวเดิมไป มันก็คงจะหน้าเกลียดทั้งเหม็นเหงื่อ และกลิ่นๆอะไรอีกมากมาย. . ผมหันหลังกลับไปมองอะตอมอีกครั้ง เพื่อดูเชิง กะจะลงมือทำแผนใหญ่นั้น คือการ ขโมยเสื้อของมัน ไม่สิ ต้องเรียกว่า ยืมแต่ยังไม่ได้บอกจะดีกว่า เพราะดูหน่วยก้านแล้ว มันน่าจะใส่ไซด์เดียวกับผม. . แต่พอเปิดดูก็ทำเอาผมตกใจอยู่ไม่น้อย . . ถ้าคุณๆ คนไหนเคยดูพวกซีรี่ที่ตัวเอกร่ำรวยๆหน่อยก็น่าจะพอเห็น ด้านในของตู้เสื้อผ้านะ ครับว่า มันมีอะไรบ้าง ทั้งเยอะ และ ดูหรู หราแปลกๆ อาจเป็นเพราะตู้สีดำขลับ ที่ทำให้ เสื้อผ้าเหล่านั้นดูโดดเด่น แต่จริงๆ แล้วผมกำลังตกใจกับจำนวนเสื้อ ผ้าที่มีอยู่ในตู้มากกว่า เสื้อ นักศึกษาของ มัน ผมลองนับๆ ดูแล้วประมาณ 15 ตัว แล้วทุกๆ ตัว นี้ หารอยยับไม่เจอเลยครับ แหม่ ไม่เคยคิดเลยว่า ไออะตอมมันจะเป็นคนที่เนี้ยบขนาดนี้. . .ผมกำลังจะหยิบ

เสื้อของอะตอมออกมาจากตู้แต้เหมือนมีความคิดชั่งใจผมไว้ว่าควรจะทำดีมั้ย จะเสียมารยาทรึเปล่า แตก็อย่างว่าแหละครับ มือผม ไปไวกว่าความคิดเสมอ เผลอหยิบเสื้อมาใส่โดยไม่รู้ ตัว และรีบ วิ่งออก จากห้องของอะตอมหวังจะ เข้ามหาลัย ก่อน 20 นาทีให้ได้เลย ไว้มัน ตื่นมาค่อย บอกขอยืมที่หลังละกัน ตอนนี้ ให้มันนอน สลบเหมือดอยู่อย่างนั้นต่อไปเถอะครับ หึหึ

ผมใช้เวลาเกือบ  ครึ่งชั่วโมงในการเดินจากคอนโด ไป ตึกคณะมนุษย์ ไม่รู้วันนี้ รถบัสรับนักศึกษา กับพวกพี่วินมอไซด์หายไปไหนกันหมด. . กว่าจะถึงหน้าคณะ ก็เล่นเอา ผม ยืน กุ่มท้องเป็นหมาหอบแดดอยู่หน้าคณะเลย. .  เหมือนจะเห็นไอวินเดินออกมารับผมอยู่ไกลๆ ด้วย .   ผมอยากจะรีบวิ่งเข้าไปหามันแต่ ตอนนี้ให้มันเป็นฝ่ายเดินเข้ามารับผมจะดีกว่า. . . ไม่งั้นผมคงจะได้ลงไปนอนชักเพราะความเหนื่อยแน่ๆ

“ไงมึง วิ่งมารึไง ทำไมแลดูเหนื่อยๆ วะ”

“มึงว่าสภาพอย่างนี้กูนั่งวินมาหรอห่า แทนที่จะออกมารับกู เสือกให้กูเดินมา . . ”

“วันนี้กูนั่งแท็กซี่มา มอไซด์เสีย ”

“แล้วเบนซ์คันงามมึงละ. . ”

“ป๊าไม่ให้กูเอาออกมา. .”

“เออๆช่างเหอะ เหลือเวลา อีกตั้งชั่วโมงกว่า ไปหาอะไรกินกันดีกว่า. . . ”พอพูดถึงเรื่องกิน ผมก็นึกถึงไอกายขึ้นมา เห้อไม่รู้ป่านนี้จะหายโกรธผมรึยัง. . ก่อนออกมาผมก็โทรไปสามสี่สาย แต่ก็ไม่มีคนรับ . . สงสัยคงจะหลับอยู่. . ไอ่ผมเองก็ไม่อยากรบกวน. .ไว้กินข้าวเสร็จก่อนค่อยโทรไปหา มันใหม่แล้วกัน. . . .

“มึงจะกินอะไร” ไอวินหันมาถามความคิดผมทั้งๆ ที่ตอนนี้กำลัง อยู่หน้าร้านข้าวมันไก่. . โคตรจะมึน ผมแอบเห็นป้าคนขายหันมามองหน้าผมกับไอวินแหม่งๆ เหมือนสีหน้าของป้าแกบอกว่า ถ้ายังนึกไม่ออกแล้วจะมายืนแซกคิวคนอื่นทำพระแสงอะไร . . .
“มายืนขนาดนี้แล้วก็เอาร้านนี้แหละห่า มึงสั่งนะ เผื่อกูด้วยเดี๋ยว กูไปซื้อน้ำเอง มึงเอาน้ำอะไร. . ”

“เป็ปซี่ ” ผมรีบเดินไปซื้อน้ำที่ร้านตรงข้ามสองแก้วก่อนจะรีบเดินกลับมาทีโต๊ะ รอไอวินมัน

“อะ ไอวินวางจานข้าวมันไก่ตรงหน้าของ ผมและดูเหมือนว่าจานของผมจะมีเนื้อไก่มากกว่าจานของมัน ผมเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวไปมองไอวินด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้ว มันต้องคอบแอบกิน กับข้าวของผมอยู่เสมอ . .แต่ไหง คราวนี้ใน ไหงในจานของผมกลับมีมากกว่าของมันก็ไม่รู้. . .เอ๊ะ หรือมัน จะกลับตัวกลายเป็นคนดี แล้ว. . แต่ก็อย่างว่าแหละครับ จะเปลี่ยน จะเปลี่ยนไอวินให้กลายมาเป็นคนดี ยากยิ่งกว่าการเปลี่ยนแมวให้กลายเป็นสิงโตอีกครับ .

ในรหว่างที่ผม กำลังนั่งคิดปลงๆ อะไรอยู่คนเดียว จู่ๆ ก็มี ผู้ชายตัวสูงๆ เดินเข้ามานั่งข้างๆ ผมแบบไม่ทันตั้งตัว ผมมองหน้ามันสลับกับมองหน้าไอวิน เพื่อจะถามเป็นนัยๆ ว่า ไอเหี้ย ตัวสูงๆ ชะรูด ตาตี่ๆ แถมยังส่งยิ้มให้กูนี้มันเป็นใคร .

“เออ พอส นี้เจ เจ นี้พอส เพื่อนที่คณะกู . .  มันบอกอยากเ จอมึง มานานละ ” ไอตี๋ตาตี่นั้นส่งยิ้มให้ผมอย่างกลัวๆ จนผมเองต้องคอยหลบสายตาของมันมามองหน้าไอวินแทน. .

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เจ จำผมได้มั้ย เราเคยเจอกันครั้งนึง ใน งานกีฬาปีก่อนอ่ะ จำเราได้ป่ะ” เออ ผมหันไปมองหน้ามันพร้อมกับใช้ความคิดอย่างหนักในการ นึกถึงเบ้าหน้า ของมันว่า ผมเคยได้ พบเจอ กับมันมาก่อนหน้านี้รึเปล่า แต่ก็ดูเหมือนว่า มัน คงจะนาน เกินไปจนผม ต้องส่งยิ้มเจื่อนๆ และส่ายหน้าแทนการปฏิเสธไป. .

“ จำไม่ได้ก็ไม่แปลก หรอก เพราะตอนนั้น เพื่อนๆ ที่สแตน บังผมอยู่ แฮ่ๆ” แล้วสรุปมึงจะถามกูทำซากอะไรครับห่า ไม่เคยเจอหน้ากันแต่ถามว่าจำได้มั้ย ถถถถ .  .ไอนี้หล่อซะเปล่า แต่สงสัยจะบ้องตื้น เหมือนไอวินแน่เลยๆ มิน่าถึงเป็นเพื่อนกันได้ ฮ่าๆ
ผมปล่อยให้ไอพอสศรัน นั่ง คุยกับไอเชี่ยวินต่อไป โดยผมก็หันมาให้ความสนใจกับจานข้าวมันไก่ตรงหน้าแทน ผมตักกินไปได้คำเดียวก็ไปสะดุด กับ ชื่อคนที่มัน กำลังพูดถึงกัน. . .

“เออวิน วันนี้ทำไมกู ไม่เห็นหน้าไอกาย เลยวะ หรือแม้ง ฉลองดึกจน ลืมว่า แม้งมีเรียนเช้า”

“ฉลอง?”

“อ้าว. .เมื่อวานมึงไม่ได้ไปหรอวะ. .กูนึกว่ามึงไปถึงถาม ”

“เฮ้ยมึง. ”จู่ไอวินก็ทำหน้าเหมือน ตกใจกับอะไรซักอย่างที่หน้าจอไอโฟนของมัน. .

“มีอะไรวะมึง ”ผมเอ่ยปากถามไอวินที่นั่งอ้ำอึ้งๆ อยู่หน้าโทรศัพท์ของมัน 

“เมื่อวาน  วันเกิดไอกายนี้หว่า. .”พรวดดดด แป็ปซี่ที่ผมพึ่งจะยกดื่มแทบพุ่ง ออกจมูกผม. . 

  วัน เกิด . .กาย . . . งั้นหรอ .  แล้วทำไม กายมันถึงไม่ยอมบอกผมตรงๆ ละ  . . .ผมกล้าสารภาพตรงๆ ได้เลยว่า ผมจำวันเกิดของมันไม่ได้จริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยรู้มาก่อน แต่เพียง พักหลังนี้ผมมีเรื่องให้เครียดบ่อย แถมเมื่อวานยังเกิด เรื่องขึ้นมา อีก ทำให้ผมลืม เรื่องวันเกิดของกายมันซะสนิทเลย. .ไอวินมันละสายตาออกจากไอโฟนของมันและหันมา จ้องหน้าผมแทน. . เหมือนมันกำลังคิดว่า ผมเกิด เป็นอะไรขึ้นมา

“แดกดีๆไม่ชอบอีกไอนี้  ชอบแดกทางจมูก”วินมันเสี่ยงกึ่งบนกึ่งแซว หันมาขำผมที่วันที่เผลอทำตัวแปลกไป แต่ใครหล่ะจะรู้ว่าที่ผมแปลก ไปเป็นเพราะ เรื่องที่พึ่งได่ยินเมื่อกี้ต่างหาก

“เออ . กูลืมสนิทเลย แล้วสรุปเมื่อวานมันฉลองที่ไหนวะ”

“อืมเมื่อวานก็เห็นจัดอยู่ที่คอนโดมันอ่ะ แต่แค่แปปเดียว เหมือนกูไปแดกเหล้ากันเฉยๆ อ่ะ สักพักนึงเหมือนพวก ไอเชกับน้องรหัสมันบอกว่าเห็นไอกายยืนคุยโทรศัพท์แล้วแม้งก็หายหัวไปไหนแล้วก็ไม่รู้. . แล้วทีนี้มึงจะเอาไงต่อ. .” ไอตี๋ตาตี่หันมาส่งยิ้มให้ผมก่อนจะหันไปถามไอวิน

“เออน่า เดี๋ยวกูหาของไปเซ่นไหว้มันเอง ”

“แต่มันน่าแปลกนะมึง ”. . . ทั้งวินและผมหันไปสบสาสยตากับไอพอสที่ทำหน้าคุ้นคิดเหมือนกำลังนึกอะไรอยู่. .

“แปลกยังไงวะมึง?”

“ก็เมื่อวาน ตอนเกือบๆ สามทุ่ม กูไปซื้อกาแฟที่ร้าน . . อะไรไม่รู้อะกูลืม ดู แต่พนัก งานนี้ ไอสัดยังกับดารา กูเห็นลูกค้านี้ยืนรอกันซื้อ จนแถวยาวออกไปนอกร้านเลย”

“มึงจะมาแซว ว่า พนักงาน หล่อ พนักสวย ว่างั้นสิ” ไอวินหันไปบ่นพึมพำด่าเพื่อนมันที่เอาแต่พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้

“ยังๆ เรื่องที่กูจะเล่ามันต่อจากนี้ต่างหาก เออ พอ พวก ลูกค้าสาวๆ หายไปกูก็เดินเข้ามาสั่งกาแฟที่หน้าเค้าท์เตอร์แต่แม้งพนักงาน”

“โคตรหล่อเลย/โคตรหล่อเลย” ทั้งผมและไอวินส่งเสียงตอบพร้อมกัน และทำทีท่าว่าจะลุกออกจากโต๊ะเพราะเริ่มรำคาณ ไอตาตี่นี้มันพร่ำพรรณนา หล่อๆสวยๆ ของมัน

“อะๆ เอาจริงๆ ละ เออ พอกูสังเสร็จพนักงานบอกกูว่าของหมด รับอย่างอื่นแทนมั้ย กูก็บอก ว่า ไม่ได้ครับ . .คือถ้าเป็นกูแดกกูไม่อะไรหรอก แต่ม๊ากูเค้าโทรมาย้ำนักย้ำหนาเลยว่าจะกินที่ร้านนี้ให้ได้พนักงานก็เลยแม้งไปตามหาของที่หลังร้านอยู่ตั้งนาน กว่าจะออกมา. . ”

“อันนี้ก็ละเอียดไป มึงเริ่มเรื่องตอนคลายแมก ซักทีดิ ไอห่า . ”

“กูก็กำลังเล่าอยู่นี้ไง .  .แล้วต่อจากนั้นกูก็ไปนั่งรอที่โต๊ะข้างๆ จังหว่ะนั้นแหละ กู เห็น. . ”

“เห็นผี เห็นหมี รึเห็น.  . ”

“เห็นไอกายเว้ย คือกูเห็นมันนั่งนิ่งๆ เหมือนแม้งนั่งกึ่มๆ มันดูเมาๆ แต่ก่อนออกมากูก็ก็ไม่เห็นมันแตะเลยสักแอะนะเว้ย  ท่าทางเหมือนมัน รอใครเลยวะ. . หน้าแม้งโคตรหงอย นี้ๆ กูถ่ายมาให้ดู. . .”ไอพอสหยิบไอโฟนที่กระเป๋าเสื้อ ยื่นมาให้ผมดูรูปที่มันแอบถ่ายไว้ เป็นภาพของกาย ที่มันหัน ข้างมองไปที่กระจกข้างๆ ร้าน ถ้าจำไม่ผิดหน้าจะเป็นร้าน ที่ผมเคยทำงานอยู่แน่ๆ

“แล้วเป็นไง่ต่อวะ” ถึงผมไม่ได้พูดแต่ความต้องการของผมที่ต้องการอยากรู้เรื่องราวต่อ ก็ไม่ต่างไปจากไอวินเลย

“กูก็ไม่แน่ใจวะ กูจำได้ว่า ยืนรออยู่ที่หน้าเคาเตอร์ แล้วอยู่ๆ โทรศัพท์ก็ดัง กูเลยออกมาคุย อยู่นอกร้าน หน้าผมเองรู้สึกชาๆ เสียงรอบข้างอื้อไปหมด ผมพยายามควบคุมสติ ของตัวเองไม่ให้หลุดลอยเผลอ คิดมากเรื่องนี้มากเกินไป.  . แต่เหมือนยิ่งผมห้ามไม่ให้ตัวเองคิดก็เหมือนกับยิ่งคิดหนักมากกว่าเดิมอีก. . . . 

“เจ. ” อยู่ๆผมก็นึกถึงเสียงเรียกที่ได้ยินคุ้นหู ดี เสียง ดังก้องอยู่ในหัว ถึงผมจะรู้ตัวว่าเป็นเพียงเสียงในความคิด แต่ผมก็ยังแอบยิ้มตามทุก ครั้งที่นึกถึง. . .

“เจ. ..  ”เสียงเรียกชื่อผมยังดังขึ้นเรื่อยๆ แต่อยู่ผมก็รู้สึกเหมือนมีอะไรกระแทกใส่หัว พอตั้งสติได้ผมลองมองรอบๆ ก็เห็น ฝ่ามือของไอวิน ผ่านหน้าผมไป. .

“อะไรของมึง ไอวิน. .”
“กูเรียกมึงนานละสัด นั่งเหม่อ อะไรอยู่คนเดียว มึงเมาค้างปะเนี้ย. . ”ไอวินมัยื่นหน้ามาถามผมพร้อมกับดอมดมตาม ตัวของผม .. 

“เมาเมิวอะไรของมึง กูไม่ได้แดก. . ”ผมยังยืนยันคำตอบเสียงแข็ง

“แต่เจ . .. กูถามจริงๆ นะมึง มีเรื่องอะไรที่อยากบอกกูรึเปล่าวะ กูสังเกตมึงมาตั้งแต่เมื่อกี้ละ ” ถึงจุดนี้ผมได้แต่นั่งเงียบไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าตัวเองจะ เผลอแสดงพิรุท ให้ไอวินมันเห็น สายตาของมันออกจะดูเป็ฯห่วงผมซะด้วยซ้ำ. . แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะเล่าเรื่องๆ ต่างๆ ที่ผมกำลังคิดมากอยู่ในตอนนี้ให้มันฟังหรอกนะ เพียงแต่ ผมไม่รู้ว่าควรเริ่มยังไงดี. .ผมเลยได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธ และตั้งใจหันมานั่งฟังสิ่งที่พวกมันกำลังพูดอยู่แทน
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :27〗〖24-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 24-11-2016 09:53:16
“เออๆ ถึงไหนละวะ ” วินมันหันไปถามเพื่อนของมันที่นั่งตรงข้ามกับผม

“อ๋อ ถึงตอนที่  มันนั่งหงอยไง เออ ที่นี้เหมือนกูเห็น มันกดโทรศัพท์ โทรไปหาใครก็ไม่รู้ ตอนก่อนจะโทรหน้าแม้งก็ดีอยู่หรอก แต่อกดวางสายเท่านั้นแหละแม้งอ้ยย ! ”

“ทำไมวะไอกายมันโมโหจนพังร้านเลยรึไง”

“มึงจะบ้าหรอ . .  มันไม่ใช่อย่างนั้น แต่หน้ามัน เหมือนโดนสาวหักอกมาเลยวะ คือเหมือนจะร้องไหก็ไม่เชิงออกแนวซึมๆอ่ะ มึงพอนึกตามกูออกใช่ปะ  กูนี้ลองขยี้ตาอยู่หลายครั้งเลย นึกว่าตัวเองตาฝาด  แต่ที่ไหนได้แม้งซึมจริง กูนี้ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลว่าหน้าอย่างมันจะโดนสาวหักอกได้. . ” ถ้าเกิดมันเป็นไปตามอย่างที่ไอพอสเล่าจริงๆ ล็ คงเป็นผมเองนี้แหละที่ทำใหกายมันต้องนั่งซึม

“ซึมแล้วยังไงต่อวะ”

“ก็แค่นั้นแหละวะ ’

“. . . เหี้ยอะไรของมึงเนี้ย ยังเล่าไม่ถึงจุดที่กูต้องร้องอ๋อเลย  เล่ามาให้หมด ดิ่ กูค้างคานะเนี้ย ” ไอวินนั่งสบถด่าเพื่อนของมันยกใหญ่

“กูก็อยากจะเล่าอยู่หรอก แต่เรื่องที่กูเห็นมันก็มีอยู่แค่นี้นี่แหละ. . . ทีแรกกูก็กะจะเข้าไปทักมันนั้นแหละ แต่ม๊ากูโทรมาก่อนแถมกาแฟที่สั่งยังเสร็จพอดีด้วยเลยต้องรีบกลับ ” จบการเล่าเรื่องของเพื่อนมันทั้งหมด ผมเองได้แต่นั่งนิ่ง รู้สึกผิดจนอยากจะเอ่ยคำขอโทษ เพียงแต่. ไม่รู้ว่ามันจะมีค่าพอ ให้กายมันหายโกรธผมรึเปล่า

“เอองั้นถาไม่มีอะไรแล้วกูไปหาพวกไอเชี้ยก้องก่อนนะ พวกแม้งโทรมาตามกูละ ไว้เจอกันมึง . .ไว้เจอกันนะครับเจ” เพื่อนไอวินมันยังมิวายหันมาส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป  - -*

“กูว่าแม้งคงนอยกูแน่นอนเลย สงสัยวันนี้คงต้องยกเลิกโปรแกมไปเที่ยวกันแล้ววะ”

“แล้วทีนี้มึงจะเอาไงต่อ ตอนนี้มันอยู่ไหนยังไม่รู้เลย. . . โทรไปก็ไม่ยอมรับ . . ”ระหว่างที่คุยกันผมแอบโทรไปหาอะกายแต่ไม่มีคนครับสาย

“’งั้นมึง พยายามติดต่อไอกายให้ได้นะ ไอวิน เดี๋ยว กูมีธุระต้องรีบไป. .  ถ้าได้เรื่องยังไงโทรมาบอกกูด้วยละกัน”

“เดี๋ยวๆ แล้วนั้นมึงจะไปไหน ไม่รีบเข้าเรียนหรอ ใกล้เวลา เรียน แล้วนะมึง. . ”

“มึงไม่ต้องสนใจเรื่องของกูหรอก แค่ติดต่อไอกายให้ได้ก็พอ เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง ” ผมรีบวิ่งตรงออกจากโรงอาหารแต่ก่อนออกมาก็ไม่ลืมที่จะหยิบกุญแจ รถมอไซด์ของไอวิน มา และขับตรงไปที่ร้าน  ☆یŦαя Café ที่ๆ ผมเคยทำงานไป ถึงผมก็กล่าวทักทาย พี่ๆ ที่ร้าน ก็ยังคงจำผมได้ดี รับ ไหว้ ผม และส่ง ยิ้มให้  ผมเดินตรงไปหาพี่โชนที่หน้าเค้าท์เตอร์ เห็นพี่แกกำลังยืน คิดเงินให้ลูกค้าผู้หญิง ที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่.  . 

“เอ่อ พี่. .” ยังไม่ทันที่ผมจะได้เรียกชื่อกล่าวคำทักทาย พี่แกเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับส่งยิ้ม ให้ผมเหมือนเคย

“อ้าวน้องเจ ว่าไง นี้จะกลับมาทำ งานแล้วหรอ ดีๆ พี่กำลังจะโทรไปถามอยู่พอดีเลย. .”

“อ่อ ยังหรอกครับพี่ แต่ผมมีเรื่องจะมาถาม พี่หน่อย ”

“เรื่องอะไรละ ?”

“คือเมื่อวาน ช่วง ทุ่มกว่าๆ พี่โชนพอจะเห็นคนที่ตัวสูง.........มั้ยอ่ะครับ”พี่โชนขมวดคิ้วยืนคิดอยู่ พักนึงกว่าจะตอบผมมา

“อืมจะว่าไปแล้ว พี่ก็รู้สึกคุ้นๆ อยู่นะ แต่พี่ไม่ทันได้สังเกตอะไรมากนะ เพราะเมื่อวาน ลูกค้าเยอะ.  .แต่ถ้าเจ อยากดู งั้น . .เดินมาหลังร้านกับพี่สิ” ผมเดินตามพี่โชนไปที่หลังร้านอย่างว่าง่าย พอมาถึงพี่แก็เปิดดูกล้องวงจรปิดผ่านคอม ที่ตั้งอยู่หลังร้าน เห็น ภาพเป็นผู้ชายใส่ชุดสีดำ ที่ดูคุ้นตา ต่อให้ ผมองระยะไกลแค่ไหนก็คงรับรู้ได้ว่า คนที่นั่งเหงาอยู่ข้าง กระจก นั้น คือกาย . . กายมันนั่งรอผม ตั้งแต่ช่วงหกโมงกว่าจน เกือบๆ เที่ยงคืน. . ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนจะเดินออกมาจากร้านคือใบหน้า ของกายที่เดินออกจากร้านพร้อมกับใบหน้าที่เหงาหงอย ของมัน ทำเอาผมเศร้าไปตามๆ กัน

ผมขับรถออกมาจากที่ร้าน มุ่งตรงไปที่คอนโด ยืนเคาะประตูเรียก มันอยู่นาน แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ. . จนผมเริ่มคิดที่จะถอดใจ แต่จังหว่ะที่ผมหันหลังกำลังจะเดินกลับ เสียงของบานประตูนั้น ก็ถูกเปิด ออก ผมรีบหันหลังกลับไปมอง แต่มีเพียงประตูเท่านั้นที่ถูกเปิด แต่ไม่มีใครเดินออกมาตอนรับผมเหมือนเคย ผมเดินกลับมาที่หน้าประตูอีกครั้ง สูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมตั้ง สติ และอารมณ์ ของตัวเองให้คงที่ และพยายามทำตัวให้ร่าเริงมากที่สุด. . .  ในเมื่อเรื่องนี้ผมเป็นฝ่ายที่ผิดผมก็จะเป็นคนที่สะสางเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเองๆ พอผมแง้มประตูออก ก็เห็นกาย มันกำลังยืน หน้านิ่ง มองผมด้วยสายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึก . . ทำเอาความตั้งใจที่ผมมีก่อนจะเปิดประตูนั้นปลิวหายไปหมด.  .  ผมพยายามฝืนยิ้ม เท่าที่ตัวเองจะทำได้ส่งยิ้ม มองไปที่กาย. .   แต่ก็ไม่มีการตอบรับใดๆ จากมันเลย

“กาย ทำ...ทำไมวันนี้มึงถึงไม่เป็นเรียนวะ เออ.คือ.. วันนี้ กูกับไอวิน ว่าจะชวนมึงไปกินข้าวมื้อเย็นด้วยกัน ถ้าไม่มีธุระอะไรงั้นเราไป. . ”

“มึงกินกับไอวินสองคนเถอะ. . วันนี้กูจะกลับบ้านคงไปด้วยไม่ได้ ยังไงก็ กินเพื่อด้วยละกัน. .” และยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดหรือถามอะไรต่อ กายมันก็ปิดประตู ใส่ผมเฉยเลย ผมพยายามเคาะเรียกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนจะเสียแรงเปล่า. . จนพี่ๆ รปภ ที่เดินตรวจความปลอดภัยอยู่บนอาคารเดิน มา หาผม  คงกำลังคิดว่าผมจะมาสะเดาะกลอนยกเค้าท์ห้องไอกาย นะสิ ผมเองก็พยายามอธิบายให้พี่แกฟังด้วยเหตุผล ร้อยแปด แต่ ต่อให้พูดยังไง ก็ไม่มีใครเชื่อผมหรอกครับ . . ในเมื่อ คนในห้องยังไม่ยอม สนใจ ผมเลยเป็นฝ่ายต้องเดินออกมา พร้อมกับความผิดหวังยกที่หนึ่ง และกลับมาตั้งหลัก ใหม่. .ที่ร้าน
ผม เองได้แต่คิดอยู่ในหัวอย่างเดียว ว่า จะหาวิธีไหนขอมันคืนดี มีไอเดียนับร้อยผุดขึ้นมาในหัวของผมเพียง แต่ ผมไม่รู้ว่าจะมีสักกี่วิธีที่จะสามารถใช้กับ มัน ให้ได้ผล  ผม ไม่รู้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปเลยจริงๆ

TBC. . . . . . .   :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :27〗〖24-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-11-2016 11:43:47
 :L2: :L1: :pig4:

ทำไงดีหล่ะ
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :28〗〖25-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 25-11-2016 08:38:33

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter28: หน้ามือ&หลังมือ

เช้าวัน ถัดมาผม ตื่นขึ้น ด้วยสภาพที่ไม่ค่อยต่างจากศพสักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วที่สภาพของผมเป็นอย่างนี้น่าจะเป็นเพราะ ผมไม่ค่อยได้พักผ่อน ในช่วงสองสามวันมานี้ ไหง จะมีเรื่องให้เครียดอีกตั้งหลาย เรื่อง . .   ผมรีบเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำ แต่งตัวไป ม.ตั้งใจไว้ว่าจะรีบไปดักรอไอกาย อยู่ที่หน้าประตู แต่สุดท้ายก็ต้องแห้วแดก ครับ พอถามไอวิน มันบอกไอกายมีเรียนบ่าย แล้ว ที่ผมรีบตื่นมาม.แต่เช้าเพื่ออะไรกันละเนี้ย. . ผมนั่งรอเวลา อยู่ที่คณะคนเดียว ระหว่างนั้นผมก็พยายามโทรติดต่อกายอยู่บ่อยครั้ง จนปลายสายปิดเครื่องไป ผมเลยได้แต่นอน มองโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหวังว่ามันจะโทรกลับมา แต่ รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีวี่แวว แม้แต่แมสเซนเจอร์ ไลน์ วอชแอพ บี ทอค บลาๆ ของผม ก็ไม่มีฟีดขึ้นเด้งเลยแม้แต่ข้อความเดียว . . .  สายลม

อ่อน ๆ จากต้นไม้ พัดเข้าใส่หน้าผมอย่างจัง ทำให้อดรู้สึกดีไม่ได้ ผมเองที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พักผ่อน ก็เลยเริ่มๆ รู้สึกคล้อยตามไปกับบรรยากาศ จนแถบจะเคลิ้มหลับตาม ถ้าไม่ติดที่ว่าไอเพื่อนเวร โทรเข้ามาก่อนผมคงได้หลับไปพร้อมกับบรรยากาศดีๆแล้ว - -*

“อือ. . .”

“อยู่ไหน. ”

“โต๊ะหินอ่อน ข้าง ๆ คณะ มีอะไรรึเปล่า?”

“น้องเอิร์นโทรมาหากู”

“โทร. .หามึงเนี้ยนะ แล้วทำไมไม่โทรมาหากูละ”

“กูก็ไม่รู้แต่เห็นบอกว่ามีเรื่องให้ช่วย. .”

“มีเรื่องอะไรรึเปล่าวะ?”

“มีค่ะ. . ตอนนี้พี่เจว่างรึเป่ลามาหาเอิร์นหน่อยสิ. .”แล้วไหงทีแรกบอกโทรมา. .แต่เดี๋ยวๆ นะ ทำไมสองคนนี้ถึงอยู่ด้วยกันละ. .

“เอิร์นอยู่ไหนทอะไรกับใคอยู่”

“เอิร์นอยู่กับเพื่อน แล้วก็พี่วินค่ะ พอดีวันนี้มีเรื่อง ต้องมาทำนิดหน่อยเลยให้พี่วินเขามาช่วย แล้วนี้พี่เจอยู่ไหน ว่างรึเปล่า ?”

“พี่ก็อยากไปนะ แต่. . .พอดีพี่มีเรื่อง. .”

“หมายถึงพี่กายใช่มั้ย?”

“ก็.อ..อื้อ..”

“ถ้าเรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเอิร์นช่วยเอง. .รับรองคืนดีกันแน่นอน ”ผมยังไม่ทันบอกอะไรเอิร์นเลยเพรากลัวเสียเซลฟ์แต่ไหนๆ ยัยเอิร์นก็เกริ่นจนมึงขนาดนี้แล้วผมก็คงไม่มีทางปฏิเสธเลยต้อง ยอม ไปหายัยเอิร์นที่กำลังยืนเรียกลูกค้า ขายของ และรับบริจาค เงินสมทบค่าอาหารกลางวันของบ้านเด็กกำพร้า อยู่ ก่อนมาผมก็กะวาจะใส่อามรมณ์ซะหน่อย แต่พอมาเห็นเรื่องที่ยัยเอิร์นกำลังทำอยู่ หมาในปากของผมนี้ไม่ยอมขยับเลยครับ

“เชิญค่า เชิญเลยนะค่ะ เชิญเลือกซื้อดูสินค้าแฮนเมด ฝีมือของพวกเราเองค่า ฃวนกันเข้ามาดูและเลืกซื้อได้เลยนะค่า. . .. อ้าวพี่เจ มานานรึยังค่ะ มัวแต่ยืนดูอยู่นั้นแหละมาตรงนี้มา ” ทันทีที่ยัยเอิร์นเห็นตัวผมก็รีบกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหา พร้อมกับไอเพื่อน เวรที่ส่งรอยยิ้มชวนสยองมาที่ผม . . หึหึ กูรู้นะว่า มึงกำลังจะสื่ออะไรไอวิน - -*

“กว่าจะมาได้นะมึง คิดว่ากุต้องเตรียมราชรถไปรับแล้ว ถึงจะยอมมาไอห่า เห็นมั้ยเนี้ยกูยืนขาย จน แขนขากูบวมไปหมดละเนี้ย. ..”แต่บางที่ภาพที่ผมพึ่งเห็นมันช่างขัดแย้งกับสิ่งที่ไอวินมันกำลังแถมากครับ. . .  ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ยืนยิ้มฟังมัน ตอแหลต่อไป สนุกดีจัง 5 5 5

“แล้วเรียกพี่มาจะให้พี่ช่วยอะไรละ. .”ยัยเอิร์นทำหน้าครุ่นคิดหันซ้ายหันขวาเหมือน กำลังหาอะไรบางอย่างให้ผมทำจนในที่สุด ยัยเอิร์นก็ยื่นกล่องลังใบใหญ่ที่มีพวกกุญแจนับร้อยอันมาที่ผม. .
“. . .. . ”ผมอึ้งจนพูดไม่ออก

“พี่เจช่วยแพ็คใส่พลาสติกให้เอิร์นหน่อยนะค่ะ ส่วนพี่วิน ก็ช่วยพี่เจอีกแรงด้วยนะคะ  . . .”ยัยเอิรนพูดพร้อมกับส่งยิ้ม มาให้ไอวิน แต่ส่งสายตาอาฆาตมาที่ผม. .แต่เดี๋ยวๆ ผมไปทำอะไรให้ละเนี้ยหา ตอบบ ที
ระหว่างที่ผมกำลังนั่งแพ็คของช่วยยัยเอิร์นอยู่ข้างหลัง. .ก็แอบสะกิดๆ ยัยเอิร์นให้หันมาคุยกับผมหน่อย ผมกะจะแอบถามถึงวิธี ที่ยัยเอิร์นจะช่วยผมง้อไอกาย แต่กลับโดนเมินใส่ เพราะกำลังยุ่งกับการขายพวงกุญแจให้กับนักเรียนกลุ่มหนึ่ง. .ผมเลยหันมาตั้งใจรีบแพ็คอีกครั้งโดยไม่ได้หันไป สนใจอีก

“เฮ้ย เฮ้ย อย่าหนีนะเว้ย”เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังมาจากด้านหลังของผม ผมแอบเหล่ๆ มองแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากเท่าไหร่ อาจจะเป็นพวกม็อบอีเว้นจัดกิจกรรมแจกของอะไรอยู่ก็ได้

“หยุดก็โง่สิ ควายย. . ”โป๊ก. . . . .โอ้ยยยเสียงหัวของผมกระทบกับอะไรเข้าสักอย่างจากการคาดเดาผมว่าน่าจะเป็นสันของโต๊ะที่วางของอยู่เมื่อกี้แน่.  . . ผมพยายามข่มเสียงของตัวเองไม่ให้ดังเล็ดลอดออกมาลูบหัวตัวเองอยู่สองสามที่ และหันหลังกลับมามอง ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น. . .ทันทีที่ผมหันกลับมามองสิ่งแรกที่ผมเห็นคือนักเรียนหัวเกรียน มองจากเสื้อและกางเกงแล้วน่าจะเป็น โรงเรียน ตรงข้ามกับยัยเอิร์น.  แต่ช่างเรื่องโรงเรียนมันก่อนเถอะครับสิ่งที่ผมอยากถามคือเมื่อครู่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่. .

“เห้ยบอกให้หยุดไง.  .”เสียงตะโกนของกลุ่มนักเรียน ขาสั้นอีกลุ่มหนึ่ง ดังมาจากฝั่งตรงข้ามของบันไดเลื่อน. .  กำลังมองมาที่ๆผมกำลังยืนอยู่. . . ขาของผมสั่นอัตโนมัติเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงเรื่องไม่ดีที่กำลังเกิดขึ้นขาของผมสั่นอัตโนมัติเมื่อเริ่มสัมผัสได้ถึงเรื่องไม่ดีที่กำลังเกิดขขึ้นในอีกไม่ช้าแน่ๆ
 “เห้ยพวกแกทำไมทำงี้อ่ะ ”เสียงของยัยเอิร์นที่กำลังยืนต่อว่ากลุ่มนักเรียนกางเกงสีน้ำเงินกลุ่มแรกที่อยู่ก็วิ่งมาชนร้าน- ที่ยัยเอิร์นกำลังยืนขายอยู่. 

“เอ้ย คือ ไม่ทันมองจริงๆ ไว้จะชดใช้ให้ทีหลังนะ ” เด็กผู้ชายตัวๆ ขาวๆ ตาตี่ๆ มาดคุณหนูที่เดินมาพร้อมกับไอ-หัวเกรียน พูดขึ้นมา ทำเอาผมและยัยเอิร์นหันไปมองตามพร้อมกัน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ต่อว่าอะไรไอเด็ก สองคนตรงหน้าก็ทำทีท่าว่าจะเดินหนีไป เหมือนไม่คิดจะขอโทษหรือรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำลงไปเลย

“เฮ้ยเดี๋ยวจะรีบไปไหน . . ทำผิดแล้วจะเดินหนีหรอวะ. .”มาดของไอวินดูเปลี่ยนไปทันที แต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยเห็นมันในด้านนี้ เพียงแต่มันจะแสดงออกมาก็ในเมื่อยามขับขันหรือเรื่องอะไรที่มันไม่ยุทติธรรมเท่านั้น ทั้งแววตาและคำพูด รวมถึงน้ำเสียง ยังกับคนละคน. . ไอวินมันยื่นแขนไปจับชายเสื้อของไอเด็กตัวขาว ส่วนไอหัวเกรียนวิ่งหนีออกไปอีกด้านแล้วครับ ส่วนไอนี้พอโดนจับได้ก็ร้องโวยวาย ซะเหมือนกับใครเอามีดไปเฉือนมัน. .

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :28〗〖25-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 25-11-2016 08:41:58
“ปล่อย  ปล่อยกู ปล่อยดิวะ แม้ง. . ”ลุคมาดคุณหนูของไอเด็กนี้หายไปเพราะคำพูดหลังๆ ของมัน

“เงียบ ”

“ปล่อยกูดิวะแม้งเอ้ย”

“เงียบ!!”เสียงของไอวินดูทั้งแน่นและดุดันจนผมก็แอบตกใจไปพร้อมกับไอเด็กตัวขาวนี้เลย

“ที่บ้าน พวกมึงเขาไม่สอนเรื่องมารยาทรึไง ทำผิดก็ขอโทษ สิวะ จะเดินหนีทำห่าอะไร แล้วดูสิเนี้ย ของพวก นี้มันเสียหายหมดแล้ว คราวนี้จะเอายังไง” ผมแอบเห็นสายตาของไอเด็กนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เหมือนมันกังกลัวว่าไอวิน จะต่อยมันยังไงอย่างงั้น ผมเห็นท่าไม่ดีเลยรีบ ขว้าแขนไอวิน ให้ปล่อยไอเด็กนั้นลง ไอวินก็ยอมทำตามโดยว่าง่าย ส่วนไอเด็กนั้น มันน้ำตาคลอเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ระหว่างนั้น พวกเด็กนักเรียนที่ตะโกน อยู่บริเวณบันไดเลื่อนเมื่อครู่ ก็เดินเข้ามา ที่ๆผกับไอวินกำลังยืนอยู่ มันกำลังยืนกำหมัดจ้องหน้าไอเด็กตัวขาวนี้ อยู่แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรคงเพราะกำลังกลัวไอวินทีกำลังยืนจ้องตาเขม้งกันอยู่แน่ๆ

“พี่ช่วยผมด้วย . . ”เสียงบ่นๆปนกระซิบของไอเด็กนั้น ดังเข้ามาในหูผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าผมหูดี หรือเพราะต่อมเสือกมันทำงานเกินลิมิตกันแน่ ถึงทำให้ผมได้ยินสิ่งที่ไอเด็กนั้นพูด

“อะไรของมึง?”เสียงของไอวินแหง๋นหน้ากลับมาถาม ไอเด็กตัวขาว ที่ยืน เกาะ ชายเสื้อของมันอยู่. .

“พวกมันชอบมาไถ่เงินเพื่อนกับผม แต่วันนี้ ผมลืมเอามามันเลยจะตามมาค้นตัวผม พี่ช่วย ผมด้วยนะพี่ !” ตอนนี้ไอเด็กนี่ไม่ต่างอะไรกับพวกเด็กเนิรด์หลังห้อง ที่โดนพวกหัวโจกกลุ่มนักเรียนเกรียน รังแกอยู่ฝ่ายเดียวเลยครับ ผมเข้าใจความรู้สึกเลยว่ามันเป็นยังไง

“เห้ย ! พวกมึงจะทำอะไร น้องกู” เสียงไอวินดูหนักแน่น สมกับมาดพี่ชายกัมลอ กำลังยืนต่อว่าไอกลุ่มเด็กกางเกงดำสามสี่คนที่กำลังยืนจ้องหน้า ไอเด็กนั้นอยู่ ผมแอบเห็นทีท่า ไอเด็ก หัวโจก แอบๆ สั่นๆ เล็กๆ เหอะๆ อย่าว่าแต่มันเลยครับ ผมเองก็ไม่ต่างอะไรเลย นี้ถ้าหากวันไหน เกิดไปสะกิดต่อมบ้าของไอวินขึ้นมา ละก็ หึหึ ไม่อยากจะนึกภาพตามเลยครับพี่น้อง ตายยั้งเขียด

“ฝากไวก่อนเถอะมึง ไปพวกเรา. . ” ไอเด็กกลุ่มนั้นเดินออกไปอีกทางด้วยอาการหัวเสีย ก็ลองหือดูสิพวกมึง รับรองได้แกหมักเพื่อนกูๆ แน่ โด่วๆ แต่เดี๋ยวๆ นะ แล้วผมจะมาหัวร้อน แทนไอเด็กนี้ทำไมกันละเนี้ย โอ๊ะ. .

“ไงทีนี้จะเอาไงต่อ”ไอเด็กนั้นทำหน้าอ้ำอึ้งๆแต่ก็ยอมเอ่ยปากพูด

“ข...ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเดินมาชนเลยนะพี่ พอดีมันเป็นอุบัติเหตุ ผมขอโทษ ๆ จริงๆ”

“มึงจะมาขอโทษกูทำไม ขอโทษน้องคนนี้ สิ. .”

“เอิร์น เราขอโทษ นะ เอิร์นก็น่าจะรู้ว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน” ทำไมผมถึงรู้สึกแหม่งๆ เวลาไอเกนี้คุยกับยัยเอิร์นด้วยก็ไม่รู้ แต่ดูท่าเหมือนสองคนนี้ จะรู้จักกันนะ

“อืม .  . ไม่เป็นไรหรอกแก เราก็พอจะรู้เรื่องของพวกกลุ่มพวกนั้นอยู่แหละ แล้วนี้เป็นอะไรเปล่า ”

“ก็นิดหน่อย หน่ะแต่ไม่เป็นอะไรมากหรอก”

“โชคดีนะที่แกไม่เป็นอะไร แต่เรานี้สิโชคร้าย แล้วจะทำยังไงกับของพวกนี่ดีละเนี้ย” จริงๆ ของมันไม่ได้เสียหายอะไรมากมายหรอกครับเพียงแต่ผู้คนโดยรอบ ต่างหวาดหลัวเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้ไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาซื้อเลยสักคน

“เห้ย จะเที่ยงแล้วหรอเนี้ย .ทำไงดี. .  ”

“ช่วงเที่ยงช่วงพักไม่ใช่หรอทำไม แกต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นด้วย”

“พักเที่ยงมันก็จริงแต่วันนี้พ่อเราพึ่งกลับมาจากต่างประเทศไง ที่บ้านก็เลยบอกให้เราลาครึ่งวัน ไป ทำธุระกับพ่อและพี่ชาย ”

“หรอ  งั้นก็รีบไปสิ มัวรออะไรอยู่หล่ะเดี๋ยวก็สายหรอก. .”

“เราก็อยากไปนะแต่. . ” ไอเด็กนี้มันทำสีหน้าอ่ำอึ้งๆ ไม่ยอมพูดแต่ผมแอบสังเกต จากสายตาของมันที่เหล่มองไปทางบันไดเลื่อน

“มันจะกลับได้ไงละ ในเมื่อไอพวกหัวเกรียนนั้นยังรอดักตบมันอยู่ที่บรรไดเลื่อนหน่ะ” ทั้งไอวินและยัยเอิร์นหันไปมองตาม ที่ผมพูดขึ้น

“ป่ะ กลับ เดี๋ยวกูไปส่ง. . ไหนๆ กูก็เป็นพี่ชายมึงแล้วนิ่ . . ”ไอเด็กนั้นเงยหน้ายิ้มร่า อยู่คนเดียว ทีเมื่อกี้ละยังเห็น ทำหน้าซึมเชียวเปลี่ยนอารมณ์ไวชิบหาย สงสัยจะเป็นไบโพร่าละมั้งไอเด็กนี้. . . .

ทั้งไอเด็กตัวขาวและไอวิน เดินไปที่บันไดเลื่อนพร้อมกันส่วนไอพะวกแก้งหัวเกรียนนั้นน่ะหรอครับ พอเห็นว่า เดินมากลับไอวินก็ทำทีเดินเมินไปทางอื่นครับ จะว่าไปเพื่อนของผมมันก็มีมุมอบอุ่นกับเขาเหมือนกันนะเนี้ย ถ้าไม่ติดที่ว่า  มันแสดงธาตุ(สันดาน)แท้ ให้ผมเห็นมากไปหน่อยมันก็คงจะกลายเป็นพ่อระคที่สองสำหรับผมแล้วแหละครับ หึหึ
หลังจากที่ผ่านเรื่องราววุ่นวายไปพักนึงผมกับยัยเอิร์นก็มานั่งน่ามุ้ยกันเพราะไมรู้ว่าควรจำทำยังไงต่อไปดี. .ลูกค้าไม่กล้าเดินเข้าร้าน แถม ไอวิน มันก็ปลิวหายไปพร้อมกับไอเด็กไบโพร่านั้นเห้อ ถ้าผมก็ขอคืนคำที่เคยชมมันจะทันมั้ยครับ. . .

“เอาไงต่อดีละพี่เจ. . ลูกค้าไม่กล้าเข้าร้านเลยอะ ช่วงบ่ายเอิร์นเองก็มีสอบเก็บคะแนนด้วย แล้วจะขายยังไงให้หมดเนี้ย. .”ใบหน้าที่เคยเปื้อนรอยยิ้มของยัยเอิร์นค่อยๆ หายไปแต่ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองแทน

“วันนี้ขายไม่ได้ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาขายใหม่ก็ได้นิ่กว่าจะถึงตอนนั้นคนเขาคงเลิกกลัวกันไปเองแหละ อย่าคิดมากเลย . .”

“เอิร์นก็อยากทำอย่างนั้นนะค่ะ แต่พรุ่งนี้มันถึงกำหนดที่จะเริ่มโครงการแล้ว ก็เท่ากับว่าวันนี้คือวันสุดท้ายในการหางบประมาณแล้วด้วย ของเหลือเยอะขนาดนี้ คงไม่มีงบไป ช่วยเหลือน้องๆ แน่ๆ เลยๆ  .”

“อร้ายยยยย!!!พี่คะ ขออันนึงค่ะ ”

“หนูด้วยค่ะ หนูขอสองเลยค่ะ กรี๊ดดด!!” เสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่นมาจากมุมใกล้ๆ กับร้านอาหาร ที่กำลังยืนโปรโมท เอิ่มม เท่าที่ผมมองน่าจะเป็นโดนัทนะ จะว่าไปแล้ว โดนัทที่กำลังโปรโมทมันก็ไม่ได้แตกต่างจากแบรนด์อื่นเท่าไหร่หรอกครับ ที่พวกเด็กกลุ่มนั้นกรี๊ดกร๊าด คงจะเป็นพวกพนักงาน ที่กำลัง ยืนแจกรอยยิ้มกันมากกว่า. . .เอ๊ะๆ แต้เดี๋ยวๆ นะ . . .โปรโมทหรอ. . หึหึ อยู่ผมก็คิดไอเดียดีๆอะไรขึ้นมาได้. . .

“เอิร์น ไม่ตองเศร้า นะ จัดโต๊ะวางกล่องรอรับงบได้เลย พี่มีวิธี. . . ”

“วิธี วิธีอะไรหรอ?”

“เดียวก็รู้.  .. หึหึ. . .”  :hao3:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :28〗〖25-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 25-11-2016 08:45:54
. . . . . . . . . . . . . . . . . .

“อร้ายยยยยยยยย!!!! พี่ค่ะหนูขอ หนึ่ง สอง ไม่สิ เอาสิบอันเลยค่ะพี่ขา อร้าย”

“อย่าโลภมากสิย้ะแบ่งๆ กันหน่อยพี่ค่ะหนูเอาด้วย ขอ หกอันเลยค่ะ”

“อย่ามายุ่งกับอปป้าของชั้นนะยะ ชั้นมาก่อน เพราะชะนั้น ให้หนูก่อนนะคะพี่ขา. . . ” หลังจากทีผมแอบมองการโปรโมทสินค้า เมื่อกี้ก็ทำให้ผมเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา .  . ทันที . . ในเมื่อ ทางนั้นเขามีพนักงานเป็นตัวล่อ ผมเองก็มี แถมยังรับรองดีกรีว่าต้องเด็ดกว่าร้านนั้นแน่นอน ซึ่ง ตัวช่วย ของผมนั้นก็คือ. . .เพื่อนใหม่ที่สุดแสนจะหล่อเหลาเป้าลากดิน อย่างไออะตอมนั้นเองคึคึ กว่าจะตามตัวข้อร้องให้มันมาได้นิ่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะครับ ต้องหลอกล้อด้วยอาหารถึงสามมือ แถมต้องพามันไปกินกาแฟที่ร้าน อีก และนั้นก็คือข้อแลกเปลี่ยนของผมกับอะตอมในการเสียสละเวลาในการมาครั้งนี้ครับ เอิ้กๆ ทันทีที่อะตอมมายื่นช่วยขาย ของ ที่กองพะเนินเทินถึก ตอนนี้เหลืออยู่ไม่เท่าไหร่แล้วหล่ะครับ นี้สินที่เขาเรียกว่าใช้หน้าตาเป็นอาวุธ. . . ฮิฮิ

“เจของที่โต๊ะหมดแล้ว เอามาเพิ่มหน่อยสิ คนยืนรอกันเต็มแล้วเนี้ย”อะตอมยืนเรียกสติผมที่กำลังขำชั่วร้ายด้วยความเฉลี่ยวฉลาดของตัวเองอยู่. . .

“เออๆรอแปปนะมึง” ส่วนยัยเอิร์นรายนี้ไม่ต้องสืบครับอาการเดียวกับพี่สาวนางเลยเห็นผู้ชายหล่อๆหน่อยเป็นไม่ได้. . ต้องเกิดอาการเหม่อลอยขึ้นมาทันที..  ผมเองก็ไม่อยากจะขัดเลยปล่อย ให้ยัยเอิร์นยืนน้ำลายยืด-มองไออะตอมขายของต่อไป . . .

“อ่ะ โห มึง มึงขายหรือแจกฟรีเนี้ย เชี้ยทำไมหมดเร็วนักวะ. . ” ผมรู้สึกตกใจที่ตอนแรกบนโต๊ะมีพวงกุญแจกนับร้อบแต่ตแนนี้ เหลือ แค่สอง สามอันเอง. .

“คนมันหล่อทำไงได้ละเน้อ. .” ถถถถ ไอควาย สุดท้ายบ้ายอตัวเอง 5 5 5

“จ้า ไอหล่อ ขายให้หมดละมึง อย่าเผลอแจก ฟรีนะ ไม่งั้น เรื่องที่กูกับมึงคุยกันไว้ถือว่าโมฆะนะจ้ะ. .”

“จ้าที่รัก!”สิ้นสุดเสียงไออะตอมที่หยอดมุขจีบผมก็ทำเอาห้างแทบแตก . ..  กลุ่มสาวน้อยสาวใหญ่สาวแท้สาวเทียมต่างแห่กันมายืนกรี๊ดอยู่ทีหน้าร้านของผม ยังกะแจกของฟรี. . .ผมเองก็ไม่ได้ หยอดอะไรมันกลับหรอกครับได้แต่ยื่นรับยิ้มของๆ พวกสาวๆ ที่ส่งมาให้ผมเอ๊ะหรือให้ไออะตอมกันชักแหม่งๆ

เวลาผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงย้ำว่าครึ่งชัวโมง สินค้า-นับ ร้อย ที่เคยมีตอนนี้เหลือแต่ลังเปล่าแล้วละครับ. .ผมรู้สึกดีใจแทนยัยเอิร์ ในที่สุดก็เสร็จทันเวลาพอดี.. .

“หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สิบเอ็ด โห พี่เจ ของที่ขายพร้อมกับเงินบริจาค รวมแล้ว ได้ตั้ง  14336.50 บาท แหนะ อร้ายยยย!!” น้องสาวของผมเริ่มเกิดอาการสติแตกหลังจากที นั่งนับเงินเงียบๆ อยู่คนเดียว. .

“อ่ะ”อะตอมมันเดินมาจากไหนรู้แต่อยู่ๆ ก็ยื่นแก้วกาแฟมาที่หน้าของผม. . สงสัยผมจะไม่เคยบอกมันว่าผมไม่ชอบกินกาแฟ. ..แต่ทำไงได้ละครับ ไหนๆมันก็ซื้อมาแล้วจะให้ทิ้งก็เสียดายจะไม่รับก็เสียน้ำใจ. แย่ผมเลยต้องรับมาจิมนิดๆ พอหอมปากหอมคอ ก่อนจะวางไว้ข้างตัวๆ. . .

“อะนี้ค่ะน้องเอิร์น”

“ที่กับกูละเสียงแข็ง พอกับยัยเอิร์นละทำเสียงอ่อยไอหอกหัก. . ถถถ”

“หรือจะให้พูดแบบนี้ด้วยเอามั้ยหล่ะ กูทำได้นะเจ. . ” สีหน้าของมันดูจริงๆ จังแปลกๆ ผมเลยรีบเบี่ยงประเด็นไปที่แก้วน้ำแทน

“เอ้าแล้วไง ซื้อมาสองแก้วเองละ. . แล้วยังงี้มึงกินอะไร. .”

“กินมึงไง. ’”

“ห้ะ!!”

“เอ้ย ไม่ใช่หมายถึงกินด้วยกันกับมึงไง” ถถถ ไอห่าก็นึกว่าอะไร เล่นทำเอาผมตกอกตกใจหมด. . ส่วนยัยเอิร์รายนั้นก็นั่งยิ้มอยู่คนเดียวแต่ที่แปลกคือคราวนี้ ไม่ได้ยิ้มให้กับเงินที่ถืออยู่ในมือแต่กำลังยิ้มให้ผมกับอะตอมต่างหาก ยัยเด็กคนนี้สงสัยกำลังจะจิ้นผมกับไออะจอมอยู่เป็นแน่แท้ผมเลยแกล้งๆ แหย่ด้วยการ จับ หูจับตา จับแก้ม จับไหล่ของอะตอม แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้ครับ ยัยเอิร์นแทบจะตะโกนแหกปากรี๊ดลั่น ถ้าไม่ติดที่ว่าคนยืนอยู่เยอะผมว่า คงจะทำไปแล้วละครับ

“หยุดทำไมละทำอีกสิ กูชอบนะ. . ”  ไอนี้ก็ยังไม่จบกับการหยอดผมซักทีผมเลยเขกระบาลเรียกสติมันสักทีไอนี้ เผลอไม่ได้เป็นหยอดตลอด

“เออนิเอิร์น เรื่องที่เราคุยกันไว้ละ. “

“อ๋อเรื่อง..อี้อายอั้นนนอ๋อ..อื้อๆ”ผมรีบกระโจนเอามือปิดปากยัยเอิร์นก่อนที่จะเผลอ พูดชื่อไอกายมันขึ้นมา. ขืนอะตอมมันรู้ว่าทีผมขอให้มาช่วยวันนี้เป็นเพราะต้องรีบหาวิธีไปง้อไอกายให้ละก็มัน คงจะรู้สึกไม่ดีแน่ๆ เลย ความรุ้สึกมันคงไม่ต่างอะไรกับถุกหลอกใช้เลยนะ. .


“เอาไว้คุยกันที่บ้านดีกว่าน้อ เออ มึง เสร็จงานแล้วก็กลับสิ ชิ่วๆ”

“ได้ลประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่งกันเลยนะ เจ คราวหลังกูไม่ช่วยแล้ว. .” และก่อนที่มันจะงอนผมก็แอบวิ่งไปตัดหน้ามันเอาหัวพุ่งชนไปที่อกของมันเบาๆ จริงๆ กะจะดันๆ ให้มันถอยหลังไปนั่งที่เดิมแหละครับ แต่มันอาจจะดูไม่ค่อยดี เลย คิดวิธีนี้ขึ้นมาอย่าง ฉับพลันน

“ฮ่าๆ เจ พอแล้ว มันจั๊กกะจี้นะ. . ยอมแล้วๆ ไม่ไปแล้วก็ได้ ฮ่าๆ”

“ยังไง วันนี้ ก็เสร็จธุระกันหมดแล้วนะ งั้นเอาเป็นพรุ่งนี้ละกันนะมึง วันนี้พอดีกูมีธุระต้องรีบไปสะสาง. . ” อะตอมมันเบ้ปากมองมาที่ผมเหมือนไม่เชื่อ แต่ ก็ยังแอบๆ ยิ้มๆ แล้วก็เดินกลับลงบันไดเลื่อนไป

“เห้อ เกือบไป  ”

“ทำไมพี่เจเป็นคนหลายใจแบบนี้ จะคบครไหนก็เลือกสักคนสิค่ะ เอิร์นจะได้ทำตัวถูก เอิร์นรู้หรอกนะ ว่าที่พี่เจไม่ยอมให้เอิร์นพูดเมื่อกี้เป็นเพราะ เจกลัวพี่อะตอมรู้ใช่มั้ยละ ว่า พี่เจกับพี่กาน . . กำลัง...

“พอเลย ไม่มีอะไรในกอในตอทั้งนั้นแหละ พี่กับมันแค่เพื่อนกัน”

“แล้วกับพี่กายละคะว่าไงเอ่ย-ยย เอ้ ทำตัวน่าสงสัยอีกแล้วนะพี่เจ”

“เออเอาน่าๆ แล้วสรุปวิธีที่เอิร์นจะบอกพี่มันคือวิธีไหนละ ?”

“เอาเป็นว่า พี่เจแค่ ตามหาตัวพี่กายให้เจอ เดี๋ยวที่เหลือเอิร์นจัดการเองค่ะ. . . ”  :impress2:

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :28〗〖25-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 25-11-2016 08:50:53
{Speacial :Guy Talk}

ตั้งแต่เมื่อวานผมรู้สึกว่าสติของตัวเองไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว ผมเอาแต่คิดถึงประโยคพูดเดิมซ้ำๆ ของ เจ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของผม . . เมื่อ วาน คืองานวันเกิดของผม ผมได้เตรียม เซอร์ไพทร์อะไรไว้หลายอย่างเพียงแต่คนที่ผมต้องการอยากจะให้มา กลับ ปฏิเสธ     ผมได้แต่นอนคิดมากอยู่อย่างนั้นทั้งคืน เมื่อวานช่วงเช้าผมโทรนัดจัดแจงตารางไว้อย่างดีผมกะว่าจะเตือนมันให้นึกออกว่าวันนี้ มันเป็นวันของผมนะ. . เพราะผมรู้ดีว่าเจมันเป็นพวกที่ขี้ลืม เจมันเคยลืมแม้กระทั้งกางเกงในว่าต้องใส่ . . นึกแล้วผมก็แอบขำตามไม่ได้ แต่ทุกๆ อย่างที่ผม คิดไว้กลับ จบลง ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็มันก็นัดปากกับผมแล้วว่าจะมา แต่สุดท้าย. . มันก็กลับ-ไม่มา. . และถ้าผมเดาไม่ผิดผมว่าเจมันก็คงจะลืมด้วยหล่ะ ว่าวันนี้คือวันเกิดของผม . . . และนั้น-ก็ทำเอา ผม แอบน้อยใจมันไม่ได้เลยจริงๆ ทั้งๆ ที่ผมจำเรื่องราว วันสำคัญอะไรของเจได้ทุกอย่างแต่เจ มันกลับจำอะไรที่เกี่ยวกับผมแทบจะไม่ได้เลย. .
. .  . .   . . . . 

ช่วงเช้าของวันถัดมาผมนอน จ้องมองเพดาน และสิ่งรอบตัวที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในห้องของผม เสียงลมที่พัดดังอยู่นอกหน้าต่างทำเอาความรู้สึกชาๆที่อกของผมพัดผ่านไปพร้อมกับลมนั้น. .ผมรู้สึกดีขึ้นมาชั่วขณะ แต่ก็เพียงแค่แปปเดียวเมื่ออยู่ๆ ก็กลับมาคิดถึงเรื่องเมื่อวานอีกครั้ง. .  เมื่อวานหลังจากที่ผมออกไปซื้อของมาเข้าห้องพอกลับมาอีกทีก็เห็นเพื่อนทำเซอร์ไพทร์ให้ผมอยู่ภายในห้อง. .ผมแอบดีใจที่มีคนยังจำวันเกิดของผมได้อยู่แม้ผมจะไม่ได้บอกใครและผมเองก็แอบหวังๆ ว่าในบรรดาเพื่อนที่มานั้น จะมีเจ อยู่เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่สุดท้าย เจก็ไม่มา. . แต่ผมก็ไม่ได้คิดมากอะไรถึงขนาดนั้นเพราะคิดว่าเจอาจมีธุระที่บ้าน เลยอาจจะมาดึกๆ หน่อยอีกอย่าง ผมเองก็มีดนัดฉลองส่วนตัวกับเจด้วยอยู่แล้ว มันเลยทำให้ผม ยังมีกระจิตกระใจฉลองอยู่กับเพื่อนอยู่บ้าง แต่พอเวล่าผ่านไปพักใหญ่ ผมมองดูนาฬิกาบอกเวลา สองทุ่มกว่าๆ เจยังไม่ติดต่อมา . . ในใจตอนนั้นผมแอบคิดว่ามันกำลังจะแอบทำเซอร์ไพทร์อะไรผมอยู่แน่ๆ  ผมเลยต้องโบกมือลาเพื่อนๆที่อยู่ในห้อง พร้อมกับ รีบเตรียมตัวไปตาม สถานที่ ที่ ผมเตรียมการไว้. . . เวลาสามทุ่ม ผมโทรไปนัดกะจะบอกให้เจมาพบกันที่ร้าน กาแฟ แต่สิ่งที่ผมได้รับในวันเกิดปีนี้กลับเป็นเพียง ประโยคของ มันที่พูดว่า ไม่ว่าง มีธุระ แท้จริงแล้วผมไม่ใช่คนงี้เง้าผมพร้อมที่จะรับฟังเหตุผลและความจริงก่อนเสมอ เพียง แต่ครั้งนี้ ผมกับ ทำตัวงี้เง้า ไม่ยอมฟังเหตุผลเพียงเพราะอยากให้ มันเห็นใจ และยอม สละเวลา มาหาผม แต่ ไม่ว่าผมจะทำยังไงคำตอบของเจก็ยังคงเหมือนเดิม. .

ทำไม กัน ธุระที่เจทันกำลังทำสำคัญกว่าผมมากขนาดนั้นเลยหรอ. . ความคิดนี้ลอยอยู่ในหัวผมมาทั้ง คืน จนเมื่อโทรศัพท์ของผมดังขึ้นมาตอนเกือบๆ บ่ายสามเลยทำให้ผมละสายตาจากเพดานลงมามองเสียงไอโฟนที่กำลังแพดเสียงดังอยู่ข้างๆ ตัว ผมยกขึ้นมาดูโชว์เบอร์ที่ไม่คุ้น. . แต่ก็ยอมกดรับ

“ฮัลโหลครับ นั้นใครพูด”

“ นี้ใช่เบอร์พี่กายรึเปล่าค่ะ”เหมือนจะเป็นเสียงเด็กผู้หญิง

“ใช่ครับแล้วนั้น?”

“นี้เอิร์นเองค่ะ เอิร์นน้องพี่เจไงค่ะ พี่กายจำหนูได้รึเปล่า” ถึงตอนนี้ผมจะไม่ค่อยมีอารมณ์คุยกับใครแต่ถ้าผมยังเอาอารมณ์ส่วนตัวมาปะปนกับคนรอบข้าง มันก็อาจจะแย่ไปกันหมด

“จำได้สิ แล้วโทรหาพี่มีอะไรรึเปล่าค่ะ”

“เอ่อคือ จะพูดยังไงดีอ่ะค่ะ คือ เอิร์นก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากหรอกนะค่ะ แต่เอิร์นอยากจะบอกพี่กายว่า เรื่องวันเกิด ของพี่กาย เมื่อวานอะค่ะ” ผมแอบยิ้มตามที่แม้แต่น้องเอิร์นยังรู้เรื่องงานวันเกิดของผมต่างจากใครบางคน

“คือเมื่อวาน เอิร์นต้องอยู่จัดทำกิจกรรมที่โรงเรียนจนดึกอ่ะค่ะเลยไปวันเกิดพี่กายไม่ได้ต้องขอโทษจริงๆ นะค่ะ แต่เอิร์นไม่ได้ลืมนะ ถึงพี่กายไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเอิร์นเองแต่เอิร์นก็มี วิธีสืบของตัวเองอยู่เหมือนกัน”

“ครับยังไงก็ขอบใจนะที่ยังจำวันเกิดพี่ได้. .”

“ไว้เอิร์นจะเอาของขวัญไว้ให้ทีหลังนะค่ะ เออ ใช่ เอิร์นนอกประเด็นมามากแล้ว คือเอิร์นไม่รู้หรอกนะคะ ว่าพี่กาย พับพี่เจ ตอนนี้กำลังโกรธกันอยู่รึเปล่า แต่ เอิร์นไม่อยากให้พี่สองคนทะเลาะกัน ก็เลยต้องมาอธิบายให้พี่ฟัง. . ”

“อธิบายเรื่องอะไรหรอ?”

“ก็เรื่องที่พี่เจไม่ได้ไปวันเกิด พี่กายเมื่อวานไงค่ะ คือ เอิร์นเป็นคนขอร้องพี่ เจเองและค่ะ ว่าไม่ให้ไป จริงๆ พี่เจ บอกกับเอิร์นว่ามีธุระด่วนมากๆ ต้องรีบไป แต่งานของเอิร์นก็ยังไม่เสร็จแถมพี่อินก็ไม่อยู่บ้าน เอิร์นไม่รู้จะทำยังไงก็เลยต้อง ให้พี่เจอยู่ช่วยทำจนเสร็จอะค่ะ กว่าจะขอร้องพี่เจได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พี่เจ รั้นจะไปๆ อย่างเดียว จนเอิร์นต้องเอาเรื่องพี่น้องมาอ้างพี่เจถึงจะอยู่เอิร์นก็ไม่แน่ใจนะคะว่าพี่กายได้โกรธพี่เจเรื่องนี้รึเปล่า แต่เอิร์นก็แค่อยากสารภาพความผิดที่เอิร์นได้ทำลงไป ”

“ถ้าหากมันเป็นเพราะเรื่องนี้เอิร์นก็ต้องขอโทษพี่กายด้วยนะคะ มันเป็นความผิดของเอิร์นเอง. . พี่เจไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรเลยนะค่ะ”

“เอ่อ”

“วันนี้ตั้งแต่เช้าพี่ไม่ยอมกินข้าวเลย แถมเมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเพราะเครียดเรื่องอะไรบ้างก็ไมรู้ถามก็ไม่ยอมตอบ ถ้าเอิร์นรู้ว่าพี่เจมีนัดกับพี่กายอยู่เอิร์นคงไม่ให้พี่เจช่วยหรอกคะแต่เอิร์นขออะไรพี่กายอย่างนะค่ะ อย่าเย็นชาแบบนี้กับพี่เจ เลยเอิร์นสงสาร พี่เจ พี่เจกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยนะพี่รู้มั้ย ฮึก. . เอิร์นไม่อยากเห็นพี่เจเป็นแบบนี้เลยจริงๆ เอิร์นขอโทษค่ะพี่กาย”

“เดี๋ยวๆ เอิร์นอย่าร้องไหสิ พี่ไม่ได้โกรธอะไรเอิร์นเลยนะพี่ แค่..เอ่อพี่ก็แค่คิดอะไรนิดหน่อยแต่พี่ไม่ได้โกรธอะไรมันเลยนะจริงๆ เพราะชะนั้นไม่ต้องเครียดนะ อย่าร้องไหพี่ไม่ได้โกรธอะไรเจมันแล้ว. . อย่าร้องนะค่ะ”

“เอิร์นไม่ร้องแล้วก็ได้ค่ะ แต่พี่กายต้องสัญญากับเอิร์นะค่ะ ว่า จะ คุยดีๆ กับพี่เจ พี่กายจไม่ทำให้พี่เจเสียใจใช่มั้ย”

“ครับพี่สัญญา”

“พี่กายพูดแล้วนะ”

“ครับผม”

“เย้!! งั้นพี่กาย ก็รีบไปตามไปง้อพี่เจเลยนะค่ะ ตอนนี้พี่เจอยู่ที่ร้านคนเดียวเอิร์นกลัวพี่ชายจะคิดมากจนฆ่าตัวตาย ยังไงก็รีบไปทีนะค่ะ พอดีเอิร์นต้องรีบไปทำธุระที่อื่นต่อ ยังไงก็ค่อยๆ คุยกันนะคะ สู้ๆ ค่ะพี่กาย”. . . เสียงของปลายสายถูกตัดขาด น้องเอิร์นวางสายจากผมไปแต่สิ่งที่ยังค้างคาอยู่ในหัวคือ ผมกำลังทำอะไรอยู่. . ทั้งๆ ที่ไจมันไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดอะไรกับผมเลย เพียงเพราะมันเป็นคำขอร้องของน้องสาวตัวเอง มันจึงยากที่จะปฏิเสธ ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี. .เพียงแต่ถ้ามันยอมพูดอธิบายเหตุผลจริงๆ เราก็คงไม่ต้องมาเงียบใส่กันแบบนี้ ทันทีที่ผมฉุดคิดได้. .ผมก็รีบลุกออกจากเตียง หยิบกุญแจรถและขับตรงไปที่ร้าน ของเจเลยทันที. .  ระหว่างทางที่ขับรถมามีคำพูดอยู่ประโยคนึงที่ดังก้องอยู่ในหัวของผมว่า . . กูขอโทษนะ ที่ เข้าใจมึงผิด ขอโทษที่คิดอะไรไปเอง รอกูก่อนนะ รอกูก่อนนะเจ กูจะไปหามึงแล้ว. .

. . .. . . . . .

ช่วงสี่โมงกว่ายัยเอิร์นโทรมาบอกผมว่าเคลียร์เรื่องทุกอย่างให้หมดแล้ว ขอให้ผมเตรียมตัวรอเจอพี่กายได้เลย ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็บอกให้ผม ออกตามหาไอกายแต่ไหงตอนนี้กลับ บอกให้ผมอยู่บ้านิ่งๆ ซะงั้น  เหอะ. . หรืออยู่ๆ จะให้ไอกาย โผล่มา หาผมที่บ้านเลยรึไง ไม่มีทางหรอก. .  ระหว่างนั่งนอนรอนานจัดผมองก็เกิดอาการแพ้ท้อง เอ้ย อาการ อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ ขึ้นมา และด้วยสายตาที่คมดุจเหยี่ยวเลยทำให้ผมแอบเห็นถุงมะม่วงลูกโตสามสี่ลูกวางไว้อยู่โต๊ะในห้องครัว. .ผมไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าห้องครัว หยิบมีดขึ้นมาปลอกมะม่วงให้สมกับความอยาก และก็ไม่รู้ ว่าไปปลอกอิท่าไหน ถึงโดนมีดบาดมือเอาซะได้. . ผมล้างเลือดออกจากนิ้วมือ เสร็จก็หยิบมีดขึ้นมาเตรียมจะปลอกเปลือกต่อแต่เหมือนมีคนกลั่นแกล้งไม่ให้ผมได้กินมะม่วงอีก คราวนี้มีดหล่นลงกับพื้นะปลายแหลมของมันตู้ ไปอีก ผมก้มหยิบมีดขึ้นมาดูมองดูรอยตู้นั้น อย่างสงสัย แต่มีดเล่มนั้น กลับ ถูกดึงออกจากมือผมไปจากบุคคลที่อยู่ด้านหลังของผมผมหันหลังกลับมามองด้วยควมตกใจแต่อยู่ๆ การกระทำของผมทั้งหมดก็ถูกหยุดลงเมื่อ ผมได้รัยอ้อมกอดที่อบอุ่นที่คุ้นเคยจากใครบางคนเข้า และต่อให้ผมจะไม่มองหน้าผมเองก็สามารถรับรู้ได้ว่า เจ้าของอ้อมกอดนี้ คือ กาย. . ผมกลับตาพริ้มกอดตอบกายไปด้วยความเคลิ้มจนเผลอทำมะม่วงที่อยู่ในมือหลุดไป

“เจ. . เจ กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องมันเป็นแบบนี้กูไม่คิดเลยว่ามันจะทำให้มึงคิดมากขนดนี้ กูขอโทษจริงๆ นะเจ. . .”ละระหว่างที่ผมกำลัง งงๆ กับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดอยู่ว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นอยู่ๆ ไอกายมันจะมาสะอื้นขอโทษผมทำไมกัน มันควรจะเป็นผมด้วยซ้ำที่ต้องพูดคำๆ นี้ แต่ระหว่างนั้น คำพูดของยัยเอิร์นก็เข้ามาวิ่งเล่นในหัวของผม

“เอิร์นจัดการให้หมดแล้วนะค่ะ ที่เหลือพี่เจก็ช่วยตัวเองละกันนะค่ะ ^ ^”

และนั้นเลยทำให้ผมร้องอ๋อขึ้นมาในใจอยู่คนเดียว แต่จะว่าไปก็แอบแปลกใจอยู่เหมือนกันว่ายัยเอิร์นไปไปพูด หลอกล่อวิธีไหนถึงทำให้เรื่องทั้งหมดมันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้ โฮะๆ แต่ไหนๆ เรื่องมันก็ เข้าที่แล้ว ผมก็ควรตามน้ำอย่างที่ยัยเอิร์นบอก สินะ . . ฮิฮิ

“อื้อ กูก็ขอโทษนะกายที่ผิดนัดกับมึง กูก็ไม่ได้อยากจะเบี้ยวนัดมึงหรอกนะแต่”และยังไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากพูดอะไรต่อ ไอกายมันก็ใช้ปากของมันมาปิดปากของผมซะก่อน นับว่าเป็นการปิดปากที่เด็กขาดมากครับ ผมเผลอเคลิ้มตามจนตัวของผมเองแถบจะไหลตามอ้อมกอดนั้นถ้าไม่ติดที่ว่ามัน เขย่าตัวผมเรียกสติซะก่อน = =’

“กูไม่ได้โกรธอะไรมึงเลยนะเจ กูแค่อยากให้มึงรู้ไว้ แต่การที่มึงคิดจะฆ่าตัวตายนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรอวะ มึง คิดสั้นเพียงเพราะ ทะเลาะกับกูแค่นั้นเองหรอ” เดี๋ยวๆ นะ คิดสั้น อะไรยังไง ใครคิด มันกำลังหมายถึงผมใช่มั้ย. . .

“ห้ะ คิดสั้นอะไร แต่เดี๋ยวช่วยปล่อยกูก่อนได้มั้ย. . ”ผมผละตัวเองออกจากอ้อมกอดของกายมัน ก่อนที่ตัวเองจะขาดอากาศหายใจตาย หึ กูจะตายก็เพราะมึงนี้แหละไอคุณชาย

“ก็มึง ถือมีด จะแทงตัวเองไม่ใช่รึไง แล้วนั้น รอยเลือดอะไร มึงคิดจะทรมานให้ตัวเองตายช้าๆ ใชมั้ยเจ ทำไมมึงถึง. . .”

“-เดี๋ยวๆ กายใจเย็นก่อน ฟังกูนะ กูไม่ได้จะฆ่าตัวตาย. .. ”กายมันค่อยสงบสติตัวเองให้เย็นลงก่อนจะยอมฟังผมดีๆ

“แล้วมึงชูมีดขึ้นมาทำไม. .” กายมันพูดแต่ไม่ยอมชูมีดมาให้ผมดู แถมยังเอาไปแอบไว้ที่ข้างหลังของมันอีก

“กูจะดูรอยตู้ที่ปลายมีดไง ไม่เชื่อมึงก็ลอง เอามาดูสิ. ” กายมันทำหน้าลังเลเหมือนจะไม่เชื่อผมแต่ก็ยัง ยอม เอาขึ้นมาดู  .

“ไงละ. . ”

“แล้ว ..แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกละ. .”

“มึงเว้นช่องไฟให้กูพูดเมื่อไหร่ละมาถึงก็ใส่ๆ อย่างเดียวเลยจะให้ก็เอาตรงไหนไปสอดได้ละ”

“ก็. . . กู แค่กลัว. . .”

“กลัวกูจะฆ่าตัวตายรึไงไอบ้า. . กูไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ”

“แล้วเอามีดมาทำอะไรละ. .”

“ดูข้างหลังมึงสิ” ผมชี้นิ้วไปที่มะม่วงที่อยู่ในอ่างล้างผัก

“จะกินมะม่วงหรอกเหรอ”

“เออครับ. .”กายมันค่อยว่างๆ มีด ไว้ข้างหลัง ก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากห้องครัวไป ผมแอบเห็นมันเกาต้นคอก่อนเดินออกไปด้วย เห้ยย ไอห่า ไอกายเขินนี้หว่า เห้ย 5 5 5 5  น่ารักวะ ผมอยากจะวิ่งไปดักข้างหน้ามองมัน ถ้าไม่ติดที่ว่าความอยากยังครอบงำ ผมอยู่ มันคงเสร็จผมแล้วละครับกรั่กๆๆ

นับว่าการช่วยเหลือของยัยเอิร์นครั้งนี้ ถือเป็นบุญุคุณอันใหญ่หลวง ในไม่ช้าผมอาจจะได้ตอบแทนน้องสาวของตัวเองแน่ๆ แต่ตอนนี้ ผมขอตัวไป ตามติดชีวิตเด็ก ขี้อายก่อนละกัน. .ได้เรื่องยังไง ไว้ผมจะมาเล่าให้ฟังที่หลังนะครับ
 ทุกโค๊นนน!!!

><
{จะว่าไปการที่เรา โกรธกันในครั้งนี้มันก็ทำให้ผมได้เห็นมุมใหมๆ ที่ผมไม่เคย เห็นมาก่อนเหมือนกัน}

สงสัยต้องชวนมันทะเลาะบ่อยๆซะแล้วฮ่าๆ

TBC. . . . . . . . . .

วันนี้ อัพเพิ่มให้อีกหนึ่งตอนชด เชยที่หายไปโดยไม่ได้บอกกล่าวนะกั๊บบ!! (ก้มหัวกราบขออภัยย) :hao5:

#คิมอูฮยอน
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :28〗〖25-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 25-11-2016 09:58:32
น่าสนุกดี แต่ว่าในตอนแรก ที่เตะบอลแล้วกระจกรถแตก มันทะแม่งๆ รถยนต์ส่วนใหญ่กระจกมันแข็งมากนะ ขนาดหินกระเด็นใส่มันยังมากสุดแค่มีรอยร้าว หรือแรงเตะแบบใส่รองเท้าเพิ่มพลังของโคนัน?

แล้วแบบฟอร์ม เอาแบบปกติ คำพูดใส่"....." แล้วบรรยายข้างนอก ก็ได้
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :28〗〖25-11-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 25-11-2016 10:03:43
(ก็อย่างว่านะครับเรื่องในนิยายอะไรก็เป็นไปได้)

ส่วนเรื่องที่ว่า มา ทางผมเองจะ พยายามปรับปรุงและแก้ไขให้นะครับ (ขอคุณทุกกำลังใจ )

  :bye2:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :29〗〖02-12-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 02-12-2016 15:51:38
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง
Chapter29:   ย้อมใจ


ช่วงค่ำของวัน ผมกำลัง นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ที่โซฟา เหตุเป็นเพราะ รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองไม่ค่อยจะมีแรง. . .แต่ที่ไม่มีไม่ใช่อะไรหรอกครับ เป็นเพราะวิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำอยู่หลายครั้งหลักจากที่กิน มะม่วงไปช่วงเย็น. .  ส่วนไอคุณชายก็รับหน้าที่เป็น คุณแฟนที่ดี ยืนทำกับข้าวอยู่ในครัวพร้อมกับยัยเอิร์น. . สองต่อสอง  ส่วนพี่อินจนจะ สองทุ่มแล้ว คุณนายแกยังไม่ยอมกลับมาบ้านอีก เดี๋ยวนี้จะไปไหน ก็ไม่บอกผมกับยัยเอิร์นสักคำ. .เดี๋ยวๆ รอพี่เจมส์ลงมาก่อนเถอะ  ผมจะฟ้องให้ดูหึหึ แต่ก็คงได้แต่คิดแหละครับ ขืนความลับของคุณนายแกเผลอหลุดออกไปถึงหูพี่ชายผมละก็มีหวัง. .โดนถีบหัวส่งออกจากบ้านแน่ๆ ครับ . .

“เจ!! ลุกมาได้แล้วกับข้าวเสร็จหมดแล้ว. . ” เสียงหล่อๆของไอคุณชายตะโกนดังออกมาจากห้องครัวเรียกให้ผมเดินตามเข้าไปข้างใน .  . . กับข้าววันนี้ขอเสนอ ไข่เจียวหมูสับ ต้มจืดมะระ แล้วก็เอ่อ .  . .อะไรไม่รู้เหลืองๆ ผมเองไม่สามารถ บอกได้ว่าสิ่งที่อยู่ในถ้วย เหลืองๆ นั้นมันคืออะไร. .    ได้แต่ยืนงง มองดูถ้วยนั้นสลับกับมองหน้า สองพี่น้อง  ด้วยความสงสัย. .

“เอ่อ ไอเหลืองๆ นั้นมัน. . .”

“อ่อ เอิร์นเป็นคนทำเองค่ะพี่เจ. . เป็นไงน่ากินมั้ย”. . .เหอะๆ ถ้าผมพูดความจริงออกไป จะโดนยัยเอิร์นตบมั้ยละเนี้ย หึหึ
.”ก..ก็น่ากินดีแหละ อื้อ แล้วนี้ จะยืนอึ้งกันอีกนานมั้ยละเนี้ย นั่งสินั่ง ถถถถ ” ผมเดินอ้อมไปลากเก้าอี้ให้น้องสาวตัวเอง นี้อาจจะเป็นคำขอบคุณเล็กๆ น้อยๆ ที่ผมสามารถทำให้เอิร์นได้ในตอนนี้ ผมไม่ได้คิดเผื่อไว้ก่อนเลยว่า เรื่อง ราว มันจะกลับตารปัตได้ขนาดนี้. . แต่ยังไงก็คงต้องยกความดีความชอบ นี้ให้ยัยเอิร์นและครับ

เวลาล่วงเลย ผ่านไป กายมัน เอาแต่ตัก กับข้าวให้ผมจนแทบล้นจานส่วนมันก็กินบ้าง แต่ ก็ไม่ได้เยอะอะไรเพราะ มัวแต่นั่งจ้องมองผมกินส่วนยัยเอิร์นก็เอาแต่ หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาถ่ายรูปผมกับ ไอกายทุกอิริยาบถ ไอผมก็พยายามจะหลบกล้องสุดชีวิตแต่ไอกายนี้สิ ดันไปนั่งแอ็คท่าให้ยัยเอิร์นถ่ายอยู่นั้น. . ผมเลย รีบๆ ตักทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในจานเข้าปาก ก่อนจะรีบ ลุกออกจากโต๊ะและวิ่งขึ้นห้องไปเลย . . อ่อผมอาจจะลืมบอกไปอย่างตอนนี้สภาพที่ร้านเริ่มเข้าที่เขาทางคงเพราะได้ช่างฝีมือดี เลยทำให้งานเสร็จ ไว ถึงจะยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็คงใช้เวลาอีกไม่นานร้านก็คงกลับมาสมบูรณ์ เหมือนเดิม. .

ผมกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนโดย มีผู้ชายตัวควายๆ นอนอยู่ข้างๆ กายมันนอนหลับสนิท จนผมต้องแอบ ขำ ทั้งๆ ที่หัวพึ่งจะถึงหมอนแท้ๆ แต่เสียงกนของมัน ดังไปไกลเกินกว่าจะพักผ่อนสายตาแล้วละครับ ดังขนาดนี้ ป่านนี้คงเข้าเฝ้าพระอินแล้วมั้งผมว่า แต่การที่มันจะ นอนหลับเป็นตายขนาดนี้ก็ไม่แปลกหรอกครับ ก็เห็นมันบอกผมเมื่อช่วงเย็นว่าหลายๆ วันมานี้ไม่ค่อยได้นอน (อาการเดียวกับผม แถมยังเครียดเรื่องเดียวกันด้วย) พอกินอิ่มหนังตาของผมก็เริ่มหย่อน จนใกล้จะหลับ แต่เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรม ก็ดันดังขึ้นมาซะก่อน

“โอ้ยยห่ากูจะหลับอยู่แล้วเชียวใครแม้งโทรมาวะ” ผมนอนบ่นพึมพำอย่างหัวเสีย คนกำลังจะหลับอยู่แล้ว อีกนิดเดียว .  .ดันโทรมาขัดจังหว่ะกันซะได้.  ผมยกมือถือตัวเองขึ้นมาดูโชวเบอร์ วินเซิฟ. .   เพื่อนที่คณะของผมเอง.  ผมสงบสติตัวเองไม่ให้เผลอด่ามันก่อนจะกดรับสายย

“อือ . ว่าไงมึง โทรมาซะดึกเชียว”

“เออแล้วมึงทำอะไรอยู่อะว่างรึเปล่ากูโทรมากวนปะเนี้ย”. . หึต้องเรียกว่าขัดจังหว่ะเลยละครับมึง แต่เพราะความเป็นเพื่อนที่แสนจะดีของผม เลยไม่ได้พูด สิ่งที่ตัวเองกำลังคิดอยู่ในหัวออกไป

“ไม่หรอกปกติกูนอนดึก แล้วสรุป โทรมามีธุระอะไรรึเปล่ามึง?”

“เออ มีๆ คือ เมื่อวานอะ ตอนที่มึงไม่ได้เข้าห้องเรียน. . ”

“เออกูรู้แล้ว เทอมนี้กูคงไม่พ้น F แน่ๆ ”

“ป่าวๆ กูจะบอกว่า อาจารย์เข้าไม่ได้ว่าอะไร. เพราะอาจารย์เองเขาก็มีธุระด่วนเหมือนกัน เขาแค่บอกให้เราๆ เริ่มติวหนังสือกันได้แล้วเพราะอีกไม่ กี่เดือน ก็จะถึงช่วงไฟนอลแล้ว . . .  ”

“อ่อ่ เออๆ ดีละ นึกว่าปีนี้จะได้ เอฟไปแดกแล้วซะอีก”

“เออเจ กูได้ลิสของไอคิงมา มึงจะเอามั้ย”คิงคือเพื่อนในคณะของผม ที่เรียนเก่งที่สุดในชั้นปี หรือต้องเรียกว่าหัวกะทิเลยก็ได้ครับไม่ว่าจะเป็นวิชาไหน ไอนี้มันก็ได้เอไปแดกทุกวิชา ต่างจากผม  ถ้าไม่ได้ ซี หรือดี ก็คง ได้เอฟ ก๊ากกก ผมละสมเพดตัวเองจริงๆ ฮ๋าๆ

“เอาดิห่า ลิสไอคิง นิ่เหมือนแรร์ไอ-เทมเลยนะ ว่า แต่. . มึงไปได้ของไอคิงมาได้ไงวะ ปกติมันไม่ยอมให้ใครง่ายๆ นี้หว่า. .”

“กูก็ยังงงเองอยู่เหมือนกัน อยู่ก็เดินมา วางชีส ไว้ที่หน้ากูแล้วบอกให้เอาไปซีลอกมาแจกๆ เพื่อนๆ ”

“เออ มันคงจะนึกขึ้นได้ละมั้งว่ายังมีเพื่อนอยู่. .  งั้น ถ่ายรูปแล้วส่งมาให้กูทีละกัน ยังไงก็ขอบใจมากนะไอเซิฟ”

“โด้นวอรี่วะเพื่อน . .งั้นมึงไปพักผ่อนต่อเถอะ กูไม่กวนละ”

“เออรู้ตัวก็ดีห่า 5 5 5 ” หลังจากที่วางสายจากไอวินเซิฟไป ผมก็หลับเป็นตาย. . . และต่อให้มีเสียงระโทรศัพท์ดังขึ้นหรือระเบิดลงผมก็แน่ใจเกินร้อยเปร์เซ็นต์ว่าคงไม่สามารถทำให้ผมตื่นขึ้นมาได้แน่ๆ . . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :29〗〖02-12-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 02-12-2016 15:54:11
. . . .  เช้าวันต่อมา ผมและกายเราตื่นไปที่มอพร้อมกันโดยชุดที่กายมันใส่ในวันนี้เป็นชุดของผมเองดองไว้ในตู้ เป็นชาติแล้ว ไม่ได้ออกเอามาใส่ซะที. . ผมเองก็แอบแปลกใจที่มันยังใส่เสื้อไซด์ผมได้ ปกแล้วผมใส่ M ส่วนกาย มันใส่ L หลายๆ คนก็คงจะมีภาพในความคิดกันอยู่แล้วสินะครับ ผมไม่ใช่คนตัวใหญ่อะไรจะใส่เสื้อขนาดพอดีตัวมันก็ไม่แปลก แต่ไอกายนี้สิ. . ตัวมันก็ไม่ได้อ้วนหรอกนะครับ แต่ติดล้ำๆ ซิกแพ็คแน่นไปหน่อย เลยทำให้ มันดูฟิตๆ แต่พอดูรวมๆ แล้วมีเสนห์เหลือเกิน . . .5 5 5 5 ผมแอบ ห่วงๆ ไม่อยากให้มันลงจากรถเลยแต่รู้ดีว่าคงจะห้ามไม่ได้เลยปล่อยเลยตามเลย. .และหวังว่ามัน คงจะไม่ตกเป็นเป้าสายตาของ คนอื่นๆ

ช่วงสายผมมีเรียนอยู่สองวิชา. . ดูเหมือนวันนี้ อาจารย์จะเน้นให้ นักศึกษาทุกคนพูดออกเสียงให้เป็นชนิดที่ว่าฝรั่งยังอาย ผมนั่ง พูดตามจนลิ้นพันกันแต่ ก็พอถูๆไถๆมาได้ กว่าอาจารย์จะยอมปล่อยออกมา ก็ เกือบๆ เที่ยง ผมเลย โทรเรียกให้ไอวิน มากินข้าวเป็นเพื่อนกันหน่อย แต่ดูเหมือนวันนี้ไอวิน มันดูซึมๆยังไงก็ไม่รู้ปกติ เวลาผมบอกว่าจะเลี้ยงข้าวมันจะรีบ มาหาผม ทันที(เหมือนผมเป๊ะ) แต่วันนี้มันมาช้า ไปเกือบๆ ครึ่งชั่วโมง ทั้ง ที่คณะห่างกันแค่ ห้าหกตึก เอง (เองหรอ?)แต่ไหง ถึงช้าขนาดนี้ . . ผมไม่รู้มันอยากกิน อะไร เพราะตอนมันมาผมก็เอ่ยปากถามแล้วแต่มันไม่ยอมตอบ. .ก็เลย ซื้ออะไรมาให้เหมือนกัน . . . พอกลับมาที่โต๊ะคราวนี้อาการมันเริ่มหนักกว่าเก่าครับ มันเริ่มเกิดอาการเหม่อลอย  ถามอะไรมันก็ไม่ยอมตอบ. .จนผมต้องเบิตกะโหลกเรียกสติมันถึงสองที กว่าจะ ยอมหันมามองผมได้. .

“อะ ไรของมึงตบกูทำไมเนี้ย. .”

“แหม่ไอห่า กูเรียกมึงตั้งนานแล้วเห้อะ  มึงอะเงียบเอง.. ไม่ยอมตอบ เป็นอะไรของมึงเนี้ย. . ห้ะ ” ไอวินมันก้มหน้าอ้ำอึ้งไม่ยอมพูด แถมยัง คอยหลบสายตาของผมอีก. ดูก็รู้เลยว่ามันกำลังจะโกหกผมอยู่

“ก็เปล่า กูก็หล่ออย่างนี้ทุกวันแหละมึงยังไม่ชินอีกรึไง”

“หลงประเด็นแล้วมึง กูถาม ว่าเป็นบ้าอะไร ไม่ได้ถามว่า มึงหล่อรึเปล่าไอห่า. . . จะบอกดีๆ หรือจะให้กูเค้นความจริงห้ะเชี้ยวิน”
 
 “มึงจำแพมได้มั้ย. . . ” แพม อ๋อคงหมายถึงแพม แฟนคนปัจจุบันของมันสินะ

“แพมดาวบัญชีปะ” วินมันพยักหน้า แทนคำตอบ

“แล้วยังไงอะ มึงเทเขารึไง ไอห่า คราวนี้ไปติดสาวคณะไหนอีกละ มึง. .”

“กูป่าวเทเขา แต่เขาเทกู. . .” ห่ะ ผมแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง คนอย่างไอวินเนี้ยนะโดน เท. . . ปกติแล้วไอวินมันมีคนเข้ามาหามันก่อนตลอด  ไอวินมันเป็นคนที่คุยกับใครหลายคนจริงเรื่องนี้ผมรู้ดี. . แต่เรื่องการที่มันถูกทิ้งนี้ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ
“เห้ยย อะไร  มึงอำกูเล่นปะเนี้ย. . ถามจริง ?”


“. . เจ” วินมันหันมาสบตาผมพร้อมกับเสียงพูดที่ดูอ่อนแรงของมัน. .ทำเอาผมอดเป็นห่วงมันไม่ได้

“เออ มีอะไร ?”

.”ขอกอดหน่อย. . ” คำพูดที่เหมือนจะติดเล่นของมัน แต่แอบแฝงไปด้วยความเหนื่อยล้า และท้อใจผมรู้ดีว่าสภาพของไอวินตอนนี้มันคงไม่ได้พูดออกมาเล่นๆแน่นอน มันคงรู้สึกแบบนั้นจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะมันต้องการใครสักคนที่เข้าใจมัน. .และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผมต้องทำหน้าที่ เป็นที่ปรึกษาที่ดี คอยรับฟังและปลอบโยนมันอยู่ใกล้ๆ  ผมเป็นฝ่ายสวมกอดไอวินก่อน วินมันก็กอดผมตอบ แต่ที่แปลกไป คือ วินมันทิ้งแรงทั้งตัว ของมันมาที่ผม ทำเอาผมที่นั่ง เก้าอี้ทางยาว แถมไม่มีทีพิงแทบจะหงายหลังล่วงลงไปนอนกับพื้น แต่โชคดีหน่อยที่ผม รั้ง มือจับโต๊ะไว้ทัน. . . . ผมยอมรับเลยว่าตลอดระยะเวลาที่รู้จักกับมันมา ผมไม่เคยเห็นมันในสภาพที่ดูซึมขนาดนี้มาก่อน   . . .   ผมเองยังแปลกใจเลย. .

“เจ กู ไม่โอเควะ.   คืนนี้กูขอไปนอนด้วยนะ กูไม่อยากอยู่บ้าน. . ”

“เออ ได้ๆ แล้วมึงบอกที่บ้านรึยัง. .ว่าจะมานอนกับกูเดี๋ยวป๋ามึงก็พาพวก ลูกน้อง มาถล่มร้านกูอีกไม่เอาแล้วนะเว้ย” เคยมีครั้งนึง สมัยเด็กๆ ผมกับไอวินเคยเล่นกันอยู่ที่บ้านพ่อ. . วันนั้นหลังหเลิกเรียน ผมกับไอวิน-เรามัวแต่เล่นกันจนลืมดูเวลา จนประมาณ เกือบๆ สี่ทุ่ม มีกลุ่มที่ดูๆ เหมือนแก้งยากูซ่า มาตั้งกลุ่มอยู่ที่หน้าบ้านของผม. . และ นั้นก็คือกลุ่มพวกลูกน้องของพ่อไอวินนั้นแหละครับคือจริงๆ เขาจะให้มาตามหาคน แต่ไอที่มา เกือบๆ  20 คนนั้น มันเวอร์เกินไปรึเปล่า?

“เขาไม่ว่าอะไรหรอก . .เออเจ. .  คืนนี้กูอยากแดกวะ. .  เมาเป็นเพื่อนกูหน่อย. . ”ถึงในหัวผมจะบอกปฏิเสธอย่างเดียว แต่ถ้าคำตอบของผมมันจะทำให้สบายใจขึ้น ผมก็ตกลง. . เมาก็เมา. .

“เรื่องนี้เอาไว้หลังเลิกเรียนเหอะตอนนี้ได้เวลา แดกข้าวกันซะที. . ข้าวมันไก่มันซีดตามมึงละเนี้ย. . ”

“แล้ว ข้าวมันไก่บ้านมึงมันผิวแดงอมชมพูรึไงละห่า. . ”

“ด่ากูได้แล้วนิ่หว่า เออดีละ ลุคซึมๆ ไม่เหมาะกับมึงเลยวะไอวิน ฮ่าๆ ” แม้ตอนนี้ผมไม่อาจจะไม่ได้ทำให้เพื่อน หายทุกข์มากเท่าไหร่แต่ผมก็จะขอ นั่งข้างๆ มันตรงนี้คอยให้กำลังใจและคอยสนับสนุน และอยู่เป็นกำลังใจจนกว่ามันจะหาย ดี ทำไงได้ละ ก็คำว่า “เพื่อน” มันค้ำคอผมอยู่นิ่ . . 

ช่วงบ่าย ผมรีบ เดินเข้าห้องเรียน อีกหนึ่งวิชาส่วนไอวิน มีเรียนช่วงบ่าย สามคาบรวด.  . แต่มันดันโทรนัดแนะบอกให้ผมไปหาที่คณะ เห็นว่าวันนี้จะโดด ขอไปนอนพักใจอยู่ที่ร้าน ผมเองก็ไม่อยากจะขัดให้มันเสียอารมณ์เลย ต้องเป็นฝ่าย ขี่ MSX มาส่งมันถึงที่ร้าน โชคดีหน่อยครับ ที่วันนี้ พี่อินไม่อยู่บ้านเห็นทิ้งโน๊ตไว้ที่ตู้เย็นว่า ไป ปารตี้กับเพื่อนๆ เลยทางสะดวกที่ผมจะจัดงาน ย้อมใจให้ไอวินมันซักหน่อย. . . ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบ เดินไปหยิบ เหล้าสี ที่ อุตส่าห์ซ้อน ไว้ ในห้องครัว แต่โชคร้าย คือ มันใกล้จะหมดแล้ว. ผมก็เลยต้องเป็นฝ่ายบากหน้า ออกมาซื้อด้วยตัวเองปล่อยให้ไอวินมันนั่งทำเอ็มวีอยู่ในร้านคนเดียว . .ระหว่างที่กำลังซื้อของอยู่ๆ ผมก็เจอพี่ริวอยู่ข้างในร้าน ผมไม่ลืมที่จะสวัสดีพี่เขา พี่ริวยิ้มให้ผม แถมยัง จ่าย ค่าน้ำแข็งค่าโซด่าให้ผมอีกด้วย และผมก็แอบเนียนๆ หยิบช็อคโกแลต บาร์ ให้พี่แคชเชียร์คิดเงินด้วย ก่อนจะเดินออกมา พี่ริวถามผมว่า เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า เพราะปกติผมไม่ใช่คนที่ชอบกินเหล้า นอกจากจะมีเรื่องเครียดๆ หรือ อยากจะหลับเป็นตาย ถึงจะกินที. .  แต่ครั้งนี้เป็นเพราะเพื่อน อยาก ผมก็เลยต้องสนอง ก็เท่านั้นเอง. . .

ผมเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อได้พักนึง. .  กำลังเดิน ไปหา ร้านเหล้าที่คาดว่าจะมีอยู่แถวนี้ เพราะตอนแรกผมก็กะจะซื้อในร้านสะดวกซื้อนั้นแหละครับ แต่พนักงานบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ผมก็เลย ต้องออกมาตามหาร้าน ทั้งๆ ทีไม่รู้เลยว่าร้านที่ว่ามันอยู่ตรงไหน จะว่าผมไร้เดียงสาก็ได้นะครับ เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าปกติแล้วเขาซื้อกันที่ไหน ก็ทุกทีที่กินก็มีแต่ไอวิน หรือไอคุณชายที่เอามา ส่วนผมก็แค่คนถูกชวน เลยไม่รู้ประสีประสาอะไรกับพวกมันเลย . . แต่ทันใดนั้นเอง ระหว่างทาง ผม พยายามเพ่งมอง ไปผู้ชายตัวสูงๆ ขาวๆ ที่กำลังยืนต่อคิว ซื้อ หมูปิ้งอยู่ ข้างๆ สะพานลอย พอซูมดีๆ อ้าว ไออะตอมนี้หว่า. .  ผมเดินอ้อมไปตบหัวมัน อะตอมมันหันมามองผมด้วยความสงสัย คงจะตกใจยู่ๆ ก็มีคนมาตบหัวมัน แต่มันก็ไม่ได้ตบผมกลับหรอกครับ ได้แต่ยื่น ยิ้มแล้วก็พูดประโยคเดิมๆซ้ำๆ ที่ได้ยินเกือบทุกที
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :29〗〖02-12-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 02-12-2016 15:58:50
“อ้าวเจ มาทำอะไร แล้วนี้มาไงอะ ”

“ออกมาซื้อเหล้าให้ไอวินอ่ะ พอดีวันนี้เพื่อนกูมันเฮิทวะมึง แต่ยังหาร้านซื้อไม่ได้เลยหว่ะทำไงดีวะมึง”

“ก็ เซเว่น. . เอ้ย ยังไม่ถึงเวลานี้หว่า ”

“แหนะไอเด็กคนนี้ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดแดกเหล้าหรอมึงอะ รู้ดีจริงๆ ”

“ก็มีบ้างแหละน่า แต่ก็มีอีกร้านนึงน่ะตรงมุมนู้นนนนนนน!!” นู้นของมันยาวสะผมเอง เริ่มจะถอดใจ. . .ชี้ไปไหนของมันก็ไม่รู้ไอบ้านิ้

“ตรงมุม สุดซอยตรงนั้นไงแล้วก็เลี้ยวขวา ก็ถึงแล้ว เป็นร้านเล็กๆแต่ข้างใน มีแต่ของแบรนด์ขายทั้งนั้นลองไปดูสิ”

“พาไปหน่อยสิ. . น่า นะ. . ” ผมพยายามอ้อนวอนให้มันพาไป

“กูรอซื้อของให้น้องอยู่. .งั้นเดิน ไปรอก่อนไป เดี๋ยวเสร็จแล้วตามไป. .”

“งั้น รอไปพร้อมมึงดีกว่า กูรอได้. . ”

“แต่. . เออ ป่ะไปก็ไป . . พี่ครับผมไม่เอาแล้วนะ”

“เห้ย ไม่เป็นไรมึงกูรอได้ มึงเหลืออีกแค่สองคิวเองนิจะรีบทำไม” อะตอมมันยอมสละคิวอีกแค่สองคิวก็ถึงคิวมันแล้ว แต่มันดันเลือกที่จะพาผมไปทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องที่มันควรจะมารับผิดชอบด้วยเลย. .  ผมรู้สึกผิดจนอยากจะเอาหัวโขก เสาไฟข้างทาง แต่ตอนนี้ คงยังไม่ใช่เวลา อะตอมเดินนำผม ไป ได้ระยะนึง มันก้าวขา ยาวมาก (หรือขาผมสั้นก็ไม่รู้)เดินนำผมไปไกลริ้ว แต่ก็ยังแอบหันหลังมามองผมเหมือนพ่อลูกเดินมาด้วยกัน พ่อจะคอยมองว่าลูกตามารึเปล่าอะไรประมาณนั้นเลยละครับ. .ผมเดินมาถึงร้าน ขายของเล็กๆ เล็กจริงๆ อย่างที่อะตอมมันว่าไว้ครับ ผมยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไรอะตอมมันก็ชิงถามลุงหนวดพ่อค้าไปซะก่อน แต่ลุง ครับ หนวดของลุงมัดขัดใจผมยังไงก็ไม่รู้ระ ฮ่าๆ ตายๆ นินทาคนแก่ 5 5 5

เหล้าแบรนด์ที่อะตอมสั่งมาป็นแบรนด์ที่ผมไม่คุ้นชื่อมาก่อน หรือเป็นเพราะผมประสบการณ์น้อยถึงตามพวกมันไปทัน แต่พอลุงหนวดคนนั้นเอ่ยปากบอกราคาเท่านั้นแหละผมแทบจะวางขวด คืนให้ลงแกไป

“ส...สสส สี่พัน ขวดเดียวเนี้ยนะลุง. .” ผมไม่อยากจะเชื่อหูที่ได้ยิน เหล้าขวดเดียวสี่พันแม่เ-จ้า กินแล้วบินได้ปะเนี้ย ผมหันหน้าไปมองไออะตอมหน้ามันนื่งมาก ราวกลับว่ามันรู้ราคาอยู่แล้ว

“คือผมเตรียมเงินมาไม่พออะลุง. . งั้น ผมไม่เอาแล้วครับ ”

“ใส่ถุงเลยครับลุง”

“แต่มึง. . ” อะตอมยื่นแบงค์พันห้าใบให้ตาลุงนั้น ผมมองตามด้วยสายตาอาลัยอาวรเงินสี่พันนั้นไปทำอะไรได้อีกตั้งเยอะตั้งแยะ จะบ้ารึไง เหล้าขวดเดียว . . .กินทีแทบหมดตัวเลย (หมายถึงผมนะไม่ใช่มัน)

“อะ เอาไปกินกับเพื่อน แล้วก็บอกเพื่อนด้วยว่าอย่าคิดมาก. . งั้นกูไปละนะ”และก่อนที่อะตอมมันจะเดินจากไปผมก็เรียกชื่อรั้งท้ายให้มันหันมาก่อน

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไปกินด้วยกันเลยสิ เดี๋ยวกูชงกาแฟให้กินด้วยก็ได้อะมึงอยากกินอะไรบอกกูเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง. . ” ถ้าเทียบค่าน้ำที่ร้านผมแล้วมันเทียบไม่ได้กับไอเหล้าขวดนี้เลยครับ .

“อื่อ. . เอางั้นหรอก็ได้. . แล้วร้านไปทางไหนอะ ?”โชคดีไปที่อะตอมมันไม่ได้ปฏิเสธไม่งั้นผมคงต้องรู้สึกผิดเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องแน่ๆ

ผมเดินกลับมาทางเก่านำทางอะตอมมาที่ร้าน ตอนมาถึงอะตอมมันก็บอกว่า เคยผ่านร้านนี้บ่อยแล้ว แต่ไม่เคยรู้ว่าคือร้านของผม มันยังบอกอีกว่า เคยเจอน้องเอิร์นยืนอยู่ที่หน้าร้านอยู่เหมือนกัน. .

ผมเดินพาอะตอมเข้ามาในร้าน  ส่วนผมเองแยกตัวออกมา ไปเตรียมกระติ กใส่น้ำแข็งอยู่ในห้องครัว ปล่อยให้อะตอมมันยืนงงมองไอวินนั่งเหม่อของมันอยู่คนเดียว ผมแอบเอาช็อคโกแลตที่ซื้อมาใส่ไว้ในช่องฟรีซ ไว้รอเย็นๆ ค่อยลงมากิน. .  แต่พอผมเดินถือกระติกน้ำแข็งออกมาสิ่งที่เห็นอยู่บิรเวณนั้น คือ ผู้ชาย ตัวสูงๆ ไม่สิตัวควายๆ สองคนกำลังนั่งกอดกันกลมดิ๊กเลย แต่เดี๋ยวๆ. . นะ นี้มันพึ่งเจอกันครั้งแรกไม่ใช่หรอ.  . . ไอพวกนี้ใจง่ายกันชะมัด

“อะแอ่มม ขอโทษนะครับที่มาขัดจังหว่ะ นี้ น้ำแข็งนะครับ คุณๆ ทั้งสอง. .  ว่า แต่มึงสองคนนี้ยังไงเนี้ย. . คบกันอยู่รึไงกูตกข่าวใช่มั้ย ?”ไอวินมันเอาแต่กอดอะตอม (หรือแอบหลับไม่รู้) ส่วนอะตอมมันหันมายิ้มให้ผมแล้วก็ขยับ ปากพูดงึมงัม  ผมพอจะเดาๆ ได้ว่า “เพื่อน มึง เมา แล้ว” ผมพยักหน้ารับและเดินไปหยิบแก้วออกมาเพิ่มสองใบ มาให้อะตอม ผมรินเหล้าสี ขวดสี่พัน ใส่ แก้วให้อะตอม ด้วยอาการสั่นๆ ที่สั่นนี้ไม่รู้เป็นเพราะราคา หรือเพราะขวดมันหนักกันแน่ ใหญ่ชะมัด.  .

“นี้กะจะมอมกันใช่มั้ยเนี้ย. . เจ” ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่อะตอมพูด มอม มันหมายถึงผมจะมอมมัน หรอ ??

“มอมอะไรของมึง กูก็เทปกติ.  . ”

“แต่ปกติเขาใส่กันแค่ชอตเดียว แต่นี้มึงใส่ เกือบจะครึ่งแก้วไม่เรียกมอมรึไง. . ”ผมนั่งเกาหัวแกร่กๆ เพราะไม่รู้ว่าไอเหล้าเขาชงกันยังไง . . ก็อย่างที่เคยบอกไปนั้นแหละ ครับ ส่วนมาก ผม เป็นฝ่ายกินอย่างเดียวส่วน คนบริการ ตอนนี้สภาพมัน ซึม หมาหงอยไปแล้วครับ.. .

“อะๆ งั้นมึงเท.  . ให้ไอวินกับมึงไปก่อนเลยนะ. .เดี๋ยวกูขึ้นห้องไปเอาของก่อนเดี๋ยวลงมาใหม่” อะตอมพยักหน้ารับ จริงๆ ผมไม่ได้จะมาเอาอะไรหรอกครับ แต่แค่จะโทรมาบอกคุณชายว่าวันนี้จะกินเหล้าเป็นเพื่อนไอวินซะหน่อย. . เพราะไอกายมันเคยสั่งห้ามบอกให้ผมอย่ากินเหล้า ถ้าหากไม่มีมันอยู่ด้วยวันนี้ก็เลยต้องโทรมาขอมันก่อน. . .

“อือ ก็อย่างที่บอกไปนั้นแหละไอวินมันอกหักก็เลยต้องกินเป็นเพื่อนมัน”

“อืมๆ อย่ากินเยอะละ ถ้ารู้ตัวว่าเมา แล้ว ก็รีบขึ้นห้องเลย นะ อย่าไปนั่งอ่อยมันหล่ะ”

“เดี๋ยวๆ ไอวินมันเพื่อนกูนะไอคุณชาย. . .จะให้กูฟิสเจอริ่งกับมันรึไง”

“ก็แค่บอก ไว้ คนเราตอนเมามันควบคุมตัวเองได้ที่ไหนอีกอย่างเวลามึงเมา. .  มึงจะเป็นฝ่ายรุกเองมากกว่า ”ผมหน้าแดงขึ้นมาทันทีที่กายบอกว่าผมเป็นฝ่ายเริ่มแหะๆ ปกติแล้วผมเป็นคนเรียบร้อยจะตาย (หรอ ลากเสียงยาวจากกรุงเทพไปเชียงใหม่)

“แล้วมึงจะไม่มาจริงๆ หรอ กาย มึงไม่มากูก็เหงานะเว้ย ไม่รู้จะปล้ำใครดี ปล้ำไอวินก็ไม่ได้เดี๋ยว โดนมันต่อยเอา ฮ่าๆ” ไม่ใช่ว่าผมไม่เอ่ยปากชวนแต่มันบอกว่า ต้องอยู่กินข้าวกับพ่อของมันเลยมาด้วยไม่ได้

“อย่าดีแต่ปากเจ ถ้ากูไปแล้วมึง ไม่ทำนะ. . .”

“โถ่ไอห่ากูล้อเล่นมึงนี้ทีเรื่องอย่างนี้จริงจังชิบหาย.   . ”

“เอองั้นมึงก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวไอวินมันจะรอนาน ยังไงก็ดูแลมันด้วยละกันนะ ”

“แล้วกูละใครจะดูแล. . ”ผมแกล้งพูดแซวมันเล่นๆ แต่ไม่คิดว่าคำตอบที่จะได้ยิน ทำ เอาผมเขินตามจนต้องบิดตัวไปมา

“เดี๋ยวกูรับผิดชอบทั้งชีวิตเอง รีบไปได้แล้วไป. .”. . แล้วถ้ากูจะกลั้นใจตายไปพร้อมกับคำพูดของมึงในตอนนี้ละจะว่าไง ไอคุณชาย ><
. . .. . .
ผมเดินลงมาจากห้องแล้วเดินตรงไปที่โซฟากลางร้านเห็นอะตอมโบกมือเรียกผมตั้งแต่ไกลๆ นี้ขนาดผมเดินมาอย่างเงียบที่สุดแล้วนะมันยัง จะเห็นผมอีก. . .

“อ้ายยเจ. ..ฮึก กูขอเหล้าอีก”. . เสียงพูดของไอวินติดสะอื้นฟังแล้วมันอู้อี้ จนผมจับใจความแทบไม่ได้. . แต่ก็มีล่ามแปลภาษา ดีครับ(อะตอมแปลให้) ผมถึงเข้าใจ. .

“นี้มันกินไปเยอะยังวะ.. ” ผมหันไปถามอะตอมโดยที่มือก็ยังคีบน้ำแข็งใส่แก้วอยู่. .

“ก็ไม่นะ สองสาม ชอตเอง. . ไม่น่าจะเมาง่ายขนาดนี้ สงสัยคงจะกินก่อนที่ เราจะมากันอีกมั้ง” แล้วนั้นก็ทำให้ผมคิดภาพตามว่าได้ฝากเหล้าไว้ที่ไอวินถึงครึ่งขวดและนั้นก็คงเป็นสาเหตุที่มัน นั่งเมาแอ๋พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้

“อะ”ผมยื่นแก้วเหล้าที่ผสมเสร็จแล้วสองแก้ว ให้กับวินและอะตอม ไอวิน มันรับไปกระเดือดรวดเดียว หมดแก้วส่วนอะตอม มันนั่งจิบๆ ชิวๆ ออกแนวลุคผู้ดีๆ หน่อย ขนาดผมมองผมยังรู้สึกหมันไส้มันเลย . . คิดดู

“อ้าว แล้วไหน ของมึงละ ?” อะตอมมันวางแก้วลงและหันมาถามผม

“กูไม่กิน. . .  กูกินไม่ได้ กูคอ อ่อน. . พวกมึงกินกันเลย” ผมดื้อดันปฏิเสธเสียงแข็ง ว่ายังไงก็จะไม่ยอมกินเด็ดขาด. .

“ได้ไงอะ ตอนมาก็มาด้วย กัน ตอนนี้กินก็ต้องกินด้วยกันดิวะ. . ทำงี้มันเสียมารยาทรู้ป่าว”

“งั้นกูขอเสียสักครั้งละกัน. . . ไม่เอาอะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าเดี๋ยวตื่นสาย. ..”

“งั้นเอา เงินคืนมา ?”

“เงิน ? ค่าอะไรวะ”

“ก็ค่าเหล้าที่ออกให้นี้ไง ถ้าไม่กินก็จ่าย มา แต่ถ้ากินก็ไม่ต้อง.  . เลือกเอา” อะตอมมันกำลังทำให้ผมไม่มีทางเลือกจนในที่สุดผมก็ต้องยอมนั่งกินกับพวกมันทั้งสองคน. . .โอย ผ่านไป แค่แก้วเดียว อาการของผมเริ่มมาละครับ. . . เริ่มมองภาพข้างหน้าๆ เบลอๆ แล้ว แถมยังรู้สึกว่า ไอสองคนที่กำลัง นั่งซดเหล้าอยู่ข้างหน้าผมนี้พวกมันดูเซ็กซี่ยังไงก็ไม่รู้. . . บรึ้ยยย ผมสะบัดหัวไล่ภาพบ้าๆ นั้นออกจากหัว. . ตั้งสติ และรินแป็ปซี่ยกขึ้นกินแทน. . .แต่ทันทีที่แป็ปซี่ลงคอผมก็แทบพุ่งมันออกมาเพราะเริ่มรู้สึกว่า รสชาติ มันแปลกๆ มันออกขมๆ ฝาดๆ ลิ้นยังไงก็ไม่รู้ . .. . .

“เห้ยเจ แก้วนั้นยังไม่ได้ผสม. . ” อ้าวเวรละไง นี้ผมเผลอซดเหล้าเพียวๆ เข้าไปหรอเนี้ย อ๊ากก. . ผมอยากจะรีบล้วงคอ ให้สิ่งที่พึ่งจะเข้าไป มันออกมา แต่รู้ดีครับ ว่าคงทำไม่ได้ก็เลยปล่อยเลยตามเลย  เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงที่ จากที่ผมเป็นคนชงแล้วเสริฟ กลับกลายเป็นว่าผมเป็นคนถูกเสริฟซะเอง ยิ่ง สติผมหลงเหลือน้อยเท่าไหร่การจะพูดปฏิเสธไปมันก็ยากขึ้นเท่านั้น. . พอผมรับแก้วได้ก็เอาแต่ดื่มๆ จนหมดแก้วทุกที จนตอนนี้ สติของผมเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วครับ.  ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมเองอยากปะทะขึ้นมา. . แล้วไม่รู้เป็นเพราะอะไรผมถึงเดินไปนั่งๆ ข้างๆ ไอวิน และเอามือโอบเอวมัน. . แหลบๆ เมาแล้วลิ้นพันกัน แหะๆ

“วินจ๋า”

“. .เอาแล้วไง. . .” วินมันก้มลงมามองหน้าผมที่กำลัง นอนกอดเอวซบอกของมันอยู่. . .

“วันนี้ วินเป็นอะไร อ๋อ ร้องไห ทำไม หื้อๆ” ผมรรู้สึกว่าร่างกายมันขยับไปเองผมพอมีสติ ที่จะรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่แต่สิ่งที่แย่คือผมไม่อาจห้ามกรกระทำเหล่านั้นได้. . เวลาเมาทีไรมันเป็นงี้ทุกที

“เพราะมึงติดหนี้กูไม่ยอมใช่ไง พอกูทวงมึงก็ไม่ให้กูเสียใจ เลยมานั่งกินเหล้าเนี้ย มึงจำไม่ได้เหรอ. .”


“โอ๋เอ๋ๆ เดี๋ยวเค้าคืนให้นะ แต่คงคืนเป็นเงินไม่ได้งั้น. . ให้หอมแก้มใช้หนี้เลยอ่ะ. . ติดอยู่กี่บาทก็นับตามจำนวนครั้งเลยอะ. .

”ผมจำไดว่าพยายามจะเบือนหน้าหนี แต่ร่างกายมันก็ขยับไปเองทุกที. .

.”ถ้าให้กูหอมมึงกูยอมจูบปากกับเพื่อนมึงดีกว่า หล่อ กว่าเยอะ.  ..” เดี๋ยวๆ นะ สรุปสองคนนี้มันมีอะไรหลังก่อไผ่กันใช่มั้ยเนี้ยห้ะ
“เอ้ย มึง อะ” ไอวินเอ่ยปากเรียกอะตอมที่นั่งจิบเหล้าอยู่ตรงข้าม อะตอมวางแก้วลงก่อนจะเบิกหน้าตามองไอวินด้วยความสงสัย

“อือมีอะไร?”

“มึงชื่ออะไรนะ”

“ตอม แต่เพื่อนๆเรียกกูอะตอม. .”อ๋อจริงๆ ชื่อของมันก็คือตอมนี้ เอง ผมพึ่งรู้ แต่พอเรียกตอมเฉยๆ มันก็ดูทะแม้งๆ ยังไงไม่รู้แหะ. . .ดีแล้วละที่เพื่อนพากันเรียกมัน อะตอมกัน. .

“เออ ไอแมงวันตอม”

“เขา ชื่ออะตอม” ผมยื่นมือไปรูดปากไอวินข้อหาเรียกชื่อเพื่อนผมเสียๆ หายๆ แอบเห็นอะตอมมันนั่งขำคิกๆ อยู่คนเดียว. .

“เออจะตอมไม่ตอมก็เอาไว้ก่อนเหอะ แต่ตอนนี้ มึงช่วยมาเอา ไอเจจัง นี้ ออกไปจากกูก่อนเหอะ. .” เจจังนั้นคือชื่อเรียกผมในตอนเมาหน่ะครับ แต่ที่เติมจังนี้ไม่ใช่เพื่อเพิ่มความน่ารักอะไรให้ตัวผมหรอกนะครับ แต่มัน ย่อมาจากคำว่าจังไร นั้นแหละครับ ชื่อ เต็มๆ ในตอนเมาของผมก็คือ จ.จ.ร  “เจ จัง ไร ” นั้น เอง นึกแล้วก็แอบขำตามๆ เบาๆ (คนเขียนยังนั่งขำเลย ฮ๋าๆ )
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :29〗〖02-12-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 02-12-2016 16:04:16
ผมรับรู้ได้ถึงแรงยกดึงผมขึ้นออกจากอกของไอวิน และไปนั่งเกาะไออะตอมแทน  ผมเริ่มๆ รู้สึกเลอะเลือนขึ้นทุกที. . สติของผมเริ่มเหลือน้อยลง ฟังอย่างเป็นอีกอย่างหูอื้อไปหมด ไม่รู้พวกมันกำลังพูดอะไรกันอยู่. . . ผมพยายามจะหยิบโทรศัพท์ เพื่อโทรไปหาไอคุณชายว่าตอนนี้ผมเมา อยู่และกำลังจะนอน แล้ว ปกติตอนเมาผมจะเป็นคนปากหวานพูด เพราะอัธยาศัยดี. . มองอะไรก็สวยงามไปหมด. . เลยอยากใช้ช่วงเวลาที่เมาๆ นี้ คุย ซึ้งๆ กับน้องกายซะหน่อย. . เอิ้ก ๆแต่ไม่ว่าผมจะพยายามคลำหาเท่าไหรก็หาไม่เจอ หรือ อาจจะลืมไว้บนห้องจะให้ลุกไปหยิบเองก็ไม่ไหวจะใช้ให้ใครไปหยิบให้ก็คง จะไม่ดี ผมเลย เอ่ยปาก ขอยืมโทรศัพท์ของไอคนที่ผมกำลังนอนหนุนตักของมันอยู่. . .

“อะตอมจ๋า” ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าเสียงผมตอน นั้นหวานแค่ไหน. .

“หืม ว่าไง จะเอาอะไรอีก ?” เสียงอะตอมยังพูดเหมือนปกติแต่ที่ต่างไป. . คือ หน้าของผมเริ่มก้มเข้ามาใก้ลผมทุกทีๆ

“เอ้ยๆ มึงจะจูบเพื่อนกูหรอวะ. .ไอห่า . ”เสียงพูดติดตลกของไอวินทำให้ผมต้องแอบขำตาม

“แล้วได้ป่าวละ. .” เสียงชำของผมหยุดลงเมื่อได้ยินคำพูดของอะตอม.  . ไอนี้ชอบ เล่นอะไรแผงๆ

“ถ้ามึงไม่ถือก็เอา เลย ก็อณุญาติ” ไอนี้ก็ช่างยุจริงๆ
 
“กูล้อเล่น กูไม่ทำคนตอนเมาหรอกหน่ะ มันเสียชั้นเชิง. . ” เดี๋ยวๆ งั้นก็แสดงว่าถ้าปกติ มันก็จะจูบผมงั้นสิ บ้าบอ บ้าไปกันใหญ่แล้ว.  . และก่อนที่มุขพวกนี้มันจะเลยเถิดไปไกล ผมก็รีบพูดตัดวงสนทนาของพวกมันทั้งสองด้วย การ ขอยืมโทรศัพท์  อะตอมมัน

“อาตอม. . . .ขอยืมโทรศัพท์หน่อย จิ . .”ผมแบมือเหนือหัวรอโทรศัพท์จากมัน

“อยู่ในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาดิ. .”ผมไม่รอช้ารีบหุบมือลง และล้วงไปตามกระเป๋ากางเกงของมัน. . แต่ที่แปลกไปทำไม โทรศัพท์มันถึงรูปทรงแปลกๆ ผมเงยหัวมองตามมือของตัวเองที่กำลังค้นหาอยู่. . .แต่แจ็คพอตดันลง เมื่อสิ่งที่ผมจับไม่ใช้
โทรศัพท์ แต่เป็น เป้า ของไออะตอม  ผมรู้สึกอาย(ถึงตอนเมาความอายจะไม่ค่อยมีก็เถอะ)จนต้องรีบลุกพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นก่อนจะเขยิบออกมา ห่างจากมัน

“แหนะ กูเห็นนะไอเจ อาการออกแล้วหรอมึงหน่ะ รีบขึ้นไปนอนไป กูไม่อยาก ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนคราวที่แล้วอีก. . ไปๆ” ใจจริงผมก็อยากรีบๆ ลุกออกไปจากตรงนี้นะแต่เหมือนสังขารของตัวเองจะไม่เห็นด้วย ร่างกายผมไม่ยอมขยับเลย ผมรู้สึกมึนหัวจนแทบจะอ้วก นี้ขนาดแค่นั่งนะคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่จะยืนได้เลย. . .

“ป่ะขึ้นไปนอนกัน. .” ไม่ใช่เสียงวินแต่เป็นเสียงของอะตอมที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ด้านหน้าของผมพร้อมกับยื่นมือ มาตรงหน้า

“เอ้ยแค่นี้เองกูไปได้ มึงอยู่กินกับไอวินต่อเถอะเดี๋ยวกูขึ้นไปนอนเอง. .” ผมปัดมืออะตอมออก และพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ได้ไม่กี่วิ ก็แบจะหงายท้องหงายไส้ โชคดีหน่อยที่อะตอมมันคว้าตัวผมไว้มันไม่งั้นหัวทิ่มแน่ครับ. . .

.”อย่าดื้อดิป่ะ เดี๋ยวไปส่ง ”คราวนี้มันไม่ว่าเปล่าครับ แต่ยังนั่งยองๆ หันหลังให้ผม สงสัยมันคงจะอยาก แบกควายอย่างผมขึ้นหลังสินะ . .

“ตัวหนักนะจ้ะบอกก่อน. .”

“ก็คงไม่เท่า หมาที่บ้านกูหรอกมั้ง. .มาขึ้นมา” ในเมื่อมันอยากลองของผมก็เลยกระโจนตัวเอง ทิ้งตัวลงที่หลังของมันราวกับว่าตัวผม เบาสบายเหมือนปุยนุ่น แต่แท้จริงๆ แล้วก็ควาย ดีๆ นี้เองแหละครับ . . อะตอมมันแบกผมขึ้นหลังได้ชิวมาก ยังกับแบกเด็กหนัก 20 โล มันไม่พูดอะไรซักคำแถมยังเดินพาผมไปที่ห้องอีก

“ห้องไปไปทางไหน. ” อะตอมถามแต่ผมไม่ได้มองทางเพราะเริ่มรู้สึกหนักๆที่ตายังไงไม่รู้ เลยชี้มั่วๆ ไป

“ทางนั้น ”

“ทางนั้นมันห้องน้ำ”

.”งั้น นางนู้น. .”

“นั้นมันห้องครัว”

“เอ่อ. .งั้น”

“พอๆ ..  เห้ย มึง ห้อง เจมันอยู่ตรงไหนวะ. . ”

“เดินขึ้นบันไดไปอยู่ชั้นสองทางขวามือ สังเกตชื่อห้องดีๆนะอย่าเข้าผิดหล่ะ ”

“เออ ขอบใจนะมึง   . . ” ตัวของผมถูกเขย่าไปมาตามแรงย้ำเท้าของตอะตอมอยู่หลายทีจนในที่สุดมันก็มายืนหยุดอยู่ที่หน้าห้อง ใดห้องนึง ก่อนจะสะบัดตัวเพื่อเรียกผมให้ลืมตามองว่าใช้ห้องของตัวเองมั้ย ผมลองเหล่ๆ ตามองเห็น รอบขีดๆ หน้าห้อง น่าจะไม่ใช่เลยบอกให้อะตอมเดินไปห้องข้างๆ แทน

“โอ้ยหนักเป็นบ้า”ทันทีที่มาถึงอะตอมมันก็วางผมลงกับเตียง และนอน  เบียดผมอยู่ข้างๆ ถมยังบ่น

“ก็บอกแล้ว ”

“ นี้อุตส่าห์พาเดินแบกมาส่งถึงห้อง ไม่มีรางวัลให้หน่อยหรอ. .”

“ตังไม่มีหรอกนะมีแต่นี้. . ให้ทีนึงอะ. . ” ผมยื่นแก้มไปใกล้ๆ อะตอม มันทำหน้างง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรผม. .

“ยังหรอก ยังไม่ใช่ ตอนนี้ งั้นถือว่า ติดรางวัลไว้ก่อนละ กัน ไว้วันไหนอยากได้ จะมาเอา ตกลงมั้ย. . ”ผมไม่รู้ว่าประโยคเริ่มมันพูดว่าอะไร เพราะรู้สึกหูอื้อๆ แต่มาได้ยินคำหลังๆ ที่มันว่า ตกลงมั้ย ผมก็ไม่รู้ว่ามันกำลังหมายถึงอะไร แต่ก็พยักหน้ารับไป. .

และระหว่างนั้นทั้งผมและมันต่างคนก็ต่างเงียบจากที่ผมคิดไว้ว่าเมื่อหัวถึงหมอนแล้วตัวเองจะหลับ แต่กลับตื่นตาสว่างซะงั้น  . . .  แต่ด้วยบรรยากาศตอนนี้มันเงียบแปลกๆ  ผมเลยคิดหาวิธีที่จะพยายามชวนคุยแต่ ไม่รู้จะสรรหาอะไรมาคุยกับมันดี จะไล่มันลงไปเลยก็น่าเกลียด. .  อย่างน้อยชวนคุยซักหน่อยดีกว่า. .

“อะตอม. . ”ผมค่อยๆ คุมสติ ของตัวเองไม่ให้พูดอะไรผิดเพี้ยนไปจากที่ตัวเองคิดไว้ในหัว

“หืม. .” ใบหน้าเรียบนิ่งของอะตอมหันมามองผมที่มองมันอยู่ก่อนหน้าอยู่แล้ว

“ป่าว ไม่มีอะไร. . แค่ไม่อยากให้เงียบ มันวังเวงแปลกๆ วะ”ผมหันหน้ากลับมามองเพเดนแทน เพราะถ้าขืนมองหน้ากันแต่ ไม่ยอมพูดมันก็จะดูแปลกใช่มั้ยละ . .

“หาย เมาแล้วรึไง. .”

“ยังหรอก แต่ก็พอมีสติ. . ”

“ถ้าไม่อยากให้เงียบก็ชวนคุยสิ. .  ”

“ไม่รู้จะชวนคุยอะไรวะ หัวมันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ค่อยออกเลย. . เออ งั้นมาเล่นเกมกันดีกว่า. . ”

“เกม ? เกมอะไรละ”

“เกมถามตอบ. . .”

“แล้วมันเล่นยังไงอะ.  ”

“ก็ ต่างคนต่างก็ตั้งคำถาม. . ไว้ในใจแล้วก็คำตอบที่ตัวเองอยากจะรู้ แล้วก็ถาม คนที่เล่นกับเราด้วยไง. .ไม่อยากหรอก. .เริ่มที่มึงเลย คนละสามคำถามสามคำตอบโอเครนะ ใครโหหก ขอให้ไส้แห้งไม่มีจะแดกสาธุ .. .”ต่ำหรับคงจะไม่แห้งไปมากกว่านี้แล้วหลาะครับมันแห้งก่อนที่ผมจะมาเล่นกับมันอีก ฮ่าๆ

“อืม  เจ . . . มึงสูงร้อยเท่าไหร่”

“ด่ากูเลยดีกว่าถ้าจะถามคำถามแบบนี้ไอหอกหัก. . ไม่เอาเรื่องนี้ดิวะแม้ง” ชี้ปมด้อยคนอื่นพวกมึงมีความสุขกันมากใช่มั้ยหึ้ บักห่านิ่

“ฮ่าๆ ล้อเล่นนะ ล้อเล่น งั้นเป็น . . . เอ่อออ” เสียงอะตอมมันตะกุกตะกุกไม่ยอมพูดสักที. .

“ช้า คำ ถามลดนะเว้ย. . .”

“คือ ตอนนี้ . . มีคนที่แอบชอบบ้างรึยัง. . .” เสียงของอะตอมมันเงียบไปเหมือนมันกำลังเขินอายที่ต้องถามคำถามแบบนี้กับผม

“หมายถึงตอนนี้หรอ”

“อืมใช่ ตอนนี้. ”ถ้าหมายถึงตอนนี้ผมก็คงบอกกับมันได้เต็มปากไปว่า. .

“ไม่.  .ไม่มีอะ ไม่ได้แอบชอบใครเลย. . ”  เพราะอะตอมมันถามว่าผมได้แอบชอบใครผมก็ตอบไปว่าไม่ ก็ถือว่าคงไม่ผิดกฏนิเนอะ มันไม่ได้ถามว่าผมมีแฟนรึยัง ซะหน่อย

“อะเหลืออีกสองข้อ . ”

“ไม่ละ ถามแค่นี้แหละ .. . ตามึงเลย”ใบหน้าของอะตอมมันเหมือนพยายามจะกลั้นยิ้มๆ ทั้งที่ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรไอนี้มันก็ดูเหมือนจะหลุดขำซะแล้ว. . เห้อๆ ท่าทางเส้นจะตื้น
 
“งั้นถามรวดเดียวสามคำถามเลยนะ. . เอ่อ มึง เป็นใครมาจากไหน บ้านทำอะไร แล้วก็ชีวิตความเป็นอยู่เป็นยังไง ครอบครัวแฮปปี้ดีรึเปล่า. .  ”ระหว่างที่ผมคิดคำถามเล่นๆ และพูดออกไปก็เผลอหันไปเห็นอะตอม จากที่กำลังๆ ยิ้มมันก็หุบยิ้มลงทันทีราวกับว่าผมเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูมัน. . . อะตอมมันถอยหายใจหลายครั้งก่อนจะสูดออกซิเจนเข้าปอดมันไปเฮือกใหญ่และเริ่มตอบคำถามผมที่ละข้อ. . ผมไม่รู้ว่านี้มันจะเป็นการฝืนให้มันพูดในสิ่งที่มันไม่อยากพูดรึเปล่าแต่ผมก็ไม่อาจที่จะบอกห้ามมันได้เพราะอะตอมมันเริ่มที่จะเล่า เรื่องทุกๆอย่าง แล้ว

“กูเป็นลูกครึ่งไทย-เจ็ค ทวดของทวดท่านเป็นคนจีน. . ส่วนที่บ้าน พ่อทำธรุกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนแม่ทำธุรกิจส่วนตัว พี่ชาย เป็นวิศวะกร ส่วนตัวกูยังเรียนไม่จบ. .เลยยังไม่มีงานอดิเรกทำ ส่วนน้องสาว ก็ กำลังเรียนอยู่มัธยมต้น. . ชีวิตความเป็นอยู่. . .มันขึ้นอยู่กับจังหว่ะ นานๆ ทีถึงจะได้เจอหน้ากัน เพราะแต่ละคนก็ติดงาน จนอาจจะลืมไปว่ายังมีคนในครอบครัวอยู่ก็ได้. . .ถ้าถามว่ามีความสุขดีมั้ย. . เรื่องนี้มันก็ตอบยากนะ จะว่ามีมันก็มี. . แต่มันก็นานมามากแล้ว นานจนลืมไปเลย . . ” จบคำพูดของอะตอมทำเอาผมแทบส่างเมา อาจจะเป็นเพราะความ โง่ของผมเองที่เผลอถามอะไร ที่มันดูจะเกินเลยความเป็นส่วนตัวไป. . .ผมอยากจะโขกหัวตัวเองหลายๆ ครั้งให้กับความบื้อของตัวเอง . . แต่รู้ดีว่าถึงทำไป ก็ไม่สามารถกู้ข้อมู,คำพูดพูดนั้นกลับมาได้อยู่ดี แถมยังเจ็บตัวฟรีอีกต่างหาก. .

“เอ่อ.อะตอมม . .”

“อื่อ”เสียงของมันดูเศร้าซึมลงไปทำเอาผมหงอยตามมันไปด้วย

“ถ้าเมื่อกี้กูถามอะไรแล้วทำให้มึงไม่สบายใจหรือเสียใจกูขอโทษนะเว้ยกูไม่ได้ตั้งใจ แต่ที่ ฟังจากที่มึงเล่ามากูก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมครั้งแรกที่กูเจอมึงถึงทำนิ่งหน้าตายได้ขนาดนั้น. .  ”

“ทำไงได้ละ ก็เล่นเกมพูดความจริงกันไม่ใช่หรอ . .. กูกลัวจน ก็เลยตอบบ”ถ้าอย่างมันไส้แรงผมก็คงไม่หลงเหลืออะไรอยู่ในท้องแล้วแหละครับ ดูๆ-จากที่มันเล่ามาแล้ว นี้คือทั้งบ้าน ประกอบธุรกิจเกือบทุกคน. .เรื่องจนคงไม่น่าจะเป็นไปได้เลย หึหึ

“มึงไม่โกรธกูใช่มั้ยอะตอม. . ” ผมพยายามแสะยิ้มหันไปมองมันที่เอาแต่เหม่อมองฝ้าเพดาน . .

“จะโกรธทำไม ละ ดีซะ ที่ได้บอกมึง. . ไม่รู้สิ กูไม่อยากมีความลับอยู่แล้วด้วยไง ก็กะไว้ว่าสักวันก็คงจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง นี้ก็คงได้โอกาสดีด้วยละมั้ง ปากมันก็เลยไป. . ” เหอะๆ เลยไปตอบทุกคำถามแบบนี้เลยมันก็บังเอิญไปเนอะ มึง เหอะๆ. .

“แล้วนี้มึงไม่อยากถามกูอีกหรอ เหลืออีกตั้งสองข้อแหนะ แถมกูยังถามมึงเลยไปด้วยคำถามนึง. .ไม่อยากามมกลับหน่อยหรอ. ”
“ไม่หล่ะ เรื่องที่กูอยากรู้ก็มีแค่นี้แหละ”

“อ่ะๆ ก็แล้วแต่มึงเลยละกัน ห้าววววว!!!” ผมอ้าปากหาวกว้าง จนแทบจะอมหัวมันได้ คงเพราะเมื่อกี้ เหนื่อยกับการคิดคำถามมากไปหน่อย. . ตอนนี้เลยรู้สึกง่วงๆ ขึ้นมา

“อ้าวง่วงแล้วหรอ นอนเลยสิ.. หรือนอนไม่หลับให้อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอนมั้ย. . ”

“เห็นกูเป็นเด็กรึไง . . มึงเองก็รีบลงไปได้แล้ว เออแล้ว ก็ระวังโดนไอเชี้ยวินมันแซวละ. .ขึ้นมานานขนาดนี้ คงโดน ล้อ ว่าทำอะไรกันอยู่แน่ๆ เลย. เชื่อกูสิ”

“อย่าไปสนเรื่องนั้นเลยกูไมแคร์หรอก มึงเองก็รีบนอนเถอะ จะได้เลิกบ่นซักทีกูรำคาณ”

“เออรำคาณก็รีบลงไปซะทีกูขี้เกลียดบ่นละเนี้ย .  .เออตอนมึงจะลงไป กูฝากกดเปิดแอร์ตรงนั้นทีนะ. . ขอบใจมาก” อะตอมมัน

พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไปจากประตูไป. . . .  และเมื่อลมเย็น 22 องศา พัดสาดเข้ามาใส่หน้าผม ก็เล่นเอาตัวผมเองลืมตาไม่อยู่.  . เลยนอนหลับไปพร้อมกับสติอันน้อยนิดของตัวเอง. . .

.  . . . . . . . .

ตกดึกๆ เวลเกือบๆ ตีสอง ผมลืมตาลุกขึ้นมาจากเตียงเพราะรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมา เลย ลุกเข้าไปเข้าห้องน้ำแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อไออะตอม ไหงมานอน อยู่บนเตียงเดียวกับผมได้ . . ผมเดินอ้อมไปเปิดสวิตซ์ไฟให้สว่าง เพื่อจะดูสภาพขอมันชัดๆ และภาพที่ผมเห็นคือ. หมาเรื้อนดีๆ แหละครั หึหึ ถ้าทางจะกินไปเยอะ หน้าตาหูเหอมันดงไปหมดเลย. . นึกแล้วก็แอบขำแต่พอมานึกถึงสาเหตุที่มันกินไปเยอะขนาดนี้ ผมเองก็เริ่มจะเข้าใจ.  จะพูดขอโทษอย่างเดียวก็คงไม่พอ. . แต่จะทำไงได้ละ คำพูดเมื่อล่นวาจาไปแล้ว ก็ไม่อาจที่จะย้อนคืนกลับมาดังเดิมได้. .  ผมยื่นมือไปกดรีโมท ปรับอุณภูมิของแอร์ให้พอดี ก่อนจะปิดไฟและกลับมานอนที่เตียงดังเดิม. .แต่พอผมล้มตัวลงนอนอาการคนเมาก็เริ่มทำงานครับ . .มันขยับตัวไปมาเอาข่ามาเกี่ยวตัวผมไว้แถมแขนก็ยัง ฟาดปากผมอีก จนผมต้องหมุนตัวให้มันนอนแนวขว้างระหว่างเตียง แต่คิดไปคิดมา ผมเองนี้แหละที่จะนอนไม่ได้ . . เลยตัดสินใจทำตัวเป็นเพื่อนที่แสนดี ยอมหยิบผ้าห่มผืนโต กับหมอนนุ่มๆ หนึ่ง ใบ ลงมานอนกับพื้นด้วยความ รันทด. .  .ถถถถ ถ้าไม่ติดที่ว่า เห็นมันเมาอยู่นะ ผมคงถีบมันลงมานอนกองกับพื้นแล้วหึหึ. . . แต่เวลายิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว พื้นไม่ที่ ค่อยๆ เย็นขึ้นเรื่อย ทำให้ ผมต้องนอนหมุนตัวซุกไปกับผ้าห่มจนกลายเป็นหนอนดักแด้และพยายามข่มตานอนให้หลับ. .แต่แล้วอยู่ๆก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อ ไอคุณชายที่นอนสบายอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่า มัน นอนอิท่าไหน ถึงหล่นมาทับผมดัง ตุ้บบ!! ดอกนี้ทำเอาผมจุกจนพูดต่อไม่ออกเพราะรู้สึกเจ็บไปหมด แต่โชคดีของผมหน่อยที่มีผ้าห่มคลุมตัวอยู่..  ไม่งั้นผมคงจุกหนักไปมากกว่านี้. .  และด้วยตอนนี้สายตาของผมที่เริ่มชินกับความมืดเลยทำให้ผม สามารถมองเห็น อะไรต่อมิอะไรแม้จะไม่ได้เปิดไฟก็ตาม . .ผมเห็นอะตอมมันสะลึมสะลือลืมตา. . .ขึ้นมามองหน้าผม  ผมไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าในตอนนี้สายตาของมันกำลังพยายามบอกอะไรผมอยู่กันแน่. . . .แตะแล้วเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้นเมื่ออะตอมมันพยายามคลานขึ้นมาบนตัวผมจนตอนนี้ มันกำลังคล่อมตัวของผมอยู่. .แล้วจู่ๆ มันก็ก้ม หน้าของ มันเขามาใก้ลกับผมๆ พยายามขัดขืนและพยายามผละตัวมันให้ออกห่างแต่สภาพของผมในตอนนี้ไม่สามารถ ทำได้อย่างที่ใจคิดเลย ผมพยายามเรียกเพื่อเรียกให้มันได้สติ. . และจังหว่ะที่ผมกำลังจะอ้าปากตะโกนนั้นเอง อะตอมมันก็เลื่อนปากของมัน มาประทับกับปากของผม. . ด้วยความตกใจทำให้ผมมีแรงพอที่จะดิ้นตัวให้หลุดออกมาจากมันได้.   . . ผมลุกขึ้นยื่นคุมสติมองหน้ามันที่กำลัง นอนหงายหน้า ขึ้นมา. . แต่สายตามันกลับปิด. . ผมไม่รู้ว้าเหตุการณ์เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น และมันเกิดขึ้นได้ยังไง อาจเป็นเพราะ อาการเมาของมันเลย ทำให้ มันควบคุมสติไม่ได้ หรืออาจเป็น มันกำลังละเมอนึกหน้าผมเป็นหน้าของคนอื่นเลยทำให้มันเป็นแบบนี้  ปกติเรื่องแบบนี้ สำหรับ ผมกับไอวิน ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก แต่พอมาเป็นอะตอมผมกับรู้สึกไปอีกอย่าง. . .


ด้วยความระแวงว่ากลัวมันจะละเมอตื่นขึ้นมาทำอะไรผมแกผมเลยหยิบผ้าห่มลงมานอนข้างล่างกับไอวิน ที่กำลังนอนสลบเหมือดอยู่ที่โซฟา. .  ผมแทรกตัวเข้าไปนอนข้างๆ ไอวิน ๆก็ดูเหมือนจะยังไม่ได้หลับ มันยังอ้าแขน ออก บอกให้ผมเขยิบไปนอนใกล้ๆ .  . มันไม่ได้เอ่ยปากถามผมว่า เป็นถึงลงมานอนข้างล่าง แต่มันกลับดึงตัวผมเข้าไปกอด. . มันคงต้องการที่พักใจดีๆ และผมเองก็เข้าใจมันว่าตอนนี้ มันก็คงรู้สึกไม่ดีอยู่เหมือนกัน  กอดนี้ อาจไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นๆ จะเข้าใจแต่สำหรับผมแล้ว กอดนี้ เป็นเพียงความห่วงใยเล็กๆและความหวังดี. . ที่เพื่อนคนนึง จะมีให้เพื่อนอีกคนนึงก็เท่านั้นเอง. .


.  . . . .  .  .. .


ตอนเช้าผมตื่นมาเพราะฝ่ามือของไอวิน ที่ฝาดลงที่กระบาลผม อยู่หลายที เหตุเกิดเพราะ เรียกแล้วผมไม่ยอมตื่นมันก็เลยต้องลงไม้ลงมือ. . .  แถมมันยังไล่บอกผมให้ไปอาบน้ำแต่งตัวไป ม.พร้อมกับมัน แต่. . .ถ้ามองอะไรให้ดีๆ มันเองก็ยังไม่ได้อาบน้ำเหมือนกัน ยังมีหน้ามาว่าผมอีก ผมเลย เสยกระบาลมันไปหนึ่งที ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องไป. . .ระหว่างทางผมเอาแต่คิดว่าควรทำตัวยังไงดี ควรจะเอ่ยปากโวยวายตอนเปิดประตูเข้าไป หรือ ควรจะทำตัวเป็นปกติดี และแล้วสมองก็สั่งการให้ผม ทำตัว ให้เป็นปกติ. .ผมเดินไปแง้มประตูดูว่ามันตื่นรึยัง . . แต่จังหว่ะนั้นก็เป็นจังหวะที่ประตูถูกเปิดออก. .  ทำเอาผมแทบจะพุ่งไปชนไอคนที่อยู่หลังประตู. .มันยืนงงมองผมด้วยสายตาชวนสงสัย. . .ผมพยายามสบตากับมันให้ชัดๆ. . . ว่า สายตาของมันยังเหมือนเมื่อคืนอยู่รึเปล่า.. . ผมพยายามเพ่งเล็งมองมันอยู่อย่างนั้นนานจนมัน ต้องดีดนิ้วเรียกสติผม  . .

“เป็อะไรเจ เมาค้างหรอ ?” เรื่องเมาหน่ะไม่ แต่อารมณ์หนะไม่แน่

“หือ. . เอ่ออ . . ป่าวนิ่. . แล้วๆ นี้จะไปไหนอะ จะกลับแล้วหรอ ”

“อืม ก็ว่าจะกลับแล้ว. . ”

“อ่องั้นลงไปนั่งรอข้างล่างก่อนนะ เดี๋ยวกูชงอะไรให้กินก่อนกลับ. .” อะตอมยอมพยักหน้ารับโดยว่าง่าย

“เออ.  เจว่าแต่เมื่อคืน กูลงไปนอนข้างล่างได้ยังไงวะ. . ”ดูท่าเหมือนว่าอะตอมมันจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้สินะ ผมเลยลองแกล้งๆ ถาม ดูเชิงมันไป.

“ก็เมื่อวาน. .มึงนอนละเมอแล้วก็หล่น มานอนข้างล่างเองจำไม่ได้หรอ. . ”

“อ๋อ. . . งั้นก็แล้วไป. . ”

“ถามทำไมวะ . .หรือเมื่อคืนกูไปอยู่ในความฝันมึงด้วยรึไง”สีหน้าของมันดูเปลี่ยนไป ทันทีที่ผมพูด. . เรื่องเมื่อคืน. .

“ห้ะ .. ป.ปป่าวๆหรอก ก็แค่ ฝันอะไรเรื่อยเปื่อย งั้นเดี๋ยวลงไปรอข้างล่างก่อนนะรีบตามมาละ ”

. .   . ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเดิน มาล้มตัวนอนที่เตียง . . . คิดเรื่องที่ตัวเองพึ่งจะทำลงไป. . ผมทำถูกแล้วหรอ ที่ไม่โวยวาย ผมทำถูกแล้วหรอ ที่ไม่ได้ต่อว่า มัน . . ผมทำถูกแล้วหรอ ที่ทำหน้า เหมือนว่าตัวเองไม่รู้เรื่องอะไร ผมทำถูกจริงๆ แล้วใช่มั้ย. . แต่แล้วความคิดบางอย่างก็เข้ามาแทนที่ ความวุ่นวายใยหัวผม. . .คำว่าเพื่อน มันมีค่าสำหรับผมมาก และการที่ผมมีมันเป็นเพื่อนก็นับว่าเป็นเรื่องดี อะตอมมันเป็นที่ดีในระดับนึง. .  มันน่าไว้ใจ มันเทคแคร์ดี ไม่ต่างจากไอวิน ไอติน หรือกายเลย. . และถ้าหากเมื่อกี้ผมเอาอารมณ์โกรธ มาครอบงำตัวเองละก็  ไม่รู้ป่านนี้ ระหว่างผมกับมัน ยังจะเหมือมเดิม
อยู่มั้ย ?

แต่สุดท้าย. .  ผมก็ตัดสินใจที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องและปล่อยเรื่องนี้มันผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแทน. . .
เพราะคำ ว่าเพื่อน . . ..ทำให้ ผมเป็นผมได้ ในวันนี้. . และผมก็จะคงเชื่อในความคิดนี้ตลอดไป. .

TBC. . . . . . . . . . . .   

{คิมอูฮยอน#}
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :29〗〖02-12-59〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-01-2017 23:05:59
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :30〗〖21-02-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-02-2017 19:12:32

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง


Chapter30:  คำถาม ในใจ

ช่วงสายของวัน ผม เดินกลับขึ้นมา บนห้องอีกครั้ง. . อาจเป็นเพราะผมรู้สึกเพลียๆ จากอาการเมา ค้างเมื่อคืนหรือเป็นเพราะเรื่อง ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ไม่รู้ที่ทำ เอาผม คิดมาก นอนกุมขมับ อยู่แบบนี้ ผม นอน เฝ้าถามตัวเอง คุยกับเพดานอยู่นาน สองนาน

ครืดดดด!!!! เสียงอะไรสั่นๆอยู่ที่หัวเตียงผมๆ ละสายตาที่เอาแต่นอนมองจ้องเพดานอยู่นาน แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์ที่กำลังแพดเสียงสั่น มารับสาย. .  ‘Sky’

“ฮัลโหล ทำไมวันนี้ตื่นเช้า จัง น่าตกใจ จริงๆ” เสียงของกาย ที่ถามผมพร้อมกับเสียงขำเบาๆ ลอดผ่านสายมา ทำเอาผมที่ อารมณ์ บ่จอย ก็เริ่มๆ รู้สึก ดีขึ้น ถึงแม้มันจะไม่ใช่คำหวานแหวว แบบที่คู่ไหนๆ พูด กัน แต่สำหรับผม กับกายแล้ว มันเป็นเรื่องแปลกจริงๆ

“กูควรตกใจมากกว่าป่ะ. . . อะไรดลใจให้มึงตื่นเช้าเนี้ย. . .”

“ก็เป็นห่วง เมื่อคืนเห็นว่าเมาด้วยนิ่ เป็น อะไรมากรึเปล่า ?” ผมแอบยิ้มตาม ประโยคท้ายๆของมัน

“ไม่รู้วะจำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ ไม่เป็นอะไรมากหรอก นอนพักสักแปป เดี๋ยวก็หาย”

“ป่าวๆ กูถามถึงไอวินต่างหากมันเป็นไง บ้าง  โดนมึง ข่มขืนรึเปล่า ?? ฮ่าๆ”

“เออกูทำมันเองแหละ พอใจรึยัง ครวย ถ้าเป็นห่วงมันนักทำไมไม่โทรไปถามมันละ มาถามกูทำไม ห่า”

“โอ๋ๆ แค่หยอกเล่นๆ หน่ะ ฮ่าๆ โกรธ หรอ หืมม”

“ป่าวโกรธ แล้วนี้มึงไม่รีบไปเรียนหรอ กูเห็นไอวิน มันออกไปละนะ”

“ยังอะ ขี้เกลียด พึ่งอ่านหนังสือจบเมื่อกี้เอง ไว้ค่อยไปช่วงบ่าย ว่าแต่มึงเถอะ.ไม่มีเรียนรึไง ”

“ขี้เกลียด เหมือนกัน กะว่ารอให้สายๆ ค่อยออกไป”

“เหอะๆ ไปสายระวัง เอฟ แดกนะ ขอเตือนน...”

“พอดีกูไม่วอรี่เรื่องเกรดอะครับ คุณสกาย เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ”

..”ว่าแต่มึงเถอะ ไม่มีเรียนเช้ารึไง เดี๋ยวไอเชี่ยวิน ก็สอย ทั้งเกรดทั้งคะแนนไปแดกหรอก”

“ปล่อยให้มันได้บ้างเหอะ โดนหักจนแทบไม่เหลืออยู่แล้ว อีกอย่างที่มันรีบไป เพราะมันต้องรีบไปประจบ อาจารย์คนที่ให้คะแนน มันด้วยไง”

“ก็ว่าอยู่ทำไมมันถึงขยันแปลกๆ หึหึ” การที่ไอวินมันเกิดกระตือรือร้นเอาการเอางานขึ้นมาวันใด วันนั้น คงเป็นวันที่แปลกสำหรับพวกผมมากๆ เลยละครับ

หลังจากคุยกับกายได้อีกสักพักผมก็ขอตัววางสายเพราะต้องรีบ ลงไปทำลายหลักฐาน ก่อนที่ พี่อินจะกลับมาเห็น.  ผมบรรเลงตั้งแต่เก็บขวดเหล้ายันเช็ดอ้วกที่ไอ วินมัน ฝากรอยทิ้งไว้ (แอบหยีไปตามๆ กัน)

“อ้าวพี่เจ วันนี้ไม่ไปมอหรอค่ะ”

“พี่ต้องรีบทำลายหลักฐานก่อนที่คุณนายของบ้านจะเข้ามาเห็นนะสิ . . .ว่าแต่ ทำไมสายป่านนี้แล้วเอิร์นยังอยู่นี้อีกละ ไม่รีบเข้าเรียนหรอ..”

“อ้อวันนี้พวกคณะอาจารย์เขาประชุมกันช่วงเช้าอะคะ ไม่มีเรียนเอิร์นเลยเขาสายได้”

“อ้องั้นก็แล้วไป ไหนๆ ก็มาแล้วช่วยพี่เก็บตรงนี้อีกหน่อยสิ เดี๋ยวพี่ว่าจะออกไปข้างนอกหาซื้ออะไรกินซะหน่อย เพราะกว่าพี่อินจะกลับมาก็คงช่วงสาย ”

“เอิร์นไม่ได้กินกับพี่เจด้วยซธหน่อยทำไมเอิร์นจะต้อง....”จังหว่ะนี้ผมรีบพูดสวนขึ้นมา

“งั้นเดี๋ยวคราวหน้าถ้าเอิร์นมีปัญหาอะไรพี่ไม่ช่วยด้วยแล้วนะ เอาไว้เดี๋ยวพี่กลับมาทำเองก็ได้นะ..”แล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดไว้ครับแผนนี้ ขู่ยัยเอิร์นได้สำเร็จ

“ก..ก็ได้ค่ะ แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วห้ามมาทวงบุญคุณที่หลังนะ...สัญญาสิ” ยัยเอิร์นทำหน้ายู่ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผม

“จ้ะๆ พี่สัญญา แล้วสรุปจะกินอะไรไหม พี่ไปรอบเดียวนะ..”

“งั้นเอาหูฉลามแล้วก็..”

“พอๆ เลย แหม่ แต่ละอย่างที่สั่งมาช่วยเกรงใจคุณเงินในกระเป๋าพี่ด้วยนะครับน้องสาว”

“ฮ่าๆ เอิร์นก็แค่ล้อเล่นหน่ะคะ พี่เจเอาอะไรเอิร์นก็เอาแบบนั้นแหละค่ะ”

“โอเค ๆ งั้นก็รีบทำซะละ พี่กลับมางานต้องเนี้ยบนะ”

“รับแซ่บบ ค่า!!”

. .  . ..  . . .. .  .

ระยะทางจากร้านของผมไปตลาดไม่ค่อยไกลกันนักผมเลยเลือกที่จะช่วยโลกด้วย การใช้แรงเท้าแทนที่จะใช้พวกเครื่องกลแทนน. . ระหว่างทางที่เดินมา ช่วงเช้าๆ ผมก็เจอแต่สารพัดควัน ไม่ว่าจะเป็นควันรถเอย ควันปิ้งย่างเอย หรือแม้แต่ ควันจากการเผาฝืนไฟ(ตามข้างทางก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ)ก็มีหมด .  ..  ผมเดินออกมาไม่ไกลนักก็เจอเข้ากับร้านโจ๊ก ร้านนึง ซึ่งร้านนี้ ผมไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติ ขับรถผ่านก็ไม่เคยเห็นซักที... หรือบางทีเขาอาจจะพึ่งเปิดเมื่อวันสองวันนี้ก็ได้. .ผมเลยลองเดินเข้าไปสำรวจด้านในร้าน ลูกค้าส่วนมากจะเป็นพวกนักเรียนคนเฒ่าคนแก่ ปะปนกันไป จนเกือบจะเต็มร้าน ผมพยายามเดินแทรกน้องนักเรียนผู้หญิงคนนึงที่เธอจ้องตาผมเข้มง (ประเด็นมันอยู่ที่ว่าทางเดินมันไม่มีแล้วผมเลยต้องเดินแทรกข้างหน้าน้องเข้าแล้วอ้อมไปต่อคิว แต่เหมือนน้องแกคงจะเข้าใจคนละอย่างกับผม หึหึ)
รอไม่นาน ตอนนี้ก็ถึงคิวผม ผมไม่รอช้ารีบสั่งๆให้เสร็จจะได้รีบกลับ เพราะขืน นานกว่านี้ได้โดนแดดเลียผิวแน่ๆ

”เอาโจ๊กหมูพิเศษ 2 ครับ เอาใส่ไข่หนึ่งอีกถุง ไม่ใส่ผักครับ”

“เอ่อขอโทดนะคะ คือ ตอนนี้ได้อีกแค่ถุงเดียวนะคะ” อะอ้าวอาจเป็นเพราะคิวที่ยาวไปเลยทำให้ของหมดเร็วขนาดนี้ ผมทำท่าลังเลว่าจะเอาดีมั้ย แต่ด้วยความที่กลัวเสียดายคิวเลย สั่งไปถุงเดียวเท่าที่มี..แต่แล้วอยู่ๆ เสียงของคุณตาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมก็พูดขึ้นมา

“อ้าวหมดซะแล้ว ไว้มากินกันวันหลังก็ได้ นะยัยหนู”

“ค่ะคุณตา”เสียงของคุณตาเวลาที่พูดกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ดวงตาที่มีน้ำใสๆคลออยู่ทั้งสองข้างของเด็กผู้หญิงคนนั้นทำเอาผมรู้สึกแย่ไปตามๆ กัน

“งั้นไปกินอย่างอื่นกันก็ได้นะ เดี๋ยว ตา...”และก่อนที่คุณตาจะพาเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นเดินออกจากร้านไปผมก็รีบตะโกนเรียกให้แกหันมาก่อน

. . . . . . . . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :30〗〖21-02-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-02-2017 19:20:07
“คุณตาครับ”

“มีอะไรรึเปล่าไอหนุ่ม. . ”ถึงตอนนี้เวลาที่ผมจ้องตาลุงแกมันเหมือนมี คลื่นรังสีอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกสั่นๆไปทั้งตัว ทั้งสีหน้าและแววตาของ มันทำให้ผมรู้สึกเกรงกลัวอย่างบอกไม่ถูก..ทั้งๆที่ผมกับตาก็ไม่ได้รู้จักกันแต่ทำไมออร่าของลุงแกถึงได้น่าเกรงขามขนาดนี้ก็ไม่รู้

“เอ่อ คือ คุณตา..”

“ลุงเรียกลุงพอ”. . . คงจะเข้มเรื่องอายุสินะ - -*

“อะลุงครับ คือลุงพาหลายมาซื้อโจ๊กหรอครับ”

“เอ้าเอ็งนี้ก็ถามแปลก ข้ามาร้านโจ๊กเอ็งจะให้ข้าสั่งราดหน้ารึไง เอ๋อ แปลกคนจริงๆหนุ่มๆ สมัยนี้”เหอะๆ ถ้าผมสวน คนแก่มันจะบาปมากมั้ยครับเนี้ย คำพูดคำจาวอนจริงๆ นะตา เอ้ยยยลุงง

“อะนี้ครับ”

“อะไร”

“เอ้าก็โจ๊กไงครับ ลุงมองไม่เห็นหรอ รึสายตาลุงไม่ดีรึไงกัน เอ๊ คนแก่สมัยนี้”ผมเล่นมุขเดียวกันสวนลุงแกแบบไม่ทันได้ตั้งตัว และเหมือนกับว่าปากผมมันสั่งให้พูดไปเองโดนที่ตัวผมไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย

“อ้าวพูดงี้ก็สวยซิไอหนุ่ม”

“หล่อครับหล่อ”

“จะหล่อหรือจะสวยก็ชั่งเอ็งเถอะ นี้มันของๆเอ็งๆจะเอามาให้ข้าทำไมกัน”

“ป่าวครับ ผมไม่ได้ให้ลุง แต่ผม...ให้น้องผู้หญิงคนนั้น” คุณลุงแกมองหน้าผมสลับกับมองน้องผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนเกาะขาของคุณลุงแกอยู่ด้านหลัง ด้วยท่าทีที่แปลกไปจากที่เดิม

“อะคนสวยพี่ให้ ” เด็กผู้หญิงตัวเล็กเงยหน้ามองคุณลุงเหมือนถามความเห็นว่าควรทำยังไง คุณลุงแกก็เหมือนจะรู้แก๊ก เลยส่งสายตาบอกให้เด็กเดินออกมารับของจากผม

“ขอบคุณค่ะ พี่”ต้องยอมรับว่าการที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ พูดคำว่าขอบคุณพร้อมกับ ย่อลงไหว้ผมแบบช้าๆเนี้ย ในปัจจุบันหาได้ยากๆมากๆ ครับ ยิ่งมองแล้วยิ่งรู้สึกเอ็นดู..

และไม่นานนัก เด็กผู้หญิงคนนั้นก็เดินข้ามถนนพร้อมกับ พี่ๆตำรวจจราจรเข้ารั้วโรงเรียนไป โดยที่คุณตาเอ้ยคุณลุงแกก็ยังยืนจ้องหน้าผมเหมือนแปลกใจอะไรซักอย่าง

“อะไรครับลุง นอยที่ผมไม่ได้ให้ลุงอีกคนหรอ..”

“เอ็งรู้จักเด็กคนนั้นรึได้ยังไง..”

“อ่อไม่รู้จักหรอกครับ”

“แล้วทำไมเอ็งถึงโจ๊กให้เด็กคนนั้นไปละ..”

“อืม..จะพูดว่าไงดีละ ผมก็แค่รู้สึกถูกชะตาแล้วก็เอ็นดูน้องเขาก็เท่านั้นเอง”

“เอ็งจะอวดรวยรึไงกัน..”

“ทำไมลุงถึงคิดแบบนั้นละครับ... ”

“แล้วทำไมอยู่ๆ เอ็งถึง.....”

“ให้ผมเดาลุงคงจะถามผมว่าทำไมอยู่ๆ ผมถึงให้โจ๊กกับเด็กผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ยละครับ.. ” ลุงแกไม่พูดแต่ทำหน้านิ่งๆ มองผมแทน

“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงให้ ..ผมรู้แค่ว่าผมทนเห็นน้ำตาของเด็กคนนั้นไม่ได้ก็เท่านั้นเอง..อีกอย่าง ผมก็โต พอที่จะอดอาหารแค่มื้อเดียวได้แล้ว ต่างจากน้องเขา ที่ตัวเล็กนิดเดียว ขืนอดไปได้เหลือแต่กระดูกแน่..”

“หายากนะ คนอย่างเอ็ง” ไม่รู้ว่าลุงแกพึมพำหรือกำลังแอบชมผมกันแน่เพราะแกหันหน้าไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ยืนโบกมือ อยู่ภายในรั้วโรงเรียน

“หล่อๆ แบบผมก็งี้แหละครับ หายากเป็นธรรมดา”

“หึหึๆไอเด็กหลงตัวเอง..”

“ถ้าไม่มีอะไรงั้นผมไปก่อนนะครับ คุณตา...”ทันทีที่ผมพูดจบผมรีบสปีดฝีเท้า วิ่งหนีออกมาจากบริเวณนั้นทันที แต่เหมือนจะแอบได้ยินเสียงแว่วๆ ลอยตามลมมา

“ไอเด็กเวนนน!!” นั้นแหละครับที่ลอยตามลมมา คิคิ

ผมกลับมาถึงร้านมือเปล่า... แถมยังโดนยัยเอิร์นยืนบ่นจนหูชาว่าออกไปซะนาน แต่ก่ไม่ได้อะไรกลับมาให้กิน นางคงจะโมโหหิวผมเลยยื่นแบงค์ ห้าร้อยไป คราวนี้เงียบกริ๊บเลยครับ รีบเดินมาหอมแก้มผมก่อนจะรีบเดินออกไปจากร้าน หึหึ เด็กสาวสมัยนี้เข้าใจยากจริงๆ หึหึ

ผมเดินวนเช็คบริเวณโดยรอบ ก็ถือว่าสะอาด ดีครับ ถึงจะแอบมีอะไรกระจัดกระจายไปบ้างแต่ก็ถือว่าผลงานออกมาโอเค เหลือก็แต่จานชามนี้ละที่ผมยังไม่ได้ล้าง . . .  เฮ้อผมละไม่ชอบจริงๆ ไอการล้างจานเนี้ย...และทันใดนั้นเสียงสั่นๆ ก็ดังขึ้นมาในกางเกงของผม “หมาวิน”

“เออ”

“โหล่วๆ ตื่นรึยัง มึง” มาแปลกแหะวันนี้

“คุยกับมึงได้คิดว่ากูตื่นรึยังละ”

“แหมปากคอเราะร้าย ”

“เข้าเรื่องซักทีห่า กูไม่ว่างจะล้างจาน”

“ก็ไม่มีอะไรมากจะถามว่าวันนี้เอาไง ต่ออีกสักยกมั้ย..”เดี๋ยวๆ นะผมได้ข่าวว่าเมื่อวานหมาที่ไหนมันพึ่งงจะอกหักไปแต่ไหง กลับมาดี้ด้าได้เร็วนักละ..

“หายดีแล้วหรออาการมึงหน่ะ”

“นี้กูใครครับบ”อ้าวมึงยังไม่รู้ตัวมึงเลยแล้วกูจะรู้กับมึงด้วยมั้ยเนี้ยไอนี้ถ้าจะบ้า กร้ากก..แต่ขืนพูดไปรับรองมันได้ตามมาหลอกหลอนผมถึงที่ร้านแน่ครับ

“เออๆ ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว แต่วันนี้กูคงขอผ่านวะ  ”

“กระจอกครับน้องกินเท่าแมวดม ร้องเมาหุหุๆ”

“จ้าๆ พ่อคนเก่ง จะมาก็ ช่วยก็เก็บซากอะไรด้วยละกัน  คราวนี้ก็จะเหลือไว้ให้มึงทำด้วยคอยดู”

“เอองั้นสรุปไปร้านมึงนะเออว่าแต่ไอตี๋หน้าหล่อเมื่อวานมันเพื่อนมึงใช่ป่ะ” คงหมายถึงอะตอมสินะ

“อืมใช่ทำไมหรอ”

“ป่าวมันเรียนอยู่คณะไหนวะ ทำไมกูถึงไม่เคนเห็นหน้า”

“ไม่แน่ใจวะ ..แต่คับคล้ายคับคลา ว่าวิศวะ คอมวะ.. น่าจะใช่มั้ง..ว่าแต่มึงมีธุระอะไรกับมันละ”

“ป่าวหรอกกุว่าจะชวนมันไปร่วมวงด้วย” มันจะชวนอะตอมมาด้วยงั้นหรอ..ผมไม่ได้รังเกรียจหรืออะไรถ้าอะตอมจะมาแต่..ผมแค่มรู้ว่าควรจะทำสีหน้ายังไงเวลาเจอมันกันแน่..เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อวาน..ก็เริ่มทำเอาผมรู้สึก ไม่กล้ามองหน้ามันยังไงไม่รู้ .. อาจเป็นเพราะผมไม่รู้ว่าจะแสดงสีหน้ายังไงเวลาเจอมันก็เป็นได้

“อือๆ แล้วแต่มึงเถอะ...ไม่มีอะไรแล้วกูวางนะ จะรีบล้างจานเดี๋ยวคุณนายกลับมาบ่นกู”

“เอองั้นไว้เย็นๆเจอกันมึง..” หลังจากวางสายจากไอวินผมก็บรรเลงเพลง ยืนล้างจากอยู่พักนึง..พอเงยหน้ามาดูอีกทีก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้ว(ที่ล้างจานหรือยืนหลับฟร้ะเนี้ย  - -*)ระหว่างนั้นเสียงออดหน้าร้านก็ดั่งขึ้น ผมรีบเช็ดมือกับเสื้อของตัวเอง ก่อนจะวิ่งตรงไปที่หน้าร้านเพื่อดูว่าใครมา

“มีใครอยู่...อะอ้าวเจ” เสียงทักทายจากผู้ชายที่แสนจะอบอุ่นอย่างพี่ริวได้ยินเมื่อไหร่ ผมก็มักจะยิ้มตามทุกที

“พี่ริว.”

“สายขนาดนี้ทำไมยังไม่ไปเรียนอีก แอบอู้หรอ หืมม”เสียงดุที่แอบแฝงไปด้วยความห่วงใยนั้นไม่ได้ทำให้ผมหยุดยิ้มในตอนนี้ได้เลย

“เข้ามาในร้านก่อนครับ อยากกินอะไรมั้ยเดี๋ยวผมชงให้ดื่ม..”

“รีบเปลี่ยนเรื่องเลยนะ หึหึ ระวังเถอะเดี๋ยวพี่จะฟ้องพี่อิน..”

“ถถถถ เดี๋ยวนี้พี่ริวหัดเป็นพวกช่างฟ้องเหมือนยัยเอิร์นแล้วหรอครับเนี้ย 555”

“พี่ก็หยอกเล่นไปงั้นแหละน่ายังไม่ชินอีกหรอ...ว่าแต่นี้เจอยู่ร้านคนเดียวหรอ”

“ครับ พี่อินไปธุระตั้งเมื่อเมื่อวาน ยังไม่กลับมาเลย ส่วนยัยเอิร์นพึ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง”ตั้งแต่ได้เงิน ห้าร้อยของผมไป ก็รีบเดินตัวปลิวหนีไปแล้วละครับ T-T

“ว่าอยู่ทำไมดูเงียบๆ”

“แล้วสรุปพี่มีธุระอะไรรึเปล่าครับ”

“นั้นสินะ คุยเพลินเลย คือพี่จะมาตามพี่อินให้ไปหาอาม่าหน่อย นึกว่าจะอยู่” คงจะนัดกันไปนั่งเม้าส์มอยอยู่ที่ร้านกันสองคนสินะ สองสาว หึหึๆ

“อ่องั้นให้ผมโทรตามให้เอามั้ย”

“ไม่เป็นไรครับ เผื่อพี่อินเขาจะมีธุระอยู่อย่ากวนเลยเอาไว้เขากลับมาก่อนดีกว่า แล้วพี่ค่อยมาอีกที”

“งั้นถ้าพี่อินกลับมาแล้วเดี๋ยวผมโทรไปบอกนะครับ” พี่ริว ยิ้มรับก่อนจะเดินข้ามถนนกลับร้านไป... ผมเองก็พึ่งจะมาแปลกใจว่าช่วงหลังๆนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าพี่ริวแกเลยทั้งๆ ที่ผมกับพี่แกก็อยู่คณะเดียวกันแท้ๆ สงสัยพี่แกคงจะวุ่นอยู่กับเรื่องทำโปรเจคอยู่แน่ๆเลย อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว คงจะวุ่นเป็นธรรมดา.และก่อนที่ผมจะยืนคิดอะไรไปนานกว่านี้เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น (ผมไม่ได้ตั้งให้ปลุกนะแต่ตั้งเพื่อเตือนเวลาที่ต้องรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวไปมอต่างหาก)

แต่กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กินเวลาผมไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมรีบ เดินไปโบกเรียกแท็กซี่..อยู่แปปนึง พอถึงมอก็รีบวิ่งเดินเข้าตึกคณะเพื่อรีบเตรียมตัวเข้าเรียนให้ทันในคาบบ่าย....
“เจ ๆ !”ระหว่างที่ผมกำลังนอนฟุบอยู่ที่โต๊ะในห้องก็มีเสียงของใครคนนึงกำลังเรียกชื่อของผมอยู่ ผมสะลึมสะลือ ลืมตาขึ้นมามองก็เห็นผู้ชายคนนึงแต่รู้สึกไม่คุ้นหน้ายังไงไม่รู้แหะ. . แปลกจัง..แต่ทำไมมันถึงรู้ชื่อของผมละ

“เรียกเราหรอ..”

“อื้อๆ เราชื่อคิงนะ” คิงไหนวะ ผม ขมวดคิ้วแถมจะเอามาผูกรวมกันได้อยู่แล้ว แต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก .. แต่จะให้ตอบแบบที่คิดไปมันก็ไม่ได้ซะด้วยสิ.

“อ่อ เออ คิง ว่าไง มีอะไรรึเปล่า...”

“ก็เปล่าหรอก ก็แค่..อยากลองทักสักครั้งดู..” คำพูดเหมือนกับว่า ไม่เคยคุยกันอย่างนั้นแหละ เพราะถ้าหากเป็นเพื่อนๆ ในคณะต่อให้ผมไม่สนิท มันก็ต้องมีคุ้นๆ หน้ากันบ้างแต่คิงนี้ คือ ผมจำไม่ได้เลยว่าเคยมีเพื่อนชื่อนี้ด้วย

“แล้ว เรียนคณะไหนอะ ..”เพราะถ้าหากเป็นคณะอื่นผมอาจจะพูดอะไรออกไปตรงๆได้

“คณะนี้แหละ”ชิบหายแล้วสิ...กูนึกหน้าไม่ออก อีกอย่างถามไปแบบนั้นด้วย มันจะคิด ยังไงกับคำพูดของผมวะนั้น...และก่อนที่มจะปล่อยให้มันคิดอะไรไปไกลผมก็รีบหาเหตุผลร้อยแปด มาพูดกับมัน

“เอ้ย เอ่อ คิงโทดนะเว้ย คือ ช่วงนี้เราทำงานเยอะไปหน่อยหว่ะหลงๆ ลืม ๆ ไม่โกรธกันนะ..”แม้คำพูดและท่าทางของผมจะออกไปทาง(ตอแหลอย่างเห็นได้ชัด)แต่แปลกที่ใช่ได้ผลเกินคาด

“อืมๆ ไม่เป็นอะไรหรอก เราชินแล้ว..” ชิน.... มันคงโดนลืมแบบนี้บ่อยสินะ

“ว่าแต่ นั่งตรงไหนอะ ทำไม ถึงไม่เคยเห็นหน้าเลย”

“ข้างหลังเจนี้ไง ” แล้วนั้น็เป็นคำตอบที่ต้องชวนให้ผมใช้สมองคิดย้อนกลับไปอีกที..ข้างหลังหรอ ..เอ..ถ้าข้างหลังก็คุ้นๆ อยู่คนนึง ที่ชอบนอนฟุบอยู่กับโต๊ะบ่อยๆ รึว่า..

“ที่ชอบใส่ฮูดคลุมหัวแล้วนอนฟุบอยู่กับโต๊ะป่ะ..”

“ใช่ๆ เราดีใจนะที่เจจำเราได้”จำได้ในทางแบบนี้มันยังดีใจออกอีกหรอวะ เป็นผม นะคงเลิกคุยแล้วเดินหนีไปแล้วละ หึหึ

“แหะๆ ก็นะ คลุมหัวขนาดนั้นเราจะไปเห็นหน้าได้ไงละจริงมั้ย ทีหลังก็ ถอดออกบ้างสิจะได้ทำความรู้จักกัน..”

“ได้สิ ต่อไปนี้ เราจะทำแบบที่เจบอกนะ...”คือใบหน้าและการกระทำของมันจำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นมั้ย..หืมม

“เอ่อ..งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วเราไปหาอะไรกินก่อนนะ..”จริงๆผมไม่ได้จะไปหาอะไรกินหรอกครับแต่ อยาก รีบออกไปจากที่นี้มากกว่า.. คงเพราะสายตาของมันที่จ้องมองผม แบบนั้นอยู่แน่ๆ ผมถึงรู้สึกแปลกๆ แบบนี้

.... ผมเดินออกจากห้องมาได้แปปนึง ก็ต้องสะดุ้งเพราะมีเสียงสั่นๆดังอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ โอย..จะหว่ะนี้เสียงแมงหวี่ผมก็ตกใจครับ...ใครโทรมาวะ ..หมาวิน

“เออๆ ว่าไงมึง”

“อยู่ไหนแล้ว ถึงมอยัง”

“เออถึงแล้ว มึงละอยู่ไหน กินอะไรรึยัง”

“แหนะๆ จะชวนกุไปเดทละสิ อิหนู”

“เดทห่าอะไรละ มึงว่างป่าวละมา โรงอาหารตึกกุหน่อย มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”

“เรื่องอะไรวะ...”

“เออน่ามาถึงเดี๋ยวมึงก็รู้เอง”

“เออๆ” พอวางสายจากไอวิน ผมก็รีบวิ่งออกมาจากตึกเรียน ที่คณะ เพราะเริ่มรู้สึกเหมือนมีใครตามผมมา ตั้งแต่เดินออกมาจากห้องแล้ว... แต่พอมาถึงโรงอาหารแล้วความรู้สึกนั้นก็หายไป.
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :30〗〖21-02-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-02-2017 19:23:19
“ไหนๆ ไอเรื่องที่ว่าจะเล่าให้ฟัง” ไอวินมันยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาใกล้ผมชนิดที่ว่าขนจมูกแทบจะชนกันอยู่แล้ว

“กูเข้าใจนะว่ามึงอยากรู้แต่มันจำเป็นต้องใกล้ขนาดนั้นป่ะสัด - -*”

“แล้วสรุปมีอะไร”

“กูรู้สึกแปลกๆ วะ”

“แปลกไงวะ มึงแพ้ท้องหรอ..” ป้าปสักที คนกำลังจริงจังดันมาเล่นมุขเชี่ยอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้

“คือช่วงนี้กูรู้สึกเหมือนมีคนแอบตามกูวะ..”

“ตามมึง.ฮ่าๆๆๆ ตามคนอย่างมึงเนี้ยนะ ถถถ คิดมากไปรึเปล่ามึง”

“กูไม่ได้คิดมากนะเว้ยแต่ จะพูดยังไงดีวะ...คือ มึงก็รู่ใช่ปะว่าลางสังหรณ์ของกุมักถูกเสมอ” ถึงจุดนี้ไอวินมันหยุดยิ้มและทำหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

“จะว่าไปมันก็จริงนะ..เหมือนตอนที่มึงบอกว่ากุอาจจะโดนรถเฉี่ยวแม้งก็เกือบจริงๆ...”ทั้งผมและไอวินต่างทำหน้าเครียดกันอยู่ทั้งคู่เพราะกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องที่ กำลังสงสัยในตอนนี้กันอยู่

“มึงแน่ใจจริงๆใช่มั้ยว่ามีคนแอบตามมึง”

“กูก็บอกไม่ถูกวะมันมาๆหายๆแถมเมื่อกี้ ยังมีคนเข้ามาทักกู บอกรู้จักกู แถมยังเรียนอยู่ห้องเดียวกับกูอีกด้วย ..”

“แล้วมันแปลกยังไงวะ เพื่อนในคณะมึงก็รู้จักทุกคนไม่ใช่หรอ”

“ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นแหละ..คือกูไม่รู้จักมันไง แต่มันดันรู้จักกูแถมยังนั่งอยู่ข้างหลังกูด้วย …วิน กูรู้สึกไม่ดีเลยวะ”

“เห้ยใจเย็น เจ มันอาจไม่มีอะไรอย่างที่มึงคิดก็ได้อีกอย่างมันก็แค่ความรู้สึก มึงจะเชื่อมั่นเต็มร้อยได้ยังไงว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี บางทีนะมันอาจจะเป็นเอฟซีมึงก็ได้ใครจะไปรู้”ที่ไอวินพูดมามันก็มีเหตุผลนะครับอาจจะเป็นแค่ผมคิดมากไปเองหรือเป็นเพราะ ผมกับมันอาจจะรู้จักกันห่างๆก็ได้

“อืมๆ กูจะพยายามไม่คิดอะไรมากละกัน ขอบใจนะเว้ยที่ยอมมานั่งฟังกูบ่นถึงนี้น่ะ”

“เออไม่เป็นไร เรื่องของเพื่อนก็เหมือนเรื่องของกูนั้นแหละ แต่มีเรื่องนึงที่มึงควรช่วยกูเหมือนกัน..”

“เรื่องอะไรวะ..”

“เลี้ยงข้าวกูหน่อย..”แง้วววววว ไอห่าแล้วไอหน้าจริงจังเมื่อกี้มันคืออะไรกัน..แหมไอผมก็อุตส่าห์เตรียมใจรับฟังซะเต็มที่นึกว่าจะเรื่องคอคาดบาดตาย

“แหม่ได้ข่าวบ้านมึงมีตังมากกว่าบ้านกุ อีกวิน..” - -*

“ก็วันนี้รีบมาไงเลยลืมหยิบเป๋าตังมา น่าๆนะๆเลี้ยงกูหน่อยน้าๆเจน้า ปิ้งๆ ” ผมไม่สามารถอาจทนเห็นสายตาอันอุบาตรของมันต่อได้จึงรีบเดินมันพามาหาของกินก่อนที่มันจะ ทำตัวทุเรศไปมากกว่านี้ ...

....แต่แล้วความรู้สึกเมื่อครู่ก็กลับมาอีกครั้งแถมคราวนี้ผมยังรู้สึกว่าใกล้ตัวมากๆด้วย...

“แฮ่!!”

“โถ่..ไอคุณชาย”ที่แท้ความรู้สึกที่เหมือนมีคนแอบตามผมคือไอกายหรอกเหรอเนี้ย วู้ มาไม่ให้ซุ่มใก้เสียงตกใจหมด..

“ทำไมดูตกใจจังไม่ดีใจหรอ...อุตส่าห์มาหานะเนี้ย” ไอดีใจหน่ะมันก็ดีใจอยู่หรอก...แต่ทำไมความรู้สึกนั้นมันยังไม่หายไปอยู่ก็ไม่รู้..ผมพยายามมองรอบทิศทางเพื่อจับพิรุธว่ามีใครแอบตามผมมารึเปล่าอยู่นานสองนานจนกายมันต้องเขย่าตัวเรียกผมถึงเลิกทำ.

“เป็นอะไรกูอยู่นี้ มองไปไหน..รึว่า..”

“ป่าวๆ กูแค่รู้สึกแปลกๆ”

“แปลกหรอ ยังไงละ”…กายมันทำหน้าเครียด แต่มือของมันก็กำลังลูบอยู่ที่ช่วงแก้มของผมเล่นเอาคนในโรงอาหารหันมาสนใจผมกับไอกายแล้วละสิ..

“กาย..นี้โรงอาหาร..”และดูเหมือนกายมันก็พึ่งจะรู้ตัวเลยรีบลดมือลง และ เดินจูงมือพาผมไปนั่งที่โต๊ะแทน...

“ไหนๆ มีเรื่องอะไรลองเล่าให้ฟังสิ..” หลายวันที่ผมไม่ได้เจอกาย มันทำให้ผมรู้สึกโหวงแปลกๆ มัน ทำอะไรมันก็รู้สึกเหมือนขาดๆ และถึงผมจะมีไอวินอยู่ด้วยตลอดก็ตามความรู้สึกนั้นก็ยังคงอยู่.. และตลอดหลายวันที่ผ่านมา กายมันก็คงจะวุ่นอยู่กับการช่วยงานที่บ้าน อยู่แน่ๆ ดูจากใบหน้าที่ซูบลง แถมหนวดเคราก็ยังไม่ยอมโกนอีก หลายคนอาจจะมองว่ากายมันเปลี่ยนลุคใหม่ให้ดูแบดบอยยิ่งขึ้นแต่สำหรับผมแล้ว มันก็คือคนป่วยในร่างของคนปกตินี้เอง.. เฮ้อ.. แล้วถ้าเกิดผมจะเล่าเรื่องที่ผมไม่สบายใจอยู่ตอนนี้ มันจะยิ่งไปทำให่กายไม่สบายใจขึ้นรึเปล่า.. ผมเลยเลือกที่จะเบี่ยงประเด็นไปที่เรื่องอื่นแทนเรื่องที่กำลังคิดอยู่

“ก็ช่วงนี้พี่อินไม่อยู่บ้าน ไม่มีคนให้ขอตังเลย เครียดหน่ะ ฮ่าๆ”แต่แล้วจู่ๆ กายมันก็ยืนกระเป๋าตังของมันมาให้ผม..

“อะไร..”

“ก็เห็นบอกไม่มีตังใช้เอาของกูไปใช้แก้ขัดก่อนก็ได้ อยู่บ้านไม่ค่อยได้ใช้อะไรอยู่แล้ว” ผมละเบื่อกับความป๋าและความทุมเทของมันจริงๆ แต่มันจะรู้รึเปล่านะว่าสิ่งที่ผมพึ่งพูดไปหน่ะ ผมแค่พูดเล่น

“หึหึ ระวังข้อความแจ้งเงินเกินละมึง..”

“ใช้ไปเหอะวงเงินไม่จำกัด..” ฮึกจุดนี้ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง..

“โถ่กาย กูแค่โม้มึงเล่น มึงนี้ก็จริงจังตลอดเลยนะ อะเอาคืนไป”กายมันมองผมหน้านิ่งเหมือน กำลังจับผิดอะไรผมอยู่

“สำหรับมึง กูจริงจังเสมอนะเจ..ถ้ามึงไม่พร้อมที่จะบอกกูตอนนี้ก็ไม่เป็นไรนะ ไว้สบายใจแล่วค่อยบอกก็ได้”ทั้งสีหน้าแววตาและคำพูดของกาย ล้วนออกมาจากใจทั้งหมด ..ผมรู้สึกได้ถึงสิ่งที่มันพูดออกมา แต่บางที่ผมเองก็แอบรู้สึกผิดไม่ได้ที่ กายมันเป็นฝ่ายให้อยู่คนเดียวซึ่งผมเอง แทบจะไม่เคยทำอะไรดีๆให้มันบ้างเลย ผมเลยได้แต่ก้มหน้าพรรณณาเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาให้กายฟัง ช่วงเวลาที่มีความสุขรวมถึงช่วงที่เราสองคนทะเลาะกันด้วย

“เออเจ แล้วไอวินละ เห็นมันบ้างป่าววันนี้ ไม่เห็นมันที่คณะเลย..”

“กูพึ่งพามันไปซื้อข้าวเมื่อกี้เองเดี๋ยวมันก็มา”

“อืมๆ” และไม่นานนักสิ่งมีชีวิตที่ตายยากที่สุดก็ปรากฏตัวออกมา จากที่ไหนสักที่ของโรงอาหารนี้ละครับ

“โหลวๆ  ... อ้าวไอกาย มาไงอะมึง” 

“กูเดินผ่านประตูทางเข้ามานู้นน่ะ”จุดๆนี้ผมกลั้นขำไม่ไหวเลยละครับไม่คิดเลยว่าไอกายมันจะกล้าเล่นมุขนี้ ฮ่าๆ แถมยังเห็นให้วินหน้าเสียอีก

“เออแล้วไปนึกว่าเดินทะลุมาไอสลัด...”ไอวินมันวางจานข้าวลงที่โต๊ะแล้วก็เริ่มกินต่อหน้าต่อตาทั้งผมและไอกาย..เล่นเอาอยากอาหารเริ่มทำงานขึ้นมาเลยละครับ.... จริงๆแล้วมันอาจจะไม่เกิดอาการนี้ขึ้นหากไอเชี่ยวินไม่ทำเสียงซาวซวบซาบๆอยู่ข้างๆหูพวกผมเนี้ย.. และไม่นานนักอาหารบนจากก็ค่อยๆ หมดไปไอวินก็นั่งนิ่งแถมยังส่งสายตาเป็นเชิงให้ผมเดินเอาจานไปเก็บให้มันอีก..แต่ฝันไปเถอะครับ .  . นั่งนินทาคนอื่นมานานก็ชักจะหิวน้ำผมเลยหิ้วไอกายให้เดินไปซื้อน้ำด้วยกันโดยปล่อยให้ไอวินมันนั่งเอ๋อแดก อยู่แบบนั้นแหละครับ... พอซื้อน้ำเสร็จขากลับมีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาทักผม..ผมมงง ไอกายก็คงเป็นแบบผมเช่นเดียวกัน เธอ เดินมาบอก ว่า เป็นแฟนคลับ ผมกับไอกาย ครั้งแรกที่เธอบอก ผมกับกายเราหันมามองหน้ากันด้วยความสงสัยว่าเธอรู้เรื่องของผมกับกายได้ยังไง..แต่พอคุยไปคุยมาเธอก็บอกติดตามมาจากเพจ.. และนั้นก็ทำให้ผมกับกายร้องอ๋อออกมาพร้อมกัน...แถมมันยังทำตัวเป็นตัวตอบสนองความต้องการที่ดี ยื่นมือมาโอบไหล่ผมให้สาวคนนั้นกรี๊ดเล่นถถถถถ เปลืองเนื้อเปลืองตัวตลอดเลยกู..แถมเธอยังขอถ่ายรูปคู่ผมกับกายก่อนจะเดินจากไปอีก(กลัวไม่คุ้มรึไงครับเธอหึหึ)พอกลับมานั่งที่โต๊ะพักนึง ก็เริ่มมีเข้ามาอีกคนแล้วละ แต่คราวนี้ไม่ใช่แฟนคลับครับ..ใครก็ไม่รู้

(รู้สึกวันนี้จะเจอแต่คนแปลกหน้าทั้งวันเลยเช้าที สายที บ่ายอีกที)

“นาย คือ เจ ใฃ่มั้ย.. ” แต่เอาเถอะไหนๆก็เจอแบบนี้มาทั้งวันแล้ว ผมคงไม่สงสัยหรอกว่าเธอรู้จักผมได้ไงเมื่อไหร่อย่างไร อยากถามอะไรถามมาเลยครับพี่น้อง -.-

“อะ .  ใช่ครับ ว่าแต่รู้จักผมได้ไงหรอ”น้าน ถามประโยคๆ  เดิมๆ ออกไปจนได้

“อ่อ เราเป็นเพื่อนสนิทของตอม  เราชื่อแพรวนะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ” เธอยื่นมือ ออกมา ระหว่างนั้นไอเชี่ยวินใช่ศอกกระทุ้งที่เอวผมใหญ่เลย ไอนี้เห็นสาวสวยเป็นไม่ได้..

“เช่นกันครับแพรว ว่าแต่แพรวมาคนเดียวหรอ..”

“อืมๆเรามาคนเดียว กะว่าจะมาตามหาเจเนี้ยแหละ แต่ไม่รู้อยู่คณะไหน พอดีตอนเดินมาได้ยิน พวกกลุ่ม ผู้หญิงกลุ่มนู้น (เธอชี้นิ้วไปทางกลุ่มผู้หญิงที่มาขอถ่ายรูปกับผมเมื่อกี้) พูด กายๆ เจๆ อะไรนี้ละ ก็เลยลองถามๆ ทางมาไม่คิดว่าจะเจอนะเนี้ย.. ”

“แล้วทำไมถึงรู้ว่าเป็นผมละ”

“คงเพราะความหล่อละมั้ง มันสะดุดตาตอนเดินเข้ามาอะ พูดเองยังเขินเองเลยนะเนี้ยแหะๆ ” พอเธอพูดจบเสียงเอฟเฟคจากไอหมาขี้อิจฉาข้างๆ ผมมันก็ทำซาวอ้วกแตก แต่แล้วก็หาเหตุผลมาอ้างว่า กินเยอะไปหน่อยเลยอยากกอ้วกหน่ะ อย่าใส่ใจเลย ผมถึงหันกลับมาคุยกับแพรวต่อ

“แหม แพรวเองก็พูดเกินไป ผมออกจะธรรมดา”

“นั้นสิธรรมดา...(ผมหันกลับไปมองไอวินที่กำลังนั่งแขวะผมอยู่ข้างหลัง) ธรรม 30 พิเศษ 45 อื้อๆ”แถไปทั่วไอสลัดผัก

“แล้วเย็นนี้เจว่ามั้ย พอดีเราอยากให้เจช่วยอะไรเราหน่อยอะ.”

“ช่วย..อะไรหรอ..??”

“เราก็แค่แอบสงสัยอะไรนิดหน่อยอะเลยอยากจะพิสูจน์ดูหน่อย”

“อ่อได้สิ เพื่อนอะตอมก็เหมือนเพื่อนผมแหละ”

“ขอบคุณมากนะเจ.. ไว้เดี๋ยวเราโทรหา..เออจริงสิเรายังไม่มีเบอร์เจเลย งั้นเราขอเบอร์เจหน่อยสิ ไว้เราจะโทรนัดสถานที่อีก
ที...” ผมกำลังจะกดเบอร์ให้เธอแต่กายมันดันคว้ามือถือที่อยู่ในมือแพรวไปกดอะไรยุกยิกๆ พักนึงก่อนจะยื่นให้คืนไป

“นั้นเบอร์เจแหละครับมีอะไรโทรหาเบอร์นั้นละกัน” สีหน้าเธอดูกลัวๆ ปนเขินๆ

“ค่ะๆ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะเจ..ไว้เดี๋ยวเราโทรหานะ..ไว้เจอกันใหม่นะ” ผมพยักหน้ารับร้อยยิ้มของเธอก่อนจะเดินจากไป ส่วนไอกายมันก็นั่งมองผมซะนิ่งเลย นี้ผมทำอะไรผิดขั้นตอนไปรึเปล่าเนี้ย

“เอ่อมีอะไรจะพูดรึเปล่า...”

“วิน อ.ปรเมท ตามหาตัวมึงอยู่เขาบอกให้รีบไปหา ก่อนจะโดนหักคะแนน” ทันทีที่กายพูดจบไอวินก็แทบเหาะออกจากโรงอาหารไปอย่างรวดเร็วโดยปล่อยทิ้งไว้ให้ เพียงบรรยากาศสยองชวนขนหัวลุกระหว่างผมกับไอกายบรึ้ยย

“ตอม   คือ   ใคร ? แล้วผู้หญิงเมื่อกี้คือใคร แล้วทำไม......)*)(&%$WE$@$^#&%”ผมนั่งโดนไอคุณชายมันซักถามพร้อมกับบ่นในเวลาเดียวกันไปพักนึง ผมแอบก้มมองนาฬิกาดูเพราะนี้มันเลยเวลาที่จะเข้าเรียนแล้ว แต่ต้องทนเงียบไว้เพราะไม่กล้าพูดแทรกขึ้นมาเพราะกลัวภูเขาไฟจะระเบิดเอา.. จนสุดท้ายมันก็เข้าใจและยอมหยุดบ่นผม.....แต่พอลองมองไปดูนาฬิกาอีกทีนี้กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมงเลยนะ หมดคาบเรียนของผมพอดี. ฮือๆ คะแนนกู.. อ้ากก !!! หายไปกับสายลมพร้อมกับคำขู่สุดท้าย..

“อย่าให้รู้ว่ามีเรื่องลับหลังที่กูไม่รู้อีกไม่งั้น มึงคงจะรู้นะเจ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ” จึ๊ยยย น่ากลัวเป็นบ้า นี้สรุปผมเป็นแฟนมันหรือเป็นทาสมันกันแน่เนี้ย หึ้ยยย!!


.  . .. . ช่วงเย็นผมกลับมาบ้านโดนมีคุณชายสุดโหดตามมาส่งถึงบ้าน แถวยังขู่อีกเรื่องว่าให้รายงายเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในระหว่างที่ผมไปช่วยแพรวให้ฟังด้วย (อย่างละเอียดพร้อมทั้งสร้างกราฟ(ไม่ขนาดนั้นมั้งฮ่าๆ))
พอผมเดินขึ้นมาบนห้องหัวยังไม่ทันจะถึงหมอนไอโฟน(ของไอกาย) ก็ดังแพดเสียงอยู่ที่หน้าอกของผม.. ผมกดรับสายโดยไม่ได้ดูเบอร์ที่โทรเข้ามา
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :30〗〖21-02-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 21-02-2017 19:28:35
“ฮัลโหล สวัสดีครับ”

“เอ่อ ใช่เจรึเปล่าค่ะ..” อ่อคงจะเป็นแพรว คนที่เจอเมื่อบ่ายสินะ

“ใช่ครับ ว่าแต่ สรุปจะนัดให้ผมไปที่ไหนหรอ..”

“อืมแพรวเองก็ยังหาที่นัดดีๆไม่ได้เหมือนกัน ทีแรกก็มีที่คิดๆไว้นะ แต่เจ้าตัวมันไม่ยอมไป บอกว่าคนเยอะ อีกที่ก็ไม่คุ้นเคย อีก เราเลยคิว่าน่าจะโทรมาขอไอเดียดีๆ จากเจหน่อยหน่ะ เผื่อจะเจจะรู้ข้อมูลอะไรบ้าง..”เอ้าแล้วขนาด เพื่อนสนิทอย่างแพรวมันยังค้านหัวชนฝาขนาดนั้นแล้ว ผมจะไปทำอะไรมันได้ละเนี้ย

“อื่อ ผมเองก็ยังไม่ค่อยรู้จักกับมันดีเท่าไหร่ ก็ไม่ไม่ค่อยรู้ว่ามัน ชอบที่ไหนบ้าง..” เอ๊ะ แต่จะว่าไป เมื่อเช้า ไอวินบอกผมว่ามันจะพาอะตอมมาที่ร้านด้วยนิ่

“แพรวงั้นเดี๋ยวผมโทรกลับนะ...” และยังไม่ทันที่แพรวจะได้ตอบอะไรผมก็ดวางสายและกดเบอร์ไปที่ ไอวินดู..

“หือ .. ไอตี๋เพื่อนมึงอะนะ. . . เออ เดี๋ยวกูไปช่วงทุ่มนึงอะพร้อมกับมันอะ ”

“เออๆขอบใจมากมึง..” พอวางสายจากไอวินผมก็โทรกลับไปที่เบอร์ของ แพรวอีกครั้ง เธอก็เข้าใจและบอกจะตามมาสมทบที่หลังเหมือนกัน

(18.00น.) มีรถมอเตอร์ไซด์และรถเบนส์ คันงามๆ มาจอดอย่ที่หน้าร้านของผม โดย ในตอนนั้น ผมก็นึกว่ามีลูกค้ามาจึงเดินออกไปดูแต่ที่ไหนได้เป็นไอวิน กับอะตอมและแพรวที่มาต่างหากละครับ

“หวัดดีเจ..” เสียงพูดทักทายหวานๆของแพรว กล่าวทักทายผมทันทีที่เดินมาถึงหน้าร้าน

“ดีจ้า” ส่วนเสียงกวนประสาทแบบนี้ไม่ต้องบอกคงจะรู้กันนะครับว่าใครเป็นเจ้าของเสียง

“…..” แต่ที่แปลกเลยก็คือรายที่สามนี้ไม่ยอมพูดยอมจาเลยครับ มันเดินก้มหน้าหงิมๆ เดินผ่านผมไปยังกับว่าไม่เห็นผม แต่ผมเองไม่ได้เก็บมาใส่ใจหรอกนะครับ อาจเป็นเพราะมันกำลังจะใจลอยถึงใครอยู่ก็ได้ ก็เลยมองข้ามผมไป

และเมื่อจำนวนแขกมากันครบ ผมก็จัดแจงเตรียม ข้าวของทุกอย่าง (ตามที่แพรวได้บอกผมก่อนที่จะมาที่นี้)ไว้ที่โต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็คงต้องรอแค่เวลา..เพียงอย่างเดียว

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนในตอนนี้เวลา ทุ่มกว่าๆแล้ว ทั้งผมและเพื่อนๆ อีกสามคนกำลังนั่งเล่าสารทุกข์สุขดิบของแต่ละคนรวมถึงการนินทาคนอื่นไปในคราวเดียวกัน..แต่วันนี้บรรยากาศมันก็หมองๆ ไปเพราะอะตอมมันไม่ค่อยพูดค่อยจา... ถามคำตอบคำจนผมรำคาณ อยากจะตะโกนถามว่ามันเป็นอะไร..แต่ด้วยความที่กลัวจะทำเสียบรรยากาศเลยพยายามมองข้ามเรื่อง ของมันไป..และแทนที่ด้วยเรื่องฮาๆ ของไอวินแทน ซึ่งบ้างครั้งอะตอมมันก็ขำตามบ้าง แต่หลายๆ ทีที่มันเห็นว่าผมกำลังมองมันอยู่มันก็จะรีบทำหน้าบึ้ง ยังกับว่าผมไปทำอะไรให้มันโกรธอย่างนั้นหล่ะ...

“ กลับมาแล้วค่า!!!...” เสียงดันสนั่นหวันไหว แบบนี้ก็มีแค่ยัยเอริ์นคนเดียวเท่านั้นแหละครับ

“อ้าวเอิร์นกลับมาแล้วหรอไปไหนมาทำไมถึงกลับดึกจัง” ระหว่างนั้นยัยเอิร์นก็เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะพร้อมกับแสดงทีท่า ตกใจไม่ใช่น้อยตอนที่เห็นหน้าของไออะตอมครั้งแรก.. และนี้ก็คงเป็นเรื่องปกติ ของสาวๆ บ้านนี้แหละครับ... ยัยเอิร์นทำท่าจะเดินไปนั่งๆใกล้ๆ อะตอมแต่ผมห้ามไว้และให้มานั่งข้างๆ แพรวแทน ส่วนผมก็เลยต้องขยับไปนั่งใกล้มันๆ แทนัยยเอิร์น อะตอมทำท่าตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร..ผมเองก็เช่นกัน ..

“นี้ น้องเรา เอง ชื่อ เอิร์น เอิร์นนี้เพื่อนพี่ คนนี้ อะตอม ส่วนคนนี้ แพรว..” ผมชี้แนะนำเพื่อนๆ ให้ยัยเอิร์นได้รู้จักก่อนที่ยัยเอิร์นจะยืนไหว้สวัสดีอย่างงามๆ เว้นซะแต่ พอยัยเอิร์นหันไปเจอหน้าแพรวเท่านั้นแหละครับสีหน้านี้รีบเปลี่ยนทันทีเลย..

“เอ่อเอิร์น..หวัดดีพี่แพรวด้วยสิ..” ดูเหมือน สองสาวจะไม่ค่อยชอบหน้ากันนะผมว่า..แต่จะมีก็แต่ยัยเอิร์นเท่านั้นแหละครับที่แสดงสีหน้าส่วนแพรวรายนนี้ๆนิ่งไปเหมือนกับคนข้างๆผมเลยครับ

“หวัดดีคะ”ยัยเอิร์นไหว้ส่งๆ ก่อนจะรีบหุบมือลง เหอะ..แล้วนั้นก็เริ่มทำให้ผมนึกไปถึงช่วงที่ยัยเอิร์นเจอกับคุณเอื้อยแรกๆก็ทำตัวแบบนี้เหมือนกันสงสัยจะไม่ค่อยชอบหน้าเพราะคิดว่า คุณเอื้อยจะแย่งกายไปจากผม...เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้....ทันทีที่ผมคิดออกผมก็เริ่มแน่นำตัวใหม่ให้ยัยเอิร์นฟัง..แล้วก็เป็นไปตามคาดครับยัยเอริ์นมีท่าทีแสดงสีหน้าที่เปลี่ยนไป จากที่มองแพรวตาเขม้งตอนนี้ก็มองแบบที่มองผมกับอะตอมแล้วละครับ

“พอดีวันนี้เอิร์นทะเลาะกับเพื่อนมาค่ะ เลยอารมณ์ไม่ค่อยดี ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะที่แสดงสีหน้าไม่ดีออกไป”แพรวหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มๆ

“ไม่เป็นไรน่าพี่เข้าใจ ว่าแต่ทำไมพี่ถึงคุ้นหน้าน้องเอิร์นยังไงก็ไม่รู้แหะ เหมือนกับว่าเคยเจออยู่ที่งานมีตติ้งของ นอค...”

“กร..”

“อย่าบอกนะว่า”ประโยคนี้แพรวถามขึ้นมา

“ 0.0 ” ส่วนยัยเอิร์นทำหน้าเหวอๆ พร้อมกับพยักหน้า และหลักจากนั้นไม่เกิน สิบวินาทีก็มีเสียงกรี๊ดกร้าด จากเธอทั้งสองคนดังอยู่ลั่นร้าน จนแทบจะไปถึงหน้าปากซอยอยู่แล้ว และถ้าให้ผมเดาไม่ผิดผมว่าสาวสองคนนี้คงต้องมีเลือดสีม่วงๆอมเหลืองแน่ๆ เลย...เหอะๆ

ระหว่างที่นั่งคุยไป กินอะไรแกล้มไป ของกินต่างๆ โต๊ะก็ค่อยๆ หมดลง แพรวกับยัยเอิร์นเลยอาสาจะไปเติมให้โดยที่ผมไม่ทันจะได้เอ่ยปากขออะไร.. ส่วนไอวินกับไออะตอม ตอนนี้ เมาไม่รู้เรื่องอยู่ข้างๆ ผมนี้แหละครับ.
ผมเห็นอะตอมทำท่าเหมือนพยายามขยับออกไปจนตัวมันติดชิดกับโซฟา

“อึดอัดหรอ เดี๋ยวกูไปนี่กับไอวินก็ได้..”ผมกำลังจะลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งข้างๆ ไอวิน แต่อะตอมมันดึงมือผมให้เข้ามานั่งใกล้ๆ มันอีกครั้งแล้วกระซิบข้างหูของผมว่า..

“เบียดๆแบบนี้แหละอบอุ่นดี..”ถ้าอบอุ่นแล้วมันจะเขิยบหนีผมทำซากอะไรฟร้ะ. . .ผมละงงกับมันจริงๆ * - *
ระหว่างนั้นพวกมันสองคนก็นักโยกหัวสัพหงกไปมาด้วยความเมา โชคดีหน่อยที่วันนี้ผมขอผ่าน เพราะตั้งแต่เมื่อวานที่ ผม ดันรั้นอยากกินแบบพวกมัน สภาพก็เลยไม่ต่างจากเป็นอย่างที่รู้ๆ กันนั้นแหละครับ มึนๆ ทั้งวัน แล้วถ้าขืนผมยังทำตามพวกมันต่อละก็มีหวังพรุ่งนี้ไปเรียนไปได้แน่นอนเลยละครับ..

“เห้ยมึง”ผมไม่รู้ว่าไอวินมันกำลังบ่นพึมพำถึงใคร เลยได้แต่หยิบแก้วเปปซี่ขึ้นมาจิบและหันไปมองสองสาวที่กำลังนั่งคุยอะไรกันอยู่ในห้องครัวอย่างสนุกสนาน..

“มืงงงงง ฮึกกก...”ผมไม่อาจทนเห็นความเรื้อนของเพื่อนตัวเองได้เลยเป็นคนอาสาตอบแทนทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันกำลังบ่นหรือพูดถึงใครอยู่กันแน่

“อะไรของมึงไอวินกูเห็นมึงนั่งพูด อะไรมาคนเดียวพักนึงละจะเรียก ใครก็เรียกชื่อให้เขาหันมาตอบสิวะห่า รำคาณ.”

“เจ..ฮึก... กูว่านะ ไอกายมันต้องชอบมึง.ฮึก..แน่เลยวะ” อะ อ้าวว นี้ไอวินมันไม่ได้รู้เรื่องของผมกับกายมาตั้งแต่แรกแล้วหรอ..แล้วที่ไอที่มันแซวๆผม เมื่อช่วงพักหลังๆ นี้ ผมก็นึกว่ามันรู้แล้วซะอีก...สรุปยังคงเป็นความลับอยู่สินะ..ผมเลยตีหน้าเนียนทำไม่รู้เรื่อง และยังคงตามน้ำต่อไป.

“อ่อหรอวะ เออๆ แปลกดีเน้อ เหอะๆ”

“แล้วมึงไม่รู้...ฮึกก..สึกอะไรกับมันบ้างหรอวะ..” ถึงจุดนี้ผมควรจะรีบบอกมันไปเลยดีมั้ยว่าผมกับกายเราสองคนไม่ใช่ เจ้าหนี้ลูหนี้กันแล้วแต่เป็นอย่างอื่นแทน ..แต่ถึงบอกตอนเมาไป มันก็คงจำไม่ได้อยู่ดี..เอาเป็นว่ารอให้มันผ่านช่วงรักๆไคร่ๆ ของมันไปก่อนแล้วกันเดี๋ยวค่อยเซอร์ไพรท์บอกมันทีหลัง

“รู้สึก.....มั้ง ฮ่าๆๆๆ”ผมพยายามขำกลบเกลื่อนให้มันรีบลืมๆ เรื่องไป แต่แล้วจู่ๆ คนที่นั่งข้างๆผมก็เริ่มเปิดคำถามขึ้นมาบ้าง

“มึง.”ผมไม่รู้ว่ามันเรียกใครแต่ขอแสดงตัวหน่อยละกัน

“ก..กูหรอ..”

“ไม่ๆมึงอะไรนะ.. เอ่อ วิน เออไอวิน” เหอะกูควรจะลุกขึ้นไปปล่อยให้พวกมึงสองคุยกันดีมั้ยละเนี้ยกูอยู่ข้างๆแท้ๆ ดันเสือก เลือกถามคนที่พึ่งรู้จักอย่างไอวิน ชิ!

“ว่างายยอ้ายแมลงวัน ‘ตอม’  ”

“ไอกาย.นี้มันใครวะ..”

“อ่อ เพื่อนกูนี้ละ ..แม้งหล่อเหี้ยๆ” ทันทีที่ได้ยินชื่อกาย จากที่ผมกำลังลุกก็รีบกลับมานั่งทีเดิมแอบฟังพวกมันคุยเผาเรื่องไอกายต่อ

“อ้าว แล้วสรุปมันจะเหี้ยหรือจะหล่อวะ.”

“ก็มีทั้งสองอย่าง ฮึก..อยู่ด้วยกันนั้นแหละ แต่เรื่องความหล่อมันอาจจะแพ้กูรวมถึงมึงด้วยนะ ฮึก ไอหน้าจืด....” ใครก็ได้ช่วยมาดึงมือผมออกจากตรงนี้ทีถึงหูผมจะอยากได้ยินสิ่งที่มันคุยกันแต่ผมเริ่มจะรับไม่ได้กับไอความมั่นหน้าเกิน สิบ ของไอเชี่ยวินมันแล้ว ฮ่าๆ

“ว่าแต่มึงถาม..ถึงมันทำไมวะ รู้จักกันหรอ”

“ป่าว..หรอกก็แค่ลองถามดู”

“ งั้นก็แล้วไป เพราะเพื่อนกูมันมีคู่ของมันละเว้ยยเห้ยย เออว่าแต่ มึงไม่มีคนที่ชอบบ้างหรอวะ กูเห็นเจอมึงอยู่หลายครั้งแต่เห็นเดินคนเดียวตลอดเลย”

“ตอนแรก ก็ไม่คิดอยากจะมีหรอก แต่เหมือนตอนนี้ต้องรีบแล้ววะ”

“อะอ้าว จะกลับแล้วหรอ รีบไปไหนวะ..”

“กูหมายถึง..ต้องรีบบอกความรู้สึกให้คนๆนั้นฟังต่างหากละ..”

“งั้น กูขอให้มึงโชคดีละกันเพื่อน แต่... ระวังนกนะมึง..กูขอเตือน”

“เออ ขอบใจมากมึง” และแล้วทั้งสองคนก็เดินเข้ามากอดกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถรุ้ยยย!!! คงเป็นเพราะอาการเมาหนักของพวกมันทั้งสองคนเลยเดินเข้ามากอดกันตัวกลมโดยที่มีผมนั่งแทรกอยู๋ตรงกลางอยู่ เลยโดนพวกมันสวมกอดกันทั้งสองคน ผมไม่รู้เลยว่าจะออกไปจากวงแขนพวกมันได้ยังไง ก็แม้งดันดักทั้งสอข้างขนาดนี้ ตอนนี้สภาพก็เลยเหมือน พวกเราสาม คนกำลังกอดพิศวาสกันอย่างดูดดื่มม (Tree some มั้ยละมึง)

สักพักใหญ่ๆสาวๆ ทั้งสองคนก็เดินออกมาพร้อมกับจานอาหารอีกเล็กน้อย  ก่อนยัยเอิร์นเดินมาลากไอวินไปไหนไม่รู้ส่วนแพรวก็บอกขอตัวไปช่วย ยัยเอิร์นก่อน ผมเลยต้องอยู่กับอะตอมสองคน บรรกาศวาปหวิวแสงไฟสลัวๆ นั้นก็ทำให้ผมกลัวได้เหมือนกัน เพราะตอนดูหนังผีบ่อยๆ มันจะชอบออกมาเวลาแบบนี้บรึ้ยยย แต่ระหว่างนั้นเองอะตอม ก็เอาแต่พิงไหล่ผม และพูดอะไรพึมพัมๆ อยู่หลายครั้ง ผมไม่สามารถสรุป คำพูดของมันได้เลยว่ากำลังพูดอะไรอยู่แต่ ก็นึกขึ้นได้ว่า พี่อินเคยบอกว่าตอนเมาให้กินน้ำเยอะๆ อาการจะได้ดีขึ้น คิดได้ดังนั้นผมก็เลย รินน้ำใส่แก้วยื่นให้อะตอม ไม่สิ ต้องเรียกว่าประเคนใส่ปากมันอยู่หลายครั้ง จนมันต้องขอตัวไปฉี่ แต่ด้วยเรี่ยวแรง ของมันในสภาพแบบนี้ เลยไม่สามารถเดินไปไหนมาไหน ด้วยแรงของมันเองได้ ผมก็เลยต้อง อาสาพามันไปฉี่ถึงห้องน้ำ ดีนะที่ไม่ให้ผมถอดซิบรูด ถือ ..ให้มันด้วย

“เจ รูดซิบให้หน่อย..” ชิบหายละ  แต่ด้วยความสงสารปนรำคาณผมเลย รูดซิบให้อย่างที่มันบอก และปล่อยให้มันยืนฉี่อยู่นาน กว่าจะหมดทุกหยดก็เล่นเอาไหล่ของผม แทบจะระบม เพราะ หัวมันแม้งโคตรจะแข็ง
พอกลับมายัยเอิร์นกับไอวินไม่อยู่แล้วจะอยู่ก็แต่ แพรว  ที่เธอกำลังนั่งส่งยิ้มมาให้ผมอยู่..

“เราว่าเพื่อนแพรวจะไม่ไหวแล้วนะ ..” เพราะได้ข่าวว่าที่เธอพาอะตอมมาในวันนี้ก็เพื่อจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง แต่สภาพของมันตอนนี้สิ ..

“ผมว่าเราคง จะต้อง...”

“เจ...” อยู่ๆ อะตอมก็พูดขึ้นมา เสียงดังฟังชัด นี้มันคงจะไม่ได้ส่างเมาเร็วขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย

“เออ ว่าไง หายเมาแล้วหรอมึงอะ”อะตอมเงียบไม่ตอบผม แล้วมันจะเรียกชื่อผมทำซากอะไร

“หิวน้ำ ”

“ก็กินสิอยู่ตรงหน้ามึงเนี้ย..”

“รินให้หน่อย....”

“อะไรของมึงเนี้ย แค่เอื้อมมือไปก็หยิบเองได้แล้ว”

“รินให้หน่อยดี๊!!!” มันทำเสียงตื้อๆผมแทบยังเอาหัวของมันถูไปมากับไหล่ของผมด้วย ด้วยความที่รู้สึกอนาถใจผมเลยรีบเทน้ำใส่แล้วรินให้มันกิน มันยกดื่มอึกสองอึกก่อนจะวางแก้วลง

“เจ..”

“เอออะไรอีก....” ผมเริ่มหงุดหงิดทุกครั้งที่มันเรียกชื่อผม

“อยากกินขนม...”

“ขนมหมดแล้ว...”

“งั้นออกไปซื้อให้หน่อยสิ.. ”

“จะบ้าหรอเวลาขนาดนี้แล้วร้านที่ไหนเขาจะเปิด”

“เซเว่นไง...” ถ้าจะพูดถึงเซเว่นมันเปิดดึกก็จริงครับแต่ถ้าจะให้ขับรถไปช่วงดึกๆ ทางแถวนั้นก็ไม่ค่อยมีไฟด้วย คงอันตรายแน่ๆ

“ไม่เอามันดึกแล้วไว้ค่อยกินพรุ่งนี้....”

“นะเจ ” มันยังคงทำแบบเดิมกับผมคือเอาหัวถูๆไปมาที่แขนผม แต่อย่าหวังจะได้กินผมรอบสองครับ คราวนี้ผมรีบสะบัดมือมัดออก ก่อนจะขยับ ออกมาจนชิดกับโซฟาอีกด้านนึง แต่ก็ไม่วาย มันขยับตามมาแถมคราวนี้ เกาะแขนผมหนึบไม่ยอมปล่อยเลยด้วย ... ผมหัน ไปขอความช่วยเหลือจากแพรวแต่ดูเหมือน..เธอจะส่งสายตาบอกให้ผม ทำตามสิ่งที่อะตอมบอก..หรือนี้ อาจเป็นการพิสูจน์อย่างนึง อย่างที่เธอวางแผนไว้ถึงผมจะไม่เข้าใจและไม่อยากออกไปแค่ไหนก็เถอะ...แต่ในเมื่อ เป็นเรื่องที่ผมเองสัญญาว่าจะช่วยแล้ว ทั้งที ก็เลยต้อง ฝืนไป ทั้ง ๆที่ใจนึง ไม่อยากออกไปไหนกลางดึกแบบบนี้เลย


. . . . . . . . .
ผมเดิยห่างออกมาจากร้านได้พักใหญ่แสงไฟที่ส่องนำตามทางก็ค่อยๆ น้อยลง เหตุเพราะบริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบ่อย เสาไฟหลายต้นเลย หักลงเสียไปทีละดวงๆ จนตอนนี้เว้นระยะห่างกันไกลเหลือเกิน ลมเย็นๆที่กระทบกับผิวของผม ทำให้รู้สึกหนาวขึ้นมาแบบไม่ทันสงสัย บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่ขี่ M ไอวินออกมา เหตุเป็นเพราะว่าปอดแหกครับ กลัว... กลัวว่าระหว่างที่ขับอยู่อาจจะมีใครมานั่งเป็นเพื่อนผมข้างหลังด้วย (มันเป็นจินตนาการของผมครับ) เวลาฟังเรื่องเล่า หรืออะไรเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นแล้วมันชอบฝังใจ และผมเองก็เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเคยเป็นมาก่อน และอาจจะกลัวไม่ต่างจากผมเลยด้วยซ้ำ

ผมเดินข้ามทางม้าลาย ข้ามไปอีกฝากนึง แต่ระหว่างนั้นก็เริ่มรู้สึก..ได้ยินเหมือนมีเสียงฝีเท้า ใคร ที่ไม่ใช่ผม กำลังเดินตามผมมาจากด้านหลัง.. ผมไม่มีความกล้าพอที่จะหันกลับไปมองว่าสิ่งที่ตามมานั้นมันจะใช่อย่างที่ผมคิดหรือไม่ ผมยังคงเร่งฝีเท้าของตัวเองต่อไป จนใกล้กับแสงสว่างตรงเสาไฟต้นนั้นแต่ระหว่างนั้น มือข้าง นึงของผมก็ถูกกระชากและ ดึงให้หันไปตามแรงนั้น ผมกลัวจนหลับตาปี๋ บอกไม่ถูกเลยว่า ความรู้สึกมันแย่แค่ไหนรู้แค่ว่าผมไม่อาจจะกล้าลืมตาได้เลย จนเมื่อได้ยินเสียงๆนึงที่รู้สึกคุ้นหูขึ้นมา

.”เจ.... แฮ่กๆ”เป็นอะตอมครับที่จับข้อมือของผมอยู่..ผมอรู้สึกโล่งใจจนแทบจะยืนไม่ไหวเพราะเมื่อกี้เล่นเกร็งไปทั้งตัว

“มึง มาได้ไงวะ.. ”

“คือ...กู.... แฮ่ก ๆ มีเรื่อง ... จะบอก”

“เออมึงใจเย็นๆ ก่อนนะหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยพูด...” ผมยืนลูบหลังอะตอมไม่รู้ว่าเพื่ออะไรเหมือนกัน แต่มันเป็นความเคยชิน ที่ผม ทำให้พวกไอวินกับกายบ่อยๆ ไม่นานนักอะตอมมันก็ตั้งสติพอที่จะยืนคุยกับผมได้ ผมมองหน้าผมนิ่งพักนึงก่อนจะกล่าวคำพูดนึงที่ทำให้ผม ทำอะไรไม่ถูก..

“เจ....”

“เออ”

“กูชอบมึงนะ....”



ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เว้นระยะห่างมานานเหลือเกิน เพราะช่วงนี้กิจกรรมเยอะไปหน่อย เลยไม่ค่อยมีเวลาว่างมาอัพเลย
 ยังไงก็อย่าพึ่งลืมกันน้า ค๊าบบ z :hao5:


 :katai4:





TBC. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .                     เขียน:  (คิมแทวอน) -3-
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :30〗〖21-02-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2017 21:17:01
 :L2: :pig4:
มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :31〗〖09-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-05-2017 01:59:41

Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง


Chapter:31  I dol[/b][/size]

“กูชอบมึงนะ” กูชอบมึงนะ...กูชอบมึงนะ.....  คำพูดเหล่านี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผมอยู่ทั้ง คืน แต่หากจะถาม ว่าผมตอบมันไปว่ายังไงน่ะหรอ . . . .ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว คงเพราะกำลังช็อคอยู่ด้วยมั้งตอนนั้น มันเองก็เอาแต่ยืนจ้องผมชนิดที่ว่าตาไม่กระพริบเลยทีเดียวเชียว ผมตะกุกตะกักไม่รู้จะพูดอะไร บรรยากาศวังเวงแบบสุดๆ แต่แล้วในที่สุดอะตอมก็พูดขึ้นมา

“ยังไม่ต้องรีบตอบตอนนี้ก็ได้นะเจ. . กูรอได้. .” คำถามของมันไม่ได้คำตอบจากผมเลยแม้แต่คำเดียว  ผมไม่ได้รู้สึก แปลกๆ หรือรังเกีลยดอะไรอะตอมมันเลยเพียงแต่ ผมไม่รู่ว่าควร จะพูด ออกไปยังไงไม่ให้ทำร้ายจิตใจของมัน ดี ไม่กูมีแฟนแล้ว กูไม่ได้ชอบมึง    ไม่นะกูคิดกับมึงแค่เพื่อน ไม่ว่าจะเป็นประโยคไหน หรือคำพูดจากปากคนที่ แสนดีเพียงใด   


“แต่คำว่า  “ไม่”    พูดให้สวยหรูยังไงมันก็ยังเจ็บเหมือนเดิมอยู่ดี” มันเลยรีบตัดบท พาผมเดินมาทส่งที่ร้าน และกลับบ้านไปพร้อมกับแพรว ทันทีที่มาถึงโดยไม่บอกลาอะไรผมสักคำ เรื่องทั้งหมดมันก็มียู่เท่านี้แหละครับ


เช้าวันต่อมาผมมาถึงที่คณะด้วยอาการงัวเงีย แปลกๆ อาจเป็นเพราะพึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงอาการเหล่านี้เลยถามหาผม . . .   ยิ่งพอเวลาเข้าห้องเรียนฟัง อาจารย์ สอนผมนี้ วูบไปสามสี่รอบ จนเพื่อนข้างๆ ยื่น ลูกอมอะไรไม่รู้เปรี้ยวๆ มาให้ผม เล่นทำเอา ตาของผมนี้สว่างไปทั้งคาบ . . . .

หลังจากพักเบรค ในช่วงใกล้ๆ เที่ยง เหล่าพรรคพวก (ไอวินและเพื่อนของมัน) ก็โทรมาหาผม บอก ว่าจะชวนไปกินข้าวข้างนอก ไอผมนะไปได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา เพราะช่วงบ่ายอาจารย์ติดธุระด่วน เลยต้องยกคลาสกันไป ทำเอาพวกเพื่อนๆ ในคณะผมนี้เฮกันลั่นห้องเลย  แต่สำหรับไอพวกวิศวะนี้ ตารางเรียนมันแน่นเอี๊ยดมากครับชนิดที่ว่า ไม่มีเวลาให้หายใจกันเลย แต่พวกมัน ก็ดันว่างจะชวนผมไปกินข้าวเนี้ยพวกคุณๆ ก็คิดดูเอานะครับว่ามันใช้วิธีไหน (จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจาก โดดเรียนครับพี่น้อง) แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าผม รู้ได้ยังไงนะหรอ หึหึ  (ตารางเรียนของกายอยู่กับผม) เลยรู้ว่าวันไหนใครว่างไม่ว่างอะไรบ้าง  แต่อาจมีไม่กี่วันที่มันทั้งสองคนมันไม่ได้เรียน ด้วยกันเหตุเพราะวันที่เลือก  คาบอยู่วันนั้นไอวินดันเมาค้างหลับคาคอมตื่นมาอีกทีคลาสก็เต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ มันเลยต้อง ไปลงเรียนคาบอื่นแทน .  .  .



(ช่วงบ่าย)

ผมกลับมาที่ร้านเหตุเพราะ ไอเชี่ยวินมันบอบกว่า  อยากให้ร้านผมมีลูกค้าเยอะๆ เลยชวนกันมากินที่ร้าน ของผม แทนที่จะไปกินที่อื่นกัน  ไอดีหน่ะมันก็ดี อยู่ แต่มันดันไปโม้อะไรกับเพื่อนมันไว้ก็ไม่รู้เพราะแต่ละคนนี้เหมือนมี เครื่องหมายคำถามอยู่สักร้อยตัวได้ . . . วันนี้ก็เลยเป็นบุญของพี่อินด้วยที่จะได้เห็นหนุ่มวิศวะวัยขบเพาะ เยอะแยะมากมายขนาดนี้เข้ามาอุดหนุนเล่นทำเอาคุณนายอินของผมนี้ เขินไปทำไปเลยละครับหึหึ

พออาหารทุกอย่างที่พวกๆ มันสั่งกิน วางครบบนโต๊ะทุกเมนู ก็ได้เวลาสวาปามกันแล้วละครับ เพียงแต่ผม ไม่ได้ไปร่วม วง เพราะรู้สึกไม่ค่อยอยากกินอะไรเลย เป็นเพราะอะไรกันนะ ?

ขณะที่ผมกำลังยืนจ้องไอวินและๆ ผองเพื่อนมันกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เสียงไอโฟนของผมก็ดังขึ้นมา เสียงดัง(ผมว่าผมตั้งสั่นไว้นะ) เล่นเอาไอวินที่ตั้งหน้าตั้งตากินปูอัดอยู่ถึงกับเงยหน้าขึ้นมามอง และเบะๆปาก ใส่ผม

“อือ”

“อยู่ไหนกับใคร ทำอะไรอยู่” มาเป็นชุดครับ

“อยู่ร้านกับไอวิน แล้วก็พวกเพื่อนๆ ของมันอะ”..

“หรอ แล้วมันไปทำอะไรที่นั้นอะ ”

“ไม่รู้อารมณ์ไหนเหมือนกันเห็นบอกว่าจะพากันไปกินข้าวข้างนอกแต่สุดท้ายก็มา ที่ร้าน ”

“ก็ดีแล้วนิ เพิ่มยอดขาย แล้วอาการมันเป็นไงบ้างอะ” มันคงหมายถึงอาการของไอวินสินะ

“โอ้ยรายนี้ช้ำใจแปปเดียว หายดีแล้วแหละกูว่า”

“เออก็ดีแล้ว ”

“. . . .” ผมเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไร

“. . . .. ”

“เงียบทำไม” อยู่ๆมันก็ถามผมขึ้นมา

“แล้วมึงละเงียบทำไม”

“ก็ไม่รู้จะคุยอะไร”

“งั้นก็วางไป ดิ กูรู้ว่าบ้านมึงรวยแต่กูเสียดายตังแทน”

“ไม่อยากคุยก็ไม่เห็นจำเป็นต้องวางนี้หว่า หายใจให้กุฟังก็ได้อะ” ไอนี้ท่าจะบ้า ฟังเสียงกูหายใจมันคงฟินสินะ

“. . . . .”

“เฮ้อ!!”

“เป็นไร”

“ป่าว”

“บอกมา”

“ไม่มีอะไร”

“จะต้องให้กูไปเค้นคำตอบเองถึงที่บ้านมึงมั้ยแต่กูไม่รับรองความปลอดภัยของตัวมึงเองนะ” นับวันสกิลของไอกายนี้ยิ่งพัฒนาความสามารถมากขึ้นครับ อะไรมันจะ ช่างสังเกตุขนาดนั้น นี้ขนาดแค่หายใจ ฝืดเดียวนะเนี้ย ผมละยอมใจ

“จริงๆ คร้าบ ไม่มีอะไร”
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :31〗〖09-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-05-2017 02:45:27
“อย่ามาปากหวานกลบเกลื่อนเจ” ห่าเสือกรู้อีกผมอุตส่าห์จะเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นแล้วนะเนี้ย

“ก็...”จะบอกไงดีวะ กาย มีคนมาบอกชอบกู วะ อะไรแบบนี้หรอ หึหึ รับรองศพผมไม่สวยแน่ๆ ขอโทษนะกายแต่ผมไม่อยากให้มันไม่สบายใจผมเลยเลือกที่จะ....โกหก

“เรื่องเรียนนิดหน่อยวะ วันนี้เรียนไม่รู้เรื่อง เลย ปวดหัว นอนก็ไม่ค่อยจะหลับด้วย”

“. . . ”ปลายสายเงียบไป

“เฮ้ยกายฮัลโหล!!” ผมรู้สึกว่าเหมือนสัญญาณขาดๆ หายเลยลองยกโทรศัพท์ออกจากหูและมองดูสัญญาณ  ก็ สี่ขีดนี้หว่า  หรือ เป็นเครื่องไอกายมัน

“ฮัล..”ยังไม่ได้ที่ผมจะได้พูดต่อกายก็ดันพูดแทรกขึ้นมา

“เฮ้อ ต้องให้บอกอีกกี่ทีเจ บอกให้ดูแลตัวเองไง ทำไมถึงไม่ฟังกันบ้างห้ะ ”น้ำเสียงมันด่าปนเป็นห่วงผมแบบแปลกๆ ทั้งๆที่ผมก็กุเรื่องขึ้นมาเพื่อให้มันสบายใจแต่ไหงกับทำให้มันเป็นมากกว่าเดิมก็ไม่รู้เน้อ เฮ้อ

“ขอโทษ” คือคำเดียวที่ผมพูด”

“ขอโทษทำไม มึงทำอะไร ผิด ทำไมต้องขอโทษด้วย”

“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง อยู่ตลอด กู คงเป็นแฟนที่แย่ที่สุดเท่าที่มึงเคยคบมาเลยใช่ปะกาย” สิ่งที่ผมพูดไม่ใช่เพราะผมน้อยใจกับคำพูดของกายแต่เป็นเพราะผมรู้สึกสงสัยแบบนั้นจริงๆ เพราะมีหลายครั้งที่ผม เป็นฝ่ายทำตัวให้กายเป็นห่วงอยู่ตลอด เลยทำให้มันไม่สบายใจไปด้วย

“เจ.. มึงฟังกูนะ. . ตลอดเวลาที่ กูเคยมีแฟนมา กูไม่เคย ต้องมาตามตื้อ ตามถามอะไรแบบนี้เลยนะ บอกตรงๆ ที่กูเป็น จนเหมือนคนบ้าอย่างนี้ก็เพราะมึง  เพราะมึงคนเดียว”

“เพราะกู?” ผมยังงงๆ กับคำพูดของมันอยู่

“ชีวิตของกูก่อนที่จะมาเจอมึง มันเป็นช่วงเวลาที่สงบมาก เพราะกู ไม่ต้อง ไปตามโทรจิก โทรถามว่าเขาอยู่ที่ไหนทำอะไรกับใครอยู่ . . . กูไม่ต้องปั้นคำเสแสร้งแกล้งพูดอะไรให้อีกฝ่าย เคลิ้ม ตาม หรือแม้แต่เวลาจะออกไปทำอะไรที่ไหน กูก็ไม่ต้องโทรมา นัดก่อนล่วงหน้า แต่มึงรู้อะไรไหมเจ ตั้งแต่มีมึงเข้ามา กูรู้สึก ว่า กู มีความสุขขึ้น กูเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น กูสามารถทำทุกอย่างได้เท่าที่กูต้องการ โดยที่มีมึงเป็นส่วนหนึ่งในนั้น และไม่ว่ามึงจะเป็นคนแบบไหนกูก็รับได้ทุกอย่างที่เป็นมึง อ่อ แล้วที่มึงบอกว่า มึงเป็นแฟนที่แย่ ที่สุด ใช่รึเปล่า คำตอบ ของกูก็คงตอบว่าใช่ แต่ ถ้า ไม่มี มึง กูก็คง จะยิ้มไม่ได้แบบทุกวันนี้หรอก ก็เพราะ มึง คือ รอยยิ้มของกูไง เจ”


จบคำพูดบอกกล่าวพรรณนาของไอกายเล่นทำเอาผมตัวชาน้ำตาเกือบไหลดีหน่อยที่ห้ามไว้ทันไม่งั้นไอวินคงได้วิ่งดิ่งมา ถามผมแน่ๆ ผมดันโทรศัพท์ให้ออกห่างเพื่อสั่งน้ำมูก  ฝืดนึง ไม่งั้น คึงได้โดนไอกายมันแซวแน่ พอมั่นใจว่าเสียงเป็นปกติแล้ว ผม จึงค่อย ยกโทรศัพท์กลับมาคุยอีกครั้ง

“บ่นอะไรนักหนาห่า รำคาณ วุ๊ !!” กลบเกลือนครับกลับเกลือน เดี๋ยวมัน หาว่าผม อินจน น้ำตาซึม ฮ่าๆ

“บ่นเพราะรักไง ยังไม่เข้าใจอีกหรอ !”

“เออ เข้าใจแล้ว  ว่า แต่ ..... มึงไปจำคำบ้าๆ พวกนี้มาจากละครบทไหนวะ แม้ง โครตรจะเลี่ยน”

“กูจำมาจาก คนนึงๆ ”แหมะๆ มียอมรับด้วยเว้ยเห้ย

“ใครละ” กายมันไม่ยอมตอบและตัดสายผมไป เอ๊ะไอนี้ ชัก จะตึงๆ คนเขาถามแทนที่จะตอบกลับตัดสายทิ้งซะงั้น

ผมกำลังเดิน เข้าไปร่วมวงกับไอวิน เพราะตอนนี้เริ่มรู้สึกดีขึ้นมา อาการหิวเลยกำเริบ อย่างหนัก แต่ก็ไม่วายมีคนส่งข้อความทางไลน์มากวนใจผมอีก

“You are my Smile ♥” เชี่ยยยยย!!!! ผมสบถออกมาทันที ที่เดินเข้ามากลางวงเล่นทำเอาพวกเพื่อนๆ ไอวินหันมองผมกันให้ควับ ก็แม้ง ชื่อนี้มันเป็นชื่อนามของผมใน เพจ SaimZone นิ่ อย่าบอกนะว่า ไอกายมันก็รู้เหมือนกันว่าผมคือใคร
(บอกขนาดนี้แล้วเค้าคงไม่รู้มั้งครับ  (- -) )


ตกช่วงเย็นๆ ประมาณ 5-6 โมงเย็น  พวกเพื่อนๆ (กลุ่มผม)นัดกันไปทำรายงานอยู่ที่ ตึกนิเทศศาสตร์ ไม่รู้จะแห่กันมาที่นี้ทำไม แต่พอลองสังเกตุดีๆ ถึงรู้ครับ ว่าที่ถ่อกันมาถึงตึกนิเทศศาสตร์ เป็นเพราะอยากมาหลี่พวกหนุ่มๆ ปีหนึ่งกันนี้เอง แหม่ ไอ้ อี พวกนี้

“เออ นี้ อิเจ กูได้ข่าวลอยๆ มาว่าช่วงนี้มึงอินเลิฟหรอ เห็นใครๆ เขาก็พูดกัน” ผมขอแนะนำอย่างเป็นทางการนะครับ จริงๆ มันก็เคยมีบทพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ ผมคงลืมบอก ชื่อ ไอนี้ ไม่สิ ต้องเรียกว่าอินี้ มันชื่อกัณพิชัย ชื่อเล่นว่ากี้ แต่มันเปลี่ยนใหม่เองเป็น มารกี้ (ทั้งๆที่จริงๆ หน้าของมันเหมือน มังกี้มากกว่า)!!เพราะบอกว่าชื่อแม้งแมนไปมันไม่ชอบ  คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเพศไหน หึหึ ปาก อย่างนี้ชื่อ อย่างนี้ รู้ๆ กันครับๆ

“เออกูก็ได้ยินแว่วๆ มาเหมือนกันนะ ” ผมขอแนะนำอีกคนนะครับเธอคนนี้ ชื่อว่า เบน ชื่อเหมือนผู้ชายแต่จริงๆ เธอเป็นผู้หญิงนะครั บแต่มีนิสัยชอบจิกกัดเพื่อนเป็นงานอดิเรก ส่องผู้ชาย ตามตึกอื่นๆ คืองานรอง  มีอาการแพ้ผู้ชายหล่อๆ อย่างรุนแรง (อาการเดียวกับอิสุชาติเป๊ะๆ) 

“ข่าวโคมลอยรึเปล่ามึง มั่วกันใหญ่ละ” พวกมันสองตัวเบ๊ะปากใส่ผมพร้อมกับกรอกตามองบน มันคงคิดใน ใจ อะค่ะ เชิญต่อแหลต่อไปค่ะ อะไรประมาณนี้ละมั้ง 5555

“ข่าวโคมลอยรึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ แต่ที่รู้ๆ วิศวะมีเอี่ยวอะคะ หุหุ” ถึงชอตนี้ผมถึงกับเอ๋อแดกเลย เอ๊ะหรือว่า เบนมันจะรู้จริงๆ ว่าผมคบกับกายอยู่ แต่เรื่องอะไรเล่าที่เราจะยอมจนมุมง่ายๆ ความยังไม่แตกก็แหลกันต่อไปครับพี่น้อง

“โอ้ยลำไย  นี้สรุปจะไม่บอกเพื่อนฝูงจริงๆ ใช่ปะ”
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :31〗〖09-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-05-2017 02:50:10
“บอกมึงก็แซวกุสิ อุ้บบบส์”

“สุดท้าย ก็หลุดปากนะมึง ได้ มึงไม่บอกก็ไม่เป็นไร เพราะถ้าพวกกูรู้เรื่องเองเมื่อไหร่ละก็หึหึ ดังทั้ง มอ จอบอ ค่ะ ”ผมรู้สึกสั่นๆ กลัวขึ้นมานิด เพราะรู้ความชั่วของพวกมันดีว่าพวกมันทั้งสองพูดจริงทำจริง

“เออ เบนจี้กูเห็นด้วย ถ้ามึงไม่บอกนะ เจ ....” แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจพวกมันอะไรขนาดนั้นหรอกครับตอนนี้ ขอรีบๆ ทำงานให้เสร็จแล้วกลับไปนอนอยู่ที่ห้องดีกว่า  ระหว่างที่ผมกำลังนั่งเขียนงานก็รู้สึกเริ่มคันยุบๆ ยิบ เพราะผมหน้าของผมนี้ยาวจน ถึงลูกกะตา เล่นเอาจั๊กจี้ไปหมด ผมเลยเงยหน้าขอยืมยาง อิเบนเพื่อเอามามัดจุดซะหน่อย

ตุ้บ !!

“โอ้ย !!!” ผมนั่งหน้าฟุบลงกับพื้นร้องเสียงหลงที่อยู่ๆ มีอะไรไม่รู้กระทบกับหัวผมเข้าอย่างจัง ถ้าให้เดาๆ ผมว่าน่าจะเป็นลูกบอล แต่เดี๋ยวนะ นี้ตึก คณะนะสัด ไม่ใช่สนามบอล

ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง ส่วน เบนกับอิกี้มัน ก็คงมองอยู่ก่อนหน้าแล้ว แหละ ว่าแต่ทำไมพวกมันถึงทำหน้าสตั้นกันขนาดนั้น. .
ผม ค่อยๆ มองหน้าไอเด็กที่กำลังวิ่งมาหาผมให้ชัดๆ ภาพแม้งเบลอ สมองกูไปหมดแล้วมั้งนิ่ผมใช้เวลาปรับภาพตรงหน้าอยู่ครู่นึงก่อนจะพยายามเพ้งให้ชัดๆ อีกครั้ง

“เอ้ย พี่  ผมขอโทษ เจ็บมากรึเปล่า !” แหม่ไอสัดถามมาได้ว่าเจ็บมั้ย มึงลองมอนั่งแล้วให้กูเตะอัดหัวมึงบ้างปะละสัด โอ้ย ยิ่งพูดยิ่งเจ็บๆ

“กูร้องเสียงหลงขนาดนี้มึงคิดว่ากูเจ็บป่าวละสัด”

“ผมขอโทษนะครับพี่ผมไม่ได้ตั้งใจ” แต่แล้วอยู่ๆ ไอเด็กตรงหน้าผมมันก็ขยับเข้ามานั่งยองๆ ใกล้ๆ กับผมแถมยังเอามือลูบหัวยังกะกูเป็นน้องมึงแหนะไอห่า

“คุณพระ!” น่าจะเป็นเสียง อิเบน

“ตายยแล้วว!! ”  ส่วนนี้ อิมังกี้แน่ๆ

“พอๆ เลยทำอะไรของมึง มาจับหัวกูทำไม. . .” ผมปัดมือไอเด็กนั้นออก แต่ก็ยังมิวายมีเสียง โอดครวญจากป้าๆ สองคนข้างๆ ผมที่แกล้งสำออย เจ็บตามผมไปด้วย เพื่อหวังเรียกคะแนนสงสาร แต่โทษๆ นะครับกูโดนคนเดียวเต็มๆ

“โอ้ยย !! อิเบน กูเจ็บไปหมดเลยอะมึง สงสัย สมองกระทบกระเทือน”

“แต่ อกกูเหมือนมันจะระเบิดออกมาเลย นะอิลิง อ๊อยย!!!!(เสียงนี้แบบ....หืมม5555)”

“ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะครับ ต้องทำยังไง พี่ถึงจะหายโกรธผมอะ” ประเด็นแรกคือผมไม่ได้โกรธ ส่วนประเด็นที่สอง คือ...มันจำเป็นต้องยิ้มอ่อนขนาดนั้นให้ผมด้วยเหรอเนี้ย   ผมก็แค่ตกใจ+โมโหเฉยๆ นั่งอยู่ดีๆ ก็เจ็บตัว

“แล้วใครสั่งใครสอนให้เล่นบอลในตึกคณะเนี้ยห้ะ !”ถึงผมจะไม่ใช่เจ้าถิ่นแต่ขอโวยหน่อยเถอะครับ ฟิลกำลังมา

“ผมก็แค่ซ้อมบอลกับเพื่อนเฉยๆอะพี่ ”

“ในตึกเนี้ยนะ!!!” ผมตะโกนถามเสียงแข็ง

“แต่. . . เดี๋ยว นะครับ...พี่ใช่ ...เห้ย พี่ เจ พี่เจใช่ปะครับ..” ผมมองหน้ามัน งงๆ ทั้งๆที่พึ่งเจอกันครั้งแรกแต่ไหงมันถึงรู้จักชื่อผมได้ละเนี้ย

“ถ้าใช่แล้วจะทำไมวะ ...” มึงจะเอาแป้งมาโรยแล้วถูขอเลขบนหัวกูว่างั้น ? - -*

“เห้ยพวกมึง นี้พี่เจ วะ ” ไอเด็กตรงหน้าผมมันตะโกนไปด้านหลังเรียกเพื่อนของมันให้เดินมาที่กลุ่มของผม เล่นเอาอิเบนกับอิชาตินี้อยู่ไม่เป็นสุขเลยครับเพราะไอพวกที่ตามมาหลังๆ มันดันถอดเสื้อโชวกล้ามโชวซิกแพ็กจนพวกอิเบน ดิ้น คลุกคลิกอยู่ข้างๆ ตัวผมเนี้ย


“พี่ เจจริง ด้วย !!”

“โหแม้ง ตัวจริง แม้งน่ารักกว่าในรูปอีก. . ..”เดี๋ยวๆ ชักจะนอกเรื่องแล้ว นี้ผมกำลังคุยเรื่องที่มันเตะบอลมาอัดผมอยู่นะ แล้วอยู่ๆ มันจะมาสนใจอะไรกับอิแค่ชื่อผมเนี้ย แล้วไอหน้าหล่อๆ สูงยาวนั้นมันพูดว่าไง นะ รูปอะไรตัวจริงอะไรผมฟังไม่ทันเพราะพวกมันพยายามแย่งกันพูด จนผมฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง

“หยุด!!!” ผมตะโกนเผลอตะโกนขึ้นมาเสียงดังเพราะเริ่มรู้สึกทนไม่ไหวกับไอเด็กพวกนี้แล้ว. . .แต่มันก็ได้ผลนะครับ ไอเด็กพวกนี้ยอมหยุดพูดและนั่งดีๆ แถมพวกอิเบนกับอิกี้ นี้ เงียบกริบเลยครับ

“ครับพี่ เจ” ไอเด็กคนที่เตะบอลอัดผมหันมาส่งยิ้มหวานๆ ให้ พร้อมกับเพื่อนๆ ของมัน ทำไมมันแลเชื่องๆ จังวะ หึหึแปลกคน

“ประเด็นแรกคือกูเจ็บ ประเด็นที่สอง คือ ยังไม่มีใคร ขอโทษกูเลย”

“แต่ผมขอโทษพี่เจ แล้วนะ หลายครั้งด้วย ” เหรอ เมื่อไหร่วะ ? หรือผม มัวแต่ มึนๆ อยู่เลยไม่รู้ว่ามันพูดขอโทษผมตอนไหน ไอเด็กนั้นมันหันไปโบกกะบาลเพื่อนมันทั้งสองคนก่อนที่พวกมันแทบจะก้มกราบตีนผมอยู่แล้ว ผมเอียงตัวหนี ไอเด็กพวกนี้ แม้งจะกราบผมเฉย

“เออพอๆ กูไม่ได้ซีเรียสอะไรขนาดนั้นหรอก กูไม่ใช่เจ้าถิ่นไม่อยากโวยวายเยอะ. . ”

“หรา/หรา!!!” เสียงพวกมันสองตัวพร้อมใจกันประสานเสียง

“นี้ขนาดไม่ใช่เจ้าถิ่นนะค่ะ บ่นยังกับเจ้าของตึกอิห่า. . .”

“ก็มันจริงนี้หว่า. . . ”ไอเด็กสามคนนั้นเอาแต่นั่งยิ้มเยิ้มๆ ส่งมาให้ผมไปๆมาๆผมเริ่มประหม่าแล้วสินี้

“พี่จะบอกอะไรให้นะเว้ย ในฐานะ ที่พี่เป็นผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ครั้งนี้  . . ที่หลังอะถ้าจะเล่นกันก็ออกไปเล่น นู้น (ผมชี้ไปที่สนามฝั่งตรงข้ามกับตึก) อย่ามาวิ่งเล่นเตะในตึกกัน เพราะ แม้งอันตราย สัดๆ ถึงตอนนี้จะเย็นๆ แล้วแต่คนมันก็มีอยุ่เยอะแยะไปหมด แถม บาง จุด มันก็ลื่น  เพราะพี่ๆ ป้าๆ แม่บ้านเขาก็เพิ่งจะมาทำความสะอาดกันไว้ แล้วอีกอย่างนะเว้ย ถ้าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ พี่แต่เป็นพวกอาจารย์หรือรุ่นพี่คนอื่นๆ เรื่องมันอาจไม่ได้จบแค่การขอโทษแน่ๆ. . .”ผมพล่ามบ่นอะไรเรื่อยเปื้อย อยุ่นานสองนาน แต่ไอเด็กสามคนตรงหน้าผมนี้ยิ้มรับกันอย่างเดียวเลยครับไม่รู้ว่าไอที่ผมพูดๆ ไปนี้จะทุลุเข้าโสตประสาทของพวกมันบ้างรึเปล่า ?

“ยังไงพวกผมก็ต้องขอโทษพี่เจ อีกทีนะครับพี่ ^ ^”  ไอเด็กที่เตะบอลใส่ผมกระตุกยิ้มมุมปาก แม้งดูเจ้าเลห์ชิบหาย

“เออๆ เรื่องก็ให้มันแล้วๆ ไปเหอะ พี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก . . พวกมึงจะกลับกันยังอะ”ผมหันไปขอความเห็น อิเบนกับอิกี้ที่นั่งทำตาหยาดเยิ้มมองน้อง ที่นั่งข้างๆ ผมอยู่

“หล่อค่ะ. . ”

“ละมุนมาก โอ้ยย!!” 

“เออๆ งั้นพี่ไปก่อนนะเว้ย ฝากดูอิสองตัวนี้ด้วย” ผมลุกปัดก้นทำท่าจะลุกหนีแต่ไอเด็กเจ้าเล่ห์นั้นก็รั้งมือผมเอาไว้ก่อน

“มีไรวะ”ผมถามทันที ที่หันมามองมัน

“ก่อนพี่จะไป ผม..เอ่อ..ขอถ่ายรูปด้วยได้ป่าวครับ”...หืม ถ่ายรูป...กับผมเนี้ยนะ ?

“กับกู..เนี้ยนะ?”

“ใช่ๆ พี่เพื่อนผมมันก็อยากถ่ายกับพี่นะ จริงมั้ยพวกมึง”มันหันไปขอความเห็นจากเพื่อนมันและความเห็นก็ดูจะตรงใจกันเหลือเกิน..พร้อมใจกันพยักหน้าเชียว

“เออๆ”แค่เออคำเดียวจากปากผมพวกมันก็เข้ามารุม ขอถ่ายรูปกับผมกันซะยกใหญ่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าพวกมันจะขอถ่ายรูปผมไปทำไม แต่ถ้ามันจัช่วยให้ผมหลุดจากมือไอเด็กนี้ได้ผมว่ามันก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร


ผมเดินออกมาจากตึกคณะนิเทศศาสตร์ ได้สักพักก็มีฝีดเด้งในเฟสบุ๊คดังขึ้นมา เขียนไว้ว่า มีบุคคลๆหนึ่งได้กล่าวถึงผมรวมอยู่ในแท็ก. . . ชื่อไม่คุ้น อะไร ก็ไม่คุ้น แล้ว ใครแท็กผมวะ.  .ผมลองกดกเข้าไปดูก็เจอหน้าหล่อๆ ของไอเด็กสามคนนั้น ยิ้มแกล้มปริพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า

“เด็ดกว่า เดือน นิเทศ ก็พี่เจคณะ มนุษย์ศาสตร์นี้แหละคร้าบบบ ><” ผ่านไปแค่ห้านาทีตอนนี้ยอดไลท์ 364+ แล้วครับผมนี้อึ้งเลย หึหึ ผ่านไปสักพักฟีดผมก็เด้งรัวๆ ยิ่งกว่าตอนแรกเพราะ ดันมีคนแห่มาคอมเม้นกันระนาว จนไอโฟนของผมนี้รวนไปหลายนาทีเลยละครับ

กลับมาถึงร้าน ประมาณ สามทุ่ม ผมยังเห็นยัยเอิร์นนั่ง ยิ้มอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น แถมยัง เอาหน้าถูๆไถๆไปมาราวกับว่า กำลังฟินอะไรสักอย่างอยู่แน่ๆ
ผมเดินกะจะเข้าไปถามว่ากำลังนั่ง ฟินจิ้นหนุ่มคนไหนให้ชอบกันอีก ยัยเอิร์นก็เงยหน้าขึ้นมามองผม พร้อม กับ ทำตาขว้างทันที นี้ผมมาขัดจังหว่ะความสุของน้องใช่มั้ยนิ่ หึหึ

“พี่เจ !” ยัยเอิร์นมองหน้าผมพร้อมกับพูดเสียงแข็ง . . .สรุปโกรธผมจริงปะเนี้ย แล้วโกรธเรื่องอะไรละ?

“คร้าบ ว่าไง สาวน้อย มองพี่ตาขวางเชียว โกรธอะไรพี่หรอ ?” เมื่ออีกฝ่ายร้อนมาผมก็ควรจะเย็น ไว้ครับ

“พี่เจเลือกใคร ?” ผมไม่ค่อยเข้าใจคำถามที่ยังเอิร์นถามออกมาเลย เลือกใครอะไรยังไง ?

“หืม ?”ยัยเอิร์นทำหน้าเบื่อหน่ายแต่ก็ยอม ยกโทรศัพท์ที่ทาท่าหวง ไม่อยากให้ผมดู เปิดรูปขึ้นมา แล้วนั้นก็ทำให้ผมร้องอ๋อ รูปของผมกับไอเด็ก สามคน ที่พึ่งเจอที่มอ เมื่อกี้

“อ๋อรุ่นน้องพี่หน่ะ พี่มหาลัย พึ่งเจอกัน ก่อนพี่กลับมาแปปเดียวเอง ”คำตอบของผมทำเอายัยเอิร์นยิ้มออก สรุปคิดอะไรไปไกลแล้วใช่มั้ยเนี้ย น้องผม - -*

“แล้วพี่เจ ว่าคนไหนหล่อ . .”ยัยเอิร์นดึงผมให้ลงไปนั่งข้างๆ และชี้คนในรูปแต่ละคนให้ผมนั่งวิจารย์

“อื่อ...คนนี้มั้ง”ผมชี้ไปมั่วๆ เพราะไม่อยากใส่ใจอะไรกับรูปมาก แถมอยากรีบขึ้นไปนอนแล้วด้วย คิดไปคิดมาผมไม่น่าเดินเข้ามาหายัยเอิร์นเล๊ยจริงๆ

“คนนี้ ขื่อเบส เดือนคณะ นิเทศศาสตร์ ส่วนคนทางซ้าย ชื่อแบงค์ อีกคนชื่อ ปาลม์ น่ารักทุกคนเลยโน๊ะพี่เจว่ามั้ย ?” ยัยเอิร์นหันมาส่งส่ยตาปิ้งๆ ให้ผม ๆเองก็มองไม่ออกหรอกว่าใครคนไหนน่ารักกว่ากัน เลยแค่พยักหน้าแทนหน้าแทนคำพูดไป

นั่งคุยกับยัยเอิร์นได้อีกแปปเดียวผมก็ขอตัวขึ้นมา นอน กลิ้ง ไปมาอยู่บนห้อง นอน จะว่า ไปนี้อาจเป็นครั้งแรกของรอบวัน ที่หัวผมได้สำผัสกับที่นอนนุ่มๆสบายๆ อย่างนี้  และก่อนที่ผมจะคล้อยหลับไป ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าได้ยินเสียง แมสเสทอะไรซักอย่าง  แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะ ตอนนี้หนังตาของผม มันหนักอึ้งเกินจะต้านไหว

รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นมาสดใสกว่าปกติไม่รู้ว่าด้วยเพราะอะไร แต่ก็อย่างว่าแหละนะครับ การที่ผมตื่นเช้านี้ ช่วยสร้างความแปลกตาแปลกใจให้กับพี่น้องคู่นี้มากครับ

“ต๊ายตาย! สงสัยวันนี้หิมะคงตกในไทย !”พี่อินยืนบ่นขมุบขมิบอยู่ในครัวส่วนผมก็แค่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินแค่นั้นจริงๆ

“แล้ว เอิร์น ละพี่อิน ?” ผม เดินมาถึงห้องนั่งเล่นก็ต้องแปลกใจเพราะ ถ้าเป็นวันปกติยัยเวลาเช้าๆแบบนี้ยัยเอิร์นคงจะมานั่งอ่านฟิคหรือไม่ก็ส่อง เพจ คิ้วบอยอะไรนั้น แล้ว แต่วันนี้ ไม่เห็นหน้าเลย . .

“เห็นว่าจะมีแฟนมีต แถวนี้นะ เลย ไม่เรียกสมาชิกมาร่วมตัวกันหน่ะ” ผมก็ไม่ค่อยจะสนับสนุนน้องตัวเองเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่หรอกนะครับ แต่ถ้ามัน ทำให้กายเรียนของยัยเอิร์นกระเตื้องขึ้นนิดหน่อยผมก็โอเค

“ตื่อ ดื่อออ !!!” เสียง เปิดประตูจากหน้าร้านดัง เผยให้เห็นเด็กผู้ญิงร่างเล็ก หน้าตาน่ารักๆ เดิน เข้ามาพร้อมกับอมยิ้ม จนแกล้มแทบปริ ไม่รู้ไปอารมณ์ดีมาจากไหน . . .

“พี่เจ ค่ะ” หืม วันนี้มาโหมดไหนละนิ่ผมตามน้องสาวตัวเองไม่ทันจริงๆ

“หือ...” ผมเอียงตัวไปมองว่ายัยเอิร์นแอบซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาก็เห็นเอามือผ่ายหลังอย่างเดียวเลย แต่เหมือนยัยเอิร์นคงจะจับผิดสังเกตุผมได้ละมั้งเลย แบมือ ออกมาสองข้างเลย ไอผมก็แอบคิด ว่า ยัยเอิร์นจะแอบวางแผนอะไรไว้ซะอีก

“พี่เจ ออกมาข้างนอกพร้อมกับ เอิร์นหน่อยสิ  .. ” ยัยเอิร์นไม่พูดเปล่าแต่เดินเข้ามาจูง มือ ผม(ขอย้ำว่าจู.ไม่ใช่จับนะครับ)
พอเปิดประตูหน้าร้านออกมา โอ้โห เฮ้ นี้ มันแสงอะไรหนักหนาไม่รู้แยง เข้าตาผมเข้าอย่างจัง ทีแรกผมก็นึกว่าแดดตอนหกโมงเช้ามันจะ แรงอะไรปานนี้ แต่พอลอง จ้องมอง ดีๆ หืม ทั้งกล้องทั้งคนครับไม่รู้ เกือบสี่สิบชีวิต กำลัง ยืน กดชัตเตอร์รัวๆ แสงแฟลชกระจายเข้าเบ้าตาผมจนแสบไปหมด จนยัยเอิร์นต้องบอกให้หยุด คนพวกนั้น ถึงวางกล้องลงกัน

“นี้มันอะไรกันเอิร์น”ทันทีที่ผม เริ่มมองภาพข้างหน้าชัดๆ ได้ก็เริ่มถามยัยเอิร์นเลยครับ

“คนพวกนี้ คือ แฟนคลับ ของพี่เจ ค่ะ !!” หืม ..ฟฟฟ...แฟนคลับ ? ผมจ้องมองพวกเด็กผู้หญิงๆ น่ารักๆ หลายสิบคน เห้ยผู้ชายก็มีเว้ย กำลังยืนยิ้ม แก้มแทบแตก มาให้ผม จากตอนแรกที่เริ่มงงๆ ก็อดยิ้มไม่ได้ครับ สงสสัยบรรยากาศมันพาไป แต่ เดี๋ยว.. แฟนคลับของผมเนี้ยนะ ?

“สองคนหน้าคนสูงๆ ฝั่งซ้าย ชื่อ ออมกับแอร์ค่ะ เป็นแอดมินเพจคิ้วบอย” ผมมองผู้หญิงตัวสูงๆขาวๆ สอง คน เชดดด แฝดกันซะด้วยผมพึ่งสังเกตุประเด็นคือน่ารัก สัดๆ แต่ไม่น่ามาอวยให้ผู้ชายเขาชอบกันเลยนะครับน้อง หึหึ

ผมยืนฟังยัยเอิร์น ร่ายชื่อแนะนำแต่ละคนให้ผม ฟังผมเองก็จำไม่ได้ทุกคนหรอกครับ แค่ผงกหัวพอเป็นพี่ทีก่อนจะพาแขก เกือบสี่สิบกว่าคนมาให้พี่อินได้เจอ จริงๆ ผมก็แอบปลื้มอยู่นะครับ ที่ อย่างน้อย ก็มีคนกลุ่มเล็กๆ ให้ความสนใจในตัวผมกันขนาดนี้ จริงๆ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมี กลุ่มแบบนี้เกิดขึ้นถ้ายัยเอิร์นไม่บอก ผมตอนแรก นี้ผมคงคิดว่าเป็นพวกกลุ่มมอบประท้วงอะไรสักอย่างหน้าร้านผมแน่ๆ ละ  ฮ่าๆ

และ ผมก็พึ่งจะรู้ความจริง เมื่อเร็วๆ นี้ว่า กว่าที่ผม จะได้เป็น ที่รู้จักของใครหลายคนในเพจนี้ เหตุแม้งเกิดจาก การแชร์รูปของไอสามตัว ที่ผมถ่ายรูปกับมันเมื่อ วาน . . . เพราะมันสาม คนก็เป็น คิ้วบอย ที่มีชื่อเสียง ไม่ต่างจากผมในตอนนี้เลย
(อวยตัวเองสุดๆ ฮ่าๆ) 
TBC . . . .


ตอนนี้ก็ได้ผ่านช่วงสอบไฟนอล (ขึ้นปีสองแล้วเย้ๆ) ที่หายไปเพราะต้องเตรียมตัวสอบนะครับผม ต้องขอโทษด้วยจริงๆ  :hao5:
หวังว่าคงจะยังไม่ลืมกันนะครับ  :mew2:

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :32〗〖10-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 10-05-2017 05:53:11
Falling In Love
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง


Chapter:32 ถาม & ตอบ

วันนี้ผมเดินเข้ามาที่คณะช้ากว่าทุกครั้ง เพราะดันเสียเวลาไปกับแก้งๆ แฟนคลับ ที่มายืนรอผมถึงหน้าบ้าน กะว่าจะมาพักสมองๆ คิดอะไรเบาๆ ที่คณะหน่อย แต่ก็ยังมิวายโดน อิพวกสองตัวมันรุมคำถามใส่แบบ อัลลิมิเตด

“นี้!!ๆ อิเจกูได้ข่าวว่ามึงไปคั่วเด็ก สามคนนั้น ช้ะ คือแม้ง ในเพจคิ้วบอย ข่าวของมึงกำลังดังเลยตอนนี้รู้ตัวปะ”ผม

“เออๆ กูก็จริงๆ ข่าวของมึงน่ะ..อังไออึ้ง เอจอ่อ๊า ไอ เอย”  อิลิง มันพูดพร้อมกับเคี้ยวขนมปังเต็มปาก และก็ของอะไรอีกไม่รู้เต็มไม้เต็มมือของมันไปหมด

“อิลิงกัง!!”  เบนหันไปตะคอก อิลิงใหญ่เลยครับไม่รู้โกรธอะไรกันรึเปล่า อิลิงมันพยายามกลืน ก้อนขนมปังใหญ่ๆ ที่พึ่งกระเดือกลงคอไปอย่างยากลำบาก

“อุ้ยๆ โทษๆ พอดีลืมตัว แหะๆ อะอิเจ นี้ของมึง..”  จู่ๆ ของในมืออิลิงก็ถูกส่งมาที่มือผมอย่างงงๆ

“อะไรวะ ?"

“ก็ของมึงนั้นแหละค่ะ “. . .และก็ นั้นยิ่งทำให้ผมงงไปกันใหญ่ ของผมอะไรยังไง ?

"โอ้ย อิเจ เลิกแกล้งโง่นะคะ ของแฟนๆ มึงทั้งนั้นแหละ ค่ะ รู้อะไรรึเปล่าก่อนที่มึงจะเสด็จมาถึงคณะเนี้ย มีหนุ่มๆ ทั้งเดือนและดาวคณะไหน แวะมาเยี่ยมเยียนมึงบ้าง " คำตอบของอิลิงทำเอาผมยืนอึ้งพูดไม่ออก . . .

"มึงไม่รู้ตัวหรอค่ะ ว่าตอนนี้ ตัวเองฮอตขนาดไหน ตั้งแต่ไป อ่อย. . ..  เอ่อกูหมายถึง ได้ มีเอี่ยวกับพวกเดือน นิเทศ อะ" อ่อคงจะด้วยเหตุผลเดียวกับ ไอเด็กสามคนนั้นสิ นะ ผมก็นึกว่าจะรู้กันแค่วงแคบๆ ซะอีก


"อ่อๆ กูพอเข้าใจละ แล้วนี้พวกมึงไม่รีบไปติวหนังสือกันหรอวะ วิชาต่อไปของ สุรพงษ์นะเว้ย !”  คำถามของผมทำเอาพวกมันทั้งสองคนอึ้งๆ ตามกัน

"กูลืมสนิทเลย มัวแต่สนใจแฟนคลับของมึงอยู่ อะ เพราะมึงคนเดียวเลยอิเจ" อ้าวไหงโยนขี้ให้กูละครับอิมังกี้

"เออ อิเจ เมื่อ เช้า มีหนุ่มวิศวะ มาหามึงด้วยหล่ะ " อยู่ๆ เบนมันก็พูดสวนขึ้นมา ทำเอาผมกับอิมังกี้ที่กำลัง ยืนเถียงกันต้องหันมาสนใจ

"วิศวะ?" ใครกันนะที่มาหาผม หรืออาจจะเป็นแฟนคลับที่พวกมันพูดถึง แต่ในความคิดของผมคงมีแค่ ไอวิน อะตอม หรือ..จะเป็นไอคุณชาย แค่นึกถึงช่ือมันผมก็ขนลุกซู่ละครับ บรึ้ยย !!

"หน้าตาเป็นไงวะ . ." ผมลองเชิงแกล้งถามๆ อิเบนมัน

"หล่อลืม!! พูดเลย จริงป๊ะอิลิง " มันหันไปขอความเห็นลูกคู่ของมันที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้คำตอบแบบเดียวกัน

"ตัวสูงๆ ขาวๆ หน้าหล่อๆ ผมสั้นๆ ป่ะ"  ผมเลยลองถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

"น่าจะใช่ละมั้ง เพราะกูมองหน้า เขาแค่แวปเดี๋ยวหลังจากนั้นกูก็ซูมเป้าเขาอย่างเดียวเลยอะ " บทจะ ไร้สาระกัน ก็เป็นกันเอามากเลยแหะเพื่อนผมแต่ละคน

"แล้วเขามาว่าไงบ้างวะ"

"ก็ไม่ว่าไงอะเขาแค่มาถามว่ามึงมารึยัง พวกกูก็บอกว่ายัง แล้วเขาก็เดินจากไป พร้อมกับ เป้าตุงๆ ของเขา" อิพวกนี้ก็จะโยง เข้าเรื่องเป้ากันอย่างเดียวเลย ผมรู้สึกตะหงิดๆ แปลกๆ ว่าจะเป็นไอกายแล้วถ้ามันกำลังคิดมากเรื่องอะไรเกี่ยวกับผมอยู่ละ เรื่องมัน จะ ไปกันใหญ่กว่านี้มั้ยนะ ผมลองหยิบไอโฟนกดเบอร์ไปหาไอกาย แต่ปลายสายนี้เงียบกริบเลบครับ โทรไปสามสี่รอบ แล้วก็ยังเฉยอยู่ๆ คิดในแง่ดีคือกายมันอาจจะติดอ่านหนังสืออยู่ แต่ในแง่ร้ายมันอาจจกำลังโกรธอะไรผมซักอย่างอยู่ก็เป็นไปได้ (หรือผมจะคิดมากไปเองวะ เห้อ)ไม่รู้แล้วโว้ยเอาเป็นว่าสอบเสร็จแล้วค่อยมาเคลียก็แล้วกัน

ผมใช้เวลาที่มีเหลืออันน้อยนิดนั่งติว ชีทที่อิลิงมันปริ้นมาให้พวกผมพร้อมแล็กเชอร์อย่างดี นั่ง อ่านๆ ไปก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับร้องอ๋อ ทุกวรรคหรอกนะครับ . . .และแล้วเวลาที่ รอก็มาถึง ระหว่างสอบผมกับ อิเบนนี้กุม ขมับกันเลยครับ เพราะ โจทย์แต่ละข้อมันไม่ได้ตรงกับ ที่อาจารย์บอกไว้เลยครับ เหมือน เขาบอกให้นักศึกษาอ่านบทที่หนึ่ง แต่ ออกบทที่สองอะไรงี้ พวกผมก็มีแอบๆ สะกิดเพื่อนข้างโต๊ะกันบ้าง พวกมันก็มีน้ำใจยอมบอก แถมยังต้องคอยหลบสายตา ที่ จ้องมองมาทางพวกผมบ่อยๆ ขืนโดนจับได้ นิ่ โดนกาข้อสอบกลางหน้ากระดาษแน่ๆ ครับ

สอบเสร็จแต่ยังไม่เสร็จดีครับ ถึงวันนี้จะมีสอบแค่วิชาเดียว แต่พวกผมก็พากันมานั่งเครียดอยู่หน้าคณะ เพราะวิชาสุดท้าย เป็นทฤษฎี ล้วนๆ ครับ เอาตามความเข้าใจของนิสิตเองเลย คะแนน ก็ตามลายมือที่อาจารย์อ่านออก ใครเขียนมั่วมา มีหวัง F แดกแน่ครับหึหึ


ผมละสายตาจากหนังสือตรงหน้า และลองกดโทรศัพท์ไปหาคุณชายอีกรอบ แต่คราวนี้ติดรอสายครับ ผมเองยังงๆ อยู่วันๆ มันจะไปคุยกับใครกัน นอกจากผม . . . หรือว่า .... เฮ้ยไม่น่าใช่ กายมันไม่มีทางทำอย่างนั้นหรอก . . . เพราะผม เชื่อใจ มัน. . . ผมวางโทรศัพท์ลงข้างตัวและให้ความสำคัญกับการติวต่ออีกครั้ง . . .

ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงตอนเย็นผมติดต่อกายมันไม่ได้เลยครับ ไม่รู้หายหัวไปไหน. . .โทรไปกี่ที่ก็ไม่มีคนรับ จากอารมณ์ที่ว่าจะเย็นๆ ตอนนี้เริ่ม อดไม่ไหวแล้วครับ แม้งเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

'อิเจ . . .ทำไมมึงถึงทำหน้าเป็นตูดอย่างงั้นวะ" อิลิงที่เงยหน้าจากชีทมาถามผม

"กูไม่ได้เป็นเหี้ยอะไรทั้งนั้นแหละ อย่าเสือกดิ่. . ."กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าตัวเองพูดอะไรออกไปเพื่อนรอบข้างผมก็นั่งสตันกันไปหลายนาทีแล้ว

"เอ้ย  พอดี กูมีเรื่องให้คิดนิดหน่อยอะ กูขอโทษนะกี้" อิกี้มันยิ้มเก้อๆ แต่ก็ใจดีสู้เสือ พยายามชวนผมคุยต่อ

" เออๆ ไม่เป็นไรกูเข้าใจมึงคงจะเครียด กับการสอบด้วย แต่ที่มึงเป็นเมื่อกี้กูว่ามันเข้าขั้นหนักแล้วนะอิเจ . . . ถ้ามึงมีอะไรไม่สบานใจ บอกพวกกูได้นะเว้ย " น้ำเสียงกวนๆ ของพวกมันเปลี่ยนไปตอนนี้ ราบเรียบสะจนผมเริ่มรู้สึกเกร็งๆ

"คือ...จะพูดยังไงดีละ" ผมเองก็อยากจะบอกพวกมันนะ เพราะไม่อยากมีความลับกับใครเพื่อนกันทั้งนั้น แต่ผมว่าเรื่องบางเรื่อง ปล่อยให้ตัวเราเครียดคนเดียวมันยังดีกว่าต้องลากคนอื่นให้มาคิดมากอย่างเราด้วย

"แฟนไม่รับโทรศัพท์หรอ" คำพูดของอิเบนทำเอาผมอึ้งๆ กับการเดาของมัน บางทีมันก็แม่นไปนะ

". . . "ผมไม่ตอบอะไรได้แน่นั่งน่านิ่งยอมรับกับสิ่งที่อิเบนพูด

"กูคงเดาถูกสินะ เห็น มึงนั่งจิ้มๆ โทรๆ ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องสอบแล้วนะ อย่าคิดว่ากูไม่สังเกตุ "บทจะแม่นมันก็แม่นเกินไปครับเพื่อนผมเนี้ย

"เห้อกูเครียดว่าเบน กูควรทำไงดีวะ ติดต่อแม้งไม่ได้เลย. . "ใจจริงผมก็รู้สึกผิดเหมือนกันนะครับที่ทำเอาเพื่อนรอบข้างพลอย เครียดกับเรื่องผมไปด้วย

"กูกับอิกี้จะไม่ถามมึงหรอกนะว่าใคร เอาไว้มึงพร้อมเมื่อไหร่ค่อยมาบอกพวกกูก็แล้วกัน ส่วน เรื่องที่มึงถามว่าควรทำไง ถ้าเขาไม่รับโทรศัพท์ก็บุกไปหา ที่คณะแม้ง กลัวห่าอะไร " ความคิดของอิเบนทำให้ผมต้องชุกคิดขึ้นมา

"กูควรไปหรอวะ ?" มันจะดูเหมือนผมเป็นคนงี้เง่ามั้ยอะ

"โอ้ย ยังจะถาม ดีซะยิ่งกว่าดีอีกอิดอก ยึกยัก โดนคาบไปแดกกูจะขำให้ . . .. อีกอย่างมึงจะได้รู้ด้วยไง ว่าที่มันไม่รับสายมึง เนี้ย เป็นเพราะมันติด ธรุหรือ.....ติดอะไรอยู่....."ยิ่งอิเบนมันพูดอีกก็ยิ่งถูกอีกครับ ว่าแต่ผมควรจะเริ่มยังไงดีละ . . จู่ๆ ให้ดื้อๆ เข้าไปหาที่คณะแบบนั้นเลยหรอ . ..แล้วถ้าเจอมันกำลัง งุ่น อยู่กับ กาย สอบอยู่ผมจะหน้าแตกมั้ย จะโมโห เก้อรึเปล่า . . ทั้งๆ ที่บอกกับใจตัวเองว่าให้เย็นๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันกับทำตรงกันข้ามกับความรู้สึกโดยสิ้นเชิง
 
ผมนั่งคิดได้ไม่นาน ตอนนี้ก็เสนอหน้า มาอยู่ที่หน้าตึกคณะ วิศวะ เรียบร้อยแล้วละครับ เวลาช่วงเย็นๆ แบบนี้ คนนี้แทบไม่มีเลยครับ สงสัย หลังจากสอบเสร็จก็คงจะกลับ กันหมดแล้ว (ผมเดาเอาล้วนๆ)

" อ้าว เธอ.. ไม่สิ นาย คนนั้นนิ่ ระหว่างที่ผมกำลังงุงงงวุ่นอยู่กับการตอบแชทที่เด้งมารัวๆ จู่ๆ ก็มีคนแปลกหน้าที่ไหนไม่รู้เดินมายืนอยู่ข้างหน้าผม

"ผมหรอ" ...ผมขี้นิ้วเข้าหาตัวเองเพื่อเป็นการยืนยันว่า ผมไม่ไดิคิดไปเองว่ืเขากำลังคุยอยู่กับผม( ก็แถวนี้มีคนอื่นรึเปล่า)....เอออนั้นสิเน้อว่าแล้วผมก็หันซ้ายขวา เผื่อจะมีใครนอกจากผม แต่ปาาวเลยครับว่างเปล่า เวลาห้าโมงแบบนี้แล้วผ่านนี้ใครเรียนเสร็จก็คงจะหนีกลับบ้านกันหมดแล้ว

" เออว่าแต่รู้จักเราด้วยหรอ? "

"ไม่รู้จักอย่างเป็นทางการหรอก ก็แค่เคยเห็นตอนวันเปิดภาคเรียน ช่วงแรกๆ อะ ที่นายโดนเรียกให้ไปยืน แล้วเต้นเพลงไก่ย่างอยู่หน้าแถวอะ"

จบคำพูดของคนตรงหน้าก็ทำให้ผมนึกย้อนไปเมื่อครั้งตอนยังเป็นนิสิตหน้าใหม่ในช่วงแรกๆ ตอนนั้นผมอายมาก ที่อยู่ๆต้องไปเต้นอะไรบ้าๆบอๆอยู่หน้าแถวแบบนั้นแถมยังมีสายตานับพันจ้องมองมาที่ผมกับเพื่อนๆอีกประมาณ 4-5คน จำได้ว่าตอนนั้น ผมโดนเหมารวมกับพวกที้มันคุยกันในแถวและผมก็บังเอิญหันไปยืมปากกา เพื่อนข้างๆพอดีพอพี่แกเห็นก็เลยเหมารวมว่าผมนั่งคุยไปกับพวกมันด้วยอาจจะด้วยเพราะผมเป็นเด็กใหม่เลยไม่กล้าที่จะโต้แย้งอะไรเลยได้แต่เดินหน้าซึนๆ ออกไปตามที่พวกรุ่นพี่เค้าบอก
อุตส่าจะลืมอยู่แล้วเชียว พอ มันพูดขึ้นมาความรู้สึกสั่นๆวันนั้นมันส่งตรงมาที่ผมในวันนี้เลยครับ

" เห้ยย!!!เป็นไรไปอ่ะ ผมสะดุ้งตัว เมื่อคนตรงหน้ายื่นมือมาสะกิดไหล่ผม”

“อ่อๆป่าวๆ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ! แล้วนี้ เย็นป่านนี้ไม่รีบกลับบ้านหรอ ดึกๆที่คณะแม้งหลอนนะเว้ย” ผมพยายามหาเรื่องอื่นมาพูดเพื่อให้มันลืมทภาพไก่ย่างสุดสยองในวันนั้น


 “รู้ได้ไงเคยมาหรอ?”

 “ก็...เคย นะ” นึกย้อนไปวันที่ผมต้องปล่อยกายให้นั่งรออยู่ที่คณะคนเดียว เป็นวันที่แย่มากๆเลยหล่ะ

“ แต่ก็น่าแปลกเหมือนกันนะขนาดเราที่ว่าเป็นเด็กคณะนี้ยังไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนตอนดึกๆเลย แม่งหลอนชิบ แล้วนี้นี้มารอใครอยู่รึเปล่า ?”นั้นสิผมมาทำอะไรที่ตึกวิศวะเกือบลืมละ

 “อ่อพอดีมาหาเพื่อนหน่ะ แต่ไม่รู้มันไปอยู่ไหนๆ” จริงก็อยากจะบอกมันไปตรงๆแหละครับว่ามาหาแฟน แต่คณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายกันทั้งนั้น ผมกลัวว่ามัน อาจจะมองผมแบบแปลกๆ ก็เลยไม่ได้พูด ออกไป

“แต่ที่ดูๆแล้วเหมือนมาหาแฟนเลยนะ” เอ๊ะ ไอนี้อ่านใจผมได้รึไง ผมไม่ได้ตอบได้แต่ยิ้มปัดๆไป

 “ชื่ออะไรละเดี้ยวเราช่วยหา” คนตรงหน้ายื่นข้อเสนอ ที่จะช่วยเหลือผม


“เอ้ยไม่เป็นไรเราไม่อยากรบกวน. เกรงใจวะ” เกรงใจจริงๆ ครับอยู่ๆจะให้คนที่พึ่งเจอกันครั้งแรก(หรืออาจจะหลายครั้งแต่ผมเองจำไม่ได้) มาช่วยอะไรแบบนี้ ผมว่ามันดูจะเกินไปหน่อย

“เฮ้ยอย่าพูดงั้นดิเพื่อนกัน ไม่เป็นไร” ว่าแต่ผมกับมันไปเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนไหนฟร่ะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลยแต่ชั่งัรื่องนั้นมันก่อนเถอะครับ ตอนนี้ผมอยากรู้ว่าไอคุณชายมันอยู่ตรงจุดไหน ของคณะกันแน่

“”เอ่อ รู้จักกายป่ะ พอผมพูดไอคนตรงหน้าก็ทำท่าคิดๆ ไปพักนึง

“ไอที่หน้าหล่อๆป่ะ”

“ เออๆไอนั้นแหละ ไม่ต้องสาถยายให้มากความครับแค่อุทานว่าหล่อของวิศวะผมก็นึกหน้าของมันขึ้นมาเป็นคนแรกอยู่แล้ว

“อ่อตอนนี้มันไม่อยู่ที่นี้หรอก” อ้าวเวร แล้วสรุปที่ผมอุตส่าห์เดินถ่อมาถึงนี้มันเพื่ออะไรกัน
 ตอนแรกกะจะมาเซอไพรท์(จับผิด)ซะหน่อยแต่ ดันเจอซะเองเฮ้อ อาจจะฺผิดที่ผมเองที่ไม่ได้แอบสืบมาก่อนว่ามันอยู่ที่ไหน....ก่อนจะมา

“หรอ อืมๆงั้นไม่เป็นไรขอบใจมากนะ”ผมกำลังจะหันหลังเดินกลับแต่เสียง เมื่อครู่ก็เรียกให้ผมหันกลับไป

 “เดี๋ยวๆจะรีบไปไหนอ่ะ” อ้าวคนที่ตั้งใจมาหาไม่อยู่แล้วจะให้กุอยู่ทำเบื้อกอะไรละครับ หืม

 “ก็มันไม่อยู่นิ่”

 “ไม่อยู่ที่คณะไงแต่อยู่อีกที่. แล้วมันคือที่ไหนละ ?

 “น่าจะเป็นหอสมุดอะ เห็นว่าพวกมันไปติวหนังสือสอบกันอยู่อะ” อ๋อที่แท้ก็ไอตึกอาถรรพ์ นั้นนี้เอง แต่ที่ชื่อหลอนๆไม่ใช่เพราะมีผีสางนางไม้อะไรหรอกนะครับเพียงแต่เวลาที่ผมตั้งใจจะเข้าไปอ่านหนังสือทีไรเป็นต้องหลับทุกทียังกะโดนเสกคถาใส่แหนะ

“อืมๆ ยังไงก็ขอบใจมากนะ ที่บอก”

“ ไปถูกมั้ยให้เราเดินไปสงรึเปล่า?” เห็นกูโง่ๆแบบนี้แต่กูก็เคยเข้าหอสมุดนะครับเพียงแต่เข้าไปหลับก็เท่านั้นเองกร้ากกก. พูดเพื่ออะไรวะกูเนี้ยตู
[/b]
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :32〗〖10-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 10-05-2017 05:56:59
“อ่อๆไม่เป็นๆไรขอบใจมาก นะเว้ย” หลังจากที่คุยกับมันเสร็จผมก็เดินออกมาจาก ตึกวิศวะ ศวะอย่างลำพังทั้งๆที่เตรียมแผนการจะทำอะไรให้ไอคุณชายมันตกใจเล่นๆ แต่ก็ต้องแห้แดกเพราะคุณชายมันดันกระแดะไปติวหนังสือถึงหอสมุดซะนี้ ผมเลยต้องแบกสังขารตัวเองเดินมาถึงหอสมุด ที่อยู่ไกลจากตึกวิศวะพอควร พอเปิดประตูเข้ามาพวกพี่ๆบรรณารักษ์ก็มองยิ้มๆมาที่ผมๆ ก็ส่งนิดๆกลับไปให้พวกเขาเหมือนกันแต่จะว่าไปวันนี้ คนดูเยอะแปลกๆแหะสงสงสัยเป็นเพราะอยู่ในช่วงสอบด้วยมั้ง หรืออาจจะเป็นปกติ แบบนี้ทุกวันแล้วอยู่แล้ว เพราะครั้งล่าสุดที่ผมมา (เมื่อเทอมที่แล้ว)คนยังน้อยอยู่เลยอแต่พอมาวันนี้ เต็มตั้งแต่ทางเดินเข้ายันสุดทางตรงหน้าต่างเลยครับ บางกลุ่มก็นั่งสุมหัวยังกะโด้ปยากันอยู่ๆ ผมเดินผ่านๆ มพยายามใช้สายตามองหาไอคุณชาย

เรื่อยๆ . จากที่คิดว่าเดินเข้ามาจะเจอ เลย กลับต้องเดินตามหามันทั่งหอสมุดตั้งแต่ชั้นหนึ่งยันชั้น หก ห้องแม้งก็ยาวแถมกว้างได้อีก เดินหาจนเหนื่อยก็ยังไม่เจอ รึไอคนที่ผมเจอเมื่อกี้มันจะแกล้งหลอก ผมวะ แต่ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้วเหลือแค่ชั้นหกเอง เอาวะ ผมเดินสอดส่องไปทั่วชั้นหก เดินวนอยู่หลายรอบ  ก็ยังไม่เจอ แต่จังหว่ะที่ผมกำลังจะหันหลังเดินลงบรรไดไป เหมือนสายตา ของผม เหลือบไปเห็น หัวของคนจากตรงมุมสุดของห้อง นี้ถ้าไม่สังเกตจริงๆคงจะมองไม่เห็นแน่ๆ

ผมรีบเดินย่องไปๆเบาๆ ไม่ให้คนตรงนั้นรู้ตัวและกำลัง จะโผล่ไปเซอร์ไพรท์มันแต่กระทำของผมก็หยุดลงเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ผมหลุดยิ้มตามทันทีที่เห็น  เพราะกายมันกำลังก้มหน้าอยู่บนโต๊ะเล่นกับลูกแมวตัวนึงอยู่ ซึ่งผมเองก็งงว่าแมวมันหลุดเข้ามาในนี้ได้ยังไงกันและ เหมือนผมเกิดคิดอะไรดีๆออก  และเหมือนกายมันก็คงยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ ผมหยิบไอโฟนของตัวเอง ขึ้นมาอัดคริปไว้ แบล็คเม ไม่สิเก็บไว้ดูัองต่างหาก โมเม้นแบบนี้นานๆทีจะมีคนเห็น ผมเลยต้องถ่ายเก็บไว้ แต่แล้วอยู่ไอกายมันก็ชะโงกหน้าขึ้นมาพอดิบพอดี โชคดีของผมหน่อยที่ฟุบหลบทันและมันก็คงจะไม่เห็นผมแน่ จังหว่ะที่ทำใจอยู่นานว่าจะกลับไปถ่ายต่อดีมั้ย ตอนนั้นผมก็ได้ยินเสียงสั่นๆคาดว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ ผมหยิบของตัวเองขึ้นมาดูอ้าวไม่ใช่ของผมนี้ว่า คงเป็นของเด็กชายกายแน่ๆ เลย ผมเลยได้ทีแอบเสียมารยาทแอบฟังมันคุย. อยู่เงียบๆ

“ เออ!! ....อยู่หอสมุด....ใครวะ ....ตัวเตี้ยๆหน้าแบ้วๆตาโตๆป่ะ (เดี้ยวๆไอประโยคหลังๆนี้คงไม่ได้หมายถึงผมหรอกใช่มั้ย

“...เห้ยจิงดิ (เสียงของมันเหมือนแปลกใจ) อ่อ ...เออๆขอบใจมากมึง ....เออเดี้ยวกูลงไปรอข้างล่างละกัน เคๆ” เสียงของกายมันเงียบไปและเหมือนผมจะได้ยินเสียงฝีเท้า คนเดินผ่านไป มันคงจะไารู้สินะว่าผมมาถึงนานจนเห็นการกระทำมุ้งมิ้งของมันเข้าให้แล้ว... ผมอาอาศัยโอกาสตอนที่มันเดินลงไปด้านล่างแอบดูว่าวันนี้มันทำอะไรอยู่ ถึงไม่ค่อยทักผมมาเหมือนทุกๆวันเลย แต่พอผมเปิดสมุดดูเท่านั้นแหละครับ เอ๋อแดกเลยๆวันๆมันเรียนอะไรของมันนักก็ไม่รู้แถมยังแล็คเชอร์แต่ละสีเล่นเอาผมตาลายจนแทบอวก เลยรีบปิดหนังสือและยืนจ้องหน้ากับไอแมวตัวสีเทาตัวนั้นซึ้งมันก็มองหน้าผมแบบงงๆ มีแอบเอียงคอด้วย(น่ารักวะ) เห้ยๆไม่ได้ๆจะมาเสียเวลาเล่นดับแมวไม่ได้ ผมรีบเขียนโพสอิท ให้กำลังใจมันอย่างลับๆพร้อมกับแอบวางนมหมีที่ แฟนๆให้มา (ไม่คิดจะลงทุนเลยผมอะฮ่าๆ) ก่อนจะเดินออกไปแบบเนียนๆก่อนที่เจ้าตัวเขาจะกลับมา

. . . . . . . . .

ผมเดินออกมาจากหอสมุดได้พักใหญ่แล้วส่วนตอนนี้ก็เย็นมากแล้วด้วยผมเลยโบกมือเรียกพี่แท็กซี่อยู่หน้ามอให้ไปส่งที่บ้าน. พอกลับมาถึงผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกับเปิดคริปที่ตัวเองพึ่งแอบถ่ายมาหมาดๆพอเปิดดูแล้วก็อดยิ้มตามกับการกระทำน่ารักๆของมันไม่ได้เลย  ผมองเคยเห็นคนเล่นกับแมวมาก็เยอะแต่ไม่คยเห็นใครเล่นกับแมวแล้วมีเสน่ห์แบบนี้มาก่อนเลย นึกๆแล้วแอบอิจฉาแมวนะผมอ่ะ555555 ระหว่างที่ผมกำลังนอนขำๆปนเขินเหมือนคนบ้า ก็มีโทรเข้ามา

 “'sky fall” ชื่อนี้ผมตั้งให้มันหลังจากที่วันก่อนดูเจมบอนจบมาครับ แลขลังๆดี

 “อยู่ไหน...”

“ ดึกป่านนี้คิดว่ากูอยู่ไหนละ” แอบกวนๆมันครับ

 “อยู่คณะหรอ?”

 “จะบ้าเร้อดึกขนาดนี้แล้วเวลาผีออกกูไม่อยู่ให้โง่หรอก”

 “แล้วสรุปอยู่ไหน!”เหมือนมันจะเริ่มหงุดหงิด นิดหน่อยแล้วครับ - -*

 “บ้านครับผมบ้านหน่ะบ้าน มีอะไรรึเปล่า!!”  ผมแล้งถามทั้งๆที่รู้ว่ามันทักมาเพราะอะไร

“ได้ข่าววันนี้มาหาที่คณะหรอ”

 “ไปทำไมเสียเวลาดูหนังโป๊กูหมด”

“ หึหึ” มันขำหึในลำคอเสียงแม้งเจาเล่ห์ชิบหาย

“แล้วมึงเป็นไงบ้างอะ เล่นกับแมวสนุกมั้ย!!”

“ มึงรู้?”ไม่ใช่แค่รู้นะครับมีแม้กระทั้งคริป

“ พี่เก่งครับน้อง.” (พร้อมกับส่งวีดีโอมุ้งมิ้งไปให้มัน) กายมันเงียบไปพักนึงจนผมคิดว่ามันอาจจตายไปแล้วซักพัก ไลน์ผมเด้งขึ้นมา แจ้งเตือนว่ามันได้ส่งวีดีโอมาให้ผม หวังว่าจะไม่ใช่คริปโป๊จริงๆหรอกนะไอนี้ยิ่งบ้าจี้เรื่องพวกนี้อยู่ แต่พอผมเปิดเข้าไปดูเท่านั้นแหละครับ


“เชี้ย!!!'”  ผมเผลอสบถออกมาเสียงดังเมื่อคริปที่ผมเปิดเข้ามาดูคือคริปของผม(แต่ไม่ใช่คริปอย่างว่านะ)ตอนสมัยพึ่งมาเข้าเรียนช่วงแรกๆในวันรับน้อง

“ 'ไก่ย่างในตำนาน ฮ่าๆ'” เชี่ยมันไปขุดมาจากไหนวะแม้งน่าอายชิบหาย

“มึงไปสรรหามาจากไหนวะกาย” ผมนี้อายจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด

 “ความลับวะ” ดู่ดู๊ดู มันพูดเข้า

“ไอสัดอย่ายึกยัก” ผมแกล้งๆ ขึ้นเสียงใส่มัน จริงๆไม่ได้โกรธอะไรหรอกครับแค่ อาย อายหน่ะ อาย ><

“ได้มาจากเพื่อน. มันถ่ายเก็บไว้ ก็เลยขอมา”

 “บอกเพื่อนมึงลบเลยนะกาย ไอห่ากูอาย”

“ มึงอายเป็นด้วยหรอวะ” อ้าวไอนนี้มันหลอกด่าผมป่าววะ

“กูก็หน้าบางบ้างเหอะไม่ได้หนาเป็นคอนกรีตแบบมึง” ผมยังคงนั่งบ่นอยู่บนเตียงเป้นฟืนเป็นไฟ

“ ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหนเลย ออกจะ. . . .น่ารัก ...”  ผมแอบยิ้มๆกับประโยคหลังของมัน

 “มาหาแล้วทำไมไม่เข้ามาทักละ กลัวอะไร” น้ำเสียงของมันออกแนวเยอะเย้ยผมยังไงไม่รู้

 “กูไม่ได้กลัว!!แต่เห็นมึงตั้งใจติวหนังสือ(เล่นกับแมว)อยู่เลยๆไม่อยากกวน”

 “หรา!!” ผมขี้เกลียดเล่นสงครามปล่อยคริปกับมันเลยพยายามเบี่ยงประเด็นไปที่เรื่องอื่นแทน

“ เออแล้วกินนมยัง” อยู่ๆ ก็นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ก็เลยพูดๆ ไป

 “นมไหน?”

 “ก็นมหมีที่วางไว้ให้อะ”

“ อันนั้นของมีงหรอ?. นี้มันไม่รู้จริงๆหรอว่าผมเป็นคนแอบเอามาให้ทั้งๆที่ก็อุตส่าเขียนโพสอิทให้รู้ตัวแล้วเชียว

“ ให้พี่กายนะคะ สู้ๆ!! เนี้ยนะของมึง?” หือ!!ตอนนี้ผมเริ่มชักแหม่งๆละ ในโพสอิทผมเขียนไว้ว่าตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะหมากาย อย่ามัวแต่เล่นกับแมวกิ้วๆ นี้ต่างหากทึ่ผมเขียนแต่ไอสู้ๆนะคะนี้มันมาได้ยังไงผมงงจริงๆ

“ป่าวอะไม่ใช่ของกูกูไม่ๆได้เขียนแบบนั้นซักหน่อย”

 “อ้าวแล้วใครละ?” นั้นสิผมเองก็อยากรู้? หลังจากที่ผ่านเรื่องราวชวนสงสัยนั้นมาพักใหญ่ผมก็รีบอาบน้ำนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องรีบไปที่ตึกแต่เช้า เพื่อติวหนังสือก่อนจะสอบกัน แต่เรื่องโพสอิทนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกตะขิดตะควงใจแปลกๆไม่หายแต่ก็ช่างมันเถอะครับอาตจะเป้นเด็กไอกายแอบเอามาแปะไว้ก็ได้ใครจะไปรู้!!


. . . . . เช้าวันต่อมาผมเดินเข้าคณะแต่เช้า (ย้ำว่าเช้า)เวลาประมาณหกโมงห้าสิบสี่นาที แม้แต่แมวซักตัวผมยังไม่เห็นเลย จะมีก็แต่ลุงยาม แล้วก็ป้าๆที่ยืนทำความสะอาดอยู่หน้าตึก ผมเดินส่งยิ้มให้ลุงป้าๆก่อนจะเดินขึ้นห้องไป

“ โอ้โห!!!อิเจมาเช้ามึง เสียงของมังกี้เพื่อนสาวสองเรียกทักเรียกผมทำเอาเพื่อนๆอีกสี่ห้าคนต้องหันมามองที่หน้าประตู พร้อมกับทำสีหน้าตกใจแบบเหมือนไม่อยากเชื่อว่าผมจะมาเรียนเช้า(อะไรจะเวอร์กันขนาดนั้น)

“ก็ว่าละข่าวเมื่อเช้าบอกอากาศจะหนาวในช่วงเช้า เป็นเพราะแม้งมาเช้านี้เอง ส่วนอินี้ไม่ต้องพูดถึงครับลูกคู่เหมือนกัน ตัวแม่เล่นตัวลูกก็ต้องตาม เป็นธรรมดา

“เว่อละพวกมึงอะกูออกจะมาเช้าเป็นปกติ”

“ หราาา!!!!!!”เสียงของพวกมันทั้งสองตัวดังขึ้นมาพร้อมกัน

“ แล้วนี้พวกมึงทำอะไรกันอยู่อะไหนบอกจะมาติว กูไม่เห็นจะมีชีทดิกหรือสมุดหนังสืออะไรเลย!!! ผมพยายามองหาสิ่งของที่ได้พูดไปแต่ไม่ว่าจะหายังไงมันก็ไม่มีอยู่ตรงนี้เลยสักอย่าง

“ ติว? อิเบญหันมาเอียงคอถามผมแบบงงๆ”

“ก็เออไง?” หรือผมพูดอะไรผิดไป ?

 ติวอะไรวะ?

 “ก็เมื่อวานอิกี้ทักมาบอกกูว่าจะมาติวหนังสือที่คณะให้มาเช้าๆกูก็รีบมาเนี้ย”


อิเบนจ้องหน้าผมงงๆก่อนที่เราสองคนจะหันไปมองหน้ามังกี้ตัวการของเรื่อง มันส่งยิ้มแห้งๆให้ผมก่อนจะเขยิบไปกระซิบอะไรสักอย่างข้างๆ อิเบน

“เห้ยย จิงหรอ !!” อะไรจริงไม่จริงวะแล้วทำไมต้องรู้กันแค่สองคนด้วยวะ!!”

หลังจากที่มันนั่งกระซิบกระซาบอะไรอยู่พักนึงพวกมันทั้งสองคนก็หันมายิ้มเลวๆให้ผมเล่นเอาผมเสียวสันหลังวาปไปหมด !!พวกมันคิดจะทำอะไรกับผมกันแน่

“อ่อ คือเมื่อวานกูบอกอิกี้ไปเองแหละ ว่าให้มาติวกูคงลืมอะโทดทีๆ แล้วมึงเอาชีทกับดิกมาป่ะ”

“ เออเอามา” ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันกำลังทำตัวแปลก กับผมด้วยก็ไม้รู้แหะ

“ดีๆปะงั้นไปติ้วกัน”

“ติว!!!” อิกี้พูดแทรกขึ้นมา เสียงดังเล่นทำเอาผมที่นั่งเครียดๆนี้ฮาแตกเลย ฮ่าๆ เพื่อนชวนไปติ้ว กร้ากกขำวะ

“อ้าวรออะไรละคะคุณชายลุกสิค่ะ สแตนอัพพลีสส!!!!”

“แล้วมึงจะไปติวกันที่ไหนละ”

“ ตึกวิศวะ ?”

“ หืมตึกวิศวะ ?” ผมยังงงๆกับพวกมันแค่ติวหนังสือแต่ทำไมต้องถ่อไปถึงตึกวิศวะด้วย

“แต่มันไกลนะมึงจะถ่อกันไปถึงนั้นเลยรึไง” แค่คิดสภาพกว่าจะไปถึงเหงื่อผมก็ไหลแล้วครับ

“เอออน่าก็ที่นี้มันไม่มีสมาธิ แถม เจอแต่หน้ามึงกับอิลิงนี่ กูก็เอียนมากพอแล้วขอให้กูได้ไปเจออะไรแปลกใหม่บ้างเถอะค่ะ” อ่อจุดประสงค์ของอิเบนมันจะไปส่องผู้ สินะหึหึ สรุปได้ดังนั้นผมก็เลยต้องถ่อสังขารตัวเองเพื่อมาติวหนังสือ (ส่วนเพื่อนๆผมหึหึ สองรายนั้นตาละห้อยมอง จิกพวกเด็กผู้ชาย วิศวะที่เดินผ่านไปมา จนสายตาของผมก็บังเอิญ(อีกแล้ว) ไปเจ๊อะกับใครคนนึงเข้า อะตอมครับ ผมลืมบอกไปว่าตั้งแต่วันที่มันมาสารภาพว่าชอบผม มันก็เอาแต่หลบหน้าโทรไปก็ไม่รับสายไลน์ก็ไม่ตอบทั้งที่จริงๆแล้วคนที่ควรลำบากใจมันควรเป็นผมไม่ใช่หรอ? และดูเหมือนว่าอะตอมก็คงจะเห็นผมเหมือนกันสายตาที่มันมองผมเหมือนดูตกใจว่าทำไมผมถึงมาโผล่อยู่ที่ตึกวิศวะในเวลาเช้าๆแบบนี้ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อะตอมมัน ยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้งที่ทำ หน้ามันนิ่งแบบไร้อารมณ์มากและจะหันหลังเดินดลับไป จังหว่ะ นั้นเองเสียงของอิเพื่อนสองตัวของผมที่บอกว่าจะมาติวหนังสือก็คงเหลือบไปเห็นอะตอมเหมือนกัน มันกรี๊ดกร๊าดอะไรของมันกันนักก็ไม่รู้

“11 นาฬิกา” เสียงอิกี้ร้องเรียกให้เพื่อนมันจ้องตามครับ

“งานดีมาก ดีตีอใจอะมึง !!!”

“แต่มึงสังเกตุเห็นใช่ป่ะอิเบญ เมื่อกี้อะ”

“ สังเกตุอะไรวะมึง ก็อิหนุ่มงานดีดีกรีวิศวะคนเมื่อกี้อะ”

“ เออแล้วมันทำไมละ”

“ มันมองมาที่อิเจเว้ย!!มองแบบตัดพ้อด้วยอะมึง”. พออิชายพูดเสร็จอิเบนมันก็รีบเสนอ(หน้า). เข้ามาใกล้ผมเพื่อสแกนความผิดปกติ

“ กูว่ามึงคิดมากไปแล้วอิลิง ถึงอิเจมันจะดึงดูดเพศผู้แต่กูว่าเขาคงไม่สนใจมันตั้งแต่แรกเห็นหรอก . . มั้ง” ผมควรดีใจกับคำพูดของพวกมันสองคนดีมั้ยละเนี้ย

“เชี่ย!!!” อยู่ก็มีเสียงสบถดังขึ้นใกล้ๆตัวผม”

“ มึงด่ากูหรอ?”  ผมหันไปถามพวกมันสองตัวแต่มันดันไม่ตอบกันเแต่ทำหน้าอึ้งๆ พร้อมกับยู่ปากไปอีกทางแทน ผมหันตามที่พวกมันมองกันแต่ทำไมผมถึงรู้สึกเย็นๆที่หลังวะ

“เฮ้ยพี่ผมขอโทษครับ” อ้าวผมก็งงสิอยู่น้องแกมาขอโทษผมทำไม

“ขอโทษพี่ ?”

 “ก็เสื้อของพี่?” หน้าน้องที่มองผมแบบโคตรรู้สึกผิด

“ เสื้อกูทำไมวะ” ผมหันไปถามพวกมันสองตัวแต่ไร้เสียงใดๆตอบกลับครับเป็นเพราะอาจจะอึ้งเบ้าหน้าของไอเด็กนี้อยู่แน่ๆเลย

“ ผมทำหมึกหกใส่” สุดท้ายเป็นไอเด็กนี้ครับที่ตอบคำถามผม ห้ะ หมึก!! หมึกอะไรหมึกเป็นตัวๆใช่มั้ย!!!

“อิเจ หมึกดำ เต็มหลังมึงเลย. . ”เสียงของอิเบนร้องทักผมที่กำลังรนรานอยู่  ชิบหายแล้วหมึกพิมผมเอนดูเสื้อด้านหลังขณะที่พวกมันก็กำลังปัดๆอยู่ที่เสื่อผมอยู่เช่นกัน

“กูว่าอย่าเช็ดเลยแม้งยิ่งกระจาย ดูดีๆแม้งก็ศิลปะนะแก มองโลกในแง่ดีไว้สิ”  ศิลปะบ้านมึงสิ ผมกำลังจะถอดเสื่อออกแต่อิเบนดันจับที่ข้อมือผมไว้

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :32〗〖10-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 10-05-2017 06:00:24
“ มึงจะทำอะไร”

“ ก็ถอดเสื่อไง”

“จำเป็นต้องกลางคณะปะ” ผมปลดกระดุมได้แค่สองเม็ดก็พึ่งจะรู้สึกตัวว่า ตัวผมเองไม่ได้อยู่ที่คณะตัวเองซักหน่อยหน่อย นี้มันเป็นที่อื่นสถานที้ซึ่ง รวมสายตานับร้อยที่กำลังจ้องมองมาที่โต๊ะผม เออวะกูลืมเกือบไปแล้วกู

“ผมขอโทษจริงนะครับพี่เมื่อกี้ผมรีบมากเลยไปสะดุดกับอะไรเข้าก็ไม่รู้!! คือผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ ตอนแรกผมก็มีน้ำโหบ้างแหละแต่พอเห็นสีหน้าน้องเขามัน โกรธไม่ลงเลย

“ เฮ้ยไม่เป็นไรอย่าคิดมากพี่ไม่ได้เป็นอะไรซักกนอยแค่เสื้อเลอะเอง”

“ แต่ผม”ไอเด็กนี้ก็ดูจะรุ้สึกผิดเกิ๊น

“ ช่างมันเหอะ รีบอยู่ไม่ใช่หรอ ไปสิ”ผมบอกปัดๆ ให้น้องผ่อนคลายลง

“ ครับยังไงก็ขอโทษอีกครั้งนะครับพี่ “ไอเด็กหน้าหล่อคนนั้นโค้งตัวให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

“ โห ทีกับพวกพวกกูทำอะไรนิดหน่อยนี้ด่าจนไฟแลบแต่พอเป็นผู้ชายเข้าหน่อยแหม่ๆ สองมาตรฐานอิดอก แรดจริงๆนะมึงเนี้ย”

“ ก็น้องเขารู้สึกผิดปะวะแต่พวกมึงอะคนละเวอร์ชั่นเลยสัด”

 โอ้ยเสื้อเลอะแบบนี้แล้วผมจะกล้าเดินเข้าไปสอบได้ไงละเนี้ย ระหว่างที่ผมกำลังนั่งงงฆวย เอ้ยงงงวย ว่าจะกลับบ้านไปเปลี้ยนเสื้อดีมั้ย แต่ดูจากเวลาตอนนี้แล้วกว่าจะมาถึงมอก็คงสายแน่ จะโทรหาไอวินก็ไม่ได้อีกเพราะรายนี้ติดต่อไม่ไดเมาพักใหญ่แล้วครับ แต่จังหวะนั้นเองที่ผมกำลังจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ ก็มีฝ่ามือใหญ่ๆ ตบที่บ่าจนผมต้องหันไปมอง

“ กาย!” ผมตกใจ

“ เจ!” กายเองก็คงไม่แพ้กันแต่ผมว่ากายมันน่าจะมากกว่าเพราะดูจากหน้าแล้วเหมือนมันมีคำถามว่า มึงมาทำอะไรที่ตึกวิศวะห้ะ !!

“ เสื้อมึง ...ไปโดนอะไรมา”

“ อุบัติเหตุนิดหน่อยวะ”

“ใครทำ” กายถามผมเสียงแข็ง

“ ไม่รู้วะเด็กปีหนึ่งมั้งแต่มันขอโทษกูแล้วแหละ”

“ แล้วจะทำยังไงต่อจะกลับบ้านเลยมั้ยเดี้ยวไปส่ง!

“ไม่น่าจะทันวะ เดี้ยวอีกแปปนึงก็เข้าเสอบแล้ว กายทำหน้าคิดๆอยู่ครู่นึงก่อนจะถอดเสื่อชอปที่มันใส่อยู่ยื่นมาใส่ให้ผม

“เอาไปใส่ไว้คนอื้นจะได้ไม่มอง!!” ผมรับมาอย่างปฏิเสธไม่ได้ สวมใส่โดยเสร็จสับโชคดีของผมหน่อยที่วันนี้ใส่เสื้อแขนสั้นมามันเลยดูพอๆเข้ากับตัวผมอยู่บ้าง แต่ไซท์เสื้อของไอคุณชายนี่ห่างไกลจากผมมากครับ หึหึ

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับคณะตัวเองไปได้แล้ว (อย่ามัวมานั่งนิ่งให้ไอพวกเวรนั้นมองอีก)”  ประโยคหลังๆมันกระซิบให้ผมได้ยอนคนเดียว ผมเลยลองมองดูรอบๆก็เจอพวกกลุ่มเด็กวิศวะกำลังจ้องมาที่โตะผมไม่รู้ว่ามันมองใครแต่ถ้าตะให้เดาก็คงไม่พ้นคนนี้นี่แหละ

“เดี้ยวก็กลับแล้ว”จะว่าไปตั้งแต่มานี้ยังไม่ได้ติวอะไรกันเลยซักนิดระหว่างนั้น กายกำลังจะเดินขึ้นตึกไปแต่ผมเรียกรั้งไว้

“กาย!!!!” กายมันหันควับมามองหน้าผมทันที (สู้ๆนะ) ผมพูดโดยไร้เสียงส่งไปให้กายและเหมือนมันจะเข้าใจเลยยิ้มมาให้ผมก่อนจะหันหลังเดินขึ้นตึกไป พอกลับมาถึงที่คณะ ตัวเองตอนนี้เวลาแปดโมงกว่าๆแล้วครับผมนั่งรออาตารย์สมรศรีเข้ามาคุมสอบ แต่ระหว่างนั้นก็มิวายโดนเพื่อนๆ ทั้งห้องมองมาที่ผมอีกเช่นเคยพวกมันคงจะแปลกใจที่อยู่ๆ ผมก็ใส่เสื้อช็อปมาทั้งๆมี้ตัวเองอยู่มนุษย์ศาสตร์

“อิเจ ผู้ชายคนที่ถอดเสื้อให้มึงอะ คือใคร กันวะ หล่อ ลากไส้เลย อิห่า เสียงอิเบนบ่นอู้อี้ข้างๆหูผมหลังจากที่กลับมามันก็เอาแต่ถามผมแบบนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

“ ก็รู้จักกันนิดหน่อย” ขืนบอกไปว่าเป็นแฟน ขึ้นมารับรองดังลั่นมอแน่ครับ

“แต่ดูจากแววตาแล้วกูว่าไม่หน่อยนะ อิดอก เร็วๆ” อิกี้เร่งเร้าให้ผมรีบตอบคำถามของอิเบน

 “อะไร ของพวกมึงไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ โว๊ะ ตั้งใจสอบกันเหอะชิ่วๆ ผมสบัดมือไล่ให้พวกมันสนใจกับ การสอบแทน ระหว่างนั้นเอง

. . . สวัสดีนิสิตทุกคน เสียงอาจารย?ป้าเดินเข้ามาได้เวลามาครับ ทุกคนในห้องหันไปให้ความสนใจอาจารย์ป้า ก่อนจะเข้าสู่โหมดเงียบกริบ กันทั้งคลาส..... หลังจากที่สอบวิชาสุดท้ายกับอาจารย์ป้าสมรศรีเสร็จผมก็เริ่มจะหิวขึ้นมาแล้วเพราะตั้งแต่เช้าก็รีบมายังไม่ได้ได้กินอะไรเลย ผมเดินดุ่มๆมาที่โรงอาหารคนเดียวเหตุเพราะอิสองคนนั้นมันขอตัวไป จดแล็คเชอร์ ก่อนแล้วจะตามมาทีหลังส่วนผมหน่ะหรอ หึหึ ไม่ต้องจดก็สอบได้คร้าบบ!! เปล่าเก่งอะไรนะ(เดาเอาล้วน)  ผมเดินไปสั่งข้าวมันไก่มากินหนึ่งจานพร้อมกับเป็ปซี่หนึ่งแก้วและกำลังจะหามุมดีๆเพื่อนั่งกิน แต่จังหว่ะที่ผมกำลังจะตักข้าวมันไก่เข้าปาก ระหว่างนั้นก็มี สายของไอห่าวินโทรเข้ามาแบบพอดิบพอดี แหม่ เลือกเวลาโทรดีจริงๆ ... ผมกดรับสายพร้อมตักข้าวเช้าปาก

“ อะโอ้!!”

“ ฮัลโหลนั้นใครครับ”

“ อูเอ อะไรใครเป็นเกย์ “ผมค่อยเคี้ยวข้าวกลืนลงคอและตั้งใจคุยกับมันใหม่

“ กูเจไอสัดเกย์พ่อง”

“ กูรู้นานละหล่ะ ฮ่าๆ”

“ โทรมามีอะไรกุแดกข้าวอยู่เนี้ย ขัดจังหว่ะชิบหาย”

“ เออโทดๆ พอดีจะชวนไปกินเหล้า...ฉลองสอบเสร็จกัน”

“ฆวยเหอะ. . ที่อุตส่าห์โทรมาเพราะเรื่องแค่นี้ใช่มั้ยห่ะ เสียเวลา กูไม่ไปอ่ะ จะแดกข้าว . .. “แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบดี วินมันก็ต่อเติมประโยคเดิมเพิ่มขึ้นมา

“คอนโด ไอกาย !!! เท่านั้นแหละครับผมกระแอ่มๆตอบมันไปใหม่”

“ ก็. . เดี๋ยวค่อยไปหากินข้างหน้าก็ได้มั้ง. . ว่าแต่กี่โมงอะ”

“ถรุ้ยยย!!!! ผมรู้สึกถึงเศษน้ำลายเปียกๆที่ลอยมาตามสาย”

“ ทีกุชวนทำยึกยักแต่พอมี ไอกายเข้าหน่อย ทำเนียนนะสัตว์ สรุปมึงกับมันนี้ยังไง เมื่อไหร่จะบอกกูซะที “ ไอวินมันเซ้าซี้ ถามผมอยู่นานสองนาน

“ไม่มีอะไรหรอกน่า” เมื่อความยังไม่แตกก็ต้องแถกันต่อไปครับ

“ สรุปมึงยังจะปากแข็งไม่ยอมบอกกูซักทีใช้มั้ย”

“ ก็.....”เอาจริงๆ เรื่องนี้ผมควรจะถามกายก่อนสำหรับ ผมเองไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะที่จะบอกใครต่อใครว่าผมมีแฟนเป็นใครแต่ไอกายนะสิ ผมเป็นห่วงภาพลักษณ์ของมันมากกว่าตัวผมอีก กลัวคนอื่นจะมองมันไม่ดีผมจึงเลือกที่ตะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย

 “เออๆ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก กูไม่อยากรู้ละแค่นี้ละ” ไม่ต้องบอกก็รู้ครับน้ำเสียงแบบนี้ โกรธผมอยู่แน่ๆ แต่จะให้ผมทำยังไงได้ละผมไม่มีทางเลือกอะไรเลย

“ อยากรู้ ก็ลองไปถามเจ้าตัวเองสิวะ... ผมไม่รู้ว่าวินมันวางสายไปรึยัง แต่พอผมพูดจบประโยคผมก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าต่อเลยจากแรกๆที่หิวกลับเป็นว่าตอนนี้ผมดันกระเดือกอะไรไม่ลงแล้วเสียดายชิบหาย ตกค่ำๆวินมันขับรถมารับผม. ที่ร้าน(ทั้งๆที่ยังโกรธอยู่) และมันก็ไม่ได้คุยกับผมเลยแม้แต่คำเดียว แม้งงอลนานสัด แต่ถ้าเป็นผมผมก็คงจะคิดมากไม่ต่างจากมันหรอกครับ เพราะเพื่อนสำหรับผมมันมีค่ามาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวินมันแทบจะไม่เคยปิดบังความลับอะไรกับผมเลยแต่ถึงมีผมก็สามารถเค้นคำตอบจากมันได้ทุกครั้ง แต่พอเป็นผมผมกลับไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาเลย เพราะเรื่อองนี้มันไม่ใช่เรื่องของผมคน เดียว แต่ดันมีกายเขามาเอี่ยวด้วย กูขอโทษจริงๆ นะไอวิน T-T

 พอมาถึงคอนโดกาย(หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาทั้งวัน) ผมเห็นกายมันโบกมือเรียก ให้ผมกับวินเดินเขาไปหา ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่า จะมีแค่ผมกับไอวินซะอีก แต่ที่ไหนได้ดันมีเพื่อนๆ ของมันเข้ามาแจมด้วย ผมไม่ได้รู้สึกเซ็งที่กายพาเพื่อนๆของมันมาเพราะเพื่อนกายก็เหมือนเพื่อนของผม คนไหนกายรักผมก็รักด้วย  และถ้าว่างๆจิงๆผมก็อาจจะแนะนำเพื่อนๆที่คณะของผมให้มันได้รู้จักกันบ้าง

 ผมลงไปนั่งข้างกาย ทันทีที่ผมนั่งลงมันก็แนะนำชื่อกันโดยที่ผมยังไม่มันจะได้ถามหรือแนะนำตัวเองเลยมันยื่นแก้วเหล้าที้ชงแล้วมาให้ผมก่อนจะส่งยิ้มหวานๆพร้อมกับขยิบตาให้ เลยโดนไอกาย มันโบกกระบาลเขาให้ มันนั่งลูบหัวอย่างปลงๆแต่ก็ยังคงยิ้มอยู่

“ อะๆ ไหนก็มากันครบแล้วก็ขอแนะนำก่อนนะ” อยู่ๆไอกายมันก็พูดขึ้นมาขณะที่ทุกคนกำลังนั่งสนใจกับแกล้มตรงหน้าอยู่ แต่พอมันเริ่มพูดขึ่นการกระทำทุกอย่างก็ถูกหยุดลง

“พวกมึงอาจจะยังไม่รู้จักงั้นกูจะขอแนะนำเลยนะ คนที่นั่งข้างๆกูอยู่ในตอนนี้ คือ....” ยังไม่ทันที่กายพูดจบเพื่อนๆแต่ละคนของมันก็พูดแทรกขึ้นมา

“เจ เจตรินทร์ วงค์วิริยะไพยบูรณ์ ทอปลิสคิ้วบอยในเพจ พวกกูรู้จักน่า”  ไอกายดูเหวอๆไปแต่ผมนี้สิเหวอกว่าก็แม้งดันรู้ชื่อ เสียงเรียฃนามของผมขนาดนี้  จะว่าไปผมเองก็ดังใชเล่นนะเนี้ย  ><

“” กูขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะ” (มันหันมายิ้มให้ผมพร้อมกับเปลี่ยนคำที่ใช่เรียกตัวเองว่ากูแต่เป็นผมแทน. ผมส่งยิ้มแหยะไปให้มัน หึหึ

“ผมชื่อท็อปฟี่น้า. เรียกทอปหรือเฉยๆก็ได้. ถัดมาคือไอหัวทองหน้าฝรั่งข้างๆกันครับ

“เอ่อ กู เอ่อ กูชื่ออะๆไรวะลืม. มันหันไปขอความเห็นจากไอทอป ครับดูจากสภาพแล้ว(เสียงมาดามมด). คงเมาแอ๋แน่ๆ ขนาดจะลืมตามองผมนี้มันต้องเชิดหน้าสูงเพื่อกันคอตกเลยทีเดียว

“เออ กูชื่อ คริส เป็นเพื่อนกับไอนี้ ไอนี่ ๆๆ แล้วก็ไอเหี้ยนี้ มันชี้ไปที่ไอวินไอกายเพื่อนมันตรงข้ามอีดสองคนและมาหยุดเหี้ยที่ไอทอป ผมเองก็แอบขำคิกๆอยู่คนเดียว ไม่กล้าทำเสียงดังเดี้ยว หาว่าไม่สนิทแต่คิดเสือกฮ่าๆ ส่วนอีกสองคนเพื่อนมัน ชื่อ บอส กับเบล ครับ หน้าไทยๆครับแต่แม้งแต่ละคนหล่อชิบหายวายวอดยังกะแก้งรวมพลคนหน้าตาดีมาไว้ด้วยกัน แต่นึงในนั้นคงไม่มีผมแน่ๆ(สำเนียกหนังหน้าตัวเองที่ห่างไกลจากคำว่าหล่อมากครับ) แรกเองก็รู้สึกเกร็งๆ ที่ตะเริ่มตีสนิทขึ้นมึงกูกับพวกมัน แต่พอเหล้าเข้าปากมนุษย์สัมพันธ์ของผมแม้งทำงานดีชิบหาย คุยกันป๋อยังกะรู้จักกันมาสิบยี่สิบปี

“ มึงๆกูว่านี้ก็ได้เวลาอันสมควรแล้วนะ” จู่ๆไอทอปมันก็พูดขึ้นมา

“เวลาอะไรวะ ตามด้วยเสียงของไอคริสครับที่ตอนนี้เริ่มจะส่างๆเมาแล้วเลยคุยกันรู้เรื่องขึ้นมา(นิด)หน่อย

“แหม่นั่งเป็นวงกลมอารมณ์เมาๆแบบนี้มึงคิดว่ากู จะเล่นป็อกเด้งรึไงสัด ไอทอปตอบเพื่อนมันพร้อมทำสีหน้ากวนตีนอย่างสุดขีด
 
“เกมทายใตเว้ย!! อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเมาหรือมุก

“ทายใจๆ เมาแล้วมึงหน่ะ ขนาดไอการที่นั่งเงียบๆ ยังอดบ่นไม่ได้เลยครับ 

“เออๆนั้นแหละเกมนี้เล่นไม่ยาก แต่เดี้ยวนะกุขอหาอุปกรณ์ก่อน อ่านี้ไงกูเจอละ” มันเพ้งเล็กไปที่ขวดเหล้าตรงหน้าและทำท่าจะเทน้ำในขวดนั้นทิ้ง. แต่โชคดีที่เพื่อนๆมันห้ามเอาไว้ก่อน ไอบอสมันเลยหยิบขวดสปายยื่นให้ไอทอปแทน

“ อะๆต่อ กติกามีอยู่ว่า ...เออกูลืมไปวะว่าเจมันพึ่งมาใหม่คงไม่รู้เรื่องส่วนตัวของพวกเราแน่อย่างนั้นมันก็คงจะดูเสียเปรียบไปงั้นเอาใหม้ๆ เปลี้ยนเป็น เกมถามตอบละกัน มีใครมีปัญหาอะไรมั้ย” ทุกคนเงียบไม่มีใครพูดอะไรไม่รู้ว่าเพราะขี้เกลียดเถียงหรือ เพราอะไรกัน

 “เป็นอันว่าตกลงนะ จะเริ่มแล้วนัะ อ้าวหมุน ผมนั่งรุ่นอย่างใจจดใจจ่อว่าใครจะโดนเป็นคนแรก แต่แล้วที่สุดรอบแรกขวดก็ชี้ไปที่ไอกายครับ โป๊ะเช๊ะ ....

“อะกายมึงเป็นคนตอบนะ ส่วนกูจะเป็นคนถามนะ คำถามที้กูจะถามก็คือ. . . .มึง. . กำลังคบใครอยู่รึเปล่าวะ ? ไอคุณชายดูอึ้งๆกับคำถาม และมันก็หันมาขอความคิดเห็นผมสลับกับมองหน้าเพื่อนๆมัน ผมไว้ไหลไม่สนใจและหยิบเหล้าขึ้นมาจิบต่อ

“ ว่ายังไงครับเพื่อนกาย ไม่ตอบแดกเพียวนะสัด 1....2.....”

“มี..มีแล้ว”เสียงกายดูติดขัดมันคงกลัวจะหลุดปาก

“ เกือบๆไปละมึงๆ อะๆมาต่อๆนะอ้าวหมุน ....ผมยังคนลุ้นอีกครั้งว่าคราวนี้มันจะหมุนไปหยุดอยู่ที่ใคร แต่ลึกๆแล้วผมกังวลกับคำถามของพวกมันอยู่เหมือนกัน แต่แม้งเหมือนหวยล็อคเพราะขวดดันไปหยุดที่ไอกายอีกแล้วครับ ไอทอปกำลังจะยกมือขึ้น ถามอีกครั้งแต่เหมือนไอวินจะไวกว่า มันรีบยกมือ ปล้วพูดทันที

“ครั้งนี้ กูขอถาม. . . ไอวินนั่งเงียบอย่างใช่ความคิดครู่นึงก่อนจะเริ่มถามขึ้นมา

“ แฟนของมึง . . . อยู่ที่นี้ด้วยใช่มั้ย!!'” คำถามของไอวินเล่นทำเอาผมกลืนน้ำลายไม่ลงเพราะเหมือนแม้งตั้งใจจะถามคำถามนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว. เพื่อนไอกายแต่ละคนหันหน้ามามองอย่างแปลกๆ เพราะวันนี้คนที่มากฺมีแต่ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น

“เอ่อ..”.จู่ๆ ไอบอสก็พูดขึ้นมาทำลายความเงียบ กูว่านะ เราเปลี่ยนไปเล่นเกมอื้นกันดีมั้ย... ทุกคนเงียบไม่มีใครตอบอะไรไอบอสมัน

“เออ กายถ้ามึงตอบไม่ได้ก็แดกๆไปเถอะ... นาาจะเป็นไอเบลที่นั่งข้างกับไอบอสพูดขึ้นมา แต่แม้งก็เงียบกันอีกตามเคยผมเลยถือโอกาศ ยกมือขึ้นขอเป็นคนกินแทนกายมันเอง พูดจบผมก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มที่มีเกือบเต็มแก้ว กลืนลงไปจนลืมความขมเลย.รู้สึกตัวอีกทีภาพรอบตัวผมแม้งก็มัวไปหมดแล้ว นี้กูเผลอทำอะไรไปวะเนี้ย...

“ ถ้าพวกมึงอยากรู้กูก็จะตอบ.... ผมอยากจะพูดขึ้นสวนให้ไอกายมันเปลี่ยนความมคิดแต่รูัสึกว่าปากแม้งหนักๆไงไม่รู้ พูดไม่ออก
 
“ใช่...คนๆนั้นอยู่ที่นี้ด้วย..... ทุกคนหันไปจ้องหน้าไอกายด้วยท่าทีที่ดูตกใจแบบสุดๆ ใครกันวะ..... เป็นไอทอปที่ถาม

“ คนๆนั้นก็คือ...... “ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องดังขึ้น และนั้นคือภาพและเสียงสุดท้ายที่ผมเห็นและได้ยินก่อนจะหงายท้องนอนลงไปด้วยความมึน....

<Next part .2> TBC. . . .
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :32〗〖10-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-05-2017 11:30:24
 :L2: :pig4:

รออ่านต่อเลย
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :33 Part.2〗〖18-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-05-2017 12:09:55
Falling In Love
 
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง


Chapter33:   ถาม&ตอบ 2/2 (พาทของกาย)


(พาทของกาย)
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูขัดจังหว่ะขึ้น ระหว่างที่ผมกำลังจะเล่าความจริงทุกอย่างให้พวกมันฟัง ไอทอปที่เอาแต่จ้องหน้าผมอย่างใจจดใจจ่อ
ถึงกับทึงหัวตัวเองด้วยความเซ็งก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูเพื่อรับอาหารจีนที่โทรสั่งกันไว้เมื่อ สักพักแล้ว แต่จังหว่ะเดียวกันเจมันก็ล้มกลิ้งหงาย
ลงไปแบบพอดิบพอดีโชคดีหน่อนที่มันอยู่ใกล้ผม เลยรับมันไว้ทันไม่งั้นหัวคงได้ฟาดกับขอบโต๊ะเข้าแน่ๆ ผมจับหน้าเจให้มาอิงไหล่ของผม
พวกเพื่อนที่เหลือมันก็มองผมอย่างเอะใจ

ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ผมไม่เคยกลัวและไม่เคยอายที่จะบอกใครต่อใครว่าผมมีแฟนเป็นใครเพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเจมันจะรูัสึกยังไงถ้าผมบอกออกไป ผมกลัวเจมันจะโกรธ หรือบางที่อาจจะทำทำตัวเมินเฉย แปลกไป. . .. นั้นแหละคือสิ่งที่ผมกลัวที่สุด..
“อะๆ เรื่องเกมชั่งๆแม้งมันเถอะกูเสียอารมณ์ละ มาๆแดกๆ” พวกมันที่เหลืออีกสองคนก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของไอทอป เลยรีบเดินกันไปช่วยหยิบจานมาใส่อาหารที่วางอยู่ตรงหน้า เว้นก็แต่ไอวิน ที่ยังคงจ้องหน้าผมกับเจ ไม่ยอมละสายตา...

“มาแล้ว แดกๆกันซะจะได้ส่างเมา แล้วไอเหี้ยวินนั้นมึงจะจ้องเพื่อนกูอีกนานป่ะสัด เดี๋ยวแม้งก็ท้องกันพอดี”

“. . เหอะไอกายมันก็เพื่อนกูป่าววะ” ไอวินรีบเถียงพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ

“เออกูว่ารีบกินเหอะเดี๋ยวอาหารเย็นหมดแล้วมันไม่อร่อยนะเว้ย” ผมรีบพูดเห็นด้วยกับไอบอสมัน

พวกผมนั่งกินกันไปพักใหญ่ก็เริ่มรู้สึกอพะอืดพะอม สภาพของพวกมันแต่ละคนก็เช่นกันครับใกล้จะลงไปเรื้อนกับพื้นเต็มที่แล้ว แต่ดีหน่อยที่ยังพอมีสติคุยรู้เรื่องกันอยู่บ้าง

“มึงๆ” ไอบอสเอ่ยถามไอเบลที่นั่งอยู่ข้างๆมัน

“ห้ะ หือ. . อือ ว่าไง”

“มึงว่าเจ มันน่ารักป่ะวะ” จบประโยคของไอบอสทำเอาตาผมสว่าง ถึงกับสร่างเมากันเลยทีเดียว . .

“เจไหนกูไม่รู้นะแต่เจเพื่อนของไอกายแม้ง น่าสัด”

“น่าอะไร!!!!”ผมถามเสียงแข็ง จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียงอะไรหรอกครับแต่บางครั้งปากมันก็ไปเอง

“น่าารักไงสัด ไม่รู้กูเมาจาตาลายรึเปล่านะแต่กูเห็นแบบนั้นจริงๆ” พอไอเบลพูดจบไม่ทันไรไอคนข้างตัวผมมันก็สะลึมสะลือ ขึ้น มา ควานหาอะไรก็ไม่รู้

“อื้อ....”ฟังจากเสียงเอื้อนยาวขนาดนี้ผมว่าคงเมาได้ที่แล้ว. ปกติผมไม่ค่อยอยากให้เจมันกินเหล้าหรอกครับ เพราะเวลาเมาละมันชอบไปอ้อน คนอื่นไปทั่วผมเลยกลัวว่าจะมีใครเสียตัว มันเวลาเมาผมเลยสั่งให้มันกินเฉพาะเวลาที่มีผมอยู่ด้วย เท่านั้น ถ้าจะให้มัน เสียตัวกับใครก็ขอให้เป็นผม คนเดียวนี้ คนอื่นอย่าหวัง จะได้เลย
“หาอะไร.”.ผมกระซิบถามคนข้างๆไม่รู้มันจะได้ยินผมมั้ย

“น้ำาาาาาาาาา...น้ำอยู่ไหนนนน เจมันควานหา น้ำไปทั่วจนเกือบจะหยิบเบียร์ขึ้นมาดื่มผมเลยปัดมือมันออกและหยิบแก้วน้ำที่อยู่ใกล้ๆให้แทน”
เจมันกินน้ำอึกสองอึกจนหมดแก้วก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งข้างๆไอวิน วินมันเองก็ดูจะตกใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร. . . .แต่แล้วอยู่ๆ เจมันก็เอื้อมมือไปกอดเอวไอวิน คราวนี้ไอวินหันมามองมันเลยครับ คงจะกลัวว่าเจมันกำลังจะทำอะไรมัน...วิน มันหันมามองผมเหมือนอยากจะขอความช่วยเหลือ. .แต่ผมก็ได้แต่คอยนั่งมองดูการกระทำของเจนิ่งๆ รอดูว่ามันกำลังจะเล่นพิเรนอะไรอีก?

“วินนนน....”

“หือ....” วินมันหน้าเหย่เก และพยายามดันหน้าเจให้ออกห่าง

“กู....ขอโทษ..”

“ขอโทษกู  เรื่องอะไรวะ ?”

“ก็. . . .เรื่องที้กูปิดบังอยู่. . ไง”
“เรื่องมึงกับ....อะนะ” วินมันหันมามองผมแวบนึงและหันไปสนใจเจต่อ

“อือ . ..เรื่องนั้นแหละ ...ถ้ามึงอยากรู้มากนัก. ..กู. .จะบอกให้....”ผมเริ่มเกิดอาการสงสัยไม่ต่างจากไอวินเท่าไหร่ เพียงแต่ตอนนี้ผมกำลังนั่งลุ้นว่าสิ่งที่เจ ปิดบังไอวิน มันคือเรื่องอะไรกันแน่ คงไม่ใช่เรื่องที่เจแอบทำอะไรลับหลังผมหรอกใช่มั้ย ? (ผมคิดมากไปรึเปล่า )

“เรื่องของกูกับกาย..”. ไอบอสไอเบล ที่มัวแต่ก้มเงยๆ เล่นโทรศัพท์ ก็ยังเงยหน้าขึ้นมามองตามประโยคที่เจพูดท้ายๆ

“...กูกับกาย. . . เรา. . . ... สองคนคบกันอยู่” จบคำพูดของเจพื่อนๆทุกคนต่างหันมาจ้องหน้าผมพร้อม กับ เครื่องหมายคำถามมากมายที่ติดอยู่บนหน้าของพวกมัน

“กูอยากบอกมึงมา. . ตั้งนานแล้ว ฮึก.... . . แต่กูกลัวว่า คนอื่นจะมองมันไม่ดี. .. . .. รูปหล่อ พ่อรวย แม้งโคตรเพอเฟค สาวๆคนไหนก็อยากจะได้มัน อยู่ๆ มาได้กับผู้ชาย เป็นมึงไม่ตกใจอ่อว้า.”  จบคำพูดของเจทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบยังกับเป่าสาก ไอวินที่นั่ง ฟังใกล้ๆ ยังอ้าปากค้างส่วนไอเพื่อนผมสองตัวนั้น ตอนนี้ มัน เอามือตบหน้าตัวเองเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่พึ่งได้ยิน. .

“แต่ลึกๆ..ฮึก...แล้ว. . .กูก็กลัว. . กลัว. .กายมันอายคนอื่นวะ !” รอยยิ้มที่เคยเปื้อนหน้าผมถูกหยุดลงเมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของเจ. . ผมอยากบอกเจให้ได้ยินชัดๆเลยว่าผมไม่เคยอายเลยสักครั้งที่ได้มันมาเป็นแฟนแต่ในทางกลับกัน . . .เจมันกับคิดต่างออกไปคนละทาง

“กูคิดไว้ละ”เสียงของไอวินดังขึ้นทำลายความเงียบภายในห้อง

“แล้วทำไมมึงถึงมาบอกกูเอาป่านนี้”
“ก็เพราะมีแค่กู......อยู่กับมึง...แค่....สองคนไง..ถ้ามีคนอื่นเยอะแยะกูไม่กล้าบอกหรอก กู อาย. . .แต่ไหนๆ มึงก็รู้แล้ว. . กูขออะไรอย่างนะวิน. .มึง.  ..อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครนะเว้ย โดยเฉพาะไอกาย. . มึงห้าม..ฮึก. . .บอกมันเด็ดขาด!! “เจมันจะรู้ตัวมั้ยว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่มันกับวินสองคนในห้องยังมีผมไอบอสกับไอเบลอีกที่ได้ยิน ไอบอสทำท่าทางหัวเสียเหมือนมันเป็นบ้าไรสักอย่างส่วนไอวินตอนนี้นั่งยิ้มแกล้มปริแล้วครับ ผมละงงกับอารมณ์พวกมันที่เปลี่ยนไวกันซะผมตามไม่ทัน . . . หลังจากที่ไอวินมันนั้งยิ้มปนขำอะไรของมันคนเดียว จนพอใจมันก็หันไปบอกเพื่อนมัน วินมันบอกกับพวกผมหลังไมค์ว่ามันก็แค่แกล้งทำขรึมไปงั้นแหละเพราะรู้ว่ายังไงมันก็ต้องบอกความจริง แต่เจ้าตัวรายนั้นหลังจากที่สารภาพ ความ(ที่เกือบ)ลับ ก็หลับไปตั้งแต่พูดจบแล้วครับมีแอบกรนด้วยแถมยังกอดกับผู้ชายคนอื่นต่อกน้าต่อตาผมเลย

ไอวินมันหันมา ยิ้มให้ผมก่อนจะคุยอย่างไร้เสียง ว่า

(มาเอาเด็กมึงไป)

ผมเลยเดินเกาท้ายทอยไปแกะมือมันออกมาจากเอวไอวินเหนียวชิบ
ไอเบลที่นั่งนิ่งอยู่นานก็ส่งสายตาเหมือนอาไรอาวอน ส่วนไอบอสรายนั้นนั่งจ้องเงินในกระเป๋าแบบ จิตตกมากครับ

. . . . . . . .
เวลาเที่ยงคืนกว่าๆเพื่อนของผมแต่ละคนนอนสลบเหมือดอยู่กลางห้องนั่งเล่นกันหมดแล้ว ตอนแรกพวกมันค้านว่าจะกลับไปนอนบ้านกันแต่ผมห้ามไว้ทัน ขืนออกทั้งๆ ที่สภาพแบบนี้รับรองว่าพ่อ(ตำรวจ)พาไปฮ่องกงแน่ครับ หึหึ

ส่วนผมกับเจเรานอนอยู่ในห้องเปิดแแอร์เย็นกำลังพอดี แต่ด้วยเตียงที่กว้างขว้างเลยทำให้ผมรู้สึกหนาวแปลกๆเจมันก็เหมือนจะรู้งาน (เมาแล้วละเมอ) เข้ามาซุกผมเกาะซะแน่นเลยผมก็กอดเจตอบลูบเส้นผมนิ่มๆหอมๆของเจจนผมผล้อยหลับไป

ตื่นเช้ามาจากที่เจมันนอนกอดผมตอนนี้กลายเป็นว่ามันขึ้นมาคล่อมผมซะแล้วครับ
เจมันค่อยๆขยับตัว ลืมตาขึ้นมามองผมที่มองหน้ามันอยู่ก่อนแล้ว ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี (ผีบ้าอะไรจะหล่อขนาดนี้ หึหึ) (ไม่ค่อยจะอวยตัวเองเลยอะแกร์แต่เห็น หล่อจริงพี่ให้อภัย ^ ^ หุหุ)

เจมันหันซ้ายหันขวามองดูบรรกาศและกำลังนั่งคิดทบทวนว่าเมื่อคืนเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แล้วไม่นานเจมันก็ทำหน้าบึ้งเพราะพึ่งสังเกตุว่าตัวมันเองไม่มีเสื้อคลุมส่วนบน อยู่เลย. แต่ที่ไม่มีไม่ใช่ว่าเพราะเกิดกิจกรรมอะไรขึ้นเมื่อคืนหรอกนะครับแต่เพราะเจมันอ้วกต่างหาก ทั้งเสื้อผมและเสื้อมันก็เลยเลอะไปด้วย เราสองคนเลยต้องนอนกอดกันแบบเนื้อแนบเนื้อตลอดคืน

“เลว!!” จู่ๆเจก็เลิกหันซ้ายขวา แล้วมา ด่าผม หน้ามันตอน โมโห ตลกมากครับ ผมแอบยิ้มมัมปากทุกครั้งที่เจมันอ้าปากด้า จนมันเกือบจะขว้างแก้วน้ำตรงโคมไฟใส่ผม ข้อหาขำไม่รู้เวลาล้ำเวลา

“ใครเลว.” ผมแกล้งๆ หยอกถามมันทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามันวีนด้วยเรื่องอะไร ก็คนมันน่าแกล้งนิครับ

“มึงไง เลวฉวยโอกาส ”เจมันทำหน้าบึ้ง และสายตาก็พยายามมองหาเสื้อของมันอยู่โดยรอบ

“ก็เมื่อวานมึงอ้อนกูซะขนาดนั้นใครมันจะอดใจไหวละหืมม ”
“ขำห่าอะไรของมึงเนี้ย แล้วเมื่อคืน...มึง..เอ่ออ..กี่รอบวะ..”มันทำน่าเขินๆตอนถามผมว่ากี่รอบ
“สัก..สองสามรอบมั้ง ฮ่าๆๆๆ”ผมเองก็ใช่เล่นนะครับยิ่งเห็นเจมันทำท่าลนลานนี้ยิ่งทำใหญ่
“พอเลยสัดไม่ต้องขำ กูก็แค่เมานะอย่าเข้าใจผิดแล้วกูก็ไม่ได้อ่อยมึงด้วย กูแค่. . . .ขาดสติเฉยๆ” พูดจบมันก็ลุกขึ้นควานหาเสื้อที่อยู่รอบเตียงแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

“เสื้อกูอยู่ไหนเล่า!!!”จู่ๆ เจมันก็โวยวายหน้าดำหน้าแดง ผมไม่ได้แต่ตอบอะไรเจนอกจากนอนขำการกระทำของมัน. โมโหกลบเกลื่อนกลบความเขินนี้แหละครับ แฟนของผม. .

หลังจากที่ผ่านเรื่องวันนั้นมาตอนนี้ก็ผ่านมาได้หลายวันแล้ว เจ ยัง คง ผมกับเจเราสองนยัง มา ที่มอด้วยกันปกติ วันนี้ เป็นวันสอบวันสุดท้าย ผมเลยได้เจอ หน้าเจเพียงตอนเช้า เท่านั้น ส่วนเวลาที่เหลือก็ต้องเสียไปกับการอ่านจดจำ สูตรแคลคูลัส และอื่นๆ อีกเยอะแยะไปหมด . . . ผมเป้นคนที่ความจำดี แต่บางครั้งความจำผมจะสั้น เมื่ออยู่ใกล้ๆ กับเจ หลายครั้งที่ เจ มันต้องคอยเตือน ผม ว่าต้องทำอะไรยังไง เพราะผมจะเหม่อ แต่ไม่ได้เหม่อคิดเรื่องอะไรอื่นนะครับ ผมเพียงแต่จดจ้องใบหน้าคนตรงหน้าเหมือนต้องมนต์สะกด จน เวลาเลื่อนลอยไปรวดเร็ว กว่าจะรู้สึกตัวอีกที่ก็มีนิ้วมือเล็กๆ ของคนตรงหน้าดีดหน้าผากผมเรียก สติ ไม่นับรวมครั้งนี้
ป๊าป เสียงฝ่ามือของเชี้ยตัวไหนสักตัวตบกระบาลผมจนหน้าเกือบจะลงไปจูบกับโต๊ะ ผมมองหาพิกัดที่มันลอยมาและก็พบพวกเชี้ยทั้งสามครับ ไอวิน ไอบอส และไอเบล พวกมันสามตัวยืนยิ้ม แฉ่ง โชวฟันครบสามสิบสอง จะเว้นก็แต่ไอเบลครับที่มีแค่ สามสิบ เพราะมันพึ่งไปจัดฟันมา ฟันข้างๆมันเลยหลอ เหลือ แค่สามสิบ หึหึ

“แหม่ๆ มีเหม่อลอยเว้ยเพื่อนกู ตั้งแต่มีแฟน เป็นมนุษย์ นี่ อารมณ์ดีเชียวนะมึง เชี่ยกาย ฮ่าๆ”  เสียงบ่นแซวๆของไอบอสลอยเข้าหูทันที่ที่มัน ทิ้งตัวลงมานั่งโอบไหล่ผมและตามมาด้วยไอเชี่ยอีกสองตัว

“แล้วมึงจะให้ไอกายมันได้กับแมวรึไงไอบอส หือ ?”ไอเบลมันทำหน้าโง่ๆ มองไปที่ไอบอส มันคงจะยังไม่เก็ทกับสิ่งที่ไอบอสพูดเมื่อครู่
“กูหมายถึง แฟนมันที่เป็นเด็ก มนุษย์ศาสตร์ต่างหากละเว้ย  ฮ่าๆ ” ทั้งไอบอสและไอเบลต่างพากันขำแซวผมยับ ส่วนไอวินนี้นั่งนิ่งมาซักพักแล้วครับ ไอนี้ ไม่รู้มันเคืองอะไรใครมาอีก

หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :33 Part.2〗〖18-05-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-05-2017 12:13:34
“แรกๆ กูก็เห็นทะเลาะกันจะปางตาย เคยมีครั้งนึงนะเว้ย เจมันโทรมาหากูบอกให้กูไปช่วยไปพามันกลับบ้านที่ มันบอกมึงกักขัง
หน่วงเหนี่ยวมันไว้ที่คอนโด ไอกูก็นึกว่ามันพูดเล่น . .เออว่าแต่. . เชี่ยกาย มึง ทำอะไรเพื่อนกูมั้งวะ. . .มึงกับเจ. . เอออ.  ..ได้กันยังวะ. .”เสียงพูดติดขำของไอวินจากที่นั่งนิ่งๆ มานาน (คงกำลังนึกถึงเรื่องที่ผ่านมานานมากแล้ว) มันก็เลื่อนหน้า เหี้ยๆ ของมันเข้ามาใกล้จนเกือบจะจูบกันอยู่แล้ว


“ไม่ได้ทำห่าอะไรทั้งนั้นแหละคนนี้. . กู. . .อยากทะนุถนอมเขาเว้ย . . พวกมึงไม่เข้าใจกูหรอก”

“ถรุ้ย”ไอวิน

“ถรุ้ยสัด/ถรุ้ย ๆ!!!!” ไอบอสกับไอเบล  ผมเอียงตัวหลับ พวกมันแทบไม่ทัน

“รอให้กาออกลูกเป็นไก่ก่อนเหอะค่อยมาหลอกพวกกู ไอกาย มึงพูดได้ไงว่าทะนุถนอมเพื่อนกู  รอยแดงๆ ที่คอ ไอเชี่ยเจ ตอนนั้น มึงยังไม่ลืมใช่มั้ย ครับ ไอคุณชาย” ผมได้แต่ยิ้มแหยะๆ พูดไม่ออกแล้วสิผมหน่ะ ขืนพูดไปมากกว่านี้เดี๋ยวความลับจะรั่ว เอา และในเวลา ไล่เลี่ยกัน โอนโฟนหกพลัส ของผมก็ดังแผดเสียง อยู่ตรงหน้า ไอพวกเพื่อนๆสามตัวผมนี้กรู่เข้ามามองชื่อคนโทรแทบจะทันที พอรู้ว่าคนที่โทรมา คือใครพวกมันก็ยิ้มกรุ่มกริ่ม มองหน้ากัน และ พยักหน้า เป้นเชิง บอกให้ผม รับ สิ  ผมถึงกดรับ

“ครับ” ผมอยากแกล้งๆ ให้ไอพวกข้างๆ มัน ทะลนทุลายเล่น เลยแกล้งๆ หวานกับ เขาหน่อย

“แดกชีทจนมึนรึไงมึงหน่ะ แล้วนี้อยู่ไหน . . สอบเสร็จรึยัง”

“ยังเลยครับที่รัก. . พอดีเขามีสอบบ่ายอะ กำลังนั่งอ่านอยู่เลยเนี้ย”

“เออๆ งั้นกูวางดีกว่า เดี๋ยวมึงเสียสมาธิ. .”

“เห้ยๆ ไม่เป็นไรๆ กำลังว่าจะออกไปหาอะไรกินพอดีคุยได้. . ” น้ำเสียงไปสายเงียบไป. จนผมคิดว่าสายหลุดไปแล้ว

“เจ เจ !!” ผมพูดเสียงดังติดตะโกน แต่ปลายสายมีน้ำเสียงตะกุกตะกักตอนตอบผม

“เอ่อ. .กาย อีกนาน มั้ย อะ กว่าจะออกมา จากตึกอะ. . .”

“หืม..มีอะไรรึเปล่า . . ”

“กูไม่กล้าเข้าไป.  .”เข้าไป ? ไปไหน ? อะไรยังไง?

“จะไปไหนให้ไปรับรึเปล่า?”

“ไม่ต้องมารับอะ แค่เดินออกมาก็พอ ”

“จะให้ไปหาที่คณะหรอครับ ?”

ฮิ้ววววววว!! เสียงสัมพเวสีรอบข้างส่งเสียงแซวผมกันให้แซด

“ออกจากคณะมึงเนี้ย กูยืนอยู่หน้าตึก เห็นไอวินเลยไม่อยากเข้าไป. . ” สายตาของผมกำลัง สำรวจโดยรอบ และไปหยุดกับคนที่ยืนโบกไม้โบกมืออยู่ตรงต้นไม้ข้างๆ ตึก

“ผมวางโทรศัพท์ไว้กับโต๊ะและรีบเดินจนเกือบๆ จะวิ่ง ส่วนพวกไอวินนี้มันชะเง้อมองตามตั้งแต่ผมโก่งคอมอง หาอะไรสักอย่างแล้ว และ ไม่รู้ทำไมแค่ เจอหน้าเจ ใบหน้าของผมก็แปดเปื้อนไปด้วยรอบยิ้ม จนซ่อนไว้ไม่อยู่ . . .


“ไง.ครับ” ผมทักทายใบหน้าหวานๆตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ที่เก็บไว้ไม่อยู่ส่วน คนตรงหน้าของผมก็ได้แต่ ก้มหน้า ก้มตา มองที่พื้น ไม่รู้ว่ากำลังมองหาอะไรอยู่ แต่ทั้งหน้าและหูแดงๆ ก็น่าจะพอเป็นคำตอบสำหรับผมได้ครับ

“อะไรเขาสิงมึงให้พูดแบบนี้ห้ะ. .ไอคุณชาย”เจมันเงยหน้ามองผมแวปนึงแล้วก็ก้มลงไปมองพื้นต่อ

“ไมมีอะไรสิงหรอก แค่อยากพูดเพราะๆ กับแฟน ไม่ได้หรอ ?”

“ถ้า. . อยู่ในห้อง. . มึงเสร็จกูแล้วกาย. .”ผมไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ว่าสิ่งที่พพึ่งจะได้ยิน มันมาจากปากของเจ หรือเพราะผมยังแฮ้งค้างรึเปล่า ผมเองเริ่มไม่แน่ใจกับสติของตัวเองแล้ว


“ตรงนี้ก็เสร็จได้นะ ฮ่าๆ”ผมแกล้งยิ้มๆ หยอกๆ เจไป หมู่นี้รู้สึกเจมันทำตัวน่ารักกับผมแปลกๆ จนบางทีมันอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

“พอๆ ไอสัดเลิกหยอดกูซักทีแล้ว นี้ มึงว่างแล้วใช่ปะ. . ”

“ก็ว่างสิถึงได้เดินออกมาเนี้ย แล้วนี้กินอะไรรึยัง ? ”

“ยังเลยหว่ะ ก็ว่าจะมาชวนไปกินด้วยกันนี้แหละ” เห็นมั้ยละผมบอกพวกคุณๆ แล้วว่าช่วงนี้เจมันชอบทำตัวน่ารักกับผมตลอด แต่พอเจมมันมาโหมดนี้เหมือนผมเองก็พ้างเหมือน กันและกลัวมันจะได้ใจ เลยแกล้งขรึมๆ กลบเกลื่อนไป

“ อืม แต่ไม่รู้สิ ตอนนี้ ยัง ไม่ค่อยอยากออกไปไหนไกลๆ เลย ไว่ค่อยมาถามใหม่ละกัน” โป๊ะเชะครับ เจมันรีบเงยหน้าขึ้นมามามองผมตาขวางเลย คงไม่คิดมั้งว่า ผมจะตอบมันไปแบบนั้น

“เล่นตัวนักสัด ไม่ไปก็ไม่ต้องไป กูกลับละ ” เจมันกำลังจะเดินหันหลังหนีแต่ผมรั้งมือไว้ทัน

“โอ๋ๆ ล้อเล่นหน่ะ ล้อเล่น ทำไมถึงขี้น้อยใจแบบนั้นละครับ หืม ”จากจับมือผมเริ่มดึงเจเข้ามาใกล้จนเกือบจะยืนกอดกันอยู่หน้าคณะ สายตาของผู้คนที่เดินไปมาเริ่มอยู่ไม่สุก สาวๆ บางคนที่เดินผ่านก็มองตาม จนจนพวกเธอเดินไปสะดุดกับอะไรเข้า ส่วนบาง คนก็มอง ผมแล้วยิ้มๆ  เหมือนกำลังชื่นชมอะไรกันอยู่


“กาย ปล่อย ห่า มึงช่วยอายบ้างอะไรบ้าง นี้หน้า คณะนะ ไม่ใช่ในห้อง ” เจมันพยายามดิ้น อยู่นานจนผม ยอมปล่อยมือ ออกจากแขนของเจ

“แล้วสรุปอยากกินร้านไหน. . ”

“ตอนแรกก็ว่าจะชวนไปกิน หลังมอนี้แหละ แต่มึงกวนตีน กูเปลี่ยนใจและ”

“โอ๋ๆไม่งอลนะคนดี ปะๆ ไปกินข้าวกัน   . . .” เจมันยิ้มเขิลๆ เดินนำผมไปไกลลิ่ว สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้ก็แค่เดิน ตาม หลังแฟน โดยมีสายตา ของไอพวกเชี่ยสามตัวนั้น มองแล้ว ยิ้มอย่างมีเลศนัย


ผมมาส่งเจที่ร้านข้าวหลังมอตามที่ เจต้องการ วันนี้ บรรยากาศวันนี้ อากาศร้อน คนเยอะ ยังกับมด ผมกับเจเราเดินแทรกผ่านฝูงจน เพื่อไปต่อคิว ซื้อ ข้าวมานั่งกินกันระหว่างที่รอ เจมันก็ต้องคอยหลบผู้คนที่พยายามจะเดินเบียด (ไม่รู้ว่าจงใจรึเปล่า) จนผมเองต้องดึงเจมาไว้ข้างตัวเพื่อให้มัน ยืนได้สะดวกๆ

หลังจากที่ทานข้าวอะไรกันเสร็จแล้วผมก็ขับรถมาส่งเจที่คณะ แอบได้เห็นสาวๆ สองคน (ไม่รู้ว่าคนเดียวรึเปล่า) เพราะอีกคนที่ใส่กระโปรงพีทยาวถึงน่องทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจ พวกเธอสองคนนั้น หันมายิ้มๆ ให้ผม ก่อนจะเดินมาพา เจวิ่งเข้าคณะไป และก่อนที่เจ จะลับหายเข้าไปในตึก เจมันก็หัน หลังมา ชูกำปั้นข้างนึงยกขึ้นเหนือหัว. . .  และเลื่อนมาจูบไว้ครู่นึ่ง ก่อนที่กำปั้นนั้นจะแปลเปลี่ยนเป็นสามนิ้ว ที่มีแค่ นิ้ว โป้ง นิ้วชี้ และนิ้วก้อย ^^  เจมันยิ้มเขิลๆ ตอน ทำจนไม่นานสาวๆ สองคนเมื่อกี้ก็มาลากเจมันกลับเข้าไปในคณะ

ผมขับรถยิ้มมาตลอดทาง เมื่อนึกถึงภาพที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อครู่ ผมไม่รุ้ว่า เจมันไปเล่าเรียนไอวิชามุขเสี่ยวๆ นี้มาจากใคร แต่ผมอยากจะปาวประกาศ บอกให้คนรู้ทั่วกับทั่วกันเลยว่า ผมโคตรเขิล (ปกติผมก็เขิลมันตอนที่ทำตัวหน้ารักอยู่แล้ว) แต่พอมาเจอเจทำตัวในวันนี้ทำให้ผมรู้เลยว่า จริงๆ แล้ว ผมเขิล เจอยู่ตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่ผม(เก็กขรึม) ก็ยังเขิล และผม ก็คงได้แต่ บอกและตอกย้ำถามกับตัวเองว่า

หากวันนี้ ผม ไม่มีเจ ช่วงเวลาของผมในตอนนี้ มัน จะมีความสุข มั้ย ? ผมจะยิ้มได้เหมือนที่ตัวเองกำลังยิ้มอย่างกับคนบ้าแบบนี้รึเปล่า และคำตอบที่ผมพยายามหาให้กับตัวเองก็คงจะสรุปเป็นคำพูดได้ว่า ความสุขของผมก็คือ

เจ ....

From Guy ♥


#KuntaeO  :z1:



หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :34 〗〖04-06-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 04-06-2017 02:33:26
Falling In Love
 
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง


Chapter :34 รอ


ตั้งแต่วันที่ผมเมาแอ๋ แล้วดันไปนอนตอแหลให้ไอห่ากายมันแทะโลมตอนนี้ก็ผ่านหนึ่งวันเต็มๆแล้วครับจะว่าไงดี ไอผมที่เป็นคนเมาคือถ้าใครตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วสังเกตุ ว่าตัวคุณเองมีบางส่วนที่อยู่ไม่ครบ(เสื้อผ้า)เป็นคุณๆจะคิดกันรึเปล่า จำได้เลยวันนั้นผมนั่งด่านอนด่ากายมันจนหน้าแหก แต่ก็ดันหน้าแตกเพราะที่โวยวายไป มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิดเลย กายมันอธิบายแบบลูกคุณหนู คือนั่งจิบกาแฟทีละจึ๋งนึงแล้วก็นั่งเว่าเอ้ยนั่งเล่ายาวจนผมร้องอ๋ อไปถึงบางอ้อ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองชามากชาจนพูดอะไรไม่ออก ก็คนมันอายนิ ครับด่าเขาไปดิบดีสุดท้ายหน้าแตกยับแถมไม่มีหมอที่โรงบาลไหนรับเยฺบด้วยๆโหะๆชีวิตไอเจคนนี้เลยต้องแบกเศษหน้าที่แตกเกลื่อนกระจายอยู่ทุกอนูภายในห้องเก็บใส่ถุงแล้วเอามาติดกาวต่อเข้าหน้าใหม่ที่บ้านแทน


วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผมแล้วครับพี่น้องคณะอื่นจะเป็นยังไงผมก็ไม่สามารถทราบได้ เพราะตอนนี้ผมแทบจะสลบคาหนังสือที่พวกเพื่อนๆมันสรรหากันมาให้อ่านก่อนเข้าสอบในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า...


ส่วนสองสาวเพื่อนสนิทของผมตอนนี้มันลาทางโลก(เข้าสู้ยมบาล)แล้วครับมันโบกมือเซกู๊ดบายให้กับหนุ่มๆหน้ามนต์ที่เดินผ่านไปผ่านมา เหมือนพวกเด็กเนริด์ที่ตั้งใจเรียนไม่ยุ่งสิ่งอื่นใด(แต่มีแอบเหล่ อยู่บ่อยๆ) ไอผมก็ตาดีไปเห็นไงจังหว่ะเดียวกับที่อิกี้มันขยิบตาให้น้องผู้ชายตัวเล็กๆในคณะผม แล้วน้องมันก็คงกลัวอะครับทำหน้าตะตื่นวิ่งโลดออกนอกคณะไม่กล้าเดินกลับมาอีกเลย ผมละสงสารน้องมันจริงๆ


"นี่อิเจ มึงว่าคราวนี้ลุงนพแกจะออกตรงกับที่บอกปะวะ"แม่นางเบนผู้ทรงศีลเอียงคอมาถามผมที่นั่งใกล้ๆพอเห็นมันโหมดตั้งใจเรียนแล้วดูทะแม้งๆยังไงไม่รู้ (ลุงนพคือมนุษย์อาจารย์อีกคนที่พวกผมเรียกแทนชื่อจริง)


"ก็คงออกตามที่บอกแหละกูว่าไม่งั้นสอบเสร็จคงมีก่อม็อบประท้วงกันอะ"ที่ต้องพูดอย่างนี้ เพราะลุงแกเป็นคนที่เคี้ยวเข็นเรื่องคะแนนมากครับจำได้ว่า เมื่อเทอมที่แล้วตอนเรียนกับลุงนพ แล้วผมมาสายประมาณสามรอบลุงแกเกือบจะไม่ให้ผมเข้าห้องสอบแถมทำตาดุๆใส่ผมอีกโชคดีหน่อยที่ลุงเขายังมีเมตตากรุณาต่อสัตว์(เดี้ยวๆ)อย่างผมให้เข้าห้องสอบ ไอตอนแรกผมก็ดีใจอยู่หรอกแต่พอสอบเสร็จเท่านั้นแหละครับ อยากจะพ่นไฟออกจากปากเผาคนทั้งห้องใหเไหมเกรียมเพราะลุงแกบอกให้ผมเขียน จดหมาย สำนึกผิดเรื่องการมาเรียนสายส่งลุงแกตั้ง ร้อยฉบับแถมให้ส่งภายในวันนั้นด้วย กว่าจะ บรรจงเขียนลวดลายให้สวยสดได้แต่ละตัวเลือดตาผมกระเด็นออกจากเบ้าตา หึหึ


และแล้วตอนนี้ก็ได้เวลาอันเป็นมงคล ที่ผมจะพาน้องหมองเข้าห้องสอบไปด้วยกันหลังจากที่หลายๆครั้งน้องจะนั่งอยู่หน้าห้องแล้วปล่อยให้ (ควาย) อย่างผมเดินเข้าโง่ๆ ไปคนเดียว




เวลาผ่านไปไวยังกับโกหก
.......การสอบผ่านไปอย่างง่ายดายคงเพราะบทกวีอันไพรเราะสเนาะหูที่ลุงนพพร่ำบ่นพร่ำสอนพวกผมอยู่ตลอดตอนนี้นิมิตถึงที่หมายแล้วครับ ฮือๆ (น้ำตาจิไหล)


ผมเดินอินดี้ ออกมาหน้าหัองหลังจากถูกปล่อยตัวจากผู้คุมขังสุดโหด จากเดินๆจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง ตอนนี้ผมก็โผล่(เสนอหน้า)มายืนอยู่ที่ตึกวิศวะที่อยู่ห่างไกลลิบลิ้ว ไอตึกผมน่ะเล็กเท่ารูหอยแต่จะให้ผมสาถยายให้ฟังเกี่ยวกับตึกวิศวะมั้ยครับว่ามันใหญ่โตมโหฬาร บานตะไทขนาดไหน คงไม่ต้อง บอกก็น่าจะรู้นะครับ ว่าวิศวะนั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน T-T

 


ผมมาหยุดอยู่ที่หน้าทางเดิน คณะวิศวะตอนนี้ผู้คเริ่ม แห่กันออกมาหลังจากที้ผ่านวิชาช่วงเช้าไป ตอนนี้เวลาเกือบๆเที่ยงผมรู้สึกๆตะหงิดๆ คิดถึง มันแปลกๆก็เลยต้องเดินตอแหลมาหามันถึงหน้าขณะ (เหตุเพราะผมไม่มีรถนั้นเอง)


ผมยืนฟังเสียงเรียกเข้าอยู่ประมาณสองสามวิ นึกแล้วก็น่าขำนะครับ ปกติคนเป็นแฟนกันเขาต้องตั้งเสียงรอสายที่มันบ่งบอกความรู้สึกต่างๆหรืออารมณ์ทีีกำลังเป็นอยู่แต่เชี่ยกายนี้สิครับตั้งเพลงพี่ปู พงษิต
โรงเรียนของหนูเป็นเสียงรอสายผมนี้ขำกร้ากเลย..
โรงเรียนของหนู อยู่ไกล ไก๊ ไกล กร้าก จี้วะ

ตื้ดด!! ปลายสายกดรับผมรีบกั๊กเสียงหัวเราะและเก็กเสียงขรึมๆคุยกับมันนิดนึง แต่ผมเริ่มเอ๊ะใจแปลกๆ เพราะวันนี้คุณหนูมันมาแปลก พูดจาซะหวานเลี่ยนถมยังหาช่องโหว่คอยหยอดผมอยู่ตลอดขนาดตอนไปกินข้าวที่หลังมอมันยังจับมือผมควงโชวคนอื่นเลยเอ่อ คุณๆก็ลองคิดดู ไม่ด้านจริงทำไม่ได้นะครับ แต่คนที่หน้าจะอายมันควรเป็นผมนะไม่ใช่มัน พอมีคนมองเยอะๆเข้าหน่อยมันก็รู้สึกประหม่าแปลกๆ อะครับ 




หลังทานข้าวเที่ยงเสร็จกายมันก็กลับมารอสอบที่คณะแต่มันเลือกมาส่งผมก่อนจะขับหายลิ่วไปในกลีบเมฆแต่ก่อนมันไปผมก็แอบทำเสี่ยวกับมันเหมือนกันนะ ตอนทำหน่ะไม่อาย แต่จะมาเริ่มๆรู้สึกตัวก็ตอนมันผ่านไปพักใหญ่ๆ


ช่วงเวลาเกือบๆสี่โมงเย็นไอวินมันโทรมาหาผมบอกว่าจะมารับแต่ผมก็ปฏิเสธมันไปเพราะกายส่งแมสเสทมาบอกว่าจะมารับผม ก่อนจะวางสายมันยังแอบผิวปากแซวผมไม่รู้แซวเรื่องอะไร แถมยังมีแอบถามเรื่องเกี่ยวกับคนในคณะของผมอีก มันมาแปลก แต่ผมก็ไม่ค่อยได้สนใจมันมากหรอก ครับเดี้ยวมันจะได้ใจคิดว่าผมคล้อยตามไปกับมุขมัน


เวลาห้าโมงกว่าๆผมรอกายอยู่ที่คณะ ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มลดน้อยลง จนตอนนี้หกโมงกว่า ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีเหลืองๆอมส้มกลายเป็นสีคล้ำดำมืดจนเกือบสนิทผมก็ยังคง จดจ่อกับการนั่งคอย. หลายครั้งที่ผมแอบตบยุงที่บินมาเกาะอยู่ตามต้นแขน และหลายครั้งที่ผมต้องลุกขึ้นยืนเดินไปมาเพือไม่ให้เหน็บกิน


เวลาทุ่มกว่า ผมก้มมองดูนาฬิกาทีาข้อมือ พร้อมกับคำถามเล็กๆน้อยๆที่ผุดขึ้นในใจ แต่ไม่เป็นไร กายอาจจะมีธุระด่วน ผมต้องมีเหตุผล อย่าด่วนสรุปคิดอะไรไปเอง เดี๋ยวเกิดเข้าใจผิดอะไรขึ้นมาอีก จะเป็นเรื่องเอา


สองทุ่มแล้วบรรยากาศรอบตัวเริ่มแปรเปลี่ยน จากที่มีแสงไฟดวงน้อยใหญ่จากตึกใกล้เคียงคอยส่องสว่างตอนนี้กลับมีเพียงจุดที่ผมนั่งเท่านั้นที่ยังคงเปิดไฟไว้ ลุงยามที่เดินตรวจ บริเวณตึกก็หันมาส่ง สายตาดุๆ ใส่ผมก่อนจะเดินไป ที่อื่นต่อ


สามทุ่มสี่สิบ ผมยังคงนั่งคอยอย่างไม่สบอารมณ์ ใจที่เคยนิ่งและมั่นคงของผมในตอนนี้เริ่มสั่นไหว มือเล็กๆของผมที่เคยผ่อนคลายแต่ตอนนี้กับตึงเกร็งเพราะเผลอกำหมัดแน่น ผมไม่ได้โกรธ ไม่ได้โมโหเพียงแค่ผมอยากรู้ ว่าทำไมกายถึงยังไม่มา


เวลาสี่ทุ่มกว่า ผมเริ่มถอดใจที่จะรอ เลยตัดสินใจเดินออกจากคณะ ไปยืนรอแท็กซี่อยู่หน้ามอ อย่างหัวเสียเหตุผลที่เคยมีเริ่มจางหายไปจากหัวผม ตอนนี้เหลือเพียงเครื่องหมายคำถามเควชชั่นมาคร์อันใหญ่ๆแปะ อยู่ที่หน้าผากผม คือถ้าไม่มารับแล้วบอกเหตุผลหรือส่งแมทเสทมาบอกอะไรสักอย่างก็ยังดี แต่นี้มันกลับเงียบและปล่อยให้ผมนั่งรออยู่ที่คณะห้าหกชั่วโมงทำไม


กลับมถึงห้องผมก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องน้ำชะล้างตัวเผื่อไอความหงุดหงิดนี้มันจะหลุดไปจากหัวผมบ้างแต่เปล่าเลย พอหัวถึงหมอนความเครียดมันก็ลอยกลับเข้ามาในหัวของผม เหมือนเดิม


ตีสี่สี่สิบ เป็นเวลาที่คนทั้งบ้านผมนอนหลับสนิทแต่ตาผมกับสว่างจ้าเหมือนคนพึ่งตื่น แสงมืดๆบรรยากาสสลัวไม่ได้ทำให้ผมคล้อยตาม จนพล้อยหลับเหมือนทุกที
ผมเป็นอะไรกัน เครียด?โกรธ หรืออะไร คำถามเหล่านี้ไหลเข้าหัวผมมาไม่หยุดหย่อน แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปเท่าไหร่ ผมก็ได้แต่นอนเอามือก่ายหน้าผาก อยู่อย่างนั้น จนท้องฟ้ารุ่งเช้าสาดส่องเข้าที่ตาผมผ่านม่านที่เปิดแง้มเอาไว้ที่ริมหน้าต่าง


เมื่อข่มตาหลับไม่ได้ผมก็ควรที่จะตื่น ผมลุกออกจากที่นอน ลงมาข้างล่างพี่อินที่กำลังยื่นวุ้นๆทำกับข้าวอยู่ในครัวถึงกับทำท่าชะงักเมื่อเห็นผม ตื่นเช้าก่อนที่จะมีสียงไก่บ้านใกล้ๆจะขันซะอีก


"ตายแล้วเจ...ทำไมวันนี้ถึงตื่นเช้าขนาดนี้ละเนี้ย ผีตัวไหนเข้าสิงอีกหือ.."ผมไม่รู้ว่าพี่อินพูดมาว่าอะไรเพราะตอนนี้เหมือนจิตใจของผมกำลังเหม่อลอย ไปหาใครซักคน และคงเป็นคนๆเดียวที่ทำให้ผมเอาแต่จ้องไอโฟนตรงหน้าไม่ยอมวางตา เห้อ ยิ่งรอยิ่งกงุดหงิด และเมื่อโวยวายอะไรกับใครไม่ได้ผมก็เลือก ที่จะอยู่คนเดียว ขอใช้เวลาทบทวนถามตัวเองในตอนนี้ก่อน ว่าผมเป็นอะไร


ผมเดินออกมาจากร้านทั้งชุดนอน เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงลายสก๊อตสีดำขายาวควงคู่มากับรองเท้าแตะคนละสีที่เผลอใส่มาโดยไม่ทันได้มอง แต่ผมไม่แคร์ สายตาของคนที่ผมเดินผ่านต่างพากันยิ้ม บางคนก็หลุดหัวเราะซุบซิบนินทากัน เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ถ้าเป็นอารมณ์ปกติป่านนี้ผมคงอายจนรีบเดินกลับบ้านแล้วแต่ต่างจากคราวนี้ที่ผมเพียงแค่เดินไปทางข้างหน้าอย่างเดียว โดยไม่สนใจเสียงของใครเลย

ตุ้บ..เด็กน้อยน่ารัก วัยประมานห้าขวบอยู่ในชุดเครื่องแบบอนุบาลโรงๆใกล้ๆระแวกบ้านผม วิ่งมาหน้าตื่นแล้วก็ชนที่ขาผม อย่างจัง
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :34 〗〖04-06-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 04-06-2017 02:34:31
"น้องเป็นอะไรรึเปล่าครับ"น้องเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มเหย่เกย เหมือนจะร้องไห


"เอ่อให้พี่ช่วยนะ"ผมช่วยพยุงน้องขึ้นใบหน้างอแงเริ่มสงบลง น้องเข้าไม่ยอมตอบอะไรผมได้แต่ก้มหัวปลงๆแล้วก็เดินหนีไป ผมก็แอบมองตามนิดหน่อยด้วยความเอ็นดูแม้ ผมเองจะไม่ค่อยถูกกับเด็กแต่ครั้งนี้ผมกลับมองว่ามันดูน่ารักแปลกๆเหมือนกันไม่รู้สิ อารมณ์ผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนยังสู้ ผมในตอนนี้ไม่ได้เลย ยิ้มๆขรึมๆสลับกันไปมา คาดว่าอีกไม่นานคงจะมีคนมารับตัวผมกลับไปบ้าน(หลังคาแดง)ก็เป็นได้หึหึ


แม้จะเครียด แต่ ผมก็คงต้องทำตัวสตองกับทุกสิ่งให้ได้ แม้สิ่งๆนั้นอาจจะทำให้ตัวผม คิดมากแค่ไหนก็ตามแต่ทุกอย่างมันย่อมมีเหตุผลของมันเสมอ (ไม่นับรวมครั้งนี้)


นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้ออกมาเดินชมบบรกาศในตลาดยามเช้าอย่างนี้ ผู้คนมากมายทั้งเด็กเล็กใหญ่จนไปถึงอากงอาม่า ต่างก็พากันมาจับจ่ายตลาดกันตั้งแต่เช้านี้อาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่ไม่ปกติก็น่าจะเป็นผมนี้แหละครับ


ผมเดินชมเลือกดูของต่างๆภายในตลาด  ย้ำว่าแค่ดูนะครับเพราะตอนออกมาไม่ได้หยิบเงินออกมาด้วยเลยสักบาท ก็กะว่าแค่จะมา. เดินชิวๆปล่อยความคิดให้หลุดจากหัวก็เท่านั้นไม่ได้กะจะมาซื่ออะไรเลย จริงๆ สายตาของผมจ้องมองแต่อาหารและของกินที่วางกันเกลื่อนกราด จนเลือกไม่ถูกได้แต่มมองแล้วก็กลืนน่ำลายดังเอื้อกรู้สึกว่าตอนนี้ผมจะหิวจัดจนลืมเรื่องเครียดๆไปหมดแล้ว (แพ้เรื่องกินตลอดหึ) ถ้ารีบกลับบ้านไปเอาตังมาผมจะทันกินไอร้านขนมหม้อแกงตรงนั้นมั้ย รู้สึกคิวจะยาว รึเกิน ถ้าจะให้รอก็คงหายอยากพอดีๆหึหึ คิดได้อย่างนั้นผมก็เลือกที่จะเดินเลี่ยงออกมาจากบริเวณนั้น แต่แล้ว สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าอาหารก็คือ ไอวิน ครับ (ผมาจจะลืมบอกไปว่าไอวินมันไม่ค่อยชอบเดินตลาดๆตอนเช้าๆเพราะมันบอกว่าคนเยอะแยะขี้เกียดต่อคิว  แต่มึงครับไม้ว่าจะเช้ารึเย็นคนมันก็เยอะพอกันแหละครับ แต่ผมขอให้เราพักเรื่องของผมไปก่อนและมาสนใจ เรื่องที่กำลังอยู่ในสายตาของผมแทน

วินมันอาจไม่ทันได้สังเกตุว่าผมแอบเดินตามมันมาตั้งแต่ร้านขายหมูแล้ว จนตอนนี้มันเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านผลไม้ปั่น แต่ที่ผมกำลังแหม่งๆก็คือ มัน มา กับ ใคร ทำไมผู้ชายตัวเล็กๆทึ่ยืนใกล้ๆจนแทบจะสิงไอวินมันถึงหน้าคุ้นอย่างนี้ เหมือนผมเคยเห็นที่ไหนนะ.. (และแล้วภาพลางๆ ในหัวผมก็เริ่มผุดขึ้นมาทีละนิดๆ จนในที่สุด)


อ๋ออออออออออออ(จนถึงบางอ้อ)  นั้นมันไอ เนม เด็กรุ่นน้องคณะผมนี้หว่า ว่าอยู่ทำไมหน้าดูคุ้นๆแต่ เดี๋ยวๆนะ มีควงแขนกันนี้คืออะไร ผมเริ่มคิดๆมาตั้งแต่ตอนที่ไอวินมันยื่นแก้วน้ำให้น้องแล้วเอามือไปลูบหัวน้องเขาพร้อมกับส่งยิ้มแล้ว เอ้ๆ




สรุปไอวินนี้ยังไง หุหุ เรื่องของผมคงต้องขอพักไว้แค้นี้ก่อนเพราะงานเผือก(เรื่องไอวิน)ต้องมาก่อนครับ ผมสวมวิญญาณแจ็คเดอะลิปเปอร์(เดี้ยวๆคนละเรื่องแล้ว)ตามไอวินทุกฝีก้าว จนมันคงผิเสังเกตุเลยแอบเหล่หลังมาบ่อยๆ ผมก็ได้แต่ฟุบบ้างหลบหลังเสาไฟบ้าง (แอบโง่ๆเหมือนในละคร แต่แปลกที่มันดันได้ผลอันนี้ผมขอปรบมือให้)
ผมเองยังงเลย รถเอ็มคันโปรดของไอวิน วิ่งผ่านตัวผมไปที่แอบหลบท่ามกลางฝูงชลผมมองตามมันที่ค่อยๆลับไป และเหมือนไอเด็กที่นั่งซ้อนหลังมันจะหันมาเจอผมเข้าพอดี แต่กว่าจะรู้ตัวมันก็สายไปแล้วครับหึหึ ทั้งวีดีโอและโฟโต้บุ๊คตอนนี้ผมถ่ายเก็บไว้หมดเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็รอแค่เวลาที่มันจะบอกเรื่องของมันให้ผมฟังโดยไม่ต้องบังคับละนะ






ช่วงเกือบๆสายผมกับมาที่ร้านด้วยอารมณ์อย่างผู้ชนะ มียิ้มมุมปากและกระตุกไหลข้างซ้ายเบาๆ(เหมือนที่พี่โอปอลชอบทำ) แต่แล้วรอยยิ้มที่ผมเคยมีก็ค่อยๆจางหายไปเมื่อผมเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องครัว ก็เจอแขก (ที่วันนี้กูไม่ได้เชิญแต่เสือกมา) ไอกายครับ มันมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ที่ใส่ของคอลเลคชั่นเครื่องสำอางแบรนด์ดังที่พี่อินใช้อยู่ แต่นั้นยังไม่ใช่ประเด็น คือตอนนี้สิ่งที่ผมอยากได้ยินมากที่สุดคือคำอธิบาย


"อ้าวนี้ไง เจ หายไปไหนมา น้องกายเขามาหาตั้งแต่เช้าแล้วเนี้ย พี่ก็ไม่รู้ว่า เจ ไปไหน เลยบอกให้น้องกายเขานั่งรอ แล้วนี้กินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่ามานั่ง กินด้วยกันเร๊ววันนี้พี่ทำผัดผักที่เจชอบด้วยนะ "แม้เสียงท้องของผมจะร้องโครกครากเสียงดัง แต่ถ้าหากในหัวมันยังมีเรื่องขุ่นเคืองใจ ผมก็ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น




"ไม่เอาดีกว่าครับเช้าๆเจไม่ค่อยหิว พี่อินกินก่อนเลยก็ได้ครับ "ผมเลือกที่จะหันไปคุยกับพี่อินคนเดียวแล้วมองผ่านไอคนที่มันกำลังนั่งจ้องหน้าผมด้วยอารมณ์บ่จอย


ผมเดินขึ้นห้องมาแบบตึงๆพร้อมกับคำถามในหัวว่า กูเป็นอะไรของกูวะ ที่มเป็นเมื่อกี้นี้เรียกการเมินได้รึเปล่า กูเป็นนางเองรึไงทำไม ถึงทำเมินเฉยแบบนั้น ไม่ ไม่ สิ ผมไม่ใช่นางเอก ผมคือเจตรินร์ วงวิริยไพยบูรณ์ ผมเป็นผู้ชาย แต่ทำไมถึงทำตัวนอยเป็นผู้หญิงอย่างนั้นวะ ผมควรจะรีบลงกลับไปดี มั้ย แต่โถ่เอ้ยเหวี่ยงมาขนาดนี้แล้วจะให้ลงไปนั่งชิวๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี้มันก็กะไรอยู่ เอาเป็นว่าผมขอนั่งเงียบโง่ๆคนเดียวในห้องก็แล้วกัน




ปึง!!!<เสียงปิดประตู>


เอี๊ยด<แล้วก็ตามมาด้วยเสียงเปิดประตูบานที่ผมพึ่งปิดไป> ปรากฏให้เห็นร่างผู้ชายตัวควายๆ เสนอหน้าหล่อๆของมันเข้ามาในห้องพร้อมกับยิ้มแป้น เป็นห่าอะไรของมัน




"เจ"มันเอาหน้าแนบกับบานประตูและเรียกชื่อผม


"..."


"เจ เป็นไรอะ"มึงยังกล้าถามกูอีกหรอ


"...." เงียบไว้ครับถึงเราจะเป็นนายเอกเราก้ต้องเงียบไว้ครับ ต้องรอจนกว่ามันจะยอมอธิบาย แล้วค่อยพูดกับมัน


"โกรธเรื่องที่ไม่ไปรับเมื่อวานหรอ"โชคยังดีที่มันยังรู้ครับ


"ถ้าใช้แล้วมึงจะทำไง" ผมพูดจบกายมันรีบเดินเข้าห้องปิดประตูลงกลอนเดี้ยวๆ มึงจะล็อคห้องทำไม


"แล้วมึงคิดว่าที่กูถ่อมาหามึงตั้งแต่เช้าตู่นี้กูมาทำอะไรละหืม"กายมันขยับมานั่งใกล้กับผมที่เตียงมือมันเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว เลื่อยเข้าเสื้อผมตลอด


"พอเลยสัดนี้หรอวิธีง้อของมึง"ผมดันหน้าไอกายมันออกห่างจากตัวผมก่อนที่ปากมันจะเข้ามาป้วนเปี้ยนใกล้กับคอผมไป. มากกว่านี้ กายมันยอมขยับตัวนั่งดีๆและจับมือผมที่ผลักหน้ามันเมื่อกี้ไปกุมแทน


"เจ กูขอโทษนะที่ปล่อยให้มึงรอ "กายมันลูบมือผมพร้อมกับสีหน้าที่ดูสลด


"รอเลออะไรไร้สาระ กูกลับมาตั้งแต่ห้านาทีแรกละห่า ฮ่าๆ" เอาเข้าจริงๆจากที่มีความคิดว่าจะว้ากใส่ มันตอนนี้ผมกับต้องโกหก เพื่อแลกกับรอยยิ้มของมันงั้นหรอ?


"อ้าวนี้สรุปมึงไม่ได้รอกูหรอกเหรอ"

"ก็เอออะดิใครจะบ้ารอมึง"


"ห่าเจกูก็อุตส่าห์เตรียมตัวมาง้อเต็มที่เลยนะเนี้ยเสียหน้าชิบ"


"หึหึ ถึงกูจะรอไม่นานมึงก็ไม่ควรปล่อยให้กูรอปะวะ"กายมันเงียบไปตอนที่ผมพูดจบ


"กูขอโทษ" กายมันก้มหน้ามองพื้นด้านล้างอย่างรู้สึกผิดแม้ตอนนี้มันจะเข้าใจไปอีกแบบแต่ผมว่าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้น่าจะดีกว่ารู้ความจริงซะอีก


"ฮ่าๆมึงนี้ก็หงอยง่ายเหมือนกันนะไอคุณชาย กูหยอกเล่นๆหน่อยแหนะๆมีขรึมๆครับฮ่าๆ" ผมเอื้อมมือไปผลักหัวกาย จนมันเซเกือบตกเตียง แต่พอมันทรงตัวอยู่ก็หันมาจ้องตาผมเขม้ง นี้มันจะฆ่าผมป่าววะ ผมนั่งลุ้นจนตัวเกร็งและในที่สุดมันก็กระโดดขึ้นมาคล่อมตัวผมพร้อมกับรวบมือผมไว้เหนือหัว จนผมกระดิกหนีไปไหนไม่ได้เลย

"ขอโทษค้าบ"

"เรียกกูท่านขุน"

"โอ้ยยย!!!เชี่ยกาย" ไม่รู้ไอกายมันนึกคึกเล่นเหี้ยอะไรอยู่ๆมันก็เอื้อมมือไปบิดปิ๊กกาจู๊ผมจนเจ็บไปหมด


"บอกให้เรียกท่านขุน"หน้าไอกายมันเป็นยังไงผมไม่รู้แต้ตอนนี้ผมกำลังเจ็บจนหลบตาปี๋อยู่เลย


"โอ้ยกายกูยอมแล้ว โอ้ยเชี่ยปล่อยดิวะแม้ง"


"เรียกท่านขุนสิแล้วจะปล่อยฮ่าๆ"มึงยังมีหน้าจะมาขำกูอีกไอห่านิ แต้ท้ายที่สุดแล้วผมก็ต้องยอมในสิ่งที่มันต้องการเพื่อแลกกับอิสระภาพของตัวเอง ผมลองถกเสื้อขึ้นเผิดแง้มๆดูลูกชายที่หลับสบายอยู่ดีนะที่ไม่ขาดติดมือมันไปด้วย


"สัดนี่เห็นห่าอะไรๆม่รู้เรื่องเกิดกูเป็นหมันขึ้นมาทำไง"

"ดีสิมึงจะได้ไม่ไปทำใครเขาท้อง เอ๊ะแต่คิดไปคิดมา มึงคงทำใครเขาไม่เป็นหรอกจริงมั้ย ฮ่าๆ" มันยังมีหน้ามายิ้มระรื่นนอนขำผมจนท้องแข็ง เกลือกกลิ้งไปมาใกล้ๆตัว นี้ผมมีแฟนอายุ20จริงๆรึเปล่า ตอนนี้ผมชักเริ่มไม่แน่ใจซะแล้วสิ

. . . . . . . . . . . . . . .



หลังจากที่คลื่นหมอกความเศร้าได้พัดผ่านไปคลื่นลูกใหม่ก็เข้ามาแทน วันนี้ผมเข้ามานอนสิงเป็นเจ้าที่ ณ คอนโดหรูใจกลางเมืองกรุง. จะพูดให้ถูกคือ โดนลากมานั้นเองครับ


"เจ มึงว่าเสื้อตัวนี้เข้ากับกูมั้ย" เป็นเวลาเกือบยี่สิบนาทีแล้วที่ผมต้องคอยนั่งวิจารย์การแต่งตัวของคุณชายเหตุเพราะมันไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แต่ผมว่าอย่างมันใส่ห่าอะไรแม้งก็ดูดี เฉพาะเบ้าหน้ามันก็กินไปครึ่งแล้ว เรื่องเสื้อผ้านี้ไม่ต้องมีเอี่ยวก็ได้ครับ หรือต่อให้มันไม่ใส่ห่าอะไรเลย ผมว่ามันก็ดูดี


"เอาตัวนี้แหละดีแล้ว"

"แต่กูว่า..."

"ถอดเสื้อไปเลยมั้ยครับมึง. ยืนเลือกมาจะชั่วโมงนึงแล้ว ไหนบอกกลัวเสียเวลา" จริงๆวันนี้กายมันบอกผมว่าจะกลับไปทำธุระที่บ้านแต่ไม่ได้บอกผมว่าเรื่องอะไรผมเองก็ไม่อยากถามหรอกครับเพราะถือว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว ถ้ามันอยากบอกมันก็คงบอกผมเอง


"เอองั้นเอาตัวนี้ก็ได้ว่าแต่ มึงละมีชุดรึยัง" ผมชักมึนๆกับคำถามของมัน


"ชุดกู ทำไมวะ?"


"กุไม่ได้บอกมึงหรอกเหรอ ว่ามึงต้องไปกับกูด้วย"


"ไป ไปไหน อะไรยังไง"


"ไปบ้าน. . .กับกู" คำตอบของกายทำเอาผมรู้สึกตึงๆไปทั้งตัว


"บ้านมึง...."ทำไมตัวผมถึงรู้สึกสั่นๆด้วยก็ไม่รู้ตลอดเวลาที่ผมกับกายเราคบกันมากายมันไม่คอ่ยได้เล่าเรื่องที่บ้านมันให้ผมฟังเลย ต่างจากมันทีตีสนิทกับพ่อผมโคตรจะง่าย ... คนที่บ้านมันจะใจดีเหมือน ครอบครัวผมมั้ยนะ


"เจ.."

"ห้ะ..ๆอะไรมึง.. "

"มึงอะเป็นอะไรเห็นนิ่งไปตั้งแต่กูพูดว่าจะพาไปบ้านแล้ว"


"อ่อเปล่าๆหรอก แต่...มึงคิดดีแล้วหรอวะที่จะให้กูไปกับมึงด้วยอะ คือ..กู..."


"เจ...มึงกำลังกลัวอยู่ใช่มั้ย"บางครั้งผมก็เกลียดการเดาสุ่มๆแต่เสือกถูกของมัน

"ก็..."


"มึงไม่ต้องคิดมากหรอกเจ ที่บ้านกูเขาไม่ได้น่ากลัวกันขนาดนั้นหรอก ทำตัวสบายๆเดี๋ยวก็ชิน"ชินของมันนี้เมื่อไหร่วะ
ถ้าจะให้เทียบชีวิตครอบครัวและความเป็นอยู่ของผมกีบกาย เราเหมือนอยู่กันคนละโยดเลย
และถึงแม้ความคิดภายในหัวของผมจะมีข้อโต้แย้งมากมาย ยังไง แม้จะรู้สึกกลัวจนตัวเกร็งมากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็หลบไม่พ้น


“บ้าน เจริญเกียรติพาณิชย์”



TBC . . . . . . . . . . . . . #KimTaeo
หัวข้อ: Re: (แก้ไข)Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :34 〗〖04-06-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 04-06-2017 14:12:12
คิมตามแก้พวกกคำผิดบางประโยคให้แล้วนะครับ ผม หวังว่าจะช่วยให้อ่านได้ง่ายขึ้น  o18
หัวข้อ: Re: (แก้ไข)Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :35 〗〖13-06-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-06-2017 01:37:53
Falling In Love
 
หลุมพรางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:35. บ้านหลังใหญ่

ตอนนี้ณเวลานี้ ผมมายืนอยู่ที่หน้าบ้าน  เจริญเกียรติพาณิชย์”ผู้ทรงเกียรติ แต่อย่าเรียกว่าบ้านเลยครับจะเรียกว่าคฤหาส หรือวัง น่าจะดีกว่า ผมคงไม่ต้องบรรยายให้ฟัง หรอกนะว่ามันใหญ่โตขนาดไหนแค่พื้นที่สนามหญ้าหน้าบ้านก็กินบ้านผมไปทั้งหลังแล้วโห่ นี้หรือวิถีคนรวย



ผมยืนเอ๋ออยู่ที่หน้ารั้วกรงเหล็กสีทองกับกายสองคน กายมันส่งยิ้มให้ผมตั้งแต่ลงมาจาดคอนโดจนมาถึงที่นี้ มันก็ยังยิ้มไม่ยอมหุบ มันคงไม่อยากให้ผมคิดมาก แต่จริงๆแล้วในหัวผมตอนนี้ไม่ได้มีเรื่องคิดมากเรื่องอะไรนี้หรอกครับ จะมีก็แค่รู้สึกเกร็งๆทำตัวไม่ถูกเท่านั้นเอง


"กูเข้าไปได้จริงๆหรอวะ"ผมหันไปถามคนที่อยู่ๆข้างๆมันหุบยิ้มก่อนจะตอบคำถามผม


"มึงเป็นผีหรือไงเจ ก็ต้องเข้าได้สิ"กายมันยื่นมือมาขยี้หัวผมพร้อมกับยื่นขำคิกๆอยู่คนเดียว


"แต่กูกลัววะกาย กูขอเวลากลับไปทำใจสักวันสองวันได้ป่าววะ "


"อย่ามาเพ้อเตี้ยมันไม่มีอะไรหน้ากลัวหรอกน่า เชื่อกูสิ"


"มึงอะชอบหลอกกู"


"ไม่นับบรวมครั้งนี้ละกัน "


"แต่..."


"เอางี้.."นิ้วมือของผมกระชับแน่นจากมือใหญ่ๆของกายที่บีบลงมา


"มึงจะทำอะไรกายอย่ามาบ้านี้บ้านมึงนะ" เกิดใครเดินออกเข้ามาเห็นทำไงละ


"หึหึ เดี๋ยวก็รู้" หลังจากนั้นไม่นานก็มีป้าแม่บ้านดูมีอายุหน่อยเดินเข้ามาเปิดรั้วสีทอง ที่ถูกปิดไว้เมื่อตอนต้นป้าแกทำหน้าตกใจเอามือจับอกเหมือนช็อคซินีม่าอะไรซักอย่างอยู่


"คุณหนู" แค่คำว่าคุณหนูคำเดียวก็ทำให้ผมต้องหันข้ายไปเบะปากใส่  หล่อสูงตัวเป็นควายเรียกคุณหนู เออตลกดีวะฮ่าๆ


"สวัสดีครับแม่"ชะอุ้ยรอยยิ้มของผมหุบลงทันทีเมื่อกายมันพูดว่าแม่


"โถ่ คุณหนูของนม หายตาหายตาไปนานไม่รู้ไปติดสาวที่ไหนถึงไม่ยอมกลับบ้านมาให้นมเจอหน้าบ้างเลย "อ๋อที่แท้ก็คือแม่นมนี้เอง ไอผมก็คิดไปซะไกล


"พอดีช่วงนี้ติดเรียนอะครับนมเลยไม่ค่อยมีเวลากลับมาเยี่ยมเลย แล้วนี้พ่อกับแม่อยู่รึเปล่าครับ"


"อยู่แต่คุณผู้หญิงค่ะส่วนคุณผู้ชายคงอีกวันสองวันถึงจะกลับเห็นว่าไปติดต่อธุรกิจที่สิงคโปร"


"อ๋อ...ครับ"ผมสังเกตุเห็นสีหน้าของกายตอนที่ได้ยินคำตอบ. มันทำหน้าหงอยไปแปปนึง แล้วก็กลับมายิ้มต่อแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่ารอยยิ้ม ที่กายส่งมามันถึงได้เหงาขนาดนี้


"จำทางเข้าบ้านได้ใช่มั้ยค่ะคุณหนู"ทันทีที่แม่นมของกายเดินมาส่งผมที่หน้าประตูบ้าน หลังเล็กข้างๆสวนหย่อม  ก็ส่งเสียงแซว ลูกเลี้ยงของเธอใหญ่กายมันก็ยิ้มให้ และไม่นานเธอก็ขอตัวเข้าครัวไปตอนนี้ที่หน้าบ้านจึงเหลือแค่ผมกับกายที่กำลัง ยืนมองประตูบานใหญ่ที่ถูกปิดเอาไว้ ภายใต้ประตูไม้บานนี้จะมีอะไรซ่อนอยู่จากด้านหลังผมไม่อาจเดาได้เลย


"อ้าวลูกชายฉัน!"ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมกับผู้หญิงที่ยังดูสาวและสวยในชุดเข้าครัวพร้อมกับผ้าเอี้ยมลายลูกไม้ของเธอที่ใสอยู่ คนข้างตัวผมรีบวิ่งกรู่เข้าไปก่อนจนเธอเซแต่เธอก็ยังยิ้มออกมาด้วยความดีใจ นี้สินะแม่ของกาย...


"แล้วนั้นพาใครมาด้วยลูก หืม" หลังจากที่กายและแม่ละยืนกอดกันได้พักนึงทั้งสองก็หันมาถามหุ่นขี้ผึ่งอย่างผมที่ยืนประกอบฉากอยู่ข้างๆ


"อ่อ...เพื่อนกายเองครับแม่ มันชื่อเจครับเจ นี้แม่กู" กายมันขยิบตาให้ผมและเอ่ยแนะนำตัวผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหนัาผมอย่างเป็นทางการ แต่ทำไมผมถึงต้องเฟลตอนที่กายบอกว่าเราเป็นแค่เพื่อนกันด้วยก็ไม่รู้ แต่พอลองตั้งสติดีๆแล้วคิดตามว่าตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ที่ไหนและผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นใคร คำถามเหล่านั้นจึงค่อยๆมะลายหายไปจากหัวของผม

“มานี้มาแม่พาดูอะไร” แม่ของกายเดินตรงเข้ามาดึงมือผมพร้อมกับกายเดินชมสวนข้างๆเรือนเล็กที่มีดอกไม้นาๆพันธ์ ต่างๆ มากมาย ผมแอบเหลือบๆเห็นกล้วยไม้พันธ์หายากที่ปลูกอยู่ที่บ้านผมด้วยตั้งสองสามต้น


"แม่ครับแม่รู้รึเปล่าว่าเจมันก็ชอบดอกไม้เหมือนกับแม่เลยนะ"


"จริงหรอลูก" แม่ของกายละสายตาจากดอกไม้ตรงหน้าก่อนจะหันมามองผม


"ก...ก็..นิดหน่อยครับคุณน้า" แล้วทำไมผมถึงต้องเสียงตะกุกตะกักด้วยก็ไม่รู้


"แหม่คุณน้งคุณน้าอะไรกันเรียกแม่สิลูก " เธอพูดพร้อมกับเดินยื่นมือจะมาลูบหัวผม แต่ผมเอี้ยวตัวหนีในตอนแรกเพราะคิดว่าแม่กายจะยื่นมือมาเบิ๊ดกระโหลกผม

"เจมันขี้ระแวงอะแม่"


"ระแวงซะน่ารักเชียว ไหนๆมาให้แม่กอดเรียกขวัญทีสิ" ผมส่งสายตาไปขอความเห็นกายแต่ยังไม่ทันที่กายตะได้ตอบอะไรเธอก็ดึงตัวผมเข้าไปกอดแล้วตอนแรกก็อาจจะเกร็งๆแต่พอได้ยื่นนิ่งๆสักพักบรรยากาศ แปลกๆก็เข้ามาแทนที่...เหมือนผมได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่ตัวเอง ไม่เคยได้รับ จากใครคนนึงที่ตอนนี้ อยู่ไกลแสนไกล


"ตัวเล็กดีจัง แถมตัวก็บางเอวก็คอดอีกเห็นแบบนี้แม่อายเลยนะรู้มั้ย.”


"เจมันไม่ค่อยกินข้าวครับแม่ตัวเลยหดเหลือแค่นี้ "ผมส่งค้อนให้ไอกายไปหนึ่งทีและถ้าไม่ติดว่ากำลังยืนกอดแม้มันอยูป่านนี้ผมเดินไปไซด์คิกใสมันแล้ว


แม่กายเป็นคนใจดีมากท่านอัธยาศัยดี เป็นกันเองทำอาหารเก่งแถมชอบชวนคุยตอนที่ผมนั่งเงียบๆ อยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น เธอชอบพูดเรื่องดอกกล้วยไม้กับผมตอนกายเดินไปหยิบขนมมาวางที่โต๊ะเธอก็ยังจดจ่ออยู่กับการพูดคุยกับผมจนลืมไปเลยว่าลูกชายของเธอเองนั่งอยู่ข้างๆ
ด้วย

เวลาผ่านไปพักใหญ่กายพาผมขึ้นมาบนห้องนอนของมันที่บ้านหลังใหญ่ ระหว่างที่รอคุณแม่ของกายเข้าครัวทำอาการเย็น ผมเดินสำรวจข้าวของเครื่องใช้ต่างๆภายในห้อง ด้วยความแปลกตาและแปลกใจ ของตกแต่งบางอย่างที่วางอยู่เป็นจุดๆ. ทำให้ผมเอะใจเพราะมัน ดูเหมือนของสะสมหายากที่ผมเคยอ่านเจอในหนังสือของพ่อเลย ส่วนข้าวของอื้นๆก็ไม่ต่างจากที่คอนโดกายมันเลยครับที่นั้นเป็นยังไงที่นี้ก็เป็นอย่างนั้น แต่สิ่งที้เรียกความสนใจของผมในตอนนี้น่าจะเป็น ใบประกาศนียบัตร และถ้วยรางวัลต่างๆนับสิบที่วางกองรวมกันอยู่ในตู้กระจกใส ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆอ่านรายละเอียดต่างๆถึงได้รู้ว้ากายมันเก่งกีฬามาก มีทั้งแบคมินตัน ฟุตบอล ตะกร้อ และกีฬาๆอื่นๆอีกสองสามชนิด แถมยังมีเกียรติบัตรชมเชยต่างๆ นับสิบ จัดวางใส่กรอบอยู่ข้างๆด้วย


"กูก็พึ้งรู้นะเนี้ย ว่าคุณหนูกายก็ทำอะไรแบบนี้ได้ด้วย"ผมหันไปส่งเสียงแซว ไอคุณชายตัวควายๆที่นอนกดโทรศัพท์เล่นอย่างตั้งอกตั้งใจ


"นี้แค่นิดหน่อยนะ ลองเปิดชั้นสองดูสิมีอีกเพียบ" หึพอแกล้งชมนิดชมหน่อยละทำเหลิง โม้ชิบหาย ผมได้แต่เบะปากให้มัน ก่อนจะหันไปสนใจที่ลิ้นชักชั้นสองอย่างที่มันว่า อะ..อ้าว แล้วไหงผมบ้าจี้มาเปิดดูละเนี้ยเอ๊อ แต่ช่างเถอะไหนๆก็เปิดแล้ว ก็ขอดูให้เป็นขวัญตาตัวเองซักหน่อย


" หืม ประกาศนียบัตรฉบับนี้ มอบให้ นาย ทินกร เจริญเกียรติพาณิชย์ เนื่องด้วยเป็นแบบอย่างที่ดี และนักเรียนดีเด่น โห่ๆนี้ผมกำลังคุยอยู่กับอดัตนักเรียนดีเด่นหรอครับเนี้ย". ผมหันไปแซวกายที่ขยับมานั่งข้างๆผมตั้งแค่เมื่อไหร่ไม่รู้(กูตกใจ)กายมันแค่ไว้ไหล่ก่อนจะดึงตัวผมให้ล้มลงไปนอนคู่กับมัน


"จะทำอะไรไม่ทราบครับคุณนักเรียนดีเด่น"

"หึเลิก แซวซักทีเหอะมันก็แค่อดีต"

"แสดงว่าตอนนี้มึงก็เลวงั้นสิ?"

"แล้วในสายตามึง มองเห็นกุเป็นคนยังไงละ"เจอประโยคนี้ไปผมถึงกับจุก พูดอะไรไม่ออกเลยกู


"ก็ดีบ้างไม่ดีบ้างปะปนกันไป แต่จะว่าไปชื่อมึงนี้ก็เพราะดีเนอะ ทินกร ดูขลังๆดีวะ "


"มันแปลว่าพระอาทิตย์" ว่าอยู่ทำไมเวลาผมอยู่ใกล้ๆ มันถึงร้อนๆ (มันเกี่ยวกันที่ไหนเล๊า - -* )


"บ้ะความหมายก็ดีด้วยเดี้ยว กูเปลี่ยนมั้ง" โป๊กกายมันยื่นมือมาเขกกะบาลผม


"ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้มันก็ดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม"


"เห่อชีวิตมึงนี้โคตรจะเพอเฟคเลยวะกาย เหมือนมึงเกิดมาพร้อมกับช้อนเงินช้อนทองแถมเดินบนกลีบกุหลาบปูทับด้วยพรหมแดงอีกที โคตรน่าอิจฉา"


"แต่บางครั้งถ้ามึงได้รู้ เรื่องราวอะไรที่มันมากกว่านี้มึงอาจจะเลิกคิดเรื่องอิจฉากูไปเลยก็ได้นะ" ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่กายพูดมันกำลังหมายถึง เรื่องอะไร แต่ดูจากสีหน้าซึมๆของมันตอนพูดแล้วผมก็พอจะเดาได้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

:o12:
หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :35 〗〖13-06-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-06-2017 01:40:25
ก๊อกๆๆ เสียงประตูดังขึ้น กายเป็นคนลุกเดินไปเปิดประตู เห็นมันยืนคุยกับแม่นมของมันนานสองนานก่อนจะกลับมาดึงมือผมให้เดินตามมันลงมาข้างล่างด้วย


บนโต๊ะอาหารที่กว้างขวางถูก วางเรียงไปด้วยอาหารมากหน้าหลายตานาๆชนิด ที่ผมไม่คุ้นเคยหรือจะเรียกว่าพึ่งเคยเห็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้


ผมได้แต่นั่งมองเพียงเพราะไม่รู้ต้องทำยังไง ถึงคนที่นั่งกินข้าวกันในตอนนี้จะมีเพียงแค่ผม กายและแม่ของกาย แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกกดดันแปลกจนแทบไม่กล้ากระดิกทำอะไรเลย


"น้องเจเป็นอะไรรึเปล่าลูกทำไมทำหน้าอย่างนั้น"เสียงหวานๆอ่อนโยนลอยเข้าหูผมที่มัวแต่เหม่อคิดอะไรอยู่คนเดียว


"อ่อเปล่าๆครับแค่มันมีเยอะจนผมเลือกไม่ถูก" ผมส่งยิ้มเจื่อนๆส่งให้แม่ของกายที่กำลังส่งยิ้มมาให้ผม


"แม่รู้รึเปล่า พี่สะใภ้ของเจก็ชอบทำอาหารเหมือนกันนะครับ "


"แหม่น้องกาย ตั้งแต่เข้ามาบ้านนี้ก็เอาแต่พูดเรื่องของน้องเจ ตลอดเลยนะ คำว่าคิดถงคิดถึงแม่ซักคำยังไม่ได้ยินจากปากลูกชายเลย เห็นอย่างนี้แม่น้อยใจ เป็นนะ" พอแม่กายพูดจบลูกชายตาดีของเธอก็เดินดุ่มๆไปนั่งเป็นปลิงออเซาะอยู่ข้างๆ


"จะว่าไปเรื่องเรียนเป็นยังไงบ้างลูก เรียนหนักมั้ย"

"ก็นิดหน่อยครับแม่ แต่กายเก่ง ไง แม่ไม่ต้องห่วง"


"แหม่ๆ ชมนิดชมหน่อยทำเหลิงใหญ่เลยนะพ่อคุณ แล้วน้องเจละลูก เรียนเป็นยังไงบ้าง น้องกายแอบอู้ตอนเรียนบ้างรึเปล่า"


"ผมกับกายเรียนกันคนละคณะครับแม่"


"ตายจริงนี้แม่เข้าใจว่าหนูเรียนวิศวะเหมือนน้องกายซะอีก แต่ก็ดีแล้วแหละ แม่ว่าปล่อยให้พวกเด็กบ้าพลังเดินตากแดดตากลม ชมวิว อยู่ใตตึกกันนั้นแหละ จะได้เข็ดหลาบบอกอะไรไม่ค่อยฟัง"


"ทำไมหรอครับคุณแม่"ผมถามออกไปด้วยความสงสัย


"ก็ตอนแรกแม่บอกให้น้องกายเรียนบริหารจบมาจะได้กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านเป็นเจ้าคนนายคน แต่เจ้าตัวดีนี่นะสิเรียนตามเพื่อนตลอด " แม่ของกายหันโอบแขนไปล็อคคอกายเบาๆที่้กาะอยู่ข้างๆแขนของเธอ


แต่บางทีการที่ผมได้มาเห็นภาพอะไรแบบนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกเฟลได้เหมือนกัน ทั้งๆที่ภาพตรงหน้าก็เป็นเพียงแค่แม่ลูกกำลังกอดกันอยู่เท่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมผมต้องรู้สึกจุกๆที่อกด้วยผมก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน




ช่วงทุ่มๆกว่าๆผมนั่งอยู่ห้องนั่งเล่น (ที่โคตรจะใหญ่หรูหราและเว่อวัง) กับกายสองคนโดยที่คุณแม่ของกายขอตัวออกไปพบปะสมาคมแม่บ้าน(คล้ายๆกับพี่อิน) ตอนนี้ภายในบ้านจึงเหลือแค่ผมกับกายเพียงสองคน


"เจ..." อยู่ๆกายก็พูดขึ้นมาขณะที่ผมกำลังให้ความสนใจกับภาพในวัยเด็กของกายที่แม่มันให้ไว้ก่อนจะออกไป


"หืม" ผมตอบโดยที่สายตาจังจ้องดูรูปในคอเลคชั่นที่อยู่ในมือ


"เจ...สนใจกูหน่อยยย"แนะๆมีทำเสียงออดอ้อน ถ้าคิดว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลกับผมละก็คุณ....คิดถูกละก๊าบบบ เข้าโหมดน้องกายทีไรผมแพ้ทางทุกทีเลย


"ไหนๆเด็กน้อยของพี่เป็นอะไรครับ "ผมวางสมุดภาพในมือก่อนจะลงไปนั่งโซฟาตัวยาวข้างๆ ก่อนที่มันจะเลื่อนขึ้นเอาหัวมาหนุนอยู่บนตักผม


"กูดีใจนะเจ"


"ดีใจ? เรื่องอะไรวะ"


"ที่มึงกับแม่เข้ากันได้ "


"ก็ท่านใจดี พูดเก่ง ชอบชวนกูคุย ตอนกูนั่งเงียบๆเห็นยังงี้แล้วมึงจะให้กูนั่งบึ้งตึงใส่รึไง"


"แต่ยังไงกูก็ดีใจอะ แม่. กับลูกสะใภ้รักกัน ^^" ผมกำลังจะยื่นมือไปเขกหัวมันที่ยุกยิกอยู่ตรงตักผมแต่เหมือนมันจะรู้ตัวยกมือขึ้นมาบังไว้ก่อน


"สะใภ้มะเหงกสิ. . .กูไม่แต่งจนกว่าจะเรียนจบหรอกเว้ย"


.............


เวลาสามทุ่มกว่าๆผมยกมือโบกลาบ้านผู้ทรงเกียรติก่อนจะมีลูกชายเจ้าของบ้านเดินออกมาส่ง ไอตอนแรกมันก็ไม่ยอมให้ผมกลับหรอกครับแต่พอดี มีโทรศัพท์ของมันเข้ากระทันหันและดูเหมือนจะเป็นสายสำคัญด้วยผมเห็นตอนมันรับแล้วทำหน้าบึ้ง ผมเองก็ไม่ได้ถามหรอกว่าใครโทรมาแต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะไม่อยากรู้ไปซะทีเดียว เพียงแต่ผมกลัวถูกมองว่าทำตัวงี้เง้าเซ้าซี้เลยต้องเก็บความคิดเงียบๆไว้คนเดียว


"ให้กูไปส่งมั้ย"กายถามทันทีที่ผมเดินพ้นออกมาจากประตูหน้าบ้านได้เพียงนิดเดียว


"อย่าเลยอยู่เฝ้าบ้านเหอะมึง กูกลับเองได้อย่าห่วงเลย"


"ก็มึงอะ..ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อย"ถึงปากมันจะบ่นผมแต่สีหน้าของมันนี้ซึมเบอร์สิบแล้วครับ


"เอาน่าไม่ต้องเป็นห่วงบ้านกูอยู่แค่นี้เอง นั้นไงพี่แท็กมาพอดี งั้นกูไปก่อนนะ ฝากหวัดดีคุณแม่ด้วยนะ "


"หึ พอสนิทกับแม่ก็ลืมกูเลยนะ คนเรา" กายมันทำหน้านอยใส่ผมก่อนจะเอี้ยวตัวหันหลังเข้าบ้านไปแต่ผมรั้งมือมันเอาไว้ก่อน


"น่าเดี้ยวถึงบ้านแล้วจะโทรหาสัญญาครับ " ยังครับกายมันยังไม่ยอมพูดกับผมอีกครับ สงสัยจะน้อยใจจริงๆ ผมเลยรวบรวมความกล้าหันซ้ายขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้ว จึง



จุ้บ!! ที่แก้มขวาของมัน กายมันเงยหน้าขึ้นมองผมแทบจะทันทีที่ริมฝีปากของผมกระทบที่แก้มของมัน


"หายโกรธนะคนดี"


"ถ้ารู้ว่าแกล้งโกรธแล้วมึงง้อกูแบบนี้ นะกูจะทำบ่อยๆเลย " สัดมึงแกล้งนอยหรอกเหรอเนี้ย  ><


และยังไม่ทันที่ผมจะได้โบกกระบาลไอคุณชายพี่แท็กแกก็ขับดุ่มๆอยู่ข้างๆผมแล้วพี่แกเปิดกระจกมามองหน้าผมเหมือนจะถามเป็นนัยๆว่ามึงจะขึ้นหรือไม่ขึ้นและอาจเป็นด้วยเพราะความรีบร้อน เพราะนี้ก็ดึกแล้วแท็กซี่แถวนี้ก็หายาก ผมเลยต้องอัญเชิญตัวเองขึ้นไปนั่งในรถ เปิดกระจกส่งค้อนให้มันไปทีนึงก่อนที่พี่แท็กแกจะค่อยๆขับออกมาช้าๆ


รถวิ่งแล่นผ่านไปตามเสาไฟที่มีแสงไฟสีส้มๆบรรยากาศมืดๆบวกกับลมเย็น สามารถทำให้ใจของใครคนนึงเปล่าเปลี่ยวได้เหมือนกัน
และบางครั้งความกลัวก็อาจเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของเราทุกๆคนเพียงแต่ เราจะหาวิธีทำลายความกลัวนั้นได้ยังไง
ก่อนจะมาบ้านกายผมลุ้นจนตัวโก่งกลัวคนที่บ้านกายไม่ชอบผม กลัวว่าตัวเองจะปรับตัวไม่ได้ แต่พอได้เผชิญหน้ากับมัน สิ่งที่ผมเคยคิดไว้กลับเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ ความรักที่แม่ของกายมีให้ มันมากจนผมรวบรวมเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ และถ้าหากในวันนี้ ผมมีเธอคนนั้นอยู่ข้างๆ ที่คอยให้ความรักและความอบอุ่นในวันที่ผมเหงาก็คงจะดีเพียงแต่นั้นคงกลายเป็นเพียงแค่ความคิดในหัวของผมเพียงอย่างเดียว
เพราะรู้ดีว่าต่อให้ผมจะขอร้องหรืออ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังไงเธอก็คงไม่กลับมา
และสิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้ เพียงอย่างเดียว คือคิดถึง... คนๆนึงที่ผมอยากจะเอ่ยปากเรียกชื่อของเธอสักครั้งว่า . ..




แม่

 :hao5:


TBC

#นายคิม









หัวข้อ: Re: Falling In Love ♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :36 〗〖06-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-07-2017 18:14:35
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode:36〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-07-2017 14:49:31
Falling In Love

หลุมพลางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:36 ใครคนนั้น

ตลอดทางจากบ้านกายมาถึงที่ร้าน ผมเหมือนคนจิตใจเหม่อลอยเพราะมัว แต่คิดเรื่องอะไรต่างนาๆ จนฟุ้งซ่านไปหมด...
รถแท็กซี่ขับออกไปได้นานแล้วแต่ตัวผมยังคงยืนมองขึ้นที่ชั้นสองอย่างเหม่อๆไม่เดินเข้าไปสักที
ครืดดด!! เสียงโทรศัพท์สั่นๆอยู่ที่กระเป๋ากางเกงด้านขวาของผม แรงสั่นจากเครื่อง ทำให้ผมที่กำลังเหม่อๆถึงกับสะดุ้งโหยง


"กาย" ผมยิ้มเฟื่อนๆก่อนจะกดรับ

"อื้อ"

"ถึงบ้านรึยัง"

"เมื่อกี้เอง พึ่งลงจากรถเนี้ย"

"แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน" หือ แล้วมันรู้ได้ไงละเนี้ยว่าผมยื่นอยู่ข้างนอก ผมหันซ้ายหันขวา มองดูรอบๆก็ไม่เห็นมีใคร

"มึงอยู่ไหนไอคุณชาย"

"ข้างหลังมึง"ผมกันฟึ้บทันทีที้มันพูดจบแต่ไม่ยักจะเห๋นสิ่งมีชีวิตตนไหนอยู่ข้างหลังผมเลยสักตัว

"สาดกูหลอน"

"ฮ่าๆ นึกแล้วว่ามึงต้องหัน ตลกวะ" ยังมีหน้ามาขำอีก

"หึหึ แล้วนี้ไม่หลับไม่นอนรึไง ถึงโทรมาดึกๆเนี้ย "ผมก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือตอนนี้สี่ทุ่มยี่สิบกว่าๆ

"ก็แค่คิดถึง โทรหาไม่ได้หรอ..."แล้วทำไมต้องทำน้ำเสียงหงอยๆแบบนั้นใส่กูด้วยวะ ห่า เอาซะผมรู้สึกฺผิดเลย

"ได้ข่าวพึ่งเจอเมื่อกี้ อย่ามาเพ้อกาย"

"ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้นดิ"

"อะๆโอเคคร้าบๆ แล้วสรุปที่โทรมานี้จะบอกคิดถึงอย่างเดียวเลยหรอ"

"ก็ที่อยากบอกก็มีแค่นี้อะ แล้วมึงอะไม่พูดอะไรให้กูฟังบ้างหรอ ถามอะไรก็ได้ กูอยากตอบ"ในตอนแรกผมก็คิดอะไรไม่ค่อยออก เพราะสมองยังเบลอๆอยู่ แต่แล้วคำถามๆนึง ที่มันค้างคาอยู่ในใจผมก็ค่อยๆผุดขึ้นมา

"เอ่อ...กาย"

"อือว่าไง"

"คือ..."น้ำเสียงผมเริ่มสั่นๆ

"มีอะไรรึเปล่า ทำไมเสียงสั่นๆ"

"เมื่อวาน...มึงไปไหนมาวะ...ทำไมถึงปล่อยให้กูรอ"ประโยคหลังๆผมพึมพัมกับตัวเอง

"ก็......"กายเงียบไปพักใหญ่กว่าจะตอบผมนี้ก็แทบลืมเลยว่ามีมันอยู่ในสาย

"ไปทำธุระกับเพื่อนมาอะไอบอสไอเบลมึงน่าจะรู้จักนะ"คำตอบของกายมันอาจจะดูมีน้ำหนักมากกว่านี้ หากมันไม่เว้นระยะเวลาในการตอบคำถามของผมมากเกินไป

"ป่าวก็ถามไปงั้นแหนะเห็นเงียบหายไปไงแค่สงสัย"เป็นอีกครั้งที่ผมเก็บเอาเรื่องราวต่างๆเก็บมาคิดมากอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่คนทางนั้นไม่เคยรับรู้อะไรเลย

"เออ งั้นเดี้ยวกูขึ้นไปนอนแล้วนะ มึง"

"อ้าวนี้อยู่ข้างล่างจริงๆหรอ"

"ลงมาฉี่แปปนึงอะ"

"หรอ ถ่ายมาให้ดูหน่อย-///-"น้ำเสียงของมันเริ่มเปลี้ยนไปในทางแบบว่า.....

"อย่ามาทะลึ่งกายนี้ขนาดกูอยู่ในสายนะเนี้ย"ถ้าเกิดอยู่ข้างๆกับมันในตอนนี้มีหวัง...แน่ๆ

"นะก่อนนอนขอสักหน่อย"

"ไอ้กาย!"

"ฮ่าๆโม้เล่นเฉยๆ งั้นไม่กวนแล้วครับคนดี ก่อนนอนอย่าลืมห่มผ้าด้วยนะ.

"เออ"

"พูดเพราะๆกับกูหน่อยดิ"มีแอบทำเสียงหงอยด้วยแหะ

"คร้าบ...ครับผม ผมจะทำตามที่คุณชายสั่งทุกอย่างเลยครับ พอใจยัง - 3 -"

"เออ รีบๆนอนละอย่าให้กูรู้นะว่ามึงแอบคุยกับใครหลังจากที่วางสายกูอะ "

"บอกตัวมึงเองเถอะกาย ..ถ้าไม่มีอะไรแล้วกูวางนะ"

"ครับผมฝันดีครับ"หลังจากวางสายผมก็รีบขึ้นไปนอนตามที่ได้บอกกับมันไว้ เสื้อผ้าก็ชุดเก่านี้แหละครับหัวถึงหมอนได้หนังตาผมก็หนักอึ้งขึ้นมาทันที ใช้เวลาเพียงไม่นานผมก็พล้อยหลับไปพร้อมกับความเพลีย ที่สะสมมาทั้งวัน



..............


วันเวลาสองสัปดาห์ผ่านไป ความสัมพันธ์ของผมกับกายยังคงเหมือนเดิมแต่สิ่งที่เปลี่ยนไป น่าจะเป็นเวลา..
ถึงแม้ช่วงนี้กายจะโทรหาผมบ่อยมากกว่าปกติ แต่ทุกครั้งที่เราได้คุยกันไม่เคยเกินห้านาทีเลยสักครั้ง ถ้าเทียบจากเมื่อก่อนผมกับกายเรานอนคุยกันจนฟ้าสว่าง หรือบางครั้งก็คุยกันโดยที่โทรศัพท์ยังเสียบสายชาทค้างเอาไว้ แต่ครั้งนี้กลับไม่เป็นเหมือนที่เคย.
มันแค่โทรมาถามว่าผมทำอะไรอยู่กับใครที่ไหนแค่นั้นแล้วก็วางไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่เป็นฝ่ายโทรหามันนะ ผมโทรหามันแทบจะทุกๆต้นชั่วโมงแต่หลายครั้งก็ต้องนอยแดกเพราะกายมันตัดสายและส่งแมทเสท บอกว่าติดธุระอยู่ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าธุระของมันจะสำคัญมากน้อยแค่ไหนเพียงแต่ผมรู้สึกไม่ชินเลย ที่กายไม่มีเวลาให้



ช่วงสายของวันวินมันทักไลน์มาบอกผมว่า จะมาหาที่ร้านแต่มา ด้วยเหตุผลอะไรผมเองก็ไม่อาจทราบได้
เพราะทันที่ที่มัน ส่งสติ๊กเกอร์หัวกลมดุ้กดิ้ก ให้ผมเสร็จมันก็เงียบหายไปเลย กว่าจะโผล่หน้ามาให้ผมเห็นอีกทีนู้น เกือบๆเที้ยง....

"ฮัลโหลมีใครอยู่มั้ยครับ"เสียงตะโกนเรียกดังมาจากหน้าร้าน ....แล้วไอที่ยืนหัวโด่อยู่กลางบ้านคงไม่มีใครอยู่มั้ง...

"ไม่มีใครอยู่หรอกครับเชิญออกไปเถอะ..."

"อ้าวแล้วนั้นเสียงหมาที่ไหนตอบกูครับ"

"กูเองไอสัดเมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะ ว่าใครเป็นหมาห้ะ "

"แหะๆ กูกลัวมึงจะหงอยแดก เพราะผัวตัวดีมึงไม่อยู่ให้กูแซวไงกูถึงต้องมาเล่นกับมึงถึงที่เนี้ย"

"ผัวเผออะไรมึง"ผมแกล้งๆขึ้นเสียง

"อย่ามาทำแถหน่อยเลยไอเจ เรื่องของมึงกับไอกายอะพวกกูรู้กันหมดแล้ว แหม่ทำใสไม่รู้เรื่องเดี้ยวโดดตบ"ตอนแรกก็กะจะเขิน
อายแต่แล้วอยู่ๆผมก็คิดเรื่องๆนึงออก

"แต่อย่างน้อยกูก็เปิดเผยละวะ ใครจะไปเหมือน...."ผมยิ้มกรุ่มกริ่มมองไอวินจนมันทำหน้าสยองใส่ผม

"อะไรเหมือนอะไรมึง ห้ะไอเปี้ยก.."ไอวินทำเสียงหงุดหงิดใส่ผมแุถมตึงหน้าใส่ด้วย

"ก็เรื่องของมึงกับเด็กคณะกูไงละครับเพื่อนวิน " ไอวินทำหน้าอึ้งๆจนเกือบจะเกิดแสดงอาการลนลาน ออกมาจนผิดสังเกตุ
"บ..บ้า..ไม่มีเหอะ..เด็กคณะไหนอะไรมึง..กุไม่มี๊" พยายามแถต่อไปครับเพื่อนแต่ทานโทษครับกูมีหลักฐาน ผมเอื้อมมือหยิบไอโฟนที่อยู่ขอบโต๊ะเปิดรูปพร้อมวีดีโอ ที่ผมแอบถ่ายเก็บไว้ตอนมันจู๋จี๋กับน้องคณะผม
วีดีโอถูกปิดลงกลายเป็นจอดำ จากใบหน้าทะเล้นของไอวินตอนเดินเข้าร้านมา กับตอนที่มันดูวีดีโอจบนี้ห่างไกลกันมากครับ. คงไม่ต้องให้ผมบอกหรอกนะว่าหน้ามันเสียแค่ไหน


"มีใครเห็นแล้วมั้งวะ ไอกายละมันเห็นรึยัง"ทำไมตอนได้ยินชื่อมันผมถึงต้องรู้สึกหงุดหงิดด้วยวะ

"ยังอะจะมีก็แต่กูนี้แหละ "จากอารมณ์แรกๆที่อยากจะแกล้งไอวินตอนนี้ผมขอเปลี้ยนโหมดเป็นคนฉุนเฉียวแทนได้มั้ยวะ รู้สึกอารมณ์เปลี่ยนตั้งแต่ได้ยินชื่อเพื่อนมันอะ

"เจเจคร้าบ.."

"หืม?"ไหงเสียงเปลี่ยน

"มึงอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกไอกายมันนะเว้ยกูไม่อยากโดนมันล้อกลางโรงอาหารอะ"

"แล้วทำไมถึงต้องเป็นโรงอาหาร.."ทำไมไม่เป็นห้องน้ำห้องสมุดห้องเก็บของอะไรงี้

"ก็คราวก่อนกูก็ล้อ เรื่องมึงกับมันกลางโรงอาหารนี้แหละ...แถวมันยังบอกว่าถ้าถึงคราวของกูบ้างมันจะเปิดโทรโข่ง ป่าวประกาศไปทั่วมอ"

"ห้ะ!เรื่องของกู ..อย่าบอกนะว่า" ไอวินทำหน้าสำนึกผิดและผงกหัวสองทีเป็นการยืนยันในสิ่งที่ผมอยากรู้

"รู้กันทั้งวิศวะแล้ว!"เยดเข้ร

"มึงบอกตั้งแต่เมื่อไหร่"

"ก็หลังจากที่กูรู้เรื่องของมึงกับไอกายอะแหละ" โอ้ยกูจะไม่แปลกใจเลย ว่าที่น้องๆ วิศวะพวกนั้นมันเข้ามาไหว้ๆก้มหัวยิ้มให้ผมแบบนี้เป็นเพราะอะไร.. ถถถ


"กูเอาบ้างไอสัด"แล้วผมจะเอาหน้าไหนแบกไปวิศวะได้อีกละเนี้ย"

"เห้ย เจ อย่านะ มึงถามอะไรกูก็ตอบมึงแล้วนี้ไง อย่าทำแบบนี้กับกูดิกูเพื่อนมึงนะเจ"

"แล้วที่มึงทำกับกูเขาเรียกอะไรวะ.."

"กูผิดไปแล้ว วันนั้นกูก้แค่นึกสนุกปากก็เลยพูดไปๆไม่นึกไม่ถึงว่าข่าวมันจะไปเร็วเหมือนไฟลามทุ่ง ขนาดนี้. นะๆเจ ถือว่ากูขอร้องนะ อย่าพึ่งเอาเรื่องนี้ไปบอก ใครเลยนะเว้ย เดี้ยวกูกับน้องจะมีปัญหากัน"

"งั้นมึงต้องบอกกูก่อนว่ามึงกับน้องเป็นอะไรกัน?"ไอวินถึงกับสะอึกตอนผมถามเข้าประเด็น

"คือ..."

"ไม่บอกกูจะแฉ..1....2...สสส"

"เออๆ กูบอกก็ได้..กูกับน้อง เราพึ่งเริ่มคบกัน..ไม่สิเรียกว่าพึ่งเริ่มคุยจะกว่า.." หือคบกันอเกนพลีส

"คบกัน คบแบบไหนวะแบบแฟนไรงี้อ่อ"


"ก็ผัวเมียแบบมึงกับไอกายนั้นแหละ"ฉึก!!ไหงกลับมาแควะกูได้

"งั้นแสดงว่ามึงกับน้องเขาก็สะบะละฮึ้มจึ๊กจึ๋ยกันแล้ว ละสิ ไวไฟดีวะ"

"พ่อง ยังไม่ถึงขั้นนั้นเว้ย "อ้าวแล้วเมื่อเสือกบอกคบแบบผัวเมียสรุปอะไรยังไง

"กูตกใจนะเนี้ย ปกติก็เห็นมึงชอบผู้หญืงนิหว่า แล้วไหง ถึงมาคบกับผู้ชายได้วะ"เออจริงๆผมแอบตกใจมากกว่าไม่ไดินึกรังเกลียดอะไรมันหรอก


"จะให้เล่าพรุ่งนี้กผ้คงไม่จบแต่ถ้าอยากรู้ ลองเล่าเรื่องของมึงกับไอกายให้กูฟังก่อนดิ่แล้วกูจะบอก.."อารมณ์สนุกๆของผมจบลงในทันที

"ได้"

"มึงจะยอมเล่า?"

"ป่าวกูจะแฉเรื่องมึงเดี้ยวนี้เลย สัด ชอบทำให้กูหงุดหงิด"

"หงุดหงิดเรื่องที่กูถามมึงอะหรอ ถ้าเป็นเรื่องนั้นกูขอโทษนะกูไม่ได้ตั้งใจจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว...กูแค่.."สีหน้าวินมันสลดอย่างเห็นได้ชัดแต่ผมคงอธิบายให้มันเข้าใจความรู้สึกของผมในตอนนี้ไม่ได้ จริงๆผมก็แค่คิดมากเรื่องของเพื่อนมันนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่หน้าผมมันคงแสดงอาการเกินจริงไป


" กูหงุดหงิดเพื่อนมึงต่างหาก"

"เพื่อนกู?"วินมันทำท่าเกาคางนั่งคิด" ไอคุณชายอะนะ" จะมีใครที่ผมสนใจมากกว่าเพื่อนสนิทมันรึเปล่าละก็ต้องเป็นมันนะสิ

"มันทำอะไรให้มึงไม่สบายใจวะปกติกูก็อยู่ห่างกันไม่เกินสองเซน"สองเซนมันยังน้อยไปครับตอนนี้ผมกับมันเหมือนอยู่กันคนละทวีปสงสัยป่านนนี้คงหนีไปอยู่กับไอเสือติ้งต๋องที่ป่าร้อยเอเคอร์ แล้วมั้ง. (ผมพึ่งแอบรู้ตอนไปบ้านกายว่ามันสะสมคอลเลคชั่นทิกเกอร์และพูอยู่

"เอางี้กูว่านะบุกไปหามันดีบ้านเลยเป็นไงมึงว่าดีป่ะ"น้ำเสัยงมันดูหนักแน่นขึ้นมาทันที

"ดีห่าอะไรละมึงก็รู้ว่ากูไม่กล้า "

"เฮ้อ ชีวิตมึงนี้ทำห่าอะไรได้บ้างเนี้ย เอางี้ให้กูเข้าไปเป็นเพื่อนด้วยเลนเอามั้ย เผื่อมึงจะเลิกป๊อดซักที กูไม่ว่างมานั่งฟังมึงเพ้อทั้งวันหรอกนะเว้ย "ถึงแม้ข้อเสนอแนะของไอวินมันอาจจะเป็นเรื่องดีกับตัวผม แต่ผมเองก็ยังลังเลไม่กล้าที่จะทำ

"มันจะไม่ดูงี้เง้าไปหรอวะ"ผมถามเพราะไม่รู้ใจมันจริงๆว่าจะมองว่าการกระทำแบบนี้มันดูงี้เง้าไหม

"โอ้ยสัด ไอกายมันก็ผัวมึงป่ะ!!"ผมตะคุบปากมันแถมจะทันทีห่าเดั้ยวข้างบ้านได้ยินหมด

"ถรุ้ยสัดเจ มือเค็ม มีอะไรก็พูดกันตามตรงดิวะ มัวแต่ห่วงความรู้สึกคนอื่นอยู่นั้นแล้วความรู้สึกของมึงเองละ ไม่ห่วงบ้างเลยรึไง"มันพูดอีกก็ถูกอีก ผมมัรเป็นพวกแคร์คนอื่นมากกว่าตัวเองเสมอเลย จนลืมคิดไปว่าความรู้สึกของผมเองมันก็สำคัญเหมือนกัน

"เอ้า สรุป"วินมันยืนขึ้นและยื่นมือมาข้างหน้าผมใบกน้าที่เคร่งเครียดของมันแฝงไปด้วยความเป็นห่วงที่มันเอ่อล้นออกมาจนผมสัมผัสถึงมันได้


"อือ"เพียงอือแค่คำเดียวของผมก็เหมือนเป็นเชื้อเพลิงหลักในการเริ่มต้นทำสิ่งๆนึงในทันที วินมันลากผมออกมาจากร้านแล้วบรรจงยัดตัวผมเข้าไปในรถ บีเอ็มดับเบิลยู คันใหม่ป้ายแดงที่ผมรู้สึกไม่ค่อยคุ้นตามาก่อน แต่นั้นคงไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ผมกำลังจะทำต่อจากนี้. . . .
หัวข้อ: Re: Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :36(แก้ไข)และ 37〗〖09-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-07-2017 14:52:13
บีเอ็มป้ายแดงคันใหม่เอี่ยมถูกจอดอยู่คณะวิศวะกรรมศาสตร์ เหล่านิสิทที่ลงเรียนซีมเมอร์หลายชีวิตยังคงเดินวุ้นกันอยู่ในคณะ ผมหันมองซ้ายขวาผ่านกระจกสีทึบ ภายในรถเพ่งมองหาบุคคลที่ตั้งใจจะมาหา . ในตอนแรกผมคิดไว้ว่ากายมันอาจจะช่วยงานที่บ้านอยู่จนไม่มีเวลาแต่ระหว่างที่ขับมาวินมันก็เล่าให้ผมฟังพลางๆเกี่ยวกับเรื่องเรียนซัมเมอร์ว่ากายมันอาจจะลงเรียน แต่ที่น่าแปลก คือวินมันรู้...แต่ผมที่เป็นแฟนของมันดันไม่รู้นี้สิที่น่าเคือง


ผ่านไปหลายสิบนาทีที่ผมได้แต่นั่งซุ้มมองอยู่ในรถกับไอวินสองคน นักศึกษาในตึกเริ่มบางตาลงคงเป็นเพราะเป็นช่วงพักเที่ยงด้วยคนส่วนใหญ่เลยออกไปหาอะไรกินกัน ข้างนอก แทบจะไม่มีใครอยู่ในตึกเวลานี้้เลย

"ทำไมมันยังไม่ออกมาอีกวะ"เสียงไอวินบ่นอุบอิบอยู่ข้างๆหูผม นี้ขนาดอาสามายังบ่นขนาดนี้แล้วถ้าผมบังครับมันมาละครับจะขนาดไหนไม่อยากจะคิดเลย

"มันอาจเรียนอยู่ก็ได้มั้ง"แม้ปากผมจะพูดแต่สายตาผมยังคงจดจ้องอยู่กับการมองผู้คนที่เดินผ่านไปมาอยู่หลายครั้ง

"เรียนห่าอะไรนี้เวลาพัก"

"เดี้ยวก็คงออกมาแหละมั้ง"

"เชี้ยเจ มึงอยากมาจริงๆปะเนี้ย"


"ทำไมถึงถามงั้นวะ "

"ก็ดูมึงรู้สึกจะชิวเกิ๊นอยากมาตามมันจริงป่ะเนี้ย ช่วยทำตัวเดือดร้อนบ้างไรบ้างก็ได้ปะวะ แบบเห้ยแฟนกูอยู่ไหนวะตอนนี้ทำอะไรอยู่ คิดถึงชิบหายเลยวะ อะไรแบบเนี้ย ร้อนรนอะเจ มึงทำเป็ยมั้ย"

"คู่กูไม่ได้หวานเหมือนคู่มึงนะครับผม ไม่มีโมเม้นป้อนน้ำให้กันหรอก หึหึ"ได้ทีผมก็ขอแควะมันหน่อยละกันชอบเสี้ยมดีนัก

"เชี้ยเจ อย่าพูดเสียงดัง เดี๋ยวคนอื่นได้ยินหมด"

"ทานโทษนะครับ กูอยู่ในรถกับมึงสองคน กระจกก็ปิดซะถึบขนาดนี้ มึงยังจะกลัวอะไรเล็ดลอดออกไปอีกห้ะ กูว่ามึงควรจะบอกตัวเองให้ใจเย็นให้เป็นก่อนนะไอวิน ไม่ใช่เอะอะอะไรก็พุ่งเข้าใส่อย่างเดียว มันไม่มีเหตุผลว่ะ"

"ครา้บๆ พอคนใจบุญ แสนดีรึเกินมึง พูดซะกูดูเหี้ยเลยนะมึงอะ"

"อ้าวนี้มึึงไม่ได้เหี้ยก่อนที่กูจะด่าหรอกเหรอ "

"สัด กูไม่น่าพามึงมาเลยวะแม้ง"ไอวินเบ้ปากใส่ผมและกันไปส่งใจไอโฟนของมันที่มีเสียงไลน์เด้งมารัวๆ

"แล้วมึงจะให้กูร้อนมาทั้งๆที่ยังไม่รู้เรื่องห่าอะไรดีเลยเนี้ยนะ" ผมบ่นออกมาโดยที่สายตายังคงจ้องมองอยู่ที่หน้าคณะไม่วางตา

"เออๆเอาไงก็เอาเถอะ"ระหว่างที่ผมกับไอวินเรากำลังถกเถียงกันเรื่องไร้สาระ ระหว่างนั้นก็มีรถคันสีดำอีกคันเข้ามาจอดใกล้กับที่รถที่ผมอยู่


"จอดแบบนี้ไม่ชนตูดกูเลยวะสัด"วินมันละสายตาจากจอหันไปมองอาเมร่าผ่านกระจกหลังพร้อมกับสบถคำด่าต่างๆมากมาย ก็แน่ละป้ายแดงด้วยนิ เป็นผมๆก็คงโวยเกิดชนกันขึ้นมาจริงๆ คงเคลียกันยาวยิ่งมันเป็นคนอารมณ์ร้อนด้วย เกิดผีบ้าเข้าสิงมันขึ้นมาผม้องก็รับมือไม่ไหวหรอกนะ

แต่พอไอวินมันเห็นคนที่เดินออกมาปากที่เอาแต่บ่นๆก็เงียบกริ้บทันที ผมไม่รู้ว่าที่มันเงียบเป็นเพราะคนที่เดินออมาเป็นผู้หญิงหรืออาจเป็นเพราะความสวยของเธอกันแน่ที่ทำให้ไอวินเพื่อนผมถึงกับติดอ่าง พูดอะไรไม่ออกเหมือนคนเป็นใบ้ (หรือมันสตั้นความสวยของเธอคนนั้นกันวะ)


"กาย!!"ผมกู่้ร้องขึ้นมาด้วยความตกใจเพราะผู้ชายหน้าหล่อที่ผมตั้งใจจะมาหาตอนนี้มันรีบวิ่งหน้าตั้งออกมาจากในตึกแล้ว หน้าตาดูเร่งรีบเชียวสงสัยไอวินมันจะเป็นสายส่วนตัวรายงานเพื่อนรักมันว่าผมจะมาหาไงมันถึงได้รีบจนเกือบสะดุด อยู่หลายที ผมเผลอยิ้มออกมากับการกระทำเชิงเล่นๆของมันแบบไม่รู้ตัว แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง แค่ชั่วครู่ รอยยิ้มที่เคยมีของผมหุบลงทันทีที่ได้ยินชื่อๆนึงจากปาก ของไอวิน

"นิ้ง" นิ้งคือใครผมก็ไม่อาจรู้และที่สำคัญคือผมไม่เคยเห็นเธอมาก่อนไม่รู้ว่าหน้าตาของเธอเป็นยังไงแต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้แน่ชัดจริงๆเลย คือนิ้ง คืออดีตแฟน ของกาย ซึ้งเคยเลิกลากันไปแล้วแต่สิ่งที่กำลังผุดขึ้นเป็นตะกอนในใจผมตอนนี้คือ กาย เดินเข้าไปหา ผู้หญิงคนนั้นทำไม?

ผมได้แต่มองทุกการกระทำตั้งแต่การวิ่งจนเดินมาหยุดที่รถด้านหลังผม และเหมือนกายเอง ก็คงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ผมอยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างหน้ารถของเธอคนนั้น...
เมื่อนานมาแล้วกายเคยบอกกับผมว่าเรื่องของมันกับนิ้งจบกันไปนานแล้ว แต่ก็มีคำถามมากมายหลายคำถามถาโถมเข้ามาที่หัวผม และคำถามที่ดูจะเด่นชัดที่สุดในตอนนี้คงจะเป็น ความจริง. ความจริงที่กายเคยพูดเมื่อนานมาแล้วทุกสิ่งที่มันบอกผมมันใช่เรื่องจริงเหรอ มันถูกทุกๆคำพูดที่กายเคยบอกกับผมเลยรึเปล่า

หรือบางทีมันอาจจะพูดเพื่อให้ผมสบายใจ และยอมทำในสิ่งที่มันต้องการ ของมัน ความคิดต่างๆมากมายกำลังวิ่งเล่นอยู่ในหัวผม และดูเหมือนมันจะไม่มีวันหยุดง่าย ๆ
และเมื่อสมองของผมสั่งการอะไรไม่ได้ผมก็เลือกที่จะนั่งอยู่ในรถเงียบๆและมองทุกๆการกระทำของคนสองคน อย่างใจจดใจจ่อ

"เจ...มึง.." วินใช้นิ้วสะกิดที่ไหล่ผมเหมือนมันอยากจะถามผมด้วยแหละว่าโอเคมั้ย แต่ผมในตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรเลยสักอย่าง กลัวจะเผลอเหวี่ยงใส่มัน

หัวข้อ: Re: Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :36(แก้ไข)และ 37〗〖09-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-07-2017 14:53:28
ใบหน้าของมันตอนที่พูดคุยกับเธอคนนั้นดูจะมีความสุขมาก ดูจากกายหยอกล้อและเล่นกันมันดูสนิทเกินกว่าที่คนเป็นเพื่อนเขาควรจะทำกัน จนผมต้องเก็บมานั่งคิดแล้วถามตัวเองให้ชัดอีกครั้ง
ว่าสถานะจริงๆของผมในตอนนี้ มันคืออะไรกันแน่ ?

TBC. . .

(เนื่องจากมันพิมพ์ต่อจากด้านบนไม่ได้ไม่รู้เพราะเหตุผลอะไรจึงนำมาต่อให้จบนะครับผม)

 :hao5:
หัวข้อ: Re: Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :36(แก้ไข)และ 37〗〖09-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 09-07-2017 14:59:20
Falling In Love

หลุมพลางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:37 ไม่คาดคิด

หลังจากที่อาเมร่าสีดำขับออกไปก่อนหน้าโดยมี ไอกายอาสาเป็นคนขับให้เธอคนนั้นก็ยืนยิ้มแก้มปลิอยู่หน้ารถก่อนจะเปิดประตูและเข้าไปนั่งพร้อมกับรถที่ค่อยๆเคลื่อนตัวไปช้าๆ สายตาผมยังคงอาลัยอาวร มองมันจนลับสายตาไป ไอวินทำท่าจะรีบขับตามไปแต่ผมห้ามมันไว้ เพราะไม่อยากไปขัดขวางเวลาของคนสองคน เลยปล่อยระยะให้ห่างไปสักพักจึงค่อยออกรถตามมา
ระหว่างทางที่ขับรถกลับมาที่ร้านวินมันเอาแต่ถามผมตั้งแต่ขับออกมาจากมอจนใกล้จะถึงร้าน มันก็ยังไม่หยุดถาม และอาจจะเป็นเพราะ ผมเองที่ไม่ได้ตอบอะไรมันเลยถามผมต่อเีรื่อยๆจนกว่าผมจะตอบมัน


"เจ..มึงเป็นโอเคป่าว อย่าเงียบได้มั้ยวะ" ผมควรจะตอบมันตามความรู้สึกหรือควรจะตอบให้มันสบายใจดีผมคิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ

"แต่กูขอความจริงนะ อยู่กับกูไม่ต้องฟอร์มก็ได้"และแล้วสิ่งที่ผมอัดอั้นมาก็ไม่อาจเก็บงันไว้ได้อีกต่อไป หยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างราวกับสายน้ำที่ไหลกรรโชกไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ผมสะอื้นจนตัวเองหายใจไม่ทัน จนวินมันต้องหยุดรถระทันหันและหันมาคุยกับผมอย่างจริงจังและดึงตัวผมเข้าไปกอด

"...กูอยู่ตรงนี้..เจ.มึงอยากร้องอยากระบายอยากทำห่าอะไรก็ทำมันออกมาให้หมด "แรงกอดจากวินกระชับทำให้ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยหยาดน้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มอย่างช้าๆจนเหือดแห้งลงไปในที่สุด วินมันถอนตัวเองจากอ้อมกอดและจับหน้าผมไว้ให้สายตาของผมโฟกัสที่หน้าของมันเพียงอย่างเดียว

"ฟังกูนะเจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกูจะอยู่ข้างมึง และถ้าสิ่งที่มึงเห็นวันนี้มันคือเรื่องจริงกูจะจัดการกับมันให้เอง

มึงไม่ต้องห่วง ส่วนเรื่องต่อจากนี้มึงจะเอายังไงก็แล้วแต่มึง มึงต้องตัดสินใจเพราะนี้คือเรื่องของมึงกับไอกาย กูคงเข้าไปเสือกอะไรด้วยไม่ได้ แต่ถ้าจะให้กูแนะนำกูอยากให้มึงลองคุยกับมันดีๆก่อนวะ บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้นะเว้ย อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันก็ได้"

"กูกับนิ้งเราไม่ได้เป็นอะไรกัน"

"นิ้งคือแฟนเก่ากู"

"กูไม่ได้คิดอะไร"

"เรื่องของกูกับนิ้งมันเป็นแค่อดีต" ภาพความคิดจากอดีตกับปัจจุบันผม แยกไม่ออกว่าสิ่งไหนที่เกิดขึ้นก่อนหรือสิ่งไหนที่เกิดขึ้นทีหลังและในเมื่อให้คำตอบอะไรกับตัวเองไม่ได้ผมก็เลือกที่จะหันหน้ามองบรรยากาศรอบข้างแทนเพื่อมันจะช่วยดับอารมณ์ร่อนรุ่มในใจผมได้บ้าง


เวลาบ่ายสองกว่าๆ วิน พาผมมาส่งที่ร้านด้วยสภาพที่ดูเป็นปกติที่สุด (ถ้าตาไม่บวม)

"อ้าวน้องวินพากันไปไหนมาหืม ไปกันซะนานเชียว"เสียงพี่อินร้องทักทันทีที้ผมและวิน มายืนเสนอหน้าอยู่กลางร้าน

"อ่อไปมอมาอะครับพี่อินพอดีมีธุระนิดหน่อย"

"ขยันกันจังขนาดปิดเทอมแล้วยังมีเรียนกันต่อด้วย"

"พอดีไปหาเพื่อนเฉยๆอะครับพวกผมไม่ได้ลงเรียนซัมเมอร์กันหรอก"ขอบใจนะมึงที่พยายามเบี่ยงประเด็นไม่พูดถึงมันเองก็น่าจะสัมผัสได้แหละว่าผมเองก็ไม่อยากได้ยินชื่อมันในตอนนี้เหมือนกัน

"อะ แล้วทานอะไรกมารึยังหนุ่มๆ เดี้ยวๆ เย็นๆพี่ทำอะไรให้กินนะ ขึ้นไปรอกันข้างบนห้องก่อนถ้าเสร้จแล้วเดี้ยวพี่ให้ยัยเอิร์นขึ้นไปตาม "

"ครับ ผม ปะมึง"วินเดินนำหน้าผมและเป็นฝ่ายยื่นมือมันมาจับผมและเดินนำขึ้นห้องไป

ทันทีที่หัวผมแตถึงหมอนภาพเมื่อครู่ที่มีหญิงชายยืนพูดคุยกันก็กลับเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง คนที่มันเคยบอกกับผมว่าไม่มีอะไรและไม่คิดจะสานความสัมพันธ์ต่อแต่คำพูดในวันนั้นกับการกระทำในวันนี้ของมันกับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง จนผมชักแยกไม่ออกแล้วว่าสรุป เรื่องไหนคือเรื่องจริงกันแน่

"เจกูว่ามึงใจเย็นก่อนนะ มันอาจไม่มีอะไรอย่างที่มึงคิดก็ได้นะเว้ย เชื่อกู"เป็นอีกครั้งที่ผมได้ยินประโยคทำนองนี้จากปากไอวินเป็นรอบที่ล้านสองได้แล้วมั้ง

"กุพยายาม พยายามแล้วจริงๆวิน แต่กูห้ามไม่ให้ตัวกูคิดไม่ได้วะ "มันไม่ได้ยืนอยู่ในจุดๆเดียวก้บผมนิ มันไม่มีทางรู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน

"มึงมีสิทธิคิดได้นะแต่อย่ามึงอย่าพึ่งด่วนสรุปอะไรไปเอง มึงเข้าใจที่กูพูดใช้มั้ยเจ"เสียงของมันดูหนักแน่นและจริงจังต่างจากเสียงผมที่เริ่มอ่อยลงทุกที

"แต่ยังไงคนที่ยืนอยู่ข้างมันเมื่อกี้ ก็เคยได้ชื่อว่าเป็นแฟนเหมือนกับกู"น้ำเสียงผมเริ่มสั่นอีกครั้ง

"มึงรู้จักนิ้งด้วยเหรอ"ตอนแรกผมเองก็ไม่มั่นใจแต่่ตอนนี้น่าจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วว่าคนที่กายเคยพูดถึงกับคนที่ผมพึ่งเจอ คือคนๆเดียวกัน

"กูว่าอย่าพึ่งพูดถึงในตอนนี้เลย กูขออยู่เงียบๆสักพักนะ"วินขยับเข้ามานั่งใกล้ๆกับผมและจับหัวผมให้อิงไหล่กว้างๆของมัน


" กูจะอยู่ตรงนี้นะเจ" ผมเคยมีความคิดแผลงๆ ในช่วงเวลานึงว่า ถ้าหากผมกับวิน เราสองคนเป็นแฟนกันอะไรๆมันคงจะดีมากกว่านี้ แต่ผมก็ต้องยกมือเสยกระบาลตัวเองอยู่หลายทีเพื่อไล่ความคิดบ้าๆและ ย้ำเตือนตัวเอง อยู่บ่อยๆว่า ความสุขที่ผมมีอยู่ทุกวันนี้คือการได้มีกายอยู่เคียงข้าง แม้มันอาจจะคลุมเครืออยู่บ้าง แต่ผมก็ยิ้มได้ทุกครั้งเมื่อนึกถึงหน้ามัน

........




เวลาหกโมงเย็นผมนั่งๆนอนๆลุกเดินไปมาภายในห้องโดยมีวินนั่งอยู่ด้วย คอยมองการกระทำของผมทุกฝีก้าวไม่ว่าจะเดินเกือกกลิ้งนอน ยังไง มันก็มองผมไม่ยอมวางตา

ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น คงได้เวลาทานอาการเย็นส่วนพี่อินก็คงบอกให้เอิร์นขึ้นมาตามผมกับไอวินแน่ๆ
แต่ทันทีที้ประตูแง้มออกก็ปรากฏใบหน้า ของคนที่ผมยังไม่อยากจะเจอหน้าในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าผมโกรธหรืออะไรแต่ผมแค่กลัวจะหลุดพูดอะไรบางอย่างออกไป ในตอนที่ใจมันยังไม่โอเค


"เจ" เสียงพูดเรียบๆและใบหน้าที่แอบอมยิ้มของมันทำให้ผมหงุดหงิด
ผมเดินไปที่ประตูและดึงบานประตูออกอย่างแรง พร้อมกับเดินลงมาโดยไม่ได้หันไปสนใจ บุคคลที่ยืนอยู่ตรงประตูอีกเลยว่ามันตะแสดงสีหน้ายังไง


........


"ไหงทำหน้าแบบนั้นละหืม "ทันทีที่ผมนั่งลงที่เก้าอี้พี่อินก็ถามผมแทบจะทันที

"แบบไหนละครับ?"ผมตอบเสียงอ่อย จริงๆไม่อยากจะพูดด้วยซ้ำกลัวจะเหวี่ยงคนอื่น

"ก็หน้าเหมือนคนอมทุกข์นี้ไง มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า". ผมเองก็พึ่งรู้นะว่าอารมณ์ความรู้สึกของผมมันถูกส่งออกมาทางสีหนัาและแววตาได้ด้วย ผมได้แต่ฝืนๆยิ้มบางๆส่งให้พี่อินแทนคำตอบ อย่างน้อยถ้ามันช่วยให้พี่อินสบายใจขึ้นผมก็ควรทำ และสิ่งที่ผมรู้แน่ๆตอนนี้คือ ผมไม่อยากหลอกตัวเอง...ไม่อยากยิ้มเลยวะ

ไม่นานนักไอวินกับเพื่อน ของมันก็เดินตามลงมาโดยวินเลือกมันเลือกที่จะนั่งหัวโต๊ะแล้วปล่อยที่ว่างข้างๆผมให้เพื่อนมันมานั่งแทนแต่ผมตั้งตัวทันก่อนเลยยื่นขาขึ้นมาก่ายอยู่เก้าอี้ตัวข้างๆ ก่อนจะหันไปส่งค้อนสายตาอาฆาตให้ไอวินและหันมาสนใจอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะแทน ... ระหว่างเวลาที่เรากำลังทานอาหารกันอยู่บนโต๊ะผม รู้สึกได้ว่ามันแอบมองผมอยู่หลายครั้งจนบ้างทีถึงกับจ้องจนผมต้องหันไปมองกลับแต่ก็แค่แวปเดียว(แวปเดียวจริงๆ) แล้วก็หันมาสนใจสิ่งตรงหน้าต่อ





ตื่อดื่อ......!!!





เสียงประตูหน้าร้านถูกเปิดออกตอนเวลาสองทุ่มกว่าสงสัยลูกค้าน่าจะเข้า พี่อินส่งสายตาขู่ๆบอกให้ผมออกไปดูผมถึงต้องยอมลุกไปแบบเซ็งๆ

ผมอาจจลืมบอกไปอย่างว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมเหล่าๆลูกค้าที่เคยเข้ามาอุดหนุนส่วนใหญ่(ที่เป็น นักศึกษา) หลังจากสอบเสร็จก็หายหน้าหายตากันไปหมดจนแถวระแวกบ้านผมนี้เงียบจะเป็นป่าช้าอยู่แล้ว แต่ส่วนร้านที่ปังๆหน่อยด็นู้นร้านก๋วยเตี๋ยวอาม้าตรงข้ามนู้น ไม่ว่าจะวันไหนช่วงเทศกาลอะไรคนก็ยังแน่นเอี๊ยด ต่างจากร้านผมเลยลิบลับ



แต่แล้วความคิดวุ้นๆทุกอย่างในหัวของผมก็ถูกหยุดเมื่อผมเดินมาถึงประตู บุคคลตรงหน้าของผมทั้งสองคนที่กำลังยื่นยิ้มกรุ่มกริ่มจนเกือบจะหลุดขำออกมานั้นไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็น....


"ป๊า .....เจมส์".

TBC (อาจจะสั้นไปหน่อยแต่จะมาลงต่อให้ไวใน อีพีหน้านะครับผม ^ ^  :mc4:
หัวข้อ: Re: Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :36(แก้ไข)และ 37〗〖09-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-07-2017 19:54:34
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :38〗〖14-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-07-2017 14:18:51
Falling In Love

หลุมพลางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:38 How...To


(เจ&วิน)




ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้ตัวของผมวิ่งกรู่ไปกอดคนตรงหน้าจนทั้งสองเซถอยหลังจนติดประตู และอาจเป็นเพราะผมดีใจหรือเพราะความคิดถึง จนน้ำตาของผมถึงกับพรั้งพรูออกมาเกมือนสายน้ำที่ไหลกรรโชก แบบไม่ทันได้ตั้งตัว

"เจมส์น้องมึงมันเป็นอะไร ..."เสียงของป๊ายืนยิ้มถามพี่เจมส์ผมอย่างอารมณ์ดี

"มันคงโดนไอวินแกล้งอีกแล้วละมั้งผมว่า"

"ไหนใครมาดึกๆดื่นๆ......ทึ่รัก!" เสียงของพี่อินร้องโหวกเหวกโวยวาย ดังขึ้นพร้อมกับ วิ่งกรู่เข้ามากระโดดกอด พี่เจมส์ จนทั้งผมและพ่อถูกเตะกระเด็นออกจากเฟรม

"ปล่อยให้เขารำรึกความหลังกันไป " ป๊ากระซิบเบาๆที่ข้างหูผม ก่อนจะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาที่ข้างแก้มของผมพร้อมกับผลักหัวผมไปมา(เหมือนสนุก)และเดินเข้ามาข้างใน

ผมเดินนำป๊าเข้าห้องครัวไปจากในตอนแรกที่มีเสียงคุยกันเจี๊ยวจ๊าวกลับเงียบสงบลงทันทีที่ป๊าผมเดินเข้ามา. . สายตาของไอวินมองมาทางผมเหมือนอยากถามแบบไร้เสียงว่า

"พ่อมึงมาได้ยังไง "ผมเองได้แต่้ส่ายหัวเพราะไม่รู้จริงๆว่าป๊ามาได้ยังไง เหมือนกัน

"สวัสดีครับคุณพ่อ"เสียงหวานๆ(ตอแหล)ของเพื่อนมันเสนอหน้าเข้ามากราบสวัสดีป๊า
ผมจนแทบจะก้มลงไปจูบกับพื้นกระเบื้อง

"ไหว้พระเุถอะไอหนุ่ม แล้วนี้ข้ามาขัดจังหว่ะอะไรเอ็งกันรึเปล่า"ป๊าพูดพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้อง

"ไม่เลยครับคุณพ่อ ผมแค่มาทานข้าวเฉยๆครับ"

"อ้าวนี้สรุปเอ็งเป็นชู้ เมียไอเจมส์มันรึไงกัน" พรวด น้ำเปล่าแทบพุ่งออกทางรูหูผม

"ไม่ใช่แล้วครับป๊า. ไอกายมัน ชอบไซด์มินิแบบไอเจต่างหาก" ไอนี้้ก็เสร่อพูดขึ้นมารึเกิน คิดก่อ กบฏ รึไงกัน

แถมไอห่านั้นยังกันมายิ้มใส่ปมไม่ยอมปฏิเสธห่าอะไรสักอย่าง

"เออดีๆบ้านนี้ไม่มีลูกสาว ถ้าอยากได้ก็เอาไป เลยข้า ยกให้ฟรี สำหรับเอ็งข้าแถมข้าวให้สองกระสอบเลย. ฮ่าๆ"นี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่มุกฝืดๆของป๊าไม่ได้ทำให้อารมณ์ผมดีขึ้นเลยแม่แต่น้อยจัมีก็เพียงใบหน้าเรียบๆ เท่านั้นที่ผมจะแสดงออกมาให้เห็นได้ ป๊าหันมามองหน้านิ่งๆของผมและรีบเก็บรอยยิ้ม และเสหน้ามองไปทางอื่นแทน. . .. . . ป๊าคงจะรู้แน่ๆว่าผมในโหมดนี้ไม่พร้อมรับแขกหน้าไหนทั้งสิ้น โดยเฉพาะมัน. .



(วิน)
"มันเป็นอะไรของมันวะไอเสือ " จู่ๆป๊าของไอเจก็หันมาถามผม

"ผมว่าอย่าพึ่งเซ้าซี้มันตอนนี้ดีกว่าครับป๊า ป๊าน่าจะรู้ดีว่าตอนมันวีนแตกมันเป็นยังไง.." ผมจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เจมันโมโหจนเกือบจะพังบ้านได้มันเป็นยังไง เจมันเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก็บความรู้สึกเก่งมากครับแต่ถ้าวันไหนมันเกิดบ้าขึ้นมา รับรองนั่งเหวอ้าปากค้างกันแน่นอน แถมถ้าอยู่ในช่วงอารมณ์นั้น มันจะไม่ฟังใครด้วย ขนาดหัวผมมันยังไม่เห็น จำได้ลางๆว่าครั้งนั้นเกือบโดนนาฬิกาตั้งโต๊ะมันเขวี้ยงใส่หัวเอาตอนผมไปถามเซ้าซี้มัน

"อย่าบอกนะว่ามันโดนสาวหักอก..."ป๊าทำทีถามผมติดขำเหมือนคิดว่ามันเป็นเรื่อง เล็กๆน้อยๆ

"ป๊าคิดว่าอย่างไอเจจะมีสาวๆเข้ามาหาหรอครับ จะมีก็แต่...ป๊าน่าจะรู้ดี"ผมแอบขำหึหึในลำคอ

สมัยตอนเรียนมัธยม หน้าเจมันยังไม่ค่อยปังเหมือนสมัยนี้หรอกครับ เมื่อก่อนมันตัวคล้ำๆหน่อยแต่ก็ไม่ถึงว่าดำอะไรมากออกเหลืองๆ หน้าก็เฉิ่มๆ ถ้ามองผ่านๆมันก็อาจจะดูเฉยๆไม่มีอะไรน่าดึงดูดนัก แต่ถ้าหากใครได้เห็นเวลามันอารมณ์ดีๆหน่อย รอยยิ้มของมันจะมีเสน่ห์มากครับ มันเหมือน ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับออร่าของความสุขทำให้คนรอบข้างที่อยู่ใกล้ตัวมัน ต้องยิ้มตามไปด้วย . . . แต่ถ้าหากถามว่าผมรู้ได้ยังไงนะหรอ หึหึ ถ้าพวกคุณๆรู้แล้วอย่าไปแอบบอกมันหลังไมค์นะครับ ว่าผมเองนี้แหละคือหนึ่งในคนพวกนั้น ที่แอบหลงรอยยิ้มของมันโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว มันไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มของมันนั้นมีดาเมทมากแค่ไหน วันๆมันเอาแต่นั่งเอ๋อ อ่านการ์ตูนฟังเพลง ดูผมเล่นบอล แต่ถ้าจะพิลึกๆหน่อยก็ช่วงอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยนี้แหละครับ ช่วงนั้นมันนั่งเครียดกังวนว่าจะสอบไม่ติดที่เดียวกับผมแต่เหมือนนรกยังเปิดทางให้ผมกับมันอยู่ร่วมโลกด้วยกัน เจมันนั่งลุ้นผลสอบจนตัวโก่งและพอประกาศออกมาในเว็ปมันก็ร้องดีใจลั่นร้านคอมและหันมาดึงคอผมไปกอดและหอมอยู่หลายครั้ง และนั้นแหละครับคงเป็นครั้งแรกที่ผมเกิดอาการใจเต้นแรงกับผู้ชายธรรมดาๆอย่างมัน

. . . นอกเรื่องมาซะเยอะเข้าเรื่องในตอนนี้ก่อนดีกว่า
ถ้านึกย้อนเวลากลับไปได้เมื่อช่วงเย็นผมจะไม่พาเจมันไปด้วย เพราะภาพต่างๆเหล่านั้น มันคงกำลังหลอกหลอนจิตใจของเพื่อนผมอยู่ตลอดเวลา ผมรู้จังนิ้ง ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมผ่านจากไอกายแล้วเธอก็หายจากวงโคจร
รของมันในเวลาไม่นาน ผมกับกายเราสนิทกันขั้นหนึ่ง ช่วงนั้นถือว่าแค่พอรู้จักชื่อ ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ค่อยบ่อย จะเรียกว่าสนิทเลยก็ไม่ได้ เพราะเวลาส่วนใหญ่ผมจะใช้กับเจมันหมดเลย กับกายจึงเป็นเพื่อนที่รู้จักแต่ไม่ค่อยสนิทอาจจะเป็นเพราะเราอยู่คนละห้องด้วยแหละ

แต่ที่ทำให้ผมสนิทกับจนแทบจะเป็นแฝดสยามนี้ก็ตอนเจอหน้ามันในตึกวิศวะ วันปฐมนิเทศ นั้นแหละครับม มองหน้ากันแว็ปเดียวก็ซี้กันแล้ว แต่ผมคงต้องขอให้เราพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเพราะใจความสำคัญตอนนี้ึืคือเพื่อนของผม มันยังซึมทำหน้าหงอยเป็นหมาแดกแฟ็บอยู่เลย

"ไอวิน" เสียงเรียกชื่อผมดังมาจากด้านข้าง

"เออมีไรทำไมต้องกระซิบเนี้ย"ผมหันไปขานรับ ไอเจมัน

"กูไม่อยากให้มันได้ยิน"คงหมายถึงไอกายสินะ

"แล้วสรุปมึงจะบอกอะไรกู"

"เมื่อไหร่มันจะกลับวะ"

"อ้าวกูจะไปรู้หรอ ไม่ได้ผูกจู๋ติดกันนะเว้ย ขามามันก็มาเองขากลับก็คงกลับเองนั้นแหละเชื่อกู"

"เรื่องนั้นกูรู้ แต่ตอนนี้กูไม่อยากคุยกับแม้งวะ ขนาดแค่เสียงหายใจมันกูยังหงุดหงิด "เป็นเอามากนะเพื่อนผมเนี้ย --'

"เอาหน่าป๊ามึงก็อยู่อย่าห่วงเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้เดี้ยวกูเคลียให้เอง แต่ถ้ามึงไม่ไหวก็รีบเดินขึ้นห้องไปพักใจก่อน เดี้ยวกูตามไป โอเคมั้ย " เจมันตอบตกลง และหันไปมองหน้าไอคนที่กำลังประจบพ่อมันก่อนจะเดินขึ้นไป ผมแอบเห็นไอกายมันมองตามเจลากยาวตั้งแต่ตอนที่เดินผ่านมันแล้วทำเมิน จนถึงตอนที่มันก้าวขึ้นบรรไดหายไปบนชั้นสอง สีหน้าของมันนี้ผมคงจะไม่ต้องเอ่ยนะครับว่าหงอขนาดไหน

"คุณพ่อครับเดี๋ยวผมขอตัวออกไปทำธุระก่อนนะครับ"กายมันไหว้ป๊า ไอเจก่อนจะเดิน ตามรอยเมียรักของมันขึ้นชั้นสองไป
. . . . . .
เวลาผ่านไปราวๆชั่วโมงกว่าๆเจมันเดินลงมาพร้อมกับไอคุณชายที่ยืนยิ้มแกล้มปริ จนผิดสังเกตก่อนจะเดินออกไปข้างนอก ขนาดน้องเอินทึ่่นั่งฟุบๆจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ยัง หันไปมองและยิ้มตามทุกกากระทำของมันทั้งสองคน

"ไงมึงเสร็จแล้วดิ"ผมส่งเสียงแซวไอเพื่อนตัวดีที่กำลังเดินกะเพกๆเข้ามานั่งใกล้ๆกับผม เจมันไม่ตอบอะไรได้แต่สงสายตาค้อนมาที่ผม และนั่งหงิมๆดังเดิมแต่ที่เพิ่มเติมน่าจะรอยแดงๆที่คอ สงสัยด้านบนยุงคงจะตัวใหญ่กัดซะเห็นเขี้ยวเลยหึหึ

"ป๊าไปไหน"จู่ๆไอเจก็หันมาถามผมแล้วทำตัวรุกรี้รุกรน

"ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ส่วน พี่เจมส์มึง น่าจะขึ้นห้องไปกับพี่อิน แล้วสรุปเรื่องของมึงกับมันนี้ยังไง"
"อะไรยังไงวะ"ผมทำท่าลนลานหลบสายตาตอนผมถาม

"ก็เรื่องเมื่อเย็นไง หายงอลละสิห่าโดนจัดหนักเลยสิมึง คอแดงเชียว "

"เฮ้ย เห็นรอยด้วยเหรอวะ "เหมือนมันจะยังไม่รู้ตัวครับ

"ไม่เห็นมั้งครับห่า โจ่งแจ้งขนาดนี้"

"แต่กูกับมันไม่ได้มีอะไรกันนะเว้ย มึงอย่าพึ่งเข้าใจผิด"

"จ้าๆไม่มีอะไรๆ"

"กูพูดจริง!"เสียงของมันดูจริงจังขึ้นมาทันทีแสดงว่ามันคงไม่มีอะไรอย่างที่มันบอกนั้นแหละครับ

หลังจากที่มันนั่งแถกับผมจนเหนื่อยน้องเอิร์นสุดที่รักของมันก็เขยิบเข้ามาคุยอะไรกันจุ้กจิ๊ก จนผมทนจั๊กจี๊รูหูไม่ไหวเลยขอตัวออกมา สูบบุหรี่ข้างนอกแต่ทันทีที่ผมกับไอกายกำลังจ่อมวนบุหรี่ไว้ที่ปากภาพของไอเจที่สำลักควันสีขาวๆก็ผุดขึ้นมาในหัวผม อาจจะเป็นเพราะความเคยชินผมถึงหยิบขึ้นมาสูบอย่างไม่คิดอะไรแต่พอสำนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ผมกับกายเรากันมามองหน้ากันและพร้อมใจหยิบบุหรี่ที่คาบไว้โยนลงถังขยะไป อย่างไม่นึกเสียดายทีหลัง

"กาย"น้ำเสียงเรียบๆติดจะเบาของผมเรียกชื่อกายแต่แปลกที่มันดันได้ยิน

"เออมีไรวะ"

"มึงง้อเจมันวิธีไหนวะ"นี้อาจจะเป็นคำถามที่คาอยู่ในหัวผมตั้งแต่เมื่อกี้แล้วและนี้คงจะเป็นโอกาศดีที่ผมจะได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดซักที

"ก็อธิบายให้ฟัง แต่กว่าจะยอมฟังเล่นเอาซะเหนื่อยเลย"กายมันแอบขำเล็กๆตอนพูด

"มึงบอกมันไปว่าไงวะ"อาจจะดูเหมือนผมอยากรู้อยากเห็นจนเกินควรที่ถามมันไปแบบนั้นแต่เจมันก็เป็นเพื่อนผม เรื่องของเจก็เหมือนเรื่องของผมเหมือนกัน

"มึงเป็นอะไรวิน จับผิดอะไรกูอยู่รึป่าว"กายมันเริ่มทำท่าทีแปลกๆตอนผมถามมัน

"ก็แค่อยากรู้ เพื่อนอะเพื่อน " พอเอาคำว่าเพื่อนเข้ามาขู่หน่อยไอกายนี้ก็หวั่นง่ายเหมือนกันครับ

"โหๆมีงอลเว้ย อะๆกูบอกให้ก็ได้"ผมตั้งใจจดจ่อรอฟังที่มันพูด

"กูก็บอกไปว่ากูติดเรียนทำธุระที่คณะเลยไม่ว่างรับสาย"

"แค่นั้น?"

"ก็เออแค่นั้น" แล้วเรื่องที่มันยืนคุยกับนิ้งที่หน้าคณะละเรื่องนี้มันไม่ได้บอกเจหรอกเหรอ

"แล้วหลังจากพักเที่ยงมึงไปไหนต่อ"ผมเริ่ม ถามเกินประเด็นไปแต่ผมก็ไม่ได้สนใจถ้ากายมันจะมองผมไม่ดี

"ก็เรียนเสร็จ กูก็ออกมารอพวกไอบอสไอเบล แล้วก็ออกไปหาอะไรกินกันก็เท่านั้น" ผมเริ่มรู้สึกเคืองๆแทนเจมันขึ้นมา

"หรอ"

"ก็เออดิวะ มึงจะเซ้าซี้กูทำไมเนี้ย"

"กูป่าว ..แล้วตอนมึงบอกเจมันทำหน้ายังไงบ้าง"

"วินกูถามจริงนะมึงมีอะไรอยากพูดกับกูรึเปล่า ไม่ต้องอ้อมค้อมนะถามกูมาตรงๆเลย"ใจจริงผมก็อยากจะถามมันไปตรงๆเลยแต่กลัวว่าจะ มีปากเสียงกันเลยเลืิดที่ตะเงียบไว้

"ช่างมันเหอะ"เซ้าซี้ไปยิ่งทำให้อารมณ์ผมเดือด

"มึงโกรธอะไรกุอีกคนป่าวเนี้ยวิน " กูควรตอบไงดีวะไม่ได้โกรธแต่กูเคืองแทนเจมัน แบบนี้มันจะดูสมเหตุสมผลป่่าววะ

"ก็ป่าว "

"ตอนกูบอกเจมันก็ทำหน้านิ่งๆ ก็แค่นั้นอะ " แค่นั้นของมึงแต่มันแอบซ้อนไปด้วยความจริงที่เถียงไม่ออกผมว่าถ้ากายมันรู้เรื่องที่ผมไปหามันกับเจที่คณะมันคงพูดไม่ออกแน่ๆ


"กูจะบอกอะไรให้นะกาย ความรู้สึกของคนแต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอกนะเว้ย บางคนโมโหง่ายโกรธง่ายแต่หายไวส่วนบางคน อาจจะไม่แสดงความรู้สึกอะไรทั้งๆที่ข้างในมันอาจจะไม่โอเค"

"มึงกำลังจะสื่ออะไรให้กูฟังเนี้ย" ผมพยายามจะบอกอ้อมๆให้มันรู้ไว้ว่าภายนอกที่ดูปกติของไอเจมันแฝงไปด้วย อารมณ์ขุ่นมัวที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของมัน หลายปีที่ผมกับเจเป็นเพื่อนกันมาทำให้ผมได้รู้ ตัวตนของมัน ดี. เจมันเป็นคนที่อ่อนไหวง่ายกับทุกๆเรื่องโดยเฉพาะการไว้เนื้อเชื่อใจ เรื่องนี้อาจจะเป็นจุดออ่นสำหรับมันมาก และในวันนี้ ผมก็ได้รู้ว่า คนที่ยืนอยู่ข้างมันในตอนนี้เริ่ม แสดงในสิ่งที่เจมันแพ้ทางออกมาให้เห็น

.....
ผมเดินเข้ามาในร้านอย่างหัวเสียหลายคนอาจจะมีคำถามว่า ทำตัวเวอ่ร์ไปรึเปล่า แต่สำหรับผมแล้วเจมันก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของผม ความรู้สึกเจคือสิ่งที่ผมต้องคอยดูแลอยู่ห่างๆ แม้มันเองอาจจะไม่เคยรู้่เลยก็ตาม
แต่พอผมเดินเข้าครัวก็เห็นเจมันนั่งก้มๆซะลึมซะลือเหมือนคนเมา เลยเดินเข้าไปหามัน

"เจ" ผมยื่นมือเขย่าตัวมันที่อยู่ตรงหน้า

"อื่อ..."เจมันเงยหน้าขึ้นมองผมและยิ้มโชวฟันครบสามสิบสองซี่

"กูออกไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไหง สภาพเป็นงี้วะ"แค่ลมหายใจเบาๆของมันผมก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นละมุด ที่ถูกพ่นออกมา
ผมพยายามเพ่งเล็งหา สิ่งของที่เป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนผมมีสภาพเป็นแบบนี้ และสายตาผมก็ดันไปสะดุดกับขวดวอดก้าใสๆ ที่วางอยู่ตรงหัวมุมโต๊ะ ผมไม่รู้ว่าเจมันกินไปมากเท่าไหรแต่่สำหรับมันที่ไม่ค่อยถูกกับของพวกนี้แยู่แล้ว ช็อตเดียวผมว่าก็น่าจะเกินพอที่จะ สามารถทำให้สติของเพื่อนผมหลุดลอยเมาจนหัวทิ่มแบบนี้ได้

"ไหวมั้ยมึง จะขึ้นไปนอนป่าวเดี๋ยวดูขึ้นไปส่ง"

"อื่อ...ไหว... ของแค่นี้เองจิ๊บๆ "จิ๊บๆของมันนี้ยกหัวแทบไปพ้นโต๊ะแล้ว

"แล้วเครียดห่าอะไรถึงกินเนี้ยไหนบอกกูว่าเคลียกันแล้ว" พอผมพูดจบเจมันก็พยายามดันหน้าของมันขึ้นจากโต๊ะและกลายมาเป็นซบที่ไหลผมแทน..

"วิน" เสียงๆเรียบๆแต่แอบสั่นๆของมันทำให้ผมต้องเอียงคอหันไปมอง มันใกล้ๆ

"เออ"

"มึงว่ากายมันจริงจังกับกูป่าววะ". คำถามของมันทำเอาผมถึงกับสะอึก

"มันมีอะไรใช่มั้ย"แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้วแต่ผมก็ัยังอยากได้ยินจากปากของมัน

"กาย...มันโกหกกู" น้ำเสียงของมันเริ่มสั่นๆ

"เรื่องนิ้งใช่มั้ย"มันไม่ได้ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าอยู่กับไหล่ของผม

"มันบอกกูว่ามันติดเรียน เลยไม่ว่างรัีบสาย แล้วพอเรียนเสร็จมันก็ออกไปกับเพื่อนมัน ทั้งๆที่มึงและกูก็เห็นว่ามันอยู่กับนิ้ง ...กูจะไม่โกรธไม่คิดมาก หรือโมโหใส่เลยถ้ามัน ยอมบอกความจริงกับกู แต่..."เสียงสะอื้นของเจมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
"แต่กูก็ฺยัง..แกล้งโง้เชื่อมันไป... ไม่รู้ทำไมวะ.ฮึก..."แขนยาวๆของผมโอบกอดเจไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

"มึงนี่นะ...เจ็บแต่ก็ไม่เสือกพูด "อารมณ์ผมในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะปลอบหรือด่ามันดี

"แล้วจะเอาไงต่อ จะปล่อยให้มันคาใจไปแบบนี้ รึไง"เจมันเอียงหน้าซับน้ำตากับเสื้อของผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมพูด

" กูยังไม่รู้ว่าควร. .ทำยังไงต่อเลยวะ. ."เจมันตอบผมโดยที่คาบน้ำตายังคงติดอยู่ที่แก้มทั้งสองข้าง

" แล้วมึงจะทนเก็บความรู้สึกพวกนี้ไปตลอดเลยหรอวะ"ผมรู้ว่าเจมันเก่งเรื่องเก็บความรู้สึกแต่ผมสงสารความรู้สึกของมันกลัวว่าถ้าหากมันปล่อยเรื่องนี้ให้คาใจต่อไปเรื่องต่างทันอาจจะยิ่งแย่ไปมากกว่านี้

"กูจะพยายาม. . .มึงก็รู้..กูเก่งจะตาย"แม้มันจะหันหน้ามาส่งยิ้มใหผม้้แต่ ทำไมรอยยิ้มของมันในตอนนี้ถึงได้รู้สึกเหวงแปลกๆเวลาที่ผมมอง ไม่เหมือนร้อยยิ้มที่น่าหลงไหลแบบเมื่อก่อนเลย

"เอาเถอะกูก็ไม่อยากพูดอะไรมากเหมือนกันเพราะกูเป็นคนนอก คงไม่มีสิทธิ์ แต่ยังไงก็คิดดีๆนะมึง ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ กูจะอยู่ข้างมึงเอง. . ."

"เชี้ยวิน..."เจมันฉีกยอ้มกว้างอีกครั้ง

"เอออะไร"

"กูโคตรรักมึงเลยวะ"มันไม่พูดเปล่ายื่นมามาดึงตัวผม

ตื่อดื่อ...!! เสียงประตูหน้าร้านดังขึ้นเจมันรีบยกมือเช็ดคราบน้ำตาที่ติดอยู่ก่อนจะรีบเดินหลบมุมไปสั่งน้ำมูกและเดินกลับมานั่งที่ดังเดิมด้วยสภาพเบลอๆ




"กาย!!....อยู่ไหนวะ"เสียงที่ดูไม่ คุ้นหูตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังลั่นร้านผมกับเจเรามองหน้ากันอย่างงงๆ พร้อมกับคำถามที่วิ่งเข้ามาในหัวและเอ่ยปากพูดพร้อมกัน

เสียงใครวะ? อันที่จริงแอบตกใจมากกว่าครับดึกๆขนาดนี้แล้วยังมีลูกค้าอีกเหรอวะ หรือจะเป็นญาติโกฝั้งไหนของใครอีก
เจมันยู่ปากเป็นเชิงบอกให้ผมออกไปเปิดถ้าเป็นช่วงอารมณ์ปกติผมคงนั่งเถียงกับมันแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยากให้มันพักใจไปก่อนไม่อยากให้มาเครียดเรื่องเกี่ยงกันเล็กๆน้อยๆผม เลยจำเป็นต้องเดินออกมา ดูให้แทน

"กาย..ไอกายมึงอยู่ไหนเนี้ย..."

"โว้ยใครมาตะโกนอะไรเสียงดังวะ นี้บ้านคนนะไม่ใช่ตลาดสด.."ผมส่งเสียงตะโกนแข่งตั้งแต่ยังไม่เห็นต้นตอของเสียงที่ได้ยิน
"กาย..มึง....."เสียงตะโกนเงียบลงทันทีที่ผมเดินมาออกเจอหน้าเด็กผู้ชายในชุดนักเรียนมัธยมปลาย

"มึงเป็นใครวะมาตะโกน ทำห่าอะไรในบ้านคนอื่น"ไอเด็กนั้นดูหน้าเสียไป รึเป็นเพราะผมตะโกนเสียงดังไปวะมันเลยกลัว

"พี่หวัดดีครับ"อ้าวผมก็งงสิอยู่ๆมาหวัดดีกันทำไม ไม่ได้รู้จักกันซักหน่อย แต่ เอ้ ทำไมไอเด็กนี้มันถึงหน้าคุ้นๆวะแต่นึกยังไงผมก็นึกไม่ออก

"เออหวัดดี"ผมรับไหว้มันปลงๆ "ว่าแต่มันเป็นใครวะแล้วนี้มาหาใครดึกๆดื่นๆ "

"ผมมาหาพี่"

"หากูเนี้ยนะ?"

"ไม่ใช่พี่ผมหมายถึงพี่ผมพี่ชายอะ"อ๋อแล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก

"หน้ามึงนี้คุ้นๆดีวะเคยเจอกูมาก่อนปะ"

"พี่จำผมไม่ได้จริงๆอ่อ" อ้าวไอนี้จำได้กูจะถามเรอะ.

"เออกูความจำสั้น"

"ที่สยาม คราวก่อนไง ที่พี่ช่วยผมจากไอพวกหัวโจกชอบไถตังอะ"และนั้นก็ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายๆเดือนที่แล้ว

"อ๋อ!!!"ผมร้องเสียงหลง "ไอเด็กห่าที่พานักเลงมาชนของที่เพื่อนกูขายสินะ เออๆกูจำได้และ แล้วสรุปมึงมาทำไมวะ"

"โว๊ะพี่พึ่งบอกไปเมื่อกี้ว่ามาหาพี่ชาย ความจำพี่สั้นไปป่ะเนี้ย"เออวะมัวแต่นึกหน้าของไอเด็กนี้อยู่จนลืมไปเลย

"แล้วไหนละเจอยัง"

"ยังอะพี่ผมกำลังหามันอยู่เนี้ย เห็นแม่บอกว่ามันมาหาพี่ที่ชื่อเจเจอะไรนี่หล่ะ"

"แล้วพี่มึงชื่ออะไร"

"ชื่อกายครับ"หือ..ว่าไงนะ

"ใครนะกูขออีกที"

"กายครับกาย "

"นี้มึงบ้านเจริญเกียรติพานิช หรอเนี้ย"

"ครับผม"ตั้งแต่รู้จักกับไอกายมาหลายปีผมไม่เคยรู้เลยว่ามันมีน้องกับเขาด้วย

"ไม่ยักรู้แหะ ...พี่มึงมันอยู่ข้างนอกกับกูเมื่อกี้อะ ตอนมึงเดินเข้ามาไม่เห็นรึไง"

"อยู่แต่รถอะพี่แค่ตัวมันไม่อยู่ ไม่รู้ไปไหน"

"อ้าว งั้นมึงก็ลองโทรหามันสิ"

"ผมโทรแล้วพี่ ไม่มีคนรับอะ "

"วิน มึงมีคนโทรมาหาเพื่อนมึงอะ. . " จู่ๆเจมันด็เดินก้มมอวโทรศัพท์ที่อยู่ในมือเดินออกมาจากในครัวและเดินมาหาผม

"นี้ไง พี่มึงมันลืมโทรศัพทฺ์ไว้"

"อ้าวพี่หน้าหวาน หวัดดีครับ .." เหมืิอนไอเจมันคงไม่ได้สังเกตุว่าตอนนี้มีใครอีกครยืนอยู่ด้วย มันเงยหน้าขึ้นมองไอเด็กนั้นก้อนจะรับไหว้พร้อมกียทำสีหน้าแบบเดียวกับที่ปมทำเมื่อครู่ เห็นมันแอบหันมาถามผมแบบไร้เสียง

"ใครวะ"

"พี่ก็จำผมไม่ได้อีกคนหรอเนี้ย โห่ ผมไม่น่าจดจำขนาดนั้นเลยรึไง"ไอเด็กนั้นมันทำหน้าจ๋อยใหญ่เลย

"เดี้ยวๆนะ กูคุ้นๆ ขอนึกแปป. . . ใช่ไอเด็กที่เดินชนที่สยามวันนั้นป่ะ"

"ใช่ครับพี่"ไอเด็กนั้นมันวิ่งกรู่เบ้าไปจับไม้จับมือไอเจพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างจนแกล้มแทบแตก

"โหโคตรดีใจอะ พี่จำผมได้ด้วย ..."

"แล้วทำไมถึงต้องดีใจขนาดนั้นด้วยวะ "

"ก็พี่จำผมได้อะ. . "

"ต้องขนาดนั้น?" ตอนนี้พวกมันสองคนเข้าสู่โหมดสองคนแล้วครับรู้สึกเหมือนตอนนี้ ไร้ตัวตนยังไงไม่รู้. .

"เออๆ แล้วมึงมาทำอะไรที่บ้านกูดึกๆดื่นๆเนี้ย"

"ผมมาหาพี่อะ"

"กูเนี้ยนะ" เหมือนเดจาวูเลยวะ คำถามเดียวกันคำตอบเดีนวกีนเป๊ะๆ

"ป่าว ไอกายอะ"นั้นไง จี้จุดดีมั้ยละ เจมันขมวเคิ้วชนกันทันทีที่ได้ยอนชื่อของไอกาย

"มันมีน้องด้วยหรอวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้"

"เป็นปกติเพราะค่อยมีใครรู้หรอก มันไม่อยากให้คนอื่นรู้ผมเองก็ไม่อยากให้ใครรู้เหมือนกัน"

"ทำไมวะ"

"ไม่มีอะไรหรอกพี่ อย่าใส่ใจเลย"

"มึงจะมาตามมันกลับหรอ"

"ป่าวอะ ผมจะมาถามว่ามัน ได้เอา อดิดาสผมไปใส่รึเปล่า ผมหาที่ห้องแล้วมันไม่เจออะ"

"อ๋อ . . เดี้ยวมันก็มาแหละมั้ง ถ้าสงสัยอะไรก็ถามไอนี้ละกันกูจะไปนอนแล้ว."อ้าวเวรโยนขี้มาให้กูอีก

"ทำไมรีบไปจังอะพี่ อยู่รอมันเป็นเพื่อนผมก่อนดิ่"

"ไอนี้ไง ให้พี่ชายกำมะลอของมึงอยู่สิ กูง่วงแล้ว"

"พี่เขาจะฆ่าผมอะดิ่" เอ้าไอเด็กนี้ใส่ไฟกูอีก

""อะไรของมึง กูจะไปทำแบบนั้นกับมึงตั้งแต่เมื่อไหร่"

หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :38〗〖14-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-07-2017 14:25:50
ป้าบบบ!! ฝ่ามือไอเจลอยเข้าที่หัวของผม

"โอ้ย..ไอเจทำอะไรของมึงเนี้ย"เหวอสิครับอยู่ๆก็โดนตบ

"มึงจะไปขู่น้องมันทำไม. . ."ไอเด็กตัวดีนั้นเดินไปหลบอยู่ข้างหลังไอเจ พร้อมกับทำปากพูดแยบไร้เสียง

"ผมขอโทษ"

"ก็มันแม้ง..."

"เออน่าๆมันยังเด็ก อย่าไปทำมัน"

"เดี้ยวๆพี่ใครเด็ก.."จู่ๆมันก็ปล่อยมือจากไหล่ของไอเจและกลับมายืนที่เดิม

"ก็มึงไง ทำตัวเด็กชิบ" ไอด็กนั้นทำหน้าโกรธๆ เหมือนมันจะเคืองที่ไอเจเรียกมันว่่าเด็ก คงจะจี้จุดมันสินะ

"มานี้เลยมึงอะ เมื่อกี้่ ใส่ไฟกูหรอ.. "ผมเดินไปล็อคคอไอเด็กนั้นจากด้านหลังตอนที่มันยังไม่ทันได้รู้ตัว มันพยายามดิ้นหนีผมใหญ่เลยแต่ดิ้นไปก็เสียแรงเปล่าครับยังไงก็ไม่มีทางหลุด

"โอ้ยพี่ผมเจ็บ...ปล่อยดิพี่"

"หึ ปล่อยให้โง่ เมื่อกี้พูดให้ร้ายกูหรอ ไอเด็กเปรต มานี้เอาหัวมึงมาประเคนฝ่ามือกูซะดีๆ "ได้ทีเอาคืนผมก็รัวฝ่ามือเข้าที่กลางหัวของมันไม่ยั้ง แต่ก็ไม่ได้แรงมากหรอก(รึแรงวะ)กะตบแค่หยอกๆเล่นก็เท่านั้น

ตื่อดื่อ....


เสียงเปิดประตูดังขึ้นอีกครั้ง บุคคลที่สี่ ที่กำลังตกเป็นผู้ถูกกล่าวขานปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางชายหนุ่มทั้ง สามถรุ้ยย. . . ทั้งผมไอเจ แล้วก็ไอเด็กเวนนี้ห้นไปมองพร้อมก้น กับบุคคลที่เข้ามาใหม่

"เกม"

"กาย"

"มึงมาที่นี้ทำไม"เสียงพี่ชายกำลังยื่นหน้ามุ้ยถามน้องมันที่กำลัง ยื่นหายใจ หอบๆอยู่ตรงหน้าผม

"กู..แฮ็กๆ...พี่..ปล่อยผมเถอะ.."เออวะผมลืมไปเลยว่ากำลังล็อคคอมันอยู่ ผมรีบปล่อยให้มันเป็นอิสระแล้วปล่อยให้มัน ยืนคุยกับพี่ชายของมันต่อ


"กูแค่จะมาถาม... ว่ามึง ได้เอาอดิดาทกูไปรึเปล่า..เห็นแม่บอกว่าวันก่อนมึงเข้าห้องกู"

"อย่ามาประสาทกูแค่เข้าไปเอาของ ไม่ได้ยุ่งกับรองเท้าของมึง"

"ถ้าไม่ใช่มึงแล้วจะเป็นใครวะ"

"แล้วอะไรทำให้มึงมันใจว่าเป็นกูละ"

"ก็มึง...เกลียดกูไง...มึงเลยอยากแกล้งกู อยากทำให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ มึงอยากให้พ่อเห็นใจมึงใช่มั้ยละ "ผมรู้สึกชาๆตอนทีีได้ยินประโยคเทือกๆนี้

"มึงว่าไงนะ.."ไอกายมันดูจะโมโหที่ถูกน้องตัวเองด่ามันกรู่วิ่งเข้ามาหวังจะกระชากคอเสื้อ แต่ผมวิ่งไปบังไว้ทัน

"เห้ยกาย มึงใจเย็นๆ นี้น้องมึงนะ"ผมพยายามพูดปลอบประโลมให้มันใจอ่อน

"มันไม่ใช่น้องกู. .แล้วกูก็ไม่เคยคิดว่ามันเป็นน้องกูด้วย" ผมสตันกับคำพูดที่มันพูดกับไอเด็กนี้ แรงไปป่าววะ

"อ๋อทำยังกับกูอยากมีพี่อย่างมึงนักสิ ทำนิสัยเห็นแก่ตัวไม่เคยเห็นหัวคนอื่น มองคนรอบข้างเป็นแค่เศษอะไร มึงมันมันไม่มีหัวใจ ไอ้คนไม่มีหัวใจ"จบคำพูดของไอเด็กนี้กายมันถึงกับยืนเงียบไม่พูดอะไรสักคำ..จนบรรยากาศรอบตัวผมในตอนนี้แม้งโคตรจะวังเวง ไอเจรายนี้ก็เงียบยืนฟังตั้งแต่ต้นแล้ว ไหงผมต้องมาเจอกับไอคู่พี่น้องนี้อีกเนี้ยโอ้ว ชีวิต


"พี่ๆงั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ .."ไอเด็กนั้นหันมาไหว้ผมกับไอเจ พร้อมกับพาหน้าจ๋อยๆของมันเดินชนไหล่ไอกายออกประตูไป..

"เจ กูต้องกลับก่อนนะ ไว้ถึงบ้านแล้วโทรหานะ " ผมรับรู้ได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่ถูกส่งจากทางสายตาและคำพูดของมัน แม้ใบหน้าจะยิ้มกริ่มแต่ผมว่า มันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น ไม่รู้สิ ผมดูหนังบ่อยเห็นอาการมันคล้ายๆกันก็เลยว่าตามกันไป กร้ากก!!! (เงียบกริ้บ)


. . . . . .. . . .


เวลาเกือบเที่ยงคืนกว่าๆ ผมยังคงนั่งหน้าสหลอนอยู่ในบ้่านคนอื่นเขาหน้าตาเฉย ไอกายและน้องของมันกลับไปได้สักพักแล้ว ส่วนเพื่อนตัวดีของผมมันก็เอาแต่นั่งเอาคางเกยกับโต๊ะพลิกโทรศัพท์ไปมาเป็นชั่วโมงแล้วหลังจากที่มันวางสายจากไอกายได้แค่ห้านาที

"เจ".. . .ผมไม่รู้จะชวนมันคุยอะไรเลยวะ


"ฮือ.."

"ไปนอนกันเถอะป่ะดึกแล้ว".

"มึงก็ขึ้นไปนอนดิ กูยังไม่ง่วง"

"กูกลัวผีไม่อยากไปคนเดียว.."

"โตขนาดนี้แล้วมึงยังจะกลัวอีกหรอวะ.." มันบ่นๆแตหน้า่ก็ยังแนบหน้าไว้ที่โต๊ะ
"เออกุป๊อดพากูไปนอนทีดิ"ผมนั่งเซ้าซี้มันอยู่นานจนมันทำเสียงจึ๊ปากใจอ่อนยอมพาผมขึ้นมาบนห้องนอน


. . . . .

"พามาส่งถึงที่แล้วนะครับคุณชายวิน คราวนี้ก็นอนให้หลับละแล้วไม่ต้องเสือกสะดุ้งตื่นมาอีกนะ"พอมันพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปลูกเดียว แต่ผมเรียกรั้งท้ายมันไว้ทัน

"เจ"

"เออ"มันเบรคกระทันหันและแนบหน้าแบ้วๆของมันไว้ที่ประตู

"คือ..."โอ้ยผมไม่อยาก แสร้งถามละโว้ยถามแม้งไปตรงๆนี้ละ

"มีอะไรวิน.."น้ำเสียงมันดูอ่อนลง เมื่อเห็นผมทำหน้าจ๋อย

"มึงยังคิดมากเรื่องนั้นอยู่ใช่มั้ย" เท้าที่กำลังก้าวเข้ามาหยุดชะงักเมื่อผมเปิดประเด็นขึ้น

"ป่าวซะหน่อย"มันพยายามยิ้มกลบเกลื่อน แต่เพราะผมรู้จักมันดีไง ถึงรู้ว่า มันกำลังแกล้งยิ้มให้ผมอยู่

"แล้วทำไมมึงยังไม่นอน"

"ก็กูยังไม่ง่วง ..แล้วไหนมึงบอกอยากนอนไงถึงห้องแล้วก็นอนไปสิ อย่าเซ้าซี้ดิ่"

"เจ!"

" ไม่มีอะไรจริงๆ ดูดิกูยิ้มจนปากแทบจะฉีกถึงหูแล้วเนี้ย"

"ไอเจ"...น้ำเสียงผมเริ่มดุดันขึ้น เจมันเริ่มหลบสายตาผมและยืนก้มหน้ามองพื้นแทน

"กูเป็นเพื่อนมึงมาสิบกว่าปีแล้วนะเจ ต่อให้้มึงจะเก่งเรื่องเก็บอาการแค่ไหน แต่่มึง หลอกกูไม่ได้หรอกนะ . แขนขามันเริ่มไม่อยู่สุข เขี่ยนั้นนี้ไปมา ..นั้นแหละครับอาการของเด็กขี้โกหกอย่างมัน

"กูเกลียดมึง.วะ วิน"...อะอ้าวเมื่อกี้ตอนอยู่ข้างล่างยังบอกรักกูอยู่เลย. . .

"เกลียดกูทำห่าอะไรอีกเนี้ย.."

"ก็มึงแม้ง... มันใช้มือข้างนึงปาดน้ำตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม และแม้สายตาคู่นั้นจะเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสแต่ปากของมันดันหลุดขำออกมาซะนี้ ผมเลยไม่รู้เลยว่าสรุปมันอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่

"สู่รู้ไปซะทุกเรื่อง.. เรื่องของชาวบ้านนี้รู้ดีจังนะมึงอะ. . ."ผมเดินลุกจากเตียงเดินตรงไปที่มันและดึงเข้ามากอดและกดหน้าของมันให้ซบลงที่อกของผม อย่างน้อยก็ขอให้มันช่วยผ่อนคลายอะไรได้บ้าง แม้อาจจะอุ่นไม่เท่า ไอกาย(คิดไปเอง)แต่ผมว่า อย่างน้อยเวลากอดผมเจมันก็คือเจ ไม่ใช่ใครอื่นและไม่ต้องแกล้งแสดงอะไรเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดี

"กูได้มึงมาทั้งนั้นไม่ต้องแปลกใจหรอก ว่ากูขี้เสือกเหมือนใคร. . "เจมันฟุบหน้ามันลงกับอกใช้มือล้วงเข้าไปในเสื้อของผมข้างนึง(แอบสยิว)และ ฟู่ดดดด!!

น้ำมูกครับเต็มเสื้อกูเลย แต่พอได้เห็นรอยยิ้มมัน ผมก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากด่าอะไรมัน . . .

"ไง สบายใจแล้วสิมึง. . ทั้งหายทุกข์และสะใจในเวลาเดียวกัน ทรูอินวันมั้ยละมึง "

"มึงยังมีหนี้แค้นกับกูอยู่นะไอวินกูยังไม่ลืม..." อ้ะ..อ้าวผมก็นึกว่า..การที่ผมดูแลเทคแคร์เอาใจใส่อาจจะช่วยลบล้างความผิดที่ได้เคยทำไว้ ให้ลดลงได้บ้าง แต่เปล่าเลยครับ แม้งความจำดี... โดยเฉพาะไอเรื่องจิกกัดผมเนี้ย ดีนักแล. . .

"นอนเถอะ..กูง่วงแล้ว..." ระหว่างที่ผมกำลังเหม่อๆคิดอะไรคนเดียวไอเจมันก็รีบวิ่งกรู่กระโดดขึ้นเตียงยึดอาณาเขตผมไปเป็นที่้เรียบร้อยแล้วครับ แต่มีหรือผมจะยอม. ..

กูไม่นอนข้างล่างหรอกโว้ย...

และแล้วสงครามหมอนข้างสำหรับผมและไอเจเพื่อแย่งชิงอาณาเขต(ที่นอน)ก็เกิดขึ้นอย่างทุลักทุเล. . .ด้วยขนาดร่างกายที่ต่างกันเจมันเลยแทบใช้หมอนตีไม่ถูกผมเลย จะมีก็แต่ผมนี้แหละ ตีมัน จน ตัวเองแอบขำหึหึอยู่ในหัว แต่ใจนึงก็แอบสงสารมันนะครับ เลยปล่อยโอกาสให้มันตีผมคืนบ้าง . . . .ผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงทั้งผมและมัน ต่างหมดแรงที่จะเล่นกันแล้วเลยหยุดสงครามไว้เพียงเท่านี้ (เหตุด้วย ป๊าไอเจมันเดินขึ้นมาบนห้องแล้วบอกถ้ายังไม่หลับไม่นอนกันจะเอาลูกซองมายิง )ได้ยินอย่างงั้น ทั้งผม และไอเจก็รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงเลยละครับ

และใช้เวลาเพียงไม่นาน จากร่างกายที่พึ่งออกกำลัง ลมแอร์เย็นๆ ทั่วห้องเลยทำให้ผมและไอเจ เผลอหลับไปโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน . . .


รุ่งเช้าของวันใหม่ผมสะลึมสะลือตื่นขึ้น ด้วย กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยที่ลอยมาจากห้องครัวข้างล่าง แต่ไอคนที่นอนอยู่ข้างๆผมนี้สิมันยังไม่ยอมตื่น ไอช่วงเสี้ยววินาทีแรก ผมมีความคิดอยากจะแกล้งมันตอนหลับแต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า(กลัวบาป) แต่ในอีกแว็ปนึงผมก็นึงอะไรเจ๋งๆออก แล้วก็คิดทบทวนแล้วแหละว่ามันน่าจะดี(สำหรับตัวผม) เลยรีบจัดแจงท่า และแช๊ะ ไปหลายรูปก่อนที่จะรีบวิ่งลงมาข้างล่างอย่างอารมณ์ดี. . .


ผมรีบวิ่งตรงดิ่งเข้าห้องครัว กะจะมาบอกมอนิ่งป๊ากับเจมส์ซะหน่อยแต่แป่ว. . . มีแต่พี่อินครับที่ยืนวุ่นๆอยู่ในครัวเพียงคนเดียว

"พี่อินแล้วป๊ากับเจมส์ละครับ ยังไม่ตื่นกันหรอ" พี่อินวางทัพพี่ที่กำลังคนๆอยู่หม้อ ก่อนจะหันมาตอบผม

"ออกไปทำธุระดันตั้งแต่เช้ามืดแล้วหล่ะ กลับมาอีกทีคงดึกๆ"

"โห เช้าไปป่าวอะนี้พึ่งหกโมงกว่าๆเองนะพี่"

"เผื่อเวลาเดินทางด้วยน่ะกลัวสายๆแล้วรถจะติด. .."

"ไอเราก็เกือบจะดีใจแล้วเชียว นึกว่าที่มาหาเพราะคิดถึง ทีีแท้. . ก็เพราะงาน โถ่.." คิดแล้วมันน่านอยนะครับทั้งพ่อทั้งพี่เลยเฮ้อ

"ไหงพูดอย่างนั้นละ ไม่รู้เหรอว่าจริงๆ เขาต้องเดินทางกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่เลือกที่จะมาบ้านก่อนเพราะทนคิดุถึงลูกชายของเขาไม่ไหวถึงต้องรีบมาหาไง. . ลองคิดดูดีๆสิ"

"หึ จะถูกตะผิดยังไง พี่อินก็คงเข้าข้างเจมส์มันสินะ

. .

"ก็มันคือเรื่องจริง เอ๊ะกรือจะเถียง. . "แล้วทำไมต้องทำหน้าโหดขนาดนั้นด้วยละค๊าบผมแค่หยอกเล่นเองพี่อินก็..

"แหม่ๆคนอะไรเนี้ยขนาดโมโหยังสวยอยู่เลย เอิ้กๆ "


"อย่ามาปากหวานกลบเกลื่อน ชั้นไม่เขิลอายหรอกย้ะ"แล้วไอที่บิดไปบิดมานั้นคืออะไรเหรอคร้าบพี่อิน

"แล้วนั้นเองนังไม่ตื่นอีกเหรอ ขี้เซ้าแน่ๆเลยอย่างนี้พี่คงต้องขึ้นไปปลุกด้วยตัวเอง"

"เอ่ออย่าเลยครับพี่อินปล่อยให้มันนอนไปนั้นแหละเดี้ยวถึงเวลามันก็คงมาเองนั้นแหละ" พี่อินพยักหน้าเข้าใจให้ผมและหันหลังกลับไปตั้งใจทำอะไรอยู่ในหม้อต่อ ระหว่างนั้นผมก็นั่งๆนอนๆหยิบนิตยสาร หลายแหล่ที่วางกองอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่าน

"เออ จริงด้วย เจ.!!!."ระหว่างที่ผมกำลังส่องนางแบบลูกตฝครึ่งนางหนึ่งอย่างสบายอารมณ์พี่อินก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังจนผมนี้แอบสะดุ้งตามเลย

"ผมอยู่ตรงนี้ค้าบ ตกใจหมด . . "

"เมื่อคืนอะ. . ตอนเจขึ้นไปนอน. . มีคนมาหาแหนะ"คนมาหา. .. ตอนที่ผมขึ้นไปนอน.(ผมเริ่มคิดๆตาม) . .ตีหนึ่งตีสองอะนะ . .ใครจะมาวะดึกดื่นขนาดนั้น

"ใครหรอพี่. ."

"น้องอะตอม"ผมรู้สึกแปลกๆตอนได้ยินชื่อของมัน แต่ก็ไม่ใช่เพราะผมโกรธอะไรมันหรอกนะครับเพียงแค่ช่วงนี้ผมกับมันไม่ได้เจอกัน(นานมาก)กี่อาทิตย์แล้วก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆหลังจากที่มัน เอ่อ


...
บอกชอบ ผมในวันนั้น มันก็หายลิบลิ้วไปจากวงโคจรผมเลย ทั้งๆท ี่คนที่ควรจะคิดมากควรเป็นผมไม่ใช่มันแต่ก็นะ

. .
ตื่อดื่อ. .. . เสียงประตูหน้าร้านดังขึ้นผมและพี่อินหันมามองหน้ากันและกำลังเกี่ยงว่าใครจะเป็นคนออกมาดู. .แต่ก็ไม่ต้องลุ้นให้เสียเวลาครับ. ..คนที่มาก็คือผมนี้แหละเล่นส่งสายตาพิฆาตมาขนาดนั้นมีหรือผมจะกล้าหือ...

"มาแล้วคร้าบบ"ถ้าวที่จะก้าวของผมหยุดชะงักเมื่อคนตรงหน้าส่งยิ้มที่สดใสของมันมา ใบหน้าหล่อๆคิ้วเข้มๆ ของมันในวันนี้ยังดูมีเสน่ห์เหมือนทุกๆที....

"ไงมึงได้ข่าวเมื่อคืนมึงมา...."ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจนจบประโยคบุคคลตรงหน้าก็เดินกรู่เข้ามากอดผมไว้ซะแน่น...

"เฮ้ย อะตอม มึงปล่อยก่อนเดี้ยวมีใครมาเห็น...จริงๆแอบตกใจครับอยู่ๆเดินมากอดเสย ไม่พูดไม่จาอะไรด้วย ผมพยายามใช่มือทับที่แผ่นหลังของมันอยู่หลายทีแต่เหมือนจะไร้ผลครับแม้งไมได้่รู้สึกห่าอะไรเลยสักนิด สิ่งที่ผมทำได้ต่อจากนั้นก็คือ ยืนนิ่งๆใก้มันกอดอยู่อย่างนั้น เดี้ยวมันเมื้อยก็คงจะยอมปล่อยไปเอง...

"เจ..กูมีเรื่องจะบอก..."หลังจากที่เงียยไปนานในที่สุดมันก็ยอมพูด

"เออ..แต่ก่อนจะบอกช่วยปล่อยกูก่อนได้มั้ยห่ากูอึดอัด..."แต่เหมือนเสียงของผมยังดังไม่ถึงโสตประสาทของมัน พูดขนาดนี้แล้วยังนิ่งอยู่อีก ...เออเอาวะ อยากทำไร ทำเลย...ยังมึงก็ไม่ได้ยินกูอยู่แล้วนิ่

"คือ..เรื่องที่กูบอกกับมึงในวันนั้น มึงยังจำได้ใช่มั้ย"ผมเผลอกลืนน้ำลายดังเอื้อกก็มันเล่นเปิดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาซะได้...

"เรื่องไหนวะ.."ผมแกล้งโง่ไปตามระเบียบแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความจริงที่เถียงไม่ออก

"ที่กูบอกชอบมึง..."

"กูนึกว่ามึงพูดเล่น"ผมละอยากให้มันเห็นสีหน้าของผมในตอนนี้จริงๆเหวอชิบหาย

"กูจริงจังนะ....แล้วกูก็กลับไปคิดทบทวนความรู้สึกของกูมาแล้วด้วยจนในที่สุดกูก็ได้คำตอบ..."ทำไมแรงกดดันในข่วงนี้มันเหมือนตอนที่ผมกำลังลุ้นหวยเลยวะ

"แล้วคำตอบของมึง..."

"คำตอบของกู...ก็คือ...กูชอบมึงจริงๆเจ"เชี้ยหน้าผมตอนนี้คือช็อคมากคือไม่ได้รังเกลียดแต่คือช็อคช็อคอะช็อค...

"เจ"

"หะ...ห้ะ"น้ำเสียงผมโคตรสั่น

"ให้โอกาสกูได้มั้ย...."

"โอกาส..โอกาสอะไรวะ"เคยมั้ยครับแม้เราจะรู้คำตอบอยู่แล้วแต่ก็ยังอยากได้ยินจากปากของคนๆนั้น

"ขอโอกาส ให้กู..ได้จีบมึงได้มั้ย..."

ช็อคซีนีม่า..รอบที่สาม....กูควรตอบไงดีวะเนี้ย

จะบอกว่ากูไม่เคยคิดกับมึงในทางแบบนั้นเลยก็กลัวจะทำลาย ความสัมพันธ์ ในเวลาแบบนี้ ผมควรจะพูดอะไรออกไปดีวะ
ใครก็ได้ช่วย ผม!!ด้วยยยยยยยยนยยย!!!!

TBC. . . . .. #kim


 :katai4: กำลังรีบปั่นอย่างต้อเนื่องไว้จะมาลงต่อนะคร้าบ !!
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :38〗〖14-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-07-2017 16:40:41
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :39〗〖19-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 19-07-2017 10:51:23
Falling In Love

หลุมพลางหัวใจของนายหน้านิ่ง

Chapter:39 เปิดเทอม..


"ให้โอกาสกูนะ.."ถ้าพวกคุณๆตกอยู่ในสถานการณ์แบบผมๆเชื่อว่าความรู้สึกของทุกคนคงไม่ต่างจากผมในตอนนี้เลย...ทั้งๆที่คำถามมันง่ายแต่การให้คำตอบนี้โคตรยาก. . ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มที่ตรงไหนดี..


"ว่ายังไงละ..."อีกฝ่ายนี้ก็คะยั้นคะยอจะเอาคำตอบจากผมให้ได้ . . . . มึงไม่ได้รู้ห่าเหวอะไรเล๊ยว่ากูจะหนักใจมากแค่ไหนในการให้คำตอบพร้อมกับรักษาน้ำใจไว้ด้วยเนี้ย

"เอ่อ..คือ..อะตอม..คือยังไงดีละ. . .คือกูก็รู้สึกดีนะเว้ย แล้วก็ขอบใจด้วยที่มึง...มีความคิดที่ชอบคนบ้าๆแบบกู..แต่..."
"มึงไม่ได้ชอบกูใช่มั้ยละ"น้านไงรู้ใจกูอีก. . .

ผมพยักหน้าเบาๆจริงๆไม่อยากทำด้วยซ้ำอะกลัวมันเฟลและหนีหายไปเหมือนคราวที่แล้วอีก อย่างน้อยอะตอมมันก็ถือเป็นเพื่อนที่นิสัยดีใช้ได้เลยคนนึง แล้วถ้าอะไรๆมันต้องเปลี่ยนไปเพียงเพราะผมปฏิเสธ..เรื่องทุกอย่างมันคงแย่...


"กูขอโทษนะอะตอม .." อะตอมมันทำหน้านิ่งจนผมเดาทางอารมณ์ของมันไม่ถูกสรุปตอนนี้มันรู้สึกยังไงวะเสียใจรึเปล่าผมควรจะปลอบมันดีมั้ย....

"ไม่ต้องขอโทษหรอก กูเข้าใจ"คำตอบที่ได้ยินทำให้ผมมีความกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับมันอีกครั้ง

"แต่กูรู้สึกผิดวะ"

"มึงไม่ผิดหรอก ถ้าจะมีใครผิดคนๆนั้นคงเป็นกูเอง .."

"มึงอย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิวะ..."

"ผิด ...ผิดที่กูยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลยต่างหาก.."

"ห้ะ..หมายความว่าไงวะ อะไรเริ่มไม่เริ่ม"ผมตามอารมณ์มันไม่ทันจริงๆวะเดี้ยวทำหน้าบึ้งอีกเดี๋ยวก็ยิ้ม เป็นไบโพร่าป่าววะ

"มันจะเริ่มต่อจากนี้ต่างหาก ตอนนี้ไม่ได้ชอบก็ไม่เป็นไรแต่กูเชื่อว่าสักวันมึงคงยอมตอบตกลงแน่ๆ"เชี้ยมันคิดไปถึงไหนแล้ววะเนี้ย

"เอ่อ...อะตอมกูว่า...."

"น่า ลองดูไม่เห็นเสียหาย ถ้าคำตอบในวันข้างหน้ายังเหมือนเดิม กูจะเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง โอเคมั้ย"แล้วการที่ผมปล่อยให้มันแถะโลมอย่างนี้ไปเรื่อยๆมันไม่เหมืิอนการให้ความหวังรึไงวะ...


"คือ.."พูดยากวะเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอผมพูดอะไรไม่ออกทั้งๆที่มีคำพูดอยู่ในหัวเป็นร้อยประโยค

"อ้าวน้องอะตอมมาทำอะไรแต่เช้าเนี้ย ทนคิดถึงพี่ไม่ไหวหรอ..ถึงต้องมาตั้งแต่ไก่โห่ขนาดนี้"ทั้งผมและอะตอมหันไปมองบุคคลที่เดินเข้ามาจากด้านหลังโชคดีหน่อยที่มันปล่อยผมออกจากอ้อมอกของมันแล้วไม่งั้นมีหวัง..เห็นช็อตเด็ดแน่ๆเลย

"ครับผม. . ."มั้นยืมยิ้มจนแกล้มปลิส่วนพี่อินนี้ก็เขินจนตัวบิดตัวงอ"แต่สาเหตุที่ผมมาจริงๆแล้วคือผมมาจีบ...."ฟุ้บบ ไอเชี้ยมันจะพูดอะไรไม่รู้แต่มือผมนี้โคตรไว บินไปเกาะปากมันไว้แล้ว...


"อื้อ..."

"มันแวะมาซื้อหนมจีบอะพี่.. . มันก็เลยเข้ามาถามทางผมเพราะมันไม่ใช่คนแถวนี้ ใช่มั้ยมึง..."ผมหันไปเบิกตากว้้างให้มันเห็นแค่คนเดียวส่วนเสียงที่เปล่งออกมานี้รอดไรฟันมาทั้งนั้นครับขู่เข็นได้อีก
อะตอมมันพยักหน้าหงึกๆ ด้วยท่าทางกลัวๆ แต่ก็ยังหลุดยิ้มๆออกมาทางแววตาที่ตี่ๆของมัน.


"ร้านติ่มซำแถวนี้ยังไม่เปิดหรอกนะ จะเปิดก็ช่วงบ่ายๆอะจ้ะ...แล้วนี้มาแต่เช้ากินอะไรมารึยังเอ่ย..รีบกลับรึเปล่าอยู่ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิ..."จบคำพูดของพี่อินไอคนข้างๆผมก็สั่นหัวยังกับเจ้าเข้า แทนคำตอบให้พี่อิน รีบตอบเลยนะมึง..

และก่อนที่พี่อินจะเดินหมุนตัวยังกะหลุดมาจากแคสวอคหันหลังกลับเข้าครัวไปก็กวักมือเรียกให้อะตอมมันเดินตามเข้าไป... ด้วย. . .และจังหว่ะนั้นเองไอห่าวินมันก็กระโจนโผ่ลออกมาจากขอบบรรได..คือกูตกใจไงนึกว่าผีจูออน....แต่ทำไมมันทำหน้ายิ้มกรุ่มมกริ่มมีความสุขขนาดนั้นวะ...

"เป็นห่าอะไรเนี้ย เมาเนื้อหรอมึง..ยิ้มไม่หุบเชียว..."


"อย่าคิดว่าทำอะไรแล้วไม่มีใครรู้นะมึง หน้าต่างมีหูประตูมีซ่อง.."

"ช่องๆซ่องพ่องสิ " สำนวนไทยเขาเสียหมด..." มันทำตาเจ้าเล่ห์และพยายามยื่นมายาวๆของมันมาเกาคางผม

"เมื่อกี้อะ...กูเห็นนะ..แหนะ..ๆ"เห็น..เฮ้ยอย่าบอกนะว่า
..
"เห็น..เห็นอะไรวะ..."ผมรีบแถโดยอัตโนมัติแต่เรื่องประเด็นหลักๆคือมันได้ยินช็อตสำคัญที่อะตอมมันพูดกับผมด้วยรึเปล่า...แล้วถ้าเกิดมันได้ยินขึ้นมาละ..โอ้ยไมาอยากคิดตาม..วินรู้โลกรู้

"ก็ตั้งแต่ช็อตที่ไอแมงวันนั้น มันเดินมากอดมึงอะ..รวมถึงฉากบอกรักกุ๊กกิ๊กนั้นอีก..มึงนี้หลายใจวะเลือกสักคนสิวะแล้..อย่าคิดสวมเขาให้เพื่อนกูเชียว.."ช็อคสตั้นไปสามสิบแปดวิเลยกู....แม้งรู้ตั้งแต่ต้นยันจบเลย..แต่ๆเดี๋ยวๆนะสวมเขาอะไร

"สวมเขาพ่อง กูยังไม่ทันได้ตอบอะไรมันเลย..."

"แต่มึงก็ไม่ปฏิเสธมันไง..นั้นแหละคือมึงมีใจ.."โอ้ย ผมควรพูดยังไงให้มันเข้าใจดีวะเกิดมันเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ถึงหูกายผมไม่ตายเอาหรอ.. รายนั้นยิ่งอารมณ์ร้อนอยู่ด้วยฟังใครที่ไหน


"คือมันไม่ใช่แบบนั้นโว้ย..คือ..."

"พอๆไม่ต้องชักว่าว..ทั้งห้า"

"แม่น้ำ..!!!"เสื่อมตลอดเพื่อนกู แต่แปลกทีีผมก็ตามแก้ให้มันทุกมุขแฮ่!! พอ.

"เออนั้นแหนะๆ จะเอาไงก็แล้วแต่มึงเหอะ...ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับฟีลเว้ย ดูท่าแล้วกูว่าสายเปย์ชัวรฺ์ คบๆไว้เลี้ยงดูเล่นก็ไม่เลวนะ..."ป้าปป เข้ากระบาลเรียกสติหน่อยเห็นกูเป็นคนแบบไหนเนี้ย

"ในหัวมึงนี่มีแต่เรื่องๆเลวใช่มั้ยห้ะ..ยัดเยียดต้นงิ้วให้กูตลอด..แค่เพื่อนมึงคนเดียวกูก็จะบ้าแล้ว..ขืนมีอีก กูคงย้ายไปนู้น..ศรีทันยา...

"แหม่กูก็แค่พูดไปตามที่เห็น....ไม่เห็นต้องร้อนตัวอะไรขนาดนั้น.."ใคร ใคร่ ใครร้อนตัวกัน ไม่มี๊!!!!

"แต่ยังไงก็เหอะมึงอย่าพึ่งไปบอกไอกายเรื่องนี้นะเว้ย เดี้ยวแม้งนอยกูอีก เผลอๆบุกมาฆ่ากูถึงบ้าน..."คงไม่ต้องเล่าถึงวีรกรรมที่ผ่านมาของมันนะครับว่าเป็นยังไง..

"กูไม่บอกหรอก..ส่วนเรื่องคริปกูอะมึงก็ห้ามเอาไปให้มันดูเด็ดขาดเลยนะ..ถ้ามึงทำนะ..หึหึ"

"เออ.กูรู้น่า แล้วนี้มึงจะไปไหนต่อรึเปล่า ไหงตื่นเช้าจังวะ.."

".แค่นอนไม่หลับกระสับกระส่ายพลิกซ้ายพลิกขวา...กะว่าสายๆจะเข้าบ้านไปหาป๊าอะ"

"ป๊ากูอะนะ"

"ห่าไรละพ่อกูเนี้ย...เห็นพี่แหวนบอกว่ามีผู้ใหญ่มาบ้าน เลยอยากให้กูเป็นหน้าเป็นตาให้วงตะกูล"

"ให้มึงเนี้ยนะ...กูว่าถ้าป๊ามึงเลือกพี่แหวนยังจะโอเคกว่า.."ทั้งสวย เรียบร้อย พูดน้อยแถมทำงานเก่ง อีกต่างหาก...

"ก็เขาอยากให้กูไปไง กูเลือกได้ที่ไหนละ..อีกอย่างพี่แหวนก็ดันเห็นด้วยนี้สิกูเลยไม่รู้จะปฎิเสธยังไงเลย." เจอทั้งหน้าทั้งหลังขนาดนี้ผมว่าคงหลุดยากละครับ และสิ่งทีีผมสามารถทำให้ไอวินมันสบายใจขึ้นนิดหน่อยในตอนนี้ก็แค่คำปลอบใจเล็กๆน้อย ที่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นการให้กำลังใจหรือซ้ำเติมกันแน่..


"สู้ๆนะมึง"

. . . .. . . . .

ช่วงสาย จนเกือบจะเที่ยง(นั้นเรียกสายหรอ) วินมันขับบีเอ็มป้ายแดงของกลับวังมันไปแล้วครับ ส่วนนายอะตอมหลังจากที่มันเข้าครัวไปพักใหญ่กับพี่อินมันก็เดินออกมาด้วยน่าตายิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนกับได้ยาดี...อะไรเข้าสักอย่าง แต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยปากถามมันไปหรอกนะครับ ตอนนี้ขออยู่เงียบๆ สงบสติ หาทางเคลียร์เรื่องของผมกับมันให้ชัดเจนก่อนเลยดีกว่า... .. . แต่ไม่ว่าจะพยายามคิดยังไงในหัวของผมนอนนี้กับมืดสนิท...ไม่มีความคิดอะไรเลย มันว่างเปล่าโหวงเหวง... เหมือนอยู่ในช่วงที่เรียนได้แค่ไม่กี่วัน แล้ววันถัดมาก็ต้องสอบอะไรทำนองนั้นเลย
. . ..


"ไง..นั่งเหม่ออะไรคนเดียวเนี้ย ไม่ได้เหม่อเพราะคิดถึงกูหรอกใช่มั้ย... ไอคนที่ผมพึ่งบ่นถึงมันเมื่อตะกี้ตอนนี้มันมานั่งข้างๆผมแล้วครับ แถมยังวางจานที่มีอะไรไม่รู้ รูปทรงแปลกๆดูละม้ายคล้ายๆเยลลี่สีบูดๆ ไว้ตรงหน้าผม

"วอทอีท ดิส..." ผมงงปนแปลกใจจริงๆว่าไอสิ่งที่หน้าตาเหมือนขยะบูดนี้มันคืออะไร อะตอมมันคลี่ยิ้มจนตาตี่ก่อนจะตอบผม
"ขนม หม้อ แกง...

ห้ะๆ ขออีกทีสิ

"มึงมั่นใจว่านี้คือหม้อแกง กูว่ามันเหมือน ขนมแป้งบูดเลยวะ..เอาไปทิ้งไป" ไม่ได้รังเกลียดอะไรมันหรอกนะครับแต่สภาพเหมือน..อึ..ขนาดนี้ผมกะเดือกไม่ลงจริงๆ

"เสียใจนะเนี้ย..อุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้.."มันเอาช้อนจิ้มๆขนมของมันพร้อมกับทำหน้าซึมๆ

"มึงกล้ากินเองรึเปล่าละ...ผมถ้าทายแต่ไม่คิดว่ามันจะทำจริงๆ ..หมับ..ลงคอไปเป็นที่้เรียบร้อยแล้วครับ ผมทำหน้าแหยงๆพร้อมกับลูบขอของตัวเองขึ้นๆลงๆ อึ้ยย


"แดกได้จริงๆหรอวะนั้น..."

"ได้สินี้ทำมาให้คนกินนะ" พอเห็นมันทำหน้าตาจริงตังขนาดนั้นผมก็เริ่มมีความกล้าที่อยากจะลองขึ้นมานิดหน่อย(นิดหน่อยจริงๆ)คือถ้าสภาพรูปทรงมันโอเคมากกว่านี้ ผมคงรีบกินจนหมดแล้วแต่นี้มัน....

"เออๆ ไหนๆก็ทำมาแล้วนิเนอะ..."ผมนั่งทำใจไปพักนึงก่อนที่จะเริ่มหยิบช้อน ขึ้นตักอย่างกล้าๆกลัวๆ..และหมับ....เข้าปากผมเป็นที่เรียยร้อย ผมกลั้นหายใจเคี้ยวแปปนึงและค่อยๆกระเดือกลงคอแต่...รสชาติมันก็โอเคอยู่นะ...

"เฮ้ย..อร่อย.."ถึงสภาพมันจะไม่เหมือนขนมก็เถอะ..แต่รสชาตินี้..ใช้ได้เลยครับ

"ก็บอกแล้ว.."

"ที่หายไปนานสองนานเพราะทำไอนี้อยู่เหรอ." ผมถามมันด้วยความสงสัย

"จริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำหรอก..แค่เป็นลูกมือช่วยพี่คนสวยเขาเฉยๆ"ผมว่าถ้าพี่อินมาได้ยินอะตอมมันเรียกแบบนี้คงฟินแน่ๆ
ครืดดดดด.... เสียงสั่นๆดังอยู่ที่ไหนสักแห่งแต่ที่แน่ๆไม่ใช่ของผม ผมหันมองตามก็เห็นอะตอมมันหยิบไอโฟนยกใส่หู

"ครับ..ครับผม...ด่วนมากเลยหรอครับ..ได้ครับแล้วจะรีบไป..."ก่อนจะรับมันยังยิ้มอยู่เลยแต่ไหงพอวางสายถึงทำหน้าเป็นตูดขนาดนั้น..

"กูต้องกลับแล้วนะ.."อะตอมมันลุกขึ้นยืนก่อนจะยื่นมือยาวๆของมันมาขยี้หัวผม

"รีบกลับหรอ..."ยอมรับเลยครับว่าผมถามตามมารยาท..

"ไม่อยากให้ไปหรอ..กูโทรบอกได้นะ.."ไม่น่าพูดขึ้นมาเลยกู

"ก็ป่าว..แค่จะเดินไปส่ง..."

"จริงดิ.."แล้วทำไมมัันต้องทำหน้าดีใจขนาดนั้นด้วยวะ

"ก็เออสิ..แต่แค่หน้าร้านนะ.."

"แค่นั้นก็ดีแล้ว.." เสียงมันบ่นอะไรพึมๆพัมๆ

"ว่าไงนะ.."

"อ่อเปล่าๆไปกันเหอะเดี้ยวสาย.."

"เออๆ"ผมเดินมาส่งอะตอมตามที่พูดหน้าร้านก็คือหน้าร้านจริงๆ ก่อนมันจะเปิดประตูขึ้นรถม้นก็หันมาทำท่ายกหูใส่ผม... และขับรถกลับออกไปด้วยความเร็วแสง..หุหุ อิจฉาพวกเด็กมีตังวุ้ย แต่ละคนรถป้ายแดงทั้งนั้น....

. . . . .. . . .. .

ผมเดินกลับเข้ามาในร้านอีกครั้ง..ในหัวตอนนี้ผมไม่อยากคิดอะไรให้มันวุ่นวาย..เลยขอพักสมองล้มตัวนอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่น..หยิบจับหนังสืออะไรได้ผมก็อ่านหมด..ขนาดหนังสือพระของป๊าผมยังหยิบมาดูเลยนะเออ ..แต่ก็แค่ดูอะนะเปิดๆผ่านๆไปมาแล้วก็วางไว้กับที่เหมือนเดิม ... และพอใช้สายตามาก มันก็เริ่มง่วงไง ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่พอรู้สึกตัวอีกที่ ผมก็นอนอยู่บนตักป๊าแล้ว..

"ไงไอเสือ..ตื่นแล้วหรอมึง..." ป๊าก้มหน้าถามผม ทำสายตาดุๆ

"อือ..ปวดหัวอะป้า"

"แหงละ ก็เอ็งเล่นนอนหลับทับตะวันขนาดนี้ นี้มันตั้งกี่โมงกี่ยามแล้ว...

"กี่โมงแล้วอะ..."

"จะทุ่มนึงได้แล้วมั้ง" ป๊าตอบผมโดยที่สายตายังจ้องมองโทรศัพท์อยู่.

"แล้วเจมส์ละ"

"อยู่ในครัวกับเมียมันนู้น..คิดถึงมันนักรึไงเห็นถามหาแต่มัน..นี้กูพ่อมึงนะ นั่งหัวโด่ขนาดนี้ ไม่เสือกถาม"

"ก็ป๊านั่งอยู่ตรงนี้เขาจะถามถึงทำไมละ..."

"แล้ววันนี้เอ็งไม่พาผู้ชายเข้าบ้านแล้วรึไง ..ไอหน้าหล่อๆคนนั้นน่ะ"ดู๊ดูพูดเข้า...

"ไอกายอะนะ." ผมถามเพราะมันน่าสงสัยจริงๆปกติไอวินเข้าบ้านผมก็ออกจะบ่อยแต่ป๊าไม่ค่อยได้ถามหามันเลย...แต่พอเป็นกายที่เจอกับป๊าผมได้แค่สองครั้งก็โดนถามถึงซะแล้ว

"กูก็แค่แปลกใจเฉยๆ ปกติเห็นอยู่ตัวติดกันยังกับผัวเมีย..."ผมสะอึกตอนป๊าพูดผัวๆเมียๆ

"อะไรทำให้ป๊าคิดงั้นอะ...แล้วทำไมพอเป็นไอวินป๊าถึงไม่แซว "

"ไอนั้นมันหล่อแต่เปลือกไงเงินไม่มี..ความจริงใจอย่างเดี้ยวมันกินไม่อิ่มหรอกนะเว้ย..มันต้องมีตังด้วย.."

"แล้วป๊ารู้ได้ไงว่ามันมีตัง"

"เห็นกูแก่ๆแต่กูก็รู้นะอะไรแบรนด์เนมไม่แบรนด์เนม..ตั้งแต่หัวจรดเท้านั้นก็เกือบๆซื้อรถได้เลยนะไอหมา.." สรุปจะเสือหรือหมาเอาสักอย่างสิป๊า...แต่ลึกๆแล้วผมก็แอบรู้สึกดีอยู่เหมือนกันนะ ที่ป๊าเอ่ยปากถึงกายมันบ่อยขนาดนี้ ปกติแล้วป๊าผมเป็นคนที่พูดถึง(พาดพิง)คนอื่นยาก ต้องแบบ ที่ทำให้ป๊าผมแปลกใจได้จริงๆ ป๊าถึงจะพูด แต่ที่นานๆและบ่อยขนาดนี้ก็ครั้งแรกอะ...

"จับทำลูกเขยเลยมั้ยป๊า"ผมทำพูดทีเล่นที

"มึงจะไปเป็นเมียมันรึไง .."

"ก็เห็นป๊าบอกชอบคนรวย.."

"มึงนี้ก็นะ.... แต่เอาไงก็เอาเถอะ...ถ้าเรียนจบแล้วมึงยังหาเมียไม่ได้...เดี๊ยวกูพาไปบ้านไอหนุ่มนั้นเอง.."

"ป๊าจะไปสู่ขอ?"

"กูจะไปเรียกสินสอดจากมันต่่างหาก..แต่มึงต้องเป็นเมียมันนะเข้าใจมั้ย.."ดูป๊าผมสอนลูกแต่ละอย่างสิ

"บ้าน่าป๊าใครจะยอมเป็นเมียมันบ้าไปแล้ว"บ้ากูนะสิที่บ้า

"ขืนมึงเป็นผัวฝ่าคงผ่ากันพอดี.."แหม่ป๊าก็พูดซะ.ผมดูตุ๊ดเลย

"เออแล้วนี้ป๊ามากี่วันอะอยู่ไทยอีกนานรึเปล่า"

"อีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ง.."

"ห้ะครึ่งชั่วโมง."

"แล้วมึงจะตกใจทำไมไอหมา"

"ตกใจดิ พึ่งมาวันเดียวเองจะกลับแล้วเหรอ.." ยังไม่ทันได้ขอเงินเผื่อไว้ตอนเปิดเทอมเลย

"ธุระกูเสร็จแล้วจะอยู่ต่อทำแมวอะไร"

"โหนึกว่ามาเพราะคิดถึงลูกชิ..จะกลับก็รีบกลับไปเลยนะ.ชิ่วๆๆ."ผมลุกขึ้นนั่งแกล้งๆกระเถิบไปจนสุดโซฟา

"งั้นแสดงว่ามึงไม่อยากได้ตังสินะ"ฟึบ..ผมสไลด์เข้ามาเบียดป๊าเกือบไม่ทัน..

"อยากสิคร้าบสุดหล่อ.."ผมส่งสายตาบริ้งๆให้ป๊าแต่ดันโดนเขกกระบาลดังเปาะ

"สองหมื่น ..!"เชี้ยตกใจสิครับปกติแค่พันเดียวยังไม่คิดจะยื่นให้ผมเลย

"ถึงเปิดเทอม..มึงต้องใช้ให้ถึงเปิดเทอม ถ้าระหว่างนั้นมึงยังฟุ้มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน กูจะบอกให้เมียไอเจมส์มันให้เงินมึงไปเรียน.. วันละร้อย..."โถ่วันละร้อยแค่ค่าแท็กซี่มันยังไม่พอเลยป๊า

"คร้าบผม จะใช้สอยอย่างประหยัดเลยครับป๊า"มือผมตอนนี้โคตรสั่นอะในที่สุดก็ได้จับเงินหมื่น(ที่เป็นของตัวเอง)เหมือนคนอื่นเขาซะที..

"ตั้งใจเรียนนะไอหมา ป๊ากับพี่มึง รอเงินค่าเลี้ยงดูที่กูเคยเสียให้อยู่นะ..."

"เอาไว้รวยก่อนละกันเดี้ยวคืน" แต่ไม่รู้เมื่อไหร่..นะอิอิ

"นี้ก็ได้เวลาแล้ว..เจมส์.!!!"ป๊าตะโกนเรียกพี่เจมส์ดังลั่นบ้าน

"แปปนึงนะป๊า!!!"รายนั้นก็พอกันครับ ไอผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ยอมเดินไปคุยกันดีๆจะตะโกนคุยกันทำไม


. . .

ไม่นานนักทั้งป๊าและพี่เจมส์ก็เดินออกมาที่หน้าบ้าน ...ผมและพี่อินกำลังยืนจับมือกันอยู่เหมือนจะแอบบอกกันเป็นนัยน์ๆ ว่าอย่าร้องไหนะ..แต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากครับ ทั้ง ผมและพี่อินรีบเดินกรู่ไปกอดบุคคลที่รักพร้อมกับปล่อยเสียงโฮและหยดน้ำใสๆที่พยายามอัดอั้นอยู่นาน...จนตอนนี้ได้เวลาที่จะต้องบอกลากันแล้ว ผมยังคงมองตามรถแท็กซี่ที่ค่อยๆเคลื่อนผ่านไปช้าๆ ป๊ายังคงวุ้นๆอยู่ถึงไม่ยอมหันกลับมามองผมเลยมีเพียงเจมส์ที่หันมาแล้วส่งยิ้มให้
ผมยกมือขึ้นโบกมือลาอีกครั้ง ก่อนที่รถคนนั้นจะค่อยๆหายไปจากสายตาของผม...


 :hao5:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :39〗〖19-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 19-07-2017 11:02:44
.หลายสัปดาห์ ผ่านไปผมยังใช้ชีวิตที่สุดจะชิว ชิวแบบ ชิ๊วชิว ชิวเหี้ยๆอะ ทั้งๆที่อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมเริ่มปีการศึกษาใหม่อยู่แล้ว ทำไมผมถึงอินดี้ได้ขนาดนี้นะหรอหึหึ...มีตังไง.. หลังจากที่ได้เงินสองหมื่นจากป๊ามาผมก็รีบโอนเข้าธนาคารแทบจะทันที (อยู่ก้บตัวแล้วมันสิเบิ่ด)
แถมสองอาทิตย์ที่แล้วผมยังได้งานพิเศษ รับจ็อบเป็นเด็กเสริฟ อยู่ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงข้าม (ร้านอาม่านั้นเอง)

ทำงานสบายแถมได้เงินดีใครบ้างเล้าจะไม่ทำ พนักงานขยัน ส่วนพ่อครัวก็หล่อสบัดลูกค้าเลยเต็มร้านทุกวัน..เงินเก็บของผมตอนนี้ก็เกือบๆสี่หมื่นน่าจะได้ ภูมิใจชิบหาย แต่ผมก็ไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้ไอวินมันรู้หรอกนะเพราะเดี๋ยวมันจะตามมาเรียกไถส้วนต่่างไปจากผม...ส่วนคุณชาย ผมกับมันเราเว้นระยะห่าง(แต่ไม่ได้ทะเลาะกันหรอกนะ)แค่ผมให้เวลาส่วนตัวกับมันบ้าง เพราะช่วงหลังๆมานี้ ผมโทรจิกมันตลอด จิกยิ่งกว่านกหรือไก่ มีเวลาว่างเป็นไม่ได้ต้องโทรหามันตลอด ก็หลังจากที่เกิดเรื่องวันนั้นผมก็กล้บมานั่งคิดคนเดียวไง ว่าทำไม ผมถึงต้องเป็นฝ่ายยอม ในเมื่อผมคือปัจจุบันผมก็ควรแสดงตัว..ให้เธอคนนั้นได้เห็น..ผมเลยไม่ปล่อยโอกาสให้มันได้คุยกับใครเลยในช่วงนั้นจนถึงปัจจุบัน ผมกับมันแลกโทรศัพท์กันใช้แล้วครับ...ถ้าเธอคนนั้นคิดจะยูเทริน์กลับมาละก็
. .. .หึหึ ได้แค่ฝันนะครับผม คงเตลิดออกไปดาวอังคารนู้นน่ะ

แต่ช่วงนี้กายมันบอกผมว่าต้องซ้อมกีฬาหนักเพราะหลังจบกิจกรรมรับน้อง ก็จะมีกีฬามหาลัยต่อเลย. .. ชาวคณะอาจารย์อยากให้นิสิตทุกคนมีส่วนร่วมเลยออกกฎมาว่าให้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันทุกคณะทุกชั้นปี..และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือการที่ผมก็โดนเพื่อนๆบังคับด้วยไง..คืออยากจะตั้งโต๊ะอธิบายว่ากูเล่นกีฬาไม่ได้..คือทำเหี้ยอะไรไม่เป็นเลยแต่คือ..ก่อนหน้านั้นมีดราม่ากันไงเรื่องไม่ให้ความร่วมมือ..จากปีสองอย่างพวกผม  แล้วส่วนเหตุผลที่สำคัญสุดๆก็น่าจะเป็นเพราะผมค่อนข้างมีหน้ามีตา(ในเพจคิ้วบอย)นี้ไม่ได้หลงตัวเองนะครับแต่ที่ได้ยินมาม้นเป็นแบบนี้จริงๆ แถมยังมีคะแนนเสียงเลือกผมเกือบครึ่งคณะ...ผมเลยต้องรับหน้าที่แบกหน้าตาของคณะพร้อมกับฝีมือการเล่นกีฬาแบบหมาๆของผมที่แม้งไม่เอาไหนเลย...ไปลงแข่งในวันนั้นด้วย และด้วยเหตุนี้ ช่วงเวลาชิวๆสุขสันต์ของผมก็จบลงเพราะต้องหมั่นมาซ้อมตีแบตในมอแทบจะทุกวันหลังจากที่เปิดเทอมได้แค่สองวัน แต่ก็แอบแปลกใจเหมือนกันนะครับที่ไม่ได้มีผมที่โดนบังคับอยู่ฝ่่ายเดียว ยังมีพี่ๆน้องคณะอื่น ทัิ้งหน้าใหม่ และพวกเด็กปีหนึ่งที่กำลังจะขึ้นปีสองยังต้องมาซ้อมกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

ฟุ้บๆ!!!

ป้าปๆ!!

ผมไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ผิดสนามรึเปล่าเพราะจุดที่ผมกำลังยืนอยู่ในตอนนี้มีกีฬาแทบจะทุกชนิดรวม ยู่ในสนามเดียว.. ทั้งบาส บอล วอลเลย์ เทนนิส แต่ที่หนักสุดนี้ต้องยกให้กับกระสอบทรายที่แขวนไว้ตรงที่นั่งพักเลยคือพวกมึงไม่มีที้ซ้อมก้นแล้วรึไง คือช่วยเบิกตาให้กว้างๆแล้วมองรอบๆด้วยว่านี้คือสนาม สำหรับซ้อมแบตมินตันไอเหี้ย แล้วไอสารพัดกีฬาที่รวมอยู่ในสนามเดียวนี้มันคืออะไร

ผมได้แต่กุมขมับบอกต้วเองให้ใจเย็นๆแต่ใครจะทำได้วะ ซ้อมๆอยู่โดนลูกวอลเลย์อัดหน้าผมก็โดนมาแล้วแถมเวลานั่งพักเฉยๆลูกบอลก็ลอยเฉียดหัวผมไปนิดเดียวคาดว่าอีกหน่อยผมคงต้องพกหมวกกันน็อคพร้อมก้บชุดป้องกันเข้ามาด้วยอะถึงจะปลอดภัย...

"พี่เจ.. ขอถ่่ายรูปได้รึเปล่าคะ"เสียงน้องผู้หญิง ร้องทักตอนที่ผมกำลังก้มหน้าเช็ดเหงื่อที่เสื้อของตัวเอง

ผมเงยหน้าขึ้นมามองน้องเขายิ้มเขิลๆให้ผมด้วยแหะ

"เมื่อกี้ว่าไงนะครับพี่ไม่ทันฟัง"

"ูขอถ่ายรูปด้วยได้รึเปล่าค่ะ"อ่อสงสัยจะตามมาจากเพจคิ้วบอยและนี้มันไม่ใช่ครั้งแรกด้วยไงเพราะตั้งแต่ที่ผมมาซ้อมได้หลายอาทิตย์ก็มีึคนเข้ามาขอถ่ายรูปกับผมบ้าง ให้ขนมบ้าง ขอลายเซ็นต์ก็เคยมี

"ได้ครับ"ผมหยิบไอโฟนตัวเองขึ้นมาส่องดูสภาพหนังหน้าของตัวเองที่ตอนนี้เหงื่อไหลซกยังกับพึ่งวิ่งสิบคูณร้อยมาหมาดๆก็ไม่เชิง
"พร้อมนะครับ นืงง สองงง ซั่ม..."แชะ รัวๆเกือบสิบลูบ จนผมคิดว่่เสียงชัตเตอร์ คงดังไปกระทบกับหูใครเข้าแน่ๆ ถึงได้มองผมกัน เป็นทีมเวิคขนาดนั้น

"ขอบคุณมากคะพี่เจ.. ตัวจริงพี่น่ารักกว่าในรูปอีกนะ" •√•
เจอชมซึ่งๆหน้าแบบนี้ผมก็เขินสิ...

"ไม่เป็นไรครับพี่ยินดี"อย่างน้อยถ้าการได้ทำอะไรแบบนี้แล้วมันสามารถทำให้คนรอบๆตัว ผมมีความสุขมีรอยยิ้มได้ผมก็ควรจะทำมัน. .. .

..ครืดดดดด....เสียงสั่นๆดังขึ้นขณะที่ผมกำลังโบกมือบ้าบบายตอบน้องผู้หญิงคนนั้น และบุคคลที่โทรเข้ามาในเวลาแบบนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ำไหนครับไอ มารวินเพื่อนผมเอง..โทรมาได้จังหว่ะพอดีเลย

"ฮัลโหลมึงว่าไง"ผมถามปลายสายด้วยเสียงที่ดูสดใส

"เออมึงอยู่ไหนอะ..กูไปหาได้ปะ ตอนนี้กูอยู่สนามบอล เห็นเด็กมึงแวปๆนะ" วันนี้มาแปลกแหะปกติเคยรายงานเรื่องไอกายให้ผมฟังซะที่ไหน

"ปกติจะไปจะมาเคยถามความเห็นกูด้วยเหรอ"

"ก็ถามตามมารยาทไปงั้นแหละสรุป?"วินมันเร่งเร้ารอฟังคำตอบจากผม

"กูอยู่สนามแบตที่ตอนนี้กลายเป็น สนามสารพัดกีฬาไปแล้ว"

"แหงละ สนามบอลก็โดนพวก เชียร์นิเทศ ซ้อมหลีดจนกูไม่มีที่จะซ้อมส่วนสนามอื่นๆแม้งก็โดนจองคิวกันหมดกูเลยไม่รู้จะไปซ้อมที่ไหนเลยเนี้ย..."ตอนมันตอบผมมันถอยหายใจบ่อยมากคงจะเครียดของมันจริงๆนั้นแหละ

"แล้วมึงลงแข่งอะไรบ้างอะ"ผมอาจลืมบอกไปครับว่าเรื่องกีฬาไอวินเพื่อนผมคนนี้มันก็เก่งไม่แพ้ใครเหมือนกัน
แต่ที่เห็นมันเล่นบ่อยสุดน่าจะเป็นฟุตบอลกับบาสเก็ทบอล ส่วนกีฬาที่ป่วยของม้นไม่น่าจะพ้นวอเลย์บอล

"ก็มีแข่งบอลกับบาสสองรายการอะ..แล้วมึงละ"

"กูลงแบตอย่างเดียววะ"

"เชรด..!!"มันจะร้องตกใจอะไรขนาดนั้น

"เชี้ยเจ ลงแข่งกีฬาวุ้ยกูว่าคงมีอะไรสนุกๆให้กูดูหลังแข่งเสร็จแล้ววะ"

"มึงจะมาเชียร์กู ?"

"ประมาณนั้น?"

"เออแล้ว...ไอกายมันเป็นไงบ้างวะ..."เสียงถามผมเริ่มอ่อยลงไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำถามหรือชื่อของคนที่ผมถามไปกันแน่ถึงได้ทำให้ใจเต้นรัวๆแบบนี้(กูเป็นอะไรวะ)แต่เมื่อกี้เห็นมันบ่นถึงเด็กผมอะไรซักอย่างไม่รู้หมายถึงไอกายรึเปล่า..แต่ผมขอเดาว่าน่าจะใช่นะ

"อยากรู้หรอ..."เอ้าไอนี้ไม่อยากรู้กูจะถามเร้อ

"อย่าลีลา...บอกมาเร็วๆ"

"ฟังแล้มึีงอย่าตกใจนะ ทำใจดีๆ..."ทั้งน้ำเสียงและคำพูดของมันทำเอาจิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัว..นั่งลุ้นจนเผลอกำโทรศัพท์แน่น

"กายมันเลือดไหล....."แค่ได้ยินคำว่าเลือดผมก็ใจไม่ดีแล้ว ผมไม่รู้ว่าตัวเองเร่งสปีดฝีเท้าวิ่งมาเร็วเท่าไหร่จากสนามซ้อมแบตมา ไปสนามใหญ่แถมยังห่างกันไกลลิบลิ่ว . . .แต่ผมไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลยแม้แต่น้อย หรืออาจเป็นเพราะผมกำลังตกใจกับสิ่งที่ไอวินมันบอกผมก่อนจะมาก็อาจจะใช่.. ตกใจจนลืมเหนื่อยเลยทีเดียว


ผมเดินมาถึงสนามใหญ่ที่ๆรวมเหล่านิสิตนับร้อยมากหน้าหลายตาแถมยังหลายคณะให้เลือกมองกันเพลินๆแต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญของการมาในครั้งนี้  ผมเพ่งมองหา มัน ผ่านผู้คนนับร้อยชีวิตที่ยืนระเกะระกะรกหูรกตาผมไปหมด..จิตใจผมเริ่่มกระวนกระวาย...จนหยดน้ำตามันไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ไม่รู้ว่าที่ผมร้องเป็นเพราะตกใจหรือกำลังกลัวอยู่กันแน่....

ผมกล้ายอมรับเลยว่าตอนนี้ผมอ่อนแอมากๆ ขาผมเริ่มอ่อนนัยย์ตาเริ่มสั่นระริก.. . .ผมเดินฝ่าฝูงชนคนนับร้อยเข้าไปเกือบๆถึงตรงที่มีพวกคณะวิศวะซ้อมบอลกัน

ตอนนี้สายตาผมโฟกัสหากายแค่คนเดียวและในที่สุดผมก็เจอ มัน..เจอมันแล้ว  แต่...ทำไมมันถึงไปนั่งฟุบอยู่ทีี่แสตนเพียงคนเดียวละ... ทำไม ถึงไม่มีใครดูแลมัน...

. . . . . . . ..


TBC
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :39〗〖19-07-60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-07-2017 11:48:03
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :30〗〖13/08/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-08-2017 11:12:53
Chapter:40


ผมเดินเข้ามาหากายช้าๆที่แสตนด้วยจิตใจที่เริ่มสั่นกลัว แต่ที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ ทำไมมันถึงนอนนิ่งได้ขนาดนี้. . . หรือว่ามัน...ไม่ๆ ต้องไม่ใช่แบบนั้นแน่ ผมรีบเดินไปพยุงหัวมันขึ้นมามองใกล้ๆ


แต่เด็กน้อยของผมรายนี้พอผมจับหัวมันลุกขึ้นมามันก็ทำหน้ามุ้ย แต่พอเห็นว่าเป็นผมมันก็ทำหน้าดีใจ..หรือแปลกใจวะ

"เป็นไงบ้างอะ.ได้ข่าวเลือดออก.."พอมองหน้ามันชัดๆเห็นหน้าตาดูสดใสอยู่ผมก็เบาใจและ สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากที่หายตกใจ..หมับ.จับหัวมันเข้าอย่างแรกเลยครับ ก้มหัวดีนัก.. . จิตใจผมเริ่มสงบลงเมื่อเห็นว่ากายไม่ได้เป็นอะไร...คงโดนไอวินต้มตามเคย

"เจ็บอะ.."แหนะมีทำเสียงออดอ้อนกูด้วยห่า..ไม่ต้องอ้อนเลยสัด.. ที่กูมาเพราะโดนมันหลอกหรอก


"โอ๋ๆไม่เป็นไรนะน้องกาย เดี้ยวพี่เจคนนี้จะดูแลเทคแคร์เองนะครับ.. แล้วไหงผมถึงคล้อยตามวะ ผมลูบๆหัวกายมันเล่นและดูท่าทางเหมือนมันจะเคลิ้มนะขยับหัวเข้ามาใก้ลผมใหญ่เลย

"อิจฉาคนมีหมอส่วนตัวโว้ย!!!..."เสียงไอห่าที่ไหนไม่รู้ตะโกนดังมาจากในสนามผมหันมองตามหาต้นตอแต่ไหงมันถึงมองมาทางนี้เยอะจังวะ....

หมับ...อีกครั้ง(แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ผม) ผมสะดุ้งตัวเมื่อมีมือดี..ของคนตรงหน้ากำลังใช้มืออีกข้างประคองมือผมไปจับที่หน้ามันอย่างเบาๆ...แต่มึงเอ้ย ช่วยเลือกดูเวลาหน่อยเหอะ น้องๆซ้อมเชียร์แถวๆแสตนใกล้ๆหันมามองผมกันหมดแล้ว...บางคนนี้มองจิกผมเหมือนผมเป็นตัวอะไรทีน่่ารังเกลียดส่วนอีกกลุ่มนี้ มองแบบยิ้มตาละห้อยเลยครับเหอะๆ..

"หึหึ คนมองหมดแล้ว.."ผมใช้มืออีกข้างผลักหัวมันเบาๆ

"ก็ให้เขามองไปสิคนรักกันเขาจะดูแลกันมันแปลกตรงไหน..."มันไม่แปลกหรอกห่าแต่มันโจ่งแจ้งมึงเข้าใจกูม้าย...

"เออๆเอาไงก็เอาเหอะแล้วซ้อมเป็นไงบ้างอะเหนื่อยมั้ย"ผมดึงมืออีกข้างจากแก้มมันมาลูบหัวต่อ  นุ่มดีชิบหายสระผมด้วยอะไรวะ

"ตอนแรกก็เหนื่อย แต่ตอนนี้ไม่แล้ว.." 

"ได้ยาดีละสิ"ผมแกล้งๆแซวมันแต่ก็แอบแควะตัวเองไปด้วยหุหุ

"ได้คนเทคแคร์ดีต่างหากละ.."อึ้ยย!!ขนลุกวะ..ถ้าบรรยากาศมันเงียบมีแค่ผมกับมันป่านนี้คงนอนฟินไปสามโลกแล้ว....แต่ตอนนี้คือต้องเก็บอาการไงฟินแค่ไหนก็ต้องเก็บไม่งั้นดัง...สายแม้งยิ่งเยอะอยู่..

"หึ...เห็นไอวินบอกอาการปางตาย..กูก็เห็นยังโอเคอยู่นิ โดนต้มไปตามสเต็ป..."

"ใครบอก....กูจะตายจริงๆนะ..ถ้าวันนี้กูไม่ได้เห็นหน้ามึงกูคงคิดถึงจนตายแน่ๆ...."ฟิ้ววว  ลอยไปแล้วตัวกู....ลอยไปพร้อมกับไอถุงหูหิ้วสีขาวๆนู้นแล้ว...

"อย่ามาเว่อร์ ไปซ้อมต่อไปอีกไม่กี่วันก็ลงแข่งแล้วไม่ใช่หรอ..." ผมพยายามดันหน้ามันออกห่างแต่รู้สึกเหมือนโดนตุ๊กแกเกาะยังไงยังงั้นเลย..สบัดยังไงก็ไม่หลุด...

"ฮือ...ขออีกแปปดิ่..อยู่แบบนี้อีกแปปนึงนะ..."โหทำสายตาแบบนั้นกูก็แพ้สิวะมีหรือจะกล้าปฏิเสธผมเลยจำเป็นต้องยืนอยู่เหนือหัวมันนิ่งๆให้มันเอาหน้าซบกับเอวผมอยู่พักใหญ่แต่ก็ยังมิวายมีมือซนๆคอยลูบก้นผมอยู่ตลอดเวลา

โป้ก...!!กูขอสักทีเถอะ ทนมานานแล้ว

"ฮือ...." มันทำหน้ามุ้ยไม่พอใจเงยหน้าขึ้นมามองผมใหญ่้

"ไม่ต้องมาฮงมาฮืออะรีบไปซ้อมไปพ่อมึงวิ่งมานู้นแล้ว.."ผมชี้ให้กายมันมองตาม..เห็นไอวินมันวิ่งถอดเสื้อเดินโทงๆโชวซิกแพ็คให้พวกเด็กสาวกับป้าๆรอบสแตนตกใจเล่น...
ก่อนจะมายืนหอบแดดอยู่ตรงหน้า

" พักซะนานเลยมึง...น้องๆรอให้มึงไปซ้อมมันอยู่.ส่วนมึงจะยืนจู๋จี๋เพื่อนกูอีกนานมั้ยห้ะ...ไอเปี้ยก.."น้านยังไม่วายหันมาแควะกูอีก..แต่คงต้องผิดหวังนะครับเรื่องที่กูจะอาย..เพราะกู..ด้านแล้ว คึ

"เออเสร็จตั้งนานแล้ว..แต่เพื่อนมึงมันยังไม่ปล่อยแขนออกจากขากูเลยเนี้ย"ผมชี้นิ้วให้ไอวินมันมองตามมันทำหน้าเอือมๆก่อนจะเดินมาสะกิดนิ้วไอกายให้หลุดออกจากตัวผม

"กูไม่หน้าหลอกมึงมาเล๊ย เสียการเสียงานหมด...."

"อ้่าวที่มาเพราะวินมันบอกหรอ..." กายมันหันมาขมวดคิ้วใส่ผมจนเป็นปม

"อือ"พอผมพูดจบมันก็รีบหันหน้ามองไปในสนามเลย..กูผิดไรวะ..

"เฮ้ย..."จึ้กๆ ผมลองเชิงใช้นิ้วจิ้มที่ไหล่มันสองสามทีแต่โดนปัดออกครับ ...สรุปโกรธกูเรื่องอะไรวะกุตามไม่ทัน

"อย่าบอกนะว่าโกรธเรื่องที่มาเพราะวินบอกอะ..มันไม่ยอมตอบผมครับแต่ยู่ปากมองสนามแทน...

"เอ้ย ถ้าเป็นเรื่องนั้นมันก็ส่วนหนึ่ง..แต่มึงลองคิดดีๆนะถ้ากูไม่เป็นห่วงมึง กูจะรีบมาในสภาพแบบนี้เหรอ.. ไม่อยากจะบอกครับก่อนหน้าที่จะไปซ้อมแบต นี้ผมโดนอาจารย์ป้าเล่นงานให้ช่วยกันขัดห้องน้ำ กับพวกอิกี้อิเบนข้อหาเข้าเรียนสาย เหรดไปสองนาที..สภาพผมตอนนี้คือเสื้อนิสิตหลุดลุ้ยรองเท้าอิแตะ ผมกระเซอะกระเซิงเพราะต้องรีบวิ่งสู้ฟัด มาหามันถึงลานสนามใหญ่เนี้ย  ไม่รักไม่ทำนะพูดเลย...

กายมันใช่สายตามองผม จากล่างขึ้นบน(แต่ถ้ามองบนแล้วมาล่างกูจะรู้สึกดีกว่านี้นะ)แต่เรื่องนั้นช่าง มันก่อนเถอะครับประเด็นตอนนี้มัันอยู่ที่ว่า... มันเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายให้มันฟังบ้างรึเปล่า...

"งั้นหรอ..."น้ำเสียงๆเรียบๆของมันเริ่มทำให้ผมหงุดหงิด...

"ถ้าไม่อยากให้อยู่กูไปก็ได้นะ วิน..กูกลับละ.."หมับ..เข้าที่มือผม แทบจะทันที จังหว่ะที่ผมหันหลังกำลังจะเดินหนีไปเหมือนนางเอกเรื่องสวรรค์เบี่ยง (แอบยิ้มมุมปาก) ไอกายมันก็คว้าข้อมือผมไว้และลุกขึ้นยืน ดึงผมเข้ามาหาตัวมัน จนตอนนี้หน้าผมจะเข้าไปสิงอยู่ในรูจมูกมันอยู่แล้ว...

"ขอโทษ..."เสี่ยงพูดเบาๆที่มันตั้งใจเปล่งออกมาให้ผมได้ยินเพียงคนเดียวดังอยู่ข้างๆมันดังพอ ทำให้ใจที่ว้าวุ่นของผมสงบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนที่มันจะเลื่อนหน้ามาไว้จุดเดิมและส่งยิ้มหวานๆ อย่างที่มันชอบทำอยู่บ่อยๆ

"ทีหลังก็หัดฟังก่อนจะงอลหน่อย..."

"ฮือ.."

"เอองั้นก็รีบไปซ้อมต่อเหอะน้องรอแล้ว.."

"รีบกลับหรอ.." แขนของกายยังคงเกี่ยวมือผมไว้ไม่ห่าง

"อือ ดิ กูแอบหนีเวณทำความสะอาด ตอน อ.ป้า เผลอ(แถมยังโดดซ้อมแบต) เพื่อมาหามึงเลยนะเนี้ย ป่านนี้ตามหากูให้วุ้นแล้วมั้ง"

"ไม่ อยากให้ไปเลยอะ วันนี้ทั้งวันพึ่งเจอกันเองนะอยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอ.."เสียงอ่อยๆของมัน ทำให้ผมอยากจะโดดเวณล้างห้องน้ำ(และซ้อมแบต)เพื่อมาหามันโดยไม่สนเกรดหรือคะแนนอะไรนั้นเลย..(แต่ความเป็นจริงคือเทอมที่แล้วผมเกือบจะได้ ซีตัวโตๆวิชาอ.ป้าแต่เหมือนอ.คงสงสารลูกหมาตาดำๆแบบผมก็เลยให้ข้อเสนอ โดยการช่วยทำความสะอาดห้องน้ำทั้งตึก ในวันที่เปิดภาคเรียนใหม่...เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นอย่างที่ผมเล่านี้แหละครับ

"กูก็อยากอยู่นะ..แต่ถ้ากูไม่ไป..กูโดนบวกแน่ๆ...เข้าใจกูหน่อยนะ.. "ไม่รู้ว่าเสียงเศร้าๆซึมๆของผมจะสามารถสร้างความสงสารให้มันได้บ้างมั้ย

"งั้นเย็นนี้ไปนอนด้วยนะ..."

"แล้วไม่ต้องอยู่ซ้อมบอลดึกๆแล้วเหรอ.." ปกติช่วงนี้ผมไปแอบส่องติดตามข่าวสารที่หน้าวอก็เห็นมันเช็คอินที่สนามใหญ่ แคปชั่นซ้อมกีฬาอย่างเดียวเลย..

"ขอโดดซักวันเหอะ.ไอวินก็อยู่.เดี้ยวให้มันคุมน้องแทนวันนึง.."

"เอ้าไหงโยนขี้ให้กูซะงั้น..."

"..กาย "ผมตอบเสียงแข็ง"กลับไปทำหน้าที่ของมึงเลย..ห่าอย่าทำตัวเป็นเด็ก ..ทางคณะอาจารย์ที่เขามอบตำแหน่งให้มีงก็เพราะมึงมีความรับผิดชอบสูง!!"ผมเน้นคำว่าสูงใส่หน้าไอวินจนมันเกือบจะถุ้ยน้ำลายใส่หัวผมขอหาจิกกัดมัน

"แล้วเขาก็คงไว้ใจ.ว่ามึงคงดูแลน้องๆแทนพวกเขาได้ไง... เพราะงั้นไม่ต้องงอแง..กลับเข้าสนามไปนู้นไป.. "ผมแอบเหลือบๆเห็นน้องๆราวสิบกว่าคนในสนามจ้องมาทางผมหรือไอกายวะทำตาแป้วเชียว

"แต่....."

"ไม่มีแต่..กาย...เสร็จแล้วค่อยคุยกันนะ.."ผมยกมือขึ้นลูบแก้มมันเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มให้ กายมันก็ดูเหมือน จะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยๆ ยกมือขึ้นมากุมมือผมที่จับไว้ก่อนหน้า

"ไว้เจอกันนะ..."มันพูดพร้อมกับเขยิบหน้าเข้ามาใกล้้ผมอย่างรวดเร็วแต่ดีที่ผมไหวตัวทัน

"อย่า...ตรงนี้คนเยอะ"ผมยกมือปิดปากมันที่พยายามเข้ามาลวนลามผมแต่มันก็ปัดมือผมออกในเสี้ยววินาที

".ขอทีเดียว..แล้วจะไม่กวนเลย..นะๆ" แล้วทำไมมันต้องกัดปากทำท่าเซ็กซี่แบบนั้นด้วยวะ...ผมใจเต้นแรงโคตรๆ ตอนที่ฟันของมันขบเข้ากับปากสีแดงอมชมพูนั้น..และก่อนที่ความอดทนจะหมดลงผมก็รีบถอยห่างออกจากมัน..

"อะ..ดูดปากกันซะทีสิสัด..กูรอดูอยู่...ไอกายมันอยากมึงก็ให้มันหน่อยดิ...ถือว่าทำบุญให้หมาให้แมว.ไป.."เออผมก็ลืมไปว่าเชี่ยวินมันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ แม้งเอ้ยเกือบแล้ว...เกือบเผลอใจอ่อนแล้วไง

"วินมันพูดขนาดนี้แล้วอะ..ไม่ให้หน่อยหรอ..หืม.."ไอตัวการนี้ก็เร่งเร้ารึเกิน ถ้ามันทำได้ง่ายขนาดนั้นผมคงไม่ต้องถอยห่างออกมาตั้งหลักไกลขนาดนี้หรอก...

"มึงก็จับหน้าแม้งมาเลยวุ๊ ไวๆ น้องรออยู่..."

"เสือก.."ไม่ใช่เสียงไอกายครับ เสียงผมเอง..
ขอสักทีเหอะ..และในระหว่างนั้นผมก็คิดหาวิธีีเอาตัวรอดออก...(เคยจำมาจากในหนัง)แต่ไม่รู้ว่าชีวิตจริงมันจะได้ผลมั้ยนะ

ผมเอามือทาบที่หัวใจตอนนี้มันเริ่มเต้นเป็นจังหว่ะปกติแล้ว..หายใจเข้าออกสองสามที...เอาวะ..ขอลองดูหน่อยละกัน

ผมค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆมันอีกครั้ง แต่หัวใจก็ดันทรยศ..มันเต้นแรงอีกครั้งและ..เริ่มถี่..มากกว่าเดิม..แต่ผมเดินมาถึงขนาดนี้แล้วจะถอนตัวไปก็คนไม่ทันแล้ว...

หน้าของผมเริ่มเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะจูบมันแล้วจริงๆกายมันหลับตาพริ้ม...แต่นั้นมันก็ดีสำหรับตัวผมอยู่เหมือนกันเพราะจะได้ไม่ต้องสบตากับมันโดยตรง.. จังหวะนั้นเองผมเอี้ยวตัวหลบไปกระซิบข้างๆหู...


"อดทนหน่อยนะ...บางทีอาจจะได้มากกว่าจูบ.."ไม่รู้ว่าผมไปเอาความกล้ามาจากไหนในการคิดประโยคพวกนี้...แต่จากที่เคยดูละครมามันน่าจะเป็นวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์แบบนี่ได้ดีที่สุดแล้ว...แต่จะได้ผลหรือไม่คงต้องวัดใจกันดู

"เมื่อกี้พูดว่าไงนะ"..กายมันยิ้มเลวๆที่มุมปากก่อนจะเอ่ยปากถาม..ตอนผมที่ผมผละตัวออกมา


"ก..ก็..อย่างที่พูดไปนั้นแหละ..."พูดรอบสองไม่ได้แล้วด้วยสิ....

"พูดแล้วนะ." ที่กูจะสื่อคืออาจจะมีถือมือเดินควงแขนเพิ่มต่างหากละไอหนู...แต่ปล่อยให้มันเข้าใจอะไรแบบเสื่อมๆไปก่อนแล้วกันครับ..เดี้ยวเย้นนี้แอบชิ่งไปนอนบ้านไอวินดีกว่า...คึ..

. . . . . ..

ช่วงบ่ายผมไม่มีเรียนครับ แถมยังไม่มีกระจิตกระใจจะไปซ้อมแบตด้วย..เลยแอบโดดซ้อม
(เด็กๆไม่ควรเอาเป็นตัวอย่างนะครับ)

มานั่ง สะลึมสะลือ อยู่ใต้คณะแทนครับ..แต่ก็เหมือน พึ่งออกจากถ้ำเสื้อแล้วหล่นมาในบ่อจระเข้..

พวกรุ่นพี่ปีสี่เดินเข้ามาเซฮัลโหลผม  แถมยังมีขนมติดไม้ติดมือมาอีกเพียบ แต่อย่าพึ่งคิดว่ามันเป็นเรื่องดีนะครับ..เพราะหลังจากที่ผมแกะห่อขนมหยิบเข้าปากพวกพี่ๆเขาก็พูดขึ้นทันที

"พี่มีเรื่องอยากให้เจช่วยหน่อย..."ผมแถบอยากจะคายไอขนมที่พึ่งเข้าปากเมื่อกี้ลงใส่ห่อเหมือนเดิมชิบหายแต่รู้ว่่าคงไม่ทัน..

"ครับพี่..."หน้าผมนี้ถอดสีเลยไม่รู้ว่าพี่แกจะใช่อะไรผมอีก...

"คือ..วันรับน้องอะ..พี่อยากให้เจช่วยไปดูแลพวกน้องๆที่เข้ามาใหม่กับพวกสตาฟที ..พอดีคนมันไม่พออะ.

"แล้วพวกปีสามคนอื่นๆ ไม่มีว่างแล้วหรอครับ ..คือผมเองก็ต้อง..ซ้อมแบตเหมือนกัน..."คือขนาดเสริฟตีโต้กันไปมาผมยังรับไม่ค่อยจะได้เลย..ถ้าจะให้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นอีกผมคงแย่อะ

"พวกที่มีความรับผิดชอบส่วนมาก ก็กระจายอยู่ตามซุ้มกันแล้วอะ...จะเหลือก็แต่..."

"แต่อะไรพี่"...

"จะเหลือก็แต่...กลุ่มสันทนาการอะ ที่ยังขาดคนยังไงเจ ช่วยพี่ที่นะ..."......(จุดอร่อยดี)พูดอะไรไม่ออกเลยครับ สันทนาการ.. ไอที่ไอยืนดิ้นๆอยู่หน้าแถวแล้วให้น้องทำตามใช่มั้ย..หือ... (ภาพไก่ย่างในตำนานมันย้อนกลับเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง)..สึด

"คือพี่..ผมไม่.."ผมกำลังจะอ้าปากพูดแต่พี่แกก็พูดขึ้นมาก่อน

"พี่ต้องรีบไปแล้วนะยังไงก็ขอบใจนะ แล้วก็...ขนมนี้พี่ให้เอาไว้กินตอนหิวๆพี่ไปละบาย"ผมแค่กระพริบตาไปแว้บเดียว...พี่แกก็บริ้งตัวหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ครับ.. คือยังไม่ทันได้ตอบตกลงอะไร..พี่แกก็พูดเองเออเองซะหมด..ไอผมก็พอเข้าใจนะว่าพวกพี่ๆปีสี่เข้าต้องเตรียมไปหาที่ฝึกงานกันแต่..ไอหน้าที่ๆจะให้ผมทำเนี้ย..มันโคตรไม่เข้ากับผมเลย..ให้ผมไปแบกอิฐแบกปูนยังจะดูดีกว่านี้อีก...เห้อ..แต่ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วผมก็คงต้องยอมทำตามในสิ่งที่พวกพี่ๆปีสี่เข้าไว่วานไว้ส่วนผลจะออกมาเป็นยังไงนั้นก็คงต้องรอดูเอา..


เวลาสี่โมงกว่าๆ ผมเดินๆดุุ่มๆเข้าไปที่ซุ้ม กิจกรรมของคณะมนุษย์ศาสตร์ เห็นมีพวกปีสองกับปีสามปะปนกันกับพี่ปีสี่อีกสามสี่คนกำลังนั่งคุยอะไรกัน อยู่.
ดูหน้าเครียดกันเชียว


"ตามนี้นะ..ส่วนวันจริง เดี๋ยวให้หน้าม้าไปบอกอีกที.." พี่่ผู้หญิงคนนึงเธอหันมาสบตากับผมแล้วทำหน้างงใส่ ดูจากเสื้อคณะที่่ใส่แล้วเลขรุ่น...น่าจะเป็นปีสี่

"เออ..ใครอะ...เจ.อะไรนั้นใช่มั้ย"พี่เข้าเดินเข้ามาถามผมทำเอาคนในซุ้มมองตามกันใหญ่

"ช..ใช่..ใช่ครับ"

"ไหวหรือเปล่าอะ.เรา..ดูรนๆนะ"ถ้าผมบอกว่าไม่ไหวพี่เขาจะยอมให้ผมกลับมั้ยอะ

"แต่ช่างเถอะมาถึงขนาดนี้แล้ว..ยังไงก็มานั่งฟังแผนการจัดงานกันก่อน...คือพี่จะเล่าตั้งแต่เริ่มแรกเลยนะ..ขอให้ทุกคนตั้งใจฟังใคร..ไม่ไหวอะไรตรงไหนให้รีบบอกนะจะได้หาทางแก้ไขกันทัน" ทุกคนรอบโต๊ะพยักหน้ากันหมดรวมถึงผมด้วย

"คือแผนมันเป็นอย่างนี้นะ........"ผมนั่งฟังพี่เขา สาธยายเกี่ยวกับเรื่องแผนการรับน้องในวัน ที่ใกล้จะเข้ามาถึงนี้..ด้วยท่าทีที่ร้อนรน..คือมีหลายจุดมากที่ผมไม่เข้าใจและอยากจะถาม..แต่พี่แกเล่นแร็ป ด้วยความเร็วแสงขนาดนั้นผมเลยแทรกตรงไหนอะไรไม่ได้เลย.... สรุปเรื่องคร่าวๆก็คือ ผมมีหน้าที่คอย ซัพพอร์ต พวกสันทนาการอีกทบนึง คือหน้าที่คล้ายๆหน้าม้าอะครับ คอยยืนประกอบอยู่ข้างๆฉาก โดยมีปีสามอีกคนคอยเป็นผู้บรรยาย และคอยสร้างบรรยากาศ ให้มันดูตรึงเครียดหน่อย เพราะวันจริงเห็นว่ามันไปตรงกับวันเกิดของน้องคนนึงเข้า เลยจัดทำ เซอร์ไพรส์ แบบจัดหนักจัดเต็มเล่นจริงเจ็บจริงกันเลยทีเดียว...

. . . . . .. . .

และในที่สุุดวันจริงก็มาถึง....

(แต่หลายคนอาจจะอยากรู้ว่ารื่องที่ผมบอกกายในวันนั้นมันเป็นยังไง..สรุปก็คือ..มันไม่มานั้นเองครับด้วยเหตุอะไรผมก็ไม่อาจทราบได้...ไอเราก็อุตส่าห์ ถ่อไปนอนถึงบ้านไอวิน. ที่อยู่ห่างไกลแสนไกล...แล้วก็จบด้วยที่ผมโดนป๊าไอวินแซว ว่ามันพาแฟนเข้าบ้าน เหอะๆ... ให้ตายเถอะ..ขนาดพี่แหวนพี่สาวของไอวินยังเห็นดีด้วยเลยนะเออ...)
. . . . .


วันนี้เป็นเช้าที่สดใสมากครับรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ตั้งแต่รู้ว่า จะมี เซอร์ไพรส์ น้องปีหนึ่ง กัน.. ผมได้รับมอบหมายให้ไปรับเค้กร้านข้างๆมอตอนเวลาเก้าโมงครึ่ง(แผนการเริ่มสิบเอ็ดโมง) ผมเลยมีเวลาเหลือเฟือมากๆเพราะดันตื่นเช้าไง...ตอนนี้ก็เลยมานั่งอินดี้อยู่ร้านก๋วยเตี๋ยว ตรงข้ามที่ดันมีโจ๊คให้กินฟรีๆแต่เช้าหุหุ

"อาตี้เล็กลื้อ  จารีบไปไหน อ่า ทำไมวันนี้ลื้อ ตื่นเช้าตั่งแต่ไก่ยังม้ายขัน"

"วันนี้มีกิจกรรมที่มออะครับม่า เลยต้องไปแต่เช้าแล้วพี่...่ริว ยังไม่ตื่นหรอครับ"

"อาตี๋ใหญ่อี ออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วอ่า ตอนนั้นม่ายังไม่ตื่น..เลยไม่รู้ว่าอีไปไหน"

"พอดี. . ผมมีเรื่องจะปรึกษา พี่เขาอยู่ แต่ไม่เป็นไร ครับไว้เดี้ยวเย็นๆผมมาหาม่าใหม่.."

"ดีๆมาบ่อยๆม่าอยู่คนเดียวแล้วมางเหงา.."

ผมเดินออกมาจากร้านด้วยรอยยิ้มของอาม่าและหอบหิ้วโจ๊กอีกสามถุง ที่ม่า บอกให้ผมเอามาแบ่งเพื่อนที่คณะ. . . แต่ไม่รู้ป่านนี้มันจะตื่นกันรึยัง....


ผมถึงคณะเวลา เจ็ดโมงครึ่ง คือมันเช้ามาก .. ขนาดป้าๆแม่บ้านยังแปลกใจเลยที่เห็นผมเดินโทงๆหิ้วอะไรมาเต็มไม้เต็มมือ..และอย่างแรกที่ผมควรทำ คือตามหาพรรคพวกครับ..อ่อผมอาจจะบอกว่าพวกมันสองตัว เอ้ยสอง คน เพื่อนสนิทในคณะผมม้นก็มีบทบาทเหมือนกันนะเออ...และบททีีพวกมันสองคนได้รับก็ดูจะเหมาะเหมงตรงคอนเซปเหลือเกิน เหมือนเอาสันดานจริงๆมาแสดงให้น้องดู..นั้นคือการ  สร้างบรรยากาศตรึงเครียด กดดัน และหดหู่ให้มากที่สุด  ปกติ ตอนรุ่นผม ไม่ค่อยมีอะไรแบบนี้หรอกครับ ออกแนวสร้างสรรค มากกว่า แต่ปีนี้ ปีใหม่ พ.ศใหม่ ทั้งรุ่นพี่และประธานรุ่นผมคงอยากลองอะไรใหม่ๆถึงได้คิดแผนการอะไรแบบนี้ขึ้นมา เลยสร้างความแปลกตาแปลกใจให้กับผู้ทราบข่าวเป็นอย่างยิ่ง  ส่วนไอคณะๆที่รับน้องโหดๆเถื่อนๆดิบๆ ผมคงไม่ต้องเอ่ยชื่อให้ฟังก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว.... วิศวะนั้นเอง..หึหึ

"กรี๊ด.!!อิเจ ทำไมมึงยังไม่แต่งตัว" ผมหันฟับไปมองตาม..เห็นอิกี้เพื่อนสาวของผมวิ่งหน้าตื่นมาแต่ไกล

"อ่ะนี้.รีบไปใส่เร็วๆพี่ฝ้ายเขาเรียกรวมตัวแล้ว..ขืนไปสายมึงได้โดนนางบ่นหูชาแน่"

"เสื้อพึ่งถึงมือมึงก็รีบจริง.. แล้วอิเบนละ มันยังไม่มาหรอ"

"ไปช่วยผู้ชายเตรียมเสบี่ยงอยู่หลังซุ้มส่วนกู.ต้องเสียเวลาทำคะแนนเพราะต้องมาตามหามึงเนี้ย..ลำไย.."

"เออกูขอโทษ..แต่ถ้ามึงรีบมึงไปก่อนเลยก็ได้...กูเปลี่ยนเสื้อแปปเดี๋ยวตามไป.."


"ตามนั้นละกันอย่านานนักนะคะพี่สัน หุหุ"ตั้งแต่มันรู้ข่าวว่าผมได้เป็นพี่สันทนาการมันกับอิเบนก็รวมหัวกันล้อผม กันสนุกปาก.


"สัด"ผมด่ามันก่อนจะหามุมลับตาคน... ถอดเสื้อเปลี่ยนมันซะตรงนี้เลย.. ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบวิผมก็รีบวิ่งตามอิกี้ไปติดๆตอนนี้อุปกรณ์ข้าวของทุกอย่างพร้อมใช้งานกันหมดแล้วจะเหลือก็แต่เค้กซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้พี่สาวเจ้าของร้านจะทำให้เสร็จรึยัง ระหว่างนั้น พวกเพื่อนๆผมมันก็ซ้อมตีกลองร้องเพลงสันต่างๆนาๆพร้อมกับท่าทางพิลึกที่เกินกว่ามนุษย์อย่างผมจะเข้าใจได้ ให้ผมดู ...แต่จะเรียกว่าดูอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ..เพราะผมเองก็ต้องซ้อมไปกับพวกมันด้วยนี้สิ กร๊ากกก ...

เวลาสิบโมงกว่า น้องๆเฟรชชี่หน้าใส พากันเดินแห่เข้าซุ้มกันให้วุ่นและด้วย  ผมที่ได้รับตำแหน่งทั้งสตาฟและพี่สันก็ต้องวิ่งไปทางนี้ที่ทางนู้นที่เพื่อบอกแนะนำน้องๆสารพัดแต่ดูเหมือนน้องมันไม่ค่อยจะกลัวผมเลยวะ. . . แต่ละคนมึนๆทั้งนั้นส่วนใหญ่จะเป็นพวกเด็กผู้ชายส่วนเด็กผู้หญิงนี้ทำตัวน่ารักสมกับหน้าตาน้องๆมาเลยครับ คึ.. ^  ^

กิจกรรมเริ่มไปได้พรรคใหญ่ (สถานะการณ์ดราม่า)ก็เริ่มต้นขึ้น...โดยที่ผมต้องรับหน้าที่แสนจะจำเป็น แต่เหมือนเล่นจริงเจ็บจริงอะคับ คือผมต้องแกล้งเศร้าไงคือพวกน้องมันไม่ยอมฟังเออ ทีนี้ก็จะมีพี่ฝ้าย ปีสี่ ที่โหดๆ มาคอยดุด่า แล้วก็ลงโทษพวกปีสาม... (ก็คือพวกผมนี้แหละ) ด้วยการลุกนั่งเป็นร้อยครั้งซิดอัพอีกห้าสิบทีขา ผมระบมไปหมด..แต่เหมือนมันจะยังไม่สาแก่ใจพี่ฝ้ายครับ..สั่งให้ผมอิกี้ อิเบนและผองเพื่อนพี่สามในซุ้มไปวิ่งรอบสนามทั้งที่แดด โคตรจะแรง.. คือยอมรับเลยครับว่าเหนื่อยแล้วคือไอตอนวิ่งเนี้ยไม่มีในสคิปนะคับ คือเล่นสดเลย..เขาสั่งอะไรมาพวกผมก็ห้ามเถียง

พวกผมวิ่งวนอยู่่สนามใกล้ๆประมาณ สามสี่รอบ.. เริ่มเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเหมือนมันจะล้มให้ได้ แต่โชคดีของผมหน่อยที่มีอิกี้และอิเบนคอย ยืนประคองผมอยู่ใกล้ๆ และถ้าสังเกตุดีๆ
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :40〗〖13/08/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-08-2017 11:16:18
จะเห็นพวกน้องๆที่นั่งสบายอยู่ในซุ้มหันมามองพวกผมกันตาละห้อย.... และยังแอบเห็นมีน้องผู้หญิงแถวหลัง เอามือป้องปากเหมือนจะร้องไหเยสสส (กูตีบทแตก)

"เอาหล่ะปีสามทุกคนกลับมาที่ซุ้ม!!"เสียงพี่ฝ้าย ยืนตะโกนดังออกมานอกซุ้มผมรีบยืนยิ้มรับเลย ไม่อยากจะบอกว่าผมรอคำนี้ของพี่ตั้งแต่วิ่งสองรอบแรกแล้ว หึ..

"เป็นรุ่นพี่ซะป่าว เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ทำไม่พวกคุณถึงทำกันไม่ได้ "เสียงพี่ฝ้ายดังระงมอยู่ในซุ้มเหล่าเฟรชชี่ที่เคยยิ้มล่าตอนนี้หน้าตาบ่งบอกพวกๆบ่งบอกถึงความเบื่อหน่ายถึงขีดสุด

"ขอโทษค่ะ/ครับ"น้องๆในซุ้มทุกคนนั่งก้มหน้ากันหมด อิกี้ที่ยืนอยู่ด้านหลังผม เดินอ้อมไปข้างหลังพี่ฝ้ายเพื่อปักเทียน บนเค้กรอ แสตนบาย

"นี้!!! น้องผู้หญิง คนนั้นนะ คุยอะไรกันอยู่...น้องผู้หญิงเจ้าของวันเกิดถูกเรียกออกมา..ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆที่มองตามกันเป็นระวิง น้องเแกทำหน้างง อต่ก็ยอมเดินออกมาดีๆ

"เมื่อกี้ที่พี่พูดได้ฟังบ้างมั้ย"ถึงน้ำเสียงพี่ฝ้ายจะนิ้งแต่พอฟังแล้วโคตรกดดัน

"ฟ...ฟัง ฟังค่ะ "น้องตอบด้วยเสียงสั่นๆ

"พี่พูดว่าอะไร"น้องเงียบไม่ยอมตอบได้แต่ก้มมองอยู่ที่พื้น

"พี่ถามว่าพี่พูดว่าอะไร..ไม่ได้ยินหรอค่ะ..!!"พี่ฝ้ายเริ่มตะคอกเสียงใส่จนน้องต้องเงยหน้าขึ้นมามองแบบตรงๆกับะี่ฝ้ายดวงตากลมโตของน้องที่เคยสดใสกลับถูกแทนที่ด้วยหยดน้ำตาแทน และระหว่างที่น้องกพลังก้มเงยๆอยู่นั้น อิกี้ที่ แสตนบายอยู่ด้านหลังก็ชูป้ายที่มีข้อความเขียนไว้ บอกให้น้อง ร้องเพลง แฮปปี้เบิร์ธเดย์ พร้อมๆกัน บรรยากาศ ในซุ้มเริ่มดีขึ้น เมื่อทุกคนได้รู้ความจริงว่านี้มันเป็นเพียงแค่ละครฉากนึงที่พวกผมมีไว้เตรียมต้อนรับเหล่าน้องๆเพียงเท่านั้น

"เอาหล่ะน้องผู้ชายคนนั้นขึ้นสิ"พี่ฝ้ายลี้นิ้วไปที่น้องผู้ชายหน้าหล่อๆคนนึง ที่นั่งอยู่ตรงกลางของแถว

"ครับ"น้องยืนขึ้นพร้อมกับหลุดยิ้ม

"เริ่มสิ.."พี่ฝ้ายกระซิบบอก น้องมันทำหน้างงๆจนพี่ฝ้ายต้องชี้นิ้วไปที่ป้ายด้านหลัง ที่เขียนว่า HBD ตัวเป้งไ มันถึงพยักหน้าเข้าใจ

จังหวะกลองดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือที่ค่อยๆดังตามกันมาและยังตามมาพร้อมกับ บทเพลงที่พวกเราชาวมนุษย์ศาสตร์ร่วมกันร้องให้กับน้อง แนน  (อ่านป้ายชื่อน้องเขาเอา)

น้องเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนๆด้วยความตกใจ น้ำตายังคง เอ่อล้นอยู่ที่ดวงตาคู่นั่น  . .เพลงจบ..บรรยากาศเริ่มเงียบกริิ่บ ใจผมเริ่มเต้นตุ้มๆต่อมๆเพราะต้องเป็นคนถือเค้กมาให้น้องพร้อมกับต้องประคองเพื่อไม่ให้มันเผลอหลุดมือไป..น้องหันกลับมามองผมพร้อมกับเอามือมาป้องปาก

"เป่าได้แล้วคนสวย...พี่เมื่อย"จะว่าไปเค้กร้านนี้หนักทอปปิ้งดีแหะ เยอะดีชิบหาย

น้องแนนยกมือเช็ดน้ำตาที่ค้างแก้มก่อนจะกุมมือและหลับตา ก่อนจะเปาเทียนรวดเดียวจนหมด....

เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง น้องยิ้มขอบคุณพี่้ฝ้่ายและพวกๆปีสามทุดคนแถมยังเดินมากอดผมอีก..เห็นแบบนี้ผมก็เขินเป็นนะครับ. . .หึหึ

กิจกรรมจบลงไปด้วยความทุ่มเทและความตั้งใจ ของพวกเรา น้องทุกคนแฮปปี้ ปีสามอย่างพวกผมก็แฮปปี้ จะว่าไปหลังจากผ่านช่วงรับน้องมาได้สามสี่วันชีวิตของผมก็กลับมาวุ่นวายเหมือนเดิม กิจวัตรประจำวันก็มีกิน เรียน นอน ซ้อมกีฬา แต่ถึงเวลาจะมีน้อย แต่ความสัมพันธ์ของผมกับกายมันก็ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหนนะ เพียงแต่หลายว้นมานี้ผมไปหามันที่คณะแล้วไม่ค่อยเจอม้นเลย พอไปถามพวกไอบอสไอเบล เพื่อนในกลุ่ม วิศวะ มันก็บอกว่าคงยุ่งซ้อมบอล ซ้อมบาสไปตามระเบียบ ไอคิดถึงอะมันก็คิดถึง.แต่่ถ้าผมไปหามัน..ต้องเสียสมาธิมากแน่ๆ กายมันก็คงทำแบบเดียวกับผม คือปล่อยให้ช่วงนี้ เราอยู่ห่างๆแต่ก็ยังมีโทรคุยกันบ้าง..ไม่ใช่เงียบหายไปดื้อๆ

ครืดดดด!!!!

นั้นไงบ่นถึงไม่ทันไรมันมันก็โทรมาพอดี ผมแอบเบ้ปากใส่โทรศัพท์ก่อนกดรับ

"เออ"

"ทำอะไรอยู่"เป็นประโยคที่ผมฟังจนชินหูในทุกครั้งที่เราคุยกัน กายมันจะเริ่มการคุยด้วยคำพูดนี้ทุกที

"เปลี่ยนคำถามบ้างก็ได้มึง..."

"รักกูมั้ยอะ"เชี่ยอันนี้ก็เกินไป

"...."ไม่เงียบไม่ตอบ กวนตีนมัน

"เร็วๆดิรอฟังอยู่เนี้ย.."

"เออมั้ง.."

"ไม่เอามั้ง.."

"เออ"

"เอออะไร" แหมะ..มีขึ้นเสียงใส่ด้วยเว้ย

"เออรักครับรักพอใจรึยัง"ห่ามันคงคิดว่าคำว่ารักมันพูดง่ายมากเลยรึไงกัน..

"หึ"

"แล้วช่วงนี้ เป็นไงบ้างอะซ้อมหนักเลยเหรอ"

"ก็พอตัวอะ อีกสองวันก็แข่งจริงแล้วนิ่"จริงๆผมยังไม่ได้บอกกายมันเลยนะไอเรื่องลงแข่งเนี้ย..ไม่รู้ว่าำอวินเพื่อนรักมันจะคาบข่าวไปบอกบ้างรึยัง...

"แล้วมึงไม่ลงแข่งอะไรบ้างหรอ..เห็นไปซ้อมแบตกับเพื่อนบ่อยอยู่นิ่"

"ไม่วะกลัวอาย"

"อายอะไรวะคนเยอแยะ"

"กูเล่นกีฬาไม่เป็นมึงก็รู้"

"มาหาสิเดี้ยวสอนให้..ตัวต่อตัวเลย" ไอนี้ก็อ้อนกูตลอด..

"หึหึ กลัวจะไม่ได้แค่ซ้อมนะสิ"

"เบื่อคนรู้ทันวะ "ระหว่างนั้นเองก็มีเสียงเรียกชื่อไอกายดังผ่านลอดสายมา "(ไอกายเร็วดิวะ กินน้ำพ่องเป็นชั่วโมง นี้จะบอกนะว่ามึงเอาเวลาพักมาโทรหาสาว) มีหนวดไลๆมีขนหน้าแข็งแบบกูเรียกสาวได้ป่าววะ ก๊ากก
ผมก็บ้าไหลไปตามมัน - -"

"เออเจ.."

"อือไปซ้อมต่อเหอะ..กูไม่กวนแล้ว แต่ฝากตบห้วไอเชี้ยที่เรียกกูสาวเมื่อกี้ทีละกัน"

"ได้ๆเดี้ยวบอกว่าเมียสั่งฮ่าๆ" ผมวางสายจากกายได้ห้านาทีแล้วแต่จะว่าไปการที่นานๆ ทีได้กลับมาคุยกันมันก็็ทำให้ความคิดถึงเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน..จากปกติทีีผมกับมันจะพิมพ์คุยกันผ่านตัวอักษร..ไม่ได้ยินเสียงกัน..แต่พอมาถึงจุดๆนึงหัวใจผมมันก็เริ่มเรียกร้องหนักขึ้น จากตัวอักษรเป็นความคิดถึงจากความคิดถึงเป็นเสียงจากเสียงเป็นอย่างเจอหน้า..เอาวะอย่างน้อยขอ ไปแอบมองนิดๆหน่อยๆก็ยังดี....

ผมยืนรอรถ ชัตเติลบัส ของมหาลัยวิ่งผ่านอยู่ที่จุดรอ รถ สถานที่ๆมันกำลังจะพาตัวผมไปคือตึก เค ที่อยู่ใกล้ๆกับสนามกีฬา ใหญ่ที่กายมันซ้อมกีฬาอยู่

อากาศยามเย็นช่วงโพล้เพล้แบบนี้ ลมพัดเย็นๆ เข้ากระทบที่หน้าช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย.. เวลาที่นั่งเหม่อลอยมองดู ตึก ทีีอยู่รอบตัวผมก็แอบนึกถีงหน้า มัน แล้วก็เผลอยิ้มตาม พร้อมกับคิดอะไรเล่นๆไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา ไม่นานนักรถก็หยุดอยู่ที่หน้าตึก  ผมเดิน เยื้อง แค่แปปเดียวตอนนี้ก็ถึงสนามใหญ่แล้ว.. จะแอบแกล้ง เซอร์ไพรส์ มันดีรึเปล่า...แต่คิดๆไปคิดมาไม่เอาดีกว่า เสียเวลา ไปนั่งเนียนๆกับพวก นิสิตกลุ่มนั้น ที่นั่งถือป้ายไฟ ระโยงระยาง โบกมือไปมาดีกว่า..และดูเหมือนจะไม่มีใครสังเกตุเห็นผมด้วยแหะ สายตาแต่ละคนมัวแต่จ้องมองคนที่วิ่งวุ่นซ้อมกันอยู่ในสนามรวมถึงตัวผมด้วยที่เอาแต่มอง กายมันวิ่งๆแย่งลูกฟุตบอลกับเพื่อนๆ ของมันในสนามอยู่พักใหญ่

ช่วงทุ่มกว่าๆ คนใน แสตนเริ่มน้อยลง แต่ คนในสนามยังคงฟิตปั๋งกันอยู่ครับ ไม่รู้จัก เหนื่อยกันเล๊ย พวกบ้าพลัง ผมเห็นเหล่า แฟนๆ ที่มานั่งรอ อาศัย เวลาพักเดินเอาน้ำไปให้แฟนถึงสนาม ผมเองก็อยากทำบ้างนะ.. แต่ในกระเป๋าตอนนี้มีแต่นมตราหมี มันพอจะทดแทน ไอพวกเกลือแร่พวกนั้นได้บ้างมั้ยนะ..แต่ผมไม่สนอะเรามาด้วยใจให้ด้วยใจ..ยังไงก็ชนะขาดอยู่แล้ว... ผมเดินยิ้มๆผ่านคนที่เดินกลับมาหลังจากที่ให้น้ำแฟนๆกันเสร็จ...เจาะหลอดเรียบร้อยเหลือก็แต่ยื่นให้ผมรอจังหว่ะ ที่ สาวๆกลุ่มนั้น ถ่ายรูปกับกายมันเสร็จ จึงค่อยๆก้าวเข้าไป..เพราะไม่อยากให้มันรู้ตัว...


แต่แล้วเท้าที่ค่อยๆก้่าวของผมก็หยุดชะงักเมื่อ คนที่เดินผ่านหน้าผมไปเมื่อกี้

คือนิ้ง ....

Tbc. . .
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :40〗〖13/08/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-08-2017 17:42:33
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :41〗〖17/08/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-08-2017 10:34:47
Chapter:41

บอกไม่ถูกเลยว่า อาการของผมในตอนนี้ มันเรียกว่าอะไร และสิ่งนึงที่ผมยังอยากรู้และกำลังต้องการคำตอบในตอนนี้คือ... นิ้ง มา ทำ ไม และ  มาทำอะไร ?

แสง สปอตไลท์ ที่ส่องอยู่ทั่วสนาม สาดส่องไปที่เธอคนนั้นผู้ที่เดินเข้ามาใหม่ ...ดูเด่นเกินบรรยาย ใบหน้าที่ขาวใสไร้ที่ติ จมูกสันคม ปากเรียวเล็ก พร้อมกับแขนและขา ที่ดูเข้ารูปบวกกับการแต่งตัวของเธอ ก็ทำเอาพวกผู้ชายที่อยู่ระแวกนั้นหันมองตามกันหมด รวมถึง..กายด้วย


"เหนื่อยมั้ย..กาย"แค่ชื่อที่ออกมาจากปากเธอก็ทำเอาผมหงุดหงิดแบบสุดๆ

"ก็นิดหน่อยนะ..แล้วนิ้งมาได้ยังไงอะ.."เสียงที่มันตอบไปไม่ได้ดูหวานแหววออกจะดูเป็นปกติแต่ถ้ามันเงียบตึงหรือบึ้งใส่ผมคงจะรู้สึกดีมากกว่านี้

"อ๋อ..เอ่อ...คือ..พอดีนิ้งว่างๆอะ ก็เลยอยากมาดูกายซ้อม กีฬาซะหน่อย ดูสิ..เหงื่อออกเต็มหน้าเลย มานี้มา... "เธอล้วงมือไปหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าก่อนจะค่อยๆบรรจงเช็ดที่แก้มและขมับมันอย่างเบามือ ...

"เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกเดี้ยวก็กลับไปอาบน้ำแล้ว... อีกอย่างนี้ก็ดึกแล้วด้วย..กายว่านิ้งรีบกลับเถอะนะ...

"อะไรอะกายนิ้งพึ่งมาเองนะจะให้กลับอีกแล้วหรอ.."อีกแล้วเหรอ ของเธอนี้หมายความว่ายังไง .. เธอไม่ได้มาที่นี้เป็นครั้งแรกเหรอ... ผมยืนนิ่งหน้าเครียดคิ้วขมวดกันเป็นปม เผลอกำหมัดแน่น จนรู้สึกเปียกที่มือ พอก้มลงไปดูก็เห็นนม ที่ตั้งใจจะเอามาให้มัน มันไหล เต็มไม้เต็มมือผมไปหมด

"อ้่่าวเจ หวัดดี.."เสียงเรียกของใครบางคนทำให้ผมต้องหันควับกลับไปมอง ก็เจอไอบอส..เพื่อนในกลุ่มวิศวะของมัน

"เออ ดี"ผมพยายามคิดคำพูดและน้ำเสียงที่คิดว่านิ่งที่สุดแต่..ผมควบคุมอารมณ์ในตอนนี้ไม่ได้จริงๆ(ไว้มาขอโทษวันหลังนะมึง)


"เป็นอะไรอะ..โมโหอะไรมารึเปล่าทำหน้าบึ้งเชียว..."

"..."ผมไม่ตอบและทำท่าจะเดินหนี ขืนยืนคุยนานมีเหวี่ยงแน่ๆ

"อย่าบอกนะว่ามาหาไอกายมัน..ถ้าจะหาละก็มันอยู่..."คำพูดของไอบอส ค่อยๆเบาลงเมื่อมันหันกลับไปมองที่สนามและเห็นภาพในแบบทีีผมพึ่งจะเห็นไปเมื่อครู่

"เชี้ย..ซวยแล้วไง"มันบ่นพึมๆพัมๆ อะไรของมันอยู่คนเดียว..ส่วนผมก็อาศัยจังหว่ะนี้เดินเลี่ยงออกมาจากสนามยอมรับเลยครับ ว่าผมทั้งโกรธ ทั้งหึง ทั้งโมโห.. แม้งปะปนกันไปหมดอะ หงุดหงิด อยาก อยู่ คนเดียว และที่สำคัญ คือผมอยากระบายไอสิ่งที่มัน กำลังร้อนลุ่มอยู่ในใจผม ในตอนนี้ออกไปให้หมดเพียงแต่ยังไม่รู้ว่าควรทำวิธีไหนดี..

ในเวลาแบบนี้รถ ชัตเตอร์บัสของ มหาลัยหมดเวลาทำการ แล้ว เพื่อนแถวนี้ก็ไม่มีไอวินก็ไม่อยู่ไม่รู้หายหัวไปไหนของมัน..ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว.
ผมเดินตีอกชกหัวตัวเองออกมาจากสนามพยายาม ไล่ภาพบ้าๆที่พึ่งเจอออกจากหัวแต่ไม่ว่าจะทำยังไง มันก็ไม่ช่วย ให้ผมลืมได้เลยจริงๆ


หมั่บ
ระหว่างที่เดินๆมึนๆอย่างหัวเสียอยู่อย่างนั้น มืิอของผมก็ถูกกระชากกลับไปอย่างแรง



"เดี๋ยว..เจ"...นี้ไงครับไอตัวต้นเหตุมันโผล่หัวออกมาแล้ว ..

"ปล่อย!" ไม่ว่าเรื่องเมื่อกี้มันจะเป็นอะไรก็ตาม ผมบอกตามตรงเลยว่าผมไม่โอเค ..

"ฟ้งก่อนดิ่..เมื่อกี้ที่มึงเห็น มันแค่..."

"แค่..แค่แฟน..เก่า..แฟนที่มึงเคยบอกกับกูว่ามึงไม่อะไร แฟนที่มึงเคยบอกกับกูว่ามึงไม่ได้ติดต่อกับเขาแล้ว...แต่วันนี้สิ่งที่กูเห็นมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่มึงพูดทุกอย่างเลยเลยวะกาย...."กายมันทำหน้านิ่งไปแต่มือของมันก็ยังคงจับมือผมไว้

"กูอธิบายได้นะเจ..คือเรื่องทีืมันเกิดขึ้นกูเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่านิ้งเขาโผล่มาหาได้ยังไง ...คือ.."

"มึงไม่รู้จริงๆหรอ... ครั้งนี้ไม่รู้แล้วครั้งก่อนละ ที่หน้าคณะ วันที่มึงบอกกับกูว่ามึงอยู่กับเพื่อน..แต่จริงๆแล้วมึงอยู่่กับเขา... เรื่องนี้มึงจะอธิบายว่ายังไงกาย?" ในตอนนี้เรื่องราวอะไรทีีเคยค้างคาใจผมปล่อยมาหมดแล้วครับ ไม่มีหลงเหลือเลยแม้แต่นิดเดียว

"มึง...รู้..."เสียงของมันเริ่มสั่นๆพร้อมกับมือของมันที่ค่อยๆอ่อนแรงลง

"ใช่กูรู้ รู้มานานมากแล้วด้วย มึงมีอะไรจะแก้ตัวหรือหลอกกูอีกมั้ยกาย? ข้อมือมันที่รั้งมือผมค่อยๆอ่อนลงผมเลยอาศัยจังหว่ะนั้นดึงมือตัวเองกลับคืนมา...

"เจ..เดี้ยวๆฟังกูก่อน คือเรื่องทั้งหมดมันมี เหตุผลนะ คือกูอธิบายได้.. ในตอนนั้นเองบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงก็โผล่มา

"กาย...รีบไปไหนคะ ไม่เห็นรอกันบ้างเลย..เอ..แล้วนี้..." เธอมองมาที่ผมแล้วทำหน้าสงสัย

"นี้สินะ ที่มึงจะอธิบาย..." น้ำตาอาบไหลข้างแก้มทั้งสองข้างบอกไม่ถูกเลยว่า ว่าเรื่องที่มันโกหกกับภาพตรงหน้าผมในตอนนี้อย่างไหนมันเจ็บกว่ากัน....

เอี๊ยดด...


"อ้าว เจ..."เสียงมอเตอร์ไซค์จอด ข้างๆตัวผม บุคคลที่เดินลงมาคืออะตอม...มาได้เวลาพอดี

"อะตอมมึงไปส่งกูที่บ้านทีดิ่"ผมใช้มือข้างที่ว่างจากการกำหมัดขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบอยู่ข้างแก้ม

"เฮ้ย..ร้องไหทำไม..ใครทำอะไร..อย่าบอกนะว่า..."อะตอมมันเดินมาบังหน้าผมไว้และยื่นมือไปกระชากคอเสื้อกายอย่างหาเรื่อง..

"มึงทำอะไรเจ ห้ะ..." กายมันนิ่งไม่่ยอมตอบหรือพูดไม่ผมออกก็ไม่รู้...

"พอเหอะ..มึง..ปล่อยมันไป..."ผมพยายามดึงแขนอะตอมให้มันหลุดออกแต่แรงผมไม่ได้สร้างความสะทกสะท้านอะไรให้มันเลยแม้แต่น้อย อะตอทยังคงยืนประชันหน้ากับไอกายอยู่เหมือนเดิม

"อะตอม...กูขอร้อง!"ผมพูดอย่างหมดแรง..อะตอมยอมปล่อยมือและหันมามองผม

"เจ กูขอโทษ... "หน้ามันเสียอย่างเห็นได้ชัด... "ได้ๆกูจะพามึงกลับเดี้ยวนี้แหละ.."มันหันไปคาดโทษไอกายก่อนจะพาผมขึ้นรถและรีบขับออกมาจากบริเวณนั้น...

และก่อนที่จะออกมาผมยังคงได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเองพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ กำลังวิ่งตามมา และถ้าผมหันหลังกลับไปมองสักนิด..ผมก็อาจจะเห็นผู้ชายตัวสูงๆคนนึงกำลังวิ่งตามผมมาเขาวิ่งสะดุดหกล้มขมำไปกับพื้นและกำลังพยายาม ตะเกียดตะกาย อ้อนวอน ขอให้ผมกลับมาฟังคำอธิบาย...เพียงแต่ผมแกล้งไม่ได้ยิน..และไม่คิดที่จะหันไปมอง...


. . . .

ผมมาถึงที่ร้าน ในเวลาเกือบสองทุ่มครึ่ง ทันทีที่ขาตั้งของมอเตอร์ไซด์ของอะตอมจอดติดกับพื้น อะตอมมันก็หันหน้ามามองผมเหมือนอยากจะเอ่ยปากถามอะไรสักอย่าง
. . . เพียงแต่เขาไม่กล้าพูด..

"เจ...เป็นไรมากปะวะ..เมื่อกี้กูเห็นมึงร้องไหด้วยนิ ไอนั้นมันทำอะไร..บอกกูได้มั้ย"เสียงที่เอ่ยมาอย่างแผ่วเบาและนุ่มนวลบวกกับการสัมผัสที่ไหล่ซ้ายของอะตอม ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่บ้าง ผมเงยหน้าขึ้นมองอะตอมพร้อมกับพยายามฝืนยิ้ม ที่คิดว่ามันอาจจะพอตบตา ให้อะตอมรู้สึกเป็นห่วงผมน้อยลงได้. . .แต่ความเป็นจริงแล้วไม่เลย..ผมยิ้มไม่ออกเลยจริงๆ

"กู..ขออยู่คนเดียวได้มั้ย"อาจจะเป็นการตอบที่หยาบคายแต่ผมก็คงต้องพูดเพราะในเวลาแบบนี้ต่อให้มี คนเข้ามาเทคแคร์ดูแลดีแค่ไหนสิ่งที่ผมพอทำได้ก็คือนั่งเงียบใส่เพียงอย่างเดียว..

"แต่.กู"อะตอมพยายามพูดขึ้นแต่ผมรีบพูดแทรก

"กูไหว..แต่กูขอเวลาหน่อย.."

"แต่"...

"ูขอร้อง" ผมจ้องหน้าอะตอมพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้น จนเกือบจะไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

"ก็ได้.."เสียงอะตอมแผ่วลง..อะตอมยื่นมือมาเช็ดคราบน้ำตาที่ข้างแก้มผม ก่อนจะส่งยิ้มให้

"มีใครเคยบอกมั้ย ว่าตอนมึงร้องนี้โคตรน่าเกลียดเลยวะ..."

"หึ.."ผมเกือบจะหลุดขำกับคำพูดของมันทั้งน้ำตา

"ถ้าโอเคแล้วโทรมาบอกกูด้วยละกัน "อะตอมแตะที่บ่าผมทั้งสองข้างเหมือนเป็นการให้กำลังใจก่อนจะหันหลังขึ้นคล่อม สตาร์ทรถและขี่ออกไป...

ผมเดินกลับเข้ามาในห้องของตัวเองด้วยสภาพ เหมือน ซังกะตาย มันรู้สึกเหวงๆ มองอะไรรอบตัวก็หงุดหงิดไปหมด..ขนาดผมมองกรอบรูปที่มีรูปผมกับรูปไอกาย ผมยังอยากเดินไปหยิบแล้วเควี้ยงมันออกทางหน้าต่าง แต่กลัวจะไปโดนหัวของใครเขา ผมถึงทนนั่งนิ่งเฉยๆอยู่ที่เตียงไม่ยอมลุกไปไหน...

เวลาตีหนึ่งกว่าๆผมยังคงนั่งตาสว่างอยู่ในห้องทั้งๆที่คนในบ้านหลับกันไปหมดแล้ว ผมพยายามเดินลุกขึ้นยืนไปทั่วห้องเพื่อไล่ความคิด ออกจากหัวแต่เหมือรยิ่งทำมันก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผมยิ่งจพมากขึ้นเลย
..

ครืดดดด!! เสียงโทรศัพท์สั่นๆยังคงดังอยู่ต่อเนื่อง ผมเหลือบมอง เห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา แค่แวปเดียวก็รู้ว่าเป็นเบอร์ของใคร

ผมปล่อยให้เสียงมันดังอยู่อย่างนั้นจนมันดับไปเองแล้วเดินออกมาที่นอกระเบียงเพื่อสงบสติตัวเอง

ลมอ่อนเย็นๆ มี่ล่องลอยไปทั่วชั้นบรรยากาศ ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแต่ก็แค่แปปเดียวเพราะขนาดผมเงยหน้าขึ้นมองท้องผ้ายังเห็นหน้าของมันเลย.
เห้อ...ใกล้บ้าแล้วสิกู
. . . .

เอ้ก อิ เอ้กเอ้ก !!!!
 .. . เสียงไก่ขันที่ดังอยู่บ้านข้างๆ  ช่วยเรียกสติผมที่กำลังเหม่อๆ หลังจากที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน

ผมเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาพร้อมก้บถามตัวเองในกระจกบานตรงหน้า

"กูเป็นบ้าอะไรของกูวะเนี้ย.."ถามตัวทั้งๆที่ก็รู่ว่ากำลังเป็นอะไรอยู่ แต่ผมไม่รู้วิธีที่จะช่วยให้ตัวเองเลิกคิดมากได้เลยเพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่บรรยากาศเดิมๆ แถมยังชวนให้หงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา

ผมเดินลงมาข้าง ด้วยอารมณ์ที่มันยังไม่คงที่ และก็ต้องแปลกใจที่ดันเห็นห้วไอวินนั่ง ก้มๆเงยๆทำอะไรอยู่ในครัว..

"อ้ะอ้าว ไอเจ ตื่นเช้าจังมึง"วินมันหันมามองหน้าพร้อมกับรีบกลืนไอสิ่งที่มันพึ่งจะนั่งเคี้ยวลงคอไป..

"อะ..อ่าส์.."

"มึงมาทำไมแต่เช้า"ผมถามมันด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"แล้วทำไมมึงต้องทำหน้าส้นตีนแบบนั้นใส่กูด้วยฮ่ะ" อาจจะจริงของมันแต่นี้มันก็เป็นสีหน้าที่ดูปกติที่สุดของผมในเวลาแบบนี้แล้วนะ

"กูก็ืปกติเหอะ..แต่มึงอะไม่ปกติ มาทำห่าอะไรแต่เช้าเนี้ย"

"ก็กูเหงาเพื่อนไม่มีเพื่อนคบวันนี้เกิดคิดถึงมึงแปลกๆก็เลยมาหา"หลับตาฟังผมยังรู้เลยว่ามันกำลังตอแหล

"ขอสาระ"

"จริงๆจะมาชวนมึงไปดูกูซ้อมกีฬา วันนี้เนมมันไม่ว่างกูก็เลยมาชวนเพื่อมึงจะว่างไปกับกู"ไอว่างนะมันก็ว่างแต่ถ้าจะให้ผมไปนั่งดูแล้วมีไอกายเป็นแบล็คกราวอยู่ข้างหลังผมไม่ไปหรอกนะ.

"กูมีธุระ"ผมแกล้งโกหกมันไป

"ธุระอะไรของมึง"

"ที่คณะ"

"อย่ามาแหลเลยไอเจ มึงลืมไปแล้วหรอว่าเด็กกูมันก็เรียนคณะเดียวกับมึง เรื่องแค่นี้ทำไมกูจะไม่รู้ฮ่ะ"ถ้าเจอหน้าไอเนมผมสาบานเลยว่าจะเบิ๊ดกระโหลกมันสักที ข้อหาดันเสือกคาบข่าวไปบอกไอวิน

"กูไม่อยากไป..กูปวดหัว"

"ไปนั่งดูกูเดี๋ยวก็หาย" มันยังคะยั้นคะยอจะให้ผมไป

"วินกูไม่อยากไปจริงๆ"ผมยังคงพูดคำเดิมซ้ำๆหวังให้มันตัดใจและเปลี่ยนความคิดใหม่ แต่ เพื่อนผมมันเป็นคนด้านไงอยากได้อะไรก็ต้องได้.มันเลยลงทุนจนแทบจะลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านล่างผมก็หมดสกิลจะแถกับมันแล้วเหมือนกันเลยพยักหน้าตอบตกลงมันไป

"แต่ไม่ต้องเสือกบอกใครนะว่ากูไป ให้มึงทำเหมือนไม่เห็นกูเลยก็ได้ยิ่งดี"

"ทำไมเป็นงั้นไป. หรือมึงแอบไปทำอะไรผิดลับหลังมาใช่มั้ยถึงกลัวโดนคนจำได้เนี้ย"ไอวินมันคิดออกดาวอังคารไปแล้ว ผมก็เลยได้แต่พูดเออๆบอกกับมันเพราะขี้เกียดเถียงอะไรกับมันอีก

. . . . .

สนามกีฬาใหญ่ ใกล้กับตึกวิศวะ


ผมเดินมานั่งอยู่บนแสตนและเป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกหงุดหงิดทั้งๆที่ยังไม่มีใครมาทำอะไรให้ผมรู้สึกแบบนั้น แต่คืออารมณ์มันไม่ได้ไง อยู่ๆ จะให้ผมมานั่งใจเย็นรอดูไอวินซ้อมบอลอย่างเดียวก็ใช่เรื่อง ถ้าเป็นช่วงที่ผมอารมณ์ดีๆอยู่ก็ว่าไปอย่างแต่นี้คือ ทั้งเครียด หงุดหงิด แต่ต้องมานั่งนิ่งๆยื่นมือไปถ่ายวีดีโอถ่ายส่งรายงานให้เชี้ยเนมแทนไอวิน ผม ก็แทบจะเควี้ยงไอโฟนที่อยู่ในมือ ถ้าไม่ติดที่ว่าซื้อมาหลายตังผมคงทำมันไปแล้ว...


วี๊ดดด วิ๊ววววว!!  เสียงผิวปากดังก้องไปทั่วสนาม ผู้คน วิ่งกันพลุกพล่านไปทั่ว ผมเห็นไอวินใส่เสื้อ บอลสีดำ กำลังวิ่งอยู่ตั้งแต่ไกลๆ และสายตาของผมก็ยังเห็นเพื่อนของมันที่ยืนอยู่ข้างๆกำลังส่งยิ้มให้สาวๆที่กำลังยืนเต้นเชียร์พวกมันจากด้านล่าง ด้วย สายตาที่โคตรจะเป็นมิตร

มิตร ..มิตรหรอ...ไอเหี้ย..คือตอนนี้กูเครียดเรื่องมึงอยู่ไง..เออที่นี้กูก็กำลังโกรธมึงเรื่องเมื่อวานอยู่ด้วย..แตนี้่คือ..มึงกำลังเข้าสนามเพื่อเตะบอลสบายใจเฉิบโดยที่ปล่อยให้กู นั่งมองมึงอ่อยสาวอยู่แบบนี้นะหรอ..

เหอะๆ ผมจับคอเสื้อตัวเองสบัดไล่ลมร้อนๆจากตัวและจากหัวคือ ตอนนี้ผมเริ่มชักไม่แน่ใจแล้วว่าสรุป ตอนนี้ กำลังรู้สึก อย่างไหนมากกว่า กัน จะโกรธหรือจะโมโห ดี


ผมวางไอโฟนที่แสนแพงลงข้างตัว และกำลัง นั่งมองดูการกระทำของมันกับเพื่อนๆของมันในสนามที่กำลังวิ่งเตะบอลกันด้วยรอยยิ้ม และตามมาด้วย,เสียงกรี๊ดของสาวๆที่ดังกระหึ่มทั่วทั้งแสตน..

ช่วงพักครึ่งแรก..ไอวินมันเดินขึ้นมาหาผม ด้วยสภาพเหงื่อชุ่มทั้งตัวเหมือนคนพึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ

"ไงถ่ายไปถึงไหนแล้ว กูขอดูหน่อย"วินมันยื่นมือมาขอดูไอโฟนของผมที่ถ่ายคริปมันไว้ ผมหยิบยื่นส่งไปให้มันด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

"ถ่ายห่าอะไรของมึงเนี้ย เห็นตัวกูเท่ามด ยังงี้ไอเนนมมันจะเชื่อกูมั้ยละเนี้ย ว่ากูมาเตะบอลจริงๆ"ใจจริงกูไม่อยากจะถ่ายให้มึงเลยด้วยซ้ำ..นี้ถ้าไม่ติดว่ากำผมกำลังมองเพื่อนมันในสนามอยู่ผมคงสวดมันยับไปแล้ว

"กูถ่ายได้เท่านี้ไม่พอใจก็ลบไป"ผมตอบโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน

"เป็นเชี่ยอะไรของมึงอีกเนี้ย"มันถามผมน้ำเสียงขุ่นๆ

"ก็เปล่า..อย่าเซ้าซี้ดิ"


"มึงแปลกๆไปนะไอเจเป็นห่าอะไรบอกกกูมาดิ่"มันยังคงซักถามอยู่ต่อเนื่องจนฟิวผมมันเริ่มควบคุมไม่อยู่ เลยเผลอพูดอะไรออกไปโดนไม่ทันได้ผ่านการกรองสมองให้ดีก่อน

"โว้ย! เชี่ย มึงจะถามทำเหี้ยอะไรนักหนาเนี้ย กูบอกว่าไม่ได้เป็นไรก็คือไม่เป็นไรไงถามเซ้าซี้อยู่ได้น่ารำคาณ "ผมพูดตอบมันด้วยน้ำเสียงที่ใส่ารมณ์แบบสุดๆ วิน มันยืนจ้องผมนิ่ง... มันนิ่งมากไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลยได้แต่ส่งสายตาอึ้งๆ มาที่ผม

"..กู..ขอโทษ.." มันพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นทั้งสแตน ผมเหล่ซ้ายขวาไปมองก็เห็นพวกนิสิตทีีกำลังนั่งเชียร์อยู่ใกล้ๆห้นมามองผมเป็นตาเดียว และนั้นก็พึ่งจะทำให้ผมรู้ตัวว่าตัวเอง พึ่ง ทำอะไรลงไป
 . . . .

"กูบอกมึงแล้วว่ากูไม่อยากมา มึงก็ยัง.. เห้อ ช่างแม้ง จะทำอะไรต่อก็แล้วแต่มึงละกัน กูกลับละ"พูดจบผมก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินอ้อมผ่านคนนับสิบที่กำลังมองดูทุกการกระทำของผม

"เดี๋ยวเจ .. . .เดี๋ยวกูไปส่ง"เสียงเรียกชื่อทำให้ผมหันไปมองไอวินอีกครั้ง.
 
"กูกลับเองได้ไม่ได้เป็นง่อย..ส่วนมึงรีบไปอยู่ใกล้ๆเพื่อนมึงนู้นไป"ผมพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่สนาม ตรงจุดที่เพื่อนของมันยืนอยู่ และกำบังมองมาที่ผมอยู่ด้วย..

ผมไม่สนใจสายตาหลายคู่ที่กำลังจ้องมองมาผมไม่ได้ประหม่าหรืออะไรเพียงแต่ผม แค่อยากจะสงบสติและอารมณ์ตัวเองพร้อมกับคิดทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองพึ่งทำลงไปแต่ไม่ว่าผล มันจะออกมาเป็นยังไงผมก็คงต้องยอมรับและเผชิญกับทุกสิ่งที่มันจะตามมา

กาย.

วันนี้มึงทำให้กู...เสียใจ..
วันข้างหน้า มึง..คงเสียกู... ผมพูดบอกแบบนั้นกับตัวเองก่อนจะรีบเดินออกมา


[กาย]

"ไอวินกูควรทำไงดีวะ เจมันไม่ยอมรับสายกูเลยวะ"ผมกำลังนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นคุยกับไอวินเรื่องเจ ณ บ้านของไอวิน ซึ่งหลังจากที่พึ่งเกิดเหตุการณ์ชวนเข้าใจผิดอย่างแรง ผมก็รีบดิ่งมาที่บ้าน ของไอวิน

ระหว่างที่ผมกำลังจะวิ่งตามรถของไอ เหี้ย นั้น รถคันที่เจยอมขึ้นไปนั่งกับมันส่วนผมก็วิ่งตามเพื่อที่จะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เจเข้าใจ แต่คือเขาไม่อยู่รอฟังผมไง เขาเอาแต่โมโหลูกเดียว ส่วนนิ้ง รายนั้น ผมกล้าพูดออกสื่อเลยว่าผมไม่รู่เรื่องจริงๆว่าเธอมาได้ไง แถมเธอมาไม่ถูกจังหว่ะเอาซะเลย ทำเรื่องทุกอย่างมันแย่ไปหมด.

 . ผมกับนิ้งเราพึ่งบังเอิญเจอกันเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนที่จะเปิดเทอมผ่านแม่ของผม
 (แม่นิ้งเป็นเพื่อนสนิทกับแม่ผม)

นิ้งกลับมาที่ไทยหลังจากที่ไปเรียนต่อ ที่ต่างประเทศอยู่หลายปี ผมรู้มาแค่นั้น ซึ่งตั้งแต่ทีีเกิดเหตุการณ์คราวนั้นผมก็ตัดขาดกับเธอล็อคเบอร์บล็อคเฟส ทำทุกอย่างที่เพื่อที่ผมจะไม่สามารถเจอเธอผ่านโลกโซเชียลหรืออื่นๆได้...แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกก้บผม ถึงทำให้ผมได้กลับมาเจอกับเธออีกครั้งทั้งๆทีีผมไม่ได้ต้องการอะเลย
..
ทันทีที่ผมมองเธอ ผมไม่ได้มีความรู้สึกพิศวาสอะไรเลยแม่แต่น้อย ถึงตอนนี้เธอจะเปลี่ยนไปมากหรือจะเรียกว่าสวยขึ้นมากเลยก็ได้แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกใจเต้นหรืออะไรเหมือนเมื่อก่อนอีกเลย.


นอกเรื่องมาเยอะแล้วผมขอพูดถีงเรื่อง ที่กำลังเป็นปัญหาต่อดีกว่า

"เจมันต้องโกรธกูแน่ๆเลย เหี้ยวินกูควรทำไงดีวะ"ผมเหมือนพวกสติหลุดที่ตอนนี้กำลังลนลานหาวิธีปรับความเข้าใจกับไอวินอยู่ที่ห้องนั่งเล้นด้วยท่าทีที่ร้อนรน

"ใจเย็นๆกูว่ามึงใจเย็นๆก่อน ไอกาย จากที่มึงเล่าแล้วกูว่าไอเจมันแค่เข้าใจผิดเพราะดันเสือกมาตรงจังหว่ะกับตอนที่นิ้งผ่านมาพอดี เออที่นี้มันก็เลยเห็นฉากสำคัญของมึงกับนิ้งว่างั้น.."ผมรีบพยักหน้าตอบ ทุกสิ่งที่ำไอวินพูดมันล้วนถูกต้องทุกอย่าง

"แต่เจมันไม่ฟังอะไรกูเลยวะ แถมยังนั่งรถไปกับไอเชี้ยนั้นอีก กูโคตรหงุดหงิดอะ...กูขอไปหาเจก่อนนะ"ผมทำท่าจะลุกขึ้นแต่ไอวินมันดันรั้งแขนผมไว้ใฟ้นั่งลงกับทีดังเดิม

"กูบอกให้มีงใจเย็นๆไงไอกาย"วินมันพยายามอธิบาย

"จะให้กูเย็นยังไงวะ เจมันโกรธกูอยู่นะเว้ย กูต้องรีบไปพูดกับมันเพื่อปรัีบความเข้าใจกันก่อนที่มันจะคิด อะไรไปไกลอีก"

"ก็เพราะมันกำลังโกรธอยู่ไงกูถึงบอกให้มึงอยู่นิ่งๆก่อน ไอเจมันเป็นคนใจเย็นก็จริงแต่คือถ้ามันฟิวขาดแล้ว เหตุผลของมึงยังไงก็ไม่ช่วยเหี้ยอะไรให้ดีขึ้นได้หรอก ตอนนี้แค่มึงอยู่นิ้งๆปล่อยให้มันอยู่คนเดียวไปก่อนรอมันใจเย็นแล้วค่อยคุยกัน"ผมไม่ค่อยจะเข้าใจ ทฤษฎี ของไอวินสักเท่าไหร่ และพยายามรั้นจะฝืนไปอย่างเดียว..

"ไอกาย!!"เสียงไอวินช่วยเรียกสติผมที่กำลังฟุ้งซ่านให้กลับมา

"นั่งลง แล้วฟัง กู"ผมนั่งเงียบตามที่มันบอกและกำลังตั้งใจฟังในสิ่งทีีมันกำลังจะพูด

"กูเป็นเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งเกือบสิบปีทำไมกูจะไม่รู้ว่ามันเป็นคนยังไง เวลามันโกรธเคือง เรื่องเล็กๆ น้อย กูตามง้อมันแค่แปปเดียวมันก็หายแล้ว แต่นี้เรื่อง ของมึง มันมีความรู้สึกของไอเจเข้ามาเกี่ยว แล้วมึงก็ดันบังเอิญเป็นแฟนคนแรกของมัน.."

"ก..กูคือคนแรกของเจหรอ"

"ก็เออนะ สินี้มันคงยังไม่เคยบอกมึงสินะ ว่าทุกๆอย่างที่มึงทำกับมันรวมถึงเรื่องอย่างว่า..ล้วนเป็นครั้งแรก ของมันหมด... ไอเจมันเป็นพวกไม่ค่อยรู้ประสีประสาอะไร จะเรียกว่าใสๆเลยก็ได้ แล้วมึงก็เข้าใจกูใชป่ะ ว่าคนที่พึ่งมีความรัดครั้งแรกมันจะเป็นยังไง.."คำพูดไอวอนทำให้ผมต้องคิดตาม

"จริงจัง"

"ใช่จริงจัง ไอเจมันจริงจังกับมึงมาก..เพราะมึงคือความรักครั้งแรกของมัน กูไม่เคยเห็นไอเหี้ยเจมันเป็นอย่างนี้มาก่อน ปกติกูกับมันก็ตัวติดกันอยู่ตลอดมึงน่าจะสังเกตุได้ แต่พอวันที่มีมึงเข้ามา เพื่อนกูมันก็เปลี่ยนไป .. จากที้มัน ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับความรัก มันก็เริ่ม
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :41〗〖17/08/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 17-08-2017 10:39:08
Chapter:41/2

ที่จะเรียนรู้ และทำความเข้าใจ เจมันเปราะบางมากนะเว้ย แค่เรื่องความรักความอบอุ่น ที่มันมีก็น้อยกว่าคนอื่นแล้ว"สิ่งที่วินมันกำลังพูดถึงคือเรื่องที่เจไม่มีแม่สินะ

"แล้วมันก็คงจะไม่แปลกอะไรถ้าหากวันนึงความรักของมันต้อง สั่นคลอนเพียงเพราะมีคนอื่นเข้ามาแทนที่ของมัน...เชื่อกูเถอะ ต่อให้เป็นมึงๆก็ทำใจเชื่อ ไม่ได้หรอก เพราะหลักฐานแม้งตำตาขนาดนั้น"

"แล้วกูควรทำไงดีวะ กูคิดไม่อะไรไม่ออกเลยตอนนี้"

"นิ่งๆแล้วจะดีเอง"

"มึงจะให้กูนิ่งไปถึงเมื่อไหร่วะ นิ่งจนไอเหี้ยนั้นมันคาบไปแดกก่อนรึไงห้ะ"ผมเริ่มไม่สบอารมณ์กับความคิดของไอวิน

"ดัดนิสัยไง"

"นิสัย?"

"เจมันชินแต่การที่ถูกมึงง้อ มันถึงกำลังงอล เพื่ิอให้มึงเป็นฝ่ายไปขอโทษและรับผิดกับมัน แต่ถ้ามึงลองคิดในทางกลับกันนะ เรื่องที่มึงเล่า กูฟังครั้งเดียวก็กูเข้าใจแล้วว่ามึงกับนิ้งคงไม่มีอะไรลับหลังกันแน่ๆ แต่ ไอเจมันไม่ฟังไง มึงก็ควรจะปล่อยให้มันเป็นฝ่ายคิดบ้าง"

"แต่มึงก็รู้ว่าเจมัน..."

"เพือนกูกูรู้ดี มันเอาแต่ใจจนเคยชินแล้ว มึงก็ควรหยุดเป็นฝ่ายรับผิดซักที ปล่อยให้มันได้คิดอะไรเองบ้าง  อีกไม่นานถ้ามันคิดได้ มันจะเป็นฝ่ายมาพูดกับมึงเองเชื่อกู"ใจนึงผมก็อยากเชื่อในสิ่งที่วินมันบอกแต่อีกใจนึงก็อยากรีบไปอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เจมันเข้าใจ..แต่วินมันก็ไม่ยอมให้ผมไปผมเลยต้องนั่งฟังเรื่องแผนการ ที่จะให้เจมาเป็นฝ่ายพูดกับผม โดยสิ่งที่ผมต้องทำก็คือ ทำตัวเป็นสาก นิ่งๆเข้าไว้ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่เชื่อมั้ย กว่าที่ผมจะทำใจ ให้สงบและเชื่อยอมทำตามแผนของไอวินได้นี้มันไม่ง่ายเลย..ไม่ง่ายเลยจริงๆ

วันถัดมามีนัดซ้อมกีฬาวันสุดท้ายก่อนแข่งจริง จะว่่าไปใจผมมันก็เริ่มเย็นขึ้นมาหน่อยๆแล้ว ผมเดินออกมาจากสแตนพร้อมกับไอวินที่วันนี้ มันก็ยังคอยกำชับ บอกเรื่องแผนการและย้ำเตือนผมบ่อยๆว่าให้อยู่นิ่งๆ ผมก็พยักหน้าเข้าใจและยอมทำตามในสิ่งที่เราสองคนเตี๊ยมกันมา...

พอเริ่มเล่นได้ช่วงต้นเกม สายตาผมบังเอิญ แบบบังเอิญจริงๆ เพราะมันมองไปเห็นสายตาดุๆจากใครคนนึงเข้า เขาคนนั้นกำลังมองผมด้วยสายตาที่มันมีคำถามมากมายแอบแฝงไว้อยู่ในดวงตาคู่นั้นนั้น และ ผมเองก็พยายามที่จะไม่หันมอง ผมข่มใจอยู่นานมาก จนเมื่อถึงช่วงเวลาพักครึ่งแรก วินมันหายออกไปจากสนาม ผมเห็นมันรีบวิ่งดุ่มๆไปหาเจ ที่กำลังนั่งหน้ามุ้ยพร้อมระเบิดอารมณ์ใส่ได้ทุกเมื่อ ขนาดผมเป็นคนที่ไม่เคยกลัวใครแต่พอเห็นเจในอารมณ์แบบนี้บอกได้คำเดียวครับ ว่ามันน่ากลัวมาก

ผมเห็นสองคนนั้นยืนคุยอะไรอยู่นาน จนในที่สุดเจก็เดินลงมาจากสแตนส่วนไอวินมันกำลังยืนเอ๋อ ส่งสายตาหม่นๆมาที่ผม ผมเดาไม่ออกเลยว่าไอวินมันจะสื่ออะไรให้ผมฟัง

ผมนับหนึ่งถึงสามในใจและเฝ้าถามตัวเองว่าควรตามไปดีมั้ยแต่แล้ว สายตาของไอวินที่มองมาก็เหมือนเป็นการบอก ให้ผมอยู่เฉยๆ ผมก็เลยกลับขึ้นสแตน เพื่อนส่งพัดและรอเวลา เข้าสนาม ครึ่งหลัง

. . .. . . .

[เจ]

. .  .

จะบอกว่าไงดีอารมณ์ผมในตอนนี้แปลปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงที่เป็นประจำเดือนซะอีก .. คือ หลังจากที่ผมกลับมา จากที่สนามใหญ่ผมก็มานั่งหมกตัวอยู่ในตึกคณะมนุษย์ โดยมีอิกี้กับอิเบนนั่งอยู่ข้างๆผมด้วย

"หืมแบบนี้มันต้องตบ ทั้งตัวผู้และตัวเมีย"อิกี้มันนั่งบ่นเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้มาสักพักแล้วครับหลังจากที่ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกมันสองตัว ฟัง (เพราะทนเสียงคะยั้นคะนอของพวกมันไม่ไหวเลยต้องเล่าให้พวกมันฟัง)

"กูเห็นด้วยแต่ก่อนที่จะตบกูขอจูบผู้ก่อนนะมึงเสียดายของ"

"โอ้ย อิเบน มึงเลิกคันสัก แปปได้มะ คือเพื่อนมึงมันไม่โอเคอยู่มึงไม่เห็นรึไง"เสียงของอิกี้กับอิเบนเพื่อนผมกำลังถกเถียงเรื่องอะไรสักอย่างผมไม่ทันฟัง เพราะตอนนี้ในหัวผมมีแต่เรื่องของมันและการทำตัวของมัน ในวันนี้บอกได้เลยว่าฉุนขาด มันหงุดหงิดแต่บอกใครไม่ได้นี้แหละตัวผมและสิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการ ที่กายมันทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี้แหละที่ทำให้ผมหงุดหงิดแบบสุดๆ.....


Tbc. . . . . .
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :42〗〖03/10/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 03-10-2017 13:27:25
Chapter:42

และแล้ววันที่เหล่าคณะอาจารย์รอคอยก็มาถึงวันนี้เป็นวันแข่งกีฬาสานสัมพันธ์หรือกีฬาของมหาลัยอะไรก็ตามแต่ คือวันนี้ผมตื่นเช้าเพื่อ มากเพื่อ มารอ ซ้อมที่สนามแบตอีกครั้ง ก่อนลงสนามจริงและเป็นอีกวันที่ผมยังคงคิดเรื่องของกายมันไม่หยุด จะว่ายังไงดีละ ไม่ว่าจะกินหรือจะนอน ผมก็คงเห็นแต่หน้าม้นลอยทั่วไปหมด..ผมกล้า
ยอมรับครับตรงๆเลยครับว่าคิดถึงมัน แต่ถ้าจะให้ผมกลับไปคุยเหมือนปกติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมทำไม่ได้หรอกนะ

(ก็แกไม่ยอมฟังที่เขาจะอธิบายนะสิ)


ช่วงสายของวันเวลาเก้าโมงกว่าๆ ผมเดินลัดเลาะ แบบเนียนๆ แอบเดินไปที่ตึกวิศวะโดยใช้วิธีการที่แสนคลาสสิคนั้นคือการ นั่งรถของบัสของทางมหาลัยไปแบบเนียนๆ ยังจำกันได้มั้ยครับ ผมมีช็อปวิศวะของไอกายอยู่จากเหตุการณ์หมึกหกใส่หลังครั้งนั้น จะบอกว่า ตัวผมมันรั้นในการมามาก แต่เหมือนใจผมมันคงจะคิดอีกอย่าง ครับ กว่าจะรู้ตัวอีกทีตอนนี้ผมก็อยู่หน้าตึก แล้วเวลาแบบนี้ผมคิดว่าคนอาจจะยังมากันไม่เยอะ แต่ผมคิดผิดครับ มันเยอะ เยอะมาก เยอะเหมือนวันเปิดโอเพ้นเฮ้าเลย  นิสิตทุกคนต่างมาในชุดแต่ละตำแหน่งบางคนใส่ชุดบอล ชุดลีด หรือแม้แต่ชุดมวยไทยพร้อมใส่นวมก็ยังมีให้เห็น ผมไม่เข้าใจตัวเองว่า จะแอบมาทั้งๆที่โกรธมันอยู่ทำไม ผมเฝ้าถามตัวเองแบบนั้น และหันหลังกลับในทันที

ฟึบ...

มือของใครคนนึงฉุดกระฉากแขนของผมไว้ ผมหันหลังตามไปมองก็เจอเข้ากับ อะตอม ซึ่งวันนี้มันมาในชุด ไปรเวตใส่สบายๆ

"จะรีบไปไหนอะ ไม่อยู่รอดูกูแข่งก่อนหรอ "อะตอมถามขึ้นโชวฟันครบสามสิบสองซี่

"มึงแข่งอะไรอะ แล้วแข่งบ้านไหนเขาแต่งตัวแบบนี้กัน"ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย

"ก็มันยังไม่ถึงเวลาอะ แล้วนี้ มาหาใครอะ อย่าบอกนะ ว่ามาหากู แหนะๆ ทนคิดถึงกูไม่ไหวจนถึงขนาดต้องรีบมาหาที่คณะแต่เช้าเลยหรอวะ...หึ้ยย"อะตอมมันยิ้มเขินตัวบิดเป็นเกลียวแต่ถ้ามันจะคิดแบบนั้นแล้วมีความสุขปมว่าปล่อยใก้มันคิดไปแหละครับน่าจะดีแล้ว

"สติเหอะมึง...กูมาหา.."ระหว่างนั้นผมก็นึกหสเกตุปลจ
ที่จะแหลมันออกพอดิบพอดี เพื่อนใช่ๆ กูมาหาเพื่อน"

"แล้วไหนละเพื่อน? หรือว่ายังหาไม่เจอให้กูเดินไปเป็นเพื่อนมั้ย"อะตอมถามกลับด้วยรอยยิ้ม แต่ผมคงต้องปฏิเสธ เพราะจริงๆแล้ว ผมมาตามเสียงเรียกของหัวใจตัวเองต่างหาก


"ไม่ละเดี๋ยวกูก็กลับแล้ว..ยังไงก็สู้ๆนะมึงกูไปละ"ผมพูดจบก็หันหลังกลับ

"เดี๋ยวๆเจ "เสียงเรียกชื่อของมันทำให้ผมหันกลับไปมองอีกครั้ง

"มึงลงแข่งแบตใช่มั้ย"ผมพยักหน้าตอบ

"กูจะไปเชียร์นะ"ผมพนักหน้าตอบอีกครั้งก่อนจะเดินออกมาอะตอมมันก็ยิ้มและเดินมาส่งผมอยู่ที่จุดรอรถก่อนที่มันจะเดินหายไป ในตึก

สุดท้ายก็มาฟรีอีกตามเคยหน้าก็ไม่ได้เจอ แถมในหัวยังมีความคิดบ้าบออะไรต่างๆนาๆเอาเป็นว่าไว้จบการแข่งขันเมื่อไหร่ค่อยมาดักเจออีกที่ แล้วกัน
. . . . .



เวลาสิบเอ็ดโมงกว่า ตอนนี้ได้เวลาอันเป็นพิธีแล้ว ที่เหล่าคณะอาจารย์ และคณะบดี จะกล่าวเปิดงาน การแข่งขันของชาวมหาลัย ****

"ผมหวังว่ากิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยให้สายสัมพันธ์ของทุกๆคนดีขึ้น และหวังว่ามันจะเป็นไปด้วยความใสสะอาด บัดนี้ได้เวลาอันเป็นพิธีแล้วผมจึงขอเปิดงาน แข่งกีฬาสายสัมพันธ์ ปีการศึกษา 25** ณ บัดนี้ "

เสียงจากคณะบดีจบลง ก็ต่อด้วยเสียงปรบมือและเสียงเฮที่ดังกึกก้องไปทั่วสนาม

กีฬาแรกที่อยู่ในลิสแข่งขันคือ แข่งวิ่งทั้งชายและหญิง คือแค่ผมเห็น เหงื่อก็ออกแทนคนจะลงแข่งแล้วครับแดดแรงๆแบบนี้แถมต้องวิ่งกลางแจ้ง อีก เหอะๆ นรกดีๆนี้เอง.

ช่วงเวลาของการแข่งขันในช่วงสายผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะคณะที่คะแนนนำลิ้ว ตอนนี้เห็นจะเป็นเด็ก วิทย์กีฬา มาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาก็วิศวะ และตบท้าย(แถว)ด้วยมุนษย์ศาสตร์ของผมคนนี้เอง ก็วันๆเอาแต่นั่งท่องจำคำศัพย์นู้นนี้นั้นจะเอาเวลาไหน ไปชิลซ้อมกีฬาแบบนั้นเด็กคณะอื่นกันละ หึ

และแล้วเวลาที่ผมรอก็มาถึงนั้นก็คือเวลาที่ผมจะได้โชวสปิริต ที่มีอันน้อยนิดให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวคณะมนุษย์ศาสตร์ได้เห็นกันจะบอก ว่าคู่แข่งคนแรก คือ คณะ แพทย์ศาสตร์ ครับ ลุคเขาออกแนวใสสะอาดแถมยังมาด้วยความมั่นใจอีก ต่างจากผมที่หัวกระเซิง แถมมีแรงกดดันนับร้อยจากพวกพ้องชาวมนุด ที่กำลังส่งเสียงเชียร์แหกปากดังลั่นสแตน
. . .

ปี๊ดดด เสียงนกหวีดดังขึ้นการ แข่งขันเริ่มดำเนินไปด้วย เสียงเชียร์ที่ดังกึกก้องจะบอกว่่าวันนี้ คนในสนามแข่งมันเยอะมากครับ ในตอนแรกผมก็มีแอบสั่นๆตื่นสนามบ้าง แต่พอเวลาผ่านไปสักพักมันก็เริ่มดีขึ้นจนชินไปเองในที่สุด

การแข่งในรอบแรกผ่านไปโดยชัยชนะครั้งนี้เป็นของผม เพื่อนๆพี่ๆ  ชาวมนุษย์อิ้งต่างพากันวิ่งมาแสดงความดีใจกับผมใหญ่จะบอก ว่าตัวผมเก่งเลยก็ไม่ใช่จะว่าฝั่งนั้นเขาอ่อนไปก็ไม่ได้อีก ต้องเรียกว่าเขาอ่อนให้ผมน่าจะเหมาะกว่าใช่ๆ เขาน่าจะออมมือให้ผมต่างหากละ

ช่วงพักเบรค

ผมมานั่งพักที่สแตน ในช่วงรอการแข่งนัดถัดไป โดยมีสนมสองนางกำลังยืนนวด บริเวณศรีษะผมอยู่ป้อยๆ

"สบายมิคะคุณชาย"เสียงอิกี้บ่นอุบอิบแต่มือของมันก็ยังคงนวดให้ผมอยู่

"อู้ยอิเจ กูไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยนะว่ามึงจะตีแบตได้เฟี้ยวฟ้าวขนาดนี้ อิกี้มึงจำจังหว่ะ ที่น้องหมอคนนั้นเสริฟ มาได้มะ แล้วอิเจมันกระโดดตี อะ"เสียงอิเบนร้องถามเพื่อนของมันข้ามหัวผม

"อ่อเออๆ จำได้ ที่อิเจกระโดด แล้วเสื้อมันถกขึ้นปะ"และนั้นทำให้ผมเริ่มนึกภาพตามถึงเหตุการณ์ที่พวกมันกำลังพูดถึง

"เออนั้นแหละๆ กูเห็นมีพวกผู้ชายวิศวะ ยกมือถือขึ้นถ่ายกันให้พรึ่บ" อะไรคือพรึ่บวะ ผมเริ่มงงๆกับภาษาของมัน

"โอ้ยมึงเห็นแค่ฝั่งเดียวหรอค่ะ ข้างๆกูนี้มีนิเทศฯ วิทกีฯโลจิสติก และอื้นๆอีก หลายแหล่นั่งถ่ายวีดีโออยู่ข้างๆกูเนี้ย"

"เหี้ย..มันขนาดนั้นเลยหรอวะ"ผมร้องถามขึ้นด้วยความตกใจ

"จริงดิมึงยังกะจะมาแข่งไทยแลนด์เอเชียคัฟห่าอะไรแถวนี้คือกู ก็พอเข้าใจนะว่่ามึงดังในเพจคิ้วบอย แต่ไม่คิดว่าแฟนคลับมึงจะทั่วถึงขนาดนี้ "เสียงอิกี้บ่นพร้อมยื่นหน้ามาเบะปากใส่ผม

"อุ๊ตาย !!"อิกี้อยู่ๆก็อุทานขึ้นมาเสียงดัง

"เป็นอะไรของมึงค่ะ ทำจิโมโก๊ะหล่นรึไง อะไรจะตกใจ
เบอร์นั้น"เสียงเพื่อนสนิท อีกคนของมันร้องทัก

"มึง บาสวิศวะเริ่มแล้ว ไปดูกันมั้ย สนามอยู่ใกล้ๆนี้เอง "

"เออ กูลืมเลยอิเหี้*"รายนี้พอได้ยินแบบนั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน

"งั้นรีบไปกันเหอะมึง อิเจ มึงไปด้วยกันปะ"เสียงอิกี้ร้องถามผมตอนที่มันรีบวิ่งนำไป

"ไม่วะอีกครึ่งชั่วโมงกูก็ลงแข่งอีกนัดแล้วกลัวไม่ทัน"

"โอ้ยแปปเดียวสนาม อยู่แค่นี้ อย่ามาทำตัวเยอะเหมือนอิเบนเทนได้ปะเร็วๆ"

"เอ้าอินี้"

"แต่มึง"ผมพยายามขัดขืนแต่สู้แรงควายๆของมันไม่ได้เลยต้องจำทนรีบเดินตามมันมา ผมจะเล่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ สำคัญอะไรให้พวกคุณฟังนะครับ ว่า ผมเห็นไอวิน กำลังยืนหอมแก้มไอเนมเด็กคณะผมอยู่ข้่างๆตึก ซึ่งตอนนั้น อิกี้กับอิเบนมันรีบวิ่งเข้า สนามไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พอดีผมดันเกิดเหนื่อยเลยยืนพักหายใจอยู่แปปนึง(ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ผมได้มาเห็นช็อตๆอะไรดีๆแบบนี้)แต่นั้นมันก็ทำให้ผมรู้สึกจี๊ดๆอยู่เหมือนกัน.ใจจริงผมอยากจะเดินเข้าไปแซวพวกมันสองคนแต่คิดๆดูไม่เอาดีกว่า  ผมเลยรีบเดินตามพวกอิกี้กับอิเบน เข้าไป ในสนามก่อนที่มันจะกินเวลาไปมากกว่านี้

"อิเจ!!!!!!ทางนี้ๆ " เสียงอิกี้และอิเบนตะโกนร้องเรียกบอกตำแหน่ง ที่พวกมันกำลังนั่งอยู่ ทำเอาคนแถวนั้นหันมามองกันทั้งแถบ..เหี้ย คือกูไม่อยากเป็นจุดสนใจหันไปมองทางอื่นกันสิฟร้ะ

ผมเดินก้มหัวดุ่มๆเดินมาหาพวกมันทั้งสองคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก  แชะๆ เสียงชัตเตอร์ ถ่ายภาพดังต่อเนื่องแสงแฟลชทำให้ผมหันไปมอง ที่มาของแสงก็เจอพวกน้องๆเฟรชชี่ปีหนึ่งนั่งส่งยิ้มให้ผมอยู่

ผมยิ้มตอบก่อนจะล้มตัวนั่งข้างๆอิเบน

"ไหนมึงบอกว่าเริ่มแล้วไง  กูยังไม่เห็นใครเดินเข้าสนามกันเลยสักคน"

"มึงแหกตาดูดีๆ เขายืน อยู่ข้างๆสนามกันเป็นขโยง"และในเสียววินาทีนั้นผมก็เห็นไอวิศวะหน้าหล่อที่คุ้นเคย ตอนนี้มันในชุดที่โคตรจะบางนี้ถ้าหันข้างนี้ผมคาดว่าหัวนมมันอาจจะโผล่ ทำไมชุดมันล่อแหลมงี้วะ..กะจะใส่มาให้สาวๆซูมหัวนมมึงเลยรึไง ใจจริงผมอยากจะกระโดดลงไปหาเสื้อใหม่ให้มันใส่แม้ม ถ้าไม่ติดว่าคนเยอะนะมื้ง...(พูดเหมือนกล้าทำ ปากเก่งไปงั้นแหละผมอะ)

และในจังหว่ะเพียงไม่กี่วิผมก็เห็นไอหน้าหล่อตัวสูงเป็นเปรตชอบเปิดเสื้อโชวนม หันมามองผม ไม่สิต้องเรียกว่าบั้งเอิ๊ญบังเอิญ หันมาเจอต่างหาก แต่เพียงแค่แวปเดียวแวปเดียวจริงๆมันก็หันไปคุยกับเพื่อนในทีมมันต่อ

 ฮ่วย กุไม่ผีชัตเตอร์นะเว้ย  มองแวปๆนี้คือไรหมายความว่าไงหือ.. พอให้คำตอบอะไรกับตัวเองไม่ได้ผมก็เลือกที่จะเงียบและนั่งดูการแข่งขันต่อเงียบๆโดยมีผีสองตัวคอยตะโกนแหกปากโวยวายอยู่ข้างๆ

"กรี๊ดผู้ชายเสื้อดำเบอร์สิบสองผัวช๊านน"ป๊าปเข้าให้เสียงอะไรดังๆข้างหูไม่รู้ผมไม่ได้หันไปมอง

"นั้นผัวเพื่อนค่ะอินี้"อ่อที่แท้ก็ฝ่ามือมิตรภาพดีๆนี้เองขอบใจมึงมากนะเบน

"โอ้ยชั้นก็แซวเล่นปะแกร์..ส่วนอิเจสรุปมึงกับผัวมึงนี้ยังไงทะเลาะกัน?  "

"ก็ป่าวนิ่"แล้วกูจะไปยอมรับว่ามันเป็นปั๋วทำไมฟร้ะ เสียหน้าชิบ

"ให้มันจริงค่ะ!!"พวกมันสองตัวบ่นสับเพเหระอะไรกันอีกพักนึงผมก็ต้องรีบปลีกตัวออกมาเพราะพวกพี่ๆที่คณะโทรตามผมจนสายแทบไหม้ มือถือนี้สั่นลามไปยันไข่กันเลยทีเดียว ใจจริงก็อยากจะอยู่ดูการแข่งต่อนะถ้าไม่ติดว่ามีแข่งต่อ ว่าแล้วสายเจ้ากรรมก็ดันโทรเข้ามาพอดี
'พี่ฝ้าย' หึ้ย แค่เห็นชื่อผมก็เตรียมสำลีไว้อุดหูแล้วครับรู้เลยว่าพี่แกคนต้องปรี๊ดแตกแน่ๆ และเพื่อเป็นผลดีกับตัวผมๆเลยเลือกที่จะไม่กดรับและ รีบวิ่งตรงดิ่งกลับไป ที่คอทแบต เพื่อเตรียมการแข่งขันนัดต่อไป

"พวกมึงกูไปก่อนนะ พี่ฝ้ายโทรตามกูแล้ววะ " ผมยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะพละตัวออกมาจากที่นั่ง
"อ้าวไปแล้วหรอ"อิกี้กันมาถามผม
"เออๆ สู้ๆนะมึง.เดี้ยวจบแล้วพวกกูตามไป"ผมพยักหน้าให้พวกมันทั้งสองก่อนจะรีบหนีออกมาจาก กองมนุษย์ที่แออัดกันอยู่ด้านใน
. . . ..  . .

กว่าจะผ่านฝูงมนุษย์แฟนคลับของเหล่าๆนักกีฬาบาสเก็ตบอลออกมาได้เนี้ย ต้องขอพูดว่า เลือดตาแถบกระเดฺ็นไม่รู้จะยืนออกันทำห่าอะไรที่หน้าประตู เสียเวลาเดินอ้อมชิบ
. . . ..
ผมใช้เวลาเกือบสิบนาทีในที่สุดก็มาถึงและ ผมก็กำลังเห็นพี่ฝ้ายยิืนเท้าเอวกวักมือเรียกผม

ผมรีบเดินจ้ำอ่่าวไปหาพี่ฝ้่ายที่ยืนห่างไปไม่ไกลนัก พี่แกขมวดคิ้วเล็กน้อยในตอนที่ผมเดินมาเกือบจะถึงตัว

"ขอโทษนะครับพี่ พอดีผมไปหาอะไรกินแถวนี้มาอะ"หากินไกลถึงสนามบาสเลยทีเดียวได้ข่าวร้านขายขนมอยู่ห่างคอร์ทแบตไม่ถึงสิบก้าว . .ผม ได้แต่ภาวนาในใจว่าอย่าให้พี่แกถามต่อ เพราะหัวสมองตอนนี้ตื้อไปหมด คิด คำแก้ตัวไม่ออก. . หึ้ย.

"เออๆไม่เป็นไรที่พี่จะบอกก็คือ เวลาลงแข่งนัดต่อไป เขาขอเลื่อนเวลาไปอีกชั่วโมงนึงนะ"

"อ้่าวทำไมเป็นงั้นไปละครับ"

"ก็ตัวแทนที่ลงแข่งของคณะนู้น เขาติด แข่งกีฬาอื่นอยู่นะสิ "

"มีงี้ด้วยแหะ ว่าแต่คณะไหนอะพี่"

"อืม..พี่เองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนะ แต่ที่ได้ยินมา ไม่วิทย์กี ก็วิศวะ ประมาณนั้นแหละ"ผมภาวนาขอให้เป็นวิศวะละกันขืนเด็กวิทย์กีลงแข่ง กูมีแต่ตายกับตายแน่ๆครับ หึ

"ระหว่างนี้เจไปดูเพื่อนๆลงแข่งก่อนก็ได้นะไว้ใกล้ถึงเวลาแล้วเดี้ยวพี่โทรหา. . "
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :42〗〖03/10/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 03-10-2017 13:29:04
"เอางั้นก็ได้ครับ"พี่ฝ้ายยื่นคุยกับผมอีกนิดหน่อยก่อนที่แกจะขอตัวไปเตรียมเสบียงเพื่อคอยบริการนักกีฬาคณะผมคนอื่นๆ ส่วนตัวผม ที่ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ส่วนไหน เลยต้องดั้นด้นเดินกลับมาที่สนามแข่งบาสอีกครั้ง สร้างความแปลกใจให้เพื่อนๆทั้งสองของผมเป็นอย่างมาก

"อ้าวอินี้กระแดะมาทำไมๆไม่ไปเก็บตัวรอลงแข่งเนี้ย ฮ๊า"เสียงอิกี้ที่นั่งเคี้ยวขนมดังจั้บๆหันมาถามปมพรางยื่นฮานามิในมือ ป้อนใส่ปากผมไปหลายคำ

"เลื่อนเวลาวะ เห้นพี่ฝ่ายบอกคู่แข่งติดแข่งอย่างอื่นอยู่"

"ติดแข่ง? คือทั้งคณะนี้มันไม่มีใครอาสาหรือโดนบังคับแข่งบ้างเลยรึไง อะไรคนมันจะน้อยจนต้องนั่งรอเวลาขนาดนั้น"

,"กูจะไปรู้มันหรอ เออว่าแต่ อิเบนเพื่อนรักมึงไปไหน"จะว่าไปผมเองก็พึ่งจะสังเกตุว่ารอบๆตัวเหมือนขาดสิ่งมีชีวิตตัวนึงไป

"อ๋อ รายนั้น เดินอ่อยผู้อยู่แถวนี้แหละเดี้ยวมันก็กลับมา อย่าไปสนใจ"

"แล้วตอนนี้ใครนำวะ"

"วิศวะ ค่ะไม่อยากจะบอกว่า ไอ ควอเตอร์ ที่ขึ้นรัวๆได้มา จากหนุ่มเสื้อดำเบอร์สิบสองทั้งนั้น.."เบอร์สิบสองเสื้อดำ.. ไอกายงั้นสิ ผมหันมองลงไปที่สนามหลังจากที่ได้ยินอิกี้พูดแบบนั้น สายตาผมโฟกัสอยู่ที่คนๆเดียวราวสิบนาที ทั้งลีลาและการเคลื่อนไหวของ เจ้าตัว มันดูพริ้วไหว ยังกับนักกีฬามาแข่งจริงๆ

ในที่สุดการแข่งขังบาสเก็ตบอลก็จบลงพร้อมกับเสียงปรบมือและเสียงกรีดร้องที่ดังลั่นสนามแข่งให้กับชัยชนะของวิศวะกรรมศาสตร์ ที่สกอกินเรียบสนิทที่ว่าต้องรีบดับไฟที่สกอกันอายกันเลยทีเดียว. . .

หลังจากจบการแข่งขันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่ฝ้ายโทรมาเรียกตัวผมแบบพอดิบพอดี ผมไม่รอช้า รีบปลีกตัวออกมาจากสนาม ใจจริงก็อยากจะอยู่แสดงความยินดีด้วยนะ แต่ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรบอกกับพี่ฝ้ายดี

. . . . .
คอร์ทแบต

"อีกห้านาที พร้อมนะเจ"พี่ฝ้ายยื่นทิชชูซับน่าผมพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่ดูจริงจัง

". . . "

"เป็นอะไรรึเปล่าเจ. . ."พี่ฝ้ายเอ่ยปากถามหลังจากที่เห็นท่าที่สั่นๆของผม

"ตื่นเต้นอะพี่" ใจจริงคือเป็นกังวลต่างหากไม่รู้คู่แข่งจะอ่อนข้อให้เหมือนเกมที่แล้วรึเปล่า...ผม..กลัว..กลัวแพ้แล้วพี่ๆเขาจะผิดหวังในตัวผมเอา..เฮ้อ

"นี้เจ.."พี่ฝ้ายยกมือจับที่ไหล่ผมทั้งสองข้างก่อนจะพูดต่อ

"พี่รู้นะว่าเจคิดอะไรอยู่...ไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น อย่าลืมสินี้ กีฬากระชับมิตรนะ ทุกคนเขาก็เล่นเอาสนุกกันทั้งนั้นอย่าไปคิดอะไรมาก..ไม่ต้องสนใจผลว่าจะแพ้หรือชนะพี่แค่อยากให้เจทำเต็มที่แล้วสนุกไปกับมันก็พอ"ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ฝ้ายที่ยืนส่งยิ้มให้ผมอยู่มันทำให้ผมเริ่มใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย...แล้วก็คงไม่กังวลเรื่องแพ้ชนะ..ก็อย่างที่พี่ฝ้ายบอก..ทำให้เต็มที่ก็พอ. . .

เวลาห้านาทีผ่านไปเร็วยิ่งกว่าฟาดแปด  ผมสูดกอบโกยออกซิเจนเข้าปอดอยู่สองสามถามก่อนจะเดินลงสนามพร้อมกับเสียงของพี่น้องชาวมนุษย์ ที่ตะโกนเชียร์ให้กำลังใจผมอยู่บนสแตน รวมถึงเพื่อนๆทั้งสองคนของผมด้วย

"อิเจ สู้เข้า...."อิกี้มันเล่นใหญ่มากครับเห็นมีป้ายไฟ ที่มีชื่อผมอยู่ตรงกลางรูปหัวใจด้วย

"สู้ค่าๆ..ผัวขา..."รายนี้ก็ไม่แพ้กันครับยอมลงทุนสกีนเสื้อเป็นรูปโปรไฟล์ในเฟสบุ๊คผมใส่มาเชียร์กันเลยทีเดียว

ผมยกมือทาบหน้าอกตัวเองวัดเสียงหัวใจที่ตอนนนี้เต้นรัวและเร็วยิ่งกว่าปืนกล ..ให้ตายเถอะ..มันตื่นเต้นกว่าตอนแข่งช่วงเช้าซะอีก..แถมปริมาณผู้ชมยังมากยิ่งกว่าเก่า ทุกแสตนเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลาย คณะและนั้นมันยิ่งเพิ่ม ความประหม่าของผมขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แต่ระหว่างนั้นผมก็นึกถึงคำพูดๆที่พี่ฝ้ายบอกไว้กับผมก่อนจะลงแข่ง

"แค่ทำให้เต็มที่และสนุกไปกับมันก็พอ"  แค่เต็มที่กับมัน..เอาวะ....


"อ่ะ อ่ะ อ๊า และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงนั้นคือการแข่งบัตมินแต้น"

"แบตมินตัน!!!!"เสียงผู้ชมร้องทัก ในตอนที่ โฆษก ประกาศบอกประเภทการแข่งขันให้กลายเป็นมุขควาย.ที่รอให้ผู้ชมแก้ เหอะๆกูควรคำด้วยสินะ.. ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอๆไอสัด..

"ฮ่า ใช่ครับ แบตมินตัน แต่.. นี้ไม่ใช่การแข่งขันแบบธรรมดา"มึงจะไปตีบนดาวอังคารรึไงกันยึกยักวะ"เพราะมันคือการแข่งขันระหว่างความสัมพันธ์"เดี๋ยวๆ สานสำพันธ์รึเปล่าไอโฆษกมึงตกภาษาไทยปะเนี้ย

เสียงตะโกนเชียร์ รอบข้างเริ่มเงียบเพื่อรอฟังโฆษกจะพูดต่อจากที่ค้างไว้...แต่คงไม่ต้องให้มันพูดอะไรแล้วแหละครับ เพราะแค่การปรากฏตัวของมันก็ทำเอากูอึ้ง อึ้งแบบ กิมกี่ เป็นบ้วยกิมจ๊อ(เกี่ยวอะไรกันฟร้ะ)เลยทีเดียว เพราะไอคนที่เดินลงสนามจากฝั่งตรงข้ามมันคือ ผู้ชายเสื้อเบอร์สิบสองที่ผมพึ่งจะไปดูมันแข่งบาสเมื่อตะกี้... ไอกาย...


Tbc. . .

หายไปเป็นเดือน ขอโทษด้วยกั๊บ ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :43〗〖05/10/60〗 (NC!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-10-2017 17:37:33
Chapter:43

หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างอึ้งมันยืนนิ่งผมนี้โคตรจะนิ่งยิ่งกว่านี้ถ้ามีสีขาวดำแต้มอีกหน่อยผมก็หลักกิโลดีๆนี้เอง

"เอาแล้วไง"

"นั้นมันพี่เจ กับพี่กายที่จิ้นๆกันในเพจคิ้วบอยปะ"

"เวรละสงครามผัวเมีย"ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมหูดีหรือเสียงมันเงียบก็ไม่รู้ผมถึงได้ยินประโยคพูดคุยของผู้ชมที่แสตนราวกับว่า กำลังตะโกนคุยกันอยู่...

กายมันส่งสายตามองผมนิ่งๆเหมือนไม่รู้มาก่อนว่่จะมาเจอผม ใช่ผมเองก็ไม่รู้...แต่ถึงรู้ผมก็ยังคงประหม่าอยู่ดี..เรื่องเก่าก็ยังไม่ได้เคลียร์แถมยังต้องมากระชับมิตรอะไรนี่อีก.นี้ถ้าถอนตัววิ่งออกจากสนาม ผมจะดูไร้ความรับผิดชอบไปมั้ยวะ...เอาจริงๆคือผมไม่กล้าสู้หน้ามันไง...(พึ่งจะมารู้สึกเดี๋ยวนี้เอง)


"อ้ะอ้าว..เงียบกันทำไมละครับทุกคนคึกคักๆกันเข้าไว้สิ อ้าวไหนใครอยู่ทีมมนุษย์ศาสตร์ขอเสียงหน่อยเร็ว..."



"กรี๊ดดด ศึกระหว่างความรักหรอนี้ อร้าย สู้ๆนะคะพี่เจ"

ได้ผลเกิดคาดครับทันทีที่โฆษกพูดออกไมค์เสียงก็ดังกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง

"อ้าวไหนขอเสียงทีมวิศวะหน่อยเร้ว!!!"

"กรี๊ดด อร้ายยย พี่กาย สู้ๆนะค่า หนูเป็นกำลังใจให้"บรรยากาศบนแสตนกลับมาดีอีกครั้งแต่ในสนามกลับมีความรู้สึกแปลกๆที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้แม้จะไม่ได้มีคำพูดอะไรระหว่างผมกับกายแต่นั้น..มันก็บั่นทอนความตั้งใจที่ผมเตรียมมาพร้อมแข่งลดเหลือศูนย์ในทันที

ก่อนจะแข่งกรรมการบอกให้ผมเดินไปจับมือกับคู่แข่ง ..ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นพิธีหรือเพราะทนเสียงเชียร์ที่แสตนไม่ไหว ผมถึงต้องเข้ามาใกล้พร้อมกับส่งรอยยิ้มเล็กๆซึ่งคิดแอบคิดในใจลึกๆว่ามันอาจจะช่วยให้บรรยากาศมันดีขึ้นแต่เปล่าเลย สิ่งที่ผมได้กลับมาก็มีเพียงใบหน้าที่ไร้ซึ่งรอยยิ้มหรือความรู้สึกใดๆของคนตรงข้ามเลย..

ปี๊ดดดด!!

เสียงนกหวีดดังขึ้น พร้อมกับการแข่ง ผมเป็นฝ่ายตีเสริฟ์ลูกก่อน..ดีโด่งๆเหมือนตีเล่นกันอะ..กายมันก็รับแบบนิ่ง เหมือนเป็นเรื่องที่ง่ายในการรับลูกของผม คือจะบอกว่าจริงจังเลยก็ไม่ได้เพราะต่างคนต่างก็ไม่ได้อยากจะแข่งกันอยู่แล้ว

ตีโต้กันไปได้พักนึงผมก็รู้สึกเหนื่อยและเริ่มหมดแรง คือเวลาผ่านไปพักใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครทำคะแนนได้เลยสักที เพราะทั้งผมและกายไม่มีใครเอาจริง เลย ขืนทนต่อไปแบบนี้มันจะมีแต่กินแรงไปซะเปล่า..ผมเลยแกล้งทำไม้แบตหลุดมือ ชนิดที่ว่าทำให้เนียน จนคนรอบข้างนึกว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญแต่จริงๆแล้วคือกูตั้งใจ...
ผมเห็นสายตากายที่มองมาในคราวนี้เหมือนมีคำถาม..แต่มันไม่พูด (จะพูดได้ไงห่างกันขนาดนั้น)

คะแนนแรกผ่านไปโดยวิศวะนำผมไปแบบใสๆ ผมรู้ทั้งเหนื่อยทั้งหดหู่..ไม่มีอารมณ์จะแข่งต่อ เลยขอเวลานอกจากพี่ๆกรรมการซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเลยปล่อยให้เวลาพักห้านาที ก่อนจะแข่งต่อในครึ่งหลัง

"เป็นไงบ้างมึงโอเคป่ะ"กี้มันเดินอ้อมไปนวดไหลผมจากด้านหลังก่อนจะเอ่ยถาม

"ไม่ค่อยวะ"ผมตอบตามใจนึกคิด

"กูเห็นนะ"ผมก้มหน้าลงมาสบตากับเบนหลังจากที่กระดกน้ำลงคอได้สองสามอึก

"เห็นไรวะ"

"มึงจงใจปล่อยไม้ กูเห็น..พี่ฝ้ายก็เห็น.."สรุปนี้กูทำไม่เนียนใช่มั้ย

"กูขอโทษ..."รู้สึกผิดนะที่ผมตั้งใจไม่เต็มที่เหมือนที่คุยกับพี่ฝ้ายไว้

"กูไม่ได้โกรธพี่ฝ้ายเองก็ด้วย เขาเองก็พอจะดูออกแหละว่ามึงรู้สึกยังไงตอนเจอ คนๆนั้นอะ.."สายตาผมเหลือบมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามซึ่งมันก็มองผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว

"กูรู้สึกผิดวะ"

"ผิดที่ไม่ตั้งใจเล่นหรือผิดเพราะอะไร.."เบนถามพร้อมยื่นมือมาจับไหล่ผม

"คือ..กู.."จะบอกว่าทะเลาะกันอยู่มันก็จะดูยังไงๆแต่ถ้าจะให้โกหกผมก็ไม่รู้ว่าจะคิดหาข้ออ้างไหนดีให้พวกมันเชื่อ

"เอาน่ามึง"อิกี้ตบไหล่ผมจากด้านหลังด้วยอีกคน "ไว้จบการแข่งแล้วค่อยเคีลยผัวเมียทะเลาะกันกูดูออก" ผมหันไปมองหน้าอิกี้ที่มีแววตาที่จริงจังกับคำพูดของมัน

"ขอบใจนะพวกมึง"

"เออ คิดมากอิดอก ทำหน้าเป็นตูดไม่เหมาะกับมึงเลยวะอิเจ ยิ้มๆ"ผมพยายามฝืนยิ้มเฝื่อนๆให้พวกมัน

"อิสัด"เพลี้ย..ที่ปากกูเนี้ยอิเบนยื่นมือมาตบปากผมเบาๆแต่กูเจ็บจริงครับห่ามึง.. "ยิ้มแบบนี้.."มันทำเป็นแบบอย่างให้ผมดู แม้งหลอนชิบหาย.."เร็วยิ้มสิ"ลูกคู่มันก็บีบไหล่บังคบผมอีกคน

"ถ้ามึงไม่ยิ้มนะ..จบเกมกูจะไปยิ้มกับผัวมึง"ไม่ต้องรอให้เสียเวลาครับผมนี้ยิ้มจนแกล้มแทบจะฉีกถึงรูหู

"ต้องเล่นด้วยผัวอิสัด..ไปๆได้เวลาแล้ว"เสียงนกหวีดดังพวกอิกี้รีบวิ่งกลับขึ้นแสตนไปยังที่ของพวกมันส่วนผมก็ยังคงยิ้ม แม้อีกฝ่ายจะยังทำหน้าบึ้งตึง..แต่ถ้าอารมณ์ในตอนนี้มันเป็นไฟ ผมคงจะเป็นน้ำ คอยดับความทุกข์ในใจของมันเอง. .

. . . . . . .. . .

จบเกมการแข่งขันผมยิ้มตลอดทั้งเกม (กูนึกว่าตัวเองบ้า) ตีแบตอย่างอารมณ์ดีแต่ก็แพ้ไปอย่างราบคาบด้วยสกอที่โคตรน่าอับอายขายขี้หน้า แต่ก็ไม่ได้มีเพื่อนๆพี่ๆคนไหนว่าอะไรผม มีแต่ประโยคเดิมๆซ้ำๆที่ได้ยินจากปากของทุกคน

"มึงทำดีแล้ว"

"เต็มที่แล้วเจ"

"ไม่เป็นไรนะทำเต็มที่แล้ว"และเสียงแบ็คอัพที่ชมตามกันมาแทนที่จะเป็นคำด่ามันก็ช่วยทำให้ผมเบาใจขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อยก็ไม่มีเพื่อนๆคนไหนโกรธหรือโมโหอะไรแบบที่คิดไว้ในตอนแรก...

"กาย!!!"เสียงตะโกนเรียกชื่อทำให้ผมต้องเอี้ยวตัวหันไปมองถึงแม้จะไม่ใช่ชื่อผมก็เถอะ


"ครับ"เสียงตอบรับที่ดูอ่อนหวานจากเจ้าตัวถูกส่งมอบพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์

"คือเย็นนี้กายว่างใช่มั้ย..เราว่าจะชวนไปฉลองกับเพื่อนๆที่คณะด้วยกันอะ กายจะไปด้วยกันมั้ย"แม้ผมจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใครแต่ดูจากการพูดคุยแล้วคงจะรู้จักกันในระดับนึงแต่สิ่งนึงที่ทำให้คิ้วผมกระตุกแรงยิ่งกว่าหัวใจที่กำลังเต้นรัวคือ ทำไมต้องยกมือไอกายขึ้นมาจับตอนที่พูดด้วย..

และถึงแม้ตัวจะอยู่ห่างกันหลายเมตร แต่ต่อมเสือกผมมันทำงานเป็นกิโล แม้งได้ยินชัดแจ๋วทุกประโยค..

"อืม.ไม่รู้สิ..เรามีนัดฉลองกับเพื่อนที่แข่งบาสด้วยเหมือนกันอะ คงไปด้วยไม่ได้"เยส !!นกนะครับคุณเธอว์

"โถ่..แต่ถ้ากายไปด้วยมันคงจะสนุกมากเลยนะ มีพวกพี่ๆปีสามปีสี่ไปด้วย กายจะชวนเพื่อนๆที่เล่นบาสมาด้วยก็ได้นะอยู่เยอะๆสนุกดีออก"ระหว่างนั้นเองฝั่งผมก็ไม่แพ้กัน

"เจ"คนที่เดินเข้ามาหาผมคืออะตอมครับ ท่าทีมันดูเคอะเขินแปลกๆ

"อ้าวว่าไงมึง"ผมยิ้มทักตอนมันเดินมาถึงตัวแถมพวกอิกี้กับอิเบนยังยอมแหวกทางให้มันเดินเข้ามาด้วย(เพื่อ!!)

"คือเย็นนี้ว่างมั้ย..ไปฉลองกัน"จบประโยคผมแอบเหล่ไปมองกายมันแวปนึงซึ่งแม้งก็มองผมก่อนเหมือนเคยอะและเป็นจังหว่ะเดียวที่ผมได้ยินประโยคแสลงที่ฟังแล้วมันไม่ค่อยจะเข้าหู

"โอเคงั้นเราไปด้วย" เดี๋่ยวๆ เมื่อกี้มึงบอกปฏิเสธเขาไปแล้วนิทำไมกลับคำง่ายจังวะห่าใจง่าย แค่เขาขาวสวยหมวยอึ๋มนมโตหน่อย มึงถึงกับกลับคำเลยหรอวะ. . มันส่งยิ้มอ่อนให้เจ้นมโตคนนั้นซึ่งผมคิดว่ามันเป็นรอยยิ้มที่สามารถ ทำให้เจ้คนนั้นคล้อยตามได้เลยละ..หึ

"กูตกลง"ได้มึงจะเล่นไม้นี้ใช่มั้ยกายด๊ายยยยยย

"ไม่คิดหน่อยหรอ"อะตอมร้องถาม

"คิดทำเชี้ยอะไรอยากไปก็ไปสิ สองคนด้วยใช่มั้ย"ผมแกล้งถามเสียงดังๆให้คนตรงข้ามได้ยินแล้วมันก็ได้ยินจริงๆด้วยครับหันมาขมวดคิ้วใส่ผมเฉย..แต่กูบ่แคร์ครับ  ขนาดมันยังเห็นนมดีกว่าทำไมผมจะเห็น ค...เอ่อเพื่อนดีกว่าไม่ได้ละจริงมั้ย แฮ่ๆ เกือบหลุดแล้วเชียว

"ไปกันเลยมั้ย"อะตอมถามขึ้นพร้อมกับยื่นมือมันมาจับมือผมอย่างแนบแน่น แต่มันก็แค่แปปเดียวเพราะหลังจาก
0.236894638654 วินาที ไอหมาที่เห็นนมดีกว่าตรงข้ามมันก็วิ่งเอามือมาสับตรงกลางดังโชะ (ซึ่งจริงๆแล้วมันก็แค่เดินมาดึงตัวผมออกห่างก็เท่านั้นเองหึหึ)

"เรามีเรื่องต้องคุยกัน" ไม่พูดเปล่าครับ..ดึงมือกระชากรากถูกูเหมือนโสรยาในสวรรค์เบี่ยง(เดี๋ยวๆคนละเรื่องไอซัสส) เดินตามมันเข้าห้องน้ำไปปล่อยให้ไอพวกที่เหลือยืนเอ๋อแดกกันด้วยความงง แต่ที่สะใจคือ เจ้นมโตคนนั้น ทำหน้าหงิกเป็นตูดหมึกเลย กูละสะจายฮ่าๆ
(ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน)

ทันทีที่มาถึงในห้องน้ำเชี้ยนี้ก็เลวทราม ลงมือล็อคประตูห้องน้ำโดยไม่ได้แคร์สุขภาพของคนข้างนอกเขาเอาซะเล๊ย เกิดเขาปวดขี้จะเข้าห้องน้ำขึ้นมา นิ่วไม่แดกตายห่ายืนเอ๋ออยู่หน้าประตูเร้อ  พอๆเลิกรั่วเข้าโหมดจริงจังซักที

"อะไร"ผมถามโดยตึงสีหน้าใส่มัน

"มึงนะสิอะไร"

"อะไรของมึงนี้คืออะไร "เอาเข้าจริงๆกูเริ่มงงกับคำพูดของตัวเองละ สรุปนี้กูมึนหรือกูมึนวะ งงในงง

"มึงไปตอบตกลงมัน"

"มึงก็ตอบนิ่ ทำไมกูจะทำแบบที่มึงทำบ้างไม่ได้ละ"จากในตอนแรกๆที่มีความรู้สึกผิดอยู่ลึกๆตอนนี้ผมเริ่มอยากกวนตีนมันแทนละ แม้งชอบทำให้กูหึง

"ก็เขาชวนไปกับเพื่อน"

"กูก็ไปกลับเพื่อนแล้วมันผิดตรงไหนวะ มึงไม่มีสิทธิมาห้ามกูนะกาย"

"กูไปกับเพื่อนเป็นคณะ..แต่มึงอะจะไปกับมันสองต่อสอง..อ่อแล้วไอที่บอกว่ากูไม่มีสิทธิอะ มึงเข้าใจผิดละ สิทธิในตัวมึงอะกูมี"

"สิทธิเหี้ยอะไรของมึง"

"ก็ สิทธิ ของการเป็นผัวมึงไง!!"แม้งตะโกนใส่หน้ากูด้วยคำว่าผัวนี้เต็มหน้ากูเลย..และนั้นทำให้ผมสตันไปประมาณ 2.347667วินาทีก่อนจะเริ่มพูดต่อ

"แล้วมึงจะเอายังไงต่างคนต่างไปจบมั้ย"

"ไม่!!"มันตอบน้ำเสียงหนักแน่น"จะไม่มีใครไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะเคลียกันให้รู้เรื่อง"

"จะให้กูเคลียอะไรอีกวะ มึงไปกับเขากูก็ไปกับเพื่อนมันก็จบต่างคนต่างไปแค่นี้เอง"

"ที่กูพูดเนี่ยไม่ได้เข้าหัวมึงเลยใช่มั้ย หรือต้องให้กูตอกย้ำสถานะห้ะ มึงถึงจะสำเนียกได้ว่ามึงอยู่ในสถานะอะไร"ไม่พูดเปล่ายื่นหน้ามาทำหน้าบึ้งใส่กูอีกแต่ไม่ได้..ผมจะยอมให้มันเหนือกว่าไม่ได้มึงตึงได้งั้นกูขอตึงมั้ง

"ทำไมมึงจะทำอะไรกูห้ะ ไอกา.."ไม่ทันจะได้พูดจบคำเล๊ยไอคนตรงหน้ามันก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบจูบ ไอตอนแรกๆก็ขัดขืนอยู่หรอกแต่ไปๆมาๆแล้วสรุปเคลิ้ม เสย จากที่ผลักๆอกนี้กลายเป็นผมล็อคต้นคอมันแทน

ผมยืนนัวเนียจูบกับมันอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำอยู่เนิ่นนานจนมันทำท่าจะผละออกแต่ผมรั้งหน้ามันเอาไว้แถมยังผลักให้แม้งติดกับผนังแล้วเป็นฝ่ายเริ่มเองมั้ง..อยากเสียตัวดีนักเดี๋ยวกูจัดให้....

ก็อก ก็อก ก็อก.. เชี้ยไรละ เคาะทำเชี้ยอะไรตอนนี้ผมไม่สนแล้วครับความเงี้ย...ครอบงำในหัวกูหมดแล้ว...

ก็อก ก็อก  ก็อก... ก็ยังเสือกดังอยู่แต่คราวนี้มาพร้อมเสียงตะโกนครับ


"ไอเจ.เฮ้..ยู้หู้ มึงอยู่ในนั้นกับไอกายใช้มั้ย"น่าจะเป็นเสียงไอวินนะ ผมผละหน้าตัวเองออกจากปากของมัน ก่อนจะมองหน้าที่ตอนนี้แม้งเซ็กซี่แบบสัดๆ อยากจะทำต่อให้มันจบๆถ้าไม่ติดว่ามีเสียงของไอห่าตัวนึงมาขัดคอซะก่อนผมเอี้ยวตัวหันหลังไปมองที่บานประตูมีเสียงก็อกๆแก็กๆเหมือนมันพยายามจะไขมันเข้ามา ก็คือเชี้ยวินนั้นแหละ..ระหว่างนั้นไอตัวดีมันก็เปลี่ยนจากเล่นปากมาเล่นคอของผมแทน อู้ยย ซี๊ดเลยผมอะ...ขนลุกซู่ไปทั้ง ตัว..แต่ทำได้ไม่นานผมก็ต้องรีบผลักมันออกเพราะไอวินมันตะโกนบอก ว่าจะพังประตูเข้ามาถ้าผมไม่ยอมเปิดให้มัน

"มีอะไร"ผมถามมันอย่างหัวเสียขัดอารมณ์ชิบเป๋ง

"เอ่อ..กูมาหาไอกาย..มึงอยู่กับมันป่าวอะ..คือกูมีเรื่องจะบอกมัน"ผมหันข้างไปมองกายที่ยืนอยู่ตรงผนังด้านใน

"เพื่อนรักมึงมาหา" ไอเชี้ยวินก็เสือกยื่นหน้าเข้ามาพอดิบพอดีเห็นสภาพไอกายตอนกระดุมบนถูกปลดไปเม็ดสองเม็ดและกลับมาจ้องหน้าผมด้วยสายตากวนส้นตีน

"แหนะ..ไอเจ นี้ห้องน้ำไง.. คนจะขี้จะเยี่ยวเขาต้องถ่อเดินอ้อมไปเข้าที่อื่นกันเพราะต้องมารอมึงล่อกันในนี้อะหรอ.."

"มีอะไรไอวิน"ไม่ใช่เสียงผมกับแต่เป็นเสียงเพื่อนไอวินมันต่างหาก

"พี่แชมป์เรียกรวมตัววะ น่าจะเรื่องแข่งบอล วันพรุ่งนี้ "

"ด่วนมากมั้ยวะ"

"ถามแบบนี้มึงจะนัวเนียกันต่อใช่มั้ยเนี้ย"

"รู้แล้วยังจะถามอีกนะมึงอะ"

"เออก็ด่วนแหละไว้มาทำต่อที่หลังไม่ได้เหรอวะ ไอเจมันไม่หนีไปไหนหรอกเดี๋ยวกูล็อคตัวไว้ให้"เดี๋ยวๆ

กายมันหันมามองผมเหมือนขอความคิดเห็น

"มึงไปเหอะเสร็จแล้วค่อยคุยกัน"

"อ้าวนี้มึงยังไม่เสร็จกันอีกหรอวะเห็นหายกันมาตั้งนานสองนาน"

"ก็มันเพราะใครละห่า"เสียงกายมันบ่นอุบอิบ

"มึงว่่่าไงนะ"

"เปล่าๆไม่มีอะไร งั้นก่อนไป.."

"?"ผมทำหน้างงใส่มัน

ฟอด

ต่อหน้าต่อตาไอวินเลย. .

"เอ่อกูควรไปก่อนสินะ "มันพูดพร้อมกับจับลูกบิดพร้อมปิดประตู

"รอกูด้วย"กายมันเดินออกไปพร้อมกับไอวินแต่ก็ไม่ลืมที่จะขยิบตาเป็นเชิงนัยๆว่า เดี๋ยวมาต่อ คือกูอยากตะโกนบอกเลยว่าให้ไว..แต่ที่ทำได้จริงๆคือส่งยิ้มให้พร้อมกับพูดประโยคๆนึงแบบไร้เสียงว่า

"กู จะ รอ" ดูท่ามันเองก็คงจะเข้าใจเดินกอดคอไอวินออกไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมนะหรอ หึ ค้าง ไม่ใช่ตานะ อารมณ์กูเนี้ย..ลูกชายกูนี้ตั้งเด่เป็นไม้บรรทัดแล้ว โอ้ย.จะทำไงดีล้างหน้าล้างตาสงบสติอารมณ์โลด แต่มันก็ช่วยได้จริงๆนะอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมสดชื่นทำให้คิดฟุ้งซ่านน้อยลงขึ้นหน่อย

ผมยืนเอาหน้าลองอยู่ตรงที่เป่ามือด้วยความขี้เกียดหยิบทิชชู่และด้วยความพิเรนที่มีมาตั้งแต่กำเนิด.. คือหน้ากูแทบไหม้ครับคุณผู้ชม  ผมยืนรอให้หน้าแห้งพักนึงก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป

. . . ..

ผมกลับมาถึงที่บ้านตอนเวลาสี่โมงกว่าๆ จะว่าไงดี เพื่อนๆที่คณะผมก็ยังมีแข่งกีฬาอื่นๆกันอยู่นะ แต่เหมือนความขี้เกลียดมันครอบงำ ผมเลยกลับมานอนโง่ๆเล่นโทรศัพท์อยู่ที่บ้านเพื่อรอใครบางคนมันโทรหรือทักไลน์หา..แต่นั่งรอนอนรอไปหลายชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่่ามันจะติดต่อมาเลยสักนิด ...ผมเลยกดเข้าแอพพิเคชั่นรูปสายฟ้าสีฟ้า ซึ่งเป็นโปรแกรมแชทของเฟสบุ๊ค เขา ไปที่กล่องข้อความ ของบุคคลที่คุยกันล่่่่าสุดเมื่อ หลายวันก่อน...ปุ่มไม่เขียวแหะ เห็นขึ้นว่าออนไลน์เมื่อสองสามชั่วโมงก่อน

ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งเป็นห่วงถึงแม้ผมจะไม่ได้พูดขอโทษกับมันแบบจริงๆจังๆแต่อย่างน้อยตอนนี้ผมกับมันก็กล้าสู้หน้ากันแล้วหลังจากที่มันและตัวผมเองเอาแต่หลบหน้ากันปิดกั้นการติดต่อทุกอย่าง (ซึ่งเกิดจากความงี่เง้าของผมเองอีกนั้นแหละ)นึกแล้วอยากตีอกชกหัวตัวเองชิบหายที่ดันไปทำตัวง้องแง้งแบบนั้นกับกายมัน เอาเข้าจริงๆผมมีส่วนผิด(มาก)เหมือนกันนะ แต่ทำไงได้ละ ก็คนมันหึงมันหวงนิ ใครจะอยากให้แฟนตัวเองไปคุยกับแฟนเก่าละจริงมั้ย..


ติ๊ง!!

เสียงแจ้งเตือนจากแมสเซนเจอร์ดัง ผมรีบกดเข้าไปดูในใจหวังให้เป็นมันที่ทักมาแต่ไหงถึงดันเป็น ไอ(หมา)วินไปซะได้

"ทำไรอยู่เพื่อนรัก"มันมาแปลกครับ ปกติเคยพูดแบบนี้กับผมที่ไหน...นอกซะจากมันจะทำอะไรผิดมา..

"นั่ง..นอน..เล่นเกม"ผมพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วและมันก็ตอบกลับมาเร็วเช่นกัน

"หรอ ดึกๆว่างปะวะเดี๋ยวชวนไปกายไปกินหมูด้วยคน"กินหมูดึกเป็นห่าอะไรที่มันบัดซบกับตัวผมมากถึงมากที่สุดจำได้คราวที่แล้วท้องร่วงหลังจากกลับมาจากกินหมูกับไอวินซึ่งสาเหตุมันก็น่าจะมากับเรื่องนี้นั้นแหละผมว่า ไอตอนแรกก็อยากจะรีบปฏิเสธอยู่หรอกนะแต่พอเห็นว่ามันหิ้วใครมาด้วยผมก็อดไม่ได้ที่จะ...

"ตกลง ทุ่มนึงเจอกันมึง บาย...จุ้บ"

"เห้ยๆใจเยดๆไม่คิดหน่อยอ่อ มึง..เหมือนคราวก่อนๆไรงี้"

"คิดเหี้ยไรละหิว"

"ไอกายไม่ไปละ"

"งั้นก็ไม่ต้องเสือกมา"

"บู้ย....."

"อะไรมึง"..

"เดี๋ยวนี้อะไรๆก็กลายเป็น ลืมกูรึยังเนี้ยไอเพื่อนเวร" *สติ้กเกอร์ตัวคนแต่หัวหมีส่ายเอว

"มาม่าอะไรของมึงอีกเนี้ย "ผมถามเพราะเริ่มรู้สึกแบบนั้นจริงๆ

"มึงไม่เอะใจบ้างหรอวะ ว่าตั้งแต่มีไอกายเข้ามาในชีวิตมึงกับกู ไม่ได้ทำอะไรแบบเมื่อก่อนเลยนะเว้ย"จบประโยคพิมพ์ของมันทำให้ผมเริ่มคิดตาม

"ปกติเวลามึงจะไปไหนไปทำอะไรกับใครมึงจะบอกกูก่อนเสมอ แต่เดี๋ยวนี้พอมี ไอกาย มึงก็เลือกที่จะบอกแต่มัน จนบางทีมึงอาจลืมด้วยซ้ำมั้ง ว่ามึง ยังมีกูอยู่ตรงนี้อะ" ผมไม่้เคยรู้มาก่อนเลยว่าวินมันจะคิดมากเรื่องผมขนาดนี้

"วินมึงโอเคป่าว"ห่าถามออกมาได้มันพูดมาขนาดนี้มันก็คงอยากจะระบายนั้นแหละ และผมก็คิดว่ามันคงจะไม่โอเค

"ดูโอเค ต้องโอเคดิ กูอยู่จุดที่เรียกร้องอะไรได้อ่อวะ "สาบานได้ถ้ามันอยู่ใกล้ๆผมจะดึงมันเข้ามากอด..

"วินมึงเป็นเพื่อนกูนะ  มึงทำได้ทักอย่าง ตามที่ใจมึงต้องการได้เลย..กูยังเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิมทุกๆอย่างยังเหมือนเดิม"

"งั้นกูก็เอามึงแบบทีีไอกายเอาได้งั้นสิ"คิ้วผมเริ่มกระตุก

"เดี๋ยวนะ!!"

"ฮ่าๆกูโม้เล่น เชี้ยมึงเชื่อกูจริงๆหรอวะ"ผมว่าที่มันพูดข้างต้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ๆถึงมันจะพยายามทำตัวเฮฮาตลกเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกมากแค่ไหน  . . .แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผมมองมัน ออก เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะไม่รู้

"ให้มันจริงเหอะสัด จะมากี่โมง กูจะได้บอกให้พี่อินทำอะไรเผื่อด้วย"

"ทุ่มๆแหละ แต่...กูพาไอเนมไปด้วยได้ป่าววะ"

"ได้ดิเมียเพื่อนทั้งคน"

"ยังไม่ถึงขั้นนั้นเว้ย"

"เออๆเอาไงก็เอา เดี๋ยวกูขึ้นไปเล่นเกมรอละกันมีอะไรก็โทรมา "พอผมพิมพ์ตอบเสร็จมันอ่านแล้วก็เงียบหายไปผมเลยสบโอกาศได้เปิดคอมอบนห้องในรอบหลายเดือน แต่ที่ซวยหนักกว่าคือกูลืมพาสเวิดครับพี่น้อง จะเดินไปถามใครก็ไม่ได้เลยต้อง นึกอยู่นานกว่าจะจำครบทุกตัว
(เสือกยาวด้วยไง)


ทุ่มกว่า

ผมเดินซะลึมซะลือลงมาที่ชั้นล่าง เพราะได้ยินเสียงกริ่งดังอยู่หลายทีแต่ก็ไม่มีใคร ยอมลงมาเปิด (ไปไหนกันหมด)

"ฮัลโหล.. "คนที่โผล่หน้าเข้าบ้านมาเป็นคนแรก คือไอวินครับ มันเดินหอบหิ้วถุงพะลุงพะลังอะไรมาด้วยไม่รู้เยอะแยะและขนาบข้างมาด้วย ไอเนม เด็ก ตัวเล็กที่มีหลายๆอย่างคล้ายกับผม โดยเฉพาะส่วนสูงกับสีผิวที่ขาดซีด มันเดินตามหลังไอวินมาต้อยๆ มองแล้วดูน่ารักดีครับ

"พี่เจหวัดดีครับพี่"ผมรับไหว้มันและเดินเข้าไปช่วยถือของจากมือมันมาถือเอง

"แหม่ กูอยู่ตรงนี้ถือของสี่ห้าโลไง "

"ก็เห็นมึงไหว ดูขนาดตัวน้องกับตัวมึงดิ อย่าง้องแง้ง"แต่ด้วยความที่กลัวว่ามันจะน้อยใจผมเลยเดินไปช่วยมันถือก่อนจะพากันเดินเอาไปเก็บไว้ในครัว ซึ่งมีพี่อิน นั่งหั่นผักอยู่ในนั้น ท่าทางดู จริงจัง

"พี่อินมีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ"สามีหมายเลขหนึ่งของพี่อินร้องถามขึ้น

"อู้ย ไม่ต้องหรอกจ้ะน้องวิน ไปนั่งหล่อๆรอพี่เดินไปเสริฟ์ให้ดีกว่า รอแปปนึงนะ"ไม่พูดเปล่าครับมีขยิบตาด้วย หึหึ แอบถ่ายไปให้เจมส์ดูดีกว่ารับรองหมี่เหลือง...


"พี่อินสวัสดีครับ "เสียงทักทายของบุคคลที่มาใหม่และเป็นคนๆเดียวกับที่ผมกำลังจะตั้งแง่ถามไอวิน ว่าเพื่อนของมันไปไหน แต่ในตอนนี้คงไม่ต้องถามแล้วสินะ "

ผมหันไปสบตาและส่งยิ้มให้มันซึ่งมันก็ยิ้มกลับให้ผม..คือจะบอกว่ารู้สึกดีมากนะที่มันไม่ได้ตึงหน้าใส่ผมเหมือนเมื่อเช้า

"มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ"มาอีกคนแล้วครับคำถามเดิมๆและคำตอบก็ยังเดิมๆ

"ไปนั่งรอกันดีกว่าจ้ะ ได้ข่างพึ่งแข่งกีฬากันมาเหนื่อยๆ วันนี้พี่มี เมนูพิเศษให้ทานกันรับรองหายเหนื่อยแน่ๆ"

"ไม่เป็นไรหรอกครับพี่อิน"เสียงกายมันร้องตอบจากประโยคหลังของพี่อิน

"อ้าวทำไมละ..น้องกายอิ่มมาแล้วหรอ"
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :43〗〖05/10/60〗 (NC!!!)
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-10-2017 17:51:38
Chapter:43/2 NC

"ป่าวหรอกครับ ผมแค่จะบอกว่า  พอได้เห็นหน้าของใครบางคน ผมก็หายเหนื่อยแล้วต่างหาก"

"หมายถึงพี่หรอ .น้องกายอะ..บ้า พี่เขิลนะ "ไอกายนอ่งเงัยบไปมันส่งยิ้มแห้งๆให้พี่อิน แต่ผมนี้สิ ยืนบิดจนตัวจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว ไอห่าหม้อเรี่ยราด

. . . . . .. . .

ช่วงเวลาอาหารเย็น (ไม่สิค่ำๆ)


เป็นไปด้วยดี คือจะบอกว่าผมเองก็รู้สึกดีเหมือนกันนะที่ตอนนี้ผมกับกายเรากลับมาคุยกันเป็นปกติแล้วถึงผมจะรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยเต็มร้อยก็เถอะ..แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็อยากพูดคำขอโทษ ให้มันฟังซักหน่อยเพื่อสนองนีดตัวเองและเพื่อความสบายใจของ เราสองคนด้วย

ตกดึกช่วงสี่ทุ่มหลังจากที่เราทานอะไรกันเสร็จแล้ว.ผมพากายขึ้นมาบนห้องเพื่อสารภาพบาปที่ตัวเองได้ทำไว้เมื่อหลายวันก่อน

"กาย...ที่กูทำไป..เพราะกู หึงมึงนะเว้ย"ในที่สุดก็กล้ายอมรับสักทีปกติผมไม่เคยพูดคำนี้ให้ไอกายมันฟังนะเว้ยเดี้ยวมันจะมองว่าผมอ่อนข้อให้แล้วมันจะเหลิง

"มึงเข้าใจกูใช่มั้ย"กายมันนั่งกอดอกมองปมจากบนเตียงทำท่าเหมือนใช้ความคิด

"เข้าใจ..แต่มึงจำที่เราเคยคุยกันไม่ได้หรอ"คุยไรวะกุลืม

"เรื่องอะไรวะ?"ผมถามเพราะตัวผมเองนั้นความจำสั้นยิ่งกว่าปลาทอง

"ที่บอกให้ไว้ใจไง.."ผมนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่ใช่เพราะกำลังช็อคหรืออะไรแต่คือเหมือนความรู้สึกต่างๆมันเข้ามาแทนที่ในตอนที่กายพูดจบ การกระทำของผมในวันนั้นมันบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าผมไม่ไว้ใจมันซึ่งมันก็กลายมาเป็นความรู้สึกผิดกับผมในตอนนี้

"ที่พูดได้ยินมั้ยเนี้ย"กายถามย้ำ"อือเข้าใจ"ผมได้แต่ก้มหน้าในตอนนี้ไม่มีความกล้าจะเงยหน้าขึ้นไปสบตามันเลยวะ

"นี้.."กายใช้นิ้วชี้ของมันช้อนคางผมให้เงยหน้าขึ้นสบตากับมันก่อนจะเริ่มพูดต่อ"

"การกระทำที่ผ่านมา มันทำให้มึงเชื่อใจกูไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ"ผมรู้ว่ามันไม่ได้ถามเพื่อประชดแต่มันถามเพราะอยากรู้ว่าผมคิดยังไงกับเรื่องนี้ต่างหาก..

"จริงๆกูเข้าใจทุกอย่างนั้นแหละ..เพียงแต่..กูอดไม่ได้วะกาย....กูอดคิดไม่ได้จริงๆ.."ผมสูดหายใจลึกๆก่อนจะเริ่มพล่ามต่อ "บางครั้งกูก็คิดนะ ว่าถ้าหาก มึงเจอ ผู้หญิงดีๆสักคนชีวิตมึงมันคงจะง่ายขึ้นกว่านี้ "

"ง่ายกว่าคือยังไงวะ นี้มึงต้องการจะบอกอะไรกับกูห้ะเจ"กายขมวดคิ้วถามผมพร้อมกับใบหน้างงๆของมัน

"ก็เรื่องของเรา..มึงรู้ใช่มั้ยว่ามันผิด"ผมรู้สึกเจ็บแปลบๆที่อกตอนที่เอ่ยคำนี้ออกมา

"ผิด..ยังไง..แล้วอะไรคือความถูกต้องวะ"เหมือนเสียงมันจะเริ่มสั่นๆ นี้กูแค่ระบายนะเนี้ยทำไมกายมันต้องจริงจังขนาดนั้นด้วยวะ..

"ผิดที่เราเป็นผู้ชายเหมือนกันไง"

"ผู้ชายแล้วไงวะ?"

"ผู้ชายรักผู้ชายมึงคิดว่ามันเป็นเรื่องง่าย ที่ใครๆก็ยอมรับได้หรอวะ"

"กูไม่เข้าใจ..มึงพูดแบบนี้ ทำไมวะเจ มึงต้องการให้กูทำอะไรไหนลองบอกกูชัดๆทีสิ"

"กูแค่อยากให้มึงรู้ว่าเรื่องของเราอะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้ใครเขายอมรับกันอะ มึงเข้าใจกูปะเนี้ย"

"มึงจะเลิกกับกู เพียงเพราะเรื่องของเรามันเป็นเรื่องยากหรอ"เพลี้ย !!!ผมยิ่นมือไปตบปากมันแทบจะทันที

"คำๆนี้ มึงอย่าพูดออกมาเป็นครั้งที่สองนะกาย"กายมันดูอึ้งๆแต่ก็ยอมนั่งฟังผมอธิบายดีๆ

"กูไม่ได้มีความคิดแบบนั้นในหัวสมองของกูเลยกูก็แค่ คิดว่าจะทำยังไงให้พ่อแม่มึงยอมรับในตัวกูดี ..คือจะว่ายังไงดีละกูไม่อยากเข้าบ้านมึงแล้วต้องคอยบอกกับทุกคน ว่ากูเป็นแค่เพื่อนมึง..กูอยากมีสิทธิมากกว่านั้น"จบคำพูดผมกายมันเผลอหลุดยิ้มออกมา

"นี้มึงรักกูขนาดนั้นเลยหรอ"ไหนๆก็พูดไปซะหมดแล้วคงไม่มีอะไรต้องปิดแล้วละ

"เออ..ไอสัดมึงพึ่งรู้เหรอ"ผมถามพร้อมกันยื่นมือไปเขกกระบาลมัน ไอง้าวเอ้ยแค่่การกระทำกูมันยังบอกไม่ได้อีกหรอวะว่ากูคิดยังไงกับมึง..

"แล้วไอเชี้ยนั้นละ."

"เชี้ยไหน?"

"ก็ไอคนที่มึงจะไปฉลองกับมันเมื่อเย็นอะ" หมายถึงอะตอมสินะ

"นั้นเพื่อน"

"เพื่อนหรือผัวใหม่"มันยักคิ้วถามผม เอ้าไอนี้. .

"นี้มึงเห็นกูแรดขนาดนั้นเลยหรอ"

"ยังจะถามอีก ..ก็มึงอะ..ชอบไปไหนมาไหนแต่กับผู้ชาย.."

"จะให้กูเดินตามตูดผู้หญิงจะได้ดูแมนว่างั้นเหอะ"

"แต่มันก็ปลอดภัยกว่ามั้ยละ มึงไม่รู้หรอกว่าในสายตาเพื่อนๆกูมันมองมึงยังไง "ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมพอรู้นะแต่อย่าพูดถึงมันเลยดีกว่่า

"ปกติกูก็อยู่แต่กับเพื่อนแค่สองคนที่สนิทด้วย"

"คนไหน.กูเคยเจอมั้ย"

"มั้งที่หน้าคณะอะ"

"งั้นมึงก็ตามติดเพื่อนมึงแค่สองคนยันจบปีสี่ไปเลยละกัน"

"ห่ากายอย่าเยอะครับอย่าเยอะ.."ผมยื่นมือไปกยิกแก้มมันเล่นจึกๆ

"ไม่รู้ละ ความผิดมึงยังมีอยู่หลายกระทงนะเจ จะยอมทำดีๆมั้ย"

"ไม่"แน่นอนผมตอบอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องคิดกันเลยทีเดียว...

"กูจะให้โอกาศมึงพูดอีกที.."

"ไม่ ไม่ ไม่ ม..."อุ้ปส์สส คำพูดผมจบลงด้วยปากของมันที่กระโจนมาแตะที่ริมฝีปากของผมด้วยความรวดเร็ว ความคิดในสมองผมขาวโพนไปหมดในหัวผมตอนนี้เห็น มันเพียงคนเดียว . . .

เราจูบกันอย่างแผ่วเบาและเนิ่นนานจนมันต้องเป็นฝ่ายถอนหน้าออกเพื่อพักหายใจและเริ่มบทเพลงรักใหม่ด้วยลีลาที่ร้อนแรง ขึ้น จากที่แค่เลียริมฝีปากกับกลายเป็นว่าลิ้นของเราสองคนกำลังเล่นหยอกล้ออยู่ในโพลงปาก
คนตรงหน้าผลักผมลงที่เตียงและเป็นจังหว่ะเดียวกับที่มันยกตัวผมให้ไปนั่งอยู่ช่วงสะโพกของมัน ผม เลยตอบสนองด้วยการระดมจูบทุกส่วนตามร่างกายตั้งแต่หน้าปากจมูกซอกคอแหละหลังใบหู ซึ่งผมรู้สึกได้เลยว่า คนข้างล่างคงจะรู้สึกดีอยู่มากเพราะจากการที่ผมถูกอะไรแข็งๆ สัมผัสอยู่ที่ก้นเนี้ยมัน ก็น่าจะบอกได้ช้ดแล้วว่าเขาก็คงมีต้องการอยู่เหมือนกัน

ผมรีบปลดกระดุมเสื้อทั้งของผมและของกายออกจนหมดรวมถึงกางเกงนิสิทของคนข้างล่างออกเผยให้กางเกงในแบรด์ดังที่มันดูเข้ากับหุ่นของมัน ซะเหลือเกิน ความเขินอายที่เคยมีตอนนี้มันถูกแทนที่ด้วยอารมณ์ที่เรียกว่าความ ใคร่ และความต้องการที่มันเริ่มประทุขึ้นมาๆเรื่อยๆ

ผมยื่นมือไปสัมผัสกับส่วนที่แข็ง ที่อยู่ตรงหน้า คนที่นอนอยู่ทำสีหน้าเหยเกย เหมือนเริ่มจะทนไม่ไหว ใช่ ผมเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน จากที่เรามีอะไรกันครั้งแรก ผมไม่เคยรู้เรื่องราวพรรณนี้มาก่อนว่ามันควรจะเกิดขึ้นยังไงและควรสนองยังไง แต่เวลาที่ผ่านมาก็ช่วยเพิ่มทักษะผมขึ้นอย่างมาก จนผมเรียนรู้ว่าควรจะทำยังไงเพื่อช่วยให้คนตรงหน้ามีความสุขได้..และเริ่มการกระทำบทแรกด้วยการ ถก สิ่งที่เป็นโล่กันบังออก เผยให้เห็นแก่นกาย ที่แข็งชูชัน ขึ้น มา ผมเริ่มบทเพลงรักด้วย การ ใช่ปากครอบไปยังส่วนที่มันร้อนละอุ ทำอยู่อย่างนั้นพักใหญ่จนคนตรงหน้าต้องใช้มือของมันในการกดหัวของผมขึ้นๆลง และไม่นานนัก มันก็เป็นฝ่าย รุกเองบ้าง ผมเองก็เหนื่ิอยที่จะต้องทำแล้วเหมือนกัน ยอมรับเลยว่านี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาทำอะไรแบบนี้  คนข้างบนก้มหน้าเข้ามา จูบที่หน้า ตา แก้ม จมูกปาก คอ และมาหยุดอยู่ที่หน้าอกของผมเป็นเวลานานพอควร..

"ซี๊ดดด"ผมเผลอร้องออกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว และพยายามเม้มเสียงนั้นเอาไว้เพราะกลัวคนในบ้านจะมาได้ยินเอา

"กาย..พ..พอ..หยุดก่อน.."ผมหลับตาพูดคุยกับมันแต่ดูเหมือนคนตรงหน้ามันคงจะไม่ได้ยินผมนะ ปากของมันยังซุกซนอยู่ตรงช่วงท้องของผมอยู่เลย

"อ่าส์..กาย..พอก่อน..กู...อ่า.."ผมร้องเสียงหลงทันทีเมื่อกางเกงชั้นในของผมถูกปลดออกและตามมาด้วยแรงสัมผััสที่อบอุ่นจากปากของคนตรงหน้า

"กาย..อะ..กูไม่ไหว..ล..แล้ว..เอาออก..ก่อน.."ผมพยายามดันหน้าของมันให้ออกห่างจากลูกชายผมแต่เหมือนมันจะเป็นเด็กหัวรั้น ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แล้วมันก็ยิ่งเพิ่มความเร็ว ในการหยอกล้อกับเจน้อยของผมจนผมเริ่มทนไม่ไหวและปลดปล่อยของเหลวสีขาวใส่ปากของคนตรงหน้าอย่างเขินอาย..แต่สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือกายมันไม่ได้ยกหน้าของมันออกห่างจากลูกชายผมเลยมัน ยังคงหยอกล้อและทำความสะอาดให้ด้วย ลิ้นของมันจนหมดจด ก่อนที่มันเงยหน้าขึ้นมาและก้มลงมาประทับจูบที่ปากของผม ผมรับรู้ได้ถึงรสคาวๆที่มาจากปากของมันและมาจากตัวของผมเอง..นี้สินะที่เขาเรียกว่า น้ำรัก..รสชาติมันก็ไม่ได้แย่อะไร..มากมาย

พรึ่บ..

อยู่ๆกายมันก็แยกหว่างขาของผมออกและค่อยๆใช้นิ้วใหญ่ๆของมันเบิกทางรักที่ไม่ได้ใช้มานานด้วยความช่ำชองและรวดเร็ว

ฮึก..แวปแรกที่นิ้วแข็งของมันลอดเข้าไปที่ปลายอุโมงค์ผมรู้สึกจุกเหมือนตัวเอง โดนใครต่อยเขาที่ท้องน้อย เป็นอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ก่อนที่มันจะค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเข้ามา .จากความจุกแปลกๆมันก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียว...ผมซี๊ดดปากห้ามอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ให้มันส่งเสียงไปให้ใครในบ้านได้ยิน.. แต่จังหว่ะนั้นกายมันก็ก้มหน้าลงมาใกล้กับหูของผมพร้อมก้บกระซิบประโยคๆนึงให้ผมฟังว่า

"ถ้าเจ็บให้กัดคอนะ "มันพูดแค่นั้นและเริ่ม เอานิ้วที่เคยสอดใส่เข้ามาออกจนหมดกายมันยืนขึ้นเต็มความสูงมองไปรอบห้องเหมือนหาอะไรบางอย่าง

"มีอะไรหรอ.."ผมถามมันเสียงอู้อี้

"เจลไปไหนแล้ว.."คงหมายถึงเจลที่หัวเตียง.ยังจำกันได้มั้ยว่ายัยเอินเคยให้ผมไว้เมื่อนานมาแล้วแต่ผมปฏิเสธ แต่วันต่อๆมามันก็มาอยู่บนหัวเตียงผมชนิดที่ว่่าผมเองยังงงว่ามันมาได้ไงแต่วันนี้มันไม่อยู่แล้วครับ..

". . "ผมไม่ได้ตอบคำถามกายและเป็นฝ่ายดึงมันลงมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้กายฝืนหน้าของมันเอาไว้และนั้นเริ่มทำให้ผมไม่เข้าใจ..

"มีอะไรรึเปล่า.."

"ไม่มีเจล..."

"ถุงไง"

"ไม่มีเหมือนกัน"

". . . ."ผมเริ่มคิดๆอะไรบางอย่างและพูดมันออกมา

"งั้นสดเลย.."

"ห้ะ. ."เหมือนกายมันกำลังเอ๋อๆอยู่

"กูบอกให้สดไง อย่าถามมากดิ่.." อารมณ์ผมตอนนี้มันพลุกผล่านยิ่งกว่า สมัยวัยรุ้น สิบสี่สิบห้าซะอีก

"แต่มึงจะเจ็บ.."สีหน้ามันดูเป็นห่วงผมจริงๆ

"เสียบๆมาเหอะ . ."ไม่ทันสุดคำพูดผมดีไอกายมันก็สนองนีดของผม ด้วยการ นำเรือหางยาวของมันแล้นเข้าอุโมงค์ แวปแรกผมคิดถามตัวเองในใจ ไม่น่าโดนความเงี่ย...บังตาเลยกูสุดท้ายก็เลยต้องมานอนดิ้นครวญครางทุรนทุรายเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกแบบนี้


ปัป ปัป ปัป

เสียงเนื้อกระทบกันเสียงดังสนั่นลั่นห้องบวกกับเสียงร้องเงียบๆของผมที่ดังอยู่ข้างหูของไอกาย ใช่ครับผมกัดคอมันอยู่เลยช่วยเก็บเสียงอย่างว่าไปได้เยอะ..


กายมันเริ่มเร่งจังหว่ะเร็วและแรงขึ้น จนในที่สุด มันก็พาเรือหางยาวของมันท่องในถ้ำเนเวอร์แลนด์ได้สำเร็จชนิดที่ว่า ข้างในเลยทีเดียว แต่อย่าคิดว่ามันจะจบแค่นั้นนะคร้บ...เพราะหลักจากนั้นอีกไม่นานมันก็ลุกขึ้นมาไซร้คอผมและเริ่มท่องโลกกว้างอีกครั้งและอีกหลายๆ ครั้ง จนตัวผมเองนี้ระบบไปหมดแล้ว..กว่าจะพักกันได้นี้ก็ปาไปตีสี่เกือบตีห้าโหไอเหี้ย ผมใช้มือสัมผัสที่ปากถ้ำ ที่ตอนนี้มีของเหลวมากมายไหลนองอยู่เต็มไปหมดแต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ...ล...เลือด.... คร่อก เห็นเพียงแค่นั้นผมก็สลบเป็นตายไปเป็นวัน ตื่นมารู้สึกตัวอีกทีก็นู้น ช่วงบ่ายๆของอีกวัน..

"อื้อ.."ผมลืมตาขึ้นมาท่ามกลางแสงตะวันที่สาดส่องในยามบ่าย(จะเรียกว่าตะวันก็คงไม่ได้)เพราะแม้งร้อนชิบหายขนาดปิดผ้าม่านอยู่ผมยังรู้สึกได้ถีงความร้อนเลย

ผมขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ต้องร้อง โอ้ย ออกมาเพราะรู้สึกเจ็บแถวช่วงสะโพกมาก แต่สาเหตุที่แท้จริงส่วนหนึ่งมันเกิดมาจากความอยากของผมเองด้วยแหละ ไม่น่าไปถ้าให้มันเสียบสดเล๊ยโอ้ย ว่าแต่ไอตัวปัญหามันหายหัวไปไหนของมันวะ ทำไมถึงปล่อยให้ผมตื่นขึ้นมาตัวคนเดียวแล้วต้องร้องเรียกตามหามันในสภาพนี้ด้วย นะ เห้อ คือ จริงๆอยากให้มันอยู่ข้างๆตอนนี้แต่การที่มันไม่อยู่ ทำให้ผมรู้สึกแหม่งๆ เหมือนพวกที่พึ่งโดนฟันแล้วทิ้งจามผับบลายังไงยังงั้นเลย

ว่าแล้วก็ใช้แรงฮึกนิดหน่อย ในการเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง กดเบอร์ไปที่ปลายสาย

ตื๊ดด... ตื๊ดดด เป็นแบบนี้อยู่นานมาก ติดแต่ไม่มีคนรับ ผมจะไม่อะไรเลยถ้าอย่างน้อยมันบอกว่าอยู่ไหนทำอะไรอยู่กับใคร คือสแค่แมสเสทก็ยังดี แต่นี้ ไม่มีห่าอะไรที่พอจะบอกได้เลยว่ามันหายหัวไปไหนของมัน. .

ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่เตียงและค่อยๆคลานไปที่ตู้เสื้อผ้าหาชุดสบายๆใส่ก่อนจะเดินลงมาที่ด้านล่าง

"ไงค่ะคุณชาย กว่าจะตื่นได้นี้ นี้พี่แทบจะโทรเรียกปอเต็กตึ้งให้มารับอยู่แล้วนะถ้าเจไม่ตื่นก่อนบ่ายสามเนี้ย"สาวสวยแต่ใจโหดของบ้านทักทายผมเหมือนทุกที แต่คราวนี้มันแปลกครับ.เพราะคุณเธอดันอยู่บ้าน  ในเวลาแบบนี้ของทุกวันพี่อินแกมักจะไปช็อปปิ้งหรือไม่ก็ไปรวมกลุ่มสิบสาวแม่บ้านโสด คือแค่ชื่อกลุ่มนี้ก็หลอกลวงประชาชนแล้วครับ แต่ละคนนี้มีลูกมีผัวกันแล้วทั้งนั้น . .. ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ในการตั้งสมาคมนี้ขึ้นมาเหมือนกัน รู้แต่ว่า วันไหนพี่อินไม่ได้ไปรวมกลุ่มนี้คงนั่งไม่ติดเก้าอี้แน่ๆ

"เอ่อ..พี่ อินเห็นกายมันบ้างรึเปล่าครับ" คือที่ลงมาก็จะถามเรื่องนี้แหละเพื่อมีใครเห็นมันผมจะได้สบายใจ

"เห็นนะ ออกไปตั้งแต่เช้าตรู่เลยดูหน้าเครียดๆเหมือนเขาจะมีเรื่องด่วนนะ "และนั้นมันยิ่งเพิ่มความอยากรู้ของผมขึ้นอีกเป็นเท่่าตัว. .. โทรไปไม่รับทักไปไม่ตอบนี้สรุปมันมีเรื่องคอขาดบาดตายอะไรรึเปล่าวะ..ปมไม่สบายใจเลย..และถึงแม้ร่างกายผมจะไม่เอื้ออำนวย..แต่ใจมันกลับพาร่างกายอันบอบช้ำดั้นด้นมาหากายถึงที่บ้าน. . หลังใหญ่หลังเดิมแต่เพิ่มเติมคือมีกาด ยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู. . .ผมคิดว่่ตัวเองลงผิดบ้านเลยเดินถอยหลังกลับไปดูป้ายนามสกุล เอ..ก็มาถูกนี้หว่า แล้วพี่ๆแว่นดำนี้เขามายืนทำอะไรกันหว่า...ว่าแล้วก็เดินกระเพกๆเข้าไปถามเขาซะเลย

"พี่ๆ"ผมใช้นิ้วจิ้มพี่ตัวสูงๆถึกเหมือนบัวขาวที่ยืนหันหลังให้ผมอยู่

"มีอะไรไอน้อง.."โหขนาดเสียงยังเหมือนแฝดพี่บัวขาวปะเนี้ย..

"คือ วันนี้มีอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับทำไมกาดเต็มบ้านไปหมด"

"อ่อวันนี้คุณชายใหญ่ท่านกลับมาจากต่างประเทศน่ะ"

"นี้คือการต้อนรับหรอครับ"ถ้าใช้ก็คงเว่อร์วังน่าดู

"ไม่ใช่หรอกพี่ อะมือขวา คุณชายท่าน ส่วนนี้ "เขาชี้ไปที่พี่อีกคนนึงที่ตัวสูงล้ำพอๆกัน"มือซ้าย เออแต่จะว่าไปทำไมข้าต้องมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้เอ็งฟังด้วยวะ เอ็งเป็นใครเนี้ย "พี่แกถลึงตาใส่ผม

"ผมเพื่อนไอเชี้..เอ่อ...กายอะครับผมเพื่อนกาย"

"อ่อเพื่อนนายน้อยนี้เอง"พี่เขายิ้มให้ผมแล้วเห้อรอดตายละกู..

"เดี๋ยวนั้นเองจะไปไหน.."พี่บัวขาวแกร้องทักตอนที่ผมเดินสวนหน้าแกไป

"เข้าไปหาเพื่อนไงพี่ ?"

"ง่ายไปม้าง..."

"อ้่าวแล้วผมต้องทำไงอะ ต้องต่อยกับพี่ก่อนงั้นหรอผมถึงจะได้เข้าไป..."แต่อย่าพูดถึงเรื่องต่อยเลยครับแค่เรื่องใช้ความรุนแรงนิดหน่อยผมก็ขอบายแล้ว

"ตลกแดก แค่เอาบัตร ปชช. มา แล้วเอ็งก็เข้าไปได้เลย"

"หา..."ทำยังกับกูจะมาปล้นเพรชแนะ และด้วยผมไม่อยากจะสาวความยาวต่อความยืดกับพี่แกเลยต้องหยิบให้ จากกระเป๋าสตางค์ และเดินดุ่มๆเข้าไปแต่ก็ยังมิวายมีสายตาจากกาดหลายคู่จ้องมองมาที่ผม แต่เขาก็ไม่ได้ถ้วงอะไรผมเลยรีบวิ่งติดสปีด ไปที่ประตูบ้านหลังใหญ่ ที่ไม่ค่อยชินตานัก(จะชินได้ไงมาครั้งเดียว)

"อ้าว.คุณหนู.."ผมหันควับตามเสียงเรียกที่ได้ยินเห็นป้าแก่ๆคนนึงเดินเข้ามาหาผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

"ครับ.."ผมยิ้มตอบกลับป้า คือจริงๆป้าก็น่าคุ้นนะ แต่เอาจริงๆมั้ยผมจำชื่อป้าแกไม่ได้วะ

"มาหาคุณหนูหรอค่ะ"เรียกผมคุณหนู แต่มาหาคุณหนูมันก็จะดูงงๆหน่อยนะ

"อะ.ครับ ว่าแต่ คุณหนูของป้า อยู่บ้านรึเปล่าครับ"

"อ่ออยู่ค่ะ.พอดีวันนี้คุณผู้ชายกลับมาที่บ้านในรอบหลายสัปดาห์ ป้าว่าคงจะเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆเลย"

"ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ ดูท่าคงจะไม่สะดวกคุยตอนนี้"ผมรีบยกมือไหว้ป้าเขาก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินกลับไปจากทางที่มา..แต่ป้าเขาก็เรียกให้ผมหันกลับไปคุยกับป้าอีกครั้ง

"บางที อาจจะเสร็จแล้วก็ได้นะคะ ไม่ลองขึ้นไปรอคุณหนูอยู่บนห้องก่อนละคะ"เป็นข้อเสนอที่หน้าสนใจและผมเองก็คงไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ เลยตอบตกลงโดยมีป้า นอม (ปิ้งป่องผมจำชื่อป้าได้แล้ว) เป็นคนเดินพาผมขึ้นมาส่งอยู่บนห้องของไอกาย แถมยังบอกก่อนไปอีกว่าให้ผมทำตัวตามสบายๆ เหอะอยากจะบอกว่าผมเองก็อยากทำอย่างนั้นเหมือนกันเพียงแต่สถานที่มันไม่เอื้ออำนวยก็เท่านั้นเอง

ผมนั่งรอกายอยู่บนห้องของมันสาย ตา เจ้ากรรมก็ดันซุกซนเห็นอะไรแปลกๆหน่อยก็เดินไปหยิบจับนั้นนี้มาดู

ตึก ตึก ตึก .. เสียงคนเดินมาใกล้ๆนี้แล้วด้วย ผมคิดว่าน่าจะเป็นกายมันนะ ลองแกล้งทำให้มันตกใจเล่นดีกว่า ผมเลยรีบเดินดุ่มๆแม้จะยังเจ็บช่วงซะโพกอยู่บ้าง เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ซึ่งผมมั่นใจว่าตัวผมสามารถเข้าไปได้แน่ๆ แล้วมันก็ดันเข้าได้จริงๆ(ใหญ่เว่อร์วังอลังการมากครับคุณผู้ชม)

ปึง..เสียงประตูปิด ผมแอบส่องมองจากรอยแง้มเล็กๆที่ปิดไม่สนิทนัก เห็นกายมันเดินเข้ามาทำหน้าเคร่งเครียด..อารมณ์ที่อยากจะแกล้งก็หมดในทันที ผมกำลังจะเลื่อนมือเพื่อเปิดประตูออกไป..แต่เสียงเปิดประตูจากภายในห้องก็ดังซะก่อนผมเลย นั่งนิ่งๆ แอบมองอยู่ดังเดิม

"ทำไมพ่อถึงทำกับผมแบบนี้ครับ.."บุคคลที่เดินเข้ามาใหม่คือพ่อของกายซึ่งผมไม่้เคยเห็นหน้ามาก่อน โครงหน้าของท่านช่างหล่อเหลา ไม่แปลกใจเลยว่ากายมันได้เชื้อความหล่อมาจากใคร แต่เรื่องความหล่อผมคงต้องคอสต็อปเอาไว้ก่อน . . .ขอเสียมารยาทแอบฟังพ่อลูกเขาคุยกันต่อดีกว่า ว่าแล้วก็เงี่ยหูให้ติดขอบตู้ให้มากที่สุด เพื่อภาพและเสียงที่ชัดเจน

"ถ้าพ่อไม่ทำแบบนี้ ก็คงจะโง่ไปอีกนาน"พ่อของกายยืดกอดอกทำหน้าบึ้งอยู่ที่ประตู

"แต่แบบนี้มันเกินไปนะครับ.."

"มันไม่มีอะไรเกินไปหรอก.. ถ้ามันจะเกินก็คงจะเป็นตัวแกเองที่ทำตัวเหลวแหลกขนาดนี้"น้ำเสียงของท่านดูดุดันและจริงจังเล่นทำเอาคนที่แอบฟังอย่างผมถึงกับสะอึกแทนคนที่ได้ยินเลย

"เลิกซะ"พ่อของกายพูดน้ำเสียงนิ่งเรียบ

"พ่อว่าอะไรนะ!"กายมันดูตื่นตระหนก

"พ่อบอก ให้แกเลิกยุ่งกับเด็กผู้ชายคนนั้นซะ"

"ไม่ครับ..ยังไงผมก็ไม่มีวัน..."เพลี้ย...คำพูดของกายมันหยุดลงเป็นจังหว่ะเดียวกับที่ฝ่ามือของ คนตรงหน้าเดินมาตบเข้าที่ใบหน้าจนคนที่โดนต้องหันไปตามแรงปะทะ

อะไรกัน . .. แค่เรื่องอะไรนิดๆหน่อยพ่อของกายก็ลงไม้ลงมือกับลูกตัวเองแล้วงั้นหรอ..

"พ่อจะให้โอกาสแกพูดอีกครั้ง ถ้าคำตอบแกมันดีกว่านี้ แกจะยังได้อยู่ในบ้านหลังนี้ต่อไป..แต่ถ้าไม่แก ก็ออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!" น้ำตาของที่ผมรักล้วงหล่นอาบสองข้างแก้ม ผมเห็นชัดเต็มสองตาได้ยินเต็มสองรูหูอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากผมเป็นกายผมก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน ความเป็นพ่อเป็นลูกมันตัดกันง่ายขนาดนั้นเลยหรอ..ทำไมเขาถึงพูดมันออกมาได้ง่ายดายขนาดนั้น...

ผมไม่เข้่าใจเลยจริงๆ

 TBC. . . . ..

เริ่มเข้าใกล้สู่ช่วงท้ายเรื่องแล้ว ขอโทษทีาดองไว้หลายเดือนไม่มาลงสักทีตอนนี้ก็ได้เวลาอันสมควรแล้วเน้อ

ปล.ฉากNcเขียนไม่เป็นจริงๆนา ต้องขออภัยด้วยหากผู้อ่านเข้าไม่ถึงอารมณ์

. . .
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :44〗〖29/10/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 29-10-2017 14:58:05
Chapter:44

ตั้งแต่เมื่อไหร่...แกทำตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่.."เสียงของพ่อกายดังไปทั่วบริเวณ

"ผม..."

"ฉันถามว่าแกเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!"

". . . ."

"ทำไมแกถึง เงียบ ละ ทำไมถึงไม่ยอมเถียงแล้วบอกกับฉันมาว่าเรื่อง ที่ฉันกำลังเข้าใจตอนนี้มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน..พูดสิ...พูดมา!!"

"พ่อ..เข้าใจถูกแล้วครับ. . ผมกับเจ เราสองคนกำลังคบกัน"ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองช้า ในทันทีเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองอยู่ในประโยคที่กายพึ่งจะพูดตอบพ่อของตัวเอง..สรุปใจความของเรื่องที่ทำให้พ่อกับกาย ทะเลาะกันก็คือผม

"เหลวไหล ..อะไรทำให้แกเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"พ่อของกายทำหน้าเครียดหนักมากตอนพูดคำนี้"

"ผมไม่ได้เปลี่ยน ผมยังเป็นผมเหมือนเดิม ผมก็แค่....มีความรัก.."

"แต่ความรักของแกมันกำลังทำลาย ชีวิตของแกเอง ผู้หญิงดีๆมีให้เลือกตั้งมากมายแต่แกกับคิดสั้นด้วยการเลือกผู้ชายมาเป็นแฟน เหอะ...รู้ถึงไหนอายถึงนั้น"สำหรับตัวผมเรื่องของผมกับกายเป็นอะไรที่เข้าใจง่ายสำหรับครอบครัวผมมากกายชอบพ่อพ่อชอบกาย ทุกสิ่งทุกอย่างดูง่ายไปซะหมด..แต่เหมือนผมจะลืมคิดถึงมุมครอบครับของกายว่ามันจะโอเคกับเรื่องนี้มั้ย.ซึ่งคำตอบในตอนนี้ก็คือ..ไม่.. ผมนั่งสำลักกับความจริงอยู่ในตู้ใหญ่ น้ำตาที่ไม่รู้ว่ามันไหลมาอาบข้างแก้มตั้งแต่เมื่อไหร่..อารมณ์หดหู่ยิ่งกว่าตอนที่เราทะเลาะกันหลายร้อยเท่ามันกำลังถาโถมเข้าใส่ตัวผมอย่างต่อเนื่อง ทุกความรู้สึกที่กายกำลังเผชิญหน้าอยู่ตอนนี้ ผมอยากแบ่งเบาด้วยการ ยืนอยู่ข้างๆและคอยให้กำลังใจมัันอยู่ใกล้ๆแต่สิ่งที่ผมทำได้ในนอนนี้ มีเพียงนั่งนิ่งๆเก็บเสียงสะอื้นและรอฟังคำตอบจากกายและพ่อของมันเอง..

"แต่ผมไม่อายนิครับ ผมรักเขาเขาก็รักผม เวลาผมไม่มีใครผมก็ยังมีเขาอยู่เคียงข้างเวลาผมเหงาผมหันไปทางไหนผมก็ยังมีแต่เขาคอยนั่งอยู่ข้างๆเสมอ ต่างจากพ่อ..ที่ไม่เคยมีเวลาให้ผมเลย.. พ่อใช้เวลาทั้งหมดไปกับงานจนพ่ออาจลืมไปแล้วว่า พ่อ เคยมีผมอยู่ตรงนี้ด้วย"
จบคำพูดของกายทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ..พ่อของกายคลายมือที่กอดอกออกก่อนจะพูดคำบางคำจนคนฟังอย่างผมต้องสะอึกและอึ้งตามกับสิ่งที่เพิ่งจะได้ยิน

"พ่อไม่รู้นะว่าในหัวตอนนี้แกกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่..แต่สิ่งที่พ่อจะมาบอกแกวันนี้คือ ให้แกเลิกยุ่งกับเด็กคนนั้นซะ.."

"แล้วถ้าผมไม่ทำตามละครับ"กายยังคงเถียงข้างคูๆเถียงที่ยังไงมันก็ไม่มีวันจะเป็นฝ่ายชนะ

"ทุกสิ่งทุกอย่างที่แกเคยมี มันจะหายไป ข้าวของเครื่องใช้เงินทอง ทุกสิ่งที่แกเคยมี ..รวมถึง เจริญเกียรติพาณิชย์ ด้วย" . . . น้ำตาที่เหือดแห้งถูกซ้ำรอยเดิมอีกครั้งหลังจบประโยคของ เขา คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของกาย..ผมรู้นะว่าเรื่องที่เราทำอยู่มันเป็นเรื่องที่ีีผิดและไม่สมควรให้เกิดขึ้น.แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันผ่านมาก็ทำให้ผมคิด..ว่าเราสองคนผ่านอะไรกันมาบ้าง อยู่ๆจะให้มา..เลิกกันไปแบบนี้มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย..แต่เหมือนเหตุผลของผมต่อให้จะอธิบายยังไงพ่อของกายเองก็คงจะไม่เข้าใจ..

"ฉันจะให้เวลาแกตัดสินใจสามวัน นับตั้งแต่ตอนนี้วินาทีนี้  ถ้าหลังจากสามวันแล้วความคิดแกยัง ไม่เปลี่ยน ฉันจะถือว่าแกไม่ใช่ลูกของบ้านนี้อีก..."เจ็บหนักกว่าเก่าก็ตอนที่โดนตอกย้ำถึงจุดที่ผมกำลังยืนอยู่ในตอนนี้..แม้จะยังไม่มีใครมาทำอะไรแต่ตัวผมก็เหมือนกับโดนสาดกระสุนปืนกลใส่ทั่วทั้งตัวมันเจ็บแปลบชนิดที่ว่ารักษายังไงก็คงไม่หาย...

พ่อของกายเดินออกจากห้องไปได้พักใหญ่แล้วแต่ผมยังคงนั่งมองดู กาย ที่กำลังนั่งกอดเข่าร้องไหอยู่ที่เตียงเพียงคนเดียว ..ผมอยากจะอยู่ข้างๆลูบหัวมันแล้วพูดประโยคๆนึงเหมืิอนทุกๆครั้งว่า

"ไม่เป็นไรนะ..ไม่ว่าจะเกิดอะไรมึงจะยังมีอยูอยู่ตรงนี้ข้างๆเสมอ"เพียงแต่ความกล้าในครั้งนี้ของผมกับเหลือศูนย์ ซึ่งไม่มีค่า และผมก็ไม่กล้าพอที่จะทำในสิ่งที่ใจคิด.เพราะผมกลัว...กลัวจะเป็นฝ่ายที่นั่งเสียใจซะเอง..

ผมนั่งปิดปากร้องไหราวครึ่งชั่วโมง ไม่นานนักข้อความๆนึงที่ถูกส่งมาจากผู้ชายที่้พึ่งจะเดินออกไปจากห้องก็ส่งมาหาผม

"เตี้ยอยู่ไหน..ว่างรึเปล่าอยากไปหา..มีเรื่องจะคุยด้วย"ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องที่มันจะพูดคืออะไรถ้าไม่ใช่เรื่องที่ผมเพิ่งจะได้ยินไปเมื่อกี้

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่โกยออกซิเจนเข้าปอด อยู่หลายครั้งก่อนจะพิมพ์ตอบกลับมันไป

"ออกมาข้างนอก..แต่เดี๋ยวจะกลับแล้วหล่ะ..มาหาหน่อยสิ..มีเรื่องจะพูดเหมือนกัน.."สาบานได้ว่าตอนที่ผม พิมพ์น้ำตาของผมมันยังคงไหลนองอยู่ข้างแก้มแม้มันพึ่งจะแห้งไปแล้วก็ตาม. . .


ผมเดินลงมาจากห้องของกาย แต่ก็ไม่ลืมที่จะมองซ้ายมองขวาเพราะถ้าเกิดผมเจอพ่อของกายขึ้นมามันคงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

"อ้าวคุณหนูจะกลับแล้วหรอค่ะ.."เสียงของป้านอมเดินมาถามผมด้วยรอยยิ้มตอนที่ผมเดินลงมาอยู่ที่ประตู.

"ค.ครับ"ขนาดแค่พูดคำวา่่ครับเสียงผมมันยังคงสั่น

"เอ.เป็นอะไรรึเปล่าค่ะเนี้ย..เมื่อกี้ ป้าเองก็เห็นคุณหนู เขาอาการแปลกๆอยู่เหมือนกัน..ทะเลาะกันมาหรอค่ะ" ป้านอมถามขึ้นพร้อมกับยกมือจับหน้าผมเอียงไปมา

"อ่อผมดูละครอยู่ข้างบนมาน่ะครับป้า ตอบจบมันเศร้า..ผมคงจะอินหนักไปหน่อย"

"อ่อแบบนี้นี่เอง..แล้วนี้จะกลับเลยรึเปล่าค่ะ อยู่ทานของว่างก่อนมั้ย"ป้านอมยังคงถามผมด้วยรอยยิ้มเหมือนเช่นเคย

"ไว้คราวหน้าดีกว่าครับป้า พอดีผมมีเรื่องต้องไปเคลีย นิดหน่อย ยังไงก็ขอบคุณที่ชวนนะครับ"ผมยกมือสวัดดีป้านอมก่อนจะเดินออกมาที่หน้าบ้านรับบัตรประชาชนที่พี่กาดแกยึดไว้ก่อนจะรีบโบกแท็กซี่ ที่พึ่งส่งผู้โดยสารตรงข้ามเสร็จให้วนกลับมารับผมและไปส่งที่บ้านโดยใช้เวลาเพียงไม่นานผมก็กลับมายืนอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเองอีกครั้งแต่ในครั้ง นี้ ผมกลับไม่มีความกล้าที่จะเดินเปิดประตูเข้าไปเพราะ ยังมีบุคคุลอีกคน ที่กำลังนั่ง รอผมอยู่ด้านในด้วยแววตา ที่เศร้าสร้อย.. ผมรู้ว่าเรื่องที่กายจะเตรียมมาพูดมันคือเรื่องอะไร แต่ผมจะแกล้งไม่รู้ไปก่อนเพื่อให้อะไรๆมันง่ายขึ้น

ตื้อ ดื้อ. . . เสียงออดต้อนรับลูกค้าดังขึ้น ทำเอาคนที่กำลังก้มหน้ามองที่โต๊ะต้องหันมามอง ผมที่เดินเข้ามาใหม่

ผมพยายามสร้างบรรยากาศให้มันดีขึ้นด้วยการ ยิ้ม ทีคิดว่ามันน่าจะเป็นตัวผมในแบบปกติที่สุด. . แต่สิ่งที่ผมนึกคิดและสิ่งที่กำลังจะเอ่ยปากพูดเป็นต้องดับลงเพียงเพราะคงตรงหน้าวิ่งกรูเข้ามากอดผมไว้จนแนบแน่น แน่นอย่างที่ผมไม่เคยได้รับจากมันมาก่อน..

"กาย..เป็นอะไรรึเปล่า"ผมถามเสียงอ่อยถามทั้งๆที่ตัวเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว

" . . ."กายไม่ตอบผมได้แต่ส่ายหน้าไปมาที่ไหล่ของผม

"อ้าวพี่กายพี่เจ ทำไ.มม....."ยัยเอินที่เดินลงมาเห็นทำท่าจะเดินเข้ามาทักทายเหมือนทุกทีแต่ผมส่งสายตาออกบอกว่าอย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้เอินเองก็คงจะเข้าใจรีบเดินกลับขึ้นห้องโดยที่ไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจอะไรออกมา. . "

"เจ..กูมีเรื่องจะบอก..."หลังจากที่เงียบไปนานอยู่ๆคนตรงหน้าก็เอ่ยถามขึ้น

แต่ผมในตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะยอมรับความจริงในตอนนี้เรื่องที่ผมได้ยินจากปากคนอื่นมามันคงไม่โหดร้ายเท่ากับการที่ผมได้ยินจากปากของมันเอง ผมยังทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้...ผมเลยเลือกที่จะพูดแทรกขึ้น ก่อนที่มันจะถามอะไรผมอีก

"กูก็มีเรื่องจะบอกมึงเหมือนกัน.."ผมถามพร้อมกับดันหน้ามันออกจากไหล่ให้หันมาสบตากัน

"หลังจบกีฬาสี เราไปเที่ยวกันมั้ย"

"ห้ะ"

"ที่ไหนก็ได้ มีแค่มึงกับกูสองคน"

"แต่แข่งเสร็จมึงก็มีเรียนต่อไม่ใช่หรอ จะว่างไปรึไง"

"กูไปได้ เหลือแต่มึงแล้วกาย ว่าจะไปกับกูมั้ย " กายเงียบไปพักใหญ่จนผมคิดว่ามันจะปฏิเสธ

"ถ้าไม่ว่างก็..."

"ไป..ไปดิ..ไปที่ไหนก็ได้มึงเลือกเลย จะไปกี่อาทิตย์ หรือเป็นเดือนก็ได้นะ ก็ตามใจมึงทุกอย่างเลย.."กายโหมดนี้เป็นอะไรที่ผมโคตรจะไม่ชินเอาซะเลย กายที่ไม่ขัดใจ ไม่ดุด่า หรือ ตบหัวผมพร้อมกับเขย่าไปมาและพูดประโยคเดิมๆซ้ำๆว่า "อย่างี้เง้านะเตี้ย". . "ไว้ว่างแล้วจะพาไปใหม่." .. "ไว้คราวหน้าเนอะ". . ประโยคที่เคยได้ยินกลับลับหายไปเหลือเพียงคำพูดที่ไม่เคยได้ยินจากปากของมันเอง. ..

หลายวันผ่านไป กีฬาสีผ่านไปได้ด้วยดี.. แม้รอบตัวของผมจะมีแต่เสียงหัวเราะแต่ตัวผมเองกลับ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มบางๆให้คนรอบข้างเหมือนเมื่อก่อน

"ไอเจ มึงเป็นไรป่่าววะกูเห็นช่วงนี้มึงทำหน้าไม่รับบุญห่าอะไรเลย มีเรื่องเครียดรึไง "ไอวินที่วุ่นๆ ก้บชีวิตแฟนเด็กของมันก็เจียดเวลาเล็กน้อยหลังจากที่ พอดรักกับแฟนเสร็จมานั่งอยู่ข้างๆผมทั้งที่ไม่ใช่ วิสัยทัศน์ของมันเอาซะเลย

"ป่าวอะ กูก็แค่เซ็งๆ"

"เซ็งห่าไรวะไหนบอกกู"วินมันจับหน้าผมให้หันไปสบตามัน

"เปล่าไม่มีอะไร"ผมพยายามหลบสายตาที่มันมองมา

"แต่หน้ามึงมันบอกว่ามี จะบอกดีๆรึให้กู.."ไม่ต้องให้มันพูดต่อเพราะผมรู้ว่ามันจะทำอะไร เลยพูดในสิ่งที่ ค้างคาอยู่ในใจมาหลายวัน..

"อาทิตย์ก่อนกูไปบ้านกายมันมา"

"อะแล้วยังไงต่อ"

"เออทีนี้กูก็กะจะไปเซอร์ไพรท์มันนั้นแหละ กะแกล้งให้มันตกใจเล่น กูก็เลยไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า "

"อ่ออันใหญ่ๆอะนะ "

"อือ"

"แต่มึงเข้าเรื่องสักทีได้มั้ยอะเอาแบบ จุดคลายแม็กอะไรงี้เลยอะ"ในเมื่อมันต้องการแบบนั้นผมก็เลยจัดคำพูดแบบเร่งรัดเอาให้เข้าใจกันไปในประโยคเดียวเลย

"พ่อ มันบอกให้กูกับมันเลิกกัน" ขนมที่ไอวินคีบกำลังจะเอาเข้าปากหล่นลงพื้น หลังจากที่จบคำพูดของผม.

"กูว่าไม่ใช่แค่เซ็งๆแล้วละ แล้วสรุปไอกายมันเอาไง"

"มันก็คงจะบอกเรื่องนี้กับกูนั้นแหละแต่กูยังไม่พร้อมฟังวะ"

"แล้วมึงจะเอาไงต่อจะบอกมันหรือจะให้มันบอกมึง"คำพูดของไอวินทำให้ผมต้องย้อนกลับมาคิดตาม

"กูไม่รู้วะ กูกลัว..."

"แต่ถ้ามึงไม่พูดมันก็ไม่รู้นะเว้ย มึงมั่นใจหรอว่ามึงจะทนฟัีงคำพูดพวกนี้จากปากไอกายมันได้อะ"

". . ."ถึงจุดๆนี้ผมถึงกับสะอึกเมื่อโดนความจริงกระแทกใส่หน้าเข้าอย่างจัง

"ให้กูแนะนำนะ กูว่ามึงควรเป็นฝ่ายพูด.. เพราะถ้ามึงเอาแต่คิด คนเดียวแบบนี้มึงจะหาวิธีรับมืออะไรไม่ได้เลย.."ผมนั่งคิดตามถึงคำพูดของไอวินเมื่อเย็นจนตอนนี้ผมกลับมาที่บ้านแล้วคำพูดของมันก็ยังคงลอยอยู่ในหัวผมซ้ำไปซ้ำมา..

ติ้ง...เสียงข้อความจากแมสเซนเจอร์ดัง ผมหยิบ ไอโฟนขึ้นมาดูก็เห็นชื่อของคนที่ทักผมมา

"กาย"

"เก็บกระเป๋ารอเลยนะ อีกครึ่งชั่วโมงจะไปรับ"กายส่งมาแค่นี้แล้วมันก็เงียบหายไป..เอาเข้าจริงๆผมเอาแต่เครียดจนเกือบลืมเรื่องที่เราจะไปเที่ยวหลังจบกีฬาสีกันไปเลย ผมไม่รอช้ารีบเก็บเสื้อผ้า ที่จำเป็น ใส่กระเป๋าก่อนจะเดินลงไปรอทีีด้านล่าง ไม่นานนัก เมอซิเดส คันใหม่เอี่ยมก็มาจอดอยู่ที่หน้าบ้านผม ผมรีบสะพายกระเป๋าพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะก้าวเดินออกไปที่หน้าบ้าน... วันนี้แล้วสินะ..วันที่ผมต้องพูดความจริง...

กายขับรถออกมาเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้ปริปากพูดอะไรสักอย่างผมเองก็ไม่ได้ถามและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะไปที่ไหนกัน..

"กูเห็นช่วงนี้ มึงบ่นร้อนๆ เลยจะพาไปที่เย็นๆซะหน่อย"กายที่เงียบมาตลอดทางพูดขึ้น ผมหันไปมองมันที่หันมามองผมอยู่ก่อนแล้ว.

"กาย..."ผมใช้มือข้างนึงยื่นไปจับมือของมันที่จับพวงมาลัยรถไว้อยู่ กายมันก้มลงมามองก่อนจะหันไปมองทางด้านหน้าต่อ

"มีอะไรรึเปล่า.."กายมันถามโดยที่ไม่ได้มองหน้าผม

"คือ.."ความกล้าที่ผมเตรียมมามันลดเหลือศูนย์แทบจะทันทีในตอนที่เห็นสายตาหงอยๆของมัน

"หืม.."

"เอ่อ...กูปวดฉี่อะ...แวะปั้มข้างหน้าทีดิ"เอาเข้าจริงๆใจผมไม่กล้าพอวะการที่คนเราจะพูดประโยคๆนึงนี้มันต้องใช้ความกล้ามากขนาดไหนกันนะ แต่สำหรับผมแล้วมันคงจะเยอะมากพอควร...

กายมันตบไฟเลี้ยวเข้าที่ปั้มข้างทาง ก่อนจะหาที่จอดใกล้ๆกับร้านสะดวกซื้อ ผมเองก็ปลีกตัวมาเข้าห้องน้ำส่วนกายก็วิ่งหายไปในร้านสะดวกซื้ออยู่นานสองนานกว่าที่มันจะกลับมาผมก็พล้อยหลับไปคาที่นั่งคนขับรู้สึกตัวอีกที ประตูรถก็ถูกเปิดออกพัดโชย กลิ่นอายทะเลเข้าจมูกผมเต็มๆ หือ..ทะเล....ทะเลงั้นหรอ..

ผมค่อยๆลืมตามองดูพื้นที่รอบๆ แล้วมันก็ใช้อย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย ชายหาด และทะเล. .

"ตื่นแล้วหรอ."กายที่นั่งเอาหลังพิงประตูรถอยู่ยื่นหน้าเข้ามาถามผม

"อื้อ.ตอนนี้เราอยู่ส่วนไหนของโลกวะ"ผมบิดขี้เกลียดหลังจากตื่นนอนก่อนจะเอ่ยปากถาม

"บางแสน"

"แล้วเราจะไปไหนกัน จะ อยู่ตรงนี้ทั้งวันเลยเหรอ.."จะว่าไปเวลาตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้วแสงแดดสีส้มๆค่อยๆอ่อนลงและมีความมืดเข้ามาแทนที่ ลมพัดเย็นๆหอบเอากลิ่นอายทะเล ทำเอาคนที่ได้กลิ่นถึงกับรู้สึกดี..แต่นั้นก็แค่แปปเดียวเพราะเมื่อรู้ถึงเหตุผลของการมาในครั้งนี้ ผมถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ . ..  ไม่ว่ายังไงวันนี้ผมก็ต้องพูดสิ่งที่ ค้างคาอยู่ในใจให้ได้

"ที่พักอยู่แค่ข้างหลังมึงเอง..นั่งอีกสักแปปก็ได้ "กายมันชี้นิ้วไปที่โรงแรงขนาด ไม่เล็กไม่ใหญ่มากแต่ก็มีสภาพที่ดูดี

"ตามนั้นละกัน. . . ."หลังจากนั้นผมกับกายเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก ได้แต่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปจนถึงหัวค่ำนั้นแหละถึงได้กระตือรือร้นไปหาที่พักกัน ผม เลือกห้องชั้น บนสุด ห้องที่เลือกก็ไม่ได้ใหญ่มาก แต่รวมๆแล้วถือว่าดูดีในระดับนึงผมเก็บข้าว ของไว้ที่หัวเตียงก่อนจะผลัดกันไปอาบน้ำ และเดินออกไปแถวชายหาดเพื่อหาอะไรกินกัน..

"มึงอยากกินอะไร"คนตัวสูงกว่าที่กำลังเดินจับมือผมเอี้ยวคอลงมาถาม

"แล้วแต่มึงอะวันนี้มึงตามใจกูมาทั้งวันแล้วอะ"กนตัวสูงส่งยิ้มเล็กๆ นับว่าเป็นรอยยิ้มที่หาได้ยาก ตั้งแต่ผมรู้จักกับมันมา กายมันเป็นคนที่ยิ้มยาก ชอบทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลา เวลาโกรธหรือโมโหก็ไม่ชอบให้ใครมาขัดใจ ชอบทำอะไรตามใจ ตัวเองแถมพอเวลาอยู่กับผมมันยังชอบงี้เง้า ในหลายๆครั้งที่ผมไม่ยอมทำตามในสิ่งที่มันต้องการ มันก็จะเงียบ..และจะเป็นฝ่ายรอให้ผมมาตามง้ออยู่ตลอดแต่บางครั้งที่ผมโกรธมันก็แทบจะทิ้งทุกอย่างเพื่อมาตามใจดูแลเอาใจใส่ผม และถ้าลองกลับมาคิดๆดูแล้ว สิ่งที่ผมทำมัน คงยังไม่ได้เศษเสี้ยว ของสิ่งที่กายมันมอบใก้กับผมเลย

ผมเดินจับมือกับคนตัวสูงมาตามแนวถนน ผู้คนมากมายยังหลั่งไหล่ เดินกันตามท้องถนน บริเวณข้างทางก็มีร้านค้าของกินมากมายยังเปิดอยู่ เหล้านิสิทนักศึกษามหาลัย... ก็ยังเดินกันเป็นกลุ่มมอบรอบยิ้มให้กับคนข้างๆอย่างมีความ สุข แต่พอย้อนกลับมานึกคิดถึงเหตุผลที่ตัวผมเองมาที่นี้ รอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของผมก็หุบลงในทันที. .

"กาย กูไม่หิวแล้ววะ กูว่าเราไปนั่งเล่นที่ ตรงนั้นดีกว่า"ผมชี้นิ้วไปตรงมุมดีๆ ที่มี ผืนทรายกว้างๆเหมาะแก่การนั่งชมวิวในยามดึกแบบนี้ คนตัวสูงก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรยอมเดินตามผมมาหามุมดีๆนั่ง ชมวิวบรรยากาศกันไป

"กาย.."ทันทีก้นถึงพื้นผมก็รีบตั้งคำถามทันที"

"หืม"มันส่งยิ้มที่มีความสุขก่อนจะหันมามองผม..

"เอ่อ..คือ.." มึงจะปอดไม่ได้นะเจ มึงมาถึงนี้แล้วยังไงมึงก็ต้องพูด...ผมพึมพัมกับตัวเองในใจก่อนจะถอนกายใจเฮือกใหญ่พร้อมกับเปร่งคำพูดบางคำของมา..

"คือ.กูว่านะ...เรา..."

"นี้.."จู่ๆคนตรงหน้าก็พูดขึ้นแทรก และผมก็สัมผัสได้ถึงโลหะเย็นๆที่ลอดผ่านนิ้วนางผมไป..ผมกเมลงมองที่มือสลับกัับมองหน้ามัน..บนแหวนวงนั้นสลักชื่อเป็นตัวอักษรย่อๆว่า G&J. .

"กาย..."ผมพูดไม่ออก ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าในหัวเมื่อกี้ปมกำลังคิดอะไรอยู่ความคิด หลายๆอย่างมันสับสนปนเปกันไปหมดผมลืมไปแล้วว่าต้องทำอะไร และคำพุดที่เตรียมไว้ก็มลายหายไปพร้อมกับคลื่นทะเลหวิวๆนั้น

"มึงเป็นคนสำคัญในชีวิตกูแล้วนะ.."พูดจบคนตัวสูงก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับสัมผัสที่อ่อนโยนในตอนที่ริมฝีปากของเรากำลังกยอกล้อกัน มันไม่ใช่แค่จูบแบบธรรมดาแต่มันเหมือน แอบซ่อนความรู้สึกบางอย่างผ่านริมฝีปากนั้นเข้ามาด้วย...ผมไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่และไม่รู้ว่าจะมีใครเห็นเราสองคนไหม แต่สิ่งนึงที่ ผมอยากจะขอ คือ ขอให้ ความรู้สึกที่ผมมีให้คนตรงหน้าในตอนนี้มัน จะยังมั่นคงต่อไป...ถึงจะยังไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดตอนไหน..แต่ผมก็อยากจะมีมันอยู่แบบนี้ไปอีกนานแสนนาน และถึงแม้วันใดวันนึงที่ผมไม่ได้มีมันอยู่เคียงข้างแบบนี้แล้ว แต่ผมก็สัญญาว่าผมจะมีให้มัน..และมันแค่คนเดียวตลอดไป. . . ..

เราใช้เวลาสามวันในการพักผ่อนมีความสุขอยู่ที่ชลบุรีจนลืม คิด ไปว่า... เรื่องราวที่มันกำลังจะเกิดขึ้นต่อจากมันมันจะลงเอ่ยเช่นไร. . .

ผมรีบกลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายแก่ๆ เหตุเพราะพี่อินโทรตามบอกว่ามีคนมาหาผมที่บ้านซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใครเหมือนกัน  กายเองก็รีบกลับ หลังจากที่ส่งผมถึงที่บ้านผมเองก็ไม่รอช้ารีบบึ่งวิ่งหน้าตาตื่น เข้าไปในร้าน แต่แล้วการกระทำทุกอย่างของผม ก็ถูกหยุดลงเพียงเพราะสายตาทั้งสองข้าง ดันไป ปะทะ กับ ใครคนนึงเขา

"คุณพ่อกาย"...รอยยิ้มที่เตรียมมาจะต้อนรับทุกคนในบ้าน ถูกดับลงในทันที

"มาแล้วหรอ เจ มานั่งนี้สิเดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำมาให้นะ"เป็นพี่อินที่เดินมาทักผมและบอกให้ผมรีบไปนั่งใกล้ๆกับคุณพ่อของกายที่ฝบหน้าวันนี้ ช่างดูเคร่งเครียดจนผมเองไม่กล้าจะเอ่ยปากพูดอะไร และทันทีที่พี่อินเดินไปคุณพ่อของกายก็เอ่ยปากถามผมขึ้น..

"เธอใช่ มั้ย ที่ชื่อเจ . .."ผมไม่รู้ว่าคุณพ่อกายจะลืมรึเปล่าว่าเราเคยเจอกันแล้วแต่คำพูดในวันนี้มันดูเหินห่างแปลกๆเหมือนท่านจงใจพูดให้ผมรู้สึกแบบนั้นเองกันแน่

"ค..ครับ"ใจผมเต้นแรงตาขวามกระตุกอยู่หลายที

"เรื่องของเธอกับลูกชั้น"เหมือนอากาศหายใจรอบตัวผมมันค่อยๆลางหายไป..ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาปิดกลั้นลมหายใจของผม ..และมันกำลังทำให้ผมหายใจไม่ออก

"ชั้นรู้เรื่องหมดแล้วนะ"ใบหน้าท่านดูเคร่งเครียดหนักกว่าเก่า

"คุณพ่อ..ครับ...ผมขอ..."

"ไม่ต้องมาขอโทษชั้น เธอปล่อยให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง..."ผมได้แต่แต่นิ่งเงียยไม่รู้จะตอบคำถามอะไรให้ท่านฟังดี..แน่แล้วอยู่ๆน้ำใสๆก็ไหลอาบนองข้างแก้มผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

"ผมขอ..ฮึก..โทษ..ครับ.."สาบานได้ผมคิดคำพูดไหนไม่ออกนอกจากคำนี้เลยจริงๆ

"บอกแล้วไงว่าอย่า พูด ที่ชั้นมาในวันนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะมาฟังคำขอโทษจากเธอหรอกนะ..แต่ที่ชั้นมา..ก็เพื่อทำใก้เรื่องวุ่นๆพวกนี้มันจบลง...."ผมอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก ร่างกายปมลงไปคุกเข่าอยู่กับพื้นโดยอัตโนมัติ และไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงต้องคลานเข้าไปกอดเข่า ของคนตรงหน้าผมกับอ้อน วอนขอให้ท่านเห็นใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น..ท่านไม่ได้ปัดหรือผลักผมออก..แต่ท่านเลือกที่จะเงียบและพูดในสิ่งที่ท่านตั้งใจจะบอกผมออกมาเสียงดัง..

"ถ้าเธอรู้สึกผิดกับเรื่องนี้จริงๆก็จบเรื่องนี้ซะ อย่ายืดเยื้อต่อไปเลย เธอก็รู้ว่า ชื่อเสียงวงตะกูลของชั้นมันจะเสื่อมเสียแค่ไปนถ้ารู้ว่าลูกชายเพียงคนเดียว ของบ้าน เจริญเกียรติพานิช มีแฟนเป็นผู้ชาย..เธอไม่คิดบ้างหรอว่าชั้นจะ ทนอยู่ให้เขาประนามว่า
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :44〗〖29/10/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 29-10-2017 15:01:12
มีลูกชายเป็นพวกผิดเพศ รึยังไง "ผมได้แต่ก้มมองพื้นไม่กล้าสบตาหรือแม่จะเอ่ยปากท้วงอะไร คงเป็นเพราะความจริงที่มันกระแทกเข้าใส่ . . มันทำผมจุกจนพูดอะไรไม่ออก

"ถ้าเธอรักลูกชายชั้นจริง ก็ปล่อยให้เขาได้มีชีวิต แบบที่มันควรจะเป็นเถอะ.."คำพูดเหล่านี้ลอยอยู่ในหัวผมไปมามันเหมือนกระสุนที่แหลมคมคอยวนเวียนทิ่มแทงหัวใจผมซ้ำไปซ้ำมาจนแทบไม่เหลือชิ้นดี

"และมีอีกเรื่องที่เธอควรรู้ไว้."ผมเงยหน้ามองบุคคลตรงหน้าที่เขากำลังก้มหยิบเอกสารซองสีน้ำตาลก่อนจะยื่นมันให้กับผม

". . . . . " เหมือน ความคิดต่างๆในหัวผมมันขาวโพลนไปหมดเมื่อเพ่งเล็กถึงข้อความในเอกสาร

"ถ้าเธอเลิกยุ่งกับลูกชายชั้น เรื่องต่างๆในเอกสารนี้ชัิ้นจะจัดการให้ ทั้งหมด..เธอมีสิทธิที่จะเลือกนะว่าจะรับความหวังดีของชั้นไว้รึเปล่า แต่ถึงเธอไม่รับ ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม.."นั้นก็หมายความว่าต่อให้ผมจะเห็นด้วยกับในเรื่องนี้มั้ยแต่สุดท้ายผมกับกายเรา ต้องเลิกลากันไปอย่างนั้นหรอ... คำพูดที่ดูเหมือนจะมีทางเลือกของเขาเล่นทำเอาในหัวผมหมุนไปหมด...และก่อนที่ คุณพ่อของกายจะเดินจากไปก็ยังทิ้ง ยาพิษขวดสุดท้ายไว้ให้ผมตัดสินใจว่าจะดื่ม หรือ จะทนความทรมาน ต่อไป. . ..


การด์สีชมพูใบสวยกลิ่นหอมอบอวล ชวนให้เปิดอ่านและข้อความตัวอักษรสีทองในนั้นก็เชิญชวนให้ผมหยิบขวดยาพิษตรงนี้กลืนลงคอไป. . .


ชื่อของคนที่ผมรัก สลักอยู่  พร้อมกับชื่อของใครอีกคนนึงที่ผมไม่รู้จัก. . .

"มงคลสมรส" หยดน้ำใสๆมหาสารกำลังนองอยู่บนหน้าของผมเหมือนเขื่อนแตก..ผมเก็บเสียงสะอื้นเอามือป้องปากได้พักนึงก็ต้องเอามือออกกอบโกยอากาศ เพราะเริ่มสะอื้นหนัก จนแยกไม่ ออกว่าเสียงไหนคือเสียงของลมหายใจกันแน่

กว่าจะรู้ตัวอีกทีในห้อง ก็เหลือผมเพียงแค่คนเดียวพี่อิน ทีป่พึ่งเดินเข้ามาใช้มือแตะที่ไหล่ผมเบาๆก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ

"ไม่เป็นไรนะ พี่ยังอยู่ตรงนี้" ไม่รอช้าผมรีบกรู่เข้ากอดคนตรงหน้าอย่างไม่คิดจะอายหรือปิงบังอะไร..เสียงสะอื้นดักกึกก้องไปทั่วห้อง ผมวางหน้าไว้กับบ่าของพี่อินที่คอยนั่งลูบหลังให้กับผมอยู่นานสองนาน. .

"เจ..พี่มีเรื่องจะบอก.."หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยปากขึ้นท่ามกลาง ความเงียบ

คนที่นั่ง สะอื้น ต้องรีบเช็คคราบน้ำตาที่แก้มทั้งสองก่อนจะดันหน้าของตัวเองออกมาเพื่อรับฟังสิ่งที่หญิงสาวกำลังจะพูด. .

"ตอนนี้ พ่อ กับพี่ชายของเจ ..." คนที่ได้ยินชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยปากพูดกลับ

"ถ้าเป็นเรื่องที่บ้านเราติดหนี้สิบกว่าล้าน ผมรู้แล้ว "คนเป็นพี่ถึงกับแสดงสีหน้างงๆออกมา ว่าทำไมเขาถึงรู้เรื่องนี้ได้

"แต่เจไม่ต้องเป็นกังวลนะ เดี๋ยวเรื่องนี้พี่กับเจมส์จะจัดการกันเอง " คนที่ฟังได้แต่นั่งเหม่อๆ เหมือนจะได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นพี่พูดแต่ในทางกลับกันแล้ว เขากลับ คิดถึงใครบางคนอยู่ยนลืมสนใจ เรื่องตรงหน้าไป

และในที่สุดเวลาที่ เจ้าตัวรู้สึกกลัวที่สุดก็มาถึง . . . วันนี้เป็นวันที่่ท้องฟ้าสดใส ช่างแตกต่างกับจิตใจของเขาที่มันเริ่มหม่นหมอง ตั้งแต่ ช่วงเช้ามา เขาเดินทาง ไปที่บ้านของคน ที่รักเพื่อหวังจะพูดบางสิ่งบางอย่างให้ฟัง แต่พอ ไปถึง กลับต้องชะงัก เมื่อ เรื่องที่เขาเตรียมมาพูดถูกพูดถึงจากผู้เป็นพ่อ

" ไม่ครับยังไงผมก็จะไม่ยอมเลิกกับเขาเด็กขาด" ผู้เป็นลูกพูดต่อล้อต่อเถียงเสียงดังกึกก้องทั่วบริเวณ

"นี้แกจะดึงดันไปถึงเมื่อไหร่ แกก็รู้ว่าต่อให้แกต่อต้านยังไงเรื่องของแกมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่ดี "ผู้เป็นลูกถึงกับเงียบเถียงอะไรไม่ออก สีหน้าดูเศร้าซึมบ่งบอกถึงความผิดหวังและหดหู่จนเห็นได้ชัด ส่วนคนที่แอบฟังความรู้สึกคนไม่ต่างกัน

และในเวลาต่อมาไม่นานนักคำพูดคำนึงก็ถูกเอ่ยออกมาจาดปากของผู้เป็นพ่อเล่นทำเอาคนที่ยืนแอบฟังต้องรู้สึกสั่นๆข้างในอก

"ถ้าแก บอกกับชั้นว่าแกจะเลิกยุ่งกับเด็ก คนนั้น แกก็ยังมีสิทธิในบ้านหลังนี้เหมือนเดิมทุกอย่างแต่ถ้าไม่แกก็เตรียมเก็บข้าวของๆแกออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วอย่ากฃับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีกเด็ดขาด" คนยืนแอบฟังถึงกับน้ำตาคลอร้องไหสะอึกสะอื้นเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้มาอินประโยคที่แหลมคมขนาดนี้

ภายในห้องบานกระจกถูกความเงียบเขาแทรกซึมในทันที หลังจากที่จบประโยค พูดเสียงปึงปังเสียงดังแสดงให้เห็นว่ามีใครคนนึงเดินออกจากห้องไปแล้ว ซึ่ง แน่ใจได้ว่าคนที่เดินออกไปนั้นต้องไม่ใช่คนที่เขารักแน่ๆ จึงได้ทิ้งตัวลงนั่งกอดเขาร้องไหเป็นเพื่อนกับคนที่อยู่ภายในห้องประจกสีใส พร้อมกับเสียงสะอื้นที่รอดผ่านออกมาจากด้านในบานกระจกนั้น. .

เวลาผ่านไปหลายชั่ว โมง  เขากลับมาตั้งหลัก ที่บ้านอีกครั้งด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว พร้อมคิดหาวิธีรับมือแต่ไม่ว่าจะคิดยังไง เขาก็ไม่สามารถ คิดหรือหาหนทางที่จะนำพาคนรักไปถึงปลายทางได้เลย แน่สิ่งหนึ่งที่คอยตอกย้ำในความคิดของเขาอยู่ในใจก็คือ . . .

"ครอบครัว" เขารู้ถึงความหมายมันดี ว่าการมีครอบครัวนั้นมันสำคัญมากแค่ไหร และถ้าความรักของตัวเขามัน จะทำลายความรักของครอบครัวอีกฝ่าย เขาก็คงจะทนนิ่งอยู่เฉยไม่ได้ และสิ่งๆนึงที่พอจะทำได้ คือ ตัดใจ จาก ีฝ่าย. .  แต่แค่การพูดมักง่ายกว่าการกระทำเสมอ เขารู้ตัวดีว่าตัวเองกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ ถึงแม้การกระทำเหล่านั้นจะเหมือนเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองก็ตาม. . .
TBC. . .
 :katai4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :44〗〖29/10/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-10-2017 23:07:06
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :45〗〖31/10/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 31-10-2017 14:02:42
Chapter:45 ฝืนใจ

เช้าวันถัดมา ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับถูกเมฆสีทึบบดบังแสงตะวันที่คอยสาดส่องแสงสว่างในช่วงเช้า กลุ่มเมฆสีดำที่ลอยไปมาบ่งบอกได้ถึงหยาดฝน ที่อาจจะล่วงหล่นลงมาในอีกไม่ช้า

วันนี้้เป็นวันที่เขาเองต้องทำบางสิ่งบาง ที่ขัดแย้งต่อจิตใจของตนเองและถึงแม้ จะพยายามหักห้ามใจไม่ให้ทำเช่นไร ภาพของคนที่เขารักก็มักจะลอยเขามาอยู่ในระบบโสตประสาทเสมอ การ อยู่ตัวคนเดียว ไร้ซึ้งคนสนิทรอบตัว หรือครอบครัว เขาเข้าใจดีว่าการขาดสิ่งเหล่านั้น มันเป็นเช่นไร และถึงแม้การตัดสินใจในครั้งนี้มันอาจจะทำให้ตัวเองต้องเจ็บมากเพียงไร . . .  เขาก็ไม่ อาจเห็นแก่ตัวแย่งอีกฝ่ายให้มาอยู่กับตัวได้

ก่อนเวลา ที่เขาจะเริ่มทำในสิ่ง คิดเกือบหนึ่งชั่วโมง เขาโทรหาเพื่อนสนิทคนนึงให้มาหาที่บ้านแต่ก็ไม่ได้บอกจุดประสงค์ที่แน่ชัดให้อีกฝ่ายรู้ . . .

ภายหลังจากวางสายเพียงยี่สิบนาทีเพื่อนสนิทคนใหม่ที่พึ่งรู้จักก็มาถึง เพื่อนสนิทหอบร้อยยิ้มที่มีความสุขเข้ามาฝากเจ้าของบ้านก่อนจะพูดทักทายด้วยใบหน้าที่อมยิ้ม

"ไง เร็วเหมือนเหาะมาเลยใช่ป่ะ ตกใจเนี้ย อยู่ๆก็โทรมา"คนเป็นเพื่อนสนิทส่งยื่นมือแตะบ่าเจ้าของบ้านพร้อมกับพูดหยอกล้ออีกเล็กน้อยก่อนจะเดินตามกันขึ้นไปบนห้อง. . .

เหลือเวลาอีกสิบนาที กว่าที่คนรักของเขาจะมา เขารู้ดีว่า กาย จะต้องมาตรงต่อเวลาแน่ๆเพราะตั้งแต่ผ่านช่วงเวลาร้ายๆมา กายก็เปลี่ยนเป็นคนตรงต่อเวลาเสมอ และยิ่งทั้งผมและกายยังมีเรื่องให้หนักใจกันมานานหลายวันแบบนี้ด้วย ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าของความคิดได้เลยว่า สิ่งที่คิด ไว้ จะไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน

อีกไม่กี่นาทีก่อนกายจะมาถึง

"อะตอม.. "เจถามเสียงเรียบเรียกเพื่อนสนิท ให้มานั่งอยู่ปลายเตียงใกล้ๆก่อนจะเริ่มพูด

"มีอะไรรึเปล่าทำหน้าเครียดๆ"คนเป็นเพื่อนใช้มืออังที่หน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ แต่ทุกอย่างกับดูเป็นปกติ

"อะตอม..."เขาเรียกชื่อเพื่อนของเขาอีกครั้งก่อนจะเริ่มพูดต่อ . . . มึงเคยบอกว่ามึงชอบกูใช่มั้ย "คนที่ฟังถึงกับนิ่งทำตัวไม่ถูกเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินคำถามที่ตรงไปตรงมาจากคนที่ตนเองชอบ

"ทำไม..อยู่ๆถึงถามขึ้นมาละ.." ระหว่างนั้นเองเสียงตึงๆที่บันไดก็ค่อยๆดังขึ้นและนั้นเป็นสัญญาณที่บ่งชัดถึงการมา ของบุคคล ที่ เขานั้น เฝ้ารอคอยให้มาเห็นภาพ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

"ถ้า..มึงชอบกู.. ช่วยจูบกูที"

"ห้ะ!"คนฟังถึงกับสติหลุด พยายามสบัดหัวแล้วฟังให้ชัดๆอีกครั้ง

"ให้ทำอะไรนะ.." ตึงๆ เสียงฝีเท้าเริ่มใกล้เข้ามาขึ้นถึง  จนในที่สุด เสียงของกลอนประตูก็ถูกเปิดออก เขาอาสัยจังหว่ะที่เพื่อนสนิทกับลังอึ้งๆ ดึงหน้าเข้ามากระชับริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกันด้วย ความรวดเร็ว ซึ่งทำเอาคนที่เดินมาใหม่ถึงกับ ยืนอึ้ง กับภาพที่เห็นตรงหน้า ภาพของคนที่เขารักสุดหัวใจกับลังนั่งจูบกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ซึ่งเขาไม่เคยรู้จัก..แต่สิ่่งหนึ่งที่แน่ชัดคือเขาอยากจะกระโจน เข้าไป ซัดหน้า ไอคนที่กำลังนั่งจูบอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว และเขาไม่รอช้าเขากำหมัดแน่และวิ่งกรู่เข้าจู่โจม คนที่นั่งอยู่ปลายเตียง . .

ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จน คนถูกต่อยตั้งตัวไม่ทัน แต่พอรวบรวมสติได้เขาก็กลายเป็นฝ่ายที่สวนกลับบ้าง เป็นอย่างนี้อยู่ นาน เล่น ทำเอาคนที่เห็นเหตุการ ซึ่งมีโรคกลัวความรุนแรงตั้งแต่วัยเด็กถึงกับหน้ามืด แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคองสติและรีบเดินคั่นกลางแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน

"นี้มันอะไรกันเจ.." กายถามออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดบวกกับอารมณ์ของเขาที่ร้อนระอุจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ

คนถูกถามได้แต่นิ่งเงียบ ก้มมองพื้นสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อทำบางสิ่งที่กำลังฝืนต่อใจของตัวเอง..

"ก็อย่างที่มึงเห็นแหละกาย.."จบประโยคคนที่พูดต้องกลั้นอารมณ์บางอย่างที่มันกำลังเอ่อล้นออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่เขาพยายามฝืนมันเอาไว้

"หมายความว่ายังไง"อารมณ์โมโหของกายลดน้อยลงขึ้นทันตา ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจ คนที่พึ่งจะต่อยไปแล้วแต่เขากำลังให้ความสนใจกับสิ่ง ที่คนรักกำลังพูดกับเขาเมื่อครู่อยู่. .

"กูมีคนอื่น..."เขาไม่อาจฝืนน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ได้อีกแล้วเขาปล่อยหยดน้ำเหล่านั้นให้มันไหลรินสองข้างแก้มแต่ยังคงเก็บเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตนกำลังเสียใจกับสิ่งที่ทำไปอยู่

"ไม่จริง..กูไม่เชื่อ .. มึงกำลังแหกตาอะไรกูอยู่เจ. ."กายไม่อาจทนนิ่งได้อีกต่อไปเขายื่นมือมาจับที่แขนอีกฝ่ายแต่ถูกสะบัดหลุดเขาจึง มองที่หน้าของคนรักอีกครั้งซึ่ง สายตาและ ท่าทียังคงนิ่ง จน คนที่ฉลาดมาตลอดแบบเขา ยังเดาทางไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่

"จะต้องให้กู จูบให้ดูอีกสักทีมั้ย มึงถึงจะเชื่อ. ."จบคำพูดเขาเม้มปาก แน่ เอนหน้าไปด้านข้างไม่ให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนเองกำลังฝืน พูดในสิ่งที่ขัดแย้งกับใจของตัวเองอยู่

กายที่พยายามจะ ยื่นมือไปสัมผัสเรียกร้องอีกฝ่ายให้หันมาอธิบาย กลับถูกโดนเมินเฉยใส่ จน เจ้าตัวถึงกับ ร้องไห ออกมาอย่างไม่รู้ ตัว กายไม่ใช่คนที่จะร้องไหกับเรื่องอะไรง่ายๆ ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยร้องไหแทบจะนับครั้งได้แต่คงไม่นับรวมครั้งนี้เพราะเขาไม่สามารถอธิบายสาเหตุที่ตนเองกำลัง ยื่นร้องไหอ้อนวอน อยู่ในตอนนี้ได้เลย ระหว่างที่โดนคนรักนอกใจ หรือโดนเมินเฉย แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ก็ล้วนเป็นเรื่องอ่อนไหวกับหัวใจ ของเขาทั้งนั้น

"บอกกูสิ..เจ.ฮึก..กูผิดอะไร..กูทำอะไรให้มึงไม่พอใจห.รอ.มึงบอกกูมาสิ..กูพร้อมจะปรับปรุงตัวนะ..ฮือ...แต่อย่าทำแบบนี้กับกูเลยนะ เจ... "กายยืนขอร้องพร้อมกับก้มลงไปกอดขาของคนรักอย่างหมดหนทางที่จะเหนี่ยวรั้งไว้ เขา ที่ยืนแซ้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ในอีกด้านนึงเขากำลังยื่นมือบึ้นมาป้องปากปิดเสัยงสะอื้นที่มันไม่สามารถเก็บไว้ได้อีกต่อไปแล้ว. . .

ไม่รู้ว่า เขา ยืนนิ่งๆโดยที่มี คนที่รักกำลังกอดขาของเขาพร้อมกับร้องไหแบบจะเป็นจะตายนี้นานเท่าไหร่แล้ว. .และไม่รู้ว่าตอนนี้ภายในห้องเหลือเพียงแค่เขาสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเพียงแต่คิดในใจว่า อยากจะรีบก้าวออกไปจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุดเพียงแต่แรงเกาะที่ขานั้นแน่นเกินไป สิ่งที่เขาทำได้เลยมีเพียงแค่ยืนนิ่งๆ สงบสติอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงก่อนจะเริ่ม แผนการขั้นต่อไป.. .

(ก่อนหน้าที่กายจะมาถึงนี้หลายชั่วโมง เขาได้โทรไป ตอบตกลงในสิ่งที่ ตนเองยังค้างคากับการให้คำตอบไปในตอนแรก อีก ฝ่าย พอได้ยินก็ดูจะพอใจกับคำตอบเป็นอย่างมาก  ฝ่ายผู้เป็นพ่อ พูดตกลงก่อนจะกดวางสายไป)

ไม่นาน นักเสียงรถยนต์หลายคัน ก็มาจอดเทียบท่าที่หน้าบ้านของเขา พร้อมกับบอดี้การด์จำนวน มาก ที่วิ่งกรู่เข้ามาภายในห้อง ทุกคนล้วนเห็นภาพที่เจ้านายของพวกเขากำลัง นั่งเกาะขาของใครอีกคนอยู่ แต่ก็ยืนนิ่งได้แค่พักเดียวก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาดึงตัว อีกฝ่ายให้ออกห่าง

ฝ่ายผู้เป็นพ่อ ยืนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเขาเห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่าง และถึงแม้การกระทำครั้งนี้มัน อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกของเขาเสื่อมลงไป แต่เขาก็ยังยืนยันและยินยอมที่จะยอมรับถึงผลที่มันจะตามมา เพื่อแลกกับ ความถูกต้อง แม้อาจจะมองหน้ากับลูกชายของตัวเองไม่ติดอีกต่อไปก็ตาม..

"ปล่อย..ปล่อยกูนะเว้ย...กูบอกให้ปล่อยไง..เจ..ช่วยพูดอะไรหน่อยสิ..."กายที่พยายามตะเกียดตะกาย พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำเอาคนที่ถูกพาดพิงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เพื่อฝืนไม่ให้ตัวเอง วิ่งไปรั้งแขนช่วยอีกฝ่ายเอาไว้

"พา กลับไป"เสียงพูดที่ดูน่าเกรงขามแค่เพียงเอ่ยเบาๆบอดี้กาดนับสิบก็รีบทำตามกันอย่างเร็วไว. .

เพล้ง!! เสียงของตกแตก ทำเอาคนที่กำลังยื่นเบี่ยงเบนความสนใจกับภาพตรงหน้าถึงกับต้องหันกลับมามอง ภาพของคนที่เขารักกำลังใช้นิ้ว จิกกับพื้นทีีมีเศษแก้วแตกอยู่โดยทั่ว เขาแทบจะสลัดทุกอย่างทิ้งและรีบวิ่งเข้าไปหา แต่ ก็มีคนตัวใหญ่อีกคนยืนขว้างทางเขาอยู่ รอยเลือดที่ยาวตามทางลงบรรไดใบทำเอาจิตใจของ เขารู้สึกเจ็บปวด เขาอยากจะรีบวิ่งลงไปดูอาการ ของคนรัก แต่แล้ว ก็มี ความคิดนึง ผุด ขึ้นมาให้ของตัวเขาเอง

ถ้าขืนยัง ตามไป สิ่งที่ทำมามันก็คงไร้ประโยชน์ สู้ ทนดู ปล่อยให้อีกฝ่ายคิดว่า ตนไม่มีใจให้แล้ว แบบนี้ มันน่าจะดูโหดร้ายกว่า คิดได้ดัง นั่น เขาจึงเดินถอยห่างจากคนตัวใหญ่ก่อนจะกลับมานั่งอยู่ที่ปลายเตียงพร้อมกับก้มหน้าคิดอะไรอยู่คนเดียว

"แกกลับไปก่อน..เดี๋ยวที่เหลือชั้นจัดการเอง"คนเป็นพ่อพูดบอกคนตัวใหญ่อีกคนก่อนจะเดินเข้ามายืนอยู่เหนือกัวและเริ่มพูดบางสิ่ง

"ที่เธอทำมันถูกต้องแล้ว.."คนฟังได้แต่เงียบไม่รู้จะตอบกลับไปว่าอะไร

"เรื่องหนี้สิ้นของบ้านเธอหน่ะ ชั้น.."คำพูดของคนที่สูงอายุกว่าหยุดชะงักเมื่อ เขาเริ่มเอ่ยขึ้นมาบ้าง

"ผมไม่ต้องการครับ..."อีกฝ่ายดูอึ้งๆไป

"เธอหมายความว่า.."คนสูงอายุยังคนถามต่อ

"ผมไม่ต้องการอะไรจากคุณทั้งนั้น.."

"หมายความว่าเธอจะไม่ให้ชั้นช่วยเหลือแล้วปล่อยให้ทรัพย์สินของเธอถูกยึดไปอย่างนั้นนะหรอ"คนฟังกลืนน้ำลายฝืดๆลงคอก่อนจะพูดตอบ

"ครับ".. คนสูงอายุ ยิ้มมุมปาก พร้อมกับคิด บางอย่างในใจ "อวดดีจริงนะ"

"ถือว่าชั้นให้โอกาส เธอ แล้วนะแต่เธอดันไม่รับมันเอง แล้วจะมาร้องไหเสียใจที่หลัง มันไม่ทันแล้วนะ"คนฟังได้แต่เงียบ..เพราะพูดอะไรไม่ออกในห้วดูตื้อไปหมด. .

และการสนทนาระหว่างเขากับคนสูงอายุก็จบลงและก่อนที่คนสูงอายุจะเดินออกจากห้องไป เขาก็ได้ขอบางสิ่งบางอย่างแทนสิ่งที่ สัญญากันไว้ในตอนแรก

"ฝากดูแล กายด้วยนะครับ ถ้าวันนึงเขาเกิดสงสัยเรื่องนี้ขึ้นมา คุณช่วยบอกเขาด้วย ว่าผม รับเงินของคุณมา ทำยังไงก็ได้ให้เขามองว่าผมเลว...ผมขอแค่นี้.."คนที่ได้ยินชะงักไปพักหนึ่งแต่ไม่ได้พูดต่ออะไรให้มากความ เขาเพียงแค่ชะงักหลังจากนั้นไม่นานเขาก็เดิน มาดนิ่ง ลงจากบ้านไป. . .

หลังจากที่ คนสูงอายุขับรถออกไป เขาก็ได้แต่นั่งคิดด้วยความไม่เข้าใจ ที่อีกฝ่ายไม่ยอมรับการช่วยเหลือแถมยังฝากให้ทำอะไรที่มันดู จะมีแต่เสียกับเสียให้ตัวของอีกฝ่ายเอง แต่ถึงกระนั้น เรื่องของ ลูกชายเพียงคนเดียวของเขาก็ถูกเข้าแทน ที่ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง นั้น ต้องเป็นไปด้วยความถูกต้องแม้มันอาจจะต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆอย่างก็ตาม

ในด้านของอีกฝ่าย ที่พึ่งจะมารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เขาได้แต่ก้มหน้าซุกไว้กับหมอนพร้อมกับสะอื้นออกมา จนหมอน ของเขาเปียกชุ้มไปด้วยหยดน้ำตามากมาย ในหัวของเขามีเพียงภาพของคนที่ตัวเองรัก..ภาพหลายๆอย่างที่เคยเกิดขึ้น มันค่อยๆแทรกซึมซ้อนทับกันอยู่ในหัว ภาพ ของเขากับกายที่มีความสุข ภาพ ของเขาในต้องหยอกล้อ หรือแม้แต่ตอนที่เขาสองคนทะเลาะกัน ล้วนถูกฉายซ้ำอยู่อย่างนั้นทั้งคืน จนในที่สุดร่างกายบองเขาก็ทนต่อความเหนื่อยล้าไม่ไหวและเผลอ สลบไปพร้อมกับหยดน้ำตาและความเสียใจที่ยังคอยตอกย้ำ อยู่เสมอ. .


เช้าวันถัดมา เขาตื่น ขึ้น มาโดยที่ไม่ต้องทีสิ่งเร้าใดๆ ในการทำให้ตื่นเลย เขาเพียงแค่ลืม ตา และ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงที่ว่า มันไม่มีอีกแล้ว. .  ข้อความแปลกๆทุกเช้าที่เขามักจะลุ้นอยู่เสมอว่าอีกฝ่าย จะส่งมาว่าอะไร เขาได้แต่นั่งยิ้ม พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่ออยู่ที่ดวงตา เขาได้แต่ภาวนาขอให้สิ่งที่กำลังพบเจออยู่ในตอนนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน แต่เศษแก้วต่างๆพร้อมกับรอยเลือดที่คาอยู่หน้าประตู นั้น  มันช่วย ตอกย้ำความจริงหลายๆอย่างว่าสิ่ง ที่เขา คิดนั้น มันตรงกันข้ามกับความคิดของเขาทั้งหมด. .


หลายวันผ่านไป เขาใช้ชีวิตเต็ดเตร่ ไม่สนใจสิ่งรอบข้างคำชวนหรือการสังสรรคอื่นๆ เขาเพียงแค่เข้าไปนั่งฟังผู้เป็นอาจารย์คอยสอนอยู่ในห้องแต่ เสียงต่างๆนั้นก็ลอยเขามาเพียงครู่ แล้วก็หายวับไป


หลายสัปดาห์ต่อมา เขาเริ่มเกิดอาการเหม่อลอย แม้ในใจ จะมีแต่ภาพหน้าของคนๆนึงอยู่ เขาก็ทำได้แค่เพียง นั่ง ซึม จมกับความคิด และ บอกย้ำๆซ้ำๆกับตัวเองว่า ม้นไม่มีอีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลงแล้ว.. จบลงด้วยน้ำมือของตัวเขาเอง

หลายครั้งที่เขาพยายามเดินไปตามสถานที่ต่างๆที่ตนเคยมากับคนที่รัก เพื่อหวังทดสอบ ความแข็งแรงของใจ แต่ ไม่ว่าจะลองกี่ครั้ง บทสรุปก็มาจบที่หยดน้ำตาเหมือนเคย เขาพยายามเลิกคิด พยายามเดินเลี่ยงแต่ยิ่งทำก็เหมือนยิ่งตอกย้ำให้ตัวเองเสียใจมากกว่าเดิม
พยายามเปลี่ยนร้าน อาหารอร่อยที่ไปกินด้วยกัน แต่สุดท้ายก็วนกลับมาที่เทปม้วนเดิมสิ่งเดิมๆยังคอยหลอนหลอนตัวเขาอยู่เสมอ บ่อยครั้ง ที่เขาจะเอาแต่นั่ง และละเมอพูดอยู่คนเดียว นึกภาพจินตนาการต่างๆเหมือนคนบ้า  หลายครั้ง ที่เพื่อนสนิทอย่างวินต้องมานั่งข้างๆ คอยนั่งอยู่ข้างๆคอยปลอบใจแต่เหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรเลย ให้ดีขึ้นมาเลย

พอนานเข้าอาการก็ยิ่งแย่ลง เขากลายเป็นคนเก็บกดไม่พูดไม่จาจนเพื่อนสนินหลายๆ คน ไม่อยากจะเซ้าซี้ปล่อยให้เขาได้ใช้เวลากับตัวเอง มากขึ้นตามคำแนะนำของวิน จนถึงตอนนี้ เขาก็ใช้เวลากับตัวเอง มาหลายเดือนแล้ว เป็นช่วงเวลาทีี่แสนจะทรมาน ร่างกายของเขาค่อยๆซูบผอมลงเป็นอย่างมาก ปกติเขาเป็นคนที่ตัวเล็กอยู่แล้ว แถมทุกวันนี้ยังกินอะไรได้น้อยลงอีกเลยยิ่งทำให้ร่างกายแย่ขึ้นไปอีก โรคต่างๆเริ่มตามมา หลายคนที่เป็นห่วงได้แต่คอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆเพราะไม่ว่าจะพูดยังไงอีกฝ่ายก็ไม่มีท่าทีตอบสนองอะไรเลย. .

 คนอื่นๆภายในบ้าน ก็พากันย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ทั้งพี่สะใภ้และน้องสาวของเขา เหลือก็เพียงแต่เขาที่ยังไม่ยอมตามไป เขาเพียงแต่บอก คนในครอบครัวว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเขาสามารถดูแลตัวเองได้อีกฝ่ายพอได้ยินแบบนี้ก็รีบแย้งขึ้นมาทันทีเพราะเขาเป็นเพียงแค้นักศึกษาคนนึงที่ยังเรียนไม่จบแถมงานก็ยังไม่มีทำ จะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนยันในความคิดตัวเอง ที่จะอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อ อีกฝ่ายเลยเหนื่อยใจที่จะบังคับและปล่อยให้เจ้าตัวทำตามที่ใจอยาก

ทั้งที่ความจริงแล้วในหัวของเขายังไม่มีวิธีรับมือกับสิ่งที่กำลังถาโถมเขามาเลยสักนิด. .

และในวันถัดมาก็มีบอดิ้กาด คนนึง ที่เขาคุ้นหน้า เดินเข้ามาเพื่อมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับเขา
ซึ่งในวันนี้เป็นวันปิดเทอม สั้นเพียงไม่กี่อาทิตย์ เขาเลยใช้เวลาอยู่ ในบ้านเพียงคนเดียว..

การด์ซองสีขาวถูกส่งถึงมือของเจ้าตัว  พร้อมกับชื่อที่ยืนยันถึงตัวผู้รับทำให้เขาแน่ใจแน่ๆว่ามันไม่ได้มาผิดที่แน่ๆ หลังจากที่บอดิ้กาดทำงานของตัวเองเสร็จก็ลับหายไปในทันที

เขาสูดหายใจลึกๆก่อยจะเปิดอ่านข้อความด้านในซอง
ทันทีที่เปิดกลิ่นหอมอ่อนๆก็ลอยเตะจมูก และในทันทีเขาก็รีบพลิกกระดาษอีกด้าน 
ก็ทำเอาร่างกายของเขานั้นแทบทรุดลงไปนอนกับพื้นการด์ใบเก่าที่เขาเคยเห็นเมื่อหลายเดือนก่อน ถูกฉายซ้ำอีกครั้ง พาเอาน้ำตาที่เหือดแห้งไปนานพลอยไหลซ้ำอีกครั้ง..เหมือน บุคคลทีีส่งมาต้องการที่จะตอกย้ำถึงจุดยืนของตรง เขาไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แน่ชัด แต่ในเมื่อ ส่งมาถึงที่แล้วเขาก็ควรที่จะไป ..แต่เหตุสำคัญที่เขาไปเหตุผลมีเพียงใบหน้าของคนที่เขารักเพียงเท่านั้น

เขาได้แต่พึมพัมบอกตัวเองพร้อมกับล้มตัวกอดการ์ดใบนั้นทั้งน้ำตา

"อย่างน้อยขอเห็นหน้าสักครั้งก็ยังดี" และถึงแม้การไปในครั้งนี้จะเปรียบเสมือนการแขวนเชือกผูกคอตัวเองก็ตามแต่อย่างน้อยขอแค่ให้ได้เห็นหน้าคนที่เขารักอีกสักครั้งแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ

TBC . .

จะพยายามมาต่อให้เร็งนะครับขอโทษที่หายไปนาน

ปล.การบอกเล่าเกี่ยวกับตัวละครอาจจะเปลี่ยนไปเป็นอีกมุมมองนึงหว้งว่า ผู้อ่าน จะไม่สับสนกันนะครับ ที่อยู่ๆก็เปลี่ยนแบบดื้อๆ  :katai4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :46〗〖05/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 05-11-2017 13:51:51
Chapter:46 สองปีที่ยากลำบาก. .

หลังจากวันที่ผมพยายามข่มใจไปงาน แต่งงานกระทันหันในวันนั้น ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วสองปี แต่ความรู้สึกของผมในวันนั้นมันยังตามติด มาจนถึงปัจจุบัน ภาพของชายหนุ่มและหญิงสาวที่ผมรู้คุ้นเคยเมื่อไม่นานมานี้ เธอได้มีโอกาสนั่งข้างๆกับคนรักของผม เธอดูมีความสุขจนออกนอกหน้าซึ่งต่างกับผมราวฟ้ากับเหว เพราะ ทั้งหน้าของผมกลับเต็มไปด้วยหยดน้ำตาแทนที่จะเป็นร้อยยิ้ม แสดงความยินดีแทน

ผมไม่อาจอยู่ต่อจนงานจบได้เพราะรู้ดีว่าจิตใจของตัวเองยังไม่พร้อมที่จะมาเจออะไรแบบนี้ ผมเลยได้แต่เลี่ยงแขกผู้มาร่วมงานที่ยืนแออัดกันอยู่ด้านใน และก่อนที่ผมจะไปก็ไม่ลืมที่จะเขียนอะไรบางอย่างลงไปในกระดาษโน๊ตสีขาวหย่อนใส่กล่องที่วางอยู่หน้างาน


ภายหลังจากที่ผมเรียนจบมาผมก็ปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียวได้เกือบปีแล้วผมเปลี่ยนเบอร์ ลบโซเชียลทุกอย่างที่ตัวเองเคยมี เหตุผลเพราะไม่อยาก ยุ่งเกี่ยวกับใครผู้คนรอบตัวต่างพากันแสดงความยินดีให้กับคู่บ่าวสาว คงจะมีก็แต่ผมคนเดียวนี้ละ ที่ ไม่ได้มีความรู้สึกยินดี ให้กับทั้งคู่เลย. .


และในตอนนี้ก็เป็นเวลาสองปีเต็มๆ ที่ผมกับกายเราสองคนต่างเลิกลากันไปใช้ชีวิตของตัวเองในเส้นทางที่เลือก
ผมเลิกหวังลมๆแร้งๆเรื่องที่เราจะกลับมาคบกันเพราะต่อให้กายนั้นยังไม่มีใครใหม่แต่ผม ที่เป็นฝ่ายบอกเลิกและเป็นฝ่ายที่ทำร้ายมันเองด้วยละก็ ไม่มีทางเลย ที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

แต่ถึงยังงั้น ผมก็ยังกล้ายืดอกยอมรับเลยว่า ในใจผม ความรู้สึกที่เคยมีให้มันก็ยังคงอยู่ไม่ได้น้อยลงไปเลยแต่ก็อย่างว่า ความรู้สึกของผมมันบอบบางเหมือนฟองอากาศเพราะไม่ว่าจะทำยังไงผมก็ไม่สามารถ ทำลายกำแพง ที่ตั้งตะหงาดอยู่ตรงหน้าได้เลย เพราะคนที่ผมกำลังสู้ด้วยไม่ได้มีเพียงคนรักเก่าของมันแต่ยังมีครอบครัวเข้ามาเกี่ยวด้วย

สองปีแล้ว ที่ผมใช้ชีวิตโดดเดี่ยวและว่างเปล่า ตั้งแต่จบมาผมพยายาม หางานทำเพื่อจะได้ใช้เวลาที่กำลังวุ่นๆนั้นลืมเรื่องราวแย่ๆที่ผ่านมาบ้าง แต่ เหมือนมันกลับยิ่งทำให้เรื่องราวทุกอย่างดูแย่ไปมากกว่าเดิม

ผมลองสมัครงานไปเกือบๆ สิบที่ แต่ก็โดนปฏิเสธกลับมาหมดเพราะผมมีผลงานไม่เพียงพอ ผมเริ่มรู้สึกท้อหมดกำลังใจไปหมด นับวันเงิน ที่ ป๊าโอนไว้ให้เพื่อให้ผมใช้เป็นค่าตั๋วเครื่องบินตามไปก็เริ่มร่อยหรอ การใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นไปด้วยรวามยากลำบาก ผมกลายเป็ยคนไม่มีเพื่อนเพราะเป็นฝ่ายขาดการติดต่อไปเองแม้แต่วินหรืออะตอม ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอผน้าใครซักคนเลยในตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

ช่วงสายๆของวัน ผมเดินออกมาจากหอพักโทรมๆ ราคาถูก เพื่อออกมาหาอะไรกิน ประทังชีวิต ระหว่างทางที่เดินสายตาผมก็พลอยเหลือบมอง ครอบครัว ของคนอื่นๆเขาที่เดินไปไหนมาไหนพร้อมหน้าพร้อมตากัน รอยยิ้มสดใสที่คนเหล่านั้นมอบให้กันทำเอาผมรู้สึกอิจฉา ทั้งๆที่เมือก่อน ผมเคยมีความสุขมากกว่านี้แท้ๆ แต่พอเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างก็เริ่มแปรเปลี่ยนไป. . ทุกสิ่งมันไม่เหมือนเดิมแล้ว


ผมเดินมาหยุดที่หน้าร้านโจ๊กปากซอย ผมมองหาที่นั่งใกล้ๆกับริมถนน พอเขียนออเดอร์เสร็จผมก็ไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะ. . ไม่นานนัก ก็มีน้องพนักงานเดินมาเสริฟโจ๊ก ให้ผมที่โต๊ะ

ผมนั่งลงมือทานโจ๊กที่อยู่ในชาม ด้วยความยากลำบาก แต่่ไม่ใช่เพราะผมพิการหรือไม่สมประกอบหรอกนะแต่มันเป็นเพราะตัวผมเอง ที่ฝืนกินอะไรลงคอไม่ได้เลยต่างหาก อาหารยังรสชาติเดิม เพียงแต่ มันเหมือนมีภาพซ้อนทับอะไรบางอย่างในอดีต ผมฝืนกินได้อีกไม่กี่คำก็ต้องรีบวางช้อนแล้วเรียกน้องพนักงานมาเก็บเงินที่โต๊ะ
จังหว่ะที่จะลุกออกจากร้าน น้องคนที่พึ่งจะเดินมาเก็บตังผม ก็วางถ้วยบัวลอยไว้ที่โต๊ะ ผมมองบัวลอยในชามสลับกับมองหน้าน้องงงๆ

"พี่ไม่ได้สั่งครับ"ผมรีบทักท้วงน้องเขาเพราะถ้าหากผิดโต๊ะจะได้ไม่โดนว่าเอา แต่น้องแกก็ยังรงยืนยิ้มให้ผมและเลื่อนถ้วยบัวลอยเหมือนเดิม

"ลุงโต๊ะนั้นบอกให้เอามาให้ครับ"ผมกันมองตามนิ้วที่น้องเขาชี้ไปก่อนยะไปหยุดที่ลุงคนนึง ผมมองลุงนิ่งๆสักพัก จนเริ่มนึกอะไรออก

ลุงคนนั้นคือคนที่ผมเคยเจอเมื่อสองปีที่แล้ว อยู่หน้าร้านโจ๊ก ผมจำได้ว่าวันนั้นลุงพาหลานสาวมาทานโจ๊กที่ร้านหน้าโรงเรียน ลุงเขาส่งยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร พร้อมกับลุกขึ้นย้ายโต๊ะจากหัวมุมมานั่งอยู่ตรงเก้าอี้ว่างๆข้างผมแทน

"ไงไอหนุ่มเพื่อนไม่ครบหรอเอ็งนะ"น้ำเสียงหยอกล้อยังขี้เล่นเหมือนเดิม มันจึงช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง

"ไม่ได้เจอหลายปีแล้วนะลุง สบายดีรึเปล่าครับ"ผมเป็นคนเปิดประเด็นชวนลุงเขาคุย ลุงเขาเองก็ไม่ได้ดูตึงเครียดอะไรที่ผมไม่ได้ตอบคำถามแกในตอนแรก


"เด็กสมัยนี้เข้าใจยากจริงๆ"ลุงแกพูดบ่นๆก่อนจะเมินหน้าไปมองรถที่ถนน

"มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าไอหนุ่ม "ลุงส่งเสียงเรียกผม ที่เอาแต่นั่งเหม่อยิ้มเก้อๆเหม่อมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เดินจับมือไปพร้อมกับพ่อและแม่ตัวเอง

"เปล่านิ่ครับลุง แล้วนี้ลุงไม่มีการไม่มีงานทำ รึไงถึงได้มานั่งซึมกระทืออยู่กับผมได้เนี้ย"ลุงแกหลุดหัวเราะนิดๆก่อนจะเป็นฝ่ายถามผมกลับมาบ้าง

"ว่าแต่เอ็งเถอะไอหนุ่ม มานั่งเศร้ากินข้าวคนเดียวให้ร้านเขาเสียบรรยากาศทำไมกัน"จบคำพูดของลุงผมถึงกับต้องรีบหุบยิ้มแล้วนั่งคิดตาม ว่าผมกำลังทำให้ร้านเขาเสียบรรยากาศรึเปล่า?

"นี่ไอหนุ่ม ลุงพูดเล่น ทำไมเอ็งต้องทำหน้าหมดอะไรตายอยากขนาดนั้นด้วย"เป็นอีกครั้งที่ผมไม่ได้ตอบคำถามฃุฃแต่เป็นฝ่ายที่ตั้งคำถามกลับไป

"แล้วไหงวันนี้ลุงมาคนเดียวละครับหลานสาวน่ารักๆ คนนั้นไปไหนซะแล้ว"

"ลุงไม่มีหลานหรอกไอหนุ่ม"คำตอบของลุงทำเอาผมแปลกใจ

"แต่ตอนนั้นผมยังเห็นลุงพาหลานสาวไปกินโจ๊กอยู่หน้าโรงเรียนอยู่เลยนิ่ครับ"

"อ่อนั้นลูกคนงานของลุงเอง ลุงทนเห็นเด็กมันอดๆอยากๆ ไม่ได้รู้สึกสงสารก็เลยพามาหาอะไรกินแทนพ่อแม่ของเด็กมันหน่ะ "งั้นบัวลอยถ้วยนี้ก็คงเป็นความสงสารของลุงอีกใช่มั้ยครับ ผมไม่เข้าใจว่าคนรอบตัวมองผมเป็นคนยังไงแต่สำหรับผมแล้ว ความสงสารที่เขามีให้มันเหมือน ต้องการที่จะตอกย้ำถึงจุดยืนของผมให้มันยิ่งดูแย่ขึ้นไปอีก

"ถ้าผมทำให้ลุงเกิดรู้สึกสงสารผมขอโทษนะครับ"ผมยืนขึ้นพูดพร้อมกับเดิน ออกจากโต๊ะเพื่อเดินไปจ่ายค่าโจ๊ก

"ทำไมเอ็งถึงมองโลกในแง่ร้ายขนาดนั้น "ลุงแกพูดสวนขึ้น ในตอนทีี่ผมเดินห่างจากโต๊ะเพียงไม่กี่ก้าว


"เพราะผมรู้ดีไงว่าโลกของความจริงมันเป็นยังไงผมถึงไม่อยาก สร้างโลกอีกใบขึ้นมาเพื่อคอยหลอกตัวเอง"

พูดจบผมก็เดินเอาเงินไปจ่าย  แม่ค้าคนขายโดยไม่รอเอาเงินทอนก่อนจะเดินออกมา ด้วยสีหน้าซึมๆ

พอกลับมาถึงห้อง ผมก็ล้มตัวลงนอน บนฟูกเก่าๆที่แข็งยังกับหิน แต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่า ผมนอนพื้นเป็นไหนๆ ผมนอนเอาหน้าซุกกับหมอนพร้อมกับระบายสิ่งที่อัดอั้นภายในใจออกมา พลอยเรียกหยดน้ำตาให้เอ่อไหลนองพร้อมกับหยาดฝนที่ค่อยๆสาดละอองเข้ามาในห้องที่ละนิดๆ

ผมฟุบอย่างนั้นอยู่นานจน หมอนใบสีขาวเปียกแฉะไปด้วยน้ำตาของผมเป็นวงๆ ผมพยายามควบคุมสติไม่ให้ตัวเองคิดมาก แต่เหมือนเรื่องต่างๆที่ผมพบเจอในแต่ละวันมันเอาแต่คอยตอกย้ำผมอยู่ซ้ำๆ จนผมไม่รู้ว่าจะหลีกเลี้ยงปัญหานี้ยังไงแล้ว

ผมเงยหน้านิ่งๆมองเพดานเก่าๆด้านบน พักนึงพร้อมกับหลับตาลงนึกถึงภาพความทรงจำ ความรู้สึกเก่าๆที่ตัวเองเคยมี เพื่อน บ้าน พี่น้อง หรือแม้กระทั่งคนรัก. . พอ นึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้นทีไร ผมก็แต่ยิ้มเหมือนคนบ้า แต่ก็ต้องรีบตื่นขึ้นมาซับน้ำตา พร้อมกับความจริงที่ว่า

มันไม่มีอีกแล้ว ช่วงเวลาเหล่านั้น

แต่ก่อนนั้นผมไม่เคยเชื่อ ไอเรื่องที่ว่า ความสุขของคนเรามันมีเวลาสั้นเพียงนิดเดียว จนเมื่อได้มาพบเจอกับตัวเองผมถึงเข้าใจ ว่าสิ่งที่เคยได้ยินมานั้นมันไม่ได้ผิดเพี้ยนไปเลยสักนิดเดียว

ผมสะดุ้งตื่นอีกทีตอนสิบเอ็ดโมงกว่า ด้วยอาการปวดท้องจนมันรู้สึกทรมานไปหมด ไม่รู้เป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยได้กินอะไรจนโรคกระเพาะถามหารึเปล่า แต่ในตอนนี้คือเจ็บปวดจนต้อง นอนขดตัวอยู่บนที่นอน ผมพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นเปิดดูกระเป๋าเป้เพื่อหายา ที่อยู่ในนั้น เพราะบางทีข้างในอาจจะมียาอะไรที่ช่วยบรรเทาอาการความเจ็บปวดนี้ให้มันลดลงได้บ้าง แต่ทั้งกระเป๋าผมกลับมีเพียงแค่ ยาลดไข้กับยาแก้อักเสบ เพียงไม่กี่เม็ด ผมหยิบขึ้นโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงสรรพคุณ ก่อนจะล้มตัวลงนอนใช้มือข้างนึงกุมไว้อยู่ที่ท้อง ก่อนจะพล้้อยหลับไปในระยะเวลาสั้นๆ กว่าจะมารู้สึกอีกทีก็ตอนช่วงบ่ายๆ
เพราะมีหยดน้ำหยดลงมากระทบกับหน้าผากผม เพดานที่ขึ้นตะไคร่บ่งบอกให้เห็นว่าสภาพมันคงเป็นอย่างนี้มานานมากแล้ว ผมหลับตาข่มความรู้สึกที่พูดไม่ออกนี้เอาไว้และแสดงหยดออกตาออกมาเป็นคำตอบแทน. เมื่อไหร่ความทรมาณพวกนี้ถึงจะหมดไปจากผมที

เวลาบ่ายสองกว่าๆผมแบงร่างที่แทบจะยืนไม่อยู่ออกมาหาอะไรกินเพื่อให้มีชีวิตรอดไปถึงวันพรุ่งนี้และอาจจะเป็นเพราะผมมัวแต่เหม่อลอยมองท้องฟ้าอยู่ตลอดจึงพึ่งสังเกตุว่าตอนนี้ตัวเองเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้าน ที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านของผม พร้อมกับจ้องมองข้าวของด้านในด้วยความแปลกตา จากร้าน กาแฟก็กลายเป็นร้านอะไรก็ไม่รู้ ผมไม่เข้าใจว่าผมเดินมาถึงที่นี้ได้ยังอาจจะเป็นด้วยเพราะความเคยชินหรืออาจเป็นเพราะ โชคชะตากำลังตอกย้ำความรู้สึกผมอยู่กันแน่ๆ ผมมองขึ้นที่ชั้นสอง ที่ๆเคยเป็นห้องนอนของผมแต่ในตอนนี้ไม่เหลือเค้าโครงเก่าแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด..ไม่เหลือเศษซากอะไรไว้ให้จดจำเลย ผมหัวเราะให้กับโชคชะตาของตัวเอง แบกร่างอันหนักหน่วงเดินข้ามถนนมาโดยมองแต่เพียงทางข้างหน้า ผมไม่สนเสียงคนที่ร้องตะโกนว่าอะไรผมต่างๆนาๆหรือแม้แต่เสียงแตที่บีบดังตลอดทาง ผมแค่อยากจะไป ไปที่ไหนก็ได้ ให้มันห่างไกลจากตรงนี้ซักที ผมเดินเผม่อลอยมาที่ทางฟุตบาตร ตรงข้ามของถนน แล้วก็นึกขำ ว่าทำไมรถพวกนั้นุึงไม่ขับชนผมให้ตายๆไปเลย ทำไมถึงต้องบีบแตร์ไล่ใฟ้ผมรู้ตัวด้วย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ

ฟุบ....  ระหว่างที่กำลังคิดถามว่าทำไมตัวเองถึงยังมีชีวิตอยู่ ผมก็เดินเข้าไปชนกับใครคนนึงเข้า ผมไม่ลืมที่จะพูดคำขอโทษ และพยายามเดินเบี่ยงไปอีกทาง
แต่คนเมื่อครู่ก็ยังเดินมาขวางที่หน้าผมดังเดิม

สงสัยเขาคงจะโกรธที่ผมเดินไปชน หรือบางทีเขาอาจจะโมโหก็ได้

'ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ' ผมพูดขึ้นโดยทีีไม่เงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้า แต่เข้าก็ยังนิ่ง ไม่ถอยและยืนอยู่ตรงจุดๆเดิม

"ผมรับผิดชอบอะไรให้ไม่ได้หรอกนะ...จบคำพูดผมรู้สึกว่าเสียงของตัวเองเริ่มสั่นๆ และในที่สุดผมก็สะอื้นมันออกมา ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงอ่อนแอ่นักกับแค่เรื่องบางเรื่อง ผมยัง อดทนฝืนมันไม่ได้เลย

'...ฮึก...เจ...' เสียงเรียกตรงหน้าทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง. ภาพบุคคบตรงหน้าทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน พี่ชายที่แสนดี คนที่คอยเต็มใจช่วยเหลือทุกครั้งในวันที่ผมยากลำบาก คนที่คอยช่วยผม โดยที่ไม่มีคำว่าสงสารเข้ามาเกี่ยวข้อง คนนั้นๆ....คือ พี่ริว

ผมเป็นฝ่ายสวมกอดพี่ริวพร้อมกับสะอื้นปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา  คนตรงหน้าของผมไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่ความรู้สึกและคำพูดของเขาถูกถ่ายทอดออกมา ที่อ้อมกอดที่รั้งตัวผมไว้หนี่ยวแน่น พร้อมกับเสียงสะอื้นเบาๆที่ดังตามมา
ผมเหมือนตัวเองมีเกราะกันกระสุนที่หน้าแน่นแถมยังมีกำแพงหนาอีกชั้นอยู่รอบตัวผม ๆสามารถเดินฝ่าดงกระสุนได้อย่างง่ายดายเพียงเพราะ ตอนนี่ผมรู้สึกสบายใจและโล่งใจ เหมือนกับผมได้เจอที่พักพิงสุดท้ายก่อน ที่ชีวิตของปมมันจะจบลง


พอได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นมาจนหมดมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง  ผมรู้สึกมึนหัวแปลกๆ ภาพของหญิงสูงอายุ ที่กำลังยืนจ้องมองผมพร้อมกับเอามือป้องปากนั้นคือใครกัน

ผมพยายามมองหน้า คนที้กำลังจ้องมองผมให้ชัดๆ แต่ ภาพตรงหน้ามันมัวมากเหลือเกิน มันเบลอ จนทำให้ผมเวียนหัวไปหมด

'อาเจ' เสียงเรียกชื่อผมที่ฟังดูคุ้นเคยผมอยากจะขานรับแต่เหมือนภาพตรงหน้าของผมถูกปกคลุมไปด้วยความมืดพร้อมกับร่างกายที่ถูกเหนี่ยวรั้งไว้ให้ยืนอยู่กับที่และ ฟุบ..........  ภาพตรงหน้าทุกอย่างมืดลงเหมือนช่วงเวลาที่ดูละครในโรงหนังจบ ผมมองไม่เห็นอะไรเลยได้ยินแค่เพียงเสียงที่ร้องเรียกผมหลายครั้งตามกันมา เพียงแต่ผม ตอบกลับไปไม่ได้เท่านั้นเอง ....

TBC. . . .
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Episode :46〗〖05/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-11-2017 00:01:24
 :L2: :L1: :pig4:

หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special part [riw] 〗〖07/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 07-11-2017 10:26:53
(พาทของริว)

ภายหลังจากช่วงที่ผมเรียนจบ ผมกลับมาที่บ้านพร้อมกับใบปริญญาที่ได้มาด้วยความภาคภูมิใจ ตลอดสามปีครึ่ง แต่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกหน่วงแปลกๆ เมื่อ นึกกลับไปว่า ผมจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว

ตลอดเวลาที่ผมเป็นนิสิทที่นี้มา ทั้งพ่อและแม่ก็คอยปลูกฝังให้ผมสนใจและมุ้งมั่นกับการเรียนเพียงอย่างเดียวและอย่าไขว้เขวกับเรื่องต่างๆที่อยู่รอบตัว

ผมเชื่ออย่างนั้นมาตลอด

ช่วงปีหนึ่งและปีสองผมใช้เวลากับการเรียนโดยไม่มีเวลาหยุดพัก จนเมื่อขึ้นปีสาม ทำให้เวลาว่างของผมมีมากขึ้น จากวันๆที่ต้องนั่งขลุกอยู่กับสมุดหนังสือทั้งวันก็ได้มา ทำความรู้จักเพื่อนๆที่คณะ มากยิ่งขึ้นรวมไปถึงรุ่นน้องในคณะอย่าง เจ

เจไม่เหมือนกับใครหลายผมที่ผมเคยรู้จักมา เจเป็นคนอารมณ์ดียิ้มแย้มตลอดเวลา อยู่ใกล้กับใครก็มักจะทำให้คนรอบข้างมีความสุขได้เสมอ (โดยเฉพาะผม)

ผมเคยมีน้องที่รู้จักกันและสนิทกันมากๆอยู่คนนึงแต่นั้นมันก็นานมาแล้ว เพราะความเข้าใจผิดในอดีต ทำให้ผมกับเขา ไม่กล้าที่จะมองหน้าหรือพูดคุยกันอีก. แต่แล้วก็มีอยู่วันนึงวันที่ผมไม่อาจลืมได้เลย วันที่ผมได้กลับมาคุยกับน้องคนสนิทอีกครั้งพร้อมกับปรับความเข้าใจกัน และพึ่งมารู้ทีหลังว่าเบื้องหลังความสุขในครั้งนั้น มีเจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

ผมมักจะถามกับตัวเองว่ารู้สึกยังไง กับเจหรือเปล่าแต่ก็เหมือนมีอะไรคอยมาบังความรู้สึกนั้นไม่ให้มันเอ่อล้นออกไป กว่าที่ผมจะทำใจยอมรับได้ว่าชอบ  น้องเขา มันก็สายไปซะแล้ว

เขามีเจ้าของแล้ว คนๆนั้นก็คือกายน้องคนสนิทของผมเอง

และต่อให้ผมจะรักหรือชอบเจมากแค่ไหนผมก็ไม่เลวพอที่จะแย่งน้องเขามา

ยิ่งรู้ว่าแฟนเจเป็นใครแล้วผมยิ่งไม่กล้า เข้าไปอีก ไม่ใช่ว่าผมกลัว กาย แต่สิ่งที่ผมกลัว คือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกครั้ง ต่างหาก

ผมเลยเลือกที่ยืนอยู่ตรงจุดๆเดิม เพียงแต่ความรู้สึกก็ยังไม่แปรเปลี่ยนไป ผมยังชอบและ ทำให้เขายิ้มได้เสมอ และแม้ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม ผมก็อยากจะคอยเป็นรอยยิ้ม และที่พักพิง ให้เจแบบนี้ตลอด ไป

ภายหลังจากเรียนจบผมต้องมาดูแลกิจการของทางบ้านที่ต่างประเทศ อยู่นี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทั้งชีวิตในวัยทำงาน เพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่คนใกล้ตัวที่่พยายามเข้าหาตัวผมเพื่อหวังผลประโยชน์ต่างๆ

ทุกๆวันผมเฝ้าเป็นห่วงคนทางนั้นทั้งอาม่า พ่อแม่ หรือแม้กระทั้งเจ คนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนพิเศษสำหรับผม
ผมอยากจะโทรไปคุยและเล่าเรื่องต่างๆให้เจฟังเพียงแต่เวลาที่ผมอยู่กับที่เจอยู่มันต่างกันมากผมกลัวว่าถ้าทักไป จะเป็นการรบกวนเลยเลือกที่จะเก็บความรู้สึกเหล่่านั้นไว้เพียงคนเดียว

ผมได้ทราบข่าวดีว่า อีกไม่่กี่วันพ่อก็จะหาคนมาแทนผมได้แล้ว นั้นหมายถึงผมจะได้กลับประเทศไทย

ก่อนวันกลับหนึ่งวันผม ทักไปหากายว่าจะถามถึงความเป็นอยู่ แต่กลับติดต่ออะไรไม่ได้เลย

แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดก็คือข่าว มันไม่ใช้ข่าวดาราคู่รักคนไหนทำอะไรกันแต่เป็นข่าวเกี่ยวกับวงการธุรกิจ ของบ้านกาย ที่เกี่ยวข้องและตอนนี้ กายแต่งงานแล้ว แต่งมาปีกว่าแล้วด้วย และนั้นยิ่งทำให้ผมนึกตามด้วยความมึนงง  ถ้ากายแต่งงาน แล้ว เจ ละ ?

แม้จะยังงงๆกับสิ่งที่พึ่งเจอ แต่ตัวผมกลับยิ่งอยากที่จะเข้าใจ คำตอบในทันที

กว่าจะรู้ตัวอีกทีผมก็มาถึงไทยก่อนเวลากำหนดไปหนึ่งวันผมกลับมาโดยไม่ได้บอกกล่าวใครผมรีบโทรติดต่อเจ ทันทีที่เท้าของผมสัมผัสกับพื้นดิน ของไทย แต่เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างทุกทางในการติดต่อของเจ มันหายไปหมด ผมโทรไปที่เบอร์เก่าของเจ ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกันไม่รู้จะทำยังไง ผมเลยลองเปิดหน้าเข้าเฟสบุ๊ค หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาเช็คอะไรเลยหลังจากที่เรียนจบมา จุดประสงค์ในการเข้าครั้งนี้คือผมต้องการรู้ชีวิตความเป็อยู่ของเจในตอนนี้เพราะปกติเวลาเจไปไหนทำอะไร เจก็มักจะเช็ึคอินตามสถานที่นั้นๆ

แต่พอผมลองเสริทค้นหาชื่อกับว่างเปล่า เพื่อนที่เคยมีก็หายไปแล้ว ผมติดต่อเจไม่ได้เลยทุกช่องทาง ระหว่างที่กำลังนั่งกุมขมับหาวิธีติดต่อเจ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นแชทของวินเพื่อนคนสนิทของเจทักผมมาเมื่อ แปดเดือนที่แล้ว.

"พี่ริวใช้มั้ยครับ" ผมตั้งใจอ่านข้อความพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน อารมณ์ที่ตัวผมเองพยายามข่มให้เย็นในตอนนี้มันเริ่มน้อยลงทุกที 

"เจมันหายตัวไปพวกผมติดต่อมันไม่ได้เลยพี่พอจะรู้บ้างรึเปล่าครับ ว่าเจมันไปอยู่ที่ไหน"

"ผมกับอะตอมเป็นห่วงมันมากเลยมันหายไปเป็นเดือนแล้ว ผมไม่รู้จำทำยังไงเลยครับพี่ "และก็มีข้อความอื่นๆอีกสารพัดที่วินมันส่งมาเล่าเหตุการณ์ให้ผม

สรุปคร่าวๆก็คือ เจหายตัวไปแปดเดือนแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครพบ ทุกคนเป็นห่วงเจกันหมดจะเหลือก็แต่มัน และนั้นก็ทำให้ผมแน่ใจว่าสาเหตุที่เจหายตัวไปต้องมีมันงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ

 
ผมคงจะลบคำว่าพี่น้องออกจากโสตประสาทของตัวเองออกไปจนหมดตอนนี้ระหว่างผมกับไอ้กายเราสองคนไม่ใช่พี่น้องกันแล้ว

ผมเคย  คิดว่ากายมันอาจดูแลทำให้เจมีความสุขแทนผมได้  ผมจึงยอมเป็นฝ่ายตัดใจและถอยออกมา เฝ้าดูอยู่ห่างๆ

ผมยังจำคำพูดนึึงได้ สิ่งที่มันเคยสัญญากับผมเมื่อครั้งก่อน ว่าจะไม่ทำให้เจเสียใจ  แต่วันนี้มันทำให้ผมรู้แล้ว ว่าผม ไว้ใจคนผิด ผมผิดเองที่ปล่อยเจทิ้งไว้กับคนเลวๆ อย่างมัน ผมได้แต่ตีอกชกหัวตัวเองอยู่หลายครั้งถึงความผิดพลาดที่ได้ทำลงไปและผมก็ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่า ถ้า ผมได้เจอกับมันเมื่อไหร่ ไม่มันก็ผม คงต้องมีใครตายกันไปข้างนึง
. . .
ผมขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าร้าน เก็บข้าวของสัมภาระ มี่หอบหิ้วมายัดใสไว้ในบ้านก่อนจะเดิน ข้ามไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม. . เพื่อมองหาใครคนนึงอยู่
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special part [riw] 〗〖07/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 07-11-2017 10:28:35
แต่คำตอบที่ผมได้มันทำให้ผมเครียดหนักมากกว่าเดิม
ผู้หญิงที่เดินมาต้อนรับผมไม้ใช่พี่อินหรือน้องเอิน
เหมือนทุกที สีหน้าแววตาและคำพหุดก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง

เธอบอกกับผมว่าเจ้าของร้านคนเก่า(ซึ้งก็คือพี่อิน) ได้ขายร้านและที่ดินเพื่อจ่ายหนี้ผมได้ยินในตอนแรกยังไม่ปักใจเชื่อ ก็เลยไปถามเพื่อนบ้านรอบๆ แต่คำตอบที่ได้ก็ยัึงคงเหมือนกันทั้งหมด

แต่ประโยคนึงที่ทำให้ผมเก็บมาคิดมากและกำลังนั่งกุมขมับอยู่ในตอนนี้ คือ ไม่มีใครรู้เลยว่าเจไปอยู่ที่ไหน ผมพยายามติดต่อทุกคนที่เจรู้จักหรือสถานที่ๆเจเคยไปขอดูกล้องวงจรปิด หลายๆที่ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอเลย ผมเริ่มท้อใจและเริ่มรู้สึกเหนื่อยเพราะใช้แรงมาทั้งวันหลังจากที่ออกตามหาเจมาทั้งวัน ซึ่งในตอนนี้ แดดค่อนข้างแรง ผมเลยกลับมานั่งพักเติมแรงให้ตัวเองอยู่ที่บ้านแต่ในหัวก็ยังคงมีแต่คำถามและความสงสัยอยู่มากมาย
ผมนอนฟุบลงกับโต๊ะด้วย ความเมื่อยล้า จากการเดินทางและใช้ความคิดหยัก จนเผลอผลับไป ด้วยความเพลียในที่สุด


ผมตื่นมาอีกทีก็ีตอนบ่ายๆ ผมหยิบโทรศัพท์โทรหาอาม่าเพื่อบอกเรื่องราวเกี่ยวกับเจ พออาม่ารู้ข่าวก็รีบตามผมกลับมาจากจีน ทันทีที่อาม่ามาถึงก็ออกคำสั่งให้คนช่วยออกตามหาเจกันจนวุ่นวายไปหมด ผมโทรติดต่อวินบอกให้มาช่วยกันหาอีกแรงระหว่างนั้นก็มีลูกค้าจากบริษัท โทรมาติดต่อเรื่องธุรกิจ (ไม่รู้เวลา เอาซะเลย). ผมก็รับคุยๆอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์แต่แล้วระหว่างที่กำลังวุ้นๆอยู่สายตาของผมก็เหลือบมองไปที่ถนนฝั่งตรงกันข้าม(หน้าร้านเจ) ผมพยายามมองภาพตรงหน้าให้ชัดว่าสิ่งที่ผมเห็นตอนนี้คือเรื่องจริงรึเปล่า ... ผมไม่รู้ว่าโทรศัพท์ของผมหล่นไปที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ผมไม่สนว่าปลายสายกำลังพูดอะไรอยู่สิ่งที่ผมสนตอนนี้เพียงคนที่ผมรู้สึกเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คนที่ผมแอบรัก และตอนนี้ึความรู้สึกของผมก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน 

เจมองมาที่ข้างหน้าตรงที่ผมยืนอยู่พอดี ผมไม่รู้ว่าเจเห็นผมที่ยืนยิ้มให้อยู่ตอนนี้มั้ย

แต่แล้วรอยยิ้มของผมทั้งหมดก็ ถูกหยุดลงเมื่อมองสำรวจเจทีีเดินข้ามถนนเข้ามาใกล้ผมทุกที ใบหน้าที่เคยสดใสถูกแทนทีีด้วยความทุกข์ขอบตาที่คล้ำดำเหมือนคนไม่ค่อยได้พักผ่อนใบหน้าซูบเซียวผอมจนทุกส่วนดูเล็กลงไปหมด...ใครทำกับเจแบบนี่ได้ลงคอ
เสียงแตรยังคงดังอยู่ตลอดทาง แต่นั้นไม่ได้ทำให้ผมหันไปสนใจสิ่งอื่นนอกจากเจเลย
สายตาเจเหม่อลอยมองมาที่ๆผมยืนอยู่  ผมฝืนยิ้มที่คิดว่ามันน่าจะดูสดใสที่สุด แต่เจก็ไม่ยอมมอง

ตุบ
เจเดินมาชนเข้ากับอกของผมเข้าอย่างจังผมรู้สึกใจหายที่เจไม่ยอมมองหน้าผม แต่ พูดขอโทษและเบี่ยงไปเดินอีกทางแทน คราบน้ำตาที่อยู่บนหน้าเจทำให้ผมรู้สึกแบบเดียวไม่ต่างจากเจ ผมรู้สึกผิดที่ผมไว้ใจ ฝากให้กายมันดูแลเจ แต่มันกลับทำให้เจเสียใจร้องไหได้ยังไง

ผมไม่รู้ตัวว่าเผลอสะอื้นเรียกชื่อเจตั้งแต่เมื่อไหร่
เจที่เอาแต่ก้มหน้าเงยขึ้นมามองผมและปลดปล่อยอารมณ์ความทุกข์ทุกอย่างที่อัดอั้นออกมาจนหมดและสวมกอดผม ผมกอดตอบแน่นโดยที่เจไม่ได้ร้องขอ  ผมได้ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปแล้วครั้งนึงและผมสัญญาว่า ครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยให้เจต้องทุกข์ใจอยู่คนเดียวเป็นอันขาด

'พี่อยู่ตรงนี้แล้วนะเจ 'ผมกอดเจแน่นโดยไม่ได้นึกถุงว่าเจจะอึดอัดบ้างรึเปล่า แต่ผมไม่สามารถคลายอ้อมกอดนี้ออกได้  เพราะผมกลัว กลัวว่าเจจะหายไปอีก

ผมไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยผ่านไปนานเท่าไหร่แต่คนตรงหน้าผมในตอนนี้เริ่มทรงตัวยืนไม่อยู่ จนในที่สุดเจก็ฟุบสลบไปคาอ้อมกอดผม รีบพยุงตัวเจให้ไปนอนพักข้างในห้องผมโดยมีอาม่าคอยพัดและถือยาดมอยู่ไม่ห่าง

ผมแอบลอบมองคนที่หลับอยู่ตรงหน้าพร้อมกับกุมมือไว้อยู่นาน จนอาม่าต้องมาสะกิดผมบอกให้ออกไปคุยกันข้างนอกแล้วปล่อยให้เจนอนพักผ่อนระหว่างนั้นวินก็โทรมาหาผมไม่ขาดสายผมบอกวินไปว่าเจอตัวเจแล้ววินมันดีใจใหญ่เลยผมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน หรือเผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ

ผมนั่งคุยกับอาม่าว่าจะเอายังไงต่อกับเรื่องของเจดี
อาม่าก็แนะนำบอกให้เจพักอยู่บ้านไปก่อนแต่ไม่ใช่รอจนเจหายดีแต่ให้อยู่ที่นี้ได้ตลอดไปเลย ผมดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นจากปากของอาม่า


เพล้ง!!เสียงของตกแตกดังจากบนห้องชั้นสองของผม ผมกับอาม่ารีบวิ่งกรูขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ภาพตรงหน้าคือเจกำลังนอนขดตัวทุกข์ทรมานอยู่ผมกับอาม่ารีบเดินเข้าไปดูเจใกล้ๆจับมืออยู่ไม่ห่างผมรีบหยิบโทรศัพท์กำลังจะโทรเรียกรถพยาบาล แต่เจก็ปรือตามามองผมเหมือนพยายามจะขอร้องพร้อมกับส่ายหน้า ผมจึงเลือกโทรหาเพื่อนที่เป็นหมอให้มาที่บ้านแทน

ตวรจวัดอาการอยู่นานก็ได้ข้อสรุปมาหลายอย่างมาก
เจเป็นโรคกระเพาะซ้ำยังเป็นไข้แถมซึมเศร้า ไอหมอเพื่อนผมบอกให้ช่วยดูแลเจอย่างใกล้ชิด แต่ต่อให้มันไม่บอกผมก็ทำอยู่แล้ว

............

เจนอนให้น้ำเกลือมาสามวันติดแล้วไอหมอเพื่อนผมก็คอยมาเช็คอาการให้ตลอด โดยมีผมคอยกุมมือเจอยู่ข้างๆ

ช่วงสายๆ

ไอหมอเพื่อนผมกลับไปหลังจากที่ให้น้ำเกลือถุงใหม่เสร็จ ผมเผลอหลับไปด้วยอาการอ่อนเพลียเพราะไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว มันรู้สึกกังวนจนนอนไม่หลับแต่คราวนี้ผมคงฝืนร้างกายตัวเองไม่ไหวแล้วจึงพล้อยหล้บไปในเวลาสั้นๆ

ผมรู้สึกตัวอีกทีเมื่อมีแรงสะกิดจากนิ้วเล็กๆเพียงแค่นิดเดียวก็สามารถทำให้ผมตื่นได้ ผมรีบลืมตาขึ้นมามองเจที่ลืมตาขึ้นมาแล้ว เจกวาดสายตามองรอบห้องคณะที้ผมกำลังนั่งมองหน้าของเจอยู่ด้วยความดีใจ

ท่าทีเจดูแปลกใจที่เห็นบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย เจคงอยากจะตะโกนถามว่าตัวเองมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง แต่เจกลับเงียบ เจมองมาที่ผมที่ยิ้มร่า แต่เจก็ยังเงียบอีกผมรู้สึกแย่มาก แต่ที่แย่ไม่ใช่เพราะเจไม่ยิ้มให้แต่เพราะ ผมไม่เคยเห็นเจซึมแบบนี้ต่างหาก

. .   เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นทำให้ผมต้องลุกชะเง้อออกมาดูที่หน้าต่าง เห็นวินมันถือถุงอะไรไม่รู้มาเต็มไม้เต็มมือกับเพื่อนของมันอีกคนนึง ผมเดินลงไปเปิดประตูก่อนจะเดินพาวินขึ้นมาบนห้อง

ทันทีที่วินเห็นเจมัน แทบจะกระโดดเข้าไปกอดคอร้องไห แต่ผมดึงตัวไว้เพราะเจไม่สบายอยู่ วินก็ไม่ได้ชักสีหน้าอะไรใส่ผมคงจะเข้าใจด้วยละมั้ง ส่วนเพื่อนมันอีกคน ก็ดูสีหน้าร้อนรนแปลกๆถ้าให้ผมเดา  ผมว่า น้องคนนี่ก็คงยืนอยู่จุดๆเดียวกับผมแน่ๆ

เพราะทั้งสายตาและความเป็นห่วงมันออกนอกหน้า จนไม่สามารถเก็บงำได้เลย

วินพาผมเดินลงมาข้างล่างเพื่อพูดคุย เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น ผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างเท่าที่ผมรู้และเป็นฝ่่ายถามวินกลับเกี่ยวกับเรื่องของเจบ้าง

จบคำพูดของวินทำเอาผมโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ไอกายมันกล้าทิ้งเจแล้วไปแต่งงานกับคนอื่น ตอนนี้วินเองก็คงรู้สึกไม่ต่างจากผม
 คือถ้าเจอตัวมันคงไม่ปล่อยให้มันเดินหนีไปเฉยๆแน่

ผมกับวินนั่งคุยกันได้อีกสักพัก ก็ต้องเก็บอารมณ์โกรธกันเอาไว้ก่อนจะเดินขึ้นมา บนห้องอีกครั้ง

เจฟื้นแล้ว ผมน่าจะดีใจที่เห็นเตฟื้น แต่ เจกลับไปยอมรับรู้อะไรเลย เพื่อนอีกคนที่ถือชัอนป้อนโจ๊ก ก็คงไม่ต่างกัน เจไม่พูดไม่คุย กับใครเลยและนั้นก็ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบแย่ขึ้นไปอีก วินบอกให้ผมกับอะตอม(ผมมารู้ชื่อน้องเขาตอนลงมา). ลงไปข้างล่างเพราะเดี๋ยวที่เหลือวินมันจะจัดการเอง ผมเลยต้องจำใจลงมาพร้อมกับอะตอมที่หน้าซึมๆไม่แพ้กัน

ผมกับน้องเราไม่ได้คุยอะไรกันอาจจะเป็นเพราะไม่เคยรู้จักกันเลยไม่รู้ว้าต้องเริ่มพูดยังไงดี...

ผ่านไปพักใหญ่วินเดินลงมาจากชั้นสอง (ผมหวังลึกๆว่าเจอาจจะเดินตามลงมาด้วย). แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะมีเพียงวินที่เดินลงมาเพียงคนเดียว ผมเดินย้ำเท้าไปข้างหน้าวิน วินมองหน้าผม พร้อมกับแสดงอาการ ซึมๆที่พร้อมร้องออกมาได้ทุกเมื่อผมตบบ่าวินให้มันสบายใจ ไม่นานนักวินก็ขอตัวกลับและบอกว่าตั้งแต่พรุ่งนี้จะขอย้ายมาอยู่ที่บ้านผมสักพัก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร จนวินมันกลับไป

ผมขึ้นมาบนห้องเพื่อดูอาการเจอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายหลับไปแล้ว แม้ภายนอกตอนนี้เจจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ว่าภายในคงจะบอบช้ำน่าดู คงต้องใช้เวลารักษากันอีกยาว

ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์กว่าๆ เจหายดีจนเดินเป็นปกติโดยที่ผมไม่ต้องช่วยพยุงแล้ว เจทานข้าวมากขึ้น กินยาตามที่ผมบอกไว้อย่างเคร่งครัด แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย  เพราะเจไม่ยอมพูด กับใครอีกเหมือนเคย

วันนี้วินออกไปทำธุระข้างนอกผมเลยอยู่กับเจที่ร้านแค่สองคน ลูกค้าที่เข้ามาในร้านไม่หยุดหย่อนทำให้ผมเริ่มหงุดหงิดเพราะต้องเอาเวลาไปช่วยเสริฟ อยู่บ่อยครั้ง ผมไม่อยากปล่อยให้เจคลาดสายตา แต่แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

คนตัวเล็กเดินมาสะกิดที่ไหล่ผมแม้ใบหน้าจะไม่ได้ยิ้มแย้มอะไร แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีจนเผลอยิ้มออกมา และสิ่งที่ผมรอคอยมาตลอดหนึ่งอาทิตย์ ก็เกิดขึ้นซักที

'ผมช่วยนะ' แม้เป็นประโยคสั้นๆจากปากของเจแต่นั้นกลับทำให้ผมแทบจะปาของในมือทุกอย่างออกแล้วดึงเจเข้ามากอดแต้รู้ดีว่ายังทำไม่ได้...

เจยื่นมือมาข้างหน้าขอถาดที่มีชามก๋วยเตี๋ยวอยู่สามชาม

'เดี๋ยวผมไปเสริฟให้ ' ผมคงมัวแต่อึ้งปนงงกว่าจะรู้ตัวอีกทีเจก็เดินไปเสริฟเสร็จจนเดินไปช่วยตรงอื่นแล้ว ผมยิ้มตามทุกการกระทำของเจ เหมือนคนบ้า แล้วก็นึกอิจฉาลูกค้าที่เดินเข้ามาในร้าน. เพราะทุกคนจะได้รับ ร้อยยิ้มของเจ เป็นของสมนาคุณกันทุกคน

เวลาบ่ายแก่ๆ ลูกค้าเริ่มบางตา ผมกับเจเรานั่งกันอยู่กลางร้านผมสั่ง ชาเย็นร้านป้าข้างๆมาให้เจๆก็ก้มดูดทีสองทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมที่มองเจอยู่ก่อนหน้านั้นนานมากแล้ว

'หน้าผมมีอะไรติดหรอ ' เสียงถามแบบไร้อารมณ์ของเจทำให้ผมเกือบหลุดขำ มันดูตลกๆแปลกๆจนผมแทบอดกลั้นขำไม่ได้ วะฮ่่าๆ ว่าแล้วก็แอบขำในใจซะเลย

'ทำหน้ามุ้ยเชียว เหนื่อยรึไงเรา ไปพักได้แล้วไปทำมาทั้งวันแล้วนิ่  ' ผมถามเจ้าตัวด้วยรอยยิ้มพิฆาต ที่สาวๆกลายๆคนเคยบอก ว่าผมมีรอยยิ้มเป็นอาวุธ แต่ก็ต้อง สตั้นรับประทานเมื่อ เด็กบื้อ คนนี้ ดันไม่รู้สึกอะไรเลยสักกะติ๊ดเดียว ฮึ่ย'

'ผมยังไม่เคยเห็นพี่พักเลยแล้วผมจะ ทำ แบบนั้นได้ยังไงละ' จบคำพูดของเจ ทำให้ผมรู้สึกอุ่นๆที่หน้าอก แปลกๆเจ..ถามแบบนี้เพราะเป็นห่วงผมหรอ

'เป็นห่วงพี่รึไง?'น้ำเสียงผมตะกุกตะกักแปลกๆตอนถามเจแต่คำตอบที่ผมได้มาทำเอาผมยิ้มร่า

'เป็นห่วงสิ พี่เอาแต่ดูแลผมทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมหลับยอมนอนชอบเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเลยอยู่เรื่อยเลยนะพี่อะ'ผมไม่รู่ว่าตัวเองยืนยิ้มจนเห็นฟันครับ32ตั้งแต่ตอนไหนรู่สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาเอานิ้วมาจิ้มๆผมแล้วที่แก้ม

'พี่ริวเป็นอะไรรึเปล่าครับโกรธผมหรอ'โกรธ?ผมจะโกรธเจทำไมละ?

'พี่เนี้ยนะ?' ผมถามเสียงหลง

'ก็ใช่นะสิ ผมเห็นพี่เงียบไปหลังจากที่ผมบ่นพี่เมื่อกี้อ่ะ นึกว่าพี่จะโกรธ'เจทำหน้าซึมหนักกว่าเก่า ผมรีบพูดแย้งขึ้นมาทันที

'อย่าคิดมากสิพี่แค่อึ้งๆเฉยๆคนป่วยอะไรเนี้ยขนาดบ่นยังน่ารักเลย : )  ' เจแอบขมวดคิ้วตอนนี้ที่ผมเอานิ้วไปหยิกทีีแก้มของเจ. จะว่าไปนี้คงเป็นครั้งแรกทีีผมกล้าพูดและกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในหัว และถ้าหากผมมีความกล้ามากกว่านี้ละก็ ผมก็คง... ไม่เอาดอเฮ้ย ไม่ดราม่า ปลอบน้องก่อน


'พี่ริว!!' เสียงเจเรียกผมให้ตื่นจากภวัง หลังจากที่เพ้อละเมอคิดอะไรเรื่อยเปื่อย

'ครับ!'ผมเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน

'เหม่ออีกแล้วนะ โกรธผมรึเปล่าเนี้ย' เจทำหน้าบึ้งๆใส่ผมตอนถาม

'เปล่าๆครับพี่ไม่ได้โกรธ'ว่าแต่ผมจะทำอะไรต่อนะลืมไปเลย ชิบ มัวแต่ยืนงงมาตั้งนานแล้วเลยลืมเลยว่าตัวเองกำลังจะทำอะไรต่อ...

'พี่ริวลูกค้ามา'เจสะกิดผมที่เผลอเหม่อคิดอะไรอยู่คนเดียว

'อ๋อๆงั้นเดี้ยวพี่มานะ'ผมบอกเจก่อนที่จะลุกออกมาจากโต๊ะแต่ทันทีที่ผมเดินมาได้แค่สองสามก้่าวเสียงเรียกของเจก็ดังขึ้นทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง

'สู้ๆนะพี่'แม้เสียงเจจะเบา มากขนาดไหนแต่ผมก็สามารถได้ยินและรู้สึกดีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากของเจ และในตอนนี้ผมก็เริ่มมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำมานานแล้ว ต่อจากนี้ ผมจะขอดูแลเจเอง ....ไม่สิ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป....

ผมจะจีบเจ ...

TBC. . . .
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special part 〗〖10/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 10-11-2017 11:30:13
Falling in love หลุมพลางหัวใจของนายหน้านิ่ง

(Special part)

เพื่อใครสักคน


วันนี้เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ อากาศเริ่มจะหนาวแต่ท้องฟ้ากับสดใสผมกับไอหมากายเราสองคนนอนขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มบวกกับอากาศที่เริ่มหนาวเหน็บเพราะแม้งดันเปิดแอร์ยังกับอยู่ขั้วโลกเหนือ..

"กายยยย"เสียงผมสั่นอย่างอดไม่ได้

"ห้ะ"แต่ไอหมานี้กับดูเสียงสดใสต่างกับผมลิบลับ

"ไปปิดแอร์ดิ้กูหนาว"ผมร้องบอกมันพร้อมกับมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม

"แต่กูร้อนอะทนหน่อยนะ ถ้าหนาวก็ขยับเข้ามากอด " มันพูดพร้อมกับแอ่นตัวรอผมแถมยังเสือกทำหน้าคิดเหมือนมันเป็นเรื่องเล่นๆ

"ถ้ากูหนาวตายนะกูจะมาหักคอมึงคนแรกเลยคอยดู"ผมพูดแต่ตัวเสือกดันขับเข้าไปให้มันกอด ห่าเอ้ยทำไมผมใจง่ายแบบนี้วะ

"รู้แล้ว"อยู่ๆมันก็โพล่งถามขึ้น

"รู้ไรวะ"

"วิธีทำให้อุ่นไง"

"วิธี?" ผมดันหน้าออกจากอกเพื่อมามองหน้ามัน สาบานถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะไม่ทำอย่างนั้น ..ก็แม้งดูมันส่งสายตาหื่นกามมาที่ผมสิ และก็เป็นไปอย่างที่คิดครับไม่ทันที่ผมจะได้ตอบตกลงอะไรมันก็พุ่งจัวขึ้นมาคล่อมผมไว้ทั้งตัวก่อนจะเริ่มนัวเนียตั้งแต่หน้าผากขมับแก้มลามลงมาเรื่อยๆจนในที่สุดทุกสิ่งที่อย่างก็จบลงในเวลาไม่นาน


"เจ"หลักจากที่ผมเพลียๆกำลังจะเผลอหล้บกายมันก็ถามขึ้น


"อือ"ผมตอบโดยที่หน้ายังคงฟุบอยู่ที่อกของมัน

"กูว่ากูอยากทำธุระกิจวะ "ผมดันหน้าออกจากอกก่อนจะเงยมองมันให้ชัด

"มึงว่าไงนะ"

"กูอยากทำธุระกิจ"มันตอบหน้านิ่ง

"แต่มึงเรียนวิศวะนะ"

"ก็ทำควบคู่กันไปก็ได้นิ่ อีกอย่างนะทำธุระช่องทางการตลาดมันกว้างกว่าวิศวะเยอะ"

"แต่บ้านมึงรวยอยู่แล้วนิ่". นี้คือความจริงที่ผมยังตั้งข้อสงสัย

"นั้นเงินพ่อกับแม่กูเกี่ยวที่ไหนละ"

"แต่เขาก็พ่อแม่มึง ไม่มีก็ขอเขาสิ"ขนาดผมยังขอตังพ่อใช้อยู่ เลย กร้าก


"จะขอไปทั้งชีวิตเลยหรอวะ "คำตอบกายทำให้ผมหยุดคำและมองมันด้วยสายตาที่จริงจัง


"เอาจริงดิ"

"อืม"

"แล้วอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร"

"ระบบซอรฟ์แวร์ เครือข่าย อะไหล่คอมพิวเตอร์"

"นี้มึงเอาจริงดิ"

"กูเคยพูดเล่นหรอ ขนาดเมื่อกี้กูยังเอาจริงเลย"ไอสัดมัยคนละเอาแล้วบักหำ

"ความรู้มึงมีหรอ " เพราะถ้าเกิดให้มันไปเรียนใหม่คงปูพื้นฐานอีกยาว

"แฟนมึงเป็นใครมึงลืมแล้วหรอ"

"เป็นหมา ชอบกัด ชอบเลีย ชอบซุก ชอบดม กูชินละ"คำพูดของผมทำเอามันหลุดคำไปหลายนาที ก่อนที่มันจะดึงหน้าผมเข้าไปจุ้บที่หน้าผาก น้านไง ผมพูดผิดที่ไหนกันละ

"กูเกียรตินิยมเชียวนะมึงลืมแล้วหรอ.."เออผมก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปซะชิบ

"แล้วจะเริ่มเรียนเมื่อไหร่อะ"

"เริ่มมาสักพักแล้วแต่พึ่งมีโอกาสได้บอกมึง "

"แล้วพ่อแม่ละรู้เรื่องยัง"

"ยังอะกูมาบอกมึงก่อน "

"ไอลูกทรพีแทนที่มึงจะบอกพ่อแม่มึงก่อน "อดด่ามันไม่ได้จริงๆ

"เพราะกูแคร์มึงไง อีกอย่างมึงเป็นเมีย ถ้ากูแคร์คนอื่นมากกว่าเมียตังเองเดี้ยวมันก็น้อยใจแย่สิวะ"เออเว้ยแม้งพูดมีเหตุผล เอารางวัลไปหนึ่งที  จุ้บ

. . . .

เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ผมกลับมาอยู่ร้านช่วยพี่อินขายของ เกือบทั้งวันที่ผมนั่งรอ ข้อความในไลน์ขึ้นแจ้งเตือนรอแล้วรอเล่ามันก็ยังไม่ทักมา เอ๊ะหรือ มันเป็นอะไรไปนะ ว่าแล้วก็ทักไปแม่งเลย


JJ:Naja.: ฮัลโหลว วอสองๆ   

รอเกือบนาทีกว่ามันจะตอบผมมา

Guy.smile : ว่าไง

คือมึงจะตอบคนที่เป็นห่วงมึงแค่นี้จริงๆหรอวะ

JJ:Naja.: ทำไรอยู่คิดถึง.

Guy.Smile: อ่านหนังสืออยู่. พึ่งจบไปสามบทเอง

JJ:Naja: เมียมึงเป็นหนังสือรึไง ไอสัด อ่านอยู่ได้แล้วกูละ

ลึกๆในใจผมแอบเก็บไปคิดเล็กคิดน้อยเรื่องที่มันให้ความสนใจเกี่ยวกับหนังสือมากกว่าผมนะ

Guy.Smile: ขอเวลาอีกนิดนะใกล้จบแล้ว อีกไม่กี่บทเอง รอหน่อย

คือกูรอจนเหงือกแห้งละไงสัด ไม่ทักกูมาซักที ผมโคตรน้อยใจเลยจงใจเงียบใส่มัน

Guy.smile.: โกรธหรอ

เออ โกรธไอสัด ยังกล้าถามอีกเนอะ เซ้นต์มึงต่ำรึไงไอควาย แต่สิ่งที่ทำได้จริงๆก็มีเพียง

JJ:Naja:  ป่าวหรอก อ่านต่อเถอะ กูช่วยงานพี่อินต่อละ

ผมหวังอย่างให้มันคิดทักท้วงอะไรสักนิดแต่มันดันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จะมีก็แต่

Guy.Smile:  (สติ๊กเกอร์ หมีน้อย พร้อมกับแคปชั่นว่าสู้ๆ)

สู้พ่อง ไอสัดกูงอล


แม้จะเก็บมาคิด แต่ลึกๆในใจผมก็แอบเข้าใจมันนะ กายมันโตเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ จนบางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองดูเด็ก ลงไปเลยตอนอยู่ด้วยกันกับมัน


หลายสัปดาห์ผ่านไปเรายังคุยกันน้อยลง แต่ก็อาจจะมีบางครั้งที่ มันเป็นฝ่ายชวนผมออกไปทานข้าวบ้าง รวมถึงวันนี้ด้วย

ณ ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง

พนังงานสาวคนนึงน่าตาน่ารักเธอเดินเข้ามารับออเดอร์ที่โต๊ะผม เธอส่งเมนูให้พร้อมกับ ยืนรอรับออเดอร์

พรึ่บ พอเปิดออกมาลูกกะตาผมแทบถนนออกมาเต้นแซมบ้า ไอเหี้ย อาหารอะไรจานละสามสี่พัน

"เอา...&:฿4:/(-;&:  ครับ แล้วก็ ;&;฿):)฿:& อีกที่นึง มึงเอาอะไรอะ " เอ่อเมื่อกี้หูผมไม่ดีรึมันพูดภาษาต่างด้าวกันวะ พูดไรวะฟังไม่รู้เรื่องแต่น้องพนักงานดันเสือกรู้วะเออ กูงง


"มึง น้องเขารอ "กายุามยย้ำผมที่เอาแต่เหม่อ

"ห้ะ เออๆแปปนะ"ผมสะดุ้งนิดๆเพราะกับลังพินิจเกี่ยวกับราคาอาหารจนเผลอเหมอลอยไปหน่อย ผมกวาดสายตามองตั้งแต่บนยันล่างจนสุดเมนูถึงเจอ

"เอาอันนี้ครับ "ผมชี้ให้น้องเขาดูน้องเขาพนักหน้าก่อนจะมองผมต่อ

"น้องเขารอไรวะ"ผมแอบกระซิบถามกายที่กำลังนั่งยิ้มอยู่...

"รอมึงสั่งไง"

"บ้ากูสั่งไปแล้ว "

"งั้นเอาเท่านี้แหละครับ" น้องพนักงานพยักหน้าก่อนจะเดินจากไป


ไม่นานนักอาหารก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าผมเป็นที่เรียบร้อย..แล้ว แต่เอ ผมตงิดอะไรในใจนิดหน่อยฺ ร้านนี้เขามีน้ำซุปเป็นออเดิปด้วยหรอ

"มึง "ผมถามกายตอนที่มันกำลัฃจิ้มไอเนื้อดำๆเข้าปาก

"อืม มีไรอะจะสั่งเพิ่มหรอ"

"ป่าว กูแค่จะถามว่า ร้านนี้มีบริการน้ำซุบด้วยเหรอวะ "

"ซุปอะไรของมึง"กายขมวดคิ้วถามผม

"ก็นี้ไง"ผมชี้ไอที่อยู่ในจานให้มันดู

"มึงสั่งอะไรไปละ"กายถามผมกลับ

"ไม่รู้อะอยู่แถวล่างๆ"

"ก็ถูกละนิ่ แถวนั้นมีแต่ซุป "หา !!!!!  ผมร้องก้องในใจ ซุป ถ้วยละเกือบสี่ร้อยไอเหี้ย นี้กูทำอะไรอยู่..ถ้าคืนเขาตอนนี้จะทันมั้ยวะ

ผ่านไปสักพัก


"เจ เป็นอะไรรึเปล่า". จะบอกว่าชอคราคาอาหารก็กะไรอยู่

"ป่าวๆไม่มีอะไร"

"แต่หน้ามึงมันบอกว่ามี "เออเดาทางผมถูกแหะ. แต่เพื่อความสบายใจของมันผมจึงพูดอีกอย่างออกไป

"ก่อนจะมากูกินข้าวที่บ้านมาแล้วอะเลยอิ่มๆ "บอกไปทั้งที่เสียงท้องกำลังร้องคำรามเหมือนสิงโตนาเนียร์

"อิ่มแล้วงั้นคิดตังเลยละกัน"กายยกมือเรียกน้องพนักงานคนเดิมมาเก็บเงิน ส่วนผมนะเหรอๆเห้อๆ นั่งกุมท้องเก็บเสียงอยู่เนี้ย


"ทั้งหมดเจ็ดพันสี่ร้อยห้าสิบบาทค่ะ"พนักงานตอบหน้ายิ่งแต่กูนี้สิช็อคสตั้นไปแล้วแต่ความเหี้ยไม่ได้หยุดอยู่ที่ตรงนั้นสิครับ มันอยู่ตรงนี้ต่างหาก

"เจ กูลืมหยิบเป๋าตังมาอะ จ่ายให้ก่อนได้มั้ย "ผมอึ้งหนักมากไม่คิดว่ามันจะให้ผมจ่าย แต่ก็ยอมส่งบัตร ให้น้องเขาไปคิดเงิน

ข้อความแจ้งเตือนยอดเงินในบัญชีผมเหลือราวๆสี่พักกว่าบาท  หึหึ น้ำตากูแทบไหลมึงรู้บ้างมั้ย...


พอกลับมาที่ร้านกายมันก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องยืมตังผมเองก็ไม่อยากพูดถึง มากเท่าไหร่ เดี้ยวมันจะดูเป็น การงี้เง่าไป. แปลกแต่จริงถ้าเป็นไอวินผมคงจะพูดไปแล้วแต่พอเป็นกาย ความกล้าจะทวงมันไม่มีเลย ผมเลยจำใจนั่งเงียบกอดกระเป๋าตัวเองพร้อมกับเงินเจ็ดพันกว่าๆ ที่ลอยลับหายไป ฮือๆๆ

และในคืนนั้นเอง ผมก็ได้รับข่าวเซอร์ไพรท์อะไรบางอย่าง แต่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ


"เจ กูมีเรื่องจะบอก..."

"อือว่ามา "คงไม่มีอะไรเศร้าเท่ากับเงินเจ็ดพันกุแล้วละ

"บอกพี่วินว่ากูจะไปอยู่ด้วยสักพักนะ"

"มีไรวะ ทะเลาะกับคนที่บ้านหรอ"

"ก็นิดหน่อย แต่เดี๋ยวคงเคลียได้"

"เออๆเดี๋ยวบอกให้"

"แต่เจ..."มันเว้นวรรคไปแปปนึงก่อนจะพูดต่อ

"ช่วงนี้กูไม่ค่อยมีตังอะ ขอใช้ด้วยกันกับมึงนะ" นี้แหละครับเซอไพรท์ของจริง เรื่องดีมั้ยละ ในบัญชีมีสี่พันกับในออมสินอีกพันกว่าบาทแค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้ว
และด้วยความป๋าของผมเองจึงตอบอืมๆไป

วันถัดมากายย้ายมาอยู่บ้านผมพร้อมกับพร็อบเสริมของมันทั้งหลายแหล่ กระเป๋าเสื้อผ้าแต่จะหนักไปทางหนังสือ..ผมช่วยมันจัดของบนห้องเสร็จก็ขอตัวออกมาช่วยงานอีกสักพัก กายมันก็ลงตามมาพร้อมกับแบมือขอตังผมน่าโคตรนิ่ง

"เอาไปทำอะไร"กายมันทำท่าคิดๆ

"หนังสืออะแล้วก็สมุดแลคเช่อร์" เออฟังดูมีเหตุผลอยู่

"เอาเท่าไหร่ละ"

"สามพัน "

"ห้ะ"...สส สามพัน เกือบหมดบัญชีกูเลยนะนั้น

"ตกใจอะไรแค่สามพันเอง"แค่สำหรับมึงแต่อื้อหือสำหรับกู


"ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปยืมไอวินก็ได้ มันพูดพร้อมกันหันหลังกลับ ผมเลยรีบคว้ามือมันเอาไว้


"มีๆเดี๋ยวไปกดมาให้"กายมันยิ้มร่าออกมา ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอด.

"สัญญาเลยได้บัตรคืนเมื่อไหร่จะรีบเอามาคืนเลย"

"ห่าคิดมากมีเมื่อไหร่ค่อยเอามาให้ก็ได้"ปากกับใจผมที่ตอแหลได้อีก

หลังจากนั้นอีกหลายๆวัน กายมันก็ยังคงวุ่นกับการอ่านหนังสือ จนบางทีมันอาจลืม ว่ายังมีผมยืนอยู่ตรงนี้ หลายครั้งที่แอบน้อยใจ แต่ก็ต้องแกล้งว่าทุกอย่างโอเค อยู่ มันเหนื่อยจริงๆนะไอกายที่เราต้องทำข้ามกับสิ่งที่ใจเราคิดเนี้ย แต่พอมานึกๆดูความสุขของผมก็คือการได้เห็นรอยยิ้มของกาย นั้นคือสิ่งที่ผมหวงแหละห่วงที่สุดแล้ว เพราะต่อให้ผมมีเงินมากมายมหาสารผก็ไม่อาจซื้อความสุขแบบนี้ได้เลย


นานวันเข้าใกล้จะเปิดเทอม. กายมันยังคงยืมเงินผมต่อเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร พยายามทำงานเก็บเงินเท่าที่ตัวเองจะหาได้ แต่พอมาคิดๆดู เหมือนผมมีลูกชายเลยวะ ผมเป็นซิงเกิ้ลมัมหรือเปล่าวะ คิดแล้วก็นึกขำ แต่ก็ขำได้ไม้นานเพราะผู้จัดการเดินมานู้นแล้ว

อ่อผมอาจจะลืมบอก ตอนนี้ผมได้งานเป็นเด็กเสริฟ อยู่แถวทองหล่อ จะบอกว่าเงินดีมาก แถมติ้บนี้ไดิที่เกือบสี่ห้าร้อยแต่ก็นะ เงินดีก็ต้องแลกมาด้วยงานที่หนักขึ้นสองเท่า. ผมกัดฟันทนทำงานไปเรื่อยๆ เพือให้กาย มันมีเงินใช้ เพราะผมไม่รู้ว่ากายจะคืนดีกับที่บ้านเมื่อไหร่แต่ถึงมันจะไม่คืนดี ผมก็พร้อมที่จะทำแบบนี้ต่อไป



"เจ!" เสียงพี่อ้ายพี่ในที่ทำงานผมร้องขึ้นในตอนที่ผมถูกลังอะไรสักอย่างหล่นใส่หัว

"เป็นอะไรรึเปล่า"พี่อ้ายถามผมด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง

"สบายมากพี่"ตอบแบบนั้นทั้งๆที่ยังรู้สึกปวดๆที่ต้นคอ

"ทำอะไรระวังหน่อยละกันพี่ไปดูลูกค้าก่อนนะ"ผมพยักหน้าเป็นเชิงตอบก่อนที่พี่อ้ายจะเดินออกจากห้องไป


หลังเลิก งานผมรู้สึกเหมือนร่างตัวเองจะพังให้ได้ ระหว่างนั้นกายเองก็ส่งข้อความในไลน์ถามผมซึ่งผมก็ตอบทุกครั้งว่าอยู่กับไอวิน  ใช่ ผมโกหกจนติดเป็นนิสัยไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ผมบอกว่าอยู่กับไอวิน กายมันก็จะสบายใจและไม่ถามอะไรต่อ นั่นแหละถึงทำให้ผมต้องบอกกับมันแบบนี้ทุกครั้ง ทึ่มันถาม

"จะกลับเมื่อไหร่ ไอเชี้ยวินรั้งตัวอีกแล้วใช่มั้ย กูจะโทรไปด่ามัน "ผมรีบปรามมันทันที ขืนมันโทรไปหาไอวินก็รู้หมดสิว่าผมโกหก

"เห้ยๆไม่ต้องจะกลับแล้ว เนี้ยไม่เกินครึ่งชั่วโมงหรอก .."

"ช่วงนี้กลับดึกทุกวันเลยนะ ขลุกตัวอยู่แต่กับไอวินอะ กูเหงาเป็นนะ เจ"คำพูดที่เหมือนตัดพ้อของมันทำเอาผมรู้สึกผิด

"เอางึ้ เดี๋ยวกลับไปกูจะทำให้มึงอามรมณ์ดีเลย"บอกไปทั้งๆที่ร่างกายแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ


"ให้มันจริง เถอะเจ ถึงเวลาทีไรคลุมโปรงหนีกูตลอด "เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ ที่บางครั้งกายมันอยากแต่ไม่ได้อยากด้วยเลย อาจเป็นเพราะร่างกายที่แทบทั้งตัวผมของผมมีแผ่นบรรเทาปวดเต็มไปหมดด้วยแหละมั้งผมถึงพยายามเลี่ยงมาโดยตลอด


"เออเดี๋ยวไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า"

"งั้นกูไปรับเองดีกว่า กูเป็นห่วง"คำตอบของมันเล่นเอาซะผมลนลานทำตัวไม่ถูก

"เฮ้ย ไม่ต้อง เดี๋ยวกูกลับเองได้"

"กลับยังไงใครมาส่ง "

"พี่วินไง"

"ไม่เอาอะเดี๋ยวกูไปรับเองรออยู่นั้นแหละ"กายมันยังคนดึงดันจะมารับผมให้ได้

"บอกว่าไม่ต้องไงกายกูกลับเองได้ "จบคำพูดของผมมันโทรมาเลยครับสงสัยขี้เกียดพิมพ์

"เออ บอกให้นอนรออยู่บ้านไง"

"กูจะไปรับ.."

"ต้องทำไงมึงถึงจะสบายใจเนี้ย"ผมถามเหนื่อยๆ

"ให้กูไปรับสิ มีของจะให้ไอวินด้วย"ไปๆมาๆไอวินดันมีเอี้ยวเข้ามาด้วยซวยแล้วแถไงดีกู

"อะๆงั้นเดี๋ยวกูให้ไอวินไปส่งโอเคมั้ย มึงจะได้ไม่ต้องลำบากด้วย"กายเงียบไปสักพักก่อนจะตอบผมกลับมา

"เออ เอางั้นก็ได้"เฮ้อโล่งอกไปที

"โอเคไว้เจอกัน" หลังจากที่ผมวางสายก็รีบติดต่อไอวินให้มารับอยู่ที่จุดนัดพบ และไม่นานเท่าไหร่ไอวินมันก็โผล่มา


"ไอเจ มึงไปโดนใครซ้อมมาเนี้ย"ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถมันก็เอาแต่หันมามองดูผม

"ซ้อมห่าไรละกูทำงาน"

"งานห่าอะไรของมึงถึงสะบักสะบอมขนาดนี้ แล้วมือนี้ไปโดนอะไรมา แขนนั้นอีก ตรงคอ ท้ายทอยนั้นอีก นี้สรุปมึงไปทำงานหรือมึงไปออกรบมาเนี้ยห้ะไอเจ!"วินขมวดคิ้วถามผมเสียงดัง

"บอกกูมา สรุปมึงไปทำอะไรมาแน่ ขอดีๆนะตอบไม่ดีกูตบตอบไม่ตรงคำถามกูก็จะตบ "

"เว่อละมึงอะ"

"จะตอบไม่ตอบถ้าไม่ตอบโดดลงรถไป"ไอเหี้ยแม้งคนจริงวะ

"กูมีเด็ก"

"เด็ก?"มันทำหน้าเหมือนจะถามว่า เด็กอะไรของมึง?

"กูเลี้ยงเด็กอยู่คนนึงต้องหาเงินเปย์"เด็กชายคนนั้นชื่อทินกร ^.^

"ควายไอกายอีกละสิ แล้วมันรู้มั้ยเนี้ยว่ามึงแอบมาทำอะไรแบบนี้อะ"

"มึงคิดว่าถ้ามันรู้ มันจะให้กูออกมาปะละ"

"คงไม่"

"ก็เออไง"

"แล้วมึงจะหาเงินไปให้มันทำไมวะบ้านมันก็ออกจะรวย"

"มันทะเลาะกับทางบ้าน พ่อแม่มันเลยยึดเงินมันไปหมดกูถึงต้องดิ้นรนหาเงินให้มันใช่นี้ไง"


"เว่อร์ชิบ เหนื่อยตัวเองเปล่าๆ"คำพูดไอวินทำเอาผมรู้สึกฉุนนิดๆ


" มึงจะลืมคำว่า เหนื่อยไปเลย ถ้ามึง ได้ทำเพื่อใครสักคน.."


"โหคนจริง2018"

"แต่กูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ทีกับกูมึงยังไม่เห็นเป็นงี้เลย. ทำไมถึงเป็นแต่กับไอกายวะ"ผมนึกยิ้มๆในใจก่อนจะพูดตอบ


" เพราะกู รักมันไง เหตุผลแค่นี้พอรึป่าววะ ..."



End ..Special part. 


หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special part 〗〖10/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-11-2017 14:14:34
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง〖Special part 〗〖10/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-11-2017 14:17:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:47〖13/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-11-2017 23:12:54
Failing In Love 

เริ่มใหม่


จากหนึ่งเป็นสองจากสองเป็นสาม เวลาผ่านล่วงเลยไปหลายอาทิตย์ ตอนนี้สภาพร่างกายของผมเหมือนคนที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่. ผมรู้สึกเป็นคนใหม่ อารมณ์ใหม่บรรยากาศใหม่ๆ และผู้คนรอบข้างที่คุ้นเคยก็ยังเป็นคนใหม่ ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยเสียงนาฬิกาปลุกไม่สิต้องเรียกว่าเสียงสั่นๆที่หัวเตียงต่างหาก

เช้าวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ดูสดใส ผมมองออกไปข้างนอกหน้าต่างเพื่อรับแสงอาทิตย์และวิตามินในยามเช้า ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันและรีบลงไปช่วยงานพี่ริวกับอาม่าข้างล่าง

"อ้า อา ตี๋เล็ก ลื่อจะรีบลงมา ทำไมอ่า เดี๋ยวอาการก้อแย่เอาได้อ่า"เสียงอาม่ากล่าวทักทายในตอนที่ผมก้าวขาลงมาจากบรรไดชั้นสองเพียงไม่กี่ก้าว

"ผมหายดีแล้วครับม่า ว่าแต่  พี่ริวไปไหนหรอครับ"เพราะปกติเวลาแบบนี้ พี่ริวคงจะกำลังวุ่นๆอยู่กับการจัดของในร้านหรือไม่ก็ยืนรดน้ำให้ดอกกล้วยไม้อยู่

"อ๋อ อาตี๋ใหญ่ อีออกไปซื้อของให้ม่า อ่า พอดีของในร้านมันหมด "

"อ๋อ  ครับ"

"แล้วนี้ลื้อหิวรึป่าวอ่า จะกิง อาไร ก่อง มั้ย"อาม่าถามผมด้วยรอยยิ้ม

"ยังดีกว่าครับม่า เดี๋ยวรอพี่ริวกลับมา เราค่อยกินพร้อมกัน"ผมพูดบอกพร้อมกับเดินไปช่วยอาม่าจัดโต๊ะวางของจนคนก่อนที่อาม่าจะแยกเข้าไปในครัว ส่วนผมกลับขึ้นมาบนห้อง เพราะพึ่งนึกลางๆได้ว่าตัวเองลืมพับผ้าห่ม จึงถือโอกาสนี้ จัดห้องไปด้วยเลย


หลังจากที่จัดห้องเสร็จก็ใช้เวลาไปเกือบๆชั่วโมงผมกับมานั่งพักอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ สายตาผมก็บังเอิญป๊ะ เขากับโน๊ตบุ๊ค Acer. ของพี่ริวเลยถือโอกาสเสียมารยาท ตวรจสอบความเป็นอยู่ของตัวเองหน่อยแล้วกัน


แต่พอกำลังจะกดเข้าแอพพิเคชั่นตัว "F"สีฟ้าผมก็นึกขึ้นได้


"กูลบแอคเค้าท์ไปแล้วนิ่หว่า" ผมยกมือขึ้นตีกระโหลกไปหนึ่งทีเพื่อเรียกสติตัวเอง ก่อนจะรีบบึ่งลงมาข้างล่าง เพราะเหมือนเมื่อครู่ผมจะได้ยินเสียงรถของพี่ริวขับเข้ามาที่ร้านแล้ว

ช่วงบ่ายๆผมขออาม่ากับพี่ริว ออกมาข้างนอกบ้านบ้างเพราะรู้สึกว่าหลายสัปดาห์มานี้ ผมจะเอาแต่หมกตัวอยู่บ้านจนลืมบรรยากาศภายนอกไปหมดแล้ว

ไอตอนแรกพี่เขาก็จะไม่ยอมให้ผมออกมาหรอก บอกกลัวผมหายไปอีก ผมก็พยายามหาเหตุผลร้อยแปด ขึ้นมาพูดจนในที่สุดพี่เขาก็ยอม ให้ผมออกมา


กริ๊งๆ ! เสียงกริ่งของรถขายไอศครีมกะทิขับผ่านไปผมรีบวิ่งตามก่อนจะตะโกนบอกให้ลุงคนขาย เขาจอดก่อน


"เอาอะไรดี ไอหนุ่ม" ผมอึ้งไปแปปนึงเพราะลุงคนที่ขายไอศครีมคือคนเดียวกันกับที่ผมเจอหน้าร้านโจ๊ควันนั้น

"นี้ลุงเป็นสายสืบรึไงครับ ไปตรงไหนก็เห็นแต่หน้าลุงเนี้ย"ผมพูดหยอกล้อลุงแบบไม่คิดอะไร


"หึ "ลุงขำหึในลำคอ

"เอ็งก็ว่างมากนักสิ มายืนบ่นคนแก่เนี้ยเรียกให้จอดแล้วเอ็งจะซื้อรึไม่ซื้อ"ลุงแกพูเเสียงแกมๆหงุดหงิดแต่หน้าแกก็ยังคงยิ้มอยู่

"ขายยังไงอะลุง "ผมยื่นหัวเข้าไปใต้ร่มใบใหญ่ก่อนจะเอ่ยปากถาม

"เอาตังมาเอา ไอติมไป"ดู๊ดูลุงแกตอบผมสิ

"นี้ทั้งวันลุงยังขายไม่ได้เลยใช้มั้ยนี้ดูทรงแล้ว"

"เฮ้ยไอหนุ่มเอ็งรู้ได้ไง"ลุงแกแกล้งเอามือทาบอกเหมือนตกใจที่ผมดำมั่วแต่เสือกถูก

"ก็ปากอย่างงี้ใครเขาจะซื้อลุงกันละ"ทั้งผมและลุงหัวเลาะชอบใจ แต่เมื่อกี้ผมจำได้ลางๆว่าผมไม่ได้ชมนะเว้ย ทำไมลุงแกถึขำวะ ชักงงๆ

"อะนี้ " อยู่ๆลุงแกก็ตักไอติมใส่ในลูกมะพร้าวยื่นมาให้ผม

"ผมยังไม่ได้เลือกเลย"ผมร้องตอบลุง

"ก็ไม่ได้ให้เลือกนิ อันนี้ข้าให้เอ็งให้"สีหน้าลุงดูจริงจังกับคำพูดของตัวเองมาก

"ได้ไงครับลุง ของซื้อของขายให้ฟรีงี้ขาดทุนกันพอดี"

"เอาเถอะน่า วันนี้ลุงถูกหวย"

"วันนี้วันที่14 ลุงจะมาถูกหวยอะไรวันนี้อย่ามาอำผม"

"เอาน่ารับไว้เถอะน่า น้ำใจคนเฒ่าคนแก่ หรือเอ็งรังเกียด"

"ป่าวๆครับลุงผมไม่ได้รังเกียด "ผมรีบพูดตอบลุงเพราะกลัวแกเข้าใจผิด

"ผมแค่เกรงใจลุงเฉยๆ"

"...."ลุงแกเงียบครับ..สงสัยงอล

"ลุงโกรธผมป้าวเนี้ย"ทั้งๆที่ก็ไม่ค่อยสนิทกันแต่ทำไมผมถึงต้องตามง้อลุงแกด้วยวะผมยังไม่เข้าใจตัวเองเลย


"อะๆแค่รับก็พอใช่มั้ย"ลุงแกยิ้มร่าทันทีในตอนที่ผมรับไอติมมาถือไว้ในมือ

ผมรีบจ้วงไอติมเข้าปากเพื่อให้แกสบายใจ

"แล้วนี้ลุงจะปั่นไปแจกไแบบนี้ทั้งวันเลยหรอ"ผมถามลุงด้วยความสงสัย

"ถูกชะตากับใครข้าก็ให้ไม่ถูกข้าก็ขาย" พูดจบลุงแกก็ตั้งท่าปั่นจักรยานพ่วงรถไอติมต่อแต่ผมรีบเรียกลุงแกไว้

"ลุง" ลุงแกหันมามองสายตานิ่งๆ

"ขอบคุณสำหรับไอติมนะครับ ผมรู้สึกดีเพราะไอติมของลุงเลยนะ เนี้ย"พูดจบลุงแกก็ยิ้มที่มุมปากก่อนจะยกมือขึ้นโบกไปมาเหมือนตอบผมเป็นนัยๆว่าๆมาเป็นไร ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาปั่นต่อไป


ถ้าหากผมได้เจอคนแบบลุงอีกสัก คนก็คงดี...ผมได้แต่ถามอยู่ในใจก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าต่อพร้อมกับไอติมมะพร้าวอันใหญ่ๆที่อยู่ในมือ

พรึ่บ!  ไอติมมะพร้าวที่อยู่ในมือผมหล่นลงพื้นผมก้มลงมองอย่างนึกเสียดายก่อนจะหันไปสบตากับไอคนที่พึ่งจะเดินชนผมไปเมื่อตะกี้


"ขอ.โทษทีครับ พอดีผมเหม่อๆหน่ะผมไม่ได้ตั้งใจนะ"คำด่าที่อยู่ในปากผมถูกหยุดลงเพียงเพราะคำพูดของคนตรงหน้า

"ม..ไม่เป็นไรครับ แต่ที่หลังก็มองทางหน่อยละกัน"ผมว่ากล่าวบอกคนตรงหน้าที่ดูๆแล้วน่าจะเด็กกว่าผมอยู่หลายปี ก่อนที่เขากำลังจะก้ม ลง ..เฮ้ยย!!ผมรีบดึงตัวเขาขึ้นเพราะคิดว่าน้องจะกราบตีนผม(แต่แป่ว)เขาก้มเก็บหนังสือต่างหากหลังจากที่กำลังกอบกู้เสดหน้าที่ฝแตกเกลื่อนไปทั่วถนน ผมก็รีบก้มลงช่วยไอน้องคนนี้เก็บของที่ตกอย่างช่วยไม่ได้


"เมื่อกี้คิดว่าผมจะ...."ผมรีบพูดแทรกขึ้นก่อนเพราะผมรู้ว่าไอเด็กนี้มันจะพูดอะไร ห่านจะล้อเลียนกูละสิ

"เอ่อ ทีหลังก็เดินระวังๆหน่อยละกัน"ผมเบือนหน้าหนีกลบเกลือนความอายก่อนจะรีบเดินชิ่งออกมา

พรึ่บ อีกแล้ว รอบนี้อะไรอีกวะ ผมร้องบ่นในใจอย่างอดไม่ได้ก่อนจะรีบใช้มือปัดอะไรสักอย่าง ที่ติดอยู่บนหน้า

ผ้าพันคอที่เกี่ยวอยู่บนกิ่งไม้ ผมหันมองซ้ายขวาไม่เห็นใครอยู่บริเวณนี้เลย อ่อ สงสัยจะลอยมาละมั้ง จะว่าไปช่วงปลายๆปีแบบนี้ถึงแม้จะมีแสงแดดในช่วงบ่ายแต่มันก็ยังมีลมเย็นผสมลอยมาด้วย และพอผมพึ่งนึกได้ ขนแขนเจ้ากรรมก็ดันลุกซู่ ด้วยความเย็นที่ลอยไปทั่วชั่นบรรยากาศ ผมรีบแกะผ้าพันคอมี่พันเกี่ยวกับกิ่งไม้มาวางไว้บนมือก่อนจะเดินกลับบ้านไปด้วยความหนาวเย็นที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


จะว่าไปสภาพอากาศของเมืองไทยบ้านเรานี้ก็แปลกนะครับนึกอยากจะร้อนก็ร้อนซะจนตับแทบแตกส่วนไอจะหนาวก็หนาวแบบไม้มีปี่ไม่มีขลุ่ยอะไรเลย รวมถึงตอนนี้ด้วย ผมกลับมาถึงร้านพี่ริว. ในตอนที่ลูกค้าพึ่งเดินออกจากร้านพอดีและก็เป็นเรื่องดีที่ผมจะได้ช่วยงานพี่เขาด้วย


และระหว่างที่กำลังก้มๆเงยๆเก็บจานอยู่นั้นเองสายตาผมก็บังเอิญไปเห็นเอกสารวางอยู่บนโต๊ะ จึงรีบบอกกับพี่ริว
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:47〖13/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-11-2017 23:19:25

"พี่ว่าคงเป็นพวกโปรชัวร์แนะนำนั้นแหละมั้ง ทิ้งไปเถอะ"ในเมื่อพี่ริวพูดขนาดนี้ปล้วนิเนอะผมก็เลยขยำๆทิ้งลงถังขยะไปแต่มันเหมือนมีอะไรมาดลใจให้ผมหันหลังกลับไปเก็บกระดาษแผ่นนั้นมาและคลี่อ่านออกด้วยความตั้งใจ

"ด้วย บริษัท Tnk software. ได้มีแนวทาง....ตื่ดๆๆๆ ...ที่จะตื้ดดๆๆๆ ...หาแนวร่วมสร้างธรุกิจกลุ่มใหญ่โดยมีแนวคิด ....ตื้ดดๆๆๆ (ยาวไปไม่อ่าน)  ทั้งนี้เราอยากขอเชิญ ผู้ที่มีความคิด  ความกล้า ความมั่นใจและมีแนวคิดอะไรใหม่ๆ มาร่วมเป็นครอบครัวในการสร้างธุระกิจ ซอรฟ์แวร์ ...."เฮ้อ...ผมวางใบโปรชัวร์ลงที่โต๊ะพร้อมกับถอนหายใจออกมาเสียงดัง. ขนาดพี่ริวที่ยืนวุ่นๆอยู่หลังร้านยังออกมาถามผมด้วยความเป็นห่วง

"เป็นอะไรรึเปล่าเจ"พี่ริวถามผมพร้อมกับเอามือลูบหัวผมเบาๆ

"ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย"

"คิดเรื่องอะไรอยู่ละเรา"

"ผมเองยังไม่รู้จำทำไงต่อกับชีวิตเลยอะพี่"

"หืม"พี่ริวขยับเข้ามานั่งข้างๆผมก่อนจะหยิบโปรชัวร์ที่ผมพึ่งขยำคลี่ออกมาอ่าน

"ผมไม่อยากใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยแบบนี้อะครับ ผมอยากทำอะไรอย่างคนอื่นเขาบ้าง "

"เช่น"พี่ริวถามขึ้น

"ตื่นเช้าไปทำงาน กลับบ้านมาทำงานอีกนิดหน่อย กินข้าวแล้วก็นอนหลับแล้วก็ตื่นเช้าไปทำงานอีก"

"นั้นมันมนุษย์เงินเดือนชัดๆ ชีวิตอย่างนี้มันน่าเบื่อนะ เจไม่เห็นตอนพี่กลับมาทุกวันหรอ สภาพพี่ยังกับศพ"มันเป็นเรื่องจิงที่ผมเห็นเกือบทุกวันพี่ริวทำงานหนักจนบางทีผมตื่นมาในตอนเช้าก็ยังเห็นพี่เขานั่งทำงานหัวผงกอยู่เลย

"แต่ผมอยากเรียนรู้นิครับ"

"เจมั่นใจหรอว่าจะรับไหว" พี่ริวถามผมเสียงหนักแน่น

"ไหวไม่ไหวผมก็อยากลองดูอะครับ เกิดมาครั้งเดียว อยากลองอะไรให้มันครบ"พี่ริวหลุดหัวเราะออกมาในตอนที่ผมพูดตอบ

"งั้นก็ลองไปสมัครนี้ดูสิ "พี่ริวพูดพร้อมกับยื่นใบโปรชัวร์ที่ผมพึ่งขย้ำไป

"ผมไม่มีความรู้ด้านนี้อะพี่ ไปสมัครยังไงเขาก็คงไม่รับ"

"เราอ่านดูครบรึยังละ"เป็นเพราะพี่ริวพูดผมถึงต้องดึงใบกระดาษมาอ่านอีกรอบให้ถ้วนถี่

ตรงวงเล็บด้านล่างมันเขียน ตัวอักษรสีแดงๆไว้ว่า

"ไม่จำกัดวุฒิและไม่เน้นประสบการณ์" และยังมีต่ออีกนิดๆว่า

"เพราะเราจะเรียนรู้มันไปพร้อมๆกัน "ลงชื่อ Tnk software

"เฮ้ย อย่างงี้ผมก็สมัครได้อะดิ่"ผมร้องุถามพี่ริวที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ก็แน่ละสิ น้อยบริษัทนะที่จะมีข้อจำกัดแบบนี้"ผมรีบโถมตัวเข้าไปกอดคนข้างๆรับรู้ถึงความเกร็งแปลกๆอยู่ที่ตัวพี่เขา

"อ..เอ่อ..ยังไงก็สู้ๆนะ"พี่ริวพูดจบก็เดินเหม่อลอยขึ้นห้องไปโดยไม่ได้หันมาคุยอะไรกับผมอีก... สงสัยอากาศคงหนาวละมั้ง...


......................

เช้าวันถัดมา. วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแถมในความตื่นเต้นนั้นยังแฝงไปด้วยความประหม่านิดๆอยู่ด้วย

ช่วงเวลาเช้าๆแบบนี้สภาพอากาศก็เริ่มหนาว..ไม่สิหนาวมาตั้งแตีเมื่อคืนแล้ว


ผมไม่ลืมที่จะพกเสื้อกันหนาวและผ้าพันคอผืนใหม่(ที่พึ่งเก็บได้)พกติดตัวมาด้วย อย่างน้อยก็ขอให้ความอบอุ่นเล็กๆน้อยๆนี้ช่วยทำให้อาการตื่นกลัวผมลดลงได้บ้าง ถึงจะน้อยนิดเดียวก็เถอะ..


ณ .ตึก  TNK Software

โอ้โห อือหือ อู้หู้ ผมไม่รู้จะบรรยายเกี้ยวกับสถานที่นี้ยังไงดี คือดีไซน์ตึกมันสวยมาก รวมไปถึงการตกแต่ง อถมความสูงนี้ก็ใช่เล่น ถ้าให้ผมเดาๆน่าจะเกือบ 20ชั้นได้มั้ง


แต่ประเด็นสำคัญมันไม่ได้อยู่แค่ตรงนั้นครับ

ผู้คนที่เดินไปมาถือซองเอกสารสีน้ำตาลคงไม่ต้องเดาให้ยากครับ มาสมัครงานกันแน่ๆแต่คือจำนวนคนมันเยอะมาก ความประหม่าของผมมันเลยทวีคูณเพิ่มเป็นเท่าตัว..เรื่องเสียงหัวใจนี้ไม่ต้องสืบครับเต้นรัวยิ่งกว่าจังหว่ัสามช่าอีก กว่าที่ผมจะก้าวขาแต่ละก้าวได้นี้ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก ผมเดินเข้าตึกไปซึ่งมีพนักงานคอยต้อนรับผมด้วยรอยยิ้ม. แถมแอร์ด้านใน

ยังเปิดซะเย็นจนไข่สั่นไปหมดโชคดีของผมหน่อยที่พกเสื้อคลุมมาด้วยเลยช่วยบรรเทาความหนาวได้บ้าง


"มาติดต่อเรื่องสมัครงานใช่มั้ยคะ"พี่พนักงานตรงเคาท์เตอร์ถามผมที่ยืนเหวอๆมองบรรยากาศโดยรอบอยู่..


"ค..ครับ"


"นำเอกสารมาด้วยรึเปล่าค่ะ"

"เอ่อสักครู่นะครับ"ผมก้มลงหยิบเอกสารในซิงก่อนจะยื่นให้พี่เขา


"ยืนรับบัตรคิวตรงนี้แล้วก็นั่งรอ ให้คนมาเรียกชื่อนะคะ"ผมยิ้มตอบก่อนจะหยิบบัตรคิว

แม่จ้าว!  คิวที่ 360 ระหว่างที่ว่างๆผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมพลางๆ

"เชิญรอด้านนี้ก่อนเลยนะค่ะ เดี๋ยวจะมี อีกคนเรียกชื่อแล้วก็รอเข้าห้องสัมพาทได้เลยคะ"

"ขอบคุณมากครับ"


"เอ่อ ที่ตรงนี้ว่างมั้ยครับ "เสียงของใครก็ไม่รู้แต่เหมือนเขาจะคุยอยู่กับผมนะ "

"ว่างครับนั่งได้เลย "ผมพูดตอบแต่สายตากำลังจ้องเกมส์ในมือถืออยู่..แต่ผ่านไปได้พักนึงคนข้างๆก็ุถามผมต่อ

"มาสมัครงานเหมือนกันหรอครับ"ผมกรอกตามองบนอย่างเสียอารมณ์ที่ถูกรบกวนสมาธิในกานตีป้อมก่อนจะหันมาตอบ

"ทุกคนที่มาที่นี้ในวันนี้ก็มาสมัครงานกันทั้งนั้นแหละครับ"น้ำเสียงผมกัดฟันกรอด..แต่เอ๊ะไหงไอคนนี้หน้าถึงดูคุ้นจังเลยนะ แต่ช่างมันเหอะผมขอตัวตีป้อมก่อนละกัน และหวังว่าไอคนข้างๆผมมันคงจะไม่นึดสงสัยุามอะไรต่อนะ..

ระหว่างนั้นเองเสียงเรียกชื่อแต่ละคยก็ดังต่อไปเรื่อยๆจนในที่สุด...

"คุณ เจตรินทร์ หมายเลข 360 คุณ.......ตื้ดๆๆ คุณ กิตติทัศน์หมายเลข 365 เชิญเข้าห้องสัมพาทค่ะ"ผมรีบขานรับโดยอัตโนมัติรีบปิดเสียงโทรศัพท์ในมือก่อนจะเดินนำ คนจากอีกสี่หมายเลขเข้าห้องไป

ในห้องนั้นเอง...

"คุณเจตรินทร์จากที่อ่านประวัติของคุณมาคร่าวๆแล้ว คุณมีประสบการณ์ในการทำงานเยอะเลยนะครับ"คือจะบอกว่าไงดีไอใบที่เขาให้กรอกมามันไม่มีช่องไหนให้ผมติ๊กว่าไม่เคยเลย เขามีแต่เขียนบอกว่าให้เขียน ประวัติในการทำงานที่ผ่านมาผมก็เลยร่ายยาวไปตั้งแต่ทำงานอยู่สมัยปีหนึ่งนู้นแหนะ..ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับซอรฟ์แวร์อะไรเลยจริงๆ

"เคยโปรโมทสินค้าด้วยเหรอค่ะ "เสียงของผู้หญิงท่าทางเย้อหยิ่งถามขึ้น ดูท่าเธอคงจะมีอำนาจในทีนี้ไม่น้อยผมจึงไม่รีรอที่จะตอบเธอกลับไป

"เคยครับตั้งแต่สมัย ฝึกงานช่วงแรกๆ"เธอพยักหน้าเอือมๆแต่ก็ยอมรับฟัง

"อย่างงี้ก็เคยทำการตลาดมาแล้วสินะคะ"เออถึงจุดนี้ผมควรตอบไงดีนะ คือแค่ไปเป็นลูกมือช่วยเขานิดๆหน่อยๆนี้ถือว่าเป็นการตลาดมั้ยอะ แต่ด้วยสปิริทที่แรงกล้าผมจึงตอบเธอกลับไป

"ผมเคยทำงานในเป็นผู้ช่วยในทีมการตลาดมาเมื่อปีก่อนเองครับ"ไหลไปอีกมึงเจ

"ทั้งฝึกงานและโปรโมทสินค้ามาก็เคยแล้วครับ"คณะกรรมการดูมีสีหน้าอึ้งๆในตอนที่ผมพูดตอบ  แต่..แต่มันยังไม่จบแค่นี้ครับ.ผมยังแถได้อีก

"ระหว่างในการทำงานผมได้เข้าถึงและเรียนรู้ถึงใจของผู้คน มันถือได้ว่าเป็นรางวัลให้กับชีวิตของผมที่เคยได้รับมาเลยครับ"

"หึ"เสียงพูดผมหยุดชะงักเพราะเสียงใครคนนึงที่ดึงขึ้นมาแทรกจังหว่ะ ผมเลยหันไปมองหมายเลข 365ถึงรู้ว่าเขาเป็นคนขำ (ไอคนที่กวนสมาธิผมตะกี้นิ่)

"อ่า..พูดได้ดีนะคะ"เป็นคณะกรรมการอีกคนที่พูดขึ้นทำให้ผมเลิกสนใจไอคนที่เขาและมาสนใจงานต่อ

"จากประวัติที่เขียนล่าสุด งานที่ทำ คือเป็นผู้ช่วยในการช็อปปิ้งใช่มั้ยคะ "

"ใช้ครับ"ผมตอบด้วยความมั่นใจ

"อ๋อ งั้นจากประสบการณ์ของคุณ อยากรบกวนให้คุณช่วยแนะนำแฟชั่นที่เหมาะกับตัวดิชั้นหน่อยได้มั้ยคะ"ผมมองเธออึ้งๆ คือเอาจริงๆมั้ย ผมก็เป็นแค่เซลล์ขายของดีๆเองนี้แหละแต่แค่เขียนเว่อร์ไปเท่านั้น(ตามคำแนะนำของเชี้ยวิน)

"แต่ถ้าจะทำแบบนั้นคุณคงต้องรู้ว้าดิฉันเป็นคนยังไงก่อนใช่มั้ยค่ะ"เธอถามผมยิ้มกรุ่มกริ่ม ผมหน้าเสียเล็กน้อยแต่ก็ต้องอดทนฮึดสู้ต่อ

"ดูจากบุคลิคภายนอกแล้ว. คุณเป็นคนเก่ง ที่รู้ว่าอะไรเหมาะกับตัวเองดีอยู่แล้ว คุณเป็นคนมีไหวพริบ การที่คุณเอาผ้าพันคอมาปิดริ้วรอยที่คอ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและเหมาะมาก คุณปกปิดจุดบกพร่องด้วยเครื่องประดับที่ลงตัว แถมการแต่งตัวของคุณยังดูไม่เหมือนใครอีก ผมว่าการแต่งตัวสไตน์แบบนี้เหมาะกับคุณที่สุดแล้วละครับ"สาบานได้ผมจำประโยคพวกนี้มาจากหนังเรื่องนึง แต่โชคดีไปอย่างทีมันดันบังเอิญตรงกับที่ผมพูดออกไปแบบเป๊ะๆ เธอเองก็ดูท่าทางจะพอใจกับคำพูดของผมมากถึงขนาดแสะยิ้มออกมาที่มุมปาก

แต่แล้วอยู่ๆ ไอคนข้างๆผมมันก็ดันพูดแทรกขึ้นอีกทำเอาผมที่กำลังยิ้มด้วยความดีใจต้องหันไปถลึงตาใส่แทน



"ผมว่ายังมีอีกครับ"ไอคนข้างๆพูดขึ้น

"เชิญออกความเห็นค่ะ"คนที่ผมพึ่งจะวิจารณ์เธอไปพูดขึ้น

"จากความยาวของคอทั้งหมด คุณโชวมาแค่เศษหนึ่งส่วนสี่เท่านั้น ผมคิดว่าการเปิดเผยอีดนิดหน่อยมันอาจจจะเพิ่มแรงดึงดูดให้กับตัวคุณเองกับเพศตรงข้ามได้มากขึ้นนะครับ"เธอเองที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบก้มหน้ายิ้มๆเขียนเอกสารเหมือนกำลังให้คะแนนประเมินอยู่แต่ให้ตายสิ มันแย่งซีนผมอะ ...


แล้วหลังจากนั้นการถามคำถามก็ยังเป็นไปด้วยความดุเดือดแต่ ผมก็โดนขัดคอทุกทีด้วยฝีมือคนเดิมๆ

"ในตอนนี้ทุกคนก็ได้ตอบคำถามกันหมดแล้วนะคะ เพราะชะนั้นดิฉันก็จะขอกล่าวสรุป ว่าจริงๆแล้ว ประสบการณ์ที่พวกคุณได้หรอกมามันเป็นเพียงตัวช่วยให้พวกคุณได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วดิฉันก็ไม่รู้ว่าประสบการณ์พวกนั้นจะช่วยอะไรคุณในบริษัทนี้ได้มั้ยนะคะแต่ยังไงก็ขอขอบคุณที่มาร่วมกันแสดงความคิดเห็นนะคะ หวังว่าภายภาคหน้าเราอาจจะได้ทำงานร่วมกับพวกคุณทุกคนอีก สำหรับวันนี้ขอบคุณจริงๆค่ะ

เสียงพูดของเธอจบพร้อมกับเสียงปิดประตูที่ดังออกไป ทุกๆคนภายในห้องถยอยกันเดินออกไปรวมถึงตัวผมที่รู้สึกๆม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก

ระหว่างที่ออกมานั้นเอง

"นี่นาย!"ผมตะโกนเรียกไอตัวที่ที่ทำเอาผมเฟลตั้งแต่ก่อนเข้ายัยตอนออกโดยไม่แคร์สายตาของใครหลายคนที่มองมาทางนี้เลย ไอตัวสูงหันมามองผมเหมือนสงสัย ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

"นายนั้นแหละ"

"มีธุระอะไรกับผมหรอ"มันถามหน้านิ่ง

"ทำไมถึงต้องคอยขัดเวลาคนอื่นพูดด้วยละ "ผมถามสีหน้าเคร่งเครียดแต่เจ้าตัวกับยืนทำหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกผิดอะไีร

"ผมเปล่าขัดนะ อีกอย่างผมชื่อชมคุณจะตาย คุณพูดดีมากนะ"ชื่นชมกับผีกูนิ

"แล้วเวลาชื่นชมใครนายก็ทำแบบนี้ตลอดเลยรึไงไม่รู้หรอว่ามันเป็นเหมือนการหักหน้าคนพูดขนาดไหน มันเกือบจะดีอยู่แล้วเชียวถ้านายไม่ดันมาขัดมันซะก่อน "อีกฝ่ายดูอึ้งๆแต่คำพูดผมมันยังไม่จบ

"ถึงช่วงนี้งานมันจะหายากแค่ไหนแต่ก็ไม่ควรทำอย่างนี้กับคนอื้นสิ"และในตอนนั้นเองอีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้น

"นี้พี่คนสวยครับ"ผมยังงงๆแต่ก็ลองหันมองด้านหลังอยู่ก็ไม่มีใคร

"ว่าอะไรนะเมื่อกี้"ผมถามย้ำเพราะเผื่อหูตัวเองจะฝาดไปแต่คำถามยังเสือกเหมือนเดิม


"คนสวยไง"อีกฝ่ายตอบหน้านิ่งพร้อบกับชี้นิ้วมาที่ผ้าพันคอขอผม

"นั้นน่ะของผม" ผมพ่นลมใส่ผมม้าตัวเองก่อนจะเริ้มพูด


"นี้ไอหนู..ก็เข้าใจนะ ว่าสมัยนี้เงินทองมันหายากแต่ก่อนจะพูดอะไรช่วย ดูดีๆก่อนนะว่ามันใช่ของตัวเองรึเปล่าๆไม่ใช่มาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้"ผมบ่นๆปนสอนเล็กน้อย

"ผมดูดีแล้ว ที่พี่ใส่อยู่อะของผม "

"ทำไมถึงมั่นใจนัก"ผมถามกลับ

"ไม่เชื่อพี่ก็ลองพลิกด้านหลังดูสิตรงปลายๆ จะมีชื่อสลักว่า Zg."และด้วยความลังเลผมเลยลองพลิกตามที่ไอเด็กนี้มันบอกแล้วก็ต้องหน้าชาเมื่อมันมีชื่อสลักไว้จริงๆ ผมกระแอ่มเสียงเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินไปกดลิฟฟ์แก้วที่อยู่ตรงหน้า

"โอ้ยเปิดสักทีสิวะ"ผมได้แต่ล่นกับตัวเองเบาๆพร้อมกับเสียงขำหึๆที่ลอยลอดผ่านเข้ามาในหู

ใจจริงอยากจะรีบคืนผ้าพันคอให้ไอเด็กนี้มันไปๆซะนะ แต่ทำไงได้อะ หน้าผมแตกหมอไม่รับเย็บเลย แค้จะยื่นหน้าไปมองมันตอนนี้ก็ยากแล้ว ไว้โอกาศหน้าแล้วกันนะไอหนู.....

ปิ๊ง! เสียงลิฟฟ์เปิดเป็นเหมือนเสียงสวรรค์ที่ผมรอคอยผมไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปในลิฟฟ์


แต่แล้วทุกการระทำของผมก็ถูกหยุดลง เพียงเพราะเจอเข้ากับใครคนนึงเข้า

มันเหมือนมีภูเขาหิมะขนาดใหญ่กำลังหล่นลงมาทับอยู่ที่ตัวผม ขาผมแข็งไปหมด ผมก้าวเดินไม่ออก ลำคอแห้งฝืด ขนาดเสียงที่จะพูดผมยังเปร่งไม่ออกเลย...

ใครคนนั้นที่ผมพูดถึงมันคือคนที่ผมเคยรักสุดหัวใจ คนที่ผมยอมทิ้งทุกอย่างได้เพื่อมัน และเป็นคนเดียวกับที่ผมยอมทิ้งความสุขทั้งหมดได้เพียงเพราะมันคนเดียว ใครคนนั้น ก็คือ


กาย...


TBC...

อย่าพึ่งหายกันไปน้า  *  "  *

หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:47〖13/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-11-2017 08:30:27
 :L2: :pig4:

ขยันลงมาก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:47〖13/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 14-11-2017 09:20:26
มีพักนึงที่เงียบหายไปขอโทษด้วยนะครับตอนนี้จะกลับมาอัพให้ตามปกติแล้ว  อย่าพึ่งหายกันไปน้า   '.'
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:48〖16/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 16-11-2017 14:51:21
Falling in love

ข่าวดี

หลังจากที่ผมยืนอึ้งหันหลังให้ลิฟฟ์อยู่นาน  ผู้คนด้านในก็เดินออกกันไปหมดแล้ว ตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับกายเพียงสองคนด้านใน


ไม่มีเสียงพูดคุยหรือเสียงพูดคุยอะไรออกจากสียงของลมหายใจของเราทั้งสองคน ใบหน้าเคร่งตรึงที่จ้องมองมาผมมองเห็นได้จากเงาที่สะท้อนผ่านกระจกสีใส  ผมไม่สามารถเดาทางและอารมณ์ของอีกฝ่ายได้เลย

ผมควรทำลายบรรยากาศมาคุ ด้วยวิธีไหนดี จะเดินออกไปเลยก็ไม่ได้ จะรอลิฟฟ์เปิดก็อีกตั้งสี่ชั้น หรือจะชวนมันคุยดี ..ใช่ ชวนคุยว่าแต่ผมควรจะชวนมันคุยเรื่องอะไรดีละ ..อืม..เรื่องงานละกัน..หวังว่ามันคงจะไม่เงียบใส่ผมหรอก..ใช่มั้ย..ผมเองชักไม่แน่ใจ..




ปิ๊ง! ระหว่างที่กำลังคิดหาประโยคขึ้นมาพูดประตูลิฟฟ์เปิดออก


เวร ชั้นล่างสุดแล้วหรอทำไมไวงี้วะ..


หมับ...

คำพูดในหัวผมดับวูบ ทันทีที่มีมือของกาย จับมือของผมไว้และเป็นฝ่ายเดินนำออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ค่อยจะมีคนนัก


"กายปล่อย..."จบคำพูดผมมันปล่อยมือผมในทันที ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าที่กระเป๋าเสื้อสูตของมันมาเช็ด....ผมมองตามสิ่งที่คนตรงหน้าทำแล้วรู้สึกใจตัวเองกระตุกวูบ ..เหมือนมีอะไรที่แหลมคมผ่านเข้ามาทิ่มแทงหัวใจผมด้วยความเร็วสูงแล้วมันก็ลับหายไป..


"ก็ไม่ได้อยากจะจับมากนักหรอก.."อีกฝ่ายพูดด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่คนฟังนี้สิ..รู้สึกเต็มๆ

"พาออกมามีเรื่องอะไรจะพูดรึไง"ผมเป็นฝ่ายขึ้นเสียงบ้างเพราะถ้าหากผมเงียบก็เท่ากับว่าผมยังแคร์มันอยู่ทั้งที่จริงๆแล้วไม่เลย..

"มาทำไม"เป็นคำถามที่คนฟังอย่างผมถึงกับต้องทำหน้างง

"ถามแปลก มาบริษัทกูคงมาวิ่งเล่นกับป้าๆแม่บ้านมั้ง"

"หึ"อีกฝ่ายกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเสหน้ามองไปทางอื้นแต่หางตาก็ยังเหล่ๆมาทางผมอยู่

"มีบริษัทอยู่เป็นร้อยเป็นพันที่แต่ทำไมมึงถึงต้องมาบริษัทนี้...ทำไมต้องเป็นบริษัทของกูด้วย.."ผมเงียบ..ฉับ ตอนที่ได้ยินประโยคสุดท้าย..สาบานได้ผมๆมาเคยรู้มาก่อนว่าบริษัทนี้เป็นของมันมาก่อน


"เอ่อ.."คำพูดที่ผมเตรียมจะพูดเมื่อกี้ พากันลอยหายไปพร้อมกับลมหนาว. ในหัวว่างเปล่าไปหมด แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผมเองก็ต้องรีบกู้ข้อมูลเก่าๆกลับมสพร้อมกับเปลี้ยนสีหน้าซึมๆของตัวเองให้ดูเป็นปกติอีกครั้ง


"ก็..บริษัทนี้ เขาบอกว้ารับ คนแบบไม่จำกัดวุฒิ ไม่จำกัดความสามารถ  แถมยังไม่มีเส้นสายอีก ถ้าจะให้ไปสมัครเขาก็คงไม่รับหรอก..แล้วอีกอย่างนะ ถ้ากูได้ประสบการณ์จากที่นี้จนพอแล้ว กูจะขอลาออกไปทำงานที่อื่น. ไม่ต้องรอให้คนอย่างมึงมาไล่กูหรอก."

"นั้นมันเรื่องของตัวมึงเอง .."อีกฝ่ายหันมาจ้องหน้าชัดๆก่อนจะเริ่มพูดน้ำเสียงจริงจัง

"กูเกลียดมึงและไม่อยากเห็นหน้ามึงอีก รู้ไว้ด้วย และก็ไม่ต้องลำบากมาส่งเอกสารนะ เพราะยังไงกูก็ๆไม่รับมึงเข้าทำงานเเน่นอน"พูดจบเจ้าตัวก็รีบเดินหมุนตัวสวนทางกับผมไป..แต่ผมรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน

"ใจแคบขนาดนั้นเลยหรอ อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัว เข้ามายุ่งกับเรื่องงานสิ แต่ก่อนมึงไม่ใช่คนแบบนี้ไม่ใช่แบบนี้"ผมพูดตอกกับพร้อมกับคิดอะไรเดัยวในใจ..

"พูดออกไปขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวมันก็คงใจอ่อน ระบเราเข้าทำงานเองนั้นแหละ ขอนับถอยหลังรอเลยแล้วกัน

3...2...นนน..นึ่..และ

"ไม่ละ..อดีตมันจะเป็นยังไงไม้สำคัญหรอกตอนนี้. ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ดี มาก! "มันเน้นคำว่ามากใส่หน้าผม อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาทำตามกับอะไรที่มันเึยเป็นอดีตแล้วละ"ผมรู้สึกหน้าชาเล็กน้อยในหัวเริ่มกลับมาตื่ออีกครั้ง กายมันทำท่าหันหลังเดินจากไปอีกครั้งแต่คราวนี้ผมรีบเดินไปจับมือมันเพื่อพูดอะไรบางอย่างแต่กลับถูกสบัดแขนออกอย่างแรง

"แล้วจะต้องให้ทำยังไง ต้องนั่งขุกเข่าขอโทษเลยมั้ย"ผมพูดประชด

"ก็เอาสิ"ผมตกใจมากที่ได้ยินคำตอบจากปากมันแบบนี้แถมสายตามันยังบอกกับผมอีกว่ากำลังรอดูในสิ่งที่ฒพึ้งจะพูดไปว่าจะทำจริงๆรึเปล่า


"ทำไมละ ทำไม่ได้หรอ...ถ้าทำได้อาจจะคิดใหม่เรื่องรับเข้าทำงานก็ได้นะ"อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่คนฟังแบบผมถึงกับพูดอะไร ไม่ออก


ผมกำหมัดแน่นแนบไว้ข้างลำตัวในใจมีแต่คำถาม ว่าผมควรจะทำจริงๆหรอวะ


แต่เหมือนตัวผมจะไปไวกว่าความคิดเสมอในเมื่อมันอยากเห็นผมก็จะทำดู..แต่ทำไมรู้สึกว่าขาตัวเองมันหนักอึ้งอย่างนี้วะ. คุกเขาสิ ขุกเข่าสิ ...


ขาผมกำลังจะถึงพื้น แต่อีกฝ่ายเดินหมุนตัวกลับไป แล้วไม่หันกลับมามองที่ผมอีกเลย


ไรของแม้งวะ..แม้จะรู้สึกตะหงิดๆ บวกกับเจ็บแปลบในตอนแรกนิดๆแต่ตอนนี้ผมกับมันเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ผมจะไม่ปล่อยให้อดีตเก่าๆมาทำลายชีวิตปัจจุบันของผมอีก ที่ผ่านมาผม คงคิดผิดที่โทดตัวเองฝ่ายเดียวและก็คงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะเกลียดผมเข้าไส้ขนาดนั้น แต่นั้นมันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วจะยังนึกถึงทำบ้าอะไร...ถึงผมจะยังไม่ลืมเรืองที่เคยผ่านมา แต่เชื่อเถอะ...ผมเป็นได้อีกไม่นานหรอก..คอยดูนะผมจะพิสูทให้ทุกคนเห็นว่าผม ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน แล้ว


สัญญากับตัวเองพร้อมกับหมุนตัวกลับ

"ขอกูไปตั้งหลักก่อนละกัน เราคงได้เจอกันบ่อยขึ้นนะ ไอประธาน"


..................


พาท ของกาย

 

โว้ยยยยยๆๆ!!!! 

ผมร้องตะโกนอยู่ที่ห้องทำงานชั้นบนสุด ด้วยอารมณฺ์ไหนผมเองก็อธิบายไม่ถูกแต่ที่รู้ๆคือหงุดหงิดเข้าขั้นรุนแรง..

"พี่กาย ผมเอารายชื่อคนที่มาสัมพาทงานงันนี้มาให้ครับ ขอเข้าไปนะ"เสียงไอปอนรุ่นน้องคนสนิทสมัยตอนอยู่มหาลัยของผมเองครับมันเป็นเด็กนิสัยดีขยันทำงาน แถมยังไว้ใจได้ด้วย ผมขอดึงตัวมันมาในตอนที่มันพึ่งเรียนจบหมาดๆ และอาจเป็นเพราะด้วยความสนิทกันมานานผมก็เลย อณุญาติให้มันเรียกผมเหมือนที่เคยพูดคุยกันมันสมัยก่อน ถึงในตอนนี้จะมี คำว่าประธาน ค้ำหัวอยู่แล้วก็ตามที


"เออเข้ามา"ผมบอกอนุญาติไอปอนมันเลยเดินเอาเอกสารมาวางไว้ให้ที่โต๊ะ

"แล้วนี้ คุณไพโรจน์ฝากมาให้ครับ"

"เอาไปทิ้งและคราวหน้าคราวหลังไม่ต้องรับมาอีก"ผมบอกมันเสียงแข็ง

"แต่..."

"หรือมึงอยากจะตามเขาไปห้ะ"ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ นักถ้าจะถามว่าทำไมผมถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้นะหรอ คงต้องท้าวความสมัย ทำบริษัทช่วงแรกๆเลย ไอวิโรจน์เนี้ย ผมขอพูดแบบไม่ให้เกียติแล้วกันนะ


เขากับผมเคยร่วมกันทำธุรกิจในช่วงแรกๆด้วยกัน เริ่มๆมันก็ดีนั้นแหละครับแต่พอมาถึงช่วงกลางๆปัญหาก็ตามมา บริษัทเกือบปิดตัวลง  แล้วไอวิโรจน์เนี้ย รีบชิ่ง ถอนหุ้นทั้งหมดของมันออกไปจนหมดก่อนจะนัดออกไปคุยบอกว่า จะขอเลิกลงทุนกับผมเหตุเพราะกลัวผมล้มละลายแต่ นึกแล้วก็ขำนะครับ ล้มละลายมันใช้กับผมไม่ได้หรอก เพราะถึงต่อให้ผม จะพบเจอทางตันเข้าจริงๆผมก็ยังมีเงินสนับสนุนจากคุณแม่อีกเพียบซึ่งไม่ต้องกลัวเลยว่าจะมีปัญหา แต่เหมือนเขาคนนี้จะกลัวไง เลยรีบทิ้งผมในช่วงที่เราลำบาก ปล่อยให้ผมทำแก้ปัญหาอยู่แค่คนเดียว จนเมื่อเวลาผ่านไปปัญหาทั้งหมดของผมมันก็ค่อยๆคลี่คลาย ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมสเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง...และครั้งนั้นเองถึงทำให้ผมได้รู้ว่าใครจริงใจกับผมบ้าง...


"โหพี่ งานช่วงนี้ยิ่งหายากๆอยู่ อย่าไล่ผมออกเลยนะพี่นะ"มันพูดพร้อมกับเดินมาทำท่าจะเลียขาผมให้ได

"พอๆไอสัดกูไม่ไล้มึงออกหรอก เสร็จงานแล้วใช่มั้ย เสร็จแล้วก็ไปสิ"ผมปัดๆมือไล่มัน

"พี่ไม่คิดจะดูหน่อยหรอ..คนที่มาสมัครอะ คราวนี้จะให้ผมเอาเอกสารไปวางไว้เฉยๆอีกแล้วใช่ปะ"ที่มันต้องพูดเพราะมันคือความจริงครับ ผู้สมัครรอบที่แล้วนี้มีแต่พวก คนไม่มีพื้นฐานกันแล้วทั้งนั้นเลย..แต่ลูกพี่ลูกน้องผม อย่างพี่เอื้อยนี้สิ ดันไปเขียน ว่ายินดีต้อนรับทุกๆคนแม้จะไม่มีประสบการณ์ก็ตาม ผมละชักเริ้มจะปวดหัวกับพี่ตัวเอง จนถึงตอนนี้ผมเองก็ยังหาตัวเธอไม่พบอีกตามเคย สงสัยจะอยู่เลี้ยงน้องฟ้าใสอยู่บ้านก็เป็นได้

อ่อผมลืมบอกอีกอย่างพี่เอื้อยพี่ลูกแล้วนะครับ ชื่อน้องฟ้าใส ตอนนี้อายุก็ราวๆ 6-7ขวบได้แล้ว


"มึงยังอยู่กูไม่มีสมาธิ  ดู"

"ไม่เกี่ยวอะเอาจริงๆผมอยู่ไม่อยู่พี่ก็ไม่ดูเหมือนเดิม"และด้วยความลำคาณผมเลยลองเปิดๆดูหน้าเว้นหน้า ก่อนจะเจอเข้ากับใบสมัครของใครคนนึงเข้า

"เจตรินทร์"ผมแสะยิ้มมุมปาก บ่นพึ่มพัมเบาๆคนเดียว

"เป็นไงพี่ มีเข้าตาสักคนมั้ย "ผมเงยหน้ามองไอปอนก่อนจะตอบ


"เข้าตาหรอ..มีสิ"ผมกัดฟันพูดพร้อมกับหยิบใบเอกสารตรงหน้ามาขยำทิ้งแล้วเควี้ยงใส่ถังขยะไป

ตอนแรกก็นึกว่ามาเล่นๆแต่นี้มีใบสมัครทิ้งไว้ด้วย แต่ฝันไปเถอะว่าผมจะรับ ผมจะไมมีวันกลับไปรู้สึกแบบเดิมๆอีกเด็กขาดไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามแต่ที่กลับมาหาผมแล้วจะหวังหาประโยชน์เข้าตัวละก็นะ ผมว่าเขามาผิดที่แล้วละ และแทบไม่ต้องเสียเวลาต่อมเลยเดิน หน้าตึงๆออกไปสูบบุหรี่ที่บนดาดฟ้าเพื่อระบายความเครียดแทน


.............

พอกลับมาถึงบ้านพี่ริวผมก็เจอเซอร์ไพทร์ใหญ่เลยครับ เซอรฺไพทร์ที่ว่าก็คือ.....


"อิเจ  กรี๊ดทำไม่ได้เจอกันนานหล่อขึ้นเยอะเลยเพื่อนฉัน"จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากอิกี้เพื่อนสนิทในคณะของผมเอง


"มึงมาได้ไงอะ.."

"ถามสามีหลวงมา"คงหมายถึงเชี้ยวินสินะ ลืมบอกไปครับว่าอิกี้มันคลั่งไอวินเพื่อนเอามากๆ

"อ๋อเหรอแล้วหายหน้าหายตาไปไหนมาตั้งนาน ขาดการติดต่อไปเลยเน้อพวกเราตั้งแต่เรียนจบ". อิกี้มันรีบหันมาถลึงตาใส่ผมก่อนจะหยิกทีาข้อมือผมจนเจ็บไปหมด


"เจ็บ หยิกทำห่าไรเนี้ย"

"หยิกเรียกสติมึงนะสิคะ  อิดอก  อยู่ๆ ก็หายจากโลกโซเชียลกูกับอิเบนเทนนิต้องรีบตามหามึงกันซะยกใหญ่ เป็นเหี้ยไรค่ะ ดราม่าผัวทิ้งหรอ". พอกี้มันพูดขึ้นอารมณ์ดีๆของผมก็จบลงทันที

"เจ ... เรื่องจริงดิ"มันคงพอจะเดาออกผ่านสีหน้าและแววตาผมมั้ง

"เฮ้ยกูตกใจนะเนี้ย มันมีอะไรเกิดขึ้นในช่วงสองปีที่แล้วบ้างเนี้ย ไหนมึงลองเล่าแบบละเอียดยิบให้กูฟังทีสิ"จากใบหน้าทะเล้นของมันในตอนแรกก็เปลี่ยนมาเป็นสีหน้าจริงจังขึ้นทันที ผมถอนหายใจเสียงดังก่อนจะเริ่มเล่าทุดอย่างให้มันฟังอย่างไม่มีปกปิดเลยสักนิดเดียว

พอมันได้ฟังเรื่องราวของผมมันก็ถึงกับร้องไหสะอื้น ออกมาเสียงดัง
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:48〖16/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 16-11-2017 14:57:03
"ฮึก...อิเจ..กูสงสารมึงอ่า..ฮือ..กู..ขอกอดมึงหน่อย..."พูดจบมันก็อ้าแขนรอผม ผมเลยขยับชิดเข้าไปกอดตามึำขอของมัน  แปลกแต่จริงพอเวลาผมได้เล่าอะไรๆที่มันค้างคา. ในใจผมก็เริ่มรู้สึกสบายผ่อนคลายขึ้นมาทีละนิดๆ

"ยิ่งกว่าละครเลยใช่ปะละ"ผมพูดให้เรื่องทุกอย่างมันดูตลกทั้งทีใจจริงๆแล้วมันเป็นตลกฝืดๆ

"มึงเขัมแข็งมากนะเจ อิเหี้ย มึงนี้ยังกับนางเอก ส่วนฝั่งพระเอกนั้นก็ไม่รู้ถึงห่าอะไรเลย แล้วทีนี้มึงจะเอาไงต่อ. จะปล่อยให้มันจบไปแบบเข้าใจกันผิดๆแบบนี้อะหรอ"อิกี้หยุดร้องไหเช็ดน้ำตาที่แขนเสื่อก่อนจะถามผม

"มึงคิดว่ากูจะทำอะไรได้อีกละ กายมันแต่งงานแล้ว ส่วนกูก็เลิกกับมันมาตั้งนานแล้ว ต่อให้มันรู้ความจริงยังไงตอนนี้แม้งก็สายไปอยู่ดี ..."ผมพูดน้ำเสียงสบายๆเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่แปลก ที่ผมไม่กล้ามองหน้าเพื่อนตัวเองตอนพูดได้เลย ..กลัวมันจับได้ ว่าผมโกหก


"ให้กูช่วยมั้ยกูช่วยได้นะ"คำพูดของไอกี้ทำเอาใจผมชื้นขึ้นมาเล็กน้อย


"หยุดเสือกสักเรื่องแล้วเอาเวลา ที่จะมาช่วยกูเนี้ยไปหาผัวตัวจริงของมึงให้เจอดีกว่า"

"เจ็บกว่าโดนอิเบนตบอีกนะคำพูดมึงเนี้ย ..เออแล้วตอนนี้ได้งานทำยังว่างงานอยู่รึเปล่า"สีหน้ามันดูกระตือรือร้นแปลกๆ

"ก็มีไปสมัครไว้หลายที่นะ วันนี้ก็ไปสมัครมา"

"ที่ไหน"

"Tnk.  Software"

"เชี้ย!!!!"อยู่ๆมันก็ร้องเสียงหลง

"เป็นห่าอะไร"ผมถามมันด้วยความเป็นห่วง


"นั้นบริษัทผัวมึงนิ่.."ผมชะงักเล็กน้อย

"มึงรู้?"

"อย่าบอกนะว่ามึงก็รู้..."ผมทำหน้าหงอยแทนคำตอบ

"เชี้ยแล้วไง เสือกดันไปทำงานอยู่บริษัทผัวเก่า ถามจริงตอนไปสมัคร นี้มึงไม่รู้จริงๆหรอว่าใคนเป็นเจ้าของ"ผมส่ายหน้าดิก


"แล้วมึงก็ยังนะ...โอ้ยกูยอมใจ..แล้วเจอเขามั้ย..."

"เจอใคร"

""โอ้ยจะใครละก็ผัวเก่ามึงอะ"ผมพยักหน้าเบาๆ


"แล้วเขาทำอะไรมึงบ้างปะ..."ผมลองนึกตามถึงหลายชั่วโมงที่ผ่านมา

"จับมือ"อิกี้ทำหน้าเคอะเขิน"สบัดทิ้งเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่มือมัน จากนั้นมันก็ตะโกนใส่หน้าบอกว่าจะๆม่มีวันรับกูเข้าทำงานเด็ดขาด"ผมบอกน้ำเสียงปกติ

"โอ้ยเว้นวรรคซะห่างไกล สรุปคือเขาไม่ชอบมึงแล้วว่างั้น"ผมทำสีหน้าไม่ถูกเมื่อมันถามแบบนี้

"คงงั้นมั้ง"

"ทำไมมึงดูชิวจัง ไม่แคร์เขาหน่อยหรอ  แบบ รู้สึกผิดไรเงี้ย"จะว่าไป..


"ก็มีนะแต่แค่แปปเดียวอะ กูเฉยๆแล้วกูโอเค"ผมพูดบอกตามความจริงจากก้นบึ้งของหัวใจตัวเองเลย

"เฺฮ้อแบบนั้นมันก็ดี แต่กูเสัยดายวะๆ หรอรวยๆการศึกษาดีขนาดนั้นใครได้เป็นผัวคงโชคดีแบบสัดๆ"พูดจบมันก็หันมามองผมแบบยิ้มๆ

"อะไร มึงจะล้ออะไรกู จะบอกว่ากูโชคร้ายว่างั้น"ยิ่งพอมันเห็นผมหงุดหงิดมันยิ่งมีความสุข อิบ้านิ

"เออมันก็ดีแลเวที่ถอยออกมา เพราะดูๆแลเวกูว่างานบริษัทคงไม่เหมาะกับมึงเท่าไหร่"อิกี้มันอมยิ้มตอนพูด

"แล้วกูเหมาะกับงานอะไรวะ"ผมถามเพื่อนตัวเองด้วยความอยากรู้

"บริการไงค่าา"จบคำพูดผมรีบลุดวิ่งไล่มันไปทั่วบ้าน ด้วยความโมโห มันหาว่าผมเหมาะกับงานอย่างว่าอะ หึ้ย คิดแล้วหงุดหงิดแต่จะว่าไปการกลับมาของอิกี้ครั้งนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยผมก็ยังมีเพื่อนที่คอยรับฟังผมอยู่ ...ขอบใจนะมึงที่กลับมา


วันถัดมาด้วยความที่ไม่อยากคาดหวังอะไรล้มๆแรงๆผมเลยเดินทางไปสมัครงานอีกหลายที่โดยมีพี่ริวคอยหาสถานที่และเบอร์โทรติดต่อให้

ที่แรก

"ประวัติและการทำงานของคุณไม่เพียงพอสำหรับเรา ต้องขอโทษด้วยนะคะ เราคงรับคุณไม่ได้


ที่ๆสอง

"จากประวัติการทำงานของคุณใช่ได้เลยนะครับ..แต่มันคนละสายงานกันผมคงรับคุณไม่ได้ ขอโทษด้วยจริงๆ


และที่สุดท้าย เป็นที่ๆเกือบดีแต่ก็ไม่ดี


"ประวัติใช้ได้เลยครับน้อง น่าตาน้องก็โอเคเลยพี่ว่า น้องไม่ต้องเข้าบริษัทบ่อยๆหรอก อยู่บ้านพี่เฉยๆรับรองมีเงินใช้ทุกๆเดือน ไม่มีลำบากแน่นอน "และในตอนที่มันกำลังจะลวนลามผมในตอนนั้นเอง ผมก็รีบลุกขึ้นและซีดป๊าปเข้าที่หน้ามันไปหนึ่งที


"นี้สำหรับที่ทำให้กูเสียเวลา"และป๊าปที่สองเข้าที่ขมับของมันเต็มๆ


"นี้สำหรับที่มึงดูถูกกู. ไอควาย กูมาทำงานแลกเงินใช้ความคิดไม่ได้ใช่ร่างกาย หัดจำใส่สมองมึงไว้ด้วย"พูดจบผมก็หันหลังหนี

"กูจะจะบอกตำรวจให้เอามึงเข้าคุกขอหาทำร้ายร่างกาย"มันนอนพะงาบๆบอกกับผมอยู่ที่พื้น ผมแสะยิ้มที่มุมผากก่อนจะหันไปตอบมัน

"ลุกได้เมื่อไหร่ ก็ค่อยไปฟ้องแล้วกันนะ อ่อ แต่อย่าลืมเล่าถึงเหตุผลที่โดนต่อยด้วยละ"พูดจบผมก็ผิดประตูดังปั้งก่อนจะเดินออกมาจากบริษัทส้นตีนนั้น


ที่บ้านพี่ริว

"กูว่าถ้ากูไปเป็นอย่างที่มึงบอกนี้น่าจะรุ้งเน้อะ"ผมร้องบอกอิกี้ที่กำลังนั้งส่องดูรูปผู้ชายในไอจี ระหว่างนั้นก็มีสายโทรศัพทฺจากเบอร์ที่ไม่คุ้นโทรเข้ามา ผมชั่งใจพักนึงก่อนจะกดรับ

"คุณเจตริทร์ใช่มั้ยครับ"สงสัยแก้งคอลเซนเตอร์ดีเลยโทรมาได้เวลาพอดีกูยิ่งคันปากอยากด่าคนมาสักพักแล้วด้วย มากูพร้อมแล้ว


"เออ ทำไมมีอะไร"ผมตอบเสียงโคตรห้วนและชวนกินตีนมากกะว่าถ้ามันอ้างเรื่องบัตรเคดิตอะไรขึ้นมาผมจะด่ามันให้ลืมบ้านเกิดเลยคอยดู

"เราโทรมาจากบริษัท Tnk....นะครับเราขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย คุณผ่านการสัมพาทครับ"หลังจากได้ยินทุกประโยคจากปลายสาย ผมรีบวางโทรศัพท์ลงไว้ข้างตัวก่อนจะหันไปมองอิกี้ที่กำลังนั่งดูรูปผู้ชายอย่างเมามันส์

"อะไร.."อิกี้ถามผม"ทำไมมองกูแบบนั้น มึงมีอะไรเนี้ย"นั้นสิผมเป็นอะไรวะ

"กี้"

"หือ"

"ตบหน้ากูที"

"ห้ะ!"

"ตบกูที"

"เพื่ออะไรละ"

"ช่วยตบแล้วบอกกูทีว่ากูไม่ได้ฝันไป"

"ทำไมมีเรื่องอะไรงั้นหรอ"ผมเลยยื่นโทรศัพท์ให้อิกี้คุยต่อเพื่อไขข้อสงสัย พอมันคุยจบจนวางสายแล้วมันก็มีอาการแบบนี้ครับ..



"กรี๊ด อิเหี้ย ..มึงได้งานแล้ว แถมยังเสือกได้ทำงานในบริษัทผัวเก่าอีก เย้ๆๆๆ"มันดีใจจนออกนอกหน้า

"เดี๋ยวๆกูสิต้องดีใจไม่ใช่มึง"ผมร้องบอกเรียกสติมันที่กำลังหลุดออกไปเรื่อยๆ

"แล้วเอาไงต่อ"มันถามผมยิ้มแกล้มปลิ

"เอาไงไรวะ"

"ก็เรื่องไปทำงานอะ"แล้วมันอยากให้ผมทำอะไรวะ

"เออก็ไปไง"

"ไม่ใช่"เอ้าแล้วมันหมายถึงเรื่องอะไร

"กูหมายถึงมึงจะทำตัวยังไงถ้ามึงเจอ. ผัวเก่า"อ๋อที่แท้ก็เรื่องนี้

"เฉยๆดิ "

"มันเรียบไป เป็นเพื่อนกูต้องร้ายคะ อย่านางเอก"

"แล้วจะให้กูทำไงอะ"ผมถามด้วยความอยากรู้

"แก้เผ็ด"

"ไอกายอะนะ"

"ก็เออนะสิ นี้มันทิ้งเพื่อนกูไปแต่งงานกับชะนีเลยนะค่ะ มึงควรร้อนีนบ้างอะไรบ้าง..."

"แต่ที่มันทำแบบนั้นก็เพราะกูปะวะ"ผมเอาเหตุผลขึ้นมาพูดบ้าง

"ใครสนค่ะ เกลียดคือเกลียด กูเกลียดใครมึงก็ต้องเกลียดด้วย "ตักกะเหี้ยอะไรเนี้ย


"กูไม่เอาด้วยอะ"ผมพูดตามใจคิด

"แต่มึงต้องทำ"มันยังยืนยันในสิ่งที่มันคิด

"เพื่ออะไรวะ"ผมถามเพราะอยากรู้เหตุผล

"ทดสอบไง"

"ทดสอบไรวะ"

"ความรู้สึก ทั้บกับมึงแล้วก็มัน"

"เฮ้ยบ้าน่า กูไม่อะไรแล้วจริงๆ"แม้ในใจจะมีอยู่นิดๆก็เถอะ

"มึงหลอกกูได้ แต่มึงไม่สามารถหลอกใจของตัวเองได้หรอก เจ"มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

"แล้วจะให้กูทำไง"ในที่สุดผมก็เริ่มสนใจคำพูดของอิกี้จนได้..แต่มี่ผมยอมทำไม่ใช่เพื่อสนองนีดของอิกี้แต่ผมทำตามเสียงเรียกร้องในใจผมต่างหากละ


เพราะถ้าหากผมยังคงสงสัยกับความรู้สึกลึกๆของตัวเองอยู่ ....


จิตใต้สำนึก  มันจะคอยบอกกับผมเอง..


ว่าผมควรทำอย่างไร


TBC....


มาม่ามาสักพักแล้วขอพักมาสายคอมมาดี้หน่อยก็แล้วกัน อย่าพึ่งหายกันไปน้า ทุกคน!  >.<

หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:48〖16/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-11-2017 19:10:23
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:49〖18/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-11-2017 13:07:58
Falling. In. Love.

ข้อยกเว้น

(คืนที่เจ ไปสัมภาษณ์) ณ ชั้นที่สูงที่สุดของตึก Tnk ซึ่งเป็นบ้านส่วนตัวของประธารบริษัท


"แล้วจะต้องให้ทำยังไง ต้องนั่งขุกเข่าขอโทษเลยมั้ย"ผมรู้สึกตกใจนิดๆ ในตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้มาจากปากของมัน

ผมจำได้ว่าตั้งแต่สมัยที่ผมกับมันรู้จักกันมัน มันไม่ใช่คนที่จะยอมจนตรอกกับอะไรง่ายๆ เพราะฉะนั้นผมจะลองเรียงลำดับจากข้อที่หนึ่งถึงข้อที่ สามให้ฟังก็แล้วกัน

หนึ่ง

มันเป็นพวก อ่อนนอกแข็งในจนบ้างครั้งคนรอบตัวอาจจะเข้าใจไปอีกแบบที่ตรงข้ามกับความรู้สึกของตัวมันเอง


สอง

มันเป็นพวกปากกับใจไม่ค่อยตรงกันซึ่งก็เหมือนกับข้อแรก ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

และข้อที่สาม ถือว่าเป็นข้อที่ผมคิดหนักมาก

เพราะมันเป็นคนที่รักศักดิ์ศรีของตัวเองมาก มันจะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ศักดิ์ศรีของมันป่นปี้เป็นอันขาด ตลอดเวลาผมผ่านอะไรกับมันมาก็หลายอย่างทำไมผมจะไม่เคยเห็นละว่ามันเป็นยังไง


และในวันนี้ผมก็เห็นแล้ว

ว่ามันยอมลดศักดิ์ศรีที่ตัวเองหวงแหนนักตอหน้าผมเพียงเพราะต้องการแค่ทำงานทีนี้ ..


แค่นั้นจริงๆหรอกับอีแค่รับเข้าทำงานจำเป็นที่มันต้องลงทุนนั่งขุกเข่าในที่กว้างอากาศหนาวๆแบบนั้นด้วยหรอ..แต่เดี๋ยวนะนี้ผมเป็นห่วงมันอยู่หรอ...ไม่สิผมก็แค่สงสาร หรือสมเพทก็ไม่รู้นะ


ขณะที่ดังดูทีวี ที่ช่องอะไรก็ไม่รู้

"คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะตอนทราบข่าวว่าที่นี้เฺปิดรับสมัคร ให้บุคคลภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจนี้บ้างค่ะ"เสียงนักข่าวสาวกำลังสัมภาษณ์ ผู้ที่มากรอกเอกสารใบสมัคร ที่บริษัทผมเมื่อเช้า และหนึ่งในนั้นก็มีมันอยู่ด้วย

"ก็ดีนะครับผมว่าประธานเขาใจกว้างดี ขนาดผมจบมาคนละสายงานเขายังต้อนรับเลยครับ"ต้อนรับกับผีนะสิถ้าผมรู้ว่ามันจะมาก่อนหน้านะผมปิดบริษัทหนีมันแล้วจริงๆ

"แล้วคาดหวังไว้เยอะมั้ยค่ะว่าจะได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้"

"ถามว่าหวังมั้ยก็หวังนะครับ ประมาณ70-30เลยละ จริงๆผมก็ไปสมัครมาหลายที่นะครับแต่เหมือนเขาจะรับแต่คนที่จบด้านนั้นๆมาโดยเฉพาะคนว่างงานอย่างผมก็เลยต้องดิ้นลนมาหางานอยู่แบบนี้"พูดไปทำหน้าเศร้าไปดูก็รู้ว่าแม้งโกหกทั้งเพ ตั้งแต่ทิ้งกูไปคบกันไอเวรนั้นชีวิตมึงคงตกต่ำมากเลยงั้นสิ ยิ่งนึกแล้วยิ่งโมโหถึงผมจะไม่อะไรแล้วก็เถอะ  แต่พอพูดถึงแล้วมันก็คิดตามทุกทีเลย

"คนนี้ใช้มั้ยแฟนเก่าพี่"ไอปอนที่วันนี้ทะเลาะกับเด็กมันก็ขอมานอนด้วยกันกับผมบนตึก ก็อย่างที่ผมบอกนั้นแหละครับไอปอนมันรู้เรื่องของผมทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ด้วย

ผมแค่พยักหน้าตอบ

"พี่ไม่เป็นอะไรแน่หรอ"มันวางขนมในมือก่อนจะหันมาถามผม

"สบายอยู่แล้วแค่ไม่ด่ากูออกสื่อก็ดีแค่ไหนแล้ว"แต่เหมือนผมจะคิดผิดไป

"แสดงว่าชีวิตที่ผ่านมาคงเจอเรื่องร้ายๆมาตลอดเลยหรอคะ"

"ใช่ครับ ถึงจะเรียนจบมาแต่เกรดก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นักแถมแฟน..เอ่อผมหมายถึงอดีตคนรักยังหนีไปแต่งงานกับคนอื้น ...ฮึก..ผม..ถ้าย้อนไปได้ผมก็ไม่อยากรู้จักกับคนแบบนั้นแน่นอนครับ ขออย่าให้เจอกันอีกเลยดีกว่า"

. แต่เดี๋ยวๆ มึงเป็นฝ่ายทิ้งกูก่อนไม่ใช่หรอ. อีกอย่างเรื่องแต่งงานมัน...เฮ้อ ช่างเถอะทำไมผมต้องมาอธิบายอะไรคนเดียวในใจด้วยวะไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ

แล้วก็อีกอย่างนะ ข่าวบ้าบอที่ไหน ถึงสัมภาษณ์แบบนี้กันแถมยังไม่เซนเซอร์คำพูดพูดนี้ด้วย เดี๋ยวๆเถอะสักวันผมจะฟ้องให้ช่องยุบเลยคอยดู

"พี่คุยคนเดียวอีกแล้วใช่ปะ"ผมสะดุ้งตัวเล็กน้อย มันรู้ได้ไงวะ

"เหมือนเขาจะหมายถึงพี่นะ "ไอปอนหันมาตอกย่ำผมพร้อมกับหยิบขนมขึ้นมากินอย่างอารมณ์ดี

"เหอะบ้าบอนะ กูออกจะแสนดีหล่อเลือกได้ขนาดนี้ไม่มีทางที่มันจะด่ากูแน่นอน"ผมตอบเสียงหนักแน่น

"ผมว่าพี่กำลังหลอกตัวเองอยู่แน่ๆ ต้องใช่แน่ๆ "ปอนมันทำหน้าเอือมๆ ผมกำลังจะง้างมือไปซัดหัวมันแต่มันดันพูดขึ้นก่อน




"เออสรุป เรื่องรับเด็กฝึกงานใหม่ว่าไงพี่เลือกได้รึยัง พรุ่งนี้ก็ถึงวันเปิดตัวกลุ่มตลาดใหม่แล้วด้วยนะ ไม่มีที่เข้าตาพี่สักคนเลยหรอ"เออวะผมลืมเรื่องนี้ไปซะชิบ

แต่แปปๆผมก็เริ่มนึกถึงประโยคที่ได้ยินเมื่อครุ่

"ถ้าย้อนไปได้ผมก็ไม่อยากรู้จักกับคนแบบนั้น ขออย่าให้เจอกันอีกเลยดีกว่า " หึขออย่าให้เจอหรอ เกลียดหน้ากูนักใช่มั้ย  ได้ กูจะทำให้มึงเบื่อจนต้องมายื่นซองขาวให้กับกูเลย ไอ ชั้นใน

ผมรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเปิดประตู แต่ไอปอนมันก็เรียกผมไว้ซะก่อน

"จะไปไหนอะพี่"

"ตามหาลูกน้องมาเป็นเพื่อนมึงไง"พูดจบผมก็ปิดประตูเดินลงมาชั้นถัดมา ที่เป็นห้องทำงานส่วนตัวของผมเอง ผมกลับมาคุ้ยถังขยะโชคดีหน่อยที่แม่บ้านยังไม่เอาขยะไปทิ้ง (ผมควรเอ็ดแม่บ้านดีมั้ย) แต่เรืองนั้นช่างมันก่อน เอาเรื่องปัจจุบันก่อนละกัน


ผมคลี่กระดาษใบสมัครของไอชั้นในก่อยจะแสะยิ้มร้ายๆ(เลวๆ)ที่มุมปากอย่างชอบใจ

เกลียดกูนักใช่มั้ย  ได้...  เดี๋ยวรู้กัน...



................

เช้าวันหนึ่ง (ในการมาทำงานวันแรก)

ตื่นเต้น


ตื่นเต้นโว้ยยยย

ผมบอกกับตัวเองแบบนี้ก่อนจะออกมาจากบ้านอิกี้ (อ๋อผมลืมบอกตอนนี้ผมย้ายสมโนครัวมาอยู่กับอิกี้สองคนแล้วครับเหตุเพราะผมเกรงใจอาม่ากับพี่ริว แต่จริงๆผมบอกกับแค่อาม่าอะนะ เพราะพี่ริวติดไปประชุมงานที่ต่างประเทศอยู่ผมเลยไม่ได้บอก ไว้รอพี่เขากลับมาก่อนละกัน หวังว่าตอนนั้นพี่เขาคงจะไม่โกรธผมนะ

อะเข้าเรื่องต่อ...


ตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าตึก Tnk. ที่ใหญ่แบบหมึมาใหญ่เว่อร์วัง อลังการงานสร้างออสสก้าจ้ามากเลยละครับคุณผู้อ่าน ใจผมนี้เต้นรัวถี่ยิบ ยังกะวิ่งจากเชียงใหม่มากรุงเทพ 

ในตอนที่เท้าก้าวเข้ามาในตึกและระหว่างที่ยืนรอลิฟฟ์อยู่นั้นเองบทสนทนาระหว่างกลุ่มสาวๆก็เริ่มขึ้น

"นี้เธอ เมื่อวานตอนมีคนโทรมาหา ฉันเนี้ยนะโหยแบบ ตื่นเต้นมากไม่คิดว่าประธานจะเลือก ฉัน"นางสาวเอ(นามสมมุติ)พูดขึ้น

"หืมฉันได้ข่าวว่าเขารับเด็กฝึกแค่สามสิบคนเองนะจากหกร้อยคนอะ "นางสาวบีพูดตอบ แต่เมื่อกี้ว่าไงนะ คัดจากหกร้อยเหลือสามสิบเนี้ยนะ ผมติดหนึ่งในนั้นได้ไงวะ  ชักงงๆปนตกใจเล็กๆ

"จริงหรอแก..พวกเรานี้ก็โชคดีเนอะที่โดนเลือกกัน"นางสาวบีและซีพยักหน้าเห็นด้วย

"แต่ฉันได้ข่าวมานะแก.."จู่ๆนางสาวซีที่เงียบก็พูดขึ้น

"เรื่องอะไรหรอ.."นางสาวเอขยับหน้าเข้าไปถามนางสาวซี

"ท่านประทานไง. "

"ทำไมท่านประทานทำไมหรอ"

"โสดนะสิ"หืมผมขมวดคิ้วตามด้วยความอยากรู้

"บ้าน่าข่าวมั่วแล้วมั้ง หล่อรวยขยันขนาดนี้ถ้ายังไม่มีแฟนนี้ก็บ้าแล้ว"ถึงมีแฟนมันก็บ้าเพราะมันเป็นหมาบ้า จนถึงวันนี้ผมก็ยังแค้นรอยแผลที่คอไม่หาย

"มั้วอะไรกันละนี้จริงที่สุดแล้ว..ตอนแรกนะท่านประทานเคยเกือบจะได้แต่งงานแล้วด้วย"เกือบจะได้แต่หมายความว่าไงวะ ผมขยับไปใกล้ๆกลุ่มสาวๆที่กำลังซุบซิบกันอยู่ด้วยความอยากรู้เต็มพิกัด

"เกิดอะไรขึ้น"ทั้งนางสาวเอและบีหันไปหานางสาวซี

"งานล่มนะสิ ได้ข่าวมาว่า ท่านประทานกำลังคบกับแฟนคนนึงอยู่แต่ก็เลิกกันหลังจากนั้นก็ถูกคลุมถุงชน..แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด งานล่มซะก่อน"งั้นก็หมายความว่าที่ผมเคยรู้มามัน....ไม่สิผมจะสนใจทำไมวะมันจะแต่งไม่แต่งแล้วเกี่ยวอะไรกับผมที่ไหนละ


ท่องไว้ไอเจ มีงมาทำงานๆ


ผมบอกตัวเองพลางเงี่ยหูฟังสาวๆเผาเรื่องไอประธานต่อแต่ยิ่งฟังแล้วก็ยิ่งหมั้นไส้จนเผลอหลุดปากไป..

"ที่เห็นๆนะเฟคทั้งนั้น"จบคำพูดผมนางสาวเอบีและซีต่างพากันหันมามองผมตาขวางกันอย่างพร้อมเพียง

"เมื่อกี้พูดอะไรนะ"นางสาวเอถามขึ้น

"คงไม่ได้หมายถึงท่านประธานของเราหรอกใช่มั้ย"อันนี้เสียงนางสาวบี ผมกลืนน้ำลายไปหลายอึกก่อนจะเริ่มพูดต่อ

"อ๋อผมดูละครเมื่อคืนมานะ ตัวเอกที่เป็นประธานมันชอบเฟคอะผมเลยหงุดหงิด"ทั้งสามสาวหรี่ตามองผม

"งั้นก็แล้วไป.."อีกสองคนที่เหลือเลยหันหลังตาม โชคดีของผมหน่อยที่ครองสติทันไม่งั้นคงเผลอพลั้งปากพูดอะไรออกไปแน่


ระหว่างทึ่ผมและพวกแก้งสาวๆสามคนอยู่ในลิฟฟ์ก็มีผู้หญิงคนนึงที่ดูท่าทางสง่าเดินเข้ามาอีกคน

เธอหันมามองผมกับสามสาว แล้วยิ้มๆก่อนจะเริ่มพูดขึ้น

"เด็กฝึกงานล็อตใหม่ใช่มั้ยเนี้ย "แก้งสาวสาวกลับเงียบมีเพียงแต่ผมที่ตอบพี่เขา
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:49〖18/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-11-2017 13:08:40
"ครับ พึ่งมาเริ่มวันนี้วันแรกเอง"

"หรอ งั้นดีเลยเดี๋ยว น้อง เอ่อเฉพาะน้องคนเดียวนะ ตามพี่ขึ้นมา. พี่จะพาไปรู้จักเพื่อนร่วมงานที่เหลือ"พี่เขาส่งยิ้มเป็นมิตรให้ผมแต่ถลึงตามส่สาวๆสามคนนั้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

"ก่อนไปผมขอทราบชื่อพี่ก่อนได้มั้ยครับ ผมจะได้เรียกถูก"

"พี่ชื่อเกด เป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด ที่จะคอยสอนงานพวกพนักงานใหม่ๆ"เชื่อมั้ยครับจบคำพูดพี่เกดสาวๆสามคนนั้นต่างพากันเบิกตากว้างก่อนจะรีบส่งยิ้มให้พี่เกด แต่ผมว่าคงไม่ทันแล้วละครับเพราะพี่เขา หันไปทางอื่นเรียบร้อยแล้ว

ณ ห้องทำงาน

หู้ ผมอยากจะอุทานลากยาวตั้งกูแต่กรุงเทพไปเชียงใหม่ คือห้องทำงานมันกว้างมา ถ้ามองจากภายนอกคนส่วนใหญ่จะเห็นว่ามันแคบแต่จริงๆแล้วไม่เลยพื้นที่จับจ่ายใช้สอยได้อีกเป็นวา แถมยังมี  อุปกรณ์อิเลกทรอนิก รุ่นล่าสุดให้กับพนักงานทุกคนอีกด้วย


ผมเดินตามหลังพี่เกดมาโดยมีสามสามขี้นินทาพ่วงมาด้วย

"เอาละทุกคนมารวมกันตรงนี้หน่อย"  แม้จะเป็นเสียงที่เบาๆเหมือนกระซิบแต่ทุกคนกลับได้ยินกันทั้งห้องและรีบมายืนรวมตัวกันเป็นกลุ่มทันที ผมหันมองซ้ายขวาก็เห็นพนักงานใหม่ที่ห้อยป้ายเหมือนกันกับผมทั้งนั้น ท่าทางผมคงจะหาเพื่อนร่วมงานได้ไม่ยาก

"ตอนนี้เรามี เพื่อนร่วมงานคนใหม่อยากมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักนะ "พี่เกดพูดพร้อมกับผายมือ เรียกให้คนที่กำลังยืนกดน้ำอยู่ที่ตู้ต้องรีบวิ่งมาหน้าตาตื่น

"ผม ซีเกมครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคนนะครับ"เป็นคำพูดที่ดูเรียบง่ายแต่กลับเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆได้เป็นแถบๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาเจอไอเด็กที่เรียกผมว่าพี่คนสวยที่นี่ด้วย ใครเป็นคนคัดเลือกให้มันผ่านวะผมละอยากโบกหัวมันสักที

(ในอีกด้านนึง)

"ฮัดเช่ยย. โอย ใครบ่นคิดถึงแต่เช้าวะ" จบ..


ตัดภาพมาที่ฝั่งของเด็กฝึกงานสามสิบชีวิต

"ดิฉัน เกดสรินทร์ เป็นหัวหน้าทีมการตลาดและคอยให้คำปรึกษาแก่เด็กฝึกงานทุกคนคะ ดิฉันยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้พวกคุณมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมเราแต่ ในระหว่างนี้ ดิฉันอยากขอให้พวกคุณทำความรู้จักกันให้ดีซะก่อนเพราะ ที่นี่ มีการแบ่งงานตำแหน่งหน้าที่ให้แต่ละคนที่ต่างกัน บางงานอาจทำแค่คนเดียว ส่วนบางงานอาจจะเป็นคู่รึกลุ่มก็ขึ้นอยู่กับงานในชิ้นนั้น ซึ่งในแต่ลำกลุ่มก็จะมีผู้ช่วยคอยให้คำแนะนำในแต่ละด้าน  คนแรกนะคะ "พี่เกดยิ้มให้พี่ผู้ชายอีกคนก้าวเข้ามาข้างหน้าเพื่อแนะนำตัว

"ผมชื่อแชมป์นะครับ เป็นผู้ช่วยด้านการวางแผนหากมีข้อสงสัยหรืออะไรที่ไม่เข้าใจสามารถสอบถามได้ตลอดเลยนะครับ..อ่อ..แต่ต้องอยู่ในช่วงเวลางานด้วยนะ"พอพี่เขาพูดจบก็มีเสียงหัวเราะๆเล็กๆดังขึ้น

"ส่วนพี่ชื่อปลายนะ อยู่ทีมเดียวกับคนเมื่อกี้แหละถ้าสงสัยอะไรก็ถามคนเมื่อกี้เอาละกัน"แม้หน้าจะดูสวยแต่จากคำพูดคำจาของเธอแล้ว..ผมว่าไม่ไหวนะ


"เอาละ ตอนนี้ทุกคนก็ได้รู้จักหัวหน้าในที่ทำงานทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ดิฉันอยากให้พวดคุณทั้งสามสิบคนทำความรู้จักกันให้ดี ..อย่าลืมว่าการทำงานพวกคุณต้องทำกันเป็นทีม เพราะถ้าหากขาดคนใดคนนึงไป..พวกคุณทั้งหมดจะถูกตัดสิทธิ ออกทันที..เสียงเรียบๆของพี่เกดทำเอาคนในห้องหลายคนถึงกับหันมาจ้องกันด้วยสีหน้าหวั่นๆ แปลกแต่จริงนะ ภายนอกพี่เขาก็ดูเป็นคนเรียบร้อย(จริงๆก็เรียบร้อยนั้นแหละ)แต่วิธีพูดของพี่เขาเด็ดขาดมากครับ แม้จะเป็นเสียงที่ดูปกติสบายๆ แต่ก็ทำให้คนฟังถึงกับขนลุกขนพองได้ผมว่า ไม่ธรรมดาแล้วนะ  หึหึ

หลังจากที่พี่เกดเดินออกจากห้องไป ทุกๆคนก็จับกลุ่มกัน ผมพยายามทำตัวเฟรนรี่แบบสุดๆแลเวแต่ไม่ยักจะมีใครต้อนรับผมเลยแหะ


หมับ มือใครคนนึงจับผมไว้ ผมหันไปมองก็พบ ไอเด็กผีนี้อีกแล้ว

"ผมไม่มีกลุ่ม"มันพูดบอกผม

"เออแล้วไง"

"พี่มาคู่กับผมมั้ย"ผมส่ายหน้าดิกแบบทันทีเลย

"ทำไมอะ พี่ก็ยังไม่มีคู่เหมือนกันไม่ใช่หรอ"มันยู่ปากเหมือนกำลังนอยๆ

"เพราะมึงกวนตีนไง ตั้งแต่วันสัมภาษณ์แล้ว " เป็นเรื่องจริงที่ทำผมคับแค้นใจจนในบัดนี้ผมเองก็ยังไม่ลืม

"โหยเจ้าคิดเจ้าแค้นวะ "ผมเสหน้ามองไปทางอื่นเพื่อหาคนที่ยังไม่มีคู่..แต่เหมือนเขาจะยืนกันเป็นกลุ่มจนครบแล้วนะ..


"พี่ไม่อยากคู่ผมจริงๆหรอ"มันถามย้ำ แต่ผมยังไม่ทันตอบมันก็ชิงเดินหนีไปแซะกับกลุ่มสามสาวซะก่อน


"สาวๆครับถ้าไม่ว่าอะไรผมอยากที่จะ..."ผมไม่ปล่อยให้มันพูดต่อครับเพราะรู้ดีว่ามันจะพูดอะไร

"เออคู่ก็ได้"ผมเอามือเกาะแขนมันแน่น ชนิดที่ว่า สบัดยังไงก็ไม่หลุด

"ทีเมื่อกี้ละทำเก๊ก "เก๊กห่าไรละ กูก็แค่คิกถึงเรื่องเก่าๆที่มึงเคยเกือบทำให้กูตกงานก็แค่นั้น..ผมได้แต่คิดอยู่คนเดียวในใจ เพราะถ้าเกิดเผลอพูดไปรับลอง มันได้หนีเข้ากลุ่มสาวๆแน่ครับ


หลังจากเวลาผ่านมาจนถึงช่วงสายๆ

"ด้านนี้ครับโต๊ะทำงานของพวกคุณทั้งสองคน"พี่ผู้ชายคนนึงท่าทางใจดีเดินนำผมกับไอซีเกม มาที่โต๊ะทำงานของตัวเองก่อนทีพี่เขาจะเดินลับหายไป ขณะที่ผมกำลังนั่งลองเก้าอี้ตัวใหม่ คนที่นั่งโต๊ะข้างๆก็ถามขึ้น

"ผมว่าเราน่าจะมีการตกลงกันก่อนนะ เพราะว่าเราอยู่ทีมเดียวกัน และก็คิดว่า นิสัยของเราสองคยเข้ากันได้  เพราะฉะนั้น เรามาทำงานให้ดีที่สุดร่วมกันนะ"ไอซีเกมเอ่อผมขอเรัยกมันว่าเกมเฉยๆละกันนะ มันยื่นมือข้ามโต๊ะมาข้างหน้าผมเพื่อหวังให้ผมจับมือตอบตกลง

"เชิญตามสบายเลยครับน้องพี่ชอบลุยเดี่ยว"ผมตอบน้ำเสียงนิ่งๆเอาเข้าจริงๆไอเด็กนี้มันก็ไม่ได้กวนตีนอะไรผมถึงขนาดนั้นหรอก ผมแค่แหย่มันเล่นแกล้งกวนตีนมันกลับแค่นั้นเอง


มันทำหน้าเอือมๆก่อนจะดึงมือของตัวเองกลับไปนั่งอยู่กับที่ ...แม้ในตอนนี้ผมจะรู้สึกดีอยู่แปลกๆที่อยู่ๆตัวเองก็ได้มาทำงานในสถานที่ๆไม่คาดคิดว่าจะได้มาทำ ..ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะ..ว่าเพราะอะไรทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่นี้ตอนนี้และในเวลานี้ แต่สิ่งนึงที่ผมพอจะรู้สึกได้ก็คือ..มันต้องมีเรื่องวุ่นวาย ตามมาหลังจากนี้แน่ๆ ผมมั่นใจ


.....................
ณ ห้องำงานส่วนตัวของประธาน


"นี้"ผมตะโกนเรียกไอปอนเลขาส่วนตัวคนสนิทเพื่อเรียกสติมันที่กำลังจดจออยู่กับการเล่นเกม Rovอย่างเมามันส์

"ว่าไงพี่พูดมาเลยผมตีป้อมอยู้.."

"ปฐมนิเทศพนักงานใหม่กี่โมงนะ"

"น่าจะสักสิบโมงนะ ตอนนี้พวกเขาน่าจะแนะนำตัวกันเสร็จแล้วคงจะรวมตัวอยู่แถวหน้าล็อบบี้.."มันเบนสายตาจากเกมมามองผมก่อนจะรีบพูดต่อ.."ทำไม พี่อยากไปดูหรอ"

"กูเนี้ยนะ เหอะๆ ทำไมกูถึงต้องอยากไปที่นั้นด้วยละ"ปากพูดอย่างแต่ใจผมกับคิดอีกอย่าง. มันส่งยิ้มล้อเลียนผมก่อนจะก้มหน้าตั้งใจเล่นเกมของมันต่อ

"เล่นเกมของมึงไปเถอะ "ระหว่างนั้นสายตาของผมก็เอาแต่มแองดูนาฬิกาอีกสิบนาทีก็จะสิบโมงแล้ว ถ้าลงลิฟฟ์ไป 2-3นาทีก็น่าจะถึง..แต่เดี๋ยวนะ ทำไมผมถึงต้องนับเวลารอด้วยละ...ผมเองชักเริ่มสงสยตัวเอง..แต่ยืนงงได้ไม่นาน ตอนนี้ตัวผมก็เดิเข้ามาในลิฟฟ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว..

...............

ล็อบบี้


ปิ๊ง เสียงลิฟฟ์ดังขึ้นทำเอาบริเวณโดยรอบถึงกับพากันเงียบสงัด..บุคคลที่เดินออกมาพร้อมกับบริวารนับสิบไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ไอประธานของทุกคนไง


เวลามันเดินผ่านใครทุกคนก็พร้อมโค้งหัวคำนับให้มัน


"โช ออฟ ชิบหาย เลยเว้ย" ผมพูดกับตัวเองในใจ

"คุณเกดครับ"เสียงพี่แชมป?พูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ

"เอ่อๆไม่ต้องหรอก ทำตัวตามสบาย .."หลังจากนั้นมันก็เดินผ่านกลุ่มเด็กฝึกงาน หน้าใหม่ทุกคนที่กำลังโค้งคำนับให้มันอยู่ แล้วจู่ๆสายตามันก็จับจ้องมาที่ผมๆไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ยว่ามันกำลังจ้องผมพร้อมกับส่งยิ้ม ..เดี๋ยวนะ ยิ้มหรอ..   หึ สงสัยคงจะรู้สึกผิดเรื่องที่พูดกับผมเมื่อวานสินะ มันคงจะเพิ้งรู้สึกตัวได้ละมั้ง ว่า ตัวเองผิดถึงได้มาทำดีกลบเกลื่อนลบล้าง ความผิด


ภายหลังจากที่มันเดินจนออกจากบริษัทไปผมก็แอบแสะยิ้มอย่างผู้ชนะพร้อมกันกระตุกไหล่อยู่คนเดียว อีกฝ่ายหันกลับมามองและไม่แน่ใจว่าใช้ผมมั้ยนะแต่สามสาวหน้าใหม่นี้ยืนกรี๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ หึ นึกว่าตัวเองหล่อมากนักสิ ..เออกูยอมรับก็ได้มึงมันหล่อ...


"ไอหน้าหม้อเอ้ย"ผมพึมพัมคนเดียวเบาๆ


"ว่าอะไรนะ"แล้วก็เป็นอีกครั้งที่แก้งสามสาวพร้อมใจหันมาถามผมด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก


ตกเวลาบ่ายๆ งานชิ้นแรกของวันก็มาเยือนถึงตัวผมเลยครับ

"เออ น้องคะ ช่วยไปยก ถังน้ำตรงนู้น เอามาเติมทีนะพี่ยกไม่ค่อยไหวอะ"เสียงพี่สาวหัวน่างานอีกคน ยังจำกันได้มั้ยครับ คนที่ท่าที่หยิ่งๆอะ

"ค..ครับ"ผมเองก็พอจะรู้สึกได้นั้นแหละว่าพี่เขาก็ไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่  นัก

ผมเดินตามที่พี่คนนั้นเขานำทางมา ก็เจอขวดน้ำถังใหญ่ราวๆหกถังได้

"หมดนี้เลยหรอครับ"เพราะเท่าที่สังเกตุมีตู้ที่ต้องเปลี่ยนแค่ สองสามตู้เอง

"ใช้ ในห้องนี้สาม  แล้วก็ ชั้น4 อีก2 "เดี๋ยวๆนะนี้กะจะให้แบกขึ้นชั้นสี่ไปเลยละรึไง ถึงมันจะมีลิฟฟ์ก็เถอะแต่มะนก็อยู่ห่างจากตัวห้องอยู่นะครับ

"ทำไม่ได้หรอค่ะ? ถ้าทำไม่ได้จะได้เรียกคนอื่นเขามาทำ"

"ด..ได้ครับทำได้"

"ดีงั้นก็รีบคะ งานยังมีรออีกเยอะ"พูดจบเธอก็โดนสบัดตูดหนีผมไป เฮ้อ ชาติก่อนผมไปเผาบ้านเจ้แกรึไงนะ ชาตินี้ถึงตามมาจิกกัดผมจริง


ผมเดินยกเติมน้ำในห้องสามขวดเสร็จก็มองบรรยากาศภายในห้อง  ด้วยความสงสัย ว่าทำไมถึงมีผมคนเดียวที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่คนอื่นก็ไม่ได้ทำอะไรเลยน้องจากนั่งคุยกันเฉยๆ อยู่ภายในห้องตากแอร์เย็นๆ ต่างจากผมที่แม้ภายในห้องตะเย็นแต่ตัสผมกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ช่างแม้งเถอะวะ ผมบอกดับตัวเองก่อนจะอุ้มน้ำขวดที่สี่เดินออกจากห้องไป

หน้าลิฟฟ์

โอย ผมขอถามตัวเองอีกครั้งว่าทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ งานมันช่วยจะใช้ความคิดสิไม่ใช่ใช้แรงแบบนี้


ผมบ่นพึมพัมคนเดียวตลอดทางที่เดินมาและกำลังจะวางขวดน้ำลงเพื่อกดลิฟฟ์ให้เปิดออกแต่ในตอนนั้นเองผมก็รู้สึกว่าขวดนำมันเบาหวิวๆ เพราะมีมือใครอีกคนเข้ามาช่วยถือเอาไว้

"มาผมช่วย เห็นพี่แบกแล้วเหมือนคนแคระอุ้มสโนวไวท์เลยวะ"มันยกขวดน้ำไปถือพร้อมกับหันมาพูดกับผมด้วยท่าทีปกติ  เหี้ย ทำไมมันชิวจังวะ

"กวนตีน แล้วนั้นไม่หนักรึไง เอามานี้มาเดี๋ยวทำเอง"ผมยื่นมือจะขอถังน้ำคืนแต่อีกฝ่ายกับถอยหนี

"ผมว่าอย่างพี่ไม่เหมาะกับงานใช้แรงหรอก นั่งสวยๆไปแหละดีแล้ว"เดี๋ยวๆพูดซะกูดูตุ๊ดเลย

"เออว่าแต่จะเอาไปชั้นไหนเนี้ย.."

"ชั้น4"

"อ่อห้องประชุม อะนะ"

"ไปดูมาแล้วหรอ ทำไมถึงรู้"ขนาดผมเองยังเดินไม่ทั่วชั้นที่กำลังยืนอยู่นี้เลย แถมวันนี้ยังเป็นการทำงานวันแรกด้วยมันคงแปลก ถ้าไอเด็กนี้รูั

"เอ่อ..ผมก็แค่เดาๆอะแฮ่ๆ"พิลึกคนแหะ

"หมดรึยังอะมีแค่ถังเดียวหรอ"

"มีอีกถังอะอยู่ข้างใน"

"ไปเอามาดิ เดี๋ยวผมถือให้"

"เห้ยบ้า เดี๋ยวถือเอง มึงไปก่อนเลยดิรู้ทางไม่ใช่หรอ"ผมร้องบอกมัน

"ถ้าผมไปก่อนแล้วพี่จะตามมาถูกมั้ยอะ"เออวะผมเองก็ลืมคิดไป

"เอองั้นรอแปปนึง"พูดจบผมก็วิ่งยังกะเดอะแฟลชก่อนจะถือถังน้ำเดินตามตูดมันมา

ตอนอยู่ในลิฟฟฺผมรู้สึกหายใจไม่ออกยังไงไม่รู้แต่ท่าทีไอเด็กนี้มันดูสบายเหลือเกิน สบายบนใบหน้าเครียดๆของกูเนี้ยหึ้ย

ชั้นสี่


"โอ้แม่เจ้า"ผมร้องตะโกนออกมาจนไอเด็กนี้มันอดขำไม่ได้ ชั้นสี่นี้เป็นอะไรที่ดูเป็นการเป็นงานมากครับ ผู้คนเดินกันพลุกพล่าน แถมพวกคนที่เดินออกมาจากห้องประชุมยังมีท่าที่ขรึมๆ เหมือนที่ผมเคยเจอในละครอีกด้วย

โห มันรู้สึกเหมือนผม ได้มายืนอยู่ๆจุดๆนึงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยแหะ (ถึงจะเป็นแค่เด็กส่งน้ำก็เถอะ)

"นี้"ไอเด็กข้างๆดีดนิ้วเรียกสติผม

"ห..ห้ะ ว่าไง"ผมหันเหม่อลอยมองไปที่มัน

"ห้องประชุมอยู่ตรงโน้น"มันชี้บอกทางผม

"อือๆ "พูดจบผมก็เดินนำมันไปจนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูและในจังหวะนั้นเองบานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อทกันคนที่ผมไม่คิดว่าจะเจอมันในเวลาแบบนี้

ฟึบ เพล๊ะ!  ถังน้ำที่ถืออยู่ร่วงลงพื้น ไม่สิโดนนิ้วตีนผมเต็มๆ ผมรีบก้มมองที่เท้าของคนตรงหน้าก่อนเท้าของตัวเองอีก

"ทำอะไรเนี้ย!"ผู้ชายดูมีอายุหน่อยที่ยืนอยู่ด้านหลังของประธานหันมาตะโกนพูดกับผมเสียงดัง

"ข..ขอโทษครับ"ผมร้องบอกด้วยความรู้สึกผิด

"ซุ่มซ่ามแบบนี้ ควรทำยังไงดีครับ คุณทินกร"อีกฝ่ายหันไปถามประธาน

แต่ไม่ยักจะมีเสียงใดหลุดออกมาจากปากของอีกฝ่ายเลยนอกซะจาก..

"เช็ด.."คนตรงหนัาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง"

"เอ่อ..ครับ."เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกผิดกับคนตรงหน้าเอามากๆเลยรีบก้มเพื่อหวังจะเช็ดให้ แต่อีกฝ่ายกับขยับเท้าหนีพร้อมกับพูดำๆึงที่ทำเอาคนฟังอย่างผมถึงกับจุกๆอยู่ในใจ

"ไม่ต้องแล้ว ขี้เกียจไปซื้อใหม่ เดี๊ยวจะสกปรกเอาป่าวๆ"ผมมองลงพื้นพร้อมกับกำหมัดแน่น ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้มายินคำพูดอะไรแบบนี้

"มันไม่เกินไปหน่อยหรอ"เด็กซีเกมที่ยืนอยู่ด้านหลังผมถึงกับต้องวางขวดน้ำและรีบเดินมาขว้างหน้าผม

ผมรีบลุกขึ้นยืนเก็บอาการ ก่อนจะรีบดึงตัวน้องมันออกมา

"อะไรของพี่เนี้ย มันว่าพี่อยู่นะ"เกมมันหันมากระซิบคุยกับผม

"ช่างมันเถอะ.."ผมร้องบอกท่าท่างของ มันดูใจเย็นลงผมเลยเดินไปอยู่ข้างหน้ามันบ้าง

"ขอโทษด้วยนะครับเพราะผมซุ้มซ่ามเอง ".

"ช่างมันเถอะ ไปกันเถอะครับ "เสียงประทานบอกให้ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตามออกไป ผมได้แต่ยืนก้มหน้าจนคนพวกนั้นเดินลงไปจากชั้นนี้กันหมดแล้ว

"อะไรอะ ทำไมพี่ยอมง่ายจังวะ"เกมมันดูหงุดหงิดมากกว่าผมอีกนะ. ผมเลยรีบเก็บสีหน้าซึมๆของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาคุยกับมัน

"เราผิดเองนี้หว่า อยู่ๆ ก็เดินมาสาดน้ำใส่เขา เป็นกูกูก็โกรธแหละ. "ผมพยายามฝืนยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์ตัวเอง


"แต่คำพูดมันนี้ไม่ใช่เลยนะ พี่แปลไม่ออกหรอ มันดูถูกพี่อยู่นะ "

"ก็แค่คำพูดปะวะ จะแคร์ทำไม" ผมหัวเราะกลบเกลื่อน

"แต่ผมว่าพี่แคร์วะ  สายตา สีหน้า ของพี่เมื่อกี้ ผมดูออกหมดอะ แล้วผมก็รู้ด้วย ว่าพี่ยังคิดมากเรื่องนี้อยู่  แถมยังแกล้งทำตัวปกติเพื่อปกผิดความรู้สึกจริงๆของตัวเองอีก"เชี้ย พึ่งรู้จักกันไปถึงวันทำไมมันถึงมองผมออกทะลุปุโปร่งแบบนั้นวะ

"มั้วละมึง ไปเอาน้ำเข้าห้องไป"ผมยื่นมือไปตีบ่ามันไปๆมาๆ ผมเริ่มกลับมาอารมณ์ดีจริงๆแล้ว


"หึ ตีผมแล้วอารมณ์ดีขนาดนั้นเชียว "มันก็เสือกมองออกอีก

"เออดิได้ตบมึง กำไรจะตาย". ไอเด็กนี้มันส่งยิ้มโชวฟันครับสามสิบสองใส่ผม  โห เชี้ยตอนยิ้มมันหล่อมากครับคุณผู้ชม คือปกติเบ้ามันก็ดีอยู่แล้วด้วยไง แต่พอยิ้มทีนี้หืม

แต่เดี๋ยวนะ นี้ผมกำลังแอบชมไอเด็กนี้อยู่รึไง..บ้าแล้วบ้าไปแล้ว


กว่าจะเติมน้ำเสร็จก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง และพอลงกลับมาที่ห้องผมก็โดนเช่นนี้ครับ


"นี้ไปเติมน้ำอยู่ยอดเขาเอเวอร์เรสกันมาหรอ ทำไมมันถึงได้นานขนาดนี้ "มาถึงแทนที่จะได้พักผมกลับโดนเจ้แกด่าหูไหม้ซะนี้

"อย่าโทษพี่เขาเลยครับโทษผมดีกว่าผมชักช้าเอง"

"หึ คุณกิตติทัศน์ คะ ถ้าที่หลังจะช่วยใครแล้วมันลำบากตัวเองก็อย่าช่วยเลยนะคะ เดี๋ยวจะโดนดึงเข้าไปเจอเรื่องแย่เปล่าๆ"เธอพูดจบก็เดินออกจากบริเวณไป

"พี่โอเคนะ"มันยังมีกะจิตกะใจมาห่วงผมอีกเว้ย

"อืม แค่คำพูดเองปะวะ"

"ไม่ ผมหมายถึงเท้าพี่อะ ต้องทายามั้ย"แปลกที่มันสังเกตุ

"ทาทำบ้าอะไร แค่บวมๆนิดหน่อยเอง เดี่ยวก็หาย"ผมพูดแบบขอไปที แต่อีกฝ่ายกลับไม่คิดอย่างนั้นนะสิ

มันเดินอ้อมาที่โต๊ะผมก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นและจับตีนผมขึ้นมาดู

"โอ้ย!"ผมร้องเสียงหลงตอนที่ไอเด็กนี้มันเอามือมาจับที่เล็บ

"ไหนบอกไม่เจ็บ แล้วเมื่อกี้ร้องทำไม"มันจับเท้าผมพลิกไปมาด้วยความสนุก สัดกูเจ็บ

"มียามั้ยเนี้ย"มันเงยหน้าถามหลังจากที่มองตีนผมเสร็จ

"ใครจะไปมีละ ไม่ได้รู้ซะหน่อยว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"แต่ถ้าจะโทษก็ต้องไปโทษไปประธานหน้าเลือดนั้นเอาละกันเพราะมันคนเดียวเลยจริงๆ

"งั้นเดี๋ยวผมมา "พูดจบมันก็ลุกขึ้นเดินออกไปเลย ไปไหนของมันกันนะ

สิบนาทีให้หลัง


"กลับมาแล้ว.."มันเดินยื่นถุงมาตรงหน้าผม

"อะไรอะ "ผมทำหน้างงใส่มัน

"ยาแก้ปวด แล้วก็ขนม"

"ที่หายไปนานนี้คือ  ไปซื้อไอพวกนี้มาให้อะหรอ"ผมอดตกใจไม่ได้เลยจริงๆ

"อือ แต่มีรองเท้าแตะด้วยนะ ผมซื้อมากลัวพี่ ใส้คัทชูแล้วนิ้วมันบวมอะ"เป็นอีกครั้งที่มันทำผมอึ้งครั้งที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ มันเป็นคนดี หรือแค่เฟรนรี่เกินไปนะ ผมแยกสองคำนี้ไม่ออกเลย

"ขอบใจนะ ว่าแต่กี่บาทอะเดี๋ยวคืนให้"ผมรับถุงฝนมืมันก่อนจะถามกลับ

"ไม่ต้องอะ แค่พี่เอาผ้าพันคอที่พี่พันอยู่คืนผมมาก็พอ"ผมรีบมองที่ต้นคอตัวเองทันที


"แหมะ ก็ว่าจะหาโอกาศคืนอยู่นั้นแหละ ไม่ได้คิดจะเอาไปซะหน่อย"

"หรา ถ้าผมไม่ทักนี้พี่คงใส่ยาวเลยงั้นสิ"พูดอีกก็ถูกอีก

"อะๆคืนๆ แหม่หวงจังนะกับอิแค่ผ้าพันคอเนี้ย"ผมพูดหยอกก่อนจะส่งคืนผ้าพันคอให้น้องมัน


"มันไม่ใช่แค่ ผ้าพันคอนะ แต่มันคือความทรงจำในวัยเด็กของผมต่างหาก"คำพูดของมันทำเอาผมต้องรีบหุบยิ้มทันที สีหน้าที่นิ่งๆนั้นบ่งบอกๆด้ถึงอารมณ์ดราม่าที่กำลังจะตามมาหลังจากนี้เลย

"เห้ย ขอโทษ  "ผมละอยากตีปากตัวเองแรงๆสักที

"ผมไม่โกรธพี่หรอก ก็พี่ไม่รู้นิ "มันมองผมพร้อมยิมเจื่อนๆ เป็นร้อยยิ้มที่ดูเศร้ามากเลยแหะ

"โอเคปะเนี้ย"ผมถามพร้อมกับเอามือแตะที่บ่า

"..."น้องมันไม่ได้ตอบผมแต่พยักหน้าแทนเพื่อให้ผมสบายใจ หน้าเศร้าๆไม่เหมาะกับไอเด็กนี้เลยจริงๆ ผมควรหาวิธีทำให้มันอารมณ์ดี ขึ้นดีมั้ยนะ

"มึง"เกมมันเก็บสีหน้าเศร้าๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม

"ไปกินข้าวกัน" น้องมันขมวดคิ้ว

"เอ่อผม.."

"เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง "

"โอเครเลยพี่ ^•^". จะว่าไปไอเด็กนี้มันก็มีส่วนเหมือนผมมากอยู่เหมือนกันนะ

โดยเฉพาะเรื่องกินเนี้ย


TBC....
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:50〖22/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 22-11-2017 16:13:28
Falling in love

แค่ลองทำ

หลังจากที่ผมพาไอเด็กซีเกมนั้นไปกินข้าวที่ตึกข้างล่างใกล้ๆกลับที่ทำงานเสร็จผมก็ มายืนรอรถเมลกับกลุ่มคนที่พึ่งจะเลิกงานกัน อย่างคับคลั่ง. ใช้เวลานั่งเพียงไม่นานก็ถึงที่หมาย

พอมาถึงคอนโดอิกี้ ตอนนี้เจ้าตัวมันไม่อยู่ครับโชคดีหน่อยที่มันทิ้งกุญแจสำรองไว้ให้ ไม่งั้นผมคงต้องนั่งรอมันทั่งคืนแน่ๆ

หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เปลี่ยนเสื้อผ้าล้มตัวลงนอน ที่เตียงขนาดใหญ่ ระหว่างนั้นก็มีข้อความจากแอพพิเคชั่นไลน์เด้งขึ้นมา

Z-game :  ถึงห้องรึยังพี่ "ไอเด็กนี้มันมีไลน์ผมได้ไงวะ ไลน์ที่ผมพึ่งสร้างเมื่อวันก่อนมีแค่ไม่กี่คนเองนะที่รู้

J.jatarin:มึงมีไลน์กูได้ไง"อดแปลกใจปนตกใจไม่ได้จริงๆ

Z-game:ก็กดดูเอาในโทรศัพท์พี่อะ (สติ๊กเกอร์ หมี ไอเลิฟยู)"เวรกรรมและนั้นพึ้งทำให้ผมนึกออกว่าตัวเองลืมสร้างรหัสความปลอดภัยของเครื่องแล้วก็ไลน์

J.jatarin: เร็วนักนะมึง กุเผลอเข้าห้องน้ำแปปเดียว"

Z.game: พี่ไม่รอบคอบเองนินา "มึงตั้งหากที่เสียมารยาทไอเด็กเวร

J.jatarin: มึงต่างหากที่เสียมารยาท ไอเด็กผี"

Z.game:  ฮ่าๆ (สติ้กเกอร์หมีแลบลิ้น)"

J.jatarin: ดึกป่านนี้แล้วทำไมถึงยังไม่นอน "จะว่าไปเวลาหนึ่งวันที่ผมได้รู้จักกับไอเด็กนี้ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นคนนิสัยดีน่าคบด้วยคนนึงเลยนะ

Z.game:  พี่เป็นห่วงผมหรอ ดีใจวะ"

J.jatarin:  กูแค่ถามมั้ยละห่า อย่าเข้าใจกูผิด"

Z.game:  เฮ้อเป็นห่วงก็บอกเป็นห่วงอย่าปากแข็งดิ.."

J.jatarin:  เอาที่มึงสบายใจแล้วกัน (สติ๊กเกอร์มูนเบื่อหน่าย)"

Z.game:  แกล้งพี่ให้หงุดหงิดแล้วรู้สึกดีวะ"เพราะ มึงมันโรจิตไงละ

Z.game:  พรุ่งนี้เข้างานกี่โมงอะพี่

"...."  ผมลองแกล้งเงียบปล่อยให้มันคุยคนเดียว

Z.game:  ฮัลโหลว เฮ้ หลับแล้วหรอ พี่ พี่เจๆวู้ หู้". แต่เหมือนยิ่งปล่อยไว้นานผมนี้สิที่จะลำบากเลยต้องจำใจตอบๆมันไป จะได้เลิกฟลัดข้อความมาหาผมสักที

J.jatarin:  กูง่วงจะนอนแล้ว. "ผมบอกแค่นั้นก่อนจะรีบวางโทรศัพท์ไว้หัวเตียง


ครืดๆๆๆ ขนาดปิดเสียงแล้วแต่แรงสั่นที่หัวเตียงมันยังดังไม่หยุด  ผมเลยต้องหยิบมันขึ้นมาเปิดดูอีดรอบ แล้วก็เป็นมันคนเดิม ที่ทักผมมา


J.jatarin:  ฟลัดหาพ่อง โทรศัพท์กูลวน ไอหรรม"จากที่พยายามใจเย็น อยู่นาน ในที่สุดผมก็เหลืออดกับไอเด็กนี้จนได้..

Z.game:อย่าพึ่งนอนดิคุยกับผมก่อน "มันยังตื้อผมไม่เลิก

J.jatarin: แต่กูง่วงแล้วขี้เกียจพิมพ์"

Z.game:  งั้นผมคอลไปนะ พี่จะได้ไม่ต้องพิมพ์"ผมกำลังจะพิมพ์ด่ามันแต่อีกฝ่ายมันโทรมาไลน์มาไวรึเกิน

ผมกดรับสายก่อนจะรีบเก๊กหน้าขรึมๆมองมัน

"เป็นส้นตีนอะไรกับกูนักหนาห้ะ  กูบอกกูจะนอนแล้วไง"อีกฝ่ายมันจ้องผมและเอาแต่ยิ้ม

"ไหนบอกจะคุยไง ห่ามีอะไรก็รีบพูดกูจะได้เข้านอนซักที"แต่มันก็ยังนิ่งแถมยังยิ้มหนักกว่าเก่าอีก

"ไม่คุยงั้นกุวาง"ผมกำลังจะกดปุ่มวางสายแต่อีกฝ่ายก็เริ่มพูดทันที

"เห้ย ใจเย็นๆ ผมแค่อึ้งๆ"มันตอบผมแต่ก็ยังคงยิ้มอยู่

"อึ้งอะไรมึง"ไอเด็กนั้นมันรีบหุบยิ้มก่อนจะเก๊กหน้าขรึมใส่ผม


"เปล่าๆ ไม่มีอะไร ครับ ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะได้เจอกันอยู่ใช่มั้ย"พูดงี้มันหมายความว่าไงฟร้ะ

"ถ้ายังไม่ตายก็คงได้เจอกัน"

"พรุ่งนี้พี่มาไงอะให้ผมไปรับมั้ย"ไอเด็กนี้มันทำหน้าเหมือนรอลุ้นว่าผมจะตอบอะไรมัน

"ไม่ต้องอะเดี๋ยวมีคนไปส่ง"

"ใครอะ"

"เสือก"

"ฮ่าๆ"

"ขำ?"

"ขำพี่นั้นแหละ พี่รู้ปะพอเวลาพี่ทำหน้าตึงๆหน้าพี่แม้งอย่างฮา"นั้นปากหรอนั้น- -"

"จ้า พ่อคนหล่อ หล่อเหลือเกิน หล่อตายละมึง"ระหว่างนั้นผมก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลอดปลายสายเข้ามา

"(นี้ เจ้าเกมดึกขนาดนี้แล้วทำไมถึงยังไม่นอน ห๊า)
กำลังจะเข้านอนแล้ว ปู่เองก็รีบเข้าไปนอนเถอะ  "

"ไงละมึง ฮ่าๆเห็นมึงโดนด่าแล้วกูรู้สึกดีวะ5555"

"โรคจิตวะพี่ (นี้เจ้าเกม ที่พูดนะได้ยินมั้ย) ได้ยินแล้วคร้าบกำลังจะปิดไฟนอนแล้วเนี้ย"เสียงของไอเด็กนี้ร้องตอบอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

"กูว่ามึงรีบไปนอนเถอะ เดี๋ยวเขาก็มาแหกอกมึงอีกหรอก"ผมเตือนมันด้วยควาทหวังดี

"เอางั้นก็ได้พี่ ..แต่ก่อนจะไป.."มันกดตัดสายผม ก่อนจะส่งข้อ รูปๆนึงตามมาติดๆ พอผมเปิดเข้าไปดู ก็ต้องร้องอุทานคนเดียวดังๆว่า


"เชี้ย!! "ผมรีบพิมพ์ด่ามันในทันที

"รูปกูโคตรเหวอ..."เป็นรูปที่ผมกำลังจะจามในร้านข้าวแล้วแม้งดันแอบถ่ายเอาไว้ บอกได้คำเดียวครับ ..เลว


"ฝันดีนะครับ พี่(สติ๊กเกอร์หมีห่มผ้า)"หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้ตอบอะไรผมอีกซึ่งผมคาดว่ามันคงจะเข้านอนจนหลับไปแล้วแต่ผมนี้สิกลับตาสว่าง ขึ้นทันตาด้วยความโมโหทักไปก็ไม่ตอบไอเด็กเวร

..............

เช้าวันถัดมา ผมปรื่อตาตื่นขึ้นด้วยความตกใจแบบสุดขีด แต่ที่ตะลึงนี้ไม่ใช่เห็นผีนะครับ แต่เป็นนาฬิกาต่างหาก  ชิบโด้ ผมตั้งปลุกไว้ตอนหกโมงแต่ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกา กับอีกยี่สิบ ยี่สิบเอ็ด ยี่สิบสอง แต่เดี๋ยวนะ แล้วไหงตัวผมุถึงได้มานั่งใจเย็นนับวินาทีเล่นอยู่อย่างนี้ละเอ๊อ!
ยัง
ยังไม่รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานอีก คิดได้ดังนั้นผมก็แทบจะบินเหาะเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันด้วยความเร็วแสงก่อนจะรีบแต่งตัวไปทำงานแบบลวกๆ และก่อนไปก็ไม่ลืมสายคล้องคอประจำตำแหน่งเด็กฝึกงานหน้าใหม่ เพราะขืนลืมมีหวังได้ติดแหง็กนั่งคุยจ้อกับพี่กาด ข้างล่างแน่ครับ


และระหว่างที่นั่งรถเมลไปทำงานด้วยความใจเย็นนั้นเองผมก็พึ่งจะนึกออกถึงสาเหตุที่ ทำให้ไม่ตื่น นั้นก็คือ กูปิดเสียงไว้ ครับ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าต้นเหตุมันมาจากใครถ้าไม่ใช่ไอเด็กผีเวรนั้น  หึหึ ไปถึงเมื่อไหร่กูจะโบกให้หน้าคะมัมเลยคอยดู
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:50〖22/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 22-11-2017 16:16:44
ณ ตึก Tnk.

ผมถึงที่ทำงานในเวลาเกือบๆ จะเก้าโมง ด้วยความเร่งรีบผมเลยรีบวิ่งไปรออยู่หน้าลิฟฟ์ และด้วยความใจเย็น หนักจากที่รออยู่นานลิฟฟ์แม้งก็ยังไม่ลงมาสักทีเลยถือโอกาศหยิบโทรศัพท์ที่สั่นๆในกระเป๋ากางเกงออกมาดู

"ไอเด็กผี"ผมเปลี่ยนชื่อไลน์มันเป็นที่เรียบร้อย. ชื่อเพราะดีเหมาะกับหน้าและนิสัยของมันจริงๆ

"ประธานกำลังลงมาข้างล่างพี่มัวทำอะไรอยู่เนี้ย"ตอนแรกในความคิดผมกะจะด่ามันให้หายเคืองแต่เรื่องนั้นคงต้องเอาไว้เคลียหลังจากผมโผล่หน้าไปให้ไอประธานมันเห็นก่อนละกัน


...

และด้วยความที่ลิฟฟ์ เลื่อนลงในชั้นที่ผมอยู่ยังกับเต่าคลานผมเลยตัดสินใจเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นบรรไดแทน  โหะ ด้วยความที่ออกกำลังกายทุกวัน(มโน). ผมเลยไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว .... โอเค พูดความจริงก็ได้ ว่ามันเหนื่อย ถึงจะเป็นแค่ชั้น เดียวก็เถอะ ...

ทันทีที่ผมมาถึงห้องทำงาน. ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว โชคยังดีหน่อยที่ไอประธานมันยังมาไม่ถึง. ผมเลยไม่โดนตำหนิอะไร ..

ทันทีที่มาถึงโต๊ะประจำตำแหน่ง


"ตื่นสายหรอ"ไอเด็กผีมันหันมาถามผมยิกๆแต่ผมแกล้งไม่ได้ยิน

"นี้"มันพยายามส่งเสียงให้ดังขึ้นแต่ผมก็ยังไม่หันไปคุยกับมันอยู่ดี

"พี่เจ!"คราวนี้มันตะโกนเลยครับ แม่เจ้าโว้ย ขนาดพี่เกดที่ยืนอยู่ไกลๆยังหันหลังกลับมามองว่าเกิดอะไรขึ้น

"ตะโกนทำเชี้ยไรเนี้ย"ผมหันไปมองค้อนไอเด็กนั้นหนึ่งทีใจจริงอยากเดินไปโบกหัวมันด้วยซ้ำถ้าไม่ติดที่ว่าคนอยู่เยอะนะมืงงง

"ก็ผมเรียกแล้วพี่ไม่ตอบอะ"

"มีอะไร "ผมพยายามถามมันเสียงเบาๆ

"ทำไมถึงมาสาย"

"...."

"ไม่ตอบผมตะโกน...."และไม่ต้องรอให้มันอ้าปากผมก็รีบตอบกลับมันในทันที

"กูตื่นสาย"

"แล้วทำไมถึงตื่นสายอะ"ก็เพราะมึงไงกูถึงต้องปิดเสียงโทรศัพท์จนนาฬิกาที่ตั้งไว้มันไม่ยอมดังนะสิ ไอห่า แต่ด้วยความที่ไม่อยากคุยยาวผมเลยตอบแบบขอไปที

"นอนดึก"

"แล้วกินไรมายัง"มันถามยิ้มๆใส่ผม



"สายขนาดนี้มึงคิดว่สกูกินรึยังละ"ถามมาได้


"เออนั้นสินะ"ระหว่างนั้นเสียงประตูห้องก็เปิดดัง ปึ้งๆ สร้างความตกใจให้คนในห้องอยู่ไม่น้อย 

และบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่จะเป็นใครไม่ได้นอก จากไอประธานขี้เก๊กของสาวๆ เกือบทั้งตึกที่วันนี้มันแต่ง ตัวค่อนข้างดูดี. เหมาะกับทรงผมทึ่เซ็ทเปิดเหม่งไปทางซ้าย คาดว่าถ้าเปลี่ยนสีกางเกงออกสีแสบๆตาหน่อยกับเน็กไทน์หลากสี ผมจะชวนมันเขาวงหมอลำเลยนะเออ

ตึบ เสียงรองเท้าคัทชูคู่หนาเดินมาหยุดลงอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานผม คนร่างสูงจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาที่แม้แต่ผมก็ยังเดาทางไม่ออกว่ามันคิดอะไรอยู่

"ตามไปพบที่ห้อง"เสียงเรียบนิ่งของมันเล่นทำเอาขนด้านหลังของผมถึงกับชูชันขึ้นมา บรรยากาศโดยรอบ เกิดความเงียบ ขึ้นมา และในทันทีที่มันพูดจบประโยคมันก็หมุนตัวกลับเดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย

คือ มึงลงมา แค่เรียกกูไปพบเนี้ยนะ??

ผมละยอมใจในความเล่นใหญ่ของมัน และด้วยความที่ผมเป็นลูกน้อง(ขี้ข้า) ผมเลยต้องรีบแบกสังขาร ของตัวเองวิ่งตามไอประธานมันออกไป แต่พอออกมากลับไม่เห็นเงาหัวของมันเลย แล้วสรุปจะให้กูไปพบที่ไหนกันละเนี้ย

ด้วยความไม่รู้ผมเลยเดินกลับเขามาในห้องก่อนจะเดินไปหาพี่เกดเพื่อถามทางไปห้องของไอประธานบ้านั้น แต่เหมือนพี่เขาจะติดธุระคุยโทรศัพท์อยู่ ผมเลยได้แต่ยืนรออยู่ห่างๆ ระหว่างนั้นเองไอเด็กผีซีเกมมันก็เดินมาสะกิดไหล่ผมยิกๆ

"ยืนรออะไรอะทำไมไม่รีบขึ้นไป เดี๋ยวก็โดนไอประธานมันเล่นเอาหรอก"ใจจริงพี่ก็อยากไปนะไอหนูแต่กูไม่รู้ทางครับไม่รู้จะถามใครดี

"ออกไปกูก็ไม่เห็นมัน..เอ่อหมายถึงประธานอะ "

"ก็ตามขึ้นไปสิ"คือถ้ารู้ว่ามันอยู่ตรงไหนกูจะมารอถามพี่เกดเขามั้ยอะ

"ก็ไม่รู้ว่าไอ้.เอ่อ.ประธานอยู่ชั้นไหนไง"

"น่าจะขึ้นห้อง ไปแล้วมั้ง อยู่ชั้นสิบสี่ห้องขวามืออะ ให้ผมพาไปมั้ย"

"ขอบใจ แต่ไม่ต้องอะ "

"ตามนั้นละกัน ได้เรื่องไงมาบอกผมด้วย ถ้าประธานมันนินทาลูกน้องอย่าลืมมาบอกผมด้วยละ"ผมพยักหน้าให้มันก่อนจะรีบเดินขึ้นลิฟฟ์ไปที่ชั้นสิบสี่ตามที่ เด็กผีมันบอก


ปิ๊ง!  ลิฟฟ์เปิดผมรีบเดินออกมามองทางด้านขวา มองตรงประตูที่มีป้ายแขวนไว้ว่า private. เอาไว้ น่าจะเป็นห้องนี้นั้นแหละ ผมยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่กลายทีก่อนจะรีบเคาะประตูสามครั้งจนได้ยินเสียงอนุญาติจากอีกฝ่ายผมจึงค่อยเดินเข้าไป..



ทันทีที่ผมเข้ามาด้านไหน กายมันก็มีแขกอยู่แล้วเป็นสาวสวยคนนึงในชุดเดรส สีแดงสด บวกกับสีผมและสีปากที่ดูจัดจ้านไม่แพ้กัน

เธอกำลังนั่งอยู่ข้างๆกับไอกายบนโซฟา ทั้งคู่หันมามองผม แวบนึงก่อนจะหันไปคุยกันอย่างออกรสออกชาติ.

เวลาผ่านไปสิบนาทีผมได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าขัดจังหวะการพูดคุยของทั้งสองเลยได้แต่ยืนรอให้คนได้คนนึง ทักผมสักที แต่ก็ยังไม่มีใครให้ความสนกับผมอยู่ดี

สิบห้านาทีผมยืนมองึนตรงหน้าด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ค่อยๆผุดขึ้นมาที่ละนิดๆ

ยี่สิบนาทีผ่านไป

  พอ ผมไม่ทนแล้ว ใครจะว่าผมเสียมารยาทยังไงผมไม่แคร์ในหัวของผมตอนนี้มีแต่ความไม่เข้าใจเต็มหัวไปหมด สรุป มีธุระจะคุยหรือจะให้กูมาดูฉากเรท อะไร ใครก็ได้ช่วยบอกผมที

"เอ่อมีธุระอะไรหรอครับ ถึงเรียกผมขึ้นมา"ผมโพล่งถามขึ้นทำเอาสองคนที่นั่งคุยคลอเคลียกันต้องหันกลับมามอง

"ตอนแรกว่าจะฝากงานแต่ตอนนี้มีคนทำเสร็จไปแล้ว งั้น..."   แล้ว เรียกกูมาทำส้นตีนอะไรครับ??  ผมรีบขมวดคิ้วให้มันรู้ตัวในทันทีว่ากูไม่พอใจอย่างแรงกับการกระทำของมึง

"กลับลงไปก่อนไว้มีงานเดี๋ยวจะฝากงานกับคุณเกดไปให้"จบประโยคของไอปรประธานหัว...นั้นผมถึงกับกำหมัดแน่นด้วยอารมณ์โกรธที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ นี้ถ้าไม่มีใครอยู่ผมมั่นใจแน่ๆว่าผมคงรีบพุ่งตัวเข้าไปซัดมันสักทีให้หายเคือง  ไอซัซ มีที่ไหน เรียกให้กูมาดูมึงสวีทกัน เหอะ
ผมรีบเดินตึงตังออกมาจากห้องพร้อมกับปิดประตูใส่มันเสียงดังปึ้ง ก่อนจะรีบขึ้นลิฟฟ์ลงไปที่ชั้นล่างด้วยอารมณ์หงุดหงิดถึงขีดสุด

............  อีกด้านนีง

"อะไรของมึงเนี้ยกาย "เสียงเพื่อนผู้หญิงคนสนิทของผมเองครับเธอมีชื่อว่าเก๋ เราสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้วแต่พึ่งได้กลับมาเจอกันเมื่อหลายเดือนที่แล้วในตอนที่ผมยังอยู่ที่ต่างประเทศ

"อะไรของมึงนี้คือยังไงวะ"

"ก็ที่มึง พยายามสะกิดขาไม่ให้กูคุยกับคนเมื่อกี้อะ"มันคงหมายถึงเรื่องเมื่อกี้แน่ ก่อนอื่นเลยผมต้องขอท้าวความย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนก่อน

......


"พี่ ผมถามจริงๆนะทำไมอยู่ๆพี่ถึงรับแฟนเก่าพี่เข้ามาทำงานในบริษัทอะ"เป็นคำถามที่คนฟังอย่างผมถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากไอปอน


"ก็แค่รับคิดไรมากวะ มันกล้ามาสมัคร กูก็รับมันเข้าทำงานก็แค่นั้น"ไอปอนเหล่ตามองผมเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก

"ก็ถ้าเขาไม่ใช่แฟนเก่าพี่ผมจะไม่ถามแบบนี้เลย แต่คือมันใช่ไงผมก็เลยสงสัย"

"สงสัยห่าอะไร"

"สงสัยว่าพี่ ยังมีความรู้สึกดีๆให้กับพี่คนนั้นอยู่อะดิ"ผมเนี้ยนะ จะมีความรู้สึกดีๆหลงเหลือ  เหอะ ความรู้สึกดีๆ ที่ผมเคยมีให้กับมันหมดลงไปตั้งแต่วันที่ผมเห็นมันจูบกับไอห่านั้น ในวันนั้นแล้ว แถมยังมีเรื่อง เงินสิบกว่าล้าน ที่พ่อผมเสนอให้อีก คงจะเปรมอยู่กับมันจนมีความสุขเลยสิท่า แต่ไหงวันนี้ถึงกับมาซมซานหาผมได้ อ่อ สงสัยจะโดนไอห่านั้นทิ้งเขาให้แล้วละสิ ถึงได้กลับมา แต่ขอบอกก่อนเลยว่า ต่อให้มันมา. ขอร้องอ้อนวอนแค่ไหนความรู้สึกดีๆที่ผมเคยมีให้มันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว ทุกอย้างมันพังไปหมดแล้ว พังลงไปแบบไม่เหลือชิ้นดี ด้วยฝีมือ ของตัวมันเอง

"ประสาทแดกหรอ มึงก็รู้ว่ามันเป็นคนยังไง มึงจำเรื่องสองปีก่อนที่กูเคยเล่าให้ฟังไม่ได้หรอ มึงก็เห็นแล้วนิ ว่ามัน ทำอะไรกับกูไว้บ้างแล้วจู่ๆจะให้กูกลับมารู้สึกดีกับคนที่ทำให้กูเจ็บแบบนี้อะหรอ เหอะฝัน "

"แต่ผมว่าคำพูดกับการกระทำพี่นี้มันขัดแย้งกันมากโขอยู่นะ"

"ยังไง"ผมถามด้วยความอยากรู้

"ก็ เท่าที่ฟังมา เหมือนพี่จะเกลียดเขามาก "พูดอีกกูถูกอีกผมรีบพยักหน้าใส่ไอปอนยิกๆ

"พี่คงจะโกรธ ที่เขาทิ้งพี่ไปมีคนใหม่" เรื่องนี้ฝังใจกับผมหนักมาก แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบไอปอน

"แล้วตอนนี้พี่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแล้ว แม้แต่นิดเดียว"

"ใช่" ผมยิ้มยืนยันในความคิดของตัวเองอย่างหนักแน่น

"แต่พี่ก็เลือกรับเขาเข้าทำงาน ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเป็นคนทำให้พี่เจ็บ"รอยยิ้มของผมค่อยๆหุบลงทีละนิดๆ

"พี่เลือก เขาทั้งๆที่พี่มีสิทธิที่จะไม่รับเขาเข้าทำงานก็ได้แต่พี่ก็ดันรับ ผมไม่เข้าใจตรงส่วนนี้อะ มันดูขัดแย้งยังไงไม่รู้"แม้แต่ผมเองยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นมันคืออะไร

"เอางี้ พี่มั่นใจ ว่าพี่ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเขาแล้วใช่มั้ย "

"ก็....เออดิ  ทำไม มึงคิดจะทำอะไรไอปอน"และแน่นอนว่ามันต้องไม่ใช้เรื่องดี

"พรุ่งนี้พี่เก๋จะกลับมาไทย คุยเรื่องธุรกิจกับบริษัทเรา "

"แล้วยังไง"

"พี่ลองเล่นละครตบตาดูสิ"ผมขมวดคิ้วมองมัน

"ตบตาใครวะ "

"ก็แฟนเก่าของพี่ไง"

"แล้วทำไมกูถึงต้องลงทุนทำเรื่องแบบนั้นด้วยวะ "

"เพื่อคำตอบไง"

"คำตอบอะไร"

"คำตอบที่พี่เองก็รู้อยู่แก่ใจ ผมไม่พูดหรอกไว้ถึงเวลาพี่ก็จะรู้เอง"ผมละอยากจะตบกะบาลเรียกสติมันสักทีแล้วถามไอปอน ว่ามันกำลังคิดจะให้ผมทำเรื่องบ้าอะไรอยู่

"พี่เคยบอกกับผมเองไม่ใช่หรอ ว่าเขาเป็นฝ่ายทิ้งพี่ งั้นก็แสดงว่าเขาต้องไม่มีความรู้สึกอะไรกับพี่แล้วแน่ๆ "

"มึงกำลังหมายถึง"

"เออก็อย่างที่พี่คิดอะแหละ ถ้าเขาไม่เหลือเยื้อใยกับพี่จริงๆเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยแต่ถ้ามี..พี่ก็จัดการส่วนนั้นเอาเองละกันนะ เพราะผมไม่รู้ว่าลึกๆแล้วพี่รู้สึกยังไงอยู่กันแน่...แต่ผมมีเรื่องสำคัญอยากจะขอย้ำพี่ไว้..

"เีรื่องอะไรอีก"นี้ผมเผลอไหลตามคำพูดไอปอนตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี้ย..

"ถ้าเมื่อไหร่ ที่หัวใจของพี่มันไม่ยอมบอก ความเจ็บปวดมันจะกลายมาเป็นคำตอบให้พี่เอง ผมจะบอกแค่นี้แหละ ฝันดี"พูดจบมันก็เดินตัวปลิวล้มตัวลงนอนทีโซฟาไม่มีทีท่าว่าจะหันมาคุยกับผมอีกเลย...

แม้ปากจะบอกออกไปว่าไม่รู้สึกอะไรแล้วก็ตามแต่ทำไมผมถึงต้อง มีความรู้สึกผิดในใจลึกๆแบบนี้ด้วยนะ

"กาย เฮ้ เป็นไรเนี้ยเหม่อๆนะ"เก๋ดีดนิ้วเรียกสติผม

"ห้ะ อะไรๆ"เมื่อกี้มันพูดอะไรกับผมวะไม่ทันฟัง

"กูรู้สึกผิดแปลกๆวะ"

"เรื่องอะไรวะ"

"สีหน้าคนที่เดินเข้ามีเมื่อกี้อะ"

"แล้วมันทำไมละ"

"มันมีมากกว่าความหงุดหงิดที่ต้องยืนรอ"เก๋มันกำลังจะสื่ออะไรให้ผมฟังวะ


"สายตาที่เขามองมึง กูรู้สึกได้วะ แต่ปกติกูจะเห็นในมุมของผู้หญิงด้วยกันแต่เมื่อกี้ดันเป็นผู้ชายนะสิ"

"มึงเห็นอะไร"

"ก็...มันเหมือนๆ..หวงผัว"ห้ะ หวงอะไรนะ

"หวงผัว ? มีงมั่วละเก๋"

"กูไม่ได้มั่ว กูพูดจริงๆ กูรู้สึกแบบนั้น ออร่าความเป็นเมียเขามีสูงมากมึง "

"มึงกลับๆไปได้แล้วไปกูว่ามึงลืมเวิ่นเว้อแล้วเก๋"ผมรีบโบกมือไล่เพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์นัก

"เออกูไปก็ได้ค่ะ..แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะมาใหม่"

"มาทำไม่อีกวะธุระก็คุยกันรู้เรื่องแล้ว"เพราะเมื่อกี้ผมพึ่งคุยเรื่องธุระกิจกับพ่อของเก๋ไปสดๆร้อนๆเอง

"แล้วใครบอกว่ากูมาเรื่องงาน"อ้าวแล้วมึงจะมาทำไมบ่อยๆละครับ


"กูจะมาเสือกเรื่องของมึงต่างหากละ"

"เสือกเรื่องกูเนี้ยนะ "

"เรดาร์กูมันบอกว่ามึงต้องมีซัมทิงอะไรบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกกูแน่ๆ"

"มั่วใหญ่แล้วมึง กูไม่มี"

"ไว้กูจะมาดูด้วยตัวของกูเองละกัน...ไปนะบาย"มันไม่ได้ตอบอะไรผมอีก แถมยังเสือกทิ้งระเบิดตูมนึงเอาไว้ให้ผมอีก เห้อ บางที่ผมก็เหนื่อยนะ ที่มีเพื่อนแบบมันเนี้ย..

.............

หลังเลิกงานผมก็นั่งรถเมล์กลับอิลอบเดิม เพิ่มเติมคือมีไอเด็กผีมันนั่งมาด้วยเหตุผลที่มันบอก คือกลัวผมเลยป้ายที่จะลง เลยต้องมานั่งเฝ้าชนิดที่ว่าถ้าขี่คอผมได้มันคงทำไปแล้ว


พอมาถึงหน้าหอไอเดฺกผีมันก็ขอตัวกลับก่อน. เห็นมันบอกว่า คุณปู่มันมีเรื่องจะคุยด้วย ซึ่งผมเองก็อยากจะไล่มันไปตั้งนานแล้วแหละ ในที่สุดก็หาเหตุไล่มันได้สักที ท่าทีมันก็ดูจะไม่ได้อิดออดอะไร และก่อนที่มันจะนั่งแท็กซี่กลับไปผมก็หยิบขนมในถุงเซเว่นให้มันหนึ่งห่อไว้กินระหว่างทาง

ก่อนจะรีบเดินขึ้นมาบนห้องผมก็เจออิ กี้กำลังนั่งพอกหน้าเขียวอยู่ที่หัวเตียงในห้องของมันที่เปิดอ้าซ่าเอาไว้

"กลับมาแล้วหรอมึง " ถามขึ้นทั้งๆที่ผมก็มานั่งเสนอหน้าใกล้ๆกับมันแล้ว .ยอมใจ

"ไม่มีเรื่องอะไรจะเล่าให้กุฟังเลยหรอ"อิกี้มันถามแต่สายตาก็ยังมองกระจกอยู่

"มึงรู้ได้ไง"ผมว่าก็ทำตัวปกติสุดแล้วนะ


"หน้ามึง.."ทำไมหนัากูมันทำไม

"เหมือนมึงแบกทุกข์เอาไว้ทั้งหน้า..."หน้าผมมันออกอาการขนาดนั้นเลยหรอวะ. ว่าแล้วก็รีบดึงกระจกที่อิกี้มันส่องอยู่มาดูหน้า ผมที่ไม่ว่าจะหันซ้ายหันขวายังไงก็ไม่ยักจะรู้สึกถึงอะไรอย่างที่มันบอกเลยสักนิด


"มึงหลุดแล้ว อิเจ" ผมรีบวางกระจกลงกับเตียงแล้วมองหน้ามันอีกที

"หลุดอะไรมึงวะ"

"อาการมึงไง กูแค่แซวขำๆ แต่มึงเสือกทำท่าจริงจังนั้นแหละกูถึงรู้ ..รีบพูดมาอย่าให้กูเค้น" เฮ้อ แต่แล้วที่สุดความลับมันก็ไม่มีในโลกสินะ สุดท้ายผมเลยต้องจำใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้อิกี้มันฟัง


"เลว"คือประโยควลีที่ผมได้ยินมันพูดบ่อยที่สุดในเวลานี้

"คือจะเอากันแล้วเรียกมึงเขาไปดู  เหอะ อิดอก ถึงมึงจะเป็นเมียเก่ามันก็เถอะ แต่แบบนี้มันเกินไปอะ "ผมหลุดสึกอึกตรงนี้นิดหน่อย

"แต่มันทำอย่างนี้หมายความว่าไงวะ "พอเห็นกี้มันอารมณ์เดือดปุดๆผมก็รีบพูดปรามมันเอาไว้เพราะอินี้มันมีคติที่ว่า การกระทำของมันจะไวกว่าความคิดเสมอ

"กูอาจเข้าไปผิดจังหว่ะเองก็ได้ "

"จังหว่ะห่าอะไรจะเหมาะเจาะขนาดนั้นอิดอก ถ้าเป็นกูนะกูจะตบทั้งผัวเก่าและเมียใหม่มันเลยหมันไส้ แล้วมึงละยืนดูเขา จะล่อกันเฉยๆ อยู่อย่างนั้นไม่ทำเชี้ยอะไรเลย..
"มันพูดพร้อมกับทำท่าทางประกอบเพิ่มความหมันไส้ใส่ผม

"กู...เฮ้อช่างมันเถอะ..กูผิดเองที่กูคิด"ถ้าจะมีใครผิดก็น่าจะเป็นผมเองนี้แหละที่เข้าไปไม่ดูเวลา

"เดี๋ยวๆนะ เมื่อมึงพูดว่าอะไรนะ..."ผมขมวดคิ้วมิงมันก่อนจะตอบประโยคเดิม

"กูผิดไง"

"ไม่ๆอีกประโยคนึงอะ"

"ที่กูคิด?"

"มึงคิด..คิดอะไร  คิดมาก น้อยใจ หรืออะไร"เอาจริงๆผมก็ตอบคำถามนี้ให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าสรุปไอสิ่งทีผมเก็บมาคิดเนี้ยมันเป็นความรู้สึกแบบไหนอยู่กันแน่

"กู...ไม่.."ผมกำลังจะตอบแต่อิกี้มันก็พูดแทรกขึ้นมา

"เอาตรงๆนะ มึงยังชอบมัน อยู่ใช่มั้ย"จบประโยคผมอึ้งไปสามวินาที

"ชอบไหนชอบใคร อะไร บ้าแล้ว กูไม่..."

"มึงชอบ แล้วก็ยังรักมันอยู่ด้วย "ผมได้แต่นั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออกจนอิกี้เดินกลับเขาห้องไปพร้อมกับ หยิบกล่องใบนึงซึ่งใส่ความทรงจำของผมกับกายไว้ในกล่องนั้นด้วยรูปภาพและของแทนใจอยู่หลายชิ้น กี้มันเลือกหยิบรูปๆนึงที่แอบถ่ายกายตอนมันเผลอ นั้นเป็นรูปแรกที่ผมมีตั้งแต่คบกันมา..

"ฉีกสิ จะเผาก็ได้แล้วแต่มึงเลย "ผมหยิบรูปนั้นมาไว้ในมือมองดูรูปไปนั้นย้อนหวนไปถึงวันที่ผมเคยมีมันอยู่ข้างๆก่อนจะวางรูปลงไว้กับตัว..พร้อมกับแรงสั่นๆที่มือ

"กูทำไม่ได้"ผมตอบจากใจ

"ถ้ามึงไม่รู้สึกอะไร มึงจะไม่ลังเลเลยเจ " ผมได้แต่นิ่งไม่รู้จะตอบมันยังไง...

"กูอยากจะช่วยมึงนะเจ แต่บางครั้งกูก็คิดว่าเรื่องบางเรื่องมึงควรจะสะสางด้วยตัวของมึงเอง เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เอง ปัญหาอะไรที่ทำค้างไว้ ก็รีบสะสางให้มันจบ มึงจะได้ไม่ต้องมานั่งเศร้าคิดมากคนเดียวแบบนี้ไง"คำพูดของอิกี้ทำให้ผมคิดตามจนไม่อาจห้ามหยดน้ำตาให้ไหลรินได้

"ถ้ามันเจ็บก็อย่าฝืน ลาออกมาเถอะ อย่างน้อยก็เพื่อตัวมึงเอง ทำตามที่ใจของมึงต้องการกูว่าดีสุดละ"..

"สองเดือน..."

"อะไรคือสองเดือน"

"กูมีเวลาอยู่ที่นั้นอีกแค่สองเดือนก่อนะหมดช่วงทดลองงาน "

"แล้วมึงคิดจะทำอะไร"

"กูอยากไถ่โทษที่เคยทำไม่ดีกับมัน"

"ด้วยการ ไปยื่นโง่ให้ตัวเองเจ็บใจเล่น แบบนั้นอะหรอ"

"กูจะพูดขอโทษมัน"

"เพื่ออะไรวะเจ กูไม่เข้าใจมึงเลย"

"เพื่อความสบายใจของตัวกูเองไง มึงบอกเองไม่ใช่หรอว่าให้กูทำในสิ่งที่ใจของกูต้องการ"

"มึงต้องการเจ็บ...อย่างงั้นหรอ?"

"ใครๆก็ไม่อยากเจ็บหรอก แต่กูเหมือนยังติดค้างอะไรกับมันอยู่กูถึงยังปล่อยวางไม่ได้ไง มึงคิดว่าการที่กูลาออกมาแล้วทุกๆอย่างมันจะจบจริงหรอวะ"กี้มันเงียบได้แต่นั่งฟังผมนิ่งๆ

"กูยังติดค้างอะไรมันอยู่หลายอย่าง กูขอให้กูได้ทำสิ่งๆนั้นก่อนได้รึเปล่าวะ"กี้มันก็ยังเงียบ

"อย่างน้อยก็ขอให้กูได้ลองทำ และไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง กูมั่นใจว่ากูสามารถตัดมันออกจากชีวิตได้"

"มึงมั่นใจ"

"กูมั่นใจ..ถึงแม้วันนี้มันอาจจะโกรธกูเกลียดกูไปแล้วก็เถอะ แต่อย่างน้อยกูขอให้ได้ทำอะไรเพื่อมันสักอย่างเพื่อให้ความผิดของกูมันลบเลือนไปได้ กูก็พร้อมจะทำ..."เสียงหนักแน่นถูกเปร่งออกมาจากภายในจิตใจของผมทุกคำที่พูดล้วนเป็นความจริงและความรู้สึกของผมทุกอย่าง และไม่ว่าเรื่องของผมมันจะจบด้วยการที่เราสองคนเกลียดกันหรือไม่มองหน้ากันอีกต่อไป ผมก็พร้อมจะยอมรับและพร้อมที่จะเผชิญต่อสิ่งเหล่านั้น..ด้วยตัวของผมเอง


.....

TBC......


ขอโทษที่หายไปหลายวันนะครับ   ตอนนี้กลับมา  แว้ว  อย่าพึ่งหายกันไปน้า  @_@
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:50〖22/11/60〗
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 22-11-2017 16:30:32
บวกเป็ด  :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:51〖06/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 06-01-2018 13:48:09
Falling in love

เรื่องดีๆ


วันนี้เป็นเช้าอีกวันที่ท้องฟ้าสดใสแต่ในหัวใจผมมันกลับหม่นหมอง

ผมเดินทางมาที่ทำงานด้วย แรงใจเพียงแค่สิบเปอรเซ็นต์ เพราะที่เหลือมันมหายหายไปตั้งแต่เมือคืนแล้ว


ผมเดินเข้าตึกสวัสดีพี่ๆกาดหน้าเดิมๆพร้อมกับส่งถุงน้ำเต้าหู้ในมือให้ก่อนจะรีบขึ้นไปที่ห้องทำงานของตัวเอง..

"จ๊ะเอ๋!!!"อยู่ๆเด็กซีเกมมันก็โผล่มาจากด้านในร้องตะโกนเสียงดังแต่แปลกที่ผมกลับไม่ตกใจเลยสักนิด..

"ไม่ตกใจหน่อยหรอ แบบว่าสักนิดก็ยังดี"เด็กนั้นมันหน้าเสียไปนิดผมเลยแกล้งๆเอามือทาบอกทำท่าตกใจให้มันดู

"เฮ้อ ถ้าแบบนี้อย่าทำเลยพี่เฟลหนักกว่าเก่าอีก..แล้วเป็นอะไรถึงไม่ยอมตอบไลน์ผม แบตหมดรึไงกัน"แบตไม่หมดหรอกแต่ผมแค่มัวแต่เหม่อลอยมากไปก็เท่านั้น

.......

ช่วงสายๆเด็กฝึกงานมากันครบแล้ว พี่เกดเลยเดินมาหาผมที่โต๊ะและมอบงานๆนึงให้

"พี่อยากให้เรา ช่วยหาช่องทางการตลาดโฆษณาให้กับบริษัท โดยหัวข้อหลักๆคือทำยังไงก็ได้ให้เขาสนใจในบริษัทของเราและถ้ามีส่วนลดหิ้วมาด้วยจะดีมากเลย"พี่เกดพูดเสียงเรียบนิ่งแต่ผมฟังนี้ต้องอ้าปากหวอตาม ..ระหว่างนั้นผมก็ได้ยินเสียงๆแว่วๆ จากโต๊ะข้างๆพูดคุยกัน

"ปกติงานแบบนี้เขาให้แต่พนักงานไปทำกันไม่ใช่หรอ ทำไมถึงมามอบงานใหญ่ๆให้กับเด็กฝึกงานละ"

"สงสัยคงอยากจะบีบให้ออกละมั้งถึงทำแบบนี้"

และเสียงอื่นๆอีกนาๆประโยค แต่แล้วก็มีเสียงนึงแทรกขึ้นเล่นทำเอาใจผมชื้นขึ้นมาทันที

"ผมขอไปด้วย .."คนที่พูดขึ้นก็คือไอเด็กผีข้างๆผมนี้เอง

"แต่งานมันค่อนค้างใหญ่นะ จะทำกันไว้หรอ"แต่พี่ก็มอบงานใหญ่ให้ผมทำแค่คนเดียว แต่ทำไมถึงไม่ถามความเป็นอยู่ของผมบ้างเลยละผมเองก็ชักงงๆ

"เอาจริงๆพี่ก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะแต่เบื้องบนเขาสั่งมาแล้วเขาก็ยังกำชับด้วย ว่าต้องให้เจทำคนเดียวด้วยแต่เอาเป็นว่าพี่จะให้ซีเกมไปช่วยเจอีกแรงนะ"ผมได้แต่พยักหน้าหงึกๆตอบตกลงทั้งที่ในหัวตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่าไปหมด...

..........

ตกช่วงบ่ายผมขอไอเกมมันทำงานอีกนิดหน่อยก่อนจะตามลงไปข้างล่างเพื่อไปทำธุระตามที่เบื้องบนเขาได้บอกไว้ แต่พอมาถึงผมกับเจอไอเด็กเกมมันกำลังยืนคุยจ้อกับสาวสวยอยู่...

"เราขอโอกาสได้มั้ยเกม ขอให้เราได้แก้ไขในสิ่งเคยทำผิดพลาดสักครั้งนะ"เสียงพูดของหญิงสาวดูหดหู่แบบสุดๆดูก็รู้ว่าคงจะรู้สึกผิดอยู่แน่ๆและถ้าเดาไม่ผิดผมว่าเธอคนนั้นน่าจะเป็น แฟนของไอเด็กซีเกมมันละมั้ง

"โอกาสเราให้ออยมาเยอะแล้ว นะแล้วทุกครั้งมันก็จบแบบเดิมทุกที เราไม่อยากเสียใจแล้ววะ เลิกยุ่งกับเราเถอะนะ..."โหคนจริงวะ ถ้าเป็นผมนะมีสาวๆมาอ้อนขอร้องแบบนั้นต่อให้เธอเคยเผาบ้านผมก็ให้อภัย

และระหว่างที่กำลังแอบฟังอย่างเมามันโทรศัพท์ผมก็เกิดแรงสั่นๆแถวๆกางเกง

"พี่เกด"ผมรีบกดรับสายในทันที

"ครับพี่เกด"

"เจกับซีเกมอยู่ไหนกันแล้ว.."และในตอนนั้นเองผมก็พึ่งนึกถึงจุดประสงค์ที่พี่เกดโทรมา

"อ่อใกล้จะถึงแล้วครับตอนนี้รอเกมมันทำธุระอยู่.."

"อ่อโอเค พี่ก็แค่โทรมาถามดูอะกลัวลืมกันยังไงก็สู้ๆนะ มีอะไรโทรมาปรึกษาพี่ได้.."พี่เกดพูดแค่นันก่อนจะวางสายไป และมันคงจะไม่เสียมารยาทใช่มั้ยถ้าผมจะขอพาตัวไอเด็กนี้ออกจากสาวน้อยคนนั้นก่อน. พูดแล้วก็เดินไปยืนขนาบข้างแม้งเลย


ไอเด็กเกมมันหันมามองผมด้วยความงง ๆแต่ก็แค่แปปเดียวอะหลังจากนั้นมันก็ยิ้มกริ่มเลวๆที่มุมปาก ไม่ยิ้มเฉยๆด้วยจ้า มือไม้นี้เลื้อยจนจะพันคอกูอยู่แล้ว

"เพราะอะไรอะเกม"เสียงสาวน้อยถามไอเด็กผีที่ยืนอยู่ตรงหน้า

"เพราะเรามีคนใหม่แล้วนี้ไง"แจ็คพอตมาที่กูครับหันหน้ามาหากูด้วย..

"ห...หา"ผมอ้าปากหวอพูดอะไรไม่ออก

"ใช่มั้ยครับ  พี่เจ"ส่งสายตาหวานมาหากูด้วยครับบักห่า ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกูซักคำและด้วยที่มันพยายามๆกระพริบตาถี่ๆยิบผมถึงเข้าใจในสิ่งที่มันกำลังจะสื่อ ...เฮ้อ บทแฟนกำมะลออีกแล้วสินะ...เอาก็เอาวะ นี้เห็นแก่ที่ต้องบากหน้าไปทำงานด้วยกันหรอกนะผมถึงช่วย ว่าแล้วก็รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้มทันที

"พี่บอกเรากี่ครั้ง. แล้วว่าอย่าไปบอกเรื่องของเรากับคนอื่นทำไมถึงไม่ฟังกันบ้าง หืม"ไม่พูดเปล่าครับมือไม้ผมเริ่มลูบไล้ไปที่หัวและหน้าของมัน ด้วยความเอ็นดู ไอเด็กซีเกมหน้ามันเสียไปเลยคงไม่คิดว่าผมจะยอมเล่นใหญ่ขนาดนี้

"ไม่จริง  ไม่จริงใช่มั้ย เกมไม่ใช่แบบนี้สิ  ออยไม่เชื่อ"แล้วเธอก็หมุนตัวเข้าลิฟฟ์เดินยกมือป้องปากไปตลอดทางผม ยืนมองจนเธอลับหายตาไปก่อนจะเริ่มพูด

"กุดูใจร้ายไปมั้ยวะ"ผมพูดขึ้นลอยๆแอบดราม่าอยู่ๆลึกๆนะไม่คิดไม่ฝันว่าผมจะทำให้สาวน้อยน่ารักคนนึงเสียใจได้ขนาดนี้

"ฮือ ไม่หรอกน่าอย่าคิดมาก"มันพูดขึ้นพร้อมกับโอบไหล่ผมให้แนบชิดกับอกของมัน

"มืออะมือ "ผมว่าปรามมัน

"เดี๋ยวดิ่ เผื่อเขายังไม่ไป"ก็ที่พึ่งวิ่งออกไปเมื่อกี้ไม่ใช่น้องเขารึไงวะ

"หนึ่ง"

"นับทำไมอะพี่"

"สอง"...สามเมื่อไหรกูถีบมึงแน่..

"สา...."

"อะๆ "มันดึงมือของมันกลับไปไว้กับตัวก่อนจะฉีกยิ้มจนเห็นฟันครบสามสิบสองคงจะเดาออกละมั้งว่าผมจะทำอะไรหลังนับสาม

"ทำไมมึงไม่ลองฟังเหตุผลเขาหน่อยละ เผื่อบางที..."ผมกำลังจะเอ่ยปากพูดแต่อีกฝ่ายกับแทรกขึ้นมาซะก่อน

"ผมรู้พี่จะพูดอะไร ..แต่ผมทนกับความรู้สึกพวกนั้นมามากพอแล้ว..ผมไม่อยากเสียใจแล้วอะพี่"แม้น้ำเสียงมันจะดูปกติแต่สีหน้าและท่าทางมันก็บางบอกอะไรหลายอย่างได้เป็นอย่างดี

"เออเอาน่า มีอะไรให้กูช่วยก็บอก..ไม่ต้องเกรงใจ"ผมพูดยิ้มๆเอามือตบไหล่ไล่ความรู้สึกเศร้าๆออกจากตัว ผมเคยพูดมั้ยนะว่าสีหน้าเศร้าๆมันไม่เหมาะกับไอเด็กนี้เลยจริงๆ

"ยิ้มสิ เอ้ายิ้มมมม"ผมยิ้มทำแบบตัวอย่างให้ดูมันแค่หันมาจ้องมองผมและขมวดคิ้ว  ผมเลยยื่นมือไปฉีกยิ้มให้มันค้างไว้อยู่อย่างนั้น

"เออ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย"และในที่สุดมันก็ยิ้มออกมาให้ผมเห็นอีกครั้ง

"แต่เวลาพี่ยิ้มผมว่าน่ารักกว่าเยอะเลย"พูดจบก็ยื่นมือเข้ามาบีบแก้มกูทั้งสองข้างเลยครับ ห่าสนุกมากเลยสิมึง


"เห้ย ไอขยะมาวะ ". สายตาผมเหลือบไปมองผู้ชายสองคนที่กำลังยื่นรอลิฟฟ์อยู่ข้างๆ เมื่อกี้เขาพูดอะไรขยะๆนะผมฟังไม่ค่อยชัด

ผมเลยลองหันไปมองที่ด้านหลัง ก็พบกับ เจ้าของคนร่างสูงตัวขาวหุ่นกำยำที่ควบตำแหน่งประทานบริษัทอยู่. แต่ที่เรียกขยะนี้หมายถึงมันใช่มั้ยผมเองยังงงๆอยู่เลย..

กายมันมายืนหยุดอยู่ตรงหน้าผมกับไอเด็กเกมที่ตอนนี้ปล่อยมือออกจากหน้าของกันและกันแล้ว

มันเดินเข้ามาแหวก ใช่ครับฟังไม่ผิดมันเดินมาแหวกกลางระหว่างผมกับไอเด็กเกมจนผมกับมันกระเด็นห่างกันไปคนละทิศละทางแถมไม่ยอมพูดอะไรด้วย

และก่อนที่มันจะกดลิฟฟ์ลงไปก็ยังยืนจ้องหน้าผมเขม้ง ซึ่งผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันสงสัยเป็นเพราะอากาศมันร้อนละมั้ง โรคหมาบ้ามันเลยกับเริบ
.....

ผมใช้เวลาในช่วงบ่ายกับการทำงานตามหาร้านที่สนใจลงโฆษณา ช่วยโปรโมทในสื่อต่างๆ ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่ามันจะง่ายแต่เปล่าเลยจ้า ขณะนี้ผมโดนถีบส่งมาสามสี่ร้านแล้วเหตุผลหลักๆของคนพวกนั้นก็คือ

"ไม่ต้องมีโฆษณา ร้านของผมยังไงก็อยู่ได้" ร้านแรกซอรฟ์ๆแต่เสียเซลหน่อยไม่เป็นไรไว้ค่อยลองใหม่

"โถ่คุณร้านผมนะ ในซอยนี้มีใครไม่รู้จักบ้างละ"ร้านที่สองผมยังคงถือคติใจดีสู้เสือเข้าไว้บอกกับตัวเองว่าต้องทำให้ได้


"ปกติแถวนี้ก็มีลูกค้าเยอะอยู่แล้วอะคะ ดิชั้นคงไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกคุณหรอกค่ะ"ความมั่นใจที่ผมเตรียมมาค่อยๆดับวูบทีละนิดๆ

จนถึงร้านสุดท้ายนี้หนักสุดครับถึงขนาดโดนราดน้ำใส่เลย คือผมก็อยากจะตะโกนบอกลุงเจ้าของร้านดังๆเลยนะว่ากูมาเรื่องงานครับไม่ได้มาขายประกันห่าน สาดมาได้ โดนมือผมเต็มๆเลย ร้อนชิบ!

และในตอนนี้ผมก็กำลังนั่งงงงวยกับไอเกมอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อระแวกนั้น บอกได้คำเดียวครับ


พัง..

"มือเป็นไงมั้ง"มันถามห้วนๆกับผมจริงๆก็อยากจะต่อปากต่อคำด้วยะแต้ไว้รอจากเสร็จงานก่อนละกัน

"ก็ดี"

"ดีที่ไหนละแดงขนาดนี้ไปหาหมอมั้ย"ตอนมันถามผมสีหน้ามันดูเป็นกังวลเอามากๆ

"กูถึกตายยากเว้ย"จริงๆผมกฺ็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่รู้สึกแสบๆเวลาสัมผัสโดนก็เท่านั้น

"ผมขอโทษนะ"ผมรีบหันขวับมองหน้าไอเด็กนี้ในทันที

"เรื่องอะไร"ตั้งแต่มามันก็ยังไม่ได้กวนตีนผมสักนิดเลยด้วย

"ก็เรื่องที่ผมช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยไง ผมรู้สึกผิดวะพี่"โถ่มันคิดไปถึงไหนกันละเนี้ย ผมเกือบจะยิ้มหัวเราะกับความคิดของมันแต่ก็ตัองข่มอารมณ์ไว้เดี๋ยวมันจะหาง่าผมเยาะเย้ยมันอีก

"ฟังกู...เออ"ไหนๆจะสอนแล้วลองพูดดีๆกับมันสักหน่อยแล้วกัน

"คือพี่ไม่รู้นะ "แค่ประโยคแทนตัวว่าพี่เกมมันก็หันมาจ้องหน้าผมแล้วมันคงจะตกใจอะที่อยู่ๆผมก็พูดดีๆกับมัน

"ว่าเกมกำลังคิดมากไปถึงเรื่องไหน พี่แค่อยากจะบอกว่า เรื่องบางเรื่องเราก็ควรปล่อยวางมากกว่าเก็บมาคิดนะ คือจริงๆมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ตอนนี้ไม่มีพรุ่งนี้ก็อาจจะมีก็ได้ใครจะไปรู้ ทางที่ดีๆเลิกเก็บมาคิดเล็ดคิดน้อยเถอะวะ เชื่อพี่ ทำในสิ่งที่เรารักและชอบที่จะทำมันแบบนั้นพี่ว่าดีกว่าตั้งเยอะ..."ผมบ่นพรรณณายาวไปลุ่มน้ำอเมซอนแต่คาดว่าสิ่งที่ผมพูดไปคงไม่ได้แทรกเข้าไปในแกนสมองมันเลยสัดติ๊ด

เพราะหลังจากที่ผมพูดจบมันก็เอานิ้วมารูดปากผมเฉย หาว่าผมพูดมากเหมือนกับคนแก่

กูน่าจะรู้ตัวให้เร็วกว่านี้

ว่าการสอนควายให้เป็นคนนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมาก จริงๆ

.......... 

เช้าของอีกวันผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับข่าวดีครับพี่น้อง   ไม่ใช่ดีธรรมดานะมันแบบว่าดีมากๆด้วยละ มีโรงแรมที่ไหนสักที่นี้ละติดต่อมา แต่ผมจำชื่อไม่ค่อยได้นะเพราะมันยาวเกิน ก็นั้นแหละครับ โทรมาจ้ะเอ๋กับผมตั้งแต่เช้ามืด แถมเขายังมีส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษแถมมาอีกด้วย เรียกได้ว่าพอจะมีเรื่องดีแล้วมันก็ดีต่อกันหลายเรื่องจริงๆ

พอไปถึงที่ทำงานผมก็บอกข่าวนี้ให้กับพี่เกดฟังพี่เกดยังอึ้งเลย ว่าผมไปคุยยังไงทางนั้นเขาถึงตอบตกลง ร่วมงานกับเราได้เร็วขนาดนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วผมแค่ไปยื่นเอกสารขอเข้าพบกับเจ้าของโรงแรมเท่านั้นเอง  ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะลงเอยด้วยดีแบบนี้


แต่จะว่าไปวันนี้ผมยังไม่เห็นคู่หูของผมเลยแหะปกติมันมาเช้ากว่าผมอีกนะแต่ไหงวันนี้ถึงไม่เห็นหัวมันในที่ทำงานเลยนะ

......

ตกเย็นผมก็เจอมันอยู่ที่หน้าตึกนี้แหละครับและก็เป็นโอกาศดีที่ผมจะลากมันไปร่วมงานฉลองให้กับงานชิ้นแรกของเราโดยที่มีเจ้ามืออันทรงเกียรติอย่างพี่เกด คอยสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายให้พวกผมทุกบาททุกสตางค์กันเลยทีเดียว


ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งใกล้ที่ทำงาน

จะบอกว่าบรรยากาศข้างในนี้ดูแพงมากครับ มองไปทางไหนก็ดูญี่ปู๊นญี่ปุ่นไปหมด อาหารแต่ละอย่างก็สดน่ากินไปเสียหมดแต่ผมก็ต้องโบกมือลาน้องแซวม่อนพวกนั้นเพราะตัวเองดันไม่ชอบกินอะไรดิบๆ สุดท้ายก็เลยต้องสนองด้วยการสั่งราเมงชามไม่ใหญ่มากนักมานั่งกินอย่างเหงาหงอยคอยนั่งมองดูพีๆที่ทำงานคนอื่นยัดปลาดิบเข้าปากกันอย่างเอร็ดอร่อย

เวลาแห่งการฉลองผ่านไปเร็วมากและแน่นอนว่าทุกงานฉลองจะต้องมีแอลกอลฮอลเข้ามาเกี่ยวข้อง  และก็เหมือนเคยครับไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ผมก็ยังเมาง้ายเหมือนเดิมแต่วันนี้ผมมีสติพอดีจะบอกปัดๆได้บ้างแม้จะเพียงไม่กี่ช็อตแต่ตอนนี้ผมก็เริ่มรู้สึกมึนๆที่หัวขึ้นมานิดๆแล้วละ

"เอาละ ในฐานะที่พี่มาทำงานที่นานพอสมควรแล้วนะ ..ฮึก..พี่ก็มีเรื่องๆนึงอยากจะเล่าให้พวกน้องทุกคนได้ฟังและรับรู้ไปพร้อมๆกัน"เสียงพี่เกดพูดขึ้น ท่ามกลางเสียงคนคุยกันที่ไม่ดังมากนักแต่นั้นก็ทำให้ผมที่กำลังวุ่นๆอยู่กับการครองสติถึงกับต้องเงี่ยหูขึ้นมาฟัง
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:51〖06/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 06-01-2018 13:50:32
"ประธาน.ฮึก..ทุกคนรู้จักชื่อกันดีใช่มั้ย"ทุกคนพยักหน้าแต่ผมนี้กลับส่ายหัวไม่รู้เพราะเมาหรืออะไร

"จริงๆแล้ว ไอประธานบ้านั้นมันมีอีกชื่อนึง นะ ชื่อที่พวกที่อยู่มานานจะรู้กันดี"

"ชื่ออะไรหรอครับ "ไอเด็กซีเกมที่นั่งแดกถั่วและเป็นคนเดียวในกลุ้มที่ยังมีสติครบร้อยเปอร์เซ็นต ทำท่าตั้งใจฟัง คือพร้อมเสือกเลยว่างั้น +•+

"ขยะ"จบคำพูดพี่เกดเกือบทุกคนต้องสบัดหัวเพื่อเรียกสติก่อนจะหันมาฟังใหม่อีกที

"แต่ไม่ใช่ขยะธรรมดานะ มันเป็นขยะพรีเมี่ยมเลยด้วย"ทุกคนต่างพากันหัวเราะออกมาเสียงดังรวมถึงพี่เกดเองด้วย ซึ่งสาเหตุที่มันได้ชื่อนี้มาเพราะการทำตัวล้วนๆครับ ชอบทำหน้านิ่งๆกวนส้นทีน. วางอำนาจ ไม่สนใจโลกห่าอะไรเลยสักอย่าง ผู้คนต่างๆในบริษัทเลยพากันขนานนามของประธานบริษัทว่า "ขยะ"

แต่ที่ต้องเติมพรีเมี่ยมเพราะรสนิยมมันดีครับ เรียนเก่งแถมยังจบมาสูง แต่ดันเสือกทำตัวขยะซะนี้ อ้าวแล้วไหงผมถึงติดเรียกชื่อนี้ด้วยวะ สงสัยกุจะเมาเม็ดถั่ว

"แต่ก็นะ..ก่อนที่ขยะ จะมาเป็นขยะในวันนี้ มันก็มีสาเหตุมาก่อน"ผมยกแก้วเบียร์ขึ้นมาจิบก่อนจะตั้งใจรอฟังในสิ่งที่พี่เกดกำลังจะพูด

"สาเหตุอะไรหรอคะ"เด็กฝึกงานผู้หญิงอีกคนโพล่งถามขึ้น

"ก็เพราะ...แฟนเก่าไอขยะ....มันมีมีชู้นะสิ ...ได้ข่าวว่าคบทีสามสี่คนเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น"จบคำพูด ของพี่เกดหัวกูนี้ร้อนเลยครับ ตั้งแต่ผมคบกันมันมามีตอนไหนบ้างวะที่กูคบซ้อนไม่มีเหอะ..ข่าวแม้งมั่วชิบหาย แล้วดูสิทุกคนทำหน้าเหมือนเชื่อกันไปซะหมด

"หึ มันไม่ได้มีแค่นั้นไง ..ผมเนี้ยเมื่อก่อนสนิทกับประธานมากไง..เลยได้รู้เรื่องๆนึงมา"พี่แชมป์เองก็ไม่ยอมพี่เกดครับหาเรื่องยกหัวข้อนู้นนี้นั้นมากันเต็มไปหมดจนมาหยุดที่หัวข้อสุดท้ายซึ่งึนที่ตั้งหัวข้อนี้ไม่ใช่ใครอื่นครับ  ไอเด็กผีซีเกมนี้เอง

"แต่จริงๆแล้วผมรู้มาอยู่เรื่อนึงครับ"อะไร๊ มึงรู้อะไรกันมาอี๊กแค้นี้กูก็สะเทือนร่องไตจนต้องยกแก้วขึ้นมากระดกเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้ง..


"แฟนเก่า ท่านประธานนะ ...อัปลักษณ์มากแบบ โคตรของโคตรขี้เหล่เลย.."โหยเรื่องอื่นกูก็พอยอมได้แต่เรื่องนี้มันทนไม่ได้เลยโว้ยย!!!

แต่ท้ายที่สุดก็ได้แต่โมโหอยู่คนเดียวในใจเพราะที่ทำได้จริงๆก็แค่นั่งนิ่งๆจิบเหล้าเบียร์ที่ๆพี่ๆต่างพากันเสริฟกันมายังกับแจกฟรี จนถึงแก้วสุดท้ายภาพทุกอย่างมันก็ตัดไป

รู้สึกตัวอีกทีก็นู้นตอนถึงคอนโดนู้นน่ะ

"พี่เจ กุญแจอยู่ไหน..."เหว่ยใครมาขอประจงประแจอะไรกูไม่มี.เว้ยย

"อะไรกันใครมาเอะอะ  อะไร อุ้ยว้ายย อิเจ "หือ ถ้าหูผมไม่เพื้ยนนี้ คือเสียงอิกี้เพื่อนผมใช่มั้ย แผล่บๆเมาแล้วลิ้นพันกันไปหมด

"เออผมเป็นเพื่อนที่ทำงานพี่เขาอะครับพอดี พี่เจเขาเมาผมก็เลย..."

"อู้ย ไม่เป็นไรจ้ะเข้ามาก่อนเร็ว " และหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันอีกเลยพอหัวถึงหมอนผมก็หลับเป็นตายไปจนถึงเช้านู้น

.......... รุ่งเช้า


"อือ..."เสียงใครมาครางอะไรใกล้ๆหูกูฟร้ะว่าแล้วก็ลืมตาขึ้นมามองดูรอบๆ วี๊ดดด ไอเด็กผีนี้มานอนอยู่บนเตียงผมได้ไง แล้วเสื้อมัน ละ เสื้อมันหายไปไหน เฮ้ยอย่าบอกนะว่า เมื่อคืน  มัน...ม้ายยยย นี้กูทำอะไรลงป๊ายย


"พี่เจ...เป็นไร..ทำหน้ายังกับเห็นผี"มึงนี้แหละครับผีไอห่า

"มึง..มึง..."

"มันไม่มีอะไร และผมก็รู้ว่าพี่จะพูดอะไร "ไอเด็กนี้มันทำหน้าเหมือนรู้ทันผม

ผมค่อยๆครองสติหยิบผ้านวมมาคลุมตัวก่อนจะเอ่ยปากถามมันต่อ

"แล้วเมื่อคืน...มันเกิดอะไรขึ้นอะ"จำได้แค่ว่าโดนพี่ๆที่ทำงานพูดพาดพิงถึงแฟนเก่าไอประธานจนแสบทรวงจากนั้นผมก็ดื่มเอาเป็นเอาตาย แล้วจู่ๆทุกอย่างมันก็วูบไป...

"พี่เมาจนหลับไปผมก็เลยพาพี่กลับมาที่ห้อง แต่พี่สาวคนสวยบอกว่ามันดึกแล้ว ก็เลยบอกให้ผมนอนกับพี่ที่นี้ อีกอย่างผมนอนข้างล่าง"พูดพลางชี้นิ้วไปที่ผ้านวมผืนใหญ่ที่กองอยู่ข้างล่าง เอออันนี้กูเชื่อก็ได้..

"แล้ว...ทำไมมึงต้องถอดเสื้อด้วย"จะว่าไปผมก็พึ่งสังเกตุ หุ่นไอเด็กนี้ดีเป็นบ้าเลยคิดแล้วอิจฉาแบบสัดๆแต่เดี๋ยวๆกูหลุดประเด็นครับไม่เอาๆ

"ก็ตอนแรกในห้องมันเปิดแอร์แต่พี่บอกหนาวผมก็เลยปิด...ตกดึกมาผมร้อนก็เลยถอดเสื้อ เรื่องมันก็มีเท่านี้นั้นแหละ"มันทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ผมด้วยอะ..

"ก...ก็แล้วไป.."

"นี้พี่คิดว่าผม..."มันแอบยิ้มกรุ่มกริ่มที่มุมปาก

"พอๆ ช่างมันเหอะไม่มีอะไรก็ดีแล้ว"

"หรือจะมีดี"

"ไปอาบน้ำแล้วกลับบ้านมึงไปเลยไป ก่อนที่กูจะถีบ เร็ว เดี๋ยวก็เข้างานสายหรอก"แต่มันก็ยังมีหน้าส่งยิ้มกวนตีนให้ผมอีก


กว่ามันจะสเด็จไปอาบได้นี้ใช้เวลานานมากครับ โชคดีหน่อยที่วันนี้รถไม่ติดเท่าไหร่ผมเลยมาถึงที่ทำงานไว ระหว่างมาผมก็เตรียมคำด่ามันเต็มหัวไปหมดเลยครับ เหตุผลอะหรอ ไม่เก็บที่นอนไงไอเด็กผี มานอนห้องคนอื่นเขาแล้วยังต้องให้เจ้าของห้องตามเช็ดตามล้างให้มันอีกคิดแล้วแค้นครับคุณผู้อ่าน สาบานได้เลยว่าถ้าผมเจอมันพ่อจะโบกเข้าสักทีแล้วค่อยด่า ...


อ่ะ อ๊า นั้นไงไอตัวการ ผมเห็นมันยืนคุยกับใครไม่รู้เพราะต้นเสาบังอยู่ แต่กูไอโด้นแคร์ครับผมตะโกนด่าให้มันรู้ตัวซะเลย


"นี้ไอเด็กผี ทำไมเมื่อเช้าลุกมาแล้วไม่เก็บที่นอนให้มันเรียบร้อยห้ะ ทำไมถึงต้อง..."คำพูดที่กำลังจะหลุดจากปากของผมถูกหยุดแทบจะทุกประโยค เพียงเพราะดันมาเจอใครคนนึงเข้า


"ไอขยะ"


"หมายความว่าไง"มันไม่ได้ถามผมครับแต่ถามคนตรงหน้ามัน


"ก็ตามนั้นแหละ "แล้วมันก็ยังมีหน้าเดินถอยหลังเอามือมาโอบไหล่ผมยิ้มๆเหมือนมันเป็นเรื่องสนุก


สีหน้าของไอประธานขยะดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมากซึ่งผมเองก็ไม่รู้หรอก..ว่ามันไปกินรังแตนมาจากไหนแต่สิ่งๆนึงที่อยู่ในหัวของฒตอนนี้คือ อธิบาย ใช่ผมต้องอธิบาย..เผื่อมันเอาไปคิดผมก็เสียหายอะดิ..

แต่แล้วก็มีความคิดนึงแทรกขึ้นมาก่อนที่ปากผมจะง้างออก

"ทำไมต้องอธิบายวะ"เป็นคำถามในหัวซึ่งแม้แต่ตัวผมเองยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย...

เพียงแค่อีกฝ่ายเดินกระฟัดกระเฟียดหันหลังไปทำไมใจผมมันถึงต้องกระตุกวูบเหมือนคนรู้สึกผิดด้วยนะ  ทำไม เพราะอะไร



ผมไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้เลยจริงๆ



วายยยยยยยย???



..........

ที่ห้องทำงาน

เวลาแบบนี้อันที่จริงผมต้องไปเดินแบกน้ำแบกปูนไปโบกจึกที่ชั้นสี่แต่ด้วยเหตุที่ว่า ข้างบนนั้นไม่มีการประชุมอะไรผมถึงได้อินดี้นั่งเล่น โปเกม่อนโกอย่างสบายใจเชิบ

ปึง!"

อย่างที่มีคนเคยกล่าวเอาไว้ ว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ ผมเหล่ตามองดูบุคคลที่เข้ามาใหม่ ซึ่งก็คือพี่เกด ที่กำลังเดินปึงปังมาที่โต๊ะผมอีกเช่นเคย

แต่แปลกที่วันนี้สีหน้าของพี่เกดไม่ได้เคร่งเครียดอะไรติดจะยิ้มๆด้วยซ้ำ

พี่เขาวางแฟ้มอันหนาไว้ตรงหน้าพร้อมกับยักคิ้วใส่ผม...

"เอ่อ...นี้งานอะไรหรอครับ..."ผมถามอย่างกล้าๆกลัวๆเกิดเป็นงานช้างเหมือนคราวที่แล้วผมก็ตายน่ะสิ

"ไม่ใช่งานหรอก..แต่พี่อยากให้เจช่วยเลือก"... ความคิดเห็นของผมมันมีน้ำหนักมากถึงขนาดนั้นเลยหรอพี่เกดเขาถึงลงทุนมาถามผมเนี้ย


ผมลองคลี่แฟ้มเปิดดูก็เห็นเป็นพวกภาพรีสอรท์ต่างๆประมาณสามสี่ที่ ซึ่งดูๆแล้วราคาก็น่าจะพอตัวอยู่เหมือนกัน

"ชอบแบบไหน"พี่เกดยิ้มๆถามผม


"เอ่อ.."จริงๆมันก็สวยทุกอันนะแต่ผมเลือกไม่ถูกอะมันดีกันคนละแบบ และด้วยความที่ไม่อยากให้พี่เกดรอนานผมเลยชี้สุ่มๆไป

"อันเนี้ยครับ .."พูดจบผมก็ปิดแฟ้มลง

"โอเค ตามนี้นะ"แล้วพี่เกดก็เก็บแฟ้มเดินถอยออกไป เฉยเลย

จริงๆมันก็มีข้อสงสัยอยู่ในหัวผมเยอะนะๆ แต่พอมาคิดๆดูแล้วอย่ารู้เลยดีกว่า หนักหัวเอาเปล่าว่าแล้วก็หยิบโทรศัพทืขึ้ยมาเล่นเกมส์ตอนจนเวลา ล่วงเลยไปเกือบจะถึงเวลาเลิกงาน

คืออยากจะบอกว่าวันนี้เหมือนผมมานั่งเฉยๆอะเอาจริงๆมั้ย เด็กฝึกงานคนอื่นเขาก็มีการเดินไปถามหางานทำกันเพราะกลัวว่างส่วนผม อะหรอ หึหึ นอนฟุบอยู่กับโต๊ะทำงานของตัวเองนี้แหละ..


จึกๆ

 ใครเอาอะไรมาสะกิด ฟร่ะ ว่าแล้วก็เลยเงยหน้าขึ้นมองถึงรู้ว่าคือไอเด็กผี ซีเกมนั้นเอง

"อือ มีไรทำไมมึงยังไม่กลับ"ผมถามเสียงอ้อยอิ่งเพราะเริ่มรู้สึกงัวเงีย อยากจะหลับตอนนี้ซะให้ได้

"รอพี่นั้นแหละ คนอื่นเขากลับกันหมดแล้วเหลือก็แต่พี่เนี้ย จะอยู่เฝ้าแผนกรึไง"ผมลองมองดูรอบๆก็เป็นอย่างที่มันบอกจริงๆครับคนในแผนกหายกันไปหมดแล้วจะเหลือก็แต่ผมกับไอเด็กนี้ๆแหละที่ยังอยู่..

"เออๆกลับๆ "ว่าแล้วก้รีบลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป๊ตัวเองและรีบเดินออกมาจากห้องในทันที

ระหว่างทางที่เดินมานั้น ไอเด็กผีมันก็ชวนผมคุยจ้อ ไปเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่ประเด็นสำคัญ..

"พี่รู้เรื่องพรุ่งนี้รึยัง ที่ประธานมัน จะส่งพวกเราไปรีสอรท์อะ"ผมหันควับมองมันในทันที


"ไหงกูไม่รู้วะ "

"นอนเล่นเกมทั้งวันขนาดนั้นคงจะรู้หรอก " สึดเหมือนถูกเด็กด่า แต่จริงๆก็โดนด่านั้นแหละ --'

"ก็วันนี้ไอประธานมันนัดเด็กฝึกงานให้ไปเข้าร่วมประชุม แล้วก็บอกรายละเอียดบลาๆ ผมก็มองหาพี่อยู่ ตอนแรกนึกว่าพี่ไม่มาทำงาน"เรื่องนี้ผมจะไม่โทษใครละกัน

"แล้วไอประธานมันด่าอะไรกูมั้ยวะ" กลัวสุดก็เรื่องนี้หล่ะไอบ้านี้มันยิ่งชอบนินทาผมอยู่

"ไม่เห็นพูดอะไรนะ"เฮ้อโล่งอก


"แล้วมึงเตรียมตัวยังอะ"

"หึ"

"เอ้าไอ้ผี แล้วมันจะทันมั้ยละ ไปๆรีบกลับบ้านไปจัดของไป"

"คงไม่ต้องจัดหรอก"

"อ้าวทำไมละมีงเตรียมพร้อมแล้วหรอ"ไอเด็กนี้มันกระตือรือร้นชิบ

"มันไม่ให้ผมไป"หา...


"ไหงเป็นงั้นไป ก็ไหนมันบอกว่าให้เด็กฝึกงานไปหมดไง ถ้ามึงอยู่นี้แล้วจะรู้เรื่องอะไรกับเขามั้ยละ"

"ก็มันบอกมางี้ผมทำอะไรได้ละ ยังไงพี่ก็ช่วยส่งข่าวมาบอกผมด้วยละกันนะเผื่อมันถามผมจะได้ตอบถูก"ผมละไม่เข้าใจจริงๆว่าในหัวมันกำลังคิดจะทำอะไรอยู่กันแน่


"งั้นกูก็ไม่ไป "ผมพูดออกมาน้ำเสียงหนักแน่น

"เฮ้ยได้ไงพี่ เดี๋ยวก็ซวยหรอก ไปเหอะ"

"มึงอยู่นี้แต่จะให้กุทิ้งมึงไว้แล้วไปคนเดียวเนี้ยนะ หึ กูไม่ทำ"

"โห โคตรซึ่ง พี่เป็นห่วงว่าผมจะเหงานั่ง ทำงานอยู่ที่นี้คนเดียวใช่ปะ พี่แม้งโคตรเป็นคนดีอะ"

"เปล่าอะ กูกลัวว่ามึงจะนั่งสบายอยู่ที่นี้คนเดียว กูเลยอยากอยู่ ด้วย"

"สัด"

"มึงพูดอะไรนะตะกี้"ฟังไม่ทันเหมือนได้ยินอะไรปัดๆ

"เปล่าๆ ผมเปล่าพูด  ว่าอยากกินสลัดผัก" หลังจากนั้นผมก็เดินเถียงกับมันจนถึงด้านล่างถึงได้แยกทางต่างคนต่างกลับ และระหว่างที่ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คความเคลื่อนไหวอยู่นั้นเอง ก็มีแมสเสทแปลกๆจากแอพพลิเคชั่นไลน์เด้งขึ้นมา

"พรุ่งนี้มาให้เช้าๆละอย่าให้ต้องรอ"เท่านั้นแหละครับผมอ๋อถึงบางอ้อเลย เชี้ยประธาน แต่ที่ตกใจหนักกว่า


คือมันมีไลน์ผมได้ยังไง ต่างหากละ...


TBC.......  ;  )

หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:52〖18/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-01-2018 15:48:53
Falling in love

Chapter:52

หลังจากที่นั่งรถเมล์มาครึ่งค่อนชั่วโมง เหตุเพราะรถติด ผมก็ค่อยๆแบกร่างของตัวเองที่เหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่กลับมาที่ห้อง

แล้วก็ดันมาบังเอิญเจ๊อะเข้ากับไอวินที่กำลังนั่งอี๋อ๋อทำหน้าไม่รับแขกอยู่ที่ห้องนั่งเล่น กีบอิกี้สองคน

"เชี้ยเจ ช่วยกูด้วย"มันร้องตะโกนโหวกเหวก ในตอนที่เห็นหน้าผมก่อนจะรีบกระโจนเข้ามาเกาะแขนผมยังกับพึ่งเจอผีมาสดๆร้อนๆ

"ลมอะไรหอบมึงมาเนี้ย"ผมหันไปถามมันที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ

"คือจริงๆกูมีข่าวดีกับข่าวดีมากจะมาบอก มึงอยากฟังเรื่องไหนก่อน"แหนะจะบอกแล้วยังเจือกมีช้อยให้กูเลือกอีก

"งั้นเอาข่าวดีมากก่อน.." วินมันปล่อยแขนจากไหล่ผมก่อนจะมายืนประจันหน้าและทำท้าทางกรุ่มกริ่ม


"ฟังกูดีๆนะ"

"อือ"ผมแอบทำหน้าเหวอนิดๆ

"คือสิ่งที่กูจะบอกมันค่อนข้าง.."

"โอ้ย ถ้าจะลีลางั้นกูไม่ฟังและเสียเวลา"และในจังกว่ะที่ผมหันหลังกลับไอวินมันก็พูดขึ้นมา เล่นทำเอาคนที่ได้ยินอย่างผมถึงกับต้องรีบหันกลับไปจนคอแทบเคล็ด

"บ้าน ของมึงถูกซื้อคืนแล้วนะ.."อเกนพลีสส เมื่อกี้มันว่าไงนะ

"มึง..ว..ว่าไงนะ"

"ก็ร้านเก่าพี่อินอะถูกซื้อคืนแล้ว.."เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่โคตรเซอร์ไพทร์สำหรับผมมาก แต่ในอีกมุมนึงผมก็เริ่มเอะใจ

"แล้วใครเป็นคนซื้อวะ"

"พ่อมึง" เอ้าไอนี้

"กูถามดีๆเสือกด่าพ่อกูอีก"

"กูไม่ได้ด่า..ไอห่ากูหมายถึงพ่อมึงจริงๆ"

"พ่อกู..เนี้ยนะ"ผมยังคงไม่ปักใจเชื่อเต็มร้อยเท่าไหร่

"เออพ่อมึงนั้นแหละ"แล้วป๊าไปเอาตังมาจากไหนวะหรือเพราะเล่นหวยจนรวยเล๊ะ

"แล้วเรื่องดีอีกเรื่องละ"ผมไม่ลีรอรีบถามอีกข่าวดีจากมันทันที

"พ่อมึงส่งพี่ชายมึงกลับมาด้วยแถมคราวนี้คงอยู้ด้วยกันกับมึงอีกยาว"เชี้ย มันใช่เรื่องดีที่ไหนกันละ

"ทำไมพ่อไม่กลับมาเองวะ กูไม่อยากอยู่กับเจมส์สองคนเลย กูกลัว มึงก็รู้ว่าตอนที่กูกับเจมส์อยู่ด้วยกันสองคนพี่น้องทีไร แม้งเป็นเรื่องทุกที"ถ้าจะให้เล่าถึงอดีตเราสองคนพี่น้องคงต้องย้อนความกันไปอีกยาวแต่เอาเป็นว่า มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีละกันหึหึ



"เอาน่าๆ พี่เจมส์เขาโตแล้วเขาคงไม่เล่นอะไรปัญญาอ่อนเหมือนมึงหรอก"สึด..ไปๆมาๆก็เข้าตัวกูซะงั้น


"หมดเรื่องแล้วใช่มั้ย"ที่ผมถามมันเพราะจะรีบกลับเข้าไปทึงหัวตัวเองในห้องเรียกสติตัวเองกลับมาหลังจากที่มันเจิงลอยไปถึงเชียงใหม่

"ยัง..กูมีอีกเรื่องที่ต้องบอก.."น้ำเสียงไอวินมันดูสั่นๆ รึมีเรื่องอะไรไม่ดีวะ

"เรื่องอะไรอีก.."

"พี่เจมส์" อย่าบอกนะว่า

"เจมส์มันทำไม นี้มึงอย่าบอกนะว่าเจมส์มันจะไม่กลับมาไทยแล้วอะ โห เชี้ยวิน ต้มกูซะเปื่อยเลยนะมึง กูก็นึกว่ามึงจะพูดจริงซะอีกที่ไหนได้..."

"ไอแคระ!!"แคระ...แคระหรอ...ผมไม่ได้หูฝาดไปจริงๆใช่มั้ย เพราะสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ที่เรียกผมว่าแคระมีแค่.....ผมฝืนใจตัวเองหันหลังกลับไปมองแล้วก็ป๊ะเข้ากับ....โถ...กูอยากร้องไหออกมาเป็นสายเลือด


"เจมส์"ไอนี้ไงละ

"เออกูเอง มึงคงผิดหวังมากนักสิที่เห็นกูอะ แต่ไม่ต้องร้องให้เสียแรงไปนะเพราะเดียวคืนนี้มึงได้ร้องทั้งคืนแน่ มานี้เลยไอตัวดี.."

ผมบอกพวกคุณๆแล้วใช่มั้ย ว่าเจมส์มันชอบทำยังไงกับผมตอนที่พ่อไม่อยู่ด้วย..เนี้ย ก็เป็นแบบที่คุณๆเห็นพร้อมกับผมนี้ละ..ตอนอยู่กับพ่อก็ดูเป็นพี่ชายที่แสนดีอยู่หรอก แต่พอลับหลังก็เหี้ยดีๆนี้เอง


"ขอบใจมากนะคนสวยที่อุตส่าห์รับมันมาเป็นภาระ แต่เดี้ยวที่เหลือ พี่จัดการเอง"

"ได้เลยคะ ได้เลยย...เชิญพี่เอ่อ.."

"เจมส์"

"ค่ะเชิญพี่เจมส์ เอามันไปชำแหละได้ตามสบายเลยนะคะเดี้ยวหนูช่วยปิดข่าวให้เอง..."โถ่..อิกี้แทนที่มึงจะช่วยกูเจือกเกิดบ้าผู้ชายขึ้นมาซะงั้น.."และหลังจากที่เจมส์มันชุดกระชากลากถูผมมาจากคอนโดอิกี้ตอนนี้ผมก็กลับมาอยู่บ้านของตัวเองแล้ว...บ้านหลังเดิมที่ผมยังคงคิดถึงบรรยากาศอยู่ตลอด แต่พอกลับมาในวันนี้บรรยากาศและหลายสิ่งรอบๆตัวผมมันกลับไม่เหมือนเดิม..

"ไอแคระมึงจะไปไหน"เจมส์มันเรียกรั้งท้ายผมในตอนที่ผมเดินสำรวจดูในบ้านรอบๆ

"จะไปชั้นบน "กะจะไปดูห้องเก่าๆบรรยากาศเดิมในสมัยตอนที่ผมยังคงอยู่ แต่พอเดินขึ้นมาถึงห้องนอนตัวเองก้ต้องแปลกใจ เพราะภายในไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย นอกจากหยักไย้ที่ขึ้นตามฝ้าและเพดานเกาะกันเป็นกลุ่มใหญ่

ผมเดินสำรวจดูภายในห้องสักพักสายตาก็ดันบังเอิญไปเห็นรูปถ่ายใบหนึ่งตกลงอยู่ที่พื้น

และพอหยิบขึ้นมาดู ผมก็ถึงกับต้องสะอึกเพราะมันเป็นภาพสมัยตอนที่ผมพึ่งจะรู้ตัวว่าชอบมันในตอนแรกๆ ถึงขนาดต้องให้อิกี้ไปแอบถ่ายรูปของกาย เพื่อแลกกับการได้อยู่กับไอวินสองต่อสอง

พอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ก็เล่นทำเอาความรู้สึกๆเก่าๆมันหวนกลับมาอีกครั้งและผมก็ต้องรีบสบัดหัวไล่ภาพบ้าๆพวกนั้นออก เพราะปัจจุบัน ผมกับกายเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว

ปึงๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหว่ะในระหว่างที่ผมกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่คนเดียว

"ไอแคระมึงทำอะไรอยู่ แล้วนี้จะล็อคห้องทำเตี่ยอะไรเนี้ย รีบมาเปิดประตูดิ้"เสียงบ่นด่าปนสาปแช่งดังกังวาลไปทั่วทั่งบ้าน นี้แหละครับตัวจริงของ พี่เจมส์สุดหล่อ(กัดฟัน) ที่สาวๆเฝ้าใฝ่ฝันผมละอยากจะรู้จริงๆว่าสาวโชคร้ายคนไหนจะได้เจมส์มันเป็นแฟน..อ่อ พี่อิน ไงละสาวโชคร้ายคนนั้น

แต่ในเรื่องร้ายมันก็มักจะมีดีปะปนกันอยู่เสมอ จากที่ไม่เคยสนิทกันถึงขั้นเกลียดขี้หน้าอย่างเจมส์กับพี่อินที่เมื่อก่อนเคยเป็นคู่กัดที่อยู่ข้างๆบ้านเจอกันทีไรก็เป็นอันต้องมีเรื่องทะเลาะ กันทุกที แต่พอมาวันนี้ยังกับฟิลม์คนละม้วน จากคู่ทะเลาะกลายเป็นคู่รัก และก็มาจบที่คู่ชีวิตในที่สุด แปลกแต่จริง คนที่เกลียดหน้ากันเกือบทุกคู่ล้วนวนลูปกลับมาพบเจอกันอยู่แค่นี้ผมเข้าใจดีไอ ทฤษฎี โลกกลมบ้าบอนั้น แต่ที่ยังแอบเอะใจอยู่นะ ว่าทำไมความสมหวังถึงไม่เกิดที่คู่ของผมบ้างเห้อ


เล่าไปเล่ามานี้ก็เริ่มออกทะเลไปไกล จากเรื่องของเจมส์ก็กลายมาเป็นเรื่องของผมได้ยังไงก็ไม่รู้เน้อ

"เฮ่ยย มึงได้ยินกูป่าวเนี้ยแคระ".

"เออ ได้ยิน กำลังลุกไปเปิดเดี้ยวนี้แหละ"พูดจบผมก็เดินไปเปิดประตูให้มันอย่างเร็วรี่เพราะขืนช้ามีหวังมันได้พังประตูเข้าห้องผมเป็นแน่แท้


"มีไร"ผมถามเจมส์มันเสียงติดห้วนๆหน่อย อาจเป็นเพราะเราสนิทกันเกินกว่าจะมาเรียก พี่เจมส์ครับ พี่เจมส์ขา (คือบ้านกุสายฮารด์คอร์ไง)

"มึงขึ้นมาทำอะไรตั้งนานสองนาน เรียกตั้งนานแล้วพึ่งเสือกตอบกูเนี้ย"

"ก็ขึ้นมาดูห้องปกติ สงสัยอะไรเนี้ย"

"กูอะไม่แต่พ่อมึงอะมี  อะ คุยซะ"พุดจบมันก็ยื่นไอโฟนเครื่องหรูที่ไม่มีปุ่มกดว้าววๆๆ เล่นของใหม่ซะด้วยพี่กู

พอรับโทรศัพท์มาแนบหูกำลังจะเอ่ยปากทักทายปลายสายก็จัดคอมโบการทักทายในฉบับพ่อลูกมาให้ผมหนึ่งดอกเต็มๆ

"ไอหมา มึงเปลี่ยนเบอร์ทำไมไม่บอกกู ไม่บอกพี่ชายมึงห้ะ ไอห่า รู้มั้ยว่าคนทางนี้เขาเป็นห่วงมึงกันขนาดไหน ....."ว่าแล้วลุงแกก็เล่นบ่นยาวไปเกือบๆครึ่งชั่วโมงช่วงแรกๆก็ด่าผมเละซะแบบหูดับตับไหม้แต่พอมาช่วงหลังๆก็เริ่มดร่าม่าใส่ลูกซะงั้น

"มึงนี้มัน ลูกขอทานจริงๆ ไม่มีจะกินทำไมไม่โทรมาขอเงินกูไปลำบากอยู่บ้านเพื่อนมึงทำไม"

"โถ่ มันชุกลหุกนี้ป๊า อีกอย่างตอนนั้น โทรศัพท์ก็ไม่มีด้วย จะโทรไปหาก็จำเบอร์ไม่ได้.."

"เจริญดีๆจริงๆลูกกู แล้วไอหนุ่มนั้นเป็นไงมั้ง มันยังสบายดีอยู่มั้ย.."ไอหนุ่มที่ป๊าพูดถึงคงเป็นลูกชายคนที่สามของบ้านอย่างไอกายสินะ

"ก็...ดีมั้ง"ผมพูดเสียงตะกุกตะกักเพราะไม่อยากให้ป๊าเอะใจเกี่ยวกับเรื่องผมและกับกายมัน

"ตอบกูดีๆ อย่าให้กูต้องตามไปเค้นปากมึงถึงไทยนะไอหมา"ด้วยความที่พ่อผมมันเป็นคนจริงไง พูดอะไรคิดอะไรก็ทำตามแบบที่พูดเป๊ะๆ ผมเลยไม่ค่อยกล้ามีความลับกับพ่อของตัวเองเท่าไหร่นัก

"ไม่รู้ดิ่ป๊า จบมาก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย"โกหกพ่อตัวเองจะตกนรกมั้ยวะกู

"มึงแน่ใจ?"แล้วไอน้ำเสียงที่สื่อสองแง่สองง่ามนี้มันคืออะไรกัน รึน้ำเสียงผมดูร้อนรนไปวะ ก็ไม่นิ น้ำเสียงผมดูปกติดี

"อือ ดิ "

"ไม่ใช่ว่ามันทิ้งลูกชายกูแล้วไปหาเมียใหม่มันหลอกหรอ"สตั้น คือคำเดียวที่บ่งบอกถึงตัวผมในตอนนี้. ป๊า...รู้เรื่องของผมกับกายได้ยังไงในเมื่อผมยังไม่เคยได้เปิดอกโชวนมคุยกับป๊าเลย


หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:52〖18/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-01-2018 15:51:19
"อย่าโมเมหนวด มั่วแล้ว"

"น้องมึงบอกกูมา ไอหมา ยังจะมีหน้ามาแถกูอีก"ยายยยเอินนนนนนนนน ยัยน้องบ้า..ดันไปบอกเรื่องที่ไม่ควรจะบอกกับป๊าไปซะได้ แล้วทีนี้จะเอาไงต่อ จะโกหกต่อไปก็ไม่ได้แล้ว  ผมเลยเลือกที่จะพูดความจริงกับป๊าทุกอย่างที่ป๊าถามมาผมก็ตอบตามที่ผมรู้ออกไปทั้งหมด

"สรุป มึงก็ดันเสือกกลับไป ให้มันช้ำใจเล่น ด้วยการไปทำงานที่บริษัทมันเนี้ยนะโถ่ ลูกกูกินข้าวรึกินหญ้าฟางวะเนี้ย เฮ้อ เอาไว้กูกลับไป กูจะเล่นแม้งให้ขอหาทำให้ลูกกูเสียใจ"เชี้ยยเอาแล้วไงพ่อผมจะทำอะไรไอกายมันวะ

"ป๊าจะทำอะไรมันอะ"ผมถามด้วยท่าทีดูร้อนรน

"เดี๋ยวกลับไปมึงก็รู้เองไอหมา เรียกพี่มึงมาคุยต่อสิ"และด้วยความที่ไม่อยากยืดเยื้อ ผมเลยจำใจต้องส่งโทรศัพท์คืนให้เจมส์ กลับคืนไป เจมส์มันนั่งมองดูผมจากปลายเตียงได้พักใหญ่ ก่อนที่มันจะเดินออกไปตอนเวลาเกือบๆตีหนึ่ง และกว่าที่ตัวผมจะได้อาบน้ำนอนก็นู้นเกือบๆตีสาม เพราะกว่าจะเก็บข้าวของเข้าตู้ให้เป็นนะเบียบก็กินเวลามากโขอยู่ และด้วยความเพลียทีสั่งสมมาทั้งวัน พอหัวถึงหมอนผมก็พล้อยหลับไปดุจได้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษเข้าไปแล้วก็หลับเป็นตายไปทั้งคืน


เช้าวันถัดมา

เวลา 08.00  น. เออดีเตรียมตัวเคารพธงชาติไทย..แต่เดี๋ยวนะ!!!!!! แปดโมง โอ้ววซ่าร่า กูตื่นสายครับ สายชนิดที่ว่าไม่น่าให้อภัยแถมอาจจะโดนส้นตีนของไอประธานให้จงได้ ก็วันนี้ผมมีนัดไปดูงานและพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องไปให้ถึงที่ทำงานก่อนเวลา 06.00น. แต่นี้คือแปดโมงเช้าแบบเป๊ะๆ เสียงเด็กข้างๆบ้านที่ยืนขายกล้วยแขกทอดยังยืนร้องกันเสียงดังแจ๊วอยู่เลย แต่ตัวกู พึ่งตื่นครับ เฮี้ยดี มั้ยลัะชีวิต ผมรีบติดสปีดลุกออกจากที่นอน ด้วยความเร็วแสงก่อนจะรีบล้างหน้าแปรงฟันและแต่งตัวให้รวดเร็วสุดๆไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ผมใช่เวลาในการอาบน้ำและแต้งตัวไม่ถึงสิบนาทีตอนนี้ผมก็รีบวิ่งดิ่ง

ลงมาด้านล่าง เพื่อให้ไปทำงานอย่างเร็วรี่ ถ้าไม่มีคำๆนี้ลอยเข้าหูมาซะก่อน

"ไอแคระนั้นมึงจะไปไหน"พี่กุเองครับ

"ไว้ค่อยทะเลาะนะเจมส์ตอนนี้รีบ"ผมไม่ได้หันไปต่อปากต่อคำอะไรมากเพราะตัวเองกำลังรีบมากอยู่

"เดี๋ยวกูไปส่ง"คำพูดที่ดูเรียบเฉยของเจมส์กลับทำให้ร่างกายของผมชะงักไปแวปนึง

"เฮ้ย..อย่าลำบากเลยเจมส์แดดข้างนอกม้นร้อนเดี๋ยวผิวก็เสียเอาหรอก"ผมพยายามพูดหาข้ออ้างหว่านล้อมให้มันเปลี่นใจ แต่ผมก็ดันลืมไปว่าทั้งป๊าและเจมส์ มันเป็นคนจริงกันทั้งคู่

"จะไปดีๆหรือให้กูลากมึงไป"สายตาเจ้าบงการมาแล้วนั้นไงและด้วยความกลัวบวกเร่งรีบผมเลยตอบตกลงแต่โดยที่และมีข้อแม้ว่าต้องจอดในที่ๆผมบอกให้จอดเท่านั้นซึ่งเจมส์มันก็ทำหน้าเข้าใจดีรีบขับพาผมมาที่บริษัท

"เดี้ยวตอนเย็นกุจะมารับ เสร็จแล้วโทรมาบอก รีบๆด้วยนะมึงไอแคระ"

"เออ รีบไปได้ละ"ผมรีบโบกมือไล่พี่ชายตัวเองก่อนที่จะมีใครมาเห็น

จะมาบอกว่าการมาวันนี้เล่นทำเอาใจผมเต้นตุ่มๆต่อมๆก็แหม่วันนี้เล่น มีนัดสำคัญแต่ผมดันมาสายซะนี้ ผมกล้ารับรองเลยว่าถ้าไอประธานมันเห็นผมเมื่อไหร่ละก็..หึหึเละเมื่อนั้น


ว่าแล้วผมก็ค่อยๆเดินย่องๆทำตัวหน้าสงสังเหล่ซ้ายเหล่ขวาแต่ก็ยังมิวายมีมือของใครมาแตะที่ไหล่ผมปุๆ

ผมพยายามกลืนน้ำลายตั้งสติให้มั่นก่อนจะหันหลังกลับไปดู...ปัตโถ่...ไอเด็กผี..

"เดินย่องๆมองๆทำไมอะพี่ทำอะไรผิดมารึเปล่า"เด็กผีมันถามผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

"ป่าวเว้ย..แต่มึงนี้ก็แปลกชอบมาไม่ให้ซุ้มให้เสียงอยู่เรื่อย"

"อ้าวอยากให้ผมเสียงดังหรอได้..เอ้าพี่เจ!! มาทำงานแล้วหรอครับ โอ้โห แต่วันนี้พี่มาทำ..อุก...อัก.."

"มึงจะแหกปากทำสากอะไรละครับ"ผมรีบชิงยื่นมือไปปิดปากมันก่อนที่มันจะทำเสียงดังไปมากกว่านี้

"ก็พี่บอกผมชอบมาๆเงียบๆไง นี้ก็โวยวายให้แล้วนะ.."โถ่..เรื่องอื่นมึงจริงจังแบบนี้มั้ยละหืมม

"อะๆช่างเรื่องนั้นมันก่อนเถอะ แล้วพวกคนอื่นๆไปไหนกันหมดอะ.."

"เขาไปกันหมดแล้ว..เออจะว่าไปผมก็พึ่งสังเกตุพี่ไม่ได้ไปกับพวกพี่เกดหรอ"ถ้าไปทันแล้วกูจะมายืนหน้าสะหล่อนแบบนี้มั้ยละหือ

"กูตื่นสาย แล้วไอประธานละ มันได้ไปด้วยปะ"ถ้ามันไปผมจะได้โล่งอกแล้วเลิกทำตัวลับๆล่อๆสักที


"ผมไม่รู้อะ..แต่เดี๋ยวผมโทรถามให้"ว่าแล้วมันก็หยิบไอโฟนของมันขึ้นมาเตรียมจะกดโทรออกแต่ผมรีบลิบมันมาใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อซะก่อน

"จะโทรให้มันมาเฉ่งหัวกูรึไงเล่าเข้าห้องไปได้แล้ว..."ตกบ่ายวันนั้นเองที่ผมใช้เวลาอยู่ในที่ทำงานเพียงสองคนกับไอเด็กผีเพราะเด็กฝึกงานคนอื่นๆก็พากันไปดูงานนอกสถานที่ ทั้งห้องตอนนี้เลยเหลือเพียงผมกันมันแค่สองคน เงียบเหงาดีชิหาย


"มึง"ผมหันไปคุยกับไอเด็กผี ที่กำลังนั่งงุ่นๆพิมพ์อะไรของมันสักพักใหญ่ๆแล้ว

"ครับ พี่มีอะไรหรอ"ปากมันพูดแต่สายตาก็ยังมองที่จอคอมอยู่..

"กูเหงาอะ " บรรยากาศโคตรจะเปลี่ยวเลย ไม่รู้ว่าทั้งตึกมีผมแค่สองคนรึเปล่าเนี้ย



"แล้ว?"

"ชวนกูคุยหน่อยดิ.."

"ผมทำงานอยู่.."แต่กูเหงาอะดิ แบตโทรศัพท์ก็จะหมดแล้วด้วย"


"ยืมที่ชาตแบตก็ได้"

"วางอยู่บนพีซีอะ พี่ดึงของผมออกแล้วเสียบของพี่เลย"ว่าจบผมก็รีบดึงน้องโฟนเจ็ดของมันออกก่อนจะเสียบตูดน้องโฟนหกผมต่อแทน นั่งรอสักพักใหญ่ขาผมก็กระดิกเท้าไปเรื่อย ไอผมมันก็เป็นพวกเด็กไฮเปอรฺไงอยู่นิ่งๆไม่ค่อยได้ต้องคอยหาอะไรมาให้ทำอยู่ตลอด แต่คือมันไม่มีไง งานเก่าผมก็เคลียร์หมดแล้ว ..จะออกไปเดินเล่นข้างนอกก็กลัวมีใครเห็น แล้วรายงานไอประธานอีก. โถ่ กูเบื่อโว้ยย

"พี่เจ.."ในระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆไอคนข้างๆผมมันก็พูดขึ้น

"อือ"

"ผมมีเรื่องจะถามอะไรพี่อย่าง."เด็กนั้นมันละสายตาจากคอมก่อนจะหันเก่าอี้และขยับมาใกล้ๆจนจมูกผมกับมันเกือบจะชนกันอยู่แล้ว

"เออ..ก็ถามมาดิ่..แต่ก่อนจะถามช่วยเขยิบหน้ามึงออกไปไกลๆด้วยครับ"ว่าพลางใช่นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากและดันออกห่าง

"พี่กับประธาน...เคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า.."..ผมรู้สึกตกใจอยู่เล็กน้อย ทำไมอยู่ๆมันถึงถามคำถามนี้ขึ้นมาละ

"ก็..."จะบอกว่าไงดีละเคยสนิทสนมกันเมื่อนานมาแล้วแต่ตอนนี้..ความสัมพันธ์มัน..เฮ้อ..

"ผมอาจจะถามอ้อมไปเอาใหม่ๆ พี่กับประธาน.."มันค่อยๆเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกครั้ง

"เคยเป็นอะไรกันมาก่อน.."ผมสตั้นไอประมาณศูนย์จุดสามวิ แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงประตูห้องก็ถูกเปิดออกและด้วยความเร็วเหนือแสงผมเลยรีบมุดลงไปซ่อนอยู่ใต้หว่างขาของไอเด็กผีนี้แทนและเหมือนมันจะรู้งานครับรีบเลื่อนเก้าอีกเข้ามาจนตัวผมเข้าไปซ่อนอยู่ใต้โต๊ะคอมอย่างแนบเนียน...

"มึงเห็นมันรึเปล่า"ทำไมเสียงพูดมันดูคุ้นๆหูวะ

"มันนี้หมายถึงใครละ"คราวนี่เป็นฝ่ายที่ไอเด็กผีตอบกลับคนที่ถามมันบ้าง

"ก็ไอเตี้ยที่นั่งข้างๆมึงนี้ไงวันนี้มันไปไหนทำไมถึงไม่ไปสัมนา"ชัดเจน...เสียงนี้คำพูดนี้มีคนเดียว..ไอกาย..โอ้ยยตัวผมนี้สั่นเป็นจ้าวเข้าอยู่ใต้โต๊ะเลย..

"จะรู้ได้ไงละตัวไม่ได้ติดกันซะหน่อย อยากรู้ก็โทรถามเองดิ"จะว่าไปผมก็เพิ่งจะสังเกตุ ทำไมไอเด็กผีซีเกมมันุถึงพูดจาห้วนๆกับไอกายจังวะ

Trrrr...นั้นไงเสียงๆสั่นๆเสือกดังขึ้นมาอีกบัดซบดีจริงๆ

"ไหงโทรศัพท์มันถึงมาอยู่นี้..."ผมใช้นิ้วสะกิดที่ขาอ่อนเป็นเชิงบอกให้มันช่วยตอบคำถามไอประธานแทนผมหน่อยโอ้ยย..ลุ้นครับลุ้น..

"ก็....."บ้างทีมึงก็เว้นช่วงนานไป. กุชักเริ่มหงุดหงิดแทนแล้วเนี้ย

"ก็?"

"เขามาฝากไว้เมื่อวานนี้ไงเออใช่ๆเขามาฝากเอาไว้นี้ก็พึ่งนึกออกก็เลยเอาออกมาชาตให้เขาไง "

"งั้นหรอ.."ทำไมน้ำเสียงมันดูเหมือนไม่เชื่อวะ

"ก็เออดิ จะโกหกให้มันได้อะไรอะ"

"อืม ก็ดี งั้นเดี๋ยวโทรศัพท์มันกูจะเก็บไว้ให้เองเอาไว้มึงเจอมันเมื่อไหร่ก็บอกให้มันเข้าไปเอาที่ห้องกูแล้วกัน"เชรี้ยย กูไม่รู้จะอุทานคำไหนได้ดีเท่ากับคำนี้เลย แล้วในที่สุดไอประธานมันก็เดินปิดประตูดังปึ้งออกไปผมเลยค่อยๆไต่ตัวไอเด็กผีนั้นขึ้นมาเพื่อมองดู แต่แล้วอยู่ๆประตูแม้งก้เสือกเปิดอีก ด้วยความตกใจของผมด้วยไงเลยรีบฟุบลงไปด้วยความเร็วสูงจังหว่ะที่ก้มลงนั้นเอง หัวผมไปกระแทกโดนอะไรซักอย่าง แต่รู้สึกไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แหะ

"กุลืมบอก แม่บอกให้มึงกลับไปเยี่ยมคุณตาบ้าง ท่านฝากบอกมา.."

"อ...เออ...ด..เดี่ยว..กู..ไป"

"เป็นเชี้ยอะไรทำเสียงแปลกๆ..."เสียงไอกายถามมัน


"เรื่องของกูน่ามึงรีบไปได้แล้วว...."หลังจากนั้นผมก็นั่งนับรอหนึ่งถึงสิบก่อนจะชะโงกหัวขึ้นมาดูจนแน่มาว่าไอประธานมันไปแล้วผมถึงได้ลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม

"เป็นอะไรเนี้ย."ผมถามมันที่เอาแต่ทำหน้าไม่รับแขกอยู่ที่เก้าอี้

"ไข่..."

"อะไร ไข่มัน ทำไม มึงอยากกินไข่หรอ..."

"ไข่ผม...นี่แหละ...พี่ชนมันเต็มๆเลย"อ้าวเวรกรรม ไอผมเองก็พึ่งจะรู้ตัว อ่อไอนิ่มๆเมื่อกี้นี้คือเจ้าโลกของมันเองสินะ หึหึ

"เฮ้ย โทดๆ ไม่ได้ตั้งใจเว้ย เป็นไงจุกมากรึเปล่า"

"พี่มาลองดูมั้ยละ โถ่...."

"เอาน่าๆ มันเป็นอุบัติเหตุนี้หว่า ..เออใช่...เมื่อกี้ทำไมมึงคุยกับไอประธานแบบกันเองจังวะ เห็นขึ่นมึงๆกูๆด้วย"ผมมั่นใจว่าหูผมไม่ได้ฝาด

"ก็....หูพี่คงฝาดไปเองมั้ง..."นั่นไงมาลูกนี้คิดจะชิ่งคำถามกูละสิ


"อย่ามาแหลกูอัดเสียงไว้"

"ไว้ในไหน?"มันทำหน้าไม่กลัวผมเลยเว้ย

"โทรศัพท์"มึงนิ่งมาก็นิ่งกลับมั้งเดี๋ยวแม้งไม่เท่

"เครื่องไหน?"

"ก็เครื่อง...."ผมรีบคำปุๆหาตามตัวเพื่อแสดงหลักฐานเท็จแต่เยดแหม่ ลืมไปว่า ไอกายมันหยิบของผมไปด้วยเมื่อตะกี้...


" ; )" ยื้มแห้งใส่เลยกู อย่างนี้แม่งก็รู้หมดว่ากูแหลอะสิ

"ขี้โกหกวะ คบไม่ได้ๆ "

"ไม่รู้ละ บอกมาก่อน กูสงสัย ไม่งั้นคืนนี้กูคงนอนไม่หลับแน่ๆ"เรื่องเสือกขั้นแอดวานซ์ไว้ใจผม

"บอกเรื่องที่ผมถามพี่มาก่อนสิ" มันถามอะไรผมวะลืม

"เรื่องอะไรวะ"ผมถามกลับคือนี้ไม่ได้จะกวนตีนหรือทำแถ คือลืมจริงๆ

"พี่กับมันเป็นอะไรกัน..."ไอบรรยากาศมาคุรอบๆนี้มันคืออะไรกันแถมไออาการกระวนกระวายนี้อีก....ผมควรทำไงดีวะ ควรบอกหรือเลี่ยงที่จะบอกดี

"คือ..จริงๆแล้ว"โอ้ยเอาไงดีบอกดีมั้ยวะ

"????"เอาวะไหนๆเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว

"คือจริงๆแล้วกูกับมันเราเคยเป็น.."

"เจตริทร์!"

"ใช่ เราสองคนเคยเป็นเจตะ......"อะไรนะ...ไอเสียงขรึมๆที่บ่งบอกถึงความเก็กหน้านี้ดังมาจากที่หน้าประตูใช่มั้ย แล้วถ้าเดาไม่ผิดผมคิดว่ามันคือ...อื้อหือ..ชัดเจน...


"ประธาน"

............

(ณ ห้องส่วนตัว ของประธานบริษัท)


"ไหนลองบอกเหตุผลที่ไม่ไปสัมนามาสิ..."คือหลังจากที่โดนไอประธานหัวเห็ดนี้จับกระชากลากถู มันก็พาผมมาขังไว้ที่ห้องเชือดเพื่อเค้นความจริงบางอย่าง

"ก็...."ทำไมกูต้องติดอ่างเวลานี้ด้วยวะ...ไม่เข้าใจตัวเอฃเลยจริงๆ

"ตอบมา!!"

"ก.กกก็ตื่นนนน..ตื่นสาย"

"ตื่นสาย..มันใช่เหตุผลมั้ย.."เอ้าไอนี้ นี่กูก็พูดความจริงที่สุดแล้วเนี้ยทำไมมันถึงไม่เชื่อผมวะ


"อุตส่าห์จะให้ไปดูงานสบายๆไม่ชอบๆลำบากนักใช่มั้ย ได้ "ว่าเสร็จมันก็หมุนตัวสามร้อยหกสิบองสาไปหยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งที่บรรจุดระดาษไว้แบบ(โคตรรร)หนามาวางตรงหน้า ผมมองแฟ้มสลับกับมองหน้ามัน.. นี้อย่าบอกนะว่า

"ในเมื่อชอบความลำบาก ก็เอานี้ไป"...

"อะไร.."น้ำเสียงผมเริ่มสั่นๆนี้มันคิดจะแกล้งอะไรผมอีกวะ

"ไปพิมพ์ มาใหม่ แปลทั้งภาษาไทยและอังกฤษ"

"หา...หมดนี้เลยหรอ.."ถ้าให้เดาๆก็หลายร้อนแผ่นเลยนะเว้ยย

"ใช่...ชอบมากไม่ใช่หรอความลำบากนี้ไงจัดให้แล้ว  อ่อ แล้วก็ให้ส่งภายวันศุกร์นี้ ก่อนห้าโมงเย็น...ถ้าชาแม้แต่วินาทีเดียว...เละ"คือวันนี้วันพุธและมีเวลาแค่สองวันไอห่า ไม่รู้ว่าไอที่เละนี้เป็นเอกสารรึผมนะแต่ผมขอเดาว่าเป็นตัวผมเองแล้วกัน ฮือ... ไม่หน้าตื่นสายเลยกู... :hao5:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:52〖18/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 18-01-2018 15:57:04

(หลังจากเลิกงาน)

ผมก็มายืนรอไอพี่ชายตัวดีอยู่ที่หน้าบริษัทนานนับสิบนาทีก็ยังไม่เห็นวี่แววแม้แต่เงาหัวมันผมก็ยังไม่เห็น หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมผมถึงไม่โถ่หาแล้วบอกให้มันมารับ มีสองช้อย คือหนึ่ง ผมไม่รู้เบอร์ และสอง ผมไม่มีโทรศัพท์ ใช่ครับ ไอกายมันไม่ยอมคืนน้องโฟนให้ผม มันบอกว่าถ้าอยากได้คืนให้ผมเอางานไปส่งให้มันก่อน

เฮี้ยดีมั้ยละ ไม่เลวจาก กมลสันดานทำไม่ได้จริงๆนะเนี้ย พูดแล้วก็ขึ้น...

ผมยืนรออยู่ที่หน้าบริษัทร่วมชั่วโมงเจมส์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาผมเลยตัดสินใจเดินเท้าแม้งนี้แหละถึงจะนานหน่อยแต่ก็ถึงเหมือนกัน


ผมเดินตามทางเท้ามาเรื่อยๆจนถึงป้ายรถเมลแต่ก็ต้องสะอื้นอีกรอบที่สองเมื่อกระเป๋าตังลูกรักเสือกลืมหยิบมาจากห้องทำงานไอกาย เพราะมันคนเดียว..ถ้ามันไม่ด่าผมหูดับตับไหม้ขนาดนั้นผมก็คงไม่ลืมกระเป๋าเป๊ไว้หรอก เฮ้อ ผมเซ็งกับมันเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้ววะเนี้ย


สรุปก็คือต้องเดินตีนเปล่าไปอีกสิบกว่ากิโล  คือ ท้องลูกรักนี้ก็ร้องดีจริงวันทั้งวันเสือกไม่หิวด้วยนะ มาร้องได้ตรงจังหว่ะดีจริงๆ  อ่อแล้วไม่ต้องไปจินตนาการกันนะครับว่าชีวิตจะเหมือนในละคร นางเอกเดินตามทางถนน อยู่ลำพังแล้วจู่ๆพระเอกก็ขับรถตามมาแล้วบอกให้ขึ้นไปด้วยกัน หึหึ นี้ชีวิตจริงนะครับฮัลโหล


อีกอย่างพระเอกในชีวิตจริงมันมีที่ไหนกันละ มีแต่ ขยะ ดีๆแค่นั้น...โอ้ย ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิด..


[พาทของกาย]

"พี่นี้ก็นะ ว่างมากรึไงถึงไปแกล้งเขาอยู่ได้"เสียงของไอปอนน้องคนสนิทของผมเองไอนี้ก็เหลือเกินชอบเขาข้าง มันตลอด

"กูเป็นพี่มึงนะ มึงควรจะเห็นใจกู"

"โถ่พี่ แต่คืองานพิมพ์แบบนั้นมันงานจุกจิกนะพี่ แถมต้องนั่งแปลไทยเป็นอังกฤษอีก เออแล้วก็อีกอย่าง ไอเอกสารที่พี่ให้เขาไปนั้นมันของเมื่อปีที่แล้วไม่ใช่หรอ?"บางทีผมก็เกลียดไอปอนทึ่มันเสือกรู้ทันผมทุกๆเรื่อง

"ก็..กูจะดูใหม่ไง มีปัญหาอะไรรึเปล่าละ ถ้าอยากช่วยนักก็ไปเอากลับคืนมาทำเองซะสิ". ว่าจบมันก็เดินมานั่งเก้าอี้ข้างหน้าผม

"พี่ อันนี้กระเป๋าเป๊ใครอะ"มันว่าพลางชูเป๊ใบนั้นขึ้น ลักษณะ คล้ายๆของไอเตี้ยเลยแหะ สงสัยมัยคงจะลืมไว้

"ดีเลยไหนๆ ก็ลืมแล้ว ผมละอยากรู้จริงๆว่าน่ารักแบบพี่เขาจะพกอะไรไว้ในกระเป๋าบ้าง"คนอย่างมันเคยพกอะไรไว้ในกระเป๋าบ้างนอกจาก  สมุด ปากกา กระเป๋าตัง และโทรศัพท์...แต่เดี๋ยวนะ ..โทรศัพท์มันอยู่ที่ผม..แล้วกระเป๋าตังละมันได้เอาไปด้วยมั้ย ว่าแล้วก็รีบแย่งเป๊ในมือไอปอนมาค้นดูแล้วก็เจอทุกอย่าง เหมือนเมื่อก่อนเปี๊ยบ

"แล้วมันจะกลับยังไงวะ"ผมบ่นคนเดียวเบาๆ

"พี่ในนี้มีรูปพี่กับพี่เขาด้วยอะ"ผมรีบดึงสติก่อนจะหันไปมองรูปในมือตามที่มันพูด แล้วก็เจอเขากับรูปใบนึง..

รูปที่ผมเป็นคนถ่ายเองกับมือ และผมก็ยังจำความรู้สึกในวันนั้นได้ดี
......

"เตี้ย มึงได้หยิบ หูฟังมาด้วยปะ"ผมถามมันในตอนที่เรามาถึงสวนสาธารณะ วันนี้เป็นวันที่เรานัดหมายออกมาฉลองให้กับวันครบรอบหนึ่งปีของผมกับมัน

"เออวะ  ลืม ก็มึงอะเร่งจนกูลืมเลย.."นี้ขนาดผมก็ข้อความไปย้ำแล้วย้ำอีกนะว่าอย่าลืมแต่มันก็ยัง เฮ้อ

"บอกไปแล้วไม่ใช่หรอ ข้อความก็อ่านนิ ทำไมยังลืมอีกวะ"ผมแกล้งๆงอลมันโดยการหันไปสนใจสิ่งอื่นรอบตัวแทนการมองหน้ามัน

"กาย...ฮือ..ขอโทษ คราวหลังจะไม่ลืมแล้ว สัญญาดีกันน้าๆๆ หายโกรธเดี๋ยวให้รางวัล"ผมนี้รีบหันควับกลับหามันเลยในทันที

"ไหนๆ"

"ห่านิ แกล้งงอลหรอเดี๋ยวกูตบคว้ำ "แหงะสุดทิายมันก็หลอกผมอีกตามเคย

"ก็มึงอะเป็นแบบนี้ทุกที มันสมควรงอลป่าวละหึ อีกหน่อยคงลืมกูอะ"พูดไปก็พลางน้อยใจไปด้วย

"ที่หลังวีดีโอคอลมาละกัน พอเวลาเห็นหน้ามึง กูจะได้ไม่ลืม.."เออวะเป็นความคิดที่ดี แถมถ้าบางทีมันแต่งตัวอยู่ผมอาจจะได้เห็นอะไรดีๆขึ้นมาก็ได้  หึหึ

"งั้นเอางี้"ผมยกมือถือเปิดกล้องก่อนจะขยับเข้าไปกอดคอใกล้ๆกับมัน

"จะทำอะไร..คนอยู่เยอะไม่เห็นหรอ"มันว่าปรามพลางตีมือผมที่กอดคอมันอยู่


"มึงแคร์คนอื่นรึแคร์กู.."คำถามผมทำเอาเจมันนิ่งไว้หลายวินาที จนในที่สุดมันก็กลายเป็นฝ่ายถือกล้อง และเขยิบหน้าเข้ามาหอมแก้มที่ด้านซ้ายของผมก่อนจะกดชัตเตอร์


"จำไว้นะกาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน กูอยากให้มึงรู้ไว้นะ ว่ากูแคร์แค่มึง แล้วก็ไม่ต้องเสือกถามคำถามนี้อีกละ เพราะต่อให้มึงจะถามกูอีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง คำตอบมันก็ยังเป็นมึง..."เป็นคำพูดที่ผมสัมผัสและรู้สึกได้ถึงสิ่งทึ่เจมันพูด คำพูดรอยยิ้ม และการกระทำของมันบ่งบอกแบบนั้นจริงๆ

"เดี๋ยวพอโกรธ มึงก็ลืม เชื่อกู"

"เอางี้ นะกูจะไปล้างรูป ทีนี้ก็เอาติดตัวกันไว้คนละใบ ใส่ไว้ที่ไหนก็ได้เอาแบบที่มึงไม่ลืมอะ มันจะได้เหมือนกับการมีตัวตนของใครอีกคนในทุกๆที เวลามึงเหงาก็แค่เปิดรูปมามองหน้ากู เวลามึงเศร้า ท้อแท้ หมดกำลังใจ ก็ขอให้รูปใบนี้เติมเต็มความอ้างว้าง พวกนั้น ให้มึงเวลาเห็นได้บ้าง...อ่อแล้วก็อีกอย่าง .."


"อะไรอีก"

"ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงมึง ห้ามทิ้งรูปนี้นะ .. แต่ถ้าวันไหน ความรู้สึกของมึง ที่มีต่อกูมันหมดไปแล้วจริงๆมึงจะทิ้งมันก็ได้นะ ..กูเข้าใจ....

..........


"พี่กาย !"

"ฮ้ะ..อะไรๆใครเป็นอะไร"


"พี่อะเป็นอะไร มองรูปแล้วก็นั่งเหม่อ ผมเรียกตั้งนานแล้วเนี้ย สติหลุดไปไหนละนั้น รึพี่ไม่สบาย..."มันว่าพลางยื่นมือมาแตะที่หน้าผากผม


"กูโอเคน่า มึงเองนี้ก็ขี้เสือกดีเหมือนกันนะ ไงละเสือกพอรึยังถ้าพอแล้วก็เก็บของเข้ากระเป๋าคืนได้ละ ยกเว้นรูปนี้ กูจะเก็บไว้เอง"ถึงในตอนนี้จะมีคำถามอยู่มากมายก็เถอะ แต่ผมจะเก็บมันไว้ภายในใจก่อนก็แล้วกัน


"แล้วจะเอาไงต่อ จะให้ผมรีบเอากระเป๋าไปคืนพี่เขาให้มั้ย"

"ใช่เรื่องกระเป๋าใครก็ให้มันมาเอาเองสิ"

"เขาอาจไม่รู้ตัวก็ได้มั้ง เอาไปคืนเหอะผมว่า กระเป๋าตังเขาก็อยู่ในนี้ด้วยนิเผื่อบางทีเขาอาจต้องใช่ก็ได้นะพี่"

"แลมึงนิห่วงมันจริงๆนะ ชอบมันรึไง"อดถามถึงความห่วงเกินหน้าเกินตาของมันไม่ได้จริงๆ


"เดี้ยวไอเกมก็ไปส่งมันเองนั้นแหละจะห่วงอะไรนัก.."ถึงผมจะไม่ค่อยชอบให้มันสองคนอยู่ด้วยกันก็เถอะ แต่ก็เห็นมันดูสนิทเข้ากันได้อยู่..ระหว่างนั้นเองเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นและปรากฎบุคคลๆที่พึ่งจะถูกพาดพิงไปเมื่อครู่



"ไปยังละ วันนี้กูไม่ได้เอารถมา กูไปกับมึงละกัน"ห้ะ ไม่ได้เอารถมา

"เออ แล้วพี่เจละ เขากลับไปแล้วหรอ กุว่าจะเอาไฟล์งานให้เขาซะหน่อย "


"อ้าว เจมันไม่ได้อยู่กับมึงหรอ..."ผมถามมันด้วยท่าทีร้อนรน

"ถ้าอยู้จะตามขึ้นมาถามแบบนี้มั้ยละหืม ตอนที่มึงพาตัวเขามานั้นแหละครั้งสุดท้ายที่กูเห็น แต่มันก็พึ่งออกจากห้องผมไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วเอง ถ้าผมตามไปก็คงจะทัน

"แล้วนั้นพี่จะไปไหน"

"มึงจะไปไหนกาย"

"ไปตามหาคน.."พูดจบผมก็เดินหยิบเป้ของมันรีบลงมาที่ชั้นล่าง ขับรถตามหามันจนทั่ว ระหว่างนั้นเสียงไลน์ก็เด้งๆมาไม่หยุดหย่อน ส่วนรายชื่อที่ทักมานั้น เล่นทำเอาเกร็ง ขึ้นมานิดๆ

Jame.

"มึงอยู่ไหนแล้วไอแคระ โทดทีกูคุยกับเมียเพลิน "

"ฮัลโหลให้ไปรับมั้ยตอบบ"

"เงียบ กูไม่ไปละนะ"

ผมอ่านข้อความไปจิตใจก็เริ่มเป็นกังวนขึ้นมาเรื่อยๆ  โทรศัพท์ก็อยู่นี้ ส่วนเงินก็ไม่มี เฮ้อ แล้วมันจะทำยังไง จะกลับบ้านยังไง จะมีใครทำอะไรมันรึเปล่า

แล้วตอนนี้ละ ตัวผมเป็นอะไร ผมบ่นถึงมันทำไม เป็นห่วงมันหรอ...เออ!ใช่ ยอมรับก็ได้ ว่าโคตรเป็นห่วง แม้งจะกี่ปีๆก็ชอบทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยนี้แหละครับข้อเสียของตัวมัน

ผมขับรถเลี่ยงออกมาจากตึก ได้ไม่ไกลก็แวะเข้าไปถามยามซึ่งคำตอบของยามก็เล่นทำเอาผมร้อนรนมากขึ้นไปอีก เพราะยามบอกว่าเห็นมันเหมือนยืนรอใครอเป็นชั่วโมงจนในที่สุดมันก็เดินหายไปสักพักใหญ่ๆแล้ว

ผมขับรถไปที่ป้ายรถเมล์ถามคนแถวๆนั้น คำตอบก็ทำเอาผมหัวหมุน บางคนบอกทางนี้ส่วนอีกคนก็บอกทางนั้นสรุปคือ ผมเองก็ต้องเดาสุ่มและเชื่อในสันชาตญาณของตัวเอง ด้วยการขับตรงไปเรื่อยๆเกือบๆ
ยี่สิบนาทีฝนเจ้ากรรมก็ดันตกซะนิ   แต่ที่ซวยหนักกว่านั้นคือทางข้างหน้าดันเกิดอุบัติเหตุรถก็ติดกันเป็นแถบ เวลาเย็นเลิกงานแบบนี้หลายคนก็คงจะเดินทางกลับที่พักกัน แต่ใันจำเป็นต้องมาประจบเหมาะกับเวลาที่ผมเร่งรีบแบบนี้มั้ยละ  เฮ้อ อยากจะเดินลงแล้วเดินไปให้รู้แล้วรู้รอด

ผมนั่งรออยู่ในรถด้วยความกระวนกระวายใจระดับสิบ ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่เคลียร์เส้นทางอยู่นั้นเสียงเติอนจากแอพพิเคชั่นไลน์ ก็ดังขึ้น ซึ่งคนทักมาก็คือคนเดิม

"Jame"

"กูอยู่หน้าบริษัทแล้วมึงอยู่ไหน ". เฮ้อเรื่องมันซวยเพราะผมจริงๆ ถ้าผมคืนโทรศัพท์มันไปตั้งแต่แรกก็คงดี

ปี๊ปป!!!  เสียงบีบแตร์รถดังมากจากด้านหลัง

"นี้คุณทางข้างหน้ามันว่างตั้งนานแล้วทำไมยังไม่ขยับอีก"ว่าแล้วผมก็ลองหันมองดูที่ด้านหน้า ที่ตอนนี้ บนถนนได้เคลียร์เส้นทางหมดแล้ว

"ขอโทษนะครับ"ว่าแล้วผมก็รีบขับรถตามทางไปเรื่อยๆอีกเช่นเคยแถมยังพยายามขับชลอเพื่อมองตามข้างทาง ผมขับหาอย่างนั้นเป็นชั่วโมงก็ไม่ยักจะเห็นมีใครเดินอยู่ริมถนนสักคนเลยตัดสินใจโทรกลับไปหาไอเกมเพื่อถามที่อยู่ของไอเตี้ยมัน

"เออขอบใจ"หลังจากวางสายก็เลี้ยวขวาตรงไฟแดงเพื่อยูเทินกลับไปที่ตั้งคอนโดที่พึ่งผ่านมา

.......

"306 ห้องนี้สินะ"ผมเดินขึ้นลิฟฟ์มาตามชั้นและห้องที่จดใส่กระดาษ หายใจเข้าออกนับหนึ่งุึงสามเก็กหน้าขรึมก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปเคาะประตู


"ค่า!!อุ้ยย" คนที่เดินมาเปิดไม่ใช่ไอเตี้ยแต่เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ผมว่าคงโดนไอเกมมันต้มแล้วแหละ

"เอ่อชอโทษครับพอดี เคาะผิดห้อง"ว่าพลางขอโทษและเตรียมตัวหันหลังกลับแต่ สาวสองคนเมื่อครู่เขาก็เรียกชื่อผม

"นั้นกายใช่มั้ย "ผมอึ้งๆเล็กน้อยไหงเขาถึงรู้จักชือผมด้วยนะ

"ค..ครับ แล้วคุณ.."

"เข้ามาข้างในก่อนสิ"แปลกที่ผมทำตามคำเชิญชวนแต่โดยดี ปกติผมไม่ค่อย ไว้ใจคนแปลกหน้าเท่าไหร่นะ แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นข้อยกเว้นแล้วกัน


"กินอะไรอุ่นๆก่อนมั้ย พึ่งตากฝนมานิ"ผมส่ายหน้าและยิ้มขอบคุณเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

"มาหาเจ มันใช่มั้ย.."

"ใช่"ผมตอบตาความจริง ถึงจะแค่เอาของมาให้ก็เถอะ

"จริงๆเจมันก็อยู่กับเรานี้แหละ แต่เมื่อวานพี่ชายมันมารับกลับไปแล้ว.."

"อ้าวงั้นเจมันก็ไม่ได้มาที่นี้งั้นสิ

"ใช่ เจมันกลับไปอยู่ที่บ้านหลังเดิมมันแล้ว"

"ที่จันทบุรีอะนะ"

"ไม่บ้านหลังเก่า ที่เป็นร้านกาแฟอะ "

"อ้าวแล้วตอนแรกมันย้ายมาอยู่กับ เอ่อ..."ผมกะจะเรียกชื่อแต่ก็ดันจำไม่ได้ซะนิ

"กี้ เราชื่อกี้ "

"อ่อครับ โทษนะมันนานมากแล้วอะ "

"อืมเข้าใจ ว่าแต่มาที่นี้มีธุระอะไรรึเปล่า"เออวะเกือบลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงไปเลย

"เราเอากระเป๋ามาคืน พอดีมันลืมไว้ที่ทำงานอะ แล้วมันได้คุยกับกี้รึเปล่าว่ามันอยู่ไหน"

"เราเองก็ไม่รู้หรอก แต่อย่าเป็นห่วงเลยไอเจันพวกถึก เห็นตัวบางๆแบบยั้นตายยากจะตาย"แต่ก็เพราะเป็นมันนี้แหละผมถึงต้องห่วง แต่เดี้ยวนะ ผมเป็นห่วงมันเหรอบ้า บ้าไปแล้ว ใครจะเป็นห่วงคนอย่างมันกัน

"เออนี้ เราขอถามอะไรอย่างสิ"สีหน้าขิงเพืือนไอเตี้ยตอนถามดูจริงจังจนผมรู้สึกเกร็งๆ

"อื้อถามมาสิ ถ้ารู้ก็จะบอก"

"ตอนนี้ระหว่างแกกับ เอ่อ  เจ มันคืออะไรหรอ"...เล่นถามคำถามแบบนี้เลยหรอ...

"ก็ เจ้านายกับลูกน้องไง ทำไมหรอ.."

"แล้วอดีตละ"

"อดีตก็ส่วนอดีตตอนนี้มันคือปัจจุบัน เรากับมันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว นอกเหนือจากงานเราต่างก็เป็นคนอื้น"


"เฮ้อ!"อยู่ๆเพื่อนของเจมันก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด

"กาย เรามีความจริงบางอย่างจะเล่าให้ฟัง..."น้ำเสียงของคนตรงหน้าดูจริงจังมาก

"ความจริง?"ผมไม่เข้าใจที่ เพื่อนมันพูด


"ความจริงเกี่ยวกับเรื่องทุกอย่างในอดีตไง จริงๆเราก็ไม่อยากพูดหรอกนะ แต่เราทนเห็นเพื่อนทุกข์แบบนี้ไม่ไหวแล้วอะ. กาย" เพื่อนของมันเรียกชื่อผมอีกครั้ง


"ฟังสิ่งที่เราจะเล่าต่อจากนี้ให้ดีๆนะ"ผมพยักหน้าเข้าใจและเริ่มต้นฟังเรื่องราวทุกอย่างจากเพื่อยคนสนิทของมัน


[พาทของเจ]

"ขอบคุณมากนะครับคุณครูที่มาส่ง"ผมอดจะขอบคุณครูอร ไม่ได้เลย.

คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ในระหว่างทางที่ผมเดินตามทางมาเรื่อยๆจู่ๆฝนมันก็ตกหนักชนิดที่ว่าไม่ทันตั้งตัวกันเลยทีเดียว ผมเลยไปยืนหลบฝนอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจนครูอร(ครูประจำที่นี้) เดินเข้ามาเห็นและช่วยให้ที่พักผมชั่วคราวแถมยังพาผมมาส่งอีกด้วย ผมละโคตรซึ้งในน้ำใจของ ครูเขาจริงๆ

"กลับมาแล้วคร้าบบ!!"ผมเอ่ยคำทักทายในวันฝนตกตอนเวลาทุ่มกว่าๆ ที่บ้านของตัวเองแต่ไม่ยักจะมีเสียงแมวที่ไหนตอบผมซักตัว เจมส์มันหายหัวไปไหนของมัน วะ อุก...อักก

ใครเอามือมาปิดปากผมจากด้านหลังกันวะ อื่อ จะดิ้นก็ดิ้นไม่หลุด จนท้ายที่สุดผมก็นึกหาวิธีเอาตัวรอดตามฉบับละครไทยหลังข่าวนั้นก็คือเหยียบตีนกัดมือและรีบดีดตัวออกห่าง. คิดได้ดังนั้นผมก็รับทำตามในสิ่งที่คิด แต่ฮัลโหล กูวืดครับ จากจะเหยียบตีนเขาขาดันไปเกี่ยวจนล้มซะเอง แต่หลุดวะ ผมหลุดออกจาก อ้อมแขนบ้านั้น


ผมเลยรวบรวมสตินับหนึ่งุถึงสาม ก่อนจะหันกลับไปเตรียมพุ่งกระโจนเต็มที่

แต่พอได้เห็นบุคคลที่ยืนอยู่ข้างหลังแล้วทำเอาเรี่ยวแรงที่เตรียมไว้พลันลอยหายไปในอากาศ เพราะคนที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าผมตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่น


"ป๊า"!!!!


TBC........

ลืมกันรึยังเอ่ย  อย่าพึ่ง  ลืมกันน้า   เขากลับมาล้าง 
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:52〖18/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-01-2018 19:00:49
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:52〖18/01/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-01-2018 07:08:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-02-2018 17:25:37
Falling in love

"ป๊า "

"เออ  กูเอง "เสียงพ่อบังเกิดเกล้ายังคงกวนโอ้ยต่อระบบเซลล์ประสาทผมเหมือนเดิม. แต่แค่ได้ยิน เสียงของผู้ชายตรงหน้าก็เล่นเอาความเหนื่อยล้าที่ผมแบกกลับบ้านมาทั้งวัน ละลายหายไปในอากาศทันที

"ขอกอดหน่อย"ว่าแล้วผมก็วิ่งก็โจนหวังจะเข้าไปกอด แต่ลุงแกเอามือผลักหัวผมเอาไว้ซะก่อน

"ตัวเปือกยังกับลูกหมา กูไม่กอดมึงหรอก "แต่ใครสนเรื่องนั้นกันละ ผมรีบปัดมือพ่อตัวเองออกและกระโจนเข้าใส่จนอีกฝ่ายเซถอยหลังไป

"โคตรเบื่อขี้หน้าเลย จะกลับมาทำไมก็ไม่รู้"ปากผมพูดแต่ทั้งตัวผมก็ยังคงกอดคนตรงหน้าไม่ยอมห่าง

"กูมีธุระหรอกกูถึงมา"

"เอ๊ะอะก็ธุระ เคยมาเพราะคิดถึงลูกบ้างป่าว วะลุง" ว่าแล้วก็อดน้อยใจกับพ่อตัวเองไม่ได้เลยเฮ่อ

"ธุระของกูก็เรื่องมึงนี้แหละ ไอหมา"ผมค่อยๆดันหน้าตัวเองออกก่อนจะมองหน้าของพ่ออีกครั้ง

"เรื่อง ของเค้า"

"เออ มึงนั้นแหละ "

"มีอะไรอะป๊า. อย่าบอกนะว่าป๊าจะมา..."ทำอะไรไอกายอย่างที่เคยพูดไว้



"เลิกเพ้อเจ้อแล้วฟังกูดีๆ "ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อกก่อนจะตั้งใจในสิ่งที่พ่อกำลังจะพูดกับผม

"อีกสามอาทิตย์ มึงต้องไปอยู่กับกู..."

"หา"

"มึงไม่ตัองหาหรอก กูอยู่นี้ อีกอย่าง เรื่องของมึงตลอดสองปีที่ผ่านมาไอหนุ่มข้างบ้าน(พี่ริว)มันเล่าให้กูฟังหมดแล้ว มึงนี้ก็ถึกดีเหมือนกันนะเห็นตัวเท่าลูกหมาแค้นี้ แต่มึงไม่ต้องห่วงนะกูจะไม่ปล่อยให้ลูกกูลำบากเป็นครั้งที่สองแน่นอน"จริงๆก็เกือบจะซึ้งนะแต่..

"แต่หนวด เขากลัวเครื่องบิน"นี้เป็นเรื่องจริงที่ฝังอยู่ในหัวผมมาตั้งแต่เด็ก. โดยบุคคลที่เป็นฝ่ายทำให้ผมเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น พ่อกูนี้แหละครับ !!

"มึงอย่ามาสำออย ไอหมา ทีเรื่องอื่นละไม่เสือกกลัว"

"ฮื่อ ไม่เอาอะป๊า ยังไงก็ไม่ไป"ผมยื่นคำขาด แบบแทบจะก้มลงไปกอดขาอ้อนวอนแต่พ่อผม แม้งก็ตีมึนไม่สนใจท่าเดียว

"ไม่รู้ละอีกสาม อาทิตย์มึง ต้องเตรียมตัวไปอยู่กับกูและเมียไอเจมส์มัน แล้วก็นี้"จู่ๆป๊าก็ยื่นกล่องสีขาวๆที่คุ้นตาให้กับผม

"อะไรอะป๊า"ผมถามด้วยความสงสัย

"อยากรู้ก็เปิดดูสิ "ว่าแล้วมือผมก็รีบแกะกล่องสีขาวมีรูปแอปเปิ้ลอยู่ข้างกล่องก็ต้องอึ้ง เพราะมันคือไอโฟนครับ..ถ...แถมรุนล่าสุดซะด้วย

"โหย นี้อย่าบอกนะ ว่าป๊าซื้อให้เขาอะ"ผมรีบกดเปิดดูซึ่งคาดว่าป๊าคงจะชารต์แบตมาให้ก่อนหน้าแล้ว

"ให้หมามั้งถามได้ แต่ที่กูซื้อเพราะเห็นพี่มึงบ่นว่าติดต่อมึงไม่ได้เฉยๆหรอก"

"โห่ ป๊า"ผมรีบเดินไปกอดคนตรงหน้าอีกครั้ง

"ขอบคุณนะครับป๊า"ไม่รู้จะพูดคำไหนให้ป๊าฟังดี

"มึงจะขอบคุณทำไม กูไม่ได้ให้ฟรี มึงต้องทำงานใช้เงินครึ่งแสนที่กูเสียไป ในอีกวามเดือนข้างหน้า"

"แต่ป๊า..."และพ่อก็ไม่ได้สนใจอะไรผมอีกเลยได้แต่นั่งตีหน้ามึนอยู่ในห้องนั่งเลยและด้วยที่ผมเองก็ไม่รู้จะพูดยังไงต่อเลยได้แต่เดินขึ้นห้องมึนๆตึงๆล้มตัวลงนอนคิดอะไรไปเรื่อย...แล้วมือก็ดันกดเข้าแอพพิเคชั่นไลน์ผมกดใส่อีเมลอันเก่าเพื่อดึงข้อมูลอันเดิมกลับคืนก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวชิวๆพร้อมเข้านอน


[เวลาตีสามในคืนนั้นเอง]

ผมยังคงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาพยายามข่มตาหลับอยู่หลายชั่วโมง ทั้งๆที่ภายในบ้าน(และข้างๆบ้าน)ก็เงียบสนิทไฟในห้องก็ปิดแล้ว แต่ตาผมกลับสว่างจ้าเหมือนคนพึ่งตื่น

ผมเลื่อนมือไปหยิบหนังสือที่หัวเตียง หวังจะอ่านเพื่อให้ตัวเองง่วงและหลับไป แต่เหมือนจะเสียเวลาเปล่า ผมเลยเปลี่ยนวิธีการหลับตานับแกอยู่หลายที แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรอีกตามเคย

"231 232 233"Trrrrr เสียงสั่นๆที่หัวเตีบงบ่งบอกว่ามีการเคลื่อนไหวในโซเชียลของผมเกิดขึ้น ผมเลยเลื่อนมือไปหยิบแล้วมาเปิดดูก็พบการแจ้งเตือนจากแอพพิเคชั่นไลน์ ที่แทบไม่มีเพื่อนเลย นอกจากไอวิน พี่ริว ป๊า เจมส์ แล้วก็ล่าสุด...ไอกาย

และผมก็ตัองตาแทบถล่นอีกรอบเมื่อคนที่ทักผมมาตอนเวลาเกือบๆตีสี่มัน คือ ไอ กาย...  ไม่หลับไม่นอนวะและด้วยความสงสัยผมเลยกดจิ้มเข้าไปดูว่ามันส่งอะไรมาด่าผมอีกรึเปล่า...

" : / " นั้นแหละที่มันส่งมาหาผมแต่ที่งงกว่านั้นคือมันต้องการจะสื่ออะไรให้ผมฟังต่างหากละ ผมเลยกดส่งสติ๊กเกอร์หมีงง  กลับไปแต่คำตอบที่ได้กลับมาก็ทำเอาผมนอนเกาหัวอีกรอบ

"นอนรึยัง"ร้อยวันพันไปไม่เคยจะถาม แต่วันนี้มันนึกครึ่มอกครึ่มใจอะไรของมันวะ เอ๊ะหรือมันจะเมา ใช่ๆผมว่ามันคงเมา. อยากจะตอบกลับไปว่า ถ้านอนแล้วกูจะเข้ามาอ่านข้อความมึงได้มั้ยแต้ก็กลัวว่าพรุ่งนี้ตอนไปทำงานผมจะเจออะไรเลยเลือกคำพูดที่ดูเหมาะสมแก่เยาวชนคุยกับมันแทน

"ยัง นอนไม่หลับ"ผมตอบกลับอย่างเร็วรี่

"อืม นอนไม่หลับเหมือนกัน"คันปากอยากจะพิมพ์จริงๆว่าใครถาม.

"เป็นไรอะ" นานมากแล้วนะที่ผมกับกายเราสองคนไม่ได้พูดหรือคุยอะไรเป็นการส่วนตัวแบบนี้

"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย"

"ต้องการที่ปรึกษาว่างั้น" จากที่อ่านๆมาเหมือนมันกังวล หรือกลัวอะไรสักอย่างอยู่เลย ผมสัมผัสได้แบบนั้นจริงๆ

"ป่าวหรอกไม่มีอะไร"เอ้าไอนี้ทำให้กูอยากรู้แล้วอยู่ๆ ก็บอกว่าไม่มีอะไรเนี้ยนะ..

"อืมงั้นนอนเถอะ"ผมตัดบทสนทนามันไปเพราะเริ่มรู้สึกหงุดหงิดที่มันมีความลับแต่ไม่ยอมบอกกับผม ...แต่ในช่วงแวปนึงผมก็คิดขึ้นมาได้ ..ว่าผมไม่มีสิทธิไม่คาดคั้นอะไรจากมันอยู่แล้วนิ..

"  คน เรา ควรมีโอกาส กี่ครั้งหรอ"นั้นก็เป็นอีกคำถามที่ทำเอาคนอ่านอย่างผมต้องขมวดคิ้ว เป็นปม

"เอาจริงๆมีเรื่องเครียดใช่มั้ย"ผมเลือกที่จะไม่อ้อมค้อมและเลือกที่จะพูดตามสิ่งที่ใจคิด

"ก็ นิดหน่อย"ไอนี้ก็ลีลาไม่พูดสักทีโว๊ะ..

"ไม่บอกก็ไม่ต้อง  ถาม จบ"เท่านั้นแหละผมโยนไอโฟนลูกรักเครื่องใหม่ ไว้ข้างตัว แต่ในไม่กี่วิต่อมาเสียงการแจ้งเตือนมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง ผมชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเปิดมันขึ้นมาอ่านอีกรอบ

"คนทำผิด ควรได้โอกาสมั้ย"มาอารมณ์ไหนอีกวะเนี้ย  เฮ้อ

"ผิดแบบไหนละ ร้ายแรงรึเปล่า"ผมเลือกที่จะใจเย็นและพูดกับมันเหมือนที่ปรึกษาที่ดี

"ก็พอตัวอยู่"

"คงดูที่การกระทำมั้ง เขาตั้งใจทำแบบนั้นรึเปล่าละ"

"...."ระหว่างนั้นมันก็เงียบหายไปหลายนาที

"ฮัลโหล...หลับรึไง??"

"ย..ยัง "

"สรุป?"
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-02-2018 17:27:51

"ห้ะ..ถามว่าอะไรนะ"โถ ไอควาย ผมยกมือขึ้นซัดเหม่งตัวเองจนเสียงดังก้องไปทั่วตำบล(เว่อร์ไป)

"ถามว่าเขาตั้งใจทำแบบนั้นรึเปล่า"นี้ถ้ามันตอบไม่ตรงคำถามอีกผมจะเลิกคุยกับมันจริงๆด้วย

"เขาไม่ได้ตั้งใจแค่เข้าใจผิดกับเรื่องบางเรื่องกับคนที่เขารักมากก็เท่านั้น" ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะคิดว่ามันกำลังพูดถึงผม แต่มาตอนนี้กายมันมีคนใหม่แล้วซึ่งผมเองก็ไม่อาจเรียกร้องสิทธิอะไรในตัวมันได้อีก สิ่งที่ทำได้จริงๆคงเป็นที่ปรึกษาที่ดีคอยรับฟังปัญหาของอีกฝ่ายพร้อมกับความเจ็บปวดข้างในที่เกิดจากการทรยศหัวใจของผมเอง ไหนบอกจะไม่คิด ไหนบอกจะไม่หวั่นไหวไง ...ที่เคยได้ยินมานั้นผมทำไม่ได้สักอย่างเลยจริงๆ

"ถ้ารักเขาก็กล้าๆหน่อย  บางที เรื่องที่เคยคิดว่ามันผิดจนยากที่จะยกโทษให้ มันอาจจะได้การให้อภัยก็ได้นะ" ในระหว่างที่พิมพ์ผมก็พยายามฝืนยิ้ม เหมือนคนบ้าให้กับอีกฝ่าย พร้อมกับความคิดอะไรบางอย่าง

อยากจริงๆ อยากให้คนๆนั้น เป็นผม ไม่ใช่คนอื่น ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจใช่ แต่สถานะในตอนนี้มันคงไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน อาจจะพบเจอกันได้ในบางที แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ อย่างน้อยผมก็อยากขอให้มันเก็บผม เอาไว้ในใจ แม้จะเป็นพื้นที่เพียงน้อยนิดก็ตาม  ขอ..แค่มันอย่าเกลียดผมเหมือนทุกวันนี้ก็พอ...


[พาทของกาย]

ปึงๆ ผมยืนเคาะอยู่ที่หน้าห้องของไอวินไม่นานนักเจ้าตัวก็มาเปิด

"ไอกาย!"อีกฝ่ายโผตัวเข้ามากระชากคอเสื้อผมอย่างแรง

"มึงทำไม มึงต้องการอะไรอีกไอกาย แค่สิ่งที่มึงทำกับไอเจมันยังไม่พออีกใช่มั้ย"วินมันโมโหเลือดขึ้นหน้าดันผมติดกับผนังพร้อมกับง้างมือสูง

"เอาเลย มึงอยากทำอะไรมึงทำเลย. เอาให้สมกับที่กูทำเพื่อนมึงเจ็บ"ผมก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี เพราะต่อให้มันซ้อมผมจนตายความผิดที่ผมเคยทำไม่ดีกับเพื่อนของมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี ตั้งแต่ที่ได้ฟังความจริงจากปากเพื่อนอีกคนของเจ ก็ทำเอาผมไปไม่ถูกเหมือนกัน

ปึก! วินมันเอามือต่อยที่กำแพงแทนการต่อยที่หน้าของผมแทน

"ไปซะอย่าให้กูต้องทำอะไรมึงมากกว่านี้เลยไอกาย.."มันพูดพร้อมกลับเดินหันหลังเข้าห้องปิดประตูเสียงดัง

ก๊อกๆ ผมยืนเคาะเรียกอีกฝ่ายอยู่นานแต่กลับไม่มีเสียงใดตอบกลับมานอกจากคำสบตด่าสารพัด

"กูจะกลับก็ได้..แต่ช่วยบอกกูก่อนว่าตอนนี้เจมันอยู่ที่ไหน"อีกฝ่ายเงียบไปพักนึงก่อนจะเปิดประตูคุยกับผมอีกครั้ง

" กูไม่มีทางบอกอะไรมึงหรอก ไอเหี้ยกาย"

"กูขอโทษ แต่ตอนนี้กูเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วกูแค่อยากพูดอยากขอโทษในสิ่งที่กูได้ทำผิดไป"ความจริงทุกอย่างผมได้รับรู้มันผ่านปากเพื่อนคนสนิทของเจ ซึ่งในตอนที่ เขาเล่าน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง ซึ่งผมคิดว่า เขาคงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหก

"ขอโทษหรอ มึงคิดว่าการขอโทษแล้วทุกสิ่งมันจะหายไปหมดหรอวะ อารมณ์ความรู้สึกตอนนั้น มึงรู้ป่ะ ว่าในระหว่างที่มึงกำลังเข้าพิธีหมั้นห่าเหวอะไรนั้น ในอีกมุมนึงมีคนที่รักมึงมากที่สุดนั่งเสียใจอยู่คนเดียวตามลำพัง บ้านไม่มีอยู่ เหลือมันแค่ตัวคนเดียว ร่างกายมันซูบผอม มันไม่ยอมพูดจากับใคร เจมันเหงา มันร้องไหทุกวัน และมันเสียใจมามากพอแล้ว กูจะไม่ยอมให้เจ มันกลับมาเป็นแบบเดิมอีกเพราะชะนั้นมึงตัดใจซะเถอะ เพราะถึงมึงจะรู้ความจริงแล้ว แต่กูก็ไม่อยากให้เพื่อนกูกลับมาเป็นแบบเดิมแล้ววะ "

มันจุกนะที่รู้ความจริง. จุกที่ตลอดเวลาผมคิดเองมาตลอดว่าเจมันไปมีคนใหม่ มันหมดรักผมแล้ว แล้วก็เป็นผมอีกนั้นแหละที่ไม่ยอมอยู่เคียงข้างในวันที่มันอ่อนแอ ผมมันเหี้ยเกินที่จะหาคำบรรยายไหนมาอธิบายได้เลย

"กลับไปเถอะ อย่าให้กูต้องเกลียดมีงไปมากกว่านี้เลยกาย "วินมันปิดประตูไล่ผมก่อนที่บรรยากาศโดยรอบจะเกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง

ผมนั่งเอาหลังพิงกำแพงอย่างคนหมดเรี่ยวแรง..ทำไม มันถึงต้องทำเพื่อผมขนาดนี้ ทำไมมันถึงต้องยอมเจ็บอยู่ฝ่าย เดียว ทำไมมันไม่เลือกที่จะยื่นข้างๆจับมือและเดินหน้าไปพร้อมๆกัน ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ

ผมนั่งอยู่หน้าประตูนานมาก จนแม่ของไอวินต้องขึ้นมาดูและเห็นผมนั่งหมดสภาพอยู่อย่างนั้น

"ตายจริง ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ละลูก "แม่ของไอวินเป็นคนจิตใจดีสมัยก่อนหลังจากกลับจากมหาลัยผมก็ชอบมาที่บ้านมันบ่อยๆเพราะพี่สาวและแม่ของไอวิน. มักจะทำขนมมาให้ผมกินอยู่เสมอ

"วิน มันคงจะโกรธผม มั้งครับแม่ แต่ไม่เป็นไร เอาไว้เดี๋ยวผมมาหามันใหม่ตอนอารมณ์ดีๆก็ได้ครับ"ผมส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้คนตรงหน้าก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับแต่ก็ถูกมือข้างเดิมจับกุมเอาไว้


"รอเดี๋ยว"เธอพูดพร้อมกับเคาะเรียกคนที่อยู่ด้านในไม่นานนักวินมันก็เดินมาเปิด

"อะไรของมึงห้ะ...ไอ้....."

"ไอ้..อะไรของเอ็งห้ะ...ไอ้ตี๋...เดี๋ยวนี้ชักกำเริบเรียกแม่แบบนี้แล้วหรอ"หน้าไอวินมันเปลี้ยนอย่างเห็นได้ชัด

"ป่าวม๊า คือ..เขาคิดว่าไอกายมันเป็นคนเคาะอะก็เลยพูดแบบนั้นไป"เธอส่ายหน้าเอือมระอาก่อนจะหันมาที่ผม

"ถามสิ..แม่เรียกมันออกมาให้แล้ว"

"เออ..คือ..ผม.."

"โอ้ย ม๊าวินเจ็บ..."ตอนนี้คงได้โอกาศเหมาะแล้วเพราะชะนั้น

"กูแค่อยากถามถึงที่อยู้ที่เจมันอยู่ตอนนี้"

"กูบอกแล้วไงว่ากูไม่..โอ้ยย!!!"

"บอกเขาไป..."ม๊าไอวินยังคงคาดคั้น

"เออๆๆ บอกแล้วๆ..."

"ก็แค่นั้น..นึกว่าม๊าต้องดึงหูเอ็งจนไปอยู่ตาตุ้มสะอีกถึงจะยอมพูด.."

"เจ..มัน..ก็ยู่บ้านหลังเดิมที่มันเคยอยู่นั้นแหละ"พอได้คำตอบผมก็เตรียมสปีดตัวเองเพื่อรีบไปถึงที่หมาย แต่อีกฝ่านกับพูดรั้งท้ายไว้

"กูไม่รู้นะ..ว่าตอนนี้คนในบ้านมันคิดยังไงกับมึง ทางที่ดีอยู่ห่างๆมันไว้"

ผมพยักหน้าเข้าใจแต่คงไม่ทำตามรีบบึ่งรถออกมาจากบ้านของไอวิน ไม่นานนักผมก็มาโผล่อยู่ที่ๆเดิม ซึ่งเป็นที่ๆมีความทรงจำระหว่างผมกับคนตัวเล็กอย่างมากมาย...

ผมมองขึ้นชั้นสอง ที่ตอนนี้ไฟในห้องนั้นมืดสนิทซึ่งผมคิดว่าเขาคงหลับไปแล้ว แต่สมองกลับสั่งการให้ผมหยิบโทรศัพทฺขึ้นมาและส่งข้อความหาอีกฝ่าย

": / " มันคือใบหน้าของความครึ่งๆกลางๆ ใจนึงผมก็อยากส่งหน้ายิ้มแต่อีกใจก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกไม่ดีเลยได้แต่รอ รอซึ่งไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจะตอบกลับมารึเปล่า.. และในไม่กี่วิถัดมาก็เล้นทำเอาผมเผลอยิ้มดีใจ ที่ข้อความที่ผมส่งไปถูกอ่านไปเป็นที่เรียบร้อย เราคุยกันเรื่อยเปื่อย โดยที่ผมเป็นฝ่ายตั้งคำถามส่วนเขาเป็นคนตอบ หลายครั้งที่ผมมักถามที่สิ่งที่มันยังค้างคาอยู่ในใจแต่ในอีกใจผมดันกลัวคำตอบที่จะได้จากอีกฝ่าย

"ก็ลองให้โอกาสเขาดูสิ ถ้าคนมันรักกันจริง กับแค่เรื่องเข้าใจผิดมันให้อภัยได้อยู่แล้วละ "ใช่โอกาสผมต้องโอกาสจากมัน ขอแค้ให้คนเลวๆอย่างผมได้ชดใช้กับสิ่งที่เองเคยทำไว้กับเขาได้บ้างเถอะ.หลังจากนั้นก็มีข้อความข้อความถูกส่งมาผมกดเข้าไปได้ไม่ถึงวิ แต่หน้าจอก็ดับลง...เพราะ..แบตเตอร์รี่หมด แต่ผมคงไม่นึกสงสัยอะไรอีกแล้วก็ไม่สนด้วยว่าอีกฝ่ายจะพิมพ์ตอบมาทำนองไหนรู้แต่ว่าผมต้องการ โอกาสจากเขา และผมสัญญาว่าจะทำมันให้ดีกว่าเดิม.....





[พาทของเจ]


แดดอุ่นๆในเช้าวันใหม่ทำให้ผมสะดุ้งตัวตื่น แต่แปลกที่วันนี้ผมไม่งัวเงีย คงเป็นเพราะเมื่อคืนผมได้คุยกับกายละมั้ง ถึงจะแค่ที่ปรึกษาก็เหอะ


ผมมาถึงที่ทำงานแต่เช้า ผมนั่งรถเมล์มาตัวเปล่าพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตยีนต์ตัวโปรดและเงินติดกระเป๋าอีกร้อยกว่าบาท เหตุเพรา ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ห้องไอกายมันอีกนั้นแหละ

ณ ตึก TNK...


ผมเดินขึ้นตึกมาเหมือนทุกเช้า ทุกสิ่งอย่างรอบตัวยังคงเหมือนเดิม ในเวลานี้ถ้าจะใช้ลิฟฟ์คงต้องรออีกหลายนาทีเพราะพนักงานคนอื้นๆคงรอใช้กันอยู่ผมเลยตัดปัญหาด้วยการ เดินขึ้นบรรไดแทนการใช่ลิฟฟ์ แถมยังช่วยประหยัดไฟ ถึงจะเสียเวลาไปหน่อยแต่มันก็ยังได้ออกกำลังกาย  แต่อยากรู้อะไรอีกอย่างกันมั้ยครับ...

เหนื่อยไง นี้แหละประเด็นสำคัญ..
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: thitema3 ที่ 13-02-2018 17:28:52
"อ้าวเจ มาแล้วหรอ"เสียงทักทายของพี่เกดดังขึ้นในขณะที่เท้าผมพึ่งก้าวเข้ามาไม่กี่ก้าวเอง

"ครับพี่เกด มีอะไรรึเปล่าครับ " ผมเดินไปถามใกล้ๆที่โต๊ะของพี่เกด

"ท่านประทานมีเรื่องจะคุยด้วยนะ ช่วยเข้าไปพบ เขาด้วยนะ ส่วนของที่เหลือเดียวพี่จัดการเอง"ของที่เหลือ? ผมเหล่คิ้วมองพี่เกดอย่างไม่เข้าใจ

"เอาน่าเข้าไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง"ผมพยักหน้าให้พี่เกดก่อนจะรีบเดินออกจากห้องและตรงไปที่ลิฟฟ์
เพื่อขึ้นไปหาท่านประทานของทุกคน

ก๊อกๆ ผมเคาะประตูสามครั้ง ก่อนที่จะมีเสียงอนุญาติให้เขาไปผมจึงบิดลูกบิดเข้าไปด้านใน

"เรียกมามีอะไรรึเปล่า"ด้วยที่ว่าไม่มีใครอื่นอยู่ในห้องผมเลยพูดแบบธรรมดากับมันแทน

"นั่งก่อนสิ"วันนี้มันมาแปลกแหะปกติมันต้องปั้นหน้ายักษ์ใส่ผมแล้วแต่วันนี้เหมือนมันดูแปลกๆไปนะผมว่า

ผมเดินมานั่งตามที่กายมันบอกก่อนจะจ้องมองนัยย์ตาอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

"ช่วงนี้งานเป็นไงมั้ง"แค่คำถามแรกก็ทำเอากูแปลกใจอีกแลัวร้อยวันพันปีไม่เห็นคิดถาม นี้มันเป็นอะไรของมันกันแน่เนี้ย เอ๊ะหรือกินยาแล้วลืมเขย่าขวด ?

"ก็ดี...มั้ง..คิดว่านะ"คนตรงหน้าผมได้แต่เพียงส่งยิ้มแหย่ๆเหมือนไม่รู้จะไปยังไงต่อ

"แล้ว วันนี้อะ มาทำงานยังไงมีใครมาส่งรึเปล่า"

"ก็..มาเองเหมือนทุกวันอะ"

"แล้ว..."

"กาย..."อีกฝ่ายดูชะงักในตอนทึ่ผมพูดแทรกขึ้นมา

"เอาตรงๆนะ ที่เรียกมานี้มีอะไร"มัวแต่เอ่อ อ่าๆ อยู่นั้นเห็นแล้วหงุดหงิดชะมัด

"ก็...ป่า..ป่าว"แต่ไอท่าทีตะกุกตะกักของมันนี้มันมีชัดๆ

ผมเลิ่กคิ้วท้าวคางมองอีกฝ่ายให้รู้สึกกดดัน

"ก็จะบอกว่าเดี๋ยวตอนสี่โมงให้เอากาแฟเข้ามาเสริฟ์ด้วยนะ เดี๋ยวเพื่อนแวะมา"

"เพื่อนคนไหน"ด้วยความลืมตัวผมจึงเผลอถามแบบนั้นออกไป...จนลืมไปว่า..ผมไม่มีสิทธิรู้เรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายแล้ว

"ในคณะน่ะ"แต่แปลกที่มันตอบผมแบบไม่ท้วงติงอะไรเลยสักนิด


"มีแค่นี้ใช่มั้ยงานที่จะให้ทำอะ"ผมถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ได้หงุดหงิดอะไร

"อือ..แค่นี้แหละ"พุดจบผมก็เตรียมจะลุกแต่อีกฝ่ายกับรั้งมือผมไว้

"เดี๋ยวสิ...จะรีบไปไหน"มันทำสายตาเครียจๆตอนถามผม

"กลับไปทำงานไง"ผมตอบอีกฝ่าย

"ด่วนมากหรอ" เอ้าไอนี้

"ก็งานที่ให้พิมพ์ไงจำไม่ได้หรอ"กายมันทำท่าเหม่อๆผมเลยรีบดึงมือตัวเองกลับมา

"ไม่ต้องห่วงอะแล้วก็ไม่ต้องทวงด้วยยังไงพรุ่งนี้ก็เสร็จทันแน่นอน"สงสัยคงต้องพึ่งกระทิงแดงกับแรงเย่อสักขวดสองขวดดูท่าคืนนี้ผมคงต้องนอนอยู่ที่นี้ซะแล้ว

....

แต่ความเป็นจริงคือผมหลับ หลับตั้งแต่สี่โมงยันสองทุ่ม

ไอ้ผี!!!!

ไหนละกาแฟ ไหนละนั่งพิมพ์ งาน ถถถ ไอตัวผมก็กะว่าแค่จะเอนหลังนั่งพักสายตาแต่ป่าวเลยจ้า ดันเจือกหลับยาวแถมไม่มีใครปลุกด้วย หึหึ


เรื่องกาแฟ ผมคงต้องตัดทิ้งไปเพราะคงขึ้นเอาไปให้มันไม่ทันแล้วเลยตัดสินใจนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมเพิ่มเติมคือต้องเร่งงานให้เสรฺ็จเพราะเดทไลน์ มันคือพรุ่งนี้ ว่าแล้วผมก็รีบเปิดคอมนั่งพิมพ์อยู่นานจนเข็มสั้นชี้ไปที่เลขสามนั้นแหละผมถึงทำเสร็จ


"เสร็จแล้วโว้ย!!"ผมร้องตะโกนปนคำรามออกมาด้วยความปริ่มในใจอยู่ลึกๆไอเชี้ย กูทำเสร็จได้ไงวะเนี้ย งงตัวเองอยู่เหมือนกัน


"หวังว่าคงจะไม่หาเรื่องมาแกล้งกูอีกนะ"แต่ทันใดนั้นเองสิ่งที่ผมไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้น


ฟรึ้บบบ

บรรยากาศโดยรอบมืดสนิท

"เชี้ยยยย"ที่พูดนี้ผมไม่ได้ตกใจเพราะไฟมันดับแต่คืองาน..งานกูยังไม่ได้เซฟครับ


โอ้ย... แล้วไอที่อุตส่าห์ข่มตาไม่ให้หลับนั่งพิมพ์ยิกๆนี้มันเพื่ออะไรกันฮรือ!! พูดแล้วน้ำตาก็ปริ่ม


และในตอนที่ผมกำลังนั่งบีบน้ำตาอยู่ ก็มีมือๆนึงมาจับที่บ่าของผม


ในแวปแรกคือจะกรี๊ด แต่คือผมเป็นผู้ชายไง เลยแค่สะดุ้งแล้วประคองสติบอกกับตัวเองว่ามันอาจเป็นเพียงสิ่งที่ผมจินตนาการขึ้น แต่นั่งสบัดหัวไล่ ความคิดนั้นอยู่นานไอสิ่งที่สัมผัสอยู่ที่ไหนผมมันก็ยังคงอยู่

อยากจะหันไปแต่ก็ไม่กล้า กลัวแม้งชิบหายอะในตอนนั้น


ผมพยายามนั่งหลับตาสวดบทแผ่เมตตาในใจเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นแต่มันไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย

แต่ในตอนนั้นเองที่ความกลัวทุกอย่างในหัวผมมันละลายหายไปพร้อมกับเสียงหายใจของผมที่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ


ใบหน้าของใครคนนึงถูกวางไว้ที่ไหล่ของผมพร้อมกับเสียงลมหายใจของอีกฝ่ายที่ปล่อยออกมาเหมือนกับกำลังรู้สึกโล่งใจ

"ขออยู่แบบนี้สักพักนะ"ไม่ต้องเดาให้ยาก แค่น้ำเสียงเอื่อยๆของมันก็ทำให้ผมรู้ได้ว่าเจ้าของเสียงนี้ คือใคร

ผมได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าขยับหรือแม้แต่จังหว่ะที่จะถอนหายใจผมยังทำได้ยากเลย

ผมจำได้ว่าครั้งนึงมันเคยบอกกับผมว่ามันกลัวความมืดแต่ในวันนี้ ผมกลับสัมผัสไม่ได้ถึงสิ่งนั้นเลย


"กา..ยคือ..ปล่อยก่อนได้มั้ย.."ที่บอกไม่ใช่เพราะผมเขินอายแต่คือกูจะตายครับไอห่า หายใจไม่ทั่วท้องแล้วเนี้ย

อีกฝ่ายส่ายหน้าไปมา นั้นหมายถึงมันไม่อนุญาติให้ผมขยับหนีไปไหนเลยต้องจำยอม นั่งให้มันเอาหน้าพิงไหล่แบบนั้นอยู่นานจนอีกฝ่ายยอมถอน หน้าของมันออกก่อนจะหมุ่นเก้าอี้ตัวที่ผมกำลังนั่งให้หันไปประจันหน้ากับอีกฝ่าย


แม้ทั่งบริเวณภายในห้องจะมืด แต่แสงไฟจากตึกข้างๆก็ยังมีเล็ดลอดเข้ามาบ้าง แสงไฟน้อยๆช่วยให้ผมสามารถมองเห็นดวงตาของอีกฝ่าย ได้แม้รอบข้างจะมืดสนิท

ริมฝีปากที่บางได้รูปกับสีแดงอ่อนๆยังทำให้ผมใจสั่นได้เสมอในยามที่มอง จมูกที่คมและโด่งเป็นสันยังคงดูดีเมื่ออยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย ทรงผม ที่ผมเคยบอกชอบให้มันตัด รอยยิ้ม ของมันยังคงเป็นสิ่งที่ผมแพ้ทางอยู่เสมอ


ผมโอนเอนหน้าเข้าหาอีกฝ่ายอย่างห้ามไม่ได้ หน้าผากและจมูกของเราสัมผัสกันนัวเนียอยู่อย่างนั้นจนอีกฝ่ายเริ่มขยับมือมาจับที่ใบหน้าของผมพร้อมกับแรงกดที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายที่จู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว

ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายกำลังหยอกล้อกับริมฝีปากของผมอย่างนึกสนุก

เราจูบกันแบบนั้นอย่างเนิ่นนานจนอีกฝ่ายยอมผละหน้าออกนั้นแหละ ผมถึงดึงสติตัวเองกลับมาได้...


ผมไม่รูัว่าที่มันทำแบบนี้เพราะต้องการทดสอบอะไรรึเปล่า



แต่สิ่งนึงที่รู้แน่ชัดเลย. คือ ความสุข



ผม สัมผัสได้และมีความสุข ทุกครั้ง ที่มี มันอยู่ข้างๆ 

ไม่ว่าจะสถานะอะไรก็ตาม....


.................


TBC........

ว้าวๆ เป็นยังไงกันบ้างครับ หายไปนานเลย คือจะมาบอกว่าจริงๆมีพอตต่ออีกสองสามประโยคแต่คือกลัวีนจะยาวเกินไปเลยตัดมาเหลือแค่นี้

- แล้วก็อีกเรื่องที่จะบอกคือ เหลืออีกแค่สองตอนก็จะจบแล้วนะครับ ขอโทษด้วยที่หายไปนาน

- อาจจะมีตอนพิเศษเพิ่มขึ้นมา(ยังไม่ชัวร์). ต้องรอติดตามดูนะครับ


- เดือนนี้ก็เป็นเดือนแห่วความรักเน้อ ใครมีคู่ก็ขอให้รักกันนานๆ ส่วนใครที่โสดก็ขอให้ ได้พบเนื้อคู่ของตัวเองไวๆนะครับ  : ]

หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 13-02-2018 18:31:30
 o13
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-02-2018 18:39:27
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: 〖New!〗Falling in ✓♥ หลุมพรางหัวใจ ของนายหน้านิ่ง Chapter:53〖13/02/61〗
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 08-08-2018 23:45:34
 :a5: