พิมพ์หน้านี้ - เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ภัคD ที่ 24-07-2012 17:58:15

หัวข้อ: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 24-07-2012 17:58:15
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


**************************

เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 1

เด็กชายพระอาทิตย์

โลกนี้มีแต่เรื่องที่ผมไม่เข้าใจอยู่เต็มไปหมด...ทั้งเรื่องที่ผมว่ามันยากแต่คนอื่นว่าง่าย...เรื่องที่ผมว่าง๊ายง่ายแต่คนอื่นกลับว่ามันยาก...เรื่องเล็ก เรื่องเล็กกว่าแล้วก็เรื่องใหญ่ๆ...เรื่องไกลตัวแล้วก็เรื่องใกล้ตัว...อย่างชื่อของผมไง!

ตั้งแต่เด็ก ใครๆก็เรียกผมว่าตะวัน...ผมรู้ว่าตัวเองชื่อตะวันก่อนที่จะรู้ซะอีกว่าตะวันน่ะแปลว่าอะไร...

ตะวันแปลว่าพระอาทิตย์... และพระอาทิตย์ในโลกนี้ก็มีอยู่แค่ดวงเดียว ผมพยายามถามใครๆว่าทำไมต้องเรียกพระอาทิตย์ว่าตะวัน  แล้วทำไมผมไม่ชื่อพระอาทิตย์ ทำไมทุกคนต้องทำเรื่องง่ายๆให้เป็นเรื่องยากๆ... เรื่องเล็กๆให้เป็นเรื่องใหญ่ๆ...เรื่องๆเดียวให้เป็นสองเรื่อง...ชื่อเดียวให้เป็นสองชื่อ...ทำไมต้องตั้งชื่อเล่นให้พระอาทิตย์ว่าตะวัน...แล้วพระอาทิตย์มันรู้หรือเปล่าว่าตัวเองชื่อตะวัน...แล้วถ้ามันรู้ มันชอบหรือเปล่า...มันอาจจะสงสัยเหมือนที่ผมสงสัย...ทำไมมันไม่ชื่อตะวันเหมือนที่ผมสงสัยว่าทำไมตัวเองไม่ชื่อพระอาทิตย์

“มันเป็นสุนทรีย์ทางภาษา!”ไม่ว่าจะถามพ่อกี่ครั้ง พ่อก็บอกผมอย่างนั้น ผมไม่ได้ถามอะไรพ่อต่อ เพราะตอนนั้นผมไม่รู้ว่า...สุนทรีย์...ที่พ่อว่าน่ะ มันคืออะไร...

“เป็นความงามทางอารมณ์!”ส่วนแม่ผมบอกแต่อย่างนี้...ผมไม่ได้ถามอะไรแม่ต่อเหมือนกัน ก็ผมรู้จักแต่...อารมณ์ดีกับอารมณ์เสีย...เวลาแม่ยิ้มแปลว่าแม่อารมณ์ดี เวลาแม่ไม่ยิ้มก็แปลว่าแม่อารมณ์เสีย...

“แล้วทำไมตะวันชื่อตะวัน?”ผมเปลี่ยนคำถาม เมื่อสองคำตอบที่ได้ฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ

“ก็ตอนตะวันเกิด พระอาทิตย์อยู่เหนือหัวพอดี...”แม่บอก...นั่นไง! แม่ยังเรียกว่าพระอาทิตย์เลย แล้วทำไมมาตั้งชื่อผมว่าตะวัน!

“แล้วทำไมตะวันไม่ชื่อพระอาทิตย์?...แต่ น้าโอ๋บอกว่า ตอนตะวันเกิด ฟ้าดำปี๋เหมือนขี้จิ้งจก...พระอาทิตย์นอนหลับอุตุ...”ผมถามก่อนนึกได้อีกอย่าง แต่ผมพูดได้เท่านั้น แล้วแม่ก็จุ๊บปากผมเบาๆ...ผมทำปากจู๋อีกแล้ว แม่เลยจุ๊บปากผม ใครๆชอบหัวเราะเวลาผมทำปากจู๋  แม่ก็หัวเราะแต่แม่จะหัวเราะแล้วก็จุ๊บปากผมหนึ่งที ให้ผมรู้ว่า ปากผมกำลังจู๋...

“พระอาทิตย์นอนอุตุ...”ผมพูดใหม่ ไม่ให้ปากตัวเองจู๋

“...ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น”

“ไร้สุนทรีย์ทางภาษา!”พ่อว่างั๊น

“ไร้ความงามทางอารมณ์!”ส่วนแม่ว่างี๊ 

“หรือตะวันอยากชื่อขี้จิ้งจก?”แม่บีบแก้มผม ถามแล้วก็หัวเราะ

ผมรีบส่ายหัวไม่อยากชื่อขี้จิ้งจก

“แล้วทำไมตะวันไม่ชื่อพระอาทิตย์?”ผมถาม แก้มยังติดอยู่ที่นิ้วแม่

“ตะวันอยากชื่อพระอาทิตย์เหรอ?”แม่ถาม และผมกำลังจะส่ายหัวอีกทีก่อนจะนึกได้ว่าชื่อพระอาทิตย์ก็น่าจะดี

ผมหลับตาลองนึกว่า ถ้าแม่แล้วก็พ่อแล้วก็น้าโอ๋กับน้าเจดเรียกผมว่าพระอาทิตย์จะเป็นยังไง...

ผมหลับตาแล้วก็คิด

แม่เรียกผมว่าพระอาทิตย์...พระอาทิตย์ตื่นได้แล้ว ฉี่รดที่นอนอีกแล้ว!...
พ่อก็เรียกผมพระอาทิตย์...พระอาทิตย์เอาสีของพ่อไปไว้ไหน?!
น้าโอ๋ก็เรียกผมว่าพระอาทิตย์...พระอาทิตย์ ฟังน้าพูดหรือเปล่า?!...
น้าเจดก็เรียกผมว่าพระอาทิตย์...พระอาทิตย์ เด็กดีต้องฟังที่แม่พูด เข้าใจไหม?

แล้วผมก็ลืมตา จะบอกพ่อกับแม่ว่า ผมจะชื่อพระอาทิตย์..แต่แม่กับพ่อไม่ได้ยืนอยู่กับผมแล้ว

ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับตาไปนานเท่าไหร่ ผมเลยมองดูนาฬิกาบนฝาผนังบ้าน...ผมมองดูนาฬิกาเพราะใครๆก็มองดูนาฬิกาเวลาอยากรู้เวลา...ผมเลยมองดูนาฬิกาบ้าง...นาฬิกามีเข็มกับตัวเลข ที่ผมไม่รู้จักสักกะตัว...ผมเลยเลิกมองนาฬิกา เปลี่ยนมามองรอบๆตัว...แต่ก็ไม่มีใครยกเว้นจิ้งจกสองตัวบนเพดาน...

ผมกำลังจะตะโกนเรียกว่าใช่พ่อกับแม่หรือเปล่า แต่ก็นึกได้ ถ้าพ่อกับแม่ปลอมตัวเป็นจิ้งจก แม่กับพ่อต้องไม่อยากให้ผมจำได้แน่ๆ ผมเลยแกล้งทำไม่รู้  เดินออกจากบ้านปั่นจักรยานไปบ้านน้าโอ๋...

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนเรียกน้าโอ๋ตอนปีนขึ้นจักรยานที่น้าเจดเพิ่งซื้อให้

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนเรียกน้าโอ๋ตอนที่เริ่มปั่นจักรยาน

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนเรียกน้าโอ๋ตอนที่ปั่นจักรยานชนประตูเล็กๆที่กั้นระหว่างบ้านน้าโอ๋กับบ้านผม...มันเปิดแค่นิดเดียวแล้วก็ปิดกลับมาเหมือนเดิม

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนเรียกน้าโอ๋ตอนเอาเท้าถีบพื้นให้จักรยานมันถอยกลับ

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนเรียกน้าโอ๋แล้วก็ปั่นจักรยานชนประตูเต็มแรง...มันดีดเปิดแล้วผมก็รีบปั่น

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนเรียกน้าโอ๋อีกตอนที่ประตูมันกำลังจะปิดกลับมา ผมนึกเห็นภาพตัวเองกับจักรยานโดนหนีบคู่กันอยู่ตรงประตู...

“น้าโอ๋!”ผมตะโกนแล้วประตูมันก็หยุดกึก พร้อมน้าโอ๋ที่ยืนมองผม มือหนึ่งจับประตูอีกมือก็เท้าสะเอว...

“ก็ทำไมไม่ใช้มือเปิดเล่า?”น้าโอ๋ถามแล้วดึงประตูเปิดกว้างๆให้ผมปั่นจักรยานเข้าไป

“มือตะวันจับจักรยานอยู่”ผมตอบ ปั่นจักรยานต่อโดยมีน้าโอ๋เดินตามมา

“น้าโอ๋!”ผมเรียกน้าโอ๋ เพราะล้อจักรยานมันติดหลุมแล้วผมก็ปั่นมันไปไม่ได้ น้าโอ๋ถอนหายใจก่อนยกท้ายจักรยานขึ้นจากหลุมให้แล้วผมก็ปั่นต่อ แล้วน้าโอ๋ก็เดินตาม

“แล้วนี่ยังไม่นอนหรือเพิ่งตื่น”

“ตื่นแล้วตะวันก็ไปหาพระอาทิตย์มา”

“เจอไหม?”น้าโอ๋ถามและผมส่ายหัว 

“พ่อกับแม่ล่ะ?”น้าโอ๋ถามตอนผมปีนลงจักรยาน

“เป็นจิ้งจกอยู่”ผมตอบ แล้วก็วิ่งเข้าไปในบ้านน้าโอ๋

“วันนี้ตะวันยังไม่ได้กินปีโป้”ผมบอกน้าโอ๋ก่อนปีนขึ้นเก้าอี้ แล้วก็มองน้าโอ๋เดินไปหยิบชามแล้วก็เปิดตู้เย็น

“ตะวันขอหนึ่งอัน...”ผมบอกชูนิ้วให้น้าโอ๋ดู

“น้าให้หนึ่งอันอยู่แล้ว แล้วที่ตะวันชูน่ะ มันสองนิ้ว..”

“...นี่ หนึ่ง...แล้วก็นี่สอง...”น้าโอ๋บอกแล้วก็จับนิ้วของผมทีละนิ้ว

น้าโอ๋บีบปีโป้ใส่ชาม...สีแดงอันเดียวเอง...

“ขอสองอันนะน้าโอ๋? ตะวันอยากได้สีเขียว...”ผมบอกชูนิ้วให้น้าโอ๋ดูอีกรอบ

“สองอันก็ได้ แต่ที่ตะวันชูน่ะมันแค่นิ้วเดียว!”

น้าโอ๋ว่างั๊นแล้วก็บีบปีโป้สีเขียวใส่ชามให้ผมอีกอัน พร้อมน้ำแข็งก้อนเล็กๆแล้วก็น้ำหวานเป็นสีๆ

“น้าโอ๋ ทำไมตะวันชื่อตะวัน?”ผมถามแล้วก็ตักปีโป้เข้าปาก แต่มัวแต่มองดูน้าโอ๋ ปีโป้เลยไม่เข้าปาก มันเข้าแค่ที่ข้างปากแล้วก็หล่นลงไปในชาม

“ก็แม่ตั้งให้”น้าโอ๋ตอบแล้วก็เอาผ้าเช็ดปากให้ผม

“น้าดาบอกว่าตะวันเป็นพระอาทิตย์ ทำไมตะวันไม่ชื่อพระอาทิตย์”ผมตักปีโป้เข้าปาก

“ก็จะชื่อพระอาทิตย์ทำไมล่ะ?”น้าโอ๋ตอบหรือเปล่าก็ไม่รู้...

“คายออกมาทำไม?!”แต่คราวนี้น้าโอ๋ถาม เสียงสูงจนเกือบถึงเพดาน ตอนผมคายปีโป้จากปากใส่ลงในถ้วย

“ตะวันกลัวมันหมด...”ผมตอบ เอาช้อนเขี่ยปีโป้ก่อนตักกลับเข้าไปในปาก...

“ห้ามคายออกมาเชียวนะ!”น้าโอ๋สั่ง ตอนผมกำลังคายปีโป้ออกจากปากอีกครั้ง

ผมมองน้าโอ๋ แล้วก็มองชามที่เหลือแต่น้ำแข็งกับน้ำหวาน...ถ้าไม่คาย ปีโป้ของผมก็หมด...

“บอกว่าอย่าคาย!”น้าโอ๋เท้าสะเอว ยกมือขึ้นให้ผมรู้ว่า ถ้าไม่ฟัง น้าโอ๋ก็จะตี

“อมก็ไม่ได้ กลืนลงไปเดี๋ยวนี้!”พอผมไม่คาย แต่เลือกเก็บปีโป้อันสุดท้ายไว้ในปาก น้าโอ๋ก็สั่งให้กลืนอีก ผมเลยต้องกลืน...ชามปีโป้ของผมเลยเหลือแต่น้ำแข็งกับน้ำหวาน

“ตะวันขออีกอันนะ”ผมขอปีโป้แล้วก็ชูนิ้วให้น้าโอ๋ดู

“ขอแค่อัน แต่นิ้วตะวันน่ะมันสองนิ้ว!”

“สองอันก็ได้...”

“สองอัน แล้วที่ชูน่ะมันกี่นิ้ว?”

“ชูนิ้วให้ถูกแล้วน้าถึงจะให้...จะเอากี่อัน?”น้าโอ๋ถามแล้วผมก็นั่งมองนิ้วของตัวเอง

“เอาห้าอัน”ผมตอบแล้วก็ชูนิ้วให้น้าโอ๋ดูใหม่

น้าโอ๋เท้าสะเอว...แล้วก็มองผม...

“ถูกหรือเปล่าน้าโอ๋?”ผมถามเพราะตั้งนานแล้ว น้าโอ๋ก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่ท้าสะเอวแล้วก็มองผม

“ถูก!...”น้าโอ๋บอกก่อนบีบปีโป้ใส่ถ้วยให้ผม

“น้าเจดบอกว่า...ตะวันหัวเราะฮ่า ฮ่า ฮ่า...ตะวันจำได้...”ผมบอก ชูมือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ให้น้าโอ๋ดูอย่างที่น้าเจดสอน

“น้าโอ๋...ตะวันจะชื่อพระอาทิตย์”ผมนึกได้เลยบอกน้าโอ๋

“น้าโอ๋เรียกตะวันว่าพระอาทิตย์นะ ...ตะวันไม่ชื่อตะวันแล้ว”

“ปีโป้ถ้วยนี้ของใครเอ่ย?”น้าโอ๋ถาม คราวนี้ในชามมีปีโป้ตั้งหลายสี

“ของตะวัน!”ผมบอกแล้วก็ยกมือ

“ของใครนะ น้าไม่ได้ยิน?”

“ของตะวัน”ผมตะโกนดังขึ้นอีก ปีนขึ้นเก้าอี้ แต่น้าโอ๋ก็ยกชามสูงขึ้นไปอีก

“ฟังไม่ชัด...พูดดังๆ!”

“ของตะวัน!”ผมตะโกนสุดเสียง

“อ้าว! แล้วพระอาทิตย์หายไปไหนแล้วน้า?”น้าโอ๋ถามแล้วก็วางชามปีโป้ให้ผม

“พระอาทิตย์อยู่บนฟ้า...”ผมบอกแล้วน้าโอ๋ก็หัวเราะ

“ตะวันอยากมีน้องไหม?”น้าโอ๋ถามตอนผมกำลังกินปีโป้สีเหลือง ผมเลยส่ายหัวเพราะผมอยากได้ปีโป้มากกว่า

“ความลับนะ ห้ามบอกใคร น้าจะมีน้องให้ตะวัน”

“น้องตัวเล็กๆ เหมือนน้องฟ้าน้องพี่นพไง ตะวันอยากได้ไหม?”น้าโอ๋ถาม คราวนี้ผมพยักหน้า

“ตะวันห้ามบอกใครนะ...ความลับ!”น้าโอ๋บอกแล้วผมก็พยักหน้าอีก

“ตะวันอยู่นี่หรือเปล่า?!”เสียงแม่เรียก  ผมเลยรีบตักปีโป้ในชามเข้าปากก่อนปีนลงเก้าอี้แล้ววิ่งไปหาแม่

“แม่!...ตะวันมีความลับ...”ผมตะโกนบอกแม่ แล้วก็ได้ยินเสียงน้าโอ๋เรียก

“ตะวันจะมีน้อง!”ผมบอกแม่ ตอนที่แม่อุ้มผมขึ้น

“เหรอ? ทำไมพ่อไม่รู้ล่ะ?”พ่อถามแล้วก็มองแม่

“นั่นสิ ทำไมแม่ไม่ยักรู้!”แม่บอกแล้วก็หันไปมองพ่อ แล้วแม่ก็ส่งผมให้พ่ออุ้ม

“น้าโอ๋รู้...น้าโอ๋บอกตะวัน...”ผมบอกพ่อ

“ไอ้ตะวัน!”น้าโอ๋เรียกผมอีกแล้ว แต่พอผมหันไปน้าโอ๋ก็ไม่พูดอะไร พูดแต่กับแม่กับพ่อ พูดกันเสียงดัง...แล้วก็หัวเราะ

น้าโอ๋เปิดการ์ตูนให้ผมดู...ผมก็นอนดูแล้วก็หลับ ตื่นอีกครั้งก็ตอนได้ยินเสียงรถน้าเจด

“น้าเจด...ตะวันมีความลับ!”ผมนึกได้ กระโดดลงจากเก้าอี้แล้วก็วิ่งไปหาน้าเจด พ่อกับแม่กับน้าโอ๋เรียกผมแล้วก็วิ่งตาม

“น้าเจด ตะวันมีความลับ...”ผมบอกตอนน้าเจดอุ้มผมขึ้น

“ตะวันจะมีน้อง...”แล้วน้าเจดก็จับผมโยน พอตกลงมา ผมก็ห้อยอยู่ที่เอวน้าเจด

“ไม่ใช่ชั้น!”เสียงแม่พูด แต่ผมไม่เห็นแม่ เห็นก็แต่พื้น ผมเลยกางมือเป็นนกบินอยู่ที่เอวน้าเจด

“ไอ้ตะวัน... ก็บอกว่าความลับ!”แล้วก็เสียงน้าโอ๋

“ความลับแปลว่าอะไรตะวัน?”น้าเจดถาม แล้วผมก็ส่ายหัว

“ความลับแปลว่าห้ามบอกใคร!”น้าโอ๋บอก

“ตะวันไม่บอกใคร...”

“ไม่บอกคนเดียวน่ะสิ!”น้าโอ๋พูด

“แล้วนี่ตกลงจะไม่ดีใจใช่ไหม?!”แล้วน้าโอ๋ก็พูดอีก

“อ้าว!...ลืม โทษที...”น้าเจดพูดแล้วก็หัวเราะ

ผมยังเป็นนกบินอยู่ที่เอวของน้าเจด ตอนน้าเจดเดินเข้าไปในบ้าน...

แล้วแม่กับพ่อกับน้าโอ๋แล้วก็น้าเจดอีกคน ก็คุยกันแล้วก็หัวเราะ...

แม่กินข้าวไปแล้วก็ป้อนข้าวให้ผมด้วย  แล้วน้าโอ๋ก็อาบน้ำให้ผม...น้าเจดนั่งที่เก้าอี้แล้วก็เอาผมมานั่งกอดแล้วพ่อก็เปิดการ์ตูนเรื่องใหม่ให้ผมดู...แล้วผมก็นอนหลับอยู่บนตักของน้าเจด...


จบ...เด็กชายพระอาทิตย์









หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 24-07-2012 18:01:37
กรี๊ดดดดดดดดด. ตะวันนของเจ๊มาแล้ววววววววว
เจิ่มมมม ค่ะ คุณภัคD
+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 24-07-2012 18:01:51
ดีใจ T T   :mc4: อ่านแล้วนึกถึงตอนแรกของตะวันฉาย เรื่องราวของสองพี่น้อง
บวกหนึ่งค่าาา  :pig2:


หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 24-07-2012 18:11:28
ขอบคุณค่ะคุณภักD
 :oni1:  ดีจายหลายเด้อ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 24-07-2012 18:16:31
....นี่แหละเด็ก และความคิดแบบเด็กๆๆของเด็กชายพระอาทิตย์
....ขอบคุณมากๆๆพี่อ่านไป แล้วต้องนั่งคิดไปด้วยว่ามันหมายความว่าอะไร
....คิดตามคำพูดของตะวัน เออ เก๋ไปอีกแบบ ส่วนมากอ่านแล้วจะไม่ต้องมานั่งตีความ ขอบคุณมากๆๆที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านและคิด :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 24-07-2012 18:22:07
 :impress3:

ดีใจมากค่ะ เรียกว่าปลาบปลื้มเลยก็ได้ ในที่สุดคุณภักดีก็เอามาลง ไม่มีคำพูดใดที่มีความหมายมากกว่าคำว่า ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: JChloe ที่ 24-07-2012 18:23:52
คิดถึงสำนวนของคุณ ภัคD จังเลยค่ะ มาต่ออีกบ่อยๆ นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: fffx ที่ 24-07-2012 18:30:55
เหมือนข้างบนเลย คิดถึงคุณภัค D  ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ตะวันกับน้าโอ๋ฮามาก ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: หลงไหลในม่านหมอก ที่ 24-07-2012 18:46:03
คิดถึงตะวันอะ แต่ ๆ ๆ เอาเด็กข้างบ้านมีบทเยอะ ๆหน่อย เดี๋ยวจ่ายค่าตัวเอง ฮ่า

ขอบคุณนะคะคุณภัคD
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 24-07-2012 18:57:16
เข้ามาเพราชื่อคนแต่ง
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 24-07-2012 19:10:15
เด็กชายตะวันน่ารักดี  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 24-07-2012 19:57:10
ตะวันกลับมาแล้ว รอติดตามต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: yolp ที่ 24-07-2012 20:01:01
ขอบคุณมากๆนะคะ อยากอ่านมากเลย
บังเอิญมากเพราะวันนี้นั่งๆอยู่ก็อยากอ่านเด็กชายตะวันฉายขึ้นมา อ่านจบปุ๊บ ตกใจเลยเห็นพี่ตะวันมาลง 555
ดีใจจริงๆ ถึงกับกรี๊ดเลย

ตอนแรกเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหลังจากตอนจบของตะวันฉายฯ สรุปเป็นเรื่องตอนเด็กในมุมมองของตะวันรึเปล่าน้า
รอติดตามต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-07-2012 20:13:41
เด็กชายตะวันช่างน่ารักน่าหยิกซะจริง ๆ อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 24-07-2012 20:35:53
ตะวันน่าร้ากกกก

ดีใจจังได้อ่านงานเขียนของคุณภัคD ชอบมากกกกก
 :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: vassalord4822 ที่ 24-07-2012 21:09:41
มาแล้วววววววววววววว รอมานาน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: Kalamall ที่ 24-07-2012 21:33:18
โอ้ยยยยยยตะวัน  :กอด1:  มาซะน่ารักเลย แอบฮาตลอด  :กอด1:

 :monkeysad: เค้ากดดันตัวเองรอ อกมันกลัดหนองคิดถึงเด็กชายข้างบ้านตะวัน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 24-07-2012 22:10:40
พี่ตะวัน ของน้องตะวันฉาย
คิดถึง :man1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: nuewanda ที่ 24-07-2012 22:16:54
ไม่คิด ไม่ฝันว่าจะได้อ่านเรื่องนี้จริงๆ
เคยได้ยินเสียงลือ เสียงเล่าอ้าง ว่ามีอีกเรื่องเคียงคู่กะเรื่องของฉาย ยังจำได้แม่นเลยว่า ชื่อ "เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันกลางวันของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เคารพบ้านใกล้ๆ"
หามานาน รอมานาน ได้อ่านแล้ว เย้  :mc4:
ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :กอด1:

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 25-07-2012 00:13:44
 :mc4:
ตามมาอย่างรวดเร็ว

พี่ตะวัน เอ๊ะ ตอนนี้ต้องเป็นเด็กชายตะวันก่อน
ทำไมตอนเด็กน่ารักอย่างนี้ อร๊ายยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 25-07-2012 00:39:40
โอ๊ยยยยย

พูดไม่ออก

ดีใจอะ

พี่ตะวันมาแล้วววววว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 25-07-2012 00:49:37
รอๆๆๆจ้า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: tw.smile ที่ 25-07-2012 01:07:17
เด็กชายตะวัน ,, และการกลับมาอีกครั้งของพี่ภัคD

; D

ไม่มีอะไรจะพูด มาลงชื่อเป็นหนึ่งในปวศ.ของนิยายยอดเยี่ยมล่วงหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: Millet ที่ 25-07-2012 05:23:26
ลงชื่อ อีกคน คิดถึงสำนวนคุณ ภัคD ^^

รอน้องตะวันตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-07-2012 05:50:58
เข้ามาต้อนรับนิยายในดวงใจอีกเรื่อง

ปล.ตอนนี้คุณภัคD. กำลัง reprint. เรื่อง.หรือจะฯ. กับ. เด็กชายตะวันฉายฯ. รายละเอียดดูได้ในห้องพูดคุย หรือเพจคุณภัคD ค่า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 25-07-2012 07:59:20
ตะวันน่ารักจัง  :impress2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 25-07-2012 08:52:30
เข้ามาเป็นแฟนคลับอีกคน เด็กชายตะวันน่ารักมากค่ะ :-[

ชอบมาตั้งแต่เรื่อง เด็กชายตะวันฉายฯแล้วอ่ะ :m1:

คงต้องกลับไปอ่านอีกครั้งคิดถึงแล้วซิ :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 25-07-2012 09:31:11
กรี๊ดดดดดดดดด เห็นชื่อแล้วไม่อยากจะเชื่อ  :mc4:

ขอบคุณสำหรับการกลับมาค่ะ คุณภัคD
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 25-07-2012 15:25:09
 :impress2: :impress2: ตะวันคัมแบ็ค  กรี๊ดดดดดดดดดด  เด็กชายตะวันน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกน่ากอดดดดดดดดดดดด  :man1: :man1:


love love คุณภักD  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 25-07-2012 15:48:22
ว้าว เรื่องของตะวันหรือเนี่ย เห็นชื่อบุ๊ป รีบดูคนแต่งปั๊บ เห็นเป็นคุณภัคDก็รีบเข้ามาอ่านเลย
ดีใจที่ได้อ่านนะค่ะ
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#1
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 25-07-2012 16:57:55
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 2

เด็กโง่ชื่อตะวัน


พระอาทิตย์น่ะมีชื่อเล่นว่าตะวัน...ฉายมีชื่อจริงว่าตะวันฉาย...ใครๆก็มีชื่อเล่นกับชื่อจริง แต่ใครก็เรียกผมแค่ว่า ตะวัน...แม่ก็เรียกตะวัน...พ่อก็เรียกตะวัน น้าโอ๋น้าเจดก็เรียกตะวัน...แต่ครั้งนึงผมก็มีชื่อเล่น...ชื่อเล่นของผมไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นชื่อจริงยาว ชื่อเล่นสั้น...แต่ชื่อจริงผมสั้น ชื่อเล่นผมยาว...

...ตะวันดับ...เพื่อนๆเรียกผมอย่างนั้น ตอนที่รู้ว่าฉายเป็นน้องชายของผม...

...หัดทำตัวเหมือนน้องเธอซะบ้าง!...ส่วนครูก็พูดกับผมแบบนี้ ตอนที่รู้ว่าฉายเป็นน้องชายของผม

“ตะวันอยากมีน้องไหม?”น้าโอ๋เคยถาม และตอนนั้นผมบอกว่าอยากเพราะผมอยากมีน้องตัวเล็กๆ...

แต่ที่โรงเรียน...ผมไม่อยากมีน้อง...เพราะทุกครั้งที่ฉายขึ้นไปรับกระดาษขาวๆแค่หนึ่งแผ่นบนเวที เพื่อนๆก็จะหันมามองผมแล้วก็หัวเราะ...ครูก็หัวเราะ..

แม่เคยบอกว่า คนเราโง่เพิ่มขึ้นทุกปี ไม่โง่ปีนี้ก็ต้องโง่ปีหน้า...ผมอยากให้ฉายโง่เร็วๆ...แต่ฉายก็ไม่ยอม

ฉาย...น้องชายของผมแต่เป็นลูกของน้าโอ๋ไม่ใช่ลูกของแม่ เป็นเด็กฉลาด ใครๆก็ว่าอย่างนั้น ใครพูดอะไร สอนอะไรฉายก็จะบอกว่า...ฉายรู้...ฉายเข้าใจ...

“จ้า พ่อเด็กชายรอบรู้!”น้าโอ๋เคยเรียกฉายอย่างนั้น แต่ก็มีครั้งหนึ่งเหมือนกัน ที่ฉายยอมพูดคำว่า...ไม่เข้าใจ...

“ทำไมเขาไม่ออกข้อสอบให้มันยากกว่านี้นะ ฉายไม่เข้าใจเลย”น้าโอ๋เล่าว่าฉายบ่นอย่างนี้ตอนน้าโอ๋นั่งดูสมุดพกที่มีเลขสี่เรียงเป็นตับของฉาย...ส่วนสมุดพกของผมครูไม่ให้ เพราะผมสอบไม่ผ่านสักกะตัว

“ศิลปะก็ตกเหรอคะ?”น้าโอ๋ถามครูตอนพาผมไปรับสมุดพก

“ตกค่ะ”ครูตอบ

“แต่ตะวันชอบศิลปะ?”

“แต่ตะวันไม่ยอมวาดรูปที่ครูให้วาดค่ะ”

น้าโอ๋กับแม่กับครูสนิทกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่ครูชอบเรียกแม่มาหาครูบ่อยๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมยังไม่รู้ว่าทำไมแม่ต้องมาหาครู จนผมรู้ว่าแม่มาหาครูทำไม และทุกครั้งน้าโอ๋หรือไม่ก็น้าเจดก็จะมาด้วย

ครูเรียกแม่มาหาบ่อยๆ ด้วยหลายๆเหตุผล...เหตุผลที่บางทีน้าโอ๋ก็บอกว่าเข้าท่า กับอีกบางเหตุผลน้าโอ๋ว่าไม่เข้าที...อย่างที่ครั้งหนึ่งครูเรียกแม่มาพบเพราะผมบอกว่าครูไม่สวย...

“ทำไมเธอไม่ฉลาดเหมือนน้องชายเธอบ้างฮึ?!”ครูถามผมตอนเช้า แล้วแม่กับน้าโอ๋ก็มาหาครูตอนบ่าย

“เด็กก้าวร้าวค่ะ ทางโรงเรียนจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เพราะการอบรมเด็กเป็นเรื่องที่ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย!”ครูบอกน้าโอ๋กับแม่

“ก้าวร้าว?”น้าโอ๋ทำหน้างงๆ...ผมก็งง เพราะตอนนั้นเพิ่งป.6 ยังไม่รู้เลยว่าก้าวร้าวแปลว่าอะไร

“เดี๋ยวดิฉันจะเอาจดหมายให้คุณแม่เซ็นรับทราบความประพฤตินะคะ”ครูบอกแล้วก็เดินออกไปจากห้อง

“ตะวันทำอะไร ทำไมครูว่าตะวันอย่างนั้นล่ะ?”น้าโอ๋หันมาถามผม

“ตะวันบอกครูว่า ทีครูก็ไม่เห็นสวยเหมือนครูอ้อยเลย”ผมบอก

“จริงสิ?”น้าโอ๋ทำตาโต ถามเสียงสูงปี๊ด ผมก็พยักหน้า

“ตะวันว่าครูอ้อยสวยกว่าครูเจี๊ยบจริงๆเหรอ?”น้าโอ๋ถามย้ำ ตายังไม่เลิกโตเลย ผมก็พยักหน้าอีกหน

“ทำไมเหรอ?”แม่หันมาถามน้าโอ๋

“ครูอ้อยก็คนที่อ้วนๆ เตี้ยๆไง  ครูประจำชั้นไอ้ตะวันตอนป.4...ใช่ไหมตะวัน?”น้าโอ๋บอกแม่ก่อนหันมาถามผม ผมก็พยักหน้าว่าใช่อีก แต่แม่ยังทำหน้านึกไม่ออก

“ตะวันว่าครูอ้อยสวยจริงๆเหรอ?”น้าโอ๋ถามผมอีก ผมก็พยักหน้าอีก

“จริงสิ?”น้าโอ๋ถาม

“จริงสิ!”ผมตอบ

“ตอนเด็กๆเวลาตะวันฉี่รดที่โรงเรียน ครูอ้อยเป็นคนพาตะวันไปอาบน้ำ”ผมเล่าให้แม่กับน้าโอ๋ฟัง

“อ๋อ...แบบนั้นเขาเรียกน่ารัก ไม่ใช่สวย...”น้าโอ๋บอกพยักหงึกๆว่าเข้าใจและเห็นด้วยกับผม

“เขาเรียกว่า คนจะงาม งามน้ำใจใช่ใบหน้า...แล้วก็หุ่น”แม่บอก

ครูอ้อยเป็นครูประจำชั้นผมตอนป.4...แต่ก่อนหน้านั้นเวลาฉี่รดที่โรงเรียนทีไร ครูอ้อยจะเป็นคนพาผมไปอาบน้ำแล้วก็ใส่เสื้อผ้าให้ผมใหม่...ผมจำได้...ครูคนอื่นๆดุผม แต่ครูอ้อยจะอาบน้ำแล้วก็ปะแป้งให้...

ครูอ้อยเหมือนน้าโอ๋ เหมือนแม่ เหมือนพ่อแล้วก็เหมือนน้าเจดด้วย...ตอนป.4..เลย.เป็นปีเดียวที่ผมชอบไปโรงเรียน เพราะครูอ้อยเป็นครูประจำชั้น...

กว่าผมจะเรียนจบ น้าโอ๋บ่นว่าหมดค่าปากกาเซ็นรับทราบไปหลายแท่ง...แต่น้าโอ๋บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเอากระดาษประกาศสารพัดเกียติคุณของฉายไปชั่งกิโลขายก็ได้ปากกามาเซ็นจดหมายรับทราบให้ผมพอดี

ผมไม่ชอบไปโรงเรียน...เพราะโรงเรียนไม่เหมือนบ้าน

โรงเรียนกับบ้าน ไม่มีอะไรเหมือนกันสักกะอย่าง...

ที่บ้าน ผมเรียกตัวเองว่าตะวัน แต่ที่โรงเรียนครูสอนให้ผมเรียกตัวเองว่า...ผม...พอผมเผลอเรียกตัวเองว่าตะวัน ครูก็จะดุผม

ที่บ้าน ถึงแม่ ถึงน้าเจดกับ น้าโอ๋จะดุผมแต่ก็ไม่เหมือนเวลาถูกครูดุที่โรงเรียน

ที่บ้านผมรักฉาย...ที่โรงเรียนผมก็รักแต่ผมไม่อยากมีน้องเลย...

ที่บ้าน รูปไก่ที่พ่อวาดมีขนสีๆ หันหน้าไปทางนึง แต่ที่โรงเรียน ครูสอนผมวาดไก่ ขาก็ด้วน หางก็ไม่มี แล้วก็หันหน้าไปคนละทางกับที่พ่อวาด

ที่บ้านไข่ที่แม่เอามาทอดไข่ดาวให้ผมกินลูกมันกลมๆ แต่ครูกลับวาดรูปไข่ไม่เป็น ครูตีมือผมตอนที่ผมจะวาดรูปไข่ที่บ้านให้ครูดู

เช้าอีกวัน ผมเลยเอาไข่ใส่กระเป๋านักเรียนจะเอาไปให้ครูดู แต่พอไปถึงโรงเรียนผมก็โดนครูดุเพราะไข่ในกระเป๋ามันแตก

“ตะวันไม่เชื่อฟัง ชอบเถียง”ครูบอกน้าเจดที่มารับผมที่โรงเรียนตั้งแต่เช้า ก่อนผมจะนอนตอนกลางวันซะอีก

“ตะวันไม่ได้เถียง ครูวาดรูปไข่ไม่เป็น ตะวันจะเอาไข่มาให้ครูดู...ครูวาดรูปไข่ไม่เป็น”ผมบอกน้าเจดตอนที่ครูเดินไปไหนไม่รู้ แล้วครูก็กลับมาพร้อมกระดาษ

“ให้แกเขียนข.ไข่ แกก็เขียนเลขศูนย์ สอนก็เถียง แล้วนี่...”ครูพูดแล้วก็ชี้ ผมก็เกาะโต๊ะเขย่งดู

“แม่ควายกับพ่อควาย...”ผมบอกน้าเจดแล้วก็ชี้ควายตัวเล็กตรงกลางให้น้าเจดดู

“ตัวเล็กๆเป็นลูกควาย...”

“บอกให้แกเขียนตัวเดียว แกก็ไม่ยอม จะเขียนทีละสามตัว แกว่าเดี๋ยวมันเหงา...แล้วนี่ค.คน...แกเขียนไว้บนหลังค.ควาย เติมผมให้อีกตะหาก...นี่ก็จ.จาน แกว่าจานบ้านแกเป็นวงกลม...นี่ง.งู...เขียนแค่ตัวเดียวแต่หางยาวจนจะเลยกระดาษ”

“งูมันเลื้อยไง...”ผมบอก แต่ครูไม่สนใจพูดกับน้าเจดอีกยาว...ยาวกว่าหางงูที่ผมวาดซะอีก

วันนั้นน้าเจดเลยพาผมกลับบ้าน...บ้านที่ผมชอบมากกว่าโรงเรียน...ยิ่งโตผมก็ยิ่งไม่ชอบโรงเรียน...

ครูบอกเพื่อนๆว่า...ผมเป็นตัวถ่วงของห้อง ถ้าไม่มีผม เพื่อนๆก็จะเรียนได้เร็วกว่านี้...

เวลาทำงานเป็นกลุ่ม ไม่มีใครอยากให้ผมอยู่กลุ่มด้วย...ครูชอบพูดว่าใครเอาผมเข้ากลุ่มด้วยเดี๋ยวจะเพิ่มคะแนนให้อีกหนึ่งคะแนน แล้วเพื่อนๆก็หัวเราะ

ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนเป็นเวลาที่แย่ที่สุด และตอนเย็นตอนกลับจากโรงเรียนเป็นเวลาที่ดีที่สุด...

วันศุกร์เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดแต่วันอาทิตย์คือวันที่แย่เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็วันจันทร์

โรงเรียนเป็นที่ที่แย่ที่สุด...และบ้านน้าโอ๋ที่ประตูรั้วติดกับบ้านผม เป็นที่ที่ดีที่สุด...

ที่โรงเรียน ผมอยากร้องไห้...แต่ผมร้องไห้ไม่ได้ เพราะถ้าผมร้องไห้ทุกคนก็จะยิ่งหัวเราะ แต่พอผมไม่ร้องไห้ ครูก็จะบอกว่า ...ว่าแล้วยังทำหน้าระรื่นอีก...แล้วเพื่อนๆก็หัวเราะผมอยู่ดี

“ทำไมไม่เหมือนน้องชายเธอบ้างนะ!”แล้วสุดท้ายก็จบลงที่ประโยคนี้ทุกที...

ที่บ้าน...ผมเลยมักร้องไห้ฉ่ำปอดเผื่อในส่วนของโรงเรียน

“โตแล้วยังจะร้องไห้หน้าไม่อาย”น้าโอ๋ชอบพูดอย่างนี้ แต่ก็ไม่เหมือนกับที่ครูพูด

“เป็นผู้ชายร้องไห้ได้ยังไง?”แล้วก็ว่าผมแบบนี้ แต่ก็ไม่เหมือนเวลาถูกครูว่าอยู่ดี

นรกที่เป็นชื่อเล่นของโรงเรียนสิ้นสุดลงตอนผมจบม.สาม น้าเจดให้ผมเรียนต่อปวช. เรียนสายอาชีพเพราะผมน่าจะถนัดกว่า

วันสุดท้ายที่โรงเรียน ผมกะไปหาครูทุกคนที่โรงเรียน ผมจะไปบอกครูว่า...ถึงผมโง่ผมก็รู้ว่า...ครูที่ดีเป็นยังไง ผมจะไปบอกครูว่าเวลาครูด่าแล้วผมยิ้ม ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไร แต่ครูต่างหากที่ไม่รู้สึกอะไร...แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้ทำอย่างที่ผมคิดไว้...ไม่ใช่ไม่กล้า หรือเห็นว่าไม่ควร แต่เพราะพอนั่งเขียนรายชื่อครูที่ผมต้องไปหาแล้ว มันยาวเป็นหางว่าวเลย ผมเลยเปลี่ยนใจไปหาครูอ้อยแค่คนเดียว เพราะไม่งั๊นเดี๋ยวกลับบ้านไม่ทันค่ำ

“เรียนกับเขาได้จนจบหมือนกันนะเรา...”ครูอ้อยพูดแล้วก็หัวเราะ

ผ่านไปหลายปีแล้วจากวันที่แม่กับน้าโอ๋มาหาครูเจี๊ยบ...ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมน้าโอ๋ทำตาโตตอนผมบอกว่าครูอ้อยสวยกว่าครูเจี๊ยบ ...

ถ้าผมมาหาครูอ้อยก่อนหน้านี้วันสองวัน ผมอาจจะขอครูอ้อยแต่งงานก็ได้เพราะถึงครูอ้อยจะไม่สวยแต่ครูอ้อยก็ใจดี แต่ผมก็ไม่ได้ขอ เพราะวันนี้ที่ผมมาหาครูอ้อย น้องชายครูอ้อยก็มาหาครูอ้อยเหมือนกัน แล้วผมก็พบว่า...ผมอยากแต่งงานกับน้องชายครูอ้อยมากกว่า...
 
จบ  เด็กโง่ชื่อตะวัน


















 



หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 25-07-2012 17:15:26
เป็นตัวของตัวเองมากเลยตะวัน
เคยงงว่าตะวันเป็นคนยังไง ตอนนี้พอเข้าใจแล้ว
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 25-07-2012 17:27:31
ตะวันไม่ผิดนะ แค่ตะวันคิดต่าง  :laugh:

เฮ้ย แล้วไหงเปลี่ยนไปอยากแต่งงานกับน้องชายครูอ้อยซะงั้นล่ะ
ตะวันเอ๊ยยยย

ฉายเหมือนจะไม่มีบท แต่ก็มี เอ๊ะยังไง  :o8:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: yolp ที่ 25-07-2012 17:38:47
ตะวันเอ้ยยยยตะวันนนนน
น่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ

ทำไมพูดถึงน้องฉายติ๊ดเดียวเองหล่ะตะวัน อิอิ คิดถึงทั้งคู่เลย ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 25-07-2012 17:49:38
ไม่อยากอ่าน แต่ทนแรงดึงดูดไม่ได้...

ไม่ใช่อะไร เราไม่อยากน้ำตานอง หายใจไม่ออกแทบตายอีก

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 25-07-2012 18:17:50
ตลกตะวันอ่ะ ค้นพบตัวเองเเระ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 25-07-2012 18:31:42
ยังน่ารักเหมือนเดิมม
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 25-07-2012 19:26:24
 :กอด1: โธ่... ตะวันเอ๊ย

 :pig4: คุณภักD ค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-07-2012 20:37:40
ตะวันไม่โง่และไม่ผิดหรอก แค่ครูไม่ฉลาดพอที่จะสอน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 25-07-2012 20:41:39
เข้ามาเพราะชื่อนักเขียน มาต่อเร็วๆน๊า มีคนรออยู่ค้าบบบ  :impress2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: shabu ที่ 25-07-2012 20:42:27
งื้อ ห้ามตัวเองไม่เข้ามาไม่ไหว อ่านแล้วอาการเดิมกำเริบค่า แบบหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก
คุณภัคddddddddddddd :serius2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 25-07-2012 20:48:50
ตะวัน แต่งงานกับน้องชายครูอ้อยเลยเรอะ!

อ่านๆ ไป ก็เป็นอีกมุมนึงนะ เฮ้อ!

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: ลำนำบุหลันครวญ ที่ 25-07-2012 21:07:17
ทนไม่ไหวที่จะไม่อ่าน ทั้งที่ห้ามตัวเองหลายครั้งว่าไม่ควรอ่าน

สาเหตุเพราะหลังจากที่อ่านเรื่องของฉายจบ

ความรู้สึกผมกลับเห็นต่างจากคนอื่นๆ

ผมอ่านแล้วผมเกลียดตะวัน เกลียดมากๆเหมือนกับที่เกลียดไอ้ฝรั่งโรคจิตคนนั้น

เกลียดที่ตะวันเป็นคนแบบนี้ ... รู้ความรู้สึกทุกอย่างของฉาย

แต่ก็ปฏิเสธฉายจนจบเรื่อง

และแม้ตะวันจะปฏิเสธ แต่ก็ไปอยู่กับฉาย...เมื่อตัวเองไม่เหลือใคร

แล้วก็ปล่อยให้ฉายยืนอยู่อีกฝั่งของโลกของตะวันที่มีแต่พี่ขุน

ผมอาจจะอินมากเพราะอิงกับความรู้สึกและประสบการณ์ของตัวเอง

ตะวันเหมือนกับเค้าตรงที่รู้ว่าฉายรักตะวันมาก และฉายก็ทำเหมือนจะรักตะวัน(ในบางที)

แต่ก็ไม่เคยให้ฉายก้าวข้ามมา

ดังนั้น ด้วยความเกลียดทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้กลัวที่จะอ่าน

แม้ใจจะหวังลึกๆว่า นิยายเรื่องนี้จะทำให้ตะวันมองฉาย ... และอยู่กับคนที่อาจจะรักน้อยกว่า แต่พร้อมจะดูแลตะวันตลอดไป

แต่ถ้านิยายเรื่องนี้เหมือนเป็นการเล่าในมุมมองของตะวัน แล้วลงท้ายเหมือนกับเรื่องที่แล้ว

เราคงทำใจที่จะเจ็บอีกครั้งไม่ไหวเหมือนกัน

ใครพอจะสปอยหลังไมค์ได้มั้ยครับ เห็นว่าเป็นนิยายที่เคยลงจบไปแล้วในบอร์ดปิด

สุดท้ายนี้ น้อมรับการโดนเกลียด โทษฐานที่คิดต่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น

ผมยกประโยชน์ให้แก่พี่นักเขียนที่เขียนให้ผมอินจนเกลียดเด็กชายพระอาทิตย์ได้ขนาดนี้

ขอบคุณมากครับ :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 25-07-2012 21:08:08
ตะวันพิเศษดวงนี้ทำให้เจ๊อมยิ้มและมีความสุขแบบหน่วงๆ
คือแบบตะวันช่างน่าเอ็นดู น่ารัก และน่าสงสารไปในคราวเดียวกัน
อ่านแล้วสุขแบบอึนๆแท้ๆ
+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 25-07-2012 21:08:37
ตะวัน ช่างเป็นเด็กที่ art จริง ๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 25-07-2012 21:16:15
อยากแต่งงานกับน้องชายครูอ้อย !!! ><
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 25-07-2012 21:22:26
จะบอกว่าเกลียดสังคมแบบที่โรงเรียนแบบนี้แหล่ะ ไม่ชอบเลย คนไม่ฉลาด(ในตรรกะทั่วไป)ผิดตรงไหน??


อยากแต่งงานกับน้องชายครูอ้อย? ตะวันค้นพบสัจธรรมของตัวเองแล้ว ><
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 25-07-2012 21:52:25
เห็นชื่อเรื่องแล้วตกใจเลย...คิดว่าต้องเกี่ยวข้องกับนิยายในดวงใจของเราแน่ๆ
ทุกครั้งที่มีคนขอให้แนะนำนิยายที่น่าอ่านที่สุดในเล้า  เราแนะนำเรื่องตะวันฉายนะคะ ชอบมากจริงๆ  :กอด1:
เชื่อไม๊ ว่ายังจำประโยคปิดของเรื่องนั้นได้ขึ้นใจจนทุกวันนี้ บางทีนึกแล้วน้ำตาไหลด้วยซ้ำ
บอกตรงๆว่า เห็นภาคใหม่นี้ ใจนึงก็ดีใจมากที่ตะวันจะกลับมาให้อ่านอีก เพราะที่ผ่านมา เราไม่ค่อยรู้ความคิดตะวันเลย ทุกอย่างสื่อผ่านความคิดตะวันฉายซะมากกว่า
แต่อีกใจนึงก็นอยอ่ะ  เราชอบภาษาของคนเขียนมากกกกกกกก็จริง แต่บางทีมันก็กินใจจัดจนร้องไห้ไม่หยุดเลย...นี่แค่ผ่านมาสองตอนก็น้ำตาปริ่มแล้ว   งื้อออออ  :sad4:

ยังไงซะก็จะขอติดตามต่อไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 25-07-2012 22:44:57
พี่ตะวันน่ารักเนอะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 25-07-2012 22:51:52
ทำไมอ่านแล้วน้ำตาไหลตั้งแต่ตอนที่ 2 เง้ออออออออออออออ
เรื่องก่อนนั้นจำได้ว่านั่งอ่าน 1 คืน ร้องไห้ตาบวมเลย
เหมือนมันเป็นตลกร้าย ที่อ่านแล้วขำไม่ออก
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: Alphas ที่ 25-07-2012 23:45:53
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักตะวันต้วน้อย

เป็นเด็กที่มีความคิดเป็นของตัวเองสูงจริงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 25-07-2012 23:56:58
เขามาเพราชื่อคนเขียน นานอ่านที ชอบภาษานะ โดยไม่ไปไม่ชอบเรื่องเศร้า หรือเรื่องที่ทำให้รู้สึกหน่วงๆอย่างร้ายแรง เลยเลี่ยงๆ :m28:  แต่อยากอ่าน แต่ก็แอบหวั่นว่ามันจะจิตตกนะ ต้องชมว่าถ้าเขียนให้สุขเราก็สุข แต่พอเขียนให้จิตตกเราก็ตก เราเลยเลี่ยงๆ  อ่านตอนแรกเด็กชายตะวันน่ารักฮาๆ ดี  แต่พออ่านตอนสอง ฮากับความคิดและพฤติกรรมตะวันมาก แต่ก็เจ็บลึกๆกับโรงเรียนที่ตะวันเจอ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: tw.smile ที่ 26-07-2012 02:52:32
ไม่อยากเดาแต่ก็อดไม่ได้ ,, น้องชายครูอ้อยนี่พี่กบหรือเปล่า?
๕๕๕

อ่านเพลียๆมาทั้งเรื่อง เจอปย.สุดท้ายไป
ตึงงงงงงงงง
ไม่อยากจะฮาแต่พอคิดๆแล้ว รู้ว่าต่อไปจะฮาไม่ออกเลยต้องรีบฮาล่วงหน้า
๕๕๕
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 26-07-2012 18:38:53
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เคารพรักบ้านใกล้ๆ# 3

ชีวิตลูกผู้ชายชื่อนายตะวัน


อายุสิบสี่ผมออกจากโรงเรียนเก่าพร้อมความผิดหวังของรักแรก...ที่เกือบพบ เพราะมันจบอยู่แค่ที่ห้องพักครู...น้องชายครูอ้อยที่แค่เห็นหน้าผมก็ตกหลุมรัก แต่แค่ไม่กี่นาทีผมก็ปีนขึ้นจากหลุม เพราะพอน้องชายครูอ้อยลุกขึ้นยืน...เตี้ยกว่าครูอ้อยซะอีก!...ถ้าต้องยืนซบ คอผมต้องเคล็ดแน่ๆเลย...

พอย้ายโรงเรียน เลขศูนย์ในสมุดพกมันก็ย้ายหนีหายไปด้วย

สมุดพกเล่มแรกของโรงเรียนที่สอง ทำเอาผมยิ้มทั้งวัน...

“ตะวันไม่สอบได้ที่โหล่แล้วนะ...”ผมป่าวประกาศ ภูมิใจสุดๆ บนโต๊ะอาหาร

พ่อกับแม่พอได้ยินก็ทำหน้าเสียดายหน่อยๆ เพราะพ่อกับแม่บอกว่า ไม่ว่าอะไรในโลกใบนี้ก็ต้องมีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง ฝีแปรงของคนล้านคนก็ล้านแบบต่อให้ใช้พู่กันอันเดียวกัน  และสำหรับพ่อกับแม่ ที่โหล่ก็ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของผม

น้าโอ๋ทำตาโต หน้าตาตื่นเต้นดีใจไม่ปิดบัง...คล้ายน้าเจด ต่างกันก็แค่ น้าเจดเป็นไปแบบปิดบังหน่อยๆ...ส่วนฉาย ทำหน้าทำตาเด็กชายรอบรู้เหมือนเคย

“ไหนสมุดพก?”น้าโอ๋ถาม ผมก็หยิบสมุดพกที่แอบเอามานั่งทับไว้ส่งให้

“บอกว่าอย่านั่งทับหนังสือ!”น้าโอ๋ดุ ก่อนรับสมุดพกไปเปิดดู

“ไม่ใช่หนังสือ สมุด!”ผมบอก เพราะหนังสือมีไว้อ่านแต่สมุดมีไว้เขียน

“สมุดก็ไม่ได้...แล้วในห้องมีกี่คน?”น้าโอ๋ถาม

“47คน”ผมบอก

“รองโหล่?”น้าโอ๋ถามหรือเปล่าไม่รู้เพราะเสียงดูลอยๆ แล้วก็ส่งสมุดพกให้น้าเจด ส่วนผมก็พยักหน้ารับ...พ่อกับแม่ทำหน้าโล่งใจ  ส่วนฉายก็ทำหน้ารอบรู้เหมือนเดิม

พออายุสิบห้าปีกับอีกสองวัน ผมก็ได้บัตรประชาชนเปลี่ยนจากเด็กชายเป็นนายตะวัน...บัตรประชาชนใบแรกอยู่ในมือด้วยอาการที่น้าโอ๋บอกว่า...ดีใจจนปีกกาง...ผมดีใจจนปีกกางด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ รู้แต่ดีใจที่มีบัตรประชาชน...ผมดีใจจนปีกกางเพราะตอนนั้นยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าหลังจากนั้นอีกแค่ปีผมต้องเริ่มต้น ชีวิตลูกผู้ชายปากกัดแถมตีนถีบ

แปรสภาพจากเด็กชายเป็นนายตะวันได้แค่แป๊บ ผมก็เปลี่ยนสภาพเป็นเด็กกำพร้า...

พ่อแม่ผมหนีไปเที่ยว ทิ้งผมไว้เป็นของดูต่างหน้าให้น้าโอ๋แล้วก็น้าเจดแล้วก็ฉาย

น้าเจดบอกว่าเดี๋ยวพ่อกับแม่ก็กลับ...ผมก็เชื่อน้าเจด

น้าโอ๋ก็บอกว่า พ่อกับแม่รู้ว่า ถ้าพาผมไปด้วยน้าโอ๋กับน้าเจดจะเสียใจเลยทิ้งผมเอาไว้...ผมก็เชื่อน้าโอ๋...เพราะผมรู้น้าโอ๋กับน้าเจดน่ะรักผม...

พอพี่อ๋อ...เพื่อนคนแรกในชีวิตที่อายุมากกว่าผมสองปีแต่เรียนชั้นเดียวกัน รู้ว่าผมเป็นกำพร้าเพราะพ่อแม่หนีเที่ยว พี่อ๋อเลยชวนผมไปวาดรูปขาย...พี่อ๋อเริ่มต้นด้วยการพาผมไปกินเหล้าย้อมใจบอกว่าอำลาชีวิตสุขสบายเพราะต่อไปคือชีวิตของลูกผู้ชายปากกัดตีนถีบ...ฟังแล้วมันคงรันทดสุดชีวิต ผมเลยกินเหล้าไปร้องไห้ไปเพราะนึกถึงชีวิตอดมื้อกินมื้อในวันข้างหน้า

ตื่นมาตอนเที่ยงๆ  ผมยังอินกับคำพูดพี่อ๋อไม่เลิก ผมเลยเผลอตัวกินข้าวหมดหม้อแถมด้วยหมูทอดกับยำหมูยอหมดจาน

“รอข้าวสุกแป๊บนึง...ไอ้ตะวันมันกินคนเดียวข้าวหมดหม้อ...กับก็ไม่มีเหลือ!”น้าโอ๋บอกน้าเจดที่เพิ่งไปรับฉายกลับมาจากเรียนพิเศษ

“เมื่อคืนใครมาส่งตะวัน?”ผมถาม ไม่ใช่อยากรู้แต่แค่อยากเปลี่ยนเรื่อง

“กบ!”น้าโอ๋ตอบ มือก็ยังเท้าสะเอวตาก็ยังค้อนผม

“กบไหน? ตะวันมีเพื่อนชื่อกบด้วยเหรอ?”ฉายถามน้าโอ๋ ก่อนหันมาถามผม

“... กบไหนน้าโอ๋?”ผมถามบ้าง ทั้งน้าโอ๋ ทั้งน้าเจดแล้วก็ฉายก็เลยหันมามองหน้าผม...ผมเลยต้องนั่งคิด แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก เพราะผมไม่เคยมีเพื่อนชื่อกบ...หรือว่ามีแล้วลืม?!...ผมคิด คิด แล้วก็คิด แต่คิดไม่ออกก็เลยเลิกคิด ก็พอดีข้าวสุก...ผมเลยกินข้าวต่ออีกจาน...แล้วก็เลยจุกจนคิดอะไรไม่ออก...

จบ ชีวิตลูกผู้ชายชื่อนายตะวัน

* * * * * * *

สวัสดีค่า ... คุณ ลำนำบุหลันครวญ ( ชอบชื่อจังค่ะ โรแมนติกมากๆ )

เรื่องคิดต่าง หรือ เกลียดตะวันไม่ใช่สิ่งผิดค่า ...เพราะคนๆหนึ่งย่อมไม่สามารถที่จะเป็นที่รักของคนทั้งหมดทั้งมวลได้ ... ตะวันเองก็เป็นคนๆหนึ่งเช่นกัน ย่อมมีจุดดี จุดเสีย(จนถึงจุดเสียมากๆ) ... หรือมีแม้กระทั่งความเห็นแก่ตัวที่คนๆหนึ่งจะมีได้ ... ในทางกลับกันฉายเองก็เช่นกัน ...
เรื่องเด็กชายตะวันฉาย ...เป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของฉาย ถ้าพูดถึงเรื่องของความรัก การครอบครอง ...ฉายย่อมยืนอยู่คนละฝั่งกับพี่ขุน  พี่ขุนคนที่ตะวันรัก เลือกที่จะรัก และรักตลอดไปเหมือนที่ฉายเลือกที่จะรักตะวันตลอดไปเช่นกัน

เรื่องเด็กชายตะวัน ... เป็นการเล่าเรื่องผ่านตะวัน ...แง่มุมของตะวันกับพี่ขุน  ซึ่งบางแง่มุม ฉายไม่ได้พูดถึง อาจจงใจไม่พูดถึง มองข้าม หรืออาจแม้กระทั่งไม่รู้ และไม่เคยเข้าใจ

เมื่อรับรู้ผ่านมุมมองฉาย ...ฉายอาจเป็นผู้ให้ ใครจะรู้ว่า เมื่อมองผ่านมุมมองตะวัน มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเคยรู้ ( แค่อาจจะนะคะ ^ ^ )

มันก็เหมือนกับโลกใบนี้  ที่หากผ่านสายตาที่เรามอง ผ่านหูที่เรารับฟัง ...เราก็จะเห็นและรับรู้เพียงเท่านั้น ทั้งที่ในความเป็นจริง มีสิ่งต่างๆอีกมากมายที่เราอาจไม่รู้  อาจมองข้ามมันไป ...ความจริงที่เรารับรู้ เราไม่อาจแน่ใจได้ว่า ...มันจริง ..อาจไม่มีวันได้รู้เลยด้วยซ้ำ
ที่พูดนี่ไม่ได้อยากให้เปลี่ยนใจมารักตะวันนะค่า แต่อยากให้เปิดโอกาส รับรู้เรื่องราว ผ่านมุมมองของตะวันบ้าง  อาจทำให้เกลียดตะวันน้อยลง ( หรือในทางตรงกันข้ามอาจจะเกลียดมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม )

ลองคิดเล่นๆ ...เรื่องหรือจะฯ ... เล่าเรื่องผ่านเอก คนที่เกลียดชังทอม ...เอกไม่เคยคุยกับทอม ทุกสิ่งที่เอกรับรู้คือผ่านการบอกเล่าของเหยา ...ถามว่า แน่ใจได้แค่ไหน ว่าสิ่งที่เหยาเล่าคือความจริง ..ธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์คือการปกป้องตนเอง...และเหยาอาจไม่ใช่ข้อยกเว้นนั้นเช่นกัน

ตอบเอง งงเอง  ตรงประเด็นบ้างป่าวคะเนี่ย 5555 .... อย่างไรก็ต้องขอขอบคุณนะค่า ...การได้อ่านความรู้สึก นึกคิดในเชิงวิเคราะห์ตัวละครแบบนี้ ...สนุกดีค่า (ส่วนที่ว่า ส่วนนึงเพราะมันเหมือนกับชีวิตจริง ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะค่า ...ความสุขรอเราอยู่ข้างหน้าเสมอค่ะ ^ ^ )

ปล. .. ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ และ คนอ่านทุกคนนะค่า ...โดยส่วนตัวไม่ถนัดตอบในกระทู้นัก ( คุยไม่เก่งอย่างแรง ) ...แต่ก็ได้อ่านทุกคอมเม้นท์ (นานๆทีก็เข้ามาเซฟเก็บไว้หมดด้วย ) ...สนุกมากๆ ค่ะเวลาอ่านความเห็นทุกท่านค่า (ทั้งบางทีก็ได้แง่มุมใหม่ๆที่เราไม่เคยคิด เคยรู้เกี่ยวกะตัวละครที่เราเขียนเองเลยอีกตะหาก  ^ ^  )  ...ขอบคุณมากๆค่า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#2
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 26-07-2012 18:40:03
ชอบตะวัน น่ารัก :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 26-07-2012 18:47:56
ก็จริงเเหละอย่างที่ว่า เรื่องมันเล่าผ่านมุมมองของคนคนนึง ซึ่งมันคือความคิดของคนนั้น เเต่อีกคนนึงมองอาจไม่ใช่แบบเดียวกัน
่อ่านเรื่องราวผ่านฉาย ก็เอาใจช่วยฉาย ไม่ค่อยชอบตะวันที่ไม่สนใจฉาย เกลียดพี่ขุนเลยล่ะ
แต่ถ้ามองในมุมของตะวัน ฉายก็เหมือนเป็นแค่น้องคนนึงที่ไม่สามารถเป็นได้มากกว่านั้น เเฟนกันคนรักกันมันเลิกกันได้ แต่ ฉายคือครอบครัวของตะวัน ตะวันคงอยากให้อยู่ด้วยกันไปตลอดแบบนี้มากกว่า
เวลาอ่านเรืองของคุณภัคD จะต้องอ่านให้จบรวดเดียว เจ็บ อึน มึน เศร้า ที่เดียวเลย อ่านแล้วหยุดไม่ได้ อารมณ์มันค้่างจะคอยคิดตลอดว่า ทำไม...ถ้า... ประมาณนั้น
อ่านทีไรหน่วงในอกทุกที
ตะวันฉายเราอ่านรอบเดียว ไม่กล้าหยิบอ่านต่อเลย เฮ่อๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 26-07-2012 19:52:36
อ่านแล้วมันรู้สึกหน่วงๆ  :o11:
งื้อออออออ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 26-07-2012 21:41:00
ตอนนี้สั้นเนอะ กบที่ว่านี่พี่หน้ากบคนนั้นของฉายอ่ะป่าวหนอ?? อิอิ

แต่ชอบตอนตอบเม้นท์มากเลยครับ

จำได้ว่าตอนอ่านเรื่องฉายก้ออยากให้ฉายมีความสุขนะ แต่ก้อรับรู้ว่าตะวันรักพี่ขุนมากจริงๆ
ผมเลยคิดว่าถ้าตะวันจะเลือกมาหันมารับความรู้สึกรักของฉายทั้งหมด (คือยอมรับรักมาเป็นคนรักกัน)
มันก้ออาจเป็นเรื่องผิดต่อพี่ขุนที่เป็นรักแบบคนรักในความคิดของตะวันเหมือนกัน
และอาจเพราะความรักของตะวันต่อฉายก้อเป็นรัก แต่เป็นรักในแง่มุมอื่น เป็นครอบครัว เป็นรักแบบบริสุทธิ์
ผมเลยเสียใจกับฉายแค่นิดหน่อยที่ไม่สมหวัง ไม่ได้เป็นคนรักกับตะวัน
แต่ดีใจที่อย่างน้อยฉายก้อได้อยู่ดูแลคนที่ตัวเองรักและเป็นคนในครอบครัวคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ตลอดไปนะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 26-07-2012 21:49:14
ต่างคนต่างมุมมองจริงๆเนาะ ส่วนตัวพี่เองชอบตะวันตั้งแต่เรื่องก่อน

มีความรู้สึกว่าเค้าซื่อสัตย์กับตัวเองดี คนที่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ o16 :give2:

รักฉายแบบน้องชายอย่างงัยก็รักอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง :impress:

ชอบภาษา และการเล่าเรื่องของคนเขียนด้วย รออ่านต่อไปค่ะ :o11:

 o13   o13

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-07-2012 23:04:38
ชอบตะวันเพราะไม่เหมือนใครดี น่ารัก น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 26-07-2012 23:11:22
 :m20: รักแรกสิ้นสุดเมื่อ อีกฝ่ายยืนขึ้น
อยากหยิกแก้มตะวันจริ๊ง

 :pig4: ค่ะ คุณภักD

ยิ้มไม่หุบเลย ไม่หุบสักที น่าร๊ากอ่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 27-07-2012 02:12:59
ส่วนตัวเราเองหลงใหลในตัวละครทั้งพี่ตะวัน ทั้งพี่เหยา
ไม่รู้ทำไมให้ความรู้สึกคล้ายๆกัน

ด้วยความคิดของทั้งคู่มันแปลกไม่เหมือนคนทั่วไปคิดกันมั้ง
หลายประโยคที่พี่ตะวันและพี่เหยาคิดหรือพูดมันติดอยู่ในหัวเรา จนแอบคล้อยตาม
55555

พี่กบโผล่มาแล้ว พี่ตะวันดันจำไม่ได้ซะงั้น  :m20:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: maii ที่ 27-07-2012 04:15:58
 o13
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 27-07-2012 10:53:09
ตะวันโตแล้วแต่ยังงงกับชีวิตไม่เลิกนะเนี่ย
ท่าทางตะวันจะเข้าใจโลกยากมากเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 27-07-2012 12:04:45
...ตะวันไม่ได้โง่ กว่าคนอื่น ก็แค่ตะวันคิดไม่เหมือนคนอื่น มันก็แค่คนเราคิดไม่เหมือนกัน
...ตะวันเรียนรู้เรื่องราวต่างๆจากประสบการณ์ที่ได้พบเห็นรอบๆๆตัว ครูต่างห่างที่ไม่สามารถสอนให้ตะวันคิดสิ่งต่างๆให้เหมือนคนอื่น
และไม่สามารถบอกความต้องการของครูให้ตะวันเข้าใจ
...อ่านเรื่องนี่แล้วมันได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง เพราะฉนั้นอย่าคิดว่าคนอื่นผิด หรือเราถูก ต่างคนต่างความคิด
...พี่อ่านเรื่องนี้ก่อนที่จะไปอ่าน หรือจะฯวันเดียวเอง เพราะกระทู้เรื่องนั้นมันเด้งขึ้นมาอยู่ด้านบน และเห็นล๊อกอินก็เลยได้อ่าน
...ยังอ่านไม่จบเลย พึ่งถึงตอนที่ 6 เขียนได้ดีมากๆ ส่งสารเหยาที่ถูกเอกและทอมกระทำ ในตอนแรกๆๆ
...แล้วก็เป็นเหยาอีกนั่นแหละ ที่คิดไม่เหมือนใครและยากที่จะเข้าใจเหยา เหมือนที่เอกก็ไม่เข้าใจเหยาเหมือนกัน
...เป็นนิยายทั้งสองเรื่องที่อ่านแล้วต้องนั่งตีความ เพราะคนแต่ง ใช้ภาษา คำพูดความคิดของตัวละครแต่ละตัวได้ล้ำลึกมากๆๆ
...ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆให้อ่าน แล้วจะไปตามหาเรื่องอื่นๆที่คนแต่งเอ่ยถึงไว้ ถ้ามันอยู่ในเล้านะคงได้อ่านทุกเรื่อง ชอบการเขียนแบบนี้มากๆๆ :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-07-2012 15:26:00
อ่านแล้ว ความรู้สึกเดิมๆ ก็กลับมาอีกครั้ง  :sad11:

ปล. เรื่องนี้ชอบเจต ที่สามารถตอบคำถามตะวันได้เกือบทุกเรื่อง   o13
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#3
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 27-07-2012 18:11:43
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 4

รักครั้งแรกของนายตะวัน


ผมเริ่มต้นชีวิตลูกผู้ชายปากกัดตีนถีบอย่างที่พี่อ๋อเรียก แต่มันไม่ค่อยยักจะรันทดอดมื้อกินมื้ออย่างที่ตัวเองคิด...ผมยังกินอิ่มทุกมื้อที่บ้านของน้าโอ๋...

แต่การไม่มีพ่อกับแม่มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่าอะไรๆมันไม่เหมือนอย่างที่ผมเคยคิด...

เมื่อก่อนยังไงซะ ผมว่าน้าโอ๋กับน้าเจดน่ะรักผม ตามใจผมมากกว่าที่ตามใจฉายซะอีก...แต่พอไม่มีพ่อกับแม่ ผมก็เริ่มกลัว...กลัวว่าถ้าน้าเจดกับน้าโอ๋เลิกรักผมขึ้นมา ผมจะทำยังไง...

ผมกินข้าวบ้านน้าโอ๋...น้าเจดบอกว่าจะใช้ตังค์ให้ขอที่น้าโอ๋...แล้วน้าโอ๋ก็ซักเสื้อผ้าให้ผมด้วย...

เมื่อก่อนผมไปอยู่ที่บ้านน้าโอ๋บ่อยๆ ผมว่าผมไม่ค่อยได้อยู่ที่บ้านของตัวเองเท่าไหร่...แต่พอไม่มีพ่อกับแม่ ผมก็รู้สึกว่าผมอยู่ที่บ้านของตัวเองบ่อยเหมือนกัน เพราะพอพ่อกับแม่ไม่อยู่ ผมอยู่คนเดียว ผมเหงา และผมก็เหงาบ่อยๆ ผมเลยรู้ว่า จริงๆผมก็คงอยู่ที่บ้านตัวเองบ่อยเหมือนกัน ตอนนี้ผมเลยเหงาบ่อยๆ...

พอพี่อ๋อชวนผมไปนั่งวาดรูปขาย ถึงผมไม่อยากไปผมก็ไป เพราะมันได้ตังค์จะได้ไม่ต้องขอตังค์น้าโอ๋กับน้าเจด...แล้วผมก็ไม่ต้องอยู่บ้านคนเดียวด้วย...

“ทำไมใจร้ายจัง จำพี่ไม่ได้เหรอครับ?”พี่ชายคนหนึ่งถาม ยืนอยู่หน้าร้านแล้วก็ยิ้มปากกว้าง ผมจำเขาไม่ได้เพราะคนยิ้มปากกว้างแบบนี้ ผมจำได้แค่พ่อคนเดียวเท่านั้นเอง

ผมไม่ตอบเพราะผมกำลังอารมณ์ไม่ดี วันนี้พี่อ๋อขายรูปได้ตั้งหลายรูป แต่ผมขายไม่ได้สักกะรูป...

“จะไม่พูดกับพี่จริงๆเหรอ?”พี่ชายคนนั้นถามอีก คราวนี้เปลี่ยนเป็นนั่งลงยองๆกอดเข่าแล้วก็มองผม

“ซื้อรูปแล้วจะคุยด้วย”ผมตอบ พี่อ๋อเลยเอื้อมมือมาตบหัว หาว่าผมไร้เทคกะนิคในการขาย

“ซื้อแล้วคุยด้วยแน่นะ? งั๊นเอารูปนี้...”พี่ปากกว้างพูดแล้วก็หยิบรูป แต่เป็นรูปของพี่อ๋อ...

“ล้อเล่นน่า!”พี่ชายคนนั้นพูดแล้วก็หัวเราะ

“พูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว สนุกเหรอ?”ผมถาม

“ก็นี่ไง ตะวันยอมพูดด้วยแล้ว”พี่ปากกว้างตอบ...รู้จักชื่อผมด้วย?!...ผมสงสัยแต่ยังไม่ทันถาม พี่ปากกว้างก็พูดต่อ

“รูปวาด เขาว่ามันรอเจ้าของ ถ้าเจอเจ้าของ...สบตากับรูปปุ๊บแล้วเขาถูกใจ เดี๋ยวเขาก็พามันกลับบ้าน”พี่ปากกว้างพูดต่อ ผมชอบที่พี่เขาพูดเลยเผลอยิ้ม พี่ปากกว้างเลยยิ้มปากกว้างกว่าเดิม

“เขาว่า คนวาดรูปฝีแปรงมีร้อยแปด คนซื้อก็เหมือนกัน ต้องรอให้มันสปาร์ค...ใจเย็นๆน่าเดี๋ยวก็เจอเจ้าของรูป”พี่ปากกว้าง พูดปากกว้างแล้วก็ยิ้มปากกว้าง...

ผมชอบที่พี่ปากกว้างพูด...ชอบจนเกือบตกหลุมรัก เหมือนครั้งหนึ่งที่ผมเกือบหลงรักพี่อ๋อ เพราะพี่อ๋อพูดว่า...คนเราไม่มีใครแปลก ไม่มีใครแปลกแยกแตกต่างแค่บางครั้งเรายังไม่เจอคนที่เหมือนเรา...พี่อ๋อพูด ผมชอบเลยเกือบตกหลุมรัก แต่พี่อ๋อหล่อไม่พอแถมพี่อ๋อบอกว่า ที่พูดมาน่ะจำเขามาพูด ผมเลยไม่ตกหลุมรัก

พี่ชายปากกว้างก็เหมือนกัน ผมแค่เกือบตกหลุมรัก เพราะวันนั้นผมยังขายรูปไม่ได้

วันถัดมาเขาก็มาหาผมอีก...ผมเลยรู้ว่าเขาชื่อกบ...ชื่อคุ้นๆแต่ผมก็นึกไม่ออกอยู่ดีว่าคุ้นยังไง

พอวันที่สาม พี่ปากกว้างก็มาอีก แต่คราวนี้พี่เขาไม่ได้ยืนที่ด้านหน้าร้าน แต่เข้ามานั่งกับผมที่ด้านใน ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะพี่ปากกว้างมีขนมมาฝากเยอะแยะ...แล้ววันนี้พี่ปากกว้างก็ใส่กางแกงขาไม่ยาวมา...ผมตกหลุมรักขาของพี่ปากกว้างที่มีรอยสักตั้งแต่หัวเข่ายาวลงไปถึงข้อเท้า

“มองจัง รู้อย่างนี้พี่สักไว้ที่หน้าดีกว่า ตะวันจะได้มองแต่หน้าพี่”

“ชอบเหรอ?”พี่ปากกว้างถาม ผมก็พยักหน้าเพราะผมชอบ อยากสักบ้าง

“ถ้าชอบ ยกให้ แต่ต้องเอาไปทั้งตัวนะ!”พี่ปากกว้างบอกแล้วก็หัวเราะ ส่วนผมคิดหนักเพราะผมอยากได้แค่ขาของพี่ปากกว้าง

“แล้วนั่นน่ะ”พี่ปากกว้างพูดแล้วชี้มือไปที่ป้ายที่ผมวางไว้ที่หน้าร้าน...ขายหัวใจแต่ไม่ขายตัว...ป้ายที่พี่อ๋อบอกให้เขียน พี่อ๋อบอกว่าเขียนให้ขำ ลูกค้าจะได้สนใจ ผมก็ทำตามและก็จริงอย่างที่พี่อ๋อว่า เพราะลูกค้าขำจนเผลอตัวมาหลายรายแล้ว

“แต่พี่อยากได้ทั้งหัวใจ...แล้วก็ตัว...ถ้าไม่ขาย มาแลกกันเอาไหม?”พี่ปากกว้างถาม

“ถ้าอยากได้สอง พี่ก็หนีบผมไปด้วย จะได้ทั้งตัวแล้วก็ใจ”พี่อ๋อแทรกขึ้น พร้อมชี้ป้าย...ขายตัวแต่ไม่ขายหัวใจ...ของตัวเอง ...พี่ปากกว้างเลยทำหน้าเหวอ พูดก็ไม่ออกบอกก็ไม่ถูก

“แฟนตะวันเหรอ?”พี่ปากกว้างกระซิบถามผม

“ไม้กันหมา!”พี่อ๋อก็ตอบแบบไม่กระซิบ

“แล้วไป...กบ!”พี่ปากกว้างว่างั๊นแล้วก็ชี้ที่ตัวเอง หน้าเหวอของพี่กบเลยไปแปะอยู่บนหน้าพี่อ๋อแทน

“พี่กบจีบตะวันเหรอ?”ผมถาม

“อะไร!...นี่พี่จีบมาสี่วันแล้ว ตะวันเพิ่งรู้เหรอ?!”

“สี่ตรงไหน?... พี่เพิ่งมาหาตะวันสามวันเอง”

“อ้าว... นับด้วยแปลว่าสนใจพี่เหมือนกัน!...วันแรกก็ไปส่งตะวันที่บ้านไง!”พี่ปากกว้างบอก ผมเลยร้องอ๋อในใจ...พี่กบนี่เองถึงว่าชื่อคุ้นๆ

“แล้วพี่ไปส่งตะวันได้ไง?”

“ความลับ!...อยากรู้ต้องมีของแลกเปลี่ยน!”

“ ไม่ได้อยากรู้...”ผมบอก  เพราะไม่ได้อยากรู้จริงๆ...

“บอกก็ได้!”

“อยากให้ตะวันรู้...ต้องมีของแลกเปลี่ยนนะ!”

“เอาตัวหรือหัวใจ ถ้าเป็นตะวันพี่ให้หมดเลย”

“เอาแต่ขา...”ผมบอก ก็ผมอยากได้แต่ขาจริงๆ

“ไว้พี่พาไปสัก...”

“จริงนะ?”

“เฮ้ย!...ไปถามน้ามึงก่อน”พี่อ๋อแทรกอีกแล้ว

“ไม่ต้องเลย วันนั้นพาตะวันไปกินเหล้า ไม่เห็นให้ถามเลย น้าโอ๋บอกว่า...อย่าให้เจอหน้าพี่อ๋อเชียว!”ผมบอก เพิ่งนึกได้ที่น้าโอ๋ฝากมาบอกพี่อ๋อ

“กูบอกให้มึงกินเหล้า ไม่ได้ให้มึงเมาเหล้านี่หว่า!”

“ก็เมาทั้งคู่ ส่งคนโน้นเสร็จ ก็ไปส่งคนนี้ต่อ...เงินก็ไม่จ่าย ขอบคุณให้ได้ยินสักคำก็ไม่มี...”พี่ปากกว้างบอกแล้วก็ยิ้มปากกว้าง ยิ่งมองผมก็ยิ่งชอบปากกว้างๆของพี่เขา...พี่เขายิ้มปากกว้างทุกๆวันที่มาหาผม จนสุดท้ายผมเลยให้พี่เขาไปทั้งใจแล้วก็ตัว แลกกับตัวแล้วก็ใจแถมรอยสักที่ขาของพี่เขา

จบ รักครั้งแรกของนายตะวัน

















หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: sanddy3 ที่ 27-07-2012 18:57:03
อยากกอดตะวัน ตอนตะวันบอกว่าเหงา :กอด1:

ตอนนี้น้องชายไม่มีบทจริงๆด้วย โธ่ ฉาย....
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 27-07-2012 20:41:23
มานั่งคิด นอนคิด
ถ้าไม่มีฉาย.....
ไม่อ่านเรื่องนี้ดีกว่า

เพราะถ้าไม่มี ฉาย....ก็เหมือนไม่มีอะไร สำหรับเรา ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 27-07-2012 20:51:48
....ตะวันนี่รักคนง่ายเนอะ แต่รักเป็นที่ๆ ชอบตรงไหนก็รักตรงนั้น
....แล้วพี่กบปากกว้าง ใช่พระเอกเปล่านฃเนี่ย เจ้าชายกบหรือเปล่า :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-07-2012 20:53:17
รักครั้งแรกแน่เหรอตะวัน เห็นตกหลุมรักไปทั่ว
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: yolp ที่ 27-07-2012 21:54:02
5555 เริ่มเข้าใจชื่อเรื่องที่บอกว่า น้องชายที่เกือบจะไม่มีบทแล้ว
คิดถึงฉายเน้อ

ส่วนตัวเรายกให้พี่กบเป็นพระเอกเบอร์สอง ( รองจากฉายนะไม่ใช่พี่ขุน !! 555)
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 27-07-2012 22:08:11
 :กอด1: พี่กบ เค้าชอบพี่กบอ่ะ

ตะวันน่าร๊ากอีกแล้ว :man1:

ยิ้มแก้มปริรอบดึก ..... ฝันหวานแล้วตู :a12:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 28-07-2012 09:05:14
ตะวันน่ารักเสมอ :m1: ซื่อตรงกับใจตัวเองจริงๆ :give2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#4
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 28-07-2012 17:53:03
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 5

แรกรัก


รักแรกสุดท้ายก็เป็นแรกรัก...คือรักแค่แรกๆ แต่หลังๆก็ไม่รัก...

พี่กบถามผมว่าทำไม แต่ผมตอบไม่ได้รู้แต่ว่าไม่รัก

พี่กบถามผมว่าผมมีคนอื่นหรือเปล่า ผมบอกว่าเปล่า เพราะตอนนั้นผมยังไม่มีคนอื่น ต้องหลังจากนั้นอีกหลายๆวันต่างหากที่ผมมี

พี่กบถามผมว่าเบื่อพี่เหรอ...ผมไม่ตอบเพราะเพิ่งนึกได้ว่า...สงสัยจะใช่...

เวลาอยู่กับน้าโอ๋ ผมมีความสุข อยู่กับน้าเจดผมก็มีความสุข อยู่กับฉายผมก็มีความสุข...ผมไม่เคยเบื่อ ไม่เคยอยากให้พวกเขาหายไป...แต่บางครั้งผมอยากให้พี่กบหายไป โดยเฉพาะเวลาที่พี่กบพยายามสอนผม...โดยเฉพาะเวลาที่พี่กบคอยบอกว่าผมต้องทำอะไร และโดยเฉพาะเวลาที่พี่กบเจอเพื่อนและพี่กบทำอย่างกับว่าไม่อยากให้ผมยืนอยู่ตรงนั้น...

แต่พี่กบบอกว่า...นั่นมันครอบครัว เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้...ผมถามพี่กบว่าทำไม พี่กบก็ตอบไม่ได้ แต่มันไม่เหมือนกัน

“น้าโอ๋กับน้าเจดตอนไม่แต่งงานกันก็เหมือนตะวันกับพี่กบ”ผมบอกและพี่กบก็แค่ยิ้มแล้วพี่กบก็ไป

“นั่งหน้ามุ่ย ลูกค้าหนีหมดแล้ว!”พี่ชายหัวจุก ใส่เสื้อกล้ามขาวกับโสร่งลายตาพูดกับผม ในตำแหน่งเดียวกันเดี๊ยะกับที่พี่กบเคยยืนเมื่อสองปีก่อน

ผมไม่รู้จักเขา...ไม่รู้จักแน่ๆ...ผมนึกแล้วนึกอีก...แต่ผมไม่รู้จักเขาจริงๆ

แต่ดูแล้ว เขาคงไม่ซื้อรูปของผมหรอก...เขาน่าจะวาดรูปเหมือนกัน...ผมได้กลิ่นสีจากตัวเขา กลิ่นที่พี่กบไม่มี...กลิ่นเหมือนพ่อแล้วก็แม่...แล้วก็พี่อ๋อด้วย

“เฮ้ย! ไอ้ตะวัน ดูลูกค้าสิวะ !”พี่อ๋อบอกผมทั้งที่ตัวเองก็กำลังนั่งอ่านการ์ตูน

“ชื่อตะวันเหรอ?”พี่หัวจุกถาม เอียงหัวมองผมแล้วก็ยิ้ม

“พี่ชื่อปา”พี่หัวจุกบอก

“แฟนชื่อกบ”ผมบอกบ้าง พี่หัวจุกเลยหัวเราะ

“เลิกกันเมื่อไหร่ บอกด้วยแล้วกัน!”พี่หัวจุกว่างั๊นแล้วก็ไป ผมเลยอ้าปากค้างเพราะกำลังจะบอกว่าเลิกกันไปตั้งหลายวันแล้ว

พี่หัวจุกมาหาผมทุกวัน...พูดเหมือนเดิมทุกวันแล้วก็ไม่รอคำตอบสักวัน...

“เลิกตั้งนานแล้ว!”ผมบอกพี่หัวจุก ตอนที่พี่หัวจุกมาหาและกำลังจะอ้าปากพูดเหมือนเคยๆ

“รู้ตั้งนานแล้วเหมือนกัน!”พี่หัวจุกว่างั๊นแล้วก็หัวเราะ

“รู้ได้ไง?”ผมถาม

“ความลับ!...แต่พี่ไม่มีความลับกับแฟนนะ!”พี่หัวจุกว่างั๊น แล้วหลังจากนั้นกี่วันไม่รู้ ผมก็รู้ความลับที่ว่า...

พี่ปาเป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนแล้วก็ของเพื่อนของพี่อ๋อ...พี่ปาว่างั๊น ตอนที่พี่ปาบอกว่าเราไม่มีความลับระหว่างกันนะ...

ผมชอบพี่ปา

พี่ปาใจดีไม่เท่าพี่กบ...แต่พี่ปาชอบบอกเพื่อนๆว่า...นี่แฟนกู...พี่กบไม่เคยบอกเพื่อนของพี่กบแบบนี้

ผมชอบพี่ปา...ยกเว้นก็แต่เวลาพี่ปาโกรธ...

พี่ปาชอบทำให้ผมเจ็บ ทั้งเวลาที่พี่ปาโมโห หรือบางครั้งถึงไม่โมโห พี่ปาก็ทำให้ผมเจ็บ

หลังจากผมนับรอยเขียวๆตามตัวของตัวเองได้เท่าจำนวนดาวลูกไก่ ผมก็ตัดสินใจเลิกรักพี่ปา...เพียงแต่พี่ปาจะแค่ยิ้มแล้วก็ไปเหมือนพี่กบหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ

ผมนั่งคิดบ้าง ลืมคิดบ้างอยู่สองวันเต็มๆ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้

“พี่อ๋อ พรุ่งนี้ตะวันไม่มานะ”ผมบอกพี่อ๋อหลังจากนึกวิธีได้

“ไปไหนวะ?”

“ตะวันจะไปเพาะกล้าม!”ผมบอกพี่อ๋อ พี่อ๋อก็แค่มองผมแล้วก็พยักหน้า

เย็นอีกวัน รอจนฉายเลิกเรียน ผมกับฉายก็มุ่งหน้าสู่จุดหมาย ชมรมเพาะกายที่ฉายเป็นคนค้นหาข้อมูลมาให้ เพราะนึกว่าผมจะไปวาดรูปนักกล้าม

“สนใจเพาะกายเหรอครับน้อง?”พี่กล้ามโตถาม มองผมแล้วก็มองฉาย...ผมกับฉายก็มองกล้ามโตๆของพี่เขาเหมือนกัน

แม่เคยบอกว่าความงามไม่จำเป็นต้องสมดุลกันซ้ายกับขวา...ผมมองกล้ามซีกตัวขวาที่เท่ากับกล้ามซีกตัวซ้ายของพี่กล้ามโตแล้วผมก็มองแขนลีบๆของฉายที่เบียดอยู่กับแขนลีบๆของผม

พ่อบอกว่าคนเราเห็นความสวยงามแตกต่างกันไป...พี่กล้ามโตคงเห็นกล้ามตัวเองสวย แต่ผมมองยังไงก็ไม่...ฉายก็น่าจะเห็นเหมือนๆผม เลยแอบดึงเสื้อผมให้ถอยหลังกลับ

“ลองเข้ามาดูก่อนได้นะครับ...”พี่กล้ามโตชักชวน ผมเลยเดินตามเข้าไป เพราะถึงจะดูไม่สวยในสายตาผม แต่ผมอยากได้กล้ามโตๆเอาไปสู้กับพี่ปาต่างหาก

ลูกเหล็กสองอันที่มองยังไงผมก็น่าจะไม่มีปัญญายกขึ้นแต่พี่กล้ามโตคนหนึ่งยกเอ๊า ยกเอา แถมยกๆอยู่ยังหันมายิ้มฟันขาวให้ผมอีกต่างหาก

“ฉายลองสิ”ผมบอกฉาย มองลูกเหล็กอีกอันที่ว่างอยู่

“ฉายมาเป็นเพื่อนตะวันเฉยๆนะ”ฉายบอก

“ก็พี่ยกไม่ขึ้นนี่”

“แล้วตะวันคิดว่าฉายจะยกขึ้นหรือไงเล่า!”

“ยกกี่วัน แขนถึงโตเหมือนพี่?”ผมหันไปถามพี่กล้ามโต

“ฝึกอย่างถูกหลักทุกวันก็ไม่กี่เดือนครับ”พี่กล้ามโตตอบ ผมเลยกลับเพราะผมอยากกล้ามโตภายในหนึ่งวัน ขืนรออีกเป็นเดือน รอยเขียวบนตัวผมต้องกลายเป็นดาวลูกไก่ฝูงใหม่แน่ๆ

...งั๊นก็หาแฟนเป็นนักกล้ามซะก็หมดเรื่อง!...ผมได้ความคิดใหม่หลังจากนั่งคิด นอนคิดและลืมคิดไปอีกสองวัน...

แต่ผมไม่รู้จะหาแฟนนักกล้ามจากไหน จนสุดท้ายบนตัวผมก็มีดาวลูกไก่สีเขียวๆเพิ่มขึ้นมาอีกครึ่งฝูง

“ชื่อตะวันใช่ไหม? พี่ชื่อขุน”พี่ชายคนนึงพูด...พี่ชายคนนี้ ผมเจอเขาเมื่อวันก่อนโน้นแต่ไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่...วันนี้เขาเจอผมแล้วเขายิ้ม ผมก็เลยยิ้ม...เพราะจริงๆผมน่ะชอบเขาตั้งแต่วันโน้นแล้ว...

“ชื่อตะวัน...แฟนชื่อปา”ผมบอก

“แล้วอยากเปลี่ยนแฟนหรือยัง?”พี่ขุนถาม...ผมเลยมองกล้ามแขนพี่ขุน...มันไม่เล็กกว่ากล้ามของพี่ปาเท่าไหร่...ผมเลยพยักหน้า...พี่ขุนก็หัวเราะแล้วบอกว่า...โอเค งั๊นเราเป็นแฟนกัน...

จบ...แรกรัก
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 28-07-2012 18:10:29
ง้ะ มึนเลย เป็นแฟนกันมันเป็นกันง่ายๆอย่างอย่างงี้เลยหรอ   :laugh:
แต่ตะวันน่ารัก
พี่ขุนออกมาเเล้ววว  :z2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 28-07-2012 18:50:44
ออกมาแล้วววว :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 28-07-2012 19:08:36
มันก็ง่ายไปนะ เปลี่ยนแฟนเหมือนเปลี่ยนเสื้อ ยังดีที่มีบทให้ฉาย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 28-07-2012 19:11:52
โอ๊ย ไอ้พี่ปา่ขาโหดดดดดด บังอาจมาทำแผนที่ดาวลูกไก่บนตัวตะวัน เชอะๆๆๆๆ  :angry2:

+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 28-07-2012 20:58:57
ตะวันไม่สนใจฉายเลยอ่า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 28-07-2012 21:26:08
 :mc4: :mc4:

ดีใจที่คุณภัคDเอาเด็กชายตะวันมาลงอีกครั้ง
ดีใจมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 28-07-2012 21:28:02
สงสารฉายจัง ไม่มีบทบาท ฮ่าๆๆ  :laugh:
มันคนละมุมมองจริงๆๆ
เรื่องของตะวัน ฉายออกมากระจึ่งนึง
เรื่องของฉาย ตะวันออกมายาวเป็นวา...
....
ปล. แต่ว่าเราก็ชอบตะวันอยู่ดีน่ะแหละ หลุดโลกได้ใจมากก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 28-07-2012 21:53:45
ตะวันมีแค่ตัวเอง แต่ฉายมีแค่ตะวัน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: ตีสี่ ที่ 28-07-2012 22:02:09
ขอแหมะไว้แค่นี้ก่อนนะ
แล้วจะเข้ามาอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: sanddy3 ที่ 28-07-2012 22:21:58
ถ้าเราเป็นตะวัน เราก็จะรักพี่ขุนนี่แหละ
ทั้งปกป้อง เข้าใจ และสื่อถึงโลกของตะวันได้
ฉายเป็นน้อง เป็นครอบครัว  :กอด1:

เกลียดพี่ปา ที่ชอบใช้ความรุนแรง และยิ่งเศร้าที่รู้ว่าจะทำร้ายตะวันขนาดไหนยามไม่มีพี่ขุนปกป้อง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 28-07-2012 22:26:47
พี่กบก้อพอได้นะ พี่ปาไม่ชอบ ส่วนพี่ขุน ขอให้เรารู้สึกชอบพี่เค้าบ้าง 555  เราอยู่ข้างฉาย 555
ตะวันนี้ก้อผ่านผู้ชายมาเยอะ (ถึงจะเเพ้พี่เหยา)  :a5:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-07-2012 22:38:11
เสน่ห์แรงเหลือเกินนะตะวัน มีหนุ่ม เข้าหาไม่ขาด
พี่ปาขาโหดเลิกดีกว่า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 28-07-2012 22:42:57
ดีใจมากเลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่เอามาลงให้อ่านกัน
ตอนอ่านเด็กชายตะวันฉาย มันอาจจะหน่วง ๆ ยิ้ม ๆ  แต่พอมาอ่านเรื่องนี้ สงสัยจังทำไมแค่นิดเดียวเราก็อยากจะร้องไห้แล้วอะ คงเพราะเรารักตัวละครในเรื่องนี้จริง ๆ และเราก็เพิ่งรู้ว่าที่จริงแล้วเราอิน..มากกว่าที่ตัวเองคิดซะอีก  :กอด1:
 
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 29-07-2012 00:24:11
จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 29-07-2012 00:32:16
“ชื่อตะวัน...แฟนชื่อปา”ผมบอก

“แล้วอยากเปลี่ยนแฟนหรือยัง?”พี่ขุนถาม...ผมเลยมองกล้ามแขนพี่ขุน...มันไม่เล็กกว่ากล้ามของพี่ปาเท่าไหร่...ผมเลยพยักหน้า...พี่ขุนก็หัวเราะแล้วบอกว่า...โอเค งั๊นเราเป็นแฟนกัน...

ป๊าดด ตะวัน .... หนูจะเปลี่ยนเลยรึคะ??  :man1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#5
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 29-07-2012 14:07:14
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 6

ไม่มี...


“แล้วอยากเปลี่ยนแฟนหรือยัง?”พี่ขุนถาม แล้วผมก็พยักหน้า...พี่ขุนก็หัวเราะแล้วบอกว่า...โอเค งั๊นเราเป็นแฟนกัน...แล้วพี่ขุนก็หายไป ไม่มาหาผมอีก...

หนึ่งวันพี่ขุนก็ยังไม่มา...สองวันก็ยังไม่มา...สามวัน สี่วันแล้วก็ห้าวัน...

“ทำไม?”พี่ปาถามผม ตอนที่ผมบอกพี่ปาว่าผมไม่อยากเป็นแฟนกับพี่ปาแล้ว

ผมไม่รู้จะตอบพี่ปาว่ายังไง รู้แต่ว่าผมไม่ได้รักพี่ปาแล้ว พอไม่รักผมก็ไม่อยากให้พี่ปากอดผมหรือจูบผม...

“ตะวันมีคนอื่นเหรอ?”พี่ปาถาม...ถ้าถามเมื่อหกวันก่อนผมก็จะพยักหน้าแต่พอถามวันนี้ผมเลยส่ายหัว เพราะพี่ขุนหายหัวไปไหนแล้วไม่รู้...

ผมได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายดังเอื้อก ตอนที่พี่ปาเดินเข้ามาหาผม...

ผมได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายอีกหนึ่งเอื้อก ตอนพี่ปามาหยุดยืนอยู่ข้างหน้า

ผมได้ยินแต่เสียงตัวเองกลืนน้ำลายเลยไม่รู้ว่าพี่ปาพูดอะไร แล้วพี่ปาก็ไป...

พอพี่ปาไปแล้ว...บ้านก็เงียบ...ผมเดินไปเดินมา เข้าห้องโน้นแล้วก็ออกห้องนี้ และมันก็ดึกแล้ว บ้านน้าโอ๋ปิดไฟไปหมดแล้ว ผมเลยนั่งอยู่คนเดียว ในบ้านเงียบๆ...

วันถัดมาผมก็ไปอยู่บ้านน้าโอ๋ทั้งวัน กินข้าวบ้านน้าโอ๋แล้วก็นอนดูทีวีบ้านน้าโอ๋...ผมนึกได้ว่าไม่ได้ล็อคประตูบ้าน ผมเลยวิ่งกลับบ้านจะไปล็อคประตูเพราะกะว่าคืนนี้จะนอนบ้านน้าโอ๋...แต่พอมาถึงน้าโอ๋ก็ปิดประตูบ้านแล้ว ไฟบ้านชั้นล่างก็ปิดหมดแล้ว ผมเลยนึกได้ว่าลืมบอกน้าโอ๋ ลืมบอกฉายว่าคืนนี้ผมจะมานอนด้วย...ผมอยากตะโกนเรียกน้าโอ๋...แต่ผมก็เดินกลับบ้าน แล้วก็ไปอยู่คนเดียวในบ้านเงียบๆ...

“เหงาหรือเปล่า?”อีกวันหนึ่งพี่ปาก็โทรมาหาผมแล้วก็ถามผมว่า...เหงาหรือเปล่า...ผมก็บอกพี่ปาว่าไม่เหงาทั้งที่จริงๆผมเหงา...แต่ผมก็กลัวพี่ปามากกว่าความเหงา...

แล้วคืนนั้นพี่ขุนก็มาหาผมที่ร้าน...พี่ขุนจอดมอเตอร์ไซด์อยู่ที่อีกฟากถนน...พอเก็บร้านเสร็จผมก็ข้ามถนนไปหาพี่ขุน...แล้วผมก็ได้ยินเสียงตัวเองกลืนน้ำลายดังเอื้อก...เพราะผมเห็นแผลที่หัวคิ้วพี่ขุนแล้วแก้มพี่ขุนก็ช้ำด้วย...

ผมหันไปมองหาพี่อ๋อ แต่พี่อ๋อกลับไปแล้ว เพราะผมบอกพี่อ๋อว่าวันนี้ไม่ต้องไปส่งผม...

จริงๆก่อนหน้าวันนี้ผมคิดไว้ว่าถ้าเจอพี่ขุนผมจะบอกพี่ขุนว่า...ผมไม่เป็นแฟนพี่ขุนแล้ว...แต่พอผมเห็นพี่ขุนผมก็ดีใจจนลืม มานึกได้อีกทีก็ตอนเห็นแผลบนหัวคิ้วพี่ขุน

พี่ขุนบอกว่าจะไปส่ง ผมก็ปีนขึ้นซ้อนท้ายพี่ขุนไม่กล้าพูดอะไร เพราะถ้าขัดใจ ผมก็กลัวว่าจะมีรอยแผลอย่างนั้นบนหน้าผม...

พอถึงบ้านผมก็เข้าบ้าน...บ้านยังเงียบเหมือนเดิมและผมก็ยังเหงาเหมือนเดิม...

ผมเดินเข้าห้องโน้นก่อนออกห้องนี้...เดินไปแล้วก็เดินมาในบ้านเงียบๆ แล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่างเลยเห็นมอเตอร์ไซด์พี่ขุนยังจอดอยู่ที่หน้าประตูรั้วบ้าน

พี่ขุนมองผมไม่พูดอะไรตอนที่ผมเปิดประตูรั้วออกไปและพี่ขุนเงยหน้าขึ้นมามอง...แล้วพี่ขุนก็เข้ามาในบ้าน

แผลที่หัวคิ้วพี่ขุนยังอยู่ แก้มพี่ขุนก็ยังช้ำแต่ผมไม่กลัวพี่ขุนแล้ว...

ผมยืนเฉยๆตอนที่พี่ขุนกอดผมเอาไว้...พี่ขุนไม่ได้ร้องไห้แต่ผมก็รู้ว่าพี่ขุนกำลังร้องไห้ ผมเลยกอดพี่ขุน...

...โลกมันกว้างแต่กลับไม่มีที่ให้เราอยู่...พี่ขุนบอกผมอย่างนั้นแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่พูดอะไรอีก...เพราะผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมไม่รู้จักพี่ขุน...รู้จักก็แต่ชื่อแล้วก็รู้ว่าพี่ขุนร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาเท่านั้นเอง...

จบ...ไม่มี...











หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: kt_ktjj ที่ 29-07-2012 15:10:59
ขอบคุณมากนะคะที่เอามาลงให้ เมลล์สั่งจองทั้ง2เรื่องไปแล้วค่ะ  อยากให้ เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ ฯ รวมเล่มด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 29-07-2012 15:20:15
...โลกมันกว้างแต่กลับไม่มีที่ให้เราอยู่...พี่ขุนบอกผมอย่างนั้นแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ผมก็ไม่พูดอะไรอีก...เพราะผมไม่รู้จะพูดอะไร ผมไม่รู้จักพี่ขุน...รู้จักก็แต่ชื่อแล้วก็รู้ว่าพี่ขุนร้องไห้โดยไม่มีน้ำตาเท่านั้นเอง...

มันอ่านแล้ว อื้ม.... บางสิ่งไม่รู้ แต่บางสิ่งรู้ และไอ้สิ่งที่เรารู้ คนอื่นไม่เคยรู้  :กอด1:
(วันนี้คงเลื้อยและล่องลอยไปกับประโยคนี้...ทั้งวัน)
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-07-2012 15:21:46
ความรู้สึกนั้น มันกำลังจะกลับมา  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 29-07-2012 15:22:55
อ่านแล้วรับรู้ความเหงา ความไม่มี ของตะวัน
อยากกอดตะวันแน่นๆ เวลาตะวันต้องอยู่คนเดียวในบ้านเงียบๆ
แต่ตอนนี้ตะวันมีพี่ขุนเข้ามาช่วยเติมเต็มแล้ว กอดกันแน่นๆนะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 29-07-2012 15:29:28
เกลียดตัวเองชะมัด ว่าจะไม่เข้ามาอ่าน แต่มันอดไม่ได้ เพราะอยากรู้จริงๆ ว่าฉายจะไม่มีบทได้ถึงไหน
พอมาอ่าน เฮ้อ ตรู เชื่อแล้วหล่ะ ...ว่าฉายตรู จะไม่มีบทจริงๆ

เฮ้อ...ยิ่งอ่าน ยิ่งไม่อยากให้ตะวันได้คนอย่างฉาย

เพราะโลกของตะวันมีแค่ตัวตะวันกับบรรดากิ๊กๆ
แต่โลกของฉาย มีแต่ตะวัน

ความยุติธรรมมันอยู่ทีหนาย...ยยย  ใครดึงเจ้าฉายของช้านออกมาจากโลกที่มีแต่ตะวันที
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: ตีสี่ ที่ 29-07-2012 15:52:56
ตอนอ่านตะวันฉาย เราไม่ได้อยากให้ฉายสมหวังกับตะวันหรอกนะ เพราะรู่้สึกว่าฉายก็มีความสุขในแบบของฉาย
เราอยากให้ตอนจบของตะวันฉาย มีพี่ขุน มีน้าโอ๋ น้าเจคอยู่กันพร้อมหน้าจะดีที่สุด
แต่อย่างว่าเนอะ มันจบไปแล้วววววววว
แต่มุมมองของตะวันเนี่ย สั้นและเรียบง่ายดีแท้
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-07-2012 17:30:27
มุมมองของตะวัน เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก บ่งบอกถึงอารมณ์ของตะวันที่ไม่เคยคิดว่ามี แต่มี ได้เป็นอย่างดี
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 29-07-2012 18:13:18


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ไม่มีอะไรจะเม้น ตลก จุก เจ็บ ตะวันเป็นที่แปลกคนหนึ่งเลยนะเนี่ย เพิ่งเข้ามาอ่านเต็มๆๆ

ชอบผลงานของคุณภัคD จังเลยค่ะ ประทับใจจนบอกไมู่ถูกเลย   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 29-07-2012 18:28:27
หลังจากไล่อ่านทัน...ก็พบว่าเรื่องนี้ฉายกลายเป็นตัวประกอบมาก 555
บทหายไปเลย โผล่มากระจึ๋งนึง
ส่วนตะวันก็ใจง่ายมาก ใครมาขอเปลี่ยนแฟนหน่อยก็ยอมเปลี่ยนง่ายๆ อย่างนั้น

อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนั้นตะวันรู้สึกยังไงกับฉาย

ส่วนตอนนี้ก็ยังเกลียดพี่ปาเหมือนเดิม แง่งงงงงงงงง

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: ไข่หอมคับ ที่ 29-07-2012 18:31:03
ตะวันเหมือนเป็นคนมีอะไรมากมายอยู่ในหัว
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 29-07-2012 21:22:52
...อ่านไปอ่านมาซักรู้สึกว่า ตะวันมีสมองน้อยจริงๆๆ คิดอะไรน้อยดี จะรักก็รักจะเลิกก็เลิกไม่คิดอะไรมาก
...บนโลกใบนี้่คงไม่มีคนแบบตะวันเนอะ เปลี่ยนแฟนง่ายยิ่งกว่า ปอกกล้วยเข้าปากซะอีก :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-07-2012 16:56:47
ดันจ้าดัน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#6
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 30-07-2012 17:09:32
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 7

ก็ยังไม่มี...


พอตอนเช้า...ผมก็เห็นแผลที่หน้าพี่ขุนชัดแจ๋วกว่าเมื่อคืน...

พี่ขุนเป็นแฟนคนแรกที่เข้ามาในบ้านผมแล้วก็ทำแค่เอามือกอดผมไว้เฉยๆ...

“พี่ขุนกำลังหาบ้านเช่าเหรอ?”ผมถามเพราะเพิ่งสอดรู้สอดเห็นแอบฟังพี่ขุนคุยโทรศัพท์กับเพื่อน...ว่าพี่ขุนจะหาบ้านเช่า

“ตะวันแอบฟังพี่คุยโทรศัพท์ แล้วจะถามพี่อีกทำไม?”พี่ขุนตอบแล้วก็ยิ้ม

“พี่ขุนมาอยู่กับตะวันก็ได้ ตะวันอยู่คนเดียว”ผมบอก พี่ขุนก็แค่ยิ้มอีก

“ยิ้มแปลว่าอยู่หรือไม่อยู่?”ผมถามและอยากให้พี่ขุนตอบว่าอยู่

“แปลว่าไม่อยู่”

“ทำไมล่ะ?”ผมถาม

“ไม่มีเหตุผล”

“แล้วทำไมพี่ขุนไม่อยู่บ้านล่ะ?”

“สอดรู้สอดเห็นจัง...”พี่ขุนถอนหายใจแล้วก็ว่าอย่างงั๊น ปากพี่ขุนก็ไม่ยิ้มแล้วผมเลยเงียบ

บ่ายๆพี่ขุนก็กลับ...พอเย็นๆพี่ขุนก็มาหาผมที่ร้านอีกพร้อมแผลปากแตกเพิ่มมาอีกหนึ่ง

ผมอยากบอกพี่ขุนว่า การใช้กำลังน่ะไม่ดี แต่ผมก็ไม่บอก...เพราะถึงการใช้กำลังจะไม่ดี แต่การใช้กำลังกับคนอื่นก็น่าจะดีกว่ามาใช้กำลังกับผม... ผมเลยเลือกปิดปาก...

พี่ขุนมาส่งผมที่บ้านแล้วก็ทำท่าจะกลับ

“พี่ขุนไม่อยู่กับตะวันเหรอ?”ผมถาม...ผมไม่บอกพี่ขุนแล้วว่า...ผมจะไม่เป็นแฟนกับพี่ขุนแล้ว...ไม่ใช่เพราะไม่อยากบอกหรือเพราะผมอยากเป็นแฟนกับพี่ขุน แต่ผมรู้สึกงงๆ...ว่าสงสัยผมกับพี่ขุนจะไม่ได้เป็นแฟนกัน

พี่กบชอบกอดผม ...พี่ปาบอกว่าเป็นแฟนต้องไม่ปิดบังกัน...ส่วนพี่ขุน ไม่กอดผมแล้วยังว่าผมสอดรู้สอดเห็นอีก

“เหงาเหรอ?”พี่ขุนถาม ผมก็พยักหน้า...พี่ขุนเลยทำท่าคิดอยู่แป๊บแล้วก็ตามผมเข้ามาในบ้าน

“พ่อกับแม่ของตะวันหนีไปเที่ยว”ผมบอกพี่ขุน...พี่ขุนก็แค่พยักหน้ารับเหมือนรู้อยู่แล้ว

“แล้วแฟนตะวันล่ะ”

“ก็...พี่ขุนไง!”ผมบอกแล้วพี่ขุนก็ทำหน้างง...

“ก็พี่ขุนบอกว่า งั๊นเราเป็นแฟนกัน...”

“ตะวันเลยเลิกกับแฟน?”พี่ขุนถาม ผมไม่รู้ว่าจะส่ายหน้าหรือพยักหน้าดี แต่ที่รู้แน่ๆคือ ต่อไปผมคงต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว...

ผมอยากให้พี่ขุนเป็นเหมือนเมื่อคืน...พี่ขุนจะได้อยากอยู่กับผม

“ไม่เป็นแฟนกันก็ได้...แต่วันนี้พี่ขุนอยู่กับตะวันนะ...”ผมถามพี่ขุน

“พี่นัดเพื่อนไว้...”พี่ขุนบอก ถึงพี่ขุนจะลังเลแต่สุดท้ายพี่ขุนก็ไป...

ผมเลยนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวเพราะผมเหงา เพราะว่าไม่มีใครอยู่กับผมเลย...

จบ...ก็ยังไม่มี...
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 30-07-2012 17:47:32
ตะวันน่าสงสารอ่ะ ...
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 30-07-2012 17:54:51
ที่มาที่ไปคือความเหงานี่เอง
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: sanddy3 ที่ 30-07-2012 18:17:26
ขอบคุณคุณภัค D ที่มาลงทุกวันเลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: yolp ที่ 30-07-2012 18:47:07
ตะวันเหมือนเด็กเลย ขี้เหงา ไม่รู้จะทำยังไงดี โอ๋ๆ คราวหลังวิ่งไปหาน้องชายข้างบ้านน้า ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-07-2012 20:01:21
อยากกอดตะวันแน่น ๆ ไม่ให้เหงา
อิพี่ขุนจะเอายังไง
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 30-07-2012 20:30:46
อย่าร้องไห้อยู่คนเดียวเลยน้า ตะวัน
รีบวิ่งไปให้ฉายกอดตอนนี้เลย หรือเรียกฉายมาหาที่บ้านก็ได้
ฉายมันยิ่งกว่าเต็มใจอีก
ตะวันและฉายจะได้ไม่เหงา
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 30-07-2012 20:51:17
น่าสงสารตะวันเนอะ :กอด1: เข้าใจความรู้สึกเหงาค่ะ  :sad2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 30-07-2012 21:01:11
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึก สำหรับตะวัน ฉายเป็นแค่น้องชายจริงๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 30-07-2012 21:23:40
... คนอื่นเค้าคง งง ตะวันเนอะ ที่ตะวันคิดอะไรง่ายๆ เหมาอะไรง่ายๆๆ ขี้ตู่เก่งนั่นเอง
... ความเหงานี่มัน ทำร้ายเรา่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่แปลกๆ อย่างตะวัน :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 30-07-2012 23:31:39
มามะ..ตะวัน อกอิชั้นยังว่างอยู่ อิอิ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: babynevercry ที่ 30-07-2012 23:41:55
ตะวัน เป็นคนขี้เหงา เราเข้าใจตะวันนะ นักอ่าน ทุกคนก็คงเข้าใจสาเหตุของตะวันอ่ะ

ตะวันก็คงอยากมีใครอยู่ข้างๆ เพื่อมาเปลี่ยนความอ้างว้างที่ตัวเองมีอ่ะ

อ่านแล้วไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่รู้สึกว่าตะวันง่ายหรืออะไรเลย

ความเหงามันร้ายกาจนะครับทุกคน

อ่านภาคที่แล้ว หลายๆคนจัดให้เป็นหนึ่งในนิยายที่เป็นตำนานของเล้า ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น

กลับมาเจอครั้งนี้ อ่านยังไงๆๆ คุณภัคD ก็ยังทำให้หน่วง อึดอัดในอก ได้เหมือนเดิม

ชอบมากครับ ชอบ ชอบ หนึ่งพันล้านครั้ง
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 31-07-2012 01:19:59
ตะวันเด็กขี้เหงา
รู้หรือยังหนอว่าความรักคืออะไร
มันต่างกับความเหงานะ
พี่ขุนคงจะสอนตะวันให้รู้จักคำนั้น  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 31-07-2012 02:32:30
นั่งมองชื่อเรื่องอยู่นานมาก...หลายวันด้วย
แล้วก็มองชื่อคนเขียน แล้วก็นึก...
เฮ้ย! นี่มันตะวันฉาย เรื่องที่เคยเรียกน้ำตานี่หว่า!!

คิดได้แบบนั้นเลยรีบพุ่งตัวเข้ากระทู้ทันทีค่ะ!

รอบนี้ได้อ่านในมุมมองของตะวัน
แค่ 7 ตอนแต่อยากบอกว่ามันเศร้ากว่ามุมฉายอีกนะคะ
คือมุมฉายมองในมุมแบบรักข้างเดียว
แต่ในมุมตะวันนี่คืออารมณ์ของความเหงาชัดๆเลย

แล้วแค่ 7 ตอนตะวันยังน่าสงสารขนาดนี้...
ไม่อยากจะคิดเลย ว่าถึงตอนที่พี่ขุนตาย ตะวันจะน่าสงสารขนาดไหน
(ใครยังไม่อ่านภาคตะวันฉายโปรดข้ามคอมเมนท์นี้ หุหุ)

รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ!
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-07-2012 11:02:14
น้ำตาเริ่มซึมอย่างช้าๆ  :sad11:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 31-07-2012 12:07:15
เป็นแค่คนเหงาๆคนหนึ่ง ตะวันเอ๊ย!!! ...จากเรื่องที่แล้ว ว่าจะไม่อ่าน...ไม่อ่าน...แต่มันอดไม่ได้จริงๆคับ!!! คุณภัก D ทำพิธีผูกวิญาณนักอ่านไว้ป่าวเนี่ย 555+.... ไหนๆก็ไหนๆ ก็ตามอ่านกันให้ถึงที่สุดคับ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: shabu ที่ 31-07-2012 12:41:20
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องย้อนกลับไปอ่านตะวันฉายใหม่ ทีละบท อย่างโลกคู่ขนาน
ว่าตอนนั้นฉายทำไรอยู่ ถึงไม่มีบท 555 แล้วค้นพบว่า ฉายยังเด็กมากค่ะ

ได้อ่านมุมของตะวัน ได้เข้าใจตะวันขึ้นอีกนิด ตะวันของเราไม่ได้ใจง่าย
แค่เปลี่ยนแฟนเพื่อหาคู่นอนใหม่หรอก ตะวันมองพี่กบที่ปากกว้างเหมือนพ่อ
มองพี่ปาที่มัดจุกและมีกลิ่นสีแบบแม่กับพ่อ  แต่พี่ปาก็ทำร้ายร่างกายตะวัน
พี่กบก็ไม่สามารถยอมรับกับสังคมได้ เป็นเราก็คงต้องเลิก
เพียงแต่ตะวันทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ก็เลยมีแต่คนคิดว่าตะวันไม่รู้สึกอะไร
ทั้งที่เราว่าตะวันก็รู้สึกอะไร          เฮ้อ  รักตะวันนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 31-07-2012 15:01:01
ยังจำความรู้สึกที่อ่านเรื่องเด็กชายตะวันฉายได้อยู่เลยค่ะ
ตอนนั้นอ่านไปด้วยความรู้สึกที่อึนๆ มันอึดอัดนะ
เรารักตะวันที่เป็นคนแบบนี้ ตะวันที่น่ารัก คิดว่าตะวันเป็นเด็กที่มองโลกง่ายๆสบายๆ
ตะวันที่ไม่ชอบความเจ็บปวด แต่กลับเจอความเจ็บปวดจากคนรอบข้างตลอด
ตะวันที่รักฉาย จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าตะวันไม่รักฉายนะ
แต่คิดว่า..ตะวันคิดอะไรในหัวเล็กๆนั่นมากกว่าที่เรารู้เยอะ
คิดว่าในเรื่องนี้ใครมันจะไปรักตะวันได้มากกว่าฉายอีกแล้วนะ
ฉายผู้ทุ่มเท เพราะรักตะวันเลยขอแค่อยู่ข้างๆได้รักตะวันแบบใกล้ๆ
แค่คิดถึงเรื่องนี้ก็น้ำตาไหลแล้ว จะรอคอยติดตามเรื่องนี้จากด้านตะวันบ้างค่ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: CoMa ที่ 31-07-2012 15:13:04
อร๊ากกกกกกกกกกกก ดีใจอ่ะได้อ่านในมุมมองของพี่ตะวันบ้าง
มองดูเหมือนตะวันเป็นคนที่เข้าใจยาก แต่พอได้อ่านแล้วจริงๆตะวันเป็นคนที่คิดอะไรง่ายมาก555
รู้สึกสนุกในการได้ติดตามความคิดของตะวันมันเป็นอะไรที่บางทีเราก็ไม่เคยคิดได้แบบตะวัน(พอเหอะเริ่มงง555)
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#7
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 31-07-2012 17:49:27
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 8

...ก็ยังคงไม่มีต่อไป (ชื่อตอนน่ะค่ะ คิดไม่ออก ไม่ใช่อะไร)


ผมมองพี่ขุนที่นอนอยู่ข้างๆ...เอามือไล่ไปตามรอยแผลบนหน้าของพี่ขุน...

พี่ขุนเป็นแฟนคนแรกที่เห็นแล้วผมนึกอยากวาดรูป...อยากวิ่งไปหยิบกระดาษกับดินสอ แต่ผมก็ไม่ได้ทำเพราะแขนข้างหนึ่งของพี่ขุนยังโอบแล้วก็กอดผมเอาไว้...และผมก็อยากให้แบบอยู่อย่างนั้น...ผมเลยไม่ค่อยกล้าขยับตัว...

เมื่อคืนพี่ขุนกลับมาหาผม...กลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เพราะผมมัวแต่นั่งร้องไห้ พอร้องไห้เสร็จ พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นพี่ขุน ผมก็ตกใจจนเกือบตกเก้าอี้ ดีที่พี่ขุนคว้าแขนผมเอาไว้ทัน...

‘ร้องไห้ทำไม?’ พี่ขุนถามผม

‘ตะวันนึกว่าพี่ขุนไปแล้ว...ก็พี่ขุนบอกว่าพี่ขุนนัดเพื่อนไว้’ผมบอก เลิกร้องไห้แล้ว ไม่ใช่เพราะดีใจที่พี่ขุนมาแต่เพราะเมื่อกี้ตกใจที่หงายหลังจนเกือบตกเก้าอี้

‘พี่บอกว่าพี่นัดเพื่อนไว้ จะออกไปโทรหาเพื่อน...คุยตรงนี้ตะวันก็แอบฟังพี่คุยโทรศัพท์’พี่ขุนบอก...ผมอยากบอกพี่ขุนว่า เป็นแฟนกันต้องไม่มีความลับต่อกัน แต่นึกได้ว่า สงสัยผมกับพี่ขุนจะยังไม่ได้เป็นแฟนกัน

พี่ขุนมองไปรอบๆบ้านผม ผมก็มองตาม...แล้วพี่ขุนก็มองผมแล้วก็ดึงผมเข้าไปกอด...น้ำตาผมเลยไหลออกมาอีกรอบ พอผมกอดพี่ขุน พี่ขุนก็กอดผมแน่นขึ้นผมเลยยิ่งร้องไห้...แล้วมันก็เกือบๆจะจบลงแค่กอด

อย่างที่บอก พี่ขุนเป็นแฟนคนแรกที่เข้าบ้านผมถึงสองครั้งและจะทำแค่เอามือกอด พอผมถาม พี่ขุนก็ตอบว่า

‘ขี้เกียจติดคุก ตะวันยังเด็กอยู่เลยนะ!’พี่ขุนพูดแต่ผมฟังแล้วคล้ายๆเหมือนเวลาโดนน้าโอ๋ดุ

‘ตะวันยี่สิบกว่าๆแล้วนะ’ผมบอก

‘จริงสิ?’พี่ขุนขมวดคิ้วถาม ผมก็พยักหน้า...แล้วก็พยักหน้าอีกรอบตอนพี่ขุนยังขมวดคิ้ว

สุดท้ายเลยได้แค่เกือบจะจบลงที่กอด...เพราะมันไม่ได้จบลงแค่ที่กอด...

‘พี่ขุนกับตะวันเป็นแฟนกันหรือเปล่า?’ผมถามหลังจากพี่ขุนไม่ได้ทำแค่เอามือมากอดผมไว้เฉยๆ และพี่ขุนก็ตอบโดยการพยักหน้า...

‘พี่ปาบอกว่าเป็นแฟนต้องไม่ปิดบังกัน..รักก็บอกว่ารัก ไม่รักก็บอกว่าไม่รัก ห้ามมีความลับ’

‘พี่ไม่ใช่พี่ปา...แต่พี่เห็นด้วย’พี่ขุนบอก

‘พี่ขอโทษที่ว่าตะวันสอดรู้สอดเห็น ถึงพี่จะคิดงั๊นจริงๆก็เหอะ...’

‘พี่ไม่ได้อยากปิด มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร...ไม่มีอะไร แค่บางครั้งไม่อยากพูดถึง บางครั้งมันเหนื่อย ไม่อยากพูด...ไว้หายเหนื่อยแล้วตะวันอยากถามอะไรก็ถาม’

‘พี่ขุนเหนื่อยมากเลยเหรอ?’ผมถาม

‘...พี่หมายถึงเหนื่อยใจ...หมายถึงเมื่อเช้าไม่ใช่ตอนนี้...’พี่ขุนถอนหายใจก่อนพูด ผมเลยร้อง...อ๋อ...พี่ขุนเลยส่ายหัว

‘แต่ตะวันมีเรื่องจะบอก...ตะวันโกหกพี่ขุนตอนยังไม่ได้เป็นแฟนกัน’

‘อะไร?’

‘อีกสองเดือนตะวันจะสิบแปด...’ผมบอก พี่ขุนก็ไม่เห็นว่าอะไร นอกจากนอนเฉยๆ...เฉยจริงๆ เฉยจนผมรู้สึกว่าพี่ขุนน่าจะไม่ได้หายใจไปแป๊บนึง

ผมเลยเบียดตัวซุกอกพี่ขุน พี่ขุนก็ยังนอนเฉยๆ แต่ตอนนี้พี่ขุนเริ่มหายใจแล้ว

‘กอดตะวันหน่อยสิ’ผมบอก...พี่ขุนก็ยังนอนเฉยอีกแป๊บก่อนจะถอนหายใจแล้วก็กอดผม แล้วผมก็หลับ...ตื่นเช้ามาพี่ขุนก็ยังนอนหลับอยู่ข้างๆ แล้วก็ยังกอดผมเอาไว้

แดดที่ส่องเข้ามามันอุ่น...ตัวพี่ขุนเย็น...แต่แขนพี่ขุนที่กอดผมอยู่มันกลับอุ่นกว่าแสงแดดซะอีก...

ผมนอนดูพี่ขุนที่ยังนอนหลับตา แล้วก็เอามือไล่ช้าๆไปตามโครงหน้า...ปาก คิ้วแล้วก็คางของพี่ขุน

เพราะไม่มีกระดาษกับดินสออยู่ในมือ...ผมเลยใช้นิ้วตัวเองแทนดินสอแล้วก็วาดเบาๆไปตามแก้ม คิ้ว คางของพี่ขุน...

ผมแอบลองแตะเบาๆตรงแผลที่คิ้ว ที่แก้มแล้วก็ที่ปากของพี่ขุน...เหมือนเมื่อคืนที่พี่ขุนแตะแล้วก็จูบเบาๆตามรอยเขียวๆบนตัวผม...พี่ขุนไม่ได้ถามว่าใครทำ บอกผมก็แต่ว่า...ไม่เป็นไรนะ พี่จะไม่ให้ใครมาทำแบบนี้กับตะวันอีก...ผมเลยแอบเหลือบมองกล้ามแขนพี่ขุน...มันเล็กกว่ากล้ามแขนพี่ปานิดนึง...แต่พี่ขุนกลับกอดผมเบา...เบาจนผมแทบจะไม่รู้สึก...

“ตะวันรักพี่ขุนนะ”...ผมกระซิบบอกพี่ขุนที่ยังนอนหลับตาแล้วก็ยังกอดผมอยู่

ผมกระซิบบอกพี่ขุนเหมือนที่ครั้งนึงเคยบอกพี่กบแล้วก็พี่ปา...เพียงแต่ว่า ผมรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกัน

ยิ่งผมอยู่กับพี่ขุนนานเท่าไหร่...ผมก็ยิ่งรู้ว่า ที่ผมบอกกับพี่ขุนว่ารัก มันไม่เหมือนที่ผมเคยบอกพี่กบแล้วก็พี่ปาว่ารัก...

“หายเหนื่อยยัง?”ผมถามพี่ขุนที่เพิ่งลืมตาตื่น...พี่ขุนลืมตามองผมแล้วก็ยิ้ม...ก่อนจะหัวเราะแล้วก็ดึงผมไปจูบที่แก้ม

“สอดรู้สอดเห็นแต่เช้า!”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็คว้าเสื้อยืดสีขาวที่ข้างเตียงมาใส่...

“เดี๋ยวพี่ต้องออกไปกับเพื่อน เย็นๆเสร็จธุระแล้วพี่ไปหาตะวันที่ร้านนะ”พี่ขุนพูดก่อนหยิบกางเกงมาใส่แล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไป...

ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนที่นอน...ที่นอนที่ตอนนี้ไม่มีกลิ่นของใครนอกจากกลิ่นของพี่ขุน...ผมรอจนพี่ขุนออกมาจากห้องน้ำ...แล้วพี่ขุนก็เดินมาจูบผมอีกครั้ง...

“ตะวันรักพี่ขุนนะ”ผมบอกพี่ขุนอีกครั้ง เพราะเมื่อกี้ที่บอกไปพี่ขุนคงไม่ได้ยินเพราะพี่ขุนยังหลับอยู่...ผมบอกพี่ขุนอีกครั้ง และพอพี่ขุนยิ้มผมก็อยากบอกอีกหลายๆครั้ง

ผมบอกว่าผมรักพี่ขุน...เหมือนที่ครั้งหนึ่งผมเคยบอกพี่กบกับบอกพี่ปาว่าผมรัก...และผมก็รู้ว่ามันแตกต่างกัน

ถึงจะบอกไม่ได้ว่าแตกต่างที่ตรงไหน แต่ผมก้รู้ว่ามันน่าจะแตกต่าง...อย่างน้อยอาจเพราะผมจำไม่ได้ว่าตอนที่ผมบอกพี่กบแล้วก็พี่ปาว่ารัก...ผมจำอะไรไม่ค่อยได้เลย...

ไม่เหมือนตอนที่ผมบอกพี่ขุนว่า...ตะวันรักพี่ขุนนะ...

ผมจำได้..จำได้ทุกอย่าง...จนถึงวันนี้ผมก็ยังจำได้...ผมจำแสงแดดตอนเช้าวันนั้นได้...ผมจำเสื้อยืดสีขาวตัวที่พี่ขุนใส่ได้...ผมจำได้ทุกๆอย่าง...

“รักแปลว่าอะไร?”พี่ขุนถามผม

“ก็แปลว่ารัก”ผมก็ตอบ

“งั๊นพี่ก็รักตะวัน”พี่ขุนยิ้มแล้วก็บอกผม...ผมก็จำได้...งั๊นพี่ก็รักตะวัน...ผมจำได้ พี่ขุนบอกแล้วก็ยิ้ม ผมไม่เคยลืมเลยเหมือนๆกัน...

จบ.

(ฉายหายไปจริงๆด้วย...เดี๋ยวไปตามกลับมาก่อนนะคะ...)
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 31-07-2012 18:12:08
เก็บฉายไว้ก่อนก็ได้ครับ ... กลัวอาการปวดใจกำเริบ 555+ ... พี่ขุนซื่อว่ะ 555+ โดนตะวันหลอก โคตรแสบเลยนายตะวัน!!!
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-07-2012 18:16:36
เพราะพี่ขุนเป็นรักที่ใช่ ตะวันเลยจำรายละเอียดได้มากมาย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: yolp ที่ 31-07-2012 19:45:44
ขอบคุณมากๆนะคะคุณภัคD ที่เข้ามาต่อทุกวันเลย
เดี๋ยวนี้เข้าเล้าทุกวันเพราะเรื่องตะวันเลย มองหาเป็นเรื่องแรกด้วย

พี่ขุนอบอุ่นมากๆ ตะวันก็ขี้เหงา แต่ท่าทางฉายก็คงนั่งเหงาอยู่เหมือนกันน้าตะวัน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 31-07-2012 19:56:09
ตะวันหลอกพี่ขุนง่ะ ใช่เล่นนะเรา  :laugh:

อ่านตอนนี้แล้วอบอุ่นดีค่ะ อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 31-07-2012 20:12:48
อ่านมุมมองของตะวันแล้ว
ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมถึงรักพี่ขุน :o8:

มันหน่วงๆแต่ก็รู้สึกอบอุ่น เฮ้ออ :กอด1:
ไม่อยากจะคิดถึงช่วงเวลาดราม่าสุดๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 31-07-2012 20:59:29
...ตกลงเค้ารักกันจริงหรือยังเนี่ยคู่นี้ แต่ท่าทางตะวันจะรักพีี่ขุนเจ้าจริงๆๆแล้ว
...เพราะรักครั้งนี้มันพิเศษไม่เหมือนสองครั้งที่ผ่านมาเพราะนั่นมันคงแค่ออกมาจากปาก มิใช่ออกจากใจ :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 31-07-2012 21:06:12
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: babynevercry ที่ 31-07-2012 23:21:13
ตะวั๊นนนนนน ตะวัน

จะพูดไรดีละ

ช่างไม่คิดอะไรเลย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: aprilmonth4 ที่ 01-08-2012 01:50:45
ขอบคุณคุณภัคดีที่เอาเรื่องของตะวันมาลงนะคะ
ในเรื่องตะวันฉาย  เราชอบตัวละครทุกตัว และชอบเป็นพิเศษก็ตะวันเนี่ยแหละค่ะ (แม่ยกตะวันโบกธง แฮ่ :o8:)

เรารู้สึกว่าถึงตะวันจะดูเหมือนเป็นคนไม่คิดอะไร พร้อมจะลืมและไม่สนใจฉาย
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลย โดยเฉพาะกับพี่ขุน  คนที่ตะวันรักจริงๆ
ไม่อย่างนั้นแล้ว ตะวันที่สูญเสียพี่ขุนไปแล้วคงมีคนอื่นได้อย่างง่ายๆ เหมือนกับที่ผ่านมาที่ตะวันมีพี่กบ พี่ปา
เรื่องตะวันฉาย เป็นเรื่องที่เราชอบตอนจบมาก ที่ตะวันเป็นได้แค่น้องชาย
เพราะมันทำให้เรารู้เห็นความมั่นคงในรักของตะวัน
คนบางคนฟ้าลิขิตมาให้เป็นแค่น้องชาย กับคนอีกคนที่ตะวันลิขิตให้เป็นคนที่จะรักตลอดไป

อาจจะเม้นท์อะไรแล้วอ่านไม่รู้เรื่องไปบ้าง ขอโทษนะคะ แต่อ่านพาร์ทนี้ของตะวันแล้ว ชอบมาก  ทำให้เราสัมผัสเรื่องราวของตะวันที่เราไม่เคยได้รู้ (เพราะฉายไม่เคยพูดถึง ฮา) เห็นเบื้องหลังของตะวันที่ยิ้มมองข้ามฉาย ซึ่งมีแต่ความไม่มั่นคงในชีวิต และน้ำตาของความเหงาที่ฉายไม่รู้ (และคนอ่านเรื่องตะวันฉายไม่รู้ ฮ่าๆ)

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ o13
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-08-2012 09:50:19
ความเหงามันมีพลังรุนแรงที่จะผลักดันให้เราคิดและทำอะไรบางอย่างได้เสมอ

พลังของความเหงา
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 01-08-2012 12:03:18
รีพลายที่แล้วไม่ได้บอกว่า
ไม่ชอบพี่กบ ไม่ชอบพี่ปา แต่เราชอบพี่ขุน
เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เรารักฉายจนพาลไม่ชอบพี่ขุน

ตะวันก็ยังคือตะวัน จนวันยันค่ำจริงๆ...
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-08-2012 16:42:59
อ่านเรื่องนี้แล้วต้องย้อนกลับไปอ่านตะวันฉายใหม่ ทีละบท อย่างโลกคู่ขนาน
ว่าตอนนั้นฉายทำไรอยู่ ถึงไม่มีบท 555 แล้วค้นพบว่า ฉายยังเด็กมากค่ะ

ได้อ่านมุมของตะวัน ได้เข้าใจตะวันขึ้นอีกนิด ตะวันของเราไม่ได้ใจง่าย
แค่เปลี่ยนแฟนเพื่อหาคู่นอนใหม่หรอก ตะวันมองพี่กบที่ปากกว้างเหมือนพ่อ
มองพี่ปาที่มัดจุกและมีกลิ่นสีแบบแม่กับพ่อ  แต่พี่ปาก็ทำร้ายร่างกายตะวัน
พี่กบก็ไม่สามารถยอมรับกับสังคมได้ เป็นเราก็คงต้องเลิก
เพียงแต่ตะวันทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ก็เลยมีแต่คนคิดว่าตะวันไม่รู้สึกอะไร
ทั้งที่เราว่าตะวันก็รู้สึกอะไร          เฮ้อ  รักตะวันนะ :กอด1:

เราเห็นด้วยกับคุณนะ +เป็ด และ + 1 ให้เลย

ตอนอ่านภาคนู้น เราสงสารทั้งตะวัน กับฉาย
แต่ก็สงสารฉายมากกว่านิดนึง เพราะเราฟังในมุมของฉาย

จนถึงภาคนี้เราเข้าใจตะวันมากขึ้น  เรามองว่าตะวันเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง แล้วก็คนที่บริสุทธิ์มากๆ
แต่ไอ้ความที่เป็นคนที่บริสุทธิ์ไม่ได้ปรุงแต่งเสแสร้งมันทำให้ถูกมองว่าแปลก ว่าผิด จากสังคมที่มีแต่การปรุงแต่ง

ปล.ถึงคุณภักD เรื่องที่คุณเขียนแล้วก็ลงในเล้าเป็ด  เราอ่านทุกเรื่อง แต่ไม่เคยอ่านซ้ำอีก  แม้จะชอบมันมากแค่ไหน เพราะมันบีบคั้นจิตใจเราเป็นอย่างมาก จนไม่คิดที่กลับไปอ่านซ้ำอีก

แต่ถึงจะอ่านแค่รอบเดียว เรากลับจำเรื่องราวมันได้อย่างน่าแปลกใจ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 01-08-2012 17:14:34
ตอนนี้เจอพี่ขุน พี่ขุนก็น่าจะรักตะวันจริงๆ แหละ
เหมือนกับที่ตะวันก็รักพี่ขุนจริงๆ

ส่วนฉาย...รีบตามกลับมานะครับคุณภัคD
5555555
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#8
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 01-08-2012 18:07:55
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 9

“เดี๋ยวพี่ต้องออกไปกับเพื่อน เย็นๆเสร็จธุระแล้วพี่ไปหาตะวันที่ร้านนะ”...พี่ขุนว่างั๊นผมเลยรอ...รอจนเลยเย็น จนปิดร้าน จนผมบอกพี่อ๋อให้กลับไปก่อนเพราะผมจะรอพี่ขุน...พี่ขุนก็ยังไม่มา

รอจนผมน่าจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกับเสาไฟฟ้าริมถนนถ้ามันพูดได้...พี่ขุนก็ยังไม่มา...

ผมมองซ้าย...แล้วก็มองขวา อยากให้พี่ขุนโผล่มาใจจะขาด เพราะถ้าพี่ขุนไม่มา...ผมก็ไม่รู้จะกลับยังไง...วันนี้ผมขายรูปไม่ได้...เงินในกระเป๋าก็ต้องใช้เวลานับนานหน่อย ไม่ใช่ว่ามันมีเยอะ แต่ผมเหลือแต่เศษเหรียญ...ไม่พอค่ารถ แต่จะโทรหาน้าเจด มันก็ดึกจนผมนึกเห็นหน้าดุๆของน้าโอ๋รออยู่ที่บ้าน

น้าโอ๋กับน้าเจดไม่อยากให้ผมมาวาดรูปขาย แต่พอผมยืนยันที่จะทำ น้าโอ๋กับน้าเจดก็ตามใจ บอกว่าให้ลองดู...ถ้ารู้ว่าในกระเป๋าผมมีแต่เศษเหรียญ น้าเจดกับน้าโอ๋ต้องสั่งผมให้หยุดวาดรูปขายอีกแน่ๆ...ผมเลยนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงนอกจากยืนเป็นเพื่อนเสาไฟฟ้าต่อไป

ฟ้าก็มืด...จริงๆมันมืดของมันมาตั้งหลายชั่วโมงแล้ว แต่พอไม่มีคนมายืนแย่งอากาศหายใจอยู่ใกล้ๆ...ผมก็รู้สึกว่ามันมืดขึ้น...

“ถ้าพี่ขุนมา ตะวันจะรักพี่ขุนมากๆเลย”ผมพูดกับตัวเอง แต่จริงๆคือพูดกับพี่ขุน...เผื่อพี่ขุนจะได้ยิน เผื่อพี่ขุนจะมา เผื่อผมจะได้กลับบ้านด้วยวิธีที่น่าจะดีที่สุด...คือไม่ต้องเดินกลับและน้าโอ๋ไม่ดุเอา

ผมมองซ้ายแล้วก็มองขวาอีกรอบ...แล้วก็มองฟ้าเพราะไม่รู้จะมองอะไรดี...ถนนที่ไม่มีคนมันทำให้ผมกลัวและผมไม่เคยอยู่คนเดียว...ข้างถนนเวลามืดๆแบบนี้...

มีรถขับผ่านไปบ้าง บางคนมองผม บางคนก็ผ่านไปแบบไม่มอง...

และในที่สุดก็มีรถที่ผ่านมาแต่ไม่ยอมผ่านไป...ฝรั่งหัวแดงแจ๋สองคน จอดมอเตอร์ไซด์แล้วก็พูดอะไรกับผมไม่รู้...ผมส่ายหัวแปลเป็นภาษาสากลว่า...ไม่...จะไม่อะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ผมก็ไม่ไว้ก่อน...แต่พวกเขาสองคนก็พยักหน้าหงึกๆ...แถมควักตังค์ออกมาให้ผมดูด้วย...ผมก็ส่ายหัวอีก เพราะมันถูกไป...แค่ห้าร้อยบาทเอง เคยมีคนควักให้ผมตั้งพันแน่ะ...

แล้วพี่ขุนก็โผล่มา...เหมือนนิยายน้ำเน่าที่น้าโอ๋ชอบดู...ต่างกันก็แค่ผมว่าวันนี้พี่ขุนน่าจะเป็นตัวโกงมากกว่า...

หน้าพี่ขุนดุกว่าเคย...น่ากลัวจนผมเกือบเผลอจะกระโดดซ้อนมอเตอร์ไซด์หนีไปกับพี่ฝรั่งหัวแดง แต่สงสัยจะคิดช้าไป...ริมถนนเลยเหลือแต่ผมกับพี่ขุนที่ยังทำหน้าน่ากลัว...แต่ยิ่งมองผมกลับยิ่งรู้สึกว่า ไม่น่ากลัว

“พี่ไปที่บ้าน เห็นตะวันยังไม่กลับ”พี่ขุนพูด...หน้ายังดุ แต่เสียงไม่ดุ แต่ก็ไม่ใจดี

“ก็พี่ขุนบอกว่าจะมาหาตะวัน”ผมบอก มองดูหน้าพี่ขุน...ถึงฟ้ามันจะมืดๆ แต่ผมว่า หน้าพี่ขุนดูจะมีรอยช้ำๆเพิ่มๆขึ้น

“มองอะไร?”พี่ขุนถาม

“มองหน้าพี่ขุน”ผมตอบ ก็ผมกำลังมองหน้าพี่ขุนจริงๆนี่นา

“เดี๋ยวพี่ไปส่ง”พี่ขุนบอก

“ไม่อยู่กับตะวันเหรอ?”ผมถาม...เพราะผมอยากให้พี่ขุนอยู่กับผมมากกว่าแค่ไปส่งเฉยๆ...พี่ขุนไม่พูดอะไรอีก ผมเลยสรุปว่าพี่ขุนน่าจะอยู่กับผม...แต่พอส่งผมเสร็จพี่ขุนก็ทำท่าจะกลับ

“อยู่กับตะวันเถอะ...”ผมบอกพี่ขุน...มองดูพี่ขุนที่ยังทำหน้านิ่ง ยังควบอยู่บนมอเตอร์ไซด์...พี่ขุนไม่พูดอะไร ผมเลยแปลเอาว่าพี่ขุนไม่ได้ปฏิเสธ ผมเลยยืนรอ...พี่ขุนก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

นานจนเกือบจะกลายเป็นรั้วบ้านมั้ง พี่ขุนถึงยอมขยับตัว เดินตามผมเข้ามาในบ้าน...แล้วพี่ขุนก็นั่งนิ่งเป็นโซฟาแทน

พี่ขุนตอนนี้ ไม่เหมือนกับพี่ขุนตอนเมื่อเช้าสักกะนิด...

ทำไมไม่รู้ผมอยากกอดพี่ขุน...แต่พอผมจะกอดพี่ขุนก็ผลักผมออกไม่ยอมให้ผมกอด

“พี่ขุนเจ็บแขนเหรอ?”ผมถามเพราะท่าทางพี่ขุนแปลกๆ...

“ตะวันไปนอนเหอะ”พี่ขุนตอบแต่ไม่เห็นตรงคำถาม

“พี่ขุนเจ็บแขนเหรอ?”ผมเลยถามอีกรอบเผื่อพี่ขุนจะฟังผิด

“พี่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ...ถ้าตะวันไม่ไปนอน พี่ก็จะกลับ...”พี่ขุนพูดแต่ก็ไม่เห็นขยับตัวแปลว่าน่าจะขู่ผมเฉยๆ...

“งั๊นตะวันนั่งตรงนี้เงียบๆ”ผมบอก...แล้วก็นั่งเงียบๆที่โซฟาใกล้ๆพี่ขุน ที่นั่งเงียบๆ...

พี่ขุนเก่งที่นั่งเงียบๆได้โดยไม่ง่วง...แต่ผมง่วง ผมเลยหลับ และแอบตื่นเพราะได้ยินเสียงคล้ายคนสะอื้นเบาๆ...

ผมแอบมองดูพี่ขุน...มองดูน้ำตาของพี่ขุนที่ไหลอยู่เงียบๆ เหมือนเสียงสะอื้นที่เบาจนผมเกือบจะไม่ได้ยิน...

ผมอยากถามพี่ขุนว่าร้องไห้ทำไม...แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะพี่ขุนคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองร้องไห้ พี่ขุนเลยแอบร้องไห้คนเดียว

“พี่ขุนร้องไห้ทำไม?”แต่ในที่สุดผมก็ถาม...ก็ผมสงสัยนี่นาว่าทำไมพี่ขุนร้องไห้...ถ้ามัวแต่นอนแอบมอง ผมจะรู้ได้ยังไงว่าทำไมพี่ขุนถึงร้องไห้...

จบ...
























หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: shabu ที่ 01-08-2012 18:27:53
พี่ขุนเศร้า
ตะวันก็เศร้า
เราก็เศร้า ไปด้วย
รู้อยู่แล้ว ว่า เรื่องนี้มันเศร้า
ยังจะเข้ามาให้เศร้า
แต่ก็เลิกอ่านไม่ได้  อันนี้ยิ่งเศร้า :o12:

ปล.คุณภัคD คะ ถ้าเรื่องนี้ทำเป็นหนังสือ ขอของแถมเป็นใบบัวบกซองนะคะ
ไว้ชงกินตอนอ่านไปด้วย :sad4:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 01-08-2012 18:36:21
พี่ขุน เป็นอะไรไปคะ?  :กอด1:
ตะวันอ่า นอนมองพี่ขุนอย่างเดียวเลย

ชอบตะวันมากขึ้น ทุกตอนทุกตอน  :man1:

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 01-08-2012 19:13:35
พี่ขุนเป็นอะไร ตะวันสงสัย คนอ่านก็สงสัย
 :sad4:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-08-2012 19:38:30
เรื่องเหมือนไม่มีอะไร แต่ทำไมรู้สึกว่ามี
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 01-08-2012 19:50:24
นั่นน่ะสิ...พี่ขุนเป็นอะไร
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-08-2012 20:57:48
มันต้องมีอะไรแน่ ๆ
พี่ขุนไปมีเรื่องกับใคร
กดดันจนต้องร้องไห้
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 01-08-2012 22:05:10
...พี่ขุน ไปรับจ้างเป็นกระสอบทราย ให้ใครซ้อมหรือเปล่าหว่า ถึงหน้าช้ำมาทุกวัน
...พี่ขุนมีมุม เศร้าโศก กับเค้าเหมือนกัน ตะวันก็ยังคงเป็นตะวัน..เอ๋อๆๆเหมือนเดิม :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 01-08-2012 22:13:20
โอย.....เศร้า แต่เค้าหยุดอ่านไม่ได้ง่า....เศร้าตรงนี้!!!
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 01-08-2012 22:41:21
พี่ขุนเศร้า
ตะวันก็เศร้า
เราก็เศร้า ไปด้วย
รู้อยู่แล้ว ว่า เรื่องนี้มันเศร้า
ยังจะเข้ามาให้เศร้า
แต่ก็เลิกอ่านไม่ได้  อันนี้ยิ่งเศร้า :o12:

ปล.คุณภัคD คะ ถ้าเรื่องนี้ทำเป็นหนังสือ ขอของแถมเป็นใบบัวบกซองนะคะ
ไว้ชงกินตอนอ่านไปด้วย :sad4:

ตอนนี้คุณ ภัคD รีปริ้นเรื่้องนี้กับ "หรือจะให้เป็นแค่ความทรงจำ" นะคะ
เผื่อใครยังไม่รู้ เราไม่ได้ค่าโฆษณานะ แต่ชอบเรื่องนี้มากอยากให้ทุกคนที่ชอบได้เก็บเอาไว้เหมือนๆ กัน
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 02-08-2012 14:39:00
สเน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่ความไม่เหมือนใครของทั้งตะวันและฉาย

และก็อยู่ที่ภาษาที่ใช้ที่แม้ไม่ได้ใช้คำหรูหราอะไรแต่กลับแฝงความหมายไว้มากมาย

ชอบเวลาที่มีเรื่องเีๆแบบนี้ให้อ่าน มาต่ออีกน๊า
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#9
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 02-08-2012 16:21:16
*** ขอบคุณค่าคุณ maree ...ย้อนกลับขึ้นไปดูตั้งแต่โพสแรก เราไม่ได้แจ้งอะไรไว้เลยจริงๆด้วย ... คือตอนนี้กำลังเปิดจอง รีปริ้น เรื่อง หรือจะฯ + เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย อยู่น่ะค่ะ  ท่านใดสนใจก็ดูรายละเอียดได้ที่

http://www.facebook.com/BhakDee

( แต่ไม่ใช่รีปรินท์เรื่องนี้นะคะ เรื่องนี้ยังไม่เคยรวมเล่มค่ะ  นำมารีโพสเฉยๆ ค่า ...รอจัดส่ง 2 เล่มนั้นเรียบร้อยแล้วค่อยทำเล่มนี้ต่อค่ะ  )

ขอบคุณค่า ...


***********************************


ไปตามหาฉาย…ฉายบอกว่าถ้าไม่ให้เป็นพระเอกก็ไม่มาค่ะ...ปล่อยๆเขาไปก่อนแล้วกันนะคะ...


เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 10


คืนนั้นพี่ขุนไม่ได้บอกผมตามเคยว่าทำไมถึงร้องไห้...แต่พี่ขุนก็ยอมให้ผมกอด ...แล้วก็ยอมเล่าอะไรๆให้ผมฟังในตอนเช้า...

ตั้งแต่เด็ก ผมชอบร้องไห้...พ่อกับแม่ แล้วก็น้าเจดกับน้าโอ๋ก็จะกอดผม...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเป็นฝ่ายกอดคนอื่นแล้วก็ตบหลังแปะๆ อย่างที่แม่กับพ่อแล้วก็น้าเจดกับน้าโอ๋ชอบทำ...เวลาถูกตบหลังแปะๆผมรู้สึกดี...ผมเลยคิดว่าพี่ขุนก็น่าจะรู้สึกดีเหมือนผม แต่ผมคิดผิด...เพราะที่ไหล่เกือบๆหลังของพี่ขุนน่ะแดงเป็นรอยยาวแล้วตอนเช้ามันก็บวมขึ้นมา...

“บวมเลยเพราะตะวันตบหลังพี่นั่นแหละ...”พี่ขุนว่างั๊นตอนที่ถอดเสื้อออก

แดดออกแล้ว...พี่ขุนก็ยิ้มออกแล้วเหมือนกัน...แต่ผมยิ้มไม่ออก เพราะหน้าพี่ขุนวันนี้ช้ำกว่าเมื่อวานอีก...

ผมอยากบอกพี่ขุนอีกครั้งว่าการใช้กำลังน่ะมันไม่ดี...แต่ก็ดีที่ไม่พูด เพราะจริงๆแล้วพี่ขุนไม่ได้ไปตีกับใครแต่ไปถูกเขาตีเอาฝ่ายเดียวต่างหาก

แผลที่ตัวกับที่หน้าของพี่ขุนน่ะฝีมือพ่อของพี่ขุนทั้งนั้นเลย

ผมไม่เคยถูกพ่อตี แม่แล้วก็น้าโอ๋กับน้าเจดด้วย...อาจจะเคยโดนน้าโอ๋ตีเบาๆตรงแขนที่เดี๋ยวนี้น้าโอ๋เปลี่ยนมาหยิกเอาแทนเพราะน้าโอ๋ว่าตีแล้วเจ็บมือ...ถึงจะเจ็บที่เนื้อแต่ผมก็ไม่รู้สึกอะไร...

...เพราะเราไม่เป็นอย่างที่เขาอยากให้เราเป็นไง!...พี่ขุนว่างั๊น

...เราต้องเรียนอย่างที่เขาอยากให้เรียน ทำงานอย่างที่เขาอยากให้ทำ...พี่ขุนบอกแล้วก็จับมือผมให้เอื้อมจับที่ด้านหลังหัวของพี่ขุน

มันเป็นรอยสัก ผมจำได้...รอยสักที่เท่ เห็นแล้วผมชอบ...ใครๆก็ชอบ ผมเห็นหลายคนเหลียวมอง แต่พอลองเอามือลูบเบาๆ...มันเป็นรอยนูนๆเป็นทางยาว...

...โดนตีหัวแตกตอนที่บอกเขาว่าจะเลิกเรียน...พี่ขุนพูดแล้วก็หัวเราะแต่ผมว่าพี่ขุนกำลังร้องไห้มากกว่า

พี่ขุนชอบบอกใครๆว่า สักไว้เป็นยันต์กันโดนตีหัว...ใครฟังก็หัวเราะ พี่ขุนก็หัวเราะ...ต่อมาน้าโอ๋ถาม พี่ขุนก็ตอบอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วพี่ขุนก็หัวเราะเหมือนเคยแต่ผมรู้แล้วว่าจริงๆ พี่ขุนไม่ได้หัวเราะเลย...

แผลใหม่ๆที่หน้า พี่ขุนว่าเพราะเราขัดใจเขาเรื่องทำงาน..

“แต่มันจะเป็นแผลสุดท้ายแล้ว...พี่ตัดสินใจแล้ว เมื่อวานพี่บอกเขาแล้วว่าพี่จะไม่กลับไปที่บ้านอีก”พี่ขุนพูดอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มอีก

“เมื่อวานพี่ไปที่มหาลัย...ทำเรื่องรับปริญญา...พี่ไม่รับ ให้เขาส่งไปที่บ้านเลย...ถ้าพ่อกับแม่พี่เขาอยากได้มันนัก...ก็ให้เขาเอาไว้เป็นลูกชายแทนแล้วกัน”พี่ขุนบอกแล้วก็ร้องไห้ด้วยเสียงหัวเราะเหมือนเคย

สำหรับผมบ้านคือที่ ที่ดีที่สุด...ทั้งบ้านผมและบ้านน้าโอ๋...เวลาอยู่ที่บ้าน ผมรู้สึกว่ามีความสุขเพราะมันปลอดภัยและทุกคนรักผม...แต่บ้านของพี่ขุนคงไม่ใช่...

“แล้วของๆพี่ขุนล่ะ?”ผมถาม ก็ใครๆเดินทางก็ต้องมีกระเป๋าเสื้อผ้าทั้งนั้น...แต่พี่ขุนบอกว่าไม่มี พี่ขุนมาแต่ตัว เพราะพ่อพี่ขุนบอกว่า...ถ้าแน่จริงก็ให้ไปแต่ตัว

“ก็ไม่ได้แน่จริง แต่เขายืนขวางกะไดไว้ ขืนกลับขึ้นไปเอาเสื้อผ้าเดี๋ยวได้มาอีกแผล...นี่มีแต่ตัวกับหัวใจเลยนะ...เงินเขายังดึงออกจากกระเป๋า เขาบอกว่าของเขา... อ๋อได้มอเตอร์ไซด์มาอีกคันเพราะมันจอดอยู่นอกบ้าน ”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็หัวเราะ

ฟังแล้วผมก็สงสารพี่ขุนแต่ก็แอบร้องไชโยไปในใจด้วย...พี่ขุนไม่มีบ้านแถมไม่มีเสื้อผ้าแล้วก็เงินอีก...แปลว่าพี่ขุนน่าจะมาอยู่กับผม...พี่ขุนตอนนี้น่ะ แย่ยิ่งกว่าผมซะอีก เพราะอย่างน้อยผมยังมีตังค์ติดตัวถึงจะค้นทั้งเนื้อทั้งตัวแล้วเอาออกมาวางให้พี่ขุนได้แค่ยี่สิบกว่าบาทก็เหอะ

“นี่สมบัติของตะวันเหรอ?”พี่ขุนถาม ทำหน้าประหลาดมองดูเงินยี่สิบบาทกว่าๆของผม ผมก็พยักหน้ารับเพราะมันเป็นสมบัติของผมจริงๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวเลย เหลืออยู่เท่านั้นเอง...ผมยังลุ้นอยู่ว่าถ้าวันนี้ขายรูปไม่ได้ ผมก็ต้องไปขอตังค์น้าโอ๋อีก ซึ่งผมไม่อยากเท่าไหร่...

“เดี๋ยวออกไปกินข้าวกัน”พี่ขุนถอนหายใจก่อนบอก ส่วนตาก็ยังมองเงินยี่สิบบาทกว่าๆของผม

“ไปกินบ้านน้าโอ๋ก็ได้...เมื่อวานน้าโอ๋บอกว่าวันนี้จะทำขนมจีนให้ตะวันกิน”ผมบอก

“สภาพนี้เนี่ยนะ น้าโอ๋ของตะวันปลื้มพี่แย่เลย”พี่ขุนบอกแล้วก็ชี้รอยแผลที่หน้าตัวเอง

“งั๊นเดี๋ยวตะวันไปตักมาให้...ยี่สิบบาทซื้อได้แต่มาม่าเอง”

“พี่เลี้ยงเอง”

“พี่ขุนเอาเงินที่ไหน?”ผมถามก็พี่ขุนบอกว่าออกมาแต่ตัว ตังค์ก็โดนริบหมด

“ธนาคารสิ!”พี่ขุนบอก

“ปล้นเหรอ?!”ผมถามตกใจจริงๆแต่ก็แอบตื่นเต้นนิดๆ...พี่ขุนก็หันมามองหน้าผมแล้วก็ส่ายหัวอีก

“ไปถอนตังค์!”พี่ขุนบอกแล้วก็ทำท่านึกอะไรขึ้นมาได้

“ไม่ได้แฮะ...เอทีเอ็มเขาก็เอาไป...ถอนธนาคารต้องใช้สมุด... คืนนี้สงสัยต้องปีนรั้วบ้านตัวเอง”พี่ขุนบอก ผมนึกว่าพี่ขุนพูดเล่น ที่ไหนได้พี่ขุนพูดจริง เพราะผมได้ยินพี่ขุนโทรไปหาเพื่อนชวนกันไปงัดบ้านตัวเอง

“ขืนเดินเข้าไป ได้มาอีกแผลแน่”พี่ขุนบอกผมอย่างนั้น

“พี่ขุนจะขโมยเหรอ?”

“เปล่า...เงินพี่ พี่หามาของพี่เอง..พี่ก็กลับไปเอาของๆพี่สิ...ของที่เขาให้ก็ให้เขาเก็บเอาไว้นั่นแหละ”

“แล้วตอนนี้กินอะไรล่ะ?”ผมถามเพราะท้องเริ่มร้องแล้ว

“ไปซื้อมาม่ามาต้มกินกันเถอะ ยืมสมบัติของตะวันก่อนนะ!”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็โกยเอาเศษเหรียญยี่สิบบาทกว่าๆของผมออกไปซื้อมาม่า ระหว่างนั้นผมก็วิ่งไปกินขนมจีนบ้านน้าโอ๋...แล้วก็วิ่งกลับมานั่งรอพี่ขุนต่อ

“กินไม่ไหวแล้ว!”ผมบอกพี่ขุนหลังจากกินมาม่าไปได้แค่ครึ่ง

“อ้าว ไหนว่าหิว?”พี่ขุนถาม

“ก็เมื่อกี้ตะวันไปกินหนมจีนมาแล้ว...ไม่ไปกินเดี๋ยวน้าโอ๋งอน จะกินนิดเดียวน้าโอ๋ก็งอน ตะวันเลยกินไปตั้งสองชาม...แล้วมันอร่อย ตะวันเลยกินไปสามชาม...”ผมบอก

“ตะวันนี่โชคดีนะ...”พี่ขุนพูดแล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่าง...มองไปทางบ้านน้าโอ๋...พี่ขุนชอบพูดแบบนี้บ่อยๆ...เวลาพูดถึงพี่ขุนจะยิ้มๆ แต่ตาพี่ขุนก็จะเศร้าๆ...และผมก็จะกอดพี่ขุน...

ผมรู้ว่าผมโชคดีอย่างที่พี่ขุนบอก...โรงเรียนอาจจะเป็นความโชคร้ายอย่างเดียวของผม...ถึงแม่กับพ่อจะหนีไปเที่ยว แต่ผมก็ยังมีน้าเจด น้าโอ๋แล้วก็ฉาย...ถึงบางครั้งผมจะเหงา ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ แต่ผมก็รู้ ผมมีน้าโอ๋ น้าเจดแล้วก็ฉาย...และผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆขึ้นก็เพราะพี่ขุนนี่แหละ...

วันนี้พอสมบัติมูลค่ายี่สิบบาทกว่าๆในกระเป๋าของผมหมดเกลี้ยงไปพร้อมกับเส้นมาม่า...พี่ขุนก็ให้ผมซ้อนมอเตอร์ไซด์ออกไปข้างนอกพร้อมรูปที่ผมวาดไว้

พี่ขุนพาผมไปหาเพื่อนของพี่ขุนหลายๆคน...

“ฝากเขาขาย ปกติเขาหักเปอร์เซ็นต์ แต่ของตะวันไม่หัก”

“ทำไมล่ะ?”ผมถาม...จริงๆผมก็เคยคิดแล้วก็รู้ด้วยว่ารูปน่ะเอาไปฝากขายได้ แต่ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง...วันนี้ผมก็ยังไม่รู้...รู้แต่ว่าเดินตามหลังพี่ขุนไว้ ที่เหลือพี่ขุนจัดการให้...เพียงแต่ผมไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่หักเปอร์เซ็นต์ผมไว้

“ก็นั่นเพื่อน แล้วนี่แฟน จะมาหากินกับแฟนเพื่อนเดี๋ยวเลิกคบ!”พี่ขุนบอกแล้วก็หัวเราะ...ผมแอบมองลูกกะตาพี่ขุน...ลูกกะตาพี่ขุนหัวเราะ ไม่เศร้าแล้ว

“เพื่อนพี่ขุนหมดเลยเหรอ?”ผมถาม เพราะพี่ขุนพาไปหาตั้งหลายคน บางคนพี่ขุนก็นั่งคุยแป๊บนึง กับบางคนพี่ขุนก็นั่งคุยยาวเพราะคุยเรื่องจะไปงัดบ้านด้วยกันตอนกลางคืน

“เอารูปพี่อ๋อมาด้วยได้ไหม?”ผมนึกได้เลยถามเพราะพี่อ๋อก็ไม่มีตังค์เหมือนกัน

“ได้แต่ต้องถามเพื่อนพี่ก่อนแล้วก็ต้องหักเปอร์เซ็นต์”พี่ขุนบอก

“ไม่หักไม่ได้เหรอ? ของตะวันยังไม่หักเลย”

“ไม่ได้ มันเอาเปรียบเพื่อนไม่ดี...ของตะวันน่ะพิเศษ”พี่ขุนบอก แล้วก็เอาแขนมากอดคอผมเดิน...ผมก็เดินคิดแล้วก็คิด

“งั๊นบอกว่าเป็นของตะวัน”

“เอาเปรียบคนอื่นมันไม่ดีนะตะวัน...พี่อ๋อเอารูปมาฝาก หักเปอร์เซ็นต์ก็เหมือนค่าเช่าพื้นที่...แล้วรูปตะวันกับรูปพี่อ๋อน่ะ...ดูยังไงก็คนละคนวาด”

“ตะวันเก่งไงเลยวาดได้หลาย...โอ๊ย!”ผมพูดไม่จบเพราะโดนพี่ขุนหยิกแก้ม

“หยิกตะวันทำไม?”

“หายางอาย!”พี่ขุนว่างั๊นแล้วก็หัวเราะ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ตอนหลังพี่ขุนก็ช่วยเอารูปของพี่อ๋อไปให้เพื่อนๆดู แล้วก็ฝากขายในเปอร์เซนต์ที่พี่ขุนบอกว่าสุดพิเศษ...ตอบแทนที่เขาเคยช่วยตะวันไง!...พี่ขุนบอกผมอย่างนั้น

เย็นๆวันนั้น พี่ขุนก็ไปส่งผมที่ร้าน แล้วก็บอกผมว่า... งัดบ้านเสร็จแล้วจะแวะไปหา...

“อย่ามีแผลกลับมาอีกนะ...”ผมบอกพี่ขุน ตอนพี่ขุนบิดแฮนด์มอเตอร์ไซด์เร่งเครื่องเตรียมจะไป...

“ไม่มีแล้ว...บอกแล้วไงเมื่อวานวันสุดท้าย”พี่ขุนบอกแล้วก็ยิ้ม...ลูกกะตาของพี่ขุนก็ยิ้ม แล้วหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่เคยเห็นพี่ขุนร้องไห้อีกเลย...

...แล้วต่อมาพี่ขุนก็บอกผมว่า...ถึงโลกมันจะกว้าง แต่มีตะวัน พี่เลยรู้ว่า ที่ของพี่อยู่ที่ไหน...

“ก็อยู่กับตะวันไง!”ผมบอกแล้วพี่ขุนก็ยิ้ม...

จบ...
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: shabu ที่ 02-08-2012 17:28:27
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุข
พี่ขุนกับตะวันเติมเต็มโลกที่่ขาดหายไปของกันและกันได้แล้วสินะ
ถ้าเรื่องนี้จบตรงนี้เลยก็ดีนะคะ
เราจะได้คิดว่าตะวันกับพี่ขุนได้มีความสุขด้วยกันตลอดไป


แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ยังมาไม่ถึง ยังไงวันนี้ก็มีความสุขละเนอะตะวัน :กอด1:


หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 02-08-2012 17:53:53
เห็นตะวันมีความสุขก็พลอยมีความสุขไปด้วย

เห็นคุณภัคDบอกว่าถ้าไม่ให้ฉายเป็นพระเอกฉายจะไม่มาเหรอครับ? 55
งั้นก็ปล่อยฉายไปเถอะะะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 02-08-2012 18:15:20
โอย.....รัดทน
อ่านไปก็จุก น้ำตาคลอ :monkeysad:

ตอนนี้โลกของตะวันกับพี่ขุนก็มีแค่กันและกันเท่านั้น  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 02-08-2012 18:53:48
ต่างคนต่างเติมเต็มสิ่งที่ขาดให้กันและกัน
ทำให้อีกฝ่ายยิ้มได้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ  o13

หลังจากนี้จะดราม่าแล้วใช่มั้ย  :sad4:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 02-08-2012 18:59:09
+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 02-08-2012 19:00:52
ตะวันจะเลิกเหงาแล้ว พี่ขุนก็จะมีที่ของตัวเองแล้ว
เป็นส่วนที่เติมเต็มให้กันและกันอย่างนี้นี่เอง เค้าถึงรักกันเสมอ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-08-2012 19:14:06
ต่างคนต่างทดแทนส่วนที่ขาดหาย พอดี...
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 02-08-2012 19:44:13
ไม่เคยอ่านเรื่องของฉาย  แต่ตกหลุมรักเด็กน้อยตะวันเต็ม ๆ อยากหายตัวแล้วเข้าไปเที่ยวเล่นในสมองของตะวันจัง  คงจะน่าสนุกดีพิลึก 
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 02-08-2012 19:45:50
ชอบอ่ะ ชอบตะวัน >//////<

ปล. คำว่า งั้น ต้องใช้ไม้โทจ้า ^^
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-08-2012 19:46:54
โอ๊ย... น่ารัก!!! ... คู่นี้มันต้องอย่างงี้!!!
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 02-08-2012 22:29:08
ตะวัน อันที่จริงก็น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย !! :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 02-08-2012 23:30:34
รักขุน

รักตะวัน

แล้วก็รักฉาย

อยากบอกแค่นี่แหละ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 03-08-2012 00:07:40
เป็นตอนที่อ่านแล้วอมยิ้ม ...

ขอบคุณครับ หายเหนื่อยจากการทำงานเป็นปลิดทิ้งเลย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-08-2012 15:55:53
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#10
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 03-08-2012 16:22:38
ขอบคุณค่า คุณ love2y

****************


เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 11


...ชีวิตคือความไม่แน่นอน...สัจธรรมของชีวิตที่ว่าไว้และผมค้นพบด้วยตัวเอง...

ทุกอย่างในชีวิตของผม...ไม่มีอะไรแน่นอนเลยสักกะอย่าง...พ่อแม่ แฟน แล้วก็เงินในกระเป๋า...

ตอนอายุ16...พ่อกับแม่ของผมหนีไปเที่ยว...ผมรอแล้วก็รอ ผ่านไปจนครบห้าปี พ่อกับแม่ก็ยังไม่ยอมกลับมา...ผมเลยตัดสินใจรอต่อไป หวังว่าวันหนึ่งพ่อกับแม่จะนึกได้ว่าลืมลูกชายไว้ที่บ้านหนึ่งคน

แฟนคนแรกผมชื่อกบ...คนที่สองชื่อปา ส่วนคนที่สามชื่อขุน...บางครั้งผมก็รู้สึกว่าแปลกดี แปลกจนผมถามพี่ขุน

“พี่ขุนว่า...ถ้าสมมติตะวันมีแฟนคนที่สี่ แฟนตะวันจะชื่ออะไร?”

พี่ขุนมองหน้า แล้วก็มองหน้า แล้วก็มองหน้าจนผมต้องบอกว่า...ตะวันล้อเล่น...นั่นแหละพี่ขุนถึงเลิกมอง แต่ก่อนจะเลิกมองน่ะ พี่ขุนก็ตบหัวผมไปหนึ่งที...

ผมมีแฟนสามคน...บางทีผมก็สงสัย ผมจะมีคนที่สี่หรือเปล่า...ก็ตอนเป็นแฟนพี่กบ ผมไม่ได้คิดสักกะนิดนี่นาว่าต่อไปพี่กบจะไม่ใช่แฟน...

ผมรักพี่ขุน..เวลาผ่านไปยิ่งนานเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรัก แต่ผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า...ผมจะมีแฟนคนที่สี่หรือเปล่า...วันนี้ผมรักพี่ขุนมาก...แต่วันพรุ่งนี้มันยังมาไม่ถึงนี่นา...เงินในกระเป๋า เดี๋ยวมี เดี๋ยวไม่มี...ความรักก็ไม่น่าจะต่างกัน...อะไรๆล้วนไม่แน่นอน...สัจธรรมของชีวิต พระท่านยังว่าเอาไว้...ผมเลยแอบอดสงสัยไม่ได้ว่า พี่ขุนจะเป็นความแน่นอนของชีวิตผมหรือยัง...ก็พ่อกับแม่ยังลืมผมทิ้งเอาไว้...ฉายก็ไปเรียนต่อที่กรุงเทพ...พี่กบก็ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด...มันเหมือนโลกใบโตๆ...ที่เล็กลงๆทุกวัน...ใครๆก็อยู่ห่างผมออกไปทุกที...พี่ขุนที่พี่อ๋อบอกว่าเป็นอภิชาตแฟน...แต่ ให้พูดยังไงๆ  พี่ขุนก็ไม่ยอมย้ายมาอยู่กับผม...อ้างว่าน้าโอ๋น้าเจดจะว่าเอาบ้างล่ะ ทั้งที่ถึงเช่าบ้านอยู่ต่างหากแต่พี่ขุนก็แทบจะมาอยู่กับผมยี่สิบสี่ชั่วโมง...ไม่มาอยู่ผมไม่ว่า แต่ไปๆมาๆพี่ขุนเหมือนอยากจะย้ายตัวเองไปอยู่ไกลยิ่งกว่าเดิม

“พี่กับเพื่อนๆคุยกันว่าจะไปลาว”พี่ขุนพูดแล้วยิ้ม...แล้วก็เล่าถึงโครงการพันแปดร้อยบาท รีสอร์ทพร้อมเสริฟริมแม่น้ำซองที่ฝั่งลาวให้ผมฟัง

ผมนั่งฟังพี่ขุนเล่า...เข้าหูซ้ายแล้วก็ทะลุออกหูขวา...จนพี่ขุนต้องขยับเข้ามานั่งใกล้แล้วเอามือปิดหูขวาผมไว้ แล้วพี่ขุนก็เล่าต่อ

คำว่า...ไป...ของพี่ขุนไม่ใช่แค่ไปเที่ยว แต่หมายถึงไปอยู่...ดูเหมือนเพื่อนๆของพี่ขุนจะไม่ค่อยชอบที่จะอยู่กับที่กันเท่าไหร่...บางครั้งบางคนบอกว่าแค่ไปเที่ยว...แต่พอไปแล้วก็เปลี่ยนใจไม่ยอมกลับมา...

หลายครั้งแล้วที่พี่ขุนคล้ายตัดสินใจว่าจะไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ...แต่ครั้งนี้ผมดูออก...พี่ขุนดูมีความสุขกว่าทุกที

คราวก่อนพี่ขุนไปลาวกับเพื่อน...พี่ขุนเล่าให้ฟังเช้ายันเย็น เย็นยันเช้า ว่าสวยอย่างโน้นอย่างนี้...โครงการพันแปดร้อยไม่ถึงล้านของพี่ขุนกับเพื่อนๆมันเริ่มตั้งแต่พี่ขุนกลับจากลาวครั้งโน้น...และวันนี้พี่ขุนตัดสินใจ...ย้ายไปอยู่ลาว

ผมนั่งฟัง...เข้าหูซ้ายออกหูขวา...และเห็นภาพ โลกใบโตแหว่งไปอีกส่วน

“เชื่อพี่สิ...ตะวันต้องชอบแน่ๆ”พี่ขุนบอกและมันวิ่งเข้าหูซ้ายแล้วก็เกือบไหลออกหูขวา...ดีที่สะดุดหู มันเลยไหลขึ้นสมอง

“พี่ขุนจะพาตะวันไปด้วยเหรอ?”ผมถาม...แล้วน้ำตาก็ไหล... เห็นภาพโลกใบโตยังเหลืออยู่เท่าเดิม...

“ถามแปลก!”พี่ขุนพูดแล้วก็เช็ดน้ำตาให้ผม

“ไม่ใช่ไปวันสองวันนี่ จะได้ไม่พาตะวันไปด้วย”

“พ่อกับแม่ยังไม่พาตะวันไปด้วยเลย”ผมบอก พี่ขุนก็ถอนหายใจ

แต่ถึงพี่ขุนจะพาผมไปด้วย สุดท้ายผมก็ไม่ไปกับพี่ขุน

“น้าโอ๋ ถ้าตะวันไม่อยู่น้าโอ๋จะเหงาหรือเปล่า?”ผมถามน้าโอ๋

“เหงาสิ!...ตะวันจะไปไหน?!”น้าโอ๋ตอบแถมถามเสียงสูงปี๊ดๆ

“เปล่า...ตะวันถามเฉยๆ”ผมบอกน้าโอ๋ก่อนกลับไปบอกพี่ขุนว่า...ผมไม่ไปด้วย พอพี่ขุนถามว่าทำไม...ผมก็บอกพี่ขุนว่า...ตะวันจะอยู่กับน้าโอ๋ ถ้าไม่อยู่ น้าโอ๋ น้าเจดก็จะเหงา เพราะฉายก็ไปเรียนตั้งไกล นานๆถึงกลับมาที

“แล้วพี่ล่ะ?”พี่ขุนถาม

“พี่ขุนก็อยู่กับตะวันสิ...”และผมบอก

“ถ้าพี่จะไปจริงๆ ยังไงตะวันก็ไม่ไปกับพี่ใช่ไหม?”พี่ขุนถาม และผมก็พยักหน้า

วันนั้นพี่ขุนไม่ได้อยู่กับผม...พี่ขุนกลับบ้าน และผมก็นั่งร้องไห้...วันพรุ่งนี้พี่ขุนก็จะไปแล้ว...

ผมนั่งร้องไห้จนเช้า จนพี่ขุนเปิดประตูบ้านเข้ามา...

“ร้องไห้ทำไม?”พี่ขุนถาม สะพายเป้ใบโตมาด้วย

“ไปด้วยกัน!”พี่ขุนบอกแล้วก็ฉุดผมให้ลุกขึ้น

“แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้นแหละ แล้วก็กลับ”พี่ขุนบอกก่อนจับเสื้อผ้าผมยัดใส่กระเป๋า...

“แล้วตะวันจะกลับยังไง?”

“ก็กลับกับพี่!”พี่ขุนบอกแล้วจับกระเป๋ายัดขึ้นไหล่ผม

“น้าโอ๋!...ตะวันไปเที่ยวกับพี่ขุนนะ!”ผมวิ่งไปเปิดประตูบ้านน้าโอ๋...น้าโอ๋อยู่ไหนไม่รู้ผมเลยตะโกนบอกก่อนวิ่งกลับมากระโดดซ้อนมอเตอร์ไซด์พี่ขุน

“จะไปไหน ตะวัน?!”เสียงน้าโอ๋ตะโกนถามตามหลัง ผมหันไปมองน้าโอ๋...

“ไปลาว อาทิตย์นึง!”ผมก็ตะโกนบอกแต่ไม่รู้ว่าน้าโอ๋จะได้ยินหรือเปล่า...เพราะพี่ขุนเร่งเครื่องซะดัง ผมก็กอดเอวพี่ขุนแน่น กลัวพี่ขุนทำผมหล่น

...อย่างที่พระท่านว่า อะไรๆก็ไม่แน่นอน...วันก่อนๆ ผมนั่งร้องไห้เพราะกลัวพี่ขุนทิ้ง...เผลออีกที ผมก็มานอนหนุนท้องพี่ขุนอยู่ริมแม่น้ำที่พี่ขุนว่าสวยหนักสวยหนาที่ฝั่งลาว

ผมนอนเอาหัวหนุนท้องพี่ขุนที่นอนหนุนแขนตัวเอง ส่วนแขนอีกข้างหนึ่งพี่ขุนก็เคาะหัวผมเล่น...ผมนอนมองภูเขาลูกโตๆ ที่ถ้ากลิ้งมาอีกนิดมันต้องทับผมกับพี่ขุนแบนติดดินแน่ๆ...

“ตะวันเคยได้ยินเรื่องเจ้าชายกบหรือเปล่า?”พี่ขุนถามตอนผมนอนฟังเสียงลม เสียงน้ำแล้วก็เสียงหัวใจพี่ขุนเต้นอยู่เพลินๆ

“เพื่อนพี่คนหนึ่งเขาบอกว่า...”

“เพื่อนคนไหน?”ผมถาม

“ตะวันไม่รู้จักหรอก...”

“คนไหนล่ะ?”

“แฟนเก่า!”พี่ขุนบอก ผมก็ร้องอ๋อในใจ...ไม่รู้จักจริงๆนั่นแหละ...

“เพื่อนพี่เขาบอกว่าจริงๆกบน่ะฝัน มันไม่เคยเป็นเจ้าชาย...”

“ฉายก็เคยบอก ตอนน้าโอ๋เล่าเรื่องเจ้าชายกบ...ฉายบอกว่าผู้หญิงบ้าที่ไหนจะจูบกบ!”

“ก็จริง...ตะวันเป็นกบพี่ก็ไม่จูบ...แต่ถ้าเอาไปผัดเผ็ดก่อนก็ไม่แน่!”

“พี่ขุนกินกบเหรอ?”

“ทำไม?”

“ถ้าพี่ขุนกินกบ ตะวันก็ไม่ให้พี่ขุนจูบเหมือนกัน...”ผมบอก

“ชอบชักใบให้เรือเสีย!”

“อะไร?”

“ช่างมันเหอะ หมดมู้ดพูดแล้ว!”

“พูดต่อก็ได้ ตะวันจะฟัง”

“วันหลังก่อน...”

“เมื่อก่อนมีคนบอกว่าตะวันเป็นกบในกะลา”ผมบอก แต่ไม่ได้บอกว่าใครพูด เพราะเยอะแยะไปหมด...แต่กบที่พี่ขุนพูดกับโลกกว้างๆที่ผมเพิ่งจะเคยเห็น มันทำให้ผมนึกถึงที่คนอื่นเขาว่าเอาไว้

“ถ้าเรารู้จักตัวเอง...กะลาของเราอาจจะใหญ่กว่าโลกของเขาก็ได้”พี่ขุนบอก

“พี่ขุนไม่อยากมาอยู่ลาวกับเพื่อนๆแล้วเหรอ?”ผมถาม...นอนฟังเสียงหัวใจพี่ขุนที่อยู่ใกล้จนได้ยินชัดแจ๋วกว่าเสียงลม

“อยาก...”พี่ขุนบอกแล้วก็เอามือเย็นๆที่เย็นยิ่งกว่าน้ำในแม่น้ำที่ผมนอนเอาเท้าจุ่มเล่นอยู่ตอนนี้ลูบหัวผม

“แต่พี่อยากอยู่กับตะวันมากกว่า”พี่ขุนบอก...

“งั๊นกลับบ้านแล้ว...พี่ขุนมาอยู่กับตะวันนะ?”ผมถามพี่ขุน...ผมถามพี่ขุนบ่อยๆ บ่อยพอกับที่พี่ขุนปฏิเสธ...แต่ครั้งนี้ผมถามด้วยความรู้สึกที่ต่างไป ไม่ใช่แค่เพราะเหงาเท่านั้น

“ตะวันอยากอยู่กับพี่ขุน...”ผมบอก...

พี่ขุนปฏิเธตลอด...แต่ชีวิตคือความไม่แน่นอน ผมนอนหนุนท้องพี่ขุน นอนฟังเสียงหัวใจ นอนรอฟังคำตอบ...วันนี้ตำตอบพี่ขุนอาจเปลี่ยนไปก็ได้นี่นา

“ตะวันอยากอยู่กับพี่ขุน...ตลอดชีวิต”ผมบอก...แล้วก็นอนฟังเสียงหัวใจของพี่ขุนต่อ


จบ
 









หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 03-08-2012 17:01:22
รักนะ ตะวัน  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 03-08-2012 17:34:12
อ่านๆไปก็คลายเครียดดี ถึงไม่มีฉายเพราะมัวแต่ไปลั๊นลาที่ บางกอก ก็ยังมีตะวันที่ดูจะ....อือม ......
มันก็ฮาไปอีกแบบ แบบว่า ฮาแต่เศร้าเพราะไม่มีฉาย โว๊ะ ยิ่งเม้นท์ ยิ่งเพี้ยนแล้ว

เอาเป็นว่า ขออ่านแล้วกันค่ะ เพราะคิดถึงฉาย ประมาณว่า ถึงฉายไม่มีบท ได้เห็นหลังคาบ้าน ก็เอาแล้ว 555+
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 03-08-2012 17:50:36
แฟนคนที่สี่เอาชื่อฉายมั้ยตะวัน...555

/วิ่งมาเพ้อ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 03-08-2012 18:27:40
...ชีวิตพี่ขุนน่าสงสาร โดนผู้ปกครองจับหันซ้าย หันขวา ตามแต่ใจที่ตัวเองต้องการ และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ
...แต่ลืมมองไปว่าลูกก็มีชีวิต จิตใจ มีความต้องการของตัวเองเหมือนกัน แล้วทำไมต้องทำร้ายร่างกายกันขนาดนั้นด้วย
...พ่อแม่ ทำลูกแล้วก็มาเจ็บที่ใจของตัวเอง แต่ลูกเจ็บทั้งใจและกาย แต่คนอึนๆๆอย่างตะวันก็เหมือนน้ำเย็นนะ ใครอยู่ใกล้ก็จะเย็นชุ่มฉ่ำไปตลอดชีวิต
....ชอบจัง พี่ขุนอยากไปลาว แต่พี่ขุนก็อยากอยู่กับตะวันมากกว่า ..คงเป็นรักแท้ของตะวันละมั้งครั้งนี้ คงไม่มีรักครั้งที่ 4 แล้วละ
....เพราะที่แล้วๆมามันเป็นรักฉาบฉวย แต่ครั้งนี้เป็นรักแท้ที่มั่นคง จะได้ทดแทนสิ่งที่ตะวันสูญเสียไปจากที่ตะวันต้องได้จากพ่อแม่
....มันอาจจะทดแทนกันไม่ได้ แต่จะทำให้ตะวันมีความสุข มีความอบอุ่น และรู้สึกเหมือนมีคนคุ้มครองไม่โดดเดี่ยว
....จริงๆต้องบอกว่าทั้งสองคนเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน เพราะขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่ทั้งคู๋ :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: shabu ที่ 03-08-2012 19:09:16
ขอให้ตะวันสมหวังนะคะ ได้อยู่กับพี่ขุน  ตลอดชีวิต  :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: XOXO ที่ 03-08-2012 19:28:43
อ่านแล้วมันหน่วงๆยังไงไม่รู้ T^T ตะวันกับพี่ขุนมีความสุข เราอ่านแล้วก็ยิ้มตาม แต่พอคิดถึงตอนสุดท้าย คิดถึงฉายที่รักตะวัน ก็กลับมาดราม่าอีก แงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 03-08-2012 20:18:34
“ตะวันอยากอยู่กับพี่ขุน...ตลอดชีวิต”

มันคงจะดีนะ ถ้าความฝันของตะวันเป็นจริง

แต่คนอ่านที่รู้ล่วงหน้าเนี่ยสิ มันรวดร้าวววว  :m15:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 04-08-2012 00:40:35
ยอมรับว่าเกือบจะลืมเรื่องตะวันฉายไปหมดแล้ว จำได้เพียงเลาๆ

วันนี้เลยไปนั่งรีวิวเรื่องเดิม
 
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคือ สำหรับฉายแล้ว ตะวันคือโลกทั้งใบของฉาย แทบไม่มีตอนไหนเลยที่ตะวันไม่คิดหรือพูดถึงฉาย

แต่พอมาอยู่ในมุมของตะวัน ฉายกลับเป็นเพียงเด็กข้างบ้านที่แทบจะไม่มีบท

ก็เหมือนอะไรๆในโลกนี้แหละ ที่สำหรับเราเค้าอาจเปนโลกทั้งใบโดยที่เราไม่เคยได้รู้เลยว่าสำหรับเค้าเราเป็นอะไร...

ยังไงก็ตามก็ยังชอบเรื่องนี้เหมือนเคย เคยรู้สึกจี๊ดๆในอกยังไงตอนอ่าน ก็ยังจี๊ดๆในอกเช่นเคย

ขอบคุณคุณภัคDสำหรับการมาต่ออย่างสมำ่เสมอ  :กอด1:

ปล. ตอนต่อไปขอฉายออกมาบ้างได้มั๊ยค้าบบบบบ คิดถึงฉายมากเลย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-08-2012 13:49:40
พี่ขุนทำเพื่อตะวันหลายอย่างเลย
สมแล้วที่ตะวันรักมาก
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-08-2012 17:59:31
ตะวันรักพี่ขุน

แต่ฉายรักตะวัน  :monkeysad: :sad11:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#11
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 04-08-2012 18:22:38
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 12

“ตะวันอยากอยู่กับพี่ขุน...ตลอดชีวิตตะวันเลย”ผมบอกพี่ขุนแล้วก็นอนฟังเสียงหัวใจพี่ขุน...นอนรอคำตอบ...

ที่พี่ขุนเคยบอกว่า น้าโอ๋กับน้าเจดจะว่าเอา ถ้าพี่ขุนย้ายเข้ามาอยู่กับผม...ผมรู้ว่ามันเป็นข้ออ้าง...ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ ผมรู้เพราะผมเป็นแฟนพี่ขุน ผมเลยรู้ใจพี่ขุนทุกอย่าง

...จริงๆผมรู้เพราะผมแอบฟังพี่ขุนคุยกับเพื่อนตะหาก...

‘กูเกิดเป็นลูกพวกเขามายี่สิบกว่าปี กูยังทำให้พวกเขาพอใจในตัวกูไม่ได้เลย...ต้องออกจากที่ที่กูคิดว่าเป็นบ้าน ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว...กูไม่อยากต้องทำอีกเป็นครั้งที่สอง’

ผมได้ยินพี่ขุนพูดกับเพื่อนอย่างนั้น...ตอนที่เพื่อนพี่ขุนถามว่า ทำไมไม่ย้ายเข้ามาอยู่กับผม

ถึงตอนนั้นผมจะอยากบอกพี่ขุนว่า...ผมรักพี่ขุน แต่ผมก็ไม่แน่ใจ พรุ่งนี้ผมจะยังรักหรือเปล่า...แต่ตอนนี้ผมแน่ใจ ผมเลยบอก...ผมอยากให้พี่ขุนอยู่กับผมตลอดชีวิต

ผมเตรียมคำตอบไว้ร้อยแปดเผื่อพี่ขุนจะถามผมว่า ทำไมผมถึงคิดว่าตัวเองจะอยากอยู่กับพี่ขุนไปตลอดชีวิต...แต่ผมก็ภาวนาให้พี่ขุนอย่าถามเลย เพราะมันยาวมากๆ จนผมไม่แน่ใจว่าผมจะพูดให้พี่ขุนเข้าใจได้หรือเปล่า...ผมว่ามันคงยากยิ่งกว่าตอนเขียนเรียงความสมัยเด็กๆที่ครูชอบบอกว่า...ไม่รู้เรื่อง...

แต่พอผมตัดสินใจบอกพี่ขุน...ว่าผมอยากอยู่กับพี่ขุนตลอดชีวิต...พอบอกเสร็จผมก็นอนรอฟังคำตอบ นอนฟังเสียงหัวใจ...แล้วผมก็หลับโดยที่พี่ขุนยังไม่ยอมตอบผม

ตื่นมาฟ้ามืดแล้ว...ภูเขาลูกโตๆที่ผมกลัวมันจะกลิ้งมาทับ ตอนนี้มันก็ยังโต แถมตัวดำ แต่ผมไม่กลัวมันกลิ้งมาทับแล้ว เพราะตอนนี้มันแหงนคอตั้ง นั่งคุยกับดาวดวงเล็กๆเต็มฟ้า...

ผมนอนคิดว่าเมื่อกี้ฝันอะไร แล้วผมก็นึกได้...

“พี่ขุน!”ผมเรียกหาพี่ขุนเพราะเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่แล้วก็อยู่กับใคร...ผมเรียกพี่ขุนแล้วก็รีบลุกขึ้นนั่ง...ก่อนมองซ้ายมองขวาแล้วก็เจอ พี่ขุนนอนอยู่ที่เดิม...พี่ขุนกำลังหัวเราะและมองผม

“ทำไมไม่ปลุกตะวัน?”ผมถาม

“ก็เห็นนอนสบาย”

“พี่ขุนไม่หิวเหรอ?”ผมถามเพราะฟ้ามันมืดแล้ว แล้วพอลืมตาตื่นท้องผมก็ก็เริ่มร้อง

พี่ขุนเลยพยักเพยิดให้ดูขนมปังที่วางอยู่ข้างๆ...ผมก็เอื้อมไปหยิบแล้วก็กลับลงไปนอนหนุนพี่ขุนเหมือนเดิม

ผมอยากจะถามคำตอบพี่ขุน แต่กำลังกินหนมปังอยู่เลยยังไม่ถาม

ผมกินหนมปังไป นอนดูดาวไป แล้วก็นอนฟังเสียงหัวใจพี่ขุนไป จนเกือบจะหลับไปอีกรอบ

“กลับไปแล้วพี่ขุนย้ายไปอยู่กับตะวันนะ”

“ตะวันจะรักพี่ขุนคนเดียวตะวันสัญญา...”

“พี่ก็อยู่กับตะวันจนเหมือนอยู่บ้านตะวันอยู่แล้วไง...”พี่ขุนพูด เอามือลูบหัวผมแต่ตาพี่ขุนมองก็แต่ท้องฟ้า

“ไม่เหมือนหรอก...พี่กิจบอกว่า พี่ขุนไม่มาอยู่กับตะวันเพราะพี่ขุนมีแฟนอีกคนอยู่ที่บ้าน”

“เดี๋ยวเรียกมันมาคุย!”

“ตะวันล้อเล่น...”

“พี่ก็ล้อเล่น...ใครว่าพี่มีแฟนอีกคนอยู่ที่บ้าน...เขาอยู่บ้านเขาเองต่างหาก”พี่ขุนว่างั้น...อย่างกับพูดจริง แต่ผมรู้ว่าพี่ขุนพูดเล่น

“อยู่กับตะวันเถอะนะ...ตะวันสัญญา...จะอยู่กับพี่ขุนตลอดชีวิต...”ผมบอก...ผมอยากบอกพี่ขุนว่า ...ผมน่ะรักพี่ขุน แล้วก็ชอบพี่ขุนถึงจะไม่ได้รู้จักพี่ขุนมายี่สิบปีกว่าๆก็เหอะ และผมก็อยากจะบอกพี่ขุนว่า...ผมไม่มีวันให้พี่ขุนต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านผมเหมือนที่พี่ขุนต้องออกจากบ้านตัวเอง...แต่ผมก็บอกไม่ได้ เพราะพี่ขุนจะรู้ว่าผมแอบฟังพี่ขุนคุยกับเพื่อน

“ตลอดชีวิตใคร?...พี่หรือว่าตะวัน?”พี่ขุนพูด ยังลูบหัวผม ตาพี่ขุนก็ยังมองแต่ท้องฟ้า...

“ตะวันรู้ไหม...กบไม่เคยเป็นเจ้าชาย...”

“อือ...มีแต่กบผัดเผ็ด”ผมบอก พี่ขุนหัวเราะแต่ก็ยังมองแต่ท้องฟ้าอยู่ดี

“กบตัวนั้น มันแค่ฝัน...แต่มันไม่รู้ตัวว่าฝัน...จนวันนึงมันก็ตื่น...มันเลยรู้ตัวว่ามันไม่เคยได้เป็นเจ้าชาย หรือจริงๆ มันอาจจะไม่ได้เป็นกบเลยด้วยซ้ำ...มันอยากหลับต่อ...แต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้ก็แต่เฝ้ามองกบตัวอื่นๆที่ยังนอนฝันอยู่”

“มีคนๆหนึ่งเคยบอกพี่ว่า...คนเราก็เหมือนกบตัวนั้น...ตอนนี้เราทุกคนกำลังฝัน...พี่ฝัน...ตะวันก็ฝัน...”

“แต่เราไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่...เหมือนกบตัวนั้นไง...”

“แล้ว...บางคนก็ต้องตื่นหลังจากหลับฝันอยู่นาน...วันหนึ่งตะวันก็ต้องตื่น...พี่ก็ต้องตื่น...”

“คนๆนั้นเขาบอกพี่ว่า...อย่าเสียใจที่ใครคนหนึ่งจะตื่นไปจากฝันก่อนเรา”พี่ขุนหยุดพูดเท่านั้นแล้วก็ก้มมามองผม...

ผมรอว่าพี่ขุนจะพูดอะไร...ถึงผมจะรู้ก็เหอะว่าพี่ขุนจะพูดอะไร

พี่ขุนดึงผมให้ขยับลุกไปนอนข้างๆพี่ขุน...แล้วพี่ขุนก็กอดผม...ผมนอนนิ่งอยู่กับอกของพี่ขุน...นอนฟัง เสียงหัวใจของพี่ขุนที่เต้นดังกว่าเดิม...

“บางทีตอนนี้...พ่อกับแม่ของตะวันอาจตื่นแล้วก็ได้”

“พี่ขุนหมายความว่ายังไง?”

“มันนานเกินไปแล้วตะวัน...บางคนยังฝัน...บางคนก็ต้องตื่น”

“ถ้าจริง ทำไมพ่อกับแม่ไม่ปลุกตะวัน”

“เพราะตะวันยังหลับสบาย...เหมือนเมื่อกี้พี่ก็ไม่ปลุกตะวัน...ใครฝันก็ต้องฝันต่อไป...”พี่ขุนกอดผม...แล้วผมก็ร้องไห้...มันนานเกินไปแล้วอย่างที่พี่ขุนว่า...ทำไมผมจะไม่รู้...พ่อกับแม่รักผม จะทิ้งผมไว้บ้านคนเดียวได้ไงตั้งนานขนาดนี้...แต่ผมก็ยังอยากรอต่อไป

“ไม่มีใครจากเราไปไหน มีแค่เราที่ยังไม่ตื่น...ยังเป็นเจ้าชายกบที่นอนฝันหวานอยู่บนใบบัว”พี่ขุนบอก  แล้วก็กอดผมไว้แน่นกว่าเดิม

“ร้องไห้ทำไม...บอกแล้วไงไม่มีใครจากใครไปไหน ..มีแต่เราที่ยังหลับฝัน”

“ถ้าตะวันไม่ร้องไห้...พี่จะอยู่กับตะวัน... จนถึงวันที่พี่ตื่น...”

“แล้วถ้าตะวันตื่นก่อนล่ะ?”

“พี่ก็จะนอนฝันถึงตะวันไง...”พี่ขุนก้มกระซิบเบาๆที่หู แขนพี่ขุนก็ยังกอดผม...

“งั้น...ขอตะวันร้องต่ออีกแป๊บนึงนะ?”

“หลายแป๊บก็ได้...”พี่ขุนบอก...ผมเลยนอนให้พี่ขุนกอดแล้วก็ร้องไห้จนหลับไปอีกรอบ

จบ






หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 04-08-2012 18:34:49
มีกันและกัน.... มันอุ่นใจ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: yolp ที่ 04-08-2012 20:09:27
ชอบเรื่องฝันของกบตัวที่ตื่นกับไม่ตื่นมากเลยคะ
ชอบจนอ่านรอบที่สามจบแล้ววิ่งไปเล่าเรื่องกบให้แม่ฟัง 5555
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: shabu ที่ 04-08-2012 20:16:08
ชอบพี่ขุนคุยกับตะวัน ได้น่ารัก อบอุ่นมากเลยค่ะ
สองคนนี่เขาพูดจาภาษาเดียวกันเนอะ น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 04-08-2012 20:30:57
ซึ้งจัง น้ำตาซึมอ่ะค่ะ
+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-08-2012 21:43:10
เฮ้อ.... ผมยังต้องฝันไปอีกนานมั้ยนะ... อยากไปเจอคนที่เค้าตื่นก่อนจะแย่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-08-2012 21:46:59
เฮ้อ.... ผมยังต้องฝันไปอีกนานมั้ยนะ... อยากไปเจอคนที่เค้าตื่นก่อนจะแย่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 04-08-2012 22:00:42
งั้นตะวันขอร้องต่ออีกซักแปปนะ  :m20:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 04-08-2012 22:01:13
รอ 14 ครบจบค่อยอ่านรวดเดียว   :เฮ้อ: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 04-08-2012 22:24:28
ร้องไห้ตามตะวันไปแล้ว

 :o12:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 04-08-2012 23:04:54
เริ่มเข้าใจตะวันขึ้นมาทีละนิดๆแล้ว

เข้าใจแล้วว่าทำไมที่รพ.ไชยปราการตะวันถึงยังวาดรูปพี่ขุนทุกวัน

คิดว่านะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 05-08-2012 10:23:56
หลังจากพี่ขุนตื่น ตะวันเลยยังนอนฝันถึงพี่ขุนทุกวัน
น้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 05-08-2012 11:07:04
...ตะวันนี่ฮาดี และ ตะวันก็ซกมก กินขนมปังทั้งๆที่ยังไม่แปรงฟันเลย555
...พี่ขุนก็มีเหตุผลดีนะ โดนพ่อแม่ที่อยู่กันมา 20 ปีไล่ออกจากบ้านเลยไม่อยากโดนคนอื่นไล่ออกจากบ้านเป็นครั้งที่2
...กำลังอ่านตะวันฉาย ใกล้จบแล้ว แต่มันเศร้ามากตอนท้ายๆๆ เลยรู้จุดจบของพี่ขุนและอาทั้งสองของตะวัน เศร้าเนอะ :L2:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: vavacoco ที่ 05-08-2012 13:14:26
ตะวันสอดรู้สอดเห็นจริงๆ :m20: ชอบแอบฟังพี่ขุนคุยกับเพื่อนเรื่อย
ถ้าพี่ขุนรู้จะเป็นไงน้อ 555
แต่ตะวันน่ารักหลายอย่างเลยนะ ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ
ตะวันไม่ชวนพี่ขุนอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตหรอก
ตะวันปรึกษาตัวเองหลายรอบจนแน่ใจแล้ว
แถมยังห่วงกลัวน้าโอ๋เหงาอีก นี่สินะใครๆถึงได้รักตะวัน  :L1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-08-2012 13:31:58
 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#12
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 05-08-2012 14:04:17
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 13

ผมไม่เคยรู้ว่าบ้านพี่ขุนอยู่ที่ไหน...บ้านเช่าของพี่ขุนผมยังแค่รู้ที่แต่แทบไม่เคยได้ไป ก็ขนาดตัวพี่ขุนเอง พี่ขุนยังไม่ค่อยอยู่บ้านเลย เพื่อนพี่ขุนบอกว่า พี่ขุนเช่าบ้านเอาไว้เลี้ยงปลวก...

แต่พอกลับจากลาว แทนที่พี่ขุนจะพาผมกลับบ้าน พี่ขุนกลับพาผมไปบ้านที่ไม่ใช่บ้านเช่า

บ้านพี่ขุนหลังเบ้อเริ้ม...บ้านผมรวมกับบ้านน้าโอ๋ยังไม่รู้จะใหญ่เท่าที่จอดรถบ้านพี่ขุนหรือเปล่า...แถมในโรงจอดรถก็มีแต่รถคันโตๆ ที่เวลาฉายขับรถ น้าโอ๋จะต้องคอยบอกฉายว่า...ฉาย อยู่ห่างๆมันหน่อย คันนั้นมันแพงนะ!...

แต่วันนี้พอผ่านเข้ารั้วบ้านที่ผมมองหาคนเปิดประตูไม่เจอเข้ามาได้  พี่ขุนก็บอกว่า

“แม่พี่เขาเจ้าระเบียบ จอดรถไม่เป็นที่เดี๋ยวโดนด่า”พี่ขุนว่างั้นแล้วก็เร่งเครื่องดังบรึ้นๆ...ผมกอดเอวพี่ขุนไว้แน่น ก่อนจะหลับปี๋ ตอนได้ยินเสียงดังโครม...พอลืมตาขึ้นมองก็ทันได้เห็นพี่ขุนใช้เท้าถีบรถที่น้าโอ๋เคยบอกว่ามันแพง ยันตัวถอยมอเตอร์ไซด์ออกมาจอดข้างๆ

ผมมองรอยบุบที่เคียงคู่อยู่กับรอยพื้นรองเท้าของพี่ขุนด้านข้างรถคันโตๆตรงหน้าแล้วก็ควานดูตังค์ในกระเป๋ากางเกงตัวเองว่ามีอยู่เท่าไหร่  ...ยังนับได้ไม่เท่าไหร่พี่ขุนก็เอาแขนพาดคอผมแล้วลากผมเดิน

“หลังโตจัง!”ผมหยุดยืนอยู่หน้าบ้าน แหงนคอตั้งดูบ้านหลังโคตรโตของพี่ขุน

“แล้วสวยไหม?”พี่ขุนถาม กอดอกยืนเอียงคอมองบ้านหลังโตๆของตัวเอง ผมเอียงคอมองตาม...จะตอบว่าไม่สวย ก็กลัวพี่ขุนโกรธ

“เงียบแปลว่าอะไร?”พี่ขุนหันมาถาม มือก็ยังกอดอก ผมเลยยกมือขึ้นมาเกาหัวตัวเอง

“ถ้าตะวันบอกว่าสวย พี่จะบอกว่าตะวันรสนิยมห่วย ”พี่ขุนว่างั้น

“งั้นตะวันรสนิยมโคตรดี...”ผมพูดค่อยๆแบบเกรงใจ๊ เกรงใจ

“...พี่ก็ว่างั้น...”พี่ขุนบอก เลิกเอามือกอดอกแล้ว แต่เอามากอดคอผมลากให้เดินเข้าไปในบ้านแทน

“หลังโตจัง...”ผมยังบอกพี่ขุน...หันซ้ายหันขวาแล้วกลับมาหันซ้ายอีกทีก่อนกลับไปหันขวาอีกรอบ ดูบ้านพี่ขุนที่เหมือนบ้านที่เห็นในละครทีวีที่น้าโอ๋ชอบดู

“อือ...ไม่รู้จะสร้างให้มันโตทำไม ไม่ใช่มูลนิธิหรือโรงเลี้ยงเด็กกำพร้าสักหน่อย...เสียดายที่!”

“แล้ว...พี่ขุนมาทำไม?”ผมกระซิบถาม ก็นับจากวันที่พี่ขุนบอกว่าจะไม่กลับมาที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว...พี่ขุนก็ไม่เคยกลับมาอีกเลยจริงๆ ยกเว้นตอนเข้ามางัดบ้านหนเดียวเอง...มันผ่านมาตั้งหลายๆปีแล้ว แต่พี่ขุนไม่เคยกลับมาสักครั้ง...

“มาเอาของ”พี่ขุนบอก

พี่ขุนก้าวขายาว แถมเดินเร็วอีก...แล้วก็ลากคอผมให้เดินไปด้วย ผมเลยต้องเดินบ้างวิ่งบ้าง ตามพี่ขุนให้ทัน ไม่งั้นเดี๋ยวจะหลุดติดแขนพี่ขุนไปแต่คอ

“คนอื่นหายไปไหนหมด?”ผมกระซิบถามอีก...ก็บ้านมันเงียบ เงียบอย่างกับไม่มีชีวิต เงียบจนผมไม่กล้าพูดเสียงดัง

“อยากเจอเหรอ?”แต่พี่ขุนพูดซะดัง หรือจริงๆก็พูดปกติ แต่ในบ้านหลังนี้ ผมได้ยินอย่างกับเสียงพี่ขุนดังคับบ้านเลย แถมพี่ขุนยังพูดไปหัวเราะไป

ผมไม่รู้พี่ขุนลากคอผมเดินไปทางไหน...แต่พอผมจะบอกพี่ขุนว่าผมแค่ถามไม่ได้อยากเจอ...พี่ขุนก็หยุดเท้าแล้วเอาแขนลงจากคอผม...ผมยกมือลูบท้องตัวเองว่ามันอยู่ตรงไหน เพราะพอเงยหน้าขึ้น...ผมก็รู้สึกว่าผมหายใจแล้วหาท้องเอาลมลงไม่เจอ...

พ่อกับแม่กับปู่ของพี่ขุนนั่งหน้าตึงอยู่ในฉากละครที่น้าโอ๋ชอบดู...

พ่อพี่ขุนมองพี่ขุนก่อนหันมามองผมตั้งแต่หัวจนถึงเท้า...สวนแม่พี่ขุนก็มองจากเท้าขึ้นมาหัว...ผมเกือบหมุนตัวไปรอบๆให้ปู่พี่ขุนดูจะได้ไม่ทับเส้นทางกันตอนปู่พี่ขุนตวัดตามามอง...แต่ก็ไม่ได้ทำเพราะผมกลัวจนอยากมุดกลับไปอยู่ใต้แขนพี่ขุนอย่างเก่า

“ขึ้นไปเอาของกัน!”พี่ขุนบอก แล้วก็เอาแขนมาลากคอผมให้เดินอีก...

ผมค่อยหายใจเต็มท้อง ตอนพี่ขุนกระแทกประตูห้องปิดดังปั้ง...ผมนั่งมองพี่ขุนที่เดินไปแล้วก็เดินมารอบๆห้อง แต่ไม่เห็นพี่ขุนหยิบอะไรเลยสักกะอย่าง...

ผมเห็นพี่ขุนเดินไปหยุดที่หน้าต่าง แล้วก็มองออกไปด้านนอก...ผมเลยเดินไปมองบ้าง

“บ้านใคร?”ผมถาม...เพราะเลยรั้วบ้านพี่ขุนออกไป ผมเห็นบ้านหลังเล็กๆสีขาวๆ...บ้านที่พี่ขุนยืนมอง

“บ้านของคนที่เคยเล่าเรื่องเจ้าชายกบให้พี่ฟัง...”พี่ขุนบอกแล้วก็ยิ้ม

“แฟนเก่าพี่ขุน?”ผมถามเพราะจำได้



“จะว่างั้นก็ได้”

“ตะวันไม่เคยเจอเขา?”ผมถามเพราะจำได้เหมือนกันว่าพี่ขุนบอกว่าผมไม่เคยเจอ

“ตะวันไม่เคยเจอเขา...เขา...เขาตื่นนอนแล้ว...ก่อนที่เขาจะตื่น...เขาเล่าเรื่องเจ้าชายกบให้พี่ฟัง...บอกให้พี่นอนหลับฝันต่อให้สบาย...ฝันอย่างที่พี่อยากฝัน อย่าฝันอย่างที่คนอื่นบอกให้ฝัน”พี่ขุนพูดแล้วก็ยิ้ม แต่ไม่ได้ยิ้มให้ผม

ผมยืนมองบ้านหลังนั้นเหมือนพี่ขุนที่ยังมองดูบ้านหลังนั้นอยู่เงียบๆ

“พี่ขุนมาดูบ้านหลังนี้เหรอ?”ผมถามเพราะนึกขึ้นมาได้ว่าพี่ขุนไม่ได้หยิบอะไรสักอย่าง

“อ๋อ...เปล่า...กลับกันเถอะ!”

ผมปล่อยให้พี่ขุนเอาแขนลากคอผมเหมือนเดิม แต่ผมแอบมองที่มือพี่ขุน ไม่เห็นพี่ขุนหยิบอะไรติดมือมาสักอย่างจริงๆ

“ทำอะไร?”พี่ขุนก้มมาถามผม ตอนผมเอื้อมมือไปตบๆกระเป๋ากางเกงพี่ขุนว่ามีอะไรอยู่ในนั้นหรือเปล่า แต่ก็ไม่เห็นมีอะไร

พี่ขุนเดินช้าลงหน่อย ตอนที่เดินผ่านห้องที่พ่อกับแม่กับปู่ของพี่ขุนนั่งอยู่...ผมรีบยกมือขึ้นไหว้แต่ไม่รู้พ่อกับแม่กับปู่พี่ขุนจะเห็นหรือเปล่า เพราะพี่ขุนลากคอผมเดินผ่านมาซะก่อน

“มารยาทดีเนอะ? รู้จักไปลามาไหว้ พี่นึกว่าตะวันจะกลัวจนตัวแข็ง ยกแขนไม่ขึ้นแล้วซะอีก”พี่ขุนบอก เลิกเอาแขนลากคอผมแล้ว แต่ผมก็ยังรีบเดินตามพี่ขุนให้ทัน

“ตอนมาลืมไหว้ !”ผมพูดอย่างนึกได้ แต่ไม่ทันหมุนตัวกลับ พี่ขุนก็หันมาคว้าคอผมให้เดินต่อ

“ไม่ต้อง!...ไม่ต้องทบต้นทบดอก ถ้าไม่ใช่เงิน พ่อกับแม่พี่เขาไม่สนหรอก!”

“แล้วปู่ล่ะ?”

“ปูไหน?”

“ก็ที่นั่งอยู่”

“นั่นน้อง!”พี่ขุนพูดแล้วก็หัวเราะเสียงดัง ... น้องพี่ขุนไม่ได้หน้าแก่จนเป็นปู่ พี่ขุนรู้ว่าผมพูดเล่น ผมก็รู้ว่าพี่ขุนรู้ ... ก็ผมอยากให้พี่ขุนหัวเราะ

พอจะได้กลับอากาศมันก็ปลอดโปร่ง ผมค่อยหายใจโล่งจนเผลอตัวเอาเท้าช่วยพี่ขุนยันรถที่น้าโอ๋ว่าแพงตอนพี่ขุนจะเอามอเตอร์ไซด์ออกมา

ผมหันไปมองบ้านพี่ขุนอีกครั้งตอนกำลังจะผ่านออกจากรั้วบ้านที่ผมยังมองหาคนเปิดไม่เจออยู่ดี...ผมมองดูบ้านหลังโตๆ...ที่พอก้าวเท้าเข้าไปแล้ว ผมไม่รู้จะยืนตรงไหนดี...ผมมองดูบ้านหลังโตๆ และพอหันกลับมา ผมก็เห็นพี่ขุนกำลังก้มมอง ภาพบ้านตัวเองในกระจกเหมือนกัน...

“เป็นไง ไม่เห็นมีอะไรต่างจากเดิมเลย!”พี่ขุนพูด...หลังจากย้ายเข้ามาอยู่บ้านผมแล้วสองวัน...มันไม่ค่อยมีอะไรต่างจากเดิมจริงอย่างที่พี่ขุนว่า เพราะอย่างที่บอกเมื่อก่อนที่ขุนก็อยู่บ้านผมจนแทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว

“ต่างสิ...”ผมบอก...เพราะถึงมันไม่ต่างแต่จริงๆมันก็ต่าง

“ต่างยังไง?”พี่ขุนถาม...

“ก็เมื่อก่อน...อันนี้บ้านตะวัน...แต่เดี๋ยวนี้บ้านพี่ขุนกับตะวันไง!”ผมก็ตอบ พี่ขุนก็ยิ้ม

“...เมื่อก่อนพี่ขุนบอกเพื่อนว่าจะไปบ้านตะวัน...ตอนนี้พี่ขุนก็บอกว่า...พี่ขุนจะบอกเพื่อนว่าไง?”ผมถามบ้าง พี่ขุนก็ยิ้ม

“บอกว่า...กลับบ้าน...”

จบ...



หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 05-08-2012 14:27:16
+1  :กอด1:
รักตะวันกับพี่ขุนนะ  :m15:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 05-08-2012 16:02:41
กลับบ้าน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-08-2012 16:07:16
กลับบ้านกัน  :sad11:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 05-08-2012 17:14:37
...สรุปพี่ขุนมาที่บ้านนี้เพื่อ...มายืนมองดูบ้านแฟนเก่าว่างั้นเถอะ
...หรือมาดูปฎิกริยา ก่อนออกจากบ้าน และหลังออกจากบ้านของ ทุกคนที่อยู่ในบ้าน
...อยู่ใกล้ตะวันมากๆ พี่ขุนก็ชักจะอึนๆๆเหมือนตะวันแล้วนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 05-08-2012 18:17:58
ความคิดของตะวันมันน่ารักจริงๆเลยยย.... :m3:

ร๊า๊ากกกก...ตะวัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: ตีสี่ ที่ 05-08-2012 18:58:55
อยากจะบอกว่าไม่ค่อยเข้าใจที่สองคนนี้เขาพูดกันสักเท่าไหร่
แต่ชอบพี่ขุนมาก เท่โค-ตรอ่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: CoMa ที่ 05-08-2012 20:08:31
เห็นตะวันกับพี่ขุนรักกันแล้วมีความความสุขจัง
เหมือนความฝันเลยอ่ะไม่อยากจะตื่นเลยอยากหลับนานนานนนนนนนนนนนนนน
ใครอย่ามาปลุกเรานะเราจะฝันให้ตะวันได้อยู่กับพี่ขุนตลอดไปT____T
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-08-2012 21:01:07
สองคนได้ฝันในแบบที่ต้องการแล้ว อย่าพึ่งรีบตื่นเลย
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 05-08-2012 21:19:12
หึหึ.... ปู่!  ... ฮาว่ะคับ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: vavacoco ที่ 05-08-2012 21:37:07
ฮา ปู่เหมือนกันค่ะ ตะวันคิดได้ไงนี่ น่าตีจัง :jul3:
 
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: aprilmonth4 ที่ 05-08-2012 22:55:22
บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองนี่ช่างน่ารักจิงๆ น้า :-[
คนสองคนที่ต่างก็ไม่ได้สมบูณณ์แบบ แต่ต่างก็เติมช่องว่างที่ต่างคนต่างขาดหายให้เต็ม

ถ้าเป็นการหลับฝัน ก็คคงเป็นฝันดีๆ ของทั้งสองแล้วล่ะนะ :m15:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 06-08-2012 00:38:12
พี่ขุนพาตะวันมาที่บ้านทำไมหว่า ???

ชอบเวลาที่พี่ขุนอยู่กับตะวัน เหมือนกับชอบเวลาที่ตะวันอยู่กับฉาย

อยากให้ตะวันรักฉายได้เหมือนกับที่รักพี่ขุนจัง
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 06-08-2012 02:08:49
พี่ขุนให้ใจตะวันไปเต็มแล้วล่ะ
กลับบ้านกันเนอะ พี่ขุน ตะวัน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-08-2012 11:15:00
ตะวันฮาอ่ะ มีการจะหมุนๆให้ปู่ เอ้ย!! น้องชายพี่ขุนมอง เพราะกลัวจะทับทางพ่อกะแม่
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: wdaisuw ที่ 06-08-2012 16:06:00
ไม่อยากจะคิดถึงตอนเศร้าของคู่นี้
อยากให้เค้าอยู่ด้วยกัน รักกันไปนานๆ :m15:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 06-08-2012 17:44:38
มาอ่านมุมของตะวันแล้ว พี่ขุนชีวิตช่างน่าสงสารจริงๆ ไม่อยากให้ถึงตอนพี่ขุนตื่นจากฝันเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 06-08-2012 18:28:39
อา....กลับบ้าน....
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: pmnet ที่ 06-08-2012 19:12:31
เคยอ่านเรื่องนี้ เนื้อเรื่องดีมาก จบได้ดีเศร้าแต่อบอุ่น
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 06-08-2012 20:59:22
“...กลับบ้าน...”

คำสั้นๆ ใช้กันทั่วไป แต่มีความหมายและเรื่องราว....เยอะกว่าที่คิด

รักนะตะัวัน รักนะพี่ขุน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#13
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 06-08-2012 21:10:41
มาถึงบทสุดท้าย...สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดนะคะ  ...เป็นบทสุดท้ายของน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านข้างๆเท่านั้น ...เนื่องจากเป็นคนไม่ชอบอะไรเศ้ราๆ ดราม่าๆ  (จะมีใครเชื่อไหมเนี่ย?  ^ ^ ) ...ตอนนี้เลยมาไว ไปไว ยาวไปเลยแบบไม่ค้างคานะคะ


****************************************

เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# 14

“พี่ว่าจะทำอะไรสักอย่าง”พี่ขุนพูดขึ้นในตอนเช้า พอผมลืมตาตื่นได้แค่ครึ่งเดียว พี่ขุนก็บอกผมอย่างนั้น

เมื่อคืนเพื่อนๆพี่ขุนมานั่งกินเหล้าบ้านผม บอกว่า เป็นงานเลี้ยงส่งตัวพี่ขุนเข้าบ้านผม...

“ครอบครัวมันไม่ได้หมายถึงแค่พ่อแม่ลูกนะโว๊ย...แค่มึงเจอใครสักคนแล้วตัดสินใจว่าจะอยู่กับคนๆนั้นไปตลอดชีวิต นั่นแหละครอบครัว!”พี่กิจพูดกับพี่ขุนด้วยท่าทางขึงขัง  แต่เพื่อนคนอื่นๆกลับนั่งหัวเราะ

“วันนี้ได้กินเหล้าแกล้มสาระเน่าๆของไอ้กิจว่ะ”

“พวกมึงเงียบไปเลย...พวกมึงเป็นคนบอกให้กูมาพูดกับมันไม่ใช่หรือไง?!”

“แต่ไม่ได้บอกให้พูดอะไรเน่าๆนี่หว่า...”

“พูดอะไรวะ?”พี่ขุนถาม

“พวกมันบอกให้กูมาพูดกับมึงว่า...มึงน่าจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างได้แล้ว”พี่กิจบอก

“ก็ทำอยู่แล้วนี่ ตั้งหลายอย่าง”พี่ขุนว่างั้น ซึ่งก็จริง

“กูหมายถึง ไอ้ที่ทำแล้วได้เงิน ไม่ใช่ทำตัวเป็นมิสเตอร์การกุศลอยู่อย่างนี้”พี่กิจว่า

มันเป็นอย่างที่พี่ขุนว่า และอย่างที่พี่กิจเพื่อนพี่ขุนว่า...พี่ขุนน่ะทำอะไรหลายๆอย่างจริง ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่ทำคือไอ้ที่ทำแล้วได้ตังค์

...มันมีปมด้อย เป็นโรคกลัวเงิน...เพื่อนพี่ขุนเคยบอกผมอย่างนั้น

พี่ขุนทำอะไรหลายๆอย่าง...เรียกอะไรบ้างไม่รู้ ผมจำไม่ได้ เพราะมันมีสารพัดโครงการ ...ตั้งแต่ไปสอนเด็กวาดรูปในวัด...สอนสารพัดที่พี่ขุนบอกว่าให้เขาเอาไปประกอบอาชีพได้ตามหมู่บ้าน กับบางครั้งก็เข้าไปสอนถึงในคุก

เพื่อนๆพี่ขุนที่คบๆกันอยู่ก็ทำอย่างที่พี่ขุนทำ เพียงแต่เพื่อนพี่ขุนทำอย่างอื่นด้วย...คือทำที่ทำแล้วได้ตังค์

คืนนั้นพี่ขุนคุยกับเพื่อนๆ พอตอนเช้าพี่ขุนก็บอกผม ตั้งแต่ผมลืมตาตื่น

“พี่ว่าจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง”พี่ขุนบอกตอนผมลืมตาตื่นขึ้นมาครึ่งหนึ่งเพราะแสงแดดมันส่องเข้ามาแยงตา ผมเอามือขยี้ตา ซุกหน้าหนีแสงกับอกพี่ขุนแล้วก็หลับต่อ

ผมได้ยินเสียงพี่ขุนหัวเราะเบาๆ...พี่ขุนขยับตัวดึงผ้าม่านหัวเตียงปิดให้แล้วก็เอาแขนมากอดผมไว้ แล้วก็พูดถึงสิ่งที่พี่ขุนบอกว่าจะทำต่อ

พี่ขุนบอกว่าจะเปิดร้านเล็กๆ  กระจายงานให้ชาวบ้านทำแล้วอะไรต่อก็ไม่รู้เพราะผมหลับไปซะก่อน ตื่นมาพี่ขุนก็ไม่อยู่แล้ว กระเป๋เป้ใบโตที่พี่ขุนเก็บเสื้อผ้าไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวานก็ไม่อยู่

ผมอาบน้ำล้างหน้า มานั่งวาดรูปพอท้องร้องดังจ๊อกๆ ผมก็เดินไปบ้านน้าโอ๋ 

พอกินข้าวเสร็จ ผมก็มานอนดูทีวีกับน้าโอ๋ กะรอให้ท้องย่อยแล้วค่อยกลับไปนั่งวาดรูปต่อ

“นายขุนล่ะ?”น้าโอ๋ถาม

“กลับบ้าน”และผมตอบ

จริงๆพี่ขุนไม่ได้กลับบ้าน พี่ขุนไปไหนแต่ละที อธิบายให้ผมฟังแต่ละครั้งยาวจนผมนั่งหลับ อย่างครั้งนี้พี่ขุนว่า พี่ขุนไปช่วยเขาให้ความรู้กับชาวบ้านเรื่องที่ดินงอกขึ้นริมน้ำปิง

วิธีการทำให้ดินงอกมันง่ายจนเหลือเชื่อ...พี่ขุนบอกว่าแค่เอาไม้ไปปักลงที่กลางน้ำ บ้านใครอยู่ติดแม่น้ำ เขาอยากให้พื้นดินมันงอกเพิ่ม เขาก็เอาไม้ไปปักลง อยากได้ถึงไหนก็ปักไม้ลงตรงนั้น ผ่านไปนานๆ น้ำมันไหลพัดเอาตะกอนมา มันก็ค่อยๆพอกพูนเป็นพื้นดิน พี่ขุนบอกว่าชาวบ้านขาดความรู้ เขาทำเพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรคือผลเสียของส่วนรวมที่ตามมา

...ชาวบ้านเขาไม่รู้ เราบอกให้เขารู้ ให้เขาเข้าใจน่ะไม่ยาก ไอ้ที่ยากๆคือพวกโลภมากในเมือง พวกนั้นคือกูรู้แต่กูจะทำ ร้านอาหารริมน้ำปิงทำเลดี ดินงอกทั้งนั้น...พี่ขุนว่างั้นตอนไปจอดรถที่ตีนสะพานชี้ให้ผมดูร้านอาหารที่เรียงกันเป็นแพตลอดริมน้ำปิง

ที่พี่ขุนพูดมาน่ะตั้งหลายบรรทัด พอน้าโอ๋ถามผมเลยบอกน้าโอ๋ว่า...กลับบ้าน...สองคำเองสั้นกว่ากันตั้งเยอะ...

ไอ้ที่กินลงท้องไปมันย่อยแล้ว และถึงรายการทีวีมันจะไม่น่าดูเท่าไหร่  แต่ผมก็ยังอยากนอนขี้เกียจอยู่บนโซฟาตัวยาวๆที่บ้านน้าโอ๋...  ที่บนโต๊ะมีทับทิมเม็ดสีแดงอยู่ในชามดินเผาใบโตที่พี่ขุนเป็นคนทำ...น้าโอ๋นั่งพับผ้าที่เพิ่งรีดเสร็จ...ในกองผ้ามีเสื้อผ้าของพี่ขุนรวมอยู่ด้วย

ฝนตกลงมาแหมะๆ เย็นสบายจนผมขี้เกียลุก...เสียงโมบายลมที่หน้าต่างกับกลิ่นของอากาศเย็นๆ ทำเอาผมเกือบหลับไปอีกรอบ

“เดี๋ยวตะวันเอาผ้ากลับไปด้วยนะ”น้าโอ๋บอก ผมก็พยักหน้ารับแต่ไม่รู้น้าโอ๋จะเห็นหรือเปล่าเพราะตอนนี้หัวผมมุดอยู่กับหมอนอิงใบโตที่นอนกอดอยู่ 

เสียงน้าโอ๋ยกตะกร้าผ้าเดินขึ้นไปชั้นบน ซักพักก็กลับลงมานั่งที่เก่า...

“เย็นนี่กินอะไรดี”น้าโอ๋ถาม

“อะไรก็ได้”ผมตอบ หัวยังมุดอยู่กับหมอน

“ที่ถามเนี่ยให้ช่วยคิด!...ทำทุกวัน เบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรดี”

“กระเพรา...”ผมเลยแนะ เพราะเสียงโฆษณาในทีวีกะลังพูดถึงข้าวผัดกระเพราพอดี

“ไม่มีใบกระเพรา”

“ก็ไม่ต้องใส่ใบกระเพรา...”

“แล้วมันจะเป็นผัดกระเพราได้ไง?!”

“ไก่ผัดพริก”

“ไม่มีไก่ มีแต่หมู”

“...หมูผัดพริก”

“แล้วอะไรอีก?”

“...”

ถ้าผมเป็นกบ...ผมก็คงไม่ฝันอยากเป็นเจ้าชายหรืออะไรที่ใหญ่โต...ผมแค่อยากอยู่ในบ้าน ที่มีคนที่ผมรักแล้วก็รักผม...นอนฟังเสียงเม็ดฝน นั่งรอคนที่ผมรักกลับมาบ้าน ทั้งน้าเจดที่เดี๋ยวเย็นๆก็กลับ...ฉายที่กว่าจะกลับก็ปิดเทอมแล้วก็พี่ขุนที่บ้านของผมเพิ่งกลายเป็นบ้านของพี่ขุนเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง

ถ้าผมเป็นกบ...ฝันของผมก็แสนจะธรรมดา ฝันไม่ใหญ่โตหรือยิ่งใหญ่เหมือนฝันของคนอื่นๆ... ฝันของผมมีก็แค่บ้านหลังเล็กๆที่บางคนอาจเรียกมันว่าเป็นกะลา...มันธรรมดาๆ แต่แค่นั้นผมก็มีความสุข...ผมฝันเหมือนเดิมทุกๆวัน...ฝันอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับคนที่ผมรักทุกๆคน...ฝันอย่างนั้น ซ้ำๆซากๆ... ไม่ว่าจะผ่านไปแค่ปีหรือว่าสิบปี... ฝันของผมก็มีเท่านั้น แต่ผมก็มีความสุข...ผมเป็นกบที่นอนฝันดีอยู่บนใบบัวใบเล็กๆทุกวันๆ...กับคนที่ผมรัก

“ ตะวันไปด้วย”ผมร้องบอกน้าโอ๋ก่อนส่งกล่องใบโตที่ถืออยู่ให้พี่ขุน แล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อจากเสื้อกล้ามเป็นเสื้อคอกลม

“อยู่บ้านนี่แหละ...ฟ้ามันมืดๆ น้าตากผ้าไว้ เดี๋ยวถ้าฝนตกตะวันจะได้เก็บผ้าให้น้า”น้าโอ๋บอกตอนผมวิ่งกลับออกมาพร้อมเสื้อคอกลมเรียบร้อย

พี่ขุนหันมามองผมแล้วก็ยิ้มก่อนหันกลับไปช่วยน้าเจดขนของขึ้นรถต่อ

อีกสองสามวันนี้  เพื่อนที่ทำงานน้าเจดจะเอาของขึ้นไปบริจาคบนดอย น้าเจดกับน้าโอ๋แล้วพี่ขุนก็ช่วยรวบรวมของอีกแรงและวันนี้ก็จะขนไปให้เขา

ตอนแรกน้าโอ๋ก็บอกว่าพี่ขุนไม่ต้องไปด้วยก็ได้ แต่พี่ขุนบอกจะไปด้วยเผื่อไปถึงแล้วไม่มีใครช่วยขนของลง  ผมเลยขอไปด้วย แต่น้าโอ๋บอกไม่ให้ไป...

“ตะวันอยู่บ้านนี่แหละ เดี๋ยวฉายกลับมาแล้วไม่เจอใคร อยู่เป็นเพื่อนฉาย”น้าโอ๋บอก สุดท้ายผมก็ไม่ได้ไปด้วย ได้แต่ยืนรอส่ง

“อย่าให้ผ้าเปียกนะ น้าขี้เกียจซักใหม่”น้าโอ๋หันมาบอกก่อนขึ้นรถ พี่ขุนก็หันมายิ้มแล้วโบกมือให้ผม ผมก็โบกมือตอบ

พอรถแล่นออกจากบ้านแค่แป๊บเดียว ผมก็นึกได้ว่าอาทิตย์หน้าต่างหากที่ฉายจะกลับบ้านไม่ใช่อาทิตย์นี้

ตอนนี้ฉายเรียนจบแล้ว แล้วก็ไปเป็นหมออยู่ไชยปราการ เดือนนึงได้กลับบ้านตั้งหนึ่งครั้ง...ฉายบ่นว่านั่งรถแต่ละทีเหนื่อยกว่ากลับจากกรุงเทพซะอีก เหนื่อยจนฉายบอกว่าขี้เกียจกลับแต่ฉายก็กลับบ้านมาบ่นให้ฟังทุกๆเดือน

เผลอแค่แป๊บเดียวฝนก็ตกลงมาอย่างที่น้าโอ๋ว่า...ผมเก็บผ้าให้น้าโอ๋ไม่ทัน เลยต้องหาพัดลมมาเป่าเผื่อมันจะแห้งทันน้าโอ๋กลับมา

ฝนตกหนักแล้วก็เสียงดัง ดังจนผมเกือบไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ แต่ผมก็ได้ยิน แล้วก็รับมัน...

ถ้าผมเป็นกบ...ผมฝันก็แค่นอนหลับอยู่ในบ้าน บ้านที่มีแต่คนที่ผมรักแล้วก็รักผม...แต่เสียงในโทรศัพท์มันบอกผมว่า...ในฝันของผม จะไม่มีน้าโอ๋ น้าเจดแล้วก็พี่ขุนอีกต่อไปแล้ว

ที่โรงพยาบาล เพื่อนน้าเจดบอกผมว่า มันเย็นเกินไปที่จะจัดการอะไรหลายๆอย่างได้ทัน ต้องให้น้าโอ๋กับน้าเจดนอนค้างที่โรงพยาบาลคืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าถึงจะมารับน้าโอ๋กับน้าเจดออกไป ไม่มีอะไรที่ทำได้นอกจากกลับบ้าน แต่ผมก็ไม่ได้กลับ ผมนั่งอยู่หน้าห้อง นั่งอยู่ตรงนั้นทั้งคืน...

แต่พี่ขุนกลับบ้านไปแล้ว...พ่อกับแม่กับน้องพี่ขุนมาพาพี่ขุนกลับไป...พวกเขามองดูผมและผมไม่กล้าเข้าไปหา ได้แต่ยืนมองดูโลงไม้สีขาวๆที่พี่ขุนนอนหลับอยู่ในนั้น

จนพี่กิจเดินมาหาผมและพาผมเข้าไป...

“ไอ้ขุนมันเคยพาตะวันไปที่บ้านใช่ไหม?”พี่กิจถามและผมก็พยักหน้า

“ตะวันรู้ไหม มันพาตะวันไปทำไม?”

“พี่ขุนบอกว่าไปเอาของ...”

“ครอบครัวยังไงให้ตัด มันก็ตัดไม่ขาด...ปากมันบอกว่าจะไม่กลับไปอีกแล้ว ถึงมันจะไม่ยอมกลับไปจริงๆ แต่...”

“มันบอกพี่ว่าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทำอย่างนั้น ทำไปก็ไม่รู้จะได้อะไรขึ้นมา...แต่มันก็อยากพาตะวันไป...พาไปให้พ่อแม่มันเห็นหน้า...ให้ตะวันได้รู้จักพ่อกับแม่มัน...ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ก็นั้นแหละ ยังไงก็พ่อกับแม่ ยังไงมันก็ยังรัก...เผื่อวันแบบนี้ล่ะมั๊ง...วันที่ไม่มีมัน ”พี่กิจบอก ตอนพาผมเดินเข้าไปหาพี่ขุน

พ่อกับแม่กับน้องของพี่ขุนไม่ได้พูดอะไรกับผม เพราะพวกเขาเอาแต่ร้องไห้...เหมือนกับผม

แล้วพวกเขาก็พาพี่ขุนไป และผมนั่งอยู่หน้าห้องที่น้าโอ๋กับน้าเจดนอนอยู่...

ผมยังไม่ได้โทรไปหาฉาย...ไม่ใช่ว่าลืมแต่ผมไม่กล้า

ก่อนเพื่อนน้าเจดจะกลับ เพื่อนน้าเจดถามผมว่าผมโทรหาฉายหรือยัง ผมก็บอกว่าผมโทรแล้ว..เพื่อนพี่ขุนก็ถามผมด้วยคำถามเดียวกันผมก็ตอบว่าผมโทรแล้ว ทั้งที่ความจริงผมยังไม่ได้โทรหาฉายเลย...ผมไม่ได้ลืมแต่ผมไม่กล้าโทร...ผมเลยโทรหาพี่กบ บอกพี่กบให้โทรบอกฉาย...

ฝนยังตก...ไฟยังเปิดสว่าง แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นสักคน มีก็แต่ผม...แล้วพี่กบก็มา พี่กบกอดผมแล้วผมก็ร้องไห้...เสียงดังกว่าเสียงฝนซะอีก...ร้องไห้เท่าไหร่ๆ ผมก็ยังรู้สึกแย่อยู่เหมือนเดิม

พี่กบบอกผมให้หยุดร้องไห้ เพราะถ้าร้องแล้วน้าโอ๋ น้าเจดกับพี่ขุนจะเป็นห่วง...ผมก็หยุดร้อง เพราะผมกลัวน้าโอ๋ น้าเจดแล้วก็พี่ขุนเป็นห่วงผม...ยิ่งกว่านั้น ร้องไห้ไปก็เท่านั้น มันไม่เหมือนทุกครั้งที่พอร้องไห้แล้วมันโล่ง...แต่ครั้งนี้ร้องจนเจ็บคอ ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม

พี่กบบอกให้ผมโทรหาฉาย...ผมก็บอกให้พี่กบโทร แต่พี่กบบอกว่า ฉายจะดีใจถ้าผมเป็นคนโทร...

ผมไม่รู้ว่าฉายจะดีใจได้ยังไง แต่ผมก็โทร...

โทรไปครั้งแรก ไม่เจอฉาย...เขาถามว่ามีอะไรจะฝากไว้หรือเปล่า...ผมก็บอกว่าเปล่า...

โทรไปครั้งที่สองถึงเจอฉาย...แล้วผมก็เข้าใจที่พี่กบพูด เพราะพอได้ยินเสียงฉาย...ผมก็รู้สึกโล่งใจกว่านั่งตะเบ็งเสียงร้องไห้เมื่อกี้นี้ซะอีก...แต่พอวางหู ใจผมก็เหี่ยวลงเหมือนเดิม มาหายเหี่ยวหน่อยก็ตอนฉายกลับมา แต่พอกลับมาฉายก็ยุ่ง ต้องทำโน่นทำนี่เต็มไปหมดจนแทบไม่มีเวลามาคุยกับผม ไม่มีเวลาเสียใจ แต่ผมก็รู้ว่าฉายเสียใจ...ผมไม่อยากทำอะไร นอกจากนั่งเฉยๆ  นั่งคิดถึงน้าโอ๋ น้าเจดแล้วก็พี่ขุน...นั่งคิดถึงแทนฉายด้วยเพราะดูฉายจะไม่มีเวลา

วันสุดท้ายที่อีกเดี๋ยวน้าโอ๋กับน้าเจดก็จะกลายเป็นควันลอยขึ้นไปอยู่บนฟ้า...พี่กิจก็โทรมา บอกผมว่าอีกเดี๋ยวก็จะส่งพี่ขุนไปแล้ว...พี่กิจถามผมว่าอยากพูดอะไรกับพี่ขุนไหม ผมส่ายหัวแต่พี่กิจไม่เห็น พี่กิจเลยบอกว่าเดี๋ยวพี่กิจจะเอาโทรศัพท์ไว้ใกล้ๆหูพี่ขุนให้

ผมไม่รู้จะพูดอะไร พออ้าปากน้ำตามันก็จะไหลผมเลยรีบหลับลูกกะตา...

...ร้องไห้ทำไม...บอกแล้วไงไม่มีใครจากใครไปไหน ..มีแต่เราที่ยังหลับฝัน...

...ถ้าตะวันไม่ร้องไห้...พี่จะอยู่กับตะวัน... จนถึงวันที่พี่ตื่น...

เสียงพี่ขุนอย่างกับดังมาจากโทรศัพท์...ผมเลยไม่ร้องไห้...

“พี่ขุนตื่นก่อน...พี่ขุนอย่าไปเที่ยวกับคนนั้นจนลืมตะวันนะ”ผมบอกพี่ขุนว่าอย่างนั้นแล้วก็ส่งโทรศัพท์คืนให้พี่กบ...แล้วน้าโอ๋กับน้าเจดก็กลายเป็นควันลอยขึ้นไปอยู่บนฟ้า...พี่ขุนก็ด้วย...

แล้วฉายก็กลับไปไชยปราการ...พี่กบก็กลับ...เหลือผมแค่คนเดียว...

ผมไม่รู้จะหลับฝันอะไรในโลกที่ว่างเปล่าแบบนี้...บ้านหลังเล็กๆที่มีก็แต่ผม ไม่มีคนที่ผมรักแล้วก็คนที่รักผม

พอผมพูด...ผมก็ได้ยินแต่เสียงของตัวเอง...พอผมเงียบ...มันก็ไม่มีเสียงอะไรเลย

ผมนั่งบนโซฟาที่ครั้งหนึ่งเคยนั่งกับพี่ขุน...เงี่ยหูฟังเสียง...แต่มันไม่มีเสียงอะไรเลย

พอนั่งอยู่คนเดียวในบ้านของตัวเอง...ผมก็รู้สึกคล้ายว่าที่บ้านอีกหลังมีน้าโอ๋กับน้าเจดอยู่...พอผมเดินไปหา ก็ไม่มีใคร...แล้วผมก็รู้สึกว่าในบ้านของผม พี่ขุนคงกำลังนอนเล่นอยู่ในบ้าน...พอผมเดินกลับไปหา ก็ไม่มีใครอยู่เหมือนเดิม...บางครั้งผมเลยนอนอยู่ตรงรั้วบ้าน มันทำรู้สึกคล้ายน้าเจดกับน้าโอ๋ยังอยู่ในบ้าน และที่บ้านอีกหลังพี่ขุนก็ยังอยู่ แต่ผมก้รู้ ที่ในบ้านสองหลัง ไม่มีใครอยู่เลย

ผมอยากบอกให้ฉายกลับมาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่กล้าขอ เพราะถ้าขอ ฉายต้องยอมกลับมาแน่ๆ...น้าโอ๋ดีใจจะตายที่ฉายได้เป็นหมอ น้าเจดก็ดีใจตอนที่ฉายจะไปเป็นหมออยู่ไชยปราการ...

ฉายกลับบ้านทุกๆอาทิตย์มาหาผม แล้วก็โทรมาหาผมทุกๆวัน...เพียงแต่ผมเหงายิ่งขึ้นทุกทีเวลาที่ฉายวางหูโทรศัพท์ เวลาที่ฉายกลับไป

เวลาอยู่คนเดียว ผมเลยนอนทั้งวัน เพราะไม่รู้จะตื่นขึ้นมาทำไม...และในฝันของกบฝันร้ายอย่างผม ผมก็ฝันถึงพี่ขุน น้าโอ๋แล้วก็น้าเจด แถมบางทียังฝันถึงแม่กับพ่อด้วย...ผมเลยนอนทั้งวัน เพราะมันมีความสุขกว่าเวลาที่ต้องตื่นขึ้นมาอยู่คนเดียว

บ่อยๆที่ผมเริ่มคิด...ทำไมคนเราต้องถูกบังคับให้มีชีวิตอยู่ ถ้าเราไม่อยากมี...ถ้าไม่มีความสุข แล้วเราจะอยู่ไปทำไม

ชีวิตน่าจะเป็นของคนที่มีความสุข...แต่ผมไม่มี ทำไมผมถึงไม่มีสิทธิ์เลือกในเมื่อเป็นชีวิตของผม...

ถ้าได้ตื่นนอนไปพร้อมๆกับน้าโอ๋ น้าเจดแล้วก็พี่ขุนก็คงจะดี...ผมคิด เพราะฝันของผมมันเงียบ มันเหงาและผมก็กลัว...

แต่ก็ได้แค่คิด เพราะฉายยังหลับฝันอยู่...น้าโอ๋บอกว่าให้ผมอยู่เป็นเพื่อนฉาย...ผมก็ต้องอยู่ฝันเป็นเพื่อนฉาย...เจ้าชายกบที่ยังนอนฝันหวานไม่รู้ว่าตัวเองกำลังฝัน ยังไม่ตื่น...ถ้าปล่อยให้นอนหลับฝันอยู่คนเดียว ผมก็สงสารฉาย...ผมเลยไม่รู้จะทำยังไง นอกจากนอนเฉยๆบนโซฟา

แล้วฝันของผมก็เริ่มมีเสียง...เริ่มต้นจากเสียงกริ่งที่หน้าประตู

ผมนอนอยู่บนโซฟา...เงี่ยหูฟัง คิดตั้งนานว่าเสียงอะไร  พอนึกได้ผมเลยวิ่งไปเปิดประตู...นึกว่าฉายจะกลับบ้าน

“อยู่คนเดียวเหงาหรือเปล่า?”ที่หน้าประตู พี่ปายืนยิ้มแล้วก็ถามผม

ที่หน้าประตูมีพี่ปายืนอยู่...ข้างหลังพี่ปาคือท้องฟ้าสีดำ...บนท้องฟ้าสีดำ ผมเห็นดาวลูกไก่กลุ่มโต...ฝันของผมเริ่มมีเสียง...เสียงตัวเองกลืนน้ำลายดังเอื้อก...

“อยู่คนเดียวเหงาหรือเปล่า?”พี่ปาถาม...หัวผมขยับแต่ผมจำไม่ได้ว่าผมส่ายหัวหรือพยักหน้า เพราะในหัวผมมีแต่ภาพดาวลูกไก่

พี่ปาไม่ชอบพี่ขุน พอๆกับที่พี่ขุนไม่ชอบพี่ปา แล้วพี่ขุนก็ไม่เหมือนพี่กบที่ชอบเอาความสงบของตัวเองสยบการเคลื่อนไหวของพี่ปา...พี่ขุนไม่ค่อยสงบแต่ก็สยบพี่ปาด้วยหมัดที่น่าจะหนักกว่า พี่ปาเลยหายหน้าไปเพิ่งมาโผล่ก็วันนี้ วันที่ไม่มีทั้งพี่ขุนแล้วก็พี่กบ

‘มึงจำไว้ อย่...’ครั้งสุดท้ายที่เจอพี่ปา พี่ปาชี้หน้าพี่ขุน พูดทั้งที่เลือดเต็มปากแต่ก็พูดได้เท่านั้น

‘กูขี้เกียจจำ ถ้ายังเจ็บตัวไม่พอ มึงเข้ามาตอนนี้เลย!’พี่ขุนพูดขัด ปากท้าให้พี่ปาเข้ามาแต่ผมเห็นพี่ขุนนั่นแหละเป็นฝ่ายเดินเข้าไป ดีที่ตอนนั้นพี่กบอยู่ พี่กบเลยช่วยห้าม...พี่กบคุยอะไรกับพี่ปาก็ไม่รู้ พี่ปาถึงยอมกลับไปแล้วก็ไม่มาอีก จนวันนี้...

พี่ขุนยังบอกผมว่า พี่กบไม่รู้น่ะซิว่าพี่ปาทำอะไร พี่กบถึงยอมพูดดีกับพี่ปา...พี่ขุนพูดแล้วก็มองหน้าผม แล้วก็มองผมตรงที่ไม่ใช่หน้า ตรงที่ครั้งหนึ่งมันเคยมีดาวลูกไก่สีเขียวๆอยู่

วันนี้ผมมองพี่ปายิ้ม แล้วก็นึกถึงดาวลูกไก่...ทำยังไงดี? ผมคิด แต่ก็คิดอะไรไม่ออก พี่ปาก็เข้ามาในบ้าน แล้วก็ไม่ยอมออกไป

แต่พี่ปาก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ผมนึกกลัว...พี่ปาแค่คอยกอดผม พูดกับผม แล้วก็ยิ้มกับผม...แล้วฝันของผมมันก็มีเสียงขึ้นมาอีกครั้ง ผมไม่ต้องพูดกับตัวเอง ไม่ต้องนั่งฟังเสียงตัวเอง...

ผมเล่าให้พี่ปาฟังเรื่องเจ้าชายกบที่พี่ขุนเล่าให้ผมฟัง พี่ปาก็บอกผมว่า...จะอยู่เป็นเพื่อนผม ผมจะได้ไม่เหงา...

ผมไม่รู้ตัวเองมีความสุขหรือเปล่า รู้ก็แต่ว่า...มีเสียงให้ผมได้ยิน...ในบ้านไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว...

พี่ปาใจดีกับผม แล้วก็ยอมกลับบ้านทุกๆอาทิตย์ในช่วงที่ฉายกลับมาด้วย ฉายเลยไม่เคยเจอพี่ปา แต่วันหนึ่งอยู่ๆฉายก็กลับมา ฉายเลยเจอพี่ปาแล้วก็ทะเลาะกันใหญ่ แล้วฉายก็กลับเข้าไปในบ้านไม่ยอมพูดอะไรกับผมเลย

ผมกลัวพี่ปาแต่ที่กลัวกว่าคือกลัวฉายโกรธ กลัวฉายไปแล้วก็ไม่ยอมกลับมาอีก

ผมเลยตัดสินใจบอกพี่ปา...ผมบอกให้พี่ปากลับไป บอกพี่ปาว่าผมจะไปอยู่ที่ไชยปราการกับฉาย

พี่ปาโมโหแล้วพี่ปาก็ถามผมว่า..ถ้าไม่มีฉาย ผมก็จะอยู่กับพี่ปาใช่ไหม...

ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่ปา เพราะในความจริง...ตอนนั้น ถ้าไม่มีฉาย ผมก็จะไม่เลือกหลับฝันอีกต่อไป...เพราะฝันของผมคือฝันร้าย...เงียบเหงาและก็มีแต่ความคิดถึงอยู่ตลอดเวลา

ผมไม่ได้ตอบพี่ปา...พี่ปาดูน่ากลัวแล้วพี่ปาก็บอกว่า งั้นก็ให้มันตายๆไป ...พี่ปาพูดอย่างนั้นแล้วก็จะเดินออกไป

ผมพยายามดึงพี่ปาเอาไว้ พี่ปาก็ผลักผม ผมเลยคว้าอะไรก็ไม่รู้ปาใส่หัวพี่ปา แล้วพี่ปาก็หันมา...มันเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ รู้แต่ว่าผมเจ็บ...ผมไม่รู้ว่าตรงไหนที่เจ็บกว่ากัน...ที่แขนซ้าย ที่แขนขวา ที่หน้า ที่ขาหรือว่าที่ตัว

บางทีผมอาจกำลังฝัน อีกเดี๋ยวผมก็อาจจะตื่น...

เหมือนตอนเด็กๆ ที่พอลืมตามาก็นั่งอยู่บนตักน้าเจด บนโซฟาในบ้าน...ผมมองซ้ายมองขวา เพราะนึกว่าตัวเองอยู่ในสวนสัตว์ พ่อกับแม่กับน้าเจด น้าโอ๋ ต้องพูดอยู่ตั้งนาน ผมถึงจะเชื่อว่าแม่กับพ่อกับน้าโอ๋ น้าเจดไม่ได้เอาเสือไปซ่อนไว้และผมไม่ได้อยู่ที่สวนสัตว์

ตอนนี้ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น...เดี๋ยวผมอาจจะลืมตาตื่นอยู่บนโซฟาตัวยาวๆ แม่กับพ่อกับน้าเจดน้าโอ๋ แล้วก็พี่ขุนกับฉายอาจจะกำลังนั่งดูทีวีอยู่ใกล้ๆก็ได้...ฝนอาจตก อากาศอาจเย็นสบาย ผมเลยเผลอหลับไปแล้วก้ฝันเท่านั้นเอง

เพียงแต่ฝันตอนนี้ มันเจ็บไปหมดแต่ผมก็ยังดึงพี่ปาไว้ จนผมไม่มีแรง พี่ปาก็ออกไป ผมเลยพยายามตะโกนเรียกฉาย...เรียกได้สองทีก็หมดแรง...แล้วก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง...

แล้วผมก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง...มีแต่ฉาย ที่ร้องไห้อยู่ตรงหน้าผม...ที่ข้างๆฉายไม่มีใคร ถ้าไม่มีผมฉายก็จะร้องไห้อยู่คนเดียวเหมือนที่ครั้งหนึ่งผมเคยนั่งร้องไห้คนเดียว

“อยู่กับฉายนะตะวัน”ฉายบอกผมอย่างนั้น...ผมก็ร้องไห้

ผมร้องไห้...เพราะผมเบื่อการฝันอยู่อย่างนี้ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าฉายยังเป็นเจ้าชายกบที่หลับฝันหวานไม่ยอมตื่น ผมจะทิ้งฉายให้นอนฝันไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียวได้ยังไง...ผมเป็นพี่ ใครๆก็บอกไว้อย่างนั้น...ถ้าไม่มีผม ฉายก็จะนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว...ผมเลยบอกฉาย ว่าผมจะไปอยู่ที่ไชยปราการกับฉาย...ฉายไม่ได้พูดอะไร เอาแต่ร้องไห้แต่ก็ยิ้ม

ผมได้ยินฉายคุยกับพี่กบเรื่องย้ายไป ย้ายกลับจากไชยปราการ...

แล้วพี่อ๋อก็มาหาผม...พี่อ๋อนั่งตาแดง น้ำตาหยดติ๋งๆ

ผมรู้พี่อ๋อน่ะเสียใจเรื่องน้าโอ๋กับน้าเจด พี่อ๋อพูดแต่เสียใจที่ไม่ได้มาส่งน้าโอ๋ น้าเจดกับพี่ขุน

เมื่อก่อนพี่อ๋อเคยช่วยผมไว้หลายๆอย่าง ยกเว้นเรื่องตังค์เพราะพี่อ๋อน่ะกระเป๋าแห้งพอๆกับผมนั่นแหละ จะแย่กว่าผมก็ตรงที่ผมยังมีน้าโอ๋กับน้าเจด...เลยมีบ่อยๆที่ผมต้องหิ้วข้าวจากบ้านไปแบ่งให้พี่อ๋อกิน...วันนี้พี่อ๋อเลยนั่งน้ำตาหยดติ๋งๆที่ไม่มีโอกาสได้ส่งน้าโอ๋กับน้าเจด

พอเริ่มคุ้นเคยกับเพื่อนๆพี่ขุน...พี่อ๋อก็รวมกลุ่มกับเพื่อนๆพี่ขุนด้วย...ขึ้นเหนือล่องใต้ เข้าอีสานแล้วออกลาว ข่าวสุดท้ายว่าไปเวียดนาม...พี่อ๋อกับเพื่อนๆพี่ขุนหลายคนเพิ่งรู้เรื่องของพี่ขุนรวมทั้งน้าโอ๋กับน้าเจด และบางคนก็ยังไม่รู้เรื่อง

พี่อ๋อบอกผมว่า...จะไม่ไปไหนแล้ว เพราะถ้ามีใครที่พี่อ๋อรักต้องจากไปโดยที่ไม่มีโอกาสรู้ ร่ำลาหรือได้ส่ง พี่อ๋อก็จะเสียใจ...

ผมนึกถึงฉาย...นึกถึงตัวเองกับฉาย ผมเลยบอกฉายอีกครั้งว่า ผมจะไปอยู่ไชยปราการกับฉาย

ฉายก็บอกผมว่า ถ้าผมอยากอยู่ที่นี่ ฉายก็กลับมาอยู่ด้วยแล้ว ผมไม่ต้องไปก็ได้ แต่ผมก็บอกฉายว่าผมจะไป...ฉายก็ยิ้ม แล้วพอออกจากโรงพยาบาล ผมก็ย้ายไปอยู่ไชยปราการกับฉาย

จบ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 06-08-2012 21:33:45
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ T^T
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 06-08-2012 22:08:06
รวบยอด...รักพี่ขุน...อยากให้อยู่กันไปเรื่อยๆ...แต่เรื่องนี้แหละที่เจ็บปวด...ร้องไห้น้ำตาไหลพรากเลยค่ะ  :m15:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 06-08-2012 22:18:34
ไม่ว่าจะอ่านตอนนี้กี่ครั้งกี่หน ก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไว้ได้สักที
ทั้งๆทีเตรียมใจมาก่อนแล้ว  อ่านทีไรพรากๆๆทุกๆครั้งเลยค่ะ คุณภัคD  o13
ฮือๆๆๆๆๆ สงสารตะวัน  :m15: :m15: :m15:

+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 06-08-2012 22:22:44
อ่านฉายก็ร้องไห้ อ่านตะวันก็ร้องไห้ T^T
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: vavacoco ที่ 06-08-2012 22:39:34
ตะวันเข้มแข็งกว่าที่คิด ยอมอยู่เป็นเพื่อนฉาย ย้ายไปกับฉายเพื่ออนาคตของฉาย
สมแล้วที่เป็นพี่ชาย ตะวัน ฉาย :กอด1:
(http://i1081.photobucket.com/albums/j347/vava2coco/w1.jpg)
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 06-08-2012 22:53:51
ร้องไห้ตลอดๆ กับเรื่องนี้!!!!! โฮ..................
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: CoMa ที่ 06-08-2012 23:08:56
ขอบคุณตะวันนะที่ยังหลับเป็นเพื่อนฉาย ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆT^T
โอ้ยยยยยยย เล่นซะปวดหนึบไปทั้งใจเลย อินจัด555(หัวเราะคลายเศร้า=.=)
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: Aimiya ที่ 06-08-2012 23:23:25
อ่านยังไงก็เจ็บ ก็เศร้าค่ะ
ฮือออออ เป็นเรื่องที่ชอบมากๆตั้งแต่ตอนฉายเล่า
ก็รู้ว่าตอนจบจะเป็นยังไง แต่ก็ยังทำใจไม่ได้สักที
T_____T
ตะวันน่ารัก
ฉายน่ารัก
พี่ขุนน่ารัก
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก
รักฉาย แต่ก็รักพี่ขุนไม่แพ้กัน
สงสารตะวัน
ทำไมต้องเศร้าขนาดนี้ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 06-08-2012 23:43:27
ตอนนี้ยาวดีจัง ต่อเนื่องมากไม่ค้างคา ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 07-08-2012 00:11:08
สงสารพี่ขุน สงสารตะวัน สงสารฉาย
แต่พออ่านในมุมตะวันสำหรับเราไ่ม่หม่นเท่าที่เราอ่านในมุมฉายนะคะ
รอตอนต่อไปนะคะและสั่งหนังสือไปแล้ว รอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 07-08-2012 03:52:40
อยากอ่านตอนหวานๆของเจ้าชายกบกับเด็กชายข้างบ้านแล้ว

ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 07-08-2012 04:58:21
ยืนยันคำเดิมค่ะ เรื่องนี้เฮจะไม่สงสารใครทั้งนั้น!! 

มันคือเรื่องของความสุขในยามเศร้า

เพราะงั้น เฮ สงสารใครไม่ได้จริงๆ มันมีความสุขมากเวลาอ่านถึงทุกคนที่ทั้งฉายและตะวันบรรยาย บอกได้ทุกคำที่ทั้งสองคนบรรยายว่า ทั้งคนถูกรักอย่างเปี่ยมล้นในคนที่ตัวเองรััก เพราะงั้น ยามที่มีการลาจาก จะเจ็บปวด มันไม่แปลก หรือ อ่อนไหวเกินไป

จากตะวันฉาย เฮสะท้อนใจเอาจริงๆจังๆตอนที่ฉายเข้าไปเห็นภาพดอกทานตะวันในห้องพี่ขุน มัทำให้ไขทุกอย่างออก หมดแล้ว ไม่เหลือข้อสงสัย เฮเลยลากสังขารมาอ่านเรื่องนี้ต่อได้จนจบ(อาจเพราะรู้เรื่องราวตอนจบที่เป็นหนึ่งเดียวมาแล้วก็ได้ เลยมาอ่านได้น่ะค่ะ แหะๆ)

จากตะวัน เฮตื้นตันตอนที่ตะวันบอกกับถามพี่ขุนกลับว่า พอพี่ขุนจะกลับบ้าน เมื่อบอกว่ามาบ้านตะวัน แต่ตอนนี้ พี่ขุนจะบอกเพื่อนว่ายังไง แล้วพี่ขุนตอบกลับว่ากลับบ้าน นั่นล่ะค่ะ มันโดนใจจี๊ดเลย!

สุดท้ายขอยืนยันค่ะ รักทุกคนในเรื่องจริงๆ(แม้แต่อิตาคนที่ชื่อปา) รักมากที่สุดก็พ่อแม่ของฉายเลยค่ะ รักมากจริงๆสองคนเนี๊ยะ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-08-2012 10:00:57
สงสารตะวัน คนที่ต้องรอในบ้านที่ไม่มีใคร
ตะวันต้องอยู่เพื่อฉาย ช่างเป็นพี่ชายที่แสนดีจริง ๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-08-2012 11:13:45
ในที่สุดก็ถึงตอนนี้  :m15: 

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 07-08-2012 11:39:09
...กิ๊กตะวันทุกคนดีหมด ยกเว้นพี่ปาเนอะ บ้าดีเดือดมากกว่าคนอื่นๆๆ
...อ่านตอนนี้ทำให้รู้สาเหตุที่ตะวันโดนแทง เพราะต้องการห้ามพี่ปาไม่ให้ไปทำร้ายฉายนี่เอง
...ถ้าฉายรู้คงปลื้มน่าดูเลย อยากอ่านเรื่องราวหลังจากนี้จ้าคนแต่ง อยากรู้ว่าเค้าอยู่กันสองคนแล้วจะเป็นยังไงต่อไป
...ตะวันจะเปิดใจรับรักฉายได้บ้างไหม หรือตะวันจะเจอคนใหม่ และไม่กล้ารักกับฉายเพราะอยู่กันมาตั้งแต่เด็กๆเห็นใส้เห็นพุงกันหมดแล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 07-08-2012 14:04:55
คนเขียนนี่ไม่ชอบเศร้าๆ ดราม่าๆเลยเนอะ... o22

แต่คนอ่านนี่ซิ...น้ำตาไหลพรากกกก....เลยอ่ะ... :sad4:

 o13    o13    o13
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 07-08-2012 14:25:26
รักฉาย  :กอด1:
รักตะวัน  :กอด1: :กอด1:
รักพี่ขุน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักทุกคนในเรื่องง .. :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักคนแต่งที่สุด  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 07-08-2012 16:13:13
รักทุกคนในเรื่อง ยกเว้นพี่ปา - -
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 07-08-2012 17:34:57
โอย...
ขนลุก น้ำตาไหล คิดถึงพี่ขุน ToT

พอมาอ่านมุมของตะวันแบบนี้แล้วเกลียดพี่ปา
และก็ยิ่งทำให้รักพี่ขุน
ทำให้รู้ว่าพี่ขุนเองก็รักตะวันมาก
และก็เสียใจแทนตะวันที่พี่ขุนตื่นเร็วเหลือเกิน...

ติดตามต่อค่ะ
คุณภัค D สุดยอดจริงๆ!
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: ภัคD ที่ 07-08-2012 18:02:03
เรื่องของเด็กชายตะวัน  ฝันหวานของเจ้าชายกบ  กับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ

ผมมาอยู่ไชยปราการกับฉายหลายๆปีแล้ว...

ผ่านไปแล้วหลายๆปี ผมก็ยังคิดถึงพี่ขุน น้าโอ๋แล้วก็น้าเจด พ่อแล้วก็แม่ด้วย...เพียงแต่การคิดถึงในตอนนี้ มันต่างจากการคิดถึงในตอนแรกๆ...ความคิดถึงในตอนแรกมันทรมาน...เพราะพอคิดถึงแล้ว ผมก็อยากเจอ อยากเห็น อยากได้ยินเสียง อยากสัมผัสแล้วก็อยากกอด มันเลยทรมานเพราะว่าผมทำอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้ว  แต่การได้นั่งคิดถึงในตอนนี้มันเป็นความสุข ถึงมันจะยังรู้สึกเศร้าๆเหงาๆอยู่บ้าง แต่ผมก็ไม่ทรมานกับความสารพัดอยากแล้ว...ผมเลยตั้งชื่อมันว่าทฤษฎี ความเคยชินของมนุษย์...

เป็นเช้าวันหนึ่งที่ผมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ดูเม็ดฝนโปรยลงมาจากฟ้า ดูต้นไม้อ่อนที่เพิ่งงอกขึ้นจากบนดิน ดูมดที่ตัวเล็กๆแต่ก็อุตส่าห์โดนเหยียบตายอยู่บนดิน ผมก็ค้นพบว่ามนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตายนั้นมีชีวิตอยู่รอดด้วยความเคยชินเท่านั้น...

พอเดินกลับมาถึงบ้าน ผมก็เล่าให้ฉายฟัง...ฉายยืนหัวเราะ จนทฤษฎีที่ผมอุตส่าห์คิดขึ้นมาได้เกือบฝ่อ

“คิดได้เนอะ!”ฉายว่างั้น

“ เหมือนนางนากที่เมื่อคืนฉายในทีวีเลย...”ฉายพูดอีก ผมเลยเพิ่งนึกได้ว่ามันเหมือนจริงๆนั้นแหละ

“ว่างมาก งั้นช่วยฉายกวาดบ้านเลยไป...”ฉายพูดแล้วก็จับไม้กวาดยัดใส่มือผม

“ไม่เอา”ผมบอกแล้วก็ทิ้งไม้กวาด

วันนี้อากาศดี...ฝนตกลงมาแหมะๆ...ลมก็เย็นจนเกือบๆจะหนาว ผมเลยไม่อยากทำอะไรนอกจากลากเก้าอี้กับผ้าห่มออกมานั่งคิดถึงที่ระเบียง...

ผมนั่งคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ คิดถึงน้าเจด น้าโอ๋แล้วก็พี่ขุนที่ระเบียง...จนท้องร้องจ๊อกๆ ผมก็เดินลากผ้าห่มกลับเข้ามาในบ้าน

ในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือ เพราะฝนหยุดๆตกๆมาหลายวันแล้ว ฉายเลยไม่ได้ไปตลาด  เหลือก็แต่มาม่า ฉายเลยต้มเอามานั่งแบ่งกันกินคนละชาม

ควันมาม่าฉุ่ยๆ...กับฝน กับอากาศเย็นๆ...แล้วก็เพิ่งนั่งคิดถึงพี่ขุน ผมเลยคีบเส้นมาม่าเข้าปากแล้วก็เล่าเรื่องเจ้าชายกบให้ฉายฟัง

ฉาย...กบที่คงไม่ได้หลับฝันเป็นเจ้าชาย แต่ฝันว่าตัวเองเป็นคุณหมอ แล้วก็กลายเป็นกบที่ฝันลามกขึ้นทุกวันด้วย...

ฉายฟังผมเล่าแล้วก็ขมวดคิ้ว พยักหน้าหงึกๆแล้วก็คีบเส้นมาม่าเข้าปาก...ฉายชอบทำแบบนี้ ขมวดคิ้ว พยักหน้า แล้วก็ยิ้ม แต่พอดีตอนนี้ฉายกินมาม่าอยู่ ฉายเลยยิ้มไม่ได้...

เวลาฉายทำแบบนี้...ขมวดคิ้ว พยักหน้าแล้วก็ยิ้ม...มันมีความหมายว่า...มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก ฉายว่าไม่ใช่ แต่จะคิดอย่างนั้นก็ได้ ฉายไม่ว่าอะไร...

เพราะมัวแต่พูด ฉายเลยกินหมดก่อนผม...ผมก็เล่าเรื่องเจ้าชายกบต่อ พอเล่าจบ ผมก็เริ่มกินต่อ

“แล้วตะวันอยากรู้หรือเปล่าว่าฉายฝันว่าอะไร?”ฉายถาม เล่นเอาผมเกือบสะดุ้ง...ก็พอผมเล่าจบ ฉายที่เมื้อกี้ยังยืนอยู่ตรงโน้นก็เดินอ้อมมายืนอยู่ด้านหลังตั้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ฉายเอามือเท้าที่พยักเก้าอี้ที่ผมนั่ง แล้วก็ก้มลงมากระซิบซะชิดหู เล่นเอาผมเกือบสะดุ้ง และไปสะดุ้งจริงก็ตอนหันไปแล้วเจอลูกกะตาฉายนั้นแหละ

หน้าฉายน่ะอยู่ใกล้แค่นิดเดียวเอง ฉายยิ้มแล้วก็มองผม...แต่ไม่ได้มองแค่ลูกกะตาผม ฉายน่ะมองมากกว่านั้น

“ว่าไง ตะวันอยากรู้หรือเปล่าว่าฉายอยากทำอะไร...เอ้ย...ว่าฉายฝันว่าอะไร?”

อย่างที่บอกไปแล้วมั้งว่าทำไมผมจะไม่รู้ว่าฉายคิดยังไงกับผม

ครั้งหนึ่งฉายเคยบอกว่ารักผม...

ครั้งหนึ่งก่อนหน้านั้นพี่ขุนก็เคยบอกผม

และครั้งหนึ่งพี่กบก็เคยบอก

สำหรับผม เมื่อก่อนยังไงซะฉายก็เป็นน้อง...ถึงผมไม่เคยเป็นคนเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ฉาย แต่อย่างน้อยผมก็เคยเป็นคนวิ่งไปหยิบผ้าอ้อมมาให้น้าโอ๋เอามาเปลี่ยนให้ฉายแหละ....ผมเคยนอนอ่านการ์ตูนแล้วอยู่ๆฉายก็มายืนฉี่ใส่หัวผม ทำไมผมจะจำไม่ได้...

และถึงฉายจะเคยบอกว่ารักผม...แต่ผมก็เฉยๆ ไม่เห็นมีอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งผมแล้วก็ฉาย...จะมาเริ่มรู้สึกว่ามันเปลี่ยนเอาก็ตอนนี้ ตอนที่ไม่มีพี่ขุน ตอนที่ผมอยู่กับฉายแค่สองคน...

เมื่อก่อนขอให้ฉายทำอะไรให้...ผมน่ะต้องขอจนปากฉีก ส่วนฉายก็บ่นจนปากแฉะถึงสุดท้ายฉายจะยอมทำให้ผมทุกทีก็เหอะ แต่ตอนนี้พอผมอยากทำตัวเป็นพี่ที่ดี จะทำอะไรฉายก็กลับบอกว่า...มานี่ เดี๋ยวฉายทำให้...

แล้วยังลูกกะตาของฉายอีก...

ผมไม่รู้ว่าลูกกะตาฉายที่จ้องผมน่ะมันเปลี่ยนไปหรือผมเพิ่งรู้สึกว่ามันเปลี่ยน...มันก็ไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกที่ฉายจะใช้ลูกกะตาแบบนี้จ้องผม...ลูกกะตาแบบที่ครั้งหนึ่งพี่กบเคยใช้แล้วผมก็เลยรู้ว่าเป็นแฟนกันน่ะมันต้องอะไรๆกันแบบไหน แล้วพอต่อมาถึงเลิกเป็นแฟนกันแล้วพี่กบก็ยังแอบใช้ลูกกะตาแบบนั้นมองผมเวลาอยู่ลับหลังพี่ขุน...ลูกกะตาแบบที่พี่ปาก็เคยใช้และผลตามมาก็ไม่ต่างอะไรกับพี่กบ...จะมีก็แต่พี่ขุนนี่แหละที่นานๆจะยอมใช้กับเขาที...แล้วมาตอนนี้ฉายก็ใช้ลูกกะตาแบบเดียวกันจ้องผมบ่อยๆ...จะต่างกันก็มีฉายเป็นคนแรกนี่แหละที่เวลาถูกจ้องแบบนี้แล้วมันทำให้ผมอึดอัด...หายใจไม่ลงท้องเพราะหัวใจมันเต้นขยับออกมาขวางทางหายใจ...ยิ่งกว่านั้น นับวันผมก็ยิ่งไม่กล้าสบตาฉาย เหมือนครั้งนี้ พอหันไปเจอหน้าฉายที่ก้มห่างจากหน้าผมแค่นิดเดียวแถมยังลูกกะตาที่จ้องอยู่อีก ผมเลยสะดุ้ง

“อยากรู้หรือเปล่าว่าฉายฝันว่าอะไร?”ฉายถามกระซิบซะข้างหู...ลูกกะตาที่มองผมน่ะมันเหมือนจะถามผมอย่างอื่นซะมากกว่า...

ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมๆ  ก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองส่ายหัวและก้มหน้าลงซะหัวเกือบมุดลงไปอยู่ในชามมาม่า

“อยากรู้เมื่อไหร่บอกฉายแล้วกัน...”ฉายยังก้มลงตามมากระซิบ...แต่คราวนี้ใกล้จนผมว่า ปลายจมูกฉายน่ะติดซะเกือบจะชนกับแก้มผม ยิ่งพอฉายพูดเสร็จ ฉายก็หัวเราะเบาๆ...ลมหายใจของฉายมันทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัว...

ผมค่อยกล้าขยับตัว ตอนที่ฉายขยับถอยห่างออกไป...แต่พอผมเอี้ยวไปมอง...ฉายก็ยังมองผมแล้วก็หัวเราะ...

เพราะฉายชอบทำแบบนี้...ยิ่งนานวันผมเลยยิ่งนึกภาพฉายสมัยเด็กๆไม่ค่อยออก...ภาพที่นึกออกในหัว มันมีแต่ภาพลามก...แบบที่พี่กบ พี่ปาแล้วก็พี่ขุนเคยทำ...ใจผมเลยยิ่งเต้นโครมเวลาที่ฉายมองผม ถ้าฉายมองผมแบบนี้บ่อยๆ มีหวังผมขาดอากาศหายใจตายแน่ๆ

พอพระอาทิตย์เกือบๆจะตกเขา ฉายนั่งหน้าเมื่อยอยู่กับหนังสือกองโต  ผมก็แอบย่องออกจากบ้าน ปั่นจักรยานไปที่ตู้โทรศัพท์ที่ฉายบอกว่า เป็นอันเดียวตัวเดียวของหมู่บ้าน

“ตะวัน พี่ยุ่งอยู่ อีกแป๊บตะวันค่อยโทรมาใหม่ได้ไหม?”พี่กบถาม

“ไม่ได้” ผมก็ตอบ ก็ผมปั่นจักรยานมาตั้งไกล กว่าจะถึงก็เกือบหมดแรง ถ้าต้องปั่นกลับบ้านแล้วปั่นกลับมาอีกรอบ ผมว่า ผมหมดแรงกลางทางพอดี...ยิ่งกว่านั้นตู้โทรศัพท์ตัวเดียว อันเดียวของหมู่บ้านที่ผมยืนอยู่เนี่ย ก็โดนรถขี้เมาชนซะเยินเมื่อวันก่อน...ฉายบอกว่าต้องส่งตัวคนเจ็บไปที่โรงพยาบาลใหญ่...แต่ผมไม่รู้ว่าเขายังเจ็บอยู่ หรือไม่เจ็บแล้ว แล้วเกิดเขาไม่เจ็บแล้วแล้วเขากลับมาล่ะ? แล้วตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้วด้วย...ฟ้าก็แลบแปล๊บๆ ถ้าฝนตกลงมา ตู้โทรศัพท์ตัวเดียวอันเดียวตู้นี้ มันก็ไม่เหลือสภาพคุ้มฝนได้แล้วด้วย

“ฮัลโหล...”ผมส่งเสียงไปตามสายเพราะเห็นพี่กบเงียบไป...ฟ้าก็แลบแปล๊บๆ ผมเลยลงนั่งยองๆ แอบเอาหัวมุดอยู่ใต้โทรศัพท์...แอบฟ้า แอบฝนแล้วก็เผื่อแอบผีด้วย

“ฮัลโหลๆ...”ผมส่งเสียงไปอีกสองโหลเพราะพี่กบยังเงียบ ...แถวนั้นก็เงียบ

“ครับผม!” พี่กบตอบรับแล้วก็หัวเราะ ผมเลยค่อยโล่งอก แล้วก็เล่าเรื่องฉายให้พี่กบฟัง

“ตะวันจำที่พี่เคยบอกตะวันเรื่องครอบครัวได้ไหม?”พี่กบถามผมก็ส่ายหัว

“ครอบครัวก็เหมือนอากาศ...อยู่รอบๆตัว...รู้ว่าสำคัญ ต้องหายใจเอามันเข้าไปทุกวันๆแต่ก็เคยชินกันจนไม่มีอะไรมากิ๊วก๊าว”

“พี่กบ ตะวันพูดเรื่องฉายอยู่นะ”

 "พี่ก็พูดเรื่องฉาย”

“ฉายเป็นน้องชายตะวันไม่ใช่หรือไง?”พี่กบถาม

“ก็ใช่”ผมก็ตอบ

“ฉายเลยเรียบๆเรื่อยๆมาเรียงๆ เอื่อยๆเป็นอากาศไง...จะมารู้สึกถึงมัน ก็เอาตอนที่มันเล่นแร่แปรธาตุนั่นแหละ”

“อากาศน่ะเราไม่รู้สึก แต่พอมันดื้อจะไม่ยอมเป็นอากาศ จะเปลี่ยนตัวเองเป็นน้ำ เราก็เลยเริ่มรู้สึกซู่ซ่า!”พี่กบพูดแล้วก็ขำอยู่คนเดียวเพราะผมไม่ขำด้วย

“พี่กบ!” ผมเรียกเพราะพี่กบยังขำอยู่คนเดียว

“อะไร?”พี่กบขานรับแต่ก็ยังหัวเราะ

“พูดไม่รู้เรื่อง!...ตะวันพูดเรื่องฉาย พี่กบพูดถึงอากาศทำไม แล้วอากาศมันเกี่ยวอะไรกับน้ำ?”

“อ๊อกซิเจนไง...น้ำก็เอชทูโอ...”

“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง!”

“เคมีไง...ตะวันไม่ได้เรียนเหรอ”
“ไม่ได้เรี...”ผมพูดได้เท่านั้น ฟ้าก็แลบอีกแปล๊บใหญ่ เงาอะไรไม่รู้เบ่อเริ้ม อยู่บนพื้น...ด้านหลังผม...

 "ตะวัน?” พี่กบส่งเสียงมาเพราะผมเงียบไป แต่เสียงผมติดอยู่ที่คอ

ผมนับหนึ่ง สอง แล้วก็สามในใจก่อนค่อยๆหันไปแล้วเงยหน้าดู...ฉายยืนมองผม มือหนึ่งก็กอดอก ส่วนอีกมือก็ถือร่ม ผมเลยเพิ่งนึกได้ ฝนตกลงมาตั้งหลายแปะ  แต่ผมไม่ยักกะเปียก

“ฮัลโหล...ตะวัน?”พี่กบส่งเสียงมาอีกแต่คราวนี้มาพร้อมสัญญาณเตือนตู๊ดๆว่าเหรียญจะหมด...ฉายเงยหน้ามองสัญญาณกระพริบตรงตู้ ก่อนเอามือข้างที่กอดอกอยู่ออกแล้วก็หยอดเหรียญเพิ่มให้ ผมเลยนึกได้อีกอย่างว่าเหรียญที่กำอยู่ในมือยังอยู่ครบ ผมนั่งคุยกับพี่กบตั้งนาน ยังไม่ได้หยอดเพิ่มสักกะเหรียญ

“พี่กบ แค่นี้นะ”ผมบอกพี่กบ ก่อนค่อยๆขยับตัวออกจากใต้โทรศัพท์

“ทำไมล่ะ?”พี่กบถาม

“ตะวันยุ่งอยู่”ผมก็ตอบ

“อ้าว!...เฮ้ย!”ผมได้ยินเสียงพี่กบว่างั้น แล้วฉายก็รับหูโทรศัพท์ไปแล้วก็วางดังแกร๊ก

“ไปทำอะไรใต้โทรศัพท์?”ฉายถาม

“หลบฟ้า หลบฝน หลบผี” ผมตอบตามจริง จะเหลือก็หลบฉายนี่แหละที่ไม่ได้บอก

“ฉายมายังไง?”ผมถามเพราะมองซ้าย มองขวาแล้วเห็นจักรยานผมแค่คันเดียว

 "เดิน...”ฉายตอบ เอามือผลักประตูตู้โทรศัพท์ที่เหลืออยู่แค่ครึ่งบานแถมกระจกก็ไม่เหลือเปิดออกให้ผม

“จริงสิ?!”

“ไม่จริง!...ติดรถเขามาน่ะสิ ตะวันไม่ได้ยินเสียงรถเหรอ?”ฉายถาม ขึ้นไปนั่งบนจักรยาน ผมก็ส่ายหัวแล้วปีนขึ้นไปซ้อน

“ตะวันถือร่มสิ!”ฉายบอกแล้วหันมาส่งร่มจะให้ผมถือ

“ไม่เอา มันหนาว!”ผมบอก ฉายก็มองผม ก่อนถอนหายใจแล้วก็จับมือผมให้ถือร่ม แล้วฉายก็ถอดเสื้อหนาวส่งให้ผม

“ฉายไม่หนาวเหรอ?”ผมถามก่อนส่งร่มคืนให้ฉายถือแล้วก็รับเสื้อมาใส่

“ถ้าหนาว ตะวันจะคืนเสื้อให้ฉายไหมล่ะ?”ฉายถาม

“ไม่คืน...”ผมก็ตอบ

“เอ้า ถือร่มไป!”

“ไม่เอา ขี้เกียจถือ!”ผมบอก...ฉายก็แกล้งถอนหายใจดังๆแล้วก็ปั่นจักรยานเป็นงูเลื้อยเพราะจับจักรยานแค่มือเดียว

“คุยอะไรกับพี่กบ?”ฉายหันมาถาม ตอนจะเอาจักรยานเลื้อยขึ้นเนิน

“เรื่องฉายกับอ๊อกซิเจน”ผมก็ตอบ นึกดีใจที่ไม่ต้องปั่นจักรยานกลับเอง...ตอนปั่นลงเนินน่ะยาก ผมเกือบเอาหน้าทิ่มข้างทางไปหลายรอบ แต่ปั่นขึ้นเนินยากกว่า ปั่นขึ้นเนินแต่ละที ฉายบอกว่า ผมทำท่าเหมือนหมาหอบ

“อะไรนะ?”ฉายหันมาถามอีก...เห็นไหม ขนาดฉายยังงงเลย...

“เรื่องฉายกับอ๊อกซิเจนกับอากาศกับน้ำมันกิ๊วก๊าวแล้วก็ซู่ซ่า!”ผมบอกอีกรอบให้ฉายงงเป็นเพื่อนผมอีกหน แต่คราวนี้ฉายเงยหน้ามองฟ้า สงสัยจะงงหนักกว่าเดิม

“แล้วฉายเกี่ยวอะไรกับอ๊อกซิเจนกะน้ำกะอากาศกะเกี๊ยวซ่า?”

“กิ๊วก๊าว ซู่ซ่า ไม่ใช่เกี๊ยวซ่า!...ไม่รู้เหมือนกัน...พี่กบพูดไม่รู้เรื่อง!...แต่อยากกินเกี๊ยวซ่าจัง!”พอฉายพูดถึงเกี๊ยวซ่าผมเลยพลอยอยากกินไปด้วย

“งั้นไว้เข้าเมืองคราวหน้า เราไปกินกัน”

“ฉายหัดทำสิ !”

“ได้...พรุ่งนี้ไปตลาด ตะวันสอนมานะ แล้วฉายจะหัดทำ...”

“ไม่เห็นยาก...เอาไส้มา เอาแป้งมา ม้วนๆๆแล้วก็โยนลงไปต้ม”

“แล้วจะเอาไส้จากไหน เอาแป้งจากไหน แล้วเกี๊ยวซ่าบ้านตะวันสิเอาไปต้มน่ะ!”

“ต้มสิ!...ส่วนไส้ก็หมูสับไง...แป้งก็ซื้อที่ตลาด...เอาบะหมี่ตราเสือนะ ใส่หมูแดงด้วย”

“ไอ้ที่พูดมาเกี๊ยวซ่าแน่นะตะวัน?...ฉายว่าฟังแล้วคล้ายๆบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงมากกว่า”

“...ก็อยู่ไชยปราการเราก็กินเกี๊ยวเรียบร้อยไปก่อน”

“โอเค แล้วค่อยให้มันไปซ่าในเมืองใช่ไหม?”

“แม่น!...เกี๊ยวไชยปราการต้องเรียบร้อย ซ่าไม่ได้”

“หยุดอย่าชวนคุย...ปั่นไปคุยไปเหนื่อย!”ฉายบอก แล้วก็หอบแฮ่กเป็นหมาหอบ ผมเลยเงียบเพราะเหลืออีกเนิน เกิดฉายหมดแรงเดี๋ยวผมต้องแท็คทีมปั่นต่อ

“คัน...ตะวันเกาให้หน่อยสิ”ฉายบอก ตอนกำลังปั่นจะขึ้นอีกเนิน

“ตรงไหน”ผมถาม เอาใจซะหน่อยไม่งั้นเดี๋ยวฉายไล่ให้ลงไปเดินตามจักรยาน

“ท้อง...”ฉายบอก ผมก็เอื้อมมือไปเกาให้

“อีกมือเก็บไว้ทำไม?...”ฉายถาม  ผมก็เอื้อมมืออีกข้างไปช่วยเกา

ผมแอบดูหน้าฉาย...ฉายกำลังยิ้ม...ผมเลยรู้ว่าฉายไม่ได้คันสักกะหน่อย แต่ก็ช่างเหอะเพราะแบบนี้ก็อุ่นดี

“ไม่เกาแล้วนะ!”ผมบอก เลิกเกาแต่ก็ยังเอามือไว้ที่เดิม แล้วก็เอาหัวพิงหลังฉาย ผมรู้สึกว่าฉายเอี้ยวหลังมาดูผม แล้วก็รู้ด้วยว่าฉายกำลังยิ้ม...

ฝนตกแปะๆ...ฉายปั่นจักรยานเป็นงูเลื้อย ผมก็ซ้อนอยู่บนหลังจักรยาน หัวก็อิงหลังฉาย..บางครั้งผมก็คิดว่า ฝันแบบนี้มันก็อุ่นดีไปอีกแบบ...

วันนี้พี่ขุนไม่อยู่แล้ว แต่ผมยังเป็นกบที่นอนฝันหวานอยู่บนใบบัว ถึงบางครั้งฝันของผมมันจะยังมีรสเศร้า เพราะความคิดถึงมันห้ามกันไม่ค่อยได้ แต่ด้วยทฤษฎีความเคยชินมันก็ทำให้ผมอุ่นกับฝันได้เหมือนเก่า...แต่จะมีบ้างที่บางครั้งฝันๆอยู่ ผมก็ต้องหายใจสะดุดเพราะกบอีกตัวที่มันนอนหลับฝันอยู่บนใบบัวเดียวกัน มันดันชอบมาทำฝันลามกอยู่ใกล้ๆผม...

จบ

เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่ใครว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ

 

หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 07-08-2012 18:22:44
จบแล้วหรือครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องของเด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบ้านใกล้ๆ#14
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-08-2012 18:27:33
ม่วนแต้ๆ เจ้า

ยินดีจ้าดนักที่ได้อ่าน นิยาย "รสมือ" คุณภัดD น่ะเจ้า

เจ้สอง
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-08-2012 18:31:10
แวะมาบอกว่าไม่กล้าอ่านครับ คงเศร้าซึมลึกไปอีกหลายวันแน่ๆ ช่วงนี้สภาพจิตใจยังไม่พร้อมจะรับเรื่องเศร้าครับ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 07-08-2012 18:37:42
จบแบบนี้ดีจัง มีความสุข ^^
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 07-08-2012 18:48:26
  :o12: :L2: :pig4: o13
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 07-08-2012 19:10:56
ขอให้เจ้าชายกบทั้งสองนอนหลับฝันด้วยกันตลอดไปนะ
รักตะวัน. รักฉาย

คุณภัคD คะ.  อยากขอตอนพิเศษต่อไปอีกนิดได้ไหมคะ. อยากอ่านตะวันช่วงสวีทหวานกับฉายต่ออีกหน่อย  :call:

+1  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: vavacoco ที่ 07-08-2012 19:13:22
จบแล้วสินะ ขอบคุณสำหรับสุดยอดนิยายเรื่องนี้ อ่านแล้วนอนหลับฝันดีทุกคนนะคะ :bye2:
(http://i1081.photobucket.com/albums/j347/vava2coco/dream.jpg)

ปล.ฉายมาทันเป็นพระเอกฉากสุดท้ายพอดีค่ะ ชิส์ หมั่นไส้ ^^ :a5:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-08-2012 19:35:22
ในที่สุดฉายก็ทำให้ตะวันรู้สึกซู่ซ่า
จะได้หลับฝันหวานกันนาน ๆ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 07-08-2012 20:30:45
จบแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ  :กอด1:
ขอให้ตะวันซู่ซ่ากับฉายด้วยนะ จะได้ฝันไปพร้อมกันนานๆๆ
รักคนแต่ง
รักฉาย
รักตะวัน
 :pig3:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 07-08-2012 20:57:22
ตะวันกับฉายนี่น่ารักจัง หยิกๆ หยอกๆกันดีจริงๆ :impress2:

เหมือนเกี๊ยวซ่า กับเกี๊ยวเรียบร้อยนั่นแหละ.... :m20:

จบซะแระ...ว่าแล้วก็ไปหาเกี๊ยวกินดีกว่ายังซ่าไม่ออก...คิดถึงตะวัน  :sad4:

 o13    o13    :bye2:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ลำนำบุหลันครวญ ที่ 07-08-2012 21:09:47
จบสักที ... เข้ามาบอกว่าอ่านมาตลอด แต่ไม่อยากเมนท์เพราะกลัวจะออกตัวแรงเหมือนความเห็นแรก อิอิ

หลังจากอ่านจบ ... อย่างแรกที่รู้สึกคือยิ้ม ... และไม่ได้เศร้าเหมือนภาพที่มองผ่านมุมของฉาย

โลกของตะวันทำให้ผมนึกถึงปกหนังสือที่พี่ภัคดีจะทำ คือเหมือนกับภาพวาดดินสอสีเทียนที่วาดด้วยฝีมือเด็กอนุบาล

ผ่านจินตนาการของคนที่ดูเข้าใจยาก ...

จากที่พี่ภัคดีบอกว่า อ่านเรื่องนี้ จะทำให้รักตะวันขึ้นมาบ้าง ก็ขอตอบว่า บ้าง ... แต่ก็เหมือนกับความฝังจำจากเรื่องแรก

ทำให้ยังรู้สึกเกลียดตะวันอยู่ลึกๆ อาจจะด้วยเหมือนให้ไปจินตนาการต่อ ว่าตะวันจะหันมามองฉายบ้างหรือเปล่า

แต่พี่ภัคดีก็เฉลยว่า ตะวันก็แค่หวั่นไหว และให้ไปคิดต่อเอา แล้วแต่ว่าใครอยากให้เป็นยังไง

โดยส่วนตัว รู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่เหมือนนิยาย เหมือนหนังสือนิทานภาพที่เล่าด้วยภาพสีเทียน

ผมคิดว่า ควรบรรจุเรื่องนี้ไว้เป็นตอนพิเศษในเรื่องจัง เพราะผมคิดว่า

เรื่องนี้เป็นเหมือนส่วนเติมเต็มของเรื่องฉาย ที่เหมือนกับขาดๆหน่วงๆมาตลอด

ในขณะที่เรื่องนี้ ถ้าอ่านอย่างไม่นึกถึงมุมของฉายจากเรื่องโน้น ผมไม่รู้สึกว่ามันปวดหัวใจเลยสักนิด

(แต่ก็ยังฝังใจอยู่ดี...)  :laugh:

สุดท้าย ถ้าถามว่าชอบอะไรที่สุด ชอบในอารมณ์ขันของการคิดชื่อของทั้งสองเรื่องครับพี่

อย่างเรื่องของฉาย ผมเชื่อว่าคนอ่านหลายๆคนน่าจะนึกสงสัยมาตลอดเรื่อง ว่าไอ้กรินกรณ์มันจะโผล่มาตอนไหน

และเรื่องนี้ แวบแรกที่อ่านชื่อเรื่อง ความคิดที่แล่นเข้ามาในหัว ไม่ได้นึกถึงเจ้าชายกบในนิทานเลย

ผมดันไปนึกถึงพี่กบ รักแรกของตะวันไปเสียฉิบ (ซึ่งเข้าใจว่าพี่ภัคดีน่าจะตั้งใจอย่างนั้น)

เอาเป็นว่า ... อ่านแล้วก็ชอบครับพี่ รู้สึกเอ็นดูเจ้าตะวันขึ้นมาบ้าง

(แต่ถ้าเจ้าตะวันเป็นคนจริงๆก็คงไม่ไหวเหมือนกัน ผมอาจจะไม่พระเอกในนิยายพอที่จะทำได้ทุกอย่างให้คนที่รักเท่ากับฉายด้วยมั้ง  :laugh:)

หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-08-2012 21:15:32
เฮ้อ....จบงี้ค่อย...ยัง....ชั่ว!!!
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: CoMa ที่ 07-08-2012 22:14:30
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะที่จบแบบนี้ค่อยมีรอยยิ้มได้หน่อยหลังจากที่อึมครึมกันมานาน มีความสุขจัง^_______^
อยากบอกว่า รักตะวันนะ>.<
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Aimiya ที่ 07-08-2012 22:36:24
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รอมานานนนน แค่นี้ก้พอแล้วค่ะสำหรับฉาย โฮกกกกกกกกกกกก
ปลาบปลื้มสุดๆ
ฝันไปด้วยกันนานๆนะ ฝันกิ๊วก๊าวซู่ซ่าๆ ฮาๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 07-08-2012 23:43:46
...ดีใจที่ได้อ่านมุมมองของตะวันบ้าง หลังจากที่เคยอ่านจากมุมมองของฉาย เมื่อนานมาแล้ว "เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรฯ" เป็นนิยายที่ผมมองว่าแม่งโคตรตลกร้าย เกือบทุกตอน จะมีข้อความ สำนวน ความคิดความอ่านของตัวละครให้ได้ฮาได้ขำ แต่จริงๆอย่างที่บอก คือมันตลกร้ายและเศร้าชะมัด อ่านจบอารมณ์อึมครึมไปตั้งหลายวัน
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: TaEnIaE_CoLi ที่ 08-08-2012 00:06:10
มีความสุขจัง...

มันอิ่มเอมบอกไม่ถูก

แต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่เรื่องจบแล้ว
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: MIkz_hotaru ที่ 08-08-2012 00:58:29
อ่านรวบยอดตอนก่อนจบ ทำเอาซึมจนไม่กล้าเม้นเลยทีเดียว
ใจมันหม่นๆยังไงไม่รู้ การจากไป ไม่ว่ากับใคร มันก็ทำใจยากทุกที  :o12:
แต่ถ้าคิดว่าเค้าตื่นจากฝันไปก่อน ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว  :กอด1:



พอตอนจบ ทำเอาหุบยิ้มไม่ได้
กบสองตัวอยู่บนใบบัวเดียวกัน
แถมกบตัวนึงยังฝันลามกอีก
ตะวันคงไม่รอด  :-[

หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 08-08-2012 01:35:16
 :กอด1:

เกี๊ยวซ่ากับเกี๊ยวเรียบร้อย  :laugh:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: w[o]w ที่ 08-08-2012 03:37:08
ชอบที่สุดเลยครับ น่ารักดี ลงได้สม่ำเสมอดีครับ ชอบงานเขียนคุณภัคDทุกชิ้น และจะติดตามไปเรื่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Maree ที่ 08-08-2012 11:11:54
ดีจังๆๆๆๆ  :o8:
ในที่สุดก็ได้อ่านพาร์ทของตะวันจนจบ
ยิ้มกว้างๆๆๆๆ ^______^
ขอบคุณ คุณภัคD กับเรื่องเยี่ยมๆ แบบนี้

ว่าแล้วก็รีบวิ่งไปโอนเงินของ 2 เล่มโน่น
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 08-08-2012 11:57:47
...เป็นนิยายที่มีการดำเนินเรื่องแบบแปลกๆดี อ่านแล้วไม่รู้สึกเบื่อ
...ยิ่งบทบาทของตะวันด้วยแล้วอ่านไปนึกไป คนแบบนี้ก็คงมีอยู่บนโลกใบนี้เหมือนกันนะ
...เพียงแต่ยังไม่มีใครเอามาตีแผ่ หรือนำเสนอ ให้ได้รับรู้กัน 
...สุดท้ายเมื่อไม่เหลือใคร เส้นแบ่งคำว่า..พี่น้องมันก็เลิกเป็นกำแพงของเค้าทั้งสองคน ฉายก็คงมีความสุขกับเค้าเสียทีนะเป็นมดแดงแฝงพวกมะม่วงมาหลายสิบปี
... ถ้าตะวันมีลูกได้คงตั้งทีมฟุตบอลได้แล้ว แต่ฉายก็ยังคงเป็นฉายที่ใจเดียวรักจริงไม่เปลี่ยนแปลง
...ฮามากกับความคิดของตะวัน คนที่เค้าคิดช้าอึนๆก็เป็นแบบนี้เองเนอะ ขอบคุณคนแต่งอีกครั้งและจะติดตามผลงานต่อไปนะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 08-08-2012 13:48:36
โอ้ยยยยยยยย!!
ชอบมากๆเลยค่ะคุณภัค D
ชอบเรื่องนี้จนขนลุกไปหมดแล้วววววววววว

ตะวันน่ารัก!
ตะวันน่ารักมากถึงมากที่สุด ชอบตะวันมากๆ
แล้วตอนจบก็เป็นอะไรที่อบอุ่นที่สุด
แม้จะมีแอบเศร้าตอนตะวันพูดถึงพี่ขุนบ้าง
แต่บรรยากาศแบบพี่น้องกึ่งคู่รักมันก็ทำให้ดูอบอุ่น

และในที่สุด...
ฉายก็มีบทยาวๆกะเค้าซะที ฮา~

ขอบคุณคุณภัค D มากๆค่ะ
ขอตอนพิเศษด้วยได้ป่ะคะ คิคิ
เอาตอนพิเศษที่มีพี่ขุนแบบหวานๆ ทำลูกกะตาแบบนั้นใส่ตะวันด้วยยิ่งดี
อยากอ่านพี่ขุนเวอร์ชั่นลามกแบบที่ฉายทำบ้าง คิคิ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-08-2012 14:25:23

(http://i1081.photobucket.com/albums/j347/vava2coco/dream.jpg)


ฝันหวานของเจ้าชายกบ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 08-08-2012 15:32:33
ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง (บอกตัวเอง)

 :กอด1: พี่ขุน รักนะคะ รักเหลือเกิน

ตะวันยังดีนะที่มีฉาย :กอด1:

น้ำตาปริ่ม :monkeysad:

 :pig4: คุณภักD
เป็นงานที่สุดๆ ของความรู้สึก อ่านแล้วอารมณ์บันเจิด ได้ร่วมตีความและอินไปกับเรื่อง
สนุกดีค่ะ ชอบมากมาย
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 08-08-2012 16:55:13
จบแล้วเหรอ...
ชอบจบแบบนี้จังเลย

ในที่สุดนะ...ตะวันก็ทำให้ฉายซู่ซ่าได้สักที 555
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 08-08-2012 20:54:32
น่ารัก ตะวันเป็นคนแนวคิดน่ารัก
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ตีสี่ ที่ 08-08-2012 21:56:28
ตอนที่น้าโอ๋ น้าเจด แล้วก๊พี่ขุนตายเนี่ย ไม่ว่าจะเวอร์ชั่นของฉายหรือตะวันก็เศร้าแหะ
แต่เห็นตอนจบแบบนี้ อืมเนอะ ดีแหะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: babynevercry ที่ 09-08-2012 23:54:10
จบแบบนี้ดีจัง นั่งยิ้ม
ลุ้นแทบตายเฮ้อออ

เหงานะ อ่านเรื่องนี้น่ะ




ตัวเต็งนิยายของปีนี้ ซินะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: uuro ที่ 10-08-2012 00:50:21
ที่สุด ของที่สุดเหมือนเคย บีบหัวใจเหมือนเคย ตอนนี้เข้าใจตะวัน แล้ว แล้วต่อให้วันนึงตะวันรักฉายขึ้นมาแต่ก็เชื่อว่าตะวันไม่มีวันลืมพี่ขุน ทั้งพี่ขุน ตะวัน แล้วก็ฉายสุดยอดมาก ไม่แปลกเลยที่เรื่องทั้งสองมันจะเป็นแบบนี้ มันมีเหตุมีผล มีที่มามีที่ไปที่ธรรมชาติมากๆ ไม่น้อยใจตะวัน และพี่ขุน แทนฉายอีกแล้ว ไม่เลยจริงๆขอบคุณเหลือเกินสำหรับทุกเรื่อง ที่คุณภัค D แต่ง มันเป็นนิยายที่เข้าใกล้โลกความเป็นจริงมากกว่าหลายๆเรื่อง ได้ความเข้าใจ ตัวเอง เข้าใจคนอื่น เข้าใจโลกมากขึ้น  ทุกหยดน้ำตาที่เสียให้กับทุกเรื่องที่คุณแต่ง มันไม่น่าเสียดายสักนิด ขอบคุณจากใจ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 10-08-2012 22:26:05
แม่เจ้า!!! จบแบบปกติให้พระ-นาง เอ้ย พระ-นาย เคมีจูนกันก็เป็น555+
น่ารักค่ะ อ่านตอนจบ หัวเราะซะลั่นห้องคอมพ์ 

มีความสุข ที่รู้ว่าอย่างน้อยๆ ตะวันก็หัดใจเต้นกับฉายเป็น ไม่ใช่ถนัดแต่เป็นกับคนอื่น

หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 11-08-2012 01:35:27
กว่าเขาจะลงเอยกัน  จบได้ดีนะคะ  แต่ก็เศร้ามาก ๆ ชอบที่เปรียบเทียบความตายว่าเหมือนไปเที่ยว  เปรียบความตายว่าตื่นจากฝัน  อ่านแล้วตายกันไปข้างหนึ่งเลย 

พี่ปาน่ากลัวมากมาย  อย่างกับพวกฆาตกรโรคจิตยังไงยังงั้น....
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: mujika_keita ที่ 18-08-2012 11:11:13
ถ้าไม่ได้อ่านในมุมมองของฉายมาก่อน เราจะยกให้พี่ขุนนี่พระเอกในดวงใจเลย ได้ใจมากพี่ขุน o13
ในเรื่องน้ำตาเราร่วงตอนพี่ขุนตื่นจากฝันมันเศร้ามากกกกกกกก
ตะวันเป็นคนขี้เหงาอย่างแรงอ่ะ แล้วก็นิสัยเหมือนเด็กมากๆๆๆๆๆๆๆ น่ารักดี
เรื่องที่แล้วเราไม่ได้โกรธตะวันนะ เรื่องนี้เลยทำให้เราหลงรักตะวันไปได้ง่ายๆ  :man1:
ตอนจบมันก๊าวใจมาก สมหวังซะทีนะฉาย ยินดีด้วย
อยากกดไล้คำพูดของพี่กบ ที่บอกว่าฉายเหมือนอากาศ ที่อยากเป็นน้ำ
เจ้าชายกบครั้งแรกเราคิดว่าเป็นพี่กบล่ะ เลยไม่กดเข้ามาอ่าน(อ้าว) พอรู้ความหมายจริงๆที่ต้องการจะสื่อ โอ้โหหหห ล้ำลึก
สุดท้าย หมอฉาย รักนายมั่นคงมาก  o13  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 18-08-2012 13:50:34
ทนไม่ไหวที่จะไม่อ่าน ทั้งที่ห้ามตัวเองหลายครั้งว่าไม่ควรอ่าน

สาเหตุเพราะหลังจากที่อ่านเรื่องของฉายจบ

ความรู้สึกผมกลับเห็นต่างจากคนอื่นๆ

ผมอ่านแล้วผมเกลียดตะวัน เกลียดมากๆเหมือนกับที่เกลียดไอ้ฝรั่งโรคจิตคนนั้น

เกลียดที่ตะวันเป็นคนแบบนี้ ... รู้ความรู้สึกทุกอย่างของฉาย

แต่ก็ปฏิเสธฉายจนจบเรื่อง

และแม้ตะวันจะปฏิเสธ แต่ก็ไปอยู่กับฉาย...เมื่อตัวเองไม่เหลือใคร

แล้วก็ปล่อยให้ฉายยืนอยู่อีกฝั่งของโลกของตะวันที่มีแต่พี่ขุน

ผมอาจจะอินมากเพราะอิงกับความรู้สึกและประสบการณ์ของตัวเอง

ตะวันเหมือนกับเค้าตรงที่รู้ว่าฉายรักตะวันมาก และฉายก็ทำเหมือนจะรักตะวัน(ในบางที)

แต่ก็ไม่เคยให้ฉายก้าวข้ามมา

ดังนั้น ด้วยความเกลียดทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำให้กลัวที่จะอ่าน

แม้ใจจะหวังลึกๆว่า นิยายเรื่องนี้จะทำให้ตะวันมองฉาย ... และอยู่กับคนที่อาจจะรักน้อยกว่า แต่พร้อมจะดูแลตะวันตลอดไป

แต่ถ้านิยายเรื่องนี้เหมือนเป็นการเล่าในมุมมองของตะวัน แล้วลงท้ายเหมือนกับเรื่องที่แล้ว

เราคงทำใจที่จะเจ็บอีกครั้งไม่ไหวเหมือนกัน

ใครพอจะสปอยหลังไมค์ได้มั้ยครับ เห็นว่าเป็นนิยายที่เคยลงจบไปแล้วในบอร์ดปิด

สุดท้ายนี้ น้อมรับการโดนเกลียด โทษฐานที่คิดต่าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น

ผมยกประโยชน์ให้แก่พี่นักเขียนที่เขียนให้ผมอินจนเกลียดเด็กชายพระอาทิตย์ได้ขนาดนี้

ขอบคุณมากครับ :L2:

ตอนแรกผมคิดเหมือนรีพลายนี้ทุกอย่าง แต่ผมก็ชอบตัวละครและคุณภักD แล้วก็อ่านเรื่องนี้

ตอนนี้รู้สึกดีที่ได้อ่าน รู้สึกดีกับตะวันแล้วหล่ะครับ เข้าใจแล้ว แล้วก็อยากให้ตะวันเข้าใจฉายบ้าง


ขอบคุณมากๆครับ ทุกเรื่องสนุกมากจริงๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: InLuSt ที่ 22-08-2012 20:09:11
อ่านมาเรื่อยๆก็คิดถึงฉายมาเรื่อยๆ
แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของทางตะวันมากขึ้นเรื่อยๆ
พอมาถึงตอนดราม่า น้ำตาก็ไหลพรากๆ
มาตอนจบ ตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ
ยิ้ม
มีความสุข
ดีใจกับฉายนะ
ไม่ต้องรีบหรอก ตอนนี้ตะวันรู้จักคนไม่เยอะ ไม่มีแฟนใหม่หรอก ^^
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: golf-o- ที่ 03-09-2012 14:34:40
เมื่อนี้ อยากได้จัง5555
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: bame ที่ 06-09-2012 03:59:56
แล้วเราก็ยังฝันกันต่อไป
เมื่อไหร่จะตื่นนะ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: John Doe ที่ 13-09-2012 02:03:06
จบแบบมีความสุขเสียที >///<
รักตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องจริงๆ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 05-10-2012 02:03:59
อ่านเรื่องนี้แล้วความคิดเปลี่ยนเลย
คนเรามองจากมุมหนึ่งก็ความรู้สึกหนึ่ง
พอได้มองมุมนี้ที่ตะวันเป็นคนบอกเล่า
เรื่องของเหตุและผลสิ่งที่ตะวันทำลงไปมันก็ฉายออกมาให้เข้าใจมากขึ้น
ได้เข้าใจพี่ขุนมากขึ้นไปอีก
พอตะวันพูดถึงก็คิดถึงพี่ขุนขึ้นมาจริงๆเหมือนกัน
ไหนจะพ่อมแม่ของตะวันกับฉายที่ตื่นจากฝันแล้วอีก
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ISee ที่ 25-10-2012 11:12:10
ยังไม่ได้อ่านค่ะ ฟอร์มตัวรับความเศร้านิดหนึ่ง แหะๆ ที่จริงเค้าลืมเรื่องฉายไปแล้วอ่ะ ต้องไปรื้อฟื้นความหลังนีดหนึ่ง
ชอบผลงานของคุณภักD ทุกเรื่องค่ะ พยายามตามอ่านให้ครบทุกเรื่องอยู่ รอเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Flower night ที่ 25-10-2012 20:35:17
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีดี แบบนี้มาให้อ่านค่ะ  เราชอบสำนวนการเขียนของคุณภัคDมาก ตั้งแต่เรื่องหรือจะฯ  และ เด็กชายตะวันฉาย  มันสนุก มันเศร้า มันบีบหัวใจโดยดีแท้  ชอบแบบไม่มีเหตุผล เข้ามาอ่านทั้งๆที่รู้แนวการแต่งของคุณภัคD  รักตะวันฉาย ถึงบทบาทจะน้อย รักนายตะวัน รักคนแต่งเรื่องนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: mickychunchon ที่ 26-10-2012 17:35:17
ยังไม่ได้อ่าน เข้ามาเม้นก่อน อยากบอกว่าคิดถึงคุณภัคD มากถึงมากที่สุด คิดถึงฉายจังเลย หวังว่ามันจะมีคำตอบในตอนจบที่ดีแต่สุขภาพหัวใจของคนอ่านนะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ho-mo_mikiiz ที่ 04-11-2012 16:50:10
อ่านเรื่องนี้ถึงได้เข้าใจว่า ฉายเป็น"คนที่ใช่ ในวันที่ผิด"(มาแตกหนุ่ม หล่อเหลา เอาตอนที่ตะวันดันมีพี่ขุนแล้ว)
และฉายก็บอกรักตะวันครั้งแรกแบบ "ถูกที่ ผิดเวลา"(ถูกที่คือที่บ้าน เหมาะแก่การรวบหัวรวบหาง แต่ว่าผิดเวลาคือ บอกตอนที่ยังไม่ทำให้ตะวันตื่นเต้นได้)
  หลังจากอ่านทำให้แผลชีช้ำจากการอ่านเรื่องโน้นทุเลาเบาบางจรแทบหายเป็นปลิดทิ้ง ยอมรับว่าดีใจมาที่รู้ว่าจริงๆแล้ว ตะวันไม่ได้รักฉายแค่แบบพี่น้อง เพียงแต่ว่าตะวันเค้าอึน  :เฮ้อ: ใครจะเกลียดลงละเนี่ย (พยามจะเกลียดแล้วนะ บอกตรงๆสงสารฉาย แต่ว่าก็ไม่เคยเกลียดตะวันลงจริงๆ คนอาร๊ายยย น่ารักเกินไป ทั้งคำพูดคำจา การทำตัว น่ารักซะ :o8:)

อยากตะโกนบอกฉายว่า จงลามกต่อไป อย่าหยุด  :m20:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: libra82 ที่ 09-11-2012 05:30:08
มาสารภาพว่าเพิ่งมาอ่านเรื่องนีี้หลังจากที่ได้รับรางวัลนิยายสุดโศกประจำปี
และอีกเรื่องก็คือ ยังไม่เคยอ่านนิยายเต็ม ๆ ของตะวันกับตะวันฉาย
แต่เพียงแค่การบรรยายตัวละครของฝั่งตะวันเพียงคนเดียวก็พอจะจับใจความได้บ้าง
ตอนแรกที่อ่านก็แปลกใจว่ามันโศกตรงไหน แต่พออ่านถึงตอนที่ทั้งพี่ขุน น้าโอ๋น้าเจค จากไป
น้ำตาไหลทันที แม้จะไม่มีการบรรยายถึงความโศก แต่มันได้อารมณ์ของความว้าเหว่ อ้างว้าง
และเดียวดายของตะวันได้ดีมาก ทำให้เราู้รู้สึกว่าหากจะต้องขาดคนที่เรารักไปมันคงไม่ต่างจากตะวัน
ที่เลือกที่นอนแล้วอยู่กับความฝันดีกว่าต้องตื่นมาแล้วพบกับความจริง
ตัวละครที่ชื่อตะวัน แปลกที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลยค่ะ ไม่ได้โง่อย่างที่คนอื่นว่า
แต่เป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกและความคิดของตัวเอง ไม่มีฉากเอ็นซีหวือหวาแต่กลับมีการเล่นคำชวนให้อมยิ้มและเศร้าในเวลาเดียวกัน
ขอบคุณนะคะที่ทำให้คนอ่านรู้สึกหลากหลาย นิยายสั้นๆ แต่สนุกมากค่ะสมกับรางวัลที่ไ้ด้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: zerea ที่ 10-11-2012 16:03:47
ยังไม่ได้อ่านเรื่องของตะวันฉาย

แต่อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ต่อไปก็ไปตามอ่านเรื่องนั้น (ไม่รู้ชื่อเรื่องอะไรแต่เหมือนจะเคยเห็น)

ขอบคุณค๊าบบ :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: pure_ka ที่ 12-11-2012 18:03:59
เค้ามาแสดงความดีใจด้วยนะ ตะวัน เรื่องของตัวเอง ได้รับรางวัลเรื่องโศกแห่งปี ซึ่งเค้ามะค่อยเข้าใจว่าตัวเองโศกตรงไหน
เห็นมีแต่มึนๆอึน ๆ ทำให้ฉายรักเก้อ ทำให้พี่ขุนปวดหัว  ทำให้พี่กบยิ้มค้าง ทำให้น้าโอ๋ อยากงับหัว เลยไม่ค่อยเข้าใจ

สงสัยเค้าคงต้องอ่านเรื่องตัวเองอีกรอบแล้วหล่ะ น่าจะเข้าใจได้ว่าเรื่องของตะวัน มันโศกตรงไหนฟร่ะ ว่ะ ค่ะ 555

ดีใจกับคุณภัคD ด้วยนะค่ะ  คุณเขียนเรื่องตะวัน กับ ฉาย ได้น่าอ่านที่สุดเลยค่ะ ไม่เสียแรงที่เราเททั้งใจให้เรื่องนี้

หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 12-11-2012 19:09:51
เพิ่งได้มีโอกาสอ่านครับ
อยากบอกว่า.......
สนุก  ฮา  ซึ้ง  เศร้า......,.สุข
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่มอบให้ครับ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ISee ที่ 13-11-2012 09:36:12
ชอบเรื่องนี้จัง ครบรส  รักตัวตัวละครทุกตัวเลยค่ะ ทุกคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ
อยากอ่านอีกไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 17-11-2012 12:15:26
หลงรักพี่ขุนแบบที่ตะวันหลงรัก
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Bowmeyo ที่ 17-11-2012 18:04:43
ได้มาอ่านเรื่องนี้ในมุมมองของตะวันก็รู้สึกไปอีกแบบ
ตะวันก็รักฉายห่วงฉายไม่ต่างกันเลย
ยิ่งตอนที่พี่ปาจะไปทำร้ายฉาย แล้วตะวันไปขวางไว้นะ
โอ้ยยย จะร้องไห้ เข้าใจความรู้สึกตะวันแล้ว
ตอนสุดท้ายก็ลุ้นว่า ความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไปมั้ยระหว่างตะวันกับฉาย
แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ยังไงตะวันก็จะอยู่คู่กับฉายตลอดไปใช่มั้ย
อ่านแล้วก็เหมือนได้เยียวยาจากเรื่องของฉายเลยอ่ะ
ชอบค่ะ แต่งดีเหลือเกิน  :L2:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 17-11-2012 19:07:15
หลงรักตัวละครเรื่องนี้จังโดยเฉพาะ หน้าโอ๋ น้าเจต พี่ขุน ตะวัน ฉาย
อยากให้มีเรื่องต่อของตะวันกับฉายเพิ่มอะแต่เอาเป็นแบบ happy ending นะ
ขอบคุณคนแต่งมากน๊าา
จะติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้น๊าา
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 17-11-2012 21:09:22
ต้องไปตามหา เรื่อง ก่อนหน้าใช่ไหมค่ะเนียะ ดูเหมื่อน หลายๆคน พูดถึง จน ชักอยากอ่านแล้วอ่ะ แต่เรื่องนี้อ่านแล้ว ก็ รู้สึก อืม
อธิบายความรู้สึกตัวเองไม่ออกเลยแหะหลังจากอ่านจบ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: evz ที่ 02-12-2012 16:05:07
อ่านเรื่องนี้ถึงตอนสุดท้าย ฉายเพิ่งมีบทเต็มๆก็ตอนจบนี่แหละ ถ้าพี่ขุนยังอยู่ฉายจะมีตัวตนในเรื่องนี้บ้างมั้ยเนี่ย ๕๕๕
ในเรื่องของฉาย ฉายพูดถึงตะวันตลอดเวลาจนเราไม่ได้คิดว่าตะวันจะมีช่วงที่เหงาที่เศร้าอยู่คนเดียวเลย แต่พอเรื่องราวถูกถ่ายถอดผ่านมุมตะวัน ทำให้เราพบว่าตะวันมีมุมบางมุมที่แอบเหงาแอบเศร้าแต่ไม่มีใครรู้ แล้วในที่สุดตะวันก็พบกับพี่ขุน สองคนนี้ถ้าให้นิยามก็คงเป็นคนที่มีเคมีเข้ากัน สามารถเข้าใจกันได้ในเรื่องที่คนอื่นไม่เข้าใจ สองคนนี้เติมเต็มกันและกันยิ่งอ่านก็รู้สึกดีกับความรักของทั้งคู่ แต่ก็แอบรู้สึกเจ็บแปลบๆแบบอกกลัดหนองเพราะเราเคยมองผ่านมุมฉายมาก่อน ทำให้รู้สึกว่าเรื่องที่พี่ขุนเข้าใจตะวันเนี่ยบางทีฉายยังไม่เข้าใจเลย ดูเขาเหมาะสมกันจนเราแทรกไม่ได้เลยอะไรประมาณนั้น ๕๕๕
ตอนที่น้าโอ๋ น้าเจด กับพี่ขุนตาย ถึงจะรู้มาบ้างแล้วแต่ก็อดเศร้าไม่ได้ ทั้งสามคนมีความหมายกับตะวันมากจริงๆ
แต่ตอนสุดท้ายก็ทำให้เรายิ้มได้ โดยเฉพาะตอนที่ตะวันโทรคุยกับพี่กบเนี่ย ฮามากจริงๆ ฉายกับอากาศออกซิเจน บลาๆ ๕๕๕
สุดท้ายแอบดีใจแทนฉายนะที่ตะวันเริ่มมองฉายบ้างแล้วถึงแล้วถึงฉายจะมองตะวันมาสิบกว่าปีแล้วก็เถอะ ๕๕๕๕
จะเป็นได้แค่น้องชายหรือจะได้เป็นมากกว่าน้องชายมันก็เป็นเรื่องของอนาคตอ่ะเนอะ แค่วันนี้ฉายมีตะวัน ตะวันมีฉาย มีกันสองคนก็คงมีความสุขแล้ว
จะว่าไปฉายพูดถึงพี่กบเยอะกว่าตะวันอีกนะเนี่ย ตกลงพี่กบแฟนเก่าใครกัน ๕๕๕
ขอบคุณคุณภักดีมากเลยค่ะที่เขียนเรื่องนี้ขึ้น ทำให้เราเข้าใจตะวันมากขึ้น ตอนอ่านผ่านฉายก็ยังไม่เข้าใจตะวันเท่าไหร่ว่าทำไมใครๆก็รักตะวัน ตอนแรกก็กล้าๆกลัวที่จะอ่านเพราะก็คิดไว้แล้วว่าถ้าเล่าผ่านตะวันเนี่ยคงจะเป็นเรื่องของตะวันกับพี่ขุนซะมาก อ่านแล้วคงจะปวดใจแทนฉาย ซึ่งพออ่านแล้วเราก็ปวดใจแทนฉายจริงๆนั่นแหละ แต่ตะวันก็มีความสุขดี ฉายก็คงมีความสุขที่ตะวันมีความสุขดีกับพี่ขุน ณ ตอนนั้น
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ladypenelopy ที่ 27-12-2012 09:07:29
555 อย่าเปรียบเทียบตะวันกับเจ๊เหยาคะนางกระดูกคนละเบอร์คะ 555เจ๊นางรับศึกหนักกว่ามากนักตะวันนางเทียบไม่ติดคะ5555
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 28-12-2012 10:12:48
 :o8:

รักน้องตะวันมากกกกก....
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Zeitkey ที่ 07-05-2013 13:47:41
หัวของตะวันคิดอะไรอยู่นะ อยากจะรุ้เสียจริง

อ่านเรื่องนี้ถึงได้รุ้ว่า ตะวันที่เป็นตัวละครเอกในหัวของฉาย แต่สำหรับตะวันทั้งโลกนี้มีแค่ตะวันกับพี่ขุน ฉายเป็นแค่ตัวประกอบ

อ่านแล้วสงสารฉายจริงๆ เรื่องนู้นแอบหมั่นไส้พี่ขุนโพล่มาจากไหน มาแย่งตะวันไปจากฉาย

แต่พออ่านเรื่องนี้ก็รู้สึกรักพี่ขุนมา แม้จะตื่นเร็วไปหน่อยก็เถอะ พี่ขุนอาจจะมีความสุขอยู่กับคนรักของพี่ขุนที่ตื่นก่อนและลเ่าเรื่องเจ้าชายกบให้ฟัง

ดีใจแต่เมื่อเวลาผ่านไปตะวันก็เข้มแข็งและมีความสุขอยุ่กับฉาย และเริ่มมองฉายในฐานะผู้ชายคนนึงบ้าง

เอาใจช่วยฉายนะ ฮี่ฮี่
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: duaen12 ที่ 08-05-2013 14:10:38
อ่านจบแล้ว เกิดอาการพูดไม่ออก อืม... ไม่ว่าจะอ่านในมุมของใครสุดท้ายพี่ขุนก็ไม่กลับมา เราก็เศร้าเหมือนเดิม เพราะเรารักพี่ขุน .. แต่พี่ขุนคงดีใจที่ตะวันยังหลับฝันได้อย่างมีความสุขโดยมีฉายดูแลอยู่ใกล้ ๆ   
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 14-05-2013 11:42:41
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้..อ่านแล้วรู้สึกหดหู่และเศร้าใจไปกับความเหงาในใจของตะวัน

แต่ก็ขำในความคิดและมุมมองบางอย่างของตะวันสงสารพี่ขุนที่ไม่น่าจากไป

แต่ยังโชคดีที่ตะวันยังมีฉาย..แอบเสียน้ำตาไปหลายหยดกับเรื่องนี้เขียนได้น่าประทับใจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 15-05-2013 11:13:55
อ่านแล้วเศร้า
รับรู้ความรู้สึกของตะวันเลย
ร้องไห้ไปกับตอนที่ตะวันเสียน้าโอ๋ น้าเจดและพี่ขุน
รู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ
ของคุณ คุณภัค D สำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: butter.juliet ที่ 25-05-2013 04:36:39
พอได้อ่านเรื่องของตะวันบางทีก็ทำให้คิดไปว่าตะวันกับพี่ขุนรักกันเพราะมีอะไรหลายอย่างที่เหมือนเติมเต็มกันมากกว่า แบบต่างคนต่างเข้าใจกัน แต่กับฉายไม่ใช่ จากที่ตะวันบอกว่า "จะต่างกันก็มีฉายเป็นคนแรกนี่แหละที่เวลาถูกจ้องแบบนี้แล้วมันทำให้ผมอึดอัด...หายใจไม่ลงท้องเพราะหัวใจมันเต้นขยับออกมาขวางทางหายใจ"แสดงว่าตะวันไม่ได้ใจเต้นกับพี่ขุน แต่เต้นกับฉาย ไม่รู้เข้าใจไปเองรึเปล่าว่ากับพี่ขุนแค่เคมีตรงกัน หัวอกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นความผูกพันธ์ขึ้น สานต่อเป็นความรัก

แต่ยังไงเค้าก็เชียร์ฉายน้าาา อยากให้มีภาคต่อจัง อยากให้ฉายสมหวัง สงสารมันเถอะ มันรักของมันมาตั้งสิบกว่าปี 5555  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: inuyacha ที่ 24-04-2014 13:31:03
เพิ่งได้มาอ่าน  ครับ  อยากบอกว่าชอบ นิยาย คุณ ภักD มากมาย    มี ทำขายที่ไหนปะครับ ผมจะซื้อเก็บ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: MESAAAAA ที่ 26-04-2014 16:28:59

พี่ขุนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน โอ้ยยยยยยยยยย!! พี่ขุนนนนนนนนนนนนนนน

ม่ายน๊าาาาาาาาาาาาาาาา จะเอาอะ จะเอาพี่ขุนนนนน กลับมาน๊าาาาาาาาาาาาาา

อย่าเพิ่งรีบตื่นดิ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

#คร่ำครวญประหนึ่งเป็นเมียเค้า 55555



ชอบเรื่องนี้นะ ถึงจะเศร้า แต่ชอบการแต่ง และสำนวนของพี่ภัคDอยู่แล้ว ติดตามมาหลายเรื่อง เพราะติดใจพี่ฉานพี่เมฆ 555555 ยกให้เป็น top5ในใจไปแล้วเรื่องนั้น <3 จะติดตามผลงานต่อๆๆๆไปนะคะ รักกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Simple ที่ 05-07-2014 22:18:40
ห่างหายจากเล้าไปนานมาก

ดีใจที่กลับเข้ามาแล้วเห็นผลงานของคุณภัคD

และยิ่งตื่นเต้นที่รู้ว่าเรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของตะวัน

ได้อ่านผ่านมุมมองของทั้งสองคนแล้ว ก็รัก

รัก ฉาย

รัก ตะวัน

รัก พี่ขุน

รัก พ่อกับแม่ของตะวัน

รักเพราะอินไปกับความรักของตัวละครแต่ละตัวที่มีให้กัน

อ่านแล้วอิ่มใจจริงๆคับ ผลงานของคุณภัคD ทุกเรื่องสะกดให้

ผมอ่านทุกตัวอักษร อิ่มเอมไปกับเรื่องราว ไม่มีการเอานิ้วเคาะ

คีย์บอร์ดบอร์ดเพื่ออ่านข้ามเลย ยังคงยอดเยื่ยมเหมือนเดิมครับ o13 :L1:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 07-07-2014 18:06:02
มาอ่านเรื่องของตะวันก่อนที่จะไปอ่านเรื่องของตะวันฉาย
เรื่องนี้เคยอ่านไปแล้วรอบหนึ่งไม่รู้ว่าเม้นแล้วหรือยังไม่แน่ใจ
ตะวันเล่าเรื่องได้เหงาๆ เศร้าๆ บางทีก็ดูเหมือนไร้เดียงสาราวกับเด็ก
อ่านช่วงแรกๆ เห็นเม้นอื่นขอกว่าไม่ชอบตะวัน เอ๊ะ! ยังไงตะวันก็น่ารักดี เดี๋ยวต้องไปลองอ่านของฉายดูว่าทำไมถึงมีคนไม่ชอบตะวันอยู่ด้วย
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: koppi ที่ 30-08-2014 00:38:11
สุดยอดครับตามอ่านมาตั้งแต่เรื่องที่แล้วรวมทั้งเหยาเอก
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nookik ที่ 30-08-2014 14:52:27
ตะวัน.. ในมุมที่ทั้งน่ารัก น่าหมั่นไส้ และน่าสงสาร

ที่เหมือนจะไม่คิดอะไร แต่ก็คิดอะไร

ใสซื่อ ในแบบที่ตัวเองเป็น

เหมือนอะไรบางอย่าง ที่อยู่ใกล้ๆแล้ว ก็อดจะยิ้มไม่ได้

คุณภัคD บรรยายอารมณ์ของจะวันได้ สุดยอดมากๆ

อ่านไป ยิ้มไป ขำไป และก็ร้องไห้ไปค่ะ ><

อ่านแบบรวดเดียวจบ ไม่ลุกไปไหน ติดงอมแงม

ปล. ซู่ซ่ากับฉายแล้วสินะคะ >///<

ขอบคุณมากค่ะ >///////<
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: U-Zero ที่ 06-10-2014 20:33:13
ดีใจจังครับ ที่ได้มาอ่านเรื่องนี้ ต่อจากเรื่องของเด็กชายตะวันฉายฯ

เพราะมันช่วยเติมเต็มเรื่องกันและกันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนจบ ที่จบแฮปปี้แบบนี้ ปลื้มเลยครับ

ออ แถมยังได้ช่วยให้เราเข้าใจด้วยว่า ทำไม ตะวันถึงรักขุนมากมายขนาดนั้น

ขอบคุณมากๆครับ คุณภัคD  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 26-11-2014 07:30:54
เรื่องนู้นชอบพี่ขุนที่สุด เรื่องนี้ก็ยังคงชอบพี่ขุนที่สุด ...ขอโทษด้วยนะตัวละครหลักทั้งสอง
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 05-12-2014 22:27:48
อ่านเรื่องนี้แล้ว ต้องรีบหาอีกด้านของเรื่องนี้มาอ่านในทันที
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Supak-davil ที่ 08-01-2015 16:27:59
อ่านทั้งสองเรื่องแล้ว เลยขอดันกระทู้ให้คนอื่นๆ ที่ไม่รู้ว่ามันมี ได้อ่านบ้าง
อ่านเรื่องโน้น เราร้องให้ตอนฉายเปลี่ยนชื่อจากตะวันฉายเป็นกรินทร์กร เพราะในความรู้สึกเรา มันเป็นการทีฉายจะตัดใจจากตะวัน ซึ่งเรารับไม่ได้ พอมาอ่านเรื่องนี้ เราก็ไม่เข้าใจฉายเพิ่มขึ้นหรอก แต่เราก็ดีใจที่ใด้อ่านนั่นแหละ มันเหมือนกับว่าบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจจากเรื่องตะวันฉาย มันพอจะเข้าใจเพิ่มขึ้นนิดหน่อย
ขอบคุณ คนเขียน 
ขอบคุณคนอ่านทุกท่านค่ะ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: U-Zero ที่ 12-03-2015 01:42:47
กลับมาอ่านเรื่องนี้รอบ 2 หลังอ่าน เรื่องของตะวันฉายรอบ 2 เหมือนกัน
ยังชอบมากๆ เหมือนเดิมทั้งยิ้ม และเศร้า จนถึงเสียน้ำตาในตอนเดิมๆ
ส่วนตัวผมมองว่า เรื่อง "เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกร กับพี่ชายปากบอนบัานข้างๆ"
และ "เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบ กับน้องชายที่เกือบจะไม่มีบทบัานใกล้ๆ"
เป็นนิยายเรื่องเดียว ที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทมากกว่า
เพราะอย่างที่บอกนั่นแหละ ว่าทั้ง 2 พาร์ท เติมเต็มเรื่องราวกันและกัน
จนเป็นเรื่องราวความรักที่สมบูรณ์ ของ "ตะวัน" และ "ตะวันฉาย"
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 12-03-2015 20:46:06
เราร้องไห้อีกแล้ว อ่านเรื่องนู้นก็ร้อง เรื่องนี้ก็ร้อง
ยิ่งคิดถึงยิ่งเจ็บ แต่ก็ยังอยากคิดถึง
เรื่องเจ้าชายกบน่ารัก เหมือนพยายามปลอบใจคนที่สูญเสียว่าเค้าไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ข้างๆเราเสมอ
เราแค่หลับอยู่ส่วนเค้าตื่นแล้วก็แค่นั้น
ดีใจที่ได้รู้ว่าวันนึงตะวันก็สมารถใช้ชีวิตต่อไปได้
เรื่องให้ลืมคงเป็นไปไม่ได้
หัวใจเมื่อวางลงบนมือใครไปแล้ว มันก็เอากลับมาไม่ได้อีก
แต่ก็ใช่ว่าชีวิตเราจะจบเมื่อเค้าจาก
เราเชื่อตามหนังสือเรื่องนึงเสมอ ว่า หัวใจของคนที่รักเราจะยังคงอยู่ภายในตัวเรา
เราต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อรักษาเค้าเอาไว้ให้มีชีวิตอยู่ในหัวใจเราอย่างที่เคยเป็น
รักฉาย รักตะวัน พี่ขุน เราเองก็หวังว่าซักวัน จะวางหัวใจลงบนมือใครได้แบบที่ตะวันเป็น
เรื่องนี้ทำให้คิดถึงพ่อแม่ และครอบครัว เพราะไม่ว่าเมื่อไรคนเหล่านี้ก็ทรงคุณค่าเสมอ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ที่ดีเกินคำว่าดีอีกหนึ่งเรื่องนะคะ
จากใจเราเลย
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ก็ไอ้หมอไง ที่ 27-04-2015 10:46:36
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วน้ำตาคลอเพราะความคิดถึง ตั้งแต่ภาึคแรกให้ความรุ้สึกว่า ชั้นมีภูมิต้านทานอ่านมาจนจบได้ไง อะฮึกกกก ขออีก ทำไมมันหน่วงถึงจะมีแฮปปี้แต่หน่วงคิดถึง รอวันใจเปลี่ยนผันไป~ คุนภัคd จะให้เรามโนต่อใช่ม้ายยยย อยากอ่านเรื่อยๆ ยอมรับว่าเป็นเรื่องแรกที่ยกให้เป็น เดอะเบสนิยายความทรงจำ คู่ควรจะจดจำ ฮืออออ ขอบคุณฮะ :sad4:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 10-03-2016 20:41:41
อ่านเรื่องนู้น รู้สึกสงสารและรักฉาย
พอมาอ่านเรื่องนี้ ก็รักพี่ขุน
สงสารตะวัน อ่านเรื่องนี้แล้วไม่สงสัยเลยว่าทำไมตะวันรักพี่ขุน
พี่ขุนมีมุมน่ารักๆเยอะนะ ชอบฉากที่นอนเล่าเรื่องเจ้าชายกบ
อ่านวนตรงนั้นหลายรอบมาก ชอบจริงๆ

สุดท้ายนี้ ฟ้าคงเห็นใจฉายแล้วที่อดทนรอคอยมาตลอด
ในที่สุดก็มีวันที่ตะวันหันมามองฉาย(แบบกิ๊วก๊าวซู่ซ่า)

รักเรื่องนี้ไม่แพ้เรื่องนู้น
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: wingzero ที่ 14-07-2016 02:51:35
อ่านเรื่องของฉายจบเมื่อคืนวาน    วันนี้มาอ่านเรื่องของตะวัน บทที่ 1 เริ่มเปิดยังไม่ปิ๊งมาก เหมือนตอนอ่านเรื่องของฉาย ตอนแรก คือ ปิ๊งเลย 

แต่พออ่านจบ  รู้สึกว่าแตกต่างจากเรื่องของฉาย ไม่นับที่เป็นมุมมองของคนละตัวละคร  แต่เป็นความรู้สึกรวมๆ ด้วยมั้งตอนจบเรื่องของฉาย ไม่ได้ชอบตัวละครไหนเป็นพิเศษ  โอเคหมด และรู้สึกว่าเพอร์เฟ็คงดงาม และเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจะนิยายอื่นๆ     

แต่เรื่องนี้ มีโศกแบบมากๆ ในบางช่วง ระหว่างอ่านใกล้ๆ จบ กว่าเรื่องที่แล้ว ทั้งๆ ที่รู้ตั้งแต่ วรรคแรกแล้วว่าอ๋อ ตอนนี้สินะ ที่.....       
แล้ว  ก็ตัวพี่ขุนเอง  ภาคก่อน  ออกจะไม่ชอบเลยเกือบทั้งเรื่องจากมุมมองของ ฉาย  มาใจแป๊ว  ตอนใกล้จบ ตอนพี่ขุนไป แล้วถึงนึกได้ว่า  พี่ขุนอยู่กับตะวันมาเป็น 10 ปี   คนแบบนี้ต้องไม่ธรรมดา เลยนึกย้อนบทบาทที่ผ่านมา ในมุมมองของฉาย แต่ยังไม่ชัดมาก   พอมาเป็น มุมมองของตะวัน  คือ  ชอบตัวละครตัวนี้เลย   ไม่แปลก ที่ตะวันจะหัวปักหัวปำ         

แต่ตอนจบ จบดีนะ  อบอุ่นดี หลังจากสะเทือนใจแรงๆ   เหมือนมีความรู้สึกว่า   พี่ขุนที่ตื่นแล้ว  กำลังนั่งยิ้ม มองตะวัน กับ ฉาย  (ที่พี่ขุน ก็รู้ว่า ไว้ใจได้ ที่พี่ขุนจะฝากตะวันไว้)      โดยที่ข้างๆ พี่ขุน  มีแฟนเก่า ที่ตื่นก่อนล่วงหน้าแล้ว นั่งอยู่ข้างๆ พี่ขุน เหมือนกัน   :n1:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 05-01-2018 12:38:30
เรื่องนี้เคยอ่านมาเมื่อนานมากกกกกกแล้ว แต่อ่านไม่จบ จำไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมอ่านไม่จบ แต่สุดท้ายก็กลับมาอ่านจนจบได้ ดีงามอีกแล้ว บรรยายไม่ถูกแต่ดีมากๆ คิดถึงตะวัน ฉาย พี่ขุน พี่กบ น้าโอ๋ น้าเจด คิดถึงคุณภัคดีด้วย เป็นคนที่เก่งมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Narugojang ที่ 04-02-2019 00:10:12
เพิ่งอ่านเรื่องของฉายจบไป แล้วมาอ่านเรื่องนี้ต่อเลย
พอได้รับรู้ความรู้สึกและมุมมองของตะวัน เราว่ามันเป็นเรื่องปกติอ่ะที่ตะวันเลือกทำแต่ละอย่าง
ตะวันรักพี่ขุน เรารับรู้ได้เลยว่ามันสวยงาม ตอนอ่านของฉายก็เชียร์ให้ตะวันเลิกคิดถึงพี่ขุนสักที
พอมารู้อย่างนี้ เราไม่แปลกใจเลยที่ตะวันไม่ลืมพี่ขุน และยังรักอยู่
ความรักไม่ได้สิ้นสุดแค่ลมหายใจจริงๆ…

คงต้องขอขอบคุณ คุณภัคD อีกครั้ง ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเสมอ ทุกตัวอักษรมันน่าจดจำมากๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราร้องไห้ ร้องไห้แบบเศร้า แต่ก็ยิ้มได้ ไม่หน่วงจนร้องไม่ออก หรือโหวงๆเหมือนเรื่องเอกกับเหยา

และเราก็จะไปกบที่นอนฝันบ้าๆบอๆของเราต่อไป :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Zinub ที่ 27-06-2019 11:17:50
กลับมาอ่านอีกเป็นรอบที่สาม ความรู้สึกยังเหมือนเดิม

ทั้งยิ้ม ทั้งร้องไห้ไปกับตะวัน รักทั้งมุมของฉายและมุมของตะวันเลย

 :L1:  :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 01-07-2019 09:16:16
 :m31: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เด็กชายตะวัน ฝันหวานของเจ้าชายกบกับน้องชายที่ใครบอกว่าไม่มีบทบ้านใกล้ๆ# จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 09-07-2019 11:05:29
รักตะวัน รักฉาย รักพี่ขุน รักน้าโอ๋ รักน้าเจด รักพี่กบ รักทุกๆคน ที่ทำให้เราต้องยิ้มทั้งน้ำตา เพราะทั้งขำทั้งร้องไห้ ทั้งอิ่มใจ จนบรรยายไม่หมด หลากหลายความรู้สึกมาก

อ่านเรื่องฉายกับรักข้างเดียว ว่าหน่วงใจจนร้องไห้สงสารฉายแล้ว มาเจออ่านมุมของตะวัน ร้องไห้ยิ่งกว่าอีก ทั้งๆทีตะวันเล่าแบบอึนๆมึนๆ แต่เพราะตะวันเป็นแบบนี้เป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง ไม่ปรุงเเต่งเป็นตะวันที่แสนเหงา แต่ไม่เคยบอกใครหัวเล็กคิดอะไรอยู่เยอะแยะ ห่วงใยความรู้สึกคนอื่น พยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเองแบบตะวัน จากเด็กที่พัฒนาการช้าถูกสังคมในโรงเรียนบูลลี่ แต่พยายามเอาตัวรอดอย่างอดทน คิดตรงๆซื่อๆของตะวันมันน่าเอ็นดู โตมาไม่ทันไร พ่อแม่หนีเที่ยว(?)หายไปซะดื้อๆ ถึงจะมีน้าโอ๋น้าเจด กับฉาย ที่รักและดูแลอย่างดี แต่ข้างลึกๆใจก็โหวงและโดดเดี่ยวอ้างว้างอยู่ดี ตะวันไม่ได้เปลี่ยนแฟนบ่อย เพราะอยากเปลี่ยนคู่นอน แต่เพราะตะวันเหงา พี่กบคือ พี่ชายปากกว้างที่ยิ้มเหมือนพ่อที่โหยหา พี่ปาคือ พี่ชายผมจุก มีกลิ่นสีเหมือนแม่กับพ่อที่ตะวันคิดถึงและรอคอย ตอนตะวันถูกทำร้ายไม่มีใครรู้ พยายามหาทางแก้ไขด้วยตัวเองแบบทื่อๆ และพี่ขุนคือคนที่รู้ พี่ขุนรู้ในสิ่งที่ฉายไม่รู้ ตะวันไม่ผิดที่รู้ว่าฉายรักแต่ยังวางเฉย เพราะสำหรับตะวัน ฉายคือน้องชาย(ข้างบ้าน)ที่เห็นและช่วยน้าโอ๋เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ภาพจำมันคือน้องชาย แต่พี่ขุนคือคนที่มาเติมเต็มในส่วนที่ขาดในกันและกัน  เข้าใจในสิ่งที่ฉายยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ ในช่วงเวลานั้น ในขณะที่ฉายยังเป้นแค่เด็กที่ต้องเรียนหนังสือ ความมั่นคงทางใจยังไม่พอให้ตะวันรู้สึกได้ มันเป็นเรื่องของวัย จังหวะเวลาในช่วงวัยนั้นๆ

เจ้าชายกลของพี่ขุน มันบีบหัวใจอย่างที่สุด ถึงจะรู้อยู่แล้วว่า พี่ขุน น้าโอ๋ น้าเจด ต้องตื่นก่อน ทิ้งให้ตะวันหลับฝันต่อ อยู่เป็นเพื่อนฉาย ไม่ปล่อยให้ฉายต้องหลับฝันอยู่คนเดียว ฮือออออออออ ร้องตาไหลพราก ใจมันโหวง

จนมายิ้มทั้งน้ำตา รักข้างเดียวของฉายเริ่มมีหวังกับเขาบ้างแล้ว ตะวันเริ่มหวั่นไหว ภาพน้องชายข้างบ้านเริ่มเลือนลาง กลายเจ้ากบลามกของพี่ตะวัน  :hao3:

คุณภัตD เขียนดีมากกกก การเปรียบเปรยที่ลึกซึ้งกินใจ สำนวนภาษาสวยดีงาม จนเรายกให้หมดทั้งใจเลยค่ะ สมกับเป็นตำนานอย่างที่เขาล่ำลือกันจริงๆค่ะ ขอบคุณนะคะ  :pig4: :pig4: :pig4: