-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะ
ไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควาน
ตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ...........
.
.
เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า............
.........
บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้
เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ใน ความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน
การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น
ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้
หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชาย
เข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
5.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่าง ของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
6.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
7.ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
8.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า
แล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ด
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
9.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
10.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
11.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
12.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
-
ผลงานที่ผ่านมาของ "เบบี้" ชี้แจงเพื่อทราบ ดังนี้...
1. [ ลงเวปปี 2551 ] สุดท้ายกรูก็รักมึงจนได้..ไอ้โรคจิต
2. [ ลงเวปปี 2552 ] เพราะว่ารัก..แน่รึเปล่า
3. [ ลงเวปปี 2552 ] ชุลมุนวุ่นรัก
4. [ ลงเวปปี 2553 ] Momorial~รักแรก รักสุดท้าย
5. Summer~ร้อน Summer~ รัก
6. [ ลงเวปปี 2558 ] The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก
- มีลงให้อ่านทางเวปไซด์ Thaiboyslove และบอร์ดเบบี้เท่านั้น
- เนื้อหาปัจจุบันยังไม่จบ
7. [ ลงเวปปี 2554 ] ~ Limited Lovers ~
8. หนังสือนิยาย Royal Swan ( ตัวละครสืบต่อจากนิยาย Limited Lovers )
*** Limited Lovers ได้จัดทำเป็นหนังสือแล้ว 1 ครั้ง ตีพิมพ์ 1 ครั้ง ในปี 56 หนังสือขายหมดแล้ว! หนังสือ Royal Swan แจ้งข่าว (http://baby.thai-forum.net/t497-topic)
ขอบคุณค่ะ
เบบี้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Limited Lovers by Baby
ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๒๐
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ โดยอัตโนมัติ ห้ามนำเสนอส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายเรื่องนี้ไปลอกเลียนแบบ ดัดแปลงเนื้อเรื่องหรือชื่อตัวละคร ทำสำเนา ถ่ายเอกสาร หรือ นำไปเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ตและที่สาธารณชนไม่ว่าในรูปแบบใดๆก็ตาม นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางเบบี้แล้วเท่านั้น
สงวนลิขสิทธิ์ โดย เบบี้
หมายเหตุ:
นิยายเรื่อง Limited Lovers เป็นนิยายแนว Drama / Romance ซึ่งสำนวนในการเขียนแตกต่างจากนิยายเรื่องก่อนๆของเบบี้..ใครไม่ชอบแนวนี้สามารถกดออกได้เลยค่ะ
เรื่อง Limited Lovers นี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นทั้งหมด ชื่อสถานที่ ชื่อร้าน ชื่อบริษัท ชื่อบุคคล เหตุการณ์และสถานที่ต่างๆเป็นสิ่งที่แต่งขึ้นเพื่อนิยายเรื่องนี้เท่านั้น หรือชื่อสถานที่ใดเป็นสถานที่ที่มีอยู่จริงแต่เราจะไม่มีการเจาะจงสาขาหนึ่งสาขาใด ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ
เรื่อง Limited Lovers ได้โพสที่ Thaiboyslove หรือเล้าเป็ด และบอร์ดเบบี้เพียงสองที่ โดย "เบบี้" เป็นคนโพสเพียงคนเดียวเท่านั้นค่ะ และไม่อนุญาตให้เอาไปโพสที่เวปอื่น หรือ บอร์ดอื่นใดๆทั้งสิ้นค่ะ
มีข่าวต่างๆเกี่ยวกับนิยาย มีคำถาม(สงสัย) หรือต้องการติดต่อเรื่องอื่นๆ ติดต่อเบบี้ได้ที่ PM เล้าเป็ด หรือ บอร์ดเบบี้เท่านั้นค่ะ (ไม่มี Facebook หรือ Fan page เพราะได้ทำการปิดไปแล้วเรียบร้อยค่ะ)
- - - - - - - - - - -
(เพื่อความสะดวกสำหรับคนอ่าน สามารถเข้าสารบัญได้ที่นี่..ขอขอบคุณคุณmust ที่กรุณาทำสารบัญให้ด้วยนะคะ)
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
- - - - - - - - - - -
Lover..1
~1~
~รับสมัครพนักงาน~
เด็กหนุ่มหยุดยืนมองป้ายที่หน้าร้านนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวเขาเองนั้นยังแอบนึกนับในใจว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ห้าเข้าไปแล้ว..
ณ หน้าร้านเบเกอรี่ที่ปิดกั้นไปด้วยรั้วอิฐที่มีลักษณะขรุขระสีน้ำตาลแดง ข้างรั้วมีกระเช้าดอกไม้สีสันสวยงามราคาแพงและหายากแขวนเรียงรายล้อมรอบ ถึงแม้ด้านในจะถูกล้อมไปด้วยรั้วอิฐขนาดใหญ่แต่ทางเดินเข้าร้านกลับมีความกว้างเพียงสองเมตรเท่านั้น เด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยกำลังค้นหาสิ่งแปลกใหม่ได้ยืนหยุดอยู่ตรงประตูรั้วเหล็กสีดำที่สั่งทำจากบริษัทชั้นเยี่ยมของประเทศสเปน ที่ประตูรั้วด้านหน้ามีกระดานไม้เล็กๆแขวนอยู่ว่า “เชิญเปิดได้ครับ” เด็กหนุ่มยืนอมยิ้มด้วยความสงสัยกับประโยคของป้ายที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเปิดประตูนี้เข้าไปเนื่องด้วยสาเหตุที่เขาต้องการ เด็กหนุ่มรู้สึกตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ตัวร้านที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกใส สัดส่วนของร้านประกอบไปด้วยเนื้อไม้อย่างดีและปูนก่อรูปทรงแบบที่เขาเคยเจอเพียงในหนังสือหรือในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น บริเวณรอบร้านเต็มไปด้วยต้นไม้สีสันเขียวชอุ่ม สวนดอกไม้ สระน้ำ โต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ทางด้านขวามือของเขาที่ดูมีราคาเกินที่เขาจะได้เคยสัมผัส ด้านซ้ายมือมีบล็อกทางเดินที่เลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งของร้าน ใจของเด็กหนุ่มเต้นแรงมากขึ้นจนเขาเองรู้สึกได้ว่าตนเองกำลังมือสั่น ทางเดินที่เชื่อมต่อสำหรับเดินไปที่ประตูของร้านช่างเป็นทางเดินที่ประดับไปด้วยพุ่มดอกไม้เล็กๆราวกับในนิทาน เมื่อเด็กหนุ่มเดินไปตามทางจนถึงประตูร้าน เขาหยุดยืนจ้องมองที่หน้าประตูและเขากำลังเก็บรายละเอียดทั้งหมด ประตูเป็นประตูไม้สีดำมีลักษณะรูปทรงโค้งใหญ่ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้านบนของประตูที่เขียนว่า..
Welcome To the Land Of Love
“ถึงแล้ว..” มาแล้วจริงๆพระเจ้า..ให้ตาย
“เฮ้อ~” มาจนได้สินะเรา
Cupid’s Bakery House
กริ๊ง~~
“คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ ยินดีต้อนรับคร้าบ/ค่ะ” O_O อ่ะ..เอ่อ เอิ่ม
“..............” ไม่ต้องจ้องกันขนาดนี้ก็ได้มั้งครับ..ผมมักจะทำตัวไม่ถูกเสมอเมื่อไหร่ที่ถูกจ้อง
“ไม่ทราบว่ากี่ที่ครับ” อ๋อย..ตาลาย ทำไมมีแต่คนหน้าตาดีเต็มร้านไปหมดเลยล่ะ เราเลือกมาถูกที่แน่แล้วใช่ไหม..ผมชักเริ่มไม่แน่ใจ
“เอ่อ คุณครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
“ปะ เปล่าครับ”
“คือ ผม..ไม่ได้มาทานอาหาร แต่คือ..ป้ายข้างหน้า” ทำไมมือไม้ถึงชี้ไปคนละทิศคนละทางแบบนี้กันนะ ตื่นเต้นทีไรเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย น่าอายชะมัด
“อ๋อ เชิญครับ” พนักงานต้อนรับผู้ชายยิ้มพร้อมกับผายมือให้ผมเหมือนเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ
“เชิญตามมาครับ”
“เชิญนั่งเลยครับ” ผมยืนมองทำตัวไม่ถูก พี่เขาละ..เลื่อนเก้าอี้ให้ผมด้วย ดีจัง..เขาเลื่อนเก้าอี้ให้เราด้วย นานๆทีจะได้รู้สึกแปลกใหม่แบบที่ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อนแบบนี้สักที
“เดี๋ยวจะไปตามคุณฟ้ามาให้นะครับ” พนักงานคนนี้ยิ้มให้แล้วเดินจากไป
ร้านสวยอย่างที่คิดไว้จริงๆ เป็นอย่างที่ผมคิดไว้เลย โต๊ะ เก้าอี้ การตกแต่งร้าน ชุดพนักงาน ทุกรายละเอียดเป็นอย่างที่เราคิดไว้จริงๆ ที่จริง..มันดูดีกว่าที่นึกไว้อีกด้วยซ้ำ
“สวัสดี”
“สะ..สวัสดีครับ” ผมรีบลุกขึ้นยืนทันที ผู้ชายคนที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนเดิม แต่คนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่มีอายุ แต่งตัวดูดี หน้าตาดีและมีรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นทำให้ผมกล้ายิ้มกว้างกลับตอบไปให้
“นั่งเถอะครับ” อีกฝ่ายพูด ผมก้มหัวให้ก่อนที่จะนั่งลงอย่างเดิม
“ฉันชื่อฟ้า เป็นเจ้าของร้านน่ะ..”
“สวัสดีครับ”
“มาสมัครงานเหรอ” คุณเจ้าของร้านยิ้มถาม
“ค ครับ..ผมเห็นป้ายที่หน้าร้านนะครับ” ผมรีบพูดบอกออกไป เซ็งตัวเอง..ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรนักหนา
“นี่ใบสมัคร กรอกซะก่อน..แล้ว ว่างให้สัมภาษณ์เลยไหมครับ”
“ครับ ว่างครับ” ผมพยักหน้าตอบแทบจะทันที
“โอเคครับ..งั้นกรอกใบสมัครก่อนก็แล้วกัน ตามสบายนะ” คุณเจ้าของร้านยิ้มพูดแล้วลุกไป ผมมองตาม พนักงานในร้านต่างก็มองมาทางผม พอคุณเจ้าของร้านเดินไปถึงเคาร์เตอร์กาแฟ พนักงานทุกคนหันมาส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง
“จะรับเครื่องดื่มอะไรดีครับ” o_O ผมชะงักมองหน้าพี่เขา มะ..ไม่มีเงินจ่ายหรอก คาดว่าน่าจะแพงง่ะ..แพงมากด้วย เสียดายเงินออก
“เอ่อ..”
“ทางร้านบริการให้ฟรีครับ ถ้าจะไม่เสียมารยาทจนเกินไป อย่างคุณ..ผมให้ทาย โกโก้เย็นดีไหมครับ” พนักงานผู้ชายคนเดิมที่มาตอนรับผมยิ้มพูด
“ครับ โกโก้ก็ดี” ผมยิ้มตอบ
“ฟู่~” เกร็งจัง
ผมก้มหน้าก้มตากรอกใบสมัครงานต่อ วันนี้ผมตั้งใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของร้านนี้ และหวังอย่างที่สุดว่าจะได้งานนี้ด้วย ผมไม่เคยรู้สึกอยากจะทำงานพิเศษที่ร้านไหนมาก่อน แค่ร้านนี้เท่านั้นที่สะดุดตาและความต้องการในใจมันกระตุ้นบอกให้ผมก้าวเข้ามาในร้านนี้ ทั้งทั้งที่ผมไม่เคยเข้ามาทานขนมเค้กที่ร้านนี้เลยสักครั้ง เหตุผลก็เพราะว่ามันดูแพงนี่ครับ..คนมีฐานะแค่พอกินพอใช้อย่างผมจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเค้กชิ้นละเป็นร้อยแบบนี้กันล่ะ
ขณะที่ผมนั่งเขียนใบสมัครอยู่ได้ไม่นาน พนักงานคนเดิมก็นำโกโก้เย็นกับคุกกี้มาเสิร์ฟให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมพูดบอก สายตาจับจ้องไปที่คุกกี้ชิ้นโตที่อยู่ตรงหน้าสามชิ้น อ๋อย..คุณคุกกี้ แค่วางอยู่ตรงนั้นกลิ่นก็โชยมาถึงนี่แล้วละครับ ถึงแม้ในใจผมจะว้าวุ่นที่จะอยากหยิบคุกกี้ตรงหน้ามาทานมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่ก็ต้องรักษามารยาทของตัวเองไว้โดยการเขียนใบสมัครต่อให้เสร็จให้เร็วที่สุด
“เสร็จรึยังครับ” พี่ฟ้า..เจ้าของร้านเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง
“เสร็จแล้วครับ” ผมยิ้มตอบพร้อมกับยื่นกระดาษไปให้อีกฝ่าย พี่ฟ้ารับไปแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“................” ผมนั่งตัวเกร็งนิ่งเพราะอีกฝ่ายกำลังนั่งอ่านใบสมัครของผมอย่างเงียบๆ
“ชื่อเค้กเหรอครับ” พี่ฟ้าเงยหน้าถาม
“ครับ” ผมยิ้มตอบทันที
“หึ..” อยู่ๆพี่ฟ้าก็หัวเราะออกมา
“น่ารักดี” พี่เขายิ้มชม ผมได้แต่อมยิ้ม
“อะแฮ่ม!” ผมหันไปมองตามเสียงทันที แต่ก็ต้องชะงักอย่างงงๆเพราะไม่รู้ว่าเสียงนั้นออกมาจากใคร
“เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองเหรอ งั้น..แนะนำตัวหน่อยสิครับ” พี่ฟ้าพูดพร้อมกับเท้าข้อศอกทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ ทำให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม
“ค ครับ..ผม นายกนต์ธร เลิศวิเศษครับ”
“เรียนอยู่ปีหนึ่ง มหาวิทยาลัยY คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ เอกการจัดการการท่องเที่ยวครับ” ผมพยายามพูดให้เสียงดังฟังชัดมากที่สุด
“............” ทำไมมองเราแบบนั้นล่ะ เราทำอะไรผิดเหรอ หรือว่าเราพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป
“เอ่อ..”
“แล้วชื่อจริงนี่แปลว่าอะไรเหรอครับ”
“เอ่อ..” แล้วจะอยากรู้ไปทำไมล่ะนั่น
“แปลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่งสิ่งที่เป็นที่รักครับ” ผมตอบ
“อะแฮ่ม..อ่ะฮื้ม” เง้อ..อีกแระ ผมหันไปมองเพื่อหาเสียงนั่น พนักงานผู้ชายที่มาต้อนรับผมตอนแรกยืนยิ้มให้ พี่เขาต้องเป็นคนที่กระแอมคอเมื่อกี้แน่ๆ
“เงียบน่า” คุณเจ้าของร้านพูดขึ้นลอยๆแต่สายตายังคงจ้องมองผมอยู่
“ไม่เคยทำงานพิเศษมาก่อนเลยเหรอ แล้วทางบ้านอนุญาตรึเปล่าครับ”
“ไม่เคยครับ ทางบ้านรับรู้แล้วครับ” ผมตอบ
“แล้วเคยมาทานที่นี่มาก่อนรึเปล่า แต่ดูเหมือนไม่คุ้นหน้าเลยนะ”
“ไม่เคยครับ ผม..ไม่มีเงินมาทานหรอกครับ” ผมยิ้มแหยตอบ
“หึ..งั้น แล้วทำไมถึงอยากมาทำร้านเราล่ะ”
“ก็ เอ่อ..ถึงผมจะชอบงานบริการ แต่ที่จริงผมชอบกินเค้กมากเลยนะครับ ชอบกลิ่นกาแฟด้วย แล้วร้านคุณฟ้าสวยมากเลย ผมอยากลองเข้ามาสักครั้ง” ผมยิ้มตอบ
“หมายความว่า ถ้าไม่ได้งานนี้ก็ไม่เป็นไรงั้นสิ” พี่ฟ้าเลิกคิ้วถามกลับ
“อ่ะ..ครับ คือ..” ทำไมตอบคำถามสมัครงานมันถึงทำให้เราสับสนงงงวยตัวเองได้ขนาดนี้
“ผมคิดว่าอย่างน้อยก็ได้เข้ามาลองแล้วนะครับ ถ้าคุณฟ้าจะไม่รับก็ไม่เป็นไร..ผมจะถือว่าผมมีคุณสมบัติไม่ดีพอ”
“ทานคุกกี้สิ” อยู่ๆพี่ฟ้าก็พูดบอก ผมชะงักไปหน่อย
“ทานสิครับ” พี่ฟ้าย้ำพูดอีกครั้ง ผมเลยต้องรีบหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปากทันที
อ๋อย~ อร่อยอย่างที่คิดจริงๆด้วยละนะครับ กลิ่นช็อกโกแลตตีขึ้นจมูกทันทีที่กัดกินคำแรก พระเจ้า..เหมือนมีสวรรค์มาลอยอยู่ตรงหน้าอย่างไรอย่างนั้น
“เป็นยังไง”
“อร่อย” ผมยิ้มตอบอย่างลืมตัว
“หึ..” พี่ฟ้าหัวเราะ ง่ะ..อายตัวเองนิ
“เค้กชอบงานบริการรึเปล่า”
“ชอบครับ..ชอบมากเลย”
“แล้วเค้กคิดว่าพนักงานร้านเราเป็นยังไง ไหนบอกให้ฟังหน่อยสิครับ”
“คุณฟ้าหมายถึง ความรู้สึกของผมเหรอครับ”
“ใช่”
“ก็..ตอนที่เข้ามาในร้านตอนแรก ทำให้รู้สึกว่าเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น รู้สึกไม่ประหม่ามากนักเพราะมีความเป็นกันเอง เอ่อ..รอยยิ้มทำให้รู้สึกได้ถึงความจริงใจที่ได้บริการ ถ้าไม่รวมถึงเรื่องความหรูหรา เพราะยังไงชุดและมารยาทก็ให้ความรู้สึกถึงความหรูหราอยู่แล้วน่ะครับ” ผมบอก
“แล้วเค้กคิดว่าเค้กจะทำได้ดีกว่านั้นไหมครับ”
“ครับ ถ้าคุณฟ้าให้โอกาส เค้กก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด” ผมตอบเสียงดังฟังชัด
“รู้เรื่องเค้ก กาแฟ เครื่องดื่มอื่นๆมาก่อนรึเปล่าครับ”
“ก็พอรู้บ้างครับ แต่ผมทำเป็นแค่บางอย่าง”
“เอาละนะ..คำถามสุดท้าย” คุณเจ้าของร้านเอามือเท้าหน้าตัวเองเหมือนสบายใจซะไม่มี สายตาก็จับจ้องมาที่ผมเขม็ง
“เค้กรู้ไหมว่าร้านนี้ตกแต่งสไตล์อะไร”
“...............” ผมมองสำรวจไปทั่วร้านเพื่อเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ที่จริงผมก็พอทราบมาบ้างว่าร้านตกแต่งแบบไหน แต่ผมไม่เคยเข้ามาในร้านนี้เลยสักครั้ง เคยได้แต่มองภายนอกร้านเวลาเดินผ่านและได้แต่คิดจิตนาการเอาเองว่าในตัวร้านจะเป็นแบบไหนกันนะ ผมเป็นคนที่หลงใหลในอาหารหวาน ขนมปังและเครื่องดื่มประเภท นม กาแฟ โกโก้เป็นอย่างมาก แต่ก็ได้กินแต่ของราคาถูก นานๆครั้งที่จะตัดใจซื้อชิ้นที่มีราคาแพง หรือบางครั้งแม่จะซื้อมาให้ตอนสิ้นเดือนเท่านั้นเองครับ และด้วยความที่ผมหลงรูปลักษณ์ภายนอกของร้านนี้มาก จึงทำให้ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านนี้มาบ้างก่อนที่จะตัดสินใจมาสมัคร แต่ก็ไม่ได้ละเอียดอะไรมากนักหรอกนะครับ
“ทรงของร้านเป็นแบบวิกตอเรีย” ผมตอบตะกุกตะกัก กลายเป็นว่าสายตาของพี่ฟ้าที่จับจ้องมาที่ผมตลอดเวลามันกำลังทำให้ผมรู้สึกประหม่า
“ผสมกับสไตล์ครันทรี ส่วนในตัวร้านตกแต่งเป็นแบบวินเทจผสมกับความคลาสสิกครับ” โฮะ..ลุ้น
“ผิด” คุณเจ้าของร้านตอบด้วยสีหน้าถมึงทึง เง้อ..ผิด หนูตอบผิดอ่ะแม่ (=_=) ผมหน้าเสีย มองหน้าพี่ฟ้าอย่างรู้สึกหมดหวัง
“หึหึ..ดูทำหน้าเข้า” อยู่ๆพี่ฟ้าก็หัวเราะออกมา
“อย่างอื่นถูกหมด แต่ร้านเราตกแต่งแบบวินเทจผสมสเปนน่ะ อาจจะมีกลิ่นครันทรีปนบ้าง..อย่างเช่น การจัดสวน” พี่ฟ้าอธิบาย ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ อ๋อ..สเปนนี่เอง ก็ว่าทำไมเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน ที่จริงแบบสเปนหรือแบบอิตาลีผมก็แทบจะแยกไม่ออกหรอกนะครับ ใช้การเดาสุ่มไปอย่างนั้นเอง
“...............” เราทั้งสองต่างเงียบจ้องหน้ากัน ผมหลบสายตาพี่ฟ้าเล็กน้อย
“เค้กคิดว่าพี่ควรจะรับเค้กไหม”
“เหอะๆ” ผมได้แต่หัวเราะเฝื่อนๆ
“แต่รับก็ดะ..รับดีกว่า” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ตัดสินใจและยิ้มกว้างออกมา ผมยิ้มกว้างอย่างรู้สึกมีความหวังในทันที
“ขอโทษนะครับคุณฟ้า ทางเราอยากทราบว่า..แล้วพนักงานที่รับมาใหม่เมื่อวานละครับ” พนักงานชายคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม พี่เขาตัวสูงใหญ่และหน้าตาท่าทางดูดุมาก
“โทรไปแคนเซิลสิ” พี่ฟ้าตอบ
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ถ้ารับคนแล้วก็ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบพูดเพราะไม่อยากให้ทั้งสองต้องลำบากใจ แต่ผมเองก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าถ้ารับคนมาแล้วทำไมป้ายยังติดอยู่ที่หน้าร้านว่า “รับสมัครพนักงาน” อยู่อีก
“อะไรของคุณ เลิกคัดพนักงานทางหน้าตาสักทีได้ไหมครับ” พนักงานชายคนนี้พูดพร้อมส่งสายตาจ้องไปที่พี่ฟ้าอย่างไม่พอใจ
“จะเอาคนนี้อ่ะ” พี่ฟ้าชี้พร้อมลุกขึ้นประชันหน้าอีกฝ่าย
“ทำไมคุณ ฮื้ม..เป็นคนแบบนี้นะ”
“เอ่อ ขอโทษครับ..คือ” ผมลุกขึ้นยืนบ้าง
“ไม่เป็นไรครับน้องเค้ก พี่รับแล้ว..เอาเป็นว่า” พี่ฟ้าหันมายิ้มบอกผม
“โทรไปแคนเซิลเดี๋ยวนี้” พี่ฟ้าหันไปสั่งพนักงานชายที่ยืนประชันอยู่ตรงหน้าตน
“ออฟ..ไปเอาป้ายออก” พนักงานชายคนนี้เดินไปสั่งพนักงานชายคนที่มาต้อนรับผมในตอนแรก
“เอาเป็นว่า เริ่มงานพรุ่งนี้เลยก็แล้วกันนะครับ เรียกพี่ว่าพี่ฟ้าเฉยๆก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก”
“ครับ แต่..มันจะดีเหรอครับ” ผมพูด
“ดีครับ พี่เป็นเจ้าของร้าน ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น..พรุ่งนี้มาได้กี่โมงครับ”
“บ่ายสามโมงครับ” ผมตอบ
“พรุ่งนี้เตรียมตารางที่ว่างมาให้พี่ แล้วพี่จะจัดตารางงานให้ พรุ่งนี้มาวัดตัว..พร้อมกับดูงานนะครับ” ผมพยักหน้ารับ
“อาทิตย์นี้ดูงานทั้งอาทิตย์ อาทิตย์หน้าพี่ถึงจะให้ปฏิบัติแล้วกันนะครับ”
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบอีกครั้ง
“แป๊บนะ” พี่ฟ้าเดินไป
“นี่..พี่ให้” พี่ฟ้ายื่นถุงคุกกี้มาให้ผม
“ขอบ ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ก่อนที่จะรับถุงมาถือไว้อย่างเคอะเขิน
“ยินดีต้อนรับพนักงานใหม่ สู่คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์นะครับ” พี่ฟ้ายื่นมือมาทางผม
“ขอบคุณครับ” ผมยื่นมือไปจับเบาๆพร้อมกับยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายด้วย ปกติแล้วผมไม่ค่อยได้จับมือกับใครอย่างนี้บ่อยเท่าไหร่นัก อย่างว่าละครับ สังคมคนไทยเราไม่ได้ทักทายกันแบบนี้..ครั้งนี้ผมเลยรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
“ครับ..ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้พี่ฟ้าและหันไปยกมือไหว้พนักงานทุกคนในร้านก่อนที่จะเดินออกมาก
“เยสสสสส!!” ได้งานแล้ว ประเด็นคือได้งานที่ร้านนี้จนได้ คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ที่ใฝ่ฝัน..อิอิ ดีใจจังที่ได้..ดีมากๆเลย แต่ว่า..เมื่อยแก้มชะมัด ผมชะงักเมื่อรู้สึกว่าตนเองรู้สึกเมื่อยที่แก้ม ทำให้กลับมาสงสัยไม่ได้ว่าตัวเองนั้นยิ้มมานานแค่ไหนแล้ว
= = = = = = = =
“แม่ค้าบ..แม่”
“แม่..เค้กได้งานแล้ว”
“อะไรลูก” แม่เดินออกมาจากครัว ผมรีบวิ่งเข้าไปกอดทันที
“เค้กได้งานแล้ว ที่ร้านคิวปิดอย่างที่เค้กอยากได้เลยอ่ะแม่” ผมยิ้มหน้าบานเล่าให้แม่ฟัง
“หึ หูฝาดว่าเค้ารับเรารึเปล่า” แม่หอมแก้มผมไปมา
“แม่อ่ะ”
“อะไร พี่เค้กได้งานแล้วเหรอ” ตาววิ่งออกมาจากครัว
ตาวเป็นลูกสาวของน้าผม ก็เหมือนมีศักดิ์เป็นน้องสาวของผมละครับ ครอบครัวของผมตอนนี้มีแค่ผม แม่ของผม น้องสาวแม่ก็คือน้าของผมและลูกของน้าที่ชื่อตาวนี่แหละ ตาวเพิ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายชั้นปีที่4 เราอยู่ด้วยกันสี่คนมานานแล้วหลังจากที่พ่อผมเสียชีวิตไป ส่วนสามีของน้าผมได้มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว พวกเราเองไม่มีญาติที่ไหน ครอบครัวก็ไม่ใช่คนมีเงินอะไร แค่มีฐานะพออยู่พอกิน ไม่ได้ขัดสนแต่ก็ไม่ได้เรียกว่ารวยแบบใช้จ่ายเงินได้อย่างฟุ่มเฟือย เราอยู่กันสี่คนแบบนี้มานานมากจนทำให้เราขาดกันไม่ได้ ถึงแม้ตาวจะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆของผม แต่ผมก็รักเหมือนน้องสาวแท้ๆที่คลานตามกันมาเลยละครับ
“ช่ายยยยย” ผมตอบอย่างภูมิใจ
“งั้นต้องฉลอง” ตาวยิ้มบอก
“นี่..เจ้าของร้านให้คุกกี้มาด้วย” ผมชูถุงคุกกี้ให้แม่ดู
“ขอบคุณเค้ารึเปล่าน่ะลูก” แม่ทำหน้ากังวล
“ขอบคุณสิแม่ก็” ผมเข้าไปหอมแก้มแม่อีกครั้ง
“แม่ทำกับข้าวก่อนก็แล้วกัน มีแกงเขียวหวาน ต้มจืดน่องไก่กับผัดฟัก หนูจะเอาอะไรอีกไหม” แม่ถาม
“อืม ไข่ดาวไงแม่..ลืมตลอดอ่ะ” ผมบอก ไข่ดาวเป็นเมนูประจำที่ไม่ว่าผมจะทานอาหารอะไรก็ต้องมีมันอยู่บนจานข้าวของผมเสมอ มันคล้ายกับเพื่อนสนิทอย่างไรอย่างนั้น
“อืม ไข่ดาว..ไปอาบน้ำไปลูกไป” แม่ดันไหล่ผมเบาๆ
“ค้าบ อาบน้ำก่อน..ตาว เอาใส่ตู้เย็นให้พี่ด้วยนะ” ผมยื่นถุงคุกกี้ให้ตาวก่อนที่จะวิ่งขึ้นมาบนบ้าน
บ้านที่พวกเราอยู่ก็ไม่ได้กว้างขวางอะไรอีกเช่นกัน มีที่สำหรับจอดรถยนต์หนึ่งคันเป็นรถที่แม่ผมขับไปทำงานพร้อมกับน้าของผมทุกๆวัน มีรถจักรยานยนต์หนึ่งคันและจักรยานอีกหนึ่งคันเพื่อเอาไว้นำไปซื้อของที่ตลาดท้ายหมู่บ้าน บ้านเรามี 3 ห้องนอน ห้องนอนของผมหนึ่งห้อง ห้องนอนของตาวหนึ่งห้อง และห้องที่แม่นอนกับน้าติ๊กอีกหนึ่งห้อง ส่วนอีกห้องเป็นห้องพระเล็กๆ ข้างล่างเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทานอาหารเล็กๆ สรุปคือบ้านเราเล็กอ่ะครับ ไม่มีอะไรใหญ่เลย ทุกอย่างเรียกได้ว่าเป็นแบบมินิหมดเลยล่ะ
โอ๊ะ..ลืมไป เรามีเพื่อนร่วมครอบครัวอีกตัว มันเป็นหมาพันธุ์ลาบาดอลที่เอาไว้เฝ้าบ้านและมันเป็นเพื่อนสนิทของตาว มันชื่อว่ากระเป๋า นี่แหละครับครอบครัวของผม มีกันอยู่เท่านี้ล่ะ..ถึงทุกอย่างในบ้านนี้ของเราจะเล็กไปซะหมดแต่ผมเชื่อว่าครอบครัวผมเป็นอีกครอบครัวที่มีความสุขดี เรารักกันดีมาก เข้าใจกันเป็นอย่างดีและไม่เคยมีเรื่องอะไรมาทำให้เราลำบากใจ เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวเล็กที่มีความสุขล้นเหลือเลยละครับ..ยิ้มๆ
“เฮ้อ~” ถอนหายใจอย่างมีความสุข ดีจังที่วันนี้เป็นวันที่มีความสุขอีกวัน ตื่นเต้น..ผมอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆจัง อยากไปที่ร้านนั่นอีก เราจะได้ใส่ชุดแบบที่พวกพี่ๆพวกนั้นใส่กันด้วย ดูดีมากเหมือนกับได้รับการออกแบบมาอย่างดี ผ้าก็ดูเนี๊ยบเป็นบ้า..ชอบจังเลยน้า~
ณ สมุดโน้ตของคุณเค้ก..
จันทร์ 4 กรกฎาคม 2554
วันนี้ได้สัมภาษณ์เป็นพนักงานที่ร้าน Cupid’s Bakery House ผ่านด้วยล่ะ เราจะได้ทำงานที่ร้านนี้ ร้านที่เราเฝ้าจิตนาการมานาน เราจะได้กลิ่นขนมเค้กที่ร้านนี้เมื่อไหร่ที่เราต้องการ เราจะได้สูดกลิ่นดอกไม้และได้เห็นร้านสวยๆนี่ตามที่เราอยากจะเห็นเต็มตาสักที
ปล. วันนี้ได้รู้จักเจ้าของร้าน พี่เค้าชื่อ..พี่ฟ้า หล่อและดูดีมากๆ หวังว่าพี่เค้าจะนิสัยดีอย่างที่เราคิดไว้ด้วยนะ ^^
Bye Bye..Cake
...................>>><<<....................
-
ว้าววววววววววว เรื่องใหม่ของเบบี้ล่ะ :mc4:
(มาปาดรึเปล่าหว่า) :serius2:
-
^
^
^
มาปาดเลยแหละ เบบี้กำลังจะโพสอีกอัน เพื่อไว้โพสนิยายอ่ะ กร๊าก
-
รอวันพระเอกมา หรือมาแล้วหว่า o13
-
เรื่องใหม่มาแล้ว o13
-
o13 o13 โว้ เรื่องใหม่ ขอทิ่มๆๆๆๆๆๆๆๆ :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
-
เรื่องน่ารักมากค่า o13
จัดบวกไปเบาๆ ^^
-
กรี๊ด กรี๊ด เจ๊ เขียนเรื่องใหม่แล้วๆๆ
-
โอ้ เย โอ้ เย โอ โอ เย ตึกๆ โอ้ เย้ :กอด1:
ก้านกล้วยมาเป็นกีตาร์ วู้วๆๆ
ฉลองเรื่องไหม ว๊าว :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
รู้สึกอยากกินเค้กจัง คึคึ :z13: :z13: :z3: :z3:
o13 :bye2:
-
อะหืมมม ปูพรหมแดงต้อนรับน้องเค้กและพี่ฟ้าค่า (คิดเอาเองว่าพระเอก) ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
น้องเค้กคู่พี่ฟ้ารึเปล่าาา
-
ฮุฮุ มีเรื่องใหม่ให้ตามอ่านอีกแล้ว ^^
-
มาฉลองเรื่องใหม่ของเบบี้ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
:L2:โอ๊ววววววววววว เรืื่องใหม่ของเบบี้มาแล้ว
-
เรื่องใหม่มาแล้ววววว !!!!! :oni2:
-
ฉลองๆๆๆ เรื่องใหม่ เย้ เยยยยย
-
เค้าขอโทดดดด ไม่ด้ายตั้งใจปาดน้า :o12: แต่ตื่นเต้นดีใจไปหน่อยที่เห็นเรื่องใหม่ของเบบี้อะ แต่อ่านแล้วน่ารักมากกกกแบบว่าชอบอะไรที่เกี่ยวกับขนมหวาน เค้ก กับการทำอาหารพวกนี้เป็นพิเศษ ที่ชอบที่สุดก็เจ้าของร้านกับพนักงานหล่อๆนี่แหละ ฮุ ฮุ :-[
-
มาอ่าน+มาเป็นกำลังใจ
:L2: :mc4:
-
กรี๊ดใครจะเป็นพระเอกหนอ
น้องเค้กแค่ชื่อก็น่ากินแล้ว 555
-
มาเจิมเรื่องใหม่ด้วยคนจ้า
:mc4:
-
:a1: :mc3: :กอด1:
-
อุกรี๊ดส์ น้องเค้กน่าฮักขนาด
:L2: :L2:
-
มาแล้วเรื่องใหม่
อ่อย~ อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ ฮ่าๆ :L2:
-
:really2: :really2: :กอด1:
-
เรื่องใหม่ น่ารักเชียว ออกแนวใส ต่างจากเรืองก่อนๆมาก
:กอด1:
-
กรี๊ดดดดดดดดดด นิยายออกใหม่
อิอิ จะรออ่านนะคะ
-
:L2: :L2: :L2: ต้อนรับเรื่องใหม่ของคุณเบบี๋
คิวปิว จะเปงกามเทพให้กับใครมั้งน๊า
ใครหนอคือพระเอก แล้วเรื่องราวในคาเฟ่จะเปงไงต่อ..จะรอติดตามต่อไป
-
เข้ามาอ่านรอตอนต่อไปอีกรอบ เปิดฉากมาบรรยายเห็นภาพดี สถานที่ที่ว่าถ้ามีอยู่จริงๆ มันคงสวยมากๆเลยอ่ะนะ
ไม่รู้ดิ รู้สึกว่าเขียนแบบอืม...เอ็งเก่ง ฮ่าๆ ไม่ค่อยยอเลยกู (เรื่องของเรื่องจะเอาตอนต่อไปเร็วๆ)
:pig4: เบบี้ :กอด1: เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ
-
เรื่องใหม่ของคุณเบบี้รออ่านค่า
-
แวะมาส่องเรื่องใหม่ของบี้ กดเจิมให้เรียบร้อย เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่านน๊า
ตอนนี้เค้าติดซีรีย์ อีกแค่ 20 ตอนก็จบละ ^^
-
เนื้อเรื่องน่าร้ากกกกกกมากค่ะ
เรื่องนี้ต้องทำให้หิวของหวานแน่ๆเลย
น้องเค้กชื่อน่ารักจริงๆ
-
มาเสยเรื่องใหม่คุณเบบี้ด้วยคน :impress2:
อ่านแล้วเริ่มจะหิวคุกกี้ตามละ ฮ่าๆ
-
ว้าว เรื่องใหม่ น่ารักจังค่ะ อ่านไปหิวไป เค้กน่ากินนนนนนนนนนน
-
เรื่องใหม่มาแว้ววว :L2: :L2:
-
เค้ก ชื่อหน้ากินจัง
:impress2:
-
:-[ เพิ่งมาเห็นเรื่องใหม่ของคุณเบบี้
-
น้องเค้ก ><
-
รับเรื่องใหม่ของเบบี้
+1
-
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
:L2: :L2: :L2:
หอบดอกไม้มาให้บี้ ฉลองเรื่องใหม่นะจ๊ะ : )
-
เย๊ๆๆ เบบี้ลงเรื่องใหม่ให้อ่าน จะรอติดตามอย่างแน่นอน o13 o13
:z2: :z2:
-
~2~
“วี๊ดดดดดดดดดดบึ้ม!!” เฮ้อ..เชียร์จบสักที ผมรู้สึกโล่งใจในทันที สำหรับวันนี้การเรียนและกิจกรรมก็จบลงอีกวัน
“โอเคค่ะ ต่อไปพี่จะให้เลือกดาวเดือนกันนะคะ ดาวของสาขาเราได้แล้ว..ก็คือน้องพิซซ่า ตอนนี้พี่อยากให้น้องๆมีส่วนร่วมในการเลือกเดือนกันค่ะ” รุ่นพี่ปี2 พูด พวกผมมองหน้ากันไปมา
“พี่จะเสนอชื่อ มีน้องพีท น้องเอ น้องว่านและน้องเค้ก” o_O ผมตกใจทันทีที่ได้ยินชื่อของตัวเอง
“สี่คนนี้ใครที่น้องๆคิดว่าเหมาะสมนะคะ พี่ไม่ได้ต้องการแค่หน้าตา แต่พี่ต้องการการศึกษา ความประพฤติที่ดีด้วย พี่จะให้เวลาน้องๆคิด และระหว่างนี้จะให้สต๊าฟแจกน้ำให้ และเราจะมาโหวตรายชื่อกันอีกทีค่ะ”
“เหอะๆ” ผม แก้วและพีทหัวเราะกันแหยๆ
แก้วเป็นเพื่อนสนิทผมมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ส่วนพีทเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันในสาขานี้และบังเอิญว่าบ้านอยู่ใกล้ๆกันด้วยครับ พวกเราจึงสนิทกันมากเป็นพิเศษ ในสาขานี้ผมไม่ค่อยมีเพื่อนที่จะเรียกได้ว่า “เพื่อนสนิท” เยอะนัก ที่จะเห็นเด่นชัดก็มีแค่สองคนนี้เท่านั้นละครับ
พวกเรานั่งคุยกันไปเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องคัดดาวเดือนอะไรนั่น จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง..รุ่นพี่ก็กลับมายืนรวมกันอีกครั้ง
“พี่จะพูดชื่อทีละคน หนึ่งคน..มีสิทธิ์ยกมือแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะคะ”
“ขอเชิญรายชื่อสี่คนเมื่อกี้ น้องพีท น้องเอ น้องว่านและน้องเค้ก มายืนเรียงกันข้างหน้าด้วยค่ะ” ผมกับพีทมองหน้ากันแล้วก็ต้องพยักหน้าให้กันอย่างเข้าใจก่อนที่จะเดินไปยืนที่ด้านหน้าตรงที่รุ่นพี่สั่ง ผมคิดว่าการเคารพกันระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่คนไทยมีให้กันเป็นเรื่องที่ดี ดังนั้น..ไม่ว่ารุ่นพี่คนไหนจะพูดอะไรหรือทำตัวอย่างไรผมก็คิดว่าพี่เขาทำตามหน้าที่ ซึ่งทั้งนี้เองผมคิดว่ารุ่นพี่ก็ควรทำตัวให้น่าเคารพด้วยนะครับ
“ใครเลือกน้องพีท ยกมือค่ะ” ผมได้แต่ยืนเกร็ง ถามว่าอยากเป็นเดือนไหมก็ไม่อยากหรอกครับ ผมไม่ใช่คนกล้าแสดงออกอะไรและไม่ใช่คนที่สามารถสร้างเสียงหัวเราะจากใครได้ แต่พอได้มายืนอยู่ด้านหน้าเพื่อให้คนอื่นคอยเลือกแบบนี้แล้วมันก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกันนะครับ
“หึหึ” ทุกคนพร้อมใจกันหัวเราะอย่างมีเล่ห์นัย
“สิบห้าคน น้องพีทสิบห้า” รุ่นพี่บอก
“ความรู้สึกเหมือนโดนประจาน” พีทกระซิบบอกผม ผมหัวเราะตอบ
“น้องเอค่ะ ใครเลือกน้องเอยกมือค่ะ”
“ห้าคน น้องเอห้าคน”
“ฮ่าๆๆๆๆ” และพวกเพื่อนๆผมหัวเราะกันอีก รวมถึงเจ้าของชื่อด้วยเช่นกัน
“น้องว่านค่ะ ใครเลือกน้องว่านยกมือเลยค่ะ”
“หนึ่ง สอง สาม..น้องว่าน สิบคนค่ะ”
“น้องเค้ก สิบ..สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม สิบสี่ สิบห้า น้องเค้ก..สิบห้าคนค่ะ” ผมกับพีทหันมาสบตากัน โหย..มีคนชอบเราเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ไม่รู้ตัวมาก่อนเลยนะครับนี่ ผมได้แต่ฉีกยิ้มกว้างให้ทุกคนอย่างรู้สึกเขิน
“อ่ะ เท่ากันระหว่างน้องเค้กกับน้องพีท” รุ่นพี่จับผมและพีทให้ยืนแยกกันโดยมีพี่เขาคั่นอยู่ตรงกลาง
“น้องพีทได้เกรดเท่าไหร่คะ” รุ่นพี่เอ่ยถาม
“สองจุดเจ็ดครับ” พีทตอบ
“แล้วน้องเค้กได้เกรดเท่าไหร่คะ” เธอหันมาถามผมบ้าง
“เค้กเด็กทุนค่ะพี่” เพื่อนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตะโกนบอก
“เด็กทุน” รุ่นพี่อุทานตาโต ผมพยักหน้าตอบ
“งั้นพี่คงไม่ต้องทาย ไม่ต่ำกว่าสามสินะ” พี่เขายิ้มกวน
“เล่นกีฬาอะไรคะ อ่ะ..น้องพีทก่อน”
“บาส ว่ายน้ำ เทควันโดครับ” พีทตอบ ผมยืนเกร็งกว่าเดิม ตอบอะไรดีอ่ะ
“น้องเค้กล่ะ”
“ว่ายน้ำ วิ่งครับ” ผมตอบ ถ้าเรื่องกีฬาผมเล่นเป็นแค่นี้จริงๆนะครับ เอ่อ..มีเล่นเป็นอีกอย่างคือ เปตอง ขอบอกว่าเคยเป็นแชมป์เปตองเก่าด้วยนะครับ ไม่อยากจะคุย
“กิจกรรมยามว่างหรืองานอดิเรกทำอะไรคะ” พี่เขาซักถามอีก
“อ่านหนังสือ ช่วยงานที่มูลนิธิ ประดิษฐ์ของ แล้วก็เอ่อ..ทำอาหารครับ” ผมตอบ
“โหหหหหหหห..” อยู่ๆพวกเพื่อนๆก็โห่ร้องขึ้น ผมได้แต่ยืนหัวเราะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเข้าใจว่าเพื่อนส่งเสียงแบบนั้นใส่ผมทำไม แต่ผมก็ทำแบบนั้นจริงๆนี่ครับ..ไม่ได้โม้สักกะหน่อยอ่ะ
“แกจะตอบอะไรไอ้น้องพีท” รุ่นพี่หันไปถามพีทบ้าง
“กินเหล้า ช็อปปิ้ง เที่ยว” พีทตอบทำเอาทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้องขำพร้อมกัน
“โอเคคำถามสุดท้าย แต่ที่จริงก็เหมือนจะตัดสินได้แล้วนะ” รุ่นพี่พูดติดตลก
“จบไปแล้วอยากทำงานอะไร น้องพีทก่อน”
“เอ่อ ยังไม่รู้อ่ะ..” พีทตอบส่งๆ ทำเอาพวกรุ่นพี่จ้องมันเขม็ง
“ก็ผมยังไม่รู้อ่ะ ฮ่าๆๆ” พีทขำเสียงดังให้กับอาการของทุกคน
“มึงไปนั่งเหอะไอ้พีท” รุ่นพี่ผลักพีทอย่างไล่ๆ พีทเกาหัวตัวเองเก้อก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม
“ส่วนน้องเค้ก ไม่ต้องตอบแล้วค่ะ..ทุกคนเลือกหนูลูก” รุ่นพี่บอก ผมได้แต่ยืนทำหน้าเอ๋อเล็กน้อย เอ่อ..แล้วมีใครคิดจะถามผมสักคำไหมว่าผมเต็มใจจะเป็นหรือเปล่า
“ตกลงดาวของสาขาเราคือ น้องพิซซ่า และเดือนของสาขาเราคือน้องเค้กนะคะ” รุ่นพี่สรุป
“ชื่อน่ากินทั้งคู่เลย หึหึ..พรุ่งนี้เราจะเริ่มซ้อมดาวเดือน ตั้งแต่ห้าโมงถึงกี่โมงยังไม่ทราบ”
“เอ่อ คือ..เค้กมีทำงานพิเศษอ่ะครับ” ผมบอกก่อน
“...............” รุ่นพี่ชะงักไปและมีสีหน้าเริ่มตึงเครียด
“แต่ยังไม่รู้ตารางงาน เอ่อ..”
“เอางี้ บ้านเค้กอยู่ไกลไหม” พี่แกถาม
“ก็ไม่ไกลมากอ่ะครับ” ผมตอบ
“เค้กกลับบ้านดึกได้รึเปล่า เฉพาะช่วงนี้น่ะ..ซ้อมดาวเดือนแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ พอขึ้นประกวดก็หมดงานแล้ว”
“อืม ได้ครับ..แต่เค้กขอไปคุยกับเจ้าของร้านก่อนนะครับ แล้วเค้กจะมาบอกพี่” ผมบอก
“อืมได้ เมมเบอร์พี่ไปก็แล้วกันนะ”
“พี่จ้านะครับ” ผมย้ำถามพร้อมกับบันทึกเบอร์มือถือของพี่เขาด้วย
“เอาละค่ะ วันนี้ขอบคุณน้องๆมากๆเลยนะคะ..เจอกันพรุ่งนี้หลังเที่ยง เจอกัน..ห้ามสาย ถ้าสาย..น้องๆก็ต้องรู้นะคะว่าจะเจออะไรบ้าง” รุ่นพี่ตะโกนบอกเพื่อให้เสียงดังทั่วถึงทุกคน
“โอเคค่ะ สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“ไปไหนต่อ เหล้าหน้ามอเปล่า” พีทถามขึ้น
“ไม่อ่ะ วันนี้ทำงานพิเศษ” ผมตอบ แต่ถึงที่จริงผมไม่มีงานพิเศษ ผมก็ไม่ไปหรอกครับ มันเปลืองเงินน่ะ
“เริ่มวันนี้เหรอ” แก้วถาม
“อื้ม ตื่นเต้นอ่ะ..เราไปก่อนนะ” ผมยิ้ม
“อ่าว เฮ้ย..ร้านอยู่แถวไหน ไปส่งไหม” พีทรีบถาม
“ไม่ต้องอ่ะ ขึ้นรถเมล์ไปแค่ป้ายเดียวเอง..อีกอย่าง มันเข้าไปซอยลึกมากด้วย อยู่แถวบ้านเด็กกำพร้าที่กูชอบไปอ่ะ” ผมบอกเพื่อนสนิททั้งสองคน
ร้านคิวปิดอยู่ในย่านของหมู่บ้านคนมีเงิน ที่ผมไปแถวนั้นได้เพราะผมไปช่วยงานที่มูลนิธิเด็กกำพร้าอยู่เป็นประจำ ที่จริงบ้านเด็กกำพร้าตรงนั้นเคยจะถูกรื้อแล้วครั้งหนึ่ง แต่มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ..คุณดวง ที่เพิ่งมาสร้างบ้านอยู่แถวย่านนั้นมาขอซื้อต่อและอาสารับดูแลบ้านเด็กกำพร้านี้ไว้ ทำให้ตรงนั้นมีแค่บ้านเด็กกำพร้าที่เดียวเท่านั้นที่ดูจน เพราะรอบๆบ้านเด็กกำพร้าเต็มไปด้วยบ้านของผู้ดีมีเงิน ไฮโซทั้งหลายแหล่เต็มไปหมด
“อ๋อ ร้านคิวปิดอะไรนั่นอะนะ” แก้วถาม
“อื้อ” ผมพยักหน้าตอบ
“อย่าลืมขนม” แก้วเตือนถึงถุงขนมที่แก้วเอามาฝาก ผมรีบหยิบถุงขนมมา
“ไปละ ขอบใจนะ เจอกัน..บาย” ผมโบกมือบ๊ายบายเพื่อนทั้งสองก่อนจะรีบวิ่งไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อเดินทางไปทำงานวันแรกในทันที
= = = = = = = =
ปึก !!
“อ่ะ ขอโทษครับ” ผมรีบก้มเก็บของของอีกฝ่ายที่ตกอยู่บนพื้นให้ในทันที
“นี่ครับ” ง่ะ..ผมชะงักกับคนตรงหน้า
“...............” ผมยืนนิ่งมองอีกฝ่ายที่กำลังจ้องมองผมด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ นั่นคงเป็นเพราะเมื่อกี้ผมมัวแต่เดินอ่านหนังสือจนทำให้ไม่ได้มองทางข้างหน้าและชนกับคนคนนี้เข้า
“ขอโทษครับ” ผมผงกหัวกล่าวขอโทษอีกครั้ง อีกฝ่ายรับหนังสือของตัวเองจากมือผมไปแล้วเดินจากไปซะเฉย ไม่กล่าวคำพูดใดๆทั้งสิ้น
“เหอะๆ” ผมได้แต่หัวเราะกับตัวเองอย่างงงๆ ผู้ชายคนนั้นหน้าตาก็ดีแต่มนุษย์สัมพันธ์แย่ชะมัด แค่เดินชนแค่นี้ไม่เห็นจะต้องหน้าบึ้งขนาดนั้นเลย แต่ก็ช่างมันเถอะ วันนี้เราอารมณ์ดี ไม่โกรธใครหรอก..
กริ๊ง~
“สะ สวัสดีครับ” ผมกล่าวทักทายทุกคนในร้าน
“สวัสดีจ้ะ กัส..พาเค้กเข้าไปพบพี่ฟ้าเลย” พี่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ที่เคาร์เตอร์คิดเงินบอกใครสักคนที่ผมไม่รู้จักและที่จริงผมก็ไม่ได้รู้จักเธอด้วย แต่ผมเห็นเธอเมื่อวานนี้ ผมยืนยิ้ม..ผู้ชายตัวเล็กหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม
“ตามมาเลยครับ” อีกฝ่ายยิ้มบอก ผมพยักหน้ายิ้มตอบและเดินตามไป
ก๊อก ๆ ๆ
“พี่ฟ้าครับ”
“อ่าว มาแล้วเหรอ” พี่ฟ้าทัก ผมยกมือไหว้พี่เขาทันที
“ขอบใจนะกัส ไปทำงานต่อเถอะครับ” พี่ฟ้าบอกพี่คนที่พาผมมา ผมหันไปผงกหัวยิ้มให้พี่เขาเป็นการขอบคุณ พี่เขาก็ยิ้มตอบให้แล้วเดินออกจากห้องไป พี่ฟ้ายืนยิ้มจ้องมาที่ผมทำให้ผมต้องยิ้มให้และไม่กล้าทำอะไรมากกว่านั่น
“มาให้พี่วัดตัวก่อนครับ” พี่ฟ้าบอก ผมพยักหน้ารับ พี่ฟ้าหยิบเครื่องไม้เครื่องมือมา ผมเอากระเป๋าไปวางไว้บนเก้าอี้และยืนนิ่งให้พี่ฟ้าวัดตัว ไม่นานเท่าไหร่พี่ฟ้าก็จัดการวัดตัวให้เสร็จ
“ชุดน่าจะได้ประมาณอาทิตย์หน้านะครับ ส่วนวันนี้พี่จะแนะนำงานให้..แต่วันอื่นๆ ออฟจะเป็นพี่เลี้ยงให้ โอเคไหม”
“ครับ” ผมตอบ
“ขอพี่ดูเวลาเรียนหน่อยครับ” พี่ฟ้าบอกหลังจากที่พี่เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ผมรีบหยิบสมุดบันทึกออกมาแล้วยื่นไปให้ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงกันข้าม
“อืม เค้กมีปัญหาเรื่องเวลาอะไรไหม”
“ครับ ก็มีรับน้องตอนช่วงเย็นๆของวันอังคาร พุธและก็พฤหัส แต่เอ่อ..ผมไม่ต้องไปซ้อมแล้ว แต่ต้องไปซ้อมการแสดงแทน บางทีต้องอยู่ถึงดึกเลยอ่ะครับ ขอโทษด้วย..คือผมเพิ่งรู้มาวันนี้เอง” ผมบอก
“งั้นเอาเป็นวันจันทร์ วันศุกร์ พี่ขอเป็นตั้งแต่บ่ายสามโมง วันจันทร์ถึงทุ่มครึ่ง ส่วนวันศุกร์ถึงสองทุ่มครึ่ง..ได้ไหมครับ” ผมรีบพยักหน้าตอบทันทีเพราะเกรงใจ และรีบหยิบสมุดบันทึกอีกเล่มออกมาจดรายละเอียดทุกอย่าง
“ส่วนวันเสาร์พี่ขอเป็นแปดโมงเช้า ถึงห้าโมงเย็น ไหวรึเปล่าครับ” พี่ฟ้ายิ้มถาม
“ไหวครับ” ผมตอบทันที พี่ฟ้าหยิบถุงบางอย่างออกมาให้ผม ผมรับมาดูเป็นถุงผ้าที่เป็นโลโก้ของทางร้าน เป็นถุงสีน้ำตาลเข้มเนื้อผ้าดีและใบใหญ่พอสมควร
“เวลาที่เค้กได้พัก แล้วเค้กอยากออกไปซื้ออะไรมาทาน ให้ใช้ถุงนี้ตลอด..เราสั่งทำถุงนี้เฉพาะให้พนักงานนะครับ”
“แล้วก็..มีทางเดินเข้าสองทางคือด้านหน้าร้านให้เดินเลาะไปตามบล็อกด้านซ้ายมือเท่านั้น ห้ามเดินเข้าทางด้านประตูหน้าร้านเด็ดขาด หรือจะเข้าทางประตูหลังร้านเลยก็ได้ ด้านหลังมีทางเข้าอยู่ รถของพวกพี่ก็จอดอยู่หลังร้านแหละ และห้ามให้ลูกค้าเห็นอาหารที่เค้กซื้อมา ทุกครั้งให้ใช้ถุงผ้านี้ด้วยนะครับ” พี่ฟ้าบอก ผมพยักหน้ารับ
“ทางร้านมีWiFiให้พนักงาน ถ้าเค้กจะเอาโน้ตบุ๊กมาเล่นรอเวลาเข้างานก็ได้..ส่วนนี่รหัส” พี่ฟ้ายื่นการ์ดมาให้ เป็นการ์ดที่มีโลโก้ของทางร้านอีกเช่นกัน เป็นบัตรแข็งที่ออกแบบได้หรูหราทีเดียว แต่ประทานโทษนะครับ คือว่าผม..ไม่มีโน้ตบุ๊กอ่ะ แต่ได้รหัสมาก็ดีเพราะว่ามือถือเล่นอินเตอร์เน็ตได้ เครื่องนี้เพิ่งไปถอยมาใหม่ แม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด มือถือราคาหมื่นกว่าบาทนี่ถือว่ามีราคาแพงสำหรับผมแล้วนะครับ อย่างนี้นี่ผมก็คงจะใช้จนกว่ามันจะพังเลยล่ะ
“แต่ถ้าลูกค้าจะเล่น ร้านเราจะขายให้ชั่วโมงละยี่สิบ แต่ละครั้งถ้าลูกค้าต้องการให้เค้กแจ้งที่ซีได้เลยนะครับ..ซีเค้าจะให้รหัส และจะลงบิลของโต๊ะนั้นเอง”
“ร้านของเราลูกค้าจะไม่เยอะมาก เอ่อ..ประมาณว่า จะไม่มีเวลาไหนที่เยอะจนวุ่นวายน่ะ ลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนมีเงิน ไฮโซซะส่วนมาก ดังนั้นเจออะไรเรื่องมากก็อดทนหน่อยก็แล้วกันนะ” พี่ฟ้ายิ้มให้เล็กน้อย ผมได้แต่พยักหน้ารับรู้
“พนักงานทุกคนถูกฝึกมาหมดแล้ว แล้ว..พี่ก็ถือเรื่องมารยาทในการบริการเป็นสำคัญนะครับ และถ้าไม่จำเป็น..เรื่องลูกค้าเราจะไม่พูดถึง” ผมนั่งรับฟังอย่างตั้งใจ
“คนที่ดูเคาร์เตอร์คิดเงิน และดูแลบัญชีจะเป็นแค่พี่กับซีที่แลกเปลี่ยนหน้าที่กันเท่านั้น” พี่ฟ้าพูดอธิบายด้วยสีหน้าจริงจังผิดจากก่อนหน้านี้ถนัด
“ส่วนเชฟเบเกอรี่จะมาทำประจำ ถ้าทำเสร็จตามปริมาณแล้วก็จะกลับตามเวรของแต่ละคน ซึ่งก็แล้วแต่..ทางร้านเรามีเชฟอยู่สองคน ชื่อคิวกับเซ็นเป็นบาริสต้าด้วยเป็นเชฟด้วย..มันเป็นทุกอย่าง เดี๋ยวก็คงได้เจอ กระดานตารางงานรวมจะอยู่ในห้องพักสำหรับพนักงาน..ถ้ามาทำงานแล้วอยากรู้ว่าต้องเจอใครบ้างก็เช็คจากตรงนั้นได้เลยครับ” พี่ฟ้าอธิบาย ผมพยักหน้า
“และเนื่องจากว่าร้านเราลูกค้าไม่พลุกพล่าน และก็เอ่อ..ถ้ามีออร์เดอร์ตามสถานที่ต่างๆก็จะมีการสั่งล่วงหน้า เราก็ต้องกรองงานด้วย..ไม่ได้รับทุกงานไปน่ะ ดังนั้น พนักงานต้องเนี๊ยบมากในการดูแลลูกค้าแต่ละโต๊ะ จะมีหมีคนเดียวที่มาร้านเป็นประจำทุกวันยกเว้นวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าเวลาที่พี่ไม่อยู่ เค้กมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาหมีได้เลย ดูดุหน่อย..แต่ที่จริงแล้วก็ เอ่อ..ก็ดุอะนะ หึหึ” พี่ฟ้าหัวเราะ ผมยิ้มตาม
“ส่วนพนักงานคนอื่น ก็มีเรียนเหมือนเค้กนั่นแหละ เลยต้องสับเปลี่ยนเวลากันไปแล้วแต่จะสะดวก”
“พี่ไม่ได้รับพนักงานเยอะหรอกนะ พี่ไม่ชอบ..นอกจากหมีและเชฟอีกสองคนแล้ว ก็จะมีพนักงานอีกแค่สามคน รวมเค้กด้วยก็เป็นสี่คน งานไม่หนัก อยู่กันเหมือนพี่เหมือนน้อง..มีปัญหาอะไรก็มาคุยกับพี่ได้เลยนะครับ”
“ครับ” ผมพยักหน้ารับ
“แต่งานของเค้กจะไม่ตายตัวนะครับ พี่จะสอนให้เค้กเรียนรู้ ทั้งเรื่องรับอาหารจากเชฟ ชงกาแฟเบื้องต้นตามสูตรของทางร้าน เป็นเด็กเสิร์ฟ พนักงานต้อนรับ รวมถึงเวลาเก็บอาหารด้วย..เพราะเค้กจะต้องเวียนเวรกับพนักงานอีกสามคนที่มีกะไม่เหมือนกัน ทุกคนจะต้องทำพวกนี้เป็น เข้าใจไหมครับ..มีคำถามตรงไหนไหม”
“ไม่ครับ” ผมตอบ
“เออ มีป้าทำความสะอาดอีกคน ชื่อป้านิด..จะมาทำความสะอาดทุกอย่าง เก็บ กวาด เช็ด ถูในสิ่งที่จำเป็น ทุกวันพุธและวันอาทิตย์ ส่วนสวนของร้านสำคัญกับร้านเรามาก ถ้าเค้กเห็นว่าสวนมีอะไรผิดปกติ หญ้า ดอกไม้หรืออะไรอย่างนี้ก็ให้แจ้งพี่ได้เลย เพราะทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์จะมีคนสวนมาคอยดูแล และทุกวันเราจะแบ่งเวรพนักงานรดน้ำต้นไม้ด้วยนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“ได้ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“ส่วนเรื่องค่าแรง พี่เริ่มให้เค้กก่อนสามพันแปด เค้กโอเคไหม..คงจะต้องเป็นช่วงทดลองงานไปก่อน” พี่ฟ้าถาม ผมนั่งนึกถึงเงินที่ได้จากแม่ แม่ให้เงินผมใช้เดือนละสี่พันห้าบวกค่าแรงอีกสามพันแปด โอเคเลยล่ะครับ เพราะตอนนี้ผมใช้เงินแค่ส่วนที่แม่ให้ในแต่ละเดือนก็ใช้พออยู่แล้ว ที่จริงที่ผมมาทำงานก็เพราะอยากช่วยแบ่งเบาภาระแม่เวลาที่ผมอยากได้เงินไปซื้อของอะไรที่ค่อนข้างมีราคา แต่ส่วนสำคัญที่สุดมันอยู่ตรงที่ผมได้อยู่ทำงานในร้านเค้กนี่แหละครับ
“พี่คิดเป็นชั่วโมงแต่ก็บวกเพิ่มให้ไปส่วนหนึ่ง เค้กทำอาทิตย์ละยี่สิบเจ็ดชั่วโมง ราคานี้โอเคไหมครับ ส่วนเรื่องทิปจะเป็นกองกลางและหารอีกครั้งเมื่อถึงสิ้นเดือน..สองหน้าที่ที่เค้กไม่ต้องทำคือ ทำอาหารกับรับออร์เดอร์ คนรับออร์เดอร์จะมีกัสที่พูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนหมีและออฟจะรับออร์เดอร์จากลูกค้าชาวไทยซะส่วนมาก แต่เค้กก็ต้องเรียนรู้เมนูทุกอย่างไว้ด้วย เพราะยังไงก็ต้องประสานงานร่วมกัน..ส่วนถ้าเจอลูกค้าชาวต่างชาติคนอื่นเวลาที่กัสไม่อยู่ ก็ให้ตามซีหรือหมีแทนก็ได้นะครับ” พี่ฟ้าพูดบอก ผมรีบพยักหน้าอย่างเข้าใจในทันทีเพราะถึงผมจะเป็นเด็กทุนและเรียนภาษาอังกฤษได้คะแนนดีมากแต่การพูดภาษาอังกฤษของผมค่อนข้างแย่มากทีเดียว
“เดี๋ยวออกไปรู้จักกับทุกคนหน่อยแล้วกัน แล้วค่อยเรียนรู้กันเรื่องอื่นๆ” พี่ฟ้าลุกขึ้นยืนบอก ผมรีบลุกตาม
“นี่กุญแจล็อกเกอร์ คนนึงจะได้สองล็อกเกอร์ เก็บดีๆล่ะ..และก็นี่ระเบียบของร้านเรา เก็บเอาไว้ไปอ่านที่บ้านก็ได้ครับ” พี่ฟ้ายื่นกุญแจกับกระดาษมาให้ผม
“เอาของไปเก็บก่อนแล้วกัน” พี่ฟ้ายิ้มและเดินนำออกจากห้องไป พี่ฟ้าพาผมไปที่ห้องห้องหนึ่งเป็นห้องพักสำหรับพนักงานโดยเฉพาะ เดินตรงเข้าในด้านในจะเป็นอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องล็อกเกอร์คล้ายกับห้องแต่งตัวด้วยในตัว ผมนำกระเป๋าของผมเก็บไว้เสร็จก็เดินตามพี่ฟ้าออกไปที่หน้าร้าน พอพี่ฟ้าเห็นว่าไม่มีลูกค้าอยู่ในร้านแล้ว พี่ฟ้าจึงเรียกทุกคนให้มายืนรวมกัน ทุกคนยืนเรียงกันเป็นระเบียบทันทีอย่างไม่ต้องเอ่ยปากสั่งสักคำ
“นี่ซี อยู่ปี3 เป็นฝ่ายบัญชีกับดูแลบิลค่าอาหารทุกอย่าง” พี่ฟ้าแนะนำ ผมยกมือไหว้ผู้หญิงหน้าตาคมสวยคนนี้ อีกฝ่ายยิ้มตอบกลับให้เช่นกัน
“ส่วนนี่หมี..” ผมรีบยกมือไหว้ทันที พี่หมีพยักหน้าตอบกลับให้ คนนี้ชื่อพี่หมีสินะ ผู้ชายที่ปะทะคารมกับพี่ฟ้าในวันนั้น หน้าตาดุเป็นบ้าเลยละครับ
“ส่วนนี่กัส..เรียนอยู่ปี2 มอเดียวกับเค้กนั่นแหละ” ผมยกมือไหว้พี่ผู้ชายหน้าตาน่ารักที่เป็นคนพาผมมาหาพี่ฟ้าเมื่อกี้นี้ อีกฝ่ายยิ้มกว้างตอบกลับให้ผมอย่างกับเด็ก
“คนนี้ชื่อออฟ ปี4 เรียนอยู่มหาลัยT” พี่ฟ้าแนะนำผู้ชายคนสุดท้าย คนที่ผมเจอในตอนแรกเมื่อวันที่ผมมาสมัครงาน หน้าตาดี อัธยาศัยก็ดีไม่ผิดหน้าตาเลยสักนิด
“ส่วนนี่เค้ก..ปี1 พนักงานใหม่ของร้านเรา พี่จะให้ออฟเป็นพี่เลี้ยงให้เค้ก สอนงานให้เค้ก มีอะไรก็ช่วยหน่อยก็แล้วกันนะ” พี่ฟ้าหันไปบอกพี่ออฟ พี่ออฟพยักหน้ารับก่อนจะหันมายิ้มให้ผม
“เอาเป็นว่า รู้จักกันทุกคนแล้วนะ..หวังว่าจะทำงานร่วมกันได้ดี รุ่นพี่เองก็เทคแคร์น้องด้วยล่ะ” พี่ฟ้าบอก
“พี่จะออกไปกินข้าวหน่อย ระหว่างนี้ก็พูดคุยเรียนรู้กันไปก่อน เดี๋ยวพี่มานะครับเค้ก..แล้วเดี๋ยวเรามาเรียนรู้งานกันต่อ” พี่ฟ้าบอกผม
“ครับ” ผมตอบ พี่ฟ้าเดินออกจากร้านไป ผมหันไปยิ้มให้พวกพี่ๆเขาอีกครั้ง
“เค้กเรียนอยู่มอYเหรอ คณะอะไรอ่ะ” พี่กัสเดินตรงเข้ามาหาผมทันที
“อยู่การท่องเที่ยวครับ” ผมตอบ
“แล้วพี่อยู่คณะอะไรอ่ะครับ” ผมถามพี่กัสกลับบ้าง ผมอยากทำความรู้จักกับทุกคนเร็วๆ ผมชอบที่ได้รู้จักคนใหม่ๆเสมอ ผมว่าช่วงเวลาที่ได้ถามว่า “ชื่ออะไรเหรอ” “เรียนที่ไหนล่ะ” “เป็นอย่างไรบ้าง” มันเป็นประโยคที่น่าตื่นเต้นสำหรับผมมาก เวลาที่ได้รอคำตอบเพียงไม่กี่วินาที มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับผมมากเลยละครับ
“คณะมนุษย์” พี่กัสยิ้ม
“ตาสวยจัง” พี่ซีเดินเข้ามามองจ้องหน้าผม ผมผงะเล็กน้อย
“ตาเป็นสีน้ำตาลอ่ะเค้ก” พี่ซีพูดเสียงดัง
“ไหน” ทุกคนพูดพร้อมกับเข้ามาจ้องผมกันเป็นตาเดียว ที่จริงตาผมไม่ได้ออกสีน้ำตาลชัดแต่มันเป็นสีดำขุ่นๆผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมีสีแบบนั้นเหมือนกัน
“ต่อไปนี้ก็คงต้องระวังๆตัวหน่อยแล้วกัน” อยู่ๆพี่หมีหน้าโหดก็พูดขึ้น
“เหอะๆ” ทุกคนหัวเราะแหยๆ ผมมองอย่างไม่เข้าใจ
“อะ..อะไรเหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัยว่าพี่เขาได้หมายถึงผมด้วยหรือเปล่า
“เหอะๆ” ทุกคนหัวเราะพร้อมกันอีกครั้ง
“บางทีน่ารักเกินไปก็ไม่ดีนะ มันอันตรายน่ะ” พี่ออฟพูด ผมยังคงยืนงงว่าทุกคนพูดถึงเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ
“ฮัลโลววววววววว ทุกคนนนนนน~” ทุกคนหันไปมองตามเสียงกันเป็นตาเดียว ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทางประตูร้าน
“เสียงดังอ่ะพี่ ดีนะไม่มีลูกค้า..เดี๋ยวอาก็ว่าเอาหรอก แล้วเข้ามาทางหน้าร้านทำไมเนี่ย..ฮื้ม” พี่ซีว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก
“หวัดดีจ้ะที่ร้าก” ผมยืนมองผู้ชายหน้าตาดีแต่กลับดูติงต๊องที่กำลังเดินยิ้มเข้ามาทักทายทุกคนอย่างร่าเริง
“โอ๊ะ สวัสดีครับ” อีกฝ่ายชะงักมองผม ผมพยักหน้าตอบให้
“..............” อยู่ๆทุกคนก็เงียบไป พี่ผู้ชายคนนี้ก็ยังคงยืนจ้องหน้าผมเขม็ง ผมจึงยิ้มตอบให้พี่เขาเล็กน้อย
“หึหึหึ” เอ่อ..ทำไมทุกคนหัวเราะเสียงแบบนี้ล่ะ ผมได้แต่คิดเพราะไม่กล้าถามออกไป
“พี่ชื่อเซ็นครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” อีกฝ่ายยื่นมือขวามาทางผม
“น้องชื่อเค้ก” พี่ซีปัดมือพี่เซ็นคนนี้ออกทันที
“อ๋อ พนักงานใหม่ใช่ไหมครับ”
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“พี่เป็นเชฟเบเกอรี่ของที่นี่ครับ” อีกฝ่ายแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้
“ไหว้คนหล่อเถอะจ้ะ” อีกฝ่ายจะเข้ามาจับมือผมอีก
“หยุดเลยนะพี่เซ็น นิสัยแบบนี้อีกละ” พี่ซีจับมือพี่เซ็นออกอีกครั้ง
“คนนี้ชื่อพี่เซ็น เป็นพี่ชายของพี่เองจ้ะ มีปัญหาโดนลวนลามอะไรก็มาฟ้องพี่ได้เลยนะ” พี่ซีบอก ผมมองหน้าพี่ซีกับพี่เซ็นสลับไปมา หน้าตาไม่ค่อยคล้ายกันเท่าไหร่นักแต่มีสีผิวที่เหมือนกันเลย
“พี่ไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า” พี่เซ็นพูด
“แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว” พี่หมีสั่ง
“เค้กตามพี่มา” พี่ออฟเรียก
“ไปด้วย” พี่เซ็นทำเสียงลั่นล้าเดินตามตูดผมมาด้วยอีกคน
“พี่เซ็น ไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้เลยนะ” พี่ซีขึ้นเสียงปราม
“จ้า น้องสาวก็..นิดหน่อยเองอ่ะ”
“น้องเค้กครับ” ผมหันกลับไปมองพี่เซ็น
“มีแฟนรึยังครับ” อีกฝ่ายถาม
“.............” ผมยืนเงียบ อ้าปากค้างมองหน้าพี่เซ็น
“แบบว่า..น่ารว๊ากอ่ะ” พี่เซ็นยิ้มพูดแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงผม ผมที่เป็นครั้งแรกที่โดยผู้ชายพูดใส่แบบนี้
“อย่าไปใส่ใจ ตอนกัสเข้ามาใหม่ๆ ก็โดนแบบนี้เหมือนกัน” พี่ออฟตบไหล่ผมเหมือนต้องการให้กำลังใจ
“พี่เค้า..” ผมชี้ไม้ชี้มือมั่วไปหมด แบบว่า..ทำตัวไม่ถูก
“เป็นไบน่ะ ระวังๆไว้หน่อยก็ดี มือถึงตลอด..แต่ก็ เอ่อ..ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอก ทำใจหน่อยก็แล้วกันนะ” พี่ออฟบอกด้วยหน้าตาที่เหมือนเอือมพี่เซ็นสุดๆ
หลังจากนั้นพี่ออฟได้ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงที่ดี สอนผมเรื่องการเสิร์ฟอาหาร การถือถาด เรื่องมารยาท คำพูดเมื่อลูกค้าเข้าร้าน นั่นจะต้องพูดขึ้นพร้อมกันเป็นอัตโนมัติและต้องพูดให้พร้อมกันด้วยละครับ พี่ออฟแนะนำหน้าที่ประจำของแต่ละคน ส่วนหน้าที่ที่ต้องสับเปลี่ยนเวียนไปแต่ละคนจะต้องรู้ว่าต้องทำอะไรด้วยตัวเองอย่างไม่ต้องให้ใครมาสั่ง การฟังคำสั่งของแต่ละคนก็ควรยอมรับในคำสั่งนั้นๆถึงแม้ว่านั่นจะไม่ใช่เจ้านายของเราก็ตาม คนที่เป็นใหญ่รองจากพี่ฟ้าและเชฟก็คือพี่หมี พี่หมีสามารถตัดสินใจแทนพี่ฟ้าได้เมื่อพี่ฟ้าไม่อยู่ร้าน จากที่ฟังๆดูแล้วงานก็คงไม่หนักอะไรมาก เพราะลูกค้าจะไม่เยอะเหมือนร้านอาหารทั่วไปที่คนฐานะกลางๆจะทานได้ การเก็บกวาดเช็ดถูโต๊ะ ล้างจาน ทำความสะอาดหลังร้านปิดเป็นสิ่งที่ต้องทำโดยที่ต้องรู้โดยจิตสำนึกของตัวเอง ส่วนคนทำความสะอาดกับคนทำสวนหลักๆก็มีอยู่แล้ว ตอนนี้สามคนที่ผมยังไม่ได้เจอก็คือเชฟอีกคน ป้าคนทำความสะอาดและคุณลุงคนทำสวน
“เป็นไงบ้าง โอเคไหม” พี่ฟ้าเดินเข้ามาตบไหล่ผมสองสามที
“ได้ครับ” ผมยิ้มตอบ อยู่ๆพี่เขาก็กอดไหล่ผมเข้าไป
“อะแฮ่ม” พี่หมีกระแอมคอ
“ชิ” พี่ฟ้าจิปากแต่ก็หันมายิ้มกว้างให้ผม
“ไงบอส” พี่เซ็นเดินออกมา ตอนนี้พี่เขาใส่ชุดเชฟแล้ว ดูดีไปอีกแบบหนึ่งเหมือนกัน ผมยิ้มมองชุดของพี่เขา มันดูเยี่ยมและเท่เป็นบ้า
“มาแล้วเหรอไอ้ตัวดี” พี่ฟ้าปล่อยผมออกทันทีก่อนจะเดินไปตบหัวพี่เซ็น
“หึหึ..สายนิดเดียวเองอ่ะ” พี่เซ็นบ่นพร้อมลูบหัวตัวเองปรอยๆ
“ไอ้คิวเหวี่ยงไปแล้ว เดี๋ยวคราวหน้ามันมา อย่าหาว่าไม่เตือนล่ะ” พี่ฟ้าว่าคิ้วขมวด
“หึ ไอ้นี่ก็เหวี่ยงตลอดอ่ะ มันไปไหน” พี่เซ็นยิ้มอย่างไม่สนใจอะไร
“หนีไปแล้ว รอบหน้ามาช้าอีก เดือนนี้อาจะหักเงินเดือนจริงๆด้วย” ผมชะงักกับคำว่า “อา” จากปากของพี่ฟ้า แต่ก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมพี่เขาถึงแทนตัวเองแบบนั้น
“หึ ได้เลยครับบอส” พี่เซ็นก้มหัวลงให้พี่ฟ้าอย่างทีเล่นทีจริง ผมได้แต่อมยิ้มเพราะไม่คิดว่าหนึ่งในเชฟจะเป็นคนเฮฮาอย่างนี้
“..............” ทุกคนต่างเงียบ พี่เซ็นหันมาจ้องผมอีกครั้ง สายตาของพี่เขาทำให้ผมรู้สึก...กลัว T_T
แปะ !
“โอ้ย..บอส ไรเนี้ย” พี่เซ็นร้องพร้อมกับเอามือจับตาตัวเองที่โดนพี่ฟ้าตีเข้าให้
“เด็ก..สิบแปด” พี่ฟ้าพูดเสียงเข้ม
“หึ ก็ว่าไป” พี่เซ็นหันมายักคิ้วให้ผมแล้วเดินกลับเข้าครัวไปซะเฉย
“ระวังไว้ก็ดีนะ” พี่ฟ้าหันมาบอกผม
“ระวังมันทั้งสองคนนั่นแหละ” พี่หมีพูดขึ้นหน้าตาย
“บู~” พี่ฟ้าทำเสียง ตากลอกไปกลอกมาอย่างทีเล่นทีจริงอีกคน
“เดี๋ยวก็ชิน แต่..” พี่กัสพูดขึ้น ผมหันไปมองอย่างสนใจว่าพี่เขาจะพูดอะไร
“ต้องใช้เวลาสักหน่อย” พี่กัสพยักหน้าอย่างให้กำลังใจผมอีกคน
“ครับ” ผมยิ้มตอบ ถึงจะงงไปสักหน่อย แต่ก็เข้าใจอะนะว่าพี่กัสหมายความว่ายังไง
ดูๆไปร้านนี้ค่อนข้างจะเข้าขั้นแปลก แต่ก็..โอเค ผมพอรับไหว..ผมน่าจะปรับตัวได้ในไม่ช้า – มั้งครับ
.................>>>><<<<....................
-
เม้นซ้ำอีกครั้งว่า พระเอกคือที่น้องเค้กนี่ที่เดินชนมั้ยยย :z2:
-
เชฟอีกคนนี่ใช่ที่เค้กเดินชนรึป่าว :z2:
ตามดูกันต่อไป
-
อ่านแล้วอยากกิน(น้อง)เค้กค่ะ
-
:mc4: ได้อ่านแล้ว ขอ(น้อง)เค้ก 1 ที่ค่ะ :z2:
-
เค้กก้อนนี้น่าหม่ำสุดๆ ฮ่าๆ :o8:
รอตอนต่อไป อร๊ายยยยยย
-
พระเอก คนไหน?
แต่ ขอทุกคนเลยได้ไหม
ร๊ากกกทุกคน เอิ๊กๆๆๆ :o8:
-
+1 อีกรอบ
-
:z3:น่าลุ้นๆ
-
ป้าเบมาด้วยเรื่องใหม่ไฉไลกว่าเดิม
เราจะรอดูคิวนะอิอิ
-
เรื่องใหม่พี่บี้เพิ่งเข้ามาจัดเต็มแหะ ไอเราเล้าล่มตอนเราอ่านอยู่ค้างเติ่งเลย
เริ่มเรื่องก้อน่ารักเลยร้านนี้เค้าเฮอากันจริง ไอผู้ชายที่ชนนี่ใครกันรออ่านตอนต่อไปจร้า
+1ให้เลย
-
น้องเค้กน่ารักมากกกกกก ><
ตอนนี้ลุ้นมากว่าใครจะเป็นพระเอกของน้องเค้ก
ขณะนี้มีผู้เข้าท้าชิงคือพี่ฟ้า เซ็น คนที่เดินชน? และพีท?
รอลุ้นกันต่อไปค่า :impress2:
ปล.+1 อีกรอบค่ะ :D
-
เรื่องใหม่มาแล้ว น่าร๊ากกกกอ่า :o8:
-
เย้~ นิยายใหม่เจ้เบบี้ ฉลองๆๆ
เรื่องดูใสๆ น่ารักดีอ่ะ ไม่เหมือนอิพี่เมตร
อันนั้นออกแนวมอมเมา(เค้า)เยาวชน ก๊ากกก
เค้ก เค้ก เค้ก เห็นชื่อแล้วอยากกิน (หื่น)
แต่ไม่เข้าใจอ่า ทำทุกคนชอบหัวเราะแบบ
มีเลศนัยใส่เค้กด้วย แล้วตาสีน้ำตาลทำไมหรอ
-
คิว เป็นพระเอกอ๊ะเปล่าเนี่ย อ๊ายยย>///<
-
รอพระเอกมากินน้องเค้กนะครับผม
-
น้องเค้กชื่อน่ากิน และมีคนจ้องอยากกินด้วยสินะ :z1:
-
พระเอกคือน้องออฟอ๊ะป่าว :-[
-
ย้ากกกกกกกกกกกกกกกเรื่องใหม่มาแล้ววววว
ดีใจมากๆๆๆ T^T ชื่อตัวน่ารักอีกแล้ว น่ากินเชียว
แต่ใครพระเอกหว่าลุ้นๆๆๆๆๆ
-
เรื่องใหม่เบบี้ นายเอกชื่อน่ารักจัง ~น้องเค้ก~
พระเอกรู้สึกสูสีกันหลายคน พี่ฟ้า พี่หมี พี่เซ็น พี่ออฟ
แต่ทายว่าพระเอกน่าจะเป็นคนที่น้องเค้กชน o13
-
+1 ให้เรื่องใหม่ ของเบบี้
น้องเค้กนี่น่ารักดีแท้ o13
-
แล้วใครคือตัวเอกของเรื่อง แต่ที่แน่ๆคือน้องเค้ก แล้วตัวพีเอกละ ชอบหลายคนจังเลย
ทะลึ่งตึงตังห้อต้องเป็นเซ็น และดูอบอ่นน่าจะเป็นฟ้า และอีกคนที่น่าสนใจคือหมี ยังไม่มี
บทบามาก แต่ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวครับ ขอบใจน้องเบบี๋นะครับ ที่นำเรื่องราวน่ารักๆๆ
มาเล่าสู่พี่น้องชาวเล้าเป็ดได้อ่านกันอย่างสนุก
ปล.เอาใจช่วยเพื่อนพี่น้องที่น้พท่วมนะรับ อดทนอีกหน่อยแล้วทุกอย่างคงจะดีขึ้น :3123:
-
อร๊ายยยย อยากอ่านต่อไวๆ o13
-
คิวเป็นพระเอกรึป่าวน้าา
คงเป็ยคนที่เหวี่ยงสุดๆ
-
อ่านแล้วลุ้นอะ..ว่าพระเอกจะเป็นใครหว่า??
น่าสงสัย น่าสงสัย จิงๆๆฮ่าๆๆ
-
พระเอกคือใครหว่า
เดาไม่ได้อ่า = =
ร้านนี้น่าไปกินจัง *-*
นอกจากอิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจด้วย
พนักงานหน้าตาดีทุกคนเล้ย ><
-
คนที่เดินชนนี่ใช่คิวป่ะ
-
~3~
หวา~ วันนี้ดันเลิกเรียนช้าทำให้ผมออกมาจากมหาลัยช้ากว่าเวลาที่วางแผนไว้และพบว่ารถติดมากแบบไม่น่าให้อภัย วันนี้เป็นวันทำงานที่ร้านคิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์วันที่สองของผม ผมตกลงกับตัวเองไว้ว่าทุกครั้งผมจะต้องมาถึงที่ร้านก่อนเวลาทำงานสามสิบนาทีโดยประมาณ
ปึก !!
ง่ะ (=o=) ผู้ชายคนนี้อีกแระ เป็นผู้ชายคนเดิมที่ผมเคยเดินชนด้วยเมื่อหลายวันก่อน..มันจะบังเอิญเกินไปแล้วนะ
“.............” อีกฝ่ายยืนจ้องผมเขม็ง คราวนี้เป็นสายตาที่เหี้ยมกว่าคราวก่อนซะอีก
“ขะ..ขอโทษครับ” ผมรีบพูดเพราะผมเองก็เป็นฝ่ายผิด
“ขอโทษจริงๆครับ” ผมก้มหัวให้อีกฝ่ายอีกครั้งก่อนจะรีบวิ่งเข้าร้านมาทันที ผมวิ่งไปทางซ้ายที่เป็นทางเชื่อมต่อไปทางด้านหลังร้าน หลายวันที่ผ่านมาผมจำกฎของทางร้านได้หมดทุกข้อแล้ว นี่ก็เป็นอีกข้อหนึ่งเหมือนกัน คือ..ในการมาทำงานทุกครั้งให้เข้าทางหลังร้านเท่านั้นนะครับ
“อ่าว มาแล้วเหรอ” พี่ออฟที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทานข้าวในห้องพักของพนักงานทักผม ผมต้องเข้ามาที่ห้องพักของพนักงานก่อนเพราะห้องล็อกเกอร์และห้องแต่งตัวจะถูกเชื่อมกับห้องพักของพนักงานที่อยู่ประตูถัดไป
“หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ออฟ
“กินอะไรมารึยัง” พี่ออฟถามทั้งทั้งที่ข้าวยังคงอยู่ในปาก
“ยังเลยครับ แต่ซื้อมาแล้ว เค้กเอาของไปเก็บก่อนนะครับ หิวเป็นบ้าเลย” ผมบ่นพร้อมเดินไปที่ห้องล็อกเกอร์ ผมจัดแจงเก็บของทุกอย่างใส่ล็อกเกอร์ไว้เรียบร้อย ที่ห้องล็อกเกอร์มีให้ครบทุกอย่าง ทั้งโต๊ะรีดผ้า เตารีด ราวแขวนเสื้อผ้า ไม้แขวนเสื้อ มีห้องน้ำอาบและเฉพาะห้องน้ำให้ด้วย มีครบทุกอย่างจริงๆอ่ะครับ ผมรู้สึกไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ได้เข้ามาทำงานที่ร้านนี้
จากที่ทราบมา ร้านคิวปิดเป็นร้านที่เน้นด้านเบเกอรี่ แต่ก็มีอาหารคาวบ้างส่วนมากเป็นอาหารนานาชาติทั้งหมด เน้นไปทางยุโรปและฝั่งของอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าเมนูอาหารช่างยากในการจำสำหรับผมมาก
“นี่..พี่ฟ้าฝากชุดไว้ให้ ลองเอาไปเปลี่ยนสิ” พี่ออฟยื่นถุงผ้ามาให้ผม
“ได้แล้วเหรอครับ เร็วจัง..โห ตั้งสามชุดแน่ะ” ผมตกใจ ตอนแรกคิดว่าจะได้แค่ชุดเดียวเท่านั้นเพราะพี่ฟ้าบอกว่าตัดให้ฟรี
“หึ..ก็ทำงานสามวันนี่นะ” พี่ออฟยิ้ม ผมมองหน้าพี่ออฟอย่างสงสัย
“นี่แสดงว่าไม่รู้อะไรเลยละสิ” พี่ออฟพูดหน้านิ่ง
“อะไรอ่ะฮะ”
“อืม ช่างมันเหอะ ไปเปลี่ยนซะไป..พอดีแน่นอนไม่ต้องห่วงหรอก” พี่ออฟดันไหล่ผมเบาๆ ผมจึงต้องรีบเดินกลับเข้ามาที่ห้องล็อกเกอร์อีกครั้งและจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย พอออกมาจากห้องอีกทีพี่ออฟก็ออกจากห้องพักพนักงานไปแล้ว ผมนั่งกินข้าวกล่องที่ซื้อมาเตรียมรองท้องไว้ก่อนเพราะตอนนี้รู้สึกหิวมากจริงๆ ผมว่าคนเราใช้แรงงานกับใช้สมองจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าต่างกัน และผมคิดว่าการใช้สมองหนักจะทำให้เราเหนื่อยมากกว่าการใช้ร่างกาย ไม่รู้สินะครับ..แต่ผมรู้สึกอย่างนั้น
“มีอะไรให้เค้กช่วยไหมครับ” ผมกล้าๆกลัวๆเดินเข้าไปหาพี่หมีที่ยืนอยู่ตรงเคาร์เตอร์ พี่หมีหันมามองหน้านิ่ง
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่หมีถาม
“สักพักแล้วครับ” ผมตอบ
“พี่หมี ออร์เดอร์” พี่ออฟเดินมายื่นสมุดจดให้พี่หมีแล้วเดินไป ผมยืนมองพี่หมีอย่างเงียบๆ พี่หมีนำออร์เดอร์ไปอ่านแล้วหันมามองหน้าผม
“ไปตามพี่คิวมาสิ บอกว่ามีออร์เดอร์” พี่หมีสั่ง ผมได้แต่มองพี่หมีอย่างไม่เข้าใจ อยากจะพูดออกไปจริงๆครับว่า “พี่คิวคือคนไหนล่ะครับ”
“น่าจะอยู่ในห้องทำงานบอสนั่นแหละ” พี่หมีบอก ผมพยักหน้ารับและกำลังคิดเองเออเองว่า “บอส” ในที่นี้ของพี่หมีคือพี่ฟ้า เพราะพี่ฟ้าเป็นเจ้าของร้านนี่ครับ ผมคงคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้
“คิดว่าอาไม่เข้าใจรึไง!” ผมหยุดชะงักเพราะได้ยินเสียงแว่วออกมาจากในห้อง
“คุณเข้าใจเหรอ เข้าใจแล้วทำไมไม่บอกพ่อไป” เสียงอีกเสียงโต้ตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวจนทำให้ผมรู้สึกเกร็ง
“อาพูดได้เหรอ นึกว่าอาไม่อยากจะพูดออกไปรึไง” ผมได้แต่ยืนหนักใจอยู่หน้าห้องอยู่อย่างนี้จนอยู่ๆในห้องก็เงียบเสียงไป ผมรวบรวมพลังฮึดไปที่มือของตัวเองก่อนที่จะลงมือเคาะประตูอย่างกล้าหาญ
ก๊อก ๆ ๆ
“ขอโทษครับ” ผมเปิดประตูเข้าไป
“............” ในห้องเงียบกริบไปชั่วขณะ ผมยืนนิ่งเพราะชะงักกับคนสองคนตรงหน้า แน่นอนว่าคนหนึ่งคือพี่ฟ้าและอีกคนคือคนที่ผมไม่คาดคิด ผู้ชายที่ผมเดินชนด้วยถึงสองครั้งได้ยืนอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้
“เอ่อ พี่หมีบอกให้เค้กมาตาม...พี่คิว” ผมพูดอ้ำๆอึ้งๆ ในใจได้แต่คิดว่า “อย่าบอกนะว่านี่คือคนที่ชื่อคิวอะไรนั่น” แต่ก็ดูเหมือนผมจะได้คำตอบค่อนข้างชัดเจนเพราะดูจากชุดที่พี่เขาใส่ออกจะเต็มยศซะขนาดนั้น
“นี่ใคร” ผู้ชายคนนั้นถามเสียงห้วน สีหน้าไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า
“พนักงานใหม่” พี่ฟ้าตอบ
“..............” อีกฝ่ายเงียบยืนมองหน้าผมด้วยสายตาที่ไม่ดีนัก ผมได้แต่จ้องอีกฝ่ายตอบเพราะรู้สึกไม่พอใจเหมือนกันที่อยู่ๆก็มามองผมด้วยสายตาแบบนี้ พี่เขาก้มมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คัดเองอีกละสิ” ผู้ชายคนนี้พูดเสียงแสยะ
“ใช่..ก็เป็นเจ้าของร้านนี่นะ จะให้ใครคัดล่ะ” พี่ฟ้าย้อนและยังคงหลงเหลือสีหน้าที่ยังดูโมโหอยู่
“เค้กครับ นี่คิว เชฟอีกคนของร้านเรา” พี่ฟ้าแนะนำ ผมยิ้มให้อีกฝ่ายแหยๆและก็ต้องยกมือไหว้ไปตามมารยาท
“..............” อีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง ไม่ตอบสนองใดๆกับการเคารพจากผมทั้งสิ้น
“จะเอายังไงก็เอานะ ผมไม่ได้ว่างขนาดนั้นหรอก” พี่คิวพูด
“นั่นมันพ่อคิวนะ” พี่ฟ้าย้อนว่า ผมยืนหน้าแหย เมื่อทั้งสองคนเหมือนได้สติว่าไม่ได้อยู่ในห้องเพียงแค่พวกเขา
“เฮ้อ..มีอะไรไปทำก็ไปซะไป” พี่ฟ้าพูดตัดบท
“ค..ครับ” ผมรีบก้มหัวให้
“ไม่ใช่เค้ก พี่หมายถึงคิว” พี่ฟ้าพูดหน้างอ
“ฮื้มมมม” พี่คิวถอนหายใจอย่างไม่พอใจแล้วเดินออกไป ผมยืนนิ่งมองผู้ชายคนนั้น น่าตาดีก็จริงแต่กลับดูน่ากลัวเป็นบ้า ผมยาวที่ถูกมัดไว้กับหนวดนั่นไม่เห็นจะเหมือนเชฟตรงไหน ที่จริงแล้วสภาพอย่างกับจิตรกรยังไงอย่างงั้น แต่เพราะรูปทรงของหน้าและองค์ประกอบอื่นๆทำให้ดูเป็นผู้ชายที่สะอาดและถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นก็ยังคงเห็นได้ว่าเป็นคนหน้าตาดี แต่เท่าที่ผมสัมผัสได้ตอนนี้พี่เขามีดีแค่หน้าตาเท่านั้นจริงๆครับ
“อย่าไปถือสาเลยนะ” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“ไม่เป็นไรครับ” ตีสองหน้าไว้ก่อนเพราะถึงแม้พี่เขาจะเป็นคนอย่างนั้นแต่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร
“ชุดพอดีไหมครับ”
“พอดีเลยครับ” ผมยิ้มกว้าง
“เออเค้ก..เรื่องคิวน่ะ มันทำอะไรก็ทนๆเอาหน่อยนะ คิวมันขี้หงุดหงิด” พี่ฟ้าบอก
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“ไปทำงานเถอะ” พี่ฟ้ายิ้มให้หน่อยๆ ผมก้มหัวให้ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้อง
“เค้ก” พี่หมีเรียกผมเสียงไม่ได้ดังอะไรมากนัก ผมรีบเดินเข้าไปหา
“โต๊ะE” พี่หมีพูดบอก ผมมองไปที่ถาดที่มีอาหารวางอยู่บนนั้น
“ที่สำคัญคือ..” พี่หมีพูดเป็นเชิงถาม
“ยิ้ม หยุด ขออนุญาต โค้ง รายชื่ออาหาร” ผมยิ้มตอบ
“โอเค ถือดีๆล่ะ..แครอทเค้กฝั่งหนึ่งนะ อย่างผิดฝั่งล่ะ” พี่หมียกถาดมาให้ผม
“เออ..แล้วหลังจากเสิร์ฟเสร็จ ให้บอกลูกค้าด้วยว่า เมนูต่อไปให้รอสักครู่” ผมพยักหน้าแล้วรับถาดมาถือ ใจเต้นตุบตับทันทีที่ถาดมาอยู่บนมือและแขนของผม ครั้งแรกของการเสิร์ฟอาหาร นี่คือครั้งแรกในชีวิตของผมเลยละครับ เวลาเดินนี่แทบจะนึกว่าย่างหนอ ก้าวหนอเลยด้วยซ้ำ ตื่นเต้นเป็นบ้า
“ขอโทษครับ แครอทเค้กครับ” เสิร์ฟฝั่งซ้าย เสิร์ฟฝั่งหนึ่งคือฝั่งซ้าย ห้ามผิดเด็ดขาดนะไอ้เค้ก
“เมนูต่อไปรอสั..” ผมกำลังพูดอย่างที่นึกท่องมาในใจเพื่อไม่ให้มันตกหล่นเพียงสักคำเดียว
“เอ่อ ขอหมูอบน้ำแอปเปิ้ลเพิ่มด้วยนะ” คุณลูกค้าพูดแทรกขึ้น
“............” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับนึกเรียงคำพูดของคุณลูกค้า นี่คือเมนูที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยในชีวิต T-T
“เมนูหมูอบน้ำแอปเปิ้ลหนึ่งที่นะครับ” ผมยิ้มย้ำคำพูดของเธอ
“ค่ะ” คุณลูกค้าตอบ ผมโค้งให้แล้วเดินกลับมาอย่างเรียบร้อยมากที่สุดตามที่พี่ออฟได้สอนไว้
“พี่หมีครับ ลูกค้าสั่งหมู อบ น้ำ แอป เปิ้ล เพิ่ม หนึ่ง ที่ ครับ” ผมย้ำคำพูดให้ชัดเจน
“หึ..อะไรจะชัดขนาดนั้น” พี่หมีขำพร้อมกับหยิบกระดาษมาจดเมนูให้
กริ๊ง~
“คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ยินดีต้อนรับครับ” เสียงพี่ออฟพูดขึ้น
ผมหันไปมองลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับทั้งผม พี่ซี พี่ออฟและพี่หมีได้โค้งให้ลูกค้ากันอย่างพร้อมเพรียง พี่ออฟรีบเข้าไปต้อนรับลูกค้าทันที นี่เป็นอีกหนึ่งกฎของทางร้านที่ต้องทำพร้อมกันทันทีเมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านนะครับ แต่ครั้งที่แล้วที่ผมโดนต้อนรับด้วยเสียงดังก้องทั่วร้านแบบนั้นเพราะว่าตอนนั้นผมมาในระหว่างที่ไม่มีลูกค้าท่านอื่นๆอยู่ในร้านเลย พวกพี่ๆถึงต้อนรับแบบนั้นได้ แต่ถ้ามีลูกค้าอยู่แม้เพียงโต๊ะเดียวก็ห้ามส่งเสียงดังรบกวนนะครับ
“ก็เค้กกลัวจำผิดนี่ครับ” ผมพูด
“พี่หมี แต่งหน้าวาฟเฟิลเซตที่สองหน่อยค่ะ” พี่ซีบอก
“ครับ” พี่หมีตอบแล้วยื่นกระดาษมาให้ผม ผมรับมางงๆ
“เอาเข้าไปให้พี่คิว” ง่ะ..อะไรของพี่หมีนักหนาเนี้ย สั่งให้ผมไปเจออีตาพี่คิวบ้าเป็นรอบที่สองแล้วนะ
“เอาไปให้พี่คิว แล้วก็รีบออกมาดูวิธีแต่งหน้าวาฟเฟิลด้วย” พี่หมีสั่งหน้านิ่งมาก ผมเลยต้องเปิดประตูเล็กตรงเคาร์เตอร์เข้าไปในตัวเคาร์เตอร์ เพราะถ้าจะเข้าไปทางครัวใหญ่ได้จะต้องเข้าไปทางเคาร์เตอร์ก่อนครับ ทางเข้าครัวอีกทางห้ามเข้าเด็ดขาดระหว่างที่เชฟอยู่ ถึงมันจะดูวุ่นวายสำหรับพวกเราแต่ถ้าเราขัดกฎมันก็จะดูวุ่นวายสำหรับเชฟ
“เออเดี๋ยว บอกพี่เค้าด้วยว่าหมูอบน้ำแอปเปิ้ล ไม่ใช่เอาไปวางไว้อย่างเดียวล่ะ” พี่หมีบอกก่อน
“ค้าบ” ผมตอบก่อนจะรีบเดินเข้าไปในครัวทันที
“หมูอบน้ำแอปเปิ้ลหนึ่งที่ครับ” ผมพูดขึ้นทำให้อีกฝ่ายที่กำลังง่วนอยู่กับการแต่งหน้าอาหารบนจานเงยหน้ามามอง
“............” ผมมองซ้ายทีขวาทีเพราะรู้สึกประหม่าขึ้นมา ตาของพี่เขาจะดุไปไหน มองคนอื่นตาขวางอยู่ได้ เป็นหมาบ้ารึไงไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมยังคงยืนเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรจะเอากระดาษในมือนี่ไปวางไว้ตรงไหนดี อีกฝ่ายหันกลับไปทำอาหารต่ออย่างไม่สนใจใยดีสักกะนิดเดียว
“เอ่อ กระดาษนี้ต้องเสียบไว้ตรงไหนอ่ะครับ” ผมเอ่ยถาม
“มองไม่เห็นรึไง ถ้ามันแทงตาได้มันก็คงแทงตานายไปแล้วแหละ” พี่เขาพูด ผมรีบมองหาทันที พอเห็นว่ามีที่เสียบกระดาษสีเขียวอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ผมจึงรีบเอากระดาษเข้าไปเสียบไว้
“ขอโทษครับ ที่มันยังไม่แทงตาผม” ผมพูดย้อนแล้วเดินออกมาเลย
“บ้าบอ”
“บ่นไร” พี่หมีหันมาทัก
“พี่หมีก็ไม่บอกเค้กอ่ะว่ากระดาษต้องเสียบไว้ตรงไหน” ผมบ่นหน้างอด้วยรู้สึกไม่พอใจที่พี่คิวเขาทำท่าไม่ชอบผมออกนอกหน้าขนาดนั้น
“หึ โทษที..ลืม” พี่หมีขำอีก
“ไปโดนอะไรเข้าล่ะ”
“โดนหาว่าไอ้ที่เสียบกระดาษจะแทงตาอ่ะดิ” ผมบอก
“หึหึ เออ..เอาน่า พี่เค้าคงกำลังอารมณ์ไม่ดี มานี่มา” พี่หมีเรียกให้ผมเดินเข้าไปหา ผมยืนดูพี่หมีแต่งหน้าวาฟเฟิลก่อนหนึ่งจาน พออีกจานพี่หมีก็เป็นฝ่ายให้ผมทำบ้างโดยมีพี่หมีเป็นคนยืนกำกับทุกอย่างอยู่ข้างๆตลอดเวลา
= = = = = = = =
“ปิดร้านเรียบร้อยแล้วนะ” พี่ฟ้าหันไปถามพี่หมี
“ครับ”
“ป่ะ กลับกันได้แล้ว” พี่ฟ้าพูด พวกผมเตรียมหยิบกระเป๋าของตัวเองเดินตามพี่ฟ้าออกทางหลังร้าน วันนี้เป็นวันทำงานของผมที่ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัดเลยนอกจากไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ หน้าตายิ้มไม่เป็นกับท่าทางที่ถ้าไม่สวมใส่ชุดเชฟก็คงไม่มีใครรู้แน่ๆว่าทำงานเป็นเชฟ แต่อย่างไรก็ยังดูดีอยู่ดีอ่ะครับ โชคชะตาช่างไร้ความยุติธรรมกับผู้ชายหน้าตาดีตัวน้อยๆอย่างผมซะจริง
“เค้กกลับทางไหนล่ะ” พี่ออฟหันมาถาม
“บ้านเค้กอยู่แถว...........นะครับ เลยมหาลัยไปไม่กี่โล” ผมตอบ
“อ่าวเหรอ ทางเดียวกับพี่เลย ให้พี่ไปส่งไหม” พี่ฟ้าหันมาถาม
“อ่ะ..ไม่เป็นไรครับ เค้กนั่งรถเมล์กลับเองได้” ผมยิ้มปัดแต่ในใจลึกๆก็อยากกลับด้วยนะครับ เพราะเวลาสองทุ่มกว่าๆนี่รถกำลังติดได้ที่กันเลยทีเดียว และยิ่งแถวหน้ามหาลัยไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ ร้านเหล้ากำลังคึกคักและยิ่งถ้าติดไฟแดงด้วยแล้วละก็ชาติหนึ่งได้กว่าจะขยับได้แต่ละที
“ไม่เป็นไร ทางเดียวกัน จะขึ้นรถเมล์ให้ลำบากทำไมล่ะ” พี่ฟ้าว่า
“ป่ะ..ไปกับพี่” พี่ฟ้ายิ้มพร้อมกับเดินเข้ามาจับมือผม ไอ้ผมเองก็ใจง่ายจึงเดินตามพี่ฟ้าไป
“เอ่อ..” ผมอ้าปากค้างเพราะตอนนี้พี่คิวกำลังเปิดประตูอยู่ที่ฝั่งคนขับ ส่วนพี่ฟ้ากำลังเดินไปอีกด้านหนึ่งของรถ
“ครับ” พี่ฟ้าหันมายิ้มถาม
“ปะ..เปล่าครับ” ผมตอบ แต่ยังยืนนิ่งเพื่อให้พี่ฟ้าขึ้นรถก่อนเพื่อความแน่ใจว่าผมต้องกลับรถคันเดียวกับไอ้พี่หน้างอนี่จริงๆอย่างนั้นเหรอ พอพี่ฟ้าขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับได้เท่านั้นเองผมถึงได้ความมั่นใจ
“เหอะๆ” ผมยืนหัวเราะให้ประตูรถและก็ต้องเปิดประตูรถออกอย่างช่วยไม่ได้
“บ๊ายบายครับ” ผมโบกมือให้กับทุกคนที่ยืนรออยู่เพื่อที่จะปิดประตูรั้วหลังร้าน
“บ้านเข้าซอยไหนล่ะ” พี่ฟ้าถามหลังจากที่ผมขึ้นมานั่งเรียบร้อยแล้ว
“ซอยสามครับ เลยบิ๊กซีไปซอยเดียว” ผมตอบ
“............” แล้วในรถก็เงียบไป ผมนั่งนิ่งแทบไม่กล้าจะขยับตัว ปกติผมเป็นคนตื่นเต้นง่ายอยู่แล้วด้วย พอมาแปลกที่แบบนี้ยิ่งรู้สึกไม่ค่อยดีเข้าไปใหญ่ ซึ่งปกติแล้วนอกจากรถของแม่ผม ผมก็นั่งอยู่แค่รถของพีทกับรถของแก้วเท่านั้นครับ แต่นี่เป็นรถของคนที่ไม่ชอบขี้หน้าสักเท่าไหร่ แถมยังดูหรูหราประมาณที่ว่าผมขายบ้านผมทั้งหลังเลยนั่นแหละผมถึงจะซื้อรถราคาแพงมากขนาดนี้ได้
“งั้น..แวะบิ๊กซีก่อนก็แล้วกัน” เง้อ..พี่ฟ้าอ่ะ
“แวะทำไม” ไอ้พี่หน้าดุพูด
“อาจะซื้อของสักหน่อย อะไรๆก็หมด” พี่ฟ้าบอก แทนตัวเองว่าอาอีกแล้ว อย่าบอกนะครับว่าเป็นอาหลานกันน่ะ หรือว่าพี่ฟ้าเป็นอาของใคร ทำไมต้องเรียกว่าอาด้วยล่ะ ผมละอยากถามออกไปซะจริงครับ..มันสงสัยไปหมด
“ซื้อวันอื่นไม่ได้รึไง เหนื่อย” เสียงห้วนบอกอารมณ์จริงๆว่าไม่อยากแวะ
“ไม่ได้..แวะแป๊บนึง เค้กไม่ว่าอะไรใช่ไหม” พี่ฟ้าหันมาถาม
“ค ครับ..ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะเฝื่อนๆ
“ฮื้มมม..” พี่คิวถอนหายใจเหมือนเซ็งซะไม่มี สุดท้ายกว่าจะถึงบิ๊กซีก็ปาไปเกือบสี่สิบนาที ผมลงไปกับพวกพี่เขาด้วยเพื่อไม่ให้ตัวเองดูเรื่องมากถึงแม้ว่าใจจริงแล้วจะไม่อยากไปเท่าไหร่นักก็เถอะครับ
“อืม ซื้ออะไรดีน้า” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้ามีความสุขก็ไม่ปาน
“อ่าว” ผมหันไปมองหน้าพี่ฟ้าอย่างไม่เข้าใจ ก็ไหนบอกว่ามีของต้องซื้อเยอะแยะยังไงล่ะ
“หึหึ” พี่ฟ้าหัวเราะชอบใจอีก อะไรของพี่เขากันนะครับ
เราเดินเข้าไปในตัวห้างพร้อมกันแต่พี่คิวเดินตามหลังห่างจากผมและพี่ฟ้าไปประมาณสองสามเมตรได้ ผมช่วยพี่ฟ้าเข็นรถเข็นให้โดยมีพี่ฟ้าเป็นคนเลือกของได้ตามสบาย ตอนนี้สภาพของผมคล้ายๆกับคนใช้อย่างไรอย่างนั้นเพราะทั้งไอ้พี่หน้าดุและพี่ฟ้ากระหน่ำซื้อของกันไม่ยั้งเลย
“เอาสปายไปทำไมเยอะแยะ” พี่ฟ้าถาม
“จะคิดเมนูใหม่” อีกฝ่ายยังคงตอบเสียงห้วนตามสไตล์
“เค้กกินนี่ไหม” พี่ฟ้าชูถุงขนมถามผม ผมได้แต่ยิ้มตอบให้เพราะไม่รู้จะตอบว่ายังไงแต่พี่ฟ้าก็ยังคงหยิบมันมาใส่รถเข็นอีก จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงพวกเรากลับมาที่รถกันอีกครั้งเพื่อออกเดินทางกันต่อ
“ซอยนี้เหรอครับ เงียบจัง” พี่ฟ้าถาม
“ครับ..แถวนี้สามสี่ทุ่มก็นอนกันหมดแล้วละครับ” ผมตอบ ส่วนมากในหมู่บ้านของผมจะอยู่กันแบบครอบครัวคนทำงาน กลับมาถึงบ้านไม่นานก็ปิดบ้านเงียบกันหมด ไม่ออกมาส่งเสียงดังโวยวายพลุกพล่านนักหรอกครับ
“วันศุกร์เค้กกลับดึกใช่ไหม เอาเป็นว่าพี่อาสามาส่งให้ก็แล้วกันนะ..มันอันตราย” พี่ฟ้าพูด
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมรีบบอกด้วยรู้สึกเกรงใจ บวกกับรู้สึกว่าไม่อยากนั่งมากับพี่คิวด้วย
“นั่นผู้ชายนะ” พี่คิวพูดขึ้น
“เค้กไม่ใช่คิวนะ” พี่ฟ้าย้อนทำให้อีกฝ่ายเงียบไป
“อย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับโจรสิ” พี่คิวย้อนขึ้นทั้งทั้งที่ผมคิดว่าพี่เขาคงจะยอมสงบศึกไปแล้ว
“ไอ้หลานบ้า” พี่ฟ้าตีแขนพี่คิวเบาๆ ประโยคนี้จึงทำให้ผมเก็ตขึ้นมาทันทีว่าต้องเป็นอาหลานกันอย่างแน่ๆ แต่ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่เพราะดูดีมีภูมิฐานกันทั้งคู่ มันแปลกแค่ตรงที่ทำไมพี่ฟ้าถึงเป็นอาได้ เพราะถึงแม้รูปลักษณ์ คำพูด ท่าทางของพี่เขาจะดูเป็นผู้ใหญ่แต่เป็นคนที่หน้าตาดีและหน้าเด็กมากเลยละครับ ถ้าต้องให้เทียบกับไอ้คนหลานแล้วละก็ แตกต่างกันลิบลับราวฟ้ากับเหว คนหลานหน้าตาดีแต่หน้าแก่อ่ะ
“จอดข้างหน้านี่อ่ะครับ” ผมชี้บอก
“ขอบคุณมากครับ” ผมยกมือไหว้
“เดี๋ยวเค้ก แป๊บนึง..คิว เปิดหลังรถสิ” พี่ฟ้ารีบพูดแล้วลงจากรถไปก่อน ผมลงจากรถยืนมองพี่ฟ้าที่กุลีกุจออยู่ที่ท้ายรถ พี่ฟ้าหยิบนู่นเปลี่ยนนี่ใส่ถุงแล้วอยู่ๆก็ยื่นถุงบิ๊กซีมาให้ผมหนึ่งถุง
“นี่ของเค้ก” พี่ฟ้ายิ้ม
“เอ่อ..”
“เอาไปเถอะน่า” พี่ฟ้าบอกแล้วหยิบถุงมิสเตอร์โดนัดมาให้ผมอีกถุงด้วย ซึ่งมันเป็นถุงเดียวที่พี่ฟ้าซื้อมาและผมไม่ทันได้นึกเลยว่าพี่เขาตั้งใจจะซื้อให้ผมคนเดียวไม่ได้นำไปทานเอง ผมยิ้มเพราะรู้สึกดีและยกมือไหว้ก่อนจะรับมา
“ไหน..บ้านหลังนี้เหรอ” พี่ฟ้าพูดมองไปรอบบ้านผม ผมพยักหน้ารับ ไอ้กระเป๋าหมาของผมวิ่งออกมาต้อนรับกลับบ้านทันที
“ขอบคุณมากนะครับ” ผมหันไปบอกพี่ฟ้าอีกครั้ง สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปมองคนในรถที่นั่งหน้าตาถมึงทึงนั่นอีก อีกฝ่ายจ้องผมกลับหน้านิ่งเหมือนเคย
“ไม่เป็นไรครับ เข้าบ้านเถอะ” พี่ฟ้าตบไหล่บอก ผมเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านและยืนรอจนรถพี่ฟ้าขับออกไป
“กลับมาแล้วครับ” ผมพูดบอกคนในบ้านที่นั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น วันศุกร์เวลาสามสี่ทุ่มแบบนี้คงกำลังติดละครหลังข่าวเป็นแน่
“กลับดึกจังล่ะลูก กินอะไรมารึยัง” แม่ถาม
“เจ้าของร้านมาส่งอ่ะแม่ พี่เค้าแวะซื้อของที่บิ๊กซีเลยนานไปหน่อย” ผมบอก
“นี่ขนมนะตาว กินได้เลย..พี่แช่ตู้เย็นไว้ก็แล้วกัน” ผมบอก
“ค่ะ” ตาวตอบแต่ตายังคงจ้องมองที่จอโทรทัศน์ไม่วางตา
“เค้กขึ้นนอนแล้วนะแม่ เหนื่อย” ผมบอก
“ไม่กินไรก่อนเหรอลูก”
“ไม่ครับ” ผมตอบ เดินนำของไปจัดใส่ตู้เย็นก่อนที่จะรีบขึ้นห้องเพราะรู้ว่าร่างกายของตัวเองรับอะไรไม่ไหวแล้ว มันเพลียและเมื่อยตัวไปหมด ผมอาบน้ำอย่างลวกๆ ส่วนคืนนี้ไดอารี่กลายเป็นว่าไม่ได้เขียน สุดท้ายต้องรีบพุ่งตัวลงเตียงทันที..
“ฮ้า~” ผมร้องบอกตัวเองด้วยอารมณ์สุขสุดๆเมื่อร่างกายปรับเข้าที่เข้าทางกับหมอนและผ้าห่มเรียบร้อย
“สุดยอดยิ่งกว่าสวรรค์มันคือตรงนี้นี่เอง” ผมพูดบ่นกับตัวเองพร้อมกับปิดตาลงช้าๆ
ราตรีสวัสดิ์วันที่ไม่แย่เท่าไหร่อีกวัน ไม่สิ..มันไม่แย่สักหน่อย มิตรภาพกำลังเริ่มขึ้นทีละนิดต่างหาก ทุกอย่างจะต้องไปได้สวยแน่ๆ ที่ร้านนั่นจะต้องเป็นร้านที่เราได้เก็บประสบการณ์ดีๆอย่างแน่นอนอยู่แล้ว
~อ๋อย..ราตรีสวัสดิ์ไอ้เค้ก~
...............>>>><<<<.................
-
:z13: ก่อนไปอ่าน :pig2: มากจ๊ะ มาไวดีแท้ ^ ^
-
ตามมาโดยไว :z13:
ใครหนอคือพระเอก(แอบคิดว่าเป็นพี่คิว) หนุ่มๆน่าตาดีเต็มร้านไปหมด
อยากไปนั่งร้านนี้จริงๆ :laugh:
-
:L2: :L2:
-
คิว ใช่พระเอกหรือป่าว คิคิ :m4: :m3: :m3:
-
:L2:
-
อยากรู้ความหมายของชื่อเรื่องจังค่ะ
-
พี่คิวเปิดเผยตัวเเล้ว!!~ เป็นคนเดียวกะที่ชนกะน้องเค้กด้วย
พี่ฟ้าเหมือนจะเริ่มรุกแล้วใช่มั้ยเนี่ย 555
ครอบครัวนี้ดูดีกันทั้งตระกูลแน่เลย แต่เค้าแอบมีปัญหาอะไรกันหว่า
ยังคงลุ้นกันต่อไปว่าใครจะเป็นพระเอกของน้องเค้กค่ะ :)
-
บวกๆ เบบี้จ้า
อาๆ หลานๆ แอบซับซ้อนนะเนี่ย
-
มาแลววววว
-
กรี๊ดดดด น้องเค๊กมาแล้วว
พี่คิว หล่อ+เซอร์ อิมเมจพระเอกในฝันของใครหลายคน :impress2:
ยังรอต่อไปค่ะ
:pig4:
-
อาหน้าเป็น หลานหน้าตาย อิอิ
ตายติดนิยายเบบี้อีกหนึ่งเรื่อง >v<
-
:pig4: :pig4:
-
เรื่องใหม่ของพี่เบบี้ เย้เย้ :mc4:
รีบพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงง ตามครับตาม :z2:
-
ชิ หยิ่งจิง ไอ้พี่คิววว
ระวังเถอะจะหลงเค้กแบบไม่รู้ตัว :m16:
-
คิวปรากฏตัวแล้ววววว
พระเอกแน่นอน อิอิ
-
หรือพี่คิวจะเปนพระเอก
แต่อยากให้อาฟ้าเปนมากกว่าอะ
5555
รอดูกันต่อไป
-
เย็นชาจังนะพ่อคุณ :z13:
-
ร้านนี้อยู่ตรงไหนครับ อยากไปจัง :z1:
-
ติดน้องเค้กแล้วค่ะ :-[
-
พระเอก??
+1
-
ดุไปนะ พี่คิว
แต่ขอเอากลับบ้านได้ไหม ชอบ~
-
ดูแววแล้วพี่คิวท่าจะได้เป็นพระเอก 5555 ลางกวนส้นมาแต่เริ่มละ หน้าบูดเป็นตูดลิงแบบนี้
หลังๆนี่จะอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟแน่ๆ คึคึ จนกว่าจะถึงวันนั้นก็อ่านน้องเค้กแบ๊วๆไปก่อน ฮ่าๆ
-
โอย รู้สึกอ่านแล้วหิว(เค้ก?)ค่า
พี่คิวพระเอกชัวร์เลย จะติสท์ไปไหนน้อ มีหนวดด้วยO_o
เหนื่อยแทนน้องเค้กจริงๆ สู้ๆนะลูก
-
คิวใช่ปะ แอบเชียร์ได้ไหม
แต่ก้กลัวไม่ใช่
แต่เรื่องนี้ต่างจากเรื่องก่อนๆจริงๆๆนายเอกไม่ซ่าเลยแลดุเรียบร้อยน่ารักเชียว
55555+++ พระเอกคนซ่าแทนละมั้งนิ
-
ตกหลุมรัก คนชื่อคิว ชอบแบนี้โหดๆดุๆ o13
-
พี่คิวแอบโหด แต่ชอบอ่ะ ^^
-
รอตอนต่อไป นะครับบบ
-
พี่คิวดุอะ แต่ชอบนะติสดี :กอด1:
-
ชอบอิมเมจพี่คิวค่า กรี๊ดดดดดดด :-[
“เค้กไม่ใช่คิวนะ” ฮาอ่า :laugh:
-
พระเอกนี่พี่คิวใช่มะคะ
ถ้าใช่ก็พระเอกหล่อเถื่อนๆโหดๆมันกลับมาแล้ววว ><
-
แอบคิดว่าคิว=ร่างอวตารของพีหรือเปล่า(PQ) ฮ่าๆ
เค้กก็น่ารักตลอด
เป็นกำลังให้เบบี้ค่ะ
-
แล้วเราก็ได้รู้ว่าคุณคือใคร
:pig4: คะ
-
เริ่มเผยมาทีละนิดดดด o13
-
เรื่องใหม่ๆๆ
ขอพักตาสักแปป จะมาตามอ่านต่อจ้าิ
-
สนุกมากมาย เรื่องราวน่ารักและตื่นเต้น สู้ๆๆนะเค้ก :L1:
-
ออกแนวพิศาลได้นขจนี่ยเค้าตบจูบ เราก็ชนจูบดีมะ
-
ว่าแล้วว่าพี่คิวต้องเป็นพระเอก
แต่เราชอบนะผู้ชายไว้หนวดแล้วทำเค้ก อ๊างงงงงงงงงงงง :-[
-
แต่ละคนชอบมีปริศนาแพลม ๆ มาเนี่ย
แล้วน้องเค้กจะได้ประสบการณ์ที่ประทับใจจริง ๆ มั้ยเนี่ย
ใครพระเอกไม่รู้ รู้แต่เค้กน่ารัก :z2:
-
อาฟ้าา าา า
โอ๊ยยย อ่านทีไรก็อยากกินเค้กทุกที
น่ารักจริงๆ
ไปกินเค้กด้วยกันไหม ป่ะ
-
เป็นร้านที่ดูมีอะไรแบบคลุมเครือๆ
แต่ไม่เป็นไร หล่อก็พอ 555 ><
อยากไปทำงานร้านนี้บ้างจัง
-
พี่คิวจะเป็นพระเอกรึเปล่าน้อ :impress2:
-
พี่คิว~
-
ดุๆอย่างพี่คิวนี่จะได้เป็นพระเอกมั้ยเนี่ย
ถ้าเป็นจริงๆ
กว่าจะรักกันได้
น้องเค็กสงสัยผมหงอกหมดหัว
:laugh:
-
เรื่องราวน่ารัก แบ๊วๆ แบบนี้
ติดตามมม พี่หมี เปงอาไรกับพี่ฟ้าอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
เค้กหวานนะไอ้น้องบี้
สงสัยเพราะงี้พี่คิวมันเลยอยาก'ปาด'หน้าเค้ก
ปริศนาดวงตาสีน้ำตาลคืออะไร อยากรู้ อู๊ววววววว
(((ใครเป็นพระเอกกันวะเนี่ย ยังไม่อยากจะปักใจกลัวพลิก)))
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
อ๋า ร้านในฝัน :-[ ฝันอยากจะเปิดร้านแบบนี้ มีพนักงานหน้าตาดีเดินกันว่อนร้านแบบนี้บ้าง
น้องเค้กน่ารักดีนะ ว่าแต่พี่คิว แววพระเอกหึ่งเชียว
-
บี้ จะเอาอีกตอนอ่ะ...จินตนาการไปไกลละ อยากรู้ว่าพระ-นาย เค้าจะรักกันตอนไหน...
ว่าแต่ เค้กน่ารักเนอะ ^^
:pig4: :กอด1:
-
:กอด1: :z2: :bye2:
-
ร้ายอย่างนี้ต้องให้คิวกำราบซะแล้ว
-
กะแล้วว่าพี่ฟ้าไม่ใช่พระเอก กร๊ากกกกกกก
พี่คิว... หนูจินตนาการไปแล้วว่าพี่หล่อมากกกก โฮกกกกกกกกก
ชอบบบบบ พระเอกไม่ม่อไม่ป้อไม่ปี้ กร๊าก (เค้าคิดถูกใช่มั้ย? มันต้องใช่ดิ)
คุณน้องเค้กก็น่ารักน่าเอ็นดู ทำไมเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องก่อนๆจังเว้คะคุณเบบี้ที่รัก
จะใสจริงรึป่าวน้อออออ รออ่านต่อไปคะ
กระโดดงับหัวเบบี้ เลิฟยูววววว์
-
ดูเหมือน พี่คิว พระเอกป่าวเนี่ย
อ๊ายๆๆ ผมยาว ชอบๆๆ ผู้ชายผมยาว
-
มารอคร้าฟฟฟ
-
อร๊ายยยยยยยยยยย เบบี้
เรื่องนี้ต้องเป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราอยากจะอ่านนิยายอีกแน่เลย
บรรยากาศร้านกาแฟ ไม่ดิ เบเกอรี่นี่นะ แต่ช่างเหอะ เอาว่ามีกาแฟด้วย :impress2:
อ่านแล้วอยากไปนั่งในร้านจังวุ้ย
แถมแอบประกบคู่คนนั้นคนนี้เสร็จสรรพไปเลยทีเดียว
:laugh:
ลุ้นน้องเค้กว่าจะทำงานเจออะไรบ้างดีกว่า หุหุ
ช่วงนี้มาอ่านถี่เม้นถึ่ทุกตอนเหมือนแต่ก่อนไม่สะดวกด้วยสิ
เอาเป็นว่าไม่ลืมนะแต่บางช่วงก็อาจไม่ได้มาเม้นให้ทุกตอน
:กอด1:
-
:impress3: พี่คิวพระเอกแน่เลย
แต่ทำไมแกถึงขี้วีนจัง :laugh:
-
เรื่องนี้น่ารักจัง ^^
เชียร์ หลานคิว อิอิ :L2:
-
อยากให้พี่คิวเป็นพระเอกอ่ะๆๆๆๆๆ :oni2:
-
ใช่เลย สุดยอดสวรรค์นั่นคือที่นอน เหอๆ คิวดุไปใหนอ่ะ
-
ทำไมร้านนี้ดูมีความลับอะไรมากมาย
มีเค้กที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรแฮะ
คิวๆๆๆๆเป็นอะไรมากเปล่าหว่า??
ทำไมทำเหมือนไม่ค่อยประทับใจเค้กเลยน้าๆๆๆๆ
ฮ่าๆๆๆ
-
พระเอก...พี่คิว?
เดาเอา อิอิ
:L2:
-
เจ้ หวัดดีครับ เพิ่งเห็นว่าเจ้เอานิยายเรื่องใหม่มาให้อ่านกันนะนี่
โชคดีที่หางตาขวาเห็นชื่อของเจ้เบบี้แว๊บๆไม่งั้นผ่านอีกแน่
เรื่องนี้ทำเป็นปริศนาเนาะเจ้เนาะ อิอิ
-
:pig4:
-
เค้กน่ารักจังค่ะ :o8:
พี่คิวนี่ดุจริง 55555 น่าจะเป็นพระเอก(รึเปล่า?)
ชอบมากค่ะ >////////////////< :L2:
-
มองผ่านหลายวันละ
วันนี้ได้ฤกษ์ อ่านทีเดียว 3 ตอนรวด
น่ารักกกกกกกก +
และคนแต่งจะน่ารักเพิ่มอีกถ้ามาต่อเร็ว ๆ 5555 o13
-
~4~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคนที่อยู่ในห้องพักพนักงาน พี่หมีและพี่ซีนั่งอยู่
“อ่าว วันนี้พี่หมีมาทำงานด้วยเหรอครับ”
“มาดิ ครึ่งวัน” พี่หมีตอบ
“อ่าเหรอ เห็นพี่ฟ้าบอกว่าทำแค่จันทร์ถึงศุกร์” ผมพูด
“เบลอละสิ จะไปเอาอะไรกับคนๆนั้นกัน” พี่หมีพูดตอบหน้านิ่ง
“กินข้าวด้วยกันไหมเค้ก” พี่ซีชวน
“ไม่เป็นไรครับ เค้กกินมาแล้ว” ผมยิ้มบอก ตาก็มองไปที่อาหารของพี่ซี
“น่ากินจังนะครับ” ผมพูดชม ขนาดอาหารอยู่ในทัพเพอร์แวร์ธรรมดาแต่มันกลับดูไม่ธรรมดาเลย หน้าตาอาหารดูผู้ดีมากเลยอ่ะครับ
“แน่ละสิ ไม่ได้ทำเองนี่” พี่หมีพูดขึ้นลอยๆ
“พี่หมีอ่ะ” พี่ซีว่าเสียงเล็กเสียงน้อย
“เค้กไปแต่งตัวก่อนนะครับ” ผมบอกแล้วเดินเข้าไปที่ห้องล็อกเกอร์ วันนี้ผมมีทำงานเต็มวัน แม่เลยทำกับข้าวใส่ปิ่นโตสำหรับอาหารกลางวันเตรียมไว้ให้ผมด้วย
“เค้ก วันนี้พี่จะให้เค้กรินน้ำให้ลูกค้านะ” พี่หมีพูดขึ้นทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องล็อกเกอร์
“.................” ผมยืนนิ่งค้างมองหน้าพี่หมี
“มึนอะไร” พี่หมีถามหน้านิ่งกลับ
“รินน้ำ” ผมพูดซ้ำ
“จะดีเหรอครับ” ผมยิ้มแหย
“เดี๋ยวจะได้สอนวิธีรินไวน์ด้วย ไอ้นี่หนิ” พี่หมีพูดแกมบ่น
“ก็เค้กเกร็งอ่ะ” ผมทำหน้ากลัว จะไม่ให้เกร็งได้ยังไงไหวละครับ ลูกค้ามีแต่คุณหญิงคุณนายไฮโซทั้งนั้นเลย
“ลาออกไป” พี่หมีพูดส่งๆ
“ง่ะ..”
“หึ..พี่หมีนี่” พี่ซียิ้ม
“เดี๋ยวพี่เทรนให้ ไหน..พี่ออฟสอนแล้วใช่ไหม” พี่ซีถาม
“ครับ”
“งั้น..ไหนมาลองรินสิ สมมุติว่าพี่เป็นลูกค้าก็แล้วกันนะ” พี่ซีบอกพร้อมเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างสบายใจ ผมเก้ๆกังๆเดินไปหยิบเหยือกน้ำมา
“ช้า” พี่หมีพูดเสียงแข็งในทันที
“งั้นเอาใหม่” ผมพูดแล้วเดินถอยกลับมาตั้งหลักยืนที่เดิม
“วางเหยือกก่อนสิ” พี่หมีบอก ผมเองก็ลืมจึงต้องวางเหยือกไว้บนโต๊ะอย่างเดิม ผมเดินเข้าไปเว้นระยะห่างประมาณหนึ่งเมตรก่อนที่จะโค้งแล้วยกเหยือกรินน้ำให้อีกครั้ง
“เท่าไหร่ถึงพอ” พี่หมีพูดกำกับ ผมรินประมาณเศษสามส่วนสี่ของแก้ว
“..แล้ว มันยากตรงไหน” พี่ซีแซวทั้งรอยยิ้ม
“พี่ซีอ่ะ ก็มันเกร็งนิฮะ” ผมพูดหน้างอ เลื่อนเก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างๆพี่ซีมาแล้วนั่งลง
“ทำทุกอย่างปกตินั่นแหละ ทำให้เร็ว ทำให้ทันลูกค้า ให้รู้ว่าเค้าต้องการให้เรารินโดยไม่ต้องให้เค้าบอก เร็วแต่ต้องนิ่มนวล ทำตัวยังไงก็ได้..ให้ดูมีคุณค่าน่ะ” พี่หมียิ้มบอก
“เหอะๆ” ผมหัวเราะเฝื่อน
“พี่หมีก็อย่าไปกดดันเค้กสิ” พี่ซีว่า
“พี่พูดบอกไงครับ ไม่ได้กดดันสักหน่อย ฟังเหมือนกดดันเหรอเค้ก” พี่หมีหันมามองผม เป็นสายตาที่แกมขู่อย่างนั้น
“เปล่า..แต่ก็ นิดหน่อย” ผมย้อนยิ้มๆ
“ไอ้นี่..ไปทำงานเลยไป” พี่หมีลุกขึ้นเอามือมาลูบหัวผมก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
“สู้ๆนะ” พี่ซียิ้มให้ ผมยิ้มตอบและลุกตามพี่ซีออกจากห้องไปด้วย
กริ๊ง~~
“คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ยินดีต้อนรับครับ/ค่ะ” ผม พี่ซีและพี่หมีพูดขึ้นพร้อมกัน นี่เป็นลูกค้ารายแรกของร้าน
“คึคึ ดีคับ” เด็กผู้ชายอายุราวๆหกเจ็ดขวบเดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่ เด็กนั่นยืนมองพวกผมพร้อมกับยิ้มกว้างให้เหมือนดีใจหรืออาจจะรออะไรสักอย่าง
“เค้ก” พี่หมีเรียกเสียงเบา
“ครับ”
“ไปรับออร์เดอร์”
“อ๊ะ..ไม่เอาหรอก” ผมปฏิเสธแทบจะทันที
“ไป..รับ ออร์เดอร์” พี่หมีพูดซ้ำเสียงเย็น
“แต่พี่ฟ้าบอกว่าไม่ให้เค้กรับออร์เดอร์” ผมยังยืนยันจุดยืนของตัวเอง
“แต่นี่มันเด็กนะ รับไม่ได้รึไง..ไปลองดู” พี่หมีพูดพร้อมกับยื่นสมุดหนังสำหรับจดรายการอาหารมาให้ผม
“พี่หมีอ่ะ”
“จำหนึ่งสอง..จดให้ถูกฝั่งล่ะ จดเมนูมาเป็นภาษาไทยนั่นแหละ มีอุตริจดเป็นภาษาอังกฤษ ก็แค่ไอ้ซีกับไอ้กัสแค่สองคนแหละ” พี่หมีพูดทำเอาพี่ซีอมยิ้ม
“ไป” พี่หมีผลักไหล่ผมเบาๆ ผมเดินไปหาลูกค้าที่นั่งอยู่มุมร้านทางฝั่งขวามือด้วยพยายามทำให้ท่าทางเป็นปกติที่สุด
“ขออนุญาตครับ เมนูครับ” ผมทำตามสเต็ปที่เคยเห็นพวกพี่ๆเขาทำกันพร้อมกับวางเมนูไว้มุมที่เหมาะสม ตอนนี้ผมรู้สึกว่าขาของตัวเองสั่นอย่างกับอาการเดียวกับตอนที่เพิ่งออกกำลังกายมาใหม่ๆ แต่ตอนนี้มันคนละอารมณ์กันนะครับ ผมตื่นเต้นมากๆเลย แต่ก็รู้สึกขอบคุณที่ไม่เจอคุณหญิงคุณนายที่ดูไฮโซกว่านี้ คู่แม่ลูกคู่นี้ยังดีที่เป็นแบบซอฟๆ
“เจด้าจะเอาชุดคุณคิวปิด” เด็กผู้ชายคนเมื่อกี้เงยหน้ายิ้มกว้างมาให้ผม ผมยิ้มตอบให้
“อาหารเช้าชุดคุณคิวปิดนะครับ” ผมหันไปยิ้มให้แม่ของเด็กเป็นการขออนุญาต
“ค่ะ” เธอยิ้มตอบ
“คุณแม่ เจด้าอยากกินไอติมคุณคิวปิดด้วย”
“เดี๋ยวค่อยกินสิลูก เอาชุดคุณคิวปิดก่อนเนอะ”
“ไม่ทราบว่าชุดคุณคิวปิด ต้องการเป็นแบบเซตเล็กหรือเซตใหญ่ดีครับ” ผมยิ้มถามและพยายามควบคุมมือตัวเองไม่ให้สั่นไปมากเกินควร
“เซตเล็กก็แล้วกันค่ะ ขอข้าวโพดเพิ่มด้วยนะคะ”
“ได้ครับ” ผมตอบพร้อมกับรีบจดรายการอาหาร
“เอาเป็นซุปครีมหอมใหญ่กับมันฝรั่งแล้วกันค่ะ” ซุปครีมหอมใหญ่และมันฝรั่ง (- -) ซุปครีมหอมใหญ่และมันฝรั่ง
“เครื่องดื่มรับเป็นอะไรดีครับ” ผมยิ้มถาม
“พี่หมี!!” น้องเจด้าเรียกซะเสียงดังลั่นร้านพร้อมกับโบกไม้โบกมือไปทางพี่หมีด้วย พี่หมียิ้มและอยู่ๆพี่เขาก็เดินเข้ามาหา
“หวัดดีครับน้องเจด้า” ผมยืนจ้องหน้าพี่หมีเขม็ง ดันรู้จัก ไอ้พี่หมีบ้าแกล้งเราอีกแระ
“น้ำเปล่าแล้วกันค่ะ” คุณแม่ของน้องเจด้าตอบ
“ขอทวนอาหารนะครับ” ผมพูด ในระหว่างที่ผมพูดอยู่พี่หมีกำลังเล่นกับน้องเจด้าอย่างมีความสุขก็ไม่ปาน
“ชุดอาหารเช้าคุณคิวปิดหนึ่งที่ ซุปครีมหอมใหญ่กับมันฝรั่งหนึ่งที่ เครื่องดื่มรับเป็นน้ำเปล่านะครับ”
“อาหารที่สั่งรบกวนรอสักครู่นะครับ” ผมก้มหัวให้แล้วเดินออกมาก และเดินตรงกลับเข้าไปในเคาร์เตอร์
“เอาไปให้ในครัวเลยจ้ะเค้ก” พี่ซีบอก
“ในครัว” ผมย้ำพร้อมกับชี้มือไปที่ด้านใน
“ใช่จ้ะ” พี่ซีตอบด้วยหน้าตาสงสัยกับอาการของผม ในครัวอีกแล้วเหรอ ไม่อยากเข้าไปเท่าไหร่เลยอ่ะครับ..เฮ้อ
“ขอโทษครับ ชุดอาหารเช้าคุณคิว..ปิด” ผมชะงักมองทั้งพี่เซ็นและพี่คิวที่ยืนอยู่ในครัว และผมก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ในทันทีว่าทุกวันเวลาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงสิบโมงเช้าทั้งพี่เซ็นและพี่คิวจะต้องมาที่ร้านเพื่ออยู่เวรของตัวเองทุกวัน ตอนแรกผมนึกว่าพี่คิวทำงานอยู่คนเดียวเสียอีก
“กับ..เอ่อ” ผมก้มลงมองกระดาษเพราะอยู่ๆก็ลืมชื่อออร์เดอร์ขึ้นมา
“ซุปหอมหัวใหญ่กับมันฝรั่งหนึ่งที่ครับ” ผมก้มหน้าก้มตาอ่าน หลังจากที่อ่านจบก็รีบเอากระดาษไปเสียบไว้ที่เสียบกระดาษสีเขียวอันเดิมนั่น
“น้องเค้กครับ” พี่เซ็นเรียก ผมหันไปมอง พี่เซ็นยืนยิ้ม
“เลิกกี่โมงครับ”
“เอ่อ ดะ..ดึกครับ” ผมตอบ
“พี่ก็เลิกดึก กลับกับพี่นะ” พี่เซ็นพูด คำพูดที่ออกมาจากปากของพี่เขาดูเป็นปกติมากๆ ผมได้แต่ยืนนิ่งเหลือบหันไปมองเห็นพี่คิวที่กำลังมองผมด้วยหางตาอีกเช่นเคย
“ไม่เป็นไรครับ เค้ก..เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง
“หึ มึงชอบแบบนี้เหรอ” พี่คิวพูดขึ้น ผมหันไปมองหน้าพี่คิวในทันที
"ปกติไม่ใช่แบบนี้นี่" พี่คิวแสยะยิ้มเล็กน้อย
“ปากเหรอไอ้คิว” พี่เซ็นว่า
“หึ..เปล่า” พี่คิวเบะปาก ยักไหล่ก่อนจะหันหลังไปทำเค้กต่อ
“ใช่ครับ..ที่พูดนั่นปากเหรอ สองรอบแล้วนะครับ พี่ไม่พอใจอะไร” ผมพูดกระแทกเสียงอย่างเหลืออด นึกขึ้นได้อีกทีก็พบว่าเมื่อกี้ตัวเองคงสติหลุดไปเรียบร้อยแล้ว
“..................” ในห้องเงียบลงไร้เสียงใดๆ ผมยืนตัวแข็งทื่อ พี่เซ็นมองผมตาค้าง ผมเหลือบมองไปรอบห้องครัวอย่างไม่กล้าสบตาพี่คิวเพราะรู้สึกว่าสายตาของพี่คิวในตอนนี้เหมือนต้องการจะเข้ามาขย้ำผมแล้ว
“ขะ..ขะโทษฮะ” ผมพูดขอโทษทันที รู้สึกตัวอีกทีก็ออกมายืนอยู่ที่เคาร์เตอร์แล้วเรียบร้อย
“เค้กเป็นอะไร” พี่ซีเดินหน้าตื่นเข้ามาหาผม
“เค้ก..เค้ก เผลอปากว่าพี่คิวไปอ่ะครับ” ผมพูดหน้าเสีย
“หึ..ฮ่าๆๆ” พี่ซีโผลงหัวเราะออกมา
“ไปทะเลาะอะไรกับพี่เค้ามาล่ะ” พี่ซียิ้มถาม
“ก็พี่เค้าว่าเค้กตั้งสองรอบแล้วนะครับ เค้กก็เลย..ลืมตัว” ผมบอกอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เค้กจะโดนไล่ออกไหมอ่ะ” ผมจับแขนพี่ซีอย่างขอความช่วยเหลือ
“ไม่หรอกน่า..ในร้านนี้ใครจะไล่เค้กออกได้นอกจากพี่ฟ้ากัน”
“หรือนอกจาก ไปทำให้พี่คิวไม่พอใจจริงๆ..ก็อาจจะอะนะ” อ่าว..ไหงงั้น
“แต่ไม่หรอก พี่คิวเค้าไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผลขนาดนั้น”
“จริงนะ แต่..นั่นเหรอครับคนที่มีเหตุผลน่ะ ว่าเค้กแบบไม่มีเหตุผลมาสองรอบแล้วนะ” ผมพูดบ่น
“นินทาอะไร” เง้อ..ผมชะงัก ขยับตัวเองมายืนอยู่ด้านข้างของพี่ซีในทันที พี่คิวยืนจ้องมาที่ผมเขม็ง
“พี่คิวก็ มาทำโหดใส่น้องอยู่ได้” พี่ซีว่า
“ไม่รู้รึไงว่าการนินทาคนอื่นมันเสียมารยาทน่ะ” พี่คิวว่า
“ว่าคนอื่นต่อหน้าก็เสียมารยาทเหมือนกันแหละครับ” ผมย้อนเสียงเบา
“เค้ก..” พี่ซีปราม
“มีอะไรกันน่ะ” ทุกคนหันไปมองพี่ฟ้าที่กำลังจะเดินผ่านมาทางเคาร์เตอร์พอดี
“มีอะไรเหรอครับเค้ก” พี่ฟ้าถาม
“ปะ..คือ เปล่าครับ” ผมก้มหน้าก้มตา กลัวความผิดขึ้นมาไม่ได้เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ผมก็แค่ลูกจ้างตัวเล็กคนหนึ่ง
“หึ..” พี่คิวหัวเราะแล้วจู่ๆพี่เขาก็เดินกลับเข้าห้องครัวไปหน้าตาเฉย
“เค้ก..มาพบพี่ที่ห้องหน่อย” พี่ฟ้ายิ้มบอก ผมพยักหน้าตอบและรีบเดินตามพี่ฟ้าเข้าไปในห้องของพี่เขา
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“คือ..”
“คิวแกล้งอะไรรึเปล่า”
“นิดหน่อยครับ” ผมตอบเสียงเบา
“หึ..เอ่อ บ่ายนี้เค้กอยู่เวรใช่ไหม” พี่ฟ้าพูดเหมือนไม่ต้องการคำตอบ พี่เขาเดินไปดูที่บอร์ดที่เขียนตารางงานของทุกคนไว้
“งั้นเอาเป็นว่าบ่ายนี้ออกไปซื้อของกับคิวก็แล้วกันนะ ไม่ต้องอยู่ทำงาน” พี่ฟ้ายิ้มพูด
“..................” ผมอ้าปากค้าง หันมองหน้าพี่ฟ้าทันที
“เอาตามนี้แหละ อยู่ร้านเดียวกันจะต้องไม่ทะเลาะกัน..ดังนั้น ไปอยู่จนกว่าจะหายทะเลาะกันนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มกว้างกว่าเดิม
“ค..คือ ไม่ได้ทะเลาะกันอะไรหรอกครับ แค่พูดเถียงกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ผมรีบอธิบายเพราะรู้สึกว่าไม่อยากไปกับพี่คิวจริงๆ
“นั่นแหละ เค้กเข้ากับทุกคนที่ร้านได้แล้วใช่ไหมล่ะ แต่คิวน่ะยัง..ไปสนิทๆกันไว้ซะ จะได้ทำงานร่วมกันง่ายๆเนอะ” พี่ฟ้ายิ้มพร้อมตบไหล่ผมไม่ฟังอะไรอีก
“ป่ะๆ..ไปทำงาน แล้วเดี๋ยวประมาณบ่ายๆพี่จะไปตามเองแล้วกัน ตั้งใจทำงานนะ” พี่ฟ้าพูดไม่หยุด พอพี่เขาส่งผมออกจากห้องได้ก็ปิดประตูหนีผมไปเลย
ผมต้องออกไปข้างนอกสองคนกับพี่คิว ออกไปข้างนอกกับคนอย่างนั้นอะนะครับ คุณแม่..ทำไมหนูต้องมาเจอคนนิสัยแบบนี้ด้วย..แง่ง อยากร้องไห้แต่ก็ทำไม่ได้ !!
= = = = = = = =
“เสร็จรึยัง” ผมเงยหน้าหันไปมองพี่คิวที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในห้องพักพนักงาน
“ผมเหรอครับ” ผมถามกลับเพราะตอนนี้ที่นั่งอยู่มีทั้งพี่กัสที่เพิ่งมาเข้าเวรตอนบ่าย พี่ซีและพี่หมีด้วย
“.................” พี่คิวทำหน้าเซ็งเดินเข้ามายืนจ้องผมใกล้ขึ้น ผมก้มลงมองปิ่นโตของตัวเองที่อยู่ตรงหน้า มันยังคงสภาพเดิมเป็นปกติเพราะผมเพิ่งเปิดออกและยังไม่ได้ทานสักคำ
“ทำอะไร” อีกฝ่ายถามคิ้วขมวด
“กินข้าวกลางวัน” ผมตอบเสียงเบา ถึงผมจะพยายามแข็งข้อแต่ในใจผมก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกันนะครับ
“ไม่ต้องกินแล้ว ฉันรีบ” พี่คิวพูด
“ตะ..แต่พี่ฟ้าบอกว่าจะไปบ่ายโมง” ผมบอก
“แต่ฉันจะไปตอนนี้ ถ้าจะไปบ่ายโมงก็ไปกับบอสเองเหอะ” พี่คิวย้อนด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ
“แต่..ถ้าไม่กิน มันจะเสียนี่ฮะ” ผมพูดหน้าเสียเพราะนี่เป็นอาหารที่แม่ทำมาให้เชียวนะครับ ถ้าไม่กินตอนนี้แล้วเกิดมันบูดขึ้นมา ผมก็ต้องทิ้งซึ่งผมคงทิ้งมันไม่ลงหรอกครับ
“..................” พี่คิวยืนนิ่งมองมาที่กล่องอาหารของผม
“พี่คิวก็ รอแค่นี้เองค่ะ” พี่ซีพูดขึ้น แต่พี่คิวยังคงยืนนิ่ง สายตามองต่ำลงมาที่ผมอีกครั้ง
“ฮื้ม อืมๆ..เร็วๆล่ะ ให้เวลายี่สิบนาที” พี่เขาพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปเลย
“หึหึ” พี่ซีกับพี่กัสหัวเราะคิกคักพร้อมกัน ผมรีบแกะปิ่นโตออกทันที วันนี้แม่ทำข้าวมันไก่มาให้ มีไส้กรอกทอดกับนักเก็ตทอดเพิ่มมาให้ด้วยล่ะครับ
“ถ้าพี่ซีไม่ได้เป็นน้องสาวพี่เซ็น พี่คิวจะฟังพี่ซีไหมเนี้ย” พี่กัสพูดแกมบ่น
“เปล่าหรอก..เราอยู่ด้วยกันบ่อยน่ะ นี่เรียกว่าฟังพี่แล้วเหรอ หึหึ” พี่ซีหัวเราะเล็กน้อย
“พี่ซีสนิทกับพี่คิวเหรอครับ” ผมถามในขณะเดียวกันปากก็เคี้ยวอาหารอยู่ด้วย
“สนิทซิ ก็พี่รู้จักกับพี่คิวมาตั้งแต่พี่ยังเด็กๆนู่นแหละ พี่เซ็นกับพี่คิวเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งนานแระ” พี่ซีเล่า ผมพยักหน้ารับรู้และตั้งหน้าตั้งตากินอาหารต่อ ผมใช้เวลากินอยู่ไม่ถึงสิบห้านาทีอาหารตรงหน้าก็หมด
“เฮ้อ..”
“หึ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้” พี่หมีอมยิ้ม
“โหย พี่หมีไม่ได้เป็นเค้กนี่” ผมว่าพร้อมกับรีบเก็บปิ่นโตให้เหมือนเดิม
“คนแบบนั้นอะนะ..” ผมกำลังจะอ้าปากบ่น
“เสร็จรึยัง” นั่นไง ผิดคำพูดผมเมื่อไหร่
“ครับๆ เสร็จแล้ว..ยังไม่ครบยี่สิบนาทีสักหน่อย” ผมว่า
“รอที่รถ” อีกฝ่ายพูดส่งๆแล้วปิดประตูไป
“ไปละนะครับ” ผมบอกทุกคนพร้อมกับเอาเป้ขึ้นสะพายอย่างรีบเร่ง
“โชคดีนะเค้ก เจอกัน” พี่กัสโบกมือบ๊ายบายให้
“ครับ” ผมยิ้มตอบ ผมรีบวิ่งออกมาทางหลังร้าน พี่หน้าดุนั่นเตรียมสตาร์ทรถรอผมเรียบร้อยแล้ว ผมรีบจ้ำอ้าวไปที่รถในทันใด
“..................” เมื่อขึ้นมาในรถผมรู้สึกโคตรๆเกร็ง เกร็งโคตรๆเลยครับพี่น้อง กลิ่นของรถหรูราคาแพงนี่มันช่างทำให้คนอย่างผมรู้สึกหายใจไม่สะดวกเสียจริง ผมนั่งนิ่ง ในรถช่างเงียบกริบจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกันอยู่แล้ว
ติ๊ด !!
~Almost heaven, West Virgina
Blue Ridge Mountains, Shenandoah River~
พี่คิวกดเปิดเพลง เป็นเพลงที่ผมไม่รู้จักดีนัก แต่เคยได้ยินพ่อเปิดฟังบ่อยๆสมัยตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ เรานั่งเงียบกันจนถึงที่หมาย ตอนนี้อยู่ที่ห้างโรบินสันสาขาหนึ่งที่ห่างจากร้านประมาณห้าหกกิโลเมตรเท่านั้น
“ลงสิ” อีกฝ่ายหันมาพูดบอก ผมรีบปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยและรีบลงจากรถตามพี่เขาไป
“ให้มันเร็วๆหน่อยได้ไหม” พี่คิวหันมาพูดใส่คิ้วขมวด ผมรีบจ้ำเท้าให้เร็วมากขึ้นกว่าเดิม ที่จริงผมก็ไม่ใช่คนเตี้ยอะไร มีส่วนสูงมาตรฐานวัยรุ่นไทยสมัยนี้ปกติดี แต่พี่คิวเป็นคนตัวสูงและขายาวมากต่างหาก อีกทั้งยังเดินเร็วอีกด้วยละครับ ทั้งทั้งที่ผมเองก็เดินเร็วจนแทบจะวิ่งอยู่แล้วก็ยังตามไม่ทันพี่เขาอยู่ดี
เอี๊ยดดดดดด !
ปึก !!
เง้ออออออ..
“จิ..” พี่คิวจิปากอย่างหงุดหงิดน่าดู ผมได้แต่ค้างยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้าอกของพี่คิว พอผมตั้งสติได้อีกทีรถคันที่เกือบจะชนผมเมื่อกี้นี้ได้ขับออกไปแล้ว
“ตานายบอดรึไง เดินไม่รู้จักดู” พี่เขาว่า
“กะ..ก็พี่บอกให้ผมเดินเร็วๆนี่” ผมย้อนด้วยรู้สึกเขินเล็กน้อยที่อยู่ๆผมก็เดินเข้าไปชนพี่เขาอย่างนั้น
“เดินเร็วแล้วไม่ใช้ตาดูทางรึไง” พี่คิวย้อนหน้านิ่งอีก
“ก็..” ผมอ้าปากจะเถียงตอบแต่พี่คิวกลับเดินหนีผมเข้าห้างไปซะหน้าตาเฉย ผมถอนหายใจแรงแต่ก็เดินตามพี่เขาไป
“เข็น” อีกฝ่ายพูดพร้อมมองไปที่รถเข็นเหมือนบอกให้ผมรู้เองว่าต้องเป็นคนเข็นรถเข็นนี่ ผมเลื่อนรถเข็นทำตามคำสั่ง มันก็ช่วยไม่ได้เพราะว่าผมเป็นลูกน้องนี่ครับ เขาเป็นถึงเชฟของร้านเชียวนะ
“ถ้านายไม่ปากมาก นายก็ไม่ต้องมาทำหน้าป่วยอยู่ที่นี่หรอก” อีกฝ่ายบ่นขึ้น
“หึ..” ผมหัวเราะและได้แต่นึกในใจว่า “หน้าตัวเองไม่ป่วยเลยนะไอ้บ้า”
“หัวเราะอะไร” อีกฝ่ายถามเสียงห้วน
“เปล่า” ผมตอบลอยหน้าลอยตาตอบ
“..................” พี่คิวมองผมด้วยหางตาก่อนที่จะเดินนำผมไปคล้ายกับไม่ติดใจเอาความ ปกติผมก็ไม่ใช่คนชอบกวนอารมณ์คนอื่นเท่าไหร่หรอกนะครับ ยิ่งถ้าไม่สนิทด้วยแล้วผมจะนิ่งเงียบเสียมาก แต่กับผู้ชายคนนี้นี่มันอดไม่ได้ที่จะปากมากจริงๆ
ทั้งผมและพี่คิวเดินเงียบ พี่คิวเลือกของหยิบใส่รถเข็นอย่างเดียว ส่วนผมมีหน้าที่เข็นตามอย่างออกปากบ่นไม่ได้สักคำ เราซื้อของกันที่โรบินสันเสร็จพี่คิวก็พาผมไปที่ร้านขายของแห่งหนึ่ง มันเป็นร้านที่ขายผลิตภัณฑ์สำหรับเบเกอรี่โดยเฉพาะ เราซื้อของที่ร้านนั้นอยู่เกือบชั่วโมงและดูเหมือนผมจะได้กลับร้านสักทีเพราะของได้ซื้อไปเยอะมากพอแล้ว ผมเองไม่กล้าถามพี่เขาว่าจะต้องไปไหนต่อ ส่วนพี่คิวก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยเหมือนกัน จนพี่เขาขับรถไปทางกลับร้านนั่นแหละครับผมถึงรู้ว่าจะได้กลับร้านแน่ๆแล้ว เมื่อมาถึงร้านเราสองคนช่วยกันขนของอย่างไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่คำเดียว
“เค้กๆ” พี่ฟ้ากวักมือเรียกผมทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาในร้าน
“ครับ” ผมรีบเดินเข้าไปหา
“เป็นไง สนุกไหมครับ” พี่ฟ้ายิ้มถาม
“เหอะๆ” ผมยิ้มแหยตอบ
“ทำไม..” พี่ฟ้าหน้าเปลี่ยนสีทันที
“ก็..ก็ดีครับ” ผมตอบไม่เต็มปากเต็มคำนัก
“นี่..คุยกันบ้างรึเปล่าเนี้ย หรือว่าทะเลาะกันอีก”
“ไม่ได้ทะเลาะหรอกครับ จะเอาอะไรมาทะเลาะ..เหอะๆ แทบไม่ได้คุยกันเลยต่างหาก” ผมบอก
“ง่ะ ไอ้หลานบ้านี่” พี่ฟ้าพูดอย่างหงุดหงิด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เค้ก..จะพยายามเข้าใจ ว่านั่น..นิสัยพี่เค้า”
“นั่นสันดานมันเลยแหละ” พี่ฟ้าพูดหน้าตาย
“ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะ
“งั้นไปทำงานเถอะ เดี๋ยวได้ออกไปด้วยกันบ่อยๆก็ชิน..แล้วก็สนิทกันไปเองนั่นแหละนะ”
“ยังจะมีครั้งต่อไปอีกเหรอครับ” ผมถามทันที
“หึหึ” พี่ฟ้าหัวเราะ นำมือมาลูบหัวผมเบาๆ
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปครับ แล้วเดี๋ยวเย็นนี้พี่ไปส่งที่บ้านให้ กลับดึกหนิ” พี่ฟ้าบอก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เค้ก..กลับเองดีกว่า” ผมเกาหัวบอกเพราะผมเองก็ลำบากใจ ไม่อยากกลับกับพี่คิวเท่าไหร่ ผมคิดว่าผมไม่เหมาะกับรถหรูๆแบบนั้นหรอก
“วันนี้พี่เอารถมาน่ะ เดี๋ยวคิวก็กลับแล้ว” พี่ฟ้าพูดบอกเหมือนรู้ความคิดผมซะงั้น
“อ่าวเหรอครับ งั้น..ก็ได้” ผมยิ้มเขิน
“หึ ครับ” พี่ฟ้าตบไหล่ผมเบาๆแล้วเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไป ผมเดินกลับไปที่ห้องพักพนักงานเพื่อจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องล็อกเกอร์ แต่ตอนที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปดันเป็นจังหวะเดียวกับที่พี่คิวกำลังเดินเข้ามาจากหลังร้านพอดี
“...................” เราต่างคนต่างหยุดยืนมองหน้ากัน ผมเองคิดว่าพี่คิวคงกำลังจะเข้าห้องนี้ด้วยเหมือนกัน ส่วนพี่เขาเองก็หยุดยืนมองหน้าผมหน้านิ่งเช่นเคย
“จะเข้ารึเปล่า” อีกฝ่ายพูด ผมพยักหน้าตอบทันที
“ก็เข้าไปซิ ยืนนิ่งทำไม” พี่คิวพูด คิ้วเริ่มจะเข้ามาชนกันอยู่แล้ว ผมจึงรีบเปิดประตูห้องเดินเข้าไปในทันที
“อ่าว กลับมาแล้วเหรอครับ” พี่เซ็นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะสำหรับทานอาหารยิ้มทักผม
“ครับ” ผมพยักหน้ายิ้มตอบ
“เอาไป” ผมหันไปมอง เห็นพี่คิวยื่นถุงถุงหนึ่งให้กับพี่เซ็น
“ขอบจาย” พี่เซ็นตอบเสียงกวน
“ไม่จำเป็น” พี่คิวว่า
“อ่าว กลับแล้วเหรอ” พี่เซ็นถามอีก อยู่ๆผมก็รู้สึกอยากฟังบทสนทนาต่อขึ้นมา แต่ก็ต้องตัดใจเปิดประตูที่จะเข้าไปทางห้องล็อกเกอร์และเดินตรงเข้าไป
“เออ” ผมได้ยินเสียงพี่คิวตอบเริ่มเบาลง เมื่อประตูปิดลงทำให้เกือบจะไม่ได้ยินเสียงอะไร ผมจึงรีบเอาหูไปแนบกับประตูห้องในทันที
“คืนนี้ไปกับกูไหม” เสียงพี่เซ็นพูด
“ไม่” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไปเหอะน่า มึงไม่ไปมาเป็นเดือนๆแล้วนะ..เน่าตายแล้วมั้งน้องมึงน่ะ” อะ..อะไรเน่า อะไรตาย อะไรคือน้องเน่าตายอ่ะครับ
“บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไป กูอยากพัก” พี่คิวตอบเสียงเริ่มจะห้วนขึ้นเรื่อยๆ
“เนี่ยแหละคือการพัก ปลดปล่อยหน่อยดิวะ ตายด้านรึไงมึงน่ะ” พี่เซ็นพูดแกมบ่น
“กูไม่อยากไป มึงจะมาบังคับอะไรกูเนี้ย”
“ไปด้วยกันหน่อยดิวะ..พวกมันก็ถามถึงมึงกัน ไปสังสรรค์เจอเพื่อนหน่อย”
“แล้วมึงไม่ใช่เพื่อนกูรึไง” พี่คิวย้อน
“เฮ้อ..” พี่เซ็นถอนหายใจแรง
“กูกลับล่ะ จะกลับไปคิดสูตร..แล้วพรุ่งนี้มีทำงานเช้า ถ้ามึงมาสาย..เงินเดือนสิบเปอร์เซ็นต์ของมึงเดือนนี้เป็นของกูแน่” พี่คิวบอกหลังจากนั้นเสียงประตูด้านนอกก็ดังขึ้น หลังจากนั้นในห้องก็เงียบไป ผมรีบกลับมาแต่งตัวหลังจากที่พอจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดว่าพี่คิวน่าจะสนิทกับพี่เซ็นเอามากๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่คุยกันในลักษณะแบบนี้
“.................” ผมชะงักในทันทีเพราะพอออกมาจากห้องกลับพบพี่เซ็นยังนั่งอยู่ที่เดิม พี่เขาหันมายิ้มให้ผม ผมยิ้มกลับให้แล้วเดินไปดูตารางงานว่าเวรช่วงบ่ายมีใครเข้าบ้าง ตอนนี้เหลือแค่พี่กัสที่เพิ่งเข้าช่วงบ่าย พี่ซีและผม ส่วนพี่หมีได้กลับไปแล้ว
“เค้กครับ” ผมสะดุ้ง ซี๊ดดดดด..มันซี๊ดมาก ผมรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาในทันที เพราะเสียงของพี่เซ็นดันมาพูดอยู่ข้างๆหูของผม ซึ่งมันใกล้เอามากๆเลยอ่ะครับ
“ค..คับ” ผมตอบเสียงเบาแต่ก็ไม่กล้าหันหน้ากลับไปมองเพราะรู้สึกได้ว่าพี่เค้าอยู่ใกล้ผมมากเกินไป ผมจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ พี่เซ็นเงียบไป ทำให้ผมยิ่งเกร็งมากกว่าเดิม
“ถ้าเค้กว่าง” พี่เซ็นเอ่ย
“คะเค้ก..เค้กไม่ว่างครับ ขอโทษครับพี่เซ็น สวัสดีครับ” ผมพูดรัวและหันกลับไปก้มหัวให้พี่เซ็นอย่างไม่ให้เสียมารยาทมากเกินไปก่อนที่จะวิ่งหนีออกมาจากห้องในทันที
ทำไม..ทำไมถึงทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่าตอนอยู่กับผู้หญิงที่ชอบซะอีกนะครับ ผมไม่เข้าใจความรู้สึกของผมตอนนี้เท่าไหร่ เพราะผมไม่เคยเจอใครมาทำกับผมแบบนี้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนมาก่อล่อก่อติดแบบนี้ใส่ มันรู้สึกตื่นเต้น ตกใจและลึกๆแล้วก็...กลัว เรียกง่ายๆว่าเป็นอาการที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับผมบ่อยนัก ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีผู้หญิงประเภทนี้ชอบเข้ามาแกล้งผมอยู่บ่อยๆเพราะพวกเธอรู้ดีว่าผมเป็นคนตื่นเต้นง่ายและค่อนข้างอายเมื่อไหร่ที่โดนพวกเธอแกล้ง อาการแบบนี้ของผมไม่เคยหายไปจากตัวผมเลย ผมพยายามนิ่งตั้งรับแล้วแต่บางครั้งมันก็ทนไม่ไหวจริงๆ ปฏิกิริยาตอบโต้ที่พยายามเก็บงำเอาไว้กลับเปิดเผยออกทุกครั้งไป..
................>>>><<<<................
-
พี่คิวววว ดุอ่ะ อยู่ด้วยแล้วกลัวประสาทเสีย ดูต้องตื่นตัวตลอดเวลา
แต่หล่อ เราให้อภัย :z2:
ส่วนพี่เซ็นนี่อย่ามาเล่นๆนะ :angry2:
-
เกือบจะไปนอนแล้วเชียว อิอิ
อ่านไปก็ลุ้นไป ว่าน้องเค้กทำงานจะเจออะไรบ้าง
ไปกับพี่คิว(ล็อกจิ้นไว้แล้วอีกตะหากตูว่าตานี่พระเอก ฮ่าๆๆ)จะเจออะไร
แต่เค้กกล้าเหวี่ยงพี่คิวกลับด้วย :laugh:
ยังงงความสัมพันธ์อาหลานร้านคิวปิดอยู่นะ แต่ไม่รีบหรอก คิดว่า อ่านไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เข้าใจเอง เรื่องเพิ่งจะลงเนอะ
:กอด1:
-
:z13: จิ้มก่อนอ่านด้วย
ขี้เก๊กจริงๆนะตาพี่คิว เก๊กให้ตลอดน๊า(อันนี้ประชดนะพี่คิว อย่าทำจริงล่ะ)
อาการของหนูเค้ก เป็นสัญญาณเริ่มต้นว่าเริ่มหวั่นไหวกับชายหนุ่มรึป่าว :m12:
-
จั๊กกะจี๋ปนสยองแทนน้องเค้ก o22
-
อย่าหวั่นไหวกับเซนนะจ๊ะ เค้ก
รอพี่คิว หายติสซะก่อน :laugh:
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยย
น่
ฮัก กัน ฮักกัน :really2:
น่ารักจริงๆเค้ก น่าแกล้งจริงๆ มาม๊ะ มาให้แกล้งซะดีดี :z13: :z13: :z13:
:z13: :z13: :z13: :z13:
จิ้มพี่บี้
-
พี่คิวนี่ท่าจะเป็นพวกซึนน่าดูนะ... ว่าไปถึงตอนปะนู้นนนเลยแล้วกัน
นี่ยังแทบจะไม่ได้พูดกันสักกะคำ จะปฏิสัมพันธ์กันยังไงคนอ่านก็รอลุ้นอยู่
แต่น้องเน่านี่ฮานะค่ะ คิดแล้วพี่คิวนี่น่าจะไปลงอ่างล้างน้องให้สะอาดๆนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
-
อิพี่คิวแอ๊บดหดปะวะ
แต่เค้ก หึ้ยยยย น่าจะด่าไปเลย
แอบด่าในใจไอ้พี่คิวไม่รู้หรอกด่าไปเรย 5555++
โหดดีแทบ
-
พี่คิวมันจะดุไปไหน :เฮ้อ:
-
พี่เซ็นรุกหนักนะคะ - -
พี่คิวโหดง่า แต่ชอบค่ะ กร๊ากกกกกก
-
:3125:แกล้งน้องนิสัยไม่ดี
-
พี่เซ็นคงหื่นเนอะ :m20: :m20: :m20:
-
พี่เซนรุกน่ากลัวจัง. น้องเค๊กอย่าหวั่นไหวนะจ๊ะ
พี่คิวจะดุไปไหน
:pig4:
-
พี่คิวดุอ้ะ
งี้เค้กก็กลัวสิ
ระวังเค้กไปชอบพี่เซ็นแทนนะ
-
อยากอ่านต่อไวๆจังค่ะ
-
ทั้งร้านนี้ใช่หมดเลยใช่ไหมยกเว้น ซี
แอบคิดหน่อย ๆ ว่าหมีคิดไรกับฟ้าปะกัดจัง :z1:
แต่กับคิด คงต้องรอจูนเพราะดูจะลวน ๆ นะอารมนะ :laugh:
:pig4: คะ
-
เค้กน่ารักน่าเอ็นดู~
พี่เซ็นนี่ดูเจ้าเล่ห์ กะล่อนเนอะ
พี่คิวดุมากอะ! แต่ก็ชอบ พี่คิวเป็นพระเอกใช่ปะ
+1 :กอด1:
-
มันดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในระดับมากโข
แต่,,,
นู๋ยังบอกไม่ได้ว่าใครสัมพันธ์กันยังไง :z3:
แหะ ๆๆๆ
ต้องรอพี่เบบี๋ค่อย ๆ เฉลย เปิดเผยตัวออกมา ชิชะ
ไปดีกว่า แว่บบ ๆๆ o18
-
จริงๆแล้วก็ดูสมกันนะ :-[
-
กดบวกๆ ขอบคุณจ้า
พี่คิวอาฟ้า อะไรกันหนอ
-
เข้ามาปุ๊ป เจอเบบี้มาต่อปั๊ปเลยเข้ามาอ่านอย่างไว
พี่เซ็น คือว่าน้องเค้กเขากลัวนะนั่น..ไปทำแบบนั้นได้งัย ถ้าเป็นพี่คิวจะไม่ว่าเล้ยยย..ฮ่าๆๆๆ
พี่คิว นิ่งไปนะ..นิ่งๆๆแบบนี้หล่ะน้าลุ้น..กร๊ากกกกกกกกกกก :laugh:
-
สนุกมากมายเลยนะคับเบบี๋ :L1:
-
ชีวิตน้องเค้กในร้านคิวปิด ตื่นเต้นทู้กกกกกกกกวันเลย
รู้สึกประชากรในร้าน จะแปลกกันไปคนละอย่างสองอย่าง
ขอให้น้องอยู่รอดปลอดภัย จนเจอพระเอก ว่าแต่ใครกันนิ
พี่คิวแสนดุ แอ๊บเก๊ก รึเปล่า :เฮ้อ:
-
พี่คิวค่ะมนุษยสัมพันธ์พี่ท่านติดลบเลยนะเนี๊ยะ :m16:
-
:L2: :L2:
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
พี่คิวน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แล้วเค้กจะรู้ว่าพี่คิวน่ารักขนาดไหน ที่เค้าพูดแบบนั้นเพราะชอบหรอก
ผู้ชายปากเเข็งก็งี้แหละ น้องเค้กอย่าคิดมากๆๆๆๆๆ
-
ฮ่าๆ
:laugh:
พี่คิวจงเป็นพระเอกๆ
ปากดีๆแบบนี้ท่าสนุก
:z2:
-
พี่คิวใจร้ายอ่า
เหมือนพี่คิวจะเปนพระเอกไงมะรู้
-
น้องเค้กน่่ารักง่ะ :impress3:
อุ๊แหม่....พี่คิวรักษาสงบไม่มั่วแบบนี้ชักถูกใจนะเนี่ย :o8:
-
รอวันคิวเก๊กหลุด o18
-
o18 o18 o18
-
เย็นชาสุดๆ พี่คิวเนี่ยย
-
:กอด1: :L2:
-
พระเอกของเค้กคือใครกันน้อออ อยากรู้ซะแล้วซิ :z3:
-
o22. ดูแล้วพี่คิวจะออกแนวเฉยชา......น่ากลัว.....
สงสารน้องเค้กจัง... :sad4:
-
เข้ามาอ่านด้วยคนครับ
-
พี่คิวปากเสีย..เค้กเลยต้องปากเก่ง จะสปาร์คกันก็เพราะเถียงกันไปมาหรือเปล่าหว่า
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
แค่ไม่กี่ตอนก็เริ่มสนุกล่ะ
เชียร์พี่คิวเต็มที่!!
แต่โหดเหลือเกิ๊น.....น่าสงสารน้องเค้ก
-
:pig4:
-
เดากันไม่ถูกเลยว่าใครพระเอก
-
น้องเค้กน่ารักง่ะ อยากกอดๆๆๆๆ :กอด1:
พี่คิวนี่ดุให้ตลอดนะ ชิส์! แต่พี่เซ็นนี่ทำไมให้ความรู้สึกสยองมากกว่าสยิวล่ะ :laugh:
อยากอ่านต่ออีกแล้วแหละเบบี้ แอร๊ย :o8:
-
น้องช่างน่าแกล้งจริงจริ๊ง :-[
-
ถึงจะนิดจะหน่อย แต่ก้อจะคอยต่อปายยยยยยยยยยยยยยย
เค้กน่ารักเววววววว้ พีี่คิวเล็งเค้กป่าววะเฮ้ย
-
เหมือนโรคจิต...แกล้งเด็กน่ารักๆ
+1
-
พี่คิวก็ดุได้อีกอ่ะพี่ จะเย็นชาไปไหนนนนน~~
แล้วทำไมไม่อยากไปต่อกะพี่เซ็นหว่า ดูพี่แกมีอะไรในใจเยอะจัง หรือว่าอกหักมา?
พี่ฟ้าก็อาสาไปส่งน้องเค้กตลอดเลยน้า~ พี่เซ็นก็เริ่มรุกหนักเเระ รอลุ้นๆใจน้องเค้กว่าจะปิ๊งใคร >///<
-
เค้กน่ารักเหมือนเดิม
พี่คิวก็ดุเสมอต้นเสมอปลายดีจริงๆ
:กอด1:
-
สงสารเค้ก คิวก็ดู๊ดุ.....
-
เหมือนเบบี้จะซ่อนเงื่อนอะไว้สักอย่าง แต่ยังหาไม่เจอ
-
เซ็นรุกซะเค้กเผ่นเลยเนี่ย
-
เค้กเริ่มแรงขึ้นแล้ว มีสวนพี่คิวด้วย หุๆ
พี่เซ็นจะเอาไงเนี่ย จริงจังหรือแค่เล่นๆ
แอบคิดในใจว่าพี่หมีกับพี่ฟ้ามีซัมติงรองกันรึเปล่าน้อ
-
อะไรเนี้ย
เดาไม่ถูกๆ
-
ชอบค่ะผู้ชายโหด
ตบ ปล่ำๆไรงี้
-
ตกลงคิวเป็นพระเอกสิเนี่ย...จะรักกันอิท่าไหนน้อ~
ใครมันจะเป็นฝ่ายเริ่มจีบก่อนนี่สิ
-
พี่คิว จะดุไปไหนเนี่ย
ไปเที่ยวด้วยกันทั้งที ไม่มีชวนกันคุยอ่า
เปลี่ยนพระเอกเลยไหม???
-
คิวๆ จะโหดไปไหน :เฮ้อ:
-
ครืออออ เพิ่งรู้ว่าเบบี้มีนิยายเรื่องใหม่ เลยตามมาอ่าน
แต่!!!! :a5: กำลัง งง ว่านี่นั่งอ่านนิยายเบบี้จิงๆดิ!!! กร๊ากกกก
ปกติความฮาร์ดคอจะมากกว่านี้มากกก แต่เรื่องนี้ยังคงมีบ้างจากพี่คิวแต่ก็ถือว่าซอฟๆนะ
แต่เค้กเนี้ยสิ แบ๊วมากกกกอ่ะ คำพูดคำจา งงเลยว่าเบบี้แต่งจิงดิ 5555555
ขนาดขนมยังไม่แบ๊วเท่านี้เลย ยิ่งสลิ่มไม่ต้องพูดถึง รายนั้นฮาร์ดคอปากแข็ง กร๊ากกก
แต่น่าสนใจมากเลยเรื่องนี้มันยังไม่รู้ว่าใครคู่ใครบ้าง รออ่านต่อนะจ๊ะ o13
-
พี่คิวค๊า.....
จะดุไปถึงไหน หรือว่า...
แกล้งทำเป็นโหดกลบเกลื่อนอะไรรึป่าว o18
-
เค้กน่ารักอ่ะ จะเข้ากันจะพี่คิวได้เมื่อไหร่น้อ
-
พี่คิวดุ ชอบอ่ะ
เค้กน่ารัก แต่พี่เซนนี่ยังงัย หรือเค้กจะหวั่นไหวกับเซน
-
:L2: ยินดีกะเรื่องใหม่จ้า มาช้าไปหน่อย แหะๆ
เรื่องนี้น้องเค้กน่าร๊ากกกก
แต่ดูไม่ยอมใครเหมือนกันนะ ท่าทางจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพี่คิวแน่ๆ ต่อไป
พี่เซนต์รุกได้น่ากลัวเกิ้นนนนน
รออ่านตอนต่อไปนะค้า~~~~ o13
-
ชอบคะ
แต่เรื่องนี้ปริศนาแอบเยอะจัง
รอตอนต่อไปนะคะ
-
ตอนแรกกะจะดองไว้หลายๆตอนแล้วค่อยมาอ่านซักหน่อย แต่อดไม่ไหว
เรื่องเหมือนจะมีปริศนาหลายอย่าง
รอตอนต่อไปฮะ
-
ยังไม่ค่อยเข้าใจนิสัยของคิวเลยอ้าา
ตกลงเปนคนยังไงเนี่ย จะนิ่งจะขรึมทำไมกัน???
-
~5~
หลังเลิกงาน ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เค้กได้คัดเลือกให้เป็นเดือนสาขาด้วยเหรอเนี้ย เก่งจัง” พี่กัสยิ้มพูด
“ออกแนวโดนบังคับไปโดยไม่รู้ตัวน่ะครับ” ผมยิ้มตอบ
วันนี้ผมกับพี่กัสเลิกงานพร้อมกัน หลังเลิกงานพี่กัสชวนให้ผมออกมาหาอะไรทานกันที่หน้าปากซอยก่อนกลับบ้าน ผมเองที่เพิ่งได้เริ่มทำงานที่นี่ก็ไม่อยากจะปฏิเสธให้เสียมารยาท เราสองคนเดินจากร้านมาที่หน้าปากซอยด้วยกัน ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว ระหว่างทางเงียบสงบแต่ไม่ได้ดูน่ากลัวอะไรนักเพราะมีแต่บ้านคนมีฐานะร่ำรวยทำให้ค่อนข้างเดินได้อย่างสบายใจ
“งั้นเดี๋ยววันที่ขึ้นแสดง พี่ขอไปดูด้วยนะ” พี่กัสพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ได้ครับ แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีไหม..เค้กอายอ่ะ”
“ไม่ต้องอายหรอก ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน..สู้ๆ” พี่กัสทำท่าชูแขนเป็นกำลังใจให้ เราเดินมาจนถึงร้านก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เกี๊ยวที่หน้าปากซอย คนเยอะพลุกพล่านคงเพราะเป็นเวลาเลิกงานด้วย
“เออ พี่จะถามตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที..ทำไมเค้กถึงมาทำงานที่ร้านเราล่ะ” พี่กัสถามขึ้นหลังจากที่เราสั่งอาหารกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“หลงเสน่ห์มั้งครับ” ผมยิ้มตอบ
“อืม..ก็ใช่ ทุกคนก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน” พี่กัสทำหน้านึก
“แล้วพี่กัสล่ะครับ ทำงานที่ร้านนี้นานรึยัง”
“อืม เกือบปีได้แล้วแหละ” พี่กัสตอบ
“แล้วทำไมพี่ถึงมาทำงานพิเศษที่ร้านนี้ล่ะ พ่อแม่พี่ไม่ว่าเหรอฮะ..พี่ดูมีฐานะออก” ผมพูดยิ้มแหยแต่ก็พูดออกไปตรงๆ
“ไม่หรอก..บ้า ก็แค่พออยู่พอใช้น่ะ อืม..พี่ก็อ้างว่าอยากหาประสบการณ์อะไรประมาณนี้แหละ ท่านก็เลยให้มา แล้วมันเป็นร้านที่พวกท่านไว้ใจด้วย” พี่กัสตอบ คำว่า “ท่าน” ที่ออกจากปากของพี่กัสดูปกติมากสำหรับพี่เขาซึ่งขัดกับคำพูดที่ว่า “พออยู่พอใช้” พอสมควรสำหรับผม
“แสดงว่าทางบ้านรู้จักกันหรอกเหรอครับ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ก็..ไม่เชิง ที่จริงไม่ได้รู้จักกันเลยนะ แต่คงเพราะร้านของพี่ฟ้ามีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะคนในร้าน..ทุกคนค่อนข้างมีฐานะทางสังคม เลยทำให้ที่บ้านพี่ไม่ได้ติอะไรมาก”
“หื้ม..หน้าตาทางสังคม ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมถามทันทีด้วยรู้สึกแปลกใจ
“อ่าว..” พี่กัสเบิกตาโพรงมองหน้าผมเหมือนตกใจ
“นี่อย่าบอกนะว่าเค้กไม่รู้เรื่องของคนในร้านน่ะ” พี่กัสพูดเสียงสูงเล็กน้อย
“ค..ครับ เรื่อง..อะไรเหรอ” ผมถามตะกุกตะกัก ในใจกลับนึกเป็นเรื่องในแง่ลบไปเสียก่อนแล้ว
“เรื่องพี่ฟ้า พี่คิว พี่เซ็น พี่ซี..อะไรประมาณนี้”
“ไม่..ไม่รู้เลยครับ อย่างเช่น..” ผมถามกลับ
“ก็เรื่องที่พี่ฟ้ากับพี่คิวเป็นอาหลานกัน ตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..นักธุรกิจชื่อดัง รวยติดอันดับหนึ่งในสิบของประเทศเลยนะ” พี่กัสพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่ข่มน้ำเสียงให้เบาลงคงเพราะกลัวว่าโต๊ะข้างๆจะได้ยินเข้
“.................” ผมชะงัก นั่งอ้าปากค้างไปแล้ว เพราะไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนหน้าเลยจริงๆครับ
“แล้วอย่าบอกนะว่า ไม่รู้ว่าพี่เซ็นกับพี่ซีนะเป็นเซเล็ปดีๆเลยล่ะ นามสกุลอภิเลิศทรัพย์..เค้กไม่เคยได้ยินเหรอ” พี่กัสถาม ตาเบิกโต
“ไม่ ฮะ” ผมยิ้มตอบเฝื่อนๆ กำลังอึ้งและตกใจไม่นึกว่าคนที่อยู่รอบตัวตอนนี้จะเป็นคนดังมากขนาดนั้น
“โอ้แม่เจ้า” พี่กัสเอามือจับหน้าอกตัวเองเหมือนไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนั้นเป็นความจริง
“แล้ว..แล้วทำไมพี่ฟ้าถึงมาเป็นเจ้าของร้านที่นี่ล่ะครับ ในเมื่อรวยขนาดนี้ เปิดร้านใหญ่โตกว่านี้ก็ได้นี่” ผมถามและพยายามกดน้ำเสียงลงเช่นเดียวกัน ที่จริงร้านก็ไม่ใช่ร้านเล็กอะไรหรอกนะครับ มันทั้งหรูและมีสไตล์ แต่ผมแค่สงสัยว่าในเมื่อรวยขนาดนี้ทำไมถึงมาเปิดร้านและมาทำธุรกิจเล็กๆแบบนี้ร่วมกัน
“พี่ก็ไม่ได้รู้ลึกอะไรมากหรอกนะ แต่เท่าที่พอจะรู้มา..ก็คือพี่ฟ้าอ่ะ ถูกตัดออกจากกองมรดก ที่จริงไม่ถึงกับตัดออกหรอก ก็ได้ทรัพย์สินส่วนหนึ่งมาบ้าง พี่ฟ้าค่อนข้างผ่าเหล่าทำให้เข้ากับพ่อของพี่ฟ้าไม่ได้ อีกเรื่องนึงที่ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ก็คือ..ไม่รู้เพราะว่าพี่ฟ้าเป็นเกย์ด้วยรึเปล่า พี่ฟ้าถึงมีปัญหากับทางบ้านน่ะนะ"
“เป็นเกย์!!” ผมตะโกนพูดเสียงดังอย่างลืมตัว
“ชู่..เบาๆสิ” พี่กัสรีบปราม
“พี่ฟ้าเป็นเกย์เหรอครับ” ผมกระซิบถาม หน้าแทบจะติดกับโต๊ะอยู่แล้ว
“ใช่ ดูไม่ออกเหรอ..พี่ฟ้าแกก็ไม่ได้ปิดบังอะไร ออกจะเปิดเผยนะ” พี่กัสพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ผมนี่สิ..ช็อกไปแล้วละครับ ถ้าบอกว่าพี่กัสเป็นเกย์ผมคงจะไม่ตกใจเท่าไหร่เพราะพี่เขาดูออกจะคุณหนูและดูเอาแต่ใจ แต่พี่ฟ้าออกจะดูแมนเหมือนผู้ชายสุภาพปกติทั่วๆไปนะครับ
“ยังมีเรื่องอะไรที่เค้กสมควรจะรู้ไว้ แต่ยังไม่รู้อีกไหมครับเนี้ย” ผมถามด้วยความระแวง
“แฮะๆ จะให้พี่เล่าให้หมด สงสัยต้องนอนค้างคืนเลยแหละ” พี่กัสยิ้มกว้าง
“เอาที่เค้กควรจะรู้ไว้ตอนนี้ เผื่อวันที่เค้กมาทำงานวันถัดไป จะได้ไม่เผลอหลุดปากพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดนะสิครับ” ผมบอก
“งั้นรู้ไว้..พี่เซ็นน่ะเป็นไบ ได้ทั้งหญิงได้ทั้งชาย เจ้าชู้ด้วย นิสัยแย่ชะมัด” พี่กัสพูดหน้างอ ผมมองหน้าพี่กัสอย่างแปลกใจ แอบอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพี่กัสถึงทำหน้าทำตาแปลกจากทุกที
“ส่วนพี่ออฟ บ้านก็พออยู่พอกินอะนะ เห็นว่าพ่อเป็นหมอ แม่ก็เป็นหมอ” เอ่อ..สำหรับผมไม่เรียกว่าพออยู่พอกินหรอกครับ แบบนี้เข้าขั้นบุคคลมีเงินแล้วล่ะ
“ส่วนพี่หมี เห็นเถื่อนอย่างนั้นน่ะ..โคตรรวย เป็นผู้ดีเก่า..ธุรกิจที่พี่พอจะรู้มา เห็นว่าบ้านพี่แกทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานคอมพิวเตอร์แล้วก็ธนาคาร น่าจะนะ..พี่หมีเป็นคนไม่ค่อยพูด พูดทีไม่ดุก็ประชด..ทำใจหน่อยก็แล้วกัน พวกเราเลยไม่ค่อยรู้เรื่องครอบครัวของพี่แกมากนัก” พี่กัสทำหน้าเอือม
“เค้กรู้สึกแย่ชะมัด” ผมยิ้มแหย
“บ้า มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอกน่า..ทุกคนนิสัยดีนะ ถึงจะแปลกๆไปบ้างก็เถอะ” พี่กัสพูดปัด
“ก็จริง แต่ที่เค้กสงสัย ทำไมทุกคนถึงต้องมาทำงานล่ะครับ ในเมื่อก็มีเงินใช้จ่ายได้ไม่หวัดไม่ไหวขนาดนี้”
“คงเพราะอยากลองอะไรแปลกใหม่ละมั้ง ตามทฤษฎีคนมีอยากลองไม่มี คนไม่มีก็อยากมี..พี่หมีเค้าก็ออกมาอยู่คอนโดคนเดียวด้วยนะ ทำงานฟรีแลนซ์ด้านกราฟฟิกคอม ส่วนพี่ซีก็คงเพราะติดพี่ฟ้า..เห็นว่าพี่ฟ้าเปิดร้านก็เลยอยากมาช่วย”
“งั้นแสดงว่าพี่ฟ้ากับครอบครัวพี่ซีต้องสนิทกันมากเลยสิครับ” ผมถาม
“มากเลยล่ะ ก็ครอบครัวของพี่เซ็นกับพี่คิวน่ะทำธุรกิจร่วมกันมานานมากแล้ว แถมพี่เซ็นกับพี่คิวยังเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆอีก เห็นว่าตอนที่ไปเรียนที่อิตาลีก็ไปด้วยกันทั้งพี่เซ็นทั้งพี่คิวเลย”
“สุดยอดเลย ดูพวกพี่เค้าเก่งกันจัง” ผมอดที่จะชมไม่ได้
“อืม..ทั้งเก่ง ทั้งรวย นิสัยก็ดี หล่อเลือกได้จริงๆ” พี่กัสพูดส่งๆด้วยหน้าตาเซ็งโลก
“มันก็จริง” ผมพูดอย่างเห็นด้วย
“เฮ้อ~” ผมกับพี่กัสถอนหายใจพร้อมกัน
“หึ..” เราสองคนยิ้มมองหน้ากัน
“พี่กัสถอนหายใจทำไมอ่ะ”
“เค้กล่ะถอนหายใจทำไม” พี่กัสย้อนถามกลับ
“ก็แค่คิดว่า..ผมไม่น่ามาอยู่ในหมู่มวลคนพวกนี้เลยน้า” ผมพยักพเยิดตอบ
“ฮ่าๆๆๆ” พี่กัสหัวเราะ ผมเองก็ได้แต่อมยิ้ม
“แล้วพี่กัสล่ะ ถอนหายใจทำไมครับ”
“ก็..เปล่า แค่รู้สึก..เอ่อ” พี่กัสทำหน้าคิดหนัก หน้าหวานๆที่เหมือนคิดมากนี่กลับดูเหมือนเด็กประถมกำลังคิดเลขไม่ออกซะมากกว่า
“เปล่า เฮ้อ..ช่างมันเถอะ” พี่กัสปัดมือไปมา
“บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงได้แล้วครับ” พนักงานชายเดินเอาบะหมี่เกี๊ยวที่ผมกับพี่กัสสั่งมาเสิร์ฟ เราสองคนกินกันไปคุยกันไป ผมเองก็รู้สึกเพลินดีเหมือนกัน รู้สึกผ่อนคลาย พี่กัสเป็นคนยิ้มง่ายและค่อนข้างมองโลกในแง่ดี ทำให้ผมยิ้มได้ตลอดระหว่างที่คุยกันเลยละครับ
= = = = = = = =
“หนู อาบน้ำเสร็จรึยังล่ะลูก” เสียงของแม่ดังมาจากชั้นล่าง
“เสร็จแล้วค้าบ” ผมตะโกนตอบแล้วรีบหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย วิ่งลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว
“ระวังๆหน่อยสิ เดี๋ยวก็หกล้มไปหรอก” แม่ปรามหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่
“ไหน..ของอยู่ไหน” ผมรีบถาม
วันนี้ที่มหาวิทยาลัยไม่มีสอน ลูกของอาจารย์ป่วยกะทันหันและบวกกับผมไม่มีเวรไปทำงานที่ร้านของพี่ฟ้าด้วย ผมจึงตั้งใจตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าวันนี้จะไปที่มูลนิธิเด็กด้อยโอกาสสักหน่อย เลยให้แม่ออกไปซื้อของให้แต่เช้า เป็นพวกของใช้จำเป็นกับขนมกรุบกรอบ ส่วนผมลุกมาทำเค้กกล้วยหอมตั้งแต่ตีห้าแล้วละครับ ที่ทำเค้กกล้วยหอมเพราะทำง่ายดีและทำได้ปริมาณเยอะเหมาะสำหรับแบ่งให้น้องๆได้อีกด้วย
“นี่..แม่ซื้อเค้กมาให้อีกปอนด์ เห็นว่าเดี๋ยวนี้นานๆไปที ซื้อไปเยอะๆเลยก็แล้วกัน” แม่บอก
“ครับ งั้นเค้กไปนะ” ผมหยิบถุงทั้งหมดมาถือไว้
“แน่ใจนะว่าไม่ให้แม่ไปส่งน่ะ” แม่ถามอีกครั้ง
“อื้ม เค้กไปเองได้น่ะแม่..ไปนะครับ” ผมก้มลงหอมแก้มแม่แล้วยิ้มให้ก่อนที่จะเดินออกมานั่งใส่รองเท้าที่หน้าบ้าน
วันนี้ค่อนข้างพะรุงพะรังนิดหน่อยเลยต้องอาศัยแท็กซี่หน้าปากซอยซะแล้วล่ะครับ ผมเดินมาขึ้นแท็กซี่ที่หน้าปากซอยและบอกให้แท็กซี่ไปจอดที่หน้าปากซอยทางเข้ามูลนิธิ เพื่อความประหยัดผมคิดว่าเราควรจะเดินเท้าเอาเองดีกว่าที่จะพึ่งแท็กซี่หรือวินมอเตอร์ไซค์
~วันนี้ของเยอะแยะเลย น้องๆต้องดีใจแน่ๆ ^^~
“หึหึ..” ผมเดินหัวเราะลั่นล้าคนเดียว บ้าไปแล้วมั้งครับนี่..
ปี๊มมมมมมมม !
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดด !!
“อุก..” เค้ก ! ผมล้มลงกับพื้น ผงะตาค้างทันทีที่ได้ยินเสียงแตรรถยนต์
“เฮ้ย” ผมร้องมองกล่องเค้กที่คว่ำหน้าอยู่บนพื้นด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องนั่งนิ่งอึ้งไปเพราะทำอะไรไม่ทันแล้ว
“จิ..นายอีกแล้วเหรอ เฮ้อ” ผมเงยหน้ามอง เห็นพี่คิวที่กำลังมีท่าทางหงุดหงิดและเซ็งเต็มประดา ผมนั่งนิ่ง ไม่ตอบโต้อะไรเพราะกำลังรู้สึกแย่กับเค้กสุดๆ ผมลุกขึ้นนั่งยองๆแล้วพลิกกล่องเค้กขึ้นดูเงียบๆ กล่องเค้กปอนด์ที่แม่ซื้อมาเมื่อเช้าเละตุ้มเปะไปหมดแล้ว ส่วนเค้กกล้วยหอมที่ผมทำมาก็ตีลังกาไปคนละทิศคนละทางไม่สวยเหมือนตอนแรก
“....................” ผมเงยหน้ามองพี่คิวที่หยุดยืนอยู่ข้างๆผม พี่เขามองหน้าผมนิ่งและไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไรออกมา
“ผมผิดหรือพี่ผิด ถ้าผมผิดผมจะได้ขอโทษ” ผมพูดเสียงเรียบ ในใจก็สั่นเร่าๆเพราะจริงๆแล้วผมก็ไม่รู้ว่าผมผิดเองที่เดินเพลินไปหรือเป็นเพราะพี่เขาที่ขับออกมาจากซอยเร็วไปกันแน่
“มันก็ผิดทั้งคู่นั่นแหละ” พี่คิวตอบเสียงกระชากเล็กน้อย
“งั้นก็คงไม่ต้องขอโทษ” ผมพูดปัดแล้วหยิบถุงเค้กทั้งหมดลุกขึ้นยืน
“เท่าไหร่ จะจ่ายให้” พี่คิวพูดขึ้นเสียงห้วน ผมหันกลับไปมอง พี่คิวยืนนิ่งจ้องหน้าผมตอบ
“ไม่จำเป็น มันเละไปแล้วครับ..” ผมบอก
“จะเอาไปไหน” พี่เขาถามอีก
“...................” ผมเงียบ อยู่ๆก็รู้สึกปากหนักขึ้นมา กำลังรู้สึกเสียใจ..เค้กสำหรับน้องๆเละหมดแล้ว ตอนนี้ผมคิดได้แค่นั้น
“ฉันถาม ไม่ได้ยินรึไง” พี่คิวลดน้ำเสียงต่ำลง
“ให้เด็กที่มูลนิธิ ด้านในอ่ะฮะ” ผมตอบ มูลนิธิอยู่ลึกเข้าไปด้านในเลยร้านของพี่ฟ้าไปอีกประมาณกิโลกว่าๆเท่านั้น
“ขึ้นรถ” พี่คิวพูดสั่งแล้วเดินกลับไปที่รถ ผมอึกอักยังคงยืนงงเพราะไม่เข้าใจว่าพี่เขาหมายความว่าอย่างไร
“บอกให้มาขึ้นรถ จะเอาไหม..เค้กน่ะ” พี่คิวขึ้นเสียงทำให้ผมรีบวิ่งไปขึ้นรถทันที บทจะไม่กลัวก็ไม่กลัวแต่พอบทพี่เขาขรึมขึ้นมาใจจริงผมก็รู้สึกกลัวอะนะครับ
เมื่อขึ้นมาบนรถ..ผมนั่งเงียบ พี่คิวขับรถกลับทางไปร้าน พอถึงร้านผมก็รีบลงจากรถตามพี่เขาเข้าไปในร้านทันที
“อ่าว เค้ก” พี่กัสที่กำลังเดินมาทางด้านหลังร้านทัก ผมรีบยกมือไหว้อย่างทุลักทุเลเพราะในมือมีถุงเค้กอยู่ด้วย
“หวัดดีครับ”
“มาทำไมอ่ะ ไม่ใช่เวรวันนี้ไม่ใช่เหรอ” พี่กัสถาม
“แฮะๆ..ไว้เดี๋ยวเล่าให้ฟังทางMSNนะครับ” ผมรีบกระซิบบอก พี่คิวเดินมุ่งหน้าไปทางเคาร์เตอร์อย่างเงียบๆ
“อ่าว เค้ก..มายังไงเนี้ย” พี่ฟ้าที่อยู่ที่เคาร์เตอร์ทักผมอีกคน ผมยิ้มเฝื่อนๆตอบให้ ผมยืนมองพี่คิวที่เดินตรงเข้าไปในห้องครัว
“พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อยนะครับ” ผมตอบแล้วเดินเข้าไปในตัวเคาร์เตอร์ พี่คิวเดินออกมาพร้อมกับอุปกรณ์สามสี่อย่าง
“จะเอาไว้กินไหม หรือยังไง” พี่คิวถามมองไปที่เค้กของผมเหมือนรอให้ผมตัดสินใจ
“หมี..เอาเค้กโอลีโอ้ เค้กส้ม แล้วก็ดาร์กเค้กทั้งปอนด์ใส่กล่องเตรียมให้พี่ด้วย” พี่คิวหันไปสั่งพี่หมี
“ครับ” พี่หมีพยักหน้าตอบ ผมหันกลับไปมองพี่ฟ้า เห็นพี่ฟ้ายืนอ้าปากค้างเหมือนอึ้งๆกับสถานการณ์ตรงหน้า ผมยิ้มให้พี่ฟ้าพร้อมกับปัดมือไปมา แต่ก็ยังงงตัวเองเหมือนกันว่าทำท่าแบบนี้ไปทำไมกัน
“ตกลงจะเอาไปให้เด็ก หรือจะเอาไว้กินเอง..จะได้แต่งให้” พี่คิวถามอีกครั้ง
“ถ้าแต่งใหม่ มันจะดีขึ้นเหรอครับ”
“แน่นอน ก็ฉันเก่งหนิ” พี่คิวตอบหน้าตายแล้วหยิบถุงเค้กออกจากมือผมไป ไอ้ครั้นตอนแรกว่าจะชมว่าที่จริงพี่เขาก็ดูเป็นคนจิตใจดีเหมือนกันแต่เปลี่ยนใจไม่ชมแล้วจะดีกว่าเพราะเจ้าตัวเล่นชมตัวเองได้เต็มปากเต็มคำจนผมรู้สึกเพลีย
“ยืนบื้ออยู่ทำไม จัดเค้กกล้วยหอมไปสิ” พี่คิวว่า
ผมรีบวางกล่องเค้กกล้วยหอมลงบนโต๊ะ ตั้งหน้าตั้งตาจัดเค้กกล้วยหอมให้สวยอย่างเดิม ไม่นานพี่คิวเองก็จัดการแต่งหน้าเค้กปอนด์ที่แม่ผมซื้อให้ใหม่จนเสร็จ แถมยังเอาใส่กล่อง ใส่ถุงใหม่ให้เรียบร้อยเลยด้วย
“จะเอาไปไหนกันน่ะ” พี่ฟ้าที่ยืนเงียบอยู่นานถามขึ้น
“เอาไปให้มูลนิธิเด็กด้อยโอกาสที่ด้านหลังนี่อ่ะครับ” ผมยิ้มตอบ
“เหรอ..งั้น พี่เอาเงินช่วยนะ” พี่ฟ้าพูด รีบกุลีกุจอหยิบเงินออกมาให้
“แต่ว่า..” ผมอ้ำอึ้งไม่กล้ารับมา
“เอาไปเถอะน่า พี่เองก็ไม่ค่อยได้ไปช่วยเลย..นานๆทีถึงโอนเงินไปให้ที เค้กเอาไปทำแทนพี่ก็แล้วกันนะ..ส่วนเรื่องเค้กวันนี้พี่ยกให้เลยก็แล้วกัน” พี่ฟ้ายิ้มบอกพร้อมกับเอาเงินมายัดใส่มือผม
“ไม่ต้อง คิวจะจ่ายเอง..” พี่คิวพูดขึ้น
“...................” พี่ฟ้าหันไปมองหน้าพี่คิวที่ยืนนิ่งเป็นเสาหลักเมืองอยู่ด้านหลังของผม
“ลงบิลฉันไว้” พี่คิวสั่งพี่หมีแล้วเดินออกไปพร้อมกับกล่องเค้กในมือ
“เอ่อ..” ผมยืนค้างเพราะห้ามไม่ทันแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นเนี้ยเค้ก พี่อยากรู้ๆ” พี่กัสกับพี่ฟ้ารุมถามผมทันที
“คือ..ไม่มีอะไรหรอกครับ คือพี่คิวขับรถจะชนเค้กที่หน้าปากซอย แล้วเค้กมันก็หล่นเละ แค่นี้เองครับ..เค้กไปก่อน ขอตัวนะครับ สวัสดีครับ” ผมรีบพูด ผงกหัวให้และยกมือไหว้ทุกคนแล้วหยิบถุงเค้กที่เหลือวิ่งออกมาทางหลังร้านทันที พี่คิวยืนรออยู่ที่รถแล้ว
“เค้กอยู่ไหนอ่ะครับ” ผมถาม
“ขึ้นรถ เดี๋ยวไปส่ง” พี่คิวบอก
“ไม่เป็นไร ผมเกรง..”
ปึบ !!
ผมยังไม่ทันพูดจบดี พี่คิวก็ขึ้นรถไปแถมยังปิดประตูใส่หน้าผมอีก
“ฮื้ม..หนึ่ง สอง สาม” ผมกัดฟันนับเลข มองคนที่นั่งอยู่ในรถอย่างข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ แต่สุดท้ายแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ และต้องยอมให้อีกฝ่ายมาส่งถึงที่มูลนิธิอยู่ดี..เฮ้อ
“เอ่อ” เมื่อมาถึงมูลนิธิ ผมหันกลับไปมองพี่คิวที่เดินตามลงมาด้วย พี่คิวยืนเงียบไม่มองหน้าผม สายตาของพี่เขามองข้ามหัวผมเข้าไปในมูลนิธิแล้ว
“พี่ลงมาทำไมครับ” ผมถามอย่างอดสงสัยไม่ได้
“อยากเห็น” พี่เขาตอบส่งๆ T—T ผมเปิดประตูหยิบถุงเค้กออกมา พี่คิวหยิบถุงไปช่วยถือไว้ด้วย ผมเดินนำพี่คิวเข้ามาในมูลนิธิ ตอนแรกอยากจะถามออกไปว่า “เข้าไปด้วยกันไหม” แต่คิดว่าไม่ถามจะดีกว่า ในเมื่อเจ้าตัวเขาเอาถุงเค้กไปถือขนาดนี้แล้วผมก็คงต้องเข้าใจด้วยตัวเองละครับ
“สวัสดีครับป้าพิน” ผมก้มหัวแสดงความเคารพให้ป้าพิน ป้าคนทำอาหารให้กับเด็กๆที่นี่
“สวัสดีจ้า หายหน้าไปนานเลยนะ..วันนี้เอาอะไรมาล่ะ เห็นว่าเมื่อวานโทรหาครูกิ่งว่าจะมา ป้าเลยไม่ได้ทำของหวานไว้เลย” ป้าพินยิ้มพูด
“ฮ่าๆๆ เค้กซื้อเค้กแล้วก็ทำเค้กกล้วยหอมมาให้นะครับ” ผมบอก
“เอาเข้าครัวเลยไปลูกไป” ป้าบอก
“เอ่อ ขอถุงด้วยครับ” ผมหันกลับมามองถุงที่อยู่ในมือของพี่คิว
“..................” พี่คิวยืนนิ่งแต่ก็ยังไม่ยอมยื่นถุงมาให้ผม
“ฉันช่วย” พี่เขาบอก ผมยืนอ้าปากค้างอย่างไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้
“นำไปสิ” มีการพูดกระชากเสียงใส่เราอีก บ้าบอ..เข้าใจยากจริงๆครับให้ตาย
ผมเดินนำพี่คิวเข้าไปในครัว ครัวมีพื้นที่ปานกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก เพราะที่มูลนิธินี้มีเด็กอยู่เพียงสี่ร้อยกว่าคน เป็นมูลนิธิของคุณหญิงพวงทองที่มีบ้านอยู่ในละแวกนี้ ที่คุณหญิงมาซื้อไว้เพราะในตอนแรกที่นี่เกือบจะโดนซื้อเพื่อทำเป็นบ้านของคนรวยคนอื่นไปแล้ว
“อ่าว มาแล้วเหรอเค้ก น้องกำลังรออยู่พอดี” ครูกิ่งแก้วเดินเข้ามาในครัว ครูกิ่งแก้วเป็นหัวหน้าครูที่ดูแลอยู่ที่นี่นะครับ
“แล้วนี่..” ครูกิ่งแก้วเหลือบมองไปที่พี่คิว
“เอ่อนี่พี่คิวครับ เจ้านายเค้กเอง แล้วนี่ครูกิ่งแก้วฮะ” ผมแนะนำ พี่คิวยกมือไหว้แล้วยิ้มให้ครูกิ่งแก้วหน่อยๆ หึ..ก็ยิ้มเป็นนี่นะ ผมยืนอมยิ้มมองพี่เขาทำให้พี่เขาเหตามองผมหน่อยๆ
“เดี๋ยวเค้กจัดเค้กแล้วเอาเข้าไปให้นะครับ” ผมบอกครูกิ่งแก้ว
“จ้า ครูเข้าไปดูไอ้พวกตัวดีก่อนนะ ซนกันเป็นลิงเลย” ครูกิ่งแก้วยิ้มบ่นก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไป
“มีกี่คน” พี่คิวถามเสียงเรียบ
“ประมาณ เอ่อ..สี่ร้อยกว่าๆอ่ะ” ผมตอบ
“แล้วมันจะพอเหรอ” พี่คิวถามอีก
“น้องๆเค้าจะแบ่งกันกินนะครับ ไม่ใช่ทุกคนจะได้กินอิ่มหรอก” ผมตอบ
“...................” พี่คิวเงียบไป เราต่างคนต่างช่วยกันจัดอาหาร มีน้องที่เป็นเด็กโตหน่อยมาช่วยผมยกเค้กเข้าไปในโรงอาหารด้วย เราต้องจัดแบ่งเค้กปอนด์ เค้กกล้วยหอมและขนมกรุบกรอบที่ผมซื้อมาให้น้องๆเป็นกลุ่มเพื่อที่จะได้กินกันทุกๆคนอย่างเท่าเทียมกัน
“พี่จะกลับเลยไหมครับ” ผมหันไปถามพี่คิวเพราะกลัวว่าพี่เขาจะเบื่อ
“ไม” พี่คิวเหลือบตามองผม ความรู้สึกเหมือนกำลังมียักษ์มายืนมองเหยื่อยังไงไม่ทราบ
“ก็..ผมอยู่อีกนานน่ะ ไม่ต้องไปส่งผมหรอก”
“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะไปส่งนาย” ง่ะ..
“แล้วพี่อยู่ทำไมล่ะ” ผมขึ้นเสียงนิดหน่อย
“อยากอยู่ เค้าห้ามด้วยรึไง” พี่คิวพูดลอยหน้าลอยตาไปอีกทาง
“ชิ” ผมเดินหนีพี่คิวออกมาหาน้องๆที่โต๊ะอาหาร ผมค่อนข้างสนิทกับเด็กๆที่นี่เพราะผมมาช่วยที่นี้เป็นปีแล้ว กิจกรรมก็จะเป็นพวกสอนหนังสือ อ่านนิทานให้น้องฟัง ทำกับข้าวและเอาของมาบริจาคอย่างครั้งนี้นี่ละครับ
หลังจากที่น้องๆทานอาหารกลางวันกันเสร็จ เรามีกิจกรรมหลังทานอาหารร่วมกัน มีเต้นประกอบเพลงกันต่อ ผมเองต้องเป็นหนึ่งในพี่ๆนำเต้นด้วย พี่คิวยังคงนั่งนิ่งเป็นเสาหลักเมืองเหมือนเดิมอยู่ที่มุมห้องด้วยหน้าตาเรียบเฉยไม่ได้แสดงสีหน้าสนุกสนานอะไร ทำให้น้องๆไม่กล้าเข้าใกล้พี่เขาเลยสักคนเดียว
“พี่เค้ก วันนี้ไม่นอนนี่เหรอคะ” น้องอุ่นรักวิ่งเข้ามาหาผม
“พี่นอนไม่ได้หรอกครับ ไหน..น้องอุ่นรักทำการบ้านเสร็จรึยังครับ” ผมก้มลงอุ้มน้องขึ้นมา บางครั้งหรือนานๆทีผมจะมานอนที่นี่บ้าง ส่วนมากจะเป็นช่วยเนื่องในวันเทศกาลต่างๆ
“เสร็จแล้วค่ะ”
“อุ้มนัทด้วย พี่เค้กอุ้มนัทด้วย” น้องนัทวิ่งมาเกาะขาผมไว้และเขย่าไปมา
“เดี๋ยวพี่อุ้มนะ พี่อุ้มพร้อมกันไม่ไหวหรอกครับ..ตั้งสองคนแน่ะ” ผมก้มและยิ้มให้น้องนัท
“ไม่เอา อุ้มนัทด้วย” น้องนัทโวยวายหน้างอ
“.................” ผมหันไปสบตากับพี่คิวที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างต้องการความช่วยเหลือ
“ไปให้พี่คนนั้นอุ้มไปนัท” ผมพูดและกลั้นอมยิ้มไว้เพราะรู้สึกอยากแกล้งพี่คิวขึ้นมา
“น..น่ากลัวอ่ะ” น้องนัทเกาะขาผมแน่นกว่าเดิมและไม่กล้ามองไปที่พี่คิวเต็มตา อยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นเดินตรงมาทางผม ผมรู้สึกได้ทันทีว่าน้องนัทดึงกางเกงผมแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ช่วยไหม” พี่คิวถาม
“อือ” ผมพยักหน้าตอบ ทำท่าจะยื่นน้องอุ่นรักไปให้แต่น้องแกกลับกอดคอเสื้อผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“น้องอุ่นรัก รู้จักพี่คิวรึยังเอ่ย” ผมเขย่าตัวน้องเบาๆเพื่อไม่ให้เด็กตกใจมากนัก น้องอุ่นรักส่ายหัวตอบลูกเดียว สีหน้าของน้องเริ่มหวาดกลัว
“พี่คิวใจดีนะ อยากให้พี่คิวอุ้มไหมครับ..ไหน ไฮไฟว์กับพี่คิวหน่อยสิครับ” ผมยิ้มบอก น้องอุ่นรักแบมือน้อยๆนั่นออกช้าๆอย่างว่าง่าย พี่คิวยิ้มออกมาพร้อมกับแบมือไปตีมือน้องอุ่นรักตอบเบาๆ
“หึ..” ผมหลุดหัวเราะออกมา
“อะไร” พี่คิวตวัดหางตามามองและหุบยิ้มในทันที
“เปล่านี่ครับ พี่ก็ยิ้มหน่อยสิ..เด็กกลัวกันหมดแล้ว” ผมพูดยิ้มๆ พี่คิวหันกลับไปมองหน้าน้องอุ่นรักอีกครั้ง แล้วก้มลงต่ำมองน้องนัทที่ยืนเกาะขาผมอยู่ อยู่ๆพี่คิวก็ฉีกยิ้มออกมาให้เห็น เป็นรอยยิ้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เห็นไหม พี่คิวไม่ดุหรอก..น้องอุ่นรักไปอยู่กับพี่คิวน้า ถ้าพี่คิวดุ..เดี๋ยวพี่เค้กจะตีให้เลยดีไหมคะ”
“ค่ะ” น้องอุ่นรักพยักหน้าตอบแล้วอ้าแขนไปกอดคอพี่คิว พี่คิวรับน้องอุ่นรักไปอุ้มไว้ ผมก้มลงมองน้องนัทก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้และต้องรีบอุ้มน้องขึ้นมากอดไว้ด้วยความเอ็นดู
ผมเล่นกับน้องๆอยู่จนเกือบบ่ายสองโมง พาน้องเด็กเล็กเข้านอนกลางวัน มีการอ่านหนังสือนิทานให้ฟังไม่นานก็หลับกันไป ผมร่ำลาครูและป้าๆน้าๆที่ดูแลอยู่ที่นั่นก่อนเดินออกมาพร้อมกับพี่คิว
“ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้” ผมบอกพร้อมกับยกมือไหว้ ถึงแม้จะไม่ทราบว่าสาเหตุของอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นจากความประมาทของใครแต่พี่เขาก็ถือว่าเป็นคนนิสัยพอใช้ได้คนหนึ่งละนะครับ
“ไม่เป็นไร” พี่คิวตอบเสียงเรียบ
“งั้นผมกลับนะครับ” ผมบอก ที่จริงก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันเพราะผมไม่รู้ว่าพี่คิวจะไปส่งผมรึเปล่า อีกอย่างพี่คิวเองก็ไม่ได้เอ่ยปากอะไร ผมจะไปเสนอหน้าขึ้นรถพี่เขารึก็ไม่ใช่ อีกทั้งผมยังไม่ค่อยชินกับรถของพี่เขาสักที เรียกว่าไม่ชินเลยจะดีกว่าเพราะวันนี้พี่คิวดันเปลี่ยนรถคันใหม่มาอีกแล้ว คันนี้น่าจะเป็นยี่ห้อปอร์เช่ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องยี่ห้อรถดีเท่าไหร่นัก พอรู้บ้างเป็นความรู้รอบตัวแต่ไม่ได้รู้ลึกรู้จริงในแต่ละยี่ห้อนะครับ
“ขึ้นรถ” เสียงแข็งๆนั่นพูดขึ้น ผมหันกลับไปมองพี่คิว พี่เขาเดินไปขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว
“อะไรของเค้าวะ” ผมบ่นงึมงำไม่กล้าขยับปากมากนัก
ปี๊ม !
พี่คิวกดบีบแตรเบาๆเหมือนสั่งให้ผมไปขึ้นรถ ผมเลยต้องรีบไปขึ้นอย่างช่วยไม่ได้เพราะกลัวว่าพี่เขาจะโมโหและกลัวว่าหลังจากที่พี่เขาโมโหแล้วจะบีบแตรรถดังกว่าเดิม มันจะไปรบกวนเด็กๆในมูลนิธินะสิครับ
“ส่งไหน”
“บ้านฮะ” ผมตอบสั้นๆแค่นั้น หลังจากนั้นไม่ต้องบรรยายครับเพราะไม่มีอะไรให้บรรยาย พี่คิวเล่นเงียบตั้งแต่ที่มูลนิธิยันไปถึงบ้านผมเลยล่ะ
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้
“ไม่ต้องไหว้ ฉันก็ไม่ได้แก่อะไรมากมาย” พี่เขาพูด
“ผมเพิ่งจะสิบแปด และคิดว่าพี่น่าจะยี่สิบอัพ แล้วอีกอย่างนะครับ..ผมเป็นคนมีมารยาทน่ะ” ผมยักไหล่พูดบอก
“หึ..” พี่คิวแสยะหัวเราะเล็กน้อย
“อะ..อะไร” ผมถาม
“พูดจบรึยัง” พี่เขาตวัดหางตามอง
“ถ้าพี่ไม่หาเรื่องผมก่อน ผมก็ลงไปตั้งนานแล้วแหละ” ผมขึ้นเสียงเล็กน้อยด้วยรู้สึกเสียหน้าขึ้นมา
“หวัดเด” ผมพูดส่งๆอีกครั้งแล้วลงจากรถมาแต่ไม่กล้าปิดประตูรถแรงนักเพราะกลัวว่าถ้าเกิดรถเขาเสียหายอะไรขึ้นมา ให้ผมขายบ้านผมทั้งหลังพร้อมกับขายรถของผมด้วยมันก็คงยังไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายรถยนต์ของพี่เขาได้เลยนะสิครับ
..................>>>><<<<...................
-
อรํายยยยยยย
น่ารักมัก :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
จิ้มพี่บี้เบาๆ :z13: :z13: :z13:
กรํากกกกกกกกกกกกกก
-
พี่คิวคะ เป็นไรคะพี่
พอรู้ประวัติแต่ละคนละ เหอเหอ
สนุกอะ เบบี้ เค้าชอบนายเอกเเบบน้องเค้ก
กัส เซน นี่แปลกๆ หึหึ
-
:-[
น้องเค้กใจดีมาก
-
ว๊ากกกกกกกก อีตาพี่คิวเนี่ย ปากแข็งเนอะ จะช่วยแล้วยังเก๊กอีก :z2: :z2:
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
พระเอกมาแว้ววววว :o8:
อ่านแรก ๆ แอบคิดปมมัดไปวนมาในใจ ว่าคัยมาวินฟร่ะ
ตอนนี้หุหุ พี่คิวว นี่เองง คิวนี่ คิวปิด ป่ะ เชื่อคล้่องชื่อร้านเลย
โอ๊ยยย โหด แต่ ทำ เค้ก กรี๊ด ๆๆๆ ชอบง่ะ
ไม่รุจะชอบกินเค้กป่าวน๊า ๆๆๆๆ กิกิ
-
ชอบนายเอกใสๆของเบบี้มากเลย น่ารักมากๆๆๆๆ อย่างน้องเค้กนี่ก็น่ากด เอ๊ย กอด :laugh:
พี่คิวดุได้ดุไป รอวันที่พี่ใจอ่อนหลงเด็กขึ้นมาจะเป็นยังไง ฮึ! :m19:
-
:-[ :-[ พี่คิวนี่แอบชอบน้องเค้กแต่แกล้งทำหน้าตายเปล่าเนี่ย......
:z2: :z2: ถ้ายังไม่รีบรุก...ระวังโดน...แซงคิวนะคร้าบ.....
-
อัยย๊ะห์
ทำบุญร่วมชาติ
ตักบาตรร่วมขัน
:m3:
-
:-[ น้องเค้กน่ารัก
:กอด1: คิว
:pig4: เบบี้
-
น่ารักมากมายเลยนะครีบน้องเบบี๋ ชอบๆๆน่ารักมาๆคิวเค้ก :pig4:
-
พี่คิวมันน่ารักว่ะ ไม่ค่อยพูดแบบนี้แหละช้อบบบบบบ..ชอบ :laugh:
น้องเค้กก็ต้องอดทนนิดและเข้าใจนึงนะ พี่คิวแกแค่พูดไม่ค่อยเก่ง แต่นิสัยน่าจะโอเคอยู่นะ
เซ็นกับกัสมีซัมติงใดๆ แน่เลย
นี่คือสองคู่แรกที่จิ้นเอาไว้>< (ส่วนฟ้าแอบจิ้นไว้เหมือนกัน)
ที่แน่ๆ ถ้าคนอ่านเป็นซี คนอ่านคงลั้ลลาจุกอกทุกวันแน่ๆ เลย :m3:
น้องเค้กทำงานอยูกลางหมูมวลเซเล็บฯหรือนี่?
:กอด1:
-
:impress3: พี่คิวปากแข็ง
ส่วนพี่กัสนี่ มีซัมติ้งพี่ซีแน่นอน
-
มันเริ่มหวานกันเเล้วใช่รึป่าวเนี่ย?? อิอิ
พี่คิว นี้ก็แอบน่ารักเหมือนกันเนอะ
โหดๆ เก๊กๆ แต่แอบนิสัยดี แอบเยอะนะ พี่คิวเนี่ย
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รีบๆมาต่อนะจ้า าาา
-
อ๊ายยยยยยยย พี่คิวปากแข็งนะคะ จะใจแข็งด้วยรึเปล่าเอ่ย :impress2: ว่าแต่พี่คิวนี่พระเอกใช่มะเนี่ย รอลุ้นกันปายยยยยย :serius2:
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ ซึนนี่หว่า ฮ่าๆๆๆๆ ถึงจะดุแต่ใจดีมาก ชอบที่แทนตัวเองว่าคิวกับพี่ฟ้าจังเลย
อายุเท่าไหร่น้อพี่คิว หวังว่าคงไม่เกิน25หรอกนะ เอิ๊กๆ
ตอนอุ้มน้องๆอย่างกับพ่อแม่ลูกแน่ะ แอบหวานเบาๆ
เซ็นกัส คู่นี้น่าลุ้น ต้องมีอะไรแน่นอนเลย
จะว่าไปประวัติแต่ละคนน่ากลัวซะ รวยเวอร์= = สู้ๆนะน้องเค้ก
-
ทำเป็นเก็กโหด........
อิพี่คิวแอบชอบน้องเค้กป่ะเนี๊ย!!
-
น่ารักจัง :กอด1:
-
คึ คึ
ชอบพระเอกปากแข็ง ทำเป็นโหดกลบเกลื่อน อิ อิ
:-[
-
พี่คิวกับเค้กเจอกันเพราะอุบัติเหตุตลอดอะ!
รู้สึกตอนนี้พี่คิวจะน่ารักขึ้น :o8: แต่ก็ยังเก็กๆ อยู่
-
น้องเค้กน่ารักจังเลยค่ะ ส่วนพี่คิวเราชอบนายอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
:z13: เบบี้ รอตอนหน้าจ้า
-
น้องใจงามมาก น่ารักอ่า
แต่พูดถึงเค้กยังมีความกวนอยู่ในตัวนะเนี่ย 5555++
ดีแล้วที่น้องไม่เรียบร้อยจ๋า
อิี่พี่คิวแปลกๆๆนะ เดาไม่ออกว่าจะออกมาในแบบไหน
+1 o13 ปล.อิพี่คิวแกแลดุจะเก๊กๆๆนะ ไม่ใช่ตัวจริงแบ๊วๆๆนะ 5555+
-
หึหึ ซึนดีจังพระเอกเรื่องนี้ :-[
-
พี่คิว พระเอกในดวงใจ ชอบๆๆๆๆๆ :z2:
-
น่าจะเริ่มรู้สึกดี ๆ กับน้องแล้วนะ...แต่เรื่องการแสดงออกนี่ต้องพัฒนาหน่อย
-
ขอเม้นรวมเลยละกันนะ
น้องเค้กน่าหม่ำสมชื่อเลยอ่ะ ขี้อายแต่แอบกล้า(เวลาโมโห)แบบนี้คงจะโดนใจพี่คิวจอมโหดมิใช่น้อย
เวลาเจอเด็กเงียบๆ มาตวาดเถียงพี่คิวก็คงแอบชอบใจและฮาอยู่นิดๆใช่ม๊า
เริ่มหวาน+มีกิจกรรมร่วมกันทีละเล็กทีละน้อยแล้ว ลุ้นๆว่าจะคลิ๊กกันเมื่อไหร่
:L1: << ให้คนเบบี้ เขียนได้น่ารักจนคนอ่านเขิน อยากกระโดดไปอยู่ในเนื้อเรื่องด้วย 55+
-
ปากร้าย ใจดีนะเนี่ยพี่คิวเนี่ย
ปล. :mc4: แอบมาฉลองเม้นท์ที่ 2222 ที่นี่นะน้องเค้กนะ
-
พี่คิวขี้เก๊กนะคะ แอบหมั่นไส้เล็กๆ แต่ก็ชอบอ่ะ
มุมน่ารักของพี่ท่านก็แอบเผยให้เห็นหน่อยๆแล้ว
น้องเค้กต้องใช้ความอดทนนิดนึงนะจ๊ะ
-
หวานนิดๆแล้วว เหรอออ
ชอบเค้กอ่าา น่ารัก
-
พี่คิวก้เปนคนดีนะเนี่ยยยยย
แต่ยังไงก้อยากให้พี่ฟ้าเปนพระเอก
ถึงความหวังจะดูริบหรี่ยังไงมะรู้
สงสัยจะเปนพี่คิว
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แต่่ว่าเรื่องพี่เซ็นก่ากัส นี้ยังไง ยังไงอยู่น้าาา
-
ประวัติแต่ละคนนี่อลังการมากกกกกกกก
-
น้องที่มูลนิธิน่ารักทุกคนเลยนะคะ ยังคิดเลยว่าน้องๆเค้ามีมารยาทกว่าเด็กข้างนอกหลายคนเลย เหอๆ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
-
เริ่มหวั่นไหวมั่งแล้วใช่ป่าวพี่คิว :กอด1:
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13
เย้ๆ อ่านทันแล้ว
ลุ้นพี่คิว +1 ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา
-
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เค้กน่ารักสุดๆอะ
-
น้องเค้ก ก็ไม่ยอมใครเหมือนกันนะเนี่ย
-
ปมปูมหลังแต่ละคนเริ่มคลายนิดๆ
พี่คิว น้องเค้ก ชักเริ่มมี จิ๊จ๊ะ อิ๊อ๊ะ กันละ
เดี๋ยวก็ได้ที่ o18
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
-
น้องเค้กน่าร้ากกกกกกกกกกก หนุ่มน่ารักน้ำใจงามแบบนี้สเป๊กเลยค่า
แต่พ่อครัว - -" แอบน่าสยดสยองแฮะ
-
เค้กน่ารัก แต่ก็ด่าเจ็บเหมือนกันนะเนี่ย 55
:pig4: เบบี้ (ไปละ ไปอ่านขนมต่อ อิอิ ^^)
-
เค้กคู่กะพี่คิวใช่ป่าวว นึกว่าจะคู่กับพี่ฟ้า แอบเชียร์อยุ่ อิอิ เค้กนี่มาฟิลเดียวกับขนมเลยอ่ะ
-
พี่คิวก็ใจดีกะน้องๆเป็นนี่นา
ชักจะปลื้มแล้วค่ะ :-[
-
อยากกินเค้กกก
-
ถึงคิว..
อย่ามาเยอะ เดี๊ยะๆๆๆๆ จะโดนมิใช่น้อยยยย ชิชิ
-
อั๊ยยยยย น้องเค้กอินโนเซ้นต์มากเลยอะ > < :impress2:
แต่พี่คิวแบบ.. ดุมากจริงๆ = =;
-
น่ารั๊กมากๆๆๆๆ
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
ที่จริงตอนแรกแอบเชียร์พี่ฟ้านะเนี่ย
แต่มาอ่านตอนนี้เริ่มจะชอบพี่คิวมากขั้นเเระ 5555
พี่แกก็ปากแข็ง มาดเยอะได้อี๊กกก!! หลุดยิ้มทีนี่คงแอบเขิน
น้องเค้กก็ยังน่ารักน่าหม่ำเหมือนเดิม :)
แต่คู่เซ็นกัสนี่สิ มีซัมติงวรองรึป่าวหว่า??
-
พี่คิวเป็นพวกซึนแน่นอนล้านๆเปอร์เซนต์ กร๊าก! กลุ้มใจแทนเค้กนะ อยุ่กับพี่คิวมากๆประสาทต้องเสียแน่ๆ
จะพูดไม่พูด จะเอายังไงไม่เอา อะไรกันแน่ก็ไม่สามารถรู้ได้ ฮ่าๆๆ
-
:กอด1: :กอด1:
-
ฮึ่ยยยยยยยย น่ารัก :impress2:
พี่คิวเริ่มจะน่ารักและ
แม้จะยังกวนตีนก็เถอะ
-
พี่คิวเท่ห์ๆๆๆๆๆ น้องเค้กน่ารักอ่ะ o13
-
:pig4: :pig4:
-
หึหึหึหึ..ฮ่าๆๆๆๆ..กร๊ากกกกกกกกกกก
คิวน่ารักเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
:m20: :m20:
-
555 ชอบตอน หวัดเด ของเค้กจริงๆ ^^
-
น้องเค๊ก น่ารักมากเลย :impress2:
พี่คิวจะเก๊กโหดไปไหนคะ o22
ขอบคุณเบบี้จ้า
-
ชอบพี่คิว
น้องเค้กน่ารักตลอด ^^
-
หึหึหึ
พี่คิววว >//< กับน้องเค้ก :man1:
-
อิคุณพี่คิวค๊าาาาาา จะเก๊กไปถึงไหนนะ
น้องเค้กออกจะน่ารัก แสนดี รักน้องเค้กกกกกกกก
บวกๆ จ้า :pig4:
-
ชอบน้องเค็กน่ารักดีจ้า :impress2:
อิพี่คิว กวน...ดีจ้า :13223:
ชอบนะ รอต่อจ้า :m14:
+1 จ้า :interest:
-
ตาพี่คิวขี้เก๊ก ชอบเก๊กข่มหนูเค้กจริงๆ
แต่แอบใจดีเนอะ^___^
-
คิว เริ่มมีพัฒนาการแล้ว
เค้ก ยังน่ารักหน้ากินเหมือนเดิม
-
พี่คิวจะดุไปไหนนนน :serius2:
-
ชอบพี่คิวอ่ะ ๆๆ ซึนๆแบบนี้ยิ่งชอบ !!!! :m3:
-
โอ้ยย คิวน้องเค้กกลัวไม่รุ้จะกลัวยังไงเเล้ว ดุจิงดุจัง ตลกน้องนัทกลัวพีคิวหรอลูกม่ต้องกลัวนะ พีเค้าฉีดยาเเล้ว สงสารเด็กๆจัง เค้กจิตใจชั่งงามปะล้ำปะเหลือ งามแต้ๆ
-
ประวัติเทพมากคะแต่ละคน น้องเค้กเราดูประหลาดไปเลย :laugh:
:pig4: คะ
-
อร๊ายยยยยยย อยากอ่านต่อไวอะเบบี้ :-[
-
ดูท่าแล้วพี่คิวไม่หวานเหมือนเค้กที่พี่แกทำเลยอ่ะ :laugh:
-
งื้ออออออออออ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ ฮ่าๆๆ โลบไปไหม?
อยากรู้จังว่าพี่คิวคิดอะไรอยู่? แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นคนดีแน่นอน? ใช่ไหมคะ ฮ่าๆๆๆ
-
อ่านเเล้วเค้าอยากกินน้องเค้ก เอ๊ยไม่ใช่อยากกินเค้ก
พี่คิวเก๊กๆ
-
เนื้อหาน่ารักน่าติดตามมากๆ เลยค่า
-
o18พี่คิวโหดจิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
-
เจ้ เรื่องนี้เจ้มาเป็นปริศนาให้คิดกันทั้งเรื่องจริงๆเหรอ แต่น่าสนใจดีเนาะ
-
น่าร๊ากกกกกกกกกกก
ชอบ พี่คิวอ่ะ โหด แต่น่าร๊าก (ระวังเก๊กหลุดน้า)
เค้กน่ารักดีอ่ะ 55555+++
รอตอนต่อไป อิอิ
-
พี่คิวกวนติงได้ใจมากกกก
จากเก๊กๆเริ่มหลุดเก๊กแล้วอ่ะดิ๊
(ในร้านมีแต่เก้งกันโม้ดด 5555) o13
-
พี่คิวนี่เรียกว่า ใจดี ขี้เก๊ก หรือกวนติงกันแน่ ฮ่าๆๆๆ
ชอบอ่ะ โหดก็ชอบ ใจดีก็ชอบ ชอบพี่คิว
น้องเค้กก็น่ารัก ><
-
รักพี่คิวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
“ก็จริง แต่ที่เค้กสงสัย ทำไมทุกคนถึงต้องมาทำงานล่ะครับ ในเมื่อก็มีเงินใช้จ่ายได้ไม่หวัดไม่ไหวขนาดนี้”
คำว่าไม่หวัดไม่ไหว น่าจะเป็น ไม่หวาดไม่ไหว รึป่าวคับ ^^
ขอบคุณเบบี้นะคับ เชียร์หลานคิวต่อปายยย :กอด1:
-
:m13: เค้าขอเชียร์พี่ฟ้าได้ป่ะ
-
กดบวก ๆ ๆ ค่ะ
ชอบเรื่องนี้มากมายอีกแล้ว
-
เพิ่งเห็นว่าเบบี้เขียนเรื่องใหม่แล้ววววววว
เรื่องนี้ดูหวานๆดีนะคับบบบ.....
-
ใครจะเป็นพระเอกนะ อยากรู้จังเลย
จะติดตามต่อไปนะครับ
-
ได้อ่านเรื่องใหม่ของเบบี้แล้ววว :3123:
ปล.นายเอกของเบบี้น่ากินทั้งนั้น....(ข้าว ขนม สลิ่ม เค็ก)
-
รอตอนต่อไปอยู่นะค๊า :bye2: :bye2:
-
จุดเน้ อิชั้นั่งอ่านไป หน้าเป็นแบบนี้ค่ะ -.- O_O ^___^ >___< หลากหลายอารมณ์จิงๆชั้น ว่าแต่ตอนจบ แก้มตุ่ยเลย กรี๊ดดดเบาๆ ชอบ ติดอีกแล้วอ่ะ
-
ไปทำบุญด้วยกัน
น่ารักอ่ะ
-
น่ารักจังเลยอ่ะ
-
แหนะๆๆ พี่กัสนี่ยังไงกับพี่เซ็นรึป่าว ชอบคนเจ้าชู้มันเจ็บปวดนะจ๊ะ =^=
ส่วนน้องเค้ก คิคิ น่ารักน่าฟัดตลอด ดูแบบไม่ซึนอ่า ฮ่าๆๆๆ ปากตรงกับใจ แสดงออกทุกความรู้สึก ><
แต่พี่คนนั้น(พี่คิว) จะดุไปหน่ายยยยยยยยย กลัวแทนเลยจริงๆ
แต่ฮามากอ่า อ่านแล้วขำกร๊ากได้ทั้งเรื่อง เอิ๊กๆ
ว่าแต่.... รวยกันทุกคนเลย วู้วววววววววววว ><
-
เข้ามารายงานตัวครับ เบบี้ .... :กอด1:
อ่านรวดเดียว เรื่องนี้แรงอีกแล้ว
พระเอกกะนายเอกนี่ ประทะคารมกันดีจริง ๆ
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ บี่บี๋ที่น่ารัก :กอด1:
-
กรี้ดด เพิ่งเห็นว่าเบบี้ลงเรื่องใหม่แล้ววว
อ่านไปชอบเค้กมากอ่ะ ตลกดี ><
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :D
-
~6~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“จริงดิ~”
“จริงสิพี่ซี กัสยังไม่อยากจะเชื่อเลย”
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ ยิ้มทักทุกคนในห้อง
“อ่าว พี่กัส” ผมทักพี่กัส วันนี้ไม่น่าจะใช่เวรของพี่กัส แต่ตอนนี้พี่กัสยืนอยู่ในห้องพนักงานตรงหน้าผม
“ดีจ้ะ” พี่กัสยิ้มหวาน
“คุยอะไรกันจ๊ะน้องๆ” ผมหันไปมองพี่เซ็นที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ผมยกมือไหว้ทักทายพี่เขา
“สวัสดีครับน้องเค้ก” พี่เซ็นหันมายิ้มกว้างให้
“งั้นกัสกลับก่อนดีกว่า ไว้คุยกันใหม่นะพี่ซี” พี่กัสตัดบทขึ้นโต้งๆ
“อ่าว กลับแล้วเหรอครับ” ผมรีบถาม
“อืม” พี่กัสพยักหน้าตอบ ครั้งนี้ไร้รอยยิ้มให้เห็นอีก
“ให้พี่ไปส่งไหม” พี่เซ็นถามพี่กัส
“ไม่ต้องหรอกครับ วันนี้กัสเอารถมา..แล้วพี่ล่ะ จะกลับแล้วเหรอ อุตส่าห์รอเค้กอยู่ตั้งแต่เช้าหนิ” พี่กัสพูดขึ้น ทำให้ผมถึงกับอึ้งไป ทุกคนยิ้มท่ามกลางความเงียบ
“หึ..ก็นะ งั้นยังไม่กลับดีกว่า พี่ก็ถามไปงั้น” พี่เซ็นแสยะยิ้มตอบ
“ชิ งั้นไปแระ..หวัดดีทุกคน” พี่กัสโบกมือลาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ไอ้เซ็น!” อยู่ๆพี่คิวก็เปิดประตูห้องเข้ามา ผมชะงัก พี่คิวจ้องหน้าผมครู่หนึ่งแล้วเหลือบตาหันไปมองพี่เซ็น ตอนแรกว่าจะยกมือไหว้สักหน่อย แต่ในเมื่อพี่เขาไม่สนใจผม ผมก็ไม่ไหว้ก็ได้ครับ..เชอะ
“มึงจะกลับยัง” พี่คิวถาม
“เออ ไม”
“กูฝากของไปให้ไอ้นิกกี้หน่อย มันรออยู่ที่คอนโด” พี่คิวพูด
“ให้กูขับรถเอาของไปให้มันที่คอนโดมันเนี้ยนะ ทำไมมันไม่มาเอาเองวะ” พี่เซ็นบ่น
“กูยืมมันมาใช้..เอาไปคืนมันให้กูหน่อยแล้วกัน อยู่หลังรถอ่ะ ถุงสีน้ำเงิน” พี่คิวพูดพร้อมกับโยนกุญแจรถให้พี่เซ็นและเดินออกจากห้องไป
“ฮื้มมมม” พี่เซ็นถอนหายใจแรงด้วยท่าทางเซ็งๆ
“หึ..” พี่ซีหัวเราะเบาๆก่อนจะเหลือบสายตาไปอีกทาง
“เค้กครับ” ผมสะดุ้งทันที
“ค..ครับ” ผมขานตอบ
“วันนี้พี่ไม่ว่างแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้..กลับด้วยกันนะครับ” พี่เซ็นพูด
“แฮะๆ” ผมยิ้มแหย รู้สึกชอบใจอยู่ลึกๆที่ผมไม่ต้องกลับพร้อมกับพี่เซ็น
“พี่เซ็น” พี่ซีพูดขึ้นเสียงเรียบ
“เอาน่า ก็พี่ชอบของพี่หนิ..ไปนะครับที่รัก” พี่เซ็นยิ้มพูดพร้อมกับเดินออกจากห้องไปทันที
“อย่าไปถือสาเลยนะเค้ก พี่เซ็นก็เป็นงี้แหละ..ตลอด เจ้าชู้ตลอด” พี่ซีทำเสียงเหวี่ยงด้วยความเหนื่อยใจ
“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มให้เล็กน้อย ผมเดินเข้าห้องล็อกเกอร์เพื่อเปลี่ยนชุดพนักงาน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของเข้าล็อกเกอร์เรียบร้อยก็เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่เคาร์เตอร์
“หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้ทักพี่ฟ้า
“มานี่สิเค้ก ลูกค้ายังไม่เยอะเท่าไหร่ มาชิมเมนูใหม่ฝีมือคิวเร็ว” พี่ฟ้ากวักมือเรียก ผมยิ้มเดินเข้าไปในตัวเคาร์เตอร์ พี่ออฟกำลังเสิร์ฟอาหารอยู่ พี่ซีอยู่ประจำที่เครื่องคิดเงิน พี่หมีกำลังดูแลลูกค้าอยู่เช่นเดียวกัน ส่วนเจ้าของอาหารที่วางอยู่บนเคาร์เตอร์นี้กำลังจ้องมองมาทางผม
“ไม่ดีกว่าครับ” ผมยิ้มแหย ด้วยรู้สึกเกรงใจรวมไปถึงรู้สึกเกร็งกับสายตาของพี่คิวด้วยเช่นกัน
“เสียมารยาท” ผมหันขวับไปมองพี่คิวในทันทีที่ได้ยิน
“ทานเถอะน่า” พี่ฟ้ายิ้มบอกพร้อมกับตักอาหารตรงหน้ามา พี่ฟ้าจ่อช้อนมาทำท่าเหมือนจะป้อนให้ผม
“คะ..คือ” ผมทำหน้าไม่ถูก พี่ฟ้ายิ้มพยักหน้าให้ ผมจึงอ้าปากรับอาหารเข้าปากเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ
“..>__<..” ผมพยายามรักษาอาการ เพราะมัน..อร่อยจังเลยอ่ะครับ
“อร่อยจังครับ” ผมหลุดปากพูดพร้อมยิ้มกว้าง ลืมไปเลยว่ามีอาหารที่ยังเคี้ยวไม่หมดอยู่ในปาก
“ใช่ไหม” พี่ฟ้ายิ้ม
“อะไรเหรอครับ” ผมถาม หน้าตามันคล้ายๆกับสลัดแต่ผมไม่ทราบว่ามันคืออะไร เพราะเห็นพี่ฟ้าบอกว่าเป็นเมนูใหม่ด้วย
“สลัดแซลมอลน่ะ ที่จริงมันไม่ใช่เมนูใหม่อะไร..แต่คิวเพิ่งคิดสูตรที่เป็นเฉพาะของทางร้านเสร็จ สูตรนี้จะมีแค่ร้านเรา..เป็นยังไง เค้กก็ว่าอร่อยใช่ไหม” พี่ฟ้าถาม
“ค..ครับ อร่อย มากเลย” ผมพยักหน้าตอบเสียงเบาลงเรื่อยๆเพราะพี่คิวเอาแต่จ้องผมเขม็ง
“พรุ่งนี้จะทำราสป์เบอร์รี่ ครีมชีส บราวนี่..” ผมหันไปมองหน้าพี่คิวที่อยู่ๆก็พูดขึ้นลอยๆเหมือนต้องการบอกใครสักคนตรงนี้
“จะเอาไปให้พวกเด็กๆที่นั่น ถ้าจะช่วย..ก็ช่วยมาเร็วๆด้วยแล้วกัน” พี่คิวพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องครัวไปซะเฉยๆ ผมยืนอึ้งและงง
“เอ่อ คือ..นั่นคือ ประโยคคำสั่ง หรือประโยคคำถามอ่ะครับ” ผมถามพี่ฟ้า
“หึ..พรุ่งนี้เค้กเข้าเวรแปดโมงเช้าใช่ไหมครับ งั้นมาสักเจ็ดโมงครึ่งได้ไหม ไม่รู้อะไร..คราวก่อนหลังจากที่กลับมาจากมูลนิธิก็เอาแต่ถามพี่ไม่หยุด พรุ่งนี้เค้กมาเร็วหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวพี่จะให้ค่าแรงเพิ่มพิเศษ แล้วเค้กก็คงต้องเป็นฝ่ายลำบากเอาขนมไปให้เด็กๆอีกนั่นแหละ โทษทีนะ..คิวก็เป็นคนอย่างนี้” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้ายิ้มอย่างภูมิใจขัดกับคำพูดที่พูดออกมาอย่างลิบลับ
“แต่ก่อนออกจะน่ารักแท้ๆ” พี่ฟ้าบ่นพึมพำแล้วยกถ้วยสลัดเดินออกจากเคาร์เตอร์ไป
“พี่ซีครับ ให้เค้กช่วยอะไรได้บ้างครับ” ผมเดินเข้าไปหาพี่ซี
“ยังหรอกจ้ะ ลูกค้ายังไม่เยอะนะ พี่ออฟกับพี่หมีดูแลอยู่..เดี๋ยวรอว่าถ้ามีลูกค้าสั่งอาหารเพิ่ม เค้กก็จัดการเอาออร์เดอร์ไปยื่นให้ที่ครัวแล้วก็เสิร์ฟแล้วกัน” พี่ซียิ้มบอก
“ครับ”
“แล้วเย็นนี้เลิกดึกสินะ ให้พี่ไปส่งไหม” พี่ซีถาม
“พี่ซีเอารถมาเหรอครับ”
“อืม วันนี้พี่เซ็นกลับเร็ว พี่เลยต้องเอารถมาเองน่ะ” พี่ซีตอบ
“แล้วทุกทีพี่ซีจะกลับพร้อมพี่เซ็นเหรอฮะ”
“ก็ไม่ทุกครั้งหรอก เค้กก็เห็น รายนั้นเที่ยวเก่งจะตาย..ออกงานก็ไปเที่ยวละ ตัวไม่เคยอยู่ติดบ้านหรอก” พี่ซีพูดแกมบ่น
“หึ..พี่เค้าก็ดูลั่นล้าดีนะครับ อารมณ์ดี๊ดี” ผมพูด
“ก็นะ..ลดๆลงบ้างก็ได้” พี่ซีเบะปากเล็กน้อย
“เค้ก” พี่หมีเรียก
“ครับ”
“มานี่มา..ไปรินไวน์ให้ลูกค้าหน่อย” พี่หมีสั่ง ผมรีบเดินไปหาเพราะหน้าพี่หมีโหดจริงๆ..กลัวอ่ะครับ
วันนี้ผมถูกพี่หมีเรียกให้อยู่บริการลูกค้าที่สั่งไวน์ประจำโต๊ะ โดยที่ผมเป็นคนเดียวที่ต้องคอยรินไวน์ให้กับลูกค้า ผมรู้ดีว่าพี่หมีทำแบบนี้เพราะต้องการฝึกผม และก็ได้ผลเพราะผมรินได้คล่องขึ้นมากจริงๆ ไม่เกร็ง นุ่มนวลและรวดเร็วอย่างที่พี่หมีเคยพูดเอาไว้
หลังเลิกงานทุกคนต่างต้องช่วยกันเคลียร์ร้านให้เรียบร้อย พี่ซีขับรถกลับบ้านแต่อาสาไปส่งพี่หมีที่คอนโด ส่วนพี่ออฟให้พี่ซีขับไปส่งหน้าปากซอยเพราะต้องขึ้นแท็กซี่กลับบ้าน ส่วนผมพี่ฟ้าอาสาไปส่งผมที่บ้าน นั่นหมายถึงว่าในรถนั้นต้องมีผม พี่ฟ้าและพี่คิวซึ่งเป็นเจ้าของรถอยู่ด้วย ระหว่างทางกลับบ้านพี่ฟ้าชวนผมคุยเพื่อให้ผมผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา ผมคิดว่าพี่ฟ้าเองก็คงจะรู้ว่าผมเกร็งนะครับ พี่คิวยังสไตล์เดิม ไม่พูดอะไรเลยจนส่งผมถึงบ้าน
= = = = = = = =
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
ติ๊ด ๆ ๆ
“พี่คิวครับ มันร้องแระอ่ะ” ผมบอก เตาอบที่อบขนมร้องเตือนแล้ว พี่คิวเดินมาที่เตาและเปิดเตาออก
“หอมจัง” ผมยิ้มบอกแต่พี่คิวหน้านิ่งสนิทไร้ปฏิกิริยาใดๆ T^T
“...................” พี่คิวที่หยิบเอาไม้เล็กแหลมมา ผมยืนมองด้วยความสงสัย พี่เขาเอาไม้จิ้มไปที่เค้กก่อนจะนำไม้ออกมา
“ใส่ถุงมือ หยิบออกมา” พี่คิวสั่งเสียงเรียบ
“มาพี่ช่วย” พี่เซ็นวิ่งมาทางผม
“ไม่ต้องเลย” พี่คิวว่าทำเอาพี่เซ็นหยุดชะงัก ผมใส่ถุงมือแล้วหยิบถาดออกมาจากเตาโดยมีเชฟใหญ่ของร้านทั้งสองคนยืนมองอยู่ ผมยิ้มกว้างมองราสป์เบอร์รี่ที่อยู่ตรงหน้า มันทั้งหอมและหน้าตายั่วน้ำลายผมสุดๆ แถมนี่ยังเป็นการทำราสป์เบอร์รี่ครั้งแรกในชีวิตของผมด้วยนะครับ
“น่ารักจัง” ผมหันไปมองหน้าพี่เซ็น พี่เซ็นยิ้มจ้องผมด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มได้อีก ผมอมยิ้มตอบให้พี่เขาเล็กน้อยก่อนจะก้มกลับมาดูเค้กอีกครั้ง รู้สึกเขินพี่เซ็นเหมือนกันนะครับ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงกับพี่เขาแล้วจริงๆ
“รอให้เย็น แล้วเดี๋ยวเอาแม่พิมพ์ตัดออกมาแบบนี้..อย่าให้เศษเหลือเยอะล่ะ เสียของ” พี่คิวลงมือตัดเค้กให้ผมดู ผมพยักหน้ารับรู้
“แล้วก็จัดใส่กล่อง จนหมดนี่แหละ” พี่คิวบอก
“ไอ้เซ็น มึงมานี่เลย” พี่คิวเรียก
“ไรอ่ะ วันนี้กูอยู่ต่อ..เดี๋ยวกูทำต่อก็ได้” พี่เซ็นพูดแต่ตายังจับจ้องมาที่ผมอยู่ตลอด
“ก็ถ้าไม่ใช่เพราะความกามของมึง ทำให้ผู้ช่วยเชฟต้องลาออกไปละก็นะ..มึงก็คงไม่ต้องมาช่วยกูหั่นสตรอเบอร์รี่หรอก” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“เออๆ มึงนี่..พูดงี้ น้องเค้กก็กลัวกูหมด” พี่เซ็นส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็เดินตรงไปหาพี่คิว
“หึ..” เสียงพี่คิวหัวเราะเบาๆทำให้ผมต้องหันไปมอง พี่คิวมองหน้าผมตอบพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก
“ไอ้บ้า” ผมได้แต่กัดฟันว่าพี่เขาเบาๆ พี่คิวหน้านิ่งไป ผมไม่สนใจ หันกลับมายืนรอจนเค้กเย็นและจึงทำการเอาแม่พิมพ์ตัดเค้กที่ละอันจัดใส่กล่องจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
“เอาไปให้ด้วย” พี่คิวพูดขึ้นตาไม่ได้มองผม พี่เขายังคงยุ่งอยู่กับการทำอาหารตามออร์เดอร์
“ครับ” ผมตอบพร้อมยกถุงเค้กทั้งหมดออกมาจากห้องครัว
“เดี๋ยวพี่ช่วย พี่..ไปส่ง” พี่เซ็นรีบเปิดประตูออกมาจากห้องครัว
“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มบอก
“อ่าวเค้ก เอาไปให้เด็กๆเหรอ” พี่ฟ้าที่เดินออกมาพอดีทักผม
“ครับ เค้กขอตัวสักครู่นะครับ..แล้วจะรีบกลับ” ผมยิ้ม
“อืม ไปเถอะจ้ะ” พี่ฟ้าพยักหน้ายิ้มให้
ผมเดินออกมาจากเคาร์เตอร์และหางตาของผมยังเห็นพี่เซ็นยืนมองผมอยู่ แต่พี่เขาเหมือนไม่กล้าเดินเข้ามาช่วยผม ผมเดินเอาเค้กพวกนี้ไปส่งให้ถึงมูลนิธิ แต่ไม่ได้เข้าไปทักทายกับพวกน้องๆเพราะกลัวว่าจะติดลม พอให้เค้กเสร็จก็ขอตัวกลับมาก่อน
“แสดงว่าเค้กสนิทกับพี่คิวมากขึ้นแล้วสิเนอะ ดีแล้วแหละ” พี่ซีพูดระหว่างที่กำลังคิดเงิน ผมยืนเช็ดเคาร์เตอร์อยู่ถึงกับต้องชะงัก
“เปล่าสักหน่อยฮะ” ผมตอบ
“เปล่าได้ไง..ขนาดที่พี่คิวให้เข้าไปในครัวได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วนะ” พี่ซีมองผมตาโต ผมเงียบหันไปมองหน้าพี่ซียิ้มๆอย่างไม่เข้าใจนัก
“จะบอกอะไรให้นะ” พี่ซีพูดเสียงเบาลง
“เค้กไม่สงสัยเหรอว่าทำไมร้านเราไม่มีผู้ช่วยเชฟ” พี่ซีเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีก ผมจึงก้มหน้าเข้าไปใกล้พี่เขาด้วยเพราะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา
“พี่เซ็นก็เจ้าชู้สุดๆ ผู้ช่วยสองคนอยู่ไม่ได้สักคน..ส่วนพี่คิวชอบทำงานคนเดียว น้อยคนที่พี่คิวจะยอมรับน่ะนะ สองคนที่ลาออกไปก็เป็นที่ยอมรับสำหรับพี่คิวอยู่หรอก แต่ไอ้พี่ชายพี่น่ะสิ..นิสัยแย่ชะมัด” พี่ซีบ่นหน้านิ่ว
“พี่คิวน่ะ..ไม่ค่อยชอบให้มีลูกมือหรอก อย่างพวกพี่ยังแทบไม่เคยโดนเรียกให้ไปช่วยเลย เค้กได้เข้าไปนี่..สุดยอดจริงๆ” พี่ซีทำหน้าเชื่อมั่นผมเต็มประดา แถมยังตบไหล่ผมอีกด้วย
“เหอะๆ ผมควรดีใจว่างั้น” ผมชี้หน้าตัวเองพร้อมกับยิ้มแหย สุดท้ายก็ยังรู้สึกไม่ภูมิใจอย่างเต็มที่เท่าไหร่
“ก็ใช่น่ะสิ” พี่ซีพยักหน้าตอบแล้วหันไปคิดเงินต่อ
ผมพยักหน้ากับตัวเอง ถึงแม้จะไม่เข้าใจนักแต่ในใจก็อดรู้สึกดีหน่อยไม่ได้ ถ้ามันเป็นอย่างที่พี่ซีว่าจริงๆ งั้นแสดงว่าผมคงมีอะไรดีให้พี่คิวเห็นรึเปล่านะ หรือไม่ก็อาจจะเป็นช่วงที่พี่เขาต้องการคนช่วยจริงๆ เพราะเวรงานอยู่ต่อวันนี้เป็นเวรของพี่เซ็น พี่คิวมาทำเค้กกับขนมปังในตอนเช้าเท่านั้น หลังจากเก้าโมงเช้าก็กลับออกไปแล้ว
= = = = = = = =
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“วันนี้โชคดีว่ะ ได้กินบานอฟฟี่พายฝีมือพี่คิวด้วย” พี่หมีพูดขึ้น
“แถมได้เอากลับบ้านฟรีๆด้วย สวรรค์สุดๆ” พี่กัสรำพึงรำพันอีกคน
“นั่นนะสิ พี่ละชอบบานอฟฟี่ของพี่คิวจริงๆ..ไม่ว่าใคร ก็ทำไม่เหมือน” พี่ซีพูดบอก
“นี่..ถ้าจะเอากลับ ได้แค่คนละกล่องนะ กล่องนึงมีสามชิ้น” อยู่ๆพี่คิวก็โผล่เข้ามาในห้องพักพนักงาน
“ค้าบ” พวกพี่ๆยิ้มตอบในทันที พี่คิวเดินออกจากห้องไป
“มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมถามขึ้นเพราะไม่เคยกินบานอฟฟี่พายฝีมือของพี่คิวเลยสักครั้งเดียว
“มาก!” พี่ๆกระแทกเสียงตอบพร้อมกัน
“เหรอครับ เหอะๆ” ผมยิ้มแหย
“แล้วทำไมถึงได้กินฟรีละครับ” ผมถาม
“วันนี้มีออร์เดอร์ที่บริษัทAislynน่ะ แต่ทำไม่กี่สิบชิ้นหรอกเพราะทำให้เฉพาะผู้บริหาร แล้วพี่บอกว่าอยากกินจังน้า..พี่คิวก็เลยทำเพิ่มเผื่อให้พวกเราเอากลับบ้านน่ะ” พี่ซียิ้มเล่า
“ลาภปากเลยไง” พี่กัสพูดขำๆ
“อยากลองกินบ้างจัง” ผมพึมพำอย่างรู้สึกอยากลองชิมด้วยไม่ได้
“ไปกินสิ ที่เคาร์เตอร์น่ะ อยู่กับพี่ฟ้า..ได้กินอยู่แล้วแหละ” พี่กัสบอก
“ไม่เอาอ่ะครับ กลัว” ผมตอบ
“ไปสิๆ ไปลองชิมดู..มันมีส่วนที่ลองชิมได้อยู่น่ะ มากับพี่มา” พี่ซีบอกแล้วลุกขึ้นยืนผายมือมาให้ผม ผมยิ้มแล้วจับมือพี่ซีตอบอย่างว่าง่าย เราเดินออกมาจากห้องพักพนักงานตรงไปที่เคาร์เตอร์ พี่ฟ้ายืนอยู่กับพี่คิวเหมือนกำลังคุยอะไรกันอยู่
“เอ่อ โทษนะคะ” พี่ซีพูด เดินนำผมเข้าไปในเคาร์เตอร์
“อ่าวเค้ก มาแล้วเหรอ มาลองชิมพายมา” พี่ฟ้าชวนทันที
“นั่น..เห็นไหมล่ะ” พี่ซีกระซิบพูดเหมือนรู้สถานการณ์ล่วงหน้าว่าจะต้องเป็นอย่างนี้แน่
“เอ่อ..” ผมได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ แต่ที่จริงแล้วอยากจะพุ่งเข้าไปหาพายที่วางอยู่บนโต๊ะแทบตาย ตรงนั้นมีพายวางอยู่บนจานเพียงจานเดียว แต่พายส่วนอื่นๆถูกจัดใส่กล่องหมดเรียบร้อยแล้ว
“...................” พี่คิวหันมามองหน้าผม ผมยิ้มให้หน่อยๆแต่กลับไม่มีผลตอบรับใดๆจากหน้าของพี่เขาเหมือนทุกครั้ง
“นี่ลองชิมดู..มีส่วนของเค้กด้วยนะ เดี๋ยวเอากลับไปฝากแม่ฝากน้องก็แล้วกัน” พี่ฟ้าบอก
“ขอบคุณมากครับ” ผมผงกหัวตอบก่อนจะตักพายที่วางอยู่บนโต๊ะเข้าปากเพียงนิดเดียว ลิ้นรับรสได้ถึงความอร่อยทันที ผมรีบหันหลังให้พี่คิวเพราะพี่เขาเล่นจ้องผมเขม็งเหมือนรอคำพูดอะไรสักอย่างจากผม
“เป็นไง อร่อยใช่ไหมล่ะ” พี่ซียิ้มถาม ผมพยักหน้าทั้งๆที่อมส้อมอยู่ในปาก อึ้งอ่ะครับ..ไม่เคยทานอะไรอร่อยแบบนี้นี่ครับ ปกติก็ไม่ค่อยได้ทานอาหารแพงๆอยู่แล้วด้วย ส่วนบานอฟฟี่พายก็เคยทานแต่ของราคาถูกอีก
“แล้วหันหลังทำไม เสียมารยาท” พี่คิวพูดเสียงแข็ง ผมหันกลับไปมอง แหม..ตัวเองมารยาทดีตายอ่ะ
“ไปว่าน้อง” พี่ฟ้าปราม ผมอมยิ้มเล็กน้อย
“อร่อยไหมครับ” พี่ฟ้าถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อ..อร่อยครับ” ผมพยักหน้าตอบ น้ำเสียงของผมเบาจนผมเองก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมต้องตอบเสียงเบาขนาดนั้น
“ที่จริงมันอร่อยมากต่างหาก” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ ฮื้ม..ไอ้เชฟคนนี้ !!
“ก็ใช่นะสิครับ มันอร่อยมาก..อร่อยจนเหลือเชื่อเลยแหละ ก็ไม่เคยกินนี่นา..มันก็เลยอึ้ง ว่าทำไมต้องมีแต่ของอร่อยๆอยู่รอบตัวผมเยอะแยะแบบนี้ด้วย มองเห็น..แต่จับต้องไม่ได้” ผมพูดยาวทั้งพยายามคงเสียงตัวเองให้เรียบนิ่งแต่ดูมันจะไม่ปกติเสียเท่าไหร่ ทุกคนต่างยืนชะงักไปเหมือนถูกสั่งให้หยุดอย่างนั้น
“อ่ะ..ค คือ เอ่อ..เค้ก” ผมพูดตะกุกตะกักหน้าเสีย ผมหลุดพูดอะไรบ้าบอออกไปอีกแล้วละครับ..บ้าจริง
“หึ..หึ ฮ่าๆๆๆ ตลกอ่ะ สมน้ำหน้า” อยู่ๆพี่ฟ้าก็หัวเราะลั่น
“ไปว่าน้องมันดีนัก” พี่ฟ้าพูดอีก
“ใช่ พี่คิวอย่าว่าเค้กสิ” พี่ซีพูด พี่คิวยืนนิ่งไม่ตอบโต้ใดๆ
“ขะ..ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจอ่ะครับ” ผมพูดบอกเสียงเบา
“ไม่จำเป็น” พี่คิวย้อนตอบทันทีและเดินกลับเข้าครัวไปเฉยเลย ผมยืนกัดฟัน ไม่แคร์แล้วว่าพี่ฟ้าหรือพี่ซีจะเห็นอาการของผมในตอนนี้ เพราะมันสุดๆจริงๆครับ ผู้ชายคนนี้จัดว่ากวนส้นเท้าผมที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมาเลยล่ะ
“ทำใจเถอะ” พี่ฟ้าตบไหล่ผมเบาๆพร้อมกับยักคิ้วให้
“เอาไปนั่งกินในห้องไปครับ” พี่ฟ้าบอกพร้อมยื่นจานพายมาให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มกว้างตอบ รีบรับจานมาถือไว้ทันทีด้วยความดีใจ
ผมกับพี่ซีกลับเข้ามาในห้องพักอีกครั้ง พวกเราสี่คนนั่งกินพายฝีมือของพี่คิวต่อ คุยกันไปกินกันไป ส่วนมากจะแลกเปลี่ยนเรื่องเกี่ยวกับภาพยนตร์ ดารา อาหาร ร้านค้าซะส่วนมาก จนพายหมดและเราต้องเริ่มทำหน้าที่พนักงานที่ดีกันต่อหลังจากนั้น
= = = = = = = =
“วันพฤหัสนี้เค้กมีประกวดดาวเดือนงั้นเหรอ อยากไปดูจัง” พี่กัสพูด
“ใช่ๆ งั้นพี่ไปดูได้ไหม พี่ก็อยากไปดูด้วยอ่ะ” พี่ฟ้าเอาอีกคน ตอนนี้อยู่ระหว่างทางกลับบ้านผม หลังเลิกงานพี่ฟ้าอาสาจะมาส่งผมกับพี่กัส ซึ่งแน่นอนว่ากลับโดยรถของพี่คิว พี่คิวต้องขับไปส่งผมก่อนถึงจะไปส่งพี่กัสต่ออีก
“เอ่อ คือว่าเค้ก..”
“น้า..ให้พี่ไปดูเถอะ” พี่ฟ้าพูดอ้อนอีก ผมได้แต่นั่งด้วยรู้สึกลำบากใจ
“ว่างนักรึไง” พี่คิวพูดขึ้น น้ำเสียงแข็งอย่างทุกทีทำให้พี่กัสนั่งหุบปากไปเหมือนเด็กโดนดุ ผมนั่งนิ่ง ส่วนพี่ฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง
“ใช่..คิวว่างนี่ งั้นไปดูกับอาแล้วกัน” พี่ฟ้ายิ้มพูด
“ไม่” พี่คิวตอบ
“ต้องไป..” พี่ฟ้าย้ำ
“ไม่” พี่คิวย้ำตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นกว่าเดิม ทำให้ผมยิ่งรู้สึกลำบากใจมากขึ้นไปอีก
“กัสก็อยากไปด้วยอ่ะพี่ฟ้า” พี่กัสอ้อนพี่ฟ้าทันที ผมคิดว่าในวันพฤหัสคงจะเป็นวันที่พี่กัสต้องทำงานนะครับ
“ได้สิ..เดี๋ยวลองขอให้ออฟทำแทนกัสด้วยแล้วกัน”
“โอเคนะเค้ก เดี๋ยววันพฤหัสพี่จะโทรหา ประกวดประมาณกี่โมงเหรอ” พี่ฟ้าหันมาถามผม
“ถ้าขึ้นแสดง ก็น่าจะประมาณบ่ายโมงครึ่งนะครับ เค้กกับเพื่อนเป็นคู่ที่สาม” ผมตอบ
“งั้นก็ดีเลย กัสก็มาทำงานเช้า แล้วช่วงบ่ายก็ออกพร้อมพี่แล้วกัน..เดี๋ยวให้ค่าแรงออฟเพิ่ม” พี่ฟ้าสรุป
“โอเค” พี่กัสตอบเสียงดัง
“เย้ !!” ทั้งสองคนจะดีใจและร่าเริงออกนอกหน้า ซึ่งไม่ทราบว่าจะอะไรนักหนาเหมือนกันครับ กับแค่ผมประกวดดาวเดือนเท่านั้นเอง ตอนนี้ผมแค่กำลังไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ๆทั้งสองถึงกระตือรือร้นกับเรื่องของผมซะเหลือเกิน ที่จริงถ้าเป็นคนอื่นที่เพิ่งรู้จักกันคงแทบไม่พูดถึงเรื่องการประกวดของผมเลยด้วยซ้ำ คงแค่จะถามแล้วปล่อยผ่านไป แต่นี่ถึงขนาดจะตามไปดู และผมเองก็พูดแสดงความคิดเห็นอะไรออกไปไม่ได้มากด้วยเพราะจะดูเสียมารยาทเกินไป มีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้นเลย..
..................>>>><<<<.................
-
ตกข่าวนิยายของเบบี้
เพิ่งตามมาอ่าน ชอบน้องเค้กกับพี่คิวอีกแล้ว (ถูกคู่ใช่ป่าว)
รอลุ้นต่อ
ขอบคุณเบบี้ที่มีเรื่องน่ารัก กวน ๆ มาให้ลุ้นอีกแล้ว
อ้าว โพสต์เสร็จเห็นเบบี้มาต่อตอน 6 พอดี เย้
พี่คิวเก่งชมัด อยากกินเค้กร้านนี้บ้างแล้วอะ
-
หิว --* อยากกินเค้กขึ้นมาทันได้
ท่าทางน่าอร่อยน่าดู +1ข้อหาทำให้อยากกินเค้ก
คึคึคึคึ
คนไหนพระเอกเนี่ย อิพี่คิวใช่ไหม ทำตัวสมเป็นพระเอกมากๆเลยนะ
55555+++
-
เล่นเอาหิวมันกะทันหันตอนนี้กันเลยทีเดียวนะเบบี้ (แต่อยากกาแฟพ่วงมาด้วยทั้งที่ไม่ได้เอ่ยถึง ก๊ากกก) o18
คือพี่คิวดูโหดแต่ถ้าน้องเค้กถึงขั้นกล้าสวนกลับ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนี่..ไม่ธรรมดาจริงๆ นะ เรามองว่าน่ารักด้วยล่ะคู่นี้ :-[
(จินตนาการต่อเผื่อตอนหน้าๆ และหน้าๆ โน้นอย่างยาวไกล ฮ่าๆๆๆๆ)
เจ้าคุณพี่เซ็นกับกัสนี่ก็ไม่ธรรมดาในความรู้สึกเราอีกเหมือนกัน
:กอด1:
-
อัยย๊ะ น่ารักจริงๆๆ o13 o13 o13
-
ดึกๆดื่นๆมันหิวนัก :z10:
-
อ่านเรื่องนี้แล้ว อยากกินเค้กอ่ะ
เอาแบบที่พี่คิวทำได้ไหม :m20:
ชอบทุกคนในเรื่องเลย
นิสัยดีกันทั้งนั้น (หรือว่าตัวร้ายยังไม่ออก) :jul3:
ชอบพี่คิวกับเค้ก จังเลย อิอิ
ลุ้นกันต่อไป อาจจะมีตอนที่พี่คิวพูดหวานๆสัก10วิ 555+
รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ
:pig4:
-
โอ่ย.... อ่านแล้วก็หิวขึ้นมาทันที
อยากจะได้ลิ้มลองอาหารฝีมือพี่คิวแบบน้องเค้กบ้างจังงงงงงงง
-
พี่คิวโหดอ่า กลัวว
แอบเชียร์คู่พี่เซ็นกับกัส จะมีไหมหนอ ><
-
พี่คิวอย่างเซียน ทำขนมอร่อยแบบนี้
อยู่กันไป หนูเค้กปุ๊กลุ๊กแน่ๆ
แต่ที่สุดของที่สุด คือ ตอนหน้า คนอ่านตื่นเต้นอ่ะ
จะประกวดดาวเดือนแล้ว อร๊ายย ลุ้นๆๆๆๆ
-
ชอบผู้ชายแบบพี่คิวจัง โหดแต่ก็รู้สึกดี ><
เค้กน่ารักตลอดดดดด ตอนชิมอาหารต้องทำหน้าน่ารักมากแน่ๆเลย อ่อยยยยย
อยากรู้ว่า.. พี่คิวที่รักคิดยังไงกับน้องเค้กน้าาาาา >///<
อยากอ่านเค้กประกวดเดือนแล้วค่าา
-
แอบอิจฉาเค้กจัง
ได้กินของอร่อยๆทุกวัน
อยากกินบ้างงงง
พี่คิว อย่าโหดก่าเค้กนักซิ
น้องออกจะน่ารัก
-
เอร้ยยย เรื่องใหม่เบบี้น่ารักอีกแล้วว เพิ่งเห็นอ่ะ> <
พระเอกนี่คือพี่คิวสินะคะ เพราะรู้สึกกระแสมาแรงสุด
แต่พี่แกดูดุไปหน่อยเน้อออ ต้องรอดูต่อไป
-
อ่านตอนดึกๆๆ มันหิวนะะะะ
เค้กน่ารักกขนาดนี้ เดี่ยวอีพีคิวก้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น
-
+1
-
พี่คิว ๆๆ ๆ ๆ ชอบพี่คิว อ๊ากกกกก ซ์ :m27:
-
อยากกินเค้กที่พี่คิวทำบ้างจัง ดูท่าจะอร่อยมาก
บอกได้คำเดียวตอนนี้ หิวมาก :z3: :z3:
-
หิวแต่เช้าเลย
ตอนนี้มีแต่ของน่ากินทั้งนั้น ><
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวันๆแล้วนะเนี่ย
ชอบบบบบบบบบบ
-
เป็นนิยายที่อ่านแล้วน้ำลายไหล..... :laugh:
น่ากิน......และสนุกมากๆ...แหวกแนวสุดๆ :L1:
-
นิ่งให้ตลอดนะ ไอ้คุณเชฟ หึ หึ หึ ........
คิดดอกทบต้นไว้ หนู เมื่อโอกาสมาถึงเมื่อไหร่ :z1:
+1 ให้บี้บี๋ เป็นกำลังใจให้ครับ 555.......
-
อยากเสียตังค์ ซู๊ด...เค้กร้านไหนอร่อย~
-
น้องเค้กน่าร๊ากกกก :o8:
ความสามารถของพี่คิวนี่ไม่เข้ากับหน้าตาเลย จะดุไปถึงไหนเนี่ย :m16:
แต่พี่เซ็นก็เริ่มรุกเค้กน้อยนิดๆแระ :z1:
-
บวกๆ จ้า น้ำท่วม ก็ยั งดีมีนิยายสนุกๆ อ่าน
-
น้องเค้กกะพี่คิวเป็นพวกทะเลาะแต่รักใช่ไหมนะ แต่น่ารักจัง
-
:-[
พี่ิคิวนี่น่ารักขึ้นนะเนี่ย! ,แต่ยังมีรังสีโหด
-
:กอด1:
-
อ่านแล้วหิว อยากกินมั่งงงงง :impress2:
แต่พี่คิวเนี่ยนะ ปากดีจริงๆ ทำเป็นไม่อยากไปดูเค้กประกวด
ปากให้ตรงกะใจหน่อยนะพี่คิว 55555555
-
พี่คิวต้องมีอะไรฝังใจแน่ๆ
-
ชอบบบน่ารัก...พี่คิวเก็กจัง...สงสัยคนมีปม
น้องเค๊กใส ๆ แต่แรงเหมือนกันนะ...
พี่เซ็นนัวเนียมากกว่านี้หน่อยซิ...อยากเห็นตาคิวไฟลุก
:L2: น้องเบบี้ :pig4: กด + ให้ความน่ารัก
-
อ่านแล้วไม่นีกว่าเป็นเบบี้ เรื่องก่อนมีเรื่องมืดๆเยอะ กูมึงตลอด
มาอ่านเรื่องนี้แล้วมันไม่ใช่อะ แต่ก็สนุกแบบใสดีๆ ตามลุ้นจ๊ะ
-
อ่านไปน้ำลายย้อยไป
อยากกินหนม :m17:
-
อยากลองกินเค้กที่คิวทำบ้างจัง จะอร่อยขนาดไหน
-
พีคิวก็นะน้องออกจะน่ารัก อย่าดุนักสิ
:pig4: ค ะ
-
อยากกินเค้ก ของพี่คิว
พี่คิวน่ารักเสมอ
-
อ่านแล้วหิวจังเลยยยย
-
:กอด1: เค้กน่ารัก
แต่พี่คิวนี่แกนิ่งมากกกกกกกกกกกกกกก
พี่เซ็นเจ้าชู้ๆๆๆๆๆ สงสารพี่กัสที่แอบชอบจัง
-
อ่านแล้วหิว อยากกินเค้กก
-
จบเรื่องคนอ่านต้องอ้วนขึ้นแน่นอน แต่ละตอนมีขนมน่ากินตลอด 55555555
-
อยากกินฝีมือพี่คิวมั่งอ่าาาา :-[
อ่านไปหิวไปเลยค่ะ ^^
น้องเค้กก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เหมือนพี่คิวจะเปิดใจมากขึ้น
อยากจะเข้าใจอารมณ์พี่แกเร็วๆ นิ่งซะเดาไม่ถูกเลย
แล้วที่พี่ฟ้าพูดว่าเมื่อก่อนออกจะน่ารักแท้ๆมันหมายความว่าไงเนี่ย
มีคนเคยหักอกพี่คิวเรอะ? อ๊ากก!!! ลุ้นๆ ๆๆ
-
แหม พี่คิว แอบลุ้นตอนน้องกินขนมตัวเองละซิ อยากได้คำชมก็ไม่บอก
พี่ฟ้ากับพี่กัสน่ารักจังเนาะ
-
อยากกินบ้างจัง
-
พี่คิวเอ๊ยยยยยยยยยย ผช อะไรขี้เก๊ก ฟอร์มจัด ปากหนัก .................ชอบๆ
-
เค้ก เค้าอยากกินเค้กที่พี่คิวทำบ้างอ่ะ
-
หิว อยากกินเค้ก ไอ้พี่คิวก็ซึนซะเหลือเกิน หมั่นไส้ ชริ
-
อยากอ่านต่อแล้วT-T :z3: :z3:
-
คือพี่คิวแกจะเป็นพระเอกใช่มั้ยย 5555
อืมมมม เราว่าตอนนี้เหมือนคิวกำลังเก็บข้อมูลเค้กอยู่เลย 5555
ชอบบบบบบ ติดตามต่อไปจ๊ะ
-
ชอบพี่คิวอ่ะ ฮาดี :laugh:
ส่วนน้องเค้ก น่ารักมาก เด็กอะไรไม่รู้เนี่ย ยิ่งตอนเจอของอร่อยๆนะ :m3:
-
น่ารักทุกคนเลย ^^ เรื่องนี้อ่านสบายจัง ไม่มีส่อเค้าตัวอิจฉาแฮะ
แต่ยังประมาทเบบี้ไม่ได้ อิอิ :L2:
-
สนุกมากเลยค่ะ พึ่งเป็นสมาชิกได้ไม่นาน
ติดตามเรื่องของ คุณเบบี้ มาตลอด สนุกทุกเรื่องเลยค่ะ^ ^
รออ่านต่อนะคะ
-
อยากกินบานอฟฟี่ฝีมือพี่คิวบ้าง
อยากให้พี่คิวไปดูเค้กประกวดดาว เอ้ย เดือน
-
บู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่คิวชอบดุ
-
:z1: อยากกินเค้กเจ้าค่ะ คงจะอร็อยน่าดู
-
ขอกดบวกเป็ดน้อยให้เลยค่ะ ชอบเรื่องนี้มากมายอ่ะ
ตอนนี้หลงพี่คิวสุดๆ เค้กก็น่ารักมากเลยอ่ะ แต่แบบว่าคู่ที่แอบลุ้นอยู่คงต้องเป็นคู่ของพี่ฟ้า
กับพี่หมี กรี๊ด ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าสำหรับคู่นี้ แต่แอบลุ้นค่ะ พี่เซ็นกับกัสกัส จะมีหวังไมเนี้ย สรุปจับคู่ให้หมดเลยงานนี้ ก๊าก ก ก
มาอัพไวๆนะค่ะ
-
เค้กนี่รู้สึกจะออกแนวปาน+ขนม ใช่ไหมบี้... แต่ยังนิ่งอยู่นะ คู่พระ-นาย
:pig4: :กอด1:
-
นึกถึงขนมที่คิวทำแล้วมัน น่ากินมากกกกกอ่ะ
เหอะ กวนจิงๆไอ้พี่คิวเนี่ยอ่ะ
-
พี่คิวมากเงียบๆ และก้อคาบไปเงียบๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
พี่เซนมีลับลมคมในกับกัสแน่ๆ หึหึหึ
พี่หมีกับพี่ฟ้า เอ๊ะ หรือ พี่ฟ้า กับ พี่ ออฟ หว่าาา
-
เค้กน่ารัก :กอด1:
-
:กอด1: กอดเบบี้ กับนิยายเรื่องใหม่จ้ะ
น้องเค้กน่ารักน่าฟัดสุดๆ แต่ไอ่คนอื่นๆ เนี่ย แต่ล่ะคนดูจะมีปม มีซัมติงเยอะนะ
:pig4: o13
-
หนูเค้กน่าร้ากกกกกกกก :o8:
อ่านแล้วหิว!!!
-
เรื่องนี้มีแต่ขนมหน้าๆกินทั้งนั้นเลย
:-[
-
พี่คิว ชอบดุ
-
คิวเอ้ยยย ในเมื่อหลงไหลการทำเค้ก
หลงเค้กอีกคนจะเปนไรไป :-[
ครึครึ
-
คิวเป็นคนโคดเถื่อนเลยอ้าา
กลัวนะเนี่ย
จะเชียร์พระเอกคนนี้ดีมั้ย คริคริ
-
พี่คิวแอบน่ารัก >///<
-
น้องเค้กน่ารักมากก ส่วนอีตาพี่คิวก็เย็นชาซะเหลือเกิน
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
หนูชอบพี่คิว พ่อของลูกหนูเลยอ่ะ ผู้ชายพูดน้อยยย เปคเลยๆ เปคคคคคคคคค
-
ไอ้พี่คิวขี้เก็ก
เริ่มหลงเสน่ห์ความน่ารักของน้องเค้กแล้วละซิ
-
เจ้ ..เจ้เขียนตอนนี้ทำให้ผมเสียตังค์เลย ต้องรีบออกไปหาเค้กมากระแทกปาก หึหึ รับผิดชอบด้วย ทั้งหมด 150
บรรยากาศเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีหรือเปล่านี่ แต่พี่ดิวน่ารักขึ้นเนาะ
-
เรื่องใหม่เบบี้ :mc4: น่ารักอ่ะ อ่านแล้วอยากกินเค้กกินเบเกอร์รี่ขึ้นมาเลย
ว่าแต่พี่คิวนี่คือพระเอกใช่มั้ย? พี่แกจะนิ่ง จะเงียบ จะหยิ่ง จะดุ จะกวนไปไหนน้อ o22
-
อ่านไปน้ำลายไหลไป อิจฉาเค้กได้หม่ำของอร่อยๆ ฝีมือพี่คิวด้วย ^^
-
อ่านเรื่องนี้แล้วหิว
น้ำลายจะไหลลล
-
ผู้ชายคนนี้
ปากร้าย ใจดี :man1:
*ไปดูน้องเค้กแล้วชอบมากขึ้น
แล้วอย่าแกล้งน้องเยอะตามความชอบล่ะ :pigha2:
-
ตามมาให้กำลังใจเรื่องนี้โต้ย
^___*
-
รอมากินเค้ก o18
-
สนุกๆๆมากมายเลย น่ารักที่สุดน้องเค้กกกกกกกก :L1:
-
พึ่งได้อ่าน น้องเค้กน่ารักอ่ะ พี่คิวก็น่ารักนะ นิ่งๆ ปากดีๆ ฮ่าๆ
คิดว่าพี่เซ็นต้องมีซัมติงกับกัสแน่ๆเลย เจ้าชู้เหลือเกินนะพี่
พี่คิวเมื่อไหร่จะอ่อนให้น้องเค้กมั่งอะ น้องออกจะน่ารักนะ :impress3:
-
น้องเค้กน่าร๊ากกกกกกก รอตอนต่อไปนะคะ
งานประกวดเดือน น้องเค้กสู้ๆๆ ฮี๊ววววววววว
-
ในที่สุดก็ตามอ่านทันแล้ววววว
น้องเค้กน่ารักมากกกก
ท่าทางจะน่ากินในสายตาหลายๆคนด้วยสินะ
ฮ่าๆๆๆ อ่อยยย
ชอบเว้ยยย พี่ฟา กับ พี่กัส ก็น่ารักดีจังเลย อ่ะ
เย้วๆ เหมือนเด็กๆเลยนะนี่ หุหุ
พี่คิวววว
อื้มมม ซึนมากนะเนี่ย
นิ่งตลอด มีมาดตลอด
ชอบ ผช. ทำอาหารได้จังงงง ^^
-
แอบอิจฉาคนได้กินของอร่อยๆ อ่ะ เค้าก็ชอบเค้กน้า :z3:
-
มาดันเจ้ให้ทะลุ
-
:z10:
ช่ายๆ พี่เซ็นต้องมีซัมติงกับกัสแน่ๆเลย
เจ้าชู้เหลือเกิน อิอิ ...
อยากไปงานโรงเรียนเค้กด้วยอ่ะ
ติดรถไปด้วยคนสิ :m20:
-
P'Q na klua pai na ka,,song saan N'Cake baang arai baang si ka..ha ha ha!!
-
อ่า อ่านแล้วอยากกินขนมอร่อยๆบางจังเลย
แต่เรื่องนี้มันแบ๊วๆจังเลย ขอเถื่อนๆบ้างได้ไหม ชอบแบบนั้นอ่า
-
เหลือบดูที่เฮด ถอนหายใจเฮือก เฮ่อ นี่เพิ่งผ่านมาสามวันเอง !?!
แต่มันนั่งไม่ติด คิดถึงจนทนไม่ไหว
เลยแอบย่องมาเม้นแบบเบาๆ เป็นกำลังใจให้น้องเค้ก พี่คิว กะ เบบี้ :-[ :-[
-
กิ๊บกิ๊ววววว มีการพัฒนาความสัมพันธ์แล้ว
คราวเข้าครัว คราวหน้าเข้าที่หัวใจพี่คิวไปเลย
น้องเค้ก น่ารัก น่ากินม๊ากกก แบ๊วๆ กริ๊สๆ
-
เอร้ยยยย..พี่คิว นี่ ยังงัยกันน๊าๆๆ
ร้านนี้น่าไปนั่งชมจิงๆที่สำคัญขนมเค้กคงน่ากินมากกกก
-
เข้ามาดูว่าเจ้ของเราเอาของมาส่งยัง
-
แวะมาให้กำลังใจคุณเบบี้ ชอบผลงานแต่งมานานแหละ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
~7~
วันพฤหัสบดี ณ มหาวิทยาลัย Y
“เค้กมาแต่งหน้าเพิ่มก่อน”
“โอ้ย ชะนี..บอกว่าถ้าแต่งตัวเสร็จแล้วให้รีบผับผ้าแพรที่วางอยู่ด้วย อะไรกันนักหนา เล่นกันอยู่นั่นแหละ” พี่เอ รุ่นพี่ปี2 เป็นรุ่นพี่สาขาเดียวกับผมโวยวายด้วยความหงุดหงิด พวกเพื่อนๆรีบวิ่งมานั่งพับผ้าแพรกันในทันที
“พิซซ่า..พี่ติ๊ก ผมพิซซ่าร่วงเนี้ย” พี่เอหันไปโวยอีก พี่ติ๊กช่างทำผมจึงรีบจับพิซซ่าเพื่อนของผมมาทำผมให้เรียบร้อยอีกครั้ง
“โอเค เสร็จแล้ว..จำคิวให้แม่นล่ะ” พี่เอบอกหลังจากแต่งหน้าให้ผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเพียงพยักหน้าตอบ
“ว่าไงวะเค้ก หล่อนี่หว่า” พีทเดินมานั่งลงข้างๆ มันยื่นขวดน้ำมาให้ ผมรับมาดูดเพราะรู้สึกคอแห้งขึ้นมา
“แก้วล่ะ” ผมถาม
“กำลังกินข้าวอยู่กับพวกหยกน่ะ เดี๋ยวตามขึ้นมา” พีทตอบ
“อืม” ผมพยักหน้า
“พิซซ่าน่ารักอ่ะ” พีทกระซิบบอกด้วยสีหน้าหวานเยิ้ม
“หึ..จีบดิ”
“รอสักพัก” มันยิ้มกะล่อนตอบผม
ตื๊ด ๆ ๆ
สายเข้า -- พี่ฟ้า ^V^
“สวัสดีครับ” ผมกดรับสาย
“หวัดดี เค้กอยู่ไหนเหรอ” พี่ฟ้าถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง รอบข้างมีเสียงวุ่นวายให้ได้ยิน
“แต่งตัวอยู่ที่ห้องอ่ะครับ พี่ฟ้าล่ะฮะอยู่ไหนแล้ว”
“พี่อยู่ที่หน้ามอเค้กแล้ว เดี๋ยวพี่ต้องไปตรงไหนต่ออ่ะ”
“เอ่อ พี่ฟ้าเข้าไปนั่งรอที่หอประชุมได้เลยครับ พี่ลองถามพวกนักศึกษาดูว่าหอประชุมที่จัดประกวดดาวเดือนไปทางไหนก็ได้ครับ จะได้ไม่หลง” ผมบอก
“โอเค งั้นไว้เจอกันนะครับ..สู้ๆล่ะ” พี่ฟ้าบอก ผมคิดว่าตอนนี้พี่ฟ้าคงจะยิ้มระหว่างที่พูดอยู่ด้วยแน่ๆ เพราะน้ำเสียงของพี่เขาฟังดูจริงใจชะมัด
“ขอบคุณครับ แล้วเจอกัน” ผมยิ้มตามแล้วตัดสายไป
“ใครวะ” พีทถาม
“เจ้าของร้านเค้กที่เราทำงานอยู่น่ะ วันนี้พี่แกมาดูด้วย”
“จริงดิ สนิทกันขนาดนั้นเลย” พีททำหน้าสงสัย
“ก็นะ..พี่เค้าน่ารักดี” ผมบอก
“ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ” มันถามอีก
“ผู้ชาย เป็นเกย์..เอาไหม” ผมยิ้มถามกลับ
“เฮอะ” พีทรีบส่ายหัวตอบคอแทบหลุด ผมนั่งคุยกับพีทบ้างเป็นระยะ แต่ส่วนมากจะนั่งจำบทและจำคิวที่จะต้องขึ้นแสดงมากกว่าจนใกล้เวลาที่ต้องเริ่มเข้าหอประชุม
“เอาล่ะ..เดินทาง” พี่เอเรียกพวกเรารวมตัวพร้อมเดินทางไปที่หอประชุม
การแสดงของสาขาผมเป็นการแสดงคู่ที่สาม การแสดงแรกเป็นเฉพาะเดือน ผมต้องแสดงเต้นและร้องลิปซิ้งพร้อมกับเพลงลูกทุ่ง ส่วนการแสดงเฉพาะดาวสาขา พิซซ่าแสดงเต้นบัลเล่ต์ จนสุดท้ายเป็นการแสดงคู่ระหว่างผมและพิซซ่าและทีมคณะเพื่อนๆจากสาขา พวกเราทำการแสดงละครเพลงเกี่ยวกับตำนานกรีซ การแสดงจบลงไปด้วยดีเพราะในแต่ละวันพวกเราซ้อมกันค่อนข้างหนัก จึงรู้คิวและจำบทกันได้ทุกรายละเอียด
= = = = = = = = = =
“ผู้ที่ชนะและได้เป็นดาวคณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการได้แก่..” ผมยืนตัวแข็ง มือไม้เย็นและเหงื่อออกเต็มไปหมด มันก็ลุ้นเหมือนกันนะครับ
“นางสาววนิดา พิพัทติวงศ์คร้าบ” ผมผงะเล็กน้อย ในสมองนึกเพียงว่า..พิซซ่าได้ล่ะ พิซซ่าได้
“เย้!!” ผมลืมตัวกระโดดขึ้นด้วยความดีใจ พิซซ่าก็ด้วยเหมือนกัน เธอเข้ามากอดผมก่อนจะเดินยิ้มไปรับรางวัลที่ด้านหน้าเวที
“รางวัลต่อไป หลายๆคนอาจจะไม่คาดคิด..เพราะคงคิดไม่ออก เดือนปีนี้สูสีจนคณะกรรมการของเราเองก็ยังลำบากใจเลยละครับ” พิธีกรพูดทำให้คนดูเริ่มปรบมืออีกครั้ง ผมหันมองซ้ายมองขวา สายตาไปเจอะกับพี่ฟ้า พี่กัสและพี่คิวที่นั่งอยู่ด้านซ้ายมือของผม ผมยิ้มให้ทุกคนถึงแม้ว่าในใจตอนนี้จะเต้นแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว
“สำหรับเดือนคณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการในปีนี้ได้แก่..นาย นาย..นายกนต์ธร เลิศวิเศษจากสาขาการจัดการการท่องเที่ยวเช่นกันครับผม” ผมยิ้มกว้างด้วยรู้สึกเขินปนดีใจ ซึ่งผมแทบไม่อยากจะเชื่อตัวเองว่าผมจะได้รางวัลนี้ ผมเอาแต่ยืนยิ้มกว้างอย่างลืมตัว รู้ตัวอีกทีหันไปเห็นพิซซ่ากำลังกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหาเธอ
“สงสัยจะตื่นเต้นไปหน่อยนะครับเดือนของเรา แหม..ปีนี้เอกการจัดการเข้ามาแรงจริงๆ” พิธีกรแซว
หลังจากที่ผมรับรางวัลทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พวกเราดาวเดือนทุกสาขาต้องเดินโชว์ตัวและถ่ายรูปร่วมกันอีกครั้ง พอผมเดินลงมาจากเวทีได้ เพื่อนๆที่สาขาก็ลากตัวผมกับพิซซ่าเข้าไปถ่ายรูปร่วมกันอีก พีทกับแก้วเห่อผมออกนอกหน้า ทำอย่างกับตัวเองนั้นได้รับรางวัลซะเอง ถ่ายรูปผมไม่หยุดกันเลยทีเดียว
“ดีใจด้วยนะ นี่ครับ..สำหรับคนเก่ง” พี่ฟ้ายื่นตุ๊กตาหมีสีขาวมาให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ก่อนที่จะรับมากอดไว้
“ซื้อมาตรงไหนครับเนี้ย” ผมยิ้มถาม
“ร้านนั้นอ่ะ” พี่ฟ้าชี้ไปที่ร้านที่นักศึกษาเปิดร้านขายตุ๊กตา
“เอาไว้พี่ให้วันหลังนะ พี่อยากจะให้พิเศษ” พี่กัสบอกพร้อมเข้ามากอดแขนผมอีกด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่พี่มาดูเค้กก็ดีใจแล้ว” ผมยิ้ม เหลือบมองไปที่พี่คิว พี่เขาเอาแต่ยืนล้วงกระเป๋าด้วยหน้าตาถมึงทึงเช่นเคย
“เอ่อ ขอโทษนะคะ..คือ มีเพื่อนให้มาขอเบอร์อ่ะค่ะ” นักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งเดินตรงไปที่พี่คิว ผมและทุกคนชะงัก แต่พี่คิวกลับยืนนิ่งเหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับพี่เขามาก พี่ฟ้าอมยิ้มเล็กน้อย สายตาเหมือนกำลังอยากรู้ว่าพี่คิวจะตอบกลับไปอย่างไร
“ไม่สะดวกครับ” พี่คิวตอบ สีหน้ายังคงเรียบเฉย
“เหรอคะ..งั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก” ผู้หญิงคนนั้นพูดหน้าถอดสีก่อนจะเดินจากไป
“หึ..มาได้ไม่ถึงวัน สาวมาขอเบอร์สามคนแล้วนะ..หลานฉันนี่มันเสน่ห์เหลือล้นจริงๆ” พี่ฟ้าพูดทำหน้ากวนไปมา ผมกับพี่กัสอมยิ้ม
“ก็ไม่ได้อยากมานักหรอก ลากมาทำไมล่ะ” พี่คิวว่าให้
“อุ๊บส์” พี่ฟ้าเอามือปิดปากเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับคำว่าของพี่คิวเลยสักนิด
“แล้วจะไปได้รึยัง” พี่คิวถาม คิ้วพี่เขาเริ่มผูกกันเป็นโบให้เห็น
“ไปสิ..กลับรึยังเค้ก เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ฟ้าพูด ผมพยักหน้าตอบทันทีเพราะอยากให้พี่เขาไปส่ง ตอนนี้เหนื่อยมากๆเลยครับเพราะเมื่อเช้าผมลุกตื่นตั้งแต่ตีสี่ ไม่อยากขึ้นรถเมล์กลับตอนนี้ ผมอาจจะหมดแรงกลางทางไปดื้อๆก็เป็นได้
“โอเค มีของอะไรไหมครับ”
“มีครับ เดี๋ยวเค้กไปเอาของก่อน” ผมบอก
“พี่ฟ้ารออยู่นี่อย่าไปไหนนะครับ” ผมย้ำ
“จ้า” พี่ฟ้าตอบ ผมรีบวิ่งไปที่หลังเวทีเพื่อเอากระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง พีทกับแก้วรออยู่ที่นั่นแล้ว
“คนพวกนั้นคนที่ร้านเหรอ พี่คนผมยาวหล่อจัง..หุ่นอย่างกะนายแบบแน่ะ” แก้วพูดแทบจะทันทีที่ผมมาถึง พี่คนผมยาวที่แก้วพูดถึงคงจะหมายถึงพี่คิว วันนี้พี่เขามัดผมมาอย่างเคย ผมไม่ค่อยเห็นพี่เขาปล่อยผมบ่อยนักนั่นคงเพราะต้องทำอาหารมั้งครับ รูปทรงหน้าของพี่คิวจัดได้ว่ามีลักษณะโครงหน้าที่สมส่วนและดูดี ถึงพี่เขาจะโกนผมพี่เขาก็ยังคงดูดีอยู่ดีนั่นล่ะ
“คนนั้นเชฟน่ะ” ผมบอกพร้อมตรวจของในกระเป๋าไปด้วย
“แล้วคนเชิ้ตสีฟ้าล่ะ” พีทถาม
“คนนั้นเจ้าของร้าน หล่อป่ะ” ผมยิ้มพูด
“ก็หล่อดีอ่ะ ไม่เห็นเหมือนเกย์ตรงไหน” พีทว่าด้วยหน้าตาสงสัย
“ก็ว่าอยู่เหมือนกัน” ผมบอกอย่างเห็นด้วย
“แล้วคนตัวเล็กอีกคนอ่ะ” แก้วถามอีก
“คนนั้นรุ่นพี่ที่มอนี่แหละ ชื่อพี่กัส..ไว้วันหลังจะแนะนำให้รู้จัก” ผมตอบ
“อืม” ทั้งสองคนพยักหน้าตอบ
“งั้นเราไปก่อนนะ” ผมยกมือบ๊ายบายให้
“เจอกัน” ทั้งสองโบกมือตอบ ผมรีบวิ่งกลับไปหาพี่ฟ้าที่ยืนรออยู่ พอผมวิ่งมาถึงพี่คิวก็ก้าวเท้าเดินนำหน้าไปก่อนแล้ว
“ไปกินข้าวกันก่อนแล้วกันเนอะ หิวรึเปล่าเรา” พี่ฟ้าถามไปลูบหัวผมไป
“เค้กกลับไปกินที่บ้านก็ได้ครับ ลำบากพี่ๆเปล่าๆ”
“ไม่เป็นไรหรอก อยากกินอะไรล่ะ” พี่ฟ้าถาม
“กัสอยากกินก๋วยเตี๋ยว” พี่กัสพูดขึ้น พี่ฟ้าหันไปมองหน้าพี่กัส พี่กัสเอาแต่ยิ้มหน้าบานตอบให้
“ก๋วยเตี๋ยวก็ได้ครับ ง่ายดี” ผมแสดงความคิดเห็นบ้าง
“คิว ไปร้านกะทัดรัดแล้วกันนะ” พี่ฟ้าพูดบอกคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้า พี่คิวพยักหน้าตอบส่งๆทั้งๆที่ไม่ได้หันหน้ากลับมามองพวกเราเลย
ผมไม่ทราบว่าร้านกะทัดรัดนั้นเป็นร้านอยู่ที่ไหน แต่น่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเพราะพวกเราบอกว่าอยากกินก๋วยเตี๋ยวนี่นะ มันก็คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้หรอกละมังครับ
เราเดินทางกันประมาณครึ่งชั่วโมง พอถึงที่ร้านกะทัดรัด ทุกอย่างก็กะทัดรัดตามอย่างชื่อร้านจริงๆ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้และการตกแต่ง โดยเฉพาะราคาอาหาร พวกเราสั่งก๋วยเตี๋ยวมากินกันแบบเต็มคราบ ทุกคนสั่งคนละสองชามกันหมด มีแค่พี่คิวคนเดียวที่สั่งมาถึงสามชาม
“กินเยอะๆ โตเร็วๆน้า” พี่ฟ้านำมือไปลูบแขนพี่คิวที่กำลังทานก๋วยเตี๋ยวอยู่
“จิ..อย่าน่า” พี่คิวขยับแขนนิดหน่อยและก้มหน้าก้มตากินต่อ พี่ฟ้าหันมายิ้มยักคิ้วให้ผม ผมได้แต่หัวเราะตอบให้เบาๆ
“ใคร..” พี่คิวพูดขึ้นทั้งที่ไม่ได้มองหน้าพี่ฟ้า แต่คงเพราะเห็นว่าพี่ฟ้ากดตัดสายโทรศัพท์มือถือของตนทิ้ง
“เปล่า” พี่ฟ้าตอบหันหน้ามองไปทางอื่น
“หึ..” พี่คิวแสยะยิ้ม หน้าตาเจ้าเล่ห์เหมือนรู้อะไรสักอย่าง
“หุบปากไปเลย เป็นเด็กเป็นเล็ก..นิสัย มาทำหน้าตารู้ดี” พี่ฟ้าว่ายาว พี่กัสที่นั่งอยู่ข้างๆผมหัวเราะออกมา ส่วนผมได้แต่อมยิ้มเพราะสะใจที่พี่คิวหน้าเสียต่อหน้าพวกผมบ้างนานนานครั้ง
“หึ..ก็ไม่ได้อยากจะรู้นักหรอก พอดีฉลาดน่ะ” พี่คิวย้อนแล้วตักเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เหลือเพียงคำสุดท้ายเข้าปาก
“ไอ้หลานบ้า นี่เป็นอานะ..อานะเนี้ย” พี่ฟ้าชี้อกตัวเองเหมือนเรียกร้องสิทธิ์
“แคร์เมื่อไหร่” พี่คิวยักไหล่
“จ่ายด้วย” พี่คิวสั่ง อยู่ๆพี่เขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากร้านไปหน้าตาเฉย
“ดูมัน” พี่ฟ้าหันมาพูดทำหน้าเอือมระอา
“ทำใจ” พี่กัสพูดยิ้มๆ
“ฮื้ม..” พี่ฟ้าส่ายหัวเล็กน้อย
“คิดเงินด้วยครับ” พี่ฟ้าเรียกพนักงาน พวกเราเดินกลับไปที่รถหลังจากที่คิดเงินเสร็จเรียบร้อย แต่พอถึงรถกลับไม่พบเจ้าของรถทั้งทั้งที่พี่คิวเดินมาก่อนหน้าเรานานแล้ว
“ไปไหนของมันนะ ร้อนอ่ะ” พี่ฟ้าบ่นหน้านิ่ว
“ร้อนอ่า เดี๋ยวผิวกัสเสีย” พี่กัสร้องบ่นด้วยอีกคน
“เดี๋ยวเค้กไปตามให้ดีกว่าครับ” ผมบอกเพราะดูเหมือนผมเป็นเพียงคนเดียวที่ทนแดดทนฝนได้เก่งที่สุด พี่ฟ้าพยักหน้าส่งๆแล้วรีบวิ่งหลบเข้าไปในที่ร่มพร้อมกับพี่กัส ผมเดินไปตามทางแถวๆร้านก๋วยเตี๋ยวร้านที่นั่งกินกันเมื่อกี้อีกครั้ง ก็พบหลังของพี่คิวไวๆอยู่แถวหน้าร้านขนมหวาน ผมจึงรีบวิ่งเข้าไปหา
“พี่ฟ้าให้มาตามครับ” ผมพูด พี่คิวหันมามองหน้าผมเพียงสบตา หลังจากนั้นพี่เขาก็หันกลับไปสนใจขนมเบื้องที่แม่ค้ากำลังทำตรงหน้าต่อ ผมเลยได้แต่ยืนนิ่งเพราะทำตัวไม่ถูก
“เสียมารยาท” ผมบ่นเสียงเบา ชิ..เราพูดบ้างก็ได้นี่หว่า โด่ๆ..ไม่กลัวหรอก
“ว่าใคร” พี่คิวถามเสียงเขียวขึ้นมาทันควัน แม่ค้าขนมเบื้องเหลือบมองเราสองคนเล็กน้อย
“ก็แล้วแต่พี่จะคิดสิครับ” ผมยักไหล่ตอบ
“อย่ามากวน”
“พี่กวนก่อนทำไมล่ะ” ผมย้อน
“กวนเมื่อไหร่”
“กล้าถาม ที่ทำสีหน้าอยู่นี่ไม่เรียกว่ากวนรึไง คนเค้าอุตส่าห์มาตาม” ผมว่าไม่เต็มเสียงนัก พี่คิวเงียบไป สายตานิ่งยิ่งทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัว
“ผมถามหน่อยเหอะครับ พี่ไม่พอใจอะไรผมนักหนา ผมไปทำอะไรให้พี่ไม่ชอบรึไง” ผมถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“.................” พี่คิวเงียบ
“ห้าสิบบาทจ้ะ” แม่ค้ายิ้มบอก พี่คิวยื่นเงินให้ป้าแกแล้วรับถุงขนมเบื้องมาก่อนจะเดินหนีผมไป
“นี่..ผมถามพี่อ่ะ ทำไมไม่ตอบเล่า” ผมรีบเดินตามตูดพี่เขาไปในทันทีเพราะรู้สึกคาใจอยากได้คำตอบจริงๆ ด้วยเพราะเราต้องทำงานอยู่ในร้านร่วมกัน อย่างที่พี่ฟ้าบอกว่าทุกคนควรเข้ากันให้ได้แต่ผมกับพี่คิวไม่เห็นราบรื่นอย่างคนอื่นเลย
“ไม่จำเป็น” พี่คิวตอบส่งๆ
“ไม่จำเป็นได้ยังไง เราทำงานร่วมกันนะฮะ อีกอย่าง..พี่ฟ้าก็อยากให้เราสนิทกันไว้ด้วย แล้วผมก็ไม่เข้าใจ ว่าพี่จะกวนนนน....อะไรผมนัก” ผมเว้นเสียงกวนใส่เพื่อให้พี่เขาเติมช่องว่าที่ผมเว้นนั่นเอาเองตามใจชอบ ประโยคนี้เองทำให้พี่คิวหยุดเดินหันกลับมามองหน้าผมตาขวาง
“สำคัญรึไง ฉันก็ไม่ได้อยากทำงานกับนายหรอก..ถ้าไม่ใช่เพราะหน้าตานาย ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้อาบ้านั่นจะรับนายเข้ามาทำงานไหม” พี่คิวว่าให้
“อ..ไอ้พี่คิว!” ผมกระแทกเสียง รู้สึกโมโห..โมโหมากๆเลยอ่ะครับ
“หน้าตาผมมันเป็นยังไงไม่ทราบ ผมมาด้วยความสามารถ..ทุกอย่าง” ผมพูดเสียงดังอย่างควบคุมไม่อยู่
“หึ..เหรอ จากที่เห็น..” พี่คิวแสยะยิ้ม กวาดสายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไม่น่าจะใช่” พี่เขาพูดเสริม
“ไอ้พี่คิว ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ!”
“ไม่” พี่คิวตอบเล่นหน้าเล่นตาให้ไม่เลิก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกโมโหจนหน้าร้อนผ่าวไปหมด
“อ..ไอ้” ไอ้อะไรดี..ไอ้อะไรดี นึกไม่ออกอ่ะครับ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครมาพูดว่าผมตรงๆแบบนี้มาก่อน เกิดมาผมแทบไม่เคยมีเรื่องชกต่อยกับใคร ไม่เคยมีปากเสียงกับใครรุนแรงนักและก็ไม่เคยมีใครมาว่าผมแบบนี้ด้วย และยิ่งผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นยังไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกโมโหเข้าไปกันใหญ่
“..................” ผมหุบปากเพราะนึกคำว่าไม่ออก ผมได้แต่ยืนจ้องหน้าพี่คิวแต่ก็ต้องหลบสายตาชิงเดินหนีออกมาก่อน
“เป็นอะไรน่ะเค้ก” พี่กัสถาม
“เปล่าครับ” ผมตอบเสียงเบา พยายามลดน้ำเสียงลงเพื่อไม่ให้พี่ฟ้ากับพี่กัสเป็นห่วง
“คิว..ทำไรน้อง” พี่ฟ้าว่าเสียงแข็ง
“เปล่าสักหน่อย” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงอย่างเคย พอพี่คิวเปิดรถได้ผมก็รีบขึ้นไปนั่งเบาะหลังในทันที เมื่อทุกคนขึ้นมานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว ความเงียบสงัดก็ครอบงำอยู่เกือบห้านาที
“แน่ใจนะว่าคิวไม่ได้ทำอะไรน่ะ” พี่ฟ้าหันตัวมาถามผมที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“เปล่าครับ” ผมส่ายหัวตอบ พี่ฟ้าพยักหน้ายิ้มให้และหันตัวกลับไปนั่งอย่างเดิม ผมเหลือบมองไปที่กระจกมองหลัง พี่คิวเหลือบตามองผมอยู่
~ชิ..ไอ้เชฟบ้า~
= = = = = = = =
“งานวิชาบริหารอ่ะ อย่าลืมส่งรายละเอียดที่จะทำพาวเว่อร์พ้อยมาให้คืนนี้เลยนะเค้ก เดี๋ยวแก้วจะรีบทำให้”
“อื้ม ได้..เดี๋ยวเรากลับจากทำงานแล้วจะรีบทำให้นะ” ผมบอก
“แน่ใจนะว่าจะไม่ให้กูทำไรอ่ะ” พีทถาม เดี๋ยวนี้มันเริ่มจะมี “มึง กู” มากขึ้นแล้ว คงเพราะเราเริ่มใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น อะไรๆที่ถนัดปากก็เริ่มแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“มึงคอยพรีเซ้นต์งานแล้วกัน เดี๋ยวกูส่งรายละเอียดที่ต้องพูดให้ น่าจะวันเสาร์..ไม่เกิน” ผมบอก
“เออ ได้..ไงก็ได้อยู่แระ”
“แล้วจะไปยัง..เดี๋ยวไปส่ง” พีทบอก
“ไปดิ แก้วละกลับยังไง” ผมถาม
“เดี๋ยวพ่อมารับ กลับกันไปได้เลย เดี๋ยวเราไปนั่งรอพ่อในห้องสมุด” แก้วตอบ
“อืม ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะ” ผมยิ้มให้
“เจอกัน บาย” แก้วโบกมือบ๊ายบายให้ ผมกับพีทเดินไปที่ลานจอดรถ วันนี้พีทเอารถมามหาวิทยาลัย ที่จริงมันก็เอารถมามหาลัยแทบทุกวัน วันนี้ผมเลยขอให้มันไปส่งที่ร้านเพราะจะได้ประหยัดเงินในกระเป๋าด้วย
“ร้านนี้เหรอวะ หรูว่ะ” พีทพูด ตาเหลือบมองสำรวจไปรอบๆร้าน
“อืม จะเข้าไปในฐานะเพื่อนคงจะไม่เหมาะ ถ้าอยากเห็น..มึงคงต้องเข้าไปในฐานะลูกค้าแล้วล่ะ” ผมพูด
“เออ ไว้วันหลัง..วันนี้กูไปรับแม่ก่อน นัดแม่ไว้”
“อืม ขอบใจว่ะ กูไปแระ..เจอกันวันจันทร์” ผมบอก พีทพยักหน้ายิ้มให้ ผมยืนส่งมันจนมันขับรถไป
“.................” ผมถึงกับต้องผงะกับคนตรงหน้า ดีจริงๆครับ..มาถึงร้านก็เจอเชฟตัวดีเข้าให้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาเข้าเขตร้านเลยด้วยซ้ำ
“ที่พูดเมื่อวานน่ะ” พี่คิวหยุดยืนตรงหน้าผม ผมใจชื้นขึ้นมาในทันทีเพราะตอนนี้กำลังคิดในแง่ดีว่าพี่เขาคงมาพูดขอโทษเป็นแน่
“ไม่ขอโทษหรอกนะ” ง่ะ..ไอ้ ไอ้บ้า ผมพยายามจ้องตาพี่คิวตอบและตั้งสติให้อยู่กับเนื้อกับตัว ใจเต้นตุบตับด้วยรู้สึกอึดอันอยู่เต็มอก ผมพยายามมีสติเพื่อที่จะได้ตอบโต้คนคนนี้ไปได้อย่างเจ็บแสบ
“ม..ไม่เป็นไร ก็ไม่ได้โกรธ เข้าใจ..ว่าคนเรา นิสัยดีแย่ต่างกัน” ผมพูดยักคิ้วให้พี่เขาด้วย
“หึ จะบอกว่าตัวเองนิสัยดี” พี่คิวยิ้ม
“ก็ดีกว่าใครบางคนอะนะ” ผมยักไหล่พูดย้อน
“งั้นก็ดี ต่อไปฉันพูดอะไร นายก็คงจะไม่โกรธสินะ..เป็นคนดีจริงๆ” พี่คิวยิ้มกะล่อน
“ใครจะมาอยากฟังเล่า ไอ้บ้า” ผมว่าเสียงดังอย่างลืมตัว
“เสียงดัง เสียมารยาท” พี่คิวว่าหน้าตายก่อนจะเดินกลับเข้าร้านไปเดี๋ยวนั้น
“อะไรๆก็เสียมารยาทๆ ตัวเองไม่เสียมารยาทรึไง ว่าคนอื่นแล้วก็เดินหนี..ไอ้บ้า!” ผมตะโกนว่าทั้งๆที่พี่คิวเดินหนีเข้าร้านไปแล้ว
“อ..ไอ้ เสียมารยาทอ่ะ” แง่ง..เหนื่อยจะพูดแล้วนะโว้ย ไอ้เชฟบ้า !!
“หน้าตาดีมาแต่หัววันเลยนะ” พี่ออฟยิ้มทัก พี่เขาคงต้องการพูดประชดผมนั่นแหละครับ
“ใครไม่ถูกกับพี่คิวบ้าง เค้กอยากมีพวก..จะตามไปถล่มบ้าน” ผมพูดด้วยความหงุดหงิด
“ฮ่าๆๆๆ โดนไรมาอีกล่ะ” พี่หมียิ้ม
“โดนว่าตั้งแต่เมื่อวานละ วันนี้ยังจะมากวนเค้กอีกอ่ะ นิสัยแย่ชะมัด” ผมบ่นหน้างอ
“พี่คิวเค้านิสัยดีนะ” พี่ออฟพูด
“นั่นไม่ใช่เรื่องจริงสำหรับเค้ก” ผมย้อน
“หึ” พี่ออฟหัวเราะ
“ไปทำงานๆ” พี่หมีลุกขึ้นยืนเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ
“ทำใจว่ะไอ้น้อง แสดงว่าไปโดนติ่งอะไรของพี่คิวเข้าล่ะสิ ไม่ค่อยมีใครเค้าโดนแบบแกกันหรอก..ลิมิเต็ดไง ไม่ชอบเหรอ” พี่หมีพูดด้วยหน้าตาเจ้าเล่ห์สุดๆให้ผม ผมยังคงหน้างอตอบให้
“งั้น..คะ เค้ก ทำอะไรผิดล่ะครับ เค้กยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยอ่ะ” ผมพูดท้วง
“หึ..จะไปรู้รึ” พี่หมียิ้มเดินโบกมือออกจากห้องพักพนักงานไป ผมได้แต่นึกหงุดหงิดอยู่ในใจคนเดียว สุดท้ายได้แต่ข่มอารมณ์สงสัยหลายๆอย่างเอาไว้ ผมเข้าไปแต่งตัวในห้องแต่งตัวและตรงออกมาทำงานทันที
“อ่าว สวัสดีค่ะพี่ฝัน” ผมเงยหน้าขึ้นมองว่าพี่ซีทักใคร ผู้หญิงหน้าตาดีและลักษณะท่าทางดูมีฐานะยืนอยู่ตรงหน้า เธอยิ้มตอบให้พี่ซีด้วยเช่นกัน
“มาหาพี่คิวเหรอคะ” พี่ซีถาม
“ใช่จ้ะ ทำงานอยู่เหรอ”
“ค่ะ ให้ซีไปตามไหมคะ”
“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวพี่นั่งรอที่โต๊ะแล้วกัน..เอาเป็นว่าฝากซีไปบอกให้หน่อยนะว่าพี่มา แต่รอได้” เธอยิ้มพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง
“งั้นเชิญพี่ฝันที่โต๊ะก่อนได้เลยค่ะ เค้ก..ไปรับออร์เดอร์หน่อยนะ” พี่ซีหันมาบอกผม ผมพยักหน้าตอบ พี่ซีเดินตรงไปที่ครัว ผมรีบเดินออกจากเคาร์เตอร์เพื่อออกไปทำหน้าที่ทันที
“ขออนุญาตวางเมนูครับ” ผมก้มพร้อมกับวางเมนูให้เธอ
“ขอบใจจ้ะ” เธอตอบ
ผมเดินออกมายืนรออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก สักพักพี่ซีก็เดินออกมาจากห้องครัว พี่ซีเดินไปหาพี่สาวคนนั้นที่โต๊ะ ไม่รู้ว่าทั้งสองคนพูดคุยอะไรกัน แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะรู้จักกันมานาน ซึ่งมันคงไม่แปลกนักเพราะจากที่พี่กัสเคยเล่าให้ฟังว่าพี่ซีกับพี่เซ็นเป็นลูกไฮโซ ดังนั้นก็คงไม่แปลกที่จะรู้จักคนที่ดูดีมีฐานะขนาดนี้
“ไปรับออร์เดอร์ได้แล้วจ้ะ” พี่ซีเดินมาบอกผมก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวเคาร์เตอร์ ผมหยิบสมุดเพื่อเตรียมไปจดออร์เดอร์ด้วย
“ไม่ทราบว่าจะรับเป็นอะไรดีครับ” ผมยิ้มถาม
“เอ่อ ขอเป็น..สลัดแซลมอล” พี่สาวคนนี้พูด
“เอิ่ม เบรกโพเทโท้” เธอพูดอยู่ในลำคอ ขนาดได้ยินที่พูดแค่นี้ แต่สำเนียงดีมากเลยอ่ะ (=v=)
“อืม หัวมันอบน่ะค่ะ” เธอเงยหน้ายิ้มให้ผม
“ครับ” ผมยิ้มและพยักหน้าตอบให้เธอ
“ทรีโอเค้กอีกที่นึงค่ะ” เธอพูดบอก
“เมนูที่สั่งเป็นสลัดแซลมอลหนึ่งที่ หัวมันอบหนึ่งที่และทรีโอเค้กอีกหนึ่งที่นะครับ ไม่ทราบว่า..รับเครื่องดื่มเป็นอะไรดีครับ”
“ขอเป็นชาฝรั่งเศสแล้วกันค่ะ” เธอตอบ
“ได้ครับ อาหารที่สั่ง..รบกวนรอสักครู่นะครับ” ผมก้มหัวให้เป็นมารยาทก่อนที่จะเดินกลับมาที่เคาร์เตอร์ ผมนำออร์เดอร์นี้เข้าไปในครัวเพื่อนำเอาไปให้เชฟผู้มีมารยาทดีคนเดิมคนนั้น
“เมนูที่สั่งมีสลัดแซลมอลหนึ่ง หัวมันอบหนึ่ง ทรีโอเค้กหนึ่ง แล้วก็ชาฝรั่งเศสครับ” ผมอ่านเมนูให้คนที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำอาหารให้เขาฟัง ผมคิดว่าพี่เขาคงกำลังฟังอยู่แต่แค่ไม่ขานรับรู้ก็เท่านั้น
“เดี๋ยว..” ผมชะงักเมื่ออีกฝ่ายเรียกไว้
“ฝันสั่งเหรอ” พี่คิวถาม
“..................” ผมยืนนิ่งเพราะไม่เข้าใจที่พี่เขาถาม
“ผู้หญิงคนที่มาหาฉันน่ะ”
“ครับ” ผมพยักหน้า
“งั้นบอกให้หมีจัดทรีโอเค้กกับชาไปเสิร์ฟให้ก่อนแล้วกัน” พี่คิวสั่ง
“ได้ครับ” ผมนำกระดาษไปเสียบไว้ที่ประจำ แล้วออกมาบอกให้พี่หมีทำตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าคนสวยนั่นสั่งไว้ ผมนำน้ำเปล่าไปเสิร์ฟให้เธอก่อนจะกลับมายืนประจำที่เคาร์เตอร์อีกครั้ง
“พี่ฝันนี่สวยยังไงก็ยังสวยอยู่อย่างนั้นเลยเนอะ” พี่ออฟพูดทั้งรอยยิ้ม
“สวยป่ะเค้ก ชอบแบบนี้ป่ะ” พี่ออฟยักคิ้วถามผม
“สวยไปอ่ะครับ” ผมยิ้มแหยตอบ
“นั่นดิ..ไม่เหมาะกับเราหรอก คนที่เหมาะอยู่ในครัวนู่น” พี่ออฟพูดเสียงเบาลง
“แฟนพี่คิวเหรอครับ” ผมถาม ที่จริงไม่รู้สึกแปลกใจมากเท่าไหร่ถ้าเธอคนนี้จะเป็นแฟนพี่คิว เพราะทุกอย่างก็ดูเหมาะสมกันดีนะซิครับ
“ไม่รู้เหมือนกัน เหมือนจะใช่..แต่พี่ซีบอกว่าไม่ใช่” พี่ออฟตอบ
“ก็พี่ไม่รู้นี่ ว่าเค้าสองคนมีความสัมพันธ์กันยังไง ตั้งแต่พี่ปรายเสียไป..พี่ยังไม่เห็นพี่คิวไปสนิทกับผู้หญิงคนไหนนอกจากพี่ฝันเลยสักกะคน” พี่ซีพูดด้วยสีหน้าคิดหนัก
“..................” ผมยืนเงียบ กำลังนึกว่า ผู้ชายอย่างไอ้ตาเชฟนี่ก็มีแฟนกับเขาด้วยเหมือนกันแฮะ ที่จริง..ผมสงสัยอะไรลึกกว่านั้นแต่ไม่กล้าถาม กลัวจะโดนหาว่าสอดรู้เรื่องชาวบ้านน่ะสิครับ..เท่านี้ก็น่าจะสอดรู้มากเกินพอแล้ว
“นั่นดิ ไม่เห็นพี่คิวจะควงใครสักคน..นอกจาก” พี่ออฟทิ้งเสียงไป
“เค้าก็เหมาะกันดีนี่ครับ” ผมบอกเพราะรู้สึกตามที่ตนเองพูดจริงๆ ผู้หญิงคนนี้สวยและดูดีมาก และถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยชอบนิสัยของพี่คิวนัก แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดพี่เขา และผมก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วยว่าเขาทั้งสองคนเหมาะกันมากอย่างที่พี่ออฟพูด
.................>>>><<<<.................
-
มาเม้นก่อนอ่านครับบบบบบ จะตั้งใจอ่านยิ่งกว่าสอบอีก 555
-
โฮ้วววววววววว เหมือนคิวอาจมีปมอะไรในใจด้วยหรือนี่
แล้วผู้หญิงชื่อฝัน..เธอจะมาดีหรือมาร้าย ล่ะนี่?
แต่เค้กเอ๊ยยยย ทำใจเถอะหนู สำหรับคิวคงลิมิเต็ด เอดิชั่นอย่างที่หมีพูดจริงๆ แหละนะ :-[ :laugh:
:กอด1:
-
พี่คิวแม่งปากเสียว่ะ :z6:
ป.ล.เห็นฝันโผล่มาปุ๊บ คิดถึงท่อนเพลง "เธอจะดีหรือเธอจะร้่าย" ขึ้นมาทันทีเลย
-
มีซัมติงกันรึเปล่าเนี่ยคิวกับฝัน
แล้วคิวจะกัดอะไรเค้กนักหนาเนี่ย ขัดใจขัดใจ
-
เหมือนมีแววดรามาชามโต
ฝันเป็นใครอ่ะ
-
อยากกินมั่ง :z10:
-
ปากพี่คิว TYT
-
:mc3: ฉลองให้น้องเค้กก่อน ได้เป็นเดือนคณะแล้ว :impress2:
พี่คิวยังกวนประสาทเหมือนเดิม แต่... รักนะจ๊ะ
ตามติดชีวิตเค้กคิวต่อไป :a1:
-
ปมเริ่มมาอีกแล้วคร้าาา
-
นั่นสิ อิหนูมันไปสะกิดโดนติ่งอะไรของพี่คิวอ่ะ
กลายเป็น..ลิมิเต็ด :L2:
แต่เอาน่า ไปๆมาๆ ก็จะกลายเป็น ลิมิเต็ด เลิ๊ฟเว่อ :L2: :L2:
กิ๊บกิ๊วววววววว ~
ว่าแล้วเชียว ตอนแรกก็เอะใจว่าเอ๊ะ ทำไม เรื่องนี้ของเบบี้ดูซอฟๆ
มาวันนี้ข้าพเจ้าร้องอ๋อ มาแล้วว้อย เส้นขมับมันเริ่มจะเต้นตุ๊บตับ หนึบหนับ แล้วไงล่ะ
ปล. ชะนีนางนี้มาจากไหน อร๊ายยๆๆ อยากให้เรื่องนี้ไม่มีชะนี
:z3: :z3:
-
ฝัน.. ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร และเป็นอะไรกับพี่คิว :a11: :a11:
-
พี่คิวได้อีก หุหุหุ :jul3:
-
คิวฝัน หรือจะสู้ คิวเค้ก!!!!
-
คิว เค้ก ท่าจะอีกนาน
-
ฝัน นางคือใคร และมีฐานะอะไร เราคงต้องติดตามกันต่อไป= =
ว่าแต่ แอบสงสารเค้กเล็กๆอ่ะ โดนแกล้งตลอด 555
เค้าว่าเกลียดยังไงก็จะได้ยังงั้นนะจ้ะ
รอตอนต่อไปจ้า
-
พี่คิวมีแฟนแล้ว
งั้นเค้กให้พี่ฟ้านะ
-
Still fighting kan na ka song kon nii,,ha ha ha...
-
ปากเสียจิงๆอะพี่คิว
รับไม่ด๊ายพระเอกร้ายเกิน :z3:
-
เหมือนคิวจะมีปมอะไรในใจ
ฝัน..เป็นอะไรกับคิวก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป
จะมาทำให้เรื่องดราม่าขึ้นหรือเปล่านะ อิอิ
แอบอิจฉาเค้กนะเนี่ย มีหนุ่มหล่อๆรายล้อมเต็มไปหมด ...
:z1:
:L2:
-
ผู้ดีฝันนี่คือใครรรร นึกว่าจะได้จิกๆกัดๆกันแค่สองคนทั้งเรื่อง
นี่จะมีผู้หญิงมาทำให้ได้กินมาม่ากันเพิ่มใช่มั้ย?
แอบหงุดหงิดแทนน้องเค้กเลย ไม่รู้จะด่าอะไรยังไงดีปากพี่คิวเนี่ย
แต่แบบนี้สิ คู่ลิ้นกับฟันของแท้ ชอบบบบบบบบบบบ
อยากจะรู้ ชอบน้องเค้กขึ้นมาเมื่อไหร่ ปากจะตรงกับใจมั้ย ชิชะ (หรือตอนนี้ปากก็ไม่ตรงกับใจอยู่แล้วป่ะ)
-
เค้กได้เป็นเดือนด้วย :-[ พี่คิวนี่เสน่ห์แรงสุดๆ
พี่ฝันนี่แฟนพี่คิวอ่อ ไม่จริงนะ!
:a5:
-
โอย ดีใจมากได้อ่านต่อ แต่อยากอ่านอีก
พี่คิวมนุษย์ประหลาดดดดดด ไปรักกับยัยฝันนั่นไป เดี๋ยวหาคู่ใหม่ให้นุ้งเค้กเอง โหะๆ
บวกบี้ๆ
-
อื้อหือพี่คิว
ปากจัดมากอ้ะ = =
-
ปมที่ซ่อนอยู่ ถูกคลีออกมาดีละติ๊ด.....
ไอ้ที่เหวี่ยง น้องเค้กอยู่เนีย มันคืออะไรครับเชฟ .......
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้
ปล. เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังประสบกับมหาอุทกภัยอยู่ขณะนี้ สู้ ๆ นะครับ
-
คิววววว :angry2:
แอบใจแป้วเลยที่คิวมีผู้หญิงอยู่แล้ว :really2:
-
รอทุกวันเลย ชอบมากกกค่ะ
พี่คิวปากร้ายมาก เค้กก็ไม่ยอมเลย น่ารักอะ
-
นายคิวเค้ามีมุมรัก เศร้าๆ ฝังใจอยู่เหมือนกัน
แต่ไอ้ที่คอยกวนน้องเค้กเนี่ย มันก็น่าโดนโบกเกรียนซักทีนะ :m16:
-
อ๊าาาาา
มันยังไงกันเนี่ย
พี่คิวมีปมอะไรงั้นเหรอ
-
o22 o22 พี่คิวแอบมีแฟนซุกซ่อน.....
:เฮ้อ: น้องเค้ก...ยังมีพี่ฟ้านะคะ :กอด1:
-
พี่คิววววววววว
-
คนนี้ลิมิเต็ดจริงๆ
คงจะติดใจอะไรบางอย่าง แต่แสดงออกในแบบพี่คิว เลยออกแนวโหดๆซะงั้น 55
-
มีตัวแปรเพิ่มมาอีกคนแล้ว เค้าลุ้นนะเนี่ยะ :z2:
-
พี่คิวเป็นคนมีอดีต!!!
5555
ฝัน คือใคร มีความสำคัญ
อะไรกับพี่คิว...?
โอ๊ย......อยากรู้อ่ะ ค้าง!!
-
:z13: :z13: :z13:
-
ถ้าคิวไม่รุกหรือทำอะไรให้ชัดเจนไปซักอย่างเค้กคงไ่ม่มีวันคิดกับคิวเป็นอย่างอื่นนอกจากเชฟกวนประสาทประร้านหรอก
-
ซื้อขนมเบื้องตั้ง50บาท กะจะกินให้อ้วนตายเลยเหรอพี่คิว= =
ทำไมชอบแกล้งเค้กนักน้อ เด็กมันน่ารักเลยหมั่นเขี้ยวอ่ะดิ
แล้วพี่ฝันเป็นใครรรรรรรรรรรรร คงไม่ใช่แฟนหรอกนะ ไม่ยอมๆๆๆ
-
คิวเหมือนเด็กๆป่ะ ชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบ o18
-
สนุกขึ้นเรื่อยๆ
-
แวะมาอ่านฮะ
ติดใจน้อง เค้ก กับ พี่คิว ไปแล้ว :man1:
-
พี่คิวนี่ดูมีเรื่องราวในอดีตเยอะจังงง
-
ขอบคุณค่ะที่มาอัพให้อ่านตอนนี้น้ำท่วมได้แต่อ่านนิยายอยู่กับบ้าน
-
พี่คิวเป็นไรหว่าาาาาาาา
แล้ว ฝัน เป็นใครอ่ะ
หวังว่าคงไม่ใช่แฟนนะ
-
พี่คิวนี่ช่างปากเสียจริงๆ 5555555 แต่ก้ชอบอ่ะนะ. :impress2:
น้องเค้กยังน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย :o8:
ปมอดีตของพี่คิวนี่น่าสนมากๆ หึหึ o18
รอตอนต่อไปนะคะ กอดดดดด :กอด1: เบบี้
-
พี่คิวมีความหลังอะไร อ๊ากก อยากรู้
เรื่องนี้จะมีกี่คู่นะ ลุ้นๆพี่หมีขพี่ฟ้า แล้วก็พี่เซ็น-กัส ฮิฮิ
-
ชะนีจะมาโปรยมาม่าไหมเนี่ย
พี่ปรายนี่คงแฟนเก่าที่ตาย ทำให้พี่คิวไม่อยากจะรักใครอีก
แต่แกก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวขวางโลกนี่หว่า
-
ค่อย ๆ สานความสัมพันธ์กันแล้ว :impress2:
-
อยากอ่านเค้กกัสค่ะ
เคะกับเคะ แลดูน่ารักดี ฮ่าๆ
เบื่ออิพี่คิวแล้ว
-
รอตอนต่อไปค่ะ :L2: :L2: :L2:
-
ชักไม่แน่ใจใครเด็กกว่าใคร :laugh:
:pig4: คะ
-
อีพี่คิวนี่ปากร้ายจริงๆ - -
เดี๋ยวให้พี่เซ็นรุกเค้กหนักๆเลย :angry2:
-
ค่อยๆไปทีละนิด :a11: :a11:
-
เผยปมก้อนโต
เย้ย! :sad4:
-
คิวฝันหรือจะสู้คิวเค้ก :กอด1:
+1ให้จ๊ะ
-
น่าจับเค้กโยนไปหาเซ็น :haun4:
-
คนสวยเข้ามาป่วนอีกแล้ว ท่าทางจะเป็นคนดีด้วยสิ :z3:
-
แอบหมั่นไส้พี่คิว :z6: :z6:
-
:กอด1:
-
เค้กเป็นlimited editionสำหรับพี่คิวด้วย เฉพาะบุคคลอะ :-[
-
ชอบมากๆเลยค่ะเบบี้
สนุกมากๆเลยเลย
เค้กน่ารัก คิวก็กวนได้ใจ^^
ติดตามผลงานของเบบี้อยู่นะค่ะ
-
แอบปวดใจเล็กแทนน้องเค้ก คริคริ :-[
-
มารหัวใจมาและ
-
เริ่มปะทะคารมกันมากขึ้นแล้ว น่ารักวุ้ย
รออ่านนะคะ ชอบอ่ะ ^^
-
ปกติไม่ชอบกินเค้กโดยส่วนตัว
แต่มาอ่านแล้ว ทั้งเค้กทั้งอาหาร น่ากินทั้งนั้น
เรื่องเริ่มหนุก รอต่อไปคับ
-
แทบจะทุกเรื่องของเบบี้ พระเอกจะทำอาหารเก่งกันทุกคนเลย... >> เบบี้ต้องชอบกินแน่เลยใช่ป่ะ ตัวละครหลักก็เลยทำอาหารเก่ง
-
คิว พระเอกจริงอ่ะ
-
สงสัยคิวจะมีเบื่องหลังนะเนี้ย
-
เริ่มฉะกันมากขึ้นเเล้วค่าพี่คิวน้องเค้ก 555 แอบขัดใจแทนเล็กๆแต่นี่อาจจะเป็นวิธีแสดงความสนิทสนมแบบพี่คิวก็ได้นะ 55
พี่ปรายที่ว่าคือแฟนเก่าพี่คิวหรอ ง่ะ นี่ใช่เหตุผลที่พี่ฟ้าเคยพูดว่าเมื่อก่อนพี่คิวก็น่ารักแท้ๆรึป่าวเนี่ย พอพี่ปรายเสียพี่คิวเลยกลายเป็นคนเย็นชา รึป่าวคะ? เริ่มเดาๆ ถ้าเป็นงั้นจริงพี่คิวน่าสงสารอ่า ให้น้องเค้กมาดามใจเถอะ อย่าให้เป็นฝันอะไรนั่นเลยนะ กลัวเธอจะมาร้ายจัง
-
หมั่นไส้พระเอก
+1
-
เอ้ะะะะะะ ยังไง เอ้ะะะะะ มันยังไงงงงงง !! จบตอนแบบนี้ก็อยากจะอ่านตอนต่อไปแล้ว
ยังคิดไม่ออกว่าคิวกับเค้กจะชอบกันยังไงเลยนะ แต่ลิมิเต็ด อีดิชั่นนี่มันเป้นปมนะ อิอิ
ให้ไปแก้กันในอนาคต ว่าจะกลายมาเป็น เลิฟเว่อ กันยังไง คึคึ
-
พี่คิวช่างเย็นชาซะ :เฮ้อ:
ชิชะ พ่อหล่อเลือกได้
-
สวัสดีครับ เพิ่งจะอ่านทันตอนล่าสุดอะครับ รู้สึกว่าชอบงานเขียนของคุณเบบี้จ้งครับ อ่านแล้วสนุกมากมาก
จะรอติดตามตอนต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ :L2:
-
อิพี่คิวมีปม แอนด์มีญิีงติด
งานนี้สงสารเค้กอ่าเจอปากอิพี่คิวไป เพลียแทน
มีตัวเลือกอื่นให้น้องไหมเจอแค่ปากอิพี่คิวยังไม่พอยังมีปมอดีตอีก
-
พี่คิวมีอดีตอีกแล้วโอ้ยยยยย บีบหัวใจ
แต่พี่คิวกวนทีนจริงๆอะ มาต่อไวๆนะค่ะ
-
พระเอก+นายเอก (ใช่ป่าว) :m28:
เริ่มมีปากมีเสียงกันแล้วว อิอิ
แต่อิพี่คิวจะดุไปไหน น้องเค๊กอย่ายอมนะถ้าเราไม่ผิด
:L2:
-
พี่คิวแกดูลึกลับเบาๆนะเนี้ยยยย
-
เหมือนเค้กจะยังไม่รู้สึกอะไรกับไอ้พี่คิวแบบซัมติงๆ เป็นพิเศษ
เรื่องคุณคนสวย เลยยังไม่ดราม่าเท่าไหร่ แต่ต่อไปก็ไม่แน่ .. ใช่มั้ยจ๊ะ เบบี้ o18
PS. พี่ฟ้า ... น่าร๊ากกกกกกกอ่ะ!! (คิคิ)
:กอด1:
-
พี่คิวแอบมีหญิงในใจแล้วหรอเนี้ยยยย แถมเค้กยังมองว่าสองคนนั้นเหมาะกันอีกนะเนี้ย
ไม่มีใครเหมาะเท่าน้องเค้กหรอกจ๊ะ (เชียร์เต็มที่ ขาดใจกันไปเลย) ทะเลาะกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง คริๆ ๆ
แต่ดูเหมือนงานนี้พี่คิวจะให้ความสำคัญกับสาวฝันมากเลยนะเนี้ยยย แบบนี้ต้องเอาใจช่วยน้องเค้กมากขึ้นอีกแล้ว ๆ ๆ ลุ้นๆ ๆ
ชอบพี่ฟ้าอ่ะ ไม่รู้อ่ะ เค้าชอบคนนี้มากเลย (บ้าไปแล้ว)
-
พี่คิวเป็นพวกรักนะแต่ชอบแกล้งรึเปล่า รักแบบลิมิเต็ดเพื่อน้องเค้กคนเดียวไง
-
~8~
วันนี้วันเสาร์ เป็นเวรของพี่เซ็นกับไอ้เชฟบ้าในตอนเช้า..พี่เซ็น พี่หมี พี่กัสบ่ายและก็พี่ซีด้วย ฮื้ม..วันนี้เจอครบเลยแฮะ ขาดแค่พี่ออฟคนเดียวเท่านั้นเองครับ
“เค้กออกไปรดน้ำต้นไม้ให้พี่หน่อยสิ ให้อาหารปลาด้วยนะ เดี๋ยวพี่ทำโกโก้ไว้ให้” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“อยากได้แบบร้อนหรือแบบเย็นดีครับ” พี่ฟ้าถาม
“แบบร้อนครับ” ผมตอบทันที เช้าๆอากาศดีแบบนี้ต้องแบบร้อนเท่านั้นถึงจะเหมาะ
“จ้า เดี๋ยวพี่ทำให้..ฝากสวนด้วยนะ” พี่ฟ้าพูด
“คร้าบ” ผมตอบ เดินออกมายืนมองสวนที่ล้อมรอบอยู่ทุกส่วนของร้าน สวนใหญ่ ต้นไม้เยอะและแปลงดอกไม้ล้อมรอบเต็มร้านไปหมด ดูด้วยตาเปล่าก็สวยดีอยู่หรอกนะครับ แต่ตอนรดน้ำต้นไม้นี่ซิ..ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยล่ะ
“น้องเค้กครับ”
“ค..ครับ” ผมชะงัก ขานตอบ พี่เซ็นยืนยิ้ม ในมือถือจานที่มีคัพเค้กหน้าตาน่ารักวางอยู่ด้วย
“พี่ทำมาให้เค้กชิมก่อนเลยน้า” พี่เซ็นยิ้มกะล่อนอย่างเคย
“เอ่อ เค้กต้องรดน้ำต้นไม้อ่ะครับ” ผมบอก
“ง่ะ..” พี่เซ็นทำปากจู๋ในทันที
“เดี๋ยวเค้กค่อยทานทีหลังได้ไหมอ่ะครับ” ผมพูดพยายามรักษาน้ำใจพี่เซ็นให้มากพี่สุด
“ได้ครับ งั้นพี่เอาวางไว้ที่โต๊ะนี่นะ” พี่เซ็นบอกแล้วเดินเอาเค้กไปวางไว้ที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่กลางสวน
“ขอบคุณมากนะครับ” ผมยิ้มบอก
“ยินดีครับ” พี่เซ็นทำท่าก้มหัวให้ผม ผมได้แต่ยืนยิ้มให้
“อย่ายิ้มได้ป่ะครับ ใจพี่เต้นแรงไม่หยุดเลย” พี่เซ็นว่าพร้อมกับนำมือขวาจับหน้าอกของตัวเอง
“แหวะ เลี่ยน..เสี่ยวสุดๆ” ผมยืนขำพี่ซีที่ทำหน้าทำตาเซ็งพี่ชายตัวเอง พี่เขาเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันได้สังเกต
“ยุ่งจริง มีอะไร” พี่เซ็นหันไปถามคิ้วขมวด
“คุณแม่โทรมา บอกว่าเย็นนี้ให้พี่กลับบ้านด้วย..เรื่องบริษัท” พี่ซีบอก
“อืม แค่นี้ใช่ไหม” พี่เซ็นถามอีก
“ใช่”
“ไปสักทีซิ” พี่เซ็นไล่เสียงห้วน
“เออ ไอ้พี่บ้า” พี่ซีว่าหน้างอ
“พี่ช่วยไหม พี่ช่วยละกัน” พี่เซ็นพูดไม่พูดเปล่า พี่เขาเดินไปหยิบสายยางมาและจัดการยืนรถน้ำต้นไม้อยู่ข้างๆผม ผมได้แต่ยืนนิ่งเพราะรับรู้ได้ว่าพี่เซ็นยืนจ้องผมอยู่
“เค้กคนนะครับ จ้องอยู่ได้” ผมพูดลอยๆไม่ได้หันไปมองพี่เซ็น พี่เขาหัวเราะเบาๆ
“ก็น่ารักทำไมล่ะ”
“เค้ก..ผู้ชายนะครับ” ผมพูด
“เกี่ยวกันตรงไหน ชอบก็คือชอบ..หน้าตาน่ารัก ก็บอกว่าน่ารัก” พี่เซ็นย้อนด้วยน้ำเสียงไม่แคร์โลกเท่าไหร่
“พี่นี่ อายใครเป็นบ้างไหมครับเนี่ย” ผมหัวเราะน้อยๆ
“หึ มันเห็นจำเป็นต้องอายตรงไหน ชอบก็บอกว่าชอบ” พี่เซ็นยิ้มอย่างใจเย็น
“แต่ผมเป็นผู้ชายนะครับ” ผมย้ำอีกครั้ง
“ทำไมครับ รังเกียจเหรอ” พี่เซ็นถามสีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป
“เปล่าครับ” ผมตอบ
“เค้กก็แค่ รู้สึก..เอ่อ รู้สึกว่าพี่พูดออกมาได้เป็นเรื่องปกติ” ผมมองหน้าพี่เขา พี่เซ็นยิ้มน้อยๆให้
“เค้กไม่ได้รังเกียจหรือ เอ่อ แบ่งแยกเรื่องนี้..คือ สมัยนี้มันก็ค่อนข้างเปิดกว้างอะนะครับ แต่เค้กแค่รู้สึกไม่ชิน..ไม่เคยโดนผู้ชายจีบน่ะ” ผมยักไหล่บอกพี่เขาไปตรงๆ ถ้าคนอื่นมาเห็นคงจะคิดว่าเป็นเรื่องแปลกเหมือนกันนั่นละครับเพราะอะไรแบบนี้ไม่ได้เห็นกันดาษดื่นเมื่อไหร่
“หึ หึหึ..ตรงดีนะ พี่ชอบ”
“งั้นก็คงรู้แล้วซินะว่าพี่กำลังจีบ งั้น..ยังไงต่อดีล่ะ” พี่เซ็นพูดเป็นเชิงถาม สายตาที่อ่อนโยนเมื่อกี้เริ่มเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์
“อะไรครับ” ผมถามกลับ
“เค้ก ยอมให้พี่จีบรึเปล่า” มาซะตรง ผมรู้สึกอึ้งในทันที พี่เซ็นจ้องหน้าผมไม่วางตา
“เอ่อ คือ..เอ่อ เค้ก” ตอบยังไงดีละครับ จะบอกว่า “ไม่ให้จีบ” มันจะดูเสียมารยาทไปไหม แต่ถ้าไม่พูดไปตรงๆ ก็จะเหมือนเรายอมให้พี่เขาจีบและก็เหมือนว่าเราชอบพี่เขาน่ะสิ..แง่ง
“ไอ้เซ็น มานี่เลย” ผมชะงัก พี่ฟ้าเดินออกมาจากหลังร้านแล้วเดินตรงมาที่พี่เซ็นพร้อมกับล็อกคอพี่เซ็นเข้าไปอย่างแรง พี่เซ็นที่ตัวสูงกว่าพี่ฟ้าถึงกับหงายหลังไป
“อาอ่ะ” พี่เซ็นโวยวาย
“เข้าร้าน เดี๋ยวไอ้คิวเหวี่ยงอีก..กูรำคาญ” พี่ฟ้าบ่น แขนก็ล็อกคอพี่เซ็นเข้าด้วย
“เดี๋ยวๆ ปิดน้ำก่อน..โห อาอ่ะ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยเนี้ย” พี่เซ็นโวยวายไม่หยุด
“อะไร..แกทำอะไรเค้ก” พี่ฟ้าพูดหันมามองหน้าผมทันที ผมยิ้มแหยๆตอบ พี่เซ็นเดินไปปิดก๊อกน้ำ
“เค้าบอกรักกันอยู่ อามามั่วตลอดอ่ะ” พี่เซ็นว่าพี่ฟ้าอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินหนีเข้าร้านไป ทิ้งไว้เพียงผมกับพี่ฟ้าสองคน
“จริงเหรอเค้ก” พี่ฟ้าถามตาโต
“ไม่หรอกครับ” ผมตอบไม่เต็มปากเต็มคำนัก
“ไอ้เซ็น!” พี่ฟ้าโวยวายวิ่งตามพี่เซ็นเข้าร้านไปทันควัน
“เหอะๆ” หัวเราะคนเดียว เพราะตามอารมณ์ของพี่ทั้งสองคนไม่ทัน ที่จริงแล้ว..คนในร้านนี้ไม่ปกติหลายคนเหมือนกันแฮะ
ผมยืนรดน้ำต้นไม้ต่อ รดต้นไม้จนหมดรอบร้านและให้อาหารปลาในบ่อปลาต่อจนเสร็จ ผมนำจานคัพเค้กที่พี่เซ็นเอามาให้กลับเข้าร้านไปด้วย พี่ฟ้าทำโกโก้ร้อนรออยู่ในห้องพักพนักงานเรียบร้อยแล้ว
“ทำงานเช้ามันดีอย่างนี้นี่เอง” ผมพูด พี่ฟ้ายิ้ม ในห้องมีแค่ผมกับพี่ฟ้าและพี่ซี พี่หมีเข้างานตอนสิบโมงเช้า ส่วนพี่กัสเข้างานตอนบ่ายโมง
“นี่เค้ก” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ยื่นกระดาษมาให้ผม ผมรับมาดูอย่างสงสัย
“เดี๋ยวสักสิบโมงเค้กออกไปซื้อของพวกนี้กับคิวหน่อยนะ พอดีมีออร์เดอร์พิเศษมา มันต้องทำพรุ่งนี้น่ะ เลยต้องซื้อเตรียมไว้ก่อน” พี่ฟ้าบอก
“แต่..”
“ไม่มีแต่ พี่รู้นะว่าไอ้คิวมันแกล้งเค้ก พี่จะต้องทำให้คิวมันหายอคติกับเค้กให้ได้ หึหึ” พี่ฟ้าพูดเหมือนดีแต่กลับมียิ้มเจ้าเล่ห์ให้เห็นอย่างนั้น
“อคติ พี่คิวไม่ชอบอะไรเค้กเหรอครับ เค้กละไม่เข้าใจเลยจริงๆ..แต่ที่จริง เค้กก็ไม่ได้ชอบอะไรพี่เค้านักหรอกนะครับ นิสัยอ่ะ” ผมบ่นบ้าง
“เอาน่า หลานพี่ก็มีมุมน่ารักนะ..แต่เค้กต้องทำใจหน่อย คิวมันคิดว่าพี่ชอบเค้กน่ะ เลยรับเค้กเข้ามาทำงาน..แต่พี่ก็ชอบเค้กจริงๆนี่ ปฏิเสธได้เมื่อไหร่” พี่ฟ้ายิ้มกว้างทำท่าหัวเราะร่าไปมาเหมือนกับรู้สึกสนุก
“ตกลงพี่รับเค้กเข้าทำงานเพราะหน้าตาเค้กจริงๆอย่างที่พี่คิวว่าใช่ไหมครับเนี้ย” ผมหน้าสลด
“หึ..ก็เค้กหน้าตาดีทำไมล่ะ” พี่ฟ้ายิ้ม ปฏิเสธรักษาน้ำใจกันบ้างก็ไม่ได้อ่ะ
“ทุกคนก็มีขี้มูกเหมือนกันแหละ” ผมว่า
“ฮ่าๆๆๆ คิดได้อ่ะ..ชอบๆ” พี่ฟ้าหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม แสดงว่าพี่เขาคงตีความประโยคที่ผมพูดเมื่อกี้เข้าใจตรงกันน่ะนะ
= = = = = = = =
“นี่อะไรเหรอฮะ” ผมชี้ไปที่ถุงแป้งที่อยู่ในรถเข็นที่พี่คิวเพิ่งหยิบมาใส่ ที่ถามเพราะไม่รู้และเพราะว่าอยากรู้ วัตถุดิบที่พี่คิวหยิบแต่ละอย่างเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศทั้งนั้น แน่นอนว่าชื่อต้องเป็นภาษาอังกฤษและผมก็อ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง ส่วนมากมองแล้วเดาเอาจากประสบการณ์ที่เคยทำเค้กมา แต่ทุกครั้งที่ผมทำเค้กผมจะใช้วัตถุดิบที่ถูก หาง่ายและเป็นของไทย ออกแนวกินของไทย ใช้ของไทย ร่วมใจประหยัด..แฮะๆ
“...............” พี่คิวเงียบ เชอะ..อุตส่าห์ชวนคุยก่อนแล้วนะ ทั้งทั้งที่เราควรจะโกรธแล้วทำตัวเฉยๆไว้แท้ๆ แต่นี่ผมกลับอุตส่าห์เข้าหาก่อนเลยนะครับ
“แป้งขนมปัง” โอ๊ะ..ตอบด้วยแฮะ ไม่น่าเชื่อ
“แล้วอันนี้อ่ะ” ผมชี้ถามอีก
“แป้งสาลีโฮลวีต” พี่คิวตอบ
“แล้ว..”
“อะไร ไม่เคยพูดรึไง” พี่คิวหันมาว่า ผมหุบปากสงบเสงี่ยมในทันที
“ก็..ก็ เบื่ออ่ะ” ผมบอก
“แล้วมาทำไมล่ะ”
“พี่ฟ้าใช้ให้มานี่” ผมย้อน
“ชิ..” พี่คิวทำหน้าเซ็งก่อนจะเดินนำไป ผมรีบเข็นรถเข็นก้าวยาวเดินตาม
“ของที่ร้านก็เยอะแยะ ไม่เห็นจะต้องออกมาซื้อเลย” ผมบ่นคนเดียว
“ของเยอะ แต่บางอย่างมันก็ใช้ไม่ได้..บางอย่าง วัตถุดิบต้องซื้อสด ต้นทุนคิดสดเพราะออร์เดอร์เข้ามากะทันหัน วัตถุดิบที่ซื้อใหม่ก็เหมือนต้นทุนของเงินที่จะได้” อยู่ๆพี่คิวก็หันมาพูดใส่รัว
“..................” อึ้ง..ไม่ใช่อึ้งในข้อมูล แต่อึ้งที่พี่เขาหันมาอธิบายซะยาว
“เหรอครับ” ผมก้มหน้าก้มตาอย่างเข้าใจ
“รู้อะไรในร้านบ้างเนี้ย แทบไม่รู้อะไรเลย..ฉันก็คงทายไม่ผิดสินะ” พี่คิวพูดแกมบ่น
“คนไม่รู้ ไม่ผิด” ผมบอก
“หึ..” พี่คิวแสยะหัวเราะ
“หึ..” ผมหัวเราะเลียนแบบพี่เขาบ้าง พี่คิวหันมาจ้องหน้าผมเหมือนจะเอาเรื่อง ผมแลบลิ้นส่ายหัวไม่สนใจทำให้พี่เขาตัดใจที่จะต่อล้อต่อเถียงกับผมและเดินไปเลือกของต่อ
“ชู่~ ชื่ออะไรครับ” ผมทักเด็กคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณเจ็ดขวบที่ยืนอยู่ข้างๆผม เด็กเงยหน้ามองหน้าผมเหมือนเขินและหันไปมองหน้าแม่ของตัวเอง
“ไหน ชื่อไรค้าบ” ผมนั่งลงเล่นกับน้องเพราะเบื่อที่จะยืนรอพี่คิวที่กำลังเลือกของอยู่ในโลกของตัวเอง
“เอิน” น้องตอบเสียงเขิน
“น้องเอินเหรอครับ พี่ชื่อพี่เค้ก..ไหน ไฮไฟว์หน่อย” ผมยกมือขึ้น น้องเอินเอามือมาตีผมเบาๆ ผมใช้มุขนี้เสมอเวลาที่ต้องการรู้จักกับเด็กคนไหนสักคน และจากผลสำรวจทำให้รู้ได้ว่าเด็กชอบการไฮไฟว์มากจริงๆ
“ไฮไฟว์~” น้องเอินหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
“น่ารักจังเลยนะครับ” ผมเงยหน้าบอกแม่เด็ก
“ค่ะ แกขี้เล่นน่ะค่ะ” เธอยิ้มบอก
“นี่..” ผมชะงัก หันกลับไปมองตามเสียงแข็งๆนั่น
“ครับ” ผมลุกขึ้นยืน
“จะไปได้รึยัง” พี่คิวพูด
“ค้าบ” ผมพยักหน้าตอบส่งๆ
“ไปนะครับน้องเอิน” ผมโบกมือบ๊ายบายให้ น้องเอินยิ้มโบกมือกลับให้ผม เด็กนี่น่ารักสดใสจริงๆเลยให้ตายเถอะ..ยังไงเด็กก็ดีกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว
“เป็นนางสาวไทยรึไง” พี่คิวพูดขึ้นเหมือนหยอกล้อ
“ก็ถ้าเป็นได้ก็ดี” ผมย้อน พี่คิวหันมาจ้องหน้าผมเขม็ง
“ก็พี่กวนผมก่อนเองนะ” ผมพูดแก้ตัวเพราะชักเริ่มกลัวว่าถ้าพี่เขาเอาจริงขึ้นมาผมก็คงไม่สู้เด็ดขาด ถึงสู้ก็คงสู้ไม่ไหวอยู่ดีอ่ะครับ พี่คิวไม่ตอบ พี่เขานิ่งไปสักครู่และก้าวเดินต่อ ผมเข็นรถเข็นตามไปเงียบๆ
“ชอบเด็กเหรอ” พี่คิวถามขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย น้ำเสียงราบเรียบคล้ายกับไม่ใช่ประโยคที่ต้องการหาเรื่องอย่างเคย
“อืมครับ ทำนองนั้น” ผมตอบ
“แล้วพี่ล่ะ” ผมถามกลับ
“ก็..ไม่ค่อย ชอบแต่เด็กไม่ดื้อ” พี่คิวตอบบ้าง
“พี่ก็มีลูกดิ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะ”
“ภาระ วุ่นวาย” พี่เขาตอบเสียงเรียบนิ่งแสดงถึงความเย็นชาได้อีก
“อีกอย่าง ฉันเพิ่งจะยี่สิบห้า”
“หึ..เหรอครับ ก็หน้าพี่อ่ะ แก่กว่าพี่ฟ้าซะอีกนะรู้ตัวไหม” ผมพูดบอกไปตรงๆแต่อดที่จะขำไม่ได้
“แล้วมันไปหนักตรงส่วนไหนของหัวนายงั้นเหรอ” ง่ะ..ผมผงะอีกครั้ง เราต่างคนต่างยืนจ้องหน้ากันเงียบๆ ผมก็ไม่รู้ว่าพี่เขาจะจ้องผมทำไม แต่ที่ผมจ้องตอบพี่คิวก็เพราะแค่อยากจ้องไปอย่างงั้นเอง อยากให้พี่เขารู้ว่า..ผมก็สู้คนนะ แต่ความจริงแล้วไม่กล้าสู้หรอกครับ
“มองไร” พี่คิวถาม
“แล้วพี่ล่ะ มองไร..” ผมย้อนถามกลับ
“มองหมาที่มันกำลังวิ่งออกมาจากปากนายน่ะสิ” พอพี่คิวพูดจบปุ๊บ พี่เขาก็ก้าวขาเดินหนีผมปั๊บ สมองผมเริ่มทำงานอย่างช้าๆ
“ไอ้..” ไอ้บ้าอ้า..มาว่าเราปากหมา ไม่รู้จักดูตัวเองเลย คนบ้าอะไรวะครับนั่น คุยกันดีๆไม่กี่ประโยคก็ชวนทะเลาะตลอด
ผมได้แต่เข็นรถตามพี่คิวไปเรื่อยๆด้วยรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็พยายามข่มเอาไว้ หลังจากนั้นผมกับพี่เขาก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากนัก พี่คิวเลือกของหยิบใส่รถเข็น ส่วนผมมีหน้าที่เข็นไปอย่างสงบปากสงบคำ หลังจากที่เราหาซื้อของกันจนครบ พี่คิวเดินตรงไปที่ร้านสตาร์บัคส์
“แป๊บ ไปนั่งรอก่อน” พี่คิวสั่ง ผมพยักหน้ารับ เดินไปนั่งที่โต๊ะที่ไม่ได้ห่างจากรถเข็นมากนักเพราะกลัวว่าของจะหาย
“กินไหม” พี่คิวถาม แต่หน้าตานี่หาเรื้องหาเรื่องเหมือนอยากบังคับให้กิน
“ไม่ครับ ขอบคุณ” ผมตอบ พี่คิวเดินไปสั่งกาแฟที่เคาร์เตอร์ ตอนนี้คนไม่เยอะเท่าไหร่ ร้านค่อนข้างเงียบ ไม่นานพี่คิวเดินกลับมาพร้อมกับแก้วกาแฟถึงสองแก้ว ผมลุกขึ้นยืน อยู่ๆพี่คิวก็ยื่นกาแฟแก้วหนึ่งมาให้ผม
“ข..ขอบคุณฮะ” ผมบอกพร้อมกับรับแก้วกาแฟมาอย่างงงๆ
“แหวะ” ผมร้อง พอดูกาแฟเข้าปากไปได้เพียงลิ้นแตะรับรสชาติก็รับรู้ได้ถึงความขมที่ส่งผ่านประสาทรับรู้ทันที มันขมมากจริงๆครับ
"เข้มจัง" ผมบ่น
“อะไร..เสียมารยาท” พี่คิวถามหน้าตาหาเรื่อง คิ้วขมวดกันเป็นปม
“ขมปี๋เลยอ่ะ” ผมร้องบอกอีก
“กาแฟ ไม่ใช่ชาเย็น”
“เค้กกินไม่เป็นหรอกครับ มันขม” ผมบอกหน้าแหย
“นี่แค่คาเฟ่มอคค่านะ ลองชิมดูดีๆสิ” พี่คิวพูด น้ำเสียงของพี่เขาลดระดับความแข็งลงจนผมรู้สึกถึงได้ ผมจึงดูดกาแฟชิมอีกครั้งเพื่อรักษามารยาท
“ช้าๆ..รับรู้ช้าๆ กลืนช้าๆ” พี่คิวพูดกำกับ ผมพยายามทำตามที่พี่เขาบอก พี่คิวจ้องหน้าผมเหมือนรอคำตอบ
“ก็..ดีขึ้น นิดหน่อย แต่มันก็..ไม่ถูกปากอยู่ดีอ่ะ” ผมพูดบอก เพราะผมยังรับรู้ไม่ได้ถึงความอร่อยอยู่ดี ขอโทษด้วยครับที่ลิ้นผมไม่ถึงมาตรฐานเอง
“แต่ที่จริง ผมชอบกลิ่นกาแฟนะ แต่แค่บางที..ขมไปผมก็ดื่มไม่ไหว” ผมบอกเพราะกลัวพี่เขาจะเสียน้ำใจ
“มันก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบของแต่ละคน แต่กาแฟ..มีอะไรให้น่ารู้เยอะกว่าน้ำที่อยู่ในแก้วนี่น่ะนะ” พี่คิวเบะปากพูดส่งๆ
“บางกาแฟ ก็เกินจะอยากรับรู้ถึงความไร้คุณภาพ นั่นคงไม่ใช่ร้านฉัน หรือไม่บางที..ลิ้นอาจจะเองไม่ถึง..ก็มี” พี่คิวพูดบอก เหมือนผมกำลังโดนว่าทางอ้อมอย่างไรพิกล
“เข็น” พี่คิวพูดสั่งเดินนำออกจากร้านไป ผมรีบวางแก้วลงในรถเข็นและรีบเข็นตามตูดพี่เขาไปอย่างรวดเร็ว เราช่วยกันขนของขึ้นรถจนหมดเรียบร้อย พี่คิวขับรถกลับเส้นทางไปร้าน ระหว่างทางพี่คิวไม่แม้แต่จะเอ่ยพูดอะไร ถ้าจะจัดว่าเป็นเจ้านายที่ไร้มนุษยสัมพันธ์ก็คงจะเป็นอย่างนั้น
“พี่..ครับ” ผมเรียกเสียงเบา
“..................” ไม่มีเสียงตอบรับ สงสัยจะตั้งใจขับรถเกินไปหน่อยละมั้งครับ
“ถามไรหน่อยได้ป่ะ” ผมพูด
“ไร” และแล้วพี่เขาก็ขานตอบรับจนได้
“พี่..ทำไมเหมือนไม่ชอบผม” ผมถามออกไป พี่คิวเงียบไปประมาณสิบวินาที ผมหันไปมองอย่างรอลุ้นคำตอบ
“ไม่มีเหตุผล เคยรู้สึกไม่ชอบใครแบบไม่มีเหตุผลไหมล่ะ” พี่แกย้อน น้ำเสียงกวนอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เคย ผมเป็นคนมีเหตุผล” ผมตอบด้วยท่าทางกวนกลับ
“นายจะบอกว่าฉันไม่มีเหตุผล” พี่คิวเล่นเสียงทำนองถามกลับเช่นกัน
“แล้วไหนละครับ เหตุผลของพี่อ่ะ”
“ก็ได้ ฉันไม่มี” พี่คิวอมยิ้มเล็กน้อย
“อ่ะ อะไรของพี่ครับเนี้ย งั้นก็ช่างมันเหอะ..ต่อไปผมจะไม่ถามแล้ว พี่อยากไม่พอใจอะไรในตัวผมก็เป็นไป ผมจะไม่สนใจ..บางทีเรื่องที่เคยสาระ ก็กลายเป็นเรื่องไร้สาระได้เหมือนกัน” ผมพูดเสียงแข็งอย่างเหลืออดกับคนคนนี้ ปกติแล้วผมเป็นคนที่อารมณ์เย็นและไม่ได้จะโกรธใครง่ายๆ แต่กับพี่คิวนี่คงอาการหนักจนผมไม่สามารถควบคุมตัวผมได้เองแหละครับ..ผมคิดเอง
“หึ..ปากเหรอนั่นที่พูดน่ะ” พี่คิวแสยะยิ้ม
“................” ผมเงียบ ไม่อยากจะต่อปากต่อคำอีก
“หึ ก็ได้..ฉันจะไม่อคติกับนายอีก พอใจรึยัง” พี่คิวอมยิ้มเล็กน้อย
“จริงนะ” ผมรีบถามกลับ รู้สึกโล่งใจในทันที
“ดีใจอะไรนักหนา” พี่คิวหันมามองหน้าผม
“ก็..ใครจะอยากให้มีคนเกลียดตัวเองล่ะจริงไหม” ผมยิ้ม
“ฉันไม่เห็นจะแคร์ จะเกลียด หรือไม่เกลียด..ให้ข้าวฉันกินเมื่อไหร่” พี่คิวพูดเหมือนไม่แยแสอะไรบนโลกนี้เลยสักนิดเดียว
“ผมไม่ได้รวยแบบพี่นี่ ถึงจะได้ไม่แคร์ใครบนโลก บางที..สถานะของคนบางคน ก็ควรอยู่ในกรอบไม่เหมือนคนอื่น มีสิ่งที่ต้องทำ มีสิ่งที่ต้องทำให้ตัวเองสบายใจ การที่ผมทำให้คนอื่นรู้สึกไม่เกลียดผม มันก็เป็นหนึ่งในความสบายใจของผม ถ้าไม่สบายใจ..แล้วจะมีความสุขได้ยังไง” ผมพูดบ้างเพราะอยากให้พี่เขาเข้าใจ ไม่ว่าพี่คิวจะอคติกับผมในเหตุผลอะไรก็ตามหรือแม้แต่เป็นแค่เพียงความรู้สึกไม่ชอบผมเท่านั้น ผมก็อยากให้รับรู้ไว้ก็พอ
“.................” พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่ง และผมไม่คิดจะพูดอะไรเสริมอีกด้วย
“แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เราต้องแคร์ ความสบายใจ..มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ใจรึไง” พี่คิวพูดและทิ้งคำพูดไว้เพียงเท่านั้น
“มัน..ก็คงใช่” ผมพูดเสียงเบาลง เพราะมันก็เป็นอย่างที่พี่คิวพูดด้วยเหมือนกันล่ะนะครับ
= = = = = = = =
ณ มหาวิทยาลัย Y
“โครงงานนี้ให้เวลาถึงกลางเดือนกันยายนนะคะ เราจะพรีเซ้นต์งานกันวันที่ 6 กันยายน ทุกกลุ่มพร้อมกัน..ดังนั้น ถ้าใครขาดวันที่พรีเซ้นต์ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นคนพรีเซ้นต์ คุณจะขาดยี่สิบคะแนนในส่วนนี้ทันที ถ้าขาด..ป่วยก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ด้วยนะคะ” อาจารย์พูด
“วันนี้พอแค่นี้ค่ะ พักทานข้าวได้”
“ทำเรื่องอะไรดีนะ ยากจัง” แก้วบ่น กลุ่มทำงานวิชาการจัดการนี้มีผม พีท แก้วและแจ็คเพื่อนในสาขาเดียวกัน งานที่ถูกสั่งในครั้งนี้เป็นโครงงานระยะยาว แต่คะแนนนี่น้อยนิดเพียงแค่ยี่สิบคะแนนเท่านั้น แทบหากำลังใจในการทำงานไม่เจอเลยก็ว่าได้ครับ..
“เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือไม่ก็งานบริการงั้นเหรอ..เราว่าต่างคนต่างกลับไปหาข้อมูลที่สนใจ แล้วเอามาคุยกันพรุ่งนี้ดีไหม” ผมบอก
“อืม ก็ได้” แก้วตอบ
“แต่ต้องหาให้ดีนะ อย่างเรื่องการบริการ มันจะต้องเป็นข้อมูลเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นโดยตรงอ่ะ ส่วนผลิตภัณฑ์เรายังพอหาข้อมูลเองได้ และก็ยังพอวิเคราะห์เองได้..ตอนหาข้อมูลก็ลองคิดดูด้วยล่ะว่าอะไรพอจะเป็นไปได้ไหม ต้องไปสัมภาษณ์ด้วยรึเปล่า” ผมพูด
“อืม งั้น..กูฝากพวกมึงเลยนะ คืนนี้กูจัดยาวหน้ามอ” พีทพูดพร้อมตบไหล่ผม
“ฮื้ม ตลอดอ่ะมึงอ่ะ” ผมถอนหายใจด้วยอาการเซ็งจัด
“น่า..” พีทปัดทีเล่นทีจริง
“เดี๋ยวกูช่วยหาละกัน แต่ไม่รู้จะดีไหมนะ เดี๋ยวเจอกันในเอ็มคืนนี้” แจ็คพูดบอก
“เร็วๆหน่อยก็ดี แก้วอยากให้ได้หัวข้องานก่อน จะได้สืบหาข้อมูลได้เร็วหน่อย ถ้าบริษัทไหนต้องเข้าไปสัมภาษณ์เราจะได้ขอจดหมายยื่นไปทางนั้น” แก้วบอก
“โอเค” ผมพยักหน้ารับ
“วันนี้เค้กมีทำงานป่ะ” แก้วถาม
“มี บ่ายสามโมงเนี้ย..ไปกินข้าวกันก่อนไหม เราจะได้ตรงไปที่ร้านเลย”
“เออ ไปดิ” พีทพูด พวกเราออกเดินไปที่ร้านอาหารหน้ามหาลัย หลังจากที่ผมกินข้าวกลางวันเสร็จต้องเดินไปรอขึ้นรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์หน้ามหาลัยอีก กะว่าจะรีบไปเพราะจะแอบไปงีบที่ร้านสักนิดเนื่องจากว่าเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยนะครับ
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“มาแล้วเหรอเค้ก นี่..พี่ซื้อช็อกโกแลตมาให้ ของขวัญที่ได้เป็นเดือนไง” พี่กัสยิ้ม รีบกุลีกุจอลุกไปหยิบถุงมายื่นให้ผมทันทีที่ผมเข้ามาในห้องพนักงาน
“ขอบคุณมากเลยนะครับ” ผมยกมือไหว้
“ไม่เป็นไร” พี่กัสยิ้ม
“แพงรึเปล่าครับ เสียดายเงินนะฮะ”
“โหย ไม่เท่าไหร่หรอก เอาไปเถอะ..อยากให้อ่ะ” พี่กัสพูด ดันมือของผมที่ถือถุงช็อกโกแลตไว้เบาๆ
“ขอบคุณนะครับ” ผมก้มหัวให้อีกครั้ง
“ทำไมมาเร็วจังล่ะ” พี่กัสถาม
“เค้กจะมานอนพักสายตาก่อนสักพักอ่ะครับ ง่วงนิดหน่อย” ผมยิ้มน้อยๆ
“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ออกไปทำงานก่อนละ..ได้เวลาแล้วเดี๋ยวพี่มาปลุก” พี่กัสบอก ผมพยักหน้าตอบ เดินเข้าเอาของไปเก็บในห้องล็อกเกอร์ก่อนจะออกมานอนพักสายตา ก่อนนอนก็ต้องมีการตั้งนาฬิกาปลุกกันเหนียวไว้ด้วย เกรงว่าถ้าหลับยาวอาจจะซวยได้นะครับ
..................>>>><<<<.................
-
อร๊ายยยยยยยยย ทำไมอ่านตอนเค้กกับคิวคุยกันแล้วเริ่มรู้สึกว่าต่างคนต่างจะเริ่มเรียนรู้นิสัยอีกฝ่ายเลยหว่า :-[
(หรืออ่านแล้วเพี้ยนไปเองไม่รู้)
แต่คิว เราเห็นด้วย มากกกกกกกกกกกกกกกกก..
(ถึงจะแทบแดกแกลบไม่เหมือนแกก็เหอะคิว มีกินมีใช้ซำบายบรื๋อมาก)
จะเกลียดหรือไม่เกลียด ให้ข้าวเรากินเมื่อไหร่ ถูกเลยจ้า
แคร์แค่คนที่ควรจะแคร์ก็พอ..
เซ็น..จีบหยอกเค้กได้นะ แต่อย่ามาจริงจัง สงวนตัวเองไว้ให้กัสเต๊อะ..
น้องเค้กอะยกให้คิวไป เข้าใจ๋บ่?
:laugh:
:กอด1:
-
อยากให้ดีกันเร็วๆอ่าาาาา
-
:z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
สุ้โก๊ยยยยยยย
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
พี่คิวงี่เง่าชะมัด ไม่มีเหตุผลอ่ะ บุ่วๆๆ
-
:z2: :z2:อยากกินเค้กก
-
ตอนเจ็ดยังไม่ได้เม้นเลย
“ทุกคนก็มีขี้มูกเหมือนกันแหละ” 55555555555555555555555555555
พี่คิวเป็นตัวของตัวเองมาก ไม่ได้ไปขอข้าวใครกิน ใครจะรักจะเกลียดก็ช่าง อืม ถูก ฮ่าๆๆๆ
สรุปว่าพี่คิวไม่อคติกะน้องเค้กแล้ว ดีจัง ><
-
คิวเค้กกัดกันตลอดดดดดดดดดดดดด
จะคอยดูซิว่าคิวจะเลิกอคติกับเค้กได้อย่างปากว่ารึเปล่า
แต่ก็แอบสงสัยว่าทำไมคิวต้องไม่ชอบเค้กด้วยน้อ
หรือความจริงแล้วเป็นพวกซึน ปากอย่างใจอย่างอะไรแบบนี้
-
อ่านยาวสะใจ ขอบคุณนะเบบี้
+1
-
อยากตระคุบปากอิพี่คิว
จริงๆๆเลยคนๆๆนี้
แต่เค้กก็ตรงๆดีนะ ปากก้ใช่ย่อยเลยนะเนี่ย
-
จะคืนดีกันแล้วจิงๆหรออออออ
พี่คิวจาทำดีก่าเค้กแล้วจิงงะ
แอบมะค่อยเชื่อ
พี่เซ็นตรงดี ชอบบบ
-
พี่คิวนี่แกล้งเค้กตลอดเลย
ใจจริงแอบหลงเค้กแล้วล่ะสิ (โดนพี่คิวเตะ)
-
(-***-)
-
หวังว่าพี่คิวจะเปิดใจให้เค้กแล้ว
-
อั้ยยะ แอบดีกันแล้วนิดนิดใช่มั้ย
น่ารักอ่า คิว•เค้ก
ปล...มาต่อไว ดีใจมากๆ ค่า น้ำท่วมหงอยจะแย่
-
ความไม่เข้ารูปเข้ารอย ก็พอ ๆ ที่จะขยับบ้างแล้ว อีกนิด ๆ หึ หึ หึ ....
ดู ๆ ไป เหมือนพี่ฟ้าจะคอยสนับสนุน คู่นี้อยู่กลาย ๆ นะ :z2:
+1 เป็นกำลังใจให้ บี้บี๋ :กอด1:
-
พี่คิวจะเลิกอคติแล้วจริงๆป้ะเนี่ย
จะได้สานสัมพันธ์กันได้เร็วขึ้นอีก ><
-
เหตุผลของพี่คิว คือการไม่มีเหตุผลล่ะสิ :เฮ้อ:
เอาน่า อยู่ใกล้ๆกันเดี๋ยวมันก็มีอะไรที่จูนเข้าหากันเองแหละ ไอ้เราก็รอลุ้นต่อไปว่าเมือ่ไหร่เค้าจะคุยกันดีๆ :z1:
-
พีคิวอคติว่ะ!!
เกลียดแบบไม่มีเหตุผลเนี้ยนะ
น้องเค้กออกจะน่ารัก
-
บางทีก็ไม่ใช่เกลียดแต่รู้สึกแปลกๆ ตะหงิดๆ ว่าเค้าจะมาทำให้เราเปลี่ยนไปมากกว่ามั้ง
คือ แอบคิดว่าถ้าเกลียดจริงๆอย่างคิวคงไม่ทำแค่นี้ คงอาละวาดแล้วหาเรื่องไล่ออกไปแล้ว
เป็นผช.ไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ก็แบบเนี้ย
-
พี่คิวปากแข็ง XP
-
พี่คิวนี่กวนได้โล่จริงๆ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึงนะ o18
-
อยู่ด้วยกันเยอะ ๆ น่าจะเข้าใจความเป็นตัวตนของกันและกันมากขึ้น
น้องเค้กน่ารัก พี่คิวก็แบบตัวเองสูงจริง ๆ
สักพักมันคงจูนเข้ากันอะนะ :L1:
-
น้องเค้กน่ารักตลอด ~
พี่คิวก็ซึนเดเระตลอด~
:-[
-
รอดูพฤติกรรมพี่คิวหลังจากที่จะไม่มีอคติกับเค้ก
มันจะดีขึ้นรึเปล่านะ :confuse:
-
พี่คิววววววววววว จะเอาไง แน่
ตัว ตัว เปล่าาา
-
เค้กน่ารักเสมอ
พี่คิวซึนหรือว่าอะไร
:pig4:
-
คิวพูดเยอะขึ้นแล้วววววววว วู๊ววววววววววววว
-
:กอด1:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:serius2: พี่คิวนี่ปากเสียจริงๆ. ใจร้ายกับน้องเค้กเกินไปแล้วนะ
เบบี้ สู้ๆ :pig4:
-
อยากรู้ว่าไอ้พี่คิวมันคิดยังไง :เฮ้อ:
-
ร้านนี้ทำไมพนักงานน่ารักกันทุกคนเลยนะ
-
พี่คิว น่ารัก
ผู้ชายคนนี้เค้ามีมุมที่น่ารักนะชอบผู้ชายคนนี้
-
:-[ :-[
พี่คิวเหมือนจะพูดเยอะขึ้น ( หรือเปล่า)
อยากกินเค้ก!!! :a5: :laugh:
-
วิธีของฟ้าใช้ได้ผล
นอกจากให้เป็นมิตรกันดีๆ แล้ว
จะรักกันต่อมาด้วยหรือเปล่า
-
อยากให้รักกันเร็วๆจัง
ตอนนี้ พี่คิว บทพูดเยอะขึ้นนะเนี่ย
-
อยากรู้เรื่องพี่คิวแล้วอ่ะ หุหุ รอพี่คิว
-
ปากแกไม่หมาเลยนะพี่คิว :z3:
-
อ่าน ยาว สะ ใจ ดี
แต่อย่านานมาลงสิ ค้างคาว่ะ :z1:
-
รอตอนหน้า อยากให้ถึงเร็วๆ อยากอ่านแล้ว
พี่คิวเริ่มน่ารักขึ้นละนิดนึง อิอิ
-
บ้างครั้งการไม่ชอบใครสักคนมันก็ไม่มีเหตุผลจริงๆ นะ แบบว่าไม่ถูกชะตาอะไรสักอย่าง...แต่แสดงออกตรงๆ แบบคิวนี่คงน้อยจริงๆ
-
พี่คิวพูดเยอะขึ้นนะคะ
กลัวหลงรักน้องเค้กอ่ะเดะ เลยทำเป็นไม่ชอบเค้า :laugh:
-
ฮาน้องเค้กอ่ะ...ทุกคนก็มีขี้มูกเหมือนกัน ฮ่าๆ
พี่คิว...เป็นพวกรักต้องแกล้งรึป่าวน๊า...
ดีใจที่คุยกับน้องเค้กมากขึ้น :really2:
-
ใกล้เข้ามาอีกนิด :กอด1:
ชิดชิดเข้ามาอีกหน่อยน๊า
-
พี่คิวเค้าก็มีมุมน่ารักนะเออ
-
เริ่มเข้าใจกันมานิดนึงเเล้ว แต่ทางสายนี้อีกยาวไกล
-
ปากคิวเลี้ยงหมาเป็นฟาร์ม :laugh:
-
สนุกเหมือนเดิมนะคับ
-
ตอนนี้ดูอบอุ่นดีนะ ;')
-
พี่คิวใจดีบ้งไรบ้างเถอะค๊าบบบ สงสารน้องเค้กเหอะ :call:
-
o18 o18 o18
-
อย่างน้อยก็ก้าวไปอีกสเต็บเนอะเค้ก สู้ๆ ^^
-
อย่ามาหยอดนะพี่เซ็น
คนเขามีคู่แล้ววว :z2:
ชิชะ ของคัยรู้ซะบ้างงงง :angry2:
-
คิว ตรง ได้อีกนะเนี้ย
:เฮ้อ:
-
อีพี่คิวรักเค้าแล้วจะรู้สึก :beat:
:call:
-
ตอนนี้พี่คิวได้พูดเยอะขึ้นแหะ ีสัญญาณว่าจะพูดดีดีกับน้องเค้กด้วย
:-[
-
เค้กคิวว คู้นี้อีกยาวแน่อ่ะ
เพราะฉะนั้นต้องรอลุ้นกันต่อไป เหอๆ
-
สนุกค่ะ พี่คิวซึนมากๆค่ะ
-
ทำไมตัดฉับเอาตอนเค้กหลับแบบนี้ เหมือนจะมีอะไร? หรือเราคิดมากไปเองหว่า เหอๆๆ
จะว่าไปเค้กนี่ก็กวนเหมือนกันนะ ถ้ามีคนมาแลบลิ้นส่ายหัวไม่สนใจแบบเค้กทำเป็นเราก็คงหมั่นไส้ กร๊าก
พี่คิวก็แข๊งแข็ง(?) แต่เวลาอธิบายอะไรให้ฟังนี่ก็ลึกซึ้งจัง แอบอ่อนในอยู่ใช่มั้ยพี่
แต่ว่า.. ดีกันแล้วจริงดิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แต่เชื่อว่าก็ยังจะสติลเถียงกันอยู่แน่ๆ
น่ารักงุ้งงิ้ง ชอบจังเลยเบบี้จ๋า :กอด1:
-
ถึงคิวจะบอกเสียหน่อยๆแต่ก็พูดเยอะขึ้นนะ
-
พี่เซ็นนี่สุดยอดแห่งความม่อ ฮ่าๆๆ นับถือๆ o13
พี่คิวไม่อคติกับน้องเค้ก... งั้นต่อไปก็... รักกันๆ?
ชอบน้องเค้ก :กอด1:
-
เค้กน่ารักอะ :กอด1: อีพี่คิวกวนทีนมากกกกกกก :angry2:
-
พี่คิวก็จะอะไรกับเค้ก นักหนานี่
-
ใกล้แล้ว ๆๆๆ เค้ก คิว
คุยกันดีดี เริ่มเป็นแล้ว
-
อิพี่คิวเลิกอคติกับน้องได้แล้ว :m16:
-
น้องเค้ก น่ารักอะไรอย่างนี้ อิพี่คิวก็เท่นะ ปากร้ายแต่ใจดี อิอิ เหมาะกันอยู่หนา
-
พี่คิวเริ่มน่ารักขึ้นนะ :impress2:
-
เหมือนกัสจะชอบเซ็นใช่มั้ยเนี่ย
ได้รู้อายุของคิวซะที 55555
-
กำลังสนุก
ตั้งใจกว่าหนังสือเตรียมสอบอีกนะเนี๊ย ฮ่าๆ (อนาคตนะเฟ้ย)
รอครับรออออ
-
ชอบเวลาที่เค้กถามพี่คิวอ่ะ น่ารักดีทั้ง 2 คนเลย
:กอด1:
-
เอาน่ะ โบราณท่านว่า ทะเลาะกันบ่อยๆ ลูกดก อิอิ
-
อย่างน้อยพี่คิวก็บอกว่าจะไม่อคติแล้วน่ะ
แล้วอะไรๆก็คงจะดีขึ้นเรื่อยๆเนอะ
-
ชอบเรื่องนี้มากเลยอ่ะ ชอบๆๆๆ :m1:
พี่คิวเท่อ่ะ ฮ่าๆๆ ขรึมเชียว แอบอยากเห็นตอนพี่คิวน่ารักๆ ตอนนิสัยดีอย่างที่พี่คนอื่นบอก อิอิ
เค้กก็น่ารักเชียว
รออ่านตอนต่อไปนะคะ เค้กนอนพักสายตาแบบนี้ จะมีลักหลับหรือเปล่าน้าาา ฮ่าๆๆ :interest:
-
น้องเค้กน่ารักอ่ะ ชอบบบบบบ
เซ็น - กัส คู่กันรึป่าวอ่ะ อยากให้คู่กันอ่ะ อิอิ พี่กัสน่ารักอ่ะ
รู้สึกไอ้พี่คิวโคตรกวนเลยอ่ะ พี่แกมีปมในใจป่ะเนี่ย
ไงก็สู้ๆน่ะค่ะ
-
แอร๊ยยยยยย เรื่องใหม่เพิ่งเห็นคับ ลงชื่อไว้ก่อน คืนนี้เจอกัน
-
ตามอ่านเรื่องนี้ทันแล้วนะ เบบี้
ชอบอ่ะ ชอบบทบาทของตัวละครทุกตัว
ให้ความรู้สึกอบอุ่นเวลาได้อ่าน อยากรู้แล้วว่าถ้าพี่คิวเลิกอคติแล้ว
การแสดงต่อเค้กจะยังเหมือนเดิมไหม หรือจะดีกว่านี้
:กอด1: :L2:
เป็นกำลังใจให้ค่ะ วันนี้จะแวะมารึเปล่า แอบมารอนะ
-
แอบเข้ามาอีกรอบก่อนนอน :laugh:
อยากอ่านตอนต่อไป :z3:
-
พี่คิวเปิดปากบ้างเเล้ววุ๊ย!!
แต่ก็ยังคงความเย็นชา I DON'T CARE! ไว้เต็มเปี่ยมเหมือนเคย
ไม่ชอบเพราะไม่มีเหตุผล พอจะเข้าใจพี่คิวนะคะ แต่ก็ไม่อยากให้อคติกะน้องเค้กอยู่ดี
น้องเค้กก็น่ารักสม่ำเสมอค่ะ
-
เมื่อไหร่นะ คิวกะเค้กเนี่ยจะมีซั่มติ้งกันอะ อยากให้สองนี้รักกันเร็วๆๆจังเลย :pig4:
-
กัดกันไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็สะใจดีนะ :m20: จะได้เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ไม่มีเฟค
ได้เห็นในทุกๆ มุมของทั้งสองคนว่าเป็นมายังไง แล้วสุดท้ายก็รักกันพอดี :o8:
น้องเค้กนี่ก็นางสาวไทยอย่างที่พี่คิวว่าจริงๆ อ่ะแหละ รักเด็กซะขนาดนั้น ฮ่าฮ่า
:กอด1: เบบี้จ้ะ
-
ชอบเรื่องนี้ >W<
-
พี่คิว ไหวมั๊ยเนี๊ย ไหวม๊ายยยยยยยย
-
คิวหายอคติแล้ว เย่ๆ
จะเริ่มชอบน้องเค้กยังนะ
เด๋วยุส่งไปให้พี่ออฟเลย เปิดเผย จริงใจดี ^^
-
~9~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
ก๊อก ๆ ๆ
“กาแฟครับพี่ฟ้า” ผมนำเอากาแฟเข้ามาเสิร์ฟให้พี่ฟ้าในห้องทำงาน
“ขอบคุณครับ” พี่ฟ้ายิ้ม
“เดี๋ยวคิว” พี่ฟ้าเรียกพี่คิวที่กำลังจะเดินออกจากห้องไว้ก่อน
“อย่าลืมนะ อารับปากเค้าไปแล้วว่าจะให้มาสัมภาษณ์..นิตยสารนี้จำหน่ายทั่วโลกเลยนะ ไม่ให้สัมภาษณ์..ไม่ได้” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ผมด้วยความสอดรู้จึงหันไปมองหน้าพี่คิวว่าพี่เขามีปฏิกิริยาอย่างไร
“คุณรับปาก แต่ผมไม่ได้รับปากด้วยนี่..คุณเจ้าของร้าน” พี่คิวพูดย้อนเสียงเรียบนิ่ง
“คิว!” พี่ฟ้าขึ้นเสียงเล็กน้อย แต่ฟังดูจะเป็นการขึ้นเสียงที่ดูจะงอนพี่คิวมากกว่าขึ้นเสียงให้พี่เขากลัว
“ขอตัวนะครับ” ผมพูดเสียงเบา ทั้งสองคนคงไม่ได้ยินเพราะไม่มีใครคิดจะสนใจ ผมรีบเดินออกมาจากห้องและปิดประตูให้เบาที่สุด กลัวจะไปรบกวนสองผู้ยิ่งใหญ่ในห้องอ่ะครับ
~พี่คิวจะให้สัมภาษณ์หนังสือชื่อดังงั้นเหรอ คงไม่ได้เชฟธรรมดาแล้วละมั้ง..ตกลงมีอะไรในร้านนี้ที่เรายังไม่รู้อีกบ้างละเนี้ย~
“พี่กัส” ผมกระซิบเรียก พี่กัสหันมามอง
“พี่คิวกับพี่เซ็น เป็นเชฟปกติป่ะครับ” ผมถามด้วยความอยากรู้
“หึ อะไร..เชฟปกติ แล้วไม่ปกติน่ะเป็นยังไง” พี่กัสถามแกมหัวเราะ
“ก็..เห็นพี่ฟ้าคุยกับพี่คิวบอกว่าจะมีหนังสือมาขอสัมภาษณ์พี่คิวอ่ะครับ” ผมบอก
“อ๋อ มีหนังสือมาขอสัมภาษณ์พี่คิวหลายเล่มแล้วแหละ แต่พี่คิวเค้าไม่ชอบน่ะ..ก็เลยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ส่วนมากจะเป็นพี่ฟ้าที่ให้สัมภาษณ์แทน แต่คราวนี้เค้าเจาะจงรายละเอียดร้าน เจ้าของและเชฟด้วยไง” พี่กัสเล่า
“แล้วพี่กัสรู้ได้ไงอ่ะ”
“พี่ฟ้าบ่นให้พี่ฟังตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว” พี่กัสบอก
“อืมนะ ก็ดูเจ้าตัวสิ” ผมเบะปาก
“ไปว่าเค้า เดี๋ยวพี่เค้าก็มาได้ยินอีกหรอก” พี่กัสตีแขนผมเบาๆ
“เค้กก็แค่พูดเฉยๆ” ผมพูด ผมกับพี่กัสหันไปมองพี่คิวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานของพี่ฟ้า เราหุบปากเงียบลงพร้อมกัน พี่คิวหันมามองหน้าผมสองคนด้วยสีหน้าเฉยอย่างเคยและเดินตรงเข้าครัวไป
“อืม เห็นว่าพี่คิวดูแลโรงแรมให้พ่ออยู่ด้วยน่ะ" พี่กัสเล่าต่อ
"เป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการอาหารมั้ง..รึไงนี่แหละ พี่จำตำแหน่งไม่ค่อยได้ละ”
“จริงดิ” ผมอุทาน ตกใจนิดๆนะครับ
“เค้าไม่ได้อยากทำหรอก ไม่งั้นไม่ขัดขากับพี่ฟ้าขนาดนั้นหรอกนะ” พี่กัสว่า
“อืม ก็น่าจะใช่” ผมพยักหน้ารับ มาคิดๆดูแล้วบุคลิกของพี่คิวก็บอกความเป็นตัวของตัวเองมากขนาดนั้น ไม่แปลกที่พี่เขาจะผ่าเหล่าผ่ากอน่ะนะครับ
“เกาะกลุ่มคุยอะไรกัน ไปยืนประจำที่เลย” พี่หมีเดินมาตีหัวพวกผมเบาๆ พี่หมีน่ารักดี เหมือนจะดุและถึงแม้ว่าบางทีจะดุแต่พี่เขาก็ดุไม่สุดอ่ะครับ เหมือนไม่กล้าทำพวกผมประมาณนั้นล่ะ
= = = = = = = =
“กลับก่อนนะค้าบ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคน ผมออกงานตามเวลาคือทุ่มครึ่ง ส่วนพี่ๆคนอื่นๆออกกันประมาณสองทุ่มครึ่งถึงสามทุ่ม
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่เซ็นพูดทันที ผมชะงักหันไปมองหน้าพี่ซีอย่างขอความช่วยเหลือเพราะผมค่อนข้างรู้สึกลำบากใจ
“ไม่ต้องเลย คุณแม่บอกว่าให้พี่กลับบ้านด่วน” พี่ซีดึงหูพี่เซ็นอย่างแรง ที่จริงเวรของพี่เซ็นหมดไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว แต่เห็นว่าพี่เซ็นเข้ามาเอาเช็คจากพี่ฟ้าเพื่อไปขึ้นเงินหรือยังไงนี่ละครับ
“ไม่เอาอ่ะ วันนี้อุตส่าห์ได้ตรงกับเค้กสักที” พี่เซ็นพูดด้วยสีหน้าออดอ้อน
“นะครับ..นะเค้กนะ” พี่เซ็นหันมาทำหน้าอ้อนใส่ผมไม่หยุด
“คือ..”
“จะไปส่งก็ได้ แต่เค้ก..ถึงบ้านแล้วโทรหาพี่นะ กลับตอนนี้มันก็ดึกแล้ว อันตราย” พี่ฟ้าบอกพร้อมกับทำหน้าเข้มเสียงเข้มใส่ด้วย
“ครับ” ผมพยักหน้า
“เยส..เชิญเลยครับ” พี่เซ็นผายมือให้
“เดี๋ยวไอ้เซ็น” พี่ฟ้าจับไหล่พี่เซ็นไว้
“น้อง..ในที่ทำงาน ช่วยมีจรรยาบรรณด้วย” พี่ฟ้าชี้หน้าเตือน
“โหย อา..วุ่นวายจริง” พี่เซ็นบ่นแต่ดันหันกลับมายิ้มให้ผม ผมก้มหัวให้นิดหน่อยแล้วเดินตามพี่เซ็นไปจนถึงรถ พี่เซ็นรีบเดินมาเปิดประตูรถให้ผมอย่างกับผมเป็นผู้หญิงอย่างนั้น
“ขอบคุณครับ” ผมบอก กระทั่งรู้สึกเกร็งเล็กน้อยแต่ก็ไม่รู้จะบอกพี่เขาอย่างไรจึงขึ้นไปนั่งและปล่อยให้พี่เซ็นบริการอย่างช่วยไม่ได้
“ไปกินข้าวกันก่อนไหม หิวรึเปล่าครับ” พี่เซ็นถาม
“เอ่อ ไม่ดีกว่าครับ..แม่เค้กทำกับข้าวรอไว้นะครับ” ผมบอก ตอนนี้ประมาณเกือบสองทุ่ม แม่โทรมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วว่าจะรอกินข้าวพร้อมกันเพราะแม่ก็เพิ่งกลับมาถึงบ้านไม่นานเหมือนกัน
“อ่าวเหรอ เสียดายจัง” พี่เซ็นว่า ระหว่างทาง พี่เซ็นเปิดเพลงคลอเบาๆ ชวนผมคุยตลอดจนทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ภาพที่วาดไว้ว่าพี่เขาจะเจ้าชู้ประตูดินก็มีบ้าง แต่ในความเจ้าชู้ของพี่เขาก็ยังมีความเป็นคนน่ารัก คุยสนุกอยู่ด้วยเลยทำให้อะไรๆดีขึ้นเยอะ
“แล้ว..มาทำงานอีกวันศุกร์ใช่ไหมครับ ไว้เดี๋ยวพี่ทำเค้กสูตรใหม่มาให้เค้กลองชิมนะ” พี่เซ็นบอก
“โหย เค้กก็ไม่ได้ลิ้นถึงขนาดนั้นหรอกครับ” ผมพูดบอก
“เอาน่า ถ้าเค้กชอบกิน..แสดงว่าคนอื่นก็ต้องชอบกิน เราทำเพื่อลูกค้านี่..พี่ให้เค้กชิมแทนในฐานะลูกค้าแล้วกัน”
“เลี้ยวซ้ายข้างหน้านี่อ่ะครับ” ผมชี้บอก
“หลังข้างหน้า” พี่เซ็นพูดเชิงถามพร้อมกับชะลอรถลง
“หลังนี้เหรอครับ”
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“น่ารักดีนะ อยู่กับแม่สองคนเหรอ”
“ครับ กับแม่..น้าแล้วก็น้องสาวอีกคน เป็นลูกของน้าอ่ะครับ”
“อืม ไว้..วันหลังพี่มาหาได้ไหม” พี่เซ็นถามอีก
“อืม..ก็ต้อง ดูก่อน” ผมยิ้มตอบ
“หึ..ก็ได้ครับ ฝันดีนะครับ”
“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง” ผมยิ้ม ลงจากรถมายืนรอจนพี่เซ็นขับรถไป
“กลับมาแล้วค้าบ” ผมตะโกนบอกคนในบ้าน
“ใครมาส่งละลูก” แม่ถามทันที
“เชฟที่ร้านน่ะ แม่ทำกับข้าวเสร็จรึยัง เค้กหิวจะแย่แล้ว”
“เสร็จแล้ว ขึ้นไปล้างหน้าล้างตาแล้วลงมากินมา”
“พี่เค้ก..พรุ่งนี้ตาวอยากไปดูหนังอ่ะ พี่เค้กเลิกกี่โมง..ไปดูกันนะ” ตาวรีบวิ่งมากอดแขนผมทันที
“เรื่องอะไร” ผมถาม
“The tree of life อ่ะ..พี่เค้กปัดมาหลายครั้งแล้วนะ” ตาวพูดหน้างอ ตาวเป็นเด็กที่อยู่ติดบ้าน ติดผมและติดแม่ รวมไปถึงไม่ติดเพื่อนมากนักนั่นทำให้ที่บ้านรู้สึกสบายใจที่น้องสาวคงจะไม่นอกลู่นอกทาง
“อืมๆ ก็ได้..พรุ่งนี้พี่เลิกบ่ายๆอ่ะ เดี๋ยวพี่ไปรอร้านแถวโรงเรียนตาวแล้วกัน” ผมบอก
“เย้” ตาวกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
“ไปอาบน้ำก่อน ไปช่วยแม่จัดโต๊ะเลย” ผมดีดหน้าผากน้องสาวตัวเอง เดินขึ้นห้องจัดการเก็บของ อาบน้ำแต่งตัวเพื่อมากินอาหารเย็นร่วมกับครอบครัว
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ 09:30 น.
“..O_O..” ค..คนนี้ใครอ่ะ ผมยืนอึ้งตะลึงค้างอยู่ตรงหน้าพี่คิว ใช่..คนคนนี้คือพี่คิวแน่ๆ
“อะไร” พี่คิวพูดเสียงห้วน หน้าตานักเลงเหมือนเดิม
“..................” ผมยังคงยืนนิ่ง ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกจากปากของผม พี่คิวตอนนี้แตกต่างจากพี่คิวคนเดิมลิบลับ ผมที่ยาวถูกตัดจนสั้นมากและได้รับการเซ็ตมาเป็นอย่างดี หนวดเคราที่เคยไว้ก็ถูกโกนจนหมดเรียบ ใส่สูทที่ดูหรูหรามีราคา ตั้งแต่หัวจรดเท้าเนี๊ยบมากจนหาที่ติไม่เจอ เรียกว่า..ดูดีมากเลยละครับ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ที่จริงผมไม่มีเวรในการทำงานในวันนี้ แต่พี่ฟ้าโทรตามให้มาทำงาน เพราะว่าวันนี้เป็นวันที่นิตยสารFoodie อะไรสักอย่างจะมาสัมภาษณ์พี่ฟ้า พี่คิวและพี่เซ็น เขาต้องการถ่ายบรรยากาศร้านรวมถึงพนักงานทั้งหมดด้วยเช่นกัน
“หึ..” อยู่ๆพี่คิวก็แสยะหัวเราะ
“เปล่า ผมไม่ได้คิดว่าพี่ดูดีหรอกนะ” ผมว่า
“แต่หน้านายมันฟ้องน่ะ” พี่คิวย้อน
“ชิ หลงตัวเอง” ผมเบะปากใส่พี่คิวแล้วเดินหนีออกมา ผมเดินกลับเข้าไปที่ห้องพักพนักงานเพื่อที่จะตรวจการแต่งตัวของตัวเองให้เรียบร้อยอีกครั้ง
“ต้องดูดีทุกคนนะจ๊ะที่รัก ไม่สิ..ปกติทุกคนก็ดูดีอยู่แล้วนี่เนอะ” พี่ฟ้าเปิดประตูเข้ามาพูดบอกพวกผม พวกผมหันไปยิ้มตอบให้
“เค้าจะมาถึงแล้ว เตรียมตัวต้อนรับได้เลยนะ” พี่ฟ้าบอก
“คร้าบ/ค่ะ” พวกผมขานตอบ
“พี่คิวหล่อจางงงง~” พี่ซีลากเสียงยาวด้วยหน้าตาเพ้อจัด พี่คิวยิ้มตอบให้พี่ซีเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นอย่างไม่เคยได้เห็นมาก่อน
“แล้วพี่ไม่หล่อเหรอ” พี่เซ็นถาม
“หนูเบื่อหน้าพี่แระ เห็นตั้งแต่เล็กจนโต” พี่ซีว่า
“ไอ้คิวแกก็เห็นตั้งแต่เล็กจนโตเหมือนกันอ่ะ” พี่เซ็นย้อนเหมือนจะเอาชนะให้ได้
“นี่..ทะเลาะไรกัน แกดูดีไม่ได้เท่าหลานฉันหรอกไอ้เซ็น” พี่ฟ้าว่าค้อนๆ มือเอื้อมขึ้นจับที่ปกเสื้อของพี่คิวเบาๆอย่างเอ็นดู พี่คิวยืนหน้านิ่ง
“อะไรของคุณเนี่ย” พี่คิวพูดเสียงยานคางด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
“เรียกอาสิ อาอ่ะ!” พี่ฟ้าขึ้นเสียงเหมือนงอนอีกแล้ว พี่คิวส่ายหัวตอบ เดินไปนั่งที่โต๊ะที่เตรียมไว้สำหรับให้การสัมภาษณ์
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” พวกผมกล่าวต้อนรับทันที
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” พวกพี่ๆทีมงานยกมือรับไหว้พวกผม
“ฮัลโหล” ง่ะ..มีฝรั่งด้วย
พี่ฟ้า พี่คิวและพี่เซ็นทักทายกับพวกทีมงาน พวกผมยืนเรียงแถวกันหน้ากระดานอย่างเรียบร้อย ต่างคนต่างไม่อยากทำให้ร้านเสียชื่อเสียง ผมคิดว่าทุกคนควรรู้ดีว่าควรทำอย่างไรบ้าง พี่ฟ้าถึงไม่ต้องติวเข้มหรือทำเหมือนผักชีโรยหน้านัก เพราะในทุกๆวันพี่ฟ้าและทุกคนๆก็ใส่ใจในรายละเอียดของร้านอยู่แล้ว
ผมยืนมองพี่คิว พี่ฟ้าและพี่เซ็นที่พูดภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อ ไม่ใช่คล่องธรรมดาแต่สำเนียงเป็นฝรั่งจ๋ากันเลยทีเดียว มีฝรั่งมาถึงสองคน ผู้หญิงหนึ่งคนและผู้ชายอีกหนึ่งคน และมีพี่ทีมงานคนไทยอีกหนึ่งคนที่ดูเหมือนเป็นใหญ่รองมาหน่อย
“พี่คิวเท่อ่ะ” พี่ซีทำหน้าเพ้อ ผมหันไปมองพี่คิว ซึ่งก็เท่อย่างที่พี่ซีว่านั่นละครับ..ปฏิเสธได้เมื่อไหร่
ทางทีมงานจัดการถ่ายรูปอาหารที่ทางเราได้นำมาจัดโต๊ะไว้ก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่นัก เป็นอาหารแนะนำและจะให้คนที่มาสัมภาษณ์ได้ลองชิมด้วย ส่วนทีมงานคนอื่นๆตอนนี้มีพี่หมีนำทางเพื่อพาไปถ่ายรูปบริเวณรอบๆร้านแล้ว วันนี้ทางเราต้องปิดร้านเพราะพี่ฟ้าไม่อยากให้การสัมภาษณ์และการที่คนพลุกพล่านนี้ทำให้ลูกค้ารำคาญ เพราะลูกค้าที่มาส่วนมากต้องการความสงบค่อนข้างสูง
“ฮ่าๆๆ ใช่ครับ..ชื่อร้าน เป็นชื่อของหลานชายผมเอง” ระหว่างที่ผมกำลังนำน้ำมาเสิร์ฟนี้ก็ต้องชะงักไปทันที มือยังคงรินน้ำอยู่แต่หูของผมนี่ผึ่งมาก..
“ที่จริงเค้าชื่อคิวปิดน่ะ ไม่ใช่..คิว เฉยๆหรอกครับ” พี่ฟ้าบอก ผมหันไปมองหน้าพี่คิว พี่คิวเหลือบมองผม เราสบตากันเล็กน้อย ผมอมยิ้มแกล้งพี่เขาทำให้พี่เขาทำตาขวางใส่ผมหนักกว่าเก่า พอผมรินน้ำเสร็จผมจึงรีบเดินกลับมาที่เคาร์เตอร์ทันที
“ชื่อร้านนี่ ชื่อพี่คิวหรอกเหรอครับ” ผมถามพี่ซี
“อื้ม พี่คิวที่จริงชื่อคิวปิดน่ะ” พี่ซีตอบหน้านิ่งได้อีก
“พระเจ้า” ผมอุทานเสียงเบา
“หึหึ” พี่กัสหัวเราะเหมือนเข้าใจในความหมายของน้ำเสียงอุทานจากผม
“ไม่ได้เข้ากับนิสัยเอาซะเลย” ผมว่า
“หึ เค้กอ่ะ” พี่ซีตีแขนผมเบาๆ
“เอ่อ..ตอนแรกผมกลับมาจากอิตาลี มาด้วยความที่รู้สึกว่าอยากมีร้านเค้กเป็นของตัวเอง เป็นคนชอบทานนะครับ..ส่วนหลานได้เรียนอยู่ที่อิตาลีกับเชฟเซ็นด้วยกัน พอกลับมา..เลยว่าจะทำร้าน แล้ว..ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่ออะไรดี ก็เลยเอาชื่อของเค้ามาตั้ง” พี่ฟ้าเล่าด้วยรอยหน้าเปื้อนยิ้ม ในร้านค่อนข้างเงียบถึงเงียบมาก ทำให้ถึงแม้ว่าพวกผมจะยืนอยู่ตรงเคาร์เตอร์แต่ยังได้ยินเสียงที่พวกพี่ๆสัมภาษณ์กันจนหมด
พี่เซ็นกับพี่คิวนั่งคุยกับฝรั่งที่มากันสองคน ส่วนพี่ฟ้ากำลังนั่งให้สัมภาษณ์กับพี่ผู้หญิงคนไทย
“รายนี้เค้าไม่ค่อยชอบชื่อของเค้าหรอกครับ พอใครถามก็จะบอกแค่ว่าชื่อคิว แต่ผมว่าชื่อเค้าน่ารักดีออกนะ” พี่ฟ้ายิ้มกว้าง ผมเห็นพี่คิวเหลือบมองพี่ฟ้าตาขวางด้วย ตลกดีอ่ะครับ..เหมือนเด็กงอนเลย
“แล้วคุณฟ้าคิดว่านามสกุลของคุณช่วยเรื่องธุรกิจของคุณมากน้อยแค่ไหนคะ นอกจากเรื่องแบรนด์ของเสื้อผ้าแล้ว” พี่ผู้หญิงถาม
“ชื่อแบรนด์ของผมก็เป็นชื่อของหลานผมด้วยเหมือนกันนะครับ ผมไม่คิดว่านามสกุลจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้านามสกุลของผมจะทำให้คนอื่นๆไว้ใจในสินค้า ผมก็ยินดีครับ..ส่วนแบรนด์เสื้อผ้า ตอนที่ทำ..ผมคิดว่าผมอยากได้ชื่อแบรนด์เสื้อผ้าไม่ให้ต่างจากชื่อร้านนัก พอดี..ชื่อมันเป็นได้ทั้งสองอย่าง ผมเลี้ยงเค้ามาตั้งแต่เด็ก มัน..มีความหมายสำหรับผมครับ ผมไม่ได้เอานามสกุลของตระกูลผมมาตั้ง ดังนั้น..ทุกอย่าง ผมก็ยังเชื่อในความมีคุณภาพของผมอยู่ดี” ผมยืนฟังอย่างตั้งใจ พี่ซีและพี่กัสเองก็เช่นกัน
“ผลตอบรับของร้าน ที่คุณตอบสนองเพียงคนมีฐานะ..ดีน้อยแค่ไหนคะ”
“อืม..ผมคิดว่าร้านสำหรับคนมีฐานะเยอะนะครับ เป็นพันๆร้าน แต่ร้านเค้ก เบเกอรี่ กาแฟอาจจะน้อยไปสักหน่อย เห็นไม่หนาตานัก..ร้านสไตล์เรามีจุดยืนต้องการตอบสนองเฉพาะจุดจริงๆ ผลตอบรับที่ได้มาค่อนข้างดี เราเชื่อว่าเรามีคุณภาพ ราคาจึงต้องอัพไปตามระดับมาตรฐานพอสมควร ถ้าใครที่พอจะมีโอกาสมาทานอาหารร้านเราบ้างนานๆครั้งก็ได้ครับ เราบริการอย่างไม่แบ่งฐานะอยู่แล้ว พนักงานทางร้านเราได้รับการคัดมาเป็นอย่างดี” พี่ฟ้าพูด แหมะ..รู้สึกผิดยังไงไม่รู้แฮะที่ผมกลับเข้ามาด้วยหน้าตา
“ได้ข่าวว่า พนักงานก็เป็นคนกันเองทั้งนั้น..หรือส่วนมากก็ค่อนข้างมีฐานะ เอ่อ..แล้วคุณฟ้าคิดว่าคนที่มีฐานะแล้วจะทำงานได้ดีเหรอคะ”
“หึ..ไม่นะครับ พนักงานเรามีน้อย..ดังนั้นเราต้องการเฉพาะคุณภาพจริงๆ อย่างพนักงานบัญชีก็เป็นน้องสาวของเชฟเซ็น เราเห็นในความขยันและมีระเบียบของน้อง น้องเก่ง และมีความสามารถ เราก็ต้องยอมรับในจุดนี้ มันเป็นแค่ความบังเอิญอ่ะครับที่เราได้พนักงานมาแบบนี้”
“อย่างเค้ก พนักงานคนใหม่..น้องเค้าก็มีฐานะปานกลาง แต่ทั้งระดับการศึกษา คะแนนเรียนและความประพฤติก็ค่อนข้างดี ตรงนี้เราก็ต้องให้โอกาสในการทำงาน เราไม่ได้คัดที่ฐานะหรอกครับ..มันเป็นแค่ความบังเอิญจริงๆ ถ้าทุกคนรักงานบริการและทำด้วยความจริงใจ ไม่ว่าฐานะแบบไหน..ผมก็พร้อมจะให้โอกาสเสมอครับ” ผมได้แต่ยืนยิ้ม ดีใจ..เขินอ่ะ
“แล้วคุณเชฟคิวคะ จากข่าววงการอาหาร เค้าค่อนข้างพูดถึงคุณในแง่ไม่ดีนัก เรื่องการเข้าสังคม..คุณคิวคิดว่ามันเป็นอุปสรรคในการทำงานของคุณรึเปล่าคะ” เธอยังคงยิงคำถามไม่หยุด ดูแต่ละคำถาม ผมคิดว่ามันไม่เห็นจะเกี่ยวกับร้านอาหารของเราตรงไหน
“ไม่นะครับ” พี่คิวตอบและทิ้งเสียงไปนานมาก ใจผมเริ่มลุ้นเพราะกลัวว่าพี่คิวจะไม่ขยายความในคำตอบนั้นต่อ
“ผมคิดว่า..ผมมีหน้าที่ทำอาหารเพราะผมรักมัน” พี่คิวพูดขึ้นเสียงเรียบนิ่ง
“...................” ทุกคนเงียบเหมือนรอคำตอบมากกว่านั่นเพราะหน้าพี่คิวนิ่งมาก ถ้าผมเป็นคนสัมภาษณ์ก็คงจะกลัวหัวหดไปแล้วอ่ะครับ
“คนเราก็มีพื้นที่ของตัวเองต่างกัน ผมอาจจะมีมากหน่อย..แต่ผมก็ยังจะเป็นต่อไปนะ เพราะผมพอใจในตรงนี้ ผมเรียนหนักเพื่อมาเป็นเชฟ..ไม่ใช่ดารา ผมมีหน้าที่ของผมแค่ทำอาหารให้คนทานพอใจในรสชาติ ถ้าใครจะเอาไปพูดยังไง..เราก็คงไปบังคับไม่ได้ คำพูดของเค้าเอง ก็มาบังคับผมไม่ได้เช่นกัน” พี่คิวยิ้มมุมปาก คำตอบทำเอาคนสัมภาษณ์อึ้งไปชั่วขณะ
“เอ่อ แล้วงานที่โรงแรมSBT ได้ข่าวว่าคุณคิวดูแลอยู่ที่นั่นด้วย ทำตำแหน่งอะไรเหรอคะ”
“ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการอาหารนะครับ” พี่คิวยิ้มตอบเล็กน้อย
“งั้นก็คงทำได้สบายเลยสินะคะ เป็นสิ่งที่ชอบพอดี” คนสัมภาษณ์ยิ้มแซว พี่คิวพยักหน้าตอบอย่างเห็นด้วย
“แล้วเรื่องเปิดสาขาที่ต่างประเทศ มีแพลนว่าจะทำรึเปล่าคะ”
“ไม่ครับ คงไม่อย่างแน่นอน..” พี่ฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
หลังจากนั้นพี่ฟ้า พี่คิวและพี่เซ็นสัมภาษณ์เกี่ยวกับร้านเยอะมาก แรกๆเป็นการสัมภาษณ์เกี่ยวกับครอบครัวก่อน ลามไปถึงเรื่องธุรกิจภายในครอบครัว ประวัติของร้าน ประวัติของอาหารที่ร้านทำเป็นเมนูเฉพาะร้านนี้และได้จดลิขสิทธิ์เรียบร้อยแล้วด้วย หลังๆการสัมภาษณ์เริ่มเข้าเรื่องร้านมากขึ้น เรื่องวัตถุดิบ การผลิต หน้าที่การทำงานของคนในร้านและอื่นๆ
“หวังว่าครั้งหน้า เราจะได้ไปทัวร์ร้านอาหารที่อิตาลีด้วยกันนะครับ” ผมยืนฟังแต่ไม่เข้าใจว่าชาวต่างชาติคนที่กำลังพูดอยู่กับพี่คิวนี่พูดอะไร รู้แค่ว่ามันไม่ใช่ภาษาอังกฤษอย่างแน่นอน
“นั่นหมายถึง คุณและผมว่างตรงกัน” พี่คิวยิ้ม
“ภาษาอะไรเหรอครับ” ผมกระซิบถามพี่ซี
“ฝรั่งเศสนะ” พี่ซีตอบ
“พี่เค้า พูดได้หลายภาษาเหรอ” ผมถามและรู้สึกประหม่าขึ้นมากับบุคคลสำคัญในร้านนี้ เพราะมันชักจะมากความสามารถกันเกินไปแล้ว..
“ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี” พี่ซีตอบ
“ใช่ ถ้าไม่ติดที่พี่แกไม่ชอบเข้าสังคมนะ และถ้าทำตัวเจ้าชู้เหมือนพี่เซ็นสักนิด ผู้หญิงเข้าหาเพียบแน่อ่ะ” พี่กัสพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ใช่อ่ะสิ หึ..แต่ดีแล้วที่ไม่เหมือนพี่เซ็นน่ะนะ” พี่ซีทำหน้าเอือมหันไปมองหน้าพี่กัส พี่กัสยิ้มส่ายหัวให้
จากที่ผมได้ฟังที่พี่ฟ้าให้สัมภาษณ์กับผู้หญิงคนไทยคนนั้น ฟังๆดูแล้วพี่ฟ้าน่าจะมีกิจการอีกอย่างคือเสื้อผ้ากับกระเป๋าที่มีชื่อแบรนด์ว่า Cupid ส่วนพี่คิวมีงานประจำอีกงานคือ..ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการอาหารที่โรงแรมSBT โรงแรมที่ผมรู้เพียงว่าหรูหราระดับห้าดาว เห็นว่าน่าจะเป็นโรงแรมของพ่อพี่คิวเขา ส่วนพี่เซ็นเป็นผู้จัดการอยู่ที่บริษัทในเครือของครอบครัวด้วย ในวันนี้ทำให้ผมได้รู้ว่าทั้งพี่ฟ้า พี่คิวและพี่เซ็นเป็นคนมีความสามารถมากในหลายๆด้าน จากที่ผมคิดว่าพี่เขาคงแค่บ้านรวย เก่งในเรื่องการทำอาหารเท่านั้น แต่ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าพี่เขาจะมีประวัติที่น่าสนใจมากขนาดนี้
~โรงแรม ร้านอาหาร งั้น..ให้พี่เขาช่วยให้ข้อมูลโครงงานเราได้ไหมนะ Y_Y~
อยู่ๆความคิดก็ผุดขึ้นมาในหัว ถ้าพี่เขาช่วยผมได้ ผมคิดว่าโครงงานผมจะต้องน่าสนใจสำหรับอาจารย์ได้อย่างแน่นอนเลยละครับ
“ขอบคุณมากนะคะ ทางนิตยสารของเราเป็นเกียรติมากจริงๆที่ได้สัมภาษณ์พวกคุณ” พี่ผู้หญิงไทยพูดทั้งรอยยิ้ม
“ยินดีเช่นกันครับ” พี่ฟ้ายิ้มตอบ ทุกคนจับมือบอกลากันจนพี่ๆทีมงานกลับกันไปจนหมด
“เฮ้อ..หมี ขอน้ำหน่อย” พี่คิวพูดสั่งน้ำเสียงไม่ดีเท่าไหร่นัก พี่เขาเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมที่นั่งให้สัมภาษณ์
“อะไรวะ แค่นี้..ทำเป็นไม่เคยไปได้” พี่เซ็นเดินไปตบไหล่พี่คิวเบาๆ
“เบื่อว่ะ..เหี้ย” พี่คิวบ่นเสียงเบาลงและหันหน้าหนีไปอีกทาง
“เอาน่า ถ้าไม่ให้สัมภาษณ์เล่มนี้ อาจจะเสียชื่อเสียงไปถึงโรงแรมในเครือของพ่อก็ได้นะ ถือว่าทำเพื่อพ่อก็แล้วกัน” พี่ฟ้าเดินไปลูบไหล่พี่คิวเบาๆด้วยอีกคน พี่คิวเอาแต่เงียบแต่ก็รับน้ำจากพี่หมีไปดื่ม
“รอบหน้าจะทำอะไร ช่วยปรึกษาคิวหน่อยได้ไหม” พี่เขาพูดคิ้วขมวด พวกผมแอบยิ้มอีกครั้ง เพราะนานๆทีจะได้ยินพี่เขาแทนตัวเองว่า..“คิว”
“หึ..” พี่เซ็นหัวเราะ
“เน้” พี่ฟ้าปรามทันทีที่เห็นพี่เซ็นหยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
“อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ” พี่ฟ้าทำตาขวางใส่ ทำให้พี่เซ็นต้องเก็บบุหรี่ลง
“ดุตลอดอ่ะ” พี่เซ็นบ่นงุบงิบแล้วอยู่ๆก็หันมายิ้มกว้างให้ผม ผมยิ้มตอบให้เพียงนิดเดียว
“โอเค เด็กๆกลับบ้านกันได้แล้วนะ วันนี้ขอบคุณมากจริงๆ” พี่ฟ้าพูด
“เค้กกลับยังไงครับ” พี่ฟ้าหันมาถามผม วันนี้พี่ๆทุกคนต่างเอารถส่วนตัวมากันหมดซึ่งมีผมคนเดียวที่ไม่มีรถส่วนตัว
“เดี๋ยวไปขึ้นรถเมล์หน้าปากซอยอ่ะครับ” ผมตอบ
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่เซ็นพูดทันที
“เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่านะ” พี่ฟ้าพูดน้ำเสียงเรียบแต่ฟังดูเด็ดขาดมาก
“อะไรอ่ะอา กันท่าอ่ะ” พี่เซ็นบ่นรีบลุกมาหาผมในทันที พี่ฟ้าปรี่เข้ามากันพี่เซ็นไว้
“ไม่ได้ คนนี้..เด็กฉัน ใครก็ห้ามยุ่ง ยกเว้นคนที่ฉันอนุญาตให้ยุ่ง” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“แล้วใคร คนที่อาอนุญาตให้ยุ่งอ่ะ” พี่เซ็นถามหน้านิ่ง
“ตอนนี้ยังไม่มี” พี่ฟ้าตอบหันหัวไปมาอย่างกวนๆ
“ชิ..กันท่า กลับดีกว่าโว้ย” พี่เซ็นโวยวายเดินหนีออกไปซะอย่างนั้น
“ไอ้คิว เจอกันที่ผับเย็นนี้นะมึง อย่าเบี้ยวล่ะ” พี่เซ็นหันกลับมาพูดบอกเสียงดัง
“หมี ออฟ..ปิดร้าน คิวไป..กลับบ้าน” พี่ฟ้าสั่ง พี่คิวลุกขึ้นยืน ส่วนพี่ออฟกับพี่หมีเดินไปปิดร้านตามคำสั่ง พี่ฟ้าเดินเข้าห้องของตัวเอง..น่าจะไปเอาของ คนอื่นต่างแยกย้ายกันไปจัดการตัวเอง ตอนนี้เหลือแต่ผมกับพี่คิวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
“เอ่อ..พี่ คิว” ผมเรียก พี่คิวตวัดตามามอง น่ากลัวอ่ะครับ..ไอ้บ้า มองเราตาขวางทำไมเล่า
“คือ..” ผมพยายามจะพูด เอิ่ม..เฮ้อ เหมือนหายใจไม่ออกเลยครับ
“ผม” ผมยังคงอ้ำอึ้ง พี่คิวเริ่มขมวดคิ้วมากขึ้น สายตาเริ่มไม่พอใจแสดงให้เห็น
“เค้ก เอ่อ..”
“อะไร อ้ำอึ้งอยู่ได้..น่ารำคาญ” พี่เขาว่าเสียงห้วน
“คือว่าผมน่ะ อยากขอให้พี่ช่วยอะไรหน่อยจะได้ไหมครับ” ผมพูดบอกเสียงเบา
“ไร” พี่คิวถามน้ำเสียงห้วนกลับ
“คือว่าที่มหาลัยสั่งโครงงานมาชิ้นนึง ซึ่งมันสำคัญสำหรับพวกเค้กมาก..มันเป็นงานกลุ่ม เค้กอยากจะได้ข้อมูลโรงแรมSBT ที่พี่ทำงานอยู่ เรื่องข้อมูล..แล้วก็อยากสัมภาษณ์พี่ด้วยอ่ะครับ คือ..” ผมพูดยาวและเร็วเพราะกลัวว่าพี่คิวจะไม่ยอมฟังต่อ
“ไม่” พี่คิวพูดตัดบท
“แต่..” ผมอ้าปากพยายามจะพูดอีก
“ได้สิ” ผมหันไปมองตามเสียง พี่ฟ้าเดินยิ้มออกมาจากห้องพักของตน
“คิวต้องตอบรับอยู่แล้วแหละ..เนอะ” พี่ฟ้าพูดพยักหน้าไปทางพี่คิว
“ไม่” พี่คิวยืนยันคำเดิม
“ช่วยน้องมันหน่อยสิ”
“ทำแล้วฉันได้อะไร” พี่คิวหันมาถามผม
“ถ้าพี่จะเอาเงิน ผมไม่มีให้พี่หรอกนะครับ” ผมพูดก่อนเพราะหน้าตาพี่เขาดูต้องการอะไรจากผมสักอย่าง
“หึ ไม่บอกก็รู้” พี่คิวแสยะยิ้ม ผมจ้องหน้าพี่คิวตอบ และผมเริ่มรู้สึกไม่พอใจในทั้งคำพูดและสีหน้าของพี่คิวบ้างแล้ว
“แค่ขอให้ช่วย ไม่เห็นต้องพูดอย่างนี้เลย..พี่คิดว่าพี่เป็นใครกัน” ผมว่าไม่เต็มเสียงนัก
“หึ แล้วนายคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ ที่ถึงขนาดอยากจะมาสัมภาษณ์ฉันน่ะ” พี่คิวย้อนยิ้มแสยะ ผมชะงัก..ถูกย้อนซะตอกกลับไม่ได้เลยครับ
“ไอ้คิว” พี่ฟ้าว่าปราม
“งั้น..ไม่เป็นไรครับพี่ฟ้า ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบบอก ก้าวขาจะเดินออกมา
“ก็ได้” ผมชะงักกับน้ำเสียงของพี่คิว
“จะช่วย” ผมหันกลับไปมองด้วยความตกใจ อารมณ์เข้าๆออกๆจริงไอ้ผู้ชายคนนี้
“เฉพาะเวลาที่ฉันว่าง และ..เฉพาะเวลาที่ฉันมีอารมณ์จะช่วยเท่านั้นนะ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าหยิ่งอย่างเคย
“ครับ” ผมยิ้มตอบแทบจะทันที
“ส่วนเรื่องค่าตอบแทน เมื่อไหร่ที่ฉันต้องการให้นายทำอะไร..นายจะต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง” เวร..โครงงานยี่สิบคะแนนของผมจะคุ้มกับที่ผมเอาชีวิตไปเสี่ยงไหม อาจารย์ครับ..อาจารย์จะรู้ไหมว่าผมทุ่มทุนสร้างขนาดไหน
“ก..ก็ ก็ได้” ผมตอบไปไม่เต็มปากเต็มคำนักเพราะรู้สึกตงิดๆใจขึ้นมาแปลกๆ แต่ในเมื่อพี่เขากล้าพูดขึ้นมาแบบนี้เราจะไม่กล้าตอบรับไปมันก็จะเสียฟอร์มไปหน่อยนะสิครับ
“ก็ดี..” พี่คิวยักคิ้วยักไหล่พร้อมกัน เดินเก๋าล้วงกระเป๋าออกจากร้านไป
“ดีแล้วแหละเนอะ พี่ก็ไม่ค่อยว่างมาช่วยเค้กหรอก..เค้กมีไรก็ถามคิวได้เลย มันรู้ทุกอย่างแหละ” พี่ฟ้าเข้ามาจับแขนผมอย่างอ่อนโยน
“เหอะๆ” ผมหัวเราะเสียงแหย ถึงจะดีใจที่พี่คิวตอบรับแต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากทำงานร่วมกันอย่างนั้นหรอกนะครับ
“ไม่เอาสิ อย่าหัวเราะแบบนี้..ยิ้มกว้างๆ” พี่ฟ้าจับแก้วผมหยิกไปมา
“กลับบ้านกัน เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ฟ้าพยักหน้าบอกพร้อมกับจับมือผมเดินออกหลังร้านมาด้วยกัน
....................>>>><<<<...................
-
กรี๊ด กระโดดกอด วันนี้ขอจิ้มเบบี้นะตัวเอง 555+
:z13: :z13: :z13:
ไปอ่านละ ฟิ้ว ~
-
มาแล้วมาแล้ว
-
พี่คิวและเค้กได้เข้าใกล้กันอีกกะจี๊ดแล้ว แต่อย่าทะเลาะกันจนรายงานเสียนะ
ว่าแต่พี่ฟ้าจะเก็บเค้กให้ใครเอ่ย ใช่ให้หลานสุดที่รักหรือเปล่า
-
พี่คิว ตอนนี้ต้องหล่อมากแน่ๆเลยอ่า อิอิ
แล้วที่ไปตกปากรับคำน้องเค้กต้องมีแผนอะไรในใจอยู่ใช่มะ
ต้องเป็นเรื่องสนุกแน่ๆเลย น้องเค้กเอ๋ย เตรียมตัวไว้นะลูก ฮ่าๆ :z1:
-
ใกล้เข้าไปอีกนิด
พี่ฟ้าเหมือนเชียร์เค้กให่้หลานตัวเอง
อยากรู้จะรักกันยังไอ
-
^
^
^ เห็นด้วยค่ะ
อาหลานคู่นี้เขาน่ารักดี... ฟ้าน่ารักอ่ะ :o8:
:pig4: :กอด1:
-
คิดอะไรอยู่ นะ่ะ พี่คิว
น่ากลัว น้าาาาาา
-
คุณพระ !!!! พี่คิวทรานฟอร์มแล้วนะค่าาาาา ณ จุดนี้แค่คิดภาพต่อมจิ้นก็ทำงานจนจะระเบิดละ
ต้องหล่อมากแน่ๆ กรี๊ด >/////< พี่คิวกับเค้กก็เขยิบเข้ามาอีกนิด ชิดๆเข้ามาอีกหน่อยละ
เริ่มมีกิจกรรม ปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น หล่อรวยนิ่ง โฮกกก ถ้าไม่กรี๊ดคนนี้จะไปกรี๊ดคนหน๊ายยย
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
เห็นจากในแฟนเพจว่ามาอัพแล้ว รีบกระโดดพรวดมาทันที
คิวปิค นี่ตกลงชื่อคิวจริงๆรึ ตอนแรกคิดว่าชื่อ เฮอคิวลีส 55555
ตอนนี้ คิวแอบปล่อยนิสัยเด็กๆออกมานะเนี่ย หุหุ น่ารัก
แต่คงไม่สู้น้องเค้กเราหรอก อิอิ ขอบคุณเบบี้มากจ้าา
-
สงสัยพี่ฟ้าจะอนุญาติแค่พี่คิวคนเดียวละม๊างงงงงงงงงงง
ฮ่าๆๆๆๆๆ :z1: :z1:
-
พี่คิวนี่ขรึมๆ นิ่งๆ น่ากลัวอ่ะ
งานนี้รายงานน้องเค้กจารอดมั้ยเนี่ย
-
คิวจะแกล้งให้น้องทำอะไรรึเปล่าเนี่ย
-
พี่คิวน่ารัก แต่ว่า...คิวปิด!!!
ไม่ได้เข้ากับพี่คิวเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่คิวน่ารักอ่าาาาา ดุๆแค่ก็แอบนิสัยน่ารักนะคะเนี่ย^^
น้องเค้กสู้ๆ อย่ายอมให้พี่คิวข่มเรา เอิ๊กๆXD
-
พีคิวดุจัง!!!!
-
หมั่นไส้พระเอกผิดมั๊ย
+1
-
+1นู๋เค้ก น่ารัก มาก อ่ะ ส่วนคิว อ่ะ กวนตีนอ่ะ :laugh:ห้ามขอจุ๊บนู๋ เค็ก น่ะ หวงอ่ะ o18
-
รอให้พี่คิวหล่อมานาน
น่าจะมีบทบรรยายหน้าพี่คิวมั่ง อ่ะ(ที่มีมันไม่พอ)
แต่ไม่เป็นไรเราเอาไปนอนฝันจิ้นต่อได้ :laugh:
-
ว้าย พี่คิวสลัดคราบหนุ่มเซอร์ออกไปซะแล้ว :-[
-
พี่คิวเปลี่ยนลุค ต้องเท่มากๆแน่เลยอ่ะ :m1:
โอ๊ะ! ต้องเรียกพี่คิวปิด ก็เข้าใจสไตล์พี่คิวนะว่าอยากให้คนอื่นเรียกคิวเฉยๆ :laugh:
ไม่รู้ค่าตอบแทนจะเป็นอย่างไร อยากอ่านต่อ 55 ลุ้นๆๆ กล้าพูดกันมากขึ้นๆๆๆ
หรือพี่คิวจะให้เค้กไปผับด้วยคืนนี้ (เพ้อไปใหญ่แล้ว :m20:)
-
:pig4:
-
รักไปอีกคุ่แล้ว เค้ก กับ พี่คิวๆๆ ^^
-
รอลุ้นว่าพี่คิวจะเอาอะไรเป็นค่าตอบแทน หึหึ o18
-
มาแล้วว :L2:
-
สนุกม๊วากกกกกกกกกกกกกก
อยากก อ่านอีกอ่าาาาาา า
ขอโลภมาก คึคึ
เหออ อยากกินเค้กตอนเที่ยงคืนเลยอ่ะ :-[ :-[
-
บวกแรงๆ
พี่คิวกลายเป็นหนุ่มเนี๊ยบผมสั้นไปซะแล้ว นุ้งเค้กลุยยยย
-
:กอด1: :กอด1:
-
Wow wow wow,,,song kon klai ja mii something duai kan laew khaaa...ha ha ha!!!
-
อยากดีดีปากพี่คิว
คนๆนี้ตลอด อิคนอ่านก็กลัวหัวหดเหมือนกันนะ 5555++
น่ากลัวไปไหน
แต่น้องเค้ก แอบนิน นิดๆๆนะเนี่ย 55555++
-
พี่คิวคิดอะไรของเค้าวะ
อยากรู้จิงๆ
ว่าผลตอบแทนคืออะไร
-
น่าจะคุ้มค่านะเค้กก ได้ทำงานกะคนหล่อเลยนะ 555
พี่คิวนี่เหมือนคนมีอะไรในใจแต่ไม่แสดงออกอ่ะ
ความจริงลุคแข็งๆที่เห็นอาจจะไม่ได้ตรงกับในใจก็ได้น้าา
-
เย้...
แต่ทำไมชอบพูดให้เสียน้ำใจจรืงๆเลย พี่คิวเนี๊ย
ถ้ารู้จักกันจริงๆ ได้มาตอกกลับไปสักคำแล้ว(ฮ่าๆๆ เก็บกด)
ว่าแต่...พี่คิวจะเอาอะไรจากเค้กหว่า??
-
พี่คิวโอ้ยยยยยย
น่ารักอ้ะ ><
ว่าแต่จะเอาไรจากน้องเค้กเนี่ย
-
อยากรู้จังว่าพี่คิวมันจะให้น้องเค้กช่วยอะไร
:z1:
-
พี่คิวแปลงโฉมอ่อ :o8:
พี่ึคิวน่ารักมากเลย ,ชื่อเต็มๆ คืิอคิวปิด :laugh:
-
:a5: ค่าตอบแทนดูน่ากลัวอ่ะนะ :a5: พี่คิวนี่ร้ายได้อีก
-
พี่ฟ้าทำตัวเป็นพ่อเค้กไปแล้วซะงั้น...แล้วมันจะเหลือใครที่พี่จะอนุญาตคะนอกจากคุณหลานชายสุดที่รักอ่ะ
เค้กหมดสิทธิ์เลือกอ่ะ :laugh:
พี่คิวก็เบา ๆ มือหน่อยนะ(แกล้งน้องมากเดี๋ยวโดนเกลียดขี้หน้า) :o8:
-
คิวน่ารักอ่ะ :กอด1:
กดเป็ด+1
ให้กับคนขยัน
-
พี่คิวปิด อร๊ายย ชื่อน่ารักนะคะเชฟ :impress2:
ตอนนี้ชอบน้องเค้กมากกว่าเดิม อะไรนะ... "เปล่า ผมไม่ได้คิดว่าพี่ดูดีหรอกนะ" ฮ่าๆๆ น่ารักดี
-
พีฟ้าไม่ค่อยจะอยากได้หลานสะใภ้เลยนะ :laugh:
:pig4:ค ะ
-
คิวปิด!! น่าร๊ากกกกกกกก
-
:o8: พี่คิวนี่โปรไฟล์ดูดีมากกกกก
แต่แกปากเสียจริงๆ
-
พี่คิว..........ปิค อิอิน่ารัก
เจ้อย่าให้พี่คิวโหดกับพี่เค้กมากนักนะ
เดียวมีคนไม่ชอบพี่คิว อิอิ
-
น้องเค้กเปลี่ยนใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่่ะค่ะ
ยอมรับการกลั่นแกล้งเสียแต่โดยดีเถอะน้อง 555
ปล.อยากเห็นพี่คิวเวอร์ัชั่นหล่อจังเลย
-
คิวปิด น่ารักจัง 5555+++ :laugh:
-
ตกหลุมรักคิว :o8: :o8: :o8:
-
น้องเค้กน่าสงสารหง่ะ อยู่ท่ามกลางคนประหลาดทั้งนั้นเลย ฮ่า ฮ่า
-
เพิ่งตามมาอ่านเรื่องใหม่ของเบบี้ค่ะ
ทำรายงานกันไป ก็รักกันไปน้าพี่คิวน้องเค้ก
อยากให้รักกันเร็วๆอ่า ชอบพี่คิวอ่ะ อารมณ์แปรปรวนดี
กร๊ากกกกกกกก :impress2:
-
พี่คิวเริ่มดำเนินแผนการเขมือบน้องเค้กใช่มั้ย
มันน่าคิดนะ ไอสิ่งตอบแทนเนี่ย วู้้ววววววววว
อยากอ่านไวอีกแ้ว้วววววววว
-
พี่คิวจะให้น้องทำไรล่ะค้า :z1:
-
มาตอนนี้ก็น่ารักกันอีกแล้วอ่ะ กรี๊ดๆ ๆ>////< ชอบพี่คิวมากมายอ่ะ
แบบนี้ก็ได้รู้ข้อมูลของพี่คิวเพิ่มขึ้นอีกแล้วนะจ๊ะน้องเค้กน่ารัก แล้วให้พี่คิวช่วยทำงานแบบนี้
ขอกรี๊ดไปเลยดังๆ เลยอ่ะงานนี้ แล้วพี่คิวจะให้น้องเค้กทำอะไรละเนี้ย หึหึ พี่ฟ้าน่ารักตลอด
เลยอ่ะชอบอ่ะ มีหลานชายหล่ออีกต่างหาก ฮ่า า า
-
พี่คิวหล่อบรรลัยแล้ว
แล้วที่นี้มีเหตุให้ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก
ที่นี้เค้กหวั่นไหวแน่ๆ :z2:
-
ฮู้ยยยยย อยากรู้ว่าพี่คิวจะทำให้เค้กทำอะไรเป็นค่าตอบแทน ชักจะลุ้น
เป็นปลื้มมากที่พี่คิวตัดผม โกนหนวด ค่อยสมกับเป็นเชฟหน่อย
แต่ไม่ใช่ว่าจบสัมภาษณ์จะกลับไปไว้เหมือนเดิมหรอกนา
-
อีพี่คิว กวนที๊นนนนนน :z6:
-
คิวปิด มันต้องน่ารักขี้เล่นไม่ใช่หรอ
-
พี่คิวปิด ทำตัวไม่เหมือนหน้าตาและชื่อเลยนะคะ
-
จิ้นพี่คิวลุคใหม่!!! หล่อโฮกแน่ๆๆๆๆๆๆๆ :impress2:
ด้วยอะไรหลายๆอย่างในพาร์ทนี้ทำให้รู้เลลยว่าพี่ๆร้านนี้เค้าสุดสุดทุกคน ความสามารถๆ
พี่คิวก็ยอมให้น้องเค้กสัมภาษณ์จนได้ แอบเอนเอียงหาน้องเค้กก็บอกมาเห๊อะ!! 555
-
พี่คิวปิดเมื่อไหร่จะญาติดีกับน้องเค้กเนี่ย
น้องมันผวาทุกตอนที่เผชิญหน้ากันเลย
ถึงจะมีเถียงบ้างไรบ้าง แต่ในที่สุดก็จ๋อยตามเคย :เฮ้อ:
-
พี่ฟ้ากันท่าพี่เซ็นอ่ะ 555
แล้วพี่คิวจะให้น้องเค้ก
ทำอะไร....?
-
o18 o18 o18
-
เหอะๆ น่ากลัวจริง
คิวจะให้ทำอะไรตอบแทน
-
หึหึ
จะทำอะไรน้องเค้กกกกก :angry2:
ทำเลย :man1:
อย่ารุนแรงนะ :z2:
-
ชอบพี่คิวอ่ะ อร้ายยยยยย ฮ่าๆๆๆ :impress2:
-
ชักอยากรู้แล้วสิว่าคิวจะขออะไรเป็นสิ่งตอบแทน
-
กวนมากไอ้พี่คิว ตอนต่อไปต้องสนุุกแน่ๆ
-
ไอ้พี่คิวจะพูดดีๆกับน้องเค้กบ้างได้ไหมเนี่ย :angry2:
แล้วพี่แกอย่างได้ไรตอบแทนล่ะเนี่ย :z1:
สู้น่ะจ๊ะ น้องเค้ก :angellaugh2: :angellaugh2:
พี่ฟ้าต้องจับคู่พี่คิวกับน้องเค้กแน่ๆเลยอ่ะ เห็นสนับสนุนซะขนาดนั้น :interest: :interest:
อิอิ รักพี่ฟ้าจังเลย :กอด1: :กอด1:
-
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ชอบน้องเค้กนะ ซื่อตรงและจริงใจ
ชอบพี่ฟ้า เหมือนกั๊กน้องเค้กไว้ใหหลานตัวเองรึป่าว? กร๊ากกกกก
พี่คิวคำพูดคำจา ใจร้ายตลอดตลอด ชิส์ =^= งอนแทน(ใคร?)
กอดเธอที่รักกกกกกกกกกก
-
คุณชายมาดเนียบ กับ น้องเค้กน่ารัก หึ หึ หึ ....
ค่อย ๆ เริ่ม ค่อย ๆ สาน เดี๋ยวมันก็เป็นรูปเป็นร่างเองแหละ :z1:
ยิ่งคำยืนยันจาก นายใหญ่ จะให้ยุ่งเฉพาะคนที่อนุญาติ 555..... :z2:
+1 เป็นกำลังใจให้ บี่บี๋ จ้า
-
คิวเจ้าเล่ห์ตลอดอ่ะ55
-
เค้กจ๋า คิดดีแล้วจริงอ่ะให้พี่คิวช่วย รู้สึกว่าของตอบแทนพี่แกมันจะลึกลับชอบกล :z1:
แต่ชอบพี่ฟ้าอ่ะ เหมือนเป้นพี่ชายใจดีของเค้กเลยอ่า น่าร๊ากกก :-[
-
หุหุหุ ตอนนี้พี่คิดหล่อแล้ว เค้กจะหวั่นไหวบ้างรึยังนะ
-
อร๊ายยยย น่ารักจัง :impress2:
พี่คิวจะให้เค้กทำอะไรน้าาาา อยากรู้ๆ 555
-
พี่คิวอ่ะ เก๊กจริงๆ เลย
สงสัยตัดแล้วแล้วคงหล่อขึ้นน่าดูเลยเนอะ
น้องเค้กถึงขนาดค้างเลยอ่ะ 555
-
แหมมมมมมมมม คุณพี่คิว(ปิด) นี่ซึนจริงอะไรจริงนะคะ
ท่าเยอะตลอดดดดดดดดดด หมั่นไส้ เชอะ :a14:
คอยดูนะได้เข้าใกล้กันอย่างงี้ หลงหนูเค้กขึ้นมาแล้วจะสมน้ำหน้าให้
น้องเค้กน่ารักมากเลยค่ะ ชอบจังเลย (หลงไปก่อนอิตาคิวแล้ว...) :-[
ขอบคุณสำหรับอีกตอนนะคะ คิว - เค้ก เริ่มขยับเข้าหากันอีกก้าวแล้วอ่ะ :กอด1:
ได้อ่านแล้วก็ยิ่งอยากอ่านอีก
-
:เฮ้อ:
คิวเจ้าเล่ห์นะยะ
-
พี่คิวอ่ะ น้องเค้กกลัวหมดแล้ว
-
:กอด1:
-
คิวแค่จะกวนเค้กไปวันๆ หรือว่าสนใจคิวมากกว่าน้องในร้าน
-
ยังมึนงงกับพี่ฟ้าว่ารุกหรือรับกันแน่หว่า
-
ทำไมไอพี่คิวโหดตลอดดดด
น่ากลัวอะ
พี่ฟ้าน่ารักมากๆ เหมือนพี่สาวเลย ^^
-
เอร๊ยยย แอบหวั่นใจแทนนู๋เค้ก
พี่คิวจะขอให้ทำอะไรล่ะนั่น o_0
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า ลุ้นอ่ะ 55555 ยังงัยก็บอกไม่ถูก รออ่านต่อจ้า ^_^
-
เอ่ออออ
พี่คิวแกล้งน้องตลอดเลยว่ะ
ซึยจริงๆคนนี้อ่ะ
น้องเค้กอย่าไปยอมม!!!
-
พี่คิวชื่อน่ารักนะเนี่ย
-
พี่คิวปิด คึคึ น่ารักอ่ะ :impress2: ปากร้ายใจดี สเป็กเลย :z1:
-
วันนี้พี่คิว กับพี่ฟ้าน่ารักจังเลย
อา หลานคู่นี้ ัมนน่ารักกันจริงๆเลย
เฮ้อ แต่เสียดายอ่า พี่คิวตัดผมอ่า พ่อหนุ่มผมยาวของเรา
-
+1 ให้จ้า
พี่คิวปิดนี่จะเรียกร้องค่าตอบแทนเกินไปละเปล่า :fcuk:
นู๋เค้ก สู้ ๆ ๆ พี่คิวปิดนะในกำมือ 555555 :really2:
รออยู่ :call: :call:
-
พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก
เรื่องนี้สนุกมากจริงๆ
จะรอตอนต่อไปนะคะ
-
เค้กเอ้ย สู้ๆ ขอให้พี่คิวหลงรักหัวปักหัวปำ แล้วเอาคืนเลยนะ 555
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ
-
เข้ามารออ่านตอนต่อไป :yeb: :yeb: :yeb:
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ :m1:
-
คิวจะขออะไรล่ะเนี่ย หึหึ
-
ไม่ไว้ใจพี่คิวเลยยยยยย
อย่าทำอะไรน้องเค้กเค้านะ
-
:z2: เต้นรอเบบี้
-
~10~
..สุธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
นักบริหารธุรกิจแนวหน้าของประเทศไทย ตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ได้รับการจัดอันดับให้รวยเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย จากผลสำรวจของนิตยสารเศรษฐกิจโลก นายสุธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ แต่งงานกับนางมาลินี สิทธิบดีทรัพย์ ลูกสาวคนเดียวของตระกูลพิเชษไชย อดีตผู้บริหารการธนาคาร WPBank นายสุธิชัยมีบุตรธิดาทั้งหมด 5 คน
..นายเกริกเกียรติ สิทธิบดีทรัพย์..
..นายศักดิ์สิทธิ์ สิทธิบดีทรัพย์..
..นางเมตตา สิทธิบดีทรัพย์..
..นางพราวพรรณ สิทธิบดีทรัพย์..
..นายเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
นายสุธิชัย เริ่มเติบโตด้วยธุรกิจจิลวารี่ เป็นที่รู้จักกันดีในนาม King Jewel ธุรกิจที่ทำรายได้ให้กับตระกูลของเขาอย่างมหาศาล บริษัท King Jewel ยังคงเป็นบริษัทการค้าจิลวารี่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย นายสุธิชัยเริ่มขยับขยายโดยการผันตัวมาเป็นนักธุรกิจทางด้านการนำเข้ารถจากยุโรป หุ้นส่วนรายใหญ่ในเครือของ Europe Group และเป็นเจ้าของธุรกิจในเครือต่างๆมากมาย อาทิเช่น..ฯลฯ
นายสุธิชัยเป็นที่จับตามองสำหรับวงการธุรกิจมาตลอด จนมาถึงรุ่นลูกและรุ่นหลานได้มีการสืบทอดกิจการงานต่อ ทำให้นายสุธิชัยเริ่มวางมือลงบ้าง แต่ตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ยังคงเป็นตระกูลนักธุรกิจแนวหน้าระดับประเทศ ที่ใครๆก็ต้องยอมรับในความสามารถและยังเป็นคู่แข่งขันที่น่ากลัวสำหรับวงการธุรกิจมาอย่างยาวนาน
“พระ เจ้า ช่วย” ผมได้แต่อุทานกับตัวเอง ตาเบิกโพรง ขนลุกไปทั้งแขน หลังจากที่ผมกลับมาจากร้าน ความสงสัยหลายๆอย่างยังมีอยู่ในหัวผม ความสงสัยที่ถามคนอื่นมากไม่ได้ นั่นหมายถึงความอยากรู้อยากเห็นในตัวของผมเอง ผมอยากรู้เรื่องของพี่ฟ้า พี่คิวและพี่เซ็นมากขึ้น ที่จริง..พี่ๆที่ร้านอาจจะตอบผมได้ แต่ผมคิดว่าระดับแนวหน้าอย่างพี่ฟ้า นามสกุลดังขนาดนี้ ในอินเตอร์เน็ตจะต้องมีข้อมูลอยู่อย่างแน่นอน
ผมนำชื่อของพี่ฟ้าที่ผมสามารถดูได้จากใบรางวัลที่โชว์อยู่ตามฝาผนังของร้าน เป็นรางวัลทางด้านการอาหาร มีทั้งชื่อของพี่คิว ชื่อของพี่เซ็น รวมถึงชื่อของพี่ฟ้าด้วย ด้วยความที่ผมอยากรู้เรื่องของพี่ๆเขาโดยส่วนตัว ผมแค่อยากรู้ไว้เป็นพื้นฐานมากกว่าที่พี่กัสเคยได้เล่าให้ฟังในวันนั้นเพราะผมจะได้ทำตัวถูก วางตัวถูก ไม่เผลอปล่อยไก่อะไรไปเมื่อเวลาที่ผมไปขอสัมภาษณ์พี่คิว และข้อมูลในการทำงานส่วนหนึ่งที่ผมจะต้องไปขอให้พี่คิวช่วยเหลือนั้น ผมคิดว่าผมควรจะรู้พื้นฐานเกี่ยวกับบริษัทนั้นไว้บ้าง เดี๋ยวจะโดนว่าเอาได้ว่าจะมาขอข้อมูลเขาเอาดื้อๆโดยที่ไม่คิดขวนขวายอะไรด้วยตนเองเลย
เริ่มแรกผมได้หาประวัติของโรงแรม SBT นี้ก่อน ทำให้ได้รู้ว่าคนที่ชื่อสุธิชัย ได้ยกให้คนที่ชื่อศักดิ์สิทธิ์ สิทธิบดีทรัพย์เป็นเจ้าของโรงแรม SBT แทนทั้งสองสาขา เมื่อผมเข้าไปหาประวัติก็ทราบได้ว่าคนที่ชื่อศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นลูกคนที่ 2 ของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ และยังเป็นพ่อของพี่คิวอีกด้วย
ส่วนพี่ฟ้าเป็นลูกคนเล็กสุดของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ ข้อมูลอื่นๆของพี่ฟ้าไม่มีมากนัก นอกจากที่ผมรู้เพียงว่าพี่ฟ้าเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและกระเป๋าในชื่อยี่ห้อ Cupid ส่งออกทั้งประเทศสิงค์โปรและฝรั่งเศส และวางอยู่ในห้างเครือในตระกูลของพี่น้องกันเอง และอีกหนึ่งกิจการก็คือการเป็นเจ้าของร้าน Cupid’s Bakery House นี่แหละครับ
~ตระกูลนี้ทำไมดูช่างยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามสำหรับผมซะเหลือเกิน ตกลงผมคิดถูกหรือคิดผิดครับเนี้ยที่ไปขอให้พวกพี่เขาช่วยให้ข้อมูลการทำโครงงาน 20 คะแนนของกลุ่มผม TOT~
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“งั้นเค้กไปบ้านพี่วันเสาร์นี้ได้ไหม” พี่ฟ้ายิ้มถาม
“เสาร์นี้ ที่บ้าน” ผมเลิกคิ้วมองหน้าพี่ฟ้า
“ใช่ ไปบ้านพี่..นะๆ”
“เอ่อ ไม่ดีมั้งครับ เค้กเกรงใจ..เอาไว้ถามพี่คิวตอนที่พี่คิวมาทำงานที่ร้านก็ได้ครับ” ผมบอก
“โหย รายนั้นแล้วแต่อารมณ์จะตาย” พี่ฟ้าพูดแกมบ่น
“งั้นถ้าเค้กไปวันเสาร์ พี่แกจะอารมณ์ดีงั้นเหรอครับ” ผมพูดยิ้มแหย
“อืม..” พี่ฟ้าทำหน้าคิดหนัก
“ไม่รู้อ่ะ” พี่ฟ้าตอบ
“ง่ะ”
“แต่พี่อยากให้เค้กไปบ้านพี่นี่ เดี๋ยวพี่โชว์ฝีมือทำกับข้าวให้กิน..ดีไหม” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ประโยคที่พูดทีเล่นทีจริงนี้กลับเป็นประโยคที่ทำให้ผมแทบปฏิเสธไม่ลง เพราะมันฟังดูจริงใจดีเกินไป
“น้า~” พี่ฟ้าทำเสียงอ้อนอีก นี่ถ้าไม่บอกว่าอายุสามสิบกว่าแล้ว ก็คงไม่มีใครทราบหรอกนะครับเนี้ย หน้าเด็กแถมขี้เล่นและยังขี้อ้อนอีกด้วย
“ให้เค้กขอพี่คิวก่อนได้ไหมครับ เค้กไม่อยากสุ่มสี่สุ่มห้าไป..กลัวพี่เค้าว่าเอา” ผมพูด
“ก็ได้” พี่ฟ้าพูด
“งั้น..ไปขอเลยๆ” พี่ฟ้าพูดพร้อมกับดันตัวผมเหมือนบอกให้ผมเข้าไปในครัว
“คร้าบ” ผมยิ้มแหย ขาก้าวเดินพร้อมมือผลักไปที่ประตูห้องครัว
“ขอโทษนะครับ” ผมพูด พี่คิวที่นั่งอยู่บนเคาร์เตอร์ที่มีไว้สำหรับวางอาหารหันมามองหน้าผม ในมือกำลังปลอกเปลือกแอปเปิ้ลอยู่
“มีไร” พี่เขาถามเหลือบมองหน้าผมเล็กน้อย จุดสนใจของผมตอนนี้อยู่ที่มือพี่คิวที่ยังคงขยับมือปลอกเปลือกแอปเปิ้ลอยู่ทั้งทั้งที่ตากำลังจับจ้องมาที่ผม ทำได้ยังไง..เทพอ่ะ
“เอ่อ คือ..วันเสาร์นี้ พี่ว่างไหมอ่ะฮะ”
“ว่าง” พี่คิวตอบส่งๆ
“งั้น..” ผมอ้าปากจะพูด
“แล้วไม่ทำงานรึไง” พี่คิวถามกลับเหมือนรู้ว่าผมจะพูดอะไร
“เลิกห้าโมงเย็นครับ” ผมตอบ พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่งแล้วหันกลับไปสนใจลูกแอปเปิ้ลต่อ ผมยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่เพื่อให้พี่เขาเห็นใจผม
“ห้าโมงครึ่ง ห้ามเลท..แม้สักวินาทีเดียว” พี่คิวพูดขึ้น
“ผม ผมเลิกห้าโมงเย็นนะครับ แล้ว..”
“ไง” พี่คิวหันมาเลิกคิ้วพร้อมแสยะยิ้มให้ผมเหมือนท้าทายผมอย่างนั้น
“ครับ!” ผมตอบกระแทกเสียง
“ขอบคุณที่กรุณา” ผมพูดส่งท้ายแล้วเปิดประตูออกจากครัวมาในทันที
“ฮื้มมมมม เฮ้ย” ผมทำเสียงด้วยความหงุดหงิด ไม่รู้จะไประบายที่ใครดี
“เป็นไงๆ” พี่ฟ้ารีบเข้ามาถามอย่างมีความหวัง พี่ซีหันมายิ้มสนใจด้วยอีกคน
“พี่เค้าบอกว่า ห้าโมงครึ่ง ห้ามเลทแม้แต่วินาทีเดียว..แล้วเค้กเลิกห้าโมงอ่ะพี่ฟ้า ดูพี่แกแกล้งเค้กดิ” ผมบ่นอย่างขอความช่วยเหลือ
“ไม่เป็นไร พี่ให้เค้กเลิกสี่โมงครึ่ง” พี่ฟ้าทำมือโอเคใส่ผมด้วย
“จริงนะครับ” ผมยิ้มกว้าง
“อ่ะฮะ สี่โมงครึ่ง..ก้าวขาออกจากร้านได้เลยทันทีครับ” พี่ฟ้ายักคิ้วบอก ผมพยักหน้ายิ้มรับ
“ไปทำงานดีกว่า” พี่ฟ้าทำท่าเดินเป็นนกเพนกวิน ส่ายหัวไปมาอย่างร่าเริงซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่เขาจะลิงโลดอะไรนักหนาละนะครับ แต่ก็ดีแล้วที่พี่เขามีน้ำใจกับผมมากขนาดนี้
“เดี๋ยวครับพี่ฟ้า” ผมเรียกไว้
“พี่..มีอะไรรึเปล่า” ผมถามเพราะรู้สึกแปลกใจในความร่าเริงมากเกินไปของพี่เขาไม่ได้
“เปล้า” ทำไมตอบเสียงสูงจังล่ะ
“หึ..” พี่ซีหัวเราะ
“อะไรเหรอครับ” ผมหันไปถามพี่ซี
“ไม่รู้ที่พี่คิดไว้มันจะถูกรึเปล่าอะนะ แต่บ้านนี้..ไม่มีใครที่พี่มองไม่ออก เท่าไหร่” พี่ซีพูดบอกด้วยหน้าตามีเล่ห์นัย
“แล้ว พี่ฟ้าเค้าเป็นแบบนี้หมายความว่าอะไรครับ” ผมถามอีก
“ไม่บอก” พี่ซีตอบพร้อมเดินหนีผมไปอีกคน
“ฮื้ม..แต่ละคน” ผมส่ายหัวและได้เพียงแต่พยายามบอกตัวเองว่าให้ "ทำใจ" ไว้ล่วงหน้า เพราะผมควรจะปรับตัวและทำความเข้าใจในทุกๆวันเพื่อให้ความสงสัยในความคิดของผมไม่มากขึ้นไปกว่านี้สินะครับ ผมควรจะทำ..เพื่อความสบายของสมองของตนเอง
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ เวลา 17:25 น.
“เยส!!” ถึงบ้านพี่ฟ้าโดยสวัสดิ์ภาพ ขอบคุณที่โชคช่วยทำให้ผมไม่หลงทาง ดีที่แถวนี้มีแต่บ้านที่มีลักษณะที่แตกต่างกันไป มีจุดทำให้สังเกตได้มากมาย ขอบคุณพี่ฟ้าอีกคนที่บอกทางผมอย่างละเอียดมากทีเดียว
ติงต๊อง~
“มาแล้วค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งตัวด้วยผ้าถุงสีน้ำเงินกับเสื้อยืดสีขาวกุลีกุจอวิ่งมา
“มาหาใครเหรอคะ” เธอถาม
“มาหาพี่คิวนะครับ” ผมบอก
“อ๋อ เชิญค่ะ” เธอพูดแล้วเปิดประตูให้ผมเข้าไป
บ้านของพี่ฟ้าช่างแตกต่างจากบ้านที่อยู่บริเวณนี้ พอเข้ามาในบริเวณบ้านพบว่าต้นไม้เยอะมากกว่าที่เห็นด้วยตาเพียงข้างนอกซะอีก หญ้าสีเขียวชอุ่มเหมือนได้รับการดูแลอย่างดี รถสปอร์ต รถเก๋งและรถตู้จอดเรียงอยู่นับสิบคัน บริเวณบ้านคลาสสิกมากอย่างกับผมได้เข้ามาอยู่ในนิตยสารบ้านยังไงอย่างนั้น โครงสร้างบ้านไม่ได้ดูหรูหราโอ่อ่าเหมือนบ้านหลังอื่นๆในแถบนี้ แต่กลับดูขลัง มีสไตล์และมีความคลาสสิกอยู่ในตัวของมันเอง
“เชิญค่ะ” เธอผายมือให้ผมเดินตามเธอเข้ามาหลังจากที่ผมถอดรองเท้าเปลี่ยนเป็นรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว
“รอที่ห้องนี้ก่อนนะคะ เชิญตามสบายค่ะ..เดี๋ยวจะไปตามคุณคิวให้ค่ะ” เธอยิ้มพูดอย่างมีมารยาท ผมพยักหน้า เดินไปนั่งที่โซฟา ห้องนี้น่าจะเป็นห้องสำหรับต้อนรับแขก เพราะพอเดินเข้ามาในบ้านก็พบห้องนี้ก่อนเป็นห้องแรก ในบ้านแต่งสไตล์คล้ายกับที่ร้านนิดหน่อย มีความคลาสสิกมาก ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นสไตล์บ้านแบบอิตาเลียน ทั้งข้าวของเครื่องใช้ เครื่องประดับและการตกแต่งต่างๆเหมือนแบบที่ผมเห็นในหนังสือเลยละครับ
“หึ..ไอ้อาบ้านั่นปล่อยให้ออกมาก่อนเวลาเลิกงานละสิ” ผมหันไปมองตามเสียง พี่คิวแสยะยิ้มยืนล้วงกระเป๋าอยู่หน้าประตูห้องรับแขก ผมรีบลุกขึ้นยืน
“ก็พี่เล่นไม่ซื่อกับผมก่อนทำไมล่ะ” ผมย้อนตอบ มองพี่คิวตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้พี่เขาแต่งตัวในชุดอยู่บ้านธรรมดา กางเกงขายาวสีขาวกับเสื้อยืดสีดำ ดูแปลกตาสำหรับผมมากเพราะผมไม่เคยเห็นพี่เขาแต่งตัวแบบนี้มาก่อน
“แต่มาก็ดีละ มาถูกเวลาพอดี..วางกระเป๋าไว้นี่แหละ ตามมา” พี่คิวสั่ง ผมรีบวางกระเป๋าลงบนโซฟาแล้วเดินตามพี่คิวไป พี่คิวเดินตรงไประหว่างทาง ผมมองสำรวจบ้านไปทั่ว ผมและพี่คิวหยุดยืนอยู่ในห้องครัวห้องหนึ่ง มันสวยมากเลยละครับ ห้องครัวในฝันเลยล่ะ
“ยิ้มไร” หลุดออกจากฝันทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงแข็งกร้าวนั่น
“ยิ้มให้ห้องครัว” ผมหุบยิ้มลง เป็นห้องที่ไว้สำหรับการทำเค้กเลยก็ว่าได้ อุปกรณ์ต่างๆที่วางเรียงอยู่เป็นระเบียบเรียบร้อยดีมาก สะอาดตาไปหมดทุกอย่าง พื้นห้องครัวเป็นแค่ปูนที่ถูกฉาบด้วยสีเทาขุ่นธรรมดาที่ดูไม่ธรรมดาเลยเพราะมันเข้ากับงานไม้ที่เคาร์เตอร์อย่างมาก
“หอมจัง” ผมรีบก้าวขาเดินตรงไปใกล้เคาร์เตอร์กลางห้องครัวมากขึ้น บนนั้นมีคุกกี้ที่อบเสร็จแล้วอยู่เต็มเคาร์เตอร์ไปหมด
“อะไรของนาย” พี่คิวว่า คงเพราะผมก้มหน้าเข้าไปใกล้คุกกี้จนหน้าแทบจะติดคุกกี้อยู่แล้ว
“ก็มันหอมนี่” ผมเงยหน้าบอก
“เดี๋ยวน้ำลายก็หกลงไปในคุกกี้หรอก” พี่คิวว่ายิ้มๆ ผมเลยต้องเงยหน้าขึ้นยืนเป็นปกติอย่างช่วยไม่ได้
“อ่ะ..” พี่คิวยื่นถุงมาให้ผม ผมรับมาอย่างสงสัย
“เอาคุกกี้ใส่ถุงซะ ถุงละหกชิ้น..ทำเสร็จเมื่อไหร่ เราค่อยเริ่มงานของนายกัน” พี่คิวพูดจบก็เดินสะบัดตูดออกจากห้องครัวไปทันที
“โห ไอ้นี่” ผมบ่นคนเดียว มองคุกกี้ที่อยู่ในถาดใหญ่ถึงหกถาด ถุงที่พี่คิวเอามาให้ผมเมื่อกี้เป็นถุงขนาดเล็กพอประมาณ ถ้าใส่คุกกี้ไปหกชิ้นและถ้ามัดปากถุงแล้วมันคงออกมาน่ารักน่าดู ผมรีบเลื่อนเก้าอี้มานั่งและตั้งอกตั้งใจทำงานทันที
~ห้องครัวสวย ไม่เคยเห็นจริงๆแบบนี้มาก่อน คุกกี้น่าทาน แถมในห้องมีแต่กลิ่นนมเนยหอมสบายปอดขนาดนี้ ทำงานสู้ตายเลยครับ..คึคึ~
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป..
“คุณคะ” ผมหันไปมองป้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องครัว
“คุณคิวเรียกให้ออกไปพบค่ะ งานในนี้..พอได้แล้วค่ะ” ป้ายิ้มบอก
“อ๋อ อีกนิดเดียวจะเสร็จแล้วอ่ะครับ” ผมยิ้มตอบให้เธอ
“ไปเถอะนะคะ” ป้ายิ้มเจื่อนเหมือนกับกลัวอะไรสักอย่าง
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“แล้ว..” ผมหันไปมองหน้าป้าอย่างขอความช่วยเหลือ ไปทางไหน ไปตรงไหน อะไรยังไงครับคุณป้า บ้านใหญ่ขนาดนี้..หนูงง
“เดี๋ยวป้าพาไปค่ะ” ป้าบอก ผมพยักหน้ายิ้มตอบ ป้าเดินนำไปตามทางเป็นช่องเล็กๆ ความกว้างน่าจะประมาณเมตรครึ่ง เป็นทางตรงเหมือนมุ่งออกไปยังนอกบ้าน
“คุณคิวคะ” ป้าเรียกด้วยน้ำเสียงหวานซะไม่มี พี่คิวที่นั่งจิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์หันมามอง
“ป้าช่วยไปทำต่อด้วยนะครับ” พี่คิวพูดเหมือนรู้ว่าผมยังทำไม่เสร็จอย่างนั้นละครับ
“ค่ะ” ป้าตอบ
“นั่งสิ” พี่คิวพยักหน้าส่งๆ ผมหันไปเห็นกระเป๋าของผมที่ได้วางไว้ที่โซฟาที่ห้องรับแขกนั้น ตอนนี้มันมาวางอยู่บนเก้าอี้ในสวนนี่แทน
ผมมองไปรอบๆสวน สวนสวยจนแทบหาที่ติไม่เจอ มันสุดยอดมากจนไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือบ้านที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
“เอาสิ นั่งมองอะไรล่ะ” พี่คิววางแก้วกาแฟลง ผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาเพราะพี่เขาดูจริงจังเป็นทางการเกินไป
“คือ..ผม” ผมรีบหยิบกระเป๋ามาเปิดออกหาสมุดที่เตรียมไว้อย่างลุกลีลุกลน
“ยังไง” พี่คิวถามขึ้นโต้งๆ
“อะไรครับ” ผมถามกลับเพราะไม่เข้าใจ
“งานน่ะ..เกี่ยวกับอะไร ยังไง..อธิบายมาสิ”
“ผม..พูดได้เหรอ” ผมพูดตาโต ไม่น่าเชื่อแฮะว่าพี่เค้าถามข้อมูลของงานผมก่อนด้วย
“ก็แล้วแต่” พี่คิวเบะปาก
“งั้นก็ควรพูด” ผมยักไหล่กวนกลับบ้าง พี่คิวเงียบไป ผมตั้งสติรวบรวมข้อมูล
“คือเอ่อ โครงงานนี้เป็นของวิชาการจัดการ ซึ่ง..ต้องเกี่ยวกับบริษัท โรงแรมหรือไม่ก็ผลิตภัณฑ์ เป็นโครงงานที่เหมือนให้นักศึกษาได้รู้จักวิเคราะห์มากกว่าการค้นหาข้อมูลอะไรประมาณนี้อ่ะครับ คือ..เป็นโครงงานระยะยาว ให้เวลาหาข้อมูลประมาณเดือนนึง” ผมอธิบาย
“ถ้าพี่มีเวลาว่างบ้าง ผมก็อยากจะรบกวนพี่เป็นระยะไป..”
“อือฮึ” พี่คิวพยักหน้ารับ
“ซึ่งเรื่องโรงแรม SBT ที่พี่ทำงานอยู่ มันค่อนข้างตรงตามเป้าหมายที่ผมอยากได้” ผมบอกตรงๆ
“ทำไมไม่ถามอาบ้านั่นล่ะ มีทั้งแบรนด์เสื้อผ้าให้นายเลือกทำ หรือไม่ก็..ร้านอาหารนั่น ไม่ง่ายกว่ารึไง” พี่คิวพูดเหล่ตามองไปทางอื่น
“มันไม่น่าสนใจสำหรับผม ผมอยากทำอะไรที่ผมสนใจน่ะครับ..จบแล้วผมอยากทำงานด้านโรงแรม ถ้า..มันเป็นไปได้อะนะครับ เลยอยากจะมีความรู้รอบตัวไว้บ้าง” ผมบอก
“.................” พี่คิวนั่งเงียบแต่ตาไม่ได้มองมาที่ผม
“แล้ว อยากรู้อะไรล่ะ” พี่เขาถาม
“ข้อมูลที่ผมหามาได้มีแค่ประวัติย่อๆของโรงแรมอ่ะครับ” ผมหยิบให้พี่คิวดู
“ผมอยากจะรู้จุดมุ่งหมายของโรงแรมก่อน อย่างเช่น..วิสัยทัศน์อะไรประมาณนี้” ผมบอก เพราะจากข้อมูลที่หาในอินเตอร์เน็ตได้มีแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมันไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ อีกทั้งยังไม่มีบอกหลักการตลาดของโรงแรมด้วย
พี่คิวเงียบไปสักครู่ เอนตัวมาเท้าแขนลงบนโต๊ะ ผมตั้งหน้าตั้งตารอฟัง ในมือถือปากกาเตรียมพร้อมจด
“คือการคงความมีคุณภาพและสร้างมาตรฐานให้มากขึ้นไป” พี่คิวพูดขึ้น ผมรีบจดตาม
“โรงแรมของเรามีลูกค้าชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะ และในเวลาเดียวกัน..ก็มีลูกค้าชาวไทยที่ค่อนข้างมีฐานะเยอะด้วย ก็ประมาณว่าตอบสองแต่คนมีฐานะน่ะนะ” พี่คิวพูดส่งๆ
“ตรงนี้เลยกลายเป็นฐานสำคัญที่ต้องประคับประคองไว้ให้ดีอยู่ตลอดเวลา..ละมั้ง” พี่คิวว่าทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง ผมเงียบ พี่คิวเองก็ด้วย
“โรงแรมมุ่งเน้นไปด้านอาหาร และก็ความสะดวกสบายของห้องพัก..ซะส่วนมาก” พี่เขาพูดเสริมก่อนจะเงียบลงอีกครั้ง
“มองไร” พี่เขาถาม ผมชะงัก
“เปล่า แค่คิด..” ผมตอบ
“ว่าหน้าตาพี่ เหมือนไม่เต็มใจจะพูดเท่าไหร่”
“หึ..” พี่คิวหัวเราะออกมา เป็นการหัวเราะที่ไม่ได้แสยะอย่างกวนอารมณ์อย่างก่อนหน้า พี่เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อีกครั้ง
“ว่าไงเด็กๆ~” ผมกับพี่คิวหันไป พี่ฟ้าเดินยิ้มมาแต่ไกล
“เย็นนี้เค้กอยู่กินข้าวที่บ้านพี่นะ เดี๋ยวพี่ให้คิวขับรถไปส่ง” พี่ฟ้าบอก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เหอะๆ..เกรงใจ” ผมตอบ พี่คิวยังคงนั่งก้มหน้าก้มตา
“อยู่กินเถอะน่า..งั้นเดี๋ยวพี่เข้าไปทำกับข้าวในครัวดีกว่า นั่งคุยกันต่อละกัน” พี่ฟ้าสรุปเองสรรพพร้อมกับตบไหล่ผมกับพี่คิวเบาๆก่อนจะเดินไป ตอนนี้จึงเหลือเพียงเราสองเหมือนเดิม และดูเหมือนอารมณ์ค่อนข้างขาดตอนไปนิดหนึ่ง
“หมดอารมณ์” พี่คิวพูดน้ำเสียงเนือยๆ
“งั้น..วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้นะครับ” ผมบอกอย่างเกรงใจ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เมื่อกี้พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงไม่ดีนัก และผมก็ไม่อยากทำให้พี่เขารู้สึกแย่ถ้ายังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูล ใจเค้าใจเรา..เกรงใจนะครับ
“.................” พี่คิวเงียบเหมือนเดิม พี่เขาหันหน้ามองไปทางนู้นที ทางนี้ทีเหมือนหาทางออกให้ตัวเอง
“เอ่อ ถ้าพี่..ลำบากใจจะให้ข้อมูลผม ก็ไม่เป็นไรนะครับ ผม..ทำงานอื่นก็ได้” ผมพูดบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ทำไม ฉันดูไม่พอใจนายขนาดนั้นเลยรึไง” พี่คิวหันมาถามด้วยหน้าตาหาเรื่อง
“เปล่า..เหมือนพี่ ดูไม่สบายใจที่จะให้ข้อมูลกับผมมากกว่า..สำหรับผมแล้วงานของผม มันคงจะเล็ก ถ้าเทียบกับปัญหาของพี่อะนะครับ” ผมยิ้มหน่อยๆแล้วเก็บเอกสารใส่กระเป๋าเข้าอย่างเดิม พี่คิวเงียบไป
“จะไปไหน” พี่คิวถาม
“กลับ” ผมยิ้ม
“ไม่พอใจเหรอ”
“เปล่า ผมดูเหมือนไม่พอใจงั้นเหรอ” ผมยิ้มแทบจะหัวเราะ ย้อนประโยคเดียวกับที่พี่คิวเคยพูด
“ไม่รู้..” พี่คิวตอบหน้านิ่งพร้อมกับหันหน้าหนี
“อาบอกให้อยู่กินข้าว ก็อยู่ก่อนสิ” พี่คิวบอก ผมยืนนิ่ง มือถือกระเป๋าเตรียมไว้แล้ว
“ไม่งั้น นายคงจะเสียมารยาทซ้ำแล้วซ้ำอีก” พี่คิวเบะปากพยักหน้างึกงักก่อนจะหันมายักคิ้วใส่ผม ผมยิ้มตอบ กลับนั่งลงอย่างเดิม
“มีใครเคยบอกพี่ไหม ว่าพี่กวน..ทีน” ผมยิงฟัน พูดบอกตรงๆ
“แล้วนายคิดว่า มีน้อยไหมล่ะ” พี่คิวย้อนอมยิ้ม
“น่าจะไม่ต่ำกว่ายี่สิบ” ผมตอบ
“เกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เคยเจอมาเลยล่ะ” พี่เขาหัวเราะ เสียงหัวเราะและเสียงพูดหายไปชั่วขณะหนึ่งหลังจากนั้น ผมเหลือบมองหน้าพี่คิวอีกครั้ง พี่เขานั่งตาลอยเหมือนความคิดไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้
ที่จริง..พี่เขาคงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่พี่ๆที่ร้านบอกจริงๆละมังครับ ยิ้มก็เป็น..พูดเล่นก็เป็น ผมคงไม่ใช่คนแรกที่โดนพี่เขากวนอารมณ์ใส่..มันคงเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
“พี่..เป็นเชฟมานานแล้วเหรอ” ผมถามขึ้น พี่คิวหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง
ผมคิดว่า ผมควรจะเริ่มเข้าหาพี่เขาก่อนถ้าผมต้องการให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้น ความอคติที่ผมมีให้ต่อพี่เขานั้นจะพังทลายลงได้ง่ายๆ เพราะผมไม่ได้สร้างกำแพงนั่นอย่างแข็งแรงเท่าไหร่นัก ผมพร้อมจะเปิดรับและให้อภัยสำหรับทุกอย่าง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ อดีตที่ไม่ค่อยลงรอยที่ผ่านมาก็แทบไม่มีความหมายสำหรับผมเลย
“สามปี” พี่คิวตอบ
“ไม่นานนี่ แต่หน้าพี่แก่ต่างหาก” ผมแซว
“กวน” พี่คิวว่า
“อ่านะ..”
“แล้วนายล่ะ ชอบเค้กเหรอ ได้ข่าว” พี่คิวพูด
“จากใคร” ผมถาม
“ก็..ทุกคน”
“อื้ม ชอบมากเลยล่ะครับ มันน่าหลงใหล..ให้ความรู้สึกเหมือนเห็นเด็กยิ้ม มันทำให้ผมมีความสุขน่ะ” ผมยิ้มตอบ
“พูดดูดีนี่” พี่เขาแซวกลับ
“แต่..ผมไม่ค่อยได้กินเค้กแพงๆสักเท่าไหร่หรอก เพิ่งได้กินตอนมาอยู่ที่ร้านนี่แหละ”
“เหรอ” พี่คิวพยักหน้าเหมือนรับรู้
“แล้ว..ชอบเค้กอะไรที่สุด ในร้าน” พี่คิวถามอีก
“เอิ่ม ชอบเค้กชิฟวนิลลาที่พี่เซ็นทำ..แล้วก็ ชอบชีสเค้กฟักทองที่พี่ทำ” ผมตอบน้ำเสียงเริ่มเบาลงในตอนท้าย อยู่ๆก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมาที่จะพูดชมออกไปตรงๆ
“แล้วเค้กของไอ้เซ็น กับไอ้เซ็นนี่ชอบใครมากกว่ากัน” พี่คิวถามส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเหมือนกำลังจับผิดผม
“เค้กสิครับ พี่เห็นผมเป็นอะไร จับผิดอยู่ได้ทุกรอบ” ผมอดบ่นไม่ได้
“หึ..ใครจะไปรู้ นายอาจจะหลงกลมันเหมือนเด็กมันคนอื่นๆก็ได้” พี่เขาเบะปาก
“อย่าเที่ยววัดค่าคนอื่นด้วยมาตรฐานของตัวเองสิครับ” ผมเลิกคิ้วกวน พี่คิวไม่โต้ตอบอีก เราต่างเงียบกันอีกครั้ง
“บ้านพี่สวยดีนะ” ผมเปลี่ยนเรื่องชวนคุย
“ไม่ใช่บ้านฉัน บ้านคุณเจ้าของร้านนู่น” พี่คิวบอก
“อยู่กันแค่สองคนเหรอครับ” ผมถาม
“อื้ม” พี่คิวพยักหน้า
“ดีนะครับ บ้านสวยดี..ผมก็อยากมีบ้านแบบนี้บ้างจัง” ผมพูดลอยๆไปงั้นเอง อยากได้..แต่รู้อยู่แล้วว่าคงไม่มีทางได้หรอก
“สำคัญที่คนอยู่น่ะ” พี่คิวพูด
“นั่นสินะครับ” ผมบอก
“คุณคะ..คุณฟ้าตามให้ไปรับโทรศัพท์ สายจากคุณพ่อค่ะ..ทราบว่า น่าจะเป็นเรื่องของคุณท่าน” ป้าแม่บ้านคนเดิมที่พาผมมาหาพี่คิวเมื่อกี้เดินมาบอก
“ขอบคุณครับ” พี่คิวตอบ ป้าเธอก้มหัวให้อย่างนอบน้อม
“เข้าไปในบ้านสิ” พี่คิวบอกผม
“เอ่อ เดี๋ยวครับป้า..พาเข้าครัวไปหาอาที” พี่คิวพูดสั่งป้าแม่บ้าน พี่คิวคงหมายถึงให้ผมไปหาพี่ฟ้า ผมลุกขึ้นยืนเดินตามป้าแกไป
ผมช่วยพี่ฟ้าทำอาหารเย็น มีอาหารห้าหกอย่างซึ่งเป็นอาหารไทยทั้งหมด พี่ฟ้าเป็นคนทำ มีลูกมือเป็นผู้หญิงคนที่ออกไปต้อนรับผมตอนที่ผมมาถึงบ้านที่ชื่อว่าป้านิดช่วยเตรียมเครื่องเคียงไว้ให้ เราช่วยกันทำอาหารจนเสร็จ เย็นนั้นผมทานอาหารกับพี่ฟ้าและพี่คิวครั้งแรก จากที่รู้สึกตื่นเต้นเมื่อตอนตั้งโต๊ะซึ่งผมเองไม่ทราบว่ามารยาทบนโต๊ะอาหารของพวกไฮโซเขานั้นต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง แต่พี่ฟ้าทำให้ผมผ่อนคลายลงได้ เพราะพี่ฟ้าชวนผมคุยตลอดเวลา พี่คิวหัวเราะบ้างบางครั้ง ซึ่งหมายความว่า ยังดีที่พี่เขาหัวเราะบ้างนานครั้ง
ตกหัวค่ำ..พี่ฟ้าให้พี่คิวไปส่งผมที่บ้าน พี่คิวไม่มีทีท่าหงุดหงิดต่างจากทุกทีที่เราต้องทำอะไรร่วมกันอย่างไม่เต็มใจนัก ระหว่างทางเราคุยกันบ้าง ส่วนมากจะเป็นผมที่เปิดประเด็นและเป็นฝ่ายซักถามซะมากกว่า เมื่อพี่คิวส่งผมถึงบ้าน..ผลตอบรับกลับดีอย่างที่ผมไม่ได้คาดคิดไว้ และนั่นทำให้ผมรู้สึกได้ว่า พี่เขา..ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
“ขอบคุณนะครับ” ผมบอก
“อืม..” พี่คิวพยักหน้าตอบ
“วันพุธ..” ผมชะงักพร้อมกับเปิดประตูออกแล้ว
“หลังบ่ายสาม ฉันว่าง..ถ้านายว่าง ก็ไปที่บ้านแล้วกัน” พี่คิวบอก
“ขอบคุณครับ ผมว่างหลังบ่ายสามพอดี..แล้วผมจะไป”
“ขอบคุณอีกครั้ง ที่..กรุณา” ผมกวนทิ้งท้าย พี่คิวอมยิ้ม ผมลงจากรถ ยืนรอส่งจนพี่คิวขับรถออกจากซอยไป
~ใช่..วันนี้มันก็ไม่แย่นักละนะไอ้คุณเค้ก~
.................>>>><<<<..................
-
Ummm~~sanyaan dii maa laew!!!!
-
อิอิ
คิวทำตัวดีขึ้น น่ารักจัง
-
เค้กของพี่คิวอร่อยคะ พี่คิวอย่าลืมชิมเค้กนะคะ 555
รักเบบี้
Baby baby baby ohhhh
-
เริ่มแล้วละสิ o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3
-
ความสัมพันธ์ที่ดีอีกหนึ่งขั้น... :impress2:
-
เหมาะสมกันจริงๆคู่นี้ o3
-
อะไรทำให้พี่คิวทำตัวดีขึ้นล่ะคะเนี่ยะ อิอิ
-
พี่คิวเลิกอคติกับน้องเค้ก
แล้วใช่ใหม....?
อ๊าย..!! น้องเค้กน่ารัก
-
ไม่ใช่ว่าไม่แย่นะเค้ก แต่ต้องจัดว่าดีทีเดียวละ
-
หึหึพี่คิว
เริ่มใจอ่อนแล้วสิ
-
มันจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆๆ ใช่มะ อยากให้หวานกันเร้วๆๆ จัง คงหวานกว่าเค้กที่ทำ
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
อ่า เริ่มปรับ ๆ ตัวเข้าหากันได้บ้าง นิสสสสสสสนึง
พี่คิวถ้าจะมีปมในชีวิตเยอะนะเนี่ย เครียดเกิ๊น
น้องเค้กยังคงน่ารักเช่นเดิม คุณอาฟ้าก็น่ารัก
สงสัยแอบหนับหนุนน้องเค้กให้หลานป่ะเนี่ย :L2:
-
:L2:
-
พี่คิวยิ้มบ่อยนะช่วงนี้ :impress2:
:pig4: คะ
-
พี่คิวเริ่มยิ้มบ่อยขึ้นน้า :-[
-
ครอบครัวนี้เค้าคิดอะไรกันน่ะ อยากรู้บ้าง :impress2:
-
ตอนนี้มันก็ไม่ได้หวานอะไรมากมาย แต่ทำไมตูเขินฟะ!? :o8:
-
5 5 5 ใจอ่อนกับความน่ารักของเค้ก แล้วซิ่ พี่คิว :))
:o8:
-
เหมือนอคติค่อยๆ หายไป
-
ว้าว ว้าว....เริ่มดีขึ้นตามลำดับ อิอิ :impress2:
เอาใจเชียร์ต่อไป :a11:
ขอบคุณสำหรับความคืบหน้าอีกตอนค่ะ :กอด1:
-
o18 o18 พี่คิวเม่ง...กวน.... :laugh:
น้องเค้กสู้ๆนะคะ :3123:
-
คิวเหมือนจะน่ารักขึ้น มีความหลังอะไรกับเซ็นรึเปล่า
เค้กน่ารักเสมอ
:กอด1: :pig4:
-
คิวเข้าใจยาก แอบมึนนิดๆนะนี่ :z2:
ชวนแล้วขนาดนี้
มีใจให้น้องเค้กแล้วใช่มั้ย :z2:
***
คิว :z6:
อิชั้น :sad4:
-
ตอนนี้พี่คิวน่ารักขึ้น :o8: :o8: :o8:
-
:impress3: พี่คิวดีขึ้น(นิดนึง)ก็ดี
-
:กอด1:
-
เริ่มน่ารักอิ๊อ๊ะแล้วสินะะ
หุหุ
อั้ยย่ะ ,, พี่คิวงดดุ หน่อยยย
น้องกลัวจะแย่แล้วๆๆๆ
^^
-
ทำตัวดีๆ ก็เป็นนี่หว่าพี่คิวเนี่ย 5555555+
-
ดูคุยกันเป็นผู้เป็นคน ได้เรื่องได้ราวขึ้นมาหน่อย
คิวนะคิว เริ่มเห็นความน่ารักของเค้กแล้วสิ
-
เข้ามาแปะโป้ง...แล้วจะมาตามอ่านให้ละเอียดอีกรอบ
คิวก็น่ารักดีนะ อย่างน้อยก็ให้ความร่วมมือเค้กดีกว่าที่คิด
-
สนุกมากมายเลย ช๊อบชอบที่สุด อยากให้เบบี๋มาต่ออีกแบบนี้
อย่าหายไปนานนะ ดูแลสุขภาพด้วยละ :pig4:
-
ขยันเหวี่ยง
+1
-
อ่อนลงแบบนี้อยากสานสัมพันธ์กับน้องเค้กแล้วใช่ไม๊..เชฟคิว^^
-
พี่คิวก็แอบน่ารักนะเนี่ย :o8:
แต่ที่น่าสนใจคือเค้กทำให้พี่คิวเค้ายิ้มได้นะจ๊ะ :-[
-
พี่คิวต้องมีอดีตฝังใจแน่ๆเลยอ่ะ
ดูๆไปก็น่ารักดีนะ อิอิ
-
:-[ :-[ :-[ :-[
พี่คิวก้น่ารักนิน่า
สงสัยจะเริ่มชอบเค้กแล้ว เพราะน้องเค้กน่ารักกกกกกก
หุหุ
-
ขอให้วันพรุ่งนี้เ่ป็นวันที่ดียิ่งๆขึ้นไปนะคะ o13
-
ตระกูลพี่ฟ้ากับพี่คิวนี่รวยเลิศเลอเพอร์เฟคจริงๆ
พี่คิวนี่นิสัยเหมือนเด็กเอาแต่ใจเลยอ่ะ กระชับความสัมพันธ์ขึ้นบ้างแล้ว
:-[
-
อร๊ายยย~ พี่คิวน่ารักขึ้น น่ารักขึ้น น่าร้ากขึ้นนน
:-[ :impress2: :-[ :impress2:
o13 o13
-
อาหลานคู่นี้ รวยมากกกกกก
พี่คิว ชอบนิสัยพี่คิวจัง ดูเป็นคนที่น่าค้นหาดีอะ ดูมีไรให้น่าติดตามดี
แถมยัง น่ารักอีก :-[ น่ารักจริงๆนะ
พี่ฟ้า ก็น่ารัก ตกลงคิดไรกะน้องเค้กป่าวเนี้ย
หรือจะเก็บน้องเค้กไว้ให้คุณหลานชาย คิคิ
ปล.. เราชอบผู้ชายทำอาหารเป็นที่สุดในโลกเลย o13
-
เหยยยยย ตอนนี้น่ารักจังเลยยยยย
พี่คิวกับเค้กกวนกันแบบน่ารักๆ
ว่าแต่นี่พี่ฟ้าจะทำตัวเป็นพ่อสื่อพ่อชักเหรอคะ ฮาๆๆๆๆ^^
สนิทกันไวๆน้าาาาา
-
พี่คิว!!! ><
พี่จะหายอคติกับน้องเค้กแล้วใช่มั้ย!!?!! เริ่มเอ็นดูน้องขึ้นมาแล้วล่ะซี่ อิอิอิ
ครอบครัวพี่ๆตระกูลนี้มีอะไรเยอะแน่เลย พี่คิวถึงไม่อยากพูดเรื่องกิจการมากนัก เกี่ยวมั้ยหว่า?
-
พี่คิวเป็นพวกมะนาวไม่มีน้ำจริงๆเลยน๊า
พูดเฉพาะที่อยากพูด พูดแต่ส่วนสำคัญ ไม่มีเกริ่นนำใดๆทั้งสิ้น
ไม่สนด้วยว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง และเมื่อหมดอารมณ์ก็จะเลิกพูดทันทีแบบไม่สนใจโลก
ช่างเป็นผู้ชายที่... มีจุดยืนของตัวเองสูงลิบลิ่วมากกกกกก :laugh:
-
รักกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o18
-
คิวทำตัวเป็นคนปกติเป็นด้วย หุๆ
-
:impress3:
น้องเค้ากลัวหมดแล้วหละคะพี่
-
มันเป็นไปในทางที่ดีขึ้นนะ :กอด1:
-
เริ่มสนิทกันแล้วนะ
จากพี่คิวขี้เหวี่ยง ยิ้มยาก
ก็เริ่มคุยง่ายขึ้น ยิ้มบ่อยขึ้นนะคะ
เยี่ยมไปเลยน้องเค้ก o13
-
พี่คิวเองก้เริ่มเปิดใจแล้วนะเนี่ย
-
โอยยยยย รู้สึกว่าตัวเองใจง่าย เริ่มหลงรักพี่คิวแล้วอ๊าาา >//<
-
พี่คิวน่ารักขึ้นนะเนี่ย
-
โอ้ย ย ยย อ่านไปยิ้มไป ปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้วอ่ะ ตอนนี้ กรี๊ด ๆ ๆ
ชอบพี่คิวสุดๆ ไปเลยค่ะตอนนี้อ่ะ พี่คิวต้องแอบสนใจน้องเค้กแล้วละสิ คริๆ ๆ ๆ ๆ
งานนี้มีลุ้นสุดๆไปเลย อ้ายยย อ่านแล้วอยากจะกรี๊ดๆ ที่ถามแบบนั้นน่ะ เพราะแอบหึงพี่เซ็น
รึเปล่าค่ะ ต้องรีบๆนะงานนี้อ่ะ ไม่งั้นจะเสียใจนะคะ มีคุณอาสุดที่รักค่อยช่วยทั้งคน เป็นใจ
ซะขนาดนี้ เค้กก็น่ารักดีจริงๆเลย กวนกันไปกวนกันมา ป้าขอกรี๊ดสิบตลบเลยอ่ะ ชอบจัง
เลยเวลาน้องเค้กอยู่กับพี่คิวสองคนอ่ะ เห็นม่ะละมีนัดกันอีกแล้วอ่ะ (เหมือนนัดไปเดทซะไม่มีเลย เขิลแทนเลยอ่าาาา)
สุขสันต์วันลอยกระทงนะค่ะ จุ๊ฟ ฟ ฟ ฟ
-
อ่านไปยิ้มไป มีความสุขจัง
:-[
-
เริ่มดีกันแล้ว ^_^
สงสัยว่าพี่ฟ้าจะเป็นแม่สื่อให้พี่คิวกะเค้กหรือเปล่า
-
ดูเหมือนจะดีขึ้น :-[
-
ชอบฟ้าอ่ะ ...เป็นเรื่องแรกที่อ่านนิยายของเบบี้แล้วกลับชอบตัวละครรองมากกว่าคู่หลักอ่ะ เหอะๆ
:pig4: :กอด1:
-
รู้สึกว่าน่ารัก
เค้กน่ารัก พี่คิวทำตัวน่ารักกับน้องเค้ก
พี่คิวอมยิ้ม แอร๊ยยยยย
-
เริ่มเป็นนิมิตหมายที่ดีล่ะเค้ก
-
+1 น้องเค้ก น่ารัก อ่ะ พี่ฟ้ามีแผนใช่ไหมล่ะ :z2: :z2:
-
พี่คิวเริ่มมีปฎิสัมพันธ์ละ 555 น้องเค้กตอนนี้ไม่ชอบพี่คิวที่เป็นแบบอีกหน่อยไม่น่าจะรอด
ไอไม่ชอบๆนี่เห็นไม่น่ารอดสักรายอ่ะ แต่พี่คิวน่ารักมากตอนนี้ คนอ่านยังชอบ ฮ่าาาาาา
-
คิวน่ารักอะ :-[
-
โอ๊ย ชอบอ่าาาาาา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มดีขึ้น น่ารักอ่ะๆ
ชอบตอนถามเรื่องเค้กด้วยอ่ะ อ่านแล้วรู้สึกเขินๆไงไม่รู้
อยากจะถามบ้างว่า "แล้วพี่คิวล่ะชอบเค้กหรือเปล่า" :laugh:
อ่านตอนที่ 10 แล้วมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก อมยิ้มตามแบบพี่คิวเลยอ่ะ 555
-
ก็รอให้เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่นะ ฮ่าาาาาาา
อยากรู้ว่าที่พี่ซีรู้ความคิดของพี่ฟ้านั่นน่ะ มันคืออะไร แอร๊ยยย ใจจะขาดค๊าาา
น้องเค้กน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกก
พี่คิวก็น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
งื้ออออออออออออออออ
-
เหมือนพี่คิวจะเปิดใจยอมรับเค้กมากขึ้นแล้ว เค้กเองก็เหมือนกัน
เอาใจช่วยทั้งสองคน
ขอบคุณเบบี้
-
อาฟ้าเห็นแววอะไรดีๆ ของพี่คิวที่มีต่อน้องเค้กใช่ไหม
ลุ้นๆๆๆ ว่าต่อไปจะเป็นยังไง :impress3:
-
พี่คิวโหมดซอฟลง :-[
น้องเค้กก้ยังน่ารักเหมือนเดิม :impress2:
แต่เราว่าพี่ฟัาต้องมีไรแหงๆ :o9:
จะเป็นการจับคู่เค้กให้คิวรึเปล่านา :haun5:
เบบี้เขียนให้พี่ซีใบ้หน่อยๆนะ :กอด1:
-
ว้าววว พี่คิวบทเยอะจังตอนนี้
ความสัมพันธ์เริ่มก้าวหน้าแล้ว
-
การได้พูดคุย กันแม้จะเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้กำแพงที่ถูกสร้างขึ้น เกิดรอยปริแยกขึ้นได้ :z1:
ส่วนจะสำเร็จตามที่ อาของกามเทพ แอบวางลูกศรไว้หรือเปล่า อันนี้ต้องคอยดู
ปมขัดแย้ง หรือปมอะไรก็ช่าง ที่เชฟ เก็บซ่อนไว้ มันจะค่อย ๆ คลี่คลาย ด้วยน้ำมือของขนมแสนอร่อย ชื่อว่า " เค้ก "
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ บี๊บี๋ :กอด1:
-
น่ารักมาเลยอะ :-[
พี่เค้กน่ารักได้อีก แอร๊ยยยยยยย พี่คิวนี่โครตซึนอะ :m20:
ปูเสื่อรอพี่เบบี้ครับ o13
-
น่ารักกกกกกก
อยากกินเค้กกอีกล่ะ
ไม่น๊าาา นำ้หนักขึ้น TT
ทำไงดี อยากกินเค้กกกกกกกกกกกกกกกกกกก (โวยวาย)
-
พี่ฟ้าแกวางแผนอะไรอ่ะ อยากรู้ กลเกมกามเทพรึเปล่าน๊า ^^
-
เค้กตรงมากลูกชอบๆๆ พี่คิวก็กวนๆเนอะ
-
อะไรจะว่างกันขนาดน้านนนค้าบบบบพี่คิววววววววว
-
ตอนนี้น่ารักอ่า >___< ชอบมากกกกก อีพี่คิวแกทำชั้นเคลิ้ม เบาๆ 555555
-
ก็ยังดูกวนๆอยู่ เป็นนิสัยอ่ะนะคิวเนี่ย
พี่ฟ้านี่มีแผนไรป่าวน้า
-
ตามทันแล้วววว :mc4:
มาอ่านครั้งแรก มีความสุข + หิว
ไม่รู้คิดถูกหรือป่าว ว่าพี่ฟ้าทำตัวเป็น พ่อสื่อ
สื่อรัก ของ คิว กับ เค้ก :-[
ฮ่าๆ พี่คิวเริ่มเปิดใจแล้วใช่ไหม เอ่ย??
ดูเหมือนคิวจะสนใจเค้กอยู่ไม่มากก็น้อยล่ะเน้อ
ปล. หิวจริงๆน่ะเนี่ย :sad4:
-
ความรักมันเริ่มต้นขึ้นแล้ว
-
น่าฮักที่สุดเลย
-
นึกภาพพี่คิวกับเค้กหวานใส่กันไม่ออกเลย
แต่รู้สึกว่าต้องน่ารักมากแน่ ๆ
ชอบพี่คิวแบบกึ่งเก็กกึ่งใจอ่อนแบบนี้นะ ดูน่าค้นหา
ส่วนเค้กที่ตรงไปตรงมาก็ทำให้ความสัมพันธ์คืบหน้าเร็วดี
เริ่มหลงรักตัวละครของเบบี้อีกแล้ว
ขอบคุณนะ :L1:
-
ชอบๆๆๆๆ แต่อย่าให้รอนานนะสิย่ะ :pigha2:
-
อั้ยย่ะ!!!! พี่คิวใจดีเพิ่มขึ้นนิดนึงละ
อ่ะนะ ค่อยๆหวานทีละนิด จิตแจ่มใส
^^
ชอบน้องเค้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อร้ายยยยยยย
-
วันนี้พี่คิว มันทำตัะวน่ารักซะจริงๆ
-
น่ารักให้ตลอดนะพี่คิว อิอิ
-
พี่คิวคงมีอดีตที่ยังฝังใจ เช่นแฟนเก่าที่จากไป
พี่ฟ้าคงอยากให้หลานสดชื่นขึ้นได้บ้าง
ก็เลยหาคู่ให้หลาน ซึ่งก็เป็นใครไปไม่ได้น้องจากน้องเค้กกกกกกก
พี่คิวเริ่มใจอ่อนแล้ว น้องเค้กมาถูกทางแล้วลูก
-
เข้ามารอตอนที่ 11 :m13:
-
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ
ไม่รู้พี่คิวเค้ามีปํหาอะไรถึงได้กวนเค้กอยู่ตลอด แต่ตอนนี้พี่คิวดูเหมือนจะเปิดรับเค้กมากขึ้นแล้วนะ
-
เพิ่งได้ฤกษ์อ่านเรื่องล่าสุดของเบบี้....
อ่านรวดเดียวสิบตอนเลย น่ารักม๊ากกก คราวนี้ให้นายเอกเล่าเรื่องมั่ง ออกแนวใสๆไปเลย
เมพขิงๆอ่ะค่ะ แต่งได้ทุกแนว o13
เหมือนคู่นี้เค้าจะก้าวหน้าไปนิดนึงแล้วเนาะ (ยังไม่ต้องจีบอ่ะ แค่คุยกันเหมือนชาวบ้านปกติได้ก็ดีแล้ว)
ติดตามตอนต่อไปนะคะ :L2:
-
หอม หวาน ซะเหลือเกิ๊น
-
ฮ่าๆๆๆ..คิว อารมณ์ดีรึงัยเนี๊ย
แหมะ..มีแอบถามอีกนะว่าเค้กของเซ็น กับเซ็น ชอบอันไหนมากกว่า??
เจ้าเล่ห์ๆๆๆๆๆ หว่ะ...กร๊ากกกกก
-
~11~
16:00 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ติงต๊อง~
“มาหาใครคะ” เสียงแม่บ้านดังมาแต่ไกล
“อ่าว คุณนั่นเอง” แม่บ้านคนหนึ่งวิ่งตรงมาที่ประตูรั้ว ผมไม่รู้ชื่อเธอแต่ได้คุยกับเธอบ้างเมื่อวานนี้
“มาหาพี่คิวนะครับ” ผมยิ้มตอบ
“เชิญค่ะ” เธอเปิดประตูรั้วให้พร้อมกับผายมือให้อย่างมีมารยาท
“พี่ชื่ออะไรเหรอครับ” ผมถาม การที่จะเรียกพี่เขาในบ้างครั้งผมก็ไม่รู้ว่าต้องเรียกยังไงถึงจะเหมาะสม ไม่ใช่เจ้าของบ้านและก็ไม่ใช่เพื่อนเจ้าของบ้านด้วย เรียกไปสุ่มสี่สุ่มห้าคงจะไม่เหมาะนัก
“พี่ชื่อเขียวค่ะ” เธอยิ้มตอบ
“อ๋อ ครับ” ผมยิ้ม เดินตามพี่เขียวเข้าไปในบ้าน พี่เขียวไม่ได้พาผมเข้าไปที่ห้องรับแขกอย่างเคย ผมเดินตามไปด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร
ก๊อก ๆ ๆ
“ขออนุญาตค่ะคุณคิว คุณที่นัดไว้มาแล้วค่ะ” พี่เขียวบอก พี่คิวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องหันมามอง
“หึ..” ผมก้มหน้าพยายามกลั้นหัวเราะ
“มีอะไรก็ไปทำเถอะครับ” พี่คิวพูด พี่เขียวก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินไป
“อะไรของนาย” พี่คิวว่า คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน
“ตลกอ่ะ” ผมยิ้ม วันนี้ผมเพิ่งเห็นว่าพี่คิวใส่แว่นอ่านหนังสือด้วย ไม่เคยเห็น..หน้าตาแปลกมากกว่าเดิม ดูขรึมกว่าเดิมอีกครับ
“จะทำไหม งานน่ะ” พี่คิวพูดหน้าเอือม ผมยิ้มเดินไปนั่งลงที่โซฟา สายตาของผมกวาดมองไปทั่วห้องด้วยความตะลึงกับห้องห้องนี้
ห้องนี้คงจะเป็นห้องสำหรับอ่านหนังสือละมังครับ มีหนังสืออยู่เต็มห้องไปหมด ผนังกำแพงปิดไปด้วยไม้ที่มีโครงสร้างสูงขึ้นไปจนเกือบถึงเพดานห้อง รูปทรงสร้างเป็นชั้นสำหรับวางหนังสือมากมาย มีโซฟาหนังสีดำอยู่กลางห้อง พื้นปูด้วยพรมอย่างดีสีแดงเลือดหมูดูมีราคา มีโต๊ะสำหรับเขียนหนังสืออยู่ติดกับกระจกห้องอีกด้านที่สามารถมองเห็นไปยังสวนด้านนอก แถมยังมีบันไดสำหรับปีนขึ้นไปหาหนังสือที่อยู่ชั้นสูงๆอีกด้วย ผมหันไปเห็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงโบราณวางอยู่ติดกับกรอบรูป เป็นรูปของพี่ฟ้ากับพี่คิวที่วางอยู่ตรงชั้น
“ขออนุญาตค่ะ ของว่างค่ะ” ป้านิดนำอาหารว่างมาเสิร์ฟ ผมเพิ่งทราบเมื่อวานว่าป้านิดคือป้าคนเดียวกันกับที่มีหน้าที่ไปทำความสะอาดที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ด้วย
“ขอบคุณครับ” ผมบอก ตากลับมองไปที่คุกกี้ช็อกชิพที่ป้านิดนำมาเสิร์ฟให้พร้อมกับน้ำโกโก้ปั่น
“เอ่อ กินก่อนได้ไหมครับ” ผมพูดเสียงเบา กลัวว่าพี่คิวจะว่าเอา
“เชิญ” พี่เขาพูดแค่นั้นแล้วถอดแว่นตาออก
“อะไรของนาย” พี่คิวว่าทันทีที่ผมเลื่อนก้นจากโซฟาลงมานั่งบนพื้นพรม
“ก็..มัน ไม่ถนัดอ่ะ” ผมบอก โต๊ะต่ำกว่าโซฟาซะอีก จะไปทานถนัดได้ยังไงล่ะครับ พี่คิวส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก
ติงต๊อง~
ผมหันไปมอง เห็นพี่เขียวกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปเพื่อที่จะไปดูหน้าบ้าน ผมนั่งกินคุกกี้อย่างละเลียดทีละชิ้นเพราะมันทั้งนุ่มและรับรู้ได้ถึงช็อกชิพราคาแพง
“คุณคะ คุณฝันมาหาค่ะ” พี่เขียวเดินกลับเข้ามาบอก
“เดี๋ยวผมไปครับ” พี่คิวบอก พี่เขียวก้มหน้ารับรู้
“เดี๋ยวฉันมา” พี่คิวพูดบอกหน้านิ่งอย่างเคยแล้วเดินออกจากห้องไป
“คุณฝัน” ผมพูดพึมพำคนเดียว คงเป็นคนเดียวกับที่ไปหาที่ร้านแน่ๆ
ผมวางคุกกี้ลงเพราะสายตาดันไปปะทะเข้ากับรูปๆหนึ่งเข้า ผมลุกขึ้นยืนเดินตรงไปที่กรอบรูปนั่น มีรูปพี่ซี พี่เซ็นและพี่คิวที่ถ่ายรูปด้วยกัน มีรูปคู่ระหว่างพี่คิวกับผู้หญิงคนที่ชื่อฝันด้วย ผมเดินมองไล่ไปที่ละรูป ส่วนมากจะเป็นรูประหว่างพี่คิวกับพี่เซ็นและรูปพี่ฟ้ากับพี่ซี
~คนนี้ใครกัน~
ผมยืนมองรูปๆหนึ่ง ที่มีพี่คิวยืนกอดผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน่ารักทีเดียว พี่คิวกอดเธอและยิ้มกว้างแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ที่แปลกกว่านั้น..ในรูปกลับมีพี่ฝันยืนอยู่ข้างๆด้วย
“ไม่รู้ว่าอาเอาไว้ที่ไหน เห็นวุ่นอยู่ที่โต๊ะเมื่อเช้า” ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ จะก้าวขาเดินกลับไปนั่งอย่างเดิมคงไม่ทันแล้ว เพราะพี่คิวเดินเข้ามาในห้องพอดิบพอดี
“เหอะๆ” ผมยืนยิ้มแหย พี่คิวจ้องเขม็ง แต่ก็เดินผ่านผมไปที่โต๊ะเขียนหนังสือทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในห้องเงียบกริบ ผมยกมือไหว้ผู้หญิงที่ชื่อฝัน เธอเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
“สวัสดีจ้ะ” เธอยิ้มและยกมือรับไหว้
“ไอ้นิกกี้มันเซ็นต์มาแค่ห้าแสน คิวก็ไม่รู้ยังไงเหมือนกัน..มันฝากมาแค่นี้ ไงฝันลองโทรไปถามมันดูนะ” พี่คิวพูดพร้อมกับเดินนำเช็คไปยื่นให้พี่ฝัน ผมรีบเดินกลับไปนั่งที่โซฟาอย่างเดิม
“อืม” พี่ฝันยิ้มตอบ
“นี่เค้ก พนักงานที่ร้านอาน่ะ..เค้ก นี่ฝัน..” พี่คิวแนะนำ ผมรีบลุกขึ้นยืนก้มหัวยิ้มให้เธออีกครั้ง
“งั้นฝันกลับก่อนนะ ส่วนหนังสือเดี๋ยวพรุ่งนี้ฝันเอามาคืนให้..แล้วเรื่องรถน่ะไม่ต้องห่วง ฝันจองไว้ให้แล้ว” พี่ฝันพูด
“ครับ ขอบใจนะ..เดี๋ยวคิวเดินไปส่ง” พี่คิวยิ้ม
“ไว้เจอกันนะคะ” พี่ฝันพูดบอกผม
“ครับ” ผมยิ้มตอบให้เธอ ทั้งสองคนเดินออกจากห้องไป
“ฟู่~~” จริงๆเลยนะเรา สอดรู้สอดเห็นไม่ดูจังหวะอีกแล้ว ผมนั่งกินคุกกี้ต่อหลังจากนั้นไม่นานพี่คิวก็เดินกลับเข้ามา
“...............” ผมเหลือบตาขึ้นมองพี่คิวที่เดินมานั่งโซฟาตัวตรงข้าม ปากของผมยังคงกัดคุกกี้แก้เก้อไป พี่คิวนั่งจ้องผมเขม็ง ตอนนี้สถานการณ์เหมือนผู้คุมกำลังคุมนักโทษยังไงอย่างนั้น
“ก็ผมสงสัย” ผมพูดเสียงเบา มีการหลบสายตานิดหน่อยถึงปานกลาง
“สอดรู้” พี่คิวว่า ผมเบะปากให้หน่อยๆแต่ก็ไม่กล้าสบสายตาพี่คิวเต็มตานัก
“แล้วกินเสร็จรึยัง ตกลงมาเพื่อกินรึไง” พี่คิวว่าอีก
“ก็มันอร่อยนี่..ฝีมือพี่แน่ๆ อร่อยสุดยอด” ผมเงยหน้ายิ้มบอก
“ไม่ต้องมาประจบ ความผิดไม่ได้ดูลดลง” พี่คิวพูดหน้านิ่งได้อีก โด่..นึกว่าจะหลงกลคำพูดของเราซะอีก
“ง่ะ..แค่เดินดูเอง ไม่ได้เสียหายอะไรสักกะหน่อยนี่ครับ” ผมบ่นบ้าง ปากยังเคี้ยวคุกกี้ต่อไม่หยุด
“พูดแล้วจะเคี้ยวทำไม” พี่คิวว่าคิ้วขมวด สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“พี่นี่เข้มงวดเกินไปนะผมว่า” ผมพูด เริ่มจับทางพี่คิวได้บ้างแล้ว เลยกล้าพูดอะไรขึ้นมานิดหน่อย
“มันเป็นมารยาท..” พี่คิวเริ่มอ้าปากเหมือนจะบ่นต่อ ผมเหลือบไปเห็นหนังสือที่วางอยู่ข้างๆ หน้าปกมันน่าสนใจจึงหยิบขึ้นมาดู ปากก็ยังคงอมหลอดเพื่อดูดโกโก้ไปด้วย
“โอลิเว่อร์ทวิส” ผมพูด ตาเบิกโต
“ใครอ่านเหรอครับ” ผมถาม
“ฉัน” พี่คิวตอบเสียงห้วน ผมเปิดดูเนื้อในในหนังสือ
“ง่ะ..ภาษาอังกฤษ” ผมพูดแล้วรีบปิดมันลง ไร้ความน่าสนใจสำหรับผมไปในทันที
“ชอบเหรอ” พี่คิวถาม
“ใช่..ผมชอบดูหนังด้วยนะ ดูเป็นสิบๆรอบเลย..เด็กที่แสดงน่ารักมากอ่ะฮะ” ผมพูด รู้ตัวว่าตนเองนั้นยิ้มกว้างมากอีกทีก็ตอนที่รับรู้ได้ว่าเมื่อยแก้มนั่นละครับ
“พี่ก็ชอบเหรอ..” ผมถาม
“อืม” พี่คิวพยักหน้า
“เหอะๆ” ผมหัวเราะเฝื่อนๆ
“อะไร” พี่คิวถามน้ำเสียงหาเรื่อง
“ไม่น่าเชื่อ” ผมพูด ชอบอ่านโอลิเว่อร์ทวิส ไม่เห็นจะเข้ากับนิสัยพี่เขาตรงไหน
“นายเอาอะไรมาวัดไม่ทราบ” พี่คิวพูดเหมือนอ่านความคิดผมออก
“ไร้เหตุผล” ผมยักไหล่ หยิบคุกกี้ชิ้นสุดท้ายมาทานต่อ สายตายังคงจับจ้องมองพี่คิวที่กำลังหยิบหนังสือ National Geographic ขึ้นอ่าน
“พี่ชอบเที่ยวไหม” ผมถามขึ้น บรรยากาศมันเงียบเกินไปจนผมรับไม่ได้
“บางครั้ง” พี่คิวตอบส่งๆ ตายังคงกวาดอยู่ที่หนังสือ
“ผมชอบนะ..แต่ ไม่มีโอกาส” ผมบอก
“เมื่อไหร่” พี่คิวพูด
“อะไร..เมื่อไหร่” ผมถามอย่างสงสัย
“ฉันถามนายเมื่อไหร่” พี่คิวพูดแต่กลับมีเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ ผมอ้าปากค้าง พี่เขามองมาที่ผมสายตากวนบาทาสุดยอดมาก
“หึ..หึหึ” ผมแสยะหัวเราะบ้าง
“กินเสร็จรึยัง นายนี่มันเอาแต่กินจริงๆ” พี่คิวบ่น
“ที่จริงอยากกินอีก” ผมบอกอย่างไม่อายหลังจากที่เคี้ยวคุกกี้จนหมด ผมหยิบสมุดออกมาจากกระเป๋า
“โอเค เริ่มได้” ผมพูดบอก
“เอกลักษณ์ของโรงแรมคืออะไรครับ” ผมถามทันที มือควงปากกาไปมา
“คงความเป็นไทย” พี่คิวตอบได้สั้นมาก คำพูดช่างห้วนตัดประโยคทำให้รู้ได้ว่าพี่เขาจะไม่พูดขยายต่อแน่ๆ
“แล้ว..มีอย่างอื่นอีกไหมครับ” ผมถาม พี่เขาเงียบไปเหมือนขอใช้เวลาคิด
“ดอกมะลิ เป็นดอกไม้ประจำของโรงแรม แสดงถึงความเป็นไทย..เราจะมีประวัติของโรงแรมอยู่ตรงล็อบบี้ทั้งสองสาขา เรื่องราวของดอกมะลิก็ด้วยเหมือนกัน หลายๆอย่างในโรงแรม..เราจะนำดอกมะลิเข้าไปโดยที่ลูกค้าไม่ทันสังเกตเสมอ” พี่เขาพูดขึ้น พอพูดที..ก็พูดซะไม่เว้นวรรคเลยละครับ เฮ้อ
“จดไม่ทันอ่ะ” ผมบ่น พี่คิวอมยิ้มหน่อยๆ
“ทำไมถึงเลือกดอกมะลิล่ะฮะ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ถ้าเอากล้วยไม้ก็จะซ้ำกับการบินไทยนะสิ” พี่คิวตอบกวน
“หึ..” ผมหัวเราะทำหน้าเอือมใส่บ้าง
“นอกจากดอกกล้วยไม้ที่แสดงถึงความเป็นไทย ดอกที่คนไทยนิยมอยู่ก็คงไม่พ้นดอกมะลิ..ส่วนดอกไม้อื่นๆค่อนข้างไม่เป็นที่พูดถึง ดอกมะลิสามารถนำไปใช้ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะนำไปใส่น้ำดื่มสำหรับต้อนรับแขก นำร้อยเป็นพวงมาลัยให้แขก นำไปจัดอาหาร นำไปปรุงแต่งอาหาร” พี่คิวพูด ผมเงียบและฟังอย่างตั้งใจ ที่เงียบอยู่ก็เพราะใช้เวลาจดตามอยู่นะครับ ก็พี่เขาเล่นพูดซะไม่มีเว้นวรรคเลยสักนิด
“แล้ว..ต้องการไปถ่ายรูปที่โรงแรมรึเปล่า” พี่คิวถามขึ้นโต้งๆ
“ได้เหรอครับ!” ผมรีบถามกลับด้วยความตกใจ
“เสียงดังทำไม” พี่คิวขมวดคิ้ว
“ก็ตกใจนี่ฮะ ได้เหรอ..ไปได้จริงเหรอ” ผมถามไม่หยุด
“ถ้าว่าง..” พี่เขาเบะปากตอบ
“โถ่” จากที่นั่งตัวตรงด้วยความตื่นเต้นเมื่อกี้ ร่างกายของผมก็ห่อเหี่ยวลงในทันทีเมื่อได้ยินคำขยาย
“เค้าให้เวลาทำตั้งหนึ่งเดือน จะรีบอะไรนัก” พี่คิวว่า เหล่สายตาไปอีกทางด้วยท่าทางเบื่อหน่ายอย่างนั้น
“ผมไม่ได้มีการบ้านวิชาเดียวนี่ครับ ก็อยากจะรีบทำให้เสร็จ..เก็บข้อมูลเสร็จ ต้องนำไปวิเคราะห์ กลั่นกรอง เรียบเรียงเนื้อหาใหม่เพื่อนำไปเขียนรายงาน แล้วต้องเตรียมวิดีโอพรีเซ้นต์อีก” ผมพูดบอก
“แค่ยี่สิบคะแนน สั่งซะประสาทเลยนะ” พี่คิวพูดเหมือนว่าไปถึงอาจารย์
“เปล่าหรอก พวกผมคิดกันเองน่ะ เหอะๆ” ผมยิ้มแหย เพราะผมอยากได้คะแนนเต็มยี่สิบนี่ครับ ถ้าเกรดตกขึ้นมาผมต้องซวยแน่ๆ ไม่ใช่ซวยแค่ผมแต่มันจะส่งผลไปถึงแม่ของผมด้วย เพราะตอนนี้ผมได้ทุนเรียนฟรีแบบไม่ต้องใช้คืนอยู่ซึ่งผมต้องพยายามอย่างไรก็ได้ไม่ให้เกรดต่ำกว่าเกณฑ์
“วุ่นวาย” พี่คิวว่าเสียงห้วน ผมสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่ทราบว่าพี่เขาต่อว่าใครกันแน่ ผม..หรืออาจารย์
ตื๊ด ๆ ๆ
ผมนั่งมองเพราะมันไม่ใช่โทรศัพท์ของผม พี่คิวเหลือบตามองมือถือของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนจะหยิบไปดู และเริ่มทำหน้าอึนๆเหมือนไม่อยากรับสายเสียเท่าไหร่
“อะ..ไร” ผมถามอย่างงงๆเพราะพี่เขาดันยื่นโทรศัพท์มือถือของพี่เขามาให้ผม
“รับให้หน่อย” พี่คิวบอก ผมพยักหน้าพร้อมกับรับมาถืออย่างสงสัย มองไปที่หน้าจอ มันโชว์ว่า ~R..Fa~
“เออ เดี๋ยวๆ” ก่อนที่ผมจะกดรับสาย พี่คิวทักไว้ก่อนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“รับไปเหอะ” พี่คิวพยักหน้าสั่ง ผมขมวดคิ้วเพราะตามอารมณ์ของพี่เขาไม่ถูก สุดท้ายผมก็ต้องกดรับสายตามคำสั่ง
“สวัสดีครับ” ผมพูด
“...............” ปลายสายเงียบไป
“เค้กเหรอ!” พี่ฟ้าถามเสียงดัง
“ครับ” ผมตอบ
“ฮันแน่ รับของไอ้หลานบ้าได้ไงอ่ะ” พี่ฟ้าทำเสียงทีเล่นทีจริง ผมเหลือบตาไปเห็นพี่คิวชูกระดาษที่เขียนขึ้นว่า “เมื่อเช้า..ทิกเกอร์โทรมา” พี่คิวทำท่าทำทางเหมือนบอกให้ผมพูดบอกพี่ฟ้า
“พี่ฟ้าฮะ..เมื่อเช้า ทิกเกอร์โทรมา” ผมพูดชัดถ้อยชัดคำ
“................” พี่ฟ้าเงียบไปสนิทไปครู่หนึ่ง ผมใจเต้นตึกตักอย่างรอลุ้นว่าผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
“ไอ้คิวอยู่ตรงนั้นใช่ไหม!!” พี่ฟ้าพูดกระแทกเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆ” ผมนั่งอึ้งเพราะอยู่ๆพี่คิวก็ขำออกมาเสียงดัง มันเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เพราะพี่คิวขำ..พี่เขาหัวเราะอ่ะครับ พระเจ้า ToT ช่วยบอกหนูด้วยว่านี่คือความจริง!!
“ขอพี่คุยกับมันหน่อย” พี่ฟ้าพูด ผมยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้พี่คิว
“โหล” พี่คิวรับไป ปากของพี่เขาก็ยังไม่หุบยิ้มดี
“ไร..ก็มันโทรมาจริงๆ” พี่คิวพูดแกมขำ
“จะไปรู้รึไง แคร์เมื่อไหร่” ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ
“หึ..คุณไม่พอใจอะไร เป็นผู้ใหญ่หน่อยนะ” อืม..เลวจริงๆ ขนาดอาของตัวเองแท้ๆยังกวนได้อีกนะครับ ผมละเชื่อพี่เขาเลย
“เดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะมั้ง” พี่คิวเหลือบมามองหน้าผมแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือกลับมาให้ ผมรับมา
“ครับ” ผมพูดทักปลายสาย
“อยู่กินข้าวเย็นกับพี่นะ เดี๋ยวพี่ก็กลับละ” พี่ฟ้าพูด
“ไม่เป็นไรครับ เค้ก..เกรงใจ” ผมบอก
“น่า..อยู่เหอะ นี่กัสก็จะไปกินด้วย..เห็นว่าจะไปขอยืมหนังสือคิวมันน่ะ” พี่ฟ้าบอก
“งั้น..อยู่ก็ได้” ผมยิ้มตอบ ถ้าพี่กัสมาอยู่เป็นเพื่อนก็ไม่เป็นไร ผมอยากกินข้าวฟรี อีกอย่างบ้านพี่ฟ้าทำอาหารอร่อยมากจนไม่สามารถรั้งความอยากของผมไว้ได้ด้วยน่ะนะครับ
“หึ..โอเค งั้นแค่นี้นะครับ เจอกัน”
“ครับ” เมื่อพี่ฟ้าตัดสายไปแล้ว ผมก็วางโทรศัพท์มือถือลงตรงหน้าพี่คิวอย่างเดิม
“ทิกเกอร์คือใครเหรอฮะ” ผมถามทันที
“ยุ่งน่า ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” พี่คิวว่าให้
“ชิ..”
“แล้ว..พี่คิว กับพี่ผู้หญิงคนนั้น เป็นแฟนกันเหรอ” ผมถามเพราะได้จังหวะพอดี
“ยุ่ง” พี่คิวว่าอีก
“งั้นแสดงว่าใช่” ผมพยักหน้าแกล้งไม่สนใจที่พี่เขาว่าให้เลย
“เพื่อน” พี่คิวพูดเสียงห้วนสั้น
“อะนะ” ผมยิ้มกลับให้อย่างไม่เชื่อ พี่คิวหยิบปากกาใกล้มือมาตีหัวผมเบาๆ
“เจ็บนะ” ผมว่าหน้างอ ด้ามปากกาดันแข็งอีก ดูท่าจะแพงมากด้วย ตีมาได้..สงสารปากกาออก
“เอาเร็วๆ..จะถามไรอีก” พี่คิวกระแทกเสียง
“มีแผนการตลาดป่ะครับ อยากเห็น” ผมถาม
“ไม่มีอ่ะ อยู่ที่บริษัท” พี่คิวตอบหน้าตายแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ผมนั่งมองอย่างอ้อนวอน
“ไว้ให้เลขาเตรียมให้วันหลังแล้วกัน”
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มผงกหัวให้ในทันที
“คุณคิวคะ คุณพ่อคุณโทรมาค่ะ” ผมกับพี่คิวหันกลับไปมองป้านิดที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ผมไม่รับ” พี่คิวตอบเสียงแข็งและไม่ได้หันไปมองหน้าป้านิดแต่อย่างใด ป้าแกหน้าเสีย ยังคงคุกเข่านั่งอยู่ที่ปากประตูห้องเหมือนไม่ยอมไปไหนแต่กลับมีท่าทีเกรงกลัวพี่คิวอย่างเห็นได้ชัด ผมเองก็หน้าเสียด้วยเพราะไม่รู้ว่าอยู่ๆบรรยากาศเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้อย่างไร
“คุณ..คะ” ป้านิดเรียกเสียงเบา
“ป้า!!” ทั้งผมและป้านิดสะดุ้ง
“ฮื้ม” พี่คิวถอนหายใจแรง ลุกขึ้นยืนเดินออกจากห้องไปในทันที ผมนั่งนิ่ง ใจเต้นแรงเพราะเมื่อกี้ตกใจมากจริงๆ ปรับอารมณ์ไม่ทันด้วย ป้านิดออกจากห้องไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงผมที่ยังคงอึ้งไม่เลิก
ผมยังคงนั่งอยู่ในห้องนี้ พี่คิวหายไปนานมาก จนเกือบครึ่งชั่วโมงพี่เขาก็ยังไม่กลับมา ผมทนไม่ไหวจึงลุกเดินดูหนังสือไปทั่วห้อง อีกฝั่งของห้องเป็นที่วางแผ่นซีดีมีทั้งแผ่นภาพยนตร์และแผ่นเพลงไม่น่าจะต่ำกว่าหนึ่งพันแผ่น
“เฮ้ย อลิส” ผมหยิบแผ่นออกมาดู ภาพยนตร์ Alice in Wonderland เป็นภาพยนตร์ที่ผมดูไปมากกว่าสามรอบได้แล้วละมังครับ
“The lightning thief” ผมบ่น อ่านถูกรึเปล่าไม่ทราบ แต่ทราบเพียงว่าหน้าปกหน้าสนใจสำหรับผมมาก
“................” ผมหันกลับไปมองเพราะได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา ผมยืนนิ่งมองพี่คิวที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“โทษที” พี่คิวพูดเสียงเรียบ ผมพยักหน้าให้ประมาณว่า..ไม่เป็นไร ไม่รู้เหมือนกันว่าที่พี่เขาขอโทษนั้นหมายถึงการเข้ามาอย่างไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงในตอนนี้ หรือขอโทษที่เสียงดังไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วกันแน่ ผมวางแผ่นซีดีกลับเข้าที่เดิม พี่คิวหันมาเห็นพอดี
“จะเอาไปดูก็ได้นะ” พี่คิวพูด
“ของพี่เหรอครับ” ผมถามทันที เพราะทั้งหมดเป็นภาพยนตร์แนวที่ผมชอบดูทั้งนั้นเลย
“อืม” พี่เขาพยักหน้าตอบ
“ผมเอาไปดูได้แน่เหรอ” ผมถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งเพราะผมอยากขอยืมไปดูใจจะขาด
“สามเรื่อง ไม่เกิน..ยืมห้ามดองเกินสองอาทิตย์” พี่คิวพูด
“โหดอ่ะ สี่เรื่องได้ป่ะ” ผมต่อรอง
“อืม” พี่เขาพยักหน้าตอบส่งๆอีกครั้ง ผมยิ้มแป้นรีบหันกลับมาเลือกแผ่นทันที ผมยืนเลือกแผ่นซีดีจนได้เรื่องที่อยากดูครบสี่แผ่นก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ พี่คิวนั่นอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“.................” ในห้องเงียบไร้เสียงรบกวนใดๆ ผมมองที่หน้าปกแผ่นซีดีแล้วเงยขึ้นมองหน้าพี่คิวสลับไปมา
“อะไรของนาย” พี่คิวพูด สีหน้าเหมือนสงสัย ผมหยิบแผ่นขึ้นมาดูแล้วยื่นแผ่นเข้าไปใกล้หน้าของพี่คิวอย่างอดไม่ได้
“พูดให้ดีนะ” พี่คิวพูดเสียงเข้ม
“หึหึ” ผมหัวเราะแล้วชักมือกลับ
“หน้าตาพี่ไม่ได้เข้ากับแผ่นหนังพวกนี้เอาซะเลยนะ” ผมเลิกคิ้วยิ้มบอก พี่คิวไม่ได้ตอบโต้อะไรอย่างผิดคาด
“พี่ชอบดูเหรอ” ผมถาม อยากให้พี่เขารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เกิดอะไรและไม่รู้ว่าหายเครียดแล้วรึยังแต่พี่เขาดูแปลกไป พี่คิวพยักหน้าตอบให้ผม
“ผมก็ชอบ ชอบมากเลยอ่ะ..ไม่นึกว่าพี่จะมีเยอะขนาดนี้ ไว้..เอ่อ ผมมาขอยืมอีกได้ไหม” ผมพูดไม่หยุด ไม่อยากเช่าหรือซื้อเพราะมันเปลืองทุนในกระเป๋าสตางค์ของผม
“เชิญ” พี่คิวตอบ
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้ม ก้มลงอ่านเรื่องย่อที่ปกหลังอีกครั้ง
“ชอบมากเหรอ” พี่คิวถามขึ้นก่อนที่จะหยิบแว่นสายตาขึ้นมาใส่อีกครั้ง
“อื้ม ความรู้สึกเดียวกับเวลาที่เห็นเด็กกับเห็นเค้กนั่นแหละ” ผมยิ้ม
“แล้วยิ่งถ้าได้กินเค้กระหว่างที่ดูหนังด้วยนะ สุโค่ย” ผมชูมือขึ้นสูงเหนือหัว
“เว่อร์” พี่คิวเบะปากว่า
“เปล่าสักหน่อย” ผมเบะปากกลับให้บ้าง
ผมหยิบหนังสือที่วางอยู่แถวนั้นขึ้นมานั่งอ่านบ้างเพราะไม่อยากรบกวนพี่คิวที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ และแน่นอนว่าผมไม่กล้าเข้าเรื่องงานของผมอีกเพราะผมรู้สึกเกรงใจ ผมคิดว่าสถานการณ์นี้ไม่เหมาะจะเข้าเรื่องแบบนั้นเท่าไหร่นัก ผมได้ถามสิ่งที่อยากรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในหนังสือบ้างเป็นระยะ และไม่ว่าผมจะมีคำถามในรูปแบบไหน พี่คิวก็สามารถตอบคำถามผมได้หมดเลยละครับ มันน่าทึ่งสำหรับผมมากเลยล่ะ ถึงแม้คำพูดที่ตอบมาแต่ละครั้งจะฟังดูเหมือนเต็มใจบ้างไม่เต็มใจบ้างก็เถอะนะ
ปี๊มมมมมมม !!
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแตรดังมาก เสียงดังเหมือนมาจากที่หน้าบ้านของพี่คิว เป็นการบีบแตรที่ดูไร้มารยาทอย่างไรชอบกล
“ใครครับป้า” พี่คิวถามป้านิดที่กำลังวิ่งออกไป
“ไม่ทราบค่ะ แต่น่าจะเป็นรถของบ้านนั้น” ป้าตอบสีหน้าไม่ดีนัก ผมเริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมา เพราะทั้งเสียงแตรและสีหน้าของป้านิดทำให้ผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นแปลกๆ พี่คิวยังคงนั่งนิ่งและเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมจึงต้องทำตัวปกติตามน้ำไป สถานการณ์มันแปลกจนผมไม่กล้าถามอะไรออกไปอีก
ปึก !!!
..................>>>><<<<..................
-
ทิกเกอร์ คือใครล่ะ้เนี่ย
แฟนพี่ฟ้าหรอ?
-
ปึก! อะไรอ่ะ
ทิกเกอร์อีก
ผู้หญิงที่ถ่ายรูปคู่พี่คิวด้วย
เค้าคือใครกันเนี่ย
-
มีแต่เรื่องมาให้คิดตลอด o2
-
มีตัวละครเพิ่มเติมมาอีกแล้ว
ทิกเกอร์ who are you???
เค้กน่ารักอ่ะ เริ่มกล้าต่อปากต่อคำกับพี่คิวละ
ยังมีปริศนาหลายชิ้นที่คนอ่านแอบสงสัย
คงต้องตามกันไปเรื่อย ๆ :pig4:
-
:a5:
-
ค้างอะ :serius2:
-
มีอะไรมาให้ตื่นเต้นอีกเเล้ว :a5: :a5:
-
เสียงไรอะ ตอนท้าย
-
เหมือนว่าพี่คิวจะมีปัญหากับทางบ้านตัวเองนะ
พี่ฟ้ารีบ ๆ กลับมาเถอะ
-
จะบอกว่าความสัมพันธ์ก้าวหน้าัมันก็ใช่นะ
แต่ปมมันเยอะเกินจนไม่มีอารมณ์จะหวาน
ระทึกซะมากกว่า :z2:
ตื่นเต้นนนน
-
ใครมาอะ น่ากัว :confuse:
-
รถใครอ่ะ ปะป๊าพี่คิวป่าว
-
ค้างอ่ะค๊าบบบบบ
เนื้อเรื่องมันชวนให้
คิดเยอะไปมั๊ยยยยยย
1+เป็นกำลังใจให้จ๊า
-
เฮ้ย ใครบีบแตรฟร๊ะ
เหนมั๊ย เลยค้างเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
อ้าว..."ปึก" เนี่ยหัวเบบี้ฟาดโต๊ะเปล่าจ๊ะ?
อ่ะ ล้อเล่น
:t2:
-
ค้างอะ ใครมา
ทิกเกอร์ คือใคร
-
ค้าง ค้าง
-
อ๊าก..........ค้าง!!!
ทิกเกอร์ คือใคร?
แล้วใครมา..?
-
ค่อยสนิทกันแล้ว :-[
บ้านนี้ปริศนา่เยอะแท้
:pig4: :กอด1:
-
ปึก !!! เสียงไรคะเนี่ย ???
ทิกเกอร์น่าจะเป็นเด็ก รึป่าวน้า
พี่คิวยิ้มบ่อยขึ้นน้า แอร๊ยยยยยย :-[
-
ปึก !!! คือ :z3:
-
รู้สึกเหมือนกับระเบิดจะลงยังไงม่ะรุ
-
ปึก อะไร =[]=?
-
ทิกเกอร์คือ.......แฟนพี่ฟ้าหรือป่าว :3123: :3123: :3123:
-
อะไร :really2:
-
+1 ให้จ้า
มีคนน่าสงสัยเพิ่มมาอีก 2 คนซินะ :o10:
คือ ทิกเกอร์ กับ นิกกี้ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
มาเฉลยด่วย :call: :call:
-
ยังไม่ได้อ่านตอน 10 เลย อิอิ ต่อเร็วมากๆๆ น่าร๊ากกกกก
-
:z3: ปึก !!! อะไรอ่ะ ค้างมากกกกกกกกกกก
ทิกเกอร์ แฟนพี่ฟ้าแน่เลยอ่ะ
ผู้หญิงที่เค้กเห็นในรูปใช่ที่ชื่อว่า ปราย หรือเปล่า
เงื่อนงำเยอะจริงๆ 555 อยากอ่านตอนต่อไป :z3:
-
ค้าง ขอยาวๆหน่อยงับ สนุกมาก o13
-
บ้านนั้น บ้านไหนฟระ
-
ตอนนี้ได้เห็นพัฒนาการทางด้านอารมณ์ของพี่คิว :laugh:
ทิกเกอร์คือใครอ่ะ ?!
-
ผู้หญิงที่พี่คิวกอดนี่ใช่แฟนเก่าป่าวหว่า คนที่ชื่อพี่ปราย...มั้ยคะ? อ๊าย!! อยากรู้ๆๆๆๆๆๆๆ :z3:
วันนี้มีตัวละครใหม่มาอีกคน ทิกเกอร์ๆๆๆ จะเป็นใคร นิสัยแบบไหนน้าาาา
แล้วไอเสียงปึกตอนจบตอนมันเสียงอะไรอ่ะ
ตอนนี้สงสัยใคร่รู้หลายๆอย่างของครอบครัวนี้มากกกก มากๆๆๆๆเลยค่า~
-
รักกันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
-
น่ารักกกกอะ ดูเหมือนนเค้กกับพี่คิวจะปรับตัวเข้าหากันได้แล้ว
พี่คิวน่ารักเนอะะ
อ่านแล้วหิววอยากกินคุ้กกี้ :impress2:
-
เรื่องนี้อ่าน แล้วต้องจินตนาการตาม ทุกตอนเลย สนุกมากๆ
-
ปึก ?? เสียงชนไหล่ (มั่วไปเรื่อย 555+)
ทิกเกอร์ คือใคร เสือสีส้มหรือป่าว (ชักหลงเรื่อง)
เดาด้วย เป็น แฟนพี่ฟ้า ไม่ก็คนที่ตามจีบ ไม่ก็ พี่ๆในตระกูล ?
-
ปึก ค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :sad4:
กรี๊ดดด พี่คิวปิด :laugh:ได้ด้วย กร๊ากกกกกก :laugh:
น่ารักจัง พี่คิวน่ารัก :o8: :impress2:
น้องเค้กกับพี่คิว มีพัฒนาการการพูดคุยที่ดีขึ้นมากนะ น่ารัก :-[
ดูเค้ก กล้าพูดกล้าถามพี่คิว พี่คิวก็คุยกับน้องเค้กมากกว่าเดิมเยอะ แต่ยังคง กวน...เหมือนเดิม
:laugh: พี่คิว สไตส์ o13
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ง่ะค้างอ่าา สงสัยทิกเกอร์คงจะมาหาพี่ฟ้าแล้วมั้ง
สงสัยต้องเป็นแฟนพี่ฟ้า ที่กำลังตามง้อพี่ฟ้าอยู่แน่ๆเลย ฮิฮิ
-
ค้าง ค้าง ค้าง ค้าง ค้างยกกำลังสี่
บอกได้คำเดียวว่า "ค้าง"
-
ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ เค้กค่อยๆดึงเอาตัวตนของคิวออกมาให้เห็น... ต้องยกความดีให้ฟ้า :กอด1: 555
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
ปึก! อะไร????
เสียงอาไรหว่า???
อ๊ากกกก ค้างอ่ะ... :a5:
-
ปริศนาคาใจมากกกก
-
ค้างงงงงง
อยากอ่านต่อ เรื่องนี้ปมเยอะมากเลย
ชอบน้องเค้กจัง
-
อยากอ่านต่ออ่ะค่ะ หุหุ :m9:
-
รวยมาก ปัญหามาก
+1
-
ผู้หญิงในรูปเอย ทิกเกอร์เอย รถบ้านนั้นเอย
อั๊ยย่ะ มันค้างอ่ะ มาไวๆนะจ๊ะ
-
บวกให้ความลึกลับซับซ้อนของมนุษย์บ้านนี้
-
เบบี้ (เสียงต่ำ ตาขวาง ปากเป็นรูปตัวยูคว่ำ) ถ้าจะจบตอนแบบนี้ละก็นะ เอาจอบมากระซวกไส้เราเลยเหอะ
กำลังงงงงงงงงงงงงงลุ้นอยุ่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ปึก...และจบสะงั้น กรี๊ดดด อะไรยังไงละเนี๊ย
พี่คิวกับน้องเค้กเริ่มกระดึบๆเข้าไปทีนะนิดทีละหน่อยละ
-
เนื้อเรื่องชักเข้มข้น
ปริศนาเริ่มจะมากขึ้น ทั้งผู้หญิง ทิกเกอร์(เสือ? ไม่ใช่ หมีหรอกเหรอ อิอิ) คนบ้านนั้น ใครกันน้อ
ชอบโอลิเวอร์ทวิสต์เหมือนกันเลย เด็กที่แสดงน่ารักจริงๆแหละ เห็นด้วย เอิ๊กๆ
อยากบอกเค้กว่าเรื่องนี้มันมีหนังสือฉบับภาษาอังกฤษที่อ่านเข้าใจง่ายด้วยนะ
ลองถามพี่คิวให้ช่วยหาให้สิ หุๆ
-
ตัวละครเพิ่มขึ้นอีกแล้ว เนื้อหายิ่งเข้มข้น o8 o8
-
"ก็มันคาใจ ข้างในลึกๆ" เพลงพี่เจ ลอยมาตอนอ่านจบตอน กร๊ากกกกกก
เด๋วนี้เค้กกล้าขึึ้นเยอะนะเนี้ยยย
-
มีปริศนาหลายข้อที่ยังไม่คลี่คลาย
ทั้งทิกเกอร์ และพ่อของคิว
พี่คิวปิด เริ่มยอมๆ ให้เจ้าเค้กเข้าใกล้ได้แล้ว
แต่คาดว่า คงจะอีกนาน กว่าสองคนนี้จะเริ่มให้ใจกัน
-
เอ๊ะ ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้จะเป็นรักใสๆธรรมดา
แต่รู้สึกว่าจะไม่ละ เนื้อเรื่องเริ่มจะซับซ้อนเข้มข้นแล้วอ่ะ
อยากอ่านต่อแว้วววววววว
มาต่อเร็วๆเน้อ
-
ปึก !?!?! อะไรอ่ะ อย่าบอกว่าพี่คิวเอาหนังสือโบกหัวน้องนะ :z3:
น้องเค้กชอบขนมหวานกับชอบดูหนังเหมือนสลิ่มเลย...พูดแล้วก็คิดถึงเมตร (เอ๊ะ...ยังไง :a11:)
-
ซับซ้อน จริงๆ
พี่คิว เริ่ม น่ารักกกกก
-
o22 คุณเบบี้ตัดได้ตอนได้ค้างมากมาย :a5:
-
ค้าง แบบ :a5:
เค้าต้องแจวเรืออีกแล้วใช่ไหม?? :z3:
-
:oo1: :oo1:
สุ่โก๊ยยยยยยยย
:z13: :z13:
-
มันคืออะไร??? เบบี้ มาต่อด่วน
-
สงสัยเหมือนเค้ก
พี่คิวเริ่มน่ารักแระ
-
รอตอนต่อไปปปปปปปปปปปปป
ทิกเกอร์คือครายยย
บ้านข้างๆด้วย
แล้วแฟนพี่คิวไปไหน
พี่ฝันชอบพี่คิวช่ายมะ
-
ค่อยๆ พัฒนาล่ะ แต่เงื่อนงำก็เพิ่มขึ้น
-
:a5: o22 :call:
-
ทิ๊กเกอร์กับ พี่ฟ้านี่ซัมติงใ่ช่มั๊ย
เทใจให้ตอนนี้ เอาจริงๆพี่คิวก็ติงต๊องนะเนี่ยย ขี้แกล้งอ่ะ
-
จะว่าไปพี่คิวก็มีมุมน่ารักบ้างเหมือนกันนะเนี่ย :mc4:
ชอบเรื่องนี้สนุกดีครับ ลุ้นดี(ว่าเค้กจะโดนไรบ้าง ฮ่าๆ)
ปล.คนเขียนแต่งสนุกมากครับ :L2: มาต่อไวๆนะครับ :call:
-
ThankS
-
อ่าววว...ง่ะ เอร้ยยยย โดรตัดตอนอะ มาตอนนี้อยากรู้หลายเรื่องเลยเนี๊ย
มีลับลมคนในสุดๆอะพี่คิวเนี่ย
-
ปึก !!! :z3:
อย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใคร เข้าใจมั้ย....เพราะมันค้างอย่างแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :sad4:
-
P'q duu sab sorn na kha pii!! Kawjai yaak nor,,,hu hu hu!!
-
ทิกเกอร์ >> ใครอ่ะ?
ใครบีบแตรอ้ะ
ผู้หญิงคนนั้นคือครายยยยยยย
อยากรู้จังงงงงง :serius2: :a5:
-
วันนี้อ่าน 2 ตอนรวดเลย
แบบว่าความสัมพันธ์เริ่มคืบหน้าไปทีละนิด เริ่มรู้จักกันทีละหน่อย
น้องเค้กก็เริ่มประทับใจพี่คิวมากขึ้นทุกทีใช่ป่ะ กิสส
รอลุ้นว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากเสียงดังนั่น
ปล. คนรับใช้ชื่อเขียว << :m20:
-
แล้วเมื่อไหร่นะพี่คิวจะมีใจและเมื่อไหร่น้องเค้กจะมีใจให้กัน :pig4:
-
ใครมาอ่ะ มาเฉลยด่วนค่า ค้าง :z3:
-
ค้างไม่เป็นไรเพราะเด๋วก็มาต่อให้เนอะะะะะะ ...อิอิ
-
ทิกเกอร์คือใคร
สงสัยเหมือนน้องเค้กเลยอ่ะ
แล้วบ้านนั้น บ้านไหนนนนน
อ่อยยยย
พี่คิวน่ารักว่ะ โฮะๆๆๆๆๆ
-
อ่านมาจนถึงตอนนี้ พี่คิวมันน่ารักขึ้นทุกที เอิ๊กๆๆๆ
รออ่านตอนต่อไปคร๊าาาาา
-
โอ้ววว...อ่านตอนนี้แล้วได้มาสองอย่าง
หนึ่ง เครื่องหมาย ?????? เต็มไปหมดแบบว่าอยากรู้นั่นนูนนี้เยอะมาก
สอง ได้จิ้นแบบไรขีดจำกัด แบบว่าทุกอย่างยังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม จิ้นมันส์เลยทีนี้ :laugh:
:pig4: คะ
-
ชอบพี่คิวสุดๆ ไปเลยค่ะ เปิดมาตอนนี้แอบฮาตรงชื่อ พี่เขียว กันไปเลย ก๊าก ก ก
ตอนนี้ก็มาน่ารักกันอีกแล้วนะค่ะ ชอบจังเลยตอนที่เค้กแอบประจบพี่คิวอ่ะ ฮ่ าา น่ารักอ่ะ
มีให้รับโทรศัพท์ให้กันด้วยอ่ะ กรี๊ด ชอบอ่ะ แล้วยังมีตัวละครใหม่มาเพิ่มด้วยนะค่ะเนี้ย
"ทิกเกอร์" ใครง่ะ ?? อย่ามาแย่งพี่ฟ้าของเค้าน้าาาา (เริ่มประสาดเพราะไข้ขึ้น) อ่านตอน
นี้แล้วเหมือนจะไปไข้มากว่าเดิมเลยอ่ะ พี่คิวแบบมีปัญหากับทางบ้านอีกแล้วหรอค่ะ
แล้วคุณพี่ฝันนี้ต้องแอบชอบพี่คิวแน่ๆเลยอ่ะ หึงแทนเค้กอ่ะ ไม่ยอมนะ แล้วมาอัพไวๆนะค่ะ
คิดถึงพี่คิวกับน้องเค้ก ก ก ก
-
ทิกเกอร์แฟนพี่ฟ้าเหรอ
ปึกอะไีรอ่า มันค้างไม่ใช่เหรอ
-
1+ :a5: สงกะสัย เค้กน่ารัก กะ คิว จะรักกันยังไงนี่ o22
-
หลังจากเป็นผีแอบอ่านมานานหลายเรื่อง +เรื่องนี้ละกัน 555
ค้างอะ :a5::serius2:
จิ้มคนเขียนน :z13: :z13: ต่อไวๆน้าค้าบบ :กอด1:
-
อ่านทันแล้วดีใจจัง รู้สึกว่าปริศนาจะเยอะจังเลยอ่ะ แล้วทิกเกอร์นี่คือใครกันนะ เป็นไรกับพี่ฟ้าหว่า? พี่คิวกวนมากๆ อ่ะ แล้วผญ คนนั้นในรูปที่กอดกับพี่คิวคือใครกันจะใช่พี่ปรายหรือเปล่านะ เหมือนจะอ่านเจอไปก่อนหน้า พี่คิวต้องมีปมอะไรในใจแน่ๆ เลยอ่ะ กัสกับเซ็นจะคู่กันรึเปล่านะ ลุ้นๆ แล้วพี่หมีกับพี่ฟ้ามีซัมติ้งอะไรกันป่ะเนี่ย ยังไงๆ ?? ส่วนเค้กโดนแกล้งตลอดอ่ะ อ่านเรื่องนี้แต่ละตอนอ่านไปยิ้มไปทุกตอนเลย น่ารักทุกตอนเลย แล้วมาอัพต่อเร็วๆ นะค่ะพี่เบบี้ รอตอนต่อไป ^^
-
ตัดฉับแบบขัดใจสุดๆ ค่า
จะต้องมีเรื่องแน่ๆ เลยอ่า
-
พี่คิว น้องเค้ก ชอบจัง :impress2:
อ่านแล้วได้ความรู้สึกลุ้นๆ ค้างๆคาๆ จะเชียร์ดีไม่เชียร์ดีเนี่ย :laugh: สนุกดีค่ะ
บวกให้พี่ฟ้า(อ้าววว )
-
ปริศนามาอีกแล้ว รอตอนต่อไปเพื่อคลี่คลายความกระจ่าง
-
พี่คิวเริ่มเปิดเผยให้เห็นตัวตนอีกด้านหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นนัก
ส่วนทิกเกอร์ คงเป็นแฟน พี่ฟ้า ที่กำลังงอนกันอยู่ หรือไม่ก็กำลังตามจีบพี่ฟ้า
อีกหนึ่งพี่ฝัน ก็คงได้แต่ฝันต่อไป
ส่วนน้องเค้ก ความสนิทสนม กับนิสัยน่ารัก ช่างพูด ทำให้เชฟผ่อนคลายกับเรื่องที่ทำให้เครียดได้
+ 1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
อ่าน 11 ตอนรวดเลย เรื่องนี้ให้อารมณ์น่ารัก อบอุ่น อ่อนหวานทั้งเรื่องเลยอ่ะ ดูใสๆ
คุณเบบี้เก่งจังเขียนได้ทุกแนวเลย >< เค้กน่ารัก น่าหลงมาก ไม่ว่าจะความคิดการกระทำ น่าเอ็นดูไปหมดเลยน้า
คนในร้านนี้แต่ละคนดูมีลับลมคมในกันเยอะเหลือเกินนะ อิพี่คิวนี่แรกๆแอบมีอคติกับน้องเพราะพี่ฟ้าเลือกเข้ามาจากหน้าตา
หรือว่าเป็นเพราะคิดว่าต่อไปน้องคงหลงคารมพี่เซ็นกันแน่ ชิส์ ดูเหมือนพี่ฟ้าแกพยายามจะแอบจับคู่น้องเค้กกับพี่คิวอยู่นะ
ดูส่งเสริมทุกอย่างเลย และคิดว่าพี่ซีเองก็คงจะรู้ความคิดนี้แน่ๆ คนร้านนี้เจ้าเล่ห์และความลับเยอะกันจริงๆ ตอนนี้เหมือนพี่คิว
และน้องเค้กค่อยๆเปิดใจเีรียนรู้กันและกันมากขึ้นนะ บรรยากาศมันดูผ่อนคลายสบายๆมากขึ้นมีพูดหยอกกันด้วย แอบน่ารักเบาๆ
พี่คิวดูท่าทางจะมีปมในใจเรื่องครอบครัวนะ และท่าทางจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากถึงได้ไม่พอใจมากมายขนาดนั้น แล้วใครกันที่มาที่บ้านพี่คิวน่ะ หวังว่าคงไม่ใช่คนในรูปนั้นใช่มั้ย เหมือนพี่คิวยังรักเค้าอยู่เลยนะ ส่วนฝันคงจะเป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนนั้นแน่ๆิอะ ที่สำคัญคงจะชอบพี่คิวมานานแล้วแน่ๆ แต่พี่คิวคงคิดแค่เพื่อนนั่นแหละ ระหว่างเค้กกับพี่คิวสงสัยความรู้สึกดีๆจะงอกงามขึ้นก็ต้องขอข้อมูลทำรายงานนี่แหละมั้งงง ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้กันเลยทีเดียว ตอนแรกคิดว่าพี่ฟ้าจะมีซัมติงกับพี่หมีซะอีก แต่กลายเป็นทิกเกอร์หรอกเหรอ เค้าเป็นใครกัน แลสนิทกับพี่คิวด้วยสงสัยจะเป็นเพื่อนในกลุ่มรึเปล่า ส่วนกัสนี่ต้องแอบคิดอะไรกับพี่เซ็นไม่มากก็น้อยนั่นแหละ แต่คงยังไม่จริงจังอะไรมาก อ๊ายยย เรื่องนี้น่ารัก น่าติดตามมากมายเลยจ้า ทิ้งท้ายไว้ได้ค้างคามาก T^T
-
ใครมาอะ ทำไมบรรยากาศมันเริ่มมาคุยังไงไม่รู้ พี่คิวกับน้องเค้กกำลังอยู่ด้วยกันแบบเพลินๆแท้ๆ
-
น่ารักอ่ะ น้องเค้กน่ารัก
ไม่ต้องมาประจบความผิดไม่ได้ลดลง <<<< ทำไมเรามองพี่คิวน่ารักว่ะ
ทิกเกอร์กะผญคนนั้คือใครมิรู้ว
ชอบตอนพี่คิวเอาปากกาตีหัวเค้ก ดูกุ๊กกิ๊กกันดีนะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
หนูติดตามนิยายพี่เบบี้ทุกเรื่องเลยค่ะ..แล้วก้อชอบทุกเรื่องเลย
พี่เเต่งเก่งจริงๆ.. o13
:pig4: :pig4:
-
อะไรกันตอนนี้ มันค้างคาซะจริงๆเลย
ทิกเกอร์ เป็นใคร???
-
~12~
ปึก !!!
ผมสะดุ้ง จะเรียกว่าตั้งตัวไม่ทันได้ไหมไม่ทราบ เพราะเมื่อผมได้เห็นผู้ชายสูงโปร่ง แต่งตัวดูดีมีภูมิฐานคนนี้เขาเดินเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่การกระทำของเขาช่างขัดกับการแต่งตัวเป็นอย่างมาก
“................” พี่คิวยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติงใดๆ แฟ้มเอกสารที่ถูกผู้ชายนิรนามคนนี้เขวี้ยงลงบนโต๊ะ ทำให้หนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะกระจายไปคนละทิศคนละทาง
“ฝีมือมึงใช่ไหมไอ้คิว” ผู้ชายคนนี้กัดกรามตนเองแน่น ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่นั่งตัวแทบจะหดเหลือนิ้วเดียวอยู่แล้ว พี่คิวลุกขึ้นยืนช้าๆ ไม่ทราบว่านี่คนหรือผีดับนะครับเพราะพี่เขานิ่งซะเหลือเกิน
“ใช่” พี่คิวตอบเสียงเรียบแต่ใบหน้ากลับเห็นรอยยิ้มแสยะออกมาทีละนิด
“ไอ้สัตว์!” ผู้ชายคนนี้ด่าเสียงดัง ผมเหลือบหันไปเห็นป้านิดแกยืนเก้ๆกังๆอยู่ปากประตูห้องเหมือนไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นเดียวกันกับผม
ปึก !!!
เสียงพี่คิวที่ถูกผู้ชายคนนั้นผลักอกอย่างแรง พี่คิวเซมาทางผม ผมรีบลุกขึ้นยืนเดินหลบออกมาอีกทาง คนที่มีอารมณ์รุนแรงน่าจะเป็นผู้ชายอีกคนมากกว่า พี่คิวยังคงรักษาอาการเหมือนไม่รู้สึกต่อสิ่งใด
“ออกไปจากบ้านกู” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังคงนิ่งเช่นเคย
“หึ..ไม่ใช่อาศัยเค้าอยู่หรอกเหรอ” ผู้ชายคนนี้แสยะยิ้ม
ผลัวะ !!!
อยู่ๆพี่คิวก็ชกปากพี่ผู้ชายคนนี้อย่างเร็วและแรงจนอีกฝ่ายที่ตั้งหลักไม่ทันเซไปชนชั้นหนังสืออย่างแรง พอพี่เขาตั้งตัวได้ พี่เขาก็ปรี่เข้ามาหาพี่คิวอีกครั้ง
“พะ..พี่ คิว” ผมยืนทำตัวไม่ถูก อยากจะเข้าไปห้ามก็อยาก แต่ผู้ชายทั้งสองคนนี้สูงไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยแปดสิบทั้งคู่ อีกอย่าง..ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสิบแปดผมยังไม่เคยเข้าไปห้ามคนที่มีเรื่องชกต่อยกันเลยสักครั้ง ก็ผมไม่เคยมีเรื่องกับใครเลยนี่ครับ แม่..ช่วยหนูด้วย หนูทำตัวไม่ถูกแล้ว..แง่ง~
ผมยืนมองอย่างร้อนรนที่เห็นทั้งสองคนต่างแลกหมัดกันไม่ยั้ง สุดท้ายพี่ผู้ชายคนนี้ก็เซตัวล้มลงไปบนพื้น แถมยังชนโคมไฟที่อยู่ใกล้โซฟาจนหล่นแตกอีกต่างหาก พี่คิวยืนหอบ เลือดออกที่มุมปาก พี่คิวทำท่าจะเดินหนีออกจากตรงนี้เหมือนไม่ต้องการรับรู้หรือต่อสู้อะไรอีก
“พี่คิว!” ปากผมเรียกแต่ไม่ทราบว่าทำไมขาของผมถึงดันก้าวเข้าไปเพื่อจะจับตัวพี่คิวให้หลบจากพี่ผู้ชายคนนั้น พี่เขาที่กำลังลุกขึ้นและในมือได้หยิบกล่องอะไรสักอย่างพร้อมที่จะเข้าไปทำร้ายพี่คิวทีเผลอ
ปึก !!!
ไอ้..คุณ เชี้ย~
“เฮ้ย” ผมได้ยินเพียงเสียงพี่คิวอุทาน หลังจากนั้นทราบเพียงว่าตัวเองนั้นล้มลงนอนกับพื้น หัวเบลอและมึนไปหมด อยู่ๆตาก็พร่ามัวแทบมองไม่เห็นอะไร
“อะไรกัน!” ผมได้ยินเสียงพี่ฟ้า ใช่..นี่เป็นเสียงของพี่ฟ้าแน่ๆ
“................” ทั้งห้องเงียบไป ผมพยายามรวบรวมสติและลืมตาขึ้นมองแต่ก็มองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก ผมจึงได้แต่นอนนิ่งเพราะไม่มีแรงลุก มือกุมปิดหัวไว้ด้วยรู้สึกกลัว
“มาทำไม” พี่ฟ้าพูดเสียงแข็ง
“ผมก็ไม่ได้อยากมานักหรอก ถ้าอาจะช่วยดูแลหลานอาให้ดีกว่านี้” พี่ผู้ชายคนนั้นตอบกระแทกเสียงเช่นกัน
“มันเรื่องของฉัน และ..นายไม่มีสิทธิ์เข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้” พี่ฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“หึ..ผมมีสิทธิ์แน่ มึง..ไอ้คิว” พี่แกพูดเสียงแสยะ
“ถ้ามึงเลือกที่จะเดินออกมาจากมรดกแล้วล่ะก็ มึงอยากไปตายที่ไหนก็ไป..มึงมาเสือกเรื่องของกูทำไม!” พี่ผู้ชายคนนั้นว่าด้วยน้ำเสียงที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“คิวมีสิทธิ์..มีสิทธิ์ในมรดกเท่าๆกับเธอ!” พี่ฟ้ากระแทกเสียง
“คนที่ถูกตัดออกจากกองมรดกอย่างอา มีสิทธิ์พูดอะไรด้วยเหรอครับ” พี่คนนี้พูดแสยะ ผมได้แต่นอนมอง..คนอะไรหน้าตาร้ายกาจเป็นบ้า
“ดี! ถ้าฉันไม่เกรงใจก็คงไม่เสียมารยาทนัก ฉันขอพูดในฐานะเจ้าของบ้าน ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้..ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” พี่ฟ้าพูดข่มน้ำเสียงให้เรียบลง ผมไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ฟ้ามีสีหน้าอย่างไรเพราะผมมองไม่เห็นว่าพี่ฟ้ายืนอยู่ตรงส่วนไหนของห้อง
“ผมไปแน่..” พี่เขาย้อนตอบทันควัน
“มึงกับกูจะได้เห็นดีกัน..ผลงานเชฟกระจอกๆอย่างมึง ไม่มีทางผ่านกรรมการหรอก” ผมได้แต่นอนมอง พี่ผู้ชายคนนี้พูดด้วยสีหน้าเหี้ยมจนผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลกด้วย
“เดี๋ยว..” พี่ฟ้าเรียกไว้
“ฉันขอเตือนในฐานะอา ระวังการกระทำหน่อยก็ดี อย่าคิดว่าตัวเองเล่นไม่ซื่อเป็นแค่คนเดียว..และอย่าลืม ว่าของพ่อฉัน..ไม่ใช่พ่อนาย” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“เพชร ยังไงมันก็คือเพชรอยู่วันยังค่ำ” พี่ฟ้าพูดส่งท้าย ผมไม่ได้ยินเสียงโต้ตอบใดๆจากพี่ผู้ชายคนนั้นอีก เสียงฝีเท้าเริ่มเบาลงจนไม่ได้ยิน
“เป็นไงบ้าง” พี่คิวนั่งลงถามผมทันที
“ไม่..ทราบ ฮะ” ผมตอบ
“เหวอ” ผมร้องอย่างตกใจ อยู่ๆพี่คิวก็อุ้มผมขึ้นทำให้ผมต้องรีบเอาแขนเข้าไปกอดคอของพี่คิวไว้
“เค้ก!!” พี่ฟ้ากับพี่กัสอุทานเสียงดังลั่น
“ป้าครับ ขอประคบเย็น เครื่องปฐมพยาบาลอะไรก็ได้..เค้กหัวแตก” พี่ฟ้าพูดรัว
“ใครทำอะไร” พี่ฟ้าถาม
“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ” พี่คิวตอบ
“แล้วนายมากันไว้ทำไม บ้ารึเปล่า” พี่คิวว่าหน้าเครียด
“ก็..ไม่รู้ มันไปเองนี่ครับ” ผมตอบเสียงเบา เคยรู้สึกไหมครับ ไม่ว่าจะสำหรับคนรู้จักหรือว่าคนใกล้ชิด หรือแม้แต่คนที่เราไม่รู้จักก็ตาม เมื่อเราเห็นว่าเขากำลังจะได้รับอันตรายและเราต้องการช่วยเหลือเขาเพียงเล็กน้อยนิดก็ตาม แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราต้องทำตัวอย่างไร สุดท้ายการกระทำก็เป็นไปเองอย่างอัตโนมัติ ผมเองก็คงเป็นอย่างนั้น
“อะไรคิว” พี่ฟ้าถามหน้าเครียดพอกัน
“สงกรานต์มันจะเอากล่องนั่นมาฟาดคิวน่ะ แต่ไอ้บ้านี่ดันเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า เลยโดนเข้าให้” พี่คิวบอก ผมเห็นป้านิดนำกล่องปฐมพยาบาลเข้ามาให้ พี่คิวรับกล่องมาและเริ่มนำแอลกอฮอล์ออกมาเพื่อล้างแผลให้ผม
“เดี๋ยวครับ” ผมจับแขนพี่คิวห้ามไว้ก่อน ตอนนี้สำลีที่อยู่ในมือพี่คิวอยู่ห่างจากหน้าผมเพียงไม่กี่เซ็นเท่านั้น
“มันคงแสบน่าดู” ผมยิ้มแหย
“ก็ถ้าไม่อยากจะติดเชื้อตาย ฉันจะไม่เช็ดให้ก็ได้นะ” พี่คิวย้อน
“หึ..” พี่กัสหัวเราะ
“สวัสดีครับ” ทุกคนหันไปมองพี่ฟ้า ที่อยู่ๆพี่ฟ้าก็ต่อสายโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ผมยังคงจับข้อมือของพี่คิวไว้แน่นอย่างห้ามปรามไม่ให้สำลีมาโดนแผลตนเอง
“ลูกชายของพี่ เข้ามาก่อเรื่องในบ้านของผม..ทำร้ายคนของผม” พี่ฟ้าพูดเสียงแข็ง พี่เขาเดินไปนั่งบนโต๊ะเขียนหนังสือ ทำให้ผมไม่สามารถเห็นหน้าตาท่าทางของพี่ฟ้าได้อีก
“ใช่..จะขอบคุณมาก ถ้าตักเตือนบ้าง”
“พี่ก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องของเด็ก นี่มันไม่ใช่การแข่งขัน นี่มันนอกเกม!” พี่ฟ้าเริ่มพูดกระแทกน้ำเสียงขึ้นเรื่อยๆ
“ครั้งต่อไป จะหาว่าผมไม่เตือนไม่ได้..ถ้าก้าวก่ายกันมากกว่านี้ ผมจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น..พี่ก็รู้ ว่าผมทำได้”
“................” ทั้งห้องเงียบกริบลง แค่ผมจะหายใจผมยังแทบจะไม่กล้าเลยอ่ะครับ ToT ไม่จริงอ่ะ..มีครอบครัวแบบนี้อยู่ด้วยเหรอครับ พอดีไม่เคยเจอแบบเล่นสดต่อหน้าต่อตาแบบเมื่อกี้..แทบไม่อยากจะเชื่อเลยละครับ
“มรดกพวกนั้น ไม่สำคัญต่อผมสักนิด..พี่ก็รู้ ว่าผมยืนเองได้..แต่พี่อย่าลืม ว่าถ้าพี่พลาดแค่นิดเดียว..มันก็คงยากที่จะลุกขึ้นยืน ระวังลูกของพี่ไว้..ผมแค่เตือนด้วยความหวังดี”
“ซี๊ด โอ้ย!” ผมสะดุ้งร้องด้วยความเจ็บ เมื่อกี้ผมคงมัวแต่ตั้งใจฟังพี่ฟ้าจนเผลอลืม อยู่ๆพี่คิวก็กดสำลีมาที่แผลเข้าให้อย่างจัง
“จิ้..” พี่คิวจิปากด้วยความหงุดหงิดแต่ก็ทำแผลให้ผมจนเสร็จ พี่กัสนำเอาผ้าก๊อตมาแปะแผลให้ผม พี่คิวเดินไปนั่งโซฟาตัวตรงข้าม ป้านิดคลานเข้ามาเก็บกล่องปฐมพยาบาลไป
“คิว” พี่ฟ้าเรียก พี่คิวนั่งเท้าแขนก้มหน้าก้มตาหน้าเครียด ผมได้แต่นอนนิ่ง
“ทำไมไม่บอกอาเรื่องนี้” เวร..เริ่มเข้าเขตแดนเรื่องในครอบครัวซะแล้วละครับ ผมกับพี่กัสมองหน้ากันและก็ต้องเม้มปากเข้าหากันเหมือนต่างคนต่างรู้ว่าควรหุบปากเงียบไปซะ
“มันกะทันหันน่ะ” พี่คิวตอบ หลังจากนั้นทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวก็เงียบไป ช่วยอย่าเงียบกันเลยครับ แม้ครู่เดียวก็อย่าทำตัวเงียบกันแบบนี้เลย เห็นใจพวกผมบ้างเถอะ ผมเกร็งท้องจนจะไม่มีพื้นที่ให้ลำไส้ได้ขดตัวแล้วนะ..แง่ง
“มันเป็นเรื่องใหญ่ ทำไมคิวไม่บอกอา!” พี่ฟ้าเริ่มขึ้นเสียง พี่กัสนำมือมาจับมือผมไว้เหมือนต้องการพวก
“ทำอะไร..เห็นหัวอาบ้างไหม” ทั้งผมและพี่กัสกำมือกันแน่น ทั้งเกร็งและตื่นเต้นไปหมดเพราะถึงแม้ว่าผมจะเคยเห็นพี่คิวกับพี่ฟ้ามีปากเสียงกันในห้องทำงานในคราวนั้น แต่ครั้งนี้กับครั้งนั้นความรู้สึกค่อนข้างแตกต่างกัน ผมเองไม่คิดจะชินหรอกนะครับ
“ขอโทษ” พี่คิวพูด พี่ฟ้าทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง
“โอเค..ผมขอโทษ” พี่คิวลุกขึ้นพูด พี่ฟ้าหยุดชะงัก ผมได้ยินเสียงพี่ฟ้าถอนหายใจเบาๆก่อนจะหันกลับมา
“อย่าให้ปู่รู้เรื่องนี้” พี่ฟ้ามองหน้าพี่คิวด้วยสายตาอ้อนวอน
“ทำไม” พี่คิวถามเสียงแข็ง คิ้วเริ่มขมวดเข้าชนกัน
“อาขอ..อย่าให้ปู่รู้เรื่องนี้” พี่ฟ้าย้ำ
“ทำไม ในเมื่อปู่แทบไม่..” พี่คิวเริ่มออกอาการไม่พอใจ
“โอเค ก็ได้..ผมจะไม่พูด ผมไม่เอาอะไรก็ได้..ทำไม ในเมื่อปู่มีสิทธิ์จะรู้ ผมไม่เข้าใจ..ทำไมคุณจะต้องแคร์อะไรที่เค้าแทบไม่แคร์คุณเลยด้วย” พี่คิวพูดขึ้นเสียงใส่เหมือนต้องการคำตอบจากพี่ฟ้าจริงๆ
“คิว..มีสิทธิ์ที่จะได้ทุกอย่าง” พี่ฟ้าพูดเสียงเรียบ
“นั่นมันเรื่องของผม” พี่คิวย้อน
“แต่คิวควรจะได้รับมัน!” จังหวะที่พี่ฟ้ากระแทกเสียง ผมกับพี่กัสสะดุ้งทำให้ต้องกำมือกันแรงมากขึ้นกว่าเดิม
“อาขอแค่นี้คิวทำไม่ได้รึไง ทำไมต้องทำให้อารู้สึกไม่สบายใจด้วย” ผมเห็นได้ทันทีว่าพี่ฟ้าน้ำตาคลอ พี่คิวเงียบไม่โต้ตอบอะไรอีก
“เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก อาหวังว่าคิวจะเข้าใจ..คิว เข้าใจใช่ไหม” พี่ฟ้าพูด พี่คิวยังยืนนิ่ง
“ไหนเค้ก..หายปวดบ้างรึยัง” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ยิ้มร่าเดินเข้ามาหาผม สีหน้าเปลี่ยนจากเมื่อกี้หน้ามือเป็นหลังมือ
“บ้างแล้วครับ” ผมยิ้มแหยตอบ คลายมือที่กำมือพี่กัสลง
“กินอะไรกันดีเย็นนี้ อืม..ทำพิซซ่าดีไหม เดี๋ยวพี่ทำให้กิน พาสต้า พิซซ่า ซุป..” พี่ฟ้าพูดยิ้ม
“อะไรก็ได้ครับ พี่ฟ้าทำอร่อยอยู่แล้ว” ผมยิ้ม
“ขอโทษด้วยนะ ต้องมารับรู้อะไรแย่ๆ..แถมยังเจ็บตัวอีก” พี่ฟ้าลูบหัวผมเบาๆและหันไปยิ้มให้พี่กัสอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เค้กเข้าใจ” ผมบอก
“กัสก็ไม่เป็นไรฮะ” พี่กัสยิ้ม
“น่ารัก” พี่ฟ้ายิ้มกว้างให้เราสองคน
“โอเค..ทำอาหารเย็นดีกว่า คิว..อยากกินอะไรรึเปล่า” พี่ฟ้าหันไปถาม พี่คิวส่ายหัวตอบแล้วนั่งลงที่เดิม พี่ฟ้าเดินไปลูบหัวพี่คิวและตบไหล่พี่คิวเบาๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“พี่ไปช่วยพี่ฟ้าดีกว่า” พี่กัสยิ้มหน้าเจื่อนให้ผม
“ไม่” ผมจับมือพี่กัสไว้
“พี่จะทิ้งเค้กเหรอ” ผมกัดฟันพูดเสียงเบา พี่กัสส่ายหัวเหมือนยืนยันว่ายังไงก็จะไปให้ได้ แถมเบะปากให้ผมเหมือนกลัวพี่คิวอีกต่างหาก
“โชคดีนะ” พี่กัสบอกปุ๊บก็วิ่งออกจากห้องไปปั๊บ
“................” โอเค..ดีมากครับทุกท่าน ผมนั่งตัวแข็งทื่อ เมื่อพี่กัสทิ้งผมไว้กับพี่คิวในห้องก็เงียบลงถนัด พี่คิวนั่งนิ่งเงียบหน้าเครียด
“พี่..โอเคนะ” ผมพูดแต่ไม่กล้าหันไปมองหน้าพี่เขาเท่าไหร่นัก พี่คิวไม่ตอบ
“ผม ไม่รู้หรอกนะครับว่า..เรื่องมันเป็นยังไง แต่..เหตุการณ์เมื่อกี้มันจบไปแล้ว ในวินาทีต่อไป..พี่ควรจะยิ้ม นะครับ” ผมพยายามพูด ใจผมเต้นเร้าๆแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ถ้าพี่คิวยังไม่ยอมยิ้มผมก็จะกลั้นหายใจตายตรงนี้แหละ..น่ากลัวอ่ะ
“นายไม่เป็นฉัน..” พี่คิวพูดขึ้น
“นายไม่รู้หรอก” ผมเสริม
“ใช่ครับ ไม่รู้..แต่ถ้าพี่เครียด มันก็จะไม่ดีต่อตัวเองใช่ไหมล่ะ ขนาดพี่ฟ้ายังยิ้มได้เลยนะครับ” ผมบอก
“นั่นมันคนปกติที่ไหนล่ะ” พี่คิวว่าให้
“หึหึ” ผมหัวเราะ
“แล้ว..ที่บ้านนายจะว่ารึเปล่า เรื่องหัวนายน่ะ” พี่คิวเปลี่ยนเรื่องซะอย่างนั้น
“คงไม่หรอกครับ ก็เล่าไปตรงๆ” ผมบอก เอามือลองจับแผลตัวเองเบาๆ
“จะไปเอ็กซเรย์ไหม”
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้เอง” ผมตอบ
“หึ ขอบใจแล้วกัน” พี่คิวยิ้มมุมปากและเหลือบตามองไปอีกทาง
“ไม่เป็นไร จิ๊บๆ” ผมตอบพร้อมกับปัดมือไปมา
“เหรอ” พี่คิวเลิกคิ้วกวนตอบด้วยสีหน้าไม่เชื่ออย่างนั้น
เราเงียบกันหลังจากนั้น ไม่มีบทสนทนาใดๆต่อ พี่คิวเอนตัวลงนอนอย่างเงียบๆ ผมนอนนิ่งนึกภาพย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อกี้จนเผลอหลับไปเมื่อไหร่ไม่ทราบ ตื่นมาอีกทีเป็นตอนที่พี่กัสมาปลุกให้ลุกไปกินอาหารเย็นนู่นแหละครับ
= = = = = = = =
ณ บ้านเค้ก..
“ขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ทางเราผิดเอง” พี่ฟ้าพูดเป็นครั้งที่สองแล้ว ผมบอกพี่ฟ้าตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่เป็นไร การที่ผมหัวแตกนี้ผมจะอธิบายให้ที่บ้านฟังเอง แต่พี่เขาไม่ยอมให้ได้นะสิครับ จะเข้ามาขอโทษแม่ผมให้ได้ สุดท้ายผมเลยต้องยอม และสถานการณ์ก็เป็นอย่างที่เห็น
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” แม่ผมยิ้มพูด
“นี่ครับ คุกกี้กับเค้กนี่..ผมทำเองกับมือ หวังว่าจะแทนคำขอโทษได้บ้างนะครับ” พี่ฟ้ายื่นถุงมาให้แม่ผม
“ขอบคุณมากนะคะ แม่ไม่ได้เอาความอะไรหรอก..แต่ยังไงก็ฝากเค้กด้วยก็แล้วกันค่ะ เค้าไม่เคยทำงานที่ไหนมาก่อน ขี้โรคด้วย” แม่ยิ้ม
“ครับ..ผมจะดูแลเป็นอย่างดีเลย งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ได้มาพูดกับตัว..ผมก็สบายใจ” พี่ฟ้าบอกพร้อมยกมือไหว้ พี่คิวก็ด้วยเช่นกัน
“ค่ะ” แม่ผมรับไหว้ ผมลุกขึ้นเพื่อจะไปส่งพี่ๆที่หน้าบ้าน
“พี่กลับนะ เจอกันวันศุกร์..แล้วถ้าเกิดปวดหัวหรือมีอาการอะไรให้บอกพี่ทันทีเลยนะครับ” พี่ฟ้าลูบแก้มผมเบาๆ ผมพยักหน้ายิ้มตอบ
“จะลวนลามอีกเยอะไหม ไปได้แล้ว” พี่คิวว่าแล้วเดินหนีขึ้นรถไปก่อน พี่ฟ้าทำปากขมุบขมิบเหมือนลิงหลอกเจ้าใส่พี่คิวลับหลังอีกด้วย
จุ๊บ~~
“เอ๊ะ..” ผมยืนอึ้งจับแก้มตัวเองที่เพิ่งโดนขโมยหอมไป ผู้ชายคนนี้คือผู้ชายคนแรกที่ขโมยแก้มของผม (o_O) แก้มของผม..โดนผู้ชายหอมอ่ะ
“ทิกเกอร์..เร็วๆ” พี่คิวชะโงกหน้าออกมาจากรถพร้อมกับตะโกนเรียกซะเสียงดัง
“เอ้..ไอ้บ้า ไอ้หลานเลว!” พี่ฟ้าหันไปว่าพี่คิวแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถอย่างง่ายดาย ผมยืนโบกมือบ๊ายบายให้ทั้งสองคนทั้งที่ยังรู้สึกอึ้งไม่ได้
“หึ..” เขินเหมือนกันแฮะ ผมเขิน..แต่กลับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นหรืออะไรไปมากกว่านี้ก็เท่านั้น
= = = = = = = =
“อันนี้ใบงานวิชาปรัชญา” ผมวางแผ่นงานของผมลง มีทั้งหมดสามแผ่น พีทและแก้วนำแผ่นงานของตัวเองมาวางทับ
“ใบนี้วิชาบริหาร” ผมวางนำไปก่อน วันนี้เป็นวันที่เดทไลน์ มีหลายวิชาที่ต้องส่งงานในวันนี้น่ะครับ
“อันนี้วัฒนธรรมเอเชีย” ผมวางสองแผ่นสุดท้ายลง
“โอเค..มึงเอาไปส่งนะพีท” ผมบอก
“ไรอ่ะ” พีทโวยวาย
“เอาไปส่งซิ กูต้องรีบไปร้าน..มึงนั่นแหละ ชอบลอก เอาไปส่งเลย” ผมว่า
“โห ตั้งสามห้องเลยนะ” พีทบ่นหน้ามุ่ยอีก
“แต่มันอยู่ตึกเดียวกัน” แก้วบิดหูพีทด้วยความหมันไส้
“แกๆ” ผม พีทและแก้วหันไปมองผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหา
“เธอนั่นแหละ” ผมชี้ตัวเองเพื่อความแน่ใจกันทั้งสองฝ่ายว่าเธอหมายถึงผมไม่ผิดแน่
“มีเบอร์ป่ะ เพื่อนขออ่ะ คนนั้นอ่ะ” เธอถามพร้อมกับชี้ไปที่เพื่อนผู้หญิงของเธอที่นั่งอยู่อีกฝั่งของห้องเรียน พวกผมหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
“เหอะๆ” ผมหัวเราะเจื่อนๆเพราะไม่รู้ว่าจะต้องตอบเธอว่าอย่างไรดี
“เอาเบอร์ผมแทนได้ป่ะครับ” พีทพูดแทรกขึ้นทีเล่นทีจริง
“เพื่อนจะเอาคนนี้” เธอยังชี้มาที่ผมอีกครั้ง
“มัน..มัน ชอบผู้ชาย” ดูไอ้พีทมันหาทางออกให้ผมสิครับ มันคงรู้ว่าผมลำบากใจที่จะให้เบอร์ แต่บางทีมันจะหาเหตุผลก็น่าจะไว้หน้าเพื่อนบ้างอะไรบ้าง
“..................” เธออึ้งมองหน้าผมเหมือนไม่เชื่อนัก ผมยิ้มให้เธอเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำที่พีทพูดบอกเธอเมื่อกี้
“ขอโทษด้วย ให้ไม่ได้อ่ะครับ” ผมก้มหัวให้เธอหน่อยๆ กลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทที่หักหน้าเธอ แต่ผมไม่พร้อมที่จะให้เบอร์ไปในตอนนี้จริงๆด้วยสาเหตุอะไรหลายๆอย่าง เธอยิ้มเจื่อน
“ไปนะ..รีบ” ผมตัดบทบอกแก้วและพีท
“เออ” พีทตอบ
“เออพีท มึงอย่าส่งผิดที่ล่ะ..” ผมหันไปเตือนมันอีกครั้ง
“ค้าบ เจอกัน” พีทโบกมือให้
“หวัดดีครับ แล้วเจอกัน” ผมยิ้มให้ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง เป็นการยิ้มย้ำว่าผมไม่ได้รังเกียจเธอแต่อย่างใดและขอบคุณที่ให้เกียรติมาขอเบอร์ผู้ชายอย่างผมด้วย
ผู้หญิงที่มาขอเบอร์ไม่ใช่ว่าหน้าตาไม่ดีหรอกนะครับ ผมไม่เก่งที่จะพูดคุยกับผู้หญิงเท่าไหร่นัก ผมไม่รู้ว่าอะไรควรพอดีหรือไม่พอดี หลายครั้งที่ผมรู้สึกประหม่าและไม่มั่นใจในการคบกับใครสักคน บางทีความรักสำหรับผมมันก็ยากจะเข้าใจ ยากจนผมเซ็งที่จะเริ่มต้นคบกับใคร มีผู้หญิงถึงสามคนที่บอกเลิกผม นั่นหมายถึงผมถูกหักอกมาแล้วถึงสามครั้ง ตอนนี้ถามว่าปิดกั้นตัวเองไหมก็คงไม่ ผมแค่ยังไม่พร้อมที่จะเริ่มต้นกับใครสักคน หรือบางทีคุณสมบัติของผมอาจจะไม่พร้อมเหมาะกับใครคนนั้นก็ได้ ผมกำลังสนุกกับการเรียนและประสบการณ์ใหม่ๆที่ผมกำลังจะได้รับ ผมกลัวว่าถ้าผมรักใครไปอีกครั้งและถ้ามีใครมาบอกเลิกผมอีกในสาเหตุที่ผมแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วตอนนั้นสภาพของผมจะเป็นอย่างไร...
.................>>>><<<<.................
-
:z13: ดีกว่า
-
เค้กแมนมากอ่ะ
55555
ปกป้องพี่คิวได้ด้วย
ว่าแต่พี่ฟ้ากะคนที่ชื่อทิกเกอร์นี่มีซัมติงไรกันป้ะเนี่ย ><
-
อ๊ากกกก!!!!! โดนพี่ฟ้าจุ๊บแก้ม เขินแทนน้องเค้ก >//////<
พี่คิวเรียกชื่อทิกเกอร์อีกแล้ว แฟนพี่ฟ้าจริงมั้ยเนี่ย
พาร์ทนี้ทำให้เห็นความน่ากลัวของญาติๆพี่คิวพี่ฟ้า
อะไรมันจะจงเกลียดจงชังกันซะขนาดนั้นน้าาา
-
จิ้ม ก่อนแล้วค่อยอ่าน
:z13: :z13:
-
เค้กเคยถูกผู้หญิงหักอก o22
หวังว่านายสงกรานต์ไรนั่นจะไม่มาทำอะไรไม่ดีอีกในอนาคตนะ :m16:
-
:fcuk: :fcuk: :fcuk: :fcuk:
:fcuk: :fcuk: :fcuk: :fcuk:
:fcuk: :fcuk: :fcuk: :fcuk:
-
น้องเค้กโดนพี่ฟ้าจุ๊บซะแล้ว :o8: :o8: :o8:
-
บ้านนี้ต้องมีปัญหากันแน่ๆ ใช่ปะ เล่นกันแรงซะด้วย ซวยเค้กเลย :เฮ้อ:
แต่มันก็ยังมีอะไรหวานๆขึ้นมานะ :-[
-
พาร์ทนี้เข้มข้น มันส์มากมาย
ชอบพี่ฟ้าาาาาาา มีน้ำตาคลอด้วยอ่ะ สรุปพี่จะเมะหรือจะเคะคะ ฮ่าๆๆๆๆ
ทิกเกอร์เป็นใคร อยากรู้มาก
เค้กอุตส่าห์ถวายตัว เอ้ย ออกโรงปกป้องพี่คิว เพราะงั้นพี่คิวต้องรับผิดชอบเค้กไปทั้งชีวิตนะ เอิ๊กๆ
ครอบครัวนี้ปัญหาเยอะ คาราคาซังมาก คนรวยใช่ว่าจะมีความสุข ต้องมาคอยแก่งแย่งชิงดีกัน ปวดตับ
และแล้วเค้กก็เสียเวอร์จิ้น(ที่แก้ม) ไว้เดี๋ยวค่อยให้พี่คิวลบรอยให้นะ อิอิ
อาทิตย์กว่ารอได้ค่า
-
:impress2: :impress2: จิ้มจองไว้ก่อน >>>>~ นอนก่อน จะมาอ่าน อ่ะ :L1: :L1: อากาศ เมืองไทย ยังร้อนเหมือนเดิม
-
:serius2:รักกันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
-
หัวแตกเลยน้องเค้กกกก :z3:
พี่ฟ้านี่แกโก๊ะๆนะ น่ารักอ้ะ :man1: :man1:
-
แป๊ะก่อนเดี๋ยวค่อยมาอ่าน
:3123:
-
เป็นคนรวยนี่ก็ลำบากเหมือนกันเนาะ
สู้เค้กไม่ได้ ไม่รวยแต่อบอุ่นและมีความสุข
-
:z2: ได้เลือดไปแล้วนะหนูเค้ก
สงสารพี่คิวจังเหมือนท่าว่าจะมีปัญหาชีวิต :เฮ้อ:
-
โอ้ยย ย ปัญหาครอบครัวคนรวยก็อย่างงี้แหละนะค่ะ มรดกเยอะกันดีนักอ่ะค่ะ
น้องเค้กแมนสุดๆ ไปเลยอ่ะ ได้แผลกันไปเลยงานนี้ แต่ก็คุ้มค่าแค่ไหน ก๊าก ก
ได้อยู่ในอ้อมก่อนของพี่คิวด้วยอ่ะ กรี๊ด ๆ ๆ งานนี้มีอุ้มเจ้าสาวกันเลยทีเดียว
เค้กน่ารักๆได้อีกอ่ะ ชอบพี่ฟ้าอีกแล้ว เป็นคุณอาที่น่ารักมากเลยค่ะ อยากมีอาแบบพี่ฟ้าสุดๆไปเลย
แอบจุ๊ฟแก้มน้องเค้กด้วยนะเนี้ย แอบอิจฉาอ่ะ แล้วนี้คุณหลานแอบหึงรึเปล่ารีบตะโกนดักคอไว้ก่อนเลยอ่ะ
ชอบจริงๆเลย หลานเลว ก๊าก ก ๆได้ใจจริงๆ พี่คิวก็สู้ๆนะค่ะ อย่าไปยอมแพ้นายสงกรานอะไรนั้น (ไม่รู้มันเป็นใครเหมือนกัน)
อาทิตย์กว่าๆ แล้วเรามาเจอกันใหม่นะค่ะ
-
บวกขอบคุณเบบี้จ้า
พี่คิวใช้คำว่าลวนลามระหว่างพี่ฟ้ากะเค้กได้เหรอออออ อยากทำมั่งอ่าดิ๊
-
สงสารน้องเค้ก พี่คิวจะเก๊กอีกนานไหมเนี่ย :m16:
-
เค้กน้อยของฉันเจ็บไหม้ลูก...อาคิวลื้อต้องดูแลอาเค้กดีๆๆนะ
-
โหหหหหหหหหห??ครอบครัวนี้ มีเรื่องเยอะเหมือนกันะเนี่ย
เค้กโดนลูกหลงซะงั้น..
แต่พี่คิวรู้สึกจะดีขึ้นนะเนี๊ย..ฮ่าๆๆๆ
-
อาทิตย์สิ้นเดือนเลยเร๊อะเบบี้ โอเครอได้
ว่าแต่ตอนนี้อ๊ากกกก เค้กเอาใจไปเลย ถ้าอิพี่คิวยังไม่รู้สึกขึ้นอีกบ้างก็ไม่รูว่าจะว่างัยแล้วอ่ะ อิอิ
-
แก้มน้องเค้กโดนพี่ฟ้าชิงไปซะแล้วนะพี่คิว :z1:
-
คนรวยก็เงี้ยะ มีปัญหาเรื่องมรดก
-
รอคิวชอบเค้กอะ ตอนนี้ความรู้สึกของคิวมันอึมครึม อยากเห็นคิวแสดงความรู้สึกจัง
-
:-[ ว้ายๆๆ น้องเค้กเสียความบริสุทธิ์(แก้ม) ให้ผู้ชายอื่น(???) แล้วน้าอีพี่คิวววว
ช้าเดี๋ยวก็อดหรอก ไหนจะพี่เซ็นอีกคน หึหึ o18
-
ทิกเกอร์นี่ไม่ใช่พี่ฟ้าเหรอ หรือเราอ่านผิดหว่า :m28:
-
รู้สึกว่าคำว่า "ทิกเกอร์" จะเป็นจุดอ่อนพี่ฟ้านะ :z2:
-
ต้องมีเรื่อง สิน่าาา
เหอะๆ ,,
น้องเค้ก ตั้งใจจะปกป้อง พี่คิวสินะ
><
-
ตามต่อไปๆ
-
คนรวยก็มีปัญหาหนักอกกับเค้าเหมือนกัน ก็คงไม่พ้นความอบอุ่นในครอบครัวกับเรื่องมรดกนั่นแหละ
ท่าทางตระกูลนี้จะเป็นตระกูลใหญ่ ก็เลยมีแก่งแย่งชิงดีกันบ้าง แต่ท่าทางจะรุนแรงแบบไม่ไว้หน้ากันเลยจริงๆ
เค้กน่ารักอ่า ปกป้องพี่คิวทันควันเลย อ๊ายยย พี่คิวอย่าเอาแต่นิ่งนะคะ เห็นมั้ยแก้มของน้องเค้กถูกพี่ฟ้าขโมยหอมไปแล้ว
อาหลานคู่นี้เค้าน่ารักดีอ่ะ กัดกันไปมา ฮ่าๆ รู้สึกว่าทิกเกอร์จะมีอิทธิพลต่อพี่ฟ้ามากๆ เค้าเป็นใครกันหน้อ แฟนพี่ฟ้าหรือ
หนุ่มที่กำลังตามจีบอยู่กันแน่
-
ทิกเกอร์อีกแล้ววว
ตกลงเป็นอะไรกะพี่ฟ้ากันหว่า
:serius2: :serius2:
-
เค้กเจ็บตัวแทนพี่คิวด้วย
-
น้องเค้กน่ารักอ่ะ >_<
-
ว๊ายยยยยย
น้องเค้กโดนคุนอาหอมแก้มไปแล้ววววววววววววว
พี่คิวววววววววว ทำไงดี
-
อุ๊ย! แก้มเค้กไม่เวอร์จิ้นแล้ว :laugh:
ไม่เป็นไร ที่อื่นยังรอพี่คิวอยู่ (หรือเปล่า?) :jul3:
ปัญหาครอบครัวพี่ฟ้ากับพี่คิวท่าทางจะหนักหนาเอาการ ขนาดเค้กยังซวยไปด้วยเลย :monkeysad:
แต่ที่หนักกว่าคืออีกเป็นอาทิตย์กว่าเบบี้จะมาต่อ ลงแดงตายแหงๆ :z3:
-
โอ้วว...มรดกเลือดปะเนี่ยโหดจัง
:pig4: คะ
-
อยากรุ้เรื่องราวจริงๆแบบเจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องของพี่คิวกับพี่ฟ้าแบบเสนอหน้าสุดๆเลยคับเจ้
-
ท่าทางฝั่งพี่คิวจะปัญหาเยอะ
เค้กโดนขโมยหอมด้วยอะ
อยากรู้จักทิกเกอร์
:กอด1: :pig4:
-
ทิกเกอร์ คือใครหว่า?
เค้ก ถ้าไม่ถนัดคุยกับผู้หญิง ก็หันมาคุยกับผู้ชายสิ รับรอง รุ่งงง
-
อีกประมาณอาทิตย์กว่าๆถึงจะมาต่อ..
ลงแดงตายแน่ๆตู 555555555+
บ๊ะ ถ้าเค้กจะน่ารักซะขนาดนี้นะ อร๊ายยยย จีบเลยๆๆ :laugh:
-
:กอด1:
-
สงกรานต์นี่นิสัยเลวจริงๆ :m16:
น้องเค้กนี่แสนดี น่ารัก จริงใจ ว่าแต่ทิกเกอร์นี่ใครอ่ะอยากรู้
อีกอาทิตย์กว่าๆ รอนะ~
-
มึนๆ งงๆ เหมือนน้องเค้ก
่บ้านนี้เขาแปลกๆ เนอะ มีอะไรลึกๆ ลับๆ
เมื่อไรพี่คิวจะปิ๊งน้องเค้ก
-
โถ...น้องเค้กผู้น่าสงสาร
พี่ว่าเหตุผลหลักๆ ที่หนูโดนบอกเลิกเนี่ย
มันต้องเป็นเพราะ "หนูน่ารักกว่าพวกคุณเธอ" แน่เลย :m12:
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อีกตั้งอาทิดนึง ลงแดงแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
เค้กน่ารักไปป่ะ กินไรเปนอาหารจร๊ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
โอย ต่อมเสือกระเบิด อยากรู้อยากเห็นเรื่องในครอบครัวชาวบ้านอ่า
-
พี่คิววววววววววววววววววว
ทำไมนิ่ง และหยิ่งเยี่ยงเน้
เค้กอุตส่าห์ ยอมตายถวายชีวิตโดดเข้ารับแทนเลยนะ
o22
-
:impress2: เมื่อไหร่พี่คิวจะชอบเค้กนะ
ส่วนพี่ฟ้ากะทิกเกอร์นี่ยังไง
อยาเห็นพี่ฟ้าเป็นเคะจัง :laugh:
-
พี่คิวนิสัยอะ เห็นไหมเค็กเจ็บตัวเพราะพี่คิว น่าจะทำดีกับน้องเค้าให้มาก ๆ :fcuk: :fcuk:
แต่นะอะนะ น่านักเชียว :13223: :13223:
พี่ฟ้าได้จูบแรกน้องเค็กอะ สมน้ำหน้าพี่คิว :z6: :z6:
+ 1 ให้จ้า :call: :call:
-
ผลงานของคุณเบบี้ ยอดเยี่ยมค่ะ
น้องเค็กน่ารักอะ :กอด1:
-
เป็นปลื้มมม
:o8: :o8:
แอบมีความคิดว่า อยากให้พี่ฟ้ามาหอมแก้ม
-
หนูเค้กหัวแตกเลย
-
ว้าววววว ปกป้องที่รักด้วยล่ะ เค้กแมนมากจ้ะ(ไม่เข้ากับหน้าเลย) :laugh:
-
ออกแนวศึกเลือดล้างตระกูล !! :fire:
-
เข้ามารออ่านต่อก่อน :)
คราวนี้น้องเค้กเจ็บวุ้ย =.,=
-
แป่ว แลดูปัญหาของบ้านพี่คิวและพี่ฟ้าจะยิ่งใหญ่นะเนี่ย เค้กน่ารักที่สุดอ่ะปกป้องพี่คิวด้วย >< แล้วทิกเกอร์นั่นใคร อยากรู้จังว่าเป็นไรกับพี่ฟ้าอ่ะ มาต่อเร็วๆ นะค่ะ รอจ้า :))
-
เรื่องนี้นี่มีเงื่อน มีปมเยอะเหลือเกิน เหอๆๆๆ
รอตอนต่อไป อิอิ
-
น่ารัก :m1: เค้กปกป้องพี่คิวด้วยอ่ะ ><
พีท เอิ่ม เหตุผลที่ช่วยเพื่อน :laugh:
อีก อีก 1 อาทิตย์ :z3: แต่ยังไงก็รออ่านได้เสมอ
-
แย่งมรดกคิวซะงั้น น้องเค้กหัวเเตกเลย ไม่ขอโทษอีก
รอจ้าเบบี้
-
ฟ้า :กอด1: ออกมาน้อยๆ แต่บ่อยๆๆๆ นะเบบี้
... เค้กนี่น่าเอ็นดูเนอะ o18
-
เค้กหัวแตกเจ็บมั้ย โอ๋ๆๆๆ
พี่คิ้วยิ้มมุมปาก แอร๊ยยยยยย :-[
-
ถึงหัวจะแตกเค้กก็ยังน่ารักเหมือนเดิม
:-[
-
น้องเค้กซวยเลย
ว่าแต่ครอบครัวนี้เค้ามีปัญหาอะไรกันหว่า รอเฉลยต่อไปค่ะ
-
ปัญหาของคนมีเงินเฮ้อ! แต่ทำเค้กเจ็บตัว เกลียดเลยเหอะนายสงกรานต์ ต้องมีเรื่องยุ่งๆ ตามมาเพราะตานี้แน่
-
เง้อออออ แก้มน้องเค้กถูกพี่ฟ้าขโมยจุ๊บไปแล้วอ่ะ :serius2:
เค้าอยากให้พี่คิวเป็นคนได้จุ๊บคนแรกอ่า....
ตอนนี้แอบกลัวญาติพี่ฟ้ากะพี่คิวนะเนี่ย...
ลึกลับ ซับซ้อนได้อีกครอบครัวนี้ :เฮ้อ:
-
ปัญหาครอบครัวของคิวกับฟ้าคงสาหัสมาก o22 เค้กกับกัสเลยต้องพลอยอึมครึมไปด้วย
เค้กเคยถูกสาวหักอกมาแล้วสามครั้ง :a5:โห แทบไม่เชื่อเลยอะ คิดว่าน่ารักอย่างเค้กน่าจะเป็นฝ่ายหักอกเค้ามากกว่า :-[
-
เค้กไม่เก่งที่จะคุยกับผู้หญิง
แต่เก่งที่จะคุยกับผู้ชาย รึป่าว
-
ต้องให้พี่คิวมาเปิดประตูใจให้
-
เป็นไงอะพี่ฟ้าถึงได้หอมแก้มเค้กอะ
แล้วพี่คิวละ ป้าเบอะ ทำไมทำแบบนี้
-
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจิงๆ
ไม่เข้าใจอะไรเลยยยย
-
ปัญหาของคนรวยก้คงไม่พ้นเรื่องมรดก เฮ้อออออออ สงสารเหมือนกันนะ
แต่น้องเค้ก แมนมากกกกกกกก กล้าที่จะปกป้องคนอื่น ยิ่งรักไปใหญ่เลยเนี่ย
ว่าแต่ "ทิกเกอร์" เนี่ย ชื่อพี่ฟ้าเหรอ อิอิ
-
พี่ฟ้ายังน่ารักเหมือนเดิมอ่า :กอด1:
-
น้องเค้กของเราเคยถูกหักอก 3 ครั้งเชียว
สงสัยสาวๆเหล่านั้นอาจจะเิ่พิ่งเข้าใจกันภายหลังว่าเราควรจะเป็นแค่เพื่อน
หรือว่ามันมีเบื้องหลังอะไรกันแน่ สาเหตุแบบที่เจ้าตัวงงๆอย่างนี้น่าค้นหาจริงเชียว
ปล. อุ้มกันด้วย กิสสสสส
-
:z1: :z1: :z1: :z1: :really2: :really2: :really2: :really2: น่ารัก
-
แมนมากนู๋เค้ก :กอด1:
-
การแข่งขันในครอบครัวสูงนะเนี่ย...สงสารเค้ก หัวแตกเลยอ่ะ
ส่วนน้องผู้หญิงที่มาขอเบอร์เค้ก ดีแล้วที่เค้กไม่ให้ แล้วพีทสร้างกระแสข่าวว่าเค้กเป็นเกย์ล่วงหน้า
ถ้าเกิดอนาคตได้คบกับพี่คิวจริงจะได้ไม่ต้องมากลุ้มเรื่องภาพลักษณ์ :m20:
-
ตามอ่านจนทันจนได้ อิอิ o13
เนื้อเรื่องน่ารักมากเลยค่ะ อ่านไปก็หิวอยากกินเค้ก + ขนมไปด้วย
กว่าจะอ่านจบ ต้องอ้วนแน่ๆ เลย ^0^
-
น่ารักดี ความห่วงใยเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกแล้ว
ปล.น้องเบบี๋เลิสสสสสสสสสสสสสสสมาก
อีกอาทิตย์ว่า ให้กำลังใจเสมอนะเบบี๋ :pig4:
-
จัดการมันเลยพี่คิว
นิสัยไม่ดี......!!
ทำน้องเค้กที่รักหัวแตก
-
ไอ้เหตุหัวแตกเนี่ย เป็นอาการของคนปกป้องคนรักน่ะเนี่ย
การได้พูดคุยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้พี่คิวเริ่มเปิดใจพูดคุยกับน้องเค้กมากขึ้น
อีกหน่อยก็กลายเป็นความผูกพัน ที่พี่ฟ้าอยากให้เกิด :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้
ปล. อีกหนึ่งอาทิตย์ :z3:
-
เพิ่งเห็นครับ ก็รีบตามมาอ่านเลย
ไม่ผิดหวัง
รอติดตามต่อไป
-
คงไม่ใช่ว่า
คิว
เป็นหลานคนเดียวหรอกน่ะ
หรือ
หลานที่ปู่รักคนเดียว
ศึกล้างตระกลูป่ะเนี้ย
-
“พี่จะทิ้งเค้กเหรอ” <<<<<แอร๊ เค้กน่ารักอ่ะ พี่คิวไม่น่ากลัวสักหน่อย
เมื่อไหร่หนอ ที่พี่คิวจะเป็นคนที่ได้จุ๊บๆแก้มเค้ก ><
เบบี้จะไปไหนนนนนน อาทิตย์กว่า รอได้จ้าาา
-
พี่ฟ้า~~~ :laugh: ชอบอ่ะ
พี่คิวก็....หล่อไปนะ :z1:
-
:L2:
-
อ่านทันแล้วววววววว
-
รวบเดียว 12 ตอนจบ คึคึ
อ่านแล้วอยากตีหัวอิพี่คิวทุกๆสิบวิจริงๆ
แต่ฮาพีทอ่ะ มัน มัน ชอบผู้ชาย =[]=
เหมือนจะรู้อนาคตว่าเพื่อนจะ..... :haun4:
-
ทิกเกอร์คือใครหว่า?
เมื่อไหร่คิวปิดจะรักน้องเค้ก ฮึ่ย.. ขัดใจ
เป็นกำลังใจให้คนเขียน รออ่านต่อนะค่ะ
-
:really2:
ใครคือทิกเกอร์
-
อ๊ากกกกก อีกอาทิตย์กว่าๆเลยหรอคะ T^T ชอบพี่คิวอ่า พี่คิวน่าารัก แต่ทำไมต้องเป็นพี่ฟ้าที่ขโมยหอมแก้มเค้กล่ะเนี่ยะ ฮึ่ยยย
-
ครอบครัวนี้ ช่สงวุ่นวายเหลือเกิน
พี่ฟ้าเวลาจริงจังนี้ โหดยุนะ
ทิกเกอร์ เขาคือใคร?????
-
มาเยี่ยมเจ๊เบครับ ^^
-
อ่านจบแล้ว คนที่มาทำร้ายคิวต้องเป็นพี่ชายแน่เลย
พี่ฟ้าเวลาโหดยังดูผู้ดีอ่ะ
-
อ่านทันละจ้า
อ่านๆไปเริ่มเห็นว่าเค้กคิวเริ่มญ่ติดีกันนิดๆ ละนะ
เหมือนจะรู้แนวกันมากขึ้น
เรื่องทางบ้านอาฟ้านี่ท่าทางลึกลับซับซ้อนน่าดูเลยอ่ะ
แอบอยการุ้จังว่าทิกเกอร์คือใคร
อิพี่คิวก๊วนกวน...สามโลก
-
รอนานสักนิด
แต่ก็คุ้มกับการรอคอยทุกครั้ง
ก็จะรอต่อไป
-
อ่อยยยยยยยยย น้องเค้กน่ารักจังเลยยยยยยยยย
แต่เสียแก้มให้พี่ฟ้าแล้วอ่า ไม่นับว่าเสียได้มั้ย พี่น้องๆ กร๊าก
แลดูสนิทกันขึ้นมากๆเลยนะ พี่คิวกับเค้ก คุยเล่นหัวกันได้แล้วอ่า แอร๊ยยยย ชอบบบบ
นับวันรอเบบี้ :-[
-
~13~
“งานวันเกิด ลั่นลางานวันเกิด~” ผมนั่งยิ้มมองพี่กัสวิ่งปรบมือไปมารอบห้องพักสำหรับพนักงาน
“นี่..เสียงดัง” พี่หมีว่า
“ฉลองฟรีงานวันเกิดพี่เลยนะ” พี่กัสพุ่งตัวกลับมาที่โต๊ะจนหน้าจะทิ่มเข้าไปชนกับหน้าของพี่หมีอยู่แล้ว
“วุ่นวาย” พี่หมีว่าหน้างอ
“โหย หมีน้อย..วันเกิดพี่เลยนะ แถมพี่ฟ้าเป็นเจ้ามืออีกต่างหาก เริดแน่ๆ” พี่กัสเพ้อไม่หยุด
“กัสอยู่กับที่ได้ไหม วิ่งไปวิ่งมาพี่มึนหัว” พี่หมีขมวดคิ้ว ส่งสายตาดุใส่พี่กัสอีกด้วย
“ดุไมอ่ะ” พี่กัสทำหน้าสลดลง
“แล้วนี่อะไร..พ่อแม่ไม่เคยปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นนอกบ้านรึไง ร่าเริงจริง” พี่หมีว่าขำๆ
“บ้าอ่ะ ก็กัสไม่ค่อยได้เที่ยวนี่..เดี๋ยวนี้ เรียน ทำงาน เรียน เรียน และก็เรียน” พี่กัสทำปากจู๋และหยุดวิ่งไปมาแล้ว
“มาไมอ่ะ” พี่กัสถามด้วยน้ำเสียงหาเรื่องพี่เซ็นที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน
“มาหารักแท้” พี่เซ็นเบะปากตอบ ผมอมยิ้มเล็กน้อย พี่กัสทำหน้าเบ้ ส่วนพี่หมีได้แต่อมยิ้มเช่นกัน พี่เซ็นเดินมานั่งลงที่ข้างๆพี่หมี
“เหนื่อยไหมครับวันนี้” พี่เซ็นยิ้มถาม มองหน้าผม
“นิดหน่อยครับ” ผมพยักหน้าตอบให้
“แล้ววันเกิดพี่ให้ไร” พี่หมีถามขึ้น นำมือซ้ายเท้าหัว เหล่สายตาถามพี่กัส
“อยากได้ไรอ่ะ” พี่กัสถามกลับ
“ไปต่อที่ห้องพี่ไหม” พี่หมีพูดบอกหน้านิ่งได้อีก ผมนั่งอ้าปากเหวอ ปกติมันควรเป็นรูปประโยคที่ฟังดูธรรมดาแต่เพราะเป็นพี่หมีที่พูดกับพี่กัสผมจึงฟังและคิดว่ามันไม่ธรรมดานะสิครับ
เพี้ย !!
“เดี๋ยวนี้ทะลึ่งนะมึง” พี่เซ็นว่าหลังจากที่ตบหัวพี่หมีเข้าให้แล้ว
“เจ็บนะ..พี่อ่ะ” พี่หมีลูบหัวตัวเองปรอยๆ
“ผมก็พูดเล่นไปงั้น พี่เดือดร้อนไรครับ” พี่หมีพูดด้วยน้ำเสียงมีเล่ห์นัยอย่างเห็นได้ชัด ผมได้แต่นั่งมองอย่างไม่เข้าใจนัก
“เปล้า” พี่เซ็นตอบแต่กลับเหสายตาหนี
“ไปทำงานดีกว่า ไม่ชอบอู้เหมือนใครบางคน...แถวนี้” พี่กัสลุกขึ้นยืน ทำหัวซ้ายทีขวาทีเดินออกจากห้องไป
“มันว่าใครวะ” พี่เซ็นถาม เหสายตามามองทั้งผมและพี่หมี
“ทั้งหมดที่นั่งอยู่นี่แหละ” พี่หมีตอบขำๆ
“หึ..” ผมลุกขึ้นยืน เดินไปหยิบหูกระต่ายมาใส่เตรียมตัวเข้าทำงาน
“พี่ใส่ให้ไหม” พี่เซ็นถามขึ้น มองหน้าผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ขนาดที่ว่าผมเป็นผู้ชายเองก็ยังรู้สึกเขินไม่ได้
“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มตอบ
“พี่มาใส่ให้ผมนี่มา” พี่หมีกวักมือเรียก
“อืมหื้ม..มึงนี่กล้าเชิญชวนกูนะ” พี่เซ็นพูดแกมหัวเราะ พี่หมียิ้มกว้างออกมา ผมยืนมองและเริ่มงงกับคนเหล่านี้มากขึ้น หรือผมช่างสงสัยมากเกินไป แต่กลิ่นมันชักแปลกๆ เอ๊ะ..หรือว่าผมคิดไปเองกันละครับนี่
= = = = = = = =
ณ บ้านเค้ก..
“ทำอะไรน่ะลูก”
“ทำของขวัญให้พี่หมีอ่ะฮะ” ผมตอบ หลังจากที่พี่ฟ้าได้ประกาศอย่างเป็นทางการเรื่องสถานที่ในการฉลองงานวันเกิดให้พี่หมี ในเย็นวันเสาร์เมื่อผมออกแบบของที่จะให้เสร็จเรียบร้อยก็รีบมุ่งตรงไปที่ร้านเครื่องเขียน หาซื้ออุปกรณ์ทำของขวัญชิ้นนี้ทันที
“หึ พี่คนหน้าโหดที่เล่าให้ฟังนั่นน่ะเหรอ” แม่ยิ้มถาม
“ครับ แต่พี่เค้าใจดีนะ” ผมบอก
“แล้วจะทำอะไร” แม่ถามอีก
“เดี๋ยวเสร็จแล้วจะเอาไปโชว์ แม่อย่ากวนเค้กสิ..เค้กต้องใช้สมาธิอ่ะ” ผมทำปากจู๋ใส่แม่ แม่ยิ้มลูบหัวผมแล้วเดินเข้าครัวไป ผมนั่งทำของขวัญชิ้นนี้อีกครั้งอย่างตั้งใจ ผมคิดว่าพวกพี่ๆคนอื่นๆคงให้ของขวัญที่ดีมีราคาอย่างแน่นอน แต่ผมไม่มีเงินหรืออะไรจะสามารถไปสู้เขาได้ และด้วยความที่ผมชอบประดิษฐ์ของอยู่แล้ว สุดท้ายของขวัญจึงหนีไม่พ้นการประดิษฐ์จากฝีมือของผมเอง ผมคิดว่าพี่หมีคงจะเห็นถึงความตั้งใจนี้ของผม
ของขวัญชิ้นนี้ผมทำเป็นกรอบรูปแต่จะทำเป็นกรอบรูปแบบแขวน แต่ที่พี่พิเศษกว่านั้นคือเป็นกรอบรูปที่ผมวาดรูปขึ้นเอง ระบายสีเอง แน่นอนว่ากรอบรูปต้องประดิษฐ์เอง มันจะต้องออกมาสวยอย่างแน่นอนเพราะผมเชื่อในฝีมือของตัวเองน่ะนะครับ
= = = = = = = =
10 สิงหาคม 2554 ณ ร้าน Am Bar โรงแรมอิลัสทรี..
“พี่หมี นี่ของขวัญ” ผมยื่นกล่องของขวัญให้พี่หมีเมื่อได้โอกาสเหมาะ
“เอาไปแกะที่บ้านได้ไหม เค้กเขินอ่ะ” ผมยิ้มบอก บิดตัวเองไปมาตัวแทบจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว พอได้เห็นสถานที่จัดงานและของที่คนอื่นๆนำมาให้พี่หมีแล้วก็ต้องแอบอายไม่ได้
“หึ..ขอบใจนะ” พี่หมียิ้มพร้อมกับกอดไหล่ผมเข้าไป มือของพี่เขาขยี้ที่หัวผมอย่างแรง
“พี่อย่าหัวเราะล่ะ” ผมบอกก่อน
“ไม่สัญญา” พี่หมีอมยิ้ม
“ทุกคน..ถ่ายรูปกัน” จู่ๆพี่ฟ้าก็วิ่งเข้ามา พนักงานร้านถือกล้องตัวเก่งของพี่ฟ้าตั้งท่าไว้เรียบร้อยทำให้ทุกคนรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อที่จะถ่ายรูปพร้อมกัน
“เดี๋ยวครับ” พี่เซ็นพูดห้ามพนักงาน พวกผมชะงักหันไปเห็นพี่คิวกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับพี่ฝันพอดี
“เชิญครับท่านประธาน ทีงี้เสือกมาสาย” พี่เซ็นว่า
“ทีงี้มึงก็เสือกมาซะเร็วนะ” พี่คิวย้อนหน้าตายได้อีก ทำเอาพี่เซ็นถึงกับเถียงไม่ออก
“ถ่ายรูปกันมา ฝันเข้ามา” พี่ฟ้าเรียก พี่ฝันยิ้มน้อยๆเหมือนไม่กล้าเข้ามามากนัก แต่พี่คิวจับแขนพี่ฝันให้เข้ามาในวงด้วยกัน รูปออกมาเป็นที่หน้าพอใจสำหรับทุกคน ไม่มีหน้าใครสักคนที่ดูไม่ดีและไม่เป็นที่พอใจสำหรับเจ้าของหน้าน่ะนะครับ
“เค้กซื้ออะไรให้หมีเหรอ” พี่ฟ้าถาม เราเริ่มทานอาหาร คุยกันไปพลาง นักดนตรีเล่นดนตรีคลอเบาๆบรรยากาศดีมากทีเดียว
“ทำเองนะครับ” ผมตอบ
“ห๊ะ ทำเอง!” พี่ฟ้าพูดเสียงดัง ผมผงะตาโตเช่นเดียวกันกับพี่ฟ้า
“อยากได้บ้างอ่ะ อยากได้อ่ะ” พี่ฟ้าทำหน้างอเข้ามาคลอเคลียผมในทันที
“นี่บอส..” พี่หมีเรียก
“หนิ..ที่นี่นอกเขตสถานที่ราชการนะ บอสเบิสเลิกเรียกสักทีได้ไหม” พี่ฟ้าว่าให้
“หึ..โอเค พี่ฟ้า” พี่หมียิ้ม
“จะแสดงกิริยาอะไร ก็ช่วยรักษาหน้าตัวเองนิดนึงได้ไหมครับ” พี่หมีพูด
“ไอ้บ้า” พี่ฟ้าว่ากลับแต่กับมีท่าทีเขินพี่หมีซะอย่างนั้น พวกเราได้แต่อมยิ้มมอง
“หมีพูดถูก” พี่คิวเสริมพร้อมยื่นแก้วเหล้าของตัวเองไปชนกับแก้วเหล้าของพี่หมีที่วางอยู่บนโต๊ะ พี่หมียิ้มพร้อมหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาดื่มเหมือนเป็นมารยาทตอบให้
“สมภารกินไก่วัดไง” พี่เซ็นว่าขึ้น
“จ้ะ วันหน้าก็อย่าคาบไก่ที่นั่งๆอยู่ลงไปกินในน้ำก็แล้วกันนะ” พี่ฟ้าพูดแสยะยิ้ม พี่เซ็นยิ้มเจ้าเล่ห์ตอบให้ในทันที อยู่ๆทุกคนก็เงียบไป เงียบทั้งที่ยังคงอมยิ้มกันอยู่
“ฝันเลิกงานเร็วเหรอวันนี้ ทุกทีเห็นกลับดึกตลอดหนิ” พี่ฟ้าถาม
“ค่ะ วันนี้ฝันพบลูกค้าตั้งแต่เช้า ก็ไม่มีต่อแล้วค่ะอา..อยากพักน่ะ” พี่ฝันยิ้ม
“แล้ว..แต่งงานกันเมื่อไหร่ดีคู่นี้” พี่เซ็นถามขึ้นโต้งๆ
“................” พวกผมเงียบ บนโต๊ะเงียบสนิทในทันใด
“หึหึ” พี่เซ็นหัวเราะเพราะโดนพี่คิวหยิบผักที่อยู่ใกล้มือเขวี้ยงใส่
“เซ็นนี่ ปาก..” พี่ฝันทำหน้าหน่าย
“หมาตลอด” พี่ฟ้าเสริม
“เออ รุมกันเข้าไป..เค้กครับ พี่โดนรุมอ่ะ” อยู่ๆพี่เซ็นก็เข้ามากอดแขนผมพร้อมกับเอาหัวมาซบไหล่ผมด้วย ผมได้แต่นั่งนิ่งด้วยไม่กล้าปฏิเสธหรือหลบหลีกใดๆ
“มานี่เลยยยยยย” พี่ซีกัดฟันพูดพร้อมกับดึงหูพี่เซ็นไปอย่างแรงทำให้พี่เซ็นผละออกจากตัวผมไป
“โอ้ยๆ” พี่เซ็นร้องเสียงหลง
“เดี๋ยวคืนนี้พี่ไปส่งนะ บอกแม่แล้วใช่ไหมครับ” พี่ฟ้าถามผม
“ครับ บอกแล้ว” ผมพยักหน้าตอบ
“ส่งกัสด้วย เมื่อเย็นกัสมากับพี่ซี” พี่กัสยกมือขึ้น
“ได้สิ แล้วพ่อรู้รึเปล่าน่ะว่ามากินกัน..ไม่ใช่กลับไปโดนว่าล่ะ” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“รู้แล้ว พี่คิวโทรไปขอให้อ่ะฮะ” พี่กัสพูดหน้าหงอยลง
“หวงจริงนะ” พี่เซ็นแซวเสียงเรียบ ตาไม่ได้มองที่ใครแต่จับจ้องไปที่แก้วไวน์ของตน
“ก็แน่ล่ะ..บนโลกนี้ยังมีคนอย่างมึงอยู่อีกเป็นล้าน มึงคิดดูสิว่าจะน่ากลัวขนาดไหน” พี่คิวจัดชุดใหญ่ให้พี่เซ็นทันที
“ไอ้เหี้ยนี่ก็ว่ากูตลอดอ่ะ” พี่เซ็นทำหน้าทำตา ทุกคนบนโต๊ะต่างหัวเราะกันเป็นเสียงเดียว
พวกเราพูดคุยกันอย่างออกรส ผมได้รู้เรื่องของคนอื่นๆมากขึ้น เรื่องมหาลัยและเรื่องเพื่อนๆของพี่ออฟ เรื่องความรักของพี่หมี เรื่องที่บ้านของพี่กัส เรื่องความเจ้าชู้ประตูดินของพี่เซ็น เรื่องที่ว่าพี่เซ็นรักน้องสาวของตนเองมากขนาดไหนก็ด้วย เรื่องระหว่างพี่ฝันกับพี่คิวที่โดนคนบนโต๊ะล้อไม่หยุด ร่วมถึงเรื่องของพี่ฟ้าที่หนีไม่พ้นกับคนที่ชื่อ ทิกเกอร์ อะไรนั่น
“อ่าว..” ผมชะงักที่เห็นพี่คิวเดินออกจากห้องน้ำมาพร้อมกับผมพอดี
“ไง..จะกลับรึยัง” พี่คิวถาม
“แล้วพี่ล่ะ” ผมถามกลับ
“ก็..สักพัก”
“เอ่อ..พี่คิว เรื่องที่จะให้ผมไปถ่ายรูปที่โรงแรม ตกลงไปได้ไหมอ่ะครับ” ผมถามด้วยความเกรงใจ เมื่อวานก่อนแก้วขอให้ผมมาขอพี่คิวอีกครั้ง เพราะแก้วอยากได้รูปถ่ายจากสถานที่จริงมากกว่า จะได้ดูเป็นเหตุเป็นผลและอาจจะเรียกคะแนนของงานได้มากขึ้น
“................” พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่ง
“ได้” พี่เขาพยักหน้าตอบ
“เย้..วันไหนดีครับ” ผมยิ้มถามทันที
“ยังไม่รู้ ต้องดูตารางงานก่อน”
“โถ่ แต่ต้องบอกผมล่วงหน้าด้วยนะ พวกผมก็มีตารางเหมือนกันแหละ..ไม่ใช่ตัวเองงานยุ่งได้คนเดียวเมื่อไหร่” ผมแกล้งพูดบ้าง
“หึ..” พี่เขาแสยะยิ้มอีก
“ครับ” ผมถามกลับอย่างสงสัยจ้องไปที่มือของพี่คิวที่กำลังแบมืออยู่ตรงหน้าผม
“มือถือมาสิ” พี่คิวพูด ผมรีบล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือให้ พี่คิวรับไปกดไม่พูดไม่จา
“เดี๋ยวจะโทรบอก” พี่เขาบอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือกลับให้ผมแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะในทันที
“ศูนย์ แปดศูนย์..เก้า เก้า เก้า แปด แปด แปด หนึ่ง” ผมอ่านและถึงกับขมวดคิ้ว
“แหมะ..เลขสวยจริงนะ” ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม
คืนนี้พี่ฟ้าเอารถของตัวเองมา พี่คิวไปส่งพี่ฝัน ส่วนพี่ออฟกับพี่หมีกลับรถส่วนตัว พี่ซีกลับกับพี่เซ็น ส่วนผมและพี่กัสมีพี่ฟ้าไปส่งนะครับ
“ฝันดีนะครับ” พี่ฟ้าบอก
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้ม
“เข้าบ้านไปก่อนเลย ไม่ต้องรอพี่” พี่ฟ้าพูด ผมพยักหน้าก่อนจะลงจากรถ ระหว่างที่ไขกุญแจเข้าบ้านพี่ฟ้ายังคงไม่ขับรถออกไป จนผมเข้ามาในตัวบ้านแล้วพี่ฟ้าถึงขับรถไป
ณ สมุดโน้ตของคุณเค้ก..
พุธ 10 สิงหาคม 2554
วันเกิดพี่หมี..พี่ใหญ่ของกองหน้าพนักงาน วันเกิดปีนี้..วาดรูป ทำกรอบรูปให้พี่หมี พรุ่งนี้จะไปถามแหละว่า “ชอบไหม” แต่พี่หมีก็คงต้องตอบว่า “ชอบ” เป็นมารยาทแน่ๆอยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะเป็นประโยคมารยาท..เค้กก็อยากฟังอะนะ
ปล. วันนี้พี่คิวบ้าๆบอๆ อยู่ๆก็เอามือถือของเราไปโทรเข้าเบอร์ตัวเอง แต่ก็ดี..จะรอวันที่พี่เค้าโทรมานัดอย่างใจจดใจจ่อล่ะนะ
ปล2. พี่เซ็นยังเจ้าชู้ไม่เลิก มาหยิกแก้มเราก่อนกลับด้วย
ปล3. ทำไม..พี่กัสมีท่าทีแปลกๆ ใช่..แปลกอ่ะ (=__=)
หวังว่าสักวันเราจะได้คำตอบ สำหรับ ปล3.นะ
Bye Bye..Cake
= = = = = = = =
ณ มหาวิทยาลัย..
ตื๊ด ๆ ๆ
สายเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
“หวัดดีครับ” ผมรับสาย
“ฉันเองนะ” แหม..เบอร์ไม่โชว์เลยมั้ง
“คร้าบ” ผมตอบเสียงยานคาง
“ฉันว่างให้นายได้วันเสาร์หน้า” คำพูดของพี่คิวที่บอกคนฟังทราบได้ทันทีว่า “ฉันว่างวันนี้ ถ้าวันอื่น..ฉันไม่ว่างให้” อะไรประมาณนั้น ประโยคบอกเล่าที่ฟังดูบังคับแบบนี้ จะมีกี่คนที่พูดได้เรียบเฉยขนาดนี้กันครับ
“ได้ครับ” ผมตอบทันทีด้วยความดีใจ ถึงแม้ว่าถ้าวันนั้นผมจะไม่ว่างผมก็จะพยายามว่างให้ได้นะซิครับ
“ส่วนเรื่องภารกิจงานที่ร้าน ก็ไปจัดการเคลียร์กันเอาเองก็แล้วกัน..”
“ค้าบ” ผมตอบเสียงเบาลงเมื่อนึกได้ว่าวันเสาร์มีงานต้องทำ
“ถ้าไปถึงโรงแรมแล้วติดต่อที่ล็อบบี้ ว่ามาขอพบฉัน วันเสาร์..สิบเอ็ดโมง ห้ามเลทแม้แต่..”
“วินาทีเดียว” ผมเสริม
“รู้ก็ดีหนิ งั้นแค่นี้” พี่คิวพูดจบก็วางสายในทันที ผมที่กำลังจะอ้าปากพูดว่า “ขอบคุณครับ” ต้องหุบปากลงอย่างเซ็งๆแต่ในขณะเดียวกันก็เริ่มรู้สึกชินซะแล้วละครับ
“นี่..พี่เค้าโทรมานัดวันเสาร์หน้า ให้ไปถ่ายรูปที่โรงแรมได้ล่ะ” ผมยิ้มบอกเพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“จริงดิ เย้ๆ..” แก้วชูมือขึ้นอย่างดีใจ
“เค้าอนุญาตให้เข้าไปถ่าย ส่วนไหนก็ได้เลยเหรอวะ” พีทถามอย่างแปลกใจ
“ก็แน่ล่ะ เค้าเป็นลูกเจ้าของโรงแรมนี่” แก้วบอก
“อืม ลืมไป” พีทพยักหน้า เบะปากส่งๆอย่างเข้าใจ
ผมนั่งอมยิ้ม อดตื่นเต้นไม่ได้เหมือนกันนะครับ ผมจะได้เข้าโรงแรมหรูๆเป็นครั้งแรกเลยนะเนี้ย จะเก็บภาพกับบรรยากาศให้สะใจไปเลย แต่เอ..ใส่ชุดอะไรดีล่ะ เสื้อผ้า กระเป๋าอะไรที่ดูไม่มอซอเกินไป ผมกำลังรู้สึก..กดดันจังแฮะ ToT
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ไม่มีออร์เดอร์รึไงครับ” ผมว่าประชดพี่เซ็นเพราะพี่เขาเดินออกมาหาผมที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เป็นรอบที่สองแล้ว
“นี่มันพักกลางวันนะเค้ก เข้าไปกินข้าวก่อนสิ” พี่เซ็นบอก
“จะเสร็จแล้วครับ” ผมหันไปยิ้มให้เล็กน้อย
“อ่าว พี่กัส” ผมยิ้มทักพี่กัสที่เพิ่งเดินเข้ามาทางประตูรั้วด้านหลังร้าน
“พี่กัสเป็นอะไรครับ” ผมถามด้วยความตกใจ เพราะเห็นพี่เขาเดินขากะเพลกด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“เป็นอะไรน่ะ ไปโดนอะไรมา” พี่เซ็นถามเสียงหลงพร้อมกับรีบวิ่งเข้าไปพยุงพี่กัสในทันที
“ตก..ตกรถเมล์” พี่กัสตอบหน้าเสียเหมือนกำลังจะร้องไห้
“แล้วไปขึ้นทำไม ไม่เคยขึ้นไม่ใช่รึไง” พี่เซ็นถามด้วยน้ำเสียงดุดัน คิ้วขมวดติดกันคล้ายโมโห
“อยาก..ลอง ดูอ่ะ” พี่กัสตอบเสียงเบาอย่างกับเด็กกลัวความผิดอย่างนั้น
“จิ..ไหวไหมเนี้ย” พี่เซ็นถาม
“ไหว” พี่กัสพยักหน้าตอบ ผมจะเข้าไปช่วยพยุงแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเพราะอยู่ๆพี่เซ็นก็อุ้มพี่กัสขึ้นต่อหน้าต่อตา
“พี่เซ็น!” พี่กัสร้อง ผมยิ้มแหย พี่กัสหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ผมรีบวิ่งไปปิดก๊อกน้ำและวิ่งกลับเข้าร้านตามพวกพี่เขาไปในทันที
“ไม่ต้อง กัสทำเองได้” พี่กัสปัดมือพี่เซ็นออกเมื่อพี่เซ็นวางพี่กัสลงบนเก้าอี้และพยายามที่จะทำแผลให้
“เอ้ อย่าดื้อสิ” พี่เซ็นว่า พี่กัสหดขาหนี เอาแต่นั่งก้มหน้าอย่างเดียว
“มาครับ เค้กทำให้ดีกว่า” ผมเข้าไปกู้สถานการณ์ไว้ก่อนเพราะดูเหมือนอาการของพี่กัสไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก พี่เซ็นขยับที่ให้ผมเล็กน้อยทำให้ผมถนัดที่จะทำแผลให้พี่กัสมากขึ้น
“พี่ขึ้นรถเมล์ไม่เป็น แล้วไปขึ้นทำไมละครับ เกิดพลาดพลั้งโดนรถทับขึ้นมาจะทำยังไง” ผมว่าเพราะรู้สึกเป็นห่วงจริงๆ มีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับรถเมล์มากมาย อย่างผมเองเวลาขึ้นยังต้องระวังไว้ให้มากๆในทุกๆครั้งเลยนะครับ
“เออ ไอ้เค้กพูดก็ถูก ถ้าที่บ้านรู้..พี่ฟ้าโดนด่ายับ เผลอๆกัสจะถูกห้ามไม่ให้มาทำงานด้วยนะ ทำอะไรไม่รู้จักระวัง” พี่หมีที่นั่งเงียบอยู่ อยู่ๆก็โผลงว่าขึ้นมาเสียงดัง พี่กัสนั่งก้มหน้าเงียบ
“เจ็บขนาดนี้ไม่นั่งมอเตอร์ไซด์เข้ามาล่ะ หรือไม่ก็โทรเข้ามาก็ได้” พี่เซ็นถามเสียงกระแทก
“กลัวอ่ะ..กลัวรถล้มอีก” พี่กัสตอบเสียงเบามากเหมือนเด็กเลยอ่ะครับ
“ฮื้ม..” พี่เซ็นถอนหายใจเสียงดัง
“อึก..กัสเจ็บอยู่นะ รุมว่ากันอยู่ได้อ่ะ” พี่กัสเอาแขนปิดหน้าตัวเอง น้ำเสียงเครือคล้ายกับร้องไห้ พวกผมเงียบลง ผมแปะแผลที่หัวเข่าให้พี่กัสเรียบร้อย แผลสดค่อนข้างใหญ่มากทำให้นึกภาพออกเลยว่าน่าจะตกลงมาอีท่าไหน
“เค้กขอโทษ” ผมลูบมือพี่กัสเบาๆอย่างปลอบโยน
“เออๆ..อย่าร้องดิวะ งั้นพี่กลับแล้วนะ ให้ไปส่งที่บ้านไหมครับ ถึงอยู่พี่ฟ้าก็ไม่ให้ทำงานหรอก” พี่หมีเข้ามาลูบหัวพี่กัสด้วยน้ำเสียงที่เริ่มเปลี่ยนไป พี่กัสพยักหน้าตอบ
“ไหน..กัสตกรถเมล์เหรอ!” เสียงพี่ฟ้าโวยวายดังลั่นรีบวิ่งเข้ามาในห้อง
“Oh my god~” พี่ฟ้าเอามือจับที่อกตัวเอง ตาเบิกโพรง
“ทำไมทำแบบนี้ห๊ะกัส” พี่ฟ้าว่าและนั่งลงตรงหน้าพี่กัส พี่กัสโผเข้ากอดคอพี่ฟ้าในทันที
“อุ้มกัสไปส่งที่รถหน่อย” พี่กัสพูดอู้อี้อยู่ตรงไหล่ของพี่ฟ้า พี่ฟ้าชะงักก่อนจะยิ้มลูบหัวพี่กัสเบาๆอย่างเอ็นดู ดูเหมือนอาการตกใจของพี่ฟ้าจะหายไปแล้วละนะครับ
“แล้วพี่จะตอบพ่อกัสว่ายังไงฮึ” พี่ฟ้าบ่นไปแต่ก็ลุกขึ้นอุ้มพี่กัสไปด้วย พวกผมได้แต่ยืนมอง ตอนนี้พี่กัสอย่างกับเด็กมัธยมยังไงอย่างนั้น ที่จริงทั้งหุ่นและหน้าตาของพี่เขาก็เหมือนเด็กอยู่แล้ว พอมาทำแบบนี้ยิ่งทำให้ผมรับรู้ได้มากขึ้นกว่าเดิมว่าพี่เขาเป็นลูกคุณหนูมากขนาดไหน
“เฮ้อ..” พี่ฟ้ายืนถอนหายใจหลังจากที่พี่หมีขับรถออกจากร้านไปแล้ว
“เตรียมตัวโกหกก้อนโตได้เลย” พี่ฟ้ายืนเท้าเอวบ่น
“โอ๋มากก็ไม่ดีนะ คุณบอส” พี่เซ็นพูดขึ้น
“ก็เด็กมันน่าโอ๋” พี่ฟ้ายักคิ้วตอบ เดินหนีเข้าร้านไปด้วยสีหน้าที่พอใจกับคำพูดของตัวเองเหลือเกิน ผมหันไปยิ้มให้พี่เซ็น
“ยังไง เด็กที่น่าโอ๋สำหรับพี่ก็ยังเป็นเค้กอยู่ดี” พี่เซ็นยิ้มกะล่อน
“พี่รู้ไหมฮะว่าเค้กขึ้นรถเมล์ตั้งแต่กี่ขวบ” ผมยิ้มกลับ
“หึ..” พี่เซ็นหลุดหัวเราะเหมือนเข้าใจในความหมายของผม
“เค้กคงไม่ร้องไห้เพราะตกรถเมล์แล้วมาให้พี่โอ๋แน่ๆ” ผมยักไหล่บอก เดินหนีพี่เซ็นเข้าร้านด้วยอีกคน
.......................>>>><<<<......................
-
จิ้มๆ
เค้กน่ารักอะ :o8: :o8: :o8:
-
เค้กน่ารักเหมือนทุกที
กัสเซ็น (ชื่อเหมือนเวเฟอร์แฮะ) คู่นี้มีอะไรกันนะ
ชอบบันทึกของเค้ก
:pig4: :L2:
-
โอ๋ๆ ไม่ร้องนะกัสนะ เป่าเพี้ยง! หายแล้ว :กอด1:
-
ก่อนหน้านี้รักเค้กหมดหัวใจ
มาตอนนี้ขอแอบรักกัสไว้ก่อนครึ่งใจ :กอด1:
ฮิ้วววววว
-
เซ็น กับ กัส ต้องมีนอกมีใน เพราะเราเชียรมากมาย :z1:
:pig4: คะ
-
โอ้ยย ตอนนี้ก็น่ารักได้อีกอ่ะ อยากมีคุณอาแบบอาฟ้าจริงๆเลยค่ะ น่ารักมากๆ
วันนี้เกิดพี่หมีซะด้วยสิตอนนี้ สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ คุณพี่หมี ตอนนี้กัสก็น่ารักได้ใจกันไปเลย
ลูกคุณหนูจริงๆ ด้วยนะค่ะเนี้ย พี่เซ็นไปไปรับไปส่งก็ต้องตกรถเมย์แบบนี้แหละ คริๆ ๆ (จับคู่ให้ชาวบ้านตลอด)
แต่ว่าถ้าเป็นคู่พี่เซ้นกันกัสคงจะน่ารักน่าดูเลย เพราะอีกคนก็น่ารักซะขนาดนี้ งานนี้มีอุ้มกันอีกอ่ะ
แอบเขินแทนเลย (หน้าแดง) อ่านเรื่องนี้แล้วอมยิ้มกันได้ตลอดเลยสิเนี้ย
แต่ตอนนี้แอบเคืองพี่คิวเบาๆอ่ะ แอบพาสาวมาด้วยอีกต่างหาก โกรธแทนเค้กอ่ะ (ไม่ได้เกี่ยวไรกับเค้าเลย เค้าเคืองนะตัวเอง)
แต่ตอนนี้แอบมีแลกเบอร์ด้วยอ่ะ จะจีบน้องเค้กรึเปล่าาาาาา เด็กน่ารักซะขนาดนี้
สนุกมากเลยค่ะ สู้ๆ นะค่ะ
-
อยากกินเค้ก :o8:
-
กัสกับเซ็นมีซัมติงกันแน่เลย
-
:laugh: ชอบเค้กอ่ะ.....
o22 ตกลงนี่พี่คิวมีแฟนแล้วเหรอ....แล้วเค้กจะทำไงอ่ะ
หรือเราเข้าใจผิดไปเองว่าตาคิวเป็นพระเอก :serius2:
-
ยังมีอะไรซ่อนเยอะแฮะ...เรื่องกัสกับเรื่องพี่ฟ้านี่อยากรู้สุด55555
-
อ้าวคิวจะแต่งงานแล้วเค้กละ
มันจะลงเอยกันไงละนี้คู่นี้ นึกไม่ออก
พี่เซ็นชอบพี่กัสชัวร์ o13
-
:impress2:รักกันๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ชอบพี่ฟ้าขี้อ้อนดี เค้าอยากได้บ้างงงงง
กัสซี่ น่ารักเนอะ
-
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก...โดนนนนนนนนเต็มๆเลยเซ็น
กัส กับ เซ็น นี่ตะหงิดตะหงิดในหัวใจนะเนี๊ย..
ว่าแต่ เบอร์ คิว โคดสวยยยยย เลย*o*
-
กัสเซ็นมีซัมติงอีกคู่แล้วววว
รอดูว่าจะเป็นยังไงต่อไป
-
พี่เซ็นกับพี่กัสนี่อยู่ใกล้กันเกินไปเลยไม่รู้ใจตัวเอง
หรือเพราะรู้แต่ไม่กล้ากันนะ
-
:laugh: ชอบเค้กอ่ะ.....
o22 ตกลงนี่พี่คิวมีแฟนแล้วเหรอ....แล้วเค้กจะทำไงอ่ะ
หรือเราเข้าใจผิดไปเองว่าตาคิวเป็นพระเอก :serius2:
ถึงตอนนี้พี่คิวก็มาวินสุดแล้วนะคะ อย่าพูดให้ใจเสียสิ :try2:
-
อยากอ่านต่อ :sad4: เค้กน่ารักมาก :impress2:
-
พี่เซ็น น้องกัส คิคิ :-[ แอบมีไรในก่อไผ่ปะเนี้ย เชียร์คู่นี้ :impress2:
พี่เซ็น นี่ก็ จีบน้องเค้กได้ตลอดเวลา :laugh:
น้องเค้ก น่ารัก :-[
-
:-[ เค้กน่าร๊ากกกกกกกก
พี่เซ็นกะกัสเนี่ย มีอะไรกันแน่นอน
ชอบพี่ฟ้าอ่ะ ตอนนี้พี่หมีก็เด่น o13
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ
รออ่านตอนต่อไปน่ะคะ ^^
-
ตอนจบทำได้แสบมากๆเลยนะเค้ก ฮ่าๆๆๆ
-
เซ็นกับกัส อั๊ยย๊ะ 55555
ลุ้นคิวกะเค้ก อิอิ ติดงอมแงมตลอดอ่ะ นิยายเบบี้เนี้ยย
-
พี่เซ็นก่ากัสส
มีอะไรแน่นอนอะ
พี่คิวจาเปนแฟนพี่ฝันจิงๆหรอออออออ
แล้วเค้กละ
-
ใครคือทิกเกอร์อ่ะอยากรู้ม๊ากก !
พี่กัสชอบพี่เซ็นอ่ะดิ
รอตอนใหม่น๊า~ :กอด1:
-
สรุป คงเป็น เซนกัส สินะ ชอบๆ หนับหนุนจ๊า
-
พี่เซ็นคิดไรกับกัสป่ะเนี๊ย!
พี่ฟ้าดูแมนมากตอนที่อุ้ม
กัสไปส่งที่รถ
-
:a5:
ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
คิววววววววววววววววววว ไม่เสร็จชะนีหรือเนี่ยยยยยยยยย
-
น้องกัสน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกอ่ะ
-
กัสยังชอบเซ็นอยู่แหงเลย คนนึงเด็กๆอีกคนก็เจ้าชู้ประตูดิน
แต่อาจจะเหมาะกันก็ได้นะ รอลุ้นคู่สองคนนี้ อิอิ
พี่ฟ้าก็น่ารักมากกกก!!! สุภาพบุรุษ แต่ก็มีความอ่อนโยน อยากรู้ว่าใครคือทิกเกอร์ผู้โชคดีคนน้านนนน!!!
แล้วคู่พี่คิวพี่ฝันนี่ยังไงเนี่ย ล้อกันจ๊าง ไม่เอาน้า!!
-
กัสกับเซ็น กัสกับเซ็น กัสกับเซ็น เชียร์คู่นี้ อิอิ
-
ชักสงสัยพี่เซ็นกับพี่กัสล่ะ มีซัมติงอะไรกันรึเปล่าวหนอ
-
เค้กน่ารักขึ้นทุกตอน :กอด1:
1+ให้จ๊า
-
อยากกินเค้กอ่ะ เป็นตาแซ่บ อิอิ
-
น่ารักโว๊ย 5555+
น่ารักจริงๆเลยครับเจ้
อยากตามเจ้เข้าไปทำด้วยจังที่ร้านนี้
-
พี่คิวยังไงเนี่ย ควงสาวคนนี้ตลอดๆ
แล้วน้องเค้กล่ะพี่
ตอนนี้พี่กัสอ้อนน่ารักจังเลยค่ะเบบี้
-
พี่คิวววววววว เค้กโคตรน่ารักเล้ยยยยยยยย เห็นเป่าาาาาา
-
กัสก็ขี้อ้อนนะเนี่ย กับพี่เซ็นจะคู่กันป่าวน๊า
ส่วนน้องเค้กน่ารักทุกตอนอยู่ละ :z2:
พี่คิวขี้เก๊กเช่นเดิม แต่น้อยลงมาติด
บอสก็น่ารัก ไอ้ร้านนี้มันน่ารัก น่าค้นหากันทั้งร้านทีเดียว
-
เค้กยังน่ารักสดใสเหมือนเดิมนะคะ
กัส เซ็น นี่ยังไงน้า :-[
-
+1 บี้
ดูก็รู้แต่แรกว่าคู่นี้มันต้องมีอะไรกันแน่นอนเลย
พี่เซ็นไปหากัสไป๊ :laugh:
-
น้องเค้กน่ารักมาก
พี่คิว มีแอบเอาเบอร์น้องไปนะะ
หุหุ
กัสเซ็น ชักยังไงๆเหอะๆ
แต่เวลากัส งอแง น่ารักมาก
น่าโอ๋ จริงๆ !!!
-
กัสชอบพี่เซ็นแหง ๆ เลย ส่วนคู่พี่คิวกับน้องเค้ก ยังเดาไม่ออกว่าจะไปรักกันอีท่าไหนน๊อ
แถมพี่คิวยังมีสาวข้างกายอีก ชริ ๆ
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ ตอนอ้อนเค้กโมเอ้มาก ลืมอายุไปเลย
เซ็นกัส คู่นี้ชัวร์ป้าบ มันต้องมีอะไรสักอย่างแหงๆเลย เหมือนจะคอยดูเชิงกันอยู่เลยแฮะ
อยากรู้ว่าที่เค้กเขียนในโน้ตว่ากัสแปลกนี่แปลกยังไงน้อ
แทบกรี๊ดแตกตอนกัสอ้อนพี่ฟ้า นึกภาพออกเลย ชอบบบบบ
ขอสารภาพว่าตอนแรกที่บอกว่ากัสเดินขากระเผลกมา แอบจิ้นไปไกลแล้วเรียบร้อย
แล้วปรากฎว่าไม่ใช่ เอิ๊กๆ
-
เหมือนกับว่าใครจะเป็นพระเอกก็ได้นะเนี่ย
-
พี่คิวน่ารักเหมือนเดิม อยากเห็นเวลาที่พี่คิวโรแมนติกกะน้องเค้กจังเลย :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
พี่กัสน่าร๊ากกกกกก :-[
ปล.เราว่าพี่เซ็นกะพี่กัสต้องมีซัมติงแน่ๆค่ะ น่าสงสัยเน่ออออ หุหุ o18
-
ชอบเค็กจัง :กอด1:
-
อั๊ย่ะ กัสจังน่ารัก
วิ่งงง
ไปกินเค้กก่อนล่ะ ฟิ้วววววววววว :z2:
-
อ่านตอนนี้แล้วก็เพิ่งจะนึกได้ว่าพี่กัสเึค้าเป็นหนุ่มตัวเล็กน่ารักน่าโอ๋อีกคน
มาม่ะๆ เด่วเค้าจะช่วยโอ๋
ว่าแต...พี่กัสชอบพี่เซ็นรึป่าวน๊าาาาหรือชอบใครหว่า?
-
เค้กชักจะเก่งใหญ่ เดี๋ยวนี้ไม่มีเกรงใจพี่คิว
ร้านนี้เขาแปลกๆ ดีเนอะ แต่ละคน รวย รวย รวย กันทั้งนั้น
สรุปทั้งร้าน มีเค้กคนเดียว ที่ธรรมดา แต่ก็น่ารักเป็นธรรมชาติ
-
เค้กโคตรน่ารักเลย
ไปๆมาๆเหมือนไม่เกี่ยวกับเรื่องความรักเท่าไหร่
นิยายสไตล์ไดอารี่ชีวิตนายเอกก็สนุกไปอีกแบบเนาะ อิิอิ :จุ๊บๆ:
-
เริ่มงง ใครคู่ใครกันแน่
อยากอ่านต่อ :serius2:
+1
-
กัส+เซ็น
เซ็น+กัส
o18
-
เซ็นกัส อ่ะนั่นแน่ ถ้าพี่เซ็นกับกัสไม่นับว่าพี่เซ็นลากไก่ลงน้ำ จะนับว่าน่าร้ากกกมากกกก
น้องเค้กน่ารักมากกกกกกก ประโยคสุดท้ายนี่ อั๊ยยะ
อยากเห็นน้องเค้กอ้อนๆพี่ที่เป็นพระเอกอ่ะ (เริ่มเขว ตกลงพี่คิวพระเอกป่ะว๊ะ 5555555555)
-
อาไรยังไงเนี่ยทกัสกับพี่เซ็น
-
เริ่มลังเลกะพระเอกของเรื่องล่ะนะ แอบเชียร์เซ็นกัสอ่ะ หุหุ
-
เค้กน่ารักอ่ะ คุณพี่คิวก็นิ่งได้อีกอ่ะ แล้วทิกเกอร์เป็นใครอ่ะ ใครคือทิกเกอร์กัน กัสกับเซ็นนี่ยังไงเนี่ย อิอิ รออ่านตอนต่อไปจ้า :))
-
:กอด1:
-
ฉันรักคนร้านนี้ ><~
-
โอยยยย ร้านนี้มีแต่คนน่าหลงใหล กร๊ากกก น้องเค้กยังน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเดิมเลยนะ
ส่วนกัสนี่เริ่มรู้สึกว่าน่าฟัดมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยนะเนี่ย ดูคุณหนูมากอ่ะ พี่เซ็นแอบมีซัมติงกับกัสใช่มั้ย
เหมือนว่ากับกัสพี่แกจะแสดงออกในแบบพิเศษๆอ่า ดูห่วงใยแบบเป็นพิเศษอ่ะ เหมือนกับคนอื่นก็แค่เล่นๆ
ไม่จริงจังทำนองนั้น กัสเองก็ชอบพี่เซ็นใช่มั้ยล่า คึคึ พี่ฟ้าก็น่ารักอ่า อ๊ายยยย เหมือนพี่ฟ้าเป็นพี่สาวเลย
ให้ความรุ้สึกมาก กร๊ากกก ว่าแต่ว่าพี่ฟ้าคะ ทิกเกอร์นี่คือใครคะเนี่ย มีความสำพันธ์กันยังไง เป็นประเด็นหลายที
แล้วนะเนี่ย ประเด็นดังด้วยรุ้กันทั่ว (ยกเว้นเค้กและคนอ่าน T^T) พี่คิวอะไรเนี่ย ชิส์เค้างอน มากับเพื่อนสาวซะได้
เชอะ ไว้หลงเสน่ห์น้องเค้กเมื่อไหร่ละจะหัวเราะให้ดู ชิส์ พี่คิวดูแคร์ขวัญเอาเรื่องอยู่นะ เธออยุ่ในสถานะไหนกันแน่
หรือว่ามันจะเกี่ยวข้องกับคนในภาพเมื่อวันนั้นที่เค้กได้เห็น โหยยย มึนงง พี่คิวเป็นพระเอกใช่มั้ย (ใช่สิ เพราะเราเชียร์)
-
สงสัยมั๊กว่าพี่เซ็นแอบมีซัมติงกับกัสใช่มั้ยอ่ะ????
ถามไรพี่ฟ้าหน่อยคะว่า ทิกเกอร์นี่คือใครคะเนี่ย มีความสำพันธ์กันยังไงมีซัมติงเหมือนคู่ข้างบนหรือเปล่า??
พี่เซ็นต์เจอคำตอบของน้องเค้กถึงกับไปไม่เป็นเลยนะ คริคริ
-
กัสเซ็น
สองคนนี้ต้องมีซัมธิงแน่ๆ
แอบปันใจให้กัสจังตอนนึง น่าร๊ากกกกกก
น้องเค้กอย่าน้อยใจน๊า...
-
ชอบกัส อร๊ายยยย
เซ็นกัสเถิดด พี่เซ็นชอบกัสใช่มั้ยย
เค้กน่ารักกก
-
อยากให้เรื่องนี้ไม่มี ... ชะนี
o18 o18 o18
-
กัส ทำอีท่าไหนให้ตกรถเมล์
ขอยืมคำพูดเค้ก ถ้ารถทับตายจะทำยางง๊ายยยยยยย
-
เค้าเดินเรื่องมาตลอด สุดท้ายมาเจอน้องกัสแย่งซีน :m20: ด้วยความน่ารัก ขี้อ้อน .... น่ารักอ่ะ
เริ่มให้เบอร์กันแล้ว จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อีกหน่อยคงโทร ฯ good night kiss แน่ ๆ :z1:
+1 เป็นกำลังใจให้ เบบี้ :กอด1:
-
ต๊ายยยยย เค้กน่ารักได้อีกกกกก
:กอด1: :กอด1:
แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่า ทิกเกอร์ คือคัยยย
รอ รอ รออออ~
-
ชักยังไงๆ อยู่นะคู่พี่กัสกับพี่เซ็นจอมเจ้าชู้เนี่ย
พี่หมีก็พูดแปลกๆ :m28:
-
กัซ หมี เซน มีอะไรกันเปล่า ปริศนาเยอะจริงเรื่องนี้ น่าติดตาม
-
กัสน่ารักมากมาย แต่เค้กน่ารักกว่า คือแบบว่ารักทั้งสองคนเลยยยยยยยยย :L1:
-
o18 o18 o18 o18 o18 o18 o18 o18 o18 กัสน่ารักอะ เค้กก้อน่ารักกกก พี่เซ็นเจ้าชู้ พี่คิวเริ่มน่ารักนิสนึงแหละ 5555+
-
ชอบพี่กัสตอนนี้จังเลยอ่ะ เหมือนเด็ก :impress2:
-
แหนะๆๆ ไอ้คุณพี่เซ็นนี่ มีแอบห่วงหวงกัสนะ ช่ะๆๆ
เป็นพวกหวงก้างป่ะเนี่ย เหอะ
แต่ตอนนี้ยกให้กัสเลย บร๊ะ คนอะไรน่ารักขนาดนี้ ชอบอ่า คุณหนูกัสน่ารักก *จับฟัดแก้ม*
ยิ่งคนอื่นเชียร์และแซวคู่พี่คิวกับฝันมากเท่าไหร่
ในอนาคตจะยิ่งดราม่าขึ้นเท่านั้นแน่ๆ (ก็แค่เดาๆเอา ฮ่า)
อยากถามว่า ตั้งแต่อ่านมาเราเคยได้ยินเสียงพี่ออฟบ้างรึยังนะ? ฮ่าๆๆๆๆๆ หรือเราลืม =="
อีกอย่าง พีทน่ารักจัง เค้าชอบพีทด้วยอีกคนละ ^^
แต่น้องเค้กก็ยังรักที่สวดเหมือนเดิม เย้ววววว
อยากเม้นยาวๆ แต่กลัวจะดูเวิ่นมากไปอ่า งื้ออออออ
-
ตอนนี้กัสมาแรง แซงเค้กไปเลย
กัสกะเซนมีอะไรกันรึเปล่าเนี่ย
(จับถูกคู่ป่ะหว่า)
-
พี่คิวเก็กมากกกกกกกกกกกกกกกก
แต่ก็ยิ่งทำให้เราเฝ้ารอว่าพี่แกจะหลุดอะไรออกมาบ้าง
-
ยังมีอะไรให้ลุ้นอีกเยอะเลย :z1:
แต่บันทึกของเค้กน่ารักอ่า น่ารักๆๆๆๆ ชอบเด็กน่ารักๆๆๆๆ :o8:
-
เดี๋ยวนี้เราต้องถึกและบึกบึน
สู้ชีวิตใช่ไหม หนูเค้ก
-
น่าร้ากกกกก ทั้งเค้ก กัส พี่ฟ้า :m1:
ชอบตอนที่กัสให้พี่ฟ้าอุ้มไปที่รถ น่ารักไปไหน 55 เซนมีแอบเป็นห่วงหน่อยๆด้วยนะ 55 คิดไว้แล้วว่าคู่นี้ต้องมีอะไรๆแน่ๆ :laugh:
อยากอ่านต่อๆ ยิ่งอ่านเรื่องนี้ก็ยิ่งอยากอ่านต่อไวๆเหมือนมีเรื่องราวให้เราต้องรู้อีกเยอะ กร๊ากกกกก
:L2: ส่งกำลังใจให้ เบบี้ :L2:
-
:really2:
เซ็นกับกัสจะรู้ใจกันม๊ายยย
-
เซ็นกัสคู่นี้ยังๆอยู่นะ
เค้กน่ารักอะ^^
-
เค้ก ปีกกล้าขาแข็งขึ้นเยอะนะเนี้ย สุดยอด ห้าๆๆๆ
-
:-[ :-[ :-[ :-[ น่ารักกๆๆ >"<
พี่ฟ้าน่ารัก คิกๆๆ พี่เซน ต้องแอบชอบกัสแน่ๆๆเร ยย ฮี่ๆๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
น้องเค้ก+พี่คิว ตอนนี้ปล่อยเค้าไปก่อน
ตอนนี้สนใจเป็นพิเศษ พี่ฟ้า+พี่เซ็น+น้องกัส 3 คนนี้มันยังไงกันน้อ
ขอบคุณไอ้น้องบี้ไม่ได้มาเมนท์ให้ทุกตอน (นิสัยเสียเนอะ ^^)
แต่+ทุก+ให้เหมือนเดิมไม่เคยขาดเน้อ
:กอด1:
-
เค้กน่ารัก
-
น้องเค้กได้เบอร์พี่คิวแล้วเฟ้ยย.. ฮ่าๆๆ
จะว่าไปพี่เซ็นก็น่ารักดีนะ
แต่พี่ฟ้าน่ารักสุด สรุปทิกเกอร์คือใครอ่า?
-
กัส เซ็น ต้องมีไรซ่อนอยู่แน่ๆเลย
-
กัสเอ้ย ไอ้ขึ้นรถเมล์ไม่เป็นไรหรอก แต่ขึ้นแล้วตกลงมานี่ซิ ดูซิเป็นเรื่องเลย เราก้อว่ากัสเซ็นนี่มี something กันแน่ๆเหมือนหลายๆเม้นแหละ
วันเสาร์หน้า เค้กจะได้ไปเที่ยวเอ้ยไปถ่ายรูปโรงแรมคิวแล้ว ตื่นเต้นจัง ลุ้นคู่นี้อยู่ว่าจะเป็นไงต่อไป
-
ทำไมมันน่ารักอย่างนี่้
พี่คิวเนียนนะ เอาเบอร์น้องไปละ
ชอบเค้าอะเด้
-
อยากรู้ซะแล้วว่ากัสกับเซ็นนี่ต้องยังไงกันแน่ๆเลย
แล้วฝนอีกอย่าบอกว่าแอบชอบคิวนะ วุ่นแน่
-
อยากอ่านตอนต่อไปแย่แหละ
อ่านแล้วมีอะไรให้เอาไปคิดเยอะแยะเลย คึคึ
กัสเซ็นต้องมีซัมติ่งกันแน่ๆ
-
คิดถึงคิดถึงคิดถึง :กอด1:
-
กรี๊ดดดด ตามอ่านทันแล้ว น่ารักมากกกกกก ชอบหมดทุกคนเลย น่าร๊ากกกกกกกกกกก :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
+1 นู๋กัส น่ารัก ม๊าก :impress2:
-
~14~
ณ โรงแรม SBT..
“มาพบคุณอัครวินท์..ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการอาหารครับ” ผมบอกพนักงานที่ประจำอยู่ที่เคาร์เตอร์
“นัดไว้รึเปล่าคะ” เธอเงยหน้าขึ้นยิ้มถามผม
“นัดครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“ขอทราบชื่อด้วยค่ะ”
“เค้กครับ” ผมตอบ เธอกดโทรศัพท์ต่อสายเดี๋ยวนั้น
“ค่ะ เรียนคุณอัครวินท์ คุณเค้กมาขอพบค่ะ” ผมยืนอ้าปากค้างเพราะเสียงของเธอหวานเป็นบ้า..
“เชิญนั่งรอก่อนนะคะ คุณอัครวินท์จะลงมาภายในห้านาทีค่ะ” เธอหันมายิ้มบอก
“ขอบคุณมากครับ” ผมยิ้มตอบให้เธอ
“ไปนั่งรอ” ผมหันไปบอกพีทและแก้ว วันนี้ประมาณสายๆ พีทอาสาไปรับผมและแก้วจากที่บ้านเพื่อมาที่โรงแรมนี้ พีทคงรู้ดีว่ามันคงจะขี้เกียจทำงาน เรื่องเรียบเรียงจึงต้องยกให้แจ็คที่มาไม่ได้แทน
“สวยเนอะ มีความเป็นไทยแบบคลาสสิกดี” แก้วกวาดตามองไปทั่ว
“เฮ้ย! นั่นใครน่ะ..หล่อมากอ่ะ” แก้วร้องเสียงหลง สะกิดแขนผมแทบหลุด
“เหอะๆ..” ผมหัวเราะมองคนที่คุ้นตา
“ก็พี่คิวไง” ผมบอกเธอ
“ห๊ะ” แก้วอุทานอ้าปากค้างมองพี่คิวที่กำลังเดินตรงเข้ามาทางพวกเรา ก็แน่ล่ะที่แก้วจะจำไม่ได้ ทั้งทรงผม หนวด เสื้อผ้าแตกต่างจากวันที่แก้วเจอในครั้งแรกโดยสิ้นเชิง
“ส..สวัสดีค่ะ/ครับ” พีทกับแก้วลุกขึ้นยืนไหว้พี่คิวอย่างนอบน้อม ผมยืนยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ด้วย
“ตรงเวลาดี” พี่คิวพูดมองหน้าผม
“แน่นอน” ผมยักไหล่
“นี่พี่คิว..เพื่อนผมครับ คนนี้พีท คนนี้แก้ว” ผมแนะนำ
“สวัสดีค่ะ/ครับ” พีทกับแก้วยกมือไหว้อีกครั้ง พี่คิวยกมือรับไหว้ทำหน้าเป็นศพอย่างเคย
“เชิญ” พี่คิวพูดพร้อมกับก้าวขาเดินนำ
“ตรงนี้เป็นล็อบบี้ ส่วนโถงกว้างตรงนี้ไว้สำหรับรับรองแขก” พี่คิวแนะนำ พีทมีหน้าที่ถ่ายรูป ส่วนแก้วมีหน้าที่จดรายละเอียดต่างๆ
“ก่อนที่แขกจะลง ทางโรงแรมจะมีการเช็คข้อมูลในแต่ละกรุ๊ปแล้ว..เพื่อไม่ให้ซ้อนกันมากเกินไป แน่นอนว่าทางโรงแรมได้เตรียมพนักงานเพื่อให้บริการเครื่องดื่มและของว่างไว้ด้วย” พี่คิวอธิบาย นี่คงเป็นการพูดที่ยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินพี่เขาพูดมา
“ในทุกครั้ง เราจะแนะนำน้ำที่ใส่ดอกมะลิ..เอ่อ แจกใบแนะนำโรงแรมทุกครั้ง เราจะมีทีมพนักงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับโรงแรมให้แขกทุกคนฟังด้วย รวมถึงที่มาของน้ำดอกมะลิก็ด้วยน่ะนะ”
“จดไม่ทัน” แก้วกระซิบบอกผม หน้าของแก้วจะทิ่มเข้ามาโดนผมอยู่แล้วคงเพราะกลัวว่าพี่คิวจะได้ยินนั่นละครับ
“พี่ครับ จดไม่ทันอ่ะฮะ” ผมยิ้มกว้างให้ พี่คิวเล่ห์สายตามามอง
“ไม่เป็นไรค่ะ จดทันค่ะๆ” แก้วรีบพูดแก้ตัว
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะแนะนำช้าๆก็แล้วกัน” พี่คิวยิ้มให้แก้วเล็กน้อย
“ชั้นแรกส่วนมากจะเป็นของหวาน เค้ก เครื่องดื่ม พวกคาเฟ่อะไรประมาณนั้น..ส่วนชั้นสองจะเป็นอาหารไทยโดยเฉพาะ” พี่คิวพูดต่อ พวกผมเดินตาม
“ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพี่คิว เมื่อพี่คิวหยุดเดินพวกเราจึงหยุดด้วย
“สายจากคุณศักดิ์สิทธิ์ค่ะ” เธอยื่นมือถือให้อย่างนอบน้อม พี่คิวรับไปถือไว้
“ขอตัวสักครู่นะ” พี่คิวบอกพวกผม ผมพยักหน้าตอบให้ พี่คิวเดินไปคุยโทรศัพท์ไม่ไกลจากตรงที่เรายืนอยู่มากนัก
“เท่..แต่ดูน่ากลัวไปหน่อยอ่ะ” แก้วบ่น
“เดี๋ยวก็ชิน” ผมบอก
“ยิ้มหน่อย” พีทหันกล้องมาทางพวกผม ผมกับแก้วหันไปยิ้มให้กล้องในทันที
“เป็นร้อยรูปเลยมั้งวันนี้ มีแต่มุมดีๆทั้งนั้น” พีทบ่น
“โอเค ไปต่อกันเถอะ” พี่คิวเดินกลับมาบอกพร้อมกับเดินนำต่อ
“ส่วนชั้นสามจะเป็นเฉพาะอาหารนานาชาติ เราจะแบ่งเป็นโซนอาหารแต่ละชาติ..ทางโรงแรมจะเน้นให้เด่นเรื่องอาหารเป็นส่วนมาก เราดึงลูกค้าตรงจุดนี้”
“ซึ่งในแต่ละชั้น จะมีห้องไว้สำหรับแขกที่ต้องการมาสัมมนา..หรือจัดประชุมต่างๆ แต่ทางเราจะจัดมุมไว้ค่อนข้างส่วนตัวเพราะไม่อยากให้คนพลุกพล่านและรบกวนซึ่งกันและกันน่ะครับ” พี่คิวมองหน้าแก้วระหว่างที่พูดอยู่ตลอดเวลา เราเดินตามไปเรื่อยๆจนถึงด้านนอกของโรงแรม พี่คิวแนะนำบริเวณรอบๆ เรื่องต้นไม้ การออกแบบต่างๆ หลังจากนั้นพาขึ้นไปถ่ายรูปที่ชั้นสองและชั้นสามต่อ
“ทานอะไรกันมารึยังล่ะ” พี่คิวเลิกคิ้วถาม
“ถ้าอาหารเช้าน่ะเรียบร้อยแล้วครับ แต่ถ้าพี่หมายถึงอาหารกลางวันน่ะยัง” ผมตอบ
“ฉันก็ต้องหมายถึงอาหารกลางวันอยู่แล้ว นี่มันกี่โมงเข้าไปแล้ว..เรื่องแค่นี้ คิดไม่ได้เหรอ ยอกย้อน” พี่คิวว่าให้
“พี่ก็ยอกย้อนเหมือนกันแหละ ว่าซะยาว” ผมบ่นบ้าง พีทกับแก้วหัวเราะชอบใจซะงั้น
“อยากกินอะไรล่ะ” พี่คิวถามอีก
“เค้กค่ะ” แก้วพูด
“อาหารไทย” ผมบอก
“อะไรก็ได้ครับ” พีทยิ้มตอบ
“โอเค..งั้นเดี๋ยวขึ้นชั้นสอง ไปร้านอาหารไทยแล้วกัน มีเค้กให้เลือกด้วยน่ะ” พี่คิวบอก พวกผมเดินตามพี่คิวที่พาพวกผมขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสอง ระหว่างที่เดินไปไม่ว่าพนักงานคนไหนเดินผ่านพี่คิวก็ต้องยกมือไหว้พี่เขากันทุกคนเลย มันก็ยิ่งทำให้พวกผมรู้สึกเกร็งไม่ได้
“สวัสดีครับคุณอัครวินท์ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” พนักงานใส่สูทหรูหรา ไม่น่าจะใช่พนักงานธรรมดา เดินพุ่งตรงเข้ามาหาพี่คิวทันทีที่พวกเราก้าวขาเข้าเขตร้านอาหาร
“จัดให้ฉันหน่อย สี่ที่” พี่คิวบอก
“เชิญครับ” พนักงานคนนี้เดินนำพาไปที่โต๊ะอาหารติดกับกระจก วิวดีมากทีเดียว
“สั่งได้เลยตามสบายนะ ฉันขอเป็นเจ้ามือเองก็แล้วกัน” พี่คิวพูด
“ขอบคุณค้าบ” ผมยกมือไหว้ทันที
“เสียมารยาท” พี่คิวว่าให้ ผมชะงัก
“ง่ะ..ตรงไหนเนี้ย ผมอุตส่าห์ขอบคุณพี่นะ” ผมโวย
“ทำแบบประชด ไม่มีใครเค้าอยากจะรับกันหรอก” พี่เขาว่าทั้งที่กำลังเหลือบตามองเมนูไม่มองหน้าผม
“หึหึ” แก้วกับพีทหัวเราะ
“ชิ” ผมแลบลิ้นให้ทุกคน ไม่เห็นมีใครเข้าข้างผมสักกะคนเลยอ่ะครับ..
พวกเราสั่งอาหาร พี่คิวสั่งมาสามอย่าง พวกผมสั่งมาคนละอย่างเพราะเกรงใจ ทำให้พี่คิวต้องสั่งมาเพิ่มอีกอย่าง คงกลัวว่าพวกผมจะกินไม่อิ่มละมั้งครับ
หลังจากที่เรากินอาหารกลางวันกันเสร็จ พี่คิวพาสำรวจไปทั่วโรงแรม แต่จะใช้คำว่าทั่วคงไม่ได้เพราะมันกว้างมาก เดินถ่ายเฉพาะห้องพักได้ไม่กี่ห้อง อย่างเช่นห้องสวีทไม่สามารถเข้าไปถ่ายได้เพราะตอนนี้มีแขกพักเต็มหมดทุกห้อง ส่วนเรื่องหลักการตลาด มาตรฐานอาหาร การบริหารโรงแรมพี่คิวได้ให้รายละเอียดมาคร่าวๆเพราะพี่คิวมีประชุมต่อตอนประมาณบ่ายสองนะครับ เราจึงต้องแยกกันหลังจากนั้น
= = = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เค้ก ลูกค้ามา” พี่หมีเข้ามาเรียกผมที่นั่งอยู่ในห้องพักพนักงาน
“ครับๆ” ผมตอบรีบวางปากกาลง ก่อนจะวิ่งออกจากห้องเพื่อไปด้านนอก เนื่องจากวันนี้มีการบ้านทั้งสามวิชาที่ต้องส่งภายในวันพรุ่งนี้ ผมเลยต้องเทียวเข้าเทียวออกระหว่างด้านนอกกับห้องพนักงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อทำการบ้านในขณะที่ไม่มีลูกค้าด้วย
“เอาออร์เดอร์เข้าไปให้พี่คิว แล้วออกมาเสิร์ฟ” พี่หมียื่นกระดาษให้ ผมพยักหน้าตอบและรีบทำตามที่พี่หมีสั่ง
“สลัดผักคิวปิด แซลมอนอบ..ซุปครีมหอมใหญ่มันฝรั่ง” ผมอ่านรายการอาหารให้พี่คิวฟัง
กริ๊ง~
“...................” เงียบคือคำตอบสุดท้าย ฉิบแล้วครับ..ดูเหมือนพี่คิวอารมณ์จะไม่ดีนัก ผมเลยรีบเอากระดาษออร์เดอร์ไปเสียบที่ประจำ แล้ววิ่งไปรับจานอาหารที่พี่คิวเพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้ในทันที
“นี่..” ผมอ้าปากจะถามถึงเมนูบนจานนี้
“Roast Beef........” พี่คิวพูดรัวและเร็ว เสียงทุ้มต่ำอยู่ในลำคอทำให้ผมฟังไม่ถนัด ผมยืนอ้าปากค้าง ฟังไม่ทัน แต่ดูเหมือนพี่เขาจะอารมณ์ไม่ดีมากจริงๆเพราะพี่เขาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองผมแถมไม่คิดจะพูดทวนให้ผมฟังเลย ผมรีบวิ่งออกจากห้องครัวพร้อมกับถาดอาหารในมือ
“อะ..อะไรไม่รู้อ่ะครับ โรสท์อะไรสักอย่าง..ฟังไม่ทัน” ผมรีบบอกพี่หมีอย่างร้อนรน
“เนื้อย่างกับยอร์คเชอร์พุดดิ้ง..จำ” พี่หมีสั่งเสียงแข็ง
“เนื้อย่างกับยอร์คเชอร์พุดดิ้ง” ผมพูดตาม ตาจับจ้องที่จานอาหารเขม็ง จำ..จำ..ต้องจำ
“ส่วนนี่..ออร์เดอร์ใหม่” พี่หมียื่นกระดาษให้
“ม..ไม่เอาหรอก พี่เอาไปเองสิ..เดี๋ยวเค้กไปเสิร์ฟ” ผมพูดท้วง คนในห้องครัวน่ากลัวจะตายไป
“ไปเลย ชื่ออาหารยังจำไม่ได้..” พี่หมีดีดหน้าผากผมเดินหนีออกจากเคาร์เตอร์ไปพร้อมกับถาดอาหาร
“ขอโทษครับ” ผมพูดทักคนในห้องครัวอีกครั้ง
“มัฟฟิ่นบลูเบอรี่แฟนตาซีหนึ่ง แครอทเค้ก แล้วก็ฮัมมิ่งเบิร์ดแฟนตาซีเซตสามครับ” ผมพูดบอก รีบนำกระดาษไปเสียบที่เดิม ต้องทำทุกอย่างให้เร็วเพราะในนี้มีบรรยากาศกดดันอบอวลเต็มไปหมด มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องเท่าไหร่
“เดี๋ยว” ผมชะงักหันกลับไปมอง แง่ง..น่ากลัวที่สุด
“เอามัฟฟิ่นเข้ามาสอง แครอทเค้กหนึ่ง” พี่คิวสั่ง
“ครับ” ผมพยักหน้ารับและรีบวิ่งออกจากห้องออกมาเตรียมจาน
“อะไรเค้ก” พี่ซีถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“มัฟฟิ่นสอง แครอทเค้กหนึ่งครับ” ผมบอกพร้อมกับหยิบที่คีบขนมปังมา พี่ซีช่วยเปิดตู้เค้กให้
“อย่าซุ่มซ่ามเชียวล่ะ” พี่ซีพูดเตือนหลังจากที่ผมหยิบเค้กตามที่พี่คิวสั่งครบแล้ว ผมพยักหน้าตอบ นำเค้กทั้งสองจานกลับเข้าไปให้คนในครัว
“มีอะไรอีกไหมครับ” ผมถาม
“กี่โต๊ะ” พี่คิวเงยหน้าถาม
“สามครับ” ผมตอบ
“หยิบคัสตาร์ดออกมาให้หน่อย อยู่ในตู้สาม” พี่คิวสั่ง ผมหันซ้ายหันขวามองหาตู้สาม
“หยิบจานกลมแถวสอง แกะคัสตาร์ดออก คว่ำลงบนจานขวามือ” พี่คิวสั่ง ผมเงอะงะและเสี่ยงตายหยิบจานกลมแถวที่สองมา จานกลมมีวางเรียงอยู่สี่จาน ต่างขนาดกันไปเพราะแต่ละจานจะไม่เหมาะกับเมนูนั้นๆ ผมแกะคัสตาร์ดออกอย่างประณีตที่สุดเพราะกลัวมันจะเละก่อนที่จะนำมันวางคว่ำลงบนจานด้านขวาบน
“ไปหั่นมะเขือเทศให้หน่อย หั่นแบบที่วางอยู่นั่นแหละ” พี่คิวสั่ง พี่เขาเดินมาที่จานคัสตาร์ด ผมเดินไปที่เขียงอย่างช่วยไม่ได้ มีมะเขือเทศลูกเล็กแช่อยู่ในถ้วย มะเขือเทศบางลูกถูกหั่นไปบ้างแล้ว และรอบนี้ผมก็ต้องเสี่ยงตายอีกครั้ง ระหว่างที่ผมหั่นมะเขือเทศอยู่ได้เพียงไม่กี่ลูก เงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าจานคัสตาร์ดที่ผมนำคัสตาร์ดไปวางเมื่อกี้ได้ตกแต่งอย่างสวยงามเรียบร้อยแล้ว
“เอาไปเสิร์ฟ” พี่คิวบอก
“ล้างมือก่อน เช็ดให้แห้งด้วย” พี่คิวสั่งคิ้วขมวด ผมรีบล้างมือตามที่สั่งในทันที พี่เขาสั่งอย่างไรก็ควรทำตามในทันทีไม่ควรขัด พวกพี่หมีเคยเตือนผมเรื่องนี้มาก่อนหน้าแล้วนะครับ
“ผมกดดันนะพี่อ่ะ” ผมบ่นเพราะทนไม่ไหวแล้ว
“เร็วๆเลย” พี่คิวว่าไม่หยุด ผมรีบหยิบผ้าเช็ดมือมาเช็ดจนแห้งสนิท รีบนำจานคัสตาร์ดวางบนถาดและนำออกมาเสิร์ฟทันที
“เฮ้อ..หายใจไม่ทัน คนก็ไม่ได้เยอะอะไร ทำไมคนในครัวถึงกดดันจริง” ผมบ่นเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางบ้างแล้ว
“หึ..พี่เค้าเป็นคนทำงานเร็วน่ะ ถึงไม่ค่อยอยากให้มีลูกมือไง” พี่กัสพูดบอก
“แล้วตัวเองก็แทบทำไม่ทันอะนะ” ผมว่า
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พี่เค้ามืออาชีพนะ..ไม่งั้นไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้หรอก ที่เร่งหน่อยก็เพราะไม่อยากให้ลูกค้ารอเท่าไหร่อ่ะนะ” พี่กัสยักคิ้วบอก
“งั้นพี่กัสเข้าไปในครัวเลย เค้กไม่เอาแล้ว” ผมดันตัวพี่กัสบ้าง
“ไม่เอาหรอก ฮ่าๆๆ ตัวเองดวงไม่ดีเองอ่ะ สมน้ำหน้า” พี่กัสยิ้มเยาะ
“เดี๋ยวจิ้มแผลเลย” ผมชูนิ้วแกล้ง แผลที่พี่กัสได้รับจากการตกลงเมล์วันนั้นยังไม่หายดีนะครับ
“เอ้ เค้กอ่ะ” พี่กัสทำปากจู๋พร้อมกับนำแขนหลบผมอย่างกลัวๆ
“เอ่อ พี่ฟ้าครับ” ผมเรียก พี่ฟ้าเลิกคิ้วเดินเข้ามาหาผม
“วันนี้เค้กกลับด้วยได้ไหมครับ” ผมถาม ที่จริงวันนี้ผมเลิกเร็ว เลิกทุ่มครึ่งแต่ผมยังไม่อยากกลับ กะว่าจะทำการบ้านบางส่วนให้เสร็จระหว่างรอพี่ฟ้าปิดร้านประมาณสองทุ่มครึ่งก่อน อีกอย่างกลับทุ่มครึ่งหรือสองทุ่มครึ่งรถติดไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ ดีซะอีก..กลับสองทุ่มครึ่งได้นั่งรถกลับฟรี แถมการบ้านเสร็จบางส่วนอีกด้วย
“ได้สิ ติดใจพี่แล้วใช่ม้า” พี่ฟ้ายิ้มลูบหัวผม
“กินเด็ก” พี่กัสว่า
“หึ..พี่ไม่กินเด็กดื้อหรอกไม่ต้องห่วง” พี่ฟ้าย้อน
“กัสไม่ดื้อนะ” พี่กัสเข้าไปกอดแขนพี่ฟ้าในทันที
“เข้าครัวก่อน” พี่ฟ้าบอก
“โหย เข้าไปเลย..หลานพี่มีองค์ลงอีกละ” พี่กัสฟ้อง
“หึ..ไม่ชินเหรอ” พี่ฟ้ายิ้มก่อนจะเดินเข้าครัวไป หลังจากที่ผมช่วยงานจนหมดเวรงานของผม ผมกลับเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่งทำการบ้านต่อจนถึงสองทุ่มครึ่ง การบ้านเสร็จไปสองวิชาพอดิบพอดี
“พี่กัส..เขียนเรียงความภาษาอังกฤษให้เค้กหน่อยได้ไหมอ่ะ น้าครับ” ผมขยับเก้าอี้ให้นั่งชิดพี่กัสมากขึ้นเป็นการอ้อนขอ
“นี่..ภาษาไทย” ผมยื่นกระดาษให้
“เขียนเลยเหรอ” พี่กัสถาม
“ครับผม” ผมยื่นกระดาษกับปากกาให้ พี่กัสรับไป ผมได้แต่นั่งมอง
“ไปกันได้แล้วเด็กๆ” พี่ฟ้าเข้ามาเรียก
“เดี๋ยวครับ แป๊บนึงได้ไหมอ่ะ..นะครับ” ผมส่งสายตาอ้อนวอนพี่ฟ้าด้วย พี่ฟ้าขมวดคิ้วด้วยความสงสัยแล้วเดินเข้ามาหาผม
“ให้พี่กัสเขียนเรียงความให้แป๊บนึง จะเสร็จแล้วครับ” ผมบอกพร้อมเก็บของที่เหลือไปด้วยจะได้ไม่เป็นการเสียเวลา พี่กัสลงมือเขียนเร็วมาก..สุดยอดไปเลย โว้ว~
“การบ้านของตัวเองรึการบ้านกัส ทำไมไม่ทำเอง” ผมเงยหน้ามองหน้าพี่คิวที่พูดว่าผมเสียงแข็ง ผมหุบปากลงเพราะเถียงไม่ออก เขียนเองน่ะเขียนได้นะครับแต่คือตอนนี้เวลากระชั้นชิดไปหน่อย และหัวสมองผมต้องกลั่นกรองในการคิดและเปิดพจนานุกรมอาจจะทำให้เสียเวลา เมื่อกลับถึงบ้านผมต้องรีบอ่านหนังสือและเข้านอนให้เต็มอิ่มสำหรับพรุ่งนี้อีกด้วยนะสิครับ
“เด็กสมัยนี้นี่นะ” พี่คิวส่ายหัว เลื่อนเก้าอี้นั่งลง
“มันจำเป็นนี่ ก็แกรมม่ามันยากนี่ครับ” ผมพูดเสียงเบา
“ฝึกสิ” พี่คิวว่าอีก
“ไปว่าน้อง” พี่ฟ้าปรามพี่คิว
“วันพุธฉันว่างหลังบ่ายสอง ถ้าจะเอาเอกสารอะไรที่ว่า..ก็ไปเอาเองที่บ้านแล้วกัน” พี่คิวพูด
“เอามาให้หน่อยไม่ได้เหรอครับ” ผมต่อรอง
“ฉันเป็นเบ้นายเหรอ” พี่คิวย้อน เหสายตามามองเหล่ผมด้วย
“ง่ะ..” ผมทำปากขมุบขมิบ พี่ฟ้ากับพี่หมียืนขำ
“งั้นประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆจะไปเอาก็แล้วกันครับ” ผมตัดบทบอกอย่างช่วยไม่ได้
“ดีเลย..งั้นอยู่กินข้าวเย็นกับพี่นะ” พี่ฟ้าพูดเสียงดัง
“เอ่อ..”
“นี่ก็ท่าจะบ้า ชวนคนอื่นให้มากินข้าวบ้านตัวเองตลอด..ขาดความอบอุ่นรึไง” พี่คิวพูดทำหน้าเซ็ง
“ก็แน่ล่ะ กินข้าวกับหลาน..หลานไม่พูดด้วยสักคำ” พี่ฟ้าย้อน
“บนโต๊ะอาหาร ใครเค้าสอนให้พูดกัน” พี่คิวย้อนอีก
“ชิ..นะเค้กนะ กินข้าวบ้านพี่เถอะ แล้วเดี๋ยวพี่ให้คนรถไปส่งถึงบ้านเลย” พี่ฟ้ายิ้ม
“ก็ได้ครับ วันพฤหัสนี้เค้กไม่มีเรียน กลับดึกได้” ผมตอบ
“ดีจัง..ทำอะไรกินดีน้า” พี่ฟ้ากำมือ เงยหน้าเพ้อใหญ่
ค่ำนี้พี่คิวขับรถไปส่งผมถึงบ้าน และไม่รู้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น พี่ฟ้ากับพี่คิวเถียงกันตลอดทางจนผมถึงบ้านเลยละครับ เถียงกันเรื่องติงต๊องมากๆ..เหมือนเด็กๆเลย ผมซึ่งเป็นตัวกลางเลยได้แต่นั่งหัวเราะเหอะๆ พี่คิวก็ไม่ยอมพี่ฟ้า ส่วนพี่ฟ้าก็ไม่ยอมพี่คิวด้วยเหมือนกัน ให้ตายเถอะครับอาหลานคู่นี้..
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“คุณเค้กมาแล้วค่ะ” ป้านิดบอกคนในห้อง พี่คิวเหลือบมองผมลอดผ่านแว่นสายตา
“หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้
“เอาหนังมาคืนด้วย” ผมบอก เดินนำแผ่นซีดีไปสอดไว้ที่เดิมของมัน
“นี่เอกสาร โปรชัวร์..แล้วก็อะไรที่นายน่าจะต้องการ” พี่คิวยื่นเอกสารซองสีน้ำตาลวางไว้บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบมา
“ขอบคุณมากครับ” ผมก้มหัวบอก
“ครั้งนี้ก็คงพอแล้ว..ไม่ต้องรบกวนพี่ละ อาทิตย์หน้าคงจะรวมเนื้อหาเสร็จพอดี แต่ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมไว้ผมจะมาถามนะครับ”
“ก็ดี..ฉันก็ไม่ได้ว่างมาเล่นกับนายบ่อยๆหรอก” พี่คิวพูดบอก
“เล่นตรงไหน นี่มันการบ้านนะครับ..ตั้งยี่สิบคะแนนแน่ะ” ผมว่าหน้างอแต่พี่คิวกลับอมยิ้มให้
“ทำหน้างอ น่ารักตายล่ะ..ฉันไม่ใช่ไอ้อาหื่นกามนั่นหรอกนะ” พี่คิวถอดแว่นสายตาออกยิ้มๆ
“จะฟ้องพี่ฟ้า”
“หึ..เชิญ”
“ขออนุญาตค่ะ ของว่างค่ะคุณ” ป้านิดเดินนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟ
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบและรีบย้ายก้นจากเก้าอี้ที่โต๊ะเขียนหนังสือนี่ไปที่โซฟาทันที
“นี่ฉันต้องคิดค่าอาหาร ค่าเอกสาร ค่าตัวฉันด้วยรึเปล่า..รู้สึกฉันจะมีแต่เสียกับเสียนะ” พี่คิวพูดขึ้น
“อ่านะ ถือว่าทำบุญสิครับ..เค้กเป็นเด็กหน้าตาดีตาดำๆคนนึงเองนะ แต่ถึงพี่จะเอาอะไรจากผม ผมก็ไม่มีให้หรอก” ผมบอกลอยหน้าลอยตาหยิบคุกกี้ขึ้นทาน พี่คิวเงียบไป
“นี่..” พี่คิวเรียก ผมหันไปมอง
“มูลนิธิที่นายไปวันนั้นน่ะ..”
“ครับ” ผมถาม อืม..น้ำพั้นซ์บ้านพี่คิวนี่หวานกลมกล่อมจริงๆแฮะ
“ทำไมไม่ดูดให้เสร็จก่อนถึงค่อยพูด” พี่คิวว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจอีกแล้ว
“ฮื้ม..ขี้บ่นจริง” ผมบ่น
“แล้ว..ถามเรื่องมูลนิธิทำไมเหรอครับ” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“อืม..เปล่า ก็แค่อยากรู้”
“แล้ว..ใครเป็นคนดูแลที่นั่นล่ะ อยู่ในระบบของรัฐรึเปล่า”
“คนที่เป็นคนดูแลชื่อคุณหญิงพวงทอง บ้านอยู่แถวๆนั้นแหละครับ เป็นคนมาซื้อที่ตรงนั้นไว้” ผมตอบ พี่คิวพยักหน้า
“ที่จริง ตรงนั้นอ่ะจะถูกซื้อที่ไปทำบ้านของพวกคนรวย..ตอนแรกใครเป็นคนดูแลผมก็ไม่รู้จักเหมือนกัน เพิ่งมารู้ตอนที่คุณหญิงพวงทองเข้ามาขอซื้อที่ไว้เพื่อให้เด็กๆได้อยู่กันต่อนะครับ”
“บางครั้งก็มีคนมาบริจาคเงินบ้าง ส่วนมากก็จะเป็นพวกนักศึกษา คนทำงาน คนที่พอจะช่วยได้ทีละร้อยสองร้อยแหละครับ..นานๆทีถึงจะมีคนเอามาบริจาคเหยียบหมื่นเหยียบแสนน่ะ” ผมเล่า
“แล้วพี่อยากรู้ไปทำไม” ผมถาม
“ฉันอยากรู้ไม่ได้รึไง” พี่คิวย้อน
“ฮันแน่..อยากไปอีกละสิ” ผมยิ้มแซว
“ที่จริงพี่ก็คงรักเด็กเหมือนกันสินะ แต่คงทำเป็นฟอร์ม” ผมว่า
“นี่..” พี่คิวขึ้นเสียงปรามผม
“หึหึ” ผมหัวเราะหันมาดูดน้ำพั้นซ์ต่อ
“เดี๋ยวนี้ผมก็ไม่ค่อยได้ไปหาน้องๆเลย ตั้งแต่เข้ามหาลัย..นานๆไปที พี่อยากไปไหมล่ะ” ผมชวน
“วันไหน” พี่คิวถามทันที
“พี่ว่างวันไหนล่ะ ที่จริงพรุ่งนี้เค้กหยุดนะฮะ แต่..อยากพักอ่ะ เอาเป็นวันเสาร์ตอนเย็นไหม เค้กเลิกงานพอดี” ผมบอก
“อืม ก็ได้..แล้วถ้าเราไปตอนเย็น เราต้องทำอะไรไปบ้างล่ะ อาหารเหรอ หรือว่าขนม” พี่คิวหันตัวเองให้หันมาคุยกับผมได้ถนัดมากขึ้น
“เดี๋ยวเอาไว้เค้กโทรไปนัดกับที่นั่นก่อนแล้วกันว่าเราจะไป แล้วจะถามให้ว่าจะให้ทำเป็นอาหารหรือของว่าง”
“เด็กชอบกินอะไร เค้ก..หรือว่าทำขนมไทยดี” พี่คิวถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ขนมไทยเด็กไม่ค่อยชอบหรอกครับ ถ้าชอบก็คงจะเป็นลูกชุบ..พี่อยากทำเค้กไปเหรอ ก็ได้นะ..เดี๋ยวเค้กช่วย”
“ไม่เป็นไร วันเสาร์ฉันว่างทั้งวัน..ถ้าได้เรื่องยังไง โทรบอกด้วยแล้วกัน”
“แล้วพี่คิวจะไปรับผมไหมครับ” ผมหันตัวเองให้ตรงกับพี่คิว
“จะสงเคราะห์ให้แล้วกัน” พี่คิวตอบพร้อมกับยักคิ้วกวน
“ชิ” ผมเบะปากให้ก่อนจะหันตัวกลับมานั่งกินอาหารต่อ
ผมนั่งกินอาหารว่างที่ป้านิดนำมาเสิร์ฟจนหมด ยกถาดเข้าไปให้ป้าแกในครัวแต่กลับโดนป้าแกดุมาว่าอย่ายกมาให้ในครัวแบบนี้อีกเพราะป้าจะมาเก็บเอง ผมสำรวจในครัวสำหรับทำอาหาร เป็นครัวใหญ่อยู่ทางด้านหลังบ้านแยกกับครัวสำหรับทำเค้กของพี่คิว หลังจากที่สำรวจครัวจนหนำใจแล้ว เดินกลับเข้าห้องหนังสือกลับไม่เจอพี่คิวอยู่ที่นั่นแล้ว ผมมองผ่านกระจกที่ห้องหนังสือ เห็นพี่คิวนั่งอยู่ที่สวน ผมเลยเดินออกไปหา โดนพี่เขาว่านิดหน่อยว่าเสียมารยาทอีกนั่นละครับ แต่ผมไม่สนใจ บ้านเงียบจะตายชัก ขืนผมอยู่ในห้องหนังสือคนเดียวคงได้เป็นบ้าตายแน่ๆ ผมนั่งคุยกับพี่คิวจนพี่ฟ้ากลับมาถึงบ้าน เราช่วยกันทำอาหาร ทานอาหารเย็นด้วยกันหลังจากนั้นพี่ฟ้าก็ให้คนขับรถที่บ้านขับรถไปส่งผมถึงบ้านเลยละครับ สบ๊ายสบาย..
..................>>>><<<<.................
-
^
^
^
^
o18 จิ้มคุณเบบี้......
:o8: คู่คิว กะ เค้ก...นี้เค้าไปแบบเรื่อยๆ....
:-[ ชอบพี่ฟ้าอ่ะ...รุกเร็วดี....ตาคิวระวังพี่ฟ้าฉกน้องเค้กไปกินแทนนะคะ :laugh:
-
o13
-
อาหารแต่ละอย่างได้ยินชื่อก็หิวแล้วอ้ะ *-*
ความสัมพันธ์ของพี่คิวกะเค้กนี่เริ่มพัฒนาไปเรื่อยๆแล้ว
ขอให้รักกันไว ><
-
เดี่ยวนี้เค้าพัฒนาแล้ว แหมๆๆ พี่คิวมีอมย้งอมยิ้มนะเดี่ยวนี้
-
รอฉากหวานๆจากพี่คิว...อิอิ
-
อ่านแล้วหิวเลยอ่ะ
-
อยากรู้จริงๆเลย ว่าจะมารักกันได้ยังไง
ดูไม่มีวี่แววทั้งคู่เลย มันจะมาสปาร์คกันอีท่าไหนล่ะนี่ :z2:
-
เค้กกับพี่คิวทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆ งี้มีหวังคืบหน้าแน่ๆ o18
-
กัสเด็กดื้อ น่ารัก อ่ะ :o8: :z3:หงเราชอบ กัสมากขึ้นอ่ะ :z3: :z3:
-
จิ้มบวกๆๆๆ
แหม๋ๆ ชวนกันทำบุญใหญ่เลย อยากทำบุญร่วมกันอ่ะดิ๊
พี่คิวน่ารักอ่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
-
จะว่าไปพี่คิวก็ตลกดี
ตลกแบบโหดๆ
-
ฮ่าๆๆๆ พี่คิว น่ารักขึ้นนะเนี๊ย
แต่ก็ยังคงมีมาดเหมือนเดิมเล้ยยยย
ดูเท่ห์ๆ แบบน่ากลัวๆ
-
:m4: สนุกมากๆเลยจร้า อ่านรวดเดียวจบเลย ยิ่งอ่านยิ่งติด ฮ่าๆ
เค้กน่ารักมากๆเลย :m1: คิวก็ดูเย็นชาดี แต่แอบแฝงไปด้วยความอบอุ่น
เดี่ยวนี้ดูคิวอมยิ้มมากขึ้น ฮันแน่ หลงเสน่ห์เค้กเข้าแล้วใช่ไมหล่ะ ฮุฮุฮุ
เดี่ยวนี้สองคนเขามีเบอร์กันและกันแล้วนะเนี้ย น่าร๊ากกกกก
เมื่อไรสองคนนี้จะเป็นแฟนกันซะทีน๊า ต้องรอลุ้นกันต่อไป
แต่เราแอบลุ้นอีกเรื่องนะ ว่า กัสจังจะได้คู่กับใคร กัสจังก็น่ารัก
จะใช่คนเดียวกับที่เราคิดหรือเปล่านะ ฮ่าๆ แค่คิดก็สนุกแล้วซิ
-
สองคนเริ่มสนิทกันแล้ว
อิอิ
น้องเค้กน่ารักมากกกก...อ่ะ!
-
ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
เดี๋ยวก็ได้ เอ้ยยย เดี๋ยวก็คู่กัน
-
ค่อยๆคืบหน้า พี่คิวมีแอบอมยิ้มด้วย
:-[
:pig4: :3123:
-
พี่คิวดูปล่อยวางมากขึ้นนะ เก๊กน้อยลงเเระ 555
พี่ฟ้าก็น่ารักเหมือนเดิม ถ้ามีพี่ชายแบบพี่ฟ้านี่รักตายเลย อิ่มสุขอิ่มท้องทุกวันแน่ :กอด1:
พี่คิวน้องเค้กก็คืบหน้าขึ้นทีละเล็กละน้อย แบบค่อยเป็นค่อยไปไม่เร่งรัด
รอลุ้นว่าใครจะชอบใครก่อน อยากเห็นพี่คิวหลงเด็กโว๊ยย!! 5555
ปล.อ่านเรื่องนี้ตอนเที่ยงแบบนี้แอบหิวอ่า ><
-
แล้วเอาบุญมาฝากด้วยนะจ๊ะสองหนุ่ม
น่าเอ็นดู๊ หล่อ น่ารัก แถมใจบุญอีกต่างหาก :m1:
-
พี่คิวนี่ เอะอะ ก็บ่น ไม่ไหวๆ
แต่อีกไม่นานจะหลงเค้กแน่นอน
-
พี่คิวกับน้องเค้ก
อ่านแล้วอยากกินเค้กอ่ะ อิอิ
-
น้องเค้กกะพี่คิว จะหันมาจ้องตากันวิ๊งๆ แบบไหนเนี่ยยยย
คือว่ายังไม่มีท่าทีด้วยกันทั้งคู่เลยง่า :t3:
-
สนุกมากมาย ขอบคุณเบบี๋ :pig4:
-
พี่คิวนี่เจ้าระเบียบ จู้จี้จังแฮะ
เคยทำไรเปิ่นๆบ้างมั้ยเนี่ย
เค้กน่ารักอ่ะ เริ่มเข้าไปใกล้ทีละนิดๆ แล้วสินะ :-[
-
้เดี๋ยวนี้พี่คิวทำตัวน่ารัก :-[
-
o13 o13 o13 o13พี่คิวน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ชอบน้องเค้ก รักพี่คิว :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
เค้ก-คิวทำมัยน่ารักขนาดนี้น๊า :กอด1:
-
เค้กเป็นธรรมชาติ น่ารัก
อาจมีคนใจอ่อน :laugh:
+1
-
:-[ :-[ :-[ อิอิ พี่ิว วน่ารักอ่ะ อิอิ ชอบ พี่คิวแบบนี้น่ารักๆๆ
น้องเค้กก็ น่ารักๆ อิอิ คู่นี่ ชอบๆ ว่าแต่ พี่เซน หายไปแห่ะ อิอิ
โอ้ย ยอ่านเรื่องนี้ของคุณเบบี้ หิววมากอ่ะ
อยากกินเค้กจั ง ง ง :serius2: :serius2:
-
o13 o13 o13
-
เรื่องน่ารักจังค่ะ
ตอนนี้ดูพี่คิวกับเค้กสนิทกันขึ้นมากเลยเนอะ เค้กกล้าย้อนแล้วด้วย
ชอบพี่กัส น่ารักดี ตอนแรกๆ ดูเหมือนเฉยๆ นะ แต่ไปๆ มาๆ ตั้งแต่ตกรถเมล์ก็ดูน่ารักชะมัดเลย
(เราคงหลงรักพี่กัสตอนตกรถเมล์อ่ะ555)
อยากรู้เรื่องพี่เซ็นกับพี่กัสมีซัมติงอะไรกันคู่นี้
-
อ่านตามทันแล้วววววว
มีพี่สาวแนะนำมาค่ะ คะยั้นคะยอให้อ่านมากมาย
พออ่านได้ 2 ตอน เริ่มติดน้องเค้ก แบบว่าเป็นหนุ่มน้อยที่น่ารักมาก
พี่สาวดีใจที่เราติด เค้าบอกว่าจะได้มาเพ้อด้วยกัน 5 5 5
อ่านทั้งคืนเลยกว่าจะตามทัน 13 ตอนอ่ะ
พี่คิวเท่!!!!
คิคิ แอบเชียร์พี่เซ็นกับพี่กัสด้วยน๊า
ปล. ชอบอาฟ้าจังค่ะ ดูอบอุ่นเน๊ออออ
-
มาแบบชิลๆ สบายๆ
-
ีำต่อล้อต่อเถียงกันมากขึ้นนะ เดี๋ยวนี้ ฮ่า :mc4: :mc4:
-
กำลังจะได้ทำบุญร่วมชาติแล้ว เหลือแต่ตักบาตรร่วมขันเท่านั้น
-
พี่ฟ้าน่ารักจัง :-[
พี่คิวจิกกัดตลอดเวย์นะคะ - -
-
อ่านเรื่อยๆ รอวันที่สองคนนี้รักกัน
-
เริ่มสนิทกันแล้วววววว
อิอิ น่ารักกกกกกกกก
-
คุณพี่คิวแกเนี่ยเจ้าระเบียบทุกกระเบียดนิ้วจริงเนอะพออ่านช่วงที่พี่แกมีบทบาทแล้เกร็งพิกล
ผิดกับพี่ฟ้าของชั้นดูสบายๆ เค้กกับกัสก้อน่ารักอร๊ายใจละลาย (ร๊ากพี่ฟ้ากับน้องเค้ก)
-
พี่ฟ้าน่ารัก พี่คิวกะเค้ก อิอิ เริ่มพัฒนาแบบช้าๆ อิพี่คิวจะหวานกะเค้าเป้นป่าว ฮ่าๆ
-
รอวันพี่คิวรักน้องเค้กไม่ไหวละ :-[
-
อ่านแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น ทั้งเนื้อเรื่องและตัวละคร เฝ้ารอวันที่มาอัพตลอดเลย ฮิๆ
-
ไล่อ่านมาจนทัน เย้ๆๆ อ่านแล้วให้รู้้สึกอบอวลไปด้วยกลิ่นของขนม
น้องเค้กน่ารัก ทุกๆคนก็น่ารัก ^^
อยากเห็นวันที่พี่คิวกะน้องเค้กรักกัน
:pig4:
-
เค้ก
น่ารักขึ้นทุกวัน
-
เค้กน่ารัก
เมื่อไหร่จะหวั่นไหวกันนะ
-
ฮั่นแหนะ....
แอบหลบไปทำบุญด้วยกันอีกแล้ว :laugh:
-
ทำบุญร่วมชาติกันขนาดนี้ สงสัยชาติหน้าก็งได้เจอกันอีกแหงๆ :z1:
-
ทำบุญร่วมกันเยอะๆ ชาติหน้าจะได้เจอกันอีก 5555
:กอด1: :กอด1:
-
วันนี้พี่คิวอารมณ์เสียอะไรนะเนี่ยย แต่ก็ดีนะที่เค้กมาบ้านแล้วไม่อารมณ์เสียใส่
-
“แล้วพี่คิวจะไปรับผมไหม” แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย
น่ารัก :o8:
-
ปากร้ายใจดีตลอดอ่ะพี่คิว ~ :o8:
-
สองคนนี้ก็หยอกกันไปมา ยอกย้อนทั้งคู่
แบบนี้กว่าจะรักกันได้คงเป็นเพราะพรั้งปากเองแหง
-
พี่คิวนึกอยากไปมูลนิธิ ไม่รู้ว่าอยากไปทำบุญให้เด็กๆ หรืออยากไปกับเด็กกันแน่
-
หนทางยังอีกยาวไกล
-
อิจฉาเค้กเบาเบา 5555555 ทำไมชีวิตถึงล้อมรอบไปด้วยหนุ่มหล่อเต็มไปโหม๊ดดดดดดด
พี่คิวกับเค้กเวลาเถียงกันน่าร๊ากกก =///= ดูเหมือนคู่กัดคู่รักกันมากขึ้นทุกวันทุกวัน
โดยที่ไม่รุ้ตัว ฮ่าๆๆ
-
กัสมีกระโดดเกาะแขนพี่ฟ้า น่ารักอ่ะ ถ้าไม่ติดว่าเชียร์เซ็นกัส จะนึกว่ากัสชอบพี่ฟ้าละนะ ฮ่าๆๆๆๆ
คิวเค้ก ตีกันเข้าไปเถียงกันเข้าไป จะได้รักกันมากๆ
เดี๋ยวนี้คิวเริ่มจะสนใจเค้กมากขึ้นแล้วล่ะมั้งเนี่ยรู้สึก แอบชอบน้องบ้างรึยังพี่คิว หุๆ
-
มารายงานตัว แว้วคับ
จะรอ
จะรอ
จะรอ เค้ก ง่ะ
-
แน่ะๆ พี่คิวยังไงเนี่ย เริ่มสนใจเค้กแล้วอะดิ พี่คิวเป็นคนที่กวนมากอ่ะ แล้วมาต่อเร็วๆ นะ รออ่านตอนต่อไปจ้า
-
เค้กกับพี่คิวเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ดีจริง
-
ชอบเวลาพี่คิวอยู่กับเค้กจริงๆเลยค่ะ ตลกดีอ่ะ น่ารักดีด้วย
ชอบเวลาเค้กกวนพี่คิวอ่ะ (อมยิ้มคนเดียว 555) พี่คิวทำไมจะไม่รักเด้กละค่ะ
เพราะไงเดี๋ยวก็ต้องหลงรักเด็กอยู่แล้วเนี้ย เด็กน่ารักซะขนาดนี้จะไม่รักได้ไง ใช่ม่ะค่ะ
ชอบเวลาเค้กแทนตัวเองกับพี่คิวจะเลย เรียกตัวเองว่า เค้ก อ้ายย น่ารักอ่ะ >///<
ชอบจริงๆเลย :-[ :o8: :impress2:
-
เค้กไปกวนบ่อยๆแบบนี้เดี่ยวก้ใจอ่อนเองแหล่ะ อุแหม่ อิอิ
-
:z3: :z3: :z3: อ่านอย่างต่อเนื่อง อยากอ่านต่ออ่าาา กำลังได้ที่
เพิ่งอ่านตอนที่ 14 ก็อยากอ่านตอนที่ 15 ต่อ พออ่านจบตอนก็อยากอ่านต่อตลอดดดด :laugh:
ระหว่างเค้กกะพี่คิว อ่านแล้วรู้สึกน่ารักๆอย่างบอกไม่ถูกอ่ะ :m1: ค่อยๆพัฒนา :m4:
พี่ฟ้า กัส ก็น่ารักเหมือนเดิม ปลื้มมม แต่ก็ไม่ลืมพี่หมีกะซีนะ อิอิ
ส่วนทิกเกอร์ก็ยังเป็นปริศนาต่อไป
ปล.ตอนนี้พี่เซนหายไปเลยอ่ะ หายไปไหนน้าา กัสคงคิดถึงแย่ :laugh:
ส่งกำลังใจให้เบบี้ค่ะ :yeb:
-
เมื่อไหร่คิวเค้กจะมีประโยคเด็ดๆมาให้จั๊กจี้หัวใจเล่นอ่ะ
เค้าอยากเขินนนนนนน :o8:
-
เดี๋ยวนี้น้องเค้กมันพัฒนา รู้จักย้อนพี่คิว ฮ่าๆๆ
เมื่อไหร่คิวปิดจะหลงน้องน๊า ลุ้นจะตายแล้ว
อ่านกี่ทีก็ดุน้องเค้กตลอดอ่ะ อยากอ่านมุมของความรู้สึกพี่คิวบ้างงงงง
-
พัฒนานิดๆแล้วคู่นี้ ดีใจจัง o18
-
พ่อแง่แม่งอนตลอดคู่นี้ ฮ่าๆๆๆ
-
ชักจะชินกับการที่พระเอกนายเอกไม่ได้ปิ๊งกันละ คาดว่าถึงวันที่พี่คิวชอบน้องขึ้นมา เราอาจจะหวง นอยมัน ฮ่าๆๆๆๆ
น้องน่ารักที่ซู๊ดดดดด :กอด1:
-
อืมมมม
เค้กไม่กลัวพี่คิวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมยังกล้ากวนพี่แกอีก
ส่วนพี่คิวก็คุยกับเค้กมากขึ้นแล้ว
รอ ร้อ รอ สองคนนี้อินเลิฟกันไวๆ :impress2:
-
เบบี้นำพาเรื่องไปแบบเรื่อยๆมาก 555
เบบี้ใจเย็นหรือเราใจร้อนก็ไม่รู้ คิวเมื่อไหร่จะรุก!! :haun4:
-
^
^
^
:o8: :o8: :o8:
นั่นสิค๊ะ พี่คิว วว 555 เมื่อไหร่ จ่ะรุกๆๆๆๆๆ อิอิ o18 o18
-
อ่านทันแล้ววววว
เค้กนี่น่าเอ็นดูจริงๆ
-
การพัฒนาของคนทั้งสอง เริ่มตั้งเค้าแม้จะยังไม่แสดงออกก็ตาม
น้องเค้กก็กล้าที่จะคุย จะแหย่ พี่คิวก็ให้การยอมรับน้องเค้ามากขึ้น
โดยมี คิวปิดฟ้า คอยสนันสนุนอย่างออกนอกหน้า :z1:
+1 เป็นกำลังใจให้เบบี้ :กอด1:
-
พี่คิวตกหลุมเสน่ห์..ความน่ารักของเค้กแล้วละ..
มีเด็กน้อยตัวป่วนอยู่ใกล้ ๆ ...ชีวิตมันก็ไม่น่าเบื่อแล้วเนอะพี่คิว o18
+ ให้ความน่ารักของน้องเค้ก กะ พี่กัส
:L2: น้องเบบี้ :pig4:
-
คู่นี้เค้าไปเรื่อยๆอ่านะ น่ารักดี :กอด1:
-
:z3:
อยากหยิกแก้มน้องเค้ก
-
เจ้ครับ เจ้เขียนได้เรียบๆสบายๆจริงๆ สงสัยช่วงนี้สบายใจอยู่แน่ๆ
-
:กอด1:
-
น้องเค้กน่ารักตลอดอ่ะ
ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าจะแต่งใสๆขนาดนี้
ฮ่าๆๆๆ
พี่คิวเท่อ้ะ ขนาดไม่ค่อยพูดนะะ
ชอบบบบ
-
จะรักกันอีท่าไหนน้าาาา อยากรู้อ่าๆๆๆ
ใครจะรักใครก่อน งื้ออออออออ
เค้าเชียร์ให้เค้กรักพี่คิวก่อนนะ =v=
-
มาย่องดูเบบี้ คิดถึงน้าาา า :z1:
-
:catrun:
-
น้องน่ารักไปไหนเนี่ย น่าเอ็นดูจริงๆ เด็กคนนี้ ><
พี่คิวแกไปอารมณ์เสียมาจากไหนหว่า ดูน่ากลัวๆแปลกๆ
เมื่อไหร่เค้กกับพี่คิวจะป๊ะสบตาปิ๊งๆ กันซะที พี่คิวอ่ะ ยังไม่หลงเสน่ห์
ความน่ารักของน้องเค้กอีกเหรอ ชักช้าระวังจะถูกแย่งไปนะ
เดี๋ยวนี้พี่คิวดูผ่อนคลายมากขึ้นนะ เหมือนกับท่าทางแบบนี้จะปฏิบัติ
ต่อเค้กเท่านั้นน่ะ แม้แต่พี่คิวเองก็คงจะไม่รู้ตัวด้วยละมั้ง พี่ฟ้านี่ก็ตะล่อมน้องเค้กให้ไปทานข้าว
ด้วยกันบ่อยจริง นี่ก่ะจะวางแผนให้น้องเค้กได้ดองกับหลานตัวเองใช่มั้ยเนี่ย คงต้องลุ้นกันอีกยาวอ่ะ
คู่นี้เค้าเรื่อยๆจริงๆ
กัสยังน่ารักไม่เปลี่ยน ทั้งดื้อ ทั้งรั้น แต่น่าฟัดมากๆ ยังคงคิดว่าพี่เซ็นกับกัสต้องมีซัมติงกันอย่างแน่นอน คึคึ
-
พี่คิว
ขี้บ่น
ชิส์ !!!!!!!!!!!! แต่น้องเค้กก็หาสนใจไม่
เพลียเหลือเกิน 55555555555555555+ :m20: :m20: :laugh: :laugh: :laugh:
-
พี่่คิวแอ๊บดุอ่า...
แต่เจ้าเค้กมิเห็นจิกลัวเลย
5555
ปลแอบเชียร์เซนกัส กิกิ
-
เข้ามารอ อยากอ่านตอนต่อไปอ่ะๆ :oni1:
-
ร๊อ รอ คืนนี้จะมามั๊ย
:z2: :z2:
-
:z2:
รอ ร๊อ รอ, อยากอ่านคิวเค้ก~
-
:call:
มารอจ้า
-
แอบย่องเข้ามาดูอีกรอบ อยากอ่านอ่ะ :laugh:
-
ดีใจค่ะ ตามอ่านทันสักที
สนุกมากค่ะ พี่คิว น้องเค้กน่ารัก
-
โอ้ เบบี้ !!
คิดถึงมากมายเลยอ่า มาต่อไวไวจิ งุงิ :impress2:
(เบบี้ - ทำมาประจบแอ๊บแบ๊ว เดวเหวี่ยง)
:laugh:
-
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: เริ่มมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแรว ถึงจานิสหน่อยก้อเถอะ o18 o18
-
ไม่ได้เข้าเล้าซะนาน เบบี้ออกเรื่องใหม่แล้วอ่ะ ☆*:.。. o(≧▽≦)o .。.:*☆ happyๆๆ~~
ปล.ตกลงไอก็ยังไม่ได้โอนเงินไปเลยนะเนี่ย ยังมีหนังสืออยู่ไหมหนอ~?
-
วันนี้็ยังไม่มาอ่าาา :z3:
คิดถึงคิวเค้ก
คิดถึงเบบี้ อิอิ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :impress2:
-
:impress2:บรรยากาศดูหวานๆนะเนี่ย55555
-
เรื่องนี้น่ารักจังเลย อะไรๆก็ดูสวยงาม อ่านแล้วสบายใจจัง ขอบคุณเบบี้สำหรับเรื่องดีๆค่ะ^^
-
Miss
-
ส่องน้องเค้ก :z2:
รอ รอ รอเบบี้!!!!!
-
~15~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“นี่เค้กจะไม่รอพี่จริงๆเหรอ” พี่เซ็นพูดเป็นรอบที่สิบแล้วมั้งครับ
“เค้กไปช่วยเด็กกำพร้า ไม่ได้ไปเที่ยวหรอกนะครับ” ผมพูด หยิบหม้อบัวลอยไข่หวานที่ผมและแม่ช่วยกันทำเมื่อเช้ามาตั้งเตาเพื่ออุ่นอีกครั้ง ผมกับแม่ทำบัวลอยเพื่อจะนำไปให้ครูๆป้าๆที่มูลนิธิทานด้วยนะครับ
“อุ่นให้เค้กหน่อยได้ไหมครับ” ผมมองหน้าพี่เซ็นอย่างขอร้อง
“ได้ซิ” พี่เซ็นตอบและรีบเปิดเตาแก๊สให้
“เสร็จรึยัง” พี่คิวเดินเข้ามาในครัว เดินล้วงกระเป๋าเก๊กมาเชียว วันนี้พี่เขาใส่กางเกงยีน เสื้อยืดปกติ เป็นเสื้อผ้าที่ดูปกติเหมือนคนอื่นดีแต่แค่ดูมีราคาแบบไม่ปกติเหมือนชาวบ้านเขาก็เท่านั้น
“อุ่นบัวลอยอยู่ครับ” ผมบอก พี่คิวนัดว่าจะมารับผมที่ร้านหลังจากที่ผมเลิกงาน ที่โรงเรียนบอกให้พวกผมทำเค้กเป็นของหวานหลังอาหารสำหรับเด็กๆในเย็นวันนี้เพราะโรงเรียนจะได้ไม่ต้องเตรียมไว้ ผมทราบแค่ว่าพี่คิวบอกว่าจะทำเค้กช็อกโกแลตเท่านั้น รายละเอียดอื่นๆพี่เขาไม่ได้บอกไว้เลย
“ไปหวีดสองคนแบบนี้ หมายความว่าไง” พี่เซ็นพูดหน้างอ
“เรื่องที่ทำ มีสาระ..” พี่คิวพูดหน้านิ่ง เดินควงกุญแจรถมาหยุดยืนดูหม้อบัวลอย
“ใครทำ” พี่คิวถาม
“เค้กกับแม่” ผมยิ้มตอบ
“..............” พี่คิวเบะปากพยักหน้างึกงัก
“มาเกอร์ริต้าพิซซ่า แล้วก็..ไส้กรอกอิตาเลี่ยนพิซซ่าคร้าบ” พี่กัสเดินนำออร์เดอร์เข้ามา
“หึ..งานเข้า” พี่คิวหัวเราะมองหน้าพี่เซ็น
“เดี๋ยวกูจะบอกให้อาเอาเมนูพวกนี้ออก” พี่เซ็นพูดหน้างออย่างไม่พอใจ พี่คิวเลิกคิ้ว ยิ้มกวนพี่เซ็นอย่างไม่รู้สึกรู้สาใดๆ
“ก็มึงเสือกไม่จ้างลูกมือทำไมล่ะ” พี่เซ็นว่าเหมือนไม่ยอมอีก
“ก็มึงเสือกหม้อลูกมือทำไมล่ะ” พี่คิวย้อน
“กูก็ไม่ได้จะหม้อทุกคน”
“ช่วยไม่ได้ มึงเสือกหม้อคนที่กูยอมรับฝีมือเค้า..มึงทำตัวเองนะ” พี่คิวยักไหล่เบะปากให้
“ไปเหอะ” พี่คิวบอกผม มือพี่เขาเลื่อนมาปิดเตาแก๊สทันที
“เฮ้ย..ไรอ่ะ ไม่อยู่ช่วยกูหน่อยเหรอ” พี่เซ็นพูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน
“ทำไม่ทัน ก็จ้างผู้ช่วยดิ..หักเงินเดือนมึงนะ” พี่คิวยักคิ้วพร้อมหยิบหูหม้อบัวลอยของผมออกจากครัวไป
“สู้ๆนะครับ” ผมยกมือเชียร์
“สมน้ำหน้า” ผมได้ยินพี่กัสพูดว่า ผมได้แต่ขำรีบวิ่งออกจากครัวเดินตามตูดพี่คิวไปที่รถ
“ผมละอยากจะรู้จริงๆ ว่าพี่จะเปลี่ยนรถวันละคันทำไม” ผมหยุดยืนบ่น วันนี้ดีหน่อย รถที่พี่เขาเลือกมาเป็นแค่รถโตโยต้าอแวนซ่าสีดำ จากที่เห็นมันคงเป็นคันที่ถูกที่สุดในบ้านพี่เขาแล้วละมังครับ
“วันนี้ต้องขนอาหาร” พี่คิวพูดเสียงยานคางเหมือนไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับผมนัก พวกเราช่วยกันขนอาหารใส่รถจนหมด ระหว่างทางพี่คิวขับรถช้ามากๆ คงเพราะกลัวว่าอาหารที่อยู่ท้ายรถจะหก พอถึงมูลนิธิ เราช่วยกันนำอาหารลงจากรถโดยมีคุณลุงภารโรงกับคุณลุงที่เป็นคุณครูที่มูลนิธิมาช่วยยกด้วยอีกแรง
“จัดทันไหมเค้ก” น้ากิ่งแก้วเดินเข้ามาถาม
“ทันครับ น้าไม่ต้องห่วง..ไปดูแลเด็กๆเถอะครับ” ผมบอก ที่จริงผมไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับเค้กของพี่คิวมากนัก จากที่ทราบพี่คิวไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเวลาที่พี่เขากำลังทำอาหาร ตอนนี้เองผมก็ไม่ทราบว่าพี่เขากำลังรู้สึกยังไง ผมเลยได้แต่เงียบและยืนรอเวลาที่พี่เขาต้องการให้เราช่วยก็เท่านั้น
เค้กที่พี่คิวเตรียมมาเป็นเค้กช็อกโกแลตวงกลมก้อนเล็กๆมีหลายร้อยก้อน พี่คิวบอกว่าต้องตกแต่งอีกนิดหน่อยซึ่งพี่เขาได้เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมเรียบร้อยแล้ว
“บัวลอยนี่เค้กเปลี่ยนใส่หม้อให้แล้วนะครับ น้าทานได้เลย” ผมยิ้มบอก
“จ้า ขอบใจมากนะ..ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วย” น้ากิ่งแก้วบอกพร้อมกับลูบไหล่ผมสองสามทีก่อนจะเดินไป ผมจัดเค้กวางบนจานเล็กต่อ พี่คิวลงทุนซื้อจานพลาสติกจานเล็กมากว่าหกร้อยจาน พี่แกบอกว่าเดี๋ยวถ้ามาอีกจะได้ไม่ต้องวุ่นวาย ซื้อกระดาษหรือโฟมให้เสียของเปล่าๆ..
“ผมช่วยทำไหม” ผมถามขึ้นเพราะนี่เพิ่งเสร็จไปแค่ร้อยจานเอง
“เอาสิ” พี่คิวพยักหน้าตอบ
“นี่คาราเมล ส่วนนี่ช็อกโกแลต..เวลาราด ให้ตวัดปากขวดแบบนี้” พี่คิวสาธิตการทำให้ดู พี่เขาออกแรงบีบขวดคาราเมลตวัดมือเพียงนิดเดียว เส้นคาราเมลที่ตกแต่งอยู่บนตัวเค้กออกมาอย่างธรรมชาติมาก พี่คิวยื่นขวดคาราเมลมาให้ผม
“เทปากขวดลง..รอสักสองวิ ออกแรงบีบแล้วตวัดไป ทำคาราเมลเสร็จก็ทำช็อกโกแลตต่อ ให้มันบาล้านซ์กันนะ”
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ ทำตามที่พี่คิวบอกทุกขั้นตอน มันไม่ได้ยากอะไรแต่มันอาจจะออกมาไม่สวยเท่าที่พี่คิวทำก็เท่านั้น
เราช่วยกันทำจนผ่านไปสามร้อยกว่าจาน เด็กโตกับคุณครูเข้ามาช่วยยกจานออกไปเพื่อเสิร์ฟให้ทุกๆคนที่นั่งอยู่ที่โรงอาหาร ผมกับพี่คิวจึงต้องเร่งมือมากขึ้นกว่าเดิม
“เสร็จแล้ว” ผมวางขวดลง บีบมือตัวเองเพื่อให้เลือดไหลเวียนบ้าง ตอนนี้รู้สึกปวดกล้ามเนื้อมือไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวผมยกเข้าไปข้างในก่อนนะ พี่จะพักก็ได้” ผมบอกพร้อมกับหยิบจานใส่ถาด แต่พี่คิวกลับเข้ามาช่วยเรียงจานใส่ถาดด้วยอย่างกับไม่ได้ฟังที่ผมพูดบอกเมื่อกี้เลยว่าให้พัก
“จะเตรียมทางนี้ไว้ให้ ออกไปเถอะ” พี่คิวพูด ผมพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้แล้วเดินนำถาดไปเสิร์ฟให้เด็กๆในโรงอาหารแทน
“พี่เค้ก!” ผมเงยหน้ามองตามเสียง น้องนัทตะโกนเรียกซะดัง ผมยิ้มให้ เด็กๆนั่งรอเค้กกันหน้าสลอน ผมและครูกิ่งแก้วนำเค้กมาเสิร์ฟให้เด็กๆจนครบ พี่คิวเดินออกมายืนข้างๆผมที่ยืนมองพวกเด็กๆอยู่
“ครับ” ผมมองหน้าพี่คิวอย่างสงสัย พี่คิวยื่นจานเค้กมาให้ตรงหน้า
“ไม่กินรึไง” พี่เขาพูด
“กิน” ผมรีบรับจานมาทันที ตอนแรกคิดว่าหมดแล้วซะอีกครับ กลัวว่าพี่เขาจะหาว่าผมเห็นแก่กินจึงไม่ได้ถามออกไป
“แล้วพี่ไม่กินเหรอ”
“ไม่อ่ะ ไม่หิว” พี่คิวตอบ เดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้ที่วางอยู่ด้านริมของโรงอาหาร
“อ่า..ไหน ขอพี่เค้กนั่งด้วยได้ไหมครับ” ผมเดินเข้าไปหาเด็กๆ
“พี่เค้กไม่มานั่งข้างนัทล่ะ” น้องนัทพูดหน้างอ
“ใส่ตัวพี่เค้กเข้าไปไม่ได้หรอกครับ พี่เค้กก็นั่งตรงหน้าน้องนัทเลยนี่ไง จะได้เห็นหน้าพี่เค้กชัดๆเห็นไหมครับ” ผมยิ้ม
“..อืม ก็ได้” น้องนัทตอบอย่างเสียไม่ได้
“อร่อยไหมครับ” ผมยิ้มถาม
“อร่อย..พี่ผู้ชายหน้าดุคนนั้นทำเหรอฮะ” น้องนัททำหน้าพยักพเยิดไปทางพี่คิว
“ทำไมรู้ล่ะ” ผมถามกลับ
“ก็..เดาเอาอ่ะฮะ รอบที่แล้ว..พี่ดุมา ก็มีเค้กมาให้กิน” น้องนัทพูด น้องคนอื่นๆพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องนัทพูด
“หึ..ใช่ครับ พี่เค้าทำมาแจกน่ะ พี่เค้าใจดีนะ” ผมยิ้มบอก เด็กๆเงียบไป ตากลมโตนั่นเบิกโพรงอย่างไม่เชื่อต่อสิ่งที่ผมพูด
“อร่อย” น้องอุ่นรักยิ้มกว้าง
“ครับ อร่อย”
= = = = = = = =
“อ่ะ..” ผมวางถ้วยบัวลอยลงตรงหน้าพี่คิว หลังจากที่ผมส่งเด็กๆเข้านอนเรียบร้อยแล้ว ผมเดินออกมาเห็นพี่คิวนั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนที่สนามเด็กเล่นคนเดียวเงียบๆ ไม่รู้ว่านั่งอยู่นานเท่าไหร่แล้วเหมือนกัน
“ชิมหน่อยสิ ฝีมือเค้กกับแม่เชียวนะ” ผมพูด พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่ง พยักหน้าส่งๆแต่ก็หยิบช้อนตักบัวลอยเข้าปาก
“ก็ดี..” พี่เขาพูดหลังจากที่กลืนมันลงคอไปเรียบร้อยแล้ว
“สูตรต้นตำรับเชียวนะครับ มาบอกว่าก็ดีได้ไง” ผมว่าแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ
“แล้วจะให้ฉันพูดว่าอะไร โอ้..อร่อยมาเหรอ” พูดได้หน้าตายมาก
“หึ..พี่นี่จริงๆเลยนะ” ผมส่ายหัว
“แต่ก็ ขอบใจ..” พี่คิวบอก ผมเพียงยิ้มตอบให้ พี่คิวนั่งเงียบ ตั้งหน้าตั้งตากินบัวลอยตรงหน้าต่อไม่พูดไม่จา
“พี่หิวเหรอ” ผมเท้าคางมองคนตรงหน้า
“..............” พี่คิวชะงักเหมือนลืมตัว
“ก็..นิดหน่อย”
“หิวก็บอกมาเหอะน่า ป่ะ..หาไรกินกันดีกว่าครับ” ผมลุกขึ้นยืน
“แต่ฉันยังกินไม่หมด” พี่คิวว่า
“ก็รีบกินให้หมดซะสิครับ ทีครั้งก่อนล่ะ..ผมบอกว่ากินข้าวอยู่ พี่ยังบอกว่าให้เวลายี่สิบนาทีได้เลย” ผมย้อน
“นี่นายจะแก้แค้นฉันเหรอ” พี่คิวเงยหน้ามองหน้าผม
“นิดหน่อย” ผมยักไหล่
“เร็วซิครับ เดี๋ยวผมพาไปกินร้านอร่อย” ผมยิ้มบอก พี่คิวรีบตักบัวลอยจนเนื้อแป้งหมดไป ผมยกถ้วยบัวลอยของพี่คิวเข้าไปในครัวเพื่อเอามาล้าง ถ้วยชามอื่นๆที่เด็กๆทานกันหมดเมื่อกี้ได้ล้างไปหมดแล้ว
หลังจากที่เราร่ำลาคุณครูกับลุงๆป้าๆที่มูลนิธิเสร็จเรียบร้อย ผมบอกทางพี่คิวให้ไปทางกลับบ้านของผม ผมกะว่าจะพาพี่เขามาทานข้าวต้มกุ๊ยหน้าปากซอยสักหน่อย เจ้านี้อร่อยและถูกอย่าบอกใครเลยล่ะ ด้วยผมหวังว่ารสชาติอาหารจะถูกปากพี่เขาเช่นเดียวกันกับผม
“ร้านนี้น่ะเหรอ” พี่คิวถาม เงยหน้าขึ้นมองป้ายที่เขียนว่า ~เฮียกู๋ข้าวต้มกุ๊ย~
“ครับ พี่ทานไม่ได้เหรอ” ผมถามด้วยนึกเป็นห่วง
“เปล่า..เข้าไปสิ” พี่คิวตอบกระทั่งตายังคงกวาดมองไปทั่วร้าน
“นั่งตรงนี้ดีกว่าครับ ข้างในร้านมันอับ” ผมบอก มองหาโต๊ะที่จัดอยู่บนฟุตปาธข้างถนนก่อนจะเดินนำไปนั่งก่อน
“เมนูครับ” เด็กวัยรุ่นแต่งตัวมอซอเดินนำเมนูมาวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินไป
“เคยกินรึเปล่าครับเนี้ย” ผมถาม ถึงใจจะอยากนำเสนออาหารร้านนี้ว่ารสชาติดีและราคาถูกแต่อีกใจผมกลับรู้สึกผิดอย่างไรไม่รู้ ผมลืมคิดไปสนิทว่าคนฐานะอย่างพี่คิวเขาอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างผมก็ได้
“เคย..” พี่คิวพยักหน้า
“บนภัตตาคาร” พี่เขาขยายความ อืม..นะครับ
“ครับ รู้ว่ามีเงิน” ผมพูดแกล้งเล่น
“งั้นผมสั่งแล้วกัน พี่นั่งเฉยๆเถอะ..มีเมนูที่อยากกินเป็นพิเศษไหมฮะ”
“เอ่อ..ไข่เจียว” พี่คิวตอบ กลอกลูกตาไปมาเหมือนกำลังคิด
“มันพิเศษตรงไหนครับ” ผมประชด
“สั่งมาเหอะน่า” พี่เขาปัดคิ้วขมวด
“รับอะไรดีครับ” เด็กวัยรุ่นคนเดิมเดินกลับมาพร้อมกับกระดาษจด
“เอาข้าวต้มสี่ถ้วย” ผมสั่ง
“ไข่เจียวหมูสับ ยำผักกาดดอง ยำปลาสลิด ผัดผักบุ้ง กุ้งแห้งยำ ไข่เค็มสักสองฟองแล้วกัน” ผมบอก
“แล้วก็น้ำเปล่า พี่คิวเอาน้ำไรครับ”
“น้ำเปล่า” พี่คิวตอบ
“น้ำเปล่าสองขวด” ผมบอก
“ครับ” พนักงานก้มหัวให้เหมือนบอกว่ารับรู้แล้วเดินจากไปอีกครั้ง
“ผมบอกไว้เลยว่าพี่จะต้องติดใจแน่ๆ อร่อยไม่แพ้ภัตตาคารที่พี่ไปกินหรอก..แถมยังถูกกว่ามากๆด้วย” ผมอวด
“ขอให้เป็นอย่างที่พูดก็แล้วกัน” พี่คิวตอบ ผมยักคิ้วกวนให้ ระหว่างที่นั่งรออาหารเราต่างคนก็ต่างเงียบ มีแต่เสียงรถที่ขับผ่านไปมาและเสียงโต๊ะข้างๆที่คุยกันค่อนข้างดัง จนผมเองก็เริ่มทนความเงียบระหว่างเราไม่ไหว..
“นี่พี่..ผมถามไรหน่อยได้ป่ะฮะ” ผมเท้าแขนลงบนโต๊ะมองหน้าอีกฝ่าย
“ไร” พี่คิวหันหน้ามามอง
“ทำไมพี่ถึงอยากไปเลี้ยงข้าวเด็กๆที่มูลนิธินักล่ะ..”
“ถามทำไม” พี่คิวย้อนถาม
“เปล่า ก็แค่อยากรู้..สงสัย ก็เลยถาม..ผิดตรงไหน” ผมตอบ
“ฉันจะตอบดีไหมเนี้ย กวน....” พี่คิวพูดแต่ละคำว่า “ตีน” ไว้ให้ฐานที่เข้าใจ
“หึ..ตอบมาสิครับ” ผมยิ้ม
“แล้วทำไมนายถึงชอบไปล่ะ” พี่คิวถามกลับอีก
“ก็ไม่ทำไม เห็นแล้วมีความสุข..เด็กมีความสุข เราก็มีความสุขที่ได้ทำ ตอบสนองกันทั้งสองฝ่าย ไม่มีใครทุกข์..ทุกคนได้ผลประโยชน์ร่วมกัน” ผมตอบ
“แฟร์ดี” ผมยิ้ม
“หึ คิดแปลกดีหนิ” พี่คิวหัวเราะพร้อมกับหยิบแก้วขึ้นดื่มน้ำ
“แล้วพี่ล่ะ..”
“ก็ไม่ทำไม แค่คิดว่า..ครอบครัว เป็นเรื่องสำคัญ” พี่คิวพูดแต่ไม่ยอมสบตาผม มือของพี่เขาหมุนแก้วเล่นช้าๆ ผมเงียบและอดคิดถึงเด็กๆพวกนั้นไม่ได้
“ถ้าไม่พร้อม แล้วจะมีทำไม..เป็นคนดี ก็ดีไป..แต่ถ้าชั่ว ก็รกโลก..ว่าไหมล่ะ” พี่คิวแสยะยิ้ม แต่กลับมีสีหน้าที่ไม่ดีนัก เพราะคำพูดของพี่เขากำลังขัดกับหน้าตายิ้มๆนั่นอย่างสิ้นเชิง
“ก็ว่าไม่ได้ล่ะนะ เค้าก็คงไม่ได้คิดแบบเรา..สักเท่าไหร่หรอก” ผมยิ้มตอบเล็กน้อย หลังจากนั้นเราต่างเงียบไปสักหนึ่งอึดใจได้
“หึ จะมีเด็กสักกี่คน..” พี่คิวพูดขึ้นก่อนจะทิ้งน้ำเสียงลงเหมือนเหนื่อยใจ
“ที่โตขึ้นแล้วจะเป็นคนดี ในระดับนึง..หรือแค่ปานกลาง” พี่คิวยักไหล่ ยิ้มบอกผม
“ก็ใช่ที่ว่าครอบครัวสำคัญ แต่บางอย่างมันอยู่ที่สิ่งรอบตัว การปลูกฝัง การให้ความรัก..มีเด็กไม่กี่คนหรอก ที่ครอบครัวแตกแยก แต่ตัวเองกลับยังยืนได้อย่างแข็งแรง ไม่เบียดเบียนใครน่ะนะ” พี่คิวพูด ตาลอยมองไปทางอื่น ผมได้แต่เงียบฟัง
“ฉันหมายถึง ครอบครัวก็ไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้เด็กชั่ว..เสมอไปอะนะ” พี่เขาหันมายิ้มส่งๆ จากที่ฟังที่พี่คิวพูดแล้ว คำพูดที่สื่อออกมาค่อนข้างชัดเจนในหลายๆเรื่อง ผมอาจจะคิดไปเองหรือเปล่าไม่ทราบ แต่คิดว่า..มันก็คงมีอะไรที่พี่เขาไม่ชอบใจอยู่ลึกๆ
“นั่นสินะครับ เฮ้อ..ในมูลนิธิ จะมีเด็กกี่คนน้า..ที่โตแล้วไม่หลงผิดไป” ผมเท้าคาง มองขึ้นไปบนฟ้าอย่างอดใจหายไม่ได้เมื่อต้องนึกถึงเรื่องของอนาคตของเด็กๆพวกนั้น
“แต่พี่นี่ก็อ่อนโยนเหมือนกันแฮะ ไม่น่าเชื่อ” ผมยิ้มมองหน้าพี่คิว พี่คิวจ้องผมกลับเขม็ง ทำให้ผมต้องแลบลิ้นกลบเกลื่อนสายตาของพี่เขาไป
“ข้าวต้มครับ ไข่เจียวครับ ไข่เค็มครับ” เด็กเสิร์ฟพูดน้ำเสียงไร้อารมณ์สุดๆ ผมจัดการรินน้ำเสิร์ฟให้พี่คิวและรินให้ผมเองด้วย ไม่นานอาหารเซตต่อไปก็มาถึง
“ยำผักกาดดองครับ ยำปลาสลิด ผัดผักบุ้งครับ กุ้งแห้งยำครับ” น้องบอกรัว ไม่ทราบว่าน้องเขาเต็มใจทำหรือเปล่าเพราะมันเป็นน้ำเสียงที่ไร้ชีวิตชีวาสุดๆไปเลยละครับ
“เหมือนไม่อยากทำงาน” พี่คิวพูดหลังจากเด็กเสิร์ฟเดินไปแล้ว
“หึ..ก็นะ ก็ยังดีที่เค้าหางานทำไม่ใช่เหรอครับ” ผมยิ้มพูด
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” พี่คิวเบะปากตอบ ผมยื่นตะเกียบยื่นไปให้
“ขอบใจ” พี่คิวบอก ผมตักปลาสลิดวางบนจานเปล่าของพี่คิวให้ พร้อมตักไข่เจียววางบนจานให้พี่เขาด้วย พี่คิวเหลือบตามองหน้าผมเงียบๆ
“เอาน่า ผมกลัวพี่ไม่ชอบน่ะ” ผมพูดไม่ได้จ้องหน้าพี่คิวตอบ พี่คิวตักปลาสลิดที่ผมตักให้เมื่อกี้เข้าปากไปพร้อมกับข้าวต้ม
“ไง..” ผมถาม พี่เลิกคิ้วตอบ ตั้งใจเคี้ยวอาหารใหญ่
“ก็ดี” พี่คิวพูด
“ที่จริง มันอร่อยมากต่างหาก” ผมว่า
“นี่..” พี่คิวปรามเสียงเข้ม เพราะคงจำได้ว่าประโยคนี้ตัวเองเคยพูดกับผมมาก่อนหน้า
“หึ..ทานเถอะครับ ทำตาขวางอยู่ได้” ผมยิ้มแซว
= = = = = = = =
ณ มหาวิทยาลัย Y
“ไม่ๆ..เอาข้อมูลโรงแรมไว้หัวเรื่องก่อน เปิดเรื่องคร่าวๆอ่ะ” ผมบอก
“แล้วเรียงลำดับตามที่มึงเขียนมาเลยใช่ป่ะ” แจ็คถาม
“ใช่ๆ เอาตามนี้เลย..ไอ้พีท เอาข้อมูลไปอ่านด้วย” ผมยื่นกระดาษที่ซีร็อกซ์ไว้ยื่นให้พีท
“พาวเว่อร์พ้อยให้เน้นรูปเป็นหลักนะ พรีเซ้นต์เนื้อหาคนที่พรีเซ้นต์ต้องจำได้ทั้งหมด..ทุกอย่าง” ผมเน้นคำมองหน้าพีท
“โห..ไรอ่ะ” พีททำหน้างอ
“ไม่ต้องเลย”
“งั้นเดี๋ยวเราพรีเซ้นต์ช่วยพีทไหม ให้พีทเปิดหัวเรื่องในแต่ละ เอ่อ..ในแต่ละรายละเอียดที่เจาะลึก ส่วนเราจะเป็นคนขยายความเอง” แก้วบอก ผมเงียบนึก พีทกระพริบตาเรียกร้องความเห็นใจจากผมในทันที
“ก็ได้” ผมตกลงอย่างช่วยไม่ได้
“เยส” พีทยิ้มกว้าง
“แต่ว่ามึงก็ต้องอ่านรายละเอียดนี่ทั้งหมด ถ้าอาจารย์ถามจะได้ตอบได้” ผมบอก
“เคครับผม”
“ส่วนแจ็ค ถ้าพิมพ์รายงานเสร็จแล้วส่งมาให้เรานะ เราจะทำพาวเว่อร์พ้อยเองก็ได้”
“โอเค..อาทิตย์หน้ามึงได้ดูงานแน่นอน ไม่ต้องห่วง” แจ็คบอก
“อืม ก็ดี..งั้นไปกินข้าวกันเหอะ” ผมบอกพร้อมเตรียมเก็บกระเป๋า
“ไปเซ็นทรัลกันไหม อยากกินโออิชิอ่ะ” แก้วชวน
“เออ ไปเหอะๆ..ไปรถกูนี่ อยากกินเหมือนกัน” พีทรีบชวนในทันที
“แจ็คไปไหม” ผมหันไปถาม
“ไม่ล่ะ เรานัดผึ้งไว้” แจ็คตอบ ผึ้งคือแฟนแจ็คนะครับ
“อืม ไปก็ได้” ผมตอบ ที่ตกลงไปได้เพราะช่วงบ่ายไม่มีเรียนพอดี เราเดินทางไปเซ็นทรัลโดยรถของพีท ระหว่างทางแก้วอ่านหนังสือเรียนให้พวกเราฟังตลอดเวลา ทำให้พีทบ่นบ้างเป็นระยะเรื่องความเคร่งมากเกินไปของแก้ว ผมนั่งนิ่งเพราะสำหรับผมสิ่งที่แก้วกำลังพูดมันเป็นผลประโยชน์ของเราทั้งคู่ ก็ถูกของพีทที่ว่าแก้วควรจะรีแลกซ์บ้าง แต่ผมคิดว่าการอ่านออกเสียงให้เพื่อนๆฟังของแก้วนี้คงเป็นการรีแลกซ์สำหรับแก้วละมั้งครับ
“นั่นใช่พี่คิวรึเปล่าน่ะ” แก้วสะกิดแขนผม มืออีกมือชี้ไปอีกด้านของตัวห้าง
“ใช่” ผมตอบหลังจากที่สังเกตอย่างแน่ใจแล้ว พี่คิวเดินมาพร้อมกับพี่ฝัน พี่เขาสองคนไม่ทันได้เห็นพวกผมก็เดินเข้าร้านเสื้อผ้าไปก่อนแล้ว
“อย่างกับแฟนกันเลย” แก้วพูด
“ก็น่าจะอย่างนั้นแหละมั้ง” ผมตอบ เดินเกี่ยวแขนกันซะขนาดนั้น ใครเห็นก็ต้องคิดว่าเป็นแฟนทั้งนั้น..รวมทั้งผมก็คิดด้วยเหมือนกัน
“ก็เหมาะกันดีนะ” พีทบอก
“เนอะ” แก้วเสริม
“ไม่อิจฉารึไง” ผมยิ้มแซวแก้ว
“ไม่เอาหรอก พี่คิวหล่อดูดีก็จริง แต่เรารู้ว่าเราไม่เหมาะ เราก็ไม่คิดหรอก..แถมพี่คิว มันสูงงงงงงงเกินไปอ่ะ ถ้าอยู่ด้วยคงเกร็งน่าดู” แก้วพูดหน้าอินเชียว
“หึ..เว่อร์” ผมว่า เดินนำไปทางร้านโออิชิ เรากินอาหารกลางวันเสร็จ ต่อด้วยการดูหนังและแยกย้ายกันกลับบ้าน ผมเดินทางกลับเองแต่พีทต้องไปส่งแก้วที่บ้านเพราะไปทางเดียวกัน
= = = = = = = =
กริ๊ง กริ๊ง~
“เค้ก รับโทรศัพท์ให้พี่หน่อยจ้ะ” พี่ซีพูด ผมละมือที่กำลังเช็ดเคาร์เตอร์เดินไปรับโทรศัพท์
“สวัสดีครับ ร้านคิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ครับ” ผมพูด
“Hello” ง่ะ..ฝรั่ง
“.............” ผมเงียบหันไปมองพี่ซี แต่พี่เขากำลังยุ่งอยู่กับการคิดบัญชีผมจึงไม่กล้าเข้าไปรบกวน
“อ่ะเอ่อ..ส สวัสดีครับ” ฝรั่งที่ปลายสายพยายามพูดไทยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“ครับ” ผมใจดีสู้เสือตอบกลับเป็นภาษาไทยไป
“ขอ..สาย ฟ้าหน่อยครับ” ปลายสายพูด
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า..จากไหนครับ” ผมถาม พี่ซีหันหน้ามามอง
“เอ่อ คือ..” อีกฝ่ายตะกุกตะกัก ผมขยิบตา มือก็ชี้ที่โทรศัพท์ส่งสัญญาณให้พี่ซีรับรู้ พี่ซีเดินมารับแทนทันที
“สวัสดีค่ะ ร้านคิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ค่ะ..รับอะไรดีคะ”
“อาฟ้า..ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าใครจะเรียนสายคะ” พี่ซียิ้มพูด
“สักครู่นะคะ”
“เค้กเข้าไปหาอาฟ้านะ แล้วบอกว่ามีคนโทรมา..ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร จะรับไหม” พี่ซีกระซิบบอก
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ เดินตรงไปที่ห้องทำงานของพี่ฟ้าตามคำสั่ง
ก๊อก ๆ ๆ
“ขอโทษนะครับพี่ฟ้า มีคนโทรหาพี่ฟ้า แต่ไม่ยอมบอกว่าจากที่ไหน..จะรับไหมครับ” ผมพูดบอก
“ใคร..” พี่ฟ้าบ่นคิ้วขมวด
“ต่อสายเข้ามาเลยแล้วกัน” พี่ฟ้าบอกส่งๆ
“เอ่อเค้ก บอกให้คิวทำแฟลทไวท์ให้พี่แก้วนึงนะ..ด่วน” พี่ฟ้าสั่งหน้าเครียด
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบก่อนเดินออกมาหาพี่ซีที่เคาร์เตอร์
“พี่ฟ้าบอกให้ต่อสายเข้าไปได้เลยครับ” ผมบอกเธอแล้วเดินตรงไปที่ห้องครัว
“พี่คิวค้าบ พี่ฟ้าขอแฟลทไวท์แก้วนึงครับ..ด่วนด้วย” ผมบอกคนในครัว
“ด่วนแล้วไม่มาทำเองล่ะ” พี่คิวย้อนหน้าตาย ผมหัวเราะ เดินออกมาหาพี่ซี
“เมื่อกี้ต้องเป็นทิกเกอร์แน่เลย ถ้าพี่จำเสียงไม่ผิด” พี่ซีพูดตาโต
“ทิกเกอร์คือใครเหรอครับ” ผมรีบพุ่งเข้าไปหาพี่ซีด้วยความอยากรู้
“เม้าท์ไป แฟนเก่าอาฟ้าน่ะ” พี่ซีกระซิบ
“เลวมากเลย นินทาเจ้านาย” ผมยิ้ม
“เด็กบ้า” พี่ซีตีแขนผมเบาๆ
“พี่ซีเคยเจอด้วยเหรอครับ หล่อป่ะ”
“เคยเจอแค่ครั้งเดียว ตอนที่พี่ไปเที่ยวที่อิตาลีอ่ะ..เราจัดปาร์ตี้กันที่บ้าน ทิกเกอร์ก็มาด้วย..หลังจากนั้นพี่ก็ไม่ได้เจออีก เพราะพี่กลับไทยก่อน แต่พอพี่กลับมาได้ไทยได้สักพัก พวกพี่คิว พี่เซ็น อาฟ้าก็กลับมาเปิดร้านที่ไทยนี่แหละ” พี่ซีเล่า
“แต่เห็นว่าเลิกกันไปนานแล้วนะ งง..อยากรู้อ่ะ” พี่ซีพูดเสียงสูง
“เค้กก็อยากรู้เหมือนกัน เห็นพี่คิวแซวหลายรอบละเนี้ย” ผมบอก
“แซวว่าไรเหรอ” พี่ซีถาม หลังจากนั้นทางผมและพี่ซีมีการแลกเปลี่ยนน้ำลายกันอย่างเมามัน นินทาเจ้านายก็ตื่นเต้นไปอีกแบบนะครับ..แฮะๆ
..................>>>><<<<...................
-
วู้ววววววววว
มาต่อแล้ววววววว
-
:sad4:
กรี๊ดดดรักเบบี้
-
จะได้ชอบกันเมื่อไหร่นะ ดูไม่มีวี่แววเลย
-
น้องเค้กน่ารักขึ้นทุกตอนเลยอ่ะ :impress2:
พี่คิวมันจะผู้ใหญ่ไปไหน คิดอ่านแต่ละอย่าง
ทิกเกอร์รึป่าว ??? เอามาเปิดตัวๆๆๆ
-
พี่คิวน่าจะมีควาทหลังอะไรแน่เลย
-
คิวเค้กนะชัวละว่าคู่กัน แต่ตอนไหนนี่ซิ
-
ว้าว แต่เรื่องเจ้านายเราก็อยากรู้เหมือนกันน่ะ ฮ่าๆๆๆ
แต่พี่คิวยังคงคอนเซ็ป นิ่งสงบ กวนๆเหมือนเดิม
แต่ก็เริ่มเปิดเปรยบางอย่างบ้างแล้วน่ะ
แอบมีมุมน่ารัก
-
ทิกเกอร์จิงหรอออออ
อิอิ อาฟ้า เค้ามาตามป่าววว
-
:3123: :3123: :3123:
-
หนทางยังอีกยาวไกล :กอด1:
1+จ๊า
-
ว๊าว คนนั้นคือใครน้อ
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ อิอิ
-
เค้กคิวค่อยๆสนิทกันไป
:pig4:
-
อ๊ากกกก!!!!!!! ทิกเกอร์มาแล้ววว ถึงจะมาแต่เสียงก็เถอะ ตื่นเต้นโดยไร้สาเหตุ :-[
คู่นี้อยากรู้มากๆๆๆๆค่ะ เค้ารักกันได้ยังไง ใครรุกใครรับ >/////<
พี่คิวยังดูจริงจังเหมือนเดิม พี่แกดูปมเยอะอ่า
ตอนนี้ก็ควงพี่ฝันอีกแล้ว ยังไม่ปิ๊งปิ๊งกะน้องเค้กซักที
-
กรี๊ดดดดดด มาต่อแล้วพี่คิวยังคงนิ่งไม่เปลี่ยน ความคิดความอ่านพี่แกดูโตเกินอายุมาก เมื่อไหร่ทั้งสองคนจะหลงเสน่ห์กันและกันซะที สงสัยคงต้องค่อยเป็นค่อยไปตามสถานการณ์แน่ๆ แล้วระหว่างฝันกับคิวนี่ยังไงกันแน่ควงกันแบบนี่้ใครๆก็คงคิดว่าเป็นแฟนกันแน่ๆ แต่ถ้าไม่ไอ้การกระทำของพี่คิวนั่นละที่จะทำให้ฝันเข้าใจผิด ส่วนพี่ทิกเกอร์นี่เป็นแฟนเก่าพี่ฟ้าหรอกเหรอแล้วทำไมถึงได้เลิกกันไปนะ
-
พี่คิวกับเค้กคงเป็นเนื้อคู่กันแล้วแหละค่ะ เห็นไหมค่ะไปเลี้ยงข้าวน้องๆ ก็ถือว่าเป็นการทำบุญร่วมกัน ฮ่ าา า คิดได้ไงเนี้ยฉัน
พี่คิวแอบทำตัวหน้าสงสัยนะค่ะเนี้ย ว่าเป็นอะไรกับพี่ฝัน แบบนี้น้องเค้กของเค้าจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้วเห็นไหมค่ะเนี้ย
อาฟ้ากับทิกเกอร์นี้เป็นไงกันค่ะเนี้ย อยากรู้เรื่องด้วยจังเลย แอบนินทาเจ้านายกันอยู่สองคน เค้าก็อยากรู้นะตัว
-
พี่คิว น่ารักขึ้นทุกวันๆๆๆ
-
พี่คิวก็อ่อนโยนเป็นเหมือนกันนี่นา :-[
อยากรู้เรื่องแฟนเก่าพี่ฟ้าเหมือนกันค่า
-
กำลังสนุกเลย อิอิ
-
นินทาเจ้านาย ระวังไว้เหอะ ฮาๆๆ
-
พี่คิว พี่คิว พี่คิว เมื่อไหร่จะรู้สึกดีๆต่อกันเนี่ยะ
-
อาฟ้า มีซัมติงรอง อะไรบางอย่าง
พี่คิว ก็มีซัมตริงรอง เหมือนอาฟ้าด้วยเหมือนกัน
อาหลานคู่นี้ มีเรื่องให้น่าค้นหาเยอะนะเนี๊ย
ปล.เค้ก น่ารักเนอะ
-
:impress2: ดีใจที่ได้อ่านตอน 15 แล้ววว เย่ๆ
เค้กน่ารักอ่ะ มองโลกในแง่ดีตลอด :)
อยากรู้ที่เค้กถามแก้วว่า ไม่อิจฉาหรอ เค้กถามตัวเองด้วยเปล่า :laugh:
พี่คิวก็ดูมีปมเรื่องครอบครัวเลยทำให้เป็นคนแบบนี้หรือเปล่า ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกจริงๆของตัวเองมากนะ อยากเห็นพี่คิวเมื่อก่อนบ้างจัง ที่พี่ฟ้าเคยบอกว่าแต่ก่อนน่ารัก 55
ทิกเกอร์ มะ มะ มาแล้ววว 55 ถึงมาแค่เสียง แต่ทำเราอยากรู้เรื่องที่เค้กกับซีแอบนินทากันเลยอ่ะ กร๊ากกกก :laugh:
-
พี่คิวกับเค้กไม่มีท่าทีจะมาเป็นคู่รักกันเลยแหะ
คูนี้ค่อยๆไปช้าๆจนงงว่าจะมารักกันได้ไหมเนี่ย
อยากฟังความรู้สึกใรมุมมองพี่คิวมั้งอ่ะ ให้พี่คิว talk มั่ง
-
แอบส่องต่อไป
-
:z1: เค้กคิววมาแล้ววว
ดูเหมือนความสัมพันธ์ จะไปในทางที่ดีเนอะ
เมื่อรจะปิ้งๆกันอะ อยากอ่านแล้ว
555555555555
ปล อยากรู้เรื่องเจ้านายด้วยอะ เม้าให้ฟังด้วยยสิ
-
ทำไมหนทางที่จะรักกันมันช่างเลือนลางนักล่ะ
เจอแต่ความน่ารักของน้องเค้กแอทแทคทุกตอน
แต่พี่คิว... เอ่อ... ละไว้ละกัน :เฮ้อ:
-
เมื่อไหร่จะรักกันค๊า...
อยากเห็นตอนหวานๆ ของพี่คิวกะน้องเค้ก
แต่พี่คิวคงหวานไม่เป็น :เฮ้อ:
เหมือนพี่คิวจะมีปมด้านครอบครัวขั้นรุนแรงนะนั่น...
ดูฝังใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไงไม่รู้อ่ะ
-
ลุ้นๆๆๆให้เขาคลิ๊กกัน พี่คิว น้องเค้ก ^^
อาฟ้าน่ารักกกกกก
-
ชื่อน่ารักจิงๆ ทิกเกอร์
เมื่อไหร่พระ-นาย จะสนิทสนมกลมเกลียว รักใคร่กันเนี่ย??
ลุ้นอยู่นะคะ :call:
-
“ด่วนแล้วไม่มาทำเองล่ะ” กะไว้แล้วเชียวว่าต้องพูดแบบนี้ แต่พอมาอ่านแล้วมันสะใจดีอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
ทิกเกอร์เป็นฝรั่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แล้วแบบนี้พี่ฟ้าจะรุกหรือจะรับล่ะเนี่ย
คิวกับเค้กดูสนิทกันขึ้นเยอะนะ(รึเปล่า) ดูท่าพี่คิวจะเริ่มเปิดใจให้เค้กแล้วนะ(มั้ง)
ชอบตอนที่พี่คิวกับพี่เซ็นฟาดป่กกันอ่ะ สนุกจัง ไม่รู้จะสงสารพี่เซ็นหรือสมน้ำหน้าดี หุๆ
-
พี่คิวปิดหลงเสน่ห์เค้กบ้างแล้วเหอะ ทำเก๊กๆ
เค้กน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก บวกๆๆ
-
แซวนายมันสนุกจริงๆ
คอนเฟิร์มมมม
ฮ่าๆๆ
ข้าวต้มมมม เดทที่โรแมนติกมาก!!
-
ไม่มีวี่แววเลย
ตอนนี้เลยต้องจิ้นเอาเอง
รอไปก่อนสินะ
-
ค่อยๆรักกันเบาๆ ป่ะเนี่ย.. ฮ่าาาาา
คือยังไม่มีใครแสดงอาการอะไรออกมาเลยอ่า อ่อยยยย เค้าลุ้นให้สป๊ากกันจนขี้จะแตกแล้วนะ
น้องเค้กถ้าเผลอชอบแล้วรู้ตัวขึ้นมาเนี่ย ต้องมีได้ปวดใจแน่ๆ งื้ออออออ
ไม่อยากจะเดา อยากอ่านต่ออออออออออออ
-
มาแล้ววววววววววว *-*
พี่คิวนี่มีปมแน่เลย
แต่จะเป็นปมอะไรก็ต้องรอลุ้นกันล่ะนะ
ส่วนทิกเกอร์ก็เฉลยแล้วว
แต่จะเป็นแค่แฟนเก่าแน่หรอพี่ฟ้า ><
-
จะว่าเราไหมเราอยากรู้เหมือนกัน :laugh:
:pig4: ค ะ
-
:กอด1:
-
เรื่องเริ่มมีรายละเอียดน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ
-
เริ่มต่อปากต่อคำ ยอกย้อนแล้วไม่เกรงเลย หิ้วววววว........
ดู ๆ ไป พี่คิวก็เริ่มเป็นกันเองกับน้องเค้กแล้ว แม้จะยังมีมาดอยู่บ้างก็ตาม :z2:
+1 ให้เบบี้ พร้อมกำลังใจ :กอด1:
-
พี่คิวน้องเค้กเริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้ว อิอิ
ทริกเกอร์ คือแฟนเก่าพี่ฟ้า
อ่า........ลุ้นพี่ฟ้าให้คู่พี่หมีนะเนี้ย!
:serius2:
-
เค้กน่ารักอ่ะ อิอิ ชอบๆ
-
:sad4: สองคนนี้ไม่มีวี่แววจะรักกันเลย
-
น้องเค้กกับพี่คิว ปะทะคารมกันตลอด ๆ
น้องเค้กยังคงคอนเซป น่ารัก น่าเอ็นดู
ส่วนพี่คิว เข้ม เก๊ก และปากเสียกับน้องเค้กสม่ำเสมอ
ฝาหรั่งที่โทรมาหาอาฟ้า ใช่ทิกเกอร์ป่าว แล้วฮีัเป็นใคร :pig4:
-
ทิกเกอร์โผล่มาแร้ว หุหุ
:z1:
-
จะชอบกันตอนที่เท่าไหร่อ่ะ จะเข้ามาอ่านทีเดียวเลย 555555555555
-
เค้กน่ารักจัง ชอบอะ ทิกเกอร์เป็นใครกันน๊า อิอิ
-
เค้กมันเริ่มจับทางพี่คิวได้แล้ว
มีแซว มีย้อน ดูสนิทกันดี
-
พี่คิวนิสัยเริ่มดีขึ้นแล้ว
คงเหลือแต่เมื่อไหร่จะรักกันเนี่ยแหละ
เพราะดูแล้วน้องเค้กไม่ได้คิดอะไรกับพี่คิวเล้ยย o22
-
:o8: เค้กรู้สึกดีกับพี่คิวบ้างละ อิอิ ว่าแต่อยากรู้ทิกเกอร์นี่เป็นคนแบบไหนนะ :impress2:
-
กร๊๊ดดด นินทาพี่ฟ้า
ไม่ดีเลยนะ :m16: :m16: :m16: พูดกันแค่สองคนนนะ
เค้าอยากฟังด้วยยย-**-
-
เราคงจะต้องติดตามไปเรื่อยๆซินะ
ไม่งั้นอาจจะพลาดไม่รู้ว่าเค้าแอบลึกซึ้งกันตอนไหน
-
ทิกเกอร์มีบทแล้ววววววววว
-
ชอบอ่านเรื่องฟ้าล่ะ
แต่น้องเค้กนี่น่ารักขึ้นอีกแล้วนะ
-
อยากเห็นคู่อาฟ้าแล้วววววว
ทิกเกอร์ ๆๆๆๆๆ
-
เค้กน่ารักง่ะ เมื่อไหร่พี่คิวจะเห็นความน่ารักจนอยากรักเค้กบ้างล่ะ
หรือว่าเห็นแล้ว แต่ก็แอ๊บไว้งั้นแหละ :o8:
ว่าแต่พี่คิวมีปมอะไรเกี่ยวกับครอบครัวหรือเปล่าน้อ :เฮ้อ:
-
พี่คิวแกจะรวยไปไหน ?!~
ทิกเกอร์กับพี่ฟ้ัา :-[ ความสัมพันธ์พี่คิวกับฟ้ายังเรื่อยๆ อยู่
-
ไม่มีตอนไหนที่มันส์ปากเท่านินทานายอีกแล้ว หุ หุ และก้อไม่มีตอนไหนที่ ซีด ที่สุดเหมือนตอนเจ้านายจับได้ว่าเรานินทา จ๋อยสนิท
ซีกับเค้กระวังเจ้านายอยู่ข้างหลังนะจ๊ะ
-
อยากอ่านต่อไวๆจังเลยยย
-
เบบี้ชอบทำให้อารมณ์ค้างวะให้ได้
พี่คิวน่ารัก เมื่อไรจะมีความโรแมนติกกะน้องเค้กสักทีนะ
-
:z2: :z2: :z2:
-
พี่คิวมีปมในใจเยอะจังเลยนะ
ว่าแต่พี่คิวกะน้องเค๊กยังไม่สป๊าคกันเลยเหรอ อิอิ
:L2:
-
เมื่อไหร่คิวเค้กจะชอบกันสักที
อ่านแล้วอยากให้ปิ้งๆกันไวไว ดูไม่มีวี่แววเลย
รีบไปหรือเปล่าว่ะเรา :laugh:
-
อ่านมาแล้ว เป็นธรรมชาติมาก
เดาเรื่องต่อไปไม่ถูกเลยอะ
ตอนที่ตัดเข้าเนื้อหาไหม่ก็ไม่งง
สรุปชอบ
รีบๆมาต่อนะครับ
-
พี่คิวกะเค้กนี่ดูห่างไกลจากคำว่าแอบชอบ~รักไปมากจริงๆ...... o22
. อืม. หรือว่าเราจิ้นผิดคู่นะ :z3:
-
โฮะโฮะ รอดูคู่ทิกเกอร์ แอบชอบ ฮ่าๆๆๆๆ
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: รอค่า
-
o13 สองคนนี้จะรักกันเมื่อไหร่น้อ หุๆ
-
ปมแต่ละคนเยอะมากมายย : )
-
ทิกเกอร์จะตามมาง้อพี่ฟ้ารึเปล่าน้อ~
เชียร์ให้พี่ฟ้าเป็นฝั่งเป็นฝา
-
เนื้อเรื่องดำเนินไปข้างหน้า แต่ทำไมพี่คิวกะน้องเค้กยังเหมือนเดิมอยู่เลยอ่ะ
แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะรักกันซักทีล่ะเนี่ยยยยยยยยยยย เฮ้อออออออออออออ :o12:
-
คิวๆๆๆๆ นายมัวทำไรอยู่
เดี๋ยวบอกให้เค้กไปชอบคนอื่นซะหรอก
-
สนุกๆๆน่าตื่นเต้น เรื่องราวดำเนินไปได้ด้วยดี ตัวละครยังไม่บ่งบอกว่าชอบหรือว่าเกลียกัน
มีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น
-
ฉันเสพติดเรื่องนี้แล้วววววว
เริ่มลงแดง :z3:
-
ทิกเกอร์มาแล้ว อยากรู้ๆ ทิกเกอร์กับอาฟ้ามีอะไรกัน หุหุ แล้วเค้กกับพี่คิวจะชอบกันเมื่อไหร่เนี่ยแลดูไม่ค่อยจะมีหวังเลยนะ พี่คิวก็เฉยซะขนาดนั้นอ่ะ
-
ดีใจจัง มาต่อแล้ว
ลุ้นดีๆ จิ้นกันต่อไปเรื่อย ฮ่าๆๆๆ
-
~16~
“โรงแรม SBT ยังคงเป็นโรงแรมที่สามารถรักษาคุณภาพมาได้อย่างยาวนาน เพื่อนๆคงได้เห็นกันแล้วใช่ไหมคะ ว่าเค้าใส่ใจในรายละเอียดทุกๆอย่างจริงๆ”
“ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจในข้อมูลของโรงแรม SBT สามารถมาสอบถามข้อมูลที่กลุ่มเราได้ค่ะ ยินดีให้ข้อมูลค่ะ..ทางกลุ่มเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะว่า การนำเสนอผลงานของเราในครั้งนี้ จะให้ความรู้และความบันเทิงต่อเพื่อนๆไม่มากก็น้อย ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ” แก้วพูดปิดนำเสนอเสร็จ แจ็คปิดภาพสไลด์ ทั้งหมดเดินกลับมานั่งที่เดิม กลุ่มต่อไปออกไปนำเสนอเรื่อยๆจนเกือบหมดเวลาเรียน
“แบ่งเป็นนำเสนอสิบคะแนน รายงานอีกสิบคะแนน..เกณฑ์การให้คะแนนมีดังนี้ค่ะ” อาจารย์พูดหลังจากที่ทุกกลุ่มพรีเซ้นต์งานของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
“คะแนนนำเสนอสิบคะแนน มีทั้งการให้บุคลิกภาพของคนนำเสนอ น้ำเสียง พาวเว่อร์พ้อยที่นำเสนอ..ใครที่ใส่เนื้อหามาในพาวเว่อร์พ้อยมากถูกตัดคะแนนไปเลยนะคะ”
“โหหหหหหหหห..” เพื่อนๆส่งเสียงโห่ร้องทันที
“คุณจะใส่มาทำไมคะ ไม่ได้มีใครอยากอ่านของคุณหรอก..ข้อมูลก็ต้องใส่ในรายงานอยู่แล้ว ข้อมูลที่เอามาขึ้นคุณก็ต้องพูด..ถามหน่อยสิว่ามีใครมานั่งอ่าน” อาจารย์ว่าพร้อมส่งสายตาขวางมองทุกคนทั่วห้อง
“เวลาในการนำเสนอ พอเหมาะพอควรไหม..ไม่ใช่นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป..ยาวเกินไป ฉันก็จะหลับเหมือนกัน”
“ส่วนคะแนนรายงาน..เราจะบอกคะแนนให้คราวหน้า ครูขอเอาไปตรวจก่อนแล้วกัน” อาจารย์บอก มือดันแว่นสายตาของตัวเองให้ชิดจมูกของเธอมากขึ้น
“คะแนนพรีเซ้นต์ ฟังดีๆนะ..กลุ่มนายฉัตรวัตรได้หก กลุ่มใบเฟิร์นได้เจ็ดครึ่ง กลุ่มนายเอกลักษณ์ได้ห้าครึ่ง..แย่มากจนฉันให้คะแนนกลุ่มเธอไม่ถูกเลยจริงๆ” อาจารย์บ่น
“กลุ่มสมหญิงได้แปด กลุ่มนายพิเชษได้เจ็ด กลุ่มพิชาภาได้เจ็ดครึ่ง กลุ่มนายกนต์ธรได้เก้า”
“เยส!!” ผมและพีทร้องด้วยความดีใจ
“วันนี้กลุ่มนายกนต์ธรทำได้ดีที่สุด เพราะว่าอะไร..ทำไม คุณๆก็น่าจะเห็นความแตกต่างดี” อาจารย์วางปากกาลง
“คุณจะสักแต่หาข้อมูลเบื้องต้น ข้อมูลที่มีอยู่ในอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวมานำเสนอไม่ได้ ครูบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าจะไปสัมภาษณ์ให้มาข้อจดหมายยื่นไปจากครูได้ นอกจากกลุ่มของนายกนต์ธรและกลุ่มของสมหญิง ไม่เห็นมีใครเสนอหน้ามาสักคน”
“การนำเสนอก็ทำมาเหมือนสมัยมัธยมไม่เคยออกไปพูดหน้าชั้นเรียน คุณจะอายอะไร..นี่ก็เพื่อนๆของคุณทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ฝึกตอนนี้แล้วคุณจะไปฝึกตอนไหน ตอนสมัครงานเหรอ..อย่างกลุ่มของคุณสมหญิง มีเนื้อหามาชัดเจน ไม่ใช่เนื้อหาที่อยู่ในเวปที่เราสามารถเข้าไปหาอ่านได้ แต่เป็นข้อมูลเจาะลึกที่แม้แต่พนักงานเองยังไม่รู้ ส่วนกลุ่มของนายกนต์ธรโชว์รูปภาพมาก มีข้อมูล การอธิบายข้อมูล มีการซับพอร์ตข้อมูลอย่างสมเหตุสมผล ไม่ใช่การนึกเอาเอง..คุณจะมาหาว่าฉันโหดไม่ได้นะ รายงานที่ส่งมา ถ้าฉันเช็คแล้วว่าคุณไปก็อปวางมา..ฉันก็ให้คะแนนตามเนื้อผ้าเหมือนกัน” อาจารย์พูดจบ เพื่อนๆกลุ่มอื่นมองหน้ากันหน้าเสีย
“กูขอบคุณจริงๆที่มีมึงอยู่ในกลุ่ม” พีทหันมายกมือไหว้ผม ผมหัวเราะ
“กูบอกแล้ว มึงก็ดู..เค้าโหดขนาดนี้ เราไม่ดักทางเค้าไว้..มีได้เสียคะแนนกันหมด” ผมว่า
“มองการไกลๆ” แจ็คทำท่าซูฮกผมยิ้มๆด้วยท่าทางหยอกล้อ
“ได้ตั้งเก้าคะแนนแน่ะ แก้วว่ารายงานอย่างต่ำก็คงเก้าเหมือนกัน..โหย เอแน่นอนอ่ะวิชานี้” แก้วจับแก้มตัวเองด้วยความดีใจ ผมยิ้มกว้างด้วยความดีใจเช่นกัน
“ดีนะที่เค้กทำงานที่ร้านนั้นพอดี ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่ได้สัมภาษณ์พี่คิวตัวๆแบบนี้หรอก” แก้วพูด
“อืม..ขนาดเป็นเด็กในร้านยังเกือบจะไม่ให้สัมภาษณ์แน่ะ เหอะๆ” ผมยิ้มแหย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เราซื้อของไปขอบคุณพี่เค้าหน่อยก็แล้วกัน ฝากไปให้พี่เค้าด้วยนะ” แก้วบอก
“อืม ได้..แต่เอามาให้วันพฤหัสก็แล้วกัน เพราะเรามีทำงานวันศุกร์น่ะ” ผมบอก
“ได้..ไปเหอะ” แก้วลุกขึ้นเก็บกระเป๋า วันนี้มีเรียนต่อจนเย็น เรียนเต็มวันนะครับ..มันก็น่าเบื่อแต่ทำยังไงได้ มีหน้าที่ต้องเรียนนี่นะครับ..
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“พี่คิว ไปดูหนังกันไหม..” ผมยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า พี่คิวหันมามองหน้าผม สักพักคิ้วของพี่เขาก็เริ่มขมวดเข้าชิดกัน
“ทำไม” ผมถามด้วยความสงสัย
“ไปกินไรผิดสำแดงมารึไง” พี่คิวพูด
“บ้า เค้กอยากจะบอกว่า..รายงานอ่ะ คะแนนดีมากๆ เลยจะเลี้ยงขอบคุณพี่อ่ะฮะ..ส่วนนี่แก้วเอามาแทนคำขอบคุณด้วย” ผมยื่นกระเช้าแบรนด์ให้กับพี่คิว
“เห็นฉันแก่รึไงกัน” พี่คิวว่าแต่ก็รับไปถือไว้
“ฝากขอบคุณด้วยก็แล้วกัน”
“คร้าบ ตกลงไปป่ะ” ผมย้ำถามอีกครั้ง
“เรื่องไร”
“ไม่รู้อ่ะ พี่ว่างวันไหนล่ะ..ผมเลี้ยงเอง” ผมตบกระเป๋าให้พี่คิวดู
“หึ..” ผมคิวแสยะยิ้ม
“ไปด้วย” ผมสะดุ้ง หันหลังกลับไปมอง พี่เซ็นยืนยิ้มหน้าบานแฉ่งเชียว
“พี่ไปด้วยนะครับ..นะ” พี่เซ็นทำหน้าอ้อนวอนมาให้ผม
“เค้ก..เค้ก เค้กไม่มีเงินเลี้ยงหลายคนหรอกนะครับ” ผมพูดเสียงเบา รู้สึกแย่ขึ้นมา พี่เซ็นจะไปด้วยก็ได้แต่ผมไม่มีเงินเลี้ยงหลายคนจริงๆนี่ครับ
“พี่เลี้ยงตัวเองได้ แต่ขอไปด้วย..นะๆ”
“ไปไหนกันเหรอ” ทั้งหมดหันไปมองพี่กัสที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ไปดูหนัง” ผมรีบบอก รู้สึกใจชื้นขึ้นมาในทันที ถ้าพี่เซ็นต้องไปด้วยผมคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ แต่ถ้ามีพี่กัสไปด้วยก็คงพอไหว
“ไปด้วยกันไหมครับพี่กัส” ผมชวน
“ดูเรื่องไรเหรอ”
“ยังไม่รู้เลย ไปนะๆ..พี่เซ็นก็ไป” ผมบอก พี่กัสทำหน้าเบ้เหมือนไม่อยากไปอย่างนั้น
“วันพุธนะ” พี่คิวมองหน้าผม ประมาณว่ายังไงก็จะไปวันพุธให้ได้ นายไม่ว่างแต่ต้องว่างให้ฉันประมาณนั้น
“ไรวะ วันพุธกูทำงานอ่ะ” พี่เซ็นโวย
“เรื่องของมึง” พี่คิวยักคิ้ว แถมยังยักไหล่กวนเดินเข้าร้านไปอย่างไม่สนใจอีกด้วย
“พี่ก็ทำงานเหมือนกัน” พี่กัสพูดหน้าหงอย
“งั้น..บ๊ายบายนะครับทุกคน เดี๋ยวดูเผื่อ” ผมโบกมือให้ทั้งคู่ก่อนจะเดินหนีออกมา
“เค้กๆ” พี่หมีเรียก ผมรีบเดินตรงไปหา
“ดูโต๊ะเอกับโต๊ะเอฟไว้นะ พี่เข้าห้องน้ำก่อน..คอยเติมน้ำให้ลูกค้าด้วยล่ะ” พี่หมีตบไหล่สั่ง ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ลูกค้าชูมือเรียกเพียงนิดเดียว ผมก็ต้องรีบเดินเข้าไปหาแทบจะทันที
“ครับ” ผมก้มหัวให้เธอ
“ขอแซลมอล การ์ลิก ไรท์” เธอพูดสีหน้าเรียบและดูหยิ่งในตัวเองพอดู
“ครับ..รับอะไรเพิ่มอีกไหมครับ”
“ไม่” เธอตอบ ผมก้มหัวให้อีกครั้ง รีบเดินกลับมาจดออร์เดอร์และนำเข้าไปในห้องครัว
“แซลมอล การ์ลิก ไรท์ครับ” ผมบอกคนในครัว
“กูกลับแล้วนะ” พี่คิวบอกพี่เซ็น
“ไม่ๆ..โหย ช่วยกูก่อนเด้” พี่เซ็นหน้างอทันที ทำอย่างกับตัวเองไม่ใช่เชฟใหญ่มีฝีมืออย่างงั้นแหละครับ
“ไม่ว่าง ไปละ” พี่คิวบอกหันมามองหน้าผม
“ไว้วันอังคารจะโทรหา” พี่คิวเอาถุงมือมาตีหัวผมเบาๆ
“ครับ” ผมจับหัวตัวเองปรอยๆ พี่คิวเดินออกจากห้องครัวไป
“เค้กอย่ามองไอ้คิวแบบนั้นสิ” ผมสะดุ้ง
“ค..ครับ”
“หึ..” พี่เซ็นหัวเราะในลำคอ ผมมองอย่างไม่เข้าใจว่าพี่เขาอมยิ้มอย่างนั้นทำไม
“พี่ไม่ชอบสายตาของเค้กเมื่อกี้เลยรู้ไหมครับ” พี่เซ็นยิ้มเจ้าเหล่ ตาจ้องผมเขม็ง
“เค้กมองยังไง พี่มั่ว” ผมว่า รีบเดินออกมาจากครัวทันที
~เมื่อกี้เรามีสายตาแบบไหนนะ ไม่เห็นจะรู้ตัวเลย..พี่เซ็นบ้า~
= = = = = = = =
ณ ห้างสรรพสินค้า..
“ดีครับ” ผมทักพี่คิว พี่คิวเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม
“สายไปสี่นาที ห้าสิบวินาที” พี่คิวลุกขึ้นยืนบอก
“ตรงไหน..นาฬิกาของเค้ก เค้กยังมาเร็วไปตั้งห้านาทีนะเนี้ย” ผมพูดเถียง ยื่นข้อมือให้พี่คิวดูนาฬิกา
“อะ..อะไร” ผมรีบถามพี่คิวที่ดึงข้อมือผมไป อยู่ๆพี่เขาก็หมุนปรับนาฬิกาของผมด้วยหน้าตามุ่งมั่นโดยไม่ขออนุญาตผมสักคำ
“นาฬิกา ควรเร็วกว่าคนอื่นสักห้าหรือสิบนาที” โหย..ไอ้บ้า ผมเพียงแสยะปากให้และไม่ตอบโต้ใดๆอีก
“พี่ดูรอบหนังยัง” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“แล้ว..” พี่คิวตอบ
“งั้นผมไปดูก่อน” กำลังจะก้าวขา
“ไม่ต้อง..ฉันอยากดูเรื่องวันเดย์”
“วันเดย์” ผมมองหน้าพี่คิว
“วันเดย์ทริปอะนะ” ผมเล่นมุข
“เดี๋ยวจะโดน ไปซื้อตั๋วเลย จะเลี้ยงฉันไม่ใช่เหรอ” พี่คิวพูด
“คร้าบๆ เรื่องที่แอน แฮทธาเวย์เล่นใช่ป่ะ” ผมถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“อืม” พี่คิวพยักหน้าตอบ ผมเดินไปดูโปรแกรมหนังเรื่อง One Day อีกสามสิบนาทีหนังจะฉายแล้ว ผมรีบเดินไปซื้อตั๋ว ซื้อที่นั่งดีๆพอมีราคาสักหน่อยเพราะกลัวว่าพี่คิวจะนั่งไม่สบาย
“พี่จะกินไร” ผมเดินกลับมาหาพี่คิวอีกครั้ง
“โค้ก..”
“อย่างอื่นล่ะ” ผมถาม
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจเคี้ยว” พี่คิวตอบ ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ โอเค..ขี้เกียจเคี้ยวไม่ใช่ขี้เกียจทานรึเปล่า
“หึ..ก็ได้ งั้นเดี๋ยวมานะครับ” ผมยื่นตั๋วให้พี่คิว พี่คิวรับไปถือไว้ ผมเดินไปซื้อป๊อปคอร์น โค้กและน้ำเปล่า นำอาหารทั้งหมดกลับมาฝากพี่คิวไว้ก่อนเพราะผมต้องรีบวิ่งเข้าไปทำธุระในห้องน้ำเพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปในโรงหนังแล้วจะปวดฉิงฉ่องขึ้นมากะทันหันนะสิครับ
“ผมยังแปลกใจไม่หายนะ” ผมพูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังจะเดินเข้าโรงภาพยนตร์ พี่คิวยื่นตั๋วให้พนักงาน
“อย่างพี่นี่ไม่น่าชอบดูหนังสไตล์นี้” เพราะภาพยนตร์แต่ละเรื่องช่างไม่เข้ากับนิสัยของพี่เขาเอาซะเลย ทั้งภาพยนตร์ที่สะสมไว้ที่บ้านเป็นภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่เด็กชอบดูและแนวรักโรแมนติกอีกด้วย
“หน้านายก็น่าจะชอบดูหนังแนวฆาตกรรมนะ” พี่คิวพูดลอยๆ ผมรีบจับหน้าตัวเอง
“บ้า” ผมว่า พี่คิวหันมาอมยิ้มให้ทำให้ผมต้องหุบปากเงียบด้วยไม่รู้จะเถียงอะไร
= = = = = = = =
“แอนสวยทุกเรื่องเลย” ผมพูด เราเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ด้วยกันหลังจากหนังฉายจบ
“หิว” อีกฝ่ายกลับพูดอีกเรื่อง ตาลอยเหมือนกำลังคิดเรื่องที่พูดถึงอยู่ ผมได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อยด้วยพยายามจะชินกับนิสัยของพี่เขา
“กินไร” พี่คิวหันมามองหน้าผม
“แล้วแต่พี่” ผมตอบ
“จะเลี้ยงฉันด้วยรึเปล่า” พี่คิวถาม
“อ่ะ..ก ก็ถ้าไม่แพง” ผมตอบเสียงเบา หุบปากเข้าหากัน
“ฉันกินของถูกไม่เป็น" อีกฝ่ายว่า
“โหย มากไปละ” ผมเงยหน้าว่าอย่างไม่ชอบใจ พี่คิวทำหน้ากวนตอบ
“ไปเหอะ” อยู่ๆพี่เขาก็จับแขนผมให้เดินตามไป ผมเองก็ถลาไปตามแรง
“ไปไหน ไม่เอาของแพงนะฮะ” ผมก้าวขาตามอย่างช่วยไม่ได้ อีกมือพยายามจะล้วงกระเป๋าเป้ของตัวเอง หนูเหลือเงินเท่าไหร่ก็ไม่รู้อ่ะแม่..แง่ง
พี่คิวไม่ตอบอะไร เอาแต่เดินเงียบไม่พูดไม่จา ผมก็เดินตามไปอย่างว่าง่ายจนพี่เขาพาผมมาหยุดอยู่หน้าร้านร้านหนึ่ง ผมเงยหน้ามองป้ายที่เขียนว่า ~ขนมจีนโบราณครัวคุณหญิง~ แฮ่..อย่างนี้ก็จ่ายพอไหวหน่อย
“ไหวรึเปล่า” ผมคิวก้มลงถาม
“แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก โด่..ให้ลุ้นตั้งนาน” ผมบ่น เดินตามพี่คิวเข้าร้าน พี่คิวเลือกโต๊ะที่อยู่มุมสุดของร้าน ห่างไกลผู้คนโต๊ะอื่นๆเหมือนไม่ต้องการให้มารบกวน
“เอาขนมจีนสองเข่ง น้ำยาหนึ่ง น้ำเงี้ยวหนึ่ง แกงเขียวหวานหนึ่ง เท่านี้แหละครับ” พี่คิวสั่งยาว ผมนั่งอ้าปากค้างเพราะผมยังไม่ทันได้ออกความคิดเห็นใดๆเลย
“เอ่อ น้ำเปล่าสองด้วยครับ”
“ค่ะ” พนักงานพยักหน้าตอบ
“นี่พี่ไม่คิดจะถามผมบ้างเลยรึไง” ผมว่า
“แล้วกินได้ไหมล่ะ” พี่คิวย้อนทันที
“ก็ได้ แต่ถามสิ..ถาม” ผมว่า
“ก็ถามแล้ว เมื่อกี้นี้ไง” พี่คิวพูดไปอมยิ้มไปเหมือนพอใจที่เห็นผมมีอาการแบบนี้ซะไม่มีอะครับ
“แล้วกินเป็นได้ไง ร้านถูก..ถูก!แบบนี้น่ะ” ผมกระแทกเสียง
“ไอ้อาหื่นนั่นเคยพามากิน กินเป็นแค่ร้านนี้ร้านเดียวเนี้ยแหละ” กรรม..ไม่น่าถาม
“แล้ว..รีบไปไหนรึเปล่า”
“ทำไม” ผมถาม
“เปล่า” พี่เขาปัด ตามองไปทางนู้นทีทางนี้ที
“มันจะเย็นแล้ว กลับเย็นรถจะติด” ผมบอกพร้อมกับมองดูนาฬิกาของตัวเอง เวลาปาเข้าไปสี่โมงครึ่งแล้ว ถ้าหกโมงเย็นเมื่อไหร่ผมละไม่อยากจะนึกภาพ
“เดี๋ยวไปส่ง” พี่คิวพูดเร็ว
“งั้นอยู่ต่อได้” ผมยิ้มกว้าง นั่งรถฟรี..ลั่นลา นั่งรถฟรี ระหว่างที่ผมกำลังยิ้มอย่างมีความสุขอยู่นั้น พี่คิวก็มองหน้าผมด้วยหางตาเหมือนเอือมผมเต็มประดา
“เอ้า..พี่พูดเองนะว่าจะไปส่งอ่ะ” ผมยักไหล่ไม่สนใจ
“ขนมจีนได้แล้วค่ะ” พนักงานนำขนมจีนที่พี่คิวสั่งไปเมื่อกี้มาเสิร์ฟทั้งหมด
เรานั่งกินขนมจีนกันอย่างเงียบๆ ผมเองก็หิวด้วยเหมือนกัน ต่างคนต่างทาน จากตอนแรกที่คิดว่าขนมจีนและผักที่ได้มาเป็นตะกร้าไม่น่าจะหมด แต่สุดท้ายมันก็หมดลงภายในพริบตา
“อิ่มเป็นบ้า” พี่คิวเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผมยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มหมดแก้วก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ
“กะ..เก็บเงินด้วยครับ” ผมเรียกพนักงานแบบแทบจะไม่มีแรงเพราะรู้สึกท้องอืดไปหมด
“ทั้งหมดหนึ่งร้อยเก้าสิบบาทค่ะ” วู้..ถูกดีจัง ผมยิ้มพยักหน้าให้กับพนักงาน พี่คิวเลิกคิ้วให้ผมประมาณว่า “จ่ายซะสิ หน้าที่นายหนิ” ผมเลยต้องรีบหยิบเงินจ่ายไป
“ไม่ต้องทอนครับ” ผมบอกเธอ
“พอดีค่ะ” พนักงานยิ้มตอบ
“หึ..” ผมกับพี่คิวหัวเราะพร้อมกัน
หลังจากที่ออกมาจากร้านขนมจีน พี่คิวเดินนำไปเรื่อยโดยไม่บอกผมสักคำว่ามีเป้าหมายจะไปที่ไหน ผมเองด้วยความที่ยังไม่อยากกลับเหมือนกัน ไปไหนก็ไปละครับ แถมได้กลับรถฟรีอีกต่างหาก ประเด็นหลักมันอยู่ตรงนี้ล่ะ
“ช่วยหาหนังตามนี้ให้หน่อยครับ” พี่คิวยื่นกระดาษแผ่นเล็กให้พนักงานร้านซีดี ผมชะโงกหน้ามอง พนักงานรับไปกดข้อมูลใส่คอมพิวเตอร์
“ได้แค่ห้าเรื่องนะคะ อีกสองเรื่องของหมดค่ะ” เธอบอก เดินหายเข้าไปในตัวร้านสักพักเธอก็กลับมาพร้อมกับแผ่นหนังถึงห้าแผ่น
“อ่ะ..เรื่อง ใหม่” ผมพูดตะกุกตะกักชี้ไปที่แผ่นซีดีพวกนั้น ทั้งห้าเรื่องเป็นหนังที่เพิ่งออกโรงไป แน่นอนว่าผมยังไม่เคยได้ดูเลยสักเรื่อง
“หนึ่งพันห้าร้อยหกสิบแปดบาทค่ะ” เธอพูดพร้อมยื่นถุงให้พี่คิว
“ขอ..เอ่อ พี่..ผม ขอยืมไปดูบ้าง” ผมรีบเดินตามตูดพี่คิวไป พูดตะกุกตะกักอย่างรู้สึกเกรงใจ
“เรื่องไร ฉันยังไม่ทันได้ดูเลย” พี่คิวว่า
“งั้น..หลังจากที่พี่ดูหมดแล้วก็ได้ครับ” ผมบอกเสียงเบาด้วยสีหน้าอ้อนวอน
“คิดดูก่อน” ง่ะ..
“ขี้หวงชะมัด” ผมบ่นพึมพำ
“บ่นอะไร” พี่คิวหันมาค้อนทันควัน
“เปล่าสักหน่อย ชิ” ผมแลบลิ้นให้ก่อนจะเดินนำไปที่ร้านขนมปังโดยไม่บอกกล่าวพี่คิวก่อนเลย ผมกะว่าจะซื้อขนมปังไปฝากน้องสาวตัวดีที่บ้านสักหน่อยนะครับ
“อร่อยเหรอ” อีกฝ่ายถาม ตากวาดมองไปที่ขนมปังที่วางอยู่เรียงราย
“นี่พี่ไม่เคยกินฝีมือคนอื่นนอกจากของตัวเองบ้างเลยรึไง” ผมประชด หยิบถาดกับที่คีบเตรียมพร้อมรบ
“ไม่กินของถูกน่ะ” พี่คิวยักไหล่ตอบอย่างไม่แยแส ทำให้ป้าข้างๆที่กำลังคีบขนมปังอยู่หันมามองพี่คิวหัวจรดเท้า พี่คิวมองป้าแกตอบด้วยหางตาเช่นเดียวกัน
“เบาๆหน่อยสิ พี่นี่ก็..” ผมปราม พี่คิวหัวเราะอย่างไม่แคร์อะไรก่อนจะเดินออกไปยืนรอผมที่หน้าร้าน
“จะไปไหนต่อ” พี่คิวถาม ผมเงยหน้าจ้องหน้าพี่เขา ตัวเองเป็นคนพูดเหมือนจะให้เราอยู่ต่อด้วยไม่ใช่รึไง ไหงมาถามว่าจะไปไหนล่ะ..
“อะไร” พี่เขาพูดเสียงห้วน
“ไปบีทูเอสดีกว่า” ผมเดินนำ ตัดสินใจรวบรัดเองเสียเลยง่ายดี ผมเดินนำไปที่ร้านบีทูเอสพี่คิวเองก็เดินตามและไม่ได้ท้วงใดๆ
“ฉันไปมุมนู้นนะ” พี่คิวชี้ไปด้านมุมหนังสือภาษาอังกฤษ ผมพยักหน้าตอบ เดินไปฝั่งหนังสือนิทานเด็ก หนังสือแฟตาซีตามแนวที่ตัวเองชอบ ผมเลือกดูหนังสือไปอย่างละเอียดทุกชั้นว่ามีหนังสืออะไรมาใหม่บ้าง
~เด็กชายโรอัลด์ ดาห์ล~
“โรอัลด์ ดาห์ล!” ผมหยิบหนังสือขึ้นมาด้วยความดีใจเพราะเล่มนี้ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อนหน้าเลย
“สองร้อยสี่สิบห้าบาทแน่ะ” ผมบ่นและเริ่มคิดหนัก วันนี้ใช้เงินจ่ายค่าตั๋วหนังกับของกินไปน่าจะประมาณสี่ร้อยสี่สิบกว่าบาท ค่าขนมจีนอีกเกือบสองร้อย ซื้อขนมปังไปเมื่อกี้อีกร้อยยี่สิบ ค่าเดินทางประมาณสามสิบกว่าบาท นี่ก็เกินครึ่งพันเข้าไปแล้ว ถ้าซื้อหนังสืออีกสองร้อยกว่าบาท..เสียดายเงินจัง
“อยากได้อ่ะ” ผมบ่นอย่างนึกเสียดาย
“ก็ซื้อสิ” ผมสะดุ้ง หันไปมองแล้วก็ต้องเงียบ ก้มลงมองปกหนังสืออีกครั้ง
“ซื้อให้เอาไหม” พี่คิวถาม
“ไม่เป็นไร” ผมตอบเสียงเบา เอาหนังสือเข้ามากอดไว้ในอก เดินหนีพี่คิวไปที่เคาร์เตอร์
“แน่ใจนะว่ามีเงินจ่าย” พี่คิวเดินตามมาพูดกรอกหูผมอีกทำให้พนักงานเงยหน้ามองผมพร้อมกับยิ้มแหยให้
“มีซิ” ผมกระแทกเสียงตอบ เงินน่ะมี..แต่แค่ไม่อยากใช้เท่านั้นเอง จะหาว่าผมเค็มก็ได้นะครับ แต่เงินทุกบาททุกสตางค์สำหรับผมมีค่ามาก ผมเห็นเวลาที่แม่และน้าติ๊กเหนื่อยจากการทำงานเพื่อให้ผมและตาวได้อยู่อย่างสุขสบาย กินอิ่ม นอนหลับ สำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่ต้องเสียสละเอามากๆ ผมเองพอได้มาทำงานที่ร้านของพี่ฟ้า ถึงแม้งานจะไม่หนักอะไรนัก แถมยังโชคดีที่ได้เจ้านายดี เพื่อนร่วมงานที่น่ารักเป็นกันเอง แต่มันก็ยิ่งทำให้ผมรู้คุณค่าของเงินมากขึ้น อย่างพวกพี่เขามีฐานะที่บ้านรวยกว่ามาก เขายังมาหางานทำ แค่ตรงนี้ก็สะท้อนอะไรได้มากมายสำหรับผมแล้ว ยังไงๆผมก็ไม่สามารถเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์ได้จริงๆละครับ
“นี่ด้วยครับ” พี่คิววางหนังสือห้าหกเล่มบนเคาร์เตอร์คิดเงิน ผมมองค้อนไปที่หนังสือพวกนั้น ชิ..ทำเป็นซื้อเยอะ
“รวมเลยครับ” พี่คิวบอกพนักงาน ผมชะงัก เงินของผมยังคงคาอยู่ที่มืออยู่เลย
“จะจ่ายก็ได้นะ แต่ต้องจ่ายของฉันให้ด้วย” พี่คิวพูดบอกลอยๆทำให้ผมต้องรีบเก็บเงินเข้ากระเป๋าสตางค์ไว้อย่างเดิม พี่คิวหัวเราะเล็กน้อยเหมือนพอใจอย่างนั้น ผมยืนเงียบมองพนักงานที่กำลังคิดเงินอยู่ หลังจากที่พี่คิวง่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่คิวหยิบถุงของพี่เขา ส่วนผมก็หยิบถุงหนังสือของผม เดินตามพี่คิวออกไป
“ขอบคุณ” ผมบอกคนตัวสูงข้างๆที่กำลังเดินหน้าเชิดอยู่
“นิดหน่อย” พี่คิวย้อน
“กลับเถอะ ฉันลืมไปว่าต้องเข้าโรงแรม” พี่คิวบอก ผมพยักหน้ายิ้มตอบ
เย็นนั้นพี่คิวพาผมไปส่งที่บ้าน เราแลกเปลี่ยนกันเรื่องหนังที่ดูด้วยกันบ้างเป็นระยะ ส่วนมากผมจะถามพี่คิวเรื่องอาหารซะมากกว่าเพราะมีหลายล้านเรื่องเกี่ยวกับอาหารที่ผมอยากรู้อย่างถ่องแท้ แต่ก็ไม่ค่อยได้รู้ถึงหลักการจริงๆมากนัก หลังจากที่พี่คิวส่งผมที่บ้านเสร็จ เห็นพี่คิวบอกว่าต้องเข้าโรงแรมเพื่อไปเช็คงานต่อ..
....................>>>><<<<....................
-
:o8: เค้กมีปฎิกริยานิดๆ
ลุ้นคู่นี้กันจนเหนื่อย
-
ญาติดีกันละ :impress2:
-
พี่คิวแม่งกวนตรีน o13
แต่สายตาน้องเค้กกก!!! ส่อแววมีพิรุธแล้วนะคะลูก
-
เหมือนไปเดทเลย
-
อ่านคู่นี้แล้วลุ้นมากกกก
-
กรี๊ดดดดดดดดด พี่คิวเท่อะ
เค้กเอ้ยย ชอบพี่เค้าแล้ว
-
ตามหลังมาจากใน FB ฮ่าาาาาา
------------------------------------------------------
จะพูดว่าไงดี เหมือนพี่คิวเองก็ค่อยๆลดนิสัยขวางๆของตัวเองลงนะ
น้องเค้กเองก็ใช่ย่อยแหละ แต่กวนได้ไ่ม่เท่าพี่คิว เฮ้อออ เมื่อไหร่จะเริ่มๆรักกันน้อออ อิอิ
-
น่าร้ากกกกกกมากกกกก :-[
กอดดดดด :กอด1:
-
เค้กเีิ่ีริ่มชอบพี่คิวแล้วใช่ปะล่ะ
อยากอ่านตอนคู่้นี้เค้าหวานๆ กันอ่ะ !
:-[
-
มีไปเดทดูหนังกันด้วย
คืบหน้าไปอีกนิด
พี่คิวนี่ก็เรื่อยๆ มาเรียงๆ ทำเนียนๆ น่ะ
แต่น้องเค้กเนี่ยะ รุกพี่คิวจังเลยน้า คิดไรหรือเปล่าเนี่ยะ
-
อยากจะกรี๊ดดังๆ อยากจะเห็นสายตาของหนูเค้กจริงๆเลย จะมองพี่คิวแบบไหนนะเนี้ย
ส่วนพี่คิวก็ได้อีกอ่ะ อยากไปเที่ยวกับน้องเค้กสองคนละสิน่ะ ถึงได้เลือกไปวันที่คนอื่นเค้าไม่ว่างกันเนี้ย
ตอนนี้เหมือนไปออกเดทกันเลยค่ะ ไปเที่ยวกันสองคน คริๆ (คิดไปไกลละ) แบบนี้พี่คิวกับเค้กต้องแอบชอบกันแบบไม่รู้ตัวแน่เลยอ่ะ
ว่าไปนั้น ฮ่ าา า จินตนาการเริ่มมากละ :-[
-
พาร์ทนี้ไม่มีเถียงกันเเระ
ความสัมพันธ์พัฒนาไปในทางที่ดี ^^
พี่คิวก็ดูเอาใจใส่มากขึ้นน้า ใจดีด้วย
จากที่พี่เซ็นพูดเรื่องสายตา หรือว่าเค้กจะเริ่มชอบพี่คิวเเล้วหว่า แบบอาจจะชอบแต่ยังไม่รู้ตัว...มั้ย?
รอลุ้นคู่นี้กันต่อค่ะ ดูเหมือนหนทางยังอีกยาวไกล อิอิ
-
พี่คิวไม่ค่อยกัดเค้กแล้วเนอะ ดีจัง
ไอ้อาหื่น ชอบคำนี้จัง :laugh:
-
เค้กช่างกล้าต่อปากต่อคำจริง ๆ
พี่คิวเนียน ๆ ดูโหด ๆ แต่ก็น่ารักดี
รอลุ้นต่อไป
ขอบคุณเบบี้ที่มาต่ออยู่บ่อย ๆ จ้า
-
ไม่หนำใจเลย อ่านเพลินนนนน o13
-
o18 o18 o18
-
ว้าวๆ ไปดูหนังกันด้วย ความสัมพันธ์ดีขึ้นเป็นลำดับๆ อยากเห็นคู่นี้ตอนหวานจังน้า
-
หูยยยยย
คิววว
ปากร้ายใจดีตลอดดด :laugh:
-
อุบ้ะ เริ่มหวาน :-[
-
พี่คิวตั้งใจเลือกวันที่พี่เซ็นไม่ว่างหรือเปล่านี่
:-[ เหมือนไปเดทกัน น่าร้ากก
:pig4: :L2:
-
:sad4: มาปาด.......... :o12:
:really2: เวลาอ่านคู่นี้นี่ต้องลุ้นจนฉี่เหลือง.....ว่าเมื่อไหร่เค้าจะปิ๋งกันสะที. :z3:
o18แต่ก็ดีนะสำหรับรักที่เริ่มก่อตัวทีละนิด ...ชุ่มชื่นหัวใจนิดๆ. จิตแจ่มใส. :laugh:
-
เค้กน่ารักเนอะ!!!!!
-
แกล้งเด็ก :laugh:
+1
-
ลุ้นกันนานหน่อยแล้ว กับคู่นี้ อิอิ
-
น่ารักทั้งคู่เลยอ่ะ :man1:
-
ห่วงน้องก็ไม่เคยบอกตรงๆเนาะ
แสดงออกแบบอ้อมโลกและค่อดกวนตรีน
อ่านแล้วรักน้องเค้กชะมัด อยากได้เป็นน้องชายอ่ะ
-
พี่คิวขี้แกล้งอ่ะ แต่ใจดี ความรักค่อยก่อตัวที่ละนิด
มาคอยลุ้นคู่นี้
-
น่ารัก :o8:
-
ชอบเรื่องนี้นะ
รู้สึกมันต่างจากเรื่องที่ผ่านมาของเบบี้ (แต่เรื่องที่ผ่านก็ชอบ แต่คนละแบบ)
เรื่องนี้ ดูแบบ.. ค่อยเป็นค่อยไปดี ดูมัน real ดี
-
พี่คิวน่ารักกกกกกกกก
เค้กไม่หลงไม่รู้ เค้าหลงนำไปก่อนหละ ~
:o8: :o8:
-
พี่คิว ไม่เย็น ชา เท่าไร แล้ว
-
อย่างนี้เรียกว่าเดทได้ไหมนะ
:laugh:
-
เริ่มมีลุ้นแระ หนูเค้กแอบส่งสายตา
แล้วช่วงนี้ดูเหมือนจะจับทางพี่คิวได้แล้ว ไม่ค่อยเกร็งเหมือนก่อน
มีพีฒนาการ :impress2:
-
:-[ :-[ อัยยะๆๆ ตอนนี้แอบหวานเนอะ
มีมุมมน่ารักกด้วยอะพี่คิว
พี่คิวไม่รู้ แต่เค้กเนี่ยย ให้ใจเค้าไปแล้วนิดๆๆช่ายมะ
อ๊ากกก น่ารักกกกอะ บี้จ้าาามาต่อเร็วๆๆนะ
รออยู่เสมอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o8: :o8: :L1: :L1:
-
คิว น่ารักขึ้นเรื่อยๆละ
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
-
พี่คิวมันก็น่ารักแต่ก็กวนตีนมากอ่ะ ฮ่าๆๆ
เมื่อไหร่จะรักกันสักที่คร๊า ไม่ใช่อะไร แค่รอพี่คิวหวานบ้างอะไรบ้าง อิอิ
-
:กอด1:
-
ตอนนี้สองคนเค้าลื่นไหลกันดีเนอะ หุหุ
-
แอบหวานเบาๆอะ
พี่คิ๊ววววว
แอบคิดอะไรป่าวเนี่ยยยยย
-
"ไอ้อาหื่น"...!!!
พูดซะพี่ฟ้าเสียภาพพจน์เลย
5555
เหมือนพี่คิวจะอารมณ์ดี
เวลาอยู่กับเค้กแล้วนะเนี้ย อิอิ
-
กลุ่มน้องเค้กเก่งจัง
เราไม่ได้สัมผัสคะแนนเก้า มาตั้งแต่จบ ม.ปลายละมั้ง
เหอะๆๆ ,,
ไปดูหนังกันสองต่อสอง เดทชัดๆอ้ะ
ฮ่าๆๆ น่ารัก ชอบบบบบ
งืมมม พยายามจะใช้เงินให้ประหยัด แต่ทำได้ยากเหลือเกิน!!
-
ยังคงต้องลุ้นกันต่อไป ไม่ค่อยมีเถียงกันแล้ว มีแค่กวนกันไปมาตามความเคยชิน แบบนี้ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีแล้วสิเนี่ย พี่เซ็นทักเค้กแบบนั้นหมายความว่าไงกัน เค้กเริ่มชอบพี่คิวแล้วใช่มั้ย อาจจะชอบโดยไม่รู้ตัวอ่ะ ปฏิกิริยาน่าสงสัยนะเนี่ย เมื่อไหร่พี่คิวแกจะมองเค้กแบบคนรักซะทีละเนี่ย หรือต้องรอให้เรื่องบางอย่างในใจของพี่คิวมันจางหายไปตามกาลเวลา
-
เหมือนไปเดทจริงๆ
-
อ้าวๆๆๆๆ เค้ก เริ่มชอบพี่คิวแล้วใช่มั้ยเนี่ย หึๆ
สองคนนี้สนิทกันขึ้นเรื่อยๆเลยนะ เค้กชักจะต่อปากต่อคำพี่คิวเก่งขึ้นทุกวันแล้วเนี่ย
เริ่มจะสู้ได้แล้ว ฮ่าๆๆๆ
รอดูความสัมพันธ์ของคนนี้ต่อไปว่าจะพัฒนาไปสักแค่ไหนน้อ
-
น่ารัก ออกเดทกันด้วย ><
-
คิวแมร่ง ซึนนะเอ็ง
-
เริ่มสนิทกันแล้วชั่ยมั้ยย
ดีใจจัง
-
เบบี้ มันสั้นไปหรือว่าเราอ่านเพลิน
ทำไมมันแลดูน้อยนิดอย่างงี้เนี้ยยยยย ย :serius2:
โอ้ยยยย ย อยากอ่านตอนที่มันสป๊ากๆกันแย่แล้วเนี้ย
ตอนหน้าให้เค้กเดินสะดุดฝุ่นล้มแล้วอิพี่คิวมาช้อนอย่าง
กับสายชลและนางฟ้าทีเหอะ ขอสักช็อต!!
-
เค้กเริ่มหลงรักหนุ่มโหดซะแล้ว
บวกๆ จ้า
-
เขาไปเดทกันแล้ว ถึงเค้กจะบอกว่าเลี้ยงตอบแทนก้อเหอะ มันเป็นเดทชัดชัด
-
เค้กน่ารักตลอด :กอด1:
-
มีเดทแรกแล้วว หุหุ
-
เื่รื่องความรักของเบบี้นี่ช้าๆแต่ชัวร์ตลอด เราก็ลุ้นไป เขินไป :o8:
น้องเค้กกับพี่คิวน่ารักขึ้นทุกวันๆ :-[
-
น่านง่ะน้องเค้กมองอิพี่คิวแบบไหนน้า อยากเห็นจัง
น่ารักดีคู่นี้...
มีไปดูหนังกันด้วย กิกิ เค้กทำรายงานเก่งอ่ะได้เก้าแน่ะ
หรือมีคนให้ข้อมูลดีกันแน่ อิอิ :o8:
-
ความสัมพันธ์ดีขึ้นตามลำดับ :กอด1:
-
หนูเค้กชอบพี่คิวไปแบบไม่รู้ตัวซะแล้วใช่ม้ายย เอร้ยๆๆ
-
โอ๊ยยยยยยลุ้นจนเหงื่อตกกับคู่นี้
น้องเค้กจะรู้ตัวไหมเนี่ยว่าไอ้ที่ทำอยู่เนี่ยมันเข้าข่าย"รุกจีบ" พี่คิวอยู่นะ :n1:
ชวนไปดูหนัง ไปหาที่บ้านบ่อยๆ เลี้ยงข้าว(ขนมจีน)
.
.
.
ความสัมพันธ์เริ่มก้าวหน้าแบบช้าๆ แต่ก็ดีแล้ว ให้ทั้งคู่มีโอกาสค่อยๆ เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ
แต่โรคกวนประสาทของพี่คิวสงสัยจะแก้ยากอยู่นะ 55555 :m20: :m20: :m20:
-
เดทเล็กๆ อิอิอิ :-[
-
เค้กเริ่มมีอาการและ
ไอ้พี่คิวนี่ดิมันยังเฉยอยู่เลย :m16:
-
ชีวิตยังดำเนินต่อไปอย่างช้า ๆ ได้ใช้เวลาด้วยกันบ้าง
ศึกษาซึ่งกันและกัน แต่แฝงไว้ด้วยความกวน
หมั่นไส้พี่คิววุ้ย ไม่เคยกินของถูก แหม แหม :pig4:
น้องเค้กน่ารักมาก รู้จักใช้เงิน
-
เค้กเริ่มมีใจรึเปล่า :-[
-
สายตาที่มองส่งให้อีกคน มันส่งสัญญาณ ให้คนรอบข้างเห็นด้วย :z1:
ส่วนอีตาพี่คิว นั่นก็ใช่ เพียงแต่ใช้กริยาทางกายแบบอ้อม ๆ เหตุผล เพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุข
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ปล. อีกคู่ยังไม่เปิดตัว แต่แววมันแอบฉายออกมานะ เบบี้ :z2:
-
:o8:เดทๆๆๆ
-
ชักจะหวานแฮะคู่นี้...สมควรที่เซ็นจะยิ้มล้อ
-
เหมือนคู่รัก กินข้าว ดูหนัง เดินช็อป :impress2:
:pig4: คะ
-
อ่านแล้วกลัวนิสัยพี่คิวอ่ะบอกไม่ถูก มันเกร็งๆ
มันลุ้นจนอึดอัดไปหมด
แต่สนุกค่ะ o13
-
ดีขึ้นเรื่อยๆจริงๆ o13
-
มุมน่ารักของพี่คิว ทำเอาเขินมากๆ :o8:
มีการกันพี่เซ็นออกจากน้องเค้กด้วยอ่ะ โอ้ยยยย
เริ่มรู้สึกดีต่อกันแล้วใช่มั้ยค๊ะ >_<
-
เอร้ยยยย..ตอนนี้ทำไมพี่คิว ดูนุ่มนวล ไม่มีปากมีเสียงกันด้วย แลดูน่ารักนะเนี๊ย..ฮ่าๆๆๆๆๆ
ว่าแต่ เค้กมองพี่คิวด้วยสายตาแบบไหนหว่า??สงสัยต้องถามเซ็นต์ หึหึ
-
พี่คิวกับเค้กน่ารักมากมายค่ะ ตอนนี้เหมือนจะแอบหวานกันนิดๆ
-
เข้ามา วิ่งเล่น มานอนเล่นรอ กั๊ฟฟ :jul3: :jul3:
-
เรียกว่าเดทได้มั้ยเนี่ย อร๊ายยยย :impress2:
น้องเค้กคิดไรกับพี่คิวแล้วใช่มั้ย
แล้วพี่คิวอ่ะคิดยังไง
แอบกันท่าพี่เซ็นด้วยอ่า...
-
เมื่อไรพี่คิวจะชอบน้องเค้กละ แต่น้องเค้กชอบพี่คิวแล้วแน่ๆ
-
หูยยยพี่คิววววววววว จะซึนไปถึงไหนนนนนนนน
เค้กก็เหมือนกันออกอาการเหมือนกันนะเรา
อ่านไปลุ้นไปแบบนี้ หัวใจจะวาย
-
อีกมุมหนึ่งของพี่คิวนี่ น่ารักอบอุ่นจัง
-
ไปดูหนังด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน....
ยังไม่ทันเป็นไรกันก็เดทกันแล้วเหรอค้าาาา o18
-
เอาแล้วไงเค้ก เริ่มหลงเสน่ห์พี่คิวแล้วอ่ะดิ่ มีชวนไปดูหนัง เดทกันอ่ะ :laugh:
สายตาที่เค้กมองพี่คิว อยากเห็น เป็นอย่างไงนะ มองจนลับสายตาอ่ะเปล่า :o8:
ส่วนพี่คิว ยังเดาไม่ได้อ่ะนะ แต่รู้สึกคุย+กวน...เค้กมากขึ้นเรื่อยๆ ...
-
ความสัมพันธ์เริ่มจะคืบหน้าแล้ว ว้าววว พี่คิวกวนได้อีกอ่ะ เค้กมองพี่คิวไงหว่าอยากรู้จัง รอตอนต่อไปนะพี่เบบี้ :)
-
เย้ๆๆ เริ่มมีปฏิกิริยาเคมีแล้ว
-
ลุ้นกันต่อไปว่า ความรักของสองคนนี้จะเริ่มขึ้นตอนไหน
และมีอีก2คู่ที่คลุมเครือ คือกัสกะเซน และฟ้ากับใครนะจำไม่ได้
อยากให้มีมาคั่นเวลาอ่านบ้าง คงจะสนุกดีเหมือนแสบกะปานไงครับ
ขอบคุณน้องเบบี๋นะ สู้ๆๆ :pig4:
-
เริ่มมีพัฒนาการไปในทางที่ดีแล้ววววววววว อย่างงี้ต้องฉลอง :mc4:
-
เริ่มปิ๊งๆกันแล้วใช่มะเนี่ย ><
มาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆอยู่ด้วยบ่อยๆ
จะได้ก้าวหน้ากันเร็วขึ้น อิอิ
-
เริ่มคุยกันมากขึ้นแล้ว :L2:น่าขอบคุณอาจารย์จอมโหด(มาก)ที่ทำให้เค้กต้องทำรายงานเลยได้รู้จักคิวมากขึ้น
-
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก
-
:-[ :-[
-
เค้กมองพี่คิวด้วยสายตายังไงน้า :-[
ลุ้นว่าใครจะจีบใครก่อน
-
แค่นี้ก็หวานถูกใจคนอ่านแล้วครับ
-
เเบบนี้เค้าเรียกว่าออกเดทกันรึป่าววน่าาาาาา :-[ :-[ :-[
-
รู้สึกว่า 2คนนี้เค้าเริ่มดีกันขึ้นแล้ว แต่คนยังไม่มีใจป่ะ 5555+ ลุ้นอ่ะคู่นี้
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
เข้ามาเชียร์ พี่คิว กับ น้องเค้ก :m4:
เหมือนไหร่จะปิ้งกันจ๊ะเนี่ย อิอิ
ขอบคุณค่ะ ที่แต่งนิยายดีๆออกมาให้ได้อ่าน :pig4:
-
มาแปะป๊าบๆ รอเบบี้เหมือนเดิม :impress2:
-
น้องเค้กน่ารัก ยิ่งอ่านยิ่งน่าเอ็นดู :กอด1:
พี่คิวก็นะ หึหึ
แต่ที่พี่เซ็นพูดนี่มันอาราย ใครมองใครยังไงนะ :o8:
บวกจ้า
-
น่ารักมากมาย
-
เค้กเริ่มหลงเสน่ห์พี่คิวแล้ว พี่คิวล่ะเริ่มเห็นเสน่ห์ของเค้กแล้วยัง
ปล. การเรียนมหาลัยต่างจากมัธยมจริงๆ ถ้าใครปรับตัวไม่ได้ก็คงแย่หน่อย แต่น้องเค้กนี่เก่งจริงๆ
-
:o8:
พี่คิวเท่ห์จัง
:impress3:
-
แหนะๆๆๆๆ ตอนนี้อิ๊อ๊ะกันได้อีกๆๆๆ
ทั้งคู่เลยนะ อารมณ์ต่างคนต่างไม่รู้ใจตัวเองป่ะเนี่ย
ดูท่าถ้าเค้กโดนพี่เซ็นแซวแบบนี้บ่อยๆ สักวันคงได้รู้ตัวแน่ๆ กร๊าก (นี่ก็เดาไป)
อ่ออยยยยยยยยยยยย ชอบจังเลย ดิ้นๆๆๆๆ
-
แสดงอารมณ์มากขึ้นนะ คิวเนี่ย
อยู่กับน้องแล้วมีความสุขล่ะซิ 5555
-
คิดถึงจัง :กอด1:
-
ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์
หวานกันไปเรื่อยๆ อิอิ
-
อยากอ่านต่อแล้ว!
รอนะ ๆ
:z13:
-
Miss (^^)
-
~17~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“นี่ๆ..เค้ก”
“ครับ” ผมขานตอบแต่ไม่ได้มองอีกฝ่ายที่เรียกเลย
“เค้ก หันมามองหน้าพี่ก่อนซิครับ” พี่ฟ้าเรียกอีกครั้ง ผมละสายตาจากหนังสือโรอัลด์ ดาล์ห หันไปมองหน้าพี่ฟ้าตามที่พี่เขาต้องการ
“ไปเที่ยวกันสองคน งุ้งงิ้งๆ..เป็นไงบ้างเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยสิ” พี่ฟ้ายิ้มกว้างพร้อมกับนำนิ้วชี้ทั้งสองมือมาชนกัน แถมยังส่ายหัวไปมาเหมือนกับเรื่องที่พูดนี้พูดถึงคู่รักหวานซึ้งยังไรอย่างนั้น
“เป็นไง..” ผมอ้าปากค้าง งงและไม่เข้าใจอย่างแรง
“ใช่ เป็นไงบ้าง” พี่ฟ้าพยักหน้า
“ก็ไม่เป็นไงนี่ครับ พี่หมายความว่าอะไร” ผมขำ
“ง่ะ..เข้าใจยากจริงนะเด็กซิงๆเนี้ย” พี่ฟ้าทำหน้าเบ้
“หึ..อะไรครับ นี่พี่อย่าบอกนะ ว่าพี่หมายถึง..ผม กับพี่คิวน่ะ” ผมชี้เข้าที่ตัวเอง
“ช่าย” พี่ฟ้าพยักหน้ายิ้มตอบในทันที
“เหอะๆ”
“หึหึ” พี่ฟ้าหัวเราะ หน้าที่กำลังหัวเราะของพี่ฟ้ากำลังคล้ายกับตัวการ์ตูนที่กำลังคิดเจ้าเล่ห์อยู่เลยละครับ
“ไปดูหนัง แล้วก็ไปกินขนมจีน เค้กซื้อขนมปังไปฝากน้องสาว แล้วเราก็ไปซื้อหนังสือ พี่คิวส่งเค้กกลับบ้าน..หวานไหมละครับ” ผมเล่าเพราะอยากให้เรื่องจบไปที
“ง่ะ..ทำไม เรียบจัง แล้วแบบ..มีอะไรพิเศษไหม สบตา คำพูดไรงี้อ่ะ” พี่ฟ้าทำหน้าลุ้นใหญ่
“ไม่..นี่ครับ” ผมส่ายหัว
“โถ่ อุตส่าห์เปิดทางให้แล้วเชียว” พี่ฟ้าทำปากจู๋ นั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆกับผม
“พี่ฟ้าเล่นตลกอะไรครับเนี้ย” ผมยิ้มถาม
“ก็..เปล่า” พี่ฟ้าตอบเสียงเบาลง เหสายตาหนีอีก
“พี่คิวคงไม่ขำแน่ ถ้าได้ยินที่พี่ฟ้าคิดเมื่อกี้” ผมบอก
“อย่าไปบอกมันนะ” พี่ฟ้าขึ้นเสียงสูงและรีบดึงแขนผม เบิกตาโตเหมือนกลัวบุคคลที่กล่าวถึง
“ครับ ไม่บอกหรอก..ถ้าพี่ฟ้าจะเลิกคิดอะนะครับ”
“ก็แค่คิดเผื่อไว้เฉยๆอ่ะ แบบ..หมันไส้ไอ้คิวมันน่ะ” พี่ฟ้ายักไหล่ยิ้มกวน
“พี่ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่แบบ..เค้กหน้าตาดีไง ก็เผื่อฟลุคหลานหลงรักผู้ชายด้วยกันไรงี้..อาเป็นเกย์ หลานก็เป็น..มันจะได้ว่าอะไรพี่ไม่ได้ไง บาล้านซ์กันดีออก” พี่ฟ้ายักคิ้ว ผมได้แต่นั่งขำ เพราะพี่ฟ้าไม่เคยพูดบอกผมมาก่อนว่าตนเองเป็นเกย์ นี่เป็นครั้งแรกที่ออกมาจากปากพี่เขาอย่างเต็มปากเต็มคำ และคำพูดคำจาในความหมายนี้กลับดูเป็นธรรมชาติมาก
“หึ..คิดได้นะครับ” ผมส่ายหัว
“พี่ไม่กวนละ..เข้าเวรตามเวลาด้วยนะครับ เด็กดี..จุ๊บ~” พี่ฟ้าลุกขึ้นแต่ก่อนลุกกลับเข้ามาขโมยหอมแก้มผม ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้วนะครับเนี้ย
“ส่วนเรื่องเมื่อกี้ ถือว่าไม่เคยได้ยินมันมาก่อนก็แล้วกันนะ..พี่ก็แซวขำๆ” พี่ฟ้ายิ้มบอกก่อนเดินออกจากห้องไป
“เหอะๆ” หัวเราะเฝื่อนๆให้หนังสือโรอัลด์ ดาล์ห มีแกเท่านั้นแหละที่เข้าใจอารมณ์ของฉันตอนนี้ใช่ไหมนะ..
= = = = = = = =
“เอาล่ะ ที่พี่เรียกประชุมวันนี้ เพราะพี่มีเรื่องจะแจ้งล่วงหน้าไว้ก่อน” พี่ฟ้าพูด ตอนนี้พวกเราทุกคนอยู่ในห้องพักพนักงาน ทุกคนนั่งเรียงที่โต๊ะตัวใหญ่ที่มีที่นั่งรองรับได้ถึงสิบห้าที่นั่ง
“วันจันทร์ เราจะเปิดร้านแค่ครึ่งวัน..จะปิดเที่ยงตรง เพราะทางบ้านของคุณหญิงรัตนมณีขอให้เราจัดบุฟเฟ่ต์เค้กที่บ้านของเค้า ดังนั้น..พี่อยากจะขอรู้ว่านอกจากคนที่อยู่ประจำตอนบ่าย ก็มีเค้ก ซี กัสและหมี..ออฟจะมาช่วงบ่ายได้ไหม ถ้ามาได้พี่จะได้นับเข้าไปด้วย” พี่ฟ้าถามตรงประเด็นในทันที
“ได้ครับ..ได้” พี่ออฟพยักหน้าตอบ
“โอเค งั้นมาครบนะ..เชฟยังไงก็ต้องมาอยู่แล้ว” พี่ฟ้าเขียนอะไรสักอย่างบนสมุดจดของพี่เขา
“ส่วนค่าจ่างพี่จะเพิ่มพิเศษให้ งานน่าจะเลิกประมาณสองทุ่ม..เอาของมาเก็บที่ร้าน ทุกคนจะได้กลับบ้านไม่เกินสามทุ่มนะครับ” พี่ฟ้ายิ้ม
“ใครจะมาขึ้นรถที่ร้านบ้าง พี่จะได้จัดรถถูก”
“ผมครับ” ผมยกมือทันทีเพราะผมคงไปเองไม่ถูก คุณหญิงอะไรนั่นผมรู้จักกับเขาซะที่ไหนละครับ
“กัสด้วย” พี่กัสยกมือด้วยอีกคน
“งั้นเอาอย่างนี้ พี่จะให้รถตู้ที่บ้านมารับทุกคนก็แล้วกันนะครับ..เอารถมาจอดที่ร้านได้ ส่วนรถขนเค้ก..หมีขับก็แล้วกันนะ” พี่ฟ้าบอก พี่หมีพยักหน้าอย่างเข้าใจ รถขนเค้กที่พูดถึง คงเป็นรถสี่ล้อคันเล็กที่เป็นรถประจำของร้านซึ่งมีไว้สำหรับขนอาหารไปส่งนอกพื้นที่นะครับ
“หลังเที่ยง ถ้ามาได้พี่ก็อยากให้มาให้ครบกันทุกคน..เพราะต้องมาช่วยเป็นลูกมือเชฟหน่อย งานเริ่มหกโมงครึ่ง..ดังนั้น น่าจะเข้าใจสิ่งที่พี่พูดนะ” พี่ฟ้ายิ้มน้อยๆ
“โอเค..วันนี้ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ เชิญครับ” พี่ฟ้าบอก พวกผมปล่อยตัวรีแลกซ์กันทันที
“เค้กกับกัส พี่ต้องไปขอทางบ้านให้รึเปล่าครับ” พี่ฟ้าเลิกคิ้วยิ้มถาม
“อ๋อ เค้กไม่ต้องหรอกครับ..เดี๋ยวเค้กบอกแม่ แม่ก็คงเข้าใจ” ผมบอก แม่ของผมเป็นคนง่ายๆอยู่แล้ว เขาไว้ใจในการตัดสินใจของผม เราให้เกียรติความคิดของกันและกัน ดังนั้นผมจึงค่อนข้างอ่านความคิดของแม่ออกด้วยนะครับ
“กัส..บอกหน่อยก็ดีฮะ” พี่กัสพูดเสียงเบาเหมือนเขินทุกคนบนโต๊ะ
“หึ..พี่โทรไปขอให้ไหมครับ” พี่เซ็นยิ้ม ส่งสายตาเจ้าเล่ห์อย่างออกนอกหน้าไปให้พี่กัส
“หุบปากไปเลยไอ้เซ็น” พี่ฟ้าปรามหน้าเข้ม
“หึหึ..ไรเล่า วู้..หวงไปได้” พี่เซ็นยิ้มกว้างลุกขึ้นเดินไปซะเฉย ทิ้งให้พวกผมนั่งมองเหตุการณ์เมื่อกี้อย่างไม่เข้าใจอารมณ์ของพี่เขานัก บทจะเล่นก็เล่นไม่มีปี่มีขลุ่ยเลย
“ไว้พี่จะโทรไปบอกพ่อให้ก็แล้วกันนะ ไม่ต้องห่วง” พี่ฟ้ามองหน้าพี่กัส
“ขอบคุณครับ” พี่กัสยิ้มตอบ
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“โอ้ย วุ่นวายไปหมดเลย จะฟ้องป๊า” พี่กัสบ่นหน้าบู้
“หึ..เด็กดื้อ ขี้ฟ้อง” พี่หมีว่า ตอนนี้พนักงานในร้านเราวุ่นไปด้วยการเตรียมเค้ก ดีที่ทางบ้านที่ต้องมาจัดปาร์ตี้นั้นได้เตรียมเครื่องครัวไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ทางร้านเราแค่เตรียมเค้กและเตรียมอุปกรณ์สำหรับแต่งเค้กของเราไปให้พร้อมเท่านั้นพอ
“ก็ดูสิ” พี่กัสคิ้วขมวดชนกัน
“เข้าไปเช็คตัวเองให้เรียบร้อยนะเด็กๆ” พี่ฟ้าบอก ผมละสายตาที่มองเค้กเดินเข้าห้องพักพนักงาน จัดการเช็คผม หน้า เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ใครมาติเราได้ หลังจากที่ผมเช็คทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมก็ออกมายืนที่หน้าร้านอีกครั้งเผื่อว่าเชฟมีอะไรจะได้เรียกใช้ได้ทันท่วงที
“บูลเบอรรี่ชีสเค้กฝรั่งเศส” พี่คิวยืนหน้าเข้มเช็คของทั้งหมด
“สอง..ครบครับ” พี่หมีตอบ
“บานอฟฟี่พาย”
“สอง..ครบครับ” พี่หมีซึ่งมีหน้าที่เช็คของเพื่อบอกพี่หน้าโหดอีกครั้ง
“แครอทเค้ก”
“สอง..ครบครับผม”
“ฮัมมิ่งเบิร์ด เค้ก”
“สอง..ครบครับ”
“วนิลลา ราสเบอรรี่ มูส”
“สามสิบชิ้น ครบครับ”
“คาสิโน”
“สอง..ครบครับ”
“ออเรจน์ เค้ก..กับ มาสคอท พราลีน”
“ครบครับ” พี่หมียิ้มตอบ
“เค้กคิว..” พี่คิวพูดและทิ้งเสียงลง พวกผมหันไปมองหน้าพี่คิวอย่างตั้งใจ
“ปิด..เค้กคิวปิด” ผมยิ้มพูดแทนให้ด้วยความเต็มใจ
โป๊ก !!
“อุยย..พี่คิวอ่ะ” ผมร้อง จับหัวตัวเองที่โดนสันแฟ้มของพี่คิวเคาะลงที่หัวอย่างไม่ทันได้หลบ ที่ผมโดนพี่เขาทำแบบนี้คงเพราะว่าไม่ต้องการให้ผมพูดว่า “เค้กคิวปิด” ละมั้งครับ เห็นพี่ฟ้าบอกว่าตอนที่คิดชื่อเค้กนี้น่ะ ต้องเป็นเค้กประจำของร้าน จะเป็นชื่ออื่นไปไม่ได้นอกจากชื่อนี้จริงๆ ทำให้พี่คิวไม่ชอบใจนัก..เพราะปกติพี่เขาก็ไม่ค่อยจะชอบชื่อของตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย
“หึหึ” พวกพี่ๆหัวเราะกันหมด
“โอเค..ขนได้” พี่คิวสั่ง
“ออฟ..เช็คอุปกรณ์นะว่าครบตามที่พี่เขียนไหม ถ้าครบก็ขนได้เลย”
“ครับ” พี่ออฟพยักหน้าตอบ
ผม พี่ฟ้า พี่กัส พี่คิว พี่เซ็นและพี่ซี เดินทางไปบ้านที่จะจัดปาร์ตี้โดยรถตู้ของพี่ฟ้า โดยมีลุงมีคนขับรถของบ้านพี่ฟ้ามาขับรถให้ ส่วนพี่ออฟกับพี่หมีขับรถขนของของร้านตามออกมา
“สวัสดีครับ” พี่ฟ้ายิ้มยกมือไหว้คุณหญิงคุณนายไฮโซ
“ขอบคุณมากเลยนะจ๊ะ ที่ยอมรับออกมานอกสถานที่ให้น้า” คุณป้าแต่งตัวหรูหรา ทรงผมชูเชิดบานอยู่บนหัวจับมือพี่ฟ้าอย่างเอ็นดู ผมคิดว่าเธอไม่น่าจะแทนตัวเองว่าน้า แต่น่าจะแทนตัวเองว่า “ป้า” เสียจะเหมาะกว่า
“มองอะไรของนาย เสียมารยาท” พี่คิวกระซิบว่า ผมชะงัก
“มองทรงผม” ผมตอบเสียงเบา
“หึ..” พี่คิวก้มหน้าหัวเราะทั้งที่เมื่อกี้ยังว่าผมอยู่เลยนะครับ
“นี่จ้ะๆ..มารู้จักกัน นี่ลูกชายคนเล็กของคุณสุธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ไงละจ๊ะ” ป้าคนนี้แนะนำพี่ฟ้ากับพวกเพื่อนๆของเธอ
“ทำไมมีแต่คนมีอายุ” ผมพูด มองคนนู้นทีคนนี้ทีเพราะแปลกตา
“เห็นว่าเป็นจัดประชุมของสมาคมอะไรสักอย่างนี่แหละ เค้าอยากให้งานเป็นกันเอง..เลยต้องมาจัดในบ้านของประธานสมาคมไง” พี่ซีตอบ
“อ๋อครับ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ บ้านใหญ่โตขนาดนี้ ท่าจะรวยใช่ย่อยแฮะ
หลังจากนั้นพวกผมจัดการเตรียมเครื่องให้พี่คิวและพี่เซ็น ยืนประจำอยู่ที่มุมเค้กต่างๆ จนคุณหญิงคุณนายไฮโซเริ่มขึ้นไปกล่าวบนเวทีเป็นระยะ เป็นเพียงเวทีเล็กๆน่ารัก หลังจากกล่าวเสร็จ ทางนั้นก็มีการพูดถึงเรื่องของเงินทุนในสมาคมและเริ่มปล่อยให้ทุกคนพักได้ตามอัธยาศัย
ผม พี่กัสและพี่หมีมีหน้าที่จัดเตรียมเครื่องดื่มนำไปเสิร์ฟให้ บางคนก็มาจัดการเตรียมเครื่องดื่มด้วยตนเองบ้าง ส่วนพี่คิวกับพี่เซ็นต้องคุมเรื่องเค้ก เพราะเค้กแต่ละจานต้องมีการแต่งหน้าเค้กเพิ่มก่อนที่จะยกไปเสิร์ฟให้แขก
“โอเคไหม” พี่ฟ้าเข้ามาถามทุกคน
“ครับ..” พี่หมีตอบหน้านิ่งเช่นเคย
“หนูจ๊ะ..”
“เธอนั่นแหละ..ขอชาฝรั่งเศสให้ฉันหน่อย” คุณป้าท่านหนึ่งสั่งมองมาที่ผม ผมยิ้มพยักหน้าตอบ พี่หมีคงจะได้ยินแล้วว่าเธอสั่งอะไรผม พี่หมีจึงจัดการเตรียมชาให้แทนเพราะผมทำไม่เป็น พอพี่หมีทำชาให้เสร็จแล้ว ผมจึงมีหน้าที่ยกไปเสิร์ฟให้เธอ
“ขอโทษนะครับ ชาฝรั่งเศสครับ” ผมบอกคุณป้าท่านนี้ที่กำลังคุยกับเพื่อนข้างๆของเธออย่างออกรส
เคล้ง~
“อุ้ย ว้ายยยย!”
“ขะ..ขอโทษครับ” ผมหน้าตื่น รีบก้มลงเก็บแก้วน้ำชาอย่างลุกลีลุกลน แต่ผมไม่ผิดนะครับ เมื่อกี้คุณป้าดันหันตัวมาโดยไม่มองหน้ามองหลัง ผมหลบไม่ทัน มือของคุณป้าเธอก็มาปัดแก้วชาตกไปเอง
“อะไรของเธอเนี้ย” คุณป้าลุกขึ้นยืน มองผมตาขวางด้วยความไม่พอใจ
“คือ..ขอโทษครับ” ผมก้มหน้าบอก รู้สึกกลัวทุกคนขึ้นมาในทันทีเพราะทุกคนต่างจับจ้องมาเป็นตาเดียว
“มีอะไรเหรอเค้ก” พี่ฟ้าถาม
“คือ..” ผมไม่กล้าเงยหน้ามองพี่ฟ้า เพราะรู้ดีว่าสายตาของแขกทุกคนกำลังมองมาที่ผม
“ก็เด็กของฟ้านะสิ เสิร์ฟไม่ดู..ชาหกรดป้าเลยเนี้ย” คุณป้าโวยวายเสียงดัง
“ขอโทษครับ..ขอโทษแทนเด็กด้วยจริงๆครับ” พี่ฟ้าก้มหัวให้อีกฝ่าย
“ฮื้ม..ป้าเห็นแก่ฟ้าหรอกนะ จิ..เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” เธอตวัดเสียงก่อนจะเดินจากไป
“เค้ก..เอาแก้วไปเก็บ” พี่ฟ้าพูดเสียงเรียบ ผมรีบเก็บแก้วและก้มหน้าก้มตาเดินออกมา
“เค้ก ชาหกรดเค้กไม่ใช่รึไง” พี่เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“อะไรของนาย” ผมได้ยินเสียงพี่คิวกระแทกเสียงด้วยความหงุดหงิดนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ แต่อยู่ๆแขนของผมก็โดนพี่คิวดึงไปอย่างแรง
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมบอก แต่ขากลับไม่สามารถหยุดเดินตามพี่คิวได้ เพราะพี่คิวจับแขนผมไว้แน่นมากจนผมรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของอีกฝ่าย
ซ่า~~
“............” ผมได้แต่ยืนเงียบ มองพี่คิวที่จับมือของผมไปล้างน้ำให้ ผมนึกว่าพี่เขาจะดุผมมากกว่านี้เสียอีก
“ยัยแก่บ้านั่น” พี่คิวสบถ ผมอึ้งอ้าปากค้างกับคำสบถที่หลุดออกมาจากปากของพี่คิว ที่จริงพี่เขาไม่ต้องเดือดร้อนกับความเจ็บของผมเลยก็ได้
“หึ..หึหึ” ผมหัวเราะออกมา จู่ๆก็รู้สึกขำนะครับ พี่คิวหันมามองหน้าผมตาขวาง
“ขำพี่อ่ะ” ผมยิ้ม
“ไม่โกรธบ้างรึไง ชานั่นหกใส่นายนะ” พี่คิวว่าคิ้วขมวดผูกกันเป็นโบ ผมหยิบกระดาษเช็ดมือมาเช็ดมือตัวเองที่มีแต่รอยแดง
“ไม่หรอกครับ” ผมตอบแต่ไม่กล้าหันไปสบตาพี่คิวนัก ผมไม่โกรธจริงๆนะครับ..แค่อายก็เท่านั้นเอง แถมยังทำให้พี่ฟ้าถูกดุอีกด้วย เลยรู้สึกแย่นิดหน่อยน่ะ
“เป็นคนดีซะจริงนะ” พี่คิวประชด
“เค้ก..เป็นอะไรรึเปล่า” พี่ฟ้าวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
“ยัยป้านั่น..ประสาท!” พี่คิวว่าใส่พี่ฟ้าทันที
“คิว” พี่ฟ้าปรามหน้าเสีย
“ผมบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้รับงานนอกแบบนี้” พี่คิวพูด
“มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ พี่อย่าทะเลาะกันเลย” ผมรีบบอกทั้งสองคน
“อย่ายุ่งน่า” พี่คิวหันมาว่าผมคิ้วขมวด
“ไม่รับไม่ได้..นี่เพื่อนของคุณปู่นะ” พี่ฟ้าพูดสีหน้าเครียดไม่แพ้กัน
“รักษาหน้าคุณพ่อซะจริงนะ” พี่คิวแสยะยิ้ม
“คิว” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ นั่นยิ่งทำให้ผมอดรู้สึกไม่ดีไม่ได้
“เค้กมือแดงเลย โดนน้ำชาด้วยเหรอ” พี่ฟ้าจับมือผมไปดู
“มันปัญญาอ่อนไง น้ำชาโดนคนอื่น..แต่ตัวเองโวยวาย” พี่คิวพูดส่ายหัวแล้วเดินหนีไปเฉย
“พี่ขอโทษนะ เจ็บไหม” พี่ฟ้าลูบมือผมเบาๆอย่างอ่อนโยน
“ไม่เจ็บหรอกครับ หายร้อนแล้ว..พี่ไม่ต้องห่วงเค้กหรอก แค่นี้เอง” ผมยิ้มบอก
“แต่..”
“เค้กไปทำงานก่อนนะครับ” ผมบอก พี่ฟ้าพยักหน้ายิ้มน้อยๆให้ ผมเดินกลับมาที่โต๊ะเตรียมอาหารของพวกเรา
“แล้วคุณคิวยังไม่มีแฟนเหรอคะ” ผมชะงัก หันไปเห็นพี่คิวที่ตอนนี้ถูกยืนล้อมไปด้วยหญิงสาวสามสี่คน ผมเดาเอาว่าพวกเธอน่าจะเป็นลูกสาวของคุณหญิงคุณป้าไฮโซที่อยู่ในงานนี้ละครับ
“หึ..” ผมยิ้มเยาะให้พี่เขา พี่คิวคงได้ยินจึงหันมามองผมด้วยหางตา
“เนื้อหอมเหมือนเดิมนี่มึง” พี่เซ็นแซวทันทีที่พี่คิวเดินกลับมาที่โต๊ะ
“กูไม่ภูมิใจหรอกนะ” พี่คิวตอบหน้านิ่งสนิท เหมือนไม่ชอบใจพวกผู้หญิงเมื่อกี้จริงๆ
“ขอเค้กชิ้นนี้ค่ะ” ผมเงยหน้ามองพวกผู้หญิงที่รุมพี่คิวอยู่เมื่อกี้ ตอนนี้พวกเธอมายืนยิ้มสั่งเค้กอยู่ตรงหน้าพวกผม ผมพยักหน้ายิ้มให้ก่อนจะหยิบเค้กใส่จานนำไปยื่นให้พี่คิว
“ชิ้นนี้ด้วยค่ะ” อีกคนสั่ง ผมหยิบอีกชิ้นและยื่นให้พี่เซ็นอีกต่อ
“นี่ใช่..คุณเซ็น อภิเลิศทรัพย์รึเปล่าคะเนี่ย” ผู้หญิงหนึ่งในนั้นถามทั้งรอยยิ้ม
“ครับ” พี่เซ็นยิ้มตอบ พี่คิวก้มหน้าก้มตาแต่งจานเค้กโดยไม่สนใจพวกผู้หญิงตรงหน้าเลย
“จริงเหรอคะ ตัวจริงหล่อกว่าในหนังสืออีกนะคะเนี้ย”
“ขอบคุณครับ” พี่เซ็นยิ้มกว้างกว่าเดิม พี่คิววางมือลงเมื่อแต่งเค้กเสร็จเรียบร้อยแล้ว จานเค้กได้วางไว้เฉยๆตรงหน้าอีกฝ่าย ผมเลยต้องหยิบจานยื่นให้ผู้หญิงที่สั่งแทนเพราะกลัวว่าจะเสียมารยาท เธอหน้าเสียนิดหน่อยที่พี่คิวดูจะไม่สนใจที่จะเทคแคร์อย่างที่ผมทำ
“ถ้าวันหลัง เราจะไปที่ร้านจิลวารี่ของคุณคิว..จะได้บริการพิเศษรึเปล่าเอ่ย” ผู้หญิงหนึ่งในนั้นส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้พี่คิวจนผมรู้สึกขนลุกแทน
“หึ..ไปได้ครับ แต่ผมไม่ใช่คนดูแลนะ ไม่มีสิทธิ์อะไรในนั้นด้วย..เสียใจด้วยนะครับ ผมคงบริการอะไรให้ไม่ได้” พี่คิวบอกด้วยหน้าตาถมึงทึง
“อ่าว คุณคิวไม่ได้เป็นผู้บริหารของคิงจิลวารี่หรอกเหรอคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเบิกตาโตถามด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ไม่ครับ และ..จะไม่มีวัน” พี่คิวยิ้มตอบ สำหรับผม..มันช่างดูเป็นรอยยิ้มที่ไม่เต็มใจเอาซะเลย
“เหรอคะ” ผู้เธอหน้าเสียไป
“แต่ก็เป็นหนึ่งในทายาทของสิทธิบดีทรัพย์อยู่ดี ยังไงก็คงได้รับทรัพย์สินไม่น้อยเลยสินะคะ” ยัง..ยังไม่หยุดกันอีก ทำไมคนพวกนี้ถึงได้พูดอะไรไม่ดูปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้ามเลยนะ เขาไม่เคยเรียนจิตวิทยากันรึไงครับ ผมละสงสัยจริงๆ
“ไม่ทราบครับ” พี่คิวตอบเสียงห้วนลง ครั้งนี้ไม่มีรอยยิ้มใดๆออกมาจากพี่คิวอีก
“งั้น..ขอตัวนะคะ” เธอทั้งหมดพูดพร้อมกัน
“มึงหักหน้าผู้หญิงแบบนี้ได้ไงวะ” พี่เซ็นว่าปราม
“นั่นเรียกว่าผู้หญิงเหรอ” พี่คิวตอบอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“แต่พี่ก็ไม่น่า มันก็สะใจดี..แต่มันก็ เสียมารยาทไปไหมอ่ะครับ” ผมออกความคิดเห็นบ้าง
“ฉันไม่สน” ชัดเจนมาก โอเคครับ..ผมผิดเอง (-_-)
“ออกจะสวยซะขนาดนั้น ไม่น่าเลย” พี่เซ็นส่ายหัวด้วยหน้าตาผิดหวัง
“มึงเอาลงเหรอวะ หึ..แค่คิดกูก็เอียนละ” พี่คิวพูดหน้าแสยะเหมือนรับไม่ได้จริงๆ
“มึงก็ว่าไป” พี่เซ็นยิ้มส่ายหัวหน่อยๆ
“ไม่น่าเลยนะครับ เสียดาย” ผมพูดพึมพำ
“หึ..” พี่คิวแสยะหัวเราะ
“เคยได้ยินไหม” พี่คิวหันมามองหน้าผม ผมเงยหน้ามองพี่คิวอย่างสงสัย
“ความสุขบางอย่างที่มนุษย์มีแต่สัตว์ไม่มีน่ะอะไร อย่างเช่น..สมอง ความคิด การมีสติปัญญาที่เฉียบแหลม มีคุณค่าสูงกว่าสัตว์..หรือความสุขจากการกินอาหารอร่อย” พี่คิวพูดขึ้นโต้งๆ ผมอ้าปากค้าง
“..เอ่อ ครับ” ผมพยักหน้าตอบไม่เต็มปากเต็มคำ เพราะสมองของผมยังตามไม่ทันเท่าไหร่นัก
“การเป็นมนุษย์ที่กระวนกระวายดีกว่าการเป็นสุกรที่อิ่มหมีพีมัน เป็นโสเครติสที่ทุรนทุรายดีกว่าเป็นคนโง่ที่แสนสำราญ” ผมยังอ้าปากค้าง พอเข้าใจในสิ่งที่พี่คิวต้องการจะสื่อบ้างแล้ว แต่แค่กำลังงงๆนิดหน่อยกับปรัชญาที่ว่า
“ปรัชญาของมิลล์น่ะ ฉันไม่ได้คิดเองหรอก” พี่คิวเบะปากส่งๆ
“มีเงิน แต่ถ้าไม่มีปัญญา สมองก็จะกลวงเหมือนยัยผู้หญิงพวกนั้น..ปัญญาที่ดี เกิดจากจิตสำนึกและการมีศีลธรรมในตัวเองด้วย นั่นหมายถึง..จงภูมิใจในความจนของตัวเองซะ” พี่คิวมองหน้าผมเหมือนกำลังต้องการบอกย้ำความจนของผมซะอย่างนั้น แต่น่าแปลกที่ผมกลับไม่รู้สึกเจ็บแสบอะไรกับประโยคนี้เอาเสียเลย
“งั้นหมายความว่า พี่อยากจนสินะ” ผมแซว ไม่ได้รู้สึกแย่กับคำพูดที่พี่คิวย้ำว่าผมจน ซึ่งแน่นอน..ผมเข้าใจว่าพี่คิวไม่ได้ว่าผมแต่กำลังชมความจนของผมต่างหากล่ะ
“ปรับตัวไม่ทันเท่าไหร่” พี่คิวยักไหล่
“แต่ถ้าต้องภูมิใจในความรวยจอมปลอมอย่างคนพวกนี้ ฉันก็อยากจะจนอะนะ” พี่คิวพูดพร้อมกับขำออกมา
“พี่คงเจอคนอย่างพวกนี้เยอะสินะ” ผมถาม พี่คิวไม่ตอบแต่กลับมีสีหน้าที่เอือมอย่างเห็นได้ชัดนั่นคงแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี
“จะมีคนอย่างพี่สักกี่คนกัน” ผมว่าพร้อมยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเห็นใจ
“เค้ก..มานี่หน่อย” พี่หมีเรียก ผมยิ้มให้พี่คิวเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งไปช่วยพี่หมี
~จนภูมิใจในความจนของตัวเองซะ~
“หึ..” น้ำเสียงที่พี่เขาพูดเมื่อกี้ช่างเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูสะใจดีแปลกๆแฮะ
“หัวเราะอะไร” พี่กัสทำหน้าทำตาเหมือนหมาสงสัย แต่มองไปมองมาน่าจะเหมือนแมวซะมากกว่า
“เปล่าครับ” ผมตอบ
“ฮันแน่ ต้องมีอะไรดีๆแน่เลย” พี่กัสเอามือมาสะกิดแก้มผมอย่างหยอกล้อ
“ไม่มีหรอกครับ” ผมอมยิ้มตอบ มือตักผงโกโก้ใส่แก้วที่เหลือ
งานบริการของเย็นวันนั้นเป็นไปด้วยดี พี่ฟ้าไม่ให้ผมออกไปเสิร์ฟน้ำอีก ผมช่วยพวกพี่ๆเตรียมเครื่องดื่ม เป็นลูกมือให้เชฟทั้งสองคน หลังจากที่เก็บงานเสร็จเรียบร้อย พี่ฟ้าไปส่งผมและพี่กัสที่บ้าน พี่ซีกลับกับพี่เซ็น ส่วนพี่ออฟไปกับพี่หมี
คืนนั้นผมเหนื่อยมากจนแทบจะถอดเสื้อออกไม่ไหว หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็พุ่งตัวลงที่เตียงทันที อดเขียนโน้ตรายวันเลยไงครับ..เฮ้อ~ แถมยังมีเรียนเช้าอีก
.................>>>><<<<.................
-
ขอจิ้มซักทีนะคะ :z13:
>>จงภูิมิใจในความจนของตัวเองซะ!<<
เรื่องนี้ตั้งกะอ่านมามันยังไม่หวานกันเลยนะ
แต่สอนอะไรตั้งหลายอย่าง o13
ว่าแต่...แล้วจะได้คบกันยังไงยังคิดไม่ออกเลย 555
-
:กอด1: :กอด1:สะใจมากมาย
คำคมจริงๆพี่คิว
-
สะใจมากอะพี่คิวพูดแต่ละประโยค :m20: :m20: :m20:
-
จิ้มบวกๆ จ้า
ไวนะพี่คิววววว เหอๆๆ
-
ชอบจัง วันนี้ พี่คิวมีสาระอ่ะ
ผู้หญิงสวยๆรวยๆมีมาอ่อยก็ไม่ชอบ ต้องแบบมึนๆ น่ารักๆแบบเค้กใช่มั๊ยพี่คิว
ว่าแต่...ตอนที่17 แล้ว เมื่อไหร่พี่คิวจะสะกิดใจซะที T^T
น่ารักๆแบบนี้หายากนา ช้าหมด คนอื่นคาบไปแล้วจะแห้ว อิอิ
:laugh:
-
สะใจยัยพวกผู้หญิงนั่น
ว่าแต่ ยัยป้า นั่นบ้ารึเปล่า ชาหกใส่เค้ก แต่ตัวเองจะไปเปลี่ยนผ้า ฮ่าๆๆ
-
พี่คิวโดนใจเว้ย
“มีเงิน แต่ถ้าไม่มีปัญญา สมองก็จะกลวงเหมือนยัยผู้หญิงพวกนั้น..ปัญญาที่ดี เกิดจากจิตสำนึกและการมีศีลธรรมในตัวเองด้วย นั่นหมายถึง..จงภูมิใจในความจนของตัวเองซะ”
ด่าได้แบบแฝงปรัชญา ถ้าเข้าใจคงเจ็บลึกถึงกึ๋นดีแท้ o13
ขอบคุณไอ้น้องบี้
+ทุก+ที่+ได้เหมือนเคย
:กอด1:
-
อยากกินเุึค้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
~จงภูมิใจในความจนของตัวเองซะ~
เริ่ดมากกกกก สะจายยยยย
o13 o13
-
:a5: เหมือนเรียนปรัชญาเลยตอนนี้
เหมือนจะเข้าใจ (พี่คิว) ยากซักหน่อย แต่ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจ (พี่คิว)
น้องเค้กโดนน้ำชาร้อนหกรดมือ
โอ๋ๆ มาให้กอดปลอบใจหน่อยมา :กอด1: อิอิ
-
เด็กซิงๆ นี่่น่ารักจังเลย!
หมั่นไส้อิป้าแก่นั่นอะ :m16:
เค้กรู้สึกดีกับพี่คิวเพิ่มขึ้นอีกหน่อยแล้วใช่ปะ
-
คมจริงอะไรจริงนะพี่คิว
ว่าแต่เกลียดอีป้านั่นจัง
ตัวเองผิดแท้ๆ = =
-
ทำไมวันนี้พี่คิวพระเอกจังคะ :-[
-
รวย ไร้สมอง ไม่มีสาระ
สงสารเค้ก เจ็บตัว
+1
-
กรี๊ดดดดดดดด วันนี้พี่คิวได้ใจอะ
ตั้งแต่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเค้กละ
-
ปรัชญาลึกล้ำจริงๆ :call:
-
ชอบ การเป็นมนุษย์ที่กระวนกระวายดีกว่าการเป็นสุกรที่อิ่มหมีพีมัน เป็นโสเครติสที่ทุรนทุรายดีกว่าเป็นคนโง่ที่แสนสำราญ o13
-
ป้านี่นิ แย่จัง
พี่คิวเด็ดมาก ถ้าชีวิตจริงคนคิดได้แบบพี่คิวทุกคน สังคมเราคงจะดีขึ้น
-
พี่คิวนี่ลึกเน้อ :laugh:
:pig4: คะ
-
o13
-
เป็นคนดีจังเลยน้า
เหมาะแล้วที่เป็นเดือนคณะ
-
พี่คิวเท่มากกกกกกกกก :impress2: o13
-
สะใจคำพูดพี่คิวจัง ฮ่าๆๆๆ
-
ชอบคำคมมากครับ "จงภูมิใจในความจน"ของตัวเอง
-
o13
น้องเค้กน่ารักหละซิพี่คิว
-
สวยยังไงซักวันก็เหี่ยว
แล้วต้องอยู่กับคราบกลวงๆ ตลอดชีวิตแค่คิดก็จะอ้วกแตกแล้ว Orz
แบบนี้มีตุ๊กตายางสวยๆซักตัวก็ไม่แตกต่างกันหรอก
-
>>จงภูิมิใจในความจนของตัวเองซะ!<<
ทุกวันนี้ก็"ภูมิใจมาก"
-
สองตอนนี้ดูมีความคืบหน้าดีเนอะ อิๆ เริ่มแอบชอบอีตาพี่คิวแระ 555 โดยเฉพาะตอนล่าสุด สะใจมาก
-
น้องเค้กน่ารักอีกแล้วอ่ะ
พี่คิวปิดก็เหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ
ตลกดี ชื่อเต็มๆคิขุมากๆนะ
อยากรู่เรื่องบ้านของพี่คิว กะ พี่ฟ้า!!
-
เมื่อไหร่จะหวานใส่กันบ้าง
-
พี่คิวคมมาก !!!! :-[
แต่ผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่ไหวจริงๆ
พูดตื้ออยู่ได้ดูก็รู้ว่าเค้าไม่อยากเสวนาด้วย
ถามก็ถามอะไรซอกแซก ไม่ใช่เรื่องเล๊ย
เสียดายความสวย ความพร้อมที่ครอบครัวพวกเธอมีให้
พาร์ทนี้นอกจากพี่คิวจะคมแล้วพี่อบอุ่นด้วย :กอด1:
รู้สึกแย่ที่น้องเค้กโดนอิป้าทำชาหกใส่ละซี่ รีบพาไปล้างเชียวนะ ปลื้มใจ อิอิ
-
กรี๊ดดดด พี่คิวเป็นห่วงเค้ก 55 ชอบๆ :laugh:
รอความหวานระหว่างคิวกับเค้ก :impress2:
รู้สึกว่าตอนนี้น้อยๆจัง ฮ่าๆๆ อยากอ่านต่ออ่ะ :z3:
-
คิวนี้โหมดโหดกินตลอด o22
อิอิ
น้องเค้กก
น่ารักไปมั้ยยย :man1:
-
ชอบเวลาที่ฟ้าคุยกับเค้ก ให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
...ได้ข้อคิดดีๆๆจากตอนนี้เนอะ
...เป็นคนจนแต่มีคุณค่าดีกว่าเป็นคนรวยแต่ไม่มีสมอง :L2:
-
รู้สึกถึงความเป็นห่วงที่มีให้กัน
อ่านแล้วอดยิ้มไม่ได้
-
o13 o13 o13
-
เปิดมาก็แอบขำพี่ฟ้ากันเลยค่ะ เป็นอาที่น่ารักมากๆเลยอ่ะ ชอบๆ ๆ สงสัยอาฟ้าคงจะได้สมใจแน่ๆเลย
อาเป็นเกย์หลายก็เป็นเกย์ ฮ่า า า ตอนนี้พี่คิวแอบเป็นห่วงหนูเค้กแบบออกนอกหน้าเลยรึเปล่าค่ะเนี้ย หลังว่าฉันคงไม่ได้คิดไปเองนะ
พี่คิวให้ปรัชญาชีวิตอีกแล้วค่ะวันนี้ น้องเค้กเป็นปลื้มกันไปเลยไง ฮ่า า ยุยงตลอดเรื่องแบบนี้ ก๊าก ก :man1:
-
~จนภูมิใจในความจนของตัวเองซะ~ o13
เด่วนี้น้องเค้กกว่าแซวพี่คิวประ หึหึ
ส่วนพี่กัสท่าทางจะน่ารักมากนะเนี้ย :z1: แมวน้อยขี้อ้อนรึป่าวน๊า
-
ผู้หญิงที่ล้อมพี่ิคิวนี่น่ารำาญจริงๆ สมควรโดนพี่คิวพูดแบบนั้นแล้วค่า o13
พี่เซ็นพี่กัสดูมีซัมติงนะคะ ><
-
ปฏิกิริยาพี่คิวที่มีต่อน้องเค้กเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแฮะ
เป็นห่วงน้องอ่ะเด้ รีบลากออกมาเชียว หึหึ... o18
-
ชอบความคิดพี่คิวจัง :impress2:
:L2: :L2:
-
พี่คิวเป็นห่วงเค้กอ่ะดิ๊ถึงใด้
โมโหอ่ะ อิอิ
-
อิพี่คิวก็ผู้ใหญ่เกิ๊น แต่ก็สอนอะไรหลายๆ อย่าง อ้อ ปากร้ายด้วย ฮ่าๆๆ o13
-
อั้ยย่ะ!! เดือดร้อนแทนเค้กเพราะเริ่มคิดไรกับเค้กแล้วใช่มั้ย คิวว ว! :impress2:
รีบๆทำคะแนนเหอะ อยากอ่านแย่แหละ กริ๊ดดดดดดดดดด ด!!
-
สุดยอดพี่คิว ^^
-
ดูเหมือนพี่ฟ้าอยากให้หลานชายเป็นเกย์เหมือนตัวเองจริงๆเลยนะ :laugh:
:3123:
-
ชอบหนูเค้กจัง คิดบวกได้เสมอ
-
คำพูดพี่คิว เยี่ยมมากกกก :L1: :L1:
ประทับใจมากกก รักพี่คิวขึ้นอีกเยอะเลยย
มีแม่ยกเป็นพี่ฟ้าแล้วช่ายมะเนี่ยย พี่ฟ้าเชียร์ถูกคู่แล้วอะ
กรี๊ดๆๆๆ
รออ่านๆๆๆๆอยุ่นะจ๊ะเบบี้
-
พี่คิว หวานอีกหน่อยยยยย
-
หัวใจพี่คิวหล่อมาก เหมือนคนรวยจนเบื่อความรวย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อย่างที่เค้กบอกจริงๆ
ว่าจะมีคนแบบพี่คิวอีกสักกี่คน หล่อทั้งหน้าตาและจิตใจ ฮิ้ววววววว~
-
เห็นรายกายเค้กแล้วน้ำลายไหล
-
*จงภูิมิใจในความจนของตัวเองซะ*
o13 อืมม เป็นคติที่น่าจดจำนะคะ สอนไดดีทีเดียวน่อพี่คิว..อิอิ
ปล.เมื่อไหร่จะสวีทวี้ดวิ้วอย่างที่พี่ฟ้าแซวมั่งล่ะค้าาาา ฮ่าาาาา :-[
-
จงภูมิใจในความจนของตัวเองซะ o22
ชอบค่ะ :กอด1:
-
จงภูมิใจในความจนของตัวเองซะ
55++โดนมากกก
คาดว่าเค้กของเราคงเป็นฝ่ายชอบพี่คิงปิดก่อนแน่เลย ดูอาการแล้ว
-
:z13: จิ้มพี่เบ้
"อ่านทันแล้ว" อ๊ากกกกกกกกก!!!!
ตาแฉะ เบา เบา เลยทีเดียว :impress2:
มันเป็นความรัก ที่ค่อยๆเริ่มเกิดขึ้นที่ละเล็กๆน้อยๆ :-[
อาจจะดูพัฒนาไปช้า(มากก)แต่ก็เข้าใจพี่เบ้น่ะ :L2:
นอนรอตอนต่อไป o13
-
อิชะนีแก่ แก ทำน้องเค๊กเจ็บมือเหรอยะ
ปล. เยี่ยมค่ะ จงภูมิใจในความจนของตัวเอง
-
:m3: งานเขียนของคุณเบบี้มาอีกแล้ว
:impress2: รอบนี้มาทันภูมิใจมาก (ปกติจะเจอก็ตอนที่ปิดเรื่องไปนานแล้ว)
**--**--**--**--
พี่ฟ้า~ น่ารักอ่ะ ชอบคาแรคเตอร์มากเลยค่ะ คริคริ~
ลุ้นๆ เหมือนว่าพี่คิวจะเริ่มเอนๆ ไปทางเค้กบ้างแล้วนะเนี่ย :-[ อ่านเองเขินเอง
คุณเบบี้มาทำให้ติดนิยายอีกแล้ว :z3: รอบที่แล้วก็อ่านจนไม่เป็นอันไปทำอะไรเลย
:m26: กระซิบบอกเบาๆ อย่าทำให้ลุ้นมากนักนะคะ เดี๋ยวคนอ่านหัวใจหยุดเต้นไปซะก่อน อิอิ
-
ดูเหมือนพี่คิวเริ่มให้ความสนใจเค้กมากขึ้น :impress2:ใช่เปล่าเนี่ย
-
อ่านทันจนได้ 17 ตอน ตาแฉะเลย 555+ ไอ้พี่คิวขี้เก๊ก กวน ปากดี เมื่อไรจะยอมสยบให้กับน้องเค้กผู้น่ารักล่ะเนี่ย
-
ย้อนอ่านอีกทีพี่คิวก็เปิดให้กับเค้กเยอะแล้วนะ เรียกว่าเค้กสามารถพูดคุยด้วยได้ตามสบาย
ไปถึงที่บ้านก็ได้ ยืมหนังดูได้ แถมยังให้เลี้ยงข้าวอีกต่างหาก
ก็เรียกว่าสนิทกันในระดับหนึ่งแล้วอ่ะนะ แต่อยากให้สนิทกันมากกว่านี้อีกเยอะๆๆๆๆๆๆๆ :o8: :-[
-
ตอนนี้ชอบพี่คิวอย่างแรง
-
o13
พี่คิวกับน้องเค้กเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นแล้วเน๊อออ
แถมมีอาฟ้าคอยช่วยเชียร์อีกด้วย
เค้าเชียร์ด้วยๆๆๆๆ
อยากให้ปิ้งๆ กันเร็วๆ จังเลย
-
พี่คิวเริ่มรู้สึกอะไรกับเค้กรึเปล่าเนี่ย
้เป็นห่วงกันขนาดนี้
ปล. อยากกิน(ขนม)เค้กจัง
-
ป้าพวกนั้นนิสัยแย่มาก...แต่ก็คงกลัวเสียหน้าล่ะนะก็เลยเลือกจะโวยเค้กแล้วชิ่งเหมือนตัวเองเป็นผู้เสียหาย เหอะ
-
เริ่มได้กลิ่นความเป็นห่วงและความอบอุ่น...
-
ชอบพี่คิวแฮะ o13
ชอบตอนเค้กกวนพี่คิวด้วย
:pig4:
-
:o8:คิวเริ่มห่วงเค๊กแล้ว อ๊ายยยยยยย :-[น่ารักอะ
-
:sad4: พี่คิวนี่โหดเสมอต้นเสมอปลาย.......
ดูแล้วเค้กจะรับบทหนักอ่ะนะ :a5:
-
เป็นคำที่บาดใจจริง :z2:
-
พี่คิวแกเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนแทนน้องแล้ว
แหม๋ๆๆๆ ห่วงอ่าดิ๊
แต่ทำไมปากหนักจังว้าาา
ฮา !!
ปล ยังอยากจะรู้เรื่องพี่ทิกเกอร์กับพี่ฟ้าแล้วก้อพี่เซ็นกับพี่กัส
โอ๊ยๆๆๆ ชอบจิงๆอ่ะ สองคู่นั้น ....
-
มีพัฒนาการที่ดีขึ้นนะสองคนนี้
แต่จะคบกันได้ไงก็ยังสงสัยอยู่
พี่คิวรักษาฟอร์มได้ดีมากเลยนะ 555
ยัยป้านั่นก็เว่อร์จริงๆ น้องเค้กเจ็บตัวเลย
-
น้องเค้ก...ได้รับสายใยความห่วงใยจากพี่คิวไหมจ๊ะ..
พี่คิวแกเดือดปรี๊ด...แถมฉกน้องเค้กได้ไวมากกก ..
พี่ฟ้า...น่ารักขึ้นทุกวัน...เหมือนเด็กซน ๆ อยากรู้ว่า...
กะทิกเกอร์ จะงุงงิงแค่ไหนหนอออ.... :laugh:
:กอด1: น้องเบบี้ :L1:
+ ให้พี่คิว...หนุ่มซึนผู้โดดเด่น
-
พี่คิวเป็นห่วงเค้กอะดิ
-
ยัยป้าไฮโซ นิสัยอ่ะ หงุดหงิดแทน เค้กนี่คนดีเกิ๊น
คิวฟิวส์ขาดเลยทีเดียว เป็นห่วงเค้กอ่ะสิ หึๆ
พวกผู้หญิงนั่นก็ไม่ไหวนะ ดูรู้เลยจ้องแต่สมบัติชาวบ้านเขา เหอๆ
พูดจามีสาระมากมายอ่ะคิว ปลื้มกันไปเลยทีเดียว
รู้สึกเดี๋ยวนี้กัสน่ารักขึ้นนะเนี่ย เชียร์เซ็นกัสมากขึ้นทุกทีละ
-
พี่คิวดูเปนห่วงเค้ก
เราไม่ได้คิดไปเองช่ายม้ายยยยย
-
ผู้หญิงสมัยนี้นี่นะ --
เป็นพี่คิวก็คงจะเอือม เจอแต่คนแบบนี้มาตลอด
มาเจอคนแบบเค้กคงจะตกหลุมรักเร็วๆนี้ คิคิ ><''
:กอด1:
-
เค๊กน่ารักมากอ่าาา คิวนี่ก็นะ ขยันเก๊กหน้าจริงๆ
-
การเป็นมนุษย์ที่กระวนกระวายดีกว่าการเป็นสุกรที่อิ่มหมีพีมัน เป็นโสเครติสที่ทุรนทุรายดีกว่าเป็นคนโง่ที่แสนสำราญ
กดไลท์++
-
วลีเด็ดของพี่คิว อิอิ
-
สถานการณ์แบบนี้ มันดีจริงๆ :impress2:
ชอบพี่ฟ้าาาาา...
-
เฮ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าบอกว่าคิวก็ชอบเค้กแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน ฮิ้ววววววววว
มันจะไปรู้ตัวกันตอนไหนเนี่ยคู่นี้ คิคิ ค่อยๆรักน้อยๆ เพิ่มขึ้นทุกวัน (เขินนนนนนนน)
ชอบจริงๆที่ดึกแขนไปล้างน้ำ งื้อออออออออ เขาห่วงน้องเค้กอ่า พี่คิวมันห่วงน้องเค้ก!!!!!!!!
-
แหมๆ พี่คิวปรัชญาจริงๆ ซึ้งจนน้ำตาจะไหล :m15: กร๊ากกกกกกกก
-
พี่คิวเท่มาก หล่อ รวย มีสมอง
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
โอ้ววววววววววววววว พี่คิว เอาไป 100 like
โดนสุดๆอะ..จัดเต็มคำเลยนั่น
ปล.พี่คิวตอนนี้น่ารักนะ เป็นห่วงน้องด้วย 555+
-
แหม๊ พี่คิวเริ่มออกอาการเป็นห่วงเป็นใยออกหน้าออกตานะคะ
-
พี่คิวน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
อ๊ากกก เพิ่งได้เข้ามาอ่าน อิอิ
น้องเค้กน่ารักอ่า ยิ่งอ่านยิ่งน่ารัก
พี่คิว...ปิด ชื่อน่ารักมากกกก นิสัยก็น่ารักโดนใจสุดดด
แต่คนรอบตัวพี่ดูลึกลำทั้งนั้นเลยอ่ะ พี่ฟ้าก็น่ารักก
ชอบบบ เรื่องนี้อ่ะ จะรอและติดตามผลงานต่อไปนะคร๊าาาา
-
ใจพี่คิวก็หล่อมากกก :กอด1:
-
แอร๊ยยย พี่คิวน่ารักจริงๆ ตอนนี้ แหมเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเค้กด้วย ชอบตรงที่บอกว่า "จงภูมิใจในความจน" หุหุ รอตอนต่อไปจ้า
-
ป้านั่นต้องทำกระบังลมแน่ๆ
พี่คิวเริ่มชอบเค้กแล้วละสิ รอค่ะรอ
-
ว่าแล้วเชียวพี่ฟ้าแกจะต้องพยายามจับคู่เค้กกับพี่คิวแน่ๆเชียว ฮ่่าๆ แต่เหตุผลดูมึนๆได้อีกนะคะเนี่ยพี่ฟ้า จนบัดนี้พี่คิวก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับน้องเค้กให้เราชุ่มชื่นหัวใจกันบ้างเลย หรือว่าอันที่จริงพี่คิวแกรู้หว่าว่าพี่ฟ้าจ้องจะจับน้องเค้กถวายใส่พานให้อยู่น่ะ พี่คิวอาจจะเป็นพวกยิ่งยุยิ่งทำเฉย แต่ถ้าเฉยก็จะรุก ?? กร๊ากก คิดไปได้ =[]= แต่จะว่าไปก็มีอยู่นิดนึงนะ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนกันด้วย แหมมมม อะไรยังไงคะพี่คิว คู่กัส กับ เซ็นก็ยังคงมีซัมติงอะไรบางอย่างกันต่อไป กัสน่ะชอบพี่เซ็นแน่นอน ส่วนพี่เซ็นก็อาจจะชอบละมั้ง ว่าแต่วันนี้พี่คิวดูมีสาระ ดูน่าเชื่อถือมากเลยนะเนี่ย แหม เล่นปรัชญากันเลยทีเดียว ว่าแต่ปรัชญาของมิลล์ ?? แฟนเก่าพี่คิวเรอะ หรืออะไรยังไง คิคิ รอวันที่ความสัมพันธ์ฺของทั้งสองคนจะคืบหน้าไปในทางที่มันควรจะเป็น (มากกว่านี้) อ๊ายยยย :o8:
-
ไปเที่ยวเชียงใหม่แปีบเดียว ปาไปสามตอน ฮ่าๆๆ
น้องเค้กน่ารัก
เหมือนจะเริ่มมีพัฒนาการแล้วมั้ยคู่นี้
ว่าแต่พี่เซ็นกะกัสคือยังงัย หรือพี่เซ็นมันหยอดๆ แต่เอาจริงก็ดีนะ เชียร์ๆ
-
โอ๊ยยยย เพิ่งตามอ่านทันอ่ะเบบี้ แทบตาย ช่วงนี้ไม่มีเวลา
-
Miss You..... :bye2: :bye2:
-
ตามมาอ่านเรื่องล่าสุดของพี่บี้แล้ววววว น้องเค้กน่ารักมากๆๆๆ เลย :-[
หลังสอบเสร็จมาอ่านต่อน๊าาา :bye2:
-
~18~
ณ บ้านเค้ก..
“ใกล้สอบแล้ว เตรียมสอบรึยังลูก” แม่ถาม
“ก็..เตรียมบ้างแล้วครับ” ผมตอบ เอื้อมแขนเข้าไปกอดเอวของแม่ไว้ด้วยความคิดถึง
“เหนื่อยไหม” แม่ลูบหัวผมเบาๆ
“เค้กเหนื่อยน้อยกว่าแม่เยออออออออะ..” ผมทำเสียง
“หึหึ” แม่หัวเราะ มือลูบหน้า ลูบแก้มผมไปมา ผมรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่แม่ทำแบบนี้ให้ มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นที่ไม่ว่าใครทำให้ก็ไม่เหมือนความรู้สึกนี้
“อ่ะ..ทำการบ้านไปเถอะลูก เดี๋ยวแม่ไปเตรียมกับข้าวก่อน” แม่ตัดบทซะดื้อๆ
“ค้าบ” ผมยิ้ม
“เฮ้อ..” ถอนหายใจ นั่งมองการบ้านที่วางอยู่บนโต๊ะ
~ถ้าจบแล้ว เราจะแกร่งเหมือนแม่ไหมนะ..~
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เตรียมสอบเหรอเค้ก” พี่ซีถาม
“ใช่ครับ” ผมพยักหน้ายิ้มตอบ
“ตั้งใจเรียนจังนะ” พี่ซียิ้ม
“ก็..นะครับ” ผมตอบ ที่จริงผมคิดว่าผมเป็นคนหัวไม่ดีเอาซะเลยแต่ผมพยายามที่จะปกปิดมันโดยการทำอย่างไรก็ได้ให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้ามากกว่าเพื่อนสักสองสามก้าว บุคลิกของผมสามารถยืนอยู่หางแถวได้ซึ่งผมไม่อยากให้ตนเองได้รับความรู้สึกแบบนั้น
“แล้ววันนี้กลับบ้านยังไง ไปกับพี่ฟ้าเหรอ..ให้พี่ไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรครับ เกรงใจน่ะ..คนละทางด้วย” ผมยิ้มแหย
“อืม..ถ้าจะไปก็บอกล่ะ ไม่ต้องเกรงใจ..งั้นพี่ออกไปทำงานก่อนนะ” พี่ซีบอก ผมพยักหน้าก่อนที่พี่ซีจะเดินออกจากห้องไป
วันนี้หลังจากเลิกเรียน ผมรีบตรงมาที่ร้านพี่ฟ้าทันทีเพราะจะมาทำการบ้านให้เสร็จและจะอ่านหนังสือเตรียมสอบก่อนเวลาเข้าเวรนะครับ
“เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ไอ้ตาแมว” ผมเงยหน้ามองพี่หมีที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง และก็ต้องเหลือบมองนาฬิกาที่ข้างฝา มันบอกเวลาที่ผมควรจะเตรียมตัวเข้าเวรได้แล้ว ผมคงนั่งอ่านเพลินจนลืมเวลาไปหน่อย
“อะไรของพี่” ผมขำพี่หมี
“เปล่า” หึ..คนในร้านนี้ชอบพูดปัดด้วยคำว่า “เปล่า” กันจริงๆสินะ ถ้าพูดว่า "เปล่า" เมื่อไหร่ละก็ผมเองก็ไม่อยากถามต่อให้มากความ
“ก็ตาเค้กเป็นสีน้ำตาลนี่ เหมือนแมวที่บ้านพี่เลย” พี่หมีพูดเสริม เดินไปหยิบน้ำที่ตู้เย็นมารินใส่แก้ว
“ไง..สอบเหรอ” พี่หมีเลื่อนเก้าอี้ตัวข้างๆผมแล้วนั่งลง
“ครับ” ผมตอบพร้อมกับเตรียมเก็บหนังสือ
“เป็นเด็กดีกว่าที่คาดแฮะ”
“พี่คาดไว้แบบไหนกันเนี้ย” ผมบ่น หยิบหนังสือทั้งหมดใส่กระเป๋า
“พี่หมี” ผมกับพี่หมีหันไปมองพี่ซีที่เดินหน้าบู้เข้ามา
“ไปรับมือเลย..พี่คิวองค์ลงอีกแล้วอ่ะ” พี่ซีพูดเสียงหลง
“โห แกยังรับไม่ไหว แล้วพี่จะรับไหวไหม” พี่หมีบ่น รีบนำแก้วน้ำไปวางไว้ที่อ่างล้างจานในทันที
“ไม่เคยจะชิน ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยชินสักกะที~” พี่ซีกลอกตาไปมาเหมือนรับกับสถานการณ์ไม่ไหวจริงๆ ผมนำกระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องล็อกเกอร์ เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวเป็นชุดพนักงานพร้อมทำงานเต็มที่
วันนี้ในที่ทำงานบรรยากาศไม่ค่อยดีนัก มีลูกค้าที่ไม่พอใจในรสชาติอาหาร ทำให้พี่คิวที่อาการไม่ค่อยดีอยู่แล้วต้องออกมารับหน้า แน่นอนว่าไม่ใช่อาหารรสชาติที่ไม่ดีแต่ผู้หญิงคนนั้นเรื่องมากโดยส่วนตัวเสียมากกว่า
หลังเลิกงาน พี่ฟ้าเป็นฝ่ายขับรถแทนพี่คิวเพื่อมาส่งผมที่บ้าน ระหว่างทางไม่ค่อยมีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นมากนัก ผมคิดว่าพี่ฟ้าคงไม่อยากทำให้พี่คิวหงุดหงิดไปมากกว่านั่นก็เท่านั้น
= = = = = = = =
วันเสาร์ ณ คิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เป็นไง..อาหารเช้าวันนี้ เริดสมกับที่เป็นเจ้าของร้านเลยใช่ไหมล่า” พี่ฟ้าพูดผายมือพรีเซ้นต์อาหารที่ตัวเองทำ
วันนี้เป็นวันที่ผมต้องมาทำงานแต่เช้า ผมมาถึงที่นี่ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า พี่ฟ้าไม่รู้คึกอะไรขึ้นมา เตรียมอาหารเช้าไว้ให้พวกผมเต็มโต๊ะไปหมด ผมชักรู้สึกว่าตัวเองโชคดีขึ้นมากกว่าเดิมอีกที่เดี๋ยวนี้ได้กินอาหารแพงๆเลิศรสบ่อยครั้ง
“เป็นอะไรของบอส” พี่หมีส่ายหัวแกมบ่นแต่ก็ตักแซลมอลเข้าปากตัวเอง
“เป็นคนมีความสุข” พี่ฟ้ายิ้มกว้าง ปรบมือเข้าหากันอย่างกับเด็ก
“นี่..” พี่ฟ้าชูบัตรอะไรสักอย่างขึ้น
“ไรอ่ะอา” พี่เซ็นถาม
“บัตรดิสนีย์ไลฟ์” พี่ฟ้ายิ้ม เลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามกับผม
“มีทั้งหมดแปดใบพอดีเป๊ะ..น่าสนใช่ไหมล่ะ” พี่ฟ้ายักคิ้วมองหน้าผม
“เซ็นไม่ใช่ไอ้คิวนะ” พี่เซ็นทำหน้าเอือม
“ดิสนีย์ไลฟ์!” ผมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“นี่ไง เด็กน้อยผู้น่ารัก” พี่ฟ้ายิ้มกว้างพร้อมกับกอดผมเข้าไป
“เฮ้อ ขอบคุณสวรรค์ที่ยังมีคนอย่างเค้กอยู่บนโลก” พี่ฟ้าพร่ำไม่หยุด ผมได้แต่หัวเราะปล่อยให้พี่ฟ้ากอดอยู่อย่างนั้น
“พี่ตัดสินใจแล้วว่าจะปิดร้านเลย..ไปดูกันให้หมดทุกคน เลี้ยงข้าวเย็นด้วย” พี่ฟ้าพูดบอก
“เย้..” ผมกับพี่ซีชูมือด้วยความดีใจ ผมอยากไปดูมากๆแต่ค่าบัตรแพงจะตายชัก
“ให้ทาย..โดนพี่คิวว่ามาก่อนหน้านี้แน่นอน” พี่หมีพูดด้วยสีหน้าเอือมๆ
“...............” พี่ฟ้าหุบปาก ทำหน้าหงอยลงทันที สงสัยที่พี่หมีพูดคงเป็นเรื่องจริง
“ไอ้หลานบ้านั่น บอกว่า..ปัญญาอ่อนอ่ะ” พี่ฟ้าเล่า
“หึหึ” พี่เซ็นกับพี่หมีหัวเราะ
“ปัญญาอ่อนอะไร นี่ก็เหมือนเป็นการเอ็นเตอร์เทนพนักงานในร้านอย่างหนึ่ง นานๆไปที..ทำงานก็ต้องมีรีแลกซ์กันบ้างซิ อีกอย่าง..ตัวเองก็ชอบดูด้วยแท้ๆ ยังจะมาว่าว่าปัญญาอ่อนอีก ที่จริงในใจอยากไปจะตายน่ะสิไม่ว่า” พี่ฟ้าเบะปากพูด
“ฟังดูทะแม่งๆนะครับ” ผมพูดด้วยรู้สึกขัดหู
“มีแต่หัวหน้างานชอบให้ลูกน้องทำงานหนักๆ นี่พี่มาแปลกแบบนี้ก็สมควรโดนพี่คิวว่าแล้วละครับ” ผมบอก
“เค้ก!” พี่ฟ้ากระแทกเสียงอย่างงอนๆ
“คร้าบ ขอโทษ” ผมยิ้มทีเล่นทีจริงให้
“แล้วไปวันที่เท่าไหร่เหรอคะอา” พี่ซีถาม
“วันที่ยี่สิบเอ็ด วันแรกเลย..เป็นไง เส้นใหญ่ปะล่ะ” พี่ฟ้ายักคิ้ว
“นี่บัตรได้มาฟรีรึเปล่า” พี่เซ็นถาม
“ก็..นิดหน่อย” พี่ฟ้ายักไหล่ ทำท่าเหมือนโดนจับไต๋ได้
“ก็คุณหญิงคุณนายเค้าเอามาให้ ก็รับๆมา..ไม่ให้เสียมารยาท” พี่ฟ้าปัดมือไปมา
“โถ่~” พวกผมโห่
“อารายครับคุณพนักงาน” พี่ฟ้าพูดน้ำเสียงยานคางและทำหน้างอใส่
“ไอ้เราก็นึกว่าลงทุนไปซื้อมาเลี้ยง” พี่หมีว่า
“ก็เดี๋ยวเลี้ยงข้าวเย็นนี่ไง เออ..หมีกับซีเดี๋ยวพี่มีเรื่องจะคุยด้วยนะ ตามไปที่ห้องด้วยล่ะ” พี่ฟ้าพูดเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“เออ พี่ฟ้าครับ..วันที่ยี่สิบเอ็ด เค้กเกรงว่าจะไปไม่ได้” ผมพูดตะกุกตะกักด้วยรู้สึกผิดหวังขึ้นมา เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนั้นเป็นวันเกิดของตัวเอง อยากไปดูดิสนีย์ไลฟ์นะอยากไปมากอยู่แล้วละครับเพราะเป็นของชอบของผมเลย แถมยังไม่เคยได้ดูการแสดงสดๆแบบนี้กับคนอื่นเขาสักครั้ง แต่ที่จริงก็อยากอยู่กับคนที่บ้านด้วยเหมือนกัน
“ทำไมล่ะ ไปเถอะนะ..นะๆ” พี่ฟ้าทำหน้าอ้อน
“นะครับเค้ก เค้กไม่ไป..พี่ก็เฉาพอดี อะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นพี่ไม่ได้อยากดูหรอกนะ” พี่เซ็นพูดอีก
“แต่..” ผมอ้ำอึ้ง
“ไปนั่นแหละ โอเคนะครับ..เดี๋ยวพี่โทรไปขอแม่ให้” พี่ฟ้ายิ้มแล้วเดินออกจากห้องไป พี่หมีกับพี่ซีลุกขึ้นเดินตามไปด้วย
“มีอะไรรึเปล่าครับ” พี่เซ็นถาม
“เปล่าครับ” ผมรีบตอบ เกรงใจและไม่อยากให้พี่ๆเขาไม่สบายใจ
“อืมมม..เย็นนี้ให้พี่ไปส่งนะ” พี่เซ็นขยับก้นจากเก้าอี้ของตัวเองมานั่งเก้าอี้ตัวของพี่หมีที่อยู่ข้างๆผมในทันที
“พี่ฟ้าจะไปส่งเค้กน่ะครับ” ผมยิ้มแหยตอบ
“เค้กครับ ให้พี่ไปส่งเหอะน้า” พี่เซ็นวางแขนลงบนโต๊ะแล้วเอาหน้าซบลงที่แขนตัวเอง ทำให้ตอนนี้หน้าของพี่เซ็นห่างจากผมไม่เท่าไหร่นัก
“แล้วพี่ไม่ต้องกลับพร้อมกับพี่ซีรึไงครับ”
“เดี๋ยวซีให้ไอ้หมีไปส่ง”
“ไม่ได้หรอกครับ พี่อย่าทำให้ผมลำบากใจสิ” ผมบอก
“โห..ตรงอ่ะ” พี่เซ็นว่าเสียงหลง ผมยิ้มให้
“แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ไปกินข้าวกุ๊กกิ๊กงุ้งงิ้งกันบ้างล่ะ” พี่เซ็นทำเสียงทะเล้น ท่าทีทะเล้นของพี่เซ็นที่ผมดูออกว่าพี่เขาไม่ได้จริงจังกับสิ่งที่ทำต่อผมหรอกครับ
“พี่แน่ใจเหรอครับว่าพี่ชอบเค้กน่ะ ไม่ใช่เจ้าชู้ไปเรื่อย” ผมว่า
“หึ..เจ้าชู้ก็ส่วนเจ้าชู้ดิ คนเราก็ต้องบริหารเสน่ห์กันบ้างอะไรบ้าง”
“แต่จีบก็ส่วนจีบสิครับ”
“เค้กอนุญาตให้พี่จีบเมื่อไหร่กันครับ” ผมหัวเราะ
“อีกอย่าง..เค้กว่า เค้กไม่ใช่สเป็กพี่หรอกมั้งครับ” ผมพูดบอก
“รู้ได้ไง เค้กน่ะสเป็กพี่เลยล่ะ” พี่เซ็นมองเจ้าเล่ห์ ผมหลบสายตาเพราะรู้สึกเขินขึ้นมา
“เค้กหมายถึงนิสัยน่ะ” ผมพูดลอยๆ
“อะไร..” พี่เซ็นถาม
“ก็..แล้วแต่พี่จะคิด” ผมบอก ถ้าอะไรๆเป็นไปอย่างที่ผมคิดไว้ หรืออาจจะไม่ใช่ก็แล้วแต่ มันก็แค่อะไรที่ผมยังรู้สึกแปลกและสงสัยอยู่ในใจก็เท่านั้นเอง
“มีลับลมคมในนะเรา มันทำให้รู้สึกหมันเขี้ยวน่ะรู้ไหมครับ” พี่เซ็นพูดบ่นๆแต่ก็ไม่ตอบโต้อะไรอีก พี่เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เหมือนยอมความต่อผม
“หึ..ครับ” ผมหัวเราะ
= = = = = = = =
วันสอบ..ครั้งที่ 3
“โอ้ย..จะตายๆๆๆ” พีทบ่น เอนหัวมาซบไหล่ผมด้วย
“กูจะตายก่อนมึงอีก เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อด้วย” ผมบอก วันนี้สอบเสร็จวิชาที่สามเรียบร้อยแล้ว ผมออกมานั่งรอหน้าห้องสอบได้สิบห้านาที พีทก็ออกตามมาติดๆ วันนี้ผมมีงานต้องทำที่ร้านคิวปิดต่ออีกด้วย
“ไอ้ข้อห้า ที่ถามว่าเศรษฐกิจโลกหมุนไป ห่าเหวอะไรนั่นน่ะ..มึงตอบไรวะ” พีทพูดเสียงยานคางเหมือนคนไม่มีแรง
“จำไม่ได้” ผมตอบเพราะจำไม่ได้จริงๆ
“เฮ้อ..ตายแน่กู” พีทบ่นไม่เลิก
“หึ มึงเพิ่งมาอ่านใกล้สอบทำไมล่ะ” ผมว่า
“ครับ พ่อเด็กทุน”
“ให้กูไปส่งที่ร้านไหม”
“มึงไหวไหมล่ะ” ผมถามกลับ
“ได้อยู่แล้ว” พีทยิ้ม
“ฮื้อออออ..” แก้วทำหน้าบู้บี้เดินออกมาจากห้องสอบ
“หึ..เออยู่แล้วล่ะน่า” ผมลุกขึ้นกอดไหล่แก้ว
“ทำไมออกกันมาเร็วจัง เราเลยต้องรีบทำเลยอ่ะ..มันเกร็ง” แก้วบ่น ยื่นถุงผ้าของตัวเองเหมือนบอกให้พีทเป็นคนถือให้
“เอาน่า..มันผ่านไปแล้ว ไปกันเหอะ..แล้วกลับยังไง” ผมถาม
“พีทไปส่ง” แก้วตอบทันที
“พีทบอกเมื่อไหร่ครับ” พีทยิ้มถามกลับ สะพายกระเป๋าเดินตามผมกับแก้วมา
“ส่งหลายคนเลยแฮะวันนี้ เป็นคนใช้พวกคุณไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี้ย” พีทประชด
“แล้วจะเอาไหม..เก็งข้อสอบภาษาอังกฤษน่ะ เดี๋ยวก็ไม่ส่งให้ซะเลยหนิ” แก้วค้อน
“โหย แก้วอยากเห็นเราตายต่อหน้าต่อตาเหรอ” พีทพูดทำเอาพวกผมขำ หน้าตาเพลย์บอยอย่างมันแต่มีนิสัยตั้งใจเรียนในระดับขนาดนี้ก็ถือว่าขัดกับหน้าตาพอดูเหมือนกันนะครับ พวกเราแลกเปลี่ยนน้ำลายกันเรื่องข้อสอบอยู่พักหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น หลังจากนั้นพีทขับรถมาส่งผมที่ร้านของพี่ฟ้าก่อนที่จะไปส่งแก้วต่อ..
“หวัดดีครับ” ผมพูดทักพี่คิว
“ดี” พี่คิวตอบส่งๆ ผมยืนมองรถมินิคูเปอร์สี่แดงที่เพิ่งเห็นพี่คิวเอารถคันนี้มาที่ร้านเป็นครั้งแรก
“มองไร” พี่คิวถามคิ้วขมวด เดินควงกุญแจรถกำลังจะเข้าร้าน
“ก็แค่ไม่เคยเห็น รถคนรวยใกล้ๆ” ผมยักไหล่กวน
“หึ..” พี่คิวหัวเราะก่อนจะเดินนำไปเป็นฝ่ายเปิดประตูหลังร้านเข้าไปก่อน
“กัส!”
“พี่กัส!” ผมกับพี่คิวเรียกแทบจะพร้อมกัน
“อ..อะไรครับ” พี่กัสชะงัก ถามด้วยสีหน้าหวาดระแวง
“สเมิร์ฟส์~” ผมกับพี่คิวพุ่งเข้าไปหาโปรชัวร์ในมือของพี่กัสทันที
“ขอดูหน่อย” พี่คิวพูดด้วยหน้าตาโหดแกมบังคับพี่กัส พี่กัสจึงรีบยื่นโปรชัวร์ให้อย่างง่ายดาย
“วันนี้ไม่ใช่เวรของพี่กัสไม่ใช่เหรอครับ” ผมถาม เหลือบมองของในมือพี่คิวเป็นระยะๆ
“อ๋อ พี่ออฟขอให้พี่มาแทนน่ะ...พี่ออฟมีสอบ” พี่กัสยิ้มตอบ
“กัสก็นึกว่าอะไร ทำหน้าซะตื่นกันเชียว ตกใจหมด” พี่กัสส่ายหัวบ่น
“ขอนะ” พี่คิวบอก ตายังคงมองแผ่นโปรชัวร์สเมิร์ฟส์นั่น
“คร้าบ” พี่กัสตอบก่อนจะเดินไปทางหน้าร้าน
“อ่ะ..เอ่อ” ผมมองที่แผ่นนั่นเพราะอยากจะขอดูบ้าง
“ของฉัน” พี่คิวพูดดักในทันที
“ครับ ผมก็รู้แล้วว่าเป็นของพี่..ก็พี่แย่งไปก่อนหนิ” ผมว่าด้วยรู้สึกหงุดหงิดกับนิสัยเอาแต่ใจของผู้ชายคนนี้
“ช่วยไม่ได้ ฉันเป็นเชฟนะ นายเป็นแค่ลูกจ้าง” พี่คิวเอาโปรชัวร์มาตีหัวผมอีก
“พี่ก็ลูกจ้างเหมือนกันแหละ” ผมว่า
“ลูกจ้างเงินเดือนแพง” พี่คิวยักคิ้วยิ้มกวน
“ไอ้..” ผมกัดฟันห้ามคำพูดของตัวเองไว้ก่อน เพราะถ้าเถียงไปยังไงผมก็ต้องเป็นผ่ายที่พ่ายแพ้อยู่ดี
“เข้าวันที่สิบสาม เหมือนจะเลื่อนวันแฮะ..น่าจะได้บัตรในไม่ช้า” พี่คิวพูดอวด ทำหน้าเชิดไปมาอย่างน่าหมันไส้ ผมได้แต่หุบปากเงียบ อยากเถียง แต่อย่างว่า..คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด ชิ!
“หน้านายเหมือนอยากดูมากเลยนะ” พี่คิวหันมาพูดบอกผม สายตากวาดมองผมด้วยสายตาดูถูกบวกเย้ยหยันซะไม่มี
“ก็คงไม่ได้น้อยไปกว่าพี่หรอกครับ มีความสุขมากไหมเนี้ย..แกล้งคนอื่นอยู่ได้ บ้า” ผมว่าพร้อมกับเดินหนีเข้าห้องพักพนักงานมาในทันที
"ชิ ไอ้เชฟบ้า" ผมบ่นงุบงิบคนเดียว
แกรก~~
“นี่..” ผมชะงักหันกลับไปมองที่ประตู และก็ต้องทำตาขวางใส่อีกฝ่ายเป็นการขู่คู่ต่อสู้ไว้ก่อน
“ก็ถ้าอยากจะดู วันที่สิบสามก็ทำตัวให้ว่างไว้ซะล่ะ” พี่คิวบอกโต้งๆ
“จริงนะ!” ผมยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่านี่เป็นการพูดล้อเล่นหรือเปล่าแต่ผมดีใจตัวแทบจะกระโดดได้อยู่แล้วละครับ
“แน่นอนว่า..นายจะต้องเลี้ยงข้าวฉันแทนค่าตั๋วหนัง” พี่คิวพูดจบก็ทำหน้าทำตาประหลาดใส่ผม ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
“หึ..เชฟประสาท” ผมหัวเราะ ขำหน้าตาของพี่เขาเมื่อกี้จริงๆ บางมุมก็ช่างจะทำจนอดหัวเราะไม่ได้สินะครับ
"เมื่อกี้พี่เค้าพูดจริงสินะ" ผมพึมพำกับตัวเอง
...................>>>><<<<..................
-
เค้กกับคิืวน่ารักมากๆเลย ดูจากท่าทางแล้วทั้งคู่คงชอบสเมิร์ฟส์กันสุดๆ
ขนาดคิวผู้แสนสงบเงียบและเยือกเย็นยังกระโดดเข้าตะคุบทันทีที่ได้เห็นกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ
ฮันแน่มีการแอบนัดกันไปดูหนังด้วย แบบนี้เขาเรียกว่าเดตหรือหรือเปล่าเอย >///<
คิวนี้สงสัยจะชวนดีๆไม่เป็น ซึนจริงๆ ฮุฮุฮุ แถมยังมีการบอกว่า
"นายจะต้องเลี้ยงข้าวฉันแทนค่าตั๋วหนัง" คู่นี้เริ่มหวานกันแล้ว แบบเปรี้ยวอมหวาน
+เป็ดกิ๊บก๊าบ ให้กับความน่ารักของคู่นี้
:L2:
-
ชอบตอนที่เค้กกับคิวอยู่ด้วยกันจริงๆ
พี่คิวแอบใจดี
:pig4:
ป.ล. เริดรส คิดว่าน่าจะเป็น เลิศรส นะ
-
โหยยยยยย พี่คิวอยากไปกับเค้กก็บอกเหอะ
-
พี่คิวก็มีมุมเด๊กเด็กเนอะ :laugh:
-
:impress3: เดทกันป่าววววววว
-
คิวอยากไปกับเค้กหล่ะสิ
แอบหวานนะสองคนนี้ จะไปเดทกันอีกแล้ว
-
เจ้เขียนแนวเรื่องนี้สบายๆได้น่ารักดีจัง
แบบเฮียเมตรกับสลิ่มโน่นก็ตาต่อตาฟันต่อฟันได้สนุกมาก
แล้วกับพี่ต้าโน้นอีก ชอบๆเถื่อนๆดีมาก
สรุบชอบทุกเรื่องที่เจ้เขียน
-
คิวนี้เหมือนจะมีความสุขที่ได้แกล้งเค้กจริงๆนะ
-
อื้อหือพี่คิว เห็นสเมิร์ฟแล้วพุ่งเข้าใส่เลยนะ
ความชอบไม่เข้ากะนิสัยจริงๆอ่ะ :laugh:
-
แหม ช่วงนี้พี่คิวกับน้องเค๊กไปด้วยกันบ่อยนะ อิอิ
:L2:
-
ช่วงแรกมาอย่างอึมครึม แต่ช่วงหลังพี่คิวกับเค้กน่ารักมาอ่ะ ฮิ้ววว
จะไปเดทสองต่อสองอีกแล้ว เหมือนความสัมพันธ์มันพัฒนาเรื่อยๆเลยน้า :-[
-
เค้กกะคิว น่ารักขึ้นเรื่อยๆเลย
-
คิวน่ารักอ่ะ :z2:
-
ขี้เก็ก กวนทีน แต่ก็แอบใจดีนะคะ
นายคิวปิด :กอด1:
-
เริ่มจะเข้าใจกัน :laugh:
+1
-
ชอบอะไรเหมือนกัน แบบนี้ ก็เข้าทางเลยสิ
-
เค้กกับคิวน่ารักอ่ะ :-[
:L2: :L2:
-
:o8:
กุ๊กกิ๊ก งุๆ งิๆ กันแบบว่า น่ารักเนอะ 55555+ ( ภาษาไรว่ะ)
เริ่มพัฒนาไปเรื่อๆแหละ
+1 กดเป็ด
-
พี่คิวเริ่มจะเอ็นดูน้องเค้กมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
-
พี่คิวเริ่มมีมุมน่ารัก :o8:
รออ่านเมตรกับน้องหลิม :-[
-
พี่คิวชอบดิสนีย์กะสเมิร์ฟส์หรอเนี่ย ค่อยๆเผยมุมอ่อนโยนมากขึ้นๆเเระ ที่สำคัญเริ่มสนิทกะน้องเค้กมากขึ้นด้วย
พี่ฟ้าก็น่ารักมากเลย เป็นนายจ้างที่เอาใจใส่ลูกน้องมากๆๆ ได้ทำงานกับคนแบบนี้โชคดีจริงๆ :กอด1:
พี่เซ็นก็เหมือนจะไม่รู้ใจตัวเอง - -
รออ่านตอนพิเศษชุลมุนวุ่นรักกะเมตรสลิ่มนะค๊า ^^
-
คิวน่ารักขึ้นตั้งเยอะ 555555555555555
แล้วก็กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดังๆ รอตอนพิเศษเมตรสลิ่ม ชุลมุนวุ่นรัก จะรอนะคะ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ว้าวๆ นี่ันชวนไปเดทแบบเนียนๆเลยนะคะเนี่ยพี่คิว กิ้วๆน่ารักจังเลย ^^
-
:o8: :o8: :o8:
-
อัยยะ เริ่ม มีกุ๊กกิ๊กๆ งุ้งงิ้งกันซะที
เมื่อไหร่จะรักกันเนี่ย จะยี่สิบตอนแล้ว ฮ่าฮ่า
ลุ้นมายาวนาน 5555
-
น่ารัก จะไปดูหนังด้วยกันอีกแล้ว
เมตรสลิ่มจะมาต่อ กี๊ดดดดดดดดดดด
-
พี่ฟ้านี่นับวันยิ่งน่ารักนะ ดูนิสัยสิ คิคิคิ เหมือนกลายเป็นพี่สาวของน้องเค้กไปแล้ว กร๊ากกก
ชอบอะไรที่เด็กๆเค้าชอบกันอีกด้วยแหนะ เค้กนี่รู้ทันพี่เซ็นด้วยเหรอเนี่ย ท่าทางเค้กคงจะเดาออกแำหละ
ว่าคนที่พี่เซ็นชอบคือกัส ก็อ่านะใครๆเค้าก็มองออกกันทั้งนั้น เพียงแต่ด้านความทะเล้น ความเจ้าชู้ของพี่แก
มันบดบังเอาไว้ ฮาาา เค้กกับพี่คิวดูเหมือนจะชอบสเมิร์ฟส์เอามากๆเลย เห็นแค่โบชัวร์ยังแทบจะพุ่งเข้าใส่เสียให้ได้
จะว่าไปพี่คิวแผนป่ะเนี่ย แอบเนียนนะ มีมาชวนน้องเค้กไปดูด้วยกันด้วยนะนั่น อะไรยังไงคะ ชัดเจนหน่อยพี่คิว
ระวังชักช้าแล้วจะไม่ทันการณ์ คึึคึ ไปดูหนังกันสองคน ไม่ต่างกับไปเดทเลยนะเนี่ย ฮ่าๆ
-
พี่คิวกับน้องเค้กนี่ชอบอะไรคล้ายๆ กันเน๊อะ
เมื่อไหร่จะรักกันซ๊าที ลุ้นๆ ค่ะ
พี่เซนก็หยอดน้องเค้กตลอด
แต่ตอนนี้เราเป็นอาฟ้าเอฟซีแล้วอ่ะ อาฟ้าน่ารักมากกก :mc4:
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: พี่คิวน่ารักจัง รออ่านตอนพิเศษชุลมุนวุ่นรักค่ะ น่ารักมากๆ แรวก้อจารอพี่เมตรกะสลิ่มด้วย ช่วงนี้สอบเอน พอดี คงอ่านหนังสือสอบด้วย ถ้าสอบเสดจามาหาพี่เบบี้ ก่อนเลยให้หายคิดถึง o13 o13 o13
-
รู้สึกดีๆแล้วอ่ะดิ อิอิ
-
ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัมนาความสัมพันธ์ใช่ม่ะ
แบบว่าทำไมยังเหมือนแค่คนรู้จักกันเองอ่า ...... งื้ออออออ
.
.
.
.
หรือว่าพี่คิวจะไม่ใช่พระเอก!!!!!! :a5:
-
เค้กขยันนะ สอบแท้ๆ ยังไม่หยุดงานเลย
-
โหดๆ อย่างคิวนี่ชอบดูการ์ตูนด้วยอ่ะ
อย่างนี้ก็เข้ากับน้องเค้กได้สบายเลย 5555
-
อร๊ายยยยยยยยยย
พี่คิว น้องเค้ก น่ารักเว่อออออออออออออออ
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
:impress2: :impress2: :impress2:
-
เค้กน่ารักอ่ะ... :impress2:
อีตาพี่คิวก็ขี้แกล้งน้อง...แถมหน้าตาไม่ให้เลยว่าชอบสเมิร์ฟส์ คึคึ
เค้าจาไปเดทกันอีกแว้ววววว
-
ทำไมรู้สึกพี่คิวมันน่ารักอ่ะ เง้อ พี่คิวกับเค้กนี่ชอบอะไรคล้ายๆกันเลย คบกันท่าจะดีเนอะ(แต่คงมีปัญหาที่พี่คิวกวนตีนฮ่าๆ)
-
หวายๆ พีคิจะแอบไปเดทกับเค้กสองต่อสองอีกเเล้ว เค้ารุ้ทันนะ
-
วันเกิดน้องเค้ก มีซัมติงแน่ๆ หึหึ
-
ก็พี่คิว, ปากร้ายใจดีี่นี่เนอะ!
น้องเค้่กหวั่นไหวๆ ลุ้นๆ อยากรู้ว่าจะรักกันยังไง อยากอ่านตอนหวานๆ
:-[
-
:กอด1: :กอด1:
-
คู่นี้มันเด็กจริงๆ :-[
-
พี่คิวมีแผนแน่ๆๆๆ อยากอยู่กับน้อง 2 ต่อ 2 แน่ๆๆ อิอิอิ
-
น่ารัก :impress2:
-
ทั้งเค้กทั้งพี่คิวชอบเหมือนกันเลย
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ :กอด1:
เค้กคิว ชักจะ... :impress2: (ใครไม่คิด คนอ่านคิดนะเออ... )
-
อร๊ายย มีชวนกันไปเดตด้วยยย
อั๊ยย่ะๆๆๆๆ
-
ออ ลืมบอกไป วันนี้พึ่งไปกินเค้กมาา อร๊ายย
อร่อยมากกก
เค้กของที่นี้ก็คงหวานนุ่มไม่แพ้กันสินะ
(คิดไปไกล)
-
คิวเค้กเข้ากันได้เรื่องการ์ตูนน่ารักโนะเนะนะเนี่ย 555
เดี๋ยวก็รักกัน
-
พักสายตาอ่านหนังสือสอบก่อน
พี่คิวแอบหวานนะ อร๊างงงงง :-[
-
พี่คิวก็แกล้งน้องเค้กตลอดด น้องเค้กจะน้อยหน้าก็ใช่ที่ กวนกลับทุกเม็ด..ยกเว้นสุดๆจริงๆ อิอิอิ
พี่เซ็นขาา อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้น้าา ว่าพี่มีอะไนในใจอ่า ฮ่าาาาา
-
พี่คิวเนียนนะคะ หึหึหึ
เดาความคิดไม่ออกเลยง่า คิดยังไงกะเค้กน้า
-
คิวนี่ชอบแกล้งเค้กจริง 55 น่ารัก
-
พี่คิวจะทำเค้กอร่อยๆ ให้น้องเค้กกินตอนวันเกิดไหมหนอ ฝันๆๆๆ >''<
บวกกกกกกบี้
-
จะไปเดทกันอีกรอบแล้วววววว
-
แน๊ะ :z1: คู่นี้เค้ามีนัดเดทกันอีกแล้ว
ใจเค้าตรงกันหลายเรื่องเลยทเดียว หึหึ
-
ว๊าวววว พี่คิวน่ารักอ่ะ กรี๊ดดดด อิจฉาเค้กกกก
-
พี่คิวกับเค้กถึงจะต่างกัน แต่ชอบอะไรเหมือนๆกันหลายอย่างนะเนี่ย :o8:
อร้ายยยย มีนัดกันไปดูหนังด้วย
-
:-[ :-[ ตอนหน้าเค้าจะสวีทกันอีกแล้ววช่ายมะ
จะได้เตรียมกรี๊ดดดดล่วงหน้าอะบี้ อิอิ
-
พี่คิวปัญญาอ่อน มาก
-
:m3: อยากไปดูบ้าง
อยากอ่านตอนหน้าหวานๆ จัง :-[
-
อุ๊ยยยยย แหมมมมมมม สเมิร์ฟส์สื่อรักรึป่าวคะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
พี่คิวใจอ่อนอ่าดี๊ น้องเค้กเคืองน่ารักใช่มั้ยล่าาาาาา ฮิ้วววววววว
สังเกตมั้ยว่าพี่เซ็นชวนทีไร เค้กไม่เคยไปสักที แต่กับพี่คิวนี่แทบไม่คิด กร๊าก
ไม่ได้แซวน้องเค้กนะ เค้าเข้าใจว่าพี่เซ็นรุกชัดเจนเลยกลัวใช่มั้ยละ แต่ก็นะ... กับพี่คิวน่ะ คึคึ
รอลุ้นดิสนี่ย์ไลฟ์ในวันเกิดน้องเค้กนะ :impress2:
-
ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ๆ
อีกหน่อยเถอะ .......
+1 ให้เบบี้ เช่นเคยครับ :z2:
-
พี่คิวนี่ขี้เก็กนะ อิอิ
-
มันคือการนัดเดทใช่ป่ะ XD
-
น่ารักมากเลยอ่ะเรื่องนี้ อ่านไปอมยิ้มไป อร๊างงมากมาย ><
-
คิวนี่ฟอร์มเยอะนะจ๊ะ :laugh:
:pig4: คะ
-
เริ่มจะมีหวังมากขึ้นและลุ้นกันต่อไป ขอบคุณน้องเบบี๋มาก :pig4:
-
พี่คิวชอบแขวะเค้กว่ะ 5555
ตกลงอิพี่เซ็นนี้มันจะจีบเค้กจริงๆใช่ไหม?
หยอดบ่อยเหลือเกิน!
-
เด็กหน๋อเด็ก เฮ้อออออออ แต่........
เห้ยยยยย น่ารักว่ะ โอ้วววววววววว
ชอบไรเหมือน ๆ กัน ได้อีกอะความน่ารัก
เค้กคิวปิด (อยากกินอะ)
o13 o13 o13
-
พี่คิวนิสัยเด็กกว่าที่คิดนะเนี่ยะๆๆๆ
-
ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็เห็นมุมเด็กน้อยของพี่คิวแล้ว
สเมิร์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ปล. ชวนไปดูหนังนี่เรียกชวนเดทแบบเนียนๆป่าวน้อ :haun5:
-
คิวปิดแอบปัญญาอ่อน ฮ่าๆๆ
สองคนนี้เค้ารักกันรึยัง? พี่คิวดูอ่อนโยนกับเค้กอ่ะ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
-
เค้กคิว...
ดูหนังกันนะ :m3:
-
พี่คิวยังคงความกวนได้ตลอดสิน่า
แต่ก็แอบน่ารักนะ..นัดวันเวลาซะเรียบร้อยเลย
ว่าแต่พี่เซ็นนี่ทะแม่งทะแม่งเนอะ..ฮ่าๆๆๆ
ปล.เมตร สลิ่ม จะมาแล้วๆๆๆๆ เค้าคิดถึงม๊ากกกกกกกกก..ฮ่าๆๆๆ
-
~19~
ณ มหาวิทยาลัย Y
“เย้ๆ..สอบเสร็จสักที” แก้วชูมือขึ้นทั้งสองมือด้วยความดีใจ
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจพร้อมกับงอตัวลงอย่างอัตโนมัติ ความรู้สึกแบบนี้มีมาตั้งแต่เด็ก เกร็งเมื่อสอบและหายเกร็งเมื่อสอบเสร็จ
“เฮ้อออออออ เอาเข้” พีทถอนหายใจยาวกว่าผมสองเท่าทำให้ผมแทบขำ คำสบถหยาบๆพวกนั้นออกมาจากปากพีทจนผมรู้สึกชินซะแล้วละครับ
“ทำไมทำหน้ากันแบบนี้ สอบเสร็จทั้งทีนะ” แก้วยิ้มพูด
“ก็แก้วทำได้หนิ” พีทว่า
“ส่วนเรา..ดีใจจัง ได้ทำงานให้เต็มที่ ได้ไปดูหนัง ได้พักผ่อนตั้งสองอาทิตย์แน่ะ” ผมยิ้มอวดบ้าง
“อ่าว แล้วเมื่อกี้ถอนหายใจทำไม” แก้วว่าหน้าหงิก
“ก็โล่งสักทีไง คึคึ” ผมยิ้ม
“คืนนี้จัดยาวดีกว่ากู”
“นั่นไง กูเดาผิดเมื่อไหร่” ผมหันไปเหล่ใส่พีท
“น่า..ก็ต้องมีบ้างไรบ้าง”
“วันนี้มีทำงานเปล่า ให้กูไปส่งไหม..แก้วล่ะกลับบ้านยังไง” พีทถาม
“กูว่าจะไปเซ็นทรัลก่อน ตาวรออยู่ที่นั่นน่ะ..จะไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน” ผมบอก
“เดี๋ยวแก้วไปกับพลอย ไปนั่งที่ห้องสมุดน่ะ..วันนี้ตอนเย็นพ่อจะมารับ” แก้วบอก
“อืม..โอเค” พีทพยักหน้า
“งั้นเราไปนะ กูไปนะ” ผมโบกมือให้เพื่อนรักทั้งสองคน
“โชคดี”
~เฮ้อ..เสร็จสักที ^_^~
= = = = = = = =
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ขยันกันจังเลยนะ อย่างนี้สงสัยต้องให้โบนัสพิเศษแล้วละมั้ง” พี่ฟ้าแซวผมกับพี่ซีที่มาทำงานตั้งแต่เช้า ทั้งทั้งที่วันนี้มีเวรเข้าบ่ายโมงด้วยกันทั้งคู่
“ดีเลย” ผมกับพี่ซีพูดพร้อมกันอย่างรู้สึกเห็นด้วยกับพี่ฟ้า
“หน้าเงินจริง เด็กพวกนี้” พี่ฟ้าทำหน้าเข้มใส่
“อาของซีน่ารักอยู่แล้ว” พี่ซีเข้าไปกอดเอวพี่ฟ้าไว้ พี่ฟ้ากอดตอบและหัวเราะอย่างเอ็นดู ผมสังเกตได้หลายครั้งว่าพวกพี่ซีกับพี่ฟ้าเขาสนิทกันมากจริงๆเลยนะครับ
“ซีอ่านะ อยากไปฝรั่งเศสอีกแหละ ไปกันเหอะนะคะอา ปีใหม่นี้” พี่ซีคลอเคลียพี่ฟ้าพร้อมกับทำตากระพริบให้
“อืม คิดดูก่อน” พี่ฟ้าตอบ
“อาอ่ะ ไม่รู้ล่ะ ซีบอกคุณแม่ไปแล้ว”
“อย่าเอาแต่ใจเหมือนพี่ชายตัวเองสิ” พี่ฟ้าว่า ทำให้ผมหัวเราะ
“ก็ไปดูสาขาอาที่ฝรั่งเศสด้วยไงคะ ทำงานด้วย ไปเที่ยวด้วยไง” พี่ซียังคงอ้อนไม่หยุด
“อ้าง..” พี่ฟ้าว่าพร้อมกับดีดนิ้วลงที่หน้าผากพี่ซี
“อาอ่ะ ไม่น่ารักแล้ว” พี่ซีจับหน้าผากตัวเองเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม
“นี่จ้า..อาหารต้อนรับตอนเช้า” พี่เซ็นเปิดประตูห้องพักพนักงานเข้ามาพร้อมกับจานข้าวผัดจานใหญ่
“หอมจัง” ผมยิ้มพร้อมกับสูดกลิ่นเข้าเต็มปอด
“นันทนาการพิเศษสำหรับพี่ที่มีให้เค้กเลยนะครับ” พี่เซ็นบอก ยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมอีกด้วย
“เงินใคร..” พี่ฟ้าถามเสียงเข้ม
“เงินผมซิ คิดไปได้เลย..ป๋าอยู่แล้ว”
“ให้ทาย..โดนไอ้คิวว่ามาด้วยใช่ไหมว่า ไร้สาระ” พี่ฟ้าพูดหน้านิ่ง
“หึ..อืม เรียบร้อยไปละ” พี่เซ็นยิ้มเขินๆ
“ลองชิมสิครับ” พี่เซ็นบอก หยิบจานเล็กพร้อมกับช้อนส้อมมาให้ผม ผมรับมา หยิบทัพพีตักข้าวในจานใหญ่มาลองชิม
“อร่อย” ผมยิ้มชม มันมีกลิ่นเนยหรือชีส หรืออะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้จักแต่รับรู้ได้เลยว่ามันทั้งหอมและอร่อยมากแบบที่ไม่เคยทานข้าวผัดรสชาตินี้มาก่อน
“อ่ะ..ใครให้กินอ่ะ” พี่เซ็นตีมือพี่ซีเบาๆ
“จะกินอ่ะ” พี่ซีว่าหน้างอ
“พี่ทำให้เค้ก” พี่เซ็นบอก
“เค้กจะไปกินหมดได้ยังไงกัน ตั้งเยอะขนาดนี้ไอ้พี่บ้า” พี่ซีว่าเสียงดัง ผมกับพี่ฟ้าหัวเราะ
“ให้พี่ซีกินเถอะครับ เค้กกินไม่หมดหรอก..พี่ทำมาอย่างกับเลี้ยงหมู่บ้านแน่ะ” ผมบอก
“เค้กอ่ะ..” พี่เซ็นทำหน้าบู้ พี่ซีพยักหน้างึกงักอยู่คนเดียวหลังจากทานข้าวผัดเข้าไปแล้ว
“อร่อยล่ะสิ” พี่เซ็นพูด
“ก็..นะ” พี่ซียักไหล่เหมือนไม่ต้องการจะชมสักเท่าไหร่
“เคยชมพี่บ้างไหม ชมแต่ไอ้คิว..ตกลงพี่เป็นพี่แก หรือไอ้คิวเป็นพี่แกกันแน่” พี่เซ็นว่า
“ก็ดูคุณพี่ชายทำตัวสิ ดีๆตลอด..ต้องคอยให้บ่น ให้เตือน ให้ว่าให้ดูแล..ทำตัวให้โตได้ครึ่งนึงของพี่คิวบ้างได้ไหมคะ” พี่ซีย้อนยาว
“เออๆ..อะไรก็ไม่ดีสักอย่างแหละ” พี่เซ็นพูดเหมือนน้อยใจ เดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าต่างจากตอนมาสนิท
“เหอะๆ” ผมหัวเราะงงๆกับสถานการณ์ที่พลิกผันเร็วเหลือเกิน
“งอนอีกแระ” พี่ซีพูดแล้ววางช้อนส้อมลงบนจาน
“อย่าบอกนะครับว่าโกรธจริงน่ะ” ผมพูดอย่างไม่เชื่อ
“ก็ใช่น่ะสิ..ขานั้นพี่ว่าไรนิดหน่อยไมได้หรอก งอนตลอด” พี่ซีบอก ผมได้แต่ยิ้มแหยๆเพราะไม่คิดว่าพี่เซ็นจะโกรธจริงๆ พี่เซ็นเป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยคิดอะไร ทะลึ่งตึงตังแถมยังขี้เล่นอีกด้วย ที่ผมอึ้งเพราะผมไม่คิดว่าพี่เขาจะงอนพี่ซีในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้
“ไปง้อก่อน เผื่อได้ไปฝรั่งเศส คึคึ” พี่ซียิ้มประหลาดก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปอีกคน
“...............” ผมกับพี่ฟ้านั่งเงียบมองหน้ากัน
“ไม่เหมาะกับนิสัยพี่เค้าเลยนะครับ” ผมพูดขึ้นแล้วตักข้าวผัดกินต่อ
“มันรักน้องน่ะ เลยชอบงอนน้อง..ตั้งแต่เมื่อก่อนละ” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“พี่ฟ้าก็รักหลานนะครับ เลยงอนหลานบ๊อยบ่อย” ผมแซวพี่เขาบ้างเมื่อได้จังหวะที่ดี
“เค้กอ่ะ” พี่ฟ้าว่าเขิน
“แล้ว..สอบเสร็จมีแพลนทำอะไรบ้าง” พี่ฟ้าเท้าแขนลงบนโต๊ะ ยิ้มกว้างเหมือนต้องการคำตอบ
“ก็ไม่มีอะไรพิเศษนิครับ มาทำงาน อ่านหนังสือ ไปหาน้องๆที่มูลนิธิ” ผมตอบ พี่ฟ้าขมวดคิ้วเข้าหากัน สีหน้างงหรือไม่พอใจกับคำตอบของผมก็ไม่ทราบ
“ไม่รู้สินะ..มันเอ่อ มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ทำกันสักเท่าไหร่” พี่ฟ้าพูด
“.............." ผมเงียบ เลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
“แปลกแยก ถ้าคิวอยู่มันต้องพูดว่า..ปัจเจกบุคคลแน่ๆ” พี่ฟ้ายิ้ม
“ไม่ได้ปัจเจกหรอกครับ ก็แค่..ทำในสิ่งที่ไม่ตรงกันคนอื่นเท่าไหร่ เท่านั้น..มั้ง”
“แล้วคิดว่า จะทำอะไรอย่างอื่นที่เหมือนเด็กวัยรุ่นสมัยนี้บ้าง..” พี่ฟ้าถามอีก
“เช่น” ผมถาม
“ดูหนัง เที่ยวผับ ช็อปปิ้ง ดูคอนเสิร์ต บ้าดารา..เอ่อ อะไรก็ได้ตามใจตัวเอง” พี่ฟ้าพูด
“แล้วที่ผมทำอยู่ ไม่ตามใจตัวเองตรงไหนครับ” ผมพูดบ้าง
“หึ..หึหึ ก็จริงแฮะ”
“ก็นี่ไงครับ ดูมิกกี้เม้าส์กับพี่ไง” ผมยิ้มบอกเมื่อนึกขึ้นได้
“อะฮะ..มิกกี้เม้าส์ วัยรุ่นสุดๆ” พี่ฟ้ายิ้มเหมือนประชด
“แล้วก็ดูสเมิร์ฟส์” ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม
“สเมิร์ฟส์” พี่ฟ้าเลิกคิ้ว ผงะเล็กน้อย
“ครับ พี่คิวบอกว่าจะต้องได้ตั๋ววันที่สิบสามแน่ๆ..แสดงว่าวันที่สิบสามเค้กจะต้องได้ดูสเมิร์ฟส์แน่ๆ” ผมบอกอย่างมั่นใจ
“คิว สเมิร์ฟส์ เค้ก” พี่ฟ้าพูดตาโต
“..............” ผมเงียบ งงพี่เขา..อะไร คิว สเมิร์ฟส์ เค้ก
“เค้กจะไปดูสเมิร์ฟส์กับคิวงั้นเหรอ” พี่ฟ้าถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นขึ้นมา
“ใช่ครับ” ผมพยักหน้ายิ้มตอบ พี่ฟ้ายิ้มกว้างด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด เอิ่ม..
“พี่ฟ้ายิ้มอะไรครับ”
“ก็..ที่จริงก็ เข้ากันได้ดีผิดคาดนี่” พี่ฟ้าเลิกคิ้ว เบะปากยิ้มเหมือนเย้ยกับสิ่งที่ผ่านมา
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ผมพูด
“อ่านะ ก็โอเค..กินข้าวเถอะ กินๆ”
= = = = = = = =
วันพฤหัสที่ 13 ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ทำไมอ่ะ ทำไมๆๆๆ”
“ปัญญาอ่อน” พี่คิวว่าพี่เซ็นด้วยสีหน้าที่รับไม่ได้
“ทำไมเค้กไปกับไอ้คิวอีกแล้วล่ะ พี่ชวนไปตั้งหลายรอบทำไมไม่ไปด้วย” พี่เซ็นโวยไม่เลิก
“ก็พี่หื่นไง” พี่กัสเสริมขึ้นโต้งๆ
“เค้ก..เย็นนี้กลับมาบ้านพี่พร้อมกับคิวเลยนะ ทานข้าวเย็นด้วยกัน” พี่ฟ้ายิ้ม
“อีกละ” พี่คิวทำหน้าเอือม
“ไปด้วย” พี่เซ็นพูดขึ้น
“อาชวนเซ็นแล้วเหรอ อาชวนรึยังฮะซี” พี่ฟ้าทำหน้าตายพูด พี่ซียิ้มตอบ
“โอเคนะ เจอกันเย็นนี้จ้ะ” พี่ฟ้าหยิกแก้มผมก่อนจะเดินออกจากเคาร์เตอร์ไป
วันนี้ผมมาหาพี่คิวที่ร้าน พี่คิวต้องออกเวรประมาณเก้าโมงเช้า แต่พี่คิวบอกว่าให้ผมมาหาสายหน่อยก็ได้ ผมเลยกินข้าวเช้าที่บ้านก่อนที่จะเดินทางมา พอมาถึงก็เป็นอย่างที่เห็น พี่เซ็นรู้เรื่องเข้าเลยโวยวายไม่หยุดเลยละครับ
“กูไปละ รำคาญ” พี่คิวว่าคิ้วขมวด
“งั้นเค้กไปนะครับ” ผมยิ้มบอกทุกคนพร้อมกับโบกมือให้
“จ้า..ดูหนังให้สนุกนะ” พี่กัสยิ้ม โบกมือบ๊ายบายให้ผมเช่นกัน
“คร้าบ” ผมก้มหัวให้
“เค้ก” พี่เซ็นเรียกหน้ามุ่ย
“เจอกันเย็นนี้นะครับที่รัก” อยู่ๆพี่เขาก็ฉีกยิ้มกว้างให้ผม
“หึ..เจอกันครับ” ผมผงกหัวยิ้มตอบ เดินออกจากเคาร์เตอร์ตรงไปทางหลังร้าน เพราะรถพี่คิวจอดอยู่ที่หลังร้านนะครับ วันนี้ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆที่พี่คิวนำรถบีเอ็มสี่ประตูสีดำมา ผมละลุ้นอยู่ตั้งแต่เมื่อวานว่าพี่เขาจะขับคันไหนมา กลัวว่าพี่คิวจะเอารถสปอร์ตมาจริงๆอ่ะครับ ไม่กล้านั่ง..เพลีย
เมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจะถ่ายรูปหน้าตัวเองสักหน่อย..
“ทำอะไรของนาย” พี่คิวทัก ผมหุบยิ้มลงทันที
“จะอวดเพื่อน..ไปดูสเมิร์ฟส์” ผมบอกอย่างดีใจ
“ปัญญาอ่อนรึเปล่า มีคนดูอีกเป็นแสนที่ดูวันนี้” พี่เขาว่า ผมไม่สนใจฟังเสียงพี่คิว สำหรับพี่เขามันเป็นเรื่องที่ธรรมดาอยู่แล้วแต่สำหรับผมมันช่างเป็นเวลาที่พิเศษ ไม่บ่อยนักที่ผมจะได้ดูหนังที่โรงภาพยนตร์ ตั้งแต่มาอยู่ที่ร้านนี้ผมรู้สึกว่าจะเจอเรื่องอะไรที่ตัวเองชอบและได้ทำบ่อยๆตามที่ใจต้องการทั้งนั้นเลยละครับ
ปึก !!
“โอ้ย..อะไรของพี่เนี้ย” ผมบ่น จับหัวของตัวเองที่เพิ่งกระแทกเข้าที่ด้านหน้ารถ
“หมาข้ามถนน” พี่คิวบอกเสียงเรียบถึงสาเหตุว่าทำไมต้องเบรกกะทันหัน สายตาของพี่เขามองหมาตัวนั้นที่วิ่งไปจนลับสายตา
“ใจบุญซะจริงนะครับ” ผมกัดฟันพูดประชด
“หึ..” พี่คิวแสยะยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สา
พอไปถึงโรงหนัง พี่คิวลากให้ผมไปนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนเพราะพี่คิวยังไม่ได้ทานข้าวเช้ามา ส่วนผมที่ทานข้าวเช้ามาแล้วเลยได้แต่นั่งมองพี่เขาทานอาหารราคาแพงตรงหน้า ถึงมันจะให้อารมณ์คนละแบบกับอาหารที่บ้าน แต่มันกลับน่ากินชะมัด
“แน่ใจนะว่าไม่กิน” พี่คิวพูดด้วยสีหน้ากวนผมอีกแล้ว
“แน่” ผมตอบ พยายามพูดให้เสียงดังฟังชัดเข้าไว้เดี๋ยวเขาจะจับไต๋ได้ซะก่อน
“ไม่ต้องห่วงเรื่องที่ฉันพูดเมื่อวานหรอกนะ ฉันรู้อยู่แล้วว่านายไม่มีเงินจ่ายหรอก” พี่เขาว่าอีก
“แล้วใครบอกว่าผมจะจ่ายกัน อาหารแพงหรืออาหารถูก ก็อิ่มเหมือนกันนั่นแหละ” ผมว่ากลับพร้อมกับเชิดหน้าหนี
“แต่หน้านายเหมือนหมาที่กำลังนั่งเห็นเนื้ออยู่ตรงหน้าน่ะนะ..ฉันคงคิดไปเอง” พี่คิวจ้องหน้าผม ประโยคยอกย้อนประโยคนี้ทำให้ผมเถียงกลับไม่ได้อีก ผมนั่งเงียบ หุบปากเข้าหากัน
“หึ..” พี่คิวยิ้ม
“น้องครับ..” พี่คิวเรียกพนักงาน
“รับอะไรเพิ่มครับ” พนักงานชายเดินมา
“เอาแพนเค้ก บานานาสปริช..ให้เด็กคนนี้หน่อย” พี่คิวพูดอมยิ้ม ชี้นิ้วมาที่ผม
“ครับ” พนักงานคนนี้อมยิ้มเล่นตอบด้วยอีกคน
“ตลกมากไหมครับ” ผมพูด ไม่ปฏิเสธและไม่ขอค้านในเมนูที่พี่คิวสั่งไปเพราะผมก็อยากทานจริงๆ
“ฉันไม่ชอบให้ใครมานั่งเฉยๆระหว่างที่ฉันกินข้าวน่ะ” พี่คิวพูดและตักอาหารเข้าปากต่อ ผมเงียบไม่โต้ตอบใดๆอีก ไอ้เราก็นึกว่าหวังดีแต่เปล่า..คงหวังให้ตัวเองสบายใจต่างหากละมั้ง
ตื๊ด ๆ ๆ
“...............” เมื่อโทรศัพท์ของพี่คิวมีสายเข้า ผมจึงทำเป็นมองไม่เห็นจะได้ไม่เสียมารยาท
“ครับ” พี่คิวรับสาย ผมจึงต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำตัวเหมือนว่าไม่ได้ฟังอยู่
“คิวอยู่แถวสยาม”
“มาทานข้าวน่ะ เดี๋ยวจะไปดูหนัง” พี่คิวบอกปลายสาย
“ครับ..อืม ไม่ได้หรอก..วันนี้ต้องกินข้าวเย็นกับอาน่ะ หึ..ใช่” ผมอึ้งนิดหน่อยที่พี่คิวยิ้มกว้างอย่างไม่มีเล่ห์เลี่ยมใดๆ
“อืม พรุ่งนี้ฝันก็มาเอาที่ร้านก็แล้วกัน..คิวมีงานที่ร้านน่ะ ครับ..สวัสดีครับ” พี่คิวพูดก่อนจะวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ เหลือบตามามองผมนิดหนึ่ง ผมยิ้มให้หน่อยๆ ในเวลาไม่นานแพนเค้ก บานานาสปริชก็มาเสิร์ฟ
“กินละนะครับ” ผมยิ้มบอก
“เชิญ” พี่คิวเลิกคิ้วเป็นการอนุญาต ถ้าเป็นภาษาชาวบ้านคงบอกว่า “เรื่องของมึงเหอะ” ประมาณนั้น
ผมนั่งทานแพนเค้กหรูหราจานนี้ ส่วนพี่คิวนั่งกินอาหารต่อ..ต่างคนต่างทาน หลังจากที่ทานเสร็จพี่คิวเป็นฝ่ายจ่ายเงินโดยที่ไม่พูดบอกอะไร เราเดินเล่นกันอยู่สักพักจนได้เวลาหนังฉาย ผมซื้อน้ำซื้ออาหารเอง พี่คิวก็เหมือนเดิม สั่งให้ผมซื้อน้ำโค้กให้พี่เขาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“..............” ผมยื่นถังป็อปคอร์นให้พี่คิวระหว่างที่นั่งดูหนังกันอยู่ พี่คิวหันมามอง แต่ก็หยิบป็อปคอร์นในถังไปกินโดยไม่ได้พูดอะไร ผมก็แค่อยากลองเชิงว่าพี่เขาจะหยิบไปทานไหมก็เท่านั้น..
“หึหึ” ผมหัวเราะ พี่คิวหันมาค้อน เอาข้อศอกมากระแทกแขนผมเหมือนปรามผมอีก
= = = = = = = =
“สนุกดี น่ารักด้วย” ผมยิ้มบอกเมื่อเราเดินออกมาจากโรงภาพยนตร์แล้ว
“.................” พี่คิวเดินเชิดหน้านิ่ง ผมควรเข้าใจว่าคนๆนี้พูดเยอะเป็นนานๆครั้งสินะ..
“แผ่นมันน่าจะออกเร็วๆนี้นะ..” พี่คิวพูด ผมฉุกคิดนิดหนึ่งว่าคำพูดของพี่เขานั่นเป็นคำพูดที่ต้องการคำตอบจากผมรึเปล่า เพราะถ้าตอบไปเดี๋ยวจะหน้าแตกอีก
“นั่น..” ผมอ้าปากจะพูดแสดงความคิดเห็น
“พี่คิว” ผมหุบปากลงเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อพี่คิว ผมกับพี่คิวหันกลับไปมองตามเสียง
“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มยกมือไหว้พี่คิว ผมยกมือไหว้เธอเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทเช่นกันแต่เธอกลับมองผมด้วยหางตาและรับไหว้อย่างส่งๆ
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง อยู่ๆผมกลับรู้สึกขึ้นมาว่ารอยยิ้มของเธอช่างไม่น่ารักเอาเสียเลย
“หึ..” พี่คิวแสยะยิ้มเหมือนไม่เต็มใจนัก
“นี่พี่ไม่คิดจะกลับบ้านใหญ่บ้างรึไง”
“จำเป็นเมื่อไหร่เดี๋ยวฉันก็กลับเอง” พี่คิวตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“แล้วนี่มาช็อปปิ้งเหรอคะ” เธอถามอีก สีหน้าพี่คิวน่ากลัวจนผมรับรู้ได้ว่ามันไม่ปกติ
“ทำนองนั้น” พี่คิวตอบเสียงห้วน เธอยิ้มให้พี่คิวเล็กน้อย อยู่ๆผู้หญิงคนนี้ก็หันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เพื่อนเหรอคะ” เธอแสยะยิ้มถาม
“ใช่” พี่คิวตอบ
“ไม่ยักรู้นะคะ ว่าเดี๋ยวนี้พี่คบเพื่อนเด็กขนาดนี้ แถมยัง..”
“เธอจะพูดอะไรก็ระวังปากหน่อยนะ” พี่คิวว่าขึ้นดักคำพูดของเธอทำให้เธอชะงักไป ผมรู้สึกหน้าเสียในทันทีเพราะประโยคของเธอเมื่อกี้เหมือนกำลังจะต่อว่าผม
“นี่พี่..” เธอคนนี้หน้าเสีย
“ฉันไม่มีอารมณ์มาต่อปากต่อคำกับเธอ..ฉันจะคบใครเป็นเพื่อน มันก็เรื่องของฉัน ถ้าเธอว่างมากละก็นะ กลับไปทำตัวให้มีประโยชน์ซะก่อนที่จะเที่ยวมาว่าคนอื่น ไม่ใช่อยู่ผลาญเงินวงศ์ตระกูลไปวันๆ..สักวันถ้าไม่มีใช้ เดี๋ยวจะทำตัวไม่ถูก” พี่คิวพูดทั้งรอยยิ้ม
“พี่คิว!” เธอกัดฟันว่า สีหน้าเธอโมโหอย่างเห็นได้ชัด
“ขอตัว” พี่คิวส่งท้ายอีกครั้ง ผมฉีกยิ้มให้เธอนิดหนึ่งแต่ครั้งนี้ไม่ได้ยกมือไหว้ตอบ เธอเล่นดูถูกผมซะขนาดนี้ผมจะไหว้ทำไมให้เสียมือละครับ
“ถามได้ไหม..ใครเหรอครับ” ผมพูด รีบเร่งเท้าให้ทันพี่คิวที่เพียงเดินอย่างปกติ
“ไม่เรียกว่าขออนุญาต..” พี่คิวเหลือบตามองต่ำมาที่ผม
“ก็นั่นแหละ ใครล่ะ” ผมย้ำถาม
“ลูกพี่ลูกน้องน่ะ” พี่คิวตอบ
“อ๋อ” ผมพยักหน้า ถึงว่าทำไมดูดีมีชาติตระกูลขนาดนั้น เสียอย่างเดียวนิสัยแย่ชะมัดยาด
“พี่จะไปไหนต่อฮะ”
“ไม่รู้ เอ่อ..ใช่ ฉันว่าจะไปดูสูทสักหน่อย ขอเวลาแป๊บนึงได้ไหม” พี่คิวถาม
“ได้..ครับ ก็อยากกลับรถฟรีนี่นะ” ผมยิ้ม พี่คิวส่ายหัวก่อนที่พี่เขาจะเดินนำไปที่ร้านเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่ง ผมคาดว่ามันคงจะมีราคาแพงมากเพราะออร่าเปล่งปลั่งของที่ร้านนั้นแผ่รังสีออกมานอกร้านเลยละครับ เป็นยี่ห้อเสื้อผ้าที่ผมอ่านไม่ออก มันน่าจะเป็นภาษาฝรั่งเศส อิตาลีหรืออะไรสักอย่างละมัง
“สวัสดีค่ะคุณคิว วันนี้รับเป็นแบบไหนดีคะ” พนักงานผู้หญิงเดินเข้ามาต้อนรับขับสู้อย่างดี เธอหันมายิ้มกว้างให้ผมด้วย
“ผมอยากได้สีน้ำตาลครับ ปกตั้ง” พี่คิวตอบ
“อย่างอื่นก็เหมือนเดิมครับ”
“แบบนี้เป็นไงคะ” พนักงานผู้หญิงสามสี่คนเดินออกมาพร้อมกับทำตัวเองเป็นราวไม้แขวนเสื้อแทน พวกเธอชูชุดสูททั้งหมดยืนเรียงหน้ากระดาน ผมอ่านป้ายชื่อที่ติดอยู่ที่หน้าอกของผู้หญิงที่มาต้อนรับ เธอเป็นถึงผู้จัดการร้าน
“ขอเป็นชุดนี้กับชุดนี้ก็แล้วกันครับ เอ่อ..ผมอยากได้เชิ้ตแบบเดียวกันนี้แต่เป็นสีชมพูอ่อนด้วย”
“ได้ค่ะ รบกวนรอสักครู่นะคะ” เธอยิ้มบอกพี่คิวก่อนจะหันไปส่งสายตาสั่งพนักงานของเธอ
“อ่ะ..” ผมชะงักงง มองพนักงานที่เดินนำน้ำเปล่ามาเสิร์ฟให้ผม
“ไม่ละครับ ขอบคุณ” ผมก้มหัวยิ้มๆ เธอก้มหัวยิ้มตอบให้ผมด้วย
“ทานน้ำก่อนไหมคะคุณคิว” เธอเดินนำน้ำไปให้พี่คิวบ้าง
“ไม่ครับ ขอบคุณ” พี่คิวยิ้มตอบให้เธอ
“สองหมื่นห้า ทั้งชุดเหรอ” ผมพูดบ่นคนเดียวเมื่อรีบพลิกป้ายราคาดู
“เฉพาะเสื้อเชิ้ตสองหมื่นห้า บ้าไปแล้ว” แง่ง..แม่จ๋า มันแพงมากเลยง่ะ สองหมื่นห้าเราใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารได้ทั้งเดือนเลยนะ
“สนใจรึไง” ผมสะดุ้ง พี่คิวมายืนอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
“โหย ไม่เอาหรอก แพงก็แพง..ทั้งชุดเลี้ยงบ้านเค้กได้ตั้งสองสามเดือนแน่ะ” ผมว่า
“หึ..บ้านนายกินน้อยเนอะ” พี่คิวพูดหน้าตายอีก
“พี่ซื้อเสื้อผ้าแพงต่างหากเล่า บ้าจริง” ผมบ่น
“นายจะหงุดหงิดอะไร” พี่เขาอมยิ้ม
“ก็มันแพงจนน่าหงุดหงิดนิครับ” ผมบอก
“คุณคิวคะ” พนักงานหญิงคนเดิม เดินนำถุงมายื่นให้
“ถือซิ” พี่คิวหันมาสั่งผม
“เด็กรับใช้ที่บ้านนะครับ” พี่คิวบอกเธอ
“ไอ้..” ผมอ้าปากจะด่า แต่ดันโดนพี่คิวเอาบัตรเครดิตมาตีปากซะก่อน
“นี่ครับ” พี่คิวยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ผมเลยต้องจำใจรับถุงเสื้อผ้าพวกนี้มาถือไว้ให้
“อย่าเสียมารยาท ฉันอุตส่าห์เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง”
“พี่จะทวงบุญคุณเหรอ”
“เปล่า แค่เตือนสติ” พี่เขายักไหล่ส่งๆ เดินไปหาพนักงานที่เคาร์เตอร์คิดเงิน ผมเดินหนีออกมายืนรอที่หน้าร้านก่อนด้วยรู้สึกหมันไส้
“ไป” พี่คิวเรียกก่อนเดินนำไปเรื่อย เราเดินกันไปทั่วละครับ พี่คิวเข้าออกร้านนู้นบ้างร้านนี้บ้าง ผมเลยต้องเป็นคนรับใช้ถือของอย่างช่วยไม่ได้
“เฮ้ย สเมิร์ฟส์” ผมรีบซอยเท้าเร่งเข้าไปในร้านตุ๊กตาทันทีอย่างไม่สนใจคนที่มาด้วยกัน
“โห..แพงจัง” ผมบ่น ป้ายราคาบอกตัวตั้งพันกว่าบาทนู่นนะครับ
“ปัญญาอ่อนป่ะเนี้ย” พี่คิวบ่นแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ตุ๊กตา
“มันน่ารักออก..อยากได้อ่ะ” ผมกอดตุ๊กตาไว้แน่น
“ซื้อดิ”
“เสียดายเงิน” ผมวางมันกลับไว้ที่เดิม แน่นอนว่า “เงิน” ย่อมสำคัญกว่าตุ๊กตาที่กำลังอยากได้อย่างแน่นอน
“อ๊ะ..พี่ พี่จะทำไรอ่ะ” ผมถามตะกุกตะกักเพราะพี่คิวดันหยิบตุ๊กตาสเมิร์ฟสองตัวยื่นให้พนักงานหน้าตาเฉย ผมรู้สึกผิดหวังขึ้นมาที่พี่คิวจะซื้อไป มันจะไม่ใช่ของผมแต่มันกลับไปเป็นของพี่คิวนี่ครับ
“ค่าจ้างถือของก็แล้วกัน” พี่เขาบอกลอยๆ
“สองตัวเลยเหรอ ใจดีจังนะครับ” ผมยิ้มกว้าง ชมเปราะในทันที
“อีกตัวนั่นน่ะของฉันเหอะ”
“อ่าว..แล้วมาว่าคนอื่นว่าปัญญาอ่อน” ผมก้มหน้าบ่น ไม่กล้าบ่นดังเดี๋ยวพี่เขาไม่ซื้อให้ง่ะ..
...................>>>><<<<...................
-
:z13: จี้ ก่อนอ่านค่ะ :กอด1:
-
กรี้ดดด สองตอนติดดด :DD
-
:m3: เค้กน่ารักมากๆ คิวก็เท่สุดๆปกป้องเค้กด้วย
แถมยังซื้อตุ๊กตาให้เค้กอีกต่างหาก เริ่มหวานกันแล้ว
+ เป็ดกิ๊บก๊าบ
-
ลูกพี่ลูกน้องพี่คิวนิสัยเสียมาก :m16:
พี่คิว, เสื้อตัวนึงของพี่คิวเค้าก็ิกินได้เป็นเดือนกันทั้งนั้นนะ 55.
-
พี่คิวนี่ยังอารมณ์เหมือนผู้หญิงเมนส์ไม่มาเหมือนเดิมเลยนะ
ขึ้นๆลงๆ ตามไม่ทัน แต่น้องเค้กก็รับได้ทุกสถานการณ์
ปล.บ้าสเมิร์ฟเหมือนกันเลย น่าร๊ากกกกก :impress2:
-
:jul3: :jul3:
-
ีดีใจจัง ได้อ่านสองตอนเลย :กอด1:
กำลังพยายามคิดว่านี่คือการจีบ การเดท แบบอินดี้ๆซึนๆของพี่คิว
ดูหนัง กินข้าว เดินช๊อปปิ้ง ซื้อตุ๊กตาคู่แทนใจไรเงี๊ยะเนาะ
หรือจะคิดไปเองหว่า....... แบบว่าก็ยังไม่มีอะไรในกอไผ่กันทั้งคู่จริงๆ
อ่านใจยากมากเลยอ่ะพระเอกเรื่องนี้ :undecided:
-
อ่อยยยย ตามมาจากในทวิต.. ลงเร็วไปนะเบบี้จ๋า เค้าเพิ่งอ่านตอน18ไปเมื่อคืนเอง แต่ก็ดีแล้ว ฮ่าาาาา
แต่ว่า.. ตอน20อีกหลายวันเลย แง่มๆๆๆ
ขออ่านก่อนนะจ๊ะ >3<
-
พี่คิวต้องต่อมโรแมนติคไม่ทำงานแน่ๆ o22
-
ก๊ากกกกกกกกๆอยากเห็นตอนพี่คิวอุ้มเสมิร์ฟอ่า :-[ :laugh:
-
ลงเร็วมากกก ดีใจสุดๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พี่คิวแอบกุ๊กกิ๊กอ่ะ มีซื้อตุ๊กตาให้ด้วย :-[
-
พรุ่งนี้สอบแล้ว แต่เราก็ยังจะอ่านนิยายอย่างต่อเนื่อง 5555
เค้กน่ารักตลอดดดด :-[
-
น่ารักอ่ะๆ :-[ พี่คิวซื้อตุ๊กตาให้เค้กด้วย มีตุ๊กตาเหมือนกัน อิอิ
คิดไปถึงตอนอนาคต ตอนที่ไม่ได้เจอกัน แต่เห็นตุ๊กตาก็จะคิดถึงอีกฝ่าย 55 จิ้นไปไกลมาก
เค้กต้องชอบคิวแล้วแหงๆ ตอนพี่คิวคุยกะฝัน ในใจต้องแอบจี๊ดแหงเลยอ่ะ
แต่พี่คิวเดาไม่ออกจริงๆ ว่าคิดอะไรหรือเปล่า ดูเหมือนไม่คิดแต่ก็ไม่แน่ 55
-
เค้ามาเดทกานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :-[
รอพี่เมตรxสลิ่มด้วย หลังคริสมาตร์
-
ฮ่าๆๆๆๆๆ..พี่คิว ตลกง่ะ
ว่าแต่เค้กเนอะ..ตัวเองก็อยากได้เหมือนกันนั่นหล่ะ
ซื้อสองตัวแบบนี้ก็เป็นตุ๊กตาคู่อะดิ่..กร๊ากกกๆๆๆ
-
เอาแล้วไง ตุ๊กตาคู่ซะด้วย
สเมิร์ฟส์คิว กะ สเมิร์ฟส์เค้ก
อร๊ายยยยย :-[
-
พี่คิวน่ารักกกกกก :man1: เมื่อไหร่จะเข้าใจเมื่อไหร่จะรักกัน ..... อิๆ
-
พี่คิวเอ๋ย :m20: ว่าแต่เค้กปัญญาอ่อน แกไม่เลยน่ะ
ปากร้ายอีกด้วย ด่าแต่ละที่ จี๊ดไปถึงทรวง
รออ่านตอนต่อไปค่ะ คนแต่งสู้ๆ
-
ฮ่าๆๆๆๆๆ ชอบอ่ะ
“แล้วคิดว่า จะทำอะไรอย่างอื่นที่เหมือนเด็กวัยรุ่นสมัยนี้บ้าง..”
“ดูหนัง เที่ยวผับ ช็อปปิ้ง ดูคอนเสิร์ต บ้าดารา..เอ่อ อะไรก็ได้ตามใจตัวเอง”
หนูชอบประโยคนี้^^
-
ว๊ากกก เนื้อคู่ชัดๆ สองคนนี้ ชอบอะไรเหมือนกันด้วย แถมยังซื้อตุ๊กตาให้กันอีก
อ๊าก เขินอ่า
-
เอ๊ะ อะไร ยังไง น่ะ พี่คิววว
-
นึกภาพพี่คิวอุ้มสเมิร์ฟไม่ออกแฮะ... :a5:
-
ลงไปกริ้งบนพื้น เขิน ๆๆ ๆ>///< แอบมีตุ๊กตาคู่แล้วนะเนี้ย
ถ้าคุณอาฟ้าเห็นคงแอบคิดไปไกลแน่ๆเลย ฮ่ าา า คุณอาก็สนับสนุนเต็มที่ น่ารักที่สุดเลย
เหมือนพี่คิวจะไม่ชอบบ้านตัวเองเท่าไร แต่ดีแล้วค่ะมาอยู่บ้านคุณอา แต่แอบเคือง ฝัน เบาๆ หึงแทนน้องเค้กอ่ะค่ะ
ถ้าพี่คิวจะพูดสุภาพแล้วก็ยิ้มขนาดนั้น แต่ให้อภัยได้ค่ะ เพราะวันนี้พี่คิวน่ารัก >///< ซื้อตุ๊กตาให้น้องเค้กด้วย
ขอให้มีความสุขเหมือน ตัวเล็กสีฟ้า สเมิร์ฟส์ นะค่ะ
-
ตายละ พี่คิวแกนี่ก็แอบมีมุมน่ารักๆกะเค้าเหมือนกันนะ ><
:กอด1:
-
แอร๊ย.. :impress2:มาเดทแล้ว
พี่คิวมีอ๊อฟชั่นเสริม ซื้อตุ๊กตาคู่กันอีกด้วย
-
สองคนนี้งุงิ จุกจิ๊ก กุ๊กกิ๊กกันตลอดนะคะ
แต่ปมเรื่องนี้เยอะใช้ได้เนาะ คนอ่านเริ่มมึนมั่งละเนี่ย :really2:
-
ถึงพี่คิวจะพูดน้อย หน้าหงิกบ่อยๆ
แต่เค้กก็ได้ตุ๊กตากลับมาบ้านล่ะน่า
-
คู่นี้น่ารักอ่ะ
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆพัฒนาที่ละนิด
เป็นคู่ที่ดำเนินความรักแบบเรียบๆแต่ชวนลุ้นตัวโก่งว่าเมื่อไรจะรักกัน
ภาพตุ๊กตาสเมิร์ฟส์ที่ลองหาดูทางเน็ต น่ารักมากเลย
(http://static.weloveshopping.com/shop/client/000042/toys-thailand/SMD-781.jpg)
(http://www.weloveshopping.com/shop/client/000042/toys-thailand/extra/6995953.jpg)
(http://loadsiwa.files.wordpress.com/2011/11/the-smurfs-e0b980e0b894e0b8ade0b8b0-e0b8aae0b980e0b8a1e0b8b4e0b8a3e0b98ce0b89fe0b8aae0b98c.gif)
-
ตอนนี้น่ารักดี
อ่านไปอมยิ้มไป
แต่ว่าจะหายไปนานจัง
กว่าจะมาต่อตอนต่อไปน่ะ
มิน่าล่ะ2ตอนอัพวันต่อวัน
-
เปนน้องเค้กต้องอดทน. พระเอกไม่น่ารักเลยชริ
-
ไม่มมมมมม :serius2: ไม่เคยทวงนะ แค่ตั้งตารอด้วยความหวัง ทุกวัน :z1: พี่คิวโคตรฮา อะตอนนี้ :pigha2:
-
พี่คิว
:-[ :o8: :-[ :o8: :-[ :o8: :-[ :o8: :-[ :o8: :-[ :o8:
-
คิว สเมิร์ฟส์ เค้ก แปลว่าอะไรไม่รู้ รู้แต่มันอิ๊อ๊ะมากนะ
ดีใจที่พี่ฟ้าเชียร์คิวเค้กนะ กร๊าก (รึป่าว?)
ชอบสองคนนี้เดินซื้อของด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน งื้อออ
เค้าเข้ากันได้ดีเน้อจะบอกให้ :-[
อยากให้ใจเต้นตู้มต้ามใส่กันเร็วๆ คิคิ :impress2:
-
อร๊ายยยยยยยยย >///< มีตุ๊กตาคู่กันแล้ววววววว
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8พี่คิวใจดีจังเลย เค้กน่ารัก
-
บวกๆๆๆๆๆๆๆ ตอนนี้น่ารักม๊ากกกกกกกกกกกก
อาฟ้าเริ่มตะหงิดๆ แล้วใช่ม๊า
-
อยากได้ตุ๊กตาสเมิร์ฟส์มั่งอะพี่คิวววววววววว :o8:
-
พี่คิวกับเค้กชอบอะไรเหมือนกันเลยอิอิ
-
โอ๊ยยยเขินนนน
:z3: :z3: :z3:
พี่บี้ (ทำหน้าโหดดด) มาเลยมาให้ปล้ำซะดีๆ :oo1: :oo1: :oo1:
ทำตัวน่ารักแบบนี้
หนูเค้กก็น่ารัก :really2:
แต่วันนี้พี่คิวทำตัวดี อร๊ายยยย :really2:
จูบๆๆๆๆ
-
เพิ่งอ่านทัน :z2:
ชอบ เค้กคิวปิด อ่ะ :m1:
-
โอ้ย.....น่ารักอ่า พี่คิวปากแข็ง
อยากเอ็นดูน้องเค้กบ้างจัง อิอิ
-
“เด็กรับใช้ที่บ้านนะครับ” พี่คิวบอกเธอ
^
^
^
ประโยคนี้ถ้าไม่ติดว่าเป็นพระเอก (ยังใช่อยู่ไหม) จะด่าให้เลย :angry2:
ถ้าเค้กมันดูต่ำต้อยจนไม่กล้าแนะนำกับใครก็ไม่ต้องพาไปไหนด้วยก็ได้
แล้วถ้าเค้กเป็นเด็กที่คิดมากกว่านี้ คงเสียใจแย่แล้วเจอประโยคนี้เข้าไป
วันนี้พี่คิวไม่น่ารักเลย พูดจาดูถูกเค้กหลายหนมากๆ
ส่วนเค้กก็รักศักดิศรีหน่อยนะ อย่าเห็นแก่ของฟรีให้มากนัก :m15:
โดยดูถูกหลายรอบแล้วนะรู้ตัวบ้างไหมเนี่ย
-
น่ารักจริงเลย มีตุ๊กตาด้วย
ดีนะพี่่คิวหล่อเท่รวย แล้วเค้กก็ชอบ? ไม่งั้นโดนพระบาทาละ
มาว่าน้องเค้กเค้าอยู่เรื่อย
ปากร้ายใจดี เดียะจับจูบ
-
น่ารักนะคะพี่คิว
-
พี่คิวนี่ยังไงเอะอะก็ว่าคิว แต่ก็ตามใจ
ที่ซื้อตถ๊กตาให้นี่เพราะตัวเองอยากได้ด้วยล่ะซิ
-
เค้กน่ารักมากกกก :impress2:
ส่วนอีพี่คิวจะกวน...ไปไหนเนี่ย เด่วเปลี่ยนพระเอกสะเลย :z2:
-
จริงๆพี่คิวนี่ใจดีเนาะ
-
:o8: :o8: :o8:
:L2: :L2:
-
พี่ิคิวปากจัดอ่ะ
แต่ก้อยังดีที่ซื้อตุ๊กตาให้ อยากได้บ้างงงงงงง
-
พี่คิวน่ารักจัง ซื้อตุ๊กตาให้เค้กด้วย อิอิ
บ้าเสมิร์ฟกันทั้งคู่
-
น่ารักกกกกกกกกกกก .... แอร๊ยยยยย กุ๊กกิ๊ก ๆ
-
โอ๊ย พี่คิว น่ารักเหอะ
เหมือนเด็กเลยอ่ะ มีซื้อสเมิร์ฟส์เก็บด้วย
แถมมีน้ำใจเผื่อแผ่...แต่ปากร้ายนะคะ
-
:impress2: :impress2: :impress2:
-
อ้าว พี่คิวว่าน้องเค้กปัญญาอ่อน แต่ก็สอยไปด้วยตัวนึง :m20:
น่ารักนะเนี่ยตอนเนี้ย แต่ชอบอ่ะ แรงงงงงงดีตอนกัดญาติสาว
น้องเค้กยังคงสติลน่ารักเช่นเดิม อิพี่เซ็นมันก็หยอดทุกตอนเลยนะ
ปล.รับทราบตามนั้นจ้าน้องบี้
-
น่ารักมากมาย :-[ชอบๆๆวน่ารักเค้กน่ารัก :o8:
-
พี่คิวกับพี่ฝันความสัมพันธ์กำกวมจัง คนอ่านไม่อยากจะคิด กลัวเสียใจ :z3:
-
555 คิวนี่น่ารักจริง ชอบแกล้งเค้กตลอด แต่เค้กก็น่าแกล้งเนอะ ^^
-
พี่คิวถึงจะไม่ค่อยหวาน แต่ก้อใส่ใจอยู่เค้กอยู่นา
สงสัยอยู่ว่า ที่ซื้อตุ๊กตาให้เค้กนี่ คิวน่าจะอยากได้เอง เลยเนียนซื้อให้น้องพร้อมกันเลย
-
ซื้อของแทนใจกันด้วย (ถึงจะแบบเถื่อน ๆ หน่อยอะนะ) ว่าแต่คุณพี่คิวนี่ช็อบเก่งนะเนี่ย
:pig4: คะ
-
เชิ้ตตัวละเป็นหมื่น โอววววววใช้ด้ายทองคำปักรึไงฟะ พระเจ้าเอามาซื้อนิยายในเล้าได้เยอะมากกกกกกก :a5:
-
รู้สึกว่าพี่คิวน่ารักขึ้นนะ อิอิ :)
-
พี่คิวมันน่ารักไปพร้อมๆกับน่าหมั่นไส้นะ
จะทำไรก็รีบนะพี่
เค้กเค้าฮอท คิคิ
-
เมื่อไหร่หลงเค้ก ล่ะก็พี่คิว เอ๊ยยยย ฮี่ๆ ^_______^
-
หมั่นใส้พี่คิวอ่ะ..อยากเห็นตอนตกหลุมรักน้องเค้ก
:pig4:
-
ทวงให้เจ้มานั่งเขียนให้อ่านที่บ้านได้ป่าวคับ 555+
เด็กรับใช้ที่บ้าน อิอิ คิดได้เนาะพี่คิว 555
-
ชอบที่พี่คิวด่าจังเลยค่ะ ฮ่าๆ สะใจมาก พี่คิวกับพี่ฝันนี่ยังไงกิ๊กกันป่าวนี่ น้องเค้กอย่าเพิ่งน้อยใจนะ
-
:man1: เมื่อไหร่จะรักกัน
-
รักเขาแล้วก็บอกมาเหอะพี่คิว o18
-
แอะ กัสจะคู่ใครกันละเนี่ย
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2:พี่คิวว่าน้องเค้ก ตัวเองก็เหมือนกันล่ะวะ อิอิิอิอิอิ
-
ทิกเกอร์อีกแล้วว
-
โอ๊ะ!!! ซื้อตุ๊กตาให้น้องเค้กด้วย
พี่คิวแอบเอ็นดูน้องแล้วอ่ะดิ๊
พี่ฟ้าคงไม่ผิดหวังแน่เลย อิอิ
:o8:
-
เค้ามีตุ๊กตาคู่กันแล้วอ่ะ กรี๊ดดดดดด ชอบๆๆๆ
-
พี่คิวนี่น้า เนียนตล๊อดดดดด :-[
พี่ฟ้าน่ารักมากค่ะ ^^
-
เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง ซื้อตุ๊กตาให้ :-[
คิวเค้กน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก >///< เข้าใจอารมณ์พี่ฟ้าที่คอยลุ้นอยู่เลย
แต่ก็ยังมีพี่ฝันอีกอ่า ยังไงกันน้าคิวฝันเนี่ย
-
พี่คิว คมซะจน งงเลย
แหม คู่นี้เค้าลางเริ่มดีเเล้ว
ใกล้จะพัฒนาแล้วสินะ
-
น่าร๊ากกกกกกกก ><
มีไปดูหนังแลกตุ๊กตากันด้วยอ้ะ
ความสัมพันธ์คืบหน้าแล้ว
-
คู่นี้ มันต้องคืบหน้าในเร็ววัน
เริ่มแล้ว พี่คิว รอดูต่อไป
อิอิ พี่คิวทำตัวน่ารักขึ้นนะ
-
น่าร๊ากกกก ซื้อตุ๊กตาแทนใจให้น้องอ๊ะป่าวพี่คิว :z1:
-
มันเริ่มจะน่ารักขึ้นเรื่อยๆแหละ
ชอบตอนเอาบัตรเครดิตตีปากอ่ะ :-[
เมตรสลิ่มมมม ม o18
-
พี่คิวไปว่าเค้ก ตัวเองก้เหมือนกันอะ ปัญญาอ่อน โด่
ตุ๊กตาคู่ น่ารักกกกกหีหี
-
:impress2: :impress2: ถ้าจะไปเดทแล้วน่ารักกันแบบนี้
พี่คิวใจดีมากกกกกกกก
เค้กก็ขี้อ้อนเล้กๆๆๆนะ
ค่อยๆๆพัฒนาไปใช่มะคู้นี้ น่ารักจิงๆๆๆ
ปล สลิ่มกะเมตรจะมาแล้ว ฮิ้วววว
รอได้เสมออจ๊ะบี้ แค่ไม่ทอดทิ้งก็พออะ 555
-
ยังไม่ได้จับคู่กันซะที ลุ้นคิว-เค้กได้คู่แล้ว แต่ที่เหลือ......
-
อร๊ายยยย !! คือจะ เข้ามาบอกว่า
เมื่อคืนแอบเก็บสเมิร์ฟส์ไปฝัน
ฝันว่าไปดูสเมิร์ฟส์ที่โรงหนังแต่ห้างแมร่งปิด
ตื่นมาก็มึนอยู่สักพัก ก่อนจะสรุปได้ว่า....อาการหนักแล้วตู 55555
-
อ้าย พี่คิว
วันนี้ ทำตัวน่ารักจังเลย
รักเค้กแล้วอ่าดิ อิอิ
-
พี่คิวน่ารักมากๆเลยอ่ะ
อิจฉาเค้กจริงๆๆอิอิ
-
ชั้นไปอยู่ไหนมาเนี่ย ทำไมชั้นเพิ่งรู้ว่าเบบี้ โพสต์เรื่องใหม่แล้ว
ชั้นมัวแต่ไปตามหาเมตร กับสลิ่ม อยู่ ตายแล้ว ต้องรีบแว้ววววว
-
อูยยยยยยยยยยย ไม่ไหวๆๆ หวานหมดเลยยย :กอด1:
ตามจริงพี่คิวก้บ้าการ์ตูนใช่ม่ะล่ะ ทำเก๊กจริงๆ หนุ่มน้อย :laugh:
มีการซื้อตุ๊กตาให้ด้วย คู่กันๆ :จุ๊บๆ:
รอตอนที่20 ต่อไปจ้าาาาาาาาาาาาาา :-[
-
อ่านแบบรวดเดียว 19 ตอน *ปาดเหงื่อ*
พี่คิว...เอ่อ...เค้กกอดสเมิร์ฟพอคิดออกนะ แต่พี่นี่... :z1: :z1:
แล้วนี่เมื่อไหร่เค้าทั้งสองจะบรรจบกันเสียที
ไม่มีทีท่าเลย แค่แง้มมานิดๆหน่อยๆให้แม่ยกพอชื่นใจ :z3: :z3:
-
ว๊ายน่าร่ักมาก เค้ามีสเมิร์ฟกันคนละตัวด้วย
อิพี่คิวจะแต่งหล่อไปงานไหนนะ
เราแอบเชียร์กัสเซ็นเล็กๆเหอะ
-
สมใจอาฟ้าแล้วละซิ :z1:
ค่อย ๆ พัฒนาการไปอีกขั้น อีกทั้งมีการปกป้อง ไม่ให้คนอื่นมาดูถูกน้องเค้ก
แถมท้ายด้วย ตุ๊กตาคู่กันอีกต่างหาก :z2:
+1 ให้เบบี้ พร้อมกับไปรอทู้โน้น รอเมตรกะสลิ่ม :กอด1:
-
แฮ่~ อ่านทีเดียว 19 ตอนเลย สนุกมากกกอ่ะ
ทุกคนที่ร้านน่ารักทุกคนเลย โดยเฉพาะพี่ฟ้า
อิจฉาน้องเค้กได้ทำงานในร้านที่ตัวเองใฝ่ฝัน
แล้วก็ดีอย่างที่น้องได้คาดหวังเอาไว้ซะด้วย
ต้องเรียกว่าดีเกินความคาดหมายสิถึงจะถูก
ดูเหมือนพี่ฟ้าจะจับคู่เค้กให้หลานตัวเองนะ
รอลุ้นอยู่เหมือนกัน อยากเห็นเค้าหวานกันอ่ะ
ว่าแต่พี่คิวนี่เค้าเป็นผู้ชายที่ ลิมิเต็ด จริงๆ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L1:
-
:กอด1:
-
พี่คิว+เค้ก น่ารักตลอด ^^
พี่ฟ้าน่ารัก ตั้งชื่อหลานว่าคิวปิดแล้วพี่แกยังทำตัวเป็นคิวปิดอีกนะ
พี่เซ็นชักเยอะ เริ่มเซ็งๆกับความม่อของแก
-
สมใจพี่ฟ้าไปเลยสิ สิ่งที่แอบหวัง แอบเชียร์ เริ่มแสดงผลมาออกมาทีละนิดแล้ว
ถึงแม้มันจะยังไม่มากมาย แต่มันก็เป็นไปในทางที่น่ายินดี คึคึ บรรยากาศระหว่่างสองคน
เริ่มดูน่ารัก กุ๊กกิ๊กให้พอลุ้นกันแล้ว พี่คิวคะที่ซื้อตุ๊กตาให้เนี่ย ก่ะเอาใจน้องว่างั้น ใช่มั้ยละ
แถมยังซื้อไปสองตัว เป็นคู่กันอีก เอาไว้จ้อง เอาไว้มอง เวลาคิดถึงแทนตัวจริงละสิ
คึคึ ว่าแต่กับฝันนี่มันยังไงคะพี่คิว ดูพี่เองก็แลจะแคร์เธออยู่ แค่เพื่อนหรือว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น
มาหลงน้องเค้กดีกว่าพี่ มันรุ่งกว่าเยอะ น่ารักขนาดนี้ ><
-
Cupid smurfs Cake <3
-
:กอด1:น่ารักอ่ะ
-
พี่ฟ้าเชียร์เค้กออกนอกหน้าเลยนะ
-
คิดถึงพี่คิว *-* :จุ๊บๆ:
-
คู่นี้เรื่อยๆ แต่น่ารักมากกก พี่คิวว่าเค้กปัญญาอ่อนพี่คิวก็ไม่ต่างนะ ฮ่าาาาาาาาาาาาาาา ชอบคู่นี้จังเลย รอตอนต่อไปจ้าาา :))
-
พูดจากใจเลยว่า เค้กเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาก ๆ ถึงมากที่สุดอะ
แบบว่าบางครั้งคำพูดพี่คิวมันช่างกระแทกใจเกินไป
แต่เค้กก็ไม่เคยโกรธจริง ๆ จัง ๆ สักครั้งเลย
ถ้าเทียบกับคนอื่นอาจจะฟิวขาดตั้งแต่ได้ยินแล้วมั้ง
แต่ถึงยังไง คิวเค้กก็น่ารักเสมอ ^ ^
ถึงแม้บางครั้งพี่คิวปิดจะชอบทำตัว สติวปิด ก็ตาม 55555
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ อิอิ
-
:impress2:
พี่คิวน่ารักนะ แหมซื้อตุ๊กตาให้ด้วย
-
:o12: นานล่ะ เมื่อไรจะมา ตอนที่ 20 อ่ะ
-
คิดถึงเบบี้ :impress3:
-
~20~
ตกเย็น ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“เล่นอย่างนี้อย่าไปเล่นเลยว่ะ” พี่เซ็นบ่นถึงการถ่ายทอดสดกอล์ฟในโทรทัศน์ ที่ผมเพียงแค่มองผ่านเท่านั้นเพราะดูยังไงก็ไม่เข้าใจว่าตกลงต้องการให้ลูกนั่นลงหลุมหรือเพียงแค่ใกล้หลุมกันแน่
“มึงเข้าไปเล่นเองเลยสิ” พี่คิวว่า
“ปาก” พี่เซ็นปราม
“หึ..แป๊บเดียว ก็ทานหมดซะละ” พี่ฟ้ายิ้มขำผม
“ก็..มันอร่อย” ผมยิ้มเขิน
“น่ารัก” พี่เซ็นหันมามองหน้าผมตาเยิ้ม
“ชมไปทั่วนะมึง คำพูดที่หลุดมาจากปากมึงมีค่าสักคำไหมวะ” พี่คิวว่า
“ไอ้ห่า มึงก็ว่าไป..กูชมน้องจากใจจริงเว้ย”
“เค้ก ให้พี่ไปส่งที่บ้านนะครับ” พี่เซ็นยิ้ม ทำตาหวานเยิ้มให้ไม่เลิก ผมเขิน วางส้อมลงบนจานหลังจากกินเค้กหมดเรียบร้อย
“ไม่ได้” พี่ฟ้าพูดทันที
“สนเหรอครับคุณอา” พี่เซ็นยักคิ้วตอบ
“นะครับ”
“ก็ได้ครับ” ผมตอบเพราะไม่อยากให้พี่ฟ้าต้องให้คนขับรถไปส่งผมให้ลำบากอีก นี่มันก็ค่อนข้างดึกมากแล้วด้วย
“หึ..ขอบคุณครับ”
“อย่าทำอะไรเค้กนะ” พี่ฟ้าปรามเสียงเข้ม
“รับปากได้เมื่อไหร่” พี่เซ็นย้อน ผมได้แต่หันซ้ายหันขวามองคนสองคนที่เถียงกันอยู่นี่
“เฮ้อ..โลกนี้เป็นอะไรไปหมดวะ” พี่คิวบ่นขึ้น วางหนังสือลงบนโต๊ะ หยิบแก้วไวน์ที่เหลือเพียงแก้วเปล่าขึ้นไว้ในมือแล้วพี่คิวก็ทำหน้าตาเหนื่อยใจมองมาที่ผมสามคน
“นายจะเป็นเกย์อีกคนบนโลกเหรอ” พี่คิวถามจ้องหน้าผมเขม็ง
“ถ้าจะเป็นก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่ช่วยหาคู่ให้มันดีกว่าไอ้สองคนนี้หน่อยก็แล้วกัน” พี่คิวพูดจบก็เดินหนีออกจากห้องไปในทันทีไม่ทันให้ใครได้ตอบโต้ใดๆ
“ไอ้นี่..มันปากได้ใครวะ” พี่ฟ้าบ่นคิ้วขมวด
“อานั่นแหละ ตามใจมันจนเคยตัวเห็นไหม..มันเห็นหัวอาไหมเนี้ย” พี่เซ็นบ่นพร้อมกับชี้หน้าพี่ฟ้าด้วย หลังจากนั้นทั้งสองคนเริ่มถกเถียงกันเรื่องพี่คิวต่อ ผมได้รู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับสองตระกูลนี้ ฟังไปก็ขำไปละครับเพราะมันตลกจริงๆ
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ไม่ๆ..บีบไปทางนี้ครับ”
“อ๊ะ ครับ” ผมสะดุ้งนิดหน่อย มือของพี่เซ็นรวบโอบมือของผมที่ถือขวดวิปปิ้งครีมอยู่
วันนี้ผมมาทำงานตั้งแต่เช้า ที่จริงผมมีเวรเข้าตอนบ่ายสามน่ะครับแต่อยู่บ้านไม่มีอะไรทำเลยมาช่วยที่ร้านดีกว่า ได้เจอหลายๆคนสนุกดีด้วยครับ
“อย่าเกร็งมือสิครับ” พี่เซ็นบอกเสียงนุ่ม สีหน้าจริงจังต่างจากทุกที ผมคลายมือลงให้ออกแรงตามมือของพี่เซ็น
“สวยแล้วเห็นไหม” พี่เซ็นยิ้มอย่างอ่อนโยน
“จะแต๊ะอั๋งเค้กล่ะสิไม่ว่า” พี่ซีพูดขึ้นลอยๆพร้อมทำหน้าบู้บี้ให้พี่เซ็น
“รู้ก็ดีหนิ” พี่เซ็นยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมปล่อยมืออกจากขวดวิปปิ้งครีม
“หึ แสดงออกเกินไปแล้วมั้งครับเค้ก” พี่เซ็นมองหน้าผม
“ป..เปล่าครับ” ผมรีบบอกแก้เก้อ
“ก็มันเสร็จแล้วนี่” ผมบอกอย่างกลัวว่าจะเสียมารยาทที่ทำท่าทางแบบนั้นออกไป พี่เซ็นอมยิ้ม
“งั้นเอาไปเสิร์ฟเถอะครับ” พี่เซ็นบอก
“ครับ” ผมพยักหน้ารับ หยิบจานวางบนถาดและนำออกไปเสิร์ฟให้ลูกค้า
ตอนนี้ที่จริงพี่เซ็นออกเวรแล้วเรียบร้อย คนที่อยู่ต่อคือพี่คิว แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมพี่เซ็นยังไม่กลับไปสักที พอผมนำอาหารเสิร์ฟให้ลูกค้าเสร็จแล้ว เดินกลับมาที่เคาร์เตอร์พี่เซ็นยังคงยืนยิ้มกว้างอยู่ที่เดิม
แกรก~~
ผมยิ้มให้พี่คิวที่เพิ่งเดินออกมาจากครัว แต่ผลตอบรับก็เหมือนเดิม..ไม่ยิ้ม ทำให้ผมคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าพี่คิวอาจจะอารมณ์ไม่ดีนัก ถ้ายิ้มให้นิดหน่อยแสดงว่าอารมณ์ปกติ หลายครั้งตอนนี้ทำให้ผมต้องสังเกตอารมณ์และนิสัยของพี่คิว บางทีมันก็สนุกแปลกๆดีเหมือนกันนะครับเพราะพี่เขาไม่ค่อยเหมือนคนปกติเท่าไหร่
“ต่อมยิ้มมึงเสียรึไง” พี่เซ็นว่าให้
“กูพอใจ” พี่คิวตอบส่งๆ เดินออกมาหยิบกล่องกระดาษทิชชู่กล่องใหม่ที่อยู่ในตู้เก็บของไป
“เมื่อกี้กดกริ่ง ทำไมไม่มีใครเข้าไป” พี่คิวถามลอยๆแต่กลับมองมาที่ผมเหมือนต้องการคำตอบ
“ผม..ผมไปเสิร์ฟอาหารครับ” ผมตอบด้วยรู้สึกหวาดๆ
“กูได้ยินละ แต่กูไม่ไป..กูอยากกวนตีนมึง” พี่เซ็นอมยิ้ม
“มันใช่เวลาเล่นไหม” พี่คิวว่าตาขวางใส่พี่เซ็นและเดินกลับเข้าห้องครัวไป
“หึ..ไม่รู้ว่าผู้หญิงมองว่าผู้ชายแบบนี้หล่อได้ยังไง” พี่เซ็นบ่น
“อ่านะ” ผมยิ้ม
“เค้กว่าไหม” พี่เซ็นเลิกคิ้ว มองหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ
“ไม่รู้ซิครับ เค้กไม่ใช่ผู้หญิงนะ” ผมตอบ
“ก็นะ”
“พี่เซ็นชอบยิ้มมีเล่ห์นัย มันหงุดหงิดรู้รึเปล่าครับ” ผมบอกบ้าง
“ก็อยากให้หงุดหงิด” พี่เซ็นพูด
“อ่าว พี่กัส..ว่างเหรอครับ” ผมทักพี่กัส เดินหน้าบูดมาเชียว
“อื้อ หวัดดีฮะ” พี่กัสยกมือไหว้พี่เซ็นส่งๆเหมือนไม่เต็มใจเท่าไหร่
“ดี” พี่เซ็นยิ้ม
“แล้วเป็นไรครับ หน้าบูดมาเลย” พี่เซ็นถาม
“โดนป๊าบ่นมาน่ะสิ เซ็งจริง”
“แล้วทำไมพี่ยังไม่กลับอีก” พี่กัสหันไปถามพี่เซ็นด้วยท่าทางหาเรื่อง
“พอใจ” พี่เซ็นยักไหล่
“ชิ หม้ออีกล่ะสิ..ถนัดสะกดจังเลยนะ” พี่กัสว่า
“หึ..ปากนี่นะ” พี่เซ็นว่าพี่กัส แต่สายตากลับมองพี่กัสอย่างขัดกับคำว่าซะเหลือเกิน
“มองไร” พี่กัสถามเสียงห้วน
“เปล้า..” พี่เซ็นเบะปากยิ้ม
“งั้นพี่กลับดีกว่าครับ ไปนะซี..เดี๋ยวให้คนรถมารับ” พี่เซ็นบอก
“ค่ะ” พี่ซียิ้มให้
“ไปนะครับ” พี่เซ็นมองหน้าผม
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“ไปนะ” พี่เซ็นหันไปบอกพี่กัสแต่อยู่ๆพี่เซ็นก็ก้มลงเข้าไปใกล้หน้าพี่กัสมากขึ้นและกระซิบพูดอะไรไม่ทราบ
“บาย” พี่เซ็นหันมาโบกมือให้ทุกคนแล้วเดินออกจากเคาร์เตอร์ไป
“พี่..” ผมเรียกเพราะพี่กัสยืนนิ่ง ตาลอย แถมแก้มก็แดงอีกด้วย
“พี่กัส” ผมเรียก
“พี่กัสครับ”
“ห..ห๊ะ” พี่กัสสะดุ้ง
“เป็นอะไรครับ พี่เซ็นเค้าพูดอะไรเหรอ” ผมถามด้วยความอยากรู้
“เปล่า..เปล่าหนิ” พี่กัสพูดเสียงสะบัด เดินหนีผมไป ผมส่ายหัวด้วยรู้สึกงงก่อนจะหยิบผ้ามาเช็ดๆเคาร์เตอร์ทั้งทั้งที่เคาร์เตอร์ก็สะอาดอยู่แล้วแต่มันไม่มีอะไรทำนะครับ
“อะไรของเค้ากันนะ" ผมยังคงอดบ่นไม่ได้
กริ่ง~~
“สวัสดีค่ะพี่ฝัน” พี่ซียกมือไหว้ ผมยกมือไหว้พี่ฝันด้วย
“สวัสดีจ้ะ” พี่ฝันยิ้มผงกหัวให้พวกเราด้วย
“มาหาพี่คิวเหรอคะ” พี่ซีถาม
“จ้ะ รบกวนตามให้หน่อยนะ” พี่ฝันบอก
“ค่า..”
“พี่เข้าไปรอในห้องนะ” พี่ฝันบอกพี่ซีและหันหน้ามายิ้มให้ผมด้วย ผมยิ้มตอบกลับให้เธอ พี่ฝันเดินเข้าไปที่ห้องพักที่เป็นห้องสำหรับพี่ฟ้า พี่คิวและพี่เซ็นเท่านั้น พอเห็นพี่ฝันเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยแบบนี้ทำให้ผมทราบได้ว่าพี่ฝันน่าจะมาที่นี่บ่อยครั้งแล้ว พี่ซีเข้าไปตามพี่คิวได้ไม่นาน พี่ซีเดินออกมาพร้อมกับพี่คิว หลังจากนั้นพี่คิวก็หายเข้าไปในห้องพักนั่นสักพัก ผมทำหน้าที่ของตัวเองต่อ วันนี้ลูกค้าไม่เยอะนัก แถมยังได้พี่กัสมาช่วยด้วยอีกแรงทำให้ไม่ค่อยวุ่นวาย
= = = = = = = =
ตื๊ด ๆ ๆ
สายเข้า -- น้ากิ่งแก้ว
“สวัสดีครับน้ากิ่ง” ผมทักปลายสาย
“เค้กเหรอจ๊ะ น้าเองนะ” น้ากิ่งแก้วพูด
“ครับ น้ามีอะไรรึเปล่าครับ” ผมถาม ปกติน้ากิ่งแก้วจะไม่โทรมาหาผมบ่อยนัก ถ้าจะโทรมาแสดงว่าต้องมีงานที่มูลนิธินะครับ
“อ๋อ วันจันทร์ที่จะถึงนี้เป็นวันก่อตั้งมูลนิธิน่ะ เค้กจะมารึเปล่าจ๊ะ”
“อ่าว..เหรอครับ เค้กลืมไปสนิทเลย” ผมตกใจ
“หึ..น้าถึงโทรมาหานี่ไง เห็นหายหน้าหายตาไปเลย”
“เดี๋ยวเค้กไปช่วยงานนะครับ” ผมรีบบอก
“จ้า นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว..เนี้ย พวกตัวเล็กก็ถามถึงทุกวัน น้าละเบื่อจะตอบจริงๆเชียว” น้ากิ่งแก้วบ่นแกมขำ
“คร้าบ ไว้เค้กจะโทรไปหาอีกทีนะครับ” ผมบอก
“จ้า เออ..ชวนพ่อหนุ่มคนนั้นมาด้วยล่ะ คนที่มากับเค้กน่ะ..ชื่ออะไรนะ”
“พี่คิวครับ” ผมบอก
“อ๋อ ลองชวนเค้าด้วยนะ..เห็นมาบ่อยๆ ไม่รู้จะชอบเด็กๆรึเปล่า”
“ครับ ก็คงชอบ” ผมยิ้มตอบ เดาไปอย่างนั้นว่า..น่าจะ “ชอบ” มั้ง TOT
“จ้า งั้นน้ารบกวนเท่านี้แหละจ้ะ”
“ครับ สวัสดีครับ” ผมบอกก่อนที่น้ากิ่งแก้วจะตัดสายไป
“อืม..จะไปไหมน่ะตาคนนั้น” ผมนึกบ่นพึมพำ
“บ่นไรพึมพำน่ะลูก” แม่ทัก
“หึ..เปล่าครับ น้ากิ่งแก้วโทรมาชวนวันงานครบรอบมูลนิธิน่ะ แม่จะช่วยอะไรไหม”
“อ๋อเหรอ เดี๋ยวแม่ขอคิดก่อนก็แล้วกันนะ” แม่บอก
“ครับ” ผมพยักหน้า นั่งกดโทรศัพท์มือถือเลื่อนไปถึงเบอร์ของพี่คิว โทรไปก็ได้ คงไม่เสียหายอะไร..
ตรู๊ด ๆ ๆ
“ฮัลโหล” ปลายสายพูดน้ำเสียงแข็งกร้าวอย่างเคย
“สวัสดีครับ เค้กเอง” ผมบอก ถ้าแนะนำตัวได้ก็คงจะทำ แล้วทำไมเราต้องรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆด้วยละครับนี่..
“รู้..” พี่คิวตอบ
“มีไร” เสียงเริ่มห้วน
“เอ่อ วันจันทร์อ่ะ..ที่มูลนิธิจะครบรอบวันก่อตั้ง พี่สนใจจะไปกับผมไหมฮะ”
“วันจันทร์” พี่คิวย้ำเสียง
“ใช่” ผมย้ำตอบด้วย
“ฉัน....มีงาน” พี่คิวตอบเหมือนคิดหนัก
“อ๋อ เหรอครับ..งั้นไม่เป็นไร ผมแค่โทรมาชวน คิดว่าพี่จะสนใจไปน่ะ..ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดเสียงรัว
“งั้นแค่นี้นะครับ สวัสดีครับ” ผมบอกและตัดสายโทรศัพท์ในไปในทันทีไม่ได้รอฟังพี่เขาพูดต่ออีก
~กรรม....ทำไมเมื่อกี้เราพูดเร็วจังวะ *o*~
เอิ่ม เพิ่งมารู้สึกตัวว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดเร็วมาก..เร็วมากแบบผิดปกติ ผมรับรู้ได้ถึงเหงื่อที่มือมากขึ้น ทำไมผมจะต้องตื่นเต้นได้ละครับ ไม่เห็นจะเข้าใจตรงไหนเลย !!
“แล้วเรารีบตัดสายทำไมวะนั่น” ผมยังบ่นกับตัวเองไม่เลิก แถมไอ้ความรู้สึกเสียหน้าแปลกๆนี่มันคืออะไรกันครับ อะไรกันครับเนี้ย
= = = = = = = =
ณ มูลนิธิ..
“พี่เค้ก ถักเปียให้แป้งหน่อยได้ไหมคะ” น้องแป้งยิ้มแป้นเข้ามาหาผม
“ได้สิครับ นั่งตรงนี้มา” ผมอ้าขาให้น้องแป้งนั่งลงระหว่างขาของผม
“พี่เค้ก..ถักเปียให้อุ่นรักด้วย”
“ค้าบ..ทีละคนนะ น้องอุ่นรักนั่งรอก่อนนะครับ” ผมยิ้มบอก
วันนี้ค่อนข้างวุ่นวาย เด็กๆทุกคนรู้ดีว่าวันนี้เป็นวันดีของพวกเขา พวกเขาจะได้รับของขวัญจากทางมูลนิธิ ได้กินเค้กอร่อยๆและอาหารอร่อยๆมากมาย วันนี้หลังจากเลิกเรียนผมจึงรีบตรงดิ่งมาที่นี่ทันทีเพราะรู้แน่ว่าพวกคุณครูและเจ้าหน้าที่ที่นี่จะไม่มีเวลามาดูแลน้องๆ
“พี่เค้กๆ” น้องนัทกับน้องโดวิ่งหน้าตื่นมา
“มีอะไรครับ วิ่งเดี๋ยวก็หกล้มหรอก” ผมว่า ทำให้น้องนัทหันไปว่าน้องโดประมาณว่า “บอกแล้วว่าอย่าวิ่ง” โดยโทษกันเองซะงั้น
“พี่หน้าโหดมา!” น้องนัทกับน้องโดพูดพร้อมกัน มือไม้ชี้ไปทางเดียวกันอย่างกับนัดกันมา
“หื้ม” ผมขมวดคิ้ว ตามองไปตามที่เด็กๆชี้ ผมชะงัก
“นั่นๆ..เดินมาแล้ว” น้องนัทเข้ามานั่งกอดแขนผมแน่นด้วยหน้าตาหวาดกลัวสุดๆ ผมมองด้วยความตกใจที่เห็นพี่คิวที่กำลังเดินตรงมาทางผม
“เอ่อ..พี่ มา ไม..ครับ” ผมถามตะกุกตะกักด้วยอาการงงไม่เลิก
“ก็อยากมา” พี่คิวยักไหล่
“พี่บอกว่าพี่มีงานนี่”
“ฉันยังพูดไม่ทันจบ นายก็พูดๆๆ..แล้วก็วางสายไปตามใจตัวเอง เสียมารยาทซะจริง..เมื่อไหร่จะหาย” พี่เขาว่า คิ้วทำท่าว่าจะขมวดเข้าหากันอีกแล้ว
“อย่าว่าพี่เค้กนะ!” น้องนัทว่าเสียงดัง พี่คิวเหสายตามองน้องนัท
“น้องนัทครับ” ผมปราม
“ค้าบ” น้องนัทก้มหน้าก้มตาลง
“ผมจะไปรู้รึไง น้ำเสียงพี่เหมือนไม่ได้อยากมาเท่าไหร่นี่” ผมตอบกลับ ก้มลงถักเปียให้น้องแป้งต่อ
“ไปช่วยขนของหน่อย” นี่เป็นคำสั่ง หรือ คำขอร้องกันละครับนั่น
“เอาไรมาเหรอ” ผมถามกลับแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่าย
“ขนม” พี่คิวตอบ
“มีช็อกโกแลตป่ะครับ” น้องโดถามเสียงดัง ทำให้เด็กๆที่อยู่ละแวกนี้หันมามองกันเป็นตาเดียว
“มีซิ..ถ้าช่วยกันขนละก็นะ” พี่คิวเบะปากตอบ
“งั้นโดช่วยขน” น้องโดยกแขนขึ้นชู
“นัทช่วยขนด้วยก็ได้” น้องนัทพูดเสียงเบา ผมอมยิ้มกับความน่ารักของน้องนัท กลัวพี่คิวแต่ก็อยากกินขนมสินะ
“หึ..มาครับ” ผมลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวพี่กลับมาถักเปียให้อุ่นรักนะครับ พี่ไปขนของก่อนนะ” ผมยิ้มบอก
“อุ่นรักช่วย” ผมอุ่นรักยิ้ม พวกเราเดินไปที่รถของพี่คิวที่จอดอยู่ที่หน้ามูลนิธิด้วยกัน และช่วยกันขนของคนละไม้คนละมือ ดูเด็กๆจะตื่นเต้นกับขนมที่พี่คิวนำมามาก เพราะมีแต่ของที่เด็กๆชอบทั้งนั้นเลยละครับ
“ขอบคุณคุณคิวมากเลยนะคะที่นำขนมมาให้เด็กๆอีกแล้ว” น้ากิ่งแก้วยิ้มบอก
“ไม่เป็นไรครับ” พี่คิวยิ้มตอบ
“มากี่ครั้งๆก็นำอาหารอร่อยๆมาตลอดเลย ขอบคุณจริงๆนะคะ..เด็กๆไม่ค่อยได้ทานอะไรดีๆแบบนี้บ่อยนักหรอกค่ะ”
“ครับ ยินดีครับ”
“พี่เค้ก ไปกินขนมกับนัทนะ” น้องนัทเข้ามาดึงแขนผม
“ค้าบๆ” ผมตอบ
“พี่โหด” น้องนัทเงยหน้าขึ้นมองพี่คิว พี่คิวก้มลงต่ำมองด้วยสายตาพิฆาต
“ไปกินด้วยกันป่ะ”
“พูดไม่เพราะ เป็นเด็กเป็นเล็ก” พี่คิวว่า น้องนัทชะงักไปคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน
“อ๊ะ..อุตส่าห์ชวนนะ” น้องนัทว่าเสียงหลง
“หึ ไม่เป็นไร..ขอบคุณ” พี่คิวแสยะยิ้ม มันช่างเป็นยิ้มที่ดูน่ากลัวมาก ไม่ต้องว่าว่าเด็กคงกลัว ขนาดผมเองยังรู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มนั่นไม่ได้
“ยักษ์!” น้องนัทว่าแล้วดึงแขนผมให้เดินตามตัวเองไป ผมต้องคอยเทคแคร์ดูแลเล่นกับน้องๆจนตกเย็น พี่คิวเองก็เล่นกับเด็กๆบ้างแต่ไม่ค่อยมีเด็กคนไหนเข้าไปหาพี่คิวมากนักนอกจากน้องอุ่นรัก
“ขึ้นรถสิ” พี่คิวบอก ผมหันไปมองหน้าพี่เขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปสังเกตรถยนต์คันแปลกตาอีกแล้ว วันนี้ก็เป็นรถคนละคันกับรถคันก่อนหน้า
“อานั่นบอกให้ฉันไปส่งนายด้วย แต่คงต้องไปรับอาที่ร้านก่อน” พี่คิวบอก
“ก็ได้” ผมพยักหน้า
“หึ..”
“หัวเราะไร” ผมถาม รู้สึกไม่สบอารมณ์แปลกๆ
“เปล่า ฉันเหมือนหัวเราะเหรอเมื่อกี้น่ะ” พี่คิวแสยะยิ้ม
“ที่จริงก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ เหมือนตัวโกงกำลังคิดอะไรแย่ๆมากกว่าอะนะ” ผมยักคิ้วกวน
“เดินไปที่ร้านเองก็แล้วกัน” พี่คิวพูดและทำท่าจะหนีผม ผมไม่สนใจรีบวิ่งไปที่รถแล้วเปิดประตูขึ้นนั่งทันที พี่คิวไม่ว่าอะไรอีกแต่กลับมีเสียงถอนหายใจเล็กๆหลุดลอดออกมา หลังจากนั้นก็ขับรถเงียบไม่พูดไม่จาจนถึงร้าน
“อ่าวฝัน” ผมหันไปมอง เห็นพี่ฝันเดินออกมาทางหน้าร้านพอดี เมื่อกี้พี่คิวจอดรถไว้ที่ด้านหน้าร้านทำให้เราต้องเดินเข้าประตูรั้วทางด้านหน้าแทน
“กลับมาแล้วเหรอ ฝันรอตั้งนาน..โทรศัพท์ก็ไม่รับ” พี่ฝันพูดหน้ามุ่ย
“โทรเข้าเหรอ..คิวไม่เห็นรู้เรื่องเลย” พี่คิวล้วงโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“โทษทีนะ” พี่คิวบอก
“ไม่เป็นไร..แล้ว ไปไหนกันมาเหรอ เห็นอาบอกว่าไปมูลนิธิ..ไปทำไมเหรอ” พี่ฝันถาม
“เอาขนมไปให้เด็กๆน่ะ” พี่คิวตอบ
“แล้ว..ฝันมีอะไรรึเปล่า”
“เอ่อ ขอตัวนะครับ” ผมบอกสองคนตรงหน้า จะเดินออกมาเฉยๆกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไป
“จ้ะ น้องเค้กที่เจอที่บ้านวันนั้นนี่นะ” พี่ฝันยิ้ม
“ครับ” ผมยิ้มตอบ ผงกหัวให้ก่อนจะเดินเลาะสวนไปทางหลังร้าน
“กลับมาแล้วเหรอ เป็นไง..สนุกไหม” พี่ฟ้ายิ้มทัก
“ก็สนุกดีครับ” ผมตอบ
“คุณ..กุญแจรถ” ผมหันกลับไปมอง พี่คิวเดินตามหลังผมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
“อ่าว จะไปไหน” พี่ฟ้าถามและรับกุญแจรถมาถือไว้
“ไปกับฝัน ไปดูคอนโด..กลับเองแล้วกันนะ” พี่คิวบอก
“อย่ากลับดึกล่ะ แล้วจะกลับมากินข้าวเย็นด้วยกันรึเปล่า” พี่ฟ้าถามหน้ามุ่ยทันที
“น่าจะไม่..กินไปก่อนเลย ไม่ต้องรอ” พี่คิวพูดปัด เดินโบกไม้โบกมือออกทางหลังร้านไป
“หลานบ้า” พี่ฟ้าบ่นหน้างอกว่าเดิม
“เค้ก”
“ครับ” ผมขานตอบ
“ไปกินข้าวเย็นกับพี่นะ” พี่ฟ้าจับมือผมไปทั้งสองมือ
“นะๆ..พี่กินคนเดียว พี่เหงา” พี่ฟ้าทำหน้าอ้อนใส่อีก
“ก็ได้ครับ” ผมยิ้มตอบ ผมคิดว่าพี่ฟ้าเป็นคนที่ขี้อ้อนมากๆเลยละครับ
...................>>>><<<<....................
-
รักพี่บนี้
อ่า ไปกินเค้กดีฝ่า
ฮิ๊วๆๆๆ o13
-
โน้ววววๆๆ พี่หน้าโหดอย่าไปกับชะนีน๊า มันอันตรายทั้งทางตรงและทางอ้อม รุ้ป่าววว
เหมือนไปดูเรือนหอกันเลย ทีหลังจะมาบอกปัดว่าไม่ได้คิดอะไรน่ะ ลำบากนะ ฮุ้วๆๆ
ปล. ตอนใหม่ต้องรอปีหน้าหรอ :a5: :a5:
-
น้องเค้กรักพี่คิวไปไม่รู้ตัว สู้ๆนะ ส่วนกัสกะพี่เซนนี่มีไรเกิดขึ้นกันนะ อยากรู้จัง
-
:o8:เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองเนาะเค้กคิว :L1:
-
อ่านแล้วหิวเค้กอ่า ><
พี่ฝันเริ่มมีบทมากขึ้นเเระ ชีจะดีหรือร้ายกันนะ
แอบสงสารเค้กยังไงไม่รู้ :เฮ้อ:
พี่เซ็นกะพี่กัสนี่ก็ยังไงๆอยู่น้า พี่เซ็นพูดอะไรอ่าพี่กัสเขินหน้าแดงเลย
พี่ฟ้าก็ดูขี้เหงาเนอะ 555 อยากรู้จักทิกเกอร์ !!!!!!!!
-
ชอบทุกครั้งที่ไปมูลนิธิ
อ่านแล้วน้ำตาซึม
เป็นกำลังใจต่อไป o13
-
พวกเด็กๆ น่ารักดี
-
แม๊ คู่นี้ คนอ่านลุ้นจนเหนื่อย เหอะๆ
-
เมื่อไหร่จะรักกันได้เนี่ยะ เหอๆ
-
เค้กน่าร้ากกกกกกกกกก
เมื่อไหร่จะรักกัน หรือความจริงพระเอกคือพี่ฟ้า กร๊ากกกกกกกกกก
พี่เซ็นกะกัสนี่ซัมติง แลจะกุ๊กกิ๊กดีนะ
พี่คิวกะพี่ฝันก็ยังคลุมเครือ ==
-
พี่คิวไม่ได้ดั่งใจเลย...เมื่อไหร่จะคืบหน้ากันเนี่ย
-
ละแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า :t3: :t3: :t3:
-
งืมมมมม ไม่มีอะไรคืบหน้าจริง ๆ
-
:z2: :z2: :z2:
-
อิอิ บี้ จุฟๆ
-
ยังไม่มีวี่แววเลยคู่นี้
-
เค้กน่ารัก :o8:
:L2: :L2:
-
อัยย๊ะ เค้กเริ่มมีใจให้พี่คิวแล้วอะดิ
-
อึออัดกับพี่คิวมากกกก เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกมา :z3: :z3: :z3:
-
เบื่อชะนีฝัน ฮ่าๆๆ
มาขัดจังหว่ะเค้ก อิอิ
-
บวกกกกกกกกกกกเบบี้ ^^
-
ไอ้พี่คิว จะเอาไงแน่วะ
เด๋วเค้กก้อมี มคปด หรอก
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
yang mai rak kan sak thii na kha pii,,kon-aan lun jon kreng pai mod laew...ha ha ha!!!
-
น้องนัทเนี่ย ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ ?
ถ้าผู้ชายโตขึ้นคงเป็นเคะที่น่ารักมาก ๆ แน่เลย 5555555
-
เพ่คิวนี่ยังไงอ่ะ ดูไม่ออกเลย เห้ออออออออ
ลุ้นๆต่อไป
แต่น้องเค้กน่ารักอ่ะ :กอด1:
:pig4:
-
แอบรักกันแล้วคู่นี้ ทั้งเค้กคิวนะเเหละ
ชอบนะแนวนี้ ยังไม่รู้ตัว
-
เค้กยังน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน อ๊ายยย น่าเอ็นดูเกินไปแล้ว >____<
เค้กเริ่มชอบพี่คิวโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่าอ่ะ มีแอบมองแอบสังเกตพฤติกรรรมทางด้านอารมณ์
ของพี่คิวอีกด้วย ระวังจะหลงโดยไม่รู้ตัวนะเค้ก แถมตอนโืรไปชวนให้ไปมูลนิธิแล้วพี่คิว
แลตอบเสียงเหวี่ยงๆแล้วบอกว่าไม่ว่างอีกยังมีแอบงอนน้อยๆพูดรัวเร็วไม่ฟังพี่แกให้ครบซะก่อนอีก
อาการเริ่มมาแล้วหรือเปล่านี่ ว่าแ่ต่พี่คิวเถอะอะไรยังไงกับฝันกันแน่เนี่ย คิดแค่เพื่อนใช่มั้ย
แต่ทำไมดูแลเทคแคร์ดีจริงๆ ส่วนคู่เซ็นกัสอะไรเนี่ย พี่เซ็นแอบกระซิบอะไรบอกมาเลยนะ !!
กัสเขินจนหน้าแดงแถมยังแอบเหม่ออีกมีอะไรในกอไผ่เนี่ย อ๊ายยย น่าสงสัยจริงๆ
-
พี่คิืวเย็นชาอีกแล้ว
-
พี่เซ็นกับพี่กัสนี่ยังไงๆ :o8:
พี่คิวกับเค้กไม่มีความก้าวหน้าจริง55.
-
อะไรของเมิ๊งงงงง อิพี่คิว -*- ขัดใจมันที่สุด ว่าเค้กได้ตลอด :z6:
-
เรียบๆสบายๆ แต่ชอบบบบบบ
-
+1 ให้พี่เบบี้จ้าาา :o8:
โอ๊ะ เซ็นกัส!! :-[ เราลุ้นคู่นี้มาตั้งนานล่ะ
โอ๊ะ ไปดูคอนโด :a5: แค่ไปดูแสดงความคิดเห็นให้ใช่มั๊ยพี่คิว ไม่ได้ไปอยู่ด้วยหรอน่ะ!! :call:
รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาา o13 :bye2:
-
“นายจะเป็นเกย์อีกคนบนโลกเหรอ” :m12: ถามตัวเองด้วยรึป่าว...พี่โหด
แล้วพี่ฝันเป็นอะไรกับพี่คิวกันแน่!! มีไปดูคอนโดด้วย(ไปช่วยเลือกเฉยๆเถอะ..สาธุ)
-
คลุมเคลือจริงๆ อะไรอ่ะ อยากรู้กัสเซ็นอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
น้องเค้กหลงพี่คิวไม่รู้ตัวป่าวอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
ชอบๆๆๆ ยังไงก็รอ ค่า เป็นกำลังใจให้น๊า :)
-
:กอด1:
-
ตามอ่านจนทันนนนนนนนนนนน เย้
-
เอ๊ะ อะไรยังไง
-
เซนกับกัส สงสัยคู่กันชัวร์เลยคู่นี้
-
:sad4: ตกลงเค้กกะคิวนี่เค้าคู่กันเหมือน เนสกาแฟกะคอฟฟี่เมตรึเปล่าเนี่ย???? :sad4:
ไมเรารู้สึกว่าสองคนนี้~~มันไปกันมะด้าย. :o12: :o12: หรือว่าน้องเค้กเป็นของอาฟ้า งงๆ. :serius2:
:z3: คุณเบบี้. .........ช่วยเคลีย หนอยคร้า :really2: :really2:
-
ลุ้น ลุ้น เค้กกับพี่คิว และพี่เซ็นกับกัสจัง
-
เป็นคู่ที่ไปอย่างช้าๆและทำให้เราลุ้นมาก ><
-
เดี๋ยว เหมือนจะใช่ เดี๋ยวก็เหมือนจะไม่ใช่
-
เมื่อไหร่พี่คิวจะทำตัวดีๆกับเค้กซักทีเนี่ย เริ่มชอบเค้กซักทีเถอะ :z3: :z3:
-
ฝันนี้มาอีกแล้ว
แล้วเมื่อไร พี่คิว กับ เค้กจะลงเอยกันเนี่ย
-
อยากจะจับน้องเค้กใส่พานถวายให้พี่เซ็นไปเลย :m16: (ทั้งๆที่ในใจก็กรี๊ดเซ็นกัสนะ :laugh:)
-
ไอ้พี่คิวเป็น ยักษ์ :m20: น้องนัทนายแน่มาก :laugh: ... เค้ก อาการเริ่มมาละ เมื่อไหร่พี่คิวจะหลุดออกมาบ้างอ่ะ นิ่งจนดูไม่ออกเลย .... ฟ้าน่ารัก อ้อนมันเข้าไป :man1: เค้าชอบฟ้าอ่ะบี้
-
เมื่อไหร่มันจะซั่มกันเนี้ยยย ย :haun4:
ล้อเล่นๆ 55 อ่านแล้วลุ้นมากอะไรมาก
คิวปิ้งๆเค้กสักทีสิ หึ่ยย ย!
-
คิวเค้กหายไปก่อน ตอนนี้อยากรู้ว่าเซ็นกระซิบไรกะกัส!!!! :serius2:
-
ขอบคุณเบบี้จ้า เมอร์รี่คริสต์มาสย้อนหลังเนาะ
พี่คิวเข้าใจยากจัง แต่น้องเค้กก็ยังสามารถอะเนาะ
น่ารักอะ
รอลุ้นคู่นี้ต่อไป
-
ตกลงมันยังไงกัน เฮ่อๆ
ลุ้นจนก้นเปื่อยแล้วคู่นี้ อิอิ
-
เค้กอ่ะเหมือนจะเริ่มมีใจ
แ่ต่พี่คิวนี่...ยังไม่คิดจะชอบผู้ชายด้วยซ้ำ :z3:
ลองไปเชียร์คู่้เซ็นกัสน่าจะมีลุ้นกว่าเนาะตอนนี้
-
ท่าจะอีกนานกว่าพี่คิวจะหลงรัก
-
ฝันเป็นอะไรกับคิวน๊า...
แล้วพี่คิวเมื่อไหร่จะชัดเจนซักที
ตกลงคิดยังไงกับเค้กอ่า....อยากรู้ๆๆๆๆๆ :z3:
-
อยากจะรู้ว่าฝันนี่มันยังไงกัน ! 555.
-
อ่อยยยยยยยยยยย
น้องเค้กชอบสังเกตุอารมณ์พี่คิวซะด้วย มันน่ารักจริงๆ คิคิ
อยากรู้ว่าพี่คิวไปมูลนิธิเพราะเด็กๆหรือเพราะใครกันแน่ ฮ่าาาาาา คิดไปเองแล้วเรา
เซ็นกัสก็น่ารัก งุงิๆกันตลอดๆ ชอบๆๆๆ
เบบี้จะแกล้งกันไปอีกนานแค่ไหนคะ นี่ตอนที่ยี่สิบแล้วนา >0<
-
พี่หน้าโหด :m20:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้
ปล. จะไปรอทู้โน้น เมตร :n1:สลิ่ม :z2:
-
พี่คิวยังไม่ชัดเจนนะ
อะไรยังไงล้าาาาาา
น้องเค้กก็หึงมั่งเหอะ
ปล. คู่พี่เซ็นกะกัส แลดูน่ารักดี คู่กันช่ะ??
อั้ยย่ะ ลุ้นนนนนน
-
ตามอ่านทันแล้ว เย้ๆๆๆๆ
ชอบอาฟ้าที่สุดเลย ผู้ชาย เดินท่านกเพนกวิ้น กี๊ดดด น่ารักโคตรๆ :impress2:
-
มาลุ้นอาฟ้ากับน้องเค้กดีกว่า 5555
ดูน่ารัก กรุบกริบดีแท้ ปล่อยอิพี่คิวมันเก๊กต่อไป
ปากดีเรื่องเกย์ ระวังตัวเองก็ไม่พ้นนะจ๊ะพี่คิว
o22
-
ตกลงพี่ฝันเป็นอะไรกับพี่คิวกันแน่ คลุมเครือนะนิ :z3:
-
พี่คิวนี่ยังไงๆอยู่นะ เหมือนจะสนใจเค้กอยู่
แต่อีกทีก็เฉยชาซะจนน่าอึดอัดแทนเค้ก
คงต้องลุ้นกันต่อไป ชอบพี่ฟ้าจังเลยอ่ะ
ส่วนพี่เซ็นกับกัสนี่เค้าคู่กันหรือป่าวนะ
ดูๆไปพี่เซ็นก็สนใจทุกอย่างที่เกี่ยวกับกัส
แต่ท่าทีที่แสดงออกเหมือนจะไม่ถูกกัน
แต่ตอนล่าสุดนี่ทำเอากัสหน้าแดงได้เลย
อยากรู้ว่าเค้ากระซิบอะไรกันน้า :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
บวกกกกกกก1จ๊า :L2:
-
พี่คิวถามแบบนี้ได้ไงเพราะคนที่จะทำให้น้องเค้กเป็นก็นายไง
:pig4: คะ
-
อยากอ่านกัส-เซน บ้างอ่ะ
ชอบคู่นี้ ไม่รู้ว่าจะขอเกินไปอ่ะป่าว :กอด1:
-
ThankS
-
พี่คิวเดายากอ่ะ ชอบๆๆๆ o13
-
น้องเคกับพี่คิวเค้าจะอึนๆ หวานๆ กันอีกนานไหมอ่ะ คนอ่านลุ้นจะแย่แล้ว
-
ไปดูคอนโด แต่งงานกันเลย อิอิ
ก่าพี่ฝันอะนะ
ทำไมรู้สึกเหมือนว่าพี่ฝันไม่ค่อยชอบเค้ก หรือว่าคิดมากไปเอง
แต่ถ้าพี่คิวรักเค้ก คงจะไม่ชอบแหละ อิอิ
ถึงน้องนัทจะว่าพี่คิวว่าเปนยักษ์
แต่เก๊าก้ยังรักพี่คิวนะ
พี่ฟ้าด้วย ร่ัวจิงๆ น่ารัก
-
ฮึ่ย ยย่ะ พี่คิววว 5555น่ารักๆๆ :-[ :-[
-
ลุ้นๆๆ ให้เขารู้ใจตัวเองต่อไป ... แต่ที่รู้ พี่คิว น่ารัก :กอด1:
-
:bye2:
น้องเค้กรักเขาแล้วไม่รู้ตัว
-
เค้กน่ารักจัง ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อให้นะคับ รออ่านตอนต่อไปนะ :L2:
-
พี่ฟ้าน่ารัก! น่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลย
ไม่เหมือนพี่คิว ไม่น่ารักเอาซะเลย ชิชะ!
ไม่น่ารักแบบนี้จะไม่เชียร์แล้วนะ ทำตัวได้น่าอึดอัดมาก แต่ก็นะ นี่แหละพี่คิว
-
เอายัยฝันไปเก็บด่วนนน
-
ตามอ่านทันแล้ว
ยังไม่ค่อยเห็นพัฒนาการเท่าไหร่ แต่แค่ไปไหนมาไหนด้วยกันก็ถือว่าเยอะแล้ว ฮ่าๆๆๆ
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ลุ้นต่ออีกตอน..ใกล้เข้าได้เข้าเข็มรึยังเอ่ยยย....
-
ไม่มีเคมีระหว่างกันเลยแฮะ
-
ฮึ๊ย... ขัดใจ เมื่อไหร่อีพี่คิวมันจะอิ๊อ๊ะกะน้องเค้กเนี่ย ลุ้นจนหงิกแล้วเนี่ย เฮ้อ....
ปล. เค้าชอบกัสจังอ่ะ(บอกเพื่อ.... ) เหอๆๆๆ
-
:กอด1: :-[ :-[จ๊วฟๆเบบี้
ติดตามมาจนทันแระ......
-
งานนี้พี่คิวแมนจริง น้องเค้กจะเปลี่ยนใจได้ไหมเนี่ยยยย
-
คิดถึงจ้า
-
คิดถึงคิดถึงคิดถึง
-
~21~
21 ตุลาคม ณ บ้านเค้ก..
วันนี้เป็นวันเกิดของผม ผมเดินย่องเข้ามาในห้องนั่งเล่นของบ้านผมอย่างเงียบๆ แม่กับน้านั่งดูโทรทัศน์อยู่ตรงนั้น วันนี้เป็นวันหยุดทุกคนจึงอยู่พักผ่อนที่บ้านกันครบไม่ได้ออกไปไหน
“ชู่~” ผมจุ๊ปากส่งสัญญาณให้ตาว เรามองตากันอย่างอ่านกันออก
“แม่!” ผมกับตาวเรียกพร้อมกันแล้วแอบหลบไม่ให้แม่เห็นเราทั้งสอง
“เล่นอะไรกันน่ะ” แม่ว่าคิ้วขมวด ผมกับตาวหัวเราะตอบให้ก่อนที่ผมและตาวจะเดินถือของขวัญเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น แม่กับน้าติ๊กหันมามอง ใบหน้าของเธอทั้งสองคนเริ่มมีรอยยิ้มปรากฏให้เห็น
“หึ..” แม่หัวเราะเล็กน้อย ผมคลานเข้าไปหาแม่พร้อมกับของขวัญในมือ แน่นอนว่าวันนี้เป็นวันเกิดของผมไม่ใช่วันเกิดของแม่ แต่ผมทำเช่นนี้มาทุกทุกปี.."วันเกิดของลูกคือวันตายของแม่" ผมพึงระลึกถึงอย่างมีสติมาเสมอ แต่ก่อนผมอาจจะเคยสงสัยบ้างว่าทำไมวันเกิดของเราเรากลับต้องการทำให้คนรอบข้างมาฉลองวันเกิดให้ ทั้งทั้งที่คนที่คลอดเรามาเรายังไม่ให้ความสำคัญเลย ผมไม่เคยถามเรื่องนี้กับแม่ แต่เมื่อเติบโตขึ้นผมก็คิดได้ การที่เราครบรอบอายุอีกครั้งนั่นหมายถึงช่วงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ผมไม่เคยโกรธใครเลยถ้าเขาจะลืมวันเกิดของผม ผมคิดว่าเราควรให้ความสำคัญต่อคนที่คลอดเรามากกว่าที่จะให้ใครก็ไม่รู้มาสรรเสริญเรา
“ของคุณที่ให้เค้กเกิดมานะครับ” ผมยื่นของขวัญที่เตรียมไว้ยื่นให้แม่
“จ้ะลูก..ขอบคุณมาก เจริญๆนะลูกนะ” แม่โอบกอดผมเข้าไปพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ เรากอดกันตัวโยนทีเดียว
“อึก..เค้กรักแม่นะ” ผมกอดแม่ตอบ น้ำตาเริ่มคลออยู่ที่เบ้าตา
“แม่ก็รักหนู แม่ก็รักหนูลูก” แม่กอดตัวผมและโยกตัวไปมาเหมือนกล่อมเด็กอย่างนั้น
“อึก..ค้าบ” ผมกอดแม่แน่นกว่าเดิม เรากอดกันอยู่ครู่หนึ่ง ผมเช็ดน้ำตาของตัวเอง หันไปหาตาวที่ถือของขวัญอีกกล่อง
“อันนี้ของน้าติ๊กครับ” ผมยื่นให้น้าติ๊กด้วย
“ขอบใจ..เจริญๆนะลูกนะ ทำอะไรน้าก็ขอให้สมปรารถนา..จะทำอะไรก็ขอให้มีสตินะลูก เป็นคนดีของน้ากับแม่ไปตลอดนะ มีอะไรก็ขอให้บอกน้า ถ้าหนูเหนื่อยหนูก็ควรจะพักบ้างนะลูก” น้าลูบหัวผมเบาๆ ผมกราบตักหน้าติ๊กด้วย เราเหลือกันอยู่เท่านี้ ผมคิดมาตลอดว่าผมจะดูแลทุกคนในครอบครัวของผมให้ดี ถ้าครอบครัวของผมมีหัวใจไม่เข้มแข็งพอผมก็จะไม่สามารถก้าวสู่โลกภายนอกได้อย่างเข้มแข็งได้เช่นกัน ผมคิดอย่างนี้มาเสมอ
“น้าอวยพรยาวจัง” ผมพูดแซวทั้งน้ำตา
“หึ ไอ้นี่” น้าติ๊กหัวเราะ มือของน้ากำลังลูบหัวของผมอย่างอ่อนโยน
“วันนี้เลยไม่ได้ออกไปกินข้าวฉลองด้วยกันเลย” ตาวบ่นหน้าหงอยลง วันนี้เป็นวันที่ผมต้องไปดูมิกกี้เม้าท์กับพวกพี่ๆที่ร้าน ทำให้กิจกรรมสำหรับครอบครัวต้องยกเลิกไปโดยปริยาย
“ไว้ไปกินพรุ่งนี้ เดี๋ยวพี่เลี้ยงทุกคนเลยเป็นไง” ผมยิ้มบอก
“จริงนะ ไปดูหนังด้วยนะ” ตาวรีบเข้ามากอดแขนผมอย่างเอาใจ
“อืมๆ ก็ได้” ผมพยักหน้าตอบ
“นี่ของขวัญ” ตาวยิ้ม หยิบกล่องของขวัญจากด้านหลังมายื่นให้ผมด้วย
“ไรอ่ะ” ผมถาม เอากล่องมาเขย่าๆดู
“อย่าเพิ่งแกะสิ” ตาวว่าหน้างอ
“แล้วพี่เค้าจะมารับกี่โมงล่ะ” แม่ถาม
“สักประมาณบ่ายสามครึ่งอ่ะฮะ” ผมตอบ
“งั้นพี่เอาขึ้นไปเก็บก่อนนะ” ผมบอก ตาวพยักหน้า ผมนำของขวัญขึ้นไปเก็บไว้บนห้อง หยิบกระเป๋าเป้ที่เตรียมใส่ของสำคัญไว้เรียบร้อยนำลงมาด้านล่างด้วย อีกไม่กี่นาทีพี่ฟ้าก็คงจะมาถึงแล้ว ผมลงมานั่งดูโทรทัศน์กับแม่จนได้ยินเสียงรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน
ปี๊ม ๆ
“มาแล้ว..ไปนะแม่” ผมรีบลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงแตรรถ ไม่อยากทำตัวชักช้าอืดอาดยืดยาดเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรอนาน
“ดูแลตัวเองล่ะหนู อย่าไปรบกวนพี่ๆเค้ามากล่ะ” แม่สั่ง
“จ้า” ผมตอบ รีบวิ่งออกมาใส่รองเท้า ผมเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตูหน้าบ้าน พี่ฟ้ากำลังเดินเข้ามาในบ้านพอดี
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ฟ้าและลุกขึ้นยืนเมื่อใส่รองเท้าเสร็จ
“เสื้อน่ารักจัง” พี่ฟ้ายิ้มชม วันนี้ผมใส่เสื้อยืดแขนยาวลายมิกกี้เม้าท์ที่ตาวซื้อให้นะครับ ไปดูมิกกี้เม้าท์และใส่เสื้อมิกกี้เม้าท์..ผมไม่ค่อยแสดงอาการจนออกนอกหน้าเลยใช่ไหมล่ะ
“พี่ขอคุยกับแม่หน่อยสิครับ” พี่ฟ้าบอก
“ค..ครับ” ผมพยักหน้า เดินนำพี่ฟ้ามายืนรออยู่ที่ปากประตูบ้าน
“แม่..” ผมเรียกอยู่หน้าบ้าน ครู่เดียวแม่ก็เดินออกมา
“สวัสดีครับคุณน้า ผมขอเอาตัวเค้กไปหน่อยนะครับ..ดึกๆจะมาส่งให้ถึงบ้านเลยครับ” พี่ฟ้ายิ้มหวาน
“จ้า..ฝากด้วยนะจ๊ะ” แม่ยิ้มตอบ
“ทุกทีวันเกิดก็ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวที่ไหนหรอก อย่างมากก็ออกไปกินข้าวกัน..น้าฝากพาเที่ยวด้วยนะจ๊ะ ถ้าดื้อล่ะก็ดุได้เลย” แม่ยิ้มกว้าง
“ครับ น้องเค้กไม่ดื้อหรอกครับ เป็นเด็กดี” พี่ฟ้าชมพร้อมกับกอดไหล่ผมเข้าไปด้วย ผมยืนยิ้มกว้างอย่างภูมิใจ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” พี่ฟ้ายกมือไหว้อีกครั้ง แม่และน้าติ๊กรับไหว้
“ไปนะ” ผมยกมือบ๊ายบายทุกคนก่อนที่จะเดินมาขึ้นรถ
“ดีครับพี่คิวปิด” ผมทักคนขับรถที่นั่งหน้านิ่งให้พวงมาลัยอยู่ด้านหน้า
“หึ..” พี่ฟ้าหัวเราะ
“ฉันเพื่อนเล่นนายเหรอ” พี่คิวว่า
“ผมก็แค่เรียกชื่อพี่เอง ทำไมต้องทำหน้าบึ้งขนาดนั้นด้วยล่ะ” ผมยังคงแซวอย่างไม่รู้ไม่ชี้
“หึ..” ผมกับพี่ฟ้าหัวเราะพร้อมกัน พี่คิวมองผมผ่านกระจกหลัง ผมยิ้มกว้างให้ทำให้พี่คิวส่ายหัวเหมือนไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับผมต่อ
พี่คิวขับรถไปตามทางที่ผมไม่คุ้นเคย ที่จริงผมไม่เคยมาทางนี้เลยด้วยซ้ำ ระหว่างทางส่วนมากผมจะพูดคุยกับพี่ฟ้าซะมาก ส่วนพี่คิวเอาแต่นั่งเงียบ นั่งนิ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถที่ดี ถามว่าเวลาที่พี่เขาเงียบมันก็ดีน่ะนะเพราะเมื่อไหร่ที่พี่เขาอ้าปาก จะมีแต่คำไม่น่าฟังออกมาตลอดทุกทีนะสิครับ..
= = = = = = = =
ณ ร้าน If It Is..
“อีฟ อิท อีส” ผมอ่าน
“...............” ผมผงะเพราะพี่คิวเหลือบมองผมด้วยหางตา ผมจึงทำหน้าตาเลียนแบบพี่คิวย้อนใส่พี่คิวบ้าง
“พี่รู้สึกยังไง” ผมเบะปากถาม
“อะไร” พี่คิวถามกลับ
“ก็ที่ผมมองพี่กลับเมื่อกี้” ผมพูด พยายามทำหน้าให้ดูกวนโอ๊ยที่สุดเท่าที่จะทำได้
“หึ..เหมือนแมวกำลังขู่ ประมาณนั้น” พี่คิวแสยะยิ้มด้วยท่าทางยโสกวนบาทามากกว่าผมอีก
“พี่..” ผมกัดฟันจะด่าแต่กลับนึกคำด่าไม่ทันเพราะพี่เขาดันเดินหนีเข้าร้านไปก่อน ผมรีบเร่งเท้าเดินตามเข้าไป พี่ๆคนอื่นๆนั่งรออยู่ที่โต๊ะครบทุกคนแล้ว ทุกคนยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าผม พี่ฟ้าและพี่คิวเดินเข้ามา
“หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคน
“อาหารล่ะ” พี่ฟ้าถาม เลื่อนเก้าอี้นั่งที่หัวโต๊ะ
“เค้าบอกว่าใกล้เสร็จแล้วค่ะ” พี่ซีตอบ ผมยืนมองเพราะไม่รู้จะนั่งตรงไหนดี
“นั่งนี่ซิเค้ก” พี่กัสชวน ตบเก้าอี้ด้านข้างตัวเองเหมือนบอกให้ผมไปนั่งใกล้ๆ
“แย่งอ่ะ” พี่เซ็นพูดหน้างอ
“อะไร เค้กนั่งนี่น่ะถูกแล้วฮะ” พี่กัสย้อนว่า
“พี่กัสมานานแล้วเหรอครับ” ผมถาม
“อื้ม สักพักแล้ว..” พี่กัสยิ้มตอบ
“แล้วมายังไงเหรอครับ”
“คนรถที่บ้านมาส่งน่ะ” พี่กัสตอบ ผมได้แต่ยิ้ม เราก็มีคนรถกับเขาเหมือนกันนะ พี่คิวไง..คนรถของผมน่ะ
“นี่พี่หมีน้อย มองสาวโต๊ะนั้นนานแล้วนะ..ไม่สำรวมเลยให้ตายสิ” พี่ซีถอนหายใจทำหน้าเซ็ง พวกผมจึงหันไปมองบ้าง
“หึ..อะไร สำรวมอะไร” พี่หมีอมยิ้ม หันมามองแก้วเหล้าตรงหน้าของตัวเอง
“กิริยาของพี่ไง มองขนาดนั้นกลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าสนใจน่ะ..นี่ขนาดร้านอาหารธรรมดานะ ถ้าเป็นสถานเริงรมย์ละไม่อยากจะนึก” พี่ซีบ่นยาว พี่ออฟกับพี่หมีมองหน้ากันไปมา ทั้งสองคนเอาแต่อมยิ้มเหมือนอ่านกันออก
“ก็อย่านึกซิ พี่ก็เอาเชฟเซ็นเป็นไอดอลมาตลอดนั่นแหละ” พี่หมีตอบ ผมรู้ทันทีว่าพี่หมีแกล้งพูดแซวไปอย่างนั้น
“หึหึ ไอ้หมี” พี่เซ็นขำ ทำเอาพี่ซีหน้างอกว่าเดิม
“ก็หรือไม่จริง” พี่หมียักไหล่
“เจอคนที่ทำให้หลงรักขึ้นมาละจะรู้สึก ถึงวันนั้นเมื่อไหร่..ซีจะปิดบาร์ฉลองไปเลย” พี่ซีพูดอย่างมาดมั่นพร้อมกับตบโต๊ะคล้ายรู้สึกแค้นใจ
“เชิญฝันได้ตามสบาย” พี่เซ็นยักคิ้วตอบพี่ซี เสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยันพี่ซีออกมาจากพี่เซ็น พี่หมีและพี่ออฟ พี่ซีนั่งกัดฟันแน่นด้วยความโกรธแต่คงทำอะไรไม่ได้นั่นแหละครับ
พวกเรานั่งทานอาหารกันด้วยความเมามัน ทำไมถึงใช้คำว่า..เมามันนะเหรอครับ ก็เนื่องจากว่าระหว่างที่ทานไปทุกคนก็แลกน้ำลายกันไปเป็นระยะ มีหัวข้อสนทนาขึ้นใหม่ตลอดทำให้พวกเราแทบจะลืมทานอาหารไปเลยละครับ ทุกคนดูมีความสุขกันดี โดยเฉพาะพี่คิวที่วันนี้คงจะเป็นวันที่ทำให้พี่เขายิ้มบ่อยมากเท่าที่ผมเคยสังเกตเห็นมา
พรืบ~
“..............” ผมชะงักมองไปรอบร้านเพราะอยู่ๆไฟในร้านดับลง ลูกค้ามองหน้ากันคล้ายกับรู้สึกแปลกใจเช่นกัน
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู..” ผมสะดุ้ง วันนี้มีคนในร้านที่เกิดวันเดียวกับผมด้วยอย่างนั้นเหรอ รู้สึกตื่นเต้นทำไมไม่ทราบเหมือนกันครับแต่ใจมันเต้นไปเอง และอดอมยิ้มออกมาไม่ได้ที่พบความบังเอิญขนาดนี้
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู~” ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าคนที่ร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่กัสกับพี่ซีที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังร้านพร้อมกับเค้กปอนด์โต
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์..แฮปปี้เบิร์ดเดย์” พี่กัสกับพี่ซีถือเค้กเข้ามาใกล้โต๊ะมากขึ้น พี่ๆทุกคนลุกขึ้นยืน ผมเองเลยต้องลุกขึ้นยืนอย่างรักษามารยาทด้วย มือของผมปิดแก้มตัวเองอย่างรู้สึกเขิน ตอนนี้รู้สึกเหมือนแก้มของผมจะแตกออกมาแล้วละครับ
“แฮปปี้ เบิร์ดเดย์..ทูยู~”
“สุขสันต์วันเกิดนะเค้ก” พี่ซียิ้มบอก
“เป่าเลยๆ” พี่กัสบอก ผมยิ้มรีบเดินเข้าไปใกล้เค้กมากขึ้นและออกแรงเป่าเทียนจนดับลง
“ขอบคุณทุกคนมากเลยนะครับ” ผมยกมือไหว้ มือที่ยกมือไหว้นี้ต้องนำขึ้นมาลูบแก้มตัวเองอีกครั้งเพราะรู้สึกดีใจมากจริงๆ
วันเกิดของผมส่วนมากจะไม่ค่อยมีการเซอร์ไฟร์สเกิดขึ้นมากนัก ส่วนมากจะได้รับการเซอร์ไฟร์สจากตาวและเพื่อนสนิทเสียมากกว่า แก้วเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่ชอบจัดงานวันเกิดให้ผม ทั้งทั้งที่แก้วก็รู้ดีว่าผมชอบใช้เวลาของงานวันเกิดกับครอบครัวซะมากกว่า แต่ไม่ใช่ไม่ชอบให้เซอร์ไฟร์สหรอกนะครับ แต่การเซอร์ไฟร์สแบบครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลยในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยละครับ ในร้านอาหารหรูๆกับเพื่อนๆในที่ทำงาน กับเค้กปอนด์ใหญ่มาก ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้รับมาในงานวันเกิดของตัวเอง..
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ อยู่กับพวกเราไปนานๆนะ” พี่ซียื่นกล่องของขวัญมาให้ผม
“นี่ด้วย” พี่ออฟวางของขวัญลงทับบนกล่องของพี่ซี
“สุขสันต์วันเกิดนะไอ้แมว” พี่หมีขยี้หัวผมพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญมาให้
“ขอบคุณครับ” ผมก้มหัวให้ทุกคนและแทบยิ้มไม่หุบ
“นี่ของพี่ครับที่รัก” พี่เซ็นยื่นกล่องเล็กๆเท่าฝ่ามือกล่องหนึ่งมาให้ผม
“อะไรครับเนี้ย” ผมขมวดคิ้วอมยิ้มมองที่กล่อง
“อย่าลืมใส่ด้วยล่ะ” พี่เซ็นบอก ทุกคนมอบของขวัญให้ผมครบหมดยกเว้นคนเดียวคือพี่โหดอย่างพี่คิว พี่เขายังคงนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา พอผมเหลือบหันไปมองพี่คิว พอเราปะทะสายตากันพี่คิวก็หลบสายตาผมอีก ผมไม่ได้พูดทวงหรืออะไรเพราะคิดว่ามันคงจะเสียมารยาท หรือถ้าพี่เขาจะไม่ให้ของขวัญแก่เรา มันเป็นสิทธิ์ของพี่เขาด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณทุกคนเลยนะครับ เค้กไม่เคยมีใครมาจัดงานวันเกิดให้แบบยิ่งใหญ่แบบนี้เลยนะครับเนี้ย” ผมคุย
“จริงดิ” พี่ฟ้ายิ้มเหมือนไม่เชื่อ
“จริงฮะ” ผมรีบพยักหน้าตอบ
“ดีใจก็ดีแล้ว เค้กปอนด์นี้เนี้ย..พี่คิวลงมือทำเองเลยนะ” พี่กัสกระซิบข้างหูผมเบาๆ
“จ..จริงเหรอครับ” ผมอ้าปากค้าง มันตะลึงตึงๆมาก o_O
“อื้อ แต่อย่าพูดไปล่ะ..เดี๋ยวจะโดนดุเอา” พี่กัสกระซิบเตือนอีก
“ครับ” ผมพยักหน้ารับคำก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้พี่คิวด้วยอีกคน พี่คิวแสยะยิ้มเหมือนไม่เต็มใจ ผมเลยยักคิ้วกวนพี่เขาทำให้พี่คิวอึ้งค้างไปนิดหน่อย
เรานั่งกินอาหารหวานกันต่อ โดยมีเค้กของผมเป็นอาหารมื้อหลัง สั่งเครื่องดื่มหวานๆมาทานปิดอาหารคาวจนอิ่มกันไปตามๆกัน แต่เค้กปอนด์ใหญ่นี่ยังเหลืออีกตั้งครึ่งปอนด์นะครับ พี่ฟ้าเลยบอกให้ผมนำกลับบ้านไปให้ตาวทานด้วย วันเกิดปีนี้ดีจังเลยนะครับ ผมก็ไม่ได้บอกว่าปีอื่นไม่ดี แต่ปีนี้มันพิเศษไปอีกแบบ เป็นแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
~ยิ้ม (^___^) แก้มแตก~
หลังจากที่เราทานอาหารกันเสร็จและพี่ฟ้าได้เรียกเก็บเงินเรียบร้อย ผมเดินตามตูดพี่คิวออกมาจากร้าน ส่วนพี่ออฟกับพี่หมีออกเดินทางนำออกไปก่อนแล้ว
“ถุงไรอ่ะ” ผมถามขึ้นโต้งๆอย่างสอดรู้ ในมือของพี่คิวถือถุงอะไรสักอย่างอยู่จนทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้
“ยุ่ง” พี่คิวตอบพร้อมมองผมด้วยหางตา
“ชิ” ผมจิปากให้ รีบเร่งเท้าเดินหนีนำพี่คิวด้วยความหมันไส้ ตอนนี้มือไม้ผมเต็มไปด้วยกล่องของขวัญจากพวกพี่ๆ จะเดินเร็วไปกว่านี้คงไม่ได้เพราะกล่องอาจจะหล่น ส่วนพี่คิวไม่เคยคิดจะช่วยผมถือของอยู่แล้วล่ะครับ
“หวา..ไรอ่ะ ไรอ่ะ” ผมโวยวาย อยู่ดีๆก็มีผ้าอะไรมาคลุมหัวผมก็ไม่รู้
“หึ..” เสียงพี่คิวหัวเราะทำให้ผมถึงกับชะงัก
“พี่คิว อะไรอ่ะครับ..” ผมเดินเวียนไปรอบๆเพราะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ และไม่กล้าปล่อยกล่องของขวัญลงเพราะกลัวว่าของจะเสียหาย ผ้าที่คลุมหน้าผมอยู่ทำให้ผมมองอะไรไม่เห็นเลย
“ก็นายถามไม่ใช่รึไง ว่าในถุงคืออะไร” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ ผมหน้าเสียเพราะคิดว่าคงโดนแกล้งเข้าให้แล้ว
“เอาออกนะ พี่คิว!” ผมโวย ทำเสียงหงุดหงิดเพื่อจะขู่อีกฝ่าย แต่อยู่ๆเสียงรอบตัวผมกลับเงียบลง
“ไอ้บ้า” ผมบ่นว่าไปเรื่อย รีบก้มตัวลงอย่างระวัง และวางกล่องของขวัญลงบนพื้นอย่างช้าๆ พอผมวางเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงรีบลุกขึ้นยืนและหยิบผ้านี่ออกจากหัวทันที
“เสื้อ..” ผมชะงัก ตาโตมองเสื้อกันหนาวแขนยาวสีเทานี่อย่างไม่เข้าใจ
“อ๊ะ..คือ” ผมเงยหน้ามองหน้าพี่คิวแต่กลับไม่กล้าถามพี่คิวออกไป ในใจกำลังคิดเข้าข้างตัวเองว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดของผมที่พี่คิวให้รึเปล่า หรือแค่เสื้อที่ต้องการนำมาแกล้งผมกัน
“ให้” พี่คิวพูด ผมอมยิ้ม รีบพลิกเสื้อดูไปมา ด้านหลังเป็นลายสเมิร์ฟส์ชูสองนิ้วอยู่ด้วย มันน่ารักมากมากเลยละครับ
“ขอบ..” ผมเงยหน้าจะเอ่ยปากขอบคุณแต่อีกฝ่ายกลับเดินล้วงกระเป๋าหนีไปแล้ว
"คุณ" ผมทิ้งเสียงลงทั้งรอยยิ้ม
“ไปกัน” พี่ฟ้ายิ้มเดินออกมาจากร้าน ผมรีบหุบยิ้มลงในทันที
“ของใครน่ะเค้ก” พี่ฟ้าถามถึงเสื้อในมือ
“เอ่อ ของ..ของเค้กน่ะครับ” ผมตอบและกอดมันเข้ากับตัว
“เอามาตอนไหน ทำไมพี่ไม่เห็น” พี่ฟ้าขมวดคิ้ว
“หึ..พี่ฟ้าไม่ทันสังเกตน่ะสิครับ ไปกันเถอะ” ผมบอกปัด ก้มลงหยิบกล่องของขวัญที่พื้นขึ้นมา พี่ฟ้าช่วยผมถือของอีกแรง เราออกเดินทางกันโดยรถของพี่คิว คราวนี้พี่กัสต้องนั่งรถไปกับพวกเราด้วย ส่วนพี่ซีไปรถคันเดียวกันกับพี่เซ็นแล้วครับ
“เสื้อน่ารักป่ะฮะ” ผมแกล้งถามคนด้านหน้ารถ ผมคิดว่าพี่คิวคงไม่อยากให้คนอื่นๆรู้ว่าพี่คิวก็ให้ของขวัญกับผมด้วยเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเมื่อกี้พี่คิวคงจะไม่เดินหนีผมอย่างนั้นหรอกละมั้งครับ
“น่ารักอ่ะ อยากได้บ้าง..ซื้อที่ไหนเหรอ” พี่กัสถาม หยิบเสื้อของผมไปดู
“ไม่บอก เค้กจะใส่คนเดียว” ผมยิ้ม
“เค้กอ่ะ” พี่กัสหน้างอลง พี่กัสน่ารักดีนะครับ เป็นคนที่เอาแต่ใจบ้างบางครั้ง ส่วนมากจะขี้งอนแต่ไม่ได้งอนแบบรุนแรง ทำให้รู้สึกว่าน่าทะนุถนอมดี
= = = = = = = =
หลังจากที่พวกเราดูละครเวทีเสร็จ พวกเราพากันมานั่งที่ร้านคาเฟ่เพื่อหาอะไรดื่มรองท้องเพราะพี่ฟ้ากับพี่ซีบ่นว่าหิว..
“ไปยังพี่” พี่หมีพูดขึ้น ผมหันไปมองอย่างสนใจ
“เออๆ..” พี่เซ็นพยักหน้าตอบพร้อมกับวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ
“ไปไหนกันเหรอครับ” พี่กัสถาม มองหน้าพี่หมีอย่างต้องการคำตอบ
“อยากรู้ไปทำไม” พี่เซ็นยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พี่กัส
“ถามพี่หมีเหอะ” พี่กัสตวัดตาหนีสายตาของพี่เซ็น
“ไปเที่ยว ไปเปล่า” พี่หมีชวน
“อืม..ไปดิกัส เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้เที่ยวกลางคืนเลยไม่ใช่รึไง วันนี้พี่เซ็นเป็นเจ้ามือเลยนะ” พี่ออฟชวน
“เหรอ..” พี่กัสทำหน้าหงอยลง ผมนั่งมอง คนอื่นๆยังคงนั่งเงียบ พี่ฟ้ากำลังสนใจหนังสือในมือของตัวเองโดยไม่สนใจลูกน้องเลย
“ไปเปล่า” พี่เซ็นชวนอีก
“กัสไปไม่ได้ พวกแกจะไปไหนก็ไป..แต่อย่ายุ่งกับกัส” พี่ฟ้าพูดเสียงเข้มขึ้นทั้งทั้งที่ตายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือพลางหยิบแก้วกาแฟขึ้นดื่ม
“.................” ทุกคนเงียบไปสนิท พี่หมีกับพี่ออฟมองหน้ากัน ตอนนี้ทุกคนนั่งนิ่งไม่กล้าพูดอะไรสักคำเพราะสถานการณ์มันแปลกๆนะสิครับ
“วันนี้พี่รับปากพ่อไว้ว่าจะไปส่งให้เอง กัสจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น..” พี่ฟ้าหันมายิ้มอย่างอ่อนโยนให้พี่กัส พี่กัสยิ้มน้อยๆตอบ
“ดุจริงนะอา ปล่อยน้องไปเที่ยวแค่นี้จะเป็นไร” พี่เซ็นพูดอย่างไม่สนใจอะไร
“มึงก็ไปขอพ่อกัสเองสิ ไอ้ห่านี่พูดอะไรไม่คิด” พี่คิวว่าขึ้นก่อนวางแก้วกาแฟลงด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนนี้ความรู้สึกของผมเหมือนกับพี่คิวเป็นพระราชาและพี่ฟ้าเป็นพระราชินีอย่างไรอย่างนั้น
“ก็ว่าไป..กูแค่อยากให้น้องไปเปิดหูเปิดตาบ้าง” พี่เซ็นยิ้มด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงไม่เลิก
“กัสไม่ใช่คู่ขามึงนะ ที่จะลากไปไหนมาไหนได้น่ะ” พี่คิวถอนหายใจพร้อมกวักมือเรียกพนักงาน และชี้ที่แก้วกาแฟของตัวเองเป็นการสั่งแทนการพูด พนักงานรีบมาเติมน้ำร้อนให้พี่คิว
“...............” ทั้งโต๊ะเงียบสนิทลงอีกครั้ง ผมเองก็กำลังอึ้งกับคำพูดของพี่คิวด้วยเช่นกัน
“มึงนี่..กูไม่ได้คิดงั้นสักหน่อย” พี่เซ็นเริ่มไม่ยิ้มแล้ว พี่เขาเกาหัวทำหน้าเซ็ง พี่กัสนั่งก้มหน้าเงียบไป
“น้องมันไม่เที่ยวก็ดีแล้ว ไปชวนน้องมันทำไม..จะชวนใครก็เลือกให้ถูกคนหน่อย ไม่ดูตาม้าตาเรือขึ้นมาเดี๋ยวได้ทำคนอื่นท้องอีกหรอก” พี่คิวว่าให้อีกยก ผมนั่งอ้าปากค้าง เพราะผมตกใจที่พี่คิวว่าตรงมากแต่สีหน้ากลับยังคงนิ่งไม่เปลี่ยน ทำให้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพี่เขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่ผมอึ้งและสงสัยมากกว่านั้นคือ..พี่เซ็นเคยทำใครท้องอย่างนั้นเหรอครับ..
“ถุงยางก็ใช้บ้าง กูขี้เกียจวิ่งเรื่องให้อีก มากกว่านั้น..กูไม่ต้องการมีเพื่อนเป็นเอดส์ ชอบเที่ยวก็ฉลาดหน่อยนะเรื่องบนเตียงน่ะ” พี่คิวตอกไม่หยุด ผมอยากจะทำเป็นไม่ได้ยิน แต่ทำไม่ได้เพราะคำพูดนั่นกระแทกเข้าโสตประสาทของผมอย่างจัง ผมไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากของพี่คิวอย่างง่ายดายขนาดนี้ ถึงผมจะรู้ว่าพี่เซ็นเพลย์บอยแค่ไหน แต่ในความรู้สึกของผมพี่คิวคงมีนิสัยเจ้าชู้ไม่เท่าพี่เซ็นเท่าไหร่นัก แต่เมื่อได้มาฟังคำพูดที่หลุดออกมาจากปากพี่คิวแบบนี้แล้ว ทำให้ผมรู้สึกแย่นิดหน่อย เหมือนกับมีอะไรอีกหลายอย่างที่ผมคงคิดในแง่ดีไปเอง เหมือนกับผมมองภาพพี่คิวไว้อีกอย่างหนึ่งแต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่ซะทีเดียว คำพูดนี้ของพี่คิวสามารถสะท้อนความมืดบางด้านของพี่คิวได้ด้วยเหมือนกัน..ผมรู้สึกอย่างนั้น
“ไอ้คิว มึงไว้หน้ากูบ้างได้ไหม..น้องอยู่เต็มโต๊ะเนี้ย” พี่เซ็นคิ้วขมวดและเริ่มหน้าเสีย
“ตอนมึงทำเรื่องมาให้กู มึงเคยไว้หน้ากูไหมล่ะ” พี่คิวมองตาขวางใส่พี่เซ็น
“ไอ้ห่า ก็มึงเพื่อนรักกูหนิ..ไม่ให้มึงแก้ปัญหาให้ แล้วใครจะแก้ล่ะนะ หึ” พี่เซ็นยิ้มเจ้าเล่ห์ ดูเหมือนพี่เซ็นจะไม่ได้สลดลงเลยละครับ..
“วันหลังมันจะชวนอะไร กัสก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ซะ..หมามันยังหม้อเลย อย่าหลงกลเชียว” พี่คิวพูดเอ่ยชื่อพี่กัสแต่ดันกลับหันมาสบตาผม ผมตกใจรีบหลบสายตาในทันที คราวนี้ช็อตเด็ด ไม่ใช่แค่ผมที่อึ้ง แต่ตอนนี้ทั้งพี่ซีเองก็นั่งอ้าปากค้างไปแล้ว
“พี่ไม่ได้ว่ากัสไม่ดีพอสำหรับมันนะ” พี่คิวยังไม่หยุด นี่คงเป็นอีกครั้งที่พี่คิวพูดมากทั้งทั้งที่มีคนอยู่เต็มโต๊ะ ปกติถ้าคนอยู่เยอะๆแบบนี้พี่เขาจะไม่พูดเท่าไหร่
“แต่กัสดีเกินไปนะครับ” พี่คิวยิ้ม พี่กัสยิ้มแหย หน้าเศร้าจนผมอดสงสารไม่ได้
“หึ..โดนเข้าให้ไหมล่ะ” พี่ฟ้าเบะปากอมยิ้ม ปิดหนังสือในมือและวางลงบนโต๊ะ
“ฮื้มมม” พี่เซ็นลูบหน้าลูบตาตัวเอง แถมยังมีการแอบมองหน้าพี่กัสลอดผ่านระหว่างนิ้วมือของตัวเองอีกด้วย
“ไปเว้ยไอ้หมี อยู่ไม่ได้ละ” พี่เซ็นลุกขึ้น หยิบกุญแจรถยื่นให้พี่ซี
“ขับกลับดีๆล่ะ” พี่เซ็นบอกพี่ซี
“อื้ม จะไปเมาที่ไหนต่อ กลับคอนโดหรือกลับบ้านก็ส่งข้อความมาบอกซีด้วยนะ” พี่ซีพูดเสียงเบา
“ครับ น้องรัก” พี่เซ็นยิ้ม
“ไปนะอา” พี่เซ็นหันมาบอกพี่ฟ้า
“โชคดี” พี่ฟ้าตอบส่งๆ พี่หมี พี่เซ็นและพี่ออฟเดินออกจากคาเฟ่ไป
“เฮ้อ..กัส” พี่คิวถอนหายใจ
“ค..ครับ” พี่กัสเงยหน้ามองพี่คิว ผมรับรู้ได้ถึงความประหม่าที่พี่กัสมี
“เมื่อกี้ โทษทีนะ..พี่แค่อยากด่ามันน่ะ” พี่คิวพูดไม่ได้มองหน้าพี่กัส พี่เขาเอาแต่มองแก้วกาแฟตรงหน้าตน
“ไม่เป็นไรครับ” พี่กัสพยักหน้าและยิ้มให้น้อยๆ
“แต่พี่ก็พูดจริงด้วยส่วนหนึ่งนะ..” พี่คิวเงยหน้าขึ้นจ้องพี่กัสตอบ
“คิว” พี่ฟ้าปราม พี่ฟ้าเอื้อมมือลูบหัวพี่กัสเบาๆแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ครับ” พี่กัสตอบเสียงเบา ผมรู้สึกสงสารพี่กัสขึ้นมา และได้แต่เอื้อมมือไปลูบแขนพี่กัสไว้เบาๆถึงแม้ว่าผมไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือมีเรื่องนอกในมากกว่านี้รึเปล่า แต่จากที่ได้ฟังจากคำพูดของพี่คิวเมื่อกี้แล้ว ประโยคมันไม่น่ายินดีแม้แต่นิดเดียว และผมก็พอจะเข้าใจอารมณ์ของพี่กัสในตอนนี้ด้วย ขนาดผมเองยังรู้สึกแย่ พี่กัสเองคงจะแย่ยิ่งกว่านะสิครับ
..................>>>><<<<..................
-
^ จิ้ม สวัสดีปีใหม่เบบี้ด้วยคับ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคับ
-
จิ้มเจ๊เอาฤกษ์เอาชัย
แล้วสะบัดหัวหนี :laugh:
-
น่ารักเสมอต้นเสมอปลายอ่ะ แล้วเมื่อไรจะเปิดใจกว้างๆเนี่ย
พี่คิวแอบชอบน้องเค้กแล้วอ่ะดิ คิคิ
เราไม่ว่าไรพี่คิวหรอก เพราะว่าพี่คิว หล่อและรวยมาก
ขอบคุณน๊า เบบี้ที่รัก สวัสดีปีใหม่ :) :t3:
-
แปะก่อน :impress2:
กำลังดีด้าดีใจกับความใจดีของพี่คิวอยู่เลย (เค้ดแอบหวงของที่พี่คิวให้ด้วย)
มาลงท้ายที่ความเห้นใจพี่กัส แอบมีใจให้พี่เซ็นแน่ๆแต่พี่เซ็นก็นะ :m29:
-
เพิ่งเห็นคิวพูดยาวๆๆ ก็ตอนนี้อ่ะ
-
ก่อนอื่นก็ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าให้คุณเบบี้ค่ะ
ปีนี้ได้อ่านนิยายดีๆ ตั้งหลายเรื่อง ขอบคุณจริงๆ นะคะ :pig4:
พี่คิวตอนให้ของขวัญน้องเค้กน่ารักจริงจังมาก
จะให้ตรงๆ คงเขินสินะ ปกติไม่ค่อยแสดงออกอะไรแบบนี้แหงๆ
ส่วนพี่เซ็นโดนแฉแหลกเลยอ่ะ พี่คิวใส่ไม่ยั้ง เหอเหอ
-
^
^
จิ้มเบบี้อีกที
สวัสดีปีใหม่
มีความสุขในทุกๆวัน
มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง :L2:
-
คิว พูดแต่ละครั้ง ช่างแสบทรวงเสียจริงๆ
อ่านไป ดันนึกว่า คิวด่าเราซะนี่ กร๊ากกก อินจัด
-
แปะ ๆ ไว้ก่อนน้า :m26:พี่คิว ><
-
ค้างตับมากอะ
-
พี่คิวให้ของขวัญน้องเค้ก แต่ทำไมเราเขินวะ??? :o8:
-
ตอนนี้พี่คิวออกตัว แร๊ง อะ เอาซะเซ็นเกือบไปไม่เป็น
แต่ก็สงสารกัสอะ..เศร้าเลย
แหมะ คิว มีแอบเอาของขวัญมาให้แบบลับๆรู้กันสองคน..น่ารักจัง :o8:
ปล.สวัสดีปีใหม่น้า มีความสุขมากๆ แล้วก็มีผลงานมาให้ติดตามเรื่อยๆน้าๆๆๆ :pig4:
-
สวัสดีปีใหม่ด้วยเช่นกันค่าาาาาา
[attachment deleted by admin]
-
:กอด1:
-
นายคิวพาคนอ่านครียดไปด้วย
:mc1: :mc3: :mc2:
Happy New Year 2012
มีความสุขมากๆ นะครับเบบี้
+1
-
พี่คิวแรงอะ
แต่พี่เซ็นก็นะ ท่าจะเพล์ยบอยตัวพ่อ
สงสารกัสจริง ๆ
ชอบพี่คิวในโหมดน่ารักที่ซื้อเสื้อสเมิร์ฟให้เค้กอะ
อยากให้เผยมุมแบบนี้เยอะ ๆ จัง
ขอบคุณเบบี้สำหรับของขวัญปีใหม่นี้จ้า
ขอให้ได้รับความสุขจากทุกสิ่งที่ทำนะ
:กอด1:
-
สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันจะเบบี้ ถ้าจะเดินทางไปเที่ยวก็ขอให้เดินทางปลอดภัยจ้า
เค้กน่ารักอีกแล้ว ดูเป็นเด็กน่าทะนุถนอมไม่เปลี่ยน นอกจากทำเค้กให้แล้วพี่คิวยังเก็บของขวัญอีกชิ้นมาให้เค้กเป็นการส่วนตัวอีก แบบนี้เรียกได้ว่าพี่คิวเริ่มสนใจน้องบ้างแล้วหรือเปล่าเนี่ย เพราะถ้าบริสุทธิ์ใจไม่มีความนัยน์แอบแฝงก็น่าจะให้ตอนที่ทุกคนให้ของขวัญเค้กนะ ชัดเจนหน่อยคะพี่คิว มัวแต่เก็กระวังจะมานึกเสียดายภายหลังนะคะ
โหยพี่คิวพูดเป็นชุดซะไม่ไว้หน้าพี่เซ็นเลย เล่นเอาเราไปไม่ถูกเหมือนกันนะนี่ เพราะเรื่องนี้เปล่าเนี่ยพี่ฟ้าถึงดูหวงๆกัสไม่ให้เซ็นเข้าใกล้ เห้อ กัสก็มีใจให้พี่เซ็นด้วยสิ แต่เจ้าตัวเนี่ยใจก็คงสนใจชอบพอกัสอยู่แน่ๆ แต่ไอ้นิสัยเจ้าชู้ไปเรื่อยอ่าดิ มันจะทำให้กัสยิ่งเจ็บ ก็ได้แต่หวังว่าพี่เซ็นแกจะเลิกนิสัยแบบนั้นได้ และรู้ใจตัวเองซะทีว่าชอบกัสจริงๆหรือแค่หยอกไปวันๆ
โหยจบค้างนะนี่ อิอิ
-
กัสกับพี่เซ็น มันต้องมีอะไรแน่ๆ
-
พี่คิวแร๊งงงงงงส์อะ วันนี้แอบน่ารักนะพี่คิว มีการแอบให้เสื้อด้วยอะ
จะปีใหม่แล้ว ปีหน้าขอพี่คิวลุคใหม่นะ ๕๕๕๕๕ เอาให้เค้กเขินตายไปเลย
-
พี่คิวน่าร๊ากกกกกกกก :impress2:
-
ตอนแรกๆยังอิ๊อ๊ะๆ ยิ้มหน้าบานอยู่เลย ตอนท้ายทำไมเครียดงั้นละ เหอๆๆๆๆ
ขอแซวคิวเค้กหน่อยนะ เหมือนเจอประโยคเด็ดหลายอัน เอิ๊กส์
ทั้ง คนขับรถส่วนตัวบ้างล่ะ(เหมือนมีนัยแอบแฝง) ทั้งเสื้อที่เค้กจะใส่คนเดียวบ้างล่ะ ฮิ้วววววววว
แต่ของขวัญวันเกิดนี่เหมือนพี่คิวพิเศษกว่าทุกคนนะ ตอนแรกนึกว่าจะได้แค่เค้ก คึคึ
ให้เสื้อยังให้แบบแอบๆเลย อ่อยยยยยยย ใจเต้นแรงแทนทั้งคู่ไปแล้ว
กอดเบบี้ที่รัก แฮปปี้นิวเยียร์ค่าาาาา
รักเธอเสมอน้าาา คิคิ
-
ตอนนี้บทพี่คิวพูดเยอะเว่อร์อ่ะ ฮาาา
-
พี่คิวกะเค้กน่ารัก
มีแอบให้ของขวัญกันด้วย ><
แต่พี่เซ็นกะกัสสิ
ท่าทางจะมาคุซะแล้ว
-
waa laew waa p'zen ka p'kas mii something kan aa,,hu hu hu...
P'Q ka N'Cake narak jung loei...ei ei ei!! :L2:
-
วันสิ้นปีแล้ว ^ ^
พี่คิวพูดน้อย ต่อยหนักเน๊อะ
-
เหมือนความสัมพันธ์จะพัฒนามากขึ้นจิ๊ดดดนึง(หรือเปล่านะ)
เอาล่ะก็ดีกว่าหยุดนิ่งอยู่กับที่นั่นแหละเนอะ o18
-
มีแอบซื้อของขวัญให้ด้วย :m1:
-
เป็นอันว่าไอ้พี่เซ็นนี่ หมายจะกินกัส เป็นแน่แท้ ส่วนกัสก็มีใจให้ เพียงแต่พฤติกรรม ยังคงต้องผ่านการพิจารณาอีกสักพัก
บทจะนิ่งก็นิ่งเสีย บทจะพูด วงแตกเลย :m20:
เค้กเอ้ย... ในโลกนี้ไม่มีใครไม่มีด้านมืดหรอก ยกเว้น องค์พุทธะ กับ พระอรหันเท่านั้นแหละ ที่ละสิ่งอันเป็นมลทินทั้งหลายทั้งสิ้น
หมดแล้ว :m5: :m5: :m5:
+1 ให้เป็นกำลังใจ และ สวัสดีปีใหม่ สุขภาพแข็งแรง สมองปรอดโปรง มีคนรักคนเมตตานะครับ :กอด1:
-
วันนี้พี่คิวจัดหนัก แต่สงสารกัส มันต้องมีอะไรลึกซึ้งแน่ๆ
แต่พี่คิวแอบน่ารัก ให้ของขวัญเค้กก็ไม่กล้าให้ ต้องแอบให้อีกนะ :m20:
-
โอ๊ยยยยยยย ทำไมพี่คิวทำตัวน่ารักอย่างนี่้นะ
:กอด1: :กอด1:
-
พี่คิวเทศยาวเลย จ๋อยกันเป็นแถว
สุขสันต์วันปีใหม่นะเบบี้ :L2:
-
พี่คิวแอบน่ารักอีกละ น้องเค้กคงดีใจมากเลย
ถึงจะนิ่ง ๆ เก๊ก ๆ แต่ก็มีแอ๊บน่ารักนะจ๊ะ
แต่ตอนพูดกับพี่เซ็นแรงจริง อะไรจริง :z2:
แต่ตรงประเด็นมาก ท่าทางพี่คิวจะพูดเพื่อปกป้องน้องกัสด้วย
ตอนนี้เข้มมากพี่คิว น้องเค้กน่ารักเช่นเดิม
ปล.สวัสดีวันส่งท้ายปีเก่า และสวัสดีล่วงหน้าปีใหม่ 2555
ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง :L2:
มีความสุข คิดดี ทำดี กันนะคะ
-
กัสน่าสงสารจิงๆ
happy new year จ้า
-
ท่าจะมีอดีตอะไรบางอย่างระหว่างเซ็นกับกัสนะเนี่ย
-
พี่คิวเท่อีกละ
แอบมีโมเมนท์น่ารักๆ
Happy New Year
-
ของขวัญของพี่คิวคงจะเป็นของหวงของเค้กในไม่ช้าล่ะ
ปลื้มใจแทนเค้กได้พบเจอคนดีๆได้ความรักและความเอ็นดู
แต่ติดใจเรื่องของพี่เซ็นนี่สิ ต้องเกี่ยวข้องกับกัสแน่เลยอ่ะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2: บวกเป็ดนะคะ
สวัสดีปีใหม่ทุกคนค่ะ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทองนะคะ :L1:
-
แล้วพี่เซ็นไม่คิดจะหยุดความเจ้าชู้บ้างเลยเหรอ เฮ้อออ
-
พี่คิวมีของขวัญให้เค้กด้วยน่ารักอะ แล้วก้อสวัสดีปีใหม่นะงับ
-
เอร๊ย ~
นึกว่าพี่คิวจะไม่มีของขวัญให้เค้กซะแล้ว :o8: น่ารักจังเลย
พี่คิวหล่อ และรวยมาก !
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13 พี่คิวน่ารัก อะ รอต่อไปค่ะ สวัสดีปีใหม่นะค่ะ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
พี่คิวมาเป็นชุดเลยอ่ะ แอบน่ากลัว ><
สงสารพี่กัส คนละขั้วกันก็จริงอยู่แต่ถ้าพี่เซ็นปรับตัวมาก็น่าจะเป็นไปได้หนิ ถ้าพี่เซ็นจะปรับตัวอ่ะนะ..
ของขวัญจากพี่คิวเป็นเสื้อสเมิร์ฟส์ด้วย น่ารักจริงจริ๊งสองคนนี้
ขอบคุณสำหรับของขวัญปีใหม่ค่า ขอให้คุณเบบี้สุขภาพเเข็งแรง มีความสุขมากๆตอนรับปีใหม่นะค๊า ^^
-
น่าอิจฉาเค้กจังน๊า วันเกิดรอบนี้มีเสื้อสเมิฟจากคนหน้านิ่งมาเซอร์ไพส์ด้วย ^^
แต่งานกร๊อยๆ เลยพี่เซ็นนะ ทำพี่ฟ้าพี่คิวอารมณ์ขึ้น สงสารกัส
สุขสันต์วันปีใหม่นะค่ะทุกคน
-
พี่คิวมันเอ็นดูน้องจริงๆนะ เพียงแต่มันเป็นคนแข็งกระด้างอ่ะ (วิเคราะห์ไปโน่น)
แล้วที่เตือนกัสไปเนี่ย จริงๆก็ห่วงเค้กด้วยใช่ป่ะล่า.......
Happy New Year นะคะเบบี้ :กอด1:
-
พี่คิวเท่ห์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมาก
Happy New Year น่ะจ๊ะเบบี้ :L2:
-
ปมเยอะมากมายยยยย....เริ่มอยากให้คลายปมละนะคับบบ
ั
ปล.Happy New Year นะคับบ
-
ขอบคุณเบบี้เช่นกันค่ะ สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ :L2:
-
พี่คิวปิดเป็นคิงส์ พี่ฟ้าเป็นควีน 555 น้องเค้กช่างคิดเนาะ
ทั้งลึกทั้งคมแบบพี่คิว เวลาอินเลิฟคงโรแมนซ์น่าดู อยากให้ถึงตอนนั้นเร็วๆ จัง อยากอ่านเลิฟซีนแบบมีปรัชญา....
ขอบคุณไอ้น้องบี้ สวัสดีปีใหม่เช่นกันจ้ะ
:กอด1:
-
ขอบคุณสำหรับของขวัญชิ้นนี้
มีความสุขมากๆเช่นกันครับ
-
สวัสดีปีใหม่ครับพี่เบบี้ ขอให้พี่สวยวันสวยคืนนะครับ
-
พี่คิวปากหนัก :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
อย่างแรกต้อง สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ตอนนี้อิพี่คิวน่ารักมากๆ อยากจะเป็นน้องเค้กเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
แอบสงสารกัสนิดๆ หมั่นไส้อิพี่เซ็นมากๆ ฮ่าๆ
-
ลึกลับซับซ้อนดีนะ 55555555
-
คิวพูดตรงเสมอ :กอด1:
-
พี่คิวเเรงส์ !!! เเล้วเมือไรจะหวานกันสักที่ อยากอ่านที่หวานๆๆๆๆ
-
บวกเบบี้ แฮปปี้นิวเยียร์จ้า
-
สงสารกัสจัง :เฮ้อ:
สวัสดีปีใหม่ 2555 :mc3:
:L2: :L2:
-
พี่คิวกับเค้กน่ารักจัง แต่พี่คิวอยากสอนใครกันแน่ กัสหรือเค้ก
สวัสดีปีใหม่นะคะ :3123:
-
พี่เซ็นโดนซะบ้างก็ดี เอร้ยยย พี่คิวเท่ม๊อกกกกกกก :impress2:
-
พี่คิวมันก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะ
เขินละซิ เลยไม่กล้าให้ของขวัญต่อหน้าคนอื่น
แค่ที่ทำเค้กวันเกิดให้นี่ก็สุดๆ แล้ว
-
กัส+เซ็น
ชื่อช่างพ้องจองกันจริงๆ 55555555555555555555+
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :กอด1: :กอด1:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะค่ะ มีความสุขเช่นกันในปีมังกรนี้นะค่ะ ^^
-
กัสน่าสงสารจริงๆ ไปมีใจให้คนที่ไม่ยอมหยุดอย่างพี่เซ็น
ดูเหมือนพี่คิวจะตั้งใจแฉพี่เซ็นโดยเฉพาะนะเนี่ย ทำเพราะห่วงกัส หรือกันท่าใครบางคนรึเปล่าน้า
-
สวัสดีปีใหม่เบบี้
ขอให้มีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะคะ
:L2:
-
เฮ้ย ทำไมเราอ่านแล้วงงอ่ะ
กัสทำไม เซ็นทำอะไร แล้วคิวทำไมปากจัดงี้
ไอ่น้องเค้กก็ไม่ธรรมดา กับพี่คิวรุ้สึกจะปีนเกลียวอยู่หน่อยๆ
-
:impress2:cute
-
หมดศรัทธาเลยง่ะพี่เซ็น :monkeysad:
โอ๋ๆๆพี่กัสนะคะ
-
น้องเค้กน่ารักมากเลยอ่ะ
หลงรักเด็กคนนี้โดยไม่รู้ตัว :-[
อยากมีน้องชายน่ารักๆ อย่างเค้กซักคน หุหุ
พี่คิวจะให้ของขวัญวันเกิดน้องดีๆ ก็ไม่ได้
ฟอร์มเยอะจริงๆ ผู้ชายคนนี้
แต่ส่วนตัวแล้วกลับมองว่าเป็นมุมน่ารักๆ ของพี่คิวไปซะงั้น :impress2:
ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตอนที่พี่คิวแกจะมีบทพูดเยอะที่สุดรึป่าวนะ
-
สนุกนะคะ แต่แหม -0-
อ่านมาแล้วก็รู้นะ ว่าพระเอกคือคิว นายเอกเราก็เค้ก....
อ่านๆไปแล้วทำม๊ายยยทำไม มันแทบจะไม่มีวี่แวว ว่าจะมารักกันได้เลยนะเนี่ย
พอมีบ้างประปราย 555555
แต่ชอบอ่ะ ชอบพี่ฟ้าาา >< น่าร๊าก
-
ด๊วฟฟฟ
สวัสดีปีใหม่พี่บี้
อ่านแล้วชวนเพื่อนไปกินเค้กดีฝ่า :z2: :z2:
-
สวัสดีปีใหม่น๊าา :)
-
:-[
-
Happy New Year krub.
-
เพิ่งอ่านเรื่องนี้่ทัน แตกต่างไปนะเบบี้ อ่านแล้วน่ารักดี แต่นี่ขนาดหลายตอนแล้วนะ ทำไมเรารู้สึกเหมือนตัวละครยังไม่โตสักตัว
หมายถึงเขาเป็นเพศไหนกันแน่ ดูนายเอกของเราก็ยังเป็นชาย พระเอกก็ยังเป็นชาย มีแต่ฟ้ากับเซ็นเ่ท่านั้นที่ชัดเจน แล้วก็น้องกัสอีกคนที่ดูจะหลงรักคนเจ้าชู้อย่างเซ็น คนอื่นๆก็ยังเป็นชายจริงหญิงแท้กันหมด เรื่องราวมันยังเพิ่งเริ่มเอง แต่เราจิตนาการไปไกลแล้วอ่ะ อยากให้พี่คิวกอดฟัดรัดเหวี่ยงน้องเค้กสักที :laugh: Happy New Year!!!! มีความสุขมากๆนะเบบี้ :L2:
-
โห...พี่คิวบทจะด่าขึ้นมาพี่ท่านใส่ไม่ยั้งเลย!
พี่เซ็นโดนเต็มๆ แต่น่าสงสารกัสอ่ะหงอยไปเล๊ย
แต่น่าปลื้มพี่คิวตรงที่ซื้อเสื้อเป็นของขวัญ
วันเกิดให้น้องเค้กอ่ะ น่าร๊ากกกกกกกกก....
-
สงสารกัสสสส
พี่คิวก้แรงได้ใจจิงๆ แต่ก้นะ คนแบบพี่เซ็น ต้องพูดแรงๆ อิอิ
-
สวัสดีปีใหม่จ้าาาาาาาาาาา
เซ็นกัสแลจะมีลุ้นหรือเปล่า
แต่พี่คิวด่าแรงมาก หุหุ
-
สงสารกัส...พี่คิวน่ารักขึ้นนะ
-
เค๊กคร้าบบบบบบบ น่ารักจัง ยิ่งอ่านยิ่งน่ารักขึ้นทุกวัน
แต่พี่คิวนี่ดิ ยังสับสนอยู่ว่าจะเชียร์ดีไหม
พี่ฟ้าน่ารักมากกกกกกกกกกกก
น้องกัสน่าสงสารจัง หลงรักพี่เซ็นแน่แน่
พี่เซ็นก็ดูเหมือนจะหวานไปทั่ว ไม่ได้ชอบน้องกัสบ้างเหรอ
HaPPy NeW YeaR 2012 คร้าบบบบบ :L2:
-
~22~
ตื๊ด ๆ ๆ..
“คิว..รับโทรศัพท์สิ” พี่ฟ้าพูดขึ้นเป็นครั้งที่สองได้แล้ว ผมกับพี่กัสนั่งมอง หลังจากที่พวกเรานั่งทานอะไรรองท้องที่คาเฟ่เสร็จแล้ว ตอนนี้พี่คิวกำลังขับรถไปส่งผมที่บ้านก่อนที่จะไปส่งพี่กัสต่อ
“ช่างมันเถอะ” พี่คิวพูดปัดแต่เสียงโทรศัพท์มือถือยังคงสั่นอยู่อย่างนั้น ในรถเงียบกริบ พี่ฟ้าไม่ท้วงใดๆอีก เพียงครู่เดียวสายก็ตัดไป
“ฮัลโหล..ฟ้าพูดครับ” พี่ฟ้ากดรับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
“.............” ทั้งรถเงียบสนิทอีกครั้ง
“ไม่ทราบ..” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นลงจนผมรับรู้ได้ว่าน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ พี่ฟ้าเงียบฟังปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง
“ครับ จะไปเดี๋ยวนี้” พี่ฟ้ากดวางโทรศัพท์หลังจากนั้น
“ขับไปคิงกรุ๊ป” พี่ฟ้าพูดบอกลอยๆ พี่คิวเงียบและยังคงขับรถไปทางเดิมอย่างไม่สนใจต่อสิ่งที่พี่ฟ้าบอกเลย
“คิว..ขับรถไปคิงกรุ๊ปเดี๋ยวนี้!” พี่ฟ้าขึ้นเสียงย้ำ ผมกับพี่กัสสะดุ้งเล็กน้อย
เอี๊ยด !!
พี่คิวเบรกรถไม่ทันให้พวกผมได้ตั้งตัว ทั้งหัวของผมและหัวของพี่กัสกระแทกเข้าที่เบาะรถด้านหน้าอย่างจัง ผมได้ยินเสียงถอนหายใจจากพี่คิวเหมือนไม่พอใจ ทั้งผมและพี่กัสได้แต่กลั้นเสียงร้องเอาไว้เพราะสถานการณ์อย่างนี้ไม่ควรปริปากพูดสิ่งใดทั้งนั้น
“คิว ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว” พี่ฟ้าขึ้นเสียง ผมกับพี่กัสหันมาสบตากัน
“อาจะโวยวายทำไม” พี่คิวว่าสวนกลับ เสียงบีบแตรจากรถที่ขับตามหลังมายิ่งทำให้พี่คิวมีสีหน้าไม่พอใจมากขึ้นกว่าเดิม
“ก็ได้” พี่ฟ้าตัดบท
“อาจะไปไหน” พี่คิวจับแขนพี่ฟ้าที่ทำท่าเหมือนจะเปิดประตูรถ ผมอดยิ้มในใจไม่ได้เพราะพี่คิวหลุดพูดคำว่า “อา” ออกมา และเหมือนเจ้าตัวเองก็คงไม่รู้สึกตัว ปกติจะแทนตัวเองว่า “คุณ” และ “ผม” เสมอ..
“ถ้าคิวไม่อยากไป อาไปเองก็ได้”
“จิ้..เออๆ ไปก็ไป” พี่คิวตัดบทอย่างเสียไม่ได้
“..ไม่รับปากนะว่าจะห้ามตัวเองได้น่ะ สรรหาเรื่องดีนัก” พี่คิวพูดบอกและเหยียบคันเร่งขับรถต่ออีกครั้ง ผมกับพี่กัสนั่งตัวลีบไม่พูดไม่จาเพราะรู้ดีว่าสถานการณ์แบบนี้ผมทั้งสองคนควรหุบปากซะจะดีที่สุด
“กัส เค้ก..พี่ต้องไปทำธุระแป๊บนึง คงต้องกลับบ้านดึกหน่อย โทรบอกพ่อแม่ก่อนดีไหมครับ” พี่ฟ้าหันตัวมาบอกพวกผมสองคน
“ไม่เป็นไรครับ แม่เค้กน่าจะหลับแล้ว” ผมยิ้มแหยบอก
“ไม่เป็นไรเหมือนกันครับ” พี่กัสบอกด้วย
“อืม โทษทีนะ..” พี่ฟ้ายิ้มให้น้อยๆด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก
“ไม่เป็นไรครับ” ผมกับพี่กัสยิ้มบอกพร้อมกัน ผมกลัวว่าพี่ฟ้าจะเกรงใจผม ผมเองเต็มใจไม่ว่าพี่ฟ้าจะพาไปไหนเพราะผมก็เกรงใจพี่ฟ้าด้วยเหมือนกัน
พี่คิวขับรถไปที่ไหนผมไม่ทราบ รถไม่ติดเท่าไหร่ทำให้ภายในเวลาแป๊บเดียวก็ขับมาถึงบริษัทหนึ่ง เป็นบริษัทที่ผมไม่รู้จักเลย ตึกของบริษัทใหญ่โตโอ่อ่าหรูหรามาก แต่มีแสงไฟเปิดอยู่ไม่มากนั่นคงเพราะไม่มีใครอยู่ทำงานแล้วละมั้งครับ ผมคิดว่าอย่างนั้นเพราะนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย
“ลงมาก่อนครับ” พี่ฟ้าบอก พวกผมรีบลงจากรถในทันที
“สวัสดีครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยวิ่งตรงเข้ามาทำความเคารพพี่ฟ้าและพี่คิวเหมือนรู้จักทั้งสองคนเป็นอย่างดี
“อยู่ไหนกัน” พี่ฟ้าถาม
“ห้องของท่านประธานครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้ตอบ
“อืม ไปทำงานต่อเถอะ” พี่ฟ้าพยักหน้าส่งๆ ผมกับพี่กัสเดินตามพี่ฟ้าและพี่คิวขึ้นลิฟต์ไป พี่ฟ้าและพี่คิวไม่พูดอะไรเลย พี่กัสเข้ามาจับมือผมไว้เหมือนต่างคนต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะมีเพียงผมและพี่กัสที่มาเผชิญต่อสถานการณ์นี้ด้วยอย่างไม่รู้อะไรกับเขาเลย
“สวัสดีค่ะคุณฟ้า คุณคิว” ผู้หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาไหว้พี่ฟ้าและพี่คิว ทั้งสองคนเพียงแค่พยักหน้าตอบเท่านั้น
“หาอะไรมาดูแลแขกหน่อย” พี่ฟ้าสั่งเธอ
“นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ” พี่ฟ้าหันมายิ้มบอกพวกผม
“ครับ” ผมและพี่กัสตอบพร้อมกัน รีบเดินไปนั่งที่โซฟาหน้าห้องๆหนึ่งอย่างรู้หน้าที่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องของประธานบริษัทตามที่พี่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนเมื่อกี้บอก พี่ฟ้าและพี่คิวเดินเข้าไปในห้องนั้นแล้ว
“รอสักครู่นะคะ” ผู้หญิงคนนี้ยิ้มบอกผมและพี่กัสอย่างนอบน้อม
“ที่ไหนเนี้ยพี่กัส” ผมกระซิบถามพี่กัสทันที เก็บความรู้สึกไว้ด้วยความอึดอัดตลอดการเดินทาง
“บริษัทใหญ่ของคิงจิลวารี่ไง” พี่กัสกระซิบตอบด้วยท่าทางระแวง
“นี่เหรอ คิงจิลวารี่” ผมอุทานมองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น ถ้าผมจำไม่ผิดตอนที่ได้อ่านข้อมูลของครอบครัวพี่ฟ้าในตอนนั้น บริษัทคิงจิลวารี่เป็นบริษัทที่ยังอยู่ในนามของพ่อของพี่ฟ้า ผมจำได้เพียงเท่านี้..
“ไม่อยากจะเชื่อ” ผมพึมพำ
“พี่ก็เหมือนกัน นี่ครั้งแรก..ตื่นเต้นเหมือนกันแฮะ ไม่คิดว่าจะได้เข้ามาถึงหน้าห้องประธานแน่ะ” พี่กัสบอกตาโต
“ขออนุญาตนะคะ” พี่ผู้หญิงคนเดิมนำน้ำมาเสิร์ฟให้
“ขอบคุณครับ” ผมกับพี่กัสยิ้มบอกเธอ เธอยิ้มก่อนเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะไม่ไกลจากตรงที่ผมและพี่กัสนั่งอยู่มากนัก
“เค้ามีเรื่องอะไรกันอ่ะ” ผมบ่นเสียงเบา
“คงเรื่องในตระกูลแน่เลย พี่เดาเอานะ” พี่กัสตอบ ผมกับพี่กัสนั่งหน้าเครียดไม่แพ้กัน คงเพราะอยู่ในบรรยากาศที่เครียดและกดดันมั้งครับเลยทำให้รับรู้ถึงความรู้สึกแบบนั้นไปด้วย
“กูไม่ได้ทำ!!” เสียงจากในห้องดังออกมาทำเอาผมกับพี่กัสสะดุ้ง เบิกตาโพรงมองหน้ากัน พนักงานสาวคนนั้นตาโตมองมาที่เราสองคนเช่นเดียวกัน
“มึงทำไอ้กรานต์ มึงทำ!!!” ส่วนนี่น่าจะเป็นเสียงของพี่คิวอย่างแน่นอน ผมจำได้ ถึงแม้จะเป็นน้ำเสียงรุนแรงต่างจากทุกครั้งแต่ผมก็จำได้ขึ้นใจเลยด้วย
“พี่คิวแน่ๆเลย” พี่กัสเข้ามากอดแขนของผมไว้ด้วยความกลัว
“ไอ้กรานต์..หุบปาก!!!” น้ำเสียงของผู้ชายมีอายุตะคอก
“ผมจะบอกเรื่องนี้กับปู่” ผมกับพี่กัสมองหน้ากันเพราะได้ยินเสียงชัดเจนมาก ไม่ทราบว่าห้องไม่เก็บเสียงหรือว่าคนข้างในทะเลาะกันเสียงดังมากกันแน่พวกผมถึงได้ยินเสียงชัดเจนมากขนาดนี้
“หึ สุดท้ายมึงก็อยากได้มรดกซินะ”
“พี่คนวันนั้นแน่เลย” พี่กัสกระซิบ คงหมายถึงผู้ชายที่เข้าไปชกต่อยกับพี่คิวถึงในบ้านของพี่ฟ้าในวันนั้นละมังครับ
“คิวมีสิทธิ์ แกอย่ามายุ่งนะ” พี่ฟ้าตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว
“เพราะมึงไอ้คิว เพราะมึงรู้ว่าสู้กูไม่ได้..มึงเป็นคนเอาเพชรปลอมมายัดให้กู”
“ไอ้กรานต์!” เสียงตะคอกดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างไม่ทราบ แต่ผมได้ยินเสียงเหมือนคนชกต่อยกันเกิดขึ้น เสียงโหวกเหวกโวยวายของคนที่เข้าไปห้ามปรามเหมือนแทบจะห้ามอะไรไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก
“หยุดนะ!!” เสียงเล็กแหลมจากผู้หญิงคนหนึ่งโวยขึ้นคล้ายต้องการห้ามปรามทุกคน
“วันนั้นฟ้าครามบอกว่ามันเห็นแกออกไปกับไอ้พิพัท..ฟ้าครามเห็นว่าแกเอากล่องเพชรนั่นยื่นให้ไอ้พิพัท แกยังมีหน้ามาแก้ตัวอีกรึไงห๊ะสงกรานต์” เสียงผู้หญิงคนเดิมว่ากล่าว
“ไม่จริง!!!”
“แกใส่ร้ายลูกฉัน” เสียงผู้หญิงอีกคนโวยวาย
“หุบปาก..หุบปากไปเลยโว้ย !” เสียงพี่คิวตะคอกดังลั่น ดังมากจนน่าใจหาย
แกรก~~
ผมกับพี่กัสนั่งนิ่ง ตาเบิกโตมองพี่คิวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
“คิว..คิว” พี่ฟ้าวิ่งตามพี่คิวออกมา พี่ฟ้ารีบวิ่งไปดักพี่คิวไว้ทำให้พี่คิวหยุดเดิน
“คิว คิว..อาขอ อย่าไปนะ” พี่ฟ้าเข้ามารั้งตัวพี่คิวไว้ด้วยสีหน้าอ้อนวอน
“อย่าบอกปู่ อย่าบอกนะ..” พี่ฟ้าร้องไห้ออกมา ท่าทางของพี่ชายที่แสนดีและอบอุ่นที่พี่ฟ้าเคยเป็นให้พวกผมนั้นตอนนี้กลับกลายเป็นผู้ชายที่ดูน่าสงสารคนหนึ่ง
“อา..ไอ้กรานต์มันทำผิด ใช่..กูไม่อยากได้มรดก แต่มึงก็ไม่สมควรได้ คนอย่างมึงไม่สมควรได้ของๆปู่กู” พี่คิวหันกลับไปด่ากราด ผู้ชายที่ชื่อสงกรานต์ ผู้ชายคนเดียวกับที่เข้าไปชกกับพี่คิวในบ้านของพี่ฟ้าวันนั้นเดินออกมาพร้อมกับคนอีกหลายคนที่ผมไม่รู้จัก
“หึ ของๆปู่เธองั้นเหรอ พูดซะเต็มปากเต็มคำเลยนะ..แกมันก็หลานนอกคอกเหมือนอาของแกนั่นแหละ!” ผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งว่า
“นี่..สาวิกา” ผู้หญิงอีกคนปรามค้อนเธอทำให้ผู้หญิงมีอายุคนนี้เงียบปากไปได้
“โอเค..คิว ลุงขอได้ไหม” ผู้ชายที่ยืนอยู่พูดขึ้นด้วยสีหน้าเครียด ผู้ชายคนนี้ดูแก่ที่สุดในที่นี้แล้วละครับ
“................” พี่คิวเงียบ จ้องหน้าคุณลุงคนนั้นเขม็งเหมือนรอคำพูดอะไรสักอย่าง
“เรื่องนี้ต้องสอบอีก” คุณลุงคนเดิมบอก
“หึ หึหึ..บัดซบเอ๊ย" พี่คิวแสยะหัวเราะเสียงดังทำเอาทุกคนหน้าเสียไปในทันใด
"ยังต้องสอบอะไรอีกไม่ทราบ ฟ้าครามเห็น..เพชรล็อตของมันหายถึงสองครั้ง ถึงสองครั้ง!" พี่คิวถลึงตาใส่คุณลุงคนนั้น พี่เขาเค้นเสียงด้วยความโมโหจนเส้นเลือดที่ลำคอปูดเด่นชัดขึ้น
"เจอเพชรปลอมอีกสามครั้ง เพชรนั่นมันเป็นคนดูแล..เข้าออกยังไงผ่านมือมันก่อนที่จะมาถึงอาพราวซะด้วยซ้ำ” พี่คิวว่า มือไม้ชี้ไปทางนู่นนี้ทางนี้ทีเหมือนต้องการระบายอารมณ์ครุกรุ่นของตัวเอง ผมรับรู้ได้ถึงแรงที่พี่กัสกอดแขนผมแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ถ้าลุงจะไม่เข้าข้างลูกตัวเองเกินไปน่ะนะ..” พี่คิวแสยะยิ้มก่อนจะทิ้งน้ำเสียงลง
“ไอ้คิว” คุณลุงท่านเดิมหน้าเสีย
“ถ้าอาไม่ให้ผมบอกปู่ ผมจะถอนตัว” พี่คิวหันกลับมามองหน้าพี่ฟ้า
“ไม่..ไม่นะ” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าร้อนรนเหมือนทำอะไรไม่ถูก
“ไม่ได้นะไอ้คิว” ผู้ชายสูงวัยอีกคนพูดขึ้น
“พ่อมายุ่งอะไร!” พี่คิวตะคอกขึ้นอีกครั้งทำเอาพี่กัสที่นั่งกอดผมอยู่สะดุ้งโหยง
“คิว” พี่ฟ้าปรามแทบจะเข้าไปกอดพี่คิวอยู่แล้ว ทุกคนเงียบลง ผมรับรู้ได้เลยว่าพี่คิวโมโหมาก หน้าอกของพี่เขากระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา
“ฉันหวังดี” พ่อพี่คิวพูดเสียงเบา
“หึ พ่อหวังดีเหรอ..พ่อเคยใส่ใจอะไรบ้าง”
“ตกลงไอ้ฟ้าหรือว่าฉันเป็นพ่อแกห๊ะ!” จู่ๆพ่อพี่คิวก็ตะคอกด้วยความโมโห
“พ่ออย่าเอาตัวเองมาเปรียบกับอานะ” พี่คิวย้อนทันควันทำให้พ่อของพี่คิวชะงักไป
“ได้..กูไม่บอกปู่ก็ได้” พี่คิวสะบัดแขนอย่างแรงทำให้พี่ฟ้าต้องปล่อยมือออกจากแขนของพี่คิว
“แต่มึงระวังตัวไว้เลย ถ้ากูเจอว่ามึงมายัดเพชรปลอมให้กูอีกละก็..มึงโดนกูแน่ไอ้กรานต์ มึงอย่านึกว่ากูไม่มีหลักฐาน มันแค่ยังไม่ถึงเวลา มีกูอยู่..มึงอย่าหวังว่าจะได้บริษัทนี้ ไปตายอีกสิบชาติมึงก็จะไม่ได้..” พี่คิวพูดแสยะเสียงเย็น พี่เขาจ้องหน้าพี่คนที่ชื่อสงกรานต์อย่างอาฆาต
“คิว..” พี่ฟ้าเรียก พี่คิวเดินหนีไปแล้ว พี่ฟ้าทำท่าจะเดินตามพี่คิวไป
“ฟ้า..มาคุยกันก่อน” พ่อของพี่คิวเรียกไว้
“เค้ก..เค้กตามไปหน่อยนะ” พี่ฟ้าบอกผมด้วยน้ำเสียงร้อนรน ท่าทางเป็นห่วงพี่คิวมาก
"ตามคิวไปหน่อย" พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงคล้ายกับจะร้องไห้อีกครั้ง
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบในทันที
“พี่กัสไปด้วยกันไหม” ผมถาม
“ไม่เอาหรอก พี่รอนี่ดีกว่า..” พี่กัสรีบส่ายหัวใหญ่ ผมยิ้มน้อยๆให้และเดินตามพี่คิวไป พี่เขาเดินเร็วมากแต่ไม่ได้เดินกลับไปทางลิฟต์ซึ่งพี่เขาเดินไปอีกทางไม่ทราบว่าไปไหนเหมือนกัน ผมรีบเร่งเท้าให้ทันพี่คิวมากขึ้นด้วยรู้สึกไม่สบายใจไม่ต่างอะไรจากพี่ฟ้า พี่คิวหยุดยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าห้องห้องหนึ่ง ผมหยุดยืนอยู่ห่างๆและแน่นอนว่าผมขอหุบปากเงียบไว้ก่อนดีกว่า เข้าไปตอนนี้อาจไม่ดีต่ออนาคตของผมเป็นแน่ ที่พี่ฟ้าบอกให้ผมตามพี่คิวมาก็คงเพราะเป็นห่วง ถ้าพี่คิวอยู่ในสายตาของใครสักคนพี่ฟ้าก็คงจะสบายใจประมาณหนึ่ง
“................” พี่คิวยืนเหม่อลอย ตามองออกไปด้านนอก ผมยืนกอดอกมองพี่เขาอย่างเงียบๆ เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีที่พี่คิวไม่ยอมละสายตาไปไหนคล้ายกับวิญญาณหลุดลอยออกไปไกล สักพักพี่เขาเริ่มขยับตัวบ้างและหันมาเห็นผมพอดี
“มาทำไม” พี่คิวพูดเสียงห้วน คิ้วของพี่คิวเริ่มออกอาการจะเข้ามาผูกกันอีกแล้ว
“พี่ฟ้าให้ตามมา พี่เค้าคงเป็นห่วงพี่มากนะฮะ” ผมเดินเข้าไปใกล้พี่คิวมากขึ้นกว่าเดิม พี่คิวเงียบ หันหน้าหนีผม สายตามองออกไปทางด้านนอกอย่างเดิมอีกครั้ง
“ผมชักรู้สึกภูมิใจที่เกิดมาจนเหมือนที่พี่เคยบอกแล้วสิ” ผมพูดแกมหัวเราะ ตอนนี้ผมไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี การที่จะทำให้คนคนหนึ่งอารมณ์เย็นทั้งทั้งที่ไม่ค่อยสนิทกันนี่มันก็ยากเหมือนกันนะครับ
“ใจเย็นลงบ้างรึยังครับ”
“นายคิดว่าฉันเย็นรึยังล่ะ” พี่คิวย้อนทันควันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“หึ..”
“หัวเราะอะไร” พี่คิวหันมามองหน้าผม
“เปล่า พี่กัสกลัวพี่จนตัวแทบจะหดเหลือนิ้วเดียวแล้วนะครับ” พูดไปอย่างนั้น ที่จริงในใจของผมเองแล้วโคตรกลัวเลยละครับ กลัวว่าการที่เข้ามาหาพี่เขาแบบนี้แล้วจะไม่เป็นที่ยอมรับ กลัวจะหาว่าเราเข้าไปยุ่งไม่เข้าเรื่อง
“โมโห นิดหน่อย” พี่คิวลดน้ำเสียงลงซึ่งเป็นผลการตอบรับที่น่าแปลกใจ
“พี่..” ผมกลั้นใจ คิดคำถามที่จะให้มันออกมาสมบูรณ์เพียงประโยคสั้นๆ
“เอ่อ..” แต่กลับคิดคำที่ดีไม่ออกเลยละครับ T_T ผมจะตายไหมครับเนี้ย
“ลองยิ้มดูก่อนไหม” ผมยิ้มกว้างบอก
“...............” พี่คิวหันมาจ้องหน้าผมเหมือนจะเอาเรื่อง คิ้วที่ทำท่าจะผูกเข้าหากันเมื่อกี้ตอนนี้ได้ผูกกันเป็นโบเรียบร้อยแล้ว
“ยิ้มแบบนี้อ่ะ ยิ้มมมมม~” ผมฉีกยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย พี่คิวยังคงหน้าสภาพเดิม ไม่ยอมยิ้มตามน้ำผมเลย
“เฮ้อ..พี่ฟ้า ดูรักพี่และเป็นห่วงพี่ม้ากมากเนอะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง ดูท่าเรื่องทำให้ยิ้มจะไม่เวิร์คนัก
“ดีออกจะตายไป พี่เซ็นก็รักพี่ พี่หมีก็เกรงใจพี่ พี่ซีก็รักพี่ พี่กัสก็ชื่นชมพี่ พี่ออฟก็เคารพพี่..มีแต่คนชอบพี่ทั้งนั้นเลย พี่ไม่มีความสุขเหรอครับ”
“อย่างผมน่ะ แค่งานวันเกิดที่พวกพี่เซอร์ไฟร์สให้..ผมก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว แต่พี่น่ะ..มีหลายๆคนที่รักพี่ขนาดนี้”
“ก็เพราะฉันต้องการแค่นี้ไง แล้วทำไมฉันต้องมาวุ่นวายปวดหัวกับเรื่องอะไรไร้สาระพวกนี้ด้วย” พี่คิวว่าขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทำให้ผมต้องหุบปากลง ผมเงียบก่อนยิ้มให้อีกฝ่าย
“อืมมม..ผมก็ไม่รู้อะนะว่ามีเรื่องอะไร”
“แต่ตอนนี้พี่น่าจะทำให้พี่ฟ้าสบายใจก่อน เมื่อกี้..พี่ฟ้าร้อนรนจน น่าสงสาร” ผมบอก พี่คิวก้มหน้าลงเหมือนเข้าใจที่ผมพูด
“ผมอะนะ ไม่รู้ว่าการเป็นครอบครัวใหญ่ๆอย่างนี้มันรู้สึกยังไงหรอก..”
“แต่ตอนที่เรามีกันและกัน เราก็ควรให้ความสำคัญกันไว้..พ่อเค้ก” ผมถอนหายใจไปเฮือกหนึ่งเมื่อจะกล่าวถึงบุคคลที่สาม
“เสียตั้งแต่ตอนผมอยู่ม.สาม ทั้งๆที่ผมรักเค้ามาก ตลอดเวลาผมคิดว่าผมกำลังมอบความสุขให้เค้า แต่พอเค้าเสียไป..ผมเพิ่งรู้ตัวว่า มันกลับไม่พอ” ผมยิ้มเล่า อยู่ดีๆก็รู้สึกสะเทือนใจทำให้ทั้งผมและพี่คิวเงียบไปครู่หนึ่ง
“ฟื้ดดดด” ผมสูดน้ำมูก น้ำหูน้ำตาไหลออกมาตอนไหนไม่ทราบ ผมรีบเช็ดมันอย่างลวกๆ
“หึ ตกลงนายมาปลอบฉันรึให้ฉันปลอบนายกลับกันแน่เนี้ย..” พี่คิวยิ้มออกมา
“หึ..ยิ้มแล้ว!” ผมชี้หน้าพี่คิวด้วยความดีใจ
“ฉันยิ้มเมื่อไหร่” พี่คิวหุบยิ้มทันที
“โด่ เขินอ่ะดิ” ผมแซว รีบเช็ดน้ำตาที่แก้มตัวเอง
“อื้อ” อยู่ๆพี่คิวก็ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้
“พกผ้าเช็ดหน้าด้วยเหรอครับ” ผมถามด้วยความแปลกใจ
“งั้นไม่ต้องเอา” พี่คิวชักมือกลับ
“เอาๆ ขี้มูกไหลอ่ะ” ผมรีบบอก
“ทุเรศ” พี่คิวส่ายหัวยิ้มๆ ผมรับผ้าเช็ดหน้าของพี่คิวมาเช็ด
“กลับเถอะ” พี่คิวบอกก่อนก้าวขาเดินนำไปซะเฉยๆ
“พี่คิว..” ผมเรียก พี่คิวหันกลับมามอง
“ขอบคุณนะครับ” ผมบอก พี่คิวจ้องหน้าผมเขม็ง
“ผมหมายถึง ของขวัญน่ะ” ผมยักไหล่ พี่คิวเบะปากเล็กน้อย
“เหมือนกัน..” พี่เขายิ้มมุมปาก ผมยิ้มกว้างตอบ
“ฉันหมายถึง..เรื่องที่นายพยายามให้ฉันเย็นลง จนยอมเสียน้ำตาน่ะ” พี่เขายิ้มกว้างจนแทบจะกลายเป็นหัวเราะ
“ไม่ใช่สักหน่อยอ่ะ” ผมว่า อยู่ๆก็รู้สึกเขินขึ้นมา พี่คิวเดินกลับไปทางเดิม ทางที่ตรงไปที่ห้องประธานแต่กลับเป็นจังหวะเดียวกันกับที่พี่ฟ้ากำลังเดินออกมาพร้อมกับพ่อของพี่คิวพอดี พี่คิวหยุดชะงักไม่เดินเข้าไปมากกว่านั้น ขณะเดียวกันผู้ชายคนที่ชื่อสงกรานต์เดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงมีอายุคนหนึ่งและผู้หญิงสาวอีกคนหนึ่ง ทั้งสามคนหันมามองพี่คิวด้วยหางตาและเดินผ่านพี่คิวไป
“คิว” คุณลุงคนเดิม คนที่เป็นพ่อของพี่สงกรานต์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าพี่คิว
“ลุง..ขอบใจมากนะ”
“หึ..เรื่องอะไรเหรอครับ” พี่คิวแสยะยิ้ม เหลือบตาไปอีกทางไม่ยอมมองหน้าคุณลุงคนนี้ คุณลุงหน้าเสียเล็กน้อย
“ถ้าเรื่องที่ผมจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกคุณปู่แล้วล่ะก็ ผมจะขอเรียนให้คุณลุงรู้ไว้นะครับว่า..ผมไม่ได้เห็นแก่คุณลุง ไม่ได้เห็นแก่มรดก หรือคุณปู่..แต่ผมเห็นแก่อาของผม ครั้งนี้ผมจะยอมให้..แต่ถ้าครั้งหน้า แม้แต่อาฟ้าขอ..ผมก็จะไม่ยอม” พี่คิวพูดกัดกรามของตัวเองแน่นเหมือนกำลังข่มอารมณ์ไว้
“พี่ตี๋..กลับเถอะนะ” พี่ฟ้าเดินเข้ามากู้สถานการณ์ไว้ได้ทัน
“อืม ไว้เจอกัน..ไปเยี่ยมพ่อบ้างล่ะ” คุณลุงคนนี้พูดบอก เดินจากไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“กลับเถอะ” พี่คิวบอกพี่ฟ้า
“คิว..แกไม่คิดจะลาฉันบ้างเลยรึไง” พ่อพี่คิวพูดขึ้น พี่คิวหยุดยืน นิ่งเงียบและไม่ยอมหันไปมองหน้าของพ่อตัวเอง พี่คิวที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางหยิ่งยโสนี้ขนาดผมเองยังแทบกลัวใจพ่อของพี่คิวเลยละครับ
“เราไม่ได้จากกันหนิครับ” พี่คิวหันไปบอกพ่อตน
“แต่แกเคยโผล่หัวมาให้ฉันเห็นบ้างไหม ที่บริษัทก็แทบไม่เห็นหน้า..ฉันควรจะลืมดีไหมว่าแกเป็นลูกของฉัน” พ่อพี่คิวว่า
“ถ้าพ่ออยากจะทำอย่างนั้น ผมก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว” พี่คิวขึ้นเสียง
“คิว” พี่ฟ้าปรามทันที ทุกคนยืนนิ่ง พ่อของพี่คิวถอนหายใจแรง
“เรื่องแผนงานเพชรเป็นยังไงบ้าง” พ่อพี่คิวถามด้วยน้ำเสียงเรียบลง
“หึ สุดท้ายพ่อก็ไม่พ้นเรื่องนี้..” พี่คิวแสยะหัวเราะก่อนเดินหนีไปที่ลิฟต์ในทันที
= = = = = = = =
ตอนที่พวกเราทั้งหมดลงมาจากบริษัท พี่ฟ้าพูดขึ้นว่าอยากจะไปเยี่ยมคุณปู่ ดูเหมือนพี่คิวจะไม่ขัดข้องอะไร ขับรถพาไปที่โรงพยาบาลกรุงเทพทันที
“ไม่ขึ้นนะ” พี่คิวพูดขึ้นหลังจากที่เราทุกคนลงมาจากรถแล้ว
“อืม..” พี่ฟ้าพยักหน้า
“ไปกับพี่นะ” พี่ฟ้าบอกพี่กัสพร้อมกับจับมือพี่กัสไปด้วย
“อ..อ่าว” ผมผงะ จะเดินไปด้วยก็กระไรอยู่ แถมพี่กัสยังผลักผมไว้เหมือนบอกให้ผมอยู่กับพี่คิวอีก ผมหยุดยืนอยู่กับที่และหันมามองอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน ผมกับพี่คิวยืนเงียบ พี่คิวยืนล้วงกระเป๋าพิงรถสุดหรูของตัวเอง ตกดึกแบบนี้แทบไม่มีรถผ่านไปผ่านมา มันเงียบจนผมรู้สึกว่ารับไม่ได้ มันน่ากลัวเกินไปนะครับ
“พี่ไม่ถูกกับปู่เหรอ” ผมถามขึ้นฆ่าเวลา
“นายนี่..แส่จริงนะ” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“ง่ะ..อยากรู้หนิ”
“ไม่เชิง..” พี่คิวตอบส่งๆ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
“ฉันไม่อยากเห็น หน้าไอ้อาบ้านั่นตอนทำหน้าเหมือนเด็กทารกจะร้องไห้น่ะ..แก่จนอายุปูนนี้ละ” พี่คิวพูดพึมพำ
“หึหึ” ผมหัวเราะ พี่คิวขำตาม
“ปู่พี่เป็นอะไรเหรอ” ผมถามอีก
“โรคหัวใจขั้นรุนแรง” พี่คิวตอบ
“ถึงว่า..” ผมพยักหน้าด้วยรู้สึกเห็นใจ
“เบาหวาน” พี่คิวพูดขึ้นอีก
“ความดัน”
“มะเร็ง”
“โหหหห..” ผมอ้าปากค้าง
“มะเร็งนั่น ฉันโกหก” พี่คิวยักคิ้ว
“ยังจะมากวนอีกนะฮะ นั่นปู่ตัวเองแท้ๆ” ผมว่า เราทิ้งช่วงของการพูดคุยไปสักครู่ ผมเดินวนไปเวียนมาอยู่แถวนั้นเพราะไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรต่อดี กลัวว่าพี่เขาจะหาว่าผมพูดมากน่ะซิครับ
“เอ่อ พี่คิว..พี่ดูหนังที่พี่ซื้อไปวันนั้นหมดรึยัง” ผมชวนคุยอีกครั้ง
“ทำไม” พี่คิวถามกลับ
“ยืมบ้างสิ” ผมยิ้ม
“ยัง” พี่คิวตอบ
“งั้น..ขอยืมเรื่องอื่นก่อนได้ไหมครับ”
“เชิญ” พี่คิวพยักหน้าส่งๆ
“งั้นผมไปเอาวันพรุ่งนี้เลยนะ”
“อื้อ” พี่คิวตอบในลำคอ
“มานู่นละ” พี่คิวบอก ผมหันกลับไปมอง พี่ฟ้ากับพี่กัสกำลังเดินมาพอดี
“เป่าปี่ทำไมเนี่ย ไม่อายเด็กมันบ้างรึไง” พี่คิวว่าคิ้วขมวดทันทีที่เห็นพี่ฟ้าตาแดงก่ำ
“ก็..อึก”
“ปู่ว่าไงบ้าง” พี่คิวถาม
“ไม่ได้ว่าไร อาบอกว่าพักผ่อนเยอะๆนะ..ปู่ก็บอกว่า อึก..มาอีกนะ” พี่ฟ้าพูดไปสะอึกสะอื้นเป็นระยะ
“สบายใจแล้วก็ช่วยหยุดร้องสักที..ฮื้ม” พี่คิวส่ายหัวด้วยอาการเซ็งอย่างนั้น พี่ฟ้าตีแขนพี่คิวเบาๆ
“คิวไม่ใช่ทิกเกอร์นะ ที่พออาร้องไห้แล้วจะได้ปลอบได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจน่ะ” พี่คิวส่ายหัว ทำหน้าหน่ายแต่กลับมีรอยยิ้มให้เห็น
“คิว!!” พี่ฟ้าว่าเสียงดัง
“หึ..อะไร” พี่คิวยิ้มกวน เหมือนกับสนุกที่กำลังได้ป่วนอาตัวเอง
“ไอ้หลานบ้า!!” พี่ฟ้าว่า พี่คิวยักคิ้วให้ผมกับพี่กัสและเปิดประตูขึ้นรถหนีไป
“บ้าอ่ะ” พี่ฟ้าว่าชี้พี่คิวที่อยู่ในรถ เหมือนต้องการจะฟ้องผมกับพี่กัส
“ขึ้นรถเถอะครับ” ผมยิ้มบอกและเปิดประตูให้พี่ฟ้าด้วย
...................>>>><<<<..................
-
ดีใจที่คิวยังมีเค้กและคนอื่นๆอีกหลายคนยืนเคียงข้างในวันแย่ๆค่ะ เข้าใจความรู้สึกของคิวในตอนนี้ดีค่ะ เพราะเคยเจอมาแล้ว :z3:
-
เรื่องครอบครัวและมรดกเป็นเรื่องซับซ้อนที่สร้างปัญหาให้กับทุกบ้าน
บางครั้งถึงขนาดวางแผนทำลายกันยกครอบครัวก็มี มีมากก็ปัญหามากไปตามกัน เฮ้อออ
-
ตอนใหม่มาแล้ว จิ้มไม่ทัน
-
สงสารพี่คิวกะพี่ฟ้ามากอ่ะ ถึงจะรวยแต่ก็ไม่ได้มีความสุขเสมอไป :sad4:
เราว่าเรื่องมันก็ไม่ได้อืดอาดอะไรขนาดนั้น ปูพื้นมาแบบมีที่มาที่ไปก็สนุกกว่าอะไรที่มันรวดเร็วอีกนะคะ
-
...พี่ว่ามันสนุกดีนะเรื่องนี้ไม่อืดอาด ทั้งสองคนค่อยๆๆซึมซับความรัก ไปทีละเล็กละน้อย
...ตอนนี้ อาฟ้ากับกัส คงจะมองออกแล้วมั้งว่าคนที่จะหยุดความฉุนเฉียว ความเย็นชาของคิวได้มีคนเดียวคือ ..เค๊ก :L2:
-
เวลาเรากำลังโมโหแล้วมีสักคนที่เข้ามาทำให้เราอารมณ์เย็นลงมันรู้สึกดีจริงๆนะ
เราว่าพี่คิวก็คงรู้สึกเหมือนกัน แม้เค้กจะไม่ได้พูดปลอบอะไรมากมาย
แต่แค่อยู่ข้างๆ และมีความหวังดีก็น่าจะพอแล้ว
ปล.พี่คิวน่ากลัวอ่ะ!!!
-
ดำเนินเรื่องดีแล้วแหละจ้า ค่อยเป็นค่อยไป
ค่อยติดตามพัฒนาการ ว่าจะมารักกันได้อย่างไร
เรื่องครอบครัว ถ้ามีเรื่องเงินเข้ามา ปัญหาแน่ ๆ เหอะ
พี่คิวก็คงต้องยอมรับกับเรื่องนั้นไป น้องเค้กก็คอยปลอบ 5555
ปลอบไปปลอบมา ร้องไห้เองซะงั้น :z2:
-
เค้กดูชอบพี่คิว >///<
-
เรื่องเงินนี่เเหละ ทำพี่น้องครอบครัวทะเลาะกัน
รักกันโดยไม่หวังผลซิ ตายไปเอาไปไม่ได้นะตังนะ
เราชอบนะ ค่อยๆรักกัน สมจริงดี อาจแต่เเรกก็รู้ว่าแมนทั้งคู่
Slow but sure!!!
-
อืมมม เรากะอ่านมาทุกตอน คิวกะเค้ก กะเป็นผู้ชายธรรมดานะ ยังดูไม่ออกเลยว่าจะรักกันได้ไง กร๊ากกกกกกกกก :z2:
-
ไม่ได้คิดว่าอืด แค่อยากเห็นเค้ารักกันเร็วๆ55
-
วิ่งเล่ืนวางแผนแก้งานอยู่แถวนี้พอดี เห็นเรื่องนี้ขยับที่หน้าบ้าน รีบวิ่งมาหยั่งไว
ปัญหาครอบครัวคนมีกะตัง ตอนนี้ไอ้น้องบี้เขียนได้เข้มข้ินมาก((ทำการบ้านหนักเลยละสิ)) อ่านแล้วทั้งรักทั้งสงสารอาฟ้า่ว่ะ พี่คิวแมนสุดๆ เค้กหวั่นไหวบ้างมั๊ยเนี่ย!!!
ขอบคุณไอ้น้องบี้ จิ้มๆๆๆๆ
:กอด1:
ขอตอบ ปล.ท้ายเรื่องของน้องบี้ ในฐานะคนอ่านที่ติดตามเรื่องนี้คนหนึ่ง สำหรับพี่ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่นะ มันจะรัก จะอึ๊บกันตอนไหนเมื่อไหร่ก็เื่มื่อนั้นแหละ แล้วแต่คนเขียนจะเขียนให้มันเป็นไป ชอบที่จะติดตามเรื่องนี้เพราะรู้ว่าน้องค่อนข้างทำการบ้านในการหาข้อมูลที่จะมาเขียนให้เป็นเรื่อง อ่านแล้วได้รู้ในเรื่องที่บางครั้งตัวเองไม่รู้ พูดง่ายๆ คือได้สาระ(สำหรับพี่) นั่นแหละ ยังไงก็จะติดตามต่อไปนะ ขอบคุณจ้ะ _\ m/
-
:call: เราขอโทษที ที่ทำให้เบบี้เสียอารมณ์ แต่เราไม่ได้ว่าเรื่องอืดอาดนะ เราออกจะชอบด้วยซ้ำ เพียงแต่เราเป็นคนใจร้อนไง ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าเขาเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ เพราะในชีวิตจริงก็มีให้เห็นนะ เอาเป็นว่าเราไม่ได้จะติเรื่องที่เบบี้เขียนเลย
เพราะัเราเป็น Big Fan ที่ติดตามอ่านอยู่ตลอดเพียงแต่ไม่ค่อยจะเม้มเท่าไร :n1:
-
เริ่มเครียด เริ่มกดดันล่ะ :sad4:
-
อ่านแล้วสงสารพี่ฟ้าจังเลย เหมือนเป็นคนกลาง
และมันก็ช่วยยืนยันว่า พี่ฟ้ารักพี่คิวมากแค่ไหน
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาคลอไปด้วยเลยอ่ะ :monkeysad:
ครอบครัวนี้ค่อนข้างซับซ้อน คงมีเรื่องอีกแน่เลย
ขอให้พี่ฟ้าและพี่คิวเข้มแข็งนะคะ สู้ๆเน้อ
งานนี้เค้กได้งานเป็นคนปลอบใจพี่คิวด้วย
แลกมาด้วยน้ำตาอย่างที่พี่คิวว่า แต่ก็ได้ผลล่ะนะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
กดเป็ดค่ะ ชักอยากรู้จักทิกเกอร์แล้วสิ ^^
-
กี๊ดดดด ไม่เห็นรู้สึกว่าเรื่องนี้อืดอาดเลย รู้สึกว่ามันสมจริง อบอุ่นซะมากกว่า
ชอบเรื่องนี้ของเบบี้มากๆ เลยจริงๆ นะ มันเป็นเหมือนอีกรสชาดนึงที่ไม่คิดจะได้ชิมจากปลายปากกาเบบี้
บวกเป็นกำลังใจให้เสมอๆ อ่ะ
-
ครอบครัวพี่คิว พี่ฟ้าเนี่ย วุ่นวายดีจริงๆ นะ
น้องเค้กก็มีเหตุให้รับรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้หลายหนอยู่นะ
ที่สำคัญช่วยทำให้พี่คิวเย็นลงได้เยอะ อิอิ
ไม่รู้ว่านิยายอืดอาดเกินไปมั้ย เพราะเราอ่านแล้วเพลินมาก
โดยเฉพาะเวลาดำเนินเรื่องที่ร้าน เราจะชอบมากๆ ค่ะ
-
:n1: ความรักแบบนี้แหละที่ กุ ตามหา กุอ่านทีไร รู้สึกดีทุกครั้ง ยิ้มได้ตลอดจริง
ขอบใจมากๆ ที่แต่งนิยายดีๆให้กุและเพื่อน ๆ ได้อ่าน สู้โว๊ย ย ย ย ย ย ย
-
ไม่รู้สึกว่าอืดนะ เรื่องมันต้องค่อยดำเินินไปตามธรรมชาติของมัน
เพราะกว่าคนๆนึงจะรู้สึกผูกพันธ์กะอีคนนึงมันต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรนะ
แล้วยิ่งเป็นไอ้พี่คิวแล้วด้วย จะมาให้รักน้องเค้กทันดีทันใดมันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
ให้กำลังใจเบบี้คะ :กอด1:
-
เมื่อไหร่
..
.
ทิกเกอร์จะมา o18
-
เข้าใจพี่บี้ค่ะรักมันต้องค่อยๆเปนค่อยๆไปแค่นึกถึงตอนเค้ารักกันคงมีความสุขน่าดู
-
เค้าว่ามันมีที่มาที่ไป มันไม่ได้ดูอืดอาดน๊า
เค้กดูเริ่มมีใจเบาๆ อ่ะ คิคิ ชอบอ่ะ
พี่ิคิวยังสติล หล่อและรวยมาก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
-
รวยมากปัญหาก็มากเหมือนกันนะเนี่ย - -"
พี่คิวโดนใส่ร้ายแบบนี้ครั้งหน้าต้องเอาให้อีกฝ่ายเข็ดเลยค่ะ ถึงครั้งนี้จะต้องยอมถอยเพื่อพี่ฟ้าก็เถอะ
เค้กกะพี่คิวก็พัฒนาขึ้นอีกแล้ว ^^ ปลอบใจพี่คิวจนร้องซะเอง น่ารักจริงจริ๊งงง :กอด1:
วันนี้ทิกเิกอร์ก็โผล่มาประกอบเล็กน้อย อยากรู้จักผู้ชายคนนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆถึงมากที่สุดเลยค่ะ
ส่วนเรื่องการดำเนินเรื่อง ถ้าเกิดทำให้คุณเบบี้กดดันก็ต้องขอโทษด้วยนะค๊า :call: คือไม่ได้ว่าว่าอืดอาดหรอกค่ะ จะเป็นอารมณ์ลุ้นๆอยากเห็นมุมหวานๆของคู่นี้มากกว่า แต่เข้าใจคุณเบบี้ค่ะ เรื่องของความรักก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้แหละ อ่านไปจะอินมาก ส่วนตัวคนอ่านชอบผลงานคุณเบบี้มากๆนะค๊า โดยเฉพาะสลิ่ม (<< ขอนอกเรื่องนิดนึง) รักนายคนนี้มากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้แล้วก็ชอบคุณสำหรับนิยายดีดีแบบนี้นะค๊า ขอบคุณมากๆค่า ^^
-
เราว่าไม่อืดนะ...กว่าคนเราจะรักกันได้
แถมยังเป็นผู้ชายแท้ๆทั้งคู่มันก็น่าจะใช้เวลานานนะ
กว่าจะรู้ว่ารักกัน ^^
-
สวัสดีปีใหม่ค่ะเบบี้ :L2:
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลย
เค้กกับคิวก็ดูเปิดใจคุยเรื่องส่วนตัวกันมากขึ้นแล้ว
ค่อยพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ
-
จริงๆ ชอบมากนะ :L2: :กอด1:
เรื่องมันดูมีเหตุมีผลดี
ของการที่คนสองคนซึ่งเป็นผู้ชายปกติจะรักกันได้ :really2: :-[
พยายามเข้านะฮะ ชอบมากๆเลย o13
-
:กอด1: :L2:
-
อืม เริ่มเผยเรื่องของคิวมากขึ้นแล้ว นี่ละน๊า เค้าถึงว่าเงินทองมมันไม่เข้าใครออกใคร เฮ้ออออออออออออออ
-
เค้กน่ารักนะ มักจะเอาใจใส่ความรู้สึกคนอื่นเสมอ
พี่คิวอาจจะอารมณ์ร้อน แต่เราเข้าใจสถานการณ์ค่ะ เป็นเราคงขึ้นเหมือนกัน
เราว่าสองคนอาจจะเริ่มซึมซับกันและกันไปเรื่อยๆนะคะ
-
อ่านตอนนี้นี่ สงสารคิวเลยแฮะ เหอะๆ
คุณเบบี้สื่อออกมาได้ดีแล้วค่ะ สำหรับเรานะ แต่อาจจะเพราะคนอ่านจ้องจะอ่านนิยายรักมากไปหน่อย เลยใจร้อนอยากอ่านฉากหวานๆเร็วๆ แหะๆ
-
Happy new year baby na krab
รออ่าน คิว เค้ก ต่อไป อิอิ :กอด1:
-
ปัญหาครอบครัว จะมากจะน้อยก็ทำให้รู้สึกแย่ได้เหมือนกัน :monkeysad:
แต่เค้กน้อยได้ปลอบใจพี่คิวด้วยอ่ะ เหมือนอยู่ถูกที่ถูกเวลาชะมัดเลย :m1:
สู้ๆนะพี่ฟ้า พี่คิว ผ่านมันไปให้ได้นะ :กอด1:
-
คิวกับเค้กเริ่มจะจูนกันได้มากขึ้นละ โอเคเยี่ยมเลย ฮ่าๆๆ ชอบคาแรคเตอร์พี่คิวอ่ะ แม๊นแมน อยากตาย =///=
อ่านไปกรีดร้องไปตลอด ถ้าจะหล่อแมนแฮนซัมน่าหม่ำขนาดนี้ละก็นะ (มาเป็นคำขวัญเลย) 555
แต่ตอนนี้ก็แอบมีดราม่าทางด้านครอบครัวเบาเบา อ่านแล้วก็ชีวิตคนรวยกับจนก็มีดีต่างกันไป
แต่ถ้าจนแล้วเป็นแบบเค้ก ก็อยากจะจนนะ 55555 บรรยากาศน่าใช้ชีวิตมาก
ส่วนเรื่องเนื้อหา ส่วนตัวคิดว่ามันไม่ได้อืดนะ คือมันก็เป็นไปตามเรื่องตามราวมากกว่า
อาจจะมีบ้างบางครั้งหรือบางความรู้สึกที่ลุ้นให้สองคนนี้รักกันชอบกันไวๆ แต่ก็รู้่ว่ามันก็ต้องมีประเด็นก่อนสิ
คนสองคนถึงจะรักจะชอบกันได้ แล้วอีกอย่างนี่มันเป็นนิยายไม่ใช่หนัง แสดงสีหน้าและแสดงท่าทางไม่ได้ ^^"
แต่เท่าที่อ่านดูมันก็เป็นไปตามสิ่งที่มันควรจะเป็นดีอยุ่แล้วค่ะ สนุกดีอยู่แล้ว และพี่คิวก็น่ากินมากอ่ะ TT
-
อัยย๊ะ ตอนนี้พี่คิวน่ากลัวมากค่ะ
-
ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แค่มีกันและกันก็พอ
-
ดราม่านิดๆ เตะต่อยๆหน่อยๆ
สนุกดี o13
รู้สึกว่าเวลาเจอเหตุการณ์หลายๆอย่างพี่คิวกะเค้กเหมือนจะเข้ากันกันได้เร็ว
ว่าแต่ครอบครัวพี่คิวนี่ดูซับซ้อนม้ากมากกก
-
ทิกเกอร์เป็นผู้ใดน้อ อยากจิรู้จังเลย
ตอนเค้กร้องไห้น่าร้ากกกกกกกกกกก พี่คิวโหด ชอบบบบ ฮ่าๆๆๆ
ปล.เรื่องเร่ง ไม่รู้ว่าเข้าข่ายหรือเปล่า เพราะก็เคยเม้นว่าเมื่อไหร่จะรักกัน เพราะมันคงจะน่ารักดีอ่ะ พี่คิวทำขรึมๆเค้กน่าร้ากมากกกกงี้
แต่เอาจริงๆ เราก็พร้อมที่จะเรียนรู้กับตัวละครทั้งคิว เค้ก อาฟ้า เซ็น กัส ต่อไปเรื่อยๆ กว่าจะรักกันมันต้องใช้เวลาอ่ะเนอะ ก็เหมือนบี้บอก มันต้องอาศัยอะไรหลายๆอย่างทั้งเวลา และปัจจัยภายในภายนอก กร๊ากก
เรื่องนี้ จะว่าไปมันก้อต่างจากเมตรสลิ่ม พี่เมตรก็อีกแบบ สลิ่มก็อีกแบบ พี่คิวก็อีกแบบ อาฟ้า เค้กก็อีกแบบ เรื่องราวพื้นเพ ครอบครัวก็ต่างกัน มีมุมมองต่างกัน เบบี้เริ่มเขียนสลับไปมา ยังงัยก็สู้ๆเน้อ :L2:
-
:เฮ้อ: สงสารพี่ฟ้าจัง
:L2: :L2:
-
กัสกับเค้กต้องอยู่ในเหตุการบ้านนี้ตีกันตลอด น่าสงสารจริงๆ -_-
-
เบบี้ แบบนี้ดีแล้ว สนุก น่าติดตาม มีมิติ ตัวละครมีพัฒนาการ
มาให้กำลังใจ :กอด1:
และขอให้มีความสุขกับปีใหม่
:mc3: :mc2: :mc1:
+1
-
ถึงน้องเบบี้
หลังจากพี่อ่านอย่างไม่ได้เม้นท์มานาน 55555
ตอนแรกว่าจะถามแล้วว่าไม่มีนิยายเรื่องใหม่ออกมาหรอ
เพิ่งได้มาอ่านตอนลงไปแล้วประมาณสิบตอน
พี่ว่าเรื่องนี้มาแนวไม่เหมือนเรื่องก่อนๆ นะ
เหมือนกับคนเขียน... โตขึ้น เรื่องดูซับซ้อนมากขึ้น
ส่วนตัวพี่ว่ามันน่าติดตามมากขึ้นนะ เพราะว่าคนอ่านก็อยากรู้ว่ามันจะรักกันได้ยังไง
ไม่ใช่มาถึงก็ปล้ำกันเลย 55555
ยังไงตอนนี้ขอรออ่านต่อละกันครับ
ขอบคุณที่ผลิตนิยายดีๆ มาให้อ่าน
ปอลอ ลงถี่น้อยลงกว่าแต่ก่อนนะ ไม่ค่อยว่างหล่ะสิ
รักษาสุขภาพด้วย ^^
-
เราชอบแบบนี้แหละ ค่อยๆรักกันเนอะ
-
ใช่แล้ววเบบี้ คิวกับเค้ก...........ค่อยๆรักกันเบาๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
สนิมกันมากขึ้นแล้วอ่า :o8:
-
พี่คิวเวลาโมโหองค์ลงน่ากลัวแทนเลย แต่น้องเค้กเก่งนะทำให้พี่คิวแกอารมณ์เย็นได้
ลุ้นดีคะว่าคู่นี้เค้าจะรักกันตอนไหน
สวัสดีปีใหม่คะ
-
เราติดเรื่องนี้มากกกกกกกเลยนะคะ
ชอบที่พี่คิวกะน้องเค้กเป็นแบบนี้แหละค่า
ก็ต้องให้ได้ลุ้นไง ว่าความรักจะก่อตัวยังไง
เข้าใจเบบี้น้า เป็นกำลังใจให้ค่า สู้ๆค่า o13
-
ชอบตอนนี้อ่ะ รู้สึกว่าเวลาที่บี้เขียนเกี่ยวกับครอบครัวมันได้อารมณ์แบบสุดๆ ^^
:กอด1: :pig4:
ปล. จากความในใจของบี้ พี่ว่าคนอ่าน (บางส่วน) เค้าติดกับเรื่องเก่าๆ ของบี้หรือเปล่า ที่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังหลงรักอีกฝ่ายนึง
ซึ่งเรื่องนี้การดำเนินเรื่อง หรือความคิดของตัวละครค่อนข้างต่างจากเรื่องก่อนๆ นะ (ในความคิดพี่อ่ะนะ) ตัวละครดูโตขึ้น รายละเอียดต่างๆ ก็มากขึ้นด้วย และที่สำคัญก็ยังน่าติดตามเหมือนเดิม... เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
HAPPY NEW YEAR :mc4:
-
อยากจะอ่านในมุมมองของพี่คิวบ้าง
พี่แกเข้าถึงยากกกก... :z3:
-
คิวน่ารักดีนะ
:-[ :-[ :-[ :-[
-
ซับซ้อนจริงๆ ครอบครัว นี้
-
เซ็น คู่ กัส ป่ะ แอบเชียร์คู่นี้ อิอิ
-
เรื่องรักต้องค่อยเป็นค่อยไป เข้าใจค่ะ
ดูแลและเป็นห่วงกันแบบนี้ เดี๋ยวก็รักกันเองแหละ อิอิ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
ถ้าเปรียบตอนนี้เป็นสี อ่านแล้วมันควรจะรู้สึกถึงสีดำ
แต่กลับรู้สึกว่ามันเป็นสีฟ้า สีชมพู หรือสีที่อ่อนกว่าสีดำไปได้ เพราะมีน้องเค้กกับพี่คิวนี่แหละ
ชอบตอนเค้าคุยกันสองคนจัง... :impress2:
-
เพราะเข้าใจไงคะว่าความรักมันเกิดขึ้นยาก
คนอ่านก็เลยลุ้นกันว่าเขาจะรักกันได้เมื่อไหร่
ดังเช่นตอนนี้ ลุ้นมากกก :-[
-
พี่คิวก็แลดูจะชอบน้องเค้กนะเนี่ย เค้กน่ารักอ่ะ พี่คิวก็โหดเกินไปนะ น่ากลัวอ่ะ พี่ขาโหด คิคิ ส่วนพี่กัสกับพี่เซ็นก็นะต้องมีอะไรในกอไผ่แน่ๆ อ่ะ ตอนที่โดนพี่คิวว่าสงสารกัสมากเลยอ่ะ แต่พี่เซ็นก็นะเกินไปจริงๆ อ่ะ แล้วทิกเกอร์กับพี่ฟ้านี่ยังไงเนี่ย ชักอยากรู้มากกว่านี้อ่ะพี่เบบี้ สำหรับเราเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านได้เรื่อยๆ อ่ะ อ่านแล้วไม่เบื่อนะ เพราะอ่านแล้วก็ลุ้นว่าจะเป็นไง โดยเฉพาะพี่คิว ฮ่าๆ ลุ้นดี
:L2:
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^ ขอให้ทั้งปีมีแต่ความสุข ไม่เจ็บไม่ไข้นะ :)) .....
-
อย่างนี้ก็ดีอีกแบบนะครับ
ลุ้นทุกครั้งพี่คิวกับเค้กคุยกัน ว่าจะมีอะไรหวานๆ หลุดมาบ้างรึเปล่า :impress2:
-
เค้กน่ารัก เหมือนความน่ารักมันทะลุออกมาจากตัวหนังสือ :-[
ชอบอ่าน และลุ้นไปกับตัวละครค่ะ เพราะคิดอยู่แล้วว่า ทั้งคู่เป็นผู้ชายปกติ
ค่อยเป็นค่อยไปอย่างนี้ก็สนุกไปอีกแบบนะคะ :กอด1:
-
เชียร์ต่อไป
-
ค่อยเป็นค่อยไปก็ดีค่ะ เบบี้
-
เจ้ค๊าบ ที่เจ้เกริ่นตอนท้ายเรื่องนะครับ
ส่วนตัวนะผมเข้าใจที่เจ้สื่อออกมาในเรื่องนะ และเจ้ก็บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าพี่คิวกับพี่เค๊กเป็นผู้ชายปกติ แต่เหมือนกับพี่ฟ้ากำลังทำอะไรกับ 2 คนนี้ก็ไม่รู้ ยังเดาไม่ออก อีกอย่างนะครับถึงเรื่องจะดำเนินไปแบบเรื่อยๆไม่หวือหวาแบบเรื่องอื่น ก็เรื่องนี้มันน่ารักในแนวนี้นี่ครับ ไม่รู้จะเม้นต์ไรแล้ว หวัดดีปีใหม่อีกทีดีกว่าครับเจ้
-
ต่างฝ่ายต่างประทับใจในกันและกัน แล้วพัฒนาเป็นความรักล่ะมั้ง
-
เค้กไม่ต้องพยามเข้าใจปัญหาของพี่คิวหรอก
มันเปนปัญหาของคนรวย ที่คนจนอย่างพวกเราไม่เข้าใจ
5555555555
สรุปก้คือ ทุกคนมีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ในรูปแบบต่างๆกันไป
ลองเอาปัญหามาแชร์กัน บางทีอาจจะมีอะไรดีขึ้น
อย่างที่เค้กเล่าเรื่องพ่อ บางที พี่คิวอาจจะคิดอะไรก้ได้
พี่ฟ้าก้รักพี่คิวจิงๆแหละน้าาา เฮ้ออออออออออ
-
อืม..จริงด้วย
ที่เคยอ่านมา ส่วนใหญ่เบบี้ให้ตัวเอกเป็นเกย์กันตั้งแต่แรกๆ
พอมาเจอแบบนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันเนาะ เพราะพี่คิวมันแม๊นแมน เค้กเองถึงจะออกน่ารักกุ๊กกิ๊ก แต่น้องเค้าก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเกย์ซะหน่อย
ความสบายใจ ความเข้าใจกัน หลายๆอย่างคงทำให้เกิดเป็นความรักขึ้นมาได้ซักวัน
คิดได้แบบนี้แล้วยิ่งน่าติดตามอ่ะ :a1:
-
เราว่าเนื้อเรื่องก็ดีิอยู่แล้วนะ ค่อยเป็นค่อยไป เห็นถึงพัตนาการของตัวละครดีอ่ะ น่ารักกันดี ทั้งสองคนก็ดูเป็นผู้ชายนะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
เรื่องเงินๆๆทองๆๆนี้ ปัญหาของครอบครัวคนรวยเลยอะ
พี่คิวรักอาฟ้ามากกจิงๆ เหมือนที่อาฟ้ารักพี่คิว
เบบี้จ๊ะ เราชอบเรื่องนี้นะ มันทำให้เห็นความสัมพันะ์แบบค่อยเป็นค่อยไป
มะช่ายเจอกกัน ก็จะ บร๊ะ กันอย่างเดียว 555
ทั้งเค้กและคิวเป็นเด็กผู้ชายมากๆๆ ถ้าจะรักกันเราว่ามันต้องเกิดจากความใกล้ชิด
แล้วก็การดูแลกันและกันแน่เลย
อย่างตอนนี้ เค้กก็ช่วยพี่คิวหายเครียดไปตั้งเยอะอะเนอะ
:กอด1: :กอด1:
-
แสดงว่าอาฟ้านี่เล็งเห็นว่าเค้กสามารถปลอบคิวได้ อิอิ นี่แหล่ะ ว่าที่หลานสะใภ้ในอนาคต อิอิ
ปล. เรื่องของการดำเนินเรื่องอืดอาดนั้น ตอนแรกอ่านๆไปก็แอบคิดเหมือนกันนะคะ แต่พออ่านต่อเรื่อยๆมันก็สนุกดีค่ะ คิดอีกแง่คือ นี่แหล่ะค่ะคือชีวิตจริง เพราะผู้ชายปกติธรรมดาหลายๆคนที่มีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อน ก็เริ่มต้นความรักกับผู้ชายด้วยกันเพราะมีเหตุการณ์หลายๆอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง จนถึงตอนนี้ก็ลุ้นๆอยู่ว่าทั้งเค้กและคิวจะรักกันและแสดงออกแบบชัดเจนตอนไหน อิอิ
-
แบบนี้แหละเบบี้ดีอยู่แล้ว ค่อย ๆ เปิดใจ ค่อย ๆ รัก ลุ้นดี ๕๕๕๕๕
ชอบกันแบบไม่รู้ตัว อร๊ายยย รู้อีกทีก็รักกันไปแล้ว :-[ :impress2:
เวลาอ่านช่วงที่เค้กถามอะไรพี่คิวนี่ลุ้นมากอะ :call:
เหมือนเป็นเค้กซะเอง ลุ้นว่าพี่คิวจะตอบดี จะร้าย หรือจะกวน
-
เอออ
ถ้ารวยแล้วจะเรื่องเยอะแบนี้ ,,ก็ไม่ได้อยากจะมีบ้านรวยหรอกนะ
(แต่ถ้าได้ปั๋วรวย จะดีมาก) ๕๕๕๕๕
พี่คิวคงต้องไฟท์ๆ ต่อไปอ่ะนะ
ว่าแต่ อาฟ้า กะ ทิกเกอร์ ดูแบบ น่าติดตาม
แบบ เรื่องราวที่มาอะไรงี้ เขียนไปขำๆ เผื่อเบบี้เอามาเล่ามั่งไรมั่ง
ก๊ากกกกกกกกกกกกก
-
:confuse:
-
อาฟ้าน่ารักจริงๆ
ว่าแต่ว่าชักอยากจะเห็นทิกเกอร์แล้วสิเนี่ย
เมื่อไหร่จะออกโรงนะ !
-
ส่วนตัวแล้วชอบแบบนี้นะ คือ ทั้งคู่หน้าตาดีใช่ แต่ถ้าพี่คิวจะชอบเค้ก หรือเค้กจะชอบพี่คิว หลังจากที่อ่านมาแล้วทุกตอน รู้สึกว่าไม่ใช่เพราะ รู้สึกว่าเค้กพยายามเข้าใจพี่คิว ซึ่งเป็นผู้ชาย
-
แฮะกดผิด ต่อนะ จะบอกว่าพี่คิวเป็นผู้ชาย limited ไม่เหมือนใคร คิดว่าพี่คิวก็คงรู้สึกได้ สังเกตจาก พี่คิวเปิดตัวเองให้เค้กมาขึ้น สรุป คือชอบเรื่องนี้ ชอบทุกคนในเรื่อง แต่ไม่ชอบสงกรานต์นะ ก็รังแกคิวอะ
-
นี่แหละ ตระกูลที่ใหญ่และมีลูกหลานหลายสายหลายฝ่าย มักจะเกิดปัญหาแบบนี้แหละ
มาเป็นกำลังใจให้พี่ฟ้ากับคิวผ่านอุปสรรค์นี้ไปได้
ส่วนน้องเค้ก ความอบอุ่นของครอบครัวแม้จะเล็กแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา
มารอดูการพัฒนาการของคนทั้งสองว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร :z2:
+1 ให้เบบี้ มีความสุขกับปีใหม่ปีนี้นะครับ อย่าเจ็บ อย่าจน :กอด1:
-
:กอด1:
-
โอ๋ๆๆ กอดปลอบอาฟ้าาา55+
ปล คือโดยสวนตัวนะ เรื่องที่มันรักกันเร็วไปก้ไม่้ดี มันแบบ ขาดอะไรไปซักอย่าง
เคยนะที่อ่าบางเรื่องสนุกมาก แต่แปบเดียวก็รักกันแล้ว จากที่ตบตีกัน กลายเป็นรักกันแล้วโคตรนำตาล เราหยุดอ่านไปเลย
ชอบของพี่บี้สุดๆแล้ว ตั้งแต่ พี่ต้าพี่ข้าว ใช้เวลาด้วยกันตั้งนานกว่าจะรักกัน
สลิ่มเมตรก้80กว่าตอน พี่ทายน้องขนม กว่าจะฝาวิกฤตต่างๆ ทำให้เรารู้สึกรักตัวละครที่เกิดขึ้นมาแต่ละตัวอย่างไม่มีข้อแม้
-
อินตามเลย :m15:
ชอบตัวละครอะ :laugh:
น่ารักมากๆ :m20:
เเบบอ่านเเล้วฮา เกรียนอะ o18 ล้อเล่นๆ
เเบบ ฮานิสัยของเเต่ละคน เราชอบมาก
น่ารัก :impress2:
-
อิอิ อยากบอกว่าตอนนี้ น่ารักมาก :o8: :o8:ฃ
แบบว่าพี่คิวน่ารัก น้องเค้กน่ารัก อิอิ
และก้อเรื่องที่ี่เบบี้ว่านั่น เราคิดว่ามันออกจ่ะเป็น นิยายที่ดูมีคุณค่า น่ะค่ะเพราะมันมีเนื้อเรื่องการดำเนินไปของมัน
มีจุดประสงค์ในตัวในแต่ละตอนของมันไป ^^
ดำเนินไป อย่างมีความหมายน่ะค่ะ :) ชอบนิยายที่ดำเนินเรื่องแบบนี้ ^^
สู้ๆๆค่ะ :L2: :L2:
-
Happy New Year เบบี้ค่า << ที่บ้านติดน้ำท่วมเลย ดีเลย์ไปสองสามวัน T.T
..... พี่คิวก็พี่คิวเหอะ องค์จะลงสักกี่ริกเตอร์ ..... จัดมา เค้กเอาอยู่
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่า คนอย่างพี่คิว ต้องมีเค้กอยู่ข้างๆ
เค้กนี่แหละเหมาะแล้ว เค้กโอลลี่
:laugh: :laugh: :laugh:
ส่วนเรื่องเดินเรื่องที่ว่าอืดรึเปล่า เราว่ามันอาจจะค่อนข้างช้าถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ
แต่ถ้ายึดตามสไตล์เบบี้เราว่าบี้ปูเรื่องไม่ช้านะ
เข้าใจว่าการที่คนจะชอบกันมันไม่ได้ปุบปับ จ้องตาแล้วท้องเลยแบบปลากัด
คิดถึงเรื่องขนมกับพี่ทาย กว่าเค้าจะรักกันก็โน่นแหละ นานโข เพราะมันเบสออนความเป็นจริง
โดยส่วนตัวสำหรับเราแบบนี้แหละ ที่ใช่ เข้าตำรา รักมาก รักยาก แต่ก็เอาใจช่วยให้เค้าสปาร์กกันเร็วๆน่อ :L2:
-
ปวดหัวแทนคิว แต่... หลงรักอาฟ้า(ของพี่คิว) มากกว่าเดิม :กอด1:
ว่าแต่ อยากรู้จักทิกเกอร์แล้วน๊าาาา :impress2:
-
สนุกและจะติดตามต่อไปทุกเรื่องค่พ o13
-
o18
-
ครอบครัวใหญ่ และรวยมันน่ากลัวอย่างงี้นี่เอง o22
:pig4: คะ
-
อาฟ้าน่ารักอ่ะ...ชักอยากเห็นทิกเกอร์แล้วสิ
ว่าหวานใจของอาฟ้าจะเป็นยังไงน๊า
พี่คิสกัยน้องเค้กก็ค่อยๆผูกพันกันไปเรื่อยๆเนอะ :-[
-
จะอืดหรือไม่อืดมันไม่สำคัญ จะรักช้าหรือเร็วก็ไม่สำคัญอีกนั้นแหละ แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่าอย่าว่างขาดหายจนขาดตอน ให้เราได้ติดตามพวกเค้าเรื่อยๆ จนเหมือนกับพวกเค้ามีตัวตนเป็นคนเดินดินจริงๆดีกว่า เรื่องบางเรื่องเขียนดีมาก แต่ขาดหายไปนานพอมาต่อแล้วกลับไม่อินเหมือนเดิม เหมือนความมีส่วนร่วมของคนอ่านมันหายไปนี้สิสำคัญกว่า ให้กำลังใจคุณเบบี้ครับ มาต่อไวๆนะ กำลังอยากเห็นทิกเกอร์ จะหน้าตาเป็นไงน๊า ส่วนคิว ลุยมันเลยพวก คนไม่ดีอย่าให้เหลือซาก :laugh: :laugh:
-
ตามเบบี้มาแล้ววววววววว คึคึ ><~
สนุกมากอ่ะ มันทำให้เราลุ้นว่า สองคนนี้ เขาจะรักกันยังไง แล้วคุณฝันอะไรนั้น จะร้ายมั๊ย ?
แล้วกัสกับพี่เซ็น จะรักกันได้ป่าว ? แล้วพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ล่ะ อะไรยังไง มันน่าลุ้นไปหมด แหะๆ
ส่วนเรื่องในตระกูล คนชื่อสงกรานต์ อ่านแว๊บแรก คิดถึงอ๊อฟ ปองศักดิ์ ในรักทรนงเลยอ่ะ
ที่เอาเพชรปลอมมาใส่ แล้วโทษมาริโอ้ 5555555555555555555+
แต่แอบลุ้นเล็กๆว่า เรื่องในตระกูลนี้ อาจจะทำให้สองคนนี้ เผยความรู้สึกต่อกัน
อาจจะมีเหตุการณ์ลุ้นระทึกอะไรซักอย่าง เหมือนในรักทรนงเลย 555555555555555555+ ตื่นเต้นๆๆ
ขอบคุณเบบี้มากๆ ที่แต่งนิยายดีๆอีกเรื่องให้เราได้อ่าน จะติดตามจนจบ...
ไม่ได้คาดหวังให้ 2 คนนั้นรักกันในเร็ววัน แต่อยากให้สองคนนี้รักกันอย่างแท้จริง ฮิฮิ คึคึ
เหมือนเมตรกับสลิ่ม ที่กว่าจะรักกันจริงๆ ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะแยะ
ผ่านการพิสูจน์ตัวเองของเมตรมากมาย กว่าจะได้รักกัน
เจออุปสรรคทั้งชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ จนสุดท้ายได้รักกัน
มันเป็นความรู้สึกดีนะ เพราะแสดงว่าคนสองคนยังยืนหยัดเพื่อความรักของกันและกัน ฮาๆ (เพ้อเจ้อว่ะ) คึคึ
ขอบคุณพี่เบบี้มว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!
-
ว้าว พี่คิว
น่ารักขึ้นเยอะนะเนี่ย มีแอบให้ของขวัญกัน กิ้วๆๆๆ
พี่กัส กับพี่เซ็นนี้มีซัมติ้งไรกันเอ่ย
-
อย่างเครียดอ่า...
แล้วคือ เค้กกับกัสเจอตลอดนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ดีใจเวลาแบบนี้พี่คิวได้เค้กไว้คอยปลอบเพิ่มอีกคน.. จะผูกพันกันมากขึ้นก็คราวนี้แหละ คิคิ
ชอบจัง หอมแก้มบี้ซ้ายขวา
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
:-[ อาฟ้าน่าร๊ากกกก ชอบอ่า :-[
-
เครียดแทนคนรวยวุ้ย
-
ไม่ได้อ่านหลายวันเลย
ยังสนุกและเร้าใจเหมือนเดิม
ชอบตัวละครทุกตัว ชอบการดำเนินเรื่องทุกตอน
ชอบคนเขียนที่เขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา
เป็นกำลังใจในการแต่งนิยายนะครับ ^^
มารอตอนต่อไปครับ
-
แล้วเดี๋ยวคิวก็จะหนีมาอยู่กับเค้ก ใช่ม่ะ :laugh:
-
เง๊อ....รวยมากก็เรื่องเยอะเนอะพี่คิว
ตอนแรกนึกว่าอิพี่คิวจะกินหัวน้องเค้ก
แล้วซะอีก 5555
อารมณ์โมโห น่ากลัวเกิ๊น!!!!!!!!
-
น่ารักเนอะ
เค้กน่ารักมากเลยอ่า ชอบๆๆๆ
-
เบบี้ มาได้แล้วน๊า คิดถึงอ่า
ชอบบบบเรื่องนี้มากก มันค่อยเป็นค่อยไป สมจริงมาก ไม่ใช่เอะอะรักกันปุบปับ
รักเบบี้ จูจุฟค้าบบบ :3123:
-
เป็นกำลังใจให้คุณเบบี้คะ ตามผลงานทุกเรื่องเลยแต่ไม่ได้เม้นท์ เพราะเป็นคนไม่ชอบเม้นท์คะ ส่วนที่ว่าความรักของพี่คิวกับเค้กนั้นก้อคิดเหมือนคุณเบบี้คะ มันต้องใช้เวลาและหลายเหตุการณ์ มีีน้อยที่จะมองตาแล้วรักชอบแบบฝังจิตฝังใจ ความรักของพี่คิวกับเค้กก้อแค่รอเวลาบ่มเพาะ รอเหตุการณ์ให้เกิดคำว่ารักเท่านั้นเอง ยังไงก้อจะติดตามผลงานตลอดไปนะคะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคะ
-
:pig4: ชอบมากครั น่ารักเกิ๊น ขอบคุณนะครับที่แต่งนิยายดีๆๆให้ได้อ่านกัน รอติคตามต่อไปครับ :haun4: :haun4:
-
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เป็นเรื่องที่น่าติดตามมากค่ะ
สนุกจริงๆ แอบชอบแนวนี้นะ
การสื่อถึงตัวละครไม่อืดอาดหรอกค่ะ
เราอ่านแบบไม่มีติดขัดเลย คือไม่มีตรงไหนที่ต้องตำหนิเลยอ่ะ
อ่านไปก็อยากรู้ว่าเขาจะรู้ใจตัวเองกันเมื่อไหร่
อ่านไปก็ลุ้นไป ว่าจะรู้ตัวกันมั้ยว่ารักอีกฝ่าย โดยที่ไม่รู้ตัว
มันเป็นอะไรที่อ่านแล้วทำให้ยิ้มได้มากกว่ามานั่งอ่าน nc อีกนะ
เราคิดแบบนั้น
ยังแอบคิดเลยว่า อาฟ้ากับคิวปิด ของเราน่ารักนะ อิอิ
:L2:+ :กอด1:
-
มาแปะก่อนค่ะ
-
พี่คิวคร้าบบ โมโหทีไม่มีใครเอาอยู่ เลยต้องเป็นหน้าที่ของเค๊กที่ผ่านการเห็นชอบจากทุกคน
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายของเค๊กนะเนี่ย ได้รับหน้าที่นี้อ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคร้าบบบบบ :L2:
-
เข้ามาบอกว่า คิดถึง :m18:
-
ทิกเกอร์... อีกแล้ว ทำไมคนๆนี้ทำให้พี่อยากรู้จักมากขนาดนี้เนี่ย....
อาฟ้า...... น่ารักเนอะ อยากมีอาแบบนี้บ้างจัง
กัสจัง...... รักนะ จุ๊บๆ เชื่อพี่คิวกับอาฟ้านะลูกจะได้แคล้วคลาด ฮ่าๆๆ
น้องเค้ก.. ตกลงจะปลอบเค้า หรือ จะให้เค้าปลอบตัวกันเนี่ย... ( ชอบน้องจัง วันเกิดตัว.. ซื้อของขวัญให้แม่ สงสัยต้องเลียนแบบมั่งล่ะ )
พี่คิว...... ก็.. น่ารักเป็นนิ แหม... ฟอร์มเยอะซ้า
ปล. อยากบอกอีหนูบี้ว่า.... จะช้าจะเร็วแค่ไหน พี่รอได้ เพราะเข้าใจ ว่าพี่คิวกะน้องเค้กเนี่ยออกจะแมนๆด้วยกัน แต่ก็นะ บางครั้งมันก็มีพลั้งเผลอไปบ้างตามอารมณ์ ( ก็... คนมันลุ้นนิ... ) ดังนั้น ถ้ามีเม้นต์ไหนกดดันหนูไปบ้างก็ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ ( ได้ข่าวว่าแกเม้นต์แค่ 2 ครั้งเอง ฮ่าๆๆ )
-
ชอบเรื่องนี้มากกก รอคอยการมาต่อของแต่ละตอน 55
เรื่องราวอาจจะดูเรื่อยๆ แต่เราชอบมาก เหมือนได้รู้จักแต่ละคนไปเรื่อยๆ ค่อยๆทำความรู้จัก ^^
จะคอยติดตามเสมอค่ะ :yeb:
-
:impress2:
ไม่ยืดหรอกคะ ค่อยเป็นค่อยไปดี
-
ชอบอาฟ้าจังเลย
อยากมีแบบนี้บ้าง
พี่คิว กับ เค้กนี้สนิทกันแล้วเนอะ อิอิ
พี่คิวเขีินน่ารักอ่า ตลกดี บ้างทีก็กวนไปนะ
-
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกก ขอบใจมากๆๆและจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป
เห้ออออออออออ เมื่อไหร่นะสองคนนี้จะเริ่มรักกัน :L2:
-
~23~
วันจันทร์ ณ คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์..
“มูสช็อกโกแลตเหลือห้าหกชิ้นแน่ะ เอากลับบ้านไหม” พี่ซียิ้มถามผม
“ด..ได้เหรอครับ” ผมถามตะกุกตะกัก ในใจเต้นเร่าๆอยากเอากลับใจจะขาด
“อื้อ ได้สิ..พี่ฟ้าบอกเมื่อกี้น่ะ เดี๋ยวพี่ใส่กล่องให้นะ” พี่ซีพยักหน้าบอก
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้ม ตอนนี้พวกเราทุกคนกำลังช่วยกันเก็บร้าน สำหรับวันนี้ถึงเวลาที่เราจะได้พักผ่อนกันเสียที
“เค้ก” พี่หมีเรียก
“ครับ”
“เข้าไปล้างจานด้านในหน่อย พี่ต้องไปปิดหน้าร้าน” พี่หมีสั่ง ผมพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าห้องครัว พี่คิวกำลังทำความสะอาดอยู่ ผมเดินไปที่อ่างล้างจานและจัดการล้างจานในส่วนที่เหลือ
ณ ขณะนี้ห้องครัววังเวงมาก วังเวงจนไม่กล้าชวนพี่เขาคุยก่อน นี่เงียบขนาดนี้มันห้องครัวหรือป่าช้ากันครับนี่..
“หนังที่เอาไปเป็นไง” พี่คิวถามขึ้น
“เพิ่งดูไปแค่สองเรื่องเองครับ เหลืออีกเรื่อง..ไว้พรุ่งนี้ผมเอาไปคืนให้นะ” ผมบอกถึงหนังสองสามเรื่องที่เมื่อวานก่อนผมขอยืมไปดู ส่วนพรุ่งนี้พี่ฟ้านัดทุกคนให้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านพี่ฟ้าด้วยกันนะครับ
“อืม” พี่คิวพยักหน้า ผมล้างจานต่อ พี่คิวเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆผมพร้อมกับหยิบจานที่ผมล้างเสร็จเรียบร้อยนำไปเช็ดต่อ
“ไม่เป็นไรครับ เค้กทำเอง” ผมท้วง
“เรื่องของฉัน” พี่เขาพูดและไม่ยอมหยุดมือที่จะเช็ดมัน
“ทำไมพี่ต้องมาทำงานอะไรพวกนี้ เอ่อ..ถ้าเป็นเชฟคนอื่น เค้าก็ไม่อยากทำหรอก มันเหนื่อยไม่ใช่รึไง” ผมถามอย่างสงสัย
“มากคน มากความ..รำคาญ” พี่เขาตอบเสียงเรียบ
“หึ..” ผมหัวเราะ
“พี่นี่อารมณ์บูดบ่อยจริงนะ” ผมว่า
“ใครจะไปอารมณ์ดีตลอดเหมือนนายกันล่ะ พูดง่ายๆคือ..บ้ารึเปล่า” พี่คิวอมยิ้ม
“พี่แหละบ้า ทำหน้าบึ้งอยู่ได้” ผมเงยหน้าขึ้นมอง ทำให้ผมได้เห็นหน้าของพี่คิวชัดๆเพราะมันใกล้กันมาก
“นี่หน้าปกติของฉันเหอะ” พี่คิวหันมาแยกเคี้ยวใส่
“ผมละไม่แปลกใจจริงๆ” ผมพูด
“พูดมากจริง ล้างๆไปสิ..เดี๋ยวได้กลับบ้านดึกหรอก” พี่คิวว่า
“ชิ” ผมเบะปากให้ พี่คิวยิ้มน้อยๆพร้อมกับส่ายหัว
“เออพี่คิว ดูโปรแกรมหนังเดือนธันวายังฮะ..อยากดูเรื่องตินตินอ่ะ” ผมบอก
“ดิ แอดเวนเจอร์ ออฟ ตินติน” พี่คิวเลิกคิ้วทำหน้านึก
“ใช่ๆ..น่ารักอ่ะครับ” ผมยิ้ม
“เห็นว่าเข้าวันที่สิบ เอ่อ..รึปลายเดือน อืม..อยากดูเหมือนกันแฮะ” พี่คิวเบะปากบ่น
“ไปดูโดเรมอนไหม ยังไม่ได้ดูเลย” พี่คิวหันมาถามผม ผมอ้าปากค้างจ้องหน้าของพี่เขา ไม่น่าเชื่อว่าขนาดโดราเอมอนพี่คิวก็ยังไม่เว้น
“ไปเปล่าเนี้ย” พี่คิวกระชากเสียงถามและหันหน้ากลับไปสนใจจานที่กำลังเช็ดต่อ
“ไป...ก็ได้” ผมพยักหน้าตอบด้วยอาการงงไม่เลิก
“งั้น..วันพุธนี้ได้รึเปล่าล่ะ”
“แล้วพี่ไม่ทำงานเหรอ” ผมถามอีก
“ไม่ทำ ที่จริงถึงมีทำก็โยนให้ไอ้เซ็นก็ได้ มันชอบอู้ดีนัก” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“ก็ดี..อยากเห็นพี่เซ็นโวยวาย” ผมยิ้ม
“ไม หลงเสน่ห์ไอ้เซ็นเข้าให้แล้วรึไง” พี่คิวยักคิ้วกวน
“เปล่าสักหน่อย พี่นี่ชอบแดกดันผมเรื่องพี่เซ็นซะจริง” ผมบ่นอย่างไม่ชอบใจ
“หึ..ใครจะไปรู้” พี่คิวเบะปากพร้อมหยิบจานใบสุดท้ายไปเช็ด
“เสร็จรึยัง จู๋จี๋กันอยู่ได้อ่ะสองคนนี้” ผมหันไปมองพี่ฟ้าที่เปิดประตูห้องครัวเข้ามา
“อะไรของคุณ” พี่คิวขมวดคิ้วด้วยท่าทีไม่พอใจ
“ไม่ต้องอารมณ์ขึ้นหรอกน่า ไปๆ ทุกคนเรียบร้อยแล้ว..พี่ไปรอที่รถนะ” พี่ฟ้ายิ้มยักคิ้วให้ผม พอพี่ฟ้าออกจากห้องไป ในห้องครัวกลับเงียบสนิทเหมือนเราไม่ได้สนทนากันมาก่อนหน้านี้ ผมเลยไม่กล้าพูดอะไรเลยพอมาโดนแซวเข้าแบบนั้น ผมหันไปยิ้มให้พี่คิวเล็กน้อยและเดินไปเช็ดมือแก้เก้อ
“ผมไปเก็บของก่อนนะครับ” ผมพูดบอก
“อืม” พี่คิวพยักหน้าตอบ ผมเดินออกจากครัวตรงไปที่ห้องล็อกเกอร์และทำการเก็บสัมภาระของตัวเองกลับบ้าน พอเก็บของใส่เป้เสร็จเรียบร้อยจึงเดินออกมายืนรออยู่ที่ลานจอดรถด้านหลังร้าน
“นี่ๆ..เมื่อกี้คุยไรกันเหรอ” พี่ฟ้าเอ่ยถามทันทีที่ผมเดินเข้าไปหา
“ก็ทั่วไปน่ะครับ” ผมตอบ
“ไม่จริงหรอก ยืนใกล้กันงี้ๆเลย” พี่ฟ้าทำไม้ทำมือไม่เลิก
“หึ พี่ฟ้าค้าบ..ก็เมื่อกี้เราล้างจานอยู่หนิ” ผมไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว อาการของพี่ฟ้าชักมากขึ้นจนผมกลัวว่าพี่คิวจะลำบากใจ
“โถ่ ปกติถ้าไม่สนิทไอ้คิวมันยอมคุยกับใครนานๆที่ไหนกันเล่า” พี่ฟ้าว่าหน้างอ
“งั้นเหรอครับ” ผมรู้สึกดีใจขึ้นมาซะงั้น
“ขึ้นรถ” พี่คิวสั่งเสียงแข็ง พี่ฟ้าทำตากะหลับกะเหลือกใส่ผม ผมได้แต่ยิ้ม เอากับพี่ฟ้าสิครับ บทจะทำตัวเด็กก็เด็กซะจริงๆ..
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“ก็บอกว่าอย่าเล่นไงเล่า”
“ซี” เสียงพี่เซ็นปรามน้องสาวตัวเอง
“พี่เซ็น เบอร์ใครอีกแล้วคะเนี้ย..” พี่ซีโวยวาย
“พี่ซียังไม่ชินอีกเหรอ” พี่กัสทำหน้าเอือม
“ไม่ๆ..แม็ทหน้าลิเวอร์พูลเว้ย ถ้ามึงจะไปมึงก็บอกก่อนดิ” พี่หมีว่าพี่ออฟ
“ก็พี่ไม่บอกก่อนล่วงหน้าอ่ะ ผมก็มีเรียนบ้างไรบ้างสิ” อืม..ทำไมมันช่างวุ่นวายขนาดนี้ละครับเนี้ย
ตอนนี้พวกเราชาวคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์รวมตัวอยู่ที่บ้านของพี่ฟ้า วันนี้เย็นพี่ฟ้านัดให้เราทุกคนมาทานข้าวที่บ้านของพี่ฟ้าร่วมกัน เพราะภายใน 1 เดือนจะมี 1 วัน เป็นวันที่พวกเราต้องมาทานข้าวที่บ้านของพี่ฟ้า แนะนำ สังสรรค์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับร้านประมาณนั้น ครั้งก่อนๆผมมาไม่ได้ ครั้งนี้จึงเป็นการมาร่วมด้วยครั้งแรกของผมนะครับ
“..............” ผมนั่งเงียบ มองหน้าทุกคนและยิ้มกว้างประมาณว่า “ผมสบายดี” เชิญทุกคนเถียงกันได้ตามสบาย
“เค้กจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” พี่ออฟหันมาถาม
“เหอะๆ เค้ก..ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะครับ” ผมยิ้มแหยๆ เกาหัวตัวเองเก้อๆ
“ไม่รู้จักดูน้องเป็นตัวอย่าง วุ่นวายกันจริงเชียวเด็กพวกนี้” พี่ฟ้าบ่น พี่ฟ้าเข้าๆออกๆห้องครัวเป็นระยะเพื่อคุมการทำอาหารของพวกแม่บ้าน ส่วนพี่คิวตอนนี้นั่งคุยอยู่กับพี่ฝันที่โต๊ะเขียนหนังสืออีกมุมหนึ่ง
“โลกส่วนตัวสูง” พี่เซ็นพูดเสียงดังทำให้พวกพี่ๆเงียบไป
“ยุ่งน่าเซ็น” พี่ฝันหันมาว่า น้ำเสียงเป็นการเตือนกล่าวอย่างสนิทสนมมากกว่าจะไม่พอใจ
“เซ็นก็แซวขำๆอ่ะ นี่เรานั่งกันอยู่เยอะแยะ สองคนไปแยกคุยนี่ยังไงอยู่นะ” พี่เซ็นทำหน้าทำตาเจ้าเล่ห์
“บ้า..จะกลับแล้ว” พี่ฝันลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อ่าว จะกลับแล้วเหรอ ไม่อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนล่ะ” พี่ฟ้าพูด
“ไม่ล่ะค่ะอา วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่นัดทานข้าวกับญาติๆด้วย มีประชุมกันต่อน่ะค่ะ” พี่ฝันยิ้มเล็กน้อย
“อืม..งั้นกลับดีๆล่ะ” พี่ฟ้ายิ้ม เดินออกจากห้องนั่งเล่นไป
“หวัดดีค้าบ” พวกเรายกมือไหว้พี่ฝันพร้อมกัน
“สวัสดีจ้ะ” พี่ฝันรับไหว้ก่อนจะโบกมือให้
“ไปละ” พี่ฝันหันไปบอกพี่คิว
“เดี๋ยวเดินไปส่ง” พี่คิวบอก สองคนเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน พวกเราทุกคนมองจนลับสายตา
“เป็นแฟนกันแล้วเหรอ” พี่ซีถามพี่เซ็นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เรื่องของเด็กเมื่อไหร่” พี่เซ็นดีดหน้าผากพี่ซีเบาๆ
“ก็ดูพี่คิวสิ คริคริ” พี่ซีขำใหญ่
“กัส..พี่อยากได้อ่ะ” พี่หมียื่นหนังสือนิตยสารส่งให้พี่กัส
“อะไร ผ้าพันคอเหรอครับ” พี่กัสรับหนังสือไปดู
“อืม” พี่หมีตอบ ผมมองทั้งสองคนอย่างสงสัยว่าทำไมพี่หมีต้องบอกพี่กัสด้วย
“ปลายปีพี่ต้องบินไปมอสโก ถักให้หน่อยซิ” พี่หมีจ้องหน้าพี่กัส พี่กัสมองดูหนังสือนั่นอย่างตั้งใจ
“ไปทำไมเหรอ” พี่กัสเงยหน้าถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“หาเพื่อน” พี่หมีตอบ
“หาเพื่อนหรือหาเมีย” พี่เซ็นยิ้ม
“ใครจะไปเหมือนพี่กัน” พี่กัสหันไปค้อนพี่เซ็น พี่เซ็นทำตากวนโอ๊ยพร้อมกับเบะปากอย่างไม่แยแส
“เดี๋ยวกัสถักให้นะ แต่ต้องนานหน่อย..แล้วพี่อยากได้สีแบบนี้เลยเหรอฮะ” พี่กัสถาม มือชี้ไปที่หนังสือเล่มนั้น
“อืม ประมาณนี้แหละ”
“มึงก็ซื้อดิ ทำไมต้องถักด้วยวะ..เสียเวลา” พี่เซ็นว่าคิ้วขมวด
“มันไม่เหมือนกันพี่ คนใกล้ตัวทำให้..กับซื้อ เวลาใช้มันคนละอารมณ์” พี่หมียักคิ้วตอบด้วยท่าทางเจ้าชู้เอามากๆเลยละครับ
“เอาถุงมือด้วยไหม กัสถักได้นะฮะ” พี่กัสยิ้มถาม
“ตามใจสิ” พี่หมีตอบหน้านิ่งได้อีก
“เหอะๆ” ผมหัวเราะ จู่ๆทุกคนหันมาจ้องผมกันเป็นตาเดียวในทันควัน ผมผงะเล็กน้อย
“เปล่าครับ เค้กว่าเค้กไปช่วยพี่ฟ้าในครัวดีกว่านะ” ผมยิ้มกลบเกลื่อนพร้อมปัดมือไปมาและรีบลุกหนีสายตาทุกคน คาดว่าถ้าอยู่ต่อต้องโดนคาดคั้นแน่ว่าผมหัวเราะทำไม ToT แล้วเมื่อกี้ผมหัวเราะทำไมละครับเนี้ย..เพลียตัวเอง
= = = = = = = =
วันพุธ ณ บ้านเมธชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“อ่าว คุณเค้ก” ป้านิดยิ้มทัก
“มาหาพี่คิวครับ” ผมบอก ประโยคนี้คล้ายกับเป็นประโยคประจำไปอย่างไรไม่ทราบ วันนี้เป็นวันที่เรานัดดูหนังกันไว้นะครับ
“เชิญเลยค่ะ แต่คงต้องรอสักครู่..คุณฝันมาหาคุณคิวแต่เช้าแล้วค่ะ ยังไม่กลับเลย” ป้านิดบอก ผมพยักหน้ายิ้มตอบ เดินตามป้านิดเข้าบ้าน ป้านิดพาผมไปที่ห้องรับแขก
“รบกวนนั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าไปเรียนคุณคิวให้ค่ะ” ป้านิดบอก
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้ม ระหว่างที่ผมนั่งรอจึงหยิบหนังสือใกล้มือมาอ่าน หนึ่งในนั้นมีหนังสือที่เป็นภาษาไทยนับเล่มได้
“ก่อนเวลา” ผมหันไปมองตามเสียง พี่คิวยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพิงอยู่หน้าประตูห้อง
“ดูเหมือนที่ฉันตั้งเวลาให้คราวที่แล้วจะได้ผล”
“เห็นจะอย่างนั้น” ผมบอก
“รอแป๊บนึงแล้วกัน ฉันมีธุระ..ส่วนตั๋วหนังน่ะไม่ต้องห่วง ฉันให้คนโทรจองให้แล้ว” พี่คิวบอก
“ครับ” ผมยิ้ม
“อยากกินอะไรก็บอกป้าล่ะ” พี่คิวบอกและเดินจากไป
“คุณเค้กจะรับน้ำอะไรดีคะ” ป้านิดเข้ามาถาม
“อะไรก็ได้ครับ”
“วันนี้มีน้ำองุ่นกับน้ำสับปะรดด้วย รับไหมคะ..หรือว่าจะเป็นกาแฟ โกโก้หรือโอวันตินดีคะ”
“น้ำองุ่นก็แล้วกันครับ” ผมตอบ
“ค่ะ” ป้ายิ้มตอบ ผมนั่งอ่านหนังสือต่อ หยิบหูฟังมาต่อโทรศัพท์มือถือเพื่อฟังเพลงรอฆ่าเวลา ไม่นานป้านิดนำอาหารว่างและน้ำมาเสิร์ฟให้ผม เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผมได้ยินเสียงคนเดินมาใกล้ ผมจึงรีบถอดหูฟังออก
“สวัสดีจ้ะ” พี่ฝันหยุดรับไหว้ผม ผมยิ้มให้ทั้งสองคน
“ไม่ต้องไปส่งหรอก ดูหนังให้สนุกล่ะ” พี่ฝันบอกพี่คิว
“อืม ขอบใจนะ” พี่คิวยิ้ม
“ฝากด้วยนะจ๊ะเค้ก” พี่ฝันหันมาบอกผม
“ครับ” ผมตอบไปอย่างนั้น ที่จริงไม่เข้าใจหรอกครับว่าฝากเรื่องอะไร ฝากให้ดูแลพี่คิวอย่างนั้นเหรอ..เถื่อนขนาดนี้ไม่ต้องมีคนคอยดูแลหรอกมั้งครับ
“แป๊บนะ ขอไปเอาของก่อน” พี่คิวหันมาบอกผม ผมพยักหน้าตอบ รีบเก็บของๆตัวเองใส่กระเป๋าเตรียมพร้อม เดินไปยืนรออยู่ที่หน้าประตูห้องรับแขกเพื่อไม่ให้เสียเวลา แม่สอนผมเสมอว่าไม่ควรให้ใครมารอเรา เราควรพร้อม และเป็นฝ่ายรอถึงแม้ว่าจะต้องรอนานในบางครั้ง แต่ก็ดีกว่าถ้าจะให้คนอื่นมารอเราเพียงคนเดียว..
“ฝากบ้านด้วยนะครับ ส่วนสวน..เย็นนี้คิวจะกลับมาดู” พี่คิวหันไปสั่งป้านิด
“ได้ค่ะ เที่ยวให้สนุกนะคะ” ป้านิดยิ้ม
“คืนครับ” ผมยื่นแผ่นซีดีภาพยนตร์ที่ยืมมายื่นคืนให้พี่คิว เพราะเมื่อวานก่อนกลับลืมคืนให้พี่เขาซะอย่างนั้น
“ฝากเก็บด้วยครับป้า” พี่คิวรับไปยื่นส่งให้ป้านิด ผมกับพี่คิวเดินไปที่รถด้วยกัน ผมยืนมองพี่คิวที่กำลังเดินตรงไปที่รถสปอร์ตบีเอ็มดับเบิลยูสีดำ และผมกำลังขาแข็งและไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้มันมากนัก
“มาขึ้นรถสิ” พี่คิวสั่งเสียงเรียบ แต่มันน่าจะเป็นคำสั่งมากกว่าเป็นประโยคบอกเล่า
“อ่ะ..เอ่อ” ผมเก้ๆกังๆ ทำไมต้องเอาคันนี้ไปด้วยนะ เด่นจะตายไปอ่ะ..
“เอารถเก๋งคันนั้นไปไม่ได้เหรอครับ” ผมพูดพร้อมกับชี้ไปที่รถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำที่จอดอยู่ข้างๆรถโตโยต้าอแวนซ่า เป็นสองคันที่จอดอยู่มุมสุดของโรงจอดรถ สำหรับผมในตอนนี้เป็นรถคันไหนก็ได้ภายในสองคันนี้เท่านั้น ไม่ใช่รถสปอร์ตหกเจ็ดคันที่จอดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของบ้านนั่น
“อย่าเรื่องมากได้ไหม” พี่คิวว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เด่นจะตายไป ขึ้นแท็กซี่ดีกว่าอีก” ผมบ่นแต่สุดท้ายก็เดินไปที่รถเพราะรู้สึกเกรงใจพี่คิวขึ้นมา
“แท็กซี่ เหม็น” พี่คิวทำหน้าเบ้
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจ เปิดประตูรถขึ้นไปนั่งโดยไม่ต่อล้อต่อเถียงกับพี่คิวอีกเพราะเถียงไปก็เท่านั้น ผมนั่งนิ่ง ไม่กล้าโดนอะไรบนรถของเขาทั้งนั้น กลัวอ่ะ..
“กินไรมารึยัง” พี่คิวถาม
“แล้วฮะ” ผมตอบ
“แล้วเหมือนกัน ถามไปงั้น..มารยาทน่ะ” พี่คิวพูดแกมหัวเราะเพราะประโยคเมื่อกี้เหมือนต้องการกวนผมโดยเฉพาะ พอลุงโก๋คนสวนที่บ้านของพี่คิวเปิดประตูรั้วให้ พี่คิวก็ขับรถออกจากตัวบ้าน
“งั้นก็ขอบคุณ เป็นมารยาทเหมือนกัน” ผมย้อนลอยหน้าลอยตา
“หึ..” พี่คิวหัวเราะ หลังจากนั้นพวกเราก็เงียบลง ผมรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่สะดวกยังไงก็ไม่รู้อ่ะครับ
“แล้ว..เป็นอะไรของนาย” พี่คิวถามขึ้นโต้งๆ ผมหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ
“อะไรครับ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ร้องไห้เหรอ”
“เอ๊ะ..” ผมอึ้ง ไม่คิดว่าพี่เขาจะสังเกตเห็น
“มันเห็นชัดขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ผมถาม รีบลูบหน้าลูบตาของตัวเองด้วยความตกใจ
“เฉพาะคนตาบอดเท่านั้นแหละ ที่ไม่รู้”
“ก็..ไม่มีไรหรอกครับ แค่..ดูฮาชิแล้วมันกลั้นไม่อยู่อ่ะ” ผมบอกถึงสาเหตุที่ทำให้ผมน้ำตาแตกเมื่อคืนนี้และก็อดเขินไม่ได้
“หึ..นี่อย่าบอกนะว่านายดูหนังแล้วร้องไห้น่ะ” พี่คิวขำเสียงดัง
“พี่คิว มันห้ามได้ไหมล่ะครับ” ผมขึ้นเสียงว่า
“หรือว่าพี่ไม่ร้อง แหม..มันก็ต้องมีซึ้งกันบ้างแหละ”
“ถ้าตาเป็นขนาดนี้ นี่นายคงร้องตั้งแต่ต้นเรื่องเลยสินะ” พี่คิวพูดไปขำไป
“...............” ผมเงียบ ไม่อยากโต้เถียงอะไรแล้ว อายอ่ะครับ..ที่จริงมันไม่ใช่ตั้งแต่ต้นเรื่องหรอก แค่ร้องไห้ตอนกลางๆเรื่องเท่านั้นเองอ่ะ แต่มันไหลพรากๆแบบไม่ยั้งเลยต่างหากล่ะ
“หึ..” ยัง..ยังไม่หยุดขำอีก
“จะหยุดขำเมื่อไหร่ก็บอกด้วยนะครับ” ผมประชดพร้อมหันหน้าหนี
“โอเค” พี่คิวย้อนตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน ผมได้แต่ทำหน้าหน่าย เขินก็เขินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อ่ะครับ
= = = = = = = =
“ถอดออกได้แล้ว” พี่คิวพูด ไม่ได้หันมามองหน้าผม
“ไมอ่ะ แฮะๆ” ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ตอนนี้ผมใส่เสื้อกันหนาวที่พี่คิวซื้อให้เมื่อตอนวันเกิดของผม ผมใส่มันตั้งแต่เข้าโรงภาพยนตร์แล้วละครับ เอามาใส่กันหนาวน่ะ ตอนนี้พวกเราดูหนังเสร็จแล้วแต่ผมกลับยังไม่ถอดออก กะว่าจะเข้าไปถอดในห้องน้ำนะครับ
“เสื้อพี่อุ้นอุ่น” ผมยิ้มบอก
“จิ..” พี่คิวจิปากเบาๆเหมือนไม่พอใจ
“ไปถอดออกก็ได้ เข้าห้องน้ำก่อนนะครับ ไปไหม” ผมถาม
“ไม่ล่ะ ตามสบาย” พี่คิวตอบ ผมยื่นกล่องป็อปคอร์นให้พี่คิวก่อนเดินตรงเข้าห้องน้ำ จัดการทำธุระให้เสร็จเรียบร้อย เดินออกมาเห็นพี่คิวกำลังยืนดูโปรแกรมหนังอยู่
“ตินตินเข้าเกือบสิ้นเดือนธันวาแน่ะ” พี่คิวพูด ตาจับจ้องอยู่ที่ป้ายโปรแกรม
“กินอีกไหม” พี่คิวถามถึงป๊อปคอร์นที่ตนถือ ผมส่ายหัวตอบ พี่คิวเดินเอาถังป๊อบคอร์นที่เหลือไปทิ้งที่ถังขยะให้
“พี่จะมาดูตินตินไหม” ผมเดินเข้าไปหาพี่คิว พี่เขานิ่งไปเหมือนใช้ความคิด
“ดูก่อน อาจจะมาดูกับฝัน” พี่คิวตอบ
“เหรอ....ครับ” ผมตอบเสียงเบา อยู่ๆผมก็รู้สึกทำหน้าไม่ถูกขึ้นมา
“ไปเถอะ” พี่คิวเดินนำไป
“ไปบีทูเอสก่อน” พี่คิวบอก
“ซื้ออีกแล้วเหรอครับ” ผมตกใจ เพิ่งซื้อไปเมื่อไม่นานมานี้เองจะซื้ออีกแล้ว อ่านหนังสือเร็วชะมัด
“อื้อ” พี่คิวพยักหน้าตอบ เป็นคนรวยนี่ก็ดีจังนะครับ นึกจะซื้ออะไรเมื่อไหร่ก็ได้ เราจะซื้อหนังสือสักหนึ่งเล่มยังคิดแล้วคิดอีก ไม่กล้าใช้เงินที่หามา..เฮ้อ~
เมื่อถึงร้านหนังสือบีทูเอส ผมยืนมองพี่คิวที่กำลังเลือกหนังสืออยู่ ตั้งแต่เข้าร้านมา ผมได้เดินดูไปทั่วร้านแล้ว ส่วนหนังสือถึงมีที่อยากได้ก็ตัดใจไม่ซื้อจะดีกว่า ผมเลือกที่จะเดินตามพี่คิวแทนเพราะถ้าไปเดินเลือกหนังสือละก็ผมต้องอยากได้ขึ้นมาแน่ๆ
“คอร์นเนอร์..คอลเนเลีย” ผมสะกดอ่านหนังสือที่พี่คิวยื่นมาให้ผมถือไว้
“คอร์เนเลีย ฟุนเค่” พี่คิวพูด โอ้วม่าย..สำเนียง แสบตามากจ้า~
“อ่านยากชะมัด” ผมเบะปากบ่นไปอย่างนั้น
“แล้วไม่เอาอะไรรึไง” พี่คิวถาม
“ไม่อ่ะครับ” ผมตอบเสียงเบา ไม่กล้าสบตาพี่เขา เศร้าใจตัวเอง
“งั้นเหรอ..” พี่คิวพูดแค่นั้น ผมเดินตาม
“แน่ใจนะว่าไม่เอาอะไร” พี่คิวหันมาถามอีกครั้ง คำถามนี้ทำให้ผมนิ่งนึกและกำลังคิดว่าทำไมพี่เขาถึงถามเหมือนจะซื้อของให้ผมกัน
“ไม่ครับ” ผมตอบไปก่อน ถึงแม้คำถามจะฟังดูก้ำกึ่งแต่คิดว่าปฏิเสธไว้ก่อนเป็นดีที่สุด
“พี่เก่งจังนะ อ่านแต่วรรณกรรมภาษาอังกฤษทั้งนั้นเลย” ผมเปลี่ยนเรื่องยิ้มชม
“นายก็ลองอ่านบ้างสิ จะได้ฝึกภาษา”
“มันไม่เข้าใจอ่ะ อ่านแล้วจะหลับ” ผมตอบ
“เริ่มอ่านที่นิทานไปก่อนซิ” พี่คิวบอกพร้อมเดินนำไปที่เคาร์เตอร์คิดเงิน ผมวางหนังสือหกเจ็ดเล่มของพี่คิวลงบนเคาร์เตอร์
“งั้นยืมที่บ้านพี่ได้ไหมฮะ ซื้อไม่ได้..ไม่มีเงินอ่ะ” ผมพูดตรงๆ หนังสือวรรณกรรมภาษาอังกฤษแพงกว่าหนังสือแปลตั้งเยอะ ใจจริงผมอยากยืมหนังสือที่บ้านของพี่ฟ้ามาก แต่ไม่กล้าเท่าไหร่เพราะเกรงใจ เราไม่รู้ว่าเขาหวงหนังสือของเขารึเปล่า ยืมแผ่นหนังเขามาแล้วยังมายืมหนังสืออีก เลยลำบากใจนิดหน่อยนะครับ
“นายจะไม่ลงทุนเลยรึไง” พี่คิวมองเหล่
“ก็..มันแพงนี่ครับ” ผมบอก ไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายเท่าไหร่
“เชิญตามสบาย อยากได้เล่มไหนก็ไปเอา..แต่ห้ามดอง” พี่คิวพูดเสียงเข้ม
“ค้าบ ใจดีผิดหน้าตานะเนี้ย” ผมแกล้งชม ทำให้พนักงานที่เคาร์เตอร์คิดเงินอมยิ้มมองเราทั้งสอง
“เอ่อ แล้วอาทิตย์นี้นายจะไปมูลนิธินั่นรึเปล่า” พี่คิวพูด ขณะเดียวกันก็ยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน
“ไม่อ่ะครับ พอดีวันอาทิตย์เค้กจะไปมูลนิธิคนตาบอดน่ะ” ผมบอก
“ไปทำไม” พี่คิวถาม เอ่อ..เป็นประโยคที่ต้องการคำตอบ หรือต้องการหาเรื่องกัน มันฟังดูห้วนและไม่น่าฟังเอาซะเลย
“ไปสอนการบ้านน้องๆ พอดีเค้กนัดกับน้องที่ตาบอดไว้น่ะ..เราจะเจอกันนานๆครั้ง” ผมอธิบาย รับถุงหนังสือมาถือไว้ให้ พี่คิวกำลังเซ็นจ่ายบัตรเครดิตอยู่
“สอนการบ้าน แล้ว..มันไม่เหมือนที่มูลนิธินั่นยังไง” พี่คิวถามอีกและเดินมาหยิบถุงจากมือผมไปถือแทน
“ก็เฉพาะเด็กๆคนตาบอดไงครับ สอนหนังสือให้น้องไรงี้ เค้กเคยไปมาหลายครั้งแล้วแต่มันค่อนข้างไกล เดี๋ยวนี้ก็เลยไม่ค่อยได้ไป..ยิ่งพอมาทำงานที่ร้านพี่ฟ้า เค้กก็หายมานาน..น้องเค้าก็เลยโทรมาหาน่ะครับ ว่าอยากเจอเค้ก..นัดกันวันอาทิตย์นี้นี่แหละ” ผมเล่า พี่คิวพยักหน้าเงียบๆ
“พี่จะไปไหนต่ออ่ะ”
“อืม..วันอาทิตย์ ฉันไปกับนายด้วยได้ไหม” พี่คิวกลับตอบไม่ตรงคำถามซะอย่างนั้น
“ไปกับผม” ผมชี้ที่ตัวเอง
“อื้อ เค้าห้ามไม่ให้คนอย่างฉันไปด้วยรึไง” พี่คิวว่า ผมจ้องหน้าพี่คิวเขม็ง อยากจะอ่านออกจังเลยว่าพี่เขากำลังคิดอะไรอยู่
“อะไรของนาย” พี่คิวว่า
“ผมกำลังคิดตามประโยคที่พี่พูดน่ะ บางทีพี่ควรไปเรียนภาษาไทยใหม่นะ” ผมอมยิ้ม
“โอเค ตามนั้นแล้วกัน..ไปกี่โมงก็โทรมาบอกล่ะ” พี่คิวสรุปเองเสร็จสรรพ
“พี่ควรไปเรียนเรื่องมารยาทของคนไทยด้วย อ้อมบ้างก็ได้อ่ะ” ผมบ่นไม่เลิก พี่คิวเหล่หางตามองผมเหมือนตนเองไม่ผิดอีก
“พี่จะไปด้วยก็ได้ แต่ต้องนั่งแท็กซี่ไปนะ” ผมบอกพร้อมกับแสยะยิ้ม ทีนี้ถึงตาผมบ้างแล้วล่ะ! พี่คิวเงียบจ้องหน้าผมเขม็ง แม่ค้าบ..ผู้ชายคนนี้จะเขมือบเค้กแล้วอ่ะ [=o=]
“แต่ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไร” ผมยักไหล่ทำท่าใจดีสู้เสือ เราต้องข่มบ้าง ทำเข้มให้ถึงที่สุด
“ถือไปเลย” พี่คิวเอาถุงทั้งหมดมายัดใส่มือของผมแล้วเดินหนีไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ โด่..เอาแต่ใจชะมัด
“คึคึ..เราชนะ!” ผมหัวเราะยิ้มร่าเริงเดินตามก้นพี่คิวไป ชนะแล้วร่าเริง..อารมณ์ดี้ดี
..................>>>><<<<...................
-
สองคนนี้ติดการ์ตูนกันรึไงนะ
-
คิวกับเค้กนี่พัฒนากันช้า ๆ แต่เรื่อย ๆ แหะ
แล้วฝันนี่อย่างไงๆ
-
:o8: :o8: :o8:
-
ตอนนี้แอบหวานอ่า อยากกอดให้กำลังใจน้องเค้ก หมั่นไส้อิพี่คิววุ้ย ไปดูกับฝัน....เชอะ
-
เค้กมันน่ารักงุงิ ง่าวๆ
พี่คิวก็เก๊ก เเต่หล่อและรวยมากกกกกก
ขอบคุณค่ะ
น่ารักมาก
-
พี่คิวน่ากลัว
คนรวยแต่แย่งชิงสมบัติกัน เงินทองเรื่องใหญ่ ลืมความรักที่มีให้กัน
เค้ก เกิดมาคนละโลก คนละมุมมอง โตมาในแบบครอบครัวที่อบอุ่น
เค้กสามารถทำให้พี่คิวเย็นได้ สงบได้ แต่ไม่ละล้าบละล้วงเกินไป วางตัวได้เหมาะสมนะ
สำหรับตอนนี้... น่ารักดี ดูสบายๆ ชิว เรื่อย หวาน อบอุ่น ทำให้ยิ้มตามไป :)
-
น้องเค้กนี่น่ารักชะมัด
ใครอยู่ใกล้แล้วใจไม่อ่อนบ้างเนี่ย
อยากได้อ่ะ อยากได้ อยากได้ อยากได้
-
จ๊วบบบบบบบ ไอ้น้องบี้ น่ารักดีอ่ะตอนนี้ เบาๆ สบายๆ
ขอบคุณนะจ๊ะ +++
:z13:
-
เค้กยังน่ารักเหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยน กรี๊ดดดดดดดดดดด!!
-
อ่านหลายตอนแล้ว แล้วก็เห็นพัฒนาการของพี่คิวกับพี่เค๊กแล้ว 555
พี่คิวที่ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ตอนนี้ให้พี่เค๊กมายืนข้างๆแล้ว วิ๊วว
-
หวานแหววแปลกๆ :laugh:
-
น่าร้ากกกก :กอด1: :impress2: :man1:
-
เค้าไปดูหนังกันบ่อยเนอะคู่นี้
แล้วแต่ละเรื่องก็นะ...เข้ากะหน้าพี่คิวเหลือเกิ๊น :laugh:
-
เป็นความสัมพันธ์ที่เรื่อยๆมากกกกกก
เมื่อไรจะปิ๊งปั๊งกันน้า~
-
กรี๊ดดด มาแล้ววว :กอด1:
เรื่อยๆมาเรียงๆ แต่มันแฝงความอบอุ่น กุ๊กกิ๊กเบาๆเนาะ
เหมือนแพ้ทางกันและกัน คุ้นเคยกันมากขึ้น แต่ก็ยังไม่รู้ตัวอ่ะ
เค้กนี่ยังว่ามีใจไปแล้วนิดๆ แต่เพราะเขียนมุมมองของเค้ก เลยยิ่งอ่านไม่ออกเลยว่าพี่คิวนี่คิดอะไรอยู่
แต่ก็รอลุ้นต่อไปค่ะ :a1:
-
ฝันยังคงเป็นปัญหาเหมือนเดิม
ตกลงเป็นไรกันเนี่ยพี่คิวกะฝันอ่ะ
เพื่อนหรือแฟนน
อยากรู้ๆๆๆๆ ><
-
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวัน :กอด1:
-
:-[สนุกๆๆๆ :impress3:ชอบๆๆๆ น่ารักที่สุดเลยยยยยยยยย :L1:
-
รู้สึกว่าน้องเค้กกล้าต่อปากต่อคำกับพี่คิวมากขึ้นนะคะเนี่ย
แถมพี่คิวยังแพ้อีกแน่ะ
ความสัมพันธ์เริ่มคืบหน้าแบบเรียบๆเนียนๆ
รู้ตัวเมื่อไหร่ ตอนนั้นคงจะตกหลุมรักกันไปซะแล้วละมั้ง
-
รู้สึกว่าพี่คิวจะพูดม๊ากขึ้นเยอะเลยน่ะเนี๊ย
-
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มตลอดเลยอะ ชอบๆ :-[
-
เค้กชนะพี่คิว อิ อิ :กอด1:
-
โอย สองคนนี้น่ารักกันเกินไปแล้วนะ >//< อาฟ้าสืบเลยๆ มีอะไรในกอไผ่นะเนี่ย
แต่พี่ฝันเนี่ย เอิ่ม พี่ก็เป็นคนดีนะคะ แต่ว่า ขอพี่คิวให้เค้กละกันนะคะๆๆๆ ^^
-
น้องเค้กน่ารักเหมือนเดิม ส่วนนายคิวเดาอารมณ์ยาก
ส่วนยัยฝันร้ายที่มาที่ไปก็ไม่ชัดเจนซักที
และเหมือนจะแอบมีอีกคู่ในร้าน :-[
+1
-
:กอด1:ติดใจอะไรพี่คิว
-
คนเราค่อยศึกษากัน แทรกซึมความรู้สึกซึ่งกันและกัน ความรักที่ค่อยๆเกิดขึ้นก็จะแน่นเพิ่มขึ้น
-
เมื่อไหร่จะได้รักกันเนี่ยะ
-
คู่นี้ชักยังไง บทสนทนาคล่องซะ ^ ^
-
เย้ๆ เค้กชนะพี่คิว ไปดูหนังกันด้วยอ่ะ แบบนี้แหละดี ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ
-
:z13: :z13: :z13:
-
พี่คิวนี่ชักจะยังไงยังไงซะแระ 555555
-
เค้ามาดูหนังด้วยกันอีกแล้ว :-[ แต่ทำไมเรื่องตินตินต้องไปดูกะพี่ฝันด้วยอ่ะ :o11:
-
ชอบสุดๆเลยค่ะเรื่องนี้
เบบี้ห้ามโกรธนะ
ถ้าจะบอกว่าในบรรดาผลงานของเบบี้ชอบทุกเรื่อง
แต่ชอบเรื่องนี้มากที่สุดอ่ะ^^ เป็นกำลังใจให้เสมอๆๆเลยทั้งเบบี้ คิวและก็เค้ก
-
เค้กและคิวก็ยังคงน่ารัก :-[
ส่วนฝันเหมือนนางจะดี หรือป่าว? :เฮ้อ:
เราก็อยากไปมูลนิธิเหมือนกัน ไปได้แค่ปีละครั้งเอง :sad4:
:L2: ให้คุณเบบี้
-
พี่คิวดูโดเรมอน :a5:
ตกลงพี่คิวกับพี่ฝันเค้าเป็นแฟนกันมั้ยเนี่ย คลุมเครือจัง
-
น้องเค้กดูมีความสุขเล็กๆที่ได้เอาชนะพี่คิว
ฮ่าๆๆๆ น่ารักดีอ่ะ
อ่อยยยย พี่กัส น่ารักว่ะ
ชอบๆๆๆ ถักๆงี้ ทำอะไร อิ๊อ๊ะดีจัง
^^
-
เสื้อที่พี่คิวซื้อให้นี้ท่าทางจะอุ่นจริงๆนะค่ะเนี้ย อ้ายเขินอ่ะ 555
พี่คิวจะไม่มาดูหนังกับน้องเค้กจริงๆหรอ เศร้าใจจังเลย เค้กน่าสงสารแย่เลยอ่ะ
ชอบตอนล้างจานด้วยกันจริงๆเลย คริๆ น้องเค้กเป็นเด็กดีมากๆเลยอ่ะ รู้จักคุณค่าของเงินแล้วก็ยังใจดีไปช่วยสอนหนังสือ
น้องๆอีกอ่ะ o13 :o8: :-[ :impress2:
-
กำลังยิ้มๆ .............อ้าว
.
.
.
.
..................>>>><<<<...................
.
.
จบซะงั้นอ่ะ แต่ยังน่ารักเหมือนเดิมครับ
-
น่ารักดี ค่อยๆเป็นค่อยๆไป สร้างความผูกพันธ์ไปเรื่อยๆ บ่มตัวกลายเป็นความรัก
รู้สึกว่าคนอ่านอินไป5555
ขอบคุณเบบี้ค้า o13
-
(^___^) kad kan talord song kon nii,,hu hu hu..
-
ตอนนี้น่ารักอ่ะ
เค้าจะไปเดทกันอีกแล้ว อิอิ
-
พี่คิวนี่น่ารักแบบเถื่อนๆแหะ
-
ยังคงเรื่อยๆมาเรียงๆ
พายุยังไม่เข้านี่เน๊อะ ^^
-
สนิทสนมกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เกี่ยวพันกันสินะ
-
:a5: น้องฝัน...... :a5:
:o8: เค้กกะคิวสู้ๆ
-
พี่คิว :o8:
:L2: :L2:
-
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
ดูแต่การ์ตูนนะสองหนุ่ม หุๆ
-
น่ารักเนอะ :กอด1:
-
เค้กชอบทำบุญจัง o13
-
ไปดูหนังด้วยกันอีกแล้ววววว
อิจฉา :-[
-
เดี๋ยวนี้บรรยากาศรอบๆตัวพี่คิวกับเค้กมันเป็นสีชมพูอ่อนๆแล้วนะ (สงสัยคิดไปเอง :laugh:)
ระหว่างฝันกับพี่คิวไม่เหมือนแฟนกันเลยอ่า เป็นเพื่อนกันธรรมดาอ๊ะป่าว หรือว่าเรายังไม่รู้จักพี่คิวดีพอ :z3:
เค้กไปดูตินตินกับพี่ก็ได้นะคะ พี่ก็ยังไ่ม่ได้ไปดูเหมือนกัน แล้วเราก็แอบสะกดรอยตามพี่คิวไป :z1:
-
แล้วตกลงพี่ฝันนิยังไงอ่า
ไม่เข้าใจๆๆๆ
-
เริ่มน่ารักขึ้นมาแล้วนะ อิอิ
ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น สงสัยจะชอบกันก็ตรงนี้แหละม้างงงงงงงง ฮ่าๆๆๆ
แต่พี่คิวกับพี่ฝันยังคลุมเครือนะ
รอตอนต่อไปค่ะ น้องเค้กน่ารักมากๆ
-
ไปเดทด้วยกันอีกแล้ว แล้วยังมีการนัดไปที่อื่นด้วย น่ารักดีอะชอบการ์ตูนทั้งคู่
-
เค๊กเริ่มรู้สึกแล้ซินะ แต่ก็ยังดูคิวไม่ออกนะ ว่าแค่เห้นว่าเค๊กเป็นเด็กดีแล้วเอ็นดูมากกว่าชาวบ้านหน่อยเดียวหรือเปล่าเฮ้อ สับสน
-
ทุกอย่างโอเคหมด จนกระทั่งประโยค "มาดูกับฝัน" เนี่ย :z3:
-
อยากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่คิวกับพี่ฝันซะแล้วสิ :z3:
เค้ก สู้ๆ น่ารักอยู่แล้ว ไม่แพ้ใครหรอก o13
-
เค้กเริ่มกล้าต่อปากต่อคำพี่คิวแล้ว
-
:call: น่ารักมว๊ากกกกกก
อิอิ พี่คิวนี่ขี้เก๊ก สวดๆๆๆๆ
ความรักที่เกิดจากความผูกพันธ์ มันจะคงดำรงอยู่ได้ตลอดไป
-
ตินตินกับเค้กสิคิวปิด! กับฝันนี่ยังไง โอ๊ยหงุดงิด :m31:
แค่ความรู้สึกดีๆ พี่คิวยังแสดงออกลำบาก รักกันยังไงว่ะทีนี้ เฮ้อออ
-
:laugh:เอ๊ะ...ยังไง....คู่นี้....งุ้งงิ้งๆๆ...น่ารักอ่ะ... :impress3: :impress3:
-
น้องเค้กน่ารักอ่าาาาาา ><
-
ชอบจังที่เค้กมีส่วนช่วยเปิดโลกให้พี่คิวไปเจอคนที่เค้าเกิดมาลำบากและแตกต่างจากตัวเองมากๆ
-
เค้กอร่อยมาก
-
อยากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่คิวกับพี่ฝัน
เอาแบบเคลียร์ๆ
เค้กเริ่มมีอาการแล้ว สงสารน้อง ชะมัด :z3:
-
เค้กน่ารักกกกกกกก :o8:
พี่ฟ้าน่ารักกกกกกกก
ส่วน พี่คิว ........................... หล่อ 5555
-
นับว่ามีพัฒนาการนะ อิ อิ อิ
-
พี่ฝันเป็นอะไรกับพี่คิวกันแน่น้า ชักไม่แน่ใจ
เค้กน้อยน่าร้ากกกก เป็นคนดีซะจริงพ่อคู๊ณ
-
น่ารักว่ะ :man1:
-
เค้กน่ารักจริง แอบแกล้งคิวนะนี่ ระวังเค้าเอาคืนเหอะ 55
-
เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
พัฒนาความสัมพันธ์กันไปทีละนิด
ถึงเอาแต่ใจอยู่เยอะ แต่ก็อ่อนลงเยอะเช่นกันพี่คิวปิด :m20:
-
ชอบอะไรเหมือนๆ กันดี ไปดูการ์ตูนด้วกันงี้ น่ารักดี
-
ชิชะ....พี่คิวไม่ยอมไปดูหนังกับเค้ก :m16: :m16: :m16:
-
o18 o18 o18
-
เอ๊ะ พี่คิว อะไรยังไง
-
น่ารักอ่ะ
-
คู่นี้ต้องค่อยๆเรียนรู้ที่จะรักกันไป พี่คิวเริ่มน่ารักยิ่งขึ้นยิ่งขึ้น
-
:impress2: :impress2:
อิอิ เริ่มสนิดๆๆ อิอิ ดูหนังด้วยกันเยอะกว่าแฟนแล้ว อิอิ
พี่คิววน่าฮักก :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
พีคิวเริ่มหน้ากลัวน้อยลงและรั่วกับเค้กมากขึ้จะเนี่ย
:pig4:คะ
-
น้องเค้กจิดใจงามมากๆ
-
ชิลล์กับตอนนี้มาก
แอบอมยิ้มตอนน้องเค้กไม่อยากถอดเสื้อที่พี่คิวซื้อให้เป็นของขวัญ
พออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย ยิ้มกว้างปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว
น้องเค้กทำไมน่ารักอย่างเน๊.....น่ารักขึ้นทุกวัน :man1:
-
อ่านกี่ตอนกี่ตอนก็ทำให้ยิ้มได้เสมอเลย . . . อิอิ
เค้กและพี่คิว น่ารักมาก
แอบรู้สึกแบบเดียวกับเค้กอ่ะ ตอนที่อ่านถึงตอนที่พี่คิวบอกว่าจะมาดูกับพี่ฝันอ่ะ
ใจนึงก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าพี่คิวกับพี่ฝัน เป็นอะไรกัน
แต่อีกใจนึงก็คิดว่าให้เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ค่อยเป็นค่อยไป
และทั้งเค้กกับพี่คิว เค้าก็ยังหาเรื่องกัดกันอยู่ประจำ (ฮ่าๆ)
:pig4:+ :L2:
-
เค้กน่ารักตลอด, ตอนนี้กำลังหวานขึ้นๆ
:-[
-
น่าร้ากกกกก :-[ :-[ :-[
อ่านไปอมยิ้มไป เขินแทนเค้ก :laugh:
ชอบที่สองคนนี้ไปดูหนังกัน อิอิ
ตอนแรกอาจเพราะชอบเหมือนกัน แต่ครั้งต่อๆไปจะเริ่มคิดถึงกันและกัน เหมือนเป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกัน :o8:
เค้กชอบพี่คิวแบบไม่รู้ตัว สงสารเค้ก พี่คิวจะไปดูกับฝัน
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกตอนเลยอ่ะ ชอบบบบ >_<
-
:impress2: :impress2: มันดูมีอารายๆๆเพิ่มขึ้นนะ
แบบพี่คิวกับเค้กอะ อยุ่ด้วยกันบ่อยขึ้น
ค่อยๆๆขยับเข้าหากัน :-[ :-[
น่ารักกกกอะ
ถ้าเป้นเค้กแบบตอนอยุ่บ้านพี่ฟ้าที่พี่หมีอยากให้กัสทำผ้าพันคอได้
ก็คงนั่งขำ หึหึ เหมือนกัน บรรยากาศพาจิ้นมากกกก
-
จิตเมตากรุณาและการทำความดี มันส่งผลให้ได้เข้าใกล้รักแท้เร็วขึ้นรึป่าวนะ? คึคึ
ชอบจังเลย เวลาทั้งคู่คุยกัน งุ้งงิ้งๆๆๆ เข้าใจอารมณ์พี่ฟ้าแซวเลยอ่า
พี่คิวพี่ฝัน ฮึกกกกกก จิ้นไปไกลปวดใจแทนน้องเค้กไปล่ะเบบี้จ๋า
:o11:
-
เค้กนี่ให้บรรยากาศน้องเล็กของบ้านเลยนะ
นั่งมองพี่ๆคุยกัน เหมือนเด็กตัวเล็กๆ น่ารัก
แต่พี่คิวดูเหมือนจะมีพัฒนาการจากตอนแรกๆ
ประโยคที่คุยกับเค้กเริ่มยาวขึ้นและเยอะขึ้นด้วย
แต่จะออกไปแนวเถียงกันซะมากกว่า :laugh:
คบกับเค้กนี่ดีนะชวนไปทำบุญตลอดๆ ดีจัง
พี่คิวเลยได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
นี่ก็ชวนกันไปสอนคนตาบอดอีก จะเป็นยังไงน้า
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
บวกเป็ดค่ะ
-
~24~
วันเสาร์ ณ ร้านคิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์..
“คิวปิดเค้กครับ” ผมนำเค้กมาเสิร์ฟให้เพื่อนตัวดีสองคน วันนี้แก้วและพีทพากันมาลองชิมอาหารที่ร้านเพราะอยากเห็นการทำงานของผม และที่แน่นอนกว่านั้นคือพวกมันอยากมาดูการตกแต่งภายในของร้านนะครับ
“ขอบคุณค่า” แก้วยิ้มกว้าง
“เป็นเพื่อนพนักงานอย่างนี้ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์รึเปล่าคะ” แก้วถามทีเล่นทีจริง
“คงต้องหักจากเงินเดือนเพื่อนแล้วล่ะ” ผมหัวเราะ
“จานตั้งเกือบสี่ร้อยแน่ะ มีอยู่นิดเดียวเอง” แก้วบ่นไม่เลิก แต่มันก็มีอยู่นิดเดียวอย่างที่แก้วว่าจริงๆนั่นแหละครับ ไม่รู้คนรวยเขากินความสวยแทนความอิ่มรึยังไงไม่ทราบ
“พีทเลี้ยงสิ” ผมบอก
“เออ เลี้ยงก็ได้..” พีทยิ้ม ผมยิ้มมองทั้งสองคน หลายครั้งผมอดนึกไม่ได้ว่าอยากให้สองคนนี้รักกัน ผมหมายถึงถ้าพีทหยุดเจ้าชู้ได้สักทีน่ะนะครับ
“เชิญตามสบายนะ ต้องไปทำงานต่อ” ผมบอกเพื่อนทั้งสองคน
“เฮ้อ..ลายมือพี่หมีนี่นะ” พี่กัสบ่นขึ้น คิ้วของพี่กัสชนเข้าหากัน ตายังคงจับจ้องอยู่ที่กระดาษ
“บ่นอะไร” พี่หมีเดินเข้ามาตีหัวพี่กัสเบาๆ
“ลายมือพี่นี่เขียนให้คนอื่นอ่านออกหน่อยได้ไหมฮะ” พี่กัสว่า
“ก็อ่านออกหนิ..ไหนเค้ก ลองอ่านดิ” พี่หมีเถียง หยิบกระดาษจากมือพี่กัสมายื่นให้ผมด้วย
“ค..เครป เค..เครปเค้ก เอ่อ..” ผมพยายามเพ่งอ่านให้ออกแต่อย่างที่พี่กัสว่า ลายมือของพี่หมีอ่านยากมากพอๆกับเชฟใหญ่ทั้งสองคน
“เครปเค้กแฟนตาซีคาราเมล กับไอซ์เวียนนา ลาเต้แค่เนี้ย” พี่หมีส่ายหัวว่าเสียงสูง
“โหย” ผมกับพี่กัสประท้วงเสียงพร้อมกัน
“เป็นเด็กเป็นเล็ก ผู้ใหญ่ทำอะไรมีสิทธิ์ว่ารึไง” พี่หมีทำหน้าดุ
“คนในครัวก็ดุ คนข้างนอกก็ดุ..เบื่อจริงๆเลย” พี่กัสบ่นหน้างอ
“หึ ลองให้เค้กเข้าไปดิ..ไม่บ่นหรอก” พี่หมีแซว วันนี้เป็นเวรทำงานของพี่เซ็นนะครับ ส่วนพี่คิวกลับบ้านไปตั้งแต่เก้าโมงเช้าแล้ว
“พี่ก็ว่าไป” ผมปัด
“จริงซิ..งั้นเค้กเอาออร์เดอร์ไปส่งแทนเลยนะ ส่วนพี่จะเสิร์ฟ ดูลูกค้าเอง” พี่กัสสั่ง ทำหน้าเชิดเดินหนีไปอย่างไม่ฟังความคิดจากผมเลย
“ซวยเค้กเลยไง” ผมมองหน้าพี่หมีอย่างยอมความ ในมือถือกระดาษออร์เดอร์อยู่ด้วย
“หึ..ยินดีด้วย” พี่หมีตบไหล่ผมเบาๆ ผมส่ายหัว เดินนำออร์เดอร์เข้าไปในครัว
“ฮัมมิ่งเบิร์ดแฟนตาซีเซตสองหนึ่งที่ครับ” ผมบอก พี่เซ็นหันมาก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัยและเริ่มยิ้มให้ผมหลังจากนั้น
“เอ่อ ลูกค้าบอกว่า..ขอเปลี่ยนจากช็อกโกแลตกับบูลเบอรี่เป็นคาราเมลกับช็อกโกแลตแทนนะฮะ” ผมบอก
“แล้วก็..เครปเค้กแฟนตาซีคาราเมลอีกหนึ่งที่ด้วยครับ”
“ครับ” พี่เซ็นยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่แสนธรรมดาแต่สายตาของพี่เซ็นกลับไม่ธรรมดาเอาซะเลย
“ไปนะครับ”
“หึ..มีแต่คนชอบหนีพี่แฮะ แล้วไอ้ตัวเล็กนั่นไปไหน” พี่เซ็นถาม
“ถ้าพี่หมายถึงพี่กัสละก็ งอนหนีไปแล้ว..บอกว่าจะไม่ขอเข้ามาอีก” ผมตอบ
“งั้นเหรอ” พี่เซ็นเบะปากพยักหน้างึกงัก
“ฝากบอกด้วยนะว่า อย่าคืนคำล่ะ” พี่เซ็นพูด ผมได้แต่ยิ้ม เดินออกจากห้องครัวมาทำงานต่อ
วันนี้ผมมีเวรทำงานถึงห้าโมงเย็น ตอนแรกว่าจะกลับพร้อมพี่ฟ้า แต่อยากกลับไปกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับแม่มากกว่าผมจึงต้องขอตัวกลับบ้านมาก่อน
= = = = = = = =
ตื๊ด ๆ ๆ..
“เค้ก..โทรศัพท์น่ะลูก” แม่เรียก
“ค้าบ” ผมตะโกนตอบ วางมีดที่กำลังปลอกเปลือกแอปเปิ้ลลงบนจานและรีบวิ่งออกมาจากครัวเพื่อมารับโทรศัพท์
สายเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
“สวัสดีครับ” ผมทักปลายสาย
“ตกลงพรุ่งนี้ไปกี่โมง” พี่คิวถามยิงเข้าประเด็นทันที
“ไม่บอก” ผมตอบเสียงกวนเพราะถ้าผมไม่กวนผมก็จะไม่ชนะ พี่คิวเงียบไป ใจผมเริ่มเต้นตุบๆต่อมๆเพราะกลัวใจพี่เขาขึ้นมา
“กี่โมง” พี่คิวย้ำถามเสียงเข้ม
“ก็ถ้าพี่รับปากว่าจะไปแท็กซี่” ผมยังทำใจดีสู้เสือไม่เลิก
“โอเค ถ้านายออกเงิน”
“ด้ายยยยยยยย..” ผมลากเสียงยาว
“หึ..” ผมกับพี่คิวแสยะหัวเราะพร้อมกัน หัวเราะของผมคือได้ชัยชนะในครั้งนี้ แต่พี่คิวหัวเราะทำไมน่ะ (-_--)
“งั้นพรุ่งนี้สิบเอ็ดโมงผมไปหาพี่ที่บ้านก็แล้วกัน แล้วเราค่อยออกเดินทาง”
“โอเค งั้นเท่านี้ล่ะ” พี่คิวบอก
“ฝันดีครับ” ผมยิ้ม
“ขอบใจ” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้นเหมือนรู้ว่าที่ผมพูดไปเมื่อกี้นั้นกำลังแกล้งพี่เขาอยู่
“ยินดีครับผม” ผมยังกวนไม่เลิก จนพี่คิวตัดสายโทรศัพท์ไปในที่สุด..
= = = = = = = =
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ติงต๊อง~~
“มาแล้วค่า” พี่เขียววิ่งตรงมาที่ประตูรั้วในทันที
“สวัสดีครับ” ผมยิ้มทัก
“สวัสดีค่ะคุณเค้ก เชิญค่ะ” พี่เขียวยิ้มพร้อมเปิดประตูให้ผมเข้าไป พี่เขียวเดินนำผมเข้าไปในบ้าน พาผมตรงเข้าไปที่ห้องหนังสือของบ้าน
“ขอโทษค่ะคุณคิว คุณเค้กมาแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ” พี่คิวบอก
“ไปยังครับ” ผมถาม พี่คิวไม่ตอบ ปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ลงและเดินนำมันไปเสียบที่ชั้นวางหนังสือด้วยท่าทางผู้ดีเหลือเกิน
“อะไร” พี่คิวถาม ตาของพี่เขาจ้องมาที่ถุงผ้าใบเก่งของผม
“อาหาร ขนม” ผมบอก วันนี้ผมเตรียมข้าวกล่องมาด้วย และเตรียมขนมมาให้น้องแพนด้วยนะครับ
“พี่ทานข้าวกลางวันรึยังครับ” ผมถาม
“ยัง” พี่คิวตอบ
“แล้วก็ไม่บอก ฉันคิดว่าเราจะออกไปกินด้วยกันก่อนไป”
“โทษที..ผมคิดว่าพี่จะกินที่นี่ไปนี่นา ผมก็เตรียมมาอย่างนั้นเอง..อยากเอาไปกินที่นั่น สวนที่นั่นสวย ร่มรื่นดี..ผมชอบ” ผมสาธยาย การเตรียมอาหารในครั้งนี้ผมได้วางแผนไว้แล้ว เพราะเรานัดกับน้องแพนไว้ประมาณบ่ายโมงครึ่ง ผมมาหาพี่คิวตอนสิบเอ็ดโมง กว่าจะไปถึงที่มูลนิธิช่วยคนตาบอดก็ยังคงเหลือเวลาให้ผมได้ทานข้าวกลางวันบ้างนิดหน่อย
“พี่กินกับผมก็ได้นะ ผมเอามาเยอะเลย” ผมชูถุงยักคิ้วให้พี่คิว
“หรือพี่จะกินก่อนก็ได้นะ ผมนั่งรอได้” ผมบอกด้วยความเกรงใจ ผมผิดเองเพราะผมดันไม่บอกพี่เขาไว้ก่อนล่วงหน้า
“งั้นแป๊บ” พี่คิวพูดส่งๆ เดินตรงไปทางที่จะไปครัวด้านหลังบ้าน ผมเข้ามานั่งในห้องหนังสืออย่างถือวิสาสะ สักพักพี่คิวเดินกลับมาพร้อมกับถุงผ้าของตัวเอง
“ไป” สงสัยคำพูดที่ออกมาจากปากของพี่เขาแต่ละคำคงมีค่ามาก พูดซะสั้น ห้วนทุกคำสิให้ตาย..
“ค้าบ” ผมตอบเสียงยานคาง ลุกเดินตามพี่คิวออกไปนอกบ้าน
“เชิญครับ” ผมยิ้มพูดพร้อมกับผายมือ พี่คิวมองเหล่ผมเหมือนไม่พอใจแต่ก็เดินตามผมออกมาจากบ้าน ผมทำหน้าที่เป็นไกด์ที่ดี โบกรถแท็กซี่และต่อแท็กซี่ให้เรียบร้อย
“ไปมูลนิธิช่วยคนตาบอด แถวถนน...........อ่ะครับ” ผมบอก แท็กซี่พยักหน้ารับ ผมเปิดประตูให้พี่คิวขึ้นไปก่อน คิวหันมามองหน้าผมเหมือนบอกว่า “ไม่อยากขึ้น” ประมาณนั้น
“ขึ้นไปซิครับ” ผมทำหน้าบูดสั่งบ้าง
“ฮื้ม” พี่คิวถอนหายใจ ส่ายหัวเซ็งๆและขึ้นไปนั่งแท็กซี่ไปอย่างจำใจ
“หึ..” ผมหัวเราะ พี่คิวส่ายหัวหันหน้ามองออกไปที่นอกหน้าต่าง นั่งเงียบตลอดทางจนถึงมูลนิธิ
“เป็นไง..” ผมถาม เราสองคนลงจากรถแท็กซี่มาเรียบร้อยแล้ว
“มันดีมากเลยล่ะ” พี่คิวกัดฟันตอบ
“หึหึ พี่นี่ก็..นั่งๆไปเถอะครับ อุดหนุนคนยากจนไง” ผมเดินนำเข้าไปในตัวมูลนิธิ
“นั่งบ่อยเหรอ” พี่เขาถาม
“ก็ไม่บ่อย เปลือง..ส่วนมากขึ้นรถเมล์” ผมตอบ
“รถเมล์” พี่คิวเบะปาก
“พี่เคยอยู่ต่างประเทศไม่ใช่เหรอ เค้กเคยได้ยินเค้าพูดกันว่าอยู่เมืองนอกก็ต้องขึ้นรถเมล์..แล้วพี่ไม่ขึ้นเหรอ” ผมถามอย่างสงสัย
“ส่วนมากเดิน” พี่คิวตอบ
“แต่ก็ขึ้นบ้าง..อยู่ที่นั่นฉันก็มีรถใช้” พี่คิวพูดต่ออีกและเงียบไปหนึ่งอึดใจ
“แต่มันไม่เหมือนในไทย น่าจะอย่างนั้น..ฉันก็ไม่เคยขึ้นรถเมล์ที่ไทยเหมือนกัน” พี่เขาขยายความอีก
“งั้นวันหลังเดี๋ยวผมพาขึ้น” ผมยิ้มบอกอย่างเต็มใจ
“ขอบใจ แต่เอาความหวังดีนั่นกองไว้ที่เดิมเถอะนะ” ถ้าผมฆ่าเจ้านายนี่ผิดไหมนะ!
“เสียมารยาทชะมัด” ผมว่า
“ทางนี้ครับ” ผมบอก เดินนำไปที่โต๊ะไม้หินอ่อนโต๊ะประจำตรงสนามเด็กเล่น โต๊ะนี้เป็นโต๊ะประจำของผมเลยละครับ
“แล้ว..เด็กที่ว่าล่ะ” พี่คิวถาม ตาก็มองสำรวจไปทั่วบริเวณ
“นัดไว้บ่ายโมงครึ่ง น้องไปเรียนพิเศษน่ะ..เดี๋ยวก็คงมา” ผมตอบ พี่คิวไม่พูดอะไรต่อ พี่เขาหยิบกล่องอาหารของพี่เขาออกมาจากถุงผ้า ผมเองจัดการหยิบปิ่นโตของผมออกมาเตรียมพร้อมด้วย
“................” ผมนั่งเงียบ ตาค้างมองอาหารของพี่คิว แล้วก็ต้องเหลือบมามองที่อาหารของตัวเอง พี่คิวเข้าครัวไปแค่ประมาณสิบห้านาที ไหงถึงมีอาหารเลิศหรูอลังการขนาดนี้มาได้นะ อาหารของเราดูบ้านๆไปถนัดเลยอ่ะ
“พี่ไม่ได้ทำเองใช่ไหม ผมรู้หรอก..เข้าไปแป๊บเดียวเอง จะได้อาหารแบบนี้ออกมาได้ยังไงกัน” ผมเหน็บ
“หึ..อยากกินก็ว่ามาสิ” พี่คิวหัวเราะอย่างรู้ทัน
“ม..ไม่ได้ อยากกินสักหน่อย” ผมว่ากลับ อายอ่ะ..โดนจับไต๋ได้ บ้าจริง..คำพูดเรามันหมายความว่าเราอยากทานรึไงกัน พี่คิวจ้องมาที่อาหารของผมเงียบๆอย่างสำรวจ
“อะไรครับ” ผมถาม หน้าตาไม่น่าไว้ใจเลยอีตาคนนี้..
“ทำเองเหรอ” ถามซะเสียงห้วนเชียว ชอบว่าคนอื่นไม่มีมารยาท ตัวเองไม่มีมารยาทเข้าขั้นมาตรฐานเลยมั้ง
“ใช่” ผมเชิดหน้าอย่างภูมิใจ
“นี่ผัดหมี่ซั่ว นี่ไข่หวาน..แล้วนี่ก็ไส้กรอกพันเบคอน โหย..สุดยอด” ผมยิ้มบรรยายอาหารของตัวเอง
“ไร้สาระ” ง่ะ..
“แล้วนี่อะไร” พี่คิวชี้ไปที่อาหารหวานของผม
“ขนมฝักบัวไง พี่ไม่รู้จักเหรอฮะ” ผมตกใจ มองพี่คิวตาโต
“ฮึ..” พี่คิวส่ายหัว
“ส่วนนี่ก็ขนมถั่วแปบ พี่ไม่รู้จักเหรอเนี้ย..พระเจ้า!” ผมขึ้นเสียงสูงแกล้งบ้าง
“ปัญญาอ่อน” พี่คิวว่าหน้านิ่ง
“ฉันผิดด้วยรึไง ทีนายยังไม่รู้จักอาหารของฉันเลย” พี่คิวย้อนหน้าตาย ไม่น่าพูดเลยตรู ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ ToT
“ก็พี่เป็นคนไทยนะครับ ส่วนนี่มันก็อาหารไทย” ผมกัดฟันเถียง
“ฉันเรียนนานาชาติมาตั้งแต่เด็กน่ะ”
“งั้นผิดที่ผมซินะ” ผมทำหน้าหน่าย พี่คิวยักคิ้วแทนคำตอบประมาณว่า “เออ มึงนั่นแหละผิด”
“งั้น..ลองกินดูไหมครับ ลองสิลอง..” ผมรีบหยิบกล่องใส่ขนมมาวางตรงหน้าพี่คิวชวนให้พี่คิวลองเพราะผมภูมิใจในอาหารไทยมากที่สุดแล้วละครับ
“นี่สูตรเก่าแก่ของบ้านผมเลยนะ แม่ทำไปทำบุญเมื่อเช้าน่ะ ผมก็เลยเอามาเผื่อให้น้องแพนด้วย” ผมบอก เอาช้อนตักยื่นให้พี่คิว
“กินสิครับ” ผมยื่นช้อนให้ พี่คิวรับช้อนแล้วทานถั่วแปบเข้าไป หลังจากนั้นผมจ้องหน้าพี่เขาเขม็ง พี่คิวเคี้ยวอย่างตั้งใจ
“ดี..หนิ เอิ่ม..แปลกๆดี” พี่คิวพยักหน้าบอก
“แล้วป้านิดไม่เคยทำอาหารไทยให้กินเหรอฮะ”
“ก็ถ้าเป็นขนมส่วนมากก็จะเป็นลอดช่อง ขนมใส่ไส้ ขนมเทียน ขนมน้ำดอกไม้ อะไรประมาณนั้น”
“งั้นวันหลังเดี๋ยวผมเอาไปฝาก บ้านผมชอบทำขนมไทยน่ะ..พี่กินเลย ไม่เป็นไร ผมกลับไปกินที่บ้านได้” ผมบอก หยิบช้อนส้อมเตรียมกินผัดหมี่ซั่วของตัวเอง แต่กลับอดใจให้ไม่หันไปมองอาหารของพี่คิวไม่ได้ พี่คิวเหลือบตามามองหน้าผมเหมือนอ่านอะไรผมออก
“นายกำลังทำหน้าเหมือนอาหารตรงหน้าเป็นเพชรรึอะไรประมาณนั้น ถ้าจะกินก็กินไป..มามองหน้าฉันทำไม”
“ก็..กินได้ไหมล่ะครับ” ผมยิ้ม เขินอ่ะ
“เชิญตามสบาย” พี่คิวเลื่อนกล่องทัพเพอร์แวร์ของตัวเองมาให้ใกล้ผมมากขึ้น
“นี่สลัดเบคอน ส่วนนี่พิซซ่าหน้าอะไรสักอย่าง..” ผมชี้ทายอาหารของพี่คิว
“และนี่สปาเก็ตตี้แซลมอล” ผมอวดรู้
“ฉลาดขึ้นนี่” พี่คิวแสยะยิ้ม
“หมายความว่าไงฮะ”
“ก็ตามที่พูด” พี่คิวยักคิ้วอีก ผมแลบลิ้นใส่ ไม่อยากเถียงต่อเพราะอาหารตรงหน้าล่อตาล่อใจผมมาก เรานั่งทานอาหารกัน ผมทานอาหารของพี่คิวบ้างแต่ก็ไม่ได้ทานเยอะเพราะเกรงใจ พี่คิวทานอาหารที่นำมาจนหมด พอผมทานอาหารของผมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต่อด้วยขนมหวานที่เตรียมมา พี่คิวทานขนมฝักบัวไปตั้งสามชิ้นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย..สงสัยคงจะชอบมาก
“เช็ดมือด้วย” พี่คิวสั่งทันที
“รู้แล้วล่ะน่า” ผมบ่น
“เด็กพวกนี้ใครดูแล” พี่คิวถามขึ้น ระหว่างที่เราทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เรานั่งเหม่อมองวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย
“ส่วนหนึ่งก็ของรัฐ” ผมตอบ
“แล้วนายจะสอนหนังสือยังไง”
“ก็สอนปกติ..เราก็ต้องอ่านให้น้องฟัง อธิบายให้ฟัง”
“แล้วเค้าเรียนยังไง ในเมื่อตาบอด” พี่คิวยิงคำถามไม่หยุด
“น้องก็จะเรียนโรงเรียนปกตินั่นแหละครับ แต่น้องทำการบ้านเองไม่ได้น่ะ..น้องก็จะมาที่นี่ จะมีอาสาสมัครมาช่วยทำให้ ช่วยสอน อ่านให้ฟัง..น้องเค้าก็ต้องเอากลับไปให้ที่บ้านช่วยอ่านให้ฟังอีกที” ผมอธิบาย แล้วเท้าแขนมองหน้าพี่คิว พี่คิวเหม่อ ตามองกวาดไปไกล
“แล้วพี่ล่ะ ทำไมถึงอยากมา” ผมถามบ้าง
“...............” พี่เขาเงียบนิ่งไป
“ก็ไม่มีไรพิเศษ อยากเห็น..อยากรู้”
“ฉันได้ข่าวว่านายเด็กทุนไม่ใช่รึไง แล้วเอาเวลาที่ไหนมาทำเรื่องพวกนี้กัน..เรื่องที่ร้านอีก” พี่คิวหันกลับมา
“ก็มีเวลา ถ้าต้องการจะมีอะนะ” ผมยิ้มตอบส่งๆ
“จะว่าตัวเองเก่งงั้นซิ”
“ก็มันแน่อยู่ละ” ผมย้อนยิ้มๆ
“พี่จะไว้ผมยาวอีกไหม” ผมถามด้วยความอยากรู้
“ไม่รู้ ไอ้อานั่นไม่ยอมให้ไว้” พี่คิวตอบพร้อมทำหน้าเซ็งเล็กน้อย
“แล้วหนวดนี่ล่ะ” ผมถามถึงอีก หลังจากที่พี่คิวเคยได้ให้สัมภาษณ์หนังสือนิตยสารในครั้งนั้น ดูเหมือนพี่เขาจะกลับมาไว้หนวดบ้างเป็นระยะๆ บางครั้งมันจะขึ้นมารำไร พอวันถัดมามันก็หายไปจากหน้าของพี่เขาอีก
“ขี้เกียจโกน” พี่คิวตอบ
“ขี้เกียจโกน งั้นแสดงว่าไม่ได้อยากไว้ ที่ไว้เพราะขี้เกียจโกน” ผมขมวดคิ้ว
“หึ..” พี่คิวหัวเราะ
“เอ่อ เย็นนี้บอสนายบอกให้กลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านด้วย..บังคับ” พี่คิวทำหน้าเอือม
“เป็นบ้าอะไรไม่รู้ชอบให้คนอื่นมากินข้าวที่บ้าน” พี่คิวบ่นหน้านิ่วคิ้วขมวด คำพูดเหมือนไม่ได้กลัวว่าผมจะรู้สึกไม่ดีเลยแต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมค่อนข้างจะชินเสียแล้วล่ะ
“เค้กคนอื่นที่ไหน” ผมว่าติดตลก
“หึ” พี่คิวหัวเราะอีกครั้ง
“มานู่นแล้ว” ผมชี้น้องแพนที่กำลังเดินมา
“น้องแพน ทางนี้” ผมตะโกนบอก รีบลุกไปรับน้องแพนมาที่โต๊ะ
“สวัสดีค่ะพี่เค้ก” น้องแพนยกมือไหว้
“สวัสดีครับ เป็นไงเนี้ยทำไมวันนี้มาสาย”
“วันนี้ครูเลิกช้าอ่ะค่ะ ขอโทษด้วย” น้องแพนบอก ผมหยิบกระเป๋าเป้ของน้องแพนวางลงบนโต๊ะให้ด้วย
“วันนี้พี่พาเพื่อนมาด้วย ชื่อพี่คิว..” ผมแนะนำ
“สวัสดีค่ะพี่คิว” น้องแพนยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้พี่คิวทั้งทั้งที่มองไม่เห็น
“ค..ครับ” พี่คิวเงอะงะยกมือไหว้เหมือนไม่รู้จะทำตัวยังไง
“กินข้าวมารึยัง แม่พี่ทำขนมฝักบัวกับถั่วแปบมาฝากด้วยนะ เอากลับไปฝากที่บ้านด้วย” ผมบอก
“ขอบคุณค่ะ แพนกินมาแล้ว..พี่เค้กกินมารึยังคะ”
“พี่ก็กินแล้ว ไหน..มีการบ้านอะไรบ้าง” ผมถาม น้องแพนนั่งลงก่อนจะรูดซิบเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง
“มีเยอะแยะไปหมดเลย ครูสั่งอะไรนักหนาก็ไม่รู้อ่ะ” น้องแพนบ่น หยิบหนังสือเรียนออกมา
“พี่เค้กดูให้แพนหน่อย นี่วิชาอะไรเหรอคะ” น้องแพนถาม ผมหยิบหนังสือขึ้นมาดู
“สังคม”
“ใช่ๆ มีใบงานสังคม..แล้วก็มีภาษาอังกฤษ พี่เค้กดูให้แพนหน่อย อันนี้ใช่ภาษาอังกฤษไหมคะ” น้องแพนพูดพร้อมกับหยิบหนังสืออีกเล่มออกมาด้วย
“อันนี้คณิตศาสตร์ครับ” ผมตอบ
“งั้นเล่มนี้ใช่ไหมคะ” น้องแพนหยิบอีกเล่มออกมา
“อืม อันนี้ภาษาอังกฤษ” ผมบอกและหยิบมาวางไว้
“วันนี้มีคณิตศาสตร์ แต่คณิตศาสตร์แพนทำไปบ้างแล้ว เหลือภาษาอังกฤษกับสังคม..เยอะด้วยอ่ะพี่เค้ก” น้องแพนร้องเสียงหลง
“เดี๋ยวพี่ช่วยทำ” ผมหัวเราะเพราะน้ำเสียงของน้องแพนเหมือนต้องการบอกผมว่า “ไม่ไหวแล้วค่ะ” อย่างนั้น
“ภาษาอังกฤษหน้าไหนอ่ะ” ผมถาม
“ภาษาอังกฤษเหรอ เอ่อ..หน้าห้าสิบเก้า หกสิบ หกสิบเอ็ด หกสิบสอง แล้วก็เจ็ดสิบอ่ะค่ะ” น้องแพนบอก
“อ่ะ มันต้องเป็นหน้าที่พี่แล้วล่ะ” ผมยื่นหนังสือภาษาอังกฤษให้พี่คิว
“พี่คิวเก่งภาษาอังกฤษเหรอคะ” น้องแพนยิ้มถาม
“เอ่อ ครับ..ก็ไม่เชิง” พี่คิวตอบ ผมอมยิ้มกับท่าทีของพี่คิว เลยโดนพี่คิวเอาหนังสือมาเคาะหัวเข้าให้
“วันนี้แพนไรท์เพลงมาให้พี่เค้กด้วย” น้องแพนยิ้ม
“เหรอครับ ขอบคุณนะ”
“แล้วพี่คิว ชอบฟังเพลงแนวไหนเหรอคะ” น้องแพนเริ่มยิงคำถามด้วยที่น้องแพนเป็นเด็กที่อัธยาศัยดีอยู่แล้ว
หลังจากนั้นผมช่วยน้องแพนทำการบ้านไป คุยกันไป ส่วนพี่คิวตั้งหน้าตั้งตาทำการบ้านภาษาอังกฤษให้น้องแพน แต่ที่ทำให้ผมยิ้มได้เลย คือเวลาที่น้องแพนถามอะไรพี่คิว พี่คิวจะทำหน้าเหวอๆและตอบคำถามน้องแพนอย่างที่คนปกติเขาคุยกันอ่ะครับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพี่คิวจะพูดไม่เหมือนคนปกติเท่าไหร่ ผมรู้สึกอย่างนั้นนะ
ส่วนการบ้านสังคมที่ผมต้องช่วยน้องแพนทำ เสร็จไปเพียงแค่สามใบงานเท่านั้นเพราะน้องแพนชวนผมคุยเล่นออกนอกเรื่องตลอดเลย ส่วนการบ้านภาษาอังกฤษของพี่คิว เสร็จตั้งแต่สิบห้านาทีแรกแล้วละครับ..
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ เวลา..18:30 น.
“ถึงสักที ให้ตายสิ” พี่คิวบ่นด้วยสีหน้าไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมปิดประตูแท็กซี่ลง
“เอายาดมผมคืนมาเลยนะ” ผมแบมือทวง
“เดี๋ยวซื้อให้ใหม่เลย” พี่คิวไม่คืนแต่กลับเอาไปสูดต่ออีก
“วันหลังช่วยเลือกแท็กซี่หน่อยได้ไหม”
“ผมจะรู้ไหมล่ะว่ามันมีกลิ่นหรือไม่มีกลิ่นอ่ะ” ผมบ่นบ้าง เราเดินเข้าบ้านพร้อมกัน
“วันหลังก็เปิดประตูเอาจมูกเข้าไปสูดก่อนว่ามันมีกลิ่นอะไรไหม แล้วค่อยตัดสินใจถามสิ”
“ผมจะได้โดนเค้าด่าพอดีน่ะสิ พี่บ้ารึเปล่า..ให้ผมยื่นหน้าเข้าไปดมนี่ ผมไม่ใช่หมานะ” ผมบ่นเสียงสูง เอาแต่ใจเป็นบ้าเลยผู้ชายคนนี้
“หึ..นายโดนด่าหนิ ไม่ใช่ฉันสักหน่อย” พี่คิวขำ
“มีความสุขอะไรกันฮึ” พี่ฟ้าเดินออกจากบ้านมาพอดี
“ยุ่งน่า ทำไรกิน..หิวแล้ว” พี่คิวบอกพี่ฟ้า
“เยอะแยะ ตั้งโต๊ะแล้ว..” พี่ฟ้าตอบ
“แล้วจะไปไหน” พี่คิวมองตามพี่ฟ้า
“เอาของที่รถ เป็นห่วงเค้าเหรอ” พี่ฟ้ายิ้มแซวพร้อมปัดมือไปมา
“ฮื้ม..” พี่คิวถอนหายใจ ส่ายหัวเหมือนเซ็งกับอาตัวเอง
“เค้กช่วยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรจ้า เข้าไปล้างไม้ล้างมือแล้วกินข้าวเถอะ” พี่ฟ้าบอก ผมถอดรองเท้าเดินตามพี่คิวเข้าบ้าน ผมนำกระเป๋าไปวางไว้ที่ห้องรับแขก เข้าห้องน้ำล้างมือล้างเท้าเตรียมรอพี่คิวและพี่ฟ้า หลังจากที่มาบ้านพี่ฟ้าหลายต่อหลายครั้งทำให้ผมแทบรู้ทุกส่วนในชั้นล่างของบ้านพี่ฟ้าแล้วถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เข้าไปทุกซอกทุกมุมทุกห้องก็เถอะครับ ส่วนมากได้นั่งแค่ห้องอาหารใหญ่สำหรับรับแขก ห้องรับแขกและห้องหนังสือเท่านั้น ส่วนห้องอื่นๆถึงแม้ว่าจะอยากรู้ว่าในนั้นเป็นห้องอะไรแต่คงได้แต่เพียงเก็บไว้ด้วยความสงสัย เพราะถ้ายุ่มย่ามมากเกินควรมันก็คงจะไม่ดีนัก
“กินได้เลย ตามสบาย” พี่ฟ้าผายมือให้ ผมเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้า วันนี้เป็นอาหารอินเดียเกือบทั้งหมด แปลกๆดีเพราะผมไม่เคยทานแบบครบเครื่องขนาดนี้มาก่อน
“แล้ววันนี้เป็นไง” พี่ฟ้าเบิกตามองหน้าผม
“ก็ดีครับ” ผมตอบ
“หลานพี่ดื้อไหม”
“ก็นิดหน่อย” ผมยักไหล่
“ทะลึ่งละ” พี่คิวว่า
“หึหึ” ผมกับพี่ฟ้าหัวเราะ
หลังจากที่ผมทานข้าวเย็นเสร็จ ผมขอยืมแผ่นภาพยนตร์กับหนังสือเรื่องสั้นบางเรื่องของพี่คิวกลับบ้านมาด้วย ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอม ผมอยากที่จะทำอะไรตามใจของผมสักหน่อย ถ้าเปิดเทอมแล้วผมอาจจะไม่ได้ดูหนังแบบนี้บ่อยเท่าไหร่
พี่ฟ้าอาสาไปส่งผมถึงที่บ้าน ระหว่างทางพี่ฟ้าพูดถึงแต่เรื่องของพี่คิวซะส่วนมาก เลยทำให้ผมได้รู้อะไรเยอะแยะเกี่ยวกับพี่เขามากขึ้น นินทาไปก็ขำไปเพราะมีแต่เรื่องตลกๆที่ผมไม่รู้ทั้งนั้นเลยละครับ..
..................>>>><<<<.................
-
พี่คิวนี่ไม่ค่อยมีบทพูด
จะพูดทีก็แค่คำสั้นๆ
ตลกที่เค้กว่าพี่คิวจะพูดไม่เหมือนคนปกติเท่าไหร่
-
ไม่ใช่แค่เค้กหรอกที่รู้สึกดีๆกะพี่คิว พี่คิวก็ชอบๆเค้กอยู่แหละ :impress2:
สงสัยระหว่างกัสกับพี่เซน มีอะไรน้า
-
:-[. อ่านคู่นี้ทีไรนั่งยิ้มเหมือนคนบ้า :-[
-
อ่านไปลุ้นไป
พร้อมความรู้สึกดีๆ :กอด1: :กอด1:
-
น่าร้ากกกกก :-[
-
พี่คิวน่ารักจัง :o8:
ถึงไม่พูดมาก แต่ท่าทางที่แสดงกับเค้กทำไมถึงได้น่ารักอย่างนี้ :-[
-
เหมือนพี่คิวชอบไปช่วยเด็กๆ
-
พี่คิวมันจะอ่อนลงเพราะโดนน้องดัดหลังและเคี่ยวเข็ญนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ :laugh:
ดีใจด้วยนะคะ โพสต์หน้าเพจแล้วเป็นรูปตัวเอง
ถ้าเป็นรูปเรามั่งเราคงดีใจ...(เหมือนได้มีส่วนร่วมกับนิยาย อิอิ)
-
ปิ๊งกันแล้วใช่มั้ยคู่นี้~
:-[
-
พี่คิวเหมือนมีอะไรในใจตลอดเลย มีพ่อแม่ก็เหมือนไม่มีนิ >"<
-
:impress3: :impress3:
-
อยากได้แบบเค้กสักคน
-
สนิทกันขึ้นทุกวัน
-
น่ารักอ่ะพี่คิว
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พี่คิวทำตัวน่ารักขึ้นทุกวันเลยน่ะ :o8:
:L2: :L2:
-
อ่านไปก็ลุ้นไป
เมื่อไำรจะรักกันซะทีเน้ออ
-
รู้สึกว่า คิวเวลาอยู่กับเค้กน่ารักดี :z2: ชอบ
-
เค้าค่อยๆๆแทรกซึมกันและกันน่ารักอ่ะ พี่คิว น้องเค้ก :o8:
-
เห็นใหมพี่ดิวให้พี่เค๊กมายืนข้างๆได้จริงๆด้วย
-
เริ่มน่ารักมากขึ้นอะ เค้กเริ่มชอบพี่คิวแล้วล่ะสิ
-
ค่อยๆสนิทกันแบบเงียบๆรึเปล่้าเนี่ยคู่นี้
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
คู่นี้ยังอีกนาน ฟันธง :a11:
-
น้องเค้กนิสัยเหมือนนางงามเลยอ่ะ
พี่คิวมันก็ต้องคิดแบบพี่แน่ๆ เลย
-
จะยังไงต่อล่ะเนี่ย :กอด1:
-
อ่านไปก็อมยิ้มไป
พี่คิวกับเค้กน่ารักดีครับ
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:พี่คิวน่ารักอ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
น้องเค้กน่ารักดีอ่ะ มีจิตสาธารณะด้วย
-
มาติดๆกันเลย สนุกตามเคย 2คนนี้เค้ามีกิจกรรมร่วมกันตลอดด เรียนรู้กันไปเรื่อยๆน่ารักดี
-
ลุ้นจนเกร็งไปหมดแล้ววว ว
-
พี่คิวน่ารัก
เบบี้ก็น่ารัก
-
ยังทำให้ยิ้มได้เหมือนเดิม
-
ณ ตอนนี้ เรตติ้งพี่คิวพุ่งพรวดๆๆ ทะลุมิเตอร์แล้วค๊า
ทำไมน่ารักแบบนี้อ่ะ แข็งนอกอ่อนในนะเนี่ย
เวลาอยู่กับคนปกติสัมผัสไม่ค่อยจะได้ แต่เวลาอยู่กับเด็กนี่พี่แกน่าฮักโฮกๆ อ่ะ
ชอบเวลาเค้าไปทำบุญกันสองต่อสองอ่ะ ดิ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ +1
-
พี่คิวเค้กน่ารัก
ค่อยๆคบ ค่อยๆ รัก
ต่อปากต่อคำกันไปมา เดี๋ยวก็รักกัน อิอิ
ชอบมากค่ะ
-
พี่คิวน่ารักมาก อิอิ
พออยู่กับเค้กกับพี่ฟ้าแล้วทำตัวเหมือนเด็กเลย (ฮ่าๆ)
ทำให้มองเห็นความแตกต่างของคนสองคนได้อย่างชัดเจน
การวางตัวที่แตกต่างกัน แต่ก็เหมือนจะพยายามปรับเข้าหากัน
อ่านแล้วก็ยิ้มเป็นบ้าเป็นหลัง
:pig4:+ :กอด1:
-
สงสัยคู่กัสกับเซนแล้วสิ มีอะไรกันรึป่าวน้า
-
พี่คิวเมารถแท็กซี่เหรอ หึหึ
-
ชอบพี่คิวอะ น่าร้ากกกกกก o13
-
ชอบบบบมากกกกก o13 ...อยากให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันกุ๊กกิ๊กมากกกกกกก :o8:
-
โห เบบี้มาสองวันซ้อนโคตรดีใจ :z2: ก็ยิ่งอ่านก็ยิ่งคิดถึง เค้กกับพี่คิว เค้าคุยกันสนุกดี พี่คิวแม่งพวกพูดน้อยต่อยหนักอะ :jul3:
-
น่าร้ากกกกกมากๆ น่ารักขึ้นทุกตอนๆ :-[
ชอบเรื่องนี้มากเลยอ่ะ อยากอ่านต่อทุกวันๆ :laugh:
-
ตอนนี้มาแบบเบาๆใสๆไม่มีไรมาก
แต่ก็มีความสุขที่ได้อ่าน ^^
-
พี่คิวคงเหงา หรืออยากรู้จักเค้กให้มากขึ้น
พี่ฟ้านี่ก็น่ารักดี เหมือนคุณแม่ หรือพี่สาว
-
ไม่ใช่แค่เค้กคนเดียวหรอกนะที่คิดว่าพี่คิวพูดไม่เหมือนคนปกติ
เราก็คิดงั้นเหมือนกัน คนอะไรพูดก็น้อย แต่กวนชะมัด
-
:really2: :really2: :really2: :really2: :really2: เค้กน่ารักและใจดีจัง น่าอยู่ใกล้ๆ อบอุ่น
-
ทันกันนะสองคนนี้
-
koi koi sanit kan pai thii la nid na kha khuu nii!! hu hu hu...
-
เหมือนการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเลย :laugh:
:pig4:คะ
-
ชอบคิวเวลาอยู่กับเค้กจัง :impress2:
-
โห พึ่งได้เปิดคอมดู :z3:
ขอตัวไปอ่านก่อนนะค๊าบบบบบบบบบบบบบ o13
-
เค้กน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก :o8:
-
น่ารักเนอะ พี่คิวเนี้ยย
อ๊ายยย เวลาอยู่กับเค้กนิ ใช้สายตาพูดมากกว่าคำพูดหรือเปล่าอะ อิอิ
-
ค่อยเป็นค่อยไป อย่างช้าๆ(มากๆ)
ก็งี้แหละน้า ช้าๆได้พร้าเล่มงาม ฮ่าๆๆ
แต่ตอนนี้น่ารักดี น้องเค้กกวนได้อีก ชอบๆ
-
พี่คิวพูดน้อยอีกแล้ว แต่ความเท่กินขาดเลยค่ะ :o8:
อ่านถึงแท็กซี่แล้วคิดถึงรถคันนี้กลิ่นใบเตยของโน้ตอุดมค่ะ :laugh:
-
กัสเซนหรือกัสหมีน๊อออ
-
พัฒนากันไปเรื่อยๆ :กอด1:
-
ตลกพี่คิว ตรง ดมยดมนี่แหละ
ฮ่าๆๆๆ
เออ น่ารักดีนะเนี่ย
แต่เอาน่า วันนี้ไปทำบุญ อย่าหงุดหงิดนักเลยพี่คิว
^^
-
คิวปิดติดน้องนะเนี่ยยยยย
ว่าไปอิน้องก็ทำหน้าไม่ถุกทีเดียวที่พี่คิวจะมาดุหนังกับพี่ฝน
เหอๆ ก็รอดูกันต่อไปกับคู่นี้ค่ะ
น้องกัสงอนไรพี่เซ็นน้า คึคึึ
-
วันข้างหน้า มันน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว
เค้กอารมณ์ดี มีความสุข จิตใจดี ครอบครัวอบอุ่น
พี่คิวปากร้าย แต่จริง ๆ จิตใจดีเหมือนกัน
แต่อาจจะมีปมทางด้านครอบครัว เลยทำให้บุคลิกเป็นแบบนี้
แอบหมั่นไส้ ขึ้นแทกซี่มีกลิ่น ถึงกับต้องดมยาดมเชียว
คุณชายเกิ๊นพ่อคุณ :laugh:
-
เบบี้จะรู้ไหม ว่าเราดีใจแค่ไหนที่เปิดเวปมาแล้วเจอพี่คิว :-[
อยากอ่านอีกเรื่อยๆ หยุดไม่ได้เลยอ่า
มะวานก็ย้อนอ่านอีกรอบ ฮ่าๆๆ
เป็นเอามากเลยเรา
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวันๆ
แล้วพี่คิวคงเห็นความน่ารักของเค้กมากขึ้นๆทุกวันแน่ๆ
:man1:
-
น่ารักจริงๆคู่นี่ หยอกกันไปหยอกกันมา
อ่านแล้วก็อิจฉา >< :z2:
-
อยากจะรู้จักพี่คิวมากกว่านี้
เฮียแกมีอะไรนักหนา สงสัยจิงๆ
-
พี่คิวก็นะคิดได้ไงอ่ะให้ยื่นหน้าเข้าไปดมกลิ่นในรถแท๊กซี่ก่อน ฮ่าา พี่คิวเมารถแท็กซี่อ่ะ เอิ๊กก พี่คิวน่รักขึ้นตลอดเลยอ่ะ น่ารักจริงๆ เค้ก คิว คิคิ รอตอนต่อไปนะพี่เบบี้
-
พี่คิวคุณชายมว๊ากกกกก
นั่งแท็กซี่ครั้งแรก ถึงขนาดดมยาดมกันเลยทีเดียว...
-
ลุ้นทุกตอน กว่าน้ำแข็งจะละลาย
ชอบอาฟ้าจริงๆ ทำให้อ่านไปยิ้มไป
-
น่ารักกันทั้งคู่
-
o18 o18 o18
-
ขนมฝักบัว << ไม่รู้จักเหมือนกัน อาจจะเคยเห็นแต่ไม่รุ้จักชื่ออ่ะนะ ถั่วแปบนี่ของชอบเลย
พี่เซ็นเรียกกัสน่ารักอ่ะ แอบลุ้นคู่นี้หน่อยๆ
-
พี่คิวแปลกแต่มีมุมน่ารักซ่อนอยู่เยอะเลย
น้องเค้กก็ช่างต่อปากต่อคำ
ชอบความสัมพันธ์ที่เหมือนจะไม่คืบ แต่ก็รู้สึกได้ว่าคืบหน้าไปเรื่อย ๆ
ต่างคนต่างเข้าไปในโลกของอีกคนมากขึ้นเรื่อย ๆ
น่าติดตาม น่าค้นหาอะ
ขอบคุณเบบี้จ้า
:L1:
-
อ่อยยยยยยยยยย ลุ้นไม่ไหวแล้วค่าาา
อยู่ด้วยกันที ก็ตื่นเต้นที อยากให้มีสักอย่างเกิดขึ้น
แต่ชอบนะ เหมือนเป็นความรักที่เริ่มจากหนึ่ง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กรี๊ด แค่คิดใจก็เต้นแทนละ (บ้า)
รอให้ความรักล้นใจทั้งคู่อยู่เน้อออออออออ
ตอนนี้ได้น้องแพนเป็นพยานรักเพิ่มขึ้นอีกคน คิคิ
อยากอ่านอีกกกกกกกกก เบบี้จ๋า :กอด1:
-
ฮาตรงที่พี่คิวดมยาดมนี่แหล่ะ
-
ถึงขนาดต้องดมยาดมกันเลยเหรอเนี๊ย!
คุณชายจริงๆ พี่คิวปิค 5555555
พี่คิวสนิทกับน้องเค้กมากไปแล้วนะ
เริ่มจะหวั่นไหวเวลาอยู่ใกล้ๆเค้ก
บ้างยัง...?
-
เริ่มเรียนรู้กันไปทีละนิด
พี่คิวเหวอๆคงจะฮาน่าดูเลยอ่ะ
วันนี้คงสะใจเค้กไปหลายช็อต อิอิ
-
พี่ิคิวเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก แต่อย่าให้พูดนะเล่นเอาคนฟัง อยากกระโดดเข้าไปจุ๊บ(เหรอ) หึ หึ
-
เรียกว่าเดทกันเบาๆได้มั๊ยเนี่ย
เค้กน่ารักอ่ะ...
เข้าใจพี่คิวนะ ที่ต้องถามหายาดม
เพราะแท็กซี่บางคันกลิ่นก็ไม่ไหวจริงๆ
:pig4:
-
พี่คิวก็มีส่วนน่ารักนะ อยากให้ชัดเจนกันเร็ว ๆ จัง
พี่กัสกับพี่เซ็นก็ไม่ยอมรุกจริง ๆ จัง ๆ ซักที ถึงจะโดนพี่คิวปรามไว้ก็เถอะ
-
อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย ยิ้มมมม
-
น้องเค้กใจดีขนาดนี้พี่คิวไม่หลงให้มันรู้ไป o18
-
ฮ่าๆๆๆ ฮาน้องเค้ก ทำเป็นกล้าหือกะพี่คิว
ว่าแต่... หลังๆนี่พี่คิวดูน่ารักขึ้นเนอะ ส่วนน้องเค้กนี่ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าน้องกวน... ซะจริ๊ง หรือจะแค่กับพี่คิวหว่า เหอๆๆๆ
-
น่ารักอะ :o8:ชอบๆๆน่รักที่สุดเลยเค้กคิว :-[
-
ตอนนี้อาจจะยังไม่รู้ตัว แต่ถ้าวันใดเค้กหายไป คิว เจ้าจะรู้สึก หึหึ :impress2: :a5: :pig4: :pig4: :call: :call:
-
เวลาอ่านตอนที่พี่คิวกับเค้กทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน มันทำให้ยิ้มได้อะ
เบบี้เขียนให้เห็นถึงมุมน่ารักๆ บรรยากาศดีๆ ของสองคนนี้ออกมาได้ดี ชอบๆ
คอยติดตามพัฒนาการความรักทั้งสองคน เอาใจช่วยจร้า
:L2:
-
อ่านไปยิ้มไป >w<
คิวเค้กน่ารักอ่า
-
:กอด1: สนิทกันมากขึ้นแล้ว ^^
-
อั๊ยยะ!!! น่ารักอะ :impress2:
เเล้ว ฝัน :angry2: ตกลงเธอเป็นอะไรกับพี่คิว :serius2:
ฉันระเเวงนะ!!! :z3:
-
เข้าใจนายคิวเลยนะว่า บางทีก็อยากทำอะไรดีๆ ให้สังคมบ้าง แต่ไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนยังไงไง เลยไม่ได้เปนคนดีสักที
-
กริ๊ดกร๊าด วิ๊ดว๊าย สไตล์ไฮโซ เราต้องทำตัวสวยและรวยมาก จะได้เข้ากับพี่คิว ที่หล่อและรวยมาก
อ๊ากกกก อยากทะลุเข้าไปในหัวใจ ชอบอ่ะ น่าร๊ากอ่ะ คิคิ
จิ้มเบบี้ 1 ที :z13: แล้วจุ๊บบบบบบ :mc4:
-
อยากอ่านต่อแล้วววอ่า
-
อ่านไปอมยิ้มไป เพราะนิยายน่ารัก..ชอบแล้วล่ะ
-
พี่คิวกับเค้ก เริ่มรู้จักกันและกันมากขึ้นแล้ว
-
อ่านทันแล้วๆๆ เย้ๆๆ หนุกมากๆๆเลยอ่ะ น่ารักดีๆ
-
อยากไปกินเค้กร้านคิวปิด แพงก็ยอมว่ะ
อ่า า า เค้กอร่อย
-
อ่านทันแล้ว เย้
เค้กน่ารักมากๆ เลยค่ะ
พี่คิวก็น่าสงสารนะ
-
น่ารักอะ พี่คิวแม่งชอบดุ
-
ตามทั่นแล้วเย้ๆ เค้กน่ารักมากชอบอะ
-
ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบนิสัยเค้ก เป็นคนจิตใจดีจริงๆค่ะ โอบอ้อมอารี คิดเป็น น่ารักมากๆๆๆๆๆ
พี่คิวก็โผล่มาดน่ารักๆมากขึ้น คุณชายด้วย 555
ชอบพี่ฟ้าจัง ^^ ยิ่งมีพี่ฟ้าก็ยิ่งอยากเจอทิกเกอร์!!!! อยากรู้จักผู้ชายคนนี้!!!
-
น้องเค้กนี่สุดยอดเลยอ่ะ หน้าตาดี จิตใจงาม o13
ช่วงนี้บรรยากาศพี่คิวกับเค้ก ดูสบายๆดี อ่านแล้วเหมือนพี่น้องตีกัน :laugh:
:กอด1:พี่ฟ้า และบวกจ้า
-
สองคนนี้เริ่มมีพัฒนาการที่ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
ส่วนพี่ฟ้า คงแอบลุ้นให้คนทั้งสองอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อย :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้ :กอด1:
-
นี่มันอยู่กันแบบครอบครัวชัดๆ 5555
-
~25~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“มาเช้าอีกแล้วนะ สงสัยคงต้องเพิ่มเงินให้จริงๆ” พี่ฟ้ายิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง
“เค้กมาได้อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์สุดท้ายแล้วละครับ อาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้ว” ผมยิ้มบอก
“อ่าวเหรอ อืม..พี่ก็คงต้องหาคนมาทำงานบัญชีแทน มาร้านบ่อยๆไม่ค่อยได้แล้วด้วย” พี่ฟ้าบ่น เดินไปหยิบแก้วมาวางไว้บนโต๊ะและหยิบเหยือกมารินน้ำใส่แก้วให้ผมทั้งที่ผมยังไม่ได้ขอเลยนะครับ
“พี่ฟ้าจะไปไหน” ผมถาม ก้มหัวให้น้อยๆก่อนจะรับแก้วมา
“เปล่า พี่ต้องดูร้านเสื้อผ้าที่เปิดสาขาใหม่น่ะ” พี่ฟ้าตอบ
แกรก~~
“แทแดม..สวัสดีค้าบ” พี่กัสยิ้มแฉ่งหน้าบานเข้ามา
“อารายกันเด็กพวกนี้ ปิดเทอมไม่มีที่ให้ไปกันรึไง ถึงได้มาทำงานเช้ากันทุกคนแบบนี้..นี่เดือนนี้พี่ต้องขาดทุนเพราะเอามาจ่ายค่าแรงพวกเราจริงๆใช่ไหมเนี้ย” พี่ฟ้าบ่นยาว
“ถูกต้องนะคร้าบ” พี่กัสทำไม้ทำมือชี้ประกอบ
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ วันนี้อากาศดี..มีความสุข” พี่กัสยิ้มร่า เดินลั่นล้าเข้าไปที่ห้องแต่งตัว
“หึ..วัยรุ่นนี่ดีจริงนะ” พี่ฟ้าหัวเราะ
“งั้นเดี๋ยวเค้กไปรดน้ำต้นไม้ให้นะครับ” ผมลุกขึ้น
“ฝากด้วย” พี่ฟ้าตบไหล่ผมเบาๆ ผมเดินออกมารดน้ำต้นไม้รอบๆร้าน พี่หมีกำลังจัดเตรียมร้านอยู่กับพี่ซี เชฟสองคนกำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว หลังจากที่ผมรดน้ำต้นไม้และให้อาหารปลาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเช็ดโต๊ะและปัดกวาดโต๊ะที่ตั้งอยู่ระเบียงด้านนอกร้าน ก่อนจะเข้ามาช่วยพี่หมีจัดเค้กเข้าตู้ต่อด้วย
“อ่ะแฮ่ม” ผมสะดุ้ง
“พี่เซ็น” ผมแทบจะสบถออกมา เพราะพี่เขาดันมากระแอมคออยู่ข้างๆหูของผมตอนไหนก็ไม่ทราบ
“หึ..ช่วยไหมครับ” พี่เซ็นยิ้มถาม
“จะดีมากถ้าออกไปจากตรงนี้ซะ” พี่ซีตอบแทนทันควัน พี่เซ็นไม่หันกลับไปมองน้องสาวตัวเองที่ยืนค้อนอยู่แม้สักนิดเดียว แต่สายตากลับจ้องมาที่ผมไม่วางตา
“ไอ้เซ็น..เดี๋ยวไปซื้อของตามนี้นะ แล้วเอามาให้ถึงร้านก่อนเที่ยงด้วย” พี่คิวเดินออกมาจากห้องครัว พร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นใหญ่ให้พี่เซ็นก่อนที่พี่เขาจะเหลือบมองผมเล็กน้อย
“กูอีกละ” พี่เซ็นบ่น
“มึงกล้าใช้คำว่ากูอีกแล้วงั้นเหรอ” พี่คิวเลิกคิ้วด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ค้าบ แหม..ดุไปได้” พี่เซ็นทำหน้าทำตาใส่เพื่อนรักของตัวเอง
“งั้นไปนะทุกคน จุ๊บๆ” พี่เซ็นยักคิ้วยิ้มโปรยเสน่ห์ให้ ผมยิ้มส่ายหัวตอบ
“เข้ามาในครัวหน่อย” พี่คิวหันมาสั่งผม
“เฮ้ย..ไรวะ” พี่เซ็นที่ยังไม่ทันออกจากเคาร์เตอร์ดีหันกลับมาโวยพี่คิว พี่คิวตวัดตาขวางใส่พี่เซ็นเข้าให้
“ค้าบ” พี่เซ็นตอบเสียงยานคาง ทำท่าทำทางก้มหน้าลงอย่างกับเด็กที่เพิ่งโดนพ่อดุ พี่คิวเดินกลับเข้าห้องครัวไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไปเลย” พี่ซีดันตัวพี่เซ็น พี่เซ็นหันมาโบกมือบ๊ายบายให้ผมแถมทำหน้าทำตาเจ้าเล่ห์ให้อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว นี่ก็อีกคนครับ..ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกัน เฮ้อ..ไม่เคยสะทกสะท้านซินะครับ
“ปาย” พี่ซีลากเสียงยานคางไล่พี่เซ็นอีกครั้ง
“ค้าบ แม่” สุดท้ายพี่เซ็นก็เดินออกไปจนได้
“ขอตัวก่อนนะครับ” ผมหันมาบอกพี่ซี อยู่ๆพี่ซีก็พยักหน้ายิ้มกว้าง ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าอยู่ดีๆพี่ซีทำหน้าทำตาระรื่นทำไม
“สนิทกันมากเลยนะเนี้ย คึคึ” พี่ซีเข้ามาเกาะไหล่ผมพร้อมเอาคางมาเชยไว้บนไหล่ของผมอีก
“พี่ซีค้าบ” ผมว่าปรามผู้หญิงคนนี้
“ก็มันจริงนี่ นอกจากพี่หมีก็ไม่ค่อยมีใครโดนเรียกให้เข้าไปหรอกนะ..ถ้ามันไม่จำเป็นจริงๆน่ะ”
“งั้นมันก็คงจำเป็นละมั้งครับ” ผมบอก
“อ่าน้า..” พี่ซีเล่นเสียงและเอานิ้วมาเกาแก้มผมเหมือนหยอกเด็ก
“รู้ไหมครับ พี่เซ็นกับพี่ซีน่ะ..ก็มีนิสัยบางอย่างคล้ายกัน อย่างเช่น..ตอนนี้”
“หึ เค้กอ่ะ” พี่ซีผลักผมเบาๆ ผมหันไปยิ้มให้ก่อนจะเดินหนีเข้ามาในครัว
“มีอะไรให้รับใช้ครับคุณเชฟ” ผมทักคนในครัว พี่คิวเหลือบตามามอง
“นายติดนิสัยกวนประสาทมาจากไอ้เซ็นรึไง” พี่คิวว่า
“..ก็ไม่เชิงมั้งฮะ” ผมเล่นหน้าเล่นตาและเดินเข้าไปหา
“ช่วยหน่อย” พี่คิววางมีดที่กำลังหั่นชีสลง
“หั่นตามที่ฉันทำไว้” พี่คิวสั่ง ผมจับมีดมาถือไว้
“เดี๋ยว..ล้างมือ เป่ามือและเช็ดให้แห้งอีกรอบ” พี่คิวพูดดัก มองหน้าผมด้วยสายตาที่ดุดันอย่างเคย ผมแลบลิ้นให้และก็ต้องเดินไปล้างไม้ล้างมือและเช็ดให้แห้งอย่างที่พี่เขาสั่ง แน่นอนด้วยว่าผมหั่นชีสตามแบบที่พี่คิวทำไว้เป็นตัวอย่างทุกกระเบียดนิ้วเพราะกลัวจะถูกตำหนินะสิครับ
หลังจากที่หั่นชีสเสร็จแล้ว พี่คิวสั่งให้ผมหั่นผลไม้อย่างเช่นองุ่น สตรอเบอร์รี่ สับปะรดและอย่างอื่นอีกเยอะแยะไปหมด เรียกได้ว่ามือผมแทบจะเปื่อยเลยล่ะ หลังจากนั้นผมได้ออกมาช่วยงานพี่ๆที่นอกครัว ส่วนมากจะเป็นเสิร์ฟอาหารเพราะพี่หมีกับพี่กัสวุ่นอยู่กับการรับลูกค้าและต้องรอคำสั่งจากพี่คิวด้วย เนื่องจากว่าวันนี้ลูกค้ามาในตอนเช้าค่อนข้างเยอะนะครับ
“วันนี้ทำข้าวผัดไว้ให้ อาหารกลางวันน่ะ..หิวก็เข้าไปตักในครัวเลยนะ” พี่คิวพูดบอกทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ในเคาร์เตอร์
“เย้..” พี่ซีกับพี่กัสปรบมือด้วยความดีใจ
“ลูกค้าเหลือโต๊ะเดียวใช่ไหม” พี่คิวถาม
“ครับ” พี่หมีพยักหน้า
“ผลัดกัน ใครจะไปกินก่อนก็ไป เอ่อ..ตักให้ฉันด้วยจานนึง” พี่คิวสั่งก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องพักสำหรับเชฟ
“งั้นซีกับกัสกินก่อนแล้วกัน ตักไปให้พี่คิวด้วยล่ะ” พี่หมีบอก
“ได้ค่า” พี่ซีตอบ เราแลกเปลี่ยนเวรกันเข้าไปทานอาหารกลางวันในห้องพักพนักงาน ส่วนผมกับพี่หมีทานกันเป็นคนสุดท้าย
= = = = = = = =
“If you are going to stick with your words, but after that it's up to you” ผมนั่งมองพี่คิวที่กำลังพูดภาษาอังกฤษเป็นไฟกับโทรศัพท์ปลายสายมาได้เกือบห้านาทีแล้ว ตอนนี้ใกล้จะปิดร้านแล้วครับ เหลือก็แต่พี่หมีที่กำลังดูความเรียบร้อยอยู่กับพี่ฟ้า
“That’s all I can do.”
“Okay bye..” พี่คิววางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ
“แล้ว..แล้วไงต่อ ที่ผมพูดไปเมื่อกี้น่ะถูกไหมครับ” ผมถามทันทีที่พี่คิววางสาย ก่อนหน้าเรากำลังคุยกันเรื่องเรื่องสั้นที่ผมยืมหนังสือมาจากพี่คิว ผมอ่านจบไปแล้วแต่แค่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อ่านไปนั้นผมตีความถูกต้องรึเปล่า
“นายพูดว่าไงนะ” พี่คิวเลิกคิ้ว
“อ่ะ แสดงว่าที่ผมพูดไปเมื่อกี้ไม่ได้เข้าสมองพี่เลยใช่ไหม” ผมขึ้นเสียง
“หึ” พี่คิวแสยะหัวเราะ
“โอเค ก็ถูกนี่..ใช่ เมื่อกี้ที่นายตีความน่ะ ถูก” พี่ยักไหล่ตอบ
“แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไลล่าร์ในตอนจบเธอไม่คิดอะไร มัน..งง” ผมเกาหัว
“ก็คงเพราะ เอ่อ..เธอเจอผู้ชายที่ถูกใจละมั้ง หลังจากที่เธอกำลังเศร้ากับแฟตแมน..แต่พอมาเจอผู้ชายคนใหม่ มันก็เหมือนเธอกำลังลืมสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่เมื่อกี้ ประมาณนั้น” พี่คิวอธิบาย
“ผมก็เก่งเหมือนกันนะเนี้ย” ผมยักคิ้ว
“งั้นผมคืนเลยก็แล้วกัน ไว้ไปยืมใหม่” ผมยิ้ม ยื่นหนังสือกลับให้พี่คิว
“ขอบคุณนะฮะ” ผมบอก พี่พยักหน้าเพียงนิดเดียว
“แล้ว..เอ่อ พี่มีหนังสือของดาห์ลอีกไหม” ผมถามถึงอย่างมีความหวัง
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ก็ทุกเรื่อง” ผมตอบ
“ก็มีทุกเรื่อง” พี่คิวตอบซะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับพี่เขาเหลือเกิน
“พี่มีทุกเรื่องเลยเหรอ” ผมพูดด้วยความตกใจ
“อือฮึ” พี่คิวเบะปาก
“หนังสือชีวประวัติของดาห์ลก็มีงั้นเหรอ ไอ้ที่เป็นเล่มสีเหลือง..ที่ไม่ค่อยมีขายในไทยอะนะ” ผมพูดด้วยความตื่นเต้นไม่เลิก
“มี..ซื้อมาตอนไปอังกฤษน่ะ เจอโดยบังเอิญ”
“จริงดิ อ่ะ..งั้นเหรอฮะ เอ่อ..ผม ขอดูได้ไหม ผมเคยเห็นแต่ในเวปอ่ะ ไม่ได้สั่งซื้อมันแพง” ผมพูดตะกุกตะกัก มันจับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะผมไม่คิดว่าพี่คิวจะมีนะสิครับ
“เชิญ แต่เล่มนี้ห้ามยืมกลับบ้าน” พี่คิวพูด ชำเลืองตามองผมเหมือนบอกเป็นนัยว่านี่เป็นคำสั่งเด็ดขาด
“โอเค” ผมชูนิ้วยิ้มกว้าง พี่คิวยิ้มมุมปากตอบให้
“นี่..สองคนนี้น่ะ คุยเรื่องอะไรกัน ไม่เห็นจะรู้เรื่อง” พี่ซีบ่นหน้างอ
“ใช่ เห็นว่าเรานั่งอยู่ด้วยไหมเนี้ย” พี่กัสบ่นอีกคน ผมยิ้มตอบให้พวกพี่เขาเล็กน้อย
“ไปกันได้แล้วเด็กๆ กลับบ้านเรา รักรออยู่” พี่ฟ้าร้องเพลงเดินเข้ามาในห้อง พวกผมหันไปมอง สุดท้ายทั้งผมและพี่คิวก็ไม่ได้ตอบคำถามของพี่กัสและพี่ซี พวกเราลุกขึ้นเก็บกระเป๋าของตนเอง แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนผมมีคนรถไปส่ง นั่นก็คือ..พี่ฟ้าและพี่คิวเช่นเดิมนั่นแหละครับ
= = = = = = = =
ณ ห้องนอนเค้ก..
“พี่จะทำอะไรให้แม่เหรอ” ตาวถามถึงวันเกิดของแม่ผมที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
“เอ่อ ไม่รู้สินะ” ผมล้มตัวนอนลงขนาบข้างกับตาว
“ตาวล่ะจะให้อะไร”
“อืม..ตาวว่าจะให้เสื้อ วันก่อนป้าตู้ไปรับตาวใช่ป่ะ แล้วเราก็ไปเดินดูของกัน เห็นป้าตู้ไปยืนเล็งเสื้ออยู่ตั้งนานแต่ไม่ยอมซื้อน่ะ ตาวไปขอจองไว้แล้ว” ตาวเล่าทั้งรอยยิ้ม
“เหรอ อืม..” ผมตอบ ในสมองกำลังนึกวางแผน
“เราจัดกันที่บ้านนี่แหละเนอะ มันเป็นวันจันทร์ กว่าพี่จะเลิกจากงานอีก..เอาไงดี” ผมเหลือบมองหน้าตาว
“งั้นเอาอย่างนี้ เดี๋ยวตาวจะรีบกลับมาจากโรงเรียนก่อนแล้วจะทำกับข้าวเตรียมไว้ ส่วนพี่น่ะ..จัดการเรื่องเค้กด้วยนะ” ตาวยิ้มสั่ง
“โอเค แต่ยังคิดของขวัญไม่ออกเลยแฮะ” ผมถอนหายใจ ของขวัญที่ผมให้แม่ในแต่ละปีผมไม่อยากให้มันซ้ำกันนัก แต่ดูเหมือนทางจะตันรึ ตอนนี้ผมยังคิดของที่เหมาะกับแม่และคิดว่าแม่น่าจะชอบไม่ออกเลยละครับ
“เค้กปีนี้เอาเป็นแบบไหนดี เค้กนมสดดีป่ะ”
“กิน อยากกิน” ตาวยิ้มตอบทันที
“งั้นโอเค ตามนี้นะ..ส่วนเรื่องค่าอาหารก็มาเอาตรงพี่ก็แล้วกันนะ” ผมบอก
“ค่ะ” ตาวพลิกตัวเข้ามาใกล้ผมคล้ายกับทำท่าจะอ้อนขออะไรสักอย่าง
“เมื่อไหร่พี่เค้กจะซื้อโน้ตบุ๊กสักที ตาวอยากได้คอมพี่เค้กไปไว้ห้องตาวอ่ะ” ผมยิ้มกว้างอย่างรู้ทางน้องสาวตนเองในทันที
“อะไร จะแอบเอาไว้คุยกับใคร” ผมจ้องจับผิดไปอย่างนั้นเอง
“เปล่าสักหน่อย ตาวก็ไม่อยากเข้ามากวนพี่เค้กบ่อยๆไง” ตาวทำปากจู๋
“อีกสักสองสามเดือนก่อนก็แล้วกัน ให้พี่เก็บเงินได้ก่อน..พี่อยากช่วยแม่ออกครึ่งนึงน่ะ” ผมบอก ที่จริงแม่บอกจะซื้อให้ผมแล้ว แต่ผมไม่อยากให้แม่เสียเงินหลายหมื่นเพราะความต้องการอันไร้สาระของผม ถึงแม้ว่ามันจะจำเป็นในการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ในเมื่อบางสิ่งบางอย่างผมสามารถช่วยแม่ได้ ผมเองก็อยากจะช่วยครับ
“จริงนะ” ตาวยิ้มกว้าง
“จ้า” ผมยิ้ม เอามือขยี้หัวน้องสาวตัวเองด้วยความเอ็นดู..
= = = = = = = =
ณ คิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
กริ๊ง~~
ผมยืนค้างมองชาวต่างชาติหัวทองแต่งตัวภูมิฐานและดูมีอายุที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผม หุ่นดีขนาดนี้ ทั้งทั้งที่ดูออกว่าน่าจะสามสิบกว่าแล้วแต่โครงหน้ากลับยังหลงเหลือว่าตอนเป็นหนุ่มคงจะหน้าตาดีเป็นแน่ นี่เขาหลุดมาจากนิตยสารรึเปล่าครับเนี้ย
“สวัส ดี ครับ” อีกฝ่ายพูดตะกุกตะกัก ยิ้มกว้างที่ดูเหมือนไม่มั่นใจในคำทักทายของตนเอง ดูมีเสน่ห์ดีจนน่าแปลก
“อ่ะ..คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์ยินดีต้อนรับครับ” ผมยิ้มตอบ เมื่อกี้ค้างไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ ทราบแต่ว่ามีการอึ้งเกิดขึ้นชั่วขณะ
“เอ่อ..” งานเข้าแล้วไง พี่ซีกับพี่หมีอยู่ในครัวซะด้วย
“มาท่านเดียวใช่ไหมครับ” ผมถามแบบลองเชิงดู
“เอ่อ ครับ” ชาวต่างชาติคนนี้พยักหน้าตอบพร้อมกับกวาดสายตามองไปทั่วร้าน
“เชิญนั่งเลยครับ” ผมผายมือยิ้มสู้
“คือ ผม..ผม” เขาคนนี้มองหน้าผมเหมือนไม่กล้าสบตามากนัก เขากำลังมีท่าทีประมาทหรืออะไรสักอย่างและยังไม่ยอมเดินตามผมมาที่โต๊ะ
“ครับ” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“ผมมาหา ฟ้า..เอิ่ม เจ้าของร้านนี้น่ะครับ”
“มาหาพี่ฟ้าเหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมจะไปบอกให้ทราบ ไม่ทราบว่า..จะให้ผมบอกพี่ฟ้าว่าใครมาขอพบดีครับ” ผมถามชัดถ้อยชัดคำที่สุดเพราะหวังว่าเขาจะรู้เรื่องได้ง่ายกับสิ่งที่ผมสื่อถึง เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ผมจึงได้แต่ยืนยิ้มรอคำตอบ
“เอ่อ ไม่ต้องบอกได้ไหมครับ” เขาคนนี้ตอบ
“อ่าว..ทำ” ผมยิ้มแหย
“ทิกเกอร์!” ผมชะงัก หันกลับไปมอง พี่ซียืนตาค้างอยู่ตรงเคาร์เตอร์
“ซูซี่” และผมก็ต้องหันกลับมามองที่ชาวต่างชาติคนนี้อีกครั้ง คนนี้เหรอ..ทิกเกอร์ O_O เจ้าของชื่อที่พี่ฟ้าถูกล้อบ่อยๆ พระเจ้า!
“มาได้ยังไง” พี่ซีเดินออกมาจากเคาร์เตอร์ ถามด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่
“ไอ..เอ่อ ผม ผมมาหาฟ้า” ทิกเกอร์ตอบด้วยสีหน้าร้อนรน
“หาอาฟ้าอย่างนั้นเหรอ แล้วอารู้รึเปล่า” พี่ซีถามกลับแทบกระซิบ ทิกเกอร์ส่ายหัวตอบในทันที เขายิ้มแหยเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง
“เค้ก..ลูกค้า” ทุกคนผงะเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู ขาดคำเสียเมื่อไหร่เพราะตอนนี้พี่ฟ้ายืนชะงักตาค้างไปแล้วเรียบร้อย
“ฟ้า..” ทิกเกอร์เรียกพี่ฟ้าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ ผมชักจะเชื่อแล้วว่าผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลต่อพี่ฟ้ามากจริงๆ
“ม..มาได้ยังไง” พี่ฟ้าพูดเสียงเบา ตาจ้องทิกเกอร์แทบไม่กะพริบ
“ผมบอกเองแหละ” พี่คิวพูด ทุกคนหันไปมองพี่คิวที่ออกมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
“ฟ้า ผม..อยากคุยด้วยหน่อย ได้ไหมครับ”
“ไม่ได้” พี่ฟ้าตอบเสียงดังฟังชัด
“กลับไปได้แล้ว” พี่ฟ้าเหลือบตาไปอีกทางไม่ยอมมองหน้าฝรั่งคนนี้
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์หน้าหงอยลงอย่างกับเด็กถูกดุ
“ทิกเกอร์” พี่ฟ้าถอนหายใจ
“ขอร้องเถอะ กลับไปซะ” พี่ฟ้าเดินหนีกลับเข้าห้องไป ผม พี่คิวและพี่ซียืนนิ่ง
“คัม..” พี่คิวกวักมือให้ทิกเกอร์และเดินนำออกจากร้านไป
“สวัสดีครับ” เขาคนนี้ยกมือไหว้ยิ้มแหยๆให้ผม ผมรีบยกมือไหว้ตอบ
“คนนี้เหรอครับ ทิกเกอร์..ที่ว่าน่ะ” ผมถาม น้ำเสียงเรียบจนแทบกลัวตัวเอง
“อื้ม เป็นไง..ดูดีป่ะล่ะ โคตรๆเลยล่ะสิ” พี่ซีพูดแกมหัวเราะ สีหน้าเหมือนยังปรับไม่ทันกับสถานการณ์เมื่อกี้เช่นเดียวกับผม
“แฟนเก่าของพี่ฟ้าเหรอครับ” ผมถาม
“ใช่ เคยเป็นกัปตันอยู่สายการบินที่ยุโรปน่ะ แต่เอ่อ..ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำงานอะไรอยู่”
“สูงมากๆเลยนะครับ ผมว่าพี่คิวกับพี่เซ็นตัวใหญ่แล้ว..มาเจอคนนี้เบาไปเลย” ผมกระซิบบอก
“ถ้าพี่จำไม่ผิด ตอนนั้นที่เราเคยเล่นเกมกันในงานปาร์ตี้ พี่รู้มาว่าทิกเกอร์น่าจะประมาณร้อยแปดสิบเจ็ดแปดสิบแปดรึไงนี่แหละ” พี่ซีบอก
“สุดยอดอ่ะ ให้เค้กกินนมจนตาย..ยังไม่สูงเท่านี้เลย เหอะๆ” ผมหัวเราะ พี่ซีขำออกมา
“แล้วทำไมพี่ฟ้าต้องไล่ด้วยเนอะ อยากรู้อ่ะ” ผมบ่น
“พี่ก็อยากรู้เหมือนกานนนน” พี่ซีเข้ามากระซิบตาโต
“หึ” เราหัวเราะให้กันเหมือนอ่านกันออกอย่างนั้นเลยละครับ
“คุยอะไรกัน ไม่มีการมีงานทำรึไง” ผมกับพี่ซีชะงัก หันกลับไปมองพี่คิวที่เพิ่งมายืนทำหน้าโหดอยู่ข้างหลัง
“กำลังจะทำแล้วเจ้าค่า” พี่ซีเดินหนีทิ้งผมไปในทันที
“เออพี่คิวครับ” ผมนึกขึ้นได้จึงเรียกพี่คิวที่กำลังจะเดินไปที่เคาร์เตอร์ไว้ก่อน
“คือ วันที่เจ็ด วันจันทร์หน้าอ่ะครับ..เป็นวันเกิดของแม่ผม” ผมพูดตรงประเด็น
“แล้ว..” พี่คิวเลิกคิ้ว
“คือ ผมอยากทำเค้กให้แม่ แต่ผมทำเค้กปอนด์ไม่เป็นอะครับ คือ..ถ้าพี่ว่าง มีเวลาให้สักหน่อย ผมอยากให้พี่ช่วยหน่อย..จะได้ไหมอ่ะครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ไม่กล้าสบตาพี่คิวมากนักเพราะหน้าพี่เขาแลดูดุเกินไป
“...............” พี่คิวเงียบไป ผมใจแป้วเล็กน้อย
“วันอาทิตย์ ต้องหลังเลิกงาน สองทุ่มครึ่ง” พี่คิวพูดขึ้น
“ส..สองทุ่มครึ่งเลยเหรอครับ” ผมตกใจ อยากทำเค้กวันอาทิตย์เพราะจะได้เอาไปให้แม่ในวันจันทร์พอดี แต่ดึกขนาดนั้นกว่าจะทำเค้กเสร็จผมได้ถึงบ้านตีหนึ่งแน่ๆ พี่คิวยักไหล่ตอบ
“ก็ได้ครับ” ผมตอบอย่างช่วยไม่ได้เพราะถูกสายตากดดันเกินไป ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพวกพี่ๆแล้วว่าทำไมอยู่กับพี่คิวมาหลายปีแล้วแต่กลับยังไม่ชินกับนิสัยของพี่คิวสักที พี่คิวเงียบไปสักพัก ผมเองก็ไม่ได้ก้าวขาขยับไปไหน
“พี่..โอเคไหม”
“งั้นหกโมงเย็นที่บ้านฉัน ตามนั้น” พี่คิวตัดบทขึ้น
“เอ่อ ครับ” ผมรีบพยักหน้าด้วยความดีใจเพราะอยู่ๆพี่เขากลับเปลี่ยนเวลาให้เสร็จ
“แล้วส่วนผสม” ผมถาม
“เอาของพี่บ้านฉันก็แล้วกัน ซื้อก็ยุ่งยากใช้ไม่คุ้ม..”
“แต่ผมเกรงใจ”
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะทำให้ฟรีๆสักหน่อย” พี่คิวแสยะยิ้ม
“ขี้งก” ผมว่า
“เอ่อ ผมอยากได้เค้กนมสดนะ แม่ชอบ” ผมรีบบอกก่อน
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น” พี่คิวตอบ ยักคิ้วให้ผมอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไป
“ชิ..ขี้เก๊ก” ผมได้แต่บ่นกับตัวเอง TuT ว่าต่อหน้าไม่ได้..เดี๋ยวอดได้เค้ก
....................>>>><<<<..................
-
:z13: กรี๊ดดดดดดดด ขอจิ้มคนแต่งก่อนไปอ่าน อิอิ :z2:
..................................................................................................
น้องเค๊กคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้สนิทกับพี่คิวแค่ไหน
จากการโต้ตอบกันสองคน แต่คนรอบข้างเค้ามองเห็นนะจ๊ะ
เริ่มคืบหน้าแล้วววว
อยากรู้ว่าทำไมทิกเกอร์ถึงได้เป็นอดีตของพี่ฟ้า
ขอบคุณเบบี้จ้า
-
อยากรู้เรื่องฟ้าาา า
ลุ้นมากคู่คิว เค้ก ลุ้นทุกตอน เมื่อไหร่ใครจะแสดงอาการบ้างหนิ
-
:3123:เอาละว่ะ งานเข้าพี่ฟ้าแล้ว
-
จะช่วยกันทำเค้ก แอร๊งงงงงงงงง จินตนาการไปไกลแล้ว จะช่วยกันอิท่าไหนหว้า กิกิ :-[
-
ทิกเกอร์เหมือนจะน่ารักเลย จะมีตอนพิเศษคู่นี้บ้างรึป่าวน้อ
-
น่ารัก เมื่อไหร่จะเริ่มชอบกันจิงจังนะ
-
คู่รองเริ่มน่าสนใจกว่าซะแล้ว อิ อิ อิ
-
กรี๊ด !! อิมพอร์ตบินลัดฟ้ามาเลยนะนั่น เปิดตัว ทิกเกอร์ได้น่าฮักขนาดดดดดด
to be continued
ตอนหน้า >> ลูกเขยออกโรงช่วยทำเค้กให้แม่ยาย :laugh: :laugh:
-
กริ๊ดกร๊า ด วิ๊ด ว๊าย น่ารักอ่ะ ชอบๆๆ พี่คิวใจดี หล่อและรวยมากจริงๆ
ขอบคุณน๊าเบบี้
-
ทิกเกอร์ กับ พี่ฟ้า เหรอ หุหุหุ
-
พี่คิวก็คงอยากอยู่ใกล้ชิดเค้กให้มากขึ้นแน่เลย
-
โอ๊ะโอ ทิกเกอร์มาแล้ววววว
ว่าแต่มีปัญหาไรกะพี่ฟ้าน้อ
อยากรู้ๆ
-
อ๊ากกกกกกกอยากรู้เรื่องพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ :z2:
-
คู่ฟ้ากับทิกเกอร์ :z1: :z1: :z1:
-
อยากรู้เรื่องทิกเกอร์กะฟ้า :z1:
-
ทิกเกอร์คนนี้นี่เองงง ว่าแต่ฟ้างอนอะไรอ่ะ ตอนนึกว่ากลับมาคบกันใหม่แล้ว
-
ทะ ทะ ทะ ทิก เกอร์!!!!! o13
-
เค้กน่ารักอ่ะ
รีบๆ รักกันนะครับ อิอิ
-
น่ารักเหมือนเคย ขำตอนจบอีกแล้ว . . . อิอิ
เค้กก็เว้นพี่คิวไว้คนนึงเถอะ ปล่อยเค้าขี้เก๊กไปอ่ะดีแล้ว 555+
-
สมกับที่วิ่งเปรี้ยวเข้ามา ค่อยเป็นค่อยไปอย่างนี้แหล่ะ มันกาวใจดีนัก :-[
-
ในที่สุกทิกเกอร์ บุคคลปริศนาก็ปรากฏตัว
อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรกันอ่ะ ที่ทำให้พี่ฟ้าเลิกกับทิกเกอร์ >"<
ความสัมพันธ์ของน้องเค้กพี่คิวคืบหน้าแล้ว
-
อยากรู้เรื่อทิกเกอร์เหมือนกัน
-
ช่วยกันทำเค้ก อิ๊อ๊ะ อิ๊อ๊ะ
-
อยากรู้เรื่องของทิกเกอร์กับพี่ฟ้าอ่ะค่ะ อิอิ
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:แบบว่าน้องเค้กติดพี่คิวนะ อะไรก็พี่คิวคร้าบบบบบบบบบบบบบ ผมอย่างงั้นอย่างนี้ อิิอิอิอิิ น่าารักอ่ะ
-
ทิกเกอร์มาแล้ว โหะๆๆ
มาง้อพี่ฟ้าอ่ะเด้
พี่คิวจะทำเค้กให้แม่ยาย!?
:laugh:
-
อยากจะโบกพี่คิวซักที แหม๊ มันเก๊กจิงๆโว้ย :beat:
-
อ๊ากกกก ทิกเกอร์มาปรากฏตัวแล้ว จะเป็นไงต่อน้าา
-
กรี๊ดดดดดดดดดดด!!! กรีดร้องด้วยความดีใจ ทิกเกอร์มาแล้ว!!!!! ขอบคุณคุณเบบี้นะค๊า ^^
แต่เปิดตัวก็น่าสงสารเลยอ่า มีเรื่องอะไรกะพี่ฟ้าหว่าถึงได้โดนไล่ซะแบบนั้น :เฮ้อ:
เค้กกะพี่คิวก็นุ๊งนิ๊งในแบบของเค้ามากขึ้นน้า สนิทกันมากขึ้น ชัดขึ้นทุกทีๆเเระ :-[
ตอนนี้บวกหนึ่งให้ทิกเกอร์ค่า คะแนนน่าสงสารแด่ผู้ชายคนนี้ สู้สู้นะทิกเกอร์ ขอให้ปรับความเข้าใจกะพี่ฟ้าให้ได้นะ!!
-
:o8: :o8: เริ่มสนิทกันแล้ว
อยากอ่านคู่อาฟ้ากะทิกเกอร์อ่ะ ^^ :o8:
-
จะมีอุบัติเหตุรักตอนช่วยกันทำเค้กมั้ยนาาาาาาา
-
ทิกเกอร์ๆๆๆ :oni2: ของอาฟ้า
ผู้ที่ได้ยินแต่ชื่อมาช้านาน แต่ไม่เคยโผล่มา
-
:haun4: :พี่คิวน่ารักอ่ะ มาต่อเร็วๆนะครับ รอรอรอ
-
อยากกินเค้กกกกกกกกกกกกกก
-
รอฟ้ากะทิกเกอร์
:pig4: :กอด1:
-
พี่คิวกับเค้กน่ารักอีกแล้วววว
อยากรู้เรื่องทิกเกอร์จัง
-
ทิกเกอร์ขนาดออกมานิดเดียว
แต่รู้สึกว่าน่ารักยังไงไม่รู้
-
ไหนๆ ก็จะช่วยกันทำ "เค้ก" แล้ว
อย่าลืมกิน "เค้ก" ด้วยนะจ๊ะ :-[
-
แอ๊ ทำเค้กๆๆๆๆๆ อยากทำด้วย ฮิฮิ
-
ทิกเกอร์มาแล้วววววววววววววว อยากรู้เรื่องพี่ฟ้ากะทิกเกอร์จังเลย
พี่คิวกับน้องเค้กก็ยังเรื่อยๆ(มากๆ) ตอนหน้าไปทำเค้กกันแล้วใช่ไหม จะมีมุมหวานนิดๆให้ได้อ่านมั่งไหมน้า ฮ่าๆๆ
อยากให้มาต่อทีนึงสักสามตอนเลยค่ะ ชอบเรื่องนี้ หลงรักน้องเค้ก ^^
-
อะไรยังไง
ทิกเกอร์ อะไรยังไง ,,
พี่ฟ้า ทำไมดู โกรธๆอ่ะ?
อยากรู้เรื่องจัง ><
-
กระแส ทิกเกอร์ ฟ้า มาแรงจริงวุ้ย
-
:sad4:
อยากอ่านอีก 5555555555555+ :laugh: :laugh:
-
อยากรู้แล้วอ่ะว่าพี่คิวกับน้องเค้กทำเค้กงานวันเกิดคุณแม่ด้วยกัน อ้ายๆ ๆ แค่คิดก็เขินแล้ว (บ้าไปเอง 555)
แล้วพี่ฟ้ากับทิกเกอจะเป็นไงต่อละเนี้ย รักข้ามขอบฟ้ากันเลยสำหรับคู่นี้อ่ะ อยากให้พี่ฟ้าสมหวังด้วยอ่ะ เป็นคุณอาที่น่ารักจริงๆนะค่ะ
ส่วนตอนนี้พี่คิวกับน้องเค้ก อยากยกเพลงนี้ให้จริงๆ ใครจะพยายามแทรกกลางระหว่างเรา รู้ไว้นะว่าเขาไม่มีวันเข้ามาได้ ฮ่าาา า :-[ :impress2: :o8:
-
อาฟ้าใจแข็งมากเลบ
+1
-
Wowwww ทำเค้กวันเกิดให้แม่เขาก็ต้องไป HBD ด้วยตัวเองด้วยนะพี่คิว คิคิคิ >//<
ทิกเกอร์ หงอยเลย อาฟ้าดุ๊ดุ 55+
-
ทิกเกอร์มาแบบงงๆ นะเนี่ย อะไรกันกว่า
น้องเค้กน่ารัก อิอิ :impress2:
-
น้องเค้กน่ารักกกกกกกกกกกกกกก
ขอยืมไปนอนสักคืนได้ป่ะ ??
-
ทิกเกอร์ออกมาแว้วววว
อยากรู้ว่าพี่ฟ้างอนอะไร (ต่อมสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านพุ่งกระฉูด o18)
-
คุยงุ๊งงิ๊งกันสองคน เหมือนเค้กค่อยหายกลัวแล้วกล้าพูดกับพี่คิวมากขึ้นเรื่อยๆ..... ผูกพันกันไม่รู้ตัวจริงๆ
-
พีคิวกับเค้ก สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ความผูกพันเริ่มก่อตัวขึ้นมาที ละนิดๆ
ทิกเกอร์กับพีฟ้า ทะเลาะอาไรกัน ลุ้นอีกคู่
-
อยากจะเป็นเค้ก :sad4:
รักคนแต่ง :L2: :L2: :L1: :L2: :L2:
-
อ่านรวดเดียวจบ อยากจะกรี๊ดดังๆให้ลั่นบ้าน รักพี่คิวน้องเค้กมากๆๆๆๆๆๆ
-
บรรยากาศสองคนนี้ หวานขี้นเรื่ิอยๆเลย เขินๆๆๆๆๆ
-
กรี้ดดดดดดดดดดด ในที่สุดก็ตามอ่านจนทัน
ใช้เวลา 4 วัน
ทำงาน แว่บมาอ่านที โอ้ย ย ย
-
ถูกใจตรงพี่เซ็น "เฮ้ย ไรว่ะ" เนี่ยแหละ ฮ่าๆๆๆ มันดูมีอะไร
แล้วก็ชอบพี่ซีแซวนะ คิคิ
ตอนนี้คิวเค้กงุ้งงิ้งมีแบบเบาเบา แต่แค่รู้ว่าจะช่วยกันทำเค้กก็ตื่นเต้นล่ะ ^^
ทิกเกอร์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เหมือนง้อพี่ฟ้าอยู่ สู้นะพ่อคนหล่อ แอร๊วววว ฝรั่งหล่อ เป๊กหนู
-
ตอนนี้ไม่สนใจพี่คิววววกับเค้กแล้วววววว :bye2:
โฟกัสทิกเกอร์คนเดียว เป็นใครมาจากไหน รอเบบี้มาเฉลยยยด่วนนน
-
thii la nid thii la nid,,,hu hu hu..
-
:mc4: :mc4:เบบี้มาแล้ววววววว
ทิกเกอร์ก็มาแบบงงๆ......
เค้ก....พี่คิว....น่ารักสุดๆ
ขอบคุณเบบี้ :L2:
-
หุหุ เค้กสนิทกับพี่คิวมากเลยน๊า น่ารักอะ
-
ไปเรื่อย ๆ มาตามลมหนาว มาเป็นกำลังใจให้ ทิกเกอร์ ง้อพี่ฟ้าให้สำเร็จ :z2:
อีกส่วน มารอดูหน้าตา เค้กของคุณขี้เก็ก ว่าจะดูดีจนน้องเค้กยิ้มจนตาหยีหรือเปล่า :z1:
+1 เป็นกำลังใจให้นะครับ เบบี้ :กอด1:
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13 โอ้ในที่สุดทิกเกอร์ก้อมาแรว
-
ใจดีจังเลยน้าพี่คิว
-
:a5: :a5: :a5:
-
ไกล้เข้ามาอีกนิดแล้ว อิอิ
เค้กน่ารัก...ส่วนพี่คิวก็นะ...5555 ยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม
เป็นกำลังใจให้ทิกเกอร์ง้อพี่ฟ้าสำเร็จนะคะ
:pig4:
-
ว้าววววว
ทิกเกอร์มาแล้ว อยากรู้เรื่องทิกเกอร์กับคุณอา
-
ทิกเกอร์!!! มาแล้ววววว กรีดร้องงงง
-
ดูท่าพี่คิวจะสนุกกับการต่อล้อต่อเถียงกับเค้กนะ
เหมือนผู้ใหญ่แกล้งเด็กเลย ดูๆแล้วก็ตลกดีอ่ะ
เปิดเทอมแล้วเค้กก็ไม่ได้มาทำงานแล้วอ่ะดิ
อย่างนี้จะมีใครมาให้พี่คิวแกล้งอีกล่ะเนี่ย :laugh:
ส่วนทิกเกอร์ คุณเคยทำอะไรพี่ฟ้าเอาไว้กันเนี่ย
เค้าอยากรู้ รอตอนหน้านะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
อยากรู้เรื่องฟ้าาาาาา
-
ทิกเกอร์มาแล้ว กรี้ดๆๆ ปกติก็ชอบเสือทิกเกอร์ในการ์ตูนหมีพูอยู่แล้วมาเจอที่นี่ยิ่งกรี้ดไปใหญ่ เหอๆ
ฉากทำเค้ก(ให้แม่)จะสวีทวี้ดวิ้ว ป่าวอ่ะ จิ้นไปไกลแล้วนะเนี่ย :haun5:
-
อยากเห็นเค้กแม่แล้ว
-
ทิกเกอร์ มาแล้ว.....
แต่อยากรู้อะว่าเค้าห่างกันเพราะไร
นิสัยเหมือนเค้กไปทุกทีแล้วเรา :laugh:
:pig4: คะ
-
เย้.... ทิกเกอร์มาแว้ว.....
ว่าแต่... เค้ามีเรื่องรัยกันอ่ะ ( สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านอีกแระตู เหอๆๆๆ )
-
อ่านแล้วติดอะ :-[
-
เหมือนพี่คิวกับเค้กเริ่มจูนกันติดแล้ว เริ่มสนิทกันมากขึ้นแล้ว ดีใจจัง o13
-
สองคนนี้เขานัดเจอกันที่บ้านบ่อยนะ :o8:
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ...แต่อยากเห็นพี่ฟ้ามีความสุข :กอด1:
-
อื้อหืออออ..อิพี่คิวเนี๊ยชอบแกล้งเค้กจิงๆเล้ยยยย
ทิกเกอร์แบบว่ามาเร็วไปเร็ว เราไม่กระจ่างอะ..ฮ่าๆๆ
-
จะยังไงต่อละเนี่ย เอาใจช่วย กัสและหมีจะมีอพะไรไหม
ทิกเกอร์มาแล้วฟ้าละทำยังไง คิวเค้กละครับ จะรักกันเมื่อไหร่เอ่ย :L1:
-
ไอ้ค่าส่วนผสมทำเค้กนี่คงไม่ได้ให้น้องใช้คืนเป็นเงินใช่มะพี่คิว :z1:
น่ารักๆ เค้กน่ารักๆ ส่วนพี่ฟ้างอนทิกเกอร์เรื่องอะไรน้อ อยากรู้จังเลย :impress2:
-
อยากรู้ด้วยคน :z3:
-
ได้อ่านแล้ว อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากๆ
เดินเรื่องแบบสบายๆ ไปเรื่อยๆ อ่านแล้วอมยิ้ม :-[ :-[ :-[
-
อยากรู้เรื่องของพี่ฟ้าอ่ะ o9
:L2: :L2:
-
ทิกเกอร์ ???????
อาฟ้า ?????
ยากรู้ว้อยยย o9
ขอบคุณน้องบี้
:กอด1:
-
อ่า อยากอ่านอีกเยอะๆ อิอิ ขอบคุณเบบี้นะค้าบ
พี่คิวน่ารัก :z1:
-
แอร๊ยยยยยย!! น่ารักอ่ะ
-
คนนี้นี่เอง ทิกเกอร์ในตำนาน :laugh:
-
เริ่มอยากรู้เรื่องอาฟ้ามั่งแล้วอ่ะ :laugh:
-
พี่คิวนิใจดีจังเลยเนอะ
ชอบจริงๆๆๆเลยย o13
-
:impress3: ทิกเกอร์ๆ อยากรู้จักมากกว่านี้
-
ตัวละครเพิ่มมาอีกคนแล้ว พี่ฟ้าจะทำไงละนี่ครับ
-
เนื่อเรื่องน่ารักมากเลย เราอ่านภายในวันเดียวตั้งแต่ตอนแรกถึงล่าสุดเลย
-
พี่คิวน้องเค้ก มีคืบหน้าอีกแล้ว :o8:
อยากรู้เรื่องทิกเกอร์ด้วยค่า ><
แค่บรรยายหุ่นก็ทำเอาเพ้อได้เหมือนกัน :laugh:
-
น่ารักไปม่ายยยยยยยยยยยยยยยย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
ป่ะ กินเค้ก ขอแนะนำนมปั่นฮาเซลนัส อร๊าอยยยย
-
พี่ฟ้ากับทิกเกอร์ มันอะไร ยังไง......?
อยากรู้อ่า.......!!!!!
-
ทิกเกอร์มาแล้ว!!! เลยทำให้ยิ่งอยากรู้อยากเห็นไปกันใหญ่เลย อิอิ
แล้วก็นะ... ตอนนี้พี่คิวใจดีจังเลยน๊าาา :impress2:
-
ทิกเกอร์มาแบบงงๆ และก็ไปแบบงงๆ เหมือนกัน
ไม่เคลียร์อะไรเรยอ๊ะ ว่าแต่เค๊กน่ารักตลอดดดดดดด
-
ทิกเกอร์ -w- ฮรี่
-
อยากรู้เรื่องพี่ฟ้า
คิวเค้กเริ่มคืบหน้าแล้วว เย้ๆๆ >w<
-
พี่คิวใจดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เค๊กเป็นคนที่คุยเรื่องเดียวกับพี่คิวด้วย
ดีจัง
ส่วนทิกเกอร์เนี่ย พี่ฟ้าจะเอายังไงคร้าบบบ เค้ามาหาถึงที่แล้ว
:L2:
-
อยากรู้เหมือนกันว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพี่ฟ้ากับกทิกเกอร์กันน้า
-
ชอบจัง ความรักค่อยๆก่อตัวขึ้นแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เด๋วก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ฮี่ๆ อีกไม่นาน :impress2:
เห็นคู่นี้แล้วอยากจะมีเป็นของตัวเองบ้างจัง คงอีกนาน หรือต้องกอดคานตลอดไป(นอกเรื่อง)
+1 ค่ะ :กอด1:
-
ทิกเกอร์มาแย้วววววววว
ไปทอะไรให้พี่ฟ้างอนไว้น้อ...
แต่ท่าทางพี่คิวจะเชียร์ทิกเกอร์เต็มที่เลยเนาะ :ped149:
-
ชอบที่คุยเรื่องหนังสือกันอยู่ 2 คน ทำอย่างกับไม่มีใครอยู่
แต่ที่แท้มีอีกสอง 555
เริ่มสร้างโลกส่วนตัวของสองคนกันแล้วเนอะ
พี่คิวโหดแต่แอบน่ารัก
อ่านบรรยายแล้วทิคเกอร์หล่อ สมาร์ทอะ พี่ฟ้าใจอ่อนเร็ว ๆ เถอะ
-
ทิกเกอร์มาแล้วววววว อยากรุ้เหมือนกันว่าทะเลาะอะไรกัน
ดูอาฟ้าไม่พอใจเอามากๆ
-
~26~
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“สวัสดีค่ะคุณเค้ก คุณคิวกำลังเดินทางมาค่ะ คุณบอกว่าให้คุณเค้กนั่งรออยู่ที่ห้องหนังสือได้ค่ะ” ป้านิดยิ้มทัก
“อ๋อ ครับ” ผมเดินตามป้านิดเข้าบ้าน ป้านิดเดินนำผมพาเข้าไปที่ห้องหนังสือของบ้าน
“เดี๋ยวป้าจะนำอาหารว่างมาให้นะคะ คุณเค้กต้องการน้ำดื่มอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
“ไม่หรอกครับ อะไรก็ได้ครับ” ผมยิ้มตอบ
“ค่ะ สักครู่นะคะ” ป้าก้มหัวยิ้มๆก่อนจะเดินไป ผมเดินเอากระเป๋าเป้ไปวางไว้บนโซฟา เดินดูหนังสือฝั่งชั้นเรื่องสั้น มีหนังสืออยู่หลายเล่มที่ผมสนใจ แต่ยังไม่กล้ายืมพี่คิวอยู่ดีเพราะความเกรงใจ ผมมาขอให้พี่เขาช่วยทำเค้กให้ ยังมาขอยืมหนังสือกลับไปบ้านอีก มันคงจะดูไม่ดีสักเท่าไหร่หรอกมั้งครับ
ผมเดินหาหนังสือของโลอัลด์ ดาห์ลจนพบหนังสือเล่มที่ผมต้องการ เป็นเล่มเดียวกับที่ผมเคยขอพี่คิวก่อนหน้าและพี่คิวไม่อนุญาตให้ผมนำหนังสือเล่มนี้กลับบ้านนั่นละครับ ผมนำมันออกมาอ่านฆ่าเวลาไปพลาง เป็นหนังสือที่ใช้ภาษาอังกฤษง่ายๆ เด็กอ่านได้ผู้ใหญ่อ่านดีนั่นจึงทำให้ผมไม่รู้สึกเบื่อ
ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ใกล้ๆ ผมเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ..
“สวัสดีครับ” ผมทักพี่คิวที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ป้านิดรีบเดินเข้ามารับเอกสารจากพี่คิวไป ส่วนพี่เขียวรีบมารับเสื้อคลุมของพี่คิวไปด้วยอย่างรู้หน้าที่
“มานานแล้วเหรอ” พี่คิวถามพร้อมเดินเข้ามาในห้อง
“พี่สายไปสิบห้านาที” ผมแกล้งว่าบ้าง
“ขอ..โทษ” พี่คิวเว้นเสียงพูด น้ำเสียงเหมือนพูดส่งๆเสียมากกว่าที่จะตั้งใจจะขอโทษจากใจจริง
“เป็นเกียรติอย่างยิ่ง” ผมประชดกลับ
“พี่เขียวครับ เตรียมชุดไว้ให้คิวด้วย เดี๋ยวจะขึ้นไปเปลี่ยน” พี่คิวหันไปสั่งพี่เขียวไว้ก่อน
“ได้ค่ะ” พี่เขียวพยักหน้าตอบ แม่ลูกทั้งสองคนเดินออกจากห้องหนังสือไปทำตามหน้าที่ของพวกเธอ ผมนั่งเงียบ พี่คิวมองมาที่หนังสือในมือของผม
“ขอยืมอ่านฆ่าเวลาแป๊บเดียวเองฮะ” ผมอ้างก่อน
“แล้วฉันว่าอะไรสักคำรึยัง” พี่คิวพูดบอกหน้านิ่ง พี่เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือด้านนิตยสาร ผมยืนมองพี่คิวที่กำลังเลือกหนังสือออกมาจากชั้นนั้น
“อ่ะ..อยากได้แบบไหนก็เลือกซะ ส่วนมากจะคล้ายๆเค้กนมสดนั่นแหละ” พี่คิวยื่นหนังสือมาให้ผมสามเล่ม
“ฉันไปอาบน้ำก่อน ขอตัวเดี๋ยว”
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ รับหนังสือมาไว้กับตัว พี่คิวเดินออกจากห้องไป ผมรีบเปิดหนังสือเพื่อเลือกดูแบบเค้ก ที่รีบเปิดเพราะผมไม่ทราบว่าพี่คิวจะจัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จเร็วหรือเปล่า ดังนั้นผมอยากจะเซฟเวลาของตัวเองไว้ก่อน ระหว่างที่เลือกถึงแม้จะรู้สึกรักพี่เสียดายน้องแต่แล้วผมก็เลือกแบบเค้กที่ผมอยากได้ได้ในที่สุดละครับ..
= = = = = = = =
ณ ห้องครัวทำเค้ก..
ผมยืนมองพี่คิวอย่างเงียบๆ เว้นระยะห่างประมาณหนึ่งเมตรเพราะไม่อยากเข้าไปเกะกะพี่เขานัก ผมยืนเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเสมอถ้าพี่เขาเรียกใช้แต่ถ้าพี่เขายังคงเงียบผมเองก็ควรไม่ควรไปรบกวนเช่นกัน ผมไม่อยากให้พี่เขาหงุดหงิดเพราะผมไปวุ่นวายนะครับ
“ทำไมต้องเค้กนมสด” พี่คิวเอ่ยถามขึ้นโต้งๆ
“แม่ชอบฮะ..” ผมตอบทันที แฮ..รอพูดมานานแระ ไม่ชวนเราคุยสักกะที T^T
“แม่ไม่ค่อยกินเค้กรสอื่นนะครับ ส่วนมากจะชอบกินอยู่รสนี้รสเดียวนั่นแหละ..แต่ก็ต้องเป็นร้านประจำที่ถูกปากนะ” ผมบอก
“มานี่” อยู่ๆพี่คิวก็ตัดบทเรียก พี่เขาเตรียมเครื่องมือเร็วมากจนผมได้แต่ยืนมองอย่างงงๆ พี่คิวยื่นที่ร่อนแป้งมาให้ผม
“ร่อนแป้ง” พี่เขาสั่ง หยิบจับเครื่องมาใส่อย่างเร็วจนผมมองไม่ทันว่ามันคืออะไรบ้าง
“ทำไปซิ” นั่น..มีการดุอีกนะครับ
“ค้าบ” ผมตอบและรีบทำการร่อนแป้งตามที่คุณท่านแกสั่งทันที
“ไม่ใช่..ทำแบบนี้สิ” พี่คิวว่าพร้อมกับนำที่ร่อนแป้งไปทำให้ผมดู ผมรับมันกลับมาและนำมาทำตามอย่างที่พี่เขาทำให้ดูเมื่อกี้
“อย่าเกร็งมือสิ อย่างสะบัดแรงด้วย” พี่คิวว่าเตือน ตาจ้องมองผมไม่กะพริบ
“อืม..อย่างนั้นแหละ”
ผมเห็นพี่คิวนำเนยผสมกับอะไรอีกไม่ทราบเพราะมองไม่ทัน ส่วนผสมได้เตรียมไว้ก่อนหน้าแล้วทำให้พี่คิวหยิบจับและผสมมันเข้ากันอย่างรวดเร็ว พี่คิวนำมันไปเข้าเตาอบ สักพักพี่เขาก็กลับมาจัดเครื่องด้วยความวุ่นวาย ผมแค่ยืนมองยังตาลายเลยละครับ พี่เขานำส่วนผสมตีเข้ากับแป้งและใส่ไข่ลงไปหลายฟอง ผมไม่ทราบว่าพี่เขาใส่ไปกี่ใบเพราะพี่คิวตอกไข่เร็วขั้นเทพมาก
“พอแล้ว” พี่คิวสั่ง ผมหยุดมือลง ผมยืนมองพี่คิวที่กำลังผสมแป้งและนำแป้งเข้าเครื่องตี ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีก็ได้แป้งเค้กสีสันสวยยั่วน้ำลายผมออกมาให้เห็น
“อะไรของนาย” พี่คิวขมวดคิ้ว ผมหยุดขยับจมูกในทันที
“ก็มันหอมอ่ะ” ผมยิ้มเขิน เท้ามือลงบนโต๊ะ พี่คิวเทแป้งลงแม่พิมพ์รูปดาวขนาดใหญ่ตามแบบที่ผมอยากได้และนำมันเข้าเตาอบ
“ทำไรต่ออ่ะครับ”
“เค้กนมสดมันต้องมีอะไรล่ะ” จากที่พี่คิวจะต้องตอบคำถามผมแต่พี่เขากลับย้อนกวนผมซะอย่างนั้น พี่คิวหันมามองหน้าผมเหมือนรอคำตอบ
“ครีมนมสดไง” ผมยิ้มตอบ
“ฉลาดหนิ แม่ให้กินหญ้าบ่อย..” พี่คิวเลิกคิ้วยิ้มกวน
“งั้นถ้าพี่ฉลาด พี่ก็คงกินเพ็ดดีกรีบ่อยงั้นอ่ะดิ” ผมยักคิ้วย้อน พี่คิวเงียบจ้องหน้าผมเขม็ง จากหน้ากวนเมื่อกี้กลับกลายเป็นหน้าดุแทน
“ที่ตัวเองยังกวนคนอื่นได้เลย ชิ” ผมแลบลิ้นให้ พี่คิวแสยะยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ต่อความอีก ผมยืนมองพี่คิวตีครีมที่ต้องแต่งหน้าเค้กจนเสร็จเรียบร้อย รออีกเกือบยี่สิบนาทีเค้กที่อบไว้ก็เสร็จ พี่คิวสั่งให้ผมใส่ถุงมือและนำมันออกมา ส่วนหลังจากนั้นพี่คิวจัดการตัดผ่ากลางตัวเนื้อเค้กออก
“จะทำไหม” พี่คิวหันมาถาม
“ทำครับ” ผมตอบแทบจะทันที พี่คิวยื่นตัวบีบครีมนมสดมาให้ผม ผมรับมาอย่างไม่ถนัดมือเท่าไหร่นัก
“จับแบบนี้สิ” พี่คิวทำมือให้ดู ผมพยายามทำตามแต่ยังไม่กล้าออกแรงบีบครีมลงบนเนื้อเค้กอย่างเต็มแรงมือ
“บีบสิ แบบนี้ไง” พี่คิวบอกกำกับ นำมือของตัวเองมาจับมือผมแล้วออกแรงบีบครีมลงบนเนื้อเค้กอย่างช้าๆ มือของพี่เขาใหญ่จนโอบมือผมได้ทั้งมือเลยละครับ
“ชั้นเดียวแบบนี้ แล้ววนไปรอบๆจนครบ” พี่คิวพูดบอกอยู่ใกล้ๆก่อนที่จะละมือออกจากมือของผม พี่คิวยืนดูผมจนผมบีบครีมจนหมด พี่เขานำชีสมาโรยส่วนหนึ่งก่อนจะนำเนื้อบลูเบอร์รี่มาเทลงบนครีมนมสด
“นิดเดียวแล้วกันนะ” พี่คิวหันมาเหมือนถามความคิดเห็นจากผม ผมพยักหน้าตอบ พี่คิวหยิบเนื้อเค้กอีกชิ้นที่หั่นแบ่งไว้มาวางลงทับเนื้อเค้กที่เพิ่งทำเสร็จไป ครั้งนี้พี่คิวไม่ให้ผมเป็นคนทาครีมเองแล้ว พี่เขาคงกลัวว่าผมจะทำเสียละมังครับ
“จะลองแต่งรึเปล่า” พี่คิวถามเมื่อเค้กทั้งปอนด์ได้ปกคลุมไปด้วยเนื้อครีมสีขาว ผมพยักหน้ายิ้มตอบ พี่คิวยื่นถุงบีบครีมมาให้ผมอีกครั้ง
“ทำยังไงอ่ะ” ผมถามและยังไม่กล้าลงมือ พี่คิวหยิบถุงบีบครีมอีกอันมาแล้วบีบครีมลงทำทดลองให้ผมดูก่อน หลังจากนั้นผมก็เก้ๆกังๆทำตาม
“ไม่ใช่ อย่าเกร็งสิ” พี่คิวว่าพร้อมกับเอามือมาจับมือเพื่อบังคับมือของผมอีกครั้ง ผมรู้สึกเกร็งมากขึ้นกว่าเดิมเพราะตัวเราอยู่ใกล้กันมากจนน่าใจหาย พี่คิวเอื้อมแขนอีกแขนโอบผ่านตัวผมเพื่อที่จะจับเค้กให้หันไปตามที่มือของเราสองคนที่กำลังแต่งอยู่ กลายเป็นว่าตอนนี้ผมเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของพี่คิวไปแล้ว แล้วทำไมผมถึงรู้สึกไม่ชินก็ไม่ทราบ..
~ไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่เจงงงงงงงงง >,<~
“หน้าจะแต่งแบบนี้เลยใช่ไหม” พี่คิวชี้ไปที่รูปในหนังสือ
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบแต่กลับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาพี่เขาเท่าไหร่นัก พี่คิวจัดการแต่งหน้าเค้กให้ผม มีเชอร์รี่ที่ตาวและผมชอบ แต่แต่งหน้าไม่เยอะมากเกินไปเพราะกลัวว่ามันจะเปรี้ยวเกินนะครับ แม่ผมชอบแบบกินเป็นครีมสดๆซะมากกว่า
“เขียนว่าไร”
“สุขสันต์วันเกิดคุณแม่” ผมยิ้มตอบ พี่คิวเบะปากใส่แต่ก็หยิบช็อกโกแลตมาเขียนแต่งหน้าเค้กให้ หลังจากที่แต่งหน้าเค้กเสร็จ พี่คิวจัดการนำเค้กไปใส่กล่องของร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ให้เรียบร้อย
“เอ่อ พี่คิวฮะ..” ผมเรียก พี่คิวเหลือบตามอง
“เค้กอ่ะ..ผมอยากฝากให้พี่เอาเค้กไปไว้ที่ร้านให้หน่อยได้ไหมอ่ะครับ คือพรุ่งนี้เป็นวันเกิดแม่ แต่ผมต้องไปทำงานที่ร้านก่อน ไม่อยากเอาเค้กไปเก็บไว้ที่บ้านอ่ะครับ เดี๋ยวแม่เห็น” ผมพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ รู้สึกว่าตัวเองจะรบกวนพี่เขามากเกินไปแล้ว พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่ง
“นะครับ” ผมรีบย้ำขอ
“อื้อ” พี่คิวตอบส่งๆ
“ขอบคุณครับ” ผมรีบบอก
“เอ่อ แล้ว..พี่บอกว่าไม่ได้ให้ผมทำฟรีๆ แล้วจะให้ผม ทำไรอ่ะ” ผมถามด้วยความระแวง
“.............” พี่คิวหันมามองผมและมุมปากเริ่มแสยะยิ้มออกมา
“เหอะๆ” ผมหัวเราะให้กับรอยยิ้มนั่น น่าขนลุกพิลึก
“หึ..” พี่คิวหัวเราะบ้าง
“ไรอ่ะ” ผมขึ้นเสียง
“นายรู้ไหมว่าค่าตัวของฉันเวลาสั่งทำเค้กน่ะเท่าไหร่” พี่คิวจ้องผมด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ทำให้ผมยิ่งระแวงมากขึ้นกว่าเก่า ผมเงียบ ใจเต้นตุบๆแต่ยังยืนจ้องสู้อีกฝ่าย
“อะไร ทำหน้าอย่างกับ..หึ” พี่คิวหัวเราะออกมา
“อะไรเล่า พี่จะให้ทำอะไรก็พูดมาสิ ยึกยักอยู่ได้อ่ะ” ผมว่าเสียงหลง
“ออกไปรดน้ำต้นไม้ ทั้งหมดที่อยู่ในบ้าน” พี่คิวพูดทันที
“ตอนนี้เหรอ”
“งั้นจะตอนไหนล่ะ” พี่คิวย้อน
“ค้าบๆ ตอนนี้ๆ..แล้วทำไรอีกครับ” ผมถาม
“เท่านั้นก็ขอให้ทำให้ดีเถอะ ใช้มาก..เดี๋ยวไอ้เจ้าของร้านนั่นจะบ่นอีก ฉันรำคาญ” พี่คิวบอก ผมเบะปากให้พี่คิวและเดินออกจากห้องครัวมา ผมเดินตรงออกไปที่หน้าบ้าน กะว่าจะรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้านก่อนเป็นอันดับแรก
“อ่าว คุณครับ ทำอะไรครับนั่น” ลุงโก๋ ลุงคนสวนของบ้านพี่ฟ้าทัก
“รดน้ำต้นไม้น่ะครับ” ผมตอบ
“ไม่ต้องหรอกครับ ไม่ต้องๆ..นี่มันหน้าที่ผมครับ” ลุงรีบกุลีกุจอวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเหรอหรา
“ให้ผมทำเถอะครับ เจ้านายลุงเค้าใช้มาน่ะ” ผมยิ้มบอก
“เอ่อ แต่ว่า” ลุงโก๋ชะงักด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมก็ทำที่บ้านอยู่บ่อยๆอยู่แล้ว..แต่สวนบ้านผมเล็กแค่ตรงนี้นะ” ผมพูดติดตลก ชี้บริเวณเล็กๆประกอบให้ลุงแกดูด้วย
“ฮ่าๆ..ครับๆ งั้นถ้าคุณมีอะไรเรียกใช้ผมได้เลยนะครับ” ลุงก้มหัวให้
“ขอบคุณครับ” ผมตอบ ผมยืนรดน้ำต้นไม้อยู่เกือบครึ่งชั่วโมงกว่าจะหมดทั่วบ้านเพราะต้นไม้เยอะมากจริงๆ พี่คิวสั่งให้ผมให้อาหารปลาและเช็ดรถสปอร์ตของตนเองให้เรียบร้อย เห็นว่าพรุ่งนี้พี่คิวจะใช้รถคันนี้นะครับ
“เสร็จแล้วครับคุณท่าน” ผมพูดขึ้น พี่คิวที่กำลังอ่านหนังสืออยู่หันมามอง
“จะกลับยังไง” พี่คิวถาม
“นี่พี่ให้ผมกลับได้แล้วเหรอ” ผมยิ้มทันที
“ใช่”
“กลับรถเมล์แหละ” ผมตอบ
“งั้นเดี๋ยวให้คนรถไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้” ผมบอก เดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟามาสะพายเตรียมพร้อม ขณะเดียวกันพี่คิวก็ลุกขึ้นยืน ผมมองอย่างสงสัย
“ป้า” พี่คิวเรียก
“คะ” ป้านิดรีบวิ่งเข้ามา
“ขอกุญแจรถปอร์เช่หน่อยครับ” พี่คิวสั่ง
“ค่ะ ให้ตามีสตาร์ทรอไว้เลยไหมคะ” ป้าถาม
“ครับ” พี่คิวพยักหน้า ป้านิดเดินกุลีกุจอเดินออกไป
“พี่จะไปส่งผมเหรอ” ผมถามอย่างไม่อยากเข้าข้างตัวเอง พี่คิวเพียงยักคิ้วตอบ
“จะเอาแผ่นหนังรึเปล่า ถ้าจะเอาก็ไปเลือกซะ”
“ไม่ละครับ แต่มายืมวันศุกร์ได้ไหม..ตอนนี้ดูไม่ได้อ่ะ มีเรียน” ผมบอก ถ้ายืมไปตอนนี้คงต้องเอาไปดองไว้นานแน่ๆ
“ตามสบาย” พี่คิวตอบแล้วเดินนำออกจากห้องไป ผมรีบเดินตาม พอเดินมาถึงหน้าบ้าน รถสปอร์ตปอร์เช่ได้ถูกสตาร์ทรอไว้เรียบร้อยแล้ว
“ไปนะครับ” ผมหันไปยกมือไหว้ให้ลุงโก๋ ลุงมีและป้านิด
“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ป้านิดบอก ทุกคนรีบยกมือรับไหว้ผมกันใหญ่
“นายจะลาไปตายรึไง” พี่คิวว่าและเดินหนีไปเปิดรถฝั่งด้านคนขับ
“ชิ..ไอ้ บ้า” ผมเบะปากใส่ รีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะขับหนีไปซะก่อน
“ที่จริงพี่ไม่ต้องมาส่งผมก็ได้นะ บอกว่ากลับเองได้ก็กลับได้สิ”
“ก็ไม่ได้อยากไปส่งเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวไอ้อาบ้านั่นกลับมาแล้วจะบ่นอีก” พี่คิวตอบ สีหน้าระหว่างที่พี่เขาพูดช่างกวนเบื้องต่ำเอามากๆเลยล่ะ
“ก็พี่ฟ้าเค้าใจดีหนิ” ผมลอยหน้าลอยตาพูด พี่คิวเงียบ
“.............” ผ่านไปห้านาทีก็ยังเงียบอีก
“น้ำลายบูดเหรอครับ” ผมกวนบ้าง พี่คิวเอื้อมมือมาตีหัวผมเบาๆไม่ทันให้ผมได้หลบ
“ง่ะ..ก็ผมเห็นพี่เอาแต่เงียบ”
“มันเรื่องของฉัน นายยุ่งอะไร” พี่คิวว่าแต่ครั้งนี้สีหน้ากลับเรียบเพราะคิ้วไม่ได้ขมวดชนกันอย่างเคย
“ก็ถ้าไม่ใช่เจ้านายก็ไม่ยุ่งหรอกนะ” ผมตอบ
“ชอบยุ่งกับเจ้านายทุกคนว่างั้นซิ” พี่คิวแสยะยิ้ม
“บ้า” ผมว่าแค่นั้นเพราะรูปประโยคนั่นฟังดูแปลกๆ
“แล้วพรุ่งนี้ ไปกินเลี้ยงที่ไหนกัน”
“หมายถึง วันเกิดแม่ผมเหรอ” ผมถาม พี่คิวพยักหน้า
“ก็ไม่ที่ไหน ผมฝากให้น้องสาวทำกับข้าวรอแม่ไว้ก่อนนะครับ แล้วผมก็ไปเซอร์ไฟร์สเค้ก” ผมอมยิ้ม
“แค่นี้..” พี่คิวทำเสียงสูงเหมือนไม่เชื่อ
“ก็แค่นี้ จะให้มีอะไรอีก” ผมพูดอย่างงงๆ
“หึ ง่ายดีนะ” พี่คิวหัวเราะ
“แค่นี้ก็พอแล้วล่ะครับ ขืนทำอะไรมากกว่านี่โดนแม่ด่าหูชาพอดี” ผมบอก ผมชะงัก นั่งมองพี่คิวอย่างเหลือเชื่อกับสิ่งที่เห็น เพราะพี่คิวกำลังนั่งอมยิ้ม อมยิ้มแบบที่ไม่มีความเจ้าเล่ห์และความกวนอย่างที่เคย เมื่อพี่เขาเห็นว่าผมเงียบไปและคงสังเกตได้ว่าผมมองอยู่ พี่คิวจึงเริ่มเหลือบหางตามามองผมบ้าง
“อะไร” พี่เขาถามเสียงห้วน
“พี่ยิ้มอ่ะ” ผมพูด
“แล้วไงไม่ทราบ”
“แปลก โลกแตกแน่ๆ” ผมหัวเราะ เราทั้งสองเงียบกันไปอีกครั้ง
“นี่พี่” ผมทัก
“ไร” ห้วนเช่นเดิม
“ตอนนี้พี่หายอคติกับผมยัง” ผมถามขึ้นโต้งๆ พี่คิวเงียบไปสักพัก ผมนั่งรออย่างลุ้นๆ
“ฉันไปอคติกับนายตอนไหนไม่ทราบ” พี่เขาเอ่ย
“อ๊ะ ก็ทุกตอนแหละ ตั้งแต่แรก” ผมขึ้นเสียง
“เหรอ” นั่นไงกลับมาเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์อีกละ
“บ้าอ่ะ” ผมบ่น
“นายแคร์ด้วยรึไง กับไอ้แค่ฉันอคติกับนายน่ะ”
“แคร์...สิ” ผมตอบเสียงเบา อยู่ๆกลับรู้สึกเขินขึ้นมาแปลกๆ แล้วพี่คิวก็เงียบไปอีกครั้ง
“มันก็แค่ ก็แค่..” ผมพึมพำตะกุกตะกัก
“ก็แค่อะไร” พี่คิวถามน้ำเสียงเรียบนิ่งมากกว่าเดิม
“เปล้า” ผมปัด
“หึ..ก็ดี้” พี่คิวตอบเสียงสูงล้อเลียนผมอีก
“อ่ะ กวน” ผมว่า
“เรื่องของฉัน” พี่คิวยักไหล่ด้วยท่าทางไม่แคร์กับอาการไม่พอใจของผม ผมหันหน้าหนี ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเพราะเถียงไม่เคยชนะเลย..เซ็ง
“ก็แค่รำคาญในความซุ่มซ่ามของนาย และไอ้อานั่นขาดมาตรฐานในการคัดพนักงาน..ก็เท่านั้น” พี่คิวพูดบอก
“หมายถึง ผมงั้นเหรอ..พี่ว่าผมขาดมาตรฐานงั้นเหรอ” ผมชี้ที่ตัวเองอย่างไม่เชื่อหู
“ก็ทำนองนั้น” พี่คิวเบะปาก
“พี่เอาอะไรมาวัดไม่ทราบ” ผมขึ้นเสียง
“ประสบการณ์ และมันก็จริงส่วนหนึ่ง..ถึงแม้จะมีดีบ้างก็เถอะนะ ไม่แย่ถึงขนาดต้องไล่ออก..งั้นหรือไม่จริง” พี่คิวพูดส่งๆพร้อมกับหันมาจ้องหน้าผมตอบด้วย
“ชิ ตัวเองดีตายแหละ” ผมว่าให้
“ก็มีดีหลายๆอย่าง” พี่คิวหัวเราะตอบเล็กน้อย
“ก็แค่เชฟ” ผมบ่น
“ขอบอกให้ทราบ ฉันมีอำนาจไล่พวกนายออก..มากกว่าไอ้คนหื่นกามอย่างเจ้านายของนายน่ะนะ ถ้าฉันเอ่ยแค่คำเดียวว่าคนอย่างนายต้องออกตั้งแต่แรก นายไม่ได้มานั่งต่อปากต่อคำอยู่อย่างหรอก..ฮึ สำนึกไว้ซะบ้าง” พี่คิวพูดไปยิ้มไป
“ถึงพี่จะไล่ผมออก ผมก็จะมาทำงาน..ทำไม ผมไม่สนหรอก คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหนกัน”
“บ้าอำนาจ” ผมบ่นไม่หยุด
“ก็มีอำนาจให้บ้า” พี่เขายังมีประโยคกลับมายอกย้อนผมอีกนะครับ เซ็งกับไอ้เชฟบ้านี่จริงครับ
หลังจากที่ผมเปิดประเด็นเรื่องเก่าๆ เวลาผ่านไปไม่นานเรากลับได้คุยถึงเรื่องที่ถูกคอ ทั้งเรื่องภาพยนตร์ วรรณกรรม การ์ตูนและเด็กๆ รู้ตัวอีกทีก็ถึงบ้านของผมแล้วล่ะ ทั้งทั้งที่เรื่องที่เรากำลังพูดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่นี้ยังไม่จบดีเท่าไหร่เพราะเรายังคงเถียงกันกับประเด็นใหม่ที่กำลังเกิดขึ้น และผมรู้สึกเสียดายที่ดันมาถึงบ้านซะก่อน ยังรู้สึกอยากคุยต่ออีก..
= = = = = = = =
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เค้กต้องขอโทษจริงๆนะครับ ขอโทษครับ” ผมก้มหัวบอกพี่ฟ้า
“ไม่เป็นไรหรอก ก็วันเกิดคนสำคัญนี่นะ..กลับไปก่อนเถอะ ลูกค้าก็ไม่เยอะอะไรแล้ว” พี่ฟ้ายิ้ม กอดไหล่ผมลูบไว้เบาๆ
“ขอบคุณนะครับ งั้นเค้กขอตัวกลับก่อนนะครับ” ผมยิ้มแหย
“นี่..” พี่ฟ้าทำเสียงเข้ม พี่เซ็นหันกลับมามองหน้าพี่ฟ้า
“ส่งเค้กให้ถึงบ้าน ปลอดภัย และ..ห้าม!” พี่ฟ้ากระแทกเสียงพร้อมกับชี้หน้าพี่เซ็น
“ห้ามทำอะไรเค้กเด็ดขาด” พี่ฟ้าจ้องพี่เซ็นเขม็ง
“คร้าบ..แหมะ” พี่เซ็นทำเสียง ยักคิ้วหลิ่วตามาให้ผมอย่างกับลิงหลอกเจ้า
“งั้นเค้กลานะครับ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ฟ้า
“ฝากแฮปปี้เบิร์ดเดย์คุณแม่ด้วยนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นทุกที
“ครับ” ผมตอบ เดินออกมาจากห้องพักพนักงานพร้อมกับพี่เซ็น ที่จริงวันนี้ไม่ใช่เวรของพี่เซ็นหรอกนะครับ วันนี้เป็นเวรของพี่คิวจนค่ำ แต่วันนี้พี่เซ็นต้องมารับเงินเดือนจากพี่ฟ้าพอดี ทำให้พี่เซ็นมาเจอกับผมที่กำลังจะกลับบ้าน พี่เซ็นจึงขอรับอาสาจะไปส่งผมที่บ้านให้แทน
“เค้กดูสนิทกับไอ้คิวดีนี่ครับ” พี่เซ็นพูดขึ้น ที่จริงระหว่างทางเราคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้มาก่อนแต่อยู่ๆพี่เซ็นกลับมาพูดเรื่องของพี่คิวแทน ผมไม่ตอบแต่หันไปมองหน้าพี่เซ็นอย่างไม่เข้าใจ
“สนิทกว่าที่คิดไว้ซะอีก” พี่เซ็นเบะปากยิ้มเจ้าเล่ห์
“แล้ว..ยังไงอ่ะครับ” ผมถามแกมหัวเราะ
“ก็..” พี่เซ็นขึ้นเสียงสูง
“ยังไงดีล่ะ”
“ผม เอ่อ..ไม่เข้าใจ” ผมบอก
“หึ ก็เปล่า..ก็ดีแล้วครับที่เค้กไม่เข้าใจ พี่เองก็ไม่เข้าใจว่า ไอ้คิวมัน..เข้ากับเค้กได้ง่ายเกินไปไหม”
“แปลก” พี่เซ็นพยักหน้ากับคำพูดของตัว คิ้วขมวดเหมือนแปลกใจจริงๆ ผมยิ่งไม่เข้าใจกับคำพูดของพี่เซ็นมากกว่าเดิม
“มีเรื่องอะไรดีๆเกินขึ้นงั้นเหรอครับ” พี่เซ็นหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง
“ก็คงงั้น มั้งครับ” ผมตอบกวนให้พี่เซ็นคิดเอาเอง เพราะผมก็ไม่เข้าใจในความคิดของพี่เซ็น ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ผมจะทำให้พี่เซ็นไม่เข้าใจในความคิดของผมบ้าง
“หึ โอเค..ท้าทายดี พี่ชอบ” พี่เซ็นยิ้มพลางหัวเราะ
“แล้วพี่เซ็นล่ะ มีอะไรจะบอกเค้กไหม”
“ครับ อะไร” พี่เซ็นมองหน้าผม
“ก็..งั้นก็ เปล่า” ผมยักไหล่แกล้ง
“เค้กไม่เข้าใจพี่ พี่ก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้าใจเค้กด้วยเหมือนกัน..ยุติธรรมดี” ผมยิ้มกว้างแล้วยักคิ้วใส่พี่เซ็น
“หึ..ทะเล้นนะเรา” พี่เซ็นหัวเราะ นำมือมาลูบหัวผมเบาๆ
เราพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมาตลอดทาง พี่เซ็นเป็นคนที่คุยเก่งมากๆ พูดไม่หยุดเลยละครับ ผมได้แต่หัวเราะเพราะพี่เซ็นปล่อยมุขใส่ผมตลอด เมื่อถึงบ้าน พี่เซ็นทิ้งท้ายคำพูดบางอย่างที่ทำให้ผมไม่เข้าใจอีกครั้ง แต่ผมชักจะชินซะแล้วละมั้งครับ คนในร้านนี้มีอะไรที่ทำให้ผมสงสัยแต่ไม่ได้คำตอบเยอะแยะออกจะตายไป..
...................>>>><<<<.................
-
เม้นท์ก่อนอ่าน แอบกดรีเฟรช เพราะงงว่าเห็นแว๊ปๆ ใช่อัพใหม่หรือป่าว :impress2:
___________________________________________
อ่านแล้วกรี๊ดดดดด >,,< เค้กอ่ะ อยากอยู่คุยกะพี่คิวๆนานๆใช่ป่ะล่ะ เรารู้นะ o18
พี่คิวนี่เอะอะอ้างพี่ฟ้าตลอดเลยน้าา บอกไปสิ " พี่เป็นห่วง ไปส่งเองดีกว่า" คิคิ
เจ้อเพ้อมากอ่ะเรา วันนี้ได้จิ้มคุณเบบี้ด้วย :กอด1:
-
ตอนนี้หวานนน อิอิ
อยู่ด้วยกันบ่อยๆก็หวั่นไหวบ่อยๆ
จะได้เป็นแฟนกันเร็วๆ ><
-
เริ่มแล้ว ๆ เริ่มรู้สึกแปลกๆกันแล้ว ฮิ้ววว ว
-
ถ้าพี่คิวเริ่มคิดอะไรกับเค้กแล้ว ก็แบบว่าเอาพี่ฟ้ามาอ้างบ่อยมากนะ :laugh:
-
:impress2: กิ้วๆจับมือกันแล้ววววววว :impress2:
สู้ๆนะคะน้องเค้กที่น่ารัก. :L2:
-
:-[ หวานกันเบาๆ รึเปล่า
-
เริ่มสนิดกันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสินะ
-
เค้าพูดจากำกวมกันทั้งร้าน :sad4:
-
เม้นท์ ให้ผู้ใหญ่ (เปรต) แบบพี่คิว
แกรใช้น้องเค้กรดน้ำต้นไม้ ขัดรถด้วยเรอะ
ใช้แรงงานเด็กน้อยน่ารักซะงั้น
พัฒนาไปเรื่อย ๆ คุยกันดีบ้าง เถียงกันบ้าง น่าสนุก
HBD คุณแม่น้องเค้กด้วยจ้า :L1:
-
อ๊าาาาาาาาา !!!! ตอนนี้หวานมากอ่า :impress2:
จับมงจับมือ โอบเล็กๆด้วยอ่า กรี๊ดมากค่ะ ถึงจะเป็นเพราะสอนเค้กทำเค้กก็เถอะ >//<
ตอนพาไปส่งบ้านก็แอบเขินแทนเค้กอ่า เวลาคุยกัน ทำอะไรด้วยกัน เริ่มรู้สึกเเล้วใช่มั้ยล่ะเค้กจ๋า อิอิ
พี่เซ็นก็พูดจาชวนงง - -
-
เวลาแห่งความสุขมักผ่นไปอย่างรวดเร็ว :o8:
แต่ไม่เป็นไร ใกล้ชิดกันวันละนิด จิตแจ่มใส คนอ่านก็ลุ้นทุกตอนว่าเมื่อไหร่จะเริ่มสปาร์กกันน้อ :-[
ฝาก HBD ให้คุณแม่ด้วยนะคะน้องเค้ก ขอบคุณที่คลอดคนน่ารักๆอย่างน้องเค้กออกมานะค้า
หรือว่าจริงๆต้องขอบคุณคุณแม่เบบี้กันล่ะนี่ :laugh:
-
เหอ เหอ เริ่มมีซัมติงต่อกันนิดหน่อยแล้ว
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: พี่คิวใจดีอะ ทำเปนดุเค้กตลอดจิงๆเค้กน่ารักอะดิ
-
น่ารักอ้าาาาา >///<
เค้าขอกอดมั่งได้มะ :กอด1:
-
5555 ขำ ปล ท้ายเรื่องอะ เด็กบางคนก็นะ กวนตีนเกิ๊นนน
ตอนนี้คุยกันดีๆ น่ารักดี อิๆ
-
เรื่องอื่นเค้าโจ๊ะพรึมๆกันถึงไหน เรื่องนี้แค่กอดกันแต่งเค้ก ยังแทบจะกรี๊ดตายด้วยความฟิน ฮ่าๆๆๆ :จุ๊บๆ:
ถ้าไม่นับเรื่องเพศ ที่อาจทำให้มองข้ามโอกาสที่จะเป็นแฟนกัน (ในตอนแรก)
สองคนนี้ก็เข้ากันได้ทุกอย่างอ่ะเนาะ กระทั่งอารมณ์บ้าบอของพี่คิว ก็เหมือนจะมีเค้กคนเดียวที่อยู่ด้วยได้สบาย
อยู่ด้วยแล้วมันสบายใจแบบนี้ ซักวันคงรู้ใจตัวเองอ่ะ (อิพี่เซ็นมันท่าจะรู้ก่อนเจ้าตัวเค้าไปละ) :give2:
-
อยากเห็นตอนมาดพี่คิวหลุดบ้างอ่ะ
ที่ยื่งกว่าดมยาดม ๕๕๕๕๕
พี่คิวพูดมากขึ้นแล้วววววว :laugh:
-
ตอนนี้เริ่มใกล้ชิดกันแล้ววววว
พี่คิวจะมาอวยพรวันเกิดแม่หนูเค้กด้วยไหมน๊าาา :-[
-
จะน่ารักไปถึงใหนนี่ครับเจ้ 5555
เสียดายจังวันนี้วันเด็ก แต่เลยวัยเด็กมาแว้ว
-
น่ารักงุงิ มีจับมงจับมือ
ใกล้ชิดอีกนิด
-
เซ็นต์พูดอะไรทิ้งท้ายเอ่ย
อยากรู้นะเนี่ย :o8:
-
พี่คิวกวนนนนนนนน
-
วันเด็กทั้งที ต้องไปส่องเด็กค่ะ -..-
-
น่ารักอ่าาาาาา
-
:-[ พี่คิวจับมือเค้กด้วย กรี๊ดดดดด
ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้วนะค๊า....
-
ยิ่งวัน ตาคิวยิ่งมึน
-
กวนได้ทุกตอนคู่นี้ สีสรรของชีวิต
-
:กอด1:วันเวลามันเป็นตัวเฉลยออกมาเองแหละน้องเค้ก
-
เค้กน่ารักมาก
-
อร๊ายยยยย พี่คิวทำให้เค้ามีความหวังอีกแล้วเนี่ย ดูดิทำงี้ได้ไง เค้าเขินแทนน้องเค้กเลยอ่ะ.... อยากให้พี่คิวสอนทำเค้กมั่ง เหอๆๆๆๆ
-
อิอิ วันละนิืดวันละหน่อยน่า เล็กน้อยแต่อยู่นาน คริคริ ช่วยกันนั่งดูลุ้นความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆ(*-*)
-
จับมือกันทำเค้กแล้วอ่ะ :-[ เค้กกับพี่คิวไม่คิดแต่เราคิดนะ :z1:
:pig4: คะ
-
พี่คิวกับเค้กก็ยังน่ารักเหมือนเดิม อิอิ
-
นี่ถ้าเค้กไปยอกย้อนพี่คิวก่อนที่สนิทกัน มีหวังโดนเตะโด่งออกจากรถแน่นอน แถมไล่ออกแหงๆ
ตอนทำเค้กบรรยากาศมันหวานๆ กว่าที่คิดไว้อีกนะ :o8:
-
เค้กน่ารักมากกกกกก พี่คิวเงียบทำไม หึหึ
-
พี่คิวเค้าเริ่มพัฒนาแล้วนะเนี่ยย
-
คุยกันติดลมแบบนี้ ขับรถไปพืชสวนโลกเลยเหอะพี่คิว
จะได้คุยกันจนเช้า :laugh:
-
แปลกกันทุกคนอ่ะ ฮ่าๆๆ
พี่คิวนี่แปลกสุด o18
-
พี่คิวกับเค้กนิ มีแอบอมยิ้้มกันตลอดเวลาเลยเนอะ
น่ารักอ้ะ
-
อ๊ากก อ่านตอนนี้แอบเขิน เป็นห่วงน้องล่ะสิคิว น่ารักๆ
-
พี่เซ็นทิ้งท้ายคำพูดอะไรน๊า เกี่ยวกับพี่คิวหรือเปล่า .... สงสัยๆๆๆๆ :really2:
-
พี่เซ็นเริ่มสงสัยแล้ว...แปลว่าพี่คิวออกอาการเยอะแล้วจริง ๆ แฮะ
-
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวันเลยน่ะ :-[
:L2: :L2:
-
P'Q kab n'cake narak dii welaa yuu duai kan a,,hu hu hu...
P'zen yaa bork waa aw jing naa~ei ei ei...
-
o13มาต่อน้อยจังครับ กำลังสนุกเลย :z3: :z3:
-
อ๊าร๊ายยย จะทำเค้กใกล้ชิดกันขนาดนี้
-
แหมพี่คิวอยากไปส่งน้องเค้กก้อบอกเห๊อะ
ทำเป็นอ้างอาฟ้า กิ้วๆ
-
พี่เซ็นพูดกำกวมนะ.....ชวนสงสัยมากกกก
-
เย้ ได้อ่านฉลองวันเด็ก อิอิ
สนิทกันมากขึ้นอีกเรื่อยๆน๊า :กอด1:
-
มีความหวานแบบไม่ได้ตั้งใจมาให้ได้กรี๊ดนิดๆ
หนทางดูจะอีกยาวไกล แต่ชั้นก็จะรอ ฮ่าๆๆ
พี่คิวดูกวนขึ้นรึเปล่า น่าถีบอ่ะ ฮ่าๆๆ
-
อีกไม่นาน คงรักกัน
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:impress2: :impress2: :impress2:
-
คิว น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
กรี๊ดดดดดด...ตอนนี้แอบหวานกันเบาๆ :-[
มีจับมือกันด้วย ถึงจะแค่ทำจับมือกันเพื่อแต่งหน้าเค้กก็เหอะ
พี่คิว น้องเค้กน่าร้ากกกกกกกกกกกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:pig4:
-
ตอนนี้คิวน่ารักอะ
-
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มตลอดเลยค่ะ
มันเหมือนจะกุ๊กกิ๊กๆยังไงบอกไม่ถูก :impress2:
น่ารักดี
-
เออ พี่คิวชอบเถียงกับเค้กจริงๆนะ
พี่คิวอาจจะไม่รู้ตัว รู้แต่ว่าสนุกสินะ
ก็ไม่มีใครมาต่อล้อต่อเถียงเหมือนเค้กสักคน
พี่คิวก็เลยได้พูดเยอะกว่าที่ผ่านมา
แถมได้แกล้งเด็กอีกต่างหาก :laugh:
ชอบบรรยากาศตอนทำเค้กจังเลย
ได้กลิ่นหอมหวานของเค้กเลยนะ :o8:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
บวกเป็ดจ้ะ
-
:a5: วันเด็ก(เปรต)
-
เริ่มคุยกันมากขึ้นนะคะ ดีจัง ^^
พี่คิวก็แอบน่ารักนะคะ :o8:
ตอนเค้กพูดว่า “ก็มันหอมอ่ะ” คิดถึงหน้าโน้ตอุดมในเดี่ยว9ตอนกินยางลบเลยค่ะ :laugh:
-
ว้าววววทำเค้กด้วยกันด้วย เดี๋ยวพี่คิวต้องไปงานวันเกิดแม่เค้กแน่ๆเลย เริ่มหวานทีละน้อยแล้ว รู้สึกได้ว่าพี่คิวเริ่มใส่ใจเค้กมากขึ้นเรื่อยๆ :กอด1:
-
มีจับมือด้วยอร๊ายยยยยย
โอยยจ้นเองเออเองกร๊ากกกก
ว่าแล้วถ้าตูไปกินเค้กอีกนี้อ้วนบรรลัยเลยนะOO
ไม่เป็นไร คงไม่อ้วนมากหรอก
เค้กจ้าาาพี่มาแล้ววว
=======
ไม่ได้เป็นเด็กเปรตซักหน่อย เป็นเด็กพี่เมตร พี่ข้าว พี่ตาร์ต่างหาก กร๊ากกก :haun4:
-
หุหุ สนิทกันมากจนพี่เซ็นสังเกตุเห็นแล้วนา
-
คำพูดนั้นมันคิดอะไร พี่เซ็นบอกอะไรน้องเค้ก....
-
สุขสันต์วันเด็ก(เปรต)จ้า อิอิ
อยากตกอยู่ในอ้อมกอดพี่คิวปิดบ้าง กรี๊สสส
-
รักกันๆๆ o18
-
เค้กหวั่นไหวกับพี่ึิคิวมาแต่แรกแล้ว~
พี่คิวก็เหมือนจะมีใจให้เค้กนิดๆ ใช่มะ >///<
-
อ่านแล้วเขินอ่าา :-[ ตอนที่ช่วยกันทำเค้กนมสด
พี่คิวเข้ากับเค้กได้ง่ายไปเหรอพี่เซ็น ฮ่าๆๆ อยากรู้พี่เซ็นคิดยังไงกับเรื่องเค้กดูสนิทกับพี่คิว อิอิ
เค้กเป็นคนที่มีเสน่ห์ดีอ่ะ ชอบๆ กวนๆดี
-
:o8:อยากจะกรี๊ดให้กับตอนนี้ดังๆเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไปตอนพี่คิวกับน้องเค้กทำเค้กให้คุณแม่ อ้ายๆ ๆ
อะไรจะน่ารักกันขนาดนี้ น้องเค้กยังแอบเขินเลยอ่ะ >////< แบบนี้มีลุ้นละๆ ๆ
สองคนนี้เวลาอยู่ด้วยกันน่ารักได้อีกอ่ะ กวนกันไปกวนกันมา อ้ายยยยยย อยากเห็นพี่คิวอมยิ้มจริงๆ
-
สนิทกันมากขึ้นอีกนิดแล้ว ดีจังเลย^^
-
ชอบตอนที่ทำเค้กด้วยกัน..น่ารัก
ชอบคิวตอนนี้ด้วยอ่ะ ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่มันก็มี มันบอกไม่ถูก..แต่ชอบว่ะ
-
อิตอนแต่งหน้าเค้กเรายังเขินแทนเค้กเลย ว่าไปคิวไม่ใจเต้นบ้างหรอ
ดูสนิทกันมากขึ้นคุยกันถุกคอเนอะ
พี่เซ็นนี่ตัวสังเกตเลยเถอะ เหอะๆ
-
เรื่องเค้กกับพี่คิว ก็ดูจะแอบมีลับลมคมใน อิอิ
แต่ช่วยกันทำเค้กนี่น่ารักมากๆอ่ะ
-
ก็สนิทกันดีจริงๆนั่นแหล่ะทั้งพี่คิวและเค้ก
สนิทแบบอาจจะไม่รู้ตัวแต่คนภายนอกเค้าก็สังเกตกันหมดล่ะ.
ว่าแต่พี่คิวก็ยังนิ่งเหมือนเดิม ก็ยังไม่ลงเอยกันเลยนะบี้ !
-
ตอนทำเค้กนี่มันอิอร๊างดีเนาะ ตอนแรกมือจับมือกรี๊ดล่ะนะ แหม โอบกันด้วยยยยยยยยยยยยย :impress3:
-
อร๊ายยย เค้ก หวั่นไหวแล้วอ่ะดี๊ :laugh:
-
ตอนแรกว่าตกใจแล้ว จะ.. จับมือ...!!!!!!
แต่อีกสักพัก กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แบ๊กฮักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
จะเป็นไรมั้ย ถ้าจะเดาว่า.. เค้กต้องรักพี่คิวก่อนชัวร์ๆ ฮ่าาาา
(หรือจริงๆมันเป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้? ==")
พี่เซ็นก็น่ารักดีเนอะ กร๊าก แล้วคำพูดอะไรทิ้งท้ายหว่า?????
เป็นของขวัญวันเด็กที่เยี่ยมมากจ๊ะเบบี้จ๋าาา เลิฟยูววววววววว์
-
:z13: จิ้มๆ
คิดถึงเบบี้ :impress3: :impress3:
-
ชอบตอนทำเค้กจัง
:impress2:
-
อีกไม่นานจะรักกันแล้วล่ะสิ อะคึอะคึ > <
-
สวัสดีค่ะ
สมาชิกใหม่นะคะ
มาติดตามผลงานเขียนของน้องเบบี้โดยเฉพาะเลยค่า :mc4:
ชอบน้องเค้ก กะคิวมากก น่ารัก ผูกพันกันขึ้นทุกวัน
-
พี่คิวเนียนแบบไมูู่้รู้ใจตัวเอง ((จริง?))
มีึที่ไหนเค้าจะสอนกันแบบถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ครับเจ้านาย ...คึคึ
ทั้งโอบ ทั้งจับมือสอน เขินแทนน้องเค้กอ่ะ
ขอบคุณไอ้น้องบี้เด็กดี ((ที่หื่นนนมว๊ากก))
:กอด1:
-
อยากจะดิ้นตายตอนแต่งหน้าเค้ก พี่คิวแอ็บเนียนกอดน้องเค้กอ่าาาาาาาาา ><
-
น่ารักไปมั๊ยยยยย :o8:
-
น่ารักเว้ยเห้ยยยย
อ่านไปยิ้มไป
มีโอบกันแล้วด้วย ว้าววววววว
เรื่องที่ไม่เข้าใจ ก็ยังไม่เข้าใจ ฮา
-
เหยยยยย
เริ่มมีพัฒนาการ แบบว่า ,, มีโอบเบาๆอ้ะ
><
เขินแทนน้องเค้กอ้ะ หุหุ
อดใจรอต่อไป!!!
-
หนุกอ่ะๆ อยากอ่านต่อ ยิ่งอ่านยิ่งมันส์ๆ
-
ก็มีอำนาจให้บ้า o22
แรงกลับตลอดๆจริงๆพี่คิวเนี้ย
ดูตอนนี้ สนิทกันมากขึ้นนะเนี่ยยยยย :-[
-
อิพี่เซ็นพูดอะไรกับน้องเค้กอ่ะ......?
ว๊าว....ว๊าว....ว๊าว....คิว-เค้ก พัฒนาถึงขั้น
โอบแล๊ว!!!!! อิอิ
ลุ้นๆ
-
ยิ่งเถียงกันบ่อย ก็สนิทกันมากขึ้น
พี่คิวก็ยังใจดีกับเค้กเหมือนเดิม
แหมขับปอร์เช่มาส่งถึงบ้านด้วย :m12:
-
สนิทๆไปที่ละขั้น :impress2:
-
:กอด1: :L2:
-
คิวเค้ก ><~ น่ารักอ่าาาาา :o8: :o8:
-
คู่นี้น่ารักกันอีกแล้ว :-[ แต่ๆ...
มันไม่ไหวจะเคลียร์ตรงฉลองวันเด็ก(เปรต) นี่แหละเจ๊ เมื่อวานวันเกิดผมนะ !!
-
อ่านไปยิ้มไป
คิวเค้กน่ารักอ่ะ >w<
เขินนนนนน >///< จับมือกันด้วยย อิอิ
-
สนิทกันจนคนรอบข้างสังเกตเห็นแล้วสิ คิคิคิ แล้วเค้กกับพี่คิวรู้ตัวรึยังน๊า
-
น้องเค้กกล้าต่อคำกับพี่คิวมากขี้นนะเนี่ย
-
ทั้งสอง ค. เริ่มเข้าวงการแล้วดิ ยินดีนต้อนรับจ้า
-
:-[ :-[ :-[ ใกล้เข้าไปอีกนิด ชิดเข้าไปอีกหน่อย สวรรค์น้อยๆ อยู่ใน...........ของเราาา 55+
-
มารายงานตัวรออ่าน อิอิ
-
:sad4:อ๊ากกกกกก พี่เซ็นพูดว่าอะไร
เค้กเริ่มใจเต้นแล้ว อร๊ายยยยยยยยยย
-
สนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น
เปิดใจให้กันมากขึ้น
ดีจัง
:L2:
-
มารายงานตัว!!!
-
คู่นี้ค่อยเป้นค่อยไปมากกกกกก
ตอนหน้าอยากเจอทิกเกอร์อะ
-
ทั้งๆที่ตอนแรกๆเหมือนจะไม่ค่อยถูกชะตากัน แต่ไปๆมาๆ เค้กกับพี่คิวกลับมีอะไรหลายๆอย่างที่ชอบเหมือนกัน เป็นคู่ต่างที่ลงตัวมาก
-
อยากให้พี่คิวแสดงอาการน่ารักๆกับเค้กมากกว่านี้อีก :impress2:
ไม่ก็เค้กต้องเริ่มทำให้พี่คิวหวั่นไหวมากๆ ขึ้นไปอีก :z1:
คู่นี้จะหวานกันได้เมื่อไรน้า พี่คิวก็ไม่ค่อยพูดอีก :เฮ้อ:
หรือจะมีอะไรซับซ้อนกว่านี้อีก :a5:
(เป็นอะไรกับ อีก นะเรา :laugh:)
-
เค้ก คิว น่ารักไปแล้วนะ พี่คิวชักยังไงๆ เนี่ย หุหุ เหมือนพี่เซ็นจะรู้สึกได้ว่าพี่คิวสนิทกับเค้กง่ายไปมั้ย สงสัยพี่เซ็นจะต้องรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง ฮ่าาา อยากอ่านเกี่ยวกับอาฟ้าแล้วก็ทิกเกอร์อ่ะพี่เบบี้ ^^
-
รู้สึกว่าเม้นเรื่องนี้กระเดื้องขึ้นช้ามากผ่านมาสองวันเพิ่มขึ้นไม่ถึงสิบเม้น จะพยายามดันไม่ให้ตกขอบนะค่ะ
-
เค้กเริ่มอยากจะอยู่กับพี่คิวนานๆ แล้ว คึคึ :z1:
-
น่ารักมากมาย เป็นกำลังใจให้นะครับ :pig4:
-
พี่คิวมันกวนจริงๆนะเนี่ย ยิ้มมีเลสนัยตลอด
เค้กเขินพี่คิวแล้ว คนอ่านเลยเขินตามด้วย อิอิ :-[
พี่เซ็นพูดอะไรหว่า
ตกลงกัสคู่ใครอ่า ไม่อยากให้คู่พี่เซ็นเลย
ชอบพี่หมี :กอด1:
-
เข้ามารอตอนต่อไป :m1:
-
:pig4:
-
~27~
ณ บ้านเค้ก..
“กลับมาแล้วค้าบ” ผมตะโกนบอกคนในบ้าน
“พี่เค้ก มาเร็ว..จัดโต๊ะเสร็จพอดี” ตาวรีบวิ่งออกมาต้อนรับ วันนี้น้องสาวของผมยิ้มแย้มแจ่มใสมากกว่าปกติ นั่นคงเพราะนานๆทีเราจะจัดวันพิเศษกันนั่นละครับ
“แม่ล่ะ” ผมถาม ตอนเข้ามาในบ้านเห็นรถแม่จอดอยู่ในบ้านแล้ว
“แม่ขึ้นไปอาบน้ำ ไหน..เค้กล่ะพี่” ตาวกวาดตามองหา
“นี่” ผมยื่นถุงเค้กให้ตาว
“น่ารักจัง..งั้นตาวเอาไปแช่ตู้ให้นะ” ตาวยิ้มกว้างจนตาของตาวหยี
“อื้ม พี่เอาของขึ้นไปเก็บบนห้องก่อน” ผมบอกและเดินตรงขึ้นชั้นบน ผมจัดการเก็บของของตนเองให้เรียบร้อย อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบลงมาที่ด้านล่างอีกครั้ง
“แม่..แฮปปี้เบิร์ดเดย์” ผมแอบเข้าไปกอดแม่พร้อมกับกล่องของขวัญที่เตรียมไว้ให้ท่าน
“จ้า..ฮ่าๆๆ” แม่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะหัวเราะชอบใจ เธอกอดผมตอบพร้อมกับจับผมเข้าไปหอมแก้ม
“ไม่รู้แม่จะชอบไหม แต่เค้กอยากให้แม่ใช้” ผมบอก ของขวัญที่ผมซื้อให้แม่ในปีนี้เป็นกระเป๋าสตางค์ ผมเห็นแม่ใช้ใบเก่ามานานหลายปีแล้ว จนกระเป๋าขาดไปบ้างแล้ว ผมจึงซื้อใบใหม่มาให้ ใบนี้ที่พิเศษกว่าใบก่อนๆคงเป็นเพราะมาจากน้ำพักน้ำแรงของผมด้วยนะครับ อยากให้ท่านได้ใช้ใบใหม่ๆจากเงินของผมบ้าง
“ขอบใจนะลูกนะ เจริญๆนะลูก..เด็กดีของแม่” แม่กอด ลูบหัวผมไปพลาง ผมยิ้มกว้างและรู้ว่าตัวเองกำลังน้ำตาซึม
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู” ผมกับแม่ชะงัก ตาวถือเค้กออกมาพร้อมกับน้าติ๊ก แม่กับผมยืนอมยิ้ม
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์..ทู ยู~”
“สุขสันต์วันเกิดนะครับแม่ ขอให้แม่มีความสุข..สุขภาพแข็งแรง อยู่กับเค้กไปนานๆ นานนนนเลยนะ” ผมยิ้มกว้างบอก แม่เข้าไปเป่าเทียนจนเทียนทุกเล่มดับลง
“สุขสันต์วันเกิดนะคะป้า” ตาวยิ้ม
“จ้า ขอบใจมากนะ” แม่ลูบหัวตาวเบาๆ
“เค้กทำเองเลยนะ” ผมกระโดดเข้าไปใกล้เค้กนั่นมากขึ้น
“จริง ขี้โม้” แม่ว่าด้วยสีหน้าไม่เชื่อ
“จริงเหอะแม่ เค้กไปขอให้พี่คิว เชฟที่ร้านช่วย..พี่เค้าทำให้ ส่วนเค้กเป็นลูกมือ” ผมยิ้มอย่างภูมิใจ
“ไปรบกวนพี่เค้าทำไมล่ะลูกนี่ก็” แม่เริ่มทำหน้าเข้มใส่ผมอีก
“แม่อ่ะ เค้กอยากทำให้นี่..ไหนๆก็ทำไปแล้ว เค้กไม่ได้ทำให้ฟรีๆหรอก พี่เค้าใช้เค้กต่างๆนาๆแน่ะ” ผมบ่นถึง อ้างๆไปเยอะๆเดี๋ยวแม่ก็เข้าใจผมเองนั่นแหละ
“หึ..” แม่หัวเราะ
“นั่งๆ..กินข้าวกันดีกว่า” น้าติ๊กบอก
“เย้~” ผมกับตาวร้องพร้อมกัน พวกเรานั่งทานข้าวเย็นร่วมกันก่อนเป็นอันดับแรก เค้กปอนด์ที่ผมกับพี่คิวช่วยกันทำวางอยู่ที่มุมโต๊ะ หลังจากที่เราทานข้าวกันเสร็จก็ต่อด้วยของหวาน นั่นก็คือเค้กที่ผมทำนั่นเองครับ..แฮะๆ มันอร่อยมากๆเลยล่ะ ^__^
ณ สมุดโน้ตของเค้ก..
วันจันทร์ 7 พฤศจิกายน 54
เป็นอีกปีที่เราได้ทำอะไรเพื่อแม่ วันนี้เป็นวันเกิดของแม่ล่ะ เค้าทำเค้กนมสดที่แม่ชอบให้แม่ ไอ้พี่เชฟบ้า[พี่คิว]ช่วยทำเค้กปอนด์นี้ มันออกมาดูดีโดยฝีมือการแต่งของเค้าเอง(ยอตัวเอง>,<) ที่จริงพี่คิวก็ใจดีเหมือนกันนะ ถึงจะชอบทำเก๊กตลอด..แต่เรารู้ดีว่าสิ่งที่เราทำทดแทนค่าเค้กเมื่อวาน มันคงทดแทนไม่พอหรอก ส่วนผสมของเค้กแต่ละอย่างออกจะแพงซะขนาดนั้น อืม..แต่ที่จริงก็น่าจะพอละมั้ง ใช้ให้เราเช็ดรถอีกด้วย T^T
ปล. สุขสันต์วันเกิดนะครับคุณแม่ของเค้ก ^^
Bye Bye..Cake
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“อ๊ะ..ค ขออนุญาตวางเมนูนะครับ” ผมชะงักกับคนตรงหน้า พี่เซ็นนั่งยิ้มกว้างให้ผม ผมวางเมนูลงบนโต๊ะ ผมไม่ทราบเลยว่าพี่เซ็นกับทิกเกอร์มานั่งแท่นเป็นลูกค้าอยู่ในร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
“เลิกกี่โมงครับ” พี่เซ็นถามผม
“เอ่อ ดึกครับ” ผมตอบก่อนหันมองซ้ายมองขวา ไม่มีพี่ๆพนักงานคนอื่นๆอยู่แถวนี้เลย ส่วนวันนี้ไม่ใช่เวรงานของพี่เซ็น พี่เซ็นมาทำงานในช่วงเช้าและกลับไปตั้งแต่ช่วงสายๆแล้ว แต่ไม่ทราบว่ากลับมาอีกทำไม
“ว้า..พี่มีธุระ เสียดายจัง ไม่ได้ไปส่งอีกละ” พี่เซ็นพูดด้วยท่าทางกะล่อนเช่นเคย
“พี่เซ็นนัดเพื่อนไว้เหรอครับ” ผมถามเสียงเบา ไม่อยากให้ไปรบกวนลูกค้าโต๊ะอื่นๆ
“เปล่า อยากดูเค้กทำงานน่ะ” พี่เซ็นยิ้มด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงอีก ผมก้มหน้าเงียบด้วยไม่รู้จะทำตัวยังไงเพราะอย่างไรพี่เซ็นก็มาในฐานะลูกค้า
“ไม่ดูหรอกเมนูน่ะ ทำอยู่ทุกวัน..จำได้จนเอียนละ” พี่เซ็นยักคิ้ว ผมยิ้มตอบให้
“สั่งอะไรแกล้งไอ้คิวมันดีน้า” พี่เซ็นทำหน้านึก เบะปาก พยักหัวไปมาอย่างพอใจ ผมยืนเงียบ รู้สึกกลัวกับสถานการณ์ล่วงหน้าขึ้นมาตงิด ผมต้องเป็นคนนำออร์เดอร์ไปให้พี่คิวเองด้วย ถ้าพี่คิวกำลังอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดอยู่ละก็ ผมต้องโดนเหวี่ยงอีกแน่ๆ..
“เอาเป็นฟอร์คช็อพซอสเกรวี่ มันฝรั่งต้ม” พี่เซ็นสั่ง ตาลอยมองไปทางอื่น
“แบล็คฟอเรสต์ เอาเป็นแบบคัพนะ” พี่เซ็นบอบ ใบหน้าอมยิ้มจนผมรู้สึกได้ว่าพี่เขากำลังมีความสุขอย่างนั้น
“ครับ” ผมตอบและรีบจดตาม
“เท่านี้แหละ ส่วนเครื่องดื่มพี่ขอเป็น..เอิ่ม คาปูชิโน ดาร์กรัม ออลล์มิกซ์” พี่เซ็นยักคิ้ว
“แล้วก็..” ผมชะงัก ไม่คิดว่าพี่เซ็นจะสั่งต่ออีก
“เอาเป็นนี่ด้วยดีกว่า โพเมโล ครันช์” พี่เซ็นเหลือบขึ้นมองผมและยิ้มเหมือนมีความสุขก็ไม่ปาน
“ฝากบอกด้วยนะครับว่า ให้เชฟทำทั้งหมด..โพเมโล ครันช์ไม่ให้พนักงานผู้ช่วยทำ แบบว่า..กินแล้วรู้น่ะว่าใครทำ” พี่เซ็นกำชับ ยักไหล่ด้วยท่าทางกวนโอ๊ย
“ยูเอาไร” พี่เซ็นถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“Special Warm Coffee” ทิกเกอร์ตอบ ผมยิ้มและพอจะฟังออกว่าเป็นเมนูอะไรถึงแม้สำเนียงจะฝรั่งจ๋าก็ตาม
“สเปเชี่ยล วอร์ม คอฟฟี่” พี่เซ็นยิ้มทวนให้ผมอีกครั้ง
“เท่านี้เหรอ คุณไม่คิดจะกินอะไรบ้างเลยรึไง..ประท้วงไม่กินอาหารไม่ได้ทำให้คนอย่างอาฟ้าใจอ่อนขึ้นมาหรอกนะ” พี่เซ็นพูดขำๆ ทิกเกอร์หน้าสลดลง
“โอเคๆ หึ..โทษที” พี่เซ็นบอกและหันมาพยักหน้าให้ผมเหมือนบอกว่าคงเท่านี้ล่ะ
“ครับ..ขออนุญาตทวนเมนูนะครับ”
“ฟอร์คช็อพซอสเกรวี่กับมันฝรั่งต้ม แบล็คฟอเรสต์แบบคัพหนึ่งที่ เครื่องดื่มเป็นคาปูชิโน ดาร์กรัม ออล์มิกซ์และโพเมโล ครันช์ กับสเปเชี่ยล วอร์ม คอฟฟี่นะครับ” ผมทวน
“ครับ” พี่เซ็นเท้าคางยิ้มมองหน้าผม
“เมนูที่สั่ง รบกวนรอสักครู่นะครับ” ผมก้มหัวให้และเดินกลับมาที่เคาร์เตอร์
“ออร์เดอร์โต๊ะอีครับ” ผมบอกพี่หมี พี่หมีพยักหน้ารับรู้แต่ตากลับจ้องผมซะนิ่ง
“เชิญเข้าไปเองได้เลยครับ กำลังเหวี่ยงได้ที่เลย” พี่หมีพูดเสียงเรียบเหมือนให้ผมเข้าใจกับสถานการณ์ที่กำลังจะต้องไปเจอ ผมชะงัก พี่หมียิ้มพร้อมกับผายมือให้ผมอีก
“แต่” ผมทำหน้าเซ็ง พี่ซียืนยิ้มเหมือนเป็นกำลังใจให้ ผมจึงเดินเข้าครัวอย่างช่วยไม่ได้
“ออร์เดอร์ครับ..มีฟอร์คช็อพซอสเกรวี่ มันฝรั่งต้ม แบล็คฟอเรสต์แบบคัพหนึ่งที่ เครื่องดื่มคาปูชิโน ดาร์กรัม ออล์มิกซ์และโพเมโลครันช์ กับสเปเชี่ยล วอร์ม คอฟฟี่ครับ” ผมอ่านออร์เดอร์ทั้งหมดให้พี่คิวฟัง พี่คิวจากที่กำลังทำอาหารอยู่ชะงักในทันที
“ลูกค้ากี่คน” พี่คิวถามคิ้วขมวด
“สองครับ” ผมตอบ
“สอง” พี่คิวย้ำด้วยน้ำเสียงสงสัย
“เอ่อ ลูกค้าบอกว่า เครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นโพเมโลก็ต้องให้เชฟทำเองด้วยครับ” ผมตอบ ใจเต้นตึกตักตูมตามไปหมด พี่คิวยืนนิ่งเหลือบตามองผมตาขวาง
“ไอ้เซ็นมาใช่ไหม” น้ำเสียงเย็นยะเยือก ถ้านี่เป็นหนังจีนกำลังภายในห้องนี้คงกำลังสั่นและลมคงกำลังหมุนวนอยู่เป็นแน่
“ค..ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“มันปัญญาอ่อนรึไง เฮ้อ..” พี่คิวส่ายหัว
“เรียกหมีเข้ามาซิ” พี่คิวสั่ง
“ครับ” ผมตอบทันที ผมรีบนำกระดาษไปเสียบที่ประจำและเดินออกจากครัวมาตามพี่หมีเพื่อให้พี่เขาไปเผชิญโลกอันมืดมนในครัวนั่นต่อจากผม
“พี่เซ็นบ้ามาทำไมก็ไม่รู้ มากวนพี่คิว..พี่เค้ายิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ด้วย” พี่ซีบ่นหน้างอ
“หึ..” ผมยิ้ม พี่ซีทำหน้าบูดกว่าเดิม หลังจากนั้นผมทำหน้าที่ของผมต่อ ไม่นานเท่าไหร่อาหารที่พี่เซ็นสั่งก็เสร็จเรียบร้อย พี่หมีเป็นฝ่ายนำไปเสิร์ฟแทนผม
“เออ..ลืม แล้วทิกเกอร์มาทำไม” พี่ซีถามขึ้น ชะเง้อมองไปที่โต๊ะของพี่เซ็นเล็กน้อย
“ไอ้กี้มาทำไมอ่ะ” ผมกับพี่ซีหันไปมองตามเสียง พี่ฟ้ามายืนอยู่ด้านหลังของพวกผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
“แหม เรียกว่ากี้ด้วย..ยังเรียกอยู่อีกเหรอคะอา” พี่ซียิ้มแซว ผมเลยยิ้มกับเขาด้วย
“หนิ..ซี” พี่ฟ้าทำหน้าบูด
“อาบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามันมาให้ไล่กลับไป”
“ไล่กลับได้ยังไงละคะ ลูกค้าโต๊ะอื่นเห็นคงตกใจหมด อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานสิ อาก็เคยเตือนซีไม่ใช่เหรอ” พี่ซียิ้มไม่หุบ
“เออๆ ช่างมัน..อาออกไปข้างนอกละ แล้วเดี๋ยวเย็นนี้จะกลับเข้ามาใหม่ จะมีพนักงานบัญชีคนใหม่มา คนที่อานัดให้มาสัมภาษณ์งานน่ะ ต้อนรับเค้าไว้ก่อนก็แล้วกันถ้าอายังมาไม่ถึง..” พี่ฟ้าสั่ง
“ค่ะ” พี่ซีพยักหน้าตอบ
“แล้วอย่าให้เธอเข้าไปรอในห้องพักนะ เดี๋ยวไอ้คิวมันจะขย้ำคออาเข้า” พี่ฟ้าทำหน้าหวาด พี่ซีและผมหัวเราะเป็นการรับรู้ว่าพี่ฟ้าหมายถึงอะไร
“ไปนะครับเค้ก” พี่ฟ้ายิ้มให้ผม
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“น่ารักจริง ทำตัวให้มันน่ารักแบบนี้บ้างสิ” พี่ฟ้าหันไปว่าพี่ซี
“ไม่สนใจ” พี่ซีแลบลิ้นตอบให้
“อ่ะ..เอ่อ ฟ..ฟ้าครับ” เราทุกคนหันกลับไปมอง จู่ๆทิกเกอร์ก็วิ่งกล้าๆกลัวๆเข้ามาเกาะอยู่ที่เคาร์เตอร์
“อย่ามาใกล้นะ” พี่ฟ้าตวัดหางตามองพร้อมว่าเสียงแข็งทำให้ทิกเกอร์ชะงักในทันที เขาหน้าหงอยลงจนผมรู้สึกสงสาร
“มาทางไหนก็ช่วยกลับไปทางนั้นจะได้ไหม” พี่ฟ้าว่า
“อาก็” พี่เซ็นวิ่งเข้ามา
“ไอ้เซ็น นี่มันร้านอาหาร แล้วแกก็เป็นส่วนหนึ่งของร้านนี้..อย่าเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วถ้าจะมากินอาหาร ก็ช่วยนั่งที่โต๊ะแล้วหุบปากให้เงียบๆ ไม่งั้นลูกค้าท่านอื่นเค้าจะรำคาญเอาได้ เป็นถึงเชฟ..ทำอะไรไม่คิด” พี่ฟ้าว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“อา..” พี่เซ็นเรียกอีกครั้ง พี่ฟ้าไม่ฟังอะไรอีก อยู่ๆพี่เขาก็เดินออกจากเคาร์เตอร์และเดินตรงออกทางหลังร้านไป พวกผมได้แต่ยิ้มแหยอย่างเป็นกำลังใจให้ พี่เซ็นตบไหล่ทิกเกอร์เบาๆ
“ไปดริ้งค์กันที่คอนโดฉันดีกว่าไหม” พี่เซ็นยักคิ้วชวน ไม่ได้ดูสีหน้าของทิกเกอร์เลยว่าเขาเศร้าแค่ไหน
“พี่เซ็น” พี่ซีปราม
“ก็ทิกเกอร์มันเครียดอ่ะ” พี่เซ็นรีบแก้ตัว
“ทิกเกอร์ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ บ้าจริง” พี่ซีบ่นและเดินหนีไปอีกคน
“ขอตัวนะครับ” ผมยิ้มบอกพี่เซ็น
“จ้ะ..ที่รัก” พี่เซ็นทำปากเหมือนจะจูบให้ผมอีก
“เค้ก” ผมหันกลับไปมอง จำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของพี่คิวอย่างแน่นอนเพราะน้ำเสียงปกติแต่ฟังดูนิ่ง เรียบ แข็งแบบนี้ไม่ค่อยมีใครหรอกครับ
“ครับ” ผมขานตอบ
“อ่าว มาเมื่อไหร่” พี่คิวหันไปทักพี่เซ็นและคงหมายถึงทิกเกอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆด้วย
“นานแล้ว แต่โดนไล่ให้กลับเมื่อกี้” พี่เซ็นตอบแทน
“ผมขอตัวนะ” ทิกเกอร์พูดขึ้น
“บาย” พี่คิวพูดแค่นั้นเหมือนไม่สนใจ ผมละงงว่าทำไมถึงปล่อยให้ทิกเกอร์กลับไปง่ายๆแบบนี้ ทั้งทั้งที่ทั้งพี่คิวและพี่เซ็นก็ดูออกว่าเขาเศร้ามากแค่ไหน
“โชคดี” พี่เซ็นบอกส่งท้ายอีกคน ทิกเกอร์เดินคอตกออกจากร้านไป
“เรียกเค้กทำไมเหรอครับ” ผมถาม
“หลังเลิกงานวันนี้ว่างไหม” พี่คิวถาม
“มึงจะทำไม” พี่เซ็นถามแทรกขึ้น
“มันใช่ธุระของมึงไหม” พี่คิวย้อน
“กูอยากรู้” พี่เซ็นย้อนบอก
“จะให้ไปช่วยซื้อของหน่อย แน่นอน..หน้าที่นายคือเข็นรถเข็นและยกของ” พี่คิวพูดมองหน้าผม
“มึงก็เอาไอ้หมีไปสิ” พี่เซ็นพูด
“กูจะเอาใครไปแล้วมันไปหนักตรงไหนของมึงวะ” พี่คิวย้อนอีกครั้งและสีหน้าเริ่มเปลี่ยนจากที่นิ่งเป็นไม่พอใจ
“กูไม่พอใจ มึงจะเอาที่รักกูไปไหน..กูไม่ชอบไง”
“นายเป็นที่รักของมันไปแล้วรึไง ฉันไม่ยักรู้” พี่คิวหันมาถามผมทั้งรอยยิ้ม
“เอ๊ะ..ไม่ ไม่ใช่นะครับ” ผมรีบยกมือขึ้นบอกปัดหน้าเหวอ
“เค้กอ่ะ” พี่เซ็นทำปากจู๋ หน้างอ
“ก็ไม่ใช่จริงๆนี่ครับ” ผมยิ้มแหย
“เออ ไม่ใช่ที่รักแล้วไง..มึงก็รู้ว่ากูจีบน้องเค้าอยู่ กูไม่พอใจ มันก็เป็นสิทธิ์ของกูดิ”
“กูจะเอาใครไป มันก็สิทธิ์ของกูเหมือนกัน” พี่คิวยักไหล่อย่างไม่แคร์
“ตกลงจะไปหรือไม่ไป จะฟังไอ้เซ็น หรือฟังฉัน..มันก็สิทธิ์ของนายเหมือนกัน เชิญตัดสินใจได้ตามสบาย” พี่คิวหันมาพูดบอกและจ้องผมเขม็ง พอพูดจบพี่เขาก็เดินกลับเข้าครัวไปเลย
“เอ่อ..พี่เซ็นครับ ทำไมไปพูดแบบนั้นล่ะ พี่คิวดุเลยเห็นไหมครับ” ผมพูดว่าพี่เซ็นแต่ก็ไม่กล้าว่าแรงเพราะเกรงใจนะครับ
“พี่อยากพูด โด่..แล้วทำไมเค้กต้องไปฟังมันด้วยล่ะ” ง่ะ..คนนี้ก็พอกัน
“ก็เค้าเป็นเจ้านายนี่ครับ” ผมตอบ
“พี่ก็เจ้านายเหมือนกันอ่ะ”
“พี่เซ็นค้าบ” ผมลากเสียงอย่างอ่อนใจ
“อืมๆ..เอาเหอะ พี่แค่..กวนมันไปงั้น งั้นพี่กลับก่อนนะครับ นี่ครับค่าอาหาร” พี่เซ็นหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมา
“ไม่ต้องทอนครับ ทิปให้เค้กแล้วกัน” พี่เซ็นวางแบงค์พันไว้บนเคาร์เตอร์สามใบก่อนจะเดินออกจากร้านไป
“เฮ้อ..” อะไรของพี่เขาสองคนกัน T^T
= = = = = = = =
“เอ้พี่คิว” ผมพยายามเอาหัวให้โผล่ออกมาจากเสื้อกันหนาวให้ได้ แต่พี่คิวดันดึงเสื้อมาปิดรั้งไว้ ชอบแกล้งกันทีเผลอตลอด..
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกร้านของพวกเราแล้ว ทุกคนกำลังดูความเรียบร้อยของร้านอยู่ใกล้จวนจะเสร็จเต็มที ส่วนผมกับพี่คิวมายืนรอทุกคนอยู่ที่หลังร้าน ตอนแรกที่พี่คิวบอกให้ไปซื้อของเป็นเพื่อนสุดท้ายก็ต้องยกเลิกเพราะพี่คิวมีธุระต้องไปกับพี่ฟ้าต่อ
“พี่คิวครับ!!” ผมกระแทกเสียงอย่างเหลืออด
“หึ..” อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจอีก
“ฮ้า หายใจไม่ออกนะ..บ้า” ผมว่าเมื่อโผล่หัวออกมาจากเสื้อได้สำเร็จ อีกฝ่ายยักคิ้วยิ้มกวน
“เล่นไรกันน่ะฮึ..” พี่ฟ้าเดินออกมา
“พี่คิวแหละ เล่นเป็นเด็ก” ผมฟ้อง ชี้ไปที่เชฟยักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่ฟ้าเลิกคิ้วอย่างสงสัย ผมมองหน้าพี่ฟ้าอย่างงงๆเช่นเดียวกันว่าพี่เขามองหน้าพวกเราอย่างนั้นทำไม
“เล่นเป็นเด็กเป็นด้วยรึไงเราน่ะ” พี่ฟ้าพยักพเยิดหน้าใส่พี่คิว
“เรื่องของผม” พี่คิวยักไหล่เดินหนีไปที่รถซะเฉย
“สนิทกับหลานพี่จังนะ ระวังจะหลงรักเข้าล่ะ” พี่ฟ้ายิ้มพร้อมกับนำแขนมากอดคอผมและก้มหน้าลงมาใกล้ผมมากขึ้น
“อ๊ะ..อะไรครับ ปะ..เปล่าสักหน่อย” ผมรีบปัด แล้วทำไมผมจะต้องตกใจตอบตะกุกตะกักอย่างนั้นด้วยละครับเนี้ย
“ชื่อก็บอกอยู่ คิวปิด..” พี่ฟ้ายักคิ้วพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ค้าบ พี่ฟ้า” ผมปรามด้วยน้ำเสียงยานคาง ผมไม่รู้ว่าผมจะแก้ตัวยังไง เพราะถ้าจะแก้ตัวมันก็คงจะแปลกๆแถมยัง เอ่อ..ที่จริง มันแปลกมากด้วย
“หึ..” พี่ฟ้าเพียงหัวเราะในลำคอ
“นี่เด็กๆ ปิดร้านเรียบร้อยรึยัง” พี่ฟ้าตะโกนถามพี่ๆที่อยู่ในร้าน
“เรียบร้อยแล้วค่า” พี่ซีขานตอบ ผมยังคงยืนนิ่ง พี่ฟ้าหันกลับมายิ้มให้ผมอีกครั้ง
“ขอตัวนะครับ” ผมบอกและก้าวขาเดินหนีพี่ฟ้าออกมา ผมเดินตรงไปหาพี่คิวที่ยืนรออยู่ที่ท้ายรถแต่ไม่ได้ชวนพูดคุยอะไรอีก ทะ..ทำไมไม่กล้าสบตาพี่คิวล่ะ แง่ง~ แม่..หนูเป็นอาราย
“เป็นไร” อีกฝ่ายถามขึ้นลอยๆ
“ป..เปล่าครับ” ผมตอบ
“เหรอ แต่ท่าทางขัดกับคำพูดซะจริงนะ” พี่คิวแสยะยิ้มเล็กน้อย
“เปล่าสักหน่อย บอกว่าเปล่าก็เปล่าสิครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่คิว
“อะไร” พี่คิวจ้องผมกลับด้วยสายตาจับผิดขึ้นมาทันที
“มองอะไรครับ” ผมถามเสียงห้วนบ้าง พี่คิวไม่ตอบแต่กลับเบะปากให้อย่างขอผ่านไปที
“คุยไรกันอ่ะ” พี่ออฟถาม ผมสะดุ้ง
“เปล่าครับ” แง่ง..รีบตอบทำไมเนี้ย ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าตนเองเริ่มไม่ปกติ พี่ออฟยืนอมยิ้มมองหน้าผมอีก
“มีพิรุธไปนะ” พี่ออฟพูดลอยๆทั้งรอยยิ้ม
“อะไรของพวกพี่กันครับเนี้ย” ผมบ่นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจบ้าง
“นายนั่นแหละ อะไรของนาย” พี่คิวคิ้วขมวดว่า
“กลับกันได้แล้ว” พี่ฟ้าเดินมาบอก พี่ฟ้าเดินขึ้นรถฝั่งด้านข้างคนขับไปก่อน ผมหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาให้พี่ออฟก่อนที่จะรีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งตาม พี่คิวขึ้นตามมาติดๆ พี่เขาขับรถออกจากร้าน ส่วนพี่ออฟต้องรอปิดประตูรั้วและล็อกรั้วก่อนนะครับ
“เฮ้อ..เหนื่อยจริง พรุ่งนี้อาไม่เข้านะ ฝากด้วย..” พี่ฟ้าพูดขึ้น
“อืม” พี่คิวตอบ สั้นได้ใจความจริงๆพ่อคุณ
“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าไปไหน” พี่ฟ้าพูดทำให้ผมแอบยิ้มกับคำพูดของพี่ฟ้าไม่ได้
“ถ้าบอกก็คงพูดตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่รึไง” พี่คิวว่ากลับ
“เฮ้อ..มีหลานชายนี่มันน่าเบื่อจริงๆสิให้ตาย คิดถึงฟ้าครามขึ้นมาเหมือนกันแฮะ” พี่ฟ้าบ่น
“พรุ่งนี้ให้ฟ้าครามไปด้วยดีกว่า”
“ไปไหน” พี่คิวถามทันที
“หึ หวงน้องสาวขึ้นมารึไง” พี่ฟ้าพูดแกมหัวเราะ
“เปล่า" พี่คิวตอบ
“มีสัมมนาพวกลูกสาวไฮโซ รวมแบรนด์เสื้อผ้าที่จะจัดสิ้นปีนี้น่ะ..ที่พัทยา” พี่ฟ้าบอก
“อาจะไปนอนคืนนึงนะ ดูร้านให้อาด้วย..ส่วนบัญชีคนใหม่เค้าจะมาลองงานวันจันทร์ ไม่รู้อาจะกลับมาทันรึเปล่า ถ้าไม่ทันก็ดูๆไว้ให้ด้วยละกัน..”
“อืมฮึ” พี่คิวพยักหน้า
“แล้ว..พรุ่งนี้จะไปหาแม่ไหม” พี่ฟ้าถาม พี่คิวเงียบ ตามองตรงไปที่ถนนทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินที่พี่ฟ้าพูด
“คิว” พี่ฟ้าย้ำเรียก
“ถึงเวลาก็ไปเองแหละ” พี่คิวตอบส่งๆ
“แม่เค้าคิดถึงคิวนะ คิวจะมาปัดว่าไม่ไปเพราะคนที่บ้านไม่ได้” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
“ผมรู้แล้ว..รู้ พอได้รึยัง..” พี่คิวพูดเสียงเอื่อยและทำไม้ทำมือเหมือนบอกให้พี่ฟ้าหยุดพูดเรื่องนี้สักที ผมถึงกับนั่งตัวเกร็ง
“ฮื้ม..รู้ แต่ไม่ทำ” พี่ฟ้าถอนหายใจ ส่ายหัวมองไปอีกทางเหมือนไม่อยากปะทะคารมกันและกัน หลังจากนั้นทั้งสองเงียบไป ทำให้ผมต้องหยุดหายใจไปชั่วขณะเพราะกลัวว่าเสียงหายใจของตัวเองจะไปรบกวนทั้งสองคนเข้า
“บอกให้ย้ายออกมาจากบ้านใหญ่ก็ไม่เชื่อ ไม่รู้จะเฝ้าอยู่ทำไม..มีทางเลือกเยอะแยะ ไม่ใช่ไม่มี” พี่คิวบ่นขึ้น
“ใช่..มีทางเลือก แต่แม่เค้าอยากดูแลคุณปู่ คิว..” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยอม
“โอเคๆ..Stop, I got it!.” พี่คิวตัดบทด้วยความรำคาญทำให้พี่ฟ้าเงียบลงในทันที ในรถเงียบกริบ และเงียบมากขึ้นกว่าเดิม
“ขอโทษด้วยนะเค้ก พี่เอาเรื่องส่วนตัวมาคุยให้เค้กได้ยินอีกแล้ว” พี่ฟ้าเปลี่ยนเรื่องก่อนจะหันตัวมายิ้มให้ผม สีหน้ายิ้มแย้มผิดจากน้ำเสียงที่ดูเคร่งเครียดเมื่อกี้ถนัด
“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มตอบ
“เป็นเด็กดีจริงๆน้า” พี่ฟ้าเอื้อมมือมาลูบหัวผมไปมา
“ทำเนียน” พี่คิวพูด พี่ฟ้าชะงัก
“ไอ้นี่” พี่ฟ้าเอามือไปดันหัวพี่คิวบ้าง พี่คิวอมยิ้มเล็กน้อย
“นี่..” ผมเงยหน้ามองตามเสียงของพี่คิว
“หนังที่ซื้อไปวันนั้นฉันดูหมดแล้วนะ จะเอารึเปล่า” พี่คิวมองผมผ่านกระจกมองหลัง
“เอาครับ” ผมตอบทันที
“เอ่อ เค้กขอยืมหนังสือนิทานของพี่คิวด้วยได้ไหม พอดีจะทำรายงานอ่ะครับ” ผมได้ทีจึงรีบขอก่อนเพราะนี่เป็นจังหวะที่ดีที่ควรเข้าหาทีเดียว ตอนแรกผมกล้าๆกลัวๆจึงไม่ได้ขอยืมสักทีนะครับ
“เชิญ” พี่คิวตอบด้วยคำพูดประจำ
“งั้นพรุ่งนี้ก็ไปเลือกเอาเองแล้วกันนะ”
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบ
“งั้นพรุ่งนี้เค้กก็อยู่กับข้าวเย็นกับคิวซะเลยสิ หลานพี่กินข้าวคนเดียว พี่กลัวกับข้าวเหงาน่ะ” พี่ฟ้าพูดยิ้มๆ ผมหัวเราะกับคำแซวของพี่ฟ้าที่ไม่ได้กลัวว่าหลานตัวเองจะเหงาแต่กลับกลัวว่ากับข้าวจะเหงาซะงั้น
“ผมก็กินของผมได้” พี่คิวพูด
“โถ่..คิดถึงเค้าก็บอกมาเหอะ” พี่ฟ้าพูดหยอก
“ใครจะไปคิดถึงคุณ” พี่คิวย้อนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นะๆเค้ก..พรุ่งนี้ก็อยู่กินด้วยกันก็แล้วกัน พี่จะได้ไม่ห่วงหลานพี่ หลานพี่ยังเด็กนะ ยังไม่โตหรอก” พี่ฟ้าลูบแขนพี่คิวเบาๆเหมือนต้องการกวนพี่คิวไม่เลิก
“หึหึ..” ผมหัวเราะ
“เพื่อนเล่นป่ะเนี้ยห๊ะ” พี่คิวว่าค้อนอาตัวเอง
“เหวี่ยงๆ..ฮ่าๆๆ” พี่ฟ้าหัวเราะเสียงดัง
“ฮื้ม” พี่คิวส่ายหัวพร้อมถอนหายใจแรง
ผมนั่งขำเพราะพี่ฟ้าแกล้งแซวพี่คิวไม่หยุด พี่คิวเหวี่ยงเล็กน้อย ตลอดทางพี่คิวแอบอมยิ้มบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่นัก ส่วนพี่ฟ้าดูจะมีความสุขดีที่ได้แกล้งหลานตัวเอง พอพี่คิวขับรถไปส่งผมถึงบ้าน เราร่ำลาก่อนที่พี่ฟ้าและพี่คิวจะขับรถกลับไป..
.................>>>><<<<<.................
-
:z13: :z13: :z13: :z13:
คืวน่ารักขึ้นทุกวันเลยอ่ะ
หลงรัก
-
นับวันพี่คิวยิ่งน่ารักกกกก ><
-
อ๊ากกกกกกกกกกอยากอ่านอีกกกกกกกก
อีกทีเสาร์นี้เลย พลีสสสสสสสสสสสส
-
พี่เซ็นนี่เจ้าชู้จริงจัง
-
อร้ายยยยย..น้องเค้กเริ่มมี หวั่นไหวๆ :o8:
อ่านไปยิ้มไป น่ารักทั้งคู่เลย
:pig4:
-
เสาร์นี้สิ~ >///<
อยากรู้ัเรื่องทิกเกอร์พี่ฟ้า
-
เห้ย กรี๊ดดดด +1ให้เบบี้ เอาเมาส์จิ้มรัวๆๆ
มีขงมีเขิลลลลกันแล้วนะน้องเค้ก
แอบสังเกตว่าแต่ละคนในร้านเค้าจ้องดูความสัมพันธ์ของสองคนนี้อยู่เงียบๆแฮะ
พี่เซ็นขี้แกล้งนี่ตัวดีเลย หย่อนระเบิดตลอด ส่วนพี่ฟ้าก็พยายามโฆษณาขายพี่คิวให้เค้กตลอดเว กึ๊ดๆๆๆ
สรุปแล้ว ...... ในร้านนี้ หาคนปกติไม่ค่อยจะเจอ 555+
:laugh: :laugh: :laugh:
-
:o8:น่ารักได้อีก :L1:
-
เสาร์นี้เหอะเบบี้จ๋า
ครอดติดเรื่องนี้เลย
เค้กชอบพี่เค้าแล้ว คิวนี่ยัง งง งง อยู่ แต่เดี๋ยวก็ชอบ
น่ารักมาก อ่านแล้วยิ้มจากภายในสู่ภายนอก
-
ต้องเป็นเสาร์นี้อยู่แล้ว....ใช่ม่ะ 555555 o18
.
.
.
น้องเค้กเริ่มคุมอาการไม่อยู่แล้ว รู้ตัวบ้างหรือเปล่าเนี่ยว่าเริ่มชอบพี่คิวเข้าให้แล้ว อิอิ :z1:
-
รู้สึกว่าน้องเค้กเริ่มจะหวั่นไหวก่อนพี่คิวแล้ว
ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ทำงานจัง
แซวบ่อยๆ ชอบดูตอนเค้กเค้าเขิน
น่ารัก :o8:
-
เย้ ได้อ่านต่อแระ รอวันเสาร์คับ อิอิ ว่าแต่เสาร์ไหน :confuse:
-
อ่านๆไปอึดอัดกับครอบครัวนี้เนาะพี่เนาะ
-
อ๊าคิวคิดถึงอะ มาต่อไวๆนะ
-
พี่คิวน้องเค้ก อิอิ
น่าร๊ากกกกกกกกกกกก
-
หนูหลงรักหลานคุณอาฟ้าไปแล้วค่ะตอนนี้ วิ่งไปกรี๊ด
อ้าย อยากจะกรี๊ดให้กับตอนนี้ดังๆเลยค่ะ อายแทนเค้กอ่ะ เขินอ่ะ >/////<
เริ่มร้อนตัวแล้วนะเนี้ย แบบนี้ชักยังไงอยู่ คริๆ พี่คิวแอบหึงน้องเค้กรึเปล่าตอนที่พี่เซ็นมาคุยด้วย
พี่เซ็นคงต้องหลบไปแล้วค่ะ พระเอกมาแล้ว ฮ่า า า หลงรักพี่คิวขั้นหนักอ่ะตอนนี้
-
ถ้าเค้กรู้ตัวว่าหลงรักพี่คิวก่อนแล้วจะทำไงดีอ่า แงๆ เค้กยิ่งเจียมๆ อยู่ด้วย อิตาพี่คิวยักษ์คงไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ ด้วย ฮือออออ
เสาร์นี้จะได้อ่านต่อแล้วดีใจๆๆๆ (มัดมือเบบี้ อิอิ)
บวกทะลุทะลวงจ้า
-
ชอบเวลาพี่คิวอยู่กับเค้ก
เหมือนพี่เค้าเผลอทำตัวในมุมน่รักๆออกมา
อ่านแล้วหลงรักแล้วอ่ะ
เกือบลืมเรื่องปัญหาครอบครับของคิวไปแล้วน่ะเนี๊ย
เด็กบัญชีคนใหม่หรอ ฮึ่มมมมมมม
-
น้องเค้กเริ่มรู้สึกประหม่าพี่คิวแล้ว คึคึ o18
-
เสาร์นี้เถอะค่ะ :call:
-
.................>>>><<<<<.................
อีกทีวันเสาร์(เสาร์ไหน??).....
เสาร์นี้เถอะนะ :m5: :m5:
-
เสาร์นี้เลยค่า
-
เสาร์นี้ :laugh: อยากอ่านต่ออ่ะๆ
น่ารักกันขึ้นทุกตอน :-[
-
น่ารักขึ้นทุกวันอ่ะคู่นี้ :L2:
-
เสาร์นี้เหอะนะเบบี้ :impress3:
-
คิว ทำให้รักเเล้วก็อย่าชิ่งละ :angry2:
น่ารักอ่า :z3:
ปล. เสาร์นี้ *-*
-
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวัน :o8:
:L2: :L2:
-
ชอบบันทึกของเค้กจัง เป็นเด็กน่ารักจังเลย :กอด1:
พี่คิว เดี๋ยวนี้แกล้งน้องนะ คิดไรกะน้องป่ะเนี่ย แต่พี่เซ็นนี่คิดแน่ๆ :laugh:
-
เป็นอาหลานที่รักกันอบอุ่นแบบกวนทรีนกันจริง ๆ
พี่เซ็นก็หยอดตลอด พี่คิวแอบหวงน้องเค้กป่ะจ๊ะ
ปล. HBD คุณแม่น้องเค้กด้วยจ้า :L1:
-
น่ารักมากขึ้นแล้วน้า
ปล.เสาร์นี้สิคะ ฮ่าๆๆ
-
P'Q narak ornyon maak kwaa meu korn maak maai loei nor,,hu hu hu...
-
พี่คิวนี่เอ็นดูเค้กพอดูนะ
-
เสาร์นี้แหละ มันจะได้ต่อเนื่องๆ 55555
-
รักพี่คิว
-
เสาร์นี้ สินะะะ
หึหึ
อาฟ้าเริ่มเล็งเห็นแล้วล่ะาิ
อยู่ที่ว่า จะชง มากน้อยเพียงไร
><
-
:impress2: :jul3: เป็นปลื้มมมมมมมมมมมมมมมม
:laugh: :laugh: :laugh:เอิ๊กกกกกกกกก
-
แนะ แนะ เค้กเริ่มหวั่นไหวแล้ว :z1:
:pig4:คะ
-
เค้กหวั่นไหววววววว ><
-
เค้กเริ่มมี something 555 น่ารักจังตอนนี้ :-[
-
โอ๊ะ!! โผล่มาเงียบๆ :z13:
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงน๊าาาาาาาาา o13
-
ไม่ได้ไม่ดีเห็นพี่คิวแกก็เหวี่ยงลมฟ้าอากาศของแกทุกตอน ฮ่าๆๆ :oni1:
น้องเค้กเริ่มพิรุธจนคนอื่นจับได้แล้วนะ
ตอนหน้า...ดินเนอร์ใต้แสงเทียนแล้วดิ หุหุหุ
-
:mc4: น้องเบบี้ทำให้พี่มีความสุข ได้อ่านต่อแล้ววว
น้องเค้กคะ น้องเค้กเริ่มหวั่นไหวแล้วหละ อร๊ายยยยย
-
อ่าาาา พี่คิวหึง รึเปล่า
แล้วทำไมอาฟ้าต้องใจร้ายกับทิกเกอร์จัง
อยากรู้อะ
-
เดาใจยากกันทั้งบ้าน สงสารคนง้อ :เฮ้อ:
เบบี้ เสาร์พรุ่งนี้ไง จะรออ่าน :mc4:
+1
-
ทิกเกอร์ไปทำอะไรให้พี่ฟ้าโกรธน้า เห็นหน้าเป็นไบ่ทุกที :เฮ้อ:
พี่คิวน่ารักขึ้นนะคะ :-[
-
มีแหย่กันด้วยอ่ะเดี๋ยวนี้
-
ขอเสาร์นี้ :call:
อยากอ่านใจจะขาดแล้ววววววววววววว :angry2:
:z2:
-
เค้กกกกก :-[ :-[
ฟ้า+คิว เป็นอาหลานที่รักกันมากๆๆ น่ารักดี
:pig4: :กอด1:
-
เค้กน่ารักอ่ะ...เริ่มหวั่นไหวแล้วดิ :-[
-
เค้กเขินพี่คิวอะดิ ชอบพี่คิวแบบไม่รู้ตัวอะดิ
-
เขินๆๆ :-[
พี่คิวเมื่อไหร่จะมีอาการ?
-
โกรธอะไรทิกเกอร์นักหนอ น่าสงสารชะมัดเลย
-
o18 o18 o18
-
คิวเค้กน่ารักขึ้นเรื่อยๆเลย ><"
-
เค้กออกอาการชัดมากเเล้วน้าาาาา!!! ดูออกกันหลายเเระ 5555
แต่เจ้าตัวจะรู้ตัวรึยังอ่ะสิ อิอิ >///<
ทิกเกอร์ก็หงอยมากอ่า น่าสงสาร ต้องทำอะไรผิดมากแน่เลย :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้น้องเค้กกะทิกเกอร์ ^^
+1สำหรับคุณเบบี้ค่า พาร์ทนี้น้องมีพิรุธมากกก o13
และตอนหน้าเสาร์นี้น้าเสาร์นี้ ต้อนรับตรุษจีน อิอิ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ฮาเซ็นมากๆๆชอบแกล้งคิวจริงๆๆ :laugh:
-
เย้ๆ ตอนนห้าไปดินเนอร์กันด้วย อิอิ
-
ฮ่าๆๆๆ น้องเค้กแปลกๆ น้องเค้กคิดอารายยย... o18
-
ชอบอา หลานคู่นี้อ่ะ น่ารักดี
-
เหมือนจะไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าไรเลยอ่ะ
คู่นี้ อะ
-
:-[ เค้กน่ารักอ่ะ มีพิรุธนะจ๊ะๆ
ทิกเกอร์ไปทำไรอาฟ้าหว่า? ไม่ยอมยกโทษให้ด้วยอ่ะ อยากรู้ๆ :impress2:
-
หึ หึ หึ
-
ตอนนี้แอบสงสารทิกเกอร์แบบเบาๆ - -''
แต่พี่คิวน่ารักนะ ฮี่ๆ :P
:กอด1:
-
อุ๊บ๊ะ อ่านไปยิ้มไป แอบเขิน อร๊ายยยยยยยย :-[
สรุป ยังไม่รู้ว่าทิกเกอร์คือใคร? อ๊ากกก :z3:
-
น่ารักอ่ะเวลาพี่คิวกับเค้กคุยกัน :o8:
แต่แอบรำคาญอิพี่เซ็น :z6:
-
ตามทันแล้ว เล่นเอาหลายชั่วโมงเลย :a2: จะบอกว่า ชอบเรื่องนี้อะ มันแตกต่างจากเรื่องอื่นๆของบี้นะ
ความรู้สึกแต่ละเรื่อง เรื่องนี้แหวกอยากจากเรื่องที่เขียนมา หรือป่าว แต่พี่รู้สึกแบบนี้นะ แล้วจะติดตามตอนต่อไปเน้อ :impress2:
รอว่าเมื่อไหร่เค้าจะร๊ากกกกกกกกันสักที คืออ่านแล้ว มันยังไม่ให้อารมณ์ว่า ทั้งคู่เป็นเกย์เลยอะ
-
ฮึ่ยยะ เบบี้ ~ พี่คิวน่ารักไม่ไหวจะเคลียร์อีกแล้วเนี่ยยยย
สองคนนี้จีบกันไม่รู้ตัว !!! อิ๊อ๊ะเป็นบ้าเลยนะเนี่ย
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: เค้กน่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ชักคิดถึงสลิ่มถี่มากขึ้นแรว เเต่พี่คิวกะเค้กก้อน่ารัก พอจาแทนกันได้
-
ถ้าไม่คิดไรทำไมเค้กต้องตกใจด้วยล่ะ หิหิ
-
คิดถึงพี่เค้ก พี่คิวๆๆ
-
K2KARN:
ฮึ่ยยะ เบบี้ ~ พี่คิวน่ารักไม่ไหวจะเคลียร์อีกแล้วเนี่ยยยย
สองคนนี้จีบกันไม่รู้ตัว !!! อิ๊อ๊ะเป็นบ้าเลยนะเนี่ย
^
^
เห้ย ใช่เลย จีบกันแบบไม่รู้ตัว
พยายามคิดมานานว่า2คนนี้มานยังไง คิดคำไม่ออก
-
:กอด1:
-
พี่คิวน่ารักขึ้นเนอะ ส่วนเค้กน่ารักอยู่แล้ว :-[
ทั้งคู่ไม่รู้ตัวหรอกว่าแสดงออกต่อกันยังไง
แต่คนรอบข้างเค้าเหมือนจะดูออกอยู่นะ
โดยเฉพาะพี่ฟ้า คาดว่าเค้าเห็นมานานแล้ว
แต่พี่ฟ้ากับทิกเกอร์ยังไม่เคลียร์เลยน้า
ตามลุ้นตามเชียร์ต่อไปค่ะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ทำไมมีแต่คนแซวน้องเค้ก หรือว่าออกอาการอะไรให้คนเค้าเห็น :o8:
+1 ให้เป็นกำลังใจ รอวันเสาร์ :z2: เสาร์ไหน หึ หึ หึ .....
-
น่ารักค่ะ
-
กริ๊วๆๆ น้องเค้กมีเขิน ฮ่า ฮ่า
พี่ฟ้าไม่ต้องขอโทษน้องเค้กหรอก ต้องพูดให้น้องเค้ารู้ จะได้ชิน เพราะอีกหน่อยก้อจะเป็นคนในครอบครัวแล้วนิ อิ อิ
-
พัฒนากันไปอีกขั้น :z2:
+1จ๊า
ปอลิง.เบบี้ก็เสาร์นี้ไง
-
เค้กกกกก เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้วใช่มั้ยล่ะ ลุ้นๆๆๆ
:pig4:
-
แลดูเป็นครอบครัวเนาะ เข้ากันกับพี่ฟ้พี่คิวได้ดีจริงๆ เค้กของเรา :z1:
-
น้องเค้กหลงรักพี่คิวเข้าแล้วล่ะค่ะ มีพิรุธขนาดนี้
พี่คิวก็มีแสดงท่าทีเอ็นดูเหมือนกัน
แต่ไม่รู้ว่าใครจะซึมลึกกว่ากันเนอะ คงต้องลุ้นกันต่อไป
-
น้องเค้กเริ่มเขินพี่คิวแล้ว!
ลุ้นๆ
พี่คิวมีน้องด้วย...?
-
หึหึ เซ็นต์ ชอบแกล้งเนอะ โดยเฉพาะ คิวอะ ..55+
ส่วนอาฟ้าก็ชอบแหย่คิวเหมือนกันนะเนี๊ย
ปล.เค้กไปบ้านคิวบ่อยนะเนี๊ย..5555+
คิวก็ให้เค้กไปที่บ้านบ่อยนะเนี๊ย *o*
-
เค้กโดนแซวเล่นเอาไปไม่เป็นเลย...ต้องให้มีคนสะกิดถึงจะเริ่มรู้ตัวนะ :o8:
-
หลงรักคิวและเค้กมากขึ้นทึกที พี่คิวก็น่ารักขึ้นทุกวันเลยอ่ะ ไม่ไหวแล้วนะ แล้วทิกเกอร์กับอาฟ้านี่ยังไง อยากรู้อ่ะพี่เบบี้ ???
-
ไม่ค่อยได้เมนท์ให้คุณเบบี้เท่าไหร่ แต่ตามอ่านทุกเรื่องเลยค่ะ ๕๕๕ อย่างโกรธกันเลยนะคะ แต่วันนี้นึกครึ้มค่ะ อยากตะโกนบอกความในใจบ้าง ชอบนิยายที่คุณเบบี้แต่งนะคะ อ่านมาทุกเรื่องตัวละครมีความหลากหลายดี ไม่ซ้ำค่ะ อารมณ์คนละแนว พะเอกคิวเรื่องนี้ออกขรึมกับกวนตีน ลุ้นอยู่ว่าคุณเบบี้จะให้เขารักกันยังไง แต่เรารู้สึกเหมือนคิวมันจะเริ่มเอ็นดูนายเอกแล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นรักนะ ส่วนเค้กดูเหมือนจะเพราะโดนแซวบ่อยจนคิด ๕๕๕ ดูต่อไปค่ะ อ่านแล้วจั๊กกะจี้ดีตลอด รอลุ้นคู่กัสกะเซ็นด้วย แต่ยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร มีคู่ฟ้ากะ
ทิกเกอร์อีก สามคู่ชู้ชื่น รออ่านเรื่อยๆค่ะ
:L2: ส่งกุหลาบเป็นกำลังใจนะคะ จะได้เขียนได้คล่องๆ o13
-
โอ๊ยยยย อาหลานน่ารัก คึคึ
-
เค้ก เขิน ไม่กล้ามองหน้าพี่คิว คึคึ
เริ่มแล้วสินะ
พี่คิวคิดอะไรอยู่น้อ :o8:
อาฟ้าก็น่ารักอ่ะ งอนพี่เสือ มะไหร่จะหายงอนน้า พี่เสือเค้าน่าสงสาร(ว่าตามเค้ก) อิอิ
วันเสาร์ก็คือพรุ่งนี้ใช่มั้ย :mc4:
ถ้าไม่ใช่ หนูคงลงแดง เพราะคิดถึงน้องเค้กกะพี่คิวแน่ๆ :z10:
-
รีบเข้ามาอย่างรวดเร็ววววว :-[
รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาา
-
โอ้วววว บร๊ะะะะ
น้องเค้กจ๋าาาา ไปไหนไม่รอดแล้วล่ะจ๊ะ คิวปิดปักศรรักเข้าตรงหัวใจแล้ววว
พี่เซ็นนี่น่ารักดีเนอะ ช่วยสร้างบรรยากาศหึงหวงให้คนสองคน
บัญชีคนใหม่ จะมาดีมาร้ายอ่าเนี่ย รู้สึกแปลกๆ =0=
เบบี้สอบสู้ตายนะค่าาาาาาาาาา
-
แหนะมีหึงกันด้วย
เริ่มพัฒนาสินะ
-
~28~
เวลา 17:45 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
วันนี้ผมนัดกับพี่คิวไว้หลังเลิกงาน พี่คิวออกเวรทำงานตั้งแต่สายๆ พี่เขาอนุญาตให้ผมมาหาที่บ้านได้หลังจากห้าโมงเย็น ซึ่งนั่นเป็นเวลาที่ผมเลิกงานพอดี
ติงต๊อง~~
“ค่า..” พี่เขียวรีบวิ่งตรงมาที่ประตูรั้ว เธอทำงานรวดเร็วอย่างนี้จนคุ้นตาผมซะแล้ว
“สวัสดีครับ” ผมยิ้มทัก
“สวัสดีค่ะคุณเค้ก” พี่เขียวผงกหัวให้ก่อนจะเปิดประตูให้ผม
“เชิญค่ะ” พี่เขียวเดินนำผมไป คราวนี้พี่เขียวพาผมเดินไปทางสวนของบ้านแทนซึ่งผมก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่เมื่อผมเห็นพี่คิวนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางสวน บนโต๊ะมีแก้วไวน์วางอยู่ข้างๆ ส่วนอีตาพี่คิวกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างเคย
“ขอโทษค่ะคุณ คุณเค้กมาแล้วค่ะ” พี่เขียวพูดเสียงค่อย พี่คิวเหลือบตามองผมผ่านแว่นสายตา ก่อนจะปิดหนังสือลงช้าๆและวางหนังสือนั่งลงบนโต๊ะเหมือนกลัวว่ามันจะเจ็บ ในสายตาผมท่าทางนั่นดูหยิ่งยโสเป็นบ้าแต่พี่เขาก็ไม่ใช่คนไม่ดีซะทีเดียวนี่นะครับ
“มีอะไรก็ไปทำเถอะครับ ขอบคุณมาก” พี่คิวบอก
“ค่ะ” พี่เขียวก้มหัวให้ก่อนจะเดินไป
“นั่งก่อนสิ”
“ครับ” ผมยิ้ม เดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวข้างๆ
“พี่อ่านอะไรอยู่เหรอ” ผมถาม
“หนังสือ” พี่คิวตอบเสียงห้วนสั้น
“ครับ ไม่ต้องตอบก็ได้นะวันหลังอ่ะ” ผมย้อน
“งั้นก็ไม่บอกตั้งแต่แรก” พี่คิวอมยิ้มย้อน ผมนั่งเบะปากแต่ไม่ได้หันไปมองหน้าอีกฝ่าย
“วันนี้ไม่มีของว่างให้หรอกนะ” พี่คิวว่าด้วยน้ำเสียงแกล้งผมอีก
“ก็ไม่ได้มาเพราะมากินของว่างสักหน่อย” ผมตอบอย่างเขินๆ ใจจริงแล้วผมก็คิดถึงของว่างที่คุณแม่บ้านจะต้องนำมาเสิร์ฟทุกทุกครั้งเหมือนกันนั่นแหละ
“งั้นเหรอ” พี่คิวยิ้มกว้างกว่าเดิม
“พี่ยิ้มมันก็ดีหรอกนะ แต่ถ้าจะยิ้มด้วยหน้าตาแบบนี้ ผมก็ไม่ปลื้มสักเท่าไหร่” ผมพูดหน้างอ
“ฉันใช้ให้นายมองหน้าฉันเมื่อไหร่ล่ะ” พี่คิวยักคิ้วตอบ ง่ะ..ไอ้บ้า ผมได้แต่หน้างอมองตาขวางใส่พี่คิวอย่างทำอะไรไม่ได้ พี่คิวยังยักคิ้วทำหน้ากวนใส่ผมไม่หยุด เมื่อสงคราสงบลง ผมขอตัวพี่คิวออกมาหาหนังสือที่ห้องหนังสือ พี่คิวอ่านหนังสือต่ออยู่ในสวน ผมเลือกหนังสืออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง พี่คิวเดินเข้ามาในห้องและนั่งลงที่โซฟาตัวประจำของตนอย่างเงียบๆ
“นี่” ผมหันไปตามเสียงเรียก
“เย็นนี้..กินข้าวด้วยกันไหม” พี่คิวถามแต่ตากลับมองอยู่ที่หนังสือ ผมยืนเงียบมองหน้าพี่คิว ถามว่าอยากทานไหมก็อยากทาน แน่นอนว่ามันจะต้องอร่อยอย่างแน่นอน แต่ผมกำลังลังเลในบรรยากาศที่เราต้องมานั่งกินอาหารเย็นกันสองคน ใช่..นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจะได้ทานข้าวด้วยกัน แต่ทำไมผมกลับรู้สึกคิดหนักและรู้สึกแปลกขึ้นมา
“ครับ” ตอบรับไปด้วยความเกรงใจ ไหนๆพี่เขาเป็นฝ่ายชวนเอง มันคงจะไม่เสียหายอะไรถ้าจะต้องทานด้วยกัน
“...............” พี่คิวเงยหน้าจ้องหน้าผม หน้าตาเหมือนมีคำพูดอยากจะบอกแต่กลับเงียบเอาไว้
“ผมช่วย” ผมยิ้ม
“แน่นอน ฉันคงไม่ให้นายกินฟรี” พี่คิวเบะปากเล็กน้อย
“ผมเอาสองเล่มนี้นะ ที่จริง..มีเล่มอื่นที่อยากได้อีกหลายเล่ม แต่ไม่อยากเอาไปดองอ่ะ” ผมชูหนังสือให้ดู
“อืม” พี่คิวพยักหน้า
“แล้วแผ่นหนังผมเอาเรื่องนี้นะฮะ” ผมชูแผ่นหนังเรื่องเจน แอร์ ให้พี่คิวดูอีก
“เรื่องเดียว” พี่คิวเลิกคิ้วถาม
“ครับ..เดี๋ยวดูไม่ทัน อาทิตย์นี้การบ้านเยอะน่ะ”
“วางของไว้นี่แหละ ตามมา” พี่คิวพูดบอก ผมรีบวางของลงและรีบลุกเดินตามไป พี่คิวเดินตรงไปที่ครัวใหญ่ทางด้านหลังบ้าน เมื่อพี่คิวเดินเข้าไปในครัว ป้านิด พี่เขียวและแม่บ้านคนอื่นๆหยุดการทำงานทุกอย่างและยืนนิ่ง พี่คิวเดินไปเท้ามือลงบนเคาร์เตอร์ตรงกลางครัวเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง
“ผมจะทำมันฝรั่งบด เตรียมของสำหรับทำให้ผมด้วย” พี่คิวสั่ง ป้านิดพยักหน้ารับ
“ไก่ เนื้อ หมู..ชอบอะไร” พี่คิวเหล่สายตามองผม
“ปลา” ผมยิ้มกว้างตอบทำให้แม่บ้านที่ยืนอยู่ต่างอมยิ้ม พี่คิวมองตาขวาง บ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่พอใจ ผมอมยิ้มตอบไม่หยุดเพราะหน้าของพี่เขาตลกดีออก
“ก็ชอบกินปลาอ่ะ” ผมพูดขำๆ
“ตลกมาก ไม่ต้องกินเลยไป” พี่คิวว่า
“หึหึ โอเคๆ..หมูครับหมู” ผมพูด หลังจากนั้นพี่คิวก็นิ่งไปอีกครั้ง
“ทำสเต็กหมูนุ่มก็แล้วกัน” พี่คิวบอก
“ดี” ผมเห็นด้วยทันที ไม่เคยทานหรอกนะครับแต่แค่ชื่อก็ชวนอร่อยแล้ว
“ป้าครับ ผมขอสันนอกหมู..น้ำสับปะรด เอ่อ..เครื่องน้ำสต็อก เฟรชฟราย บล็อกเคลี่ แครอท เท่านี้” พี่คิวสั่งซะเร็ว ผมอ้าปากค้าง กลัวว่าพี่เขียวและป้านิดจะตามไม่ทันจริงๆ
“ค่ะ” ป้านิดพยักหน้าตอบ นี่เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์สำหรับผมเลยนะครับเพราะป้านิดคงจะชินกับนิสัยนี้ของพี่คิวถึงได้ปรับตัวได้รวดเร็วมากขนาดนี้
“เอ่อ มีของหวานตบท้ายรึเปล่าอ่ะครับ” ผมยิ้มสู้เพื่อของกิน
“โลภมากซะจริง” พี่คิวบ่น ผมทำหน้าย่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้
“บราวนี่กับไอศกรีมเหลือไหมครับ” พี่คิวถาม
“เหลือค่ะ” ป้านิดยิ้มตอบ
“โอเคครับ เท่านั้นแหละ..ตามที่ผมสั่ง”
“ส่วนนาย ยืนเฉยๆไป” พี่คิวหันมาค้อน
“ค้าบ” ผมตอบ
“สปาเก็ตตี้ด้วยดีกว่า” พี่คิวพูดขึ้น
“เย้” ผมปรบมือทันทีที่ได้ยิน
“เด็ดพริกไปเลยนายน่ะ” พี่คิวโยนพริกมาทางผม
“ใช้ดีๆก็ได้อ่ะ” ผมว่า พี่คิวยักคิ้วไม่สนใจ ผมช่วยป้านิดกับพี่เขียวเตรียมอาหารให้เชฟใหญ่ของบ้านจนครบ หลังจากนั้น..ป้านิดกับพี่เขียวต้องไปเตรียมอาหารสำหรับพ่อบ้านแม่บ้านที่ครัวเล็กทางด้านหลัง
“แคะๆ” พี่คิว
“อ๊ะ..แคะๆ” ผมจามไม่ต่างจากพี่เขา กลิ่นของพริกที่พี่คิวกำลังผัดอยู่ฉุนมากทำให้เราสองคนทั้งไอทั้งจามไปพร้อมๆกัน
“โอ้ย” ผมร้องเพราะทั้งกลิ่นพริกและควันพริกเริ่มเข้าทั้งตาและเข้าจมูกมากขึ้นเรื่อยๆจนผมแทบทนไม่ไหว
“พริกอะไรครับเนี้ย” ผมบ่นเสียงหลง วางมือจากถาดเครื่องอาหารที่ถืออยู่ พี่คิวจามไม่หยุด ผมเองก็ด้วยเหมือนกัน เครื่องดูดควันที่กำลังทำงานเหมือนจะต้านทานอะไรไม่ได้เลย
“แคะๆ พ..พี่ ผมไม่ไหวแล้ว” ผมบอก เอาแขนเสื้อปิดหน้าก็แล้วแต่ดูเหมือนอิทธิฤทธิ์ของมันรุนแรงมากจริงๆ ตั้งแต่เกิดและได้ทำกับข้าวมายังไม่เคยเจอพริกอะไรที่ปล่อยพลังร้ายแรงขนาดนี้มาก่อน ผมทิ้งพี่คิวและรีบวิ่งออกมาจากครัว น้ำหูน้ำตาไหลเป็นทาง
“โอย..” ผมร้อง แสบตาจนไม่สามารถลืมตาขึ้นได้อย่างปกติและไม่กล้ากลับเข้าไปในครัวอีกเพราะกลัวสู้แรงพริกนั่นไม่ไหว
“แคะๆ” ผมได้ยินเสียงพี่คิวที่วิ่งตามออกมา
“ฉุนฉิบหาย” พี่คิวสบถเสียงเบาทำผมเกือบขำเพราะนานครั้งถึงจะได้ยินคำหยาบจากปากพี่เขาบ้าง
“นาย..เป็นไรน่ะ” พี่คิวจับแขนผม
“ผมลืมตาไม่ขึ้น มันแสบ..มาก” ผมบอกเสียงเครือ
“มานี่สิ” พี่คิวจับแขนผมไป ผมเดินตามไปช้าๆเพราะมองไม่เห็นทางเลย รู้แต่เพียงว่าตอนนี้น้ำตาอาบแก้มแล้ว พี่คิวคงพาผมมาที่ห้องน้ำ พี่เขาเปิดก๊อกน้ำให้
“ล้างหน้าซะ” พี่คิวสั่ง ผมรีบกวักน้ำล้างหน้าล้างตาทันที พอเข้าทีเข้าทางและสามารถลืมตาขึ้นได้แล้ว
“โห..” ผมอึ้งกับสภาพตัวเองที่มองเห็นในกระจก พี่คิวยื่นผ้าขนหนูมาให้ผม
“สุดยอดไปเลยอ่ะ พริกอะไรของพี่ครับเนี้ย..พริกนรกแตก” ผมบ่นเสียงดัง
“พริกธรรมดาเอง นายคงไม่ชิน..ขนาดฉัน เอ่อ ก็ยังไม่เคยชิน” พี่คิวพูดหันหน้าหนีความจริงซะงั้น
“ผมบอกตรงๆว่าผมไม่เคยเจอ” ผมบอก หน้าผมแดง ตาผมแดง น้ำมูกก็ไหลอีกด้วย
“โทษที” พี่คิวอมยิ้ม
“หายรึยัง”
“ก็ดีขึ้นแล้วฮะ” ผมตอบ
“จะไปรอที่ห้องก่อนก็ได้นะ ไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นไร อยากช่วย” ผมบอก
“งั้นก็ตามใจ ร้องไห้งอแงอีกคราวนี้ไม่พามาล้างหน้าแล้วนะ” พี่คิวยักคิ้วกวนผ่านกระจกตรงหน้า
“ไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้งอแง..บ้า” ผมว่า พี่เขาหัวเราะเดินหนีผมออกจากห้องไป
= = = = = = = =
“หึ..อะไรของนาย”
“เอ่อ..” ผมอ้ำอึ้ง ถ้วยมันบดอยู่ในอุ้มมือของผมทั้งสองมือ
“อยากได้อีก” ผมบอกเสียงเบาด้วยความเกรงใจ
“ก็เติมสิ ใครไปว่าเมื่อไหร่” พี่คิวบอก ผมรีบยื่นถ้วยในมือให้กับป้านิดทันที ป้านิดยิ้มรับไปเติมมันบดให้ผม
“ก็พี่ชอบเหน็บแนมผมนี่”
“เหรอ ฉันชอบเหรอ..ทำไมฉันไม่รู้ตัวว่าฉันชอบนะ” พี่คิวกวนไม่เลิกทั้งที่กำลังก้มหน้าก้มตาทานอาหาร
“ครับ พี่ไม่เคยรู้อะไรหรอก..เฮอะ” ผมทำเสียง
“ทำเสียง เป็นเด็กเป็นเล็ก..เสียมารยาท” พี่คิวว่าแต่สีหน้ากลับยิ้มเหมือนต้องการจะแกล้งว่าผมซะมากกว่า
“ชิ” ผมเบะปาก เรานั่งทานอาหารกันต่อ พี่คิวก็ทานเก่งใช่ย่อยเมื่อไหร่ ผมจึงไม่รู้สึกเกร็งที่จะขอเติมอยู่บ่อยครั้ง หลังจากที่ทานอาหารเสร็จผมกุลีกุจอช่วยป้านิดเก็บอาหารและล้างจาน ถึงแม้ว่าป้านิดจะดุและห้ามไม่ให้ผมทำก็ตาม แต่สุดท้ายก็ห้ามผมไม่อยู่อยู่ดีละครับ
ก๊อก ๆ ๆ
ผมเคาะประตูห้องหนังสือเพราะกลัวว่าจะไปรบกวนอีกฝ่าย พี่คิวนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟากลางห้อง พี่เขาหันหน้ามามอง
“เสร็จแล้ว” ผมบอก
“เห็นแล้ว” พี่คิวตอบส่งๆ ผมถอนหายใจเล็กน้อย เพราะโดนย้อนบ่อยแต่ดันกลับไม่ชินเองซะอย่างนั้น
“ฟังเพลงอะไรอยู่เหรอครับ” ผมเดินเข้าไปในห้อง ถามถึงเพลงที่พี่เพลงกำลังเปิดคลอเบาๆอยู่ เครื่องเล่นแผ่นเสียงสีทองแบบโบราณวางอยู่ที่มุมห้อง ผมไม่เคยเดินเข้าไปเฉียดใกล้มันเพราะกลัวของเขาจะเสียหาย มันดูหรูหรามีออร่าเหมือนบอกผมอยู่ตลอดว่า “คนจนอย่าเข้ามาใกล้นะ” ประมาณนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นแผ่นเสียงกำลังเล่นอยู่จริงๆ มันเพราะดี ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเพลงบรรเลงคลาสสิก..น่าจะอย่างนั้น
“..............” พี่คิวไม่ตอบ หน้าตาไม่ได้ไม่พอใจในคำถามของผมแต่กลับดูนิ่งแปลกไปจากทุกที
“เอ่อ ขอนอนสักแป๊บได้ไหม เดี๋ยวจะไปส่ง” พี่คิวพูดเหมือนขออนุญาตผมอย่างนั้น นี่คงเป็นครั้งแรกผมจึงรีบพยักหน้าตอบ
“พี่ชอบเพลงคลาสสิกเหรอ” ผมถาม พี่คิวเอนตัวนอนลง
“อืม มัน...ก็ดี” พี่คิวตอบส่งๆ สายตามองตรงขึ้นไปที่เพดานห้อง
“งั้นผมนอนบ้าง” ผมยิ้มบอกและล้มตัวนอนลงบนโซฟาอีกตัว
“หึ เป็นเด็กชอบเลียนแบบรึไงนายน่ะ”
“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมเถียง อยู่ๆพี่คิวกลับเงียบไป เพลงใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงเครื่องสายเบาๆ ในห้องไม่มีเสียงพูดใดๆหลุดออกมาจากทั้งผมและพี่คิว ผมนอนตั้งใจฟังเพลงอยู่ครู่หนึ่ง สำหรับผมที่เข้าไม่ค่อยถึงกับเพลงคลาสสิก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ตั้งใจฟังอย่างจริงจัง
“เพลงเพราะดี เพลงอะไรเหรอครับ” ผมตะแคงตัวให้สะดวกที่จะหันไปมองพี่คิวได้ง่ายขึ้น
“Canon in D” พี่คิวตอบแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เพดานห้องอย่างเดิม
“Canon in D..งั้นเหรอ ไม่เคยได้ยินแฮะ เค้ก..ไม่เคยฟังเพลงคลาสสิกน่ะ” ผมพูด
“แปลกดีนะครับ ไม่มีเนื้อร้อง..แต่เพราะดีเนอะ”
“อืม” พี่คิวพยักหน้าน้อยๆ
“เค้กได้ยินเค้าว่ากันว่า ฟังเพลงบรรเลงแล้วจะอารมณ์ดี อ่านหนังสือก็มีสมาธิงั้นเหรอ..จริงไหมอ่ะครับ”
“ไม่รู้ซิ” พี่คิวตอบเสียงเบาคล้ายกับคนกำลังนึกคิดอะไรอยู่บางอย่าง
“อ่าว งั้นพี่ฟังทำไม”
“ก็รัก..” พี่คิวตอบ ผมชะงัก พี่คิวไม่ได้ตอบแค่ว่า “ก็ชอบ” แต่กลับพูดว่า “ก็รัก” ที่ออกมาจากปากอย่างง่ายดายยิ่งทำให้ผมแปลกใจ เราทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ปกติแล้วใครที่ชอบฟังเพลงแนวใดต่างจะใช้คำพูดว่า “ชอบ” มากกว่า “รัก” ไม่ใช่รึไงกัน..
“ฉันชอบฟังเวลาต้องคิดสูตรอาหารน่ะ” พี่คิวขยายความ
“มัน...สงบดี” พี่เขาบอก ผมนอนจ้องมองพี่คิวอย่างไม่ละสายตา ใบหน้าของผู้ชายคนนี้ที่ไม่ได้หันกลับมามองผมเลยเหมือนกับกำลังเหม่อลอยและเศร้า
“แต่ ยกเว้น....เพลงนี้”
“.............” ผมเงียบ “ยกเว้นเพลงนี้” หมายความว่ายังไง ผมยิ่งงงและสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม
“สักพักนะ” พี่คิวบอก ผมพยักหน้าตอบทั้งทั้งที่พี่คิวไม่ได้หันมามองผมนั่นล่ะ พี่เขาหลับตาลงช้าๆ ผมพลิกตัวกลับมานอนหงายอย่างเดิมและหลับตาลงบ้าง
“ ~~~~~ ” เสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ผมไม่รู้ว่าเพลงมันเพราะด้วยนักดนตรี หรือไพเราะเพราะแผ่นเสียงดี รึเครื่องเล่นแผ่นเสียงดีกันแน่เพราะเสียงเพลงใสไพเราะจับใจจนรู้สึกได้ ถ้าเป็นนักวิชาการทางด้านดนตรีคงจะตอบผมได้อย่างแน่นอน แต่ผมคิดว่าเพลงมันฟังดูเศร้าไป ผมไม่ค่อยมีหัวทางด้านดนตรีเท่าไหร่นัก เอ่อ..ที่จริง ผมแทบไม่มีหัวทางด้านนี้เลย เพลงช่างอ่อนโยนและฟังดูหวานละมุน แต่กลับฟังดูเศร้า ดนตรีนั้นเศร้าหรือเพราะอาการของพี่คิวที่แสดงออกเมื่อกี้กันแน่ ผมรับรู้ได้เพียงว่าพี่คิวมีสีหน้าและท่าทางเศร้านิ่งอย่างไม่เคยได้เห็นมาก่อน ถ้าเพลงนี้จะหมายถึงความรู้สึกของพี่คิวที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันก็คงจะ..
ผมนอนหลับตาแต่ไม่ได้หลับลึกลงไป ผมนอนนิ่งอยู่บนโซฟานี้นานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว พี่คิวคงเหนื่อยเพราะพี่เขาหลับนิ่งไปเลย ไม่กระดุกกระดิกแม้สักนิดเดียว เพลงเริ่มเปลี่ยนไปเพลงแล้วเพลงเล่า ผมไม่คิดจะปลุกด้วยรู้สึกเกรงใจ
“อื้อ” ผมลืมตาขึ้นมองพี่คิวอีกครั้ง พี่คิวเริ่มขยับตัวแต่ยังคงหลับตาอยู่
“ป..” ผมลุกขึ้นนั่งมองด้วยความแปลกใจ
“อย่า...ไม่” พี่คิวพึมพำ ผมร้อนใจกับอาการของพี่คิวจึงลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปใกล้พี่คิวมากขึ้น ผมกลัวว่าพี่เขาจะเป็นอะไร ถึงจะรู้ว่าพี่เขากำลังละเมอแต่สีหน้าท่าทางของพี่เขาดูไม่ดีเอาซะเลย
“ปราย” พี่คิวเรียก ปราย..งั้นเหรอ ผู้หญิง แฟน..ที่พวกพี่ๆเคยพูดถึงคนนั้นใช่รึเปล่า
“ปราย คิว..”
“อ๊ะ” ผมตกใจ อยู่ๆมือของพี่คิวมาจับมือของผมไป ผมยืนตัวแข็งด้วยทำอะไรไม่ถูก
“คิวขอโทษ” ผมกำมือพี่คิวตอบและนั่งลงที่พื้น แน่นอนว่าผมไม่กล้าปลุกพี่เขา พี่คิวกำมือผมแน่น ผมจึงนั่งลงอยู่อย่างนั้นไม่ท้วงอะไร นานพอดูที่พี่คิวจะลืมตาขึ้นช้าๆก่อนที่พี่เขาจะหันหน้ามามองหน้าผม
“เอ่อ” ผมไม่กล้าสบตาพี่คิวนัก ดูพี่เขาจะตกใจที่เราจับมือกันอยู่
“นาย ทำไม..” พี่คิวพูดตะกุกตะกักพร้อมกับลุกขึ้นนั่ง
“พี่ ละเมอน่ะ..ผมเป็นห่วง เลยเข้ามาดู” ผมบอกเสียงเบา
“โทษที” พี่คิวปล่อยมือออกช้าๆ ผมได้ยินเสียงพี่เขาถอนหายใจเบาๆ
“ไม่เป็นไรฮะ” ผมบอก เราต่างฝ่ายต่างเงียบไปครู่หนึ่ง ผมตัวแข็งขึ้นมา ขนาดลุกขึ้นยืนและเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างเดิมยังแทบไม่กล้าทำ
“พ..พี่ โอเคนะ” ผมเงยหน้ามอง
“อืม หึ..ก็ดี” พี่คิวยิ้มเศร้าตอบต่างจากทุกที
“ฉันหลับไปนานไหม”
“ก็ ครึ่งชั่วโมง”
“แล้วจะนั่งตรงนั้นอีกนานเท่าไหร่” พี่คิวหัวเราะ
“ตะ..ตะคริวกิน” ผมบอก อยู่ๆตะคริวก็กินขาซะอย่างนั้น สงสัยจะเกิดอาการเกร็งทั้งตัวมากไปหน่อย
“หึ..” พี่คิวลุกขึ้นยืน ผมเงยหน้ามองมือของพี่คิวที่แบอยู่ตรงหน้าเหมือนจะให้ผมจับ ผมนำมือไปจับมือของพี่คิวทั้งสองข้าง พี่คิวออกแรงเป็นเสาหลักให้ผมลุกขึ้นได้ง่ายขึ้น ผมลุกขึ้นมานั่งที่โซฟาที่พี่คิวนอนเมื่อกี้
“ขอบคุณฮะ” ผมบอก
“จะกลับเลยไหม” พี่คิวถาม
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ หลังจากนั้นพี่คิวขับรถเพื่อไปส่งผมที่บ้าน วันนี้รถติดอย่างเคย เรานั่งกันเงียบมาตลอดทาง พี่คิวไม่ได้เปิดเพลงหรืออะไรสักอย่าง ในรถเงียบมากจนผมแทบไม่กล้าจะกระดิกตัว
“เอ่อ ฉัน..ละเมองั้นเหรอ” อยู่ๆพี่คิวก็ถามขึ้น
“ค..ครับ” ผมก้มหน้าก้มตาตอบไม่เต็มปากเต็มคำนัก
“งั้นเหรอ” พี่คิวพูด
“แล้ว..”
“ฉันละเมอว่าอะไร”
“..............” ผมเงียบเหลือบมองพี่คิวเพียงนิดเดียว สายตาของพี่คิวมองตรงไปที่ถนนด้านหน้า เป็นสายตาที่เหมือนกำลังรอคำตอบทั้งทั้งที่เหมือนตัวเองก็รู้อยู่ดีแก่ใจอยู่แล้ว
“ปราย คนชื่อปราย” ผมตอบ หลังจากนั้นพี่เขาก็เงียบไป ผมหันกลับไปมองและไม่ถามอะไรอีกเหมือนต่างก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก
“เธอเป็น..” ผมกล้าๆกลัวๆที่จะถามออกไป แต่ลึกๆแล้วผมอยากรู้เรื่องของพี่เขากับผู้หญิงคนนี้
“แฟนน่ะ เธอ..เสียไปแล้ว” พี่คิวชิงตอบซะก่อน ผมชะงักเล็กน้อย
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษทำไม” พี่คิวถาม
“ที่..เสียมารยาท” ผมตอบ
“หึ..เปล่าหรอก” พี่คิวบอกส่งๆ หลังจากนั้นเราก็เงียบกันมาตลอดทาง ไม่มีบทสนทนาอื่นๆอีกเลย..
ณ สมุดโน้ตของคุณเค้ก..
เสาร์ 12 พฤศจิกายน 2554
Canon in D เป็นเพลงบรรเลงที่ไพเราะจัง วันนี้พี่คิวละเมอถึงแฟนเก่าที่ชื่อ “ปราย” ด้วย พี่เขาดูเศร้าจนน่าสงสาร มันทำให้เรารู้สึกแย่ตามไปด้วย..เฮ้อ ทำไม..ทำไมเรากำลังรู้สึกแบบนี้กัน เพลงคลาสสิกหลากหลายเพลงที่เราได้ฟังในวันนี้ถึงแม้จะไม่เข้าใจในความหมาย แต่เพลงCanon in D คงจะมีความหมายสำหรับพี่คิว..รึเปล่านะ T__T อาการของพี่คิวไม่ดีเลย
Ps. Canon in D คุณเศร้า หรือพี่คิวทำให้คุณเศร้ากันแน่นะ..
Bye Bye..Cake
..................>>>><<<<...................
-
ขอให้เบบี้สอบคะแนนดีๆคับ _/|\_
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: จิ้มไว้ก่อนแรววิ่งไปอ่าน :pig4: :pig4: :pig4:
วิ่งไปอ่านมาแรว น่ารักมากมาย :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
รีบวิ่งไปอ่าน :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
ตั้งใจสอบเน้ออออออ สู้ๆ :a2: :a2:
-
ขอให้สอบผ่านฉลุยจะเบบี้ :กอด1:
-
น้องเค้กเิริ่มอยากรู้เรื่องพี่คิวมากขึ้นแล้วอะ =///= ขยับเข้าไปอีกนิด ชิดๆเข้าไปอีกหน่อย โหะๆ
นี่มันอาจจะเป้นจุดเริ่มต้นที่ดีของสองคนนี้ เพราะเริ่มมีกินข้าวด้วยกันสองคน พริกเข้าตา
พาไปล้างหน้า จับมือเบาเบา น่าร๊ากกกกกกกกก
-
อยากกินอาหารฝีมือพี่คิว >///<
ปรายคือแฟนพี่คิว?! ตายไปแล้วด้วยอ่อ TT'
-
สมุดโน้ตของเค้กเริ่มมีเรื่องราวของพี่คิวมากขึ้นแล้วนะจ๊ะ
-
เค้กเริ่มแคร์ความรู้สึกพี่คิวแล้ว :กอด1:
-
พี่คิวก็มีมุมอ่อนไหวนะเนี่ย ต้องมีอะไรคาใจแน่ ๆ เรื่องปราย
ใกล้ชิดกันเข้าทุกวัน เดี๋ยวพี่คิวมันก็หลงรักไปเอง 5555555
น้องเค้กน่ารักมากเหอะ กล้าต่อปากต่อคำกับพี่คิวมากขึ้น
ไม่เกร็งเหมือนเจอกันแรก ๆ :กอด1:
ปล.สอบให้ผ่านฉลุยเลยนะจ๊ะ เพี้ยงงงงงงงงงงงง
-
รู้สึกพี่คิวเปิดใจกับเค้กมากขึ้น และเค้กก็อยากรู้เรื่องพี่คิวมากขึ้น
ทั้งคู่สนิทกันขึ้นเรื่อยๆ เย่ๆ :m1: :m1: :m1:
ขอให้เบบี้ได้คะแนนดีๆ ทำถูก มั่วถูก ตอบตรงใจอาจารย์ :yeb:
-
:impress2: หวานนิดๆ กระดึบหน่อยๆ
-
น้องเค้กเริ่มเรียกชื่อแทนตัวเองว่า "เค้ก" กับพี่คิวละ ไม่เป็น "ผม" เหมือนตะก่อน แถมยังออกอาการแบบยังไม่รู้ใจตัวเองตั้งกะตอนที่แล้วอีก เด็กเอ๋ยเด็กน้อยกว่าจะรู้ใจตัวเองก็คงตกหลุมพี่คิวจนถอนตัวไม่ขึ้นละว๊า
พี่คิวก็นะ สบายใจใช่ป่ะ เวลาอยู่กะน้องมันง่ะ รู้สึกเดี๋ยวนี้เปิดพื้นที่ว่างให้น้องมันเข้ามาใช้งานบ่อยนะ นานๆ ไปคาดว่าจะมีแต่พื้นที่สำหรับน้องเค้กคนเดียวละทีนี้ ...หุหุ
ขอบคุณไอ้น้องบี้ ของให้โชคA ในการสอบเด้อ
:กอด1:
-
พี่คิวยิ้มง่าย อารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยอ่ะเดี๋ยวนี้ (ถึงจะออกแนวเย้ยหยัน แสยะยิ้มไปบางก็ตามที o16)
ท่าทางเรื่องปรายคงเป็นปมฝังใจน่าดู
เค้กค่อยๆก้าวเข้าไปในโลกพี่คิวมากขึ้นเรื่อยแล้วสิเนาะ :a1:
ปล. โชคดีในการสอบนะคะเบบี้
-
พี่คิวจะเริ่มชอบน้องเค้กบ้างรึยังนะเนี้ย
แต่น้องเค้กจิตใจหวั่นไหวไปแล้วแหละค่ะตอนนี้ 555
พี่คิวอย่าทำให้น้อกเค้กต้องอกหักนะค่ะ :o12:
-
ขอให้สอบผ่านและได้คะแนนดีๆ ทุกวิชานะคะ
น้องเค้กผู้น่ารักกำลังหวั่นไหวไปกับความรู้สึกพี่คิว
และพี่คิวผู้น่าสงสาร มันเกิดอะไรขึ้นกับแฟนเก่าล่ะ ทำไมพี่คิวต้องขอโทษ
-
ขอให้สอบผ่านเน้อเบบี้ :L2:
+1จ๊า
-
พ่ี่คิวคงจะรักแฟนมากสินะ :monkeysad:
สงสัยเพลงนี้จะเกี่ยวกับแฟนด้วยล่ะมั้ง
บรรยากาศดูเศร้าๆหรือเราเศร้าไปกับพี่คิวด้วย
เหมือนเค้กเข้าใกล้พี่คิวเข้าไปอีกก้าวนึง
และความสัมพันธ์ดูเหมือนจะดีขึ้นตามลำดับ
ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเนอะ เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
บวกเป็ด และเก็ทเอทุกวิชานะคะ
-
ตอนนี้น่ารักปนอึมครึมนิดๆ พี่คิวมีความหลังอะไรน้า อยากรู้ด้วยจริงๆ o18
ชอบเวลาเค้กกะพี่คิวคุยกันมันให้บรรยากาศคู่กัดที่กำลังเริ่มปิ้งๆกัน >.<
ปอลิง ขอให้คุณเบบี้โชคดีในการสอบนะคะ ผ่านฉลุย ออกตามที่เรียน :L2:
-
ตอนนี้เศร้า สงสารพี่คิว
เหมือนต่อไปจะมีดราม่า เค้กมันน่ารักอะสงสาร แอบคิดไปไกล
ถึงตอนต่อๆไป
ทำข้อสอบได้นะคะ เบบี้ พี่ชอบเรื่องนี้มาก ขอบคุณจ้ะ
-
แลวจะเป็นไปแบบไหนคิวเค้ก :L1:
-
ความในใจของพี่คิวเหรอนี่
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะเบบี้ :impress3:
-
โว๊ะ มีช่วยกันทำกับข้าว พาไปล้างหน้า กรี๊ดดดดดด
ตอนนี้แอบซึมไปพร้อมพี่คิวหน่อยๆ
คนเขียนตั้งใจสอบนะจ๊ะ ขอให้ทำได้อย่างที่ใจหวังจ้า
-
คิวเศร้าเค้กปลอมใจคิวด้วยนะ
-
มุมส่วนตัวของนายคิว
มาให้กำลังใจใจการสอบ :L2:
+1
-
ตะเองพึ่งสอบรึ เราพึ่งสอบเสร็จไปเมื่อวานเอง เหนื่อยมากก:try2:
อ่านไปหลายตอนรวด รู้สึกน้องเค้กเขาจะเริ่มอะไรๆกับพี่คิวแล้วนะ
ภาระเหลือที่พี่คิวคนเดียวแล้วนะีพี่ รีบรักน้องเค้กด่วน :-[
-
:กอด1:รักพี่คิวมากขึ้น...
-
อยากรู้ความหลังของพี่คิวซะแล้ว :z2: :z2: :z2:
-
สู้ๆนะ สอบให้ได้คะแนนสะสมไว้เยอะเผื่อตอนปลายภาคนะ
-
:ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149:
-
สงสารพี่คิวอ่ะ TT
-
อ่อยยยย
แหนเก่าที่พี่คิวรักมากสินะะ
งื้ออออ น้องเค้กต้องช่วยเยียวยาแล้วล่ะนะะะ
เยเยเย ไฟท์ติ้งงงงง !!!
-
เหมือนน้องเค้กจะเริ่มสับสนแฮะ เอ... หรือเราลุ้นมากไป เหอๆๆๆ
-
:mc4:ฟังเพลง Canon In D ไป แล้วอ่านไป ยิ้มไป เหมือนคนบ้า ฟินมากค่ะตอนนี้
ปล.ขอให้น้องเบบี้สอบได้คะแนนดีๆ ทุกวิชาจ้ะ
-
:กอด1:อะไรๆกำลังเปิด
-
song khon nii yuu duai kan thii rai narak thukthii....
-
คนเขียนจะสอบมิดเทอม ก็สอบไป คนอ่านก็รอต่อไป แต่โคตรอยากรู้เรื่องปรายเลย :serius2: เสือกไปปะ
-
o22
คิดว่าจุดเริ่มต้นของพี่เค้ก...น่าจะดีขึ้น
เอาใจช่วยในการสอบคะ
-
ชอบ Ps. เศร้า T T ;
สอบสู้ๆเน๊อ :) '
-
:กอด1: มาแล้ว มาทำให้รักมากขึ้นอีกแล้ว :กอด1:
-
ตอนนี้พี่คิวดูน่าสงสารจัง :monkeysad:
-
พี่คิว คงมีอดีตที่เจ็บปวดน่าดู แต่เค้กน้อยกำลังทำให้พี่คิวเปิดตัวเปิดใจมากขึ้นหรือเปล่า
:pig4:
-
ตอนต้น อมยิ้ม ตอนปลาย เจ็บใจจี๊ดๆ
-
อ่านตอนนี้แล้วอยากกรี๊ดมากอ่ะ
เค้ก-คิว น่ารักมากมาย
นึกแม้ว่ามันจะเศร้าก็เถอะ
ชอบอ่ะ ซึ้งดี ได้อยู่กันสองต่อสองด้วย
ดูท่าแล้วพี่คิวคงจะรักเดียวใจเดียว ผู้ชายแบบนี้หายากยิ่ง
รักใครรักจริงเนี่ย...
-
:a5:ช็อค o22 พี่คิวแกเคยมีแฟนด้วยวุ้ย
เค้กเริ่มขยับเข้าไปใกล้อีกนิดแล้ว เริ่มเข้าขั้นสนิทแล้ว :z2:
:call: o13 ขอให้เบบี้สอบได้คะแนนเก๋ ๆ นะ
-
ระหว่างสองคนนี้ สงสัยน้องเค้กจะรู้ตัวว่า "ชอบ" ก่อนพี่คิวแน่เลย
คิวมีความหลังที่ไม่ดีเรื่องแฟนเก่าเหรอนี่ อยากรู้ๆ
-
ความรู้สึกค่อยๆสื่อถึงกันเรื่อยๆซินะ :กอด1:
-
ตอนแรกบรรยากาศก็น่ารัก กุ๊กกิ๊ก ดีอยู่หรอก
แต่พอพี่คิวละเมอถึงแฟนเก่าที่เสียไปนี่ทำเอาเศร้าไปด้วยเลย :monkeysad:
-
ขอให้เบบี้ผ่านมิดเทอมอันหนักหน่วงไปได้ด้วยดีน๊าาา ^^
รออ่านพี่คิวน้องเค้กต่อไป :L2:
-
สวดยอดดดดด รักพี่บี้ กร๊ากกกกกก
-
คู่นี้น่ารักขึ้นทุกวันๆ
เบบี้สู้ๆ
-
โอ้วว ปมปริศนาของพี่คิว
เค้กไขปริศนาให้ได้น้า
-
พี่คิวกับปมในใจ ในที่สุดก็เผยออกมา
ปราย ... คงฝังรากลึกอยู่ในใจพี่คิวเป็นแน่
แล้วอย่างงี้เค้กจะเข้าไปได้เมื่อไหร่ :monkeysad:
เต็มที่กับการสอบนะคะ
o13
-
"ก็รัก" สื่อความหมายอะไรรึป่าวน้า (อิคนอ่านคิดไปโลกหน้าแล้วค่า 555)
พี่คิวน่ารักขึ้นอีกแล้วน้า :-[
-
เยส!!!....ตามอ่านทันแล้ว^^
อดีตของพี่คิวคงมีเรื่องน่าเจ็บปวดเยอะทีเดียวนะคะเนี้ย
หวังว่าเค้กคงจะทำให้อาการดีขึ้นเนาะ^^
-
ได้รู้จักพี่คิวขึ้นมาอีกอีกหน่อย :เฮ้อ:
-
เค้กเริ่มอยากรุ้เรื่องพี่คิว
เพราะว่าสนใจพี่คิวแล้วใช่ม่ะ ^^
(ว่าแต่สนใจพี่คิว รึ อาหารที่พี่คิวทำมากกว่ากันล่ะ 5555)
ขอให้ทำข้อสอบได้น่ะ :call: :call:
-
คนชื่อ 'ปราย' น่ะอดีต
แต่อนาคตข้างหน้าน่ะ
ชื่อ.......' เค้ก '.......นะพี่คิว
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
ผลบุญในการอัพนิยายนี้จงดลบันดาลให้เบบี้สมองโปร่งสดใสทำข้อสอบได้เต็มๆ
ปรายจากไปแล้ว แล้วสาวคนปะจจุบันนี่อีกล่ะ ขอลัดคิวไปหาเค้กเลยได้ไหม
-
สงสารคิวเลยแฮะตอนนี้
สอบให้ได้คะแนนเยอะๆน้า สาธุๆ :call: อิอิ
-
สงสัยน้องเค้กเริ่มจะมีความรู้สึกพิเศษกับพี่คิวซะแล้วสิ
รู้สึกชอบเพลงCanon In Dขึ้นมาซะแล้วสิ ฟังแล้วเศร้าๆเหงาๆดี :impress: :impress: :o11: :o11:
ชอบน้องเค้กกกกกกกอ่ะ น่ารัก ลุ้นๆ ชอบความรักรูปแบบนี้จังเลย เหมือนกับว่าเป็นชีวิตจริงเลยอ่ะ
ที่ผู้ชายที่ไม่ได้เป็นเกย์ กว่าจะรักกันต้องใช้เวลา และกว่าจะรู้ใจตัวเอง และยอมรับความรู้สึกนั้น
เบบี้สื่ออารมณ์ให้เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆอ่ะ เป็นการดำเนินเรื่องแบบน่ารักไม่รีบร้อนและทำให้ลุ้นตลอดอ่ะ
ก็ไม่เข้าความรู้สึกที่ผู้ชายกับผู้ชายรักกันหรอก แต่ต้องยอมรับล่ะว่ามันคงไม่เกิดกับใครง่ายๆอ่ะ
ชอบทุกเรื่องของเบบี้เลยค่ะ
-
คิวเค้ก อิอิ น่ารักๆๆ
แต่ตอนท้ายแอบเศร้าๆ
-
เกิดอะไรขึ้น :z3: :z3: :z3:
-
น้องเค้กเข้าถึงพี่คิวอีกเรื่องแล้ว
-
พี่คิวน่าสงสาร :เฮ้อ:
เกิดอะไรขึ้นตอนนั้นน้า เพราะเรื่องพี่ปรายรึป่าวพี่คิวเลยเงียบๆขรึมๆแบบนี้
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!! :z3:
เค้กก็สนิทกะพี่คิวมากขึ้น รู้อะไรมากขึ้น แสดงว่าพี่แกเปิดใจกะเค้กเเล้วใช่มั้ย อ๊าาา!!!
ปล.สู้สู้สำหรับมิดเทอมค่าคุณแบบี้ ^^
-
น้องเค้กกำลังแทรกซึมเข้าไปในชีวิตของคิวเลือย ๆ นะเนี่ย
:pig4: คะ
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
เหมือนจะมีลางความเศร้าลอยมา :m15:
รักหนูเค้กกกกกกกกกกก :impress2:
-
เค้กหวั่นไหวมากขึ้น แล้วพี่คิวละ?
ขอให้สอบผ่านไปอย่างราบรื่นน้า
-
ขอให้ได้คะแนนดีๆ สู้ๆเบบี้ เราจะรอ :)
-
เศร้ากับคิว :เฮ้อ:
ฮากับเค้ก :laugh:
-
โชคดีกับการสอบหน่า า า
สู้ สู้
-
พี่คิวกับเค้กเริ่มมีการพัฒนาขึ้นทุกวัน ทำกับข้าวด้วยกัน กินด้วยกัน ดูแลกันและกันบ้าง :กอด1: อย่างนี้เค้าเรียกรักซึมลึกนะเนี่ย
-
มีแถมมาม่าเบาๆ :เฮ้อ:
-
คิวเป็นคนที่น่าค้นหาจริงๆ สำหรับตอนนี้ก็เปิดใจให้เค้กมากขึ้น ส่วนเค้ก... ใช่เลยอาการแบบนี้
:pig4: :กอด1:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: อารมณ์เพ้อช่วงแรก แล้วมาดาวน์ช่วงหลัง
-
ขอให้การสอบเป็นไปด้วยดีนะคะ
-
สู้สู้นะงับ
-
:angry2: :angry2:สู้ สู้ สู้ตายเบบี้
พี่คิวกะน้องเค้ก เค้าคงชอบกันโดยไม่รู้ตัวแน่ๆเลย
-
เรื่องซับซ้อนมาก มองเลยไปเห็นปัญหาถาโถมเข้าใส่น้องเค้ก ..ถ้ารู้ตัวว่ารักเข้าแล้วจะเจ็บแค่ไหนกันน้าาา
คิวเค้กน่ารักมากๆจริงๆ ฮื่อออออออออออออออ
เบบี้สอบสู้ตายค่าที่รัก
-
ขอคุณค่ะ ขอให้เบบี้สอบผ่านนะค่ะ :กอด1:
-
คิวน่าสงสารนะ ต้องมีปมหลังที่ไม่ดีแน่อ่ะ
-
ฟัง Canon in D แ้ล้วก็เพราะปนเศร้าๆ...สงสารคิว...
-
ตอนนี้มัน ตอนแรกน่ารักงุงิ
พอตอนหลัง คือเราแพ้เพลงคลาสสิคอ่ะ มัน เศร้าาาาาาาาาาาาาาา :monkeysad:
-
เค้กชอบพี่คิวอ่ะดิ๊!! ทำไรไม่ค่อยจะถูกน่ะทุกวันนี้ เขิลพี่แกตลอดๆๆ ^^
-
ชอบบบบบบ พี่คิวกะน้องเค้กจริงๆเลย ความสัมพันธ์เค้าแบบ ซึมซับเรื่อยๆน่ารักดีอ่ะ พี่คิวดูมีการปรับเปลี่ยนขึ้นบ้าง เวลาเค้าอยู่กัน2คนมันน่ารักดีอ่ะ
-
:เฮ้อ: ไม่ชอบบรรยากาศเศร้า ๆ เลย
:L2: สู้ ๆ กับข้อสอบนะค่ะ
-
พี่คิวเริ่มอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆเลยน่ะ :-[
:L2: :L2:
-
เศร้า สงสารพี่คิวอ่ะ
แฟนพี่คิวเป็นไรเสีย....?
-
อ่านไปอ่านมาไม่รู้เเล้วสิว่าสองคนนี้เริ่มใกล้ชิดกันตั้งแต่เมื่อไร
แต่ชอบน่ะมันค่อยๆเป็นค่อยๆไปไม่ได้เกิดจากความรักตั้งแต่เเรก
แต่เพราะความใกล้ชิด
เป็นกำลังให้คนเขียนสอบได้คะแนนดีๆเน้อออออ
-
อ่าน เเล้วเศร้าตามเลย
ตั้งสอบนะครับบ สุ้ๆๆๆ
-
อ่า .. เรื่องของพี่คิวค่อยออกมาทีละนิดแล้วสินะเนี่ย ..
แล้วก็ดูเหมือนเวลาอยู่กันสองคนแล้ว โคตร จะเปิดใจให้เค้กสุดๆอ่ะ
เฝ้ารอเวลาที่สองคนนี้จะลงเอยกันไม่ไหวล่ะ !!!
-
เศร้าอ่ะ :z3:
-
เค๊กเข้ามาทำให้พี่คิวและคนรอบข้างดูมีชีวิตชีวาขึ้น
หวังว่าความสดใสนี้จะทำลายกำแพงน้ำแข็งได้
เอาใจช่วยน้องเบบี้นะคร้าบบบบบ สู้สู้ :L2: :L2:
-
เริ่มรู้เรื่องส่วนตัวของพี่คิวมากขึ้นแล้ว
แต่น้องเค้กจะห้ามใจตัวเองไหวมั๊ยเนี่ย
ดูท่าจะตกหลุมรักพี่คิวไปแล้ว เอาแต่กังวลเรื่องเค้าอ่าาา
-
พี่คิวเริ่มเปิดเผยตัวตนให้น้องเค้กเห็นมากขึ้นแล้ว
เริ่มอยู่ด้วยกันมากขึ้นด้วย น่ารัก ฮ่าๆๆ
ปล.ขอให้ทำข้อสอบได้นะคะ ^^
-
ขอให้เบบี้สอบได้คะแนนเยอะๆ นะ ง่ะ อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกแย่ตามไปด้วยเลยอ่ะ พี่คิวคงจะฝังใจกับ canon in d แน่ๆ เลยอ่ะ ปรายคงจะมีความหมายกับพี่คิวมากแน่ๆ อ่ะ เค้กน่ารักตลอดเลยอ่ะ ^^
-
เมื่อไหร่ทั้งคู่จะได้เป็นแฟนกันซักทีอ่ะ รอลุ้นๆๆ
-
อุตส่าห์เริ่มซะหวาน...ดันเศร้าตอนท้ายซะงั้นอ่ะ
แต่ก็ถือว่าคิวเปิดใจให้เค้กมาก ๆ เลยนะ ถึงกับเล่าเรื่องส่วนตัวขนาดนั้นออกมา แม้จะเป็นประโยคสั้น ๆ ก็เถอะ
-
น้องเค้กกกกก :sad11: รู้ตัวมั๊ยว่าหนูอ่ะ ดูห่วงพี่คิวมากกว่าปกตินะ
:pig4:
-
:z1: กุรอนานมากแล้ว รีบๆสอบเหอะเมิง อย่าได้แคร์ 555
แล้วมาลงต่อไวๆๆๆๆๆๆเน้อ :seng2ped:
-
คิดถึงน้องเค้ก เมื่อไหร่จะมาอ่ะ :กอด1:
-
แทรกซึมเข้าหัวใจพี่คิวทีละน้อย ๆ...
ไม่ช้า...หัวใจพี่คิวก็จะมีแต่น้องเค้กนิ... :กอด1:
:L1: น้องเบบี้ :pig4:
-
เข้ามาวิ่งเล่นรอเชฟคิวกะน้องเค้กฮะ :oni1:
-
น่ารักทั้งน้องเค้กทั้งพี่คิวเลยยยยยยยยยยยยยยยย
แอบกวนติงทั้งคู่ เหอๆๆ ชอบๆๆๆ
อ่านแล้วติดหนึบเลยอ่ะติดตามๆๆๆๆ><
-
มานั่งรอแฟนเรา? อิอิ :-[ (ควบ2)
ช่วงนี้ก็สอบมิเทอมเหมือนกันค่ะ กำลังปวดหัว อ่านหนังสือทะลุไม่เข้าหัว
ขอให้คุณเบบี้ทำเต็มที่นะคะ เรารอได้ อิอิ ไปอ่านหนังสือก่อน :bye2:
-
ดันๆ
-
ดันๆๆ ฮึบๆๆ :z2:
-
ตามอ่านเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว
เพิ่งจะมีโอกาสได้มาเม้น (ช้าได้อีก - -) แฮะ ๆ
ชอบการดำเนินเรื่องราวมาก
ความสัมพันธ์ของน้องเค้กกับพี่คิว ทุกอย่างค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป
เห็นถึงความรู้สึกที่ค่อย ๆ พัฒนา ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บรักกันเลย
จากพี่คิวที่ขรึม ๆ โหด ๆ ก็พูดเยอะขึ้น กวนเยอะขึ้น น่ารักมากขึ้น
น้องเค้กที่ออกจะไม่ค่อยชอบตอนนี้ก็มีเขินพี่คิวแล้ว >///<
อ่านไปก็ยิ้มไปได้ตลอด ทุกคนในร้านก็น่ารักมาก อบอุ่นจริง ๆ
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ^^
-
คิดถึงพี่คิวกับน้องเค้ก ^^
-
มาลงชื่อติดตามแล้วค๊า :z2:
-
:bye2:
-
รอวันที่พี่คิวและน้องเค้กรู้ใจกันและกันว่า"รัก" :call:
-
แวะเวียนมาชะเง้อมอง
คิดถึงคนแต่ง น้องเค้กและพี่คิวมากๆ
-
~29~
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ฮ่าๆๆๆ”
“จริงดิ” ผมชะงัก เสียงโหวกเหวกจากในห้องพักของพนักงานระดับล่างอย่างผมกลับมีเสียงดังเฮฮาออกมาจากในนั้น
แกรก~~
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคน พี่คิว พี่หมี พี่กัส พี่ซีและพี่ฟ้านั่งกันอยู่ครบ
“สวัสดีจ้าเค้ก” พี่ซียิ้ม ผมมองไปที่โต๊ะอาหาร มีอาหารมากมายวางอยู่บนนั้น
“อ่าว ได้เวลาทำงานแล้ว..ไปได้แล้ว” พี่ฟ้าพลิกนาฬิกาข้อมือดู
“คิว แล้วไปแกล้งไอ้เซ็นมันแบบนั้นเดี๋ยวมันได้โวยวายเข้าให้หรอก” พี่ฟ้าบ่น ผมเดินนำเอากระเป๋าไปวางไว้ตรงโซฟาและอดสงสัยไม่ได้ว่าพวกพี่เขากำลังสนุกสนานออกรสกันเรื่องอะไร
“ช่างหัวมันสิ” พี่คิวตอบส่งๆ พี่ฟ้า พี่กัส พี่หมีและพี่ซีลุกขึ้นยืนเตรียมตัว
“เค้ก ทานข้าวกลางวันมารึยังครับ..มาทานสิ” พี่ฟ้ายิ้ม กวักมือชวน
“ครับ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบ พวกพี่ๆเดินออกจากห้องไป เหลือเพียงพี่คิวที่ยังคงนั่งเงียบอยู่ที่เดิม ผมเดินนำของเข้าไปไว้ในห้องล็อกเกอร์ พอเก็บของเสร็จกลับรู้สึกไม่กล้าเดินออกจากห้อง ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่ในห้องสักพักหนึ่ง..
ก๊อก ๆ ๆ
“ครับ” ผมสะดุ้งแต่ก็ขานตอบไป
“เสร็จรึยัง” พี่คิวถาม
“ครับ” ผมตอบและเปิดประตูออก พี่คิวเหลือบต่ำมองหน้าผม ผมยิ้มให้เล็กน้อย
“ฉันทำมันบดสูตรใหม่มาน่ะ ทุกคนลองชิมแล้ว..เหลือนาย” พี่คิวพูด
“ครับ” ผมพยักหน้า
“พูดเป็นอยู่คำเดียวรึไง”
“อะไรล่ะ” ผมย้อน พี่คิวยักไหล่ เดินหนีไปที่โต๊ะอาหาร พี่เขาหยิบถ้วยที่ใส่มันบดมาให้ผม ผมเอื้อมมือจะไปรับไว้แต่พี่คิวกลับชักมือกลับ
“อ๊ะ..” ผมอ้าปากค้าง
“รับของจากผู้ใหญ่น่ะ ไหนบอกว่าเป็นคนมีมารยาทไง” พี่คิวพูดหน้ากวน
“..บ้า” ผมว่า
“หึหึ..” พี่คิวหัวเราะชอบใจ
“ยังไม่ได้ราดซอสต่างหาก” พี่คิวพูดกวน ตักน้ำซอสสีน้ำตาลที่อยู่ในหม้อราดลงบนมันบดในถ้วยนั่นจนกลิ่นหอมเตะจมูกผม
“ขอบคุณครับ” ผมบอก รับถ้วยมาจากมือพี่คิวและเลื่อนเก้าอี้นั่งลง พี่คิวนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามและทานอาหารที่จานของตัวเองต่อ พอพี่เขาเงยหน้าขึ้นมา ผมกลับต้องเหสายตามาสนใจถ้วยมันบดของตัวเองแทน
“นายหลบตาฉันบ่อยนะ” พี่คิวพูดขึ้นก่อนจะก้มหน้าก้มตาทาน
“เปล่าสักหน่อย” ผมรีบบอก
“งั้นเหรอ” พี่คิวเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าผมเหมือนจับผิด ผมจึงจ้องตอบอย่างช่วยไม่ได้
“ขะ..ใครจะมานั่งจ้องหน้ากันตลอดเวลาล่ะ ไม่ใช่ปลากัดนะ” ผมบ่นอุบอิบ ก้มลงทานมันบดแสนอร่อยนี่แก้เก้อไปพลาง
“หึ..” พี่คิวแสยะยิ้ม ผมตักมันบดเข้าปากอีกคำแล้วคำเล่า ถ้าผมทำให้ปากผมว่าง ผมจะต้องต่อปากต่อคำและได้หลุดคำพูดอะไรที่ไม่ควรพูดแน่ๆ แต่รสชาติมันบดก็อร่อยถูกปากจริงๆนะครับ >_< บ้าชะมัด
“ไง” พี่คิวเลิกคิ้วคล้ายกับถามถึงรสชาติมันบดที่ตนทำ
“ก็..ก็ดี” ผมตอบ ตักมันบดอีกคำเข้าปาก
“ถ้าก็ดีละก็กินช้าๆก็ได้ ใครจะมาแย่งของนายกัน”
“ก็มันอร่อยนี่” ผมพูดอย่างลืมตัว
“หึ ฉันรู้” พี่คิวเบะปากอย่างรู้ทัน
“โด่..หลงตัวเองตลอดแหละ” ผมว่า เงยหน้ามองหน้าพี่คิว พี่คิวจ้องตอบ ด้วยสายตาของพี่เขาดูแปลกๆไปจนผมต้องรีบหลบอีกครั้ง
“นี่สูตรอะไรเหรอครับ อร่อยดี..มันเป็นสูตรใหม่เหรอ” ผมถามพร้อมกับตักซอสเข้าปากอยู่ตลอดเวลาที่พูด มันอร่อย มีรสมันๆและเค็มนิดๆ หอมเหมือนมีชีสผสมอยู่ด้วย
“เอ๊ะ..” ผมผงะ วางช้อนลงด้วยอยู่ๆก็รู้สึกคันที่แขนขึ้นมา
“เป็นอะไร” พี่คิวถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เปล่า เปล่าครับ” ผมตอบและตักมันบดทานต่อทั้งทั้งที่รู้สึกแปลกๆ อาการแบบนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิด แต่เวลาที่เกิดมันจะต้องมีสาเหตุก็เท่านั้น
“เป็นอะไรน่ะ” พี่คิวถามอีกครั้งกระทั่งน้ำเสียงเริ่มดุขึ้น ผมเกาแขน เกาคอและเริ่มแน่ใจแล้วว่าตัวเองเป็นนั้นเป็นอะไร
“นายแพ้อะไรรึไง” พี่คิวลุกมาขึ้นจับแขนผมไปดู
“ไม่รู้ครับ ในซอสนี่เหรอ..ทำไมผมเพิ่งเป็นล่ะ” ผมพูดอย่างสงสัย ถ้าเป็นเพราะสาเหตุนั้นจริงๆทำไมผมไม่ได้กลิ่นคาวของมันเลยล่ะ
“อาหาร แพ้อะไร..ปกติกินอะไรแล้วแพ้” พี่คิวถามยกใหญ่ คิ้วของพี่เขาเริ่มผูกเข้าหากันคล้ายกับหงุดหงิด
“เอ่อ..ปู แพ้ปู” ผมตอบตะกุกตะกัก มองหน้าพี่คิวอย่างรู้สึกกลัว
“นี่..” พี่คิวบีบแขนผมแรงกว่าเดิม
“ผม..ผมหายใจไม่ออก” ผมบอก รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา ผมรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่ผมมีอาการแบบนี้มันจะไม่ดีต่อผมเท่าไหร่นัก
“ไปโรงพยาบาลเร็ว” พี่คิวว่า ผมรีบลุกขึ้นยืน พี่คิวดึงแขนผมออกจากห้องทันที
“คิว..ไปไหนน่ะ” ผมหันกลับไปเห็น พี่ฟ้าเดินตรงเข้ามาหา
“เฮ้ย เค้กเป็นอะไรน่ะ” พี่ฟ้าอุทานตาโต
“ไปโรงบาล บอกให้ไอ้เซ็นอยู่ต่อไปก่อนนะ” พี่คิวสั่ง
“ไปเร็วสิ อยากตายรึไง” พี่คิวขึ้นเสียง ผมรีบเดินตามพี่คิวตรงไปที่รถยนต์ของพี่เขา จะเรียกว่าเดินตามคงจะใช้ไม่ถูก ให้เรียกว่าถูกพี่คิวดึงไปตามแรงจะถูกต้องเสียมากกว่า
“ไม่มียาพกไว้เลยรึไง” พี่คิวถามขึ้นระหว่างทาง ผมนั่งนิ่ง มือจิกเบาะรถไว้พยายามไม่เกาทั้งทั้งที่ตอนนี้รู้สึกตัวร้อนไปทั้งตัว หายใจก็ไม่ถนัด แถมยังคันมากๆอีกด้วย
“ไม่..” ผมส่ายหัว
“ฮื้ม..” พี่คิวพึมพำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด พี่เขาขับรถเร็วมาก แซงแทบจะทุกคันแถมยังบีบแตรไล่รถคันอื่นๆไปตลอดทาง
“ไอ้ห่าเอ๊ย!” พี่คิวสบถ มือทุบพวงมาลัยอย่างไม่พอใจ อยู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซด์ของตำรวจขับผ่านมาเหมือนบอกให้พี่คิวหยุดรถ
“พี่..ผมหายใจ ไม่ออก” ผมจับแขนพี่คิวไว้ก่อน รู้สึกไม่ดีมากๆและผมกำลังกลัว ผมเคยเป็นรุนแรงอยู่ครั้งหนึ่งตอนสมัยประถม ครั้งนั้นผมเกือบเอาชีวิตไม่รอด ผมกลัวว่ามันจะเป็นอย่างนั้นอีก
เอี๊ยด !!
พี่คิวหยุดรถไม่ฟังเสียงของผมเลย พี่เขาลงจากรถเดินตรงไปหาตำรวจ ผมเห็นลางๆว่าพี่เขาโวยวายด้วยท่าทางไม่ดีเท่าไหร่ ไม่ถึงห้านาทีพี่คิวก็กลับมาและเคลื่อนตัวรถออกอีกครั้ง
“มีสติหน่อยสิ” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นลง ผมได้แต่นั่งเงียบเพราะตาเบลอไปหมดแล้วก็อยากจะย้อนกลับไปว่า “พี่มีมากอ่ะ” แต่ก็ไม่มีแรง
“หายใจเข้าล่ะ อย่ามาตายบนรถฉัน”
“บ้า” ผมว่าด้วยน้ำเสียงที่แทบจะเค้นออกมาไม่ไหวแล้ว
“หึ..” ผมได้ยินเพียงเสียงแสยะหัวเราะจากผู้ชายกวนคนนี้เท่านั้น และ..
= = = = = = = =
ณ โรงพยาบาล..
“ไง..” ผมลืมตาขึ้น เห็นหน้าของคนตรงหน้าลางๆ
“ผม”
“นายอยู่โรงพยาบาลน่ะ สลบไป..” พี่คิวบอก
“ขอโทษครับ”
“ทำอะไรผิดไม่ทราบ” พี่คิวย้อน ผมมองตามหลังพี่คิวที่เดินไปที่โทรทัศน์ พี่คิวกดเปิดโทรทัศน์และเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้ง
“ผม..แพ้” ผมพยายามพูด เสียงยังคงเครืออยู่ในลำคอ
“ปู” พี่คิวเสริม เราต่างเงียบลงพร้อมมองหน้ากัน
“ครับ” ผมพยักหน้าน้อยๆ
“โทษที ความผิดของฉันเอง”
“ไม่เป็นไรฮะ ก็พี่ไม่รู้หนิ” ผมยิ้ม
“ไอ้อาบ้านั่นตื่นเต้นใหญ่ นี่ก็เพิ่งกลับร้านไป” พี่คิวพูดบอก
“เอ่อ..” ผมมองไปรอบๆห้อง โรงพยาบาลที่เพียงดูก็พอจะทราบได้แล้วว่าราคาคงแพงหูฉี่แน่ๆ
“แม่ของนายรู้แล้ว ท่านบอกว่าจะมาตอนเย็น..จะรีบมา”
“ครับ” ผมพยักหน้ารับ
“ส่วนเรื่องค่าพยาบาลน่ะ ไม่ต้องห่วง..อยู่ในความรับผิดชอบของร้านอยู่แล้ว”
“แต่..” ผมเงยหน้ามองพี่คิว
“นายมีหน้าที่แค่ทำตัวให้หายไวๆ ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องแสดงความคิดเห็น หรืออะไรทั้งนั้น..” ง่ะ..
“เผด็จการ” ผมบ่นเสียงเบา
ก๊อก ๆ ๆ
“ขอโทษค่ะ ขออนุญาตตรวจคนไข้หน่อยนะคะ” พยาบาลหญิงอ้วนท้วมหน้าตาใจดีเดินเข้ามา
“เชิญครับ” พี่คิวผายมือให้เธอ
“ตื่นแล้วเหรอคะ เป็นยังไงบ้างคะ..ยังเพลียอยู่รึเปล่า” เธอยิ้มถาม
“ครับ ยังเพลียบ้าง..นิดหน่อย” ผมตอบเสียงเบา พยาบาลตรวจร่างกาย วัดนู่น จับนี่ผมจนตรวจเสร็จ
“ยังรู้สึกแน่นหน้าอก หรือหายใจไม่สะดวกอยู่รึเปล่าคะ”
“ก็..นิดหน่อยครับ” ผมตอบ
“คงไม่รู้สึกคันแล้วมั้งคะ คุณหมอให้ยาไปแล้ว”
“ครับ” ผมพยักหน้า
“วันหลังอย่าทานเข้าไปเยอะแบบนี้นะคะ ระวังเรื่องอาหารหน่อยก็ดีค่ะ เพราะถ้ารับในปริมาณมากเกินไป..อาจจะช็อกได้นะคะ” เธอพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่นัก
“ขอโทษครับ” ผมตอบด้วยหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม เพราะดันตะกละตะกลามเข้าไปเอง
“หลังจากนี้คงมีอาการไอบ้างเป็นระยะ แต่คงไม่มาก..คุณหมอจะให้ยาทานอีกครั้งหลังอาหารเย็นค่ะ ยังไงนอนพักผ่อนให้มากๆนะคะ” เธอยิ้มบอก
“ครับ” ผมยิ้ม
“ขอตัวนะคะ” เธอหันไปยิ้มให้พี่คิว
“ขอบคุณครับ” พี่คิวบอกเธอก่อนจะเหลือบสายตามองหน้าผม ผมเหตาหนี
“ทีหลังแพ้อะไรก็ถามก่อนสิว่าในอาหารผสมอะไรไปบ้าง”
“ขอโทษ” ผมพูดเสียงเบาอย่างสำนึกผิด
“แล้วแพ้อะไรอีก”
“อาหารทะเล แต่อาการไม่หนัก จะแค่ไอ..ไม่เหมือนปู” ผมตอบ
“เห็นกินเก่ง ไม่ยักรู้ว่าแพ้อาหารกับเค้าก็เป็น” พี่คิวอมยิ้มเหมือนต้องการจะแกล้งผม
“คร้าบ ผมผิดเองแหละ..ผมอยากนอน” ผมพลิกตัวหนี เราต่างฝ่ายต่างเงียบ ผมได้ยินเสียงพี่คิวเดินออกจากห้องไปตรงระเบียง ผมพลิกตัวหันกลับไปมอง เห็นพี่คิวยืนอยู่ที่ระเบียงด้านนอกแล้ว ผมนอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ง่วงก็ง่วงแต่ไม่กล้าหลับ กลัวว่าจะต้องอยู่คนเดียว กลัวว่าพี่คิวจะออกจากห้องไป ผมรู้สึกไม่เคยชินกับโรงพยาบาลสักครั้งถึงแม้ว่าจะต้องเข้าออกบ่อยๆก็ตาม และถึงแม้ว่าโรงพยาบาลนี้จะสวยหรู แต่ผมคิดว่า โรงพยาบาลก็คือโรงพยาบาล..มันน่ากลัวจะตายไป
= = = = = = = =
“ไม่ใช่..ตัวนี้ต่างหากเล่า”
“เอ บี..แล้วก็เอฟ” อืม..เสียงอะไรน่ะ
“บิงโก!”
“ชู่..” ผมลืมตาขึ้นมอง ไม่ทราบว่าตอนนี้เวลากี่โมงเข้าไปแล้ว โต๊ะที่ปลายเตียงผมมีพวกพี่ๆที่ร้านนั่งกันอยู่ครบ
“ตื่นแล้วเหรอเค้ก” พี่ฟ้าเดินตรงดิ่งมาหาผมทันที
“ครับ” ผมตอบเสียงเครือ
“ทานน้ำก่อนนะ” พี่ฟ้าหยิบแก้วน้ำมาป้อนให้ พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนของพี่เขา
“ตื่นแล้วเหรอลูก” ผมหันไปอีกด้าน แม่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ครับ เค้กไม่เป็นไร” ผมบอกไว้ก่อน
“คิวกลับไปทำอาหารเย็นมาให้ รับรอง..ไม่มีปูแน่นอน” พี่ฟ้ายิ้มตาหยี
“หึ..ดีมากเลย” ผมพูดแกมหัวเราะ
“เดี๋ยวแม่ต้องกลับไปเตรียมเสื้อผ้ามาเฝ้าหนู อยู่กับพวกพี่เค้าไปก่อนนะ” แม่พูด
“ครับ”
“ไม่ต้องห่วงครับ ฟ้าจะดูแลอย่างดี” พี่ฟ้าลูบหัวผมเบาๆ
“ขอบใจจ้ะ เดี๋ยวป้ามานะ..ฝากด้วยนะจ๊ะ” แม่ยิ้มให้ทุกคน
“ครับ” พี่ฟ้าพยักหน้ารับ ผมนอนมองแม่จนแม่เดินออกจากห้องไป
“พี่ลืมไปเลยว่าเค้กแพ้ปู ขอโทษด้วยนะ” พี่ฟ้าลูบหัวผมและมองหน้าผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง ในข้อมูลที่ต้องกรอกตอนสมัครงาน ผมได้เขียนบอกในนั้นไปแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ เค้กเป็นจนชินละ” ผมหัวเราะแหยๆ ที่จริงไม่เคยชินเพราะมันทรมานทุกครั้งที่เป็น โดยเฉพาะกับปู
“อ่อนแอจริงนะไอ้ตาแมว” พี่หมีเดินเข้ามา
“พี่หมีอย่าว่าเค้กสิ นี่เค้ก..พี่ซื้อตุ๊กตามาให้ด้วย” พี่กัสบอกและยื่นตุ๊กตาแมวมาวางไว้บนตัวผม
“ตุ๊กตาแมว พี่เลือกเอง” พี่หมียักคิ้วยิ้มด้วยความภูมิใจซะไม่มี
“ขอบคุณครับพี่กัส แต่ไม่ขอบคุณพี่หมีนะ” ผมทำหน้าทำตา
“ไอ้นี่ ป่วยแล้วยังปากดี” พี่หมีเอามือมาดีดหน้าผากผมเบาๆ
“แล้ว..นี่กี่โมงแล้วเหรอครับ” ผมถามด้วยความสงสัย พี่ๆมาอยู่รวมตัวด้วยกันหมดแบบนี้ ร้านคงปิดเรียบร้อยแล้วหรืออย่างไร
“หกโมงเย็นน่ะ พี่ปิดร้านก่อนเวลา” พี่ฟ้าตอบ
“เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ มีการบ้านต้องทำ” พี่ซีพูดมองหน้าผม
“พี่ด้วย” พี่ออฟพูด
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“ไว้พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่ หายไวๆนะ” พี่ซีตีขาผมผ่านผ้าห่มเบาๆ
“ขอบคุณครับ”
“ไปละ หวัดดีครับพี่ฟ้า พี่หมี” พี่ออฟยกมือไหว้ พี่ซีกับพี่ออฟเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน
“เงียบไปเลยแฮะ” พี่กัสบ่นพร้อมทำปากจู๋ไปมา
“ตัวเองเสียงดังกันจนทำให้เค้กต้องตื่น ยังจะมาทำหน้าหงอยอีก” พี่ฟ้าว่าทำหน้าดุใส่พี่กัสด้วย
“บู..” พี่กัสหันมาทำปากจู๋ใส่พี่ฟ้าอีก
“จะกลับรึยัง” พี่หมีถามพี่กัส
“อื้อ กลับก็ได้..” พี่กัสพยักหน้า
“หมีจะไปส่งกัสเหรอ” พี่ฟ้าถาม
“ครับ” พี่หมีพยักหน้าตอบ
“อืม งั้นเดินทางกันดีๆนะ”
“ครับ ไปนะเค้ก” พี่กัสยิ้มให้พร้อมกับยกมือบ๊ายบายให้ผมด้วย
“ครับ” ผมยิ้มตอบและพยายามยกมือบ๊ายบายตอบให้ พี่หมียักคิ้วให้ผมเหมือนเป็นการบอกลา ทั้งคู่เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองที่โต๊ะและเดินออกไปพร้อมกัน
“ดูโทรทัศน์ไหม” พี่ฟ้าถามแต่กลับเดินไปเปิดโทรทัศน์ให้ผมทันที พี่ฟ้าหยิบรีโมทมายื่นให้ผมด้วย
“หิวรึเปล่า อีกเดี๋ยวคิวก็คงมาแล้ว..” ผมได้แต่ยิ้มแทนคำตอบ
“พี่คิวกลับไปนานแล้วเหรอครับ” ผมถาม
“อื้ม พอพวกพี่มา..คิวก็ขอตัวกลับน่ะ”
“งั้นเหรอครับ”
ก๊อก ๆ ๆ
“มาพอดี” พี่ฟ้าเบะปากยิ้มๆ พี่คิวเดินเข้ามา ในมือถือถุงผ้าของร้านมาด้วย พี่ฟ้าหันมายิ้มให้ผมอีกครั้งและเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆเตียงที่ผมนอนอยู่ พี่คิวนำทัพเพอร์แวร์ออกจากถุงผ้าอย่างไม่พูดไม่จา ในห้องมีเพียงเสียงโทรทัศน์เท่านั้น พี่เขาจัดอาหารไป ส่วนพี่ฟ้านั่งอ่านหนังสือไม่ได้เงยหน้ามาสนใจแต่อย่างใด สถานการณ์เป็นปกติแต่ผมกลับรู้สึกเกร็งจนแทบรู้สึกไม่ปกติ..
“................” ผมนอนนิ่ง พี่คิวเดินมาปรับเตียงให้ผม ทำให้ตัวผมเลื่อนขึ้น
“พอดีรึเปล่า” พี่คิวถาม ผมพยักหน้าตอบเล็กน้อย พี่คิวเดินไปเลื่อนโต๊ะอาหารสำหรับคนไข้มาให้ ผมจับมันเข้ามาใกล้ตัวมากขึ้นด้วยที่รู้สึกเกร็งจนทำตัวไม่ถูก ผมนั่งรอพี่คิวที่กำลังทำนู่นจัดนี่อยู่ที่เคาร์เตอร์ พอผมหันไปมองพี่ฟ้าอีกครั้ง พี่ฟ้ากลับเงยหน้าขึ้นมาและอมยิ้มให้ผมหน่อยๆ ผมยิ้มตอบให้เขินๆเพราะเหมือนพี่ฟ้านั่งจ้องเราสองคนอย่างผิดแปลก พี่คิวนำอาหารทุกอย่างมาจัดเรียงให้ตรงหน้า ผมกำลังรู้สึกเหมือนคุณชายยังไงอย่างนั้น ตรงหน้ามีถ้วยข้าวต้มหมู จานผลไม้ที่มีสับปะรด แอปเปิ้ลและองุ่นวางเรียงอยู่ไม่เยอะเท่าไหร่นัก เหมือนมันถูกจัดมาเพื่อคนคนเดียว เค้กนมสดชิ้นเล็กวางอยู่บนจาน น้ำเปล่าหนึ่งแก้วพร้อมกับน้ำส้มอีกหนึ่งแก้ว
“>__<” ผมยิ้มกว้าง ทุกอย่างครบเหมือนอาหารในโรงแรมที่แม่เคยพาไปนอนพักเลย
“แน่นอน..ไม่มีปู งด..อาหารทะเล” พี่คิวพูดชัดถ้อยชัดคำทำเอาผมสะดุ้ง
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มกว้าง
“เชิญ ตามสบาย” พี่คิวบอกก่อนเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ปลายเตียง
“เอ่อ งั้นพี่กลับก่อนนะ..” พี่ฟ้าลุกขึ้นยืน ผมที่กำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากก็ต้องชะงัก
“แต่” ผมอ้าปากจะห้ามพี่ฟ้าไว้ ถ้าพี่ฟ้าไปนั่นหมายถึงจะต้องเหลือแค่ผมกับพี่คิวน่ะซิครับ
“คิวอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่ไง พี่ต้องไปเยี่ยมคุณพ่อสักหน่อย ยังไงก็พักผ่อนเยอะๆนะ..เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเยี่ยมใหม่” พี่ฟ้ายิ้ม เดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง แล้วอยู่ๆพี่ฟ้าก็หยุดชะงักหันไปมองหน้าพี่คิว ทั้งสองคนอาหลานจ้องหน้ากันครู่หนึ่ง
“อะไร” พี่คิวถามด้วยน้ำเสียงไม่ปกติ
“เปล้า” พี่ฟ้าตอบเสียงสูงเชียว
“ดูแลเค้กดีๆล่ะ เพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ” พี่ฟ้าชี้หน้าพี่คิว
“อยากไปไหนก็รีบไปซะ รำคาญ” พี่คิวว่าเสียงเรียบ หยิบหนังสือใกล้มือไปอ่าน
“ชิ..แล้วก็นะ” พี่ฟ้าทิ้งเสียงลง
“อย่าเป็นห่วงคนอื่นมากนักล่ะ อาเป็นห่วง” พี่ฟ้าเอามือไปขยี้หัวพี่คิว พี่คิวเงยหน้ามองพี่ฟ้าตาขวางในทันที
“โอ๊ะ ดุแฮะ” พี่ฟ้ายิ้มทีเล่นทีจริงให้ผม
“ไปนะเค้ก ฝากดูแลหลานพี่ด้วยล่ะ ดุนิดหน่อย..พอประมาณ” พี่ฟ้าขยิบตาพร้อมโบกไม้โบกมือบ๊ายบายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
~ความเงียบเริ่มครอบงำ เงียบแบบ..เงียบสนิท T__T โลกช่างกลั่นแกล้งบุรุษผู้หน้าตาดีอย่างผมเสียจริง~
“เอ่อ พี่..ทานแล้วเหรอครับ” ผมถามทำลายความเงียบ
“ยัง” พี่คิวตอบ ตายังคงสนใจหนังสือมากกว่าจะหันมาสนใจผม
“งั้น..กินด้วยกันไหม” ผมถามเป็นมารยาทไปอย่างงั้นเอง พอมานั่งทานโดยมีคนที่ยังไม่ได้ทานมานั่งเฝ้าแบบนี้ มันรู้สึกแปลกๆอย่างที่พี่คิวเคยพูดจริงๆนั่นแหละ ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เขาถึงไม่ชอบอารมณ์นั้น
“ไม่ล่ะ ยังไม่หิว..นายกินเถอะ” พี่คิวเงยหน้าบอก
“ครับ” ผมตอบ มือเตรียมพร้อมตักข้าวต้มเข้าปาก
“เอ่อ..ฉันเอาเพลงกับหนังมาให้น่ะ เผื่อ..จะอยากดู” พี่คิวเดินไปหยิบถุงผ้าอีกถุงมา เดินนำมันมาวางไว้บนหัวเตียง
“ขอบคุณครับ”
“เพลงบรรเลง เผื่อจะชอบ” พี่คิวชูแผ่นเพลงให้ผมดูอีกด้วย ผมพยายามมองแต่แผ่นนั่นโดยไม่มองหน้าพี่คิว
“นายหลบตาฉันอีกแล้ว รู้ตัวรึเปล่า” พี่คิวพูดทักเสียงแข็ง
“ห๊ะ..ครับ” ผมหันกลับขึ้นไปจ้องหน้าพี่คิว เพื่อเป็นการย้ำบอกว่าผมไม่ได้หลบตาสักหน่อย..
“ก็พี่หน้าดุอ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เปลี่ยนเรื่อง..แก้ตัว ทำไมผมต้องแก้ตัวด้วยละครับเนี้ย
“โทษที เลือกเกิดไม่ได้” พี่คิวย้อน แหม..เลือกเกิดไม่ได้ พ่อคนโคตรรวย บางทีผมก็อยากเลือกเกิดไม่ได้แบบพี่บ้างอะไรบ้างไงอะนะ
“พรุ่งนี้เช้าอยากกินอะไร” พี่คิวถามขึ้น
“เอ่อ..ไรก็ได้” ผมตอบและต้องเบนสายตาหนีอีกครั้งเมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองจ้องตาพี่เขานานมากเกินไปแล้ว
“ตอบก็ต้องมองหน้าฉันด้วย เสียมารยาท” พี่คิวว่าเสียงเข้ม
“ค้าบ อะไรก็ได้” และผมก็ต้องหันสายตากลับไปมองตอบพี่เขาอีกครั้ง
“ก็ดี..ง่ายๆ” พี่คิวเลิกคิ้ว วางแผ่นซีดีลงบนชั้นวางข้างหัวเตียง
“พี่จะมาอีกเหรอ”
“ทำไม” พี่คิวถามกลับ
“เปล่า” ผมยักไหล่
“ไม่เคยมีใครปฏิเสธอาหารที่ฉันทำหรอกนะ มีหน้าที่กิน..ก็กินไป” พี่คิวว่า ผมเงยหน้า เบะปากใส่ พี่คิวยักคิ้วเอนตัวเองยืนพิงเตียงไว้ ผมตั้งหน้าตั้งตาทาน พี่คิวไม่ขยับตัวไปไหน ไม่รู้จะมานั่งใกล้ๆทำไม ไอ้เรายิ่งเกร็งมากเข้าไปใหญ่ แถมยังไม่พูดไม่จาอีก ไม่รู้ว่าวันๆในหัวของพี่เขากำลังคิดอะไรอยู่บ้าง บุคคลผู้เข้าใจยากเสียจริง..
...................>>>><<<<.................
-
จิ้มๆๆ
พี่คิวน่ารักอ่ะ ฮ่าๆๆ
ดูแลเค้กอย่างดีเลย แต่แอบโหดนิดๆ
แต่ถึงยังไงก็ชอบอ่ะ อร๊ายยยยย
-
ใช่เลยเค้ก พี่คิวเป็นผู้ชายที่ดูน่าค้นหา แบบนี้แหละเค้ก เหมาะแก่การเป็นสามีของเค้กหน่ะ หึหึหึ
-
โอยยยย ดีใจที่สุด ได้อ่านต่อแล้ว อิอิ เบบี้ทำข้อสอบฉลุยไหมจ๊าาาา
พี่คิวน่ารักอ่ะ เป็นห่วงเขาอ่ะเด้ คริคริ ทำเป็นดุ 555
ว่าแต่สมองอันชาญฉลาดของพี่คิวจะคิดได้ไหมว่าเค้กหลบตาเพราะอะไร :z1:
-
ไปสงสัยว่าคิววันๆคิวคิดไรอยู่...แล้วตัวเค้กเองอะคิดไร :m12:
-
นี่ขนาดเลือกเกิดไม่ได้นะเนี่ย :-[
-
น้องเค้กอ่ะ อาการเริ่มจะชัดมากขึ้นทุกทีแล้วน๊า :L2:
-
เกร็งตามเค้กเลยทีเดียว
แหม่หนูเค้ก ไม่กล้าสบตาแล้ว ต่อไปอยู่ใกล้ๆคงจะเขินหน้าแดงสินะ :o8:
-
:laugh: น่ารักได้อีกนะคู่นี้. :laugh:
-
พี่คิวน่ารักอีกแล้วอ่า~ เป็นห่วงเค้กอ่าดิ
ก็น่าเป็นห่วงอยู่หรอก เด็กน้อยน่ารัก
น้องเค้กนี่ยังไงนะ ไม่กล้ามองตาพี่คิว :z1:
แล้วคำพูดของพี่ฟ้าที่พูดกับพี่คิวอีกล่ะ
อยากรู้ๆ มันหมายความว่ายังไงกัน
รอตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
กดเป็ดให้น้องเค้ก
-
แอร๊ย~ เค้กแพ้ปู >///<
พี่คิวเค้าเ็ป็นหนุ่มซึนอ่ะ55.
-
มาต่อได้ แสดงว่าสอบเสร็จแล้วรึ
ลุ้นน้องเค้กแทบแย่ พี่คิวช็อคเลยมั้ย น้องเกือบไม่รอด
ขนาดป่วย ๆ ยังสามารถต่อปากต่อคำกันได้
พี่คิวออกจะเป็นห่วง แต่คำพูดนี่มันตรงกันข้ามเกิน หมั่นไส้ :m16:
น้องเค้กหลบตาบ่อย ๆ เิริ่มมีใจป่ะลูก
-
อยากเป็น เค้ก ตอนนี้เลย อยากกินอาหารที่พี่คิวทำ
-
:o8:เค้กเขินน่ารักๆ ><
-
ตอนนี้อ่านแล้วมันอิ๊อ๊า จะสงสารเค้ก เเต่มันก็งุงิ ครุคริ (แปลว่าไรวะ)
ขอบคุณเบบี้ค่ะ
-
กรี๊ดดดดดด น้องเค้กมีหลบตาบ้างแล้ว ฮ่าๆๆๆ
ที่น้องหลบตาเพราะกลัวหวั่นไหวใช่ไหมจ๊ะ ^^
พี่คิวก็เป็นห่วงเป็นใยน้องดีจริงๆ น่ารักอ่ะ
เรื่อยๆมาเรียงๆ น่ารักมากกกก ค่อยๆพัฒนาขึ้นไปทีละนิดแล้วนะ
ปล.มีกำลังใจอ่านหนังสือสอบแล้ว เย้ๆ ^^
-
ค่อยๆมาทีละนิดๆ แบบว่า รักกันเบาเบา เอิ๊กๆๆๆๆ
-
แพ้ปู อิอิ และกำลังจะแพ้อีกอย่างนะ แพ้พี่คิว 5555
-
พี่คิวน่าร๊ากกกกกกกกกกอ่า :-[
แต่ที่เค้กบอกว่าสายตาพี่แกแปลกไปนี่มันยังไง กรี๊ด!!
ตอนนี้น้องเค้กก็ไม่กล้าสบตาพี่คิว รู้ตัวยังหว่า พอเราชอบใครก็มักจะไม่กล้าสบตาเค้านะ อิอิ
-
อ่อยยย
น้องเค้กแพ้แรงมากเลยนะ
พี่คิวก็เป็นห่วงน้องจัง ^^
อั้ยย่ะ
-
เค้กเขินคิวช่ายมะล่า
-
พี่คิวน่ารักกกกกก น้องเค้กป่่วยบ่อยๆก้อดีน่ะ 5555
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
ชอบพี่คิวตอนนี้มากๆๆๆๆ ส่วนเค้กชอบทุกตอนอยู่แล้ว :laugh:
ยามที่เจ็บป่วยก็ดูแลกันดีอย่างนี้ สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักคงได้เป็นจริงอีกไม่นานหรอกเนอะน้องเ้ค้ก :-[
หลบตาพี่เค้า แสดงว่าแอบคิดไรอยู่ล่ะสิ ส่วนคนพี่อ่ะ น้องไม่ยอมมองหน้าไม่ได้เลยน้า ฮิ้วว
น่ารักสุดๆ :m3:
-
พี่คิวเป็นผู้ชายที่เป็นตัวของตัวเองมาก แบบว่าตรงๆ เท่ๆ สเป็กชั้นเลยจริงๆๆๆ
มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นในใจน้องเค้กและพี่คิวอยู่ลึกๆแน่ๆ แต่มันก้ยังไม่แน่ใจตัวเอง
ติดตามต่อไป ...รักพี่คิว
-
เค้กเริ่มหวั่นไหว ไม่กล้าสบตาแล้ว หุ หุ หุ
-
ครั้งแรกมันเริ่มมาจากความรู้สึกดีๆ
หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันอีกที
-
น่ารักมากค่ะ กรี๊ดๆ
เรียนมาเครียดๆ มาอ่านหายเครียดเลย
คิวเค้ก :o8:
ดุนิดหน่อยพอประมาณ 555+ อาฟ้าก็ยังแกล้งเนอะ
อาหลาน ก็รักกันดีจริงๆ
-
:-[ เค้กเอ๊ย อันตรายแล้วลูก ซึนเจอซึนกว่า คนอ่านก็ลุ้นกันมันส์
-
ว๊ายยย น้องเค้กแพ้ปูซะงั้น :L1: :L1: :L1:
-
พี่คิวน่ารักกกกกกกกกกกกก :o8: :o8: :o8:
-
น่ารักจังเลย :o8:
-
แหมมมม เห็นด้วยกับน้องเค้ก
ว่าพี่คิวเป็นบุคคลที่เข้าใจยากซะจริง
อยากรู้จังว่าพี่แกคิดยังไง เวลาอยู่กับน้องเค้กสองคน o18
-
ตอนนี้สั้นโนะ แต่พวกเค้าเริ่มคลืบหน้าละ ลุ้นๆ
-
แง่มๆ พี่คิวมันคิดอะไรอยู่ฟระ! อยากจะรู้
:serius2:
เค้กเริ่มมีอาการแปลๆ ชอบพี่คิวแล้วหรอ อิอิ
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ
-
555+อยากเลือกเกิดไม่ได้ดหมือนพี่คิว....รวยเกิ๊นนนนนน
หายเร็วๆนะจ๊ธ เค้กจ๋าาาาา
-
ไม่นานพี่คิวต้องคิดออกแน่ว่าน้องเค้กหลบตาพี่แกทำไม เค้กพร้อมตอบพี่คิวรึยัง
-
พี่คิวคงรู้สึกผิด
เอาใจเด็กน้อยหน่อย
แม้จะยังไม่รู้สึกอะไรกับน้อง
เอ๊ะ หรือว่าเิริ่มๆแล้ว
-
พี่คิวครับ ผมไม่แพ้ไรเลยอ่ะ เลี้ยงง่ายด้วยๆ ขอสมัครเปนภรรยาได้ไหม กิ้ววววว!!~
-
กรี๊ดดดดดด เขินๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[
ชอบตอนนี้มาก จะน่ารักไปไหน อ่านไปอมยิ้มไป แก้มจะปริ :m1:
พี่คิวเป็นห่วงเค้กมากนะเนี่ย ชอบอ่ะๆ ทุกคนรู้งานกันมาก ขอกลับกันก่อนที่พี่คิวจะมา :laugh:
พี่ฟ้าก็กวนตลอดดดด เหมือนจะแอบรู้ความรู้สึกของพี่คิว (หรือเปล่า) มีพูดเสียงสูงกันด้วย "อะไร" "เปล้า" ฮ่าๆ
เค้กก็น่ารักเสมอ
พี่หมีกับกัส มีซัมติงกันหรือเปล่าน้า รอลุ้นต่อไป
แต่ที่ชอบที่สุด “นายหลบตาฉันอีกแล้ว รู้ตัวรึเปล่า” พี่คิวพูดเสียงแข็ง
กรี๊ดๆๆ เขินนนนน
อยากอ่านตอนต่อไป สู้ๆเรื่องสอบและการแต่งตอนต่อไปนะคะ :yeb: :yeb: :yeb:
-
:-[ ตอนนี้พี่คิวน่ารักมากกกกก
พี่คิวสงสัยแน่เลยว่าเค้กแปลกไป พี่คิวเป็นคนฉลาดฉะนั้นต้องรู้ :-[
-
อยากได้พี่คิวเป็นแฟนเด้ เราคงอุดมสมบูรณ์ :o8:
-
:กอด1:ก่อนอ่านตอนใหม่ ต้องบอกว่า ดีใจจัง!!! มาแล้วววว :กอด1:
-
:mc4: :mc4: :mc4: จองแรววิ่งไปอ่านฟิ้วววววว :m7: :m7: :m7: :m7: :m7:
-
ว่ากันว่าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ
น้องเค้กมีเริ่มอาการแล้ววว คิดว่าคนอย่างพี่ฟ้าต้องดูออกแน่ๆ
และคิดว่าอีกไม่นานคนอย่างพี่คิวมีหรือจะดูอาการหลบตาของน้องไม่ออก
พี่คิวก็ดูแปลกไปนะ แต่ชอบเอาค.โหดมาบังหน้านี่สิ ชิชิ
จัดบวก กระโดดกอดเบบี้ ดีใจที่มาต่อจ้า ก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าฤดูสอบ
นึกห่วงอยู่เชียวว่าเบบี้ติดฝนพายุเข้าลืมพกร่มรึเปล่า 55+
วันนี้มาต่อแล้ว โล่งอก สบายใจ :L2:
-
ทั้งๆที่ห่วงเค้กมาก แต่ก็ยังนิ่ง อิอิ
-
:z3:มาต่อน้อยจังเลยครับ ค้างๆๆๆอ่ะ
-
แพ้อาหารทะเล + แพ้สายตาพี่คิว :-[
-
เค้กน่ารักอ่ะ
แล้วมาต่ออีกนะ :กอด1:
-
Songsai waa thangkhuu kamlang ja chorp kan lek lek la mung naa~~!!!
-
น้องเค้ก แพ้ทางงงงงพี่คิวแล้ววว
มีเขิลๆๆแบบนี้ด้วยอะ :impress2: :impress2:
แล้วพี่คิวหวั่นไหวมั่งป่าววววววว
เดียวน้องเค้กจะเก้อนะเออ
อ่านแล้วลุ้นๆๆๆ น่ารักกกกกกกกกกอ่ะ
-
ใกล้เข้าปอีกนิด ชิดๆเข้าไปอีกหน่อย อิอิ
-
อ่านอีกๆๆๆๆๆๆ :z2:
-
มันรู้สึก “แปลก” ตรงที่หัวใจ ใช่มั๊ยละเค้กเอ้ย ถึงได้หลบหน้าหลบตาพี่คิวเค้าซะขนาดนั้น เอาใจช่วยน้องเค้กให้หาคำตอบให้ตัวเองได้ในเร็ววัน...^^
ถึงแม้ยังไม่รู้ใจตัวเองดีว่าความรู้สึกที่มีกับน้องเค้กมันคืออะไร (เอ๊ะ! หรือว่ารู้แล้วแต่แอ๊บไว้ก่อนฟะ? )แต่พี่คิวก็ชัดเจนเป็นตัวของตัวเองกับการแสดงออกกับน้องเค้กได้ดีนะแม่ยกปลื้มค่ะ ใกล้ความจริงเข้ามาอีกนิดแล้ว ฮี้ววววววว
คู่นี้นะกว่าจะลงเอยเปิดใจรับรู้กันทั้งสองฝ่ายคงอีกนาน มีแต่คนรอบข้างนี่แหละที่รู้ก่อนเจ้าตัวทั้งสองคนซะอีก 555+
ขอบคุณไอ้น้องบี้สำหรับตอนต่อที่น่ารักขึ้นทุกวันของคู่นี้ค่ะ +++
:กอด1:
-
คู่นี้เค้ามาแปลกๆ
น้องเค้กหายเร็วๆ นะ
+1
-
พี่คิวจะชอบน้องเค้กมั่งยังเนี่ยยยย
แต่ดูเหมือนจะเริ่มชอบแล้วว :o8: :o8:
-
น้องเค้กเริ่มแล้วววววว :man1: :man1:
คิวนี่ก็โหดดดด :laugh:
-
ชักจะยังไงยังไงซะแล้วพี่ิคิววววววววววววว :m3:
-
ใกล้แล้วๆๆๆ
ใกล้จะรู้ใจขึ้นมาแล้วว :o8: :o8:
-
ดูท่าทางคิวเป็นห่วงเค้กมากเลยน้า
กลับไปทำอาหารมาให้ด้วย
เดียวนี้เค้กหลบตาคิวบ่อยแอบคิดไรป่าวเนี๊ย
คิวนี่ก็จับผิดเค้กอยู่เรื่อย
-
เค้กกกกกก หลบตาพี่คิวทำไม :-[ แอบคิดอะไรอะเด้ :o8:
พี่คิวก้นะ เป็นห่วงเค้กอะเด้ o13 ฮริ้วววววววววว :impress2:
-
คิวน่ารักอะตอนนี้อ๊ายชอบบบบบ
-
ไม่รู้ว่าใครแอบมีความรู้สึกดีๆให้กันก่อนน๊า
-
น่าร้อกอ่ะ :-[ :impress2:
น้องเค้ก หนูอย่าไปหลบสายตาพี่คิวเค้าลูก
จ้องให้พี่คิวรู้ไปเลย ว่าหนูคิดไรกับพี่คิว คิคิ o18
อาการ ชักเริ่มออกแล้ว :-[ o13
-
เค้กเขิน อิอิ :give2: :give2:
-
พี่คิวดูแลดี ๆ นะ >_<
-
แพ้บ่อยๆๆๆ
อยู่โรงบาลนานๆก็ดีเนอะ
มีคนเอาใจด้วย
55555
-
สั้นๆ "น่ารักอ่ะ" :-[
:pig4: ค่า
-
กริ๊ดแตก โลกบันลือ ชอบอ่ะ
พี่คิว...อยากได้คนแบบนี้มาดูแล จะป่วยนานๆเลยอ่ะ
กริ๊ดกร๊าด ชอบบบบบบ
-
น้องเค้กเริ่มหลบตาบ่อยนะคะ แอร๊ยยยยยย >////<
อยากรู้ความรู้สึกพี่คิวชะมัดเลย
-
เริ่มแล้วๆ อิอิ ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อให้นะค้าบบบ :L2:
-
เราว่านะ พี่คิวต้องเริ่มมีใจแล้วแน่ๆ อ๊ายยยยย เขิลอ่ะ :-[
-
:impress2: :o8: :o8: :o8:คิวคิวจะรู้สึกเหมือนเค้กรึป่าวน๊าา
พี่คิวเค้าน่ารักจริงงงงงๆ :z1: :z1:
-
หุหุ พี่คิวน่ารักอะ
-
อุ้ยน้องเค้กแพ้อาหารทะเล
แต่แอบดีใจเพราะเหมือนคุณพี่คิวแอบคิดไรกับน้องด้วย
:pig4: คะ
-
เป้นห่วงก็บอกเค้าปายสิค่าาาาาาาาคุณพ่อครัวหย่ายยยยยยย ฮ่าๆๆๆๆ ตอนนี้กริ๊บกริ้วมากอ่ะ
เหมือนจะไม่มีอะไร แต่โคตรจะมีอะไรเลย เป็นห่วงกันเป็นใยกันขนาดนี้ มีทำกับข้าวกับปลามาให้
แถมนั่งเฝ้าอีก สวีทกันแบบซึนๆนะคู่นี้ 555 น้องเค้กที่หลบตาพี่เค้าแบบนี้หมายความว่าหนูมีความในใจแน่ๆเลยอ่ะ คึคึ
แต่เจอแบบพี่คิวเป้นใครๆก็หลบหน้าวะ ฮ่าาาาาาา จ้องตาคนหล่อขนาดนี้ เขิลลลลล =//////=
-
ลืมความเดิมตอนที่แล้ว ย้อนกลับไปอ่านถึงรู้ว่าหลบตา กันทำไม มีเหตุให้ห่วงใยกันแบบนี้ อีกไม่นานแล้วซิ
-
หนูเค้กเริ่มใจสั่นแล้ว o18
-
คิวทำแบบนี้เค้กแย่แน่ๆ :o8:
สำหรับคิว..ตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือน "ชาย" อ่ะ (ข้ามเรื่องหน่อยนะบี้) ถ้าคิวชอบเค้กเมื่อไหร่ เค้กต้องตั้งรับให้ดีเลยล่ะ o18
:pig4: :กอด1:
-
น้องเค้กหลบสายตาแบบนี้ เขินใช่ไหมค่ะ
หลงรักพี่คิวแล้วแน่ๆเลย ชอบตอนนี้มากๆเลยอ่ะ ดูพี่คิวเป็นหวงน้องเค้กมากๆเลยอ่ะ
แล้วยังบอกไม่ให้หลบตาอีก แต่ก็นะ คนมันเขินอ่ะ เวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ ให้ทำไงได้ละค่ะ
น้องเค้กแพ้ปูอาการหนักแบบนี้พี่คิวคงต้องดูแลเป็นอย่างดีแล้วละค่ะ
-
พี่คิวบริการสุดฤทธิ์
ดูแลมากไปแล้ว
อิจฉาเค้กง่ะ
-
หลบตา หลบตาทำไม อะไรยังงัย :-[
-
เดี๋ยวนี้พี่คิวช่างสังเกตุนะ เค้กหลบตาก็ไม่ได้ :impress2:
-
แพ้ได้น่ากลัวมากกกกกกก
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกจั๊กกะจี้ในหัวใจจริงๆเล้ยยยยย
พี่คิวน่ารักหว่ะ..ฮ่าๆๆๆๆ
แล้วทำไมเค้กต้องหลบตาพี่คิดด้วยอะ
ส่วนพี่คิวนี่ก็เหมือนมองเค้กตลอดเวลาถึงได้รู้ว่าเค้กหลบตา..ฮ่าๆๆๆๆ
-
พี่คิวเป็นห่วงเค้กอ่ะดิเฝ้าตลอดเลย ไหนจะทำอาหารมาให้กินอีก >''<
แหมสังเกตน้องจริง ๆ หลบตาก็ไม่ได้ ถามตลอด ๆ
ที่เค้กหลบตาก็เพราะเขินไงล่ะพี่คิว อิอิ
-
:o8: :o8: :o8:
-
เริ่มมีกุ๊กกิ๊กๆกันแระ อิอิ :o8:
-
แอร๊ยยยยยยยย เค้กลูก ถ้าจะเก็บอาการไม่อยู่ขนาดเน้
พี่คิวจะรู้มั้ยเนี่ยะ แอบอยากรู้พี่คิวคิดยังไงอยู่
ปล.ขอบคุณนู๋บี้ที่มาต่อเน้อ getAนะจ๊ะ
-
คิวมีอาการห่วงอย่างรุนแรงนะ ๆ
-
คิว เค้ก น่ารักอ่ะ :กอด1:
-
:mc4: อุ๊ย โรงพยาบาลมดจะเยอะนะ หวานกันขนาดนี้
เค้กอย่าหลบตาพี่คิวเลยลูก ยิ่งหลบยิ่งหนีไม่พ้น คิคิ
อยากให้เค้กป่วยนานๆ โรงพยาบาลจะได้เป็นรังมด อุอุ
-
อ่านแล้ว ตัวบิดไป บิดมา แทบไร้กระดูก :z2:
ทำไมน่ารักอย่างนี้ละคะ!!!~~ :impress2:
อยากจะอ่านตอนหน้าเต็มทีแล้ว :z3:
:L2: :L2: :L1: :L2: :L2: รักคนแต่ง ฮิ้ววววว!!~~ :z1:
-
อร๊าย พี่คิวมาต่อแล้ว :mc4:
เค้กเหมือนจะรู้ใจตัวเองนะว่าคิดอะไร
พี่คิวก็เริ่มนิดๆแล้วแน่เลย
อาฟ้าเชียร์เลยๆๆ :o8:
-
หึหึ ก็ดูแลกันตามสไตล์พี่คิวล่ะนะ
เป็นห่วงเค้าจะตาย ปากยังเหมือนเดิม คงที่ดี ฮ่าๆๆ
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ >///< ยิ่งอ่านยิ่งน่ารัก
ตอนนี้ยิ่งน่ารักหนักกเลย
น้องเค้กหายไวไวน๊า
ขอบคุณนะค๊า รอตอนหน้า อั๊ยยะ
-
ดูอาการแล้ว น้องเค้กน่าเป็นห่วง เพราะถูกจับได้ว่าเริ่มผิดปกติ :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจ ฝากเยี่ยมน้องเค้กด้วยนะครับ เบบี้ :z2:
-
พี่คิวเอาใจใส่เค้กเป็นอย่างดีเลย
เขินตามเค้กไปด้วยเลย
-
:o8: :o8: :o8:
ยิ่งอ่านยิ่งเขินนน ขอหวานๆกว่านี้อีกสิค้า
-
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก เขินอ่ะ พี่คิวทำเอาเราเขินตาม :o8:
อ่านไป ยิ้มไป น้องเค้กมีหลบตาพี่คิวบ่อยๆ
หวั่นไหวแล้วใช่มั๊ยล่ะ
o13
-
เริ่มเห็นปฏิกิริยาพี่คิวแล้ว :o8:
-
เขิล แทนเค้กสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบนี้เค้าเรียกว่ามีพัฒนาการขึ้นปะน่า
-
...พี่คิวคงคิดจะ...จีบเด็ก ละมั้ง แต่เป็นคนมีมาดมีศักดิ์ศรีเยอะ เก๊กด้วย พี่ฟ้าละมั้งที่ดูออก
...แต่ที่เรื่องดำเนินมา พี่คิวหลุดมาด มาเยอะแล้วค่อยๆๆแสดงออกมาที่ละน้อย :L2:
-
แหมๆ เค้าเริ่มจะโอนเอนเข้าหากันแบบมีนัยแล้วแฮะ คึคึ :z1:
-
น่ารักมากมาย ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ววววววววววว :L1:
-
น้องเค้กเขินพี่คิวแน่ๆเลย ฮิ๊วๆๆ
-
ใกล้เข้ามาอีกนิด
ชิดชิดเข้าอีกหน่อย :z1:
-
พี่คิวน่ารักแบบดุๆ :o8: :o8:
-
น่ารัก :z3:
-
บรรยากาศ น่ารักอ่ะ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป :o8: :z2:
-
~30~
ณ โรงพยาบาล..
“แม่ไปแล้วนะ” แม่เข้ามาหอมแก้มผมเช่นทุกทีที่เราจะต้องจากกัน
“ครับ”
“ถ้ามีอะไรโทรหาแม่เลยนะ”
“ค้าบ เค้กไม่เป็นอะไรหรอก แม่ไปทำงานเถอะ” ผมบอกไป กลัวว่าแม่จะเป็นห่วงจนไม่เป็นตาทำงานทำการ
“พี่เค้ามาก็อย่าไปดื้อกับเค้าล่ะ” แม่คงหมายถึงพี่คิวละมั้งครับ
“อื้อ” ผมพยักหน้าตอบ แม่ยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป
~6:30 น. : เพิ่งหกโมงครึ่งเองเหรอเนี้ย พี่คิวจะมาพี่โมงนะ หลับรอดีกว่า..~
= = = = = = = =
ก๊อก ๆ ๆ
แกรก~~
“นอนกินบ้านกินเมืองรึไง” พี่คิวปากเสียทันทีที่เดินเข้ามา เมื่อผมได้ยินเสียงคุ้นหูนั่นผมก็สะลึมสะลือลืมตาขึ้นมองนาฬิกา เวลาบอกเกือบเจ็ดโมงครึ่งแล้ว
“พี่มาช้า ผมตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าแล้วเหอะ” ผมพูดเสียงเครือในลำคอ
“จะล้างหน้าล้างตารึเปล่า” พี่เขาถาม
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ พี่คิวเดินตรงมาที่เตียงและปรับเตียงให้ผม ผมลุกจากเตียง พี่คิวทำท่าจะเข้ามาพยุงตัวผมไว้
“ผมไปเองได้ฮะ” ผมบอกก่อนเพราะไม่อยากให้พี่เขาลำบาก อีกอย่างหนึ่งคือผมไม่ชิน พี่คิวปล่อยมือออก ผมเดินช้าๆไปที่ห้องน้ำ จัดการล้างหน้าแปรงฟันให้เรียบร้อย พอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าพี่คิวได้เตรียมอาหารไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ผมเดินกลับไปที่เตียง พี่คิวเลื่อนโต๊ะอาหารคนไข้ออกให้ผมขึ้นเตียงได้ถนัดขึ้น
“ขอบคุณครับ” ผมบอก ผมมองสำรวจอาหารบนโต๊ะ มีมันบดก้อนเล็กอยู่ในถ้วยอีกแล้ว พี่คิวคงจะรู้แล้วละมังครับว่าผมชอบกินมันบดเอามากๆ ไส้กรอกรมควันชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้น เบคอนและแฮมอย่างละนิดอย่างละหน่อยพร้อมกับไข่ดาวหนึ่งฟอง
“นี่อะไรเหรอครับ” ผมชี้ถามแซนวิสสามเหลี่ยมชิ้นเล็กสามชิ้นที่วางอยู่บนจาน
“แซนวิสแฮมชีส” พี่คิวตอบ
“นี่นมสดร้อน หวานน้อย..จะได้ไม่เลี่ยน” พี่คิวแนะนำ ผมพยักหน้า
“ขอบคุณนะฮะ” ผมยิ้ม
“ไม่เป็นไร”
“แล้ววันนี้พี่คิวไม่ไปทำงานเหรอ”
“ทำ..แต่ไปสาย ให้ไอ้เซ็นอยู่ไปก่อน” พี่คิวตอบส่งๆ
“เดี๋ยวประมาณเที่ยงๆป้านิดจะเอาอาหารมาส่งให้ แล้วก็อยู่ดูแลนาย” พี่คิวบอกอีก
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ลำบาก..” ผมพูด
“ไอ้อาหื่นนั่นสั่งป้าไปแล้ว ฉันบอกแล้วใช่ไหม..นายมีหน้าที่หายเท่านั้นพอ” พี่คิวตัดบท
“บ้าอำนาจ” ผมเบะปาก
“ก็ฉันเป็นคนมีอำนาจหนิ” พี่คิวย้อนขำๆ ผมได้แต่เผยอปากและทำหน้าบอกให้พี่คิวรู้ว่า “ยังมีกล้าย้อนหน้าตายอีกนะ” พี่คิวอมยิ้มยักคิ้วกวน
“กินไปเลย จะได้กินยา” อยู่ๆพี่เขากลับสั่งขึ้นมาเสียงเข้ม
“ค้าบ” ผมตอบ ตักอาหารขึ้นทาน ส่วนพี่คิวเดินไปนั่งที่โซฟา หยิบหนังสือในกระเป๋าของตัวเองขึ้นไปอ่าน วันนี้เป็นหนังสือนิยายภาษาอังกฤษเหมือนเดิม จากที่เห็นหน้าปกน่าจะเป็นนิยายรักโรแมนติก..น่าจะใช่นะครับ
เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที อยู่ๆพี่คิวก็ปิดหนังสือและวางลง ผมมองตาม พี่คิวเดินมาเลือกแผ่นซีดีที่หัวเตียงที่อยู่ข้างๆผม พี่เขายืนเลือกอยู่สักพักจนได้แผ่นที่พอใจแล้วก็เดินไปที่เครื่องเล่นและเปิดเพลงฟังหน้าตาเฉย ผมมองตามจนพี่คิวกลับมานั่งที่เดิมและหยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นอ่านในท่านั่งท่าเดิม สุดยอดเลยผู้ชายคนนี้..ไม่สนโลกได้อีกอ่ะ
“กินไปสิ มองอะไร” พี่คิวพูดทั้งทั้งที่ตายังจับจ้องอยู่ที่หนังสือ
“ไม่ได้มองสักหน่อย” ผมปัด ผมนั่งทานอาหารเช้าที่พี่คิวทำมาให้จนหมด มันอร่อยและครบสารอาหารนะครับผมว่า พี่คิวนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ เราสบตากันบ้างเป็นระยะ แต่ก็นะ..ไม่รู้สิครับ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี
~09:00 น.~
“ฉันไปก่อนนะ” พี่คิวพูดขึ้นเมื่อมือของตนรูดซิปถุงที่ใส่ทัพเพอร์แวร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
“อื้อ” ผมพยักหน้าตอบ
“จะให้ปิดเพลงไหม” พี่คิวถาม
“เอ่อ ช่วย..พี่ช่วยเปิดการ์ตูนให้ผมหน่อยได้ไหม” ผมพูดอย่างเขินๆ ส่วนอีกใจหนึ่งก็ไม่กล้าที่จะใช้พี่คิวอย่างเต็มปากเต็มคำนัก พี่คิวปิดเพลง เดินตรงมาที่เตียง พี่เขาหยิบแผ่นหนังที่นำมาไว้ให้ผมนำมายื่นให้ผมดู ผมเลือกแผ่นหนังอาลาดินให้ พี่คิวรับแผ่นไปถือไว้และเหลือบตามองหน้าผม
“ไร” ผมถามเสียงห้วน
“เปล้า” พี่คิวตอบ เดินหนีไปที่โทรทัศน์ คำตอบที่พูดว่า “เปล้า” ด้วยเสียงสูงกับหน้าตาเรียบเฉยนั่น ผมกลับรู้สึกเหมือนเมื่อกี้พี่เขายิ้มกวนผมยังไงไม่ทราบ
“ตอนเด็กไม่เคยดูเหรอ” พี่คิวถามหลังจากจัดการเปิดให้เรียบร้อยแล้ว
“ถ้าคนอย่างผมไม่เคยดู แล้วอย่างพี่นี่ต้องเรียกว่าอะไรครับ คุณเจ้าของแผ่น” ผมกวนกลับ
“ปิดซะดีไหม” พี่คิวพูดอย่างเอาเรื่อง ผมแลบลิ้นให้ เชอะ..ไม่กลัวหรอก
“เอ่อ พี่คิว” ผมเรียกพี่เขาไว้ก่อน พี่คิวหยุดเดินและหันกลับมามอง
“รบกวน หยิบ..กระเป๋าใบนั้นให้ผมหน่อยได้ไหมครับ” ผมชี้ไปที่กระเป๋าที่วางอยู่บนเคาร์เตอร์ ในนั้นมีหนังสือเรียนและสมุดโน้ตของผมอยู่ พี่คิวหยิบมันนำมาให้อย่างว่าง่าย
“ขอบคุณ”
“แน่ใจนะว่าอยู่ได้” พี่คิวถาม
“แน่สิ” ผมตอบเสียงดังฟังชัด พี่คิวพยักหน้าไปมา
“หึ..นายเคยเรียนจิตวิทยาไหม” พี่คิวเท้าแขนลงบนเตียง ผมชะงักเล็กน้อย
“รู้ไหมว่าน้ำเสียงที่นายตอบฉันเมื่อกี้น่ะมันหมายความว่ายังไง” พี่คิวมองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์จนผมเริ่มรู้สึกระแวง
“ม..ไม่รู้ พี่คิว..พี่ว่างนักรึไง ไปทำงานซิครับ” ผมว่า รู้สึกว่าน้ำเสียงเริ่มหลงสูงไปหน่อย พี่คิวยืนกอดอกแสยะยิ้มมุมปาก
“ระวังล่ะ” พี่คิวเน้นเสียงทุ้มต่ำลง
“ไปเลย” ผมไล่อีกครั้ง
“หึหึ” พี่เขาหัวเราะคิกคักแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี
“..บ้าจริง..” ผมบ่นอย่างนึกหงุดหงิด สายตาเจ้ากรรมมองไปรอบๆห้อง ห้องอันสวยหรูนี่มีอะไรอยู่กับเราด้วยรึเปล่านะ..แง่ง~ ไอ้พี่คิวบ้า
= = = = = = = =
ตกเย็น ณ โรงพยาบาล..
“เป็นไงบ้างเค้ก” พี่ซีเดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับพี่กัส พี่เซ็น พี่ออฟและพี่หมี
“เกือบหายแล้วล่ะครับ หมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว” ผมยิ้มตอบ
“เหรอ ดีจังนะ”
“ของฝากครับ” พี่เซ็นวางกระเช้าขนมให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้และรับของมา ป้านิดรีบมารับกระเช้าไปจากผมและนำไปเก็บให้เรียบร้อย
“แล้วคืนนี้ใครจะมานอนเฝ้าเหรอ” พี่กัสถามด้วยสีหน้าเหมือนเด็กอยากรู้เรื่องอะไรสักอย่าง
“แม่เค้กครับ” ผมตอบ
“แล้วนี่พี่ฟ้าไปไหนอ่ะครับ” ผมถามถึง
“กำลังมาพร้อมกับพี่คิวน่ะ” พี่กัสตอบ
“เหรอครับ เอ่อ..ปิดร้านเร็วเพราะเค้กรึเปล่า” ผมหน้าจ๋อย
“ก็ส่วนหนึ่ง” พี่หมีตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง นี่เป็นการประชด พูดตรงหรือว่าแกล้งพูดกัน
“พี่หมี!” พี่กัสและพี่ซีประสานเสียงกันพร้อมกับหันสายตาไปค้อนพี่หมีทันควัน
“หึ..” พี่หมีกับพี่เซ็นหัวเราะชอบใจเหมือนรู้ว่าสิ่งที่พูดออกไปเมื่อกี้จะต้องโดนดุอย่างนี้อยู่แล้วอย่างนั้น
“พี่พูดความจริงนี่” พี่หมียักไหล่อย่างไม่แยแส ผมทำหน้างอใส่พี่หมี พี่หมีส่ายหัวยิ้มให้
“นี่..รีบหายล่ะ มีลูกค้าถามถึงนายตั้งหลายคน” พี่หมีพูด
“จริงเหรอครับ!” ผมตกใจตาโต
“อือฮึ” พี่หมีอมยิ้ม
“ใช้ได้นี่..ทำให้ลูกค้าจำได้” พี่เซ็นชม
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มเขิน มันทั้งเขินและดีใจเป็นที่สุด นี่คงเป็นเรื่องที่น่าดีใจที่สุดในรอบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเลยมั้งครับเนี่ย
“มาแล้วววว..” ผมหันไปมองพี่ฟ้าที่เดินเข้ามา มีพี่คิวและพี่ฝันเดินตามหลังมาด้วย ผมรีบยกมือไหว้ทุกคน
“สวัสดีจ้ะ” พี่ฝันยิ้มและรับไหว้ผม
“นี่จ้ะ..ขอให้หายไวๆนะ” พี่ฝันถือกระเช้าดอกไม้เข้ามายื่นให้ พี่เซ็นรับจากพี่ฝันนำมายื่นให้ผมอีกทีหนึ่งเพราะพี่เซ็นอยู่ใกล้ผมมากกว่านะครับ
“ขอบคุณมากครับ” ผมยกมือไหว้ พี่ฝันพยักหน้ายิ้มๆ
“ป้าก็กลับได้แล้วครับ” พี่คิวพูดบอกป้านิด
“ค่ะ” ป้านิดพยักหน้ารับ ป้าแกรีบจัดแจงเก็บของๆตัวเอง
“ขอบคุณมากนะครับป้า” ผมรีบพูดบอกเพราะกลัวว่าป้านิดจะหนีออกไปซะก่อน คนเยอะแยะเต็มห้องทำให้ผมขอบคุณป้านิดได้ไม่ถนัดนัก
“ไม่เป็นไร ยินดีค่ะ” ป้านิดยิ้ม ก้มหัวให้ทุกคนก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ดูช่องนี้ดีกว่า” พี่หมีถือวิสาสะกดเปลี่ยนช่องที่ผมกำลังดูอยู่ และเดินไปนั่งที่โซฟาที่อยู่ทางฝั่งด้านซ้ายของผมด้วยท่าทางสบายเสียไม่มี
“นี่เค้ก..น่ารักเปล่า พี่ซื้อมาใหม่ล่ะ” พี่กัสชูพวงกุญแจตุ๊กตาให้ผมดู
“อยากได้บ้างอ่ะ” ผมบอก
“ไม่ให้หรอก” พี่กัสทำปากจู๋ตอบเหมือนต้องการแกล้งผม ผมยิ้มให้
“เดี๋ยวพี่ซื้อมาให้ใหม่ เอาของแท้จากฝรั่งเศสเลยเป็นไง” พี่เซ็นพูดพร้อมยักคิ้วให้ผมด้วย
“ชิ เริดตายล่ะ” พี่กัสเบะปากว่า ทำหน้าลอยหน้าลอยตาไปมา
“โอ๊ะ..Nanda” พี่หมีอุทาน สายตาจ้องอยู่ที่นางแบบที่อยู่บนโทรทัศน์ไม่วางตา พวกเราหันไปสนใจตามพี่หมีทันที
“หื่นอ่ะ พี่หมีบ้า” พี่ซีหันไปว่า
“ชอบหน้าแบบนี้ซะจริงนะไอ้หมี” พี่เซ็นพูดแกมหัวเราะ
“แหม ผมก็ไม่ได้ดูแต่นางแบบนู๊ดญี่ปุ่นอย่างเดียวแบบพี่หรอกน่า” พี่หมีย้อนคล้ายเป็นเรื่องปกติ คนในร้านนี้นี่ยังไง ผมสังเกตได้หลายครั้งแล้วว่าเวลาที่นอกเวลาทำงานทีไร พวกพี่ๆเขาจะแซวกันอย่างสนิทสนมจนน่าตกใจ แต่ตอนทำงานจะไม่ค่อยพูดเท่าไหร่นักเหมือนต้องการเอามาปลดปล่อยหลังเลิกงานมากกว่าอย่างนั้น บางครั้งเถียงกันไม่หยุดเลยก็มี..
“เหอะๆ” ผมกับพี่กัสหัวเราะ
“เอาเรื่องจริงมาพูดเล่นอีกละ..คึคึ อย่าไปฟังไอ้หมีมันนะเค้ก” พี่เซ็นปัดมือไปมา
“นี่..ดูนี่ดิพี่หมี” พี่ซียื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้พี่หมี
“อะไรอ่ะ” พี่กัสกระโดนลงจากเตียงพุ่งตัวไปหาพี่หมีทันที และทั้งพี่หมี พี่ซีและพี่กัสก็สนใจแต่มือถือนั่น ผมก็อยากรู้ด้วยเหมือนกันนะ..แต่ตามไปด้วยไม่ได้อ่ะ
“เป็นไงบ้างเค้ก” พี่ฟ้าเดินเข้ามาลูบหัวผม
“ดีขึ้นแล้วครับ” ผมตอบ
“เอ่อ พี่ฟ้า” ผมเรียกไว้
“ฮื้ม” พี่ฟ้าเลิกคิ้ว
“เรื่องค่าโรงพยาบาลอ่ะครับ คือเค้กอยากจะ..”
“ไม่เป็นไร พี่บอกแล้วไง..นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งในสวัสดิการให้พนักงานด้วย ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า..นะครับ” พี่ฟ้าอมยิ้ม ผมอยากจะบอกไปว่า..สวัสดิการอะไรแพงขนาดนี้กันครับพี่ แต่คิดได้ว่าพี่ฟ้ากับพี่คิวพูดขนาดนี้ผมควรจะหยุดได้แล้วและรีบทำตัวเองให้หายเป็นปกติซะ นั่นคือหน้าที่ของผมสินะ..ผมควรยอมรับ
“นี่ออฟ ลงไปซื้อเป็ปซี่ให้พี่หน่อยสิ..อยากกินๆ” พี่ฟ้าเดินกลับไปที่โต๊ะปลายเตียง
“อะไรครับบอส ผิดจรรยาบรรณนะแบบนี้..ร้านห้ามขายเครื่องดื่มอื่น แต่ตัวเองมาอยากกินได้ไง” พี่ออฟบ่นแต่ก็เดินไปหาพี่ฟ้า
“ไปซื้อมาเหอะน่า” พี่ฟ้าขมวดคิ้ว ยื่นเงินให้พี่ออฟ พี่ออฟรับเงินจากมือพี่ฟ้าไป
“กัสไปด้วย”
“พี่ไปด้วย” พี่เซ็นชูมือ พี่กัสหันไปค้อนพี่เซ็นทันที
“จะไปอ่ะ จะทำไม” พี่เซ็นยักคิ้วกวน พี่กัสทำหน้าเชิดและเดินหนีออกไปก่อน ผมเห็นพี่เซ็นแสยะหัวเราะและเดินตามพี่กัสไป
“เฮ้ออออ” พี่ออฟถอนหายใจยาวทำให้พวกผมทั้งหมดหัวเราะออกมาทั้งๆที่ไม่รู้ว่าพี่ออฟถอนหายใจแบบนั้นทำไม พี่ออฟส่ายหัวเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเหมือนเอือมกับอะไรสักอย่าง
“ไง..เมื่อกลางวันกินอาหารหมดรึเปล่า” พี่คิวเดินเข้ามาถาม
“หมดสิครับ” ผมตอบ
“ก็ดี” พี่คิวพยักหน้า พี่เขาหันไปจัดของบนหัวเตียงให้ผม ผมเหลือบมองตามว่าพี่เขาจะทำอะไร พี่คิวหยิบนู่นเรียงนี่จนเข้าที่เรียบร้อย
“พรุ่งนี้ออกจากห้องตอนเที่ยง หมอจะเช็คนายอีกครั้งตอนเช้า บอกแม่นายไปเลยว่าฉันจะมารับนายเอง” พี่คิวพูดเหมือนสั่ง ผมอ้าปาก มองหน้าพี่เขาตอบ
“อะไร” คิ้วของพี่คิวเลิกขึ้น ปากอ้าออกด้วยท่าทางกวนโอ๊ย
“เปล่าครับ” ผมหุบปากลง
“ตอนเช้าจะทำอาหารมาให้ จะเอาอะไร”
“อะไรก็ได้” ผมตอบ
“กินขี้หมาไหม” พี่คิวทำหน้าเซ็งเหมือนเบื่อกับคำว่า "อะไรก็ได้" ของผมเต็มทน
“ฉันเกลียดคำนี้ที่สุด” พี่เขาว่าอีก ผมเบะปากมองตาขวางบ้าง
“หึ..แบบแห้งหรือแบบเปียกดีล่ะ เดี๋ยวฉันจะให้ลุงโก๋จัดการให้”
“พี่คิว!” ผมว่าปรามบ้าง แต่ผลตอบกลับกลายเป็นพี่คิวยืนยิ้มกว้างซะอย่างนั้น
“อยากกินไอติมด้วย” ผมบอกเสียงเบาลง
“ก็แค่นั้น” พี่คิวพูดเหมือนผมเรื่องมากอีก พี่เขาเดินหนีกลับไปนั่งที่โต๊ะกับพี่ฟ้าและพี่ฝัน
“Oh gosh~ Nikola” พี่ฟ้าอ้าปากค้างมองนายแบบที่กำลังเดินแฟชั่นโชว์อยู่บนจอโทรทัศน์ ผมมองพี่ฟ้าด้วยความแปลกตา เพราะดูพี่ฟ้าจะปลาบปลื้มกับผู้ชายในจอนั้นเอามากๆ
“อานี่ชอบคนหน้าตาแบบนี้จริงๆนะคะ” พี่ฝันยิ้ม ทั้งห้องเงียบกริบลงทันใด
“ฝานนนนน..” พี่ฟ้าลากเสียงยาว มองเหล่ไปที่พี่ฝัน พี่ฝันหัวเราะคิกคักทันที ดูพวกพี่เขาสนิทกันจัง..
“Nikola, Diego รึ Dmitriy ก็เหมือนทิกเกอร์ทั้งนั้นแหละ หึ” พี่คิวแสยะหัวเราะ
เพี้ย !!
“ไอ้คิว!” พี่ฟ้าว่า ผมตาค้างเพราะเพิ่งเคยเห็นพี่ฟ้าลงไม้ลงมือกับพี่คิวเป็นครั้งแรก
“ฮ่าๆๆๆ” พี่ฝันและพี่หมีหลุดหัวเราะเสียงดัง พี่คิวลูบหัวตัวเองมองพี่ฟ้าตาขวาง พี่ฟ้านั่งหน้างอเหมือนไม่ชอบใจ
“อย่านะ” พี่คิวห้ามพี่ฟ้าที่ยังเงื้อมมือทำท่าเหมือนจะตีอีกครั้ง แต่พี่คิวกลับมีท่าทางกลัวว่าพี่ฟ้าจะตีจริงๆ ทั้งทั้งที่ตัวเองยังขู่ฟ่อๆอยู่อย่างนั้น ผมนอนมองยิ้มๆ
“ก็หรือไม่จริง ฝันดูแต่ละคน มีคนไหนพ้นสไตล์เดียวกับทิกเกอร์ไหมล่ะ” พี่คิวพูดไม่หยุดเหมือนต้องการเอาชนะให้ได้
“มีเว้ย..ไอ้หลานบ้า หุบปากไปเลย” พี่ฟ้าว่า
“อยู่กับเค้กดีกว่า ไม่คุยด้วยแล้ว” พี่ฟ้าลุกจากเก้าอี้ เดินตรงดิ่งมาหาผมที่เตียงก่อนจะขึ้นมานั่งบนเตียงคนไข้ด้วย
“บอสตัวเล็กเหรอ เค้กมันจะอึดอัดเอานะ” พี่หมีพูดขึ้น ทั้งที่สายตาของตัวเองยังสนใจกับนางแบบที่สับเปลี่ยนอยู่บนจอโทรทัศน์ไม่วางตา
“ไอ้นี่ก็อีกคน ปากแต่ละคนนี่นะ..ไล่ออกซะดีไหม” พี่ฟ้าว่าหน้างอเหมือนตัวเองสู้ไม่ได้แล้ว
“หึ..แคร์เมื่อไหร่” พี่หมีกับพี่คิวแสยะหัวเราะพร้อมกัน T---T
“เหอะๆ” ผมหัวเราะเจื่อนๆ ทั้งพี่คิวและทั้งพี่หมี นิสัยดูจะคล้ายกันเกินไปแล้ว เพียงแค่พี่หมีเป็นคนใจดีกว่าและพูดอ่อนโยนกว่าบ้างบางครั้งเท่านั้นเอง แต่เรื่องขัดขาพี่ฟ้านี่..รู้สึกจะชอบและรักเป็นงานอดิเรกกันจริงๆเลยละครับคู่นี้
..................>>>><<<<.................
-
โอ้ววว ว้าววว อยากให้ยาวเท่าเรื่องสุดท้าย...กรูก็รักมึง จังอ่ะ
-
ว้าววว มาต่ออีกแล้ว
:L2:
-
:-[
-
ต่างฝ่ายต่างชอบกันสินะ :o8:
พี่คิวน่ารักขึ้นเยอะอ่ะ มีการจะให้เค้กกินขี้หมา - -* 5555.
-
น่ารักอ่ะ ยิ่งนับวันยิ่งน่ารัก โอ๊ยยยย
มันโดนใจวัยรุ่นอย่างแรง พี่คิวของเค้าาาาาาา
-
ชอบคุ่เค้กกะพี่คิว กัดกันตลอดดดด
ขำพี่ฟ้าอ่ะ หึหึ
รอมาต่อน่ะคับบบ o13
-
...49 ตอนจบ ตอนนี้ พระเอกกับนายเอก ยังมะแลดูกัน แบบหยังเชิงอยู่เลยอะ
...รัก ไม่รัก ชอบ ไม่ชอบ ยังไม่รู้เลย เนื้อเรื่องดำเนินไปแบบค่อยเป็นค่อยไปมากๆๆ
...ยิ่งอ่าน พี่ฟ้า นี่ยิ่งเหมือนกระเทยไปทุกทีแล้ว ไม่รู้เป็นไงนึกเป็นแบบผู้ชายบึกบึนไม่ออกแล้ว
...ขอบคุณเบบี นะจ๊ะวันนี้พี่ได้อ่าน 2 ตอนเลย แล้วสรุปน้องกัส นี่คู่พี่หมี หรือพี่เซ็นต์หว่า คงต้องตามตอนต่อๆๆๆไป :L2:
-
จองแรววิ่งไปอ่าน><
-
ใช่ Nikola Jovanovic รึป่าว ทิกเกอร์แนวนี้หรอ
ว๊ายยยยยยย หล่อนะฮ๊าาาาาาาาาา :-[ :impress2: :o8:
-
พี่เซ็นกับกัส กิ๊กกันป่าว :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ช่วงนี้...พี่คิวดูจะน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะคะ
หุหุหุ ชอบอ่ะ
-
พี่คิวพักนี้ยิ้มบ่อยขึ้น
โดยเฉพาะกับเค้ก แล้วเมื่อไหร่จะคลิ้กกันซะทีนะ
แล้วดูดิเบบี้ก็มาบอกว่าอีก 20 ตอนโดยประมาณก็จบแล้ว
:z3:
-
น้ำเสียงเค้กมันหมายความว่าไงอ่าพี่คิว อยากรู้ๆๆๆๆ ><
พี่คิวจับไต๋เค้กได้ยังหว่า แต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยอ่ะเนอะ
พี่ฟ้าก็น่ารักตล๊อดดดดด :-[ แม้แต่นายแบบก็ยังสไตล์ทิกเกอร์ 5555
-
รู้สึกว่าอ่านจบเร็วจัง อยากอ่านต่อๆๆ 55 รอเสาร์อาทิตย์ ^-^
เค้กเด็กจริงๆ ดูอาลาดิน
เค้กเก็บอาการชอบพี่คิวไม่ค่อยอยู่แล้วน้า พี่คิวก็ยิ้มง่ายขึ้นนะเนี่ย อิอ้ิิิิิิ อลุ้นกันต่อไป
-
ชอบค่ะ
กี่ตอนก็รออ่าน :laugh:
-
พัฒนาการณ์ความน่ารักของคิว..เพิ่มขึ้นตามลำดับ :impress2:
-
โอ้ว ไม่นะซาร๊าอีกแค่ราวๆ 20 ตอนเองหรอเนี่ยย :serius2:
อุ๊ปส์ เผลอจิ้นไปถึงตอนจบแล้ว ข่าวว่าตอนนี้พระนายเค้ายังไม่ทันได้ก่อหวอดกันเลย 555
รอน๊าๆๆ วันเสาร์เจอกันค่ะ
-
เอ๋ 49 ตอนเองเหรอ งั้นก็อีก 19 ตอนเองสิ
ยังอยากอ่านต่ออยู่เลยเค้กกับพี่คิวยังซึนๆกันอยู่เลยนะ
พี่คิวเริ่มน่ารักขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ เมื่อไหร่จะมีฉากหวานๆกันอีกน้อ อยากอ่านอีกจัง :impress2:
-
เฮ้อ น่ารักแบบไม่มีคำบรรยาย ~^^~ :กอด1:
-
ยิ่งอ่านก็ยิ่งตกหลุมรักพี่คิว
พี่คิวเรียนจิตวิทยามาแบบนี้ แอบรู้รึเปล่าค่ะว่าน้องเค้กแอบคิดอะไรอยู่ในใจเนี้ย อ้ายเขิน
น้องเค้กก็หายไวๆนะค่ะ ถึงจะอยากให้น้องเค้กหายป่วยก็เหอะ แต่ใจจริงไม่ค่อยอยากเท่าไร เพราะชอบเวลาพี่คิวมาดูแล คริๆ
น่ารักอ่ะ ทำอาหารมาให้ทุกวันเลย อาฟ้าก็เป็นอาที่น่ารักจริงๆ ถึงว่าหลานชายถึงได้น่าหลงรักขนาดนี้ เกี่ยวไมนี้ฉัน
-
เค้กคิว น่ารักไปไหน (น่ารักตรงไหนหว่า) อิอิ
-
ก็มาไกลกว่าครึ่งเรื่องแล้วสินะคะ
รอดูท่าทีพี่คิวต่อไปค่า
-
:z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
-
คือเริ่มสวีทอย่างแรงส์อ่ะ อย่างแรงส์ !! คือมาครึ่งเรื่องแล้วเหรอเนี๊ยยยยยยย ได้โปรดแสดงออกมากกว่านี้ไวๆ
เราชอบอ่านฉากสวีทเปิดเผย 555555 อยากอ่านไวๆ =////= ชอบตอนพี่คิวถามเค้กอะว่าอยากกินอะไร
แล้วเค้กก้ตอบแบบเดิมพี่คิวก้จะโมโหเหมือนเดิม กร๊ากกก เด่วนี้มีต่อล้อต่อเถียงกัน ถ้าเป้นเมื่อก่อนพี่คิว
อาจจะรำคาญไปเลยและไม่พูด แล้วนี่อาร๊ายยยยยยยย พัฒนาแล้วอ่ะ คึคึ
-
ยิ่งอ่านก็ ยิ่งอยากอ่าน อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีก
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
น่ารักขึ้นทุกวันเลย
-
น่ารัก น่ารัก จะเริ่มลงตัวเมื่อไหร่เอ่ย
ยัยฝันมาทำไม....
+1
-
เอ๊....พี่เซ็นกับน้องกัส
มีซัมติงอะไรรึป่าวน๊า...
ดูเหมือนออฟจะรู้นะคะ :z2:
-
ยังข้องใจเรื่องอาฟ้ากับทิกเกอร์อยู่อ่ะ
ลุ้นๆๆๆๆๆ ดูท่าว่าทิกเกอร์จะรักจริงนะนั่น อิอิ
-
ง่า อีกสิบกว่า ยี่สิบตอนเองอ่าดิ
อยากให้ยาวๆๆๆ ไปเรื่อยๆ จีบกันไปเรื่อย :laugh:
ชาวร้านยกพลมาเยี่ยมเค้กเต็มห้องเลย
อ่านเรื่องนี้จนอยากกินมันบดตามเค้กแล้วเนี่ย
เค้กจีบพี่คิวเลย กล้าๆหน่อย :laugh:
-
ฮ่าๆๆๆ
นอกเวลางานแล้วน่ารักกันทุกคนเลยอ่ะ
อ่อยยยย
ชอบร้านนี้จัง ดูเค้ารักกันดีจังเลย
ชอบๆ ,,
พี่เซ็นนี่ยังไง แอบรู้นะว่าตามกัสไปอ้ะ!!
-
อยากอ่านคู่พี่เซ็น จริงๆ เรามันชอบคู่รอง ต้องลุ้นว่าเรื่องนี้คู่รอง จะเริ่ดกว่าคู่เอกไปมั้ย :impress2:
แต่ยังอยากได้พี่คิวเป็นแฟนอยู่ :laugh:
-
มีสบตากันเป็นระยะๆ ด้วย :impress2:
-
พี่คิวน่ารักขึ้นมากกก
ชอบกวนประสาทเค้กอ่ะ
-
Narak kan tuk kon loei...
-
เง้ออออออออออ ตายไปแล้วกับความเอาใจใส่ของพี่คิว
พี่คิวเป็นห่วงขนาดนี้เพราะอะไร แล้วเค้กมีอาการแบบนี้เพราะอะไร
รู้ตัวกันเร็วๆนะเว้คะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
เบบี้อ่า มีประมาณ49 แต่นี่30ล่ะนะ ลุ้นจนขี้หดตดหายหมดแล้ว
ระหว่างรออีกเกือบอาทิตย์ หนีไปกินขี้หมาแห้งกับเค้กดีกว่า..
:undecided:
-
อยากรู้จักทิกเกอร์
แง่งๆ
:z2:
-
บวกทุกสิ่งทุกอย่าง บางทีเค้กน่าจะนอนรพ.สักเดือนนึงนะ คงรักกันไปเลย
ว่าแต่พี่ฝัน ยังไงดีคะ >"<
-
พี่คิวถึงจะดุ แลดูกวนๆ แต่ก็น่ารักดีน้า >.<
-
คิวเอาใจใส่เค้กดีจัง ชอบ o13
-
:L2:น่ารัก
-
อยากให้มีต่อไปนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ร้อยกว่าตอนไปเลยเบบี้ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
ชอบพีคิวอะ ทำไงดี :impress3:
-
ความสัมพันธุ์ของคนที่ร้านคิวปิด มันมีหลายเวอร์ชั่น เป็นทั้งญาติ เป็นทั้งเพื่อน และเป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน
จึงทำให้ชุลมุ่น อย่างที่เห็น อีกหน่อยก็รวมน้องเค้กเข้าอยู่ในคอนเน็คชั่นนี้เหมือนกัน :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้ :กอด1:
-
ชอบตัวละครทุกตัวเลยอ่ะ น่ารักดี
-
โอ้วว...เห็นภาพทิกเกอร์เลยเจ้าคะ :impress2:
:pig4: คะ
-
ทุกคนสนิทกันจังเลยเนาะ...เค้กก็รีบ ๆ หายเร็ว ๆ ล่ะ
-
ตอนที่ 30 ยังดูเชิงกันไปมาอยู่เลย
สงสัยจะรักกันตอนที่ 48 :เฮ้อ:
เอาเหอะยังไงก็เอาใจช่วยลุ้นกันต่อไป
เค้าก็เริ่มมีมุมน่ารัก ๆ กันละ
ถึงพี่คิวจะปากเสียไปบ้าง
แต่ก็อ่อนลงเยอะและ น้องเค้กน่ารักตลอด
-
พี่คิวน่ารักขึ้นเนาะ ยิ้มง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
-
อิอิ ยังมีให้อ่านอีกตั้ง19 ตอนไม่รวมตอนพิเศษ ว้าววว น่ารักที่สุด
-
น่าร๊ากกกกกกกก เริ่มหวาน
-
อ่านแล้วเหมือนๆจะกุ๊กกิ๊ก ดุ๊กดิ๊กกันอยู่นะ ฮ่าๆ เขินอ่ะ :-[
-
เขินว่ะ
-
สนุกดีมากมาย งั้นจะได้เตรียมตัวอ่านเรื่องนี้อีกทีวันเสาร์หน้า :pig4:
-
เพ้อพี่คิว น่ารักขึ้นทุกวันเลย :-[
-
กำลังดีค่ะ o13
-
กัสจัง.... น่ารักได้ดีอ่ะ :man1:
-
พี่ฟ้าสงสัยจะใหญ่เฉพาะอยู่ที่ร้านแน่เลย
หมดเวลางานแล้วเป็นฝ่ายโดนรังแกตลอด
อยู่กันพร้อมหน้าแล้วบรรยากาศน่ารักดี
น้องเค้กได้ลับฝีปากกับพี่คิวทุกวันเลยน้า
พี่คิวก็เหมือนจะสนุกที่ได้เถียงกันซะด้วยสิ
ชอบน้องกัสจัง น่ารักเนอะ เหมือนเด็กเลย
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เหลืออีก 19 ตอนเอง รีบรักกันไวๆนะ
-
เหมือนจีบกันแบบแปลกๆตามสไตล์พี่คิวที่หล่และรวยมาก
19 ตอนหรือกี่ตอนก็ไม่เป็นไร ขอให้เค้กคิวรักกัน
-
ว่าแต่น้องเค้กแปลก
พี่คิวก็แปลกเหมือนกันแหละ คิคิ
ตอนนี้พี่คิวน่ารักขึ้น ยิ้มก็บ่อย
-
อีกแค่ยี่สิบตอน ตอนจบเค้าจะเปนแฟนกันใช่มั้ย 555
-
ชอบกันยังอะ อิอิ :z1: ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อให้นะคับ ^^
-
อั๊ยย๊ะ :o8: พี่คิวน่ารักไหนไป
-
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวันเนาะ
เวลาอยู่กับเค้กแล้วดูพี่คิวเป็นตัวของตัวเอง ยิ้มหัวเราะกวนมากขึ้น
ไม่มีมาดดุ ๆ อย่างตอนแรกเลย
เค้กน่าอิจฉามีพ่อครัวส่วนตัวเอาข้าวมาส่งทุกมื้อเลย
แถมยังมีสารถีไปส่งบ้านอีก อิอิ
ตอนนี้บรรยากาศระหว่างคิวกับเค้กเข้าใกล้แฟนกันขึ้นทุกทีแล้ว ><
เวลาคนในร้านรวมตัวกันแบบนี้คึกคักดีจริง ๆ
เค้กอยู่โรงบาลแบบไม่เหงาเลย พี่ฟ้าน่ารักอ่ะโดนน้อง ๆ แกล้งตลอด
-
พี่คิวนี่นะ พอสนิทก็โคตรจะกวนเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ 30 ตอนละ เมื่อไหร่จะชอบกันสักทีน้า
อีก 20 ตอนก็จบแล้วหรอเนี่ย เอาตอนพิเศษเยอะๆนะคะ อิอิ
รอตอนต่อไปค่ะ ชอบ ^^
-
:) อยากรู้จังว่าจะใครจะลงเอยกับใคร
-
ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่ เค้กคงรักตายเลยโคตรเอาใจใส่เลยอ่ะ... อีกมุมนึงของคิวที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น
:pig4: :กอด1:
-
แก้มปริ
อยากให้เค้กมีพี่คิวดูแลแบบนี้อีกนานๆ คิคิ
-
คิวปิดเอาใจเค้กดีจริงๆ อิจฉาๆ
เรื่องทิกเกอร์ยังไม่เคลีย...
-
พี่คิวขี้แกล้งอ่ะ
ช่วงนี้ยิ้มบ่อยขึ้นด้วย อยากเห็นอ่ะ o18
-
เค๊กไม่สบายต้องให้พี่คิวรับผิดชอบด้วย
อยากทำอาหารอร่อยมาให้น้องกินจนเกิดเรื่อง
ดูแลน้องไปตลอดชีวิตเลย
:L2: :L2: :L2:
-
มาขอสมัครเป็นแฟนเรื่องนี้ และขอตามเอาใจช่วยพี่คิวด้วยคนนะครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ
-
อยากให้2คนนี้รักกันสักที
-
ว๊ากกกก!!!~ เมื่อไหร่หนอๆ ที่พี่คิวกะเค้กจะบอกรักกัน 5555
-
นึกตอบจบเรื่องนี้ไม่ออกเลยวุ้ย
-
พี่คิว น่ารักอะ ดูแลเค้กยังกะเป็นแฟนกันแล้วอะ
-
พี่คิวค๊า ออกตัวดูแลน้องเค้กทุกอย่าง คิดอะไรกับน้องเค้กอยู่ใช่ไหมล๊า ^^
-
พี่คิว น่ารักไม่ไหวล่ะนะ
-
ฟ้า ทำไมโดนเด็กๆแกล้งอยู่เรื่องเลย
แต่ก็น่าแกล้งอยู่นะ..ฮ่าๆๆ
พี่คิวนี่ ไม่ไหว จิงๆหล่ะ น่ารักอะ
แต่ก็ชอบแกล้งเค้กเหมือนกันนะเนี๊ย
-
o18 o18 o18
-
:-[
จะรอเสาร์-อาทิตย์ ค่ะ
:pig4: นะคะ
-
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยอ่ะ 49 ตอน เร็วจังใกล้จบแล้วซิน้า
เบบี้จ๋า อยากให้เรื่องนี้ยาววววววมากกว่า 49 ตอนจัง
^^
-
:impress2: :impress2: พี่คิวน่ารักอ่ะครับ สงสัยจะมีความรัก อิอิ :L1: :L1: :L1:
-
:o8: :-[ :impress2:
-
พี่คิวเค้าน่าร๊ากกกกกกกกอ่ะ :impress3: :impress3:
รอ รอ. รอเบบี้ :z3: :z3: :z3:
-
พี่คิวพูดเยอะขึ้นแล้ว น่ารักอะ
ขอบคุณเบบี้น้าาา เขียนเรื่องสนุก ๆ น่ารัก ๆ มาให้อ่านเรื่อยเลย ชอบจัง
-
ผู้ชายในเรื่องนี้เค้าเฮฮากันจิงๆ :-[
-
ชอบเรื่องนี้จัง อ่านไปอ่านมาติดเลย สนุกมากๆ ^^
-
อ๊ากกกก.. :z3:
ได้รับความน่ารักมาเต็มที่เลย
ชอบอะ ไม่ไหวแล้ว :serius2:
รอ รอ รอ รอ รอคนเขียนที่น่ารักอยู่น้า :call:
-
~31~
ณ มหาวิทยาลัยY..
“แคะๆ”
“แคะๆ โอย” ผมโอดร้องด้วยความรำคาญ
“เป็นไข้เหรอ ไม่สบายเหรอเค้ก” แก้วนำมือของเธอมาอังที่หน้าผากของผม ผมยิ้มส่ายหัวตอบให้
“มันคันๆคออ่ะ เจ็บคอด้วย..กลืนน้ำลายไม่ค่อยสะดวก” ผมบอกเสียงแหย
“ไปหาหมอมารึยัง เดี๋ยวก็ทรุดหนักหรอก นี่ก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล เฮ้อ..เป็นไข้เก่งจังเลยนะ” แก้วบ่นหน้างอ เธอมักจะเป็นห่วงผมเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเสมอ
“เป็นไข้นี่เก่งได้ด้วยเหรอแก้ว” พีทกวนขึ้น
“พีท” แก้วเหล่ตามอง
“เดี๋ยวเค้กจะไปซื้อยาอมที่ร้านหน้ามอน่ะ ไม่อยากให้แม่พาไปหาหมอ มันเปลืองเงิน..อีกอย่างสงสัยเมื่อคืนเค้กเปิดพัดลมจ่อมาที่เค้กอ่ะ..มันเลยเจ็บแบบนี้ คงไม่เป็นไรหรอก” ผมรีบบอกปัดเพื่อให้แก้วสบายใจ
“แต่ว่า..” แก้วอ้ำอึ้ง
“ไม่แต่..ถ้าเป็นหนักเดี๋ยวเค้กจะไปหาหมอเองแหละ” ผมยิ้มให้แก้ว
“แล้วพี่ฟ้าเค้าให้เค้กลาหยุดได้รึเปล่า” พีทถาม น้ำเสียงของมันเริ่มเป็นปกติจนผมคิดว่ามันคงกำลังเป็นห่วงผมจริงๆ
“ได้ ที่จริงพี่ฟ้าจะไม่ให้กูไปทำงานหรอก แต่กูเห็นว่ากูเองก็หายดีแล้ว..ศุกร์นี้เลยว่าจะไปน่ะ”
“ถ้าไม่ไหวมึงก็ลาป่วยซะ มึงอ่ะ..ชอบฝืนตัวเอง” พีทบ่นหน้าเครียด
“ค้าบ” ผมยิ้มให้ทั้งคู่
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“หวัดดีครับ” ผมทักพี่คิวที่กำลังยืนเท้าเอวจ้องดอกไม้อยู่ที่สวนหลังร้าน วันนี้หลังเลิกเรียนที่มหาวิทยาลัยผมตรงมาที่ร้านทันที เตรียมอาหารกลางวันมาด้วยเรียบร้อยเพราะต้องทานยาลดไข้หลังอาหาร
“ดี” พี่คิวหันหน้ามาทักตอบ กระทั่งแขนยังคงเท้าเอวอยู่ ท่ายืนทำตัวอย่างกับตัวเองเป็นพระเจ้าแห่งสวนดอกไม้ซะอย่างนั้น
“ดูไรครับ” ผมถาม
“หาผีเสื้อ” ผมกลอกตาไปมา เอิ่ม..ผู้ชายที่มีอารมณ์ศิลปะ
“เอ่อ ตอนนี้มันคงกำลังไปกินข้าวกลางวัน” ผมกวน นึกยังไงมายืนรอดูผีเสื้อ มันมีสักตัวที่ไหนกันล่ะครับ
“คงงั้น” พี่เขาตอบส่งๆอีก สงสัยพี่เขาคงไม่รู้ว่าเมื่อกี้ผมประชด
“กินข้าวแล้วเหรอครับ” ผมถาม
“ยัง” พี่คิวตอบ ตายังคงมองเหมือนต้องการหาผีเสื้ออยู่ไม่หยุด ไม่ได้ละสายตามามองผมแม้แต่น้อย
“กินด้วยกันไหม แต่..เอ่อ พี่คงกินไม่ได้หรอก” ผมพูดทำเอาพี่คิวหันขวับมามองหน้าผมทันที
“ผมไม่ได้ดูถูกพี่ แต่ผมหมายถึงอาหารของผมต่างหากละครับ” ผมรีบอธิบาย
“ผัดกระเพาะหมูกรอบราดข้าว กล่องละสามสิบห้าบาท ทานได้อย่างนั้นเหรอครับ” ผมชูถุงให้พี่คิวดู อีกใจก็พูดตอกย้ำไปอย่างนั้นเพราะต้องการแกล้งประชดอีกฝ่ายด้วย พี่คิวจ้องมาที่ถุงเขม็งอย่างครุ่นคิด
“ฉันกินได้” จู่ๆพี่คิวก็ฉกถุงออกไปจากมือผมอย่างรวดเร็ว
“พี่คิว” ผมเรียกเสียงหลงแต่พี่เขาไม่ฟังเสียง เดินหนีผมเข้าประตูหลังร้านไปเฉยเลย
“นั่นมันข้าวกลางวันของผมนะ!” ผมโวยวายรีบวิ่งตามเข้าร้านในทันที
= = = = = = = =
“อยู่ๆก็มาแย่งข้าวคนอื่น” ผมบ่นแต่ปากยังไม่หยุดเคี้ยวสปาเก็ตตี้แสนอร่อยฝีมือของพี่คิว ที่พี่เขาทำเพื่อมาแลกกับข้าวผัดกระเพราหมูกรอบของผมไปกินแทน
“บ่นอยู่ได้ งั้นเอาคืนมา” พี่คิวทำท่าจะจับจานสปาเก็ตตี้ตรงหน้าผมไป
“เอ๊ะ ไม่ให้” ผมรีบดึงไว้ก่อน
“แล้วเวลากินอยู่ใครเค้าสอนให้พูดกัน” พี่เขาทำตาดุใส่อีก
“อยากพูดอ่ะ” ผมยักคิ้วกวนพร้อมเบะปากให้
“นี่..” พี่คิวดุอีก คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม
“โอ้ย..” พี่คิวร้อง
“เป็นไรครับ” ผมถามด้วยความตกใจ
“เปล่า” อีกฝ่ายตอบไม่เต็มเสียงนัก นั่นยิ่งทำให้ผมสงสัย
“แล้วร้องทำไมอ่ะ” ผมเอาหน้าไปใกล้ พี่คิวสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่แถมยังเหสายตาไปทางอื่นด้วย นี่คงเป็นครั้งแรกละมั้งที่พี่เขาหลบสายตาผมบ้าง
“พี่กัดปากตัวเองเหรอ กร๊าก” ผมจับผิดได้ ชี้หน้าพี่คิวและขำออกมาเสียงดัง
“นี่..มันตลกตรงไหนไม่ทราบ” พี่คิวว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ว่าแต่คนอื่น อ่ะฮื้ม นี่..เวลากินอยู่ใครเค้าสอนให้พูดกัน” ผมทำเสียงเข้มและทำท่าทางเลียนแบบพี่คิวด้วย
“ผมกินไปพูดไปยังไม่กัดปากตัวเองเลย พี่เป็นเด็กเหรอครับ” ผมขำไม่หยุด
กึก !
ง่ะ..T---T
“เจ็บ!” ผมร้องเสียงหลง พูดมาก..เล่นมาก ฟันกระทบกันอย่างแรงเลยอ่ะครับ
“หึ..สมน้ำหน้า” พี่คิวหัวเราะ
“ชิ..เจ๊ากันไปละกัน” ผมบ่น จับปากตัวเอง เซ็งนิดหน่อยเหมือนกันนะครับเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองหน้าแตกยังไงก็ไม่รู้อ่ะ
ก๊อก ๆ ๆ
“..............” ผมกับพี่คิวหันไปมอง พี่ฝันเดินเข้ามาในห้องพักของพนักงาน
“อ่าวฝัน” พี่คิวทัก
“เห็นซีบอกว่าคิวอยู่นี่น่ะ ฝันเอาขนมมาฝาก” พี่ฝันยิ้มพร้อมกับเดินเข้ามาหา พี่คิวลุกขึ้นยืน ผมรีบยกมือไหว้พี่ฝันด้วย
“หายดีแล้วเหรอจ๊ะ” พี่ฝันยิ้มถาม
“ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ มีไข้นิดหน่อยเท่านั้น” ผมตอบ
“ขอบคุณนะ” พี่คิวลุกไปรับถุงจากพี่ฝันมาถือไว้ในมือ
“แล้วนี่..แม่ฝันเพิ่งกลับมาจากปราก เลยซื้อชุดแก้วกาแฟมาฝากด้วย” พี่ฝันยิ้ม
“ขอบคุณ จะเอากลับไปใช้ที่บ้านแล้วกันนะ..ชุดแก้วที่แม่ฝันซื้อมาให้ แทบจะล้นตู้ที่บ้านคิวอยู่แล้ว” พี่คิวพูดพลางอมยิ้ม
“ฮ่าๆๆ ก็แม่เห็นคิวชอบหนิ”
“ขอโทษครับพี่คิว มีออร์เดอร์ครับ” พี่ออฟเดินเข้ามาบอก
“เดี๋ยวไป” พี่คิวหันไปบอกก่อนที่พี่ออฟจะปิดประตูไป
“ฝันจะทานอะไรไหม”
“อืม ขอเป็นทอฟฟี่นัท อิตาเลียน คอฟฟี่ก็แล้วกัน..ฝันจะไปทำงานต่อพอดีน่ะ” พี่ฝันบอก
“โอเค เดี๋ยวคิวทำให้นะ แล้วเดี๋ยวให้หมีเอามาให้..” พี่คิวยิ้มน้อยๆ
“จ้ะ” พี่ฝันพยักหน้า
“นั่งรอที่นี่ก่อนก็ได้ หรือจะไปรอในห้องอาก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไร ฝันรอที่นี่แหละ คิวไปทำงานเถอะ” พี่ฝันบอก
“ครับ” พี่คิวพยักหน้ารับแล้วเดินออกจากห้องไป หลังจากนั้นห้องก็เงียบลงในทันที..เวรกรรมหรือไรแต่ปางไหนนั่น
เกร็งครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเกร็งเป็นบ้า ผมไม่ค่อยสนิทกับพี่ฝันเท่าไหร่ ถึงจะรู้จักกันแต่ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกสนิทถึงขั้นนั้น ยิ่งพอมาทราบว่าพี่ฝันเป็นไฮโซ อีกทั้งยังเป็นเพื่อนๆที่สนิทกับพี่ฟ้าและพี่คิวมาก ทำให้ผมที่ต้องมาอยู่สองต่อสองต้องเกร็งไปโดยปริยาย และมากไปกว่านั้น ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าพี่ฝันกำลังมองผมอยู่ด้วย
“เอ่อ นี่..จานข้าวนี่ของคิวเหรอ” พี่ฝันเอ่ยถามขึ้น สายตามองไปที่จานข้าวผัดกระเพราของพี่คิวด้วย
“ค..ครับ” ผมรีบพยักหน้าตอบ มือก็พันเส้นสปาเก็ตตี้ไปด้วยแต่กลับไม่กล้าพันเส้นสปาเก็ตตี้คำใหญ่นัก เพราะกลัวพี่ฝันจะหาว่าผมมูมมาม
“อย่างงั้นเหรอ” พี่ฝันพึมพำ หลังจากนั้นผมเงียบเพราะพี่ฝันเองก็ทิ้งเสียงเงียบไปเช่นกัน ผมทานสปาเก็ตตี้ต่อ
“ดู..เธอสนิทกับคิวดีนะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่ได้ยิน
“เอ่อ ก็..ไม่หรอกครับ” ผมยิ้มแหย
“สนิทซิ เธอกินสปาเก็ตตี้ฝีมือคิว แค่ฉันดูฉันก็รู้แล้ว..ส่วนคิวกินข้าวจานนี้ ซึ่งน่าจะเป็นของเธอมากกว่า” พี่ฝันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบปกติ แต่อยู่ๆผมกลับรู้สึกหน้าชาขึ้นมา ข้าวของผมมันเป็นอย่างไรอย่างนั้นเหรอครับ ข้าว..มันก็คือ “ข้าว” อยู่วันยันค่ำ
“............” ผมนั่งนิ่ง กลืนน้ำลายลงคออย่างไม่สะดวกนักและรู้สึกเหมือนเริ่มทานอะไรไม่ลง
“ไม่น่าเชื่อนะ ว่าคนอย่างคิว..จะสนิทกับใครได้ง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่เดือน..หึ” พี่ฝันพูดตาลอยและแสยะหัวเราะออกมา ผมเงียบ ช้อนกับส้อมยังคงคาอยู่ในมือของผม แต่ผมรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงจะตักมันอีกต่อไปแล้ว ผมไม่ทราบว่าคำพูดของพี่ฝันมีอิทธิพลอะไรต่อผม ฟังดูดีแต่อีกด้านกลับฟังดูร้ายกาจต่อผมเหลือเกิน
“อีกทั้ง..ยังเป็นแค่พนักงานในร้าน ที่มีฐานะพออยู่พอกินอีกต่างหาก” พี่ฝันเหลือบตามองผม ผมรับรู้ได้ถึงสายตาคู่นี้ สายตาที่หยามเหยียดผมอย่างเห็นได้ชัดซึ่งผมไม่สามารถโต้ตอบใดๆได้ สิ่งที่พี่เขาพูดถูกทุกอย่าง
“หึ..น่าขันชะมัด ทั้งๆที่ไม่ชอบที่จะไปสนิทกับใครจริงๆจังๆแท้ๆ” พี่ฝันพูดเสียงแสยะ สีหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่เต็มใจเท่าไหร่
“ฉันคิดว่าเธอเป็นคนฉลาดพอ เธอก็น่าจะรู้..และน่าจะดูออก ว่าฉันเป็นเพื่อนสนิทของคิว ฉันพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าฉันสนิทกับคิวมากรองจากเซ็น นั่นหมายถึง..ไม่มีเพื่อนผู้หญิงคนไหนอีกแล้วที่สนิทกับคิว ไปมากกว่าฉัน” พี่ฝันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่กลับเด็ดขาด คำพูดย้ำเสียงทำให้หัวใจผมกำลังเต้นแรงมากขึ้นและมากขึ้น
“ฉันไม่ต้องการให้คิวสนิทกับใคร ที่ฐานะแตกต่างกันมากขนาดนี้..มันดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เธอว่าไหม”
“พี่..พี่คิว ผมคิดว่าพี่คิวเค้าตัดสินใจด้วยตัวเองได้ครับ” ผมตอบ มือกำช้อนกับส้อมแน่นจนรู้สึกได้ พี่ฝันหันมาจ้องหน้าผมกลับอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เพียงครู่เธอก็หันหน้าไปอีกทางและยิ้มกว้างออกมา
“ฮึ..เธอรู้อะไรเกี่ยวกับคิวบ้างล่ะ ถ้าเธอบอกว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเค้าได้ เธอรู้เหรอว่านิสัยที่แท้จริงของคิวเป็นยังไง เธอรู้เหรอว่าคิวต้องการอะไร เวลาไหนที่เค้าอยากพูดหรือเวลาไหนที่คิวไม่ต้องการจะอยู่กับคนเยอะๆ เวลาไหนที่คิวเสียใจ และคนข้างกายจะต้องปลอบเค้ายังไง เธอรู้อะไร..” พี่ฝันจ้องผมเขม็ง ในคำพูดเรียบๆนั่นสีหน้าเธอดูต่างจากคำพูดโดยสิ้นเชิง สายตาเธอดูโมโหและไม่พอใจผมอย่างมาก
“ผม..ผมไม่รู้ แต่เรา..เราบริสุทธิ์ใจ พี่คิวเป็นทั้งเจ้านาย เพื่อน รุ่นพี่ที่ผมรู้ว่าพี่เค้าก็เป็นคนดี” ผมพยายามจะอธิบาย ผมไม่รู้ว่าพี่ฝันพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร ต้องการให้ผมเลิกยุ่งกับพี่คิวเพราะฐานะของผมที่ไม่เหมาะอย่างนั้นเหรอ กับเหตุผลแค่นี้..ทำไมต้องว่าผมแรงขนาดนี้ด้วย
“หึ ฮ่า..เธอแทบไม่รู้” พี่ฝันหัวเราะด้วยท่าทางหยิ่งยโส
“แต่ฉันก็นับถือในตัวเธอนะ ปกติ..คิวไม่สนิทกับใครมากขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นลูกน้องในร้าน เพื่อนในบริษัทหรือใคร แต่เธอเก่งดีนี่..อยากจับคนรวยล่ะสิ” พี่ฝันเบะปากพร้อมกับมองผมด้วยหางตา
“ผม..ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ!” ผมตอบแทบจะทันที เสียงผมที่ดังขึ้นเมื่อกี้ทำให้ผมรู้ว่าผมกำลังขาดสติ
“คิวมีแค่ฉันและเซ็นเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด นั่นเพียงพอแล้ว..ฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้ ในชีวิตคิวเคยมีคนสำคัญเพียงไม่กี่คน”
“ปราย..คือผู้หญิงที่คิวเคยรักมากที่สุด เธอเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ถึงแม้ว่าตอนนี้ปรายจะไม่อยู่ แต่คิวก็ยังมีฉันและเซ็น และตลอดมาคิวไม่เคยต้องการใครนอกจากฉันและเซ็น” พี่ฝันย้ำพูดด้วยน้ำเสียงที่กระแทกกระทั้นมากขึ้นเรื่อยๆ
“ถ้าฉันจะต้องทำหน้าที่ของเพื่อนให้ดีที่สุด หรืออนาคตอาจจะได้เป็นมากกว่าเพื่อน นั่นหมายถึง..คิวต้องเฟอร์เฟคที่สุด นั่นคือสิ่งที่คิวเคยเป็น และจะต้องเป็นตลอดไปด้วย” พี่ฝันพูดจบ เธอสูดหายใจเข้าอย่างแรงก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนและหยิบกระเป๋าใบหรูของเธอสอดเข้าที่แขน ผมก้มหน้าหลบสายตาของเธอ
“ที่ฉันพูด ไม่ได้จะไล่เธอหรืออะไรหรอกนะ..ฉันแค่อยากเตือนสติ และบอกให้รู้ตัวไว้บ้าง ว่าเธอควรอยู่ในที่ของเธอซะ..ก็เท่านั้น” ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ฝันอีก ผมเจ็บใจ เจ็บใจมากจนไม่รู้จะตอกกลับไปอย่างไร ใจผมสั่นจะแทบจะกระเด็นออกมานอกอกอยู่แล้ว
“ขอบคุณ..ที่รับฟัง” พี่ฝันพูดเท่านั้นและเธอก็เดินออกจากห้องไป
“อึก..” อยู่ๆน้ำตาผมก็ไหลลง หยดน้ำตาตกลงที่กางเกงนักศึกษายิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองแปลกไป
“หึ บ้า..อะไรกัน” ผมได้แต่บ่นกับตัวเอง น้ำเสียงแทบไม่ออกมาจากลำคอ ผมไม่รู้ว่าผมก้มหน้าอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่ ผมเงยหน้าขึ้นมองจานสปาเก็ตตี้ที่วางอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง คลายมือที่กำช้อนกับส้อมอยู่ออกเบาๆ มือผมแดงและสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
“.............” ยังคงมีเพียงผมคนเดียวในห้องนี้ น้ำตาของผมหยุดไหลไปนานมากแล้ว รู้สึกว่าจะสมองจะเบลอๆ ผมนั่งทบทวนคำพูดของพี่ฝัน นึกไม่ค่อยออกเท่าไหร่นัก ตอนนี้จำได้แต่เพียงความเจ็บใจที่มีอยู่เต็มอก คำถามและความไม่เข้าใจเต็มหัวไปหมด รู้สึกเหมือนตัน..และหาทางออกไม่เจอ
= = = = = = = =
ณ เวลาเลิกงาน..
“ไปเค้ก ขึ้นรถสิครับ” พี่ฟ้าพูดบอก ผมพยักหน้ารับและรีบเปิดประตูขึ้นรถของพี่คิว พี่ฟ้ากับพี่คิวขึ้นตามมาหลังจากนั้น รถเคลื่อนตัวออกจากร้านอย่างเงียบๆ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ ทำไม..” พี่ฟ้าหันมาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“เปล่าครับ” ผมชิงตอบก่อนและยิ้มให้ด้วยเป็นการย้ำคำพูดของตัวเอง
“งั้นเหรอครับ” พี่ฟ้าลดเสียงลง หันตัวกลับไปนั่งอย่างปกติ พี่คิวขับรถไปส่งผมที่บ้าน ตลอดทางเราสามคนแทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้ก่อนจะลงมาจากรถ
“เค้ก” ผมชะงัก หันไปมองพี่ฟ้าที่ตามลงมาด้วย
“ครับ” ผมหันกลับไปแต่แน่ละว่าผมไม่กล้าสบตาพี่ฟ้าตรงๆ
“เป็นอะไรรึเปล่า ปรึกษาพี่ได้นะ” พี่ฟ้าเดินเข้ามาจับมือผมไว้ทั้งสองมือ
“เค้กขอโทษครับที่ทำให้พี่ต้องเป็นห่วง แต่เค้ก..ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” ผมบอกพร้อมกับยิ้มตอบให้หน่อยๆ
“เค้กครับ..” พี่ฟ้าย้ำเสียง ตาจ้องผมเหมือนกับพี่ชายคนหนึ่งที่กำลังเป็นห่วงน้อง ผมยิ้มกว้างมากกว่าเดิมอีกครั้ง
“เค้กไม่เป็นอะไรจริงๆครับ” ผมย้ำบอก
“เฮ้อ..โอเคครับ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่พี่อยากให้เค้กรู้ไว้ ว่าพี่พร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้เค้กเสมอนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มน้อยๆ
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบ
“ไปนะครับ ฝันดีนะ” พี่ฟ้าก้มหน้าลงมาทำท่าจะหอมแก้มผม ผมเอียงหน้าหนี
ปี๊ม !
“อ๊ะ” ผมกับพี่ฟ้าสะดุ้ง
“ไอ้หลานบ้า” พี่ฟ้าบ่น
“ไปนะ” พี่ฟ้าลูบแก้มผมเบาๆก่อนเดินกลับไปที่รถ ผมเดินเข้าบ้าน ล็อกบ้านเรียบร้อยแล้วรถของพี่ฟ้าถึงเคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านผมไป
= = = = = = = =
7:30 น. ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
~เอลเดอะไวน์ เอลเดอะไวน์~
เสียงเพลงที่พี่ฟ้าเป็นคนเปิด คลอเสียงอยู่เบาๆ แม้กระทั่งยืนอยู่ที่ด้านนอกร้านก็ยังได้ยินเพราะบริเวณด้านนอกมีลำโพงเล็กๆติดซ่อนไว้ในทุกมุม
~Every morning you greet me
Small and white clean and bright ~
“เอ๊ะ..ด ดีครับ” ผมทักพี่คิวที่มาหยุดยืนอยู่ตรงสวนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
~You look happy to meet me~
“.............” ผมยืนนิ่งชะงักไป พี่คิวเองก็เช่นกัน เนื้อเพลงที่กำลังเปิดช่างขัดกับสถานการณ์จริงของผมในตอนนี้เสียเหลือเกิน
“เพลง..เพราะเนอะ” ผมยิ้มแหยบอกอีกฝ่าย
“มันคงกำลังขาดอากาศหายใจ” พี่คิวพูด ตามองลงต่ำมาที่มือของผม ผมตกใจรีบมองตามสายตาของพี่คิว
“อ๊ะ ขะ..ขอโทษครับ” ผมตกใจเมื่อเห็นน้ำล้นออกมาจากต้นไม้เยอะมาก ผมจึงรีบวิ่งไปปิดก๊อกน้ำอย่างลุกลี้ลุกลน
“ขอตัวครับ” ผมก้มหัวบอก
“เดี๋ยว” พี่คิวเรียกไว้ ผมชะงัก
“บอสให้มาตามไปกินอาหารว่าง” พี่คิวบอก
“ครับ” ผมพยักหน้าและก้าวขาจะเดินต่อ
“ซีดีของฉันล่ะ” ผมชะงักอีกครั้ง
“เดี๋ยวผมจะรีบเอามาคืนให้พรุ่งนี้ครับ” ผมตอบแต่ไม่ได้หันกลับไปมองหน้าพี่คิว รอบตัวเราเงียบมากแล้วพี่คิวเองก็เงียบด้วยทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรออกไป
“ดูจบแล้วงั้นเหรอ” พี่คิวเอ่ยถามขึ้น
“ครับ” ผมตอบทั้งทั้งที่ยังคงยืนหันข้างให้อีกฝ่าย
“คงยังไม่จบสินะ” พี่คิวพูดเหมือนรู้ ใช่ครับ..ผมยังไม่ได้ดูสักแผ่นนอกจากเรื่องอาลาดินที่พี่คิวเปิดให้ดูที่โรงพยาบาลในวันนั้น ผมเงียบเพราะดูเหมือนพี่เขาจับไต๋ผมได้อีกแล้ว
“เป็นอะไร” อีกฝ่ายถาม ประโยคนี้ยิ่งทำให้ผมไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้อีก ฟังๆดูแล้วมันดูจะแปลกๆเพราะผมควรจะอธิบายอย่างนั้นเหรอครับว่าผมกำลังเป็นอะไร
“ทำไมจะต้อง เกร็งมากขนาดนั้น..ทุกทีต้อง ต่อปากต่อคำนี่” พี่คิวว่าด้วยน้ำเสียงสงสัย ผมยืนนิ่งตัวแข็งมากกว่าเดิม
“ขอ..โทษ” ผมบอก
“ขอโทษทำไม” พี่คิวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“พี่มีอะไรอีกไหมครับ” ผมถามด้วยเสียงแทบไม่ออกมาจากลำคอ ผมกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนกดดันจากอะไรสักอย่าง ผมเงยหน้ามองหน้าพี่คิวและพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ พี่คิวไม่ตอบอะไรอีก เราทั้งสองคนยืนเงียบด้วยกันทั้งคู่ไปเกือบสิบวินาที
“งั้นผมขอตัว” ผมบอกและรีบเร่งเท้าเดินหนีออกมา
..................>>>><<<<.................
ตอนนี้งานหลายอย่างเยอะแยะกำลังรุมเร้า จากที่บอกว่าจะลงให้วันเสาร์ เบบี้จึงต้องมาลงให้วันนี้แทนค่ะ และเบบี้จะมาลงให้อีกครั้งในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะพยายามมาลงให้ได้ตามวันดังกล่าว ช้าที่สุดน่าจะเป็นวันจันทร์ที่ 6 นี้นะคะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
โดนเข้าซะแล้ว เฮ้อออ พิษรักแรงหึงของผู้หญิงนี่ช่างร้ายแรงจริง ๆ
-
ฝันคิดว่าคนดีที่ไหนได้ก็พวกไฮโซ
ชอบดูถูกคนอื่นนี่เอง ชิ
-
สงสารเค้กจังเลยอะ ฝันเธอมันแย่มาก
-
น้องเค้กหงอยเลย :m15: :m15:
นางพี่ฝัน เป็นไฮโซปากร้ายมาก แถมชอบดูถูกน้องเค้กอีก :z6: :z6:
-
เง้อออ พี่ฝันแปลงร่างซะแล้ว จากสาวงามเป็นมารร้าย
แสดงว่าพี่ฝันต้องเห็นอะไรที่สองคนนี้ไม่เห็นแน่เลย
สงสารน้องเค้กจังเลย โดนว่าอยู่ฝ่ายเดียวอย่างนี้
เหมือนเค้กเป็นเด็กไปเลย ตอบโต้ก็ไม่ได้ :monkeysad:
พี่คิวรีบปลอบใจเด็กน้อยโดยด่วน :z1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เป็นตอนที่ทำให้ปวดหัวใจแทนเค้กมาก TT ทำไมผู้หญิงในนิยายวายต้องเป็นแบบนี้ตลอดเลยอ่ะ
เค้าเกลียดผู้หญิงงงงงงในนิยายวายยยยย !! ไป๊ๆ นี่มันไม่ใช่ที่ของพวกแก TT สงสารเค้กมาก
ตอนโดนดูถูกนั่นมันเจ็บปวดเกินไป ไฮโซนี่ก็รวยและหยิ่งจนน่าหมั่นไส้ รู้บ้างไหมว่านี่มันนิยายวาย
ชะนีแบบแกไม่มีสิทธิ์ 55555555 คนอ่านบ้าบอสติแตกไปแล้ว อยากให้คิวรู้ความจริงไวๆ
-
อยากอ่านภาคพี่คิวบ้างอ่ะ พลีสสสสสส
-
ฝัน เธอร้ายกาจมากอ่ะ มาทำให้น้องเค้กน้ำตาตก โกรธอ่ะๆ :angry2: :angry2: :angry2:
โอ้ยตอนนี้สงสารน้องเค้กสุดๆอ่ะค่ะ :o12: :o12: กินข้าวพร้อมน้ำตากันเลยทีเดียว
:m15:
พี่คิวจะรู้ไหมว่าเพื่อนตัวเองแย่ขนาดนี้อ่ะ โกรธ ๆ ๆ :fire: :fire: :fire: :fire:
น้องเค้กไม่ร่าเริงเลยอ่ะ พี่คิวตอนท้ายๆ แอบหึงอาตัวเองรึเปล่า คริๆ ๆ :o8:
พี่คิวรีบมาง้อน้องเค้กนะ (เค้าไปทะเลาะกันตอนไหนไม่ทราบ 555)
-
อิพี่ฝันเปิดตัวได้ร้ายสุดๆ ผิดคาด ช็อคสนั่นวงการเลยอ่ะ
เสแสร้งได้น่าตบมาก กล้าดียังไงมาทำน้องเค้กเค้าร้องไห้ !!!!!
แหมกระแดะซะ อยากกระชากหัวมันมาจุ่มถังข้าวแกงมากๆค่ะ
สวนสัตว์ที่ไหนปล่อยชะนีบ้าออกมารกโลกแถวนี้เนี่ยยยย
นิสัยนะแบบนี้นะมันน่าจับตอนซะให้หมด....จะได้หายคัน :angry2:
โอ๋ๆๆ กอดปลอบน้องเค้ก ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเค้กจะร้องไห้ ปกติน้องเป็นคนเข้มแข็งแล้วก็มองโลกในแง่ดีมากๆ
อาจจะมีปมบ้างเรื่องฐานะทางบ้าน แต่นี่แสดงว่าน้องคง...ฝืน..จนสุดทนแล้ว
ถ้าอยู่ใกล้แล้วมันเหนื่อยใจนัก....ก็ลองถอยออกมาสักก้าวสองก้าวก็ดีนะ
เผื่อจะได้เห็นใครบางคนแดดิ้น เพราะชีวิตขาดสีสันในวันที่น้องไม่อยู่ :L2: :L2: :L2:
จัดบวก รอตอนต่อไปจ้า ; )
-
เค้กอย่าไปยอม คนอะไรนิสัยเลว :เฮ้อ:
สงสารเค้ก ควรปรึกษาพี่ฟ้าซะ
+1
-
:angry2: :angry2: ตรูว่าแล้วอินางฝันมันต้องดีแตก อิชะนีไฮโซ :beat: ต้องมาเจอชะนีสลัมแบบตรูนี่
บังอาจมาทำน้องเค้กร้องไห้ ไม่เอาลูกน้องเค้กไม่ร้องลูก :m31:
-
ตัวร้ายโผล่แล้ว น่าหมั่นไส้มาก :z6: :z6:
-
ดูจากการกันท่าซะขนาดนี้ ชะรอยชะนีนางนี้คงหลงรักคิวนั่นแหละ
ไฮโซแล้วไง อย่าให้เจอนะคนแบบนี้ :m16:
แต่ก็นะเค้กน่าจะตอบโต้บ้าง ไม่ใช่นิ่งๆแล้วร้องไห้แบบนี้
อ่านตอนนี้แล้วขัดใจอยากจะลากฝันไปกระทืบ :z3:
-
อิจฉาสินะพี่ฝน อิจฉาที่พี่คิวให้ความสำคัญกับน้องเค้กมากกว่าตัวเอง คงเป็นพวกเพื่อนสนิมคิดไม่ซื่อละสิ
-
ต้องขอบคุณพี่ฝันที่ทำตัวแบบนี้ :pig4:
เราว่ามันต้องเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของทั้งคู่ในเรื่องความรักแหงม
-
:o12:ฝันเเรงอะสงสารเค้ก
-
โถ น้องเค้กใจเสียเลย โอ๋ๆๆๆๆ พี่คิวปลอบด่วน
-
:angry2:
คุณเธอฝันนี่..ช่างคิดเข้าข้างตัวเองเหลือเกินนะ ว่าเป็นคนสำคัญของพี่คิว
ช่างไม่ดูตัวเธอเองซะบ้าง เธอเคยเป็นรองเพื่อนสนิทเธอมายังไง ก็จงเป็นรองเขาต่อไปเถอะ เช๊อะ!!!
:เฮ้อ: ...ทำเอาน้องเค้กของช้านนน...จิตตกไปเลย...
เอาหน่า..น้องเค้ก ถือซะว่า คุณเธอเป็นบันไดก้าวแรกให้เหยียบ (เน้น..เน้น..ให้เหยียบ)
ที่น้องเค้กจะต้องเจอยิ่งกว่านี้กับครอบครัววุ่นๆของอีตาพี่คิว
-
นังฝันนี่ท่าจะศพไม่สวยซะละ ทำเค้กร้องไห้ เดี๋ยวมันจะโดน :z6:
-
ฝันเธอแย่มาก
ที่มาพูดแบบนี้
ทำมัยคิวไม่ได้ยินนะ :z3:
-
- -มาและแบบฉบับนางเอก เบื่อผู้ชายมันโง่จริงๆ
-
อึดอัดแทนเค้ก :z3: :z3:
ใครมันจะไปทำหน้าได้ถูกล่ะวะ
โดนต่อว่ามาขนาดนั้น :เฮ้อ:
-
อีนางฝันร้าย
เกลียดแก๊
คิวตาส่วางเลิกคบกะนังนี่ได้แล้ว เชอะ
-
...แม่มด ในร่างนางฟ้า เผยตัวแล้ว
...คุณฝันจ๊ะ ถ้าเค้าจะเลือกเธอเค้าเลือกไปนานแล้ว
...เพื่อนกับแฟน มันเป็นแทนกันไม่ได้ รู้ไว้ด้วย :laugh:
-
ที่บอกว่าปรายเป็นผู้หญิงที่พี่คิวรักที่สุด แต่ตอนนี้ไม่มีปราย เลยคิดว่าตัวเองสำคัญที่สุดว่างั้น
ช่างเป็นคนที่ไม่มีความจริงใจให้ใครเลยนอกจากตัวเอง หักหลังได้แม้กระทั่งคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทตัวเอง
ปากคงบอกว่าไม่คิดจะแทนที่ปราย แต่การกระทำและจิตสำนึกที่ออกมามันเป็นอะไรที่สื่อที่สุดแล้ว
อีกอย่างคิดได้อยู่แค่นี้ไง ความสัมพันธ์ที่คิดว่าน่าจะไปได้ดี กลับเป็นได้แค่เพื่อน ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่มีคุณค่าอะไรเอาซะเลยนอกจากความสวย
-
ใจร้ายจัง เอาอะไรมาวัด รู้ทุกเรื่องแต่ไม่ได้หมายความว่าจะรู้ดีที่สุดนี่
-
นางร้ายมาแล้วสินะนังฝัน
-
นิสัยแบบนี้รึอินังชะนีฝัน :z6:
-
มาต่อโดยด่วน ขออีกซักหน่อยนะ เอายาวๆ เลยอะ ไม่ไหวนะมันค้างๆ
-
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
โอ๋ๆ :กอด1: น้องเค้ก...ตอนนี้หงอยไปเลย
ชะนีฝันทำน้องเค้กเสียน้ำตา
นางลืมไปหรือเปล่าว่าเป็นแค่เพื่อน (สนิทคิดไม่ซื่อ) กับพี่คิว
แต่มาทำตัวหวงก้างใส่น้องเค้กอย่างกับเป็นแฟนพี่คิว ชิ!
-
พี่เบบี้ทำงานเยอะขนาดนั้นก็ระวังเรื่องสุขภาพไว้ด้วยนะค่ะ
แล้วก็ สู้สู้...
-
ค้างตัวโต.. พี่คิวจะถามจนรู้เรื่องมั้ย? หรือปล่อยมันไป ต่างคนต่างอยู่ T T
-
ขอเรียกเธอ ว่า "ยัยฝันร้าย" :angry2:
-
กะแล้วเชียวว่ายัยฝันต้องมีอีกร่างเป็นนางมารร้าย เป็นเพื่อนปราย เชอะ ยังงี้ แปลว่าคิวไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับนางแน่ๆ อดซะเถอะ
ขอบคุณเบบี้ บวกบวกบวกให้จ้า อุตส่าห์แบ่งเวลามาลงนิยายให้อ่าน จุฟจุฟ
-
สงสารเค้กอ่ะ
อยากตบชะนีฝันจัง
นึกว่าจะเป็นคนดี
-
ขอแก้คำผิดนิดค่ะ
แก้วเล่ห์ตามอง----แก้วเหล่ตามอง
ขอบคุณที่ลงให้อ่าน ทั้งที่กำลังยุ่งอยู่ค่ะ
-
T.T songsaan cake,,
-
ก่อนอื่นขอบคุณเบบี้ค่ะ ขอให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดีนะคะ
นางฝัน ชั้นเกลียดเเก ว่าแล้วมันต้องร้าย
เค้กชั้นจากสดใส เลยกลายเป็นซึม
โธ่เค้ก รักเค้าอย่างจริงจังแบบไม่รู้ตัว เลยน้อยใจกับคำพูดนางมารร้ายนะซิ
พี่คิวก็เก๊ก หล่อและรวยมากต่อไป
-
เฮ้อ .....ใส่หน้ากากซะเนียน ใจจริงมองแทบไม่ออก
ถ้าคิว ฟ้า เซ็น รู้ว่าฝันคิดยังไง จะแปลกใจไหมนะ
หรือว่าจะเข้าใจ เพราะเป็นคนระดับเดียวกัน
-
สงสารเค้ก คงกดดันน่าดู
-
สงสารเค้กอ่ะ น้องซึมไปเลย :sad11:
เอ้อออ..นึกว่าจะไม่ร้ายนะเนี่ย :m16:
-
ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจ
-
ชะนีฝัน นึกว่าหล่อนจะเป็นคนดีกว่านี้ซะอีก โถ่ถัง สงสารเค้ก :กอด1:
-
เอานางฝันไปเก็บด่วนเลยย ย
-
อ่านตอนนี้จบ ประโยคเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัว " :angry2: อ้าว อีนี่! เดี๋ยวจะโดนมิใช่น้อย!!!"
เกลียดนักล่ะไอ้พวกดูถูกคนอื่น เอาอะไรมาแบ่งว่ามีความเป็นคนไม่เท่ากัน ฐานะเป็นตัวชี้วัด?? เหรออออออ??
หึหึ .. เบรคตัวเองไม่งั้นยาวแน่นอน!!!
สงสารเค้ก ต้องคิดมากเพราะคำพูดนังปลวกนี่ T^T
เบบี้ เราชอบตอนเค้กป่วย ><
ไม่ได้ต้องการให้เค้กไม่สบายหรอกนะ แต่คุณพี่คิว ถ้าพี่ท่านจะการกระทำเห็นชัดกว่าตอนเค้กป่วยล่ะก็นะ :-[
ถ้าเป็นนังฝัน นางคงคิดเข้าข้างตัวเองออกไปถึงดาวเสาร์ละ o18
:กอด1:
-
:z6: :beat: ขอมอบสิ่งนี้ให้แด่เธอ :angry2: " นังฝัน " " อีนังมารร้าย "
-
โอ๊ยยยย..อึดอัดแทนเค้กจิงๆเล้ยยยยย
ฝัน มาแบบ ตรงๆ ชัดๆ ได้ใจความ
-
ยัยพี่ฝัน ดูแรกเหมือนจะดี กลับร้านซะงั้น
เป็นเพื่อนสนิทกับคนรักเก่าพี่คิวมาก่อน แล้วหวังจะได้พี่คิวอีก :m16:
สงสารหนูเค้กอ่ะ :monkeysad: พี่คิวรีบจัดการอะไรสักอย่างให้หนูเค้กมั่นใจหน่อย
-
อยากจะตบปากยัยชะนีฝัน :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
ยายฝันนี่ออกแนวขี้อิจฉาและโรคหวงเพื่อน กลัวความสำคัญของตัวเองลดลงแน่เลย นิสัยแย่ๆ :beat:
-
คนอ่านเยอะจังเลย สุดยอด..... o13
แวบๆ มาอ่านด้วยคน อิอิอิ :z1:
-
อีไฮโซ :angry2:
-
ไหงเป็นงี้ ฝันผู้หญิงที่แสนดี กลายเป็นฝันร้ายในพริบตา สงสารเค้กอ่ะ
:pig4: คะ
-
เหอะๆ อ่านตอนนี้ ถึงกับขำไม่ออก
ไม่คิดว่าจริงๆแล้วฝันจะมีด้านนี้
เห็นใจเค้กอ่ะ คงสับสนน่าดู อิอิ
:กอด1:
-
ยิ่งทำแบบนี้
อาจได้เห็นพี่คิวในแบบที่เปลี่ยนไปอีกก็ได้นะพี่ฝัน หึหึ
ทำเค้กร้องไห้เด๋วก็โดนรุมหรอก เค้กเค้าเป็นที่รักของทุกคนนะ!! :angry2:
-
หึ....ว่าแล้วเชียว ผู้หญิงคนนี้
ที่แท้ก็พวกใจไม่บริสุทธิ์^__,^
พี่คิวจะรู้มั้ยว่าหล่อนเป็นคนแบบเนี้ย!!
สงสารน้องเค้กจริงๆเลย อย่าคิดมากนะจ๊ะ
-
o22 แง้ เค้กของเราโดนชะนีน้อยรังแกซะแล้ว เอิ๊กๆ
-
ยังคิดอยู่ว่าใครจะเป็นตัวร้ายฝ่ายหญิง ที่แ้ก็ฝันนี่เอง :เฮ้อ:
-
:angry2: :angry2:
สู้ต่อไป.......เป็นกําลังใจให้เค้กเสมอออออ
ฝันเธอร้ายกาจมากกกกกกก :m31: :m31: :m31:
-
:o12: :sad4: :m15: :monkeysad:สงสารเค้กมาก พี่คิวไปคบกับคนแบบอีฝันได้ยังไง พี่คิวววววววววววววววว
-
เฮ้อ ยัยผญ คนนี้ แบบว่าร้ายกาจ :z6:
แต่หล่อนก้อคงได้แค่ เห่าใบตองแห้งหล่ะหย๊ะ :m14: :m14:
เพราะว่าพี่คิวเค้า ต้องคู่เค้ก หล่อนมันแค่ ตัวประกอบบบ :laugh3:
รอตอนต่อไปอยู่น่ะคับบบ :pig4: :pig4: :pig4:
-
:beat: นังฝัน :z6:
-
คิดว่าฝันจะสวยๆนิ่มๆซะอีก :z3:
เค้กน่าสงสาร โอ๋ๆๆๆๆ
พี่คิวคาดคั้นเลยค่ะ เอา่เลยๆๆๆ
-
มาน้องเค้ก เค้ากอดปลอบ เดี๋ยวให้พี่คิวจัดการฝันให้ :beat: :z6:
เป็นใครเจอคำพูดแบบนี้ ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
สงสารเค้กอ่ะ ความร่าเริงหดหายเลย
ขาดความมั่นใจไปเลย ทั้งที่กำลังไปได้ดีแล้วเชียว
-
ตอนนี้สนุกดีแฮะ เพราะนางมารเริ่มปฏิบัติการทำให้น้องเ้ค้กของเราเริ่มรู้ใจตัวเองซะละมั้งคราวนี้ :laugh:
แล้วพี่คิวจะรู้ไหมว่างานเข้าแล้ว จะรออ่านนะ^-^
-
ยัยฝันร้ายยยยย เธอทำเค้กร้องไห้ได้ไงย้าาาาา
:angry2: :angry2:
-
เหยยยยย
ยัยพี่ฝัน !! ไม่ง่ายสินะ
สงสารน้องเค้กอ่ะ
ยิ่งไม่กล้าคุยใหญ่เลย ยัยบ้า
แค่เพื่อน ไม่มีสิทธิ์ นะ
-
ฝัน ตอนแรกนึกว่าจะเป็นคนดี
ตอนนี้เป็นฝันร้ายไปแล้ว = =
-
ตอนแรกนึกว่าฝันจะเป็นคนดี ที่ไหนได้ หึหึ รอเวลาจะร้ายอยู่นี่เอง
ทำตัวหวงก้างตัวเองก็เป็นได้แค่เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละ ทำมาเป็นพูด
หมั่นไส้จริง ๆ เจอกันหลังร้านมั๊ย (อินจัด) ฮ่ะๆ
เค้กอย่าไปสนใจเลย เค้กมีดีกว่าผู้หญิงคนนั้นเยอะ
ถ้าไม่ดีจริงทั้งคิวและทุกคน ๆ จะรักจะเอ็นดูเค้กขนาดนี้หรอ
ผู้หญิงคนนั้นก็แค่อิจฉากลัวโดนแย่งคิวไปล่ะสินะ หึหึ
ตอนนี้อึดอัดแทนคิวกับเค้กจริง ๆ T T
-
นางมารร้ายออกมาแล้ววววว :m16:
เค้กสู้สู้นะ :กอด1:
-
กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
-
เจ้คนนี้ก็น่ะนางมารชัดๆ :z6:
-
เอาคำว่าเพื่อนมาอ้าง จริงๆ ก็อยากจะฮุบไว้คนเดียวละสิ :beat:
-
สงสารเค้ก ยัยฝันไรนั่นก็คงหวังในตัวพี่คิวสินะ เชอะ! ถ้าพี่คิวจะมองเธอ ก็คงมองไปนานแล้วหละ :angry2:
-
พี่เค๊ก อย่าเป็นนายเอกที่แสนดีเน้อ
-
หวา ฝันเปิดตัวให้เห็นอย่างเต็มที่
พี่คิวที่ไม่เคยชัดเจน
เค้กที่ลังเล
มันช่างแย่
-
ิอิอิ เริ่มมีสีสันละ ดีแล้วที่ไม่เอาแต่เสียใจร้องไห้หลายฉาก
-
อิฝันนนนนนนนนนนนน อินังมารร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยกรี๊ดดดดดดดดดดดดดๆ
เกลียดมึงงงงงงงงงง
-
ฝันร้ายมาก !! คนระดับทางสังคมต่างกันเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรือไง ไฮโซแต่นิสัยอย่างนี้ไม่ไหวนะ :m16:
สงสารเค้ก เข้าใจอารมณ์เค้ก ถึงอยากตอบโต้แต่ก็พูดอะไรไม่ออก เวลาเจอพี่คิวก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไง
อยู่แล้วอ่ะ ระหว่างเค้กกับพี่คิว ก็ต้องเปลี่ยนไป จนพี่คิวรู้สึกตัว
พี่ฟ้า พี่ชายผู้น่ารัก :m1: พี่ฟ้าน่ารักจริงๆ อิอิ
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ อยากอ่านต่อตลอดเรื่องนี้ ชอบมากกก :impress2:
เบบี้ งานรุมเร้า สู้ๆนะ ขอให้เสร็จทันทุกอัน :yeb:
-
เรื่องนี้ ชนชั้นมันเยอะเนอะ
พระเอก อาพระเอก เพื่อนพระเอก รวยล้นฟ้า ไฮโซทั้งนั้น
ส่วนนายเอกของเราก็ไม่ใช่จะจน แต่เหมือนจะเป็นแกะดำ
-
ยายฝันเข้าข่าย"โรคจิต" คิดได้ไง...
ให้ตาคิวมีเพื่อนสนิทได้แค่สองคน...
ไม่จับขังไว้เลยล่ะเจ้....
น้องเค้ก สู้ ๆ
:L2: น้องเบบี้ :pig4:
-
พี่ฝันนางร้ายนะ ทำน้องเค้กร้องไห้ เป็นชะนีตีกรอบ เป็นเพื่อนอยากจะเลื่อนเป็นมากกว่านั้น มันไม่ได้นะคะ
-
ว่าแล้วว่าอิคุณพี่ฝันต้องมาไม่ดี เฮ้ออออ~
น้องเค้กสู้ๆ ตอนที่ฝันพูดเราก็ลุ้นว่าพี่คิวจะมาได้ยินไหมน้า สรุปก็ไม่ ฮ่าๆๆ
-
ตอนนี้....
เกลียดพี่ฝัน !!!
:m31:
-
ชิ ไม่ชอบฝัน
-
แหม่ะ เวลาอัพเลขสวยเชียว o13
ไม่ชอบฝันนนนนนนนน o22
-
เป็นไปตามที่คิดไว้ตั้งแต่แรก
-
อ่า สงสารเค้กจัง :เฮ้อ:
เบบี้ก็สู้ๆน๊า :L2:
-
สงสารเค้กอะ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
ไม่คิดว่าฝันจะเป็นอย่างนี้เลย ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยซะแล้ว :angry2: :angry2: :angry2:
-
รอเบบี้ด้วยความเต็มใจ แต่ท่าทางจะได้กินมาม่าซะล่ะมั้ง
:laugh3: :laugh3:
-
จะบอกให้เค้กสู้..แต่คิวก็ไม่ได้ชัดเจนขนาดนั้น
จะถอยก็ไม่รู้ต้องถอยไม่ถึงจุดไหน
:เฮ้อ:
-
เหอะ!!!!!!!!! สุดท้ายก็ออกลาย ร้ายจริงๆ
ดูท่าชีคงร้ายได้อีกเยอะอินังคนนี้ เค้กต้องระวังตัว
แต่ไม่เอาแบบนี้!!!!!!!!!!! ไม่อยากให้เค้กทำตัวเหินห่างอ่าาา TT
แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของเค้ก ตอนนี้คงรู้สึกแย่ สับสันมาก :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้คุณเบบี้กะเค้ก FIGHTING!!!
-
ไม่น่าเชื่อเลย...ออกตัวแรงขนาดนี้ อารมณ์กลัวเสียของรักสินะ
น่าสงสารทั้งคู่
-
กรี๊ดดดดดด นังชะนีนั่นรู้ซะบ้างว่าเรื่องนี้ใครนางเอก!!! :beat:
-
น้องเค้กของพี่ :z3:
นังฝันนั่น...พี่คิวจัดการเลยนะ ไฮโซก็ดีแต่ปากเท่านั้นแหละ อยากให้คิวรู้จริงๆว่ายัยนั่นพูดอะไรกับเค้กบ้าง :angry2:
-
จนแล้วไง จนก็มีหัวใจ ไว้อิพี่คิวมาหลงรักคนจน จนหัวปักหัวปำเมื่อไหร่
อินังฝันโดนแน่ !!! เนอะเค้กเนอะ
งอนอิพี่คิวว่ะไปอยู่ไหนเนี่ย
ไม่รู้อะไรซะมั่ง ฮึ่ยยยยย!!!
-
ก็ว่าแล้วว่า นาง ต้องมาแนวนี้ มากดดันเค้กทำไมห๊า! :z6: :z6: :z6:
เชิญนางเป็นเพื่อนต่อไปเถอะย่ะ!
-
ในที่สุดก็เปิดตัวแล้วซินะ
-
ร้ายยย ... นิสัยไม่ดี.. :m16:
น้องเค้ก.. :m15:
-
เค้กสู้ๆนะ ต้องภูมิใจในความเป็นตัวเรา
เป็นกำลังใจเบบี้เหมือนกัน กับงานที่รุมเร้า ขอให้ผ่านไปด้วยดีค่ะ
-
บังเอิญห้องนั้นมีกล้องวงจรปิด แล้วบังเอิญคิวได้ยิน ว่าฝัน(เปียก) พูดว่าอะไร เค้ก...... :laugh:
-
อ่านแล้วจุกแบบหน่วงๆ สงสารเค้ก ฝันพูดแรงงอ่ะ แรงงมาก
โอยยย ทำไมทำงี้ น้องเค้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก T^T
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ รอตอนหน้า^^
-
ธาตุแท้ของฝัน เผยออกมาแล้วสิ
-
สงสารเค้กจัง :m15:
-
ว่าแล้วฝันต้องมาไม่ดีแน่ :m16:
การที่ปรายไม่อยู่ ฝันมีส่วนเกี่ยวข้องมั้ยละนั้น :really2:
-
ยัยฝัน บทจะออกตัวก็แรงเลยนะนาง =''=
-
ขอบคุนนะค๊าฟพี่เบบี้ที่แต่งนิยายดีๆๆออกมาให้ได้อ่านอีกแล้ว
-
อยากให้พี่คิวมาได้ยินตอนที่ฝันพูดกับเค้กจริงๆ
พูดจา ทำร้ายจิตใจเค้กมากกก นังมารร้ายย :m31:
-
อิฝันร้ายยยยย :z6: ซักที
อุตส่าคิดว่าเป็นคนดี ฝันสลายมากค่ะ นิถ้าไม่มีปรายคงจะสถาปนาตัวเองเป็นแฟนพี่คิวแล้วมั้ง
ดูสิน้องเค้กเกร็งไปเลย น่าสงสารตอบโต้ไรไม่ได้ จนแล้วไงวะ??
จนแล้วเป็นคนดีมันไม่พอจริงๆ ชิชะ อย่าให้เจอนะ พ่อล่อตบ :beat: (อินมาก)
:pig4: นะคะคุณเบบี้ อัพก่อนวันเสาร์อีกอิอิ แต่เราอ่านวันเสาร์ 55 งานเข้าเช่นกัน :serius2:
-
ง่า ดีใจที่ เบบี้อัพนะ
แต่ อึดอัด เซ็งเป็นอย่างมาก เพราะ
นังฝัน!
กรี๊ดดดด นังมาร ทำน้องเค้กช้านอึดอัด อยากเข้าไปตบๆสั่งสอน บังอาจแบ่งชั้นวรรณะ
ฟ้องคิว ฟ้องฟ้า นังฝันมันเลว แล้วความจริงจะเปิดเผยเมื่อไหร่เนี่ย
ชักเริ่มเป็นห่วงน้องเค้กที่รักของพี่มากๆ :sad4:
-
ว่าแล้วว่าฝันมันต้องเปนตัวร้ายแน่
-
...ยัยฝันนี่ต้มน้ำเดือดล่ะ มาม่าลงไปด้วยแล้วมั้งนั่น
น้องเค้กน่าสงสารอ่า ใจตัวเองยังไม่ทันได้รู้เลย ยังต้องมาเก็บกดเอาไว้อีก งื้อออออออออ
ปล.พี่คิวนั่นหึงใช่มะ? ที่บีบแตรน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
เริ่มตื่นเต้นแล้ว!
-
ไม่เป็นไรนะเค้ก
-
:angry2: เป็นกุหน่อยไม่ได้ แม่จะตบให้ นังฝัน
กร๊ากกกกก พี่คิวกะน้องเค้ก ชอบกันแล้วแบบไม่ทันได้ตั้งตัว :z1:
-
โอ้ ฝัน นึกว่าจะใจดีๆ ร้ายกว่าที่คิดนะเนี่ย
-
น้องเค้กน่ารักจัง
-
นั้นไงยัยฝัน....ว่าแล้วว่าต้องเป็นคนนิสัยไม่ดี
เกลียดฝันอ่ะ
สงสารน้องเค้กที่โดนว่าแบบนั้น
-
:z3: จี๊ดแทน
ฝัน :angry2: ขอบคุณที่รับฟัง พูดมาได้เนอะ :serius2:
-
เหอออออ
อึดอัดใจแทน
-
นั้นไงฝัน....ว่าแล้วว่าต้องเป็นคนนิสัยไม่ดี
เค้กไม่เป็นไรนะคับ
-
มารออ่านต่อออออออ
-
ตอนแรกนึกว่าเจ๊ฝันนี่จะดีกว่านี้ซะอีก
แต่ตอนนี้อยากจะ :z6: จริง ยัยฝันสยอง
เฮ่อ ปวดตับแทนเค้ก
-
ว่าแล้วว่าชีต้องร้าย :z6:
-
อยากจะร้องไห้ตามเค้กเลย น่าสงสารอ่ะ ทําไมอยู่จะต้องเจอคนพูดใส่แบบนี่ั
-
เค้กของพี่ โธ่ๆ :กอด1:
แล้วจะทำไงล่ะทีีนี้ ออกจากงานไปเลยดีไหมลูก
พี่เอาใจช่วยค่ะ
อินหนัก o13
-
โถ น้องเค้ก .. TT
-
เค้กยังไม่ทันรู้ความสึกตัวเองเลยว่ารักพี่คิวไหม
กับมาเจอนางฝันกันท่าซะแล้ว มีการว่าด้วยถ้าครบคนจนกลัวพี่คิวไม่เฟอร์เฟค :beat:
ทำไมนางฝันต้องแบ่งชนชั้นวรรณะด้วย ยังไงเกิดมาก็เป็นคนเหมือนกัน มีใครเลือกเกิดมาได้มั้งว่ารวยจน :angry2:
ขนาดตัวพี่คิวยังรู้เลยว่าคบใครดีไม่ดี แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาคิดแทนพี่คิวว่าคบเค้กไม่เหมาะไม่ดี
อิจฉาที่เค้กกับคิวสนิทกันมากกว่าตัวเองที่คบมานานนะซิ การมาของฝันคงเป็นตัวกระตุ้นทั้งคู่ให้รู้หัวใจตัวเองเร็วขึ้น
เพราะพี่คิวคงรู้สึกแปลกที่อยู่ดีๆเด็กที่เคยต่อปากต่อคำกลับตัวเองตลอด คอยทำให้ตัวเองสบายใจ มาทำท่าทีเกรงอึดอัดใส่ ไม่ยิ้มสบตาเหมือนทุกครั้ง
แล้วคงเริ่มสงสัยว่าเค้กเป็นอะไรไป เชื่อเถอะพอเค้กเริ่มห่างๆทำตัวแปลกๆพี่คิวต้องเริ่มรู้สึกตัว แล้วกังวล ห่วง จนในที่สุดคงรู้ว่าความรู้สึกนี้ในหัวใจคืออะไร
แค่เค้กหลบตาพี่คิวยังรู้แล้วไม่ชอบ แค่เค้กป่วยเกือบตายยังห่วงคอยทำอาหารมาให้ที่โรงบาลถึงจะว่ารับผิดชอบเพราะอาหารตัวเองก็เถอะ แค่เกือบโดนอาฟ้าหอมแก้มยังบีบแกรถห้ามโดยไม่รู้ตัว
ยังไงพี่คิวคงหนีไม่พ้นเค้กล่ะนะ ขอให้ทั้งคู่รู้สึกตัวเองเร็ว ก่อนจะสายไป
:bye2: :L2: :monkeysad:
-
คิดว่าฝันจะเป็นคนดีมาตลอด
จนถึงตอนนี้
ไม่น่าเลยจริง ให้ตายเหอะ
-
หึ ในทีสุดก็เผยร่างแฝงออกมาแล้วนะยัยฝัน หึ เป็นปีศาจที่มาสารถคงเค้าความเป็นคนดีได้เเนบเนียนจริงๆนะ
ฮ่าๆๆๆ อินจัด ก็สงสารเค้กที่ต้องร้องเพราะยัยป้าฝันนั่น ฮึ่มๆๆๆๆ
-
ขอบคุณมากนะฝัน ที่ช่วยทำให้คิวแสดงความเห็นใจเค้กออกมา เหมือนเธอเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีของคนทั้งคู่ ขอบคุณอีกครั้งจากใจ
-
รู้สึกแย่แทนเค้กเลย
-
เข้าใจเค้กเลยอ่ะ ที่โดนดูถูกแบบนั้น
-
เกลียดฝันอ่ะ ที่แท้ก็น่านะชอบดูถูกคนอื่นน่ะแหละ อยากอ่านภาคพี่คิวบ้างอ่ะ ว่ารู้สึกไง เค้กตอนนี้อึดอัดแทนจริงๆ
-
อยากอ่านต่ออ่ะๆ สงสารเค้กอ่ะๆ
-
เค้กแอบลาออกไปเลย พี่คิวจะได้รู้ใจตัวเองซะที ^^
-
~32~
~ฉันไม่ต้องการให้คิวสนิทกับใคร ที่ฐานะแตกต่างกันมากขนาดนี้..มันดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เธอว่าไหม~
“เค้ก..”
~หึ..เธอรู้อะไรเกี่ยวกับคิวบ้างล่ะ ถ้าเธอบอกว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่ดีกับเค้าได้ เธอรู้เหรอว่านิสัยที่แท้จริงของคิวเป็นยังไง เธอรู้เหรอว่าคิวต้องการอะไร เวลาไหนที่เค้าอยากพูดหรือเวลาไหนที่คิวไม่ต้องการจะอยู่กับคนเยอะๆ เวลาไหนที่คิวเสียใจ และคนข้างกายจะต้องปลอบเค้ายังไง เธอรู้อะไร..~
“เค้ก!”
~ถ้าฉันจะต้องทำหน้าที่ของเพื่อนให้ดีที่สุด หรืออนาคตอาจจะได้เป็นมากกว่าเพื่อน นั่นหมายถึง..คิวต้องเฟอร์เฟคที่สุด นั่นคือสิ่งที่คิวเคยเป็น และจะต้องเป็นตลอดไปด้วย~
“ห๊ะ..อะ อะไร” ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองหน้าแก้วทันทีที่ได้สติ
“เป็นอะไรอ่ะ แก้วเรียกตั้งหลายรอบแล้วนะ” แก้วคิ้วขมวด จ้องหน้าผมอย่างสงสัย
“เหม่อหาไรวะ..ทำไมมึงไม่จด ถ้ามึงไม่จดแล้วกูจะลอกใคร” พีทว่าด้วยหน้าตาจริงจัง ในมือยังคงกดโทรศัพท์มือถือเล่นเกมอย่างเมามัน
“เออ เปล่า..ถึงไหนแล้วอ่ะแก้ว” ผมเหลือบดูสมุดจดของแก้ว
“อาจารย์สั่งให้ทำใบงานในห้องแล้ว เค้าให้พักได้สิบนาที” แก้วบอก
“เหรอ” ผมพยักหน้ารับ
“ไปเอาใบงานสิ” ผมสั่งพีท
“เดี๋ยวไอ้โมเป็นคนแจก มึงไม่เห็นรึไง” พีทพยักหน้าไปทางโมที่กำลังแจกใบงานให้เพื่อนๆในคลาสอยู่
“ออ..เหรอ” ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง
“เค้ก..” แก้วเรียก
“หื้ม” ผมขานตอบ
“เป็นอะไรรึเปล่า” แก้วถาม
“เปล่าหนิ” ผมส่ายหัวและยิ้มให้เธอ
“แน่เหรอ แล้วเหม่ออะไร..หน้าเค้กเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา นึกว่าเราเป็นเพื่อนกันมากี่ปีกัน..ทำไมแค่นี้แก้วจะดูไม่ออก” แก้วบ่นด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อย ผมเงียบ ไม่กล้าหันไปสบตาแก้วเต็มตา
“งั้นมึงเป็นห่าไรวะ บอกพวกกูดิ..หรือว่ามึงโดนแกล้ง..ใคร เดี๋ยวกูจัดเพื่อนกูไปกระทืบแม่ง” พีทพูดแต่ตายังคงสนใจแต่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ
“จะบ้ารึไงล่ะ ไอ้นี่หนิ” ผมว่ามัน
“งั้นแล้วมึงเป็นอะไรล่ะ” พีทกดหยุดเกมแล้วหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“มีความรักเหรอ” O__O ผมหันขวับมองหน้าแก้วทันทีทันใด แก้วยิ้มกว้างตอบให้
“ใช่ไหม มีความรักใช่ไหม..” แก้วยิ้มไม่หยุด
“เฮ้ย..จริงอ่ะ มึงรักใคร!” พีทถามเสียงดัง ทำให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่แถวหน้าหันมามองผมกันหมด
“เปล่านะ” ผมรีบส่ายหัวตอบเสียงแข็ง แต่เพื่อนๆต่างอมยิ้มกันหมด
“เปล่าอะไร เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวทำหน้าคิดหนัก เดี๋ยวถอนหายใจ เดี๋ยวส่ายหัว เดี๋ยวยิ้ม..ไม่ตกหลุมรักใครแล้วมันหมายความว่าอะไร” แก้วพูดแกมบ่น ผมเริ่มกลัวความคิดแก้วขึ้นมา เพราะแก้วเป็นเพื่อนที่สามารถอ่านความคิดผมออกได้มากที่สุด
“เปล่านะแก้ว” ผมย้ำ
“พูดอยู่นั่นแหละเปล่าๆๆ..เค้กรู้ไหม ตอนที่เค้กตกหลุมรักหยกแต่ก่อน เค้กก็ทำหน้าแบบนี้แหละ แล้วก็พูดว่า เปล่านะแก้ว..เปล่านะแก้ว” แก้วแซวไม่หยุดพร้อมกับส่ายหัวไปมา
“เค้ก เค้กเป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ” ผมพูดด้วยความตกใจกระทั่งรู้สึกแปลกใจเพราะผมก็ไม่ทราบมาก่อนว่าผมเคยเป็นอย่างนั้น แก้วพยักหน้าตอบ
“เค้ก..เปล่า เปล่าสักหน่อย แก้วทำหน้าแบบนั้นทำไมเล่า” ผมว่า อยู่ๆก็รู้สึกหน้าแดงขึ้นมา แล้วทำไมผมจะต้องหน้าแดงด้วยละครับนี่!
“เฮ้ย จริงดิแก้ว..อะไรวะไอ้เค้ก มึงหลงรักใครเนี้ย แล้วเค้ารู้รึเปล่า..คนไหน สวยเปล่าวะ” พีทยิ้มกว้างซักผมซะเสียงดังลั่น แถมมันยังเอามือมาตบไหล่ผมเหมือนดีใจซะไม่มี
“เปล่าเว้ย ห่าพีท” ผมปัดมือมันออก
“ฮันแน่..หูแดงแป๊ดเลย กร๊าก” พีทหัวเราะร่า แจ็คที่นั่งอยู่ข้างๆพีทเองก็ขำไปกับเขาด้วย
“ไอ้บ้า ปวดฉี่..ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินหนีเสียงแซวจากพวกเพื่อนออกมาในทันที
~ตกหลุมรัก รัก..รักอย่างนั้นเหรอ~
“อะไรวะ” ผมขยี้หัวตัวเอง..เป็นอะไรกัน เมื่อกี้นี้ผมมัวแต่นึกถึงเรื่องของพี่คิว นั่งนึกถึงคำพูดที่พี่ฝันพูดว่าในวันนั้นจนแทบไม่เป็นตาเรียน แต่..ผมทำหน้าแบบที่แก้วพูดมาตลอดเลยอย่างนั้นเหรอครับ ไอ้อาการคิ้วขมวด ส่ายหัว คิดหนักและยิ้มอะไรนั่น ผม..เป็นบ้าอะไรไปแล้วอ่ะ
~รักใคร รัก..พี่คิวเหรอ ชอบ..พี่คิวเนี้ยนะ!?~
“เอ๊ะ..” T__T ตึก..ตึก ตึก ๆ ๆ ๆ ๆ
“อะไรกัน” ผมจับหน้าอกของตัวเอง ทำไมหัวใจต้องเต้นแรงขนาดนี้ด้วย ไม่นะ..เอิ่ม (=//=) (>_<)
“ไอ้เค้ก เป็นไรวะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองพวกเพื่อนๆในคลาสที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ตอนนี้ผมขาอ่อนทรุดลงนั่งที่บันไดแล้วเรียบร้อย
“ป..เปล่า” ผมตอบและหันหน้ากลับมา
“แล้วมึงหน้าแดงทำไม ปวดขี้ป่ะเนี้ย” พวกเพื่อนหัวเราะเยาะกันใหญ่
“เปล่าเว้ย ไปไกลๆเลยไป” ผมไล่ด้วยรู้สึกหงุดหงิด
“เออ ไอ้เชี้ยนี่..” พวกมันพูดส่งๆก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนไป
“น..หน้าเราแดงเหรอ ไม่จริงอ่ะ” ผมจับหน้าจับตาตัวเอง พอนึกขึ้นได้จึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปส่องกระจกในทันที ด..แดงอย่างที่พวกนั้นว่าจริงๆด้วย หูก็แดง..ไม่น้า หนูเป็นอะไรอ่ะแม่ นั่นมันผู้ชายนะ !
= = = = = = = =
14:30 น. ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“บลูเมาน์เท่น คอฟฟี่ มอคคาครับ” ผมหยิบแก้วเสิร์ฟให้ลูกค้า
“นี่..บรั่นดี คอฟฟี่เชกครับ” ผมยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” ลูกค้ายิ้มกลับให้
“สั่งอาหารเพิ่มเติมเรียกพนักงานได้เลยนะครับ” ผมยิ้มพร้อมกับก้มหัวให้เธอสองคนอีกครั้งก่อนจะเดินออกมา
“พี่หมีๆ..” พี่ซีวิ่งหน้าตั้งออกมาจากห้องครัว
“องค์ลง ไปด่วนเลยค่ะ” พี่ซีพูดบอกพี่หมีด้วยสีหน้าไม่ดี เอ่อที่จริง..ไม่ดีอย่างมากต่างหากละครับ
“เตรียมเก็บศพพี่ด้วยล่ะ หึ” พี่หมีพูดแกมหัวเราะพร้อมกับเดินเข้าห้องครัวไปอย่างรู้งาน
“เฮ้อ..ตายแน่ๆ” พี่ซีส่ายหัวหน้าเครียด
“ทำไมเหรอครับ” ผมถาม เชฟที่อยู่วันนี้เป็นเวรของพี่คิว แน่นอนว่าถ้าเชฟจะเหวี่ยงจนลูกน้องเข้าไม่ถึงคงไม่ใช่พี่เซ็นเป็นแน่
“เมื่อเช้าน่ะสิ พี่ไม่ได้มาทำงาน พี่ฟ้าเลยลองให้พนักงานบัญชีคนใหม่มาทำแทนพี่ไปก่อน แต่กลายเป็นว่าคิดบัญชีผิด ตอนนั้นพี่ฟ้าไม่อยู่..น้องคนนั้นโดนพี่คิวด่าเละไปเลยอ่ะ น่าสงสารมาก..พอพี่กลับมาน้องเค้าก็ร้องไห้ขอกลับบ้านไปเลย” พี่ซีเล่า ผมยิ้มขยาดอย่างนึกภาพออก
“แถมเมื่อกลางวัน ทางบ้านพี่คิวโทรมาอีก แล้วไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไรกัน..เนี้ย พี่คิวเลยเหวี่ยงตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้แหละ นานๆจะพูดออกมาที น่ากลัวอ่ะ..พูดทีพี่สะดุ้งที” พี่ซีทำหน้าขยาดตาม
“เหอะๆ” ผมยิ้มแหยเพราะพอจะนึกภาพออกซึ่งมันน่าขนลุกแค่ไหน พี่คิวเป็นคนตาดุและสายตาหยิ่งมาก ยิ่งตอนนี้พี่คิวไม่ยอมโกนหนวดด้วยแล้ว ถึงแม้ว่าจะตัดผมให้สั้นเพราะโดนพี่ฟ้าบังคับไว้ แต่ไอ้หนวดนั่นก็ยิ่งเสริมให้พี่เขาหน้าโหดไปกว่าเดิม นี่ตกลง..เชฟ หรือ นักโทษกันแน่นะครับ
“ซี..” พี่หมีเดินออกมาจากห้อง หน้าเครียดกว่าตอนที่เข้าไปอีก
“เมื่อวานใครเป็นคนล้างค็อกเทลเช็คเกอร์” พี่หมีมองหน้าพี่ซี
“ก็รู้ว่าถ้าล้างไม่สะอาดมันจะส่งผลถึงพวกเราด้วย” พี่หมีกัดฟันพูด ถลึงตาใส่
“ซี..ซีไม่รู้อ่ะ” พี่ซีรีบบอก ผมรีบส่ายหัวเป็นการบอกพี่หมีด้วย
“โอเค ช่างมัน” พี่หมีถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมกับหลับตาลงอย่างใช้สติ
“ซีดูแลลูกค้าแทนเค้ก บอกให้กัสเตรียมมารับอาหารไปเสิร์ฟลูกค้า..เค้กตามเข้ามา” พี่หมีสั่ง
“ค่ะ” พี่ซีพยักหน้าตอบ ผมรีบตามพี่หมีเข้าไปถึงแม้ว่าจะไม่อยากเข้าไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้หน้าที่ก็คือหน้าที่ เราไม่ควรจะเอาความคิดฟุ้งซ่านส่วนตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวทำให้งานเสีย
เมื่อผมเข้ามาในห้องครัว @___@ บรรยากาศอึมครึมมากครับพี่น้อง ผมเริ่มมือสั่นและใจเต้นแรง
“เดี๋ยวถ้าพี่สั่งอะไร ให้ไปหยิบอันนั้นนะ..อุปกรณ์น่ะ เข้าใจไหม” พี่หมีกระซิบที่ข้างหูผมเหมือนไม่ต้องการให้เสียงไปดังรบกวนพี่คิว
“ครับ” ผมกระซิบตอบ ผมยืนเกร็งทิ้งระยะห่างพี่หมีไว้เพียงไม่กี่ก้าว พี่หมีเข้าไปยืนอยู่ใกล้เคาร์เตอร์ ส่วนพี่คิวกำลังชงกาแฟอยู่อย่างเงียบๆ รังสีอำมหิตของพี่เขาแผ่ซ่านไปทั่วห้องครัว
“เหล้าจิน” พี่คิวพูดขึ้น ผมยืนอย่างไม่เข้าใจ เหงื่อเริ่มออกที่มือด้วยความรู้สึกกดดันมากกว่าเดิม
“เค้ก..หยิบเช็คเกอร์กับแก้วไฮบอลล์” พี่หมีสั่ง ผมพยักหน้ารับและรีบทำตาม ผมพอจำประเภทของแก้วกับอุปกรณ์เครื่องชงได้เกือบทุกอย่างแล้ว ตรงส่วนนี้จึงไม่ค่อยมีปัญหานักแต่ผมยังอดประหม่าไม่ได้อยู่ดี พี่หมีเตรียมส่วนผสมให้พี่คิว ผมรีบนำแก้วและเชคเกอร์ไปวางไว้ให้
“เตกีลาสีขาว” พี่คิวพูดสั่งลอยๆ มือกำลังผสมส่วนผสมเครื่องดื่มของของเดิมอยู่อย่างตั้งใจ
“จิ” พี่คิวสบถเสียงเบา คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันเป็นปม
“ที่บดกับแก้วไวน์แดง” พี่หมีหันมาบอกผม ผมพยักหน้าและรีบทำตาม พี่หมีเตรียมส่วนผสมเหมือนเดิม พอผมหยิบแก้วมาได้ก็นำไปวางไว้ใกล้มือของพี่หมีเพื่อที่จะหยิบได้สะดวกมือ
“บอสโทรมารึยัง” พี่คิวถามขึ้น ผมมองหน้าพี่หมีทันที
“ยังครับ” พี่หมีตอบ
“ต่อโทรศัพท์ให้หน่อย” พี่คิวสั่ง พี่หมีหันไปกดโทรศัพท์ที่ติดอยู่ที่ผนังห้อง พี่คิวเหลือบตาขึ้นมามองผมเพียงครู่หนึ่งแล้วก้มลงผสมเครื่องดื่มต่อ พี่หมีกดเปิดระบบสปีกเกอร์โฟน
“ฮัลโหล ว่าไง” พี่ฟ้าพูด
“ไอ้เซ็นบอกว่าบลูเมาน์เท็นหมดได้สองวันแล้ว ตกลงคุณติดต่อแล้วรึยัง..” พี่คิวพูดไปในขณะเดียวกันมือยังคงทำการผสมเครื่องดื่มอยู่ด้วย
“เมื่อกี้ตัวแทนบอกว่าส่งไปที่ญี่ปุ่นหมดแล้ว ทางเราลูกค้ารายเล็ก..มันบอกว่าเหลือแต่สายพันธุ์ที่จะส่งไปอเมริกาน่ะ” พี่ฟ้าตอบ
“ผมต้องการอาราบีก้าพันธุ์ดี..ภายในห้าวันนี้ ที่ไม่ใช่ส่วนที่ต้องเหลือส่งไปที่อเมริกา คุณรีบติดต่อไปซื้อจากญี่ปุ่นมาให้ได้..ไม่งั้นผมจะให้คุณบินไปจาไมก้าเอง” พี่คิวว่าด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“เออ!” พี่ฟ้ากระแทกเสียงและตัดสายไป พี่หมียิ้มแหยๆให้ผม
กริ๊ง~
“One Warm Amaretto Di Saronno” ผมยืนค้าง มองหน้าพี่ซีที่เดินเข้ามาพูดรัวและเร็วมากด้วยน้ำเสียงขั้นเทพ
“ใคร” พี่คิวถามกลับแต่กลับไม่เงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ซี
“มิสเตอร์เคลค่ะ” พี่ซีตอบ พี่คิวพยักหน้าส่งๆอย่างเข้าใจก่อนที่พี่ซีจะนำเอากระดาษที่จดออร์เดอร์ไปเสียบที่ประจำ ผมยืนนิ่ง จำเมนูที่พี่ซีพูดเมื่อกี้ไม่ได้ ที่จริงผมฟังแทบไม่ออกด้วยซ้ำเพราะพี่ซีพูดสำเนียงดีเกินไปนะครับ
“ไปเตรียมแก้วซิเค้ก” พี่หมีสั่งและพี่เขาคงลืมไปว่าต้องบอกอุปกรณ์ให้กับผมเสียก่อน
“ข..ขอโทษครับ” ผมเอ่ยหน้าเสีย พี่คิวกับพี่หมีชะงัก พี่คิวเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม พี่หมีตาโตเหมือนกับนึกอะไรขึ้นได้
“อย่าบอกนะว่านายจำแก้วที่ใช้ประจำกับเครื่องดื่มนี้ไม่ได้น่ะ” พี่คิวพูดเสียงเย็นด้วยสีหน้าที่เริ่มไม่พอใจ
“ครับ ขอโทษครับ” ผมก้มหน้าหลบสายตานั่น น้ำตาแทบจะไหลอยู่แล้วเพราะมันรู้สึกกดดันไปหมด
“ไม่เป็นไร ขอโทษ..เดี๋ยวพี่หยิบเอง” พี่หมีจับหัวผมแล้วรีบเดินไปหยิบแก้วแทนให้
“ผมขอโทษ” ผมหลบสายตาพี่คิวอีกครั้ง กำมือตัวเองเข้าหากันแน่น ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังมือสั่นและเหงื่อออกเยอะมาก อยู่ๆกลับรู้สึกว่าไม่ชอบใจตัวเองขึ้นมา และไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกเจ็บใจเอามากๆ
ระหว่างที่อยู่ในครัวเกือบชั่วโมง แต่ความรู้สึกของผมเหมือนอยู่นานเกือบสามถึงสี่ชั่วโมงก็ว่าได้ ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่สบายใจและรู้สึกแย่จริงๆที่ทำงานได้ไม่ดีอย่างที่พี่หมีไว้ใจให้ผมเข้าไปช่วยเป็นลูกมือ
“เอาน่า มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย” พี่หมีเข้ามากอดไหล่ผมหลังจากที่เราออกมาจากครัวเพราะทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“............” ผมไม่ตอบ เอาแต่ก้มหน้าก้มตา รู้สึกอึดอัดเต็มอกไปหมดจนไม่รู้จะพูดอะไรดี
“เค้ก เฮ้ย..ไม่เอาดิวะ อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้น” พี่หมีกอดผมเข้าไป พี่เขาลูบหัวผมเบาๆและลูบหลังผมอย่างกับโอ๋เด็ก
“เค้ก เป็นอะไร” พี่ซีถาม ผมไม่ได้หันหน้าไปตอบและไม่มีเสียงตอบจากพี่หมีด้วย ผมคิดว่าเขาสองคนคงจะตอบกันด้วยสายตาไปแล้วเพราะพี่ซีเงียบไปหลังจากนั้น
“เค้กไม่ได้เป็นอะไรแล้วครับ” ผมดันตัวพี่หมีออก
“หึ..อย่างนี้แหละน่า ทำงานกับคนมีคุณภาพ เราต้องทำใจนะ” พี่หมีพูดแกมหัวเราะ
“พี่เค้าเก่งมาก เราควรเรียนรู้เพื่อให้เป็นประสบการณ์..แก้วสำหรับไอ้วาร์ม อมาเรตโต้ ดิ ซารอนโนน่ะ..ต่อไปเค้กคงจำได้ขึ้นใจเลยล่ะนะ” พี่หมีแซว ผมยิ้มให้ ชื่อเครื่องดื่มบ้า..ไอ้บ้า มึงจะยาวไปไหนห๊ะ!
“ผิดที่ซีรึเปล่าเนี้ย” พี่ซีหน้าเสีย
“สำเนียงของเธอน่ะ บางทีก็ควรเพลาๆลงบ้างนะ ยัยเด็กนอก” พี่หมีเข้าไปดีดหน้าผากพี่ซี
“ขอโทษนะเค้ก พี่ไม่รู้..พี่ลืมตัว พี่ขอโทษ” พี่ซีรีบยกมือไหว้พร้อมกับก้มหัวไปมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิดยกใหญ่
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เค้กผิดเอง..ที่ไม่ใฝ่รู้จำสิ่งที่ควรจำให้ได้” ผมยิ้มแหย
“ทุกคนก็เคยผิดพลาดกันทั้งนั้นแหละนะ เค้กเป็นเด็กเสิร์ฟแต่จำได้ถึงขนาดนั้น..แค่นี้ก็เก่งมากแล้ว สำหรับพี่น่ะนะ การได้เข้าไปช่วยเป็นลูกมือพี่คิวหรือพี่เซ็น ไม่ว่าเค้าจะเหวี่ยงมากแค่ไหนก็ตาม แต่เค้าไม่เคยทำงานออกมาไม่ดีเลยสักครั้ง พี่ถึงเต็มใจที่จะเข้าไปทุกครั้ง เต็มใจที่จะได้เรียนรู้ทุกครั้งถึงแม้ว่าจะต้องผิดพลาด ดังนั้น..อย่าเศร้าไปเลย” พี่หมียิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน มือใหญ่ๆของพี่หมีลูบหัวผมเบาๆอีกครั้งเลยทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง
“ไปพักเถอะ ลูกค้าหมดพอดี” พี่หมียิ้มบอก
“ขอบคุณครับ” ผมก้มหัวให้พี่หมีและเดินออกมาทางด้านหลังร้าน เข้าใจทุกคำพูดที่พี่หมีพูดสอนเมื่อกี้ บางทีผมควรดีใจที่ผมทำผิดพลาด ผมควรภูมิใจที่ผมได้เข้าไปเป็นลูกมือ คำพูดของพี่หมีแทรกขึ้นมาแทนความรู้สึกผิดที่มีเมื่อกี้ไป..
“เฮ้อ..” ผมนั่งถอนหายใจคนเดียวอยู่ที่สวนหลังร้าน ไปนั่งทางสวนด้านข้างร้านไม่ได้เพราะจะทำให้ร้านเสียบรรยากาศและดูไม่ดี ตรงนั้นส่วนมากจะมีลูกค้านั่งอยู่และสามารถมองผ่านกระจกออกมาเห็นเราได้นะครับ
ผมนั่งเงียบเงยหน้ามองพี่คิวที่เดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆผม ผมหันหน้ากลับมา TuT เฮ้อ..มาทำไมตอนนี้เนี้ย
“............” เราต่างฝ่ายต่างเงียบ พี่คิวเหล่สายตาก้มต่ำลงมองผมที่นั่งอยู่บนพื้นและหลังจากนั้นก็หันหน้าหนีไปมองทางอื่น ผมจึงหันหน้าหนีพี่เขาบ้าง
“เค้าว่ากันว่า คนนั่งกอดเข่าเป็นคนอมทุกข์น่ะนะ” ผมชะงักเมื่ออีกฝ่ายพูดคล้ายกับแกล้งว่า ก่อนจะก้มลงมองสภาพการนั่งของตัวเองและต้องปล่อยแขนที่กอดเข่าลงในทันที สถานการณ์เงียบลงสนิท พี่คิวเดินมายืนพิงเสาอยู่ข้างๆผม ผมไม่กล้าหันไปมองด้วยหลายๆเหตุผล ส่วนพี่คิวเอาแต่ยืนนิ่งล้วงกระเป๋าทำเก๊กอยู่ได้
“เครียดเรื่องเมื่อกี้รึไง ฉันไม่ขอโทษหรอกนะ” พี่คิวพูดขึ้น ผมไม่ได้เงยหน้าไปมองจึงไม่ทราบว่าพี่คิวทำหน้าตาอย่างไร
“............” ผมนั่งเงียบเช่นเดิม
“ผมผิดเอง ผมก็ขอโทษไปแล้วไงฮะ” ผมพูด หันหน้าหนี อยู่ๆกลับรู้สึกแย่ขึ้นมาอีกครั้ง ทำไมผมต้องเจ็บใจกับคำพูดเล็กๆน้อยๆที่ออกมาจากปากพี่คิวได้มากขนาดนี้ด้วยนะครับ
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ คนเราก็ผิดพลาดกันได้ ฉันว่าอะไรนายแล้วรึไง” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนขอผ่านไปที
“ว่าด้วยสายตา” ผมบ่นงึมงำเสียงเบา
“หึ อย่างนั้นเหรอ..ถ้าสายตาของฉันมันหมายความว่าอย่างนั้น ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน” พี่คิวหัวเราะส่งๆ ผมนั่งเงียบไม่ตอบโต้อีก
~รักพี่คิวเหรอ เราตกหลุมรักคนอย่างไอ้เชฟปากเสียนี่เนี้ยนะ~
ผมพยายามนั่งรวบรวมสมาธิและเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่คิวตรงๆเพื่อทบทวนความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองที่มันค่อนข้างสับสนวุ่นวายและเป็นคำถามวนไปมาทำให้ผมไม่ปกตินี่
เมื่อผมเงยหน้าขึ้น ผมก็แทบจะหลบสายตาลงในทันทีเพราะพี่คิวก้มต่ำจ้องเขม็งมาที่ผมอยู่ก่อนหน้าแล้ว แต่ผมกลับไม่ทำอย่างนั้น ถึงผมจะตกใจแต่ผมก็จ้องตาพี่คิวตอบจนถึงที่สุด
“อ๊ะ คือ..” ผมเหสายตาหนีก่อนในที่สุด หันหน้ากลับมามองต้นหญ้าตรงหน้าแทนเพราะพี่คิวเล่นสู้สายตาตอบผมอย่างไม่ยอมแพ้ พี่คิวเงียบไม่พูดไม่จา ผมเพียงเห็นว่าพี่เขาหันหน้ากลับไปในท่าเดิม ทำให้ตอนนี้ตรงหน้าของผมและพี่คิวมีภาพสวนของร้านแทน
“คือ..” พี่คิวเอ่ย แต่กลับทิ้งเสียงไปไม่พูดต่อ ผมกำมือแน่น ใจเต้นแรงและรู้สึกเกร็งไปทั่วร่างกาย
“ผม” ผมเอ่ย
“ฉัน” แง่งๆๆๆ..จะพูดขึ้นพร้อมเค้กทำไมเล่า ไอ้พี่คิวบ้า!
“เปล่า นายพูดสิ” พี่คิวบอกเสียงเรียบ
“ผมก็เปล่า” ผมยักไหล่ทำคล้ายกับปกติ
“เปล่าอะไร งั้นเมื่อกี้นายจ้องฉันทำไม” น้ำเสียงของพี่เขาเริ่มไม่พอใจ
“ก็..พี่ก็จ้องผมเหมือนกันแหละ” ผมย้อน
“งั้นซิ” เสียงแสยะจากปากพี่คิวที่ปกติฟังดูกวนอยู่แล้ว ตอนนี้กลับยิ่งไปกันใหญ่ ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองนั้นร้อนรนเหมือนกับพี่เขากำลังอ่านความคิดของผมออก
“งั้นแหละ” ผมย้อนตอบ
“กลับมาย้อนได้แล้วหนิ ฉันละก็นึกว่านายกินยาผิดเข้าไป” พี่คิวหันมาเบะปากใส่ผม ผมเงยหน้ามองตาขวางพร้อมกับลุกขึ้นยืนและปัดกางเกงของตัวเอง
“มันก็เรื่องของผม” ผมว่าเสียงแข็งก่อนก้าวขาจะเดินหนีออกมา
“เดี๋ยว” ผมผงะทันทีก่อนก้มลงมองไปที่มือของพี่คิวที่จับแขนผมอยู่ในตอนนี้
“เสียมารยาท ฉันยังพูดไม่ทันจบ” พี่คิวว่าเสียงเข้ม
“งั้นก็พูดมาสิครับ ปล่อยแขนผมด้วย” ผมพูดพร้อมกับจะเอาแขนออกแต่พี่คิวกลับออกแรงจับมากกว่าเดิม อยู่ๆพี่คิวก็ยิ้มออกมา สายตาของพี่คิวทำให้ขาของผมต้องก้าวถอยหนี พี่เขายังยืนอยู่ที่เดิม ส่วนผมกลับรู้สึกว่าตัวเองตาลายและไม่กล้าจ้องหน้าพี่คิวแบบตรงๆ
“นาย..หน้าแดงทำไมน่ะ” พี่คิวพูดกระทั่งจ้องผมไม่วางตา สายตาเรียบนิ่งเหมือนต้องการคำตอบ ไม่มีความหมายแฝงไปมากกว่านั่น มันยิ่งทำให้ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก
“ไม่ได้แดง” ผมตอบแล้วหันหน้าหนี
“หึ อะไรของนายน่ะ” พี่คิวยิ้มไม่หุบ
แกรก~
ปึก !!
จังหวะที่ประตูเปิดออกมาไม่ทันให้เราได้ตั้งตัว รู้ตัวอีกทีขาของผมดันก้าวเซไปด้านหน้าซะก่อนแล้ว พี่คิวดึงแขนผมเข้าไปเหมือนจะช่วยให้ผมหลบประตูนั่นได้ทัน แต่..
“อึ..” แง่ง..แม่จ๋า O_O..ผมตาค้าง รับรู้ได้ถึงปากของอีกฝ่ายที่ประกบอยู่บนหน้าผากของผม
“อุ้ย!” พี่ซีร้อง ทันทีที่ผมได้ยินเสียงของพี่ซีผมก็รีบผลักตัวออกจากพี่คิว ยืนจับหน้าผากของตัวเองที่เพิ่งโดนปากของพี่คิวจูบไปเมื่อกี้ด้วยความตกใจ ผมรับรู้ได้เพียงตัวผมว่ามันค่อนข้างสั่นแบบผิดปกติ
“ขอโทษค่า” พี่ซีพูดเสียงดังด้วยท่าทีตกใจและวิ่งกลับเข้าร้านไปในทันที ผมยืนนิ่ง มันต้องเป็นผมไม่ใช่เหรอครับที่ควรจะเป็นฝ่ายที่ตกใจน่ะ
ทั้งผมและพี่คิวต่างจ้องหน้ากัน ผมยืนอึ้งมองหน้าพี่เขา มือขวายังคงจับอยู่ที่หน้าผากของตัวเอง พี่คิวเองก็คงจะตกใจไม่แพ้กัน พี่แกยืนจ้องผมตาโต
“เอิ่..ม” พี่คิวทำท่าเอ่ยปากเหมือนพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง
“ขอบคุณ เอ่อ..ขอโทษ เอ๊ะ ไม่ใช่ครับ..ผม ขอตัว” ผมพูดรัว คำพูดวนไปวนมาคล้ายคนไร้สติก่อนจะรีบวิ่งหนีเปิดประตูเข้าไปในร้านไม่รอฟังคำใดๆจากพี่คิวอีก ผมอายจนแทบจะเอาหน้ามุดดินได้แล้ว ทำไม..ทำมายยยยยยยยยยยยกัน!?~
................>>>><<<<................
หมายเหตุ :
ตั้งแต่วันนี้..เบบี้จะมาต่อตอนต่อไปให้ค่อนข้างช้าหน่อยนะคะ มาบอกให้ทุกคนทราบก่อนเพราะถ้าหายตัีวนานไปโดยไม่ทราบสาเหตุอาจจะถูกบ่นได้อีก มหาลัยของเบบี้เลื่อนสอบปลายภาคไปถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงนี้ถึงจะเรียนไม่ค่อยหนักเท่าไหร่แต่จะหนักไปที่งานพรีเซ้น การบ้านและโครงการต่างๆในทุกอาทิตย์ และอีกสาเหตุหนึ่งคือช่วงนี้เบบี้ซ้อมดนตรีค่อนข้างหนัก ซึ่งเวลาหลักๆของเบบี้จะถูกกินไปกับ 2 สาเหตุนี้ซะส่วนมาก เบบี้จึงขอบอกให้ทราบไว้ก่อน
ดังนั้น..ในแต่ละตอนที่จะลงในตอนต่อไปเบบี้จะพยายามไม่ให้เกินภายใน 8 วัน เร็วที่สุดคือ 5 วัน แต่คงไม่สามารถลงให้อาทิตย์ละ 2 ตอนอย่างที่ผ่านมาได้อีก (แต่ถ้ามีเวลาว่างก็จะลงให้เร็วอย่างแน่นอนค่้ะ)
หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ..^^
คำเตือน -- เกร็งกันมาก ระวังเยี่ยวเหนียวนะ..กร๊าก
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
^
^
^
อร๊ายยยย ได้จิ้มเบบี้ด้วยอ่ะ
+++++++++++++++++++++
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน ตอนนี้ทั้งหยิกทั้งทึ้งตัวเอง
ไม่ไหวแล้ว :m1: น่ารักมากกกกกกกกก น้องเค้กพี่คิวน่ารักมากๆๆ
เมื่อเค้กเริ่มรู้ใจตัวเอง อร๊ายยยย แล้วเมื่อไหร่พี่คิวจะรู้มั่งหนอ :impress2:
ตอนนี้จุ้บหน้าผาก :-[ ตอนหน้าขอมากกว่านี้ได้ม้ายยยยย :m3: อร๊ายยยย
ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก o13
-
:z13: :z13: :z13:
-
กรี๊ดด หวานเล็กๆ ใกล้รู้ใจกันแล้วใช่มั้ย >//<
เป็นกำลังใจให้เบบี้ค่ะ....
-
:z13: :z13: :z13: :z13: รีบน รอทั้งวันวิ่งมาจิ้มพี่บี้ไม่ทันจิ้มรีบนแทนละกัน :really2: :really2: :really2:
-
มาแล้ว
-
ถึงมันจะเป็นการจูบโดยบังเอิญก็เหอะนะ
แต่ก็จะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :กอด1:
เอาแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :really2:
-
โอ๊ะ
มาดโหดมาหมดเอาตอนที่จุ๊บไม่ได้ตั้งใจนี่แหละ :m20: :m20: :m20:
-
โอ้วววววว ปากชนหน้าผากด้วย ถึงจะอุบัติเหตุก็เหอะ :-[
คือ คิวน่ารักว่ะ จริงๆ นะ
คิวทำให้เราสงสัยมากกกกกก ว่าคิดอะไรอยู่น้อออออออ ^^
ไม่พูดมาก ไม่แสดงออก แต่ถ้าได้รับรู้เหตุและผล สงสัยมีอึ้ง
หงุดหงิดเว้ยยยยยยยยย นังนั่นทำให้เค้กคิดมากตกค้าง เครียด กดดัน หดหู่ :m31:
แต่ เค้กเอ๊ยยย หนูเก็บไม่มิดแล้วลูก แสดงออกเค้ารู้กันหมดแล้ว ><
:กอด1:
-
เค้กเอ๊ยอย่าคิดมาก :กอด1:
+เป็ดจ๊า
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เบบี้ใจร้ายยย มันค้างงงงงงงงอ่ะ
:m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:
แต่จะรอน้าาาาาาาาาาาาาา
-
:กอด1:หึๆๆพี่คิวทำไรนะ
-
เค้กกลับมาเป็นแบบเดิมก็ดีแล้วน้า ตอนนี้เขิน><!!
-
:o8: :impress3:
-
เพราะยายฝันค้างปี นี่ทำเอาน้องเค็กเครียด :beat: :beat: :beat:
-
กรี๊ดดดดดดดคร้าาาาาาาาาาาา
แต่ก็ขอบคุณ เบบี้ ด้วย สู้ๆๆนะค่ะ จะ 8วัน หรือ 5 วันก็ รอค่ะ ^^
-
อ่านไปรู้สึกอึดอัดไปพร้อมเค้กเลยง่ะ
:sad4:
แต่ว่า...ฟินแล้วววว จุ๊บหน้าผากกันด้วย อุอุ
-
เค้กน่ารัก เริ่มรู้ตัวแล้วช่ายม๊ะ ^^ :impress2:
แบบว่าอุบัติเหตุ แห่งรัก (กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ) :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
ปล.ช้าก้อไม่เปนรัย ยังไงก้อรอติดตามอยู่แล้ววว :L1: :L1:
-
กริ๊ดบ้านแตกไปแล้วค่า
โอ๊ยยยยยย มันค้าง มันคา โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย
จะทำอย่างไร เหยี่ยวเหนียวใครจะรับผิดชอบ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
แอบอึดอัด :z3:
จุ๊บหน้าผากแล้ว :-[
ต่อไป ขอที่ปากเลยเเละกัน :laugh:
-
ลุ้นแทบตาย ได้จุ๊บกันซะที :a2:
-
และแล้วเค้าก็จุ๊บกัน :m4:......โดยบังเอิญ :a1:
-
มีความรัก มีความรัก น้องเค้กมีความรักกับพี่คิว
เพราะยัยฝันทำให้น้องเค้กเครียดเลย ไม่กล้าสบตาพี่คิวอีก
เครียดยังไง ตอนท้ายคนอ่านค้างมาก โดนจุ๊บหน้าผาก
แบบไม่คาดคิด หน้าแดงเป็นลูกตำลึงไปเลยดิ้ :กอด1:
-
อ๊ายค้าง บทมันจะมาก็มาเลยแหะความรักของคู่นี้ :กอด1:
ตอนนี้หนูเค้กรู้ใจตัวเองแล้ว แล้วพี่คิวล่ะคงเริ่มรู้แล้วซินะ
จูบหน้าผากด้วย น่ารักอ่ะ อย่างงี้เค้กจะมองหน้าพี่คิวติดไหมเนี่ย อ๊ายม้วนเลย :-[
พี่คิวรู้ตัวเองได้แล้วรุกหนูเค้กหน่อยดิ :angry2:
ฉากนี้เป็นใจมาก ยกความดีความชอบให้พี่ซีไปเลย o13
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด !!
แบบนี้ต้องปล่อยข่าว :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
:z1: :z1: :z1:แล้วหน้าแดงทําไม ปวดขี้เหรอ? :z1: :z1: :z1:
จุ๊บกันขนาดนี้พี่คิวจะคิดเหมือนเค้กรึป่าวน๊าาาา o18 o18 o18
-
น้องเค้กเริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว
เหลือแต่พี่คิวนี่แหละ
หวังว่าจูบ(บังเอิญ)นี้จะทำให้พี่คิวรู้ใจตัวเองบ้างนะ ^^
-
:-[ :-[ :-[ :-[ จุ๊บไปแล้ว
ในที่สุดก็ได้... :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
น้องเค้ก รู้ตัวแล้ว :-[
ส่วนพี่คิว ก็แปลกๆนะ เอ๊ะยังไง :impress2:
เบบี้ สู้ๆนะคะ o13
-
...ไม่รู้ตั้งใจหรือ อุบัติเหตุ แต่ก็นะ..มีพี่ซีเป็นพยานรับรู้ในการกระทำ :laugh:
-
จุ๊บกันแว้ว~~ :mc4:
-
เอาแล้ว!! รู้ตัวแล้วสินะน้องเค้ก :-[
พาร์ทนี้ค่อยลบอารมณ์ความกังวัลแทนได้หน่อย อิอิ โดนเฉพาะตอนสุดท้าย กรี๊ดดดด >//////<
จุ๊บเหม่งน้องเเล้วววว เขินแทนอ่าาาาา พี่คิวจะรู้สึกยังไงนะ :-[
เป็นกำลังใจให้คุณเบบี้ค่า +1 ^^
-
ทอร์ค ออฟ เดอะ ร้าน 5555 น้องเค้กโดนพี่คิวจุ๊บเหม่ง ว๊าย ว๊าย ว๊าย
คนแต่งสะดวกมาลงเมื่อไรก็โอเคค่ะ คนอ่านรอได้ ^^
-
พี่คิวโว้ยยยยย ทำอะไรก็ทำสักอย่าง จะรู้ไม่รู้ จะสงสัยไม่สงสัยก็เอาซะที แม่มมมมม เยี่ยวเหนียวแทนไอ้เค้กไปหมดแล้ววววว
บวกเบบี้ สู้ๆ เข้าช่วงเลื่อนสอบเหมือนกันเลย วะฮ่าฮ่า เรียนไม่ทันจ้า
-
ค่อยเป็นค่อยไปจริงๆ น้องเค้กยอมรับตัวเองด่วนจ้า ตัวเองอ่ะชอบพี่คิวซะแล้วหละ ฮี่ๆ
จุ๊บหน้าผากก็ยังดีนะ เขินนนนนนนนนน ><
ปล.อยากรู้ตอนนี้พี่คิวคิดยังไงกับเค้ก
-
กว่ารู้สึกตัวนะเค้ก
-
รู้สึกกดดันตามเค้กเลย
แต่ตอนท้ายก็เขินตามเค้กไปอีก :-[
:pig4: คะ
-
กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส อยากอ่านต่อ กำลังเข้าได้เข้าเข็ม
:z3:
สู้ๆน้าาาาาาาาาาาา
-
พี่คิวหมดมาดแล้ว กร๊ากกกกกกกกกกกกก :laugh:
เค้กก็เขินไป :-[ โดนแค่หน้าผากเอง จะตกใจอะไรกันขนาดนั้น
-
ยัยฝันบ้า ทำเค้กคิดมากเลย :z6:
พี่คิวจุ๊บหน้าผากน้องแล้ว กรี๊ดดดดดดดดด :-[
ฮาคำเตือนค่ะ เบบี้รู้ทันจริงๆ :laugh:
-
กรี๊ดดดดดดด รู้ได้ไงว่าเกร็งอยู่ง่ะ
กรี๊ดดดดด น่ารักกก เขินหน้าแดง :-[
-
:o8:
-
:impress2:
พี่คิวตั้งใจรึเปล่า ฮ่าๆๆๆๆ
-
ซี...ทำดีมากกกกกกก!!! >_<
-
:m3: :z9:
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด จุ๊ฟหน้าผาก :-[ o13
-
:L2: :L2:
แล้วจะรอนะ เค้กน่ารักอ่ะ
-
ตอนนี้ ตื่นเต้นดีแฮะ อ่านแล้วลุ้นว่าเขาจะพูดอะไรกัน สื่อสารกันทางสายตาและกายภาพมันช่วยน้องเค้กกับพี่คิวไม่ได้ แต่คนอ่านชอบนะ รู้สึกว่าเขากำลังปิ๊งกันอย่างแรงแต่ไม่กล้ายอมรับความจริงกันนะเนี่ย :laugh: ตอนนี้สนุกดีจัง
ไม่รู้ตอนหน้าจะมาเมื่อไหร่ จะรอและคอยติดตามนะเบบี้ :impress2:
-
เกร็ง ตาม จริงๆด้วยแฮะ อิอิ
ขอบคุณเบบี้นะค้าบบ :L2:
-
กรี๊ดๆ ฉากหวานแหวว เริ่มต้นขึ้นแล้ว
มัน บังเอิญ บังเอิญ เนอะ :m20:
พี่คิวกับเค้ก น่ารักมาก
น่ารักตลอดศก อิอิ
ตอนนี้ยิ้มหน้าบาน :กอด1:
-
(-//////-) kern tan n'cake yang rang khaaa...
PS:mai chorp yay fun maak!!!!
-
เค้กรู้ตัวว่าชอบพี่คิวแล้วหรอ :o8: อิอิ
น่ารักๆ >///<
-
เค้กอ่านง่าย หน้าแดงตลอด แบบนี้ก็เสร็จพี่คิวสิ
-
น้องเค้กกะพี่คิว
อยากให้รักกันไวๆนะ อ่านทีไรเขินทุกที
-
จ...จุ๊บเหม่งกันแล้วสินะ //ลุ้นจนเหนื่อย
-
ทำไม...
.....
........
.............
ทำไมไม่จูบปาก!!! :z3:
-
:กอด1:เอาแล้วไงเริ่มรู้ใจตัวเองแล้วสิน่ะเค้ก :z2: :z2:
-
กรี๊ดดดดดด จุ๊บหน้าผาก น่ารักกกกก แอบรักกันทั้งคู่นะเเหละ
รอได้ค่ะเบบี้
-
:serius2: :serius2: :serius2:
พี่คิวมันคิดอะไรในหัวบ้างว่ะ อยากรู้มากกกกกกกก
เค้กรู้ใจตัวเองแล้ว อิอิ ถึงกับไปไม่เป็นเลยเค้ก
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
ในที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
55555555555555+
น่าจะเอาปากถูกปากเลย แบบหนังไทยอ่ะ :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:
มองตากันสิบวิ ก็ดีพคิสกันแบบถึงใจ ก๊ากกกกกกกกกกกกกๆ
-
ถ้าเดาไม่ผิด พี่คิวก็เริ่มมีใจแล้วใช่ป่ะ
-
คู่นี้เค้าแค่จุ๊บเหม่งกัน ทำเอาฟินไปสามโลก :m2: :m2:
-
น้องเค้กรู้แล้วสินะะะ
เหลือแต่พี่คิววววว
แต่เพลียพี่ฝัน อ่ะ เค้กต้องอย่าใส่ใจ เหอะๆ
ว่าแต่ จุ๊บหน้าผากกกก
พี่ซีนี่ ช่วยได้เยอะจริงๆ ^^
-
มาให้กำลังน้องเค้ก อย่าคิดมากเรื่องคนอยากได้แฟนเพื่อน
ต้องรออีกเจ็ดวัน :เฮ้อ:
+1
-
หวานเล็ก ๆ กับฉากจุ๊บหน้าผากกกก :o8:
-
แอร๊ยยยยยยยยยยย น้องเค้กรู้ตัวว่ารักแล้วสินะ ทีนี้ก็จะยิ่งทำตัวไม่ถูกเลย
หน้าแดงแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนพี่คิวจับได้หรอก o18
ไอ้พี่คิวก็มัวแต่เก็กอยู่นั่นแหละ :z3:
-
ลุ้นกันจริงๆคู่นี้ เหอะๆ
รับทราบค่ะเบบี้
-
ลุ้นง่า
เอิ่ม ฉัน ผม ไปมายังนี้
คนอ่านเกร็งงง
-
โอ๊ะ โอวววว มีจุ๊บหน้าผากกันแล้ว >.<
เบบี้ สู้ๆ จ้า ^^
-
คืบหน้าๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
เค้าจุ๊บกันแล้ววว ถึงจะจุ๊บเหม่งก้อเหอะ
-
เบบี้ ที่เตือนเนี่ย ตอนตัวเองเขียนก็เกร็งจนเหนียวเหมือนกันใช่ป่ะ :laugh:
เครียดไปกับเค้กด้วยเลย ...รอ ให้คิวรู้ใจตัวเอง
สู้ๆ เบบี้ :กอด1:
-
เค้กน่าร๊ากจัง
ว่าแต่เมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองกันล่ะเนี่ย
-
แค่จุ๊ฟหน้าผาก เค้าก็เขินอายแทนจนจะบ้าอยู่แล้ว
โอ้ยแอบหวานกันแบบนี้ เค้าเขินอ่ะ >////<
ขอวิ่งไปกรี๊ดสักที ตอนนี้หลงรักพี่คิว พี่คิวจะรู้ความในใจน้องเค้กรึเปล่านะ อ้ายยยยยย
วันนี้ซีทำถูกใจที่สุดเลย ฮ่ าา ชอบจริงๆ แบบนี้น้องเค้กหน้าแดงไปสามวัน หลงรักน้องเค้กแล้วใช่ไมละค่ะพี่คิว
น้องเค้กน่ารักขนาดนี้ไม่รักไม่ไงเนาะ แต่ว่าคุณฝันแอบโกรธแทนอ่ะ ทำให้น้องเค้กคิดมากเลย ไม่ยอมๆ
ตอนนี้แอบหลงรักพี่หมีอีกคนค่ะ ถึงจะปากร้ายแต่แอบอบอุ่นอ่ะ :o8: :-[ :impress2:
-
อยากให้เจ้จบไวๆจังจะได้ตั้งใจอ่านนิยายของเจ้ยาวๆ 5555
สงสัยเจ้จะเอา 4.00 แน่ๆเลย ขยันสุดๆ
-
พี่คิวก็แปลกๆ มาตั้งแต่ต้นแระ
แม้จะปากร้าย ปากแข็ง แต่ก็ดูเอาใจใส่เค้กเป็นพิเศษ
แล้วนี่มามีปฎิกิริยาทางเคมีแปลกๆ กันอีก
-
เอ่อออ คนเขียนคะที่เตือนไว้น่ะไม่ทันแล้วค่ะ
เกร็งไปแล้วเรียบร้อย เกร็งแทนน้องเค้ก
ตอนเค้กอยู่ในครัวเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้อง
เป็นเอามากนะเรา แต่ลงท้ายได้ถูกใจมาก
มันแค่อุบัติเหตุแต่เราคิดไปไกลแล้วล่ะ :z1:
น้องเค้กน่ารัก สู้ๆนะจ๊ะเด็กน้อย :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เริ่มเข้าสู่บรรยากาศสีชมพูอมม่วงแล้ว
น่ารักที่สุด แต่อ่านแล้วเกร็งตามน้องเค้กจริงๆ บุคลิกพี่คิวมันช่าง..... เหอเหอ
เรื่องเรียนก็สู้ๆ นะคะเบบี้ ยังไงก็รออ่านนิยายได้อยู่แล้ว
เรื่องเรียนสำคัญที่สุดค่ะ (แต่อย่าหายไปนานนะตัวเอ๊ง)
-
อร๊ายยยย เค้าจุ๊บเหม่งกัน :o8:
พี่ซีมอบโชค คึคึ
เค้กเขินไปแปดตลบแล้ว
พี่คิวว่าไง :z1:
-
เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ o13...น้องเค้กรู้ใจตัวเองสะที :กอด1:
-
อุบัติเหตุสะกิดรัก อิอิ
พี่คิวยังชอบแกล้งน้องเค้กเหมือนเดิม ไม่ไหว ๆ สงสารเด็กบ้างก็ได้นะค่ะ
ฮาตอนพี่คิวสั่งพี่ฟ้าจาไมก้าาาาา
-
เค้กจะทำไงต่อละทีนี้รู้ใจตัวเองแล้วด้วย อิอิ
พี่คิวรู้สึกว่าจะเริ่มอ่อนกับเค้กม๊ากมากน่ะเดียวนี้ :z2:
-
ใจเย็นๆนะเค้ก กลับมาเป็นเค้กคนเดิมได้แล้วล่ะ
ส่วนไอ่พี่ฝัน ปล่อยมันไปเหอะ เป็นคนเดิมแหล่ะดีแล้ว
แต่รู้ตัวแล้วก็ . . . ยากหน่อยมั้ง ฮ่าๆๆๆ
อยู่ที่พี่คิวแล้วฟร้อย ~~ !!!
-
จุ๊ฟน่าผาก :o8: :o8: :o8:
-
เรียกเหตุการณ์นี้ว่า
"อุบัติเหตุ Love "
-
กริ๊ด เขิลแทนอะ
-
อ๊ากกกกกกกกก :z3: :z3:
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :impress2:
บอกได้อย่างเดียว 'น่าร๊ากกกกอ้ะ!!'
:z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
-
เค้กรู้ใจตัวเองแล้ว แล้วพี่คิวละจูบ(หน้าผาก)เขาไปแล้วรับผิดชอบด้วยสิ
ป้าเบตอนพูดแรกดูสุภาพอยุ่นะแต่พอปอลูนี้แหมๆ
-
'รักพี่คิวเหรอ' แอร๊ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้วน้องเค้ก
มันใกล้แล้ว ใกล้แล้ว
เบบี้สู้ๆ จะรอน๊า
-
:mc4: อั๊ยย่ะ เยี่ยวเหนียวไปหมดแล้ว ฮุฮุฮุ
กำลังฟินเต็มที่
ไอ้เราก็อยากเป็นซัมวัน ที่แอบดูทั้งคู่อิ๊อ๊ะกันหลังร้านแบบนี้
อร๊ายยอะไรกันนน ยิ่งอ่านยิ่งเขินแทนนน :z3:
พี่คิว ชอบหรอหืมมม ที่น้องเค้ก เค้าเขินหูแดง
หน้าผากน้องนุ่มปากมั๊ยละคะ พี่คิวขาาาา 55555555
-
พี่ซีของเรากระจายข่าวอย่างเร่งด่วน :z1:
เค๊กพูดไปไม่เป็นแล้ว เขินนน :-[
-
กิ๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
อยากอ่านตอนต่อไป
เขินแทนเค้กสุดๆๆๆๆๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
คุณเบบี้ๆๆๆๆ อยากอ่านอีก โอยยย อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอ จุ๊ฟฟฟกันด้วยอ่า >,,<
-
เค้กเฟลเรื่องวาร์ม อมาเรตโต้ ดิ ซารอนโน ได้น่ารักมาก อยากจับมากอดปลอบจริงๆ
แล้วจุ๊บเหม่งนั่นน่ะ เค้กตกใจนี่ไม่แปลกนะ เพราะรู้ตัวล่ะ แต่พี่คิวก็ตกใจด้วยเนี่ย ควรจะรู้ตัวได้แล้วมั้งงงง
แล้วก็ชอบจ้องจังเหมือนมองทะลุปรุโปร่ง เราว่าพี่คิวน่าจะรู้ล่ะ ไม่รู้ใจตัวเองก็รู้ใจน้องเค้กเนี่ยแหละ ฮ่าา
เบบี้ทำงานสู้ๆๆๆๆๆๆ กอดจูบๆๆ
-
น้องเค้กชั้นเลยเกิดอาการ จิตตก ประหม่า เขิน อาย ตีกันไปมั่วเลยอ่ะ 5555
พี่คิวเราว่าเริ่มออกอาการนิดๆ แล้วนะ
-
เมนท์รวบยอด พี่คิวน้องเค้ก
รู้สึกมันหวานขึ้นๆ เรื่อยๆ นะคู่นี้อ่ะ
อ่านๆ ไปแล้วแบบว่ามัน จิ๊ะจ๊ะ อิ๊ะอ๊ะ โอ๊ะอุ๊ เออ!!!นั่นแหละ ไรเงี๊ยะ (เข้าใจมั๊ยเนี่ย เมนท์เองยังงงตัวเอง 555+ )
ไอ้น้องบี้ได้โปรดรบกวน อย่าเอานังคุณฝันออกมาบ่อยๆ เน้อ ขัดฟามสุขจริงเชียว
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
-
เค้กรู้จัยตัวเองแว้วว โดนจุ๊บหน้าผากด้วย อิอิ
-
ว้า อุตส่าลุ้นนึกว่าจะจุ๊บปาก >3< เซงเลยแค่หน้าผาก :laugh:
รอได้ค่า เพราะคนอ่านก็สอบ เอิ้กๆ เข้าใจๆแค่5-8วันเองจิ้บๆ จิบิๆมากๆ
:pig4: สำหรับตอนน่ารักๆค่า ไปเขินแทนเค้ก?ก่อนนนนนนน :o8:
-
ฐานะทางสังคมเหรอที่ใครๆเขาวัดกัน เห้ออออออออ เค้กเอ๋ยแล้ว
หนูจะทำยังไงละ เอาใจช่วยเสมอ
-
น่ารักอ่ะ...น้องเค้กมีหลากหลายอารมณ์อารมณ์มากๆเลยอ่ะ
รู้ใจตัวเองแล้วสินะ...รอแต่อีตาพี่คิว
อาทิตย์ละตอนก็จะรอนะคะ
:pig4:
-
กรี๊ดดดดดดดด. ไม่ไหวแล้วตอนนี้
-
:m24: ช๊อทเด็ด เหอๆๆๆ
:mc4: ฉลองๆๆๆๆๆๆๆ
-
จูบกันแล้ว กรี๊ดดดด ถึงจะเป็นหน้าผากก็เหอะ ฮ่าๆๆ
-
เค้กอย่าปฏิเสธหัวใจตัวเองเลย
หนูชอบพี่คิวอ่ะถูกแล้ว กำลังมีความรักอย่างที่แก้วบอกนั่นแหละ
เฮ้ออ ในที่สุดบรรยากาศอึดอัดระหว่างสองคนนี้ก็หายไปซะที
กลายเป็นบรรยากาศเขิน ๆ แทน ><
ต้องขอบคุณซีนะเนี่ยที่เปิดประตูได้จังหวะพอดี 5555
สู้ ๆ นะคะเบบี้ ^^
-
ชื่อก็บอกแล้วว่าฝัน มันไม่มีวันเป้ฯจริงหรอกที่จะได้เป็นแฟนกับพี่คิวหน่ะนะนังฝัน :angry2:
-
กรี๊ดดดดดดดดดด
เขินแทนเค้กมากมาย ><
-
เอิ่ม...คือว่า...คือ
เรา......อยากจะ.....................กรี๊สสสสสส
:m3:
-
อ่านตอนนี้แล้วเกร็งจริงๆอ่ะ :laugh:
โอ๊ยยย อยากจะกรี๊ดดดดด
เค้กรู้ใจตัวเองเองแล้ววว แต่พี่คิวนีสิยังไงๆ ก็เหมือนจะสนใจเค้กนะ ฮาาาา
อยากอ่านตอนต่อไป เรื่องนี้อ่านจบตอนก็อยากอ่านต่อเรื่อยๆ
ยังไงก็สู้ๆนะคะเบบี้ ทั้งเรื่องเรียน ซ้อมดนตรี และก็การแต่งตอนต่อๆไป รออ่านอย่างใจจดใจจ่อ :oni2:
-
อรั๊ย!!!! นี้แค่จุ๊บหน้าผากโดยบังเอิญนะ
น้องเค้กของเรายังไปไม่เป็นแล้ว อิอิ
พี่คิวมันยังไงๆอยู่นะเนี๊ย ชอบเค้กแล้วใช่ไหม......?
-
เสร็จไปหนึ่ง
แล้วเมื่อไหร่พี่คิวเค้าจะเริ่มออกอาการเหมือนน้องเค้กบ้างน้า :m1:
-
เขิน :o8:
-
เฮือกพอดิบพอดีเชียว ฮา
-
เอาใจช่วยนะเค้ก ขอให้สมหวังเร็วๆ เริ่มจะมี something กันบ้างแล้ว ^^
-
หุหุ สองสามตอนหลังนี่ กำลังสนุก ได้อรรถรสมาก
พี่คิวแอบน่ารัก จูปุ๊มันเป็นอุบัติเหตุแห่งรัก อร๊ายยย :o8:
เค้าไม่อยากให้เบบี้ยุ่งเลยอ่ะ ... รีบมานะคะ :กอด1:
-
กรี๊สสสสสสสสสสสส :o8:
-
ไม่คิดเลยว่าคุุณพี่ฝันจะเป็นแบบนี้ เราผิดหวังกะชะนีนางนี้ 55555
เค้กสู้ๆ รู้ใจมั่นใจสักทีว่าชอบพี่คิว อิอิ ว่าแต่เราลุ้นพี่คิวนี่แหละ หุหุ
รออ่านจ้า
-
เอาแล้วไง เอาแล้วไง
-
อ่านแล้วเขินแทนน้องเค้ก :impress2:
พี่คิวจ๋ารีบๆรู้ใจตัวเองนะ น้องเค้กเค้าเริ่มรู้ตัวแล้วนะ
-
กิกิ ผ่านไปแล้ว 32 ตอน :m17:
เค้กน่ารักกกกกกกกกกกก มากมายย ชอบอ่าาา
พี่คิวก็โหดป๊ายยยย หน้าดุแถมไม่ยิ้มอีก
แล้วนี่ยังไงคะ อึ้ง ตะลึงงง ใบ้แด๊กก ฮ่าาาาาาาาาาา
แค่หน้าผากเองพี่น้องงงงงงงงงง จิ๊บๆๆๆ :impress2:
ว่าแต่ค่อยเป็ยค่อยไปดีเนาะคู่นี้ ค่อยๆกระดื้บบบบบ
พี่ฝันอ่ะ อีแอบดีๆนี่เองง ไอ้เราก็นึกว่าเพื่อนจริงจัง โด่ หวังล่ะซี้
ชอบพี่ฟ้าอ่าา พี่ฟ้าน่ารักกก :o8:
-
อร๊ายยยยยยยยย....เกลียดอีชะนีฝันค้างจริง ๆ เชียว
ทำน้องเค้กฉันคิดมาก
แต่ก็ดีคิดมากไปก็จะได้รู้ใจตัวเองสักที หึหึ
สู้ ๆ นะวะคะ เบบี้
-
รับทราบจ้า เกร็งจริงแหละตอนนี้ :z2:
-
คิวไม่รู้เหรอว่าทำไมเค้กหน้าแดง
-
update
-
ไม่เร่งจ้ะ
แต่รออยู่ทุกวัน^^
-
^
^
^
^
^
จิ้มๆเม้นข้างบน คร้าบ
-
ย๊า~~เค้าอ่านทันแล้ว ๆ ๆ ๆ :oni2:
นิยายของเบบี้ไม่เคยทำให้เค้าผิดหวังเลยสักเรื่อง (ว่าแต่เมิงอ่านของเค้าครบหมดแล้วหรอ :try2:)
ขอโทษที่อ่านเรื่องนี้ช้าไป เพราะมัวแต่ไปตามอ่านเรื่องก่อน ๆ ของเบบี้อยู่ (อยากบอกว่าอ่านเรื่อง Memorial~เมตร-สลิ่ม กลับไปกลับมา 3 รอบแล้ว เรื่องอื่น ๆก็ชอบนะ แต่เรื่องนี้ชอบมากถึงมากที่สุดอ่ะ :-[)
สัญญาว่าจะติดตามผลงานของเบบี้และจะคอยเม้น and +เป็ด เป็นกำลังให้เบบี้ตลอดไปนะค๊าบบ :เหอะ1:
-
เจอตัวเร่งปฎิกริยาอย่างฝันเข้าไปเหมือนเค้กเริ่มสำรวจความรู้สึกของตัวเอง แล้วไปหน้าแดงใส่พี่คิวแบบนี้ พี่คิวเค้าก้อรู้ความในใจหมดดิ่
-
รออีกวันจ้ะ
ป่าวเร่ง ป่าวจริงๆ
-
:mc4:
-
คิดถึงพี่คิว :กอด1:
-
คิดถึงเค้กกับพี่คิวจัง :-[
รออยู่นะคะ :กอด1:
-
คิดถึงน้องเค้กจัง คิดถึงพี่คิว คิดถึงพี่ฟ้า คิดถึงพี่เซนและน้องกัส สำคัญที่สุดคิดถึงคนแต่ง
อิอิ เบบี้จ๋า คิดถึงน้าจ๊ะ :monkeysad:
-
อยากอ่านได้อีกกกก
-
มาให้กำลังใจคับ +1
-
เป็นกำลังใจให้ สู้ ๆ นะครับ เบบี้
+1 ด้วย :กอด1:
-
~33~
“ชอบพี่คิวเหรอ”
“โอย..บ้า บ้า บ้า!” ผมโวยวายทุบหมอนกลิ้งเกลือกไปมาอยู่บนเตียงตัวเองคนเดียวมานานพอดู นานพอที่จะสามารถเป็นบ้าเป็นบอได้หลายต่อหลายครั้ง
เราชอบพี่คิวจริงๆเหรอ ทำไม..ตอนไหนกัน ไม่เห็นจะรู้ตัวเลยสักนิด ไอ้อาการไม่กล้าสบตา ใจเต้น มองอีกฝ่ายแล้วรู้สึกละสายตาไม่ได้ รู้สึกว่าเวลาผ่านไปรวดเร็วเมื่อไหร่ที่ได้คุยกับเขา นี่มันคือความรู้สึกของความรัก ใช่..ผมรู้ดีว่ามันเป็นความรู้สึกของความรัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเคยมีความรัก แต่มัน..ใช่จริงๆอย่างนั้นเหรอครับ ก็นั่นมัน..ผู้ชายนะ! อีกอย่าง..ผมเพียงนึกมาตลอดว่าผมแค่ชื่นชมพี่คิวเท่านั้น เท่านั้นเอง..
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ” สุดท้ายก็ไม่วายต้องบ่นกับตัวเองอย่างเดิม เวลาแบบนี้จะไปปรึกษาใครได้กัน แถมยัง..แถมวันนี้ดันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เขินหน้าร้อนไปหมดจนแทบจะมุดดินหนีได้อยู่แล้ว สุดท้ายผมก็ต้องชิงกลับบ้านมาก่อนเพราะกลัวว่าถ้าเกิดให้พี่ฟ้ามาส่ง ผมจะต้องทำตัวไม่ถูกเป็นแน่แท้
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจอีกครั้ง เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่ทราบ เฮ้อ....สมองทำงานหนักไปไหมนะเรา
= = = = = = = =
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เป็นไรเค้ก หน้าตาบอกบุญไม่รับเลยนะ” พี่ออฟทัก
“เปล่าหรอกครับ” ผมตอบปัดไปอย่างนั้นเอง ที่จริงเมื่อคืนผมแทบนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ หานู่นหานี่ทำทั้งคืนเพื่อให้สมองไม่ต้องมาคิดเรื่องฟุ้งซ่าน ทั้งทั้งที่เวลาผ่านมาถึงสามวันแล้ว แต่ทุกครั้งไปผมต้องมัวแต่มานั่งคิดว่า ถ้าเจอพี่คิวแล้วจะทำหน้าแบบไหนดี..
หรือว่าที่จริงผมอาจจะกำลังชอบพี่คิวอย่างที่แก้วแซวใช่หรือเปล่า ผมแค่สงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงก็เท่านั้น ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ที่เกิดขึ้นกับผมผมรู้ตัวดี มันเคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ความรู้สึกแปลกๆที่เข้ามาทำให้เราควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ ความรู้สึกแย่หรือเศร้าแบบไร้สาเหตุ ผมรู้ดีว่ามันคืออะไร แต่เท่านั้นมันยังสำคัญไม่พอหรอกนะครับ ที่สำคัญผมแค่อยากแน่ใจ..มันใช่ความรู้สึก “ตกหลุมรัก” จริงๆอย่างนั้นเหรอครับ ผมผู้ชาย ส่วนนั่นก็ผู้ชายด้วยเหมือนกัน..
“ยิ้มหน่อย เดี๋ยวก็โดนดุหรอก” พี่ออฟยิ้ม ขยี้หัวผมไปมา ผมทำหน้ายู่ ร่างกายในตอนนี้แทบหมดแรงแล้ว หลังจากเรียนเสร็จผมก็ตรงมาที่นี่ในทันที แถมเมื่อคืนยังนอนไม่เต็มอิ่มอีกต่างหาก
“ยิ้ม” ผมฉีกยิ้มให้พี่ออฟ พี่ออฟหัวเราะและผมก็ต้องชะงัก ง่ะ ง่ะ ง่า~ ผมอ้าปากค้างมองพี่คิวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว
“สวัสดีครับ” ผมทักพี่เขา
“ดี” พี่คิวตอบ เหล่ตามามองผมกับพี่ออฟก่อนที่จะเหลือบไปมองถาดอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะตรงกลางเคาร์เตอร์นี่
“กำลังจะเอาไปเสิร์ฟแล้วครับ” พี่ออฟรีบบอกก่อนคงเพราะอ่านสายตาของพี่คิวออก พี่ออฟรีบยกถาดเสิร์ฟออกไปจากเคาร์เตอร์ในทันที
ผมเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบผ้าแถวๆนั้นมาเช็ดเคาร์เตอร์เพื่อไม่ให้ตัวเองดูว่างเกินไป พี่คิวเดินมายืนพิงอยู่ที่เคาร์เตอร์อีกฝั่ง ผมแอบเหลือบตาไปมองก็พบว่าพี่คิวกำลังยืนจ้องผมอยู่ จ้องอย่างตั้งใจจ้องผมอีกด้วย
“ขูดหาเลขรึไง” ผมชะงัก และเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองเช็ดที่เดิมมากเกินไปแล้ว ผมไม่ตอบ พับผ้าขนหนูและวางไว้ที่เดิม เหลือบมองไปทางนู้นทีทางนี้ทีเพื่อต้องการหาทางออกให้กับตัวเอง
~ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี~
“พี่คิวคะ” ผมหันไปตามเสียง พี่ซีเดินเข้ามาในตัวเคาร์เตอร์ เจ้าของชื่อหันกลับมามองหน้าพี่ซีด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“เมื่อกี้ทิกเกอร์ฝากโน้ตไว้ค่ะ บอกว่าพรุ่งนี้ที่ร้านไอซ่าหลังพี่คิวเลิกงานน่ะค่ะ”
“อืม..ขอบใจ” พี่คิวพยักหน้ารับ
“พี่คิว มีอะไรกับทิกเกอร์เหรอคะ” พี่ซีเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายพร้อมกับอมยิ้มอย่างอยากรู้ ท่าทีสนิทสนมของทั้งสองคนกำลังไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้อง ความรู้สึกที่ผมฉุกคิดมาได้ในทันทีนั้น คือความรู้สึกที่ผมกำลังอิจฉาความสนิทสนมกันอย่างมากของพี่ซีที่มีต่อพี่คิว ความแปลกใจที่มีในตอนนี้ คือความรู้สึกแย่ที่ผมกำลังรู้สึกว่าผมอยากสนิทสนมกับพี่คิวแบบนี้บ้าง แบบนี้..แบบนี้มัน
“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” พี่คิวตอบและหันหน้าหนี
“ซีไม่เด็กแล้วนะคะ” พี่ซีหน้างอ
“เหรอ..แต่พี่เห็นมาตั้งแต่เด็กนี่” พี่คิวหันกลับมายิ้มให้พี่ซี สายตาของพี่เขาเหลือบมาสบตาผมครู่หนึ่ง
“พี่คิวก็อย่างนี้ตลอดอ่ะ” พี่ซีบ่น เดินหนีออกจากเคาร์เตอร์ไปพร้อมกับอาการงอน ดังนั้น ตอนนี้จึงเหลือเพียงเราสอง เอิ่ม..อีกครั้ง
“แล้วนายไม่มีอะไรทำรึไง” พี่คิวหันมาถามผม ผมส่ายหัวตอบ พี่คิวเงียบไป ผมเลื่อนเก้าอี้นั่งลงแต่หันหลังให้กับพี่คิวเพราะถ้าหันหน้าไปตรงกับพี่คิวผมไม่รู้จะเอาลูกตาไปวางไว้ตรงไหนดี ผมนั่งนิ่งเพราะไม่มีอะไรทำจริงๆนั่นแหละ และด้วยรู้สึกเกร็งขึ้นมาเมื่อหัวใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อนึกกลับไปถึงเรื่องในวันนั้น นั่นยิ่งทำให้ผมเริ่มหายใจไม่เป็นปกติ
“พี่คิวคะ..ซีรบกวนคิดเงินให้หน่อยค่ะ พี่ฟ้าให้ซีออกไปซื้อของหน้าปากซอย” พี่ซีเดินมายื่นบิลให้พี่คิวผ่านเคาร์เตอร์
“เค้กไปให้ก็ได้ครับ” ผมรีบชะเง้อคอบอก
“ไม่เป็นไร อยู่กับพี่คิวเถอะ” o_O แง่ง..อารายของพี่ซีกัน
“ฝากด้วยนะคะ” พี่ซียิ้มกว้างเดินร่าเริงออกไปทางหลังร้าน พี่คิวหยิบบิลที่พี่ซีวางไว้และเดินตรงมาที่ตรงเคาร์เตอร์คิดเงิน ซึ่งพอดิบพอดีกับที่ผมนั่งอยู่มันยิ่งทำให้ผมไม่กล้าจะขยับตัว ผมนั่งมองมือพี่คิวที่กำลังกดเครื่องคิดเลขอย่างตั้งใจ
“อ่ะ..เอาไป” พี่คิวยื่นบิลมาให้ผม ผมรับมาและกำลังจะลุกขึ้นยืน
“ประหม่าอะไรน่ะ” จู่ๆพี่เขาก็เท้าแขนกางลงระหว่างเคาร์เตอร์คิดเงินกับโต๊ะตรงกลาง ผมไม่ทราบว่าที่มันแคบหรือว่าแขนของพี่เขายาวกันแน่ ความกว้างพอดีแขนทั้งของข้างของพี่คิวเลยละครับ ผมชะงักและหันกลับมานั่งตัวแข็งอย่างเดิม แน่นอนว่าผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยนั่นล่ะ
“เปล่านี่ครับ” ผมตอบแต่กลับเป็นคำตอบที่ขัดกับการกระทำอย่างสิ้นเชิง
“อย่างนั้นเหรอ” เสียงพูดอย่างไม่เชื่อจากปากอีกฝ่ายทำให้ผมต้องเงียบลง
“งั้นเงยหน้ามองหน้าฉันสิ” ระหว่างที่พี่คิวพูดแบบนั้น ใจผมเต้นเร่าๆแทบจะกระเด็นออกมาซะให้ได้ รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมา รู้ตัวเองดีแต่ทำไมกลับไม่สามารถควบคุมอะไรไว้ได้เลย
“หึ..” พี่คิวหัวเราะ ผมรับรู้ได้ถึงแผ่นรองบิลที่พี่คิวนำมาตีหัวผมเบาๆและพี่คิวก็เดินไป ผมรีบเงยหน้าขึ้นมองตามและผมก็ต้องรีบหันหน้ากลับมาอย่างเดิมเพราะกลัวว่าพี่คิวจะหันมาเห็นหน้าของผมในตอนนี้เข้า
“หมี..หมี” พี่คิวเรียก พี่หมีเดินมาที่เคาร์เตอร์
“บิล” พี่คิวบอกพร้อมกับยื่นบิลให้พี่หมีไป
“เออคิว” พี่ฟ้าเดินออกมาจากห้องพักพนักงาน
“สวัสดีครับพี่ฟ้า” ผมรีบยกมือไหว้
“หวัดดีครับ” พี่ฟ้ายิ้มตอบ
“อ่ะนี่..ตกลงอาจะรับพนักงานบัญชีคนนี้ก็แล้วกัน น้องรุจน่ะ” พี่ฟ้าพูดบอก พี่คิวมองหน้าพี่ฟ้าด้วยท่าทีนิ่งอย่างเคย
“อารายเล่า น้องเค้าก็ทำงานได้ค่อนข้างดีไม่ใช่รึไง” พี่ฟ้าหลบสายตาหลานตัวเอง
“ค่อนข้างดี ไม่ได้อยู่ในมาตรฐาน” พี่คิวว่าเสียงเรียบ
“เอาน่า ก็ยังดีกว่าน้องผู้หญิงไม่ใช่รึไง ก็ตัวเองไม่ชอบหนิ..ว่าเค้าจนร้องไห้ไปแบบนั้น เค้าไม่โผล่มารอบสองหรอก” พี่ฟ้าเถียง พี่คิวยืนนิ่งไปเหมือนยอมความอย่างนั้น
“แล้วก็นี่ ผู้ช่วยเชฟที่มายื่นใบสมัครไว้ ลองๆเอาไปดูก่อนแล้วกัน เดี๋ยวนี้ไอ้เซ็นมันบ่นบ่อย..อารำคาญ” พี่ฟ้ายื่นแฟ้มให้พี่คิว พี่คิวรับไป
“ดูด้วยล่ะ” พี่ฟ้าย้ำ
“ถ้ามีอารมณ์” พี่คิวพยักหน้าตอบส่งๆ
“เดี๋ยวอาต้องไปหาพี่พราว ฝากดูร้านด้วยนะ”
“อือ” พี่ฟ้าเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเองอีกครั้ง พี่คิวหันกลับมาตรงผมอีกครั้ง เราสบตากันพอดี ผมกลอกตาหนี นั่งมองเท้ามองมือของตัวเองแก้เก้อไปเรื่อย
“เอ่อ เค้ก..” ผมเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก พี่ฟ้าเดินกลับมาอีกครั้ง
“ฮ..ฮะ”
“วันพฤหัสนี้ บ่ายๆเจอกันที่บ้านพี่นะ ต้องปรึกษาอะไรกันนิดหน่อย” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“อ่าวแล้ว ไม่เปิดร้านเหรอครับ” ผมถาม
“อืม ปิดน่ะ..พอดีช่วงเช้าพี่มีธุระต้องไปทำ” พี่ฟ้าพูด ผมพยักหน้ารับ
“แล้วก็..เย็นนี้ก็กลับพร้อมกับคิวเลยก็แล้วกันนะ มันดึก..เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง” พี่ฟ้าอมยิ้ม
“อ๊ะ..เอ่อ ไม่เป็นไรครับ เค้กกลับเองได้” ผมรีบลุกขึ้นบอก
“เอาน่า กลับกับคิวไปเถอะ พี่เป็นห่วง” พี่ฟ้าขยิบตาไม่ฟังผมอีกด้วย
“แต่..” ผมอ้ำอึ้ง เหลือบมองไปที่พี่คิวสลับไปมา
“เจ้านายสั่ง ขัดได้รึไง ชอบเสียมารยาทซ้ำแล้วซ้ำเล่า..ไม่รู้จักเปลี่ยนเลยนะ” พี่คิวเบะปากพูดว่าอีก
“โหย พี่มีมารยาทตายล่ะ” ผมว่ากลับอย่างอดไม่ได้
“เอ่อ เคลียร์กันเองนะ..ไปล่ะ” พี่ฟ้ายิ้มแหย โบกมือบ๊ายบายเดินออกไปทางด้านหลังร้านไป ผมยืนหน้างอมองหน้าพี่คิว พี่คิวเลิกคิ้วกวนอย่างไม่แยแสอะไรตอบใส่ผม
“คนไม่ได้อยากกลับด้วยสักหน่อย” ผมบ่นเสียงเบา
“งั้นซิ” เสียงย้อนของพี่คิวทำให้ผมต้องหันไปมองตาขวาง
“นายรู้อะไรไหม” พี่คิวเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ผมต้องก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ
“อ..อะ ไร” ผมตอบตะกุกตะกักและก็ต้องชะงักเมื่อก้าวขาหนีไปไหนไม่ได้แล้วเพราะติดเก้าอี้ที่วางอยู่ทางด้านหลัง พี่คิวยิ้มที่มุมปาก เอนตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น..มากขึ้น ผมเอนตัวหนีเล็กน้อย ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นจนผมแทบจะหยุดหายใจอยู่แล้ว รู้สึกตัวเองประหม่าไปหมด พี่คิวนำหน้าเข้ามาใกล้มากจนผมอยากจะผลักออกซะเดี๋ยวนี้แต่กลับไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง
“คนบางคน” จู่ๆพี่คิวก็เข้ามากระซิบบอกที่ข้างหู ผมผงะตัวแข็งทื่อในทันใด
“ก็อ่านออกง่าย..อย่างไม่น่าเชื่อ” ผมสะดุ้ง หัวใจของผมแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยิน
“อ่ะ..” ผมร้อง
ปึก !!
มือผมผลักอกพี่คิวออกไปโดยอัตโนมัติ พี่คิวเพียงแค่เซไปเล็กน้อยเท่านั้น พี่เขาเดินถอยหลังกลับไป และที่น่าหมันไส้ก็คงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่น รอยยิ้มที่ส่งมาให้ผมแสดงความหมายคล้ายกับพี่เขา..สะใจ
“นายว่าอย่างนั้นไหม” พี่คิวยิ้มเจ้าเล่ห์ไม่หุบให้ก่อนที่จะเดินหนีเข้าห้องครัวไปหน้าตาเฉย
“อ๊ะ..ไอ้” ผมไม่รู้จะว่าคำไหนออกไป สุดท้ายได้แต่ยืนเอามือปิดหน้าตัวเองไว้ทั้งสองมือ
~ทำไม ทำไมเราต้องเขินมากขนาดนี้ด้วยนะ ไอ้พี่คิวบ้า..ไอ้บ้าอ่ะ~
= = = = = = = =
“บ๊ายบาย เดินทางปลอดภัยนะคะ” พี่ซีโบกมือลาด้วยท่าทางร่าเริง แต่ผมนี่สิยังคงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถของพี่คิวเหมือนกับสถานการณ์เมื่อตอนบ่ายเกิดขึ้นไปเพียงเมื่อครู่เท่านั้น คนอื่นๆกลับบ้านโดยรถส่วนตัวของตนเอง ตอนนี้ทุกคนยืนรอเพื่อที่จะปิดประตูรั้วของร้านแต่ต้องรอให้พี่คิวขับออกไปก่อน
“ถึงบ้านแล้วส่งแมจเสจมาหาพี่ด้วยล่ะ” พี่คิวบอก
“รับทราบค่ะ” พี่ซีทำท่าเลียนแบบตำรวจ
“อย่าขับเร็วนักล่ะ” พี่คิวบอกอีก
“ค่า..ฝากเค้กด้วยนะคะ” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อตัวเอง หันไปมองหน้าพี่ซี พี่ซียิ้มกว้างให้
“ฝากพี่คิวด้วยนะเค้ก”
“อ๊ะ..” ผมอ้ำอึ้ง
“ไปล่ะ พูดมากจริง” พี่คิวว่า กดปิดกระจกรถก่อนจะเคลื่อนตัวรถออกมาจากบริเวณร้าน
“...............” เฮ้อ..อึดอัด บ้าบอจริง ไม่ไหวแล้วอ่ะแม่..เหมือนเค้กจะหายใจไม่ออก ที่จริงแค่หายใจยังแทบไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ
“หิวรึเปล่า” พี่คิวถามขึ้นหลังจากที่ขับรถมาได้ครู่หนึ่ง เป็นคำถามที่สามารถทำลายความเงียบภายในรถได้น่ะนะ
“นิดหน่อยครับ” ผมตอบเสียงเบา
“จะกินอะไร” อีกฝ่ายถาม
“เอ่อ ไม่..คือ แม่ทำอาหารรอไว้แล้ว” ผมรีบบอกปัด
“งั้นเหรอ” พี่คิวพึมพำ มือบีบแตรไล่รถคันข้างหน้าที่ดันเบรกกะทันหันด้วยท่าทางใจเย็น
“เอ่อ..ถ้าพี่ไม่รังเกียจ จะกินด้วยกันที่บ้านผมก็ได้นะครับ” ผมชวน ความรู้สึกกระวนกระวายใจกับอาการที่แทบอยู่ไม่เป็นสุขของผมในเวลาที่ต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ ไม่สามารถทำให้ผมทำลายมารยาทที่แม่สอนไว้ได้ เวลาแบบนี้ถ้าไม่ชวนออกไป แม่บอกว่าจะดูเหมือนเราเป็นคนแล้งน้ำใจ ซึ่งมันไม่ใช่คุณสมบัติที่ดีที่จะมีไว้ติดตัว
“..............” พี่คิวเงียบไปเหมือนใช้ความคิด
“แต่...พี่คงจะกินไม่ได้หรอก” ผมพูดขึ้น
“นายเอาอะไรมาตัดสินฉันไม่ทราบ นี่มันครั้งที่สองแล้วนะที่นายตัดสินฉันเอง” พี่คิวย้อนทันที
“ก็ พี่จะกินได้เหรอครับ มีแค่ไข่พะโล้..กับต้มยำปลาเองนะ” ผมย้อนตอบ บอกถึงอาหารที่แม่โทรมาบอกไว้เมื่อตอนบ่ายว่าเย็นนี้จะมีอาหารเย็นอะไรบ้าง
“เสียมารยาทจริง” พี่คิวว่าเสียงเข้มเหมือนหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ ผมใจแป้วในทันที
“ก็..เค้กเป็นห่วงหรอกนะ ท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไง ยิ่งบอบบางอยู่นี่” ผมประชด และก็ต้องชะงักเมื่อรู้ตัวว่าเมื่อกี้ได้แทนตัวเองว่า “เค้ก” ออกไปอย่างลืมตัว ปกติพี่คิวมักจะแทนตัวเองว่า “นาย” และ “ฉัน” กับผมเสมอ ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นในความรู้สึกลึกๆของผมที่รู้สึกว่าพี่คิวต้องการเว้นระยะห่างไว้ ปกติแล้วผมจะแทนตัวเองว่า “เค้ก” เสมอๆไม่ว่ากับใคร แต่กับพี่คิวในตอนนั้นผมกลับต้องแทนตัวเองว่า “ผม” อย่างช่วยไม่ได้เพราะผมไม่รู้ว่าพี่เขาคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้เองผมเพิ่งรู้สึกได้ว่า ถ้าผมแทนตัวเองว่า “เค้ก” บ้าง พี่คิวจะแทนตัวเองว่า “พี่” อย่างที่ใช้แทนกับคนอื่นรึเปล่า
“หึ..เป็นห่วง” พี่คิวหัวเราะเหมือนย้ำกับการกระทำที่ผมมีให้ ตาของพี่เขายังคงมองอยู่ที่รถคันด้านหน้า ผมชะงักเมื่อได้ยินที่พี่คิวพูดแบบนั้น หลังจากนั้นเราก็เงียบลงไปครู่หนึ่ง
“ฝากท้องด้วยก็แล้วกัน” พี่คิวพูดขึ้นโต้งๆ
“อ่ะ..” ผมจะเถียงออกไป แต่กลับต้องหุบปากลงเพราะดูคนตรงหน้าจะจริงจังกับคำพูดของตัวเองซะเหลือเกิน
= = = = = = = =
เวลา 21:25 น. ณ บ้านเค้ก..
“รบกวนด้วยนะครับ” พี่คิวยิ้มกว้างบอกแม่ของผม
“ได้ค่ะ เชิญตามสบายเลยนะคะคุณ” แม่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีเช่นทุกที
“เดี๋ยวแม่ทอดไข่เพิ่มให้นะ” แม่หันมาบอกผม
“ไม่ต้องหรอกแม่ แม่ไปดูโทรทัศน์เถอะ เค้กทำเองได้” ผมดันแขนแม่ไว้
“แต่แม่..”
“แม่ครับ” ผมย้ำเสียงจ้องหน้าแม่ ผมรู้ดีว่าแม่กำลังติดละครแต่แม่ไม่อยากให้เสียมารยาท และอีกอย่างหลังเลิกงานผมอยากให้แม่พักผ่อนให้มากๆด้วยนะครับ
“เค้กทำเองได้ครับ” ผมบอกอีก
“จ้ะ งั้นดูแลพี่เค้าดีๆนะลูก” แม่บอก ผมพยักหน้าตอบให้เธอ
“ตามสบายเลยนะคะคุณ ถึงจะคับแคบไปหน่อย..แต่คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองก็แล้วกันนะคะ” แม่หันไปยิ้มให้พี่คิว
“ขอบคุณครับ” พี่คิวยิ้มตอบก่อนแม่จะเดินกลับเข้าห้องนั่งเล่นไป
“เดี๋ยวเค้กขอตัวขึ้นเอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะครับ..เดี๋ยวมา” ผมบอก พร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ที่โต๊ะกับข้าวให้พี่คิวด้วย พี่คิวเหลือบมองและนั่งลงอย่างว่าง่ายก่อนจะพยักหน้าตอบให้ผมเหมือนรับรู้ ผมรีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง จัดการเก็บกระเป๋า ถอดถุงเท้า ล้างหน้าล้างตาและกลับลงมาที่ด้านล่างอีกครั้ง พี่คิวยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ผมแอบยิ้มในใจกับความสงสัยของตัวเองว่าก่อนหน้านี้พี่เขากระดุกกระดิกตัวบ้างรึเปล่า
“แป๊บนะครับ ขออุ่นอาหารก่อน” ผมบอก พี่คิวพยักหน้าตอบแต่ไม่ได้หันกลับมามองหน้าผม สายตากวาดมองไปทั่วบ้านเหมือนต้องการสำรวจบ้าน
ผมเข้าครัวทำการอุ่นข้าว อุ่นต้มยำปลาและอุ่นไข่พะโล้เตรียมไว้ หยิบไข่สองฟองพร้อมกับหั่นผักเตรียมทำไข่เจียวทรงเครื่องไว้ด้วย หลังจากที่อุ่นอาหารเสร็จเรียบร้อยผมเตรียมจัดเรียงอาหารใส่ถาดและนำเอาออกไปเสิร์ฟให้แขกที่นั่งรอเป็นเสาหลักเมืองอยู่ที่โต๊ะอาหารนั่น
“มาแล้วครับ” ผมยิ้มบอก
“ยี่สิบนาที นานเหมือนกันนะ” พี่คิวพูดเสียงเรียบ จ้องหน้าผมเหมือนกับต้องการบอกว่า “แค่อุ่นอาหาร แต่นานเป็นชาติเลยนะ” ประมาณนั้น
“ง่ะ..ทำอาหารนะครับ” ผมหน้างอเล็กน้อย
“อุ่นไม่ใช่เหรอ” เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ!
“ครับๆ ขอโทษ” ผมปัดอย่างยอมแพ้ ก่อนรีบจัดเรียงจานชามช้อนส้อมให้เรียบร้อยและหยิบเหยือกน้ำเพื่อรินน้ำให้พี่คิวด้วย พี่คิวรับแก้วน้ำไปและดื่มจนเกือบหมดในทันที
“แฮะ..โทษที ลืมไปว่าต้องเสิร์ฟน้ำให้ก่อนไปอุ่นอาหาร” ผมบอกอย่างเขินๆ พี่คิวพยักหน้าอย่างเอือมๆให้ ผมรีบรินน้ำเติมให้พี่เขาอีกครั้ง
“ขอบคุณ” พี่คิวบอก
“เป็นเกียรติน่ะ” ผมว่ากวนก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับพี่คิว ต่างคนต่างจ้องหน้ากันอย่างลองเชิง พี่คิวกวาดตามองไปที่อาหารที่วางอยู่ตรงหน้าของตัวเอง
“จะกินได้แน่เหรอครับ” ผมย้ำถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ไข่นี่นายทอดเองเหรอ” แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบและยังคงยิงคำถามกลับอย่างไร้มารยาท
“แน่สิ” ผมตอบ
“แน่ใจนะว่าฉันจะโอเคหลังจากที่กินมันเข้าไปแล้วน่ะ” พี่คิวพูด ตาจ้องไข่เจียวทรงเครื่องของผมเขม็ง
“งั้นไม่ต้องกิน” ผมจับจานไข่เจียวเข้ามาใกล้จานข้าวของตัวเองมากขึ้นอย่างรู้สึกหมันไส้ พี่คิวเหลือบตาขึ้นจ้องผม ปากของพี่เขาเริ่มอมยิ้มนิดๆจนผมรู้สึกว่ามัน มัน..
“กิน!” ผมกระแทกเสียงเหมือนเป็นการสั่งสายตาคู่นั้นให้หยุดรอยยิ้มนั่นลงซะ
“เชิญ” พี่คิวเบะปาก เอื้อมมือมาดึงจานไข่เจียวทรงเครื่องไปวางที่เดิม พี่เขาเริ่มตักที่ไข่พะโล้ก่อนเป็นอันดับแรก ผมเริ่มทานไข่เจียวก่อน ส่วนตาก็เหลือบมองพี่คิวบ้างเป็นระยะๆด้วย
“นี่ต้มยำปลา” ผมเอื้อมหยิบถ้วยเล็กของพี่คิวมาแล้วตักต้มยำปลาไปให้
“คนข้างบ้านเอามาให้น่ะ เห็นแม่บอกว่าเค้าทำเป็นอาหารเย็นพอดี” ผมบอก พี่คิวพยักหน้ารับรู้ พี่เขาหยิบช้อนกลางตักต้มยำปลาในถ้วยเล็กของตัวเองขึ้นทาน
“ก็..โอเค” พี่คิวพยักหน้างึกงัก พี่เขาตักไข่เจียวกินต่อเป็นคำต่อไป ผมได้แต่เพียงนั่งลุ้นมอง
“หึ..” อยู่ๆพี่เขาก็หัวเราะออกมา
“อะไรเล่า” ผมว่า
“นายจะลุ้นอะไรนักหนาน่ะ ปกติก็..ทำไม่ใช่รึไง” พี่คิวพูดยิ้มๆ
“ก็ ก็..มัน ลุ้นหนิ” ผมตอบ ไม่กล้าสบตาพี่คิวตรงๆ จะไม่ให้เขินได้ยังไงกัน นี่ระดับเชฟมาลองชิมอาหารของที่บ้านเชียวนะครับ ของอย่างนี้มันก็ต้องลุ้นเป็นธรรมดาอยู่แล้ว..
“ก็ใช้ได้นี่” พี่คิวพูดแต่ดันพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“แน่นอนอยู่ละ” ผมรีบยืดทันที พี่คิวแสยะปากเหมือนรับไม่ได้กับอาการหลงตัวเองของผม ผมส่ายหัวอย่างไม่สนใจ เราทานข้าวกันต่อจนหมด ทั้งพี่คิวและผมต่อข้าวถึงสองจาน ไข่พะโล้กับไข่เจียวก็หมดด้วย เหลือแต่ต้มยำปลาที่เหลือปลาเพียงไม่เยอะเท่าไหร่ ผมเก็บจานชามเข้าครัวเพื่อล้าง เพราะบ้านผมจะไม่มีการแช่จานชามไว้ข้ามคืนนะครับ แม่จะไม่ชอบเอามากๆเพราะแม่บอกว่าแมลงสาบจะชอบมาตอนกลางคืน มันสกปรกเลยต้องรีบล้างทุกครั้งที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
พี่คิวเข้ามาช่วยล้างด้วย ผมล้างน้ำยาล้างจาน ส่วนพี่คิวล้างน้ำเปล่า ตอนแรกผมบอกพี่เขาแล้วว่าไม่ต้องแต่พี่เขาก็ดึงดันจะเข้ามาช่วยให้ได้ หลังจากเราล้างจานเสร็จเรียบร้อย ผมจัดการเช็ดโต๊ะทำความสะอาด ส่วนพี่คิวเดินไปยืนมองที่ชั้นวางของของผมไปทั่วบ้าน ยืนจ้องมองรูปครอบครัวของผมที่วางโชว์อยู่จนครบทุกรูปที่โชว์ไว้
หลังจากนั้นพี่คิวก็ร่ำลาแม่ของผม น้าติ๊กและตาวก่อนที่ผมจะเดินออกมาส่งพี่คิวที่หน้าบ้าน ผมยืนเก้ๆกังๆรอให้พี่คิวไปขึ้นรถ แต่พี่เขาดันหันกลับมามองเหมือนมีอะไรจะพูดสักอย่าง
“ขอบคุณนะ” พี่เขาบอก
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“ไปล่ะ”
“เอ่อ...ขับรถกลับดีๆนะครับ”
“ร้อนเหรอ” ผมยืนงงกับคำถามของพี่เขา
“หน้านายแดงน่ะ” พี่คิวแสยะยิ้มยักคิ้วให้แล้วเดินไปที่รถทันที ผมยืนอึ้ง..กระทั่งรีบจับแก้มตัวเอง
“ไม่ใช่!” ผมว่าเสียงหลงแต่พี่คิวขึ้นรถไปแล้ว ผมมองพี่คิวที่นั่งอยู่ในรถและยังคงเห็นว่าพี่เขายังอมยิ้มมองมาที่ผมอยู่ ผมรีบเอามือปิดแก้มตัวเอง
“ไม่ได้แดงสักหน่อย” ผมบ่นเสียงเบา มันจะแดงก็ตอนที่มาแซวเรานี่แหละ พี่คิวยังคงไม่เคลื่อนรถออก ผมจึงตัดสินใจจะเดินเข้าบ้านอย่างไม่รีรอให้พี่เขาไปก่อน
แกรง~~
“อูย..” ผมร้องเสียงเบา จับหัวตัวเองที่เพิ่งชนเข้ากับประตูรั้ว เพราะดันหันหลังกลับและเดินเข้าไปอย่างไม่ทันได้ดูตาไม้ตาเรือ ผมหันกลับไปมองคนในรถอีกครั้ง พี่คิวเอาแต่นั่งหัวเราะร่าอย่างกับผมกำลังเล่นตลกให้ดูซะอย่างนั้น ผมหุบยิ้มลงและแลบลิ้นให้ก่อนจะเปิดประตูรั้วแล้วเดินหนีเข้าบ้านในทันที..
~อ่ะ..อายอ่ะ!!~
...................>>>><<<<..................
-
อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มาแล้วววววววววววววว
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
วิ่งมาจิ้มทะลุรีบนส่งให้เบบี้ค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รู้แล้วแน่ๆ พี่คิวต้องรู้แล้วแน่ๆ :o9:
และพี่คิวยังขี้แกล้งมากกกกก มากกกกกกกกกกกกกก
อร๊ายยยยยยยย เขินแทนเค้ก :m3:
ยิ่งอ่านก้ยิ่งติดค่ะเรื่องนี้ ลุ้นไปกับเค้กก้ลุ้นแล้วลุ้นอีก
เหมือนเสพย์ติดไปเลย เบบี้ลงให้เท่าไหร่แต่ก้ยังรู้สึกว่ามันยังไม่พอ ฮ่าๆ
รอตอนต่อไปนะคะ เบบี้สู้ๆ :กอด1:
-
:z13: :z13:
-
เขินกันใหญ่เลย
-
เค้กน่ารักกกกกก><
-
เค้กเอ๋ย แย่แน่ๆ พี่คิวจับทางได้แบบนี้
อ่านตอนนี้แล้วทั้งขำทั้งเขิน เขินแทนเค้กอ่ะ :-[
-
ก็คนมันเขินอ่ะ อิ อิ
-
เอ้อ น้องเค้กรู้ใจตัวเองแว้ววววววว
แต่ของพี่คิวยังเหลือปมอยู่อีกใช่ไหมคะ?? เรื่องปลาย
ตาสีน้ำตาล? เอ๊ะ! หรือตูคิดเยอะไปเองฟระ ฮ่าๆๆๆๆๆ
:z2:
-
อั๊ยย่ะ!!! เขินนนนนนนนนนนนนนนวุ้ย
นี่ขนาดพี่คิวยังไม่หวาน แค่แหย่ๆ หยอกๆ น้องเค้กยังม้วน+โก๊ะขนาดนี้
ถ้าพี่คิวหวานใส่แบบตรงๆ สงสัยเค้กคงม้วนเป็นแยมโรลแน่เลย ^^
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
-
เขินขนาดนี้พี่คิวไม่รู้ก็แปลกแล้วเค้กเอ้ย :z1:
-
:laugh: น้องเค้กเก็บอาการหน่อย ลูก กร๊ากกกกกกกกก
เขินขนาดนี้พี่คิวไม่รู้ก็แย่แล้ว แต่ทำไงได้ ก็มันเขิลนี่เนอะ :o8:
-
พี่คิวต้องรู้แน่เลยยยยย......เหมือนแกล้งเค๊กกกก
เขินแทนนนนน :o8: :o8: :o8: :o8:
ก็เค้กเค้าน่ารักหนิเนาะ :-[ :-[ :-[
+1ให้เบบี้จร้าาาาาา
-
พี่คิวรู้ว่าเค้กคิดอะไรอยู่ แต่ไม่รังเกียจ
พี่คิวคิดไรกับน้องหรือเปล่านา :z1:
:pig4: คะ
-
น้องเค้กกกก ไม่ไหวแล้ว เก็บอาการหน่อย ทำไงล่ะ เค้ารู้กันทั้งบางแล้วเนี่ย
พี่คิวไม่รู้ก็แปลกล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่ก็นะ คนมันเขินช่วยไม่ได้ แอร๊ยยยยยย
เค้ายังเขินเลยอ่ะ เอามาหวานต้อนรับวาเลนไทน์ป่าวอ่ะเบบี้ :) :L2:
รักนะตัวเอง...ฮิ้วววววววว :กอด1:
-
=/////=
พี่คิววววววววววว แกล้งสินะ แกล้งน้องใช่มั้ย
รู้อะดิ หรือแค่สงสัยเลยแกล้งไว้ก่อนนน
อย่าแกล้งน้องงงงมากดิ ความลับหลุดหมด 55555555555
น้องเค๊กก็น๊าาาาาาาา เก็บอาการหน่อยจ้า :m12:
-
อีตอนที่ไม่รู้ตัวก็ไม่เท่าไรหรอกนะ จะพูดจะเถียงก็ลื่นไหลไปหมด
แต่พอรู้ตัวรู้ใจว่าชอบเค้าแล้วนี่สิ เค้กถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
และที่มากกว่านั้นคือ พี่คิวก็ดูเหมือนจะรู้ด้วยแหละว่าเค้กชอบ
ทั้งเขินทั้งขำ เหมือนผู้ใหญ่แกล้งแหย่เด็กน้อย จะเป็นยังไงต่อไปน้า
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
OMG! มาแล้วหลังจากรอมาหลายวัน
พี่คิวรู้แล้วยังแกล้งเค้กอีกอ่ะ
สงสารเค้กโดนแกล้งให้อายบ่อยๆ
ตอนต่อไปจะมาอีกวันไหนน๊าาาาา
-
อ้ายยยย อ่านตอนนี้แล้วอยากจะลงไปดิ้นกับพื้นให้ได้เลยค่ o13ะ
น่ารักไม่ไหวแล้ว พี่คิวเข้ารู้นะว่าตัวเองคิดอะไรอ่ะ จะกินเด้กแล้วละสิ
ทำไมน้องเค้กน่ารักแบบนี้นะ โอ้ย ตอนนี้น่ารักสุดๆไปเลย พี่คิวทำแบบนี้ เค้าใจสั่นไปหมดแล้วนะเนี้ย :-[
เขินแทนอ่ะ ขอกรี๊ดให้กับตอนนี้เลย แต่น้องเค้กไม่ต้องน้อยใจไปหรอกนะค่ะ
พี่คิวแกล้งน้องเค้กแบบนี้บ่อยๆ เขินตายกันพอดี ร้อนเหมือนกันนะเนี้น >/////< :o8: :-[ :impress2:
-
น้องเค้กกกกกกก
ท่าทางรนแบบนี้ พี่คิวเค้ารู้ไปถึงไหนๆ แล้วมั้งน่ะ
ยิ่งน้องเค้กรน พี่คิวก็ยิ่งแกล้ง
อร๊ายยยยย :-[
-
เขินแทนอ่ะ อิอิ เค้กน่ารักมาก
-
นานๆจะมีโอกาสสวีทกัน2ต่อสอง จัดเต็ม!
-
ยิ้มเหมือนดีใจเลยนะพี่คิว...แต่อาการเค้กมันก็ชัดเจนจริง ๆ แฮะ :-[
-
พี่คิวได้ทีแกล้งน้องเค้กใหญ่เลยนะ
เค้กเขิน ๆๆๆๆ
-
เค้กคงจะอายและเขินไปอีกหลายตอน
-
ตอนนี้น่ารักอ่ะ....
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
โอ๊ยยย!!~ เขินนนน :-[
พี่คิวแกล้งเค้กอ่าาาา มาแบบนี้ใครไม่เขินมั่งเนี่ย อ๊ายย >//<
อย่างงี้แสดงว่าพี่คิวรู้เเล้วสิว่าเค้กรู้สึกยังไง แล้วพี่แกจะเอาไงน้าา
ตอนนี้มีทิกเกอร์โผล่มาหน่อย ขอให้ดีกะพี่ฟ้าไวไวน้า :call:
-
5555555+
น่ารักกกกกกกก
ทั้งน้องเค้ก ทั้งพี่คิว น่าจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงแล้วเนอะ ><
-
เค้กเริ่มยอมรับกับตัวเองแล้ว แล้วคิวละตกลงเอาไง :L1:
-
แอร๊ยยย พี่คิวต้องรูั้็เเน่ๆเลย
เจ้าเล่ห์ซะขนาดนั้น แต่ท่าทางชอบแกล้งให้เค้กเขินเเบบนี้
แสดงว่าตัวเองก็ชอบเขาอยู่ใช่ไหมละ
-
อ่านไปเขินไป พี่คิววววววววววว ต้องรู้แน่เลยยยย
-
ยิ้มเขินอยู่คนเดียว แก้มจะแตกแล้ว บร้าไปแระช้าาาน
ทำไมคู่นี้มันน่ารักอย่างนี้วะ
-
เค้กน่ารักจัง อิอิ
-
หนูเค้ก หมดมาดเลย
-
อร้ายยยยยยยยย เขินอ่ะ :-[
พี่คิวค้องรู้แล้วแน่ๆ ขยันทำให้เค้กอายซะเหลือเกิน
เค้ก เก็บอาการหน่อยนะ เอิ้กกกกกกก
o13
-
คิวรู้แหงๆ แต่ยังแกล้งเค้กเนี่ย แสดงว่าคิดไรกะเค้กอยู่ใช่ปะ
-
ยิ่งรู้ก็ยิ่งแกล้งน้องมันนะ
เห็นอาการเค้กแบบนี้ แล้วคิดคิดยังไงจ๊ะ :m12:
-
อร๊ายยย~~มันเขิลอ่ะ นี่พี่คิวแค่แหย่ ๆ น้องเค้กเล่นเท่านั้นนะน้องเค้กยังเขิลหน้าแทบระเบิด :o8:
แล้วถ้าเกิดวันนึงพี่คิวเกิดบอกชอบน้องเค้กขึ้นมา น้องเค้กไม่เป็นลมล้มพับเลยหรอ o2
เบบี้ขอบคุณที่มาอัฟให้นะ รอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อ :oni2:
ปอลิง.อิพี่คิวเค้ารู้น๊าว่าตัวเองก็เริ่มชอบน้องเค้กเหมือนกันใช่ป่ะ :laugh3:
-
นายคิวรู้ตัวแล้วแน่นอน
แต่แปลกใจน้องเค้ก กลับไม่กังวลเรื่องยัยฝันร้าย
+1
-
พี่คิวแม่งขี้แกล้งว่ะ 5555555
-
อร๊า ย ยย ย เขิลแทนน้องเค้ก ><'
-
กลั่นแกล้งเค้กนะเนี่ย
-
อ้าวเค็ก โดนพี่คิวจับจุดได้แล้วแน่ๆ :laugh:
-
พี่คิวอย่าแกล้งน้องงงงงงงงงงงงงงงง
อั้ยยะ >//<
-
ความเครียดจะเริ่มคลี่คลายออกแล้วนะ
-
กิสสสสสสสสสเขิลอะ
-
พี่คิ๊วววววววววววว
พี่ติวรู้ใจน้องเค้กจริงๆใช่ไหม
ไม่ได้แกล้งแหย่น้องเล่นน๊า..ถ้าแบบนี้แปลว่ามีใจด้วยใช่ป่ะ :impress2: อิอิ
-
ว่าละพี่คิวต้องรู้แน่ๆเอร๊ยยย หนูเค้กมีอาการซะขนาดนั้น >///<
-
พี่คิวอย่าแกล้งน้องเค้ก!!!!
รู้ว่าน้องชอบแล้วเอาใหญ่เลยนะ!!
-
พี่คิวคิดยังไงน้า
-
พี่คิวแกล้งเค้กอะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รู้แล้วใช้มั๊ยพี่คิว ว่าเค้กรู้สึกยังไง น่าร้ากกกกกกกกกกกกกอะ :กอด1:
-
Cake nark talord!!!! P'Q kor naa ja chorp n'cake baang la,,pro mai hen mii thaarhaang kliad arai nii nor,,mii lun mii lun~hu hu hu...
-
เค้กน่ารักไม่ไหวแล้ววววว
เขินตลอดเลย อย่างนี้จะทำไงต่อไปล่ะเค้ก
บอกพี่คิวไปเลย
หรือพี่คิวรู้อยู่แล้วหว่า
:-[
-
อร๊ายยยย พี่คิวรู้แล้วววว
-
พี่คิวขี้แกล้งหว่ะ พี่แกต้องรู้อะไรลางๆ เป็นแน่ ฮิ ฮิ
น้องเค้กเขินน่ารัก
-
พี่คิวชอบแกล้งเค้ก :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
:o8: พัฒนาการก้าวกระโดดนะคู่นี้.... :laugh:
-
อะ เค้กโดนแกล้งอะ 5555+
ตอนนี้ดูคิวอารมณ์ดีเนอะ มียิ้มบ่อยๆด้วย
น่ารักหว่ะ
ปล.สงสัยเค้กจะเก็บอาการไม่อยู่ละม๊างงงงง 555+
-
อ๊ายยยยยยๆ น่ารัก
พี่คิวชอบแกล้งอ่ะ เค้กเขินน่ารักเกินไปแล้ว อิอิ
อยากหยิกแก้มทั้งคู่เลย ฮ่า ๆ (ฝากเบบี้หยิกแทนได้ไหมค่ะ) :laugh:
แค่นี้ก็ปลื้มสุดๆ ยิ้มหน้าบานไปจนเข้านอนแน่ๆเลย
ขอบคุณค่า เบบี้ :กอด1:
-
พี่คิวมันร้ายวะแกล้งซะน้องเขิลเดินชนประตูเลย ฮ่าาาาา
น่ารักอ่ะชอบ :pig4:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
ทำไมเค้ก ถึงได้น่ารัก น่ากอดขนาดนี้ๆๆๆ
:กอด1:
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
:o8: :o8:ความรักบังเกิด เหอะๆๆ
-
พี่คิวก็ชอบเค้กอะดิ ล้อเค้าซะเขินหน้าแดง
จับจูบไปเรยยยยย
-
เค๊กอาย เค๊กเขิลบ่อยเลยนะเดี๋ยวนี้ อิอิ พี่คิวแผ่รังสีใส่บ่อยจริงๆ
-
“คนบางคน” พี่คิวเข้ามากระซิบบอกที่ข้างหู
“ก็อ่านออกง่าย..อย่างไม่น่าเชื่อ”
พี่คิวนี่ร้ายจริงอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ชอบบบบบบบบบบบ ^______^
กิ๊วว ก๊าววววว อยากเห็นตอนหวานออกสื่อ เร็วๆจริง แค่คิดก็เขินแทนละเนี่ย 555555 =^^=
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: น่ารักกกกกกกกกกกกก มากกๆๆๆๆๆ
-
โคตรจะน่ารัก
พี่คิวแม่ม พอรู้ว่าน้องเขินก็แกล้งใหญ่
อร๊ายยยยย
ชอบแบบนี้ มันน่ารัก
เอาพี่ฝันไปเก็บไกลๆก่อนเลยนะ
หึหึ ไม่แน่พี่ซีอาจเป็นแม่สื่อเบาๆ ก๊ากกก
-
พี่คิวรู้ว่าน้องเค้กคิดไรจริงๆหรอออออออ :z2:
-
ว๊ายย! เขิน :-[
-
น่าร๊ากกกก น่ารักๆๆๆๆ น่ารักที่สุดเลย แอร๊ยย :o8:
พี่คิวรู้แล้วก็แกล้งน้องใหญ่เลยนะ แล้วนี่ตกลงกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วสินะ
เค้กไม่ร่าเริง ทำเอาคนอ่านไม่ร่าเริงตามไปด้วยเลย (เวอร์) :z3:
-
น่ารักมากถึงมากที่สุดอ่ะ :impress2:
-
:o8: :-[ :impress2:
-
ออกอาการมาหมดเลยนะเค้ก >///<
-
พี่คิวขี้แกล้ง 555555+
อ่านตอนนี้แล้วขำอ่ะ ตลกน้องเค้ก
ฮึบๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ใจเย็นๆนะลูก :laugh: :laugh: :laugh:
-
โอ้ยยยยย กว่าจะตามอ่านทัน อั่ยย๊ะ น้องเค้กรู้ใจตัวเองแล้ว ว่าชอบพี่คิว ฮ่าๆ จะทำอะไรก็เขิน ทำอะไรไม่ถูกไปหมด แต่ก่อนยังพอสู้ ยังกล้าเถียง แต่เดี๋ยวนี้แค่เข้าใกล้ยังใจสั่น โถ่ๆ เด็กน้อย อะไรจะน่ารักขนาดนี้จ๊ะเนี่ย กรี๊ดดด น่าฟัดมากกกก :-[ พี่คิวจับไต๋ได้แล้วแน่ๆเลย คงรู้แล้วละว่าน้องชอบตัวเองน่ะ ว่าแต่พี่คิวเริ่มจะหลงเสน่ห์เค้กแล้วใช่ป่ะละ ดูดิ มียิ้ม มีหัวเราะไปกับท่าทางของน้องด้วยอ่า อ๊ายยย เมื่อไหร่พี่คิวจะรุกหน้าเดินจีบน้องเค้กซะที ถึงเวลานั้นเค้กคงจะอายม้วนยิ่งกว่านี้แน่ๆ เอ๊ะ หรือว่าพี่คิวเริ่มเดินหน้าจีบแล้วกันแน่ ฮ่าๆ แหย่ให้น้องเขิน เพราะน้องน่ารักใช่ป่ะละ >< คึคึ รออ่านตอนต่อไปค่า โอ้ยยย อ่านแล้วเริ่มไม่รู้จักพอ มันหยุดไม่ได้ อิอิ น่ารักกกก :-[
-
เขินแทนเค้กเลยอ่ะ พี่คิวดูออกหมดเลย ทําตัวไม่ถูกเลย อ่านตอนนี้ไปเหมือนแก้มจะแดงตามเค้กไปด้วยเลยอ่ะ ขอบคุณนะคะ น่ารักมากๆเลยค่ะ
-
ขอบคุณเบบี้นะค้าบบ
พี่ิคิว + น้องเค้ก น่ารักมากมาย
เดี๋ยวให้น้องรุจพนักงานบัญชีคนใหม่มาเป็นคู่แข่งพี่คิวดีก่าเนอะ อิอิ
-
เค้กอาการหนัก รู้สึกอะไรก็ออกมาซะหมด หุ หุ :z1:
-
555 เค้กน่ารักอะ ชอบๆ
-
หนูเค้กไม่เก็บอาการเล๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 555+ :m20:
-
สรุปว่าพี่คิวรู้ว่าเค้กชอบหรอ ???
คิวก็เอาแต่แกล้งเค้กอ่ะ ฮ่าๆๆ น่ารักดี
-
แอร๊ยย~ >///< ตอนนี้น่ารักอ่ะ!
เค้กอ่านออกง่ายอ่อ แสดงว่าพี่คิวก็รู้หมดอะดิ 55.
เขินแทนเค้กอ่ะ :o8:
-
โอ้ยยย
น้องเค้ก
น่ารักน่าหยิกมากก :man1: :man1:
แต่แบบไม่อยากให้คิวรู้ว่าเค้กชอบอ่ะ
คิวชอบแกล้งน้อง :laugh: :laugh: :laugh:
-
พี่คิวรู้ๆๆๆๆ จะทำยังไงละทีนี้น้องเค้กกกก :-[ :-[
-
:impress3: ตอนนี้น่ารักมากกกกกก
เค้กน่ารักมาก พี่คิวต้องรู้แน่เลย
ชอบนักพระเอกฉลาดๆแบบเนี้ย
-
น่ารัก o18
แต่ก็เครียดอะ :z3:
-
:-[ :-[ :-[
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด หวานๆๆๆๆๆ
เค้กจะเขินไปไหน ไม่เก็บอาการเลยอ่ะ แต่ก่อนเถียงกันตลอด แต่เดี๋ยวนี้ไม่กล้าสบตา ไม่เถียงกลับเหมือนเดิมด้วย :laugh:
“คนบางคน” พี่คิวเข้ามากระซิบบอกที่ข้างหู
“ก็อ่านออกง่าย..อย่างไม่น่าเชื่อ” ผมสะดุ้ง หัวใจของผมแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อได้ยิน
“อ่ะ..”
ปึก !!
มือผมผลักอกพี่คิวออกไปโดยอัตโนมัติ พี่คิวถอยหลังและยังคงอมยิ้มอยู่
“นายว่าอย่างนั้นไหม” พี่คิวยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ก่อนที่จะเดินหนีเข้าห้องครัวไปหน้าตาเฉย
นั่นไงๆ พี่คิวรู้ตัวแล้วนะ ฮ่าๆๆ ชอบที่พี่คิวชอบแกล้งเค้ก :-[
อยากรู้ว่าพี่คิวคิดยังไงกับเค้ก แต่พี่คิวทำแบบนี้ ชอบแกล้ง ชอบแซว อมยิ้มได้เพราะเค้ก ดูเหมือนพี่คิวก็มีใจนะ อิอิ
แต่พนักงานบัญชีคนใหม่ที่ชื่อ รุจ และผู้ช่วยเชฟ จะมาพัวพัน มาชอบพี่คิวหรือเค้กหรือเปล่าน้า รอลุ้นกันต่อไป
-
ตอนนี้น่ารักมว๊ากกกกกกกกกกกกกก
เวลาเค้กเขินแล้วดูเอ๋อ ๆ น่ารักดี
พี่คิวแกล้งให้น้องเขินตลอด ๆๆ >''<
ความสัมพันธ์เริ่มพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แล้ว หุหุ
-
อาการเขินอายเนี่ย เก็บไว้ไม่อยู่เลยนะเค้ก
ส่วนพี่คิวก็ชอบทำให้เค้กอายนะ
-
คิวขี้แกล้ง แต่เค้กน่ารักมากกกกกกกก :-[
-
น่ารักอ่ะ >//////< เขิล :-[
-
เค้กน่ารักมากเลยตอนนี้ :-[
-
โอยยยยยยยยยยย น่ารักมาก น่ารักที่สุด
พี่คิวรู้ใช่ไหมอ่ะ เพราะดูท่าเดี๋ยวนี้จะชอบแกล้งเค้กหนักกว่าเดิมอีกอ่ะ
ส่วนเค้กแบบว่าน่ารักมากกก ยิ่งตอนแทนตัวเองว่าเค้กนะ อยากจะวิ่งไปสิงพี่คิวเลยอ่ะ น่ารัก ><
ว่าแต่ตอนนี้พี่คิวคิดอะไรกับน้องมั่งรึยังคะเนี่ยยยย
-
:กอด1: :กอด1: น้องเค้กเเสดงออกขนาดนี้
พี่คิวรุ้ แล้วมาเเกล้ง เค้กอ่ะ
คุ่นี้น่ารักอีกแล้วววว :L2: :L2: :L2:
-
:o8: :o8:
อ่านไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าเลยอ่ะ น่ารักจริงๆ ตอนนี้
:pig4: เบบี้ :กอด1:
ปล. คิวเหมือนชายจริงๆ นะบี้
-
น้องเค้กเขินหนักน่ารักมากกกกกกค่า :-[
ไม่ได้อ่านความรู้สึกแบบนี้มานานแล้วแฮะ ><
พี่คิวเหมือนจะรู้ว่า้เค้กชอบเลยอ่า เลยแกล้งใหญ่เลย
แกล้งให้หนักๆเลยนะคะ คนอ่านชอบ :laugh:
-
พี่คิวใกล้จะได้เป็นอมตะแล้ววว (กินเด็ก) ...ก็แหมเด็กก็ออกจะอ่านง่ายแบบนี้น่ะนะ555
-
น้องเค้กหัวแตกมั๊ยล่ะน่ะ
อิอิ เขินรุนแรงจัง
o4 o4
-
อ๊ายยยยยยยยยยยยยย เขิลแทนอ่ะะะะะะะะะ :o8: :-[
พี่คิวดันรู้ทันอีก อยากจะกรี๊ดดดดด จะทำตัวยังไงล่ะทีนี้
-
โอ้ยยยยยยยยยย
น่ารักมากอ้ะ
เค้กเขินใหญ่แล้วนา อิอิ
ความสัมพันธ์คืบหน้าอีกแล้ว
-
พี่คิว ตัวเองมีมุมนี้ด้วยหรอ น่ารักนะเราน่ะ ทำน้องเค้กเขิน ไปไม่เป็นเลย o13
-
อ่านทันแล้ว :angellaugh2:
น่ารักอ่าาา
ปล.49ตอนรึคะ? อืม...แล้วจะมีตอนพิเศษเยอะเหมือนสลิ่มไหมอ่ะ จะรอนะคะ
:L2:มอบดอกไม้เป็นกำลังใจ
-
พี่คิวก็ไปแกล้งน้องอ่ะ แต่คู่นี้เขาน่ารักกันจริงๆนะเนี่ย
เป็นใครใครก็เขินเหอะแบบนี้ :-[
-
...เค๊ก...เขินนนนนนนนนนน
...พี่คิว...รุกหนักขึ้นเรื่อยๆๆเลย รุกแบบนิ่มๆๆนิ่งๆๆ :laugh:
-
พี่คิวเจ้าเล่ห์ว่ะ
-
:impress2:น้องเค้ก
-
อ๊ายยยยยยยยยยยย เขินแทนน้องเค้กเลย
พี่คิวนี่ก็ฉลาดเกินไปนะ เล่นเอาน้องเค้กไปไม่เป็นเลย :-[
ชอบตอนนี้มากเลยอ่า มันดูหวานๆ กวนๆ ทะเล้นๆ น่ารักมากกกกกกกก o18
ชอบนิสัยพี่คิวอะ ต่อไปต้องโดนพี่คิวแซวตลอดแน่ๆ :impress2:
-
อูยยยยยยเขินแทนเค้กอ่ะ คิวรุ้แล้วยังจะแกล้งน้องอีก
-
:L2: :L2: :L2:
น้องเค้กเขินนนนนนนนนนนนนน
-
เพิ่งเข้ามาอ่านแล้วก็ตามมาทันน้องเค้กกับพี่คิวแล้ว..
แอบสงสารเค้กตอนที่โดนใยฝันว่าอะ.. รู้สึกเศร้าแทน.. การจะรู้จักกันต้องใช้ฐานะมาตัดสินด้วยเหรอไง...
น่าเบื่อจิงๆๆๆๆ
แต่ว่าตอนล่าสุดนี่แบบ.. ยิ้มตลอด.. แบบไม่หุบกันเลยอะ.. พี่คิวน่าจะรู้แล้วนะ..
น้องเค้กทั้งไม่กล้าสบตาทั้งหน้าแดง.. ก็ยังแหย่น้องไม่หยุดเลยนะเทอ.. ชอบๆๆๆ...
เมื่อไรจะได้เห็นสองคนนี้เค้าสวีทโชว์ใยฝันร้ายอะ... อยากให้พี่คิวบอกชอบน้องอะ.... .
แล้วรีบๆๆมาต่อนะจ๊ะ..
รักพี่คิวกับน้องเค้กกก...
-
มาต่อเร็วๆๆๆนะคับ
-
เค้กเอ๊ยยยย แหววได้อีกนะ :เฮ้อ:
-
:-[กรี๊ดดดดดดดดดดด พี่คิว แกล้งเค้กแบบนี้ ระวังตัวไว้เถอะ
เค้กเอาคืนไปเลย เอาให้พี่คิวเขินจนทำตัวไม่ถูกไปเลยยย :laugh:
-
เขินไปกับเค้ก :z13:
-
พี่คิวรู้แล้วละสิว่าน้องเค้กคิดอะไร 555 แกล้งน้องมันให้อายหน้าแดงตลอด น่ารักจัง
-
น้องเค้กยังไม่รู้ตัวหรอว่าชอบพี่คิวอ่ะครับ
คนอ่านทั้งบอร์ดเค้ารู้กันหมดละ 555555
-
5555555555555555 น้องเค้กน่ารักไปละ
ตอนใกล้จะจบตอนน่ารักอ่ะ ชนรั้ว กร๊ากกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณนะค๊า ^^
-
ชัดเจนมากเค้ก
-
น้องเค้กน่ารักอ่ะ :-[
พึ่งรู้ตัวหรือไงว่าชอบพี่คิวเค้าหน่ะ :laugh:
-
เหยยยยยยยยยยยย น่ารักอ่ะ !!!
อ่านแล้วแบบนะ . . . อุแหม่ พี่คิววววว ฮี่ฮี่
-
เวลาเค้กอายแล้วน่าแกล้งจัง :o8:พี่คิวเลยแอบกล้งซะเค้กหน้าแดงไปหมดแล้ว :-[
-
เฮ้ยยยยย เค้กน่ารักเกินไปแล้วเบบี้จ๋าา เข้าใจหัวอกคนไปไม่เป็น มันเป็นแบบนี้เลย ฮ่าาา
เห็นมะ กะแล้วว่าพี่คิวต้องรู้ จ้องตลอด อมยิ้มและสายตามีซัมติงตลอดดดดด
แกล้งๆแบบนี้ รู้ใจตัวเองยังเนี่ย? รู้ใจเค้กแล้วก็รีบๆรู้ใจตัวเองนะ อย่ามัวแต่สับสนแล้วทำให้น้องเค้กเค้าเสียใจ =^=
รักเบบี้สวดดดด เดี๋ยวไปรักษาหน้าผากน้องเค้กรอเบบี้มาต่อ คิคิ
-
:m1:
เค้กเขินมากไปเค้าก็รู้ตัวหมด :laugh:
แหม พี่คิวนี่ใช่ย่อยนะ....
-
เขิลแทนอ่ะ ><
-
:เฮ้อ: หมดกัน อ่านกันง่ายแบบนี้ เป็นอันว่าที่ร้าน ฯ คงรู้กันหมดแล้วแน่ ๆ
+1 ให้กับความน่ารักของน้องเค้ก และขี้แกล้งของพี่คิว :กอด1:
-
เค้กน่ารักเกินไปแล้ว :o8:
-
:-[ :-[ :-[ :-[เค้าน่ารักอ่า าาาาาา ~
:z2: :z2:พี่คิวว ยิ้มเยอะขึ้น หัวเราะเยอะขึ้นนะเนี้ยยย กิ๊ว กิว
-
:mc4:เย้มาแล้วววว
ว๊ายต๊ายตายน้องเค้ก พี่เป็นห่วงจัง พอรู้ตัวก็ทำอะไรไม่ถูก แล้วทำให้จับได้ซะงั้น
พี่คิวก็ฉลาดเกิ๊น พออ่านออกว่าน้องคิดไง แกล้งใหญ่เลย หมั่นไส้จริงๆ จีบน้องเลยเด๊ 555555
-
น่ารักมากกกกกกกกก เค้กน่ารัก คิวจะมีใจให้เค้กไหมนะ
เอาใจช่วยเค้ก สู้ๆๆๆ :L1:
-
>/////< เข้นแทนเค้กเลยอ่ะ เพราะพี่คิวคนเดียวเลย หุหุ
-
:o8:
พี่คิวขี้แกล้ง รู้ว่าน้องเขินก็แหย่อยู่นั่นแหละ
พี่คิวเริ่มมาทำความคุ้นเคยกะตัวตน กะบ้านของเค้กแล้วซินะ
-
เค้กน่าร้ากกกกกกกกอ่ะ
พี่คิวต้องรู้แน่ๆเลยอ่ะ ><
-
จะน่ารักกันไปไหน คนอ่านเขินแล้วนะ
-
เค้กเอ้ยยยยยย ตายแน่ลูก :laugh:
พี่คิวขี้แกล้งสุดๆ รู้แล้วก็รีบๆรับรักนะจ๊ะ
:L2: :pig4: ค่า
-
รู้ใจน้อง แล้วรู้ใจตัวเองยังอ่ะพี่คิวววว :กอด1:
-
:impress2: น่ารักอ่ะ :laugh: ยิ่งเขินยิ่งน่าแกล้ง
-
โอย เขินแทนเค้ก
-
อยากอ่านต่อครับ อ่านไป อมยิ้มไป อุ่ย..... เขิล
ชิปหาย...
-
อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m1: :m1: :m1:
น่าร๊ากกกกกกกกกกอ่ะ :m3: :m3: :m3: :m3:
-
ดีใจที่น้องเค้กรู้ใจตัวเอง :impress2:
-
ทำไมตอนนี้ถึงได้รู้สึกถึงออร่าสีชมพูปิ๊งๆล่ะเนี่ย (รู้สึกอยู่ฝั่งเดียว) เค้กน่ารักอ่ะ >.< เขินอายยยยย...
พี่คิวอ่านอะไรได้จากหน้าน้องอ่ะดิ ถูกใจด้วยใช่มั้ยล่า อ่ะคึกๆ
อ่านไปยิ้มไป ชอบ >.<
-
แอบดูเค้าเขิลกัน
-
มารอเค้ก
-
+1 น้องเค้ก พี่คิว น่ารักอ่ะ :o8: :o8:พัฒนา แล้ววุ้ยตอนหน้า :z1: ไม่หวังอ่ะไร น่ะ :z2: :z2:
-
น่ารัก เริ่มหวานนนนน :o8: :o8:
-
อ่านไปเหนื่อยไป ลุ้นที่สุดอ่ะ
เขินแทนเค้ก
>< :-[
-
อร๊ายยยยย น่ารักอ่ะ :-[
-
น้องเค้กน่ารักอ่ะ :-[
พี่เอาใจช่วยหนูอยู่นะคะลูกก 5555555
ส่วนพี่คิวก็รู้สึกจะอารมณ์ดีเหลือเกิน นะ :z1:
รอตอนหน้าค๊าเบบี้ :กอด1:
-
อ่านแล้วเขินแทนเค้กเลยอ่ะ พี่คิวชอบแกล้งอ่ะ พี่คิวรู้แล้วแน่ๆ อ่ะ ไม่ค่อยเลยนะพี่คิว ลุ้นมากอ่ะ ^^
-
พี่คิวอ่ะ ชอบแกล้ง :-[ น้องเค้กทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย บร้า... :m3:
-
พี่คิววววว
เค้กเขินนะ
แกล้งอยู่ได้อ่า 5555
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
กว่าตอนต่อไปจะมา...มันช่างนาน
หรือเป็นเพราะเราเฝ้ารอทุกวัน...เพ้อ...เรียกร้องความสนใจจากเบบี้ ><
-
น้องเค้กน่ารักอ่า อ่านแล้วชอบจริงๆ
แต่พออ่านๆไปแล้วกลับไม่รู้สึกว่าทั้งคู่รักกันเลยอ่ะ
เหมือนว่ามันไม่มีเหตุผลพอให้เค้กจะไปหลงรักพี่คิวหรือพี่คิวจะมาหลงรักเค้กได้เลยอ่ะ :m28:
แต่ยังไงก็อ่านต่ออยู่ดี อาจจะมีสาเหตุตามมาตอนใกล้ๆจบ รอติดตามตอนต่อไปครับ :pig4:
-
หวานๆแบบนี้ ...
จะมีคู่มารมาแทรกอีกแน่เลย :a5:
ขอให้เป็นพี่คิวหึงทีเถอะ เพี้ยงๆๆๆ :call:
:man1: :man1: :man1:
-
แวะมาบอกว่า คิดถึง ตัวโตๆ :haun5:
-
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
คิดถึงเค้กอย่างแรก อิอิ
-
เค้ก เขินใหญ่เลยอะ พี่คิวต้องรู้แล้วแน่เลยอะ
-
Happy Valentine's day คะคุณเบบี้ :L2:
-
happy valentine's day ... Baby , Q , Cake na krab.
-
Happy Valentine's day คร้าบ
-
ตัวเอ๊งงง~ วาเลนไทน์แล้ว เค้ารออยู่นะ :z2:
Happy Valentine's Day นะค่ะ :L2:
-
Happy Valentine's Day นะตะเอง :L1:
-
น่ารักมากกกกกกกเลยตอนนี้ ... อ๊างงงงง!!!
-
แวะมาคิดถึงค่ะ ^^
-
:o12:มาต่อซักสิครับ รอนานมาก คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z3:
-
เมื่อไหร่หนอที่เธอจะกลับมา....ต่อ
-
ยังไม่มต่ออีกหยออออออ T T :sad4:
-
รอคอยมานานแสนนาน
อิอิ ยังไม่มาต่ออีกเหรอ
-
คิดถึงอีกแล้ว คิดถึงเค้ก คิดถึงพี่คิว และก้คิดถึงเบบี้ด้วยยย :impress:
-
แวะมาส่งกำลังใจให้เบบี้
คิดถึงพี่คิวกับเค้กนะคะ ^^
-
~34~
วันพฤหัสบดี ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
วันนี้เป็นอีกวันที่พี่ฟ้านัดรวมตัวเพื่อประชุมกันที่บ้านของพี่ฟ้า แต่ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าไม่ทราบ ตอนนี้ทั้งเจ้าของบ้านและเชฟประจำร้านกลับไม่อยู่เลยสักคน มีเพียงผม พี่กัสและพี่ออฟเท่านั้น ส่วนพี่หมีเมื่อคืนแฮงค์เหล้าจึงต้องมาสายสักหน่อย พี่รุจพนักงานใหม่ไม่สามารถมาได้เพราะติดธุระ ส่วนพี่ซีก็สายด้วยเช่นกัน
“บ้านนี้มีกี่ห้องเหรอครับ” ผมถามขึ้น ไม่มีเรื่องอื่นจะให้พวกเราได้คุยกันอีกแล้วเพราะเรารอมานานมากๆ ตอนนี้จึงเหความสนใจมาที่บ้านของพี่ฟ้าแทน พี่ออฟกำลังนั่งเล่นไอแพต ส่วนพี่กัสนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนของพี่คิวอยู่
“เยอะอ่ะ” พี่กัสตอบ
“แต่เห็นว่า อืม..มีห้องนอนแค่ของพี่คิวกับพี่ฟ้านะ ส่วนห้องรับแขกมีแค่สองห้อง หนึ่งห้องจะเป็นห้องประจำสำหรับบัตเตอร์และเชอร์เบ็ต ส่วนห้องรับแขกใหญ่อีกห้องก็ไว้สำหรับแขกทั่วไปน่ะ” พี่กัสเล่า
“ซึ่งไม่ค่อยจะต้อนรับแขกเท่าไหร่” พี่ออฟพูดขึ้นลอยๆเหมือนต้องการขยายความ
“เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์ ใครเหรอครับ” ผมถามเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย
“หลานของพี่ฟ้าน่ะ ก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่คิวนี่แหละ..แต่เด็กมากๆเลย เพิ่งเจ็ดขวบเองมั้งถ้าจำไม่ผิด”
“อืม..เหรอครับ” ผมนึกภาพตามแต่กลับนึกไม่ออกเท่าไหร่นัก ว่าน้องทั้งสองคนที่ว่าจะมีหน้าตาแบบไหน ผมมองไปรอบๆห้องอีกครั้ง ใจจริงผมอยากจะเข้าไปดูทีละห้องเลยด้วยซ้ำนะครับ การตกแต่งบ้านดูน่าค้นหาไปหมด แต่ก็นะ..ไม่ใช่บ้านเราสักหน่อยนี่
“มีห้องสำหรับดูหนังด้วยนะ เค้กเคยเข้าไปรึยัง..แบบว่า มันใหญ่มากๆเลยล่ะ จอนะ..เรียกว่าโรงหนังขนาดย่อมเลยแหละ” พี่กัสเบิกตาโพรงเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ยังหรอกครับ อย่างมากก็แค่ห้องนี้เท่านั้นแหละ” ผมยิ้ม ผมหมายถึงห้องสมุดที่เรากำลังนั่งอยู่ในตอนนี้นะครับ
“อืม..ห้องนั้นพี่ก็เคยเข้าไปแค่ครั้งเดียวเหมือนกัน ตอนที่มานอนเล่นบ้านพี่ฟ้าอ่ะ เป็นห้องไว้สำหรับดูหนัง แผ่นซีดีนะรอบห้องเต็มไปหมดเลย” พี่กัสเล่า
“ยังมีเยอะกว่านี้อีกเหรอครับ” ผมตกใจ ตามองสำรวจแผ่นภาพยนตร์ที่พี่คิวสะสมไว้เต็มผนังห้องไปหมด
“อ๋อ ส่วนนี้เป็นของพี่คิว แต่ถ้าในห้องดูหนังนั่นส่วนมากจะเป็นหนังของพี่ฟ้าน่ะ จะดูหนังคนละแนวกัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน..แต่ก็นะ เหมือนห้องนั้นจะเป็นห้องของพี่คิวมากกว่าของพี่ฟ้าซะอีกอ่ะ” พี่กัสเล่ายิ้มๆ
"ทำไมล่ะ" ผมถาม ยิ่งพูดถึงก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเท่านั้น
“แบบว่า พี่คิวหวงห้องนั้น..มาก!” พี่กัสกระแทกเสียง
“หึ แปลกคน” ผมยิ้ม
“คนแปลกต่างหาก” พี่ออฟเสริมหน้านิ่ง
“นั่นสินะ!” พวกผมประสานเสียงอย่างเห็นด้วย
“แล้วมีห้องไหนอีกเหรอครับ นอกจากห้องครัวที่อลังการนั่นแล้ว” ผมถามด้วยความอยากรู้ไม่เลิก
“อืม..ห้องนั่งเล่นบนชั้นด่านฟ้าละมั้ง ข้างบนมีสระว่ายน้ำน่ะ มีสวนอยู่ด้านบนด้วยนะ” พี่กัสเล่า
“เหรอครับ..เค้กไม่รู้เลย” ผมนึกภาพตาม มันจะสวยขนาดไหนกันนะ แต่ละห้องตกแต่งซะเหมือนหลุดมาจากอีกโลกจนดูน่าค้นหาไปซะหมดขนาดนี้
“ส่วนมากก็ไม่ค่อยมีใครรู้หรอก มีแค่ที่สนิทๆเท่านั้นแหละที่จะได้ขึ้นไปน่ะ พี่คิวเค้าไม่ค่อยชอบให้ใครมาวุ่นวายที่บ้านอ่ะเนอะพี่ออฟเนอะ” พี่กัสหันไปขอความคิดเห็นจากพี่ออฟ
“อืม ทำนองนั้น..ขานั้นโลกส่วนตัวสูงทะลุโลก” พี่ออฟบอก พวกผมหัวเราะ
“ทำไมพี่ฟ้ายังไม่มาอีกนะ ปกติไม่ใช่คนไม่ตรงเวลา ยิ่งพี่คิวนะ..ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงอีกมั้ง” พี่กัสบ่น ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง นาฬิกาที่เคยถูกพี่คิวปรับไว้ให้เร็วกว่าชาวบ้านถึงสิบนาที และตั้งแต่ตอนนั้นทุกครั้งไปผมจะต้องบวกลบเวลาอยู่ตลอดเวลา แต่ผมกลับไม่เคยคิดจะปรับมันให้กลับมาปกติอย่างเก่าเลยสักครั้ง
“โทรสิ” พี่ออฟสั่ง
“เค้าเหรอ” พี่กัสชี้หน้าตัวเอง
“ไม่กัสแล้วจะเป็นใครล่ะ โทรซะ..ด่วนๆ ที่จริงบ่ายสามพี่มีนัดดูหนังกับเด็กด้วยนะเนี้ย” พี่ออฟบ่นและวางไอแพตลงบนโต๊ะ
“เฮ้อ เบื่อจริงพวกผู้ชายเจ้าชู้” พี่กัสบ่นหน้างอ แต่มือกลับกดมือถือไปพร้อมกัน ผมกับพี่ออฟนั่งมองพี่กัสอย่างรอความคืบหน้า
“อืม..ไมไม่รับอ่ะ” พี่กัสบ่นพร้อมกับกดต่อสายอีกครั้ง
“..ฮัลโหล พี่ฟ้า อยู่ไหนอ่ะครับ” พี่กัสถามปลายสาย
“อ๊ะ! จริงเหรอฮะ ค..ครับๆ” พี่กัสอุทานด้วยน้ำเสียงและสีหน้าร้อนรน ผมกับพี่ออฟนั่งตัวตรงในทันทีเมื่อเห็นแบบนั้น เรารับรู้ได้ถึงเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะสู้ดีนัก
“เดี๋ยวกัสไปหานะครับพี่ฟ้า พี่ฟ้าใจเย็นๆนะ” พี่กัสรีบพูดบอก
“เดี๋ยวกัสจะไปเดี๋ยวนี้ครับ” พี่กัสลุกขึ้นยืนหยิบกระเป๋าและกดปิดมือถือ
“เกิดอะไรขึ้นน่ะกัส” พี่ออฟถามหน้าเครียด มือของพี่เขาหยิบกุญแจรถมาเตรียมไว้ในทันที
“พี่คิวถูกยิงอ่ะฮะ ตอนนี้กำลังไปที่โรงพยาบาล รีบไปเถอะพี่ออฟ..เสียงพี่ฟ้าไม่ดีเลย” พี่กัสพูดรัว ผมรีบหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นสะพาย พวกเราแทบจะวิ่งกันไปที่รถ พี่ออฟขับรถค่อนข้างเร็ว ระหว่างทางเราต่างไม่พูดอะไรกันเลย ผมเพียงแค่สงสัยเหมือนกันเท่านั้นว่าทำไมพี่คิวถึงได้ถูกยิง ผมได้แต่คิดว่าอย่าให้เป็นเรื่องเดียวกับที่ผมคิดอยู่ตอนนี้ก็เท่านั้น..
เมื่อถึงโรงพยาบาล ผม พี่กัสและพี่ออฟ รีบวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉินทันที ผมเห็นพี่ฟ้ายืนอยู่ที่นั่น กำลังคุยอยู่กับหมอด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ข้างๆพี่ฟ้ามีผู้หญิงวัยรุ่นหน้าตาน่ารักและผู้หญิงสูงอายุหน้าตาใจดีอีกคนยืนอยู่ด้วย
“มี..มีใครเลือดกรุ๊ปโอไหม” พี่ฟ้าถามทันทีเมื่อเห็นหน้าพวกผม
“พอดีเลือดกรุ๊ปโอในคลังของเราหมดกะทันหันน่ะครับ มีเคสผ่าตัดในเวลาเดียวกันที่ต้องใช้เลือดกรุ๊ปนี้พอดี” คุณหมอพูดแทรกขึ้น
“เค้ก..เค้กโอครับ” ผมตอบตะกุกตะกัก
“ออฟก็โอ แต่ออฟเพิ่งกินเหล้ามา” พี่ออฟพูดหน้าแหย
“เค้ก..เค้ก อึก ให้เลือดกับคิวได้ไหม นะ..นะเค้กนะ” พี่ฟ้ารีบเข้ามาจับมือจับแขนผมไว้ด้วยท่าทางร้อนรน น้ำตาของพี่เขาไหลอาบแก้ม ทิ้งคราบของนักธุรกิจที่ดูเก่งไปถนัด
“ได้ครับ” ผมตอบแทบจะทันที ความรู้สึกแรกที่ทำให้ผมตอบตกลงนั่นเพราะผมสงสารพี่ฟ้า ผมไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และที่จริงผมไม่จำเป็นจะต้องรู้ด้วยซ้ำ มันไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไร ตอนนี้หน้าที่ของผมคือหน้าที่ที่พึงทำได้ก็เท่านั้นคงพอ..
“พยาบาล คุณพาเค้าไปตรวจร่างกายด่วนเลย แล้วติดต่อโรงพยาบาลอื่นด้วยว่าพอจะมีเลือดกรุ๊ปโอให้เราได้บ้างไหม” คุณหมอสั่ง
“ค่ะคุณหมอ เชิญค่ะคุณ” พยาบาลหันมามองหน้าผม ผมรีบเดินตามไป พยาบาลพาผมเข้าไปตรวจร่างกายก่อนที่จะทำการให้เลือด นี่ไม่ใช่การให้เลือดครั้งแรกผมจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ เมื่อผมให้เลือดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พยาบาลให้ผมนอนพักอยู่บนเตียง พี่กัสเพิ่งเดินเข้ามา..
“พี่คิวเป็นไงบ้างครับ” ผมถามทันที
“ยังไม่รู้เลย เสียเลือดมาก..แต่โชคดีที่ไม่ถูกเส้นเลือดใหญ่อะนะ” พี่กัสพูดน้ำเสียงเศร้า ผมได้แต่นอนฟังอย่างเงียบๆ
“ดูเหมือน พี่คิวจะเข้ามากันกระสุนให้พี่ฟ้าน่ะ” พี่กัสบอกเสียงเบาพร้อมกับนำมือมาลูบแขนผมไปมา
“อย่าบอกนะครับว่า เรื่อง..ที่บ้าน” ผมถามอีก
“อื้อ” พี่กัสยิ้มแห้งๆ
“แย่หน่อยเนอะ มีพี่น้องไม่รักกันเนี้ย” พี่กัสว่า
“น่าสงสารนะครับ” ผมบอกด้วยรู้สึกเศร้าไม่ได้
“อืม..สงสารพี่ฟ้าจัง ร้องไห้ใหญ่เลย ปกติพี่ฟ้าก็เป็นคนเซ้นซิทีฟอยู่แล้วด้วย” ระหว่างที่พี่กัสพูดกลับน้ำตาคลอขึ้นมา ผมเอื้อมมือไปลูบมือพี่กัสไว้ นี่ทำให้ผมรู้ว่าพวกพี่เขาผูกพันธ์และห่วงใยกันมากแค่ไหน
“พี่ไม่กล้าอยู่ด้วย พี่กลัวร้องไห้ตามอ่ะ..หึ” พี่กัสหัวเราะน้อยๆ
“คนแบบนั้น ดูจากโหงวเฮ้งแล้ว อายุยืนอยู่หรอกครับ” ผมพูดติดตลก ทั้งทั้งที่ใจผมเองก็เศร้าไม่ได้ต่างจากพี่กัสเลย ผมเข้าใจดีถึงความรู้สึกที่จะต้องสูญเสียคนสำคัญของชีวิตไป รู้ดีว่าพี่ฟ้ากำลังรู้สึกกระวนกระวายใจมากแค่ไหน รู้ดีว่าพี่ฟ้าคงอยากจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้คนที่ตนรักนั้นกลับมาอยู่ในอ้อมอก ผมเคยรับรู้มันมาก่อนตอนที่พ่อผมจะเสีย ถ้าเขาจะไป..สุดท้าย เราก็รั้งเขาไว้ไม่ได้ ไม่สามารถทำอะไรได้เลยจนแทบอยากจะขาดใจตายตามเขาไป นั่นหมายถึงคุณต้องทำใจไว้สองทาง หนึ่ง..เว้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์สำหรับตัวเอง กับสอง..เว้นช่องว่างอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ให้กับเขา
“เค้ก..เป็นไงบ้าง เห็นว่าให้เลือด พี่เลยซื้อของกินมาให้” พี่ซีเดินเข้ามา
“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้
“เดี๋ยวนอนพักอีกสักครู่นะคะ แล้วทานอาหารสักเล็กน้อยก็ไปได้ค่ะ” พยาบาลเดินมาบอกผม
“ฮะ..ขอบคุณครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“เจ็บไหม” พี่ซีถาม ตามองมาที่แขนของผม
“ไม่หรอกครับ”
“พี่ซีไปหาพี่ฟ้ามารึยัง” พี่กัสถาม
“ไปมาแล้ว ตอนนี้ให้อยู่กับพี่เซ็นน่ะ คงดีกว่าอยู่กับพี่” พี่ซีอมยิ้ม
“เป็นหลานรักนี่นะ” พี่กัสยิ้มพูด คงหมายถึงพี่ฟ้ากับพี่คิวละมั้งครับ
“หึ..” พี่ซีหัวเราะตอบเล็กน้อย
= = = = = = = =
“เดี๋ยวพี่มาเฝ้าเอง ฟ้าน่ะไปพักผ่อนเถอะ” แม่พี่คิวพูดขึ้น ผู้หญิงสูงอายุหน้าตาใจดีที่ยืนอยู่กับพี่ฟ้าตั้งแต่แรกคือแม่ของพี่คิวเองครับ พี่ฟ้าเงียบ แม่ของพี่คิวลูบแขนพี่ฟ้าเบาๆ ตอนนี้พี่คิวพ้นขีดอันตรายแล้ว และได้ย้ายมาพักที่ห้องพิเศษแล้วเรียบร้อยแล้วด้วย
“แต่ว่าฟ้า” พี่ฟ้าอ้ำอึ้ง ตามองไปที่ปากประตูห้องที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นตรงที่เรายืนอยู่นี้กับห้องของคนไข้
“ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะ” แม่พี่คิวว่าด้วยสีหน้าเป็นห่วง ผมเดาว่าเด็กผู้หญิงวัยรุ่นที่ยืนอยู่ข้างๆแม่ของพี่คิวนั้นน่าจะเป็นน้องสาวแท้ๆของพี่คิวที่ชื่อฟ้าครามนะครับ
“คุณ..มันเป็นยังไงบ้าง” พ่อของพี่คิวเดินเข้ามา เพิ่งมาถึง..ผ่านไปครึ่งวันแต่กลับเพิ่งมาถึง
“............” ในห้องเงียบสนิทลงทันใด พี่ฟ้ามองค้อนพ่อพี่คิวในทันที
“ฉันก็เพิ่งเสร็จคดีของมันนี่แหละ” พ่อพี่คิวพูดปัดขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจในสายตาของพี่ฟ้า
“หึ..ก็ถ้าไม่ใช่เพราะพี่” พี่ฟ้าว่ากลับ แสยะยิ้ม น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง
“แต่นั่นมันลูกฉันนะ ใช่..มันหลานแก แต่นั่นมันลูกของฉัน” พ่อพี่คิวเริ่มขึ้นเสียง สายตาของคุณลุงดูดุดันคล้ายกับพี่คิวไม่มีผิด
“พี่อย่าเอาความเป็นพ่อมาอ้างเลย” ปากของพี่ฟ้าสั่นอยู่ตลอดเวลาที่พูด เหมือนต้องการจะกลั้นไม่ให้ตัวเองนั้นร้องไห้ออกมาอีกครั้ง และเหมือนต้องการไม่ให้เสียงของตัวเองนั้นดังเข้าไปรบกวนคนป่วยในห้องอีกฝั่งเช่นกัน
“อาครับ” ผู้ชายวัยรุ่นคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก หน้าตาท่าทางน่าจะประมาณยี่สิบต้นๆเข้ามาห้ามพี่ฟ้าไว้
“อาใจเย็นๆก่อนนะครับ ไม่มีอะไรแล้วนะ” ผู้ชายคนนี้เข้ามาลูบแขนพี่ฟ้า
“อึก..” พี่ฟ้าก้มลูบหน้าลูบตาตัวเองเหมือนต้องการให้ตนเย็นลง พี่เซ็นเข้าไปโอบไหล่พี่ฟ้าแล้วกอดไว้เบาๆ
“พี่ไม่ได้เลี้ยงมา พี่จะไปรู้อะไร..พี่รู้ไหมคิวชอบไม่ชอบกินอะไร พี่ไม่รู้อะไรเลย..พี่ไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งนั้น” พี่ฟ้าว่าเสียงเครือ น้ำตาไหลพรากคล้ายกับพี่เขาเองก็คงห้ามมันไว้ไม่อยู่ น้ำเสียงที่พูดเป็นเพียงการพูดเพื่อเรียกร้องสิทธิ์แทนพี่คิว..ไม่ใช่ต้องการจะตอกย้ำหรือต่อว่าอีกฝ่ายแต่อย่างใด ผมว่าน้ำเสียงแบบนี้ยิ่งฟังดูแล้วยิ่งเจ็บปวดเอามากๆเลยล่ะ
“..............” พ่อของพี่คิวยืนอึ้งไป
“พราว ฟ้า..พี่ตัน!” พวกเราหันไปมองตามเสียงเรียกที่ดูร้อนรน ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งมา คนนี้ผมไม่คุ้นหน้าแต่เหมือนเคยเห็นในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น น่าจะเป็นลูกสาวอีกคนของครอบครัวสิทธิบดีทรัพย์
“พ่อ คุณพ่อรู้เรื่องแล้ว..พ่อ ช็อก..ทับทิม เธอผลักพ่อจนล้มไป” เธอพูดบอกด้วยสีหน้าไม่ดี ใบหน้าของเธอมีแต่คราบน้ำตาเปื้อนเต็มไปหมด
“อะไรนะ!” พ่อพี่คิวกระแทกเสียงด้วยความตกใจ
“คุณพ่อ..อึก” พี่ฟ้าอุทานน้ำเสียงแทบจะไม่ออกมาจากลำคอ ตัวของพี่เขาสั่นอย่างกับลูกนกอย่างไรอย่างนั้น
“ตอนนี้อยู่ห้องฉุกเฉิน” เธอบอกหน้าเสีย พี่ฟ้าวิ่งไปพร้อมๆกับพ่อของพี่คิวในทันที
“เอ่อ แม่ครับแม่อยู่นี่ก็แล้วกันนะครับ” พี่เซ็นพูดบอกแม่ของพี่คิวที่ทำท่าจะวิ่งตามไปด้วย
“ซี..ดูแลแม่นะ เดี๋ยวเซ็นไปดูอากับพ่อให้เองครับ ไม่ต้องห่วง”
“กัส ออฟ เค้ก..อยู่นี่แหละ พี่ฝากดูคิวกับแม่คิวด้วยนะ” พี่เซ็นบอก
“ครับ” พวกผมตอบพร้อมกัน พี่เซ็นรีบวิ่งตามพวกพี่ฟ้าไป
“อึก..” พวกผมหันไปมอง แม่ของพี่คิวร้องไห้ออกมา เธอเข่าอ่อนนั่งลงบนเก้าอี้
“คุณแม่” น้องสาวของพี่คิวเข้าไปกอดเธอไว้
“ทำไมต้องเกิดแต่เรื่องแบบนี้ด้วย ทำไมบ้านเรา..ทำไมต้องเป็นคุณพ่อด้วย” แม่พี่คิวร้อง
“ไม่เป็นไรนะคะแม่ ทุกคนจะต้องปลอดภัย..นะคะ” พี่ซีเข้าไปลูบแขนแม่ของพี่คิวเบาๆ พวกผมได้แต่ยืนเงียบอย่างทำตัวไม่ถูก พี่กัสนำน้ำมาให้แม่พี่คิว เราอยู่ในห้องนี้นานมาก นานจนกระทั่งหมอเข้ามาตรวจพี่คิวอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานพี่ฟ้าและพ่อของพี่คิวกลับมาพร้อมๆกับญาติของครอบครัวของพี่เขาด้วย
“คุณ..คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง” แม่พี่คิวรีบโผเข้าไปหาพ่อของพี่คิวในทันทีที่เห็น พ่อพี่คิวส่ายหัว หน้ายังคงนิ่ง ผมพอจะทราบแล้วว่าพี่คิวได้ลักษณะนิสัยนิ่งๆแบบนี้มาจากใคร ไม่ใช่จากพี่ฟ้า ไม่ใช่จากแม่ของพี่เขา ไม่ใช่จากญาติๆ และกระทั่งไม่เหมือนน้องสาวแม้แต่นิดเดียว พี่เขาเหมือนเพียงผู้ชายคนนี้..คนเดียว
“อึก..ฮื้อ” แม่พี่คิวร้องไห้โฮออกมาเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสลดจากพ่อพี่คิว แปลกมาก ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคุณพ่อที่เสียเป็นคุณพ่อของพี่ฟ้า นั่นหมายความว่าจะต้องเป็นพ่อของพ่อพี่คิวด้วยเช่นกัน ในขณะที่แม่ของพี่คิวร่ำไห้ขนาดนี้แต่พ่อของพี่คิวกลับนิ่งและไม่มีน้ำตาให้เห็นเพียงสักหยดเดียว..
ก๊อก ๆ ๆ
พวกเราเงียบ หันไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง..
“มาทำไม” พี่ฟ้าเค้นเสียงพูดให้เข้มขึ้น ทั้งทั้งที่น้ำเสียงเครือฟังดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“............” คุณลุงคนนี้เงียบไป ลุงคนเดียวกับที่ผมเคยเจอที่บริษัทเพชรยักษ์ใหญ่ในวันนั้น คนนี้ที่น่าจะเป็นพ่อของผู้ชายที่ชื่อสงกรานต์อะไรนั่น
“คิว..เป็นยังไง บ้าง” ลุงแกถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก พ่อพี่คิวหันหน้าเชิดไปอีกทางเหมือนไม่ต้องการพูดตอบออกไป
“ยังไม่ตาย” พี่ฟ้ากระแทกเสียงตอบ
“ไอ้ฟ้า ฉันไม่รู้เรื่อง..ฉัน” คุณลุงเดินเข้ามาใกล้พี่ฟ้ามากขึ้น น้ำเสียงของเขาร้อนรนเหมือนกับทำตัวไม่ถูก
“พี่อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามาใกล้..พวกผม” พี่ฟ้าไล่ทั้งน้ำตา
“ฉันไม่รู้ ฉันก็ช็อกไม่แพ้แกหรอก..ฉันไม่รู้จริงๆ” คุณลุงย้ำบอก
“ก็เพราะพี่ไม่ยอมรับรู้อะไรเลยไง ลูกพี่ถึงได้เป็นคนแบบนี้!..ไม่ใช่ซิ นั่นไม่ใช่ลูกของพี่ด้วยซ้ำ” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าอาฆาตจนผมแทบปรับอารมณ์ตามไม่ทัน พี่กัสเข้ามากอดแขนผมไว้เหมือนกลัวกับสถานการณ์ตรงหน้า
เพี้ย !!
พวกผมยืนอึ้ง อยู่ๆคุณลุงคนนี้ก็ฟาดมือเข้าตบหน้าพี่ฟ้าอย่างจัง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แรงอะไรมากนัก แต่มันก็คือการตบน่ะนะ
“............” สิ้นเสียงการตบในห้องก็เงียบลงสนิท พี่ฟ้าจับแก้มตัวเอง
“คุณลุงทำอะไรน่ะ” น้องสาวของพี่คิวเข้ามากอดพี่ฟ้าไว้ เธอมองตาขวางใส่ลุงของเธอ
“ฉัน..ฉันขอโทษ” คุณลุงพูดบอกหน้าเสีย
“หึ..ตลอดมาพี่ไม่เคยฟังผมเลย ไม่มีใครฟัง..ทั้งพี่ ทั้งพี่ ไม่มี” พี่ฟ้าว่ากราด มองหน้าคุณลุงคนนี้สลับกับพ่อของพี่คิว ทั้งสองยืนนิ่งและหน้าสลดลง..
“พี่สองคนเอาแต่เรื่องของตัวเอง สนใจแต่เรื่องของตัวเอง..อึก ผมจะรู้สึกยังไงก็ช่าง คิวจะรู้สึกยังไงก็ช่าง ปรัชญาจะรู้สึกยังไงพี่ก็ไม่เคยสน..ขอแค่ทุกอย่างสมบูรณ์แบบตามที่พวกพี่ต้องการก็พอ”
“ชีวิตนี้พี่ต้องการอะไรอีก ไม่มีพ่อแล้ว..พ่อเสียไปแล้ว อึก..พี่ได้ยินไหมว่าพ่อเสียไปแล้ว!” พี่ฟ้าว่า น้ำเสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆคล้ายกับเหลืออดเต็มที
“ฟ้าออกมาจากบ้าน เพราะฟ้าเป็นแกะดำที่พวกพี่ตัดสินว่าฟ้าไม่ดีพอ..แต่ฟ้าก็ไม่เคยเสียใจ” พี่ฟ้าว่า ทุกคนต่างเงียบลง ไม่มีแม้ใครที่จะพูดแก้ตัว
“ฟ้าไม่เคยเสียใจเท่ากับที่พวกพี่อยู่ใกล้คุณพ่อแต่พวกพี่ไม่เคยคิดแม้แต่จะดูแล อึก ก็เพราะพ่อไม่ได้รักฟ้า..ฟ้าถึงทำแบบที่ฟ้าอยากทำไม่ได้ ถึงฟ้าจะเป็นห่วงพ่อมากขนาดไหน ก็ไม่เท่ากับที่พวกพี่สนใจพ่อเพียงนิดเดียว..ใช่ไหมล่ะ ใช่ไหม!”
“ฟ้า..ฉันไม่ได้คิด” คุณลุงจะพูดขึ้น
“พี่คิด ถึงตอนนี้พี่ไม่ได้คิด..แต่พี่เคยคิด” พี่ฟ้าว่าดักคอ
“ชีวิตของคนในครอบครัวสำคัญกว่าธุรกิจบ้าบอที่พวกพี่ทุ่มเทให้มากนักรึไง พี่จะเอาอะไรนักหนา..เงินมันจะทับพวกพี่ตายอยู่แล้ว พี่ยังจะต้องการอะไรอีก อึก..ชีวิตพ่อก็เอาคืนมาไม่ได้ พี่พอใจแล้วรึยัง..ฮื้อออ”
“ฟ้า” พวกเราหันไป ผู้หญิงมีอายุรุ่นราวน่าจะใกล้เคียงกับคุณยายของผม เธอเดินเข้ามา ท่าทางเธอสง่ามากจนผมพอจะเดาได้ว่าเธอน่าจะเป็นใครในตระกูลนี้
“คุณแม่” พี่ฟ้าร้องไห้โฮเข้าไปกอดแม่ของตน แม่พี่ฟ้ากอดตอบพี่ฟ้าแน่น
“เป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันสิลูก..หื้ม” แม่ของพี่ฟ้าลูบหัวพี่ฟ้าเบาๆพร้อมกับยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เครื่องสำอางที่ไม่พบบนใบหน้าของเธอทำให้ทราบได้ว่าก่อนหน้านี้เธอคงเสียน้ำตาไปมากเช่นเดียวกัน
“อึก..” พี่ฟ้ากอดแม่ของตัวเองแน่นกว่าเดิม
“เป้ยให้ประสิทธิ์จัดการเรื่องของพ่อเรียบร้อยแล้วนะคะ” ผู้หญิงคนเดิมที่เป็นคนมาบอกข่าวเรื่องพ่อของพี่ฟ้าพูดขึ้น พ่อของพี่คิวและพ่อของสงกรานต์พยักหน้ารับ
“ส่วนเรื่องพินัยกรรม” ผู้ชายใส่สูทแต่งตัวเป็นทางการยืนอยู่ข้างๆแม่ของพี่ฟ้าพูดขึ้นคล้ายกับขออนุญาต
“ฉันอยากให้จบเรื่องคุณสุธิชัยไปก่อน จะได้ไหม..และคิวต้องหายดีก่อนด้วย ถือว่าแม่ขอ..เรื่องเพชรในบริษัทต้องผ่านกรรมการก่อน เราถึงจะมีการเปิดพินัยกรรม..มีใครจะขัดข้องไหม” แม่พี่ฟ้าพูดถามด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ไม่มีเสียงคัดค้านใดๆตอบกลับ
“ได้ครับคุณผู้หญิง” ผู้ชายคนเดิมก้มหัวตอบอย่างนอบน้อม
“ฝากจัดการให้ด้วยนะ” แม่พี่ฟ้าพูดบอกเขา
“ครับ”
“เป้ยกับพราว ไปดูแลเรื่องพ่อซะ..แขกเหรื่อก็แจ้งให้พร้อม” แม่พี่ฟ้าหันไปสั่งทั้งทั้งที่มีพี่ฟ้ากอดเธออยู่ไม่ปล่อย
“ค่ะคุณแม่” น้าผู้หญิงสองคนตอบรับพร้อมกันก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“ส่วนแก ไอ้ตี๋..ไปจัดการเรื่องของเมียแกซะ เห็นว่าคลั่งไม่หยุดตั้งแต่ถูกจับไปแล้ว จะทำอะไรก็ทำสักอย่าง ฉันขอให้การสูญเสียครั้งใหญ่คราวนี้เป็นบทเรียน อย่าทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อนเพราะครอบครัวของแกอีก” แม่พี่ฟ้าว่า
“ครับแม่” คุณลุงตอบเสียงเบา
“ส่วนเรื่องสงกรานต์ ฉันก็รู้ว่าแกรักมันมาก..ฉันก็ไม่ได้จะเอาความอะไรหรอกนะ" แม่พี่ฟ้าพูดพลางถอนหายใจ
"แม่ก็เข้าใจความรู้สึกของแก แต่แกเองก็คงเข้าใจใช่ไหม ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมายไป แต่ถ้าแกจะช่วยเหลือมันเพราะว่าแกรักมันแม่ก็ไม่ว่า..แต่แม่อยากเตือนสติแกไว้ ว่าเด็กคนนั้นยิงหลานแท้ๆของแก..ตั้งใจจะฆ่าน้องชายของแก เงินของบริษัทสูญไปเป็นสิบล้าน และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พ่อของแกเสียด้วย” แม่พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พ่อของคนที่ชื่อสงกรานต์ได้แต่ยืนก้มหน้าก้มตา
“เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม”
“ครับ..ผมจะจัดการให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้” คุณลุงตอบรับและเดินออกจากห้องไป
“แล้วใครจะดูแลคิว ติดต่อพยาบาลพิเศษแล้วรึยัง” แม่พี่ฟ้าถาม ผมถือว่าเธอบริหารครอบครัวได้ดี ณ ขณะที่คนรักของเธอเพิ่งเสียชีวิตไป เธอกลับยังมีแรงจัดการทุกอย่าง ในสถานการณ์ที่ลูกๆเจอปัญหาแบบนี้ทั้งทั้งที่ลูกควรจะแก้ปัญหาเองได้ แต่เธอกลับไม่ปล่อยให้ครอบครัวเธอเสียหลักเลย ผมถือว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แกร่งมากทีเดียว..
“เดี๋ยวพิมดูเองค่ะ ให้ป้าเอียดมาช่วยด้วยอีกแรง” แม่พี่คิวพูดตอบ
“อืมอย่างนั้นก็ดี” แม่ของพี่ฟ้าพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เรื่องร้ายๆก็ผ่านไปแล้วนะ อย่าร้องไห้อีกเลยนะลูกนะ” แม่พี่ฟ้ายิ้มให้พี่ฟ้าน้อยๆ มือของเธอลูบหน้าลูบตาเช็ดคราบน้ำตาให้พี่ฟ้าด้วย
“คุณพ่อไม่ได้ไม่รักฟ้านะลูก พ่อเองก็เสียใจ..รู้ไหมลูก พ่อเค้าเสียใจ..มาตลอด” แม่ของพี่ฟ้ามองพี่ฟ้าด้วยสีหน้าอ่อนโยน เธอยิ้มให้พี่ฟ้าแม้นั่นจะเป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้าแต่เธอพยายามยิ้มให้ลูกของเธอพร้อมกับลูบแก้มพี่ฟ้าเบาๆ
“ครับ..อึก” พี่ฟ้าพยักหน้า
“ฟ้าครามกลับพร้อมกับพ่อของเธอซะไป” แม่พี่ฟ้าสั่ง
“ค่ะ” น้องสาวของพี่คิวพยักหน้าตอบ
“กลับไปซะ” แม่พี่ฟ้าเหลือบมองไปที่พ่อของพี่คิวเหมือนสั่งด้วยสายตา พ่อของพี่คิวพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเรียบเฉยอย่างเคย ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้ร่ำลาใครสักคน
“แล้วฟ้าจะกลับยังไงลูก” แม่พี่ฟ้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ฟ้า
“ฟ้าเอารถมาครับ” พี่ฟ้าตอบ
“เดี๋ยวเซ็นขับไปส่งเองครับ คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วง” พี่เซ็นบอก
“ฝากด้วยนะจ๊ะ” แม่พี่ฟ้ายิ้มให้
“งั้นแม่กลับก่อนนะ”
“ครับ” พี่ฟ้าตอบ
“ฝากแม่ด้วยนะประสิทธิ์” พี่ฟ้าเหลือบมองไปที่ผู้ชายใส่สูทคนเดิม
“ครับ” แม่พี่ฟ้าเดินออกไปพร้อมกับผู้ชายคนนี้และแม่บ้านที่ตามมาด้วยอีกคน
“เดี๋ยวซีขับรถพี่ไปส่งกัสกับเค้กก็แล้วกันนะ พี่คงนอนบ้านอาแหละ” พี่เซ็นหันไปยื่นกุญแจรถของตัวเองให้กับพี่ซี พี่ซีพยักหน้าตอบ
“ออฟเอารถมาใช่ไหม” พี่เซ็นถาม
“ครับ” พี่ออฟตอบ
“ไปครับอา กลับไปพักผ่อนกันเถอะ” พี่เซ็นยิ้มให้พี่ฟ้า ผมเหลือบดูที่นาฬิกาข้อมือ เวลาบอกเกือบจะสองทุ่มแล้ว
“ผมกลับนะครับพี่พิม ฝากด้วย” พี่ฟ้าหันกลับมาบอกแม่ของพี่คิว
“จ้ะ ขอบคุณฟ้ามากเลยนะ..ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” แม่คิวบอก น้ำตาคลอ พี่ฟ้าเพียงแค่ยิ้มตอบก่อนจะเดินออกห้องไปพร้อมกับพี่เซ็น
“ลานะครับ” พวกผมพูดขึ้นพร้อมกันและยกมือไหว้แม่ของพี่คิว น้องสาวของพี่คิวรีบยกมือไหว้พวกผมด้วยเช่นกัน
“จ้ะ เดินทางปลอดภัยกันนะลูกนะ..ขอบใจหนูมากนะลูก” แม่พี่คิวเดินเข้ามาหาผมและมาลูบแขนผมเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยินดี” ผมยิ้มให้เธอ
“จ้ะ..ขอบคุณนะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ” แม่พี่คิวยิ้มทั้งน้ำตา พวกผมก้มหัวให้แม่ของพี่คิวอีกครั้ง
พี่ซีขับรถไปส่งผมและพี่กัส ส่วนพี่ออฟต้องไปหากิ๊กต่อ พี่หมีโทรหาพวกเราหลังจากนั้น พี่กัสได้อธิบายทุกอย่างให้พี่หมีฟังถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากนัก แต่ก็พอจะเดาๆกันได้ว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร..
~ไม่อยากจะเชื่อ ว่าเชฟเถื่อน..จะแพ้กระสุนกับเขาก็เป็น TOT~
..................>>>><<<<.................
-
คนแรกๆๆๆ
-
โหววววววววววววววววววววว ไอ้น้องบี้
เขียนตอนนี้สุดยอดเลยว่ะ พี่หกเก้านึกว่ากำลังดูวิกหลายสี อินดราม่าจนน้ำตาคลอแล้วเนี่ย
สงสารอาฟ้าที่สุด นี่แหละน๊าที่เค้าว่าคับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก เงินทองของนอกกาย ความรัก ความอบอุ่น ของครอบครัวสำคัญที่สุด
ขอบคุณไอ้น้องบี้ เขียนตอนนี้ได้ดีจริงๆ ขอย้ำอีกครั้ง +++
:กอด1:
-
:z2: :z2: :z2:
----------------------------
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
เป็นตอนที่ยาวมากกกกกกกกกก และต้องอ่านโดยละเอียดทีเดียว
ลำดับญาติกันให้ถูกต้อง พี่คิวมีเลือดน้องเค้กอยู่ในตัวแล้ว
หวังว่าเรื่องราวต่าง ๆ จะผ่านพ้นไปด้วยดี สักที
อาฟ้าร่ายยาวได้ใจจริง ๆ คนอ่านก็เข้าใจไปด้วยว่าครอบครัวนี้ยุ่งเหยิงมากเลย :L1:
-
ตอนนี้สุดยอดมากครับ
คุ้มค่ามากๆๆครับ
-
แหม๋ หนูเค้กเชฟนะไม่ใช่คนเหล็ก อิอิ เค้กเข้าไปรับรู้เรื่องราวในชีวิตของพี่คิวมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ
แล้วเมื่อไหร่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตพี่คิวล่ะจ๊ะ^^
-
แงๆๆๆ คิวอย่าเป็นอะไรนะ อยากให้เค้กมาเฝ้าคิวจัง
-
ดึงอารมณ์สุด ๆ ตอนนี้
ดราม่าได้อีก สงสารอาฟ้า
-
พี่คิวถูกยิงอ้ะ อ๊ากกกกกก
:m31: :m31:
-
สงสารพี่คิว พี่ฟ้าจังเลย
พี่คิวได้เลือดจากเค้กไปด้วย อิอิ
มารอตอนต่อไปครับ
-
โถ หนูเค้ก
มีใครชนะกระสุนมั่งล่ะ :เฮ้อ:
สุดที่รักปลอดภัยแล้วซิ ถึงคิดแบบนี้ออกมาได้น่ะ :angry2:
-
พี่คิวโดนยิง พี่คิวโดนยิง พี่คิวโดนยิง
กรี๊ดดดด เเง เเง เเง
เศร้าอะ น่าสงสารพี่คิว
เลวจริงๆ สงกรานต์
อยากอ่านต่อ
-
โห ดราม่ามากอ่ะตอนนี้
-
ครอบครัวนี้ มันคืออะไรกันเนี้ย
สงสารพี่ฟ้าจังเลยT____T
-
...เบบี๊ เขียนดีมาก อินไปกับอารมณ์ เสียใจของพี่ฟ้า น้ำตาซึมกันเลยทีเดี่ยว
...ครอบครัวใหญ่เนอะ ลำดับญาติกัน ไม่ค่อยถูก ซีนนี้เค๊ก เป็นพระเอกนะนี่ :laugh:
-
ดราม่ายกตระกูล :laugh:
:กอด1:
-
มาม่า+ชีวิตสุดๆ o13
-
ฮือๆพี่คิวหายไวไวนะ<3
-
คำสุดท้ายของเค้กมันกินใจจริงๆ กร๊ากกกกกกกกกก o18
-
ครอบครัวที่คิวนี่มันยังไงๆ นะ
สงสารพี่ฟ้าอ่า พี่คิวไม่เป็นไรเน้อ~
ได้เลือดเค้กไปอยู่ในตัวด้วย อิอิ :o8:
-
บ้านน่ากลัวเกิ๊น
ยิ่งบ้านลุงนี่ไม่รู้ว่ายังไงกันแน่ ทั้งเมียทั้งลูก - -"
เข้าใจเลยว่าทำไมเกลียดบ้าน
-
พี่คิวโดนยิง :sad4:
ครอบครัวนี้ใหญ่มาก เรียงลำดับญาติกันไม่ถูกเลย
จำชื่อได้ แต่ใครเป็นใครบ้างก็ไม่รู้แล้ว อิอิ
ทำไมตอนนี้เค้กเหมือนไม่ค่อยเศร้าอ่า
พี่ฟ้า สุดยอด เป็นอาในดวงใจเลย ปลื้ม!!!
ขอบคุณเบบี้มากค่า อ่านแล้วอินมากๆ :กอด1:
-
งะ คิวหายไวๆนะ
-
อ่านแล้วน้ำตาไหลตามอาฟ้าไปด้วย แหะๆ
-
ดราม่าอย่าชีวิตจริง TT
ตระกูลนี้ช่าง... >< โลกนี้ไม่มีอะไรพอดีซักอย่าง
อ่านแล้วสงสารอาหลานคู่นี้มาก ตอนที่สองคนนี้อยู่ในบ้านใหญ่คง :เฮ้อ:
พี่ฟ้าก็เข้มแข็งมากเลยน้า เลี้ยงหลานได้ดีขนาดนี้ :กอด1:
พี่คิวพี่ฟ้าสู้สู้ ตอนนี้พี่คิวมีเลือดน้องเค้กอยู่ด้วยเพราะฉะนั้นต้องหายไวไวเลยนะ ^^
-
สงสารพี่ฟ้าพี่คิว
ขอบคุณนะเบบี้
-
เงินทองไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
ครอบครัวพี่คิววุ่นวายได้อีก ตระกูลคนรวยมักจะเป็นแบบนี้ซินะ เหอๆ
ขอให้พี่คิวหายไวๆ กลับมาปะทะฝีปากกับน้องเค้กได้ในเร็ววัน
ปล.และแล้ว เลือดน้องเค้กก็ได้ไปไหลเวียนในตัวพี่คิว ฮิ้วววว :-[
-
กรรมของคนรวย
-
เค้กออก คิวเข้าแทน แง่มมมมมมมมม
-
มรดกเลือดจริง ๆ ด้วย ถึงขั้นจะเอากันให้ตายกันเลย
แต่คนที่ซวยกลับเป็นพี่คิว แต่ถ้าไม่ใช่คิวก็เป็นฟ้าอยู่ดี :เฮ้อ:
:pig4: คะ
-
พี่คิวววววววววววววววววววววว
-
พี่คิวหายไวๆนะค่ะ
สงสัยต้องส่งคนเฝ้าไข้คนพิเศษไปแล้วแหละ
จะได้หายไวๆ >////<
-
งงมาก มาไวไปไว
:really2: :really2: :really2: :really2: :really2:
-
พี่คิวหายเร็วๆเน้อออ
-
ฮึก! พี่คิว พี่ฟ้าT^T
ดราม่ามากเลยค่ะเบบี้ :monkeysad:
-
หม้อมาม่าระเบิด :ped151: ว้าวๆๆๆๆๆ เลือดเค้กเข้าไปอยู่ในตัวคิวแล้ว อิอิ หวานอะ เอิ๊กๆๆๆๆ :laugh:
-
คนที่มันไม่เคยพอ
ต่อให้มีมากเท่าไหร่
ก็ไม่เคยพอ
-
รวยมาก ปัญหามาก ความโลภทำให้ผิดเป็นถูก
+1
-
คนนะไม่ใช่แวมไพท์นะเบบี้ จะได้ไม่กลัวกระสุน
-
สงสารพี่ฟ้ากับพี่คิว
ฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ข่าวปู่จะช็อคอีกมั๊ยเนี่ยพี่คิว :monkeysad:
-
ดราม่าสุดๆเลยตอนนี้
สงสารพี่ฟ้า :sad11:
-
สงสารพี่ฟ้ากับพี่คิวจัง อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาจะไหล :sad4:
น้องเค้กให้เลือดพี่คิวด้วย หวังว่าความน่ารักในเลือดของเค้ก
จะช่วยให้พี่คิวน่ารักขึ้นอีกสิบล้านเท่านะคะ :o9:
ปล.ถึงพี่คิวจะเป็นเชพเถื่อน แต่พี่เขาก้เป็นคนนะลูก ฉะนั้นปืนมันก้ยิงเข้าค่ะ :try2:
:กอด1:เบบี้ค่ะ
-
ใครว่ารวยแล้วมีความสุข
พี่น้องต้องมาฆ่าฟันกันเอง
สงสารพี่ฟ้า :o12: ซดมาม่าโฮกกก :z3:
:กอด1: น้องเบบี้
-
ไม่อยากจะเชื่อ ว่าเชฟเถื่อน..จะแพ้กระสุนกับเขาก็เป็น TOT
ชอบประโยคนี้ กดไลค์ยิกๆ :a11: :a11: :a11:
-
อือออ สงสารพี่ฟ้าจังเลย ยิ่งอ่อนไหวอยู่ด้วย
อ่านไปน้ำตาคลอไป สุดยอดจริงๆค่ะคุณเบบี้
รู้สึกว่าพี่ฟ้าช่างเปราะบางและน่าสงสารจัง
และนับว่าเข้มแข็งมากๆเลยกับสิ่งที่ผ่านมา
อะไรก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับไม่ได้รับการยอมรับ
โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว มันเจ็บปวดนะ
อ่านตอนนี้แล้วรักพี่ฟ้ามากๆๆๆๆขึ้นกว่าเดิมอีก
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
:L2: :L2: พี่คิวสู้ๆ
-
:a5: พี่คิวโดนยิง
:เฮ้อ: ดีนะที่ไม่เป็นไีรมาก
:o12: พี่ฟ้าของเค้าร้องไห้เลยอ่ะ
:z6: ใจร้ายๆๆๆๆๆ ไอ้หลานบ้าๆๆๆๆ จะยิงพี่ฟ้าของเค้าได้ไง ดีนะที่พี่คิวมาบังไว้ ไม่งั้นนะ :m16: ไอ้สงกรานต์แก... :pigangry2:
-
โอยยยยยยยยยยยย เกร็งจ้าาา
ลุ้นมากมายอะตอนนี้ อ่านไปเกร็งแขนไป = ='
สงสารพี่ฟ้าจัง เห้อออ
พี่คิวฟื้นเร็วๆสิ!!
-
ตั้งแต่อ่านมา ตอนนี้ใช้เวลาอ่านนานมากกกกกกก
เพราะมัวแต่ลำดับญาติพี่คิว...
พี่คิวมีเลือดน้องเค้กไหลวนในร่างกายแล้วน๊า...
ต่อไปอย่าแกล้งน้องนักล่ะ (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย เหอๆ)
-
T.T kropkrua konruai kor lambaak nor...
-
โอ้ย
สงสารคิว
หายไวไวนะ
สงสารอาฟ้าด้วย
ตื้บมันเลยอีกพวกคุณลุงเนี่ย
-
ครอบครัวใหญ่จริงๆ ตัวละครมากมาย ทำให้ต้องอ่านอย่างตั้งใจ ชีวิตครอบครัวคนรวยแบบนี้ ราวกับย้อนไปดูละครไทยเรื่อง วงศาคณาญาติ สมัยก่อน อิอิ //ตอนนี้พี่ฟ้าคะแนนนำ :m15: ขอบคุณเบบี้นะค้าบบบ :L2:
-
เข้มข้น o13
-
น่าสงสารพี่คิวนะ โดนยิงซะงั้น
บ้านที่พี่น้องไม่รักกันนี่วุ่นวายเนอะ (ชีวิตจริงคนอ่านก็น้องๆตอนนี้เลยค่ะ - -)
-
อะไรกันนี่ เกิดเรื่องราวร้ายแรงมากมาย
แม้ฝนจะไม่ได้ตั้งเค้าทะมึนมากนัก แต่เหตุการณ์ชักจะไปกันใหญ่
แต่ดูเหมือนจะคลี่คลายแล้วใช่ไหม
-
เงินตัวเดียว สายเลือดไม่เกี่ยวเว้ย!!!
-
ตอนนี้เข้มข้นมากอะ
เรื่องกะลังดำเนินไปแบบต้องติดตามอย่างไม่ให้คลาดสายตา 555555
ขอให้พี่คิวหายไวไวนะจ๊ะ อยากจะบอกให้รู้ว่าตอนนี้พี่คิวมีเลือดน้องเค้กอยู่ในตัวแล้วนะ :กอด1:
-
พรหมลิขิตแท้ๆ เขาคงอยากให้ผูกพันธ์กันละมั้ง คิวต้องตอบแทนน้องเค้กนะ รีบฟื้นขึ้นเถียงกันเร็วๆนะ :impress3:
-
ตอนนี้ลุ้นมากลุ้นจนปวดตับเลย ไอ้ลุงของพี่คิวนี่เป็นหมันเหรอถึงไปเอาผู้หญิงที่มีลุกติดมาก่อความวุ่นวายให้กับครอลครัวตัวเอง
-
น้องเค้ก...พี่คิวก็เป็นคนนะลูก โดนยิงก้ตองแพ้กระสุนเป็นธรรมดาสิ :z3:
ถ้าฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเลือดของน้องเค้กไหลอยู่ในตัวของตัวเอง พี่คิวจะเป็นไงน้อ :z1:
พี่คิวหายเร็วๆน้า :sad4:
-
กรี๊ดดดดตัวพี่คิวมีเลือดน้องเค้ก :z2:
-
อ่านตอนนี้อย่างกะดูหนังจีนเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ดุเดือดกันจริงๆ
พี่คิวโดนยิง แล้วคุณปู่เสียด้วยนี่สิ :sad4:
พี่คิวรักคุณปู่มากไม่ใช่เหรอ
น่าสงสาร
-
เอ่ออ.. พี่คิวก็คนนะฟ้า ไม่ใช่จะหนังหนากันกระสุน ฮ่าๆๆ
ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ อะไรจะเปลี่ยนไปบ้างน๊อ
-
ลูกกระสุนนะพี่บี้ ไม่ใช่กุ้ง
ถ้าชนะก็มหาอุตม์แล้วหล่ะ
-
โอ้ว ตอนนี้น่าตกใจมาก ดราม่าสุดๆ พี่ฟ้ากับพี่คิว น่าสงสาร T T
-
ตอนนี้เครียดมากค่ะ เปิดเรื่องมาพี่คิวก็โดนยิงเลย เราถึงกับช็อก ฮ่าๆ
อ่านไปน้ำตาพาลจะไหลไป เพราะสงสารพี่ฟ้า
รอตอนต่อไปค่ะ ตอนหน้าจะเครียดอีกรึเปล่าน้า
-
อะไรกันเนี่ยครอบครัวนี้
ดูวุ่นวายมากกก
สงสารพี่ฟ้า
ทิกเกอร์อยู่ไหนมาปลอบด่วนนน ><
-
ใจหายใจคว่ำ อ่านไปลุ้นไปจริง ๆ :เฮ้อ:
คุณแม่พี่ฟ้าเข้มแข็งจริง ๆ แล้วพี่คิวฟื้นแล้วรู้เรื่องปู่ จะเป็นยังไงนะ เค้กดูแลพี่คิวด้วยนะ
พี่ฟ้าสู้ ๆ :L2:
-
บ้านพี่คิวดราม่ามากว่ะ
โฮววว คนรวยเค้าก็กดดันในแบบของเค้าอ่ะนะ
มีเงินมากไปก็เงี้ยแหละ
แล้วคิวเลยซวยเลยอ่ะ
แต่ว่าน้องเค้กให้เลือดได้
มันโรแมนติกเบาๆ ตรงนี้ !!
-
ถ้ารวยแล้วจะแย่งสมบัติกันขนาดนี้ ขอพอมีพอกินครอบครัวอบอุ่นดีกว่า
ส่วนพี่คิวก็รีบฟื้นเร็วๆนะ เป็นหนี้บุญคุณเค้กแล้วนะเนี่ย ดีๆกับน้องหน่อยเน้อ
-
ตอนนี้สอนให้รู้ว่า ต่อให้มีเงินทองมากมายแค่ไหนสิ่งนึงที่ไม่สามารถซื้อได้นั่นก็คือ "ความสุข"
-
พี่คิวมีเลือดน้องเค้กอยู่ในตัว!!!!!
5555
รวยเกินก็ลำบากต่อการดำรงชีวิตเนอะ
-
ตัวละครเยอะจริง ต้องตั้งใจอ่านมากเพราะแก่แล้ว 555 :เฮ้อ:
งานนี้ถ้าพี่คิวรู้ว่าได้รับเลือดจากเค้ก จะรู้สึกยังไงหนอ หึหึ
-
ซึ้งอ่ะ :o12: คิวหายไวๆนะ :กอด1:
-
ครอบครัวดราม่า...ฟ้าน่าสงสาร :monkeysad:
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าโชคดีที่เกิดมาจนเลยอ่ะ
o18
-
อิตาสงกรานต์นี่โหดมาก กล้าฆ่าอาและญาติของตัวเอง คุณแม่ของพี่ฟ้าเป็นหญิงแกร่งจริงๆ มีสติ ควบคุมและจัดการกับเหตุการณ์ทั้งหมดได้ดีเลย
น้องเค้กจ้ะ เชฟคิวไม่ได้เป็นมนุษย์เหล็กนะน้อง
-
พี่คิวอย่าเป็นอะไรน้า :monkeysad:
-
เฮ้อ ตอนนี้ดราม่า :เฮ้อ:
อ่านแล้ว สงสารพี่ฟ้า อ่ะ
ปัญหาครอบครัวนี่เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากเลย
หวังว่าทุกอย่างคงเป็นไปด้วยดีแล้วนะ
คราวนี้พี่คิวสิ้นฤทธิ์ชั่วคราว
แบบว่าแพ้ลูกกระสุน อย่างที่เค้กบอก5555
รออ่านอยู่นะจร้าาาาา :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
กำลังซึ้งๆเลยอะ o18
เจอประโยคสุดท้ายไป :m20: :laugh:
-
สงสารพี่คิวจัง...ถ้าตื่นมารับรู้เรื่องทุกอย่างต้องเสียใจมากแน่ๆ
ที่น่าสงสารสุดคงเป็นพี่ฟ้า....เหมือนต้องแบกรับความเสียใจทุกด้านเลย ทิกเกอร์อยู่หนายยยยยยย TT
-
พี่ฟ้า :กอด1: :กอด1:
-
อยากรู้ว่าตอนต่อไปพี่คิวจะเป็นยังไงนะ หากรู้ว่าน้องเค้กช่วยชีวิต??
-
o13 o13
เบบี้เยี่ยมยอดที่สุดเลยเก่งอ่ะ
ขอให้พี่คิวหายไว ไวนะ
-
ตัวละครเริ่มเยอะ มึนกับการลำดับญาติ
-
คนในครอบครัวมีปัญหาขนาดต้องฆ่าแกงกันนี่มันน่าหดหู่จริง หวังว่าคิวคงไม่เป็นไรมากนะ
-
:) หายไว ๆ น่ะ มาต่อเ็ร็ว ๆ ด้วย อิอิ o13
-
พี่คิวหายเร็วๆนะ
สงสารอาฟ้าอ่าาาา
ขอให้ครอบครัวพี่คิวดีขึ้นเถอะนะ :call:
-
คิวเอาคืนแน่ๆ งานนี้...
ชอบเบบี้แต่งซีนอารมณ์ แบบเจ็บปวด เสียใจมากๆ ยิ่งเกี่ยวกับครอบครัวแล้วมันอินสุดๆ ไปเลย
:pig4: :กอด1:
-
พี่คิวหายไวๆนะ :impress3:
ตระกูลนี้มันอะไรกันเนี๊ยยยยย
-
อ๊ากกกกกกก เหตุการณ์รุนแรงซะได้ หวังว่าจากนี้เรื่องร้ายๆมันคงจะผ่านไปซะทีนะ เพราะมันไม่ได้มีผลดีเลย มันทำให้มีแต่ผลเสีย เห้อ ถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลย รวยมากก็ไม่ดี ทำให้พี่น้องไม่รักกัน พี่คิวหวังว่าจะฟื้นขึ้นมาเร็วๆนะ ตอนนี้เลือดในตัวของพี่คิวก็มีเลือดของเค้กอยู่ครึ่งนึง อ๊ายย เพราะฉะนั้นพี่คิวต้องรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ให้ดีรู้มั้ยยยย เห้อ สงสารพี่ฟ้าอ่ะ น้ำตานองหน้าเลย ขอให้เรื่องร้ายๆจบลงเท่านี้ละกัน
-
โพ พึ่งเข้าเว้บมา :z3:
พี่บี้อัพเช้าจังงง!!!
พี่คิวหายไวนะๆ :monkeysad:
-
สงสารครอบครัวพี่ฟ้าอ่ะ สงสารทุกคนในตอนนี้เลย ขอให้พี่คิวหายไวๆน่ะ อยากฟังพี่คิวบอกรักเค้กไวๆ ^^
-
นํ้าตาคลอเลยยยย......สงสารพี่ฟ้าาาาาาาา :o12: :o12: :o12:
พี่คิวสู้ๆนะ....เดี๋วก็หายยย :monkeysad: :monkeysad:
เบบี้สุดยอดดดดดดดดดดด o13 o13 o13
-
เข้มข้นมาก ถึงพี่คิวปลอดภัย แต่ก็สูญเสียคุณปู่จนได้ :m15:
ถ้าไม่มีน้องเค้ก พี่คิวก็คงแย่เหมือนกัน
ว่าแต่ ตอนต่อไปจะเป็นบทพยาบาลหนุ่มน้อยดูแลเชฟเถื่อนป่าวน้อ~~
-
แอบงงกับบรรดาเครือญาติของคิว
-
จะร้องไห้ตามพี่ฟ้าแล้วอะ :m15:
แต่แอบตลกเค้ก "~ไม่อยากจะเชื่อ ว่าเชฟเถื่อน..จะแพ้กระสุนกับเขาก็เป็น TOT~" :laugh:
-
คิว ตื่น มาฆ่า ไอ้สงกรานต์ ทิ้ง แม่งเลย
-
ให้เลือดกันด้วย
กรี้ดดดดดดดดดดด
-
โอ้ววว ถ้าเป็นละครทีวี ตอนนี้ไม่เห็นหน้าพระเอกสักแว่บเลยอะ
แต่รู้จักครอบครัว รู้ปูมหลังพระเอกเยอะเลย
เบบี้เดินเรื่องเร็วดีจัง
อ่านสนุก ไม่อยากให้จบเลย
แต่ก็อยากรู้ว่า คิวกะเค้กจะลงเอยอย่างไง
ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อให้เรื่อย ๆ จ้า
-
โอ้วกอทททททท ปมเรื่องครอบครัววเพลียดีจริงๆเลยค่ะ
ตอนนี้มาแบบหน่วงๆ อึ้งๆ พี่คิวถูกยิงซะงั้นน เฮ่ออ หายไวไวนะค่ะ
น่าสงสารครอบครัวนี้จัง
ทีนี้จะเป็นยังไงต่อเนี่ย
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ รอตอนหน้า ยะฮู้~ :L1: :3123:
-
ไฮไลท์ พี่ฟ้า ขีดเส้นใต้ตัวโตๆเลยสำหรับตอนนี้
ชีวิตคนรวยๆนี่สุดหน่วง สงสารพี่ฟ้า สารภาพว่าคนอ่านถึงขั้นหลั่งน้ำตา T.T
เบบี้สุดยอดมากๆ สนใจย้ายหมวดนิยายรักกุ๊กกิ๊กไปแนวมาม่าขลุกขลิกมั๊ย
ปล. พี่คิว สูบเลือดน้องเค้าไปแล้ว ฟื้นขึ้นมาก็อย่าลืมรับผิดชอบชีวิตเค้าด้วยล่ะ 555+ :laugh: :laugh:
-
ตอนนี้ดราม่าสะเทือนตับมากกกก T-T
น่าสงสารพี่ฟ้ากับพี่คิวนะ ที่มีครอบครัวใหญ่แต่กลับไม่มีความอบอุ่น
เพราะความอยากได้อยากมีสุดท้ายก็มีแต่สูญเสีย
มีเงินแต่ไม่มีครอบครัวไม่มีคนที่รักอยู่ข้าง ๆ น่าเศร้าใจ
จับไอ้สงกรานต์มากระทืบซักทีแล้วให้นอนเล่นในคุกไปนาน ๆ เลยนะ
ถึงเวลาน้องเค้กจะได้ดูแลพี่คิวบ้างแล้วนะ ^^
-
เป็นตระกูลที่.......... =0=
พี่ฟ้าาา... ร้องไห้กอดพี่ฟ้า.... น่าสงสารสุดแล้วจริงๆ ฮื่ออออออออออ
แล้วน้องเค้ก ได้ให้เลือดพี่คิวเค้าไปแล้วนะ ฮื้ววววววววว (ยังมีอารมณ์มาแซว กร๊าก)
ตื่นเต้นอ่า ..รอเค้กอิ๊อ๊ะกับพี่คิวนะเบบี้จ๋าาา ><
-
มาม่าอะ ขอให้พี่คิวหายไวๆ นะะะะะะ
ตระกูลนี้ น่ากลัวจิงๆๆ รวยเเล้วไม่มีความสุขเลย :เฮ้อ:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ลำดับญาติของพี่คิวไม่ถูกเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
ตอนนี้เลยอดเห็นพี่คิวกวนเลยอ่ะ ตอนที่แล้วลุ้นซะ :laugh:
พี่คิวเงียบเลยตอนนี้ ขอให้พี่คิวหายไวๆ
รออ่านตอนต่อไปค่าาา :pig4:
-
T^T เศร้าง่ะ :o12:
-
ยังดีที่พี่คิวไม่เป็นอะไรมากแล้ว :เฮ้อ:
-
บทแรง ลุ้นเหนื่อย :เฮ้อ:
+1 เป็นกำลังใจให้เบบี้ :กอด1:
-
สงสารพี่ฟ้า ทั้งเสียขวัญ และสูญเสียคนสำคัญไปพร้อมๆกัน ดีแล้วที่พี่คิวไม่เป็นไร ไม่งั้นพี่ฟ้าอาจสติแตกได้
-
:sad4: ตอนนี้มันเศร้าไปนะคะ
แต่ชอบเบบี้บรรยายเกี่ยวกับครอบครัวของพี่ฟ้า และพี่คิวมากๆ ปกติเรื่องญาติอะไรเนี่ย
บางคนเล่าแล้วเข้าใจยากใช่มั๊ยมันจะงงๆ
แต่ เบบี้อธิบายผ่านเรื่องราวจากความคิดของน้องเค้ก
ทำให้เข้าใจลำดับญาติของครอบครัวพี่ฟ้าและพี่คิว ได้ง่ายและดีมากๆค่ะ
-
อ่านตอนนี้แล้วอินจัง
-
ขอให้คิวหายไวไว :L2:
-
มาต่ออีกนะครับ มาเร็วๆ ด้วย 555 ใจจะขาดและไม่ได้อ่าน
-
อ่านวันเดียวจบ ชอบพี่คิวมากๆๆ
ยังไงรอติดตามตอนต่อไปนะคะ ^_^
-
เข้ามารอตอนต่อไปค่า แฮะๆ อยากอ่านต่อออ :o8: :o8:
-
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีตัวละครเยอะในบทเดียวกัน
แล้วยังเขียนออกมาโดยอ่านแล้วไม่งง
สามารถลำดับตัวละคร ว่าใครเป็นใครได้เลย
ไม่ต้องอ่านซ้ำ วนไปวนมาหลายรอบ
แต่งเก่งมากเลยครับ o13 o13
:กอด1:
-
เงินทองไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ด้วยซินะ สงกรานต์เลวมากอ่ะ สงสารพี่ฟ้าอ่ะ เสียน้ำตาเป็นปี๊ปๆ เลย ชอบตอนคำพูดสุดท้ายที่บอกว่า "เชฟเถื่อนก็แพ้กระสุนกับเขาเป็นเหมือนกัน" ฮ่า น่ารักดี รอตอนต่อไปนะ ^^
-
อยู่แบบพอมีพอกินเหมือนบ้านเค้กยังดีกว่าไปรบกันบนกองเงินกองทองเหมือนบ้านนั้นเยอะเลย
ตอนแรกว่าจะสั่งสปาเกตตี้ เปลี่ยนใจสั่งกะเพราหมูกรอบดีกว่า
-
หายไวไวนะพี่คิว :กอด1:
-
อิสงกรานต์ :z6:
มาทำพี่คิวของชั้น :m16:
ให้น้องเค้กมาเฝ้าน้า :impress2:
:pig4: ค่ะคุณเบบี้
-
น้องเค้ก พี่คิว รักซึมลึก
ขอให้พี่คิวหายไวๆ นะคะ :L2:
-
มาต่อเร็วๆน่ะ อยากเหนพี่คิวหายไวๆซักที
-
มาต่อเร็วๆ นะพี่เบบี้ รออยู่จ้า
-
ตอนนี้ตัวละครเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นใครเลยยย
พระเอกเราไม่ได้โผล่ซักนิดเดียว อิอิ
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เศร้า ...
ตัวละครสุดยอด นับถือเบบี้ คนนั้นคนโน้นคนนี้ o13
ขอ :z6: คนที่ยิงที่คิว
-
พวกเรามาช่วยกันรุมกระทืบ :z6:บักสงกรานต์กันโทษฐานทำพี่คิวของน้องเค้กเจ็บ
-
พี่คิวววว :o12:
ครอบครัวนี้ดราม่ากันจริงๆ
สงสารพี่ฟ้า :z3:
รอตอนหน้านะคะเบบี้ :z2:
-
คิวหายไวไวน๊า
-
เอาละเรื่องราวเริ่มตื่นเต้นขึ้นมากทุกวันแล้ว เอาใจช่วย สู้ๆๆคิวเค้ก :L1:
-
สงสารพี่ฟ้าอะ พี่คิวหายเร็วๆน๊า
-
โอ้แม่เจ้า..
คือมันเป็นอะไรที่ดราม่ามาก อ่านแล้วอ่านอีกเพราะยังอึ้งอยู่ 555555555 *อีนี่บ้า*
พี่บี้สุดยอดมาก!!!! o13
-
พี่คิวววววววววววว :sad4: ตื่นมาปากเสียไว ๆ เลย
ตอนนี้มีเลือดเค้กอยู่ในตัวแล้ว :laugh: พี่หนีเค้กไม่พ้นแล้ว :haun4:
-
:z3:ใครยิงพี่คิวอ่ะ เป็นห่วงจัง เค้กจะอยู่นอนเฝ้าพี่คิวอ่ะเปล่าน้อ
-
แวะเข้ามา ดัน ดัน ดัน :z2:
-
~35~
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“วันนี้หลังเลิกงานเค้กจะไปเยี่ยมพี่คิวกับพวกพี่ไหม” พี่กัสถามขึ้น
“พี่คิว ฟื้นแล้วเหรอครับ” ผมถามกลับทันทีด้วยรู้สึกแปลกใจ
“อือ เห็นว่าฟื้นเมื่อตอนเที่ยงน่ะ..อาการไม่แย่อย่างที่คิดด้วย พี่คิวนี่..อึดเป็นบ้าเลยเนอะ” พี่กัสยิ้มอย่างเหลือเชื่อ ผมเงียบอย่างใช้ความคิด ผมอยากไปเยี่ยมนะครับแต่วันนี้ผมเลิกดึก ถ้าผมไปเยี่ยมพี่คิวผมอาจจะต้องกลับบ้านดึกมากๆแน่ๆ วันนี้เลิกงานสองทุ่มและกว่าจะไปถึงโรงพยาบาลและกว่าจะได้กลับบ้านคงสี่ห้าทุ่มกันพอดี
“ทำไมเหรอ” พี่กัสถามด้วยหน้าตาสงสัย
“เปล่าหรอกครับ แต่เค้กคงกลับดึกมากไม่ได้..กลัวไม่มีรถ รถติดด้วย” ผมบอกไปอย่างคิดหนัก
“ไม่เป็นไร วันนี้พี่เอารถมา..เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” พี่กัสบอก
“เอ่อ เค้ก..เกรงใจ” ผมยิ้มแหย
“ไปเถอะน่า กลับทางเดียวกันอยู่แล้ว..เผื่อว่าพี่คิวอาจจะอยากเจอหน้าเค้กก็ได้นา” พี่กัสเลิกคิ้วอย่างกับเด็ก
“หึหึ..พี่กัสพูดอะไรครับ” ผมบ่นไปอย่างนั้นก่อนหันไปเช็ดจานต่อ
“กัสพูดถูกนะ อิอิ..” พี่ซีเสริม
“เห็นสนิทกันดีจังเลยหนิ เนอะๆ” พี่ซีหันไปหาแนวร่วมกับพี่กัสด้วยอีกทาง
“อืม..เห็นท่าจะอย่างนั้น” ผมหันไปมองตามเสียงพูดจากด้านหลัง พี่หมีมายืนเกาะเคาร์เตอร์อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ
“พี่หมีครับ” ผมทำน้ำเสียงเอือมกับสีหน้าของพี่หมี
“เปล่า..พี่ก็แค่ เห็นด้วยกับกัสและซีเท่านั้นเอง” พี่หมีเบะปากส่งๆ
“อาจจะอยากเห็นหน้าเค้กมากกว่าหน้าพวกพี่ก็เป็นได้” พี่หมีพูดไม่หยุด ผมยืนอึ้งกับคำพูดที่เข้ากันดีเหลือเกินของพวกพี่เขา
“หูแดงอ่ะ ฮ่าๆๆ” พี่ซีหัวเราะและมือชี้มาที่หูของผม ผมตกใจ รีบเอามือจับหูตัวเองโดยอัตโนมัติ
“บ้า..พี่ซีอ่ะ” ผมร้อง มือปิดหูของตัวเองไว้แน่นทั้งสองมือ
“หึ..” ผมได้ยินเสียงพี่หมีแสยะหัวเราะ เป็นน้ำเสียงแสยะหัวเราะเพียงในลำคอเท่านั้น
“ไม่คุยด้วยแล้ว จะทำงานครับ..พวกพี่ก็ควรจะทำงานด้วยเหมือนกันนะครับ” ผมบ่นไปอย่างนั้นเอง แล้วรีบเดินหนีเข้าห้องครัวเพราะไม่มีที่จะให้ผมหลบนอกจากตรงนี้อ่ะครับ
~หูแดง แง่ง..แดงจริงๆเหรอ~
= = = = = = = =
ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ..
พวกผมมาถึงโรงพยาบาลตอนตกหัวค่ำ พี่ฟ้ามาเฝ้าหลานตัวเองตั้งแต่เย็นแล้ว วันนี้เห็นพี่ฟ้าบอกว่าจะอยู่นอนเฝ้าพี่คิวด้วยตัวเองเพราะอยากให้แม่พี่คิวกับป้าแม่บ้านไปพักผ่อน แต่เห็นว่าทั้งพี่ฟ้าและพี่เซ็นจะวุ่นๆอยู่กับงานศพของพ่อพี่ฟ้าด้วยเช่นกัน จึงเป็นการเฝ้าไข้ที่แลดูจะวุ่นวายอยู่ไม่น้อย
“สวัสดีค้าบ” พวกผมประสานเสียงยกมือไหว้พี่คิวพร้อมกัน คนบนเตียงหันมามองด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนที่จะเหลือบมองพวกผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ดูร่าเริงกันดีนี่” พี่คิวพูดเสียงแหบเครือเหมือนต้องการจะประชดประชัน
“พี่ก็ดูแย่ดีนะครับ” พี่หมีทักกลับ
“หึ..ไอ้ปากหมี” พี่คิวว่าลอยๆ
“หึหึ..” พวกเราหัวเราะ
“เป็นไงบ้างครับพี่คิว เจ็บแผลรึเปล่า แล้ว..แล้วต้องเอาไหมออกเมื่อไหร่ฮะ แล้วมันแบบหน่วงๆไหมอ่ะ” พี่กัสปรี่เข้าไปหาพี่คิว ถามนู่นถามนี่ไม่หยุด
“ยุ่งอะไรเนี้ยเตี้ย” พี่เซ็นเข้าไปแทรกกลาง
“ไปกัดกันสองคนไป รำคาญจริง” พี่คิวบ่นคิ้วขมวด
“ง่ะ..” พี่กัสทำหน้าเบ้
“เพราะพี่เลย” พี่กัสว่าพี่เซ็น
“เพราะตัวเองนั่นแหละ” พี่เซ็นย้อน พี่กัสเดินหนีไปนั่งลงที่ข้างๆพี่ฟ้า ผมเดินไปนั่งอย่างเงียบๆลงที่โซฟาอีกด้าน พี่คิวเหลือบหางตามาที่ผมเล็กน้อย ผมมองตอบแต่ก็ต้องกลอกตาไปมาเพราะไม่กล้ามองตาพี่เขานานไปมากกว่านี้
“จุ๊ๆๆๆ” ผมหันไปมองพี่ออฟ พี่เขาลอยหน้าลอยตาจุปากทำไมไม่ทราบทำให้พวกเราทั้งหมดเงียบไปครู่หนึ่ง
“ดูทีวีดีก่า” พี่ซีพูดโผลงขึ้นพร้อมกดเปิดโทรทัศน์
“หิวน้ำจัง” พี่กัสพูดบ่นเสียงดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“กัสอยากกินชาเขียว”
“แล้วเมื่อกี้ทำไมไม่ซื้อมาล่ะ” พี่เซ็นว่า พี่กัสหันไปค้อนหน้างอ
“ไปซื้อกัน” พี่ฟ้าบอกและปิดหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ลง
“ไปฮะไป” พี่กัสลุกขึ้นยืน พี่ฟ้าลุกขึ้นยืนตาม
“ซีไปด้วยค่ะ” พี่ซีวางรีโมท ทั้งพี่ซีและพี่กัส กอดแขนพี่ฟ้ากันไปคนละข้างก่อนจะเดินออกจากห้องไปเฉยๆ ตอนนี้เหลือเพียงผมที่นั่งอยู่ที่โซฟา พี่ออฟ พี่หมีและพี่เซ็นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั่งเล่น
“ฮัลโหลครับ” พี่หมีรับโทรศัพท์เดินออกไปคุยที่ระเบียง ผมนั่งนิ่ง เริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะอยู่ๆพี่เซ็นก็รับโทรศัพท์ด้วยอีกคนก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไป
“เอ่อ ออฟ..ขอไปสูบบุหรี่หน่อยได้ไหมครับ” พี่ออฟพูดขออนุญาตพี่คิว พี่คิวพยักหน้าตอบ
“สูบยังไงก็ได้ ให้กลิ่นไม่ลอยไปห้องอื่นน่ะนะ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง พี่ออฟหน้าเหวอไปครู่ก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมาได้
“ออฟจะพยายาม” พี่ออฟอมยิ้มและเดินออกไปที่ระเบียงด้านนอกและปิดประตูระเบียง แล้วทะ..ทำไมทุกคน ทำไมทุกคนถึงมีอะไรทำกันหมดล่ะ ToT
“นี่..” ผมเงยหน้ามองตามเสียงดุๆนั่น
“หิวน้ำ” พี่คิวบอก
“ค..ครับ” ผมรีบลุกขึ้น เดินไปรินน้ำที่ให้วางอยู่บนหัวเตียงให้พี่คิว ผมยื่นแก้วให้อีกฝ่ายและจับหลอดให้พี่คิวดูดได้สะดวกมากขึ้น
“ขอบคุณ” พี่เขาบอก ผมวางแก้วน้ำลงที่โต๊ะข้างๆหัวเตียงอย่างเดิม
“ได้ข่าวว่า...ในตัวฉัน” พี่คิวพูดขึ้นแต่กลับไม่ได้หันมามองหน้าผม ผมจ้องมองพี่เขาอย่างตั้งใจฟัง
“มีเลือดนายอยู่ อย่างนั้นเหรอ” คำพูดกับน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังถามมากกว่าจะพูดให้ฟัง ซึ่งมันฟังดูทะแม่งๆอย่างไรชอบกล
“ก็..” ผมกำลังนึกว่าจะตอบอะไรกลับไปดี แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่ทิ้งน้ำเสียงลงไปเฉยๆ
“ในตัวฉัน มีเลือดของนายเนี้ยนะ” พี่คิวย้ำเสียงและหันมองจ้องหน้าผมเหมือนต้องการเอาความ
“อ..อะไรครับ ไม่พอใจก็ถ่ายเลือดออกมาเลยมา” ผมว่า รู้สึกเขินสายตาคู่นี้ขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ฮึ..แย่จังนะ ถ้ามันถ่ายคืนได้ ฉันก็จะถ่ายคืนให้อยู่หรอก” พี่คิวยิ้มตอบ
“คนเค้าเป็นห่วงพี่ฟ้าหรอกนะ ไม่งั้นไม่ให้หรอก..ชิ” ผมแสยะปากใส่ก่อนจะหนีกลับมานั่งที่โซฟาอย่างเดิม
“ขอบคุณนะ” ผมชะงักทันที เงยหน้ามองหน้าคนบนเตียงในทันควัน เมื่อกี้ผมหูฝาดไปเองรึเปล่า..ใช่คนบนเตียงพูดแน่อย่างนั้นเหรอครับ
“ขอบคุณ” พี่คิวย้ำบอก สายตาที่กลับมาจ้องผมเขม็งเหมือนย้ำบอกให้ผมรับรู้ได้ว่าพี่เขาพูดออกมาจากใจจริงทำให้ผมถึงกับรู้สึกดีอย่างมากทีเดียว..
“อื้อ” ผมพยักหน้าตอบ
“ฮะ..ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” ผมพูดเสียงเบา ผมคิดว่าพี่เขาอาจจะได้ยิน หรือ ไม่ได้ยินก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง พี่คิวหันหน้ากลับไป สายตามองลอยไปเรื่อยเปื่อยแต่ปากกลับแสยะยิ้มออกมาอย่างที่ผมไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรพี่เขาถึงได้ทำหน้าตาชวนขนลุกแบบนั้น
“ก็บอกว่าเป็นห่วงพี่ฟ้าหรอก!” ผมพูดขึ้นโต้งๆ อยู่ๆกลับรู้สึกระแวงว่าพี่คิวจะอ่านความคิดของตัวเองออกขึ้นมา
“หึ..” เสียงหัวเราะของพี่คิวยิ่งทำให้ผมรู้สึกใจเต้นมากขึ้น ผมนั่งเงียบอยู่อย่างนั้นไม่อยากจะโต้ตอบอะไรอีก พี่คิวเองไม่ได้พูดหรือชวนคุยอะไรจนพวกพี่ๆกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง
เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเหมือนวันที่ผ่านมาไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ดูพี่ฟ้าจะกลับมาร่าเริงได้อย่างเดิมถึงแม้บางครั้งผมจะสังเกตได้ว่าพี่ฟ้าฝืนยิ้มแต่พี่เขาก็ยังคงยิ้มในทุกครั้งที่ต้องมาเจอพวกเรา หน้าตาที่ดูหมองๆและดูโทรมไปบ้างแต่ยังคงมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าให้เราเห็นอยู่เสมอ ส่วนพี่คิวดูจะปกติดี ไม่มีอาการเศร้าให้เห็นแต่อย่างใด มีเพียงความเรียบนิ่งอย่างที่เคยเป็น บทสนทนาของพวกเราหลีกเลี่ยงที่จะพูดไปถึงครอบครัวของพี่ฟ้าและพี่คิว มันดูจะเสียบรรยากาศใช่ไหมล่ะครับถ้าต้องกล่าวถึงมัน
= = = = = = = =
ณ บ้านเค้ก..
“หนู..ลูก” แม่เรียกผม
“ครับแม่” ผมขานตอบ
“วันนี้เอาขนมไปฝากพี่คิวนะ แม่ทำเสร็จใส่กล่องให้แล้ว” แม่บอก แม่คงหมายถึงขนมจ่ามงกุฎที่แม่ตื่นมาทำตั้งแต่เช้ามืด
“ครับ..งั้นเค้กคงกลับเย็นๆนะแม่ เลิกงานแล้วจะแวะไปที่โรงพยาบาลเลย” ผมบอก
“อื้อ..โทรมาบอกแม่ด้วยล่ะ” แม่พยักหน้ารับ
“ครับ” ผมบอก แม่กุลีกุจอเข้าครัวไปเพื่อจัดขนมใส่กล่องเพื่อนำไปแจกคนอื่นๆต่อ ผมหยิบถุงขนมและเดินไปใส่รองเท้าที่หน้าบ้าน พร้อมตรวจกระเป๋าเป้ของตัวเองให้เรียบร้อย
“ไปดีๆนะลูก” แม่ตะโกนบอก
“ครับ” ผมขานตอบพร้อมกับยกมือไหว้แม่ผ่านอากาศไปอย่างนั้นก่อนจะออกจากบ้านมา
= = = = = = = =
เวลา 15:00 น. ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เค้ก” พี่เซ็นเรียก
“ครับ” ผมหันกลับไปขานตอบ
“ไปตื๊ดๆกับพี่เปล่า” พี่เซ็นชวน ทำท่ายึกยักทะลึ่งทะเล้นประกอบด้วย
“หึหึ” ผมหัวเราะ ตั้งแต่ที่พี่คิวเข้าโรงพยาบาล พี่เซ็นจึงต้องมาทำหน้าที่เป็นเชฟประจำแทนในทุกทุกวัน
“ว่างนักเหรอ..ตื๊ดๆน่ะ” พี่ฟ้าเดินเข้ามาตีหัวพี่เซ็นเบาๆ
“โด่..อาไปด้วยป่ะล่ะ” พี่เซ็นหันไปถาม
“ก็อยากอยู่นะ” พี่ฟ้ายิ้มตอบหน่อยๆ แต่กลับมีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด หลายวันมานี้ทั้งพี่ฟ้าและพี่เซ็นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวมาตลอด พวกเราสังเกตเห็นแต่ก็ไม่มีใครปริปากทักอะไรเพราะก็ทราบกันดีอยู่แก่ใจ
“หึ..อา เซ็นก็พูดเล่นไปงั้นแหละน่า เซ็นไม่ไปหรอกครับ..ไว้เย็นนี้เซ็นไปรับอาไปวัดก็แล้วกันนะ” พี่เซ็นเปลี่ยนเรื่อง พี่ฟ้าพยักหน้าตอบเพียงเล็กน้อย ที่พี่เซ็นบอกคงหมายถึงงานสวดศพของพ่อพี่ฟ้า
“เออเค้ก เย็นนี้..พี่ฝากเอาอาหารมื้อเย็นไปให้คิวหน่อยนะ” พี่ฟ้าหันมาบอกผม ผมยืนมองหน้าพี่ฟ้า
“ไม่เอา” พี่เซ็นท้วงในทันที
“ยุ่งอะไรล่ะ” พี่ฟ้าทำตาค้อนใส่
“พอดี เค้กเลิกงานเร็วใช่ไหมล่ะวันนี้น่ะ..แล้วคิวมันอยากกินอาหารพิสดารขึ้นมา ยังไงพี่รบกวนเค้กหน่อยได้ไหมครับ”
“เอ่อ ได้..ได้ครับ แม่เค้กฝากขนมไปให้พี่คิวด้วยพอดี” ผมยิ้มบอก
“พี่ให้เค้กเลิกเร็วหน่อย สักสี่โมงครึ่ง..เค้กก็วางมือได้เลยนะ” พี่ฟ้าบอก ผมพยักหน้ารับ
“แล้วอาจะไปไหน ไม่ไปเยี่ยมหลานสุดที่รักก่อนน่ะ” พี่เซ็นถาม
“จะเข้าไปดูสต๊อกของที่ห้างของพี่พราวหน่อย ที่ฝรั่งเศสมีปัญหา..อาเลยต้องส่งจากที่นี่ไปน่ะ” พี่ฟ้าตอบ
“มีไรให้ช่วยไหมครับ” พี่เซ็นทำหน้าเป็นงานเป็นการขึ้นมา
“ไม่ต้องยุ่งหรอก แค่เป็นเชฟที่ดีให้ได้ก็พอละ” พี่ฟ้ายิ้มเจ้าเล่ห์
“โห..คนอุตส่าห์เป็นห่วง ไปไหนก็ไปเลยป่ะ” พี่เซ็นทำหน้าทำตาใส่อย่างงอนๆ
“หึ เออ..แล้วอย่าลืมทำอาหารที่อาเขียนไว้ให้ด้วยล่ะ ทำให้มันดีๆ..เดี๋ยวไอ้คนที่โรงบาลจะบ่นเอาได้อีก” พี่ฟ้าทิ้งท้าย
“ค้าบ” พี่เซ็นตอบทั้งรอยยิ้ม
“ไปละ” พี่ฟ้ายิ้มให้ผมทั้งสองคน
“บายครับ” ผมบอก
“ครับ”
= = = = = = = =
เวลา 17:30 น. ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ..
ก๊อก ๆ ๆ
“เชิญค่ะ” ป้านิดเปิดประตูห้องต้อนรับผม
“สวัสดีครับป้า” ผมยกมือไหว้
“อุ้ย ไม่ต้องไหว้ป้าหรอกค่ะคุณ” ป้านิดรีบรับไหว้ทันที ผมยิ้มให้
“ตื่นอยู่รึเปล่าครับ” ผมถามถึงคนไข้ที่อยู่ในห้องด้านใน
“ตื่นอยู่ค่ะ” ป้านิดตอบ ผมพยักหน้ารับ เดินผ่านห้องนั่งเล่นเข้าไปที่ห้องคนไข้
“หวัดดีครับ” ผมทัก พี่คิวละสายตาจากจอโทรทัศน์หันมามอง
“ดี” อีกฝ่ายตอบ ผมเดินเอากระเป๋าไปวางไว้ที่โซฟา พี่คิวมองตาม ผมจึงหันไปหยุดยืนนิ่งจ้องพี่คิวตอบ
“พี่ฟ้าให้ผมเอาอาหารเย็นมาให้” ผมบอก
“เอ่อ แล้วก็ แม่..เมื่อเช้าแม่ทำขนมจ่ามงกุฎมาฝากเยี่ยมพี่ด้วย” ผมบอกพร้อมหยิบถุงขนมนำไปให้พี่คิวดู
“ขอบคุณ แต่..” พี่คิวมองหน้าผมเขม็ง
“จ่ามงกุฎคืออะไร” พี่เขาถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เฮ้อ..เด็กนอกนี่น้า” ผมเบะปากแกล้ง
“นี่ไงครับ ดูซะ” ผมอ้าปากถุงให้ดู พี่คิวก้มลงมองเข้าไปในถุงอยู่เกือบสิบวินาที
“ทำยากไหม” พี่เขาเงยหน้าถามอีก
“ก็..นิดหน่อย” ผมยักไหล่
“ทำเป็นโอ่..แม่นายทำ ไม่ใช่นายสักหน่อย” พี่คิวว่า
“ง่ะ..” ผมไม่รู้จะว่าพี่คิวตอบยังไงเพราะพี่เขาดันรู้ทันผมอีกแล้ว พี่คิวหัวเราะในลำคอ
“เอ่อ เดี๋ยวเค้กไปจัดอาหารเย็นให้นะฮะ พี่เซ็นทำเองกับมือเลย”
“อือ” พี่คิวพยักหน้าตอบเล็กน้อย ผมเดินออกมาจากห้องคนไข้เพื่อมาจัดอาหาร
“เดี๋ยวป้าช่วยค่ะ” ป้านิดเข้ามารับถุงไป ผมหยิบจานชามออกมาเตรียมไว้
“คุณเซ็นทำมาให้เหรอคะ เห็นคุณคิวบอกว่าอยากทาน แต่อาหารพวกนี้ป้าทำไม่เป็นน่ะค่ะ” ป้านิดยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ครับ” ผมยิ้มตอบ ป้านิดจัดนู่นเรียงนี่อย่างคล่องมือ ผมช่วยป้านิดยกถาดเข้าไปในห้อง จัดเตรียมโต๊ะให้พี่คิวเรียบร้อย
“ปรับเตียงนะครับ” ผมบอกก่อน พี่คิวพยักหน้าตอบ ผมกดปรับเตียงให้เข้าที่เข้าทาง
“ถนัดไหมครับ”
“โอเค” พี่เขาตอบ ป้านิดเลื่อนโต๊ะอาหารให้ใกล้พี่คิวมากขึ้น
“ยาก่อนอาหารค่ะคุณ” ป้านิดบอกและวางถาดเล็กลงบนโต๊ะอาหารด้วย
“ขอบคุณครับ” พี่คิวพยักหน้า ป้านิดเดินออกจากห้องไป
“งั้นเค้ก..กลับก่อนนะ” ผมพูดบอก พี่คิวเหลือบตามามอง มือทั้งสองข้างยังคงมีช้อนส้อมคาอยู่ในมือ
ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มปกติที่จะแทนตัวว่า “เค้ก” ต่อพี่คิวบ้างแล้ว ถึงแม้ว่าจะกลัวว่าอีกฝ่ายจะขัดหูที่ได้ยิน แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมอยากแทนตัวเองแบบนี้ เหตุผมเดียวคือ..ไม่ว่าพี่ๆคนอื่นๆจะบอกว่าเราสนิทกันมากแค่ไหน แต่ผมกลับรู้สึกว่าเรายังมีเส้นบางๆกั้นกันไว้อยู่ดี
“รีบไปไหนไม่ทราบ” อีกฝ่ายพูดเสียงแข็ง
“ก็เปล่า..กลับบ้านสิ” ผมปัด
“บ้านไม่ได้หนีไปไหนสักหน่อย” พี่คิวพูดแกมบ่น เริ่มตั้งหน้าตั้งตาตักอาหารมากกว่าที่จะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม
“อยู่คนเดียว เหงาอ่ะซิ” ผมแซว พี่คิวมองตาขวาง ผมยักคิ้วแกล้งตอบ
“อยากให้อยู่ด้วยก็บอกมาเหอะน่า” ผมยิ้มกว้าง นั่งลงที่โซฟา
~ถึงตาเราได้แกล้งคืนบ้างแล้ว..เยส~
“ที่จริงแล้ว” พี่คิวเอ่ยขึ้นพลางทิ้งน้ำเสียงลงเล็กน้อย ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจว่าอะไรจะหลุดออกมาจากปากของพี่เขาอีก
“อยากอยู่จะตาย..ก็น่าจะบอกกันตรงๆ” พี่คิวพูดพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“เอ๊ะ..ไอ้พี่คิว” ผมกัดฟัน กำหมัดแน่น พี่คิวไม่หันมาสนใจผมอีก พี่เขาหันไปตักอาหารตรงหน้ากินแต่หน้าตาของพี่เขากลับอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนผมรู้สึกหมันไส้อย่างมาก แต่กลับ กลับ..ทำอะไรตอบโต้ไม่ได้เลย!
ผมนั่งอยู่ต่อเหมือนโดนมนต์ดำทั้งทั้งที่พี่เขาก็ไม่ได้ขอให้อยู่ต่อ ผมนั่งเล่น อ่านหนังสือไปพลาง ดูโทรทัศน์ไปพลางจนพี่คิวทานข้าวเสร็จเรียบร้อย พี่คิวทานขนมจ่ามงกุฎของแม่ผมต่อไม่พูดไม่จา ผมสังเกตเห็นว่าพี่เขาทานเข้าไปประมาณห้าหกชิ้นเหมือนจะได้ ผมนั่งมองอย่างเงียบๆ พี่คิวหันมาจ้องตาผมตอบหลังจากที่วางมือลง
“อิ่ม” อีกฝ่ายพูดบอก ผมอมยิ้ม หึ..ขนาดอิ่มยังจะเก๊กอีกอะนะ
“ค้าบๆ” ผมขานตอบอย่างรับรู้ว่าพี่เขาต้องการอะไร ลุกขึ้นเก็บอาหารใส่ถาดและนำออกไปวางไว้ที่อ่างล้างจาน ป้านิดจัดการทำต่อหลังจากนั้น
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวเย็นกว่านี้แล้วรถจะติด” ผมพูดบอกและเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพาย
“กลับไง”
“รถเมล์” ผมตอบ พี่คิวพยักหน้า
“ฉันอยากกิน เอิ่ม..ขนมถั่วแปบอีก” พี่คิวพูดขึ้นโต้งๆ น้ำเสียงเหมือนเป็นประโยคบอกเล่า แต่สีหน้ากลับเหมือนประโยคคำสั่ง
“.............” ผมยืนนิ่ง เอียงคอมองหน้าพี่คิวอย่างกวนๆ
“อาหารกลางวันด้วยก็จะดีไม่น้อย” อีกฝ่ายพูดเสริม
“พรุ่งนี้..จะสงเคราะห์ให้ก็ได้” ผมย้อนคำที่พี่คิวเคยย้อนกับผมก่อนหน้า พี่คิวมองกลับตาขวางในทันทีคล้ายกับไม่พอใจ
“ฉันเพื่อนเล่นนายเหรอ” อีกฝ่ายว่า ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์ ตาของพี่เขาเริ่มนิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“แบร..” ผมแลบลิ้นใส่
“กลัวตายล่ะ” ผมเบะปากอย่างใจดีสู้เสือ พี่คิวยังคงหน้านิ่งอย่างเดิม สายตาของพี่เขามองอย่างกับรู้ทะลุปรุโปร่งไปซะหมด ทำให้ผมต้องแกล้งแสดงอาการบ้าๆบอๆกลบเกลื่อนไปอย่างนั้นเอง
“ไปล่ะครับ” ผมโบกมือให้ส่งท้าย
“เชิญไปให้ไว” พี่คิวว่าตอบเสียงห้วน ผมได้แต่หัวเราะเดินออกมาจากห้องนั้น คำพูดของพี่คิวคล้ายกับเย็นชาแต่ทำไมตอนนี้ผมถึงได้อมยิ้มอยู่ตลอดเวลาเลยนะครับ
~นึกว่าตัวเองกวนคนอื่นได้อยู่ฝ่ายเดียวรึไงกัน..โด่ ไม่กลัวหรอก ไอ้สายตาบ้าๆคู่นั้นน่ะ..ไม่มีทางกลัวอย่างเด็ดขาด ใช่..เราเก่งจะตายไป พี่คิวไม่มีทางอ่านเราออกหรอก!?~
.................>>>><<<<..................
หมายเหตุ :
- ตอนต่อไปของเรื่อง Limited Lover อาจจะได้ลงพร้อมกับตอนต่อไปของเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย...ซึ่งอาจจะได้ลงเร็วกว่ากำหนด ที่เคยบอกไว้ว่า "จะลงสลิ่มเมตรตอน My love style..2" ประมาณต้นเดือนมีนาคม
*แต่ยังไม่ทราบวันที่แน่นอน จึงบอกได้เพียงข้อมูลคร่าวๆ*
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
:z13: :z13:
จิ้มๆก่อนมาเช้าเลยน่ะน้องเบบี้ เค้าว่าวันเกิด HBD น่ะจ้ะ ขอให้มีความสุขสวยสนุกไม่แคร์ส่อไปสามโลกเลยน่ะ :mc3:
:pig4: :pig4:
-----------------------------------------
พี่คิวดูไม่ออกเลยจ้ะ เค้กจ๋า :laugh: :laugh: อิพี่คิวก็เจ้าเล่ส์ เอาของกินมาบังหน้าให้เค้ามาหาอีก :-[
-
มาแต่เช้าเลย
-
:กอด1:น่ารักกันตั้งแต่เช้า
-
น้องเค้กกวนพี่คิวนิดๆนะ >//<
o13
-
เหมือนทุกๆคนจะรู้ว่าพี่คิวกะเค้กรู้สึกกันยังไง :กอด1:
ทุกคนดูออกมีแต่เจ้าตัวเนี่ยแหละที่ไม่รู้ว่าเค้าดูออกกันหมดแล้ว 5555555555
-
^
^
^
นั่นจิ ไม่รู้ว่าตื่นเช้า หรือยังไม่นอน :L2:
อิอิ เค้ก พี่ๆ เค้ารู้กันหมดแล้วววววววว พี่คิวจะไม่รู้ได้ไงเล่า 555555555
น่ารักจริงๆ อ่ะ
-
โว้วว เย้ เย มาแต่ไก่โห่
ปั่นงานมาเกือบทั้งคืน แว๊บเข้าเล้ามาเจอพี่คิวน้องเค้ก หวานกันเบาๆ พอกล้อมแกล้ม เหมือนเรามีใจถึงกันเนอะพี่คิว ฮ่า ฮ่า
มีแฮงไปสู้ต่ออีกวันแล้วเว้ยเฮ้ย
ขอบคุณไอ้น้องบี้ + ทุก + ที่ให้ได้เหมือนเคย
:กอด1:
:mc2::HBD1: :mc2:
ปล. สุขกะสันต์วันเกิด HBD นะไอ้น้องบี้ คิดสำเร็จ ทำสำเร็จ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ มีแต่สุข มีแต่สนุก ทุกๆคืนของทุกๆวัน เน้อ ^^
-
:HBD5: มีความสุขกับสิ่งที่เข้ามาในชีวิตนะครับ เบบี้
ใคร ๆ ก็รู้กันหมดกับท่าทีของน้องเค้กกับพี่คิว กองหนุนเพียบ :z2:
น้องเค้าเนี่ยอย่างนี้เค้าเรียก ใจดีสู้เสือหรือเปล่าครับ :z1:
+1 กับวันสำคัญของหนูบี้ :กอด1:
-
:L2: :L2: :L2:
สำหรับคุณเบบี้ในวันเกิด
ขอให้มีความสุขมากมากนะคร้าบบบบบบบบบ
ขอบคุณสำหรับทุกเรื่องที่มาแบ่งปันให้อ่านด้วยคร้าบบบ
ขอบคุณมากกกก
-
“ได้ข่าวว่า...ในตัวฉัน”
“มีเลือดนายอยู่ อย่างนั้นเหรอ”
ชอบประโยคนี้ของพี่คิว รู้สึกเหมือนเราเป็นหนึ่งเดียวกันประมาณนั้น :กอด1:
-
คิว อ้อนหน่อยก็ได้งะ
-
พี่ๆทุกคนรู้เห็นเป็นใจให้ได้อยู่กัน 2 คนเนอะ
*** :HBD3:สุขสันต์วันเกิดจ้าน้องบี้ สุขสมหวังทุกสิ่งอย่างนะจ๊ะ :b: ***
-
คู่นี้เค้าจีบกันน่ารักดี ใช้อาหารเป็นสื่อรัก พี่คิวก็เนอะปากแข็งจริงๆ น้องเค้กก็ได้แต่เขิน ดูเหมือนแต่ละคนจะรู้ว่าพี่คิว-น้องเค้กแอบๆ ชอบกันอยู่
-
ไม่ใช่พี่คิวคนเดียวหลอกนะที่อ่านเค้กไม่ออก
ดูเหมือนพี่ ๆ ทั้งร้านเลยที่อ่านเค้กไม่ออกว่าคิดไร :laugh:
:pig4: คะ
-
พี่คิวมันคิดว่ามันเป็นผู้ใหญ่กว่า กวนน้องเค้กตลอด ๆ
น่าหมั่นไส้ผู้ชายเมืองนอก ไม่รู้จักขนมจ่ามงกุฎ
สังวรณ์ไว้ด้วยว่ามีเลือดน้องอยู่ในตัว อย่ากวนตรีนน้องให้มากนัก
ปล.สุขสันต์วันเกิด HAPPY BIRTH DAY นะจ๊ะ
ขอให้สุขภาพแข็งแรง มีความสุขมาก ๆ จ้ะ :L1: :L2:
-
เขินนนนนน น่ารัก ไม่รู้จะบอกยังไงดี
ทำไมน่ารักอย่างนี้
-
Happy Birth Day Baby !!
เค้กน่ารักอ่ะ อิอิ ทุกคนนี่คงดูออกหมดละว่าเค้กรู้สึกยังไง แต่เจ้าตัวยังซื่ออยู่ฮ่าๆ ขอบคุณนะคะ
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
น้องเค้กกลบเกลื่อนอาการ คึคึ กลัวพี่คิวขนาดนั้น o18
-
พี่คิวกวนส้นดีจริงๆ ... o13
เอิ๊กกกกก!! ว่าแต่ วันนี้วันอะไรนะ :a5: คึคึ
สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ มีความสุขมากๆ รักเบบี้จัง :man1:
-
ยังเก๊กท่ากันอยู่ เมื่อไหร่จะเปิดตัวเปิดใจกันซักทีน๊ออออ
-
o18หึหึหึหึ พี่คิว เริ่มหลงรักน้องเค้กแล้วอะดิๆๆๆๆๆๆๆ
-
พี่คิว หายไวๆ จะได้มีแรงมากัดกับเค้กต่อ อิอิ
มีเลือดเค้กในตัวพี่คิว คิดกี่ทีก็อิ๊อ๊ะ 5555 บวกๆๆ
-
รักพี่บี้ ม๊วฟฟฟฟ :กอด1: :กอด1:
:-[ :-[ตอนนี้น่ารักมาก อ่านไปก็เขินไปป ฮิ้ววววว
-
ไอปากหมี
ชอบอ่ะ
-
เริ่มกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมละ^_^
-
หง่ะะะ พี่คิวอยากให้เค้้กมาบ่อยๆก็ว่ามาเห๊อะ 555
มีรีเควสของกินก็รู้ๆกันอยู่ล่ะนะพี่ อิอิ *
-
โอย หนังหนาจริงๆค่ะพี่คิว 55555555555
แต่ไม่เป็นไไรก็ดีแล้ว สงสารพี่ฟ้าอ่าา
เค้กกล้านะ แต่ที่กล้านี่เพราะเค้านอนอยู่บนเตียง ลุกมามะเหงกไม่ได้ใช่มะ ฮ่าาา
พี่คิวเค้ารู้หมดแล้วววววว หน้ามันบ่งบอก :z2:
-
พี่คิวแกอยากกินเค้ก เห้ย! อยากกินอาหารที่บ้านเค้กก็บอกมาเหอะ ทำเป้นเก๊ก
:m18: :m18: :m18:
-
เค้ก มีความสุขจังนะ ดีจัยจังที่พี่คิวไม่เป็นอะไรมาก
-
ยิ่งอ่านยิ่งเขิน ยังกะตัวเองเป็น เค้ก ซะงั้น :o8:
-
โอ๊ะ..พี่คิวแอบอมยิ้มบ่อยไปนะ
โธ่ๆๆๆเค้ก พี่คิวเหรอจะไม่รู้..ฮ่าๆๆๆ
-
ลุ้นพี่คิวน้องเค้กต่อ หุหุ
-
แหมๆๆ พี่คิว~ แอบยิ้มนะตัวเอง >.<
สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณเบบี้ >.<
-
พี่คิวบร้า ขี้เก๊ก เเต่หล่อและรวยมาก เลยให้อภัย
รักกันแล้วเหอะ จีบๆกันอยู่
HBD Baby!!!
-
เค้กน่ารักน่าเอ็นดูมากอ่า อาการของหนูทำคนอื่นเขารู้หมดแล้วล่ะลูกเอ๊ยยย :laugh:
พี่คิวยังคงความกวนได้สม่ำเสมอเลยนะ o18
น่ารักมากค่ะ รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อ่านเรื่องนี้เลย o13
เอ้ออ สุขสันต์วันเกิดนะคะ เบบี้
ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต และก้มีความสุขมากนะคะ :กอด1:
-
ไม่ใช่เพื่อนเล่นแล้วอยากให้เป็นอะไรล่ะคะ :-[
-
เค้กน่าจะมาเฝ้าทุกวันเนอะ พี่คิวจะได้หายเร็วๆ :o8:
-
สมกับที่รอ น่ารักที่สุด
-
มาแบบน่ารักอีกแล้วอ่ะ พี่คิวกับเค้กน่ารักเนอะ
เค้กก็เถียงสู้ไปงั้น ที่จริงเขินอยู่ใช่มั๊ยล่า~
พี่คิวก็เอาของกินมาบังหน้าให้เค้ามาหาอ่ะดิ
เหมือนทุกคนจะรู้เห็นเป็นใจซะด้วยสิงานนี้
ขอบคุณที่มาต่อให้นะคะ :L2:
ป.ล. สุขสันต์วันเกิดนะคะ มีความสุขมากขึ้นๆ
ขอให้เป็นอีกปีที่ดีสำหรับเบบี้นะคะ :z2:
-
เคกคิวน่ารักอ่ะ ฮ่าๆๆ
รีบๆ บอกรักกันนะ
-
พี่คิวกวนอ่ะ :laugh: เค้กไปไม่ถูกเลย
บรรยากาสสองคนนี้น่ารักจัง งุงิกุ๊กกิ๊ก :-[
:pig4: คุณเบบี้ค่า
-
คิวนี่มันก็น่ารักเหมือนกันเนอะ :m20:
อ๊ายยย
อยากเห็นหน้าเค้กทุกวันก็บอกก :man1: :man1:
-
พี่คิวชอบแกล้งเค้กจังเลยเนี๊ยยยยย
อย่าไปกลัวเค้กกก.....สู้ว้อยยยยยย :angry2: :angry2:
ดีใจที่สลิ่มกะเมตรจะมาเร็วกว่าเดิมมมม...คิดถึงมากมาย :impress3: :impress3:
ขอบคุณเบบี้จังงง :pig4: :pig4: :pig4:
-
คิวอยากกินเเค่ขนมถั่วแปบหรอ...ไม่คิดอยากกินเค้กบ้างหรออ o3
:b: HBD..มีตวามสุขมากนะคะ :b:
-
สายไปซะแล้วล่ะมั้งหนูเค้ก
เหมือนจะอ่านออกทั้งร้านเลยด้วย
-
เค้ารู้กันทั้งร้านแล้ว เค้กเอ้ยยยยย
ปิดไม่มิดล่ะ o18
สุขสันต์วันเกิดนะคะ เบบี๋ :L2:
-
เหมือนแอบช่วยกันทั้งร้าน
+1
-
เมื่อไหร่จะหวานน้ำตาลเรียกพี่ เนี่ย :impress2:
ว่าแต่วันเกิดเบบี้ เลี้ยงไรนิ ปีนี้ :z1:
-
พี่คิวต้องรู้แน่ๆ ว่าน้องเค้กคิดยังไงกับตัวเอง
ไม่งั้นไม่แกล้งน้องอย่างนี้หรอก :-[
เบบี้...สุขสันต์วันเกิดนะค๊า..... :L2:
-
แหมๆๆพี่คิว อยากกินถั่วแปบอีก ><
อยากให้เค้ามาหาก็พูดไปสิ
-
น้องเค้กมาแล้ววววว :mc4:
เฮ้อ หวั่นไหวเข้าไปเค้กเอ้ย พี่คิวจับได้หมดแล้วลูก มันไม่ยุติธรรมเลยทำไมพี่คิวเฉยชาจังฮ๊ะ! รีบหวานกันหน่อยนะพี่คิว :กอด1:
ปล.เบบี้เปลี่ยนรูปใหม่ เกือบเลื่อนเลยแหนะ ต้องย้อนกลับมาอีกรอบ :laugh:
-
อ่านแล้วยิ้มไปขำไป น่ารักค่ะ :o8:
-
o13 o13
-
เขินจัง :-[ ทำไมยิ่งอ่านยิ่งเขิน >///<~
เค้กกวนพี่คิวนะพาร์ทนี้เนี่ย
พี่คิวก็อยากให้น้องอยู่เป็นเพื่อนด้วยล่ะเซ่ เก๊กนะพี่นะ 5555+
Happy Birthday นะค๊าคุณเบบี้ :3123:
มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง รวยๆ สมหวังในทุกๆเรื่องนะค๊า เป็นกำลังใจให้ค่า ^^
-
น่ารักทั้งคู่เลยเนอะ ^^
Happy Birth Day Baby ด้วยนะค้าบ มีความสุขมากๆนะคับ :L2:
-
อยากรู้ว่าถ้าเค้กไม่สบาย พี่คิวจะทำไงน๊าาาาาา ^_______^
-
เปนคนป่วยที่กวนมากก
HBD ค่าเบบี้ มีความสุขมากๆนะ
-
หึหึ พี่คิวกวนนะเนี้ย ปากหนักด้วยอยากให้เค้กมาอีกก็ไม่พูด :กอด1:
-
เค้กจะน่ารักไปไหนเนี่ย พี่คิวก็ปากแข็งจริงอยากให้เค้กมาทุกวันละซิ :impress2:
-
แหมะ สนิทกันจนใครๆก็ดูออก
ว่าแต่ ยัยพี่ฝันไม่มาเลยนะ
ฉันไม่ได้อ่านข้ามช่ะ??? เหอะๆ
อะไรยังไง น้องเค้กยังสติลน่ารักอ่ะะะ
-
พี่คิวขี้เหงา o18
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: สุขสันต์วันเกิดค่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
Narak na kha khuu nii...hu hu hu
-
น้องเค้กคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า พี่คิวแก่กว่า น่าจะรู้หรอกนะว่าเค้กคิดอะไรอยู่ :-[
-
:impress3:
-
น่ารักเบาๆ :-[
สุขสันต์วันเกิดคร่าาาพี่บี้
-
พี่คิวอยากให้น้องเค้กมาหาอีกล่ะซี้ ~~ :z1:
น่ารักๆๆๆ :o8:
-
ตอนนี้มันหวานป่าวหว่า
-
บรรยากาศแบบนี้....
ถ้าคนเจ้าเสน่ห์ที่ไม่รู้จักบริหารเสน่ห์ของตัวเองอย่างพี่คิวอ่านไม่ออก...ก็แดร๊กหญ้าแล้วค่ะคุณน้องขา
จัดบวก !! o13 o13 o13
ชอบฉากที่เดอะแก๊งสามัคคีชุมนุมกันทิ้งเค้กไว้คนเดียวกับพี่คิวแบบเนียนๆอ่ะ นึกภาพตามแล้ว ขำ
คิดได้ 5555555+ อยากเอาแผ่นทองกับน้ำอบมาแปะๆพรมๆเบบี้ สุโข่ยๆ
-
ขนาดเจ็บก็ยังแกล้งน้องเค้กได้เลยอ่ะพี่คิว สุดยอดจริงๆ
อยากให้พี่คิวหายไวไว อยากอ่านพาร์ทของพี่คิวจังค่ะ อยากรู้พี่คิวคิดยังไงกับน้อง
ทุกคนในร้านนี่แบบว่าเปิดทางให้น้องเค้กกับพี่คิวเต็มที่เลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ อยากอ่านตอนหวานๆ ^^
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
-
HBD นะคะ :3123: :3123: :3123:
ดูเหมือนพี่คิวจะแกล้งน้องเค้กหนักขึ้นนะเนี่ย รู้ทันไปซะหมดทุกอย่างเลย
แต่ชอบเวลาพี่คิวพูดเหมือนรู้ทันน้องเค้กมากเลยอะ มันน่ารักมากกกกกก :-[
เค้กทำอะไรไม่ได้นอกจากบ้าบอกลบเกลื่อน 5555555
แต่แกล้งเค้าไว้มากๆระวังเข้าตัวนะคิว เดี๋ยวได้ตกหลุมรักน้องเค้กจนถอนตัวไม่ขึ้นหรอก o18
-
น่ารักจัง :laugh:
หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก :z3:
-
พี่คิวน๊อออ.. ขี้เก๊กวะ ฮ่าๆๆๆ
-
พี่คิวววขี้เก๊กกกกกกกกก :z2:
ขอให้โดนเค้กเล่นให้เก๊กแตก อายหน้าแดงไปเลย
-
น่ารักอ้ะ
พี่คิวก็ขี้แกล้ง
เค้กก็เขินง่าย
น่ารักมากกกกกกก :impress2:
Happy birth day นะคะพี่เบบี้
ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ :L2:
-
เหมือนพี่ๆ ทุกคนจะเป็นใจเหลือเกิน
-
อ๊ายยย~ :o8:
น่่ารักอ่าตอนนี้ เค้กอ่่านง่ายมากอะ 555.
-
รักพี่คิวมากมายอ่ะ อิอิอิ
-
พี่คิวอยากให้น้องเค๊กมาบ่อยๆล่ะสิ อิอิ
HBD เบบี้นะจ๊ะ ขอให้มีความสุขตลอดไปจ้า
:a: :a:
-
สงสารครอบครัวพี่ฟ้าเนอะ
พี่คิวไม่เป็นไรก้อดีแล้ว^^
นี่ขนาดป่วยพี่คิวยังมีแรงกัดกะเค้กได้อีก o18
รออ่านตอนต่อไป :กอด1:
ปล. รออ่านพี่เมตรกะสลิ่มด้วย คิดถึง :L2: :L2: :L2:
-
HBD นะคะ เบบี้ มีความสุขมากๆค่ะ
(รู้จากคนอื่นมาอ่ะ ถ้าใช่ก็อย่าถือสาคนอยากแจมนะคะ)
พี่คิวเงียบขรึม เย็นชาตามแบบฉบับเจ้าชาย
แต่ไหงตอนนี้ถึงน่าหยิกแบบงี้อ่ะ 555+
ขอบคุณในความน่ารักของพี่คิวกับเค้กค่ะ
มีแต่คนชอบแกล้งเค้กเนอะ ยิ่งพี่คิวนี่แกล้งไม่ปล่อยเลย ฮ่าๆ
-
ขนาดเจ็บอยู่พี่คิวยังแกล้งเค้กได้เลย 55 น่ารัก
-
พี่คิวเริ่มน่ารัก
-
น่ารักมากๆเลยอ่ะ อยากให้มีภาคพี่คิวมั่งจังเลย อยากรู้ว่าคนนี้คิดอะไรบ้างอ่ะ o18 o18
-
:a:
สุขสันต์วันเกิดจ้า ขอให้ได้เจอแต่คนน่ารัก
ทำอะไรก็สมหวัง ได้ดังใจนะ
:L1:
แปะโป้งไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเข้ามาอ่าน o13
-
เค้กเหมือนไม่ค่อยจะให้ความยำเกรงคิวเท่าไร
ทำเหมือนเป็นเพื่อนเล่น
กับพี่ๆ คนอื่นที่อายุน้อยกว่าคิว เค้กยังให้ความเคารพมากกว่านี้นี่หน่า
หรือพี่คิวมันกวนน้องซะจนน้องไม่เคารพ
แล้วสายตาคิวเหมือนรู้ทันนี่คือรู้ว่า เค้กแอบชอบคิวน่ะเหรอ
-
เอาแล้วไงพี่คิวน่ารักกกก :o8:
-
พี่คิวก็นะ อ่านตอนนี้แล้วอยากกินจ่ามงกุฎเลยอ่ะ หากินก็ยาก แถมแพงด้วยขนมไรว้า ฮ่าา เค้กน่ารักทุกตอนเลย ส่วนกัสเซ็นยังไงเนี่ย
-
สุขสันต์วันเกิดนะตัวเอง มีความสุขมากๆเน้อเบบี้ที่รักของเค้า :)
-
ยังไม่ได้อ่านแต่มาแปะไว้ก่อน ;) :3123:
-
อ่านไปก็คิดในใจว่า...แหม๊...มันก็อยากให้อยู่เฝ้ากันทั้งสองฝ่ายแหละว้า...
แค่ซึนมาเจอซึนกว่าก็เท่านั้นเอ๊งงงงงง
ชักอยากให้พี่คิวป่วยนานๆ อิิิอิอิ :o8:
-
เห็นทะเลสงบแบบนี้ ก็ให้หวั่นใจว่าพายุกำลังจะเข้า ขอให้'ฝันร้าย'แค่แป๊บเดียวก็พอนะ
จะหมดวันแล้วแต่ก็ยังร่วมอวยพรวันเกิดทันอยู่นะครับ
-
พี่คิวขี้เก๊กจริงๆ ให้ตายเถอะ คนมันหล่อ รวย นิเนอะ
ยอมให้เค้าละกัน
เมื่อไหร่จะเลิกเก๊ก แล้วยิ้มหวานๆให้น้องเค้กผู้น่ารักซักที :o8:
HBD เบบี้ด้วยนะคะ
ขอให้ความสุขมากๆ และขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้เราอ่านจนติดงอมแงม :กอด1:
รอสลิ่มกับพี่เมตร ที่จะมาพร้อมกันด้วย :mc4:
-
Happy birth day จ้าเบบี้ มีความสุขมากๆนะ สุขภาพแข็งแรง
อ่านแล้วหน่วงๆ 5555555+
-
พี่คิวพัฒนาล่ะ
-
ติดตามต่อไปเรื่อยๆ อย่างใจจดใจจ่อ..
-
:mc4: กดเข้ามาอัพเดตทุกวัน กรี๊ดๆๆๆ วันนี้ ตอน 35 มาแล้ว ก่อนกด ก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าบี้อัพตอน 35 แล้วจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน
555 บ้าไปแล้ววววว
อ่านตอนนี้แล้วก็แก้มปริ ตามเคยเหอะ
ขำเหล่า พี่ๆ ทั้งหลายในร้าน ดูเป็นใจกันเหลือเกิน นี่สรุป รู้กันหมด ดูกันออกทั้งร้านแล้วใช่ปะ
อร๊ายๆๆๆ เขินแทน น้องเค้ก จริงๆ เลย
อ่ะน่ะ พี่คิว อยากให้น้องอยู่ด้วยนานๆ
โครตเนียนเลยอ่ะ
แล้วพี่คิวทำหน้าแบบไหนหรอเค้ก ถึงได้แอบขนลุก แบบนี้หรอ?? :haun4: 555
-
ตอนนี้น่าจะกลับกันมากกว่านะค่ะน้องเค้กว่า ใครรู้ไม่ทันน้องเค้กมาก เขินได้น่ารักแบบนี้
เค้าจับได้กันหมดแล้วค่ะตอนนี้อ่ะ แล้วพี่คิวที่จริงอยากกินฝีมือน้องเค้กรึเปล่าค่ะเนี้ย คริๆ
ชอบเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกันจริงๆเลย เค้กก็หลบสายตาอันร้อนแรงของพี่คิวตลอด (ว่าไปนั้น 555) พี่คิวจ้องมากๆ เดี๋ยวน้องได้ละลายไปก่อนนะค่ะ
สุขสันต์วันเกิดนะค่ะ
-
อยากกินขนมถั่วแปบรึอยากเจอหน้าเค้ก กันแน่ 555+++
-
คู่นี้จะหวานทีก็หวานแปลกๆแหะ กร๊ากกกกกก
คำพูดคำจา กัดกันไปกัดกันมา จริงๆเขินกันอยู่อะเด่
ต้องการอะไรก็บอกไปตรงๆเถอะ เดี๋ยวพลาดท่าเข้าใจผิดกันขึ้นมาจะเสียใจนะจ๊ะ คิคิ
ขอบคุณเบบี้ที่เลี้ยงวันเกิดด้วย(น้อง)เค้กแสนน่ารักนะคะ รักเธอที่สวดจริงๆนะ >3<
-
อะไรจะหวานกันขนาดนี้ :impress2:
-
คึคึคึ
พี่คิวววววววน้องเค้กกกก
แอบหวานน้าาา >.<
-
ว้าวมาต่อแล้ว แอบหาเค้าเขินกัน 55
-
HBD คร้าบบบ
-
จะรออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ :L1:
-
นับวันยิ่งน่ารัก ^^ ชอบๆๆ อยากให้เปนแฟนกันเร็วๆจัง จิ้นนนน
-
เค้กกลับมากวนพี่คิวเหมือนเดิมแระ :laugh: พี่คิวก็โคตรกวนเลยยยยย
ทุกคนรู้งานกันมากกกกก ปล่อยให้เค้กกับพี่คิวมีเวลาอยู่ด้วยกัน :impress2:
ชอบเวลาที่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน เขินนนน :-[
รออ่านตอนต่อไปค่าาา :pig4:
-
ตอนนี้กลิ่นมันชมพู๊ชมพูไงไม่รู้เนาะเจ้ อิอิ อยากรู้ไอ้บ้าที่ยิงพี่คิวจังว่าเป็นอย่างไร
-
น่ารักอ่ะ...อ่านแล้วเขิลแทนน้องเค้ก
เขิลทำไมก้อไม่รู้ :o8:
-
..พี่คิว เป็นนักอ่านใจ เค๊กไปซะแล้วรู้ไปซะหมด แล้วพี่ๆเพื่อนๆๆเป็นอะไรกันนี่
.. แหม รู้ใจพี่คิวหรือไงว่าอยากอ้อน หาเรื่องออกจากห้องกันหมดเลย :laugh:
-
ชอบๆๆๆๆๆๆ
-
น่ารักอ่ะ
HBD จ้า สุขสมหวังในทุกเรื่อง :L1:
-
อ่านตอนนี้แล้วเขินมว๊ากกกกก
ทุกคนดูเป็นใจกันไปหมดเลยนะ ฮ่ะๆๆ
พี่คิวน่ารักขึ้นเยอะเลยอ่ะ ><
แหย่กันไปแหย่กันมาจริง ๆ เลยน๊า
คนป่วยก็อยากให้อยู่ คนมาเยี่ยมก็อยากจะอยู่สินะ ฮิ้วววว
-
พี่คิว อ้อนเค้กให้มาเยี่ยมอีกใช่ป่ะ โธ่ ทำเป็นอยากกินถั่วแปป จริงๆแล้วอยากให้เค้กมาอีกละซิ
-
Happy Birth day ย้อนหลังนะเบบี้ สุขกาย สุขใจ สุขภาพแข็งแรงนะจ๊ะ ^^
...คิวขี้แกล้งอ่ะ ... เค้กเอ๊ย เค้ารู้กันทั้งร้านแล้ว แถมยังช่วยกันเปิดโอกาสให้อีก ชอบๆ
-
เค้กน่ารักมาก...พี่คิวก็รู้ทั้งรู้แต่ก็ชอบใช่มั้ยล่ะ(แกล้งน้องแล้วยิ้มตลอดเลย) :o8:
-
อยากให้เค้กมาหาก๊ไม่บอก เก๊กไม่เลิก ไอพี่คิว :angry2:
-
โอ๊ย เ้ค้กน่ารักอ่ะ
-
หายเร็ว ๆ นะพี่คิวว >,< นะตอนนี้อยากบอกว่าไม่ชอบฝัน 55 :z2: :z2:
-
:sad4:เย้ๆๆพี่คิวดีขึ้นแล้ว ดีใจจัง
-
พี่คิวเจ้าเล่ห์มาก
ไปจัดการยัยฝัยเลยไป
ยัยนี่ตัวปัญหาสุดๆ
-
ข้างในตัวฉัน <<< ใันดูอิดรติคว่ะพี่คิว อร๊างงง
พี่คิวเหมือนจะอ่านออก ใครๆก็เหมือนจะดุออกนะเค้กกกก
น่ารัก
ยิ่งอิตอนเถียงกันอยู่ไม่อยู่ น่ารัก
-
พี่ๆในร้านเริ่มจับไต๋ได้แล้วแน่ๆเลย ดูเป็นใจให้พี่คิวกับเค้กอยู่ด้วยกันเหลือเกิน คึคึ
พี่คิวนี่ก็เก๊กเหลือเกิน อยากกินขนมฝีมือน้องละสิ ทำเป็นเข้มนะ >.,< แอบชอบน้องแล้วอ่าสิ
กรั่กๆ เค้กเอ้ยยย ทุกคนเค้ารู้หมดแล้วว่าหนูชอบพี่คิวน่ะ คึคึคึ
-
คนในร้านก็รู้เห็นเป็นใจกันเหลือเกินนะ ฮ่าๆ :laugh:
-
พี่คิวอ่านใจเค้กออกหลอเนี่ยย
เดาใจเค้กถูกตลอดเล้ยยย
แล้วพี่คิวล่ะคิดยังไง???
-
:z2:มาต่อเร็วๆๆนะครับ รอตอดหน้าจอเลย o13
-
~36~
วันอาทิตย์ ณ บ้านเค้ก..
“ขนมหวานเอาไปแล้ว ผลไม้เอาไปแล้ว กับข้าวเอาไปแล้ว” ผมพูดกับตัวเองที่กำลังตรวจของที่อยู่ในถุงผ้าของร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ อาหารสำหรับไปเยี่ยมคนไข้ที่โรงพยาบาลได้จัดอยู่ในถุงผ้าแล้วเรียบร้อย
“ครบไหมลูก เอาอะไรอีกไหม” แม่ถาม
“ไม่ละครับ..เค้กไปนะแม่ เดี๋ยวคนที่โรงบาลจะหิวตายซะก่อน” ผมยิ้ม
“หนูน่ะ พูดไม่เพราะ” แม่ปราม
“ไม่เพราะตรงไหนอ่ะ” ผมทำหน้างอใส่
“ไปแซวพี่เค้าทำไมล่ะ” แม่ตีแขนผมเบาๆ
“อ่ะ” ผมร้องแต่ก้มตัวลงไปหอมแก้มแม่
“ค้าบ..ไปแระ” ผมยิ้มให้ เดินถือถุงผ้าออกมาใส่รองเท้าที่หน้าบ้าน ผมเดินทางไปโรงพยาบาลกรุงเทพโดยใช้ราชรถประจำ นั่นคือ..รถเมล์
ก๊อก ๆ ๆ
“อ่าวคุณเค้ก สวัสดีค่ะ” พี่เขียวยกมือไหว้ผม ผมรีบยกมือไหว้รับเพราะถึงอย่างไรพี่เขาก็แก่กว่าผมมาก
“พี่ไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ” ผมยิ้มแหย เขินเหมือนกันเพราะตั้งแต่โตมา ยังไม่เคยมีผู้ใหญ่คนไหนยกมือไหว้ผมก่อนเลย มันแน่อยู่แล้วที่เด็กควรจะเคารพผู้ที่ใหญ่กว่าและยกมือไหว้ก่อน แต่คนรวยนี่ก็แปลกดี ไม่ว่าจะคนแก่กว่ารึเด็กกว่าจะต้องไหว้เขาก่อนไปซะหมด
“นี่อาหารของยักษ์ในห้องน่ะครับ” ผมชูถุงให้พี่เขียวดู พี่เขียวอมยิ้มรับไปถือไว้
“นอนอยู่เหรอครับ” ผมถามถึง
“นอนดูหนังอยู่น่ะค่ะ เข้าไปไม่ได้เลย..กลัวจะโดนดุออกมา” พี่เขียวพูดกระซิบหน้าแหย เป็นที่ทราบกันดีว่าเวลาที่พี่คิวดูหนังอยู่นั้นห้ามเข้าไปรบกวน ถ้ามีธุระจริงๆจะมีเพียงป้านิดคนเดียวเท่านั้นที่เข้าไปพูดคุยด้วยได้
“ครับ เดี๋ยวเค้กลองดูก่อน” ผมบอกแล้วเดินไปที่หน้าประตูห้องนอน
ก๊อก ๆ ๆ
“ขออนุญาตคร้าบ” ผมพูดเสียงยานคางแกล้งซะเลย อีกฝ่ายเหลือบหางตามามอง กดรีโมทโทรทัศน์ เสียงโทรทัศน์หยุดในทันที ทำให้ผมทราบถึงสถานการณ์ล่วงหน้าที่จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
“กินข้าวเลยไหมครับ” ผมยิ้มถาม
“ช้า..มาก” พี่เขาพูดเสียงแข็งทัก ดูคำตอบที่ออกมาจากหน้าตานิ่งๆนั่นสิครับ ความรู้สึกเหมือนทุกอย่างเป็นความผิดของผมอย่างนั้น
“เพิ่งสิบเอ็ดโมงเองครับ” ผมบอก ถึงแม้จะเกือบเที่ยงแล้วก็เถอะ
“ทานเลยนะครับ จะได้จัดโต๊ะให้” ผมยิ้มสู้
“อื้อ” พี่คิวพยักหน้าส่งๆ
“คิววว~” ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองทางด้านหลัง พี่ฝันเดินยิ้มเข้ามาแต่เธอก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อหันมาเห็นว่าผมอยู่ด้วย ผมยิ้มให้หน่อยและยกมือไหว้เธอพอเป็นมารยาท
“ทำอะไรอยู่เหรอ ทานข้าวกลางวันรึยัง” พี่ฝันถาม เดินตรงไปหาพี่คิวที่เตียงคนไข้
“ยัง” พี่คิวตอบ ผมยังคงยืนอยู่กับที่เพราะทำตัวไม่ถูก ดูจากสถานการณ์และคำพูดของพี่ฝันจะทำให้ผมรู้ว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร
“ฝันไปโรงแรมคิวมา เลยให้เชฟใหญ่จัดอาหารมาให้ล่ะ มีตั้งสี่ห้าอย่าง ทานเลยไหม..” พี่ฝันถามพร้อมกับชูถุงเฉพาะของโรงแรมพี่คิวขึ้น
“............” พี่คิวเงียบ ทั้งผมและพี่ฝันจึงเงียบด้วยเช่นกัน พี่คิวเหลือบมามองผมเล็กน้อย ผมยิ้มตอบให้หน่อยๆ
“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดบอกเป็นนัย ผมกำลังรู้สึกอึดอัดอย่างมาก อีกอย่างผมจะมีหน้านำอาหารของผมไปสู้กับอาหารที่พี่ฝันนำมาด้วยได้อย่างนั้นเหรอครับ ผมไม่เสียใจหรอกถ้าพี่คิวจะปฏิเสธอาหารของผมเพราะผมคิดว่าพี่คิวเองก็คงลำบากใจด้วยเหมือนกัน
“เอ่อฝัน พอดีคิวให้เค้กทำอาหารมาแล้วน่ะ” พี่คิวหันไปบอกพี่ฝัน ผมอ้าปากค้าง ผมเห็นพี่ฝันชะงักไปนิดหนึ่งก่อนที่จะเธอจะยิ้มออกมา
“งั้นเหรอ งั้นไม่เป็นไร..งั้นเอาไว้ทานตอนเย็นก็ได้เนอะ เดี๋ยวฝันฝากให้พี่เขียวอุ่นให้คิวทานตอนเย็นก็แล้วกันนะ” พี่ฝันพูดทั้งรอยยิ้ม
“อืม..ขอบคุณนะครับ” พี่คิวพยักหน้าบอก
“ไปจัดสิ ยืนอยู่ทำไมล่ะ” พี่คิวเหลือบหางตามามอง ผมรีบพยักหน้าและเดินออกมาจากห้องนอน รู้สึกเหมือนตัวเองจะมึนๆแปลกๆแฮะ ผมเดินไปเปิดทัพเพอร์แวร์ที่เตรียมอาหารมา เห็นแล้วก็เศร้าใจกับอาหารที่ตัวเองเตรียมมานิดหนึ่ง ความภูมิใจที่เคยมีหลังจากที่ทำอาหารเสร็จหายไปในชั่วพริบตา..
ปึก !!
ผมสะดุ้ง สายตาเห็นแล้วว่าถุงที่คุ้นตานั่นกระแทกวางลงที่ตรงข้างๆกับถุงอาหารของผม ผมยืนจัดอาหารต่อโดยที่ไม่ได้เงยหน้าไปมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้คงยืนอยู่ข้างๆผม รังสีที่ไม่พอใจจากเธอตอนนี้ผมรับรู้ได้เป็นอย่างดี
“อาหารบ้านๆ” น้ำเสียงเรียบแต่ฟังดูเย้ยหยันพูดเสียงเบาซึ่งคงมีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่ได้ยิน ผมหันไปมองหน้าพี่ฝัน และยิ้มให้เธออย่างที่ผมเองรู้ตัวและยอมรับกับความเป็นจริง
“ครับ ก็..บ้านผมจนหนิ” ผมยิ้มพูด ดูเหมือนคำตอบของผมจะทำให้พี่ฝันไม่พอใจกว่าเดิม เธอมองตาขวางและอยู่ๆก็เดินออกจากห้องไป ผมยืนนิ่ง พยายามปรับอารมณ์ให้คงที่อย่างเดิม พี่เขียวที่ยืนมองอยู่ห่างๆ เธอเองมีสีหน้าไม่สู้ดีเหมือนกัน ผมยิ้มกว้างให้เลยทำให้เธอมีสีหน้าที่ดีขึ้นและกล้าที่จะเดินเข้ามาหาผม
“............” ผมยังคงยืนนิ่ง มองไปที่ถุงอาหารของพี่ฝันสลับกับอาหารของผมอีกครั้งและก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ
“คุณฝัน..ที่จริง เธอเป็นคนน่ารักนะคะ คุณอย่าคิดมากเลยนะคะ” พี่เขียวพูดด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ เธอก้มหน้าก้มตาเหมือนกลัวว่าผมจะดุเธอ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ผมยิ้มบอกและหันกลับมาจัดอาหารต่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่ช่วยเองค่ะ” พี่เขียวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น ผมพยักหน้าตอบ เราสองคนช่วยกันจัดอาหารและนำไปเสิร์ฟให้คนไข้ถึงที่เตียง อาหารมื้อนี้มีผัดผักรวมมิตร ต้มจืดเต้าหู้หมูสับที่ผมเป็นคนลงมือทำเอง ปลานึ่งราดซอสฝีมือของแม่ผม และแน่นอนเมนูที่ขาดไม่ได้คือขนมถั่วแปบที่แม่ลุกมาทำตั้งแต่เช้ามืด
ผมจัดการเช็ดช้อนส้อมให้พี่คิวไปเรื่อยโดยไม่ได้หันไปมองอีกฝ่ายเพราะรู้สึกเหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องผมอยู่ แล้ว..จ้องทำไมไม่ทราบ มือผมเกร็งจนผมคิดว่าถ้าผมไม่วางช้อนลงในตอนนี้มือของผมจะต้องสั่นต่อหน้าพี่เขาแน่ๆ
“มีแต่อาหารจืดๆนะครับ” ผมพูดบอกลอยๆก่อนที่อีกฝ่ายจะทาน
“หวังว่าจะชอบ” ผมพูดและวางช้อนส้อมลง เดินตรงไปที่โต๊ะที่ปลายเตียงและนั่งลง ผมเลือกนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด นั่นเป็นเก้าอี้ตัวที่ทำให้ผมต้องนั่งหันหลังให้พี่คิวได้ ซึ่งเป็นที่นั่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะ ในห้องเงียบสนิท ผมหยิบหนังสือนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่านฆ่าเวลาไปพลาง
ตื๊ด ๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์สั่น คงเป็นโทรศัพท์ของพี่คิว ผมนั่งนิ่ง ในห้องเงียบมากจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก..
“นี่..” ผมหันไปตามเสียงเรียกที่หยิ่งยโสนั่น
“หยิบมือถือให้หน่อย” พี่คิวบอกเหมือนสั่ง ทั้งสองมือมีช้อนส้อมเตรียมอยู่ในมือของตน
“อยู่ไหนล่ะครับ” ผมถาม
“ชาร์ตแบตอยู่บนหลังตู้เย็นน่ะ” พี่เขาบอก ผมหันไปมองและเดินไปหยิบมือถือนำไปให้พี่คิวโดยที่ไม่ได้เหลือบมองเลยว่าใครโทรเข้ามา ถึงแม้ใจจริงอยากจะดูมากก็ตาม..
“นี่ครับ” ผมยื่นให้
“ขอบใจ” พี่คิวรับไปและกดรับทันที
“อืม” พี่คิวส่งเสียงทักปลายสาย สงสัยคงจะสนิทถึงแม้จะรับเหมือนน้ำเสียงไร้อารมณ์ แต่เป็นการทักทายแบบคุ้นเคยแหละนะ..รึเปล่า
“ก็ดีขึ้นแล้ว” ผมเดินกลับมานั่งที่เดิม หูผึ่งรับฟังเต็มที่ ผมแกล้งทำเป็นหยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นอ่านไปเรื่อยคล้ายกับไม่ได้สนใจ
“ไม่กลับ”
“พี่บอกว่าไม่ไง” น้ำเสียงพี่คิวดูเหมือนจะเริ่มไม่พอใจเท่าไหร่
“ฟ้าคราม” พี่คิวย้ำเสียง ฟ้าคราม..น้องสาวพี่คิวนี่นะ
“อืม..ดูแลแม่ไปเถอะ พี่ไม่เป็นไรหรอกน่า ไปอยู่ด้วยสิอาจจะเป็นอะไร” ผมแทบจะหัวเราะกับคำพูดประชดประชันของพี่เขา ที่พูดบ่อย..พูดได้เก่งเหลือเกิน
“รู้..แต่อยู่อย่างนี้ก็ชินแล้ว ชิน..ตั้งนานแล้ว” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่แยแสอะไร
“ครับ”
“พี่รู้แล้ว อย่าพูดมากได้ไหม”
“อื้อ..” อีกฝ่ายทิ้งน้ำเสียงลงเหมือนได้ตัดสายไปแล้ว ห้องเงียบลงสนิทอีกครั้ง ผมลองหันกลับไปมองด้วยความอยากรู้
“ไร” อีกฝ่ายถามเสียงห้วน นั่นไง..คุยเสร็จแล้วจริงๆด้วย ไม่งั้นคงไม่มีเวลามาทำตาขวางใส่แบบนี้หรอก..โด่
“เปล่า” ผมตอบและรีบหันกลับมาในท่าเดิม
“ต้มจืดหรือต้มเกลือ” เสียงบ่นจากคนทางด้านหลัง
“ไม่เค็มสักหน่อย แม่บอกว่าพี่ควรทานแต่อาหารเบาๆท้อง..เค้กก็ไม่ได้ทำเค็มนะ” ผมหันไปร่ายยาว จ้องตาพี่คิวเขม็งอย่างไม่พอใจ พี่เขายักหัวกวนๆพร้อมเบะปาก และอยู่ๆพี่เขาก็ตักต้มจืดขึ้นชิมต่อหน้าต่อตาผม
“เพิ่งชิมน่ะ” พี่คิวยักคิ้วกวน ผมทำหน้าเอือมใส่
“ติ๊งต๊อง~” น้ำเสียงร่าเริงแบบนี้คุ้นชินแบบไม่ต้องทายว่าเป็นใคร พี่ฟ้าเดินยิ้มร่าเข้ามา
“หวัดดีครับ” ผมยิ้มทัก
“จ้า..มานานแล้วเหรอเค้ก” พี่ฟ้ายิ้มตอบ เดินนำถุงที่หอบมาด้วยอย่างพะรุงพะรังนำไปวางที่โซฟายาว
“เพิ่งมาเมื่อกี้แหละครับ” ผมตอบ
“ไง..เจริญอาหารจังเลยนะเด็กน้อย” พี่ฟ้าเดินเข้าไปลูบหัวพี่คิวอย่างหยอกล้อ พี่คิวหยุดทานและปัดมือพี่ฟ้าออกทันที
“ยุ่งน่า กินอยู่ไม่เห็นรึไง” หลานตัวดีว่า พี่ฟ้าทำหน้างอมองค้อนหลานตัวเอง
“ชิ..คนเค้าอุตส่าห์คุยด้วยดีๆ” พี่ฟ้าสะบัดหน้าเดินกลับไปที่โซฟา ก่อนจะนั่งลงและเปิดถุงที่หอบมาเมื่อกี้ด้วยท่าทางร่าเริงอย่างเดิม อารมณ์เข้าๆออกๆทั้งอาทั้งหลานนั่นละครับ
“ที่งานเป็นไง” พี่คิวถามขึ้นโดยไม่ได้หันไปมองฝ่ายที่ตนกำลังคุยด้วย พี่ฟ้าหุบยิ้มลง มือยังคงหยิบเสื้อผ้าออกมาดูแต่สีหน้ากลับไม่ร่าเริงอย่างเดิม
“............” จู่ๆในห้องก็เงียบลง จนผมรับรู้ได้ถึงสถานการณ์มาคุอีกแล้ว
“ก็ดี” พี่ฟ้าตอบเสียงเบา ทั้งทั้งที่ตอนแรกพี่ฟ้าเงียบไปนานจนผมคิดว่าพี่ฟ้าคงจะไม่ตอบคำถามของหลานตัวเองแล้วซะอีก
“ก็ดี” พี่คิวย้ำด้วยน้ำเสียงเหมือนขอผ่านไปทีเช่นกัน
“ออกจากโรงพยาบาลแล้วจะไปอยู่กับแม่ไหม” พี่ฟ้าถาม ตาไม่ได้หันไปมองพี่คิวในระหว่างที่พูดเลย พี่คิวเงียบ เคี้ยวอาหารต่อเหมือนไม่ได้ยินถามนั่น
“จะไปก็ได้นะ ไม่เป็นไร..อาอยู่ได้หรอก” พี่ฟ้าพูดยิ้มๆ
“จะไม่ไป..ก็ไม่ใช่เพราะคุณสักหน่อย” พี่คิวย้อน
“หึ..นะ” พี่ฟ้าหัวเราะน้อยๆ พับเสื้อฟ้าเก็บเข้าถุงกระดาษอย่างเดิม
“แม่เป็นห่วงมากนะ อยากให้กลับไปอยู่บ้าน” ผมหันกลับมาสนใจหนังสือในมือของตัวเองอีกครั้ง เพราะคิดว่าถ้าตั้งใจฟังไปมากกว่านี้คงจะเป็นการเสียมารยาท
“ไม่..คุยกับฟ้าครามแล้วเมื่อกี้” พี่คิวบอก
“พ่อก็ด้วย” พี่ฟ้าพูดบ้างและเงยหน้ามองพี่คิว
“รายนั้นยิ่งไม่เป็นไรใหญ่” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“แต่..”
“เรื่องทุกอย่างก็จบลงแล้ว อาหมายถึง..มันก็โอเคขึ้น ถ้าคิวจะกลับไปอยู่ที่บ้านบ้าง แม่ก็คงจะดีใจ” พี่ฟ้าบอก
“อยู่ตรงไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ” พี่คิวย้อนกลับทันควัน
“ตัวก็อยู่กรุงเทพนะ ไม่ได้อยู่อิตาลีสักหน่อย..หรืออยากจะให้กลับไป” พี่คิวว่าด้วยน้ำเสียงคงที่เหมือนไม่อยากจะขึ้นเสียงไปมากกว่านี้ คำพูดของพี่เขาคล้ายกับกล้าทำอย่างที่พูดจริงๆทำให้พี่ฟ้าเงียบลงทันใด ผมได้ยินเสียงถอนหายใจจากพี่ฟ้า
“ทุกคนคิดว่าอารั้งคิวไว้” สิ้นคำพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจจากพี่ฟ้า พี่คิวเงียบในทันที ผมเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าพี่คิวหยุดเคี้ยวไปชั่วขณะ
“แม่ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก” พี่คิวบอกและกินต่อ พี่ฟ้าอมยิ้มออกมาเพียงนิด
“คิวไม่ไป แล้วช่วยหยุดพูดจะได้ไหม..กินอยู่ไม่เห็นรึไง” พี่คิวว่าคิ้วขมวดชนกัน ถ้าตอนนี้เป็นกรณีของผมแทน ผมเดาว่าพี่คิวคงจะต้องต่อท้ายด้วย “เสียมารยาท” อย่างแน่นอน
“เฮ้อ..เอาแต่ใจจังน้า” พี่ฟ้าถอนหายใจยิ้มๆและเอนตัวพิงพนักโซฟา
“ไม่น่าเลี้ยงมาแบบผิดๆเลยฉัน” พี่ฟ้าบ่นและหันมามองหน้าผม พี่แกอมยิ้ม ผมยิ้มตอบให้อย่างเข้าใจ
“ประสาท” พี่คิวว่า
“หึ..ซื้อหนังมาให้ตามที่สั่ง เดี๋ยวอาไปก่อนละ” พี่ฟ้าเดินนำถุงไปวางไว้บนหัวเตียง
“ไปไหน” พี่คิวถาม
“เข้าร้านไปตรวจบัญชีแป๊บนึง แล้วก็เข้าคิงกรุ๊ป..นัดกับปรัชญาไว้ ตอนเย็นก็ต้องไปรับบัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตที่โรงเรียน พาไปซื้อของอีก สัญญาไว้แล้ว..เดี๋ยวจะงอแง” พี่ฟ้าพูดบอกบ่นๆ
“แล้วก็ เอ่อ..ไปฟังพระสวดเย็นนี้” พี่ฟ้ายิ้มแห้ง
“อืม” พี่คิวเพียงพยักหน้าตอบ
“แล้วเรื่องพินัยกรรม ทุกคนรอคิวคนเดียวนะ” พี่ฟ้าบอก
“หึ..แคร์เมื่อไหร่” พี่คิวแสยะหัวเราะ พี่ฟ้าส่ายหัวด้วยอาการเอือมอย่างเห็นได้ชัด
“คงกลับมาได้ดึกๆนะ เห็นไอ้เซ็นบอกจะแวะมาก่อน” พี่ฟ้าพูดต่อ
“ไม่ต้องกลับมาก็ได้ กลับบ้านไปเถอะ..” พี่คิวบอก
“งั้นให้เซ็นมาเฝ้าแทน”
“ผมไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” พี่คิวย้อน
“แล้วจะลุกไปเข้าห้องน้ำยังไง ใครจะมาเฝ้าก็ไม่เอาสักคน ปากเก่งจริง..เดี๋ยวให้เซ็นมาอยู่ด้วยนั่นแหละ หุบปากไปเลย” พี่ฟ้าว่าด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะเดินไปหยิบถุงทุกถุงที่วางอยู่ที่โซฟามาถือ
“เค้กช่วยครับ” ผมรีบลุกไปหาเพื่อจะช่วยพี่ฟ้าถือของ
“ไม่ต้องหรอก ดูแลหลานสุดที่รักแทนพี่เถอะ” พี่ฟ้าหันมายิ้มกว้างให้ ผมเหลือบหันไปมองหลานรักที่ว่าบนเตียง ซึ่งดูเหมือนจะไม่แยแสอยากให้ดูแลสักเท่าไหร่
“ฝากด้วยนะเค้ก เอาแต่ใจไปหน่อย..แต่ก็ ทนๆไปเถอะนะ” พี่ฟ้าเบะปากพยักหน้างึกงัก
“นี่..ก้าวขาออกไปสักที” พี่คิวไล่ตาขวาง
“หึ..บ๊ายบาย” พี่ฟ้ายกมือบ๊ายบายให้ผม
“หวัดดีครับ” ผมยกมือโบกตอบ กลังจากนั้นห้องนี้ก็กลับเข้าสู่โหมดก่อนหน้าอีกครั้ง..
“พี่จะดูอะไรไหมครับ” ผมถามเพราะไม่อยากให้ห้องเงียบเกินไป
“ไม่..นายจะดูก็ดูสิ” พี่คิวตอบ
“งั้น ไม่เกรงใจละนะ” ผมยิ้ม รีบพุ่งตรงไปที่แผ่นภาพยนตร์ทันที
“เคยงั้นเหรอ” พี่คิวว่าอีก
“ตลอดแหละ” ผมย้อน หลังจากนั้นผมได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ผมเปิดการ์ตูนดู พี่คิวจากที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทานข้าวเลยต้องดูไปทานไปโดยปริยาย หลังจากที่พี่คิวกินอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่เขียวเข้ามาทำหน้าที่ของตัวเองโดยการเคลียร์จานชามทั้งหมดไป
“ขอกาแฟหน่อยสิ อยากกิน” พี่คิวมองหน้าผม
“ไม่ได้หรอกครับ พี่ฟ้าสั่งห้ามไว้” ผมส่ายหัวตอบ พี่คิวหน้านิ่งในทันที ดูสีหน้าของพี่เขาจะไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของผมเท่าไหร่นะครับ
“กาแฟ” อีกฝ่ายย้ำพูดด้วยสายตาที่กำลังบังคับขู่เข็ญผมอย่างเห็นได้ชัด
“นมสดร้อนไหมครับ” ผมถาม พยายามไม่สนใจสายตาตรงหน้าเพราะเดี๋ยวจะอดยอมให้ดื่มไม่ได้
“ไม่” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
“จะเปลี่ยนเรื่องไหมครับ หรือว่าเอาหนังสือไหม” ผมพูดเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยเพราะดูเหมือนคนบนเตียงจะเริ่มไม่พอใจกับการที่ผมไม่ยอมทำตามใจพี่แกแล้ว
“............" พี่คิวไม่ยอมตอบ เอ่อ..เงียบนี่คือ อะไร ไม่พอใจ..รึโกรธ
“ครับ” ผมย้ำ พี่คิวหันมาจ้องผมเขม็ง
“เข้าห้องน้ำ” คำสั่งสินะ ToT เฮ้อ..ปรับอารมณ์ไม่ทันเลย
“ไปครับไป..ก็ไปสิครับ” ผมพยายามฉีกยิ้ม
“ยังไงไม่ทราบ” พี่คิวย้อนหน้ากวน ผมยืนนิ่งอย่างไม่เข้าใจ
“หน้าที่เค้กงั้นเหรอ” ผมชี้หน้าตัวเอง
“แน่นอน” พี่คิวเลิกคิ้วกวนกลับ ผมเดินเลียบๆเคียงๆตรงไปที่เตียงอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกตัวเองขาดความมั่นใจลงในทันที
“ยังไงล่ะครับ” ผมยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก พี่คิวเริ่มขยับตัวลุกขึ้นนั่งและหย่อนขาลงจากเตียง
“หึ..” อีกฝ่ายหัวเราะ ผมมองค้อน อยู่ๆพี่คิวก็จับแขนผมเข้าไปใกล้ตัวเอง
“อะไรของพี่ล่ะ” ผมเอนตัวหนีเล็กน้อย
“ถ้านายไม่พยุงฉัน แล้วฉันจะไปยังไงไม่ทราบ..ถือสายน้ำเกลือด้วย” พี่คิวว่า ผมเงียบและคิดหนัก แต่ก็ต้องยอมเลยตามเลยให้พี่คิวเอาแขนวางลงบนไหล่ของผม
“หนักชะมัด” ผมบ่น
“อยู่ดีกินดีนี่นะ” พี่คิวย้อนหน้าตาย
“เค้กก็อยู่ดีกินดีเหมือนกันเหอะ” ผมย้อนบ้าง พี่คิวไม่ตอบโต้อะไรอีก ดูเราจะทุลักทุเลนิดหน่อยกว่าจะเดินไปถึงห้องน้ำ
“ได้รึเปล่าครับ” เมื่อส่งถึงห้องน้ำแล้วผมก็ถามด้วยความเป็นห่วง
“จะอยู่ด้วยก็ได้นะ” พี่คิวยักคิ้ว
“บ้า” ผมว่าแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำทันที ไอ้บ้า..ขนาดป่วยยังจะกวนคนอื่นอีก หลังจากที่พี่คิวเข้าห้องน้ำไป ผมยืนรอพี่คิวอยู่หน้าห้องน้ำอยู่นาน เรียกว่านานมาก..! เกือบสิบห้านาทีกว่าพี่เขาจะเปิดประตูออกมา
“นานอ่ะ” ผมบ่น
“ใครบอกให้ยืนรอล่ะ ไปนั่งรอก่อนก็ได้..ฉันเสร็จฉันก็เรียกเอง คิดไม่ได้เอง..ช่วยไม่ได้” พี่คิวจัดชุดใหญ่ย้อนให้ในทันที
“อ๊ะ งั้น..งั้นเดินเองเลยนะฮะ” ผมสะบัดหน้าก้าวขาจะเดินหนี
ปึก !!
แง่ง..ไอ้บ้าพี่คิว ด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆก็กระชากแขนผมเข้าไป ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซเข้าไปชนกับอกของพี่เขาเข้าให้อย่างจัง อีกฝ่ายจ้องหน้าผมเขม็ง
“เจ็บ” พี่คิวบอก คิ้วของพี่เขาขมวดเข้าหากัน ไม่รู้ว่าสายตาคู่นี้จะสังเกตเห็นรึเปล่าว่าผมกำลังหน้าแดงแน่ๆ ใจผมเต้นแรงจนแทบกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน แก้มของอีกฝ่ายมีรอยยิ้มบางๆออกมา บวกกับสายตาคู่นี้ที่กำลังจ้องผมอยู่ สายตาที่ถ้าผมสามารถล้วงเข้าไปแล้วขว้างทิ้งได้ผมก็จะทำ..
“จะยื้อทำไม” พี่เขาว่าพร้อมกับวางแขนลงบนไหล่ผม ผมเพิ่งรู้สึกว่ามือของพี่คิวคงใหญ่มากก็วันนี้ เพราะว่ามือของพี่คิวโอบหัวไหล่ผมไปอยู่ในมือได้อย่างง่ายดาย
“พี่ก็อย่าทิ้งแรงสิฮะ” ผมว่าเสียงเบา สุดท้ายต้องเอื้อมแขนไปโอบเอวพี่คิวช่วยไว้อีกแรงเพื่อให้เราเดินกลับไปที่เตียงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
“หึ..”
“หัวเราะไร” ผมเงยหน้ามองอย่างไม่พอใจ คิ้วขมวดชนกันจนรู้สึกว่าตัวเองนั้นเริ่มจะไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่แล้ว
“Nothing” พี่คิวยิ้มตอบ
“ทำเป็นพูดภาษาอังกฤษ โด่..ฟังออกหรอก” ผมก้มหน้าบ่นบ้าบอไปอย่างนั้น เขินอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ไอ้เค้กบ้า บ้าๆๆๆ..
ณ สมุดโน้ตของคุณเค้ก..
อาทิตย์ 4 ธันวาคม 2554
เป็นอีกวัน ที่เรา......เขินพี่คิว เฮ้อ..บ้าจริง~ ไอ้เชฟหนังเหนียว !!
.....................>>>><<<<.....................
หมายเหตุ :
1. วันนี้ได้ต่อเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย ตอนพิเศษ13 My love style..2 แล้วเช่นเดียวกัน :)
2. วันนี้ต่อเรื่อง ~Limited Lovers~ ตอนที่ 36 นี้ไว้แบบไม่ค้าง -- ดังนั้น..จึงขอบอกว่า ตอนต่อไปอาจจะมาลงให้ช้าหน่อย หรือ ช้ามากค่ะ ^o^ ขอโทษด้วยค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน..อิ่มหนำสำราญได้ชั่วครู่ชั่วคราวนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
^
^
^
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จิ้มเบบี้รอบที่สอง รีบวิ่งไปอ่านอย่างว่องไว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่คิวขี้แกล้งจังเลยยยยยยย เค้กน่ารักอ่า :impress2:
ตอนนี้ก้ยังคงน่ารัก แต่ชะนีฝันมันมาทำไม นิสัย :beat:
ปล. เราลบเม้นทิ้งให้แล้วนะคะ เดี๋ยวมันจะขัดอรรถรสในการอ่าน
ขอโทษจริงๆค่ะ :m5: คิดว่าเบบี้แวะมาเฉยๆ
-
พี่คิวก็ชอบแกล้งเค้กจังเลย ชอบเห็นเค้กแก้มแดงใช่ป่าว :กอด1:
-
พี่คิวน่าร้ากกกกกก :-[
ส่วนยัยชะนีฝัน :z6: ชิ
-
:angry2: โถ่อิชะนีฝัน กับข้าวบ้านๆแล้วมันไงหว่ะ แดรกซ์กับข้าวไฮโซแล้วไง บินได้ไหม หึ แล้วเป็นไงพี่คิวเลือกของใคร
ส่วนพี่คิวกับน้องเค้ก แอร๊ยยยซ์ เค้าหวานกันที่หน้าห้องน้ำ :laugh: อิหย๊ะ แต่น้องเค้กเราเก็บอาการ :o8: ไม่อยู่เลยอิหนูเอ้ย
:pig4: ขอบคุณเบบี้น่ะ
-
โอ้ย รกอก กับยัยฝันสลาย !!
สักคนเหอะ ใครก็ได้ กระชากหน้ากากมันออกมาที :angry2: :angry2:
-
บวกให้คนป่วยที่ยังกวนไม่เลิก
แล้วเดินเองได้ไม่ใช่หรอ ต้องพยุง อิอิ
บวกจ้าาาาาาา นานแค่ไหนก็รอ
-
ถึงช้ามากเลยหรออออออออออ
-
ฝันนี่นะ ร้ายจริงวุ๊ย!!! พวกผู้ดีทำตัวเรียบร้อยแต่จริงๆใจเธอนุ่ะคง... เหอะ!
พี่คิวก็ รู้หรอกนะว่าหมั่นเขี้ยวน้อง ชอบแกล้งจริ๊งงง 555
น้องเค้กก็น่ารักอ๊ะ!!! ตอนต้องไปพยุง ตอนชนอกพี่คิวนี่ โคตรเขิน!!! :-[
ปล.ช้าเร็วยังไงก็รอค่า ^^
-
พี่คิวกับน้องเค้กหวานกันจริง :กอด1:
-
^
^
^
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จิ้มเบบี้รอบที่สอง รีบวิ่งไปอ่านอย่างว่องไว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่คิวขี้แกล้งจังเลยยยยยยย เค้กน่ารักอ่า :impress2:
ตอนนี้ก้ยังคงน่ารัก แต่ชะนีฝันมันมาทำไม นิสัย :beat:
ปล. เราลบเม้นทิ้งให้แล้วนะคะ เดี๋ยวมันจะขัดอรรถรสในการอ่าน
ขอโทษจริงๆค่ะ :m5: คิดว่าเบบี้แวะมาเฉยๆ
จ้า..ไม่เป็นไรค่ะ เบบี้ย่อเนื้อหาให้ใส่พอดีแล้วค่ะ ^^ 555+
-
เขินอ่ะ
อย่างกับว่าตัวเองเป็นน้องเค้ก อิอิ :-[
-
แบบนี้ก็ไม่ค้างเท่าไหร่ พี่คิวเริ่มจะดี ๆ กับเค้กขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
-
หึหึหึ
ตอนนี้รู้สุกคิวมันจะน่ารักแทนเค้กแล้วนะ :-[
ขยันแกล้งเกิน :man1: :man1:
-
:L2: ก่อนอ่าน
=======
ไอ้เชฟหนังเหนียว :laugh: ชื่อนี้ก็น่ารักดีนะพี่คิว
-
หึหึหึหึ เบื่อยัยพี่ฝันล่ะนะ ,, :m31:
แต่ตอนนี้คิวกับเค้กก็น่ารักเรื่อยๆดี :impress2:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
คู่นี้หว๊าน หวานกันอีกแล้วววว
เมื่อไหร่จะลงเลยกันสักที^^
อยากเห็นหน้าเค้กตอนซบพี่คิวววว :m1:
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รอตอนต่อไปนะค้าบ นานก้อจะรอ^^น่ะคับ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ขนาดป่วย ยังไม่เลิกแกล้งเด็ก :laugh:
น่ารังเกียจผู้หญิงแบบยัยฝันร้าย
หาเรื่องกับเด็ก เมื่อไหร่นายคิวจะรู้
+1
-
หลายคนคงจับบาเรียสีม่วงระหว่างเค้กกับคิวได้แล้วซินะ เห็นเปิดทางกันใหญ่ รึบางคนก็กันท่าทำเหมือนตัวเองกำลังฝันร้ายมาเยือน อิอิ :laugh:
-
ชะนีฝัน ทำน้องเค้ก ผวาเล็ก ๆ เลย น่ากลัวแท้
น้องเค้กน่ารัก กล้าขึ้นด้วย ต่อปากกับยัยฝันด้วย
พี่คิวแกล้งน้องเค้กอีกละ :กอด1:
-
ยัยฝันร้ายจะมาเพื่อ!!! :beat: :beat: :beat:
-
เขินแทนเค้กค่ะ อ๊ายยยยย :o8:
พี่คิวแกล้งหนักๆเลยค่ะ คนอ่านชอบมาก 555
ยัยฝันนี่ยังไงนะ -*-
-
พี่คิวนับวันยิ่งกวน 555 แต่ชอบนิสัยพี่คิวนะ ดูมีสเน่ห์
น้องเค้กน่ารักที่สุด เจ็บตรงอาหารบ้านๆ แต่ก็บ้านกูมันจน หึหึ รักน้องเค้ก :กอด1:
-
มาต่อแล้วววว
เป็นกำลังใจให้ค่า
-
สู้ต่อไปนะเค็ก :laugh: อีพี่คิวนี่ก็นะ คงรู้ว่าเค็กมีใจแล้วแน่ๆ
-
ถือว่าพี่คิวหยอดได้มั๊ยเนี่ย :เฮ้อ:
-
อยากบอกว่านี่ก็เป็นอีกตอนที่อ่านแล้ว.......เขิน :o8:
ดีใจเวอร์ตอนที่พี่คิวบอกว่าจะกินกับข้าวของเค้ก :z2:
พี่ฝันนี่ไม่ไหวนะ หาเรื่องเอากับเด็กอยู่ได้ :เฮ้อ:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เซ็งฝันสุดยอด เค้กน่าจะใส่กลับที
พี่คิวนี่รู้แล้วใช่ม่ะว่าเค้กชอบ
เห็นเเกล้งบ่อยเหลือเกิ้นนนนนนนนนนนนน
-
:z13: :z13:
-
ช้าน เกลียด แกๆ นังฝัน :m31: :m31:
-
น่ารักโครตอะพี่คิว
-
:L2: :L2: :L2: :L2: พี่คิวน่ารักกกกก ฝันนิสัยอะ มาว่าเค้ก ชิๆๆๆๆๆ
-
อ๊าก....ทึ้งหัวตัวเอง
น่ารักเว่อร์...ขอบคุณเบบี้จ้า
-
หืมมมม..พี่คิว น่ารักหว่ะ
ทำไมถึงชอบแกล้งเค้กจังน๊า..แกล้งบ่อย ก็เขินบ่อยแล้วก็หน้าแดงบ่อยๆ
แสดงว่า คิว ต้องชอบเวลาเค้กเขินอะดี๊..ฮ่าๆๆๆ
ปล.ฝัน ฝัน ฝัน เฮ้ยยยยยย--!!
-
น่ารักมากมาย :impress3:
แต่เรื่องปากเสียนี่พี่คิวยังเป็นที่หนึ่งเสมอ :เฮ้อ:
ปล.อยากรู้เรื่องกัสกับเซ็นจังเลย :z3:
-
พี่คิวขี้แกล้ง :-[
เซ็งฝันมว๊าก :เฮ้อ:
-
น่ารักอ่ะ :o8: เขินแทนเค้ก
-
พี่ฝัน พูดได้พูดไปเถอะ
เค้กอย่าไปเก็บเอามาใส่ใจ
ใส่ใจพี่คิวของน้องเค้กคนเดียวพอ
:o8:
ใกล้เข้าไปอีกนิดแล้วสินะ
-
ฝัน >> I hate you :angry2: :fire: ชะนีนางนี้น่าจับ :beat:
บังอาจมาว่า น้องเค้กของชั้น ชั้นเกลียดแกนังฝัน ( กร๊ากกกก :laugh: กรูอินมาก)
กรี๊ดดดดดดดด พี่คิว อย่ามาทำตัวน่ารักนะ :impress2:
-
เริ่มกุ๊กกิ๊กกันมั่งแล้ว :z2:
:กอด1:
-
:beat: ยัยฝันสลาย
แต่ตอนนี้น่ารักกันดีนะ
-
เอาฝันออกไปจากตอนนี้จะดีมากเลย
-
คิวเค้กน่ารักจัง
สะใจยัยฝัน หึหึ
-
อย่าว่าแต่เค้กเขินเลย เราก็เขิน เขินมากด้วย >''<
พี่คิวก็น่ารักในแบบพี่คิวเนาะ กวน ๆ ขี้แกล้งตลอด
เนียนโอบน้องเลยนะ! พี่คิวจะรู้สึกอะไรบ้างป่ะเนี่ย
ได้ใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม ใกล้อีกนะ ใกล้อีก ลุ้นอยู่
ปล. ยัยฝันนี่ชอบดูถูกคนอื่นซะจริง อาหารบ้าน ๆ แบบนี้แหละที่คิวอยากกิน!!
ไม่ใช่อาหารโรงแรมที่รสชาติและคนซื้อคงจะไม่ถูกใจเท่า เหอะๆ
-
ร้ายนักนะนังฝัน อยากให้พี่คิวรู้จริงๆ :angry2:
หนูเค้กสู้ๆต่อไปนะจ๊ะ อย่าไปยอมมัน :laugh:
ป.ล. ช้าได้แต่อย่านานนะ คิดถึงงง~~ :impress2:
-
เค้กน่ารัก :กอด1:
บวกเป็ดจ้า
-
:กอด1:อืม>.....ไงดีละ
-
อาหารโรงแรมฤๅจะสู้อาหารบ้านๆได้ อิอิ ชนะเลิศ
:laugh:
-
น้องเค้กเขินอีกแล้ว :-[
พี่คิว ขี้แกล้งจริงๆเลย ทำให้น้องเค้กหวั่นไหวววว และไหวหวั่น อะคึ :impress2:
-
ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องไหมนิ ถึงจะเห็นความน่ารักของคุณน้องฝัน
เค้ก...ว่าไปเค้กก็เขินเกือบทุกวันนร้า :m12:
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
พี่คิวขี้แกล้งงงงงงงงงงงง
-
พี่คิวนี่มันชักจะยังไงๆอยู่นะ ทำน้องเค้กเราเขินได้ตลอด คิดไรป่ะเนี่ย
-
พี่คิวแกล้งเค้กอีกเยอะๆ น่าร๊อกอ่า
ส่วนยัยฝัน หล่อนคงจะพอรู้ตัวว่าพี่คิวคงไม่เอาเป็นแฟน ถึงได้เป็นแบบนี้
พี่คิวน่าจะด่ายัยฝันซะทีนะ เอาให้หน้าหงาย
-
คุณพี่ฝัน เธออีกแล้วนะ ชิชิ
พี่คิวแกล้งน้องเค้กบ่อยอ่ะช่วงนี้ เริ่มชอบน้องแล้วหละสิ เอ๊ะ!! หรือชอบน้องนานแล้ว
แต่พี่คิวต้องรู้แน่เลยว่าน้องชอบนะ
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
-
เหมือนพี่คิวจะมีความฉลาดทางอารมณ์มากขึ้น555+
เค้กขยันเขินจริงๆ แบบนี้พี่คิวคงรู้แล้วแน่ๆ
-
น่ารักมากกกก
ชอบจัง
ว่าแต่ฝันเป็นคนดียังไงเนี่ยพี่เขียว
-
ขี้แกล้งจังนะพี่คิว
เค้กมันเขินจะแย่แล้ว
-
พี่คิวน่ารักที่สุด
-
เขินแทนหนูเค้ก อิอิ ว่าแต่ว่า คุณพี่ฝันนี้ จะมีร้ายกว่านี้อีกไหมคะ แหะๆ
-
มาไม่ทัน แถมไม่ได้อยู่หน้าเดียวกันเลยอ่ะ
พี่ฟ้ากับพี่คิวเหมือนแม่ลูกเลย น่ารักดี
เค้กอย่าเขินมากได้มั้ยยยย มันน่ารักอ่ะ ><
-
เมื่อไหร่จะยอมรับว่าชอบกันเน้อคู่นี้~
:-[
-
โอ้ไม่นะ!!!ตอนต่อไปจะช้า ถึง ช้ามากกกกก. ม่ายยยยยยยยย
-
o18 o18 o18
-
พี่คิวเจ็บคราวนี้ ทำให้มีโอกาสให้ใกล้ชิดกันเค้กมากกว่าเดิม o18พี่คิวก้อชอบอำ แต่อย่างว่าเค้กมันน่าแกล้งนี่เน้อ
-
คิวเหมือนจะรู้ไปซะหมด แต่แค่ไม่พูด
-
รุสึกสะใจเบาๆกะคำพูดพี่คิวที่บอกยัยฝันร้าย o13
-
คุณฝันร้ายยยย :beat:
เค้กกับคิวนี่แบบว่านะ :-[
:pig4: นะคะ
-
ยังคงป่วยและป่วนอยู่
หนังเหนียวที่ไหนกัน
-
:laugh: คิว กวนได้โล่จริงๆ
บี้ อย่าให้ฟ้าเศร้านานนะ ชอบฟ้า :กอด1: แบบร่าเริงมากกว่าอ่ะ
-
อั๊ยยะ น้ำตาลเรียกพี่ไปแล้วนะเนี่ย
น่าร๊ากอ่ะะะะะ จะฟินมากกว่านี้ ถ้าไม่มีนางมารมาทำให้อารมณ์น้องเค้กของเราบูดได้
ชิ สมน้ำหน้า พี่คิวเค้ากินของน้องเค้กกก กร๊ากกก สะใจ!
ยังไงก็จะรอน๊ะจ๊ะ
รอน้องเค้ก และพี่คิวได้เสมอ
ขอบคุณนะคะ ^ ^
-
ไม่น่ามียัยสยองฝันมาเลย :z6:
-
เค้กน่ารักตลอดศก :-[
เขินซะขนาดนั้นยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่
พี่คิวชอบแกล้งสุดๆเลยอ่ะ
เฮ้อ..คนที่ไม่คิดว่าจะร้ายกลับร้ายซะได้
คำพูดนะที่ร้าย ....
เค้กคงสับสนและมีเรื่องกลุ้มใจน่าดูมาเจอเรื่องแบบนี้
เอาใจช่วยเค้กให้แกล้งพี่คิวคืนบ้างนะ :jul3:
-
สวีทวี้ดวิ้วตลอดอ่ะ คู่นี้
แต่ปัญหาชีวิตดูเยอะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าจะไปกันได้แค่ไหน
รอดูต่อไปแล้วกัน
-
ฝันยังไงก็ไม่น่าจะเเทรกได้ เพราะพี่คิวเป็นตัวของตัวเอง
จีบกันอีกละคิวเค้ก กวนทีนกันไปมา น่ารักงุงิ
พี่คิวก็เเต๊ะอั๋งน้อง รู้หรอกนะ
-
เกลียดนังฝันที่สู้ดดดดดดดด เมื่อไหร่พี่คิวจะรู้นิสัยที่แท้จริงของมันนะ :z3:
ชอบเวลาที่คิวแกล้งกวนน้องเค้กจริงๆ :-[
-
ฝัน :z3:
-
พี่คิวรู้ละดิว่าน้องเค้กแอบชอบตัวเอง คิคิ ถึงแกล้งหยอกแกล้งเหยาน้องให้เขินตลอด
แต่ดีใจจังที่พี่คิวเลือกของที่เค้กทำมา ก็ของมันทำมาจากใจ ถึงจะเป็นแค่อาหารบ้านๆ เถอะ
-
ชอบอาหารจานนี้มาก อยากกินต่อไม่รู้จักอิ่ม
-
ว่าแล้วว่ายัยฝันใฝ่ต้องโผล่มา... อย่ามายุ่งกับเค้กนะ !!! :z6:
-
พี่คิวเนี่ยแกล้งเค้ก ตลอดเว o18 มัยอยากเห็นน้องเค้าเขินหรอ :o8: :o8: ชอบเค้าอ่ะดิ
-
น้องเค้กน่ารักมากกกกก
55555
ไม่ต้องสนใจอิพี่ฝันนะ เพลียนิสัย!!!
-
P'Q chorp klang n'cake talord!!! yaa bork na kha waa chorp nong kaw meuan kan na,,hu hu hu
PS: mai chorp p'fan yang raeng!!! (-!!-)
-
พี่คิวชอบแกล้งเค้กจังเลยน้าาาาาาาาาา
คุณฝัน..กับข้าวบ้านๆแล้วไงย่ะ..อิ่มทั้งกายและใจนะ
รอต่อไป....สนุกมากมาย
-
อยากให้ 2 คนนี้เค้าหวานกันจัง
-
เอ่อ....คิวโดนยิงที่ตรงไหนอะ
ทำไมต้องประคองด้วย
-
เง้ออ น่ารักจังเลยเน้อคู่เนี้ย น่ารักสุดๆๆๆ :-[
-
เขินวันละนิดจิตแจ่มใสนะน้องเค้ก :-[
อยากเห็นพี่คิวรุกน้องเยอะๆ อยากเห็นน้องเค้กเขิน :laugh:
เป็นกำลังใจให้เบบี้ค่ะ :L2: มาช้าดีกว่าไม่มา อิอิ :L1:
-
ยัยฝัน เธอจงฝันต่อไปเถอะย่ะ ว่าจะได้มาจิ๊จ๊ะเป็นตัวจริงของตาเชฟ
นิสัยอย่างงี้ คงมีใครเขาอยากจะคบด้วยหรอกนะยัยฝันเอ๋ยยย
-
กวน แกล้ง แซว กุ๊กกิ๊ก
จบด้วย เขิน
:-[ :-[ :-[ :-[
อ่านไปก็ยิ้มไป
แอบตกใจ ฉากฝันโผล่ :a5:
นึกว่าจะได้ร้องไห้อีกตอน :z1:
-
ขอสั่งเก็บ เอาฝันไปเก็บบบบบบบบบบบบบด่วนนนนนนน :m31:
แต่ก็ดีนะ พี่คิวเลิกอาหารเค้กอะ :m20: สะใจฝันหน้าแหกเล็กน้อย
มีการแอบหลอกถาม ให้เค้กสารภาพออกมาว่าทำเองด้วย ร้ายกาจ ๆ
โห พี่คิวเข้าห้องน้ำนานละ เข้าไปฉี่รึเข้าไปทำอะไรอะ..... :-[
มีการโอบด้วย แอบแตะอั๋งเค้กชัด ๆ เค้กก็มัวแต่เขินไม่รู้ไรเลย
-
พี่คิวแคร์เค้กมากนะเนี่ยๆๆ ถึงจะดูไม่เหมือนเท่าไหร่ก็เถอะ ฮ่าาา
ตอนนี้เหมือนจะหวาน(?) ในแบบของคิวเค้กนะ
เค้าว่าเค้กรู้เรื่องบ้านนี้เยอะเกินไปล่ะ แต่ก็ดีเนอะ ดูแลพี่คิวด้วยนะจ๊ะ (ฝากฝังๆ คิคิ)
หอมแกมเบบี้ซ้ายขวา ..จะนานแค่ไหนเค้าก็รอนะตัวเอง ^^
-
พี่คิวชอบทำให้เค้กเขินนะ....ชอบเค้าล่ะสิ :m12:
-
คุณฝันครับ จะยังไงก็ช่าง น้องเค้กมีคนลุ้นเยอะนะจะบอกให้ :z2:
นับวันพี่คิว จะมีความสุข ที่ได้หยอก กระแนะกระแหน น้องเค้กเข้าทุกวัน :z1:
+1 ให้เบบี้ แล้วก็รอ :กอด1:
-
พี่คิวแกล้งเค้กจนเค้กเขินเลย น่ารักดีอะ
-
พี่คิวหลอกเตะอั๋ง เค้กเหรอ
เขินอ่ะ
:-[ :pig4:
-
คืนนี้ขอให้อิพี่เซ็นติดธุระมาเฝ้าพี่คิวไม่ได้
แล้วหวยที่ออกก็ต้องตกมาอยู่ที่เค้ก เพี้ยง~~~
อยากเห็นฉากหวาน ๆ เค้กกับคิวอ่ะ >////<
-
เขินไปกับเค้กด้วย :o8:
ขอ :beat:คุณฝัน
-
ความสัมพันธ์คืบคลานไปเรื่อยๆ แต่น่ารักดี :impress2:
-
น่ารักแล้วนะคิวเค้ก :pig4: :L1:
-
หวานแบบเนิบๆ เรื่อยๆ แต่น่ารักดี ^_^
-
แม้ฝันร้ายจะมาเยือน แต่ไม่ได้ทำให้ความหวานของทั้งคู่น้อยลง (หวานในแบบคิวอะนะ :laugh:)
:pig4: คะ
-
อ่านเพลินหรือไงไม่รู้ รู้แต่ว่าจบตอนล่ะเร็วจัง
-
สมน้ำหน้ายัยฝัน หน้าแตกไปเลย ดันมาว่าอาหารน้องเค้กว่าเป็นอาหารบ้านๆ อยากจะบอกว่าอาหารบ้านๆ แต่ก็ทำให้พี่คิวติดใจล่ะกัน เพราะมันทำมาจากความตั้งใจเฟ้ย
พี่คิวเดี๋ยวนี้ทำให้น้องเค้กเขินบ่อยนะ
-
พี่คิวแอบแต๊ะอั๋งน้องเค้กรึเปล่าเนี้ย กรี๊ดๆ ๆ
น่ารักกันจริงๆเลยคู่นี้อ่ะ พี่คิวมีมุมน่ารักๆ โอ้ยหลงรักอ่ะ (พี่เมตรเค้าขอโทษนะ ตอนนี้เค้าแอบหลงรักพี่คิวอ่ะ)
เขินแทนอ่ะ ถ้าเป็นเค้า เค้าก็เขินนะ แอบสะใจเล็กในตอนนี้ ฮ่า า ฝันรึจะมาสู้เค้กได้ ก๊าก ก ก :-[ :o8: o18
-
อ๊ายยยยย >,< :L2:
-
แล้วเค้กจะได้มานอนเฝ้าไข้พี่คิวมั้ยเนี่ย หวังว่าจะไม่ออกจากโรงพยาบาลไปก่อนนะ
-
ค่อยๆหวาน
ความรักมักก่อตัวในตอนที่เราไม่รู้สึก
ความผูกพันธ์เริ่มเกิดขึ้นในตอนที่เรา... ไม่รู้ตัว
-
น่ารักจัง เค้ก คิว :กอด1:
ขอบคุณเบบี้น๊า :L2:
-
o13 o13 พี่คิวจะชอบเค้กจริงๆอ่ะเปล่าหน้อ อยากรู้ :L1:
-
พี่คิว เจ้าเล่ห์อ่ะ แกล้งเค้กใหญ่เลย
-
ไม่ค้างค่าา แต่ว่าพี่คิวเมื่อไหร่จะออกจาก รพ อ่าา
อยากให้เรื่องเดินเร็วขึ้นอีกนิสสสได้มั้ยค๊า > <
ยัง งงๆครอบครัวพี่คิว กะเรื่องทิกเกอร์อยู่เลย
-
อ่านๆ เพลินจนจบตอนยัง งง ว่า เอ๊ะจบตอนแล้วหรือเนี้ย
อิอิ เขินอ่ะ เค้กก็ จะ...ไปไหนน :-[ :-[
-
อ่านทันแล้ววววว
ไม่ได้หลับไม่ได้นอน 5555+
ปวดตับมากอ่ะเรื่องนี้ บางตอนเกร็งๆแทนเค้กเลย 555+
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้น๊ะค่ะ
-
สมน้ำหน้ายัยฝัน พี่คิวเลือกกินของน้องเค้กก่อน
อิอิอิ
-
นังมารนั่นมาทำให้รมณ์เสียอีกแระ o12
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!
น่ารักอะทั้งสองคน พี่คิวกวนมากอะ เค้กเขินนนนนน 5555
รอตอนต่อไปเน้อ :กอด1:
-
ทู้ตก..อิอิ
คิดถึงน้องเค้กกะพี่คิวจังเลย
มารอทุกวันนนนนนนน
-
น่ารักขึ้นทุกตอนๆ เขินนนน :-[
-
เข้ามาอ่านรวบบบ อร๊ายย แอบเขินพี่คิวด้วยคน :-[
ฮาเค้กตอนโดนรู้ทันด้วย น่ารักดี
:pig4: พร้อมบวกจ้าาา
-
แกล้งกันไปแกล้งกันมา น่ารักเชียว :o8:
-
รอลุ้นอยู่น่ะว่าเมื่อไหร่จะตกลงปลงใจรักกันซักที ติดตามเสมอคับ เปนกำลังใจให้คนเขียนคร๊าฟฟฟฟ!!
-
ทู้ตกอีกแระ
รอฉันรอเธออยู่...ป่าวกดดันนะ^^
-
มาคิดถึงน้องเค้กกับพี่คิวค่ะ ^^
-
ขอบคุณเบบี้จ้า
พี่คิวอารมณ์แปรปรวนจัง
แต่ชอบวิธีที่เค้กรับมือกับทุกคนอะ เก่งมากเลย
-
555+พี่คิวแมร่งกวนติงดีไม่มีตกจริงๆแต่น่ารักอ่ะ
ปล.แอบอิจฉาเค้กเบาๆอยากพาพี่คิวเข้าห้องน้ำบ้างอารัยบ้าง แอร๊ยยย><
-
o22
น้องเค้กหวานนะจ๊ะ
-
รอเบบี้อีกวัน
-
แวะมาดัน ฮี่ๆ
คิดถึงพี่คิวกับน้องเค้ก ^^
-
:z2:รอจิ้มๆๆ
-
ฮ่าๆ เค้กน่ารักอ่ะ พี่คิวขี้แกล้งมากอ่ะ
-
คิดถึง คิวเค้กแล้วง่า
-
รอ....พี่คิวน้องเค้ก
-
อ่า พี่เมตรมันทนไหวเว้ย อิอิ
สลิ่มมีเขินด้วย พี่เมตรน้อยใจไปเลย
แแต่แอบขำโล่อ่า พี่เมตรมันเลววว
มาขอเป็นเมียน้อยเฉยเลย นิสัยไม่ดี มาแกล้งโล่
-
^^^ จิ้มรีข้างบน เม้นผิดเรื่อง หุหุ
แวะมาบอกว่าคิดถึงคนปากแข็งทั้งสองคนครับ
-
ต้องรำคาญเราแน่เลย
แต่ก็จะบอกว่ารออยู่ทุกวัน
-
:z2:แวะมาดันค่ะ
รออยู่นะคะ
-
มารอเค้ก&พี่คิวค่า :กอด1:
-
~37~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ฟ้าครับ..ฟ้า”
“อะไรเล่า ยุ่งจริง..ไอ้ฝรั่งงี่เง่า!” พี่ฟ้าโวยวาย เดินหนีเข้าทางหลังร้านไป ผมยืนอึ้งเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างเต็มตา
“ฟ..ฟ้า ผมเป็นห่วงคุณนะ” ทิกเกอร์ถอนหายใจมองพี่ฟ้าตาละห้อย เขาก้มหน้าลงเมื่อพี่ฟ้าเดินหนีเข้าร้านไปอย่างไม่ใยดี ผมยืนมองด้วยความสงสาร
“เอ่อ..สวัสดีครับ” ผมยิ้มทัก ผู้ชายที่ชื่อทิกเกอร์เงยหน้าขึ้น เขาเลิกตาอย่างสงสัยก่อนที่จะยิ้มตอบให้ผม
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ผมถาม ทิกเกอร์ส่ายหัวพร้อมกับยิ้มด้วยสีหน้าเศร้า
“ผมทิกเกอร์” อยู่ๆเขาก็ยื่นมือมา
“เค้กครับ” ผมยิ้มยื่นมือไปจับมืออีกฝ่ายตอบ รู้สึกตื่นเต้นดีพิลึกที่ได้รู้จักชาวต่างชาติกับเขาบ้าง
“ผมรู้จักคุณ คุณชื่อเค้ก..เอิ่ม ผมเคยได้ยินซูซี่เล่าให้ฟัง” อีกฝ่ายยิ้มบอกด้วยท่าทางสุภาพ ผมได้แต่ยิ้ม
“เอิ่ม วันนี้..ฟ้า อยู่ที่นี่ทั้งวันรึเปล่าครับ” เขาพยายามพูดให้ชัดคำ
“อยู่ครับ” ผมพยักหน้า
“งั้นเหรอ งั้น..ผมขอรออยู่ตรงนี้จะได้ไหม” ทิกเกอร์ยิ้มถามอย่างมีความหวัง
“เอ่อ คือ..” ผมอ้ำอึ้ง เพราะผมไม่มีตัดสินใจให้ทิกเกอร์อยู่ตรงนี้ได้ ตรงนี้เป็นหลังร้านซึ่งมีแค่คนในร้านเท่านั้นที่จะเข้านอกออกในทางช่องทางนี้ได้
“คงต้องถามพี่เซ็น หรือไม่ก็พี่หมีน่ะครับ” ผมบอกด้วยรู้สึกลำบากใจ
“งั้นเหรอ..” อีกฝ่ายหน้าเศร้าลง
“เดี๋ยวผมไปตามพี่เซ็นให้แล้วกันนะครับ” ผมบอก อีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้างในทันที
“ขอบคุณมากครับ” ทิกเกอร์บอกเสียงดังฟังชัด ผมก้มหัวให้หน่อยๆก่อนจะเดินเข้าไปที่ประตูหลังร้าน ผมเดินตรงเข้าไปที่ห้องพักพนักงานเพื่อเก็บของให้เรียบร้อย แล้วเดินเข้าไปในครัวเพื่อไปตามพี่เซ็น
“พี่เซ็นครับ” ผมเรียกคนที่กำลังยุ่งอยู่
“ครับ” พี่เซ็นขานตอบ เงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผมเพียงนิดเดียวก็ต้องก้มลงตั้งหน้าตั้งตาทำอาหาร
“คือทิกเกอร์อยู่ที่หลังร้านนะครับ เค้าถามเค้กว่าขออยู่ตรงนั้นได้ไหมจนกว่าพี่ฟ้าจะเลิกงาน แต่เค้กไม่กล้าตัดสินใจเอง เลยบอกเค้าว่าจะมาตามพี่เซ็นให้” ผมอธิบาย
“ครับ..เดี๋ยวพี่ออกไปนะ จะเสร็จแล้ว” พี่เซ็นพูด
“ครับ งั้นเดี๋ยวเค้กไปบอกทิกเกอร์ให้นะครับ” ผมบอก พี่เซ็นพยักหน้าส่งๆ ผมเดินออกจากห้องไปบอกทิกเกอร์ว่าเดี๋ยวสักครู่พี่เซ็นจะออกมาหา ให้เขารออยู่ตรงนี้ก่อน หลังจากนั้นผมต้องมาทำหน้าที่เป็นพนักงานที่ดีต่อ ไม่อย่างนั้นจะโดนพี่หมีดุเอาได้
แกรก~~
“มันไปรึยัง” พี่ฟ้าเดินออกมาจากห้องของตัวเอง ผมรู้สึกนับถือพี่ฟ้าจริงๆ หลายวันมานี้ทั้งทั้งที่เกิดเรื่องราวขึ้นเยอะแยะมากมายแต่พี่ฟ้ากลับทำตัวปกติ ร่าเริงและมาดูงานที่ร้านนี้ทุกวันไม่เคยขาดเลยแม้แต่วันเดียว และไม่เคยแสดงท่าทีที่ทำให้ลูกน้องอย่างพวกผมรู้สึกวางตัวไม่ถูกหรือไม่สบายใจเลยครับ
“ยังครับ” ผมยิ้มแหย พี่ฟ้าทำตาขวางมองไปทางด้านหลังร้านทันที
“อย่าให้มันเข้ามาเด็ดขาดนะ” พี่ฟ้าบอกหน้างอด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“แต่..” ผมเอ่ย
“เค้ก” พี่ฟ้าย้ำเสียง คิ้วขมวดใส่ผม
“ค้าบ” ผมตอบก่อนพี่ฟ้าปิดประตูกลับเข้าห้องไป
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจ มีเรื่องให้น่าตื่นเต้นทุกวันเลยร้านนี้..ให้ตายสิ
กริ๊ง~~
“คิว..ปิด” ผมชะงักนิดหน่อยเมื่อเห็นลูกค้าที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาเป็นเพียงเด็กผู้ชายและผู้หญิงสองคน หน้าตาน่ารักราวกับเทวดาตัวน้อยทีเดียว
“คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์สวัสดีครับ~” ผมยิ้มและกล่าวต้อนรับอีกครั้ง ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมตาขวาง ผมจากที่ยิ้มกว้างให้ก็ต้องหุบยิ้มลงทีละนิดเพราะรู้สึกได้ถึงกลิ่นแปลกๆจากสายตาของสองคู่นี้
“มาหาอาฟ้า” เด็กผู้ชายพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทีหยิ่งทะนง ท่าทางแบบนี้ที่ช่างดูคุ้นตาผมมาก
“เอ๊ะ..อาฟ้า เจ้าของร้านนะเหรอครับ” ผมถามกลับอย่างแปลกใจ
“ก็ใช่น่ะสิ แค่นี้ก็ต้องให้พูดซ้ำ” เด็กผู้ชายย้อนว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ครับๆ..เดี๋ยวพี่ไปตามให้นะครับ” ผมยังคงยิ้ม รีบก้าวขาอย่างเร็วตรงไปที่ห้องพักของพี่ฟ้าในทันที
ก๊อก ๆ ๆ
“ขอโทษครับพี่ฟ้า คือมีเด็ก..น่าจะประถมสองคนบอกว่า มาขอพบพี่น่ะครับ” ผมบอก
“ฮื้มมม” พี่ฟ้าเบิกตาโต รีบลุกจากเก้าอี้และเดินออกมาพร้อมๆกันกับผม
“เชอร์เบ็ต..บัตเตอร์ มาได้ยังไงนี่ห๊ะ!” พี่ฟ้าว่าตาโต แต่พยายามทำน้ำเสียงให้เบาเพื่อต้องการไม่ให้รบกวนลูกค้าท่านอื่นในร้าน
“เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์จะไปหาพี่คิว” เด็กสองคนนี้พูดพร้อมกันเสียงดังฟังชัด
“แล้วโดดเรียนมาได้ยังไง คุณแม่กับคุณครูรู้รึเปล่า ทำไมทำนิสัยแบบนี้” พี่ฟ้าว่าเสียงหลงด้วยหน้าตาไม่พอใจจนเด็กสองคนนี้หน้าหงอยลงทีละนิดๆ
“ก็..ก็ ก็บัตเตอร์บอกเชอร์เบ็ตว่า มาได้ไม่เป็นไรนี่คะ” เด็กผู้หญิงก้มหน้าพูดเสียงเบา
“เป็นสิ เข้าไปรอในห้อง! เดี๋ยวนี้” พี่ฟ้าดุ
“เดี๋ยวอาจะโทรหาคุณแม่ แล้วจะโทรหาคุณครูที่โรงเรียนด้วย ป่านนี้ไม่ยุ่งวุ่นวายกันไปหมดแล้วรึไง..และเรื่องนี้ต้องถึงหูพี่คิวแน่” พี่ฟ้าชี้ปราม
“แต่..” เด็กผู้ชายเงยหน้าขึ้นจะพูดเถียง
“เข้าไปรออาในห้อง ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเราน่ะ” พี่ฟ้าชี้มือไปที่ประตู ทั้งสองก้มหน้าลง
“เค้กช่วยหน่อยครับ” พี่ฟ้าหันมาบอกผม ผมพยักหน้าและรีบเดินนำเด็กๆไปที่ประตูห้อง ผมเปิดประตูให้ทั้งสองคนด้วย
“นั่งตรงนี้ก่อนนะครับ” ผมเดินพาไปที่โซฟา
“รู้หรอก มาออกบ่อย” เด็กผู้ชายเงยหน้าว่าผมหน้างอ
“นี่บัตเตอร์ไปว่าพี่เค้าทำไมล่ะ” เด็กผู้หญิงหันไปว่า
“เชอร์เบ็ตไม่ต้องมายุ่งเลย” เด็กผู้ชายคิ้วขมวด ปัดมือของเด็กผู้หญิงออกอย่างโมโห
“หึหึ ไม่เป็นไรครับ..จะทานน้ำอะไรดีครับ เดี๋ยวพี่เอามาให้” ผมยิ้มถาม เด็กผู้หญิงหันมามองหน้าผม เธอยิ้มกว้างและทำหน้านึก
“ไม่ต้องเค้ก นิสัยเสีย..” พี่ฟ้าเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี พร้อมกับส่งสายตาดุไปที่เด็กทั้งสองคน น้องผู้หญิงหลุดออกจากการจิตนาการของตนเองและก้มหน้าลงด้วยท่าทางน่าสงสาร
“ห้ามทานอะไรจนกว่าอาจะเคลียร์เรื่องของเธอทั้งสองคนเสร็จ” พี่ฟ้าว่าเสียงเข้ม
“ไปทำงานเถอะครับ ขอบคุณมาก” พี่ฟ้ายิ้มให้ผม ผมพยักหน้ายิ้มตอบและเดินออกจากห้องมา..
“เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์มางั้นเหรอ” พี่กัสเดินเข้ามาถาม
“ใช่ครับ เอ่อ..เด็กที่พี่กัสเคยเล่าใช่ไหมฮะ”
“ใช่..ลูกของพี่สาวพี่ฟ้าน่ะ ก็ลูกพี่ลูกน้องของพี่คิวนั่นแหละ..ฝาแฝด หน้าตาน่ารักใช่ไหมล่ะ แต่..เอาแต่ใจมากไปซะหน่อย” พี่กัสยักไหล่
“มาร้านนี้ทีไร ไม่ค่อยมีใครเอาอยู่หรอก น้องเชอร์เบ็ตนี่ไม่เท่าไหร่ แต่บัตเตอร์นี่ไม่ยอมเอาใครเลย..นอกจากพี่หมีนี่แหละ ที่พอจะเอาอยู่บ้าง..หน้าดุจนน้องกลัว” พี่กัสทำหน้าขยาด
“ท่าจะอย่างนั้น” ผมยิ้มแหยอย่างเห็นด้วย
“ดูแล้ว ลูกหลานบ้านนี้จะเอาแต่ใจกันทั้งบ้านเลยนะครับ” ผมพูดบ่น พี่กัสเบิกตาโพรงจ้องหน้าผมในทันที
“อะไรครับ” ผมถามอย่างสงสัย
“หึ..ฮ่าๆๆ พูดถูกใจอ่ะ ชอบๆ” พี่กัสหัวเราะชอบใจ
พวกเราแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง หลังจากที่พี่คิวเป็นคนไข้อยู่ที่โรงพยาบาลอยู่หลายวัน หน้าที่เชฟใหญ่ของร้านจึงตกเป็นของพี่เซ็น หลายวันมานี้พี่เซ็นทำงานค่อนข้างหนักมากกว่าปกติ พี่เซ็นต้องมาทำหน้าที่เป็นเชฟในทุกทุกวัน เพราะพี่ฟ้าให้เหตุผลว่าทางร้านไม่สามารถจ้างเชฟมาแทนพี่คิวได้ เพราะอาจจะทำให้เสียรสชาติและเอกลักษณ์ของร้านเราไป นอกจากที่พี่เซ็นต้องมาทำหน้าที่เชฟแทนพี่คิวด้วยแล้ว เห็นว่าพี่เขาต้องเข้าไปดูงานที่บริษัทของพี่เขาเป็นระยะ ผมนับถือพวกพี่เขาจริงๆ การที่ผมเรียนหนักและมาทำงานที่ร้านนี้เพียงไม่กี่วันต่อสัปดาห์ มันดูเป็นงานที่เล็กน้อยไปถนัดเลย
หลายครั้งที่พี่หมีต้องเข้าไปช่วยพี่เซ็นในห้องครัว เนื่องจากพี่เซ็นดูเหนื่อยกว่าปกติทำให้พี่ฟ้าเอ่ยปากบอกพี่เซ็นว่าคงจะต้องจ้างผู้ช่วยเชฟอีกครั้งจริงๆเสียที ถึงแม้มันจะเป็นที่สิ่งจะทำให้พี่คิวไม่พอใจ พี่ฟ้าได้ให้แฟ้มเอกสารผู้ช่วยให้กับพี่เซ็น ตอนนั้นพี่เซ็นไม่ได้พูดอะไร ผมคิดว่าถึงพี่เซ็นจะตอบตกลงหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นอยู่ที่พี่คิวอยู่ดี ถ้าพี่คิวบอกว่า “ไม่” ทุกอย่างก็คงจบอย่างเดิม..
ช่วงนี้พวกเราจึงวุ่นวายกว่าปกติ จะเรียกว่าพวกเราทำหน้าหนักมากขึ้นก็ว่าได้ ดีหน่อยที่มีพี่รุจ พนักงานบัญชีคนใหม่เข้ามาช่วยงาน พี่เขาเริ่มมาทำงานตั้งแต่ที่พี่คิวเข้าโรงพยาบาล ส่วนพี่ซีเมื่อมีคนมาทำหน้าที่แทนซึ่งที่จริงแล้วพี่ซีเป็นฝ่ายพูดให้พี่ฟ้าจ้างพนักงานเพิ่มเอง เพราะว่าพี่ซีต้องเรียนหนังสือเพิ่มและอาจจะไม่ได้มาทำงานได้มากวันอย่างปกติ แต่เมื่อมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นพี่ซีจึงต้องกลับมาทำงานเกือบทุกวันทั้งทั้งที่มีพี่รุจอยู่แล้ว ซึ่งหน้าที่ของพี่ซีนั้นก็คือการทำหน้าที่แทนพี่หมีเกือบทั้งหมดในเมื่อไหร่ก็ตามที่พี่หมีต้องเข้าไปขลุกอยู่ในครัว
ถ้าคนนอกมองเข้ามาในร้านก็คงจะเห็นว่าทุกอย่างเป็นปกติดี เราทำงานได้อย่างเป็นปกติ เฮย์..เราเป็นมืออาชีพ แต่ที่จริงแล้วมันค่อนข้างจะวุ่นวายอย่างมาก วุ่นวายที่ต้องจัดการทุกอย่างให้ลงตัวอย่างไม่ติดขัดอะไร ผมไม่คิดว่าการที่ขาดเชฟไปเพียงคนเดียวจะทำให้พนักงานปั่นป่วนได้ขนาดนี้ มันทำให้ผมรู้ว่า หน้าที่ทุกหน้าที่นั้นสำคัญมากแค่ไหน การที่ขาดเพียงคนใดคนหนึ่งในทีมไป มันก็เหมือนการที่เราขาดอวัยวะสำคัญบนร่างกายของเราไปด้วยเช่นกัน
= = = = = = = =
ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ..
ตอนนี้ผมกำลังคิดอยู่ว่า ผมอยู่ในวังวนอะไรของครอบครัวนี้กัน เพราะผมกำลังนั่งอยู่ที่โรงพยาบาลในห้องพักพิเศษของพี่คิว หลังจากที่เลิกงาน พี่ฟ้าอาสาจะไปส่งผมที่บ้านแต่กลับมีข้อแม้ว่า..ต้องให้ผมมาที่โรงพยาบาลด้วยเพื่อมาช่วยคุมเด็กๆ หลานตัวแสบสองคนนี้ของพี่ฟ้าก่อน ผมซึ่งเกรงใจและด้วยสีหน้าอ้อนวอนของพี่ฟ้าจึงทำให้ผมปฏิเสธไม่ลง ส่วนพี่คนอื่นๆแยกย้ายกันกลับบ้าน ทุกคนล้วนมีรถส่วนตัวหรือไม่ก็มีรถของทางบ้านมารับ ผมซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีรถเพียงคนเดียวในร้านจึงต้องเจอชะตากรรมเช่นนี้..หรืออย่างไร
“บัตเตอร์ทำอะไรผิด บัตเตอร์ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย!” น้องบัตเตอร์ตะโกนเสียงดัง เด็กผู้ชายผู้เอาแต่ใจโวยวายทำลายความเงียบที่พี่คิวไม่แม้แต่จะหันมามองเด็กทั้งสองคนมานานหลายนาทีแล้ว
ตอนนี้พี่ฟ้าลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่าง ในห้องนี้จึงเหลือเพียงผม น้องบัตเตอร์ น้องเชอร์เบ็ตและพี่คิวเท่านั้น ผมซึ่งเป็นคนนอกจึงได้เพียงแต่นั่งอย่างสงบเสงี่ยม และลุ้นว่าพี่คิวจะจัดการกับสองคนนี้อย่างไร
“บัตเตอร์แค่อยากมาหาพี่คิวอ่ะ” น้องบัตเตอร์เสียงเบาลงเมื่อเจอสายตาอาฆาตจากพี่คิวเข้า พี่คิวเอาแต่เงียบ ไม่ยอมพูดอะไร
“ก็คุณแม่..คุณแม่บอกว่า จะพามา แต่คุณแม่ก็ไม่ว่างพามาสักทีหนิฮะ” น้องบัตเตอร์ก้มหน้าก้มตาพูดอธิบาย เสียงเริ่มแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆเหมือนรู้ตัวว่าเหตุผลของตนนั้นจะไม่ได้ช่วยทำให้พี่ชายของตัวเองหายโกรธได้
“เชอร์เบ็ตขอโทษ พี่คิวอย่าโกรธพวกเราเลยนะคะ” น้องเชอร์เบ็ตเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่คิวอย่างอ้อนวอน
“.............” เงียบ คือสัญญาณตอบรับของพี่ชายหน้าเถื่อนที่นั่งอยู่บนเตียง ผมกำลังคิดว่าพี่คิวใจแข็งดีชะมัด ถ้าเป็นผมได้เห็นน้องสาวกับน้องชายของตัวเองมีสีหน้าและน้ำเสียงแบบนี้ ผมคงจะยกโทษให้ตั้งแต่แรกแล้ว
“พี่จะให้อาพราวหักค่าขนมของทั้งสองคน ห้ามเล่นเกมหลังทำการบ้านเสร็จทุกวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน” พี่คิวพูดขึ้นพร้อมกับหันมาจ้องหน้าทั้งสองคนเขม็ง ทั้งเชอร์เบ็ตและบัตเตอร์ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาพี่คิวเลยสักคน
“ห้ามทานขนมหวานหลังอาหารมื้อเย็น และเราจะไม่เจอกันเลยเป็นเวลาหนึ่งเดือนด้วย”
“พี่คิว~” น้องเชอร์เบ็ตเรียกเสียงเบา ผมรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจ ดูเหมือนว่าเด็กทั้งสองคนนี้จะรักและเชื่อฟังพี่คิวมากทีเดียว
“พี่จะไม่ไปหา ไม่พาออกไปเที่ยว ไม่ไปไหนทั้งนั้น..ยกเว้นเชอร์เบ็ต พี่จะไปรับ..พี่หมายถึง ถ้าพี่ว่าง” ระหว่างที่พี่คิวพูด น้องเชอร์เบ็ตเงยหน้ายิ้มกว้างในทันที
“ทำ..ทำไมเชอร์เบ็ตคนเดียวล่ะ!” น้องบัตเตอร์ลุกขึ้นยืนกำมือแน่น
“ยังจะขึ้นเสียงอีกอย่างงั้นเหรอ” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นลง ทำให้น้องบัตเตอร์ชะงักไป
“บัตเตอร์ นั่งลงสิ” น้องเชอร์เบ็ตเข้าไปดึงแขนบัตเตอร์อย่างห้ามปราม
“ปล่อยเรานะ!” น้องบัตเตอร์กระชากแขนตัวเองออกอย่างแรงจนน้องเชอร์เบ็ตตัวเซไปอีกทาง
“บัตเตอร์!!” พี่คิวกระแทกเสียง คิ้วขมวดมองตาขวาง ทั้งบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตสะดุ้งกระทั่งผมเองยังอดกลัวไปด้วยไม่ได้
“บัตเตอร์ไม่รักพี่คิวแล้ว!”
“หึ..พี่ก็จะไม่รักบัตเตอร์ด้วยเหมือนกัน พี่จะรักบัตเตอร์ทำไม บัตเตอร์เป็นเด็กดีอย่างนั้นเหรอครับ” พี่คิวย้อนด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ประกอบกับสีหน้าที่กำลังแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว น้องบัตเตอร์ชะงักไป ผมหันไปมอง เห็นพี่ฟ้ายืนฟังอยู่ที่หน้าประตูไม่ได้เดินเข้ามาซึ่งมีเพียงผมเท่านั้นที่เห็น พี่ฟ้าหยุดยืนอยู่ตรงนั้น พี่เขาขยิบตาและยิ้มให้ผม ส่งสัญญาณเหมือนบอกให้ผมเงียบๆไว้ประมาณนั้น
“บัตเตอร์ ขอโทษพี่คิวสิ” น้องเชอร์เบ็ตกระซิบด้วยสีหน้าหวาดระแวง น้องบัตเตอร์ยังคงยืนหน้างอจ้องหน้าพี่คิวอย่างไม่ยอม ภาพตรงหน้าเหมือนกำลังสะท้อนให้ผมเห็นอะไรบางอย่าง พ่อของพี่คิว..พี่คิว - พี่คิว..กับน้องบัตเตอร์
“ก็บัตเตอร์เป็นห่วงพี่คิว คุณแม่บอกจะพามาหาแต่ก็ไม่พามา มัวแต่ไปที่วัดอยู่ได้อ่ะ”
“แล้ว..แล้วยัง ยังไม่ให้คนขับรถมาส่งบัตเตอร์ด้วย” น้องบัตเตอร์เริ่มพูดเสียงเครือ มือจากที่กำมือแน่นตอนนี้กลายเป็นกำกางเกงนักเรียนของตัวเองไปแล้วละครับ ผมยิ้มแหยให้พี่ฟ้าแต่ดูเหมือนพี่ฟ้ากำลังยืนยิ้มอย่างมีความสุขซะเหลือเกิน
“แล้วอาฟ้า อาฟ้าก็ไม่ว่าง..ใครก็ไม่ว่างสักคน แค่มาส่งแค่นี้เอง..ทำไมผู้ใหญ่ต้องทำตัวไม่ว่างกันด้วย” น้องบัตเตอร์พูดออกมาน้ำเสียงเหมือนสงสัยไปซะทุกอย่าง
“เพราะพี่บอกว่าไม่ให้ใครมาส่งบัตเตอร์ไง” พี่คิวพูดขึ้น
“ทำไมล่ะฮะ”
“ไม่ว่าเพราะอะไร บัตเตอร์ก็ไม่ควรพาเชอร์เบ็ตโดดออกมาจากโรงเรียน รู้ใช่ไหม..หรือว่าไม่รู้ ถ้าบัตเตอร์บอกว่าไม่รู้ พี่จะยกโทษให้ ดีไหมครับ” พี่คิวย้อนเสียงเรียบ
“..อ่ะ” น้องบัตเตอร์อึ้งไป
“อึก..รู้ฮะ~” และแล้วก็ร้องไห้ออกมาจนได้
“ก็ดี” พี่คิวพยักหน้าตอบส่งๆ พี่เขาเหลือบตามามองหน้าผม ผมไม่ได้ยิ้มให้เพราะกำลังทำตัวไม่ถูก
“บัตเตอร์ อึก..บัตเตอร์ขอโทษครับ”
“ถ้าอยากให้พี่ไปรับที่บ้านพร้อมกับเชอร์เบ็ต รู้ใช่ไหมว่าต้องขอโทษใครอีก” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“รู้ฮะ” น้องบัตเตอร์พยักหน้าตอบทั้งน้ำตา
“เชอร์เบ็ตก็รู้ค่ะ” น้องเชอร์เบ็ตยิ้มกว้าง
“ดีมากค่ะ” พี่คิวยิ้มตอบ
“พี่คิวหายโกรธเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์แล้วใช่ไหมคะ” น้องเชอร์เบ็ตลุกขึ้นยืน สายตาดูมีความหวัง น้องบัตเตอร์ยืนมองหน้าพี่คิวตาแป๋ว แก้มมีแต่คราบน้ำตา
“ครับ..แต่ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่ทำผิดจะไม่ถูกลงโทษนะ” พี่คิวตอบ
“ค่ะ” น้องเชอร์เบ็ตรีบพยักหน้าในทันที
“งั้นเชอร์เบ็ตเข้าไปกอดพี่คิวได้แล้วใช่ไหมคะ” น้องเชอร์เบ็ตถาม พี่คิวพยักหน้ายิ้มๆ น้องเชอร์เบ็ตรีบวิ่งเข้าไปที่เตียงพร้อมกับพยายามปีนขึ้นไป
“ว่าไงเด็กๆ” พี่ฟ้าเดินเข้ามา
“เชอร์เบ็ตขึ้นเตียงไม่ได้ค่ะอา”
“หึ..เดี๋ยวอาอุ้มนะครับ” พี่ฟ้าเดินเข้าไปอุ้มน้องเชอร์เบ็ตขึ้นไปบนเตียง
“อย่ากอดแรงล่ะ แผลพี่คิวยังไม่หายดีนะคะ” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“ค่ะ” น้องเชอร์เบ็ตเข้ากอดพี่คิว พี่คิวโอบกอดอีกฝ่ายตอบ
“มาพอดี” พี่ฟ้ายิ้มให้ผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง เธอคนเดิม ผมจำเธอได้ดี..เธอเป็นพี่สาวของพี่ฟ้าที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่พี่คิวถูกยิงด้วยเช่นกัน เธอดูแก่กว่าพี่ฟ้าแต่ยังดูสวยอยู่ โครงหน้าแสดงให้เห็นว่าตอนสาวๆเธอต้องสวยมากอย่างแน่นอน
“กลับบ้าน” เธอพูดบอกพร้อมมองเด็กทั้งสองคน
“เชอร์เบ็ตไปนะคะ ฝันดีค่ะ..จุ๊บ” น้องเชอร์เบ็ตหอมแก้มพี่คิวเบาๆ พี่คิวหอมตอบก่อนที่พี่ฟ้าจะเข้าไปอุ้มน้องลงมาจากเตียง
“จุ๊บ~ ฝันดีค่ะอา” น้องเชอร์เบ็ตหอมแก้มพี่ฟ้าอีกคน
“เด็กๆคงรู้ตัวซินะว่าต้องโดนลงโทษยังไง อาคงไม่ต้องถามคิวใช่ไหม” เธอยิ้มให้พี่คิวอย่างรู้กัน
“ถ้าเชอร์เบ็ตจะไม่โกหก” พี่คิวยิ้มตอบ
“เชอร์เบ็ตไม่โกหกค่ะ พี่คิวบอกว่าหักค่าขนม ห้ามเล่นเกม ห้ามทานอาหารหวานหลังทานอาหารเย็นแล้ว แล้วก็..จะได้เจอพี่คิวบ้างแล้วแต่พี่คิวว่างในเดือนนี้ค่ะคุณแม่” น้องเชอร์เบ็ตรีบพูดเหมือนกลัวว่าพี่คิวจะโกรธเธออีกอย่างนั้น
“ดีมากจ้ะ” เธอยิ้มลูบหัวลูกของเธอ
“งั้นไปนะ ขอบใจมากนะฟ้า”
“ไม่เป็นไรครับ พี่รีบกลับเถอะ..ดึกมากแล้ว ฝากแม่ด้วยนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“ไปกันบัตเตอร์” น้องเชอร์เบ็ตเรียกน้องบัตเตอร์ที่ยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับ
“บัตเตอร์จะมาอีกได้ไหมฮะ” น้องเงยหน้ามองหน้าพี่คิว
“ได้สิ ถ้าไม่หนีโรงเรียนมาน่ะนะ” พี่คิวตอบและยังคงทำหน้าดุไม่เลิก
“ใช่..ถ้าคุณแม่ว่าง” บัตเตอร์ย้อน ผมชักจะพอเข้าใจแล้วว่าน้องบัตเตอร์มีนิสัยเหมือนใคร น้องเขาก็ไม่ได้ต่างกันพี่คิวเท่าไหร่เลย ยอกย้อนดีเหลือเกิน
“ถ้าบัตเตอร์เป็นเด็กดี บัตเตอร์จะเข้าใจว่าทำไมคุณแม่ถึงไม่ว่าง” พี่คิวว่า
“ก็..ก็ได้ ถ้าคุณแม่ว่าง” น้องแกพูดเสียงเบาลง
“งั้นถ้าคุณแม่ไม่ว่าง พี่คิวออกจากที่นี่แล้ว ไปหาบัตเตอร์ด้วยนะฮะ” พี่คิวจ้องหน้าน้องด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมลุ้นว่าพี่เขาจะตอบว่ายังไง
“เด็กที่ถูกทำโทษ ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้มากนักนะ” พี่คิวกลับมายิ้มอย่างอ่อนโยน ห..โหดอ่ะ คนบ้าอะไรเย็นชาชะมัด (_o_)
“กลับได้แล้ว อย่าลืมทำตามที่เราตกลงกันไว้ด้วยล่ะ..เข้าที่พูดใช่ไหมครับ บัตเตอร์” พี่คิวย้ำเสียง
“ฮะ” น้องบัตเตอร์พยักหน้า น้องเขายกมือขึ้นบ๊ายบายให้พี่คิวและพี่ฟ้า สามแม่ลูกเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน
“เฮ้ออออ..” พี่ฟ้าถอนหายใจแรง
“ช่วยไม่ได้ ติดแจอยู่คนเดียวด้วยซินะ” พี่ฟ้าหัวเราะส่ายหัวและหันมามองหน้าผม
“ง่วงรึยังเค้ก” พี่ฟ้าถาม
“ก็นิดหน่อยครับ” ผมยิ้มตอบ
“พี่หิวจัง ไปหาอะไรกันดีไหมครับ” พี่ฟ้าชวน
“ดีมากเลยครับ” ผมตอบแทบจะทันที ที่จริงรู้สึกหิวจนท้องกิ่วไปหมดแล้วละครับ ที่อยากรีบกลับบ้านเพราะอยากกลับไปทานข้าวนั่นแหละ
“หึหึ” พี่ฟ้าหัวเราะเล็กน้อย ผมลุกขึ้นหยิบกระเป๋า พี่ฟ้าหยิบกระเป๋าด้วยเหมือนกัน ผมเหลือบตาไปมองพี่คิวที่คล้ายกับจ้องหน้าผมอยู่
“หวัดดีครับ” ผมเอ่ยบอกคนบนเตียง ไม่กล้าพูดเสียงดังเท่าไหร่นักเพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมา
“หึ..” พี่ฟ้าอมยิ้มมองเจ้าเล่ห์ใส่ผมสองคน ผมชะงัก ไม่กล้าสบตาทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวด้วย
“แหม ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องรีบๆ..เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอกนะ ร่ำลากันได้ตามสบายเลยจ้ะ” พี่ฟ้ายิ้มพร้อมกับปัดมือไปมา ผมยืนเงอะงะมอง
“อ๊ะ พี่ฟ้า..ไม่ครับ” ผมพูดพร้อมกับจะเดินตามไป
“น่าเค้ก..” พี่ฟ้าดันตัวผมกลับมาที่เดิมและพี่ฟ้าก็เดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนี้ ผมยืนนิ่ง เหลือบกลับไปมองคนบนเตียงอีกครั้ง
“มองอะไร” ผมถามเสียงห้วน
“ถ้านายไม่มองฉันก่อน นายจะรู้ไหมว่าฉันมองนาย” ง่ะ..
“เปล่ามองสักหน่อย ก็ตัวเองมองก่อนแท้ๆ ยังจะมาย้อนอีก” ผมบ่นลอยหน้าลอยตาไปทางอื่น อยากจะขอบคุณสายกระเป๋าเป้ของตัวเองในตอนนี้มากที่ทำให้ผมมีที่วางมือได้ ถ้าไม่มีมัน ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมควรจะเอามือของผมไปไว้ตรงไหน มันดูจะเกะกะไปซะหมด
ทั้งผมและพี่คิวเงียบลงครู่หนึ่ง ผมรู้สึกว่าขาของตัวเองแข็งขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ เหมือนอยากจะก้าวออกไปแต่กลับไม่ทำ อยากออกไปจากตรงนี้แต่ที่จริงก็ไม่อยากออกไป..
“พรุ่งนี้ว่างรึเปล่า” พี่คิวถาม เหลือบตามองไปที่โทรศัพท์ของตัวเองบนหัวเตียงก่อนจะหันกลับมาอย่างเดิม
“ทำไมครับ” ผมถามกลับ พยายามทำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ
“ฉันถามเพราะต้องการคำตอบ ไม่ใช่ให้มาย้อนถามฉัน”
“ก็..ว่าง” ผมยักไหล่ตอบส่งๆ
“หลังเลิกเรียน” ผมขยายความ
“เลิกเรียนกี่โมง” พี่คิวถามอีก
“บ่ายสองฮะ” ผมตอบ
“ไปเอาหนังสือที่บ้านให้หน่อย”
“ทำไมต้องเค้กล่ะ พี่ก็ให้ป้านิดเอามาให้สิฮะ” ผมพูด
“ฉันจะใช้นาย นายมีปัญหานักรึไง” พี่คิวจ้องหน้าผม ไม่รู้ว่าต้องการบังคับหรือหาเรื่องกันแน่ หรืออาจจะทั้งสองกรณี..น่าจะอย่างนั้น
“ใช้หน้าที่ในทางมิชอบล่ะสิ” ผมเบะปาก
“ไม่เต็มใจรึไง แต่หน้านายมันฟ้องนะว่าดีใจนะ” พี่คิวอมยิ้มบอก
“อ๊ะ..ไม่ใช่ สักหน่อย..บ้า” ผมพูดเสียงเบาลงอย่างตะกุกตะกัก เอามือปิดปากของตัวเองด้วยความประหม่ากับสายตาและรอยยิ้มนั่น
“ผมไปล่ะ” ผมก้าวขาจะเดินออก
“บ่ายสองฉันจะโทรหา” พี่คิวพูดขึ้นทันที ผมชะงัก ไม่ได้หันกลับไปมองหน้าพี่คิวอีก เพราะผมไม่มีความกล้ามากพอ ในตอนนี้ผมกำลังรู้สึกดีใจ..ดีใจมากเกินไปจนอาจจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มันมาก..จนตอนนี้ภาพบนหัวของผมมีแต่รูปอะไรบ้าบอลอยไปลอยมาเต็มไปหมด หัวใจผมกำลังเต้นไม่เป็นส่ำ
“รับสายเร็วๆล่ะ ฉันไม่ชอบรอนาน” ผมได้แต่ยืนเงียบฟังอีกฝ่ายที่พูดคล้ายกับคำสั่งเด็ดขาด
“อ๊ะ..” เมื่อเรียกสติของตัวเองกลับมาได้ ผมก็หลุดออกจากภวังค์
“ฝันดีนะฮะ” ผมพูดบอก นี่เป็นประโยคเดียวที่ผุดขึ้นมาบนหัว ส่วนคำอื่นๆถ้าพูดออกไปมันคงเรียงออกมาไม่เป็นประโยคเป็นแน่
“Good night” พี่คิวบอกกลับเช่นกัน น้ำเสียงกระแทกเข้าโสตประสาทของผมอย่างจังซึ่งทำให้ผมเกือบก้าวขาไม่ออกมากกว่าเดิม คนบ้าอะไรแค่พูดภาษาอังกฤษเพียงคำสั้นๆเท่านั้นแต่กลับมีน้ำเสียงที่ฟังดูไพเราะเป็นบ้า หรือเพราะผมเองที่กำลังเป็นบ้า..ใช่ ผมคงกำลังเป็นบ้าแน่ๆที่ดีใจกับประโยคเล็กๆน้อยๆนี่
ผมทำใจกล้าหันกลับไปมองหน้าพี่คิวอีกครั้ง ผมอยากรู้ว่าตอนนี้พี่คิวกำลังทำหน้ายังไงในขณะที่ผมกำลังรู้สึกตื่นเต้นจนแทบไม่เป็นสุขแล้ว พี่คิวมองหน้าผมอยู่ ไม่มีรอยยิ้มใดๆผุดออกมาจากหน้าของคนๆนี้ แต่สายตาที่มีกลับไม่ใช่สายตาดุโหดที่ชอบมองตาขวางอย่างเช่นทุกที ครั้งนี้ต่างออกไปจนผมรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ผมกล้าหันกลับมามอง
“ไปจริงๆ ไปละฮะ” ผมพูดปัดเมื่อเริ่มเห็นรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากของพี่คิวอีกครั้ง ผมจึงรีบเร่งเท้าออกมาจากห้องในทันที
~บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว ใช่..เราเป็นบ้าไปแล้วอ่ะ~
“ฟู่..เฮ้อ” ผมถอนหายใจ
"เกิดอะไรขึ้น ใจเย็น..ใช่ ใจเย็นๆ ทำยังไงดี เรา..ปั่นป่วนไปหมดแล้ว"
................>>>><<<<................
มนุษย์..ควรบริโภคอย่างพอเพียงและเพียงพอ ^^
-
บัตเตอร์ช่าง....เกรียนดีแท้ :m20:
เค้กกับพี่คิวก็คืบหน้าไปเยอะและ แนะนำน้องเค้กนะ
พอเอาหนังสือให้พี่คิวเสร็จจับพี่คิวปล้ำซะเลย
แล้วบอกให้พี่คิวรับผิดชอบเหมือนในละครไทยไง กร๊ากกกกก
จะบอกให้นา...ในโรง'บาลให้อารมณ์ตื่นเต้นจะตายห่าน คึคึ
ส่วนคู่อาฟ้ากับคริสโตเฟอโรบิน เอร๊ยยย ทิกเกอร์(แม่ม!ฮาชื่อ) เมื่อไหร่จะมีncเอ๊ย!จะดีกัน
(รู้สึกพิมพ์ผิดบ่อยเหลือเกินนะ)
คอยลุ้นคู่อาฟ้าอยู่ คู่กัสกับพี่ชายของซีด้วย(ถูกคู่ปะวะ?)
ยังมีอีก เพิ่งคิดได้เมื่อกี้เลยคู่นี้ เด็กเกรียนบัตเตอร์กับมนุษย์บทน้อยชายอ๊อฟ :jul3:
คู่สุดท้ายนี่คงจะน่ารักพิลึกกึกกือ กลิ่นโชตะเหม็นหึงเชียะ
:z2:
-
จิ้มก่อนอ่า น
-
:z13: ก่อน
กร๊ากกกๆๆ ช่างขี้เก๊กจริงๆนะพี่คิว
อยากโทรหาอยากให้เค้กมาหาละสิเลยหาข้ออ้างให้ไปเอาหนังสือมาให้ กิ้วๆ :m12:
-
:กอด1:อีพี่คิวไม่ต้องพูดมากก็ทำให้น้องเค้กเขินได้ตลอด
-
เขินอาย><
พี่คิวแกล้งเค้กกลบเกลื่อนอะไร?
ขอบคุณเบบี้
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :m3:
โอ๊ยยยยยยย เค้กกับพี่คิวน่ารักจังเลย น่ารักมากกก :-[
อ่านไปยิ้มไป บัตเตอร์นี่ก็อปพี่คิวมาหมดเลยนะ :laugh:
ดีใจมากๆค่ะที่เบบี้มาต่อ o13
ปล.มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่มีความต้องการและกิเลสสูงมากค่ะ
ฉะนั้นที่ดูเหมือนจะพอจริงๆแล้วมันไม่พอและยังต้องการมากขึ้นอีกเรื่อยๆนะคะ o18
-
:L2: รอๆๆๆๆๆ พี่คิวน่ารักอะ บัตเตอร์เหมือนพี่คิวเลย
-
บัตเตอร์กะเชอร์เบ็ตเฮี้ยวน่าดู นิสัยคงจะเหมือนพี่คิวมากๆ 5555
เมื่อไหร่พี่คิวกะเค้กจะพูดอะไรกันยาวๆมั่งนะ อิ อิ
-
:impress3: เชอร์เบ็ตน่ารักกกกก บัตเตอร์อย่างเกรียนนนนนน
คิว เค้ก เมื่อไหร่นะที่สองคนนี้จะ :oo1: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
หวานนิดๆจิตแจ่มใส
-
:man1: :man1: :man1:
:-[ :-[ :-[
:really2: :really2: :really2:
:pig4: :pig4:
-
โอ้ยยยยยเขินพี่คิวเลย><
-
อยากบริโภคเยอะ ๆ เพราะอยากอ้วน :jul3:
หลานสองคนมันช่างเอาแต่ใจตามเชื้อสายจริง จริ๊ง
สงสารทริกเกอร์ ออกมาหน่อยเดียวเอง ตกลงก็ยังไม่ได้คุย
เป็นเรื่องเป็นราวกับฟ้าเลย
-
ฮิ้ววววววว
เค้กคงตกอยู่ในวังวนแห่งความรักแล้วหล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
คนอ่านก็บ้าไปแล้วค่ะ แอร๊ยยยยยย เขินวุ้ย :o8:
-
กรี๊ดดด น่ารักอ่ะ
คิวนิสัยๆ(นิสัยน่ารักน่าแกล้ง) 555+ แกล้งเค้กได้ทุกตอน
แต่คิวโหดกับน้องมากเลยอ่ะ กลัวแทนนะเนี่ย
:กอด1:
-
น่ารักเว้ยยยยยยย
มาต่ออีกเร็ว ๆ นะ
ลุ้นจนตัวโก่งแล้ว
รักกันสักทีเหอะ 555555
o13 o13 o13
-
เขินง่ะ...เขินแทนน้องเค้ก :o8:
พี่คิวทำน้องเขินอีกแล้ว ฮิ้วว :impress2:
น่ารักขึ้นทุกวันๆ ถ้าได้ออกจากดรงพยาบาลเมื่อไหร่ ความสัมพันธ์ต้องพัฒนาขึ้มาแน่นอนเลย o13
สองแฝดน่ารักอ่ะ ชอบเด็ก :-[
-
เมื่อไหร่สองคนนี้ จะ บะ บะ โอะ บะ กันสักที คิคิ
-
โอ๊ยยยยยยย อ่านแล้วยิ้มแก้มแทบปริ
:-[ :-[
-
น่ารักดี เค้กสู้ๆๆนะ :L1:
-
เค้กเขินมากกกกกก
พี่คิวเเอบดุเเละเฉียบขาดมากค่ะ
รอจ้ะเบบี้
-
อายยย
เขินนน
แทนเค้ก
-
เย้ เดี๋ยวมาอ่านเน้อ
เม้นให้กำลังใจจร้า :L2:
-
อ๊ากกก รอมานาน สมใจแระ
พี่คิวเริ่มหวาสแระนะ เค้กเขินไปไม่เป็นเลย
-
ตอนนี้ลุ้นคู่ ฟ้า ทิกเกอร์จนตัวโก่ง
ใจเเข็งทั้งตระกูลจริงๆ
-
:o8: :o8: :o8: :o8:หวานซะพี่คิว
-
กรี๊ดดดดดด เขินๆๆ :-[
พี่คิวชอบแกล้งเค้กจัง ฮ่าๆ แหมมม อยากเจอน่ะสิถึงให้เค้กไปเอาหนังสือมาให้ :impress2:
เค้กก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย :laugh: ยังงี้พี่คิวก็ยิ่งแกล้งใหญ่ซิ แกล้งแล้วสนุกขนาดนี้ ฮ่าๆๆ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :pig4:
-
อ่านจบตอนแล้วรู้สึกว่า ยังไม่อยากให้จบตอนเลย อยากอ่านต่อ
พอเลื่อนลงมาเจอ
มนุษย์..ควรบริโภคอย่างพอเพียงและเพียงพอ ^^
:z6: อ๋อยยยย โดนเต็มๆ 5555
-
เขินแทนอ้ะ ><
บัตเตอร์นี่ถอดแบบพี่คิวมาเลยนะเนี่ย
โตไปคงเป็นพี่คิวสอง 55555
-
บัตเตอร์เกรียนมากก
พี่คิวกับน้องเค้ก ก็หวานกันวันละนิดๆๆ :-[
-
อ่านตอนนี้แล้ว,,,ตูกลายเป็นคนไม่รู้จักพอไปเลยทีเดียว :laugh:
-
คิวนี่สุดๆอ่ะ
บอกไม่ถูก
เหมือนเป็นประเภทสุดโต่ง
:laugh: :laugh: :laugh:
-
สามอาหลานช่างเหมือนกันดีแท้^0^
บวกเป็ด
-
:-[ น่ารักขึ้นทุกวันเลยคู่นี้ ไม่หวานเลี่ยนแต่อ่านไปยิ้มไป :impress2:
น้องบัตเตอร์เหมือนใครก็รู้ๆกันอยู่ โขกกันมาเลยจ้า บล๊อกเดียวกัน :laugh:
:pig4: :L2: นะคะคุณเบบี้
-
พี่คิวชอบแกล้งให้เค้กเขินรึเปล่าเนี่ย
-
มนุษย์ควรกินแค่อิ่มครับ จะได้ไม่ทำลายธรรมชาติมากเกินไป :m20: :m20: :m20:
-
อิพี่คิวจะนอนโรงบาลอีกนานมั้ย :laugh: เข้าข่ายอู้แล้วนะเนี่ย :z10:
-
น้องเค้กน่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดด
พี่คิวน่ะเก๊กให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ หมั่นไส้คนยิ้มมุมปาก :z2:
-
:L2: :L2: :L2: :L2:
พี่คิวกะเค้กเขินกันเอง o18
น่ารักตลอดอ่ะคู่นี้ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
บัตเตอร์นี้ไม่ต้องบอกก้อรู้เลยว่าเหมือนใคร
เชื้อไม่ทิ้งแถว ครบสูตรเหมือนพี่คิวซะ
ว่าแต่พี่ฟ้าไม่ใจอ่อนเลยเหรอ :เฮ้อ: :เฮ้อ:ลุ้นๆนะ
+เป็ดนะจร้าาาาารออ่านตอนต่อไป
-
มาแล้ววว มาซะที
พี่คิวน่ารักจังงง
มันสั้นไปนะ ไม่พออ่ะ
อยากอ่านอีกกกกกกกก
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ยังกับเราไปยืนข้างเค้กเลยอะ เพราะอ่านแล้วทั้งเขินทั้งประหม่าเลย :o8:
:pig4: คะ
-
ให้พี่เค๊กปล้ำพี่คิวไปเลย 5555
บัตเตอร์นี่ลูกช่างตามใจแน่ๆ สงสัยชอบวางอำนาจกับคนอื่น
-
น้องเค้กใจเต้นตึกตัก แสดงอาการตล๊อด :-[
อยากกอดรัดน้องบัตเตอร์ :กอด1: ได้ใจป้าจริงๆเลยลูก
-
เจ้าเด็กนี่ต้องดัดนิสัยนะ อิอิ
-
อยากติดทองบี้อีกสักรอบ แถม กระทืบไล๊สักล้านครั้ง
เห็นด้วยๆสุดๆกับเค้กว่า... หลานบ้านนี้ ค่อดเอาแต่ใจ
พี่คิวแลดูท่าทางมีความสุขแบบดิบๆเวลาเห็นเค้กเขินอ่ะ :laugh:
แบบนี้รับรองหายวันหายคืนเจ้าค๊า อร๊ายย ดิ้นๆๆ
-
สำเนาถูกต้องเลยนี่หว่า๕๕๕
-
น้องๆ ของพี่คิวก็น่ารักกันเหลือเกินเลยนะค่ะเนี้ย แอบเอาแต่ใจกันจริงๆเลย
น้องบัตเตอร์นี้ถอดแบบพี่คิวมาแน่ๆเลย พี่คิวสอนน้องๆ ได้โหดมากๆ เลยค่ะ
เป็นเราน้ำตาแตกไปตั้งแต่ พี่คิวเงียบแล้ว แบบกดดันเองอ่ะค่ะ 5555 :sad4:
แต่อยากจะกรี๊ดจริงๆ :-[ ตอนท้ายเรื่องน่ารักไม่ไหวแล้วค่ะ โอ้ย หลงรักพี่คิวอ่ะ :impress2:
เขินแทนน้องเค้กเลยอ่ะค่ะ พี่คิวถ้ามาทำแบบนี้บ่อยๆ
น้องเค้กอาจจะเป็นโรคหัวใจได้ ใจเต้นแรงผิดปกติกันเลย :o8: ทำตัวไม่ถูก
แล้วน้าพี่คิว อยากให้เค้ามาเฝ้าไข้ก็บอกกันตรงๆไปเลย
อ้ายยยยยยยยย แอบมีโทรหากันอ่ะ :impress2:
อาฟ้าก็เป็นใจเหลือเกิน น่ารักจริงๆเลยค่ะ อาคนนี้ อาฟ้าถ้าหนีฝรั่งคนนี้มากๆ ระวังเค้าจะน้อยใจนะค่ะ
แค่นี้ก็น้อยใจจะแย่แล้ว
ยังไงก็ขอให้พี่คิวหายไวๆ นะค่ะ แต่พี่คิวอาจจะยังไม่อยากหาย เพราะมีน้องเค้กมาเฝ้าไข้รึเปล่า :bye2: :bye2:
-
โคลนนิ่งกันมาทั้งบ้านจิงครอบครัวนี้ ><"
นู๋เค้ก อาการหนัก เว้ยเฮ้ย!! :laugh: :laugh: แต่ก้อน่าร๊ากกกก
-
o18หึหึ
-
น้องโคตรจะดื้อเหมือนพี่คิวเลย 5555
น่ารักดีอ่ะ ลั้ลลา เหอะๆ
ทำไมน้องเค้กไม่วีนเด็กไปซักทีนะ (เราไม่ชอบเสียงเด็ก 555)
แต่พี่คิวสอนน้องดีนะะ ชอบๆ
-
วุ่นวายดีแท้ครอบครัวนี้
น้องบัตเตอร์ photocopy ของนายคิวมาเลย :laugh:
สงสารแต่อาฟ้า รับมือหลานคิวคนเดียวก็แทบไม่ไหว
ไม่อยากนึกภาพตอนบัตเตอร์โตขึ้น :เฮ้อ:
+1
-
พี่ฟ้านิช่างเป็นใจส่งเสริมหลานตัวเองจริงๆ ทิกเกอร์ตื้อสุดๆ :o8:
-
:-[
กรี๊ดดด อ่านไปก็ยิ้มไป กัดหมอนไป
น้องเค้กก็เก็บอาการไม่อยู่ อิพี่คิวก็ขยันแกล้งน้อง แอร๊ยยยยย :o8:
-
หนูเค้ก ออร่าความเคะของหนูเริ่มรุนแรงขึ้นแล้วนะคะนี่ :laugh:
-
:-[ :กอด1:มาแล้วอ่่ะ อื้อฉ คิดถึงมากมากเลยอ่า
แล้วก็ ตอนนี้รู้สึกว่า น่ารักอ่่ะ!!!
-
อาการของเค้กคืออาการของคนที่กำลังมีความรัก
-
ชอบน้องบัตเตอร์จังเลย เกรียนได้ใจ อิอิ
เค้ก คิว, คิว เค้ก น่ารักอ่ะ อิอิ
-
พี่คิวใช้สายตาแบบไหนนะ น้องเค้กถึงไปไม่เป็นเลย :-[
-
โถ เค้ก เป็นหนักนะเนี่ย ^^
-
พี่คิวใจแข็งกับบัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตมาก ขนาดบัตเตอร์ร้องไห้ยังไม่ยอมอ่อนข้อให้สักนิด อย่างนี้ซิเค้าถึงเรียกว่าทั้งรักทั้งเกรง
สั่งให้เค้กไปเอาหนังสือที่บ้านมาให้จริงๆแล้วอยากเจอเค้กล่ะซี้ รู้ทันหรอกน่า
-
เด็กน้อยสองคนน่ารักมาก แต่บัตเตอร์แสบใช่ย่อยเลยน้า
อ่านตอนนี้แล้วเขินแทนเค้ก ไม่รู้เขินอะไร แต่มันก็เขิน ฮ่าๆๆๆ
-
กลัวเค้กสมองระเบิดน่ะ
ท่าทางจะสับสนนิ :laugh:
-
พี่คิวอะ เค้กเขินจะแย่แล้ว พี่ฟ้าก้อเป็นใจ หุหุ
-
เค้กเขินได้...
น่อร็อกอ่ะ 555555
:กอด1: เค้ก - คิว
-
อากับหลานนิสัยเหมือนกันเลยอะ 55555555555
อยากให้น้องบัตเตอร์ชอบเค้กด้วยเหมือนกันนะ ทีนี้ละ...อากับหลานแย่งกันตายแน่ๆ หึหึ
พี่คิวก็นะ...อยากเจอเค้าก็เลยใช้ให้ไปเอาหนังสือ แหม...ยังทำเป็นมาบอกว่าเค้กดีใจอีกนะ ตัวเองก็ดีใจชิมิล่า o18
-
พี่คิวขยับอีกหน่อยแล้ว
-
พี่คิวโหดกับน้องบัตเตอร์มากกกกกกกกกกก รู้สึกเหมือนกำลังดูตัวเองอยู่รึเปล่า :laugh:
สงสารเค้ก โดนพี่คิวรู้ทันไปซะทุกอย่าง :o8:
-
ก็หวังว่า บัตเตอร์ จะชอบเค้กด้วยนะ :เฮ้อ:
สงสัยตอนหน้าอาจมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น หรือ ยังไง
(เดามั่วล่วงหน้า วะฮ่าๆๆๆ) :laugh:
พี่คิวก็รีบหายซะทีนะคะ
จะได้มีฉากเลิฟๆแบบประชิดตัวบ้าง
เพราะเชื่อว่าคนในบอร์ดนี้ ต้องการปริมาณที่มาก และมากล้น!!
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คิดถึงเบบี้ รักเบบี้ ปลื้มเบบี้เสมอ
-
พี่คิว......บ้า!! :-[ (เขินแทนเค้กอ่ะ ฮี่ๆๆ)
มีจะโทรหา มีใช้ให้มาหา แอร๊ยยยยยยยยยยย
-
นึกในใจ เด็กผู้ชาย ให้อภัยได้ ฮ่าๆๆ
-
บัตเตอร์เหมือนพี่คิวมากอ่ะ !! 5555
เค้กก็น้าาาา ตามพี่คิวไม่ทัน โดนแกล้งจนเขินตล๊อดดด :-[
พี่ฟ้าก็ยังไม่ใจอ่อนกะทิกเกอร์ซักทีสิน้า ตอนนั้นทิกเกอร์ไปทำอะไรไม่ดีไว้กันนะ ><
-
ถ้าเปรียบเทียบนิสัยพี่คิวคือเป็นคนอินดี้นะ แล้วก็นี่แหละเวลาคนอินดี้เค้าชอบใครสักคน
จะชอบแสดงท่าทางแบบนี้ 55555 ดูแบบพี่พีดิ กร๊ากกกกกกกกกก เหมือนเหอะ
แต่แค่พี่พีจะเลวกว่าแต่การแสดงออกและท่าทางมีส่วนคล้ายกันอย่างแรงอะจ้าาาาา
และเค้กก็ซอฟท์กว่าทัวร์ยี่สิบสองเท่าหน่อยๆ ก้ไม่แปลกที่พี่คิวจะเป็นแบบนี้กับเค้ก
มันดูเหมาะกับพิลึกอ่ะ >///< น่ารัก 5555 แต่ยังไงก็อยากให้ทั้งคู่ลดความซึนลงกันอย่างละหน่อย
ชอบก็บอกเค้าไปว่าชอบนะจ้า จะได้ไ่ม่ต้องมาแอบจ้องตากันแล้วก็ถามว่ามองทำไมแบบนี้อยู่ตลอด
-
เนี๊ยน เนียนอ่ะน้องเค้ก ไม่ค่อยจะแสดงออกเลยว่าชอบพี่คิว
อิอิ ปล้ำเลยลูก
-
พี่คิวโหดมากกกกก
ถ้าได้เป็นแฟนกันจริงๆจะกัดน้องเค้กมั้ยเนี่ยยย
ปล รอวันึู่นี้เค้าสวีทกัน อยากเห็นๆๆๆ
อย่าพึ่งตัดจบแค่ตอนตกลงคบกันเลยนะค้าบบบ
ขอฉากสวีทกันหน่อยนะๆๆๆ
ต้องน่ารักมากๆแน่ๆเลยยยยยย
-
หลานพี่ิคิวถอดแบบนิสัยมาเหมือนเด้เลย55
พี่คิวกับน้องเค้กก็น่ารักขึ้นเรื่อยๆ ลุ้นว่าจะบอกรักกันเมื่อไรอ่ะ ส่วนอาฟ้าก็ใจแข็งกับทิกเกอร์มาก งอนนานดีจริงเลย^^
-
Wowwwwwww......! :mc4: :mc4: :mc4:
เขินนนนน :-[ :-[ :-[แทนเค้กกกกก.....
พี่คิวปล่อยฟีโรโมนใส่เค้กตลอดๆๆ :z3: :z3: :z3:
-
เค้เพ้อมากกๆๆ
พี่คิวทำแบบนี้ให้ความหวังเค้กนะเนี่ย
-
เขินแทนเค้กเลย อิอิ
-
คิวทำเค้กเขินอีกแล้ว...ชอบล่ะซี่ :m12:
-
เอิ้กกกกกกกกก ><
เขินค่าาาา5555 :-[
เมื่อไหร่กันน้อ จะเจ๊าะแจ๊ะซะที กรั่กๆๆๆ :o8:
-
เขินจริงลูกเอ้ยยยยย เค้่ารู้กันทั้งร้านแล้ววววว :กอด1:
-
บัตเตอร์นี่ดื้้อเหมือนพี่คิวเลย แหะๆ
-
แฝดน่ารักอะ
-
พี่คิวเจ๋งมาก
-
เง้ออออ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเค้าเป็นเค้กจะต้องทำตัวยังไง.. สมองต้องไม่สั่งงานแน่ๆ แอร๊ยๆๆ
พี่คิว ทุกคำพูดนั่นคือ อยากเจอน้องเค้ก? อยากโทรหา? อยากให้รับสายเร็วๆ? เพราะคิดถึง?
แล้วสายตาที่แปลกไป.... ประกายรักหรอ? กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
เพ้ออออออออออออออออออ
ปล.น้องบัตเตอร์เชอร์เบ็ต น่าจับมาฟัดจริงๆ น้องเค้กเข้าทางเด็กๆเลยลูก ฮ่าาาาา
เบบี้อ่า.... เค้าใจจะขาดแล้วค่ะที่รักกกกก
-
เพราะเค้กอย่าเขินมากอ่ะดิ หลังๆมานี้ พี่คิวถึงแกล้งเอาๆ :m3:
-
เค้กน่ารักแค่คุยกับคิวยังไม่กล้าเลยนะ
-
น้องบัตเตอร์นี่คือคิวภาคเป็นเด็กใช่ป่าว :m20:
ได้ใจมากๆ แต่ก็ต้องยอมให้ตัวพ่อเค้าคนเดียว
ถ้าไม่ใช่หลานนะ คงร้องไห้กันไปแล้วล่ะเราว่า
แต่คงยกเว้นเด็กชายเค้กไว้สักคนเนอะพี่คิว
เค้าจีบกันได้เนียนมากอ่ะ แทบไม่รู้เลย :o8:
ส่วนพี่ฟ้า เมื่อไรทิกเกอร์จะได้เข้ามารอในร้านอ่ะ
คู่นี้ก็น่ารัก ทิกเกอร์เกรงใจพี่ฟ้ามากๆท่าจะรักจริง
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เค้กกกกกกกกก
น่ารักเกินไปแล้ว
-
เชอร์เบ็ต บัตเตอร์ นิสัยเหมือนพี่คิวอ่อ เกรียนแต่เด็กอะ
หน้าเค้กป้องว่าเต็มใจ555.
-
พี่คิวขี้แกล้งอ่ะ น้องเค้กมันเบลอไปหมดแล้ววววววว 37 ตอน แล้ววว
เมื่อไรๆ จะมีแอบกุ๊กกิ๊ก หวานๆกะเค้าบ้างนะ
แต่นี่มันก็แอบหวานป่ะ แบบหวานหลบใน 55555555555
:z2:
-
อยากรู้จังว่าสายตาที่แปลกไปของพี่คิว
ที่ทำเอาน้องเค้กดีใจที่หันกลับไปมอง
มันคืออารายยยย อิอิ :o8:
:pig4:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ยิ้มแก้มปริตามเค้กเลยเรา อิอิ
-
นึกว่าลูกพี่คิวซะอีก คิดไปได้นะเรา :z3:
-
:กอด1:นี่หละนะเค้าเรียกว่า ความรักอ่ะเค้ก 55++
-
Ah~song khon mii karn pattana thii dii keun nor,,hu hu hu ^^
-
อ๊ายย พี่คิวน่าีัรัก บัตเตอร์นิสัยเหมือนพี่คิวเลยเนอะ ส่วนเชอร์เบตเหมือนพี่ฟ้า อิอิ
ตอนนี้น่ารักจางงงงงงงง อ่านแล้วล่องลอย 555
-
:man1:
-
สงสาร ทิกเกอร์อะ พี่ฟ้า ใจแข็งมักมาก
หลานพี่คิว นี่น่าจับมาตีก้นเนาะ :laugh: นิสัยเหมือนพี่คิวมาก
-
โหดอะ :z3:
คอรบครัวนี้ ช่าง...มีเเรงกดดันสูง :laugh:
เดี๋ยวอีกหน่อย บัตเตอร์จะติดพี่เค้กมั๊ยเนี่ย o18 อยากให้ติดอะ :m20:
-
เค้กเอ๊ย ถ้าโดนคิวรุกเมื่อไหร่ สงสัยแย่แน่ๆ แค่นี้ก็ไปไม่เป็นละ :o8:
...Lover 2 นี่คู่ฟ้า+ทิกเกอร์ ใช่ป่ะบี้ 55 ฟ้า :man1:
:pig4: :กอด1:
-
:กอด1: น่าร๊ากอะ ^^
ขอบคุณเบบี้นะค้าบบบ
-
เค้กน่ารักกกกก
-
อ่านไปอ่านมารู้สึกสงสารเค้ก เหมือนเค้กจะล็อกพวงมาลัยให้วิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว
ในขณะที่พี่คิวยังปล่อยพวงมาลัยฟรี สามารถกลับรถได้ตลอดเวลา ถ้าวันนึงพี่คิวเกิดเลี้ยวออกจากถนนสายนี้เมื่อไหร่
คนที่จะเจ็บคงมีแต่เค้กคนเดียว
พล่ามมาตั้งเยอะไม่รู้ว่ามีใครเข้าใจมั้ยเนี่ย
-
อยากเห็นหน้าเค้กบ่อยๆละซิพี่คิว :laugh:
-
พี่คิวแกล้งน้องเค้กอ่ะ
ตัวเองรู้หมดแล้วแท้ๆ
เจอประโยคปิดท้าย ถึงกับฮาแตก :jul3:
พอเพียงๆ o13
-
...เด็กๆถึงจะดื้อแต่ก็เชื่อฟัง พี่คิวดีนะ แต่พี่คิวก็มีวิธีอบรบเด็กๆๆด้วย
...พี่คิว นี่ถ้าจะเป็นเครื่องเอ็กเรย์ เล่นมองเค๊กซะทะลุปรุโปร่ง หมดเลย แย่แล้วนายเอกของเรา :laugh:
-
ตระกูลพี่คิวนี่นิสัยสืบทอดกันมาหมดจริง ๆ สินะ
บัตเตอร์เหมือนพี่คิวมาก โตมาคงไม่ต่างจากพี่คิวชัวร์ ๆ 555
พี่คิวววววววว ได้ทีก็แกล้งให้น้องเขินใหญ่เลยนะ
อยากให้น้องมาหาเลยต้องหาข้ออ้างสินะ รู้ทันหรอก ><
-
ยุง ยุ้ง ยุ่ง เหลือหลาย ขออภัยต้องเมนท์รวบยอด 2 ตอนอีกและ
ตอน 36 ....
เหมือนจะหวานแต่ก็ขัดใจตอนคุณนังฝันดันออกมาเป็นก้างให้เสียรมณ์ซะได้
แต่ก็ยังดีที่พี่คิวแมนโคตร รับผิดชอบการกระทำดีมากถูกใจแม่ยก เอาไป 3 จุ๊บ ฮ่า ฮ่า
ตอน 37 ล่าสุด
เค้าอยากมีเครื่องสแกนพิเศษง่ะ อยากรู้จังว่าไอ้ภาพในหัวที่น้องเค้กคิดเห็นหลากหลายตอนพี่คิวบอกว่าจะโทรหามันเป็นภาพอะไรบ้างนะ????
ชอบน้องเชอร์เบตง่ะ ซ๊อฟๆ นุ่มๆ คงน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยเนอะ บัตเตอร์เอาแต่ใจเหลือหลาย ดื้อแบบนี้ยืมมาเป็นลูกเป็นหลานซักวันเหอะน่า แม่จะปราบให้หมอบเชียว ชอบนักละไอ้ดื้อๆ เนี่ย เอิ๊กๆๆๆ นางยักษ์ว่ะเรา
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
-
พี่คิวแหม -///- เขินแทนเค้กเลยอะ ♥
-
บัตเตอร์นี่เป็นร่างแยกของพี่คิวชัด ๆ
พี่คิวก็เป็นร่างแยกของพ่อพี่คิวอีกที :m20:
เค้กนี่ไม่มีบทอะไรเท่าไหร่
มีแต่เขิน เขิน และก็ เขินนนนน :-[
-
พี่ฟ้าโกรธอะไรทิกเกอร์กันน้า งอนตุ้บป่องไม่ยอมคืนดีกันซะที บัตเตอร์นี้เหมือนพี่คิวราวกับถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกันเลยจริงๆ ทั้งดื้อ ทั้งยอกย้อน งี้ละเค้าถึงมีลูกล่อ ลูกชนให้เชื่อฟังได้ง่าย ๆ ตระกูลนี้ดื้อ มากกกกกกกก จริงๆน่ะแหละ โอยยย น้องเค้กไปไม่ป็นขนาดหนักแล้วนะเนี่ย แค่พี่คิวอวยพรให้ฝันดีก็เตลิดไปใหญ่แล้ว ยิ่งสายตาและยิ้มน้อยๆของพี่คิวอีก ไม่รอดแน่ๆเค้กเอ้ยยย ถ้าพี่คิวรุกหนักกว่านี้เค้กจะไม่ยิ่งอาการหนักเหรอเนี่ย คึคึ พี่คิวชอบก็จีบโต้งๆให้น้องรู้ชัดเจนไปเลย แหมะ ให้น้องไปเอาหนังสือมาให้ แถมยังจะโทรหาอีก อยากเจอ อยากพูดคุยกับน้องเค้กละสิพี่คิววววว
-
น้องเค้กจ๋า...... รักษาอาการหน่อย ถ้าเป็นแบบนี้ กลายเป็นลูกไล่พี่คิวแน่ ๆ :z1:
จริง ๆ อีกฝ่ายก็คงรู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนกันนั่นแหละ เพียงแต่เป็นคนคุมเกมส์ เลยได้เปรียบนิดหน่อย :m20:
+1 เป็นกำลังใจให้ เบบี้ :กอด1:ครับ
-
เขิลแทนอ่ะ ถ้าเราเปนเค้กคงนอนกลิ้งเลยล่ะ ^^
-
~38~
ณ มหาวิทยาลัย Y..
“เค้กจะไปไหนต่อ”
“เดี๋ยวไปบ้านพี่คิวก่อนอ่ะ” ผมตอบแก้ว
“งั้นเหรอ..ไปกินข้าวด้วยกันก่อนไหม เมื่อกลางวันก็ไม่ได้กินหนิ”
“ไม่เป็นไร เราจะรีบไปน่ะ..ไอ้เชฟบ้านั่นยิ่งไม่ปกติๆอยู่ด้วย ไปไม่ตรงเวลาก็จะโดนดุเอา” ผมบ่นเมื่อนึกถึงบุคคลที่กล่าวถึงก็นึกออกว่าน่าจะเป็นอย่างไรถ้าผมไปช้า ในขณะเดียวกันมือก็กำลังสาละวนอยู่กับการเก็บกระเป๋าของตัวเองด้วย
“แล้วนี่ยังไม่โทรมาอีก ไหนบอกว่าจะโทรมาตอนบ่ายสองแท้ๆ” ผมเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเอง
“งั้นเค้กไปก่อนนะ” ผมหันไปโบกมือให้แก้วและพีท
“เดี๋ยวเค้ก” แก้วเรียกไว้ ผมชะงักและหันกลับไปมองเธอ
“เค้ก..ชอบพี่คิวรึเปล่า” แก้วยืนถามด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มน้อยๆ
“อ๊..อ่ะ แก้ว แก้ว..ถามอะไรน่ะ” ผมหน้าเหวอ ตอบไม่เต็มปากเต็มคำแต่แก้วกลับยิ้มกว้างกว่าเดิม
“เค้กชอบพี่คิวสินะ” แก้วพูดย้ำ พีทที่ยืนอยู่ข้างๆเบิกตาโพรง อ้าปากค้าง จนผมได้แต่ยิ้มแหยตอบให้ทั้งสองคน
“แก้วดูเพื่อนรักของแก้วออกน่ะ แค่อยากจะบอกว่าแก้วดูออก..งั้นเค้กก็ รีบไปสิ” แก้วพูด
“แก้ว แก้วบ้า” ผมว่า รีบเร่งเท้าหนีแก้วออกมาในทันทีอย่างไม่ได้เถียงแก้ตัวอะไรออกไปเพราะไม่รู้จะต้องเถียงอะไรน่ะสิครับ
~อะไรที่ทำให้แก้วสังเกตเห็นกัน มีอะไรที่เราแสดงออกว่าชอบพี่คิวอย่างนั้นเหรอ เราแสดงอะไรออกไปล่ะ..ไม่เห็นจะรู้ตัวสักหน่อย เราไม่ได้ดูออกง่ายขนาดนั้นสักนิด~
ตื๊ด ๆ ๆ ๆ..
สายเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
“ส..สวัสดีครับ” ผมกดรับสาย ใจยังคงเต้นไม่เป็นส่ำ รู้สึกผิดเหมือนกำลังปกปิดอะไรสักอย่างอยู่อย่างนั้น
“อยู่ไหน” ปลายสายถาม
“อยู่มหาลัยครับ กำลังจะเดินทางไปบ้านพี่” ผมตอบ ระหว่างที่กำลังพูดอยู่แต่สมองของผมกลับคิดเรื่องที่แก้วพูดเมื่อกี้อยู่ตลอดเวลา
“โอเค..ถ้าถึงบ้านแล้วโทรมาแล้วกัน” พี่คิวบอก
“ครับ...”
“เป็นไรรึเปล่า” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงจนผมแทบยั้งไม่ให้หลงตัวเองไม่ได้
“เปล่าครับ ไว้เค้กจะโทรไปนะ”
“โอเค” อีกฝ่ายตอบและตัดสายไป
“เฮ้อ..เรานี่บ้าชะมัด คนอย่างพี่เค้าจะมาชอบคนอย่างเราได้ยังไงกัน” อยู่ๆความรู้สึกเจ็บแปลบในอกนี่มันก็ก่อเกิดขึ้นมาอีกครั้ง นี่เป็นการย้ำเตือนให้ผมแน่ใจได้ว่าผมคงชอบพี่คิวอย่างที่แก้วว่าแล้วจริงๆ..
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ตรู๊ด ๆ ๆ..
กรรม..ขนาดโทรไปหาและแค่รอสายนานแค่นี้ยังรู้สึกตื่นเต้นเลย บ้าไปแล้ว..แม่ หนูเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆเลยอ่ะ..แง่ง
ผมรอสายพี่คิวอยู่นานมากจนผมต้องกดตัดสายทิ้งไปก่อน เพราะถ้ารอนานกว่านี้ผมอาจจะเป็นบ้าอย่างที่นึกไว้ก็เป็นได้
“รับอาหารว่างเป็นอะไรดีคะคุณ” ป้านิดยิ้มถาม
“ไม่เป็นไรครับป้า เค้กมาเอาของเดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะครับ” ผมยิ้มตอบ
“ค่ะ..ถ้ามีอะไรให้ช่วยเรียกป้าได้เลยนะคะ” ป้านิดยิ้มก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมกดต่อสายไปหาพี่คิวอีกครั้ง
“ฮัลโหล โทษที” พี่คิวพูด
“ครับ” ผมตอบและเงียบ
“อยู่บ้านฉันแล้วเหรอ”
“ใช่ฮะ” ผมตอบ
“จะให้เค้กเอาหนังสือเล่มไหนเหรอครับ” ผมถาม ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มใช้ “เค้ก” พูดแทนตัวว่า “ผม” กับพี่คิวอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นและบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ความสงสัยของผมในตอนนี้คือ..พี่คิวจะรู้สึกแปลกไปบ้างรึเปล่า..ก็เท่านั้น
“เอ่อ มีหนังสือสีน้ำตาลอ่อนอยู่บนโต๊ะไหม” พี่คิวถาม ผมเดินตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่ว่า
“มีครับ รูปการ์ตูนผู้หญิงใช่ไหม”
“ใช่..ที่เขียนว่าเดอะ แวร์ลู่ ออฟ ดีเทอร์มิเนชั่นน่ะ” พี่เขาบอก ผมหยิบหนังสือเล่มนั้นมาวางไว้บนโต๊ะเตรียมไว้ก่อน
“ครับ” ผมพูด
“เอ่อ..The Scarlet Letter วางอยู่บนโต๊ะไหม” พี่คิวถามอีก ผมหยิบหนังสือสองสามเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะมาดูแต่ไม่พบเรื่องที่ว่า
“ไม่มีนะครับ”
“งั้น..เปิดลิ้นชักใต้โต๊ะ ลิ้นชักบนสุด..คงจะอยู่ในนั้น” พี่คิวบอก ผมเดินไปทางด้านลิ้นชักของโต๊ะและเปิดออก ก็พบว่าหนังสือเรื่อง The Scarlet Letter วางอยู่ด้านบนสุดจริงๆ
“เจอแล้วครับ” ผมยิ้ม ยิ้มทำไมไม่ทราบ ToT
“แล้วก็ ชั้นวางหนังสือทางซ้ายมือ ที่เป็นชั้นเล็กๆสีโอ๊ก..จะมีหนังสือเรียงอยู่ หาหนังสือของนักเขียนที่ชื่อ Emily Dickinson ให้ฉันหน่อย ในชั้นมีอยู่เล่มเดียว” ผมก้มลงหาหนังสือเล่มที่ว่า ดูมันจะลายตาไปสักหน่อยเพราะหนังสือเยอะแยะไปหมดแต่สุดท้ายก็หาจนเจอ
“เจอแล้วฮะ”
“โอเค..แล้วไปถามป้านิดให้หน่อย ว่าหนังสือ National Geographic ของเดือนนี้ได้รึยัง ถ้าได้แล้วเอามาให้ด้วย บอกให้ป้านิดเอาถุงผ้าหนังสือในห้องใส่มาก็แล้วกันนะ” ผมฟังอย่างตั้งใจ
“ครับ” ผมตอบหลังจากนั้นพี่เขาก็เงียบไป
“เท่านี้เหรอครับ” ผมถาม
“ใช่” พี่คิวตอบ
“งั้นเค้กวางสายก่อนนะครับ เดี๋ยวไปหาป้านิดก่อน”
“โอเค” แล้วพี่คิวก็ตัดสายไป ผมเดินไปหาป้านิดและให้ป้านิดจักการทุกอย่างที่เหลือ ป้านิดนำคุกกี้กับเค้กชิ้นเล็กมาให้ผมเพื่อสำหรับผมและพี่คิวด้วย ผมออกจากบ้านพี่ฟ้าและเดินทางตรงไปที่โรงพยาบาลต่อ..
= = = = = = = =
ณ โรงพยาบาลกรุงเทพ..
“อ่ะ..” ผมชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าในห้องไม่ได้มีพี่คิวอยู่คนเดียว น้องสาวพี่คิวยืนอยู่ข้างเตียง ทั้งสองคนหันมามองผมเป็นตาเดีย
“ขอโทษครับ ที่ไม่ได้เคาะห้องก่อน” ผมยิ้มแหย
“นี่เค้ก เค้กนี่ฟ้าครามน้องสาวฉัน” พี่คิวแนะนำ ผมยิ้มตอบและรีบยกมือไหว้ อีกฝ่ายรีบยกมือไหว้ตอบเช่นเดียวกัน
“ฟ้าครามจำได้ค่ะ พี่คนที่ให้เลือดพี่นี่คะ” เธอยิ้ม
“อายุเท่ากัน” คนบนเตียงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แฮ่” ทั้งผมและฟ้าครามยิ้มแหยให้กันอย่างเขินๆ
“กลับเมื่อไหร่” พี่คิวหันไปถามน้องสาวตัวเอง
“พรุ่งนี้ค่ะ พี่ก็ไปเยี่ยมแม่บ้างนะ ฟ้าครามคงจะไม่ได้กลับบ้านสักพักใหญ่ ต้องรอสอบปลายภาคให้เสร็จก่อน” เธอบอก
“อืม..จะพยายาม” พี่คิวพยักหน้าตอบ
“ไปนะคะ ดูแลตัวเองด้วย” เธอยิ้มบอก
“มีอะไรก็โทรมา” พี่คิวพูดเท่านั้น น้องสาวของพี่คิวพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ฝากดูแลพี่ชายด้วยนะคะ” เธอก้มหัวให้ผมหน่อยพอเป็นพิธี ผมรีบก้มหัวตอบก่อนที่เธอยิ้มเดินออกจากห้องไป
“น่ารักดีนะครับ” ผมพูดบอก เดินไปหยิบถุงหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ น้องสาวพี่คิวหน้าตาน่ารักแต่งตัวเรียบร้อย เหมือนจะออกเด็กเนิร์ดนิดๆด้วย
“ชอบแบบนี้งั้นเหรอ ไม่ให้หรอกนะ” พี่คิวพูดหน้าตาย
“เปล่าสักหน่อย ก็แค่ชม..ว่ามีพี่ชายแบบนี้ ไม่น่าจะ..” ผมเบะปากไม่มองตาพี่คิวพร้อมเดินนำถุงหนังสือไปยื่นให้
“ฉันมันเป็นยังไงไม่ทราบ”
“ยังไม่รู้ตัวเองอีกเหรอครับ” ผมยิ้มกวน อีกฝ่ายเงียบ จ้องหน้าผมตาไม่กะพริบ
“น้องสาวเรียนอยู่ที่ไหนเหรอครับ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะพี่คิวยังไม่ยอมรับถุงหนังสือไปทั้งทั้งที่ผมก็ยังคงยื่นให้อยู่ตรงหน้า
“นิวซีแลนด์” พี่คิวตอบส่งๆ
“รับไปซิฮะ” ผมยื่นเข้าไปใกล้มากขึ้น
“หยิบออกมาให้หน่อยสิ” พี่เขาสั่ง
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจและต้องหยิบหนังสือออกมาจากถุงอย่างตัดรำคาญ ผมนำหมอนใบใหญ่มาวางข้างๆแขนของพี่คิวและนำหนังสือวางไว้บนนั้นเพื่อที่จะได้สะดวกในการหยิบจับมากขึ้น
“ป้านิดฝากเค้กกับคุกกี้มาให้ด้วย ส่วนอาหารเย็นนี้..จะรีบทำและมาให้ถึงก่อนหกโมงเย็นครับ” ผมบอก
“ขอบคุณ” พี่คิวบอก
“พี่จะได้ออกจากโรงพยาบาลวันไหนเหรอ”
“อีกวันสองวัน”
“เหรอครับ” ผมยืนมองและกำลังถามตัวเองในใจว่าจะทำอะไรต่อดี พี่คิวเหลือบมามองผมด้วยสายตาที่เหมือนมีคำถามว่า “อะไร” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปจนอีกฝ่ายตั้งท่าจะอ่านหนังสือต่อ
“งั้นเค้กกลับก่อนนะฮะ”
“ไปไหน” อีกฝ่ายถาม
“กลับบ้านครับ ต้องรีบกลับไปทำการบ้าน” ผมตอบ รีบเดินกลับมาที่โต๊ะเพื่อหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเอง
“พรุ่งนี้จะมาไหม” ผมชะงักแต่ไม่ได้หันกลับไปมองอีกฝ่าย ก่อนหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นสะพายและพยายามทำใจสู้หันไปมองตอบคนบนเตียงอีกครั้ง
“พี่อยากให้เค้กมางั้นเหรอฮะ” ผมยิ้มแกล้ง
“...........” พี่คิวไม่ตอบแต่กลับแสยะยิ้มและมองผมตอบด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“อ..อะไรครับ” ผมว่าอย่างตะกุกตะกัก
“ชอบที่ฉันโทรไปรึเปล่า” พี่คิวถาม สายตานิ่งเกินกว่าจะเข้าใจว่าถามแบบนี้เพื่ออะไร..
“ไม่ได้ชอบ ถามทำไมครับ..หลงตัวเอง” ผมเบะปาก
“หึ บางทีนายนี่ดูง่ายชะมัด” พี่คิวหัวเราะ
“ไม่..ไม่ใช่นะ” ผมขึ้นเสียง
“งั้นเหรอ” พี่คิวเลิกคิ้วแถมยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ
“เดินทางกลับดีๆล่ะ” พี่เขาพูด
“ของมันแน่อยู่แล้ว” ผมสะบัดเสียงและรีบก้าวเดินออกจากห้องในทันที
~ถูกจับได้แล้วแหงๆว่าเราแอบชอบพี่คิวน่ะ ไม่น้า..~
= = = = = = = =
วันพุธ ตกดึก ณ บ้านเค้ก..
“เค้กอ่ะ ชอบพี่คิวไปตอนไหนก็ไม่เล่าให้แก้วฟังเลยนะ” แก้วพูดด้วยน้ำเสียงงอนไม่เลิก เราคุยโทรศัพท์เกือบชั่วโมงได้แล้วมั้งครับ
“แก้ว..เค้กบอกว่าเค้กไม่รู้ไง แก้วก็พูดอยู่ได้ว่าเค้กชอบน่ะ” ผมบ่นบ้าง
“ก็เค้กชอบนี่ เมื่อกี้เค้กหลุดพูดว่าเค้กก็ชอบ แถมยังพูดถึงพี่คิวอย่างนู้นอย่างนี้ตลอดเวลา” แก้วพูดด้วยน้ำเสียงสะใจที่รู้จุดอ่อนของผมอย่างนั้น
“ก็เค้ก..” ผมอ้ำอึ้ง
“ก็เค้กอะไร คึคึ..พี่คิวก็น่ารัก หล่อ เท่ รวยด้วยอ่ะ โอ้ย..คบไปเลยนะเค้กนะ” แก้วพูดอย่างกับตัวเองจะคบเองซะอย่างนั้น และพูดเหมือนเรื่องที่ว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะสนับสนุนเสียเหลือเกิน คล้ายๆกับคนที่กำลังเพ้อเจ้อเลยนะครับตอนนี้..
“เค้กผู้ชายนะแก้ว ส่วนพี่คิว..ชายแท้ๆเลยล่ะ อีกอย่าง พี่เค้าน่ะ..” ผมอดนึกถึงคำพูดที่พี่คิวเคยพูดว่าพี่เซ็นกับพี่ฟ้าไม่ได้ ยังไงๆก็คงไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วนะครับ ดังนั้น ผมน่ะก็ไม่ได้หวังอะไรหรอก..
ตรู๊ด ๆ ๆ..
“ใครโทรเข้าน่ะ” แก้วถามทันที
“แป๊บนะ” ผมบอกและรีบเหลือบดูโทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้วก็ต้องผงะกับเบอร์ที่เห็น
สายเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
“พี่คิวโทรมาอ่ะ” ผมรีบบอกแก้วด้วยความตกใจ
“จริงอ่ะ! กรี๊ดดดดดดดดดด ม่ายยย..เขินอ่ะ บ้า~” แก้วร้องเสียงหลงด้วยคำพูดไม่เป็นศัพท์จนผมต้องรีบเอาโทรศัพท์มือถือออกไกลจากหู
“วางสายจากแก้วแล้วรีบรับเลยนะ ไว้แก้วจะโทรไปใหม่ สู้ๆนะเค้ก..บายจ้า” แก้วพูดเร็วมากจนผมแทบฟังไม่ทันและแก้วก็ตัดสายไปซะเฉยะ
ตื๊ด ๆ ๆ..
ผมนั่งมองโทรศัพท์มือถือที่ยังคงสั่นเพราะสายเข้าจากพี่คิวอยู่ พยายามทำใจให้เป็นปกติและลองกระแอมเสียงดูว่าตัวเองนั้นเสียงสั่นรึเปล่าก่อนที่จะรับ
"สวัสดีครับ" ผมพูดทักทายปลายสายด้วยน้ำเสียงร่าเริงคล้ายปกติ
"ชักช้า" อีกฝ่ายว่าเสียงห้วนคล้ายกับไม่พอใจ
"ก็..เค้กคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่นี่ครับ" ผมบอก พี่คิวเงียบประมาณห้าวินาทีเห็นจะได้
"ทำอะไรอยู่" อีกฝ่ายถาม
"ก็ทำการบ้าน คุยโทรศัพท์กับเพื่อน" ผมตอบไปยิ้มไป
"ทีนี้ล่ะแยกประสาทเก่งเชียวนะ" พี่คิวว่าน้ำเสียงประชด
"เรื่องของเค้ก" ผมว่ากลับ
"แล้ว..พี่โทรมามีอะไรเหรอครับ ดึกแล้วด้วย"
"เอ่อ พรุ่งนี้ฉันจะออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ" พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงปกติ
"แล้ว.." ผมพูดเชิงถามกลับ
"อาบอกว่าพรุ่งนี้จะทำอาหาร สำหรับทุกคน..นาย จะมาไหม" พี่เขาถาม
"มีใครบ้างเหรอครับ"
"จะใครล่ะ ก็คนในร้านนั่นแหละ" พี่คิวว่า อ๊ะ..เอ่อ ใจผมเต้นแรงชะมัด ทำไงดีๆๆๆ
"ตกลงจะมารึเปล่า" พี่คิวย้ำถาม
"ไปก็ได้" ผมตอบเสียงเบาทั้งบิดตัวไปมาบนเตียง แล้วผมจะเขินทำบ้าอะไรนักหนาเนี้ย
"งั้นก็ดี มารับฉันที่โรงพยาบาลด้วยล่ะ..อาจะไปทำธุระแล้วจะตรงไปที่บ้านเลย" ผมงงเล็กน้อยเพราะนี่คือคำสั่งหรือนี่กระไร
"แล้วกลับแท็กซี่เหรอฮะ" ผมถามกลับไป..ฝ่ายผมก็ไม่ได้มีการปฏิเสธหรือเล่นตัวเช่นกัน
"ฉันให้ลุงมีเอารถมารอรับ เสียใจด้วยนะ" พี่คิวว่าดักคออย่างรู้ทัน
"ชิ แต่ก็ดี..ไม่เปลืองเงิน" ผมเบะปากไปมา
"กี่โมงละครับ เค้กเลิกเรียนสี่โมงเย็นนะพรุ่งนี้น่ะ" ผมบอก
"งั้นเดี๋ยวให้ลุงมีไปรับนายที่มหาลัยก็แล้วกัน" พี่คิวบอก
"ไม่ครับ ไม่เป็นไร" ผมรีบบอกด้วยความเกรงใจ
"นั่นแหละ..จะได้ไม่เปลืองเงิน ไม่ชอบรึไงล่ะ" อีกฝ่ายว่า ผมเงียบเพราะตอบไม่ถูกเพราะไม่เปลืองเงิน..ของชอบเลยล่ะ
"พรุ่งนี้ฉันจะให้ลุงแกโทรเข้าหานาย เตรียมรับโทรศัพท์ด้วยก็แล้วกัน"
"ฮะ" ผมพยักหน้าตอบด้วยทั้งทั้งที่อีกฝ่ายก็คงไม่เห็น ต่างฝ่ายต่างเงียบลงอีกครั้ง และครั้งนี้ดูจะนานกว่าครั้งก่อนๆอีกด้วยซ้ำ
"แล้ว.." พี่คิวเอ่ยและทิ้งน้ำเสียงลงเล็กน้อย
"จะ" พี่คิวเว้นเสียงพูดไปนานพอควร ผมตั้งใจฟังจนลุ้นไปหมด
"นอนรึยัง" พี่เขาถาม
"ก็คงอีกสักพักครับ เอ่อ..พี่ล่ะ" ผมถามกลับเสียงเบาเช่นกัน
"ก็ ไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่" พี่คิวตอบ ผมได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่ทางฝั่งของพี่เขา
"คืนนี้ใครมานอนเฝ้าเหรอครับ" ผมรีบถาม อยู่ๆกลับกลัวว่าพี่คิวจะขอวางสายขึ้นมา ผมยังไม่อยากวางเลย อยากคุย..อยากคุยอีกเรื่อยๆ ถ้าผมหาเรื่องคุยต่อ พี่คิวจะยังตอบผมอยู่รึเปล่า..พี่เขาจะรำคาญไหม
"น้องชายน่ะ"
"น้องชาย" ผมพูดย้ำอย่างนึกสงสัย
"ลูกพี่ลูกน้อง น้องชายของไอ้สงกรานต์" พี่คิวอธิบาย
"เอ่อ ถูกกัน..งั้นเหรอครับ" ผมหัวเราะแหยๆ
"ก็พอได้" พี่คิวตอบส่งๆ
"อ่านะ"
"............" เราเงียบกันอีกครั้ง ใจผมเต้นแทบไม่เป็นส่ำ รู้สึกอยากให้พี่คิวชวนคุยบ้าง ผมจะได้ไม่รู้สึกเหมือนกับว่าเป็นผมฝ่ายเดียวที่กำลังไม่อยากวางสาย
"แล้ว.." จู่ๆเราก็พูดขึ้นพร้อมกัน
"พี่พูดสิ" ผมรีบบอกกระทั่งใจเต้นแรงอยู่ตลอดเวลา
"เปล่า" พี่คิวปัด
"นายจะว่าอะไร"
"จะถามว่าแล้ววันนี้ทำไมพี่ฟ้าไม่มาเฝ้าล่ะครับ" ผมถาม
"จัดการเรื่องงานศพอยู่ที่วัดน่ะ คงเหนื่อย..ป่านนี้กลับไปนอนที่บ้านแล้วละมั้ง"
"อ๋อฮะ" ผมพยักหน้ารับอีกแล้ว แถมไอ้อาการเม้มปากของตัวเองตลอดเวลาที่พูดอยู่นี่คงจะแปลกพิลึก ตอนนี้ผมคงใกล้เป็นคนประหลาดเต็มทีแล้วสินะครับ ชักรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดจัง
"ไปทำการบ้านต่อสิ" อีกฝ่ายพูด ที่จริงการบ้านหยุดขยับตั้งแต่ที่เริ่มคุยโทรศัพท์กับแก้วเรื่องพี่คิวแล้วล่ะ
"อื้อ" ผมเพียงตอบได้เท่านี้เพราะหาคำพูดตอบไม่ถูกด้วยรู้สึกใจแป้วขึ้นมาทันที พี่เขาคงรำคาญที่เมื่อกี้ผมถามมากแน่ๆเลย
"เท่านี้นะ" อีกฝ่ายว่า
"ครับ" ผมตอบพยายามให้เสียงดังฟังชัด
~ทำไงดี ไม่อยาก..ให้วางสายเลย~
"Good night" พี่คิวบอก เสียงพี่คิว..เพราะจัง
"ไนท์ฮะ" ผมบอกบ้าง
"ฮึ.." ผมใจเต้นแรงกว่าเดิมเมื่ออยู่ๆพี่เขากลับหัวเราะขึ้นมา
"อะไรครับ" ผมรีบถามอย่างระแวง อดไม่ได้จริงๆที่จะรู้สึกหวาดระแวง
"เปล่า.." อีกฝ่ายพูดปัดแกมขำไม่เลิก
"เป็นบ้าเหรอฮะ" ผมว่า
"ถ้าฉันบ้า แล้วนายล่ะ" พี่คิวย้อน ผมได้แต่เงียบ มือกำผ้าห่มไว้แน่น
"อย่าเอาฉันไปฝันล่ะ"
"หวัดดีครับ" พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงแกมหัวเราะอยู่ตลอดเวลาและตัดสายไปในที่สุด
"อ๊ะ..ไอ้ ไอ้บ้าอ่ะ!" แง่ง..อายยยยยยยยเว้ย กู..อยาก..ตาย ~__~
.................>>>><<<<.................
-
:z2: :z2: :z2:
-
อุ้ยยยยยยตายนะฮะ !!!! อ่านแล้วมันวิ้งๆๆๆ ^^
บัตเตอร์ก็โคลนนิ่งมาจากพี่คิวนั่นแหละใช่ไหมเค้ก 555 (ดื้อชะมัดเลย)
น่ารักอะพี่คิวกับเค้ก พี่คิวอยากเจอเค้กก็บอกไปดิ ทำมาเป็นให้ไปเอาหนังสือให้ อิอิ
รออ่านตอนต่อไปขอแบบยาวววววววววๆเลยนะคะ ^^
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
กีสสสสสสสสสสสสส เพิ่งอ่านตอน37จบ มีตอน38ต่อเลย งั้นไปอ่านก่อนนะคะ
-
เขินตัวม้วนเลยกับตอนนี้
-
โอ้ยยยยยยยเขินพี่คิว><
-
อ่านแล้วจะเชิลแทน้องเค้กเลยนะเนี่ย
น่ารักจริงๆคู่นี้ :-[ :-[
-
น่ารักจริงๆ เคลิ้มอ่ะเคลิ้มมม :o8:
มาช้าได้แต่ก็เร็วๆนะคะ เอ๊ะ? ยังไง?
ไงก็ตั้งใจเรียนนะคะเบบี้
:L1: :L1: :L1:
-
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย! เขินมากอะ ฉันเขินแทนเค้ก กีสสสสสสส
พี่คิวแบบรู้แล้วยั่วอะ น่าหมั่นไส้ชะมัดเลย แหมๆๆว่าเค้กแต่ตัวเองก็ชอบเขาอะดิ รู้หรอกนะ
น่ารักอ่า >< :impress2: :impress2: :impress2:
รอตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณค๊าาา ^^ :pig4:
-
:กอด1: บี้มาต่อเร็วมาก ขอบคุณน่ะ ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยน่ะ
น้องเค้กจ๋า จะมีใครที่ไม่รู้มั่งไหมเนี่ยว่านู๋อ่ะชอบพี่คิว กร๊ากกกกกกก เก็บอาการอยู่มากลูก :laugh:
พี่คิวก็หยอดน้องตลอด เหมือนพี่คิวจะชอบเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ ว่าเห็นว่าสนุกรึเปล่าที่ได้แหย่ อย่าแกล้งน้องน่ะสงสารน้อง
-
ปิดไม่มิดแล้วล่ะเค้ก
ยอมรับซะเถอะว่าชอบพี่คิว :jul3:
เพื่อนๆเค้าก็รู้กันหมดแล้ว อิอิ
แต่พี่คิวเนี่ยสิ ทำตัวแปลกนะเนี่ย
รู้ว่าเค้กชอบยังแกล้งอีก
น่าสงสัยนะเนี่ย ...อย่างนี้ต้องสืบ 555+
:กอด1:
-
นายคิวชอบแกล้งเด็ก
เอ็นดูน้องเค้กมากขึ้นแล้วใช่มั้ย
+1
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :m11:
อยากจะกรี๊ดให้ลั่นทะลุไปถึงหูเบบี้
พี่คิวน้องเค้กน่ารักไม่ไหวแล้ววววววว :m3:
เค้ก อาการหนูน่ะลูกเขารู้กันไปสามบ้านแปดบ้านแล้วล่ะ :laugh:
และพี่คิวก้ยังขี้แกล้งตลอด แกล้งเค้กเสมอต้นเสมอปลาย รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ o18
แต่พี่คิวแอบช้านะเนี่ย ช้าอย่างนี้จะได้น้องเค้กไปเป็นเมียม้ายยย :o9:
ชอบอ่ะ ชอบมากกกกก โคตรจะรักเรื่องนี้เลยโว้ยยยยย o13
:กอด1:เบบี้ ตอนหน้าอยากได้ยาวยาวววววววววว ฮี่ๆ
-
กรี๊ด จิกหมอนแก้เขิน
น่ารักอ่ะ ไม่ไหวแล้วนะ
พี่คิวอ่ะ...อยากเจอกันก็พูดดีๆสิ อ้อมโลกตั้งนานอิอิ
-
อ่านไปยิ้มไป
เหมือนคนบ้า :z2:
บวกเป็ด
รับแซ่บจ้า
มาช้าดีกว่าไม่มาเนอะ
-
เย้ๆ ได้อ่านอีกตอนละ
มาลงบ่อยๆนะ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!!~
อ่านแล้วเขินแทนเค้กอ่ะ >.<~
ยัยเจ้ฝันผีบ้า จะมาแผลงฤทธิ์ตอนไหนง่ะ กลัวววว~
กลัวความสุขจะอยู่ไม่นาน T.T"
รัก เค้ก คิว
รักเบบี้ จุ๊บๆ >w<
รักตัวละครทุกตัวที่เบบี้เคยสร้างสรรค์ อิอิ
-
พี่คิวทำชั้นเขินตามซะงั้น >///////////////////////<
(เมตรที่รักจ๊ะ เค้ายังไม่ได้เป๋ไปไหนน๊า อิอิ)
-
อ๊ากก เขินแทนเค้กเลย พี่คิวขี้แกล้งอ่ะ
ขอบคุณนะครับเบบี้ สู้ๆนะครับ
-
เค้ก เขินพี่คิว 5555
หวานซะ เค้กจะนอนหลับมั้ยนี่
ไม่ใช่นั่งม้วน ทั้งคืนน่ะ 5555
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อ๊ายยยยยยยยย
อย่าหายไปนาจะเบบี้คิดถึงอิอิ
-
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อยากอ่านความคิดฝั่งพี่คิวบ้างจัง อยากรู้ว่าตอนนี้คิดยังไงกับเค้กบ้างหรือเปล่า
คือหนูเค้กอ่ะชอบพี่คิวจนถึงขั้นรักแล้วด้วยซ้ำไป แต่ฝั่งพี่คิวยังแสดงออกไม่ชัดเท่าไหร่เลยอ่ะ
งื้อออออออออออออ อยากรู้ๆๆๆๆๆๆ :sad4: :sad4: :sad4:
-
คย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :z3: :z3: :z3: :z3:
เขินโ๊ว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :-[ :-[ :-[ :-[
รักพี่บี้ มวฟฟฟฟฟฟ :man1: :man1: :man1:
-
:กอด1:พี่คิวเมื่อไรจะบอกรักน้องเค้กซักที่ลุ้นอยู่อิอิ :bye2: :call:
-
เขินวันละนิดจิตแจ่มใส พี่คิวชอบแกล้งเค้กให้เขินตลอดเลย
เค้กจ๋าคนอ่านว่าพี่คิวเค้ารู้แล้วหล่ะว่าเค้กชอบเพราะหน้ามันฟ้องตลอด 55+
:o8: :o8: :o8:
-
พี่คิวต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าเค้กชอบพี่คิวอ่ะ
โอ้ย.............อ่านแล้วก็เขินไปกับเค้กด้วย!!!
-
:laugh: เค้กแย่แล้ว.. ฮามากกว่าเขินอีก เค้กตลกว่ะ คิวคงรู้สึกแบบนี้มั้ง 555
:pig4: เบบี้ :กอด1: น่ารักดีตอนนี้
-
แหม มีมุมหวาน ๆ กันนะจ๊ะ
เค้กจ๋า อาการแบบนั้นแหละคือตกหลุมรักแหละ
และท่าทางพี่คิวปิดมันจะอาการเดียวกันนะนั่น
ค่อย ๆ พัฒนาไปทีละน้อย ทีละนิด :z2:
-
อ๊ายยยยยยยยยยยย เบบี้มาต่อเร็วมากเพิ่งอ่านตอนที่แล้วจบไปเมื่อคืนเอง ชอบๆ น้องเค้กน่ารัก แหมะอาการของหนูออกจะชัดเจน ใครดูไม่ออกก่็เรียกว่าแย่แล้ว พี่คิวววววววว แกล้งน้องนะนิสัยไม่ดี ทำน้องเขินแบบนี้ต้องรับผิดชอบนะคะพี่คิว พี่คิวนี่แค่แกล้งหยอกหรือจริงจังคะเนี่ย แต่ดูท่าทางคงจะใจตรงกันนั่นแหละ ฮิ้ววววว
-
เขินง่ะ พี่คิวน่ารักแฮะ ส่วนน้องเค้กน่ารัด น่ารักมากอยู่แล้ว :o8:
-
โอ๊ยยย น่ารักไม่ไหวแล้วอ่ะ :-[
นั่งอ่านไป ยิ้มไป เขินไป บ้าไปแร่ะชั้น
ขอบคุณเบบี้นะคะ
:กอด1:
-
เค้กนี่ดูออกง่ายเน้อ, ดูก็รู้ว่าชอบพี่คิว อิอิ
:-[
-
เค้กจะรู้มั้ยว่าเหมือนคนที่กำลังจีบกันใหม่ๆเลย :-[
-
พี่คิวเค้กนี่นิสัยต่างกันมาก
เค้กเขินมาก พี่คิวก็จีบเหอะ เเบบล้อน้อง หยอกน้อง ไอบ้าพี่คิว
ชอบมากค่ะ เบบี้พักผ่อนเยอะๆนะคะ
-
เขินอ่ะ อ่านแล้วเค้าอยากกินเค้ก
-
เขินจริงๆ แบบได้อารมณ์พี่คิวโทรจีบเค้ก
-
:m3: :m3: :m3:
-
ฮึ่ยยะ โอ้ยยะ อุทานไม่ถูก
ตอนนี้ทำไมมันน่ารักฟระเนี่ย ฮ่าๆ
พี่คิวเองก็นะ ,, โทรหากันมากขึ้นด้วย หึหึ
-
:กอด1: เค้กน่ารักอะ
-
เค้ก พี่คิวเขารู้หมดแล้วว่าเค้กคิดอะไรอะ
ไม่ใช่แค่พี่คิวนะที่รู้..เขารู้กันทั้งบางแล้วนั่น..ฮ่าๆๆๆๆๆ
ปล.พี่คิวก็ขยันแกล้งเค้กนะ..ชอบเวลาเค้กเขินหล่ะซี้..ฮิ้ววววววววววววววววววววว
-
อิพี่คิวแม่งโคดให้ความหวังอ้าาาาาา :z3: :z3: ทำเค้กร้องไห้ตายหยังเขียดแน่พี่คิว หึๆๆๆ o18
-
:m12: พี่คิวแกล้งน้องเค้ก อยากคุยอยากเห็นหน้าเค้กเหมือนกันละสิพี่คิว
....เขิน :o8:....
-
อมยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้วน้องเค้กกก
เขินอ่ะ :-[
-
เค้กจ๋า เค้ารู้กันหมดแล้วว่าเค้กชอบพี่คิว พี่คิวก็คงรู้เหมือนกัน
เหลือแต่พี่คิวนี่แหละว่าจะยังงัย ๆ ๆ กับเค้กด้วยหรือเปล่า จริงจังหรือว่าหยอกเล่น
-
พี่คิวน่าร้ากกกกกกก
-
อ่า~ อ่านตอนนี้แล้วเมื่อยแก้มอ่ะ หุบยิ้มไม่ลง
เค้าจีบกันได้น่ารักมากๆ >.< เขินแทนเค้กจัง
อย่างนี้เค้าเรียกว่าหาเรื่องคุยมากกว่านะเนี่ย
โทรมาซะดึกเชียว ทำใจอยู่อ่ะดิ พี่คิวอ่ะ
รอน้องเค้กไปรับพี่คิวออกจากโรงพยาบาลนะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
:o8: พี่คิวน่ารักอ่ะ ช่างแหย่
เมื่อไหร่จะจูนกันในเมื่อก็คิดเหมือนกัน
-
เค้กคิวน่ารักเกินไปแล้วนะ อร๊ายยยยยยยย ><"
-
รัก เค้ก คิว ;)
-
(-////-) kern tan n'cakw nor,,hu hu hu... p'Q kor klang nong dai talord si naa 55555
-
วู้ๆ ชอบชอบ เขินแทนเลย พี่คิวอย่าเล่นกับความรู้สึกเค้กนะ
-
เข้าใจอาการเขินเลยเวลาถูกจับได้
-
นี่พี่คิวจีบน้องเค้กอยู่ช่ายม๊ะ ????
น่ารักอ่ะ ไม่รู้ใครน่ารักกว่ากัน แต่น่ารัก โคตรๆ เลยคร๊าาา
-
งื้ออออออออ ไอ้บ้าาาาาาาาา ขอด่าด้วย ฮ่าาาาาาา ./////////////.
เขินอ่า มาทำกับน้องเค้กเค้าขนาดนี้ อย่ามาแค่เล่นๆนะไอ้พี่คิว
เค้กอาการหนักมากนะเนี่ย ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าน้องผิดหวังถ้าน้องต้องเจ็บจะทรมานขนาดไหน ฮื่อออออ
(อีนี่คิดไปถึงไหนแล้ว ==")
เบบี้... เธอจะหายไปอีกแล้วหรอ.. ครั้งนี้มาทำเค้าตายคาทีเลยนะเนี่ย >//////<
-
ขอบคุณค่ะ เค้กมาเร็วนะเนี่ย :impress2:
-
เอาแล้วไง พี่คิวชอบแกล้งเค้ก น่ารักอ่ะ :-[
-
อ่านตอนแล้วอยากลงไปนอนดิ้นตายกับพื้นจริงๆ ทำไมน่ารักแบบนี้ :-[
น้องเค้กค่ะ พี่ว่าเค้าดูออกกันหมดแล้วแหละค่ะแบบนี้อ่ะ คงมีแแต่น้องเค้กคนเดียวที่คิดว่าคนอื่นดูไม่ออกอ่ะค่ะ :serius2:
ทำมายยยยย พี่คิวน่ารักแบบนี้ โอ้ยย ใจสั่นอ่ะ หลงรักหัวปักหัวปําอ่ะคนนี้ แล้วที่บอกว่า " ไม่ให้หรอกนะ "
นี้ไม่ให้น้องเค้กใช่ม่ะละค่ะ อ้ายยยย ฟิ้นเอง ฮ่ า าา :o8:
เขินอ่ะ อ่านไปยิ้มไป คนอ่านก็จะเป็นโรคประหลาดตามแล้วค่ะน้องเค้กคร่า o18
พี่คิวเล่นมาจีบกันแบบนี้ ทำตัวไม่ถูกเลยอ่ะ ไม่อยากจะคิดถ้าฉากเอนซีสองคนนี้
เราได้ลงไปดิ้นแน่ๆเลยอ่ะ พี่คิวทำไม ทำให้หลงรักขนาดนี้ ตอนนี้พี่คิวทำอะไรเหมือนจะดีไปหมด ก๊าก ก ก
แม้แต่เสียงก็ยังเพราะอ่ะ ฮ่า า :-[
แต่ว่าก็แอบบสงสารน้องเค้กเหมือนกันนะค่ะเนี้ย ต้องแอบคิดมากเรื่องพี่คิวอีกแน่เลย ความรักมักมีอุปสรรค์ ฮ่ าา
แต่เป็นคู่แท้กันแล้วก็อย่าได้หวั่นไปเลยค่ะ ก๊าก ก เริ่มเน่าเอง :laugh:
พี่คิวแอบแกล้งเด็กนะค่ะเนี้ย
สู้ๆ นะค่ะ :bye2:
ปล. แค่เห็นสายตาเจ้าเล่ย์ของพี่คิว ก็ใจละลายแล้วค่ะตอนนี้ แอบยิ้มมุมปากอีกโอ้ย
-
คู่นี้น่ารักมาก อ่านไปยิ้มไปเลยอ่ะ
เขินพี่คิว :-[
-
ทำไมใครๆ ก็รู้หมดล่ะเนี่ย :serius2:
เค้กแสดงอาการมากเลยเหรอ :o8:
-
:o8: คิวนี่นะถือว่าเป็นผู้ใหญ่ได้เปรียบหรอ
-
เดี๋ยวนี้พี่คิวหยอดเค้กบ่อยนะ บางครั้งก็ดูเจ้าเล่ยังไงไม่รู้ 555
น้องเค้กเราก็คงต้องอายม้วนเป็นเค้กโรลต่อไปเรื่อยๆ :-[
-
อยากให้เจ้ปิดเทอมเร็วๆจังเลย จะได้อ่านเยอะๆ 55555
-
“อย่าเอาฉันไปฝันล่ะ” >> เค้าชอบประโยคเน้อ่าาาาาาา
อ่านไป เขินไป ยิ้มไป กรี๊ดไป อร๊ายยยยย พี่คิวกะเค้กจะน่ารักไปไหนค้าาาา
ชอบบบบบบบบบบบบ o13
:-[ :-[
-
สงสารน้องเค้ก ทำอะไรมีแต่คนจับได้ไล่ทัน :m20:
คนในร้าน ฯ หายไปไหนหมด ทำไมต้องให้น้องเค้กไปรับ :z1:
+ ไม่ได้นะครับ เบบี้ เพิ่ง + เมื่อเช้า :z2:
-
รออ่านตอนต่อไป
-
เค้กน่ารัก คิวแกอยากคุยก็บอกเค้กไปสิ
-
:กอด1:อ่านแล้วยิ้มไป ใครเห็นเค้าจะคิดว่าเราบ้ารึเปล่านิ
อ่านพี่คิว กะ เค้กแล้วมีความสุขมากกกกกก ^^
-
อีพี่คิว :L2:
-
พี่คิวชอบแกล้งเค้ก ฮิ้ววววว ชอบเค้าก็บอกมาซิ o18
เค้กนี่ดูง่ายจริง ๆ อย่างงี้เค้ารู้กันทั้งร้านแล้วแน่ ๆ :laugh:
-
โอ๊ยยยยย
มันเขินเว๊ยยยยย
-
ทุกคนเหมือนรู้ว่าเค้กชอบ 555
ตลกกกกก
ก็ทำตัวมีพิรุธอ่ะะ
พี่คิวปิดก็เล่นกะน้องนะนี่ เหอะๆ
รอหวานๆ โฮะๆ
-
กว่าพี่คิวจะกล้าจีบเค้ก ลุ้นจนปวดตับ 55555555
-
พี่คิวชอบแกล้งอ่ะ o18
-
น่ารักมากกกกกกกก
ว่าแต่พี่คิวนี่เล่นๆ หรือว่าเอาจริงเนี่ย
มีโทรมาจีบด้วย ถ้าจะเล่นๆ ก็อย่าเลยนะครับ สงสารน้องเค้ก
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตอนนี้น่ารักมาก เขินๆๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[
พี่คิวขี้แกล้งจริงๆ แต่ก็มีเริ่มก่อนแล้วนะ ดีใจ :laugh:
รอติดตามค่ะๆ
:pig4:
-
โอ้ยยยยยยยย เขิน :-[
พี่คิวก้ชอบแกล้งน้องเค้กตลอด เหมือทุกคนรู้อ่ะว่าเค้กชอบ ทำตัวซะ :o8:
-
ลุ้นไปกับเค้กด้วยอะ เขินพี่คิวอะ
-
กริ๊ดดดดดดดดดดดดด
เขินม้วนนนน :-[ พี่คิวอ่ะ ชอบแกล้ง :กอด1:
:pig4: ค่าาาา
-
พี่คิวนี่ทำเหมือนชอบเค้กเหมือนกันงั้นแหล่ะ อิอิ
-
เขินแทนเค้กจัง :-[
ไอ้พี่คิวมันต้องรู้แน่เลยที่เค้กแอบชอบ
ก็ออกอาการซะขนาดนี้นะเค้กเอ๋ย
-
พี่คิวอ่ะ ยังไงล่ะ ชอบน้องป่าวล่ะ น้องมันดูง่ายขนาดนี้น่ะ
มันต้องชอบบ้างแหละว๊าา แหย่ขนาดนี้ จริงมะๆ คึคึ
รุกสิคะ รุกให้ไวเลยยยยยยยยยยยยย :z2:
-
โอ้ววววว ได้อ่านสองตอนรวด ดีใจจริงๆค่าาาาาา :impress2:
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารตัวเองอ่ะ คือยังไงดี อ่านแล้ว เหมือนตัวเองเป็นน้องเค้กเลย 5555
เขินอายม้วนต้วนเลยทีเดียว ขำตรง น้องเค้กเม้นปากด้วยตอนคุยโทรศัพท์กะพี่คิวเนี่ยแหละ แกรจะเขินไปไหน
มีบิดพงบิดผ้า บ้าบ้าบ้า ดีนะพี่คิวไม่เห็นอาการนั้น แต่คาดว่า พี่คิวคิดคาดเดาถูก พ่ออ่านใจเก่ง
อีพี่คิว นี่ไม่รู้คิดยังไงเนอะ ชอบน้องมันใช่ปะ แกล้งได้แกล้งดี วุ๊ยยยยย น่าร๊ากทั้งคู่เลยยยย
-
อาการชัดซะยิ่งกว่าชัด พี่คิวเค้าไม่รู้เลยสักกะตี๊ดดดดดดดดดดดด !!
คือ อยากบอกว่า เจ๊เข้าใจโรคที่น้องเค้กกำลังเป็นอยู่ ><
อาการแบบว่า ไม่อยากวางอ๊า เวลาคุยโทรศัพท์เนี่ย ~
ต่อบทเรื่อยๆ ภาวนาว่าอย่าเพิ่งวางได้มั๊ย (ถ้าวาง ตูแช่งแมร่ง 555+)
พอปลายสายจะวางก็แอบรู้สึกโหวงๆ
พูดได้แค่ อื้อ.... โอเค.. ไนท์ ....บาย..... กรี๊ดดดดดด
อาการเดียวกันเป๊ะ อ่านแล้ว เขิน กลิ้งไปกลิ้งมา :-[ :-[
-
“อย่าเอาฉันไปฝันล่ะ” แวร๊ยยยยยยยยยยยยยยย :z6:
พี่คิวแมร่งงงงงงงงง :-[
แอบสงสารเค้กเหอะ :impress2:
อ่านตอนนี้โคดเกร็งอ่ะบี้ 5555555 :laugh:
-
อิตาคิวปิดร้ายกาจจจจจจจ
-
:impress2:
-
พี่คิวรู้แน่เลยว่าเคกมาใจ แต่ว่า พี่คิวล่ะ มีใจด้วยมั้ย เล่นไปหยอกเค้าแบบนี้ หึหึ :z1:
-
ยังไงก็สู้พี่คิวไม่ได้หรอกเค้ก อย่าได้คิดหือเลย :เฮ้อ:
-
โอเอ็มจี !!!!!!!!!!! เค้าพัฒนาแล้ว เดี๋ยวนี้มีโทรหากันตอนดึกๆดื่นๆ เวลาของคนเป็นแฟนกันเค้าจู๋จี๋กันนะ
หรือไม่เค้าก็ใช้จีบกันอะจ้าเวลานี้ แหมะๆๆๆๆ เยี่ยมไปเลยอ่ะ 555555 พี่คิวกวนส้งมากกกกกกก
แหย่เค้กได้แบบ.... ถ้าเจอพี่คิวพูดใส่ว่าอย่าเอาชั้นไปฝันนะ ใส่แบบนี้ รับรองว่ามันจะไม่ใช่ฝันธรรมดาแน่นอน
555555555 สำหรับคนอ่านคนนี้ กรี๊ดดดดดด น่ารักไม่ไหวแล้ว มีบอกให้มารับออกจาก รพ ด้วยอ่ะ 555
ให้คนขับรถไปรอรับที่มหาลัยอีก นี่มันคนชอบกันเค้าทำกันแล้วนะพี่คิ๊ววววววว =////=
-
อัยยะ!! พี่คิวมีโทรมาเซย์กู๊ดไนท์กับน้องเค้กด้วย แหมๆๆๆๆทำตัวเล่นตัวนะตัวเอง o18 o18
อ่านแล้วก็ยิ้มมมมมม ขอบคุณเบเบี้นะคะ ^^
สู้ๆๆๆ ขอให้ทำข้อสอบได้ทุกข้อเลย :3123: :3123:
-
โดนเขาจับไต๋ได้แล้วหนูเค้กเอ๋ย :impress2:
:กอด1:
-
พี่คิวหาเหตุโทรมาหาเค้กนะนี่ น่ารัก >.<
-
หวานมากกกก น้องเค้กก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นน้องเค้กที่อ่อนโยนอ่อนต่อโลกเหมือนเดิม
แต่ตอนนี้กำลังพยายามสมมุติตัวเองเป็นพี่คิวง่ะ นึกๆ อยู่นะ ผู้ชายแมนๆ แบบพี่คิว จีบสาวอ่ะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่จะจีบหนุ่มด้วยกันนี่จะทำยังไง อยากจะเจอ อยากจะคุยกับเค้าใจจะขาด แต่จะเนียนทำยังไงให้มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนคุมเกมส์ได้ตรอดเวลา ยากเหมือนกันนะเนี่ย
ไอ้น้องบี้เก่งว่ะเีขียนสื่ออกมาจนคนอ่านจิ้นตัวเองเป็นน้องเค้ก ม้วนต้วนกันไปตามๆ กันเลยนะสำหรับตอนนี้ แต่กลับกันพี่ไม่อยากเป็นน้องเค้กอ่ะ อยากเป็นพี่คิวมากว่า อยากแกล้งเด็ก ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณไอ้น้องที่เอาตอนต่อมาลงหยั่งไว แต่เสียใจทีี่จะต้องเสพอย่างพอเพียงและเพียงพอ มันค้างงงงงงงงงงอยากเสพอีกเข้าใจม้ายยยยยย วู้ววว
:กอด1:
-
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
น่ารักมากเลยค่า พี่คิวก็ขยันแกล้งจัง
อิอิ เป็นพวกรักหยอกจึงหลอกเล่นสินะพี่คิ๊วววว
-
อ่านไปยิ้มไปมีความสุขจัง :impress2:
-
คืบไปอีกนิด
คิวเิริ่มยาวแระ
มีโทรคุยก่อนนอน แม้จะเป็นสั่งนู่นนี่ก็เถอะ
เบบี้ทำงานไปเถอะค่ะ ว่างๆ ค่อยมาต่อนิยาย
ขอบคุณค่ะ
-
เขิน แทน เว้ย เห้ย! :-[ :o8:
พึ่คิวนี่ดูนู๋เค้กออกตลอดเวย์จิงจัง
P.S. o^O นู๋เค้ก ไม่มีคัยดูนู๋ออก เล้ยยย ว่าชอบพี่คิว :really2:
สู้ๆๆ คร้า :L2:
-
พี่คิวแกล้งเค้กใหญ่อ่ะ แต่น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แกล้งบ่อยๆชอบ
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
น่ารักเว่ออออออออออออออออออออออออออออออออ
-
ยิ้มตามเค้กไปด้วยเลยเนี่ย
จริงๆพี่คิวก็อยากเห็นน้องใช่ไหมล่ะ ถึงกะโทรให้ไปรับกลับบ้านเลย
พี่คิวก็เด็กอ่ะ ชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบ :o8:
-
ตกลงพี่คิวนี้ยังไง
เหมือนโทรจีบ เค้กเลย
-
โห พี่คิวเริ่มรุกถี่ o18
-
นับวันพี่คิวกับน้องเค้กยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อย ๆ >''<
ที่ไม่ให้นี่ หวงน้องสาว หรือ หวงเค้ก? ฮ่ะๆๆ
พี่คิวรุกหนักแล้วนะ มีโทรหากันก่อนนอนด้วย
คิวต้องชอบเวลาน้องเขินแน่ ๆ เลย เห็นแกล้งให้เขินตลอดๆ
-
อร๊ายยยยยย !!! อิพี่คิวจีบเด็ก o18
-
คิวมีหยอดเค้กตลอดเลย
ขอคิดไปมั่วๆก่อนเลยละกันว่าคิวก็เอ็นดูเค้กอยู่มากเกมือนกัน
รู้ว่าเค้กชอบตัวเองแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วยังใจดีด้วยอีก
-
พี่คิวได้ที เอาใหญ่เลยนะ
:-[
-
ชอบๆๆ มาต่อเร็วๆนะครับ
-
แอร๊ยยย...เขินได้อีกอ่ะ :-[ :-[
-
สนุกมากมาย คิวเริ่มชอบเค้กแล้วละ สู้ๆๆเค้ก
-
อ๊ากกกก แบบนี้เรียกว่า...
พี่คิวจีบเค้กแล้วใช่ม้ายยยยยย :impress2:
-
ตกลงพี่คิวจะจีบหรือแค่หยอด ...
สงสัยแทนน้องเค้ก บอกแล้วใช่มั้ยให้จับพี่คิวปล้ำซะเลย
เค้กก็ไม่ยอมเชื่อ :m16:
พ่อพี่เค้กกับคิวได้กันเสร็จ เผื่อคนเขียนจะใจดี
แต่งคู่บัตเตอร์เด็กโคตรเกรียนกับอ๊อฟเงาจืดจางมนุษย์บทน้อยให้อ่านไง....
รีบๆเข้านะเค้ก ถ้าพี่คิวขัดขืน ตีหัวด้วยไม้หน้าสามแล้วจับทำเมียแทนซะเลย
o18
จากใจ...คนอ่านใสสะอาด
-
แบบนี้เค้กก็โดนแกล้งตลอดอ่ะ พี่คิวต้องรู้แน่ๆ อ่ะว่าเค้กชอบ อ่านแล้วเขินเลย น่ารักชะมัดอ่ะ พี่คิวชอบแกล้งเค้กอ่ะ อร๊ายยย น่ารัก พี่เบบี้สู้ๆ นะ รออ่านตอนต่อไปจ้า :))
-
บัตเตอร์เกรียนเหมือนพี่คิวเลย(หะ?)
น่ารักเอ่อะ-.-
-
แล้วเมื่อไหร่เค้กจะอ่านพี่คิวออกบ้างล่ะ พี่คิวแทบจะเฉลยออกมาหมดแล้วนะ
-
:z3: :-[ :impress2:
-
ชอบบบบบบบ ไม่รู้ว่าพี่คิวจะเล่นหรือจริง!
แต่ก็ไม่อยากให้ล้อความรู้สึกเค้กเล่น..
:) ดูจากตรงนี้เหมือนพี่คิวจะโอเค
แต่ในอีกแง่ พี่คิวนี่ก็.. รู้แต่แกล้ง ล้อเล่นรึเปล่า
อิย้าา แต่ไงก็โอเคน่ารัก ♥♥
รอตอนต่อไปฮร๊า
-
รับทราบจ้า เบบี้
-
กรี๊ดดดด ตอนนี้อ่านจบกรี๊ดเลยอ่ะ แบบว่ายิ้มแก้มจะแตกเอา 555555 พี่คิ๊วววววแกเจ้าเล่ห์น่ารักมากกกกอ่ะ ไอ้บ้าาาา ชั้นเขินแทนเค้กเลย ตัวเองก็ชอบเค้กเหอะเลยกลบเกลื่อนอาการตัวเองโดยการแอบจิกกัดเค้าอ่ะดิ 55555 ต้องกลั้นใจอดทนรอให้ได้ กร๊ากกกก พีคจริงๆตอนนี้
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ปูเสื่อนอนรอในนี้แหละ ไม่ไปไหนแล้ว
-
อ่านไป นั่งเขินไป กิ๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
-
โอยยยย เขินวุ้ย :-[
พี่คิวเอาอีกๆๆๆๆ >/////<
-
ทั้งคู่เลย ~ถ้าหากรักนี้ ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าว แล้วเค้าจะรู้ว่ารักหรือปล่าว??~
ลุ้นสุดทรีนให้อิพี่คิวง้างปาก ให้น้องเค้กเผยใจ บทรักอ้ำอึ้งจะได้หมดไปสักทีเน้อ :m1:
-
:o8: เขิน
เข้าใจได้ไหมว่าพี่คิวอยากคุยกับน้องเค้กนาน ๆ :-[
:pig4: คะ
-
น้องเค้กจะฝันรึป่าวไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ
เราจะเอาพวกนายไปฝัน :z1:
ปล. เมื่อไรจะมีซีนหึงกันบ้างนะ :-[
-
สนุกมาากกกกกกกกกกกกกอะคับ ^^ ติดงอมแงม ><
-
:-[
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!!!! หึ้ยหึ้ยหึ้ยหึ้ยยยยย ><~~~~~
พี่คิวรู้ยิ่งกว่ารู้เเล้วล่ะงานนี้ อ๊ายยยยยย!!~
เขินไม่ไหวจะเคลียร์ คนอ่านเขินขนาดนี้เค้กต้องสุดสุด :-[
ทำน้องเขินไม่พอ แอบหยอดเล็กๆป่ะเนี่ยพี่คิววว~
คนขี้แกล้งปากเเข็งจริงๆก็แอบชอบน้องเหมือนกันล่ะซี่ ฮี่ฮี่ฮี่
+1 ให้คุณเบบี้ค่าา ^^
-
ไม่เป็นไรคะ นานแค่ไหนก็จะรอ T_T
ยังไงบี้จังก็ สู้ สู้ นะคะ
ขอให้ผ่านไปได้ด้วย A ^^~
-
:oo1:พี่คิวน่ารักอ่ะ มาต่อเร็วๆๆนะครับ :L2:
-
ตอนนี้น่ารักอะ
เขิล บิดไปบิดมา
สมเป็นเค้กจริง ๆ
เบบี้ก็สู้ ๆ แล้วกัน
เหนื่อยหน่อยนะ
-
เค้กน่ารักกก
-
ยิ่งเค้กเขินก็จะยิ่งโดนแกล้งนะ 555555555
-
:z2: :z2: ------------------------- :laugh:
-
อยากจะวิ่งไปสิงเค้กอ่ะ ประโยคไหนของพี่คิวก็ไม่เท่าประโยคสุดท้าย เขินแทนเค้ก
อ่านไปม้วนไป ฮ่าๆๆ มันเขินอ่ะ พี่คิวช่วยแสดงอาการว่าชอบน้องหน่อยสิ แกล้งน้องอยู่ได้
หรือว่าไอ้ที่แกล้งก็เพราะชอบ เดาว่าใช่ ฮ่าๆๆๆๆ
-
โว้ว โว้ว เกร็งไปหมด ห้าๆ พี่ิคิวชอบเค้กล่ะสิ :impress2:
-
ยังขอยืนยันคำเดิมว่า ถึงคู่อื่นจะได้กันไปถึงไหนต่อไหน
แต่คู่นี้...แค่มองหน้ากันก็เขินไปโลกหน้าแล้วค่าาาา :-[
-
พี่คิวแม่ม :-[
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยย
อยากเจอน้องบัตเตอร์อีกอ่ะ
เชอร์เบ็ทด้วย น่ารักอ่าาาาา
เดี๋ยวนี้พี่คิวน่ารักขึ้นนะ 5555
เขินแทน ฮึ้ยยยยยย
-
เรื่องใบลา เข้าใจและอนุญาต ขอให้เบบี้โชคดีนะจ๊ะ
ส่วนพี่คิว อร๊ายยยยยยยยยยยยยย :impress2:
เดี๋ยวนี้พี่คิวเค้าพัฒนาแล้วเว้ยเฮ้ย มีหยอด มีโทรหา :m3:
พี่คิวชักน่ารักขึ้นทุกวันนะเนี่ย เค้กน่าสงสารเขินอยู่คนเดียววว :m1:
-
คู่นี้ มันเริ่มคืบหน้าเเล้วสินะ
เด็กบ้านนี้ เอาแต่ใจทุกคนจริงๆนั้นแหละ
-
ฉันอิจฉาๆๆ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย แอร๊ยยยย!!~ อยากให้บอกรักกันอ่ะ 5555 อยากเหนความวุ่นวายอีกครั้ง
-
~39~
ณ มหาวิทยาลัยY..
“เค้ก...เค้ก!”
“ห..ห๊ะ” ผมขานตอบแก้ว
“เป็นอะไร เหม่ออีกแล้วนะ” แก้วคิ้วขมวดหน้างอ ผมเงียบเพราะคิดคำแก้ตัวไม่ทัน พีทจ้องหน้าผมอย่างจับผิด
“แก้ว เราว่า..เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง
“ว่า..” แก้วกับพีทพูดย้ำพร้อมกัน
“เราว่าเราคง ชอบ..พี่คิว จริงๆแล้ว ละมั้ง” ผมก้มหน้าก้มตาบอกอย่างตะกุกตะกัก
“ฮ่าๆๆๆ” พีทหัวเราะร่าออกมาจนน่าตกใจ
“แก้วรู้จนไม่ตกใจแล้วล่ะ เฮ้อ..เพื่อนฉัน ยังมีหน้ามาบอกอีกนะ” แก้วส่ายหน้าคล้ายกับหน่ายผมอย่างนั้น
“หัวเราะทำไมไอ้พีท” ผมว่า
“หน้ามึงตลก ชอบก็บอกว่าชอบตั้งแต่แรกก็จบไปละ กูกับแก้วแอบนินทากันเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วเหอะ”
“มึงใช้คำว่านินทากับเรื่องของกูเหรอ”
“ก็กูดูออกตั้งนานแล้วน่ะว่ามึงชอบ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริงแค่นั้นเอง” พีทเบะปากให้
“ง่ะ ไม่จริง” ผมเถียง
“จริง” แก้วกับพีทย้ำ
“เรา..” ผมชะงัก
“เอ่อ เราคล้ายคนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว วันนี้..ตอนนี้ เอ่อ..เรากำลังนั่งรอโทรศัพท์จากพี่เค้า” ผมสารภาพ มองไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเองอย่างว้าวุ่นใจอีกครั้ง
“ก็คงจะอย่างงั้น” แก้วกับพีทพูดเหมือนรู้ทัน ทั้งสองมองมาที่โทรศัพท์มือถือของผมเหมือนเข้าใจตามที่ผมบอกมานานมากแล้ว
“เรา..เราชอบผู้ชาย!” ผมจับหน้าตัวเอง ไม่รู้ว่าควรจะตกใจ กลัวตัวเองหรืออย่างไรดี..มันน่าสงสัยและงงงวงไปเสียหมด
“กูว่าหนังหน้าอย่างมึงจะมีเมียมันก็จะขัดๆไปสักหน่อยน่ะนะ กูมองภาพไม่ออกเท่าไหร่ถ้ามึงจะขึ้นคร่อมหญิงอ่ะ กร๊าก เอ่อ..แต่ที่จริงก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน้าตามึงทั้งหมดหรอก นิสัยมึงมันแบบ..หญิงไม่ชอบหรอกเว้ยแบบนี้ เค้าชอบแบบกูนี่” พีทพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง ทำให้แจ็คที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันกลับมามอง
“ไอ้บ้า” ผมว่าเขิน
“มึงเคยดูหนังโป๊บ้างเปล่าเนี้ย เป็นฝ่ายขึ้นคร่อม มันต้องรับผิดชอบหลายอย่างนะเว้ย” พีทพูดไปยิ้มไป เพื่อนๆที่นั่งอยู่ด้านหน้าพวกเราหันมาหัวเราะกันหมด ผมได้แต่นั่งก้มหน้าเพราะเขินทุกคน
“กูสอนให้ไหมเค้ก” บีนเพื่อนในสาขาหันมาถาม
“มึงไม่ต้องเสือกไอ้บีน ไอ้เค้กมันมีคนจะช่วยสอนละ..มึงน่ะแค่ขี้เล็บก็เทียบเค้าไม่ได้” พีทบอกพร้อมกับปัดมือไปมา
“ฮ่าๆๆๆ” ทุกคนหัวเราะพร้อมกันอีกครั้ง
“ไอ้..ไอ้” ผมนั่งกัดฟัน ไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรดี
ตื๊ด ๆ ๆ..
สายเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
“นั่นไง คนที่จะสอนโทรมาละ” พีทยักคิ้วยิ้มบอก ผมรีบหยิบเป้ขึ้นสะพายและลุกขึ้นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะมากำไว้
“ไปแล้ว!” ผมกระแทกเสียงบอกทุกคน
“โชคดีจ้า” แก้วยิ้มกว้าง
“เก็บอาการหน่อยๆ” พีทยิ้มเจ้าเล่ห์
“หุบปากไปเลย” ผมเอามือไปตีหัวมันเบาๆก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ผมรีบเร่งเท้าเพื่อให้พ้นออกมาจากห้องโดยเร็วเพราะจะรีบรับสายจากพี่คิว
“ครับ” ผมรีบทักปลายสาย
“เลิกรึยัง” อีกฝ่ายถาม
“เลิกแล้วครับ”
“เค เอ่อ..เดี๋ยวลุงมีจะโทรเข้าหานายนะ ลุงอยู่แถวนั้นแล้ว” พี่คิวบอก
“ครับ” ผมตอบ
“เท่านี้แหละ” พี่คิวบอกแล้วตัดสายไปซะเฉย แค่เนี้ย..โทรมาแค่นี้น่ะนะ ไอ้เราก็รึรีบรับสาย..ชิ~
= = = = = = = =
ก๊อก ๆ ๆ..
“มาแล้วครับ” ผมทัก พี่คิวหันมามอง ตอนนี้พี่เขาถูกรุมด้วยนางพยาบาลสองคนที่กำลังช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อยู่
“มารับคนไข้ใช่ไหมคะ” นางพยาบาลคนหนึ่งในนั้นยิ้มถาม
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“จะเสร็จแล้วค่ะ รบกวนรอสักครู่นะคะ” เธอบอก ผมเดินไปนั่งที่โซฟาด้านหน้าพี่คิว ผมหัวเราะเพราะสภาพของพี่คิวตอนนี้ตลกดี คล้ายๆกับหุ่นยนต์กำลังเปลี่ยนเครื่องยนต์อยู่สักอย่าง พี่คิวมองผมคิ้วขมวด ผมนั่งรออยู่เกือบสิบห้านาทีนางพยาบาลทั้งสองคนก็จัดแจงทุกอย่างให้จนเสร็จสรรพ
“ขอบคุณครับ” พี่คิวบอกพวกเธอ
“ขอบคุณนะครับ” ผมบอกด้วย
“ยินดีค่ะ ยังไงก็ดูแลตัวเองด้วยนะคะ ถ้าเกิดอาการเจ็บท้องขึ้นมา ให้มาพบคุณหมอทันทีเลยนะคะ..แล้วก็ มาตรวจร่างกายตามกำหนดด้วยนะคะ” เธอยิ้ม
“ครับ” ผมกับพี่คิวพยักหน้ารับ
“ไม่ใช้รถเข็นเหรอครับ” ผมถามพี่คิว
“ไม่..ฉันไม่ได้โดนยิงที่ขานะ” อีกฝ่ายตอบหน้าตาย
“อืม งั้นก็เรื่องของพี่เถอะ” ผมถอนหายใจให้กับอีตาคนนี้บ้าง พี่คิวลงมาจากเตียงอย่างช้าๆ ผมนำกระเป๋าที่เป็นของใช้ของพี่คิวทั้งหมดมาคล้องใส่แขนตัวเองไว้ เผื่อถ้าเชฟบ้านี่เป็นอะไรไปจะได้คอยช่วยได้สะดวกขึ้น
“โชคดีนะคะ” นางพยาบาลทั้งสองคนบอกลาอีกครั้ง ทั้งผมและพี่คิวหันไปยิ้มให้เธอและเดินออกมาขึ้นลิฟต์ ในลิฟต์มีเพียงผมกับพี่คิวเท่านั้น ดังนั้น..เมื่อพี่คิวไม่เอ่ยพูดอะไรในลิฟต์จึงค่อนข้างเงียบมาก ตกลงนี่ลิฟต์ร้างเหรอหรือครับ.. เงียบจัง
ผมยืนอยู่ติดที่ด้านในตัวลิฟต์ ส่วนพี่คิวยืนอยู่ด้านหน้าของผม พอผมเหลือบไปมองพี่เขาผ่านกระจกของลิฟต์ พี่เขาก็จ้องผมตอบอีก ทำให้ผมต้องเหสายตาไปอีกทาง พอออกจากลิฟต์ ผมเลยเป็นฝ่ายเดินนำพี่คิวไปที่ลานจอดรถก่อนเพราะไม่อยากเดินตามหลัง มันรู้สึกเกร็งแปลกๆ พอลุงมีเห็นว่าผมกับพี่คิวเดินมา ลุงมีรีบกุลีกุจอเข้ามาช่วยนำของที่ผมถืออยู่ไปใส่รถทันที
“............” ผมยืนมองรถอย่างเงียบๆ ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องนั่งที่ด้านหน้ากับคนขับรถหรือว่านั่งด้านหลังกับเจ้าของรถดี ทำไมโลกนี้ช่างกลั่นแกล้งหนูง่ะแม่..แง่ง
“ขึ้นสิ หรือต้องให้ฉันอุ้มขึ้น” พี่คิวว่า พอลุงมีเปิดประตูรถให้พี่คิวก็เข้าไปนั่งเลยในทันที
“สภาพไม่เห็นเหมือนคนป่วยเลยสักนิด” ผมเบะปากบ่นคนเดียว
“เอ่อ นั่ง..ด้านหลังเถอะครับคุณ” ลุงมีเห็นว่าผมทำท่าจะไปเปิดประตูด้านหน้า ลุงแกยิ้มแหยเหมือนกลัวว่าจะโดนพี่คิวดุ ผมเดินกลับมาเปิดประตูที่ด้านหลังและเข้าไปนั่งอย่างเงียบๆ
“กลับบ้านเลยใช่ไหมครับ” ลุงมีถาม
“ใช่” พี่คิวตอบ
“อะไรของนาย” พี่คิวหันมามอง
“เปล่า” ผมรีบตอบและหันหน้าหนี
“แล้วทำไมจะต้องนั่งติดประตูขนาดนั้นด้วย” อีกฝ่ายถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ก็..ก็” ผมอ้ำอึ้ง
“เขยิบมา” พี่เขาสั่ง ผมขยับก้นให้เข้าไปนั่งด้วยท่าปกติเพียงนิดเดียว
“งั้นก็เรื่องของนายเถอะ” พี่คิวว่าอย่างเอือมระอา
ลุงมีเคลื่อนรถออกจากโรงพยาบาลและขับตรงไปที่บ้านของพี่ฟ้า ระหว่างทางเราทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรเลย พี่คิวนั่งเงียบตลอดทาง ส่วนผมไม่กล้าพูดเพราะไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อนดี เขินลุงมีด้วยอ่ะครับถ้าจะชวนพูดออกไป
“เดี๋ยวป้าขนเองค่ะ” ป้านิดรีบวิ่งออกมายืนต้อนรับตั้งแต่แรกแล้ว เธอรีบเข้ามาช่วยเมื่อเห็นว่าผมจะเข้าไปถือกระเป๋าของพี่คิว
“ยัยเขียว มาขนเร็วๆเข้า” ป้านิดกวักมือเรียก
“จ้า” พี่เขียวขานรับและรีบวิ่งมาช่วย ผมเดินเข้าไปขนาบข้างกับพี่คิวด้วยความเป็นห่วงเพราะท่าเดินพี่เขาแปลกไป พี่คิวเหลือบต่ำลงมองผมโดยใช้สายตาหยิ่งอย่างเคย
“เป็นห่วงเหรอ” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผมชะงัก
“มั่ว” ผมตอบปัด พี่คิวถอดรองเท้า ผมถอดตามและรีบเดินไปขนาบข้างพี่คิวอีกครั้ง พี่คิวเร่งเท้าเดินเร็วขึ้นทำให้ผมต้องรีบจ้ำเท้าตาม
“พี่เดินช้าๆซิครับ พยาบาลบอกว่าสองสามวันนี้ให้ทำอะไรช้าๆ ระวังๆหน่อยสิ” ผมบอกด้วยนึกเป็นห่วง พี่คิวหยุดเดิน หันตัวมามองหน้าผมตรงๆ ผมหยุดชะงัก มองพี่คิวที่นำมือมาใกล้หน้าผม ผมมองตามมือใหญ่ๆนั่นอย่างสงสัย อยู่ๆนิ้วมือของพี่คิวก็มาจิ้มอยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วของผม
“คิ้วนายชนกันน่ะ” อีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้าเรียบไม่บอกอารมณ์ใดๆ
“ไม่ต้องห่วงฉันขนาดนี้ก็ได้มั้ง” พี่คิวยิ้มออกมา
“ฮื้มม..ก็เป็นห่วงไงเล่า แกล้งอยู่ได้..โรคจิตรึไง” ผมบ่นและปัดมือพี่เขาออก
“นั่นสินะ” อีกฝ่ายแสยะหัวเราะไม่เลิก พี่คิวเดินนำผ่านห้องรับแขกไปเรื่อยๆจนไปถึงห้องหนังสือ ห้องโปรดประจำของพี่คิว ผมเดินไปนั่งที่โซฟาสีน้ำเงินเข้มที่อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ส่วนพี่คิวกำลังหาหนังสืออยู่ที่ชั้นหนังสือ จู่ๆพี่เขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม
“...........” ผมเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายประมาณว่า “มองอะไรครับ..มีปัญหาอะไรรึไง”
“นั่นที่ฉัน” พี่คิวพูดบอก ในมือถือหนังสือเตรียมไว้แล้วคล้ายกับไล่ผม
“มีที่ตั้งเยอะตั้งแยะ พี่ก็นั่งไปสิครับ” ผมบอกและชี้ไปที่โซฟาตัวอื่นๆอย่างไม่ยอม
“ก็นี่มันที่ของฉัน” พี่คิวยังย้ำคำเดิมเหมือนจะเอาชนะให้ได้
“เฮ้อ เป็นเด็กหวงของซินะ” ผมส่ายหัวพร้อมกับลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ปึก !!
“โอย..เจ็บนะฮะ” ผมจับหัวตัวเองที่เพิ่งถูกพี่คิวนำหนังสือมาเคาะหัวเข้าให้
“ไร้มารยาท ไปนั่งสารภาพบาปที่มุมห้องนู่นไป” พี่เขาว่าใส่
“เค้ก..เค้กไม่ใช่น้องพี่คิวนะ!” ผมกัดฟันว่ากลับทันที
“หึ..งั้นเหรอ” พี่คิวหัวเราะอย่างไม่แคร์และนั่งลงที่โซฟา ด้วยความที่ผมหมันไส้ ผมจึงนั่งลงที่ข้างๆพี่คิวซะเลย พี่คิวหันหน้ามามองผมอย่างเอาเรื่อง ผมเบะปากอย่างไม่สนใจ หลังจากนั้นพี่คิวก็นั่งอ่านหนังสือไปไม่พูดไม่จา ผมที่ตอนแรกนั่งเพียงแค่อยากจะแกล้งกวนคนข้างๆนี้เท่านั้น แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนจะเมื่อยซะเองแล้ว
“พี่..” ผมเรียก
“..........” อีกฝ่ายเงียบและยังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือเหมือนกำลังอยู่ในโลกของตัวเองโดยไม่ได้หันมาสนใจเสียงเรียกจากผมเลยแม้สักนิด
“พี่คิว” ผมเรียกอีกครั้ง
“ไร” พี่คิวกระแทกเสียงตอบแต่ยังไม่หันหน้ามามองผมอยู่ดี
“เค้กเบื่อ” ผมบอก
“จิ้..” อีกฝ่ายคิ้วขมวดเหมือนรำคาญและหันมามองหน้าผม ผมฉีกยิ้มให้
“อยากดูหนัง” ผมบอก
“ไปเลือกสิ” พี่เขาบอกและหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ พอได้รับคำอนุญาตแล้วผมจึงรีบลุกขึ้นเดินตรงไปที่ชั้นเก็บแผ่นภาพยนตร์และเลือกมันในทันที โอว..มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจไปซะทุกเรื่องจริงๆ เมื่อผมเลือกหนังได้เรียบร้อยแล้ว ผมหันกลับมามองคนคนเดิม ที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมที่ไม่แม้แต่จะกระดิกตัว ยังคงนั่งโดยไม่สนใจผมเลยแม้แต่นิดเดียว
“พี่คิวฮะ” ผมเรียก
“..........” หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้หรืออย่างไร
“ดูเรื่องนี้อ่ะ” ผมยื่นแผ่นซีดีนำไปทับหนังสือที่พี่คิวกำลังอ่านอยู่ ถ้ายังไม่สนใจผมอีกผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะครับ
“เฮ้อ” อีกฝ่ายถอนหายใจก่อนปิดหนังสือลงเหมือนตัดรำคาญ
“ช่วยหน่อยสิ” พี่คิวเงยหน้าขึ้นบอก ผมยืนงง พี่เขาวางหนังสือลงบนโซฟา
“เร็ว..จะดูหรือไม่ดู ฉันเจ็บอยู่นะ” พี่เขาบอกด้วยสีหน้าจริงจังและผายแขนขึ้น ผมเข้าใจว่าพี่คิวคงต้องการให้ผมเข้าไปช่วยพยุง ผมเดินเข้าไปใกล้พี่คิวมากขึ้นและก้มลงสอดแขนเข้าไปโอบตัวพี่คิวไว้
“อ่ะ..ออกแรงหน่อยสิครับ” ผมร้องบอก ได้ยินเสียงพี่คิวหัวเราะอยู่ในลำคอ ผมจึงหันไปค้อนทันที
“โทษที” อีกฝ่ายยิ้มและลุกขึ้นยืนขนาบข้างผม การที่เราใกล้กันขนาดนี้ทำให้ผมได้กลิ่นตัวของพี่เขา ทำ..ทำไม ก..กลิ่นตัวของพี่คิว หอมจัง (>..<) นี่คือกลิ่นตัวของผู้ชายแน่งั้นเหรอครับ
“ก็เดินเองได้ไม่ใช่เหรอฮะ เมื่อกี้ยังเดินได้เลย..พี่บอกว่าไม่ได้ถูกยิงที่ขานี่” ผมบ่นไปอย่างนั้นเอง บ่นแก้เขินก็เท่านั้นเอง
“นั่นสินะ ตกลงฉันฉลาดรึว่านายโง่กันแน่” พี่คิวยักคิ้ว
“อ๊ะ ไอ้..” เมื่อผมได้สติ ผมก็ผลักตัวพี่คิวออกเบาๆ ที่ไม่กล้าผลักแรงเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ
“เจ็บ” อีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย มือกุมท้องของตัวเองไว้เป็นการย้ำบอกอาการของตัวเอง
“ขอ..ขอโทษฮะ” ผมรีบบอกอย่างร้อนรน
“นายนี่หลอกง่ายดีชะมัด” พี่คิวส่ายหัวเหมือนหน่ายกับปฏิกิริยาของผม
“ไอ้พี่คิว!” ผมกัดฟันว่าได้เพียงเท่านี้ ไอ้ผู้ชายคนนี้..ไอ้ผู้ชายกวนประสาทนี่ ไอ้เชฟบ้า!!
พี่คิวหันมาแสยะยิ้มให้ผมอีกครั้งก่อนที่จะเดินนำออกจากห้องหนังสือนี่ไป ผมเดินตามไปห่างๆเพราะไม่อยากให้พี่คิวเห็นสีหน้าของผมในตอนนี้ แต่แล้วผมก็ต้องสงสัยว่าพี่คิวจะเดินไปไหน พี่คิวเลี้ยวซ้ายกลับไปตรงทางที่จะต้องเดินไปฝั่งห้องรับแขก และเลี้ยวขวาเข้าไปในทางเดินเล็กๆอีกที ซึ่งเป็นทางที่ผมไม่คุ้นเอาซะเลย ทางนี้ผมไม่เคยเดินเข้ามาเลยเพราะผมคิดว่าคงจะเป็นห้องส่วนตัวที่ไม่ควรเดินเข้ามาเล่นๆตามอำเภอใจ
เราทั้งสองคนหยุดยืนอยู่หน้าห้องห้องหนึ่ง ประตูห้องเป็นประตูไม้มีลวดลายสวยงาม พี่คิวเปิดกล่องสีดำด้านขวามือที่ติดอยู่กับผนังหน้าห้อง ผมมองตามอย่างสงสัย และเมื่อพี่เขาเลื่อนปากกล่องขึ้น พี่คิวนำนิ้วเข้าไป ผมอึ้ง ตาค้างไปแล้ว..
ติ๊ด !
เสียงสแกนนิ้วมือเป็นอันเสร็จ ผมยืนอ้าปากค้างเมื่อพี่คิวเปิดประตูห้องเข้าไป ผมยังคงยืนนิ่งทำให้พี่คิวหันกลับมามองผมด้วยท่าทางที่เป็นปกติซะไม่มี
“ไม่ เค้กไม่เข้า..ห้องอะไรอ่ะ” ผมพูดด้วยความหวาดระแวง
“ฮื้ม..อะไรของนาย โวยวายอะไรไม่ทราบ” พี่คิวว่าด้วยท่าทางไม่พอใจ
“ก็..ทำไมต้องสแกนนิ้ว ทำไม เอ่อ..ไม่อ่ะ” ผมชี้มือมั่วไปหมด
“ก็นายจะดูหนังไม่ใช่รึไง” พี่คิวขมวดคิ้ว เริ่มทำหน้าโหดอีกครั้ง
“เข้ามา!” อีกฝ่ายกระแทกเสียงเข้ม ผมก้าวขาเข้าไปด้วยความกลัว ไม่ใช่กลัวห้องแต่กลัวไอ้เชฟหน้าโหดนี่ต่างหากล่ะครับ เล่นขึ้นเสียงใส่กันขนาดนี้ใครไม่กลัวก็บ้าแล้ว
เมื่อเข้ามาในห้อง..สายตาของผมมองกวาดไปรอบห้อง พี่คิวเปิดไฟทำให้ผมมองเห็นทั่วห้องได้ชัดมากขึ้น พี่คิวดันประตูปิดห้องเรียบร้อย
“อะไรน่ะ” ผมเดินเข้าไปใกล้ตู้ไม้อย่างสงสัย รอบห้องเต็มไปด้วยชั้นไม้อย่างดี แต่ละชั้นถูกปิดโดยมีที่จับเลื่อนคล้ายกับสามารถให้เปิดดูภายในได้ ของสำคัญที่ได้รับการดูแลอย่างดีประมาณนั้น
“นี่” พี่คิวปราม เมื่อมือของผมจะไปจับที่ที่เปิดนั่น
“ก็อยากรู้อ่ะครับ” ผมบ่นและเลื่อนมือเปิดมันออกในทันทีอย่างเสียมารยาท
“ว้าววววว~” ผมอ้าปากค้างมองแผ่นซีดีที่อยู่ข้างในอัดแน่นเต็มไปหมด ผมรีบเลื่อนเปิดชั้นอื่นๆแบบชั้นต่อชั้นอย่างไม่หยุดมือ
“โหหหหหห..สุดยอดอ้า!” ผมร้องเสียงหลง เงยหน้ามองชั้นที่ผมยังไม่ได้เปิดอีกนับสิบชั้น มันสูงจนถึงเพดานห้อง ผมหมุนตัวเองมองไปรอบๆห้องอย่างตื่นเต้น มีชั้นแบบนี้อยู่ติดผนังห้องทั้งสี่มุม อีกมุมห้องเป็นจอโทรทัศน์ขนาดบิ๊กบึ้มประกอบด้วยเครื่องเสียงโฮมเทียร์เตอร์ครบครันแบบหาที่ติไม่ได้ ด้านล่างใกล้กับจอมากสุดมีโซฟาแยกส่วนตัวสองที่นั่งพร้อมที่วางขาพร้อม ส่วนทางด้านข้างทั้งสองด้านเป็นโซฟาแบบนอนขนาดใหญ่สีแดงฉูดฉาดแสบตา ระหว่างขั้นบันไดเล็กๆตรงที่ผมยืนอยู่นี้ มีโซฟายาวตรงกลางอีกหนึ่งตัว โคมไฟที่ติดอยู่แต่มุมของห้องให้แสงสีเหลืองไม่สว่างเท่าไหร่นัก พื้นปูด้วยพรมลายแปลกตาจากเนื้อพรมชั้นดีไปทั่วทั้งห้อง ผมเดินมองไปรอบห้องอย่างตื่นตาตื่นใจและอดมือบอนไม่ได้ที่จะเปิดชั้นแต่ละชั้นดูไปด้วย
“พอใจรึยัง” เสียงหนึ่งพูดขึ้น
“อ่าว..พี่ก็อยู่ในห้องด้วยเหรอครับ” ผมแกล้งหัวเราะไปที สายตาไปเจอประตูเล็กๆที่มุมห้องทางด้านซ้ายมือ มันมีที่จับประตูเหมือนสามารถเลื่อนเปิดเข้าไปยังอีกห้องหนึ่งได้
“นี่..เข้าได้อีกห้องนึงเหรอครับ” ผมชี้ถาม พี่คิวพยักหน้าตอบส่งๆไม่ได้มองผมเต็มตานัก
“เปิดดูได้ไหมฮะ” ผมยิ้มถามในทันที
“เชิญ..ถ้ามันจะทำให้นายย้ายก้นมานั่งลงที่โซฟาอย่างเงียบๆได้สักที” พี่คิวตอบ ผมยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้านกับคำพูดประชดประชันจากพี่คิว รีบเลื่อนประตูห้องเปิดดู และผมก็พบกับแกรนเปียโนสีขาววางอยู่กลางห้องเพียงตัวเดียว ห้องเล็กๆที่รอบห้องปิดด้วยผ้าม่านสีขาวสะอาดตา ผมเดินไปเปิดผ้าม่านดูพบว่ารอบห้องเปียโนนี้เป็นกระจกทั้งหมด เมื่อมองผ่านกระจกออกไปทางด้านนอกมีสวนดอกไม้ล้อมรอบสบายตา และเมื่อปิดผ้าม่านลงอย่างเดิม ความขาวบริสุทธิ์ของห้องทำให้ผมรับรู้ได้ถึงความสำคัญของห้องห้องนี้ขึ้นมา..
“สวย..ชอบอ่ะฮะ” ผมยิ้มพูดกลบเกลื่อนไปอย่างนั้น ความรู้สึกที่รับรู้ได้ชั่วขณะหนึ่งคือ..ดันเข้ามาในห้องที่ไม่ควรเข้ามาซะแล้ว ผมปิดประตูห้องลงอย่างเดิม พี่คิวเดินไปกดนู่นกดนี่ไม่พูดตอบอะไร ผมคิดว่าพี่เขาคงกำลังจะเปิดหนังให้ผมอยู่
“เค้กก็คิดว่าพี่มีแผ่นหนังแค่ตรงนั้นซะอีก” ผมชวนคุย เดินมานั่งลงที่โซฟาตัวยาวด้วย
“ในนี้ของไอ้อาหื่นนั่นน่ะ ที่ห้องนั้นของฉัน..สองมาตรฐานใช่ไหมล่ะ หึ” พี่คิวหัวเราะในลำคอ ที่ห้องหนังสือของพี่คิวนั่นก็มีแผ่นภาพยนตร์นับพันแผ่นได้ แถมยังมีในห้องนี้อีก ถ้าต้องให้มานั่งนับว่าทั้งบ้านนี้มีกี่แผ่น ผมว่าใช้เวลาถึงสองสามวันนู่นแหละครับกว่าจะนับครบหมด
“งั้น..พี่ฟ้าก็ต้องมีห้องหนังสือของพี่ฟ้าอีกซินะครับ” ผมถามด้วยความตื่นเต้น
“ก็..ใช่” พี่คิวเบะปากพร้อมพยักหน้า
“แต่อยู่ด้านบน..ที่ห้องทำงานของบอสนั่นแหละ” พี่คิวบอก ละคำว่า “อา” มาเรียกว่า “บอส” อีกแล้ว ผมได้แต่อมยิ้ม
“งั้นแสดงว่าทั้งพี่คิวทั้งพี่ฟ้าชอบดูหนังและก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันเลยใช่ป่ะ” ผมยิงคำถามไม่เลิก
“ก็..ไม่เชิง” พี่คิวตอบอย่างไม่กระหยี่ กล้าใช้ว่าไม่เชิง..มีเยอะขนาดที่ใช้คำว่า “คลั่ง” ได้แล้ว ยังกล้าพูดว่า “ไม่เชิง” อีกนะพ่อคุณ
“แล้ว..” ผมอ้าปาก
“อะไรอีก” พี่คิวหันมาขมวดคิ้วใส่เหมือนเริ่มรำคาญ
“ก็อยากรู้อ่ะ” ผมแลบลิ้นให้
“ตรงห้องหนังสือเป็นห้องของพี่คิว แล้วตรงนี้ก็เป็นซีดีของพี่ฟ้า..แล้วเป็นหนังประเภทไหนเหรอครับ แล้วทำไมต้องแยกกันด้วยอ่ะ”
“ฮื้ม” พี่คิวถอนหายใจพลางส่ายหัว
“ฉันต้องตอบใช่ไหม ไม่งั้นนายจะไม่หยุดถามใช่ไหม” พี่คิวว่าเสียงเข้ม
“ใช่” ผมยิ้มกว้างพยักหน้าตอบ
“ห้องนั้นเป็นส่วนของฉัน หนังสือส่วนของฉันทั้งหมด..ส่วนมุมนู้นเป็นแผ่นเพลงทั้งของฉันและก็ของบอสนั่น” พี่คิวชี้ไปที่มุมด้านซ้ายมือ
“ส่วนขวามือนี่เป็นซีดีหนังโซนยุโรป” พี่คิวชี้มือมาทางด้านขวามือ ผมมองตาม
“บอสหื่นนั่นชอบดู เอ่อ ฉัน..เฉยๆ” พี่เขาเบะปากพร้อมกับยักไหล่
“แล้วก็..” พี่คิวเบะปาก กระทั่งเริ่มทำหน้าแหย
“หนังเกย์”
“หึ..หึ ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะออกมาเสียงดัง ที่หัวเราะไม่ใช่เพราะหัวเราะหนังเกย์ที่พี่ฟ้าชอบดูหรอกนะครับ แต่หัวเราะหน้าตาเซ็งอาของตัวเองจากพี่คิวต่างหากล่ะ
“ส่วนชั้นที่นายเปิดเมื่อกี้..ส่วนมากเป็นหนังแอ็กชั่นไม่ก็ตลก ฉันก็ดูได้น่ะนะ..แต่ไม่ซื้อ” พี่คิวเบะปาก แสดงสีหน้าว่าไม่ได้หลงใหลอย่างออกหน้าออกตา
“อ๋อ เค้กรู้ฮะ..พี่ชอบดูการ์ตูน กับหนังโรแมนติก ขัดกับหน้าพี่ไง” ผมหัวเราะไม่หยุด
“จะดูไหม” อีกฝ่ายกลับมาทำหน้าเข้มแกมขู่
“ดูค้าบ” ผมหุบปากเพราะรับรู้ได้ถึงกลิ่นที่ไม่พอใจมากกว่าเดิม ผมเอนตัวนอนลง
“ขอนอนนะฮะ ห่มผ้าได้ไหม” ผมถามถึงผ้าห่มที่วางอยู่ด้านข้าง
“อือ” พี่คิวพยักหน้า หน้าจอเริ่มฉายโฆษณาไปเรื่อย
“พี่คิวจะไปไหน” ผมรีบถามทันทีที่เห็นพี่คิวทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง
“ไปหาอะไรกิน”
“แล้วไม่ดูด้วยกันเหรอครับ” ผมลุกขึ้นนั่งเพราะกลัวว่าพี่คิวจะไม่อยู่ดูด้วยกัน
“เดี๋ยวมา” พี่เขาอมยิ้มตอบ
“ฮะ” ผมพยักหน้ารับ
“เอ่อ..อีกคำถามนึงได้ป่ะครับ คำถามเดียวแล้วพี่ไปได้เลย” ผมยกมือขึ้นชูอย่างขออนุญาต พี่คิวหันกลับมามองหน้าผมอย่างสงสัย
“ทำไมต้องมีที่สแกนนิ้วมือด้วยล่ะ แล้วทำไมที่ห้องหนังสือถึงไม่มีที่สแกน..ทำไมล่ะครับ”
“นั่นสิ” พี่คิวแสยะยิ้มเล็กน้อย
“ทำไมกัน..” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเดินออกไปซะเฉย
“ไอ้บ้า..ต้องการคำตอบ ไม่ได้ให้มาย้อนถามสักหน่อยอ่ะ” ผมบ่นและทิ้งตัวลงนอนอย่างเซ็งๆกับผู้ชายเข้าใจยากคนนี้ จะมีวันไหนที่จะคุยกันแบบปกติเหมือนชาวบ้านเขาบ้างไหมครับเนี้ย..เฮ้อ~
................>>>><<<<................
พอดีไปรับปากคนอ่านไว้ว่า ถ้าเอาของมาเซ่นจะมาต่อตอนต่อไปให้
บุคคลผู้นั้นส่งขอเซ่นแล้ว เลยต้องมาต่อตามสัญญา.. :z3:
-
มาต่อแล้วๆๆๆ >_<"
-
พี่คิวน้องเค้กกกกกก คิดถึงมาก
รู้สึกว่าน้องเค้กเริ่มจะเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของพี่คิวทีละนิดทีละน้อย น่ารักอ่ะ
ส่วนพี่คิว คนขี้แกล้งนิสัยเสีย ฮ่าๆๆ แต่น้องก็หลอกง่ายมากอ่ะ
พี่คิวเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อน้องหน่อยสิ เค้าอยากรู้อ่ะ
ขอบคุณนะคะ มาต่อไวมากกกก รอตอนต่อไปค่ะ ^^
-
เราเลยพลอยได้อ่านไปด้วย ขอบคุณคนที่เซ่นน๊า
พี่คิวกวนจริงอ่ะ
-
:z10: อยากอ่านอีกๆๆๆ
-
เริ่มมีโลกส่วนตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ
อยู่ด้วยกันบ่อยไปละนะเนี่ย
น้องเค้กนอนดูหนัง ระวังนะจ๊ะ :t3:
ไม่ใช่อะไร กลัวพี่คิวจะแกล้งน้องเค้กมากกว่า
-
เริ่มต่อปากต่อคำกันได้เยอะขึ้นนะคะ เป็นนิมิตรหมายที่ดีเนอะ ^^
เขินพี่คิวเหมือนกันค่ะ (อะไรของเมิงงงงง 555)
-
อยากให้เค้กบอกชอบพี่คิวเร็วๆจัง ฮิฮิ
-
:z3: :z3: :z3:
พี่คิวกวนโอ๊ยมากกกกกกกกกกกกกกกก
-
อนุญาตให้น้องเค้กเข้าห้องลับเฉพาะแบบนี้ได้...คิดไรปะเนี่ยพี่คิว :z2: :z2:
กระโดดกอดคอคนแต่ง มาต่อเร็วๆนะคร้าบบบบบบบ :กอด1:
-
น้อยไปเบบี้ ไม่ได้ดั่งใจเลยยยยยยยยยยย :angry2:
แต่ก็ขอบคุณค่ะที่มาลงให้ กำลังเครียดกับการสอบพอดี :laugh:
ได้ความหวานจากน้องเค้กกับพี่คิวมาเป็นพลังงาน :-[
-
พี่คิวเริ่มให้เค้กเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นแล้วนะ :กอด1:
-
หู้วเข้าไปในห้องดูหลังส่วนตัวของพี่คิวแล้วอิอิ
พี่คิวรู้แล้วใช่มั้ยเนี่ยว่าเค๊กชอบ
หุหุ
หวานจัง
-
555 ดีใจจังมีคนเอาของเซ่นไปให้เบบี้ หุๆ
เค้กได้เข้าห้องใหม่ๆเพิ่มแล้ว แปลว่าเข้าใกล้ใจพี่คิวเข้าไปอีก ใช่มั้ย 555
แต่เค้กรู้ใจตัวเองแล้ว โดนเพื่อนแซวซะไม่มีดี 555
-
ขอบคุณผู้นำส่งของเซ่น :L2:
ทำให้ได้รับอานิสงค์อ่านตอนใหม่
+1
-
ก่อนอื่น....ขอบคุณคนที่เอาของมาเซ่นนะคะ ทำให้เราได้อ่านเร็วขึ้น :3123:
แล้วก็คือ...เค้กกกกกหนูน่ารักมากกกกกกกกอ่ะ เค้าชอบเด็กเวิ่นอ่ะ มันเหมือนจะน่ารำคาญ แต่คืออดอมยิ้มไม่ได้อ่ะ น่ารักกกกกกก :o8:
ส่วนพี่คิว.....กวน!!! o22
-
อ๊ากกกกกกกกกก อิพี่คิวมันยั่วจริงๆเชียว
ไม่ไหวนะ มีการมาบอกว่าอย่าฝันถึงละด้วย
-
น้องเค้ก น่ารัก เขินได้น่ารักมากกกกกกก
:laugh: :laugh: เห็นด้วยกะ พีท นึกภาพเค้ก ขึ้นคร่อมผู้หญิงไม่ออก จริงๆ :เฮ้อ:
พี่คิว จะแกล้งน้องเค้กไปไหนเนี้ย เค้ารู้หรอกนะ ว่าตัวเองก็แอบคิดไรก็น้องเค้กอยู่อะเซ่ะ กิ๊ส กิ้ววว :-[
o13
-
ขอบคุณท่านนักอ่านคนนั้น จริงๆ
อ๊ากกก พี่คิวน่ารักขึ้นมากกก
-
ตกหลุมรักพี่คิวแล้วอ่ะ
-
o18 o18 o18
-
พี่คิวออกจากโรงพยาบาลแล้ว
-
เหมือนพี่คิวจะน่ารักๆยังไงไม่รู้ตอนนี้ :-[
-
กร๊ากกกก เราควรเอาของไปเซ่นคนที่ไปเซ่นเบบี้อีกที ได้อ่านไปด้วย :laugh:
พี่คิวนี่ดูยากจริงๆ ว่าคิดอะไร ตรงข้ามกับเค้ก มากที่ดูง่ายมากว่าคิดอะไร
-
พี่เค๊กนี้พูดมากเนาะ 55555 ทีแรกๆแล้วทำเป็นเขิน อิอิ
-
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
:haun4: :haun4: :haun4:น่ารักมาก
-
ใครหนอใคร ส่งของเซ่นเบบี้กันแบบนี้ ช่างโดนใจเป็นที่สุด
ตกลงตอนนี้พี่คิวเปิดใจ หรือน้องเค้กนำเสนอแบบว่า ด้านได้อายอด 5555+
คุ้นๆว่า ห้องหนังนี่มันสเปเชียลรูมนี่นา กิ๊วๆ
พี่คิว นิ่งเนอะ ไม่มีหลุดเลยอ่ะ
-
:m3: :m3: :m3:
พี่คิวป่วยแต่ก้อยังป่วนเค้กได้อยู่
ห้องดูหนังพี่คิวต้องสแกนนิ้วด้วยยย วะ!!!
หวานกันเบา เบา แต่ก้อน่ารักตลอด
+เป็ดเป็นกำลังใจครับ
-
โอ้ยสงสัยงานนี้น้องเค้กจะได้คนสอนเก่งด้วยมั้งค่ะเนี้ย เจ้าเล่ย์นะค่ะพี่คิวแอบเอาน้องเค้กไปไว้ในห้องลับขนาดนั้น
จะทำอะไรมิดีมิร้ายหนูเค้กรึเปล่าเนี้ย อ้ายยยยยยย เขินวุ้ยยยย :z3:
อ่านตอนนี้แล้วพึ่งรู้เลยว่าน้องเค้กขี้อ้อน เหมือนกันนะค่ะเนี้ย ก็คนมันเบื่ออ่ะเนาะ จะให้ทำไงได้อ่ะ
พี่คิวก็อ่านแต่หนังสือไม่สนใจน้องเลยอ่ะ 555 :-[
แล้วแบบนี้จะได้ดูหนังกันรึเปล่าค่ะเนี้ย พฤติกรรมพี่คิวยิ่งหน้าสงสัยอยู่ด้วยอ่ะ พี่คิวก็รีบๆ กลับมานะค่ะ น้องเค้กอยู่คนเดียวเหงาจะแย่แล้ว :o8:
ต้องการไออุ่นจากพี่คิว ฮ่ า า อยากจะได้กลิ่นตัวพี่คิวจริงๆ จะหอมขนาดไหนค่ะเนี้ย เอาซะหนูเค้กเคลิ้มไปแล้วมั้งค่ะ
:impress2:
-
ถ้าปฎิกิริยาระหว่างกันจะน่ารักขนาดนี้ :-[
-
น่ารักอ่ะพี่คิววววววว :o8:
:L1: :L1: เค้ก&คิว
:pig4:นะคะ
-
ที่มันมีที่สแกนนิ้วเพราะมันเป็นส่วนตัวใช่ไหมล่า -..-
คงอารมณ์ว่าส่วนตัว? จากที่มาหน้าหน้า
รอดูตอนต่อไป เค้กน่ารัก555555555
พี่คิวดูอ่อนลงแล้วนะครับ ฮ่าๆ
-
พี่คิวกวนแบบน่ารักๆอ่ะ :o8:
-
คู่นี้ดั่งน้ำซึมบ่อทรายเลยทีเดียว
หวานวันละกระติ๊ด จิตแจ่มใส
:give2:
นิดนึงนะคนเขียน
“.....................” ลิฟต์ล้างเหรอ เงียบจัง..=_=
-
พี่คิวแมร่งห่าม เท่ ได้อีก
เค้กเข้ามาห้องลับส่วนตัวของพี่คิวแล้ว คนอื่นไม่น่าจะเข้ามาง่ายๆ
น่าร้ากกกก
-
:กอด1:รอลุ้นอีพี่คิวเผยตัวเองที่ละนิดๆ
-
:-[
-
อืมมมมมมมมมมมมมม..เค้กได้เข้าไปในที่ต้องห้ามได้แล้วอะ
ฮ่าๆๆๆๆๆ..พี่คิวเปิดทางให้เลยนะเนี๊ย :z1:
ปล.คิวก็ยังคงแกล้งเค้กเหมือนเดิม..--!
-
แบบนี้ต้องขอบคุณคนหาของมาเซ่นด้วยสิเนี่ย ที่ทำให้เราได้อ่านไปด้วย กร๊ากกกก น้องเค้กน่ารักกกกกกกก หนูเค้กเอ้ยยย เพื่อนเค้าจับได้นานแล้วว่าหนูชอบพี่คิว เพิ่งจะมาสารภาพเหรอจ๊ะ คุณเพื่อนนี่ก็ดีจริงๆ แซวกันเข้าไป หุหุ แล้วพี่คิวอะไรยังไง โทรมาหาน้องแค่นี้ ? แหมะ อาการหนักเหมือนกันนะพี่คิว เค้กเริ่มเข้าไปในโลกส่วนตัวของพี่คิวมากขึ้นทุกทีทุกทีแล้ว มีการแกล้งหยอกกันตลอดๆ พี่คิวเอ้ยยย แกล้งน้องตลอดเลยนะ รู้นะว่าแอบชอบใจที่น้องเป็นห่วงน่ะ เชอะ แล้วดูโซฟามีตั้งหลายตัวเจาะจงจะนั่งแต่ตัวที่เค้กนั่งนะ ถ้าไม่ได้แกล้งแล้วจะไม่สบายเนื้อสบายตัวเหรอคะคุณพี่คิว เยอะนะช่วงนี้ กรั่กๆ พี่คิวพาน้องไปดูหนังที่ห้องส่วนตัวที่ดูเหมือนจะเข้าได้เฉพาะคนสำคัญและคนสนิทแล้วนะเนี่ย ห้องเปียโนห้องนั้นมันสำคัญยังไงเนี่ย บรรยากาศดูหวานๆและเหงาๆไปในคราวเดียวกัน คงไม่เกี่ยวกับแฟนเก่าพี่คิวมั้งนั่น เห้อ ~ น้องเค้กของเราเนี่ยชอบพี่คิวขั้นหนักแล้ว ส่วนพี่คิวละขอความชัดเจนด้วยค่า อย่าได้แค่หยอกแค่แกล้ง อย่างน้องเค้กต้องชัดเจน นะพี่คิว เข้าใจ๋ ?
-
อ๊ากกก :m1:..น่ารักอีกแล้ว
เค้กกล้าพูดกล้าถามมากขึ้น
และพี่คิวก็เหมือนจะยิ้มจะคุยกะเค้กมากขึ้นด้วยเช่นกัน
(แอบอยากให้เค้กอยู่ใกล้ๆด้วยใช่ม๊า..พี่คิว :m12: )
-
พี่คิวขี้เก๊กอ่ะ
เรียกร้องความสนใจแบบเงียบๆเหรอคร้าบบบบ
น้องยังเด็กบอกน้องตรงๆเลย
:L2: :L2:
ขอบคุณผู้อ่านท่านที่ส่งของกำนัลไปให้เบบี้ด้วยนะคร้าบบบบบ :pig4:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
น่ารักมากอ่า ชอบบบบบบ แบบแอบหวานแอบตามใจซึ่งกันและกัน ^^
สักวันหนังเกย์พวกนั้นพี่คิวจะย่องไปเอามาดู 5555
ขอบคุณเบบี้และนักอ่านที่เอาของไปเซ่นด้วยนะคะ ^^
-
เค้กโดนแกล้งอีกเเระ 55555+
พี่คิวก็น้าาา หมั่นเขี้ยวน้องอ่ะดิ ทำให้เขินทีไรตัวเองคงมีความสุข 555
พี่คิวก็ดูเปิดกะน้องมากขึ้นมากๆเลยน้าา เค้กเริ่มเป็นส่วนหนึ่งของพี่คิวมากขึ้นเเล้วสิ อิอิ
ขอบคุณบุคคลผู้นั้นที่ส่งขอเซ่นค่าา ได้อ่านตอนนี้ไว ชอบๆ ^^
-
:o8: :o8: :o8:
-
คู่นี้เค้าเหมาะสมกันดีนะ คนนึงเงียบ อีกคนก็พูดมาก...
คิวขี้แกล้งอ่ะ รู้ว่าเค้กชอบเอาใหญ่เลย o18 ... บรรยายห้องดูหนังซะ o13 อยากได้ซักห้องเลยอ่ะ
:pig4: :กอด1:
-
เค้กเข้าไปห้องดูหนังได้แล้ว ต่อไปห้องนนรึเปล่าน้าว่าแต่ทำไมต้องสแกนนิ้วมือด้วยอะ :z2:
-
น่ารักจัง
เริ่มเข้าไปใกล้โลกส่วนตัว ของพี่คิวเรื่อยๆแล้วอ่ะ
><
เจินแทนน้องเค้กผู้อ่านง่าย ฮ่าๆๆๆ
-
อยู่กันสองคนจนเป็นปกติล่ะนะ หึหึ
-
พี่คิวน่ารักกกกกกกกกแอบน่ารักขึ้นนะเนี่ยะๆๆๆ เค้กก็รู้ใจตัวเองแล้วสิ รอตอนต่อไป อิอิ
-
เค้กบอกเพื่อนแล้วอ่ะ
รู้สึกว่าเพื่อนจะไม่ค่อยตกใจกันเท่าไหร่เลย :jul3:
เค้กหน้าตาออกไปทางหล่อ หรือน่ารักกันเนี่ย
ถึงมีเมียไม่รุ่งอ่ะ อิอิ
เพื่อนๆ ล้อเค้กได้โดนใจคนอ่านมากค่ะ 555+
พี่คิวก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงตามแบบฉบับคิวปิด (น่ารักตลอดอ่ะคนนี้)
:กอด1:
-
เริ่มสนิทกันขึ้นทีละนิดๆ
เซฟเหมือนจะให้ความสนใจกับเค้กมากกว่าใครเพื่อนเลยนะ
-
น่ารักมากกกก พี่คิวกับน้องเค้กทำคนอ่านคลั่ง
ยิ่งอ่านยิ่งหุบยิ้มไม่ได้ ไม่ไหวๆ :laugh:
ขอบคุณนะคะ :กอด1:
-
บ้านที่มีเด็ก
ส่วนของหนังผู้ใหญ่
ก็น่าจะมีห้องเก็บ+ใช้สแกนนิ้วเหมือนกันนะ
:laugh:
-
จะน่ารักเกินไปแล้ว ฮ่าๆๆ
-
o13
-
มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้จัง :กอด1:
-
มันต้ิิองเ้ป็นห้องลับสำหรับคนพิเศษแน่เลยเค้่ก ถึงได้สแกนนิ้ว งั้นเค้กก็เป็นคนพิเศษของพี่คิวนะซิ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
วันนี้น้องเค้กเราเป็นเจ้าหนูจำไมเลย ถามไม่หยุด 555
-
พี่คิวกวน แต่น่ารักอ่ะ :-[ :impress2:
-
เมื่อไรจะเป็นแฟนกันสักทีว่ะ
-
เริ่มเข้ามาในส่วนโซนพื้นที่ส่วนตัวแล้ว :z2:
:กอด1:
-
อ่านแล้วมีความสุข อ๊า :-[
-
Songkhon sanit kan maak kwaa derm laew nor,,hu hu hu....
-
ดูพี่คิวเปิดใจให้เค้กเข้ามาในชีวิตมากขึ้น
ทีละน้อย ทีละน้อย แต่ก็ดูยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่นะ
ไม่รู้ว่าพี่คิวนี่ อะไรยังไงกันแน่..
-
อืมๆๆ พี่คิวแตกต่างจากพระเอกคนอื่นจริงๆๆๆ มิน่า คนแต่งหลงเอามากๆๆๆ(เกี่ยวไหม)
นู๋เค้กน่ารักนะเนี่ยเด็กดีจริงๆๆ พี่คิวก้อแกล้งน้องตลอด
-
ค่อยๆรักกันเบาๆ
-
เค้กเบื่อ... โอ้ยยยยน่ารักมากกก
ถ้าจะอ้อนได้น่ารักขนาดนี้ :impress2:
-
พี่คิวน่ารักนะ :o8:
-
พี่คิวพาเค้กมาห้องที่ต้องสแกนลายนิ้วมือก่อนเข้า
ถ้าคิดเฉยๆ ก้อพามาดูหนังไงจะได้ไม่มีใครรบกวน :impress2:
คิดแบบหื่นๆ "มีเธอกับฉันแค่สองคน ชื๊อ ชือ ชือ ชื๊อ" คิดจะทำอะไรเค้กรึเปล่าพี่คิว :oo1:
-
แอร๊ยยยย!! นู๋เค้ก :impress2:
P.S. อยากกินเค้ก เว้ย เฮ้ย :pigha2:
-
อุ้ยย
ขอบพระคุณคนเข้าของมาเซ่นอย่างยิ่ง เจ้าค่า
พี่คิวนับวันยิ่งน่ารักนะ ฮ่าๆ
มีให้เค้กเข้ามาในห้องลับด้วย หึหึ
แล้วทีนี่จะยังไงต่อละเนี่ยยยย
พี่คิวอาจไม่เยอะ แต่เค้กอ่ะดิ ไปไกลแล้วมั้งลูก 5555555
-
เหมือนพี่คิวจะพูดเยอะขึ้นมานิดนึง :laugh:
ได้เข้าห้องส่วนตัวด้วย พัฒนาๆ
ขอบคุณของเซ่นและขอบคุณเบบี้ :กอด1:
-
เค้กความรู้สึกช้าตลอดอ่ะ
พี่คิวนี่ก็ซึนเดเระั อิอิ
:impress2: ตอนนี้น่ารักอ่ะ
-
เป็นคนสำคัญแล้วสินะ
-
น่ารักอะะะ โอ้ยชอบจังเลย >O<
-
ที่ต้องสแกนนิ้วมือ เพราะมันเป็นห้องแห่งความลับไงเค้กกกกกก :m26:
แบบว่า กำลังดูหนังมันส์ๆ ถ้ามีใครเปิดเข้ามาขัดจังหวะ คงรมณ์เสียน่าดู :haun4:
-
อย่างนี้เค้าเรียกว่ากวนเพราะรักใช่ป่าวพี่คิว :-[
แกล้งเค้กอยู่ได้
-
พี่คิวนี่เหมือนปั่นหัวเค้กเลยเนาะ แต่ทำไมเราชอบว่ะ ฮ่าๆๆ
เค้กน่ารัก มากกกกกกก
-
เหมาะสมกันดี
-
โอ๊ยยยยยยยยยย ตั้งแต่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าชอบพี่คิวนี่ ดูเก่งในการเข้าหาขึ้นเยอะเลยนะเค้ก
น่ารักอ่ะ ถามนู้นนี่นั่น ถ้าได้กัน(?)แล้วคงโดนจับปิดปากด้วย... (อะไรดี)
พี่คิวก็ชอบแกล้งอ่า แกล้งจนเราเริ่มกลัว.. กลัวน้องเค้กจะเสียใจ (กร๊าก จิ้นเอาเองอีกล่ะ)
ปล.เค้กควรตระหนัก.. เข้ามาได้ขนาดนี้แล้วนั้น ถือว่าเธอสำคัญมากแล้วนะ แอร๊ยยยยยยยย
ตอนหน้าเบบี้บอกว่า....... งื้ออออออออ ตื่นเต้น..ๆๆๆๆๆ
-
ฮร๊ากกกกกกกกกกก ไม่น่าเลยตูยิ่งถลำลึกเข้าไปอีกไอ้น้องบี้มาทำให้อยากแล้วก็จากไป กว่าจะได้อ่านต่ออีกเมื่อไหร่วะเนี่ย :m31:
พี่คิวพาเข้าห้องแห่งความลับ((ส่วนตั๊ว ส่วนตัว))กันเพียงลำพังแบบนี้ ตอนหน้าจะมีเหตุการณ์ไรเกิดขึ้นมั๊ยเนี่ย อยากรู้ววววววอีกแล้ววว
ขอยุน้องเค้ก รู้ใจยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้แล้วก็เดินหน้าไปเลยน้อง โอกาสเปิดแล้วรุกกลับไอ้พี่เชฟบ้าอำนาจ+ขี้แกล้งเอาให้จ๋อยไปเลยน้อง กล้าๆ อ้อนๆ แบบตอนนี้แหละเด๋วก็เสร็จเรา เชื่อดิ...คึคึ
ขอบคุณไอ้น้องบี้+++
:กอด1:
ปล.ขอบคุณของเซ่นด้วยค่ะ...อิอิ
-
เอาแล้ววววววว ได้เข้าห้องลับแล้ววววววว :-[
-
คิดถังอ่่ะ ทั้งเค้ก ทั้งพี่คิว เลย
คิดถึงคนเขียนด้วย
^______^
-
ห้องต่อไปที่เค้กควรเข้าคือห้องนอนพี่คิวนะจ๊ะ ^^
-
วันนี้ น้องเค้ก เป็นหนูจำไม
ส่วนพี่คิว ยังคงรักษาสถานภาพ นิ่ง กวน แต่ก็น่ากอด สำหรับน้องเค้ก :o8:
+1 ให้เป็นกำลังใจ สำหรับตอนนี้ แม้ต้องเซ่นด้วยของอะไรก็ไม่รู้ ก็ตาม :z1:
ปล. ขอบคุณสำหรับ คนนิรนาม ที่นำของมาเซ่นหนูเบบี้ :กอด1:
-
ห้องแห่งความลับของพี่คิวกับน้องเค้ก :-[
แอร๊ยย คิดเข้าข้างตัวเองบ้งก็ได้นะน้องเค้ก ทำไมน้อ พี่คิวถึงให้น้องเค้กเข้าห้องที่ต้องสแกนลายนิ้วมือง่ายๆแบบนี้
ถ้ายังจำได้ พวกพี่ๆที่ร้านซักคนเคยบอกว่าห้องนี้เป็นห้องสุดหวงของพี่คิว แล้วก็ยังไม่มีใครเคยเข้าไปในนั้นน้า :z1:
น่ารักๆๆๆ เบบี้ก็น่ารัก :กอด1:
-
อยากรู้ความรู้สึกของพี่คิวเหมือนกัน
เพราะถ้าพี่คิวไม่เริ่มจีบก่อน
น้องเค้กมันก็คงได้แค่แอบรักแหงม
-
พี่คิวก็ยังทำตัวน่าเตะเหมือนเดิมเด๊ะ
สงสารน้องมั่งเด้
เดี๋ยวน้องมันก็ชอบเก้อพอดีอ่ะ
-
เค้กเหมือนเด็กเลย แต่คิวทำไมแกชอบกวน
-
เค้กยอมรับแล้วว่าชอบพี่คิวสุดโหด :-[
และที่สำคัญมากน้องเค้กสามารถบุกได้ถึงพื้นที่หวงห้ามแล้ว :z2:
:pig4: คะ
-
พี่คิวน่ารักนะ แต่กวนมากอ่ะ 555+
-
พี่คิวกวนตีนที่สุด แต่ก้นะ :o9:
เค้กน่ารัก เป็นเด็กที่น่ารักน่าหยิกจริงๆ :impress2:
เค้กลองคิดดูนะว่าทำไมห้องนี้กับห้องนั้นมันไม่เหมือนกัน
ถ้าให้คนอ่านคิดมันจะไปไกลกว่าความเป็นจริง :laugh:
ปล.รักคนเอาของมาเซ่นเบบี้มาก และรักเบบี้มากเช่นกัน :กอด1:
แต่อยากอ่านอีก o11รอตอนต่อไปนะคะ o18
-
เบบี้นี่น่ารักจริงๆ
ทำตามสัญญา
:pig4:คนอ่านผู้นั้น
บวกเป็ด
-
ขอบคุณคนเซ่นอย่างรุนแรงนะฮับบบบ กำลังคิดถึงอยู่พอดี 555555
:กอด1: :L2: :3123:
-
สนุกมากๆเลยเค้กคิว กำลังได้ลุ้นแล้วละ ต่อไปจะเป็นแบบไหนค่อยว่ากันอีกทีนะครับ
-
เค้กได้รุกคืบเข้าไปอีกห้องหนึ่งของพี่คิวแล้ว
เมื่อไหร่จะได้เข้าครบทุกห้องนะเนี่ย อิ อิ
-
ได้เข้าไปในที่ส่วนตัว!
พี่คิว-น้องเค้ก พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว อิอิ
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
-
อร๊ายยยยยย พี่คิวพาเค้กเข้าไปในโซนส่วนตัวด้วย อิอิ เริ่มเปิดใจมากขึ้นอ่ะ คริ ๆ ชอบจังเลย ^^
-
โอ๊ยยยย เขินบักคัก ชอบๆๆๆๆๆ
เค้กนารักมากอ่า าา~
------------------
ขอบคุณนักอ่านที่เซ่นพี่บี้
ปล เดี๋ยวเค้าเซ่นพี่บ้าง55555
-
คึคึ :z1:ห้องแห่งความลับของเค้ก
-
:impress2: :o8: :-[
มีฟามสุข อิอิ
ขอบคุณ เบบี้ นะคับ ;))
-
อยากไปห้องอาฟ้าสักครั้ง -.,- :z2:
-
พี่คิวเริ่มให้น้องคิวเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นแล้ว
คืบหน้าไปอีกขั้น สู้ๆนะเค้ก
ขอบคุณคนเอาของมาเซ่นเบบี้
ขอบคุณเบบี้ ที่แต่งนิยายน่ารักๆมาให้อ่าน
:pig4:
-
คิวนี่ก็ชอบแกล้งน้องจิงๆเลยนะะ. ส่วนเค้กก็น่ารักชะมัด
-
ได้เข้าห้องดูหนังแล้ว ต่อไปก็ต้องเป็นห้องนอน สุดท้ายก็........รุกฆาต
ว่าแต่เปียโนหลังนั้นมีประวัติอะไรหนอ
-
พี่คิวเจ้าเล่ห์ว่ะ อยากแตะอั๋งน้องแต่ไม่เข้าหาเอง ให้น้องเข้าไปกอดเพื่อพยุง แต่ๆหนูเค้กก็ชอบใช่ไหมลูก 555
ห้องนั้นเป็นห้องอะไรน้า
-
เมื่อไรจะลงเอยกันสักทีนะ
-
เหมือนพี่คิวเปิดรับน้องเค้กมากขึ้นนะ
มีการให้เข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวด้วยอ่ะ
แต่น้องเค้กจะรู้ถึงความพิเศษนี้มั๊ยนะ
พี่คิวนี่กวนอารมณ์น้องเค้กชะมัดเลย :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
และต้องขอบคุณคนที่เอาของมาเซ่นคนเขียนด้วยเช่นกันค่ะ :pig4:
-
ดีใจแทนน้องเค้ก เริ่มได้เรียนรู้โลกของพี่คิวมากขึ้น กิสสสสส
:impress2:
ปล.พี่คิวแม่งเด็กหว่ะค่ะ ขี้หวงงงงงงง
-
คู่นี้เค้าคืบหน้ากันเรื่อยๆดีเนาะ....... :impress2: :impress2:
น่ารักดี o13 o13 o13
สู้ตายเบบี้ :laugh: :laugh:
-
อะไรยังไงพี่คิว
-
อ๊าก จิกหมอนด้วยอาการเขิน
ขอบคุณ เบบี้
-
สารภาพว่าอ่านที่บรรยายห้องดูหนังบ้านพี่คิวหลายรอบมาก...จินตนาการไม่ถึง ฮ่าๆ
ปล. ห้องเปียโนนั่นเป็นห้องเอาไว้ระลึกถึงแฟนเก่าพี่คิวเหรอคะ :เฮ้อ:
-
"หนังเกย์" พออ่านถึงคำนี้... แล้วมัน... :m20: :m20: :m20:
โดนใจอ่ะ!! :m25:
-
โอ๊ยยยย น่าร้ากกกกกกกกก :-[
ดูเค้กก็เป็นคนสำคัญของพี่คิวนะ ได้เข้าห้องดูหนังด้วย อิอิ
ฮาาาา เค้กตอนคุยกับแก้วกับพีท เค้กเอ๊ยยยย โดนเพื่อนหัวเราะใหญ่ :laugh:
เป็นเราก็อยากแซวอ่ะนะ อิอิ
รออ่านต่อค่ะๆ ใกล้ชิดมากขึ้นทุกทีๆๆๆ ช่วงนี้หวาน เดี๋ยวจะมีดราม่าหรือเปล่านะ ฮ่าๆๆ
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ขอบคุณผู้ส่งของเซ่น น้องเบบี้ :pig4:
ขอบคุณเบบี้ ที่สละเวลามาต่อให้ อิอิ :กอด1:
-
น้องเค้กค่อย ๆ เข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวของพี่คิวแล้วอ่ะนะ
อีกหน่อยก็คงค่อย ๆ ย้ายเข้าไปอยู่ในหัวใจของพี่คิวโน๊ะ :-[
-
นับวันยิ่งน่ารักอ่ะเค้ก
-
โอ๊ยยย มันน่ารักเกินไปแล้วอ่ะคู่นี้ พี่คิวขยันแกล้งเค้กจริงๆ เลยอ่ะ ^^
-
:o8:พี่คิวน่ารักอ่ะ o13
-
และแล้วเค้กก็ยอมรับว่าชอบพี่คิวว ว
แล้วพี่คิวล่ะคะะ ชอบน้องเค้กบ้างรึยังงงง
>///<
:กอด1:
-
:กอด1: กอดคนเซ่นน้องบี้ อร๊ายยขอบคุณค่ะ
อ่านแล้วไม่รู้จะฟินยังไงแล้ว
พี่คิวววววว แกรก็ชอบน้องมานใช่ม๊ายยฮร๊าาาาาา อย่ามาทำเป็นแกล้งน้องอยู่ได้อ่ะ
น้องเค้กขรา น้องเค้กรู้ป่าวว่าน้องเค้กสำคัญแค่ไหน ถึงได้เข้าห้องแห่งความลับสุดหวงได้อ่ะ
สแกนนิ้วมือนี่ เป็นห้องสำคัญมากๆเลยนะ อร๊ายยยยย อยากอ่านต่อ ว่าจะหวานแค่ไหน
ขอบคุณค่ะ
-
เค้กพูดมากนะเนี่ย
แต่ก็น่ารัก
เขิลกลบเกลื่อน
อีพี่คิว 5555
น่ารักโว้ยยยยยย
-
~40~
“แหม วี๊ดวิ้วกันจริงเลยนะ” ผมกับพี่คิวที่ต่างคนต่างนอนอยู่บนโซฟาคนละตัวเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกัน พี่ฟ้าเดินยิ้มกว้างเข้ามาในห้อง
“สวัสดีครับพี่ฟ้า” ผมรีบลุกขึ้นนั่ง
“ขอบคุณมากนะเค้ก ที่ไปรับหลานชายสุดที่รักแทนพี่น่ะ” พี่ฟ้าพูด คำว่า “หลานชายสุดที่รัก” ดูจะเป็นการประชดประชันบุคคลที่กล่าวถึงเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มตอบ
“มากันแล้วเหรอ” พี่คิวถามและลุกขึ้นนั่ง หนังที่กำลังเล่นอยู่นี้เป็นเรื่องที่สองแล้วระหว่างที่เรากำลังรอทุกคนเดินทางมา
“อื้อ..ป้านิดคงทำกับข้าวเสร็จแล้วล่ะมั้ง” พี่ฟ้าบอก
“ไปกินข้าวกันดีกว่าเค้ก ดูมากี่เรื่องแล้วล่ะเนี้ย”
“นี่เรื่องที่สองแล้วครับ” ผมตอบ
“งั้นเหรอ..ลุกเร็วครับ” พี่ฟ้าชวนและเดินออกจากห้องไป พี่คิวเดินไปปิดหนัง ผมยืนรอ จะเดินออกมาก่อนก็กลัวว่าจะเสียมารยาท พอพี่คิวจัดการปิดไฟและปิดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราจึงเดินออกจากห้องมาพร้อมกัน
“พี่คิว..หวัดดีค่า” พี่ซียิ้มทักพี่คิว พี่คิวหันไปยิ้มตอบหน่อยๆ อยู่ๆพี่ซีก็เบิกตาโพรงเมื่อหันมาเห็นว่ามีผมเดินตามพี่คิวมาด้วย
“เค้ก!” ผมหันไปมองเสียงอุทาน พี่กัสวิ่งตรงมาหาผมอย่างรวดเร็ว ผมหยุดเดินและมองหน้าพี่กัสอย่างแปลกใจ ส่วนพี่คิวเดินหนีไปแล้วละครับ ผู้ชายอย่างนั้นจะรู้ร้อนรู้หนาวกับเสียงใดๆกันล่ะ
“ดูหนังกับพี่คิวอยู่เหรอ” พี่กัสเบิกตาโพรง พี่ซีเดินเข้ามากอดแขนผมด้วยอีกคน
“ใช่ครับ” ผมพยักหน้าตอบอย่างไม่เข้าใจว่าแค่นี้ทำไมต้องตกใจกันขนาดนี้ด้วย
“จริงอ่ะ!!” ทั้งสองคนอุทานพร้อมกัน
“จ..จริงครับ” ผมตอบตะกุกตะกัก
“โอ้ว มายก๊อด!” พี่ซีนำมือขึ้นปิดปาก
“อะไรเหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัย
“ที่ห้องนั่นน่ะนะ” พี่กัสชี้นิ้วไปที่ห้องเดิม คล้ายกับต้องการย้ำถึงห้องที่ผมเข้าไปดูหนังกับพี่คิวเมื่อกี้
“ใช่ฮะ” ผมยิ้มตอบในทันที
“โอ้วววว..คุณพระ” พี่กัสกับพี่ซีประสานเสียงพร้อมกันอีกครั้ง พร้อมกับกลอกตาไปมาทำท่าคล้ายกับคนจะเป็นลม
“เหอะๆ” ผมหัวเราะแห้งๆเพราะยังคงไม่เข้าใจกับสองคนนี้ต่อไป
“ปกติพี่คิวไม่ค่อยให้ใครเข้าไปในห้องนั้นหรอกนะ เป็นเหมือนห้องของพี่ฟ้าก็จริง..แต่พี่คิวน่ะหวงห้องนั้นจะตายไป” พี่ซีกระซิบบอก
“ใช่ๆ” พี่กัสสมทบ
“ขนาดเวลาที่พวกพี่มาดูหนัง ยังได้ดูที่ห้องรับรองแขกห้องใหญ่นั่นเลยอ่ะ” พี่ซีว่าหน้างอเหมือนกับน้อยใจอย่างนั้น พร้อมกับชี้ไปที่ห้องรับรองแขกห้องใหญ่เหมือนต้องการจะฟ้องอีกด้วย
“ใช่ๆ” พี่กัสพยักหน้าเห็นด้วยอีกคน ห้องรับรองแขกห้องใหญ่ที่ว่าเป็นห้องที่มีครบทุกอย่าง ผมทราบมาว่าบางครั้งพี่ฟ้าจะจัดปาร์ตี้ที่บ้าน มีเพื่อนชาวต่างชาติมาเยี่ยมครั้งละค่อนข้างเยอะ บางครั้งไม่ต่ำกว่าสามสิบคน ทำให้ในห้องนั้นต้องมีทุกอย่างครบครันเพื่อมีไว้อำนวยความสะดวกสบาย
“ห้องรับแขกก็มีโทรทัศน์ ห้องรับรองแขกห้องใหญ่ก็มีโทรทัศน์ ทำไมไม่ให้ดูห้องนั้นล่ะ” พี่กัสขึ้นเสียงพร้อมกับมือที่ชี้ไปมามั่วไปหมด
“ใช่ๆ” พี่ซีพยักหน้า ผมได้แต่ยิ้มแหยเพราะกำลังเรียกสติของตัวเอง คำว่า “ใช่ๆ” ที่หลุดออกมาจากพวกพี่ๆหลายต่อหลายครั้งกำลังทำให้ผมเวียนหัวเล็กน้อย
“เค้ก..ไม่รู้สิครับ” ผมตอบเสียงเบา
“ในห้องนั้นน่ะมีเปียโนสีขาวอยู่ใช่ปะล่ะ นั่นน่ะ..เปียโนตัวโปรดของพี่คิวเลยล่ะ แต่ถ้าเปียโนของอาฟ้าน่ะนะ อยู่ที่ห้องรับรองแขกต่างหากล่ะ พี่คิวหวงเปียโนตัวนั้นจะตายไป..ไม่ค่อยให้ใครเข้าไปหรอก นอกจากเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์แล้วก็อาฟ้า ขนาดพี่เซ็นยังโดนห้ามเลยด้วยซ้ำ..เนอะกัสเนอะ” พี่ซีพูดไม่หยุด
“............” ผมยืนอึ้ง ใจเต้นตึกตักขึ้นมา ตอนนี้หัวใจผมพองโตอย่างกับโดนสารภาพรัก ผมยิ้มน้อยๆตอบพวกพี่เขา และผมนึกไม่ผิดจริงๆว่าห้องนั้นคงมีความสำคัญมาก อันที่จริงแล้ว..คงไม่ใช่ห้องที่มีความสำคัญ สิ่งสำคัญคงอยู่ที่แกรนเปียโนที่อยู่ในนั่นต่างหาก
“งั้นเหรอครับ” ผมพยายามทำอาการของตัวเองให้เป็นปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดีใจ..ทำไมผมถึงดีใจได้มากขนาดนี้
“คุยอะไรกันอยู่เหรอคะ..เด็กๆ” ผมทั้งสามคนหันไปมอง พี่ฝันเดินเข้ามาพอดี
“สวัสดีค่ะพี่ฝัน” พี่ซียกมือไหว้ พี่กัสและผมยกมือไหว้ตาม พี่ฝันอมยิ้มและพยักหน้าตอบให้น้อยๆ
“ดูสนุกเชียว คุยอะไรกันอยู่เหรอ” เธอเดินยิ้มเข้ามา
“ก็..เรื่องพี่คิวน่ะค่ะ พี่ฝัน..ซีจะเล่าอะไรให้ฟัง” พี่ซีเดินเข้าไปหาพี่ฝัน
“เมื่อกี้น่ะ เค้กเข้าไปดูหนังกับพี่คิวในห้องนั้นแหละ” พี่ซีเล่าในทันที ผมชะงัก พี่ฝันเหลือบสายตามามองผม ผมยิ้มให้เธอและก็ต้องหันหน้าหนี
“ไปกันเถอะครับพี่กัส” ผมกระซิบพร้อมกับดึงแขนพี่กัสเบาๆ พี่ซีกำลังเล่าเรื่องของผมกับพี่คิวอย่างออกรส ผมไม่อยากยืนฟังต่อเพราะผมทำตัวและทำหน้าไม่ถูก เมื่อกี้ที่กำลังมีอาการเพ้อหลุดโลก แต่ตอนนี้ผมกำลังกลับเข้าสู่สภาวะของความเป็นจริง ที่ถ้าบวกลบคูณหารดูแล้ว ความเป็นไปได้ช่างน้อยเสียเหลือเกิน..
ปาร์ตี้เย็นนั้นผมไม่ค่อยได้คุยกับพี่คิวเท่าไหร่ ผมขลุกตัวอยู่กับพี่กัสและพี่ซีตลอดเวลา ทุกคนต่างสังสรรค์เฮฮา พี่ฝันนั่งอยู่กับพี่คิวตลอด บรรยากาศรอบตัวระหว่างพี่ฟ้า พี่เซ็น พี่คิวและพี่ฝันทำให้ผมได้รู้สึกตัวว่าผมห่างกับพวกพี่เขาราวฟ้ากับเหวอย่างที่พี่ฝันเคยพูดเตือนไว้นั่นล่ะ
พี่เซ็น พี่คิว พี่ฟ้าและพี่ฝันนั่งคุยและจิบไวน์ไปพลาง ส่วนพี่หมี พี่ออฟ พี่ซี พี่กัส พี่รุจและผมนั่งเล่นเกมดูหนังไปเรื่อยตามประสา หลังจากที่เราทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย พี่กัสเป็นคนอาสาไปส่งผมโดยมีคนรถที่บ้านของพี่กัสมารับ
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
หลังจากงานปาร์ตี้ที่บ้านพี่ฟ้าวันนั้นสองสามวัน ผมกับพี่คิวแทบไม่ได้คุยกันเลย สองวันที่ไม่ใช่เวรการทำงานของผมทำให้เราไม่ได้เจอกัน ส่วนเมื่อวานพี่หมีอาสาไปส่งผมที่บ้านเพราะพี่ฟ้าและพี่คิวมีธุระทางบ้านที่ต้องไปทำ ถึงแม้ว่าผมจะนึกถึงพี่เขาบ่อยๆแต่การที่ไม่ได้เจอหน้ากันก็ดีเหมือนกันเพราะผมจะได้ไม่ต้องมีอาการแปลกๆบ่อยๆ
“เค้กๆ” พี่ฟ้าวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากร้าน
“ครับ”
“เค้กช่วยพี่หน่อยนะ คือ..ไอ้หลานบ้ามันดันบอกให้พี่เอาเอกสารไปให้มันเดี๋ยวนี้น่ะ มันจะแกล้งพี่อ่ะ..แต่ตอนนี้พี่มีธุระต้องไปทำ พี่รีบมากเลย เรื่องคอขาดบาดตาย” พี่ฟ้าพูดรัวตาเบิกโต ผมพยายามจับใจความว่าพี่ฟ้าต้องการอะไร
“ค..ครับ” ผมพยักหน้าอย่างงงๆ มือรับซองสีน้ำตาลเข้ามาถือไว้
“คือมันให้เวลาพี่แค่ชั่วโมงเดียว ถ้าเอกสารไม่ถึงมือมัน..มันยกเลิกงานของพี่แน่ๆ”
“นะเค้กนะ ช่วยพี่หน่อย..พี่ให้เค้กฟรีเลยวันนี้ เอาของไปให้มันแล้วกลับบ้านได้เลยนะครับ ไม่ต้องกลับมาทำงาน” พี่ฟ้าบอก ผมพยักหน้าตอบ
“พี่ไปแล้วนะ เออนี่ค่ารถ” พี่ฟ้าหยิบแบงก์ห้าร้อยออกมาและยัดใส่มือผม
“มันเยอะไปครับ” ผมรีบบอก
“ไม่เป็นไรครับ เป็นค่าขนมแล้วกัน..พี่ไปแล้วจ้ะ ฝากด้วยนะ”
“ไปให้ทันหนึ่งชั่วโมงนะเค้ก..เค้กก็รู้ใช่ไหมว่าไอ้คิวมันกวนตีนขนาดไหน เอกสารนี่สำคัญมาก..ได้โปรดรักษาเยี่ยงชีวิต” พี่ฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และอยู่ๆก็เข้ามาหอมแก้มผมซะเฉยก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถและขับออกไป ผมยังคงยืนจับแก้มตัวเองอย่างปรับอารมณ์ไม่ทัน
“เฮ้อ..” ผมเหลือบมองเงินในมือของตัวเอง
“หึ ห้าร้อยแน่ะ” ผมชูแบงก์ขึ้นเหนือหัว คนรวยนี่ให้เงินง่ายดีจังนะ บางคนหาแทบตายกว่าจะได้แบงก์ใบนี้มาครอบครอง ถ้าจะบอกว่าแบงก์ห้าร้อยนี่คือเงินค่าจ้างสำหรับวันนี้ ผมคงต้องรักษาเอกสารนี้เยี่ยงชีวิตจริงๆละมังครับ
ผมก้าวเดินออกจากร้านเพื่อไปเรียกวินมอเตอร์ไซด์ที่หน้าปากซอย ผมเหมาให้พี่วินมอเตอร์ไซด์ขับไปส่งถึงที่บ้านพี่คิวเลย ผมคิดว่าคงใช้เวลาไม่เกินสามสิบนาทีแน่ๆ ราคาไม่ถึงสามร้อยบาทคงเป็นเป้าหมายสำหรับผม และประหยัดเวลาคงเป็นเป้าหมายที่พี่ฟ้าต้องการด้วย
เมื่อถึงหน้าบ้าน..ประตูรั้วเปิดอยู่ ผมชะเง้อมองคนในบ้าน ถึงจะมาบ่อยครั้งแล้วแต่ผมกลับยังรู้สึกว่าไม่กล้าเข้าไปตามอำเภอใจ เมื่อลุงโก๋เห็นว่าผมยืนอยู่ แกละมือจากกระถางต้นไม้และรีบวิ่งมาหาผมในทันที
“โทษทีครับ ลุงกำลังทำสวนน่ะครับ รถขนต้นไม้เพิ่งมาขนไปเมื่อกี้เลยเปิดประตูทิ้งไว้” ลุงโก๋รีบบอก ลุงแกพูดอย่างกับผมเป็นเจ้าของบ้าน หรือไม่..อาจจะกลัวว่าผมจะนำเรื่องนี้ไปฟ้องกับเจ้าของบ้าน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่รีบแก้ตัวขนาดนี้
“ครับ คือ..พี่คิวอยู่รึเปล่าครับ” ผมยิ้ม
“อยู่ครับๆ ข้างในบ้านเลยครับคุณ” ลุงบอก ผมพยักหน้ารับและเดินตรงไปที่ตัวบ้านอย่างคุ้นชิน ผมเดินผ่านห้องโถง ห้องรับแขกเพื่อที่จะเดินตรงไปที่ห้องหนังสือที่ประจำเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงอยู่ที่นั่นแน่ ในบ้านเงียบสงัด ถ้าคนไม่เคยมาอาจจะคิดว่าบ้านนี้ไม่มีใครอยู่..ซึ่งจริงๆแล้ว เงียบเป็นประจำแบบนี้ทุกวัน
“ฝันแค่อยากเตือนสติคิว” ผมชะงัก หันซ้ายไปตามเสียงที่น่าจะมาจากห้องที่ผมดูหนังในวันนั้น
“ฝันอย่ามายุ่ง” เสียงจากพี่คิวพูดตอบ ผมหยุดยืนนิ่ง ตัวแข็งไปในทันที รู้สึกอยากรู้ว่าทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกัน ผมกำลังเลือกที่จะไม่เดินหนีอย่างที่ในใจกำลังบอกผมว่านี่มันเป็นการเสียมารยาท
“คิว..คิวไม่เคยเป็นแบบนี้ นี่ไม่ใช่” พี่ฝันว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ บ้านที่เงียบมากทำให้ผมได้ยินชัดทุกคำพูด
“เวลามันคงจะผ่านมานานจนคิวคงจะลืมไปสินะว่าคิวเคยรักใครน่ะ” พี่ฝันลดน้ำเสียงเย็นลง พี่ทั้งสองคนกำลังคุยถึงเรื่องผู้หญิงที่ชื่อปรายนั่นสินะครับ
“คิวรู้ตัวดี” พี่คิวว่าเสียงเย็นเช่นกัน
“คิวไม่รู้ตัว ไม่..ไม่เลยสักนิด!” อยู่ๆพี่ฝันก็เสียงดังขึ้นมาจนผมสะดุ้ง
“คิวกำลังหลงระเริงกับชีวิตที่มีเด็กนั่นอย่างนั้นเหรอ ดูคิวแปลกไปจริงๆนะ เหมือนคิวลืมปราย พรุ่งนี้..มันเคยเป็นวันที่สำคัญสำหรับคิวมาตลอดไม่ใช่เหรอ ดูคิวจะเฉยกว่าทุกที..”
“ฝัน!” พี่คิวกระแทกเสียง เสียงดังมากจนผมแทบไม่อยากจะจิตนาการว่าตอนนี้พี่คิวทำหน้าแบบไหนอยู่
“คิวรู้ตัว ฝันไม่ต้องมายุ่งได้ไหม..ปรายอยู่กับคิวเสมอ เธออยู่กับคิว คิวไม่เคยลืม..ไม่เลยสักนิดเดียว!” พี่คิวกระแทกน้ำเสียงย้ำ น้ำเสียงที่ว่ากราดแต่กลับฟังดูเศร้าและเหมือนกำลังจะร้องไห้ ผมเพียงแต่ยืนหน้าชา ถ้าคำว่า “เด็กนั่น” ที่พี่ฝันหมายถึงนั่นหมายถึงผมอย่างที่ผมเข้าใจ ต่อไปนี้คงไม่ควรที่ผมจะยืนฟัง แต่ตอนนี้ผมกลับก้าวขาไม่ออก
“............” เสียงในห้องเงียบลงไปชั่วครู่
“ฝันก็แค่อยากจะบอก” พี่ฝันกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
“ฝันก็แค่เป็นห่วงคิว ฝันยังไม่เคยเห็นว่าใครคนไหนจะเหมาะกับคิวได้เท่าปรายอีก และฝันเอง..”
“ฝันเองอยากให้คิวได้เจอแต่คนที่เหมาะสมกับคิวมากพอ คนที่ฝันและสังคมยอมรับ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ได้ที่คิวเปิดรับอยู่ในตอนนี้ ถึงแม้จะเป็นเพียงเพื่อน เอ็นดู..หรือว่าคิวลืม” ผมสะอึก รู้สึกเหมือนกำลังโดนค้อนมาทุบเข้าที่หัวอย่างแรง
“คิวลืมไปเหรอว่าคิวเคยมีใครเป็นเพื่อนบ้าง แค่ฝันหรือเซ็น..ฝันเชื่อว่าฝันแบกรับความทุกข์ไปพร้อมกับคิวได้ไม่ว่าจะเวลาไหน คิวยังต้องการใครอีกอย่างนั้นเหรอ” พี่ฝันพูดเสียงสั่น
“ฝัน” พี่คิวพูดเสียงเรียบลง
“เธอกำลังจะบอกอะไร” น้ำเสียงที่ฟังดูไม่พอใจจากพี่คิวทำให้หัวใจผมแทบจะหยุดเต้น
“หึ..คิวเป็นคนฉลาดนะ” พี่ฝันหัวเราะ
“ฝันบอกแล้วว่าคนที่ฝันยอมรับนั่นคือปราย ปรายคนเดียว!” พี่ฝันกระแทกเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
“และตอนนี้ปรายก็คงกำลังคิดว่าคิวกำลังจะคิดถึงเธอ ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ตอนนี้คิวกำลังคิดถึง..ใช่ไหมคิว ใช่ไหม!” พี่ฝันกระแทกเสียงดังลั่น เสียงดังกังวานไปทั่วบ้าน
“ฝัน..ช่วยออกไปได้ไหม” พี่คิวพูดเสียงเย็น
“ออกไปตอนนี้เลย จะได้ไหม”
“แต่..”
“ออกไป!” พี่คิวตะคอกเสียงดังมากจนทำผมที่อยู่ห่างขนาดนี้ยังสะดุ้งได้ ผมคิดว่าพี่ฝันเองก็คงจะตกใจไม่แพ้กัน
“คิว” พี่ฝันเรียก ผมคิดว่าเธอน่าจะร้องไห้
“คิวบอกให้ออกไป” พี่คิวกดเสียงให้เย็นลงเหมือนไม่ต้องการจะให้ตัวเองระเบิดออกมา
“คิว..ฝันขอโทษ” พี่ฝันบอก เสียงเงียบไปหลังจากนั้น
“ออกไป!!” อยู่ๆเสียงของพี่คิวก็โวยขึ้นมาอีกครั้ง ผมรีบหลบเข้าที่มุมของผนังอีกด้านทั้งที่ตอนนี้ขาของผมคล้ายกับไร้เรี่ยวแรง พี่ฝันเดินออกมาจากห้องและเดินตรงออกจากบ้านไป ผมยืนสงบสติอารมณ์ของตัวเองให้คงที่ ยืนอยู่อย่างนี้นานเกือบสิบห้านาที ผมสั่งขาตัวเองให้ก้าวเดินไปที่ห้องนั้น..เดินไปอย่างเงียบๆ เงียบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากให้คนในห้องรู้ ผมแค่อยากแน่ใจว่าพี่คิวโอเค แค่อยากเห็นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการเข้าไปทักทายหรืออะไร..
“อึก..” ภาพที่ผมเห็นกำลังลบภาพเชฟบ้าคนเก่าไปเกือบหมด พี่คิวนั่งอยู่ที่โซฟา กุมหน้าตัวเองร้องไห้โดยแทบไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา ผมยืนเงียบ เห็นตัวพี่เขาสั่น อยากจะเข้าไปหาแต่ดูเหมือนสถานะของผมจะยังไม่ใช่กับสถานการณ์ในตอนนี้
“โว้ยยยย !!” ผมสะดุ้งโหยงด้วยอยู่ๆพี่คิวก็โวยวายขว้างของที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง จนของกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง
“อ่ะ..” พี่คิวร้อง ผมตกใจด้วยความเป็นห่วง มือของพี่คิวกุมท้องของตัวเองเหมือนเจ็บ แผลที่ท้องคงยังไม่หายดีเท่าไหร่นัก ยิ่งไปออกแรงเสียงดังมากขนาดนั้นคงยิ่งทำให้เจ็บมากกว่าเดิม ผมเดินเข้าไปหา
“ข..ขอโทษ ครับ เค้ก..ไม่ได้ ไม่ได้ ตั้งใจ” ผมพูดตะกุกตะกักด้วยความกลัว เมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นผมพอดี พี่คิวไม่พูดอะไร หันหน้ากลับไปอย่างเดิมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเดินเข้าไปใกล้พี่เขามากขึ้น ผมแทบไม่รู้ตัวเองเลยว่าที่ทำไปแบบนี้เพราะร่างกายสั่งหรือว่าหัวใจสั่งก่อนกันแน่ทั้งทั้งที่ผมก็กลัวอยู่เต็มอก
“พี่..พี่ฟ้าฝากของมาให้ครับ” ผมบอกเสียงเบาพร้อมกับยื่นเอกสารไปให้
“วางไว้ตรงนั้น แล้วไปซะ” พี่คิวบอกเสียงเข้ม ผมวางซองลงที่ข้างๆพี่คิวตามคำสั่ง แต่ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ พี่คิวนั่งเฉย ผมเอื้อมมือเข้าไปแตะไหล่พี่คิวเบาๆ..มันเป็นไปเองอย่างลืมตัว
“ฉันบอกให้ออกไป พูดไม่รู้เรื่องรึไง!” พี่คิวหันมาตะคอกตาขวาง ผมสะดุ้ง ผละตัวออกมาอย่างตกใจ สายตาคู่นี้น่ากลัวอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“ขอโทษ เค้กแค่..แค่เป็นห่วง พี่เจ็บแผล ไม่ใช่เหรอฮะ” ผมก้มหน้าก้มตา น้ำตาเอ่ออยู่ที่เบ้าตาอย่างห้ามไม่อยู่ ที่จริงผมเคยถูกตวาดแบบนี้นับครั้งได้ แม่กับพ่อหรือคนในครอบครัวของผมไม่ได้มีนิสัยที่เป็นคนพูดเสียงดัง ชอบดุด่า ตะเบ็งเสียง ตวาดหรือพูดหยาบคายเท่าไหร่นัก ผมจะรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินต่อเหตุการณ์แบบนี้ทุกครั้งเมื่อไหร่ที่ถูกดุอย่างรุนแรง รู้ตัวอีกทีน้ำตาจะไหลออกมาไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างนี้ตลอด
“............” พี่คิวเงียบไป ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเพราะตอนนี้น้ำตาหยดลงโดยไม่สามารถกลั้นไว้ได้แล้ว
“ขะ..ขอตัว ครับ..” ผมก้มหน้าและพยายามพูดให้เสียงปกติที่สุดเท่าที่สามารถทำได้
“เดี๋ยว” พี่คิวเรียก ผมชะงักอยู่กับที่และได้ยินเสียงพี่คิวถอนหายใจก่อนจะเงียบไปสักพักหนึ่ง ซึ่งขณะเดียวกันผมก็ยังคงยืนก้มหน้าอยู่อย่างนี้
“ฉัน..” เหมือนพี่คิวจะพูดบอกอะไรสักอย่าง ผมเงยหน้าขึ้นมองอย่างลืมตัวเพราะพี่คิวเงียบนานเกินไป
“นายร้องไห้ทำไมน่ะ” พี่คิวว่าคิ้วผูกกันเป็นโบ ผมรีบปาดแก้มตัวเองอย่างลวกๆ
“เปล่าฮะ ก็เค้ก เค้ก ตก..ใจ” ผมก้มหน้าลงอย่างเดิม ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองมีสีหน้าเป็นยังไง พอคิดได้อย่างนั้นก็รู้สึกประหม่าไปหมด
“มานั่งนี่สิ” พี่คิวพูดบอก พี่เขาหยิบซองสีน้ำตาลไปวางไว้อีกฝั่งทำให้มีที่ว่างอย่างเดิม ผมเดินไปนั่งตามคำสั่งอย่างว่าง่ายเพราะกลัวว่าจะโดนดุอีก และเมื่อนั่งลงความกลัวก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ตอนนี้ตัวของผมเกร็งอย่างกับมีเหล็กมาดามตัวเอาไว้อย่างนั้น
“อ๊ะ” และผมต้องตกใจมากกว่าเดิม เมื่ออยู่ๆพี่คิวก็ก้มตัวลงนอนและเอาหัวมาหนุนบนตักของผม
“โทษที ที่เสียงดัง” พี่คิวบอกพลางหลับตาลง ผมกระทั่งตกใจและทำตัวไม่ถูก จึงได้แต่ชูแขนข้างขวาขึ้นเพราะไม่รู้จะเอาแขนวางที่ตรงไหนถึงจะเหมาะ
“พี่..พี่ไม่นอนหมอนละครับ” ผมพูด หน้าแดง ใช่..ตอนนี้หน้าเราคงไม่เหลือพื้นที่สีขาวแล้วเป็นแน่ ผมรู้สึกว่าหน้าของตัวเองนั้นร้อนผ่าวไปหมดแล้ว
“เมื่อกี้นายจะทำอะไรล่ะ นายบอกว่าเป็นห่วงฉันไม่ใช่รึไง” พี่คิวพูดทั้งทั้งที่หลับตาอยู่ ผมเงียบอย่างไม่สามารถต้านทานใดๆได้
“ฉันอยากพัก ทนนั่งไปก็แล้วกัน” อีกฝ่ายบอกและพลิกตัวหันหน้าเข้ามาที่ท้องของผม
“วางแขนลงสิ ไม่เมื่อยรึไง” พี่คิวสั่งไม่หยุด
“ค..ครับ” ผมวางแขนลงบนไหล่ของพี่คิวตามที่สั่ง
“นายเป็นเด็กรึไง ถึงได้ร้องไห้ง่ายขนาดนั้นน่ะ” อีกฝ่ายพูดเหมือนต้องการจะต่อว่าผมเสียมากกว่า ผมไม่ตอบโต้อะไรเพราะไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมานั่งเล่าอธิบายอะไรให้ฟัง
“แล้วก็..ช่วยหายใจให้เป็นปกติซะ” อีกฝ่ายพูดเหมือนรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังแขม่วท้องและกลั้นหายใจอยู่ “มันทำได้ง่ายๆอย่างที่พูดไหมล่ะไอ้เชฟบ้า”..ผมได้แต่คิด อารมณ์เข้าๆออกๆจนปรับตัวแทบไม่ทัน หายใจไม่ทั่วท้อง ผู้ชายคนนี้จะเคยรู้สึกแบบที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้บ้างรึเปล่านะ
ผมก้มหน้าลงมองคนที่นอนหลับหนุนตักของผมอยู่ อยู่ดีๆก็เปลี่ยนอารมณ์ขึ้นมากะทันหัน เป็นคนที่แปลกจริงๆ สุดท้ายผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ คนคนนี้น่ะเป็นผู้ชายคนเดียวกับหลายชายสุดเก่งของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์อย่างนั้นใช่ไหมนะ เพราะคนคนนั้นน่ะในตอนนี้เขากำลังนอนหนุนตักเราอยู่ เราน่ะ..
“พรุ่งนี้..” พี่คิวพูดขึ้นก่อนที่จะทิ้งเสียงลง พี่เขาเงียบไปนานจนผมแอบลุ้นว่าจะพูดต่ออีกไหม ผมอยากฟัง อยากรู้เรื่องที่ทำให้พี่คิวกลุ้มใจทั้งหมด
“วันที่ปรายสารภาพรักฉัน วันที่เรา...ตกลง”
“คบกัน” พี่คิวพูด หลับตาพริ้ม ผมเงียบ ไม่พูดต่อ..ไม่พูดเพราะกำลังรู้สึกว่า ไม่ควรพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียวก็เท่านั้น..
ผมนั่งนิ่งอยู่นานจนรู้สึกว่าขาเริ่มชา พี่คิวหลับไปนานมาก นิ่งเสียจนผมแทบไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวว่าพี่เขาจะตื่น ตอนแรกผมคิดว่าพี่คิวเพียงแค่จะพักสายตาเฉยๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะหลับยาวไปแล้วละครับ..
“โอ๊ะ!” ผมหันไปตามเสียงอุทาน พี่ฟ้ายืนอ้าปากเหวออยู่หน้าประตูห้อง
“โอ้ว มาย........ก๊อด~” พี่ฟ้ายืนเอามือปิดปากตัวเอง ตาเบิกโพรง ผมได้แต่อ้าปากเหวอตามเพราะไม่รู้จะพูดอธิบายว่าอย่างไรดี ทั้งผมและพี่ฟ้าเงียบลงคล้ายกับต่างฝ่ายต่างเรียกสติแต่ก็ยังมองหน้ากันอย่างตกตะลึงไม่เลิก
“มา กลับมาเร็ว..จังนะ ครับ” ผมพยายามเรียบเรียงคำพูดของตัวเอง
“คือ” ผมอ้าปากจะอธิบาย
“ชู่..” พี่ฟ้าทำสัญญาณบอกให้ผมเงียบไว้ อยู่ๆพี่ฟ้าก็ส่ายหัว ขยิบตาและยิ้มให้ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น
“พี่ครับ” ผมเรียกเสียงเบา เสียงแทบไม่ออกมาจากลำคอของผม มันก็แน่อยู่แล้ว ถึงผมจะปวดขาแต่ผมไม่ได้อยากปลุกพี่เขาสักหน่อย
“..พี่คิวครับ” ผมเรียกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหลับสนิทเกินไป ผมวางมือลงที่หน้าของอีกฝ่ายอย่างเบามือ
“หนวดเริ่มขึ้นแล้วสินะ” ผมหัวเราะกับแก้มที่เริ่มสากเพราะหนวดที่กำลังจะขึ้นบนใบหน้าของพี่คิว
“คงจะอย่างนั้น” ง่ะ..
“ต..ตื่น นานแล้วเหรอครับ” ผมถามรู้สึกเขินในทันที พี่คิวขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
“เปล่า” อีกฝ่ายหันมาตอบพร้อมกับเลิกคิ้วให้ กลับมาทำหน้ากวนได้อย่างเคย
“งั้น..เค้ก กลับบ้านก่อนดีกว่า เย็นมากแล้ว ป่านนี้รถคงติด” ผมบอกและไม่กล้าสบตาตรงๆ
“อืม” พี่คิวพยักหน้าตอบ ผมรีบลุกขึ้น
“โอ๊ะ” ผมร้องและต้องทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาอย่างเดิมเพราะรู้สึกขาชาจนไม่สามารถเดินได้
“หึ” พี่คิวหัวเราะและลุกขึ้นยืน ผมมองตาม
“ขอบคุณ” อีกฝ่ายบอกแค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทะ..ทิ้ง แล้วทิ้งเราไว้อย่างนี้นี่นะ เย็นชาชะมัด..ไอ้บ้า!
“อะไร! อะไรเค้ก!!” ผมหันกลับไปมองที่ประตู เสียงพี่ฟ้าโวยวายดังลั่นวิ่งเข้ามา
“จะกลับแล้วเหรอ ได้ไงกัน..พี่นึกว่าจะนอนที่นี่ซะอีก” พี่ฟ้าวิ่งตาลีตาเหลือกเข้ามานั่งลงข้างๆผม
“เหอะๆ” ผมยิ้มแหย
“ไม่ได้นะครับ นอนนี่เถอะ..นี่มันเย็นมากๆอ่ะ” พี่ฟ้าพูด
“นี่มันเพิ่งหกโมงเองนะครับ” ผมเหลือบดูนาฬิกา
“นั่นแหละ รถติด..ไม่ได้หรอก พี่ปล่อยไปไม่ได้หรอก ใช่สิ..นอนนี่แหละนะจ๊ะเด็กดี” พี่ฟ้าพูดพร่ำไม่หยุด มือของพี่ฟ้าเข้ามาลูบหัวผมไปมา
“ไม่ดีหรอกครับ”
“นี่..เอิ่ม” ผมฟ้ากลอกตาอย่างทีเล่นทีจริงอีกแล้ว
“พี่ก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่แบบ..แบบ”
“คือแบบ” พี่ฟ้าทำท่ามากซะจนผมลุ้นว่าพี่เขาต้องการจะพูดอะไร
“มันเริดมากโอเคป่ะ คือมันเหนือธรรมชาติ มันเป็นปรากฏการณ์ที่อัศจรรย์ พี่..เหลือเชื่อที่สุดเท่าที่พี่กลับมาประเทศไทย โอ้มายก๊อด..เอิ่ม พี่พูดคำนี้มากี่รอบแล้วนะ” พี่ฟ้าเหลือกตาใส่ผมจนผมตกใจ
“หลายฮะ” ผมพยักหน้าตอบ
“แฟนแทสทิค!” ผมอ้าปากค้างมองพี่ฟ้าที่ยังไม่หยุดบรรยายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“เค้กเป็นคนที่สวรรค์ส่งมาแน่ๆ ดังนั้น..นอนนี่สักคืนให้พี่ชื่นใจเถอะนะครับ” พี่ฟ้าลูบแก้มผมทั้งสองข้าง
“ไม่ได้หรอกครับ แม่..เค้ก”
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ พี่เคลียร์ได้แน่นอน อีกอย่างน่ะนะ..ไอ้หลานชายเหี้ยมที่เข้าไปขลุกอยู่ในครัวแล้วน่ะ คงกำลังทำอาหารเพื่อเรียกสติตัวเองอยู่อย่างแน่นอน เค้กอยู่เถอะนะ..พี่รู้สึกเหมือนกำลังมีสารอะไรอยู่ในตัวพี่ที่หลั่งอยู่สักอย่าง มันรู้สึกเหมือนอยากแกล้งไอ้คิวเป็นบ้าอ่ะ มันต้องสนุก ใช่..สนุกแน่ๆ” พี่ฟ้าทำเสียงขึ้นๆลงๆจนผมแทบเวียนหัว
“ช่ายๆ ฟ้า..ตั้งสติไว้” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ลุกขึ้นยืน หลับตา คุยกับตัวเองและเดินวนไปเวียนมาตรงหน้า
“ไอ้หลานนั่นน่ะ มันเจ้าความคิด..มันเจ้าเล่ห์”
“พี่ไม่รู้ว่าพี่เลี้ยงมันให้โตมาเป็นคนแบบนั้นได้ยังไง แต่เชื่อพี่เถอะว่าไอ้หลานบ้านี่น่ะ..โค่นมันยากเป็นบ้า ขนาดพี่คิดแผนหลายต่อหลายครั้งที่จะโค่นล้มบัลลังก์มัน แต่สุดท้ายมันก็ตลบหลังพี่ได้ทุกทีอ่ะเค้ก” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าเคียดแค้น
“พี่อยากเอาชนะพี่คิวเหรอครับ” ผมพูดหน้าแหย จากที่พี่ฟ้าพูดมาดูแล้วไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้สักเท่าไหร่
“พี่รู้สึกว่าพี่พ่ายแพ้อ่ะ” พี่ฟ้าหันมาทำหน้าอ้อนวอนใส่ผมอีก
“นะเค้กนะ..” พี่ฟ้านั่งลงที่ด้านหน้าผมอีกครั้ง พร้อมกับกะพริบตาให้อย่างกับเด็ก
“เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง
“นอนที่นี่เถอะ นะครับ..น้า” พี่ฟ้าเอาหัวมาซุกไหล่อ้อนผมไม่หยุด
“ก็..ก็ได้ฮะ” ผมตอบเพราะรู้สึกเขิน พี่ฟ้าชอบถึงเนื้อถึงตัวเสมอ ขนาดผมไม่ได้คิดอะไรแต่กลับรู้สึกว่าพี่ฟ้าน่ารักดีจนผมอดเขินและยอมโอนอ่อนผ่อนตามไม่ได้
“เยส!”
“ฮะ ฮะ ฮะ..แกเสร็จฉันแน่ ไอ้คิว..หึ” พี่ฟ้าแสยะหัวเราะ เอิ่ม ToT ตกลงผมคิดถูกใช่รึเปล่าครับที่ตอบตกลงไปแบบนั้น..
หลังจากนั้นผมเดินตามพี่ฟ้าออกมาจากห้อง พี่ฟ้าจับแขนผมให้เดินตามเข้าไปที่ห้องหนังสือ พี่คิวไม่ได้อยู่ที่นั่น
“สงสัยอยู่ในครัว” พี่ฟ้าบอกแต่อยู่ๆพี่คิวก็เดินเข้ามา พี่เขาชะงักมองหน้าผม ผมก้มหน้าลง
“เค้กจะนอนนี่ล่ะ” พี่ฟ้าพูดขึ้น ทำหน้ากระหยิ่มยิ้มไปมา
“ห๊ะ!นอนนี่” พี่คิวอุทานเสียงหลง
“ทำไม ก็เค้กจะนอนนี่..อาเป็นคนบอกให้นอนเอง” พี่ฟ้ายักไหล่ ดูท่าจะพอใจกับผลที่ได้รับไม่น้อย
“ไม่นอนหรอกฮะ” ผมรีบดึงแขนพี่ฟ้าไว้ พอได้ยินเสียงอุทานกลับรู้สึกเปลี่ยนใจขึ้นมากะทันหัน
“นอนสิ เมื่อกี้เค้กรับปากพี่แล้วนะว่าจะนอนอ่ะ” พี่ฟ้าหันมาหน้างอใส่ทำท่าจะงอนผมซะอย่างงั้น ทำให้ผมต้องหุบปากลงอย่างช่วยไม่ได้
“ไป..เราขึ้นไปดูห้องกันดีกว่านะ” พี่ฟ้าหันมายิ้ม สีหน้าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเร็วมากจนผมแทบตามไม่ทัน
“นอนกับพี่ก็แล้วกัน นอนห้องนอนสำหรับไว้รับแขกน่ะ..ห้องมันกว้าง เค้กอาจจะกลัวแล้วก็ไม่ชิน..นะๆ” พี่ฟ้าสรุปเองเสร็จ
“หื่นละสิไม่ว่า” พี่คิวพูดขึ้นลอยๆ
“ก็ถ้าหื่น..แล้วจะทำไม” พี่ฟ้าต่อปากต่อคำอย่างไม่แยแส ส่ายหัวไปมาทำท่าอย่างกับเด็กชอบแกล้ง
“อยากให้เค้กไปนอนห้องตัวเองละสิไม่ว่า..คิก” ระหว่างที่พี่ฟ้าพูด พี่คิวหันขวับกลับมามองตาขวางใส่พี่ฟ้าทันที
“อุ๊ปส์..ซ้อออออรี่~~” พี่ฟ้าลากเสียงยาว ผมยืนอย่างที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับพี่ฟ้าแล้ว น้ำเสียงของพี่ฟ้าร่าเริงและไม่ได้รู้สึกผิดต่อสายตาของพี่คิวเลยสักนิดอ่ะครับ มันเป็นการกล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงร่าเริงได้อีก
“ไปเค้ก ไปดูห้องพี่กัน..” พี่ฟ้าจับมือผมและพาเดินขึ้นไปชั้นสอง ผมหันกลับไปมองหน้าพี่คิว พี่คิวยืนมองผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง นิ่งอย่างที่ผมไม่สามารถตีความหมายได้เหมือนเดิมแหละครับ..
...............>>>><<<<...............
-
:z2: :z2: :z2:
-----------------------------------
พี่คิวน่ารักอะๆๆๆๆๆๆ โดนแกล้งแล้ว พี่คิวจะทำยังไงน้าาาาาา
อยากอ่านต่ออะๆ เค้กกกทำให้พี่คิวหึงเยอะๆน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13
-
:man1: :man1: :man1:
-
งานเข้าแล้วไงพี่คิว....จะทำไรต่อไปน๊าาาาาา :z2: :laugh: :laugh:
:pig4: :pig4:
-
ทำไมทำกับเค้าแบบนี้อ่ะ มันค้าง ค้างมาก อ๊ากกกกกกก
แต่แบบไม่ไหวแล้วไม่ไหวจริงๆ อ่านไปอิชั้นก็กริ๊ดไป ตายๆๆๆ
เขินเว้ยยย >//////<
:o8: :o8: :o8: :o8:
-
:-[ :-[ :-[
ให้มันได้อย่างงี้ซี่พี่ฟ้า >< !!!
-
:o8: :-[ :impress2: พี่คิวน่ารักไปแล้วนะ
เรื่องนี้อ่านแล้วไม่กลัวใจพระเอกเลย มั่นใจว่าพี่คิวดูแลเค้กได้แน่นอน
ต่อให้มีกี่อินังฝันก็เถอะ :laugh:
อยากอ่านตอนหน้าๆๆ
-
สะใจ ยัยฝันโดนซะบ้าง พี่คิวฉลาด และไม่เอาหล่อนมาเป็นแฟนแน่ๆย่ะ ชริ
-
เอาอิชะนีฝันไปเก็บด่วนนนน :angry2: :angry2:
ยุคไหนแล้วอิบร้าแบ่งชั้นวรรณะอยู่ได้ ทำไม หล่อนบินได้รึไง ลองเจอชะนีสลัมอย่างชั้นดูหน่อยเอาไหม แต่ก็ขอบใจน่ะที่ ทำให้พี่คิวกับเค้ก คืบหน้าไปอีกขั้น :-[ :-[
ส่วนพี่ฟ้า o3 สู้ คึคึคึ ขอให้โค่นล้มพี่คิวให้ได้ เค้าเชียร์สุดพลัง
(น้องเค้กแย่แน่ กร๊ากกกกก :m14:)
-
โอ๊ยยยย
เขินมากเลยอ่าาาาา
ยิ้มจนปวดแก้ม
--------
อีพี่ฝัน เดี๊ยะเถอะ
ยุ่งมากไ บอกลูกหินกัดเด๊ะ 555
ได้ข่าวว่าคนละเรื่อง กร๊ากกกกกกกกกก บ้าแระกู :laugh:
-
นอนบ้านพี่ฟ้า แหม่ะ...พี่ฟ้านี่ก็น้าชอบแกล้งพี่คิวจังเลย
สะใจเว้ย พ่อหนุ่มซึนผยองโลกจะได้แสดงท่าทีอะไรออกมาบ้าง
ครึ่งๆกลางๆอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวจับเค้กถวายทิกเกอร์จิงเกอเบลซะนี่ o22
ว่าแต่เบบี้คะ...เมื่อไรบัตเตอร์จะมีบทอีก
ตอนนี้เราได้สั่งทำกางเกงในปักด้วยไหมชั้นเยี่ยม
[เด็กเกรียนบัตเตอร์ - พี่อ๊อฟบทน้อย]
กะว่าจะส่งให้คุณเบบี้อยู่พอดี ติดสินบนให้เขียนคู่นี้อ่ะค่ะ
ที่แพลนไว้ในใจก็บัตเตอร์รุก พี่อ๊อฟรับ
อยากเห็นพี่อ๊อฟครางกระเส่าๆภายใต้ตัวบัตเตอร์ แล้วก็ควงเองบ้างบางเวลา
คิดได้เนอะกรู :jul3:
-
555555555555555 ถูกใจเจงงงงงงงงงงงงงงงง พี่คิวหนุนตักน้อง
แต่นังคุณฝันนี่ไม่ไหวนะรมณ์เสีย จะย้ำเตือนอะไรนักหนายะหล่อน ไปไกลๆ เลย ชิ้วๆ ((ช่วยพี่คิวไล่ ฮ่า ฮ่า))
แผนอาฟ้าโค่นหลานคิว ตอนหน้าจะมี "พิษรัก แรงหึง" หรือไม่ต้องเกาะหน้าจอรอติดตามม
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก เค้าจะอาวววววววววววววอีกอ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ
ขอบคุณนะไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
-
ปฏิบัติการแกล้งหลานชาย 5555 :m20:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
อ่านไปแล้วก็กรี๊ดๆเป็นระยะ พี่คิวแบบชอบอะ ถึงจะไม่ชัดเจนแต่ก็หยอดตลอดเวลา
เค้กก็น่ารัก 5555 พี่ฟ้าก็โดนนนนนนน โอ๊ ย ยยยยยย!
รอตอนต่อไปนะคะเบบี้ ^^
-
พี่ฟ้าเริ่ดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :m3: :m3: :m3:
-
พพี่ฟ้าขี้แกล้งจริ๊งงงงงง >////<
ส่วนพี่ฝัน ,, ก็โดนไล่ไปล่ะนะ เหอะๆๆ
-
คิสมีแฟนแล้วเหรอ ว่าแล้วว่าฝันต้องชอบคิวแน่
แต่ยังไม่เข้าใจฟ้าจะแกล้งคิวทำไมต้องให้เค้กนอนที่บ้านด้วย
-
นอนบ้านพี่ฟ้า แหม่ะ...พี่ฟ้านี่ก็น้าชอบแกล้งพี่คิวจังเลย
สะใจเว้ย พ่อหนุ่มซึนผยองโลกจะได้แสดงท่าทีอะไรออกมาบ้าง
ครึ่งๆกลางๆอยู่นั่นแหละ เดี๋ยวจับเค้กถวายทิกเกอร์จิงเกอเบลซะนี่ o22
ว่าแต่เบบี้คะ...เมื่อไรบัตเตอร์จะมีบทอีก
ตอนนี้เราได้สั่งทำกางเกงในปักด้วยไหมชั้นเยี่ยม
[เด็กเกรียนบัตเตอร์ - พี่อ๊อฟบทน้อย]
กะว่าจะส่งให้คุณเบบี้อยู่พอดี ติดสินบนให้เขียนคู่นี้อ่ะค่ะ
ที่แพลนไว้ในใจก็บัตเตอร์รุก พี่อ๊อฟรับ
อยากเห็นพี่อ๊อฟครางกระเส่าๆภายใต้ตัวบัตเตอร์ แล้วก็ควงเองบ้างบางเวลา
คิดได้เนอะกรู :jul3:
ความคิดคุณเกรียนมาก 555+
-
คิสมีแฟนแล้วเหรอ ว่าแล้วว่าฝันต้องชอบคิวแน่
แต่ยังไม่เข้าใจฟ้าจะแกล้งคิวทำไมต้องให้เค้กนอนที่บ้านด้วย
คิวมีแฟน..เรื่องนี้เผยตั้งแต่ต้นเรื่อง คงอ่านข้ามไปรึเปล่าคะ ^^
*การที่เค้กนอนที่บ้าน สำหรับฟ้าและคิว..ก็ถือว่าเป็นการแกล้งแล้วล่ะค่ะ เพราะฟ้ารู้จักคิวดีที่สุด และคงเพราะคิวไม่ปกติ..กร๊าก
-
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยค้างอ๊ะ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด วิ่งออกไปจุดพลุฉลอง :mc4: :mc4: :mc4:
ไม่น่าเชื่อ มันจะมีวันนี้ด้วย นอนตักกัน ฮุฮุฮุ
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ แต่มีแววแพ้พี่คิวตามเดิมนั่นแหละ555
หัวเราะไม่มีเหตุผล อารมณ์ดี
-
คิวเห็นตัวจริงของฝันล่ะ ว่าหวังอะไรกันแน่
-
เจ้ฝัน นางอยากจะแทนที่เองรึเปล่าเนี่ย
หรือนางแค่ห่วงจริง ๆ ตามปาก
เค้ากำลังสวีทวิ้วกันทีเดียว
เสียฟีลหมดเลยยยยยยยย
อาฟ้าออกนอกหน้าไปนะจะแกล้งหลานอ่ะ
คงจะยาก คนที่น่าเป็นห่วง น้องเค้กนี่แหละ
ศึกระหว่างอา หลาน ตัวเองเป็นคนกลาง :เฮ้อ:
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คิวปิดเปิด และ เปิดมากขึ้นเรื่อย ๆ น้องเค้กเริ่มเข้ามาในใจของเชฟโหดแล้วแน่ ๆ อิอิ พี่ฟ้าก็ช่วยอีกแรงอ่ะ 555+ สนุกดีจิง ๆ ชอบๆๆๆ มากมาย อยากอ่านต่อแร้ววววววววววว ><
-
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
กีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส จบตอนนี้แล้วเหรอ ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงง มันไม่จริงงงงงงงงงงง :sad4: อยากอ่านต่ออ่าาาาาาาาาาา พรีสสสสสสสส :serius2:
-
ยัยฝันเผยธาตุแท้ละ
เกลียดๆมันไปเลยนะพี่คิว
ว่าแต่เค้กไม่ไปนอนห้องพี่คิวล่ะ
นอนห้องอาฟ้าทำไม อิอิ
-
กรี๊ดดดดดดดด
ยิ้มอ่ะ ยิ้มมมมมมมมมมมม ^______________^
แบบเขินด้วยฮ่าๆๆๆ
อยากให้มีต่ออ เอิ้กๆๆ รู้สึกค้างจัง
แลวพี่เบบี้จะมาอีกเมื่อไหร่เนี้ย 55555
ตอนนี้เป็นที่แบบ อ่านลงมาแล้วต้องเลื่อนไปอ่านซ้ำอีกที
แบบว่า เห้ย มันจริงเหรอวะ? 5555
ชอบบบบบบ
-
เปิดประเดิม เพิ่งสามารถสมัครสมาชิกได้ ดีใจเป็นบ้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
เขินจังเลยอ้าพี่เบบี้ ตอนนี้ทำหนูแทบตาย ><!!
พี่คิวเสร็จพี่ฟ้าแน่ ๆ พี่ฟ้าชอบแกล้ง สงสารพี่คิว แต่ก็ชอบนะ >< 555555555
อยากเห็นพี่คิวโมโหหึงเพราะเค้กบ้างอ้าาา พี่ฟ้าต้องทำให้สำเร็จนะ อิอิ
พี่คิวชอบเค้กมาตั้งนานแล้วใช่มั้ยล่ะ! แต่ชอบแกล้งคนอื่นเพราะจะได้
กลบเกลื่อนความรู้สึก-..- 55555555555555555
ตอนนี้เป็นอะไรที่อ่านแล้วเขินเขินมาก ๆเลยจริง ๆนะคะเนี่ยยย :z3:
ตอนหน้าขอแบบนี้อีกนะคะ >< พี่ฟ้าจัดการพี่คิวให้อยู่เลยนะ!
ฮิฮิฮิฮิ
-
กรี๊สสสสส มีนอนอหนุนตักกันด้วย >////<
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอ๊ะ พี่ฟ้าจะทำอะไร ><"
-
สะใจเรื่องยัยฝันสลาย :laugh:
แผนอาฟ้าให้เค้กมาบ้านแน่เลย
การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ
กลับมาอยู่กับปัจจุบันได้แล้วนายคิว
คนเรามีชีวิตเพื่อวันพรุ่งนี้
ไม่ใช่กลายเป็นจุดให้คนแบบยัยฝันสลายเอามาหาประโยชน์
+1
-
แอร้ยย~
เค้กเป็นคนพิเศษของพี่คิวแน่ๆ
มีนอนหนุนตักกันด้วย พี่ฟ้าไม่ค่อยเลยนะ ฮี่ๆ
:-[
-
อ้ากกกกกกกก กรี๊ดดดดดดดด
หนุนตัก จับแก้ม
ชอบคิวตอนล้อน้องเค้ก มันจีบอะ นานแล้วด้วย
ไอบ้าพี่คิว น่ารักมากกกกก เท่โว้ยยย
เตะฝันออกจากเล้า ชริ
-
ตอนแรกอ่านด้วยความกรี๊ดดดดดดด !!! >/////////////<
แต่พอนังฝันมาปุ๊ป อย่างห่อเหี่ยว - -" แล้วยังพูด! พูด! พูด!ใส่คิวอีกนะ
คือรู้ว่าเป็นห่วงแต่ขอบเขตของคำว่าเพื่อนอ่ะ มีป่ะ? ทำตัวเหมือนเป็นแฟนพี่คิว เห๊อะ!
พาร์ทนี้เป็นอะไรที่แบบสุดยอดมากๆ :-[ ทั้งแบบชวนเขินมาดราม่าแล้วก็มาเขินชิบหายต่อ!!! ><
ยิ่งตอนหนุนตัก แล้วที่เค้กบอกว่าหนวดเริ่มขึ้นเเล้วสินะแล้วพี่คิวตอบ อ๊าาาาาาาาา :z3: เขิน!!!!!!!!!!!!!!
ตอนนี้เหมือนได้รู้แบบชัวร์ๆว่าเค้กนี่แหละคนพิเศษของพี่คิวจริงๆ
ถ้าคนอ่านเป็นพี่ฟ้าคง :z1: เข้าใจอารมณ์พี่ฟ้าอย่างแรงค่ะ 55555+
บวกหนึ่งให้คุณเบบี้และฉากหวานๆทั้งมวล อ๊ายยย ~
-
ฝันนี่ชื่อจริงเธอคือฝันค้างใช่หรือเปล่า
-
แหม่ๆอยู่ในสภาวะเครียดก็ยังแอบหวานน่ะพี่คิว :-[
แต่ยัยฝันร้ายเนี่ยน่าโดน :z6:สักที
-
พี่คิวเก็กอ่ะ :m20:
ทำไมคนหล่อต้องเก็กด้วย :o12:
-
ว๊ากกกกกกกกกก ตัดฉับงี้ได้ไงมาไวๆนะคะ :z3:
-
สมน้ำหน้าฝัน
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เบบี้คะ ตอนนี้มันกรี๊ดมากกกกกกกกกกก :m3:
ได้กรีดร้องทั้งสุขใจและสะใจ :laugh:
เหมือนทุกอย่างมันจะเริ่มชัดเจนขึ้นยังไงก้ไม่รู้ :o9:
พี่คิวเหมือนจะแพ้ทางเค้กซะแล้ว :haun5:
พี่ฟ้าจัดการเลย ใช้เค้กนี่แหละ เราอยากเห็นปฏิกิริยาจากพี่คิว อ๊ายยยยย :impress2:
จะบอกว่ามันค้างนะคะเบบี้ ค้างอ่าาา
และเราอยากอ่านต่ออออออออ มากมากกกกกกกกกกกก o18
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
ปล.ฝัน เธอคงจะรู้ตัวได้แล้วนะ :z6:
-
อาฟ้าได้เวลาเอาคืน :z2:
บวกเป็ด
-
ตอนนี้น่ารักอ่ะ
มารอดูพี่คิวโดนแกล้ง อิอิ
-
:impress2: :impress2: :impress2: เค้ก นอนพ้องพี่ฟ้าด้วย จิงๆอยากให้นอนกะพี่คิวอะ นอนในห้องเฉยๆนะไม่ได้หวังอะไร ยัยฝันเธอร้ายเกินไปแล้ว :m31: :m31:
-
:laugh: :laugh: พี่คิวโดนแกล้งมั่งงง
-
น่ารักมากเลยอ่ะคิวปิด :-[
-
เกลียดอีขวัญมาก
:z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
พี่ฟ้าจะแกล้งให้พี่คิวมันอกแตกตายใช่มะ อยากจะง้างปากพี่คิวว่าคิดยังไงกะเค้ก :-[
-
ง่ะ ค้างได้อีก
มาต่อเร็วๆนะค่ะ
พี่คิว...อ๊าย...เขินแทนเค้ก :o8: :o8: :o8:
ใครก้อได้เอายัยฝันเฟื่องไปท่วงน้ำที :m16: :m16: :m16:
-
ไม่ได้อินนะ
แต่อยากตบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นังฝันร้ายจริงๆๆๆเลยเนี่ยยยย
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เขิลแทนเค้กอ่ะ ประหนึ่งว่าเป็นนายเอกเองอ่ะ
555555555555555
41 เมิงอย่ามาช้าเกินไปนะ กุจะอึดอัดตายมากอ่ะ
-
ฝันที่ทำมาทั้งหมดน่ะจะเก็บคิวเอาไว้เองอ่ะดิ -*-
อาการทางจิตอ่อนๆ
-
อุ๊ปส์..ซ้อออออรี่ << พี่ฟ้า แรดมากกกกกกกกก ก้ากกกกกกก :laugh:
(หมั่นไส้อิฝัน ชิส์ :m31: )
นอ้งเค้กยังน่ารักเสมอต้นเสมอปลายยยยย :กอด1:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดด บอกเค้าทีว่ามันใกล้แล้วชั่ยมั้ยยยย
อร๊ายยยยยยยยยย นอนค้างคืนมันจะเกิดอะไรขึ้นมั้ยเนี่ย
เดี๋ยวจิ้นรอก่อนนะ 55555
:-[ :-[ :-[
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
พี่คิวจะทำยังไงล่ะนี่ 5555555555555
หมั่นไส้ยัยฝัน ชิๆ :beat:
-
ถึงยายพี่ฝันเค้าจะร้าย
แต่ยังไงก็ขอบคุณกับทุกเหตุการณ์ร้ายๆ ที่พี่แกทำกับเค้ก
เพราะมันยิ่งทำให้คู่นี้เค้ายิ่งใกล้ชิด สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ ละ :pig4:
-
พี่ฟ้าาาาาาาาาาาาาา น่ารักกกก
-
พี่ฟ้าแกล้งแค่นี้มันน้อยไป แกล้งเยอะๆ ยั่วเยอะๆ พี่คิวจะได้หึงแรงๆ .....น่ารักวุ้ย ='_'=
** ปล.เมตรจ๊ะ พี่ยังรักเมตรอยู่เสมอนะจ๊ะ (ตอกย้ำตัวเองเอาไว้ กลัวหวั่นไหว) 555555
-
มันค้างงงงงงงงงงงงงง มันค้างงงง :z3:
พี่ฟ้า...ได้ใจมากๆเลยคร้าา o13
แกล้งพี่คิวเยอะๆเลยนะ ท่าเยอะดีนัก ชิชิ
ส่วนฝัน :z6:
ตั้งหน้าตั้งตารอตอนที่ 41 ต่อปายยย
:pig4:
-
ฝัน.. อ้างปราย เพราะตัวเองอยากอยู่ที่ตรงนั้นใช่ไหม?? แน่จริงก็บอกความรู้สึกกับคิวคิวไปเด่ะ .. ความรัก มันไม่ได้จำกัดไว้แค่ความเหมาะสมของชนชั้นหรอกนะ !!! ความรักมันบังคับใจกันไม่ได้ซะหน่อย....เค้กตะหากที่สวรรค์ส่งมา อิอิ
มีซีนนอนหนุนตักด้วยอ่า.. :o8:
ว่าแต่คิวคิว จะทำไงต่อนะ ถ้าคืนนี้เค้กนอนในห้องพี่ฟ้าจริงๆ :laugh:
ขอบคุณเบบี้นะคับ ^^'
-
โอ้ยยยยยย ไม่ไหวแล้ว น่ารักสุดๆไปเลย
อ่านไปยิ้มไป ไม่หุบเลย หวานกันจังเลยยยย
ขอบคุณเบบี้มากๆเลยค่ะ เครียดมาทั้งวันได้อ่านตอนนี้เข้าไปยิ้มออกเลย
-
อ๊าาาาาากกกกกกกกกกกกกกกกกก ค้างงง
พี่เบบี้มาต่อเร็วๆนะค่ะ
-
กดไลค์ให้พี่ฟ้า โทษฐานแกล้งนายคิวสำเร็จ
กดสะใจนายคิว ตอนที่เหวอพอรู้ว่าเค้กจะค้างด้วย
กดสงสารน้องเค้ก ที่ตกเป็นเครื่องมือแกล้งคน
และสุดท้ายกดกระทืบยัยฝันข้อหาแอ๊บแตก
-
พี่็ฟ้าแลดูมีความสุขมากกกกกกกก ฮ่าๆๆ
ระวังคิวเอาคืนนะจ้ะ <3
-
มัน ค้าง มาก :sad4:
ใจร้ายมากอ่ะ :m2:
-
รู้สึกว่ายิ้มแล้วปากจะฉีกถึงหู บางอย่างไม่ต้องใช้คำพูดจริงๆ การกระทำก็พอ
-
สงสัยงานนี้ฟ้าก็คงจะแพ้คิวเหมือนเดิม
ทำหน้านิ่งสงสัยกำลังคิดแผนการ ฮ่า ฮ่า
เบื่อยัยฝันเปียกนี่จริง ตกลงหวงคิวแทนเพื่อนหรือชอบคิวกันแน่นี่
-
เอาอีฝันไปเก็บที o18
สงสารน้องเค้ก :m15:
เชียร์พี่ฟ้าจัดการพี่คิว หึหึหึ :-[
รอตอนหน้านะฮ้าเบบี้ :กอด1:
-
ตอนนี้หนุกมากกกกก ทั้งลุ้นทั้งเขินเลยค่า :z1: (หน้าตาแบบนี้หมายความว่าไงฟะ 555)
โอยยยย คิดถึงฉากนอนตัก เคยมีmomentนี้เหมือนกันนะ ><
พี่ฟ้าทำดีมากค่า เล่นหนักๆเลยค่ะ
-
กรี๊ดดดดดด
ค้างที่บ้าน อยากเห็นพี่คิวโดนแกล้งแล้ววววววว
-
อยากเห็นพี่คิวมาดหลุด สมน้ำหน้ายัยพี่ฝัน
-
ฝันได้แต่หวงก้างไปเถอะ 555 :laugh: (หัวเราะเยาะเย้ย)
ตอนนี้เค้กก็กลายเป็นหมากให้พี่ฟ้าใช้รุกฆาตพี่คิวล่ะ หลังจากพ่ายหลานมาตลอดเว :jul3:
-
อ๊ากกกกก มันเริ่มแล้วสินะ
ชอบตอนพี่คิวนอนตักเค้กจัง น่าร็อกอ่่าา
ปล.สะใจอีพี่ฝันมากๆๆ
เบบี้มาต่อเร็วๆ นะจ๊ะ ค้างงงงงงง
-
OMG! อยากจะกรีดร้องดังๆ
รอดูว่าเค้กจะนอนห้องไหน อิอิ
-
พี่ฟ้าน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก >__<
ชอบจังชอบจัง :3
อ่านเรื่องนี้ไปด้วยแล้วฟังเพลงรักคือฝันไปไปด้วยแบบ..มันช่ายยยยยยยยย! 5555
-
สะใจ ตอนนี้พี่ฟ้าเอาใจไปเลย คิวเอ้ยซึนดีนะ มันต้องเจออย่างนี้ :laugh:
อันนี้สำหรับคนเขียน o13
-
สะใจที่พี่คิวไล่ยายฝันร้ายออกไป :laugh: ว่าแต่ พี่ฟ้านี่ก็ร้ายนะ แล้วก็มารอลุ้นว่า ตกลงเค้กจะได้นอนห้องใคร :z1:
-
อยากอ่านต่อ มากๆ กิ๊สสส
-
:เฮ้อ: นางฝัน ชะนีป่วย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เกลียดหล่อน
.
.
.
พี่ฟ้าน่ารัก จะเป็นอย่างไรต่อเน้อออออออ อยากอ่านต่อแล้วๆ 555+
-
เมื่อยแก้มไปหมดแล้วนะพี่คิวนี่น่ารักขึ้นมาก
แต่พี่ฟ้ากับน้องเค้กน่ารักตลอดกาล :laugh:
ตอนหน้าจะเป็นยังไงน้า :z1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
น่าจะชื่อว่าฝันเฟื่องนะ ฉันเกลียดแก :fire: :fire: :fire:
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-----
ไม่ไหวจะเคลียร์แล้ววววววว คลั่งน้องเค้กกับพี่คิวมากกกกกก :-[
อ่านแล้วใจเต้นแรง เลือดสูบฉีด แถมยิ้มไม่หยุด :z1:
ดีนะที่ไม่ได้อ่านข้างนอก คงไม่พ้นข้อห้าคนบ้านั่งยิ้มได้เป็นวักเป็นเวร :serius2:
มาต่อตอนหน้าเร็วๆหน่อยได้ป่าวอ่ะเบบี้ อดใจรอคิวหึงเค้กไม่ไหวแล้วววววววว :z3:
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
-
อึ้งทึ่งกันไปเลย แม่ฝันมาแต่ละตอน มารความสุขเค้าจิงๆ
-
อั่ยย๊ะ..คิว อารมณ์ไหนเนี๊ย..นอนตักเค้กเลยนะ
นอนจิงๆด้วยนะ..ฮ่าๆๆๆๆ
ตลกตอนฟ้าเดินเข้ามาเห็นคิมนอนตักเค้กอะ..อารมณ์ประมาณว่า โอ้ววววววววววววววว พระเจ้าไม่อยากจะเชื่อถ้าไม่เห็นด้วยตา..กร๊ากกกกกกกกกกกกก
ปล.ฟ้าจะเอาคืน คิว ซะแล้วววว..อยากแกล้วคิวขนาดนั้นเลย..แต่เราก็อยากแกล้งเหมือนกันนะ..อิอิ
-
พี่คิวววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
น่ารักเว่อออออ
:-[
-
พี่ฟ้าจะแก้แค้นใช่ไหมเนี่ย 555+
-
มาต่อตอนวันหวยออกด้วยอ่ะ(เกี่ยวไหม?) :o11:
อยากจะรู้ความคิดของพี่คิวบ้าง ว่ากำลังคิดกับเค้กแบบไหนยังไง :o8: :-[
-
บ้านนี้เค้าแกล้งกันน่ารักดี
พี่คิวต้องมีซัมติงกับน้องเค้กแหงๆ การกระทำมันฟ้อง!
-
มันส์มากตอนนี้ เข้าใจอาฟ้าเลยล่ะ อยากแกล้งด้วยคนอ่ะ ตอนหน้าต้องสนุกมากกว่านี้แน่ๆเลย
อ่านแล้วลุ้น เริ่มมีฉากหวานกันแล้ว พี่คิวต้องคิดอะไรกับน้องเค้กแบบถอนตัวไม่ขึ้นแล้วแน่นอนเพราะไม่เถียงสักคำว่าไม่ใช่เพราะเด็กคนนั้น :laugh:
-
เหมือนจะดราม่าาา แต่ก็แอบหวานเบาๆ ~
-
555 ดูซิว่าคราวนี้พี่ฟ้าจะโค่นบัลลังก์พี่คิวได้มั้ย
-
หัวใจกระตุกทุกครั้งที่เค้กคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับพี่คิว ไม่เอานะหนู อย่าดราม่าคนเดียวแบบนั้น
แล้วคือ.. จุดนี้แล้วก็ควรรู้ป่ะว่าตัวเองโคดจะสำคัญอ่า แอร๊ยยยยย ไม่รู้จะอิจฉาใครดีเลย คนได้หนุน หรือคนให้หนุน คิคิ
แต่แบบ.. ชอบอ่ะ ที่พี่คิวอารมณ์เสีย แต่ก็ใจอ่อนที่เห็นเค้กอ่ะ คือ.. รู้ตัวแล้วมั่งเหอะ!!!
ไว้อาลัยให้ฝัน เธอจะทำตัวเธอเองแล้วนะ.... อย่ามาเคืองเค้กเราล่ะ
และพี่ฟ้าาาาาาา กรี๊ดร้องลั่ลบ้านนนนนนน ..เป็นหนู หนูก็ตกใจค่ะพี่.. เห็นไอ้หลานซึนนอนตักเด็กผู้ชายแบบนั้น เน้นว่าเด็กผู้ชาย แอร๊ยยย .. คนที่สวรรค์ส่งมาจริงๆ เธอคิดได้...... กราบน้องเค้กงามๆเลย
รักเธอเบบี้ ... เธอควรมาต่อในเร็ววันนะคะ >3<
-
เย้ ตามย้อนเก็บหมดแล้ว ดีใจจัง คิดถึงเค้กกับพี่คิวมากอยู่เหมือนกัน ^^
ตอนคิวโดนยิง อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า ครอบครัวคิวเป็นครอบครัวใหญ่จนเรางง ฮ่าๆๆๆ
จริงๆ เรางงไปเอง ไม่มีอะไรหรอกเบบี้ ^^
ดูตระกูลนี้เป็นครอบครัวใหญ่ที่วุ่นวายดี ยิ่งมีเรื่องจำนวนเงินมหาศาลมาเกี่ยวข้องด้วย ยิ่งวุ่นวายกันเข้าไปใหญ่เลย
เค้กน่ารักตลอดอะ อาการหนูเก็บไม่อยู่แล้วเค้กเอ๊ยยยยย คิวก็เหมือนรู้ทุกอย่างนะ แล้วยังไปแกล้งเค้กอีก
ยิ่งมาตอนล่าสุดด้วยแล้ว ฟ้าก็ฟ้าเหอะ ถึงแกล้งคิวได้คงไม่เท่าที่คิวแกล้งฟ้าได้แน่ :laugh:
คิวเองยังไงก็ต้องคิดอะไรกับเค้กบ้างแล้วแหละ ตัวคิวย่อมรู้ตัวเองดี แต่ทุกอย่างมันต้องค่อยเป็นค่อยไป
ขนาดทุกๆ คนยังเห็นได้เลยว่ามันแปลก ยิ่งนี่ล่าสุดยอมให้เข้าห้องดูหนังที่น้อยคนจะได้เข้า มีการหนุนตักกันอีกนั่น!
ไม่ธรรมดาจริงๆ นะ (แต่คนอ่านอย่างเราชอบมาก ฮ่าๆๆๆ ลุ้นจริงจังว่าเมื่อไหร่คิวจะหลุด)
มีห้องสมุดย่อมๆ ในบ้านแถมห้องดูหนังที่ต้องสแกนลายนิ้วมือเข้าไป โอ้วววววววว
รับญาติบุญธรรมบ้างมั้ยคิว :laugh:
อยากรู้เรื่องของเซ็นกับกัสแล้วก็ฟ้ากับทิกเกอร์ด้วยแต่เราเข้าใจว่ามันมีลำดับขั้นเวลาของแต่ละคนที่เบบี้จะเล่า
ตอนนี้ลุ้นพี่คิวกับน้องเค้กก่อน :-[
คิดถึงคิวกับเค้กมากจริงๆ :กอด1:
ปล. เกือบลืม ฝัน เสียดายแทนเธอจริงๆ เธอพร้อมนะ ฐานะพร้อม หน้าตาก็น่าจะพร้อมแหละ เสียอย่างเดียว เธอคิดแคบเกินไป
เธอเปิดเผยความคิดเธอออกมาแล้ว คิวรู้แล้ว เธอเสียแล้วล่ะ อยากให้ฟ้ากับคนอื่นๆ ได้เห็นได้รับรู้ด้วยจัง
-
:เฮ้อ:ยายฝัน สูงเหลือเกินนะแม่คุณ
หล่นลงมาเมื่อไรจะกระทืบซ้ำเลยค่อยดู
-
แผนของพี่ฟ้าจะเป็นยังไน่ะ อยากรู้จัง
ยัยฝัน แกต้องเจออย่างนี้ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
-
คิวน่ารักว๊ะ!!!
-
ว้าวๆๆๆๆ มีการพัฒนามาหลายขั้น อิอิ
ว่าแต่อิพี่ฝันนี่ หาเรื่องจริงๆนะคะ
-
น่ารักอ่ะ =.,=
-
พี่คิวลากเค้กมานอนห้องตัวเองดิ!! o13
-
ฮิ้ว น่ารักอะเค้ก พี่คิวก้อเก็กอยู่นั่นแระ
-
ท่าทีที่คิวแสดงออก เล่นเอาคนอ่านยิ้มแก้มปริ เขินแทนเค้ก
ดีใจกับพี่ฟ้าด้วยที่หาวิธีแกล้งหลานคิวได้ จัดหนักเลยน๊า
-
พี่คิวชอบเค้ก พี่คิวชอบเค้ก <3 ฮิฮิ้ว 5555+
-
:mc4: :mc4:นอนตัก นอนตัก พี่คิวนอนตักเค้ก :o8: :-[ :-[
เอาเลยพี่ฟ้า. แกล้งพี่คิวซะให้เข็ดจะได้รู้ใจตัวเองซะที :angry2: :angry2:
-
เอาล่ะซี่ หึหึ..
อาจจะได้เห็นคนอกแตกตายรึเปล่า
พี่ฟ้าน่ารักจังเลยยยยยยยย :o8:
-
อยากเห็นพี่ฟ้าแกล้งคิว ฮ่าๆๆๆๆ
-
อ๊ายยย น่ารักอ่ะพี่คิว อยากอ่านอีกอ่ะ
ฮืออออ มาต่อบ่อยๆๆนะคร้าจะรอนะ
-
อ๊ากกกกกกก เค๊กจะนอนกะพี่ฟ้าจริงอ่ะ เราว่าห้องพี่คิวเหมาะกว่าน๊าาาาา
-
โอ้มายก๊อด.. (ร้องเป็นพี่ฟ้าเลย)
เหลือเชื่อที่สุด (ยืมพี่ฟ้ามา)
นอนหนุนตัก อร๊ายยยยยย
ขาชาประล่ะน้องเค้กขราาาาาา
อั๊ยยะะะะะะะะะ
อร๊ายยยยย พี่ฟ้าชวนน้องเค้กนอนห้องด้วย
พี่คิว ทนได้หราาาาาา
แหมๆ ตอนแรกก็จิ้นซะ นึกว่า หลังจากพี่คิวหาของกินแล้วมานั่งดูหนังกะน้อง
นึกว่าจะมีช่วงตอนดูหนังกันสองต่อสองภายในห้องแห่งความรักซะอีก (ขอตอนนี้เป็นพิเศษหน่อยจิบี้จ๋า)
ขอบคุณนะคะที่อัพมาให้ฟินสุดถึงที่สุดแบบนี้ จ๊วบบบรักคนแต่งชะมัดเลย
-
ฮ่าๆๆๆ พี่คิวโดนแกล้งล่ะ อิอิ น้องเค้กน่ารักเนาะ เพราะน่ารักนี่แหละถึงได้เป็นเครื่องมือไว้ใช้แกล้งพี่คิวของพี่ฟ้าได้ชะงัดนัก ฮ่าๆๆๆๆ
-
ตอนนี้สงสารพี่คิว โดนแกล้งบ้าง :laugh:
ชอบตอนที่นอนหนุนตักกันอ่ะ :กอด1:
-
แบบว่าเริ่ดม๊ากกกมากกกก o13 o13
ให้มันได้เเบบนี้สิพี่ฟ้า :กอด1: :กอด1:
แผนการนี้ คงทำให้พี่คิวใกล้ชิดเค้กมากขึ้นน่ะ :-[
ยัยฝันทำเป็นห่วง คิดจะจิ๊กคิวไว้เองรึยังงัยยยย
น่ารักกกกมากอ่ะ ตอนนี้ยกความดีความชอบ
ให้พี่ฟ้าคนเดียวเลย ได้ใจมากกกก
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
+ เป็ดครับ
-
ช่วงเปิดตอนนี้มียัยฝันโผล่มา..คิดว่าจะพาเค้กดราม่าซะแล้ว
แต่พี่คิวกลับพลิก :m3: หวาน(ฉบับพี่คิว)โดนใจไปซะงั้น
ลุ้นๆตอนหน้าว่าหนูเค้กจะได้ไปนอนห้องใคร :z1:
ปล.ส่วนยัยฝัน :a14: ฝันต่อไปเถอะย่ะ
-
ค้างคามากกกกกกก
มาต่อด่วนเลยครับ
-
:กอด1: :m20: พี่ฟ้าสุดๆ อ่่ะ หาเรื่องแกล้งพี่คิว แต่ดูท่าคนที่โดนจะเป็นเค้กเองล่่่ะม้างงงง :กอด1:
-
ชอบอ่ะ พี่คิว+น้องเค้กน่ารัก :จ้อบจัง1: :จ้อบจัง1:
-
โอ้ววววววววววว มันช่างเป็นโมเม้นท์ที่น่ารักสุดๆของสองคนนี้ คือแบบไม่ค่อยฟิลถึงความเศร้าของพี่คิว
แต่ฟิลถึงแต่ความน่ารัก และกลิ่นอายแห่งความสุขระหว่างสองคนนี้มากกว่า พี่คิวเหมือนจะซึนน้อยลงแล้ว
ดีจายยยยโว้ย !! ไม่ใช่พูดงี้แ้ล้วเบบี้กลับไปใ้ห้พี่คิวซึนเหมือนเดิมนะ ฮ่าๆๆๆ กำลังจะดีแล้วจ้า
ไอคนอ่านก็อาการเดียวกับอาฟ้าอ่ะ แฟนแทสติค ! โอเอ็มจีมว๊ากกกกกกกกก !! น่ารักจริงๆ : D
แล้วก็แอบหมั่นไส้ฝันเล็กน้อย ชริชระ ! คิดว่าตัวเองดีมาจากไหนกันเชียว อิอิ แต่เจอพี่คิวแบบนี้ไปก็ดีดฝันกระเด็นเลยจ้า
-
อาฟ้าเจ้าเล่ห์หว่ะ ว่าแต่มีแผนไรจะแกล้งพ่อหลานชายจอมเก็กอ่ะ :fox2:
ห๊ะอะไรนะ!!โอ้มายก๊อออดดดด~จะจับน้องเค้กเข้าห้องหอกับพี่คิวคืนนี้!! o22
อนุมัติ!!ปฏิบัติตามแผนโดยเร่งด่วน ฮ่า ฮ่า ฮ่า :a2:
(คิดเองเออเองสงสัยตรูจะบร้า กร๊ากกกก)
-
:-[ :-[ :o8: :o8: แบบว่าคุณคนเขียนนนน ขาาาาาาาาาาาาาาาา เค้ารักเรื่องนี้มากเลยตัวเอง มีโอกาศ ที่จะรวมเล่มกะเค้าบ้างมั๊ยอ่าาาา เค้าจองเล่มนึงนะ ล่วงหน้า คริคริ :กอด1:
-
:-[ :impress2: :o8: โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นอนตัก
พี่คิวววววววววววววววววววววววววววว
พี่ฟ้า :mc4: :mc4: :mc4: ฮ่าๆๆ
ไม่รู้จะเม้นอะไร รู้สึกลอยๆฟินๆ งัยไม่รู้ :impress3:
-
...อาฟานีนะช่างแกล้ง รู้ว่าหลานมีใจให้เ่ค๊ก แล้วยังจะแกล้งยั่วหลานอีก
...คุณฝันเธอกันคิวไว้ให้เพื่อน หรือกันเอาไว้ให้ตัวเองวะ รู้สึกจะออกนอกหน้ามากไปหน่อย:beat:
-
อาฟ้ากำลังยั่วพี่คิวนี้เอง
-
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดด พี่คิว ตอนนี้พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำนี้จริงๆ ถึงกับต้องโผล่ออกมาเม้นต์^^
-
กดไลด์อาฟ้าคร้า
P.S. หวาน ปน ขม มันรสชาติดีอย่านี้นี่เอง :o8:
-
บอกได้คำเด๋วว่าสวดยอด
o13 o13
-
เริ่มถูกวางลำดับให้เข้าใกล้กันมากอีกขั้นหนึ่ง โดยที่มีแรงผลักดันจากคนที่สำคัญตนผิด :m20:
ส่วนพี่ฟ้า จะจัดการแก้แค้น หลานชายจอมเก็กได้สำเร็จหรือไม่ คนที่น่าสงสารที่สุดตอนนี้คือ น้องเค้ก :o8:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจ แม้ตอนนี้จะไม่มีของมาล่อก็ตาม :z2:
-
ค้างมากๆๆๆ อยากรู้คิวจะทำยังงัย ฮ่าๆๆๆ :m20:
เกลียดชะนีฝันมากกกกกกกกกกกกกกกกก :m16:
เป็นแค่เพื่อนทำตัวหัวก้าง ไว้กินเองหรอ ชิส์ :angry2: :z6:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
จะดีมากเลย ถ้าเอาฝันออกไปอ่ะเบบี้
-
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านค่ะ
อ่านยาววววกันแบบนันสตอปเลยทีเดียว ^^
สนุกมากกเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ
ตอนล่าสุดนี่พี่คิวน่ารักมากกกก อ้ายยยยย :impress2:
ติดตามและเป็นกำลังใจให้น๊าา o13
-
ชอบชอตนอนตักจริงๆ :o8:
-
ท่าทางคุณฝันอยากจะเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทละมั้งเนี่ย วิญญาณนางร้ายค่อยๆออกมาทีละนิด
แค่ว่าอยากรู้จริงๆว่าคิวคิดยังไงกับเค้กกันนะ
-
เราประเมินสถานการณ์ (ตัวเอง)ว่า วันไหนสองคนนี้หอมแก้มหรือกอดกัน เราคงเขินจนน้ำลายฟูมปากตาย 55555 :laugh3:
อยากถามเบบี้ว่า....จะมีวันนั้นไม๊น้อออ .....
ปล.ไม่น่าเชื่อว่าเบบี้แต่งได้แต่ละเรื่อง คนละสไตล์กันเลย แต่ความเหมือนกันคือดีเทล และอารมณ์ของตัวละคร แน่นปึ๊กมาก ! ปลาบปลื้มนะคะ
-
อยากให้ถึงตอนที่พี่คิวบอกรักเค้กเร็วๆจัง :-[
จะแสดงออกแบบไหนกันน้า
-
อร๊ายยย อยากอ่านตอนต่อไปอย่างแรงคร้า :-[
-
มาต่อเร็ว ๆ น้าาาาา ค้างมากมาย
-
รักเรื่องนี้มากกกกกกกกกกก พี่คิว น่ารักได้อีก ดูเป็นคนที่เดาอะไรไม่ได้เลยจริง 555 :impress2:
-
ชอบ มาก ครับ อ่านไป ยิ้มไป เขิล มว้าาาก * *! :-[
-
ตายๆๆๆๆ ตอนต่อไปจะเป็นไงนี่ คิวเอ้ย โดนอาฟ้าจัดการซะละ 555
-
ชอบๆ เิอาอีกๆ
ต่อไปนางมารฝันจะต้องมายุ่งกับเค้กอีกแน่ๆเลย
-
เราประเมินสถานการณ์ (ตัวเอง)ว่า วันไหนสองคนนี้หอมแก้มหรือกอดกัน เราคงเขินจนน้ำลายฟูมปากตาย 55555 :laugh3:
อยากถามเบบี้ว่า....จะมีวันนั้นไม๊น้อออ .....
ปล.ไม่น่าเชื่อว่าเบบี้แต่งได้แต่ละเรื่อง คนละสไตล์กันเลย แต่ความเหมือนกันคือดีเทล และอารมณ์ของตัวละคร แน่นปึ๊กมาก ! ปลาบปลื้มนะคะ
น่าจะมีไหมน้ออออออออออออ อ้อ..มีไหมน้ออออ :z1: -- ก็อยากเห็นคนอ่านน้ำลายฟูมปากบ้างไรบ้าง กร๊าก
ปล. กราบขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ _/\_ นี่ไม่ได้ล้อเล่น..ถ้าเจอจะก้มกราบจริงๆ 555+ ขอบคุณค่ะ :laugh:
-
เบบี้จ๋า รอน้ำลายฟูมปาก 555
-
:z1: ว๊าวววววววววว
เริ่มหวานกันบ้างแล้วน๊า
อิจฉา
-
เบบี้จ๋า รอน้ำลายฟูมปาก 555
น้ำลายจะบูดก่อนรึเปล่านี่ดิ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก :jul1: :m20:
-
เห้ยยยย
มันแฟนแทสติกมากกกกกกก 5555
ชอบคำนี้โว๊ะะ >.,<
พี่ฟ้าตลก แล้วน้องเค้กก็สติลอ่านง่าย
พี่คิวคงหลุดมาก ตอนที่รู้ว่าน้องจะนอนนี่
5555 ตลกบ้านนี้!!
-
เย้
แกล้งพี่คิว
น่ารักจัง อิอิ
เกลียดอิฝัน ไปฝันไกลๆไปเลยไป๊ ชิ้ว
-
พี่คิวนอนหนุนตักน้องเค้ก กรี๊ดดดดดดด ดัง ๆ ให้ลั่นบ้าน :laugh:
แล้วพี่ฟ้าจะแกล้งให้พี่คิวหึงได้ขนาดไหนน้อ o18
-
อ่านตอนนี้แล้วกรามจะค้างค่ะ ยิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว อ้ายยยยย :-[
พี่คิวเสียงดังซะน้องน้ำตาไหลพรากๆ กันเลยทีเดียว แต่ให้อภัยได้ค่ะเพราะเป็นพี่คิว ก๊าก ก ก
แอบนอนตักกันด้วยอ่ะ เขินตายแล้วววววว
:o8:
พี่ฟ้าตอนนี้น่ารักได้อีกอ่ะ แล้วแบบนี้จะแกล้งพี่คิวกลับได้จริงๆ หรอค่ะเนี้ย 555 :z3:
น่ารักเป็นบ้าเลย พี่คิวก็ตกใจเสียงหลงไปนะค่ะ ตื่นเต้นหรอค่ะ คริๆ ๆ น้องเค้กมานอนด้วยรินะ
งานนี้ต้องแอบมีลักตัวน้องเค้กไปนอนกอดห้องตัวเองแน่เลย จะเสร็จพี่คิวรึเปล่าเนี้ยงานนี้
อาฟ้าาาา น่ารักสุดอ่ะ ชอบมากเลย จับคู่ให้หลานตัวเองจริงๆเลย :impress2: :impress2:
-
โถเบบี้ ตัดได้ลุ้นมาก ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคืนนี้ ฮิๆๆ :z1:
-
ฟ้ามันน่า :man1: ฮึ่ย หมั่นเขี้ยว!! เจ้าเล่ห์พอกันทั้งอาทั้งหลาน ...
คิวแคร์เค้กเหมือนกันนะเนี่ย ชอบน้องมันแล้วแน่ๆ...
ชอบอ่ะ เหมือนคอยเฝ้าดูว่าเค้าจะรักกันได้ยังไง ลุ้นไปกับเค้กตลอด ตอนนี้มันเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
:pig4: เบบี้ :กอด1: มีความสุขจริงๆ ที่ได้อ่านนิยายของคุณ
-
แง่ง ตอนนี้มัน น่ารักโฮกกกกกก
พี่คิวนอนตักเค้ก ว๊ากกกกก :o8:
ฮาพี่ฟ้า คงตกใจมาก
555555
คืนนี้จะเป็นไงเนี่ย พี่คิวยอมเหรอ ลากเค้กเข้าห้องตัวเองเลย :laugh:
-
มีฝันร้ายตามรังควาน แต่ก็มีนางฟ้ามาโปรดนะเนี่ย
หอบเสื่อไปนอนเฝ้าหน้าห้องพี่ฟ้าก่อนจะได้รู้ว่าพี่คิวมาป่วนเปี่ยนแถวนั้นไหม :z1:
:pig4: คะ
-
น่ารักกกกกกกกกกกก :-[
-
ฝันก็ได้แต่ฝันเท่านั้น
ตัวจริงเขามาแล้ว
แต่ว่า ตัดตอนได้แบบ @_(U#Y)*!Y$(#_*+!สุดๆเลย
ชอบ :3123:
:กอด1:
-
ตั้งแต่อ่านมา เป็นตอนแรกที่พี่คิดมาดหลุดอ่ะ อย่างฮา
-
พี่ฟ้านี่เป็นกองเชียร์ชนะเลิศจริงๆ o13เค้กยอมค้างที่บ้านพี่คิว อยากรู้ว่าพี่คิวจะทำยังไง
-
ตามทันแล้วเย้ :impress2:
แต่ละตอนลุ้นมากว่าพี่คิวจะอารมณ์ไหน :เฮ้อ:
-
อ่ะ พี่คิวจะยอมหรอเนี้ย.... :impress3: :impress3:
-
หึๆ สมน้ำหน้ายัยฝัน
-
พี่ฟ้า... คืนนี้ขอหนูนอนด้วยคนดิ อยากนอนกลางระหว่างพี่ฟ้ากะน้องเค้กอ่ะ น้า.....
ปล. การที่พี่คิวนอนตักน้องเค้กเนี่ย ถือเป็นการออดอ้อนแต่พองามของผู้ชายนามว่า " คิวปิด " แล้วใช่มั้ยเนี่ย :z3:
เอ๊ะ... หรือพี่แกจะมิได้คิดอันใด นอกจาก " กรูง่วง " ฮ่าๆๆๆ
-
ขอพูดตามพี่ฟ้า
เฮ้ยยฮเย
นี่มังเจ๋งไปเลยนี่หน่า
-
กร๊ากกกกกกกกกกกกกก งานนี้ตายแน่พี่คิว เก๊กดีนักนะ ระวังโดนคุณอาโค่นบังลังนะจ๊ะ :z2: :z2:
พี่คิวไปตามน้องมานอนห้องเดียวกันเลย ระวังโดนอาฟ้าลักหลับนะ น้องยิ่งน่ารักๆอยู่ หึหึ
-
ตอนนี้มันหลายอารมณ์มาก !!
อ่านแล้วกลิ้งงงๆๆ ดิ้นๆๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ลั่นบ้านแข่งกับพี่ฟ้า 55555
สงสารเค้ก โฮกๆ น้องคิดมากเรื่องค.ต่างอีกแล้ว T.T
พี่คิว แอบหวาน น่ารักซะ ฮิ้ววววว
ว่าแต่บี้ๆๆ...พี่คิวจะยอมให้เค้กนอนสองต่อสองกะพี่ฟ้าให้พี่แกลวนลามจริงน่ะ ??? กิ๊วๆๆ
-
ฝัน คุณเป็นไรมากเปล่าครับ เพื่อนลืมแฟนเก่าที่จากไปแบบไม่สามารถกลับมาได้มันไม่ดีหรอครับ
คุณบอกว่าคุณเป็นห่วงคิว แล้วคือคุณทำแบบนี้ถูกแล้วหรอ
คุณคิดว่าคุณดีพอสำหรับคิวมากขนาดนั้นเลยหรอ ถ้าคนเขาดีพอจริงเขาคงไม่ทำแบบนี้กันหรอกครับ :m16:
ขอโทษนะครับพอดีอินมากไปนิด :laugh:
ตอนนี้พี่ฟ้าน่ารักมากเลยครับ แต่ก็แอบสงสารคิวที่ต้องโดนพี่ฟ้าทรมานจิตใจโดยเอาเค้กมาเป็นเครื่องมือ
แต่ไม่เป็นไรครับคนอ่านชอบ จะได้รู้ๆสักทีว่าคิวรู้สึกอย่างไง
ทำตัวเป็นรูปปั้นเดินได้อยู่ได้ 555 งานนี้คิวเสร็จพี่ฟ้าแน่
จะติดตามผมงานต่อไปเรื่อยๆ และจะค่อยให้กำลังใจคนแต่งเสมอ :กอด1:
-
น่ารัก
-
อ่านไปยิ่มไป แม้จะขมวดคิ้วบ้างตอนป้าฝันมาพร่ำเพ้อห ่าเหวอะไรนั่น
แต่หลังเหตุการณ์นั้นมันหวานเลี่ยนมากค่ะ อิอิ
-
ชอบความรักระหว่างอาหลานคู่นี้จริงๆ เหมือนหยิกแกมหยอกกันตลอดเลย
ปล.ตอนนี้อาฟ้าเริ่มจะมีอาวุธเด็ดในมือแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
-
พี่ฟ้าน่ารักที่สุดอ่ะ ไม่บอกไม่รุว่าอายุเยอะแล้วนะเนี่ย ขี้อ้อนที่สุด
-
อาฟ้าน่ารักที่สุดเลยตอนนี้
เหมือนได้ร่วมกันแกล้งพี่คิวไปด้วยเลย หุหุ o18
-
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
ดอกรักกำลังจะผลิบบาน เย้ๆๆสู้ๆเค้านะเค้ก เอาพี่คิวมาให้ได้
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
-
อ๊ากกกกก พี่คิวโหมดนี้น่ารักมากกกกกกกก
น้องเค้กสู้ ๆ
พี่ฟ้าฮามากกกกก
เบบี้น่ารักสุด ๆ เลิฟ เลิฟ
:กอด1:
-
เค้ก แล้วเราจะทำไงต่อไปดีละ เอาใจช่วยเสมอ ขอให้ผ่านไปได้
และใช้ความห่วงใย ความดี เข้าแลกคนที่ใจแข็งขนาดไหน ก้อต้อง
พ่ายแพ้ความดีไปได้ สู้ๆๆนะครับเค้ก :L1: :pig4: :L2: :3123:
-
พี่ฟ้ามันจะสำเร็จไหมเนี่ย??
คิดจะแกล้งพี่คิวเนี่ย
-
อธิบายความรู้สึกของตัวเองไม่ออก :z3:
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!~ :angry2: :serius2:
อยากจะร้องให้ดังกว่านี้อ่ะ เขิลแทนอ่ะๆๆๆๆ :m17: :m1:
-
พี่ฟ้า จัดให้พี่คิวไปหนักๆหนึ่งที
หมั่นไส้คนนี้มานานละ 5555
แอบเขิลแทนเค้กนะเนี่ยยย> <
-
พี่คิวเปิดใจให้เค้กมากอ่ะ นอนตักเค้กด้วย
น่ารักได้ทุกตอน ปลื้ม~
ชอบใจพี่ฟ้าอ่ะ แกล้งพี่คิว :jul3:
อยากให้พี่คิวโดนพี่ฟ้าแกล้งเยอะๆน่ะ น่ารักดี อิอิ
:กอด1:
-
พี่คิวนอนหนุนตักเลยเหรอ
อิอิ
เกลียดอิพี่ฝัน...........สมน้ำหน้าโดนพี่คิวไล่!!
-
ถึงฝันเธอจะไม่ยอมรับเค้กแล้วทำไม :beat:
พี่ฟ้าชอบเค้กอย่างออกนอกหน้ามากอ่ะ
มีความคิดหนึ่งที่เข้ามาในหัวว่า
ปรายกับฝันอาจจะเป็นพี่น้องกัน
แบบ "ปรายฝัน" ไรเงี้ย
-
จะบอกว่า ตอนนี้มันคุ้มจริงๆ พี่คิวน่ารักได้อีกอ่ะ
นอนหนุนตักน้อง แล้วยังเก๊กได้อีกนะ พี่คิวๆนะพี่คิว !!!
-
พี่ฟ้าตลก น่ารักอ่ะ :-[
มาต่อเร็วๆนะจ้า
-
วันนี้ได้นอนบ้านเดียวกัน แล้วเมื่อไหร่จะได้นอนเตียงเดียวกันหนอ :-[ :-[ :-[ :-[
-
ตอนนี้ได้หลายอารมณ์มากอ่ะ
กดดันเพราะฝัน หวานเพราะเค้กกับคิว น่ารักเพราะอาฟ้า อิอิ
-
คงปากหนัก ขี้เก็ก อย่างนี้ ต้องจัดหนักๆเลย
-
พี่คิว น้องเค้ก น่ารักจัง เขินแทนเลยอ่ะ
พี่ฟ้าแกล้งพี่คิว แล้วพี่คิวจะทำอย่างไรน้า
-
ได้เข้าห้องสำคัญ ห้องที่เป็นส่วนตัวของพี่คิว นอนหนุนตัก กรี๊ดดดด หวานมาก :-[ :-[ :-[ เขินๆๆ
ชอบบบบบ พี่คิวทำหวาน อิอิ
รอลุ้นตอนต่อไปมากกก ฮ่าๆๆ พี่คิวจะทำยังไง :laugh:
-
โฮะ!!! ต่องแต่ง อะเบบี้
อีพี่คิว โดนแน่ หรือว่าจะเป็นเค้กหว่า .....
สะใจไปกะพี่ฟ้า สุดยอด ^^
-
อ่านแล้วฟินอ่ะตอนนี้ น่ารักที่สุดอ่ะ เค้กโดนแกล้งจากทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวเลย พี่คิวงานเข้าแล้วนะ จะทำไงต่อเนี่ย ชอบตอนนอนหนุนนตักอ่ะ น่ารักดี
-
ชอบพี่ฟ้าจัง นึกภาพออกยังไงไม่รู้
ดูเพี้ยนๆเวอะเวิ่นดี5555
-
โอ้วว กลับมาได้อ่าน2ตอนรวด :a5:
รู้สึก เรื่องมันดำเนิน มาเรื่อยๆ เหมือนจะถึงจุดเด็ด o22
แต่ที่แน่ๆ คืนนี้เค้กจะได้นอนกับพี่ฟ้าหรือพี่คิวกันละ หึหึ :z1:
-
น่ารักอ่ะ ตอนพี่คิวนอนตัก เรานี่แทบกรี๊ดค่ะ น่ารักมากกกกก
พี่คิวแย่งเค้กมานอนหรอตัวเองเลย ฮ่าๆๆ พี่ฟ้าขี้แกล้งมาก แต่ดูท่าแผนนี้อาจจะไปด้วยดีก็ได้น้า
ปล.อิพี่ฝันอย่ามายุ่งได้ป่ะ นิสัย!!!
-
อยากรู้ว่าน้องเค้กจะได้นอนห้องใคร พี่คิว หรือพี่ฟ้า
-
คิวเริ่มับความรู้สึกแปลกๆของฝันได้แล้วใช่มั้ยเนี่ยะ หึหึ
ว่าแต่คิดไปทันเปิดใจรับตอนไหนน่ออออออ เหอๆ คิวลุคใหม่ อร๊ายย เขินอ่าาา
-
รออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ บี้อัพด่วน อัพทุกวันจิ 55555
-
แอบจิ้นนำไปก่อนนะเนี่ย
ว่าวันไหนพี่คิวกับน้องเค้กจุ๊บๆๆๆๆกันเมื่อไหร่
คาดว่าคนอ่านเลือดกำเดากระฉูดแน่
เพราะแค่นอนหนุนก็กร๊ดบ้าบอไปแล้ว
ประดุจว่าตัวเองเป็นคนเห็นฉากนั้นแทนพี่ฟ้าซะงั้น 55+++
ชอบๆๆๆๆมากเลยอ่ะเบบี้ ชอบเรื่องนี้สุดๆๆๆๆๆโดยเฉพาะพี่คิว น้องเค้ก
เบบี้เขียนสนุกทุกแนวเลยอ่ะ ไม่ได้อวยเน้อ เรื่องจริง^^
เมื่อเช้าเข้ามาทีและ บ้าบออ่ะ อ่านไปหลายรอบและตอนล่าสุดอ่ะ
ขอบคุณสำหรับความสนุก ที่เบบี้เอามาแบ่งปันจ้า
-
หึ ฝันร้ายเผยตัวละ ชิชะ พี่คิวเราไม่โง่หรอกนะ :laugh:
อาฟ้าเนี่ย..... o18
:pig4: นะคะ
-
อิพี่คิว แกสุดๆอ่ะ ชอบว่ะ หนุนตักนอน อ๊ากกกเยี่ยมมากก ว่าแต่จะเป็นงัยน้านอนบ้านแถมวันรุ่งขึ้นยังเป็นวันสำคัญอีก
-
ให้เข้าห้องสำคัญไม่พอ เเถมนอนหนุนตักเลยนะคิวนะ :m12:
อ่านแล้วอยากเป็นพี่ฟ้า....จะเเกล้งคิวให้เก็กหลุดซะหน่อย :laugh:
-
แกล้งเยอะๆ เลยค่ะอาฟ้า หุหุ
คิดว่าคิวก็รู้ใจตัวเองเหมือนกันนะ แค่ฟอร์มเยอะและรักการแกล้งเด็กน่ะ
-
ฝันจ้าอย่าเอาความเหมาะสมขอเธอมาตัดสิน บางทีคิวเขาอาจจะเลือกคนที่อยู่ด้วยแล้วทำให้ยิ้มได้ มีความสุข สบายใจ และทำให้จิตใจสงบลงได้ ที่เธอพูดเหมือนเป็นห่วง แต่กลับเป็นความตอกย้ำความเจ็บปวด ความเศร้าให้กับคิว เธอยิ่งดูไม่ดีในสายตาคิว ฉันว่าเธอพลาดแล้วล่ะ อยุ่ข้างๆมาตั้งนานยังแทรกซึมเข้าไปไม่ได้ เธอนะสำคัญแต่ผิดสถานะไปหน่อย คิวน่าจะวางเธอไว้เป็นเพื่อน น่าจะทำใจซะนะ เห็นได้ชัดว่าน้องเค้กมาแรงแซงทุกสถาณการณ์ แถมพี่ฟ้าท่าทางจะดันเด็กปั้นคนนี้มากๆๆ อิอิ น่ารัก อยากเห็นคิวหลุดมาด
-
แอบหมั่นไส้ฝันเบาเบา =___=\
สรุปว่าเค้กต้องนอนห้องอาฟ้าหรือคิวกันแน่ :z1:
มารอตอนต่อไปจ้า :L2:
-
ตอนนี้พี่คิวน่ารักที่สุดในสามโลกอ่ะ อ้อนซ้า :-[
-
เอาซี่ คิวปิคเจอกับอาของคิวปิคใครจะใหญ่กว่ากัน555 อาฟ้าสุดยอด
พี่คิวเริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว
-
OMG!!! อยากอ่านแล้ว จะลงแดงงงงงง ><
-
พี่คิวน่ารักแล้วนะ
-
อุกรี๊ดดดดดดดดดดด และแล้วก็มีวันนี้ โอ๊ะๆ คนรอบข้างเค้าเริ่มเห็นถึงความผิดปกติที่พี่คิวมีต่อเค้กกันเยอะแล้วน้า
มีแต่น้องเค้กนี่แหละที่ยังไม่รู้ หรืออาจจะรู้แต่ไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเอง เห้อ ~ เบื่อยัยฝันมาก คนเราจะเหมาะสมกันหรือไม่
มันดูกันที่ฐานะทางสังคมและอื่นๆด้วยหรือไง แค่เข้ากันได้ดีมันก็เรียกว่าเหมาะสมแล้ว ที่ว่าเค้กไม่เหมาะ เพราะเธอจะบอกว่า
ตัวเองเหมาะกับคิวนอกจากปรายงั้นสิ ? เหอะ คนเราไม่จำเป็นต้องลืมรักเก่านิ พี่คิวเองก็ไม่ได้ลืม แต่แค่เปิดโอกาสให้เค้ก
ได้เข้ามาในใจบ้างก็เท่านั้น ยัยฝันเธอจะมาตัดสินใจแทนพี่คิวได้ยังไง ชิส์ โอยยยยย พี่คิววววว อยากจะกรีดร้องงงงงง
ตอนแรกยังอาละวาดอยู่เลย พอเห็นน้องเหมือนจะร้องไห้ ถึงได้เปลี่ยนอารมณ์ใช่มั้ย ? อ๊ากกกก ให้นอนตักด้วยอ่า
อุกรี๊ดดดดดดดดดดดด น่ารักกกกก พี่ฟ้านิ ท่าทางจะอยากเอาชนะพี่คิวน่าดู หึหึ รับรองวิธีนี้ได้ผลแน่ พี่คิวคงแสดงท่าทาง
อะไรที่ทำให้พี่ฟ้าดูเหนือกว่าได้อย่างแน่นอน เรื่องของเค้กพี่คิวเค้าอ่อนไหวววว ฮิ้ววววววววววว
จุดพุฉลองงง แอร๊ก >/////<
-
ดัน ๆ :z10:
-
:z2: :z2: มาเต้นรอเค้ก&พี่คิว
-
^
^
^
จิ้มๆ
เค้าเข้ามาเต้นบ้าง >< :z2: :z2:
-
^
^
เต้นรอด้วยคน :z2: :z2: :z2:
:กอด1:
-
มารอนะครับๆ
-
:z2: :z2: :z2: :z2: เต้นด้วย
-
:z2:เข้ามารอค่า
คิดถึงพี่คิวน้องเค้กและพี่ฟ้า หึหึ :m12:
-
อยากอ่านใจจะขาดแล้วววววววววววว
o19 o19 o19 o19 o19 o19 o19 o19
-
อยากเห็นพี่คิวโดนแกล้งจะแย่แล้ววว ว
-
:m31: อ๊ากกกกกกกกก เบบี้ทำไมตัดจบตอนแบบนี้ละเนี่ย
ค้างอย่างแรง เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่าทำกันแบบนี้ ๕๕๕๕๕๕๕
รอลุ้นพี่คิว อยากเห็นพี่คิวของขึ้นแล้ว ชอบเย็นชานักใช่มั้ย :laugh:
-
มารอออออออออค้าบบบบบบ อิอิ
-
ตามอ่านทันแล้ววววว 555555
ชอบพี่คิวมากมาย อร๊ายยยยย คุณพี่ของคุณน้อง >///<
-
:call: :z2: :call: :z2: :call: :z2: :call: :z2:
:กอด1:
-
รออ่านต่ออออออออ
งับ งับ งับ
พี่คิว พี่คิว พี่คิว พี่คิว
-
แวะมาดัน และ รอ
ตกมาอยู่หน้าสองแล้วน๊า อิอิ
-
ไล่อ่านอยู่3วัน..น่ารักมากเลยอิพี่คิวกับน้องเค้กเนี่ย
-
มารอด้วยคน :impress2:
-
o13 o13 o13 > <
-
วันนี้จะมาไหมอ่าาา า
อยากอ่านมากก ก
-
มารอ เบบี้
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :z3:
-
มารอพี่คิวหึง อยากเห็น ๆ ๆ o18
-
รอได้ค่ะ
ตอนต่อไปต้องมีไรเกิดขึ้นแน่ๆ
-
คิดถึง คิดถึง คิดถึง ทุกวัน~
-
พี่คิวววว
น่ารักนะเนี้ย
ไม่ลืมพี่ปรายใช่มั้ย....
-
บี้หายไปไหน เค้าจะจุดธูปล่ะน๊ะ !!!
-
แวะมาดันรอ อีกวัน อิอิ
:z2:
-
รอรอรอรอจ้าาา
-
อ่า...เบบี้ รอๆๆๆ
-
รออยู่มาต่อเร็วๆๆนะคับๆๆๆๆๆ ขอบคุณคับๆๆๆๆ
-
มารอครับ o13 o13
รออยู่น้าาาา
-
คิดถึง คิดถึง ใจจะขาดแล้วเอย ~>3<~
-
คิดถึงๆๆๆ จังเลย :call:
-
คิดถึงน้องเค้กพี่คิวง่ะ นับวันรอเรื่อยๆ รอได้ แต่อยากอ่านเบาๆ 5555
-
คิดถึง :กอด1:
-
มาต่อไวๆ นะครับ น่ารัก น่ารัก
-
~41~
ผมลืมตาตื่น พลิกตัวหันกลับไปมองคนข้างๆที่เมื่อคืนนอนด้วยกัน ตอนนี้ไม่มีพี่ฟ้าอยู่ในห้อง ผมเหลือบดูนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ปลายเตียง บอกเวลาเจ็ดโมงครึ่งได้แล้ว
ดูเหมือนว่าเมื่อวานหลังจากที่พี่คิวทราบแล้วว่าผมจะนอนด้วย หลังจากนั้นกลับปกติ ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆเกิดขึ้นอีก พี่ฟ้าดูจะไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่นัก แต่สุดท้ายพี่ฟ้ากลับหัวเราะออกมา “หึหึ” อย่างที่ผมไม่เข้าใจในความหมาย ไม่เข้าใจในอารมณ์ของอาหลานคู่นี้ เหมือนเขาสองคนต่างฝ่ายต่างรู้กันดีเพียงสองคนเท่านั้น..
“เฮ้อ..” ผมเอาหน้าซุกหมอนอีกครั้ง เมื่อคืนแทบนอนไม่หลับเพราะพี่ฟ้าเล่นนอนกอดผมทั้งคืน ชุดนอนที่ผมใส่อยู่ในตอนนี้ก็เป็นของพี่ฟ้าด้วยเหมือนกัน
ห้องของพี่ฟ้ากว้างมาก เดินเข้ามาจะพบห้องทำงานที่มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ มีชั้นวางหนังสือเต็มห้องไปหมด มีโซฟาและเครื่องเสียงครบครัน ย้ำให้ผมได้รู้ว่าบ้านนี้เขาชอบอ่านหนังสือและดูหนังกันมากจริงๆ เมื่อเดินเข้ามาอีกด้านจะเป็นห้องนอน ทั้งสองห้องมีห้องน้ำในตัว เตียงขนาดคิงไซด์ทำให้ผมนอนพลิกตัวได้อย่างสบายถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้พลิกตัวสักเท่าไหร่นัก นั่นเหตุเพราะว่าโดนกอดไว้ตลอดเวลาก็เถอะครับ
เมื่อคืนระหว่างที่พี่ฟ้าเลือกชุดนอนให้ผมในห้องแต่งตัว ผมพบว่าห้องเก็บเสื้อผ้าของพี่ฟ้านั้นใหญ่กว่าห้องนอนของผมเสียอีก แต่นัยหนึ่งก็ให้ความรู้สึกแปลกดี ไม่เหมือนบ้านที่ใหญ่โตและตกแต่งด้วยเครื่องเรือนหรูหราซะจนไม่อยากเข้าใกล้ เพราะห้องพี่ฟ้าตกแต่งดูแปลกตา โดยมากยังคงสไตล์ความเป็นศิลปะแบบโทนยุโรปอยู่ สบายตาและดูคลาสสิกดี
ผมลุกขึ้นจากที่นอน จัดการพับผ้าและจัดเตียงให้เรียบร้อยอย่างเดิม เข้าห้องน้ำแปรงฟันและล้างหน้าล้างตา ผมเดินสำรวจไปทั่วห้องแต่กลับไม่พบพี่ฟ้าเลย และผมยังอาบน้ำไม่ได้ด้วยเพราะไม่รู้ว่าชุดของเมื่อวานนั้นอยู่ไหน พอล้างหน้าล้างตาเสร็จ ผมเดินลงมาจากชั้นสองอย่างเงียบๆเพราะในบ้านเงียบมากจนผมรู้สึกว่าถ้าทำให้เสียงดังขึ้นมา ผมคงดูเป็นคนที่พ่อแม่ไม่สั่งสอนเรื่องมารยาทมาแน่ๆ
“.............” ในบ้านเงียบสงัด ผมเดินไปที่ห้องอาหารเล็กแต่กลับไม่พบใคร จึงเดินมาอีกทางเพื่อไปที่ห้องหนังสือ แต่ที่นี่ก็ว่างเปล่าเช่นกัน
“ไปไหนกันหมด” ผมบ่นกับตัวเอง
~ตึง~
ผมชะงัก เหมือนได้ยินเสียงดนตรีมาจากห้องไหนสักห้อง ผมเดินไปที่ห้องที่พี่คิวเคยพาไปดูหนังนั่นเป็นห้องแรกเพราะอยู่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ กลับพบว่าห้องปิดอยู่ ผมนำหูเข้าไปแนบกับประตูแต่ไม่ได้ยินเสียงใดๆออกมาจากห้องนั้นเลย และผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเปียโนดังมาจากห้องรับรองแขก ผมรีบเดินตรงไปที่ห้องนั้นแต่ยังคงรักษาระดับของความเงียบเอาไว้ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากและได้แต่สงสัยว่าใครเป็นคนบรรเลงเพลงนั่น เสียงเปียโนดังกังวานไปทั่วบ้าน เมื่อผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเสียงดนตรีที่เล่นสดก็ยิ่งทำให้ผมอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้นอีก
ผมหยุดอยู่หน้าห้องรับแขก ผมก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ พี่คิวนั่งอยู่ที่แกรนเปียโนสีดำตัวโปรดของพี่ฟ้า นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนเล่นเปียโนสดๆ และเป็นครั้งแรกเช่นกันที่ได้เห็นพี่คิวเล่นเปียโน ตั้งแต่มาบ้านนี้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมไม่เคยได้เห็นเป็นบุญตาเลยสักครั้ง ตอนแรกคิดว่ามีเปียโนตั้งไว้เพียงแค่ประดับบ้านเฉยๆตามประสาคนมีเงินก็เท่านั้น
~เพลงที่พี่คิวเปิดวันนั้นนี่....Canon in D~
ใช่เพลงนั้นแน่ๆ เพลงเดียวกัน ผมจำมันได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นเพลงคลาสสิกที่ผมได้ตั้งใจฟังอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก เป็นเพลงที่มีเสียงไพเราะสะกดใจผมจนผมรู้สึกว่าจะต้องจดจำ ถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นเพียงเปียโนตัวเดียว ไม่ใช่เพลงบรรเลงอย่างที่ได้เคยฟังในครั้งนั้น แต่ผมกลับจำทำนองนี้ได้ขึ้นใจทีเดียว..
ผมมองคนที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ พี่คิวมีสีหน้าไม่ต่างจากวันนั้นเลย ภาพสะท้อนความคิดออกมาซึ่งผมจำได้ดี วันที่พี่คิวเคยบอกผมว่า “เพลงทุกเพลงทำให้พี่คิวสงบ แต่ยกเว้น..เพลงนี้” ทำไมกัน ทำไมพี่คิวถึงพูดแบบนั้น คำถามที่ผมลืมที่อยากจะได้คำตอบไปนานมากแล้ว
ถ้าเพลงนี้ทำให้พี่คิวรู้สึกไม่สบายใจแล้วพี่คิวทำไมถึงเล่นมันได้คล่องขนาดนี้ คล้ายกับใบไม้ที่กำลังพลิ้วไหวอยู่ท่ามกลางความสงบเงียบ เสียงเปียโนที่ฟังดูแสนเศร้า คนคนนั้นถึงแม้ว่าจะแปลกตากว่าทุกทีแต่ก็สง่างามและดูเข้ากันดีกับเปียโนมากเหลือเกิน อยู่ๆในอกกลับรู้สึกเจ็บขึ้นมา เพลงนี้กำลังบอกผมว่าที่จริงแล้วมันสำคัญต่อพี่คิวมากเพียงไร ผมกำลังรู้สึกได้ว่ามันสำคัญมากทั้งทั้งที่ทำให้จิตใจพี่คิวว้าวุ่นแต่เหมือนกับว่าขาดมันไม่ได้
ผมชะงักด้วยความตกใจเมื่อเห็นพี่ฟ้าเดินไปยืนอยู่ที่ข้างๆพี่คิวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ผมไม่รู้สึกตัวมาก่อนเลยว่าพี่ฟ้าอยู่ในห้องนี้ด้วย หรือผมสนใจพี่เขามากเกินไปกัน
มือข้างซ้ายของพี่ฟ้าถือที่รองกาแฟ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟยืนมองหลานชายของตัวเองที่กำลังเล่นเปียโนเหมือนกำลังอยู่ในโลกของตัวเอง เสียงเปียโนเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆด้วยนิ้วมือที่กดลงไปด้วยความหนักแน่น และหลังจากนั้นก็เริ่มช้าลงและช้าลงเหมือนกำลังจะจบลงแต่เสียงกลับมาทุ้มหนักอีกครั้งและแผ่วเบาลงในที่สุด
“............” เสียงรอบตัวบ้านและในห้องเงียบไปสนิท รู้สึกตัวอีกทีมือของผมนั้นกำเข้าหากันแน่นจนรู้สึกเจ็บ ผมยืนมองพี่ฟ้าที่วางแก้วกาแฟลงช้าๆ พี่คิวก้มหน้าลง
“บางที..” พี่ฟ้าเอ่ยขึ้น สีหน้าเศร้าไม่ต่างจากหลานของตัวเองเท่าไหร่นัก
“บางทีน่ะ คิวก็ควรจะหยุดเล่นเพลงนี้ ด้วยความรู้สึกแบบนี้สักทีนะ” พี่ฟ้าพูดพร้อมกับเอื้อมมือลูบหัวพี่คิวเบาๆ พี่คิวไม่ได้ท้วงอะไรและไม่ได้เงยหน้าขึ้นด้วย ผมฉุกนึกขึ้นได้ว่านี่คงจะเกี่ยวกับเรื่องของพี่ปรายอีกอย่างนั้นหรือเปล่า เพราะเมื่อวานพี่คิวบอกว่าวันนี้เป็นวันสำคัญนี่นะครับ..
“ปรายเองก็คงอยากให้คิวเริ่มต้นใหม่สักที” แผ่นหลังของคนทั้งสองอยู่เบื้องหน้าผม ผมเห็นเพียงหลังของพี่คิวนั้นสั่น ถึงแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนนักแต่ผมเห็นอย่างนั้น อีกฝ่ายคงกำลังเศร้า หรือเสียใจ..เศร้าคล้ายกับเพลงที่กำลังเล่นอยู่นั่น
“อาไม่ได้บอกให้คิวลืม แต่อะไรที่ควรลืมเพื่อเรา..ถึงมันจะลบล้างไม่ได้ แต่เราก็ควรลืม ส่วนอะไรที่ควรจำ คิวอยากจำก็คงจะไม่มีใครไปรั้งไว้ได้” ผมยืนฟังอย่างตั้งใจ รู้สึกอยากจะฟังให้จบ ผมกำลังอยากรู้อยากเห็นทั้งๆที่มันไม่สมควร ผมรู้ตัวดี
“ปรายไม่เคยโกรธคิวนาน คิวก็รู้..ป่านนี้ปรายคงกำลังยิ้มอยู่ อาเชื่อว่าเธอรับรู้ได้ถึงความรู้สึกผิดที่คิวมีมาตลอดสี่ปี อย่าจมปรักอีกเลยคิว..มันเหนื่อยเปล่า หลานรัก” พี่ฟ้านำมือโอบลูบต้นคอพี่คิวอีกครั้งก่อนจะหอมลงบนหัวของพี่คิวช้าๆ
ผมที่กำลังยืนฟังตัวแข็งจนขานั้นก้าวไม่ออก และคงเดินหนีไม่ทันแล้วด้วย พี่ฟ้าชะงักเบิกตาโตเมื่อเห็นว่าผมยืนอยู่ แต่อยู่ๆพี่ฟ้ากลับยิ้มออกมาน้อยๆ พี่ฟ้าเอื้อมมือมาลูบแก้มผมด้วยรอยยิ้ม ผมก้มหน้าลงและรับรู้ถึงไออุ่นของมือนี้ และผมรู้สึกได้ถึงความรู้สึกก้นบึ้งของตัวเองว่าตอนนี้ผมกำลังช็อก หน้าที่ชาทำให้ย้ำบอกได้ว่าผมรู้สึกแย่กับเรื่องที่ได้รับรู้มาเมื่อกี้มากเพียงไร ทำให้ผมรู้ว่าผมนั้นอยากเป็นคนสำคัญของพี่คิวมากขนาดไหน กระทั่งผมเองยังลืมตามความรู้สึกของตัวเองไป ลืมไป..จนน่ากลัว
“มาเถอะครับ” พี่ฟ้าพูดบอกผมแทบกระซิบ ผมหันกลับไปมองคนในห้องอีกครั้ง พี่คิวยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมและคงไม่รู้ด้วยว่าผมมา พี่ฟ้าพาผมกลับเข้ามาที่ห้องหนังสือ ผมนั่งลงที่โซฟา พี่ฟ้านั่งลงข้างๆ ผมหันไปยิ้มกว้างให้พี่ฟ้า เป็นการยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกทั้งหมดแต่พี่ฟ้าก็ยังยิ้มตอบ
“เค้ก..ชอบคิวเหรอครับ”
“อ๊ะ..” ผมตกใจ อยู่ๆพี่ฟ้าก็ถามตรงประเด็น ที่จริง..มันตรงมากเกินไปสำหรับผมน่ะ
“ชอบใช่ไหม” พี่ฟ้าย้ำถามอีกครั้ง ใบหน้าของพี่เขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
“เค้ก..คือ” ผมได้แต่หลบตาพี่ฟ้าและก้มหน้าลง พี่ฟ้าขยี้หัวผมเบาๆ เสียงพี่ฟ้าหัวเราะอยู่ในลำคอทำให้ผมรู้ได้ว่าพี่ฟ้าคงจะอ่านผมออกหมดแล้ว
“ไม่เป็นไร” พี่ฟ้าพูด น้ำเสียงอบอุ่นจนแทบใจหาย ซึ่งสามารถตีความน้ำเสียงนี้ได้สองทางและผมไม่อยากจะคิดต่อว่าที่พี่ฟ้าหัวเราะแบบนั้นนั่นหมายถึงทางไหน
“............” เราเงียบลงพร้อมกันครู่หนึ่ง
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าความสัมพันธ์ของเค้กกับคิวเป็นยังไงน่ะ พี่ไม่รู้นะครับ แต่เค้ก..” พี่ฟ้าทิ้งเสียงลงทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“คิวน่ะ..เข้าใจยาก แต่ก็เข้าใจง่าย” พี่ฟ้าพูดแกมหัวเราะ ผมมองพี่ฟ้าอย่างไม่เข้าใจ สีหน้าของพี่ฟ้าในตอนนี้จริงจัง จริงจังมากไปจนผมกลัวไปหมด..พี่ฟ้าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ถ้าพี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าทีเล่นทีจริงอย่างทุกทีก็คงจะดีไม่น้อย
“คิวรู้และเข้าใจตัวเองดีที่สุด..ทุกอย่าง ขึ้นอยู่ที่ตัวเค้าตัดสินใจเองทั้งหมด”
“แต่ถ้าเราจะไม่เข้าใจคนอย่างเค้า เราก็ไม่ผิดหรอกนะครับ..แต่พี่อยากให้เค้กเข้าใจ แล้วสักวันเค้กจะเข้าใจเอง เชื่อพี่นะ” พี่ฟ้ายิ้มให้ ผมพยักหน้ารับรู้ไปอย่างนั้น
“ถ้าเค้กชอบคิวจริงๆ ไม่ว่าคิวจะตอบรับเค้กในแบบไหน มันก็คงต้องใช้เวลา..เร็วหรือช้า พี่ก็คงบอกเค้กไม่ได้” ระหว่างที่พี่ฟ้าพูด มือของพี่ฟ้าลูบมือของผมอยู่ตลอดเวลา
“แต่ถ้าไม่มีวันนั้นเกิดขึ้น ยังไง..เค้กก็คือน้องชายที่น่ารักของพี่อยู่นะครับ ไม่ต้องห่วงอะไร” พี่ฟ้ายิ้มน้อยๆ
“ฮ..ฮะ” ผมได้เพียงแต่พยักหน้าและฝืนยิ้มตอบเพื่อให้พี่ฟ้าสบายใจ
“แล้ว..พี่จะไม่บอกคิวเรื่องนี้หรอกนะครับ ขอให้สบายใจ” พี่ฟ้ายิ้มกว้างกว่าเดิม
“ขอบคุณครับ” ผมตอบพร้อมพยักหน้า สรุปว่าทุกอย่างที่พี่ฟ้าพูดผมไม่ได้ปฏิเสธ นั่นคงบอกได้ว่าผมยอมรับกับพี่ฟ้าว่าผมชอบพี่คิว
“แต่ถ้าคิวรับรู้ได้เอง มันก็ไม่เกี่ยวกับพี่อะนะ” พี่ฟ้ายักไหล่ส่งๆ ผมหลบตาพี่ฟ้าด้วยอาการเขินขึ้นมาในทันที
“หึ..” พี่ฟ้ายิ้ม มือยังคงขยี้หัวผมไม่หยุด
จุ๊บ~~
“พี่ฟ้าอ่ะ” ผมว่าพร้อมกับก้มหน้าเขินพี่ฟ้าที่เข้ามาจูบหน้าผากผมอีกแล้ว
“อะไรล่ะ แค่จุ๊บเอง” พี่ฟ้าหัวเราะ
“เมื่อคืนคงลวนลามไม่พอรึไง” ผมกับพี่ฟ้าชะงัก หันกลับไปมองตามเสียงที่คุ้นเป็นอย่างดี พี่คิวยืนมองด้วยสีหน้าเหมือนเอือมกับสิ่งที่ได้เห็นเมื่อกี้
“เค้านอนกอดกันทั้งคืนแหละ” พี่ฟ้าพูดเล่นหน้าเล่นตา
“เฮอะ” พี่คิวแสยะปาก เป็นการทำหน้าทำตาตอบโต้ที่ดูเหมือนกำลังเหลือเชื่อกับคำพูดของอาตัวเอง
“จะเข้าครัวเอง รึจะให้อาทำ..รึจะเป็นหน้าที่ป้านิดเหมือนเดิม ช่วยตัดสินใจด้วยนะคุณชาย..ทุกคนเค้ารอคุณคนเดียวแหละ” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“เข้าเอง” พี่คิวตอบและเหลือบตามามองผม ผมยิ้มให้น้อยๆและก็ต้องหุบยิ้มลง รู้สึกยังยิ้มได้ไม่เต็มที่สักเท่าไหร่และไม่สามารถยิ้มได้กว้างกว่านี้แล้วด้วย ผมคงต้องขอเวลาปรับตัวสักครู่ ผมไม่ใช่คนที่ปรับตัวได้หลากหลายอารมณ์อย่างคนบ้านนี้นี่นะ
“เชิญต่อกันได้ตามสบาย” พี่คิวพูดและเดินไปซะเฉย
“ชิ เค้กว่ามะ..ไอ้คิวนี่ขี้เก๊กเนอะ” พี่ฟ้าหันมาทำหน้าตาหมันไส้พี่คิวใส่ผม
“ก็..ใช่” ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ที่จริงจะว่าขี้เก๊กก็ไม่เชิง มันก็เป็นอย่างนี้ของมันมาตั้งนานจนเป็นธรรมชาติไปละ พี่ละเซ็งหน้าหลานตัวเอง แต่มันก็หล่ออะนะ..บอกปัดไม่ได้ว่าพี่ไม่ชอบหน้าตามัน” พี่ฟ้าพูดแกมหัวเราะตลอดเวลาจนผมอดหัวเราะด้วยไม่ได้ หลังจากนั้นผมกับพี่ฟ้าหัวเราะพร้อมกันอย่างเข้าใจอารมณ์ของกันและกันดี เรานั่งคุยกันหลายเรื่อง พี่ฟ้าให้ผมขึ้นไปอาบน้ำบนห้องของพี่ฟ้าก่อนที่จะนำเสื้อผ้าชุดของเมื่อวานที่ซักรีดเรียบร้อยแล้วมาให้ผม เราพูดคุยกันต่อ พี่ฟ้าเล่นเปียโนและสอนให้ผมเล่นด้วย ซึ่งส่วนมากผมจะทำได้แค่จิ้มๆอยู่ที่โน้ตตัวเดียว เราเล่นเปียโนกันจนเพลิน รู้ตัวอีกทีป้านิดก็มาตามเพราะอาหารตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว..
ณ สมุดโน้ตของคุณเค้ก..
ศุกร์ 9 ธันวาคม 2554
เรายืนอยู่ตรงนี้ได้.....อย่างนั้นเหรอ เราไม่คู่ควร เรารู้ตัวดี แต่เรา...อยากยืนอยู่ตรงนี้ จนกว่าอีกฝ่าย – จะไม่ต้องการ..
Bye Bye..Cake
= = = = = = = =
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“อ่าว..พี่ฝัน สวัสดีค่ะ” พี่ซีพูดทักเสียงใส ผมหันกลับไปมอง เห็นพี่ฝันเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับยิ้มทักทุกคน ผมยกมือไหว้ไปตามมารยาท พี่ฝันพยักหน้าตอบเพียงเท่านั้นเช่นเดียวกัน
“คิวเสร็จรึยังจ๊ะ” พี่ฝันถาม
“อ๋อ อยู่ในห้องพักแล้วค่ะ” พี่ซีตอบ ตอนนี้พวกผมกำลังช่วยกันเก็บร้านเตรียมกลับบ้านกันแล้ว
“ขอบใจจ้ะ พี่เข้าไปได้ใช่ไหม” พี่ฝันชี้ไปที่ห้อง
“ได้ค่ะ..อาก็อยู่” พี่ซีพยักหน้าตอบ ผมมองพี่ฝันที่กำลังเดินเข้าห้องไป
~วันนี้พี่ฝันมาหาพี่คิวทำไมนะ หรือมารับกลับด้วยกัน หรืออะไรยังไงอ่ะ..โอย~
“เค้ก เค้ก”
“ค..ครับ” ผมสะดุ้ง
“เป็นไรอ่ะ เหม่ออะไร” พี่ซียื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ป..เปล่าครับ มีอะไรเหรอ”
“พี่จะบอกว่าพอแล้ว ไปเก็บของๆตัวเองเถอะ” พี่ซีบอก
“ครับ” ผมพยักหน้ารับและเดินนำผ้าเช็ดโต๊ะไปเก็บไว้กับที่ของมัน ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องพักพนักงานเพื่อจัดการเก็บของๆตัวเองต่อ
“เฮ้อ..วันนี้เหนื่อยจัง” พี่กัสบ่นหน้างอ ผมวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ในหัวของผมกำลังวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าจะเอายังไงกับตัวเองดี วันนี้เห็นว่าคนที่เอารถมาคือพี่คิว ไม่รู้ว่าผมจะได้กลับพร้อมกันกับพี่ฟ้าและพี่คิว หรือเป็นอย่างครั้งหนึ่งที่พี่คิวไปกับพี่ฝันและให้พี่ฟ้ากลับบ้านโดยรถของพี่คิวแทน ระหว่างที่ผมรอเวลาก็คิดบ้าบอไปต่างๆนาๆ
“บ่นอยู่นั่นแหละ” พี่หมีว่า
“พี่หมีๆ..พรุ่งนี้กัสไปรอที่คอนโดของพี่หมีนะ” พี่กัสเงยหน้ามองพี่หมีอย่างมีความหวัง
“ไม่ได้” พี่หมีตอบเสียงแข็ง
“ทำไมอ่ะ ก็กัสจะเอาเสื้อไปถักให้ แล้วจะได้ให้เลยไง..มันจะเสร็จแล้วนะ” พี่กัสพูดไม่หยุด
“บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ อีกอย่าง..พี่ก็เลื่อนไฟลท์แล้วด้วย” พี่หมีไม่หันไปมองหน้าพี่กัสเพราะมัวแต่เก็บกระเป๋าของตัวเอง
“ขี้งก” พี่กัสทำหน้าบู้ใส่
“หึ” พี่หมีเงยหน้ายิ้มให้พี่กัส
“กลับบ้านดึก เดี๋ยวที่บ้านก็ว่าได้อีก..พรุ่งนี้พี่คงถึงคอนโดสามทุ่มพอดี อย่ามาทำตัวเอาแต่ใจสิครับ” พี่หมีพูดยิ้มๆด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้ยินบ่อยนัก
“ก็..กัสเบื่ออ่ะ” พี่กัสสะพายกระเป๋ายืนรอเรียบร้อย ผมจึงลุกตามบ้าง
“ห้ามดื้อ” พี่หมีขยี้หัวพี่กัสอย่างเอ็นดู
“เค้ก!!” อยู่ๆพี่หมีกับพี่กัสก็เรียกชื่อผมซะดัง
“ครับ!!” ผมขานตอบเสียงดังฟังชัดในทันที
“เปล่า ฮ่าๆๆ เห็นเงียบ..เลยอยากแกล้งดู” พี่หมีหัวเราะ
“เหอะๆ” ผมหัวเราะแหยๆ
“ไปเถอะ” พี่หมีพยักหน้าบอก ผมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับพี่หมีและพี่กัส ส่วนพี่ซีเพิ่งเดินสวนกลับเข้าไปที่ห้องเมื่อกี้
“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมหมี” พี่ฟ้าเดินออกมา พี่หมียักคิ้วแทนคำตอบ พี่ฟ้าเบะปากเชิดใส่ตอบกลับให้ ผมยืนมองพี่คิวที่เพิ่งเดินออกมาพร้อมกับพี่ฝัน
“เออเค้ก..เดี๋ยวไปพร้อมกับคิวได้ไหมครับ พอดีพี่มีธุระต้องไปทำต่อ” พี่ฟ้าพูด นั่นไงครับ..ผมว่าแล้วว่ามันจะต้องมาในรูปแบบนี้ ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้หันมามองหน้าผมกันหมดอย่างรอการตัดสินใจจากผม
“ไปรถฝันน่ะ พอดีพวกฉันต้องไปทางนั้นพอดี” พี่คิวพูดขึ้น
“เอ่อ งั้นไม่เป็นไรครับ” ผมรีบตอบปัด พยายามทำตัวเองให้เป็นปกติที่สุด ถึงแม้หัวใจจะอยู่ไม่สุข หน้าตาของผมในตอนนี้คงขัดกับคำพูดไปหมดแล้ว แต่ผมจะพยายาม..
“.............” เงียบสนิททุกท่านทุกนาง
“เอ่อ คือ..พี่ต้องไปอีกทางน่ะครับ ขอโทษด้วยที่วันนี้ไปส่งไม่ได้” พี่ฟ้ารีบเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเหมือนกลัวว่าผมจะโกรธอย่างนั้น
“ไม่เป็นไรครับ เค้กกลับเองได้..ไม่มีปัญหาเลยครับ” ผมยิ้มกว้าง ตาผมมองแต่หน้าพี่ฟ้า ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าพี่คิว ผมกลัวว่าอีกฝ่ายจะอ่านสายตาของผมในตอนนี้ออก กลัวว่าพี่เขาจะอ่านรู้ว่าผมกำลังรู้สึกลำบากใจแค่ไหน
“งั้นไปกับพี่ก็ได้” พี่หมีพูดขึ้น
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่หมีมองหน้าผม
“เอางั้นเหรอ” พี่ฟ้าหันไปมองหน้าพี่หมี
“ไม่ใช่ปัญหา” พี่หมีพูดแกมหัวเราะ
“งั้นฝากด้วยนะ ดูแลน้องดีๆล่ะ” พี่ฟ้ากำชับ
“โอเค..งั้นไปกันเถอะ” พี่ฟ้าพยักหน้าบอกทุกคน พี่ซีเดินออกมาจากห้องพักของพนักงานพอดี พี่ซี พี่กัสและพี่หมีเดินนำออกจากร้านไปก่อน ผมและพี่ฟ้าเดินตามไป ส่วนพี่คิวและพี่ฝันเดินตามหลังมาอีกที พี่ฟ้าขับรถออกจากร้านไปคันแรก ตามด้วยรถของพี่คิวและพี่ฝัน ส่วนพี่กัสและพี่ซีมีคนรถจากที่บ้านมารอรับกลับไปเรียบร้อยแล้ว ผมกับพี่หมีต้องกลับทีหลังสุดเพราะต้องปิดรั้วร้านให้เรียบร้อยก่อน..
“ฟังเพลงไหม” พี่หมีถามขึ้น
“ไงก็ได้ครับ” ผมตอบ
“งั้นไม่ฟัง” กรรม..นิสัยไม่ได้ต่างกับพี่คิวเลยสักนิด ผมละเพลียกับคนที่ร้านนี้จริงครับ
“อ่านะ” ผมหัวเราะ นานๆทีจะได้อยู่กับพี่หมีสองต่อสอง ที่จริงผมไม่ค่อยได้กลับกับพี่หมีสองคนสักเท่าไหร่นัก ก็ไม่ได้รู้สึกเกร็งนะครับแต่ก็รู้สึกแปลกๆดีเหมือนกัน รถของพี่หมีมีของค่อนข้างเยอะแต่จัดอย่างมีระเบียบแสดงถึงนิสัยของเจ้าของซึ่งแตกต่างจากรถของพี่ฟ้าหรือพี่คิวที่ในตัวรถจะไม่ค่อยมีของจุกจิกวางให้รถดูหมองราคาลง
“มีอะไรทำให้ลำบากใจรึเปล่า” พี่หมีถามขึ้นก่อนหันมายิ้มให้
“เปล่า..นี่ครับ” ผมตอบ
“สีหน้าเค้กดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ” พี่หมีพูด ผมเงียบ กำมือเข้าหากันจนรู้สึกเกร็งขึ้นมา คนในร้านนี้เป็นคนช่างสังเกตหรือเพราะผมแสดงออกง่ายกันแน่ ผมชักเริ่มรู้สึกสงสัยในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆแล้วล่ะ
“มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ ดุ..แต่ไม่กัด ถ้าไม่จำเป็น หึ” พี่หมีพูดหยอก
“หึ..ขอบคุณครับ” ผมหัวเราะ ผมไม่ตอบปัดว่าไม่มีปัญหาแต่ก็ไม่ได้บอกปัญหานั้นด้วยเช่นกัน พี่หมีเอามือมาลูบหัวผมเบาๆก่อนจะนำมือกลับไปจับที่เกียร์รถอย่างเดิม
“รถติด” พี่หมีพูดตาลอย ผมเงียบฟัง..กำลังสงสัยว่าพี่หมีต้องการจะพูดบอกอะไร
“เฮงซวยทุกวัน”
“หึหึ” ผมหัวเราะกับคำบ่นหน้าตายของพี่หมี
“เบื่อฉิบเลยว่าไหม บางทีพี่ก็อยากบินได้” พี่หมีอมยิ้ม
“เค้กก็ว่างั้น เค้กก็อยากบินได้” ผมยิ้มบอกบ้าง
หลังจากนั้นพี่หมีกับผมเริ่มคุยกันอย่างออกรส รถเราไม่ได้เปิดเพลงนั่นเพราะเจ้าของรถบอกว่า “ไม่เปิด” ทำให้เราได้พูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรมากยิ่งขึ้น ผมรับรู้ได้ถึงความเป็นคนที่อบอุ่นจากพี่หมีแต่ก็กลับแฝงไปด้วยความน่ากลัวลึกๆ หลายอย่างที่ผมไม่ควรคิดจะอ่านความคิดของหมี ผมคิดว่าไม่รู้ดีกว่านั่นดีที่สุด..
= = = = = = = =
23:00 น. ณ ห้องนอนเค้ก..
จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้นได้เปรียบกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ..
“จะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว..เฮ้อ” ผมนอนกลิ้งลงบนเตียง นี่ผมอ่านประโยคนี้ซ้ำกี่ครั้งแล้วนะ ซ้ำอยู่เกือบชั่วโมงหนึ่งได้แล้วละมั้งครับ ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่มีหวังคะแนนตกและมีหวังได้หลุดออกจากทุนแน่ๆ..
ตื๊ด ๆ ๆ
ข้อความเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
ผมชะงักมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตนเอง และก็ต้องเพ่งมันให้แน่ชัดอีกครั้งว่าผมนั้นไม่ได้ตาฝาดไป ถึงแม้จะตกใจแต่ผมก็รีบกดดูข้อความเดี๋ยวนั้น
~อาทิตย์นี้ ว่างวันไหน~
“อะไรของเค้า” ผมบ่นในทันที เป็นประโยคที่ตรงตัวแต่กลับแฝงไปด้วยความสงสัยต่อผู้รับเป็นอย่างมาก ผมรีบส่งกลับไปว่า “ทำไมครับ” ในทันที เพียงไม่ถึงห้าวินาทีก็มีข้อความตอบกลับมา
~ยังไม่นอนซินะ แต่ฉันถามอะไร ให้ตอบ..ไม่ได้ให้ถามกลับ~
“ไอ้เชฟบ้า” ผมว่าใส่โทรศัพท์แต่กลับหัวเราะออกมาไม่ได้ อยู่ๆภาพหน้าของพี่เขาก็ลอยมาอย่างที่ผมรู้ได้ทันทีว่าถ้าพี่เขาอยู่ตรงนี้กับผม พี่เขากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
“ถึงนอนอยู่ก็จะลุกขึ้นมาตอบเหอะ” ผมพูดบ่นและก็ต้องเขินให้กับความคิดของตัวเอง นี่ผมเป็นผู้ชายแบบไหนกันครับ ผมกำลังรู้สึกเขินและรู้สึกว่าดีจังที่ได้เห็นข้อความจากคนคนนี้ ทั้งทั้งที่นี่คือเวลาอ่านหนังสือของผม หรือไม่บางครั้งผมอาจจะเข้านอนไปแล้วด้วยซ้ำ ผมไม่เคยสนใจที่จะตอบข้อความของใครก็ตามในเวลาแบบนี้มาก่อนถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทหรือคนรักของผมอย่างแต่ก่อน
ผมรีบหยิบตารางเรียนออกมาดูว่าตัวเองนั้นว่างวันไหน และรีบส่งข้อความกลับไปด้วยความตื่นเต้นบวกด้วยความดีใจว่า “วันพฤหัสหลังเลิกเรียนครับ เลิกเรียนเกือบสี่โมงเย็น” เมื่อส่งไปแล้ว..หลังจากนั้นผมต้องนั่งรออย่างใจจดจ่ออยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่สักพัก ที่จริงนั้นใจของผมเริ่มรู้สึกไม่ดีตั้งแต่ห้านาทีแรกแล้ว พี่คิวตอบข้อความกลับมาช้าจนผมรู้สึกเกร็งไปหมด
ตื๊ด ๆ ๆ
ข้อความเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
~ห้าโมงตรงฉันจะไปรับที่มหาลัยนาย ไว้จะโทรไป~
ผมนั่งมองข้อความด้วยความดีใจ อาการรู้สึกแย่ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำหรือกระทั่งเมื่อกี้นั้นหายไปสนิท ตอนนี้ทั้งดีใจและตื่นเต้น และด้วยความสงสัยว่าพี่เขาจะมารับผมทำไม ผมอดไม่ได้ที่ต้องส่งข้อความกลับไปถามอีกครั้ง “อยากรู้ ไปไหนเหรอครับ..ไม่งั้นไม่ไปนะ” ไม่ถึงห้าวินาทีผมก็ได้ข้อความตีกลับมาว่า..
~ถ้าไม่ไปก็แล้วแต่นาย~
“ง่ะ..” ผมอึ้งกับข้อความไปชั่วขณะ รู้สึกน้อยใจขึ้นมาแต่ก็ดันส่งข้อความกลับไปในทันทีว่า “ไปสิฮะ!” เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ให้ผมไปด้วยจริงๆ
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจและทิ้งตัวลงนอน มองเพดานที่อยู่ตรงหน้า พ่ายแพ้พี่เขาอย่างราบคาบซินะเรา..
“รักเข้าให้แล้วจริงๆด้วย” ผมได้แต่พูดบ่นกับตัวเอง ทุกอย่างในห้องของผมคงได้ยินและคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแย่ที่ผสมกับความสุขในขณะเดียวกันของผมในตอนนี้ คุณตุ๊กตา คุณคอมพิวเตอร์ คุณปากกา คุณหนังสือเรียน..คุณเข้าใจผมใช่ไหมครับ
“ขอร้อง..อย่าให้ความรู้สึกเพิ่มมากขึ้นกว่านี้เลยนะ แค่นี้ก็เต็มทนแล้ว” ผมพูดพร้อมกับยิ้มสู้อย่างให้กำลังใจตัวเอง
ตื๊ด ๆ ๆ
ข้อความเข้า -- พี่คิวปิด -*- สุดโหด
ผมรีบหยิบมือถือขึ้นดูทันทีที่ได้ยินเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้าอีกครั้ง
~หึ..ฝันดี~
“หึ หึ..ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะในทันทีเมื่อเห็นข้อความ ขนาดส่งข้อความยังมีหน้ามาหัวเราะให้เราอีก นี่แค่เห็นเพียงข้อความผมยังรู้เลยว่าพี่เขากำลังทำท่าหัวเราะในลักษณะแบบไหน มันก็คงหนีไม่พ้นเป็นหน้านิ่งๆกวนๆแล้วแสยะยิ้มออกมาน้อยๆอย่างเคยนั่นแหละมั้งครับ
ผมพลิกตัวนอนมองข้อความประโยคสุดท้ายนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างที่ไม่ได้ส่งตอบกลับไปอีก ที่จริง..อยากส่งกลับไปว่า “ฝันดีเหมือนกันครับ” แต่คิดว่าไม่ส่งน่าจะดีกว่า ผมนอนอ่านข้อความจากพี่คิวซ้ำๆอยู่หลายต่อหลายครั้ง
“พี่คิวคงจะชอบส่งข้อความสินะ” ผมยิ้มบ่นกับตัวเอง แสงหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่หยุดนิ่งจากการไม่ได้ถูกสัมผัสทำให้ไฟหน้าจอดับลงครั้งแล้วครั้งเล่า ผมนอนอ่านข้อความทั้งหมดวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น สุดท้ายก็หลับไปในที่สุด..Zz zZz
..................>>>><<<<....................
-
:z13: :z13:
-
:m7: :m7: :m7:
-
พี่คิวจะพาเค้กไปไหนนนนนนนนนนนน :-[ :-[ :-[
-
คู่นี้ก็หวานกันตลอดอ่ะ :-[
-
พี่คิวใส่ใจความรู้สึกของเค้กเหมือนกันนะ
เค้าเรียกว่า ง้อ รึเปล่านะ
เอิ๊กๆ น่ารักมากค่ะ
ตั้งใจอ่านหนังสือเน้อออออ เบบี้
-
ยาวมาก ๆ ตอนนี้จบแบบไม่คาใจ
พี่ฟ้าน่ารัก พูดได้ดี คืออาหลานเค้ารู้จักกันเป็นอย่างดีเนาะ
แต่เพราะมีเหตุของพี่ปราย คิวปิดจอมโหดเลยเป็นแบบนี้
หวังว่านัดในครั้งหน้า คงทำให้ความสัมพันธ์คืบหน้า
ไปในทางที่ดีล่ะ :กอด1:
ปล.เบบี้ขอให้สอบผ่านไปได้ด้วยนะนะคะ
อ่านหนังสือเยอะ ๆ ล่ะ
-
พี่คิวววววววว อย่าทำร้ายจิตใจเค้กนะ สงสารเค้กกก รักเค้าเข้าแล้วล่ะสิ o13 o13
-
เอิ่มมม อ่านตอนนี้แล้วแบบเห็นใจเค้กอ่ะ
อ่านไปก้หน่วงไป เค้กคงต้องรออย่างเดียวสินะ
แต่อย่างน้อยปฏิกิริยาของพี่คิวก้ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่เนอะ ค่อนไปทางดีด้วยซ้ำ
เห้อออออ จะว่าไปฉากถึงเนื้อถึงตัวระหว่างเค้กกะพี่ฟ้านี่มันชวนปวดตับจริงๆ
พี่คิวก้นะ ควรจะรู้สึกอะไรมั่งเซ่ รู้มั้ยคนอ่านเขารอดูปฏิกิริยาคุณอยู่ ฮึ!
เค้กต้องสู้ต่อไปนะลูก เค้กน่ารักจะตายพี่คิวมันไม่โง่แน่นอน
รอ รอ รอ ตอนหน้าที่อาจจะเป็นตอนที่ได้กรี๊ดกร๊าดก้ได้ เนอะ! :)
และก้ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อนะ Got A ทุกตัวนะคะ <3
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ลุ้นๆ น่ะเค้กกกกก
ยอมรับใจตัวเองสักทีน่ะเค้กก
พี่คิวกวนได้ตลอดเวลา 55555
บวก บวก ครับ รอติดตามต่ออยู่ครับ
-
เดี๋ยวนี้พี่คิว ของน้องเค้กน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะเนี่ยย รักพี่คิวววว :o8:
-
รอตอนหน้า มันต้องมีไรคืบหน้าแน่ๆ
ขอบคุณเบบี้ค่ะ
-
แค่นี้ก็สุขใจ :L1:
บวกเป็ด
^-^ เรื่องสอบก็พยายามเข้าน๊า :L2:
-
พี่คิว เป็นคนเข้าใจยากแต่ก็เข้าใจง่าย เออ ไม่เข้าใจตั้งแต่ตรงนี้แหละ
เค้กสิ เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมากับความรู้สึก ถ้าพี่คิวไม่รักน้องก็ถือว่าพลาดละ
ขอให้โชคเอทั้งเบบี้และเค้ก รวมทั้งเราเองด้วย สอบเหมือนกัน 555
-
ไม่รู้จะอธิบายยังไง~~~
สงสารเค้ก สงสารพี่คิว
หน่วงในใจ อ๊าก~~~~ ><
-
ชวนไปไหนน๊า
-
สู้ต่อไปนะเค้ก เอาใจช่วยคนเขียนให้สอบได้คะแนนดีๆ นะค่ะ :L2:
-
:-[ เขินกว่าเค้าบอกรักกันอีก
จะรอว่าเค้าจะไปรับกันไปทำอะไร :z1:
:pig4: คะ
-
อ่านไปก็เข้าใจความรู้สึกของเค้กนะ
รักเข้าไปแล้ว แถมจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
-
"....ณ สมุดโน้ตของคุณเค้ก..
ศุกร์ 9 ธันวาคม 2554
เรายืนอยู่ตรงนี้ได้.....อย่างนั้นเหรอ เราไม่คู่ควร เรารู้ตัวดี แต่เรา...อยากยืนอยู่ตรงนี้ จนกว่าอีกฝ่าย – จะไม่ต้องการ..
Bye Bye..Cake...."
กรี๊ดดดดดดดครั้งที่ 1 ของตอนนี้ น้องเค้กสู้ๆ มั่นใจในตัวเองหน่อยไอ้น้องกองเชียร์ทั้งในเรื่องนอกเรื่อง รอลุ้นเพียบ ไม่ต้องห่วง ฮ่าฮ่า
"...“เฮ้อ” ผมถอนหายใจและทิ้งตัวลงนอน มองเพดานที่อยู่ตรงหน้า พ่ายแพ้อย่างราบคาบสินะเรา..
“รักเข้าให้แล้วจริงๆด้วย” ผมได้แต่พูดบ่นกับตัวเอง ทุกอย่างในห้องของผมคงได้ยินและคงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแย่ที่ผสมกับความสุขในขณะเดียวกันของผมในตอนนี้ คุณตุ๊กตา คุณคอมพิวเตอร์ คุณปากกา คุณหนังสือเรียน..คุณเข้าใจผมใช่ไหมครับ ..."
กรี๊ดดดดดดดดดครั้งที่ 2 กับปย.ช่วงนี้ บิด เขิน อ่านไปนั่งยิ้มเหมือนคนบ้า ((แกรไม่ใช่น้องเค้ก อะไรจะขนาดน้านนนยะ ชริส์)) น้องบี้เขียนบรรยายออกมาได้ฟิลแบบคนกำลังมีความรักจริงๆ นะเนี่ย ((เอ๊ะๆ หรือว่าคนแต่งมันกำลัง in love เหมือนกันหว่า ^^ ))
ขอบคุณไอ้น้องบี้ที่มาต่อให้ถึงไม่มีฉากที่จิ้นไว้ แต่ก็กรี๊ดได้ไม่แพ้กันกับเรื่องราวที่น้องบรรจงสร้างสรรค์ขึ้น ตั้งใจอ่านหนังสือสอบนะจ๊ะ พี่หกเก้าจะอดใจรอตอนต่อไปอย่างสงบเรียบร้อยที่สุด ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่กวน((จะพยายาม ฮ่า ฮ่า))
+ให้ทุก+ที่ให้ได้เหมือนเคย ^^
:กอด1:
-
กดดันแทนเค้กเลย พี่คิวอย่าใจร้ายกับเค้กมากนะ
-
ก้อเข้านะว่า รักข้างเดียวอ่ะ น้องเค้ก แล้วเมื่อพี่คิวจะรู้สึกตอบอ่ะเนี่ย
-
หนูเค้กเป็นเอามาก :-[
ก็เข้าใจอยู่นะคะ
รักเค้าเข้าไปแล้วนี่นา :impress2:
-
อ่านตอนนี้รู้สึกสงสารน้องเค้กจังเลยค่ะ พี่คิวมาง้อน้องด้วยอ่ะ น่ารักจริงๆ กลัวเค้กเสียใจละสิ
แต่ตอนนี้ชอบพี่หมีอ่ะ >< พี่หมีจะคู่ใครนะๆ อ้ายยยย :z3:
แล้วเรื่องที่ร้องเค้กชอบพี่คิว ถึงไม่บอกก็คงรู้ไปนานแล้วละค่ะ ฮ่ าา ตั้งใจอ่านหนังสือนะจ๊ะน้องเค้ก
ปล. สู้ๆ ในการสอบนะค่ะ o13
-
พี่คิวจะพาน้องเค้กไปไหนหละ??
-
จิ้มพี่คิว
:z13: :z13: :z13:
:pig4:
-
เหมือนพี่คิวง้อเค๊กเลยค่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
-
อยากรู้ว้่พี่คิวคิดยังไงกะเค้ก แต่เค้กก็น่าจะเป็นคนพิเศษของพี่คิวอยู่นะ ว่าแต่พี่คิวจะรับเค้กไปไหนน้าาาาาาาาาาาา
-
:z13: :z13:
-
สงสารทั้งคู่เลย
คนนึงก็สลัดอดีตไม่ได้ อีกคนก็คิดว่าตัวเองไม่คู่ควร
แต่อย่างพี่คิวซะอย่าง ถ้าคิดตกแล้วคงไม่แคร์โลกเ่ท่าไหร่หรอก
อยากให้ถึงวันพี่คิวมันหวานๆกับเค้าซักที (ซึ่งจะมีม๊ายยยยยย ฮ่าๆๆ :จุ๊บๆ:)
-
ไม่รู้เราไปอยู่นรกขุมไหนมา เพิ่งจะได้มาอ่านเรื่องนี้
ตอนนี้ก้อตามทันแหละ มีหลากหลายอารมณ์เลยอ่ะ
เศร้า น่ารัก ซึ้ง มีครบทุกอย่าง :L2: :L2:
-
อ้าย เค้ก แกสาวแตกมากไปแล้วนะ
ฝันนี้โผล่มาทำไมบ่อยๆ ย่ะ น่ารำคาญจริงเชียว
-
ลุ้นๆให้คู่นี้เค้าได้กันสักที
-
:o8:
พี่ฟ้าลวนลามเค้กตลอด~
ชอบพี่คิวไปแบบเปิดเผยแล้วแหละเค้ก
เค้ารู้กันหมดแล้ว55.
-
สงสารเค้ก
พี่คิวชัดเจนซะทีเถอะ T^T
อาฟ้าน่ารัก :กอด1:
-
อ่านแล้วก็ยิ้ม :t2: กับความน่ารักของเค้กอ่ะ
แต่บางทีก็รู้สึกสงสาร :m17: น้องอ่า
ไม่รู้ทำไม :m31:
-
ไม่ชอบฝัน!!!!!!!!!!! แง่งๆ
-
พี่คิวจะพาเค้กไปเดทที่ไหนอ่ะ อิอิ
-
คับผมคับผม รอรอรอ
-
น้องเค้กเป็นเอามาก
สู้ๆนะลูก อย่าท้อ อย่านอยด์ น่ะน้องเค้ก :กอด1:
ส่วนพี่หมี อยากรู้เรื่องพี่หมีอ่ะ
น้องบี้ สู้ๆ สอบได้สอบโดน เก็ทเอ ไฟล์ติ้ง :L2:
-
:ped149: เค้กสู้ๆ :110011: :z7:
-
ตอนต่อไป กุว่ามี First Kiss แน่ๆอ่ะ
-
จะพาไปไหนน๊ออ..อยากรู้ๆๆๆ
-
พี่คิวกะน้องเค้กน่ารัก
แต่เค้าเริ่มจะตกหลุมรักพี่หมีแล้วนะ!!!
-
น้องเค้ก เก็บอาการบ้างลูก
เค้ามองทะลุกันหมดแล้วอ่ะ
แต่ว่า....มันน่ารักนะ กร๊ากกกกกกกกกกก
เขินกับตัวเอง
พี่คิวมัน สุดยอด หล่อและรวย อยากเข้าใจพี่คิวบ้างอ่ะ แอร๊ยยยย
-
ช่วงแรกบีบคั้นหัวใจ ช่วงกลางตื่นเต้นและสงสัย ช่วงสุดท้าย หวานแบบแอบซ่อนอะไรก็ไม่รู้ พี่เค๊กเปิดใจแล้วพี่คิวละ
-
อ๊า เขิลลลนัดกันไปไหนอะ
-
:กอด1:เค้กรักพี่คิวต้องอดทนอะนะ :กอด1:
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย~
เอาชะนีฝันไปฝังกลบที่เกาะร้างห่างคนเถอะ ฮาๆ
อ่านชื่อผญ.คนนี้ที่ไร อยากกระโดดเตะขาคู่ๆๆ ซัก 30 ทีรวด กรั๊กๆๆๆ
คิว เค้กกกกกกกกกกกกกก กรี๊ดดดดด...เมื่อไหร่จะรักกันนน อิอิ คึคึ
ขอบคุณเบบี้จ้าๆๆ เป็นกำลังใจให้ ตั้งใจสอบเน้อ สู้สู้ :))
-
รักพี่คิวมากขึ้นกว่าเดิม มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ว้าววววว ลุ้นที่สุด หายใจไม่ออกกกกก
ขอให้โชคดีในการสอบนะค้าบ สู้ๆ ^________^
-
นั่นสิ แต่อย่ามีฝันไปด้วยนะ เด๋วเราจะเซ็งอ่ะ ตอนนี้ก็น่ารักดี แอบชอบเค๊กเปิดตัวกะพี่ฟ้านะ เนี่ยะ พี่ฟ้าเนียนเลยอ่ะ
-
เอิ่มมมมมมมมม อีตาพี่คิวนี่จะอะไรยังไง ก็ขอให้น้องเค้กและคนอ่านรุ้นิดนึงเหอะนะ 55555
แต่น้องเค้ก เปิดตัวสะขนาดนี้แล้วววววววววว เค้ารู้กันทั้งร้านละไปล่วงหน้าละ ฮ่าๆๆๆๆ
ขนาดพี่หมียังรู้ เจ้าตัวเองก็คงจะไม่เหลือ แต่ก็ยังต้องคอยลุ้นต่อไปว่ากับน้องเค้กจะยังไงอะไร
แหม แต่นี่ก็รุ้สึกเหมือนพี่เค้าจะแอบเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน อย่างน้อยก็มาชวนเค้กไป เดท ! คึคึ !
-
กลัวน้องเจ็บอ่ะ :sad4:
-
ฮ่า ฮ่า เค้กแสดงออกขนาดนี้ใคร ๆ เค้าก็รู้หมดแหล่ะว่าชอบพี่คิว
หนุก ๆ ความรักของคิวกับเค้กนี่มันเกิดอยากจริง ๆ
-
ยังไงพี่คิวก็แคร์เค้กอยู่แล้ว ไม่งั้นจะส่งข้อความมานัดเค้กทำไมเนอะ อิอิ
คงสังเกตุสีหน้าน้องออกอยู่แล้วล่ะตอนที่เค้กต้องกลับกับพี่หมี .. เค้กดูออกง่ายจะตายเนอะ :z1:
พี่คิวมาง้อน้องใช่ม๊าาาา :oo1:
ขอบคุณเบบี้นะคับ โชคเอ ในการสอบน๊า.. :L2:
-
:z13: จะรอครับ
สู้ๆในการสอบครับ :mc4:
-
เบบี้สู้ๆค่ะ
อ่านตอนนี้แล้วแอบสงสารเ้ค้ก เหมือนคนรักเค้าข้างเดียวไงไม่รู้ เหอะๆ
-
อ่านไปก็ลุ้นไป เห้อออออ!!! น้องเค้กสู้ ๆ
เป็นกำลังใจให้น้องเบบี้ในการสอบนะคะ Get A+ เลยยยยยย (จากคุณป้าผู้เลยวัยสอบมานานล่ะ) :z2:
-
สงสารเค้กจัง แอบชอบคิวแต่คิวยังมีฝันอยู่
-
อ่านแล้วหน่วงๆในอก สงสารเค้ก
รักเค้าไปแล้วหนิ ... :monkeysad:
จะเป็นรักข้างเดียวหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่ตอนนี้รู้สึกอย่างนี้จริงๆ :เฮ้อ:
สู้ๆนะเค้ก ...
สู้ๆนะคะ เบบี้
:pig4:
-
แอบสงสารน้องเค้กนิดหน่อย (ไม่หน่อยหรอกมั๊ง)
เข้าใจเค้กนะ ว่าบางทีก็แอบมีความหวังบ้าง
แต่พอพี่ฟ้าพูดแล้วแบบ เอ่อ เค้กคงต้องเผื่อใจเนอะ
มายิ้มได้ตอนที่มีแมสเสจเข้ามาเนี่ยแหละ
ท่าทางพี่คิวจะชอบส่งแมสเสจสินะ สินะ วิ๊งง น้องเค้ก ฝันดีแล้วสินะ ^ ^
ขอบคุณค่ะบี้ ขอให้สอบผ่านฉลุยนะจ๊ะ จะรอจ้ะ
-
อาฟ้าน่ารัก น้องเค้กสู้ สู้
:L2: ให้กำลังใจคนสอบครับ
+1
-
ดีใจ ขอทิชชู่ซับน้ำตาหน่อย 5555ได้อ่านแล้ว เค้กน่ารักอ่ะเด็กน้อยมากก พี่คิวดูยากแต่ชัดเจน
-
อ่านตอนนี้แล้วเขินๆ แฮะ :P
น้องเค้กน่ารักอ่าาา :impress2:
เอาใจช่วยน้องเค้กสุดๆ พี่คิวด้วยนะ หึหึ
-
พี่คิวคงชอบส่งข้อความสินะคะ...โรแมนติกจังเลยค่ะ
-
น่ารักอะ ^^
แล้วคู่นี้เค้าจะไปไหนกัน
ลุ้น เว้ยยยย ลุ้น.......
สู้ ๆ โชค A นะเบบี้
o13 o13 o13
-
เฮ้อออ แอบหน่วงในใจแทนเค้กตอนที่ต้องเจอยัยฝัน(ร้าย) นั่น
มาลุ้นต่อว่าพี่คิวจะรับเค้กไปไหน
-
รอตอนต่อจ้า สนุกมั่กๆ
-
ความสัมพันธ์ยังคงคลุมเครือ
สงสารทั้งคู่เลยอ่า
สู้ๆนะเค้กและพี่คิว
-
เค้กน่าสงสารเล็กๆนะคะ พี่คิวก็ทำอะไรยังไม่ชัดเจน กำกวมแบบนี้ เฮ้อ~~
-
พี่คิวนี่เดาใจยาก จะเอาไงแน่นี่
-
อ่านตอนนี้แล้วสงสารเค้กจังเลยค่า
อยากให้พี่คิวรักเค้กจริงๆจังๆซะที (เอ๊ะ รึจริงๆก็รักมากอยู่แล้ว 555)
-
เค้กน่ารักอ่ะ :o8:
แต่ใครช่วยเอายัยฝันไปเก็บหน่อยได้ใหม :m31:
-
ถ้าคิวไม่รู้สึกอะไรกับเค้กเลยก็คงไม่แคร์ความรู้สึกเค้กหรอก คนอย่างคิวอ่ะนะ ..
เค้กสู้ๆ :กอด1: ยังไงก็มีฟ้า ฟ้าน่ารักอ่ะบี้
:pig4: :กอด1:
-
ไม่อาจคาดเดาได้กับคนอย่างคิว o13
-
กว่าจะรักกันได้ยังอีกนานสินะ...น่าจะตอนที่ 70 กว่าโน้นละม้าง...ToT
ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นอกจากความรู้สึกของเค้กที่มีมากขึ้นๆ ในทุกที...คนมีความรักน่าเห็นใจจัง
-
พี่คิวจะพาเค้กไปไหนน้า o18
.
.
.
สู้ๆขอให้ทำข้อสอบได้ทุกวิชาจ๊ะ :L2:
-
อึดอัดแทนน้องเค้กจริง ๆ แต่ก็มีคนรอบข้างเข้าใจและให้กำลังใจ พี่ฟ้าช่างเป็นพี่ชายที่ดีจริง ๆ
พี่คิวคงยังลืมอะไร ๆ ๆ ไม่ได้ แต่เชื่อว่าสักวันน้องเค้กนี่แหละที่จะทำให้พี่คิวดีขึ้นมาก ๆ
แล้วนังชะนีฝันชักจะมาบ่อยไปแล้วนะ มาทำให้น้องเค้กของเราคิดมาก :z6:
ปล. เป็นกำลังใจให้เบบี้สำหรับการสอบนะคะ สู้ ๆ :L2:
-
เหมือนร้านนี้จะลืมๆ พนักงานบัญชีคนใหม่รึเปล่านะ ไม่ค่อยโผล่หัวออกมาเลย หรือว่ามีทำงานไม่ตรงกับเค้กเลยซักวัน ขนาดตอนปิดร้านกลับบ้านกันยังไม่เจอ :bye2:
-
:-[ :-[ :-[ :-[
พี่คิวจะพาเค้กไปไหนเนี่ยยยยย ไม่ได้พาไปขายช่ายมะ อิอิ
-
ความสัมพันธ์ ดูเหมือนะจคืบหน้า แต่บางทีก็เหมือนจะไม่คืบ :z10: ลุ้นต่อไป
-
กว่าจะรักกันได้ยังอีกนานสินะ...น่าจะตอนที่ 70 กว่าโน้นละม้าง...ToT
ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นอกจากความรู้สึกของเค้กที่มีมากขึ้นๆ ในทุกที...คนมีความรักน่าเห็นใจจัง
ขอแจ้งให้ทุกคนทราบอีกครั้งนะคะ
ที่จริงเคยเกริ่นเรื่องนี้มาค่อนข้างนานมากแล้ว แต่คนอ่านบางท่านอาจจะลืมไป
ว่าเค้ก&คิว..น่าจะจบประมาณนิยายเรื่องชุลมุนวุ่นรัก
ซึ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ 49-50 ตอนค่ะ
ขอบคุณค่ะ
-
:o8:
-
เหมือนร้านนี้จะลืมๆ พนักงานบัญชีคนใหม่รึเปล่านะ ไม่ค่อยโผล่หัวออกมาเลย หรือว่ามีทำงานไม่ตรงกับเค้กเลยซักวัน ขนาดตอนปิดร้านกลับบ้านกันยังไม่เจอ :bye2:
สำหรับเรื่องพนักงานบัญชีคนใหม่ สำหรับการเขียนในแต่ละตอน บางวันเวรของการทำงานในแต่ละคนจะไม่เจอกันค่ะ
อย่างคิวและเค้ก บางวันก็ทำงานไม่ตรงกันเช่นเดียวกัน แต่พล๊อตส่วนมากที่ทำให้เค้กและคิวเจอกัน คือเป็นวันที่ทั้งสองคนได้ทำงานร่วมกันค่ะ ซึ่งวันไหนที่ไม่สำคัญเบบี้ก็จะตัดออกไป..
เบบี้ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถกล่าวรายละเอียดของตัวละครทั้งหมดในแต่ละตอนได้นะคะ
ขอโทษด้วย
ขอบคุณค่ะ
-
โอ้ววววววววววว ขอบคุณพี่เบบี้มาตอบให้จ่ะ
ตอนแรกเราก้นึกว่ามันต้องได้รักกันตอนที่ 60 70 แน่เลย
พอมาอ่านแบบนี้มันก้รู้สึก2แบบคือ
1.ดีใจที่จะได้รักกันเร็วๆ
2.เสียใจ ถ้านิยายเรื่องนี้จบแล้ว
แต่ไม่ได้หมายความว่าให้พี่เบบี้มาต่อช้าหรือนานๆมาทีน่ะ!! :laugh:
-
หึ . o13 o13 o13 o13 :-[ :-[ เขิลลลล .
-
จะยังไงมีเค้กที่ไหนก็มีคิวที่นั่น. ..พี่คิวจะพาเค้กไปหาน้องๆที่สถานเลี้ยงเด็กรึเปล่า?
เพราะไม่ได้ไปนานแล้ว พี่คิวน่ารักขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ อิอิอิ
-
รักเค้กกกกกกกก รู้สึกยังไงก็แสดงออกอย่างนั้น :กอด1:
o13
-
กดฟังเพลงพร้อมกับอ่านช่วงที่พี่ฟ้าพูดกับพี่คิวหรือพี่ฟ้าพูดกับเค้ก
เพลเข้ากับบรรยากาศมากๆ
ส่วนยัยพี่ฝันก็ยังโผล่มาให้น้องเค้กเราน้อยใจอีกจนได้
แต่พี่คิวก็ส่งข้อความมานัดเดท แอร๊ยยยย :impress2:...ตื่นเต้น
-
พี่คิวจะพาน้องเค้กไปไหนหน่อ
แต่แอบหวานตอนท้ายอีกแล้ว :o8: :o8:
-
อ่านแล้วรู้สึกว่า.. ฟ้าน่ารักมากๆ เลย :m1: ทั้งการที่ฟ้าเป็นคนเลี้ยงคิวมาและการที่นอนกอดเค้ก
อื้มมมม...ถ้าไม่ใช่ฟ้า(และคิว ถ้าคิวกอดเค้กขึ้นมา)จะไม่ชอบนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ
"คิวน่ะ..เข้าใจยาก แต่ก็เข้าใจง่าย"
อืมมมมมมม จริง เราเห็นด้วยคือถ้าไม่เข้าใจคิวก็ไม่แปลก แต่ถ้าเริ่มจะเข้าใจความเป็นคิวแล้วเค้กก็จะรับรู้ได้เองว่าต้องทำยังไง คิดว่านะ เราว่าคิวรับรู้ทุกอย่างนั่นแหละ รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคิดอะไรรู้สึกอะไรกับเค้ก 'พิเศษ' กว่าคนอื่น อยู่ที่คิวจะเปิดเผยความรู้สึกและตัวตนของคิวหรือเปล่าเท่านั้นแหละ ทุกอย่างมีตัวแปรตัวเดียวคือเวลา มันค่อยๆ เริ่มเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อยแต่เกิดแล้วมันจะคงอยู่ไปอีกนาน...
คุณพี่คิว คุณพี่จะพาน้องเค้กไปไหนคะ
(เราอยากรู้ แน่นอนว่ารอดูว่าจะพาไปไหนในตอนต่อไป ฮี่ๆ แต่ถ้าเดา ตอนนี้เดาว่าอาจพาไปหาปราย?)
สู้ๆ เบบี้โชคดีในการสอบ ^^ ส่วนนิยาย รอได้ เวลาว่างคนเราไม่เท่ากัน
บางช่วงเวลาคนเขียนลงนิยายกันเยอะ ลงพร้อมกันหลายคน คึกคักมาก ^^
แต่คนอ่าน(เราเอง)ภาระบานเบอะ เข้ามาอ่านไม่ได้ กว่าจะตามเก็บครบทุกเรื่องที่ตาม ปาดเหงื่อ!
:กอด1:
ปล. จบท้ายที่ฝันอีกแล้ว อ่านเจอทีไรเธอทำให้เรารู้สึกรำคาญได้เพียงแค่เธอโผล่มาไม่ต้องทำอะไร หรือแม้แต่โผล่มาแต่ชื่อก็ตาม :laugh:
-
คิวขี้เก๊กจริงๆ
เก๊กจนคนอ่านเดาไม่ถูก เหมือนจะน่าเบื่อ
น้องเค้กก็ออกนอกหน้าไปนิดนึง
คนอื่นๆ ก็ช่างสังเกต
ขอบคุณเบบี้ ที่แม้จะยุ่งก็ยังมาต่อนิยาย
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: รักพี่คิว แต่รักเบบี้มากกว่า เพราะเบบี้มี ทั้งพี่คิว พี่เมตร ให้ได้ส่อง :impress2: :impress2:
-
เพิ่มรู้ว่าเบบี้ตอบคำถามเราด้วย อิอิ ขอบคุณคะ...ตอบที่สองคำถามเลย (ครั้งแรกที่นักเขียนเม้นตอบแบบนี้ซึ้งจัง) รู้มาเพราะเพื่อนบอกอีกที( :m31:มันโวยวายเราใหญ่เลย เพื่อนเราท่าทางจะแคร์เบบี้มาก)
จะบอกทราบนานแล้วคะที่เนื้อเรื่องดำเนินไปช้าๆ เพราะอ้างอิงตามความเป็นจริงของชีวิตการที่ผู้ชายแท้ๆ สองคนจะชอบกันได้มันไม่ธรรมดาต้องใช้วันเวลาและความใกล้ชิด ความเข้าใจและอื่นๆ อีกมากมาย เพราะเหตุนี้แหละเราถึงได้ติดตามนิยายเรื่องนี้ของเบบี้มาตั้งแต่ต้นและคิดว่าจะติดตามต่อไป เพราะสิ่งไหนที่ได้มาง่ายๆ มันน่าเบื่อ แต่ที่บ่นๆ ไปว่าอีกนานกว่าจะรักกันเพราะรู้สึกหน่วงๆ ในอกมากเลยสงสารเค้กอะ พี่คิวชอบแกล้งเค้ก(หมั้นไส้) แต่แอบหวังให้ใครก็ได้มาทำให้คิวหึงเค้กที โอ้ยๆ (หมั้นไส้คิวอะหล่อ หยิ่ง :z6:ชิชิ)
หวังว่าเบบี้คงเข้าใจ ...เบบี้ขยันอัพมากยังไงก็พยายามในการสอบก่อนนะคะ สู้ๆ ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง รักนะ จุ๊บๆ ^ ^ :mc4:
ปล. ยังไม่เคยอ่านเรื่องอื่นๆ ของเบบี้เลยคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เพราะงั้นเราไม่เข้าใจ ณ จุดๆ นั้น แต่เดี๋ยวจะไปหาอ่านก่อนนะคะ อิอิ เจอกันคะ :L2:
-
แจ้งล่วงหน้า..
เมื่อตอนที่ลงตอนที่ 41 ให้..เบบี้ได้บอกไว้ว่าจะต่อตอนที่ 42 ให้อาทิตย์หน้านี้
ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าเบบี้จะต้องบอกว่า คงจะมาต่อให้ภายในอาทิตย์หน้าไม่ได้แล้ว..
เบบี้ขอเวลาสักพักนึง แต่คงบอกไม่ได้ว่าจะมาเมื่อไหร่..ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและทุกกำลังใจเหมือนเดิมค่ะ
love love ^__^
เบบี้ 24 /03/2555
-
พี่คิว คงอยากให้น้องเค้ก ถือคติว่า รักแล้วรอหน่อย รอให้พี่แน่ใจกับความรู้สึกตัวเองจริงๆ
พี่คิวจะพาน้องเค้กไปออกเดทที่ไหนน่ะ เพราะพี่คิวแกอารมณ์ศิลปินเกิน น้องเค้กคงต้องทำใจ ก็รักเขาไปแล้วนิ
-
ดูเป็นพัฒนาการทางด้านความรู้สึกที่ว่า "รัก" ได้ดีนะ
เหมือนการปลูกต้นไม้ ที่ค่อยๆ ดูการพัฒการของมัน
บางครั้งดูภายนอกไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ภายในอาจจะกำลังมีปฏิกริยาก็ได้
รอเฝ้าดูต่อไป
:กอด1:
-
เอ็นดูน้องเค้กจริงเชียว ถามว่าเราอยากให้คิวรักเค้กมั้ยก็อยากอ่ะนะ
แต่ ณ ปัจจุบันเราว่ามันลงตัวดี ไม่เร็วเกินไป ...คนเรากว่าจะรู้ตัวว่าชอบเค้า
แล้วกว่าที่เค้าจะรักตอบมันก็ใช้เวลาอยู่พอดู
จะมาเห็นปุ๊บชอบปั๊บ เลิฟแอทเฟิร์สไซท์ พออีกคนรู้ว่าโดนแอบชอบก็รีบเสนอหน้าไปรักตอบ
มัน....เอิ่ม....ไม่มีความเป็น reality ให้ชุ่มชื่นเลยสักนิด
เข้าใจว่านี่เป็นนิยาย แต่มันไม่ใช่นิยายตาหวาน เพ้อฝัน...อ่ะนะ เหอะๆ
ที่บอกว่าจบที่ 50 ตอน เบบี้หมายถึงเฉพาะคู่นี้(คิว-เค้ก)ใช่มั้ยคะ??
ยังไม่รวมคู่อื่น เช่น ทิกเกอร์เสลอปี้ - ฟ้าคุณอาสุดเซ็กซี่
เซ็นซังสังคังแดร๊ก(?) - กัสน้องน้อยคอยเหว่ว้า
และ
เด็กเกรียนบัตเตอร์ - พนักงานออฟบทน้อย
อุอิ ไซโคเข้าไป วันไหนเบบี้เขียนมาให้จริงแล้วสะท้านทรวงแน่ :jul3:
เพิ่งเห็นว่าเบบี้ตอบเมนท์เค้าด้วย อา.....ฟิน คึคึ
ขอขอบคุณเบบี้ที่ทำให้บัตเตอร์และออฟเกิดขึ้นมา
ไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ >>>> (ไม่มีอะไรจะพูด o22)
ขออภัยในความเกรียน อนาคตข้างหน้าจะพยายามกักเก็บเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าอนาคตเมื่อไหร่ :m20:
-
เค้านัดกันจะไปทำอะไรน้าาา~ อยากรู้จังเลยง่ะ :กอด1:
ปล. เค้าจะตั้งหน้าตั้งตารอ~ อาทิดหน้าลงไม่ได้ไม่เปนไรนะคะ คนเราก้อมีช่วงไม่ว่างเปนธรรมดาเนอะ
ปล.2 ตั้งใจสอบนะคะพี่บี้ ไฟท์ติ้งงง!!!
-
:z13: :z13: :z13: รีบน
-
งืด...เราต้องลงแดงเพราะไม่ได้เสพเค้กคิว...คิวเค้ก เข้าสักวัน แต่ไม่เป็นไร ตั้งใจสอบนะคะ เบบี้ ให้กำลังใจ
เนื่องจากเราสอบเสร็จแล้ว คริคริ
-
อยากรู้เรื่องปรายจังว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมคิวถึงรู้สึกผิดมาตั้งสี่ปี
แล้วพี่คิวจะพาเค้กไปไหนนะ :o11:
-
กรี๊ด อาทิตย์หน้าไม่ได้อ่าน เศร้า แต่ไม่เป็นไรจ้า เข้าใจ มาตั้งใจวอบกันดีกว่า แหะๆ
ไม่อยากให้จบเร็วเลย อยากอ่านสักร้อยตอน เอิ๊กๆ แต่รู้ว่ายังไงเบบี้ก็จะมีตอนพิเศษให้เรื่อยๆ ใช่ม๊า (แอบหวัง)
-
แมสเสจคุยกันเค้กยังดีใจขนาดนี้ นี่ถ้าคุยกันตรงๆเค้กไม่ระเบิดตัวตายเลยเหรอจ๊ะ ฮิฮิ
พี่คิวจะพาเค้กไปไหนน้าาาาาาาาา :impress2:
-
:jul3: :jul3: :jul3:ลุ้นนนนนนนนๆๆว่าพี่คิวจะพาเค้กไปเดทที่ไหน
ตั้งใจสอบนะเบบี้.....เอาใจช่วยยยยยยย :sad4: :sad4: :sad4:
สู้เว้ยยยยยยยย :z2: :z2: :z2: :z2:
กด+1ให้เลยยยย
-
ทำเป็นเก๊กไม่สนใจ จริงๆแล้วพี่คิวอิจฉา
ที่พี่ฟ้าได้นอนกอดน้องเค้กทั้งคืนก็บอกมาเหอะ 555
พี่คิวจะพาเค้กไปไหน????
-
ลุ้นต่อปายย
-
ขอกอดน้องเค้กแน่นๆหน่อยน้า :กอด1:
ขอแค่ได้รักก็สุขใจแล้วใช่ไหมน้องเค้ก แต่พี่ว่ามันคงไม่ใช่รักเขาข้างเดียวแน่ๆ :impress2:
กดบวกรอเบเบี้นะจ๊ะ :L2:
-
ดีใจมาต่อแล้ววว ^^
พี่คิวนี่ก็เดายากเกิ๊นนนนนนนนน แต่ชอบบบ :impress2:
เค้กน่ารักอะ 5555 :กอด1:
รอตอนต่อไปนะคะ ^^ :pig4:
-
ก็อยู่ที่พี่คิวแล้วละนะ
ว่าอยากจะให้เค้กอยู่ในฐานะอะไร
ร่วมลุ้นไปกับเค้ก :m17:
-
จิงๆแล้วพี่คิวก็แอบชอบเค้กเหมือนกันใช่ไม๊เล่าาาา
อย่ามัวแต่เก๊กนะพี่คิว ระวังเถอะ!!!
:กอด1:
-
โอ้ยยยยยยยย
ตื่นเต้น อยากให้สารภาพรักกันเร็วๆจัง
จะได้แสดงออกกันเต็มที่หน่อย :z2:
-
พี่คิวเป็นคนเข้าใจยากแต่ก็เข้าใจง่าย เอ่อ ดูปรัชญาดีจัง :a5:
-
แอบอยากให้มีใครมาจีบน้องเค้กอ่ะ (เอาเป็นคนนอกร้านนะ และจีบแบบจริงจังด้วย)
อยากดูปฎิกิริยาของคิวว่าจะแสดงออกมายังงัย
หึง? หวง?
ดีใจ?
หรือไม่รู้สึกอะไร?
อ่า~~คิดไรเยอะอีกแล้วเนี๋ยะ :เฮ้อ:
-
:z2: :z2: :z2:
-
คิวน่ะ..เข้าใจยาก แต่ก็เข้าใจง่าย
ส่วนเค้กเข้าใจง่าย ถึงง่ายมากๆ :impress2:
แอบคิดว่าคิวเก็กมากๆเดี๋ยวเค้กก็ได้บอกรักก่อนหรอก :-[
-
เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เบบี้ คนงาม
ตัวพี่รอนิยายเรื่องนี้เสมอ :กอด1:
-
เค้าส่งข้อความหากันด้วยนะ น่ารักๆ
พี่คิวจะพาน้องไปไหนน้า อยากรู้ๆ ^^
-
อ๊ากกกกกกกกเบื่อนังฝันที่สุดอะ เมื่อไปไหร่จะไปๆสักทีนะ :z3: :z3:
ไม่รู้ว่าพี่คิวคิดไรอยู่เนอะ บางทีก็เหมือนจะชอบๆน้องแล้ว แต่ก็ยังเก็กๆอยู่ 5555
สงสารน้องเค้กนะ บางทีเหมือนน้องก็ดีใจกับอะไรเล็กๆน้อยๆ กลัวก็แต่ความสุขมักจะมาเร็วไปเร็วนี่ดิ :z13:
-
ตอนนี้หลากอารมณ์ ทั้งเค้กและคิว
คิวมีปมอะไรเนี่ย? น่าจะทำให้ปรายเสียใจสักอย่างแล้วรู้สึกผิด ไม่อยากมีใครประมาณนี้
สำหรับตอนหน้าก็อดทนรอได้ค่า เพราะก็ไม่คิดว่าจะได้จับคอมอีกอาทิตย์นึง :sad4:
:L2: มอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้ค่ะ
:pig4: มากค่ะคุณเบบี้
-
:sad4: :sad4:พี่ควจะชอบเค้กเหมือนกันไหมน่ะ :z2:
-
งง " เป็นคนที่ดูเข้าใจยาก แต่เข้าใจง่าย " ???
รอ อัพ
-
เค้กนี่ อ่านง่ายจังเลยน้าา
ไม่มีมาด มีฟอร์มอะไรเล้ยยย
:o8:
-
แอบสงสารเค้กเบาๆ อ่ะนะ แหะๆ
คิวจ๋า แสดงออกอีกนิดนะจ๊ะ อิอิ
-
ตอนแรกอ่านแล้วสงสารหนูเค้กอ่ะ แต่พอช่วงท้ายรู้สึกหวานขึ้นมาเลย
ว่าแต่พี่คิวก็คงคิดอะไรกับเค้กเหมือนกันใช่ม๊า มีส่งข้อความมาด้วย เหมือนง้อเลยอ่ะนะ
-
ถึงจะไม่ชอบฝันเท่าไหร่ แต่ก็เห็นใจผู้หญิงคนนี้นะ
ไอ้พี่คิว ช่วยกวนตีนให้น้อยลงหน่อยเหอะ ไม่รู้เลยว่าคิดอะไรอยู่ แง่งงง
-
สู้ๆๆนะเค้ก :กอด1:
-
พี่คิวดีกับเค้กมากๆ เลยนะ
ปล. เบื่อยัยฝันร้ายมาก ๆ ชิ้ว ๆๆๆๆ :เฮ้อ:
-
o13
-
พี่คิวใจร้ายมากเลย ตอนบอกว่าไม่ไปก็แล้วแต่
ไม่ง้อเลยอ่ะ ฮ่าๆๆ
สงสารน้องเค้กกกกกกก
ขอให้น้องเค้กชนะใจพี่คิวในเร็ววันนะ
เชียร์อยู่ ++
-
สงสารเค้ก ถ้านายคิวไม่คิดจะอะไรกับน้องก็ปล่อยน้องไปเถอะ พูดจริงๆ นะ............หหน่วง
-
ว้าววว คิวจะชวนเค้กไปเดทที่ไหนกันนะ อิอิ
-
เค้กจะน่ารักไปไหนเนี้ย :z2:
-
พี่คิวเริ่มนัดเค้กไปเที่ยวกันสองต่อสองแล้ว พัฒนาขึ้นนะเนี่ย พี่คิวจะพาเค้กไปไหนน้า
ขอให้เบบี้โชคดีในการสอบนะคะ มีเวลาค่อยเข้ามาต่อยังไงก้อรออ่านอยู่แล้วค่ะ
-
พี่คิวเจ็บ....
แต่เค้กเจ็บกว่า ....
อ่านแล้วสงสารน้องชะมัด
ขอมือที่สามมมมมมมมมมมมมม....มาเป็นตัวเร่งเคมีสักหน่อยดีมั๊ยบี้
-
น้องอาการหนักนะคะ ฮ่าาาาาา
พี่ฟ้าน่ารักอ่าาาา พี่หมีก็น่ารักกกก ทุกคนรักเค้กเอ็นดูเค้กกันหมดเลยยย
ชอบจังบรรยากาศอบอุ่นๆแบบนี้ งื้ออออ
พี่คิวจะอารมณ์ไหนก็ไม่รู้ แต่กลัวว่าจะเผลอทำเค้กเจ็บจริงๆนั่นแหละ =^=
น้องเค้กยิ่งชอบดราม่ากับตัวเองตลอด ตลอดดดด อยู่ด้วย
เบบี้สู้ๆนะคะ.. อย่าแคร์กับอะไรบางอย่างมากเกินไป.. สิ่งดีๆยังมีอีกมากมายเน้อออ ..รักเธอเหมือนเดิมนะ คิคิ
-
ตอนนี้เห็นใจน้องเค้กจัง แต่คิดว่าไม่นานหรอก
จากที่มองไกลๆน้องเค้กคงได้ไปยืนอยู่ข้างๆพี่ึิคิว :-[
เพราะดูเหมือนพี่คิวก็แคร์ความรู้สึกเค้กเหมือนกัน
แต่เป็นคนที่ไม่แสดงออกล่ะมั้งก็เลยไม่ได้พูดอะไร
แค่ส่งข้อความมาหาน้องเค้กเราก็หายเศร้าแล้วล่ะ
หวังว่าคงไม่ยากนะที่น้องเค้กจะเข้าใจพี่คิว
ให้ได้อย่างที่พี่ฟ้าบอกไว้ เอาใจช่วยเค้กนะจ๊ะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
บวกเป็ด ขอให้โชคดีในการสอบนะคะ คว้าเอมาให้ได้ :a2:
-
...ถ้าเค๊ก รักคิว แล้วคิว ไม่รักตอบนี่จะเป็นยังไงนะ
...พี่ฟ้ายังดูเค๊กออกเลย ว่าคิดอะไรกับคิว ทุกๆคนก็น่าจะดูออก
...พี่ฝันแกจะเอาพี่คิวให้ได้เนอะ ไม่ได้ทำเพื่อเพื่อนหรอกทำเพื่อตัวเองล้วนๆ :laugh:
-
พี่คิวก็มีความสุขที่ได้อยู่กะเค้กเหมือนกันนะ แต่แอบสงสารเค้ก ความรู้สึกขึ้นลงตามการกระทำพี่คิว และนังฝัน แต่ก็นั่นละน้าคือความร้ากกกกก
-
จะรออ่านตอนต่อไปนะครับ
-
กรี๊ดดด อ่านรวดเดียวเรยน่ารักมากกกก เค้กจ๋าสู้ ๆ นะค่ะลูก รออ่านอยู่น้าเบบี้
-
พี่คิวนี่ซึนเดเระมากกก!
หาตัวกระตุ้นหน่อยดีมั้ยย
:-[
-
ยังงี้เค้าเรียกง้อใช่มั้ยพี่คิวว!!
แต่เหมือนจะดีใจก็ยังดีใจไม่สุดนะเหมือนมีอะไรมาหน่วงๆ
สงสารน้องเค้กแต่ก็เข้าใจพี่คิว :เฮ้อ:
รอตอนหน้าคะโชคดีในการสอบนะคะ :กอด1:
-
ใช่ พี่คิวควรเลิกเล่นเพลงนี้ด้วยความรู้สึกแบบนั้น เพราะเรานึกภาพตามแล้วมันแซดดดดดดดดดดดดดด
ว่าแต่จะชวนกันไปไหน
พี่คิวต้องรู้แน่เลยว่าเค้กรู้สึกไม่ดีตอนที่ต้องไปกับพี่ฝัน =.=
-
จะแค่แกล้งเค้กเล่นรึเปล่านั้น!! ...
รอดูกันต่อไป
-
อัพอาทิตย์หน้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
ยังไงก็สู้ๆนะครับ o13
-
รักพี่บี
ฮุฮุฮุ
สู้ๆคะ่
-
เซ็งฝันจริงๆ-.,-
-
จะรอเค้กกีบพี่คิวต่อไปค่าา อิอิ
-
น้องเค้กสู้ๆๆ
-
:L1:น่าลุ้น
-
กรี๊ดดด พี่คิวกับน้องเค้กน่ารักมากๆเลยค่ะ ชอบๆๆๆ
-
อิอิ ชอบๆ
-
อาทิตย์หน้าไม่ได้อ่าน :monkeysad:
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกก รอติดตามเสมอๆ เวลามาตอนทีไหร่ ดีใจทุกที :impress2:
เค้กน่ารัก เข้าใจความรู้สึกคนที่แอบชอบ แล้วรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังอยากจะชอบ อยากเห็นเขาเสมอ
เป็นกำลังใจให้เค้ก คนอย่างพี่คิว อย่างพี่ฟ้าว่า เข้าใจตัวเองดีที่สุด อยู่ที่ว่าจะยอมรับหรือไม่
ตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ หรือพี่คิวจะเลือกทางไหน ไม่มีใครตัดสินใจแทนได้ นอกจากพี่คิว
รักคนแบบนี้ ก็ต้องยอมรับและเข้าใจล่ะนะเค้ก
เป็นกำลังใจให้พี่คิวด้วย รู้สึกว่าเวลาพี่คิวอยู่กับเค้ก ดูพี่คิวมีความสุขดีนะ มันรู้สึกได้ ยิ้มได้มากกว่าปกติ
ชอบเพลง Canon In D มาก
เป็นกำลังใจและรอติดตามเสมอค่ะ :L2:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อุแหม่ะ ส่งข้อความหากันซะด้วย !
-
เมื่อไร่จะเห็นพี่คิวหวานใส่เค้กน้า ^^ เรื่องนี้น่ารักมากๆ เลยจ้าเบบี้
-
เดาใจพี่คิวไม่ออกจริงๆ
สู้ๆ เข้านะหนูเค้ก
-
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
พี่คิวเอาให้แน่นะ?
+เป็ดให้การตกหลุมรักอย่างจังของเค้ก.... :impress2:
-
พี่คิวยังจะอวยพรอีก
ให้ความหวังเค้กสุดๆ
แต่พี่คิวรู้ตัวเองดีใช่มั้ย???
อย่าทำให้เค้กเสียใจนะ.... :call:
-
อยากบอกว่า..ค้างงงง :z3: :z3: :z3:
คิวจะพาเค้กไปไหนนนน
สู้ๆนะเบบี้ :)
-
อ่านทันแล้ว! 41 ตอนในวันเดียว ทึ่งตัวเองจริงๆเลย วะฮ่ะฮะฮ่า :laugh:
แต่ทึ่งพี่เบบี้มากกว่าอ่ะ
ขอคารวะสามพันแปดล้านครั้งเลยที่พี่แต่งนิยายโคตรหนุกหนานเช่นนี้มาให้กัน
โอ๊ยไม่พอเลยนะ อยากอ่านอีกอ่ะ 55555555
รักพี่เบบี้มากถึงมากที่สุดจริงๆนะเอ้อ :impress2:
:z2: :z2: :z2: :z2: <<ชอบไอ้ตัวเนี้ยอ่ะ ท่าเต้นน่าถีบม๊ากมาก 5555555
-
เค้กนี่ให้อารมสาวน้อยจัง
-
อ่าาาาา..เค้ก ตกหลงรักเข้าแล้วจิงๆ
ยอมรับใจตัวเองซะแล้ว..
แต่ว่าคิวนี่ยังงัยเนี๊ย..แกล้งเค้กตลอดแต่ก็น่ารักดี..
-
ตามอ่านทันแล้ว มาเป็นแฟนคลับอีกคนของน้องเบบี้
เรื่องนี้น่ารักมากเลยค่ะ ดูเรื่องจะเรื่อยๆเลยทำให้หลายๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดูทุกอย่างมีลำดับขั้นในตัวมันเอง
ทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลังฟังเพื่อนเล่าเรื่องเลยค่ะ รอลุ้นนะค่ะว่าจะมีช่วงไหนที่พี่คิวจะบอกรักน้องเค้ก เห็นเอาแต่แกล้งน้องอยู่ได้
-
อย่าหายไปนานนะ......คิดถึง!!!!~
-
อย่าหายไปนานนะ......คิดถึง!!!!~
-
อย่าหายไปนานนะ......คิดถึง!!!!~
-
สั้นๆ >> :z3: เศร้า :o12:
-
รอได้เสมอค๊าาพี่เบบี้... :L2: แล้วมาต่อตอนใหม่ไวๆนะค่ะ :กอด1:
-
ให้เบบี้ลาหยุดตามสบายเลย แต่กลับมาต้องจัดให้เขินกว่านี้นะ :impress2:
พี่คิวเดี๋ยวนี้มีส่งข้อคงข้อความ มีการจะไปรับด้วย :impress2:
แหมมมมม ๆ ๆ ไม่ใช่เค้กคนเดียวแล้วละมั้งที่หวั่นไหว :m20:
-
ขอไปทบทวนตั้งแต่ตอนแรกก่อนนะ :serius2:
-
เรื่องนี้ น่าลุ้น มากๆๆๆๆๆๆ
-
มีแต่คนเข้าใจ โดยเฉพาะพี่ฟ้า อยู่ที่ว่า สองคนจะพัฒนาความสัมพันธุ์ไปได้แค่ไหน
อีกอย่างพี่คิว จะลบรอยอดีตที่เจ็บปวดได้เร็วหรือช้า
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้ :กอด1:
-
รอๆๆ ^________^
-
แวะมาบอกว่า"คิดถึง" :-[
รอนะคะ :กอด1:
-
เบบี้...สอบเสร็จเมื่อไหร่...ทำได้ไหม
ขอให้ทำได้ มั่วถูก อิอิ
ทางนี้ก็รออยู่นะ *3*
-
จะไปใหนกันน๊า ต้องติดตาม
-
มาต่อเร็วๆๆนะคับ รออ่านอยู่คับ
-
เขินแทนเค้กอีกแล้วแฮะ อาฟ้าเป็นอาที่น่ารักมากๆ
เหมือนคิวกำลังตัดสินในอะไรอยุ่
-
:z3:ง่า รอรอรอรอรอ :z10:
-
เข้ามา นอนรอออออ
-
status : waiting
-
พี่คิวรักนะแต่ไม่แสดงออก แสดงออกมากกว่านี้ก็ได้นะพี่คิวววว :serius2:
เฝ้ารอตอนหน้าค่ะ
ขอบคุณเบบี้ :pig4:
-
Status : Busy
เห็นมีคนโพส Status เลยอยากโพสบ้างไรบ้าง..คึคึ
-
จิ้มๆ บี้ ฮิฮิ
-
คำถามโดนๆประจำวัน : วันนี้คุณพร้อมจะอัพนิยายหรือยังเบบี้ :))
ปล. อ่านคิวเค้กหลายรอบ จวนจะจำเนื้อเรื่องขึ้นใจ555
-
แอร๊ยยย มุมน่ารัก ของคนหล่อออ><" :กอด1: :z2:
-
ถึง Busy ยังไงก็รอได้ สู้ๆนะ ^^v
-
แวะมาส่งความคิดถึงค่ะ
^^
-
เอามั่ง
Status : ใกล้ลงแดง
-
ขอเข้ามาบอก "รักและคิดถึง - คิวเค้ก เบาๆ" อิอิ
-
:z3: :z3:
อยากอ่านเเร้วเบบี้
รออยู่ คิดถึงโคตร
-
รอค่ะ
-
อยากอ่านตอนต่อไป :serius2: :serius2: :serius2:
-
รอเธอ...วันนั้นวันนี้วันที่เท่าไหร่
ฉันก็ยังรอเธอ....
-
คิดถึง...อย่างแรง!!! :a11:
-
พี่คิวน่ารักอะ
จะรอต่อไปค่าาา
สู้ๆนะคะ
-
เบบี้ คันหู
-
รักมั่นคงที่จะ อ่าน รอ นะ ครับ จุ๊บๆๆ
-
เบบี้ มาได้แล้ว คิดถึงนิยายของเบบี้มากมาย
ได้โปรด!!
:beat: :z6: :a5:
-
คิดถึงพี่คิววววววววววววววววว >3<
-
รอ รอ รอ นั่งรอเบบี้อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
ห่วงว่าจะมาเมื่อไหร่น๊าาาาา อิอิ
-
คิดถึงเบบี้อะ..เมื่อไรจะม๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
-
Status : Thinking of you... :z3:
-
:impress2:
Waiting น้องเค้กกกกก
-
มาเถอะ จะลงแดงตายอยู่แล้วเนี้ยยยย
-
ถึงเธอจะบอก เธอจะแจ้ง
ไว้ล่วงหน้า
แต่เราก็คิดถึงเธอทุกเวลา
คิดถึง คิ้ว เค้ก พี่ฟ้า และอีกๆ หลายๆตัวละคร
คิดถึงที่สุด ก็เบบี้ (ไม่วายหยอด) คิดถึงมากกกกกกกกกกก
-
ใจจะขาดดด รีบมาต่อไวๆๆนะคับ :o12:
-
เต้น :z2: :z2:
:กอด1:
-
STATUS : อยากกินเค้ก (ห้ะ?! )
รออยู่นะครับ :z2:
-
คิดถีงเค้ก&คิวจัง
เมื่อไรมาแวะมานะ
:sad2: :sad2: :sad2:นอนคอยอยู่
-
อยากบอกว่าเราแวะมาดูทุกวันเลยยยย
เมื่อไหร่เบบี้จะมา :z3:
-
คิว @ Limited Lovers..
"มอง หน้า หา พ่อ เธอ เหรอ"
(http://upload.siamza.com/file_upload/modify/040412/79978.jpg) (http://upload.siamza.com/showpic.php?id=79978)
v
v
v
Ps. Status: ....สอบอยู่.... :z3: :z10: :z3:
-
เบบี้สู้ๆในการสอบนะค่ะ
-
:กอด1:
-
สู้ๆนะจร๊ะ
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
555555
พี่เบบี้ สู้ๆ ตอบให้ชัวร์ มั่วให้ถูกนะค้าา
ฮ่าๆๆ
-
สู้ ๆ
A จงมา A จงมา A จงมา
-
สู้ตายคร่าาาาาาาา
:L2: :L2:
-
อะเครรรรรรรรรรร๊เลยค่ะเบบี้ ตั้งใจกับการสอบนะค่ะ
หลังสอบเจอกันคิวเค้ก 555555
-
:call: :call: :call:
-
พี่คิวมาแบบนี่ คนอ่านก็ตกใจแย่สิคะ ฮ่าๆๆๆ
-
อร๊า ยย ย ย ย ย เรื่องดูน่ารักอ่ะ
-
กรี๊ดดดดดดดดด ใจสลาย :z3: นึกว่าเบบี้มาอัพแล้ว
แต่ไม่เป็นไร ตั้งใจสอบเด้อออค่า
-
เบบี้สู้ๆ รอคิวเค้กจ้า
-
สู้ๆน๊า....
คนฝั่งนี้ waiting ต่อไป *3*
-
เมื่อไหร่จะมาอ่า
-
ขอให้สอบได้ ขอให้ข้อสอบมันโดน (ใจ) :a5:
-
พี่เบบี้สู้ตายค่าาาา เอาเกรด A มาโล้ดดดดดดดด ^O^
-
อ๊ะ!!!! สอบอยู่ งั้นเอา A มาฝากพี่ด้วยนะ...เบบี้
คิดถึงเบบี้...พี่คิว...น้องเค็ก
กำลังเดาใจน้องเบบี้ว่าเรื่องนี้จะมี :oo1: มั้ย
ระวังจะขึ้นสนิมน๊า...เบบี้ :laugh:
-
:call: :call: :call: มารอๆ ขอให้เบบี้สอบผ่านไปได้ด้วยดี
-
ก้ได้แต่รอ รอ รอ ฮืออออออออออ :o12:
ใกล้จะลงแดงตายแล้ววววว :serius2:
แต่...ถึงยังไงก้ก้อยากให้เบบี้ ได้ A โลดดดดดดดดดด :กอด1:
แล้วอย่าลืมมาจัดพี่คิวน้องเค้กแบบเต็มสตรีมให้นะ :m5:
เรารอเบบี้อยู่ :sad4:
-
จิ้มบี้ทะลุไปถึงเค้กคิว
สอบเอเพี้ยง เอเรียบนะ สู้ๆ
-
พี่บี้หายไปนานเลย คิดถึงงงง
-
" ~หึ..ฝันดี~ " >>>> พี่คิวก็คือพี่คิวเนอะ ไม่เคยผิดคอนเซปต์เล้ย พ่อเชฟขี้เก๊ก เหอๆๆๆ
ว่าแต่... น้องเค้กของพี่ ช่วงนี้อารมณ์อ่อนไหวนะคะ อาการน่าเป็นห่วงพอสมควรนะเนี่ย
:a3: :a3: :a3: ออกกำลังกายระหว่างรอหนูบี้สอบเสร็จ เหอๆๆๆ
-
o18 ตามอ่านทันแล้วววววววววววววว
อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วยิ้มตามตลอดเลยคะ
:pig4: :pig4: :pig4:
สู้ๆ นะคะ
-
กำลังเริ่มเผยความรู้สึกแล้ว :oni2:
เก็ทเอทุกวิชานะคะ โชคดีค่ะ
แล้วมาต่อเร็วๆเน่อ :bye2:
-
คิดถึงพี่คิวจังเลย
-
คิดถึงพี่คิวกับน้องเคกจังเลยค่ะ :กอด1:
-
คาใจ....พี่คิวจะพาเค้กไปไหนล่ะ พาไปดูตินติน ที่บอกว่าจะไปดูกับฝันหรือเปล่า?
คำถามนั้น....คาใจตั้งแต่วันนั้น และผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว ก็ยังคาใจอยู่
เบบี้...สอบเป็นไงบ้าง ทำได้รึเปล่า คิดถึงเบบี้จัง
---เมื่อไหร่หนอที่เธอจะกลับมา---
-
มันคิดถึง คิดถึงงงงงง เสมอออออ กระซิก ๆ
:o12: :o12: :o12: :sad4: :serius2: :sad4: :o12: :o12: :o12:
-
ตอนนี้ไม่ไหวแล้วอ่พี่เบบี้ พี่คิวน่ารักเกินไปอ่ะ แทบละลายถ้าเป็นเค้ก :))
-
เบบี้ สู้ๆนะ เราก็รออ่านต่อไป :impress2:
-
คิดถึง เบบี้ :man1:
คิดถึง พี่คิว น้องเค้ก :impress2:
ขอบคุณสำหรับ เรื่องราวความรัก ของ คิวและเค้ก :L2:
ส่งกำลังใจให้ คุณเบบี้นะคะ :กอด1: :กอด1:
-
มานั่งรอ รอ รอ...อย่างมีความหวังค่ะ อิอิอิ
รักคิวเค้กง่ะ :z2:
-
คิดถึงเค้กจัง พี่คิวด้วย :impress2:
-
เอาจริงน่ะ
หายไปนานจริงๆด้วยยย
โฮ ดิ้นๆๆๆๆๆๆๆ TT
-
:really2:เข้ามารออย่างใจจดใจจ่อ น้องเบบี้จ๋า สอบเป็นไงบ้างทำได้หรือเปล่า สู้ๆนะหนู
คิดถึ๊ง คิดถึง
-
~42~
5..4..3..2..1..0 !
“ห้าโมงแล้ว” ผมยิ้มให้กับนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง ผมนั่งรอพี่คิวโดยไม่ได้โทรไปหาทั้งๆที่จริงแล้วผมเลิกเรียนตั้งแต่สี่โมงกว่าๆแล้วละครับ ด้วยเพราะพี่เขานัดห้าโมง ดังนั้นผมก็จะรอจนกว่าจะห้าโมง ผมไม่อยากโทรไปก่อนกลัวว่าพี่เขาจะทำธุระอยู่ หรืออาจจะยุ่ง หรือเราอาจจะดูกระตือรือร้นออกหน้าออกตาเกินไปเสียหน่อย แน่นอน..ผมตื่นเต้นจนแทบบ้าอยู่แล้ว
ตื๊ด ๆ ๆ
สายเข้า __ = พี่คิวปิด -*- สุดโหด =
“ฮะ” ผมกดรับสายแทบจะในทันที
“........................” ปลายสายเงียบสนิท
“ฮัลโหล พี่คิวครับ” ผมเรียก
“เรียนเสร็จรึยังน่ะ ไหนบอกเลิกเรียนสี่โมงไม่ใช่รึไง” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ขอโทษฮะ..เสร็จแล้วครับ พี่อยู่ไหนเหรอ”
“ที่จอดรถของอาจารย์คณะนิติ” พี่คิวตอบ
“ที่จอดรถ ของอาจารย์ คณะนิติ” ผมเรียบเรียงคำพูดของพี่คิวด้วยความสงสัย ที่จอดรถของอาจารย์แล้วพี่คิวไปจอดที่ตรงนั้นได้ยังไงกัน เขาห้ามจอดไม่ใช่หรือไง..
“เร็วล่ะ ให้เวลาห้านาที” พี่คิวพูด
“ฮะ” ผมรีบตอบ พี่คิวตัดสายไป
ผมรีบวิ่งไปหาลุงยามที่ยืนอยู่ไม่ไกลเพื่อที่จะถามว่าตึกคณะนิติศาสตร์ไปทางไหน ผมเคยไปเมื่อนานมากแล้วแต่ไม่เคยได้ไปแถวลานจอดรถของอาจารย์สักครั้ง พอรู้ทางเรียบร้อยดีแล้วผมจึงรีบวิ่งไปในทันที แต่พอใกล้ถึงลานจอดลงก็ต้องเปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินเร็วแทน ผมกลัวว่าจะดูเปิดเผยว่าอยากมาหามากไปหน่อยนะครับ ผมเห็นพี่คิวยืนอยู่ที่ท้ายรถคันหนึ่งและผมก็ต้องหยุดชะงัก พี่คิวละสายตาจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่อ่านอยู่ขึ้นมามองหน้าผม
“.......................” ตาผมสะดุดเข้าที่รถของพี่คิวเมื่อหันมาสังเกตเห็น และในตอนนี้ผมกำลังอึ้งกับรถคันที่อยู่ตรงหน้าของผม จากการที่ผมไปบ้านของพี่ฟ้าบ่อยครั้งมากขึ้น ผมแทบจำรถของพี่ฟ้าได้เกือบทุกคันถึงแม้จะจำสับสนกับรถของพี่เซ็นบ้าง ผมเคยนั่งนับรถที่บ้านพี่ฟ้าและจำได้ขึ้นใจเลยว่าพี่ฟ้ามีรถยนต์ถึงสิบคันจอดเรียงอย่างกับเป็นผู้ผลิตรถเองก็ไม่ปาน มีตั้งแต่รถเก๋งไปถึงรถสปอร์ตสุดหรูไปจนถึงรถตู้ เรียกว่าครบครันพร้อมรบในทุกสถานการณ์ แต่เท่านี้ยังไม่รวมโรงรถเล็กๆที่มีไว้สำหรับเก็บรถมอเตอร์ไซด์และรถกระบะอีกหนึ่งคันสำหรับรถของคนใช้ในบ้านหรอกนะครับ
แต่รถสปอร์ตคันนี้ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ไม่รู้จักยี่ห้อของมันด้วยว่าคือยี่ห้ออะไร แต่จากสีและรูปทรงกับออร่าที่แผ่ไปทั่วจนทำให้รถยนต์คันอื่นๆในที่นี้ดูหมองและดับไปถนัด ทำให้ผมรับรู้ได้เองว่ามันคงมีราคาแพงมากถึงมากที่สุด
“นายเคยได้ยินไหม” พี่คิวพูดขึ้น ผมสะดุ้ง ละสายตาจากรถหรูนั่นเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่คิว
“If you're early you're on time, if you're on time.....you're late” พี่คิวพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงผู้ดี้ผู้ดี ผมชะงักไปเกือบสิบวินาทีเพราะสำเนียงของพี่คิวดีเกินไป คนไทยแท้อย่างผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอกนะครับ สมองของผมประมวลกับประโยคที่ว่า รับรู้ ทำความเข้าใจและตีความหมายก่อนที่จะแสยะปากอย่างหมันไส้กับท่าทางของคนตรงหน้า
“ผมก็ออน ไทม์อยู่นี่ไงครับ” ผมตอบกลับหน้าตาย
“บ่นเป็นตาแก่ไปได้”
“เถียงงั้นเหรอ” พี่คิวทำหน้าเข้มใส่
“เปล่า” ผมตอบเสียงเบาลง น่ากลัวอ่ะ..
“นายสาย” พี่คิวพูด
“แค่ห้านาทีเอง” ผมว่า
“นายบอกจะเลิกเรียนเกือบสี่โมง ฉันเผื่อเวลาให้ห้าโมง นายยังมีหน้ามาเถียงฉันอีกเหรอ” ผมหุบปากเงียบในทันที ถ้าขืนบอกไปว่าที่จริงนั้นเลิกตั้งนานแล้ว ผมจะต้องถูกถามแน่ๆว่าทำไมผมถึงมาสาย..
“ขึ้นรถสิ” พี่คิวสั่ง
“ม..ไม่” ผมพูดตะกักตะกัก อยู่ๆสติก็กลับมา ณ จุดๆเดิมอีกครั้ง
“คันนี้..รถคันนี้งั้นเหรอครับ ที่เราต้องไปด้วยกัน” ผมชี้ ทั้งๆที่แน่ใจดีแต่กลับรู้สึกว่า มันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้
“ใช่” พี่คิวพยักหน้า
“ท..เท่าไหร่อ่ะฮะ” ผมถามตะกุกตะกักด้วยความสงสัย พี่คิวหันหน้ากลับไปมองรถยนต์ของตนเอง
“สิบสี่ล้าน..ประมาณนั้น มั้ง” พี่คิวตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับราคาอันสูงเฉียดฟ้านั่น
“สิบสี่ล้าน!!”
“นายจะตะโกนให้มันได้อะไร” พี่คิวบ่นคิ้วขมวดในทันที
“เค้ก เค้ก..เค้กไปขึ้นแท็กซี่ล่ะ เจอกันนะครับ” ผมหันหลังก้าวเดินหนี ผมก็ไม่รู้ว่าผมเดินหนีทำไม แต่เหตุผลอันดับหนึ่งคือ..ผมไม่กล้าขึ้นไอ้รถบ้าราคาแพงกว่าบ้านของผมนั่นหรอกนะครับ..แง่ง~
“โอ๊ะ” ผมร้อง ตัวเซไปตามแรงดึงจากพี่คิว
“ไป..ขึ้น..รถ” พี่คิวย้ำพูด สายตาจ้องผมเหมือนบอกว่านี่เป็นคำสั่งเด็ดขาดอีกแล้ว
“แต่ แต่..มัน เค้ก” ผมทำหน้าลำบากใจให้พี่คิวเห็น ผมอยากให้พี่เขารับรู้ว่าผมไม่อยากขึ้นจริงๆ ผมทำตัวไม่ถูกหรอก แค่รถคันอื่นของพี่คิวเวลาที่ผมต้องนั่งไปด้วยผมยังรู้สึกเกร็งเลย นับประสาอะไรกับคันนี้ล่ะ
“จิ้..” พี่คิวจิปากอย่างอารมณ์เสีย มือกำแขนผมแรงขึ้นกว่าเดิมและออกแรงดึงผมไป ผมต้องเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่อยากขึ้นอ่า” ผมดิ้นไปมาเมื่อเห็นว่าพี่คิวเปิดประตูรถให้
“นายปัญญาอ่อนรึไง” พี่คิวกัดฟันพูด คิ้วเริ่มเข้ามาชนกันด้วยความไม่พอใจ
“ก็มันแพงนี่ครับ แพง แพง แพง ๆๆๆๆ..แพงกว่าบ้านเค้กตั้งสามเท่าสี่แน่ะ เค้กไม่เคยขึ้น! เค้กทำตัวไม่ถูก! เค้กจะรู้สึกเหมือนเค้กไม่กล้าหายใจ..เค้กไม่ชอบ!” ผมขึ้นเสียงตะโกนใส่หน้าพี่คิวอย่างลืมตัว
“.......................” และผมก็ต้องยืนหอบมองหน้าอีกฝ่าย เมื่อผมได้สติผมกลับต้องหุบปากลงเพราะได้รู้ตัวว่าทำสิ่งที่ไม่ควรลงไปซะแล้ว
พี่คิวยืนกัดฟัน หลับตาและหันหน้าไปอีกทางเหมือนกำลังระงับสติอารมณ์ของตัวเอง มือของพี่คิวออกแรงบีบแขนผมมากขึ้นเหมือนต้องการจะระบายอารมณ์
“โอ้ย เจ็บฮะ” ผมร้องบอก
“โทษ!” พี่คิวกระแทกเสียงและปล่อยมือออก
“........................” ผมลูบแขนที่เพิ่งถูกพี่คิวปล่อยไปเมื่อกี้เบาๆ พี่คิวหันมามองหน้าผมอีกครั้ง
“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย..ขึ้น รถ เดี๋ยวนี้” พี่เขาสั่งและเดินหนีไปด้านคนขับในทันที ผมยืนจ้องจนพี่คิวปิดประตูฝั่งของตัวเองลง
ปี๊ม !!
ผมสะดุ้งเพราะอยู่ๆพี่คิวกลับบีบแตรรถซะดัง
“รู้แล้ว!” ผมกระแทกเสียงตอบและรีบขึ้นไปนั่งบนรถอย่างช่วยไม่ได้
“.......................” ผมนั่งเงียบไม่หันไปมองอีกฝ่ายที่กำลังขับรถเคลื่อนออกจากตรงนี้
“ฉันทำอะไรผิดไม่ทราบ” พี่คิวถามขึ้นพร้อมกับยื่นบัตรจอดรถให้กับยามและเคลื่อนตัวรถออกจากรั้วมหาวิทยาลัย
“ชอบบังคับคนอื่น ชอบทำหน้าตาเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่รู้ว่าคิดอะไร..บ้าอำนาจ ชอบทำตาดุทั้งๆที่มันก็น่ากลัวอยู่แล้ว หน้าก็โหดยังไม่ค่อยจะยิ้มอีก และ..และก็เพิ่มไปยาลใหญ่ปิดท้ายด้วย” ผมว่าให้
“หึ..ไปยาลใหญ่” พี่คิวกระดิกนิ้วมืออยู่ที่พวงมาลัยอย่างกับสนุกอย่างนั้น
“ใช่ ไปยาลใหญ่” ผมย้ำ
“........................” พี่คิวเงียบไป ผมหันไปมอง พี่คิวเหลือบหันมาแล้วเบะปากยักคิ้วให้ผมอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“ซื้อมาได้สิบสี่ล้าน สติดีรึเปล่าก็ไม่รู้..คนรวยนี่ เงินเหลือมากนักรึไงนะ” ผมบ่นเสียงเบา
“ไม่ได้ซื้อ” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“ไม่ได้ซื้อ” ผมย้ำและหันไปมองอย่างสงสัย
“.........................” พี่คิวเลิกคิ้วและยักไหล่ด้วยท่าทางหยิ่งยโสอย่างเคย
“งั้น งั้น..แสดงว่าพี่ไปปล้นเค้ามาสินะครับ เค้กก็ว่าอย่างนั้นแหละ พี่จะเอาเงินไหนนักหนามาซื้อรถได้ตั้งหลายคัน” ผมว่า
“ฉันไม่จนตรอกขนาดนั้นหรอกนะ” พี่คิวทำหน้าหน่าย
“งั้น แล้ว ตกลง..มันมาได้ไงอ่ะ”
“ทิกเกอร์ซื้อให้อาน่ะ” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ห๊ะ !!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินเหตุผลนั่น
“เนื่องในวันอะไรเหรอครับ” ผมถามออกไปเพราะคิดว่าคงจะได้คำตอบที่ฟังแล้วรื่นหู
“ของแพงขนาดนี้ ต้องเป็นวันสำคัญสินะครับ” ผมยิ้ม
“ไม่รู้..แค่ เอามาง้อละมั้ง” พี่คิวตอบส่งๆอย่างไม่แยแสเท่าไหร่ ผมนั่งอ้าปากค้าง ห..เหตุผลมันช่างไร้สาระมาก!
“นี่ คือ..เหตุผล ที่ ซื้อรถ นี่มางั้นเหรอครับ” ผมย้ำอย่างไม่เชื่อ มือไม้ชี้สะเปะสะปะไปหมด
“คงงั้น” พี่คิวยักไหล่ตอบส่งๆอีกครั้ง
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจ
“แต่ทิกเกอร์เอามาง้อพี่ฟ้า เดี๋ยวพี่ฟ้าก็คงจะคืนดีแล้วสินะครับ”
“หึ..คนอย่างไอ้อาหื่นนั่นน่ะนะ” พี่คิวแสยะหัวเราะอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดของผม
“คงจะคืนดีให้ง่ายๆหรอก คนเจ้าเล่ห์อย่างนั่นน่ะ..” ระหว่างที่พี่คิวพูดออกมา ผมแสยะปากให้กับคำพูดของพี่คิวบ้าง กล้าพูดบอกว่าพี่ฟ้าเจ้าเล่ห์..พี่คิวคงลืมดูตัวเองละมั้งครับ
“พี่ฟ้าเป็นคนดี ไม่เหมือนพี่หรอก” ผมรีบเถียงแทนพี่ฟ้าเพราะรู้สึกไม่ชอบใจยังไงชอบกล บางครั้งผมก็รู้สึกไม่ชอบที่พี่คิวชอบกวนพี่ฟ้าบ่อยๆ
“จะใช้คำว่า..คนดี กับคนคนนั้นน่ะนะ หึ..เร็วไปสิบปี นายตาบอดรึไงไม่ทราบ” พี่คิวว่า ผมไม่กล้าเถียงอีกเพราะจริงๆแล้วผมอาจจะไม่ได้รู้จักพี่ฟ้าดีพอก็ได้ ดูเหมือนครั้งนี้ผมจะพ่ายแพ้เหมือนพี่ฟ้าซะแล้วละครับ
“แล้ว..จะไปไหนครับ” ผมถามด้วยความสงสัยที่เก็บมาตั้งแต่เมื่อคืน
“ไม้กันหมา” พี่คิวตอบ
“ไม้กันหมา” ผมย้ำเสียง
“ใช่” พี่คิวพยักหน้า
“ใครกัน..ไม้กันหมา” ผมขมวดคิ้ว
“ใครกันที่ถาม” พี่คิวย้อนพูดแกมหัวเราะ
“เค้กไง” ผมชี้ตัวเอง
“นั่นสิ” พี่คิวเบะปาก มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาเล็กๆ
“เค้ก” ผมชี้หน้าตัวเองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และเริ่มประมวลความคิดกับคำพูดทั้งหมดของพี่คิว
“เค้กเป็นไม้กันหมาอย่างนั้นเหรอฮะ เค้กคนนะ!” ผมขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจ
“สมองนายนี่ก็ช้าเหมือนกันนะ ที่บ้านไม่ค่อยให้กินอาหารเสริมเหรอ” ผมกัดฟันแน่นเหมือนได้ยินคำพูดของพี่คิว น้ำเสียงที่พูดด้วยความเรียบนิ่งมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าอยากจะตะปบพี่คิวเข้าซะให้ได้
“ชิ ตัวเองฉลาดตายล่ะ” ผมบ่นเสียงเบา แต่หลังจากนั้นก็ไม่ตอบโต้อีก ผมหันหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างแทน
“หึ..” เสียงหัวเราะเบาๆจากพี่คิวยิ่งทำให้ผมกัดปากตัวเองมากกว่าเดิม ผมนั่งเงียบ พี่คิวไม่พูดอะไรต่ออีก พูดง่ายคือเราไม่ได้คุยกันจนตลอดทาง พี่คิวขับมาถึงห้างแห่งหนึ่ง แบะพี่เขาเดินตรงไปที่ท็อปส์ซุปเปอร์มาเก็ตและเลือกซื้ออาหารอย่างกับตัวเองเป็นคุณชาย ส่วนผมเป็นคนรับใช้ มีหน้าที่เข็นรถเข็นเดินตามอ่ะครับ
“........................” อยู่ๆพี่เขาก็หันมายืนจ้องหน้าผม ผมเบะปากเหลือบหางตาไปอีกทาง
“โอ้ย” ผมร้อง เอามือจับหัวตัวเองด้วยความรู้สึกเจ็บที่เพิ่งโดนพี่คิวเอาช็อกโกแล็ตมาตีเข้าที่หัว
“วันนี้พี่ทำเค้กเจ็บสองครั้งแล้วนะ”
“งั้นเหรอ โทษที..ไม่ได้นับ” พี่คิวย้อนหน้าตาย
“เอาอะไรไหม” พี่คิวถาม ผมส่ายหัวตอบ
“แน่นะ”
“แน่” ผมตอบด้วยเสียงดังฟังชัดถึงแม้ว่าในใจผมจะขัดกันมากก็ตาม
“โอเค” พี่คิวแสยะยิ้ม เราเข็นรถเข็นไปจ่ายเงิน ส่วนมากเป็นขนมขบเคี้ยวทั้งหมด พี่คิวเดินต่อไปอีกชั้น ผมเดินตามไม่ถามอะไรเพราะขี้เกียจจะคุยกับคนที่ชอบกวนประสาทนี่แล้ว
“อ่า..น่ารักอ่ะ” ผมเร่งเท้าแซงพี่คิว ตรงดิ่งไปที่มุมของเด็กเล่น
“นายนี่ดูอายุตัวเองบ้างไหม” พี่คิวเดินมายืนข้างๆผม
“คนที่ชอบดูการ์ตูนดิสนีย์ กับบ้าวรรณกรรมเด็กอย่างพี่กล้าว่าคนอื่นอย่างนั้นเหรอครับ” หลังจากสิ้นเสียงของผม พี่คิวยืนอึ้งไป
“แบร..” ผมแลบลิ้นใส่ พนักงานขายหญิงเดินเข้ามาหา เธอยืนยิ้มอยู่ห่างๆเหมือนคอยที่จะช่วยเหลือเราทั้งสอง พี่คิวเดินไปที่มุมตุ๊กตาบาร์บี้ ผมเดินไปยืนข้างๆพี่คิว พี่คิวยืนจ้องตุ๊กตาบาร์บี้เขม็ง
“ตัวนี้น่ารัก” ผมชี้ไปที่ตุ๊กตาผมทองหน้าม้า ตากลมโต
“งั้นเอาตัวนี้” พี่คิวชี้สั่งพนักงาน
“ซื้อให้เค้กเหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ เพราะพี่คิวดันชี้ตัวเดียวกับที่ผมบอกว่าน่ารัก
“ซื้อให้เชอร์เบ็ต นายนี่ชอบเข้าข้างตัวเองนะ”
“ง่ะ..”
“แล้วก็ตัวนี้ครับ” พี่คิวชี้ตุ๊กตาบาร์บี้ที่สวมชุดสีแดงอีกตัว
“แล้วก็เอากล่องนี้ด้วยครับ” พี่คิวชี้ไปที่ชุดเสื้อผ้า พนักงานหญิงรีบหยิบของไปวางไว้ ผมต้องเข้าไปช่วยหยิบให้ด้วยเพราะกล่องมันค่อนข้างใหญ่มากทีเดียว
“มุมหุ่นยนต์อยู่ตรงไหนครับ” พี่คิวถาม
“ซ้ายมือเลยค่ะ” พนักงานผายมือบอก พี่คิวเดินนำไปพร้อมกับเธอ
“เอากล่องนี้กับ..กล่องนี้” พี่คิวชี้สั่งพนักงาน
“เท่านี้แหละครับ”
“ได้ค่ะ..คิดเงินเลยนะคะ” เธอยิ้มถาม
“ครับ” พี่คิวพยักหน้าตอบ เธอเดินนำไปที่เคาร์เตอร์ ผมกับพี่คิวเดินตามไป
“ทั้งหมดสามหมื่นสองพันบาทค่ะ” พนักงานคิดเงินยิ้มบอก ผมยืนทำใจและสูดหายใจเข้าลึกๆ รวบรวมลมปราณของตนเองเข้าออก เพื่อให้ตัวเองมีสติที่สุดเท่าที่ผมจะสามารถทำได้ “ผมจะเป็นลม..เงินนี่เป็นค่าอาหารและค่าเดินทางผมได้สี่เดือนพอดี TT”
หลังจากนั้นผมช่วยพี่คิวถือของ ของเต็มไม้เต็มมือของเราทั้งคู่ไปหมด พี่คิวบอกว่าซื้อของครบแล้ว ผมคิดว่านี่คงเป็นเป้าหมายในการมาห้างเพื่อซื้อของเท่านี้ เราเดินกลับไปที่รถและพี่คิวเคลื่อนรถออกจากตัวห้าง ผมจึงถามขึ้นว่าจะไปไหน ซึ่งพี่คิวไม่ได้ตอบอะไรมากไปกว่าบอกว่าจะไปหาน้องเชอร์เบ็ตกับน้องบัตเตอร์..
= = = = = = = =
ณ บ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..
ผมนั่งอ้าปากค้าง ตาค้างมองคฤหาสน์หลังใหญ่ตรงหน้า ก่อนที่พี่คิวจะขับรถเข้ามาผมได้เห็นป้ายที่หน้าประตูรั้วและทราบแล้วว่าเป็น “บ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์” ทำให้ผมเข้าใจได้ว่านี่คงเป็นบ้านของพ่อพี่ฟ้าอย่างแน่นอน แต่แบบนี้สำหรับผมนั้นไม่เรียกว่าบ้านหรอก แบบนี้แถวบ้านผมเรียกว่าวังต่างหากละครับ บ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ 300 ล้านเอาอยู่รึเปล่าผมยังไม่กล้าที่จะคำนวณมัน กลัวว่าตัวเองนั้นจะปล่อยไก่ไปเป็นเล้า..
“นี่..นี่ไม่เหมาะที่จะใช้คำว่า บ้าน หรอกนะครับ” ผมพูด
“นั่นสิ แต่ก่อนคงใช่..ตอนนี้คงไม่ใช่แล้วละมั้ง แค่..มั้งนะ” พี่คิวหัวเราะเหมือนขอไปที ผมฟังอย่างไม่เข้าใจความหมายที่พี่คิวบอก พี่คิวเงียบไปและยังไม่ยอมขยับตัว ผมนั่งจ้องพี่คิวด้วยความแปลกใจ การที่พี่คิวให้ผมมาเป็นไม้กันหมาที่ว่าคงเพราะพี่คิวไม่อยากมาบ้านนี้สักเท่าไหร่หรือเปล่านะ..ผมได้เพียงแต่คิดเท่านั้น
“ลงไปด้วยกันหน่อย” พี่คิวพูดขึ้น
“ลงไปด้วยกัน” ผมตกใจ
“เหอะน่า” พี่คิวหันมาทำหน้าเซ็งใส่ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถนำไปก่อน ผมรีบลงจากรถตามและเดินไปที่ฝั่งของพี่คิวเพราะกลัวว่าพี่คิวจะหนีผมไปซะก่อน ขืนผมยังยืนเก้ๆกังๆอยู่อย่างนี้ผมคงได้ปล่อยไก่อย่างที่ว่าจริงๆ
พี่คิวนำของที่ซื้อมาทั้งหมดออกมาถือไว้ ผมรีบเข้าไปช่วยถือเพราะรู้สึกเหมือนกับว่าไม่รู้จะเอามือทั้งสองของตัวเองไปวางไว้ตรงส่วนไหนของร่างกาย ผู้หญิงมีอายุสองคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาจากประตูบ้าน เธอสองคนน่าจะเป็นแม่บ้านของที่นี่
“ส..สวัสดีค่ะคุณคิว” แม่บ้านทั้งสองก้มหัวให้พี่คิวทันที เธอมีท่าทีตกใจ และท่าทางเธอจะเกรงกลัวพี่คิวจนผมรับรู้ได้
“ไม่ทราบว่าคุณจะมา เอ่อ..เลย”
“เงียบเถอะ” พี่คิวว่า แถมยังทำสีหน้าไม่พอใจใส่ให้อีก
“.........................” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่คิว พี่คิวหน้านิ่งลง อยู่ๆกลับมีสีหน้าเหมือนกำลังลำบากใจ ผมเห็นหน้าอกของพี่คิวกระเพื่อม พี่เขาถอนหายใจออกเบาๆ
“มีใครอยู่บ้าง” พี่คิวถามเธอทั้งสอง เธอทั้งสองคนยังคงยืนเงียบ
“ผมต้องการรู้ ทุกคน”
“ค่ะ..คุณผู้หญิงนอนพักผ่อนอยู่บนห้องค่ะ ส่วนคุณตี๋ออกไปทำงาน คุณทับทิมตอนนี้คงอยู่ที่คอนโดเธอค่ะ เธอไปนอนที่คอนโดของเธอหลายวันแล้วค่ะ” แม่บ้านหนึ่งในนั้นอธิบาย
“ส่วนคุณปรัชญาไปเรียนค่ะ คงจะกลับเย็นๆ..ส่วน” เธอทิ้งเสียงลงเหมือนกลัวที่จะพูดต่อ
“ส่วนคุณตันไปทำงานค่ะ คุณพิมพ์อยู่ที่เรือนเล็ก คุณเป้ยกับคุณพราวบินไปสวิตได้สองวันแล้วค่ะ”
“แล้วอาชัชชัยล่ะ” พี่คิวถาม
“คุณชัชชัยเข้าบริษัทค่ะ เห็นว่ากำลังกลับมา..เพราะต้องมาทานข้าวเย็นกับคุณบัตเตอร์กับคุณเชอร์เบ็ตค่ะ” เธอตอบ
“แล้วตัวแสบสองคนนั่นอยู่ไหน” พี่คิวถามอีก
“อยู่ในห้องของเล่นน่ะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปตาม..” เธอพูด
“พี่คิววววววว!!!” ระหว่างที่แม่บ้านกำลังพูด พี่คิวพยักหน้าส่งๆและกำลังจะก้าวเท้าเดินตรงไปที่ประตูบ้าน เสียงเด็กเรียกดังในทันที บัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตวิ่งตรงมาหาพี่คิว
“หึหึ..ว่าไง” พี่คิววางของและนั่งลงกอดรับเด็กทั้งสองคน
“สวัสดีค่ะ จุ๊บ~” น้องเชอร์เบ็ตก้มลงหอมแก้มพี่คิว
“หวัดดีครับพี่คิว ฟ๊อด~” น้องบัตเตอร์ก้มลงหอมแก้มพี่คิวอีกข้าง และทั้งสองก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ผมยิ้มกว้างทักทาย
“สวัสดีค่ะ” เชอร์เบ็ตยกมือไหว้พร้อมกับย่อให้ผมอย่างน่ารัก
“สวัสดีค่ะ” ผมยิ้มตอบ
“บัตเตอร์ทักทายพี่เค้าสิ” เชอร์เบ็ตหันไปบอกบัตเตอร์
“ไม่เห็นจำเป็น” บัตเตอร์เบะปาก
“บัตเตอร์” พี่คิวปรามเสียงเข้ม
“เสียมารยาท” พี่คิวว่าให้ น้องบัตเตอร์ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด
“ไม่ต้อง” พี่คิวหันมาห้ามแม่บ้านที่กำลังจะเข้ามาถือของที่พี่คิววางไว้บนพื้น เธอทั้งสองก้มหัวและถอยหลังไปยืนอยู่ห่างๆ
“พี่ซื้อขนมกับของเล่นมาให้ แยกถุงมาให้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น..ห้ามแย่งกันเด็ดขาดนะครับ” พี่คิวกำชับ
“ค่ะ/ครับ” ทั้งสองพยักหน้า ยิ้มตอบในทันที
“และถ้าอีกฝ่ายอยากกินของอีกฝ่าย ต้องแบ่งกันด้วยรู้ไหมครับ”
“ค่ะ/ครับ” ผมยืนยิ้มกับเด็กทั้งสองคนที่เชื่อฟังพี่คิวซะเหลือเกิน
“พี่คิวจะอยู่ทานข้าวกับบัตเตอร์ไหม”
“ใช่ๆ จะอยู่เล่นกับเชอร์เบ็ตไหมคะ..คืนนี้พี่คิวนอนนี่นะ”
“อยู่ไม่ได้หรอก พี่มาแป๊บเดียว..เอาของมาให้ก็กลับแล้วล่ะ เดี๋ยวคุณพ่อก็มาแล้วนี่” พี่คิวลูบหัวทั้งสองคนอย่างเบามือ
“ทำไมล่ะ!” ทั้งสองขึ้นเสียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ไม่ดื้อนะครับ วันนี้พี่ไม่ว่าง..นะครับ” ผมมองผู้ชายคนตรงหน้า ผู้ชายที่กำลังพูดกับเด็กด้วยสีหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มใดๆแต่กลับเป็นสีหน้าที่ดูอ่อนโยนเสียเหลือเกิน
“แล้วก็..นี่เป็นของที่พี่ซื้อมาให้ ดังนั้น..ถือเข้าไปเองทั้งหมดนะครับ แกะของเสร็จ ทิ้งเอง..ถ้าพี่โทรกลับมาแล้วแม่บ้านบอกว่าเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์ไม่ทำตามที่พี่บอกล่ะก็..” พี่คิวทิ้งเสียง
“ค่ะ/ครับ จะทำตามอย่างเคร่งเครียดเลย” ทั้งสองพูดพร้อมกันอย่างกับนัดกันไว้ พร้อมทั้งยกมือขึ้นทำท่าเลียนแบบตำรวจอีกด้วย
“หึ..เคร่งครัดรึเปล่าครับ” พี่คิวหัวเราะอย่างเอ็นดู
“เอิ่ม เคร่งครัด” บัตเตอร์พูดและเหลือบตาไปอีกทางอย่างใช้ความคิด น้องเชอร์เบ็ตเอียงคออย่างสงสัย
“ไม่ใช่เคร่งเครียดหรอกเหรอคะ”
“ไม่ใช่ครับ” พี่คิวยิ้ม
“งั้นเหรอ” ทั้งสองคนบ่นพร้อมกัน
“หึ..เอาละคนเก่ง เข้าบ้านได้แล้วนะ..เดี๋ยวพี่ไปหาป้าพิมพ์ที่เรือนเล็กก่อน” พี่คิวลุกขึ้นยืน ทั้งสองหน้าเศร้าลง พี่คิวขยี้หัวของเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์เบาๆ
“แล้วจะโทรมาหา ห้ามดื้อกับคุณพ่อล่ะ”
“ค่า/ค้าบ” เสียงเริ่มยานขึ้นเรื่อยๆ
“คงได้ยินแล้วใช่ไหม” พี่คิวหันกลับไปมองหน้าแม่บ้านที่ยืนรออยู่ แม่บ้านทั้งสองคนพยักหน้าตอบทันที
“ดูด้วยล่ะ..ฝากด้วย และห้ามแม้แต่จะโกหกฉัน” พี่คิวสั่งเสียงเข้ม ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋าออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองเด็กๆอีก ผมคิดว่าพี่คิวเป็นคนใจแข็งพอสมควร ไม่มีท่าทีอาลัยอาวรณ์ที่จะหันกลับไปมองหรือแม้แต่จะอ่อนข้อให้เด็กๆทั้งสองคนเลย
ผมหันกลับไปยิ้มให้เชอร์เบ็ต เธอยกมือบ๊ายบายให้ผม ผมบ๊ายบายและยิ้มตอบให้ ผมรีบเร่งเท้าเดินตามพี่คิวไป พี่คิวไม่ได้ไปอีกทาง ผมเห็นว่ามีบ้านอีกหลังอยู่แยกออกมา หลังใหญ่พอสมควรแต่ก็ไม่เท่ากับหลังที่เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์อยู่เมื่อกี้
“รอด้วยสิครับ” ผมรีบเร่งเท้าจนแทบจะวิ่ง
“หึ..ขาสั้น” พี่คิวแสยะหัวเราะ
“ไอ้บ้า” ผมบ่นเสียงเบา
“คุณหนู!” ป้าแม่บ้านที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้านเห็นพี่คิว เธอยิ้ม เบิกตาโตพร้อมกับอุทานเสียงดัง
“นังแจงไปบอกคุณพิมพ์เร็วว่าคุณคิวมา” ป้าคนนั้นทั้งตีและดันแม่บ้านสาวอีกคน พี่คิวเดินยิ้มเข้าไปหาป้าคนนั้นในทันที
“สวัสดีค่ะคุณ ป้าคิดถึงจังเลย” ป้าแม่บ้านคนนี้พูดด้วยสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ ผมได้ยินเสียงพี่คิวหัวเราะเบาๆ พี่เขาเดินเข้าไปกอดป้าแม่บ้าน เธอกอดตอบและลูบหลังพี่คิวอย่างเอ็นดู
“สบายดีนะคะคุณหนูของป้า”
“คิวไม่ใช่คุณหนูแล้วนะครับ คิว..โต มากแล้ว” พี่คิวเลิกคิ้วและอมยิ้ม
“คุณยังเป็นคุณหนูของป้าอยู่วันยันค่ำแหละค่ะ” ป้าแม่บ้านลูบหน้าลูบตาพี่คิวไปมา
“คิว” ผมหันไปมอง แม่ของพี่คิวเดินออกมาจากบ้าน เธอเบิกตาโพรงด้วยสีหน้าตกใจก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาพี่เขา พี่คิวเดินเข้าไปกอดแม่ของตัวเอง
“สบายดีใช่ไหมลูกหื้ม” แม่พี่คิวพูดไปลูบหลังพี่คิวไปพลาง
“ครับ”
“ขอโทษนะครับ” พี่คิวพูด
“ขอโทษเรื่องอะไร” แม่พี่คิวจับหน้าพี่คิวและจ้องมองหน้าของพี่เขา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแต่กลับมีสีหน้าเศร้าปนอยู่จางๆ
“ที่มาดูแลบ่อยๆไม่ได้ ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก แม่มีคนดูแลตั้งเยอะแยะ..ตอนนี้บ้านก็สงบดีแล้วด้วย ไม่ต้องห่วงนะ” แม่พี่คิวยิ้มอย่างอ่อนโยน
“พ่อรู้รึเปล่า” แม่พี่คิวถาม
“ไม่” พี่คิวส่ายหัว แม่พี่คิวเงียบลง เท่านั้นรอบตัวพวกเราเงียบลงไปชั่วขณะหนึ่ง
“แล้วเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์รู้รึเปล่านี่ฮึ..น้องบ่นหาหนูทุกวัน” แม่พี่คิวเลิกคิ้วพร้อมกับอมยิ้ม
“เพิ่งเอาของไปให้เมื่อกี้นี้น่ะครับ อยู่ต่อไม่ได้หรอก..เดี๋ยวเคยตัว” พี่คิวบอก
“หนูนี่ก็ ไปดุกับน้องมาก..น้องคิดถึงจะตายอยู่แล้ว อยู่นี่ก็เล่นได้แต่กับตาปรัชญา ตาปรัชญาก็ไม่ค่อยว่างหรอก เตรียมตัวสอบด้วย ส่วนยัยทับทิมน่ะเอาใครซะที่ไหนล่ะ” แม่พี่คิวบ่นคิ้วขมวด
“ก็ดีแล้วที่ไม่เอาใคร ถ้าเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์ต้องติดนิสัยแบบทับทิม..ให้เล่นกันสองคนยังดีซะกว่า” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“ลูกนี่ชอบว่าคนอื่นจริง แม่บอกแล้วใช่ไหม”
“แม่ครับ” พี่คิวปรามก่อน
“เฮ้อ ก็ได้จ้ะ” แม่พี่คิวถอนหายใจ
“แล้วนี่..หนูคนนั้นนี่จ๊ะ ที่ให้เลือดคิว” แม่พี่คิวเหลือบมายิ้มทักผม ผมรีบยกมือไหว้ ไอ้เราก็นึกว่าไม่เห็นเรายืนอยู่แล้วซะอีก
“งั้นเข้ามาทานน้ำทานอะไรก่อนดีกว่านะลูกนะ” แม่พี่คิวบอกผม ผมหันไปมองหน้าพี่คิว
“ไม่เป็นไรครับแม่ คิวแค่แวะมาหา..คิวมีธุระน่ะ จะกลับแล้ว” พี่คิวยิ้มบอกแม่ตัวเอง
“แต่เหมือนฝนจะตกเลยนะ อยู่ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
“แม่ครับ ไม่เป็นไรหรอก..รถคิวมีหลังคานะ” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“แต่ว่า..” แม่พี่คิวหน้าเศร้าลง
“ไปนะครับ ไว้วันหลังคิวจะมารับไปเที่ยว..ดูแลตัวเองนะครับแม่” พี่คิวก้มลงหอมแก้มแม่ของตน
“ฝากแม่ด้วยนะครับป้า” พี่คิวหันไปบอกป้าแม่บ้าน เธอรีบยิ้มตอบ พี่คิวก้มลงกอดแม่ของตัวเองอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นกอดที่ยาวนานกว่าเดิม
“รักนะครับ” พี่คิวพูดเสียงเบา แต่เวลานี้สถานที่นี้ช่างเงียบสงบ ทำให้ทุกคนคงจะได้ยินคำพูดนี้ชัดเจนทีเดียว
“จ้ะ” แม่พี่คิวน้ำตาคลอ ลูบหลังพี่คิวตอบ
“ดูแลตัวเองนะลูก อย่าดื้อกับอาฟ้ามากนักล่ะ” แม่พี่คิวทำหน้าเข้มใส่
“แม่ครับ..ใครกันแน่ที่ดื้อ” พี่คิวขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้แม่พี่คิวและป้าแม่บ้าน ทั้งสองรีบยกมือรับไหว้ผม
“หวัดดีครับ” พี่คิวยกมือไหว้ป้าแม่บ้านและแม่ของตนอีกครั้งก่อนที่จะเดินหนีไปก่อน
“แฮ่..” ผมยืนยิ้ม จะเดินหนีตามคุณชายคนนั้นไปเลยก็ใช่ที่ กลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทจนเกินไปเพราะทุกคนกำลังยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร ผมยืนยิ้มกว้างตอบ
“นี่!” ผมหันไปมองเสียงเรียกห้วนๆนั่น ผมผงกหัวให้อีกครั้งเป็นเพื่อการลาครั้งสุดท้าย
“ฝากด้วยนะลูกนะ” แม่พี่คิวรีบบอกผมอย่างร้อนรน
“ครับ” ผมตอบเพียงเท่านั้น แต่ในใจผมกลับคิดว่า “รับฝากไม่ไหวหรอกครับ เฮี้ยนซะขนาดนั้น”
“รักๆกันไว้นะลูกนะ” แม่พี่คิวพูดทิ้งท้าย ผมยิ้มให้แม่พี่คิวอีกครั้งก่อนที่จะเร่งเท้าไปให้ทันพี่คิวที่เดินหนีไปไกลแล้ว
“รักๆกันไว้นะลูกนะ” ผมพูดย้ำแกล้งแซวคนตรงหน้า
“อะไร” พี่คิวเหลือบตามามองหน้าผม
“เปล้า” ผมยักไหล่
“แม่พี่น่ารักนะ” ผมยิ้ม
“ก็แม่ฉันนิ”
“เย็นชา” ผมว่า
“ตรงไหน” พี่คิวย้อนถาม
“ยังไม่รู้ตัวเองอีกเหรอครับ” ผมเบะปากกวนกลับบ้าง
“ไปไหนต่อครับ” ผมถาม พี่คิวเดินไปโดยไม่ได้สนใจที่จะตอบคำถามจากผม
“ไปไหนฮะ” ผมย้ำเสียงถามอีกครั้ง พี่คิวไม่เพียงแม้แต่จะหันกลับมามอง ผมเห็นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้ากวนๆนั่น
“งั้นก็ไม่ต้องอ้าปากพูดเลยนะครับ” ผมว่าและรีบเร่งเท้าหนีพี่คิวไปที่รถก่อน เพราะถ้าเดินช้ากว่านี้เราอาจจะโดนทำร้ายร่างกายก็น่าจะเป็นไปได้นะครับ..
.................>>>><<<..................
-
อ๊าก มาแล้ว :กอด1:
พามาเจอแม่!!...ไม่รู้จะอธิบายยังไง
กรี๊ด....จิกหมอน
รักเบบี้ รักเค้กคิว :impress2:
-
พาว่าที่ลูกสะใภ้มาเปิดตัวเหรอคะพี่คิว กิ้วๆๆ :laugh:
โอ๊ะ เร็วไปๆๆ ยังไม่รู้เลยว่าพี่คิวคิดยังไงกับเค้ก แต่เค้กได้นั่งรถคันละสิบสี่ล้านนี่ก็พิเศษสุดๆไปแล้วล่ะ :impress2:
ลุ้นทุกตอนเลย เมื่อไหร่จะเลิฟๆกันทั้งคู่น้า :-[
-
คิวน่ารักอ่ะ ดูเป็นคนรักครอบครัวดี
o13
-
อ๊าคคคคค พาเค้กเข้าบ้านไปหาแม่หรอออ พี่คิววววววน่าร๊ากกกกกก
“รักๆกันไว้นะลูกนะ” กรี๊ดดดดดด คุณแม่รู้อะไรดีๆ ใช่มั้ย กอสสิบหน่อยค๊า
บวกๆๆๆๆ อยากอ่านอีกคือที่สุดดดดดด
-
มาแล้ว
-
น่ารักจัง :L1:
บวกเป็ด
-
:z13:
-
อ๊ามาแล้วอะดีใจ
-
น้องคิวน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :กอด1:
พี่คิวกวนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :o8:
-
น่ารักกกกกก
รักกันไว้น่ะ ^^
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
เมื่อไหร่จะได้คบกันนี่ ลุ้นอ่า
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด มาต่อแล้วดีใจ มาดูทุกวันทั้งที่รู้ว่ายังไม่ต่อ อิพี่คิวเปิดตัวหรอจ๊ะ 5555555
-
พาไปเปิดตัวหรอพี่คิวววววว
-
กรี๊ดดดดดดดด พี่คิว น้องเค้กมาแล้วววว :impress2:
น้องเค้ก น่ารักจัง ยังน่ารักเหมือนเดิม :impress2:
พี่คิว ยังคงกวน.. เหมือนเดิม :laugh: :laugh: แต่ก็น่ารัก :impress2:
“รักๆกันไว้นะลูกนะ” กรี๊ดดดดดดดดด คุณแม่คะ หมายความว่าไงคะ คุณแม่รู้อะไรใช่มั้ยคะ :-[
o13
-
รักๆกันไว้นะลูก คุณแม่ขา รู้อะไรมาป่ะเนี่ย o18
ตอนนี้ก็น่ารัก เหมือนพาแฟนมาเที่ยวบ้านเลย :laugh:
:pig4:นะคะ คุณเบบี้
-
จริงๆพามาเปิดตัวใช่มั้ยยยยยยยย
“รักๆกันไว้นะลูกนะ”
คึ่กๆๆ ถึงไม่มีอะไรเราก็จิ้นได้~ >.<
-
น่ารักอ่ะ :)
-
แม่พี่คิวช่างแตกต่างกับพี่คิวมากกกก :a5:
-
พี่คิวก็น่ารักนะ
-
เ่อ่อ.. รถคันละ 14 ล้านนน~
รักๆกันไว้นะลูกนะ :-[ พามาให้แม่ดูตัว อิอิ
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
น่าจะมาซักสองตอนสามตอนนร้าคราฟฟฟฟฟฟฟฟฟ คิดถึงเค้กมากๆๆเลย
-
มาแล่ว มาแล้ววววววว
เค้กเอ้ย สงสัยจะอาการเดียวกับพี่เลยว่ะ โรคกลัวอะไรที่มันห่างชั้นไกลกันมากๆๆๆๆ
สาวน้อยเชอร์เบต น่ารัก น่าหลงตรอดๆ พอๆ กับเกรียนบัตเตอร์ก็เกรียนคงที่ตรอดๆ เหมือนกัน ฮ่า ฮ่า
"รักๆ กันไว้นะลูกนะ" แอร๊ยส์!!!! หมายฟามว่าคุณแม่เข้าใจ&ไว้ใจยกพี่คิวให้นุ้งเค้กดูแลแล้ว ชิมิ ชิมิ
แต่ว่าเค้าจะพาไปไหนกันต่อง่ะ อยากรู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
thanks & +++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
:o8:พาไปหาแม่ซะแล้ว ต้องมีอะไรแน่ๆเลย :-[
-
มันเหมือนจะมีอะไรมากขึ้นในความกวนประสาทเป็นปกติของพี่คิว 555555 พาไปบ้านเจอครอบครัวแล้วอ่ะ คิคิ !
พี่คิวนี่ตลกดีอ่ะ เป็นพวกซึนโคตรรรรรรร ซึนจนถ้าไม่ใช่เค้กอาจจะถอดใจไปแล้วก็ได้ การมีท่าทีแต่ก้เหมือนไม่ใช่
คือถ้าจะคิดเยอะก็คงจะอยู่กับพี่คิวไม่ได้ละจ้า 5555 เป้นตอนที่น่ารักดีเนอะ เหมือนจะเรื่อยๆแต่มันก้ดุมีอะไร
เอาเค้กไปเป็นไม้กันหมานี่ก็คืบหน้าไปเยอะละ รอดูพี่คิวซึนใ่ส่เค้กต่อไป 55555 คงไม่เลิกซึนเร็วๆนี้แน่นอน
ถึงจะยอมรับว่าชอบแล้วนิสัยพี่เค้าก็คงยังจะรักแบบซึนๆ ชอบอ่ะ 5555
-
อั๊ยย๊ะ พี่คิวพาเข้าบ้านไปหาแม่แบบเนียน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่คุณแม่ เหมือนจะรู้อะไรรึเปล่าคะ ถึงได้อวยพรแบบนี้ :-[
-
""รัก ๆ กันไว้นะลูกนะ"
เหมือนคุณแม่อวยพรลูก :-[ วันแต่งงานเลย :o8:
:pig4: คะ
-
โอ้ยยยยยยคุ้มค่ากับการรอคอยยยยย ตอนนี้แบบว่า น่ารักมากกกกกกกอ่ะ :กอด1:
น้องเค้กกะพี่คิว อ๊างงงงงงง !!! :o8:
อยากรู้พี่คิวจะพาน้องเค้กไปไหนต่อ อิอิ แอบเดาไว้ในใจ ถ้าเดาถูกงวดหน้าจะซื้อหวย!!!(เกี่ยวไหม) :laugh:
-
ไม้กันหมายังไงเนี่ยพี่คิว = ='
คุณแม่ขาาาาาาาา คึคึ รักกันค่ะ รักกันนนนน
พี่คิวทำตัวน่าสงสัย จะพาน้องเค้กๆไปไหนนน
-
พี่คิวน่ารักกก :o8: พี่คิวจะพาเค้กไปไหนหว่า?
-
มาเปิดตัวเค้กกับแม่เหรอคิว
-
ในที่สุดก็มา เค้าเปิดมาดูทุกวันเลยยยยย
น้องเค้กน่ารักมากกกกกกก ส่วนพี่คิวนี่ถ้าไม่ได้กวนน้องนี่คงจะนอนไม่หลับสินะ
ปล.อ่านเรื่องนี้จนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะยิ้มแบบพี่คิวบ่อยขึ้นไปทุกทีแล้วอ่ะ หึ...
-
แปลกทั้งบ้าน :laugh:
-
โอ๊ยยย น่าร้ากมากกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[
พี่คิวอบอุ่นจัง แหมมม ให้เป็นไม้กันหมาหรือพาไปเปิดตัวกันแน่ :laugh:
น่ารักจริงๆตอนนี้ รู้สึกถึงกลิ่นอายของความอบอุ่นมาเต็มๆเลย อ่านแล้วยิ้มๆ ^^
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:z3: รักกันไว้ๆๆ :laugh:
-
รอตอนต่อจ้า
-
ตอนนี้เค้กแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมามากขึ้น จากที่เคยแต่กลัวๆ หงอ เริ่มมีอารมณ์โกรธ
-
คนชอบพูดว่าอยากให้รักกันเร็วๆ ผมว่าเค้าก็รักกันแล้วแหละ (คิดถึงเด็กๆบ้านเด็กกำพร้าจังคับ^^)
-
ไม่ทันแล้วละค่ะน้องเค้ก ทุกคนคงรู้หมดแล้วว่าเค้กตื่นเต้นขนาดไหน ฮ่ าา :-[
พี่คิวนี้รวยได้ใจจริงเลยนะค่ะ ส่วนเรื่องความเจ้าเล่ห์นั้น คงต้องบอกว่าอาหลาน ลูกไม้หล่นไม่ใกล้ต้นจริงๆ ใช่ไมค่ะ
พอๆกันเลยทีเดียว แต่ไงก็รักทั้งอาทั้งหลานนะค่ะ :impress2:
พี่คิวพาลูกสะใภ้มาไหว้คุณแม่หรอค่ะเนี้ย สงสัยแบบนี้คงต้องแต่งแล้วแหละ อ้ายเขินแทนอ่ะ 555
ตอนนี้พี่คิวแอบทำร้ายร่างกายน้องเค้กหรอค่ะเนี้ย น้องเค้กยิ่งบอกบางอยู่นะค่ะ 555 สงสัยตอนนี้แขนเขียวไปแล้ว :o8:
ถึงจะโหดแต่ก็แอบมีมุมน่ารัก จริงไมค่ะหนูเค้ก o22
.
.
.
.
.
เมื่อวานยังเป็นปลื้มพี่เมตรอยู่เลย วันนี้แอบมาหลงพี่คิวซะแล้วฉัน :a5: o13 :bye2:
-
เค้ก :o8:น่ารักอ่ะ+1 :o8:
-
เปิดตัวสินะ :impress2:
-
มาต่อเร็วๆนะคับ รออ่านและเป็นกำลังใจให้อยู่คับ
-
หรือคุณแม่จะรู้เนี่ย
-
คุณแม่ยังบอกเลยว่า
ว่า รักๆกันไว้น้าาาา
ฮ่าๆๆ แสดงว่ารู้สินะ อั้ยย่ะ
เขินแทนน้องเค้กเบาๆ (จริงๆคือแม่ไม่ได้คิดอะไร)
มาอีกนะ น้องเค้กกำลังกล้าหือกะพี่คิวมากขึ้น น่ารักดี ^^
-
คุณแม่เก่งจัง ดูแปปเดียวก็รู้เลยเหรอ ฮ่าๆ
พี่คิวชอบดุเค้กอ่ะ น่ารักกดี :man1:
-
พาเข้าบ้านน . :o8:
-
พาไปเปิดตัวหรอพี่คิว :L2: :L2: :L2:
-
ไม้กันหมาหรืออะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆพี่คิวกล้าแสดงความรู้สึกกับแม่ต่อหน้าเค้กนิไม่ใช่ธรรมดา :pig4:
-
หึหึหึ เหมือนจะไม่หวานเนอะ แต่อ่านแล้วยิ้มตลอดอะ
-
พี่คิวนี่มันกวนจริงๆ
ชองบัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตอ่า น่ารัก อิอิ
-
น่ารักอะ ^^
-
เปิดตัวลูกสะใภ้หรือเปล่าเนี่ย ฮาาาาา!
คิวน่ารักนะครับ >M<
-
อั้ยย่ะ.. พาเค้กมาไหว้แม่ซะด้วย คึคึ
ขอบคุณเบบี้นะค้าบบบบ :กอด1:
-
เย็นชาเหลือเกินนะพี่คิว
-
แอร๊ แม่ บอกให้รักกัน 5555
5555
อรีากก มีความสุขแท้ ยิ้มจนปวดแก้มมม เหะ
-
สรุป แม่พี่คิวไฟเขียวแล้วใช่ม๊า
คุณแม่น่ารักอ่ะ
-
ดิ้นปั๊ดๆ น่ารักอ่ะ เถียงกันน่ารัก
-
อ้ากกกกกก
มาแล้ว มาแบน่ารักมากมายยยยยยย
-
โหยยยย อ้างว่าจะเอามาเปไม้กันหมา เอามาเปิดตัวกะพูดมาเห๊อะะะะะ ฮ่าาา
-
น่ารักเนาะคู่นี้ เหมือนพี่คิวพาน้องเค้กไปเปิดไรงี้เลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
-
พาไปเปิดตัวกับคุณแม่ด้วย อิอิ
เค้กคิว เค้กคิว เค้กคิว อิอิ
-
เค้กน่ารัก
-
" รักๆกันไว้นะลูกนะ " ฮิ้วๆๆ :-[
ถึงเฮี้ยนไปนิดแต่ก็น่ารักเป็นบางมุมเหมือนกันน้าน้องเค้ก ทนๆเค้าหน่อยแล้วกันเนอะ
-
เย่ มาแล้ว พี่คิวกวนโอ๊ยเหมือนเดิมเลย เหอะๆ :o8:
-
พามาเปิดตัวกับคุณแม่เหรอจ๊ะพี่คิว ฮิฮิ
-
แอบสงสารแม่พี่คิวอ่ะคะ
-
พี่คิวอย่าดุเค้กมากสิคะ เค้กกลัวหมดแล้ว
คุณแม่น่ารักจัง รู้แล้วแน่ๆเลย ><
-
พี่คิวเนียนเนาะ อยากจะง้อเค้กที่ไม่ได้ไปสงใช่ไหม ทำมาเป็นบอกเอาเป็นไม้กันหมา :z2:
-
พี่คิวพามาไหว้แม่แล้วอ๊าาาาา
-
อ่ะเฮ้ยยยยย พี่คิวววว~~~ แผนสูงนะเนี่ย ทำแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ และเนียนๆไม่ให้น้องเค้กรู้ตัว พามาเปิดตัวกับคุณแม่เหรอคะ พามาให้ดูความเป็นอยู่ของครอบครัวตัวเองด้วยว่างั้น ใช่รึเปล่า ? เป็นการเตรียมตัวล่วงหน้าการจะรุกขอเป็นแฟนเปล่าพี่คิวววว ฮิ้วววว
สองคนนี้เค้ายังกวนกันไม่เลิก แต่ออกแนวกวนกันแบบน่ารักๆอ่า กร๊ากก รักๆกันไว้นะลูก เชื่อฟังแม่พี่ด้วยนะพี่คิว คำอวยพรอันศักดิ์สิทธิ์ต้่องจำให้ขึ้นใจนะึคะ >////< ไร้คำบรรยาย อ๊ายยย พามาเจอแม่ โอ้วววว
-
พี่คิวนี่กวนประสาทได้ตลอดสินะ แหม...มีการพามาให้แม่ดูตัวด้วย
ชอบน้องเค้กแล้วอะดิ๊ o18
-
กวนนนมาก
แต่ชอบตอนที่คุณแม่พูดจังเลยอ่ะ
-
เปิดตัวอ่ะ อ๊ากกกกกกก :-[ :-[
รักๆกันไว้นะลูกนะ ฮิ้วววววววว
น่ารักตะล้อดดดดดดดด
:man1: :man1:
-
เอาไปกันใครล่ะนี่
หรือแค่เป็นข้ออ้างกันแน่ :z2: :z2:
:กอด1:
-
Oh.....my Baby baby......I miss you
เค้กเถียงพี่คิวเก่งขึ้นนะเนี่ย.......
-
อ๊ายยยยยยย
มีพามาเจอแม่ด้วยนะพี่คิว
น่ารักจังเลย ><
-
พี่คิวๆขี้เก้กจริงจริ้งงงง :serius2:
ฮึ้ยหมั่นไส้ ฮ่าๆ
ส่วนน้องเค้ก ยังน่ารักเหมือนเดิม :-[
-
มาแล้ววววววววววววว ดีใจมากค่ะ คิดถึงมากเลย
ชอบแม่พี่คิวอ่ะ ไม่รู้คุณแม่พูดในทางไหน แต่หนูคิดไปแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
แต่เหมือนพี่คิวพาเค้กมาให้ดูตัวเลยเนอะ
-
มันคือการเดทเบาๆแล้วพาเข้าบ้าน เป็นการชดเชยที่วันก่อนปล่อยให้กลับบ้านกะคนอื่นแน่ๆ
จิ้นเองล้วนๆ อิอิ :o8:
-
รัก ๆ กันไว้ หมายความว่างัยอ่ะ :give2: :give2: :give2:
-
พาลูกสะใภ้ไปเปิดตัวอ่ะดิ
-
คุณแม่ อวยพรด้วยอะ กริ๊ดดด :-[ คุณแม่ต้องรู้อะไรแน่เลย
-
ไอ๊ย่ะ!!! ลึกซึ้ง .....
-
ที่แท้ก็พามาเปิดตัวกับแม่นี่เอง :o8:
ประโยคปิดท้ายของคุณแม่ได้ใจจัง
พี่คิวดูจะไม่อยากกลับบ้านเท่าไรนะ
บรรยากาศที่บ้านพี่คิวดูเหงาๆยังไงไม่รู้
ว่าแต่พี่คิวเอาน้องเค้กมากันใครอ่ะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
น่ารักๆๆๆๆ รอตอนต่อไป อิอิ มะไหร่จะถึงจุดประสงค์ที่พาเค๊กมานะ แค่นี้คงไม่ใช่มั้ง
-
พี่คิวเป็นผู้ชายที่ไม่เหมือนใครจริงๆ
อ่านเเล้วเกร็ง กลัวพี่คิว
Love baby
-
เงียบๆแต่มาฟินสุดเลยเนาะพี่คิวเนี่ย เล่นพามาเปิดตัวกับคุณแม่ด้วยยย (ร้ายมากกก) ชอบๆๆๆๆ o13 o13 o13
-
ได้อ่านแล้ววววววววว
รักๆกันไว้นะลูก
มีความหมายแฝงรึป่าวเอ่ย
รักพี่คิวเว่อออ. น่ารักไปนะสองคนนี้
-
:z2: :z2: :z2:
-
เดี๋ยวนี้พี่คิวพาเค้กมาเปิดตัวกะที่บ้านบ่อยนะ อิอิ
เข้าใจว่าเค้กไม่ค่อยชิน คนรวยก็งี้
สงสัยต้องปรับตัวกันยาวววว
-
น่ารักใช่หยอก...แต่อีฝันสลายไม่ต้องมาล่ะ บรรยากาศเสียหมด :z3:
-
ตอนใหม่มาแล้ว น่ารักทั้งคู่เลย แล้วจะรอตอนต่อไปนะคะ
-
จะไปไหนกันนนนนน อย่างค้างงงงงงงงงง :z3:
-
มาอัพแล้ววววววววววววว >[]<
...
รักๆ กันไว้นะลูก .. แอร๊ยยยยยยยยยยยยย คุณแม่คะ นี่คือว่าที่ลูกสะใภ้เลยนะคะ
เหมือนคุณแม่จะรู้ใจ ฮ่าๆๆๆๆๆ >///<
-
พี่คิวเฮี้ยนดีนะคะ 5555555555
-
ต๊ายย ตอนนี้แอบมีทิกเกอร์โผล่มานิดหน่อย
ง้อซะน่ารักเชียวนะคะ
55555
:กอด1:
-
“รักๆกันไว้นะลูกนะ”
คุณแม่พี่คิว ฝากฝังขนาด เค้กก็รักๆ พี่เค้าหน่อยนะ เชื่อผู้ใหญ่ o13
:bye2:
-
พี่คิวพาไเปิดตัวกับคุณแม่เหรอ :impress2:
รักกันนานๆนะ โอ๊ยยยย คุณแม่ o13
-
“รักๆกันไว้นะลูกนะ”
รักๆกันนะพี่คิวน้องเค้ก :กอด1:
-
น่าร๊ากกกกกก กอดเบบี้ อย่าหายไปนานอีกนะคนดี คิดถึงเว่อร์
-
ก็น่ารักในแบบของพี่คิว ปค่อ่อนโยนกับเค้ก เหมือนหลานๆก็ดีน่าาาา
-
ฮิ้ว เค้กน่ารักอะ รักๆกันไว้หราเนี้ย คุณแม่ช่างพูด
-
ป๊าดดด!!! รัก รักกันไว้นะลูก นู๋เค้ก ทางโล่ง สะดวก :laugh:
-
อั๊ยยยยยยย่ะ
คุณแม่มีเซ้นส์อะไรรึเปล่าน่ออ :o8:
-
พาเข้าบ้านเลยหรอเนี้ย
ร้ายนะร้ายมาก 5555
-
น้องเค้กตรงดีแท้ ชอบตอนโวยวายไม่กล้าขึ้นรถ 14 ล้านอะ
พี่คิวก็กวนซะ ลงตัวดี
แม่พี่คิวพูดแบบนั้นหมายความว่าไรหว่า อ่านทะลุเหรอ
ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อความน่ารักให้น้าาา ชอบจัง
:กอด1:
-
ไม่เห็นเอาเค้กมากันใครเลย บอกว่าเอามาเปิดตัวก็ได้ ไม่ต้องอายหรอกพี่คิว :-[
-
คนเขียนหยุดนานนนนเลยนะคะ
กลับมาแล้วดีใจๆ
-
ก็ไม่ใช่แค่พี่คิวหรอกที่กวน น้องเค้กก็กวนพอกันแหละ แหมะ
ก็ไม่รู้ว่าเอามาเป็นไม้กันหมาหรือเอามาให้แม่ได้เห็นหน้าลูกสะใภ้ก็ไม่รู้เนอะ กร๊ากกกก
เด็กๆน่ารักอ่า น้องเค้กเข้าทางนี้เลยนะ เราเชียร์ ><
เบบี้.. กอดเธอ จุ๊บหน่อยๆๆ >3<
-
พี่คิวกวนตีนอ่าาาาาาา เค้กก็เก่งเน๊อะ ทนได้ อิอิ
-
รักๆกันไว้นะ
เอามาเปิดตัวหรออออออออ
-
้baby มาต่อแล้วดีใจจัง สมัครเป็น Fc ด้วยคนดิ ไล่อ่านมาหล่ายเรื่องละ ชอบความเกรียนและแนวการเขียนของ baby :L2:
พี่คิ้วทำแบบนี้ได้ไง เห็นเค้กเป็นไม้กันหมาเขาไม่ยอม :m31: ไอ้เรานึกว่าเป็นกันชนซะอีก :haun4: รอรอรอ ตอนต่อไป
-
พาน้องเค้กไปบ้าน พี่คิวค๊าต้องการอะไรจากชาวโลกคะ เปิดตัวน้องเค้กใช่รึเปล่าน๊า ^^
-
คึคึ พี่คิวพาลูกสะใภ้มาเจอแม่แล้ว :-[
-
น้องเค้กน่ารักจัง....
-
อ๊ะ!!! ยังไม่หายอยากเลยอ่า อยากอ่านอีกจัง
ขอบคุณที่มาต่อให้อ่าน แล้วอ่านอย่างมีความสุขนะ ^^
-
คิวร้ายนะ พาเค้กเปิดตัวก็ไม่บอก
หึหึ ทั้งสองคนยังน่ารักกันเหมือนเดิม
-
พี่คิวจะแกล้งน้องไปไหนเนี่ยยย 55555
-
รักพี่คิวมากๆอ่ะ
-
:-[ :o8: พามาเปิดตัว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
อ่านนิยายของเบบี้ทีไร รู้สึกว่าไม่เคยพอตลอด เซ็งตัวเองทั้งที่แต่ละตอนของเบบี้ถือว่ายาวมาก แบบอ่านไปแล้ว อ้าวจบตอนแระ วุ้ยยยเซ็ง
สรุปคือเรามักมากเอง กร๊ากกกก เข้ามาเวิ่นเบาๆ แล้วจากไป อิอิ
(อยากรู้ว่าอิพี่คิวจะทำไรที่มากกว่านี้ป่าวนะ 555 ลุ้นการกระทำของอิพี่คิวมากก หน้าจับตามอง)
-
แหม เหมือนพาตระเวนเปิดตัวเลย
-
รักกันไว้อย่างที่คุณแม่บอกด้วยนะ :m13:
-
น่ารักจังเลย
พี่คิวดูใส่ใจเค้กเพิ่มขึ้นนะ
เค้กนี้ก็แสดงออกจังเลย ว่าชอบพี่คิว อย่าแสดงออกมากนักสิเค้ก
-
ไม่ได้คิดเข้าข้างน้องเค้กหรอกนะ....แต่พี่คิวทำแบบนี้เหมือนจะให้น้องประทับใจ..
อุส่าห์ขับรถอย่างหรูมารับน้องเค้ก...(น้องเค้กก็ตื่นของแพงได้น่ารัก..)
พาไปเปิดตัวให้คุณแม่รับรู้...ไม้กันหมาที่ไหน..ข้ออ้างชัด ๆ ..อย่างพี่คิวอ่ะ..
ไม่ต้องมีไม้กันหมาช่วยหรอก...แค่พี่แกเหวี่ยงสายตาหมาก็ร้องเอ๋งแล้วววว... :really2:
:pig4: น้องเบบี้
-
พี่คิวเนี้ย ท่ามาก เน้อ..............(แต่น่ารักกกกกกกกกกกกส์ อะ)
น้องเค้กก็นะ เหมาะสมกันจริงคู่เนี้ย.........................อิอิอิ
-
ออกจะงงๆ สับสนกับครอบครัวคิวและฟ้า
แล้วคู่นี้ก็แปลกๆ พูดกันเหมือนไม่อยากจะพูด ห้วน สั้น
หรือว่าสำนวนเบบี้สำหรับเรื่องนี้ จะเป็นแบบนี้ค่ะ
-
พาว่าที่ลูกสะใภ้มาให้ดูตัว เอิ๊กๆๆๆ แต่ทำไมต้องรีบร้อนจัง รึรีบไปเดทกันสองคน อิอิ
-
คุณแม่ขั้นเทพมากๆ :laugh:.....รักๆกันไว้
-
ออกจะงงๆ สับสนกับครอบครัวคิวและฟ้า
แล้วคู่นี้ก็แปลกๆ พูดกันเหมือนไม่อยากจะพูด ห้วน สั้น
หรือว่าสำนวนเบบี้สำหรับเรื่องนี้ จะเป็นแบบนี้ค่ะ
ขอตอบนะคะ..^^
- สำหรับเรื่องครอบครัวของคิวและฟ้า เบบี้เล่าในมุมของเค้กที่เค้กได้พบเห็น เพราะเค้กกำลังเป็นคนเล่าเรื่องที่ดำเนินไปในแต่ละวันค่ะ เค้กเองก็คงจะไม่รู้จักใครทั้งหมดและคงจะลำดับญาติไม่ถูกเหมือนคุณคนอ่านเช่นเดียวกันค่ะ เบบี้พยายามแล้วที่จะไม่เล่าตามความเข้าใจในมุมของเบบี้(เพราะเบบี้รู้ตัวละครทุกคนว่าเป็นใครอย่างไร) ซึ่งในเนื้อเรื่องที่เบบี้ไม่ได้กล่าวบอกว่า "ใคร" เป็น "ใคร" นั้นเพาะเบบี้ไม่เล็งเห็นถึงความสำคัญของตรงนั้นมากนัก(เพราะได้พบเจอและก็จากไป ซึ่งหลักๆอยากให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของความรู้สึกและพฤติกรรมของคนในครอบครัวที่มีให้กันเสียมากกว่า) จึงพยายามเล่าในส่วนที่เค้กเห็นและในส่วนที่เค้กได้รับรู้ในจุดๆนั้น ณ สถานการณ์นั้นๆ ถ้าคนอ่านจะอ่านละงงงวย..สับสน เบบี้ต้องขอกล่าวขอโทษด้วยนะคะ แต่เบบี้ก็ยังยืนยันที่จะขอเล่าการรับรู้ญาติของคิวในมุมของเค้กอย่างนี้ต่อไป แต่ถ้าคู่ต่อไปจะต้องเล่าในมุมมองของฟ้า..คนอ่านอาจจะไม่งงก็ได้(หวังว่า) ฮาาา~
- ส่วนคู่ของคิวและเค้ก ที่พูด ห้วน สั้นให้ความรู้สึกว่าเหมือนไม่อยากจะพูดนั้น เบบี้เองก็คงจะผิดอีกค่ะ..ฮ่าๆๆ เบบี้ต้องขอยอมรับความผิดพลาดเองจริงๆ ถ้าจุดนี้..คนอ่านจะไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสองคนถึงพูดได้ห้วน สั้น ที่ทั้งสองคนพูดแบบนั้นคงเป็นเพราะนิสัยของคิวเป็นทุนเดิมที่เบบี้พยายามจะสื่อถึง(นิสัยที่โดดเด่นตรงนั้นของคิวจนคนอื่นๆนั้นไม่กล้าเข้าใกล้) ซึ่งจริงๆแล้วตัวละครคนอื่นๆในเรื่องยังพูดกันยาวและเข้าใจกันเองดีเป็นปกติค่ะ แต่ถ้าจะมีคนอ่านบางคนที่จะไม่เข้าใจว่า..ทำไม? เพราะอะไรถึงต้องสื่อตัวละครแบบนั้น..? เบบี้ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้แล้วค่ะเพราะได้วางตัวละครให้เป็นแบบนั้นไปเสียแล้ว :)
- ส่วนสำนวนของเรื่องนี้วางให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า : ตอบ..สำนวนการเล่าเรื่องของตัวละครตั้งแต่ต้นเรื่อง(ในมุมของเค้ก) วางให้เป็นแบบนั้นค่ะ แต่สำนวนการพูดของคิวจะเป็นสำนวนในนิสัยของลักษณะของคิวเองค่ะ
ที่ต้องขอตอบคำถามนี้ เพราะเห็นว่านี่เป็นคำถามที่สำคัญคำถามหนึ่งและน่าสนใจ
นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะพูดอธิบายเสียที เพราะเห็นหลายความคิดเห็นเคยบอกว่า "งงในครอบครัวของฟ้า"
ซึ่งอาจจะมีคนอ่านอีกหลานท่านคงจะสงสัยอย่างเช่นคุณlittle_nok ดังนั้นจึงขออนุญาตตอบและอธิบายไปในตัวเสียเลยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
คู่นี้เขาหยอกเย้ากันได้น่าหวาดเสียวดีนะคะ เหวี่ยงใส่กันตลอดเลยจ้าาาาาาา
กองเชียร์แอบลุ้นใจหายใจคว่ำอยู่เรื่อยๆ กลัวจะตีกันเข้าจริงๆ สักวัน :เฮ้อ:
พี่คิวข้ามขั้นไรไปป่าวเนี่ย? พาเข้าบ้าน ไปไหว้คุณแม่แล้ว (แถมคุณแม่ฝากฝังไว้อีกต่างหาก)
แต่ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะคะ พี่คิวยังไม่เลิกซึน เลิกแกล้งน้องเลยนะคะ
ไม่ใช่ไรหรอก คนอ่านทุรนทุราย อยากเห็นเขาหวานกันแบบจริงๆ จังสักทีอ่ะค่ะ :-[
ขอบคุณสำหรับอีกตอนนะคะ :กอด1:
ติดตามพัฒนาการของคู่อยู่ตลอดเลยค่าาาาาาาาาาาาา เป็นกำลังใจให้เด้อ
-
:z13:
-
^
^
^
รีบนอย่าจิ้ม !! เพราะไม่ชอบให้ใครมาจิ้ม
เพราะอยากจิ้มคนอื่น...กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :laugh: :haun4:
-
:z13: :z13: :z13:
-
เบบี้หื่น!!!! :laugh:
ปล. อ่านเค้กคิวหลายรอบแล้ว ทำไมเราไม่งงเลยหว่า
คริคริ :m13:
-
เบบี้หื่น!!!! :laugh:
ปล. อ่านเค้กคิวหลายรอบแล้ว ทำไมเราไม่งงเลยหว่า
คริคริ :m13:
ใครหื่น..ขอร้องว่าอย่ามาใส่ร้ายป้ายสีกันแบบนี้ !
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก :z1: :z1:
-
เบบี้อะหื่นมากแต่โครตชอบ เพราะคนอ่านหื่นกว่า :z1:
-
พี่คิวปิด จะพาน้องเค้กไปไหน ?
อร๊างงงงงง ><
-
:mc4: ตอนล่าสุดน่ารักอ่ะ
พาไปหาครอบครัวกันเลยทีเดียว
เอ่อ มาบอกว่า ไม่งงกับการอธิบายเรื่องโดยผ่านน้องเค้กนะคะ
ถ้าเป็นเราไปรู้จักใครเค้า โดยที่เค้าก็ไม่ได้มานั่งเล่าทุกเรื่องของเค้าให้เราฟัง
แล้วเราก็รู้แค่จากที่เราเห็นเราได้สัมผัส เราก็คงรับรู้ได้แค่นั้น ไอ้จะให้มาถามไถ่
เจาะลึกถึงเรื่องของเค้ามันก็คงจะล้ำเส้นเกินไปเนาะ มันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป
-
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
เราโอเคนะ ก็เข้าใจว่าเป็นมุมมองของเค้ก เราก็ลำดับญาติไม่ถูกเหมือนกัน จำไม่ได้หมด
แต่เวลาเจอคนไหนมีบทบาทอีก ก็คุ้นๆ :laugh:
ที่พูดห้วนก็เข้าใจ เพราะพี่คิวเป็นคนแบบนี้ หึ...
อยากเห็นในมุมมองของพี่คิวเหมือนกันนะ อยากรู้ว่าคิดอย่างไรบ้าง 55
-
จากคำอธิบาย บอกว่า'คู่ต่อไป'แสดงว่าพอจบ คิว-เค้ก แล้ว จะมีคู่อื่นอีกใช่มั้ยครับ
ท่าทางจะเป็นหนังยาว ว่าแต่จะเป็นคู่ไหนน้อ... อาฟ้า-ทิกเกอร์หรือ หมี-กัส หรือ เซ็น-กัส หรือสามเศร้า รอจ้า......
-
พี่คิวพาเค้กมาให้แม่ดูตัวเหรอออออ 55555+
-
พาน้องเข้าบ้านใหญ่แล้วหรอครับพี่คิว
-
ไม่รู้สึกงงอะไรนะ ตระกูลไฮโซคนเยอะๆ ชีวิตจริงก็คงสับสนยังงี้แหละ
สอบเสร็จยังจ๊ะ รออ่านต่อนะเบบี๋ที่รัก
-
ไม่กล้าขึ้นรถคันล่ะ 14 ล้าน ฮามากอ่ะเค้ก
เข้าใจนะว่ามันเกร็งและก็ไม่กล้าหายใจแรก ฮ่าๆๆๆ
พี่คิวก็นะ แกล้งเค้กใช่มะนั่น o18
อมยิ้มไปกับความน่ารักของคิวและเค้ก
:pig4:
-
^
^
^
รีบนอย่าจิ้ม !! เพราะไม่ชอบให้ใครมาจิ้ม
เพราะอยากจิ้มคนอื่น...กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :laugh: :haun4:
^
^
แต่เค้าก้ออยากจิ้มอยู่ดีแหละ
:z13: :z13: :z13:
สะจายยยย :m20:
-
มารออออ
-
~43~
ติ๊ด !
“..~~~~~~..” เครื่องเสียงเริ่มบรรเลงเพลงที่พี่คิวเพิ่งกดเปิด เพลงคลาสสิกเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่อาจจะต่างออกไปหน่อยที่เป็นเพียงเสียงเล่นจากกีตาร์ตัวเดียว
“ไปไหนต่อเหรอฮะ” ผมถาม คงเป็นการถามคำถามเดิมในครั้งที่ร้อยแล้วละมั้ง พี่คิวกระดิกนิ้วเคาะพวงมาลัยรถ ทำหน้าตาเหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่สักอย่าง
“หาไรกิน” พี่คิวตอบ
“^__^” ผมยิ้มกว้าง หาอะไรกิน หาอะไรกิน หาอะไรกิน >..<
“หึ..ออกหน้าออกตาเชียวนะ” ผมหุบยิ้มลงในทันทีเมื่อได้ยิน
“กินไร” พี่คิวหันมามองหน้าผม
“ให้เค้กเลือกเหรอ” ผมชี้หน้าตัวเอง พี่คิวเลิกคิ้วและเริ่มแสยะยิ้มอีกแล้ว
“นายรู้อะไรไหม”
“อะไร” ผมถามด้วยความระแวง
“นายน่ะ..” พี่คิวทิ้งเสียงลง
“.......................” ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก..หัวใจเรา เต้นแรงจัง
“พี่คิว!” ผมกระแทกเสียงให้กับหน้าตาท่าทางเจ้าเล่ห์ของพี่เขา ผมแทบไม่อยากจะนั่งอยู่ตรงนี้และต้องฟังคำพูดต่อไปที่จะหลุดออกมานั่น
“นายน่ะ แทนตัวเองด้วยชื่อของนาย..กับฉัน”
“........................” ผมก้มหน้าลง ใจเต้นเร่าๆแทบจะกระเด็นออกมาจากอก พี่คิวสังเกตเห็นด้วยอย่างนั้นเหรอ สังเกตด้วยจริงๆสินะ..
“แล้วไง” ผมย้อนเสียงเบาลงและหันหน้ามองออกไปทางนอกหน้าต่างรถ ทำท่าทำทางเป็นไม่รู้ไม่ชี้บ้าง
“ก็ไม่ไง” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
ทันทีนั้นเราทั้งสองเงียบลง ใจผมยังไม่หยุดเต้น ดีที่ยังมีเสียงเพลงช่วยบดบังไว้ได้ ผมกลัวว่าถ้าไม่มีมันคอยช่วยไว้ในตอนนี้ พี่คิวอาจจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจผมก็เป็นได้
“ที่จริงเค้กก็แทนตัวเองอย่างนี้กับทุกคนแหละ” ผมพูดปัด
“แล้วพี่ล่ะ..” ผมพูดขึ้น กำมือตัวเองแน่นเพื่อรวบรวมความกล้าออกไป
“ฉัน” พี่คิวย้ำเสียงอย่างสงสัย
“แทนตัวเองว่าฉันๆ นายๆอยู่ได้” ผมบ่นเสียงเบา
“หึ..” พี่คิวหัวเราะในทันที
“แล้วไง” พี่เขาถามกลับแกมหัวเราะ
“ก็เปล่า”
“อยากให้ฉันแทนตัวเองกับนายว่ายังไงกัน” ผมเริ่มรู้สึกหน้าชามากขึ้น หน้าของผมในตอนนี้คงแดงไปหมดแล้ว อยากจะเอาหัวมุดเข้าคอลโซนรถเสียจริง
“เปล่าสักหน่อย ก็แค่พูด..เฉยๆ”
“จะเอาหน้าออกไปนอกหน้าต่างรึไง ถ้าอายขนาดนั้นแล้วจะพูดทำไม” พี่คิวพูด น้ำเสียงที่ปกติยิ่งทำให้ผมรู้สึกอายตัวเองเข้าไปใหญ่
“ใครอาย” ผมขึ้นเสียง
“หน้าแดงน่ะ” พี่คิวเหสายตามามอง สีหน้าเรียบเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านดังเช่นทุกที ผมรีบนำมือขึ้นปิดแก้มตัวเองทั้งสองข้าง พี่คิวอมยิ้มและยักคิ้วแกล้งผมไม่เลิก
“จิ๊” ผมหันกลับมานั่งอย่างเดิม และหุบปากเงียบหลังจากนั้น ถึงแม้พี่คิวจะพูดอะไรผมก็ไม่ตอบแม้แต่คำเดียว..ไม่มีทางจะตอบเด็ดขาด
= = = = = = = =
ณ ร้าน In-M-…..
“นี่..”
“นี่ เค้ก” ผมสะดุ้ง สะลึมสะลือลืมตาตื่น พบว่าพี่คิวอยู่ตรงหน้าของผมเพียงคืบเดียวเท่านั้น O_o
“ทำอะไรอ่ะฮะ!” ผมโวยวายในทันที
“จะบ้ารึไง ประสาท” พี่คิวขมวดคิ้ว ผมปรับสายตามองไปรอบๆ ตอนนี้รถของพี่คิวจอดสนิทอยู่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก
“เค้กหลับ” ผมชี้ตัวเองอย่างเหลือเชื่อ
“กรนด้วย” พี่คิวบอก
“บ้า..เค้กไม่กรนเหอะ” ผมว่าเขิน ไม่ได้กรนสักหน่อยอ่ะ เอ๊ะ..หรือเรากรนจริง (-__-)
“หึ..ลงเร็ว” พี่คิวบอกก่อนจะเปิดประตูรถและออกจากรถไป ผมรีบลงตามไป
“ที่ไหนครับ แล้วทำไมเค้กหลับไปล่ะ..มันนาน ใช่มันนานแน่ๆ..ไม่งั้นเค้กไม่หลับหรอก” ผมเดินเข้าไปหาพี่คิว
“นครปฐม” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พูดอย่างกับนครปฐมอยู่ใกล้ Central World อย่างนั้น..
“นครปฐม!” ผมอุทานและรีบพลิกนาฬิกาขึ้นดู
“เสียงดังทำไม เสียมารยาทจริง” พี่คิวขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่พอใจก่อนจะก้าวเดินนำเข้าไปในร้าน ผมยืนมองร้านอาหารเล็กๆน่ารัก เป็นร้านอาหารที่ทำด้วยไม้ ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ดูบ้านๆและเป็นกันเอง
“เชิญค่ะ สองที่นะคะ” พนักงานร้านรีบเดินมาต้อนรับ ผมมองสำรวจไปด้านในของร้าน การตกแต่งไม่แตกต่างจากข้างนอกนัก ใช้เฟอร์นิเจอร์ธรรมดาทั่วไปที่หาซื้อได้ง่าย แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจคือ..พี่คิวมารู้จักร้านแบบนี้ได้อย่างไร ถึงแม้ร้านอาหารจะตกแต่งน่ารักและสบายตาเป็นเอง แต่ผมคิดว่ามันคงจะราคาถูกพอดู อย่างน้อยร้านก็ดูขัดกันมากกับรถสปอร์ตคันละสิบสี่ล้านที่จอดอยู่ด้านหน้า ที่หันกลับไปมองทีไรก็อดรู้สึกขนลุกไม่ได้..
“เมนูค่ะ” พนักงานสาววางเมนูลงบนโต๊ะ ผมนั่งจ้องพี่คิว พี่คิวเปิดเมนูดูและเหลือบขึ้นมองหน้าผม
“อะไรไม่ทราบ” อีกฝ่ายถาม ผมไม่ตอบแต่ยักไหล่แทนคำตอบ
“เอาเป็นหมูแดดเดียวทอดกรอบ แกงส้มชะอมกุ้ง มัสมั่นไก่” พี่คิวพูดบอกพนักงาน เธอรีบจดตาม
“ลาบทอด ไข่เจียวหมูสับครับ” ผมอ้าปากค้างเมื่อได้ยิน
“ข้าวสอง แล้วก็น้ำเปล่า” พี่คิวสั่งเองเสร็จสรรพ พี่เขาปิดเมนูลงและยื่นกลับให้พนักงาน
“เอาไรอีกไหม” พี่คิวมองหน้าผม
“คงจะกล้าสั่งหรอก” ผมบ่น สั่งไปเยอะขนาดนั้นใครจะกล้าสั่งเพิ่มกันล่ะครับ
“งั้นเท่านี้ครับ” พี่คิวพยักหน้าให้พนักงาน เธอยิ้มและเก็บเมนูไป
“ไม่น่าเชื่อว่าพี่จะมาร้านแบบนี้เป็นด้วยนะครับ แถมสั่งอาหารแบบนี้ก็เป็น..กินก็เป็นงั้นเหรอครับ” ผมยิ้มอย่างเหลือเชื่อ มุมแบบนี้ของพี่คิวที่แทบไม่เคยได้เห็น ผมว่าบางครั้งพี่เขาก็เป็นคนที่สบายๆง่ายๆดี อาจจะบางครั้งเท่านั้นนะครับ ประมาณสิบห้าเปอร์เซ็นต์จากร้อยอะไรประมาณนั้น
“ก็แค่เคี้ยวกลืน” อีกฝ่ายตอบหน้ากวน ผมแสยะปาก เหสายตาไปทางอื่นด้วยความหมันไส้
“หมีเคยพามาน่ะ ตอนที่ต้องมาสำรวจตลาด ก็อร่อยดี..” พี่คิวเท้าศอกลงบนโต๊ะ โต๊ะเล็กนิดเดียว ทำให้เราใกล้กันชะมัด ทำไมเดี๋ยวนี้ผมคิดอะไรแปลกๆแบบนี้บ่อยจังนะครับ แต่ที่จริงโต๊ะมันค่อนข้างเล็กสำหรับผู้ชายสองคนต่างหากล่ะ ผมยังปกติดีนะ..
“น้ำค่ะ” พนักงานสาวคนเดิมเดินกลับมา ผมยิ้มและรับแก้วที่เธอเพิ่งรินน้ำให้มาวางไว้ใกล้ตัว พี่คิวพยักหน้าให้เธอเหมือนแทนคำขอบคุณก่อนที่เธอจะเดินไป
“แล้วเค้กจะได้กลับบ้านกี่โมงครับเนี้ย นี่ปาเข้าไปจะทุ่มอยู่แล้ว” ผมพลิกนาฬิกาข้อมือดู
“บ่นมากเดี๋ยวให้จ่ายซะดีไหม”
“ง่ะ..” ผมแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย พี่คิวจ้องหน้าผมเขม็งจนผมชะงัก แต่อยู่ๆพี่เขากลับยิ้มออกมาที่มุมปาก ผมก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่รู้จะทำอะไรเพราะทำตัวไม่ถูก จึงต้องหยิบแก้วน้ำมาวางไว้ตรงหน้าแทน เป็นเพียงการเปลี่ยนที่วางแก้วเพื่อขอให้มีอะไรทำเพื่อให้มันผ่านไปที..
“พูดสิ ทุกทีก็ชอบพูดเป็นต่อยหอยเลยไม่ใช่รึไง” พี่คิวว่า
“หึ..ฮ่าๆๆ” ผมหลุดหัวเราะ พี่คิวหน้าเหวอไป
“พี่ไปจำคำว่าต่อยหอยมาจากใครน่ะ” ผมขำไม่หยุด
“ก็...” พี่คิวเหลือบตามองไปทางอื่น สีหน้าเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้ถนัด
“เห็นไอ้ออฟมันพูดบ่อยๆ”
“อ่านะ พูดเป็นต่อยหอย” ผมยิ้มล้อ
“......................” พี่คิวเงียบและไม่หันมาสบตาผม
“เอ่อ แล้ว..วันนี้ พี่ฟ้าก็ต้องกินข้าวคนเดียวสิครับ” ผมชวนคุย
“ประมาณนั้นล่ะมั้ง หรืออาจจะไม่ก็ได้..”
“พรุ่งนี้ที่จริงเค้กมีการบ้านต้องส่งด้วย บทความวิชาภาษาอังกฤษบ้าบอ..ถ้าวันนี้เค้กไม่ได้ทำการบ้านล่ะก็ เค้กจะโทษพี่”
“งั้นสิ” พี่คิวอมยิ้ม มองผมด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่
“แต่ถ้าพี่จะช่วยล่ะก็ เค้กอาจจะไม่โทษพี่ก็ได้นะ” ผมยักคิ้ว
“หึ..” พี่คิวหัวเราะ เอนตัวเองพิงที่พนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ
“นายนี่มัน..”
“มันอะไร” ผมรีบถามกลับ
“ก็ได้ ฉันจะทำให้” พี่คิวตัดบท
“จริงนะ” ผมยิ้มกว้าง เอนตัวเข้าไปใกล้พี่คิวมากขึ้นด้วยความดีใจ ถ้าพี่คิวช่วย คะแนนต้องออกมาดีมากแน่นอน
“แต่ฉันน่ะ ค่าตัวแพงนะ..นายสู้ไหวรึเปล่าล่ะ” พี่คิวยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“อะไรครับ ไหนบอกว่าจะทำให้ไง อีกอย่าง..ถ้าพี่มีค่าตัว เค้กก็มีค่าตัวได้ด้วยเหมือนกันแหละครับ” ผมเบะปากใส่
“ค่าตัวอะไรไม่ทราบ”
“ค่าตัวที่ลากเค้กมาในวันนี้ไงฮะ” ผมยิ้มกว้าง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถือถ้วยแห่งชัยชนะไว้ก็ไม่ปาน
“หึ..เสียใจ นายลืมไปแล้วเหรอว่านายเต็มใจมาเองน่ะ” พี่คิวยักคิ้วกลับ ผมหุบปากเข้าหากัน สมองกำลังประมวลว่าจะเถียงอะไรออกไปดี
แต่อยู่ๆพี่คิวกลับเอนตัวเข้ามาเท้าศอกลงบนโต๊ะอย่างเดิม ผมตกใจแต่ก็ไม่กล้าถอยตัวกลับเพราะกลัวว่าจะเป็นการแสดงออกมาเกินไป ตอนนี้หน้าของเราสองคนจึงใกล้กันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
พี่คิวจ้องผมอย่างเงียบๆ “มองไรฮะ” ผมถามและหลบตา
“นายหลบตาฉันน่ะ” อีกฝ่ายพูด
“แล้วพี่มาจ้องผมทำไมล่ะ”
“ฉันอยากจะจ้อง นี่คือ..คำตอบ” พี่คิวย้อนกลับหน้าตายอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสถานการณ์ในตอนนี้เลย ผมกำมือทั้งสองเข้าหากันแน่น
“ทีนี้ตานาย ตอบฉันมา” พี่คิวยังไม่หยุดยิงคำถามที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกต้อน
“ก็..”
“ทำไมต้องมีเหตุผล” ผมว่า
“ไม่เป็นไร..เพราะฉันก็พอจะได้คำตอบล่ะนะ” พี่คิวพยักหน้า เบะปากส่งๆเหมือนรู้อะไรไปซะหมด
“อะ..อะไร คำตอบอะไรครับ” ผมถามด้วยความระแวง
“คำตอบมันอยู่บนหน้านายน่ะ” พี่คิวยิ้ม ผมเริ่มรู้สึกอายกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่คิวมากขึ้นเรื่อยๆ มากซะจนตอนนี้ผมอยากจะเอาตัวทั้งตัวมุดไปอยู่ใต้โต๊ะแทนซะให้สิ้นเรื่อง
“พี่คิว..ไอ้บ้า”
“อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ” เราสองคนชะงัก พนักงานสาวคนเดิมนำอาหารมาเสิร์ฟ เธอยิ้มก่อนจะวางจานข้าวและจานไข่เจียวไว้กลางโต๊ะ
“เมนูที่เหลือรบกวนรอสักครู่นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ” พี่คิวเงยหน้าตอบเธอ เธอยิ้ม ผมสังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าเธอเขินพี่คิว ที่จริงเธอแทบไม่หันมามองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ พี่คิวยิ้มมองหน้าเธอเหมือนต้องการคำตอบว่าทำไมเธอถึงยังไม่เดินไปเสียที เธอยิ้มอีกครั้ง ก้มหัวเพียงนิดก่อนจะเดินไป
ผมนั่งเงียบ เมื่อเห็นอาการของเด็กเสิร์ฟหญิงคนเมื่อกี้ มันเหมือนสะท้อนเห็นตัวเองอย่างไรก็ไม่ทราบ ผมกำลังรู้สึกแย่นิดหน่อยกับความรู้สึกบางอย่างที่ผุดเข้ามา ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถตอบได้ว่ามันคืออะไร..
“เค้กหิวแล้ว” ผมพูดขึ้น หยิบช้อนส้อมเตรียมลงมือ อยู่ๆก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก ทั้งการแสดงออกของผู้หญิงคนเมื่อกี้และการที่โดนพี่คิวแกล้งก่อนหน้านั่นก็ด้วย ถ้าผมต้องนั่งอยู่เฉยๆผมคงต้องเป็นบ้าตายแน่ ตอนนี้หัวใจผมสั่นอย่างกับแผ่นดินไหว ใช่..แผ่นดินไหว ถ้าวัดแล้วคงทะลุเกินสิบริกเตอร์ไปแล้วล่ะครับ..
หลังจากที่เรากินอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่คิวขับรถกลับเข้ากรุงเทพ ฝนเริ่มตกปรอยๆอย่างที่แม่พี่คิวทักไว้ก่อนหน้า แต่ดูเหมือนพี่คิวจะชิวซะเหลือเกิน แถมยังดูอารมณ์ดีผิดปกติอีกด้วย ผมจึงไม่อยากเข้าไปขัดอารมณ์ของพี่เขา ถึงตอนนี้ใจผมกำลังนึกถึงอยู่กับการบ้านที่จะต้องส่งในวันพรุ่งนี้ แต่ในเมื่อพี่คิวได้รับปากแล้วว่าจะช่วยผมจึงสบายใจไปเปราะหนึ่ง ระหว่างทางนั้น ผมไม่รู้เลยว่าพี่คิวจะขับรถไปส่งผมที่บ้านของผมหรือขับไปที่บ้านของพี่เขากันแน่ อยากรู้แต่กลับไม่อยากถาม..
“พี่คิวเคยฟังเพลงไทยบ้างป่ะเนี่ย” ผมถามขึ้นทำลายความเงียบ
“ก็....บ้าง ได้ยินบ่อยๆตอนแปดโมงเช้ากับตอนหกโมงเย็นน่ะ” เอิ่ม..เพลงชาติสินะ ส่วนคำตอบคงเป็น ไม่เคยฟังเลยต่างหากล่ะ
“ฮื้ม..รำคาญจริง” พี่คิวบ่นขึ้น
“วะ..ว่าเค้กเหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ พี่คิวหันกลับมามอง
“ฉันว่ารถติดน่ะ” พี่เขาตอบ
“แฮ่..งั้นเหรอ” ผมยิ้มอย่างสบายใจ ผมเหลือบดูนาฬิกาบอกเวลาเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว
-
ตื๊ด ๆ ๆ
เสียงโทรศัพท์สั่น พี่คิวยังคงนั่งเงียบ พี่เขาเหลือบสายตาลงต่ำมองไปที่โทรศัพท์มือถือของตนเองที่วางอยู่ข้างตัว ก่อนที่จะหยิบมันขึ้น
“ฮัลโหล”
“กำลังกลับ” พี่คิวพูดกับปลายสาย
“เพิ่งไปกินข้าวมา....เค้ก” พี่คิวพูดเหมือนไม่ต้องการจะตอบสักเท่าไหร่
“อะไร”
“เรื่องของผมสิ ไม่ตลก..วางสายแล้วไปขำต่อซะไป” พี่คิวว่า ผมนั่งฟังก็เกือบจะขำด้วยเหมือนกัน ฟังจากน้ำเสียงของพี่คิวแล้วดูเหมือนพี่เขาจะเอือมระอาอีกฝ่ายนิดๆ
“อื้อ ฝนตกหนัก..รถติด สักพักก็คงถึง รู้แล้ว..อืม ครับ” พี่คิวพูดและตัดสายไป
“.......................” ผมนั่งมองหน้าพี่คิว อยากถามออกไปว่า “ใครเหรอฮะ” แต่ไม่กล้าเหมือนเดิม
“อาหื่น” พี่คิวพูด
“ฮึ..พี่ฟ้าเหรอฮะ” ผมหัวเราะ พี่คิวพยักหน้าตอบส่งๆ เราสองคนเงียบลงอีกครั้ง ผ่านมาเกือบสิบนาทีแล้วแต่รถเกือบจะไม่ได้ขยับเลย
“น่าเบื่อจัง กรุงเทพ” ผมเกาะหน้าต่างรถที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำฝน ฝนที่ตกหนักมากทำให้ตอนนี้แทบมองไม่เห็นอะไรด้านนอก พี่คิวเงียบ
“เค้กฝันว่าอยากมีบ้านสักหลังอยู่ริมทะเลล่ะ” ผมพูดขึ้นทั้งๆที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นกำลังฟังผมอยู่รึเปล่า หรือ อยากที่จะฟังผมพูดบ้างไหม..
“ซื้อสิ” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงปกติ
“แหม พี่ก็พูดง่ายสิครับ” ผมประชดและหันกลับมานั่งอย่างเดิม
“นั่นสินะ”
“ลืมน่ะ..” พี่คิวบอก น้ำเสียงไม่ได้เย้ยหยันอะไร
“แปลกนะ ปกติ..คนเราก็จะรักถิ่นที่เกิดของตัวเอง” พี่คิวพูดเหมือนต้องการคำตอบจากผม
“นะครับ ก็ไม่เสมอไปหรอก..เค้กแค่อยาก มีบ้านหลังเล็กๆสักหลังแต่มีบริเวณสวนของบ้านกว้างๆ ให้แม่กับน้าได้อยู่สบายๆไม่ต้องเร่งรีบอะไรอีก แม่เค้กชอบปลูกผักสวนครัวน่ะฮะ” ระหว่างที่พูดนั้น ผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“เราจะตื่นเช้า ใส่บาตรด้วยกัน กินข้าวเช้าด้วยกัน..ผมไปทำงาน แม่กับน้าอยู่บ้านที่มีแต่วิวสวยๆล้อมรอบ เค้กกลับมาจากที่ทำงานอย่างไม่ต้องเร่งรีบอะไร เรากินอาหารเย็นด้วยกัน ดูละครหลังข่าว หัวเราะ แล้วส่งกันเข้านอน” ผมพูดพร่ำ นึกภาพออกเป็นฉากๆ แน่นอนว่ามันเป็นภาพที่ผมจิตนาการขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว..
“หึ..หึหึ นายพูดอย่างกับตาแก่แน่ะ” พี่คิวหัวเราะ ผมแสยะปากมองหน้าอีกฝ่าย
“นั่นมันไม่เรียบง่ายไปหน่อยรึไง” อีกฝ่ายว่า
“นี่แหละชีวิตเค้ก” ผมยักไหล่
“ความฝันอันสูงสุดของเค้กก็มีแค่นั้น เพราะกว่าจะถึงเวลาที่เค้กจะมีเงินซื้อบ้านสวยๆริมทะเลสักหลัง เค้กคงต้องทำงานหลังขดหลังแข็ง จนถึงวันนั้นเค้กคงต้องอุทานว่า..โอ้ชีวิตเรา แต่ถ้าได้มันมา เท่านั้นก็พอแล้ว..เรียบง่าย อยู่กับคนที่รัก และมีความสุข แค่นั้นก็พอไม่ใช่เหรอครับ” ผมพูดส่งๆ
“คงอย่างนั้นล่ะมั้ง” พี่คิวตอบ สายตายังคงมองไปทางด้านหน้า
“นั่น” ผมชี้ออกไปด้านนอก
“ใครจะซื้อล่ะนั่น” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ ตามองไปที่เด็กผู้ชายที่กำลังเคาะกระจกขายสายไหมทั้งๆที่ฝนตกหนัก ผมนั่งมอง ใจเริ่มรู้สึกไม่ดีต่อภาพตรงหน้า ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกเหมือนผมไหม ถ้าเป็นผม..ผมจะเปิดกระจกและซื้อมันไว้ แค่คุณเปิดกระจกเท่านั้นเอง ที่จริงเพียงแค่เปิดมันลงและจ่ายเงินเพียงไม่กี่บาทนั่นไปซะ คุณอาจจะได้ช่วยชีวิตคนหนึ่งคน..สอง หรืออาจจะสามก็เป็นได้
“หึ..ชีวิต” พี่คิวแสยะยิ้ม
“เฮ้ย” ผมร้องด้วยความตกใจ เด็กผู้ชายคนนั้นวิ่งจะขึ้นไปบนฟุตปาธแต่ดันสะดุดล้มจนสายไหมหลายถุงนั่นกระจายลงบนพื้นถนน
“นายจะทำอะไร” พี่คิวถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เพราะผมกำลังควานหากระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในเป้ และเมื่อเปิดกระเป๋าสตางค์ดูกลับพบว่าตัวเองมีเงินแบงก์ร้อยอยู่เพียงสองแบงก์เท่านั้น อีกแบงก์เป็นแบงก์พันเพียงใบเดียวที่ได้เป็นค่าขนมจากแม่ ในใจได้แต่นึก “จนได้อีกนะกู” ถ้าผมให้แบงก์พันกับเด็กคนนั้นนั่นแสดงว่าคนที่จะจนคือผมแทน ผมตัดสินใจหยิบแบงก์ร้อยสองใบออกมากำไว้ในมือ
“นี่!” พี่คิวเรียกพร้อมกับจับแขนผมไว้
“ขอเวลาแป๊บเดียวนะครับ” ผมบอก รั้งแขนตัวเองและออกมาจากรถ ผมรีบวิ่งไปหาเด็กคนนั้น น้องยังคงนั่งอยู่ข้างถนนและก้มลงเก็บถุงสายไหมที่กระจัดกระจายอยู่
“น้อง..ถุงเท่าไหร่น่ะ” ผมก้มลงเก็บถุงที่อยู่ใกล้ตัวผมมากที่สุดสองสามถุง
“ยี่สิบบาทครับ” น้องเงยหน้าขึ้นมองผม ฝนตกแรงมากทำให้น้องลืมตามองผมได้ไม่เต็มตา
“งั้นพี่..พี่เอาสามถุงนี้แล้วกันนะ” ผมบอก
“นี่เงิน แล้วกลับบ้าน..กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม” ผมยัดเงินใส่มือน้องเขาไป
“ขอบคุณฮะ” น้องคนนี้พยักหน้าตอบพร้อมกับยกมือไหว้ผม มือไม้ของน้องเขาถลอกปอกเปิกไปหมด
ปี๊ม ๆ ๆ..
ผมเงยหน้าขึ้นมอง สัญญาณไฟเขียวกระพริบ เสียงแตรรถคันที่อยู่ทางด้านหลังรถของพี่คิวกำลังบีบไล่..
“รีบลุกขึ้นสิ เดี๋ยวรถก็ทับกันพอดี” ผมรีบพยุงตัวน้องขึ้น
“นายจะบ้ารึไง กลับไปขึ้นรถเร็ว” พี่คิววิ่งมาพร้อมกับทำหน้าดุใส่ อยู่ๆพี่คิวก็นำเสื้อแจ็คเก็ตมาวางไว้บนหัวของผม
“ไปขึ้นรถ!” พี่คิวตะคอก
“ค..ครับ” ผมพยักหน้าตอบในทันที และรีบวิ่งกลับไปขึ้นรถตามคำสั่ง เมื่อถึงรถผมอดไม่ได้ที่จะต้องหันกลับไปมองเด็กคนนั้นอีกครั้ง และภาพตรงหน้ากำลังทำให้ผมอมยิ้ม พี่คิวนำเงินยัดใส่เข้ากระเป๋าเสื้อของเด็กคนนั้นไปอย่างลวกๆเหมือนไม่สนใจว่าเด็กคนนั้นจะรับหรือไม่ พอพี่คิวหันกลับมาพบว่าผมยังไม่ได้ขึ้นรถ รังสีอำมหิตก็แผ่มาที่ผมในทันที
“ค้าบ” ผมรีบบอกและเปิดประตูรถ พอผมเข้ามานั่งในรถได้ไม่กี่วินาทีพี่คิวก็กลับเข้ามาพอดี แน่นอนว่าเราไม่ทันสัญญาณไฟเขียวเมื่อกี้แล้ว ทำให้เราต้องรอไฟเขียวในรอบต่อไปแทน..
“ฟู่~” พี่คิวถอนหายใจ
“นายจะบ้ารึไงหา..” พี่คิวว่า ข่มน้ำเสียงตัวเองด้วยท่าทางหงุดหงิดไม่ใช่น้อย
“ขอโทษฮะ” ผมบอกด้วยความรู้สึกผิดเล็กๆ เล็กๆเท่านั้นนะครับ..
“เกิดโดนรถชนขึ้นมามันคุ้มกันไหม”
“ให้ตายสิ” พี่คิวบ่น หันกลับมาทำตามขวางใส่ผมอีก
“ก็ขอโทษแล้วไง” ผมหลบตาอย่างสำนึกผิด(เล็กๆ)
“โอเคๆ..” พี่คิวกระดิกนิ้วไปมาอยู่ที่พวงมาลัยเหมือนกำลังระงับสติอารมณ์
“แต่ตอนนี้ เบาะรถฉันเปียก..และรถ เพิ่งได้มาวันนี้” พี่คิวผายมือไปมาด้วยท่าทางประหลาด ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาพี่คิวไปมากกว่านี้แล้ว
“ใช่..นายบอกว่าถ้าสิบกว่าล้าน นายจะขึ้นแท็กซี่ ที่จริง..รึฉันคิดผิด เราควรขึ้นแท็กซี่ตั้งแต่แรก” พี่คิวหันมามองหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ
“เดี๋ยวเค้กเช็ดให้ฮะ”
“จิ๊..โอเค ช่างมัน..ฟู่ ช่างมันๆๆ” พี่คิวบ่นกับตัวเองซ้ำๆ แต่น้ำเสียงไม่ได้ช่างมันอย่างที่ปากพูดเอาซะเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นว่าการกระทำกับคำพูดของพี่คิวช่างดูขัดแย้งกันมากขนาดนี้
“เช็ดหัวซะ” พี่เขาสั่ง มือใหญ่ๆของพี่คิวมาขยี้หัวผมผ่านเสื้อแจ๊คเก็ตของพี่เขา
“รับผิดชอบ เอาไปซักให้ด้วยล่ะ”
“ค้าบ” ผมตอบเสียงยานคาง
“แต่ที่จริง..” ผมพูดขึ้น
“มันไม่ใช่รถของพี่สักหน่อยอ่ะ มันต้องเป็นรถของพี่ฟ้าต่างหาก” ผมบอกด้วยรู้สึกตะขิดตะขวงใจ
“.......................” พี่คิวเงียบ ผมได้สติกลับมาว่าตัวเองปากมากเกินไปแล้ว
“เสียใจ อาไม่มีสิทธิ์..ถ้าฉันบอกว่าไม่มีสิทธิ์” พี่คิวตอบด้วยสีหน้าเข้มเหมือนต้องการให้รถคันนี้เป็นของตัวเองให้ได้
“กับอาก็ยังไม่เว้นอีก น่าสงสารพี่ฟ้าจังเลยนะครับ” ผมกัดฟันยิ้มให้
“โอ้ย” ผมร้องเมื่อโดนมือใหญ่ๆนั่นทุบเข้าที่หัว
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“ตายจริง ทำไมเปียกกันขนาดนี้ล่ะครับ” พี่ฟ้าวิ่งหน้าตาตื่นออกมารับ
“เค้กหนาว” ผมรีบบอกก่อน ตอนนี้ตัวสั่นสะท้านไปหมดแล้ว ทั้งหนาวแอร์ทั้งตัวที่เปียกน้ำฝน
“เดี๋ยวป้าเอาเสื้อไปเก็บให้ค่ะคุณ” ป้านิดเข้ามาจะรับแจ๊กเก็ตของพี่คิวไป
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเค้กเอาไปซัก..” ผมบอกพร้อมกับยื้อเสื้อไว้
“ฉันพูดเล่นน่ะ นายนี่” พี่คิวว่าก่อนจะหยิบเสื้อจากผมไปยื่นให้ป้านิดแทน
“แล้วป้ามีอะไรก็ไปทำเถอะครับ แล้วเข้านอนได้เลย ไม่ต้องห่วงผม..ดึกมากแล้วครับ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนต่างจากทุกที
“ค่ะ..ขอบคุณค่ะ” ป้านิดพยักหน้ารับและเดินกลับไปทางด้านหลังบ้าน
“ฝากเอารถเข้าด้วยนะครับ รบกวนช่วยเช็ดรถให้คิวก่อนด้วย เช็ดเบาะด้านในด้วยนะครับ..ขอบคุณครับ” พี่คิวหันไปสั่งลุงมี ทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปกันใหญ่
“ไปเข้าบ้านกันครับ” พี่ฟ้าเข้ามากอดไหล่ผมเดินเข้าบ้านไปด้วยกัน
“เอ่อ งั้น..เค้กก็นอนนี่แล้วกันนะ” พี่ฟ้าพูด
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวเค้กกลับบ้าน” ผมรีบพูด
“โอ้ย..ป่านนี้รถเมล์หมดแล้วล่ะ ลุงๆก็นอนไปหมดแล้วด้วย ไอ้คิวมันก็คงเหนื่อยแหละเนอะออกไปทั้งวัน..คงไปส่งให้ไม่ได้หรอก” พี่ฟ้าพูดรัวพร้อมกับอมยิ้มเอนหน้าไปมา
“ผมพูดเมื่อไหร่” พี่คิวพูดแต่ไม่ได้หันกลับมามองเราสองคน
“หุบปากไป” พี่ฟ้าขึ้นเสียง
“งั้น..ตามนั้น โอเค้..ดูแลกันเองนะจ๊ะเด็กๆ คืนนี้เค้กคงนอนห้องพี่ไม่ได้นะครับ..พี่เอ่อพี่ นั่นแหละ..ช่างมันเถอะ พี่ไปล่ะ” พี่ฟ้ายิ้มกว้างแต่ดูเป็นยิ้มที่ไม่ธรรมชาติเอาซะเลย
“เอ่อ อ่าว แล้ว..” ผมตะกุกตะกัก มือของผมพยายามจะรั้งพี่ฟ้าเอาไว้แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล บอกให้นอนที่นี่แต่เหมือนจะทิ้งเราอย่างนั้น
“เออใช่..เดี๋ยวพี่โทรบอกคนที่บ้านให้เอง ไม่ต้องห่วงนะครับ..เชิญตามสบายนะเค้ก นึกว่าเป็นบ้านตัวเองก็แล้วกัน..โฮะๆ” พี่ฟ้าปิดปากหัวเราะพร้อมกับปัดมือไปมาและเดินหนีผมไป ผมยืนอึ้ง พี่คิวยืนเช็ดหัวอยู่ข้างๆผมอย่างเงียบๆ
“ประสาท” อีกฝ่ายบ่น
“ไปอาบน้ำ สระผมแล้วเป่าให้แห้งซะ” พี่คิวพูดเหมือนสั่ง ผมยังคงยืนงง ให้ไปไหน..ทำอะไรยังไง..ทำไมไม่บอกรายละเอียดละไอ้เชฟบ้า
“มาสิ” พี่เขาเรียกและเดินนำไป ผมรีบเดินตาม พี่คิวเดินขึ้นไปบนบ้านและเลี้ยวไปทางขวามือก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
“เอ่อ ห้องใครเหรอฮะ” ผมถามก่อน
“ห้องฉัน” พี่คิวหันมาตอบ
“ห้องพี่!”
“ใช่..มีปัญหาอะไรไม่ทราบ” อีกฝ่ายพูดหน้าตายเหมือนไม่เห็นว่านี่จะมีอะไรแปลกตรงไหน แสดงว่ามีแต่ผมที่กำลังบ้าบอรึไงครับ
“ป..เปล่า” ผมพยักหน้ารับรู้และเดินเข้าไป ใจเริ่มเต้นอีกครั้ง ผมมองสำรวจห้องของพี่คิวไปทั่วทุกมุม ในห้องแรกที่พบก่อนเป็นเหมือนห้องทำงาน โต๊ะทำงานอยู่ติดกระจกอีกด้านของห้อง กระจกล้อมรอบอยู่เกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ โซฟาจัดอยู่อีกมุมห้อง ชั้นวางหนังสือเรียงรายอยู่รอบๆห้องไม่ค่อยต่างจากห้องหนังสือด้านล่างสักเท่าไหร่นัก สไตล์ของห้องยังคงความเป็นอิตาเลียน แตกต่างจากห้องของพี่ฟ้าเพียงนิดหน่อย โทนของห้องนั้นใช้สีเข้มตัดด้วยสีฉูดฉาดของเฟอร์นิเจอร์ ผมยืนมองจนเพลิน หันกลับมาอีกครั้งเห็นพี่คิวยืนมองผมอยู่ที่ประตูห้องอีกด้านหนึ่ง
“สำรวจเสร็จรึยัง” อีกฝ่ายถาม
“ยัง” ผมตอบเล่นหน้าเล่นตาแต่ก็เดินเข้าไปหาพี่คิว พี่คิวเปิดประตูห้องเข้าไป และผมก็ต้องพบกับห้องนอน เตียงใหญ่บิ๊กบึ้มมากๆ ในห้องมีเพียงโทรทัศน์ ระเบียงที่อยู่ล้อมรอบทางด้านนอกประดับด้วยต้นไม้เต็มไปหมด
“ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ เข้าไปซะ..เดี๋ยวฉันจะเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้เปลี่ยน” ผมพยักหน้าตอบ วางกระเป๋าเป้ของตัวเองไว้ที่พื้นใกล้เก้าอี้ที่วางอยู่ติดผนังห้อง ผมไม่กล้าแม้แต่จะวางกระเป๋าเป้ของตนเองไว้บนเก้าอี้ที่ดูมีราคานั่น
พี่คิวเดินเข้าไปอีกประตูห้องหนึ่ง มันเป็นเหมือนกระจกกั้นไว้ ผมคิดว่ามันเป็นเพียงกระจกแต่กลับไม่ใช่ พอเปิดเข้าไปผมเห็นว่ามีตู้เก็บเสื้อผ้าเรียงรายเต็มห้องไปหมด ผมดึงความสนใจของตัวเองให้กลับมาที่ห้องน้ำอีกครั้ง ในใจกำลังคิดว่า “จะใช้ของในห้องน้ำเป็นไหมเนี้ย” แต่ชื้นใจขึ้นมาหน่อยเมื่อผมได้ให้กำลังใจกับตนเองว่าห้องน้ำของพี่คิวคงจะไม่ต่างจากห้องน้ำในห้องของพี่ฟ้าหรอก ระหว่างที่ผมกำลังคิด ผมเห็นพี่คิวผ่านกระจกห้องน้ำ พี่เขาเดินมาพร้อมกับเสื้อผ้าในมือ
“จัดการตัวเองซะ อย่าให้ป่วยล่ะ..ขี้เกียจฟังไอ้อานั่นบ่น” พี่คิวบอก
“ครับ” ผมพยักหน้าพร้อมกับรับเสื้อผ้ามาถือไว้
“ไดร์เป่าผมอยู่ตรงนั้น” พี่คิวชี้ ผมพยักหน้าแต่ไม่ได้หันกลับไปมองตาม และไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่คิวตรงๆอีกด้วย
“ฉันจะลงไปต้มชาสักหน่อย จะเอาอะไรไหม”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไร” ผมตอบอย่างเกรงใจ แต่ที่จริงอยากกินอยู่นะ..
“โอวันติน ไมโล นมสด ชาร้อน..หรือโกโก้” พี่คิวถามไม่ฟังเสียงผม
“โกโก้” ผมตอบอย่างเขินๆเพราะดูเหมือนพี่คิวจะอ่านผมออกซะแล้ว
“หึ..โอเค เสร็จแล้วตามลงไปก็แล้วกัน” พี่คิวเดินไป
“แล้วพี่คิวจะไม่อาบน้ำก่อนเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้น
“จะให้ฉันเข้าไปอาบด้วยรึไง” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“ไม่ใช่นะครับ!” ผมขึ้นเสียง อีกฝ่ายชะงักคงเพราะผมเผลอเสียงดังไปหน่อย
“เค้กไม่ได้คิดแบบนั้น..สักหน่อย” ผมรีบแก้ต่างด้วยน้ำเสียงที่ลดต่ำลง
“เหรอครับ” พี่คิวเบะปากก่อนจะแสยะยิ้ม พี่คิวยืนหันหลังให้ผม อยู่ๆพี่เขาก็ถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออก ผมยืนชะงักเบิกตาโพรงด้วยทำตัวไม่ถูก และอยู่ๆพี่เขาก็หันกลับมายิ้มให้ผมอีกครั้งเหมือนรู้ว่าผมยังคงยืนอยู่ เมื่อได้สติผมจึงรีบปิดประตูห้องน้ำลงเดี๋ยวนั้น !
~อาย....แทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว !!~
................>>>><<<<.................
สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้า...ขอให้ประสบพบแต่ความสุขสมหวังกันทุกคนนะคะ (^__^)
-
พี่คิวกวนว่ะ อยากให้เค้กยปเป็นเพื่อนเฉยๆใช่ไหมอะ ไม่เห็นจะเป็นไม้กันหมาซะหน่อย
เอ๊ะ หรือเค้าเข้าใจอะไรผิดหรือป่าวอะ แต่ไม่เป็นไร แม่พี่คิวพูดทิ้งทายขนาดนี้ คนอ่านคิดไปไกลลลลล
-
จิ้มก่อนได้ป่ะ นานๆจะได้เห็นก่อนชาวบ้านเค้าที แหะๆๆ
-
:-[ :o8: :-[ :o8: น่ารักมากๆๆเลยน้องเค้ก เอาใจช่วยนร้า :pig4:
-
ปลื้มเค้ก :impress2:
-
อ๊ายยย เขิลล พี่คิว กับน้องเค้ก :-[
สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าเช่นกันคะ
-
:o8:เขินอ่ะ
-
เขินพี่คิว!!!!!!!!!!!!
-
อร๊ายยยย พี่คิวบ้า ชอบแกล้งน้องงง นิสัย!!!
แล้วดูนะ รู้ว่าน้องคิดยังไง ยังไปแกล้งอีก ชริ
แล้วคืนนี้จะยังไง เค้กต้องหัวใจวายแน่ๆ ถ้านอนห้องเดียวกันอ่ะ หึหึ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
ก่อนหน้านั้นก้อพาไปหาแม่ ตอนนี้ก้อสำรวจห้อง
ก้าวหน้า นะ ก้าวหน้าาาา~ ไม่อาบน้ำไปด้วยกันเลยล่ะ ฮิ้ววววววว
:z1: :z1: :z1:
-
อ๊ายยยยยยยย หวานมากๆ เขินอ่าาาา :o8: :o8:
-
พี่คิวชอบแกล้งเค้ก
อาฟ้าเจ้าเล่ห์
นอนห้องเดียวกัน :o8:
-
อร๊ายยยยยยย พี่คิวววววว มีการถอดเสื้อยั่วเค้กด้วยนะ
คืออะไรรรร 555555 รักๆ o13
-
อิพี่คิวนี่มันชอบแกล้งน้องเค้กจริงๆ อิอิ
ว่าแต่อาฟ้าพาใครมานอนที่ห้องหรอคะ อิอิ ถึงให้เค้กไปนอนด้วยไม่ได้อ่า
-
กรี๊ดดดด เขินทะลุอวกาศไปแล้ว
ช๊อปปิ้ง พาเข้าบ้าน ดินเนอร์ร้านอาหารน่ารักๆงั้นเหรอ
ว่าแต่น้อง ตัวเองก็ดูออกง่ายเหมือนกันแหละพี่คิว แบร่ๆ :laugh:
-
ฮ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!
ขออีกนิดเด้พี่คิวอ๊ะ หยอกอยู่นั่น ((คนอ่าน)) เขินยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูแล้วเว้ยยยยย
ทำใมไม่ตามเข้าไปอาบน้ำให้น้องหน่อยฮ๊ะ??? แหม!!! ขัดใจว่ะ จะฟ้องครูอัง' คอยดู้ๆๆๆๆ
ขอบคุณนะไอ้น้องบี้ +++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
หึ หึ :o8: :o8:
-
พี่คิวอ่อยเค้กหราาาาา อรั๊ยยยยย~~~!! :impress2:
-
เหมือนตัวเองกำลังเป็นบ้าเลย อ่านไปยิ้มไป จนเพื่อนถามว่าเป็นไร? 555555+
คิดว่าอ่านแล้วเข้าใจในความเป็นพี่เค้กน้องคิวตามที่น้องบี้สื่อได้ดียังไงไม่รู้ ชอบๆค่ะ
ชอบแนวเขียนแบบนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเป็นน้องบี้แบบนี้
-
พี่คิวกวนประสาทใส่น้องเค้กแหล่ะ ..แต่น่ารักค่ะ
:-[
-
ชอบนายคิวแบบนี้ เป็นธรรมชาติดี :laugh:
เค้กน่ารักตลอด
+1
-
ปิดประตูทำมายยยย :z1:
-
เขินและอิจฉามากกกกก :o8: :-[ :-[ :-[ :o8:
เค้าอยากมีอย่างเงี้ย...เค้าจะเอาอย่างเงี้ยยยย #โดนเค้กตบ 55+
พี่คิวก็ดูง่ายนะคะ...คนเค้ารู้ทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ววววววว :z2: :z2:
-
จะอะไรมากมาย สำหรับวันนี้ มีความสุขมากๆอ่ะเบบี้
หลังปีใหม่หรือวันต่อๆ คงมีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราวของเค้กทุกๆวันนะ
เขินมากๆๆ พี่คิวน่ารักที่สุด :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
อ๊ายยย ตอนนี้ถูกใจจัง :-[
เค้กอยากให้พี่คิวแทนตัวเองว่าอะไรล่ะจ๊ะ o18 บอกพี่เขาไปสิ๊
แต่คิวนี่แกล้งได้แกล้งดี เค้กอายจะเอาหัวมุดพื้นละ :laugh:
สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าค่ะ :L2:
:pig4:นะคะคุณเบบี้
-
:-[ :-[
กรี๊ดดดด พี่คิวยั่วน้องแกล้งน้อง อ่ะ
-
อร๊ายยยยยยยยยยย ปฏิสัมพันธ์กันได้น่ารักแบบคนอ่านฟินเลยจ้า >///< มีแบบออกไปเดท ตจว ด้วยกันแบบเนียนๆด้วยอ่ะ
ตอนอยู่กลางสี่แยก เค้กเท่ห์มากกกกกกก และพี่คิวก็เท่ห์มากกกกกกกกเหมือนกัน =///= ยิ่งตอนพี่คิวหันหลังถอดเสื้อ
วิญญาณคนอ่านหลุดออกจากร่างพร้อมกับเค้กไปละ 55 แบบว่าร้อนแรง พี่คิวฮอตมาก ชอบที่ให้เค้กไปนอนห้องเดียวกัน
แถมยังหาเสื้อผ้าให้ใส่ นี่มันช่างพัฒนาก้าวไกลมากก แต่อยากเห็นพี่เค้าแสดงออกมากกว่าเน้
(เบบี้บอกว่ามึงยังจะขอมากกว่านี้อีกหรอ 5555) แต่มันน่ารักจริงๆนะ ชอบอ่ะ ชอบ ชอบ !!
-
โอยยยยย อ่านแล้วอยากจะหน้าระเบิดแทนเค๊ก อิพี่คิวบร้าาาาาาาาา ทำตัวไม่ถูกนะนั่น 5555+
-
พี่คิวอ่อยน้องเค้กรึเปล่าเนี่ย :-[
เล่นถอดเสื้อให้เด็กดู เดี๋ยวเหอะ :beat:
-
เบบี้><
กรี๊ด...ตอนนี้น่ารัก...
นอนห้องเดียวกันอีก
-
:o8: :o8:
-
วันนี้สองคนจะได้นอนด้วยกันและ คิคิ
-
ได้นอนกับพี่คิวแล้วเค้กจะนอนหลับไหมล่ะนั่น
-
พี่คิวแม่มมมมมมมมมมมม แกล้งน้องตล๊อดดดด
น้องมันเขินหน้าดำหน้าแดงหมดแล้วนั่นน
พี่ฟ้าอ่าา ใครอยุ่ในห้องคะ ? :-[
-
คืนนี้เค้กนอนห้องพี่คิว โอ้วววววววววววววววววววววว :really2:
พี่คิวอย่าแกล้งน้องนะ
แล้วทำไมคราวนี้พี่ฟ้าไม่ให้เค้กนอนด้วย หรือว่าในห้องมีใครนอนอยู่ 55555555
-
พี่คิวกวนมากอ่าตอนนี้
แต่แบบนี้ละ ที่น่ารักออ่า อิอิ ไม่ไหวน่า
ผู้ชายแบบนี้ มันเท่ซะไม่มีอ่า
-
พี่คิวทำเหมือนรู้ทุกอย่างแล้วแกล้งเค้ก ถึงเวลาสั่นคลอนกลัวเค้กจะรับไม่ไหว อยากให้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ซึ้งตอนเค้กลงไปช่วยเด็กตอนฝนตก จิตใจดีอย่างนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว :กอด1: :pig4:
-
ว้ายยยย.....เค้าจะนอนด้วยกันแล้ว :-[
:pig4: คะ
-
ฮึ่ยยยยยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้วจะบ้าแล้ววว
พี่คิวน่ารักขึ้นอะ ตายๆๆๆ >O<
เขินไม่ไหวแล้วววว
เค้กยิ่งน่ารักน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก♥
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
พี่คิวแม่มกวนว่ะ
แกล้งน้องเค้กอ่ะะะ เหอะ น้องก็เขินจนนนนน
เรียกชื่อด้วย แต่เค้กคงไม่ทันฟังป่ะะ
ไม่รู้ทำไม แต่อยากให้เค้กไม่สบาย 5555
สวัสดีปีใหม่ไทย เช่นกันนะเบบี้ ^^
-
เริ่มใกล้ชิดเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวอีกนิดแล้วสินะ :z1:
:กอด1:
-
:-[ กว่าจะอ่านตอนนี้จบ อ่านไป2 ประโยค กรีสสส
เขินอยู่คนเดียว กว่าจะเลื่อนบรรทัด ชั้นบ้าสินะ
อ๊ากกกกกกกกก เขินแทนเค้ก
-
พี่คิวบ้าๆ เค้าเขินแล้ว :o8: :o8: :o8:
-
พี่คิวขี้แกล้งงงงงงงงงงงง :o8:
-
เค้กน่ารักและใจดีมาก พี่คิวต้องรักน้องเค้กมากๆอย่าให้ ใครมาทำเค้กเสียใจนะ ไม่งั้น :angry2: ฟ้องครูอังศณาแน่ 5555555 น ต
-
เข้ามากรี๊ดดดดดดด อีพี่คิว แอร๊ยยยส์ เขินแทนเค็ก :-[
-
พี่คิวนี่เห็นนิ่งๆนี่ร้ายชะมัด.....แกล้งจนเค้กเขินไปหมดเเล้ว
แต่ว่าคนอ่านก็เขินนะเนี่ย ><
-
เค้กเอ๊ยยไม่รู้คืนนี้จะถูกอิพี่คิวแกล้งให้เขินอีกกี่รอบเนี่ยยยย.. :o8:
-
อ๊าย เข้าห้องพี่คิวแล้วหรอน้องเค้ก
น้องเค้กเขินจนหน้าแดงหมดแล้ว :impress2:
-
ว้าวๆ เขินๆ สู้เค้าเค้ก
-
พี่คิวขยันกวน
เค้กก็ขยันเขิน น่ารักมาก ><
ได้นอนด้วยกันแล้วด้วยยยย
จะเป็นยังไงน้อ
-
คิวพาเข้าห้องและอะ พาเข้าห้องเลยนะ เค้กก็เขินเลยนะ
ตลอดทั้งวัน คิวขยันแซวเค้กเกิ๊น อารมณ์ดีจิงๆ
เค้กก็ขยันเขินคิวซะด้วยสิ..
ปล.คิวเขารู้หมดแล้ว ไม่ต้องตอบคำถามหรอกนะเค้ก สีหน้าเค้กแสดงออกชัดเหมือนที่คิวบอกจิงๆหล่ะ...ฮ่าๆๆๆ
ปล.อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขจิงๆ..ฮ่าๆๆ
-
น้องเค้กและคนอ่านเขินจนจะทนไม่ไหวแล้วนะค้า
ตอนนี้พี่คิวโคตรจะเหมือนทาคาโนะซังจาก sekaiichi hatsukoi เลยค่ะ แอร๊ยยยยย :-[
-
ในที่สุด เค้กก็ได้นอนห้องคิวแล้ว :z1:
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยล่วงหน้าจ้าเบบี้ และทุกๆท่านนะค่ะ
-
พี่คิว ก็ชอบเค้ก ใช่มั้ย
อย่าทำเป็นเล่นๆ นะ พี่คิว เอ็นดูเค้ก
อ่านไปก็เขินไป
-
พี่คิวเริ่มน่ารักขึ้นทุกทีๆแล้วสิ อิอิ
-
อ๊าย~ พี่คิวชอบแกล้งน้องอ่ะ นิสัยไม่ดี (แต่เค้าชอบ)
รู้ว่าน้องรู้สึกยังไงก็ยังจะมาทำให้อายอีกนะ :-[
นี่เค้าเรียกว่าเดทใช่ป่าว แต่เป็นในแบบของพี่คิว
เหมือนจะธรรมดาแต่เรารู้สึกว่ามันอุ่นๆในใจงัยก็ไม่รู้
คิดว่าเค้กก็คงจะรู้สึกเหมือนกันล่ะมั้ง อยากให้เป็นอย่างนั้น
แถมพี่ฟ้ายังจะมาให้นอนห้องเดียวกันอีก ตายแน่เค้ก
จะนอนหลับมั๊ยล่ะนั่น :o8:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
ป.ล. บวกเป็ดให้น้องเค้ก
ป.ล.2 สุขสันต์วันสงกรานต์ล่วงหน้าเช่นกันค่ะ ^^
-
เค้ก-คิว คืบหน้าไปอีกหน่อย
-
:-[ :-[ :-[แว๊ก เขิลลลลลลลลลลลลลลลลล
-
แอร๊ี คืนนี้เค้านอนด้วยกันด้วยอ่ า า า :z3: :z3:
:haun4: :haun4: :haun4:เออ อยากเห้นหุ่นพี่คิด ว๊ากกกก
-
น่าร้ากกกกกกกกกก เค้กน่ารักและใจดีมากๆ
อ่านไปเขินไป ยิ้มไป
นี่เรียกว่าพาเค้กเดทใช่มั๊ยพี่คิว
แล้วนอนห้องเดียวกันอีกตังหาก จะนอนหลับมั๊ยเนี่ยเค้ก
:กอด1:
-
:-[ เขินโว้ยยยยยยยยยยยยยย
นอนด้วยกันๆๆๆ
-
คิวปิดขี้แกล้งวะ แกล้งแต่เค้กนะ ฮ่าๆๆๆ
-
ตอนนี้เค้กรับจ้างเขินทั้งตอน
น่ารักจริงเชียว พี่คิวก็แกล้งดีจัง
-
ไม่ไหวแล้ววว แบบว่า เขิน เว้ยเฮ้ย :o8: :o8:
ยังกะ ตัวเองเป็นนู๋เค้ก ซะงั้น
P.S. สุขสันต์ปีใหม่ไทย เช่นกันคร้า ><" :กอด1:
-
:กอด1:
-
อูยยยยยยยยยยย มาต่อเลยค่ะ ไม่เอาหลังสงกรานต์นะที่รัก งอแงๆๆๆ
ให้เข้าห้องกันง่ายๆอย่างงี้เลยหรอ พี่คิวแม่ง อ่อยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
แต่น้องเค้กนี่ ดูเป็นเด็กใจน้อย ขี้น้อยใจเนอะ แบบ นิดๆหน่อยๆก็เอาไปคิดมาก
แต่ว่าใจดี ใจบุญมากจริงๆ ..แล้วดูออกมั้ยว่าพี่คิวเค้าห่วงมากเลยนะ .////.
พี่ฟ้าก็ดูแสดงออกชัดเจนไปน้าาา แหมมม ดูแลกันเองนะเด็กๆ ชอบๆๆๆๆ
-
เค้กกลายเป็นเด็กน้อยทุกที เวลาที่อยู่กับพี่คิว
พี่คิวก็ขี้แกล้งมากอ่ะ แต่อ่านแล้วอดยิ้มไม่ได้นะ น่ารักดี
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยล่วงหน้าค่ะ
-
อรั๊ยยยย แผนพี่ฟ้าสุดยอดดดดดด ประเคนน้องเค้กใส่ถาดให้คิวเฉยเลย :-[ :-[ :-[ :-[
แล้วนี่แอบพาใครมานอนในห้องเหรอคะพี่ฟ้า :o8: :o8:
แหมๆ อ่านแล้วเขินจนยิ้มไม่หุบ รีบๆมาต่อนะคะ :z3: :z3: :z3: :z3:
-
:-[ เขินแทนเค้กกก
-
อ๊าคคคคคคคคคคคคคคค
เริ่มจะัมีฉากหวานๆกันแล้วอ๊า
อิจฉา
-
พี่คิวปิด ทำน้องเค้กและคนอ่านเขินมากมาย :o8:
คืนนี้จะให้น้องนอนด้วยกันบนเตียงหรือเปล่า ตื่นเต้นแทนเค้กนะเนี่ย
เริ่มเข้ามารุกล้ำอาณาจักรส่วนตัวพี่คิวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วน้องเค้กจ๋า :-[
-
พี่คิวก็ขยันแกล้งน้องเค้กจังน้ออออ จะสงสารน้องดีมั้ยเนี่ยยย ฮ่าๆๆๆๆ
-
อ๊าคคคคคค พี่คิว ผีทะเล อิอิ
สวัสดีปีใหม่เบบี้จ้า
-
อยากรู้ตอนต่อไปแล้วอะว่าพี่คิวจะแกล้งอะไรน้องเค้กนี้ถึงขนาดมานอนด้วย แต่อย่าให้นอนแยกกันนะ นอนด้วยกันนะเบบี้
-
:-[เขินได้อีก คิวชอบแกล้งเค้กนะ
-
ฉันก็เขิน :-[
-
โอ้ะโอ โอะโอ้ยยยยยย!!!
พี่คิ๊วววว เล่ห์เยอะ -...-
หลงเค้กแล้วรึยัง ฮาาาา อั้ยยะ!! ><
-
เค้กโดนพี่คิวแกล้งตลอดเล้ยยยยยย หุๆ ว่าแต่ได้มาค้างคืนแล้ว จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ยน้อ :o8:
-
โอ้ยพี่คิว คนอ่านจะขาดใจตายเว้ยยยยยย
ทำไม เเกล้งเค้กจังอะ 5555+
-
แหมพัฒนาไปไกลเลยนะ
-
ดูเหมือนเค้กค่อยคืบคลานเข้าไปในอาณาจักรของพี่คิวทีละน้อยแล้วนะ
-
พี่คิวน่ารักอะ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ o13
-
เค้กน่ารัก พี่คิวต้องรู้หมดแล้วแน่เลยนาเค้ก
แกล้งกันน่ารักตลอดคู่นี้
-
เขิน :-[ แล้วพี่ฟ้าพาใครมานอนที่ห้องครับนั้น
-
กวนได่โล่จริงๆคุณพี่คิว ได้แกล้งเค้กนี่คงมีความสุขมากเนอะ
ปล.เราก็มีความสุข ฮิฮิ
-
กรี๊ด ตอนนี้มัน โฮกมาก
พี่คิวยั่วเหรอ :m25:
คืนนี้จะเป็นยังไงน้า
:-[
-
พี่คิววววววววววววว ฮั่นแน่~~~ เค้ารู้ไต๋ตัวเองแล้วนะ หึหึ แกล้งได้แกล้งดีจริงๆ ชอบหรือไงคะ ท่าทางของน้องเค้กเวลาที่เขินตัวเองเนี่ย ชอบมากใช่มั้ยถึงได้แกล้งอยู่นั่น อ่อ แล้วที่ว่าพามาเป็นไม้กันหมาเนี่ย ข้ออ้างสินะ ไม้กันหมาที่ไหนจะถูกพาเข้า้บ้าน แถมแนะนำตัวกับคุณแม่แบบเนียนๆ เท่านั้นยังไม่พอ มีดินเนอร์ในร้านน่ารักๆด้วยนะคะ ไม่เบาเลยพี่คิว หึหึ พี่ฟ้าเจ้าเล่ห์ ฮี่ๆ หรือว่าจับไต๋หลานได้ก็เลยหาทางช่วย ฮ่าๆ เค้กเอ้ย งานนี้หนูจะเขินจนนอนไม่ได้หรือเปล่าเนี่ย นอนห้องเดียวกันเลยนี่นา >.,< อิพี่คิว มีการถอดเสื้อโชว์นะ คนนิสัยไม่ดีชอบแกล้งน้อง แหมะมีการมาถามว่าอยากให้อาบน้ำด้วยหรือไง บร๊ะ พ่อคุณคะสงสารเด็กมั่ง ถูกต้อนซะจนมุมแล้วจนมุมอีก
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
นอนห้องเดียวกันอ่ะ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
เย้ยยย เค้ก ทำไมไม่สำรวจหุ่นพี่คิวก่อนล่ะ คนอ่านก็อยากรู้นะ หุ่นเป็นไง หุหุหุ (ความหื่นเข้าครอบงำ) =.,=
-
พาลูกเขาเข้าห้องเลยน่ะพี่คิว รับผิดชอบด้วย :-[ :-[ :-[
-
คิวววว..แกล้งเค้กอีกแล้ววว.... :-[
-
พี่คิวนี่ชอบแกล้งน้องเค้กตลอดเลย
ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรนะ :haun5: :haun5:
-
:m16: :m16: :m16:พี่คิวชอบแกล้งเค้กอ่ะ.......
แต่ก็ชอบให้แกล้งบ่อยๆ :laugh: :laugh: :laugh:
-
อ๊ากกกกกกกกกก พี่คิวถอดเสื้อยั่ว :-[
ดีนะ เค้กมัวแต่เขิน เป็นฉันหน่อยละจะโดดใส่ให้ไม่ยั้ง :laugh:
-
โอ๊ยยย!!! พี่คิวขี้แกล้งว่่ะ สงสารก็แต่เค้ก เดี๋ยวเขิน เดี๋ยวใจเต้นแรง เดี๋ยวก็หน้าแดง อั้ยยย แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งน่ารักอ่า
-
น่าร๊ากกก อ่านไปก็ยิ้มแก้มปริ เหอๆ พี่คิวถอดเสื้อออ :z1:
-
เขินพี่คิวแทนเค้กจัง อิอิ
-
พี่คิวววววววววววววว น่ารักอ่ะ แกล้งให้น้องเขินตลอดเลย อย่าว่าแต่เค้กเขินเลย อิคนอ่านก็เขิน
ยิ้มแก้มจะแตก คุณอาฟ้าก็นะ หาทางให้เสร็จ น่าให้รางวัลคุณอาดีเด่นจริงๆนะคะเนี่ย น่ารัก ^^
ตอนต่อไปจะเขิน จะแกล้ง จะแก้มแตกกันมากกว่านี้รึเปล่าน้า โอ๊ย ไม่ไหวละ หน้าร้อนไปหมด ฮี่ๆ
-
กรี๊ดดดนอนห้องเดียวกันอ่ะ :z1:
บวกเป็ด
-
:z2: :z2:+1 ก๊าก ขำตัวเองอ่ะ พอเจอตอนที่ 43 :z3:พระนางยังไม่จุ๊บกันเลยอิอิ :m20: แต่ อ่านแล้วก็อมยิ้มกะนู๋เค้ก อ่ะ :z2:
-
อร๊ายยยยยย เค้กได้นอนกับพี่คิวแย้ววววๆๆๆๆๆๆๆ :-[
แอบหวังให้มี goodnight Kiss น๊า :จุ๊บๆ:
-
.ห่วงหาอาธรณ์กันดีเนอะคู่นี้ พี่คิวก็เริ่มเปิดใจเรื่อยๆ อาฟ้านี่ตัวชงเลย อยากได้เค๊กเป็นหลานสะใภ้ เอ๊ะหรือหลานเขยหว่า
...รถมาอยู่บ้านพี่ฟ้า แล้วตัวเจ้าของรถอยู่บ้านพี่ฟ้าด้วยหรือเปล่าหว่าอยากรู้นะเนี่ย :laugh:
-
:o8: ทำไมรู้สึกว่าคิวกำลังจีบเค้ก. :-[
-
เขินอ่า
น่ารักมากกกกกกกกก
พี่คิวพูดครับ อ๊าาากกก :z3:
สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าเช่นกันคะ :mc4:
-
พี่คิวน้องเค้ก น่ารักมากกกกกกกกกกก :o8:
พี่คิวอ้ะ ชอบแกล้งน้อง น้องเขินรู้ไม๊ 55
สวัสดีปีใหม่ไทยด้วยค่ะ : )
-
พี่คิวววววววววววววววววววววววววววววววววววว
อยากกรี๊ดเป็นภาษามนุษย์ต่างดาวเลยยยยยยยยยยยยย
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก เขินแทนเค้กเลยยยยยยยยยยยยยยย
รักคิวเว่ออออออออออ่ะ คิววววว เค้กกกกกกกกก
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
ความรู้สึกแรกคือ..ยาวสะใจมาก..เรียกว่าอ่านไปก็ลุ้นไปไม่อยากให้จบตอน...
อารมณ์มันต่อเนื่อง...หัวใจพองโตไปกับน้องเค้กด้วย...ขนาดพี่คิวเป็นคนไม่ค่อยพูดนะ..
เดทแรกอย่างเป็นทางการ...ตัวตนที่น่ารักมีน้ำใจของน้องเค้กปรากฎอีกล่ะ..แถมมีความฝัน(ครอบครัว)ที่อบอุ่น...
แบบนี้..พี่คิว(ผู้ช่างคิดมาก ๆ)คง...ตัดสินใจอะไร ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกล่ะเนอะ...
แต่ยอมรับว่ารู้สึกอึดอัดไปกับน้องเค้กเหมือนกัน...ในเรื่องความแตกต่างของฐานะทางสังคม...
ถ้าต่อไปทั้งคู่จะเดินไปด้วยกัน....สิ่งนี้อาจเป็นปมด้อยสั่นคลอนความรู้สึกของน้องเค้กได้ตลอดเวลา....
เริ่มกลุ้มแทนน้องเค้กแระ....
ชอบบบพี่ฟ้าน่ารัก...ไม่เหมือนคุณอาแต่เหมือนเด็กซน ๆ ป่วน ๆ มาวิ่งรอบ ๆ พี่คิว(หลาน)รักมากกว่า...
และลุ้นตอนหน้าต่อ....หัวใจจะพองโตตามน้องเค้กอีกแค่ไหนก็ไม่รู้... :กอด1:
สวัสดีปีใหม่ น้องเบบี้ เช่นกันค่ะ :L2:
-
//แอบจิ้นหุ่นนายคิว เขินแทนนู๋เค้กเลย แอบหวานกันเบาๆ นะเนี่ย
-
ตามอ่านตั้งแต่ตอนแรกครับ
อยากบอกว่าทุกๆตอนสนุกมาก
เขินแทนเค้ก ><
สวัสดีปีใหม่ไทยคร้าบ
-
น่ารักจังเลย อ่านไปลุ้นไปตลอดเลยอ่า กรี๊ดๆๆๆ นี่ืคือช่วงเหมือนปลากัดใช่ไหมจดๆจ้องๆกันอยู่ หรือช่วงจีบแล้วเนี่ย อิอิ
แบบเนียนๆ อยากให้ถึงตอนรักกันเร็วๆจัง ไม่รู้พี่คิวจะเป็นยังไงน๊าา
-
:impress2: :impress2: :impress2:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
อร๊ายย เขินแทนเค้กเลยอะ นี่เป็นการเดทช่ายป่ะ อิอิ
-
เด่วนี้เริ่มพูดเยอะ แอบหื่นเล็กๆนะคะ พี่คิววววว
น้องเค้กเลยเขินบ่อยเลย อิอิ ><
-
ฟ้า :man1: โคตรจะเปิดโอกาสอ่ะ ฮ่าๆๆ...
ชอบคิวในมุมแบบนี้ :impress2: ... รอดูต่อไปว่าเค้กจะตั้งรับยังไง
:pig4: :กอด1:
-
คืนนี้เค้กจะนอนห้องเดียวกับพี่คิว จะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ยน้า
-
อิพี่คิ๊วววววววว แก อ๊ากกกกกก ตอนนี้แกแบบสุดๆอ่ะเจ้าชู้กรุ่มกริ่มเบาๆ เจอคิวโหมดจัดเต็มไปไม่อายได้งัยหล่ะเนี้ยย สงสารเค้กอ่ะ 5555555
-
:กอด1: :L2:
-
พี่คิวขี้แกล้้งอ่ะ
เขินแทนเค้กตั้งหลายที :-[
-
พี่คิวโคตรขี้แกล้งอะ รู้ว่าน้องมันชอบก็ยังจะหาเรื่องไปแซวเค้าอีก
จริงๆตัวเองก็ชอบเค้าเหมือนกันอะดิ๊ หึหึ
ดูท่าคืนนี้จะได้นอนเตียงเดียวกันนะ~ :o8:
-
v v" > ,< เขิล มากเลย อ่า อาหุ้ยยๆๆๆๆๆ
ฮาฮะ เห้ย ยะ เขิล วะ
-
พี่คิวกวน....ว่ะ>////<
แบบนี้เค้กน้อยเขินแย่เลยอ่ะ
-
คิว อ่อยหรือเปล่าเนี่ย อิอิ
เค้ก ลุกซะเลย
-
อ้ายย ยิ้มแก้มจะแตกแล้วอ่ะตอนนี้ พี่คิววววววววว ทำแบบนี้หัวใจวายได้เลยนะค่ะเนี้ย :-[ :-[
น้องเค้กจะเป็นไงมั้งละเนี้ย มือไม้สั่นไปหมดแล้วละมั้งเนี้ย โอ้ยยยยยยยย น่ารักอ่ะ :impress2:
พี่ฟ้าก็เจ้าเล่ห์ได้อีกอ่ะ ฮ่ า า น่ารักตลอดเลยอาคนนี้ รักอาฟ้าจริงๆเลย :กอด1:
แต่ตอนนี้ขอยกให้พี่คิวไปเลย หัวใจเต้นแรง ฮ่ าา :-[ เค้กก็จะน่ารักไปไหนค่ะเนี้ยยย แบบนี้ไม่ต้องบอกพี่คิวเค้ารู้ความในใจหมดแล้วละค่ะ :o8: พี่คิวพาเค้กออกมาแบบนี้ต้องมีแผนอยู่ในใจอยู่แล้วแน่ๆเลยอ่ะ กะกินเค้กรึเปล่าค่ะเนี้ย ฝนตกตัวเปียก แบบนี้ บรรยากาศเป็นใจด้วยอ่ะ ถ้าน้องเค้กเป็นนางเอกหนังไทย ฮ่ า า ไม่อยากจะคิดเลย ก๊าก ก ก (หื่นจริงเลยฉัน) :-[
สงสัยคืนนี้ คงต้องสอนการบ้านน้องเค้กกันยาวเลยนะค่ะพี่คิว :impress2: ไปรับปากน้องแล้วด้วยอ่ะว่าจะสอนให้อ่ะ >/////<
หนูเค้กจิตใจดีมากเลยอ่ะ แต่แบบนี้พี่คิวเค้าเป็นห่วงนะค่ะเนี้ย วิ่งออกไปแบบนี้ ระวังตัวด้วยนะค่ะ
(สงสัยวันนี้ใกล้บ้าละ ขนาดคอมเม้นไปยังยิ้มไป 5555)
......
.
.
สวัสดีปีใหม่ด้วยนะค่ะ
-
:mc4: กรี๊ดดดดดยาวได้อีกอ่ะ เบบี้ ถูกใจที่สุด ชอบยาวๆ แบบนี้ จริงๆ
เขินแทนเค้กอีกแล้ว นั่นอ่านไป บิดเสื้อไป อร๊ายยยเขินว๊อยยย 5555
พี่คิวโคตรโรแมนติกเลย พาไปดินเนอร์ไกลถึงนครปฐม อาหารแบบโรแมนติกเกิ๊นนน
ลาบทอดงี้ น่ากินโฮะโฮะ
โอย ไม่ไหวแล้วอ่ะบี้ อยากเม้นยาวๆ กลัวว่าจะยาวเกิน ท่าจะเวิ่นเว้ออีกเยอะ
ขออ่านตอนนี้อีกหลายๆ รอบ ชอบมากๆๆๆๆจ้ะ ถ้าบวกให้ 100 จะบวกให้เลย
ขอบคุณนะจ๊ะ ที่ต่อให้ยาวขนาดนี้ อิ่มเลยค่ะ
เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกนะคะ สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าเช่นกัน
(ฮั่นแน่ะ นี่สวัสดีกันล่วงหน้าแสดงว่า ตอนต่อไปคงมาหลังปีใหม่ไทยละสิ จะรอละกันนะ)
-
พี่คิวแกล้งเค้กตลอดเลย
อาฟ้าเป็นใจให้มากๆ ฮ่าๆๆๆๆ
น่ารักมากเลยยยย^^
บวกบวก รออ่านตอนต่อไป
สวัสดีปีใหม่ไทย คับบบบบ
-
น่ารักมากกกกก
เหมือนพี่คิวเล่นสงครามประสาทใส่เลย
น้องเค้กเลยยิ่งลน ยิ่งเขินใหญ่ 555
น้องเค้กจิตใจดีมากๆ เลย
ขอบคุณเบบี้จ้า สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าด้วย
:L2:
-
แอร๊ยยยยยยยยย พี่คิ๊วววว!!! เขินอ่า
คืนนี้ (อย่า) แอบลักหลับน้องเค้กนะ >//<
อยากอ่านเรื่องบนเตียง (?) ค่า ฮ่าๆๆ
-
ก่อนอ่านตอนที่ 43
ได้เห็นตอบข้อสงสัยของเบบี้ จึงขอโพสขอบคุณมา ณ ทีนี้
ที่เบบี้ ได้เห็นถึงความข้อสงสัยของคนอ่าน และได้มาอธิบายอย่างละเอียด
พี่เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณเบบี้มากๆ พี่ลืมไปว่า เป็นการเล่าในมุมมองของตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง
ซึ่งเขาไม่มีความสามารถจะรู้ไปทุกเรื่องของนิยาย
ในความคิดพี่ (ขอเรียกตัวเองแบบนี้นะคะ เพราะพี่แก่มาก)
พี่จะชอบการเขียนแบบบุคคลที่สามเป็นผู้เล่าเรื่อง เพราะมันอ่านง่าย เห็นภาพ รู้กระจ่าง อะไรแบบนี้ล่ะค่ะ
เท่าที่เคยอ่านนิยายมาก ส่วนใหญ่จะเล่าเรื่องแบบนี้นะคะ
เพราะการเขียนโดยให้ตัวละครเล่าเรื่อง มันยากมากที่จะทำให้คนอ่านเข้าใจเรื่อง เพราะมันเป็นมุมมองมุมเดียวนั่นเอง
เพราะฉะนั้นก็คงต้องมีตัวละครอื่นๆ มาเล่าบ้าง เพื่อให้เห็นมุมอื่นๆ
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะคะ น้องเบบี้อย่าเคืองพี่ พี่อ่านของน้องมาหลายเรื่อง
และคิดว่าน้องต้องทำได้แน่ค่ะ
นิยายของน้องเป็นที่นิยม น้องเขียนได้ถูกใจคนอ่านมากมาย พี่ก็ชอบนะคะเรื่องนี้
จะติดตามอ่านต่อไปนะคะ ขอบคุณค่ะ
-
อร๊าย !!! พี่คิวขี้แกล้งอ่ะ ชอบทำให้หนูเค้ก ใจสั่นตลอด รักเขาแล้วอะดิ :z1: รุกเชียว มีอ่อย ด้วย :impress2:
Baby ใจป้ำจังตอนนี้รู้สึกว่าจะยาวเชียว :กอด1: :กอด1: รอรอรอ ตอนต่อไป
-
แกล้งเค้กตลอดอ่ะ หึหึ ~
-
ขำพี่ฟ้าหัวเราะอ่ะ นึกภาพออกเลยนะ
ว่าแต่เรื่องอาบน้ำไม่เท่าไหร่ แต่น้องเค้กจะนอนไงล่ะคืนนี้ อิอิ
-
เขิลๆๆๆๆๆๆ :-[
พี่คิวโคดน่ารักวุ้ยๆๆๆ
-
มีความสุขเหลือเกิน
ได้อ่านนิยายรักหวานแหววสักที ^^
-
พี่คิวแกล้งน้อง
อร๊ายยยย กรี๊ดด ทำตัวไม่ถูก พี่คิว อ่อยได้ใจ !!!
ชอบพี่คิวเวอชั่นมาดหลุด อ่านแล้วฮา ฮ่าๆๆ
ชอบ ชอบ ชอบ บรรยายไม่ถูก อยากบวกให้สักล้านแต้มทำยังไงดีฟระ
ปล. เขิลพี่คิว ถอดเสื้อ กรี๊ดดดดดด บี้ทำคนอ่านหื่นกันเป็นแถวๆ
-
คุณแม่เปิดไฟเขียวให้
อาฟ้าก็ยินดี
ไม่มีใครขวางแบบนี้
จะอาบน้ำด้วยกันก็ได้นะ 555++
:L2: :L2:
-
" ไม้กันหมา " หรือว่าอยากมีน้องเค้กอยู่ด้วยกันแน่ :m20:
ก็เป็นการพัฒนาการไปอีกขั้น ถึงน้องเค้ก จะเป็นลูกไล่ให้อีตาเชฟบ้าก็ตาม
ส่วนพี่ฟ้า คืนนี้ไม่ได้นอนคนเดียว .... คงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ ทิกเกอร์ เอ....หรือว่าเป็นแผน :z2:
เป็นกำลังใจให้หนูเบบี้ +1 ให้ในวันสงการนต์ล่วงหน้าเหมือนกัน :กอด1:
-
พี่คิวแกล้งน้องนะ อ๊ากน่ารักเว่อร์อ้ะ
กอดเบบี้แรง ๆ รออยู่จร้าาา
-
เค้กกับคิวได้นอนห้องเดียวกันแล้ว
จะมีอะไรเกิดขึ้นไหมน้าา :z1:
-
คึคึ คืบหน้าไปมากเลยนะน้องเค้ก :impress2:
-
ขี้แกล้งอ่ะพี่คิว
-
น่าจะอาบด้วยกันไปเลย ^^
-
แอร๊ยยยยยย!!~ น่ารักเปนที่สุดๆ เขิลแทนเลยอ่ะๆ ^^
-
อ่านไปชักจะเขินแทนเค้กแล้ว น่ารัก
-
อ้ายยย
เขินนนนน
พี่คิวน่ารัก
-
:-[ :impress2: :o8:
ไม่ไหวแล้วอ่า เขินชะมัด
เหมือนตัวเองเป็นเค้กอยู่ก็ไม่ปาน :z1:
ขอบคุณเบบี้นะค้าบ ;-)
-
พี่คิวเรียกชื่อเค้ก!!!!!!!!!
จะได้นอนด้วยกันแล้ว....ฮี๊วววววววววววว
(ไม่ใช้พี่คิวนอนเตียงน้องเค้กนอนพื้นซะนะ 55555)
เหมือนพี่คิวถอดเสื้ออ่อยเค้ก กร๊ากกกกกกกกกกกกกก
-
กรี๊ดๆๆ พี่คิวถอดเสื้อโชว์มัยอ่ะ เดี่ยวเค้าก็กระโดดกัดคอเลยนี่ :z1:
น้องเค้กขา...พี่ขอซักจ๊วบก่อนได้มั๊ยอ่า
ปล. มัยคืนนี้น้องเค้กนอนด้วยไม่ได้อ่ะพี่ฟ้า เตียงไม่ว่างเหรอ มัยอ่ะ :confuse:
-
ตากุ้งยิงแน่หนูเค้กเอ๋ย
-
เค้กเก็บอาการไม่อยู่เลยนะ อิอิ :o8:
พี่คิวนี่ก็แกล้งๆ หยอกๆ >///<
-
พี่คิวชอบแกล้งอ่ะ
แกล้งแต่ล่ะอย่าง อายแทนเค้กเลย :-[
-
พี่คิวตกลงยังไงเนี่ยยยยย หมาหยอกไก่อยู่นั่นแหละ
-
ตามทันเเล้วววววววว :laugh: :laugh:
พี่คิวเป็นคนที่เข้าใจยาก เเต่ก็เข้าใจง่าย อืมๆๆๆๆๆๆ งงดี ฮ่าๆๆๆๆๆ
อ่านไปเขิลไป พี่คิวน่ารักที่สุดดดดดดดดดดดดดดด
-
พี่คิวววววววววว....อยากจะกีสใส่หูอิตาพี่คิว ช่างแกล้งน้องนัก
แต่ๆๆ ... ป้าก้อชอบ มันกวนประสาทแบบอบอุ่นอ่ะ อ๊างงงงงง
ปล.งวดนี้งดซื้อหวยเพราะเดาตอนต่อไม่ถูก =="
-
พี่คิวยั่วได้อีก!!
เด๋วนี้เท่จิงๆนะเนี่ย
ว่าแต่เค้กจะเขินบ่อยไปมั้ยย - -
-
ได้นอนด้วยกันแล้ว ตอนหน้าต้องมีซัมติ่งแน่ๆๆๆๆ
-
พี่คิววววววว จะยั่วน้องเค้กเหรอถอดเสื้อโชว์เนี๊ย อิอิ พี่คิวเป็นพวกขี้แกล้งเนอะ
-
ตามอ่านทันแล้วจ้า :L2: สนุกมากๆเลย
คิวไม่แสดงออกแบบชัดๆซะทีอะ แล้วกว่าจะได้บอกชอบจริงๆคงอีกนานแน่เลย
อ่านแล้วชอบอาฟ้า อยากอ่านคู่อากับทิกเกอร์บ้าง 555555
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ...แอร๊ยยย :-[
-
กรี๊ดดดดดดด พี่คิวทำไรอ่า
ไม่ไหวแล้ว เขินแทน
พี่คิวถอดเสื้อ แอบจิ้นไปไกล
กร๊าก บ้าไปแล้วตู :jul3:
:กอด1:
-
ทันแล้วววว ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายวัน 5555
พี่คิวน่ารักอะ ขี้แกล้งจัง
เขิลแทนเค้ก อิอิ
มาถอดเสื้อต่อหน้ามีใครบ้างไม่อาย 555
-
ก้าวไปอีกขั้นแล้ว เย้ๆๆ ได้เข้าห้อง 55
-
ตอนที่ ยี่สิบสาม เค้กอารมณ์ดี๊ดีเนอะ อยากทำได้แบบเค้กจัง โลกน่าจะสดใสมากๆ ชอบเค้ก หลงเค้ก อยากกินเค้กเซเวนเซ่น
-
อย่ามายั่วกันนะพี่คิว
เดี๋ยวเค้กก็เลือดกำเดาแตกกันพอดี :haun1:
-
อ่านๆๆๆๆๆ มาราธอน ตอนที่สามสิบเจ็ดแล้ว หนึ่งวันหนึ่งคืน ชอบเค้กที่สู้ด อารมณ์ดีถึงใหน
-
แว๊บเข้ามาดูอีกครั้ง
พี่เบบี้!!! มาต่อเร็วๆ นะค่ะ
ไม่ไหวๆ อยากอ่านจะตายแล้ววววววว
คิดถึงพี่คิวกับน้องเค้กกกกกกกกกกกก :serius2:
-
น่ารัก พี่คิวน้องเค้กทำเราฟินมาก
-
รอดูพัฒนาการของคิว กร๊ากกกกกก น่าสนใจชริงๆ
-
เพิ่งอ่านทัน สนุกมาเลยค่ะ
ทุกคนน่ารักมาก โดยเฉพาะเค้ก
คิวเค้ก ค่อย ๆ รักกันเบา เบา :กอด1:
-
พี่คิว...ขี้แกล้งอ่ะ
รู้ทั้งรู้ก็ยังล้ออยู่ได้ อายแทนเค้กเลย
อยากอ่านตอนหน้าเร็ว ๆ ไม่รู้จะนอนกันยังไง เค้กจะใส่เสื้อผ้าพี่คิวด้วยอ่ะ :-[
-
อ๊ายยยย .. พี่คิวก็ ชอบแกล้งเค้กจังเลยน้าาาา
เค้กน่ารักที่สุดเลยอ้ะ
-
ตามอ่านรวดเดียว โอ๊ยยยยยยยยยยย น่ารักมากกกกกกกกก
-
:z2: เต้นรอพี่คิววว
-
เล่นน้ำรอพี่คิวครับ
-
ชอบอ่เรื่องนี้ ติดตามๆ กดไลค์
-
จะลงแดงอีกแล้ว อ๊าคคคคคคคคคคคคคคคค
-
เข้ามาเต้น :z2: :z2:
:กอด1:
-
ข้างบนเต้นรออ
ส่วนเราจะรำรอเเล้วกันนนฮ่าๆๆๆ
-
~44~
~ฟู่..เราจะทำหน้าให้เป็นปกติเวลาที่ต้องสบตากับพี่คิวได้รึเปล่านะ ใช่ๆๆ..ได้อยู่แล้วล่ะ~
ผมเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างเงียบๆ พี่คิวยืนอยู่ตรงเตาทำอาหาร เหมือนพี่เขาจะรู้ว่ามีคนเดินเข้ามา พี่คิวหันมามอง ผมยิ้มให้แล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงเคาร์เตอร์กลางห้อง
“....................” เราทั้งสองคนเงียบ ผมยืนมองพี่คิวที่นำน้ำร้อนมาชงชาที่วางอยู่บนเคาร์เตอร์ตรงกลาง
“แล้ว ตกลง..เอ่อ เค้ก” ผมเขย่งขาไปมาแก้เก้อ
“เค้กต้องนอนนี่ งั้นเหรอครับ” สายตาผมจับจ้องไปที่แก้วโกโก้ของตัวเองที่ยังไม่ได้ใส่น้ำร้อน
“คงงั้น” พี่คิวตอบ
“แต่..แต่ไม่มีชุดนักศึกษาแล้ว” ผมบอก
“เดี๋ยวฉันจะเอาชุดไปให้ป้านิดจัดการเอง”
“งั้นเหร..”
“ทำไม” พี่คิวถาม
“เปล่า..แล้วเค้ก นอน ที่ไหน” ผมถามอีก เหลือบตาขึ้นมองอีกฝ่ายเป็นระยะ
“ถามมากซะจริง นายอยากนอนที่ไหนล่ะ” พี่คิวเลื่อนแก้วโกโก้มาให้ก่อนจะเลื่อนถาดที่วางห่อขนมมาใกล้ผมด้วย เรายืนใกล้กันมากขึ้น ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำจนผมไม่กล้าที่จะเอื้อมไปจับแก้วโกโก้ไว้ ผมกลัวว่าตอนนี้มือผมจะสั่นเหมือนกับหัวใจของผมที่กำลังเต้นอยู่ตอนนี้
“นอนที่ห้องรับแขกก็ได้” ผมบอก
“งั้นเหรอ” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงยโส
“หึ..ง่ายๆ ไม่เรื่องมากดีงั้นสิ”
“ใช่ เค้กไม่เรื่องมากเหมือนพี่หรอกน่า” อยู่ๆมือของผมผลักเข้าไปที่ตัวของพี่คิวโดยอัตโนมัติเพราะพี่คิวดันเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงพี่คิวหัวเราะในลำคอ
“แต่บ้านฉันไม่มีธรรมเนียมให้แขกนอนที่ห้องรับแขกน่ะนะ” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ ผมเงียบ พี่คิวก็เช่นกัน
“มือนายสั่น” อยู่ๆพี่คิวจับมือผมไป ผมจะชักกลับแต่พี่คิวกลับกำไว้แน่น
“พี่คิว..ปล่อยสิครับ” ผมพยายามดึงมือออก สายตาผมมองที่มือของเราและรับรู้ได้ว่าพี่คิวนั้นแข็งแรงเกินกว่าที่ผมจะยื้อแรงสู้ต่อ
“ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำ ช่วยยกชากับโกโก้ของนายใส่ถาด” พี่คิวปล่อยมือผมออก
“แล้วถ้าจะกินขนมอะไร ก็หยิบไปซะ..ตามสบาย” ผมยืมก้มหน้าเงียบ
“นี่..”
“ได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่า” พี่คิวถาม
“ครับ” ผมรีบพยักหน้าตอบ
“ยกขึ้นไปบนห้อง รอฉันที่ห้องทำงาน..ฉันจะอาบน้ำ เข้าใจที่ฉันพูดนะ” ห้องครัวเงียบมากแต่พี่คิวกลับพูดด้วยน้ำเสียงแทบกระซิบ ผมรู้สึกว่าตัวเองร้อนผ่าวไปทั้งตัวที่เสียงนั้นผ่านเข้าโสตประสาท
“ฮะ..” ผมตอบ
“ถ้านายจะก้มหน้าไปมากกว่านี้ คอนายอาจจะหักเอาได้นะ”
“พี่ก็ไปสักทีสิ” ผมเงยหน้าขึ้นและผลักพี่คิวออก พี่คิวแสยะยิ้มตอบให้ก่อนจะเดินออกจากครัวไป
“บ้า” ผมว่าส่งท้าย “บ้า” ผมบ้าหรือพี่คิวบ้ากันแน่นะ เขินเป็นบ้าเลย..ได้แกล้งเรา สนุกมากนักรึไงกัน..ไอ้บ้า !
หลังจากนั้นผมยกโกโก้ ชาและคุกกี้ขึ้นไปบนห้องพี่คิวด้วย ผมนำมันไปวางไว้ที่โต๊ะกลางโซฟา ระหว่างที่รอพี่คิวอาบน้ำ ผมย่องเข้าไปในห้องนอนของพี่คิวเพื่อที่จะไปเอากระเป๋าเป้ที่วางไว้ในห้องนั้น ผมเข้าไปเพื่อหยิบหนังสือและแฟ้มเรียนนำมันออกมานั่งรอที่ห้องทำงานของพี่คิว ผมนั่งจิบโกโก้ร้อนไปพลาง ในห้องเงียบมาก ผมไม่กล้าหยิบจับอะไรได้เพียงแค่มองเท่านั้น ไม่ถึงยี่สิบนาทีพี่คิวก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดหัวพาดอยู่บนไหล่ เสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีขาว ผู้ดี้ผู้ดี..ชิ
“เชิญนั่งได้เลยครับ ทำตัวตามสบายนะ” ผมพูดหยอก พี่คิวนั่งลงบนโซฟา ส่วนผมนั่งอยู่บนพื้นพรม
ก๊อก !
“ง่ะ..” ผมลูบหัวตัวเองที่โดนพี่คิวนำปากกามาเคาะเข้าที่หน้าผาก
“นี่” ผมวางสมุดลงตรงหน้าพี่คิว พี่คิวเหลือบมองตาม
“......................” พี่คิวเพ่งไปที่สมุดนั่นอย่างตั้งใจ
“เอ่อ เค้ก..เปิดทีวีได้ไหมฮะ” ผมยิ้มแหย พี่คิวพยักหน้าตอบ ผมรีบลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินไปเปิดโทรทัศน์
“เอ่อ คือ..เปิดไงครับเนี้ย” ผมจ้องโทรทัศน์ด้วยอาการตะลึง เครื่องเสียงนู่นนี่เต็มไปหมด รีโมทวางเรียงอยู่สี่ห้าอันจนผมไม่รู้ว่าจะต้องหยิบอันไหนก่อน
“ฮื้ม” พี่คิวถอนหายใจและลุกขึ้นเดินมาหาก่อนที่จะกดเปิดโทรทัศน์ให้
“ขอบคุณครับ” ผมรับรีโมทที่พี่คิวยื่นมาให้และเดินกลับมานั่งที่เดิม ผมนั่งมอง พี่คิวหยิบปากกาที่วางอยู่ใกล้มือไปเคาะกับโต๊ะก่อนจะขีดๆเขียนๆลงที่สมุดของผม ผมนั่งมองลายมือของพี่คิวอย่างเงียบๆ
ตื๊ด ๆ ๆ
พี่คิวเหลือบมองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมมองตามและเห็นชื่อคนโทรเข้าโชว์อยู่บนหน้าจอ ถ้าผมมองไม่ผิด นั่นคงจะเป็นสายจากพี่ฝัน พี่คิวหันกลับมามองหน้าผม ผมชะงักและหันหน้าหนีทำเป็นก้มลงอ่านหนังสือตรงหน้าแทน
“ครับ..ว่าไง” พี่คิวกดรับสาย ผมยังคงนั่งจ้องหนังสืออย่างไม่วางตา อยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นและเดินไปคุยอีกมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งมันค่อนข้างไกลพอสมควรทำให้ผมไม่ได้ยินอะไรเลย จนพี่คิวเดินกลับมา ผมหันความสนใจไปดูโทรทัศน์บ้าง ตอนนี้ทุกอย่างมันเงียบมากจนผมรู้สึกว่ามันไม่ปกติ ผมเองที่ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไป ผมรู้ดี..เพราะผมเอง
“อันนี้ทำด้วยรึเปล่า” พี่คิวถามขึ้น ผมหันกลับไปมอง
“ทำครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“แต่..ลายมือของพี่น่ะ มันดูออกว่าเป็นลายมือพี่นะ ที่จริง..” ผมพูด พี่คิวหยุดเขียนและจ้องผมเขม็ง
“พี่ควรจะเขียนใส่กระดาษแผ่นนี้ แล้วช่วยเขียนให้มันเป็นตัวภาษาอังกฤษแบบคนปกติด้วยได้ไหมครับ ตัวเขียนแถมหวัดขนาดนั้นน่ะ เค้กอ่านไม่ออกหรอก..” ผมเลื่อนกระดาษเอสี่ไปให้แทนพร้อมกับบ่นลายมือตัวเขียนภาษาอังกฤษหวัดๆนั่นของพี่คิวด้วย
“ไม่พูดตอนที่ฉันทำเสร็จแล้วเลยล่ะ” พี่เขาว่า
“ก็ดูพี่ทำหน้าเครียดดดด..อยู่ตลอดเวลาเลยนี่ฮะ” ผมทำเสียงลากยาวและทำหน้าทำตากวนใส่ เพียงแค่อยากให้เรากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
“.....................” พี่คิวจ้องผมเขม็ง
“อ่ะ..อะไรล่ะฮะ ก็แค่ล้อเล่นอ่ะ” ผมหยิบแก้วโกโก้มากินแก้เก้อ
ก๊อก !
“เคาะอีกละ หัวคนนะครับไม่ใช่โต๊ะนี่สักหน่อย เคาะอยู่ได้” ผมบ่นหน้างอ
“หึ..เคาะเยอะๆ สมองนายจะได้ไม่ตันไง”
“การบ้านแค่นี้ ทำเองไม่ได้รึไง” พี่คิวว่า หันกลับไปจ้องที่หนังสือการบ้านของผมอีกครั้ง
“เค้กเป็นใคร..เค้กเด็กทุนนะ งั้นเค้กทำเองก็ได้ ก็พี่บอกว่าจะช่วยหรอกนะ..เค้กถึงให้ทำน่ะ” ผมดึงสมุดกลับมา
“เอ้..” ผมร้องเพราะพี่คิวดันยื้อสมุดไว้ไม่ยอมปล่อย
“เค้กทำเองได้ ปล่อยสิ”
“พูดมากจริง น่ารำคาญ” พี่คิวขมวดคิ้วด้วยสีหน้าที่เป็นอย่างปากบ่น
“.....................” ผมชะงัก ปล่อยมือออกจากสมุดของตัวเอง ก็รู้ว่าพี่คิวเพียงแค่ว่าผมเล่นๆแต่ผมกลับรู้สึกแย่ขึ้นมานิดๆที่ได้ยิน
“.....................”
“อะไร” พี่คิวถามเสียงห้วน วางปากกาและสมุดลงบนโต๊ะ
“เปล่าครับ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงปกติ
“แล้วทำหน้าแบบนั้นทำไม” พี่เขายิงคำถามอีก ใจผมเริ่มเต้นแรงอีกครั้งเมื่อรู้ว่าพี่คิวสังเกตเห็น
“ทำหน้าแบบไหน ไม่ได้ทำสักกะหน่อย” ผมเงยหน้าขึ้นสบตาพี่คิวเพื่อเป็นการย้ำความจริง
“งั้นเหรอ” พี่คิวเลิกคิ้วด้วยท่าทางไม่กระหยี่
“จะทำเอง..รึให้ฉันทำ รึจะให้ฉันสอน”
“ทำเองก็ได้เหอะ” ผมพูด
“ทำปากยื่นปากยาวทำไมน่ะ โกรธรึไง”
“ไม่ได้โกรธครับ” ผมขึ้นเสียงอย่างลืมตัว
“หึ..”
“หัวเราะอะไร” ผมว่า เหล่สายตามองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจบ้าง
“หาเรื่อง” พี่คิวว่ากลับ
“เปล่าหาเรื่องสักหน่อย พี่ก็ชอบทำหน้าทำตาเหมือนกันแหละ” ผมว่าตอบอีก
“นายว่าฉันอย่างนั้นเหรอ” พี่คิวถามกลับด้วยหน้าตาหาเรื่อง
“เปล่าว่า” ผมตอบ
“นายว่า”
“เค้กเปล่า” ผมย้อนอีก
“เป็นเด็กที่ชอบเสียมารยาทไม่หายสินะ” พี่คิวแสยะยิ้มด้วยสีหน้ากวนๆ
“พี่มารยาทดีตายอ่ะ” ผมว่าแล้วเบะปากใส่
“เอ๊ะ!” ผมร้องและเอนตัวหลบในทันทีด้วยความตกใจ ด้วยอยู่ๆพี่คิวก็เอาหน้าเข้ามาใกล้หน้าของผม
“หึ..” พี่คิวอมยิ้มและเอนตัวกลับ
“ตกใจอะไรไม่ทราบ”
“แล้วพี่จะชะโงกหน้าเข้ามาทำไมล่ะ” ผมว่าหน้างอ ใจหายหลุดลอยไปที่ไหนแล้วก็ไม่รู้..ตกใจหมดเลยครับ
“ทำไม..นายนึกว่าฉันจะทำอะไร” พี่คิวแสยะยิ้มอย่างกับมีความสุขก็ไม่ปาน
“ก็ ไม่ได้คิด” ผมเหสายตาหนี
“ไม่ได้คิด” พี่คิวย้ำเสียง
“แล้วตกใจทำไม หึ..ติงต๊องชะมัด” พี่คิวหัวเราะร่วน
“อะไร บอกว่าไม่ได้คิดก็ไม่ได้คิดไงฮะ” ผมกลับมานั่งในท่าเดิม และชูหน้าชูตาเข้าไปใกล้พี่คิวอย่างเย้ยๆบ้าง
“อ๊ะ..” ผมร้องเสียงหลงในทันทีเมื่อพี่คิวแกล้งเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกแล้ว ผมนั่งตัวแข็งด้วยความตกใจ ตาเบิกโตด้วยความตกตะลึงเพราะเมื่อกี้หน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันมากกว่าครั้งแรกเสียอีก
“หึ..หึหึ นายนึกว่าฉันจะจูบนายรึไงกัน” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ ผมอึ้ง รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวกับคำพูดนั่น รอยยิ้มนั่นเหมือนกำลังอ่านความรู้สึกผมออกทั้งหมด และในขณะเดียวกันผมกำลังรู้สึกแย่
“ใช่สิ..ไม่จูบหรอก คนอย่างพี่น่ะ” ผมก้มหน้าก้มตามองแก้วโกโก้ของตัวเอง
“แล้วพี่จะมาจูบเค้กทำไม แล้วทำไมเค้กต้องคิดว่าเค้กอยากให้พี่จูบด้วย” ผมไม่รู้ว่าผมพูดพร่ำออกไปแบบนั้นทำไม อีกอย่างประโยคมันไม่เห็นจะตามน้ำไปด้วยกันเอาซะเลย..ผม แย่จัง
“พี่เป็นใครกัน เค้กไม่ได้แคร์สักหน่อย”
“ไม่ได้คิดอะไรเลยด้วย พี่แหละหลงตัวเอง..เค้กน่ะ ไม่ได้คิดอะไ..อื้อ” o__O
“....................” ผมคงฝันไป แต่ไม่ใช่..นี่ไม่ใช่ความฝัน ปากของเรากำลังชนกัน ปากของพี่คิวกับปากของผม ถ้าเป็นภาษาผู้ใหญ่หน่อยเรียกว่าอะไรนะครับ ประกบปาก หรือว่าเอ่อ..จูบ ตอนนี้พี่คิวกำลังจูบผม เราจูบกัน
ผมเงยหน้าขึ้น ตาโตมองอีกฝ่ายที่เริ่มเผยปากออกอย่างช้าๆ หน้าเราห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นเท่านั้น จมูกของพี่คิวชนอยู่กับปลายจมูกของผม ผมได้กลิ่นของพี่เขา มันเป็นกลิ่นจากสบู่กลิ่นเดียวกันกับกลิ่นของผม ผมเม้มปากเข้าหากัน ใจผมเต้นอย่างกับเสียงกลองตีรวนเหมือนมันจะหลุดออกมาจากอกซะให้ได้
“......................” พี่คิวมองตาผม และตอนนี้ผมละจากสายตาคู่นี้ไปไม่ได้เช่นเดียวกัน ผมกำลังรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน หูผมอื้อไปหมด แถมพี่คิวยังไม่ยอมกลับไปนั่งอย่างเดิมอีกด้วย
“หลับตาสิ” เสียงกระซิบแผ่วเบาแต่กลับเป็นเหมือนคำสั่งที่เด็ดขาดสำหรับผม เมื่อได้ยินอย่างนั้น ผมจึงหลับตาลงในทันที
“พี่..” สิ้นเสียงของผมเพียงนิดเดียวพี่คิวกลับประกบจูบผมอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าทำไม จูบของพี่คิวช่างอ่อนโยนได้มากขนาดนี้ ที่จริงผมไม่รู้ว่าแบบนี้สามารถเรียกว่าจูบแบบอ่อนโยนได้หรือเปล่า นี่เป็น..นี่เป็นจูบแรกของผม ผมไม่สามารถนำมันไปเปรียบเทียบกับรสอื่นใดได้ พี่คิวจูบผมอยู่นานพอที่จะทำให้ผมรู้สึกว่าผมรับรู้ได้ถึงรสชาจากปากของพี่คิว และรสจูบนั้นช่างนุ่มนวลเกิดกว่าจะบรรยาย
“อื้อ” ผมร้องเพราะรู้สึกหายใจไม่ออก และก็ต้องชะงัก รู้สึกเหมือนเมื่อกี้ตัวเองได้ทำเสียงประหลาดออกไป ผมปิดปากตัวเองทันทีเมื่อเราเผยปากออกจากกัน หน้าของเราสองคนยังคงอยู่ใกล้กันมาก ผมผลักพี่คิวออกเบาๆเมื่อได้สติกลับมา พี่คิวเอนตัวกลับไปนั่งอย่างเดิม มือของผมสั่นจนผมไม่รู้จะเอามันไปวางไว้ตรงไหน เพียงแค่เอามือมาลูบหน้าลูบตาก็รับรู้ได้อีกว่ามือของผมนั้นเย็นและมีเหงื่อออกเต็มมือไปหมด
“คือ เค้ก..เค้ก” ผมพยายามเรียบเรียงคำพูด
“เอ่อ ฉัน..โทษที” พี่คิวพูดไม่ได้หันมามองหน้าผม
“.....................” ผมก้มหน้าลง เราต่างฝ่ายต่างเงียบ
“เค้ก..เค้กขอตัวไปนอนก่อนนะฮะ” ผมบอกตะกุกตะกักและลุกขึ้นทันที ผมไม่ได้หันกลับไปมองพี่คิวอีก ผมไม่รู้ว่าพี่คิวอนุญาตให้ผมเข้าไปนอนในห้องนอนของพี่คิวรึเปล่า แต่ตอนนี้ขาผมสั่งการให้เดินตรงเข้าไปในนั้นแล้ว
ปั้ง !
เสียงประตูที่ผมเผลอปิดแรงไปหน่อยทำให้ผมเองต้องสะดุ้ง..
“เฮ้อ..บ้าจริง” ผมทรุดนั่งลงกับประตู
~จูบ เมื่อกี้เป็นจูบจากพี่คิว เราจูบกัน ไม่สิ..พี่คิวจูบเรา จูบแรก..จูบไปแล้ว ทำไปแล้ว นี่มัน..บ้าจริง~
= = = = = = = =
-
ผมลืมตาตื่น ตามองเพดานที่ถูกตกแต่งด้วยโคมไฟสวยบนนั้น หลังจากนั้นภาพของเมื่อคืนเริ่มเรียงมาตามลำดับ เสียงหัวใจเริ่มเต้นถี่อย่างกับเรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้นไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว พอได้สติผมจึงหันไปที่ที่นอนข้างๆ ไม่มีพี่คิวอยู่ด้วย ที่จริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อคืนพี่คิวกลับมานอนในห้องนี้ด้วยรึเปล่า เพราะผมคงหลับไปก่อน แต่คงจะไม่ได้เข้ามานอนด้วยเพราะเตียงยังคงเรียบ นาฬิกาที่ผนังตรงปลายเตียงบอกเวลาเกือบเจ็ดโมงครึ่ง วันนี้ผมมีเรียนสิบโมงครึ่ง เวลาคงจะพอให้ผมเตรียมตัวจัดการกับตัวเองในเช้านี้ ผมลุกขึ้นจากเตียง สายตาไปเตะเข้าที่รูปภาพที่วางเรียงรายอยู่ที่มุมห้อง
“นี่..คงเป็นคนรักของพี่คิวสินะ” ผมเดินเข้าไปใกล้กรอบรูปนั่นมากขึ้น มีรูปคู่ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับพี่คิวเต็มไปหมด เขาทั้งสองคนดูรักกันดีมาก พี่คิวยิ้มไม่กว้างเท่าไหร่นักแต่ก็ยิ้มเกือบทุกรูป สายตาที่มองผู้หญิงคนนี้อย่างอ่อนโยนยิ่งทำให้ผมกลับมาสู้โลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง เธอเป็นคนสวย ตาหวานและดูมีความมั่นใจในตัวเองสูง ผมรับรู้ได้ทั้งๆที่แค่เพียงเห็นในรูปเท่านั้น
ผมเงยหน้าขึ้นมองที่ฝาผนัง มีกระดานไม้ติดอยู่กว้างมาก ผ้าลายลูกไม้สีเขียวแก่ปิดมันไว้ มันอยู่สูงพอดูเหมือนไม่ต้องการให้ใครเปิด ด้วยความอยากรู้ ผมเขย่งเท้าและเอื้อมขึ้นเปิดผ้านั่น
~You are my love. Love what you love~
“หึ..” ผมหัวเราะให้กับภาพตรงหน้า บนกระดานไม้แปลกตานี่มีรูปผู้หญิงคนนี้เต็มไปหมด มันย้ำบอกให้ผมเชื่อได้ว่าเธอคนนี้คือผู้หญิงที่ชื่อ “ปราย” แน่ๆ รูปของเธอที่กำลังยิ้ม หัวเราะ หน้าเศร้า กำลังทำงาน พิมพ์งาน เล่นเปียโน เล่นไวโอลิน หรือแม้กระทั่งกำลังนอนอยู่ถูกแปะไว้เต็มกระดานไปหมด
ก๊อก ๆ ๆ
ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูและรีบปิดผ้าเข้าอย่างเดิมอย่างลวกๆ
“ขอโทษค่ะคุณเค้ก ป้านิดเองนะคะ” ป้านิดพูด
“ครับ” ผมรีบวิ่งไปเปิดประตูห้อง
“คุณฟ้าให้มาตามลงไปทานอาหารเช้าน่ะค่ะ” ป้านิดยิ้มบอก
“เอ่อ ครับ..แต่เค้กยังไม่ได้อาบน้ำเลย” ผมบอกอย่างเกรงใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณฟ้าก็ยังไม่ได้อาบเหมือนกัน” ป้านิดยิ้ม
“ล้างหน้าแปรงฟันก็ลงไปได้เลยนะคะ คุณๆรออยู่แล้วค่ะ” ป้านิดย้ำ
“ครับ เค้กจะรีบลงไป..ขอบคุณมากครับ” ผมยิ้มตอบ ป้านิดก้มหัวให้ก่อนจะเดินออกไป ผมเดินกลับเข้ามาในห้องน้ำ ใจเหมือนหลุดลอยออกไปไกล มันหวิวๆแปลกๆ ระหว่างที่แปรงฟันอยู่ดูเหมือนวันนี้โลกนี้ช่างมืดมนสำหรับผมเสียเหลือเกิน
“เชิญจ้ะเค้ก” พี่ฟ้ายิ้มต้อนรับ พี่คิวนั่งอยู่ ผมเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับพี่คิว ส่วนพี่ฟ้านั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ
“เป็นไง หลับสบายไหม” พี่ฟ้าถาม
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ ไม่กล้าหันไปมองพี่คิว พี่ฟ้าเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ
“แล้วมีเรียนกี่โมง” พี่ฟ้าถามอีก
“สิบโมงครึ่งครับ” ผมตอบ
“งั้นเดี๋ยวให้คิวไปส่งแล้วกันนะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ เค้กไปเองได้” ผมรีบบอก
“เดี๋ยวฉันไปส่ง ต้องไปทำงานพอดี” พี่คิวพูดขึ้น
“.....................” ผมเงียบและพยักหน้าเป็นการเข้าใจ
“แฮะๆ โอเค..ตามนั้นแล้วกัน ป่านนี้เขียวคงเอาเสื้อผ้าขึ้นไปเตรียมไว้ให้แล้วแหละ ทานข้าวเสร็จก็ไปอาบน้ำแต่งตัวซะนะ ไอ้คิวมันอาบแล้ว” พี่ฟ้าบอก ผมหันไปมองพี่คิว พี่เขาอาบน้ำแต่งตัวแล้วจริงๆด้วย เราว่าเราตื่นเช้าแล้ว พี่คิวตื่นเช้ากว่าเราอีกเหรอเนี้ย..
“ครับ” ผมยิ้มให้พี่ฟ้า
“เชิญๆ” พี่ฟ้าบอก เราลงมือทานอาหารเช้ากันอย่างเงียบๆ พี่คิวไม่พูดอะไรเลย พี่ฟ้ายิงคำถามให้พี่คิวบ้างเป็นระยะ พี่คิวตอบเพียง “อืม” “ใช่” “ครับ” แค่นี้เท่านั้น นอกนั้นจะเป็นพยักหน้าตอบเสียเยอะ ส่วนผมเลยต้องยิ้มพูดกับพี่ฟ้าไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแทน
ตลอดทางที่พี่คิวมาส่งผม พี่คิวไม่พูดอะไรเลยสักคำ พอพี่คิวไม่ยอมพูดอะไรยิ่งทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะเปิดปากพูดด้วย
“ขอบคุณครับ” ผมบอกเมื่อถึงที่หมายแล้ว พี่คิวเพียงแค่พยักหน้าตอบ ผมลงจากรถและไม่ได้หันกลับไปมองที่รถของพี่คิวอีก..
“เรียน เรียน เรียน!” ผมย้ำพูดกับตัวเอง..
“ทำไม..” ผมชะงัก ทำไมอยู่ๆผมถึงรู้สึกเจ็บที่หน้าอกขึ้นมา ผมหยุดเดินและกำลังรับรู้ความรู้สึกของตัวเองทั้งหมดจนไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ
“หึ..เจ็บจัง”
= = = = = = = =
วันเสาร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“อยู่ไหนวะ” ผมชะงัก หันกลับไปมองพี่เซ็นที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยความสนใจ วันนี้พี่คิวไม่ได้มาทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว หลังจากที่พี่คิวไปส่งผมที่มหาลัยเมื่อวานผมก็ไม่ได้คุยกับพี่คิวอีกเลย และไม่กล้าเอ่ยถามพี่เซ็นหรือพี่ฟ้าด้วยว่าทำไมพี่คิวถึงไม่มาทำงาน พี่เซ็นนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว
“อืม อืม..มึงโอเคนะ” พี่เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง สีหน้าพี่เซ็นไม่ดีเท่าไหร่ ผมแต่งตัวไปด้วยและมองพี่เซ็นไปพลาง จนพี่ซีสังเกตเห็นว่าผมมองพี่เซ็นอยู่ ผมจึงต้องหันหลังและหันมาแต่งตัวอย่างจริงๆจังๆแทน
“คิว” พี่เซ็นพูดพลางถอนหายใจ
“กูเข้าใจนะ แต่ว่ามึง..” พี่เซ็นพูดทิ้งน้ำเสียงลงกะทันหันเหมือนกับปลายสายพูดแทรกขึ้น
“หึ..ไอ้เวร กูเป็นห่วงหรอก อืม..รู้แล้ว ครับผม..บาย” พี่เซ็นพูดปนหัวเราะก่อนจะตัดสายไป
“ครับ” พี่เซ็นเลิกคิ้วมองหน้าผมอย่างสงสัย ผมสะดุ้งและยิ้มแหยแทนคำตอบ
“เค้กขอตัวนะครับ” ผมบอกและจะเดินหนีเพราะพี่ซีกำลังจ้องหน้าผมอยู่
แกรก~
“......................” ผมชะงักกับคนตรงหน้าที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา
“สวัสดีค่ะพี่ฝัน” พี่ซียกมือไหว้เธอ อยู่ๆในห้องกลับเงียบกริบ
“คิวอยู่ไหน” พี่ฝันมองหน้าผมเขม็ง
“ไม่ทราบครับ” ผมส่ายหัวตอบ จากที่เมื่อกี้กำลังจะยกมือไหว้เป็นการทักทายแต่ก็ต้องทิ้งมือลงในทันทีเพราะยังไม่ทันจะได้ไหว้ก็ถูกยิงคำถามซะก่อนแล้ว
“คิวไม่อยู่หรอก ฝันก็น่าจะรู้ว่าทำไมถึงไม่อยู่” พี่เซ็นพูดขึ้น ผมหันกลับไปมอง
“แล้วอยู่ไหนล่ะ ฝันรู้ว่าเซ็นรู้” พี่ฝันหันไปมองหน้าพี่เซ็น สีหน้าเครียดระหว่างพี่ทั้งสองคนทำให้ผมพอจะรับรู้ได้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“ก็เหมือนเดิม คิวมันไม่ให้บอกใคร” พี่เซ็นตอบด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“แต่ฝันต้องการจะรู้ เซ็นก็รู้..ว่าตอนนี้ฝันกับคิวไม่เหมือนเดิม” พี่ฝันโวยวาย
“ยังไง” พี่เซ็นพูดพร้อมกับลุกขึ้น คิ้วของพี่เขาเริ่มขมวดเข้าหากัน
“เซ็น!” พี่ฝันตะคอก
“ฝัน..หยุดสักพักได้ไหม ตลอดมาฝันเป็นคนที่เข้าใจไอ้คิวมันดีไม่ใช่รึไง ถ้าสถานะระหว่างฝันกับคิวจะเปลี่ยนไป ฝันก็ต้องรับให้ได้ด้วยที่ไอ้คิวมันยังจะจมปรักอยู่แบบนี้” พี่เซ็นพูดหน้าเครียดและพยายามข่มน้ำเสียงลง
“.......................” พี่ฝันเงียบไป ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆจากพี่เซ็น
“เซ็น..ขอร้องล่ะ” พี่ฝันพูดด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“ฝันเป็นห่วงคิว”
“เซ็นก็เป็นห่วงมัน แต่คิวมันโตแล้วนะฝัน มันดูแลตัวเองได้..ฝันไม่ต้องกลัวว่าไอ้คิวมันจะหนีหรอกนะ เดี๋ยวมันก็กลับมา กลับมาเหมือนทุกครั้งไง” พี่เซ็นพูดพร้อมกับยิ้มให้พี่ฝันน้อยๆ
“ฝันก็รู้ใช่ไหม..ว่าการที่จะต้องอยู่เคียงข้างคิวน่ะ ฝันต้องละทิ้งอะไร..และต้องเข้าใจอะไร”
“เซ็นต้องไปทำงานแล้ว ใจเย็นๆน่า..นะครับ” พี่เซ็นเดินเข้าไปลูบหัวพี่ฝันอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินออกไป
“......................” ผมชะงักด้วยอยู่ๆเธอกลับหันมามองผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ ผมหลบตาเธอและจะเดินหนีออกมา สมองของผมกำลังตื้อไปหมด คำพูดระหว่างพี่ฝันกับพี่เซ็นเมื่อกี้กำลังทำให้สมองผมทำงานไม่ปกติ
“เดี๋ยว” ผมหยุดเดิน
“เธอรู้ไหมว่าคิวอยู่ไหน” พี่ฝันถาม ผมหันไปมองหน้าพี่ซีอย่างขอความช่วยเหลือ
“ไม่รู้ครับ” ผมตอบ ผมแน่ใจอย่างมากว่าเธอถามผม ถ้าพี่เขาถามพี่ซีคงจะไม่ใช้คำพูดและน้ำเสียงแบบนี้
“แน่ใจนะว่าเธอไม่รู้” พี่ฝันย้ำพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ครับ ผมจะไปรู้ได้ยังไง..แค่ที่พวกพี่พูดกันเมื่อกี้ ผมยังไม่เข้าใจเลยว่าคืออะไร” ผมว่า
“หึ เธอไม่เข้าใจอย่างนั้นเหรอ..หน้าซื่อซะจริงนะ” พี่ฝันแสยะยิ้ม
“ผมขอตัวครับ” ผมบอกเพราะผมคงต่อสู้กับคำพูดของเธอไม่ไหวแน่ๆ สุดท้ายถ้าผมยังยืนอยู่ ผมเองนั่นแหละที่จะโดนตอกย้ำความจริงด้วยคำพูดของเธอ
“เค้ก” พี่ซีเรียก
“เธอไม่มีทางจับคิวได้หรอก แค่ฉันเห็นสายตาของเธอฉันก็รู้แล้วว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่” คำพูดของพี่ฝันทำให้ผมที่แทบจะเดินถึงประตูห้องอยู่กลับต้องหยุดชะงักลง
“เธอรู้ไหมว่าทำไมวันนี้คิวถึงหายไป เธอรู้ไหม..หึ เธอไม่รู้หรอก” พี่ฝันหัวเราะเหมือนสะใจซะเต็มประดา เธอรู้ รู้ความรู้สึกและความคิดของผมทุกอย่าง..น่าสมเพชชะมัด
“ใช่ครับ..ผมไม่รู้ ถ้าพี่คิวไม่บอก ผมก็จะไม่อยากรู้..ไม่เป็นไร” ผมหันหน้ากลับไปตอบเธอ พี่ซีเดินหน้าเสียเข้ามาจับแขนผมไว้
“พี่ฝันคะ พี่ฝันคงกำลังเข้าใจอะไรผิด” พี่ซีพูด
“ไม่ผิดหรอกจ้ะน้องซี ไม่ผิดแน่นอน” พี่ฝันยิ้ม จ้องหน้าผมเขม็ง
“......................” เราทั้งสองเงียบลงและได้แต่ยืนจ้องหน้ากัน
“วันนี้เป็นวันที่ปรายเสีย คิวมักจะหายไปแบบนี้ทุกๆปี คนที่รู้ว่าทำไมคิวถึงมักจะหายไปในวันนี้ทุกๆปีมีเพียงฉัน..เซ็นและอาฟ้า” พี่ฝันลดน้ำเสียงเย็นลง
“เธอรู้ตัวแล้วรึยังว่าที่จริงเธอมันไม่สำคัญ”
“ถ้าพี่คิดว่าผมไม่สำคัญ แล้วพี่จะมายืนว่าผมแบบนี้ทำไมครับ” ปากของผมพูดไปอย่างนั้นเอง ทั้งๆที่จริงแล้วในใจผมกำลังรู้สึกแย่กับคำพูดของพี่ฝันอยู่เต็มอก อันที่จริงทั้งหมดนั่นมันเป็นความจริงเกินไป
“นี่เธอ!” พี่ฝันขึ้นเสียง เธอเบิกตาโต
“ที่จริง..พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ว่าตอนนี้พี่คิวอยู่ที่ไหน หรือที่จริง..พี่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย” ผมบอกเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไอ้เด็กบ้า!!” พี่ฝันง้างมือทำท่าเหมือนจะตบผม ผมรู้ดีว่าคำพูดนี้ช่างร้ายกาจและผมยอมให้ตบแต่โดยดีด้วย มันคงจะเป็นคำพูดที่ทำให้เธอนั้นเจ็บปวดมาก
“พี่ฝันคะ” พี่ซีเข้ามากันไว้
“ห้ามทำอะไรเค้กนะคะ เค้กคือเด็กในร้าน เราให้มาลงไม้ลงมือกันแบบนี้ไมได้หรอกค่ะ” พี่ซีพูด
“น้องซี”
“ซีขอโทษค่ะ เค้ก..ออกไปก่อน” พี่ซีหันมาบอกผม
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบและเดินออกมาจากห้อง..
...............>>>><<<<................
-
เอิ่ม!! เค้าจูบกันไปแล้วอ่ะ :-[
-
จิ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ตอนจูบกันนี่ทำเอาม้วนไปแปดตลบ พอต่อมาก็ทำเอาคิ้วขมวดเลย กริ๊ด พี่คิวหายไปไหน
เค้กตอกอิพี่ฝันซะบ้าง สะใจมากอ่ะ o13
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
:จุ๊บๆ: จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ เค้าจูบบบบบบบบบกันแว้วววววววว ดีใจขนาดดดดดด
พี่คิวหนุ่มโรแมนติก น่าค้นหาจริงๆอ่ะ ชักอยากอยู่ใกล้ๆ จะได้ค้นใจเธอว์แล้วสิ (((เพ้ออออเลยตู)))
แต่ว่านะนังคุณพี่ฝันง่ะ :beat: เอาออกมาแค่เน้พอนะไอ้น้องบี้ ขอร้องงงงงง เสียรมณ์ง่ะ (คนอ่าน)กำลังจิ้นหวานเลย
ขอบคุณนะไอ้น้องบี้ อ่านตอนนี้มีความสุขมากมาย
+++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
โอยยยยย เจ็บจี๊ดแทนน้องเค้ก มาๆๆ เดี๋ยวพี่ตบให้ยัยฝันนรกเนี่ย
แล้วพี่คิวน่ะ จูบเขาแล้ว จะเงียบหาอะไรค๊า ธ่อออ
-
เริ่มเรื่องรู้สึกดีมาก แต่ตอนท้ายเรื่องแทบอยากจะกระทืบอีนังฝัน
แต่ก็สะใจที่เค้กตอกกลับไปอย่างนั้น
บางครั้งก็รู้สึกเจ็บแทนเค้ก เพราะไม่รู้ว่าคิวคิดยังไงกะตัวเอง
คิดแ่ค่ว่าอยากจะลืมปรายหรือป่าว ถึงมาทำกะเค้กแบบนี้
ไม่รู้ความคิดของคิวจริงๆ อยากรู้จังว่าคิวคิดอะไรอยู่
แล้วตอนนี้คิวอยู่ที่ไหน เอ๊ะ หรือว่าเราไม่ใช่คนสำคัญ คิวถึงไม่ได้บอก 555555
-
เรื่องราวมาถึงจุดพีคแล้วววววววววววว
เสียจูบแรกให้กับพี่คิวไปละ พี่คิวเอ๊ย
จะรู้ใจตัวเองได้รึยังเนี่ย
เค้กทำดีและ ตอบโต้บ้างอะไรบ้าง
ว่าแต่พี่คิวมันโตแล้วนะเนี่ย จะหลบปัญหาอะไรนักหนาวุ้ย :เฮ้อ:
-
สงสารเค้กจัง ความรู้สึกของเค้กมันหน่วงๆป่ะ
หวังว่าคิวจะทำอะไรที่ชัดเจนซักที
-
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อยากโดนพี่คิวจูบบ้างอ่ะ 55 :haun4:
-
:impress2:ให้กับ ฉากจูบ
:sad4:เพราะสงสารเค้ก
-
จูบแล้วอ้ะ :o8:
แต่พี่คิวก็ยังดูเป็นคนมีซำติงอยู่
รอลุ้นต่อไป อิอิ o13
สวัสดีปีใหม่ไทยนะคะ
-
พี่คิวดูสนใจเค้กใช่ม๊า ฝันเลยร้อนตัวม่กมาย
-
สงสารเค้กนะ ถ้าพี่คิวจะยังฝังใจกับปรายขนาดนั้น
ก็ไม่ควรจะล้อเล่นกับความรู้สึกของเค้กแบบนี้นะ
-
ตอนต้น...กรี๊ดร้อง เขินอาย *3*
ตอนกลาง...เริ่มใจเสีย...แม่ง..ไม่คุยกันเลย
ตอนท้าย...ฮึม อยากตบอีฝัน อยากกระทืบพี่คิว
อ่านจบตอน...จบไวจังวะ ตอนมันสั้นหรือเราอ่านเร็ว - -"
ตอนเดียวหลายอารมณ์
รักเบบี้...
:กอด1:
-
อีฝันนี่จะเอายังไงกับมันดีเนี่ย น่าจับมาตบๆๆๆๆๆ สักฉากใหญ่ๆ จริงๆ
-
:sad4:อ้า ดุเดือนอย่างแรง มาต่อเร็วๆนะครับ :haun4:
-
...นั่นสินะ คนไม่รู้ก็คือคนไม่สำคัญสินะ ...แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก
...บางครั้ง เค้าก็ไม่อยากให้คนสำคัญ ต้องลำบากใจ คิดมากและไม่มีความสุข ต่างหากล่ะ
...เริ่มเข้มข้น ขึ้นทุกทีแล้วนะ เหลือพี่คิวคนเดียวมั้งที่ยังไม่ค่อยชัดเจน แต่ก็เห็นลางๆขึ้นมาแล้วว่ารู้สึกอย่างไร
...เพราะพี่คิวไม่พูด แต่พี่คิว ...แสดงออก :laugh:
-
เค้าจูบกันแล้วอ่ะ >//< อร๊ายยยย ม้วนๆกลิ้ง ด้วยความเขิลแปดตลบ :-[
-
เอิ่ม จูบโดยไม่รุ้ตัว แต่ว่านะ เบื่อชะนีฝันมากๆ เอามันไปเก็บที ยังไงๆน้องเค๊กเราก็ดีกว่าอยู่แล้ว :กอด1:
-
อ่านตอนนี้แล้วหน่วงใจ อิอิ
มันเหมือนอะไรก็เกิดขึ้นได้เลยอ่ะ
เค้กเสีย จูบแรก ให้พี่คิวไปซะแล้ว
พี่คิวเหมือนเป็นคนโรแมนติกมาก
แต่ก็ยังคงแกล้งเค้กเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ :laugh:
:กอด1:
-
ตอนจูบกันก็วิดวิ้วดีเหมือนกัน แต่หลังจากนั้นสิอึมครึมโคตร หวังลึกๆว่าหลังจากที่หายไป คิวคงกลับมาหาเค้ก^_^
-
ถึงจะได้จูบจากพี่คิว แต่จูบเพราะอะไร แค่อารมณ์พาไปเหรอ
สงสารเค้ก เข้มแข็งไว้นะ ชอบคนที่จมอยู่กับอดีตต้องทำใจมากๆ
-
อ๊ากกกกกกกกกมือไม้สั่น เม้นไม่ถูกเลย พี่คิววววววววน้องเค้กกกกก :z2:
ลืมไปแล้วจะเม้นอะไร แอร๊ยยยยยยยยย จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ :jul1:
เอาเป็นว่าคิดถึงเบบี้จ้าาาาาา get A+ :กอด1:
-
:กอด1: :L1:
บวกเป็ด
-
พอถึงฉากจูบจริงๆกลับสะเทือนใจชะมัด พี่คิวทำเหมือนว่าพลาดไป
ส่วนตอนที่น้องมาเห็นรูปปรายเต็มไปหมดก็ปวดใจขนาด ฮือออออ :z3:
หักมุมนะเนี่ย เค้านึกว่าจะมีคิส แล้วได้นอนกอดกันไรงี้ซะอีก
แต่สะใจที่น้องเค้กหัดสู้คนค่ะ อย่าไปยอมมันลูก !
-
:fire:อิฝัน ดักดาน
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เค้าจูบกันแล้วๆๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
พี่คิวไปไหนอ่ะ มาช่วยเค้กเร็ว
-
แง สงสารอะเค้กอะ มันเจ็บในใจอะ เฮ้อ ตอนเค้กโดนจูบใจก้อเต้นไปด้วย ยังกะเป็นเค้กเองซะงั้น 5555
-
ขอวิ่งเข้ามากอดเบบี้ :กอด1:ที่มาต่อให้ดีใจมากแล้วก็ยาวสุดๆไปเลย อิอิ (เราพยายามอ่านช้าๆแล้วนะ พยายามเป็นคนมักน้อยแล้ว)
แต่!!! ตอนนี้กระชากอารมณ์คนอ่านมากกก 5555
ตอนแรกนั่งเขินอยู่ อายแทนเค้ก แต่พอตื่นเช้ามา ก็ว่าอยู่ว่ามันอาจจะไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่แต่ไม่คิดว่าจะแย่ขนาดนี้
ดึงอารมณ์มากเลย สงสารเค้กตัวแค่นี้ ต้องเผชิญกับผู้ใหญ่ที่มีอดีตโดยที่เค้กก็ไม่รู้ ที่สำคัญดันจูบก่อนวันที่สำคัญกับคิวแค่วันเดียวอีก เฮ้อออ
สงสารเค้ก แล้วที่ฝันพูดว่า ฝันกับคิวไม่เหมือนเดิมมันคือไร อย่าบอกนะ เฮ้อออ
แต่เค้กก็เข้มแข็งนะที่เถียงกับฝันแบบนั้นเริ่ดมากลูกหนูอย่าไปยอมเค้า ตอนนี้ครบรสมากก เยี่ยมไปเลย เบบี้ o13
ลุ้นตอนต่อไปไม่อยากคิดเองเออเองเหนื่อย 5555
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
และแล้วก็จูจุ๊บ
แต่
กระชากอารมณ์มาก สงสารเค้ก
พี่คิวไม่ลืมปราย แต่ก็ชอบเค้กแล้วเเน่ๆ
คิวรู้สึกไม่กล้าเริ่มรักใครรึป่าว
Thx ka baby
You make my day
-
สงสารเค้ก
ส่วนยัยฝัน :beat: :beat: :beat:
-
อ่อยยยยยย จูบกันแล้วววว
พี่คิวสับสนอยู่ป่ะ แบบรู้สึกผิดกะ ปรายอะไรงี้
แต่ที่น้องเค้กพูดกะฝันมันเริ่ดมาก
ชีไม่ได้สำคัญไรเลย!!!
-
กรี๊ดดดดดด จูบกันแล้ว
รออ่านตอนต่อไปอ่ะเบบี้กำลังหนุกมากๆๆๆยาวได้ใจ
ขอบคุณค่า
-
ฝัน = นางร้ายรุ่นอัพเกรดไม่กริ๊ดบ้านแตก แต่น่าตบค่อดๆ
เป็นตอนที่หน่วงๆใจมาก สงสารเค้กเลย
-
เกลียดจริงเค้าไม่เอาตัว ยังจะเสนอตัวให้เค้าอีก
ผญ ไม่มีคุณค่า
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
ต๊ายตายๆๆๆ เค้ก เสียจูบแรกให้คิวแล้ววววววววววว :-[ :o8:
น่ารักมากๆๆเค้ก เอาใจช่วย ตอนนี้คิวรู้แล้วละว่าคิวชอบใคร
แต่คงต้องใช้เวลาหน่อยนร้าครับ :L1:
-
พี่คิวจูบแล้วๆ :-[
ขอให้หลังจากนี้พี่คิวกับเค้กรักกันเร็วๆนะ o13
-
โอ้ย ทั้งสุขทั้งเศร้าเรยตอนนี้
กอดเบบี้ มาต่อไว ๆ นะรออยู่เสมอ ๆ
-
:o8:จูบกันแรว แต่ยัยฝันเทอมันร้ายจิงๆ เค้กสู้เค้านะอย่าไปยอม พี่คิวต้องช่วยเค้กนะ ก อ แ พ
-
จูบกันแล้ววววววว
นังฝันเดี๊ยะจะโดน
-
คนอ่าน : นังฝันฉันจะทำคุณใสใส่แก!!!!!
เค้ก : ขอโทษที จุ๊บกันแล้วค๊า,,,,,
ฝัน : ฮื้มมมมมมมมมมม~~~~~~
-
อ่านแล้วสงสารทั้งเค้กและฝันเพราะพี่คิวไม่ชัดเจนซะที :เฮ้อ:
-
กระชั้นชิกเข้าไปอีกนิด กับรสจูบ แต่เป็นจูบแรกของน้องเค้ก :-[
ส่วนคุณมารฝัน ก็คงต้องให้ฝันต่อไปล่ะครับ :z2:
น้องเค้กเริ่มรู้จักตอบโต้บ้างแล้ว หึ หึ หึ .... แต่ละดอก o13
+1 ให้หนูบี้ สุขสันต์วันสงการต์ นะครับ :กอด1:
-
น้องเค้กจ๋า เจ็บแทนจัง หยุดหรือเดินหน้าต่อ แล้วแต่สมองและหัวใจน้องสั่งแล้วกันนะ เป็นกำลังใจให้
-
อ่านแล้วยิ้มไม่ออก :sad4: แม้กระทั่งตอน 'จูบ' :z3:
:o12:
-
ยัยฝันนี่ร้ายชะมัด
-
ผู้หญิงคนนี้แรง!!!
-
อ่านไปลุ้นไป โอ๊ยยยยย
อ๊าคคค
ลุ้นโว๊ยยยย
-
:laugh: เดี๋ยวมาเม้นใหม่ค่ะ มัน มัน มัน ทำอะไรม่ายถูก เม้นไม่ออก เพราะช็อค พี่คิวจูบน้อง อร๊ากกกกก
-
เง้อ, จุ๊บกันแล้ว~
รู้สักสงสารเค้กอ่ะ พี่คิวไม่แสดงออกอะไรเลย
หมั่นไส้ยัยพี่ฝัน! - -*
-
เหมือนจะหวาน แต่ก็แอบขม งื่อออออออออ
เมื่อไหร่ยัยฝันจะเปนคนดีกะเค้าซะทีน่อออออ :z13:
-
ครึ่งแรกหว๊าน หวาน จูบกันแล้วกรี๊ดๆ :-[ แต่ครึ่งหลังดันพลิกอารมณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือเลย :z3: เบื่อเจ๊ฝันจริงๆ เข้ามาทีไรมาม่าทู้กที :m16:
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยย..ค้างอย่างแรงอะ :z3:
อ่านตอนท้ายๆแล้วมันรู้สึกว่า เจ็บจิงๆ เจ็บแทนเค้กเลยเนี๊ย..ฮ่าๆๆๆ
แต่สะใจคำพูดเค้กที่ย้อนฝันเหมือนกันนัเนี๊ย.. :fire:
ปล.คิวอย่าหายไปนานนะ..
-
นางฝันร้ายยยย แกนี่ร้ายกาจจริง
พี่คิวจูบเค้กทำไมเนี่ย บรรยากาศพาไปเหรอ สงสารเค้กนะ
-
สงสารเค้กอ่ะ อารมณ์ว่า เค้กคือตัวอะไร พี่คิวจะทำไรก็ได้งั้นสิ :เฮ้อ:
จูบแล้วก็ไม่พูดอะไรอ่ะ แล้วยังมาเจอนังฝันร้ายนี่อีก
เค้กน่าสงสารที่สุด ก็เข้าใจว่าคิวยังลืมปรายไม่ได้
แต่ถ้าลืมไม่ได้ก็ไม่ต้องมาให้ความหวังสิยะ ชิชะ ขัดใจคิว :m16:
:pig4:คุณเบบี้มากๆเลยค่า :กอด1:
-
เปิดด้วยความน่ารัก...แต่จบแบบเจ็บจี๊ดดดด.....
ตอนนี้...ทั้งหมดคงอยู่ที่การตัดสินใจของพี่คิวคนเดียว....
อยากจะอยู่อย่างคนไม่มีหัวใจไปวัน ๆ..หรือว่า..
จะเปิดใจรับชีวิตใหม่ที่มีเด็กน้อยมาป่วนให้มีชีวิตชีวาตลอดเวลา...
ลุ้นต่อไปค่ะน้องเบบี้... :L1:
-
จูบคร่าาาจูบบบบบบบบ
:-[ :-[ :-[
-
อ่านครบ3รอบแระ คำตอบคือ คิว คีย์ เคลียร์ กร๊ากกกก ตรูเข้าใจคนเดียวใช่ม่ะคำตอบนี้ รอต่อไป
เอาจริงๆก็สงสารเจ๊ฝันแกอยู่เหมือนกัน (กร๊ากกก ตรูนางเอกมากก) คือแบบเจ๊แกคงรู้สึกว่าคิวคงไม่เอาเจ๊แกงัยแกเลยเดือด น่าสงสารจริงๆ :z2:
-
เขาจูบกันแล้ว... แต่ทำไมคนอ่านกลับรู้สึก
อึดอัดกับการกระทำของพี่คิวอย่างนี๊ T~T!!
สงสารเค้กอ่ะ ยังต้องมาปวดประสาทกับยัยบ้าฝันนี้อีก
-
:undecided: อะไรๆ ก็ไม่ชัดเจน แต่ดันมาจูบน้องเค้กซะงั้น พี่คิวเนี่ยะ :m16:
-
รำคาญยัยฝันร้ายจริงๆ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้เป็นอะไรไปหมด :m16: :beat:
น้องเค้ก สู้ สู้ :กอด1:
สุขสันต์วันสงกรานต์ :mc4:
+1
-
บางทีก็คิดนะ ผู้ชายอย่างคิวมีชีวิตก็เหมือนตายไปพร้อมปรายนั่นแหละ อาจจะอยากอยู่กับความทรงจำมากกว่ายอมรับและมองไปข้างหน้า :m16:
เสียดายเด็กดีที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตที่สดใส ไม่มีใครแทนใครได้..นี่เรื่องจริงที่ยากจะยอมรับเสมอ :เฮ้อ:
สงสารน้องเค้ก แต่ก็อยากให้เข้มแข็ง มีสติ ยอมรับมันและอยู่กับมันให้ได้ ถึงมันจะยากแต่หวังว่าจะผ่านไปได้ ..เค้กถอยออกมาสักก้าวดีกว่าไหม เผือจะเห็น เข้าใจ และ ควบคุมตัวเองได้มากมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ :m15:
เอาใจช่ายน้อง สู้ต่อไป !! :กอด1:
-
พี่คิววววววววววววว กลับมารับผิดชอบจูบของตัวเองด้วย
อย่ามาทำไม่รู้ไม่ชี้นะเว้ยย ลูกเค้ามีพ่อมีแม่นะยะ
อดีตดีๆมีไว้ให้จำค่ะ ไม่ได้มีไว้ให้จมปรัก!
-
:o8:พี่ คิว มาเคียร์กะน้องเค้ก เลย อ่ะ พาก จูบแรก น้องไป อิอิ :z1:+1
:a5:พี่คิวทำใจไม่ได้มากมายกะพี่ปราย พี่ คิว เป็นสาเหตุหรือ ทำให้พี่ปรายตายหรือเปล่า o22
-
o13โดนมากน้อง
หรือที่จริง พี่ก็ไม่ได้ "สำคัญ" อะไรมากมาย :m20: :laugh:
-
คิวคงสับสนน่าดู ให้เวลาพี่เค้าหน่อยนะเค้ก
.. แต่จะดีมากถ้าฝันจะออกมาไม่บ่อย เค้าสงสารเค้กอ่า :m15:
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
ฝันนนนนนน หึหึ
เค้กพูดเเทงใจดำละสิิิิ o13 o13 o13
-
มันต้องอย่างนี้ น้องเค้กของพี่ บ๊ะมันช่างได้ใจ :z2:
-
เค้าจูบกันแล้วค่ะ... อีพี่ฝัน 5555
-
ลุ้นต่อๆๆ
-
กรี๊ดดดดดด
เค้กโดนจุ๊บแ้ล้วว :impress2: :impress2:
สงสารเค้กอ่ะ
:z6: :z6: คุณฝันร้าย
-
พี่คิวก้อแอบชอบ น้องอ่ะดิ!!!
-
นังฝันร้าย ฝันสยอง หลงผู้ชายจนหน้ามืดหรอเธอน่ะ ชิ :z6:
-
โอยยย ยังไงๆ
พี่คิวคงกำลังสับสนอยู่แน่ๆ และท่าทางพี่เซ็นน่าจะรู้ว่าพี่คิวอยู่ไหนด้วย
ชอบตอนที่เค้กพูดตอกใส่หน้าฝัน เจอซะบ้างพวกแอบรักเพื่อนแล้วชอบวางท่า
-
ดีมากเค้ก อย่าให้มันมาข่ม :z13:
-
ค้างงงงงงงงง!!
แล้วยังไง tt'?
พี่คิวไปไหนจริงๆ อาจจะไปหลุมศพก็ได้นะ _ _''
ค้างจริงจัง =/=
-
เค้กสู้สู้นะ ปวดใจแทนเค้กจัง
อยากให้พี่คิวชัดเจนแรงจัดชัดทั่วไทยซักที
มาปกป้องเค้กจากยัยฝันร้ายด่วน
+1 :กอด1:
ปล.น้องซี ขอบคุณนะ ช่วยกันยัยฝันเปียกให้เค้ก ซีนนี้พี่ยกนิ้วให้ o13
-
:o8: จูบๆ จูบกันแล้ว
สะใจมาก o13 เค้กนู๋เยี่ยมมาก คนบางคนก็ไ่ม่สมควรจะให้เกียรติเท่าไหร่
ในความเห็นเราน่ะ เค้กนู๋ต้องเข้าใจพี่เค้ามากๆน่ะ พี่เค้ากำลังสับสน ตอนนี้พี่เค้าก็เริ่มรู้สึกดีกับนู๋แน่นอน แต่พี่เค้าก็รู้สึดผิดกับปราย ซึ่งเป็นคนที่พี่คิวรักมาก สำหรับพี่คิวปรายคือทุกสิ่งสำหรับคนอย่างพี่คิว มันเลยเป็นรักปักใจ การที่พี่คิวจะเริ่มรักใครมันจึงคล้ายรู้สึกผิด ถึงในใจตอนนี้พี่คิวจะยังคงมีแต่พี่ปรายแต่เค้กต้องเข้าใจ และอย่ายอมแพ้น่ะ
โอยยเขียนไรสับสนเอง แต่เอาเป็นว่าเข้าใจคนอย่างพี่คิวที่เป็นแบบนี้
-
พี่คิวไม่ชัดเจนเลย ไม่เลยจริงๆ :sad4:
ให้ความหวังน้องชัดๆ แต่กลับเป็นฝ่ายไม่พูดอะไรเลย
สงสารเค้ก พี่คิวจูบน้องเพราะอะไรเถอะ
หน่วงมากอ่ะ แม้กระทั่งตอนจูบยังไม่รู้เลยว่าพี่คิวจูบด้วยความรู้สึกยัง :z3:
แถมเค้กต้องมาเจอกับยัยฝันร้ายอีก :เฮ้อ:
ลุ้นกับตอนหน้า อยากให้พี่คิวชัดเจนกับเค้กบ้าง
หรือถ้าไม่ ก้อยากให้เค้กถอยออกมาสักก้าว
มาตั้งหลักจัดการกับความรู้สึกตัวเองสักหน่อย
บางทีมันอาจจะช่วยได้
ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อค่ะ :กอด1:
รอตอนหน้านะคะ จะรออย่างใจจดใจจ่อเลยทีเดียว +1ค่ะ
-
อิเจ้ฝันนนนนนนนนนนนนนนน หล่อนนี่มัน น่าาาาาาาา :z6:
-
กำลังมันเลย สนุกๆ
-
มาม่ามาแล้ว
ตอนนี้สงสารเค้ก คงเสียความรู้สึกมาก คิวจะขอโทษทำไมฟร่ะ
-
โอ๊ยยยยยยยยยยค้างงงอย่างแรง ชื่อก็ฝัน ก็คงต้องฝันต่อไปว่าจะได้พี่คิว หึหึ
-
กี๊สสสส จูบกันแล้ว :-[
-
ถึงจะจูบแต่ก็ไม่ดีใจหรอกนะ :เฮ้อ:
เกลียดยัยฝันค้าง :beat:
ละเมอไปกับฝันเฝื่องๆของเธอไปซะ
-
เฮ้ออออ มันอึมครึมไปหมดเลย แต่สงสารเค้กนะ ไม่อยู่ในสถานะที่จะต่อกรกับใครได้ ถ้าคิวยังไม่ชัดเจน เค้กก็มีแต่จะแย่ไปเรื่อยๆ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด เค้าจูบกันแน่แล้วๆๆๆๆ เค้าจูบกันแน่แล้วๆๆๆๆๆ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ดีใจเว่อร์ เหอๆๆๆ ว่าแต่... หลังจากนี้มันน่าจะหวานกันไม่ใช่เหรอ :เฮ้อ:
ปล. ใครช่วยเอาอีนังฝันไปเก็บที ออกมาแต่ละทีชั้นละหน่าย :m16:
-
อ่อยยยยย ไปไม่เป็นเลยคร๊าาาา
เค้ายังเจ็บขนาดนี้ แล้วน้องเค้กจะเจ็บขนาดไหน ฮึกกกกก
คำว่า โทษที นั่นนะ จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำสินะ ฮึกกกกก
ถ้าแค่หยอกเล่นๆ มันเจ็บมากนะ ไอ้พี่คิวบ้าา
ถือป้ายไฟ เชียร์น้องเค้ก
เบบี้ที่รักกกกกกกก กินกาแฟอีกจะได้มีแรงลงตอนต่อไป ฮ่าาาาา
-
โอ้ยยยยยยยยยยยย ยังไงล่ะเนี่ย ? :z3:
พี่คิวช่วยเคลียร์ความรู้สึกของตัวเองเร็วๆหน่อยนะคะ
เข้าใจว่ามันยาก เห็นใจพี่นะ
(จูบน้องไปแล้วด้วย ฮึ่ย...เขินปนหงุดหงิดเล็กๆ)
แต่ในฐานะแม่ยกน้องเค้ก.............
หนูทนไม่ได้ที่จะเห็นน้องทรมานต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ (เท่านั้นแหละ555)
ขอบคุณเบบี้สำหรับตอนใหม่ :กอด1:
เข้มข้นๆ ปนหวานประแหล่มๆ ด้วยจูบแรกของน้องเค้ก :o8:
เอาใจช่วยเสมอนะคะ Baby Fighting :z2:
-
เขาจูบกันไปแล้ว ทำไมไม่ซาบซ่านเลยง่า ฮืออออ
นังมารฝันร้ายนักนะ เพราะว่าไม่สำคัญไง :laugh:
น้องเค้กย้อนได้สะใจมากค่ะ o13
พี่คิวกลับมารับผิดชอบเค้กด้วยน้า ไปไหนแล้วววว
-
เค้กสู้ๆ อย่ายอมแพ้นะ
-
เค้าจูบกันแล้วววว
และก็มาอิหรอบเดิม
สงสารเค้กอ่ะ
-
เค้ก สู้สู้นะ
สักวันพี่คิวต้องผ่านมันไปได้
ขอบคุณเบบี้
-
พี่คิวเอาให้แน่? :z3:
จูบเค้าไปแล้วด้วย :impress2:
-
อารมณ์ตอนแรกกับตอนท้ายนี่คนละขั้วเลยเนอะ แบบว่าอึดอัดบวกเจ็บแทนเค้ก
เรื่องปรายนี่ทำให้เรานึกถึงประโยคที่เคยอ่านจากนิยายแฟนตาซีเรื่องหัวขโมยแห่งบารามอสเมื่อนานมาแล้ว
ที่ว่าคนตายมักเป็นฝ่ายชนะตลอดกาล เพราะคนเป็นพยายามแทบตายก็ท้าสู้ไม่ได้ เวลาของคนตายจึงเป็นนิรันดร์ ฯ
...ประมาณนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเราเปรียบเทียบได้ตรงกับสถานการณ์ของคิว-เค้ก-ปรายหรือเปล่า แต่อยู่ๆมันก็นึกถึงขึ้นมาเฉยๆ
เราคิดเอานะว่ายังไงปรายก็คงเป็นคนที่จองพื้นที่ในใจคิวไปส่วนหนึ่งตลอดกาลผูกขาดอยู่แล้ว
เป็นธรรมดาที่สำหรับคนสำคัญมากๆคนนึงเราก็คงไม่อยากจะลืม
การที่เค้กเข้ามาไม่ใช่เป็นการมาแทนที่กัน แต่เป็นการอยู่ร่วมกันไปพร้อมๆกับปรายในความทรงจำของคิว
ถ้าเค้กรับได้และเข้าใจพี่คิวที่เป็นแบบนั้นมันก็โอเคนะ (แต่คนอ่านก็ยังแอบเจ็บจี๊ดๆแทนอยู่นิดๆ)
สะใจตอนท้ายที่เค้กตอกยายฝันกลับไปบ้าง ชอบ
-
กะว่าจะเม้นรอบจบรอบเดียว555 แต่ไม่ไหวกะพี่คิว ลึกลับจริงๆๆ
แง่มๆๆ อยากหาคนใหม่ให้น้องเค้ก 555
-
จูบอีกแล้วอ้ะ :impress2:
อยากให้พี่คิวกะเค้กเป็นแฟนกันเร็วๆจัง
เกลี๊ยดเกลียดนังฝัน
-
รู้เลยว่าคิวคิดยังไงกับเค้ก
แต่ก็รู้สึกผิดกับปรายด้วย
คิดว่าหลังจากที่คิวกลับมา
ทุกอย่างคงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
เอาใจช่วยน้องเค้ก ต้องเข้าใจพี่คิว ให้พี่คิวอยู่กับตัวเองไปอย่างนี้แหละ
แล้วพี่คิวจะอยู่กับน้องเค้กเพีงคนเดียว
-
โอ๊ยยยย พี่คิวรีบกลับมาจัดการก่อนที่เค้กจะถอดใจน้าาาา สงสารเค้ก Y_Y
-
ทำไมไม่รู้สึกดีใจไปกับจูบแรกของน้องเค้กกะพี่คิวเลยแหะ :เฮ้อ:
หากจูบนี้ของพี่คิวเป็นแค่ความพลั้งเผลอ และความไม่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวพี่คิวเอง
ก็จงอย่าทำเหมือนมีใจหรือให้ความหวังกับเค้ก
น้องน่าสงสารเกินกว่าจะเอาความรู้สึกมาล้อเล่นกับความไม่ชัดเจนของพี่คิวนะ :o12:
-
จูบแล้ ว จูบกันไปแล้ว
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
ค้างงง...อยากอ่านต่อ.. :serius2:
-
สมด่ากลับซะบ้าง
หึ ใครกันแน่ที่คิดจะจับคิว
อร๊ากกกก เค้าจูบกัน อ่านแล้วเขินมากอ่ะ จูบกันๆๆ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
หลังจากพี่คิวหยอก ๆ แกล้ง ๆ มานาน
ในที่สุดก็จูบเค้กแล้วววว >//////////<
แต่มันจะดีกว่านี้นะถ้าบรรยากาศระหว่างคิวกับเค้กไม่ได้มาคุอย่างนี้
แล้วยัยฝันนี่ก็อีกคน สะใจมากที่โดนเค้กตอบกลับไปแบบนั้น หึหึ!
-
และแล้วความรู้สึกของอีตาคิวก็เก็บไว้ไม่อยู่ต้องปะทุออกมาทางปาก หุหุ :z1: รุกซะน้องเค้กเอ๋อเลย แต่ทำไมต้องทำเป็นเย็นชากะน้องเค้กจังหรือว่าได้(First kiss)แล้วจะทำไม่รู้ไม่ชี้ อย่าเล่นกับความรู้สึกของหนูเค้กไม่งั้นเขาจะ :z6:
:oni2: ดีใจที่ เบบี้ มาต่อแล้ว สมกับการรอคอยกับฉาก :จุ๊บๆ: แบบเอ๋อๆของหนูเค้กและแบบเบลอๆของอีตาคิวขี้เก๊ก
แล้วเขาจะรอกับฉากที่อีตาคิวจะทำลายกำแพงภูเขาน้ำแข็งกับเรื่องรักในอดีตแล้วมาเปิดใจให้หนูเค้กคนน่ารัก :L2: :L2:
-
you my first kiss ... :o8: :o8: :o8:
- นังฝันนางมารร้ายยยยย .. - ด่า่มันเลยยยเค้กกก อิอิ
-
ถึงจะจูบกันแต่ก็เหมือนสถานการณ์พาไปมากกว่านะเราว่า แถมพี่คิวยังไม่ทำอะไรให้ชัดเจนอีก น้องเค้กก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา แต่ดีใจที่น้องกล้าต่อปากต่อคำกับผู้หญิงคนนี้บ้าง อย่าไปยอมค่ะ สู้เค้าบ้างเราเชียร์อยู่นะ
-
พี่คิวหนีไปเล่นสงกรานใช่มั้ย ? (เตะๆนังฝันร้าย)
-
พี่คิว :z6:
ชัดเจนทีเถอะ สงสารเค้ก tt'
-
มาต่อ อีกครับ นานมาเลย ครับ รอนานเกินไปแว้วววว
นั่งแถวหน้า รอ
-
ฉากหวานๆทำไมมันมีน้อยจังเลย
-
:กอด1:
-
คิวกำลังคิดจะทำอะไรอยู่หรือเปล่า
:pig4: คะ
-
ก่อนจะอ่านตอนที่ 44 ก็แอบคิดว่า กว่าคู่นี้จะได้ :oo1:กันคงอีกนานนนน
พออ่านปุ๊บ... เค้าจูบกันแล้ว :m3:
แต่ก็ลงท้ายตอนด้วยยายฝันมาป่วนหัวใจน้องเค้ก น่าสงสารน้องจังน๊า
พี่คิวมาจุ๊บแล้วก็หายไป ยังมียายฝันร้ายมาตามหึง(พี่คิว)อีก
-
แงงงงง มันค้างงงงงจังเลยอ่ะ
รีบมาต่อเร็ซๆนะ อยากอ่านต่อมากกกก
ป.ล.1 เกลียดฝันจังเลยอ่ะ
ป.ล.2 ชอบพี่คิวกับเค้กโคตรๆ
ป.ล.3 จะติดตามตอนต่อไปนะ อิอิ ^^
-
เพิ่งตามอ่านกันทัน
รู้สึกเขินแทนน้องเค้ก
รู้สึกอยากแกล้งน้องเค้กแทนพี่คิว
รู้สึกดีที่ได้ จุ๊บ กัน
-
อ๊ากกก จูบกันแล้ว :monkeysad:
แรกๆนี่ม้วนเป็นเลขแปดเลย หลังๆนี่คิ้วขมวดกันเลยทีเดียว TT
เค้กทำดีมากต้องย้อนฝันร้ายไปบ้างงงง
สู้ๆ น๊าาาาาา ให้กำลังใจคนเขียน >,<
-
o18 o18ยิ้มทั้งน้ำตาเลย o18 o18
-
สงสารน้องเค้กอะ T T :sad4: :sad4: :sad4:
-
อารมณ์ตอนกลางๆกับตอนท้ายนี่คนละเรื่องเลย
เพิ่งจะดีใจไปกับจูบแรกของพี่คิวและน้องเค้กไปหยกๆ
พี่ฝันมาทำให้มันตึงเครียดซะอย่างนั้นอ่ะ :m16:
หวังว่าพี่คิวเองก็คงจะมีทางออกให้กับเรื่องนี้อยู่
คงไม่ใช่จะเล่นกับความรู้สึกของน้องเค้กหรอกนะ
จูบน้องเค้าไปแล้วมารับผิดชอบด้วยนะคะ :o8:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว >> รู้สึกแบบเดียวกับเค้กเลย 555555
:-[ :impress2:
-
รู้แค่ว่า จูบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
-
ดีใจ จูบกันแล้ว :impress2:
ฮึ่ม ยัยฝันจะมากไปแล่วนะ :beat:
-
อ๊ายยยย.....ขัดใจจริงๆชะนีนางนี้
ไม่ว่ายังไงคนที่พี่คิวจะเปิดใจให้ ก็ไม่ใช่หล่อนหรอกย่ะ!!!
(เอ่อ....อินเกิ๊นนนน^^)
-
:o8: first kiss ของนู๋เค้กด้วยยย :z2:
P.S. คิวชัดเจนหน่อย นู๋เค้กของเจ๊ สับสน
-
เหอะๆ สงสารเค้กจางงงงง
-
เจ๊ฝันร้ายริจะตบหนูเค้กหรือ
เดี๋ยวโดนแฟนคลับน้องแก :beat: :beat: เอาหรอกนะ
แต่ว่าพี่คิวหนีหายไปไหนหว่า :m28: :m28:
:กอด1:
-
เค้กจะมีคำถามในใจหรือเปล่านะ..ว่าพี่คิวปิ้ดจูบเค้กเพราะอะไร?!? คำตอบคือ..เพราะพี่คิวชอบแกล้งเค้กให้อายอยู่เรื่อยใช่ไหม :เฮ้อ:
นั่นเพราะเค้กคงจะไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองเป็นแน่ ว่าที่อีพี่คิวจูบ เป็นเพราะชอบเพราะรัก ...
คุณฝันร้าย ก็ตามมาหลอกหลอนบ่อยซะจริงเชียว สงสารน้องเค้กที่สุด..
(ฝัน ใช่ไหมที่เป็นคนฆ่าปรายเพื่อจะได้คิว :z1:)
ขอบคุณเบบี้นะค้าบ^^'
-
อิพี่คิวนี่เข้าใจยากจริงๆ
-
ฝันแปลงกายบ่อยขึ้นทุกที
จากนางฟ้า จะเป็นแม่มดอยู่แล้ว
-
:o8: :-[ จูบกันแล้ววววววววววว
-
ไม่รู้พี่คิวอารมณ์ไหน แต่การกระทำนั้นมันถือเป็นการเริ่มต้นหักเหชีวิตพี่ได้เลยอ่ะ ขอให้เรียนรู้ที่จะเปิดใจได้แบบเค้ก
ส่วนยัยฝัน เข้าใจว่าพีคทางจิตมากๆ ขอบคุณพี่ซีที่อยู่เป็นพยาน ถ้าจะดี ฟ้องพี่ฟ้าพี่เซ็นให้ด้วย
ขอบคุณเบบี้ ตอนนี้ยาวได้ใจ แต่ไม่เคยจุใจกับนิยายของเบบี้สักที อ่านเท่าไรไม่พอ จะเฝ้ารอเหมือนเดิมจ้า ^^
บวกแหลกกกก
-
ค้างสุดๆๆ
:m31: :m31:
-
จะ...จูบไปแล้วววววววววววว พี่คิวเริ่มสับสนในตัวเองแล้วอะดิ อยู่ใกล้ๆน้องแล้วมีความสุขใช่มั้ยล่า คึคึ
แต่ก็นะ...คงยังไม่อยากลืมรักเก่า แบบนี้ก็น่าสงสารทั้งพี่คิวทั้งน้องเค้กเลย
น้องเค้กก็ให้เวลาพี่คิวสักหน่อยนะ
เกลียดนังฝันจริงๆ นิสัยแบบนี้ทำไมถึงสนิทกับคิวได้นะ อยากให้คิวได้มาเห็นธาตุแท้มันว่าหล่อนว่าอะไรน้องเค้กไว้บ้าง!!
-
ให้กะลังใจพี่คิว.........เสมอ :L2: :L2: :L2:
ชีวิตคนเราต้องพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า....
อย่ามัวมาจมปรักกับสิ่งเดิมๆนักเลย.....(เหมือนจะตัดใจได้ง่าย :เฮ้อ:)
Fighting พี่คิวววววววว
เค้กกกกกกก.....การที่จะห้ามใจไม่ให้รักนี่มันยากจริงๆเนาะ
เป็นกะลังใจให้เค้กเช่นกัน
-
อ่านตอนแล้วครบรสจริง
เค้กสู้ๆนะ
คิวกลับมาคราวนี้ต้องมีความเปลี่ยนแปลงแน่นอน
:110011: :110011: :z7:
-
ถ้าพี่คิวยังไม่พร้อมเปิดใจให้ใคร แล้วจูบเค้กทำไม ทำอย่างนี้เค้กก้อสับสนแย่น่ะซิ แล้วยังมีฝันมาพูดจาทิ่มแทงอีก สงสารเค้กจัง
-
เค้กสู้ๆ นะ เศร้าอ่ะ สงสารเค้ก
-
ค้างอย่างแรงขอบอก
-
จบตอนได้เจ็บปวดมากกก
ค้างจ้า!!!
:serius2:
-
กอดบี้ บวกหนึ่ง ถึงแม้จะแอบค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง มากกๆๆๆๆๆๆๆ :z3:
ตอนนี้หลากอารมณ์สุดๆ อ่านแล้วเขิลไป สักพักเอ้าเห้ยน้ำตาไหล
รู้สึกแย่แทนเค้ก TT ตกลงในร้านมีใครเหนค.เลวของนังฝันเฟื่องบ้างแล้วยังเนี่ยย
ถ้ามันกล้าแตะเค้กแม้แต่ปลายก้อย แม่จะส่งระเบิดไปบอมบ้านมัน !!!
แต่ก่อนบอมบ้านนังฝันเฟื่องง แม่จะส่งสึนามิไปถล่มเรือนหออิพี่คิวก่อนนน
ก็ตัวต้นเหตุนะพี่คิวเลยย พี่คิวๆๆๆๆๆๆทั้งนั้น พี่คิวงี่เง่าที่สุด
แค่นี้ เค้กกกก็คิดมากจะบ้าตายอยู่แล้ววว ฮึ่ยย หน่วงงง +++
หายหัวไปไหน ชะนีบ้ามันสามหามใส่เค้ก กริ้ววววว :serius2:
-
แอร๊ยยยส์ อยากตบนังฝันร้าย อยากให้พี่คิวมาเห็นตอนง้าวมือจะตบเค็ก แต่แลดูจะละครหลังข่าวเกินไป :laugh:
เอาเป็นว่า คืบหน้าไปเยอะแระพี่คิว มีจูบแระ ต่อไปก็ พัฒนาเป็นอย่างอื่นบ้างไรบ้าง อยากให้ทำแล้วนังฝันร้ายมาเห็นกับตาไรงี้ อยากได้ยินชีกรี๊ดดดดดด ไปสามโลกแปดโลก
-
ในที่สุดคิวเค้กก็ได้จูบกัน ><
ดีใจที่สุด
-
น้องเค้กของเราก็เริ่มมีปากมีเสียงกับเค้าบ้างแล้ว สู้ สู้
o13 o13 o13
-
เยี่ยม พี่คิวจูบน้องเค้กแล้ว ฮิ้วๆๆๆๆๆ
แล้วนี้ยังไงเนี่ย อย่าบอกนะว่าพี่คิวสับสนตัวเองอะ
ไม่ไหวนะคะเนี่ย แล้วที่หายไปอะ ซะใจที่ฝันไม่รู้จริงๆ
ชอบที่น้องเค้กตอกกลับฝันแบบนั้นมากก ปลื้มซีด้วยที่ปกป้องน้อง
-
เพลียเจ๊ฝันอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
-
ตอนนี้อ่านแ้ล้วเข้าใจความรู้สึกเค้กมากเลยครับ
รู้สึกดีนะครับที่พี่คิวจูบเค้ก แต่พอเค้กตื่นมาต้องเจอแต่ภาพพี่ปรายเต็มห้องพี่คิว
ก็เข้าใจว่าเค้กรู้สึกอย่างไร และก็อยากรู้นะครับว่าพี่คิวรู้สึกและคิดอะไรยังไง
อยากให้พี่คิวพูดออกมาให้เค้กฟังบ้าง เป็นผมก็อึดอัดนะครับกับการที่ไม่รู้อะไรเลย
อ่านไปก็ลุ้นไปครับว่าจะจบตอนรึยัง เพราะยังไม่อยากให้จบ
พอถึงตอนจบตอนจริงๆ อ่าวจบแล้วหรอ เพราะยังไงก็ยังไม่อยากให้จบตอน ยังอยากอ่านต่ออยู่ครับ
-
จะ จะ จูบกันแล้ว
เราถึงกับร้อง 'อร๊าย' ออกเสียง แบบไม่รู้ตัว :-[
พี่คิวเลิกจมกับอดีตได้แล้ว
อนาคต(น้องเค้ก)รอพี่อยู่นะ
ส่วนอิพี่ฝัน ไปไกลๆไป :beat:
-
ป๊าดดดด เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันค่ะ :z10: :z10:
อ่านวนหลายรอบมากตอนเค้าจุ๊บกัน เขินแทนน้องเค้กค่าาาาา *จิกหมอน :-[ :-[ :-[ :-[
พี่คิวนี่ชอบแกล้งน้องอะ เห็นน้องเค้กเขินยิ่งได้ใจสินะ อิอิ
หมั่นไส้นังฝันมาก ชีพูดจาบั่นทอนจิตใจคนได้เยี่ยมมากค่ะ
ไม่รู้นะว่าใครกันนแน่ที่อยากจับพี่คิวเนี่ย ชิ :m16:
-
โอ๊ยยย อะไรกันนี่
จูบกันแล้ว คิดว่าจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นบ้าง
ไหงเป็นแบบนี้
พี่คิว กะ เค้ก :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
รอลุ้นครับบบ สงสารเค้ก
แล้วก้อเปนห่วงพี่คิว เฮ้อๆๆๆ หน่วงๆกันไป :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ตามทันแล้วค่า!
เคยพี่คนบอกพี่คิวมั้ยว่า "โลกส่วนตัวของเธอมันสูง โลกส่วนตัวของเธอนั้นกว้างใหญ่ ให้ฉันต้องทำอย่างไรก็คงไม่เข้าใจเธอ~"
มาจูบเค้กแล้วก็รับผิดชอบด้วยนะคะคุณ สู่ขอเลย อิ____ อิ
รอนะค นะคะ
-
โหยย จูบแล้วววว คิวจูบเค้กจนได้ >[]<//
แต่นังคุณพี่ฝันคะ ชอบจังนะคะคำพูดเฉือดเฉือนเนี้ยย
โดนเค้กตอกไปถึงกับรับไม่ได้ สมน้ำหน้า เชอะๆ -3-
อยากรู้ว่าคิวไปไหน รออ่านตอนต่อไปค่าา ><
-
ถ้าคิวยังไม่คิดจะชัดเจนกว่านี้ก็ไม่ควรล้ำเส้นเลย สงสารเค้ก
ฝันกัดคนไปทั่วเหมือนหมาจนตรอก สะใจที่เค้กตอบโต้ซะบ้าง ถึงเค้กจะนึกเสียใจภายหลังก็ตามที
-
พี่คิวดูสับสน
อีนังฝัน แกไม่ได้จาเปนเพื่อนหรอก
แกมันก้อยากแทนที่ปราย
เหอะ
ถ้าแกดีอะนะ คิวเค้าคงเลือกแกไปนานแล้ว
ไม่รอให้เค้าเจอเค้กหรอก
-
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารเค้กนะ ทุกอย่างที่พี่คิวทำ ไม่ว่าจะหยอกให้เขิน หรือจะจูบก็ตามอ่ะ มันก็เหมือนกับสร้างแผลใจให้เค้กไปในตัว แถมยังเหมือนให้ความหวัง แบบไม่มีวันเป็นจริงอ่ะ ตราบใดที่เค้กยังไม่รู้ความคิดและความรู้สึกของพี่คิว ความเจ็บนี้ก็คงไม่หายไป แล้วยิ่งรู้ยิ่งเห็นความรักของพี่คิวกับคนชื่อปรายมากเท่าไหร่ เค้กก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น ความจริงถ้าพี่คิวยังไม่พร้อมก็ไม่น่าจะลำ้เส้นที่ควรจะเป็น อยากรู้ความรู้สึกที่แน่ชัดของพี่คิวจริงๆ บางทีมันอาจไม่ได้แย่แบบที่เรากังวลแทนเค้กก็ได้มั้ง แล้วฝันเองก็เหมือนกัน จริงๆแล้วก็กลัวเค้กจะแย่งคิวไปใช่มั้ย ถึงได้ทำท่าทางแบบนี้ บอกตามตรงเธอยิ่งทำแบบนี้ ยิ่งดูแย่ไปกันใหญ่ ต่อให้เค้กจะมาทีหลังหรือเธอมาก่อน มันก็ไม่ใช่ตัวตัดสิน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับพี่คิว เธอพูดได้ทำร้ายจิตใจคนมาก เหอะ พูดให้ตัวเองดูเหนือกว่าเค้กว่างั้นเหอะ แต่ก็นะเธอก็แค่รู้ในระดับหนึ่งของสถานะเพื่อนเท่านั้น ถ้าพี่คิวจะเลือกเธอเค้าคงเลือกไปนานแล้ว แต่นี่เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไรน่ะสิ ถึงได้จงเกลียดจงชังเค้กแบบนั้น
อ๊ากกกกกกกก มันค้างมากกกก อยากอ่านต่อ ฮื่ออ
-
เยี่ยมมากเค้ก!
-
พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว อิอิ
ว่าแต่พี่คิวหายไปไหนน้าาาาา???
-
เบื่อคนชื่อฝัน
เหอะ
-
สนุกดีค่ะ
รอติดตามต่อน้า:)
-
พี่คิวทำไรน้องน่ะ :-[ :-[ :-[
-
สงสารเค้กอิพี่คิวจะทำอะไรกะน้องก็เอาให้มันชัดเจนไปนะ.....
-
คุณพี่คิวขา... ทำหนูทรมานจิตใจมากอ้ะ = ="
แสนสงสารเค้ก 555
แบบว่าอาการเข้าข้างเคะกำเริบอ้ะ
+1 ให้จ้าาา
-
เครียดเลย
จูบน้องแล้ว
แต่กลับเฉยชาแบบนี้ รู้สึกผิดกับคนเก่าเหรอคิว
จะเอายังไงก็ช่วยบอกน้องด้วย อย่าปล่อยให้น้องคิดมากแบบนี้
สงสารน้อง
:L2: :L2:
-
จูบ เหมือนฝันไป 0~0 พี่คิวจูบเค้ก
จูบเสร็จก็หายหัวสะงั้นเนอะๆ สมน้ำหน้าอีฝัน
น้องเค้กเราเริ่มสู้คน (http://sv6.postjung.com/picpost/data/132/132249-18-6866.gif)
รอตอนต่อไปจ๊ะพี่บี้ ไอพี่คิวกลับมาหาน้องเค้กไวๆ นะ
-
(อ่านตอนนี้อีกรอบ เม้นอีกรอบ อิอิ)
มองด้านพี่คิวบ้าง โดยนิสัยแล้วพี่คิวปิ้ด ไว้ตัวซะขนาดนั้น ถ้าไม่ได้รู้สึกดีด้วย คงยากที่ใครสักคนจะก้าวเข้ามาอยู่ในสายตา
ได้ถึงเพียงนี้.. ณ จุดนี้ คิวปิ้ด คงกำลังสับสนขั้นสวดยอดแล้วล่ะ 1 สับสนกับการปล่อยวางไม่จมกับเรื่องปราย อย่างที่อาฟ้าพูดให้ฟังเมื่อ
เล่นเปียโนCanon In D .. 2 สับสนกับความรู้สึกที่มีต่อเค้ก มันไปไกลจนถึงขนาดจูบน้องนุ่มนวลและเินิ่นนาน^^' ทั้งที่ตัวเองเป็น
ผู้ชายและคล้ายจะแอนตี้ความรักแบบนี้อยู่้ด้วยก่อนหน้า
ดังนั้น สิ่งที่อยากจะได้เห็นก็คือ..พี่คิวจะหายไปคนเดียวแบบนี้ในวันที่ปรายจากไปเป็นปีสุดท้าย ตัดสินใจที่จะกลับมาแล้วให้น้อง
เค้กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่มเติมเต็ม มิใช่เพื่อแทนที่ ...
เบบี้ ทำให้เค้าได้มั้ยอะ :z3:
-
เฮ้อ....................................อิพี่คิวกำลังสับสนหรือเปล่า
แต่มาจูบแล้วเฉยไปแบบนี้ น้องมันคิดมากนะ
-
พี่คิววววววว มาเคลียร์ให้เข้าใจเลยนะ
ตกลง อีพี่ฝัน นี่เป็นไรมากป่ะ ตบเลยเค้ก
จะได้รู้สักที ทำตัวน่ารำคาญ จริงๆเธอก้ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
อย่ามาเข้าข้างตัวเอง
พี่คิวจูบเค้ก แล้วพี่คิว ชอบเค้กบ้างรึยัง
สงสารเค้ก
-
เค้าจูบกันแล้วววววววววววว
เขินๆๆๆๆๆๆๆ
ว่าแต่พี่ซีสุดยอดมาก ออกตัวปกป้องน้องเค้กด้วย
-
ทำไมอ่านแล้วรู้สึก สงสารเค้กมากกกกกกกกกก คิวก็ขี้แกล้ง เหอะ!
-
:-[
:กอด1: :L2:
-
อิจฉาตอนจูบ แต่สงสารเค้ก เกลียดยัยฝันนนนนน!!!!
-
:L2:มาอีกรอบ อ่านมาหลายรอบ ก็แบบ ก็เข้าใจพี่คิวนะ เสียคนรักไปตั้งนาน ทั้งๆที่ตัวเองก็ยังรักอยู่เลย
พอมาเจอเค้ก ก็คงสับสน คิดว่าพี่คิวก็คงรู้สึกดีๆกับเค้กเยอะแหละ คนอะไรจะแกล้งคนที่ตัวเองไม่ชอบอยู่ตลอดเวลาได้
จูบน้องไปแล้ว แต่ตัวเองก็ยังสับสนปนเปไปหมด หนีไปตั้งหลักซักพัก ที่ไหนก็ไม่รู้
งานนี้ก็สงสารน้องเค้กอ่ะ เฮ้อออออ ใจเย็นๆ นะหนู เดี๋ยวพี่คิวก็กลับมา
ขอบคุณน้องบี้นะคะ
นั่งรอตอนต่อไปอิอิ ใกล้จบแล้วใช่มั๊ย เฮ้อออไม่อยากให้จบเลย ขอตอนพิเศษเยอะๆละกัน ฮืมมมม
-
เค้กสู้ๆ
-
อ่านมาจนถึงตอนล่าสุดแล้ว
อยากลองฟังมุมมองของพี่คิวบ้างอ่ะ ว่ารู้สึกยังไง
เพราะตอนนี้ฝั่งน้องเค้ก คนอ่านรู้หมดไส้หมดพุงละ อยากรู้จังว่าพี่คิวคิดอะไร
อยากบอกว่าตอนล่าสุด แรกๆพี่คิวน่ารักกกกก :กอด1: แต่หลังๆมาน่าถีบ :z6:
-
ดังนั้น สิ่งที่อยากจะได้เห็นก็คือ..พี่คิวจะหายไปคนเดียวแบบนี้ในวันที่ปรายจากไปเป็นปีสุดท้าย ตัดสินใจที่จะกลับมาแล้วให้น้อง
เค้กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพื่มเติมเต็ม มิใช่เพื่อแทนที่ ...
เบบี้ ทำให้เค้าได้มั้ยอะ :z3:
กดไลค์คำนี้ บวกๆ
-
เป็นตอนที่......ทำให้โคตรรู้สึกดีในตอนต้น และหน่วงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกที่สุดในจักรวาลตอนเกือบท้าย
แบบว่าเค้าจูบกันไปแล้วววววววว แต่ท่าทีของอีตาพี่คิวนี่แม่ง น่าเหนื่อยใจจริงๆอ่ะ คือถ้าเราเป็นเค้กก็ยังคงจะคิดว่า
พี่คิวไม่ได้ชอบ ไม่ได้คิดอะไรด้วยอยู่ดีและวะ แล้วก็จะคิดว่างั้นจูบเราทำไม เหออออ = = เหนื่อยใจแทน
แล้วยังเจอฝันทำแบบนี้ใส่อีก เป็นเค้กนี่ตัดใจไปนานและ 5555 แบบว่าต่างกันเกินไปทุำกอย่างจนท้ออ่ะ
ถึงแม้พี่คิวจะจูบแล้วก็เหอะ แต่ยังไงก็ไม่สามารถคิดเข้าข้างตัวเองได้อยู่ดีว่าชอบ แต่จริงๆพี่เค้าก็ชอบเค้ก ใช่หม๊ายยยพี่คิว
ยังไงก็แสดงออกเยอะกว่านี่อีกนิดสสสสสสสสส์ได้ไหมค่ะ 55555 อย่าปล่อยให้เค้กนอยด์ไปเองคนเดียวแบบนี้อีก
เอาใจช่วยอยู่ อย่างน้อยพี่ก็จูบเค้กละ 55555 ขอบคุณเบบี้ที่ใ้ห้พี่คิวเริ่มต้นทำอะไรสักที กร๊ากกกกกกก
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป พี่คิวจะทำยังไงต่อไป แล้วเค้กจะเอายังไงกับความรู้สึกของตัวเอง ลุ้น !
-
จูบแล้วดราม่าต่อ
=____+ ง่ะ
พี่คิว ลืมพี่ปรายไม่ได้ ก็อย่าให้ความหวังเค้กสิ
ไม่ชอบเขาแล้วจะไปจูบทำไม
:angry2:
-
กรี๊ดเรื่องจูบกันก่อน
ก่อนมาถอนหายใจกับยัยฝัน น่าเบื่อนางมากนะ =''=
-
งานนี้พี่คิวใจร้าย
จะเอายังไงก็ไม่แน่ชัด
รีบกลับมาเคลียร์เดี๋ยวนี้นะ
-
ไม่เคยพอกับเรื่องนี้เลยจริงๆ :z3:
เบบี้คะ เค้าอยากอ่านอีกกกกกกกกกกกกกก :serius2:
-
คิว นายจะจมกับอดีตอีกนานแค่ไหนเนี่ย
สงสารเค้กอ่ะ จูบกันแล้ว อะไรก็แล้ว แต่ไม่มีความชัดเจน ไร้ทิศทาง
ส่วนฝัน ชั้นอยากเคลียร์กับเธอเป็นการส่วนตัวจริง ๆ
-
สงสารเค้กจังต้องมาโดนยัยฝันว่า เจอตอกกลับหน่อยทำใช้อารมณ์
-
สารภาพรักเค้าไปเลย
แล้วรอดูว่าพี่คิวจะตัดสินใจยังไง :L1:
-
แรกๆ นี่หวานน่ารักทำเอาเคลิ้มเลยอ่ะ
ทำไมหลังๆ มันบีบตับไต คิวปิดไปไหน กลับมาด่วนนน
-
อารมณ์มันค้างมากๆเลยอ่ะ
พี่คิวต้องใช้เวลากับอะไรบางอย่างในจิตใจ รออีกสักพักนะเค้ก แล้วพี่คิวจะบอกทุกๆอย่าง
รักพี่คิว :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
จูบแล้วววววว กรี๊ดดดด
ฝันอิจฉาละสิ 555
ตัวเองก็ไม่รู้ยังจะมาว่าเค้กอีก เชอะ!!
-
อ่านตอนนี้แล้วสงสารเค้กมาก :sad4:
ความสัมพันธ์กับพี่คิว มันเหมือนๆจะดี แต่มันก็อึมครึมเหมือนกัน
ว่าแต่ คุณพี่ฝันเนี่ยมันยังไงกันแน่ หวังว่าคงไม่ได้ดูๆกันอยู่กับพี่คิวหรอกนะ ดูเรียกร้องเหลือเกิน :เฮ้อ:
รอลุ้นตอนหน้าค่ะ
-
เต้นๆ :z2:
-
รอๆๆๆๆ
รอแบบค้างคาใจ
-
ที่ฝันแสดงออกก็คือถ้าตัวเองไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังจะได้คิวไป ชิชะนางไม่รู้อะไรวะแล้ว
ถึงที่ผ่านมาจะรู้ความรู้สึกของเค้กแค่ฝ่ายเดียว แต่การแสดงออกหลายๆ อย่างของคิวก็บอกได้ว่าคิดอะไรอยู่
คนแบบนั้นถ้าไม่สนิทใจด้วยไม่มีทางปล่อยให้เข้าไปวุ่นวายกับชีวิต หรือไปที่บ้านแน่ๆ
เค้กน่าจะบอกไปเลยนะว่า เค้กไปเกือบหมดทุกห้องในบ้านแล้ว รวมทั้งนอนบนเตียงพี่คิวแล้วด้วย เอาให้เธอหน้าหงายไปเลย :m31:
-
มันหน่วงๆไงก็ไม่รู้ เหมือนมันจะสุขที่พี่คิวกับเค้กจุ๊บๆกัน แต่ว่ายัยพี่ฝันก็มาทำให้ความสุขลดลงไป 80% :z3:
น้องเค้กไม่ต้องคิดมากนะ ถึงแทนที่พี่ปรายไม่ได้เพราะเค้กก็คือเค้ก พี่คิวก็น่าจะรู้แหละ ยังไงก็สร้างความสัมพันธ์กันใหม่ได้นินา
เอาใจช่วยอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆนะจ๊ะ :กอด1:
-
เค้กสู้ๆ เบบี้สู้ๆ คิว.....ชิส์ เชอะ
-
:z3: :z3: :z3: จบตอนแบบนี้ อ๊ากกกกกกก
แต่ครึ่งตอนแรกน่าร้ากกกกกมาก อิอิ อ่านแล้วยิ้มๆอ่ะ เขินๆ จูบกันด้วย อร๊ายยยย >////////< :-[
สงสารเค้กอ่ะ อยู๋ๆก็ไม่เหมือนเดิมแบบนี้ แต่ก็เข้าใจพี่คิวล่ะนะ
แล้วพี่คิวหายไปช่วงนี้อีก :เฮ้อ:
ยัยพี่ฝันนี่ก็ร้ายเสมอกลางเสมอปลายจริงๆ :fire:
รออ่านตอนต่อไปค่ะ มาต่อเร็วๆนะ :laugh:
-
สงสารเค้กจังเลย พี่คิว รีบ ๆ มาเคลียร์เลย
-
~45~
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เค้กดูเหม่อๆนะ” พี่ซีทัก
“เอ๊ะ ครับ..เปล่านี่” ผมยิ้มกลบเกลื่อน เช้านี้เป็นอีกวันที่พี่คิวไม่ได้มาที่ร้าน ผมไม่กล้าถามใครทั้งนั้นแม้แต่พี่ฟ้า ว่าพี่คิวกลับมาที่บ้านแล้วหรือยัง
“เค้กมีไรก็บอกพี่ได้นะ พี่ยินดีรับฟัง” พี่ซีเดินเข้ามาจับมือผมไว้
“ครับ” ผมก้มหน้าและไม่ได้สบตาเธอ
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเค้กกับพี่คิว แต่..อย่าเศร้าไปเลยนะ” พี่ซียิ้มกว้าง เธอยิ้มกว้างมากจนทำให้ผมหัวเราะออกมา แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่สามารถที่จะอธิบายเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ กระทั่งตัวของผมเองนั้นยังสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้
เราทำงานต่อ วันนี้ผมเลิกงานประมาณทุ่มครึ่ง กลับบ้านไปต้องช่วยแม่ทำงานบ้านให้เหนื่อยก่อนถึงจะทำการบ้านและอ่านหนังสือต่อได้ ผมจะต้องหาวิธีกำจัดความคิดบ้าบอในหัวสมองของผมโดยที่ผมจะต้องได้รับประโยชน์กับมันด้วย ตอนนี้ถึงแม้หัวใจผมจะคิดเรื่องของพี่คิวกับพี่ฝันตลอดเวลา แต่ผมกลับกำลังคิดว่าพี่คิวคงกำลังคิดเรื่องของผมอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่พอนึกไปถึงเรื่องของผู้หญิงที่ชื่อปรายแล้วมันกลับทำให้ผมคิดว่า ผมคงกำลังหลงตัวเองอยู่ละมังครับ อย่างที่พี่ฝันบอก ความสำคัญของผมคงจะเทียบไม่ได้เลยถ้าต้องไปเปรียบเทียบกับพวกเธอ..
~เราหลงรักผู้ชายหยิ่งทะนงคนนี้ได้อย่างไรกัน พี่ปราย..เธอโชคดีจังเลยนะ~
ที่จริงแล้ว..ผมกำลังรู้สึกว่าพี่ปรายเป็นคนที่โชคดีสำหรับผม เพราะความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจผมนั้นผมเองก็อยากได้รับความสำคัญเหมือนกับเธอ กำลังฝันสินะครับ..หึ
= = = = = = = =
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ส..สวัสดีครับ” ผมทักพี่คิวที่เพิ่งเดินออกมาจากประตูหลังร้าน
“ดี..” พี่คิวตอบ
“.......................” เราไม่ได้สบตากัน เปล่า..พี่คิวไม่ได้สบตาผมฝ่ายเดียวต่างหาก
“เอ่อ พี่..สบายดีนะ” ผมรีบถามเพราะพี่คิวทำท่าจะเดินไป
“อืม นายล่ะ” พี่เขาถามกลับ
“ดีครับ” ผมยิ้มตอบ
“ก็ดีแล้ว” พี่คิวอมยิ้มก่อนจะเดินไปที่รถ ผมหันกลับไปมอง พี่คิวเดินไปหยิบของที่ท้ายรถและไม่ได้หันมามองผมอีก ผมจึงเดินเข้าร้านมา ผมจัดการเก็บของของตัวเองเข้าล็อกเกอร์และแต่งตัวก่อนที่จะออกมาช่วยพวกพี่ๆทำงาน
“ทำอะไรครับนั่น” ผมทักด้วยความสงสัย ยืนมองพี่กัสที่กำลังหยิบเค้กและหัวเราะร่าเริงอยู่คนเดียว พี่กัสชะงักหันกลับมามอง
“อ่ะ เอ่อ” พี่กัสหน้าเสีย
“คือ พี่..” พี่กัสอ้ำอึ้ง
“พี่เอา..” ผมเอ่ย
“ชู่~ ซื้อกลับบ้านน่ะ” พี่กัสทำท่าทำทางบอกให้ผมเงียบไว้ ก่อนจะยักไหล่อย่างเขินๆ ผมมองไปที่มือของพี่กัสที่ถือกล่องขนมเค้กของร้านอยู่ ส่วนอีกมือถือที่คีบเค้กไว้
“แบบว่า เอ่อ แบบว่า..ก็ครีมเค้กบราวนี่มันเหลือแค่สองชิ้นเองอ่ะ กว่าร้านจะปิดก็อีกตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ พี่กลัวว่ามันจะหมดอ่ะ..อย่าไปบอกพี่คิวน้า” พี่กัสเข้ามาทำหน้าอ้อนใส่
“ก็ซื้อไม่ใช่เหรอครับ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” ผมพูดปนหัวเราะ
“โหย..ไม่ได้หรอก มันก็ไม่ใช่กฎบังคับอะไรหรอกนะ แต่พี่เคยทำแบบนี้มาครั้งนึง..โดนพี่คิวดุยกใหญ่เลยอ่ะ” พี่กัสทำหน้าแขยง
“ลูกค้าที่มาร้าน มาเพื่อหวังว่าจะได้ทานเค้กที่เค้าอยากทาน..เป็นพนักงานที่ดี ไม่ควรทำให้ลูกค้าผิดหวัง” พี่กัสทำเสียงใหญ่เลียนแบบพี่คิวแสดงให้ผมดู ผมหัวเราะให้กับท่าทางของพี่เขา
“งั้นก็อย่าทำสิครับ” ผมบอก
“โหย..เค้กไม่รู้อะไร บราวนี่ครีมเค้กนี่น่ะ..สูตรนี้เป็นสูตรที่พี่คิวกับพี่เซ็นไปชนะการประกวดที่ฝรั่งเศสมาเชียวนะ เค้กไม่สังเกตเหรอว่าเดือนนึงน่ะ..ทำแค่สองครั้งเอง!” พี่กัสชูนิ้วขึ้นสองนิ้วประกอบพร้อมกับเบิกตาโพรง
“มันอร่อยมากเลย..พี่ไม่ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก แล้วเมื่อไหร่พี่จะได้กินอ่ะ” พี่กัสกระซิบบอกด้วยท่าทางจริงจัง ผมคิดว่าพี่กัสคงอยากกินมากจริงๆ อย่างที่พี่กัสบอกบราวนี่ครีมเค้กของทางร้านเราจะทำเพียงแค่สองครั้งต่อหนึ่งเดือนซึ่งผมไม่เคยสังเกตว่าพี่คิวและพี่เซ็นวางเมนูนี้ไว้วันไหน รู้เพียงว่าเมนูนี้จะทำครั้งละสี่สิบชิ้นเท่านั้น ตกหนึ่งชิ้นถ้าทานที่ร้านและต้องการแบบตกแต่งด้วยจะตกที่ราคาห้าร้อยห้าสิบบาทแต่ถ้าไม่ตกแต่งจะอยู่ที่สี่ร้อยเจ็ดสิบบาท เป็นเค้กก้อนกลมๆขนาดเท่าฝ่ามือ ปานกลาง..ไม่เล็กและไม่ใหญ่ สำหรับผมแล้วหนึ่งชิ้นในราคาเท่านั้นน่ะมันไม่อิ่มหรอกนะครับ
“งั้นพี่ก็ควรรีบจ่ายเงินแล้วเอาไปซ่อนก่อนดีไหมครับ” ผมยิ้ม
“จริงด้วย!” พี่กัสยิ้มกว้าง
“วันนี้เห็นว่าพี่ฟ้าจะเลิกประมาณทุ่มนึงล่ะ ได้กลับบ้านเร็ว..ดีใจไหม” พี่กัสยักคิ้ว
“ค้าบ..แต่ดูเหมือนพี่กัสจะดีใจมากกว่าเค้กอีกนะ” ผมแซว
“อะนะ รู้ดี” พี่กัสหัวเราะ
“ทำงาน” พี่หมีเดินเข้ามาในเคาร์เตอร์พร้อมกับนำสมุดมาตีหัวผมทั้งสองคน
“ง่ะ” ผมกับพี่กัสทำหน้างอใส่พี่หมี
“แล้วนี่อะไร อ๋อ..ขโมยของ” พี่หมีเหลือบมองต่ำไปที่เค้กในมือของพี่กัส
“เปล่าขโมยนะ ซื้อเหอะ..ซื้อ” พี่กัสรีบแก้ตัวยกใหญ่จนผมอดหัวเราะไม่ได้
“เหรอครับ งั้นเดี๋ยวไปบอกพี่คิวให้นะ” พี่หมีพูดด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนกับจะทำอย่างที่พูดจริงๆ
“พี่หมี..อ้า ก็กัสอยากกินอ่ะ อย่าบอกพี่คิวนะ..กัสขอโทษ” พี่กัสวางกล่องเค้กแล้วรีบเข้าไปกอดแขนพี่หมีไว้
“พ่อกับพี่คิวน่ะ กลัวใครมากกว่ากัน” พี่หมีถาม
“พี่คิว” พี่กัสตอบเสียงเบา
“อืม แล้วทำทำไม” พี่หมีว่า พี่กัสเงียบลงในทันที
“เออ ไม่กินแล้วก็ได้..ไม่เห็นต้องบ่นเลย” พี่กัสสะบัดหน้าหนีกลับมามองเค้กที่วางอยู่บนเคาร์เตอร์
“เอาเก็บใส่ที่เดิมก็ได้” พี่กัสพูดกระชากเสียงด้วยอาการงอนไม่เลิก พี่หมีส่ายหัวมองหน้าผม
“จะเอาก็รีบเอาไปเก็บในรถซะ อ่ะ..กุญแจรถ” พี่หมียื่นกุญแจรถให้ พี่กัสเหลือบมามองก่อนจะยิ้มกว้าง
“เดี๋ยวจะโดน เร็วๆเลย..เค้กเอาออร์เดอร์เข้าไปให้พี่คิว กัสไปรับออร์เดอร์ลูกค้าโต๊ะเอด้วย..ให้ไว” พี่หมีสั่งยาว
“ค้าบ” ผมกับพี่กัสตอบพร้อมกัน ผมหยิบกระดาษจากมือพี่หมีมาเพื่อจะทำไปให้พี่คิวในครัว ผมรู้สึกดีใจที่ผมจะได้เป็นคนนำไปให้เอง ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมอยากเจอพี่เขาอีกบ่อยๆ
“ออร์เดอร์โต๊ะเอฟครับ” ผมบอกคนในครัว พี่คิวเงยหน้าขึ้นมามอง พยักหน้าตอบและก้มลงทำอาหารต่อ
“พานาคอตต้าเซตเอหนึ่งที่ มาสคาร์โปนชีส คัสตาร์ทแอนราสป์เบอร์รี่ซอสหนึ่งที่ คิวปิดฟองดู ช็อกโกแลตหนึ่งที่ เครื่องดื่มเป็น..บลูเมาน์เท่น คอฟฟี่ มอคคาหนึ่ง เอสเปรสโซ่ร้อนหนึ่ง แล้วก็..บรั่นดี คอฟฟี่เชกหนึ่งครับ” ผมบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ขอบใจ” พี่คิวบอกเท่านั้น ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผมอีก
“ครับ” ผมตอบเสียงเบา นำกระดาษไปเสียบไว้ที่ประจำ ผมหันกลับไปมองที่พี่คิวอีกครั้งแต่อีกฝ่ายกลับเหมือนเดิมทำให้ผมต้องเดินออกจากห้องครัวมาอย่างเงียบๆ
“......................” เราทำอะไรผิดงั้นเหรอ เราทำอะไรผิดกัน..
“เอ่อ ทุกคน” พี่ฟ้าเดินมาที่เคาร์เตอร์ พวกเราทุกคนหันไปมอง
“พรุ่งนี้พี่ต้องบินไปสิงค์โปรแล้วต่อไปฝรั่งเศสเลย จะไปดูร้านที่นั่นสักอาทิตย์นึง หมี..ทางนี้พี่ฝากดูแลด้วยนะ” พี่ฟ้ามองหน้าพี่หมี
“ไปกับทิกเกอร์ แฟนเก่าอะไรนั่นเหรอครับ” พี่หมีถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่สำหรับผมแล้วหน้าตาเรียบนิ่งนั่นกลับดูกวนโอ๊ยจนเหลือเชื่อ
“ฉัน ไป คนเดียว ย่ะ” พี่ฟ้าทำเสียงเข้มด้วยท่าทางไม่พอใจ พวกผมหลุดยิ้ม
“ส่วนซีถ้ารุจมีปัญหาอะไรซีโทรหาอาได้เลยนะ อาฝากเรื่องบัญชีด้วย..สรุปแต่ละวันเสร็จก็ให้คิวได้เลย อาบอกรุจแล้วว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็ให้ปรึกษาซีก่อน ถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาโลกแตก..อย่าเอาไปถามคิว โอเคนะ” พี่ฟ้าอมยิ้มพร้อมกับทำท่าทางประกอบ
“หึ..ค่ะ” พี่ซีพยักหน้าตอบอย่างเข้าใจในความหมายนั้น
“อาก็อย่าลืมของที่ซีฝากซื้อล่ะ” พี่ซีบอก
“ครับ” พี่ฟ้ายิ้มตอบ
“เค้ก” พี่ฟ้าหันมามองหน้าผม
“ครับ”
“มานี่สิ” พี่ฟ้ากวักมือเรียก ผมเดินเข้าไปหาพี่ฟ้าที่เอาแขนเกาะที่เคาร์เตอร์ไว้
“พี่ฝากคิวด้วยนะ” พี่ฟ้าขยิบตาอย่างทีเล่นทีจริง ผมได้แต่ยิ้มแหย
“เค้ก” ผมพูดเสียงเบา
“ถ้าเค้กไม่ดูคิวแล้วใครจะดูล่ะ พี่เป็นห่วงมันอ่ะ” พี่ฟ้าทำหน้างอ
“พี่ฝันไงครับ” ผมพูดไปอย่างนั้น พูดไปตามที่ใจคิด
“......................” เราต่างยืนเงียบกันหลังจากนั้น พี่ฟ้าเอาแต่ยืนจ้องหน้าผม รอยยิ้มของพี่ฟ้าหุบลงทีละน้อย ผมก้มหน้าเพราะไม่รู้ว่าถ้าผมเงยหน้าไปแล้วหน้าตาของผมจะเป็นอย่างไร ผมจะกล้าสบตากับพี่ฟ้าตรงๆไหม
“เอ่อ เค้ก..” พี่ฟ้าถอนหายใจเล็กๆก่อนจะเอ่ยปากพูด
“โอเค ไม่เป็นไร..” อยู่ๆพี่ฟ้าก็นำมือมาลูบแก้มผมเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่เขา พี่ฟ้ายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนเช่นทุกครั้ง ผมกลับยิ่งรู้สึกผิดหวังมากกว่าเดิมเพราะพี่ฟ้าไม่ปฏิเสธใดๆจากคำพูดของผมเมื่อกี้เลย
“ไม่เป็นไรนะครับ แล้วแต่เค้กเนอะ” พี่ฟ้ายิ้มบอกก่อนที่จะเข้ามาหอมแก้มผมและเดินกลับเข้าห้องพักของตัวเองไป
“เป็นอะไรรึเปล่า” ผมสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมองพี่หมีที่มีสีหน้าเป็นห่วงผมไม่ต่างจากพี่ซีหรือพี่ฟ้า
“เปล่าครับ” ผมยิ้มตอบ
“เปล่าครับงั้นเหรอ” พี่หมีพูดแกมหัวเราะ
“เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันไหม เก็บให้หน่อย..” พี่หมีชวนในขณะเดียวกันก็ยื่นถุงมือมาให้ผมเก็บเข้าที่ด้วย
“ซีไปด้วย” พี่ซีพูดขึ้น
“หึ..” พี่หมีหัวเราะเหลือบไปมองหน้าพี่ซี
“ไปละกันนะ” พี่หมีหันมาพูดสรุปเองเสร็จ
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบอย่างช่วยไม่ได้ และเริ่มลงมือทำงานต่ออีกครั้ง..
= = = = = = = =
“ตกลงจะกินร้านอะไร” พี่หมีถาม ตอนนี้เราอยู่ระหว่างทางออกจากซอยของร้าน พี่คิวขับกลับไปก่อนแล้ว ผมไม่ได้ขอให้พี่เขาไปส่งที่บ้าน ถึงแม้ว่าพี่เขาจะถามแล้วว่าจะให้พี่เขาไปส่งรึเปล่า พอผมบอกไปว่าจะไปกินข้าวเย็นกับพวกพี่ๆ พี่คิวเพียงแค่พยักหน้ารับรู้และจากไป..
“กัสอยากกินอาหารญี่ปุ่น ไปฮานาย่ากันเหอะนะ..นากิยะก็ได้” พี่กัสพูดขึ้น นำคางไปเกยตรงเบาะรถด้านคนขับด้วย
“แต่พี่อยากกินอาหารจีนอ่ะ” พี่ซีพูด
“แล้วเค้กล่ะ” พี่หมีถาม เหลือบมองผ่านกระจกหลังมาที่ผม ทุกคนหยุดคุยในทันทีเหมือนกำลังรอคำตอบจากผมอยู่
“อะไรก็ได้ครับ” ผมตอบ
“โด่..” พี่ซีกับพี่กัสประสานเสียงพร้อมกัน ผมได้แต่อมยิ้ม “อะไรก็ได้” ในที่นี้คืออะไรก็ได้จริงๆครับ ชื่อร้านที่พี่กัสพูดถึงผมยังไม่เคยไปกินเลยสักครั้ง รวมถึงอาหารจีนที่พี่ซีว่าด้วยเพราะผมไม่รู้ว่าพี่ซีหมายถึงร้านแบบไหน ถ้าผมพูดออกไปว่า “ร้านข้าวข้างทาง” ทุกคนคงหมดบรรยากาศเป็นแน่
“งั้นไปกินอาหารญี่ปุ่นแหละ” พี่กัสสรุป
“แต่พี่อยากกินก๋วยเตี๋ยว” พี่หมีพูด
“ไม่เอาอ่ะ” พี่กัสโวยวาย
“แต่พี่อยากกิน” พี่หมีย้ำเสียงอีกทำให้พี่ซีที่นั่งอยู่ข้างๆหัวเราะ
“แต่กัสอยากกินอาหารญี่ปุ่น”
“ก๋วยเตี๋ยวแล้วกันนะครับซี” พี่หมีพูดสรุปเองเหมือนหาแนวร่วมและดูเหมือนจะไม่สนใจพี่กัสอีกด้วย
“ก็ได้ค่ะ” พี่ซีตอบ
“อะไรอ่ะ” พี่กัสทำเสียงงอนใส่และกลับมานั่งเอาหัวมาพิงไหล่ผม ผมยิ้มให้
“เอาน่า เดี๋ยวพี่พาไปเจ้าอร่อยของรัชดาเลย ไม่ต้องห่วง..อย่าให้เห็นว่าต่อสองชามล่ะ” พี่หมีพูด
“อื้อ” พี่กัสทำเสียงส่งๆอย่างช่วยไม่ได้ ผมแอบยิ้มในใจและรู้สึกสบายใจที่พี่หมีสรุปว่าจะไปกินที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ถ้าผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองมากเกินไป พี่หมีคงเลือกเผื่อผมด้วย ไม่อย่างนั้นคงตามใจพี่กัสไปแล้ว..
= = = = = = = =
ณ ร้านก๋วยเตี๋ยว..
“พี่ไม่กินอันนี้” พี่กัสคีบตับนำมาวางบนชามของผม
“เค้กไม่กินลูกชิ้นปลา” ผมบอกแล้วตักไปวางบนชามของพี่กัสบ้าง
“ไม่เอาผักชีโรยหน้า” พี่กัสบ่นอีก
“กินกันสักที เปลี่ยนกันอยู่ได้..ไม่กินทำไมไม่บอกเค้าตั้งแต่แรกล่ะ” พี่หมีดุเข้าให้ พี่กัสทำปากเบะอย่างไม่สนใจและกินต่อ
“โห เค้กใส่พริกเยอะจัง” พี่ซีทัก
“ฮ่าๆๆ..เค้กชอบกินเผ็ดนะครับ” ผมบอก
“เดี๋ยวไปส่งซีก่อนแล้วค่อยไปส่งเค้กก็แล้วกัน” พี่หมีพูดขึ้น
“แล้วกัสก็นอนห้องพี่หมี” พี่กัสชูตะเกียบแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย
“ไม่ได้ครับ” พี่หมีพูดก่อนจะก้มหน้าก้มตากิน พี่กัสที่ชูตะเกียบอยู่หน้างอในทันที ผมก้มหน้าก้มตากินต่อ โดยมีเสียงคุยจากพี่กัสและพี่ซีเป็นระยะ
“เค้กเป็นไรเหรอ” ผมสะดุ้ง วางตะเกียบลงที่ชามเพราะกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“.....................” ผมส่ายหัวตอบ พี่กัสทำหน้าเศร้าลง
“วันนี้เค้กไม่ค่อยพูดเลย เป็นอะไรรึเปล่า” พี่กัสถามอีกครั้ง คนบนโต๊ะเงียบเหมือนรอคำตอบ
“เปล่าครับ” ผมยิ้มตอบ
“เอ่อ พี่หมี..เดี๋ยวเค้กกลับเองก็ได้นะครับ” ผมบอก
“เฮ้ย ได้ไง..พี่บอกว่าจะพามากินข้าว จะให้กลับเองได้ไง” พี่หมีรีบพูดทันที ผมเงียบ
“เออน่า เดี๋ยวไปส่ง..ไม่ได้แบกแกไปสักหน่อย” พี่หมีว่าพร้อมกับกวักมือเรียกพนักงานให้มาคิดเงิน
“พี่หมีจ่าย” พี่กัสกับพี่ซีพูดขึ้นพร้อมกัน
“หึ รู้แล้วครับ” พี่หมีอมยิ้ม เราเดินทางกลับบ้านโดยพี่หมีไปส่งพี่ซีก่อน หลังจากนั้นมาส่งผมที่บ้านและไปส่งพี่กัสต่อ
= = = = = = = =
“พีท..เอ่อ” ผมเรียก พีทละความสนใจจากเกมในมือ
“ไป..ไปบ้านพี่คิวเป็นเพื่อนหน่อย ได้ไหม” ผมไม่กล้าสบตาพีทตรงๆ
“ได้” พีทตอบแทบจะทันที
“แต่ไมวะ..กูหมายถึง มีเรื่องไร” พีทถามกลับ
“คือ กูอยากไปดูพี่เค้าหน่อย แต่กูไม่กล้าไปคนเดียวอ่ะ..” ผมตอบ ผมคิดมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ที่จริงถึงแม้พี่ฟ้าจะไม่ได้ฝากพี่คิวไว้กับผม แต่ผมก็อยากไปเจอพี่คิวอยู่ดี ผมอยากไปเจออีกครั้ง อยากรู้ว่าพี่คิวจะคุยกับผมอย่างปกติด้วยรึเปล่า ผมอยากแน่ใจในความรู้สึกของผม แต่เพียงแค่ผมกลับรู้สึกว่ามีเส้นบางอย่างขั้นอยู่ที่ทำให้ผมรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ตั้งแต่วันนั้น วันที่ผมกับพี่เขาจูบกัน..
“ได้ หลังเลิกเรียนนะ” พีทตัดบท
“อื้อ” ผมพยักหน้า พอผมเห็นแก้วที่กำลังจะเดินมา ผมจึงจบการสนทนาลงไว้เท่านั้น
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“ให้กูเข้าไปด้วยไหม” พีทถาม เมื่อรถของพีทจอดสนิทอยู่ที่หน้าบ้านของพี่คิว
“......................” ผมเงียบเพราะกำลังใช้ความคิด
“รออยู่นี่แล้วกัน เดี๋ยว..กูมา” ผมบอก พีทพยักหน้ารับ ผมเดินลงจากรถและเดินตรงไปที่หน้าบ้าน นิ้วกดกริ่งของบ้านด้วยสมองสั่งการ พี่เขียวรีบวิ่งออกมา
“สวัสดีครับ” ผมยิ้มทักเธอ
“สวัสดีค่ะคุณเค้ก..เชิญค่ะ” พี่เขียวรีบเปิดประตูให้
“พี่คิวอยู่ไหมครับ”
“อยู่ค่ะ อ่านหนังสืออยู่ในห้องประจำแหละค่ะ” พี่เขียวตอบ
“ครับ..งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปเองได้ครับ”
“ค่ะ เชิญเลยค่ะ” พี่เขียวผายมือให้ ผมเดินตรงไปที่ประตูบ้าน ถอดรองเท้าออกอย่างเงียบๆ เมื่อเปลี่ยนใส่รองเท้าสำหรับใส่ในบ้านเรียบร้อยก็เดินตรงไปตามทางอย่างคุ้นเคย
ผมหยุดชะงัก ยืนมองพี่คิวนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาตัวโปรดอยู่ตรงปากประตูห้อง..
ก๊อก ๆ ๆ
“มีอะไรครับ” พี่คิวขานตอบทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือ ไม่ได้หันมามองตามเสียง ผมยืนเงียบอยู่อย่างนั้นจนพี่คิวหันหน้ามามอง
“.......................” เราต่างคนต่างจ้องกันอย่างเงียบๆ พี่คิวปิดหนังสือลงช้าๆ ผมเดินเข้าไปหาแต่ไม่ได้เข้าไปใกล้พี่คิวมากมากนัก
“นาย..มีอะไร” พี่คิวเอ่ยขึ้น ผมเงียบอยู่ครู่หนึ่ง พี่คิวเองก็เช่นเดียวกัน
“เค้ก เป็นห่วง พี่..หายไปไหนมาเหรอครับ” ผมถามและไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาไปทางไหน พี่คิวหันหน้ากลับไปอีกทาง
“ไปเที่ยวน่ะ” พี่คิวตอบส่งๆ แต่ก่อนผมคิดว่าพี่คิวเป็นคนแข็งกระด้างและเย็นชา น้ำเสียงที่พี่คิวพูดกับผมตอนที่เรายังไม่สนิทกัน ฟังกี่ครั้งผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าผมไม่ชอบเอาเสียเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรู้สึกแบบนั้นก็ลดน้อยลงไปจนจางหาย แต่ตอนนี้เหมือนเสียงในแบบเมื่อก่อนนั้นย้อนกลับมาให้ผมได้ยินอีกครั้ง
“เหรอ..ครับ” ผมพูดเสียงเบา
“........................” เราต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่นานมาก พี่คิวเงียบจนผมทำตัวไม่ถูก เหมือนตอนนี้ผมกำลังเป็นส่วนเกินทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้เลย เหมือนผมเป็นส่วนเกินของห้องนี้ ผมรู้สึกเหมือนที่ผ่านมาผมแทบไม่รู้จักพี่คิวเลยจริงๆอย่างที่พี่ฝันเคยว่าเอาไว้ หรือเพราะพี่คิวที่มีท่าทีแบบนี้กันจึงทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ ก่อนมาที่นี่ผมคิดไว้แล้วว่าถ้าพี่คิวคุยกับผมอย่างปกติ ผมจะถือว่าเหตุการณ์ที่พี่ฝันว่าไว้นั้นผมจะไม่ถามอะไรพี่คิวและปล่อยผ่านมันไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“พี่ฟ้า พี่ฟ้าบอกว่าให้เค้กมาดูพี่คิว..หน่อย” ผมพูดเสียงเบา อ้างไปอย่างนั้นเอง คำพูดสุดท้ายนั่นแทบจะเลือนหายเข้าไปในลำคอ
“หึ ฉันไม่ใช่เด็กสักหน่อย” พี่คิวหัวเราะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม
“ที่นายมาหาฉันเพราะเรื่องแค่นี้งั้นเหรอ” พี่คิวพูด
“.......................” ผมเงียบ มือกำเข้าหากันแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง ตั้งแต่เกิดมา..ผมไม่เคยรู้สึกแย่เท่ากับวันนี้มาก่อนเลย
“พี่..”
“พี่ไม่อยากให้เค้กมาเหรอครับ” ผมตัดสินใจพูดออกไป พี่คิวเงียบและไม่ยอมตอบผม ผมยืนนิ่งอยู่เกือบห้านาที
“คิว” ทั้งผมและพี่คิวหันกลับไปมองที่ประตู พี่ฝันเดินเข้ามาและเธอก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าผมยืนอยู่ในนี้ด้วย ผมก้มหัวให้เธอเพียงนิดเดียวเป็นการทักทาย เธอพยักหน้าตอบและไม่ได้พูดอะไร
“งั้นผมขอตัวครับ” ผมพูดบอกทั้งสองคนและเลือกที่จะแทนตัวเองว่า “ผม” อย่างที่เคยใช้มาเมื่อนานมาแล้ว ผมรีบเร่งเท้าให้ตัวเองออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ที่จริงผมแทบจะทนไม่ได้ เป็นเพียงผมเองที่ทนไม่ได้กับความเย็นชาที่พี่คิวมีให้ หรือเพราะที่จริงแล้วพี่ฝันคงพูดถูก ผมคงไม่ได้สำคัญอะไรไปมากกว่าเด็กในร้านคนหนึ่ง..
ผมรีบวิ่งไปขึ้นรถ รถของพีทยังคงจอดอยู่ที่เดิม ผมปิดประตูรถลง..
“ไอ้เค้ก” พีทเรียกสติ น้ำเสียงของมันดูเป็นห่วงผมจนน่าดีใจ แต่ที่จริงแล้วผมยังมีสติอยู่..ผมรู้ตัวดี
“กู..” ปากผมสั่น คำพูดอยู่ในลำคอ และหน้าอกมันจุกไปหมด อาการจุกหน้าอกที่ทำให้หายใจไม่สะดวกคล้ายตอนที่มีอาการแพ้ปูแต่ไม่ใช่ ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นช่างแตกต่างกันจนน่าหัวเราะ
“.......................” พีทเงียบ ผมรับรู้ได้ถึงมือของมันที่ลูบหลังผมไปมา ผมก้มหน้าลงซุกกับคอนโซลรถด้านหน้า
“อึก..กูรักพี่คิว” ผมได้แต่เอามือปิดหน้าตัวเองไว้ รับรู้อารมณ์แปรปรวนที่เคยเป็นหนักขนาดนี้ครั้งแรกในชีวิต พีทเข้ามากอดผมโดยไม่พูดอะไร น้ำตาผมไม่ได้ไหลแต่ผมกลับรู้สึกว่าผมอึดอัดจนตัวมันปวดไปหมด
หน้าอกเต้นแรงด้วยความเจ็บปวด เนื้อตัวมันช่างทรมาน เจ็บ..น้ำตาที่เหมือนจะไหลแต่กลับไม่ไหล อ้อมกอดจากเพื่อนที่กำลังปลอบโยน แทบรักษาผมไว้ไม่ได้ในตอนนี้..
................>>>><<<<.................
หมายเหตุ :
..ที่กระทู้นิยายMemorial~ รักแรก รักสุดท้าย ได้มีการชี้แจงเกี่ยวกับการที่จะไม่ตีพิมพ์หนังสือเรื่องนั้นภายในปี2556 ค่ะ การชี้แจงนี้เชื่อมโยงไปถึงเรื่อง ~Limited Lovers~ ด้วยนะคะ เบบี้ได้ชี้แจงเรื่องนี้ตั้งแต่วันอังคารที่ 17 เมษายน 55 ที่ผ่านมา..ยังไงถ้าคนอ่านคนใดยังไม่ทราบข่าว ก็เข้าไปอ่านรายละเอียดได้นะคะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=13100.15270)..
เบบี้
-
มาแล้วววว ว วว วว วว :กอด1:
ไปอ่านต่อก่อนนะ จุ๊บๆๆๆ
-
:m15: :m15:
แงๆๆ เค้กมาเดี๋ยวพี่ปลอบให้
เบบี้อย่าค้างนานนะ คนอ่านอาจตายได้ :o12:
-
อิอิ แต่เช้าเลย
-
ลุ้นน้องเค้กใจจะขาด....งื้ออออ
ต้องลุ้นอีกนานไหมเนี่ย ดูท่าอิพี่คิวจะไ่ม่ปริปากอะไรง่ายๆ
น้องเค้กมาซบอกพี่ก่อนชั่วคราวเถอะนะ โอ๋ๆๆๆ :oo1:
-
:sad4: :sad4:
อะไรของอีพี่คิววะะะะะะะะะะะ
ดีๆอยู่แล้วเชียววว แล้วผีอะไรมาเข้าเนี่ยย
เซงเป็ดกับพระเอก ปลดดีมั้ยเนี่ยยยยยยย :เฮ้อ:
-
อ๊ากกกกกกกกกกกก สงสารน้องเค้ก
ร้องไห้ออกมาเลยจ้า อย่าเก็บไว้ เดี๋ยวเจ้ปลอบเอง
รู้สึกกดดันแทนเลยแหละ
บรรยากาศอึมครึมเนาะ รอวันคลี่คลาย :เฮ้อ:
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยย อึดอัดใจจะขาด
เหนื่อยใจกับคิว และอยากขาคู่ใส่ฝันให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
-
เค้กจ๋าอย่าร้องไห้ :sad4:
ขอ :z6: อิพี่คิวกับคุณฝันร้ายหน่อยเหอะ
รม'เสีย กับอิพีคิว
-
T^T สงสารเค้กอ้ากกกกก
อิพี่คิวนิอะไรนิ :z3: :z3:
-
ค้างอย่างแรง :m15: พี่คิวอ่ะ เย็นชาที่สุด
-
โฮ.... พี่คิว
ทำไมทำอย่างเน้!!! อยากอ่านต่อจัง T^T
-
โอ้ยยยยยยยย
เข้าใจพี่คิวนะ แต่สงสารเค้กอ่ะ T^T
:jul1:
-
ค้างๆ อ่า มาต่อโดยด่วนคร้าบ
-
พี่คิวนี่ผีเข้าผีออกจริง ๆ เค้กอย่าเสียใจ
-
คิวใจร้าย ใจร้ายมาก สงสารเค้ก อยากเห็นคิิวรู้สึกผิดกับเค้กบ้าง คิวเห็นแก่ตัว ใจร้าย
-
ร้องไห้แต่เช้าเลย...
มันเจ็บ
มันหน่วง
มันก้ำกึ่ง...
จะก้าวต่อก็ไม่มีอะไรชัดเจน จะถอยออก...ก็ดันรักเขาไปแล้ว เฮ้ออออ ฮือออออออ~
:o12: :o12:
-
ไม่ควรเลย ไม่ควรเรียกร้องให้รีบมาต่อเลย ไม่ควรหลงหลุดรีบวิ่งมาอ่านเลย ไม่ควรเล๊ยยยยยยยย
ฮ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :m31:
มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย พี่คิ๊วววววววววววววววววววว
จะไม่เรียกร้องให้เธอรีบมาต่อโดยไว ฉันขอหยุดทำใจซักพัก
:sad4:
ขอบคุณนะไอ้น้องบี้
+++เหมือนเคย
:o12:
-
สงสารเค้กอ่าา
:z6:พี่คิวเป็นไรไปอีกเนี่ยย
-
สงสารเค้กมากกก พี่คิวเย็นชาเกิ๊นนนน :z6:
-
พี่คิวใจร้ายยยยย :sad4:
-
:sad4:เค้กน่าสงสารพี่คิวทำอะไรสักอย่างสิ
-
พี่คิวทำแบบนี้กับเค้กได้ไง :m31:
ระวังเหอะ เย็นชาเข้าไป ถ้าเค้กไม่รักแล้ว ไม่ต้องมาร้องไห้เลยนะ เสียเค้าไปแล้วจะรู้สึก (อินมากไปหน่อย 55)
โอ้ยยยย สงสารเค้กไม่ไหวแล้วอ่ะตอนนี้ :o12: วิ่งออกมาตามเป็นพระเอกหนังไทยหน่อยก็ไม่ได้ :m16:
เศร้าเลยอ่ะ สงสารเค้กจับใจ อ้ายยยยย พี่คิว :sad4:
เค้กสู้ๆ นะ ๆ เดี๋ยวจะให้เค้กทำเย็นชา ไม่สนใจพี่คิวมั้ง พี่หมีไปจีบเค้กหน่อยค่ะ (ตอนนี้หลงรักพี่หมีมากเลย พี่ชาย 555)
-
สะเทือนใจอ่ะ สงสารน้อง :z3:
แอบคิดเหมือนกันนะ คนบางคนถ้ามันเข้าใจยากนัก ก็ปล่อยเค้าอยู่กับตัวเองไปเหอะ
อืม....ไม่ได้อีกแหละ ก็เค้กดันรักเค้าไปแย้วอ่ะ
-
....อย่าไปรักเค้าเลย พี่คิวเค้าอยู่สูงเกินไป อ่านใจอ่านความคิดยาก ถอยดีกว่าาาาาาาาาาา :laugh:
....มันตรงกันข้ามกับเค๊ก ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย เค้าก็อ่านออกหมดทุกความคิด :เฮ้อ:
-
เบื่อพี่คิวกะอิฝันค้าง :m14:
-
พี่คิวขา ช่วยเปิดปากหน่อยได้ม๊ายยยย :sad4:
-
สงสารเค้ก
-
:m15:สงสารเค้กจังเลย อ่านไปยังอยากจะร้องไห้ตามเลย คิวใจร้าย
ทำไงได้ละเค้กรักเขาข้างเดียว เขาจะมีใจให้เราได้หรือเปล่านั้นคงว่าอะไรไม่ได้
การที่เราแอบรักเขาข้างเดียวมันทรมานเหลือเกิน สงสารเค้ก
-
สงสารเค้กกกกกกกกกกกกจัง
-
เศร้าอ่าาาาา :sad4:
เค้กแทนตัวว่าผมแร้วด้วยยยยย
งื้อออออออ ค้างง่ะ!!!
-
สงสารเค้กเบื่อคิวด้วยให้เค้กเลิกชอบได้ป่ะ
-
สงสารเค้กอ่ะ :o12:
อยากกระทืบอิพี่คิวมาก :m31:
-
อ่านตอนนี้แล้ว อึดอัด อยากให้ทั้ง 2 คนเข้าใจกันซักที :เฮ้อ:
-
อิพี่คิว ไม่ไหวแล้วนะ!!! :sad4:
เค้กมาอยู่กับเรามา
-
สงสารน้องเค้ก :o12:
พี่คิวทำอะไร :sad4:
-
ร้องให้ไปกับเค้ก สงสารน้อง :กอด1:
มันอัดอัด ..ไม่ชัดเจน แล้วยังโดนเย็นชาใส่อีก
ถ้ามันยากนัก ... ก็ปล่อยไปเหอะนะเค้ก :เฮ้อ:
-
ไม่ว่าคิวหรือเค้ก เริ่มเข้าใจและยอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วใช่มั้ย เค้กสู้ๆ :กอด1:
-
จะโกรธพี่คิวละนะ :o12: ทำงี้กับเค้กได้ไงอ่ะ
เย็นชาเหลือเกิน ความเย็นชาทำให้ปวดใจจริงๆ เจ็บยิ่งกว่าด่ากันอีก :m15:
:pig4:นะคะคุณเบบี้ จะเก็บตังรอคิว&เค้ก :กอด1:
-
เห้ออออออ. อึดอัดแทนเค้กอ่ะ v_v
-
คิว ทำแบบนี้ไม่ไหวอ่ะ เริ่มเองแท้ ๆ และก็เป็นฝ่ายทำเหมือนมีใจก่อนด้วย :เฮ้อ:
-
คิวววววว ทำไรเนี่ยห๊าเป็นอะรายยยย สงสารเค้กจัง
-
เฮ้อ!!!! อ่านแล้วหน่วงในใจอย่างบอกไม่ถูก :sad4:
-
รวมเล่มนะ ปี56 จะรอ
-
สงสารเค้กมากมายค่ะ
พี่คิวทำไมเย็นชากับเค้กแบบนี้ :o12:
-
อ่านตอนนี้แล้วมันเจ็บเหลือเกินแล้ว :z3:
-
:กอด1: :L1:
-
:sad4: นู๋เค้กของเจ๊ TT
จูบไปแล้ว รับผิบชอบหน่อยสิเทอ
P.S. เดี๋ยวไม่เชียร์เลยนะคิว ใจร้าย :o12:
-
อ้ากก..อิน :sad4:
-
พี่คิวใจร้ายจัง
โป้ง พี่คิวแล้ว
ฮื่อออออ
-
เหมือนพี่คิวจะใจร้าย แต่คิดไปคิดมาเค้กก็เป็นฝ่ายเข้าหาเอง
แล้วก็ตกหลุมรักเขาเอง แบบนี้โทษพี่คิวก็ไม่ได้ เฮ้อ
-
ไม่ได้ตอบตั้งหลายตอน (อ่านจากมือถือ)
นึกว่าจูบกันแล้ว พี่คิวจะบอกความในใจบ้างไรบ้าง
แต่ไหงกลับดราม่ากว่าเดิมอ่า.....
สงสารน้องเค้กอ่ะ :monkeysad:
-
ตอนที่พี่คิวหายไป พี่บี้ไปเป่าหูพี่คิวมาใช่ไหม
พี่คิวเลยเปลี่ยนไป เค้กจะได้ทนไม่ได้
แล้วเลิกชอบพี่คิวไป ตามแผนที่พี่บี้วางไว้
เพราะพี่บี้อยากฮุบพี่คิวไว้คนเดียวใช่ไหมค่ะ ฮิฮิ
-
เค้กไปรักผีดิบเข้าหรือเปล่าวะเนี่ย
-
ไม่มีอะไรชัดเจนซักอย่างสำหรับพี่คิว แต่สำหรับเค้กมันชัดมากแล้วว่ารักพี่คิว :monkeysad:
เจ็บใช่ไหม ไม่เป็นไรนะคะน้องเค้ก พี่สงสารหนูจังเลย :sad11:
-
:o12: :o12: :o12:
เค้กของพี่ มาพี่ปลอบใจเอง
ไอ้พี่คิวบ้าชั้นเค้าใจแกน่ะโว้ยยย ว่าแกสับสน แต่แกก็ไม่ควรทำร้ายจิตใจน้องแบบนี้
พูดไม่ออก จุดนี้่สงสารเค้ก เหมือนเค้กต้องทนยอมทุกอย่าง โดยที่น้องมันไม่รู้อะไรได้แต่คาดเดาเองเอง มันทรมานรู้ไหมพี่คิว ขอให้พี่คิวคิดได้เร็ว ก่อนที่จะทำร้ายน้องไปมากกว่านี้
-
อ้ากกกกกกก ค้างที่สุดในรอบแปดปี *เว่อร์*
โอยยย อิพี่คิวคืออ่ะไร รู้ความรู้สึกตัวเองแล้วเลยออกห่างว่างั้น
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แม่จะด่าให้ ฮึ
ไม่สมอารมณ์เลย ค้างด้วยย ชริ
-
มาม่ามาอีกแล้วอ่ะ เซ็ง
-
:fire: :fire:
:beat: :z6:
-
โอ้ย.. เกร็งตั้งแต่ต้นเรื่อง :serius2:
จบเรื่องก็ร้องไห้ :sad4: :sad4:
เจ็บแทนเค้กเลยอะ พี่คิวใจร้ายมาก :fire:
-
เจ็บปวดดีแท้หนอ แต่มีเศร้าบ้างก็ดีเหมือนกัน รอตอนหน้าดีกว่า จะเศร้าหรือแฮปปี้นะ
-
สงสารเค้กจังเลยอ่ะ จะร้องไห้ตามยุแล้วเนี่ย
-
เข้าใจเค้กนะ คิวทำแบบนี้ ถ้าเค้กมีฐานะที่ดีกว่านี้ อาจทำอะไรได้ง่ายกว่า ไม่ต้องทนทำงานให้มันปวดใจแบบนี้ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
โอ๊ยยย!!!! ปวดใจเเทนพี่เค้ก
-
ฮือๆ เศร้าจัง :sad4:
ยิ่งอ่านตอนท้ายๆ ยิ่งสงสารเค้กอ่า
ปวดใจไปกับเค้กด้วยจริงๆ
รักเค้าจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
เฮ้อ ดันไปหลงรักเจ้าชายน้ำแข็งซะได้
:กอด1:
-
ใครก็ได้หาอะไรมากระแทกปากพี่คิวหน่อย :z3:
-
โหยยยยยยยยยยยยยย..กระหัวใจออกจากร่างอีกแล้วตอนนี้
แล้วทำไมคิวต้องทำตัวแบบเก่าด้วยอะ :เฮ้อ:
แล้วฝันนี่ยังงัยอะ :m16:
เหมือนทุกคนสงสารเค้กเลยด้วยอะ--!
-
จุกอก :sad4:
-
เกลียดพี่คิวแล้ว!
สงสารน้องเค้กอะ :m15:
-
จะมาหาเสพของหวานซะหน่อย เจอมาม่าชามโต ซะงั้น กรี๊ดดดดดด :serius2:
-
อ่านเสร็จก็น้ำตานองตามเค็กไป
พี่คิวขอ :z6: นะ อิอิ
-
ง่ะ ปวดในอกคัพบีมากกกกกก :o12:
ตอนต่อไป อย่าให้รอนานนะคะ เบบี้ พลีสสสสสส
+1 :กอด1:
-
:a5: :เฮ้อ:
มาม่าชามโต T^T
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
คิวยึดติดกับความรักในอดีตมากเกินไปล่ะ
คิดเหรอว่าปรายจะดีใจที่คิวเป็นแบบนี้
สงสารเค้กอ่ะ :o12: :o12: :o12:
-
จบแบบตัดอารมณ์และหน่วงแม่งทั้งตอนอ่ะ แบบ อ๊ากกกกกกกก !!! พ่นไฟๆๆๆๆๆ T________T
คือไม่รู้ว่าคิวคิดอะไรอยู่อ่ะ เหมือนที่จูบเค้กก็แค่เผลอใจ อารมณ์และบรรยากาศมันพาไป
ไม่ได้ิคิดอะไร แต่...คนแบบคิวอะนะจะทำแบบนั้น มันแบบ คาบเกี่ยวทั้งสองด้านมาก
อยากจะสวนกระแสบอกเค้กว่าอย่าหยุดรัก 555555 เพราะเชื่อดิว่าพี่คิวก็มีใจ ไม่งั้นคนแบบพี่คิว
ไม่จูบเค้กแน่ๆจ้า แต่มีคู่แข่งน่ากลัวอ่ะ = = แบบว่าแรง ร้าย และเยอะอ่ะ เฮ้อ ลุ้นอ่ะ ลุ้น !!
-
แม่งเศร้าไม่เลิก
-
เค้ก :z3:
พี่คิว :serius2:
-
เอาเถอะๆ หวานๆมาหลายตอน มีมาม่าบ้างจะเป็นไร
ไม่งั้นคงไม่ใช่นิยาย มาม่านี่แหละตัวสำคัญ ที่จะเป็นบทพิสูจน์ความรักของทั้งสอง
ลุ้นๆๆๆ ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน อิอิ สู้ๆๆๆคนเขียน
-
พี่คิวววววววววว ทำไมเย็นชากับน้องอย่างนี้เนี่ย!!
อ้ากกกก มันเกิดอะไรขึ้นกานนนน :sad4:
-
อึกอัดแทนเค้กเลยอ่ะ คนที่ชอบทำตัวหยิ่งใส่แบบนั้น
แอบหมั่นไส้อีพี่คิวเล็กน้อย :m16:
-
เจ็บอ่ะ ฮรึกกก.....
-
น้องเค้กสู้ ๆ นะ ไม่มีพี่คิวเราก็อยู่ได้ :o12:
-
ฮืออออออออ :sad4:
สงสารเค้กอ่ะ พี่คิวทำเย็นชาใส่เค้กทำไม
-
สงสารเค้ก
พี่คิวผีเข้าผีออก
วันนึงให้ความหวัง ส่วนอีกวันทำร้ายจิตใจ
-
สงสารน้องเค้ก หมั่นไส้นายคิว
รำคาญยัยฝันร้าย :m16:
+1
-
โอ๊ยยย.......มันปวดใจ! ToT!!
อิพี่คิวบ้า ทำไมทำร้ายจิตใจน้องเค้กแบบนี้
พี่หมีกับกัส มันยังไงกัน????????
-
คงต้องห่างออกมาได้แล้วมั๊งเค้ก
สงสารเค้กจัง :monkeysad:
-
น้องเค้กกกกกกกกกกกก :monkeysad:
-
เค้กน่าสงสารจัง :m15: :m15:
-
พี่คิวเกิดเป็นไรขึ้นมาอีกล่ะ ช่างเป็นคนที่เข้าใจยากซะจริง :really2:
-
อ่านแล้วสงสารน้องเค้กจับใจ :z3:
พี่คิวเนี่ยเข้าใจยากจริงๆ :angry2:
ถ้าไม่ไหวก็ถอยออกมาสักนิดมั้ยเค้ก
ดูว่าถ้าโดนน้องเค้กเมินมั่งพี่แกจะซึนไปได้สักอีกเท่าไหร่
ปล่อยให้พี่คิวปิดขี้เก๊กเป็นคนวิ่งไล่ตามเค้กซะมั่ง หึหึ
-
น่าสงสารเค้กอ่ะ :sad4:
-
:เฮ้อ: สงสารเค้ก
พี่คิวนิ่งซะจนน่าใจหาย ถ้าเป็นเค้กก็คงรู้สึกเหมือนกันว่าทำไรผิด ทำไมพี่คิวถึงเฉยเมยขนาดนี้
ไหนๆจะต้องเจ็บ ก็เอาให้เจ็บถึงที่สุดก็แล้วกันนะเค้ก อยากทำไรก็ทำอย่างที่รู้สึก
แต่ถ้าไม่ใช่อย่างที่หวัง ก็ถอยออกมาซักก้าว อย่าถลำไปให้เยอะกว่านี้
ถ้าพี่คิวยังไม่สามารถกำจัดความหลังออกจากใจได้ เค้กก็อาจจะเสียใจอย่างนี้ไปอีกนาน :เฮ้อ:
-
พี่คิวเป็นอะไรอีกเนี่ย :serius2:
สงสารเค้กอ่า TT สู้ๆนะเค้ก !!
-
เค้กน่าสงสารอ่ะ อิพี่คิวเป็นอะไรไปมาทำเฉยชาใส่แบบนี้มันน่านัก
-
ที่อึดอัดกันอยู่เพราะไม่รู้ว่าพี่คิวคิดอะไรอยู่กันแน่ โอยๆๆๆๆๆ :serius2:
สงสารเค้กจัง กอดๆๆๆ :กอด1:
พี่กัสจะมีคู่มั้ยคะ อยากเชียร์ให้พี่หมี ^^
-
ทำไมมันเป็นเช่นนี้ โอ๊ย เศร้า
ไม่เข้าใจคิวเลยยยยยย :serius2: :serius2:
-
น้องเค้กของพี่ T^T
ความไม่ชัดเจนนี่ช่างเจ็บปวดจริง ๆ :m15:
-
อึดอัดไปกับเค้กด้วย เหมือนจะหายใจไม่ออกเอาดื้อๆ
ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์รู้แต่ว่าสงสาร :monkeysad:
ทรมานสินะ ใครก็ไม่อาจช่วยทุเลาได้นอกจากต้นเรื่อง
หากโชคดีพี่คิวคงจะทำอะไรสักอย่างล่ะนะเค้ก :เฮ้อ:
พี่คิวอาจจะกำลังเรียบเรียงความคิดอยู่ก็ได้ รอหน่อยนะ
:กอด1:ปลอบน้องเค้ก อย่าเสียใจน้า~
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
หน่วง หน่วง หน่วง ไม่มีอะไรแทนคำนี้ได้แล้วจริงๆ :m15:
-
สงสารเค้ก..... พีคิวนะพี่คิว หึ!!!
-
โอ๊ยยยย ย สงสารเค้กอ่าา า
ไม่เอาพี่คิวแล้ว
-
งืองือ สงสารเค้กอะ
-
:serius2: อ่นตอนนี้รู้สึกหน่วงๆ สงสารเค้กอ่ะ
-
อยากกระทืบใครบางคนที่เย็นชากับเค๊กจัง :beat: :z6: :beat: :z6: :beat: :z6:
-
พี่ฟ้า เอาน้องเค้กไปเที่ยวด้วยได้ไหม...เบื่อพี่คิว ให้เบบี้รักพี่คิวไปคนเดียวเลย ชิร์!!! เบื่อคนหล่อ
-
เจ็บปวดจัง
-
ไม่รู้เลยว่าพี่คิวกำลังคิดอะไรอยู่
สงสารเค้ก :m15:
-
สงสารเค้กอะ :o12:
สู้ๆนะเค้ก พี่คิวแกเป็นอะไรห๊ะ :angry2:
เป็นกำลังให้พี่เบบี้ !!! :bye2:
-
:sad4: สงสารน้องเค้กอ่ะ
พี่คิว :m16: ไปจูบเค้กก่อน แล้วยังมาทำแบบนี้กับเค้กอีก
สับสนล่ะสิที่ไปจูบผู้ชายอ่ะ แล้วไหนจะยัยฝันร้ายอีกอย่าบอกนะว่าไปคิวแอบไป...กับหล่อนมา --"(จิ้นเองไปไกล)
ปล.อยากให้กัสคู่กะพี่หมีจังเลยน๊า :impress2:
-
เจ็บ คำเดียวเลยสำหรับตอนนี้
:pig4: คะ
-
ตอนนี้เซ็งพี่คิวมาก ไม่พูดอะไรซักอย่างเลยอ่ะ
:เฮ้อ:
-
พี่คิวยังไงละเนี่ยยย พี่จะเอาไงคะพี่ ไม่สงสารน้องเค้กบ้าง เศร้าใจแทน
-
พี่คิวนี่เข้าใจยากจริง ไม่รู้คิดอะไรอยู่ :serius2:
อ่านตอนนี้แล้วสงสารเค้กอะ แบบนี้มันเจ็บนะ อยู่กับความไม่แน่นอนแบบนี้เนี่ย
คิดไปคิดมาเหมือนพี่คิวสับสนในตัวเองอยู่รึเปล่า
เลยทำตัวกลับเป็นเหมือนแต่ก่อนตอนที่ต่างคนต่างไม่รู้สึกอะไร
ว่าแต่ จะนิ่งอะไรได้ขนาดน้านนนนคุณพี่คิววว :angry2:
-
เบื่อฝันมากมาย :z6:
มาขัดจังหวะทั้งปี :m16:
-
:o12: :o12:
เหมือนพี่คิวยังไม่ได้ทำอะไรเลย
เค้กก็ใจร้อนไปหน่อยหรือเปล่า :เฮ้อ:
เอาใจช่วยๆ :z10: :z10:
:กอด1:
-
แง สงสารเค้กอ่ะ พี่คิวจะเย็นชาไปแล้วนะ :L3:
ส่วนฝันเนี่ยน่ารำคาญมากอ่ะ
-
อึดอัดพี่คิวแทนเค้กมากกกก :เฮ้อ:
-
เค้กยังไม่ร้อง
แต่คนอ่านเป่าปี่แล้ว :m15:
-
ตบอีพี่คิวรัวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :angry2: :angry2:
-
เราว่าคิวน่าจะร้กน้องเค้กนะ แต่นิสัยที่เป็นอยู่เี่นี่ย ทำให้เค้กเจ็บจนจุกเลย อ่านแล้วเจ็บแทนจริงๆ :m15:
ในเมื่อแทนตัวเองว่าผมแล้ว น่าจะลองถอยห่างออกมาอีกสักนิดก็ดีนะ เผื่อไอ้พี่คิวจะคิดได้ :angry2:
-
กุล่ะรำคาญกับอิผู้ชายหง่าวๆประเภทนี้ -*-
-
TT ^ TT น้ำตาร่วงงง
ต้องให้เวลาพี่คิวเค้าหน่อยน้าเค้ก
-
เจ็บอ่ะ..... :monkeysad:
พี่คิวกำลังคิดอะไรอยู่? เค้าไม่เข้าใจเลย ........
ถ้ารู้ใจตัวเองเมื่อไหร่ อย่าหวังจะได้เค้กของเค้าไปง่ายๆ เชอะ!!
เบบี้สู้ตาย ไอเลิฟยูค่ะ :sad11:
-
เค้กน่าสงสาร
-
เศร้าอ่ะ T_T
สงสารเค้ก เปลี่ยนพระเอกได้ป่าวอ่ะ ไม่ชอบพี่คิวที่เป็นแบบนี้เลย
ขอบคุณที่มาต่อให้อ่านนะคะ
รอติดตาม:กอด1:
-
เบื่อพี่คิวกับคุณฝัน ถ้าอยากอยู่กับคนตาย ก็ไปตายซะ
ส่วนเค้กก็ห่างๆ ออกมาเหอะ คบกับคนที่จมอยู่กับอดีตอย่างนั้น ไม่มีความสุขหรอก
เค้กออกจะน่ารัก ทำปัจจุบันให้ดี อยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข ปล่อยไอ้อีควายๆ พวกนั้นมันจมปรักโคลนของมันไป
แฮ่ๆๆๆๆ ต้องขอโทษนักเขียนด้วยนะ อินไปหน่อย ส่วนตัวแล้วไม่ชอบเลยคนที่จมอยู่กับอดีตเนี่ย น่ารำคาญมาก
-
เจ็บ!! บอกได้คำเดียวว่า เจ็บ!! :m15:
-
ไม่ไหวแล้ว..เจ็บปวดอ่ะ
-
คิวเปนคนที่เห็นแก่ตัวมาก รู้อยู่เต็มอกว่าน้องคิดยังไงกับตัวเอง แต่ก็ไม่ยอมตอบรับหรือปฏิเสธไป เหมือนจะกั๊กน้องไว้ให้อยู่ข้างตัวเองตลอดไป
โดยไม่สนใจว่าน้องจะเจ็บจะหน่วงขนาดไหน
กับคนที่เห็นเราเปนของตายน่ะ ไม่คู่ควรที่จะไปใส่ใจด้วยเลย เราต้องภูมิใจในคุณค่าของตัวเองสิ อย่าไปยอมตกต่ำเพื่อคนเพียงคนเดียว
-
ทำไมพี่คิวทำแบบนี้กับน้อง :o12:
โกรธนะโกรธมาก เคืองจริงๆ :z6:
ไม่ชัดเจน เหมือนให้ความหวังแล้วก้มาทำแบบนี้อีก
มันหมายความว่ายังไง :sad4:
เบบี้ เค้าอยากอ่านต่อไปมากๆ
ฮืออออออ มันอึดอัด เครียด สงสารเค้ก และเคืองไอ้พี่คิว :serius2:
มาต่อเร็วนะคะ :กอด1:
-
ปวดใจจี๊ดดดดดด :o12:
-
สงสารเค้กจัง ,,
พี่คิวยังเหมือนเดิมในขณะที่น้องเค้ก ยากจะทำใจให้เหมือนเดิม
กอดนะเค้ก เป็นกำลังใจให้ ^^/
-
:sad4: โอ๊ย เศร้าาาา
-
ยัยฝันมันมาผิดเวลาอีกแล้วววววว ไปตายซะ
-
อึ๋ยยยยยยยยยยยย ค้างมาก
มาต่อเร็วๆนะ อิอิ
-
:m15: :sad4: :o12:
:a5: o22
ดราม่าอีกแล้ว
เจ็บปวดแทนเค้ก
เห้อ...หวังว่าสาเหตุที่คิวทำอย่างนี้จะน่าฟังนะ
-
โอยย อ่านแล้วอึดอัดกับพี่คิว
จะเงียบไปอีกนานแค่ไหนกัน สงสารน้องเค้กกกก :serius2:
เดี๋ยวโดนแย่งนะเออ (จะมีเหรอ) จะหาว่าไม่เตือน ชิชิ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โอ๋โอ๋ อย่าร้องไห้เลยนะเค้กกกกกกกกก
ไม่เปนไร
-
เค้กสงสาร
พี่คิวเป็นอะไร?
เกิดไรขึ้น ???
รออออ
-
อ่านตอนนี้แล้วอึดอัดมากกกกกกกก
ไม่เข้่าใจพี่คิวเลยอะ ตัวเองก็เปนคนจูบเค้กเองนะแล้วมาทำแบบนี้. ..
- -*
:เฮ้อ:
-
โอยยยยยย ไหงเปลี่ยนอารณ์ซะงั้นหละครับ
:sad4:
-
เค้ก...นู๋ถอยออกมาน่ะดีแล้ว...
นู๋น่ะชัดเจนแจ่มแจ้ง....แต่ไอ้คนที่แก่กว่าน่ะมันด้อยปัญญา..
ป๊อด..อีกต่างหาก...คนแบบนี้คงพึ่งพาอะไรไม่ได้หรอก...
เพราะชีวิตของตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเล๊ยยย...
คนอ่านเซ็ง... :pig4: น้องเบบี้ จะรอยำ...ไอ้บ้าคิวในครั้งต่อไป
-
:z3: :z3: :z3:
:m16: :m16: :m16:
-
เอิ่ม มาม่าอีกแล้ว อืด . . .
-
ไม่เข้าใจพี่คิวเลย ทำอย่างนี้กับเค้กทำไม ไอ้พี่คิวบ้า
-
คิวกำลังจะเสียเค้กไปแล้วจริง ๆ ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้น่ะนะ
-
อึดอัด เศร้าตามเค้กเลย ฮือออออ~
-
มีใครสักคนมาจีบมาชอบน้องเค๊กเลย
เชอะ เชอะ เชอะ
จะไดู้้กันว่าคนอย่างน้องก็ไม่สิ้นไร้ยะ นายคิว
คนไรฟ๊ะ หยิ่ง หยิ่ง หยิ่ง
เชอะ สะบัดบ๊อบ
อิน 55+ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีดีค่า
-
เป็นกำลังใจให้เค้กคับ
มาต่อเร็วๆ นะคับ
-
พี่คิวเป็นไรอีกแล้วอ่ะ สงสารเค้กอ่ะ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ ทำไมอ่ะ มาต่อเร็วๆ นะพี่เบบี้รออ่านอยู่จ้า :))
-
:เฮ้อ:ปวดตับ
-
มันมาแล้วช่ายม๊าย :m15: นึกถึงตอนอ่าน พี+ทัวร์ มันก่ำกึงกันเป็นปีๆ ปวดใจกันไปก็หลายตอน...
สงสารเค้ก อย่าเศร้านานนะบี้
:pig4: :กอด1:
-
เค้กเอ๊ย ตัดใจเถอะนะลูก ปล่อยอิพี่คิวเค้าไปสู่ที่ชอบเถอะ 555
อิพี่คิว ลืมกินยาหรือไง หรือว่าที่จูบน้องไปนั่นแค่เพราะ ความสนุก
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:เค้กกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
น้องเค้กเท่จังเลยอ่ะ ซื่อตรงกับความรู้สึก รักที่น้องกล้าหาญมากๆ
อย่าเสียใจร้องไห้ไปเลย พี่คิวคงแค่ต้องการเวลา(มากหน่อย) อดทนและรอเชื่อว่าเค้กทำได้
แต่ที่ถามว่า “ที่นายมาหาฉันเพราะเรื่องแค่นี้งั้นเหรอ” เราว่ามันมีนัยยะอยู่นะ
-
น่าสงสารเค้กจัง :sad4: เหมือนกันคิวมาล้อเล่นกับความรู้สึกของเค้กเลย ไม่รู้เหมือนกันนะเรื่องระหว่าง ปราย คิว ฝัน นั้นเกิดอะไรขึ้น
แต่ว่าเค้กไม่ได้ส่วนหนึ่งของเหตุการณ์นั้นซะหน่อย ทำไมถึงได้โดนผลกระทบได้ด้วยก็ไม่รู้นะ :m16:
-
:m15:
-
คิววววว เมิงจะไม่พูดอะไรบ้างไง
อยากให้ทีคนมาชอบชอบเค้ก
เอาให้คิวสะอึกไปเลย สงสารเค้ก
-
ดีใจมากกกกกกกกกกกกกก ที่เบบี้มาต่อ
หน่วงดีจัง ^_^ ให้เวลาพี่แกหน่อยละกันนะ คิวต้องมีคำตอบแน่ แต่จะแบบไหนก็รอดูกันต่อไป หุหุ
-
ร้องไห้ตามเค้ก จุกตามเค้กเลย :sad4:
พี่คิววววววววว อะไรเข้าสิงพี่คิวเหรอ? ทำร้ายจิตใจเค้ก :m16:
-
พี่คิวคงกำลังสับสนอยู่จริงๆแหละนะ ให้เวลาพี่แกหน่อย
แต่ก็สงสารน้องเค้กอะ พี่คิวเย็นชาเกิ๊นนนนนน
อ่านไปก็เจ็บไป เฮ้อออออออ :z3:
-
น้ำตาไหลแทนเค้ก
อึดอัดว้อยยยยย :z3:
พี่ฝันมาทำอะไรอีกละเนี่ย
เค้กไม่น่าหนีออกมาเลย
เคลียร์ให้มันรู้ๆกันไป
:m31:
-
:a5:
-
เอิ่ม....................................... o22
พี่คิวคะ..................ตอนพี่หายไป พี่รถคว่ำ ความจำเสื่อมรึยังไงคะ?
น้องไม่เข้าใจพี่จริงๆ ค่ะ :z3:
โธ่ เค้กจ๋า *กอดปลอบ ลูบหัว* อดทนไว้นะลูก :เฮ้อ:
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะคะ :กอด1:
เดาว่ากำลังจะถึงจุดแตกหักแล้ว....ล่ะมั้ง
(มโนเอง เพราะไม่อยากให้น้องเค้กเจ็บนาน *กระซิกๆ*)
เอาใจช่วยเสมอค่ะ
-
โถ...เค้ก :monkeysad:
-
ตอนนี้ เผาคิวปิด!!!!!! :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:
-
เป็นลม สงสารเค้กจังเลย แต่เราก็รุ้สึกว่าคิวกำลังพยายามนิ่งอยุ่นะ
-
:m15: :m15: :m15:;
-
มันช่างงง หน่วงอ่าา
ค้างงงง ไม่เข้าใจพี่คิวเท่าไหร่
ยังลืมไม่ได้ หรือ อะไร ยังไง พี่คิวกังวล หรือคิดมากเรื่องอะไร
อ๊ากกกก หงุดหงิดพี่คิว สงสารนู๋เค้กอ่า
เค้กจ้า อย่าร้องไห้น้าาาา :sad4:
ปล. เกลียดยัยพี่ฝัน จริงจัง ถ้าไม่ใช่ปรายก็ไม่ยอมรับ
เธออยากแทรกตัวเองเข้าไปแทนใช่ไหมล่ะ เชอะ
-
-3- พึ่งมาอ่านนนน แหะๆๆ
-
เศร้าจัง
-
ไอ้พี่คิวบัดซบมาก
เค้ก ไม่ต้องไปสนใจเลย หาคนอื่นดีกว่า รำคาญมัน
-
เง้ออออ สงสารเค้กจังง
-
บอกหน่อยได้ไหม บอกหน่อยได้ไหม บอกหน่อยทำไม ฟ้าจึงมืดไป เหมือนใจมืดมน
บอกหน่อยได้ไหม เหตุใดเมฆฝน จึงครวญครางดั่งคน ช้ำใจเรื่อยไปทุกครา
บอกหน่อยได้ไหม บอกหน่อยได้ไหม บอกหน่อยทำไม ฝนจึงหลั่งไหล คล้ายดังน้ำตา
เจ็บปวดสิ่งใด บอกหน่อยเถิดหนา ลมพัดพาน้ำตา ฟ้ามาจากไหน
แอร๊ยยยยย อ่านตอนนี้แล้ว เพลงนี้ลอยมาในหัว (เก่าไปไหมป้า)
แต่อิพี่คิวคะ บอกป้าได้ไหมคะ เป็นไรไปอีก :z3:
-
คิว จูบนั่นไม่มีความหมายเลยเหรอ ทำไมถึงได้เย็นชากะเค้กขนาดนี้
จะยึดติดอะไรกับคนในอดีตที่ไม่มีตัวตนแล้วทำไม จะไปสนใจคำพูดของยัยฝันรึใครกันทำไม
คิวเองก้อรู้สึกอะไรกะเค้กไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ทำอะไรให้มันกระจ่างล่ะ น้องมัน ไม่รู้หรอกน่ะว่าแกคิดอะไรอยู่
จู่ๆก้อมาทำเย็นชาใส่ เป็นใคร ๆ เค้าก้อเสียใจนะ
หน่วงๆกันไป เคลียร์ซะน่ะคิว รอลุ้นตอนต่อไปน่ะครับ
บวก บวกครับคนแต่ง ตอนนี้สุดๆอ่ะ หน่วง เซ็งกะคุณพี่คิวซะจริงๆ ลุ้นครับว่ามันจะเป็นยังไงต่อ
มาอัพเร็วก้อดีน๊าาา มันค้างสุดๆ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
พี่คิวเป็นบ้าอะไรอีก :z6:
ไม่เข้าใจจ จจ จ จจ จ
รอตอนหน้าอ่ะเบบี้ :กอด1:
-
อยากให้เค้กตัดใจแม่มมเลย คิวจะได้รู้ว่าเสียเค้กไปทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่เนี่ยแหละมันก็เจ็บไม่แพ้เสียปรายไปแน่ๆ หึ !!! หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง
-
สงสารเค้กอ่ะ งือๆๆๆ
พี่คิวก็นะขึ้นๆ ลงๆ
-
พี่คิวเป็นแบบนี้อีกแล้ว
สงสารเค้ก
-
เค้กรู้ใจแล้ว
คิวล่ะ เห๊อะ!!!!
ไปอยู่กับปรายก็ได้นะ
ไปเล้ย!! :fire:
-
อ่านตอนนี้แล้วเหมือนจะหายใจไม่ออก หน่วงมากเลยค่ะ
สงสารน้องเค้กมากๆ เฮ่ออ
แล้วพี่คิว อะไรยังไงเนี่ยยยยยย
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ รอตอนหน้า งื้ออออออออออ
-
ฮืออออออ สงสารเค้กอ่ะ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
พี่คิวไม่เหมือนเดิมยังงี้มันเจ็บจริงๆ เหมือนมันกระทันหันมากเลยนะ ช่วงเวลาแค่แปปเดียว แต่อยู่ๆก็เปลี่ยนไปเลย
ตอนที่เค้กแทนตัวเองว่า "ผม" มันจี๊ดมาก T^T
สู้ๆนะเค้ก มีคนรักและเป็นห่วงเค้กเยอะ พี่ๆที่ร้านอบอุ่นจัง ^^
แต่ก็เข้าใจนะที่พี่คิวเปลี่ยนไป และการที่พี่คิวเป็นคนแบบนี้ ก็ยากนะที่จะได้ฟังคำอธิบาย
ชอบคนแบบนี้ต้องทนเจ็บๆจริงๆ
ขอบคุณนะคะเบบี้ รออ่านตอนต่อไป เราติดเรื่องนี้มาก คอยเช็คตลอดว่ามาต่อหรือยัง
ขอบคุณจริงๆสำหรับนิยายดีๆ มันช่วยให้เรามีความสุขในวันที่รู้สึกเหนื่อยๆได้จริงๆ ขอบคุณนะ :)
-
ทำไมพี่คิวกลายเป็นแบบนี้ไปอีกแล้ว
สับสน ? หรืออะไร ทำแบบนี้สงสารเค้กอ่ะ TT
รู้สึกอะไรก็พูดออกมาบ้าง คนอื่นอึดอัดแทนนะพี่คิว
-
อย่างใด นี่พี่คิววว
-
ความรัก...เมื่อเกิดขึ้นแล้ว...มันก็ห้ามใจยากเนาะ...
เป็นกําลังใจให้เค้กเสมอ...ขอให้ผ่านไปด้วยดี
ส่วนพี่คิว..บางทีก็อาจะยังอาจจะยังคงสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นอยู่รึป่าว
หรือไม่ก็คงจะกลัวมั้งเนาะ...จะยังไงก็แล้วแต่
เราก็เป็นกําลังใจให้พี่คิวเช่นกัน...
และเป็นกําลังใจให้เบบี้ด้วย...... :pig4: :pig4:
-
อ๊ากกกกกกกกกกก มันค้างอย่างนี้ทำใจไม่ได้ โฮกกก :z3:
บรรยากาศมันอึมครึมตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วนี่นะ เห้อ สงสารเค้กอ่ะ รักเค้าข้างเดียวมันก็เจ็บอย่างนี้
คิดว่าจูบกันแล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้น แต่มันกลับแย่ลง แุถมยังแย่ลงมากอีกด้วยอ่ะ เศร้า
ถ้าพี่คิวยังสับสน ไม่แน่ใจ ก็น่าจะบังคับใจตัวเอง ไม่ปล่อยให้มันเลยเถิดแบบนี้
แล้วพอเค้กพยายามจะตัดใจ จะมาเดือดเนื้อร้อนใจไม่ได้นะ หึ ทำตัวเองทั้งนั้นนิ
ยัยฝันร้ายอีกคน วันไหนถ้าเค้กสำคัญกว่าเธอละจะหัวเราะให้ เบื่อหน้าเธอจริงๆ ให้ตาย
ลำพังแค่อยู่กับพี่คิวก็สงสารเค้กจะแย่ อ่านแล้วจะร้องไห้ตาม ไม่เป็นไรนะเค้ก ยังมีคนรักเราอีกเยอะ
-
สงสารเค้กกกกกกกกกกกกกกกก :z3:
-
สุดจะบรรยาย
:z3: :z3: :z3:
-
สะเทือนใจอ่ะ สงสารน้อง :z3:
แอบคิดเหมือนกันนะ คนบางคนถ้ามันเข้าใจยากนัก ก็ปล่อยเค้าอยู่กับตัวเองไปเหอะ
จัดโลด บวกหนึ่ง
พี่คิวบ้า รู้ตัวมั๊ยว่าตัวเองน่ะแหละตัวปัญหา !! คิดแต่จะให้โลกหมุนหาตัวเอง
ขังตัวเองไว้ในห้องแคบๆ เป็นแบบนี้ต่อไปน่ะ อยู่ยากนะจะบอกให้
ต่อให้มีเค้กสักล้านคน ค.สดใสมันก็ไม่ซึมซาบเข้าชีวิตพี่หรอก
ฮ่วย !! หน่วง เกินทนกับพี่คิวโหมดเย็นชา
เค้กกิ๊กกะพีทเหอะ หากิ๊ก กิ๊กๆๆๆกันเลยว้อย
< เรื่องนี้นี่ถ้าไม่นับชะนี หามือที่สามแทบไม่ได้ งั้นเอาเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนี่แหละ>
เคืองพี่คิวแล่ววว ทำน้องเจ็บตลอด ปกป้องน้องสักครั้งนะมีมั๊ย !!!
น้องเจ็บอ่า ฮือออออออ ขอใครก็ได้สักคนดูแลเค้กทีนะบี้ ขอคนดามใจด่วนๆๆ
พี่ฟ้าด้วยยรีบๆกลับมาเร็วๆๆ สงสารน้องงง TT
ปล. เข้าไปอ่านประกาศแล้ว คลอดปี56ชิมิ จะหัวปีท้ายปีก็รออยู่นะ ^^
แต่ตอนหน้าอ๊า~นานมั๊ยยบี้ เค้าคาใจมากเลย อ่านแล้วนอนไม่หลับ อร๊ากกกกก เครียดดดดดดดด
-
พี่คิวเย็นชามากกกก
แล้วจะเสียใจที่ทำแบบนี้ :beat: :beat:
-
สงสารเค้กกกกกก TT^TT
ทำไมพี่คิวทำงี้หล่ะะ
-
สงสารเค้กมากกกก
พี่คิวเป็นไรมากปะเนี่ย
เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เกินไปแล้วนะ
-
เหนื่อยใจแทนเค๊กจัง
ตกลงพี่คิวจะจมอยู่กับอดีตตลอดเลยใช่ไหม
เฮ้ออออออออออออ :L2: :L2:
+เป็ดให้ด้วยนะคร้าบบบบ
-
พี่คิวพี่แค่คิดจะแกล้งหรือจริงจังกันแน่ ชัดเจนทีเถอะสงสารน้องเค้ก
-
ง่ะ !!ทำไมพี่คิวทำอย่างเน้! แล้วจะยัยฝันอีกให้ตายเด๊ :angry2: อยากดึงเค้กมากอดแน่นๆ แล้วปิดหูปิดตาซะ สงสารเค้กอ่ะ :เฮ้อ:
ไอ้พี่คิวววววว :z6:
-
:sad4:
-
สงสารเค้ก
-
น่าเห็นใจทั้งพี่คิวน้องเค้ก
พี่คิวคงสับสนอยู่เหมือนกันใช่มั้ย
รอวันลงเอยนะ 555
ขอบคุณเบบี้จ้า
ดีใจที่จะมีรวมเล่มมาให้อ่าน
ไม่ว่าจะเรื่องไหนก่อนหรือหลัง ก็ดีใจทั้งนั้น
เพราะชอบทุกเรื่องของเบบี้อยู่แล้ว
:กอด1:
-
ฮือ อ่านตอนนี้แล้วเศร้าอ่ะ
รู้สึกอึดอัดแทนเค้กจัง
-
สงสารเค้กอ่ะ พี่คิวก็ไม่เคยจะทำให้เค้กรู้ดีเลย พี่คิวนิสัยไม่ดี
-
แบบว่านั่งอ่านตอนนี้กลับไปกลับมา มันบีบหัวใจมากๆเลยอ่ะ
เข้าใจพี่คิวนะ บางทีอาจจะรู้สึกผิดหรือยังไม่แน่ใจกับเค้กมากนัก (หรืออาจจะรู้แล้ว...แต่ไม่ยอมรับ? รู้สึกผิดต่อปราย บลาๆ)
น้องเค้ก สู้เค้านะลูก รักมันห้ามกันไม่ได้หรอก
ถ้าหนูคิดจะรัก หนูต้องพร้อมที่จะเจ็บน๊า
เบบี้ ให้ไวๆ มาต่อเลย...เค้าคิดถึงเตงน๊า
สู้ๆกับอากาศร้อน อย่าไปนอนแก้ผ้าบ่อยๆ ไม่ดีๆ คิคิ :P
-
เค้ก ปล่อยคิวเค้าไปอยู่กับปรายเหอะ ถ้าเค้าจะจมอยู่กับอดีตขนาดนั้น (อ่านแล้วอารมณ์เสียแทน...อินมากไปไหมเรา)
-
ว่าแล้วว่าพี่ฝันต้องเข้ามาขัดจังหวะ อิหรอบนี่แล้ว..... :(
เมื่อไหร่พี่ฝันจะเข้าใจซักทีว่าพี่คิวชอบเค้ก(หรอ?) ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ตอนนี้สงสารเค้กอะค่ะ เหม่อ ๆ ซึม ๆ ยังไงไม่รู็
แถมพี่คิวพูดจาเหมือนไม่อยากให้เค้กมาเลย
แต่ความจริงไม่ได้ต้องการจะสื่ออกไปแบบนั้นใช่ปะล้าาาาาา
เค้กร้องไห้ขี้มูกโป่งเลยเห็นมั้ย (?) 55555555555555555
มาต่อเร็ว ๆนะคะ อยากรู้ว่าพี่คิวจะทำยังไงกับเค้กในแบบนี้กัน :(
-
:sad4: :sad4: เจ็บแทนเค้กกกเลยอะ
พี่คิวทำไมถึงเย็นชากะเค้กแบบนี้
สงสารเค้กกกกกกกกกกก
:o12: :o12:
-
นี่คือสิ่งที่ไม่อยากจะเห็น ... :m15:
แต่มันยังเร็วไปในการจะตัดสินว่าพี่คิวจะให้เป็นไงต่อนี่เนอะ
แต่..เบบี้นี่สิ ทิ้งคนอ่านให้จุกในอกไปพร้อมๆกับน้องเค้กซะงั้นอ่า
มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ รออยู่ อิอิ // ขอบคุณเบบี้น๊า..
-
เล่นซะ ปวดร้าวววววววว
เศร้า .......
สักที พี่คิว สักที
-
คิดถึงสามี (พี่คิว) :z3: :z3: :z3: :z3:
-
ทรมานจิตใจ น้องเค้กทำจิตใจให้เข้มแข็งนะครับ คนอ่านใจสลายแล้ว
-
เจ็บปวด....
ไม่นึกเลย กำลังนั่งกินมาม่าอยู่
ดันเจอกับดราม่าซะได้ ฮือๆๆๆ
ขอให้ผ่านเร็วๆนะคะ อึดอัดใจมากๆเลย
อยากอ่านsweet~~~~~~~~~~~~ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกส์
-
คิวคงไม่รักเค้ก
หรือคิวอาจจะกำลังต่อสู้กับจิตใจตัวเอง
ตอนนี้ใครๆ ก็สงสารเค้ก
แต่พี่ว่า เค้กก็ไม่น่าไปรักคิวตั้งแต่แรก (ไม่เห็นน่ารักเลยตาคิวเนี่ยะ)
-
:z3: อึดอัดใจแทนน้องเค็กอ่ะ เมื่อพี่คิวทำเฉยเมยแบบนี้
ก็เข้าใจนะว่าเป็นอดีตที่เจ็บปวด แต่ถ้าไม่พยายามก้าวผ่าน แล้วเมื่อไหร่จะเจอสิ่งที่ดีละ
ชิส์!!!..ไม่เป็นไรนะน้องเค็ก..ทีฮูทีอิท
ถือซะว่า จูบแรกที่เสียไปก่อนหน้านั้น ให้ปลาซิว..ตอดเล่นละกัน
ถึงคราวน้องเค็กเมื่อไหร่ เอาให้พี่คิวดิ้นกระแด๋วๆๆ เหมือนโดนน้ำร้อนลวกทีเดียว(เอ๊ะ..หรือจะเฉยๆหว่า 555)
แต่ยังไงตอนนี้ก็ยังคงหมั่นไส้อีตาพี่คิวอยู่ สามีใครในอนาคตนะเนี่ย.... :laugh:
-
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบ้า :z3:
เข้ามาดูบ่อยโครต มันหน่วง มันค้าง อยากจะอ่านอีก ฮือออออออ :sad4:
-
รักฉันบ้างหรือเปล่าอย่าให้ฉัน ต้องเดาอีกเลย
เพราะว่าฉันไม่เคยมีผู้ใดมาห่วงกัน
รักฉันบ้างหรือเปล่า ถึงได้มาดูแลอยู่ทุกวัน
เธอไปทำไปอย่างนั้นแปลว่าไง
อยากจะบอกว่ารักก็กลัวจะทำผิดไป
ถ้าบังเอิญไม่คิดอะไรเหมือนกัน
ฉันกลัวว่าฉันจะคิดเอง
กลัวเข้าใจผิดเองตีความทุกอย่างพลาดไป
แท้ที่จริงก็เป็นแค่ความเป็นห่วงทั่วๆไป
ไม่ใช่ความห่วงใยแบบคนที่รักกัน
หวงฉันบ้างหรือป่าว ยามที่ฉันเจอใครต่อใคร
คิดถึงบ้างหรือเปล่า ยามที่เราต้องห่างไกล
ฝันถึงฉันหรือเปล่า ในค่ำคืนที่เธอแอบเหงาใจ
เคยมีกันบ้างไหม อยากรู้ใจ
อยากจะบอกว่ารักก็กลัวจะทำผิดไป
ถ้าบังเอิญไม่คิดอะไรเหมือนกัน
ฉันกลัวว่าฉันจะคิดเอง
กลัวเข้าใจผิดเองตีความทุกอย่างพลาดไป
แท้ที่จริงก็เป็นแค่ความเป็นห่วงทั่วๆไป
ไม่ใช่ความห่วงใยแบบคนที่รักกัน
รัก ฉันรักเธอรู้หรือเปล่า
ได้แต่เก็บไว้ไม่กล้าจะบอก อยากให้เธอรู้
แต่ว่าฉันต้องรักเธออยู่ในใจ
ฉันกลัวว่าฉันจะคิดเอง
กลัวเข้าใจผิดเองตีความทุกอย่างพลาดไป
แท้ที่จริงก็เป็นแค่ความเป็นห่วงทั่วๆไป
ไม่ใช่ความห่วงใยแบบคนที่รักกัน
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
สงสารน้องเค้กจังเลย
-
เบบี้ได้โปรดอย่าให้พี่หน่วงนานนะ เพราะนานไปมันจะไม่หน่วง มันจะ.....เลย 55555
-
~46~
ณ ร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัยY..
“สอบมิดเทอมเสร็จ กูกับไอ้แจ็คว่าจะไปหัวหินกัน มึงจะไปด้วยกันไหม..ปีใหม่พอดี” พีทถามขึ้นระหว่างที่เรากำลังกินอาหารมื้อกลางวัน
“แก้วอยากไป..แต่ พ่อคงไม่ให้ไป” แก้วพูดด้วยสีหน้าผิดหวัง
“หึ อย่างแก้วนี่..ถึงมีผู้หญิงไปอีกหลายคน พ่อก็คงไม่อนุญาตอยู่ดีอ่ะ” พีทหัวเราะ
“พีทอ่ะ”
“มึงล่ะว่าไง” พีทหันมามองหน้าผม
“ขอคิดดูก่อน หรืออาจจะ..ไม่” ผมตอบ ตั้งแต่วันนั้น วันที่พีทต้องเจอกับสถานการณ์แย่ๆของผม พีทไม่ได้พูดถึงเรื่องพี่คิวอีก พีทนำไปเล่าให้แก้วฟังด้วยรึเปล่านั่นผมไม่ทราบและไม่คิดจะถามด้วย ตอนนี้ผมแค่อยากใช้ความคิดอยู่กับตัวเองก็เท่านั้น..
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
วันนี้ผมแทบไม่อยากมาทำงานเลย พี่ฟ้าเดินทางไปฝรั่งเศสเมื่อหลายวันก่อน วันนี้เป็นเวรที่พี่คิวต้องมาทำงานจนถึงตอนเย็น เป็นประจำที่ผมต้องกลับกับพี่คิว แต่ครั้งนี้ผมไม่รู้จะต้องทำตัวอย่างไร ผมอยากกลับเอง ถ้าผมไปบอกพี่คิวว่าผมอยากกลับเองพี่คิวจะพูดอะไรบ้าง หรือบางทีพี่เขาอาจจะไม่อยากรับรู้ด้วยซ้ำ ผมคิดเองไปต่างๆนาๆ ผมแทบภาวนาทุกวันให้พี่ฟ้ากลับมาเร็วๆ หรือเพราะผมเป็นบ้าเป็นบอคิดนู่นคิดนี่ไปเองฝ่ายเดียว เลยดูเหมือนเป็นเพียงผมคนเดียวที่ไม่ปกติอยู่ในตอนนี้..
“พี่หมีฮะ” ผมเรียก
“หื้ม” พี่หมีขานตอบ แต่ยังคงตั้งใจตกแต่งอยู่กับจานวาฟเฟิลที่วางอยู่ตรงหน้า
“วันนี้..เอ่อ เค้กขอไม่เข้าไปในครัวได้ไหมครับ” ผมพูด พี่หมีเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมทันที
“มีอะไรอย่างนั้นเหรอ” พี่หมีถามด้วยสีหน้าเรียบคงเดิม
“คือ..เปล่าครับ” ผมเหสายตาหนี
“โอเค งั้น ถือว่าพี่ไม่ได้ถามก็แล้วกัน..” พี่หมีลูบหัวผมไปมาเหมือนตัดบทให้เรื่องมันผ่านไป
“เอานี่ไปเสิร์ฟ โต๊ะเอ” พี่หมีสั่งและเลื่อนถาดอาหารมาให้
“ครับ” ผมตอบและรับมา
ในการทำงานของผมในวันนี้ ผมแทบไม่ได้เข้าไปย่างกรายในเคาร์เตอร์เลยแม้แต่นิดเดียว การเสิร์ฟกับหน้าที่ในการดูแลลูกค้าล้วนเป็นผมแทบคนเดียว ผมทำอย่างไม่ขาดตกบกพร่องใดๆ พี่ๆคนอื่นไม่ได้ทักท้วงหรือว่ากล่าวอะไรด้วย เมื่อพี่ๆเห็นว่าผมได้ทำหน้าที่ตรงนี้แทนแล้ว ทุกคนจึงผลัดเปลี่ยนกันเข้าครัวและดูแลเคาร์เตอร์แทนเป็นระยะ
“กลับแล้วนะครับ” ผมบอกทุกคน หลังจากที่ผมช่วยเก็บในร้านและบริเวณรอบร้านเรียบร้อยแล้ว ผมทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะทำได้แม้จะเกินหน้าที่เพราะผมไม่ต้องการเป็นขี้ปากของใคร หลังจากนั้นผมก็รีบมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บกระเป๋าของตัวเองในทันที ผมไม่อยากอยู่รอเพื่อที่จะกลับพร้อมพี่คิว และผมคิดว่าถ้าพี่เขาไม่ต้องการให้ผมกลับด้วย ถ้าพี่เขาจะไม่ถามผมหรืออาจจะถามเป็นมารยาท หรือไม่ได้อยู่รอผม ใช่..ถ้ามันเป็นอย่างนั้น ผมคงรับกับความจริงไม่ได้แน่
“อ่าวเฮ้ย กลับไง” พี่ออฟทัก
“ไปขึ้นรถเมล์หน้าปากซอยครับ” ผมยิ้มตอบพร้อมกับยกมือไหว้ทุกคน พี่หมีหันมาจ้องหน้าผมเหมือนกำลังอ่านอะไรในตัวผมออก
“ก็รอก่อนสิ เดี๋ยวพี่ไปส่งหน้าปากซอย” พี่หมีพูด สีหน้าพี่หมีเรียบเฉยเกินไปจนผมกลัวอารมณ์ของพี่เขาขึ้นมา ถ้าผมรอนั่นหมายถึงพวกเราทุกคนจะต้องรอจนกว่าพี่คิวจะออกไปจากร้านก่อน เราถึงจะเดินทางกลับกันได้
“ไม่เป็นไร เค้กกลับล่ะครับ”
“ทำไมแกชอบพูดว่า ไม่เป็นไร..ไม่เป็นไรนักวะ” พี่หมีส่ายหัว คิ้วไม่ได้ขมวดเข้าหากันด้วยอาการหงุดหงิด แต่น้ำเสียงกลับน่ากลัวพิกล
“ก็เค้ก..ไม่เป็นไรจริงๆนี่ฮะ” ผมแทบยิ้มไม่ออก
“โอเค ก็ได้..ถ้าแน่ใจขนาดนั้นก็ไปเถอะ” พี่หมียิ้มหันมายิ้มให้น้อยๆ คนอื่นๆเงียบกันหมด ผมยิ้มให้อีกครั้งก่อนจะเดินออกมา
“.......................” ผมต้องชะงักเมื่อเห็นพี่คิวยืนอยู่ตรงประตูทางด้านหลังร้าน เหมือนกับพี่เขายืนอยู่นานแล้ว พี่คิวหันกลับมามอง ผมก้มหัวให้หน่อยหนึ่งแล้วเดินต่อ
“ไปไหน” ผมหยุดเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย
“กลับบ้านครับ” ผมตอบแต่ไม่ได้หันกลับไปมอง
“ขึ้นรถสิ” ใจของผมเริ่มเต้นรัวอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากพี่คิว ไม่ใช่เต้นรัวอย่างตื่นเต้นอย่างทุกทีแต่กลับรู้สึกแปลกไป
“จะไปขึ้นรถเมล์หน้าปากซอยน่ะครับ” ผมพูดและละคำพูดที่จะต้องแทนตัวเอง ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไง ในหัวมันสับสนปนเปไปหมด
“ไปนะครับ” ผมพูดและเดินออกมาในทันที พี่คิวไม่ได้เรียกผมไว้หรือเดินตามมาเหมือนในละครรักน้ำเน่า หึ..นั่นคงหมายถึง ผมไม่ใช่นางเองละมังครับ
= = = = = = = =
วันอังคาร 10:00 น. ณ บ้านพีท..
“มึงก็รู้ว่าคนอย่างกูตื่นกี่โมง” พีทบ่น ผมมาหาพีทแต่สิบโมงเช้า เป็นเวลาที่สายสำหรับผมแต่เป็นเวลาที่เช้ามากสำหรับวันหยุดของมัน วันนี้ผมไม่มีงานทำที่ร้านและภายในอาทิตย์นี้พวกเรามีสอบอาทิตย์สุดท้ายแล้ว ส่วนวันนี้สาขาของผมไม่มีสอบ ผมมาบ้านพีทเพื่อมาทำรายงานที่จะต้องส่งหลังปีใหม่ ส่วนงานที่ร้านผมมีเวรอีกครั้งคือวันศุกร์ พอถึงวันนั้นพี่ฟ้าคงจะกลับมาแล้ว ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ
รายงานคู่ชิ้นนี้ผมจับคู่อยู่กับพีท แก้วอยู่กับผมไม่ได้เพราะคนอย่างพีทไปอยู่คู่กับคนอื่นไม่ได้ แก้วเลยต้องสละตัวเองไปอยู่กับเพื่อนอีกคนแทน รายงานแค่นี้คงไม่เกินความสามารถของผมและผมอยากทำให้มันเสร็จก่อนกำหนดด้วย เอ่อ..ที่จริงแล้ว ผมไม่อยากทำรายงานอยู่บ้านคนเดียวก็เท่านั้น ความรู้สึกแบบนี้ผมเพิ่งเคยเป็นอย่างหนักครั้งแรก จะว่าผมไม่รู้จักการแก้ไขปัญหาก็ได้ ผมกำลังเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันอยู่ ดังนั้น ผมจึงต้องมากวนพีทตั้งแต่เช้าอย่างนี้นี่แหละครับ..
“นอนต่อไปสิ เดี๋ยวทำเอง” ผมบอกพีทที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง ผมหยิบเครื่องเขียนและสมุดกับหนังสือออกมาวางไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นที่อยู่บนพื้นและนั่งลง
“เปิดโน้ตบุ๊กนะ” ผมหมายถึงโน้ตบุ๊กของพีทที่วางอยู่ตรงหน้า
“อื้อ” มันตอบ พีทพลิกตัวนอนตะแคง มันนอนไม่พูดไม่จาและเอาแต่จ้องมาที่ผมจนผมต้องหันกลับไปมองหน้ามันอย่างตัดรำคาญ
“อะไร” ผมถาม
“อ่านหนังสือสอบพร้อมรึยัง” มันถาม ตายังคงจับจ้องมาที่ผม สายตาของมันเหมือนไม่ได้อยากจะถามเรื่องนี้
“พร้อมมากแล้ว อยากจะสอบให้เสร็จเต็มที” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันแต่ผมก็หมายความอย่างนั้นจริงๆ หลายคืนมานี่ผมอ่านหนังสือสอบและเข้านอนตีหนึ่งตีสองเกือบทุกวัน มันไม่ใช่การฟิตอ่านหนังสือเฉพาะช่วงใกล้สอบเท่านั้น ผมได้อ่านหนังสือพวกนั้นจบไปตั้งแต่ต้นเทอมแล้ว การอ่านหนังสือตอนใกล้สอบสำหรับผมเป็นการอ่านซ้ำและย้ำเข้าไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
“หึ..มึงนี่น้า แบ่งความขยันมาให้กูบ้างเหอะ” มันหัวเราะ
“.....................” พีทเงียบลง ผมเงียบและหันกลับมาสนใจโน้ตบุ๊กที่กำลังแสดงหน้าจอ ในขณะเดียวกันผมยังเห็นว่าพีทยังคงนอนจ้องผมอยู่ไม่วางตา
“อะไรของมึง” ผมหันไปว่า
“มึงรักพี่เค้ามากเลยเหรอ”
“ไม่รู้” ผมตอบ ไม่ได้หันไปมองหน้าพีท
“รักผู้ชายด้วยกันนี่มันรู้สึกไงวะ” มันถามอีก
“ไม่รู้”
“มันรู้สึกใจเต้น เอ่อ..เหมือนที่รู้สึกกับผู้หญิงป่ะ”
“ไอ้พีท” ผมย้ำเสียงเป็นการเตือนบอกว่าให้มันหยุดพูดเสียที คำพูดของมันทำให้ผมว้าวุ่นจนไม่รู้จะกดแป้นพิมพ์อะไรก่อนหลัง
“หึ..เออ หยุดก็ได้ กูก็แค่อยากรู้” มันพูดปนหัวเราะ
“.......................” พีทหุบปากเงียบลงอีกครั้งแต่กลับยังนอนจ้องผมอยู่ในท่าเดิม
“อย่ากดผิดโฟลเดอร์ล่ะ เจอหนังโป๊เข้ากูไม่รู้ด้วยนะ” มันพูดปนหัวเราะ
“ไอ้เชี่ย” ผมบ่นและพยายามเพ่งให้ตัวเองไม่กดผิดโฟลเดอร์อย่างที่พีทเตือน
“มึงก็หล่อดีนะ” มันพูดขึ้น
“ขอบคุณ” ผมตอบส่งๆ
“หล่อแบบ จืดๆอ่ะ..ท่าทางหวานๆ ไม่มีพิษมีภัย” มันพูดแกมหยอกเหมือนต้องการจะแกล้งผมไม่เลิก
“คงจะมีแต่ผู้หญิงที่ต้องการผู้ชายแบบเชื่องๆเท่านั้นแหละที่จะมาชอบคนอย่างมึงอ่ะ” มันหัวเราะออกมาอีก
“ไอ้ห่า ปากมากจริง” ผมหันไปว่า
“ใครจะไปหล่อซ่าร่านเซ็กส์อย่างมึงล่ะ”
“กร๊าก หล่อซ่าร่านเซ็กส์..คิดได้นะ เออๆ..ชอบอ่ะ” มันยักคิ้วให้พร้อมกับหัวเราะร่วน
“กูด่า” ผมว่าด้วยความเอือมเพื่อนตัวเอง
“กูว่ามันน่าจะเป็นสโลแกนของกูได้เป็นอย่างดี อืม..พีท หล่อซ่าร่านเซ็กส์ ปีหนึ่ง มหาวิทยาลัยY คณะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการครับ” มันพูดแนะนำตัวเองด้วยเสียงดังฟังชัด ท่าทางของมันทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้
“หึ มึงหัวเราะ” มันพลิกตัวกลับไปนอนหงาย ตามองขึ้นบนเพดานตรงหน้า
“แก้วบอกว่า หลายวันมานี้มึงไม่ค่อยหัวเราะ ยัยนั่นขี้สังเกตเป็นบ้า..วันก่อนกูแค่ตัดผมหน้าออกไปนิดเดียว ยังดูออกเลย” พีทพูด ผมนั่งฟังอย่างเงียบๆ ปากกาเตรียมพร้อมอยู่ในมือ หนังสือยังคงเปิดค้างไว้อย่างนั้น
“มึงคิดว่าความรักระหว่างชายกับชายมันเป็นไปได้อย่างนั้นเหรอวะ เอิ่ม..ประมาณว่า ที่มึงชอบพี่คิวน่ะ ขนาดชายหญิงปกติ บางคนตามตื๊อแทบตายยังแทบจีบไม่ติดเลย”
“กู ไม่รู้..กูไม่ได้คิดจะชอบพี่คิว ไม่ได้ตั้งใจ..สักหน่อย” ผมพูดเสียงเบา
“ตลอดมาไม่ได้คิดอะไร รู้ตัวอีกทีก็..รักไปแล้ว”
“.....................” พีทเงียบไป มือทั้งสองมือของผมเริ่มเล่นกับปากกาไปมาเพื่อหาทางระบาย
“ฟู่~” ผมเป่าปากเบาๆ
“บุหรี่ไหม” พีทหันหน้ามาถาม
“เชิญเป็นโรคปอดตายไปคนเดียวเหอะ” ผมย้อนว่า พีทหัวเราะ
“แก้วก็บ่นตลอดว่าเหม็นบุหรี่ มึงก็ยังจะสูบอยู่ได้” ผมบ่น
“เออน่า..เอาไว้ แก้ว รักกูเมื่อไหร่แล้วกูค่อยหยุดสูบ” มันพูดทีเล่นทีจริง ผมไม่รู้ว่าคนอย่างพีทคิดยังไงกับแก้วหรอกนะครับ ถ้าพีทหยุดอยู่กับแก้วก็คงดี ผมก็ยินดีที่จะเห็นสองคนรักกันแต่ถ้าพีทไม่หยุด ผมก็ไม่อยากให้พีทกับแก้วคบกันหรอก
“ไม่เอาหรอก กูไม่ให้..กูหวง” ผมพูด และผมคิดอย่างที่พูดจริงๆ
“หึหึ ไอ้เชี้ย..” พีทขว้างตุ๊กตาหมาหน้าตาอุบาทว์ๆของมันมาโดนหน้าผม ผมหยิบมากอดไว้
“แล้วเอาไงต่อ เรื่องไอ้พี่หล่อเทพนั่นน่ะ” พีทตะแคงตัวกลับมานอนมองผมในท่าเดิม
“ไม่เอาไง” ผมตอบ
“นี่ขนาดไม่เอาไงยังต้องมาทำรายงานที่บ้านกูน่ะนะ” มันประชดผมเหมือนรู้สาเหตุที่ผมมาที่นี่นอกจากจะต้องการมาทำรายงาน ผมชะงักไปชั่วครู่เพราะผมไม่รู้ว่ามันจะรู้ด้วยว่าผมอยู่ทำที่บ้านคนเดียวไม่ได้ ที่ผิดปกติคงเพราะทุกครั้งผมจะอาสาทำอยู่บ้านคนเดียวละมั้งครับ
“มึงอึดอัดมึงก็ลาออกดิวะ ง่ายจะตาย” พีทว่า ผมเงียบ ในหัวผมเคยผลุดคิดว่า “ถ้าเราลาออกล่ะ” แต่สมองกลับหยุดคิดไปหลังจากนั้น ไม่รู้ว่าเพราะทำไมเหมือนกันที่ผมหยุดคิดเรื่องลาออกนั่นต่อ ผมไม่กล้าคิดและผมไม่สามารถทำได้ด้วย ถ้าผมต้องอ้างเหตุผลต่างๆนาๆว่าทำไมผมถึงไม่ลาออก สุดท้ายก็มีเพียงเหตุผลเดียวที่เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
“ก็แค่ลาออก” พีทพูด ผมส่ายหัวตอบในทันที
“เออๆ..กูอาบน้ำก่อนแระ จะได้มานอนต่อ” มันลุกขึ้นจากเตียง
“รีบๆทำให้เสร็จล่ะมึง ไปดูหนังกัน”
“อื้อ..รู้สึกผิดบ้างก็ดีนะมึงอ่ะ” ผมว่าให้ พีทหัวเราะร่าเดินเข้าห้องน้ำไป..
= = = = = = = =
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
หลายวันมานี่ผมไม่ได้เจอหน้าพี่คิวเลย ไม่ได้พูดคุยหรือส่งข้อความหากันอย่างเคย กี่วันแล้วนะ..สิบวัน สิบเอ็ดวันหรือมากกว่านั้น ผมว่าน่าจะมากกว่านั้นถ้าต้องนับวันที่เราเจอกันแต่แทบไม่ได้คุยกันเลย
“พรุ่งนี้ก็สามสิบเอ็ดแล้ว ดีใจจัง” พี่ซีปรบมือไปมา ผมอมยิ้มให้
“เค้กไปเที่ยวปีใหม่ที่ไหนเหรอ” พี่ซีถาม
“ไม่หรอกครับ คง..อยู่บ้านแหละ” ผมตอบ พวกพีทเดินทางไปหัวหินแล้วหลังจากที่สอบมิดเทอมเสร็จ ผมตัดสินใจไม่ไปเพราะวันที่สามสิบผมมีเวรที่ร้านนี่ พี่ฟ้าไม่ได้อนุญาตให้หยุด อีกหนึ่งเหตุผลคือไม่อยากจะลางาน อีกหนึ่งเหตุผลลึกๆแล้วคือผมกลับอยากมาเห็นหน้าพี่คิว ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าอาจจะได้เจอหรือไม่ได้เจอก็ได้
“โหย ไม่เบื่อเหรอ” พี่ซีทำหน้ามุ่ย
“ไม่หรอกครับ ก็เป็นแบบนี้ทุกปีแหละ” ผมยิ้มแหย ผมจัดแก้ววางเรียงให้เข้าที่ตามแบบมาตรฐานของร้าน อยู่ๆพี่ซีกลับเดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทางเหมือนมีอะไรจะบอก
“ไปปาร์ตี้ที่บ้านพี่ด้วยกันไหม” พี่ซียิ้มพร้อมกับเอาหน้าเข้ามาใกล้ผม
“หึ..ไม่ดีกว่าครับ ขอบคุณครับ” ผมยิ้มกว้าง
“โหย นู่นก็ไม่ไปนี่ก็ไม่ไป..เนี้ยพี่ออฟ พี่หมี กัสก็ไปนะ..”
“เค้กไม่เหมาะกับงานอะไรอย่างนั้นหรอกครับ มีเค้กงานจะกร่อยซะเปล่า..ชุดหรูๆก็ไม่มีด้วย” ผมบอก
“ไม่เป็นไรหรอก งั้นเดี๋ยวพี่พาไปซื้อก็ได้” พี่ซีพูด
“เค้กครับ” พี่ฟ้าเดินออกมาจากห้อง วันนี้พี่ฟ้ามาทำงานวันแรกหลังจากหยุดไปเกือบอาทิตย์
“ครับ” ผมขานตอบ
“นี่ของฝาก..ขนมน่ะ ฝากเอาไปให้แม่ด้วยนะ” พี่ฟ้าวางถุงไว้บนเคาร์เตอร์
“เอ่อ ขอบคุณนะครับ” ผมยกมือไหว้และรับมา
“ครับ..อืม แล้วเย็นนี้กลับกับพี่ไหม”
“เค้กกลับเองดีกว่าฮะ” ผมพูดแกมหัวเราะเพราะไม่อยากให้พี่ฟ้าคิดมาก
“วันนี้พี่แยกกันมาน่ะ หึ..ไม่ต้องห่วงหรอก” พี่ฟ้าพูดดักอย่างรู้ทัน
“เดี๋ยวเลิกแล้วพี่พาไปกินอะไรอร่อยๆดีไหมครับ”
“ไม่เป็นไรฮะ” ผมรีบบอก
“จิ้..พี่ไม่อยากกินข้าวคนเดียวอ่ะ เดี๋ยวนี้ไอ้คิวไม่ค่อยกลับบ้าน” พี่ฟ้าบ่นหน้างอ
“โอเค ตามนั้นนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มให้ก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องไป
“........................” ผมยืนอยู่กับที่ สมองประมวลความคิดวนไปมา ไม่ค่อยกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน แล้ว....ไปไหนล่ะ
= = = = = = = =
ตกหัวค่ำ ณ The Column..
“สวัสดีครับ” พนักงานต้อนรับยกมือไหว้พี่ฟ้า ระหว่างทางที่ต้องขึ้นมาที่ร้านอาหาร พี่ฟ้าจับมือผมไว้ตลอดทาง ผมจึงไม่รู้สึกเกร็งมากเท่าไหร่ถึงแม้จะแปลกที่เอามากๆ ผมไม่ค่อยได้เข้าโรงแรมหรูๆแบบนี้บ่อยๆ จะมีโอกาสก็ต่อเมื่อแม่หรือน้าติ๊กไปประชุมหรือมีสัมมนาที่ต่างจังหวัด ผมกับตาวชอบมาก เราจะตามไปด้วยอยู่บ่อยครั้ง
“เชิญครับ” พนักงานผายมือและเดินนำไป ผมตื่นตาตื่นใจกับทุกสิ่งที่อยู่ในร้าน นอกจากเคยไปนั่งร้านอาหารหรูๆสองสามครั้งกับพี่คิวผมก็ไม่เคยมานั่งทานร้านอาหารแบบนี้อีกเลย สำหรับพี่ฟ้าคงเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำหรับผม นักศึกษาที่กินข้าวตามร้านข้าวข้างทางทุกวันนี่มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่อยู่แล้ว
พนักงานเดินนำออกไปทางด้านระเบียงด้านนอกร้าน เป็นที่นั่งแบบสามารถได้ชมวิวและสูดอากาศด้านนอกได้ด้วยประมาณนั้น ระหว่างทางที่จะต้องเดินผ่าน ลูกค้าที่นั่งอยู่ในร้านมองมาที่พี่ฟ้าเกือบจะเป็นตาเดียว
“เชิญครับ” พี่ฟ้าปล่อยมือผมออกและยืนรอเหมือนต้องการให้ผมนั่งลงก่อน ผมนั่งลงที่โซฟาตัวตรงข้ามกับพี่ฟ้า
“อาหารที่คุณฟ้าโทรมาสั่งรอสักครู่นะครับ” พนักงานก้มหัวบอก
“ไม่เป็นไร” พี่ฟ้าพูด น้ำเสียงฟังดูนิ่มนวลและดูเป็นผู้ใหญ่ต่างจากตอนที่ชอบเล่นกับผมลิบลับ พนักงานเดินออกไปเมื่อพี่ฟ้าปัดมือให้
“ไม่ต้องเกร็งครับ” พี่ฟ้ายิ้ม ผมสูดหายใจเข้าอย่างแรงก่อนจะทิ้งตัวเองให้ผ่อนคลายลง ผมทำแบบนั้นจนพี่ฟ้าหัวเราะ แต่ผมกลับต้องนั่งหลังตรงอีกครั้งเมื่อพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ ผมนั่งมองเครื่องดื่มที่ถูกเสิร์ฟอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“ขอน้ำพั้นช์ด้วย” พี่ฟ้าบอกพนักงาน
“ครับ” พนักงานก้มหัวให้ก่อนจะเดินไป
“เค้กชอบน้ำพั้นช์ใช่ไหมครับ” พี่ฟ้ายิ้ม ผมพยักหน้าตอบ
“สิงค์โปรสลิง ลองชิมสิ” พี่ฟ้าบอกถึงแก้วที่อยู่ตรงหน้าผม พนักงานอีกคนกำลังรินไวน์เสิร์ฟให้พี่ฟ้า
“ก็..ดีฮะ” ผมยิ้มเขินหลังจากชิมน้ำแล้ว พี่ฟ้าหัวเราะ
“เอ่อ ทำไม..ข้างนอกไม่มีคนเลยล่ะครับพี่ฟ้า” ผมถามด้วยความสงสัย ตากวาดมองไปรอบๆ โต๊ะข้างๆโต๊ะของพวกเราว่างอยู่หลายโต๊ะทั้งๆที่ในร้านกลับมีลูกค้าเต็มไปหมด ผมกำลังสงสัยว่าทำไมถึงไม่ชอบนั่งข้างนอกทั้งๆที่บรรยากาศดีออกจะตายไป
“พี่ให้ปิดด้านนอกเองน่ะ เหมาไปเลย..เค้กจะได้ไม่เกร็งไงครับ” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“ห๊ะ!!” ผมอุทานตาโต
“อ่ะ..เค้ก เค้กนั่งตรงไหนก็ได้ครับ นั่งพื้นก็ได้นะครับ..” ผมรีบพูดจนลิ้นรัวไปหมด
“ช่างมันเถอะน่า นี่ไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย” พี่ฟ้าพูดหน้าตาเฉย อาหารเริ่มนำมาเสิร์ฟ ผมนั่งเงียบมองแต่ละจานอย่างพิจารณา
“ส่วนมากเป็นอาหารไทยน่ะ เค้กชอบกินอาหารไทยใช่ไหมครับ..เห็นคิวเคยพูดถึง”
“ก็..ฮะ” ผมพยักหน้าและต้องหลบสายตาของพี่ฟ้าเมื่อได้ยินชื่อดังกล่าว
“พี่ก็ชอบเหมือนกัน ช่วงนี้..เบื่อฝรั่งน่ะ” พี่ฟ้าพูดแกมหัวเราะ ผมหัวเราะตามกับมุขของพี่เขา
“ทูน่าแผ่นบางราดซอสงาครับ” ผมนั่งมองอาหารที่พนักงานนำมาเสิร์ฟเพิ่มอีก
“สลัสปลาแซลมอลย่างครับ เนื้อกวางย่างราดซอสกับเห็ดนางรมหลวงครับ”
“กุ้งมังกรครับ อาหารที่สั่งครบแล้วนะครับ” พนักงานยิ้ม ผมตาโตมองอาหารเป็นสิบอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ไม่รู้ ผมจำไม่ได้” พี่ฟ้าตอบหน้านิ่ง พนักงานชะงักไป
“หึ..ครบครับ” พี่ฟ้าหัวเราะ พนักงานยิ้มเขินและก้มหัวให้อีกครั้งก่อนจะเดินกลับเข้าไป
“สั่งเยอะจังนะครับ” ผมพูด
“เวลามีก็กิน เวลาไม่มีก็อด” พี่ฟ้ายักคิ้ว
“กินเลย ตามสบาย..สั่งกลับบ้านด้วยก็ได้นะ” พี่ฟ้าเริ่มตักอาหารมาวางไว้บนจานเปล่าของผม ผมพยักหน้ารับและเริ่มตักอาหารกิน จากตอนแรกที่เกร็งแต่หลังๆเริ่มจะควบคุมการกินของตัวเองไม่อยู่สักเท่าไหร่ มีแต่อาหารที่ผมไม่เคยกินทั้งนั้นเลยยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าอะไรก็อร่อยไปหมด
“เอ่อ..เค้กครับ”
“ครับ” ผมขานตอบ
“พรุ่งนี้ร้านเลิกเร็ว แล้วเค้กไปปีใหม่ที่ไหนล่ะ”
“ก็คงกลับบ้านแหละครับ ที่บ้านก็คงไม่ได้จัดอะไรด้วย..ก็ปกติอย่างนี้ทุกปีอยู่แล้วล่ะฮะ”
“งั้นมาบ้านพี่ไหม บ้านพี่จัดปาร์ตี้เล็กๆ..พวกที่ร้านก็มาหมดเลย” พี่ฟ้าชวนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อ่าว..แต่เค้กเห็นพี่ซีบอกว่าที่บ้านของพี่ซีก็จะจัดด้วยไม่ใช่เหรอครับ” ผมถามกลับอย่างสงสัย
“โอ้ย ขานั้นอยู่บ้านตัวเองแค่แป๊บเดียวแหละ พวกคุณพ่อกับคุณแม่ของซีต้องจัดต้อนรับพวกญาติๆกับแขกเยอะแยะ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็เบื่อบรรยากาศในงาน..พี่ยังเบื่อเลย” พี่ฟ้าแสยะปากพร้อมกับทำหน้าเซ็ง
“งั้นเหรอครับ..เหอะๆ” ผมยิ้มแหย
“มาสิ..มาด้วยกันนะ คนเยอะๆสนุกดี พี่ซื้อของขวัญจับสลากไว้ครบหมดแล้วล่ะ”
“ชวนน้องตาวกับคุณแม่มาด้วยก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” ผมรีบตอบปัด
“ทำไมล่ะ” พี่ฟ้าหน้าเศร้าลง
“เอ่อ เค้ก...” ผมก้มหน้ามองปลาแซลมอลที่อยู่ในจานของตัวเอง
“มีปัญหากับคิวงั้นเหรอครับ” ผมชะงัก
“เปล่า” ผมเงยหน้ายิ้มตอบพี่ฟ้าในทันที
“ครับ..”
“คือเค้ก เค้ก..”
“ใจเย็นๆครับ” พี่ฟ้ายิ้มน้อยๆ เราทั้งสองคนเงียบลงครู่หนึ่ง
“เราไม่ได้คุยกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว พี่คิว..เหมือนไม่ต้องการจะคุยกับเค้ก” ผมพูด พยายามเรียบเรียงประโยคให้ปกติที่สุด
“งั้นเหรอ” พี่ฟ้าหุบยิ้มลง ผมพยักหน้าทั้งๆที่ไม่รู้ว่าพี่ฟ้ามองอยู่รึเปล่า
“หึ..รักไอ้บ้านั่นเข้าให้จริงๆแล้วสินะ”
แกรง~
ผมตกใจ มือปัดช้อนของตัวเองที่วางอยู่บนจานจนมันตกลงบนโต๊ะ ผมตกใจทำไมไม่ทราบทั้งๆที่ก่อนหน้าพี่ฟ้าก็รู้ดีอยู่แล้วว่าผมชอบพี่คิว
“ขอโทษครับ” ผมรีบหยิบมันขึ้นมาวางไว้อย่างเดิม พี่ฟ้าไม่ตอบอะไรแต่อยู่ๆกลับลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งลงข้างๆผม
“ไม่เป็นไร” พี่ฟ้ากอดผมเข้าไป ผมซบหัวลงที่ไหล่ของพี่ฟ้าอย่างอ่อนแรงเช่นกัน ก้นบึ้งหัวใจของผมกำลังต้องการใครสักคนมาปลอบโยนแบบนี้ แต่ตลอดมาผมไม่รู้ว่าใครจะเหมาะสมที่จะรับฟังและเข้าใจผมในตอนนี้อย่างดีที่สุด ตอนนี้ผมรู้สึกเพียงพอต่อความต้องการของผมแล้ว เพียงแค่อ้อมกอดอย่างอ่อนโยนแบบนี้..สักพัก
“หึ..ไม่เป็นไรนะครับ จุ๊บ~” พี่ฟ้าก้มหอมหน้าผากผมเบาๆ ผมหลับตาลง มือของพี่ฟ้าลูบหัวของผมและแก้มของผมอยู่ตลอดเวลา
“เค้กรู้ไหม..บางอย่างน่ะ มันเป็นเหตุเป็นผลกัน และก็มีเหตุผลมากมาย ที่พี่ไม่สามารถเข้าไปยุ่มย่ามได้ ในบางครั้ง..เราก็ไม่สามารถตัดสินชีวิตคนอื่น เพราะความคิดและเหตุผลผิดถูกของเราเป็นใหญ่ เค้กเข้าใจใช่ไหมครับ”
“เค้กไม่ควร ใช่ไหมฮะ..เค้ก ผิด เอง” ผมพยายามพูดความในใจออกไปแม้เพียงนิดเดียวก็ตาม
“พี่ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์มันเกินเลยไปขนาดไหน แต่ไม่มีใครผิดทั้งนั้นนะครับ”
“ไม่มีนะครับ เด็กดี..” พี่ฟ้ากอดผมและโยกตัวไปมาอย่างอ่อนโยน
คำพร่ำบอกจากปากของพี่ฟ้าว่า “ไม่เป็นไร..ไม่เป็นไร” อยู่ตลอดเวลาทำให้ผมรู้สึกว่าผมกำลังเจ็บมากกว่าเดิม ผมอยากให้พี่ฟ้าพูดอะไรมากกว่านี้แต่พี่ฟ้ากลับไม่พูดอะไรเลย ไม่มีแม้แต่คำอธิบายกลับยิ่งทำให้ผมรู้ดีว่าพี่ฟ้ารู้ว่าที่พี่คิวเป็นอย่างนี้นั้นเพราะอะไร การปลอบโยนที่ดูเหมือนอ่านทุกอย่างออกหมดแบบนี้ สิ่งที่พี่ฟ้าพูดเหมือนกำลังต้องการให้ผมเข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ผมเพียงแค่ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมา เมื่อคิดได้อย่างนั้น การที่ผมเฝ้าหวังลมๆแล้งๆมากเกินไปนั่นคงเป็นเพราะผมหลงลืมไปชั่วขณะ ผมลืมเตือนตัวเองว่าให้มีสติมากกว่านี้อย่างที่เคยทำ..
.................>>>><<<<..................
-
:sad4:โอ้ :sad4:ยใจจะขาดแทนเค้ก พี่คิวอ่ะทำไรอยู่นั้น :z3:
-
เข้ามาอย่างว่องไว
-
คิดว่าจะดีขึ้น กลับหนักกว่าเดิม
คนอ่านซึมไปด้วย :monkeysad:
+1
-
สงสารเค้กจัง
-
:z3: :z3: :z3: จุกอก :z3: :z3: :z3:
-
ไปกันใหญ่แล้วน้องเค้กของฉัน คงต้องพักบ้างไรบ้าง รอให้ถึงตอนจบค่อยอ่านอีกทีละกัน
ไม่ไหว ตับใกล้แตกเป็นเสี่ยงๆ :เฮ้อ:
-
เค้กน่าสงสาร :เฮ้อ:
-
ยังคงเศร้า แต่เศร้าแบบมีเหตุมีผลในตัวของมันเนอะ
เป็นเค้กที่ต้องตัดสินใจแล้วหละ ว่าจะจัดการ
กับหัวใจตัวเองยังไงดี :pig4:
-
เค้กเข้มแข็งไว้นะ สู้ๆตัดให้ขาดคิววมันบ้า
-
T^T เอาใจช่วยทั้งเค้กทั้งพี่คิวเลยนะ...สู้ๆ
ขอบคุณเบบี้^^
-
เง้ออ T-T
-
เมื่อไหร่จะคุยกันเหมือนเดินเนี้ย
อ่านแล้วเครียดด สงสารเค้ก
-
:sad4:อิน...อินมักมากกกก :z3:
-
ตอนนี้ก็ยังเศร้าเหมือนเดิม
อ่านจบแล้วน้ำตาไหลอย่างกะสั่งได้เลยค่ะ
เราว่าเค้กตัดใจจากพี่คิวดีกว่านะเจ็บแทนเลยอ่ะT_T
-
สงสาร"น้องเค้ก" ยังมืดมนเหมือนเดิม
รอเวลาให้ทุกอย่างดีขึ้น
ขอบคุณ เบบี้ ที่มาต่อให้ค่ะ :pig4:
-
ปวดใจไปกับเค้กจังงงง :m15:
พี่ผ้าคงรู้อะไรหมด แต่ก็บอกเค้กไม่ได้สินะ
พี่คิวไม่คิดจะง้อ หรืออยากคืนดีกับเค้กบ้างเรอะ
ดูทำเข้า
เศร้าแทนเค้กจริงๆที่ชอบพี่คิวเนี่ย :เฮ้อ:
-
ไม่รู้ว่าพี่คิวคิดยังงัย มันไม่ชัดเจน มันอึดอัด มันทรมาน :เฮ้อ:
น้ำตามันเลยไหลแทนน้องเค้ก :monkeysad:
นี่เค้าเว่อร์ไปม่ะ!! มันรู้สึกอย่างงั้นจริง ๆ น๊า เกลียดพี่คิวแล้ว!! :sad4:
-
:เฮ้อ:
แอบน้ำตาซึม
-
:กอด1: เค้กเอ้ย เดี๋ยวมันก็ผ่านไปนะน้อง ไม่อยากฝืนใจไม่อยากเลิกรักไม่อยากตัดใจ ไม่อยากอะไรๆ ก็ไม่ต้องทำ ทำอย่างที่อยากไปโลด อยู่ๆไปงี้แหละ น้องเค้กของพี่เก่งอยู่แล้น Fighting!!!
ณ.จุดนี้เวลานี้ ก็คงต้องทำแบบพี่ฟ้่าว่าแหละนะ ปล่อยไอ้พี่เชฟบ้าเค้าไป ให้เค้าได้จมอยู่กับไอ้ความเป็นเหตุเป็นผลกันของเค้าต่อไปเหอะ
เ่จ็บจี๊ดแบบซ้ำซ้อนบ่อยๆ เข้าก็ให้รู้สึกว่ามัน"ชา" ซะและ ((ตูอินไปเปล่าฟะ ...อิอิ))
ขอบคุณไอ้น้องบี้
+++โว้ย
:กอด1:
-
เฮ้อ อ อ อ ..หน่วงๆ :เฮ้อ:
-
ทำไมรู้สึกว่ามันสั้นนะ สงสัยอ่านเพลินไปหน่อย
อยากรู้ความรู้สึกพี่คิวบ้างสักนิด สับสนอยู่รึเปล่า
ไม่รู้เหมือนกัน รอตอนหน้านะคะ
-
พี่คิว จะ เอายังไง ก็สักทีเหอะ
สงสารเค้ก มากๆๆ ไม่ไหวแล้วนะ
-
:bye2:
-
อ่านไปน้ำตาซึมไป สงสารเค้กจัง
-
แอบสงสารนู่เค้ก แต่ก็ชอบแบบนี้อ่ะอ่านไปจี๊ดดีไม่มากไปและไม่น้อยไป ขออีกยาวๆน่ะ o13
-
บทน้อยซะจนลืมพระเอกไปแล้วไอ้พี่คิวบ้า
กว่าจะคิดอะไรได้ ขอให้เค้กตัดใจได้แล้วเหอะ :z3:
-
มันช่างบีบหัวใจดีจริงๆเลย :o12:
น้องเค้ก พี่ก็อยากบอกน้องเค้กด้วยอีกคนว่าไม่เป็นไรนะคะ :กอด1:
อยากกอดปลอบเค้กบ้างอ่ะ พี่ฟ้าแบ่งน้องมาให้กอดหน่อยจิ :o11:
-
ไม่เป็นไรเค้ก
กล้าที่จะรักและยอมรับ
อยากรู้พี่คิวคิดยังไง
-
มาม่าหนัก
เบื่อคิวแล้ว ไม่เห็นทำไรสักอย่าง
-
ทำงัยก็ไม่เลิกหน่วงเนอะ ดีใจที่พี่ฟ้ากลับมาสักที หุหุ
-
คิววววววววววววว
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:z6: :z6:
-
ก็ยังคงหน่วงอย่างต่อเนื่อง...จริงๆ
-
ถ้าพี่คิวยังรักคนเก่ามากอยู่แบบนี้
แล้วเรื่องของเค้กจะเป็นไปได้ยังไง
TT
-
ไอพี่คิวววววววววว เชฟบ้าาาาาา ฮือๆๆๆๆ อึดอัดแทนน้องเค้กเลย มันเศร้าลงๆอ่า :o12:
-
:z6: :z6: พี่คิว
แม่มมมมมมมมมมมม น่าปลดออกจากพระเอกจริงๆค่ะ
ไม่มีความแน่นอน ไม่มีความกระจ่างง ทุกเรื่องเลย
อะไรก็ไม่รู้ สงสารเค้กก ฮือออออออออออออออ
ทำไมพี่คิวทำงี้อ่ะ จะเอาอะไรก็สักอย่างดิ
ตัวเองมีสิทธิ์เลือกนี่ เลือกซะสิยะ
ว่าจะจมปรักอยู่กับอดีต หรือจะก้าวต่อไปในอนาคต
แล้วทำเหมือนมีใจให้อ่ะ ใครมันก้ต้องมีคิดเข้าข้างตัวเองบ้างสิวะ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ทุบหัวพี่คิว :z3:
-
เป็นเราลาออกไปนานแระ
หมั่นไส้พี่คิวว่ะ :beat:
-
อร๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
o13 o13 o13
-
สงสารน้องเค้ก ฮืออออออ
-
เค้กไปบวชข้ามปีดีมั้ย ปลงซะเลย
-
ทำใจและตัดใจเหอะ สงสารเค้ก
-
ใจคนยากแท้หยั่งถึง :เฮ้อ:
:pig4: คะ
-
:sad4: :z3: :z3: :z3:
จุกจนไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
-
แอบคิดเข้าข้างเค้กว่าที่คิวไม่ได้กลับไปกินข้าวที่บ้านเพราะแอบตามไปดูเค้กหรือเปล่า 555 แค่คิดอ่ะนะ
:m15: เศร้าอ่ะ สงสารเค้ก แต่ดีจังที่ฟ้ากลับมาแล้ว :กอด1: เพราะดูเหมือนจะมีฟ้าคนเดียวที่เค้กเปิดใจด้วย
:pig4: :กอด1:
-
พี่คิวนี่ตกลงมีซัมติงกับพี่ฝันหรือเปล่า?
ตอนนี้เรื่องมันเกิดก็เพราะพี่คิวเลย จะนิ่งเป็นติ่งอีกนานไหมมมมมมม เป็นอะไรไป ทำตัวไม่เคลียร์เลย :angry2:
เสียดายเรื่องนี้ไม่มีมือที่สามไม่งั้นจะยกเค้กใส่พานถวายพระรองไปเลย TAT/
เฮ้ออออ.....สงสารเค้กนะ ต้องเผชิญปัญหาเยอะเลย ส่วนพี่คิวก็คงมีปัญหาอะไรแหละ เพราะเป็นคนมีเหตุมีผล(ตามใจตัวเอง)อยู่แล้วนิ
มาต่อไวๆนะคะ เลิฟๆมาก
-
ช่างนี้เจอแต่มาม่าToT
-
:o12: <<<<<<< หลังจากอ่านเสร็จ
(ปาดน้ำตา) เค้กน่าสงสารอ่ะ รู้สึกเครียดจังเลย(อินมาก)
คิวจะเอายังไงเนี่ย แช่งให้เค้กตัดใจซะทีดีไหม ผู้ชายเป็นใบ้งี้รักมีแต่เจ็บ :m15:
:pig4:นะคะ คุณเบบี้ :กอด1:
-
อ่านตอนนี้สงสารน้องเค้กจัง ชอบพี่ฟ้าอ่ะ น่ารักและเข้าใจเค้ก
เบบี้คึกเนอะ up บ่อยๆเขาไม่ว่าหรอก
-
น้องเค้กของชั้น น่าสงสารอ่า TOT
-
พูดอะไรไม่ออก :sad4: :o12:
พี่คิววววแกเป็นอะไร ห๊ะ :angry2:
พี่เบบี้สู้ๆน๊า :z3:
-
อั๊ยหย่ะ
-
ฮือๆๆๆ เค้กน่าสงสารอ่ะ อั๊วปวดจายยย :o12:
ชอบพี่ฟ้าจังอ่ะ พี่ฟ้าอบอุ่นดีจัง :o8:
-
เกิดอาการอยาก :z6: พระเอก :m16:
-
คิว ทำให้คิดแล้วจากไปหรอ
สงสารเค้กจัง
-
อ่านแล้วมันหน่วง มันจุกแปลกๆ เห้อ สงสารเค้ก จนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว พี่คิวจะเอายังไงกันแน่ คิดอะไรก็พูดอออกมาบ้างสิ. ให้ตายเหอะ เข้าใจว่าเรื่องทุกอย่างมันต้องมีเหตุมีผลในตัวของมันเอง แต่เรื่องความรักมันไม่ต้องใช้เหตุและผลมาตัดสินใจนะพี่คิว ถ้าจะเลือกอดีตที่ไม่มีวันหวนคืนก็ไม่น่ามาให้ความหวังเค้กแต่แรก หมั่นไส้อิพี่คิว ชิ มีสิทธิ์เลือกก็ทำให้มันชัดเจนไปเลยสิ ไม่สงสารน้องเหรอ เห้อ พี่ฟ้าดูอบอุ่นมากๆ แต่ตราบใดที่คลุมเครือแบบนี้เค้กก็คงยังเจ็บต่อไปเรื่อยๆ ตัดใจได้ก็ดีนะเค้ก เอาให้อิพี่คิวมารู้ตัวก็ตอนสายไปแล้วเลย ชิ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
ยิ่งพี่ฟ้าพูดยิ่งเครียด
พอเป็นแบบนี้แล้วรู้สึกอยากให้เค้กตัดใจ
ฮื่อออออออออ
-
:z3:
:o12:
-
พี่คิวเห็นแก่ตัว ให้ความหวังแล้วก้มาทำแบบนี้
ถ้ารู้ตัวว่าไม่ว่ายังไงก้ลืมปรายไม่ได้
แล้วทำไมถึงมาทำแบบนี้กับน้อง การกระทำอะไรก้ไม่ชัดเจน
สงสารเค้ก อ่านตอนนี้แล้วร้องไห้เลย
สิ่งมันค้างคาในใจ ถ้าเราไม่มีคำตอบ เราจะไม่มีวันหยุดคิดได้เลย
เค้กถอยมาสักก้าวเถอะนะ ถอยเพื่อตั้งหลักสักหน่อยก้ยังดี
เปลี่ยนพี่ฟ้าไมก้พีทเป็นพระเอกเถอะเบบี้ เคืองพี่คิวจริงๆนะ
-
หนักกว่าตอนที่แล้วอีก มันหน่วงๆในอก
อาการของเค้กประมาณ กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
ตัดใจก็ไม่ได้ ให้สานต่อก็ยิ่งไม่ได้ไปใหญ่
ขอให้เค้กเข้มแข็งโดยไว เชื่อว่าต้องทำได้
ลองอยู่นิ่งๆดูบ้างอาจจะดีขึ้นก็ได้นะ สู้ๆๆๆ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เหยี่ยวเหนียว หนูกำลังลุ้นกำอะไรสักอย่าง~~~~~~
-
สถา่นการณ์ไ่ม่ดีขึ้นเลย
- -*
-
:m15: :monkeysad:
-
อันนี้ก็ในมุมเค้ก...ไม่ใช่มุมพี่คิว
ไม่มีทางที่จะเข้าใจสิ่งที่พี่คิวหรือคนอื่นๆคิดได้เลย
และการที่เราจะปวดใจแทนเค้กก็ไม่แปลก หึหึ
รักเบบี้...รอวันความจริงเปิดเผย
-
อืมมมม
ดูแล้วเหมือนเค้กจะไม่มีหวังเลย พี่ีฟ้าก็น่ะ ถ้าอย่างนั้นตอนแรกไม่น่าชงเลยอ่ะ
ถ้าอย่างนั้น เค้กก็ลองถอยออกมา ณ จุดเดิมดีกว่า ตัดใจให้ได้ น่ะ พี่รอเค้กกลับมาเข้มแข็ง :กอด1:
-
บีบคั้นอารมณ์แท้เหลา :monkeysad:
อยากกอดปลอบน้องเค้ก :กอด1:
-
:เฮ้อ: ยิ้มไม่ออก
เศร้าไปกับเค้กด้วยเลย
ไม่มีใครเข้าใจพี่คิวได้ดีกว่าตัวพี่คิวเองหรอก
ไม่แน่พี่คิวอาจจะไม่เข้าใจตัวเองด้วยก็ได้
ก็แค่ทำตามที่ตัวเองคิดว่าควรทำก็เท่านั้น
เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง ขี้เก๊กไปก็เท่านั้น
แต่รักใครแล้วรักจริงแบบพี่คิวนี่หายากสุดๆแล้ว
ดื้อเป็นเด็กแบบพี่ฟ้าว่านั่นแหละ อิอิ
:กอด1:
-
ปวดใจแทนเค้ก
พี่คิวหายไปไหนอีกนิ
-
สงสารน้องเค้กจัง :m15:
-
สงสารน้องเค้ก :monkeysad: :sad11:
ทำไมพี่คิวเป็นแบบเน้ล่าาาาา มีไร คิดไงกับเค้กก็บอกไปเซ่ะ !!! :angry2:
-
งืดดด เบบี้จ๋าาา คนอ่านจะขาดใจแล้วววว
หน่วงสุด ๆ สงสารเค้กอ้ะ !!!
แต่ยังไงก็รออ่านน้าาา เบบี้
-
อ๊ากกกกกกกกกก :z3: :z3: :z3:
เจ็บแทนน้องเค้กอะ พี่คิวก็เหมือนจะให้ความหวังตลอดมาเนอะ ช่วยไม่ได้ที่ทำให้เค้กคิดมากแบบนี้
แต่ตอนนี้สิ......เฮ้ออออออออ เมื่อไหร่พี่คิวจะกลับมา ไม่ใช่ว่าเค้กจะตัดใจจากพี่คิวหรอกนะ :z10:
-
มันเศร้ามาก
-
ยังไม่มีไรดีขึ้นเลยยยย :monkeysad:
-
Limited Lovers
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยย ดราม่ามาแล้ว :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
น้ำตาจะไหล เค้กไม่ผิดอ่ะ ความรักมันห้ามกันไม่ได้ สงสารเค้ก :monkeysad: :monkeysad:
พี่ฟ้าขา เค้กรักพี่คิว พี่ฟ้าโอ๋ๆ ทำไมจิต้องกอดจูบลูกคลำเค้กแบบนั้น :กอด1: อยากสิงพี่ฟ้า :impress2:
-
รักพี่ฟ้าอ่ะ
เบื่อคิว เบื่อมากกกกก ไม่ทำอะไรซักอย่าง
หายหัว เย็นชา เป็นอะไรที่หมั่นไส้แบบอยากตบคิวมาก 5555+
อ็ากกก เมื่อไรจะเข้าใจกันสกที :o12:
-
ร้องไห้แล้วอ่ะ T^T
สงสารเค้กมาก ฮือๆๆๆ
-
เซ็งความไม่ชัดเจนของคิวเฟ้ย
ทำตัวเหมือนชอบ ทำเหมือนฟ้าพิเศษกว่าคนอื่น
แต่ก็ปล่อยให้คนอื่นมาทำไม่ดีด้วย
โว้ยยยยยย
-
:sad4: น้องเค้กก็ยังน่าสงสารเหมือนเดิม
ส่วนพี่คิว :angry2:น่าจะเอาอะไรเขวี้ยงหัวจริงๆ จะได้เจ็บซะมั้ง
-
ขอบอ่านด้วยคนนะคะ
-
ขอพิเศษ อืด ๆ อีกซักถ้วย แค่นี้่ไม่อิ่ม
-
จุก เสียด แน่นท้อง เรอเปรี้ยว ไปหมดแล้ว!!!!!!!!
-
แมร่ง !!
ลาออกจากร้านแมร่งเลย
ทนทำใจไม่ได้ รุนแรง ป่านใจจะขาด
เค้ก ลาออกจากร้านเลย ครับ สนับสนุนให้ลาออก เลย 555
-
ไอ้พี่คิว ไอ้พี่ปีศาจน้ำแข็ง
-
ทุกอย่างคงมีเหตุและมีผลของมัน
และบางครั้งก็คงต้องการเวลา :z10:
:กอด1:
-
อ่านแล้วซึมไปอีกพักใหญ๋ๆๆๆๆๆๆๆๆ
ใจจะขาดแล้วเอ๊ยยยยย
+1 :กอด1:
-
อยากให้เค้กหยุดมากกว่า แบบเฉยๆ ไม่ต้องหา ไม่ต้องมองพี่คิวเลยก็ดี
ไม่อยากให้เค้กเป็นแบบนี้ อย่างกับใครจะให้ทำอะไรก็ได้ยอมไปหมด ดูเหมือนอ่อนแอเลย
ถึงเป็นลูกจ้างในร้าน แต่ไม่ต้องยอมเค้าไปหมด สู้ๆเค้ก :เฮ้อ:
-
:m15: :m15: :m15: :m15: สงสารเค้ก :m15: :m15: :m15: :m15:
-
เฮ้ออออออออออออออออออออ~~~~
เศร้าแท้ T-T
:z13: :z13: :z13:
-
สงสารเค้กจังเลยค่า :กอด1:
พี่ฟ้าใจดี๊ใจดี
ไม่รักพี่คิวแล่ว บู่ววววววว (เก็บไว้ให้เบบี้รักคนเดียวดีก่า 555)
-
พี่คิววววววว
เค้กเสียใจทำไมทำแบบนี้
โป้งแล้ว 555
รอติดตามตอนต่อไปจ้า :mc4: :L1:
-
คำเดียวจริงๆกับตอนนี้ "หน่วง" มาค่ะ
เค้กจ๋า หนูลาออกมาเถอะลูก พี่เจ็บแทน
-
ฮืออออออออ เค้กจ้าาาา
โอ๋ เอ๋ อย่าร้องสิ
มาๆ จะพาไปกินหนม
โอ๋เอ่อย่าร้อง
-
หน่วงๆเจ็บๆ ยังไงไม่รู้
สงสารเค้ก :m15:
-
:z3:
เค้กน่าสงสารสุดๆ ทำไมพี่คิวเป็นอย่างนี้นะ :m16:
-
อึดอัด
อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อไป :a5:
-
น่าสงสารเค้กจิงๆ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:มันเจ็บๆในอก ยังไงไม่รู้ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เง้ออออ :เฮ้อ: มันอึนๆ หน่วงๆ TT
-
ตัดอิพี่คิวออกจากพระเอกดีไหมเนี่ย
เจ้ชักไม่ปลื้มแล้วอ่ะ
-
ตั้งแต่ตอนที่แล้วมาถึงตอนนี้ เค้าอ่านไปน้ำตาซึมไป เค้าสงสารเค้ก :monkeysad:
คิวอาจจะมีเรื่องที่ฝังใจ แต่ทำอย่างนี้ก็ไม่ถูก คิวน่าจะรู้ว่าเค้กคิดยังไงกะตัวเอง ถ้ายังไม่คิดจะรับเค้กให้อยู่เคียงข้างกัน มาให้ความหวัง มาจูบเค้กทำไม :angry2:
-
เงิ้ว มาม่ามานานแล้ว เมื่อไหร่พี่คิวจะมาเคลียร์เนี่ย
-
ยังเศร้าได้อีก
:z3:
พี่คิวนะพี่คิว ถ้าไม่ได้คิดอะไรแล้วทำแบบนั้นทำมายยยยยยยยยยยยย :z10:
-
ไอ้พี่คิว เดี๋ยวจะโดน!
สงสารเค้กอ่า T T
o22
-
ยังหน่วงได้อีก.... :กอด1:เค้ก
-
อึ๋ยๆๆๆๆ ค้าง อึน ยิ่งกว่าตอนที่แล้วอีกอ่ะ
พี่ฟ้าต้องรู้ไรมากกว่านี้แน่ๆ
ตอนนี้มีพี่คิวออกมาแค่ 3 วินาที กับคำพูด 1 ประโยค
แต่โครตๆๆๆๆๆ หน่วง
เบบี้จ๋าอย่าทรมานคนอ่านนานหนักนะจ๊ะ นะ นะ นะ
-
:กอด1: โอ๋ เค้ก ถ้ารักไม่ช่วยอะไรก็ต้องทำใจนะ แต่ถ้าสิ่งนั้นจะเป็นของเรา ก็จะเป็นของเราในสักวันหนึ่ง ขอให้อดทนนะ
ปล. อยากให้พี่คิวโหมดเข้าใจยากจงหายไป ขอพี่คิวโหมดขี้แกล้งจงกลับมา :pig4:
-
:o12: :o12:
เจ็บแทนเค้กกก มากกกจิงๆๆ
เค้กไม่ผิดที่หวั่นไหว ใครเป็นเค้กก็ต้องเป้นแบบเดียวกัน
ก็ก่อนหน้านี้ พี่คิววแม่งโคตรน่ารักกเหอะ
มะไรพี่คิวจะทำอะไรๆๆให้มันชัดเจน ขึ้น เค้กจะได้ตัดใจได้ซะที
:m15: :m15:
-
:3123:ตอนนี้ยังเจ็บไม่มากเท่าไร
ถอนตัวยังทัน เลิกสนใจ อย่าใส่ใจกับสิ่งที่เห็น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ไปมากกว่านี้
-
โอ๊ย ใจจะขาดรอนๆ ไม่มาม่านะกินบ่อยแล้วอ่ะ :m15:
:dont2: :dont2:กลับมาเร็วๆนะ เค้ารออยู่ :monkeysad: :monkeysad:
-
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหักดิบเลยดีกว่า ดีกว่าจะต้องมาทนอยู่แบบนี้
ในเมื่อพี่คิวไม่ชัดเจน ยังคลุมเครืออยู่อย่างนี้
ลาออก หรือถ้าไม่ออกแล้วยังต้องเจอหน้ากัน ก็ต้องทำให้เหมือนเมื่อก่อนให้ได้ พูดคุยปกติ
ก็ต้องทำให้พี่คิวรู้ว่าเค้กอยู่ได้ ไม่มีพี่คิวเค้กก็อยู่ได้ ถึงตอนแรกมันจะเจ็บปวดแต่เวลาก็จะรักษาแผลใจ
เอาใจช่วยเค้ก :กอด1:
-
ต้องการความชัดเจนค่ะอิพี่คิว ปล่อยให้เค้กคิดเองเออเอง น้องตัดใจเมื่อไรนะจะสมน้ำหน้าให้
-
เฮ้ย !!!!! พออ่านตอนนี้แล้ว พี่ฟ้าไม่ได้ช่วยอะไรคนอ่านแลย อ่านแล้วค้างมากเลย :m16:
แต่เราคิดเรื่องลาออกอยู่นะ ไม่คิดว่าน้องเค้กไม่สามารถ ถ้าไม่ออกก็ต้องสู้สินะ
-
เหมือนเค้กจะเหนื่อยจิง..แต่ก็คงเหนื่อยจิงอะนะ
ฟ้าดูอบอุ่นมากเลยอะ...
ส่วนคิว..ก็คงต้องปล่อยไปตามเวลาหรือเปล่า??..แหะๆๆ
สู้ๆเด้อเค้ก
-
ช่วงนี้เหมือนคะแนนนิยมพี่คิวจะลดลงมากเลยนะ
รีบๆแน่ใจในตัวเองได้แล้ว ก่อนที่คนอ่านจะไปรุมทึ้ง(?)
:z6:
-
ไอ้พี่คิว :angry2: ไม่มีอะไรชัดเจนซักอย่าง คลุมเครือนานไปละ
อ่านตอนนี้แล้วมันหน่วงๆ สงสารเค้กอะ :เฮ้อ:
ลาออกไปเลย ไม่ต้องเจอะเจอกันอีกเจ็บสุดๆครั้งเดียวพอ
ปล.แต่ก็อยากให้พี่คิวมาง้อแล้วหวานกันมั่ง เราอยากเห็นฉากนั้น :laugh:
-
คิวเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจยากและเข้าถึงยากมากเลยทีเดียว
อยากเห็นเค้กอยู่เหนือคิวจัง
-
อ่านแล้วใจจิขาดรอนๆ ToT
น้องเค้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o12:
-
สงสารน้องเค้กอ่ะะะ
โฮววว คิดมากมากมากเลยอ่ะ
พี่ฟ้าดูแลดีๆนะะ
พี่คิวก๊นะ ไม่แสดงออกอะไรเลย!!!
;__;
-
รอตอนต่อไปครับผม
-
อยากเห็นพี่คิวทุรนทุรายบ้าง
แม่ง นิ่ง ขรึม สงบ เยือกเย็น สยบทุกสิ่งอย่าง
ทำคนอื่นเค้าเป็นแบบนี้มีสะใจมั้ย ฮึ่ยยยยย :m16:
สงสารเค้กน้อยกลอยใจของพี่จริงๆ
มาๆขอกอดปลอบด้วยคน
:กอด1:
-
อีพี่คิวเลวมาก ยอมไม่ได้
เค้กถอยมาสักก้าวนะลูก มาตั้งหลักพักก่อน มองหาคนใหม่เลยยยยยยยยยยยย :laugh:
-
ดราม่าไม่หยุดหย่อน สงสารน้องเค้ก
-
อร๊ายยยยยย Saddddd
รีบมาต่อไวๆนะจ๊ะ ^^
-
:monkeysad:สงสารน้องเค้กกกกกกกก
-
อิป้าคนนี้อึดอัดแทนน้องเค้กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
เค้กสู้ๆ อย่าหนี แต่อย่าไปใส่ใจ
-
มาอ่านสองตอนติด น้ำตาไหลทั้งสองตอนเลย โอย สามคำ! สงสารเค้ก
พี่คิวเว้ยคิดได้ไวไวซะที อย่ามัวแต่จมปรักเด้ เค้กมันจะบ้าแล้วนะ
ดีนะที่พี่ฟ้ากลับมาปรอบประโลมให้ ไม่งั้นเค้กมันลาออกหนีความบ้า(เงียบ)ของแกแน่ๆ ฮึกกกกก :o12:
-
:กอด1:
-
มันเจ็บหน่วงๆเหมือนมีอะไรมาทับเอาไว้ :z3: :z3:
สู้ๆ
-
เอ็นดูไอ้น่อย ดั๋กตีหัวอ้ายคิวกันเต๊อะสู๋
-
ว่างง เข้ามาบอกรักเบบี้และกอดที พี่ซาดิสชอบหน่วงๆ 5555
-
อ้ากกกก ค้างกว่าเดิมอีก ให้ตายเถอะ เห้อออ
แต่ละคน
-
อยากให้พี่คิวหึงอ่ะ ไม่ไหวละ หมั่นไส้ ไม่พูดไม่จา กระโดดกัดคอเบบี้เลยดีมั๊ย
-
สงสารน้องเค้กกก :serius2:
ไม่อยากให้น้องเจ็บไปกว่านี้แล้วอ่ะ ฮือออ
เค้กหนูไปหาคนใหม่แล้วเขี่ยอีพี่คิวทิ้งไปเลยย!!!!! :m31:
-
เบบี้ใจร้ายยยยยย อ่า สงสารน้องมากเลย หาพระรองมาปลอบใจน้องเค้กหน่อยซิ T^T
-
ยังคงจุกแน่นหน้าอกกันต่อไป :m15:
เค้กยังไม่เสียน้ำตาสักหยดเลยนี่เนอะ
นั่นสินะ แล้วความสัมพันธ์ที่่ผ่านมาของสองคนมันคืออะไรอะ :เฮ้อ:
รออ่านต่อ ขอบคุณเบบี้นะคับ
-
เค้กก็ใจร้ายกับพี่คิวบ้างสิ ปล่อยให้พี่คิวเอาแต่ใจตัวเองคนเดียวได้ไง :m16:
ปล ขออีกซักรอบ...นิยายจบ(ตอน)แต่คนอ่านยังไม่จบ o12
-
:monkeysad:เค้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :angry2:อีพี่คิวววววววววววววววววววววว
-
เฮ้อ โล่งเลย น้องเค้กมีสติแล้ว พยายามเข้าใจกับตัวเองนะ อนุญาตให้แอบรักได้ ไม่อยากให้คบกับนายคิวเป็นผู้ชายปล่อยไปเหอะ
-
คิวเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจยากและเข้าถึงยากมากเลยทีเดียว
อยากเห็นเค้กอยู่เหนือคิวจัง
อุ้ยๆๆๆ!!! อยากเห็นนุ้งเค้กออนทอปเหมือนกันเลยเลยค่ะ
กี๊สสสสสสส :z1:
ล้อเล่นน๋า เห็นบรรยากาศแต่ละเม้นท์มาคุจะย่างพี่คิวทาเกลือกันหมดละ 555
-
เห็นด้วยกับความคิดของพีทนะ ที่ว่าท่าอึดอัดนักก็ลาออกนะ
แม้ว่ายังอยากจะเห็นหน้าพี่คิวก็เหอะ ยิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บสู้อย่าเห็นซะยังดีกว่า
กับคนที่ไม่มีแม้แต่คำอธิบาย อยู่ต่อก็ยิ่งเจ็บ
-
พี่คิว :z1: รอดูตอนปีใหม่ o13
-
สงสารเค้กอ่ะ เจ็บหน่วงๆไงไม่รู้
อีพี่คิวจะเอาไง ทำให้ชัดเจนได้มั๊ยเนี่ย
-
เค้กไม่เป็นไรนะ
เป็นกำลังใจให้นะ
ทนไม่ได้ก็ลาออกแมร่งเลย...
-
ไม่ไหวๆๆๆๆๆๆๆนะ
ปวดใจเเทน กร้ากกกกกกกกกก
-
เฮ้อออออ เครียดแทน พี่คิวจะเอายังไงกันล่ะเนี่ย
เค้กค่อนข้างแย่แล้วนะ =''=
-
แวะมาเช็ดน้ำตาให้เราเลย
เสียน้ำตาให้เค๊กไปแล้ว
เศร้า
ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย
เฮ้อ
+เป็ดที่ 36 ให้ด้วยนะคร้าบบบบ
:L2: :L2:
-
ฮึ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
:กอด1: :L1:
บวกเป็ด
-
บีบหัวใจแล้วบีบหัวใจอีก เส้นเลือดตีบไปหลายเส้นละตอนนี้ สงสารเค้กกกกกกกกกก T_______T
เวลาไปชอบคนอื่นแล้วให้คนอื่นชอบเราเหมือนกันนี่ยากแล้ว เจอแบบพี่คิวนี่ยากจนไม่รู้จะว่าไงเลยอะ
ถึงเค้าจะเป้นพระเอกเรื่องนี้ก็เถอะ แต่ดูจะไม่เหมือนพระเอกทั่วไปสะเหลือเกิน... พอฟังพี่ฟ้าพูดกับเค้กอีก
เราเป็นเค้กคงถึงเวลาตัดใจอ่ะ เริ่มสะตั้งกะตอนนี้อะไรแบบนั้น... แต่ถ้าตอนหน้าพี่คิวทำอะไรบ้าง
ก็ไม่แน่นะ 5555555555 คือพี่คิวทำแน่อ่ะ ทำสักทีเห๊อะะะะะะ สงสารเค้กมาหลายศกละ
-
พี่คิว+___=
ดีนะที่พี่ฟ้ากลับมาแล้วอ่ะ
:z3: :z3: :z10:
-
TT นู๋เค้กของเจ๊ :sad4: ไม่เป็นรัยนร้า :กอด1:
P.S. คิวเนี่ย ไม่อยากจะเข้าใจเลยให้ตายเถอะ :เฮ้อ:
-
ทำไมมันเศร้างี้T^T
อ่านไปแทบจะร้องไห้ไป
-
เฮ่ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
อ่านแล้วป่วยยเลย
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ :pig4: :กอด1:
-
น้ำตาไหล >> โหมด ดราม่า
ถ้าฉากนี้มันจะรีดน้ำตากันขนาดนี้ มอบโล่ห์ให้เบบี้ ชุ๊ปปปส์
เขียนได้สุดยว๊อดดดดดดจริงๆ
สงสารน้อง สงสารเค้กกกกก ตัดใจเห๊อะ
เค้กวิ่งตามพี่คิวมามากพอแล้ว ทั้งแงะ ทั้ง แกะ ทั้งง้าง โลกของพี่เขาซะขนาดนั้น....
ถ้าฝืนแล้วมันเหนื่อย ก็หยุดเหอะ ถึงเวลาแล้วมั๊ง ที่พี่คิวจะต้องทำอะไรเพื่อเค้ก และก็...เพื่อตัวเองบ้าง
-
ฉากอารมณ์เรียกน้ำตาล้วนๆ
-
:sad4: :o12:มันเศร้ากว่าเดิมอีก แต่ก็ชอบอ่ะ
-
เค้กตัดใจดีกว่า เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนอ่ะ มีแต่....นะฮะ
ไม่งั้นก็ต้องหาคนมาเร่งปฏิกริยาบักคิวปิ๊ดดดดแล้วล่ะ 555
-
เค้ก ลาออกเหอะ ตัดใจซะ สงสาร
คิว ก็อยู่กะอดีตของตัวไปเถอะนะ ฝังตัวเองลงไปในนั้นเลยละกัน
-
มันช่างหน่วงในอารมณ์ซะจริงน้องเค้ก - -*
คุณพี่คิวนั่นก็อีก จะทำอะไรก็ทำสิค้าา อมพะนำตล๊อดๆ เดี๋ยวน้องเค้กลาออก (?) ไปแล้วจะรู้สึก
-
ตามทันแล้วเย้ :laugh:
สงสารเค้กอ่ะ เมื่อไหร่อีพี่คิวจะเปิดใจยามรับซะที :z3:
คนเชียนมาอัพบ่อยๆนะคร้าบบบ :t3:
-
อยากให้สองคนนี้คุยกันให้รู้เรื่องซักที
เค้กก็อาจคิดมากเกินไป จริง ๆ พี่คิวอาจจะไม่ได้ไม่อยากคุยกับเค้กก็ได้
พี่คิวนี่ก็ไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลย ง้อน้องบ้างเหอะ T^T
คนอ่านอึดอัดแทนจริง ๆ TT
-
Lover คนนี้ Limited จริง อะไรจริง :angry2:
ปล. เรียนเป็นยังไงบ้างคะหล่อน? อย่าเที่ยวผับบ่อยนะจ๊ะ
-
ถึงเค้กจะบอกว่าขอลาออก ทำไมคิดว่าฟ้าจะไม่ห้ามนะ
-
คิวทำแบบนี้หมายความว่าไง????
กำลังสับสนอยู่หลออ
-
สงสารเค้ก คงไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี พี่ฟ้ากลับมาก้อดีแล้ว มาช่วยจัดการกับหลานใจร้ายหน่อยเถอะ
-
สงสารน้องเค้ก
ไม่เข้าใจไอ้พี่คิวมากขึ้นๆ เหตุผลอะไรเนี้ยย
อยากหาอะไรมาง้างปากเหลือเกิน!!
ขอบคุณเบบี้ค่ะ :กอด1:
-
มารับความหน่วงก่อนนอน
อิพี่คิวหายหัวไปหนายยยยยยยยยย
-
น้องเค้กเข้มแข็งใช้ได้เลยนะ อยู่ในระดับที่ไม่อ่อนแอเกินไป
เหมือนตลอดมา น้องยังมีความหวังป่ะ แต่หลังจากนี้..... สู้ๆนะน้องเค้ก ทุกคนให้กำลังใจเค้กอยู่นะเห็นป่ะ
..เราติดใจที่พี่คิวยืนรอ ...กำลังสับสนขั้นหนักอยู่รึป่าวนะ? ..รีบๆนะจ๊ะคุณคิว เดี๋ยวน้องเค้กจะปลิวหนีแล้วนะ
ฮ่าาาาาาาาาาา เราอินไปมั้ย?
กอดหอมเบบี้.. เรารักเธออออออออ
-
กรี๊ดดดดดดดดดด ฉันอยากจะบ้า :serius2:
ทำไมอารมณ์มันอึดอัดขนาดนี้ ดราม่าส่งท้ายปีรึไง?
ที่น้องมันอาการหนักแบบนี้ เพราะแกไปจูบนั่นแหละไอ้พี่คิววววววว :m31:
ไม่รักไม่ชอบไม่แน่ใจ ยังตัดใจไม่ได้ แล้วจะไปจูบให้น้องมันหวั่นไหวทำไม?
อยากจะเอามีดจวกจริง ๆ :z6: แม่นางเพ้อฝันนั่นอีกคน น่าโดนจวกพอ ๆ กับพี่คิว
น้องอยู่ดี ๆ ชอบมาพูดจาให้น้องมันเศร้ากว่าเดิมมมม เป็นอะไรมากไหม? เอานางไปเก็บเหอะ
พี่คิววววววออกมาพูดอะไรเดี๋ยวนี้ จะเอายังไงกับเค้ก?
จูบไปแล้ว จูบแรกด้วย จะรับผิดชอบไหม? จะรับผิดชอบยังไง?
ปล.ขอโทษพี่เบบี้ อ่านแล้วอินไปหน่อย
-
แล้วจะเสียใจ รักของเค้กไม่ได้มีกันพร่ำเพรื่อ เพราะมันเป็น Limited love หมดรุ่นแล้วจะหนาวววหึ !!! อาร์ตเข้าปายให้หนักๆนะอิพี่คิว จิกหัวนังฝัน ฉึกๆ !!!
-
สุดๆอ่ะตอนนี้ :m15:...น้องเค้กของช้านนน :z3:
-
oนี่พี่คิวจะไม่ทำอะไรเลยเหรอ
-
ปวดจายยยยยยยยย
:sad4: :sad4:
-
พี่คิวทำร้ายเค้กยังไม่พอนะ ยังทำร้ายคนอ่านอีกด้วย แงงงงงงงงงงงงง :o12: (อินจัดไปแล้วเรา)
-
ฮ่วย!! ดราม่าอย่างต่อเนื่อง หมั่นไส้คิวเล็กน้อยแล้วนะ :m16:
-
โกรธพี่คิวแล้ว
ทำน้องเค้กเสียใจ :m15:
-
...จริงๆพี่คิว เค้าก็ไม่ได้ ไม่ใส่ใจเค๊ก นะเพียงแต่ว่าด้วยวัยที่ต่างกัน ความเป็นผู้ใหญ่มันคำคออยู่
...จะทำอะไร จะแสดงอะไร มันก็ต้องรอเวลาที่เหมาะสมเหมือนกัน ถ้าไม่ใส่ใจคงไม่ถามหรอกว่าจะไปไหนตอนที่เค๊กจะกลับบ้าน
...เป็นคนอย่างเค๊ก มันมีข้อเสียอย่างนึง เป็นคนที่มองออกง่ายมาก เหมือนเป็นจุดเสีย พี่ฟ้ายังมองออกเลยว่ารักหลานเค้าเข้าให้แล้ว
...คงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า พี่คิวจะปรับตัวปรับใจได้ไวแค่ไหน กับการยอมรับว่า...รักกับเด็ก แถมเป็นเด็กในร้านอีกด้วย :L2:
-
อ่านแล้วอึกอัดอะ :really2:
-
รู้สึกอารมณ์มันหน่วงๆ เศร้าๆ อะไรขนาดนี้เนี่ย โอ๊ยยยย :z3:
-
เค้กน่าสงสารแต่ว่า เค้กคิดไปเองรึเปล่าว่าคิวไม่อยากคุยด้วย
ปกติคิวก็นิ่งอยู่แล้วนะ อย่าคิดมากกกกกก :o12:
-
พี่เบบี้ อยากอ่านแล้ววววว
มาดัน ฮึบๆๆๆ
รออ่านอยู่ค้าบบบ
-
พี่คิวไม่ค่อยกลับบ้าน!!!! คงไม่ใด้ไปอยู่กับยัยฝันนะT,T
สงสารเค้กมากกกกกกก พี่คิวใจร้าย
-
เค้กคงทำได้แค่รอพี่คิวตัดสินความสัมพันธ์ที่มันคลุมเคลือนี้
:เฮ้อ:
-
สงสารแต่น้องเค้กจัง...อาศัยอยู่ในคิวปิดเบเกอรี่~
ถ้าพี่คิวยังเป็นเช่นนี้อยู่อีกกก
จะยุให้น้องเค้กมีแฟนใหม่!!!
เฮอะๆๆๆ (แกไปรู้จักกับเค้กตั้งแต่เมื่อไหร่นี่ = =")
-
เค้กก็แค่เลิกชอบคิวไปเลยจะได้ไม่เจ็บด้วย
คนอะไรแข็งกระด้างจะตายน้องเค้กไปชอบทำไม
-
มาม่าอิ่มแล้ววววววอะ
-
ความรักจริงๆมันคืออะไร ใครนิยาม........ ที่บอกว่ารัก จะสุขใจแม้สุดท้ายเธอรักใคร โฮกกกกกกกก :o12:
ฟังเพลงนี้ไปอ่านตอนนี้ไป น้ำตาจะแตกมให้ได้ สงสารน้องเค้กไม่ไหวแล้ว โอ้ยอึดอัด ๆ ๆ ทรามานจิตใจ อ่ะ :serius2:
พี่ฟ้าดีจริงๆเลยอ่ะ แอบโกรธหลานพี่ฟ้าตอนนี้อ่ะ หายหน้าหายตาไปเลยนะ คุณพี่คิวอ่ะ :angry2:
เค้กสู้ๆ นะค่ะ ยังไงเค้าก็รักเค้กนะ ฮ่า า (ช่วงนี้ขอเคืองพี่คิวก่อนแล้วกันนะค่ะ)
:fire:
อ่านตอนนี้แล้วหนึบๆ ในใจจริงๆเลยอ่ะ จะทำไงดีเนี้ยยยยยย :เฮ้อ: :o12:
-
ทำไมบรรยากาศมันชวนอึดอัดใจแบบนี้..สงสารเค้กอิพี่คิวววววเคลียร์ด่วนๆๆๆๆ
-
สงสารเค้กจัง
:monkeysad:
-
เข้าใจเค้กเลยอะ ความรู้สึกที่มันสับสนขนาดนี้..
ไม่รู้จะไปซ้ายหรือขวาดี ;_;
-
ผู้ชายไม่ได้มีแค่คนเดียวในโลกค่ะน้องเค้ก
อิผู้ชายหล่อๆ แต่หง่าวฉิบหายอย่างงั้น อย่าเอามันมาทำพันธุ์เลยดีกว่าค่ะ
คบกันจริงๆจังๆ ดีไม่ดีต้องมานั่งเดาอารมณ์มันให้เสียสุขภาพจิตอีก เชิ่ดใส่อิคิวมันไปเลย!!!
-
งานปีใหม่ทั้งที อย่าให้เค้กต้องเศร้าไปกว่านี้เลยนะ
-
สงสารเค้ก ตอนนี้คงได้แต่แนะนำให้อยู่เฉยๆ ไว้ก่อน รอให้คนนั้นแน่ใจตัวเองแล้วค่อยมาว่ากัน
-
สงสารเค้กที่สุดเลยค่ะ T^T
-
พี่หมี พี่กัส คู่นี้ ยังๆอยู่น้า
บื่อฝันจริงๆๆโผล่มาอยู่นั้นละ
-
เกิดอะไรขึ้นกับพี่คิวละนี้
-
เบบี้ขา...............
เค้าอยากอ่านมุมมองของพี่คิวบ้างอ่ะ :z3:
-
ขนาดเรายังเจ็บขนาดนี้ แล้วเค็กจะเจ็บขนาดไหน
-
อยากทราบ ปฏิกิริยา พี่คิว เบาๆ
อยากอ่านตอนหึงด้วย ๕๕๕
(ขอมากไปสินะะ)
-
เง้ออ สงสารเค้กอ่า
ตกลงจะเอายังไงเนี้ย พี่คิว
ยังเคลียร์กับตัวเองไม่ได้หรอค้าบบบบ
เค้กร้องไห้ใหญ่แล้วนะ ฮึ๊ยๆๆๆๆ โมโหพี่คิวมากมาย
-
แง่มแง่ม สงสารเค้กอะ เฮ้อ พี่คิวตัดสินใจงัยก้อพูดมาเหอะ เค้กจะได้ตัดใจได้ซะที
-
โอ้ยย เส้าเเบบต่อเนี่องง
สงสารเค้ก
อยากให้คนดีๆมาจีบเค้ก ให้คิวรุ้สึกเลยว่า เค้กก้มีทางเลือกกก
:m15:
-
อ่านไป ร้องไห้ไป :sad4:
อิพี่คิวก็ไม่เคลียร์อะไรเลย :เฮ้อ:
รอตอนหน้าค่ะ
-
อ่านแล้วปวดใจมากกกกกกกก
สงสารเค้กอ่ะ คิวแมร่งงง
-
ขออีกสักตอนได้ไหม....
อ่านแล้วคิดมาหลายคืนแระ
-
อ่านครั้งแรก...ก้อหยุดไม่ได้ ต้องอ่านมาจนถึงตอนล่าสุด
ชอบมากครับ.... สงสารคิวจัง อึดอัดแทนอ่ะ
-
เค้กเอ๋ยเค้ก น่าสงสารอ่ะ เจออย่างงี้เข้าไป เป็นใครก็คงงง คงเจ็บ คงพูดไม่ออก มันเหมือนบ้าคิดไปเองคนเดียวเลย
เฮ้ออออออออ หน่วง
-
จากคนๆ ที่เคยมีใจกันอยู่
เปลี่ยนไปเป็นไม่มีเยื่อใยต่อกัน
อยากลืมๆ ทุกสิ่ง ลบล้างเรื่องวันวาน
หากเราไม่เห็นกันคงลืมกันได้
หนักใจตรงที่ความจำเป็นบางอย่าง
กดดัน ทำให้เราเจอกันต่อไป
ยิ่งเจอใจยิ่งเจ็บ มันทรมานเกินไป
ห่างกันไปให้ไกลมันยังดีกว่า
คนที่รักร้างไกลนั้นเจ็บไม่นาน
คนไม่รักใกล้กันช้ำใจยิ่งกว่า
แต่ว่าหนทาง ทางของคน
ไม่มีให้เลือกเท่าไหร่ เจ็บสักเท่าไร
(เจ็บสักเท่าไร) ก็ต้องรับมา
อีกนาน นานเท่าไร มันจึงจะจบ
จบไป ไปให้ไกลๆ กันสุดตา
อยากมีชีวิตใหม่ ไม่ต้องมีเธอมา
ต้องเจอกับสายตาเย็นชากันอยู่
เจ็บปวดเสมอ ที่ต้องเจอกัน
เอ่ยปากต่อกัน เหมือนคนใหม่
จำใจแสดง แกล้งทำกันไป
อย่างไม่ค่อยเต็มใจ อย่างกับคนไม่เคยรักกัน
คนที่รักร้างไกลนั้นเจ็บไม่นาน
คนไม่รักใกล้กันช้ำใจยิ่งกว่า
แต่ว่าหนทาง ทางของคน
ไม่มีให้เลือกเท่าไหร่ เจ็บสักเท่าไร
(เจ็บสักเท่าไร) ก็ต้องรับมา
อีกนาน นานเท่าไร มันจึงจะจบ
จบไป ไปให้ไกลๆ กันสุดตา
อยากมีชีวิตใหม่ ไม่ต้องมีเธอมา
ต้องเจอกับสายตาเย็นชากันอยู่
ต้องเจอกับสายตาเย็นชากันอยู่
ดร่าม่า ตลอดๆ :m15: :m15: :m15:
-
ดราม่าจริงๆ
-
:sad4:น้ำตากำลังจะไหลเลยอ่า
-
สงสารเค้กจังเลย อ่านแล้วเศร้าตาเลยอะ ฮือๆๆ :monkeysad: :m15:
-
ดร่ามาไปไหนนิ ถ้าน้องเค้กเลิกรัก พี่คิวอย่ามาง้อแบบเนียนๆล่ะ
หมั่นไส้อีพี่คิว
-
ไม่วาย ร้องไห้แทนเค้ก ตอนจบ :sad4:
พี่ฟ้าปิดอะไรเกี่ยวกับพี่คิวกันน้า
แล้วพี่คิวมั่วทำอะไรกันแน่
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
ถ้ารักคนอื่นมันเจ็บ
กลับมารักตัวเองดีกว่า :กอด1:
เย็นชาเกินไป ถ้าคบกันคงอึดอัด
-
อยากอ่านต่อมากค่า T^T
-
เค้กสู้ๆ
-
เบื่อคิวอ่ะ ไม่มีความกระจ่างอะไรเลย จะทำอะไรก็ไม่ทำ เบื่อคนประเภทนี้มากที่สุดในชีวิตจริง ถ้าไม่ได้ชอบก็บอกเค้กไปตรงๆ หรือถ้าจะพิสูจน์ใจตัวเองก็ไม่ใช่ให้คนอื่นรอแบบไร้ความหมายอย่างงี้ ความรู้สึกคนที่รอบางทีมันก็แย่เหมือนกันนะ ว่าจะให้ฉันไปต่อหรือให้ฉันถอยกันแน่ เค้กลาออกจากร้านเลยลูกบางทีอะไรที่ไม่กระจ่างย้ายที่หนีไปอยู่ที่อื่นจะดีกว่า.....สำหรับไอ่เชฟคิว อยากบอกว่าฉันไม่เชียร์แกแล้ว ไอ่บ้าาาาาา :z6: :z6: :beat: :beat: (ปล.อินมาก ไม่ว่ากันนะเบบี้ TT_TT)
-
ใช่เวลา4วันกับการตามอ่านเรื่อง 555555
พี่คิวเป็นอะไรอะสงสารเค้กจัง :monkeysad:
พี่เบบี้อยากลองอ่านมุมพี่คิวบ้าง :sad4: :sad4:
-
:call: :call:
รออยู่นะจ้าาาาาาาาาาา
-
อิน น้ำตาซึมเลยอ่ะ พี่คิวเป็นอะไรอ่ะ พี่คิวทำอะไรอยู่ เหมือนแบบแล้วที่ผ่านมาคืออะไรอ่ะ สงสารเค้กอ่ะ
-
นั่นสิ.. พี่คิวเป็นอะไร อ่านแล้วบางทีก็ปวดใจ~
สงสารเค้กนะ TT
-
แล้วสุดท้ายเค้กจะทำอย่างไร
ต่อไปกันนะ
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก :fire:
เค้กตัดใจซะ หาคนใหม่ไปเย้ยเลย
เอาให้หึงจนหน้ามืดไปเลย คนแบบนี้มันต้องเจอ :angry2:
ไม่รู้จักพูดให้เข้าใจมันต้องเจอไม้แข็ง :z6:
-
จงมา จงมา o15
-
:o8: :-[
-
:sad4: สงสารเค้ก ที่เรื่องระหว่างเค้กกับพี่คิวไม่เหมือนเดิม
เป็นอย่างนี้แล้วต้องเจอกัน แต่คนรอบข้างเค้กเป็นห่วงเค้กมากนะ
เค้ก สู้ๆ ไม่รู้พี่คิวคิดอะไรอยู่ และจะให้เป็นอย่างนี้ไปนานถึงเมื่อไหร่ ฮืออออออ
งานปีใหม่ ถ้าเค้กไป รู้สึกว่าเค้กต้องเจ็บแน่ๆ มีฝันมาแน่ 55 แต่จะมีปะไรดีๆเกิดขึ้นก็ได้ รอลุ้น
-
เฮ้อออออออ จะร้องไห้แล้วน้า อย่าแกล้งกันอย่างนี้สิ ฮือๆ~
-
อืมมม..เอาไงดี อ้ายพี่คิวดันเป็นซะแบบนี้
เขาอยากไปเดินเที่ยวป่าดงดิบแบบสันโดด กว่าจะออกมาสู่โลกกว้างได้..ต้องใช้เวลา
:z2: น้องเค้กลั่นล้าให้สบายดีกว่า คิดมากก็รกสมองเปล่าๆ ปล่อยอีตาพี่คิวไปสักพัก
เมื่อเฉยมา เราก็เฉยตอบ เมื่อเขาชกมา เราก็ชกตอบ จะแย็บซ้ายหรือขวา เราก็ตามทัน
เราไม่หนี ขืนน้องเค้กหายไป ไม่ให้เห็นหน้าบ่อยๆ...
เดี๋ยวอีตาพี่คิวจะคิดว่า ไม่รักจริง...กว่าจะลืมตา มองเห็นป่าเบญจพรรณที่มีคุณค่าอย่างเราได้ ก็จมปลักกะเรื่องเก่าๆไปซะอีก
น้องเค้กรักคนมีโรคฟามมมมหลัง แล้วก็ลึกซะด้วย กว่า..เชื้อร้ายจะหมดไป ต้องใช้เวลาอีกสักระยะนะจ๊ะ ทำใจ ทำใจ
ก็ที่รักของเรา เราต้องเอากลับมาให้ได้ เรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นเขาเอาไปแด็กซ์ซะละ
เอาแบบงั้นแหละ โฮ๊ะ..โฮ๊ะๆๆๆๆ
-
พ่่ีเบบี้มาสปอยหน่อยได้มั้ยอะ ลงแดงแล้ว :impress2: :serius2: :sad4:
-
มาหรือยัง?
-
อยากอ่านต่อแล้ววววว :sad4:
-
มานอนรอค่าา :man1:
-
มานอนผึ่งพัดลมรอด้วยอีกคน
งานนี้ถ้าพี่คิวไม่มีความคืบหน้า
สงสัยองศาร้อนในตัวคงพุ่งปรี๊ดแน่ๆ :fire:
-
ป้าจะใจเย็นๆ ให้เวลานู๋คิว คิดดีๆ ค้นหาใจตัวเองให้เจอ ชอบก้อบอกชอบ ไม่ชอบก้อบอกมาว่าไม่ชอบ
ป้าจะใจเย็นๆ ป้าจะใจเย็นๆ แง่งงงงง
-
เด็กน้อยเพิ่งเริ่มรักเป็นก็คงจะเจ็บปวดมากก...
ส่วนอีกคน...ไม่รู้ว่าจะเจ็บเป็นไหมเนอะ....
อีตาคิวววว...นายมันนน...สุดฮ่วยเจร๊งงง ๆ.. เซ็งอ่ะ
รอต่อไปจ๊ะ น้องเบบี้ :L2:
-
มารอตอนใหม่ อยากอ่านมากกกกค่ะ
อยากรู้ความในใจของคิวจัง
-
จะมายังนะ
-
~47~
ณ 31 ธันวาคม..
“แม่ฮะ”
“หื้ม”
“เค้ก..ไม่อยากไปเท่าไหร่” ผมบอก วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีเก่า บ้านทุกบ้านคงมีการวางแผนว่าเย็นนี้พวกเขาจะทำอะไรเพื่อส่งความสุขให้กันและกัน แน่นอนไม่ใช่บ้านของผม เราไม่ค่อยจัดงานปาร์ตี้กันเท่าไหร่นัก ปีใหม่เป็นเพียงวันๆหนึ่งที่แม่และน้าจะหยุดพักผ่อนหลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี มีทานข้าวร่วมกันอย่างเคย อาจจะมีอาหารบางอย่างพิเศษเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น
เมื่อวานพี่ฟ้าชวนผมให้ไปงานปาร์ตี้ที่บ้านพี่ฟ้าด้วยกัน ครั้งแรกผมไม่ได้รับปากและแสดงสีหน้าลำบากใจออกไปแต่พี่ฟ้ายังคงรบเร้าผมตลอดทางจนมาส่งผมถึงบ้าน และวันนี้ก็โทรมาย้ำอีกในตอนเช้า ที่จริงผมไม่อยากไปเลยและตั้งใจว่าจะไม่ไป แต่เมื่อผมได้เล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟัง แม่ถามถึงสาเหตุว่าทำไมผมถึงไม่อยากไปและแน่นอนว่าผมต้องโกหกแม่ไปว่าผมอยากอยู่กับแม่มากกว่า หลังจากนั้นผมก็ถูกแม่ต่อว่าว่าการทำแบบนี้นั้นเป็นการเสียมารยาท
“ไปเถอะลูก พี่เค้าอุตส่าห์โทรมาย้ำตั้งหลายครั้ง..มันเสียมารยาทนะ” แม่บอกเช่นเดิมอีกครั้ง ผมนอนกลิ้งมองแม่ที่กำลังนั่งถักนิตติ้งอยู่ ผมเงียบและแม่ก็เช่นกัน
“อืม แม่..” ผมเรียก
“อะไรอีก”
“แม่อยากได้อะไรไหม” ผมถาม แม่ละสายตาจากนิตติ้งและหันมามองหน้าผม
“ไม่..อืม ไม่นิ” แม่ยิ้มน้อยๆ
“งั้นเหรอ มีเค้กก็พอแล้วแหละเนอะ” ผมยิ้มกว้างให้
“หึหึ..นั่นน่ะสิ มีแค่หนูก็พอแล้วล่ะ” แม่ยิ้มเท่านั้นและก้มลงถักนิตติ้งต่อ
ผมนอนกลิ้งอยู่บนโซฟาอยู่นานจนพี่ฟ้าโทรมาหาผมอีกครั้งตอนประมาณบ่ายสามโมง ย้ำว่าถ้าผมไม่มาจะให้คนรถมารับ ผมจึงต้องรีบอาบน้ำและรีบรับปากว่าจะไปถึงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..
= = = = = = = =
เวลา 18:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
เสียงคนคุยกันดังออกมาจากทางด้านสวนของบ้าน ผมยืนอยู่ที่ประตูรั้วเล็กและถือวิสาสะเปิดเข้ามาเอง ที่ประตูรั้วใหญ่ไม่สามารถเปิดเองได้เนื่องจากเป็นประตูไฟฟ้า ต้องมีแม่บ้านหรือคุณลุงเปิดให้เท่านั้น ผมยืนมองรถแปลกตาหลายคันที่จอดอยู่ใกล้กับโรงรถของบ้านพี่ฟ้า มีเพียงรถของพี่หมีกับรถของพี่ออฟเท่านั้นที่ผมเคยเห็นมาก่อนหน้า ครั้งนี้เป็นการมาบ้านของพี่ฟ้าในครั้งที่สองที่ผมรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก ครั้งที่เคยประหม่าแรกๆคงจะเป็นตอนที่มาบ้านนี้ครั้งแรกละมังครับ ที่จริงแล้วเหมือนกับครั้งนี้ผมไม่ควรจะมาด้วยซ้ำ
ผมเดินไปถอดรองเท้าไว้หน้าประตูบ้านและเปลี่ยนรองเท้าก่อนจะเดินเข้าไป ในตัวบ้านค่อนข้างเงียบ ผมเดินไปทางห้องสมุดของพี่คิวอย่างเคยชิน ไม่มีใครอยู่ในนั้น ผมยืนมองพวกพี่ๆผ่านกระจกของห้องนี้ ทุกคนรวมตัวอยู่ที่สวนกันหมดแล้ว
“เฮ้อ..” ผมก้มลง ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาสักอย่างเพราะไม่รู้ว่าอะไรควรจะเอามาให้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าถึงผมจะพยายามมากแค่ไหนอะไรมันก็ดูไม่เหมาะไปซะหมด
ผมเดินออกมาจากห้องและเลาะไปตามทางเดินทางด้านสวนของบ้าน พอไปถึงทุกคนที่กำลังคุยกันอยู่หันมาเห็นผมพอดี ผมรีบยกมือไหว้และยิ้มให้ พี่คิวนั่งอยู่ที่โต๊ะใหญ่กับพี่เซ็น ผมเห็นก่อนที่จะเดินมาแล้วและตอนนี้ผมจึงไม่ได้หันไปมองที่โต๊ะนั้น
“มาช้าจัง” พี่ฟ้าเดินเข้ามากอดไหล่ผม
“นี่เพิ่งหกโมงเองนะครับ” ผมยิ้ม
“เค้ก..ถอดรองเท้าก่อนครับ” ผมบอกถึงรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านที่ผมสวมอยู่ในตอนนี้ พี่ฟ้าก้มลงมอง
“ถอดเลย ไม่มีใครใส่หรอก..ดูสิ” พี่ฟ้ายิ้มบอก ผมเหลือบมอง ไม่มีใครใส่รองเท้าจริงๆอย่างที่พี่ฟ้าบอก หญ้าในสวนของบ้านพี่ฟ้าสวยมาก เป็นสีเขียวเข้มและได้รับการดูแลเป็นอย่างดีทำให้เท้ารับรู้ได้แต่พื้นหญ้าจนไม่รู้สึกว่าเท้าจะเปื้อนดินเลยสักนิดเดียว
พี่ฟ้าพาผมมานั่งลงข้างๆพี่ออฟ ที่โต๊ะนี้มีพี่ออฟ พี่กัส พี่หมี พี่ซีและพี่รุจ ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งที่พี่คิวนั่งอยู่ มีคนที่ผมไม่รู้จักอยู่สี่ห้าคน นอกจากพี่เซ็น พี่คิวและพี่ฟ้าแล้ว นอกนั้นเป็นฝรั่งหมดเลยและมีพี่ฝันที่นั่งร่วมโต๊ะนั้นอยู่ด้วย
“เอ่อ พี่ฟ้าครับ..คือ เค้กคงอยู่ดึกไม่ได้นะครับ” ผมกระซิบบอก เสียงเพลงสากลคลอรอบสวนเบาๆ
“เหรอ..โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่งแล้วกันนะครับ สักสี่ทุ่มเป็นไง” พี่ฟ้ายิ้มกว้าง
“ครับ”
“เดี๋ยวหมีไปส่งให้ก็ได้ ต้องไปส่งกัสพอดี” พี่หมีพูดขึ้น
“อืมๆ..กลับด้วยกันก็ได้เค้ก” พี่กัสที่นั่งอยู่ข้างๆผมยิ้มบอก
“ครับ..งั้นก็ได้ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“โอเคครับ จะทานอะไรก็หาเอาได้เลยนะ..มีตรงนู้น ในครัวป้านิดก็กำลังจัดอาหารเพิ่มอยู่ อยากทานอะไรลองไปถามดูได้เลยนะครับ ตามสบายนะ ก่อนกลับค่อยจับสลากของขวัญปีใหม่เนอะ” พี่ฟ้าบอก
“ฮะ” ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่พี่กัสดันตอบแทรกเข้ามาก่อน
“พี่บอกเค้ก” พี่ฟ้าเอื้อมมือผ่านผมไปตีหัวพี่กัสอย่างเบามือ
“พี่ฟ้าอ่ะ” พี่กัสลูบหัวตัวเองด้วยท่าทีงอนพี่ฟ้า พี่ฟ้ายิ้มให้ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตน
“แล้วพี่หมีจะไปไหนต่อ พี่หมีต้องกลับบ้านเลยนะฮะ..ห้ามไปเที่ยวกับเพื่อนต่อด้วย” พี่กัสว่าหน้างอ
“มีสิทธิ์อะไรมาห้ามพี่ไม่ทราบ” พี่หมีพูดแกมขำ ผมนั่งฟังและก็ต้องอมยิ้มออกมา
“ง่ะ..ไม่เอาอ่ะ งั้นกัสจะนอนคอนโดพี่หมีด้วย”
“ขอบคุณครับ” ผมผงกหัวให้พี่ออฟที่นำน้ำโค้กมาเสิร์ฟให้ผม
“ไม่ได้ครับ” พี่หมีลูบหัวพี่กัสเบาๆแต่กลับไม่ได้มองหน้าพี่กัส การเป็นคนนิ่งเงียบของพี่หมีบางครั้งก็ไม่สามารถปกปิดได้มิดว่าพี่หมีไม่ใช่คนเจ้าชู้ ความจริงแล้วผมคิดว่าพี่หมีเป็นคนเจ้าชู้มากทีเดียว
“งั้นพี่หมีก็ต้องกลับบ้านเลย”
“ค้าบ” พี่หมีหันมาตอบและหยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม
“อย่ากินมากด้วย เดี๋ยวโดนวัดแอลกอฮอล์” พี่กัสปรามอีก
“หึ..” พี่หมีหันมาหัวเราะให้ผมและพี่ออฟ
“เหมือนแฟนกันเลยนะครับ” ผมพูดไปตามที่ใจคิด พี่หมีอมยิ้มและยักคิ้วให้ผมอย่างกวนๆ พี่กัสนั่งหน้าแดงและเงียบลง
“เปล่าสักหน่อย” พี่กัสบ่นงุบงิบ
“เห็นพี่ซีบอกว่าจะอยู่ร่วมงานปาร์ตี้ของที่บ้านไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมถึงมาเร็วได้ล่ะ” ผมหันไปถามพี่ซี
“เบื่อน่ะสิ..ก็พี่เซ็นเล่นทะเลาะกับคุณแม่ พี่เลยโดนร่างแหไปกับเค้าด้วย เลยต้องหนีออกมาก่อนนี่แหละ..งานกร่อยเลย” พี่ซีบ่นหน้างอ
“แถมยังจะโดนจับให้ดูตัวอีกต่างหาก ฮ่าๆๆ” พี่ออฟหัวเราะ
“พี่ออฟอ่ะ” พี่ซีตีแขนพี่ออฟเบาๆ
“ทะเลาะอะไรกันเหรอฮะ” พี่กัสถาม
“ก็..เรื่องจะให้พี่เซ็นดูตัวกับลูกสาวเพื่อนคุณพ่อพี่น่ะ”
“แล้ว..” พี่กัสทิ้งเสียงลง
“คนอย่างพี่เซ็นนี่นะจะไม่ยอมดู” พี่กัสว่าด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันแต่กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย
“โดนบังคับนี่แหละเรื่องใหญ่เลย” พี่ซีเบะปาก
“เค้ก..เราไปชงเครื่องดื่มกินกันไหม ข้างใน..มีให้ชงเองด้วยล่ะ” อยู่ๆพี่กัสก็เบิกตาโพรงด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ไปสิฮะ” ผมรีบตอบในทันทีเพราะอยากลองชงเองดูบ้าง
“คึคึ ไปกัน”
“พี่ไปด้วย” พี่ซีรีบลุกและวิ่งตามพวกเราเข้าไปในบ้านด้วยกัน
“ขอชงเครื่องดื่มหน่อยนะครับป้านิด” พี่กัสพูดบอกป้านิดที่กำลังสาละวนอยู่กับการทำอาหาร
“เชิญเลยค่ะคุณ” ป้านิดยิ้มตอบ
“เค้กเอาอะไร” พี่ซีถาม
“ซิลเวอร์ ฟิซซ์ไหม” พี่กัสเสนอ
“อื้อ..ก็ได้” ผมกับพี่ซีตอบพร้อมกัน ผมยืนมองพี่กัสที่กำลังนำอุปกรณ์ออกมาเรียงสำหรับสามแก้ว และผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพี่คิวเดินเข้ามาในครัวพอดี
“พี่คิว เรากำลังทำซิลเวอร์ ฟิซซ์ล่ะค่ะ” พี่ซีพูด
“หึ..ทำให้กินได้ก็แล้วกันนะ” พี่คิวพูดพร้อมกับแสยะยิ้มให้เพียงเล็กน้อย
“โด่ พี่คิวอ่ะ..กินได้อยู่แล้วล่ะฮะ” พี่กัสว่าหน้างอด้วยสีหน้าที่เริ่มจะไม่มั่นใจในตนเอง ผมไม่ได้เหลือบไปมองพี่คิวอีก แต่ยังเห็นว่าพี่คิวยังไม่ได้ออกไปไหน
“เฮ้ยคิว..อีวานซื้อนี่มาให้มึงน่ะ” พวกเราหันไปมองพี่เซ็นที่เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายตัวสูงใหญ่ หน้าตาเป็นมิตรคนหนึ่ง
“ไฮ..อีวาน” พี่ซีโบกมือทัก
“ไฮ..ไงจ๊ะสาวน้อย” อีวานเดินตรงเข้ามาหาพี่ซีและก้มลงจูบทักพี่ซีอย่างสนิทสนม
“กอดนานไปละ นั่นน้องสาวกูนะ” พี่เซ็นปรามทำให้อีวานต้องเดินกลับไป
“Siclo Humidor..ของชอบยูไง” คนที่ชื่ออีวานพูด พี่เซ็นเปิดกล่องๆหนึ่งให้พี่คิวดู
“ขอบคุณ” พี่คิวเข้าไปกอดคนที่ชื่ออีวานเพียงครู่หนึ่ง
“กำลังต้องการพื้นที่เพิ่มพอดี” พี่คิวบอกด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก
“ดีไซน์สั่งทำ แล้วก็..นี่ ซิการ์H.Upmann สดร้อนจากคิวบา Sir Winston กับ Magnum46..ครบ” คนที่ชื่ออีวานพูด น้ำเสียงการพูดภาษาไทยของเขาไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก ผมมองไปที่ของพวกนั้น ถ้าผมจะไม่โง่จนเกินไป ที่วางอยู่บนโต๊ะนั่นน่าจะเป็นซิการ์ทั้งหมดเลย
“นั่นมันซิการ์ใช่ไหมครับ” ผมกระซิบถามพี่ซีเพื่อความแน่ใจ พี่ซีพยักหน้าตอบ
“แล้วก็นี่..Compass Box Whisky เจ็ดลิมิเต็ด..สิบสี่ขวด ไม่ใช่ของไอ นิกกี้มันฝากมาให้..วันนี้มันมาไม่ได้ ต้องรีบบินไปหาแม่น่ะ” ระหว่างที่คนที่ชื่ออีวานพูด พี่คิวดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเลยเพราะเอาแต่หยิบขวดออกมาจากถุงนั่น
“สายตาแบบนั้นน่ะเค้าเอาไว้มองผู้หญิงนะคิว ไม่ได้เอาไว้จ้องขวดวิสกี้” คนที่ชื่ออีวานพูดขึ้นทำเอาทุกคนที่อยู่ในครัวยกเว้นผมหัวเราะกันหมด
“แล้วนี่อะไร มึงไม่คิดจะให้เพื่อนลองบ้างเลยรึไง” พี่เซ็นว่า
“ไม่ล่ะ เสียใจด้วย” พี่คิวพูดแค่นั้นและเก็บขวดวิสกี้ทั้งสิบกว่าขวดนั่นเข้าตู้ของมัน ผมพอจะทราบมาบ้างว่าในบ้านนี้เป็นแหล่งของเหล้าและไวน์ชั้นดีจากทั่วโลก ทั้งพี่คิวและพี่ฟ้าที่แสนจะคลั่งไคล้ ทั้งห้องครัวใหญ่และห้องครัวทำเค้กของพี่คิวจะมีตู้สำหรับเก็บเหล้าและไวน์ทั่วทุกมุมห้อง ผมเคยเห็นบ้างเพียงผ่านตาเพราะไม่กล้าที่จะขอเปิดดู ผมว่าราคามันคงจะสูงเอามากๆ
อยู่ๆในห้องครัวกลับเงียบลง คนที่ชื่ออีวานหันมาจ้องหน้าผมอยู่นานพอสมควรที่จะทำให้ผมทราบว่าเขามองผมไม่ผิดแน่ เขาอมยิ้มก้มหัวให้ผมเล็กน้อยก่อนที่จะหันกลับไป ผมได้แต่ยืนนิ่งเพราะไม่รู้จะทำสีหน้าอย่างไรตอบเขา
ผมแอบเหลือบมองพี่คิวที่กำลังหยิบซิการ์ออกมาและทำนู่นนี่อย่างชำนาญมือ ผมค่อนข้างอึ้งนิดหน่อยเพราะตั้งแต่ที่ผมรู้จักพี่คิวมาผมไม่ทราบเลยว่าพี่คิวสูบซิการ์ด้วย ถึงแม้ว่าผมจะเคยเห็นพี่เซ็นสูบบุหรี่บ้างบางครั้ง แต่สำหรับพี่คิวและพี่ฟ้าแล้วผมไม่เคยเห็นว่าพี่ทั้งสองคนแตะบุหรี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว การที่พี่คิวสูบของอะไรแบบนี้ด้วยทำให้ผมค่อนข้างตกใจเหมือนกัน
“คิว..นี่กูเอาไปข้างนอกนะ” พี่เซ็นชูกล่องซิการ์กล่องหนึ่งขึ้น
“นั่นของแพงนะ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าคงเดิม เป็นสีหน้าที่ต้องการบอกให้รับรู้ว่า “ไม่ให้”
“หึ..แล้วที่ตัดซิการ์ล่ะ” พี่เซ็นตัดบทเสียเอง พี่คิวหันกลับไปและโยนของที่อยู่ในมือของตนให้กับพี่เซ็น
“มึงไม่ขว้างใส่หน้ากูเลยล่ะ” อีกฝ่ายที่เกือบรับไม่ทันว่าให้
“ที่จริง..กูตั้งใจขว้างใส่หน้ามึงน่ะ แต่มึงเก่งนะ..รับได้ด้วย” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“หึหึ” พี่เซ็นกับอีวานยืนหัวเราะ ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินออกจากห้องครัวไปพร้อมกัน
“อ่ะกัส..Montecristo อาบอกให้เอาไปเป็นของฝากวันปีใหม่ให้พ่อน่ะ” พี่คิวเดินมาแล้วยื่นกล่องๆหนึ่งให้พี่กัส ผมเดาว่านี่คงจะเป็นซิการ์ด้วยเหมือนกัน อีกมือของพี่คิวยังถือซิการ์ที่จุดเรียบร้อยแล้วอยู่ในมือของตัวเอง
“ขอบ..ขอบคุณครับพี่คิว” พี่กัสยิ้มกว้างและรีบยกมือไหว้ก่อนจะรับกล่องนั่นมากอดไว้ด้วยความดีใจ พี่คิวเหลือบมองมาที่ผม ผมรีบก้มหน้าลงจับนู่นจับนี่จนพี่คิวเดินออกจากห้องครัวไป
“ต้องถูกใจพ่อมากแน่ๆเลย กล่องนี้น่ะ..เกือบห้าหมื่นเชียวนะ” พี่กัสพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมกับชูกล่องขึ้นเหนือหัว
“ห๊า!!” ผมร้องเสียงหลงในทันทีที่ได้ยินราคา พี่กัสเปิดกล่องนั่นออกช้าๆ ผมมองตามด้วยความตื่นเต้นไปด้วยอีกคน
“ของที่ทำให้เสียสุขภาพแบบนี้นี่นะฮะเกือบห้าหมื่น” ผมชี้ไปอย่างคาดโทษ
“หึ..อาฟ้านี่ฉลาดรู้ใจคนจริงๆนะ” พี่ซีหัวเราะ
“พี่คิวน่ะ สูบซิการ์ด้วยเหรอฮะ แล้วบุหรี่ล่ะ” ผมถามเสียงเบา ผมเสียความรู้สึกนิดหน่อยที่ไม่ทราบมาก่อน
“อ๋อ..บุหรี่ไม่สูบหรอก ส่วนซิการ์ชอบสะสมน่ะ..นานๆครั้งพี่คิวถึงจะสูบซิการ์นะ อย่างงานปาร์ตี้ไรเงี้ย พี่คิวเคยบอกว่า..ซิการ์กับวิสกี้ มันเป็นของคู่กัน” พี่ซีเลียนแบบน้ำเสียงของพี่คิวประกอบด้วย
กว่าเราจะทำซิลเวอร์ ฟิซซ์ได้ใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะเราทำไม่ค่อยเก่ง หลังจากที่ทำเสร็จก็กลับไปนั่งข้างนอกต่อ เรานั่งคุยแลกเปลี่ยนเรื่องนู้นเรื่องนี้กันเรื่อยเปื่อย ปาร์ตี้เล็กๆนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก นอกจากอาหารนานาชาติที่มีให้เลือกอย่างกับอยู่ในภัตตาคารแล้วก็มีเสียงเพลงคลอเบาๆและบรรยากาศดีๆ
“คุณคะ คุณเชอร์เบ็ตกับคุณบัตเตอร์มาแล้วค่ะ” ป้านิดเดินมาบอก
“อา..พี่คิว!!” เสียงเจี๊ยวจ้าวดังมาแต่ไกล เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์วิ่งเข้าใส่พี่ฟ้าทันที
“หึหึ..ไง” พี่ฟ้ากอดตอบทั้งสองคน ผมหันไปมองพี่คิวที่กำลังลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปหาน้องทั้งสอง
“วันนี้คุณแม่บอกว่า นอนที่นี่ได้ฮะ” น้องบัตเตอร์พูด
“ใช่ๆ..เชอร์เบ็ตจะนอนกับพี่คิว” พี่คิวก้มลงอุ้มน้องเชอร์เบ็ตขึ้น
“อ่าว..งั้นอาก็นอนคนเดียวน่ะสิ” พี่ฟ้าทำหน้างอเรียกร้องความสนใจ
“งั้น..งั้นบัตเตอร์นอนกับอาก็ได้ครับ” บัตเตอร์มีสีหน้าลังเล คงเพราะอยากจะนอนกับพี่ชายของตนมากกว่า ผมนั่งยิ้ม นี่เป็นภาพที่น่ารักที่ผมรู้สึกว่าผมเอื้อมไปแบบที่น้องเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์ทำไม่ได้
“พี่คิวนี่เหมือนจะแข็ง..แต่ก็ยอมสองคนนี้นะ หึ” พี่หมีพูดขึ้นลอยๆ มีเพียงผมที่นั่งใกล้พี่หมีที่สุดที่จะได้ยิน
“ส่วนบัตเตอร์นี่ก็สุดๆ..ใครก็เอาไม่อยู่” พี่หมีส่ายหัว
“พี่หมีไม่ชอบเด็กเหรอครับ” ผมยิ้มถาม
“ก็..ไม่เชิง เอ่อ..อยู่คนเดียวก็สบายดี ว่าไหมล่ะ” พี่หมีตอบไม่เต็มปากเต็มคำเท่าไหร่
“แล้ว..เด็กอย่างพี่กัสล่ะ” ผมแซว
“นั่นมันคนละเด็กกัน” พี่หมียิ้มเจ้าเล่ห์
“หึ..” ผมหัวเราะ พี่หมีไม่ปฏิเสธในคำแซวของผมสักคำ ความสงสัยเริ่มมีมากขึ้นในเรื่องของพวกเขา แต่ดูเหมือนทุกคนต้องการให้เป็นปริศนาซะเหลือเกิน ผมจึงเลือกไม่ถามเสียจะดีที่สุด มันเหมือนกับว่า..คุณควรดูพัฒนาการของพวกเราดีกว่านะ..ประมาณนั้น
ผมนั่งมองนาฬิกาเป็นพักๆ นี่เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว พี่ฟ้ามีของขวัญมาให้ทุกคนจับด้วย เป็นของขวัญที่พี่ฟ้าเตรียมไว้ให้ทั้งหมด ห่อไว้เรียบร้อย เพียงแค่เราเป็นคนจับเท่านั้นว่าจะได้เบอร์อะไรและจะได้ของอะไรไป เห็นว่าจะจับกันหลังเที่ยงคืนแต่ผมคงต้องกลับก่อน ตอนนี้ผมจึงรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก..
“อกเป็ดราดซอสเมื่อไหร่จะได้นะ” พี่ฟ้าบ่มพึมพำ บนตักมีน้องเชอร์เบ็ตนั่งอยู่ด้วย
“เดี๋ยวเค้กไปดูให้ครับ” ผมบอกและรีบลุกขึ้น
“ขอบคุณครับ” พี่ฟ้ายิ้มตอบ ผมเดินเข้าไปในบ้าน ระหว่างทางต้องผ่านโต๊ะของพี่คิวด้วย ผมเหลือบมองไปที่โต๊ะนั่น ถึงพี่คิวจะไม่ค่อยยิ้มแต่พี่เขาก็ดูมีความสุขดี แต่ก็ดีแล้ว..ก็ดีแล้วนี่ครับ
“กัสไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันคือเรื่องจริง” พี่กัสพูด ผมชะงักอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องครัว พี่กัสกับพี่ซียืนคุยอยู่ตรงกลางห้อง
“เชื่อเถอะ..ที่จริงพี่ได้ยินข่าวนี้จากวงในมาสักพักแล้วล่ะ พอถามพี่เซ็น พี่เซ็นก็ตอบปัดอยู่ได้อ่ะ..น่ารำคาญ” พี่ซีบ่น
“ก็เหมาะกันดีอยู่หรอกนะครับ แต่กัสไม่คิดว่าคนอย่างพี่คิว..จะยอม แต่งงาน” พี่กัสพูดเสียงเบาลง หัวใจผมแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อได้ยินอย่างนั้น หน้าของผมร้อนและรู้สึกตัวชาไปทั้งตัว
“งั้นแสดงว่าทั้งพี่เซ็นและพี่ฟ้าก็คงรู้ดีสินะครับ”
“อื้อ..ก็พวกไฮโซเพื่อนๆของพี่ฝันน่ะ รู้..แถมกระจายข่าวทั่วไปหมด ยิ่งเรื่องสินสอดนะรู้ดีกว่าคนให้อีกมั้ง”
“เมื่อเย็นที่กัสได้ยินพี่ฝันพูดเรื่องของชำร่วยวันงานแต่ง กัสนึกว่ากัสหูฝาดไปซะอีก..เลยต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ส่วนพี่คิวกับพี่ฝันก็ไม่ได้พูดอะไร กัสถึงว่าทำไมบรรยากาศมันแปลกๆไป”
“แล้วพี่คิวทำหน้ายังไงเหรอ” พี่ซีถาม
“ก็..นิ่งๆ เหมือนเคยแหละครับ”
“เฮ้อ..” ทั้งสองคนถอนหายใจพร้อมกัน ผมที่ยืนอยู่ตรงนี้แทบขาอ่อน
“พี่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น..แต่เห็นว่าจะแต่งให้เร็วที่สุดล่ะนะ กำหนดงานหมั้นแน่นอนแล้ว..ถึงได้เป็นข่าวขึ้นมา คุณลุง..พ่อของพี่คิวน่ะ คงจะรีบจนแทบทนไม่ไหว”
“แต่..พี่ซีก็ไม่คิดเหมือนกันเหรอครับ ว่า เอ่อ..พี่คิวกับเค้กน่ะ เอ่อ..แบบว่า บรรยากาศมันไม่เหมือนตอนอยู่กับเรา สัก..เท่าไหร่ เหอะๆ” พี่กัสพูดเสียงเบาอย่างตะกุกตะกักเหมือนไม่มั่นใจต่อสิ่งที่ตนเองพูดนัก
“อืม..ไม่รู้สินะ บรรยากาศของพี่คิวตอนที่อยู่กับเค้ก คล้ายกับตอนที่อยู่กับพี่ปรายน่ะ..ถึงจะมีอะไรหลายอย่างแตกต่างกันมาก อาจจะดูแปลกตาไปบ้าง..แต่พี่คิวก็เป็นพี่คิวในแบบที่ไม่ได้เป็นต่อคนอื่น ปกติพี่คิวแคร์ใครซะที่ไหนล่ะ..ขนาดคนที่สนิทกัน ยังห้ามล้ำเส้นเกินความจำเป็นเลย” พี่ซีพูด
“พี่ว่าเค้กก็คงชอบพี่คิวแหละ” พี่ซีบอก ผมอึ้งกว่าเดิม เรื่องราวของผมกำลังเป็นที่พูดคุยไปแล้ว ผมรู้ว่าพี่เขาเพียงพูดเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อกัน ไม่ได้ต่อว่าหรือนินทาผม แต่ผมกำลังรู้สึกเหมือนกับว่าผมช่างน่าสมเพชชะมัด นี่ถึงขนาดทำให้พวกพี่เขาพูดถึงผมด้วยน้ำเสียงสงสารผมได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ
“เค้กคงยังไม่รู้เรื่อง” พี่กัสพูดเสียงเบา
“แต่พี่สังเกตเห็นว่าสองคนไม่ได้คุยกันมาสักพักแล้วนะ เค้กก็ดูซึมๆ..ส่วนพี่คิว อารมณ์ครึ่งๆกลางๆ..ให้บรรยากาศแบบอึมครึมเป็นบ้า”
“หึ..” พี่กัสหัวเราะ
“แต่ก่อนพี่คิดว่า ถ้าพี่คิวไม่เจอใคร..พี่ฝันนี่แหละ คงเหมาะที่สุดแล้ว ทุกคนก็ยอมรับด้วย..แต่ดูเหมือนสถานการณ์มันจะเปลี่ยนไปนิดหน่อยแฮะ ไม่มีใครยอมพูดอะไร..เราก็เด็ก จะไปแสดงความคิดเห็นหรือถามก็ไม่ได้ ยิ่งพี่เซ็นนะ ไม่ยอมหลุดปากพูดอะไรสักคำ ขานั้นน่ะรักพี่คิวจะตาย..ทุกคนต่างดำเนินชีวิตเหมือนกับอะไรๆมันปกติดีจนพี่รู้สึกว่า เฮ้อ..ตกลง พวกคุณโอเคนะ” พี่ซีผายมือไปมาทำท่าเหมือนไม่เข้าใจ
“เค้าคงโอเค..เรานี่แหละครับที่สงสัยจนไม่โอเค” พี่กัสพูดแกมหัวเราะ
“นั่นสิ..ยกเค้กไปเถอะ เดี๋ยวได้โดนสงสัยกันพอดี” พี่ซีบ่น ผมรีบหลบมาอยู่อีกฝั่งของห้อง ยืนรอจนพี่ซีและพี่กัสเดินออกจากห้องครัวไป ผมยืนอยู่สักพักเพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับมาก่อนจะเดินเข้าครัว มีอาหารวางอยู่บนเคาร์เตอร์อยู่สามสี่อย่าง ผมหยิบจานอกเป็ดราดซอสสองสามจานใส่ถาดและถือออกมา
“มาแล้วครับ” ผมยิ้มบอก
“มาแล้วววว” พี่ฟ้ายิ้มให้น้องเชอร์เบ็ต
พี่ซีและพี่กัสจ้องหน้าผมและทั้งสองคนหน้าหงอยลง ผมยิ้มให้ทั้งคู่เพื่อให้ทั้งคู่สบายใจ ตอนนี้พวกพี่เขาคงกำลังสงสัยว่าผมคงได้ยินเรื่องทั้งหมดหมดแล้วหรือเปล่า ผมที่กำลังทำตัวเองให้ปกติเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลยก็คงกำลังหลอกพวกพี่เขาเพื่อให้พวกพี่เขาหลอกตัวเองเหมือนกันว่าผมนั้นไม่ได้ยินอะไรเลย
“จับสลากก่อนเลยสิ เค้ก..กัสแล้วก็หมีน่ะ จะได้รีบกลับ” พี่ฟ้าบอก
“ดีฮะ” พี่กัสลุกขึ้นปรบมือ
“มาเร็วเค้ก” พี่กัสลุกมาจับแขนผมไป ผมลุกขึ้นตาม พี่กัสจูงมือของผมไปที่โต๊ะจับสลาก พี่ฟ้าและพี่หมีเดินตามหลังมาด้วย
“ดูสิว่าใครจะได้อะไร” พี่ฟ้าลูบหัวผมกับพี่กัสไปมา
“เค้กจับก่อนเลย..น้องเล็กไง” พี่กัสยื่นกล่องมาให้
“ขอบคุณครับ” ผมก้มหัวให้และล้วงมือเข้าไปในกล่องก่อนจะหยิบกระดาษสลากออกมา
“เบอร์เจ็ดครับ”
“เบอร์เจ็ด!” พี่ฟ้าอุทานเสียงดังจนทุกคนตกใจ แล้วอยู่ๆก็กลับมาทำหน้าตาปกติก่อนจะเดินไปหยิบกล่องของขวัญมาให้ผม
“โห..ใหญ่จัง” พี่กัสพึมพำมองมาที่กล่อง ผมยกมือไหว้พี่ฟ้าและรับมาถือไว้
“ในนี้มีของขวัญที่คิวซื้ออย่างนึงน่ะ ส่วนเซ็นก็ซื้ออีกอย่างนึง..นอกนั้นพี่เป็นคนเลือกซื้อเองกับมือทั้งหมดเลย แต่เสียใจด้วย..กล่องนี้ เอ่อ..” ผมยืนฟัง ใจเต้นตึกตักเพราะเริ่มลุ้นไปกับคำพูดของพี่ฟ้า
“ไอ้คิวซื้อน่ะ” พี่ฟ้าปัดมือไปมาพร้อมกับหัวเราะเหมือนไม่อยากจะหัวเราะเสียเท่าไหร่
“เหอะ..งั้นเหรอครับ” ผมยิ้มแหยก้มลงมองกล่องของตัวเอง
“พี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน แต่ยังไงก็..สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ”
“ขอบคุณครับ เอ่อ..ฝากบอก เจ้าของด้วย”
“ครับ”
“งั้นกัสจับแล้วนะ” พี่กัสไม่พูดเปล่าแต่กลับล้วงมือเข้าไปในกล้องเพื่อจับสลากขึ้นมา
“เบอร์หนึ่ง” พี่กัสยิ้มกว้าง
“อ่ะ..นี่ครับ” พี่ฟ้ายื่นของให้
“ห๊ะ..เล็กจังอ่ะ” พี่กัสรับไป หน้าหงอยอย่างผิดหวัง
“ไอ้เด็กนี่ ขี้บ่นจริง..แกะก่อนสิค่อยบ่น” พี่ฟ้านำกล่องของขวัญเคาะหัวพี่กัสอย่างเบามือ
“ค้าบ..ขอบคุณนะฮะ รักพี่ฟ้านะ” พี่กัสเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มพี่ฟ้าทันที
“ครับ พี่ก็รักครับ” พี่ฟ้าหอมแก้มพี่กัสตอบ
“เบอร์ห้า” พี่หมีพูดขึ้นทำให้พวกเราหันไปสนใจพี่หมีที่จับสลากได้เรียบร้อยแล้ว
“นี่..” พี่ฟ้ายื่นกล่องให้
“ขอบคุณ...ครับคุณบอส” พี่หมีแสยะยิ้มด้วยท่าทางกวนอย่างเคย
“ย่ะ” พี่ฟ้าเบะปากให้
“หึ..กลับกันเถอะ” พี่หมีบอก พี่หมีและพี่กัสร่ำลาพวกพี่ๆคนอื่นๆ ผมเองก็ด้วย แต่ผมลาเพียงแค่โต๊ะที่พวกพี่ซีนั่งอยู่เท่านั้นและเดินออกมายืนรอพี่กัสกับพี่หมีตรงทางออกของสวน
“ป่ะ” พี่กัสเดินเข้ามาจับแขนผมไป
“พี่ช่วยถือไหม” พี่หมีถามผม
“ไม่เป็นไรครับ”
“อะไรอ่ะ..กล่องใหญ่จัง ส่งข้อความมาบอกพี่ด้วยนะว่าอะไร อยากรู้อ่ะ” พี่กัสบอก
“ยุ่งเรื่องคนอื่นจริง” พี่หมีบ่น
“ก็อยากรู้อ่ะ” พี่กัสขึ้นเสียง พี่หมีส่ายหัวและเดินหนีไปที่รถยนต์ของตัว ผมนั่งด้านหลังส่วนพี่กัสนั่งด้านหน้าข้างคนขับ..
= = = = = = = =
“สเมิร์ฟส์” ผมจ้องมองตุ๊กตาสเมิร์ฟส์ตัวสูงประมาณหนึ่งเมตรที่ผมเพิ่งหยิบออกมาจากกล่อง
“หึ..สเมิร์ฟส์งั้นเหรอ คิดอย่างอื่นไม่เป็นรึไงนะ” ผมหัวเราะมองตุ๊กตาอย่างเหนื่อยใจ
ตื๊ด ๆ ๆ
ข้อความเข้า __ = พี่กัสจัง ^^ =
~พี่ได้ไอพอตแหละ รุ่นใหม่ล่าสุดเลย เค้กได้อะไรเหรอ ^o^~
ผมอมยิ้มกับข้อความจากพี่กัสที่ยังดูร่าเริงไม่เปลี่ยน ผมส่งกลับไปว่า..ได้สเมิร์ฟส์ครับ..เท่านั้น ไม่ถึงห้านาทีข้อความก็ตีกลับมา
~น่ารักอ่ะ อยากได้บ้างจัง..งั้นพี่ไปนอนแล้ว สวัสดีปีใหม่นะ..จุ๊บๆ~
ผมส่งข้อความกลับไปว่า..สวัสดีปีใหม่ครับ ฝันดีครับ..หลังจากนั้นไม่มีข้อความจากพี่กัสอีก มีข้อความจากแก้ว พีทและแจ๊คที่ส่งมาอวยพร ผมส่งกลับไปก่อนที่จะเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวเข้านอน
ผมหยิบตุ๊กตาสเมิร์ฟส์ตัวนี้ไปวางไว้บนหัวเตียง ตัวมันใหญ่แต่ไม่ถึงกับใหญ่มาก แต่ก็ทำให้พื้นที่บนเตียงของผมดูแคบลงไปถนัด ผมนั่งลงตรงหน้ามัน
“ไอ้บ้า..มองหน้าอยู่ได้” ผมคงจะบ้าไปแล้ว ที่มัวแต่มานั่งว่าตุ๊กตาอยู่แบบนี้ นี่พี่เขากะจะเข้ามาอยู่ในทุกมุมของชีวิตผมเลยหรือยังไงนะ..
“ไอ้ตุ๊กตาบ้า คนซื้อก็บ้าด้วย..”
~ฉันไม่ต้องการให้คิวสนิทกับใคร ที่ฐานะแตกต่างกันมากขนาดนี้..มันดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ เธอว่าไหม~
~ถ้าฉันจะต้องทำหน้าที่ของเพื่อนให้ดีที่สุด หรืออนาคตอาจจะได้เป็นมากกว่าเพื่อน นั่นหมายถึง..คิวต้องเฟอร์เฟคที่สุด นั่นคือสิ่งที่คิวเคยเป็น และจะต้องเป็นตลอดไปด้วย~
“อึก...” ผมไม่รู้ตัวว่าผมคว้าสเมิร์ฟส์มากอดตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้มันอยู่ในอ้อมกอดของผมแล้ว มันเป็นของผมเพียงคนเดียว เป็นของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น..
~เห็นว่าจะแต่งให้เร็วที่สุดล่ะนะ~
~เห็นว่าจะแต่งให้เร็วที่สุดล่ะนะ~
..................>>>><<<<..................
-
จิ้มๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งเศร้าแทนเค้กจัง T T
-
ทำไมพี่คิวจะแต่งงานหละ โอ๊ยยยยย :sad4:
-
โอ๊ยยยยย สงสารเค้ก ToT
-
เอามีดมาแทงกันเหอะค่ะบี้ :z3:
-
เศร้าอะ :monkeysad:
-
เปนเรื่องเข้าใจ ผิด:ใช่ไหม:พี่บี้หลอกคนอ่ายุใช่ไหม :o12: ::oooo::: :o12:
-
จิ้มๆ เรียนเสร็จจะมาอ่านนน ><
-
พี่คิวววว :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
พอเถอะ คนอ่านช้ำใจไม่ไหวแล้วนะ :sad4:
จีบ อีวานมันเลย พี่เซ็นก็ได้ ปล่อย อีคิวมันไปเลย อ็ากกกกกกก
-
ลาออกมั้ยเค้ก?
อยู่ต่อไปก็มีแต่ต้องรับรู้ ต้องเห็น ต้องเจ็บไปเรื่อยๆ
ถอยออกมาเพื่อรักษาความเป็นตัวเราไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?
เจ็บตอนแรก แต่เดี๋ยวมันก็คงเบาบางลงไปเอง
คนเค้าไม่ได้รักกัน แต่งกันไปก็คงไม่มีความสุข
เราไม่รู้ว่าพี่คิวคิดอะไร แต่การนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อยๆโดยไม่เคลียร์แบบนี้
ทนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก...
ถ้าเรื่องมันจะลงเอย หรือจะคู่กับเราแล้ว เดี๋ยวเค้าก็คงมาหาเค้กเองแหละ
เฮ้อออออ :เฮ้อ:
-
ง่ะ...แต่งงาน? อะไรยังไง โศก T^T
-
ไม่ว่าพี่คิวจะทำเพราะอะไร แต่ตอนนี้น้องเค้กตัดใจเถอะเรา เฮ้อ!!!
-
โหหหหหหหหหหห..บาดใจ บาดใจ จิงๆ :z3: :z3:
ทำไมดูเหมือนมีเรื่องอะไรไม่รู้เข้ามากมากมายเลยอะ เรื่องของคิวเนี๊ย??? :m16:
แล้วเค้กจะไหวม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย :m15:
:pig4: :pig4:
-
แอ๊งค์ เค้าจุกอก :z3: :z3: :z3:
-
เอาแบบเคลียร์ๆเลยพี่คิวปากหนักอยู่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าเค้กคิดยังไงแทนที่จะบอกไป ใจร้ายกับเค้กเกิ๊น :z6:
-
นอยด์ว่ะ เอามีดปักกลางกะโหลกสเมิร์ฟส์ไปเลย
โดนของรึเปล่าพี่คิว บ้าไปละ >"<
-
เปนตอนที่อ่านแล้วน้ำตาไหลอีกแล้วอ่ะ เมื่อไหร่จะหายไปซักทีน่ะ ไอความรู้สึกหน่วงๆแบบนี้ เจ็บแทนเค้กเลยTT
มาต่ออีกเร็วๆน้า
-
:m15: :m15: :m15: ร้องไห้เป็นเพื่อนเค้ก แต่เช้า สงสารเค้กมาก :m15: :m15: :m15:
-
โอ้ย น้ำตาจะแตก สงสารน้องเค้กจังเลยอ่ะ :o12:
พี่คิวก็นะ อยู่ดีๆ จะไปแต่งงานเฉยเลยอ่ะ ไม่ยอมๆ ๆ ๆ ๆ :angry2:
แต่ชอบพี่หมีอ่ะ น่ารักจริงๆเลย คุณพี่คนนี้ :o8:
ของขวัญปีใหม่นี้แอบทั้งดีใจ ทั้งสะเทือนใจไปพร้อมกันเลย เหนื่อยแทนเค้กอ่ะ o22
ความรักมักมีอุปสรรค์เนาะ อดทนหน่อยนะค่ะน้องเค้ก
พี่คิว อย่าไปแต่งงานนะ เค้ากลัวเค้กเป็นม่ายอ่ะ (ยังจะมาขำอยู่ เค้าเศร้ากันจะแย่ละ) :serius2:
แต่ตอนนี้ชอบมากเลยตอนที่เค้กอยู่กับคุณแม่อ่ะค่ะ แล้วบอกว่าแค่มีเค้กคนเดียวก็พอแล้ว น่ารักไปนะเด็กคนนี้
คุณพี่ฝันนี้ก็จะกินพี่คิวให้ได้เลยใช่ไมค่ะ ร้ายนักน่ะ :m16: :m31:
-
พี่คิววววจะแต่งงานนนนนน :a5:
ชั้นจะบร้าาาาาา :z3: :z3: :z3:
เค้กน่าสงสารอีกแร้วววววว เศร้าๆ :sad4:
-
แต่งแบบนี้ฆ่ากันเลยไหม :z3: :z3: :z3:
-
เจ็บ!!!
มาก!!!
:z3: :z3:
-
สงสารเค้ก ตัดใจเหอะ
-
เฮือกกกกกก!!!!!!
ยิ่งอ่านยิ่ง มาม่า อ่ะ
ไม่เอาแล้วอ่ะ จะจุกตายอยู่แล้วววววววว :sad4: :sad4:
-
:sad4: ไม่นะ :z3:
-
อยากจะบ้า :z3:
มันอะไรเนี่ยยย สงสารเค้กที่สุด :sad4:
เคืองไอ้พี่คิว เกลียดนังฝันร้าย :z6:
-
ปวดใจแทนเค้กจริงๆ :m15:
พี่คิว แกจะเป็นน้ำแข็งอีกนานมั้ย :m16:
-
แบบว่าแแน่นในอก
-
ดศร้า ซึม หงอยมากกกกกกกกกกกกกกก :เฮ้อ:
-
อึกๆๆๆๆ พี่คิวออกมาแถลงข่าวด่วนเลยนะจะแต่งงานจริงๆหรอ
สงสารเค้กอ่ะ :z3:
-
วุ้ยย!!!!
อิพี่คิวจะแต่งงาน เก็บข่าวเงียบเลยล่ะ
เฮ้อสงสารเค้ก จะทนอยู่เห็นหน้ากันได้มั้ยเนี๊ยะ
สู้ๆนะเค้กก หมั่นไส้อิพี่คิวววว
-
เจ็บอ่ะ :monkeysad:...อิพี่คิวเมื่อไหร่แกจะรู้สึกรู้สาอะไรกับเค้าบ้าง :angry2:
-
มันหน่วง มันอึดอัด มันเศร้า
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
อะไรกันวะนี่
เราไม่ปลื้มพี่คิวแล้วววว ฮึก
โกรธ โป้ง! :o12:
-
หึ อืมครึมกันเข้าไป มันจะเป็นอย่างงี้อีกนานไหม
ไอพี่คิวคะ คุณจะแต่งงานกะยัยฝันร้ายจริง ๆ น่ะเหรอ :เฮ้อ:
-
เฮ้ยยยยยยยยยยยยย :m15:
-
ตกลงแน่นอนแล้วเหรอ o22
พี่คิวไม่เห็นว่าอะไรเลย
เป็นเค้กก็เศร้านะ :m15:
-
อิพี่คิวววววววววววววววทำไมทำกะเค้กแบบนี้
-
:m15: :monkeysad: :sad11: จุกพูดไม่ออก :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
จัดมาให้หนักเลยค่ะคนแต่ง ยังไม่หน่ำใจ เอาให้ขาดใจตายไปเลย
:m15: :monkeysad: เศร้า
-
ยิ่งอ่านยิ่ง :m31: :m31: :m31:
T_____________T *
-
:a5: ง่ะ สงสารเค้กมากกกก :o12:
พี่คิวรีบมาเคลียร์เลยนะ :angry2:
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
-
อ่านแล้วปวดไตสงสารเค้ก :sad4:
-
ทั้งเศร้า ทั้งหน่วง สงสารเค้กมากเลยครับ :z3:
-
...เออ เนอะ จะห่างๆๆกันแล้ว ก็มาได้เสมิฟ ให้แสลงใจอีก แล้วมันจะลืมกันได้ยังไง
...แต่งงานเหรอ พี่ฟันอาจแต่งงานจริง แต่แต่งกลับใครล่ะ เจ้าตัวคนในครอบครัวไม่เห็นมีใครพูด มีแต่เพื่อนไฮโซทางฝ่ายพี่ฝันพูด
...ยังไงก็คงต้องติตามกันต่อไป แต่ห่างๆๆกันก็ดีนะ ทางเดินใครทางเดินมัน เพราะ2คนมันต่างกันโดยสิ้นเชิงในทุกๆๆด้าน :L2:
-
ลาออกมั้ยเค้ก?
อยู่ต่อไปก็มีแต่ต้องรับรู้ ต้องเห็น ต้องเจ็บไปเรื่อยๆ
ถอยออกมาเพื่อรักษาความเป็นตัวเราไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?
เจ็บตอนแรก แต่เดี๋ยวมันก็คงเบาบางลงไปเอง
คนเค้าไม่ได้รักกัน แต่งกันไปก็คงไม่มีความสุข
เราไม่รู้ว่าพี่คิวคิดอะไร แต่การนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อยๆโดยไม่เคลียร์แบบนี้
ทนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก...
ถ้าเรื่องมันจะลงเอย หรือจะคู่กับเราแล้ว เดี๋ยวเค้าก็คงมาหาเค้กเองแหละ
เฮ้อออออ :เฮ้อ:
แถม :z6: ให้อิพี่คิวด้วย
:monkeysad: สงสารเค้กอ่ะ
เบบี้รีบมาต่อน๊า
-
:serius2: ไม่ไหวแล้วค่ะ
:o12:
-
บีบหัวใจเหลือเกินเค้กเอ๋ยยยยยยยยยยยยยยยย :monkeysad:
-
ดีแล้วแหละแบบนี้ แต่งไปเลย อยากอ่านนานๆ รู้สึกสะใจดี แต่ไม่ชอบให้เค็กดูเหมือนสาวแตก
จำได้ว่าตอนต้นๆก็แมนนะ แบบน่ารักๆ อยากให้เค้กเข้มแข็ง อย่ายอมพี่คิวง่ายๆนะ คนอ่านซาดิสส์ o13
-
ชีวิตที่โดนกลั่นแกล้งจากโชคชะตากับความไม่มั่นคงของใครบางคน :m15: :m15: :m15:
-
พูดไม่ออก
ทำไมต้องแต่งอ่่ะพี่คิว แถมแต่งกับยัยฝันสลายพี่อีก
ต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆ
โอ้ยสงสารเค้กมากเลยอ่่ะ เซ็งจิต :sad4:
-
อยากกระโดถีบพี่คิว :z6: :z6: :z6:
เสียใจๆ :m15: :m15: :m15:
-
:o12:เศร้ามาก จะร้องไห้ตาม
-
ปวดจายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ๊ากกกกก หลายตอนแล้วนะ :o12:
-
อยากอ่านต่ออ่าาาาา
ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
ต้องมีอะไรสักอย่างที่ซ่อนอยู่ในอะไรสักอย่างแน่ๆ
มันเป็นแผนรึป่าวเนี่ยยย
ค้างงงงง :z3:
-
:เฮ้อ: ให้คิว รอวันที่คิวเอ่ยปาก
:กอด1: ให้เค้ก
o13 ให้คนเขียน
-
มันจะผิดมากมั้ย ถ้าจะบอกว่าเกลียดพี่คิว
-
รักต้่องมีอุปสรรค อืมมมม
-
อ่าาา ไม่น้าาาาาา
พี่คิวจะแต่งงานหรอออออ
สงสารเค้กอ่ะ
-
น้ำตาไหล สงสารเค้ก
คนก็ยิ่งทำใจๆอยู่ ยังมาได้ สเมิร์ฟส์อีก
ทิ่มแทงกันเข้าไป :m15:
-
ม่ายยยยยยยยยยยยย
ไหงเป็นงี้งะ
พี่คิววว แต่งงานนนน
แต่นะ คนมันคู่กัน จับสลากยังได้ของพี่คิวเลยอะ
-
พี่คิว ปากหนักไปป่าวววววว
-
ชักอยากให้มีคนเข้ามาหาเค้กว่ะ
-
เห้ยย~
พี่คิวจะแต่งงาน :m15:
สงสารน้องเค้กอ่า หากิ๊กให้เค้กเลย T^T ไม่ต้องแคร์พี่คิวแล้วว
-
แต่งไปเลย รีบ ๆ ด้วยนะ ชั้นเซ็งเธอที่สุดในโลกคิว
ส่วนเค้กผู้ชายดี ๆ ยังมีอีกป่ะเลอะ ไม่ต้องเศร้าให้เขารู้หรอก
-
ฮือออ :m15:
ทำไมเป็นเช่นนี้ คิวมาอธิบายให้เข้าใจหน่อยสิ
สงสารเค้กมากที่สุดอ่ะ ไม่รู้เลยว่าจะอยู่ตรงไหน กลับไปยืนที่เดิมก้ไม่ได้แล้ว :monkeysad:
ไม่จริงใช่ไหมคิวจะแต่งงาน อิฝันร้ายนั่นมันโม้ใช่ม้ายยยยยยยย :serius2:
(อินจัด)
:pig4: นะคะ คุณเบบี้
-
เค้าว่าจะไม่อ่านเรื่องนี้อีกแล้ว มันเศร้าเกินไปแล้วนะ :m15:
-
น้องสเมิร์ฟคงจะเต็มไปด้วยน้ำตาแน่นอน
-
โฮกกกกกเกิดอะไรขึ้นเนี่ยยยยยย
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :o12: พึ่งมาอ่านก็มาม่า แต่เช้า เหอะ ทำไม่มันอึมครึมอย่างนี้ล่ะเนี่ย ไม่ไหวแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z6:
-
:monkeysad: น้องเค้กหนูต้องเข้มแข็ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุก ๆ คนรอบตัวรักหนูทุกคนนะ
พี่กัส กับพี่หมีแอบมีอะไรปิดบังอยู่รึป่าว คึคึ o18
-
~เห็นว่าจะแต่งให้เร็วที่สุดล่ะนะ~..<<<<<<< :a5: อะไร ยังไง ทำไม.... :z3: :z3:
-
จี๊ด จี๊ด จี๊ด สงสารเค๊ก สู้ๆ
-
ม่ายยยยยยย T______T เวลาอ่านเรื่องนี้ทีไรเลื่อนลงมาถึงตอนจบแล้วใจตกไปที่ตาตุ่มทุกที... T___T
เป็นคนที่ไม่เคยมีเรื่องที่คนอ่านเคลียร์กับพี่แกเลยในชีวิตจริงจังอ่ะ แบบตกลงจะยังไงอะไรกับใคร
ลึกลับซับซ้อนยิ่งกว่าป่าอเมซอน หนูม่ายเข้าจายพี่เค้าาาาาา T______T อ่านตอนนี้ยิ่งสงสารเค้ก
และยิ่งไม่เข้าใจคิวขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างว่าคนแบบพี่เค้าเคยมีใครเข้าใจที่ไหนอะ หน่วงไปทั้งตอนตั้งกะต้น
ยันจบตอน และจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าหร่ายยยยยย *โหยหวน* เวลาแค่รู้ว่าคนที่เรารักไปคบคนอื่น
นี่มันเจ็บปวดยิ่งกว่าโดนเหยียบนิ้วโป้งที่ขบอยู่และเป็นตาปลาอยู่ด้วยอีกนะ มันแบบเกินจะทน T_____T
ตอนหน้าต้องมีเหตุการณ์เค้กลาออกแน่ๆ.... เฮ้ออ !! ขนาดจับของขวัญปีใหม่ยังได้ของพี่เค้า
ดวงจะสมพงษ์เกินไปละเนี๊ย แต่ตอนนี้พี่หมีกับกัสน่ารักมากกกกก แบบ อร๊ายยยยย น่ารักอ่ะ555555 ชอบ
-
พี่คิวทำอะไรไม่เคลียร์เลย
:z3: :z3: พี่คิวทำให้เค้กเหมือนเป็นคนพิเศษอะ
จูบเค้กงี้ โอ้ยยยย เพลียกับพี่แกจริง
-
จะมีอะไรมาทำให้ไม่ต้องแต่งมั้ยย
ใจร้ายกะเค้กอ่ะ เบบี้~
อ่อยยยย น้องเค้กโอเคมั้ย พี่เป็นกำลังใจให้
กอดดดดดด
>.,<
-
น้ำร้อนได้ที่แล้วหล่ะสิเนี่ยะ :z3:
-
บรรยากาศอึดอัดมากกก ก
เค้กก็ไม่ต้องรอพี่คิวแล้ว ปล่อยพี่เค้าไปเถอะ
-
อ่นแล้วน้ำตาจะไหล
-
ลาออกมั้ยเค้ก?
อยู่ต่อไปก็มีแต่ต้องรับรู้ ต้องเห็น ต้องเจ็บไปเรื่อยๆ
ถอยออกมาเพื่อรักษาความเป็นตัวเราไว้ไม่ดีกว่าเหรอ?
เจ็บตอนแรก แต่เดี๋ยวมันก็คงเบาบางลงไปเอง
คนเค้าไม่ได้รักกัน แต่งกันไปก็คงไม่มีความสุข
เราไม่รู้ว่าพี่คิวคิดอะไร แต่การนิ่งเฉยไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้มันเป็นไปเรื่อยๆโดยไม่เคลียร์แบบนี้
ทนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก...
ถ้าเรื่องมันจะลงเอย หรือจะคู่กับเราแล้ว เดี๋ยวเค้าก็คงมาหาเค้กเองแหละ
เฮ้อออออ :เฮ้อ:
+1 ครับ ตรงใจที่สุด
-
เอามีดมาแทงกันเลยเถอะ..เบบี้
เข้ามา!#&&/-((&&##%*-*&'-+"%!
แต่เราก็ยังไม่เชื่ออะไรทั้งนั้
เราเชื่อในคิวเค้ก กร๊ากๆๆๆๆๆ
-
เรื่องนี้ของเบบี้ แล้วรู้สึกแปลกกว่าเรื่องอื่นที่เคยอ่านมา
ดูเรื่อยๆ ตามมุมความคิดของเค้ก แต่หลังๆ เริ่มเครียด อึมครึม หม่นหมอง
อาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้ความคิดของคิว คนรักแบบนี้มีคนเดียวในโลก Limited Lover
ก้อเลยไม่ชัดเจน ไม่เคลียร์ ไม่ชัด
:beat: :z6: :a5:
เค้กเอ๋ย ถ้ามันต่างกันนัก ก้อออกๆ มาเถอะ :sad11:
-
อืมๆๆๆๆนะ ไม่น่าเข้ามาอ่านเลย ปวดใจแทนเค้กชะมัด :o12:
-
มันต้องมีเหตุผลที่ต้องเเต่งงานสิ
พี่คิวเป็นคนที่ใครจะมาบังคับไม่ได้้ อ๊ากกกกก
ปวดใจเเทนพี่เค้ก :z3: :z3: :z3:
ลาออกไหมม?????
-
เศร้าเบาๆ แต่ได้อีกนะคะ ซาดิสเล็กๆ อิอิ
ว่าแต่อีวานแอบคิดอะไรกับเค้กป่าว ถ้าคิดก็รีบๆนะ อยากเห็นคนหึง :laugh:
-
นิสัยอย่างพี่คิว หรอจะยอมโดนบังคับให้แต่งงาน น่าเชื่อเนอะ :laugh:
-
รู้สึกเจ็บปวดร่วมไปกับตัวละครอย่างเป็นสาระสำคัญ
ฮือออออออออ
-
ถ้าพี่คิวจะทำร้ายเค้กขนาดนี้ :z3:
-
หรือว่าพี่ฝันท้อง :o แหม ก็มันกะทันหันซะขนาดนั้นนี่นา
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ น้องเค้กก็เสียใจไปแล้วล่ะ
เข้มแข็งไว้นะน้องเค้ก ยังไงก็ยังต้องเจอกันอยู่แหละนะ
ตราบใดที่ยังทำงานที่นั่นอยู่ :เฮ้อ: มามะให้พี่ปลอบใจ :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ทำไมคิวยอมแต่งอ่ะเนี่ย เข้าใจผิดใช่มั๊ย ไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เฮ้อ สงสารเค้กจัง
-
เศร้าจัง ที่บ้านมาม่าเยอะเหรอ
-
สงสารเค้กอ่ะ แต่คิดว่าพี่คิวคงไม่แต่งแน่นอน 555 แบบว่าหนีงานแต่งไปหาคนที่รักจริงอะไรประมานนี้มั้ง อิอิ
-
สงสารเค้ก อยากให้พี่คิวคุยอะไรกับเค้กบบ้าง :call: :call: :sad4:
เบบี้สู้ๆๆๆๆ o13 o13 o13
-
เรื่องนี้ของเบบี้ แล้วรู้สึกแปลกกว่าเรื่องอื่นที่เคยอ่านมา
ดูเรื่อยๆ ตามมุมความคิดของเค้ก แต่หลังๆ เริ่มเครียด อึมครึม หม่นหมอง
อาจเป็นเพราะเราไม่เคยรู้ความคิดของคิว คนรักแบบนี้มีคนเดียวในโลก Limited Lover
ก้อเลยไม่ชัดเจน ไม่เคลียร์ ไม่ชัด
:beat: :z6: :a5:
เค้กเอ๋ย ถ้ามันต่างกันนัก ก้อออกๆ มาเถอะ :sad11:
^
ตรงใจมากมาย
+1
-
มาคุ !!!
-
ทำไมคิวถึงตัดสินใจแต่งงานละ
พยายามเข้าใจและอยากเข้าใจ
แต่ก็ไม่เข้าใจ น้องเค้กอารมณ์นี้ไหมคะ
:pig4: คะ
-
ให้มาม่ากันสุดๆ ไปเลย :เฮ้อ:
-
ใจร้ายยยย ยย ย. ??? :z3:
-
เศร้าอย่างต่อเนื่องสำหรับน้องเค้ก
เมื่อไหร่จะถึงที่สุดก็ไม่รู้ :o12:
-
พี่ฟ้าไม่น่าบอกเลยว่าของขวัญชิ้นนี้ใครเป็นคนซื้อ เพราะมันยิ่งทำให้คนรับคิดมาก
ส่วนเรื่องแต่งงาน ขอบอกว่ารีบๆ แต่งไปเหอะ จะได้รีบๆ เจ็บ แล้วก็รีบๆ หาย
กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที เสียใจได้แต่อย่าไปงมงานนะนู๋เค้ก
-
เมื่อไหร่จะรักกันได้ซักทีคะ มาม่าเยอะไปแล้วมั้ย งื่อ.....
-
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ สงสารเค้กที่สุดลาออกจากที่นั่นดีกว่า
ไม่รู้ไม่เห็นจะได้ไม่เจ็บนะเค้ก
-
คนอย่างคิวเนี่ยนะยอมแต่งงาน ไม่น่าเชื่อ!!!
-
แต่งแล้วหย่าเลยใช่มั้ยคะพี่คิว ต้องใช่แน่ๆเลย :o12:
สงสารเค้ก ฮือออออออ
-
มาม่า~ :sad4:
สงสารเค้ก ทำไมพี่คิวทำงี้ล่ะ!! :o12:
-
เป็นของขวัญปีใหม่ ที่ปวดอึ้งไปเลยกับข่าวที่แอบได้ยินมา
แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อคนต้นข่าว ไม่พูดหรืออธิบายอะไรออกมา
คิดในแง่ + การแต่งงานครั้งนี้อาจเกิดจากการสร้างข่าวหรือกลบข่าวอะไรบางอย่างของไฮโซพี่ฝนก็ได้
เพราะอาศัยความเป็นสุภาพบุรุษกับไอ้อาการปากหนัก ทำให้ พี่ฝนรวบหูรวบหาง เอาคิวเป็นเจ้าบ่าว :z2:
มาลุ้นและให้กำลังใจน้องเค้ก หลังฝนตก ท้องฟ้าแจ่มใสนะจ๊ะ เค้กจ๋า :กอด1:
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้ครับ o13
-
โอ๊ยยยยยยยยยยย
พี่คิวชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี้ย
จะแต่งงานทำไมละ
-
แงแง สงสารเค้กอะ พี่คิวจะแต่งงานด้วยอะ เค้กรีบกลับมาเป็นคนเดิมน๊า สู้สู้
-
โอ๊ยยยยยยย ทำไมยิ่งเศร้า ยิ่งค้างงงงงง
มาต่อเร็วๆนะ จุ๊บๆ ^^
-
ลาออกไหม TT' สงสารเค้ก
-
:o12:
แต่งงานหรอ
แต่พี่คิวเขาสมัครใจยอมแต่งเองหรือ
พี่คิวยังไม่ได้พูดสักแอะเลยนะ
เค้กก็อย่าเพิ่งตื่นตูมไป
รอฟังให้แน่ใจก่อน
แต่ว่านะ คงเสียใจมาก :m15:
:กอด1:
-
เศร้า สงสารเค้กกกกกกกกกก
ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบพี่คิว
+1
-
เพ่ คิวววววววววววววว ทำไม ทำแบบนี้
ชัดเจนน่ะ สงสาร เค้ก ไม่รู้เรื่องอะไร เลยยยยยยยยยย
-
รู้สึกว่าน้องเค้กเข้มแข็งขึ้นนะ เราเเชียร์ การแต่งงานยังไม่มีการยืนยัน ถ้ายังไม่ได้แต่งกัน น้องเค้กก็ยังมีสิืืทธิ์ลุ้นเว้ยเฮ้ย!!!!!!
ตอนนี้ไอ้พี่คิืวเฉยอีกละ เดี๋ยวตอนหน้าอย่าพูดกับน้องเค้กนะ :3125:
-
:monkeysad:
เข้ามาปลอบใจน้องเค้ก :กอด1:
-
บอกตรงผิดหวังกับคิวหว่ะ ไม่ได้ผิดหวังที่คิวไม่ได้ชอบน้อง เราเข้าใจคิวมาตลอด แต่พอคิวทำพฤติกรรมแบบนี้ เออ คิวเลวเนอะ เค้กเป็นตัวอะไรไม่รู้สำหรับคิว
แต่งไปเหอะ ขอให้มีความสุขน่ะคิว
น้องเค้ก ครับความเจ็บปวดครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนน่ะลูก
-
หน่วง
-
โอ้ยยยย!จะบ้าตาย
:o12:
-
โอ็ย แต่งๆไปเลยเหอะคิว ทำอะไรได้น่าหงุดหงิดจริงๆ
เค้กจ๋า น้องอย่าได้แคร์จ๊ะ พี่ว่านู๋อย่าไปคบกับคนนิสัยแบบนี้เลย (ซะงั้น)
นู๋นะน่ารักออก เดี๋ยวก็เจอความรักใหม่ได้
ปล.อารมณ์แบบว่าหงุดหงิดคิวมากๆๆๆๆ ทำอะไรอยู่เน้ยยยห๊ะ!!คิว
-
ยิ่งอ่านยนิ่งสงสารเค้ก T^T
-
เฮ๊ย!!!! เป็นแบบนี้ได้ไงอะ
เร่มงงกับคนชื่อ"คิว" นี้ หนักขึ้นทุกวัน
สงสารเค้กมากกกกกก :sad2:
-
:z3::z3: :z3:ซดมาม่า มา 3-4 ตอน
:เฮ้อ: เบื่อแล้วครับ ผู้แต่ง
-
ให้ตายเหอะ :z3:
-
ใจเสียเลย.. นี่มันอะไรก๊านนนนนนนนนนน ฮื่ออออออออ
จะบอกว่า.. แค่ได้ยินว่าซิกการ์ห้าหมื่น ฉันก็หดหู่แทนเค้กล่ะ ไม่จำเป็นต้องให้คำพูดยัยฝันลอยเข้าหูเลย
ทรมานอ่า น้องเค้กของเค้าาาาาาาาาาาาาา
เหนือสิ่งอื่นใด.. เค้าอยากได้ของขวัญที่กัสได้มากกว่าที่เค้กได้นะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
เบบี้!!!!!! รักเธอ ดูแลสุขภาพนะคะ
-
แงๆๆๆๆ เค้กน่าสงสารที่สุดเลยอ่ะ
อ่า ลาออกดีปะเค้ก อิอิ
-
เศร้าเกินไปแล้วววว สงสารเค้ก. หาพระเอกใหม่มาให้เค้กเลยนะ เหอะ!
-
นํ้าตาไหลพรากเลย.... :o12: :o12: :o12:
สงสารเค้่กก็สงสาร....ทําไมพี่คิวทําแบบนี้นะ :z3: :z3:
กลัวใจตัวเองเหรอ...
-
:เฮ้อ:สงสารน้องเค้ก
-
ทำไมมันยิ่งเศร้าไปทุกทีล่ะสิน่า
-
ความรู้สึกส่วนตัวของคนอ่านนะคะ :เฮ้อ:
เค้กกับคิว ทั้งฐานะ อายุ สิ่งแวดล้อมในเรื่องนี้ต่างกันเกินไป จะจูนให้ไปด้วยกันได้ยังไง
สงสัยต้องรอให้เค้กเรียนจบก่อนมั้ย เพราะพี่คิวก็ไม่เห็นจะชัดเจนอะไรเลย
คิดถึงต้ารกับข้าว :sad4:
-
ทำไมมันเศร้าอย่างนี้....
:o12:
ยิ่งเล่าในมุมของเค้กแล้ว รู้สึกสงสารเค้กจัง :o7:
-
สะอึกกับคำว่าแต่งงาน :z3: :z3: :z3:
สงสารเค้กมากๆๆ :sad4: :sad4: :sad4:
-
o22 พี่คิวจะนิ่งไปมั้ย อ่านแล้วก็ปวดใจไปกับน้องเค้กด้วยเลย
น้องเค้กสู้ๆนะ ขอให้ทำใจได้เร็วๆ :กอด1:
ว่าแต่พี่หมีกับกัสนี่...น่ารักดี ทีแรกนึกว่าจะพี่เซ็นกัสซะอีก เอ๊ะ รึยังไงกัน :impress2:
-
เฮ้อ เรื่องมันเศร้า :sad2: :sad2:
-
เลยความหน่วงมาเยอะเลยนะพี่บี้ตอนนี้อะ :o12:
เจ็บแทนเค้กอะ สงสาร แต่ก็นะ พี่คิวหายหัวไปหนายยยย
-
บอกได้คำเดียว
:sad2: :sad2: :o7: :o7:
-
ดราม่า :z3: :monkeysad:
ดราม่า สงสารเค้ก พี่คิวบ้า :m31:
-
บัดซบมาก
อ่านแล้วอารมณ์เสีย ดี ถ้าอีพี่คิวมันจะไม่พูดอะไรเลยก็ให้มันแต่งไปกะอีฝันเฟื่อง
เปลี่ยนพระเอกเลย เสียอารมณ์
หงุดหงิดโว้ยยยยยย
-
อ๊าำกกกกกกกกกกกกกกก อยากจะกรีดร้องหลังอ่านจบ !!!
มันยังหน่วงเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ โอ้ยยย สงสารเค้กอ่ะ
อะไรของพี่คิววะฮะ ทำไมอยู่ๆถึงจะแต่งงาน แล้วยังจะแต่งกับยัยฝันเฝื่องนั่นอีก บ้าที่สุด
อิพี่คิวบ้าาา แบนนนเว้ยยยย แบนนน ย๊ากกกกกกกก ไม่เข้าใจพี่คิว ไหนตอนนั้นที่พูดกับฝัน
เหมือนกับเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น แล้วทำไมตอนนี้ถึงจะแต่งงานกับเค้าละ มีเหตุผลอะไรงั้นเหรอ
ที่ระหว่างเค้กกับพี่คิว มันเปลี่ยนไปและแย่ลง เพราะเรื่องนี้หรือเปล่าฟร่ะ ฮ่วย พี่คิวช่วยทำอะไร
ให้มันกระจ่างกว่านี้ได้ป่ะ เอาเป็นว่าในเมื่อยังไม่ได้ยินอะไรออกมาจากปากพี่คิว ก็จะรอฟังอีกหน่อยแล้วกัน
งอนพี่คิวแล้ว ทำเค้กเสียใจอ่ะ ฮื่อออ
-
โอยยย สงสารน้องเค้กกอ่า :o12:
-
ดราม่ามาและกำลังจะผ่านพ้นไป แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่่
มันเกิดอะไรขึ้นนนนน ฮืออออ เค้กกกกกก สงสารอ่า
ไม่เคลียร์กับพี่คิวเลยสักอย่างงง
-
เรื่องแต่งงานพี่คิวคงมีเหตุผลของพี่คิวเอง
แต่เหตุผลของพี่คิวมันกำลังทำให้ใครคนนึง......เสียใจและทรมาน :เศร้า2:
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรมาโดนหัวใจเลยอะ
:z10: พี่คิวใจร้าย
-
:sad4:พี่คิวบ้าที่สุดดดดดด อ่านแล้วเสียใจอะ
-
:sad4: :o12: :z3:
อ่านแร้วน้ำตาจะไหล เค้กเปลี่ยนใจไปรักพีทเหอะ
เบื่อคิวแล่ว โกรธธ เบบี้จ๋ามาต่อไวไวเน้อ รออยู่ตลอด ๆ
-
แต่กลับไปอ่านอีกรอบ...พี่คิวนี่น่าสงสัย รู้ว่าเค้กอยากได้สเมิร์ฟ (แอบเดาเอาว่า) ไม่ว่าเค้กจะได้เบอร์อะไร กล่องของขวัญที่พี่คิวซื้อมาก็ต้องเป็นของเค้กอยู่ดี อย่างพี่คิวน่ะหรอ จะซื้อสเมิร์ฟมาจับฉลาก
เข้าข้างพี่คิวสุดๆล่ะนะ.... :กอด1:
อีวานอีกคน...มองหน้าเค้กแบบนั้น แสดงว่าการแต่งงานอะไรนี่ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังแน่ๆ
:z2:
-
:monkeysad: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ยังไม่อยากเชื่อ...ถ้าคิวจะแต่งงานคงไม่เลือกเจ้ฝัน...
คนบางคนมันก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละนะ..
คิดอีกที...เจ็บแต่จบก็ดีเหมือนกันนะน้องเค้ก...
ตาคิวเค้าสูงส่งเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างเราจะเข้าใจ...
แล้วเรื่องเค้าจูจุ๊บนู๋นะ...ไม่เห็นเคลียร์สักที....
คนอะไรไม่แมนเอาซะเลย...เห็นแก่ตัวชะมัด.. :m16:
รอต่อไปค่ะ น้องเบบี้ :pig4:
-
ถ้าเรื่องนี้จะไม่มีพระเอกก็ไม่เป็นไรค่ะ เราไม่ว่า ปล่อยคิวไป....เหนื่อยนักก็พักดีกว่าน่ะเค้กจ๊า...
-
อะ..อะไรกัน TTT_______TTT
-
สงสารเค้กอ่ะ
พี่คิวก็แสดงความรู้สึกอะไรบ้าง
เค้กระเบิดอารมณ์เลย!!! #ห๊ะ :m31:
โอเคใจเย็น แต่คนอ่านใจร้อนจัง
มาต่ออีกน้า ^^
-
โคตรๆ ไม่เข้าใจพระเอก ขัดใจมันด้วย ฮึ่ย!!! :fire:
เศร้าเลยน้องเค้ก สงสารจับใจอ่ะ
:z3: :z3: :z3:
-
ไม่เชื่ออ่ะ ว่าพี่คิวจะโดนบังคับอ่ะ นอกจากจะรักน้องฝันคนสวย คนงาม คนดี๊คนดี ด้วยความสมัครใจ หึหึหึ
เฮ้อออออ ไม่เคลียร์อะไรเลยใช่มั๊ยคิว ปล่อยให้ผ่านไปอะไรแบบนี้เนี่ย
นึกโกรธพี่ฟ้า อ่ะ ที่ชวนเค้กไปงานปีใหม่ แทนที่จะรื่นเริง มันหม่นหมองมากสำหรับเค้ก
เค้กเอ๊ยยย ไม่มีใครรัก ก็ยังมีพี่รักนะหนู มากอดกันหน่อย :m15:
ปล. แอบลุ้มคู่พี่หมีกัส น่ารักวุ๊ย
-
มาม่าแบบต่อเนื่อง เค้กน่าสงสาร
-
โอ้ยย สงสารเค้กกกกกกก
ต้องเห็นคนที่ตัวเองรักไปแต่งงานกะคนอื่นน
พี่คิวทำไมทำแบบเน้
T^T" :m15:
-
:serius2:
เครียดจังอะ สงสารเค้ก ได้ยินแบบนี้อย่างกะโดนน๊อคกลางอากาศเลย :o12:
-
อ่านตอนนี้เเล้วแทนที่จะโกธรคิว
แต่ดันเกลียดฝันมากขึ้นอ่ะ
:z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
ยัยฝันร้ายมันต้องเล่นเล่ห์แน่ๆ เกลียดๆ รอดูจุดจบของมัน ชิชะๆ
-
อั้ยยะะะะคิวจะแต่งงาน :a5: :a5:
แต่งกับใครอ่ะ พี่ฝันเหรอ ถ้าไม่ใช่ เขายอมรับได้เหรอ ทีเค้กละทำเป็นรับไม่ได้ อ๋อ เพราะคิวสนใจเค้กมากกว่าตัวเองอะดิ
-
งอลพี่คิวแล้ว เชอะ :a14:
ทำไมไม่ยอมคุยกับเค้กบ้างอ่ะ
เหมือนจะทำตัวตามปกติ แต่ก็มีบางอย่างแปลกไปอ่ะ
สงสารเค้กจังเลย :o12:
เรื่องแต่งงาน จริงเปล่าอ่ะ
คิดแล้วเศร้า ฮือๆ
:กอด1:
-
:o12: สงสารเค้กอ่ะ เค้กกับพี่คิวไม่ได้คุยกันเลย ยังกับคนที่ไม่รู้จักกัน ฮือออออ
แล้วนี่อะไร ทำไมพี่คิวจะต้องแต่งงานกับฝันหรอ ไม่นะ
แล้วอีวานรู้อะไรด้วยหรือเปล่า มองหน้าเค้กแล้วอมยิ้มด้วย
แล้วอะไรจะเป็นใจขนาดนี้ เค้กได้ของขวัญปีใหม่ที่พี่คิวซื้อ
เป็นสเมิร์ฟอีกต่างหาก เหมือนของตัวแทนพี่คิวเลย
คิดถึงตอนที่ทั้งคู่ไปดูหนังด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปหาน้องๆด้วยกัน
ช่วงเวลาเหล่านี้จะกลับมาอีกไหมนะ รอ...
ลุ้นว่าพี่คิวจะส่งข้อความปีใหม่มาไหม หรือเค้กจะส่งไป
อยากให้เค้กลองหายไปบ้างเหมือนกัน อยากรู้ว่าพี่คิวจะรู้สึกอะไรบ้างไหม
ที่จะไม่ได้เจอที่ร้าน ไม่ได้เห็นเหมือนที่เคยเป็น
ปล.คู่พี่หมีกับกัสน่ารักจัง ^-^
สู้ๆนะเค้ก ^^v
ขอบคุณนะคะเบบี้ อยากอ่านตอนต่อไปพรุ่งนี้อ่ะ 555 ล้อเล่น รออ่านตอนต่อไปค่าาาา
-
งือออออออ อะไรยังไงอ่า
บรรยากาศโคตรอึมครึมเลย แล้วพี่คิวกับน้องเค้กจะไม่พูดกันแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่นะ
แล้ว...พี่คิวจะแต่งจริงๆหรอ แล้ว..จะให้น้องเค้กไปงานด้วยมั้ยอะ โอ๊ยยยยยยปวดใจ :z3:
-
การมองของอีวานมีความในแฝงเอาไว้หรือเปล่าค่ะ มันน่าสงสัยอยู่น่า :serius2:
พักหลังๆมาเนี่ยเค้กเจอแต่เรื่องปวดใจตลอดเลยนะ แต่ว่าเค้กคงผ่านมันไปได้
ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอนะเค้ก
o13 o13 o13
-
สงสารเค้กอ่ะ
ขอแค่เป็นเพียงข่าวลือได้มั๊ยอ่ะ
-
น้องคิวของป้า ... เรียกไปงั้นๆล่ะ ป้าไม่มีอะไรจะพูด ไม่สิ!พูดไม่ออกตั้งหาก
-
ใจจะขาด T^T
-
เศร้า แท้ เศร้า หลาย เศร้า คัก ๆ
หายใจไม่ออก ร้องไปก้ไม่มีใครรู้ ใครฟัง อึดอัด
อย่าร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก เศร้าอยุ่ข้างในใจ เหงาอยุ่ข้างนอก บั่นทอนกำลังใจ
เค้กลู้เว้ย เห้ย กุให้กำลังใจ สาดดด O ,.O
-
จุกอกอีกแล้ว :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
:fire: :fire: :fire: :fire:
-
เข้ามาอ่านคอมเม้นต์คนอื่นๆแล้วทำใจอ่านไม่ได้ซักที
(ตั้งหลายตอนละ แง๊ เก๊าขอโทษคนเขียนด้วยน้า T_T)
ไม่งั้นคงเครียดกคงจิตตกไปสอบ หรือนั่งสอบไปด่าพี่คิวไป กร๊ากกก
เอาใจช่วยน้องเค้กและคนเขียนจ้า
-
ไอ้พี่คิว เม้นต์ไม่ออกเลย สงสารพี่เค๊ก
-
ร้องไห้เลย
ทำไมถึงเป็นแบบนี้
รู้สึกว่าระยะห่างจะขยายขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เฮ้ออออออออออออออออ
สงสารเค๊กอ่ะ :L2: :L2:
-
พี่คิวจะแต่งงานนี่เองถึงได้เย็นชากับเค้กนัก :sad4:จะแต่งจริงๆเหรอ
-
โอยยยยย แย่แล้ววว ยังไม่น่ารีบอ่านตอนนี้เล้ยยย ให้ตายยยยย !!!
-
มาม่าเริ่มมาแย้ววว TT
ขอให้จบมาม่าไวๆ อาเมนนนน
-
แต่งก้ิอแต่งไปเลย
สนใจด้วยเหรอ
ชิ :m16:
-
ทำไมคิวเป็นงี้ว้า :z3: :z3:
เสียความรู้สึกกกกกกกกกกก :z6:
-
:a5: มาม่าลอยมาอยู่ตรงหน้าชามเบ้อเร่อเลยอ่ะ :monkeysad:
-
ชักจะไปกันใหญ่แล้วคู่นี้ :z3:
-
o22
แต่งงาน!
คงไม่ถึงกับจัดงานใช่มั้ยพี่คิว
รู้ตัวนะว่าต้องทำยังไง
อย่าให้โมโหๆ :m16:
:jul3:
เดี๋ยวปั๊ดลักพาตัวเค้กซะนี่
รู้ตัวช้านัก
-
แทบจะร้องไห้ไปกับน้องเค้กเลยอ่าาาาาาาา
-
อึมครึมได้อี๊กกก
อิ่มมาม่าแล้วค่ะคนแต่ง T T
แล้วพี่คิวจะแต่งงานจิงดิ!?
-
ไอ้ พี่ คิวว โว้ยยยยยย :z3:
สงสารเค้กมากอะ ทำไงดีๆๆๆๆ :serius2:
-
สงสารเค้ก ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ....
-
จริงเหรอที่คิวจะแต่งงาน
อย่างคิวนี่น่ะ จะยอมให้จับแต่ง
ถ้าแต่งจริง คิวคงยอมตกลงเอง
นี่แสดงว่า คิวไม่มีใจให้เค้ก ที่ผ่านมาแค่เอ็นดูเด็ก
-
ทำไมเรื่องมันพลิกอย่างนี้เล่าา
คิวจะแต่งงานกับนังฝันทำไมกันห๊ะ ไม่สงสารเค้กบ้างเลยอ่ะ
แล้วอย่ามาเสียใจที่หลังแล้วกัน -3-
-
เศร้า ฮือๆๆ :o12:
สงสารเค้กอ่า
พี่คิวไม่เคลียร์อะไรเลย
ติดตามตอนต่อไปจ้า
:mc4: :L2: :L1:
-
น้องเค้กกกก :o12:
ยัยฝันร้ายหลอกจับพี่คิวรึป่าวเนี้ย
-
อ๊ากกกกก
แน่นหน้าอก พูดไม่ออก
พี่คิวเป็นอารายยยยย
ทำไมทำกับเค้กแบบเน้.... :beat:
-
ค้างที่สุดในสามโลกกกกกก T^T
น้องเค้ก น่างสารอ่า ทำไมอยู่ดีๆ พี่คิวถึงจะแต่งงานอ่า แง่งงงงง :serius2:
-
เฮ้ยย !!! ไหงเป็นงี้ นู๋เค้กของชั้น น่าสงารจัง :sad4:
คิว ก็ :เฮ้อ: เหนื่อยใจแทน
P.S. แต่ว่า นะ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอออ :กอด1:
-
ทำไมเป็นแบบนี้ ถ้าจะแต่งงาน
แล้ววันนั้นจูบเค้กทำไม????
T~T......T~T......!!
-
เศร้าาาาาา~ กระซิกๆ
-
ในมุมหนึ่งของเค้ก เจ็บแต่จบ แล้วมันก็จะผ่านไป :pig4: :sad2:
-
เออ..แต่งๆไปเหอะ จะนรก สวรรค์ ก็ไปซะ! :z6: :beat:
ทีนี้เค้กจะได้ร้องไห้แล้วลุกขึ้นยืนซะที :m15:
...บางทีน้องเค้กอาจจะแค่อ่อนไหว ยังไงพื้นฐานเค้กก็แข็งแกร่งเพราะโตมาด้วยความรักความอบอุ่นของครอบครัว ไม่ว่าจะเจออะไรน้องต้องผ่านไปด้วยดีแน่ๆ.....สู้ๆๆ o13
-
น่าสงสารเค้กอ่ะ
-
:sad11:
น้องเค้กก
-
พยายามไม่คิดเรื่องคิวเค้ก
แต่ก้อดคิดไม่ได้
-
สงสารน้องเค้กอะ อิพี่คิวใจร้าย มีอารัยไม่ยอมเคลียร์
-
:a5: เศร้าไปแล้ววววววววววววววว
-
ตัดสินใจจะไม่ไปร่วมงานเลี้ยงตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่สุดก็ได้ไป จนต้องมารับรู้เรื่องการแต่งงานนี้อีก หากเป็นเรื่องจริง ก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึก การไม่เหมาะไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้นะเค้ก แค่ทำตามความฝันเเรกเิริ่ม คือการได้มาเป็นส่วนหนึ่งของร้านเบเกอรี่ในฝันแห่งนี้ เป็นเพียงพนักงานคนนึงแค่นั้น..เพียงแค่นั้น!!! ก็คงจะดีไม่น้อย ....แต่ เพราะความรู้สึกทางใจ เค้กมาำไกลกว่านั้นซะแล้ว :เฮ้อ: ว่ากันว่า ชะตาฟ้ากำหนด ... แต่ถ้าเค้กเหลืออด ก็ปล่อยวางซะเถอะนะ ....
เบบี้.. ขอฉากแต่งงานของคิวกะฝัน แบบว่าอลังการยิ่งกว่างานแต่งของแอฟกะสงกรานต์ด้วยนะ //อ๊ะๆ ขอซีนพี่คิวร้องไห้ในงานแต่งด้วยนะจ๊ะ :z3: (อิอิ ล้อเล่งงงง)
ขอบคุณเบบี้น๊า.. เฝ้ารอคอยอ่านอยู่ทุกวันเวลา คึิคึ
-
เม้นไม่ออก มันจุกไปหมดเลย เจ็บปวด
มันกั๊ดอกเข้าใจ๋ก่อ มันกั๊ดอก!!!!!!
-
มารอคุณเบบี้ค่ะ
จิตใจหม่นหมองมากกกกกกก ประหนึ่งเป็นน้องเค้ก
อย่าทิ้งให้เค้าจุกอกนานนักนะคะ มาไวไวน้า
-
อ่าน กี่รอบๆๆๆ
ก็ได้แต่เศร้า
เศร้า
และ เศร้า สลด
เค้ก ..... ......๑
-
คิว ยอมรับความรู้สึกตัวเองเร็วๆ เซ่ :angry2: ... เค้กเป็นขนาดนี้ คิวก็คงไม่ต่างกันหรอก (เป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งมากๆๆๆ เหมือนไม่ใช่คน 555) สงสารเค้กบรรยากาศมันดูอึมครึมไปหมด อีกไม่กี่ตอนจะเคลียร์แล้วใช่ไหมบี้ :z3: :z3:
-
เบบี้ที่รัก
มาต่อได้แล้ว ความรู้สึกคนอ่านมันเป็นห่วงตัวละครอ่ะนะ
Would you please รีบมา ให้ไว ให้ว่อง!!!
จะจัดแบบเศร้าสุดขั้ว รันทดสุดชีวิต ก้อจัดมาค่ะ
:sad11: :angry2:
-
สาวแตกขึ้นทุกวันเลยยยยยนะ เค้ก ถ้าจะสาวขนาดนั้นไปผ่าเถอะค่ะ
-
สาวแตกขึ้นทุกวันเลยยยยยนะ เค้ก ถ้าจะสาวขนาดนั้นไปผ่าเถอะค่ะ
เป็นไรมากป่ะคะ? เราไม่ได้อยากหาเรื่องนะ แต่เธอเกรียนใส่คนอื่นหลายเรื่องละ นิยายที่เราชอบทั้งนั้น ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่านสิคะ เม้นแบบนี้อย่าเม้นเลยค่ะ เพราะคนแต่งเค้ารู้สึกไม่ดี ถ้าอยากอ่านแบบแมนๆมากก็ไปอ่านแบบชาย&หญิงไปเลยดีไหมคะ? เราไม่ได้ว่าเธอนะ เราแค่เสนอแนวทางที่ดีแก่เธอ
ปอลิงมานอนรอคิวมาเคลียค่ะ :กอด1:
-
เมฆฝนรสมาม่าต้มยำก้อนนี้มันช่างกว้างใหญ่ ไม่ผ่านพ้นไปเสียที
น้องเค้กสู้ต่อ ฮึบบบบบ เข้มแข็งไว้ ดูแล้วพี่คิวก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน
ปล...กดบวกๆ ให้ Pupay ด้านบน คริคริ :L2:
-
อยากร้องไห้ ความรักคือการเสียสละใช่ใหม น้องเค้กได้ทำแล้ว หัวใจแข็งแรง สู้
-
แต่งงานหรอคิว จะเอางัยก็เอาเหอะ
จะรอวันที่เค้กเขิน กร๊ากกก อะไรของตรูฟร่ะ เอาหน่า คิวก็คงต้องมีเหตุผลบ้างแหละ
ถึงคิวจะเข้าใจยาก และเพราะเรารับรู้แต่ฝั่งของเค้กฝ่ายเดียว เราเลยจะรอดูคิวว่าทำงัยต่อไป
-
กดบวกๆ ให้ Pupay :pig4:
-
สาวแตกขึ้นทุกวันเลยยยยยนะ เค้ก ถ้าจะสาวขนาดนั้นไปผ่าเถอะค่ะ
ถึงคุณThengja..
เบบี้ก็ไม่ทราบว่าตรงไหนที่เบบี้สื่อออกไปว่าสาวแตกหรอกนะคะ เบบี้ก็พยายามแล้วในการที่จะให้ "เค้ก" ที่เป็นผู้ชายซื่อและอ่อนโยนนั้นสื่อออกมาให้ไม่ออกสาวมากเกินไปค่ะ เบบี้อยากจะให้คุณลองมองภาพดู ว่าถ้าคุณเป็นเค้ก ไม่ว่าคุณจะมีนิสัยแบบไหนก็ตามหรือแข็งกระด้างก็ตาม คุณจะปฏิบัติตนเองอย่างไร และมีอาการเวลาที่คุณต้องอยู่กับคนที่คุณรักอย่างไร อยากให้คุณลองมองในมุมที่กลับกันหลายๆด้านดู แต่ถ้าลองมองแล้วยังรู้สึกว่าเค้กสาวอยู่ เบบี้ก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ
อยากจะบอกแก่คนอ่านทุกคน..
อีกอย่างหนึ่งเบบี้อยากจะพูดหลายครั้งแล้วค่ะ แต่ก็ไม่อยากออกมาพูดเพราะเห็นว่าคนอ่านกำลังอิน..ฮ่าๆๆ ที่จริงนั้นเค้กไม่ได้ร้องไห้บ่อยเลย หลายตอนที่เบบี้สื่อไป มีเค้กร้องไห้อยู่เพียง 2 ครั้งเท่านั้นนะคะ 1.ฉากที่เค้กโดนคิวตะคอกใส่ กับ 2.ฉากล่าสุดที่เค้กกอดสเมิร์ฟ
แล้วก็อยากจะบอกแก่คนอ่านบางคนนะคะว่าติเตียนหรือพูดอะไรก็อยากให้พูดในเรื่องของนิยายโดยมีเหตุมีผล ขยายความเพื่อให้เบบี้เข้าใจในความหมายของคำพูดนั้นๆของคุณ ถ้ามันไม่ดี..ไม่ดีอย่างไร อีกอย่างหนึ่งคือใช้คำสุภาพไว้คงจะดีกว่า ในกระทู้ของเรื่องนี้เบบี้ยังไม่เคยพูดไม่สุภาพกับใครเลยนะคะ ถ้าจะพูดที่จริงก็ได้(เพราะนั่นคือสันดานบี้) แต่คนเขียนก็เหนื่อยเป็น เบบี้อยากให้รู้ว่าทุกคอมเม้นของคนอ่านมันเป็นเหมือนกำลังใจที่เบบี้เลือกจะเขียนหรือไม่เขียนต่อด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้
-
เป็นกำลังใจให้บี้จ๊ะ
และจะติดตามอ่านไปทุกเรื่องเลย
ปล. +1 และ +เป็ด
-
เห็นUserเบบี้ นึกว่ามาต่อนิยาย อิอิ......
เข้ามากอดเบบี้ จุ๊บๆ .....
เป็นกําลังใจให้นะคะ ......
-
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ไฟท์ติ้งงงงงงงงงงงงงงงงง ~
-
สาวแตกขึ้นทุกวันเลยยยยยนะ เค้ก ถ้าจะสาวขนาดนั้นไปผ่าเถอะค่ะ
เราว่าคุณนั่นแหละที่ควรไปผ่าอย่างด่วน ผ่าอคติและความคิดติดลบออกเถอะค่ะ โลกนี้จะได้น่าอยู่ขึ้น
เป็นกำลังใจให้เบบี้ค่ะ
-
สู้ๆครับผมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นกำลังใจให้ๆ
-
บี้สู้ๆ
เค้กสู้่ๆ
ใครไม่รักหนู พี่จะรับเลี้ยงเอง :กอด1:
-
มาต่อเลยนะคะ เบบี้คนเก่ง จะสุภาพหรือไม่คนอ่านรับได้หมด แฟนพันธ์แท้รออยู่นะคะ
เหวี่ยงลงมาเลย :m16: ระบายออกมาสามตอนรวดก็ได้ สู้ๆ รออ่านอยู่เน้ออ :z13:
-
สู้ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจจ้า อิอิ
-
บางทีคนเราก้อควรที่จะใช้วิจารณ์ญาณในการอ่านนะ เพลียกะเขาจิงๆ
-
เป็นกำลังใจให้เบบี้จ้า o13
มานอนรอน้องเค้กกับพี่คิวตอนต่อไป
ตอนนี้ยังหน่วงๆ มันทำให้อยากอ่านต่อแล้วอ่า
-
อย่าเอาคำพูด "ไม่ดี" ของคน"ไม่ดี" มาใส่ใจเลยค่ะ
เพราะจะทำให้เรารู้สึก "ไม่ดี"
ปล่อยวางนะคะ กอดแน่นๆ
อยากบอกว่านิยายของเบบี้สร้างความสุขและเป็นกำลังใจให้กับคนอ่านอย่างพี่มาก
คอยเป็นกำลังใจอยู่ข้างๆนะคะ :กอด1:
-
มาให้กำลังใจเค้ก และเป็นกำลังใจให้คุณเบบี้ค่ะ :กอด1:
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ o13
-
:เฮ้อ: มันเกิดอะไรขึ้นนนนนนนน
พี่คิวจะแต่งงานจริงอะ ไม่จริงงงง อยากตายยยยยยย :m15:
มันอินและหดหู่จริง ๆ ถึงเค้กจะร้องไห้แค่สองตอน แต่คนอ่านร้องไปหลายตอนแล้ว..... :o12:
-
ฮืออออออออออออ *ปาดน้ำตา*
มันเกิดอะไรขึ้นกับพี่คิวกันแน่ ? ทำไมถึงยอมแต่งงาน
สงสารน้องเค้กอ่ะ T_____________T
ขอเอาสเมิร์ฟของพี่คิวมากระทืบ ๆๆ ให้หายแค้นซักทีเหอะ - -''
-
คุณเบบี้สู้ๆนะคะ คนอ่านเป็นกำลังใจให้ค่ะ (>____<)/
-
ตอนที่แล้วแอบอ่านในที่ทำงาน เลยไม่ได้เม้นท์เลยอ๊า o9
เข้ามาอีกที เห็นคำชี้แจง...ยังไงพี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเค้กที่เป็นแบบนี้ แล้วก็ให้กำลังใจน้องเบบี้ด้วยนะ :กอด1:
ก่อนออกไปขอ :beat: พี่คิวก่อน เคืองอ่ะ ทำเค้กร้องไห้ :angry2:
-
ใจจะขาดแล้วเอ๊ยยยยยยย :sad4:
-
เศร้าและไม่เข้าใจพี่คิว
แต่น่าจะมีอะไรทำให้เข้าใจผิดป่าว
-
ก อดเปนกำลังใจให้พี่บี้1ที :: :ก สู้ๆค่ะ
ปล. คนที่เกรียนแดกคนนั้นค่ะ ที่คุณว่าคนอื่นนั้นมันคือสิ่งที่คุณเปนรูป่าว กรุณาอย่ามาเกรียนแถวนี้ ในเฝ้ามีแต่คนที่เข้ามาอ่านนิยายและเปนกำลังใจให้คนเขียน ถ้าคุณไม่ใช่ก็ไปที่อื่นเถอะค่ะ
ผ อด1:
-
อย่าไปใส่ใจเลยครับ ในโลกนี้มีคนดีกับคนไม่ดีป่ะปนกันไปหมด
และผมเชื่อว่า 99.99% ในเล้ารักและติดตามผลงานพี่บี้เสมอมา
ส่วนอีก 00.01% ผมไม่รู้ อาจจะเป็นเกรียนคนนั้นก็เป็นได้ แต่มันก็
แค่ส่วนย่อยเท่านั้น ส่วนของเนื้อเสียที่คนเขาไม่ใส่ใจ พี่บี้
ก็อย่าไปสนใจเลย จะทำให้บั่นทอนอารมณ์ออกมาเสียป่าวๆ
รู้แค่ว่า ผมหนึ่งใน 99.99% ยังติดตามนิยายเบบี้ เสมอมาและตลอดไป
เป็นกำลังใจให้เสมอนะพี่บี้ เขาบอกว่าคนทำดีมักจะมีมารมาผจญเสมอ
คิดอย่างนั้น และอย่าไปใส่ใจกับอีพวกมารเลยครับ
ป.ล. ส่วนคุณเกรียน คงรู้ๆกันอยู่ คอมเม้นอะไรก็ควรคิดก่อนตอบนะ ถ้าไม่ชอบก็กดปิด จบป่ะ
ถ้าจะมาก่อกวนก็ขอให้ไปอย่าสงบ เพราะมันคงไม่เกิดผลดีต่อใครแน่ๆ ผมเป็นคนพูดตรง
ถ้าไม่พอใจหรือสร้างความรำคาญแก่ผู้อ่านท่านอื่นก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วย ก็แค่สมาชิกเล้าคนหนึ่ง
ที่อยู่กับเล้ามานานพอสมควร และไม่พอใจกับอะไรแบบนี้อยู้แล้ว หวังว่าคงเข้าใจนะ
-
เกลียดพี่ฝันว่ะ ทำทุกอย่างเผื่อให้ตัวเองแต่งงานกับพี่คิวซินะ ไม่ใหวเลยจริงๆ
สงสารเค้กมากกกก ทำไมน้องต้องมาเจอแบบนี้ เจ็บปวดแทนเลย
แล้วทำไมพี่คิวยอมแต่งงานเนี่ย อยากรู้จังเลย
-
พี่เบบี้อย่าสนใจเลยน๊าๆ
มีคนเป็นกำลังใจให้พี่เยอะแยะเลย ^^ สู้ๆนะ
น้องเค้กยังน่ารักเสมอ ส่วนพี่คิว :m16: อารมณ์ฺยังค้าง 55
รักคิวเค้ก ><! :กอด1:
-
เปลี่ยนพระเอกเลย พี่คิวใจร้าย
-
เบบี้
ในความรู้สึกเรา เบบี้แลเข้มแข็งออก
แถมโคตรแมนเลย แมนเหมือนข้าว เหมือนเมตร เหมือนพี่คิว ไรงี้ ฮ่าๆๆๆ
:o8: :-[ :impress2:
อย่านอยด์เลย อะไรที่ไม่ดีจะตกกับเบบี้คนเดียวนะ
ไงก้อเอานิยายมาต่อเสียดีๆ อย่ามา.... :z6:
take care :กอด1:
-
ก็แค่คนเกรียนๆที่มาระรานคนอื่น
เราชอบตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้
เราชอบเค้กที่เป็นแบบนี้ เค้กไม่ได้อ่อนแอแต่เค้กใสซื่อบริสุทธิ์
ชอบพี่คิวแบบนี้ กวนตีน เข้าใจยาก แต่หล่ออ่ะ :impress2:
ชอบพี่ฟ้า พี่เซ็น พี่หมี กัส ซี ออฟ
มีคนตั้งมากมายที่ชอบและติดตามเบบี้เสมอ อย่าไปนอยด์กะคนแบบนั้นเลยค่ะ
:L2: :กอด1:
-
ชอบเรื่องนี้ของเบบี้มาก รักตัวละครทุกคนในเรื่อง ครอบครัวเค้กที่มีแต่ความรักหล่อหลอมเค้กให้เป็นเป็นคนน่ารักเช่นกัน
ส่วนครอบครัวคิวเป็นครอบครัวใหญ่นักธุรกิจมันก็มีเรื่องเยอะเป็นธรรมดา
ชอบบรรยากาศที่ร้านซึ่งมันก็อบอวลไปด้วยความรักความปราถนาดีที่ทุกคนมีให้เค้กมากมาย
ส่วนฝันก็เป็นบุคคลธรรมดาที่พบเจอได้ในสังคมที่ต้องมีทั้งด้านดีและไม่ดี
ทุกตัวละครมันก็สะท้อนถึงความเป็นไปของสังคม บุคคลอ่ะ
เชื่อว่าความรู้สึกที่คิวมีกับเค้กไม่เฟคแน่นอน คิวทำไปอย่างนั้นก็ต้องมีเหตุผลแหละ เค้กใจเย็นๆนะคะ ยังไม่ได้ฟังความจริงจากปากพี่คิวโหดอย่าเพิ่งทุกข์ใจไปก่อน อิอิ
ปกติอ่านอย่างเดียวไม่ค่อยเม้น แต่เม้นนี้อยากเข้ามาให้กำลังใจน้องเบบี้นะคะ ในเล้านี้มีคนรักเบบี้มากมายก่ายกองอย่าไปใส่ใจเม้นที่ทำให้เรารู้สึกแย่ซึ่งมีเพียงน้อยนิดเองค่ะ
:กอด1: :กอด1:ให้กำลังใจค่ะ
-
อรั้ง.....เบบี้ เรารักเธอ
เป็นกำลังใจให้เธอ ส่วนคนเกรียน...อืม ไม่อยากด่าเพราะคงโดนไปเยอะแล้ว ฮ่าๆๆ
รอฟ้าหลังฝน...รอวันที่ทุกอย่างกระจ่างขึ้นมา
ฮือ...ขออีกสักตอนเถอะ เค้าอึดอัดอ่ะตัวเอง
-
:sad4: :o12:
-
อ่านตอนที่ผ่านมาทำเอาน้ำตาซึมเลยค่ะ
สงสารเค้กมากมาย T^T
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ ^^
-
อยากรู้ความร้สึกคิวตอนนี้
-
ตอนต่อไปจะเป็นยังไงนะ อยากรู้ใจจะขาดแล้วววววววววววววว
ยังรอเสมอค่ะเบบี้
-
มามอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้คุณเบบี้ค่ะ :L2: :กอด1:
-
:L2: :L2: :L2:
ขอเป็นกำลังใจให้เบบี้ สู้ๆ
สงสัยจังว่าเขาอ่านยังไงถึงมีความรู้สึกว่า
เค้กสาวแตก???? .....ติ่งเกรียนมากกกกก!
-
เข้ามาให้กำลังใจ เบบี้อีกคนค่ะ
เพราะติดตามอ่านนิยายของเบบี้มาตลอดทุกเรือง แต่นานๆเข้าเล้าที
เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเม้นค่ะ :)
จากการที่อ่านนิยายเบบี้มาตลอด บอกได้เลยว่า
นิยายของเบบี้ "มีคุณภาพ" ทุกเรื่องค่ะ
ใส่ใจในนิสัยตัวละคร การแสดงความรู้สึก ความคิด ทุกอย่าง
รับรู้ได้จากการอ่านค่ะ ^^
เชื่อว่าคนส่วนมากกกกกที่อ่านนิยายของเบบี้
รักนิยาย ตัวละคร และเบบี้นะคะ
เเต่สำหรับบางคนที่เค้าไม่เข้าใจ ขวางโลก ทำอะไรโดยไม่คิด ก็อย่าเอาเค้ามาใส่ใจเลยค่ะ
มีคนอีกมากกก แคร์ความรู้สึกเบบี้และให้กำลังใจเบบี้นะคะ
สู้ๆๆนะคะ
ปล. หวังว่าจะได้อ่านนิยายคุณภาพของเบบี้ไปอีกนานนนนเลยนะคะ
-
เบบี้ ฉันรักเธอ :กอด1: รักนิยายของเธอ ^^
รอนะ รอตอนต่อไปของบี้อยู่น้า
-
หากเขาคนนั้นจะคิดหรือจะเกรียนจะอะไรยังไงก็แล้วแต่...
อย่าไปสนใจมัน!!!!
แค่เบบี้มีนิยายสนุกๆที่อ่านแล้วรู้สึกมีความสุข เราก็ดีใจแล้วล่ะ เปิดอ่านมาเจอพี่คิวก็ดีใจแล้ว
คิวสุดหล่อ คริคริ >//<
-
จงมาต่อๆ :oni3: สามตอนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
พยายามจะทำความเข้าใจกับคิวอยู่ว่า หลายสิ่งหลายอย่างระหว่างคิวกับเค้ก มันอาจจะไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรมากมายนักก็ได้ มันอาจจะเกิดจากความรู้สึกดีหรือความใกล้ชิด ซึ่งท้ายที่สุดสำหรับคิวมันก็อาจไม่ใช่ความรัก
แต่แค่ยังไม่เข้าใจถึงเหตุของการแต่งงาน คนหัวดื้ออย่างคิวจะยอมเหรอ ทั้งที่ไม่ได้รักไม่ได้ชอบฝัน ถ้าคิวไม่พูด อาฟ้าน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะมาเฉลยความจริง
สำหรับเค้ก ไม่ว่าจะอย่างไร ถึงจะไมใช่คิว ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป มันต้องมีวันที่เป็นของเราสักวันล่ะนะ
:กอด1: เบบี้จ้ะ
-
เป็นกำลังใจให้เบบี้จ้า :L2: :L2:
แต่ยังรอเค้กอยู่นะจ๊ะ
-
แว่บมาดู ,,
น้องเค้กจะหายจากโหมดเศร้าในตอนหน้ามั้ย
หรือยังต้องเศร้าต่อไปอีก
อ่อยยย ปวดใจจัง เรื่องความรัก มาทักทายแบบกะทันหัน
ไฟท์ติ้งงงง
><
-
แว่บมาดู เข้ามารอ เบบี้ :m1: :m1: :m1:
-
ขอบคุณน๊า :pig4: :pig4:
-
มัวแต่เศร้ากะน้องเค้ก
อ่านอีกรอบ
ปลาบปลื้มคู่พี่หมีน้องกัส เบาๆ
น่ารักจัง
เค้าจะคู่กันไหม
เราเชียร์ไปแล้ว :o8:
-
รอเค้ก-คิว นะค๊ะ แบบอึมครึมมานานแล้ว
อยากให้คิวเคลียร์ตัวเองบ้างอะไรบ้างจัง :pig4:
-
เบบี้อย่าไปแคร์เลยตัวเธอ ดูนิยายเรื่องนี้สิ ฮอตเป็นบ้าเป็นหลัง เป็ดติดกันยิ่งกว่าละครเย็นวิกหมอชิต ยอดวิวกับเม้นท์สูงแบบไม่เจออย่างนี้ในดล้ามานานแล้ว เบบี้เขียนได้ดึงความรู้สึกสุดๆ เลย เพราะงั้นมีติ่งสัมภะเวสีมาเยี่ยมเกรียนบ้างย่อมเป็นสามัญโลก บางทีเป็ดเด็กที่มาจากเวปอื่นก็สื่อสารคนละภาษากับชาวเรา ไม่ใช่มีเจตนาไม่ดีหรอก เท่าที่สังเกตอ่ะนะ โอมจงชิลล์ๆ ลงนิยายมาให้(คนอ่าน)หายเครียดเถิด
-
อ้าว จะแต่งงานทำไมเนี่ย
-
มารอค่ะ :กอด1:
-
ง่ะ แล้วเค้าจะนอนหลับไหมอ่ะ จริงๆหรอ ไอ่เชฟบ้าจะแต่งงานจริงหรอ ไม่น่าาาาาแล้วเค้กจะเอาไว้ไหนล่ะ :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
พี่คิวจะทิ้งน้องเค้กไปแต่งงานแล้วเหรอ :z10: :z10:
-
รอเบบี้มาต่อ เบบี้สู้ๆๆๆ o13 o13
-
อยากอ่าน ^_^
-
:sad4: เขารออยู่นะ
-
มาให้กำลังใจบี้นะคะ :L2:
ห่างกันแค่เพียง สามวัน ก็คิดถึงเค้ก มากๆ :กอด1:
-
"พี่คิวขาาาาาาาาาาาาาาาา" ตะโกนเรียกแล้ววิ่งเข้าหา จากนั้นก็....... :z6:
ดร๊วกกกกกกกกกกกกกกก :angry2: ทำอะไรสักอย่างดิเว้ !!!!!
(ขออภัยที่ของขึ้น)
สงสารน้องเค้กสุดใจ :o12: ไม่มีอะไรจะกล่าว
ปล. แต่พี่หมี - น้องกัส นี่อะไรยังไง กิ๊วๆๆ :-[
ขอบคุณเบบี้สำหรับความคืบหน้าอีกตอนค่ะ :กอด1:
เรายังคงมีความหวัง มันเศร้า มันหน่วงสุดๆ แล้วมันต้องค่อยลดลงสิน่าาาาาา (รึยังไม่สุด ???)
เป็นกำลังใจให้เบบี้เสมอจ้ะ :L2:
-
~48~
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“สวัสดีครับพี่รุจ” ผมยกมือไหว้พี่รุจ ตอนนี้พี่รุจกำลังเปลี่ยนเวรต่อให้กับพี่ซีที่เพิ่งเดินทางมาถึงร้าน ปกติผมจะไม่ค่อยได้เจอพี่รุจบ่อยนักเพราะวันที่พี่รุจมาทำงานวันนั้นไม่ใช่เวรงานของผม
“สวัสดีครับ” พี่รุจยิ้มตอบ
“เป็นไงบ้างคะ..งาน โอเคไหม” พี่ซีถาม พี่ซีเป็นรุ่นพี่ของพี่รุจหนึ่งปี ส่วนผมเป็นรุ่นน้องพี่รุจหนึ่งปี ผมปี 1 พี่รุจปี 2 ส่วนพี่ซีปี 3
“ก็ดีครับ เกร็งๆนิดหน่อย” พี่รุจยิ้มแหย
“เดี๋ยวก็ชิน ถามน้องใหม่ที่เป็นน้องเก่าอย่างเค้กได้..หึหึ”
“ใช่..เดี๋ยวก็ชินครับ” ผมยิ้มเป็นกำลังใจให้
“เชฟคิวน่ะ เวลาทำงาน..เค้าจะไม่ยอมยิ้มเหรอครับ” พี่รุจพูดเชิงถาม
“หึหึ” พี่ซีหัวเราะ ผมได้แต่ยิ้มเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร
วันนี้เป็นวันศุกร์ ผมรู้ดีว่าวันนี้เป็นเวรของพี่คิวด้วย ที่จริงผมไม่อยากมาเลยแต่เลือกไม่ได้นี่ครับที่จะไม่มาทำงานโดยสาเหตุเพียงเพราะเหตุผลส่วนตัว เหตุผลที่ทำให้ผมนึกลาออกจากร้านนี้ไม่ได้เสมอ นั่นก็คือความรู้สึกของผมในตอนแรกที่อยากเข้ามาทำงานในร้านนี้ เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่าผมไม่อยากมาเลยเพราะเหตุผลงี่เง่าของผม ผมมักจะนึกถึงความรู้สึกนั้นตลอด ความรู้สึกที่หลงใหลในร้านร้านนี้ ความรู้สึกปลาบปลื้มและยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของร้าน ความรู้สึกของทุกคนในร้านที่ต้อนรับผมอย่างเต็มใจ
ผมเดินออกมาจากห้องพักสำหรับพนักงาน พี่หมีกับพี่กัสกำลังวุ่นอยู่กับการให้บริการลูกค้า
“เค้กไปรับโคลด์ ราติโอ้ คาราเมลจากพี่คิวมาเสิร์ฟโต๊ะเอฟให้พี่หน่อย..แล้วช่วยไปดูลูกค้าโต๊ะเอให้หน่อยนะ มีเด็กมาด้วยน่ะ รับมือแทนที..แม่งโคตรร้าย” พี่หมีพูดพร้อมกับตบไหล่ผม ผมพยักหน้าตอบและรีบเดินเข้าครัวแม้ว่าตอนนี้อารมณ์ที่ไม่อยากเข้าไปในครัวนั้นยังเต็มเปี่ยมเช่นเดิม
“รับโคลด์ ราติโอ้ คาราเมลครับ” ผมพูด คนในครัวกลับตัวหันมามอง พี่คิวชี้ไปที่แก้วที่วางอยู่บนโต๊ะที่เป็นโต๊ะสำหรับวางอาหารพร้อมเสิร์ฟ ผมเดินไปหยิบถาดและหยิบแก้วมาวาง
“ระวังหกล่ะ” พี่คิวพูดขึ้น
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบแต่ไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย
“เค้ก” ผมสะดุ้งและหยุดชะงัก ใจเต้นแรงเมื่อได้ยินพี่คิวเรียกชื่อผมอีกครั้ง
“.......................” ผมเงียบและไม่ได้หันหน้ากลับไปมองพี่คิว
“เปล่า” พี่คิวบอก ผมพยักหน้าตอบทั้งอย่างนั้นก่อนจะยกถาดและเดินออกจากห้องครัวมา
“โคลด์ ราติโอ้ คาราเมลครับ” ผมยิ้มให้ลูกค้า
“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มตอบ ผมก้มหัวให้เธอก่อนจะเดินนำถาดมาเก็บและเดินไปทักทายลูกค้าที่โต๊ะเออย่างที่พี่หมีสั่งไว้ เด็กที่พี่หมีสั่งให้ดูแลนั้นค่อนข้างซนมากและไม่ยอมฟังเสียงเตือนของพ่อแม่ตัวเองเลย ผมกลัวแทบแย่ว่าน้องจะวิ่งไปชนของตกแต่งของร้านเข้า
กริ๊ง~~
“เชิ..” ผมชะงัก พี่ฝันหยุดยืนตรงหน้าผม
“เชิญครับ” ผมหลบตาของพี่ฝันทั้งๆที่เธอนั้นมองผมด้วยสายตาปกติ ไม่ได้เย้ยหยันหรือดูถูกอะไร
“คิวล่ะ” พี่ฝันถาม
“ทำอาหารอยู่ในครัวครับ” ผมตอบ พี่ฝันเงียบไปครู่หนึ่ง
“งั้นฉันฝากให้เธอนำนี่ไปให้คิวด้วย” พี่ฝันยื่นหนังสือเล่มหนาเล่มหนึ่งมาให้ผม ผมก้มลงมอง สมุดปกแข็งที่ดูหรูหรา หน้าปกเป็นลายลูกไม้สีขาวผสมกับสีทอง
“แบบแหวนที่ฉันต้องการน่ะ ฉันอยากให้เธอนำไปให้คิวกับมือ..เดี๋ยวนี้” ผมได้แต่เพียงยืนฟังเธอพูด ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง หนังสือตรงหน้าผมนี้กำลังตอกย้ำความจริงต่อผม ว่าสิ่งที่ผมได้ยินเมื่อสามสี่วันก่อนนั้นเป็นความจริง
“แล้วฝากบอกคิวด้วยว่า..เย็นนี้ ฉันรอที่คอนโด เท่านี้ล่ะ..ขอบคุณ” พี่ฝันพูดจบ เธอก็ก้าวเดินออกจากร้านไปในทันที
“อะไรน่ะเค้ก” พี่ซีเดินเข้ามา
“.....................” พี่ซีอึ้งและเงียบไป ผมเงยหน้าและหันไปยิ้มให้พี่ซีแทนคำตอบ
“เอาไปให้พี่คิวก่อนนะครับ” ผมบอก พี่ซีพยักหน้าตอบ ผมเดินนำมันเข้ามาในครัวอีกครั้ง
“ขอโทษครับ” ผมเอ่ย
“ว่า..” พี่คิวเลิกคิ้วและวางมีดลงบนเขียง ผมเดินเข้าไปหาพี่เขา พี่คิวมองมาที่ผมอย่างสงสัย
“พี่ฝันฝากให้เอามาให้ครับ แบบแหวนที่พี่เค้าต้องการ” ผมพูด
“แล้วพี่เค้าบอกว่า..เย็นนี้จะรอที่คอนโด ครับ” ผมยื่นหนังสือไปให้ ผมค้างมืออยู่อย่างนั้นอยู่นานเพราะพี่คิวไม่ยอมรับไปสักที
“......................” พี่คิวยังคงยืนนิ่งเฉยและไม่ยอมพูดอะไร
“งั้น..ผมวางไว้ตรงนี้นะครับ” ผมบอกและวางมันลงบนโต๊ะ พี่คิวไม่ได้พูดตอบอะไร ผมรีบจ้ำเท้าเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเร็วที่สุด
“แครมบูรูเล่ สองท..” พี่ซีชะงักมองหน้าผม
“ค..เค้ก เป็นอะไรรึเปล่า” พี่ซีเดินตรงเข้ามาจับหน้าผมในทันที สีหน้าพี่ซีไม่ดีนักแต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมหรือพี่ซีที่มีสีหน้าแย่กว่ากัน ถึงขนาดที่ทำให้พี่ซีหน้าเสียไปได้ขนาดนี้
“อ่ะ เอ่อ..” พี่ซีอ้ำอึ้ง
“เรื่องพี่คิวใช่ไหม เค้ก” พี่ซีเอื้อมมือขึ้นลูบแก้มผมอย่างเบามือ ผมฉีกยิ้มกว้างให้
“เค้กไม่ต้องฝืนขนาดนี้ก็ได้นะ” พี่ซีพูด
“เค้กเปล่านี่ครับ” ผมยิ้มพูดพร้อมกับยักไหล่ให้
“เอ่อ..นี่ออร์เดอร์โต๊ะไหนเหรอครับ” ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องและหยิบกระดาษในมือของพี่ซีขึ้นมาดู
“แครมบรูเล่..มีนาไมโม บาร์ด้วย” ผมอ่าน
“ฝืน..” พี่ซีพูดและหยิบกระดาษออกจากมือผมไป ผมชะงักและได้แต่เพียงยืนเงียบ
“กับไม่คิดอะไรเลย มันคนละความหมายกันนะเค้ก” พี่ซียิ้มน้อยๆก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไป
“หึ..” ผมหัวเราะให้กับความงี่เง่าของตัวเอง โดนจับได้ตลอดสินะ..
= = = = = = = =
ณ บ้านของแก้ว..
“พีทเอารายงานกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาสิ” แก้วสั่ง พีทหยิมรายงานที่ว่าให้ วันนี้เป็นวันเสาร์และเป็นครั้งแรกที่ผมขอลาหยุดงาน
“อันนี้เสร็จแล้วนะ แล้ว..งานเดี่ยวล่ะ จะเอาไว้ที่แก้วด้วยรึเปล่า”
“อืม” ผมพยักหน้าตอบแล้วยื่นใบงานวิชาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กับแก้ว พีทเองก็เช่นเดียวกัน
“อ่ะ..อันนี้การตลาด” พีทยื่นกระดาษให้กับแก้ว
“รวมกันเลยเหรอเค้ก” แก้วหันมาถาม
“แม็กรวมกันไปเลย” ผมพยักหน้าตอบ
“แล้วเอาไว้ที่แก้วแหละ”
“งั้นก็เหลือแต่วิชาภาษาอังกฤษสินะ” แก้วทำหน้าหงิก
“อื้อ” ผมยิ้มอย่างเหนื่อยๆด้วยเช่นกัน หลังจากสอบกลางภาคผ่านไป งานที่จะต้องส่งนั้นเยอะมากจนทุกคนหัวหมุนไปหมด
“แต่กูขี้เกียจแล้ว” พีทบ่นและนอนลง หลายครั้งที่พีทมีอาการขี้เกียจแบบนี้และบ่นว่าจะไม่ทำการบ้านแล้ว แต่ทั้งผมและแก้วต้องคอยฉุดพีทขึ้นมาเสมอไม่ว่าพีทจะบ่นบ่อยมากแค่ไหนก็ตาม อย่างน้อยผมอยากให้พีทผ่านไปพร้อมๆกับเรา
วันนี้พวกเรานัดกันมาทำการบ้านที่บ้านของแก้ว ผมโทรไปขอลางานกับพี่ฟ้าโดยอ้างว่าการบ้านเยอะมากและมีโครงงานต้องส่งภายในอาทิตย์หน้า พี่ฟ้าอนุญาตและไม่ได้ท้วงติงอะไร การบ้านเยอะมากก็เหตุผลหนึ่งส่วนการที่ผมยังไม่พร้อมไปทำงานก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่พ่วงอยู่ด้วย เราได้มาทานอาหารกลางวันที่บ้านแก้วโดยแม่ของแก้วได้โชว์ฝีมือด้วยตนเอง เราใช้เวลาทำการบ้านกันมาเกือบสี่ชั่วโมงแล้ว งานเสร็จไปถึงสองสามชิ้น งานทุกวิชาล้วนต้องส่งภายในอาทิตย์หน้าและผมกับแก้วอยากทำให้เสร็จก่อนวันอาทิตย์นี้เพราะไม่อยากให้ไฟลนก้นน่ะครับ
“ฮื้ม..” แก้วหน้างอ ส่ายหัวไปมาอย่างไม่พอใจกับอาการของพีทในตอนนี้
“เดี๋ยวภาษาอังกฤษกูกับแก้วทำเองก็ได้ แล้วมึงค่อยมาลอกแล้วกัน” ผมตัดความ
“กูรักมึงจัง” พีทเหลือบตาขึ้นมองหน้าผมก่อนที่จะหลับตาลง
“ผู้ชายอะไร ไม่ได้เรื่องเลย” แก้วบ่น
“หึ..” พีทหัวเราะให้กับคำบ่นของแก้ว ผมนั่งทำการบ้านภาษาอังกฤษต่อ ที่จริงเป็นการบ้านงานเดี่ยวแต่คงต้อช่วยๆกันทำเพราะทั้งผมและแก้วมีความเข้าใจในแต่ละจุดที่ต่างกัน
“กินขนมก่อนลูก” แม่ของแก้วเดินนำถาดขนมมาเสิร์ฟให้
“ขอบคุณครับ” ผมกับพีทพูดพร้อมกัน พีทรีบลุกขึ้นนั่งในทันที
“ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหม แม่จะได้ทำเผื่อ” แม่ถาม วันนี้แม่ผมบอกว่าจะทำต้มข่าไก่รอไว้ เป็นเมนูที่ผมขอร้องให้แม่ทำเพราะรู้สึกอยากกินมาหลายวันแล้ว
“ไม่ละครับ ขอบคุณมากครับแม่” ผมยิ้มตอบ
“จ้า..” แม่ยิ้มก่อนจะเดินไป
“พีท..กินดีๆสิ” แก้วบ่นเสียงหลงเมื่อเห็นพีทกินขนมหกเรี่ยราดเต็มโต๊ะไปหมด
“เอ้ แก้วอ่ะ”
“พีท ทำไมเป็นคนแบบนี้นะ”
“แก้วบ่นมาก น่ารำคาญนะรู้ไหม” พีทขมวดคิ้ว ผมได้แต่นั่งมองทั้งสองคน
“พีทก็ทำตัวดีๆสิ”
“แค่นี้พีทยังน่ารักไม่พออีกเหรอ หึ” อยู่ๆพีทกลับเปลี่ยนสีหน้าเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แทนจนผมแทบตามอารมณ์ของมันไม่ทัน
“ไอ้บ้า” แก้วว่า
“เค้ก..”
“เค้ก”
“เค้ก!” ผมสะดุ้ง
“ห๊ะ..อะไร” ผมมองหน้าทั้งสองคน
“เค้กเป็นอะไรน่ะ” แก้วถามด้วยสีหน้าไม่สบายใจ ผมรีบยิ้มกว้างให้
“คิดไรไปเรื่อยเปื่อย” ผมบอกแล้ววางปากกาลงก่อนที่จะทิ้งตัวลงนอนบนพื้นอย่างช้าๆ ทั้งสองคนยังคงเงียบและจับจ้องมาที่ผม
“เรื่องไอ้พี่หล่อเทพเชฟไฮโซนั่นใช่ไหม” พีทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนรู้ทัน
“อะนะ..หึ หล่อเทพเชฟไฮโซ” ผมหลุดหัวเราะให้กับคำเปรียบของพีท ผมหยิบหมอนมาหนุนหัวและตะแคงตัวหันหลังให้ทั้งสองคน
“พักแป๊บนะ เหนื่อย” ผมบอก
“เค้กเป็นอะไรเหรอ เค้กดูไม่ค่อยดีมาหลายอาทิตย์แล้วนะ” แก้วพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“แก้วจะร้องไห้เหรอ ไอ้เค้ก..มึงดูหน้าแก้วดิ” พีทโวยวาย ผมหันกลับไปมอง แก้วนั่งหน้าหงอยเหมือนจะร้องไห้อย่างที่พีทบอกจริงๆ
“ทำไมเค้กไม่พูดกับพวกเราล่ะ ถ้าเค้กไม่อยากพูดบอกพีทก็ได้นะ..ไล่ให้พีทไปที่อื่นก่อนแล้วเรามาคุยกันสองคนก็ได้” แก้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น
“ได้ไงอ่ะแก้ว โว๊ะ” พีทโวยวายด้วยความไม่พอใจ ผมหัวเราะให้กับอาการของทั้งสองคน
“เค้กโอเค” ผมบอกและตะแคงตัวหันกลับมาทางด้านที่สองคนนี้นั่งอยู่
“.......................” อยู่ๆเราก็เงียบลงพร้อมกัน พีทยังคงไม่หยุดกิน ส่วนแก้วก็นั่งนิ่งจ้องมาที่ผมอย่างกับหุ่น
“อีกไม่กี่วัน พี่คิวก็จะหมั้นแล้วล่ะ” ผมพูดขึ้น ตามองนิ้วของตัวเองที่เขี่ยอะไรบนพื้นไปเรื่อยเปื่อย
“ห..ห๊ะ!” แก้วอุทานเสียงดัง
“เห็นว่าจะแต่งให้เร็วที่สุด คง..อีกอาทิตย์สองอาทิตย์นี้เลยละมั้ง” ผมพูดปนหัวเราะ
“เฮียละ” พีทเล่นเสียง ที่จริงมันคงต้องการจะพูดว่า “เหี้ยแล้ว” ต่างหากละมั้งครับ
“พี่เค้าทำผู้หญิงท้องเหรอวะ” พีทว่า
“เชี้ย” ผมว่ามัน คิดได้นะไอ้เพื่อนคนนี้..
“เอ้า..ก็จริงๆอ่ะ มึงดูดิ คู่ไหนแต่งกะทันหันนะ ท้องรายไหนรายนั้น” พีทพูดไปหัวเราะไป
“พี่คิวไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย” ผมบอกเสียงเบา
“มึงรู้ได้ไง” พีทย้อนด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ไม่รู้” ผมตอบและสมองผมเริ่มคิดตามคำพูดของพีทไปไกล
“แก้ว..แก้วไม่คิดว่าเค้ก จะรักพี่คิวจริงๆ” แก้วพูดตะกุกตะกัก
“แก้วคิดว่าเค้กแค่ชอบ หรือปลื้ม..เฉยๆ” ผมได้แต่นอนฟังอย่างเงียบๆโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหน้าแก้ว พีทเงียบไป
“ทำไมเค้กเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะ เหมือนกับตอนหยกกับคุณเลยใช่ไหม..ทำไมเค้กไม่ระวังตัวเลย” แก้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดีเท่าไหร่ เธอพูดเอ่ยไปถึงแฟนเก่าของผม “หยก” คือผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาจีบผมก่อน ผมรักเธอมาก มากจนแทบลืมนึกถึงตัวเอง และผู้หญิงอีกคนคือคุณ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก สดใส สวยและมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก เธอเป็นฝ่ายที่เข้ามาจีบผมก่อนเช่นเดียวกัน แน่นอน..ผมถูกเธอหลอก แต่ผมไม่โกรธหรอก ไม่เคยโกรธพวกเธอเลยแม้สักนิดเดียว ผู้ชายอย่างผมคงไม่เหมาะสมจะได้คู่ควรกับพวกเธอเหมือนกับผู้ชายอย่างพีทเองละครับ ผมถึงได้ถูกทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
"เค้กไม่รู้” ผมพูด อยู่ๆน้ำตาเพียงหยดหนึ่งก็ไหลลงมาอย่างที่ผมไม่ทันได้รู้ตัว ผมนอนตาเหม่อลอยไปไกล พยายามไม่นึกถึงเรื่องของพี่คิวให้มากนัก พยายามไม่สอบถามถึงความรู้สึกของตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่มีน้ำตาออกมามากไปกว่านี้
“เค้กก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าเค้กรู้สึกแบบนี้กับคนๆนั้นไปได้ยังไง..”
“เมื่อไหร่..”
“ตลกจัง” ผมบ่นพึมพำ เราทั้งหมดเงียบไปเกือบห้านาที ในห้องมีแต่เสียงลมหายใจของกันและกัน
“เค้ก” แก้วเรียกเสียงเบา
“พี่เค้าไม่มีทางมาสนใจคนอย่างเค้กหรอก ทำไมเค้กถึงลืมตัวนะ” ผมบ่นกับตัวเอง
“หึ..แถมเป็นผู้ชายอีกต่างหาก” ผมหัวเราะ น้ำตาที่ไหลเมื่อกี้เหือดแห้งไปแล้วและไม่มีน้ำตาไหลออกมาอีก เราต่างฝ่ายต่างเงียบไปอีกครู่หนึ่ง ไม่มีใครพูดอะไรอีก ผมนอนนิ่ง พีทเอนตัวพิงโซฟาที่อยู่ทางด้านหลัง แก้วยังนั่งอยู่ที่เดิม ในท่าเดิม ด้วยสีหน้าคงเดิม
“พี่คิวเค้ารู้รึเปล่าว่าเค้กชอบ” แก้วถามขึ้น
“แหม..ไอ้เค้กออกอาการขนาดนี้ สนิทกันขนาดนี้ ถ้าพี่เค้าไม่รู้โดยส่วนตัว พีทว่าแม่งโคตรควายไปแล้วแหละ” พีทบ่นขึ้นเสียงดัง
“อีกอย่าง..จากที่กูเคยฟังมึงเล่า มึงไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหาพี่เค้าสักหน่อย พี่เค้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเริ่มมาก่อนน่ะ” พีทพูด คำพูดของพีทสะกิดใจผมเข้าอย่างจัง และผมเกือบจะเข้าข้างตัวเองอีกครั้ง แต่พอภาพแห่งความเป็นจริงลอยขึ้นมาผมกลับต้องกลับมายืนอยู่จุดๆเดิมในทันทีทันใด
“งั้นทำไมเค้กไม่ลองบอกรักพี่คิวดูล่ะ” แก้วพูด
“......................” ผมเหลือบตาขึ้นมองแก้วอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าแก้วจะพูดออกมาแบบนั้น ทั้งผมและพีทเงียบลง
“ลองบอกรักดู ก็ไม่เห็นเสียหายนี่” แก้วพูดและยิ้มออกมาน้อยๆ
“ถ้ามันเป็นอย่างที่พีทพูดจริงๆ ถ้าพี่เค้าเองก็รู้ว่าเค้กชอบ..แต่พี่เค้ายังปฏิบัติต่อเค้กแบบนี้ แสดงว่าพี่เค้าก็คงไม่ได้รังเกียจเค้กหรอก”
“แต่..” ผมลุกขึ้นนั่ง สมองของผมกำลังประมวลคำพูดของแก้ว ผมยังจับใจความไม่ได้นักว่ามันหมายความว่าอะไรบ้าง แต่ผม..อยากฟังอีก
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่เค้าจะชอบเค้กสักหน่อย” ผมบอก
“ก็ใช่ แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย..ที่เค้กมาจมปลักอยู่คนเดียวแบบนี้ เพราะเค้กค้างคาไม่ใช่เหรอ..แก้วไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถ้าเค้กจะไม่ยอมทำอะไรสักอย่าง เค้กก็ควรหยุดที่จะซึมเศร้าได้แล้ว” แก้วบอก ผมเงียบ ให้หยุดซึมเศร้าอย่างนั้นเหรอ แต่ว่า..
“พี่คิว เอ่อ..พี่คิว เคยจูบเค้กด้วย” ผมพูดอย่างอายๆเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเพื่อนทั้งสองคน มือของผมกำหมอนแน่นด้วยต้องการระบายทุกสิ่งอย่างที่กำลังคับอก
“........................” พีทอ้าปากค้าง แก้วเบิกตาโพรง ทุกอย่างเหมือนถูกสตาฟไปชั่วขณะ
~10 วินาทีผ่านไป~
“จะ..จูบแบบ จุ๊บๆงี้เหรอ” แก้วทำมืออย่างประกอบด้วยท่าทางเขิน ผมส่ายหัวตอบ
“ดีฟคิส..โอ้ว พระเจ้า!” พีทอุทานเสียงดังและหงายตัวนอนลงกับพื้นเหมือนไม่เชื่อกับคำพูดของผมอย่างนั้น
“เพื่อนกู เกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ” มันโวยวายไม่หยุดทำให้ผมอายมากกว่าเดิม
“เปล่า..ไม่ใช่แบบนั้น” ผมรีบแก้ตัวและเขย่าตัวพีทให้มีสติกลับมาฟังผมพูด
“ก็แค่จูบ..แต่แค่ นานหน่อย เท่านั้นเอง” ผมพูดบอกเสียงเบา
“อ๋อย แก้วจะเป็นลมอ่ะ” แก้วซบหน้าลงกับโต๊ะ
“ผู้ชายกับผู้ชาย แถมพี่เค้าจูบมึงก่อนอีก..ถ้าเค้าไม่ชอบมึง จะให้เรียกว่าอะไรอีกวะ ห่า..ลองแค่ให้กูไปจูบกับไอ้แจ็คดิ หรือโมเม้นไหนที่กูต้องไปติดกับมึงในกระท่อมกลางป่าเพราะฝนตกเหมือนในละครอะนะ กูก็ไม่มีทางจูบมึงหรอกไอ้เค้ก แหวะ..กูจะอ้วก!” พีทพูดพร่ำไม่หยุดและลุกกลับขึ้นมานั่งตัวตรงอย่างเดิม
“ไม่..พี่คิวอาจจะแค่แกล้งเล่น” ผมรีบส่ายหัว
“หลังจากนั้น พี่คิวก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย..กูก็เลย ทำเป็นลืมมันไป” ผมก้มหัว ทั้งสองคนเงียบลงอีกครั้ง
“แก้วว่า..พี่เค้าก็คงมีเรื่องอะไรให้คิดแหละ เค้กอย่าคิดมากเลยนะ” แก้วเข้ามาลูบมือผมเบาๆ ผมยิ้มตอบให้
“มึงก็บอกรักพี่เค้าไปอย่างที่แก้วว่าเหอะว่ะ กูว่ายังดีกว่าที่มึงจะมานั่งๆนอนๆทำหน้าซึมกะทือแบบนี้..เห็นแล้ว กูหายใจไม่สะดวก” พีทบ่น
“ใช่” แก้วเสริม
“เพราะเค้กชอบพี่เค้า แล้วที่จริงเค้กก็อยากรู้ใช่ไหมล่ะว่าพี่เค้าคิดยังไง..แต่มันก็คงไม่สำคัญแล้วล่ะว่าพี่เค้าจะตอบรับเค้กแบบไหน ถ้าเค้กบอกว่าพี่เค้ากำลังจะแต่งงาน” แก้วบอก
“แต่มันสำคัญนะ..ถ้าเค้กคิดว่าความรู้สึกของเค้กในตอนนี้มันสำคัญ” ผมได้เพียงแต่นั่งฟังอย่างเงียบๆและเรียบเรียงคำพูดของแก้วให้ตัวเองเข้าใจได้ง่ายขึ้น
“แก้วรู้ว่าเค้กเป็นคนยังไง เค้กน่ะ..อย่าแคร์ความรู้สึกของคนอื่นให้มากนักเลยนะ ตอนนี้เค้กรู้สึกยังไง เค้กบอกได้..มันไม่ผิดหรอกนะเค้ก ความรักน่ะ..ถ้าเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง และเข้าใจที่จะรัก ก็ไม่มีใครผิดทั้งนั้น” ผมและพีทเงียบ คำพูดของแก้วเหมือนผมเคยได้ยินมาก่อน ที่รู้สึกว่าคุ้นหูคงเพราะคล้ายกับสิ่งที่พี่ฟ้าได้เคยบอกผมก่อนหน้านี้
“จากที่แก้วเห็น พี่คิวเค้าก็เป็นคนดีนะ..ไม่ว่าเค้กจะพูดอะไร แก้วคิดว่า..พี่เค้ายินดีรับฟัง” แก้วยิ้มให้น้อยๆ ผมได้แต่เพียงยิ้มตอบให้แก้ว คำพูดของแก้วทำให้หัวใจผมเต้นแรงอีกครั้งเหมือนมันกลับมามีชีวิต
“ใจจริงเค้กคงรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าเค้กกำลังคิดอะไร นอกจากเรื่องที่เค้กเสียใจที่พี่คิวจะแต่งงาน..เค้กรู้สึกอะไรนอกจากนั้นอีกบ้างล่ะ เค้กน่ะ..ยอมรับได้ใช่ไหม เค้กรู้สึกยินดีทั้งๆที่มันขัดแย้งในใจใช่รึเปล่า แต่มันไม่ได้ผิดบาปหรอกนะ เพราะเค้กยังไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากที่เค้กได้รักพี่เค้า เค้กอยากทำอะไร..เค้กก็ทำเถอะ อย่าเป็นตัวเองอีกเลย..ฝืนที่จะขัดแย้งบ้างก็ได้นะ”
“แต่..แต่ถ้าเค้กบอกพี่คิวไปแบบนั้น แล้วถ้าพี่คิวรังเกียจเค้กล่ะ” ผมพูดตะกุกตะกัก สมองคิดล่วงหน้าไปต่างๆนาๆ
“เค้กน่ะ..รู้จักพี่คิวดีกว่าพวกเราอีกนะ” แก้วพูดบอก ผมชะงัก
“พวกเราแทบไม่รู้จักพี่คิวเลย เค้กน่ะ..รู้ดีที่สุด ว่าพี่คิวเป็นคนยังไง”
“กูว่ามึงพูดไปมึงคงจะสบายใจกว่านี้ อย่างน้อยมึงก็ได้บอกความรู้สึกดีๆที่มึงมีให้กับเค้า..แล้วมึงก็ตัดใจซะ แค่นั้นก็จบ ส่วนหลังจากนั้น พี่เค้าจะแต่งงานรึไม่แต่ง..นี่ไม่ใช่ส่วนสำคัญในชีวิตมึงอีกแล้ว” พีทพูดขึ้น
“ยินดีที่จะรัก ยินดีที่ได้บอกรัก ยินดีที่จะเห็นคนที่เรารักมีความสุข..ถ้าเค้กยินดีและรู้สึกว่าเพียงพอแล้ว แค่นี้ก็ได้ไม่เป็นไร แก้วคิดว่าเค้กควรจะทำนะ”
“แก้วพูดถูก..สิ่งสำคัญสำหรับมึงคือ ความรู้สึกที่มึงมีต่อพี่เค้า..ไม่ใช่งานแต่งงานบ้าบออะไรนั่น มันไม่ใช่ประเด็นของมึง นั่นมันเป็นเรื่องของพี่เค้า..ช่างหัวแม่งปะไร จริงไหม” พีทเลิกคิ้วและยิ้มให้อย่างกวนๆ
“หึ..นั่นสิ” ผมหัวเราะ และรู้สึกหายเศร้าลงได้บ้าง ความรู้สึกผิดบาปที่แก้วพูดถึงมันทิ่มแทงและตรงจุดในความรู้สึกของผมอยู่ลึกๆ ผมเพียงลืมนึกไปกับคำว่า “ไม่มีใครผิดทั้งนั้น” ที่พี่ฟ้าเคยพูดไว้นั้นหมายถึงอะไรและคำพูดของแก้วนั้นหมายถึงอะไร ผมคงไม่ผิดที่จะรักอย่างที่แก้วและพี่ฟ้าบอก แต่ผมผิดที่ที่ผ่านมาผมนั้นไม่สามารถเงยหน้ายินดีรับทุกอย่างอย่างที่ปากของผมพูดได้ ผมควรจะเปิดกรอบของตัวเองและก้าวออกไปได้แล้วอย่างที่แก้วบอกเสียที
“ช่างหัวแม่งปะไร” ผมย้ำพูด
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” พีทกระแทกเสียงอย่างชัดถ้อยชัดคำทำเอาผมกับแก้วหัวเราะไม่หยุด..
~นั่นสินะ..ช่างหัวแม่งปะไร ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย~
...................>>>><<<...................
-
จิ้มก่อนนนนนน :z13:
==================
ดีใจมากที่มาจิ้ม คุณเบบี้ทัน o18
อ่านตอนนี้เเล้วรู้สึกสงสารเค้ก (อีกเเล้ว)
เค้กเป็นเด็กที่คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ
ถึงเวลาที่เค้กต้องทำเพื่อตัวเองบ้างได้เเล้ว
รอตอนต่อไปนะคะ
+1 เเละ +เป็ด เป็นกำลังใจให้ในตอนต่อๆไปค่ะ :กอด1:
ป.ล. เค้าไม่ได้ปาดใช่มั้ยอ่ะ :really2:
-
o13 "ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ"
จบค่ะ ชัดเจนมาก 555+++
:pig4: เบบี้จ้า ^^
-
ประทับใจพีทตอนจบนี่แหละ
บอกไปเลย ว่ารักอ่ะ ส่วนจะแต่งงานก็แต่งไปซิ
แค่อยากให้รับรู้ ว่ารัก แค่นั้นแหละ :กอด1:
-
'ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ'//โดนมากประโยคนี้ จบคร่า า า า :))
-
สงสารเค้กนะแต่เราคิดว่าอย่างพี่คิวต้องมีเหตุผลแน่ๆที่ทำไปแบบนั้นแล้วอีกอย่างพี่คิวยังไม่ได้พูดซักคำว่าจะหมั้นกับฝันอะ หวังว่าเหตุการณ์คงไม่มาม่ามากไปกว่านี้แล้ว :monkeysad:
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” ชอบประโยคนี้มากค่ะ o13
-
โอ๊ยยยยยยยยยยย
เจ็บจี๊ดเลยยยยยยยยย
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
เบบี้
สนุกมากอ่ะ จนรู้สึกว่ามันสั้น แถมยังค้างคาใจ
อยากรู้ตอนต่อไป อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร
จะได้แค่รักกันเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นคนรักกันที่อยู่เคียงข้างกันเหรอ
:monkeysad: :angry2:
พี่คิว นายออกเป็นตัวของตัวเอง เหมือนใครก้อบังคับไม่ได้ เรื่องแต่งงานนี่ทั้งชีวิตเชียวนะ
ถ้านายต้องแต่งงานกับยัยฝันนั่นจริง ฉันคงเศร้า และสงสารตัวเองว่าดูนายผิด :z6:
อยากแค่ให้หล่อนเป็นยัยฝันค้างมากกกกกกกกก
เค้ก ไปบอกเลย รีบไปให้ว่อง อย่างน้อยก้อได้บอกได้พูดออกไปนะ :sad11:
ส่วนเรา...คนอ่าน จะเริ่มทำใจว่าเรื่องนี้คงจบแบบไม่สมหวัง :z3:
ขอให้ผิดดดดดดดดดด
เบบี้ มาต่อสองสามตอนโลดเหอะ งก
:กอด1: :L2:
-
:z3: :z3: :z3: รู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นๆอ่ะ อยากอ่านต่อ
แต่ก็ขอบคุณเบบี้มากๆที่มาต่อ :pig4:
-
จะเศร้าๆและอึมคึมแบบนี้ไปนานขนาดไหนเนี่ย ปวดตับตึ๊บๆ :m16: :m16: :m16:
-
เจ็บปวดเนอะ...
-
ยินดีที่จะรัก ยินดีที่ได้บอกรัก ยินดีที่จะเห็นคนที่เรารักมีความสุข
^
^
แก้วพูดได้โดนมาก
แต่ก็อดสงสารน้องไม่ได้อยู่ดี กลัวแต่ว่าไปพูดแล้ว พี่คิวก็นิ่งเงียบ บื้อใบ้เหมือนที่ผ่านๆมา (สามสี่ตอนที่ผ่านมาฮีพูดรวมกันไม่ถึงห้าคำเลยมั้ง :z3:)
อย่าใจร้ายกับน้องเค้ก(ของเค้า)มากไปกว่านี้เลย ฮืออออออ :sad4:
-
:sad4: :sad4: :sad4:
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
จบก็ได้พี่พีท 5555555555 กลัวโดนพี่พีทกินหัวเว้ยเห้ยย
เอาเลยเค้ก สนับสนุนเหมือนกัน บอกไปเล้ยย
ก็แค่บอก ไม่ได้จะให้เค้ายกเลิกงานแต่งนี่เนอะ
ช่างปะไร !!
-
เค้กสู้ๆ :ped149:
-
ดีมากกกกกกกที่เค้กหาทางออกตัวเองได้แล้ว ดีใจที่เค้กมีพีทและแก้วรวมถึงพีๆในร้านที่ห่วงใยเค้ก
บอกตามตรงอ่านมาถึงตรงงนี้ ลุ้นตอนหน้ามากกกกกก ความรักไม่ใช่เรื่องผิดจริงๆแหละ
ก็ตรูแค่รักมันผิดตรงไหน o13
-
ยิ้มมมม
ที่ยิ้มคือ เค้กมัน เริ่มที่จะสบายใจแล้ว อยากให้เค้กมันโล่งซะที เห็นเค้กอึดอัดแล้วมันแบบ หน่วงๆ
บอกรักพี่คิวไปเลยนะ จะได้โล่ง
รักมึงค่ะ เค้กคิว
รักพี่บี้นะ รักเธอ ออ อ อ อ
ม๊วฟฟฟฟฟ
-
ไม่รุ้ว่าพี่คิวคิดอะไรอยู่นะตอนนี้ เรื่องราวมันถึงได้เป็นอย่างงี้
พีทพูดได้โดนมากก 55555
รอลุ้นต่อคับว่าเค้กบอกพี่คิวมั้ยย ลุ้นๆๆๆ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
เค้ก ดับเครื่องชนเลยนะ
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” :laugh: :z2:
แก้วกะพีท ช่างเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจได้ดีชะมัด
เค้กสู้ๆน๊า.. บอกรักคิวปิ้ดไปเลย ...ส่วนบอกแล้วจะเป็นไงนั้น... ช่างหัวแม่งปะไร ...
ขอบคุณเบบี้น๊า..
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
จบก็ได้จ๊ะ..แต่ว่าอยากอ่านต่ออีกเยอะๆอย่ามาสั้นๆจบไวๆน๊ะเบบี้..คิดถึง
น้องเค้กก็บอกไปเลย..สู้ๆ o13
-
อ๊ากกก เบบี้ !! ดีใจ มาต่อแล้ว ฮ่าๆ อ่านเพลินๆ เลื่อนลงมาอีกที จบแล้ว โว้ว T^T
พี่คิวเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่างกับเค้กเลยอ่ะ ที่เรียกเค้กเอาไว้ แต่ทำไมถึงไม่ยอมพูดละ เห้อ
หน่วงได้ใจ กับตอนนั้น แล้วยิ่งตอนยัยพี่ฝันเฟื่องเอาแบบแหวนมาให้ที่ร้านนั่นอีก อยากจะด่าเธอจริงๆ ให้ตายสิ
มาถึงที่แล้ว ทำไมไม่เอาแบบไปให้พี่คิวดูเองละ มาส่งต่อให้เค้กทำไม ยัยบ้า จะอวดเหรอ หรือว่าไม่กล้าเอาไปให้
ด้วยตัวเองกันแน่ รู้สึกว่าเรื่องแต่งงานมันมีเบื้องลึกเบื้องหลังจริงๆ เค้กทำตามที่แก้วกับพีทบอกนั่นแหละดีแล้ว
สุดท้ายผลมันจะออกมาเป็นยังไง แต่มันก็ถือว่าเราได้พยายามทำเพื่อความรักของเราแล้วนะเค้ก สู้ๆ เข้มแข็งเข้าไว้
บอกพี่คิวไปเลยว่า เค้กชอบพี่เค้ามากแค่ไหน .. แล้วถ้าผลมันออกมาเป็นยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที
โดนใจกับคำพูดของพีท ฮ่าๆ
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
ฮ่า ชอบๆ บอกไปเลยเค้ก !! โล่งใจตามน้องเค้กไปอีกคน
-
แมร่ง...จี๊ดโครตอ่ะ คำพูดแมร่งโดน o13
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
กดไลค์ให้พีทล้านครั้งเลย
ให้น้องแก้วด้วย
ดีแล้วที่เค้กมีเพื่อนคอยให้กำลังใจ และให้คำปรึกษา กลัวอยู่ว่าเค้กจะคิดมาก ขนาดลาออกหนีไปเลย
พี่คิว ก็นะ มีอะไรไม่พูด งานแต่งก็คลุมเครือเหอะ ฝันมันแต่งกับไผหว่า ไม่อยากให้เป็นคิวเว้ย :m31:
-
~ช่างหัวแม่งปะไร~ ชอบ เอาเลยเค้กบอกไปเลย เรามีสิทธิที่จะรักนี่เนาะ พี่คิวเอ๊ย รอก่อนนะคราวนี้ล่ะ ลุ้นๆๆๆ :z2:
-
เอาจริงๆนะ โดยส่วนตัวถ้าเป็นชีวิตจริง บอกไปผลเสียมากกว่าผลได้ คนรวยจะแต่งงานกัน
คงเรื่องใหญ่พอสมควร แล้วเหตุผลของการแต่งงานล่ะคืออะไร
เค้กมีแต่จะเจ็บ เสียใจ มากกว่า ถ้าพี่คิวมีใจให้เค้กมากพอคงไม่ยินยอมแต่งงานหรอก
นี่พี่คิวทำเหมือนไม่ได้คิดอะไร เค้กเองจะคิดเข้าข้างตัวเองก็ไม่ได้
พี่คิวไม่ยอมคุยกับเค้กเลย ไม่สื่อสารกันแล้วจะเข้าใจกันได้ยังงัย เฮ้อ
สงสารเค้กนะ แต่ไม่อยากให้เค้กบอก อยากให้พี่คิวนั่นแหละ เริ่มก่อน
-
แต่มันก็จริงอ่ะ ฝันมันท้องรึป่าว ถึงต้องรีบหมั้น รีบแต่ง
ให้รักกันให้ตายยังไง ก็ไม่น่าจะรีบขนาดนี้ เดาเอาฝันมัน
ไปท้องกะคนอื่น และมามั่วจับคิวเอารึป่าว
-
อึ้ง และทึ้งง งง งงงง
เชื่อว่าพี่คิวก็อยากจะบอกอะไรเค้กมากมายเช่นกัน เชื่อสิ ต้องเป็นแบบนั้นใช่ไหม?
รอลุ้นละทีนี้ เค้กกกกกกกกกกก มากอดให้กำลังใจเนอะๆ
-
อ่านตอนนี้แล้วหนูยิ้มอ่ะ แบบว่าซึ้งมากแล้วก็โดนใจ เค้กก็แค่บอกไปจะเกิดอะไรก็ช่างมัน เป็นกำลังใจให้เค้กค่ะ
:กอด1:
-
ถ้าพี่คิวไม่รับรัก น้องเค้กก็เป็นชู้ไปเลยดิ :z6: <<< *โดนเบบี้กระทืบ*
-
สงสารเค่้กอ่ะ แง่ๆ :z3:
ปล...เค้กไปบอกความในใจให้พี่คิวรู้โลดดดดดจะได้รู้ดําแดงไปเลย
-
ตอนต่อไปเค้าจะบอกรักกันแล้ว ฮุฮุ ขอให้เค้กกล้าทีเถ๊อะ จะได้ไม่ค้างคาใจกัน
บางทีอาจทำให้พี่คิวกล้าตัดสินใจอะไรบางอย่างก็ได้ (อาร๊าย อะไรของแก :laugh: แบบว่ามั่ว555)
รู้อย่างนี้น่าจะปรึกษาแก้วตั้งนานแล้ว หญิงไทยคนนี้ฉลาด เลิศจริงๆ ชมผู้หญิงเป็นเรื่องแรกเลย555
ส่วนยัยฝัน หมั่นไส้ :beat: ขอให้ฝันสลายในเร็ววันนะจ๊ะ
-
:o12: :o12: :o12: ทำไมพี่คิวไม่พูดอะไรเลย เค้กหนูไปบอกเค้าเลย รัก ไม่ใช่เรื่องผิด
ยัยฝันเทอจาทำร้ายจิตใจกันไปถึงไหนนนนน :m16:
+ 1 .ให้พี่บี้ค่ะ
-
ค่อยยังชั่วเค้กเริ่มคิดจะรุกคืนละ จริงๆ คือคนอ่านก็ลุ้นๆ เชียร์ๆ กันมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้วอะนะว่าพี่คิวแกลึกเฉยโคตร เพราะงั้นยุให้เค้กรุกกดเองซะเลยแม่ม ฮ่า ฮ่า
สำหรับตอนนี้ก็ไม่มีไรมาก ขอยกที่เคยโพสไว้ในเพจเบบี้มาสนับสนุนความคิดของกองเชียร์เพื่อนเลิฟน้องเค้กทั้งน้องพีทกับน้องแก้ว เสริมแรงส่งให้น้องเค้กปฏิบัตการ"รุก"พี่คิว..อิอิ
"....สำหรับคนหยิ่งอย่างพี่คิว อย่างไหนถึงจะเรียกว่าชัดเจนกันนะ การแสดงออกกับน้องเค้ก เท่าที่จำได้เริ่มตั้งแต่ ซื้อหนังสือให้ ให้ยืมหนังมาดู ให้ไปหาที่บ้าน ช่วยให้สัมภาษณ์ตอนทำรายงาน ไปเลี้ยงข้าว/ขนมบ้านเด็กกำพร้าด้วยกัน ไปสอนการบ้านเด็ก ไปกินข้าวที่บ้านน้อง ไปกินข้าวกับน้องสองต่อสอง ไปดูหนัง ไปเดินซื้อหนังสือ ป่วยก็ให้ทำข้าวไปให้กิน โทรศัพท์มาหา ส่งข้อความมาคุย จะออกจากโรง'บาลก็ให้ไปรับ ให้เข้าห้องลับนอนดูหนังด้วยกัน นอนหนุนตัก พาไปหาแม่ที่บ้าน จนสุดท้ายมาถึงที่จูบไปง่ะ เป็นใครโดนอย่างนี้บ้างจะไม่ให้คิดเลยรึไงว่าเค้ามีใจกะตัว อย่างนี้แล้วสำหรับคิวยังจะเรียกว่าไม่มีไรอีกหราาาา จะปากแข็งไปถึงไหนกั๊นฮึ
(((กิจกรรมที่กล่าวอ้างมาคาดว่ายังไม่ครบนะ ใส่ไว้พอสังเขปเท่าที่จำได้...^^ ))...."
เห็นปะน้องเค้ก คิดแล้วยังไง๊ ยังไง พี่เชฟบ้าของน้องมันต้องมีใจกับน้องชัวร์ป้าดดด ฟันธง!!~ ด้วยอีกคน...อิอิ
ขอบคุณไอ้น้องบี้จะให้แซบเวอร์ขอตอนจบคืนนี้หรือพรุ่งเน้เลยได๊ป๊ะเหลา
+++เหมืนเคย
:กอด1:
-
อยากฉากบอกรักของเค้กจัง :o8: :o8: :กอด1:
เบบี้สู้ๆๆๆๆ :mc4: :mc4: :mc4:
-
ตอนแรก รู้สึกเสียใจไปกะเค๊ก
แต่ถ้าตอนนี้น้องทำใจได้และเข้มแข็ง
ก็จะทำใจได้เหมือนกัน
ปล่อยไอ้พี่คิวไปแต่งงานไปเลย
เชอะ แล้วหาคนใหม่เลย จะได้รู้ว่าเราไม่สิ้นไร้ไม้ตอก
อย่าได้แคร์ อย่าได้แคร์
น่ารักน่ารักอย่างเค้ก ถ้าเปิดใจรับรองหัวกระไดไม่แห้ง
ให้อิพี่คิวนึกเสียดายทีหลังเลย
ปล่อยพี่แกอยู่กะฝันร้ายให้ขวัญผวาเลย ชริ
อิน อิน อิน
เป็นเรานะจะไม่อ่อนแอให้อิพี่คิวมันรู้เด็ดขาด
อย่าคิดว่าเค็กชอบแล้วจะทำร้ายจิตใจยังไงก็ได้
เชอะ รอบที่ร้อย
อยากให้มีคนใหม่มาจีบน้องจริงๆ
แง่ง แง่ง :m31: :fire: :angry2:
-
กรี๊ดดดดดดด ทำไมรู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นจังเลยยย :z3:
อยากอ่านอีก สงสารเค้ก แต่คำแนะนำของแก้วกับพีทแม่งสุดยอดอ่ะ
โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายของพีท แม่งโคดได้ใจ o13
ช่างแม่งเลยเค้ก อย่าไปสนความรู้สึกคนอื่นมากนัก
เอาความรู้สึกของตัวเองให้มันชัดเจนก้พอ
เพื่อที่เราจะได้ตัดสินใจเลือกทำ และดำเนินชีวิตต่อไป :กอด1:
น้องเค้กสู้ๆ น้องเค้กสู้ตาย น้องเค้กไว้ลาย สู้ตายสู้ๆ
เพื่อนนี่มันทำให้ยิ้มได้ทั้งๆที่ทุกข์ นี่มันดีจริงๆเลยน้าส์
เป็นตอนแรกที่ยิ้มออก ทั้งๆที่อะไรๆก้ยังไม่เคลียร์
รักเบบี้มากที่มาต่อ แต่จะรักมากกว่านี้ถ้าตอนหน้ามาไวๆ ฮี่ๆ
ปล.คาใจกะตอนที่พี่คิวเรียกเค้กแหะ
มันเหมือนไม่ชอบมาพากล แต่คนอย่างอีพี่คิวนี่ไม่มีทางยอมโดนบังคับแน่ๆ
รอรอรอรอรอรอรอรอรอเบบี้มาเฉลยนะคะ +1ค่า
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
ชอบคำพูดของพีทมาก โดนใจ
ว่าแต่ตอนที่อยู่ในห้องครัวอ่ะ พี่คิวมีอะไรจะบอกเค้กหรือเปล่านะ ทำไมไม่บอกหล่ะ
น้องเค้กเ้ขมแข็งอีกนิดนะจ๊ะ สู้ๆ
-
'ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ' 55555555 ใช่เลยพีทเอ้ย o13
บอกไปเลยเค้กก เอาใจช่วยย :z2:
-------------- +1
-
เค้กจะบอกรักพี่คิวมั้ยนะ
อยากให้พูดเหมือนกัน
จะได้ดูฟีดแบ็ค แล้วตัดสินใจซะที
ว่าจะสู้ต่อมั้ย
เพราะ อยู่แบบนี้ก็สงสารอ่ะ เจ็บปล่าวๆ
แล้ว อิพี่ฝันนะ ใช้น้องเค้กทำในสิ่งที่เจ็บปวดดดดด
โฮววววว
ยังไงล่ะทีนี้ ,, กอดเบบี้เบาๆ จุ๊บๆ
-
เค้กจะทำไรก้รีบทำนะเร็วๆ
-
หรือตอนนี้คือการเฉลยความหมายของ Limited Lovers นะ??? :เฮ้อ:
-
:z3: :z3: :z3: อารมณ์ค้างเลย :z3: :z3: :z3:
ขออีกๆๆๆๆ นะๆๆๆๆ
-
ใจกล้าหน้าด้านเดินไปบอกรักเลย เค้ารอลุ้น :z1:
-
อ๊ากกก เบบี้มาแล้ว รอมานานนน (3 วันเองนะ) เหมือน 3 ปี ไปอ่านก่อนน้า
===================================================
อ๊ากก สู้ๆเข้านะเค้ก ไม่ว่าผลจะเป็นไง ก็ต้องยอมรับให้ได้ อิพี่คิวก็น้าเรียกเค้กเหมือนจะพูดอะไร แต่ไม่พูดซะงั้น
วสู้ๆนะเค้ก เบบี้ด้วย อยากอ่านตอนต่อไปมว๊ากก
-
บอกเลย บอกเลย บอกเลย บอกเลย บอกเลย บอกเลย บอกเลย บอกเลย บอกเลย
-
ชอบพีทกับแก้วตอนนี้มากๆ
อ่านแล้วอยากมีเพื่อนแบบนั้นมั่งจัง 5555+ ว่าไปนั่น
รีบมาต่อเร็วๆนะจ๊ะ^^
-
รักน้องเค้ก น้องเค้กสู้ๆๆๆๆๆ :L1:
-
อรั้ง....มาแล้ว :mc4:
ฝนเริ่มซาแล้วใช่ไหม
หวังว่าอีกไม่นานฝนจะหยุด
ท้องฟ้าที่มืดมนจะเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าที่แจ่มใส
และมีแสงแดดที่ขับไล่ความทรมานในใจออกไป
....ไม่รู้ว่าพี่คิวคิดอะไร แต่จะกี่ครั้ง ก็ยังบอกเหมือนเดิมว่า
เราเชื่อมั่นในเค้กคิว
รักเบบี้จัง...อิอิ :กอด1:
หวังว่าจะไม่มีใครมาเม้นเกรียนแตกอีกนะ :beat:
-
น้องเค้กๆๆๆๆๆ
-
ทำไมมันยังรู้สึกอึมครึมอยู่เลยอ่ะ
นึกภาพไม่ออกว่าจะรักกันได้ยังงัย
รู้สึกว่าระหว่างพี่คิวกับน้องเค้ก
มีความแตกต่างกันมากเกินไป
แต่ก็เอาใจช่วยน้องเค้ก ขอให้กล้าบอกรักพี่คิว
ซักที ถ้าพี่เค้าไม่รักตอบ ก็ช่างแมร่ง แล้วล่ะ :L3:
-
:angry2: :angry2:ช่างหัวแม่งสิ.....
จัดไปเลยเค้ก.....สู้ๆ
-
มานิดเดียวเอง ....
เค้กสู้ ๆ
-
รอตอนต่อไป กำลังได้ลุ้น
อิพี่คิวมันไม่แมน เค้กแมนไปเลยลูก
-
ไปเลยยยยย ไปบอกเลย ไฟท์ติ้งงงง!!!
ลุ้นๆ :z2:
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
อั่ยยะ เริ่ดมากกกก o13
-
บอกเลยเค้ก เป็นไงก็เป็นกัน บอกไปให้พี่คิวได้รู้ เราได้ไม่เสียใจทีหลังด้วย
แล้วก็บอกเค้าไปเลยว่าคงจะตัดใจแล้ว หลังจากนี้พี่คิวจะคิดยังไงก็แล้วแต่อะนะ
ซื่อตรงกับความรู้สึกเราอะ ดีที่สุดแล้ว พี่คิวจะแต่งก็ปล่อยแม่งแต่งไปเหอะ! :m16:
-
สนุกมากๆครับ o13
-
เค้ก สู้ๆๆๆ!!!
บอกพี่คิวไปเลย ผลจะเป็นยังไงก็ช่างหัวมันไปเลยเนอะ
พี่คิวเองก็เถอะ ระวังจะเสียของไปโดยไม่รู้ตัว หคปดอะ รู้จักไหม :z3:
-
มันรู้สึกว่าไม่พอใจพี่คิวอย่างสุดๆเลยอะคับเจ้ คนอะไรวะไม้ชัดเจนซักอย่าง หรือว่าตอนโดนยิงจะโดนเส้นอะไรเข้าถึงไม่รู้ใจตัวเองซักที
-
โอ้วแค่ 2 ชั่วโมง หน้ากระทู้วิ่งไปแล้ว 2 หน้า บอร์ดนี้เค้าแรงจริงๆ
....ช่าง หัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง...
พีท o13
~นั่นสินะ..ช่างหัวแม่งปะไร ไม่เห็นต้องแคร์อะไรเลย~
ใช่แล้วเค้ก ลุยเลย ให้มันรู้กันไปเลย แม่ง!!!
สุดท้าย เบบี้!!! แบบนี้ก็มีแววสมหวังมาลิบๆ แล้วสิ
นึกว่าจะต้องนั่งกินมาม่าอีกหลายตอนแล้วซะอีก
มาต่อเร็วๆ นะ :L2:
-
:เฮ้อ: เห้อออ หายใจไม่สะดวกเหมือนพีท = =!!
-
"ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ
จบได้ดีมากพีท o13
ใครก็ได้เอายัยฝันเฟื่องนั่นไปเก็บที :z6:
-
หน่วงจัง
พี่คิว ไม่รักเค้กจริงหรอ
-
สนับสนุน อิอิ
-
อยากอ่านตอนต่อไปและค่าาา
พีทได้ใจมาก o13 o13
ได้บอกความรู้สึกดีกว่าปล่อยผ่านไป ไม่ทำอะไรเลย
-
รู้สึกดีที่หลังจากนี้ เค้กจะเข้มแข็ง ><
เค้าจะทำไรมา จะเห็นภาพบาดตา คำพูดบาดใจอีกสักกี่ครั้งก็ไม่เป็นไรแล้วเนอะ
ก็เราจะรักซะอย่าง.. o13
-
หนูเค้กมีเืพื่อนที่ดีมากมายอะ
บอกรักพี่คิวเลยเค้กกก
พี่ฝันจะได้เลิก ฝันลม ๆ แล้งๆสักที หมั่นไส้วะ
-
o13มากเพื่อนๆน้องเค้ก
-
พีทพูดถูกใจมากอ่ะ
ชอบๆ อิอิ
ว่าแต่พี่คิวน่ะ
เมื่อไหร่จะทำให้เคลียสักที
ไม่พูดอะไรสักอย่าง
-
ปวดใจ :z3:
-
เอาแล้วๆไง พี่คิวจะได้รู้ว่า..บางครั้งการที่เรากล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเราเองต้องการ มันดีแค่ไหน
เหมือนกับเค้ก...ในตอนนี้ หวังว่าเราคงได้เห็นพี่คิวทำตามใจตัวเองบ้งนะคะ
ชอบที่พี่คิวเรียกชื่อ.."เค้ก.." เหมือนกับนึกถึงวันเวลาเก่าที่ผ่านมา
ว่าอีกไม่นานเค้กคิวจะกลัีบมาเป็นเหมือนเดิม
..รักพี่คิวค่ะ.. :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
กอดแก้วแรงๆ หนึ่งที :กอด1:
พูดได้โดนใจมากกกกกกกกกกก o13
ขึ้นอยู่ที่เค้กแล้วน่าาา
-
555 คำพูดพีทนี่สั้นๆแต่ได้ใจความมากๆ ชอบบบ :)
-
เค้กมีเพื่อนดีจัง ปลาบปลื้ม พี่คิวกลัวอะไรนิไม่เข้าใจ
-
เชียร์คู่นี้มาตลอด และลุ้นมาก จนค่อย ๆ เห็นเค้าใกล้ชิด สนิทสนมกัน รอวันที่เค้าจะคบกันจริงจัง
แต่อยู่ ๆ เหมือนคิวรู้ัตัวว่าจะรักเค้ก คิวก็ดึงตัวเองออกไป ใช้ฝันมาเป็นกำบังตัวเอง ปิดตัวเองอีกครั้ง
และก็ทำให้เราอยากจะกระชากคอเสื้อถามคิวจริง ๆ ว่าไม่รักเค้กจริง ๆ เหรอ รักฝันจริงๆ เหรอ
เฮ้ออออออ ... รอติดตามต่อไปค่ะ สงสารเค้ก เค้กเป็นเด็กน่ารัก มีวิธีการคิด การทำใจ ปลอบใจตัวเองได้ดี
แต่พี่คิวนี่สิ ถ้าได้แต่งงานรอบนี้นะ จะแ่ช่งให้ืเลิกกันไว ๆ 55555
-
เค้กมีเพื่อนดีจริงๆ...ให้กำลังใจเพื่อน น่ารัก :monkeysad:
ในขณะที่คิว..... :undecided:..........น่าจิ้มนักเชียว :z13:
-
มาต่อแล้ว เย้ๆ แก้วกับพีท
ตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้นละเนี่ย รอลุ้น
-
มีเพื่อนแบบ แก้ว กับ พีท ถือว่าน้องเค้กเราโชคดีแล้ว
เอาเลย เราว่าพี่คิวเขาต้องการความมั่นใจในความรักครั้งใหม่เหมือนกัน จะทำอะไรมันต้องชัวร์ทั้งสองฝ่าย ถ้าน้องเค้กยังอ่อนแอหรือไม่สู้เลยมันก็จะเสียใจไปตลอดกาล สู้ สู้ บอกรักไปเลย บอกตอนหน้าเลยนะ เราจะรอลุ้นคำตอบ
ปล.เบบี้สู้ สู้ เรารักคนแต่งทีุ่สุด :o8:
-
แอบคิดเหมือนกันว่าฝันท้อง แต่ท้องกับใครก็อีกเรื่องนึงนะ
-
รักแก้วกับพีทมากกกกกกกกอ่ะ :กอด1:
-
กดถูกใจให้น้องพีทสำหรับประโยคสุดท้าย o13
ขอให้ได้พูดออกไป แม้จะต้องเสียใจก็ช่างมันสินะ :กอด1:
น้องเค้กสู้ๆ ถึงสุดท้ายพี่คิวต้องแต่งงานกับพี่ฝันจริงๆ แต่ให้พี่คิวเค้าได้รู้ความรู้สึกของหนูจริงๆเถอะนะ :กอด1:
อาจจะมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงก็ได้ (อยากให้เป็นอย่างนั้น :monkeysad:)
-
สู้ๆ นะค่ะน้องเค้ด พี่คิวอาจจะรอฟังคำๆ นี้ของน้องเค้กอยู่ก็ได้ :-[
แต่พี่ฝันนี้แอบร้ายตลอดเลยนะค่ะ ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ เลย ไม่งั้นพี่คิวไม่มาแต่งงานกับเธอหลอกนะ :angry2: :z6:
(ว่าไปนั้น สงสัยจะดูมาหยารัศมีมากไปหน่อย ก๊าก ก ก) พี่คิวจะพูดจะบอกอะไรน้องเค้กก็รีบๆพูดออกมาเลย :o8:
งานนี้ไม่มีกักแล้วค่ะ บอกให้คนทั้งโลกรู้ไปเลยว่าเรารักกัน 555555555 :impress2:
โอ้ยเห็นเค้กกล้าที่จะพูดแบบนี้ ดีใจด้วยจริงๆเลย เก็บไว้นานๆ ทรมานใจจริงๆ เห็นแล้วปวดใจอ่ะ
ถึงขนาดลางานกันเลยทีเดียว แล้วแบบว่าทำไมต้องรีบแต่งกันขนาดนั้นนะ อยากรู้จัง คุณพี่ฝันไปทำอะไรไว้รึเปล่าเนี้ย
ปล. คิดถึงพี่คิวมากมายอ่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าพี่คิวเลย เพราะน้องเค้กไม่กล้าสบตาพี่คิว
สู้ๆ นะจ๊ะนู๋เค้ก o22
-
น้องเค้กสู้ๆๆ เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ บอกไปเหอะ "ช่างแม่ง......ไม่เห็นต้องแคร์พี่ฝันเลย" :a14:
-
สู้ๆนะเค้ก
สู้ๆนะเบบี้ อัพนิยายเวยๆเน้อเปิ้นเข้ามารอตั๋วทุกวัน
+1
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
o13 เอาใจไปเลยพีทจ๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เค้ก สู้ๆๆๆๆ บอกไปเลย อยากรู้พี่คิวจะตอบว่าไงง
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
ประโยคนี้ประโยคเดียวจบเลย จบความรู้สึกเศร้าได้ขาด
-
พี่คิวทำอะไรบ้าง
นอกจากต่อสู้กับความคิดตัวเอง
:เฮ้อ:
เค้กต้องบอกรักก่อนเหรอ
มาบอกรักพี่เถอะเค้ก พี่รักเค้ก
*อุ้มเค้กหนี :z2:
-
o13
-
เค้กกำลังจะเปลี่ยนไป ใจกล้าที่จะไปบอกรักพี่คิวแล้ว
เผื่อใจไว้ด้วยนะเค้ก กลัวใจพี่คิวจริงๆ จะทำให้น้องปวดใจไปถึงไหน
-
พี่คิวอย่ามาซึนสิคู๊ณณณณ อึกอักๆ เรียกแล้วก็ไม่พูด อ๊าคคคค
เค้กลุยเลย บอกเลย มีอะไรบอกให้หมด ถามด้วยนะว่า "จูบกูทำไม๊???"
อ่านไปลุ้นไปจนขี้จะขึ้นหัวแล้วข้าพเจ้า ขอกรี๊ดระบายลั่นบ้านให้แม่ด่าสักรอบ
จิ้มบี้ๆ
ปอลิง...ได้โพสหน้า 191 ด้วยอ่ะ ฟินนนนนนนนนนนนนอีกระ ^^
-
อืมมม..เป็นความคิดที่ดีนะบอกไปจะได้ไม่คาใจ
จะรักไม่รักจะแต่งไม่แต่งช่างหัวมัน
:pig4: คะ
-
:sad4: :sad4:น่าสงสารเค้กจัง
-
คนที่ต้องทำตัวให้กระจ่างคือพี่คิวนะ คนอื่นยังรู้เลยใช่ป้ะว่าเค้กคิดอะไรอยู่ ทำไมพี่คิวจะไม่รู้.
-
ดีใจที่เค้กมีเพื่อนที่ดีขนาดนี้ เพื่อนที่ทำให้เราเข้มแข็งและยืนอยู่ข้างเราเสมอ
-
อืมมม ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะพี่คิวก็ไม่เคลียร์อะไรซักอย่าง ทำเหมือนชอบเค้ก แต่จะไปแต่งกับคนอื่นแบบนี้ บอกตรงๆว่าเคืองแทนน้องค่ะ // ฮ่าๆๆๆ อารมณ์ส่วนตัวล้วนๆนะเนี่ยยย
-
เค้กมีเพื่อนที่ดีจริงๆ เค้กน่าจะเล่าให้เพื่อนฟังตั้งนานแล้ว ไม่น่าเครียดอยู่คนเดียวเลย
ยัยฝันนรก ร้ายกาจ มาใช้เค้กแบบนี้ เลววววไม่จบไม่สิ้น แม่หลุดเข้าไปในนิยายได้นะ จะจับมาตบๆๆๆๆๆๆๆ
อินอ่า ฮืออออออออออ อยากอ่านต่อที่ซู๊ด นับวันรอๆๆๆ
แต่ถือว่ามีสัญญาณดีแล้วนะเนี่ย มีคำว่า "เค้ก" หลุดจากปากพี่หล่อเทพเชฟไฮโซมาแล้ว
เข้าเล้ามางงเลย บี้เพิ่งลงนิยายเมื่อบ่ายๆ ไหงทะลักมากี่หน้าเนี่ย เปิดเข้ามาไม่กล้าอ่านเลย ต้องแอบดูคอมเม้นท์ก่อน แหะ
-
พี่คิวหน่ะรู้อยู่แล้ว ก็เค้กดูง่ายและทุกคนก็รู้ ถ้าพี่คิวแคร์เค้กมากกว่านี้ ก็ให้มันชัดเจนหน่อย
ไม่ใช่ทำแบบหุบๆโผล่ๆเหมือนหมาหยอกไก่ น่าสงสารเค้กมากกว่า ช่างมันเหอะเค้ก ขอให้กลับมาร่าเริง
ทำงานในที่ตัวเองรัก ไม่อยากให้เค้กไปบอกรักพี่คิวอีก กลัวแทนเค้กหง่ะ :m15:
น้องเบบี้มาอีกซักตอนนะค้าาา :teach:
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” o13 โอ้ยยยยย พีทแม่งเฉงงงงง
-
:z2: แต้งกิ้วค้าบบบบบ
-
สงสารเค้ก
ความจริงคิวเป็นคนเริ่มเรื่องก่อน เริ่มความสัมพันธ์ที่พิเศษนี้ขึ้นมาก่อน
แต่กลายเป็นเค้ก ที่ต้องกระทำการใด ๆ ให้มันชัดเจนหรือจบไป
มันยังไง ๆ ไม่รู้สิ จี๊ด ๆ แต่คนอย่างคิว ก็คงไม่มีทางทำอะไรแน่ ๆ
เฮ้อ :เฮ้อ:
-
รู้สึกว่าพีทเริ่มมีประโยชน์ก็ตอนประโยคสุดท้าย
เค้กก็บอกความรู้สึกของตัวเองไปเลย
เราว่าฝันอาจจะแกล้งท้องก็ได้นะ ไม่งั้นจะรีบแต่งทำไม
แต่ถ้างานแต่งเป็นความต้องการของพ่ี่คิวเองก็ :o12:
-
ตกลงพี่คิวจะแต่งงานจริงๆดิ ?? !!! :a5:
แต่ไม่เห็นด้วยกับแก้วนะ... เพราะพี่คิวเองก็ไม่พูดอะไรซักอย่าง ถึงเค้กจะสารภาพไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปหรอกมั้ง... :z3:
ถ้าบอกเค้าไปแล้ว เค้าไม่มีอะไรตอบกลับมา ต้องมานั่งเสียใจอีกนะ
-
อันความจริงแล้วนั้นไซร้ พี่คิวคิดอะไรอยู่เราไม่ทราบได้....
น้องเค้กไปบอกโดยเร็วไว ให้มันได้ดั่งใจคุณพี่เอย
เค้กมีเพื่อนดีเหมือนอิชั้นเลย ความรู้สึกของเค้กตอนนี้ก็เหมือนอิชั้นเลยอ่ะ
โอ๊ยยยย มันเจ็บถึงทรวงอกอันน้อยนิด
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ ทำไงดีๆๆๆๆ
ปล. เบบี้ อากาศยังร้อนอย่างต่อเนื่อง ก็เลยลงให้คนอ่านอาการหน่วงอย่างต่อเนื่องใช่มั้ย?
แต่ไม่เป็นไร เราชอบ ฮาๆๆ
ปล. 2 เบบี้ยังแก้ผ้านอนอยู่มั้ย ง่ายดี แก้ผ้าลงฟิค จะได้เย็นๆ รักษาสุขภาพด้วย ระวังเปื่อย คิคิ :P
:impress3: :impress3: :impress3:
-
พีทจบได้แย่งซีนมากอ่ะ :laugh:
-
พีท นายเจ๋งมาก o13
-
อ่านแล้วมันกั๊ก..มันกั๊ก..และมันยังคงกั๊กอยู่ "- -
เบบี้เป็น S ใช่ม้ายยยเนี่ย XD
-
เอาวะ อย่างน้อยอิคุณพี่คิวก็อ้าปากพูดกับน้องบ้างแล้ว แม้จะแค่เรียกชื่อก็เหอะ :เฮ้อ:
พี่คิวก็คงมีอะไรต้องคิด ต้องตัดสินใจเหมือนกันสินะ
ไม่งั้นคนไม่แคร์ใคร และปากเสียอย่างพี่คิวน่าจะทำอะไรลงมาบ้าง
จะอดทนรอต่อไป :z10:
น้องเค้กเองก็เหมือนจะพัฒนาขึ้นในทางที่ดี เ หมือนจะหาทางออกให้กับตัวเองได้แล้ว เหลือแค่ลงมือทำสินะ
สู้ๆ นะหนูจ้า พี่เอาใจช่วย เห็นหนูเศร้าทีไร แล้วปวดใจขนาดดดดดดดด :z3:
ขอบคุณเบบี้สำหรับตอนใหม่ค่าาาาาา :กอด1:
อีกนิด อีกนิด สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้นักเขียนคนเก่งของเรา
-
เอาเลยๆ หนูเค้ก ไม่มีไรจะเสียแล้วอ่าาาา
จัดเลย!!!!!
-
ถ้าบอกรักพี่คิวแล้วเค้กจะกลับมาสดใสได้อย่างเคยก็ทำเถอะ อาจมีใครรอฟังคำๆนี้อยู่ก็ได้นะ
-
พีท o13 เค้กมีเพื่อนน่ารักทั้งนั้นเลย
-
ตามนั้นเลยเค้ก ถามให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ต้องเสียใจ เค้กสู้ๆ :กอด1:
-
ในเมื่อคิดที่จะรัก ก็ต้องกล้าที่จะบอกรัก
เอาเลย ลุยให้เต็มที่ ดีกว่าต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
สู้ๆ นะ เดี๋ยวคอยเชียร์อยู่ข้างหลัง :ped149: :ped149:
:กอด1:
-
เชียร์ให้เค้กบอกเลย!! แค่ได้บอกความรู้สึก
ของตัวเองก็ยังดีเนอะ
งื๊อ....!!!!! ทำไมพี่คิวต้องแต่งงานด้วย:-(
-
ปล่อยฉันให้ใจสลาย ให้มันตาย ลงไป อย่างช้าช้า
อย่าคิดว่าคำพูดจา คำสัญญาจะทำให้ฉันฟื้น
ไม่เคยหวังให้เธอหันมาบอกลา ไม่ต้องหันหน้ามาให้ฉันกล้ำกลืน
ปล่อยให้รักเราตายลงไปอย่าฝืน ให้มันยืนหนาวตาย
ไม่ขอให้มีเยื่อใย วันสุดท้าย เป็นใคร ก็ต้องช้ำ
แค่พูดจาไม่กี่คำ ก็เพียงพอ ให้จำอยู่เสมอ
เมื่อเธอพบคนดีที่เธอคู่ควร อย่าไปรวนเพราะคนที่ยัง พร่ำเพ้อ
เพียงเพราะฉันไม่เคยรักใครอย่างเธอ ฉันรักเธอเพียงข้างเดียว
* อย่ามัวเสีย เวลากับฉัน ปล่อยให้มัน เสียใจข้างเดียว
ถึงฉันตาย เธอก็ไม่เกี่ยว อย่าแลเหลียว หันหลัง กลับมา
ปล่อยให้ฉันหัวใจสลาย อย่างผู้ชาย ที่รักเธอข้างเดียว
ถึงยังไง เธอก็ไม่ต้องเกี่ยว รักข้างเดียวมันช้ำอยู่แล้ว
ปล่อยฉันให้ใจสลาย ให้มันตาย ลงไป อย่างช้าช้า
อย่าคิดว่าคำพูดจา คำสัญญาจะทำให้ฉันฟื้น
ไม่ต้องหันมามองหน้ากันอีกที ต่อแต่นี้ไม่มีผู้ชายอย่างฉัน
ไม่มีแล้ว คนเคย ผูกพันธ์ ฉันรักเธอเพียงข้างเดียว
>>>>จ้วงมาม่า กินไปเรื่อย ๆ จนถึงวันหมั้น พร้อมกับฮัมเพลงนี้ไปเรื่อย ๆ
-
ประโยคของ พีท ช่างโดนใจจัง 555
:laugh: :laugh: :laugh:
-
เฮ้ออ ได้แต่รอให้อิคุณพี่คิวเอ่บปากออกมาว่าอะไรเป็นอะไร
พูดแต่ละทีเหมือนกลัวดอกพิกุลร่วงง เชอะะะ -3- (โป้ง)
-
เอิ๊ก =w= เห็นอัพก็แอบเข้ามาวนๆอ่านเม้นต์อีก แอร๊กกก ปรากฏว่ายังไม่พ้นมาม่า
ถึงพรุ่งนี้จะสอบแต่ก็เริ่มอยากรู้เรื่องกับเค้าด้วย เลยแอบไปอ่านให้พอรู้เรื่องจะได้มาเม้นต์ด้วย
จริงๆสิ่งที่เค้กกำลังจะทำ ถ้าเป็นในสถานการณ์ที่คล้ายกัน แต่ไม่มีปัจจัยหนึ่งเป็นฝัน เราคงอยากให้เค้กแคร์นะ
แต่ในเมื่อเป็นฝันกับคิว และยังมีความคลุมเครือบางอย่าง ก็อยากจะบอกว่าอย่าได้แคร์ บอกไปโลด ฮ่าๆๆ
บอกไปแล้วคำตอบจะเป็นยังไงก็ช่างหัวแม่งมัน ผลที่ได้คือเค้กจะได้ก้าวต่อไปเสียที ความซึมเศร้าตอนนี้มันทำให้เค้กอยู่กับที่
แล้วมันเรื่องอะไรที่เค้กจะต้องมาย่ำอยู่ที่เดิม ต้องทุกข์ซ้ำๆกับคนที่ทำเหมือนไม่แคร์เราเลยวะ
คนอาไร๊เงียบซะจนอยากเอาเครนไปง้างปากซักที :laugh:
อยากให้เค้กหลุดพ้นเสียที เพื่อนดีๆคนที่รักก็ยังมีมากมายรอบตัว
โกรธอิพี่คิวตรงที่เหมือนก็รู้ว่าเค้กชอบ แต่ก็ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แถมยังเล่นด้วยเหมือนให้ความหวัง ไม่รู้ตอนนี้พี่แกคิดจะทำอะไรนะ
แต่ถ้าไม่จัดการให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็วและทำในแบบที่แสดงให้เห็นว่าเป็นห่วงความรู้สึกเค้ก ก็ไม่อยากให้ได้น้องไปเลยอ่ะ
-
สงสัยจะได้ทุกอย่างตอนจบแน่ๆ อิอิ
-
ดีจังที่เค้กที่เพื่อนที่ดีแบบนี้นะ คอยเป็นกำลังใจ คอยให้คำแนะนำ ดีว่าพี่คิวเยอะเลย
o13 o13
-
บอกไปเลยเค้ก สุดท้ายจะได้ไม่เสียใจ
แล้วพี่คิวแต่งจริงหรอ ??? :z3:
เป็นกำลังใจให้เค้กและเบบี้ค่ะ :กอด1:
:pig4:
-
สงสารน้องงงงงงงงงงงงงงง ทำไมต้องเป็นน้องที่เป็นฝ่ายเข้าหาคิวอ่ะ คิวอ่ะแหระต้องเข้าน้อง เบบี้พาน้องหนีไปเลย
รักคนเขียน
-
ตอนแรกๆนี่แบบ โอ๊ยยย สงสารน้องเค้กสุดๆ
แต่แบบพีทกับแก้วสุดยอด o13
-
เจ๋งวะ พีช “ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” :laugh: ช๊ออบชอบบ
P.S. บอกเลยนู๋เค้า เค้าว่าคิวก็รักเค้กเหมือนกัน จริง จริง นะ
-
"เค้ก" ครั้งแรกเลยมั้งที่คิวเรียกชื่อเค้ก...
ลุ้นว่าคิวจะตอบรับความรู้สึกเค้กแบบไหน แต่อย่างที่แก้วกับพีทบอกก็ถูก ยินดีที่ได้รัก ยินดีที่เห็นคนที่รักมีความสุข และสุดท้ายก็ช่างหัวแม่งปะไร กูรักมึง จบ จะได้ไม่คาใจอีก อยากเห็นเค้กคนเดิมกลับมา... ว่าแต่พีทเนี่ย ตัวแทนบอกความรู้สึกของคิวหรือเปล่า อ่านกันทะลุปรุโปร่งกันเลยทีเดียว
:pig4: บี้ :กอด1:
-
เพิ่งจะยิ้มยด้ก็วันนี้ละ เศร้ามาหลายตอน
สู้ๆนะเค้ก
-
ไปเลยเค้ก สู้ๆ
-
o13 o13 o13
-
:sad4:เด็ดเดร่ยวมากเค้กบอกไปเลยความรู้สึกที่มีต่อพี่คิว จะได้รู้กันไปจะออกหัวหรือก้อย สู้ๆๆๆ :z10:
-
555 เพื่อนเค้กน่ารักเชีย ชักเสียดายที่พีทมะช่ายพระเอก เท่ปายหนายยยย 555
-
พูดกับพี่คิวตามความรู้สึกที่แท้จริงของเรา
ไหน ๆ ก็เจ็บแล้ว ก็เอาให้มันจบเลยทีเดียว สู้ๆ นะเค้ก o7
-
"ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ"
ชอบอ่ะ ได้ใจมากประโยคนี้ ฮ่าๆๆ
สงสารเค้ก มาให้กำลังใจเค้ก
-
พี่คิวต้องอยากพูดอะไรกับเค้กแน่ ๆ เลย หรือพี่คิวจะไม่มั่นใจกับความรักที่เกิดขึ้นครั้งใหม่กันนะ
อย่างนี้น้องเค้กต้องทำให้พี่คิวมั่นใจ สู้ ๆ o13
-
ดีขึ้นแล้วสินะน้องเค้ก
พีทพูดโดนใจมากตอนนีิ้5555
เข้าใจนะคือผชปกติที่ไหนมันจะเกิดมีรมณ์พิศวาสจูบผชด้วยกันเองอ่ะ นอกจากเค้าจะมีใจอ่ะเน้ออออ~ :-[
หมั่นไส้อีคุณฝัน มาส่งมาสั่งคนอื่นเค้าฉอดๆๆ :angry2:
เค้กเป๊นเบ๊เจ๊ร๋ไงห๊า!! *เอาหนังสือเล่มนั้นฟาดใส่รัวๆ*55555
ขอบคุณดบบี้ที่มาต่อนะคะ เอาใจช่วยน้องเค้กต่อไปจ้า
-
เค้กเจ๋ง o13
-
แก้วกับพีท เจ๋งมาก สู้เค้าเค้ก ^^
-
อ่านแล้ว "หน่วง"มาหลายพาร์ทแล้วค่ะ
เดินหน้าต่อไปน้องเบบี้ ทำให้พี่อินมากเลย
สู้นะค่ะ
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
โอ๊ย!!! ถูกใจประโยคนี้จริงๆอ่ะ :กอด1: :กอด1:
บอกรักพี่คิวไปเลยน้องเค้ก เร็วๆๆๆๆๆๆ :110011: :z7:
-
สงสารเค้กมาก ตอนโดนพี่คิวจูบเรายังเขินแทนเลย ไหงโดนผลักตกเหวไวไปไหม
ไม่รุ้ว่าคิวเกิดสำนึกชั่วดี จับไม่ได้วงไม่ลงเพราะเรื่องอะไร ทำให้เย็นชาและเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
รุ้นะว่าตัวเองคงไม่มีความสุขสักเท่าไหร่หรอก ไม่นึกว่าจะปากแข็งใจแข็งกับน้องได้ลง
ชื่นชมในความอดทนของเค้กมากกกกกกก เป็นเราน้ำตาร่วงใส่พี่ๆ ไปนานละ มาจุบเรา เป็นใครๆ ก็ย่อมคิดเนอะ
แอนนิเวย์ น้องเค้กควรบอกความในใจเป็นอย่างยิ่ง เอาให้อิคนที่แก่กว่าผ่านโลกมามากกว่าหงายหลังไปเลยค่ะ
ยังไงรออ่านนะคะ ;)
-
กูรักมึง จบป่ะแม่ง ! บอกพี่คิวไปเลยย 55555555555
ปวดตับมาหลายตอนแล้วว ว
(อยากจัดการอีเจ๊ฝัน o18)
ปล.รอตอนหน้าค่ะบี้ :-[
-
ชอบตอนนี้มากมายยย
บอกไปเลย เค้ก เอาให้เต็มที่
ให้ฝันรู้ไปเลยว่าอย่างเค้กก็ทำให้คิวรักได้
รอตอนหน้าค่าาา
-
ลุยเลยเค้ก :laugh:
แต่เค้ากลัวอะ :z3:
:sad4:
-
แก้ว พีท นายสองคนสุดยอด o13
เค้กสู้ๆๆ :z10:
-
ลมหายใจสะดุดไปเป็นช่วงๆๆๆๆ
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ชอบประโยคสุดท้ายของพีทมาก เจ๋งอ่ะ o13
น้องเค้กสู้ๆ อยากเห็นตอนเค้กสารภาพกับพี่คิวอะ :impress2:
-
o13เค้กมีเพื่อนดีมากเลย
แล้วก็บอกคุณพี่คิวไปเลย บางที่เขาอาจจะรอเราบอกก่อนก็ได้ (แอบให้กำลังใจตัวเอง :laugh:)
-
พีท นายสุดยอดมาก o13
-
ถึงเวลาที่ต้องทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างแล้ว
สู้สู้นะเค้ก
-
บอกไปเลยน้องเค้ก...คนให้กำลังใจเพียบบ
-
อ่านถึงตอนนี้อยากให้น้องเค้กตัดใจได้ จะได้ไปเจอคนอื่นที่ดีกว่าจริงๆ
น้องน่ารัก แสนดี มีสมอง ควรได้เจออะไรดีๆ นะคะ
ไม่น่าต้องมาลำบากกับชะนีนางหนึ่งแบบนี้(เรียกแบบนี้เพราะนางอยากได้ปั๋วมากๆ)
ส่วนอิพี่คิว ก็ดี
แต่ก็จบแค่ก็ดี ไม่มีอะไรเค้กได้มากกว่านั้นเลยอ่ะ
-
เค้กสู้ๆๆ
-
รอลุ้นฉากบอกรัก
-
ค้างอย่างแรงอะ อยากอ่านตอนต่อไปจร้า.................................
คิวใจร้ายม๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำให้เค้กรัก แล้วไม่รับผิดชอบอะ T T
-
เหนด้วยกับเพื่อนๆ
อะไรที่มันค้างๆคาๆอยู่จะได้เคลียซะที
-
:call:เอาใจช่วย เค้ก นะจร้าาาาาา
-
บอกไปเลยเค้ก บอกไปเลยยย
เป็นกำลังใจให้เค้ก และนักเขียนค่ะ
เย้ๆ :กอด1:
-
ไม่เคยหมั่นไส้พระเอกเรื่องไหนเท่าเรื่องนี้มาก่อน
ไอ้พี่คิวมันไม่ได้ดั่งใจเลยให้ตาย!!!
-
เอร๊ยยยยยย อยากอ่านต๊ออออ :z3:
:กอด1: เบบี้แน่นๆ
-
ตอนหน้าถ้าพี่คิวยังงี่เง่าอีก
ตูจะยกเค้กให้พี่ทัก !!
ปล. เพ้อข้ามเรื่องกันเลยทีเดียวตู 555555
-
น้องพีท สุดยอดดดดดด !!!!
มากอดหน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
สำหรับค่ำคืนนี้ ประโยคนี้โดนมากๆๆ
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” อ่านแล้วนอนหลับบค่ะ
ความรู้สึกตอนแรกค้างคาพอๆกับเค้ก แต่พอมาอ่านที่แก้วพูด พีทพูดด โอเคละ 55555
ไม่งั้นอินนนมากค่ะ สงสารน้องเค้ก
ขอบคุณเบบี้มากๆๆๆเลยนะค่ะ :pig4:
ปล..รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ คิคิคิ ไฟท์ติ้งงงงงงงงงงงงงงง :กอด1:
-
สิ่งสำคัญคือเราได้ทำอะไรเพื่อความรักแล้วรึยัง ?
ถ้าได้ทำแล้ว ไม่ว่าผลเป็นยังไงมันคงไม่สำคัญหรอก
น้องเค้กสู้ ๆๆ ^^
-
ความรู้สึกเหมือนโดนจับโยนลงหน้าผาเลยอะ
ไง๊เป็นยังงี้อะ อ้ายพี่คิว............................
"ทำไมอะ...ห๊ะ" (ทำเสียงตามคลิบ ครูอังคณา) 5555
สงสารน้องอะ ร้องไห้เลยอะ TT :monkeysad: :m15:
อยากจะรู้จังอีเจ้ฝันมันดีดน้ำมันพรายใส่พี่คิวหรือไง
ถึงได้จะหลงผิดไปหมั่นกะมันอะ ทั้งๆๆๆ ที่ไม่มีท่าทีมาก่อน
หรื่อว่าพี่คิวเมาแดด ง่ะ
ถ้า...ยัง...ไม่...ถอน...หมั่น...กะ...อีเจ้ฝัน...
เรื่องนี้............ถึง............พี่ข้าว(สุดท้ายกรูก็รักฯ)........แน่!!!
เพราะคุณครูอังคณา.......คงเอา......อี(ชะนี)เจ้ฝัน.....ไม่อยู่
ต้องให้พี่ข้าวจัดการ ถ้ายังทำเฉย จะเชิญ พี่ทัวร์ มาร่วมวงด้วย
ปล. เบบี้จร้า เมื่อไหร่มาม่าจะหมดอะค่ะ ร้องไห้ตามมาหลายรอบแล้วน๊า
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
ท้อแทนเค้ก
+1
-
เพิ่งมาตามอ่านเมื่ออาทิตย์ที่เเล้ว อ่านทันเเล้ว
อยากจะเม้นท์ตั้งนานเเล้วเเต่ มันยังติดๆขัดๆอยู่ ขอโทษที่เพิ่งเปิดเผยตัว คร้าบ
ตอนนี้สงสารพี่เค้กมากเลย เเต่ที่จริงก็เข้าใจว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้
ส่วนพี่คิวปิด คิดอะไรอยู่ก็ไม่มีใครรู้หรอก มัวเเต่เงียบ เชียบอยู่นั่น
ส่วนพี่ฝัน(ร้าย เปียก เค็ม ขม เผ็ด บ้า บอ) ไปไหนก็ไปย็ากกกก :z6: :z6: :z6:
-
สงสารเค้กมากมายเลย
ลุ้นให้เค้กบอกรักพี่คิวนะ อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อไปถ้าเค้กบอรักพี่คิว
-
ความรู้สึกผิด กับสิ่งที่ตัวเองคิด เลยปิดกั้นโอกาสแห่งการได้รัก
แต่เมื่อประโยค สั้น ๆ ได้ใจความ " ช่างแม่งมันซิ " ทำให้น้องเค้กตาสว่าง
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าได้บอกประโยคที่ตอนแรกคิดว่าผิดออกไป
ลุยเลยน้องเค้ก :z2:
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ :กอด1:
-
ประโยคนี้กำลังฮิท
-
ลุยเลยเค้ก :impress2:
-
แค่อยากอ่านที่ยาวมากขึ้น ความใมใจของเค้กจะสำเร็จไหม
เหมือนลู้นละครว่าต่อไปพระนางจะนำพาตัวเองออกมาได้หรือเปล่า
จากวังวนนี้ เอาใจช่วยเสมอนะเค้ก :m15: :L1:
-
อะ บอกเลยๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆๆๆๆๆๆๆ :impress2:
รักพีทกับแก้วมากกกกก ทำให้เค้กคิดอะไรได้เยอะเลย ><!
สู้ๆน๊า พี่เบบี้ !!
-
แล้วเค้กจะกล้าบอกรักพี่คิวใหมเนี่ยะ ลุ้นๆๆๆ :impress2:
-
:z13:
-
จริงเหรอเค้ก ทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่า
-
o13ลุยเลยเค้กกก!!
-
:z3: นอกจากสงสารน้องเค้กแล้ว สงสารตัวเองด้วย ค้างงงงง อารมณ์ประมานไม่สุด สุดๆ :m15:
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” พีท สุดยอดดดดดดดดดดดดมากอะ
โคดแมนเลย..ฮ่าๆๆๆๆ
ปล.เค้ก พูดไปเลย “ช่างหัวแม่งปะไร” เนอะ.. ^o^
-
นั่นสินะก็แค่รัก ไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย
หวังว่าถ้าบอกไปแล้วน้องเค้กจะดีขึ้นนะ
อะไรที่มันหน่วง มันหนัก ก็คงจะเบาขึ้น
เค้กมีเพื่อนอย่างนี้ช่างโชคดีจริงๆ :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
แหม่ พีทมันได้ใจจริงจริ๊ง !!!
แต่งก็แล้วไง ก็รักอ่ะ จบเว้ !!!
ว่าแต่พีท หาคู่ให้มันทีซิ๊เบบี้ :กอด1:
-
:ped149: เค้กลุยเลย
-
เนี๊ยและ มีเพื่อนดีๆจะจะคอยช่วยเราเสมอ
เมื่อเราทุกข์เพื่อนก็จะเป็นกำลังใจให้
เค้กโชคดีมากที่มีเพื่อนอย่าง พีทและแก้ว o13
-
เครียดแท้ เครียดหลาย
เครียดแท้ เครียดหลาย
ตั้งใจมาอ่าน อ่านแล้ว เครียดยิ่งกว่า สอบ Final อีก อ่ะ
โห๊ะ !!! เครียดหลายๆ
..0. .
-
แวะมาดูจ้า
ไม่รู้เป็นอะไร ต้องเข้ามาส่องกระทู้นี้วันละสี่เวลา
ลุ้นเค้กสุดตัว ตอนหน้าพี่คิวจะออกหรือยังน้า
ท่าทางพี่คิวจะเป็นพระเอกที่พูดน้อยที่สุดในบรรดานิยายของเบบี้รึเป่าเอ่ย
:L2:
-
เค้กรีบบอกรักพี่คิวเลย ย
อยากรู้ว่าพี่คิวจะทำยังไง!!
-
เปิดมาดูบ่อยมากกกกก อ่านตอนนี้ซ้ำไปหลายหน :z3:
อยากอ่านอีกกกกกกก ไม่เคยพอเลยกับเรื่องนี้
รักเบบี้ มาต่อเร็วๆนะคะ ใกล้จะขาดใจแล้ว :sad4:
-
อร๊าย ชอบที่พีทพูดอะ แต่ก้อนะเค้ก ลองพูดออกไปดูก้อได้นะ เผื่อจะได้สบายใจขึ้น เอาใจช่วย สู้สู้
-
ช่วงหลังๆ มานี่ อ่านแต่ละ ตอนหลายรอบมากอ่ะ
อย่างน้อย 2 รอบ เพื่อกระชับความเศร้าในเนื้อเรื่องให้ อินมากๆๆ
แต่.... เศร้ามากกกกกก
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
เจอประโยคนี้ไป เห้อ สุดๆ สู้มันให้ถึงที่สุด
สู้ว้อย เค้ก จัดหนัก
U U""
-
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง” กดไลค์ o13
นั่นดิ ช่างหัวพี่คิว จะแต่งก็แต่งไปดิ
ไปบอกรักให้พี่คิวปวดใจเล่นดีกว่า ๕๕๕๕๕๕๕๕
-
เศร้าเคล้าน้ำตา ฮาตอน ช่างหัวแม่งปะไร เฮ้อ น้องเค้กกล้าบอกรึเปล่าหนอ ต้องมีพี่ฟ้าช่วยซะแล้ว ดีจังเลยมีเพื่อนที่เข้าใจกัน
-
เงิบบบบ... =[]=
-
ช่างหัวคิวมัน... อื้อหือ ไปบอกมันให้ได้แรงๆอย่างนี้โลด
-
o13 บอกเลยยยยยยยยยยยยยยยย
-
แพ้เพราะไม่ลงแข่งเจ็บใจมากกว่าลงแข่งแล้วแพ้เยอะเลยนะเค้ก กลั้นใจบอกรักพี่คิวไปเลย อะไรจะเกิดก้อให้มันเกิด ดีกว่าค้างคาอยู่ในใจแบบไม่มีคำตอบ
-
รักแล้วมันผิดตรงไหน!! o13
-
เอาใจช่วยน้องเค้กเต็มที่ วัดใจกันไปเลย :a2:
พี่คิว มาจนถึงตอนนี้ก็ยังแอบเชื่อในตัวพี่คิวอยู่นะ ทำอะไรซักอย่างดิ ได้โปรดดด...
-
~49~
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“สวัสดีจ้ะเด็กน้อย” พี่ฟ้าโผล่หน้าเข้ามาในห้องพักพนักงาน ผมกับพี่ออฟยิ้มตอบให้
“พี่ไปแล้วนะออฟ..ฝากด้วย”
“ไปไหนอ่ะครับ” ผมถามด้วยความอยากรู้
“แหม..เค้กถามครั้งแรกเลยมั้งครับเนี้ย ดีใจจัง” พี่ฟ้าพูดแซว ผมยืนเขิน
“ไปเยี่ยมคุณแม่น่ะ ไงก็..ตั้งใจทำงานกันด้วยนะครับ” พี่ฟ้าตอบ
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบ
“ไปล่ะ” พี่ฟ้าโบกมือลาและปิดประตูไป
“ป่ะ..ทำงาน” พี่ออฟนำมือมาวางไว้บนหัวผมเพียงครู่เดียวก่อนที่พี่เขาจะเดินออกจากห้องไปก่อน ผมเดินนำเอาแก้วน้ำไปวางไว้ที่อ่างล้างจานและเดินออกจากห้องพักเพื่อไปทำงานต่อ
“.......................” ผมชะงักในทันทีเมื่อเห็นพี่ฝันเดินเข้ามาในร้าน เธอหันมามองหน้าผม
“คิวล่ะ” พี่ฝันถาม
“พี่คิวไม่ได้มาทำงานนี่ครับ ตั้งแต่เช้าแล้ว” พี่หมีที่ยืนอยู่ข้างๆตอบแทนผม ที่จริงผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าพี่คิวอยู่หรือไม่อยู่ที่ร้าน เพราะผมมาทำงานในตอนบ่ายและทราบเพียงว่าวันนี้เป็นเวรของพี่คิวเท่านั้น ผมยังคิดว่าพี่คิวอยู่ในครัวเลยด้วยซ้ำ
“คิว..ไม่ได้กลับมางั้นเหรอ” พี่ฝันถามด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่
“ครับ” พี่หมีพยักหน้าตอบ
“ตอนนี้มีแค่พี่เซ็นอยู่ในครัว” พี่หมีพูด
“งั้นพี่ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม” พี่ฝันถาม
“แต่..ทางร้านเราห้ามไม่ให้คนนอกเข้าในครัวนะครับ” พี่หมีบอก พี่ฝันเงียบไปและมีสีหน้าเศร้าลง ผมเห็นพี่หมีถอนหายใจเบาๆ
“โอเคครับ ถ้าแป๊บเดียว” พี่หมีพูด
“ขอบใจ” พี่ฝันบอกและเดินเข้าไปในตัวเคาร์เตอร์ในทันทีก่อนจะเดินตรงเข้าไปในครัว ผมยืนเงียบมองพี่หมีที่ยังคงนิ่งอยู่จนผมไม่รู้ว่าพี่เขากำลังคิดอะไร สิทธิ์ของการตัดสินใจแทนพี่ฟ้า พี่เซ็นและพี่คิว รองลงมาขึ้นอยู่กับพี่หมี ถ้าเกิดอะไรขึ้นโดยเป็นการตัดสินใจจากพี่เขา นั่นก็หมายถึงพี่หมีต้องรับผิดชอบในการตัดสินใจนั้นด้วยตนเอง
“พี่หมีโอเคนะครับ” ผมถาม
“หึ..เป็นห่วงรึไง” พี่หมียิ้มให้ผมน้อยๆ
“ฮะ เป็นห่วง” ผมตอบ ผมตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำ อยู่ๆในหัวผมกลับนึกถึงพี่คิวขึ้นมา ทีตอนที่พี่คิวพูดในประโยคลักษณะเดียวกันกับพี่หมีเรากลับไม่กล้าตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำแบบนี้..สงสัยเราคงอาการหนักกับพี่คิวมากไปแล้วจริงๆอย่างที่พีทและแก้วว่า
“ร้านชักวุ่นไปกันใหญ่ เหมือนไม่มีอะไร..แต่ น่าเบื่อชะมัด” พี่หมีบ่น
“เฮ้อ..ไอ้ความขมุกขมัวภายใต้ความสดใสนี่คืออะไรกันครับ” พี่หมีหันมามองหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ
“เค้กก็ด้วย รู้รึเปล่า..”
“แล้ว รู้อะไรไหม” พี่หมีพูด ผมเริ่มงงว่าคำพูดนี้เป็นประโยคคำถาม ต้องการบอกหรืออะไรกันแน่
“น่าจะรู้แหละนะ แต่แค่ไม่รู้ตัว หึ..รับลูกค้าก่อน” พี่หมีแสยะยิ้มก่อนจะตัดบทลงห้วนๆ และทิ้งไว้เพียงผมที่ยังคงงงไม่เลิก พี่ฝันเดินออกมา เธอมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม
“ฉันขอเข้าไปรอในห้องอาฟ้านะ” พี่ฝันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดและเดินตรงเข้าห้องพี่ฟ้าไปเลย ผมเดินเข้าไปในตัวเคาร์เตอร์เพื่อรินน้ำเปล่าและเดินนำเอาไปให้พี่ฝันในห้อง ซึ่งมันเป็นมารยาท เรารู้ว่าเรามีแขก ไม่ว่าแขกจะมาในรูปแบบไหนเราก็ควรละเหตุผลบางอย่างไว้เพื่อหน้าที่ ผมคงปล่อยหน้าที่ไปอย่างเพิกเฉยแบบนั้นโดยการทำเป็นไม่รับรู้ ไม่ชอบ ไม่เห็นหรือเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนไม่ได้
“น้ำครับ..มีอะไรก็เรียกได้นะครับ” ผมวางแก้วน้ำลงตรงหน้าพี่ฝัน
“ขอบคุณ” เธอพนักหน้าบอก ผมพยักหน้าตอบให้เธอและเดินออกจากห้องมา ผมต้อนรับลูกค้ากับพี่ออฟ ส่วนพี่ซีและพี่กัสต้องวุ่นอยู่กับอาหารที่จะต้องเตรียม คิดเงิน รับออร์เดอร์และอื่นๆ ส่วนพี่หมีเหมือนจะได้รับหน้าที่แทนพวกผมทุกอย่าง อะไรที่พี่หมีทำได้คือพี่เขารับไปทำทั้งหมด ผมเหลือบดูนาฬิกาเป็นช่วงๆเพราะพี่ฝันนั่งรออยู่ในห้องของพี่ฟ้าเกือบสามชั่วโมงแล้ว
“พี่ฝันยังไม่กลับอีกเหรอ” พี่กัสถาม
“เฮ้อ” พี่ซีถอนหายใจ ผมได้แต่เงียบ
“อะไรของพวกพี่เค้ากันนะ” พี่ซีบ่นหน้างอ
“ซี..นี่บิลโต๊ะเอ็มกับเอฟ คิดเสร็จแล้วช่วยเอาไปให้ลูกค้าหน่อยนะ” พี่หมีเดินมายื่นบิลให้กับพี่ซี
“ค่ะ” พี่ซีรับและนำไปจัดการตามหน้าที่ของตน
“เค้กเข้าไปถามพี่ฝันสิ..ว่าจะรับอะไรเพิ่มไหม แล้วเมื่อกี้พี่เซ็นบอกว่าถ้าพี่ฝันยังรออยู่..ให้พี่ฝันกลับไปได้แล้วด้วยอ่ะ วันนี้พี่คิวคงไม่กลับมาหรอก” พี่กัสพูดบอกหน้าแหย ผมชี้หน้าตัวเอง
“พี่ไม่ไปเด็ดขาด” พี่กัสส่ายหัวท่าเดียว
“ครับ..ที่จริง เปล่า” ผมพูดไปอย่างนั้นและยังงงตัวเองว่าต้องการจะสื่อบอกอะไรแก่พี่กัส ผมเดินออกมาจากเคาร์เตอร์และตรงเข้าไปที่ห้องของพี่ฟ้า
ก๊อก ๆ ๆ
“ขอโทษครับ” ผมเดินเข้าไป พี่ฝันหันมามอง เธอปัดแก้มอย่างลวกๆ ตาของเธอแดงจนผมสังเกตเห็นได้ พี่ฝันหันหน้าหนีไปอีกทาง
“คือ..พี่ฝันจะรับอะไรเพิ่มไหมครับ” ผมมองไปที่แก้วน้ำของเธอ น้ำหมดแก้วไปแล้ว
“ขอเป็น เอสเปรสโซ่ร้อนสักแก้วก็แล้วกัน” พี่ฝันตอบ
“ได้ครับ”
“แล้ว..เอ่อ พี่เซ็นบอกว่า ให้พี่ฝันกลับไปพักผ่อนได้แล้วครับ..วันนี้พี่คิว คงจะไม่มาแล้วครับ” ผมพูดเสริมจากคำพูดของพี่เซ็นไป ถ้าผมพูดไปโต้งๆ ผมกลัวว่าพี่ฝันจะหาว่าผมไปไล่เธอและอาจจะตีความหมายของผมผิดไปได้
“.......................” พี่ฝันเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม ตาของเธอบวมแดงแต่สายตาของเธอช่างว่างเปล่า
“ทำไมคิวถึงไม่มาล่ะ” เธอพูดเหมือนอ้อนวอนขอคำตอบจากผม สีหน้าของเธอเหมือนจะร้องไห้
“คิวหายไปไหน” ผมได้แต่หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ขาก้าวไม่ออกเพราะอะไรหลายสาเหตุ คำพูดของเธอกำลังทำให้ผมอยากรู้เรื่องทั้งหมด
“เป็นว่าที่เจ้าบ่าวที่บ้าดีใช่ไหมล่ะ หึ” พี่ฝันแสยะหัวเราะเหมือนไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น สายตาของผมสะดุดเห็นที่นิ้วนางข้างซ้ายที่มือของเธอ แหวนเพชรที่เธอสวมอยู่นั้นทำให้มือของเธอที่สวยอยู่แล้วดูดียิ่งขึ้นกว่าเดิมจนผมแทบละสายตาออกมาไม่ได้
ผมไม่กล้ามองไปที่แหวนนั่นนานนักและไม่กล้าสบตาพี่ฝันอีกด้วย ผมได้เพียงแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนี้เพราะสถานการณ์นั้นไม่สามารถทำให้ผมเดินออกไปอย่างหักหน้าเธอได้
“วันนี้ วันนี้เป็นวันที่เราต้องไปแจกการ์ดแต่งงาน..อยู่ๆไอ้บ้านั่นก็หายตัวไปหลังจากที่เพิ่งแจกไปได้แค่ไม่กี่ใบ ฉัน..กำลังรู้สึกอยากตบหน้าคิวสักฉาก หึ..บ้าชะมัด” พี่ฝันพูดขึ้น รอยยิ้มที่แสยะออกมาไม่ได้ทำให้สีหน้าเศร้าหมองของเธอนั้นลดน้อยลงเลย ท่าทางของเธอทำให้ผมเห็นได้ว่าไม่ใช่เพียงผมเท่านั้นที่กำลังรู้สึกแย่ไปเสียคนเดียว
“บ้าใช่ไหมล่ะ แต่ก่อน..ฉันเคยรู้สึกไม่ชอบเอาซะเลยเวลาที่ปรายตบหน้าคิวตอนที่เธอโมโห แต่ตอนนี้ฉันชักจะเข้าใจความรู้สึกของยัยนั่นซะแล้วล่ะ แต่ก็นะ..ถึงตบไป คนแบบนั้น จะรู้สึกอะไร คงจะเต็มใจให้ตบด้วยซ้ำละมั้ง” พี่ฝันพร่ำพูด เธอมองหน้าผม สีหน้าเธอยิ้มด้วยท่าทางเศร้า ผมยิ้มให้เธอเพียงนิดเดียว
“อีกไม่กี่วัน เราก็จะแต่งงานกัน” ผมตกใจ หุบยิ้มลงและกลับเงยขึ้นมองหน้าเธออย่างเต็มตา
“เรากำลังจะแต่งงานกัน อย่างที่ฉันเคยฝันมาตลอด” พี่ฝันพูด ไม่ใช่น้ำเสียงเย้ยหยันแต่อย่างใด เธอน้ำตาคลอและปากของเธอสั่นจนผมสังเกตเห็นได้
“ฉันกำลังเป็นผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงาน แต่งงานกับคนที่ฉันรักมาตลอดเกือบสิบปี..อึก” พี่ฝันเริ่มกระแทกน้ำเสียงหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ผมได้แต่เงียบและอดไม่ได้ที่จะไม่สงสารเธอ ผมกำลังรู้สึกเหมือนกับว่าปัญหาหัวใจของผมนั้นเล็กน้อยไปในทันทีเมื่อเทียบกันกับเรื่องของเธอ
“เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม ฉันไม่ใช่ยัยบ้าที่กำลังรอว่าที่เจ้าบ่าวที่หายตัวไปหลังจากที่ยังแจกการ์ดไม่เสร็จเสียหน่อย” เธอปาดน้ำตาของเธออย่างลวกๆ
“พี่คิวเค้าก็คง..รักพี่นะครับ ไม่อย่างนั้น” ผมพูดขึ้น พี่ฝันเงียบลง ผมไม่รู้ว่าผมจะต้องพูดอะไรต่อไปอีก ผมรู้สึกช็อกพอๆกับที่รู้สึกสงสารเธอขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่พี่คิวถึงเป็นอย่างที่เธอว่า ผมไม่รู้ว่าเธอกับพี่คิวนั้นมีความสัมพันธ์กันไปถึงขั้นไหน ผมไม่รู้ว่าการที่เธอรักพี่คิวได้มากขนาดนี้นั้นเพราะอะไร..เหมือนกับผมหรือเปล่า หรืออาจจะรักมากกว่าผมเสียด้วย และผมไม่รู้ว่าพี่คิวนั้นคิดอย่างไรกับเธอ ที่จริงแล้วผมแทบไม่รู้อะไรเลยด้วยซ้ำ ผมรู้เพียงผมรักพี่เขาเช่นเดียวกันกับที่พี่ฝันรัก ผมเองก็คงไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่นัก
เราเงียบลงอยู่เกือบห้านาที พี่ฝันก้มหน้าลงอย่างช้าๆ
“ใครจะแทนปรายได้กัน” พี่ฝันพูดขึ้น ตาของเธอจับจ้องอยู่ที่แก้วน้ำตรงหน้า
“ตอนนี้ฉันกำลังคิดว่า ฉันแทนปรายไม่ได้ก็ช่างสิ..ฉันก็เป็นฉันตอนนี้ คนที่คิวกำลังจะแต่งงานด้วย นายว่า..ฉัน ฉันผิดไหม” พี่ฝันเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม ผมก้มหน้าหลบสายตาของเธออีกครั้ง คำพูดและความคิดของเธอกำลังคล้ายกับผมจนน่าขำ
“นั่นสินะครับ ไม่มีใครผิดทั้งนั้น” ผมรวบรวมรอยยิ้มขึ้นยิ้มให้เธอ มันน่าตลกที่ผมไม่คิดว่าจะได้พูดประโยคเดียวกับประโยคที่ผมได้รับการปลอบโยนจากคนอื่นมากมาย
“เอสเปรสโซ่รอสักครู่นะครับ” ผมตัดบทและเดินออกจากห้องมา สมองกำลังทำงานอย่างหนักที่จะประมวลคำพูดของพี่ฝันทั้งหมด
“เอสเปรสโซ่ เอสเปรสโซ่ เอสเปรสโซ่”
= = = = = = = =
หลังจากที่เลิกงาน ผมไม่ได้ตรงกลับบ้าน ใจผมเพียงแค่ยังไม่อยากกลับไปตอนนี้ มันรู้สึกโหวงไปหมด หัวใจที่ยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั้นผมไม่อยากกลับไปแล้วมีอาการที่ทำให้แม่รู้สึกไม่สบายใจ วันนี้พี่ฟ้าไม่ได้กลับมาที่ร้านอีก พี่หมีจึงอาสาที่จะไปส่งผมให้แต่ผมบอกปฏิเสธ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์อยากจะคุยกับใครทั้งนั้น ผมอยากไปที่ที่อยู่แล้วสบายใจ ผมจึงนึกขึ้นได้ว่าจะไปที่มูลนิธิก่อนกลับบ้าน ผมไม่ได้เจอน้องๆมานานมาก อีกอย่างคือ ผมไม่มีที่ไปนอกจากที่นี่แล้ว..
“........................” ผมต้องชะงักในทันทีเมื่อเห็นคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
“พี่เค้ก!!” เสียงน้องๆเรียกขึ้นพร้อมกัน สติผมเกือบจะหลุดออกไป พี่คิวหันมามองหน้าผม เราจ้องกันอยู่นานมากจนผมมารู้สึกตัวอีกทีคือน้องนัทกับน้องอุ่นรักวิ่งเข้ามาจับมือผมไป
“นัทคิดว่าพี่เค้กจะไม่มาแล้ว พี่หน้าโหดมาด้วยล่ะ..เอาขนมมาเต็มไปหมดเลย” น้องนัทบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเหมือนต้องการจะอวดตามประสาเด็ก
“ครับ” ผมยิ้มให้น้องนัทและน้องอุ่นรัก น้องทั้งสองคนจูงมือผมให้เดินตามไป ผมเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้ พี่คิวหันกลับไปนั่งนิ่ง มีเด็กนั่งเล่นอยู่ข้างๆพี่คิวสองสามคน ผมคิดว่าเด็กๆน่าจะเล่นกันเองและมีพี่คิวเข้าไปร่วมด้วยมากกว่าเพราะพี่คิวเอาแต่นั่งเฉยมองเด็กพวกนั้นอย่างเดียว
“นั่งสิคะพี่เค้ก” น้องอุ่นรักบอก ก่อนที่ตัวเองจะนั่งลงข้างๆพี่คิว ผมนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวตรงกันข้าม
“น้องนัทจะนั่งตักพี่เค้ก” น้องนัทบอก
“มาสิครับ” ผมยิ้มและอุ้มน้องนัทขึ้นนั่งบนตักของตัวเอง
“ทำไมพี่เค้กไม่มาเลยล่ะ พวกเราคิดถึงนะ” น้องนัทพูดหน้างอ
“พี่งานยุ่งนะครับ” ผมตอบ
“หึ..”
“อะไรครับ” ผมกระชากเสียงถามทันทีเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากพี่คิว เป็นน้ำเสียงที่ไม่ได้ยินมานานมากแล้ว
“ไหนลองวาดให้พี่ดูใหม่สิครับ” พี่คิวหันไปพูดกับน้องอุ่นรักเหมือนไม่ได้ยินที่ผมถามอย่างนั้น ผมนั่งหน้างอจ้องอีกฝ่ายเขม็งแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรสักอย่าง
“พี่เค้ก..คืนนี้พี่เค้กอยู่กับนัทจนนัทเข้านอนเลยนะฮะ”
“ครับ” ผมยิ้มตอบ
“เย้!!” น้องนัทและน้องแป้งชูมือขึ้นอย่างดีใจ ผมนั่งเล่นกับน้องนัท น้องแป้งและน้องคนอื่นๆโดยไม่ได้หันไปสนใจพี่คิวอีก แน่นอนว่าพี่เขาเองก็ไม่ได้สนใจผมด้วยเช่นกัน ต่างคนต่างคุยกับคนของตัวเองจนถึงเวลาที่จะต้องส่งเด็กๆเข้านอน
“แล้วพี่เค้กมาอีกบ่อยๆนะคะ อุ่นรักคิดถึง” น้องอุ่นรักพูด
“ครับ” ผมยิ้มและก้มลงหอมหน้าผากน้องอุ่นรักเบาๆ
“พี่เค้กๆ” น้องนัทกระซิบเรียก ผมหันกลับไปมองน้องนัทที่นอนอยู่อีกข้าง
“พี่ทะเลาะกับพี่หน้าโหดเหรอฮะ”
“....เปล่า ครับ” ผมถึงกับตกใจกับคำพูดของน้องนัทเพราะไม่คิดว่าขนาดเด็กก็ยังสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของเราสองคนได้
“งั้นเหรอ” น้องนัทเสียงเบาลง
“หลับได้แล้ว ฝันดีนะครับ” ผมก้มลงหอมแก้มน้องนัทเป็นการบอกลา
“ฮะ” น้องนัทยิ้มกว้างตอบ
ผมเดินออกมาจากห้อง พี่คิวยืนอยู่หน้าประตูห้อง ผมเดินไปใส่รองเท้าอย่างเงียบๆ พี่คิวยังคงยืนอยู่ที่เดิม พอผมใส่รองเท้าเสร็จ ผมลุกขึ้นยืนและหยุดยืนนิ่งอยู่ครู่แต่ไม่ได้หันกลับไปมองพี่คิว ตอนนี้โรงเรียนเงียบมากเพราะเด็กๆเข้านอนกันหมดแล้ว ผมเลือกที่จะก้าวเท้าเดินออกมาโดยไม่ได้หันไปร่ำลาอีกฝ่ายเช่นกัน..
ผมได้ยินเสียงเดินตามมาจากด้านหลัง จึงหันกลับไปมอง พี่คิวมองหน้าผมตอบ ผมเลยต้องหยุดเดินและหันกลับเผชิญหน้าอย่างตรงๆ..
“กลับก่อนนะครับ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มให้ ผมยั้งคิดได้ว่า..การที่เราอยู่กันเพียงสองคนและได้มาเจอกันโดยบังเอิญขนาดนี้ ถ้าผมจะไม่กล่าวลาเลยมันคงจะดูแย่เกินไปหน่อย
“เดี๋ยวฉันไปส่ง” พี่คิวบอก
“.......................” ผมหันหน้าหนี คำพูดร้อยแปดพันเก้าเริ่มเข้ามาปั่นอยู่ในหัวของผม เราทั้งสองยืนเงียบ พี่คิวไม่ได้พูดอะไร เอาแต่ยืนมองหน้าผมอย่างเดียว
“พี่ควรกลับไปหาว่าที่เจ้าสาวนะครับ พี่ฝันมารอพี่ทั้งวัน..” ผมพูด เสียงเงียบบอกถึงสถานการณ์ที่เริ่มมาคุ ผมรู้ว่าผมไม่ควรพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันเพราะผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำน้ำเสียงแบบนั้น ถึงแม้ว่าการจะพูดประโยคนี้ออกไปเพราะอยากตอกย้ำความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น และอีกสาเหตุหนึ่งคือผมรู้สึกว่าพี่คิวควรจะกลับไปหาพี่ฝันมากกว่าที่จะไปส่งผม
“หึ ไม่ยักรู้ว่านายก็ชอบเจ้ากี้เจ้าการชีวิตของฉันด้วยอีกคน” พี่คิวแสยะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจแต่สีหน้ายังคงเดิม ผมเงียบไปเพียงหนึ่งอึดใจเพราะสมองกำลังประมวลคำพูดในประโยคต่อไป..
“เค้กจะไปกล้าเจ้ากี้เจ้าการชีวิตพี่ได้ยังไงละครับ” ผมยิ้ม สุดท้ายก็ต้องหลุดแทนตัวเองว่า “เค้ก” อย่างที่เคยใช้ ทั้งๆที่ตัดใจจะไม่ใช้คำนี้แล้วด้วยซ้ำ ถ้าทำอย่างเดิม..มันอาจจะทำให้ผมหลงตัวเองอย่างเคย แต่การที่แก้ไม่ได้นั้นเหมือนจะเป็นความเคยชินไปเสียแล้วละครับ
“ชีวิตของพี่ก็คือของพี่..เค้กก็แค่บอก ก็แค่บอก..สงสารพี่เค้าน่ะครับ พี่เองก็ไม่ควรหายออกมาแบบนี้ไม่ใช่เหรอ” ผมพูดและพยายามข่มน้ำเสียงของตัวเองไว้
“ฉันไม่ได้หายออกมา ฉันแค่อยากใช้ความคิด..ฉันอยากอยู่สงบๆบ้าง” พี่คิวพูด คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน
“ก็น่าจะบอกคนอื่น ไม่ใช่ให้คนอื่นมาเป็นห่วงอยู่แบบนี้..ไม่ยักรู้นะครับ ว่าพี่เองก็ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย” ผมว่า
“คนอื่นเป็นห่วง หรือใครเป็นห่วง” พี่คิวย้อนพร้อมกับแสยะรอยยิ้มเล็กๆออกมา
“จะไปรู้เหรอ” ผมหันหน้าหนี เพียงร้อยยิ้มเล็กๆบนใบหน้านั่นก็สามารถทำให้ผมใจเต้นแรงได้อีกครั้ง
“......................” เราเงียบลงพร้อมกัน พี่คิวยืนล้วงกระเป๋าทำเก๊กอย่างเคย ผมได้แต่มองไปที่สวนที่ตรงด้านหน้า ลมพัดแรงทำให้ต้นไม้รอบตัวเราพลิ้วไหวไปตามแรงลม ไฟในโรงเรียนเริ่มดับลงที่ละดวง ทำให้ตอนนี้ที่เราสามารถเห็นหน้ากันและกันได้เพราะไฟจากหน้าโรงเรียนและไฟนีออนจากถนนเท่านั้น
“เป็นไงบ้าง” พี่คิวถามขึ้น รอบตัวเราทั้งสองเงียบสงัด อยู่ๆเหมือนลมก็หายไปชั่วขณะ
“อะไรฮะ” ผมถามกลับเสียงเบา
“นายน่ะ..”
“ก็ดี” ผมตอบส่งๆ
“เดี๋ยวฉันไปส่งแล้วกัน” พี่คิวตัดบทและจะเดินนำออกไป
“ทำไมพี่ไม่คุยกับเค้กล่ะฮะ!” ผมหลุดถามออกไปด้วยหัวใจที่ว้าวุ่นไปหมด ที่จริงมันคงจะไม่ใช่คำถามที่อยากจะถามมากที่สุด แต่คำถามที่อยากถามมากที่สุดมันไม่สมควรจะถามเสียมากกว่า..
พี่คิวหยุดชะงักและไม่ได้หันกลับมา ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของพี่เขา ผมกำลังรู้สึกเหมือนผมพลาดแล้วที่ดันเริ่มถามอะไรแบบนี้ออกไป สิ่งที่ปากพ่นออกไปแบบนั้น เหมือนมันจะฟังคำสั่งจากหัวใจของผมมากกว่าสติที่มีอยู่ของผมเสียอีก
“แล้วทำไมนายไม่คุยกับฉันล่ะ” พี่คิวถามกลับ น้ำเสียงเรียบและเบาลง
“ก็เพราะพี่ เหมือนไม่อยากคุยกับเค้ก..” ผมตอบเสียงเบาเช่นเดียวกัน
“ฉันเหมือนงั้นเหรอ หึ..ฉันเหมือนหรือนายต่างหากที่เหมือน ใครเหมือนมากกว่ากัน” พี่คิวย้อนทำให้ผมชะงัก เพราะผมเองก็เป็นอย่างที่พี่คิวบอกอย่างปฏิเสธไม่ได้ ผมเลี่ยงที่จะพูดคุย เลี่ยงที่จะมองหน้า เพราะผมต้องการเลี่ยงที่จะรับรู้ความจริง
พี่คิวไม่พูดอะไรอีก เรายืนเงียบกันอยู่เกือบสิบนาที ผมเองไม่กล้าที่จะก้าวเดินไปไหน ที่จริงผมไม่อยากจะไปไหนเลยด้วยซ้ำ ที่ตรงนี้เงียบสงบดี ที่ตรงนี้ไม่วุ่นวาย ที่ตรงนี้ไม่มีใคร และที่ตรงนี้มีพี่คิว..
“พี่..”
“เค้กกลับเองดีกว่านะครับ” ผมบอก
“มันดึกแล้ว” พี่คิวพูดขึ้น
“ไม่เป็นไร..ยังไงเค้กก็เป็นผู้ชายนะครับ” ผมพูดแกมหัวเราะและก้าวขาเดินอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าขาของผมนั้นหนักอึ้งไปหมด
“ขึ้นรถ” น้ำเสียงสั่งด้วยความไม่พอใจจากคนทางด้านหลังทำให้ผมหยุดชะงัก
“ถ้าจะไปส่ง เพราะมันดึกแล้ว..ก็ไม่เป็นไรหรอกฮะ จริงๆนะ” ผมหันกลับไปยิ้มให้ และได้เพียงแต่ก้มลงมองต่ำเพราะไม่กล้าเงยหน้ามองอีกฝ่ายนานเกินไป
“.......................” พี่คิวเงียบ เราเงียบและต่างฝ่ายต่างยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นอยู่เกือบห้านาที
“พี่น่ะ” ผมเอ่ย
“พี่....จูบเค้ก ทำไมเหรอครับ” ผมเงยหน้าขึ้นสบตา ปากของผมสั่นไปหมดเพราะผมกลัวที่จะได้ยินคำตอบ สุดท้ายผมกลับทำใจปรับเข้ากับสถานการณ์ไม่ได้ทันอย่างที่คิดไว้ ภาพที่วาดเอาเองกับการที่ต้องเจอกับสถานการณ์จริงให้ความรู้สึกแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
พี่คิวสบตาผมเพียงครู่เดียวก็หันหน้าไปอีกทาง สีหน้าปกติอย่างทุกครั้งทำให้ผมอ่านพี่เขาไม่ออกเหมือนเดิม
“เป็นแค่เค้กคนเดียวใช่ไหมฮะ ที่คิดมากไปเอง..”
“การกระทำของพี่กำลังทำให้ใครแทบจะเป็นบ้าบ้าง พี่รู้ตัวรึเปล่า”
“ฉันผิดมากนักรึไง” พี่คิวหันกลับมามองเหล่ใส่
“ก็ไม่หรอกครับ” ผมยิ้มตอบ
“ฝ่ายที่ผิดไม่ใช่พี่อยู่แล้ว” ผมว่า
“ฉันทำอะไร ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ..ถ้าสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่ได้ไม่ตั้งใจทำ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ ผมชะงัก
“ไปนะครับ” ผมตัดบท
“นี่” ตัวผมเซไปตามแรงดึงจากพี่คิว
“.....................” เราจ้องตากันในขณะนี้ซึ่งมันอาจจะเป็นเวลาเพียงนิดเดียว แต่ทำไมเมื่อกี้ผมกลับรู้สึกเหมือนกับว่าผมเข้าใจในสายตาคู่นี้ของพี่คิวกัน แต่สุดท้ายผมก็ไม่สามารถเชื่อมั่นตัวเองได้หมดหัวใจอย่างเคยอีก หน้าเราอยู่ใกล้กันมาก ตัวของเราสองคนแทบจะชิดติดกัน
“ปล่อยเถอะครับ” ผมบอก พี่คิวปล่อยมือออกช้าๆและไม่ได้พูดอะไรอีก ผมก้าวขาเดินอีกครั้ง ผมกำลังคิดว่าถ้าผมพูดอย่างที่แก้วกับพีทเตือนผมไปในตอนนี้ ทุกอย่างก็คงจะจบลงรึเปล่า ฝ่ายผมเองที่จะได้สบายใจที่สุด และจะได้หยุดหัวใจของตัวเองสักที หรือถ้าไม่เลวร้ายจนเกินไป มันอาจจะดีขึ้นก็ได้..
ผมหยุดเดินและยืนนิ่งเพื่อรวบรวมสติของตัวเองให้กลับมาอยู่กับตัวมากที่สุด
“เค้กอาจจะชอบพี่” ผมพูดขึ้น เสียงรอบข้างที่เงียบเป็นทุนอยู่แล้ว คงจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยินที่ผมพูดในตอนนี้ดีถึงแม้ว่าผมจะยืนหันหลังอยู่ก็ตาม ผมทำใจและหันกลับไปเผชิญหน้าพี่คิว พี่คิวจ้องหน้าผมตอบ
“เค้กน่ะ” ผมพยายามเปล่งเสียงออกมาให้เป็นปกติที่สุด แต่มันกลับสั่นไปซะหมด
“เค้ก ชอบพี่..” ผมพูดพร้อมกับจ้องพี่คิวตอบไม่วางตา พี่คิวเองก็เช่นเดียวกัน
“เค้กไม่อยากรู้หรอก ว่าทำไมพี่ถึงจูบเค้ก หรือพี่รู้สึกยังไง..แล้วเค้กก็ไม่รู้ ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมเหลือบสายตาไปอีกทาง มือของผมกำสายกระเป๋าเป้ของตัวเองแน่นอย่างรู้สึกราวกับว่ามันกำลังช่วยให้กำลังใจผมอยู่ในตอนนี้
“เค้กรักพี่นะ” ผมพูดเสียงเบา มันเบามากจนแทบจะหลุดหายเข้าไปในลำคอ หลังจากที่พูดจบ ผมถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกว่าคอผมนั้นแห้งผากเกินไป
“ขอโทษฮะที่พูดอะไรแปลกๆ” ผมยิ้มและหันหน้าหนีสายตาที่ผมไม่สามารถอ่านออกคู่นี้ได้
“เค้กก็แค่ อยากจะบอกให้พี่รู้ แค่รู้ก็พอ..” ระหว่างที่ผมพูด พี่คิวได้แต่ยืนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าจะพูดใดๆออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
“หึ ตลกจังนะฮะ..เค้กก็นึกว่าพี่จะขำซะอีก” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนและผมต้องเงียบลงอีกครั้งเมื่อไม่มีรอยยิ้มใดๆออกมาจากอีกฝ่ายเลย
“เท่านี้ล่ะครับที่ค้างคา เค้กได้พูดแล้ว เอ่อ..พี่ก็ลืมๆมันไปซะเถอะนะครับ ก็แค่เรื่องไร้สาระ” ผมบอก
“ขับรถกลับดีๆนะครับ” ผมบอกทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินหนีออกมาในทันที ครั้งนี้ไม่มีการเดินอย่างลังเลใจอีก ผมก้าวเดินให้เร็วที่สุดจนแทบจะกึ่งวิ่ง ผมไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองด้านหลัง ความรู้สึกปั่นป่วนหัวใจนี้กำลังจะหมดไป ผมคิดว่าคืนนี้ผมคงจะนอนหลับได้ง่ายกว่าคืนที่ผ่านมา
“แฮ่ แฮ่~”
“หึ..จบแล้ว” ผมผ่อนฝีเท้าลง หน้าอกกระเพื่อมแรงเพราะคงวิ่งเร็วมากเกินไป
~พอกันที~
ผมรู้สึกยินดีอย่างที่แก้วบอกถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกอยากได้คำตอบจากพี่คิวไปในทางที่บวกมากกว่า แต่ไม่เป็นไรถ้าสิ่งนั้นจะทำให้พี่คิวลำบากใจ ผมไม่รู้ว่าพี่คิวคิดอะไรอยู่ ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพี่เขาบ้าง แต่นี่คือส่วนในสิ่งที่ผมต้องทำ สิ่งที่ผมอยากทำและมันตอบสนองความต้องการของผม สุดท้ายผมก็ได้พูดมันออกไปแล้ว ในเมื่อผมยินดีที่จะพูดออกไปแบบนั้นแล้วผมก็ควรจะเพียงพอเสียที ถ้าทุกอย่างจะดูแย่ไปหมดอย่างที่พี่หมีทัก นั่นหมายความว่าทุกคนเองก็คงมีความทุกข์ที่ไม่ต่างกัน พวกเราคงกำลังแบ่งปันมันอยู่ละมังครับ ในเมื่อถ้าทุกคนมีเหตุผล ผมเองก็มีเหตุผลของผมเหมือนกัน เหตุของผมคือการที่ได้บอกรักและผลลัพธ์ที่ได้คือ..การได้หยุดวิ่งตามความรักนั่นและกลับมาเบิกบานเสียที ไร้การคาดหวังอย่างเคย เพราะบางครั้งการคาดหวังก็นำพามาซึ่งหนทางแห่งความเจ็บปวด..
..................>>>><<<<..................
-
จิ้มๆๆๆๆๆๆ :z13: :z13: :z13:
-
จิ้มไม่ทัน เเต่จิ้มไว้ก่อน เค้กมาเเล้วววว ~!
===================
ค้างง !!!
-
o13เยี่ยมมากลูก บอกในสิ่งที่เรารู้สึกไปแล้ว
แล้วคิวล่ะ คิดยังไงกันแน่
-
เริดค้าาา เค้กกกก
ดีใจที่ได้บอก ดีใจที่เค้ารู้
เกือบจิ้มไม่ทัน กร้ากๆๆๆ
-
> <
เค้กบอกไปแล้ว เหลือแต่รอคำตอบพี่คิว??
เค้กสู้ๆ
-
เย้ ในที่สุดเค้กก็บอกในที่สิ่งที่อยากบอกแล้ว o13
-
เห้อออ สงสารพี่คิวจัง ไม่น่าเป็นใบ้เลย !
-
อ่านตอนนี้แล้วทำไมถึงได้น้ำตาคลอ
สงสารเค้ก :m15: :m15: :m15:
พี่คิวก็....พูดอะไรบ้างสิ ถ้าจะเงียบขนาดนั้น :a14: :a14: :a14:
-
o13 o13
เยี่ยมมากสำหรับเค้ก แมนมากสุดๆ แมนมากกว่าพี่คิว หรือใครๆ
ตัดใจซะนะลูก ถึงมันจะเจ็บแต่เวลามันจะช่วยนู๋ :กอด1:
พี่คิวคงสับสนจริงๆ แต่ความสับสนของพี่ีมันทำร้ายใครหลายคนเหลือเกิน พี่คิวคิดว่าตัวเองมีจิตใจทุกคนก็มีจิตใจและเหตุผลของตัวเอง แต่ที่พี่ทำก็แค่หนีไปเรื่อยๆ ใครจะเจ็บเพราะพฤติกรรมของตัวเองก็ไม่สน ถ้าพี่คิดว่าพี่ไม่ผิด การกระทำของพี่ไม่ผิด ก็อย่ามาให้ความหวังหรือยุ่งกับเค้กมากกว่าที่จำเป็นอีกเลย
ยังรักพี่คิวและเข้าใจพี่คิวอยู่น่ะ
-
สงสารน้องเค้ก :m15: :m15:
พี่คิวก็คงอึดอัด... :เฮ้อ:
-
อย่างน้อยก็ได้พูดเนอะ... แต่แบบลองคิดถึงในมุมพี่คิวนะก้จะแบบคนที่กำลังจะแต่งงาน แต่ไม่รู้ว่ารักเจ้าสาวหรือเปล่า
คงคิดอะไรได้เยอะ แต่คนที่น่าสงสารที่สุดกับเป็นฝันอ่ะ T_T เข้าใจจิตใจดี เจ้าบ่าวหนีหายไป รักไหมก็ไม่รู้
และหลังฉากยังมีคนมาบอกรักเจ้าบ่าวของตัวเอง โอ้ยยยยยยยย ดราม่า !!! ตอนนี้ต้องยกความดราม่าให้ฝันเลยนะ
แต่เบบี้แต่งฉากที่โรงเรียนดีมาก อ่านแล้วอินนนนนนนนท์สุดติ่ง สุดโต่ง สุดๆเลย หน่วงไปทั้งอก !!
พี่คิวก็ต้องชอบเค้กแน่นอนอยู่แล้ว แต่คนแบบพี่คิวอ่ะ แบบพี่คิว.... เฮ้ออออออ ขอให้หมอกขมุกขมัวหายไป
มีแต่ความสดใสเบิกบานไวๆนะ เหมือนอีพี่คิวจะเลวร้ายสุดในทุกมุมละ 55555 แต่จะมาอ้างว่าสับสนก็อืม
เอ็งมันพระเอกเรื่องนี้ ไม่เป็นไร เลวนิดเลวหน่อยไม่เป็นไรไม่ว่ากัน ที่สำคัญพี่คิวหล่ออออออ ฮ่าๆๆๆๆ
-
เจ็บกันไปหมดทุกคนเลย ก็ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายเร็วๆล่ะนะ
สู่ๆนะเค้ก
-
เค้กพูดแล้วววววววว o13
หวังว่าพี่คิวคงรู้สึกอะไรบ้างนะ จากมุมนี่แอบสงสารฝัน
ก็คนมันรักอะเนอะ เค้กชัดเจนแล้ว คิวชัดเจนบ้างสิ เรียกคะแนนคืนบ้าง
อยากอ่านตอนหวานๆแล้ว 5555+ :กอด1:
-
ในที่สุดเค้กก็บอกความในใจให้พี่คิวรู้แล้ว เย้ๆ o13
แต่พี่คิวจะนิ่งไปถึงไหนเนี้ย :laugh:
-
อินเกินไป ความหนักใจมาตกที่คนอ่าน :เฮ้อ:
-
น้องเค้กแมนมากเลยเหอะ
พี่คิวซะอีกที่หนีปัญหา
พี่ฝันก็ดันทุรังจนน่าสงสาร
น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าเค้าไม่รัก ทำไมถึงได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รักเรานักนะ
แต่ก็ว่าไม่ได้หรอก ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
หวังว่าน้องเค้ก จะดีขึ้นในเร็ววัน
พี่เป็นกำลังใจให้เสมอนะะะ
กอดเบบี้อีกที
-
พี่คิวชอคไปเลย
-
อ๊ากกกกกกกกก เบบี้สุดยอด
แต่งได้ ทั้งบีบคั้นใจ หน่วง โล่ง ประหนึ่งเป็นเค้ก o13
ตอนนี้รู้สึกว่า เค้กคงสบายใจไปแระ
เหลืออิพี่คิวฟังเค้กพูดขนาดเน้ คงเอาไปเครียดบ้างละ
สมน้ำหน้า เว้ยยยยยยยยยยย :angry2:
-
เป็นตอนที่เศร้า แต่ปนสุขนะ เหมือนเค้กได้ปลดปล่อยตัวเองแล้ว
เหลือก็แต่พวกจมทุกข์ดราม่าซับซ้อนทั้งหลาย ทรมานตัวเองกันต่อไปเหอะ
(สาบานว่าไม่อินเร้ยยย :z2:)
-
ในเมื่อถ้าทุกคนมีเหตุผล ผมเองก็มีเหตุผลของผมเหมือนกัน เหตุของผมคือการที่ได้บอกรักและผลลัพธ์ที่ได้คือ..การได้หยุดวิ่งตามความรักนั่นและกลับมาเบิกบานเสียที ไร้การคาดหวังอย่างเคย เพราะบางครั้งการคาดหวังก็นำพามาซึ่งหนทางแห่งความเจ็บปวด..
อย่างน้อยก็ได้พูดได้บอกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ผลจะเป็นอย่างไรช่างมัน
ขอบคุณมากเบบี้ สะใจว๊อย!!!!
-
อ่านตอนนี้แล้ว ตอนที่เค้กคุยกับพี่คิว เราร้องไห้เลย ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยร้อง
อาจมีเศร้า สงสารเค้กบ้าง แต่ก็แค่นั้น
อาจเพราะรู้สึกว่าบางทีเค้กกลัว ไม่มั่นใจ และคิดในแง่ร้ายเกินไปหน่อย
ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะพี่คิวก็เปลี่ยนไปจริงๆ แถมจะแต่งงานอีก แต่พี่แกก็ไม่ได้ละเลยเค้กขนาดนั้นซะหน่อย
เค้กหลบหน้า เลี่ยงที่จะคุย เหมือนต่างฝ่ายต่างก็กลัว จนวันนี้ที่เจอกัน
เค้กได้บอกรัก ได้ระบายสิ่งที่สงสัยมานาน ได้รู้มุมมองจากพี่คิวบ้างนิดหน่อยก็ยังดี
ต่อไปก็ถึงตาพี่คิวบ้างแหละว่าจะตัดสินใจยังไง กล้าทำตามหัวใจรึเปล่า สู้ทั้งคิวเค้กและคนแต่จ้า^^
-
:กอด1:เค้กในที่สุดก็บอกไปแล้ว
ก็เหลือแต่พี่คิวแล้วละว่าจะยังไง
-
เห้ออออ ระบายมันออกไปสักทีนะเค้ก
-
สงสารเค้กจังเลยอะ หวังว่าคำพูดของน้อง จะช่วยให้คนที่สับสน ได้คิดทบทวนอีกทีนะ
-
เค้กกล้าหาญมากคับ สู้ๆ นะ รอแค่พี่คิวแล้วล่ะหนีเจ้าสาวมาซะขนาดนั้น 555
-
เบบี้น่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดด :กอด1:
ดีใจที่อิพี่คิวพูดเยอะขึ้น 5555 ดีใจที่แต่ละคนได้พูดความคิดตัวเองออกมากันบ้างแล้ว
เพราะที่ผ่านมาเรารู้แต่ของเค้ก ดีใจที่เค้กบอกรักไปแล้ว ต่อจากนี้ก็เหลือคิวแล้วแหละว่าจะจัดการยังงัย จริงๆคิวอาจรอเค้กบอกรักอยู่ก็ได้ อิอิ
-
เอิ่มไอ้น้องบี้ :m31: นี่มันแค่ครึ่งเดียวของตอนที่49 ภาคน้องเค้กช่ายม๊ายยย ค้างงงงงงงงงงงงงงอ๊ะ
มาต่อ ตอนที่49 ตอนที่เหลือภาคคำตอบพี่คิว ด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แง่ง แง่ง ไม่ใจเลย
ขอบคุณย่ะที่ช่วยให้ค้าง
+++ ให้เหมือนเคยนะยะ
:กอด1:
-
อ่านตอนนี้แล้ว ตอนที่เค้กคุยกับพี่คิว เราร้องไห้เลย ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยร้อง
อาจมีเศร้า สงสารเค้กบ้าง แต่ก็แค่นั้น
อาจเพราะรู้สึกว่าบางทีเค้กกลัว ไม่มั่นใจ และคิดในแง่ร้ายเกินไปหน่อย
ซึ่งก็ไม่ผิดเพราะพี่คิวก็เปลี่ยนไปจริงๆ แถมจะแต่งงานอีก แต่พี่แกก็ไม่ได้ละเลยเค้กขนาดนั้นซะหน่อย
เค้กหลบหน้า เลี่ยงที่จะคุย เหมือนต่างฝ่ายต่างก็กลัว จนวันนี้ที่เจอกัน
เค้กได้บอกรัก ได้ระบายสิ่งที่สงสัยมานาน ได้รู้มุมมองจากพี่คิวบ้างนิดหน่อยก็ยังดี
ต่อไปก็ถึงตาพี่คิวบ้างแหละว่าจะตัดสินใจยังไง กล้าทำตามหัวใจรึเปล่า สู้ทั้งคิวเค้กและคนแต่จ้า^^
อ่านคอมเม้นนี้แล้วน้ำตาแทบร่วงเลย :( เหมือนเราสื่อถึงกัน มาคบกันไหมตัวเธอ 5555+ :m20:
-
ลุ้นๆๆ อยากรู้ว่าทำไมพี่คิว ถึงยอมที่จะแต่งงานกับฝัน เพราะคนอย่างคิวไม่น่าจะยอมให้ใครบังคับได้ :z3:
-
ไอเค้กบ้า พ่ีคิวก็บอกอยู่ว่าตั้งใจจูบ :m16:
-
อร๊ายยย ในที่สุดเค้กก็บอก ออกไปดีแล้วนู๋เค้ก :เฮ้อ:
คิวเนี่ย ยากที่จะเข้าใจหรือไม่อยากให้เข้าใจกันนะ :z3:
P.S. สงสารฝัน นู๋เค้ก คิวนิดนึง :laugh:
-
แมนมากๆ เค้ก อยากรู้ว่าในมุมพี่คิว
คิดอะไรต้องการอะไร มีเหตุผลอะไรทำไมต้องแต่งงาน
-
โอ๊ยๆๆๆเค้กเอ๋ยหัวใจพี่จะช่างเจ็บปวดแทนหนูจังเลย 55555
แอบร้องไห้ในบางอารมณ์ของคนออ่นไหว สงสารเค้ก :m15: :monkeysad: :sad11:
-
พี่คิวนี่ปากหนักดีแท้
บอกอะไรกับน้องบ้างสิ
แต่ตอนนี้น้องเจ๋งมาก บอกรักแล้ว อิอิ
-
เค้กทำดีแล้ว บอกไปซะ ไม่ต้องคำนึงถึงผลที่ได้รับกลับ
เพราะคิวมันนิ่งจนดูออกยากมากอ่ะ บอกไปแล้ว
ทำให้เราสบายใจและเตรียมรับกับผลที่จะตามมาได้ :z2:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้องเค้กเอาใจพี่ไปเลยลูก หนูแมนมากกกกก มากมากกกกกก o13
ตอนนี้อยากจะตบหัวอิพี่คิวสักที แบบเมิงยืนบื้ออยู่ทำไมวะ? :laugh:
แหมะ ความคิดกูก้ช่างกล้า กร๊ากกกกกกกกกกกกก
แต่ก้ช่างท่านคิวเขาเถอะ เรื่องของเค้าหนิ
น้องเค้กของเราก้จะกลับไปเบิกบานเหมือนเดิมแล้ว
ดีใจจริงๆ ที่น้องบอกพี่คิว มันเหมือนเคลียร์
และได้ปลดความค้างคาในใจออก ขอบคุณบี้มากที่มาต่อนะคะ
ตอนหน้ามาเร็วๆนะ แบบอยากรู้อยากอ่านมากกกกกกกกก
ปล.อิพี่คิวมันตั้งใจจูบน้องแหงๆ ตั้งใจจูบแล้วมาสับสนบ้าบออีกนี่นะ
บางทีคิวนี่ก้เด็กจริงๆ เพราะเค้กมีท่าทีเหมือนไม่อยากคุยก้เลยไม่คุยงั้นสิ
แม่งงงงงงง ลิมิเต็ดเพอซั่นจริงๆโว้ยย คนอะไร
แล้วเมื่อไหร่จะกลายเป็นลิมิเต็ดเลิฟเว่อสักทีละจ้ะบี้ กรี๊ดๆ
รอตอนหน้านะคะ บวก1ด้วยค่า :กอด1:
-
น้องเค้กบอกไปออกซะทีดีแล้วแหละ เหลือแต่อีตาคิวนี้แหละไม่รู้จะเอายังงัยไม่บอกซะที อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ
-
โอ้วเย้ ในที่สุดก็บอกไปแย้วววววว
พี่คิวจะทำไงต่อล่ะเนี่ย 555+
รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ มันค้างงงงง5555+
-
พอเค้กบอกพี่คิวก้อรู้สึกโล่งแฮะ สู้สู้นะเค้ก กลับมาสดใสร่าเริ่งเหมือนเดิม
-
เจ็บปวดบนความสบายใจจริงๆ TT^TT
รอแค่ผลจากพี่คิวเท่านั้นสินะ
น้องเบบี้ถ่ายทอดอารมณ์ได้ จนรู้สึกเหมือนดูหนังสามมิติ ฮ่าๆๆๆๆ
-
ไม่รู้จะเศร้ารึว่าอะไรดี สำหรับตอนนี้ พี่คิวก็อึนได้อีก :z3:
รึว่าพี่แกอาจจะช๊อกจากการบอกรักของน้องเค้กอยู่ o22
เค้กคงเป็นคนที่ดูออกง่ายที่สุดในสามโลกแล้วแหละค่ะ ขนาดเด็กๆ ยังดูออกขนาดนี้ :o8:
ตอนนี้แอบฟินไปคนเดียว ว่าเนื้อคู่ขนาดไม่ได้นัดหมายก็ยังมาเจอที่เดียวกันเลย ก๊าก ก ก
ไม่ไหวแล้ว หายอึดอัดสักทีนะน้องเค้ก :เฮ้อ: ไงเราก็บอกไปแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่พี่คิวแล้วแหละว่าจะทำไงดี
งานแต่งก็เตรียมไว้แล้วนะเนี้ย งานนี้สงสัยมีการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวแน่ๆเลย 555 :impress2:
โอ้ยยย คืนดีกันไวๆนะค่ะ (ก็ไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย) :z6:
รักกันๆ ๆ ๆ บรรยากาศก็เป็นใจให้บอกรักเหลือเกิน o18
-
เฮ้ออออออออออออ สถานภาพของพี่คิว มันช่างบีบรัดอะไรหลายๆอย่าง แต่นะ แปลกใจที่พี่ฝันไปทำยังไง พี่คิวถึงได้ยอมแต่งงานด้วย
พี่ฝันเองถ้ายอมเจ็บตอนนี้ อาจจะดีกว่าไขว่ขว้าอะไรที่ไม่ใช่ของๆตัวจนอาจเจ็บไปตลอดชีวิต ฉลาดกับทุกเรื่องแต่ไม่น่ามาเป็นแบบนี้
นีแหละน้า ความรักทำให้คนสิ้นคิด ไม่สงสารพี่ฝันเลยนะ สมเพศมากกว่า
-
ไม่ไร้สาระหรอกนะเค้ก เก่งมาก.
เจ็บ..แต่เดี๋ยวก็หาย :]
ส่วนพี่คิว...ยกให้เบบี้ไปเถอะ :laugh:
เผื่อถูกใจ เบบี้จะได้ส่งคนดีๆมาให้เค้กบ้าง 5555
-
หนูเค้กน่าสงสาร still มาม่า ต่อปายยย 555
-
ไม่รู้จะสงสารใครดี
ก็เจ็บทั้งคู่ :z3:
บวกเป็ด
-
พี่ฝันก็น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย~
เค้กบอกออกไปแล้วอ่า :monkeysad: เค้กน่าสงสารที่สุด
-
เฮ้ออ จริงเหรอที่พูดแล้วจะสบายใจ
-
คิวเงียบเกิน ไม่คิดจะพูดอะไรเลยหรือไง
-
นี่คือ เจ็บแต่จบ ของแท้เลย
ได้บอกความรู้สึกตัวเองแลวนะเค้ก
ต่อไปก็เป็นหน้าที่พี่คิวแล้วว่าจะเอายังไง
-
น้องเค้กมาแล้ว อิอิ
-
ฟ้าใสแล้วครึ่งนึง คอยดูอีกครึ่งจะยังไง XD
-
บอกไปแล้ว :sad4:
-
บอกแล้ววววววเค้กไม่เป็นไรนะ คิวแกจะรู้สึกอะไรกับคำนั้นปะนะ
-
ผมก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้ กว่าจะบอกรักได้ คิดมากไปต่างๆนานา พอพูดบอกออกไปแล้วมันก็โล่งงงงงงงงงง +รู้สึกดีมากๆ คือดีใจที่อย่างน้อยก็ได้บอก ไม่ว่าเขาจะตอบรับเราแบบไหน แต่สำหรับผม ทุกวันนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันปกติ :)) เค้ก สู้ๆๆๆนะ เปนกำลังใจให้
ปล.เบบี้ เราก็ไม่ค่อยได้เม้นนัก เพราะอ่านในบีบี แล้วมันไม่มีที่คอมเม้นอะ แหะๆ คือเราอยากบอกบี้ว่า รีบมาต่อเรวๆๆเห้อๆๆ แต่ละตอนมาที คอมเม้นพุ่งกระจายยยย 555+ สู้ๆนะคร้าบเบบี้ เอาใจช่วยๆๆๆ.
-
เค้ก ดีใจด้วยที่เติบใหญ่ขึ้น
อ่านตอนนี้จบ เหมือนจะเศร้าแต่กลับยินดีกับเค้กมากกว่า
คนเราใช่ว่าจะวัดความเป็นผู้ใหญ่จากอายุ
การกระทำและกระบวนการคิดต่างหากที่เป็นตัวกำหนด
พระเอกเรื่องนี้จะเป็นใคร ณ จุดนี้ไม่มีความหมายแล้ว
ยินดีกับต้นกล้าที่ฝ่าฟันลมพายุจนเติบโตเป็นไม้ใหญ่ต้นนี้ :L1: :L1: :L1:
-
ฝนหยุดแล้ว แต่เมฆยังครึ้มอยู่
บอกตรงๆเป็นตอนที่น่าจะเศร้า
แต่อ่านแล้วในใจกลับโล่งอย่างบอกไม่ถูก
สบายใจขึ้นเยอะ...
รักเบบี้จัง...รอตอนต่อไป ที่ท้องฟ้าจะสดใส^^
-
เก่งมาก"น้องเค้ก" รักอย่างคาดหวังนำมาซึ่งความเจ็บปวด
เพราะฉะนั้นอย่าไปคาดหวังกับพี่คิว กลับมาเป็นเค้กที่น่ารัก
สดใสเหมือนเดิมเถอะ ถ้ามันใช่ มันก็ต้องใช่อยู่วันยังค่ำ
สู้ๆๆๆๆ นะ "น้องเค้ก" :L1: :L1:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
พี่คิว นิ่งไปอีกแล้ววววว~~~~^^
เค้ก,,,แมนกว่าพี่คิวอีกลูกกกกก
-
ชอบบทสรุปของเค้กในตอนนี้ ได้เวลาเอาความเบิกบานกลับคืนมาซักทีเนอะเค้กเนอะ :3123:
-
บอกไปซะที..จะได้ไม่ต้องแบกเอาไว้อีก
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกินเนอะ..
แล้วคิวหล่ะ..จะเคลียร์หัวใจตัวเองได้ยัง??
-
ทำได้ดีมากเค้ก กลับมาร่าเริงซะ
ไม่ต้องไปเจ็บปวด ไม่ต้องคิดมาก
ทีนี้ก็เหลือแค่ปฏิกิริยาจากพี่คิวซินะ
ว่าจะทำไงกลับเรื่องที่เกิดขึ้น
-
ดีใจแทนน้องเค้กที่ได้บอกความรู้สึกตัวเองออกไป ต่อจากนี้ก็กลับมาร่าเริงได้แล้วนะคะ
ส่วนพี่คิว....รู้แล้วจะตัดสินใจอะไรยังไงก็ปล่อยพี่แกไป :m16:
ตัดสินใจอะไรให้มันเด็ดขาดได้แล้วพี่คิว ชีวิตก็ของเราเองนะ
จะมาทำให้ตัวเองและคนที่รักเราเสียใจได้ยังไงล่ะ เฮ้อออ :z3:
-
เป็นตอนแรกที่อ่านแล้วเห็นใจยัยเจ๊ฝัน
น้องเค้กบอกรักแล้ว พี่คิวละจะเอายังไงกัน?
แล้วที่บอกไม่รู้สึกผิดหรอกถ้าไม่ได้ตั้งใจ สรุปตั้งใจหรือไม่ตั้งใจกันฟระ
เคลียร์ๆสักทีนะเฮียทุกคนเค้ารอเฮียกันอยู่ :z2:
-
เค้กของเรารวบรวมความกล้าที่จะบอกพี่คิวไปแล้ว กลับมาร่าเริงได้แล้วนะเค้ก o13
ขอบคุณเบบี้มากค่า :L2:
-
:3123: เป็นกำลังใจให้เค้กนะ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
o13 o13
-
มีเพื่อนดีมันดีอย่างนี้นี่เอง o13
แก้วพูดได้ดี เมื่อรักก็จงยินดีรักและพร้อมยอมรับผลของมัน จะได้ก้าวผ่านไปได้ เออ มันก็จริงนะ แต่โดนสุดนี่ พีทเลย..หึหึ :z1:
“ช่างหัวแม่งสิ แต่งงาน..ก็เรื่องของมึงสิ แต่กูรักมึงอ่ะ..จบป่ะ แม่ง”
เริ่ดค่ะ :mc4:
-
แอบสงสารฝันเหมือนกันนะ ถึงแม้จะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก แต่คิดว่าอยู่กันไปมันจะมีความสุขเหรอ
การแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่จะแสดงว่าเราเป็นเจ้าของเค้าจริงๆซะหน่อย รู้อยู่เต้มอกว่า
ว่าที่เจ้าบ่าวไม่เคยรักเรา อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บกับเจ็บ แต่ก็นะทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง
ก็ต้องยอมรับในการกระทำที่มาจากเหตุผลของตัวเองให้ได้
อืม .. พอได้อ่านพาร์ทที่โรงเรียน มันทำให้เห็นมุมมองจากพี่คิวได้บ้างละนะ มันก็จริงอย่างที่พี่คิวบอก
ว่าใครกันแน่ที่ไม่อยากจะพูดด้วย ซึ่งเค้กก็ทำแบบนั้นจริงๆ การคิดล่วงหน้า หรือกลัวอะไรไปล่วงหน้า
มันก็อาจจะดีเพราะมันเป็นสิ่งเตือนให้เราทำอะไรโดยยั้งคิดตลอด แต่มันก็อาจจะทำให้เราคาดการณ์จน
ไม่กล้าที่จะทำอะไรแบบเค้กนั่นแหละ จนทุกอย่างมันหน่วงในอกไปหมด เห้อ ตอนนี้ซีนอารมณ์มันอึดอัด
หน่วงๆได้ใจ แต่มันก็โล่งที่เค้กได้พูดออกไปแล้ว หลังจากนี้ก็กลับมาเป็นเค้กที่สดใสคนเดิมนะ
ส่วนพี่คิวหลังจากนี้คงได้ทบทวนจิตใจตัวเองครั้งใหญ่เลยละมั้ง จากนี้จะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับพี่คิวแล้ว
ความสับสนที่เกิดขึ้นมันเป้นกันได้ทุกคน เราเข้าใจ แต่บางทีความสับสนของพี่คิวก็ทำร้ายใครหลายคน
โดยเฉพาะเค้กและฝันอ่านะ ก็หวังว่าเรื่องมันจะคลี่คลายลงด้วยดี
-
น้องเค้กหาใหม่เล๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
เยี่ยมมากๆๆเค้ก สู้ๆๆๆๆ
-
เค้กกำลังทำให้มันจบ และเริ่มก้าวต่อไป
ส่วนพี่คิวจะยังอยู่กับความหลัง หรืออยู่กับที่ หรือจะก้าวไปกับเค้กกัน
-
ยินดีที่เค้กบอกออกไป......
โล่งใจไปกับเค้กด้วยยยยย
-
ทุบหัวพี่คิวอีกที อะไรของพี่มันวะ
น้องเค้กเก่งมากก สู้เค้านะลูก
-
สงสารเค้ก มากมาย
ปล.ค้างอ่ะ 55+
-
1. ขอบคุณ คุณเบบี้ มาต่อเร็วมากๆ ไม่ปล่อยให้คนอ่านค้างคานานๆ ขอคารวะสองจอก
2. ขอบคุณ น้องเค้ก ที่มีความพยายาม และรักอย่างไม่มีเงื่อนไข รักก็คือรัก แค่นั้น เจ็บแต่จบ มีศักดิ์ศรีและไม่เห็นจะต้องมาสงสารกัน ฉันอยู่ได้ ฉันเบิกบาน ฉันมีความรัก แค่ไม่มีคนที่ฉันรักอยู่เคียงข้าง ก็เท่านั้นเอง
3. ขอบคุณ คุณฝัน ที่ทำให้เห็นข้อเปรียบเทียบกับน้องเค้ก มันคือความรักอย่างมีเงื่อนไขและอยากครอบครอง รักไม่ใช่การแต่งงาน การแต่งงานไม่ใช่ความรัก อาการแบบนี้ รักษาได้แต่ไม่หายขาด ต้องเจ็บไปตลอดชีวิต น่าสมเพชเวทนา
4. ไม่ขอบคุณ พี่คิว เพราะเธอไม่กล้าหาญ อย่างน้อย เค้กกล้าที่จะรัก คุณฝันกล้าที่จะเจ็บปวด แต่เธอ.... มัน.... ฮึ่ย ไปบวชซะไป ชิ้วๆๆ
5. ขอบคุณ คอมเม้นก่อนหน้าๆๆๆๆ ทำให้อ่านเรื่องนี้สนุกและมีอรรถรสมากขึ้น
(ไร้สาระมาก ไปล่ะ อิอิ)
-
พี่คิ้ววววววววว :z3:ทำไมเป็นแบบนี้นี่ถึงขั้นแจกการ์ดแล้วเรอะ :m31:
-
“ฉันทำอะไร ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ..ถ้าสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่ได้ไม่ตั้งใจทำ"
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก โคตรชอบประโยคนี้มากมายอ้ะพี่เบบี้><!!!
มันไม่มีอะไรจะพูดเลยอ้ะประโยคนี้มันเหมือนเป็นคำตอบทุก ๆอย่างที่เค้กถามเลยอะ
พี่คิวพูดเหมือนว่าทุกสิ่งที่ทำไปพี่คิวรู้ดีและตั้งใจให้มันเกิดจริงๆ ชอบเค้กล่ะเซ่ล่ะเซ่
พี่คิวแม่งถึงจะเห็นแก่ตัว(มาก)ก็ตาม ถึงจะทำเป็นนิ่งเฉยไม่สนใจอะไรก็ตาม
ถึงจะน่าหมั่นไส้มากก็ตาม... แต่มันก็พระเอกอะนะ ชอบอะค่ะพี่เบบี้ชอบมากๆ จริงๆ 555555
อ่านตอนนี้จากที่เคยไม่ชอบและหมั่นไส้พี่ฝันมามากมาย.... แต่อ่านตอนนี้
ก็รู้สึกสงสาร ผู้หญิงคนนี้คงจะรักพี่คิวมากจริงๆ แต่ยังไงหล่อนก็ไม่ได้แต่งกับคิวหรอก พูดจริง! (แกเป็นนักเขียนเรอะ!?!)
555555555555
พอเค้กพูดว่าชอบ/รักพี่คิวไปรู้สึกเหมือนเรื่องมันผ่อนคลายขึ้นอ้ะ
มันกำลังทำให้มายรู้สึกว่า ตอนต่อไปมันกำลังจะเริ่มดีขึ้นดีขึ้นเรื่อย ๆแล้วสินะ! 555555
อยากอ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววววววววว >//////<!
รอตอนหน้านะค้าบบบพี่เบบี้ ^____^ (ปล. เร็วๆนะค้าบ ;P ขอพรุ่งนี้เลย! 555555555555)
-
เค้กได้ทำตามที่ใจอยากทำแล้วนะ เหลือแต่อีพี่คิวนี่แหละ
-
เค้กบอกแล้ว
จะได้กลับมาร่าเริงซักที
ตอนนี้ก็อยู่ที่พี่คิวแล้วแหละ
ว่าควรตัดสินใจยังไง
-
โอ๋ๆ เค้ก :กอด1:
-
เค้ก คิดเข้าข้างตัวเองได้นะ เพราะคิวไปหาความสงบ ความคิดในที่ๆเค้กพาไป
-
พี่คิววว
ไม่พูดไรเลยอะ
เค้กสู้ๆ
:pig4:
-
พี่คิวเงียบได้อีก :z6:
-
บอกไปแล้ว ว วว มันไม่แย่ แต่สบายใจที่สุด ♥
-
ฮือ อ่านไปน้ำตาซึม อีพี่คิว
ถ้าเค๊กตัดใจแล้วแกจะรู้สึก
เชอะ
-
ไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะได้อ่านแบบ เค้กกดพี่คิวซะเลย :z1:
หมั่นไส้พี่คิวหว่ะ เก็บกดไปอีกแบบ เฮ้ออออ
-
(เค้ก:)เป็นตอนแรกที่อ่านแล้วร้องไห้ ตอนที่เค้กบอกรักพี่คิว :m15:
เค้กช่างกล้าหาญกว่าพี่คิวหลายขุมนัก รักเค้กๆ :กอด1:
(คิว:)พี่คิวก็คงชอบเค้กแหละนะ เพราะพูดเองว่าไม่รู้สึกผิด ที่ทำกับเค้กก็ด้วยความตั้งใจ
แต่ปัญหาที่คิวเจอ มันอาจไม่ใช่เพียงแค่รวบรวมความกล้า ในการที่จะบอกชอบบอกรักใครสักคนแล้วทุกอย่างจะจบ
ทำแล้วจะสบายใจแค่นั้น.. สิ่งที่มากกว่า ก็อาจจะรวมถึงความคาดหวังจากคนในครอบครัว ปล่อยวางเรื่องปรายและ
แต่งงาน มีชีวิตครอบครัวกับคนที่เหมาะสม!!!
สิ่งที่ยังค้างคา ก็คือว่า คนอย่างอิพี่คิวเนี่ยนะ จะยอมให้ใครมาบังคับอะไรได้ การที่ยอมปฏิเสธหัวใจตัวเองแล้วทำตาม
ความต้องการของคนอื่น ล่วงเลยจนมาถึงวันแจกการ์ดแล้วเนี่ย มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน :m16:
อิอิ ขอบคุณเบบี้น๊า.. รออ่านตอนต่อไปจ๊ะ :L2:
-
น้องพูดขนาดนี้แล้วนะพี่คิว ถ้าในเมื่อพี่คิวไม่ได้รู้สึกผิด เพราะไม่ได้ไม่ตั้งใจ พี่คิวก็ควรจะทำอะไรให้ชัดเจนซะทีนะ
คนอ่านจะตายแล้ว :sad4:
:กอด1: น้องเค้ก
-
น้องเค้กกกก :o12: :o12:
:z10:
-
อ่านละเห็นภาพน้ำตาซึมเลย :'3
-
:sad4:ในที่สุดเค้กก็มีความกล้วบอกรักคนใจร้ายสะที
-
บอกแล้ว!!
แต่อีพี่คิวนี่น่าตบชะมัด
แทนที่จะพูดอะไรสักคำกลับเอาแต่เงียบอยู่นั่นแหละ
ฮึ่มๆ :m16:
-
เค้กพูดไปแล้วววว
พี่คิวจะเอาไงเนี่ย
เลือกได้แล้วพี่ฝันหรือเค้ก
-
บางทีอาจเป็นเพราะพี่คิวรู้สึกผิดต่อปรายหรือเปล่า ถึงได้เป็นแบบนี้
-
“ฉันทำอะไร ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ..ถ้าสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่ได้ไม่ตั้งใจทำ”
อ่านประโยคนี้ของพี่คิวแล้วอยากจะ :z6:
ไม่อยากให้ใครมาเจ้ากี้เจ้าการในชีวิตก็เปล่งวาจาพูดออกมาบ้างนะพี่คิว
-
^
^
^
แอบเห็นด้วยกับรีบน
ในที่สุดก็บอกไป โล่งอกไหมเค้ก ไอพี่คิวอึ้ง แหมๆ หายอึ้งไวๆล่ะ
และก็ขอให้ฉลาดไวๆด้วย อดีตคือเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว ควรจะสนใจปัจจุบันสิ
อยากเห็นเค้ก มีความสุข สดใส ยิ้มออกนะ ไม่ใช่ อย่างที่พี่หมีบอก ความขมุกขมัวภายใต้ความสดใส
-
และแล้วเค้กก็พูดออกไปแล้ว ทีนี้ก็อยุ่ที่การตัดสินใจของพี่คิวแล้วละ
-
:o12: :o12: น้ำตาคลอเลยอะ เค้กหนูทำดีแรว แค่ได้บอกว่ารักก้อมีค่าที่สุดแรว เข้มแข็งไว้นะ :monkeysad:
พี่บี้มาต่อให้เร็วจัง รักนะค่ะ :กอด1:
-
อยากจะใจกล้าบอกรักเค้าแบบเค๊กจัง แต่กลัวคำตอบที่ได้จะแย่กว่าเค๊กที่ได้ความเงียบเป็นคำตอบ ใจไม่กล้าขนาดนั้น
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2:รอพี่คิว...เปิดใจ แต่เชื่อว่าพี่คิวเปิดใจแล้วล่ะค่ะ
-
ดีแล้วนะเค้กที่บอกความรู้สึกไป
คิวก็นะ ไม่ทำอะไรให้ชัดเจน ซะที จะแต่งก็แต่งไปเลย ยุให้เค้กหาแฟนใหม่ ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณ เบบี้ มากๆ รออ่านมาตลอด อิิอิ สมใจแระ
-
บอกชอบไปแล้ว ก็เหลือแต่อีพี่คิวว่าจะเอายังไงงงง ย้ากกก
ถ้าไปแต่งงานก็เกินทนแล้ว เชอะะ -3-
-
:กอด1: น้องเค้กก่อน
ดีใจที่น้องบอกออกไปเเล้ว
ถึงไม่ได้รับคำตอบ ก็ดีกว่าที่จะอึดอัดใส่กันอยู่เเบบนี้
รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:
+1 เเละ + เป็ด ให้กับความกล้าของน้องเค้ก o13
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:จะหน่วง หรือจะโล่งใจดี เฮ้อ? :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
ไม่สงสารมารฝันเลยค่ะ :laugh: (แอบเลวเนอะเรา - -)
พี่คิวเผยความในใจหน่อยสิคะ แง้มๆก็ได้
-
เซง cupid = =!!!!!!
-
สู้สู้นะเค้ก
กลับมาร่าเริงได้แล้ว
ช่างหัวคนอื่น
รักตัวเองดีกว่า :กอด1:
-
ในที่สุดเค้กก็ได้พูดออกไป
พี่ิคิวจะเอายังไงเนี่ย
-
พี่คิวจะเอายังไง ก็รีบๆมาแล้วกัน
เลือกให้ดี ใช้หัวใจตัวเองเลือกนั้นแหละนะ เค้กสู้ๆๆๆ
-
ไม่เข้าใจพี่คิวแกเลยจริงๆ :z3:
-
แค่ได้บอกออกไปซิน่ะ :L2:สู้ ๆ น่าน้องเค้ก อย่างน้อยเราก็ได้บอกออกไป อิอิ
-
เค้กได้พูดแล้ว ก็เหลือแต่พี่คิวที่จะพูดบ้าง และจะตัดสินใจอย่างไร
เค้กสู้ ๆ เดินหน้าต่อไป เย้
-
อ่านตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าคิวกำลังใช้หัวใจในการตัดสินใจอะไรสักอย่าง แล้วผลที่ออกมา ก็คงจะเป็นสิ่งที่คิว ต้องการมั้ง(ใช่ป่าว เบบี้)คิวคงไม่หลอกตัวเองและคงจะข้ามกำแพงน้ำแข็งไปได้นะ :z6: ชอบตอนนี้จัง เหมือนหนูเค้กได้ปล่อยวาง สิ่งที่ตัวเองเคร่งเครียด ส่วนตาคิวก็ขี้เก็กตามคอนเซ็ปของคนเขียน :pigangry2:
ขอ :กอด1: เบบี้ที่มาต่อเร็วขนาดนี้ มาต่อไวๆๆเน้อ :L2:
-
สงสารเค้กกับพี่คิวจัง เค้กสบายใจที่ได้บอกแต่ก็กังวลกับคำตอบ
พี่คิวจากที่หลบออกมาหาที่คิดกับต้องมาคิดมาดว่าเดิท
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ค่่ะ
-
เย้วววว ดีใจ.. จบแล้วสินะ ความเจ็บปวดของน้องเค้ก
เหมือนเอาเรื่องไปทิ้งไว้ที่พี่คิวเลยอ่า
เหมือนแบบ ทุกอย่างหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับพี่คิวนะ
สุดท้ายพี่คิวบอกปวดหัวชิบหาย กุไม่เอาล่ะ.. ลาบวช ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา
ชอบที่เค้กคุยกับฝัน ชอบ น้องเค้กคนดี ><
-
อิอิ วันนี้สมน้ำหน้า อีตาพี่คิว เป็นไงหละ น้องเค้กสารภาพรักไป อึ้งเลยอะดิ กร๊ากกกก :laugh:
-
เค้กทำได้ดีมากเลย เยี่ยม o13
-
พี่ซึนมากอ่ะ
+1
-
พี่คิว เอ๊ะ นี่ ยังไง
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
-
ในที่สุด!!! ในที่สุดเค้กก็บอกความรู้สึกตัวเองกับพี่คิว(ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พี่คิว(อาจ)จะสังเกตได้เองแล้วก็ตาม)
อยากรู้จังว่าพี่คิวรู้สึกยังไง. . .หลังจากที่เค้กบอกรักไป จะเป็นยังไงกันนะ
สงสารเค้กจัง. . .
อยากรู้จังว่าทำไมพี่คิวถึงต้อง(จะ)แต่งงานกับฝัน. . . :เฮ้อ:
ปล. ตามอ่านทันแล้วววววว :o12:
:pig4:
-
เราไม่สงสารฝันเลย ไม่ใช่ว่าเกลียดนะ แต่ฝันทำตัวเองแท้ๆเลย ระยะเวลามันไม่ช่วยให้ฝันได้ตื่นมารับรู้ความจริงเลยเน๊อะว่าไอ้พี่คิวมันไม่สามารถเป็นอย่างที่เธอต้องการได้หรอก แต่งงานไม่ได้ช่วยอะไรจริงๆ สมแล้วที่ชื่อฝัน
ส่วนน้องเค้ก กล้าหาญมากตอนนี้ o13ต้องนิ้วให้น้องเลย แล้วจะทำไงต่อเหรอ ลาออกไหมจะได้ไม่ต้องเจอกันอีกแล้วกลับไปมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนเดิม ถึงแม้มันต้องใช้เวลาบ้าง
ตอนนี้เราอินจริงๆ
Love ...Love คนแต่งเหมือนเดิมเด้อ น่ารัก น่า :กอด1:ขึ้นทุกวัันเพราะมาต่อให้อ่านเร็วมาก :pig4:
-
ช้ำใจที่สุด.....
:z3:
พี่คิวนะพี่คิว....ไอ้ที่ว่า 'ไม่ได้ไม่ตั้งใจทำ' น่ะ มันหมายความว่าไง? :m16:
-
พี่คิวจะทำอะไรต่อน้าาาาาาา
จิงอย่างที่พี่หมีพูดแหละ ไม่ใช่แค่ที่ร้าน ทุกคนในเรื่องเลยยยย
-
ไม่กล้าอ่านมามา2-3ตอนล่ะ กลัวทำใจไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าตัวเองจะอินมากไป เห้อออออ มาต่อไวๆนะครับ จะได้เก็บรวบยอดปวดใจทีเดียวTT_TT
-
ทำไมพี่คิวไม่พูดอะไรเลยนะ
สงสารเค้กที่สุดเลย T^T
-
คิว แกวังเวงมากอ่ะ... แต่แค่ประโยคเดียวก็ทำให้เข้าใจอะไรๆ ได้มากมายว่าคิวรู้สึกยังไงกับเค้ก
... อ่านตอนนี้กลับไม่รู้สึกอึดอัดหรือกดดันเแฮะ หรือว่าเราคิดว่าเค้ารักกันไปแล้วหว่า ประมาณว่าหมดห่วงอ่ะ ฮ่าๆๆ
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
หากคืนนี้ มีดาวอยู่ล้านดวง
ฉันขอได้ไหมสักดวงหนึ่ง ช่วยฟังฉันที
เพราะว่าคืนนี้ ฉันมีเรื่องร้อนใจ
อยากอธิษฐานและขอดวงดาวให้ ช่วยฉันสักที
เนื่องจากตอนนี้ ฉันรู้สึกจิตใจมันอ่อนไหว
อยากจะรู้ว่าเขาเป็นยังไง จากคำพูดวันนี้
เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ
เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...( ที )
หากว่าตัวเขา มีใจให้ฉันจริง
ฉันขอได้ไหมให้ทุกสิ่ง เป็นจริงเรื่อยไป
ให้ต่อจากวันนี้ เขามีแต่ฉันในหัวใจ
อยากอธิษฐานและขอดวงดาวให้ ช่วยฉันสักที
ช่วยบอกให้ฉันรู้...ให้มั่นใจ
การรอคอย มันยากเกินทนไหว
ได้โปรดช่วยบอกฉัน และตอบหน่อยได้ไหม
ว่าพรุ่งนี้เขากับฉัน นั้นจะเป็นยังไง
เพราะฉันเพิ่งบอก....รักไป
และเขาก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ
เหมือนความฝัน แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ
พรุ่งนี้เรื่องของเราจะสุข หรือแสนเศร้า
จึงวอนขอดาวให้ช่วยบอก...( ที )
o13 o13 เค้กสู้ๆ
-
การตัดสินในของพี่คิวไม่ได้ขึ้นอยู่กับพี่ปราย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพี่ฝัน หรือแม้กระทั้งน้องเค้ก
แต่มันขึ้นอยู่กับพี่คิวล้วน ๆ...จมอยู่กับอดีต ความรับผิดชอบ หรือเริ่มต้นใหม่
ทุกคนคงต้องยอมรับผลที่มันกำลังจะออกมา เพราะนั่นคือสิ่งที่พี่คิวได้ตัดสินใจเลือกแล้ว
เคารพการตัดสินใจของพี่คิวค่ะ :impress:
-
เฮ้อ มันอินเหลือเกิน รู้สึกลำคอตีบตันเหมือนจะร้องไห้ สงสารน้องเค้กจริงๆ :monkeysad:
ได้บอกความรู้สึกตัวเองออกไปแล้ว ก็คงจะก้าวต่อไปข้างหน้าได้แล้วสินะน้องเค้ก
ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ขอให้มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีสำหรับเค้กนะ :กอด1:
แ่ต่เอาเข้าจริงๆก็แอบสงสารฝันเหมือนกัน ถ้าได้แต่งงานกันจริงก็ได้แต่ตัว ไม่ได้หัวใจพี่คิวหรอก :z3:
-
:กอด1:รอๆๆๆๆๆๆๆๆคำตอบ
-
กำลังสงสัยเหมือนที่หลายคนสงสัยว่าตกลงแล้วทำไมคิวถึงยอมแต่งงานกับฝัน
คือพี่คิวแกดูแล้วก็ไม่ใช่คนที่จะมีใครมาบังคับให้ทำนู่นทำนี่ได้ง่ายๆ
อยากรู้ว่าฝันมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นความดันทุรังของเธอเองในเรื่องนี้
และถ้าการที่เค้กบอกคิวไปจะมีผลทำให้เธอไม่ได้แต่งกับคิว นอกจากเราจะรู้สึกสงสารเธอแล้วก็คงแอบดีใจด้วย
ดีใจที่ฝันจะได้ไม่ต้องทุกข์แบบนี้ไปตลอดชีวิต แต่งงานไปก็ไม่มีความสุขหรอกมั้ง อย่างน้อยก็แอบเห็นใจคุณเธอหน่อยๆนะ
ส่วนพี่คิว เอิ่ม กับแค่ประโยคนั้นประโยคเดียวว่าไม่ได้ไม่ตั้งใจน่ะ เกรงว่าพี่อาจจะพูดเองรู้เรื่องเองอยู่คนเดียวนะคะ
โอเครู้แล้วว่าตอนนั้นพี่ตั้งใจ แล้วไงอ่ะ -w-? แล้วไอ่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคืออาร๊ายยย
กรุณาขยายความด้วยถ้าต้องการให้เข้าใจโดยทั่วกัน อิฉันหรือน้องเค้กไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่คุณพี่คิดอยู่ได้ค่ะ
มันสงสั๊ยสงสัยไปเสียทุกเรื่องเลย ไม่รู้ว่ารอให้พี่คิวพูดนี่ต้องรอนานไหม ยังไงก็ให้เวลาไปคิดทบทวนดีๆก่อนแล้วกัน
คิวตอนนี้ก็เดินมาไกลแล้วในปัญหาที่มีอยู่ จะก้าวไปทางไหนก็ต้องมีคนเจ็บอยู่แล้ว หวังให้พี่เลือกทางที่จะเจ็บกันน้อยๆแล้วกัน
น้องเค้กเก่งมากค่ะ เข้าใจว่าบอกไปก็เป็นธรรมดาที่ต้องคาดหวังคำตอบนะ แต่ถือเสียว่าเป็นการทำเพื่อตัวเองแล้วกัน
แค่ได้บอกไปก็ถือว่าได้เคลียร์ความคาใจอะไรต่างๆแล้ว ไม่เห็นจำเป็นจะต้องรอให้คิวมาตอบรับเลย เชอะ! หมั่นไส้พี่คิว :<
-
เค้กรู้สึกโล่ง
แต่เรายิ่งลุ้นเว้ยยยยยย :z3: :z3:
-
บอกไปแล้ว บอกไปแล้วเนอะเค้กเนอะ ;)
-
นิยายเรื่องนี้ตัดจบได้ค้างคาทุกทีเลยอ่ะ!!! :m31:
เค้กบอกรักไปแล้ว พี่คิวจะตอบว่าไงน้อ~ :เฮ้อ:
-
อึดอัดจริง.. T_T
-
เอาเข้าไป ไม่จบไม่สิ้นซักทีสิหน่า เฮ้อ~~
-
โอยยยยย บอกไปแล้ว ในที่สุดเค้กก้อบอกไปแล้วววว
แล้วจะเปนยังไงต่อกันน้าาาาาาาาา
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ใจจะขาดแล้วเอยยยยย :m15:
คิวแม่ง...ถ้าบทพูดน้อยขนาดนี้นะ จะคัดตัวออก!!
สองคำสำหรับคิววันนี้... :seng2ped:
-
เยี่ยมมากน้องเค้ก
-
:m17: เค้กพูดออกไปแล้วสินะ พูดให้อีกฝ่ายได้รู้บ้างมันก็ดีเหมือนกันนะ เราไม่ต้องคอยรู้สึกเพียงคนเดียว เพราะถ้าเราเก็บไว้คนเดียว มันก็จะเป็นเหมือนมีดที่คอยทิ่มแทงใจตลอดเวลา :ped144:
-
พี่คิวโดนกระหน่ำเลยช่วงนี้ :laugh:
เค้กทำดีแล้ว ผลจะเป็นยังไงกะซาง
-
เฮ้อ! โล่งอกแทนเค้กเลยที่ได้พูดออกไป อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้วล่ะน่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
-
พี่คิวเค้าไม่คิดจะพูดอะไรบ้างเลยหรือไงนะ
สงสารน้องเค้กจัง ได้พูดออกไปแล้วหวังว่าน้องจะได้เดินไปข้างหน้าต่อ กลับมาสดใสเหมือนเดิมเร็วๆเถอะนะ
-
กรี๊สส สและแล้วในที่สุดน้องเค้กก็บอกรักพี่คิว ว ว ว ววว
พี่คิวจะทำไงต่อไปล่ะเนี่ยย
ลุ้นเว่ออ
:-[
-
:เฮ้อ: เฮ้ออออออออ บอกซะที
คราวนี้งานก็เข้าพี่คิวคนเดียว ทุกอย่างอยู่ที่พี่คิวแต่เพียงผู้เดียว
จะทำยังไงก็เชิญตามสบายนะ ขอให้พี่คิวโชคดี ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ :laugh:
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง โอยยย อ่านไปตื่นเต้นไป
เค้กเก่งมากค่ะ ที่กล้าพูดออกมา
-
เค้ก เก่งมาก o13
-
:เฮ้อ: :jul1: อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าดีใจกับเค้กที่กล้าเผยความในใจของตัวเองให้อีกฝ่ายรับรู้ แต่พี่คิวแบบ เมื่อไหร่จะเปิดเผยความคิดหรือตัวตนของตัวเองให้มากกว่า เพื่อสถานการณ์ที่ช่วยอึดอัดมันจะได้หายไปสักที แต่ก็เข้าใจพี่คิวนะ เพราะพี่แกเป็นผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน เฮ้อ อ่านแล้วอึดอัดอ่าาาาาา :z10: ขอบคุณเบบี้มากๆนะค่ะ ที่แต่งเรื่องสนุกๆให้ได้อ่านกัน :monkeysad:
-
“ฉันทำอะไร ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ..ถ้าสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่ได้ไม่ตั้งใจทำ”
หมายความว่า....... พี่คิวตั้งใจจูบเค้กใช่ไหม???????
บางทียัยพี่ฝันก็น่าสงสารเนอะ
-
เค้กบอกไปเเล้ว :กอด1:
คิวเงียบบบ... :undecided:...ช๊อคที่คนน่ารัก บอกรักหร๊อ :m21:
-
อ่านยังไงก้อไม่รุสึกสงสารฝันซะที
โกธรคิวอ่ะ ไม่พูดงี้อ่ะ
เค้กลาออกไปเจอสิ่งดีๆที่อื่นเลย งอนมันไปเลยไอ้พี่คิวอ่ะ
:m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
-
:z2: :z2: :z2: สุดยอดเค้ก :z2: :z2: :z2:
พี่คิวจูบเค้กเลยยยยยย
-
"การได้หยุดวิ่งตามความรักนั่นและกลับมาเบิกบานเสียที ไร้การคาดหวังอย่างเคย เพราะบางครั้งการคาดหวังก็นำพามาซึ่งหนทางแห่งความเจ็บปวด.."
ชอบความคิดนี้ของเค้กอ่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พี่คิว
=___+
เรายังไม่หายเคือง
เค้กก็รีบออกมาเกิน
แต่เป็นเรา เราก็หนี 5555
-
กอดรวบน้องเค้ก
-
ลุ้นเต็มที เค้กบอกขนาดนี้แล้ว พี่คิวมึงจะเอายังไงต่อค่ะ
-
พี่เค้กได้ใจมากเลย แต่ไอ้พี่คิว ........ไม่พูดดีกว่า
-
โอ้ ไม่นะ ต่อเร็วๆน้าาา เบบี๋จ๋าาาาาาาา
-
อะไร ยังไง ท่านพี่คิวเจ้าขา
ทำไมท่านพี่ปล่อยให้น้องเค้กโชว์แมนพาวเวอร์แต่ผู้เดียว
วุ่ยยยย ไม่ได้ดั่งใจเลยนะคะ พี่คิวปิด
น้องเค้ก สู้ๆๆๆ สู้โว้ยยยย
น้องสุดยอดมากอ่ะ
+1 :กอด1:
-
พูดในสิ่งที่อยากพูดไปแล้ว รู้สึกโล่งอกแล้วซินะเค้ก
ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นก็สุดแล้วแต่วาสนาก็แล้วกันเนอะ
-
พี่คิว ไปตามเค้กกลับมาเลยน่ะ !
ไม่ยอม !! เค้กอุส่าห์บอกความในใจ !!
-
เฮ้อออออ อึดอัดหัวใจ ถึงปากจะได้พูดไป แต่หัวใจมันยังอึดอัด
-
ในที่สุดก็บอกซะที
-
ดีใจแทนเค้กที่ได้บอกไป แต่ก็แอบหนักใจเรื่องต่อจากนี้
คิวจ๋า รีบๆตัดสินใจซะทีจะเอาไงแน่ :เฮ้อ:
เค้าแอบสงสารฝันด้วย คนอื่นเดือดร้อนไปหมดแล้ว คิวจะเอาไงก็รีบพูดนะจ๊ะ
อดีตน่ะลืมยาก แต่ลืมได้ ทำตอนนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า :กอด1:
:pig4:นะคะ จุ๊บๆ
-
:monkeysad: :monkeysad: ปวดใจแทนเค้กกกกกกกกก
-
กด LIKE ให้เค้กเลย เจ๋งมากค่า ^^
-
ขอปรบมือให้เค้ก เค้กได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ต่อไปเค้กจะไม่มีวันที่จะเสียใจหรืออยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรอีก
สื่งที่เค้กจะได้รับจากพี่คิวต่อจากนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุด้วยผลข้อไหนในโลก เค้กก็คงจะยิ้มรับกับมันได้ซักที
ติดอยู่ที่พี่คิวเท่านั้นแหละ ว่าเลือกจะทำในสิ่งที่หัวใจของตัวเองยิ้มได้ด้วยรึเปล่า
รักนิยายเรื่องนี้ เสพติดมาก รู้สึกไปกับทุกตัวอักษรที่บรรยาย ทรมานไปกับทุกความอึดอัดของทุกคนในเรื่อง
สุดท้ายก็ยังรอเสมอที่จะได้ยิ้ม ได้อบอุ่นจากความรักที่จะจบลงอย่างสวยงามและควรจะเป็น(ในนิยายบอยเลิฟ 55)
รักบี้ บวกบี้ ดีใจที่ได้ตอบในหน้า 200 ฉลองมั้ยด้วยตอนพี่เศษ Limitedๆ ให้ชุ่มชื่นสักนิดได้ไหมจ๊ะที่รัก
-
....ใครรู้ใจใคร ใครรู้จักใครมากกว่ากันไม่รู้ แต่ที่รู้สองคนนี้มาที่ ที่เดี่ยวกัน
.... โล่งละสิเค๊ก ต่อไปจะเป็นยังไงก็ช่างเนอะ ในส่วนของเค๊กจัดการมันเรียบร้อยแล้ว สบายใจ :laugh:
-
ไปไม่เป็นเลยเรา :monkeysad:
:pig4: คะ
-
ตอนแรก เริ่มรู้จัก เริ่มคุย เริ่มรู้สึกดี ต่อกัน เริ่มจะรัก และเริ่มอยากรัก
ใจกลับกลัว และสับสน ปนทุกข์ใจ ว่าอีกฝ่ายคิดตรงกับเราหรือป่าว หรือว่าคิดไปเอง เราคิดไปเองหรือป่าว
เศร้า อึดอัด พูดไม่ถูก ไม่รู้จะคุยอะไรกัน หลบหน้ากัน มองกันไม่ติด
เริ่มเศร้า เริ่มทุกข์หนัก หาทางระบายยยยยย
ทนไม่ได้ ก็พูดไปเลย "ไอ่เชี้ยกูรักเมิง แต่เสือกไม่รู้ว่ารักเมือ่ไหร่ แต่ตอนนี้ที่กูรู้ ใจกูรักเมิงว่ะ สาดดดดดดดด"
เห้อ โล่งใจ เหมือนยกภูเขาออกจากอก >>>>เรียกภาษาชาวบ้านว่า "การผ่องถ่ายความเครียด" 555
ขอบคุณเบบี้มาก ที่มาต่ออย่าง ว่อง นึกว่ารอถึงอาทิตย์หน้า ดองนานกระซากใจคนอ่านนะ ให้รู้ซะบ้างของดีต้องรอ เอาไว้ เรื่องอื่นนะ 555
U U""
-
:-[ อ๊ากก มาต่อแล้ววววว
ค้างมากมาย พี่คิวจะตอบว่าอะไรอยากรู้ น้องเค้กไม่น่ารีบวิ่งออกมาเลย แง่ง
จะเป็นอย่างไงต้อน้าาาา :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เค้กลุยแล้ว ... ทีนี้ก็รอพี่คิวลุยมั่ง งง ง~
ปล. เรตติ้งแรงมากเรื่องนี้ XD'
-
เค้กบอกแล้วว เจ๋งมากเค้ก ! :z2:
พี่คิว ..... แกพูดอะไรหน่อยเส่ :angry2:
พี่เบบี้สู้ๆนะ !~ o13
-
เค้กแมนมาก สงสารคิวเบาๆ เหมือนกันนะ คงกดดันน่าดู
ความรักของฝัน ทำไมมันทำร้ายคนที่ฝันรักอย่างนี้ล่ะ แค่อยากเอาชนะรึเปล่า
เฮ่อออออ
-
เค้ก นายทำดีมากกก
บอกไปแล้ว เราเองนั้นละที่จะสบายใจ ไม่ต้องมาค้างคา
คาดดาเอาเอง ให้มันเจ็บปวดหัวใจเราไปเรื่อยๆ
ตู้มเดียวรูผล มันไปเลย เจ็บที่เดียวให้มันจบๆๆไป
สบายใจแล้ว ก็ยิ้มเยอะๆ นะจ้าเค้กจ้าาาา
-
o13เค้กนายเข้มแข็งมาก :L1: :L1:
-
รู้สึกเห็นใจ ฝัน นะ
แต่ เห็นใจ เค้ก ของเรามากกว่า
อยากให้คำตอบของคิวเป็นบวกจัง :กอด1:
ขอให้เรื่องนี้ คิวและเค้กได้รักกัน เป็นแควนกันน้าเพี๊ยง ขอโทษนะฝันนะ
ขอบคุณบี้นะ ที่มาอัพให้แบบเร็วมากๆ ปิดเทอมแล้วสิ ดีใจมากที่ได้อ่านพาร์ทอย่างต่อเนื่องแบบนี้จ้ะ :กอด1:
-
เราเข้าใจเค้กนะ บอกไปแล้ว จะได้ไม่ค้างคาอะไรอีก ไม่ต้องหวัง ไม่ต้องคอยตำหนิตัวเองอีก พอกันที หมดเวรหมดกรรมกันไป
บางที เรารู้สึกว่าคิวไม่ควรได้รับความรักมากมายจากทั้งเค้กและฝัน
คิวช่างเป็นผู้ชายที่เอาแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่รับใครเลยจริง ๆ
คงเป็นเพราะเรารู้จักคิวน้อยไปด้วยมั๊ง แต่ความรักมันก็เป็นอย่างนี้สินะ
-
ในที่สุดก้อได้พูดออกไปแล้วววว
โล่งอกมั้ยล่ะเค้ก ^^
ไม่รุ้ว่าป่านนี้อิตาพี่คิว จะคิดอะไรอยู่ หึหึๆๆ
รอลุ้นน่ะครับ ว่าพี่คิวจะแสดงท่าทีบ้างงมั้ย
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ขอบใจน้องเค้กมากๆ ทำให้คนอ่านดีใจสุดๆ เฮ้อจิตตกมาหลายตอน โล่งสบายเหมือนเป็นน้องเค้กซะเอง กลับมาเป็นน้องเค้กคนเดิมซะที รักน้องเค้กที่สู้ด
เรื่องคิวช่างเถอะนะ ปล่อยไปเถอะ
-
อีกตอนนนนนนนนะ
ได้โปรดดดดดดดดดดด
T______________T
จะบ้าตายแล้ววววววว
-
:fire: :z6:
-
:z3: o22 :z3:
บอกรักแล้วว
แล้วไงต่ออ้ะเบบี้ !!
อร๊ากกกกค้างเติ่งง
รอเทออยู่นะจ๊ะ
หวังว่าคิวจะทำบางอย่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
-
อ๋าา เค้กบอกรักไปแล้วนะ
พี่คิวทำอะไรสักอย่างซิ
สงสารน้องงง
รักคนเขียนนะ มาต่อไวๆล่ะ อิอิ
-
เค้กเข้มแข็งมากเลย o13 o13
เบบี้คับ ตอนต่อไปขอเพิ่มสกิลความล่าเริงให้เค้กหน่อยแล้วกันคร๊าบ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนคับ :L2: :L2:
-
ในที่สุดก็บอกอีตาพี่คิวไปซะทีนะน้องเค้ก
กลับมาเป็นน้องเค้กที่น่ารักของพี่ :กอด1:
ส่วนอีตาพี่คิวจะตอบยังไงหรือยังไงก็ปล่อยเค้า
(แต่เค้าก็อยากให้แฮ๊บปี้นะ :o8:)
รอจ้าเบบี้ จุ๊บๆ :impress2:
-
เป็นหนึ่งตอนที่กินใจที่สุด :m15:
อ่านแล้วรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของตัวละคร ณ โมเมนต์นั้นจริงๆ
เพราะมีไม่กี่ตอน ไม่กี่เรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกเสมือนจริงได้ขนาดนี้
ตรงนี้แหละที่ชื่นชม ถ่ายทอดได้ดีจริงๆ o13
:กอด1:
-
คิวคงกำลังอึ้งอยู่ ทำอะไรไม่ถูก
คิวต้องการเวลาในการคิด
ท่าทางคิวจะหนีแต่งงานซะแล้วมั้ง
-
สิ่งที่อยากทำก้อได้ทำซักทีนะน้องเค้ก
หวังว่าจะไม่มีอะไรค้างคาใจอีกนะ
หลังจากนี้ก้อเป็นส่วนของพี่คิวแล้วละ
ว่าสิ่งที่พี่คิวอยากทำพี่คิวจะเลือกทำมันรึปล่าว
-
เค้กจ๋า . . . เค้กทำเค้าซึ้งอ่ะ
อารมณ์อยากร้องไห้แทนเค้กเลยอ่ะ
ลุ้นจนบีบหัวใจไปหมด
เค้กบอกรักพี่คิวไปแล้ว จะเป็นยังไงต่อเนี่ย
สงสารเค้กอ่ะ เค้กสุดยอดมาก
เป็นคนที่อ่อนโยนมากๆแต่จิตใจก็ยังเข้มแข็ง
ชื่นชมจากใจจริงเลย อิอิ
เป็นกำลังใจให้เค้กต่อไป
แต่ตอนนี้ขอกอดคนเขียนก่อน
:กอด1:
-
เค้กทำในสิ่งที่ควรจะทำแล้ว ถึงแม้ผลที่ได้รับจะเป็นอย่างไรก้อตาม
ทีนี้ก้อต้องมารอพี่คิวบ้างหล่ะ ว่าสิ่งที่พี่คิวคิดว่าสมควรจะทำคืออะไร
-
อยากรู้ความรู้สึกพี่คิวบ้างอ่ะ พี่คิวชอบเงียบอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกก เค้กนายสุดยอดจริงๆ ^^
-
เค้กเข้มแข็งมาก o13
คิวอึ้งเลยละสิ ฮิๆ :really2:
-
พี่แกกำลังอึ้งและสับสน :z3:
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้แบบว่าบีบหัวใจมากกก โดยเฉพาะตอนนี้ TT
พี่คิวก็ปากแข็งจัง เค้กก็น่าสงสาร
:sad4: :sad4: :sad4:
ปล.จะมีเรื่องไหนไหมที่เบบี้แต่งไม่สนุก สนุกทุกเรื่องเลยยยยยยย
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ในที่สุดเค้กก็บอกรักคิว(เค้กน่ารักจัง) o18
ก็เหลือแต่คิวที่ยังคลุมเครือ(มืดมนเหลือเกินพ่อคุณ) :z6:
-
รักน้องเค้กที่สุดเลย :กอด1:
-
จับพี่คิวมาตีก้น ข้อหาไม่ยอมพูดให้กระจ่าง
ไปจัดการเคลียร์เรื่องตัวเองให้เรียบร้อยเลยนะ
ไปจัดการคุณฝันซะ!
ชิชิ
-
ในที่สุดก็ได้เจอ ได้คุยกันสองคนแบบนี้ ใจตรงกันซะด้วย มาหาน้องๆเหมือนกัน
ดีใจกับเค้กด้วยที่ได้บอกความรู้สึกของตนเองออกไป
เค้กก็รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเนอะ หลังจากนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เค้กก็คงเข้าใจและยอมรับได้มากขึ้น
ฝั่งพี่คิว ก็เป็นคนตรงอยู่แล้ว ได้ฟังเค้กบอกตรงๆอย่างนี้
ก็เงียบไปเลย ก็เข้าใจพี่คิวนะ พูดไม่ออก เพราะมีเรื่องให้คิดเยอะ
บางทีจะทำตามหัวใจตัวเอง มันก็คงยากในโลกของความเป็นจริง
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ รวมทั้งเบบี้ ด้วยนะ อิอิ
รออ่านตอนต่อไป มาเร็วๆนะ 55
-
น้องเค้กจ๋า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่สิ่งที่พูดออกไปแล้ว จะเป็นนายเรานะจ๊ะ :z2:
ส่วนไอ้ีพี่เชฟหน้าโหด ตอนนี้คงยืนอึ้ง...... เพราะไม่คิดว่าจะมีคนหน้ารัก มาบอกรักแบบสายฟ้าแลบ :m14:
+1 เป็นกำลังใจให้ครับ เบบี้ :กอด1:
-
คนที่ต้องเคลียร์ตัวเองให้ชัดเจนตอนนี้คือพี่คิวเท่านั้น อยากฟังความจากพี่คิวบ้างว่าทำบ้าอะไรอยู่เนี๊ย
-
กำลังลุ้นเลยนะเนี่ย ลุ้นมากๆ
-
“ฉันทำอะไร ฉันไม่รู้สึกผิดหรอกนะ..ถ้าสิ่งที่ฉันทำ ฉันไม่ได้ไม่ตั้งใจทำ”
อร๊ายยย แสดงว่าคิวก็ตั้งใจทำ...งั้นชิมิ แล้วไม่บอกน้องไปตรงๆ เลยอ่ะ รู้อยู่ว่าเค้กใสซื่อขนาดนั้น จะเข้าใจความหมายม๊ายยยยยย
เค้กบอกความรู้สึกของตัวเองไปแล้ว เยี่ยมมากเลยจ่ะ
ทีนี้ก็เหลือแต่คิวหล่ะนะ ดูซิว่าจะปากหนัก อ้อมโลกอีกนานมั้ย
-
อะไรหนูเค้กจะตัดใจง่ายปานนั้น
ตัดบัวยังเหลือใยเลย
-
เค้กทำในสิ่งที่อยากทำแล้ว
แล้วพี่คิวล่ะ ได้ทำอะไรในสิ่งที่อยากทำไปบ้าง
พี่คิวอาจจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ทำไมเหมือนมันยังค้าง ๆคา ๆอยู่ก็ไม่รู้เนอะ
อ่านแล้วก็เคืองพี่คิวนะ เหอะๆๆ นอยด์สุดๆเลยย
-
"เป็นไงบ้าง.."
แค่คำนี้ หัวใจคนอ่านก็ละลายแล้ว...
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
เศร้าจัง น่าอึดอันเป็นบ้า สงสารเค้กงะ ................. T T
-
:m15:
สงสารเค้กนะ พี่คิวก็รีบทำอะไรให้มันชัดเจนขึ้นอีกสักหน่อยดีไหม ?
อย่ามัวแต่คิดเองอยู่คนเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น โทษเบบี้ :laugh: :m20:
ฮ่าๆๆๆๆ XDDDD
-
โล่งใจไปกับเค้ก ในที่สุดก็ได้พูดออกไปแล้ว.. o13
ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไรก็ช่างเหอะเนอะเค้ก..
ยิ้มเยอะๆ กลับมาเป็นเค้กที่ร่าเริง เร็วๆนะจ๊ะ
..ตอนนี้ เป็นตอนที่คิดว่าฝันก็เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารเหมือนกัน..พี่คิว :z6:
ขอบคุณบี้มากมาย :pig4:
-
ลุ้นกับตอนนี้มากๆ นึกว่าพี่คิวจะพูดอะไรซะอีก โล่ง :เฮ้อ:
ดีใจกับเค้กด้วยยย แต่ตอนนี้อารมณ์มันค้างๆ ขออีกนะคะพี่เบบี้
ขอบคุณคะพี่เบบี้ :pig4:
-
งั้นแบบนี้แสดงว่าพี่่คิวโดนจับแต่งงานใช่ไหม
ดีใจที่เค้กสาระภาพรักพี่คิวไปแล้ว แต่ว่าพี่คิวค่ะ ทำไรให้น้องเค้กรู้บ้างว่าพี่คิวคิดไงกับน้องนะ
-
ขอถามเบบี้หน่อยค้าบ ตกลงเรื่องนี้จะจบที่ 50 ตอนจริงๆ อย่างที่เคยบอกไว้แรกๆ รึเปล่าจ๊ะ
แบบ ยังไม่อยากให้จบเลย มาม่าท้องอืดมานาน อยากได้ของหวานช่วยย่อยอีกสักหลายๆ มื้อ
-
สงสารเค้กกกกอิพี่คิวเค้กยังกล้าที่จะบอกรักแล้วตัวเองล่ะกล้าที่จะบอกรักเค้กมั่งมั๊ยยย
-
โล่งแล้วใช่มั๊ยน้องเค้ก กลับมาสดใสเหมือนเดิมเนาะ
คำตอบไม่สำคัญเพราะน้องไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วนี่นา
ดีจังที่ได้เจอกันในสถานที่ที่สงบ เหมือนเป็นใจเลย
อ่านตอนนี้แล้วก็รู้สึกเห็นใจพี่ฝันเหมือนกันนะ :เฮ้อ:
คนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวน่าจะมีความสุขมากกว่านี้สิ
ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลที่แต่งงานกันเพราะอะไร ทำไมถึงเศร้า
แต่ดูเหมือนพี่คิวไม่ได้เต็มใจกับเรื่องนี้เลย
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เมื่อไหร่จะมาสักทีนะ คิดถึงมากๆ
-
อยากอ่านต่อมากมายเลยค่ะ
เบบี้มาต่อเร็วๆนะคะ >.<
-
พี่คิวคะอะไรยังไง ... ยังไงดีๆ กลัวเธอลำบากจริงๆ ยังไงดีๆ กลัวเธอจะไม่เข้า
ป้าไม่รู้จะเวิ่นอะไรดีแล้วลูก รอการตัดสินใจของพี่คิว ...
-
ดีใจกับนู๋เค้ก ในที่สุดก็ได้พูดออกไปแล้ว
ผลจะเป็นยังไงก็ช่างแม่งมันเหอะ
ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ของเราจบสิ้นแล้ว
ต่อไปนี้ก็เลิกคิดเรื่องนี้ แล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
-
อั๊ยย่ะ!!!! เพราะ...เค้กเพิ่งบอกรักไป และ พี่คิวก็รับฟังทุกอย่างทุกถอยคำ....
ยังไง จะยังไงต่อไป ลุ้นจนเหงื่อแตกน้ำตาไหลไปแล้ว
-
น้องเค้กยังกล้ามากกว่าพี่คิวอีกอ่ะ... : )
-
ในที่สุดก็ได้พูดสินะ เข้มแข็งไว้เค้ก :กอด1:
พี่คิวอย่าสับสนอีกนานเลย มันไม่ทำให้ดีขึ้นนะ ยิ่งเงียบยิ่งไม่จบ
สู้ๆๆๆๆ
-
กลัวเบบี้หาหน้าไปเจอ :z13:
-
เฮ้ออออ โล่งใจแทนเค้กอะ มันเหมือนความกดดันลดลงไปเยอะเลย :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พี่คิวจะยังไงละเนี่ย
ที่ว่าตั้งใจหน่ะ หมายความว่าไง :serius2:
-
สงสารเค้กจัง สงสารยัยฝันเหมือนกันนะ คิวนี่้ทำอะไรทำไมก็ไม่รู้
-
คิดว่าเบบี้จะมาต่อวันนี้ซะอีก กาซิกๆ :monkeysad:
รอๆ :กอด1:
-
เฮ้ออออ หายอึดอัดและโล่งไปกับเค้กด้วย
อย่างน้อยๆ ก็ได้บอกความรู้สึกตัวเองกับคิวไปแล้ว
ได้รัก ถึงจะไม่ได้ครอบครอง :เฮ้อ:
คิดว่าคิวน่าจะอยู่ในช่วงของการตัดสินใจครั้งสำคัญหรือเปล่า
มารอคุณเบบี้มาบอกอยู่นะครับ
:pig4:
-
:m15:
-
คิดถึงมากๆเลยจ้า
มาต่อนะคะ เบบี้ :monkeysad:
-
เบบี้..เมื่อจะมา
คนอ่านคิดถึงโคดๆๆอะ
^o^
-
:oni1: :oni1: เข้ามาวิ่งเล่นรอคร้าบ
-
เบบี้...คิดถึง
เค้กคิว...คิดถึง
คิดถึงๆๆๆๆ
-
:oni3: :oni3: :oni3:
จงเอานิยายมาลง จงมา จงมา
-
เอาใจช่วยเค้กนะครับ พี่คิวรีบไปรับเค้กไปส่งบ้านได้แล้ว แล้วก้อบอกความรุสึกใจในของตัวเองให้เค้กรุด้วย
-
อ่านรวดดดดด มาสามวันได้
น้องเค้ก สู้ๆนะ
แต่แค่ได้บอก มันก็โล่งแล้วจริงๆ
อย่างที่พีทแซว
จูบกันนี่ไม่ธรรมดาแล้ว
พี่คิวก็เก๊กไปเรื่อย อาจจะยังไม่แน่ใจ
แต่ถ้าคนนึงบอก อีกคนจะเก็บไปคิด และคล้อยตาม
เชื่อเซ่!!!!!
จะรอเบบี้ จ๊วบบบบบบบบบบบ
-
เบบี้จ๋าาา มามะคนดี o11 :a11:
-
มา ซุ่ม รอ :m7:
-
มา ซุ่ม รอ :m7:
ด้วยคนค่ะ :m7:
-
จงมา อย่างยาวๆ :oni3:ๆๆ
-
มารอด้วยคนค่ะ
-
ค้างที่ซู๊ดดดดดดดด
คิวตามเค้กไปเลย รู้นะว่าใจตรงกันนนน!!
-
ดักซุ่ม!!!!
-
เอาหละ รุ้อย่างนี้แล้ว พี่คิวจะว่ายังไงล่ะ
จะจัดการอะไรได้บ้างไหม^^
-
รอลุ้นนนนนนน เข้ามาดันและเป็นกำลังใจให้เบบี้ อยากอ่านอ่ะ 5555
-
รออออออออ คอยยยยยยยยยยย
เธอมาแสนนนนน นานนนนนนนนนนน..
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
(ได้ข่าวว่าเขาเพิ่งอัพไปหมาดๆ - -+)
อิเพ่คิววววว เมิงอยู่หนายยยยย โฮกกกก :m31:
-
เข้ามารอคำตอบพี่คิวว ว ว
:m16: :m16: :m16:
-
แวะมาดูก่อนเข้านอน เผื่อเบบี้นึกคึกเอามาลงตอนดึก
แล้วก็รอกันต่อไป
-
วันนี้เลขสวยนะคะเบบี้ ;)
ซุ่มรอค่ะ >.<
-
แบบว่า..คิดถึ้ง คิดถึง :-[
-
ไม่ว่าอิพี่คิวจะต้องแต่งงานไปจริงๆ
แต่ชีวิตจะมีความสุขได้ยังไง
นอกจากตัวเองไม่มีความสุข
และจะทำให้ผู้หญิงทุกข์ด้วย
ฝันก็นะ คิดเหรอว่าได้แต่งแ้ล้วชีวิตจะดี
แค่ยังไม่ทันเริ่มก็ล่มซะแล้ว
รักคนที่เขาไม่รักเราก็เป็นอย่างนี้
ส่วนน้องเค็กทำดีมากจ้า
และต่อไปปล่อยวางปลดปล่อย
และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆนะจ๊ะ
55+
รอต่อไป
-
เข้ามาวิ่งเล่นรอคิว เค้ก ด้วยคน อิอิ
:z2:
-
:z3:
ยังไม่มาาา
อยากอ่านต่อแร้วววว
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
มากระแทกให้กระทู้พัง เมื่อไหร่จะมา
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
เมื่อคืนฝันว่ามาต่อด้วย(เป็นเอามาก)
-
:call: :call:
-
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรน้า ไม่อยากให้จบเลย รอจ้ารอ :mc4:
-
นั่งรอ Limited Lovers เงียบๆ อย่างใจจดจ่อ ~~*
ดักซุ่มก็แล้ว ซ้อมอ่านก็แล้ว อ่านอีกรอบก็แล้ว
ยังไม่มี ไม่เป็นไร เรารอได้
รอ ร๊อ รอ รอ ร๊อ รอ รอ ร๊อ รอ
5555555555555555555555555555555
:z13: ช่วยกันจิ้มให้ตูดเบบี้พัง คิคิ :z13: :z13: :z13:
-
:z13: :z13: :z13:
จงมาลงนิยายเร็วๆๆๆๆๆ :call: :call:
-
วันนี้ก็มาซุ่มรอเงียบๆเหมือนเดิม :L2:
-
พี่คิวไม่ตอบอะไรซักหน่อยหลอ??
ให้เวลาคิดคึนนึงละกัน ช้าไปเด๋วต้องไปเปนเจ้าบ่าวซะก่อน
-
คิวพูดอะไรออกมาบ้างดิ สงสารเค้กอ่ะ
-
มีซากคนอ่านลงแดงเกลื่อนกระทู้เลยจ้า ฮ่าาาา
-
พี่คิวววววไปคิดคำพูดนานเเล้วนะรีบมาๆๆ :z3:
-
เบบี้ เค้าอยากอ่านต่อแล้วววววววววววววว
-
อยากฟังคิววววววววว เบบี้ พรีสสสสส
-
มา้เต้นอ
:z2: :z2: :z2: :a3: :a3: :z7: :z7: :110011: :110011: :ped149: :ped149:
-
มาเต้นรอ
:a3: :a3: :a3: :วู้วว1: :วู้วว1: :ped149: :ped149:
-
ถึงตอนต่อไปจะเศร้า ผิดหวัง หรือสมหวัง เราก็รออยุน๊า
-
โอ๊ย อยากให้เขียนมุมมองของพี่คิวบ้างอะไรบ้าง
-
: 222222:
รอๆๆ ^^
-
รอเหมือนกัน อิอิ
-
เบบี้จ๋า... ได้โปรดพาพี่คิวน้องเค้กมาส่งวันนี้เถิดหนา :sad4:
-
:z3:
อึดอัด
กลัว
เสียใจ
...
ไม่มีคำบรรยาย
:o12:
-
ตื่นมาเพื่อรอเธอ :sad4:
เบบี้จ๋า แงงง เอาคิวกะเค้กมาส่งทีนะ :monkeysad:
ใจจะขาดรอนๆ
-
รออ่านนะครับ ครบรอบพอดี
-
ครบ 7วันแล้ว เผาอิพี่คิวเลย กร๊ากกกกกก เบบี้มาต่อเร้ววววว
-
รอคอยอย่างมีความหวัง วันที่ 7 แล้วน๊าคับเบบี้ อิอิ
เต้นรอต่อไป :z2:
-
สถานการณ์แบบนี้ ทุกข์กันทุกคนจริงล่วย
อยากรู้เหตุผลที่คิวแต่งงานจั๊ง
-
มาบอกว่ารออยู่เหมือนกัน ใจจะขาดแล้วค่ะ
-
เจ้ครับ 10 หน้าเม้นต์แล้วเน้อ กึดเติงอ้ายเค๊กแล้วเน้อ
-
เข้ามารอด้วยคน
-
รอมาหลายวัน ยังไม่ได้อ่านตอนต่อไปเลยอะ T T
-
เง้ออออออออ~~~ นับวันรอ รอแล้วรอเล่า :sad4: เค้าเข้ามาเช็คดูทุกวันทุกวันเลยนะอาเจ๊ ~ :z3:
ไม่รู้ล่ะ ถ้าเจ๊ยังไม่ลงนะ !!! .... เค้าก็จะรอเจ๊ต่อไป :m15:
-
รอ รอ รอ :sad4: อยากอ่านตอนต่อไป :z3:
-
~ เบบี้ เบบี้ เบบี้ โอ้ววว~ :m9:
:oni3: >> o11 >> :m5:
-
เข้ามาดูทุกวันเลยยย รออยู่นะคะ :sad4:
-
รอคิว-เค้กนะค๊ะ
-
ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์แล้ว ยังไม่มาอีกเหรอ
-
o9 o9 o9 o9 o9 o9
-
:z3: :z3:
-
แจ้งข่าว !!!!!!!!!!!!!!!!!!
***รายละเอียดเพิ่มเติมที่: http://baby.thai-forum.net/t497-topic
เบบี้
5 พ.ค 59
~50~
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เชิญครับ” พี่เซ็นยิ้มบอก ผมพยักหน้าและเลื่อนถาดที่มีแก้วกาแฟวางอยู่บนนั้นขึ้น เพื่อจะทำออกไปเสิร์ฟให้ลูกค้า
“อ่าว สวัสดีครับพี่กัส” ผมทัก วันนี้ผมมีเวรทำงานตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงตอนเย็น ซึ่งวันนี้พี่กัสไม่มีเวรต้องมาทำงานแต่วันนี้พี่คิวไม่มาทำงานเลยตั้งแต่เช้า ทำให้พี่ฟ้าต้องโทรให้พี่กัสมาช่วยงานในช่วงหลังจากนี้ต่อไป
ตั้งแต่วันนั้นผ่านมาได้สองสามวันแล้ว ผมรู้สึกดีกว่าเดิมนิดหน่อย อาจจะไม่คิดมากอย่างเดิมเพราะรู้สึกเหมือนได้ปลดอะไรบางอย่างออกไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับว่าสบายใจไปซะหมดกับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา ผมยังมีทั้งความสุขบวกความเศร้าหลงเหลือเป็นความทรงจำ แน่นอน..ไม่มีใครปลดได้ทุกสิ่งในเวลาเพียงแค่แป๊บเดียวหรอก
“พี่ไปเสิร์ฟให้แล้วกัน เค้กเอานี่เข้าไปให้พี่เซ็นนะ” พี่กัสยิ้มและยื่นออเดอร์มาให้ผม
“ครับ” ผมรับมา
“ฮอท บลูเมาน์เท่น ช็อกโกแลต กับฮอท คาปูชิโน บลูเมาน์เท่นครับพี่เซ็น” ผมอ่าน
“ขอบคุณครับ” พี่เซ็นยิ้มกว้าง
“เดี๋ยวเค้กช่วยตามอาฟ้าให้พี่หน่อยนะ บอกให้เข้ามาหาในครัวหน่อยนะครับ”
“ได้ครับ” ผมพยักหน้าและเดินออกมาตามพี่ฟ้าให้พี่เซ็น หลังจากนั้นผมทำงานต่อ โดยส่วนมากจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟอาหารแทน ซึ่งพี่ซีที่ว่างอยู่จะรับหน้าที่เข้าออกครัวให้ ทำให้เราทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นและงานราบรื่นดีจนปิดร้าน
“เค้ก..เสร็จรึยังครับ” พี่เซ็นโผล่หน้าเข้ามาในห้องพักพนักงาน ตอนนี้พวกเราเลิกงานและปิดร้านเรียบร้อยแล้ว พี่ฟ้ามีต้องออกไปทำธุระตั้งแต่ห้าโมงเย็น พี่เซ็นจึงรับอาสาบอกพี่ฟ้าว่าจะไปส่งผมที่บ้านแทน
“เค้กกลับกับพี่หื่นนี่เหรอ” พี่กัสถามขึ้น
“ครับ” ผมพยักหน้า
“ระวังตัวด้วยนะ” พี่กัสเข้ามากอดแขนผมในทันทีด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย
“หึ..จะไปด้วยกันไหมล่ะ” พี่เซ็นยิ้มเจ้าเล่ห์ ยืนมองพี่กัสด้วยท่าทางกวนอยู่ที่ปากประตูห้อง
“ใครจะอยากไปกับคุณ” พี่กัสเบะปาก
“เนอะพี่หมีเนอะ” พี่กัสละจากแขนผมไปกอดแขนพี่หมีแทน พี่หมีไม่ตอบ เพียงแต่ยืนอมยิ้มอย่างเคย
“ไปนะพี่” พี่ซีบอก
“อืม..อย่าเถลไถลล่ะ” พี่เซ็นบอกน้องสาวตนเอง
“แหม กล้าพูด” พี่ซีสะบัดหน้าและเดินหนีออกจากห้องไป
“เชิญครับที่รัก” พี่เซ็นผายมือให้ผม
“ไปนะครับพี่กัส พี่หมี” ผมยกมือไหว้
“ดูแลตัวเองดีๆนะเค้ก” พี่กัสทำหน้าอาลัยอาวรณ์ไม่เลิกเหมือนต้องการกวนกลับให้พี่เซ็น
“ปากดีจริงๆนะ” พี่เซ็นกัดฟันพูด
“ดูแลเด็กมึงด้วยไอ้หมี..ไม่งั้น เดี๋ยวกูจะเอาไปสั่งสอนเอง” พี่เซ็นแสยะยิ้มและเดินตามผมออกมา
“พี่เซ็นจะไปแหย่พี่กัสทำไมล่ะครับ” ผมว่าปราม
“หึ..” พี่เซ็นหัวเราะและอยู่ๆพี่เซ็นก็เอื้อมแขนเข้ามากอดเอวผมไป ผมสะดุ้ง จะสะบัดออกแต่พี่เซ็นกลับกอดผมแรงมากขึ้นกว่าเดิม
“เอวเล็กกว่าที่คิดไว้แฮะ”
“พี่เซ็นฮะ” ผมขึ้นเสียงปรามพี่แก
“ค้าบ..ขอค่าน้ำมันรถไง แค่นี้เอง..ไม่สึกหรอหรอกน่า” พี่เซ็นอมยิ้ม หัวเราะคิกคักอย่างสบายใจ
“ก็เพราะพี่เป็นอย่างนี้ไงครับ พี่กัสถึงว่าเอาเรื่อย” ผมบ่น
“เค้กนี่น่ารักจัง พี่มองไม่ผิดจริงๆน้า” พี่เซ็นเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆเลย
“เค้กไม่ใช่สำหรับพี่หรอกครับ” ผมย้อนและยิ้มให้
“งั้นสำหรับใคร..” พี่เซ็นเลิกคิ้ว
“ไอ้คิว” พี่เซ็นพูด ผมชะงัก
“หึ โทษที..ขึ้นรถเถอะครับ” พี่เซ็นบอกและเดินไปเปิดประตูรถให้ผมด้วย ระหว่างทางเราค่อนข้างจะเงียบ หรือเพราะผมเงียบมั้งครับ พี่เซ็นจึงไม่ค่อยได้ชวนคุยเท่าไหร่
“คิดอะไรอยู่ครับ” ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองพี่เซ็น
“เปล่าครับ” ผมยิ้มแหย
“สายตา สื่อคำพูดนะ..ว่าไหม” พี่เซ็นอมยิ้มอย่างรู้ทัน
“อะนะ” ผมหัวเราะเบาๆ
“แน่ใจนะครับว่าจะไม่ไปทานข้าวเย็นกับพี่ก่อน”
“ครับ..พี่เซ็นไปทานกับเพื่อนเถอะครับ ไปกับเค้ก..ไม่สนุกหรอก” ผมบอก พี่เซ็นเพียงแต่ยิ้มและนำมือมาลูบหัวผมเบาๆ ผมก้มหน้าลงไปตามแรงมือใหญ่ๆนี่
“เป็นไอ้คิวนี่ก็ดีจังน้า” พี่เซ็นถอนหายใจและพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
“มีแต่คนคิดถึงเรื่องมันกันให้วุ่นหัวใจไปหมด น่าอิจฉาแฮะ แต่พี่ไม่เคยเข้าใจ..ผู้ชายอย่างไอ้คิว มีดีตรงไหนกัน รุมรักมันกันอยู่ได้” พี่เซ็นพูดบ่นด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจแต่ผมกลับรู้สึกเขินจนไม่กล้ามองหน้าพี่เซ็น ผมเดาว่าพี่เซ็นคงรู้เรื่องทุกอย่างและพี่เซ็นก็คงอ่านผมออกนานแล้วเช่นกัน
“ไม่ปฏิเสธซะด้วย จริงเหรอครับเนี้ย” พี่เซ็นอุทาน อยู่ๆพี่เซ็นกลับหักรถเข้าข้างทาง
“หยุดรถทำไมล่ะครับ” ผมถามอย่างสงสัย
“ขอพี่ฟังชัดๆหน่อยได้ไหมครับ ว่าเค้ก..ชอบไอ้คิวมันจริงๆน่ะ” พี่เซ็นหันมาจ้องผมเขม็งด้วยสีหน้าจริงจังกว่าทุกที ใจผมเต้นแรงและเริ่มทำตัวไม่ถูก
“คิวมันไม่ได้บอกพี่เรื่องนี้หรอกนะ มันไม่บอกใคร..และไม่มีใครกล้าที่จะถาม แต่พี่แค่อยากจะมั่นใจในสายตาของตัวเอง ก็เท่านั้น” ผมเงียบ
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบเท่านั้น เป็นคำตอบเดียวที่แสดงให้พี่เซ็นทราบไปเลยว่า..ผมยอมรับทั้งหมด พี่เซ็นเงียบและหันหน้ากลับไปนั่งตัวตรงอย่างเดิม
“จริงสินะ” พี่เซ็นพูดพึมพำ น้ำเสียงไม่ได้แปลกใจเหมือนอย่างตอนแรก เราเงียบไปครู่หนึ่ง
“จะเป็นอย่างนี้ก็คงไม่แปลก ใช่แล้ว..” ผมได้แต่นั่งฟัง น้ำเสียงของพี่เซ็นปราศจากการล้อเล่นอย่างสิ้นเชิง
“แต่รู้อะไรไหมครับ..” พี่เซ็นพูดขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมอง พี่เซ็นไม่ได้หันมามองหน้าผมแต่อย่างใด สถานการณ์ในตอนนี้ผมลุ้นไปหมดเพราะแต่ละคำพูดมันค่อนข้างสำคัญสำหรับผม..
“ถ้าให้ดี..อย่าคิดแทนไอ้คิว” พี่เซ็นหันหน้ากลับมายิ้มให้
“ถ้าเค้กจะต้องมานั่งทำหน้าเศร้า และต้องคอยฝืนยิ้มอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้..หยุดคิดถึงมันเถอะครับ”
“พี่เซ็น คือเค้ก..ไม่เข้าใจครับ” ผมพูดอย่างตะกุกตะกัก
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพูดยังไงดี แต่..ถ้าเรื่องไหน ที่คิวมันตัดสินใจทำ นั่นหมายถึงมันคิดดีแล้วนะครับ”
“คิวเป็นคนปากหนัก มันไม่พูด มันไม่จำเป็นต้องปรึกษาใคร..เพราะมันตามทันความรู้สึกของตัวเอง แต่ถ้ามันจะต้องทำอะไรที่ขัดแย้งในตัวเอง เหตุผลนั้นก็คงยากสำหรับมันมาก”
“ในตอนนี้ มันคงได้ข้อที่ยากอยู่..พี่คิดว่าอย่างนั้น” พี่เซ็นอมยิ้มให้
“ไอ้คิวน่ะ มันรู้ตัวทุกการกระทำของตัวเอง..หึ เป็นฝ่ายรุกเกมตลอด น่าอิจฉาดีใช่ไหมล่ะคนอย่างมันน่ะ” พี่เซ็นพูดแกมขำ แต่เป็นคำพูดที่ผมฟังแล้วรู้สึกจุกอกไปหมด ผมอยากถามออกไปว่า “พี่คิวไม่ได้อยากแต่งงานเหรอฮะ” แต่ผมไม่กล้าพอ ผมไม่กล้าพอที่จะสามารถหลงตัวเองได้
“ไม่ว่ายังไง พี่คิดว่าเค้ก..คงจะกลายเป็นคนสำคัญในชีวิตมันคนหนึ่งไปแล้วแน่ๆ ไม่ว่าเค้กจะอยู่ในฐานะไหนก็ตาม ได้โปรด อย่าทำหน้าแบบนี้เลยนะครับ..มันเองก็คงจะไม่สบายใจ” พี่เซ็นก้มลงหอมหน้าผากผมเบาๆ น้ำตาที่คลออยู่นั้นหยดลงที่ฝ่ามือในทันที เมื่อรู้สึกตัวอีกทีพี่เซ็นก็ขับรถออกมาแล้ว หลังจากนั้นผมไม่ได้พูดอะไรอีกเลย พี่เซ็นด้วยเช่นกัน เราเงียบมาตลอดทางจนถึงบ้าน..
= = = = = = = =
วันเสาร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เห็นว่าพี่คิวบอกยกเลิกงานแต่งน่ะ!” ผมตกใจ หยุดนิ่งทุกการกระทำเมื่อได้ยินเสียงพี่ซีพูดอย่างนั้น ตอนนี้ผมอยู่ในห้องแต่งตัวของพนักงาน..แต่พี่ซีคงจะไม่ทราบ
“ชู่~” เสียงหนึ่งปราม
“เมื่อวานน่ะเหรอครับ” พี่กัสถามเสียงหลงทีเดียว
“ใช่..ถอนหมั้น และยกเลิกงานแต่งกะทันหันเลยล่ะ” พี่ซีเล่าเสียงดัง ผมยืนนิ่ง หัวใจเต้นแรงและกำลังรู้สึกเหมือนหัวใจพองโตขึ้นมา ผมนี่มันแย่ชะมัดที่กลับดีใจที่คนอื่นเขาเลิกกัน
“จริงเหรอฮะเนี้ย!” พี่กัสร้อง
“อื้อ..พี่ก็ไม่รู้ยังไงนะ ขนาดพี่เซ็นก็เพิ่งรู้เมื่อวานเหมือนกัน”
“เมื่อวานตอนดึกพี่แอบได้ยินพี่เซ็นคุยโทรศัพท์ ก็เมื่อวานใช่ป่ะพี่คิวกับพี่ฝันต้องไปลองชุดแต่งงานที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว..แต่ไม่รู้ว่ายังไง ทุกคนมารู้ข่าวอีกทีก็ตอนกลางคืนว่าพี่คิวขอถอนหมั้นแล้วยกเลิกงานแต่งงานอ่ะ น่าจะบอกเลิกที่ร้านลองชุดด้วยนะ” พี่ซีเล่าด้วยน้ำเสียงเศร้าลงเรื่อยๆ
“แรงอ่ะ..น่าสงสารพี่ฝันจัง” พี่กัสพูด
“ก็วันนี้พี่คิวไม่มาทำงานใช่ป่ะล่ะ ก็เล่นหายตัวไปตั้งแต่ที่ร้านลองชุดแต่งงานนั่นแหละ..หายไปเลย ยังไม่กลับบ้านเลยเหอะ โหย..บ้านใหญ่เกือบแตกแน่ะ วงการสะเทือน!” พี่ซีเล่า
“เพราะอะไรถึงยกเลิกอ่ะครับ” พี่กัสถาม
“แหม จะรู้ไหมล่ะ..รู้ได้แค่นี้ก็ดีนักหนาละ ขนาดเมื่อเช้าตื่นมานะ..พี่เซ็น คุณพ่อกับคุณแม่พี่อ่ะ นั่งทานอาหารเช้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่ะ พี่จะเอ่ยปากถามขึ้นกลางโต๊ะอาหารรึก็ใช่เรื่อง” พี่ซีพูดแกมบ่น
“แล้วไม่มีใครรู้เลยเหรอครับว่าหายไปไหนอ่ะ” พี่กัสถาม ผมยืนฟังอย่างตั้งใจเพราะอยากรู้ทั้งหมด
“ไม่อ่ะ ก็น่าจะมีแต่พี่เซ็นกับอาฟ้านะ..คุยกันเรียบร้อยแล้ว แต่พี่คิวไม่ได้บอกว่าอยู่ไหน แต่พวกพี่เค้าก็คงเข้าใจกันแหละ พี่คิวก็เป็นคนอย่างนี้อยู่แล้ว..ถ้าพี่เค้าอยากกลับมาเมื่อไหร่ ก็คงจะกลับมาเองอย่างทุกทีอ่ะ” พี่ซีบอก
“พี่คิวนี่ แปลกคนจังเลยนะครับ” พี่กัสบ่น
“เข้าใจยากจริงๆ” พี่ซีเสริมอีก
“เข้าถึงยากอีกด้วย ให้มาเป็นแฟนกัส..กัสไม่เอาด้วยคนหรอกฮะ ไม่รู้ว่าพี่เค้าคิดอะไรอยู่”
“แหม อย่างกัสนี่ไม่พี่หมีก็พี่ชายพี่สินะ” พี่ซีแซว
“เปล่าสักหน่อยฮะ” พี่กัสร้องเสียงหลง กลายเป็นว่าตอนนี้ผมไม่สามารถออกจากห้องนี้ไปได้ ถ้าผมออกไปตอนนี้ทั้งผมและคนข้างนอกคงจะทำตัวไม่ถูกเป็นแน่
“แต่จากที่เห็น ก็มีคนเอาอยู่คนนึงล่ะนะ..หึ” พี่ซีพูดด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“เค้กอะนะ” พี่กัสพูดขึ้น
“อ่ะแฮ่ม” ผมสะดุ้ง ผมคิดว่าเสียงกระแอมน่าจะเป็นเสียงของพี่รุจที่อยู่ด้านนอกด้วย มีเพียงพี่รุจคนเดียวที่ทราบว่าผมอยู่ในห้องแต่งตัวนี้
“......................” ด้านนอกเงียบไปสนิท ผมยืนนิ่งกำลังคิดว่าจะเอาอย่างไรต่อดี แต่ข้างนอกเงียบไปนานเกือบสิบนาที ทำให้ผมตัดสินใจที่จะเปิดประตูห้องออกไป
“เหอะๆๆ” ทั้งพี่ซีและพี่กัสหัวเราะแหยๆให้ผม ผมยิ้มตอบให้
“ได้ยินหมดแล้วสินะ” พี่ซีพูดด้วยท่าทางเขินอาย
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบ
“ผมส่งสัญญาณแล้วนะ” พี่รุจบอก
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่าว่าเค้กอยู่ข้างในน่ะ หมดกัน..หน้าแตกเลยฉัน” พี่ซีว่าพี่รุจหน้างอ
“ก็พี่เล่นไม่ฟังเลยนี่ครับ ผมชู่ปากให้แล้วนะ” พี่รุจย้อน
“เค้กอ่า..พี่ไม่ได้ตั้งใจจะเอาชื่อเค้กมาร่วมวงสนทนานะ แล้วก็..ไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องพี่คิวด้วย” พี่กัสรีบเดินเข้ามาคลอเคลียผมในทันที
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เค้กก็ไม่ได้คิดอะไร”
“จริงนะ จริงน้า..” พี่กัสซุกไซร้ผมไม่เลิก
“จริงสิครับ” ผมหัวเราะ
“ใจดีจัง งี้แหละถึงเข้ากับพี่คิวได้อ่ะเนอะ!” พี่กัสยิ้มกว้าง ผมหุบยิ้มลง
“แฮ่..เค้าขอโทษ” พี่กัสหุบยิ้มและเข้ามากอดผมอย่างแรงอย่างกลัวว่าผมจะโกรธ
“ทำงานกันดีกว่านะครับ สวัสดีครับพี่รุจ” ผมยกมือไหว้พี่รุจที่กำลังจะออกเวรเพื่อส่งต่อให้กับพี่ซีได้ทำหน้าที่แทน
“อืม..เจอกัน” พี่รุจพยักหน้ายิ้มๆ ผมเดินออกมาโดยมีพี่กัสกอดแขนมาด้วยตลอดทางพร้อมกับพร่ำพูดตลอดว่า “ไม่โกรธเค้าน้า” สุดท้ายแล้วก็น่ารักจนโกรธไม่ลงจริงๆนั่นแหละครับ
= = = = = = = =
“เดี๋ยวเค้กรดน้ำต้นไม้เองครับ พี่หมีเข้าไปดูแลข้างในเถอะ” ผมตะโกนบอกพี่หมีที่กำลังวุ่นอยู่
“โอเค ฝากด้วยนะ” พี่หมีบอกและเดินเข้าร้านไป ตอนนี้ใกล้เวลาปิดร้านเต็มที ลูกค้าในร้านไม่มีแล้ว ผมต้องรดน้ำต้นไม้ก่อน มันเป็นหน้าที่ของผม ส่วนคนอื่นๆกำลังจัดการหน้าที่ของตนเองไป
“หึ..ฉันนี่บังเอิญเจอนายบ่อยจริงนะ” ผมสะดุ้ง หันกลับไปมอง พี่ฝันยืนอยู่ตรงหน้า เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบผมไม่ทันได้สังเกต
“อ่..ส สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้และรีบเดินไปปิดก๊อกน้ำ
“พี่ฟ้าอยู่ข้างในร้านน่ะครับ” ผมบอก
“ไม่ล่ะ” อีกฝันพูดส่งๆ
“คิว..ยังไม่มาเลยสินะ” เธอพูด เป็นคำพูดเชิงคาดเดาหรือสอบถามรึก็ไม่ทราบ
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“งั้นสิ หึ..ไอ้เฮงซวยนั่นน่ะ บ้าดีชะมัด” พี่ฝันหัวเราะ ผมได้แต่มองหน้าเธออย่างไม่เข้าใจ
“บางที คิวก็มีมุมเฮงซวย..นายว่าอย่างนั้นไหมล่ะ” พี่ฝันแสยะยิ้มด้วยสีหน้ากวนๆ
“คงงั้น เอ่อ..มั้งครับ” ผมยิ้มแหยเพราะไม่เข้าใจอารมณ์ของพี่ฝัน และคำว่า “เฮงซวย” ที่หลุดออกมาจากปากของเธอ ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับใบหน้าสวยๆของเธอเสียเท่าไหร่นัก
“.......................” เราเงียบลง ผมมองไปที่มือของพี่ฝัน อยู่ๆพี่เขาก็ยื่นกล่องกล่องหนึ่งมาให้ตรงหน้าผม
“อะ อะไรเหรอครับ” ผมถามอย่างตะกุกตะกักและพยายามไม่คิดไปเอง
“ช่วยรับไว้หน่อย นำมันไปคืนเจ้าของให้ที” พี่ฝันพูด ผมได้แต่เพียงมองและยังไม่ได้รับมันมา
“รับไปสิ” เธอขึ้นเสียงนิดหน่อย
“ค..ครับ” ผมพยักหน้าและรับกล่องมาถือไว้ ผมจ้องกล่องแหวนกำมะหยี่สีเทาดูมีราคาที่อยู่ในมือของตัวเอง
“จะกลับมาวันไหน ก็คืนให้วันนั้น..” พี่ฝันยิ้มแต่หน้าเธอกลับเศร้า
“แต่ไม่เป็นไร ถ้าจะไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร หรือถ้าคืนแล้วไม่รับ..ก็ไม่เป็นไรอีกนั่นแหละ” เธอพูดพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
“ฉัน ไม่ต้องรีบ อีกต่อไปแล้ว” พี่ฝันก้มหน้าลง ผมได้แต่เงียบ จะพูดออกไปว่า “เสียใจด้วยนะครับ” หรือ “จะคืนให้ถึงมือเลยครับ” หรืออะไรก็แล้วแต่ มันฟังดูไม่เหมาะไม่ควรไปซะหมด
“ฉันคงไม่อยู่ไทยสักพัก ถ้าคิวอยากรู้..ก็ฝากบอกคิวด้วยแล้วกัน”
“ขอบคุณ” พี่ฝันพูดและเดินไป ผมยืนมองผู้หญิงสวยสง่าและดูสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้าคนนี้ ผมเชื่อว่าเธอคงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ผู้ชายหลายๆคนหมายปองเป็นแน่แท้ ผมก้มลงมองดูของในมือของตัวเองอีกครั้ง
~หึ..ไอ้เชฟบ้านั่น~
“เธอน่ะ” ผมชะงัก เงยหน้าขึ้นมองตามเสียง อยู่ๆพี่ฝันก็หยุดเดิน เธอหันหน้ากลับมา
“เธอน่ะ ก็รักคิวมากเหมือนกันสินะ” พี่ฝันพูด หน้าของเธอนิ่ง มีเพียงรอยยิ้มเศร้าน้อยๆปรากฏให้ผมเห็น
“......................” เรายืนมองหน้ากัน ผมไม่รู้ว่าพี่ฝันกำลังคิดอะไรแต่ผมกำลังอึ้ง ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกไปจากผม
“แย่หน่อยนะ ไปรักคนแบบนั้นเข้าน่ะ” พี่ฝันพูดปนหัวเราะ
“ถึงตาของนายแล้วล่ะ”
“ขอให้โชคดีก็แล้วกัน” พี่ฝันเบะปากก่อนจะเดินจากไป ผมยืนอยู่ที่เดิมอยู่นานก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน ชั่วครู่เมื่อกี้ผมคิดดีแล้วว่าผมไม่เอาไปคืนให้พี่คิวด้วยตนเองคงจะดีกว่า เพราะมันดูจะขัดกันไปเสียทุกอย่าง ตอนนี้ผมเองก็ยังไม่พร้อมที่ต้องเผชิญหน้ากับพี่คิวด้วยนะครับ
ก๊อก ๆ ๆ
“เชิญครับ” พี่ฟ้าบอก ผมเปิดประตูเดินเข้าไป
“ว่าไงครับ เก็บของเสร็จแล้วเหรอ” พี่ฟ้ายิ้ม วางโทรศัพท์มือถือของตัวเองลงบนโต๊ะ
“เปล่าครับ คือ..” ผมพูดเสียงเบา เดินเข้าไปใกล้และนำกล่องแหวนวางลงบนโต๊ะทำงานของพี่ฟ้า
“พี่ฝัน..เค้านำมาฝากคืนให้พี่คิวเมื่อกี้น่ะครับ ของสำคัญ เค้กเลยอยากเอามาให้ก่อน” ผมบอก พี่ฟ้าจ้องมองไปที่กล่องนั่น
“นั่นสินะ..สำคัญจะตาย” พี่ฟ้ายิ้มกว้างพร้อมกับหยิบกล่องแหวนนั่นขึ้นมาและเปิดออก ผมมองตาม
“วงนี้น่ะ..ซื้อบ้านดีๆได้หลังนึงเลยนะ เอาไปขายแล้วเราบินไปเที่ยวรอบโลกกันไหมเค้ก” พี่ฟ้าเบิกตาโพรงพร้อมกับยังทำท่าทีเล่นทีจริงไม่เลิก
“พี่ฟ้าครับ” ผมยิ้มอย่างอ่อนใจกับนิสัยของพี่เขา
“อืม ไปกันสองคน โอเคอยู่นะ..ไม่เหงาด้วย ราคาวงนี้น่าจะพอเที่ยวทั่วยุโรป อยู่แบบหรูได้สักสองสามเดือนเลยล่ะ” พี่ฟ้าพูดอย่างออกรสเหมือนไม่ได้ฟังที่ผมปรามเอาซะเลย
“งั้นก็คงต้องให้เจ้าของเอาไปขายก่อนแล้วล่ะครับ” ผมแซวกลับบ้าง
“ไอ้หยา นั่นสินะ” พี่ฟ้าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ผมยิ้มให้กับท่าทางของพี่แก
“อ่านะ..ยิ้มแล้วน่ารักกว่าเยอะเลยรู้ไหมครับ” พี่ฟ้าเข้ามาลูบหัวผมและปิดฝากล่องลง
“ฝันให้เค้กเอาไปคืนเองไม่ใช่เหรอครับ เอาไปคืนเองเถอะครับ” พี่ฟ้ายื่นกล่องกลับมาให้ผม
“ไม่ดีกว่าครับ เค้กไม่สะดวก” ผมตอบปัด
“คนฝากฝากของไปให้ใคร เราก็ควรเอาไปให้กับเจ้าตัวนะครับ..ไม่ควรฝากต่ออีกที มันเสียมารยาทน่ะ” พี่ฟ้าว่า
“อ่ะ” ผมก้มหน้าลงเพราะเถียงไม่ออกและไม่รู้ว่าที่พี่ฟ้าพูดนั้น พูดจริงหรือพูดเล่นกัน
“หึ..เถอะครับ” พี่ฟ้าจับมือผมไปและวางกล่องไว้บนมือของผม ผมจึงต้องกำมันกลับมาอย่างช่วยไม่ได้
“แต่เค้กจะมาทำงานอีกทีก็วันจันทร์นะครับ ถ้าเผื่อพรุ่งนี้พี่คิวมาทำงานล่ะฮะ” ผมบอก คิดอีกมุมผมก็กลัวว่าพี่เขาจะหาว่าผมอยากเก็บแหวนนี่ไว้ เอาไปขายหรือหลายหลายเหตุผล แหวนราคาแพงนี่ไม่เหมาะที่จะอยู่กับผมนานเกินไป
“พี่ก็ยังไม่รู้เลยว่ามันจะกลับมาวันไหนน่ะ” พี่ฟ้าพูดพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
“เค้กมาทำงานวันไหน ก็เอามาวันนั้นแหละครับ..เราไม่ผิดนิ ถ้าเราจะเก็บไว้กับตัวนานๆ ก็เจ้าตัวมันไม่มาให้เราคืนเอง”
“ก็ได้ครับ” ผมพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
“แล้วพี่คิว เค้า..”
“ตายไปแล้วมั้งครับ หึหึ” พี่ฟ้าพูดแกมหัวเราะ
“โอเค..ไปจัดการเก็บของเถอะครับ เราจะได้กลับบ้านกัน” พี่ฟ้าลูบหัวผมเบาๆ
“ฮะ” ผมตอบและเดินออกมาจากห้องพร้อมกล่องแหวนที่ต้องรักษาเยี่ยงชีวิตไปอย่างไม่รู้อนาคตว่าจะได้คืนให้เจ้าของเมื่อไหร่
“กี่แสนก็ไม่รู้เนอะ เฮ้อ”
“รึเป็นล้าน..” ผมบ่นกับตัวเองและก็ต้องเบิกตาโตด้วยความสงสัย มือของผมเริ่มมีอาการสั่นนิดๆ ถ้าเกิดผมทำหายขึ้นมา เราจะมีปัญญาซื้อใช้คืนไหมเนี้ย “เที่ยวได้ทั่วยุโรป” “ซื้อบ้านดีๆได้สักหลัง” บ้านดีๆสักหลัง บ้านดีๆสักหลัง บ้านเราก็ดีนะ ถึงจะไม่ใหญ่โตอะไรและถึงจะเทียบไม่ได้เลยกับบ้านราคาเป็นร้อยล้านอย่างบ้านของพี่ฟ้า o_O ง..งั้น บ้านเรากับแหวนวงนี้ ส..สามล้านกว่า ไม่นะ..ไอ้แหวนบ้า!!
= = = = = = = =
-
ผมเก็บรักษาแหวนวงนี้ไว้อย่างดี นำมันติดตัวไปทุกที่ แม้กระทั่งไปเรียนผมก็นำมันพกติดตัวไปด้วย ผมไม่กล้าเก็บไว้ที่บ้าน คิดไปต่างๆนาๆว่าถ้าโจรขึ้นบ้านบ้างล่ะนู่นนี่นั่นเยอะไปหมด เวลาที่ผมอยู่บ้านผมจะนำมันเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย ได้สติอีกทีจึงรู้ตัวว่า “บ้าป่ะเนี้ย” แต่ผมไม่สบายใจจริงๆถ้าจะต้องเก็บไว้ในที่ที่ไม่ปลอดภัย ถ้าเกิดมันเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไงล่ะครับ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมไปทำงานปกติและนำแหวนไปด้วย แต่พี่คิวไม่ได้มาทำงานอย่างที่ผมคาดเดาเอาไว้ เวลาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์จึงช่างดูยาวนานสำหรับผม เพราะผมแทบไม่เป็นตาทำอะไร ต้องมาคอยห่วงหน้าพะวงหลังอยู่กับแหวนวงนี้ ถ้าผมบอกเรื่องนี้กับแม่ แม่จะต้องซักถามต่างๆนาๆแน่ว่าทำไมหรือเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมจึงปิดเรื่องนี้ไม่บอกใครเลยแม้สักคนเดียว
~ตอนนี้..พี่คิวจะเป็นยังไงบ้างนะ~
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เอ่อ พี่ออฟครับ”
“หื้ม” พี่ออฟหันหน้ามา
“วันนี้พี่คิวมาทำงานรึเปล่าครับ” ผมถาม
“มานะ..มาตั้งแต่เช้าเลย” พี่ออฟตอบ
“มานานแล้วเหรอครับ วันอังคารก็มาเหรอ” ผมถามด้วยความอยากรู้ หัวใจของผมพองโตด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ความรู้สึกบ้าบอแบบนี้เริ่มกลับมาทำให้ผมว้าวุ่นใจอีกครั้ง
“มาตั้งแต่วันพุธเช้าน่ะ”
“งั้นเหรอครับ” ผมพยักหน้า
“แต่งตัวเสร็จก็ไปทำงานได้แล้ว” พี่ออฟยิ้มและเดินออกจากห้องไป ผมหยิบกล่องแหวนออกมา เพ่งไปที่มันและคิดถึงเรื่องของเย็นนี้ ผมตัดสินใจว่าจะเอาไว้คืนหลังเลิกงานน่าจะเหมาะที่สุด ถ้าผมนำมันเข้าไปคืนในครัวตอนนี้คงจะไม่ควร อีกอย่างถ้าให้แหวนไปตอนนี้ ตอนเย็นผมคงทำหน้าไม่ถูกแน่ถ้าจะต้องบอกทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวว่าจะขอเดินทางกลับบ้านเอง เฮ้อ..อึดอัดจัง (~v~)
“โอเค..ครบนะครับ พี่มีข่าวดีจะมาบอก คุยเสร็จ..ก็แยกย้ายกันกลับบ้านได้เลยนะ” พี่ฟ้ายิ้ม ตอนนี้เลิกงานแล้ว พวกเรารวมตัวกันอยู่ที่ห้องพักของพนักงาน ทุกคนนั่งอยู่ประจำที่เก้าอี้ของตนเอง พี่คิวนั่งอยู่หัวโต๊ะใกล้กับพี่ฟ้า ตอนนี้ผมได้เห็นพี่คิวอย่างเต็มตาอีกครั้งจากที่ไม่ได้พบกันมานาน แต่ผมไม่กล้าหันไปจ้องพี่เขามากนัก จึงได้แต่โฟกัสไปที่พี่ฟ้าคนเดียว
“อาทิตย์หน้า ร้านเราจะปิดสี่วัน..” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“เย้~” เสียงของพี่กัสและพี่ซีร้องอย่างดีใจ ที่จริงวันนี้พี่กัสไม่มีเวรทำงาน แต่กลับมาขลุกอยู่ที่ร้านตั้งแต่บ่ายได้แล้วเพราะเห็นบอกว่าไม่มีอะไรทำ
“เหมือนทุกๆปี หยุดไปเที่ยว” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เย้~~” พี่ซีและพี่กัสส่งเสียงอย่างดีใจไม่เลิก ผมได้เพียงแต่นั่งยิ้ม ผมกลับไม่รู้สึกว่าตื่นเต้นด้วยเลยสักนิดเดียว
“เหมือนเดิมอีกว่า” พี่ฟ้าพูดขึ้น
“พี่ฟ้าจ่ายค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด!” พี่ซีกับพี่กัสประสานเสียงพร้อมกัน ทำให้คนทั้งห้องหัวเราะ รวมถึงพี่คิวก็ยิ้มออกมาด้วย “ยิ้ม”..ได้แล้วสินะ
“เราจะหยุดตั้งแต่วันพฤหัสหน้า ออกเดินทางวันพฤหัส..ปีนี้เราจะไปหัวหินกัน กลับวันอาทิตย์ รวมตัวกันที่ร้านตั้งแต่หกโมงเช้า ออกเดินทางเจ็ดโมงครึ่ง..นี่ครับ จดหมายจากทางร้าน เอาไปให้ผู้ปกครองที่เคารพรักดูกันด้วยล่ะ” พี่ฟ้าแจกกระดาษให้
ผมรับมาอย่างเงียบๆ บอกปัดไม่ได้ว่าผม “อยากไป” แต่ผมก็ไม่ได้อยากไปหมดหัวใจซะทีเดียว อีกครึ่งหนึ่งผมรู้สึกไม่อยากไปเช่นเดียวกัน ผมแค่รู้สึกว่าผมทำตัวไม่ถูก
“แล้วพี่รุจล่ะฮะ ไปด้วยไหม” พี่กัสถามถึงคนที่ไม่ได้นั่งประชุมอยู่ในตอนนี้ด้วยกัน
“ไปจ้า..พี่คุยกับรุจแล้ว” พี่ฟ้าตอบ ทำให้ผมยิ่งไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธขึ้นกลางวงไปกันใหญ่
“โอเค..รับทราบกันทุกคนนะ กลับบ้านได้ครับ ขอบคุณมากเลย” พี่ฟ้ายิ้ม
“ขอบคุณค้าบ” ทุกคนประสานเสียงพร้อมกัน ผมลุกขึ้นเดินเข้าห้องเพื่อไปหยิบเป้ของตัวเองที่เก็บของเตรียมไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว พอเดินออกมาพบว่าพี่ฟ้ากับพี่คิวออกจากห้องนี้ไปแล้ว ก็ดีเหมือนกัน..ผมคงไม่กล้าคืนแหวนให้โต้งๆในห้องนี้หรอก
ก๊อก ๆ ๆ
“ครับ” พี่ฟ้าตอบ
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจก่อน พยายามทำตัวเองให้เป็นปกติก่อนที่จะเปิดประตูห้องและเดินเข้าไป
“.......................” ทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวเงียบเมื่อเห็นว่าเป็นผม พี่คิวที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำงานของพี่ฟ้าหันมามอง เหมือนทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ก่อนหน้า พอผมเข้ามาจึงหยุดการสนทนาลงในทันที
“ขอโทษครับ เอ่อ..เค้ก” มือซ้ายของผมกำเข้าหากันแน่น เมื่อรู้สึกว่าตัวเองใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือของผมสั่นจนผมรู้สึกได้ ผมพยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับมา ก่อนที่จะรีบวางแหวนลงบนโต๊ะของพี่ฟ้า ผมวางมันในมุมที่ใกล้ตัวพี่คิวมากที่สุด ผมไม่กล้าให้เองกับมือ ความรู้สึกกดดันที่มีมันทำให้มือของผมสั่นไปหมด คำที่เขาว่ากันว่า “ความรักนั้นต้องใช้เวลา” บางทีนั่นคงเป็นเรื่องจริง แม้ขนาดผมจะควบคุมตัวเองให้หยุดรักเสียที ก็ยังไม่สามารถสั่งหยุดได้ในทันทีอย่างปากว่า
“พี่ฝัน ฝากให้เค้กเอามาคืนน่ะครับ..มาคืนให้ ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วครับ” ผมพูดและไม่ได้สบตาใครทั้งนั้น ทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวเงียบ พี่คิวยืนมองกล่องแหวนนั่นและไม่ได้เอื้อมมาหยิบไป พี่คิวเพียงยืนมองและนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น
“เอ่อ แล้วก็..พี่ฟ้าครับ” ผมเรียก
“ครับ” พี่ฟ้ายิ้มให้ ละสายตาจากที่มองหลานตัวเองมามองหน้าผมแทน
“เค้ก คงไปเที่ยวด้วยไม่ได้..ขอโทษด้วยนะครับ” ผมผงกหัวให้
“อ่ะ อ่าว..ทำไมงั้นล่ะ เรื่องคุณแม่เหรอครับ เดี๋ยวพี่โทรไปขอท่านให้ก็ได้นะครับ” พี่ฟ้าหุบยิ้มลง
“เค้กไม่สะดวกน่ะครับ..มีเรียนด้วย” ผมหลบสายตาที่ดูผิดหวังมากของพี่ฟ้า
“เค้ก ขอตัวก่อนนะครับ” ผมผงกหัวให้อีกเล็กน้อย
“แล้ว..ไม่กลับด้วยกันเหรอ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” พี่ฟ้ารีบพูด
“ไม่เป็นไรครับ..เค้ก ต้องไปบ้านเพื่อนต่อน่ะครับ..ไปนะครับ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้และรีบเดินออกมาเลย ถ้าผมยังยืนอยู่พี่ฟ้าจะต้องรั้งผมไว้เป็นแน่ อีกอย่าง..ที่ต้องโกหกไปว่าต้องไปบ้านเพื่อนต่อแบบนั้นมัน น่าอายชะมัด สมเพชตัวเองจริง..
“ไปนะครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคนที่ยืนรออยู่หน้าร้าน
“อ่าว..กลับเองเหรอ” พี่หมีทัก
“ฮะ บายฮะ” ผมบอกและรีบวิ่งออกมาไม่ทันให้พวกพี่ได้ท้วงถามอะไร
“เฮ้อ..บ้าเอ๊ย” ผมสบถกับตัวเอง เหมือนคนบ้าอยู่คนเดียว เหมือนเราเป็นบ้าเป็นบอ ห่วงนู่นห่วงนี่อยู่เพียงคนเดียว..
ระหว่างทาง ผมรีบเร่งเท้าจนตัวเองแทบจะวิ่งเพื่อให้ไปถึงหน้าปากซอยให้เร็วที่สุด ถ้าผมยังคงเดินอย่างเชื่องช้าอยู่ พวกพี่ๆที่กำลังจะกลับบ้านขับรถออกมาคงได้เจอผมแน่ ผมคงจะทำตัวไม่ถูก มันหลายๆสาเหตุประดังประเดไปหมด ถ้าผมพ้นจากหน้าปากซอยและข้ามถนนไปรอขึ้นรถเมล์อีกฝั่งได้แล้ว วันนี้ก็จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอีกวัน..
ตื๊ด ๆ ๆ ๆ
สายเข้า __ = พี่คิวปิด -*- สุดโหด =
ผมเพ่งมองหน้าจอโทรศัพท์มือถืออย่างไม่เชื่อสายตาของตัวเอง สายโทรเข้าเป็นบุคคลที่ไม่ได้คุยกันมานานหลายอาทิตย์ ที่แทบไม่ได้สบตากันเลยด้วยซ้ำ ผมชั่งใจไม่กดรับจนอีกฝ่ายตัดสายไปในที่สุด ใจผมแป้วขึ้นมาในทันที และกำลังคิดลบไปต่างๆนาๆว่าพี่เขาคงมีเรื่องสำคัญที่จะคุยมากกว่าที่จะอยากคุยกับเราเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า ผมกลัวที่จะรับสายจริงๆ..
ตื๊ด ๆ ๆ ๆ
“ค..ครับ” ผมกดรับในที่สุด ผมอยากได้ยินเสียง ไม่ว่าอย่างไร..ผมก็อยากรับสาย
“นายตั้งใจไม่รับสายฉันรึไง” อีกฝ่ายพูดเสียงเข้ม น้ำเสียงฟังดูไม่พอใจผมเล็กน้อย
“ป เปล่าครับ..เค้ก เพิ่งเห็นน่ะ” ผมตอบตะกุกตะกัก เสียงที่ไม่ได้ยินมานานทำให้ผมกลับมาใจเต้นแรงอีกครั้ง
“......................” อีกฝ่ายเงียบไป ผมกดโทรศัพท์เพื่อให้ได้ยินเสียงอีกฝ่ายดังมากขึ้นกว่านี้ เพราะมีเสียงรบกวนจากการรถรอบข้างเต็มไปหมด
“หยุดเดินเดี๋ยวนี้” อีกฝ่ายสั่งเสียงแข็ง ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในใจกลับนึก “หยุดตั้งนานแล้วเหอะ”
“โกหกทำไม” พี่คิวพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนต่อว่า
“อะไรครับ” ผมถามกลับไปอย่างนั้นทั้งทั้งที่จริงรู้ดีแก่ใจว่าพี่คิวหมายถึงเรื่องอะไร
“อยู่ไหนน่ะ” พี่คิวถาม
“กำลังจะขึ้นรถเมล์แล้วครับ” ผมตอบ
“โกหก” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากอีกฝ่าย ใช่..ผมกำลังโกหกอีกแล้ว
“ก็เห็นๆอยู่ว่ายังอยู่บนสะพานลอย นายนี่วิ่งเร็วเหมือนกันนะ” อีกฝ่ายพูด ผมตกใจ รีบหันกลับไปมองรอบตัวของตัวเอง บนสะพานลอยไม่พบใครนอกจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ผมมองลงไปข้างล่างก็พบว่าพี่คิวยืนอยู่ตรงฟุตปาธด้านฝั่งปากซอยของร้านเรา
“.......................” ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง เรายืนสบตากันอยู่อย่างนี้แม้แทบจะมองไม่เห็นหน้าของกันและกัน เพราะรอบข้างเรานั้นมืดหมด มีเพียงแสงไฟนีออนจากข้างถนนที่อยู่ห่างๆกับแสงไฟบนสะพานลอยเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง
“เหมือนฉันจะรู้ว่านายรักฉัน” พี่คิวพูดน้ำเสียงเรียบด้วยหน้าตาเฉย
“ก็..ก็แน่สิ ก็เค้กเป็นฝ่ายบอกพี่เองนี่” ผมกระแทกเสียง พอนึกขึ้นได้กลับรู้สึกเขินขึ้นมาจนลืมตัวไปว่าก่อนหน้านี้ยังเสียใจอยู่เลย
“หึ นั่นสินะ” พี่คิวแสยะหัวเราะ ผมหันข้างไม่หันไปมองพี่คิวที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม พี่เขาไม่ยอมขยับไปไหน ยังคงเงยหน้ามองมาที่ผมอยู่อย่างนี้
“มีอะไรรึเปล่าครับ เดี๋ยวรถเมล์หมด” ผมพูดเสียงเบา ใจจริงไม่ได้อยากพูดแบบนี้ออกไปหรอก แต่มันก็ต้องพูดอย่างอดไม่ได้ พี่คิวเงียบไปสักพัก
“ลงมาหาหน่อย” อีกฝ่ายพูด น้ำเสียงอ่อนโยนจนเกือบทำผมหลุดไปอีกโลกหนึ่ง
“ไม่ฮะ” ผมตอบทันที ผมว่ามันเป็นการตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจตัวเองเอาเสียเลย เป็นการตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเหมือนจะทำตามอย่างนั้น
“จะเล่นตัวรึไง”
“ถ้าพี่มีอะไร พี่ก็ขึ้นมาเองสิ..เค้กไม่ลงหรอก ขึ้นๆลงๆ..เหนื่อย” ผมตอบไปอย่างเขินๆ รู้สึกยับยั้งตัวเองไม่ให้คิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้น ผมกำลังเข้าข้างตัวเองอีกแล้ว
“..แหวนนั่นแพงนะ ฉันเห็นว่าเพชรมันมีตำหนิ” พี่คิวพูด
“ไม่จริง! เค้กดูแลอย่างดี” ผมเถียงทันที
“หึ..” พี่คิวแสยะหัวเราะอีกครั้ง น้ำเสียงนั่นทำให้ผมทราบว่าผมกำลังโดนแกล้งอีกแล้ว
“........................” พี่คิวเงียบไปนาน ทำให้ผมต้องหันกลับไปมองและก็ต้องหันกลับมาเหมือนเดิมเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนอยู่ไม่ได้หายไปไหน ต่างฝ่ายต่างเงียบ ผมไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปแม้สักคำเดียว และแน่นอนว่าผมไม่กล้ากดตัดสายด้วย
“เหมือน..” อีกฝ่ายพูด เสียงเจี๊ยวจ๊าวรอบตัวทำให้ผมได้ยินไม่ถนัดนัก ผมกดโทรศัพท์ให้แนบหูตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าผมนำโทรศัพท์เข้าไปในหูแล้วมันจะได้ยินเสียงชัดขึ้นผมก็คงจะทำไปแล้ว เพราะผมอยากได้ยินทุกคำพูดจากพี่เขา ไม่ว่าพี่คิวจะพูดอะไรก็ตาม ไปทางลบหรือบวกก็ตาม ผมพร้อมและยินดีจะรับฟังทั้งหมด
“เหมือนฉัน จะติดใจตักนายน่ะ..” ผมชะงัก คำพูดที่ได้ยินผมอาจจะหูฝาดไปเอง ใช่..คงจะเป็นอย่างนั้น ผมคิดว่าผมคงกำลังหูฝาดไปแต่หัวใจของผมกลับเต้นแรง เต้นแรงและถี่มากจนน่ากลัว
“ถ้าไม่หันหน้ามา ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกนะ..นายคิดจะหนีฉันไปอีกคนรึไง” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงว่าเสียงนั้นอยู่ใกล้ตัวมากขึ้น ผมหันหน้ากลับไปและก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าพี่คิวยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“พี่ต่างหากที่หนีไป” ผมพยายามบังคับให้ปากตัวเองไม่สั่นระหว่างที่พูด
“ฉันไม่เคยหนี” พี่คิวย้อนตอบ
“ฉัน..ไม่เคยหนี อะไรทั้งนั้น” พี่เขาย้ำพูดอีกครั้งเหมือนต้องการบอกว่าตัวเองนั้นไม่ใช่ฝ่ายที่ผิด เรายืนมองหน้ากันอยู่ครู่ คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเองคงสงสัย นั่นก็คงไม่แปลก
“เปลืองค่าโทรศัพท์” อีกฝ่ายพูดหน้าตายอย่างเคยและกดตัดสายโทรศัพท์ไป ผมนำโทรศัพท์ออกจากหู และกำมันไว้ในมือแน่น
“นายยังรักฉันอยู่ใช่ไหม” พี่คิวพูดขึ้นโต้งๆด้วยสีหน้าจริงจังที่สามารถทำให้หัวใจของผมแทบล่องลอย
“ม..ไม่รู้ฮะ” ผมปัดไปด้วยรู้สึกอายและทำตัวไม่ถูก ทั้งๆที่พี่คิวก็รู้อยู่แก่ใจแต่กลับถามเพียงเพื่อแกล้งผมอีกแล้วสินะครับ
“ถ้าฉันบอกว่าฉัน..รักนายล่ะ นายจะว่ายังไง”
“นั่น นั่นก็ไม่รู้ฮะ” ผมตอบ ปากผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น้ำตาที่คลออยู่ทำให้รู้ตัวว่าตัวเองอาการหนักมากเกินไปแล้ว ผมเกือบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว ผมเพิ่งได้เรียนรู้ว่าอาการของคนที่ช็อกไปชั่วขณะนั้นเป็นอย่างไร มันเหมือนทุกอย่างเกิดขึ้นผ่านไปเพียบวูบหนึ่ง วูบหนึ่งที่ไม่รู้สติของตนเอง
พี่คิวยืนอมยิ้มอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มที่แตกต่างจากทุกครั้ง ไม่มีรอยยิ้มกวนๆอย่างที่ผมได้เคยเห็นบ่อยครั้งก่อนหน้านี้ รอยยิ้มในครั้งนี้ช่างดูอ่อนโยนและแฝงไปด้วยความเศร้าที่ผมสัมผัสได้
“ถ้าพี่จะมาพูดล้อเล่น เค้ก..เค้กไม่ตลกด้วยนะ!” ผมพยายามขึ้นเสียงเพื่อต่อว่าอีกฝ่าย แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น น้ำเสียงที่พยายามกระแทกเพื่อต่อว่าแบบนั้นกลับทำให้น้ำตาที่คลออยู่หยดลงอาบแก้มของผมแทน
“รักก็พูดว่ารักสิ ไม่งั้นฉันจะถือว่าไม่นะ” พี่คิวว่า
“รัก..รักฮะ! ฮึก” ผมรีบตะโกนบอกเมื่อเห็นว่าพี่คิวทำท่าจะเดินจากไป คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหยุดชะงัก ผมก้มหน้าและได้แต่เอามือปิดหน้าปิดตาตัวเอง ทั้งเขิน ทั้งอาย..อีกทั้งทำตัวไม่ถูกอีกต่างหาก ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเป็นคนอย่างนี้กันนะ ทำไมเขาถึงมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผมได้มากขนาดนี้กัน
“ถ้าเค้กรักพี่ แล้วพี่จะทำยังไงต่อ..เค้ก เค้กกลัวไปหมดแล้วนะ” ผมพูดพร่ำไม่หยุด
“หึ..” ผมได้ยินเพียงเสียงหัวเราะอย่างพอใจจากอีกฝ่าย และรับรู้ได้ถึงอ้อมกอดที่มีให้ พี่คิวเข้ามากอดผมก่อน เขาเป็นฝ่ายเข้ามากอดผม นี่เป็นอ้อมกอดแรกของเราทั้งสองคนที่ความปรารถนานั้นเอ่อล้นออกมา น้ำตาที่ไหลมากกว่าเดิมอย่างไม่เชื่อตัวเอง เพียงเพราะแค่อ้อมกอดจากคนๆนี้จะทำให้ผมเป็นได้มากถึงขนาดนี้เชียวหรือ นี่หรือ..การได้รับความรัก จากคนที่รัก
ผมไม่รู้ว่ารอบข้างตอนนี้เป็นอย่างไร มีใครกำลังยืนมองเราสองคนอยู่รึเปล่า เสียงแซงแซ่ทำให้ผมได้ยินอะไรไม่ถนัด หรือเพราะหูผมอื้อกันแน่ น้ำตาที่ทำให้ตาของผมพร่ามัวทำให้ผมไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ถนัดนัก และแน่นอนว่าผมไม่คิดที่จะเงยหน้ามองหน้าอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน ผมจะยืนรับรู้อ้อมกอดอยู่อย่างนี้จนผมแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในตอนนี้นั้นคือความจริงอย่างไม่ได้ฝันไป..
Welcome To the Land Of Love
ณ ที่สะพานลอยแห่งนั้นเหมือนโลกหยุดไปชั่วครู่ ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างมองด้วยความแปลกใจ กระทั่งเข้าใจไปต่างๆนาๆในสถานการณ์ของทั้งคู่ว่าเกิดอะไรขึ้น บางคนคิดว่า “ง้อกันเหรอ” บางคนคิดว่า “เอ่อ คู่เกย์” บางความคิดนั้น “อายแทนว่ะ” แต่บางคนกลับคิดว่า “น่ารักดีนะ” หรือแม้แต่คิดว่า “บอกรักกันสินะ” กระทั่งบางคนคิดและทำให้ได้ยิ้มกับความคิดนั้นว่า “ผู้ชายกับผู้ชายนี่ แต่ดีแล้ว..เพราะอย่างน้อยคุณก็รักกัน” สิ่งต่างๆรอบตัวกำลังหมุนไป ไม่เพียงแต่เด็กหนุ่มและชายหนุ่มคนนี้ เวลาของพวกเขายังคงหมุนไปเรื่อยๆ สัมผัสของพวกเขากำลังหมุนไปด้วยเช่นกัน หมุนเพื่อรับรู้ความรู้สึกของกันและกันมากขึ้นกว่าเดิม สัมผัสที่รับรู้ได้ว่าต่างฝ่ายต่างรู้สึกถึงกันและกันมากขึ้น..และมากขึ้นอีก
“คนอย่างเค้ก ได้..อย่างนั้นเหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามทั้งน้ำตา ความไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะเหมาะสมต่ออีกฝ่ายพอหรือเปล่านั้นทำให้เขาฉุดคิดมาได้ชั่วขณะ เด็กหนุ่มไม่คิดจะถามถึงเรื่องที่ผ่านมาอีก เขาคิดว่าเหตุผลเหล่านั้นไม่สำคัญสำหรับเวลา ณ ตอนนี้อีกต่อไปแล้ว..
“ถ้านายแทนตัวเองว่าคนอย่างนาย ฉันก็คงต้องแทนตัวเองว่า..คนอย่างฉันด้วยเหมือนกัน” ฝ่ายที่กอดเด็กหนุ่มอยู่พูดอย่างไม่สบายใจเช่นกัน เขาทั้งสองต่างฝ่ายต่างรู้จุดด้อยของตัวเองอยู่เต็มอก
“ฉันไม่ใช่คนดีหรอกนะ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างแต่แฝงไปด้วยความกลัว กลัวว่าอีกฝ่ายจะผิดหวังในตัวของเขา
“เค้กรู้ตั้งนานแล้วล่ะฮะ” เด็กหนุ่มตอบกวนแกล้งกลับไปอย่างนั้น เพื่อแก้อาการเขินของตัวเอง ทั้งๆที่เขาเองก็รู้อยู่เต็มอกเช่นกันว่าอีกฝ่ายนั้นอยู่สูงเกินที่เขาจะคู่ควรมากเพียงไร
“หึ..” เสียงแสยะหัวเราะจากอีกฝ่ายดูจะพอใจกับคำพูดของเด็กหนุ่มเสียมากกว่า เขาทั้งสองยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นเหมือนลืมไปว่ารอบตัวเขานั้นไม่ได้มีเพียงแค่เขาแค่สองคน
ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นจากสถานที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากเค้กและความอบอุ่นของคนภายในร้าน ณ วันนี้ ณ ขณะนี้ จะมีคู่รักอีกกี่คู่ที่กำลังบอกรักกัน มีอีกกี่คู่ที่กำลังบอกเลิกกัน มีอีกกี่คู่ที่กำลังเข้าใจผิดกัน อนาคตเพียงหมุนไปตามกาลเวลาเท่านั้น แต่หัวใจของคุณนั้นหยุดอยู่ที่ใคร เพียงคุณเท่านั้นที่จะสามารถรู้เสียงเรียกร้องจากใจของตัวเองได้มากที่สุด ดังเช่นเด็กหนุ่มสองคนนี้..ดังเช่นหัวใจอันบริสุทธิ์ของเขา เขาเพียงตอบสนองความบริสุทธิ์ภายใต้ก้นบึ้งของหัวใจของพวกเขา และเท่านั้นคือความเพียงพอที่พวกเขาต้องการ..
= = = = = = = =
เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่ผมจะได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นรักแรกของผม แม่ของผมเคยบอกผมไว้ว่า คู่ครองนั้นควรเลือกบุคคลที่มีปัญญาเสมอกัน ผมจำสีหน้าในตอนนั้นของแม่ได้ดี หน้าของแม่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะหันไปมองกรอบรูปของพ่อที่วางอยู่บนหัวเตียงของแม่ “คนที่มีปัญญาเสมอกัน จะมีพื้นฐานทางด้านจิตใจที่เสมอเหมือนกัน..ถึงแม่กับพ่อของลูกน่ะจะมีบางเรื่องที่ระดับความคิดเห็นไม่เหมือนกัน แต่โดยพื้นฐานแล้ว พ่อของลูกน่ะเป็นคนดีมากเลยนะจ๊ะ..สักวัน หนูก็จะรู้เอง มันคงจะเป็นไปตามความรู้สึก..คู่ครองที่มีปัญญาเสมอกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีความชอบที่เหมือนกันเท่านั้น แต่จะต้องรู้ว่าสิ่งใดดีหรือสิ่งใดไม่ดีเท่าเทียมกัน..รู้จักการเสียสละและการให้เสมอกันอย่างไม่มีข้อสงสัย ถ้าสักวันหนูได้เจอคนแบบนั้น..จงรักษาเค้าไว้ให้ดีนะจ๊ะ” แม่พูดด้วยสีหน้าอ่อนโยนเหมือนกับภาพวาดในการ์ตูนที่ผมชอบดู และเมื่อผมได้เจอผู้หญิงคนนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามที่แม่บอกอย่างไม่ต้องสงสัย ผมรักเธอและเธอรักผม
บ่อยครั้งที่ผมพูดกับผู้หญิงที่ผมรัก “You are my love. Love what you love” ผมคิดว่า ผมคงจะพูดต่อไปจนชั่วชีวิตของผมอย่างเต็มใจและรู้สึกแบบนั้นจากใจจริง เพราะนั่นเป็นประโยคที่เธอชอบฟังและเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะสามารถบอกเธอได้ถึงความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีต่อเธอ
น่าแปลกอยู่ไม่น้อย ผมคงเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่โชคดีเอามากๆ ถ้าในตอนนี้ผมจะมองคนไม่ผิด ผมหวังว่าเด็กผู้ชายคนนี้ คนที่ทำให้ผมรู้สึกแบบเดียวกับที่เคยได้รู้สึกกับปราย จะมีปัญญาเสมอผมอย่างที่แม่เคยบอกเอาไว้ ไม่เพียงแต่ความชอบที่คล้ายกันจนน่าตกใจแต่ความคิดความอ่านของเด็กคนนี้ทำให้ความขลาดของผมที่มีนั้นสูญไปด้วยเช่นกัน ปัญญาเสมอกันที่แม่หมายถึงนั้นเด็กคนนี้คงมีเกิดกว่าที่ผมคาดเอาไว้เสียอีก ผมยังรักปรายเสมอและคงจะไม่เปลี่ยนแปลง..แต่ถ้าในตอนนี้ผมจะขออนุญาตที่จะพูดบอกเธอว่า “I too can love, and I will love again” ผมหวังเพียงว่าปรายจะเข้าใจผม ผมไม่มีทางที่จะลืมเธอได้ ความรู้สึกผิดที่มีมาตลอด การที่ผมนั้นไม่สามารถรักษาคนรักของผมไว้ได้อย่างที่แม่เคยเตือนผม ผมได้แต่เฝ้าขอโทษเธอทุกๆวันที่ผมได้สูญเสียเธอไป และผมหวังเพียงรอยยิ้มจากเธอที่จะอวยพรให้ เพราะเธอเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของผม ถ้าเธอจะเข้าใจผมมากที่สุด ถ้าเธอจะให้อภัยผมอย่างที่อาบอก ผมหวังว่าเธอจะรักคนรักใหม่ของผมในตอนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน..
ณ ทะเลเบื้องหน้าที่ผมนอนมองมาหลายต่อหลายวัน ทำให้จิตใจของผมสงบมากขึ้น กระทั่งผมรู้ใจของตัวผมเองมานานมากแล้ว ในการตัดสินใจของผมในครั้งนี้ ทำให้ผมอดอมยิ้มออกมาไม่ได้ ในหัวผมกลับนึกถึงบทกวีของ Robert Frost บทหนึ่ง น่าแปลกใจตัวเองอย่างน่าประหลาด ผมไม่ได้นึกถึงบทกวีรักของ Robert Burns หรือ R.Herrick หรือแม้กระทั่งนักกวีชื่อดังระดับโลกอย่าง W.Shakespeare อย่างเคย บทกวีที่ท่านได้ประพันธ์ไว้ว่า “Love looks not with the eyes but with the mind; And therefore is winged Cupid painted blind.” ซึ่งเป็นบทกวีที่ผมมักจะนึกถึงก่อนเสมอเมื่อไหร่ที่ผมได้เห็นความสวยงามในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ บทประพันธ์นี้อาจจะใช้ได้กับผมในตอนนี้หรืออาจจะไม่ก็ตามแต่ นั่นคงแล้วแต่ใครจะรู้สึก สำหรับผมแล้วบทประพันธ์ที่ว่าคงจะยังไม่ตรงกับความรู้สึกของผมในตอนนี้เสียเท่าไหร่นัก ผมคิดว่าเพราะไม่ใช่ความรักอย่างที่เคยได้รัก รักอย่างไร้ซึ่งเหตุผลใดๆและสามารถรักได้อย่างเปิดเผยอย่างที่ผมเคยมีให้ต่อปรายนั้น..ครั้งนี้นั้นไม่ใช่ ในเวลานี้ผมต้องตัดสินใจเด็ดขาดที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า ถ้าผมตัดสินใจนั่นหมายถึงผมต้องเดินตรงไปและกล้าเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมจะต้องเจอในอนาคตและไม่หันหลังมากล่าวโทษต่อการตัดสินใจของผมเองอีกด้วย การตัดสินใจของผมในครั้งนี้ผลจะเป็นอย่างไรคงต้องปล่อยให้มันเป็นไป ผมคิดว่าผมคิดดีและใช้เวลาคิดมานานพอสมควรแล้ว
ขอบคุณ Robert Frost บางที ผมจะเชื่อคุณสักครั้ง..
TWO roads diverged in a yellow wood,
And sorry I could not travel both
And be one traveler, long I stood
And looked down one as far as I could
To where it bent in the undergrowth;
Then took the other, as just as fair,
And having perhaps the better claim,
Because it was grassy and wanted wear;
Though as for that the passing there
Had worn them really about the same,
And both that morning equally lay
In leaves no step had trodden black.
Oh, I kept the first for another day!
Yet knowing how way leads on to way,
I doubted if I should ever come back.
I shall be telling this with a sigh
Somewhere ages and ages hence:
Two roads diverged in a wood, and I
I took the one less traveled by,
And that has made all the difference.
.................End of Lover..1...............
หมายเหตุ :
1. ในบทกวีของ Robert Frost (The Road Not Taken) เบบี้ไม่เลือกบทกวีที่แปลเป็นไทยแล้วมานำเสนอเพราะ..หนึ่งโดยลักษณะของตัวละคร และ..สองเพราะการแปลงเป็นภาษาไทยนั้นอาจจะไม่สวยงามได้เท่ากับการที่นักประพันธ์ต้นแบบได้ประพันธ์ไว้ บทกวีนี้มีความหมายในตัวของมันที่มีคำภาษาอังกฤษที่ต้องตีความหมายมากมายโดยบางคำต้องใช้ความรู้สึกซาบซึ้งและเข้าใจแตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล
..แต่ก็มีนักแปลบางท่านได้ทำการแปลบทกวีนี้ไว้บ้างแล้วโดยมีบล็อกต่างๆได้เขียนถึง เช่น THE ROAD NOT TAKEN : ทางที่ไม่ได้เลือก -- moonfleet (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=moonfleet&month=03-2008&date=13&group=2&gblog=169) หรือ ปราย พันแสง : The Road Not Taken (http://prypansang.blogspot.com/2008/01/road-not-taken.html) ขอบคุณผู้เขียนบล็อกทั้งสองคนด้วยนะคะ ^^ ถ้าคนอ่านคนใดอยากเข้าใจในความหมายของบทกวีนี้มากขึ้นกว่าเดิมสามารถไปตามอ่านทั้งสองบล็อกเพิ่มเติมได้ค่ะ ซึ่งบทกวีนั้นสะท้อนได้หลายแนวทางของชีวิตคน คำแต่ละคำในบทกวีนั้นต้องแปลอังกฤษเป็นอังกฤษอีกที ดังนั้นจึงค่อนข้างยากที่จะสื่อบทกวีออกมาเป็นภาษาไทยนะคะ
2. สุดท้ายจนถึงตอนจบแล้ว..คิวก็ยังไม่เผยความรู้สึกนึกคิดของตนเองออกไปทั้งหมด แต่ในเบื้องหลังของคิวอีกมากมาย สาเหตุต่างๆว่าทำไมคิวถึงเป็นแบบที่ผ่านมาและเกิดอะไรขึ้นกับคิวบ้าง..บลา บลา บลา เบบี้ยังจะไม่ขอเล่าในตอนต่อไป(ยังไม่ขอเล่าในมุมของคิวอย่างที่หลายคนขอกันเข้ามา) ตอนที่จะนำเสนอต่อไปคือคู่ของ “ฟ้า” ซึ่งอาจจะมีบางเรื่องราวของคิวที่เชื่อมต่อกันอยู่ด้วยนะคะ..คงต้องติดตามอ่านกันต่อไป ส่วนความรู้สึกนึกคิดของคิวทั้งหมดที่คนอ่านหลายคนเรียกร้องกันนั้น คงต้องนำเสนอหลังจากคู่ที่ 3 ผ่านพ้นไปแล้ว..ซึ่งมันเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่แน่นอน =O=
ขอบคุณทุกคอมเม้นและทุกกำลังใจที่ติดตามมาตลอด พบกันตอนต่อไปในตอนของ “ฟ้า” บ้างแต่อาจจะไม่ยาวเท่าคู่หลักอย่างคิวและเค้ก
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
:z13: :z13:
-
ชอบมากเลยค่ะตอนที่พี่คิวบอกเหมือนฉันจะติดใจตักนาย :o8: น่ารักมากค่ะ มารอตอนของพี่ฟ้านะค่ะ
:กอด1:ขอบคุณพี่บี้มากค่ะ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ในที่สุดก็.... รอมาซะนานเลย
edit
นายคิวยังคงเป็นผู้ชายที่เข้าใจได้ยากอยู่เหมือนเดิม
เคยได้ยินมาว่าผู้ชายลึกลับน่ะมีสเน่ห์ น่าค้นหา น่าติดตาม
แต่พอมาเจอนายคิวเข้าไป เอิ่ม...อยากจะบอกว่าผู้ชายคนนี้เข้าใจได้โคดยากเลย
ต่อให้เจาะลึกถึงระดับ DNA ก็ยังไม่แน่ว่าจะรู้ได้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเค้ามั้ย
การกระทำหลายๆ อย่างของเค้าไม่มีเหตุผลใดในจักรวาลนี้รองรับได้เลย
หรือว่าต้องกลับไปลงเรียนวิชาปรัชญาใหม่ เพราะมี"ทฤษฎีนายคิว"เพิ่มขึ้นมาอีก
ถึงนายคิวกับนู๋เค้กจะรักกันแล้ว แต่ก็ต้องบอกว่ายังคงสงสารนู๋เค้กต่อไป
เพราะการจะคบกับนายคิวให้รอดนั้น ท่าทางว่านู๋เค้กจะต้องใช้ความพยายามอย่างสูง
แค่คิวรักเค้ก เค้กรักคิว มันคงยังไม่ใช่จุดจบของชีวิตรักคู่นี้ได้หรอก
หวังว่าพาร์ทของคู่อื่นๆ คงจะมีรายการเกาะติดชีวิตรักของสองคนนี้แทรกเข้ามาบ้างนะครับ
-
ในที่สุดๆๆๆ ก็รักกันเเล้ว :mc4:
ลุ้นหัวใจจะวายตาย
รอตอนต่อไปนะคะ +1 ให้ค่ะ :กอด1:
-
:กอด1: :L2:
-
บี้จ๋า ขอฉากหวานๆ เค้กคิว ต่ออีกสักนิสสสนึงหน่อย ให้ชุ่มชื่นหัวใจ
คือว่ามันโศกมาหลายตอนกว่าจะ happy ending
อยากเห็นพี่คิวออดอ้อนมั้งง ปากหนั้กกกหนัก ผู้ชายคนนี้ :L2:
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ที่มีมาให้อ่านค่ะ รอคู่ต่อไปนะคะ :impress3:
-
:m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
-
ไหงรุสึกว่าเหมือนจาจบแล้วอ่าาา
-
เห้อออออออออออออออ เหนื่อยลุ้นเหนื่อยใจไปหมดแล้ว สมใจซะทีนะ
-
เคยคิดไว้เล่นๆว่าเรื่องมันจะต้องมาบรึ้มมมแฮปปี้เอนด์ เคลียร์แล้วในตอนสุดท้ายตอนเดียวแน่ๆ เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย T T
รู้สึกอยากอ่านเพิ่มอีกนิดหน่อยน่ะค่ะ
พี่คิวกรุณาทำอะไรเพื่อรับผิดชอบชดเชยความหดหู่หลายตอนก่อนหน้านี้ของดิฉันด้วยสิ แค่กอดแค่นี้ไม่พอเฟร้ยพี่
นี่ขนาดตอนสุดท้ายก็ยังคงคอปเซ็ปเดิม(ซึ่งก็ดี) หมั่นไส้พี่คิว จะบอกรักน้องทั้งที ยังจะแกล้งอีก
อย่างไรก็แฮปปี้กันถ้วนหน้าแล้ว รออ่านตอนของพี่ฟ้าค่ะ ขอบคุณเบบี้มากนะคะ
:pig4:
-
สมหวังแล้วนะเค้ก พี่คิวน้อยไปนะแสดงออก แต่ก็นะคนอย่างพี่คิว
-
อารมดี สมหวังกันซักที
-
โอ้! ยาวสะใจ เบบี้ สมกับการรอคอย :กอด1:
-
อ่านแล้วใจมันพองเหมือนตัวเองเป็นเค้ก
นั่งอมยิ้มเหมือนอิบ้าเลยค่ะ
ขอบคุณน้องบี้มากๆเลยแต่งได้ิอารมณ์มาก
พี่เป็นกำลังใจให้ค่า
-
โอ้มายก้อดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จบแล้วอ่ะ จบแล้วจริงๆอ่ะ
เหมือนมันยังไม่พอเลย เบบี้ :z3:
อยากได้ตอนพิเศษ สวีทวี้ดวิ้ววว ของคิวกะเค้ก
ได้มั้ย ได้มั้ย ได้โปรดเถอะนะคะ o18
บวก1สำหรับตอนจบที่เรายังไม่อยากให้จบ
ไม่เคยพอกับเรื่องนี้เลยจริงๆ o13
-
กรี้ดดดดดดดดดดด พี่คิว แบบนี้ละที่ต้องการ :o8:
-
พี่คิวก็ยังคงเป็นพี่คิว ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปากซะที :กอด1:
“ถ้านายแทนตัวเองว่าคนอย่างนาย ฉันก็คงต้องแทนตัวเองว่า..คนอย่างฉันด้วยเหมือนกัน” ชอบประโยคนี้จัง :L2:
ถึงจะยังไม่รู้อะไรสำหรับพี่คิวหลายๆอย่าง แต่ก็จะรอให้พี่คิวเปิดเผยตัวตนออกมาทีละนิดก็ละกันเนอะ
ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว 555555
รออ่านพี่ฟ้าต่อไปค่า :pig4:
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค้าบ
อย่างน้อย ก็เข้าใจกัน และเข้าใจตัวเองแหละเนอะ
-
อั๊ยย ย ย
พี่คิววว ว :-[
-
อยากอ่านคู่กัสม๊ากมาก ><
-
เหยยยยยยยยยยยย
จบแล้วอ่ะเบบี้ (ชีบอก กูรู้แล้ววว!!)
อ่อยย ตั้งตัวไม่ทัน คิดว่าจะไปเรื่อยๆกว่านี้
อั้ยย่ะ
แต่บนสะพานลอยนี่มัน น่ารักจริงๆเลยนะ
ถูกกฎจราจร แถมยังโรแมนติกอีก เหอะๆ
คงต้อง รอพี่คิวพูดมากกว่านี้สินะ ,,
คู่ 2 ฉันเข้าใจ แต่คู่ 3 กัสเซ็น ใช่ม๊ายยยยยยย
><
รออยู่ --
-
คนอย่างนายกะคนอย่างฉัน แค่เราใจตรงกันก็พอแล้วเนอะ แต่หมั่นใส้พี่คิวอยู่อ่ะ ดีกว่าจะกลับมาได้ ทำน้องเค้กซึมไปหลายวัน ขออะไรหวานๆ แก้หมั่นไส้ด้วยค่ะ
จะได้รู้ความลับของพี่ฟ้ากับทิกเกอร์แล้ว รอๆๆๆ
-
:L1:ติดตามอ่านมาตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ขอบแนวการแต่งของคุณเบบี้มาก จะติดตามผลงานไปเรื่อยๆนะค่ะ :L2:
-
ฟอร์มจัดจริงๆผู้ชายที่ชื่อคิว อ่านแล้วก็หมั่นไส้มากๆ
ทำให้คนอ่าน นอยด์แดกไปหลายตอนจะชดเชย
ให้แค่กอดน้องเค้กอย่างเดียวพี่ว่าไม่พอมั้งน้อยไป
ขอแบบจัดเต็มสัก2-3ตอนไม่ได้เหรอค่ะเบบี้ พลีส :L1:
-
รักเรื่องนี้จัง ทุกเรื่องที่ผ่านมาก็ว่าชอบขั้นติดแล้วนะ แต่เรื่องนี้มันชอบขั้นแอดวานซ์ ตัวละคร บทสนทนา อารมณ์ ความรู้สึกที่ถ่ายทอด รักบี้ๆๆๆๆๆๆๆ
-
ในที่สุดก็แฮปปี้เอนสะดิ้งงง :-[
พอจะจบจริงๆยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
ฉากบอกรักนี่แบบเขินพี่คิวเว่อวีว่า:impress2:
คุ้มค่าที่ด่าไปหลายตอน เอิ๊กก
แอบยังอยากได้ฉากหวีทหวานคู่นี้อีกนิดง่ะ อยากเห็นพี่คิวหลุดโหมดแรงๆ กร้าก (อีนี่มักมาก)
อยากรู้ตอนในใจพี่คิวจังเบยย อีกสามคู่ก็รอได้น้า
ตอนนี้รออ่านตอนพี่ฟ้าค่า ลั้นลา :z2:
-
เบบี้มาต่อแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :sad4:
กว่าจะบอกรักเค้กได้ แหมไอพี่คิวนี่ปากแข็งชะมัดเลย
แต่ก็รักกันแล้ว :กอด1:
หลังจากที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ มา 1 อาทิตย์เต็ม
ต่อไปรอมุมของพี่ฟ้าจร้า มีหลายคู่สินะ
รอติดตามจร้า ^^
รักบี้ที่สุด ^3^
-
หัวใจจะวาย :เฮ้อ:
อยากเห็นพี่คิวหวานบ้างอะไรบ้าง :z2:
จบแล้วอ่อ รอตอนอาฟ้า :z2:
-
จบแบบนี้ตาคิวก็สบายซิ
เค้กยอมง่ายไปแล้ว เล่นตัวหน่อยซิหนู :a14:
ขอบคุณคุณเบบี๋มากค่ะ สำหรับนิยายดีๆ :กอด1:
จะรอตอนต่อไปนะคะ :impress:
-
กิสสสสกลางสะพานลอยยยย
-
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านค่ะ
รอลุ้นคู่ต่อไป :กอด1:
-
อ่ะ! จบแล้วเหรอสำหรับคู่นี้อ่ะ รอของอาฟ้าก็แล้วกันนะ
ขอบคุณคนเขียน รักคนเขียนมาก เป็นกำลังใจให้นะ Y o13
-
แม้ถึงตอนสุดท้ายคิวก็ยังเป็นคิว ที่จะหามุมอ่อนโยนในตัวได้ยาก
ยังดีที่ได้เปิดเผยความรู้สึกให้เค้กได้รับรู้บ้าง :กอด1:
ขอบคุณคุณเบบี้สำหรับเรื่องดีๆ เรื่องนี้
ยังรอบทพิเศาหวานๆ ของคู่นี้นะครับ
:pig4: :pig4: :pig4:
-
เฮ้อออ ลงเอยซะที ลุ้นจนตัวโก่ง o18
แอบสงสารฝัน ผู้หญิงโดนยกเลิกงานแต่งนี้หน้าแหกมากๆ ไหนจะเป็นคนดังไฮโซอีกล่ะ :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้นะ ฝันแค่รักคนคนนึงมากไปเท่านั้น
คิวปากหนักจริงๆ ลีลาตลอดดด แต่ยังไงก็รักคิวนะ :กอด1:
:pig4: เบบี้มากค่ะ
-
อ่านตอนบอกรักบนสะพาน น้ำตาคลอเลย :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เบบี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:โล่งงงงงงงงงง......ในที่สุดก็ได้รักกันนนน
รอต่อไปค่ะ....เบบี้
-
เสียใจด้วย ที่ต้องบอกว่าน้องมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกคนแล้วล่ะว่ะบี้ เพราะพี่หกเก้าชักจะหลงรักพี่คิวแล้วล่ะ
หล่อไม่แคร์สื่อจริงๆ ทำทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ คุมเกมส์เองได้ตรอด โอ้วววววว แมนโคตร
ฉากสุดท้ายบนสะพานลอย ((ไอ้น้องช่างคิดว่ะ มุกนี้พี่ชอบ)) พี่คิวพูดน้อยแต่ต่อยหนักแสดงออกด้วยการกระทำตรอด คู่ต่อสู้แบบน้องเค้กไงก็แพ้แต่ในมุ้งวันยันค่ำ
เป็นการ pre-ending ของคู่นี้ที่ค่อนข้างเคลียร์ความรู้สึกได้ดีนะ (สำหรับพี่) ไม่หวานเวอร์ อ่านแล้วยิ้มแก้มแทบแตกแต่มันก็ยังไม่ถึงกับสุดๆ
รออ่านคู่ต่อๆ ไปนะจ๊ะ
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
เฮ้ออออออ
ขอถอนหายใจอย่างโล่งๆ ซักที
ลุ้นจนหัวใจจะวาย ในที่สุดพี่คิวก็บอกรักน้องเค้กซะที
รอติดตามภาคต่อไปค่า...
ขอบคุณเบบี้ :pig4:
-
ถึงจะยังไม่กระจ่างทั้งหมด
แต่อย่างน้อยๆ เค้กก็ได้รู้แน่ชขัดแล้วว่า
พี่คิวรักเค้ก :m1: :m1: :m1:
เล่นเอาลุ้นจนถึงตอนสุดท้ายยยยยยยยยยยยยย เลยอ่ะ ฮ่าา
แต่ก็คุ้มค่าที่รอคอยนะคะ
ว่าแต่มีตอนพิเศษสักนิดมั้ยคะ หรือจะต่อตอนของพี่ฟ้าเลย แต่ยังไงก็ได้ค่ะ ฮี่
ดีใจกับน้องเค้กจริงๆ
-
ขอบคุณเบบี้มาก และอยากจะบอกอีกว่า หลงรักพี่คิว :-[ เอ็นดูน้องเค้ก
รอลุ้นคู่ฟ้า และคู่ที่สามใช่น้องกัส หรือเปล่าหนอ :-[
-
เเอร๊ยย..บอกรักกันบนสะพานลอย :-[
-
มาต่อแล้ววววว o7
ลุ้นมากจริงๆ พี่คิวน่ารักกก
รอตอนต่อไปปปป o15
:pig4:
-
:o8: :o8: :o8: :o8: ดีใจแทนเค้ก จนตัวระเบิดบู๊มเป็นโกโก้ครั้นน :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
-
คิวเค้กจบแล้วหรออออ -.,-)
พี่คิวลึกลับไปมาก อยากรู้ความคิด ความรู้สึกที่ผ่านมาของพี่คิว
รอนะคะ
-
เย้ๆๆ ในที่สุด น้องเค้กก็สมหวังแล้ว รอคู่พี่ฟ้าต่อไป อิอิ
-
อ่านแล้วรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากจริงๆค่ะ ☺
และแล้วก็ลงเอยกันได้อย่างดี ขอบคุณคุณเบบี้ค่ะ ~
-
มีความสุขกันซะที ลุ้นตั้งนาน
แอบอยากอ่านซีนที่มันหวาน ๆ กว่านี้จัง :o8:
รอติดตามพี่ฟ้าคนน่ารักต่อไป
ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
-
จบแล้วนะ ยังอารมณ์ค้างอยู่เลย :z2:
แตก็รอพี่ฟ้ามาต่อ :mc4:
-
ขอตอนพิเศษแบบหวานๆหน่อยครับ เอาแบบหวานตามสไตล์พี่คิว(แล้วมันจะหวานใหมอะ :laugh:)
+1 คร๊าบบ อิอิ :impress2:
-
ดีใจมากมายที่สุดท้ายแล้วก็เข้าใจกัน และกำลังจะเริ่มต้นความรักอย่างจริงจัง
อยากบอกคุณบี้ว่ามันเป็นบทจบ และฉากหวานที่แปลกใหม่ดีคะ (บนสะพานลอย) ชอบอะไม่เหมือนใคร
มี 3 คู่ คู่สองฟ้าแน่ละ คู่สามนี่กัสปะคะ แอบลุ้นคู่กัสอยู่
ปล.อยากอ่านตอน คิว+เค้กเป็นแฟนกันแล้วว่าจะเป็นยังไงจังคะ (โดนบี้กระทืบโทษฐานหลายสิ่ง :z6:)
:pig4: คะ
-
น้ำตาไหล
ขอบคุณทะเล ขอบคุณทุกอย่างที่ทำให้พี่คิวตัดสินใจจนได้
เลิฟๆ เบบี้ รออ่านตอนพี่ฟ้า
-
กว่าจะบอกรักกันฟาดมาถึงตอนสุดท้ายเลยทีเดียว
-
:กอด1:
ขอบคุณเบบี้เหมือนกัน มันยังไม่จบสนิท ซินะ
แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าคิวก็ตัดสินใจแล้วที่จะเลือกเค้ก เลือกที่จะข้างหน้าพร้อมกับน้อง
รออ่านพี่ฟ้าต่อค่ะ
-
:z3: บอกรักกันบนสะพานลอย :-[
แถวไหนอะ :z1: จะไปดู :laugh:
-
วันนี้ที่รอคอย
:a1: :a1: :a1: :a1:
-
สมหวังซักทีนะเค้กกกก
-
ลุ้นมาซะเหนื่อยเลย
รออ่านคู่ฟ้าต่อนะคะ ^^
-
โอ้ ไม่นะ อย่าจบน้าาาาาาาา :serius2: :serius2:
TOT :sad4: :o12:
จะเอาพี่คิวกับเค้กกกกก :z3: :z3:
ฮือออออออออออออออ :sad4:
-
จบแล้วหรอคะ ไม่ทันตั้งตัว
ขอฉากหวานๆอีกนิดได้ไหมอ่า พลีสสสสส :z3: :z3: :z3:
-
หู๊ยยย!!!~ กว่าพี่คิวจะบอกรักเค้กได้..ลุ้นตั้งนาน :impress2: :impress2:
แต่มันยังเหมือนจบไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่.. :-[ :-[
รออ่านตอนพิเศษอยู่น๊าเบบี้.. :man1: :man1:
-
สมกับการรอคอย..จบแล้วเหรอ จบแล้วจิงๆอะ :a5:
ชอบตอนที่คิว เดินมาหาเค้กจัง.. :o8:
กว่าจะรักกันได้..คนอ่านลุ้นจนเหนื่อย
คิวก็ยังคงความเป็นคิวได้เป๊ะๆเลยอะ
บอกรักกันบนสะพานลอย..อาร์ตมากก..ฮ่าๆๆ
:pig4: :pig4: :pig4:
-
จบแล้วเหรอเนี้ย ประทับใจอะ กว่าพี่คิวจะพูดออกมาได้ ก้อนานอะนะ แต่ก้อชอบอยู่ดี รออ่านคู่พี่ฟ้าต่อไป
-
บนสะพายลอย...ไฟบนถนน
นี่ล่ะ โรแมนติกแท้
พี่คิวง้อน่ารักอ่า กวนๆหน่อย
แต่แบบ ใช่เลย เป็นใครก็ใจอ่อนวะ
ยิ่งน้องเค้ก อ่อนประจำยิ่งไม่ต้องพูดถึง
โฮววววววววววววววววว
มาๆๆๆพี่ฟ้า..เราพร้อมแล้ว
-
กว่าจะยอมเผยใจรักกันลุ้นจนเหนื่อยเลยค่ะ :เฮ้อ:
หลังจากนี้ก็อยากได้ฉากหวานๆให้กระชุ่มกระชวยหน่อยนะคะ :L2:
-
:monkeysad: :monkeysad:
ในที่สุด พี่คิวก็บอกรักเค้กกแล้วอะ ถึงจะมีแค่คำเดียวสั้นๆๆแค่นี้เค้กก็ดีใจแล้วอะ
จับมือแล้วเดินด้วยกันไปให้นานๆๆๆนะ
ลุ้นมานานนนน นึกว่าจะดราม่าต่อไป เพราะยิ่งอ่านยิ่งเจ็บสงสารเค้กกกมากกกกก
ขอบคุณนะจ๊ะบี้ รออ่านต่อไปๆๆๆ รออ่านมุมพี่คิวด้วยนะ :impress2: :impress2:
-
ไม่เหมือนใครและเข้าใจยากเช่นเคยนายคิว :เฮ้อ:
น้องเบบี้ ขออ่านช่วงมีความสุขของคู่นี้ก่อนไปคู่อาฟ้านิดนะครับ
คนอ่านลุ้นจนเครียดมาหลายตอน :pig4:
+1
-
รออ่านต่อค่า
:-[
-
อ่านจบตอนนี้แล้วโลงงงงงงง อย่างน่าประหลาด
คิวคิดมากนะ แต่ก็มีเหตุผลเสมอ เอาวะ ให้อภัย
-
จะไม่หวานกัน
หน่อยเหรอ :z2:
-
รักกันซะทีนะ ลุ้นกันมาจนเหนื่อย หึหึ
รอตอนอาฟ้า น้องกัส และพี่คิวต่อไป อิอิ
-
จบคู่เค้กคิวแล้วงั้นเหรอ.....
ไม่ยอมๆ นะพี่เบบี้ อยากอ่านคู่เค้กคิวแบบหวานๆ อีก(หลายๆ) ตอน
ฮือๆๆ พี่เบบี้ใจร้าย :o12:
-
:sad4:ขอบคุณมากๆชอบที่สุด จะติดตามต่อไปเรื่อยไครับ สู้ๆ o13
-
ขอบคุณเบบี้ ขอบคุณจริงๆ มันยิ้มและหุบไม่ลง มีความสุขมากกก
ว่าแล้วเห็นไหม ว่าพี่คิวนะชอบทำอะไรที่คนอื่นเขาไม่ค่อยจะทำกันหรอก
ชอบบบบบบบบบบ รักเค้กรักพี่คิว
วิ๊วว วววววววววววววววววววว o13
-
ในที่สุดคิวก็ได้บอกรักเค้กซักที
แค่นี้เราก็ฟินแล้วเบบี้ รออ่านคู่ฟ้า
และคู่ที่ สาม จ้า
-
เย้ๆๆ แฮปปี้กันแล้ว
จนถึงตอนนี้คนอ่านอย่างพี่ก็ยังรู้สึกว่าคิวยังเป็น"ปริศนา"ในหลายๆด้าน
ไม่เป็นไรให้เค้กเป็น"ท่านชายพจน์"เข้าใจปริศนาคิวไปคนเดียวก็ได้
เห็นเค้กยิ้มเต็มหัวใจคนอ่านก็มีความสุขแล้วละค่ะ
รออ่านตอนของพี่ฟ้า ท่าทางน่าจะแซบมิใช่น้อย
+1 :กอด1:
-
ดีใจด้วยนะจ๊ะน้องเค้ก :L2:
ฉากบอกรักกลางสะพานลอย
ไม่เหมือนใครดีเนอะ
-
น่าร๊ากกกกก :กอด1: :กอด1:
พี่คิวก็มีคนน่ารัก(แบบแปลกๆ)ระดับนึง o18
"ติดใจ ตัก นาย" :o8: แหมๆนี้โรแมนสุดแล้วใช่มั้ย
เค้กจ๊า เค้าว่าคงต้องทำความเข้าใจพี่คิวไปอีกนาน o13
ดีออกน่า ชีวิตจะได้มีสีสันนนน o18
-
เป็นการสารภาพรักที่น่ารักมากมาย บางอย่างใช้เวลา
เค้กเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเมอ สื่อออกมาทางสายตา
ไม่ว่าจะโกรธ ไม่พอใจ เสียใจ ดีใจ ทุกอย่างออกมาทางดวงตา
ไม่แปลกเลยที่คิวที่ใจแข็งขนาดไหน เมื่อมาเจอเค้ก เขาคงต้องตกหลุมรัก
โดยไม่รู้ตัว เค้กคิวรักกันนานๆๆนร้าครับ :L1: :3123:
-
เบบี้ อ๊ากกก เค้ารักกันแล้ว ขอตอนหวานๆสักตอนก่อนจะเริ่มคู่ฟ้าได้เปล่า เค๊าอยากเห็นคิวเค้กแบบหวานๆ
อิอิ
-
เม้นก่อนอ่าน ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้นื่นเต้นมมากกกกก ว๊ากกกกก
-
กรี๊ดดดดดดดดด
เข้ามาอ่าน ไม่นึกว่าจะจบอ่าาาา T^T แอบใจหาย
-
จบแล้วววววว
พี่คิวกะเค้กก็รักกันแล้ว
ต่อไปก็ตาพี่ฟ้าแล้วว ><
-
ต่อไปตาพี่ฟ้าแล้ว :mc4:
-
อิ่มเอมใจ รักพี่คิวเสมอ
-
จบแล้ว เย้ๆ ยินดีด้วยกับเค้กกก
พี่คิวนี่ชัดเจนแบบจริงจังแต่ก็ไม่ค่อย(เอาไงแน่?)
โอ้ยๆ ไม่อยากจบเลยยยยย คิวเค้กน่ารักน้า ><
รอพี่ฟ้าาาา ฮาๆ
ยินดีด้วยย วู้ววว
-
พี่คิวก็ยังคงเป็นพี่คิวอยู่วันยันค่ำ
ใครไม่เข้าใจแต่น้องเค้กเข้าใจก็พอ :o8:
แล้วก็จบลงอย่างลงตัว แฮปปี้ด้วย
เหตุผลเดี๋ยวค่อยว่ากันเนาะ
รอพี่ฟ้ามาเปิดตัวคู่กรณีนะจ๊ะ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
โอย กว่าจะรักกันได้ คนอ่านลุ้นจนเหนื่อยเลยนะคะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ ดีใจที่รักกันซะทีนะคะ // ปล.คอยลุ้นพี่ฟ้าต่อไปค่าาา
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ค่ะ ไม่นึกว่าตอนนี้จะเป็นตอนจบของคิว-เค้ก
เพราะคู่นี้ยังไม่หวานกันเลยอ่ะ อึมครึมมาตั้งนาน ขอหวาน ๆ สักตอนนะค๊ะ
รอคู่อื่น ค่ะ ขอกัสด้วยนะค๊ะ :L2:
-
จบแล้วววววววววววววว เย้ๆๆ
ลุ้นพี่คิวจนเหนื่อย ในที่สุดก็ได้รักกันซะที :mc4:
ขอบคุณบี้มากมายนะคะ :กอด1:
รออ่านตอนพิเศษของทุกคู่เลยค๊า
o13
-
End Of Lover..1 ซะแล้วววว
< คลายจากอ้อมกอด เค้กเงยหน้ามองพี่คิว
ทั้งสองสบตากัน พี่คิวก้มลงบรรจงจูบหน้าผากเค้ก จูบซับน้ำตา ริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกัน
ตามด้วยบทจูบอันหวานฉ่ำ คงจะช็อกวงการไม่น้อยไปกว่าการยกเลิกงานแต่งเป็นแน่ ห้าๆ >
ขอบคุณเบบี้นะค้าบ ^^ :กอด1:
-
จบแล้วเหรอฮะ อย่าเพิ่งจบสิมาต่ออีกเบบี้
-
รักทรหดจริงๆ
ในที่สุดก็สมหวัง
แต่.....อะนะ คิวก็ยังเป็นคิว
หวังว่าเค้กจะรับได้จนถึงที่สุด
ขอบคุณสำหรับบทที่หนึ่งครับ
รอที่สองต่อไป :3123: :3123: :3123:
-
ลุ้นกันจนวินาทีสุดท้ายจริงๆค่ะ ลึกๆแล้วเค้าก็อยากอ่านโหมดหวานๆของคิวกับเค้กบ้าง....
หวังว่าคุณเบบี้จะมีแถมมาให้ชื่นใจบ้างนะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
-
กระหายตอนพิเศษคิวเค้กจังเลยบี้ :z3:
-
น่ารักมาก แต่จบเร็วจังอ่ะ มีตอนพิเศษใช่ป่ะ :impress2:
เจออุปนิสัยพี่คิวแล้ว น่าจะบอกเค้กว่า "เป็นแฟนพี่ต้องอดทน" ฮ่าๆๆๆ :laugh:
รอตอนของพี่ฟ้า กรี๊ดดดดดด อยากอ่าน
ขอบคุณค่า :กอด1:
-
สุดท้ายพี่คิวก็ยังเป็นปริศนาต่อปายยย เหอะๆ
-
:impress2:หลังจากซดมาม่าไปหลายชาม ตอนนี้แหละที่รอมานาน
ขอไปอ่านก่อนน้า >///< :impress2:
-
คิวนี่น้าาาาา
ขนาดไปง้อเค้าก็ยังมีการบังคับเค้าอีกก
:z2: :z2: :z2:
-
อะไรกันยังไม่ได้อ่านฉากรักกันแบบหวานๆ
ยังไม่มีฉากการเป็นแฟนกันเลยนะ
จะจบแล้วหรอ
:seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
-
พี่คิวก็ยังคงเป็นพี่คิวอะนะ แต่ก็โอเคนะคะแฮปปี้กันไปอีกหนึ่ง จริงๆเราอยากอ่านคู่พี่หมีมากกกกกไม่รู้จะมีโอกาศมั่งมั้ยนะ :impress2:
-
อ่านตอนจบของคู่นี้แล้วรู้สึกดีจัง กล้าที่จะเริ่มต้นใหม่ ยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สนุกมากๆเลยค่ะ o13
รออ่านคู่ต่อไปอยู่นะคะ :กอด1:
-
:L2: :L2: รอคู่ต่อไป น่ารักดี :L2: :L2:
-
><
ขอบคุณนะคะ ชอบมากๆเลย
อ่านแล้วเขินแทนน้องเค้กอะ 555
:o8: :o8: :o8:
รออ่านของคุณฟ้าต่อ ^0^
-
:mc4: ในที่สุด อร๊ายยย กรีดร้องงงง :m3: สารภาพกันกลางสะพานเลย สุดยอดมาก
ดีใจกับน้องเค้กจริงๆ :กอด1: รอคู่พี่ฟ้าค่ะ ( แอบอยากเห็นชีวิตคิวเค้กหลังจากนี้ด้วย หุหุ)
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ แล้วก็ตอนจบนี้ด้วยนะคะ ^^
-
อ่านจบแล้วทำไมน้ำตายังไหลพรากเหมือนเดิม :sad4:
-
อ้าวววว จบแล้วเหรอค่ะ หืมมมมมมมมมมม
เฮ้อ~ จบซะแล้ว
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พี่คิวอย่าทำให้เค้กต้องเสียใจอีกนะ
รออ่านตอนของฟ้าบ้างน่ะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
:o8: รักกันแล้ววววว
ขอฉากหวานๆหน่อยยยยยยยยยยย
-
ไม่หวาน ยังคลุมเคลือในบางมุม
แต่แค่นี้ ความรู้สึกของเค้กก็โอเคแล้วแหละ
คนอ่านก็คลายใจ คู่ต่อไปอาฟ้า นั่นหมายความว่า
คิวกับเค้กเป็นแฟนกันแล้วใช่มะ ต่อเนื่องมาถึงคู่อาฟ้า
เผื่อจะมีหวาน ๆ โผล่มาให้คนอ่านชื่นใจบ้าง :m20:
-
555+ มาอย่างยาวววว
ชอบตอนนี้อ่ะน่ารักดี ชอบเค้ก 55+
แล้วสรุปมันจบยังอ่ะ ถ้ายังไม่จบช่วยมาต่อให้ด้วยนะค่ะ
แบบว่ามันสนุกมากกกก
เป็นนิยายเรื่องแรกที่ติดตามอ่ะ อิอิ
-
ปิดฉากอย่างสวยงามเลยค่ะคู่นี้...แม้พี่คิวจะไม่พูดอะไรให้ชัดเจน o13
-
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนว่าตายตาหลับจริงๆ
:m2:
อย่างน้อยก็ได้รักกันแล้วเนอะ... เค้กคิวปิด :กอด1:
-
ดีใจกับเค้กที่คิวบอกรักกัน แต่ยังไงก็ยังไม่เข้าใจคิวสักที
รออ่านตอนพิเศษที่หวานๆ ของคู่นี้ แต่รออ่านของฟ้าด้วย
-
ลุ้นแทบตาย สุดท้ายก็รักกัน เฮ้ออออ : ) )
ต่างคนต่างนิสัยนั้นแหละ พี่คิวเป็นคนที่มองยากจริงๆ
แต่ก็ดีแล้วที่สามารถเลือกทำตามใจตัวเองได้
ดูแลเค้กดีๆๆละพี่คิว ง้อเค้กบ้าง อย่าให้เค้กง้อฝ่ายเดียว 5555
-
จะว่ายังไงดี
อ่านแล้วยิ้มแก้มแตก
เชื่อในเค้กคิว
ลั้นลา มีความสุข
ขอบคุณเบบี้
รออ่านเรื่องพี่ฟ้า
-
ในที่สุดทั้งสองคนก็รักกัน :mc4: ลุ้นมากๆๆ
-
ในที่สุดเส้นทางของทั้งคู่ก็บรรจบกันจนได้
เส้นทางรักเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
ความรักจะเป็นแรงต่อสู้กับอุปสรรค
:L2: :L2:
รอติดตามคู่อาฟ้า
:กอด1:
-
เราจะรอลุ้นอ่านตอนที่คุณพี่คิวเขาเป็นแฟนกับเค้กแล้วนะ ขอตอนที่เขามีเวลาร่วมกัน รักกัน พูดคุยกัน แบบมีหวานกันบ้าง หื่นบ้างอะไรแบบนี้ อยากอ่านมากเลย
ตอนนี้เราเข้าใจพี่คิวของน้องเค้กมากขึ้นนิดนึง เราจะรออ่านตอนยาวๆๆของพี่เขาแล้วกันนะ
ตอนจบของคู่นี้แล้วเหรอนี่ จบแล้วแต่เรายังไม่อิ่มเลยแต่ก็สุขใจนะแทนน้องเค้ก
ขอบคุณนะที่มาต่อให้อ่านจนจบ :pig4:
-
อีพี่คิว .. อีเข้าใจยาก ... แต่น่ารักมากกกกก
ขอบคุณเบบี้ และ รออ่านตอนต่อไป คู่ต่อไปค่ะ :pig4:
-
ในที่สุด! ในที่สุดคิวก็บอกว่ารักเค้ก
โฮกกกกกกกกกกกก ดีใจมากมาย
ก็รู้ๆว่าคงรู้ึกดีด้วย แต่ในที่สุดเค้กก็ได้ความมั่นใจนั้นมาสักที
รอคอยเวลานี้มาตลอด(ฮา)
เค้กน่ารักอ่าาาา >////< พี่คิวแสนขรึมแม้จะน่าหมั่นไส้บ้างแต่พี่ก็ซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเอง ให้อภัย เอิ๊กๆ
รอตอนของพี่ฟ้านะคะ ^^
-
กรี๊ดดด รักกันแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆ รอมานานนน
-
:L2: :L2: :L2: :L2:
รอติดตามความรักของคนในร้านเค้กต่อไป
-
อ่านแล้วน้ำตาไหลไปกับเค้กอ่ะ มันสุดอ่ะ สิ้นสุดแล้วกับการรอคอย
สิ่งที่ออกมาจากหัวใจของพี่คิว "ฉันรักนาย"
และคำพูดนี้ “You are my love. Love what you love” มันจะกลายเป็นคำพูดที่พี่คิวบอกกับเค้กตลอดไป
จะคอยติดตามความรักที่กำลังเริ่มต้นใหม่ของเค้กและคิวรวมถึงทุก ๆ คู่ใน Limited Loevers นะค่ะ :m1:
-
พี่คิวยอมเปิดใจเเล้ววววว !!
-
อ้อมกอดแรกของพี่คิวที่เดินเข้ามาหาน้องเค้กด้วยตนเอง
อยากเห็นบทบาทของพี่คิวในฐานะคนรักเค้กจัง ว่ายังแสยะยิ้มเหมือนเดิมอีกหรือเปล่า
-
มีความสุขที่ยอม ตามอ่านเรื่องนี้มาตลอด ชอบมาก ไม่รู้ทำไม
ด้วย 1 เข้าในมุมมองของเค้กที่แอบชอบคิวมาโดยตลอด มันเหมือนชีวิตจริงไงไม่รู้
แต่ที่ต่างคือ เค้ก คิว สมหวัง มันเป็นอะไรที่น่าอิจฉาชะมัด เมื่อหันมามองตัวเอง :( :m15:
ชอบอ่ะ ชอบมากจริงๆ ถึงขั้นแอบอ่านที่ทำงาน แล้วกริ๊ดออกมา ฮ่าๆ
ัมันบ่งบอกถึงความบ้าของอิชั้นมาก!!! :angry2: :angry2:
เอาเป็นว่า ขอบคุณเบบี้ที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่าน
ขอบคุณและจะติดตามเป็นกำลังใจให้เรื่อยๆ
เค้ารักตะเองน๊า <3 :haun4:
-
โอ้ววว จบแล้วรึนี่ กว่าจะบอกรักได้ก็ฟาดมาจนตอนสุดท้ายกันเลยทีเดียว
คนปากหนัก ก็อย่างนี้ แค่คำว่ารัก คำเดียว ก็ทำให้เค้กดีใจน้ำตาไหลจะแย่แล้ว
แต่ก็นะกว่าจะได้ฟัง ก็นานอยู่ นานจนลุ้นเหนื่อยเลย พอเค้าเข้าใจตรงกัน ไอ้เราก็ดีใจอ่านะ
ลุ้นมานานนี่ =[]= อยากอ่านตอนเป็นแฟนกันแล้วจังเลย อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของพี่คิว
จะอ่อนโยน และยอมลงให้เค้กบ้างมั้ย อ่า~ รอคู่ของพี่ฟ้าต่อเลย อิอิ จะได้รู้ประเด็นเกิดเรื่อง
ระหว่างพี่ฟ้าก่ะทิกเกอร์ซะที ว่าแต่คู่ที่สามนี่กัสกับพี่เซ็น หรือ พี่หมีอ่าเนี่ย กร๊าชชชช
-
เขินพี่คิวโคตรๆค่ะ แอร๊ยยยยยย :-[
จะได้อ่านเรื่องพี่ฟ้าแล้ว ^^
-
โอ้วก็อดดดด คู่นี้จบและหรือนี้ แต่ยังรู้สึกไม่คุ้มกับคู่นี้เลย เพราะยังไม่ได้เห็นส่วนที่หวานๆเลย เลยรู้สึกเหมือนจะขึ้นคู่ใหม่และเหรอ คู่แรกความรักเพิ่งออกเดินเองน๊ําาา แต่ก็หวังว่าเบบี้จะมีแทรกคู่คิวเค้กในเรื่องของพี่ฟ้าเยอะๆนะ เราจะได้เต็มอื่มไปกับมันพร้อมๆกับอีกคู่ แล้วก็เห็นพัฒนาการของคู่รักคู่แรกไปด้วยน๊าาาา กาซิกๆๆๆ กอดเค้กกะพี่คิว ช๊อบๆ อิงชิวิตจริงสุดๆคู่นี้ :กอด1:
-
โหเจ้ครับ พี่เค๊กไม่ได้แกล้งพี่คิวเลย โทษฐานที่ปากหนักใจหนัก พี่เค๊กก็รักซะง้อนิดเดียวอ่อนเลย อิอิ
แต่พี่ฟ้าก็น่าสน กลัวแบ่งใจให้รักใครมากกว่ากันไม่ถูกเลย
-
สำหลับพี่คิวแล้ว....ตอนนี้มันเป็นตอนที่พี่คิวน่ารักมากกกกก
55555
แอบสงสัย ที่พี่คิวบอกว่า"เพราะเธอเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของผม" ???
หรือเราจะอ่านแล้วคิดมากเกินไป!! คิคิคิ
รออ่านตอนพี่ฟ้าต่อไปคะ^^
-
แค่คิวบอกรักเค็ก ก็หวานแล้ว ดีกว่าให้คิดเอง ฮ่าๆ แล้วรออ่านคู่ต่อไป จ้า
-
“ผู้ชายกับผู้ชายนี่ แต่ดีแล้ว..เพราะอย่างน้อยคุณก็รักกัน” o13
-
ในที่สุด หนูเค้กก็มีความสุขกับเค้าซักที :o8:
ลุ้นอยู่เหมือนกันว่า อย่างพี่คิวจะบอกรักแบบไหน (ว่าแต่เฮียแกหายตัวบ่อยไปหน่อยนะคะ)
แอบคิดอยู่ว่า น่าจะหวานๆกว่านี้ซักหน่อยน้อพี่คิว แต่พอกลับขึ้นไปอ่านชื่อเรื่องอีกที
Limited Lovers มันก็ต้องแบบนี้แหละวะ ถ้ามันง่ายมันหวานนัก ก็คงเป็น General lovers ไปแล้วเด้ :laugh:
ชอบบทสรุปตอนท้ายมาก ทั้งวิธีเล่าเรื่อง ทั้งสิ่งที่บี้พยายามจะบอก
เราอ่านหลายรอบเลย เหมือนสอนอะไรได้หลายๆอย่าง
ขอบคุณจากใจจริงค่ะ
-
สมเป็นพี่คิวจริงๆ รอตอนสวีทๆ ของทั้งคู่ต่อไป
-
โอเึค... หลังจากอ่านตอนนี้จบ เชื่อว่าคนอ่านทุกคนคิดว่า ยังไม่อยากให้จบเลยยยยยยย พร้อม T_______T อยู่ในใจ
เราก็เช่นกัน ถึงแม้เบบี้จะบอกว่ายังจะมีคิวเค้กอยู่ในเรื่องต่อไปก็เถอะ.. แต่ก็แหมมม อยู่กันมาตั้งหลายเดือน
มันก็ต้องมีอาลัยอาวรณ์กันเป็นธรรมดา ของี่เง่าใส่นิดนึงอ่ะ 55555 ไม่อยากให้จบเลยยยยยยยยย T___________T
แต่สิ่งหนึ่งที่ีดีสำหรับตอนจบของเรื่องนี้คือ ในที่สุด ก็บอกรักกันตรงๆและ...เป็นคู่รักที่ใจตรงกันสักทีนะ : D
มันเป็นโมเม้นท์ที่อบอุ่นท่ามกลางหมู่คนเดินผ่านไปผ่านมามากๆ พี่คิวดูเป็นคนที่น่ารักมากๆตอนยืนอยู่บนสะพานลอย
เป็นหนึ่งในโมเม้นท์ที่เราคิดว่าพี่คิวน่ารักที่สุด =///= นอกจากตอนนอนตัก แล้วก็....แหย่เค้ก ว่ารู้ว่าเค้กคิดอะไร ฮาาาา
บทสนทนาของคู่นี้ช่างฟินอ่ะ น่ารักมากกกกกกกกกกก อ่านแล้วก็ยิ้มตาม อบอุ่นหัวใจพร้อมอายมากด้วยแน่นอน
ถ้าจะกรุบขนาดนี้ตอนจบ คือก็ต้องจบอ่ะ 5555 ถ้าไม่จบก็ไม่ได้อ่าน โอเคยอมให้จบก็ได้ แต่ยังไงเบบี้อย่าลืมนะ
อย่าลืมเอาความน่ารักของคิวเค้กตอนสวีทหวานแหววมาเสริฟ์บ้าง (โอเคก็หวังว่าจะมี 5555) ถึงจะเป็นคนแบบพี่คิวก็เหอะ
ขอบคุณสำหรับภาคหนึ่ง คู่แรกที่แสนน่าฮักขนาด >///< รออ่านคู่ต่อไปและคุ่ต่อไปค่ะ อย่าลืมนะฉากสวีท ฉากสวีท ฮ่าๆๆๆ
-
พี่คิวก็ยังเป็นพี่คิวเสมอ ชัดเจนในตัวเองมากถึงจะอึมครึม น่าโมโห หมั่นไส้มาหลายตอนก็เถอะ
ในที่สุดก็ชื่นมื่นสักทีนะเค้ก :กอด1:
ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆนะจ๊ะน้องบี้ :pig4:
ปล ลอ ตามติดคู่พี่ฟ้าต่อน้า
-
น้ำตาไหลอ่ะ อุ่นๆ ขอบคุณบี้มาก มันลึกซึ้ง โดนใจสุดๆ
รออ่านพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ต่อ อิอิ
-
เป็นตอนที่อ่านแล้วประทับใจที่สุด
การเขียนของเบบี้เรื่องนี้ มีมุมแปลกใหม่ ดูโตขึ้น ทั้งวิธีเรียบเรียง และ นำเสนอ โดยเฉพาะตอนนี้
ถ้าตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายก็ไม่รู้สึกค้างคาใจ ถึงแม้อิพี่คิว จะไม่ได้พูดความรู้สึก หรือ
เล่าเรื่องราวตัวเองออกมา แต่ก็เข้าใจในตัวตนของอิพี่คิวมัน
สนุกมากๆ และจะรอติดตามคู่ต่อๆไป นะจ๊ะ
ปล. เลือกบทกวีปิดท้ายได้เยี่ยมจริงๆ ค่ะ
o13
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
น่ารักมากค่ะ > <!!
เราชอบอะ สารภาพรักกันบนสะพานลอย ซึ้งเนอะ 55
รออ่านของอาฟ้าค่ะ!
-
“ถ้าฉันบอกว่าฉัน..รักนายล่ะ นายจะว่ายังไง” o13
-
ขอบคุณเบบี้ สำหรับนิยายดีๆๆอีกหนึ่งเรื่องจ้า :L2:
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วหอมหวาน อบอุ่น อมยิ้ม น้ำตาหยด มีความสุขอ่ะ
พี่คิวเท่ห์ น้องเค้กน่ารักแสนดี :กอด1:
รออ่านคู่ต่อๆๆไปน๊า ^^
-
...โรแมนติกมากๆๆ คนรวยบอกรักคนรัก บนสะพานลอย
...งานเขียนของเบบี็ไม่เคยทำให้คนอ่านผิดหวังเลยจริงๆ
...เป็นคนที่ช่างค้นคว้าหาเหตุและผลในการเขียน ขอบคุณมากๆสำหรับงานเขียนดีๆๆ
...่จะรออ่านตอนของพี่ฟ้านะจ๊ะ :L2:
-
อ้ากกกก ในที่สุด พี่คิวก็ยังคงอมพะนำอยู่ 5555
หวังว่าจะมีมุมที่พี่คิวหึงบ้างนะ อยากเจออะ
เค้ก ดีใจด้วยนะ ลุ้นเกือบตาย พี่คิวเล่นตัวตลอดเวลา เชอะ
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ สำหรับฟิคดีๆ ที่ความรักอบอวลเลย
-
น่ารักอ่ะ อ่านไปรู้สึกสงสารฝันอย่างแรง
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:m15:ในที่สุด!!
พี่คิวก็เอ่ยคำว่ารักเค้ก ออกมา!!
เรื่องเส้นทางนี่ อ่านไปแล้วมันใช่เลยค่ะ
เส้นทางที่คิวเลือก มันคงมีอะไรยุ่งยากตามมา
แต่เราจะเป็นกำลังใจให้ทั้งสองฝ่าฟันไปให้ได้
ปลื้มมาก
ขอบคุณที่เบบี้แต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมานะคะ
เป็นนิยายที่สร้างสรรค์ค่ะ ชอบมากๆ
และก็รักทุกตัวละครมากค่ะ โดยเฉพาะน้องเค้ก :กอด1:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกหนึ่งเรื่องนะคะ
ไม่เคยผิดหวังกับนิยายของเบบี้จริงๆค่ะ :)
-
แม้กระทั่งตอนบอกรัก คิวก็ยังคงความเป็นคิวได้สม่ำเสมอ... เป็นฉากบอกรักที่ดูจริงใจดี
.. ต่อไปก็ "ฟ้า" แล้ว :man1: รอๆๆๆ
:pig4: :กอด1:
-
หลังจากลุ้นมานานน
ต่อจากนี้เรื่องของสองคนนี้จะเริ่มต้นด้วยสถานะใหม่
ตามต่อไปลุ้นเรื่องของอาฟ้าาา
:กอด1:
-
ชอบเรื่องนี้มากกกก สนุกมากค่ะ
รออ่านคู่ต่อไปนะค่ะ
-
กรี๊ดดดด จะรอนะเบบี้ คิวเค้กน่ารักมว๊ากกกก
-
อ้ายยยยย ได้ัรักกันซักทีนะ ลุ้นนะเกร็งไปหมดละ
-
:monkeysad:จบซะแล้ว อยากให้มีตอนพิเศษต่อจังเลยค่ะ
ขอบคุณผู้เขียน และจะคอยติดตามเรื่องของอาฟ้าต่อนะคะ :กอด1:
-
ในที่สุดก็ยิ้มออกได้สักที :L2:
-
สุดยอดอ่ะเบบี้ o13 พี่แบบ.... อ่านแล้วอึ้งนะ รู้สึกว่ายิ่งเบบี้แต่งนิยายแต่ละเรื่องเบบี้มีพัฒนาการแล้วก็มุมมองความรัก ความนึกคิดมันโตขึ้น แบบว่า ชอบมากอ่ะ ^^
(มันอธิบายเป็นคำพูดยาก) :serius2:
ด้วยคาแรคเตอร์อิพี่คิวมันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว มันยิ่งทำให้รู้สึกว่าคนแต่งก็ต้องหาข้อมูลเพื่อที่จะสื่อถึงตัวละครให้ได้มากสุด ดังนั้นคุ้มที่รอหลายวัน หุหุ
แล้วก็อยากบอกว่าจบตอนนี้ เป็นอะไรที่สไตล์บี้มาก แบบประมาณนี้อ่ะ ใช่เลย
แล้วก็ดีใจที่คิวไม่ปล่อยช่วงเวลานี้ไป ดีใจที่เค้กไม่เล่นตัว กร๊ากกกก
จะรออ่านคู่ฟ้านะจ๊ะ ส่วนคู่คิวเค้กก็ยังรอเสมอ สุดท้ายนี้ ชอบนิยายของเบบี้นะค่ะ
o13 :กอด1: :L2: :pig4:
-
จบแล้วหรอเนี่ย ไม่เอาอะไม่ให้จบได้ไหมค่ะ (งอแงเป็นเด็ก)
ลุ้นหลายตอนมากว่าเมื่อไรคิวจะรับรักน้องเค้กสักที
กลัวมากกก ว่าคิวจะไม่รับรักน้องเพราะเรื่องฐานะทางสังคม
ทำเหมือนเป็นรักหลบซ่อน(คิดเยอะไปหรือป่าวเนี่ย)
พอมาอ่านในตอนนี้ยินดีที่พี่คิวรอและแน่ใจที่จะรักน้องเค้ก
รออ่านคู่ฟ้าตอนนะค่ะ
-
คึคึ ลุ้นพี่ฟ้า รักพี่คิว หวงน้องเค้ก
-
อ่านจบแล้วโครตจะมีความสุข ช่างมีความสุขอะไรเช่นนี้ที่ได้อ่านมาถึงตอนนี้ อ่านซ้ำไปมาอยู่นั่นแหละ
อิอิ พูดจาวกวนจัง
ขอบคุณเบบี้เป็นที่สุด ยาวได้ใจมากตอนนี้
:กอด1: :man1: :pig4:
-
จบแบบรักกันก็ดีใจแล้ว ^^
-
ดีมากกกกกกก แต่อยากอ่านภาคพี่คิวต่อจังค่ะ อย่างนี้ค้างคา
เหมือนยังไม่อินไปกับเรื่อง 100% เลย เพราะมีหลายจุดที่งงกับการกระทำของพี่คิว
ยังไงก็ติดตามตอนต่อไปค่าา ทิกเกอร์น่ารักดี :) :กอด1:
-
:L2:Wow พี่คิวค่ะ บทจะหวาน ก็ หวาน อิอิ แต่ ออกม่น้อย ค่าตัวน้อย แม่นบ่ อิอิ+1 :L2:
-
จบแบบนี้ยังให้ความรู้สึกว่ายังไม่complete เพราะว่ายังมีต่อเนอะ
แต่ความรู้สึกในฐานะของผู้อ่านที่เริ่มอ่านนิยายของน้องเบบี้ตั้งแต่เรื่องแรกคือสุดท้าย ของข้าว&ตาร์ (รักเรื่องนี้มากค่ะ) จนถึง
เรื่องนี้ ขอบอกว่าประทับใจและชอบมาก o13
-
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ
รออ่านคู่ฟ้าค่ะ
:กอด1:
-
:-[ ติดใจตักนาย
รอดูคู่ต่อไปอยู่นะ o13
-
ขอบคุณเบบี้ม่กนะครับ สำหรับนิยายอบอุ่นเรื่องนี้
และอยากรู้จังเลยว่าหลังจากนี้ พี่คิวจะดูแลน้องเค้กยังไง
ถ้ามีตอนพิเศษเค้กคิว ก้อขอหน่อยนะคับ
ขอบคุณค้าบบบบบบบ
-
ตอนจบก็หวานขนาด ตอนที่แล้วทำเอาน้ำตาซึม เบบี้ใจร้ายมาก 555+
จะตามคู่พี่ฟ้าต่อไปนะคะ ^^
-
>>> ซวดดด ยอด มาก :laugh:
คิวเนี่ยไม่ยากเกินจะใช้หัวใจ นู๋เค้ก เข้าใจหรอโน๊ะ
ร๊ากกกก เธอ คิวเค้ก และเธอ เบบี้ :กอด1:
P.S. คิวหวานที ก็ หว๊าน หวานนนนน โน๊ะ
-
น้องเค้กไหวนะ? แต่เราไม่ไหวว่ะ!! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
แว๊กกกกกกกก เขินนนนน หน้าร้อนขึ้น(แทนน้องเค้ก)ตั้งแต่สายเข้าแล้ว
ขนาดคำแรกที่ได้ยินนี่ดุฉิบหาย ฉันยังเขินเลยยยยย
"ลงมาหาหน่อย" ประโยคนี้ตายคาที่ค๊าาาาาาาาาาาาา เป็นฉันจะขาอ่อนทรุดลงตรงนั้นแหละ กร๊ากกก
พี่คิวนี่ก็ใช้ได้นะเนี่ย ฮ่าาาาาาาา
เราเข้าใจอารมณ์น้องเค้กมากอ่า ตั้งแต่คืนแหวน จนตอนจบ อ่อยยยยย ไม่ไหวจริงๆ จากใจ
คำพูดฝันที่บอกทิ้งท้ายไว้ น่ากลัวไปป๊าาา? ..แต่ไม่เป็นไร เค้กสู้ใจขาดเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
รอบข้างเค้กอบอุ่น เราอิจฉาเค้กมากเลยบอกตามตรง เป็นที่รักของทุกๆคนนนน
แล้วเราก็รักเบบี้มากสุดใจ คิคิ.... :L2:
-
โว๊ะ !!!
กลอนของ Robert Frost บทนี้นอกจากมันจะมีประวัติกับพี่คิว
มันยังมีประวัติกับเราเหมือนกัน 55555
ถึงกับมึนตึ๊บๆๆ เพราะโดนอาจารย์ควิซสดในห้อง เทอมที่แล้วว
แต่พอมาอ่านกับเรื่องของพี่คิว บ๊ะ มันเป๊ะ อ่ะ !!!!
ปล. บายเดอะเวย์ เอาพี่ฟ้ามาคั่นหรอ เค้าอยากอ่านเค้กคิวต่ออ๊าบี้ ><
-
ในที่สุดพี่คิวกับเค้กก้อเข้าใจกันจนได้ ถึงพี่คิวจะเข้าใจยากไปสักนิด แต่เราก้อมั่นใจในตัวพี่คิวอยู่อย่างหนึ่งว่าเมื่อพี่คิวเลือกที่จะทำอะไร พี่คิวจะทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดเสมอ เหมือนกับที่พี่คิวเลือกเค้กแล้ว พี่คิวก้อจะดูแลเค้กเป็นอย่างดีที่สุดที่พี่คิวจะทำได้
อยากอ่านตอนที่สองคนนี้ใช้ชีวิตร่วมกันด้วยนะคะ
และ ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ
-
ชอบตอนนี้ที่สุดเลย~ :m15:
กว่้าจะเข้าใจกัน >///< น่าีักมากเลย
-
เย้ คิวเค้กรักกันแล้วววววววว :-[
ตอนหน้าอาฟ้าออกโรงแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด :z2:
-
ไม่รู้จะพูดยังไงเลยจริง เรื่องนี้มันลึกซึ้งมากค่ะ
พูดง่ายๆเลย ประทับใจมาก
ทางที่พี่คิวเลือก เหมือนมันจะไม่ยาก แต่มันก็ยาก
ซึ่งเบบี้ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากค่ะ
ขอบคุณบทประพันธ์ของโรเบิร์ต ฟอสที่เอามาฝากกันด้วยนะคะ
ความหมายดีมากๆ ชอบมากค่ะ^ ^
-
:impress3: :impress3: :impress3: :impress3:
พี่คิว กวนตีน เข้าใจยาก หลงตัวเอง เหมือนจะดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่ หล่อออออออออออออ :impress2:
แฮปๆๆๆ แฮปปี้แล้ววว ดีใจ :-[
บทกวีเหมาะกะพี่คิวอ่ะ
เม้นไม่ออก :monkeysad: ตื้นตัน 5555555 จะมีคู่สอง สาม ด้วยอ่ะ ดีใจจังเลย :mc4:
:กอด1: เบบี้
ให้ :L2:
-
เพิ่งจะบอกรักกันเองจบแล้วหรอครับ :z6:
เอิ่ม แบบว่าอยากอ่านฉากหวานๆหรือไม่ก็ฉากNCเค้ก คิวอย่างงี้อ่ะ :z1:
จะรอตอนต่อไปคร้าบบบ :t3:
-
:3123:สุขใจจัง
-
o13 o13 o13
-
ความรักของคู่นี้เดินมาถึงจุดจบของการค้นหา แต่เริ่มดำเนินต่อในบริบทที่จะเป็น........
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
ปล. คู่นี้ถ้าจะมัน เพราะนายเอกงอนและหนีข้ามโลกขนาดนั้น :z2:
-
เพิ่งจะเปิดเผยความรู้สึกก็จบซะละ เฮ้ออออออออออออออออ
หวังว่าเนื้อเรื่องตอนคู่ของอาฟ้า จะมีเนื้อเรื่องของคู่คิวเค้กโผล้มาแจมด้วยนะคะ
แบบว่าอยากรู้ต่อว่าหลังจากคบกันแล้วจะเป็นยังไง พี่คิวจะยอมขับรถราคาธรรมดาๆ บ้างไหม 5555 :m20:
-
พี่คิวน่ารักจัง > <
-
กว่าจะหลุดออกจากปากมาได้อ่ะพี่คิว......แต่คิวก็คิดอะไรเยอะจิงๆ แล้วก็ได้รับรู้เลยว่า ถ้าคิวตัดสินใจอะไรแล้ว จะแน่วแน่มากๆๆ
ยินดีกับน้องเค้กด้วยยยย....
รออ่านคู่พี่ฟ้า...น่าจะมันส์อยู่ ^^
-
:m1: :m1:
:pig4:
-
เขินแทนเค้กอ่ะ
-
รักกันสักทีนะ พี่คิวก็ยังปากหนักเหฟมือนเดิม
รออ่านตอนพี่ฟ้า ยะฮู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
กับคำถามที่ว่า
..จบแล้วเหรอ..
..เพิ่งบอกรักกันเอง จบแล้วเหรอ..
..ยังไม่กระจ่างเลย..
หรือ ฯลฯ
ตอบ
..คู่หลักของเค้กและคิว จบแล้วค่ะ..
..คู่พิเศษ ตอนต่อไปคือตอนของ "ฟ้า"..
..ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ทางเบบี้ได้ชี้แจงไปที่ "หมายเหตุ" ทางด้านล่างเรียบร้อยแล้ว เบบี้มีหมายเหตุไว้เพื่อต้องการให้คนที่อ่านนิยายทราบถึงขั้นตอนต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ในหลายๆคอมเม้นจากคนอ่าน ถ้าคุณจะเลือกที่ตีความไปเองโดยละการอ่านหมายเหตุ นอกเหนือจากการแจ้งเตือนในครั้งนี้ว่า "ได้โปรด..กลับไปอ่านหมายเหตุท้ายของตอนจบก่อนเถอะค่ะ" และเบบี้จะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ซ้ำอีก หมายเหตุจะไร้ประโยชน์ไปในทันทีทันใด ถ้าคุณเลือกที่จะไม่อ่านมัน..
..อีกหนึ่งสิ่งที่เบบี้อยากจะพูด เบบี้ไม่รู้ว่าทางคนอ่านบางคนจะไม่พอใจในส่วนนี้ของเบบี้หรือไม่อย่างไร ที่ว่ายังไม่เขียนตอนในมุมของคิวต่อ ขอบอกว่าถ้าคุณไม่เคารพในการตัดสินใจของเบบี้ ทุกอย่างก็ป่วยการเปล่า ขอร้องว่าอย่าตั้งตัวเองเป็นใหญ่ในการสื่อคำพูดผ่านแป้นพิมพ์(เพราะเบบี้ไม่สามารถเห็นสีหน้าท่าทางหรือน้ำเสียงของคุณ นอกจากผ่านอีโมประกอบ) แน่นอนค่ะว่า..เบบี้ไม่ได้ต้องการคำพูดปลอบโยนและเชยชมในนิยาย แต่เบบี้ต้องการให้คนอ่านเข้าใจทั้งหมดทั้งมวลเกี่ยวกับการดำเนินเรื่องที่ผ่านมา และคุณควรจะเคารพในการตัดสินใจของเบบี้บ้าง ขอบคุณค่ะ..
..และขอพูดสำหรับการทวงนิยายหน่อยนะคะ เบบี้ไม่เคยออกมาต่อว่า เพราะเบบี้พยายามนึกให้เบบี้เป็นคุณ แน่นอนว่าเหนื่อยและทรมานในการเฝ้ารอให้คนเขียนมาต่อ แต่อยากจะขอโทษจริงๆ ถ้าเบบี้จะขอความเห็นใจให้คุณนึกว่าตนเองเป็นเบบี้บ้างได้ไหมคะ เคยกล่าวหลายครั้งว่า "ถ้าว่าง ไม่เคยเลยที่จะละเลยที่จะไม่มาต่อนิยาย" ถึงจะปิดเทอมแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเบบี้นอนอยู่บ้านเฉยๆ ดีใจมากนะคะที่ทวงแต่ได้โปรด อย่าทวงเหมือนเบบี้เป็นฝ่ายผิดเลยค่ะ..
..สำหรับต่อไปนี้ ขอพูดในฐานะคนเขียนที่เขียนนิยายเรื่องนี้ออกมา ทราบดีค่ะว่าหลายท่านต้องการตอนพิเศษต่อและพูดในทำนองที่ว่าสุดท้ายก็ไม่เข้าใจคิว ไม่เป็นไรค่ะ..ไม่เข้าใจอย่างแน่นอนเพราะเบบี้ยังไม่ได้เขียนในมุมของคิว แต่สำหรับบางคนที่พูดประมาณว่า "คิวยังไม่ชัดเจนมากเท่าไหร่" ฯลฯ เบบี้พูดได้เลยค่ะว่า เบบี้ไม่สามารถเขียนให้คิวกระจ่างไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว บทสรุปของการลงเอยของทั้งคู่ในครั้งนี้ชัดเจนเกินกว่าที่เบบี้จะถ่ายถอดออกมาเป็นตัวอักษร..ซึ่งหมดเปลือกอย่างแท้จริงกับตอนที่ผ่านมา ถ้าการดำเนินเรื่องที่ผ่านมายังไม่แสดงให้เห็นถึงนิสัยใจคอของตัวละครได้มากพอ เบบี้ก็ไม่รู้ที่จะให้อะไรได้มากกว่านี้ค่ะ นั่นหมายถึงเบบี้เขียนและสื่อไปไม่ถึงอย่างแท้จริง..
เบบี้..
-
เข้าใจคะต่างคน
ต่างอารมย์เนอะ
ยังงัยก็ยอมรับในการ
ตัดสินใจของเบบี้นะ
:pig4: ที่เขียนเรื่องราว
ดีดีมาให้ได้อ่านเสมอๆ
:L2: เป็นกำลังใจให้แล้วกันนะจ๊ะ
-
ขอบคุณคะ เบบี้จัง
สู้ๆนะคะ อย่างน้อยตรงนี้ก็มีกำลังใจมากมายคะ
o13
-
แต่เราว่าเบบี้เขียนดีแล้วนะ คนแบบคิวเป็นได้ขนาดนี้ อ่านแล้วโคตรเขินหรือไม่เขินกัน ?
ถ้าไม่เขิน อากาศไม่ดี ก็เข้าไปถึงเล่าาาา ๕๕๕
คิวออกจะแสดงออกขนาดนี้ เดินมาหาเลยนะ ขึ้นสะพานลอยมาหาเลยละ จริงจังมาก
อ่านแล้วโคตรเขินแทนเค้กเลย ๕๕๕ เค้าชอบๆ จบแบบนี้แหละดีแล้ว แล้วมันจะเป็นไปตามจินตนาการ
ให้กำลังใจเบบี้นะ เรื่องทวงนิยายก็เค้าว่ามันก็ลุุ้นดีนะ เวลามาทีนี่รีบกดแทบไม่ทัน คิคิ
ไม่เคยทวงเลย แต่ก็ใจจดใจจ่อรอคอยตลอด เป็นกำลังใจให้นะเบบี้ จุฟฟฟฟฟ
-
สู้ๆๆค้าบบ เขียนไรมาอ่านหมดอิอิ
-
รับทราบค่ะ
แค่ได้อ่านก็มีความสุขละ และก็จะรออ่านต่อไปค่ะ
:laugh: :laugh:
-
สู้ๆ นะค่ะ อ่านนิยายคุณเบบี้ทีไร บอกตามตรงเลยว่าไม่อยากให้จบเลยอ่ะค่ะ
แบบอยากรู้เรื่องราวของแต่ละคนไปเรื่อยๆ เลยค่ะ (อ้ายยย ไม่รู้อ่ะ ฉันเป็นอะไรไปเนี้ย)
อยากอ่านไปเลยๆ ชอบทุกคนในนิยายเลยก็ว่าได้ มีแต่คนน่ารักทั้งนั้นเลย มีนิสัยแต่ละคนแตกต่างกันออกไป
มีมุมมองต่างๆ ที่ต่างกันออกไป
แล้วสำหรับคู่ของพี่คิวกับน้องเค้กไงก็เป็นกำลังใจให้ตลอดนะค่ะ ถึงจะแอบคิดถึงพี่คิวอ่ะ แต่ก็มีคู่ของอาฟ้าสุดเลิฟ
มาให้ได้ลุ้นกันอีกแล้ว ว่าอาฟ้าจะคืนดีกับพ่อฝรั่งสุดหล่อยังไง มาง้อซะขนาดนี้แล้ว
ใจอ่อนหน่อยนะค่ะ ไหนๆ คู่ของหลานรักอาฟ้าก็สมหวังแล้ว
คู่ของพี่คิวนี้แบบว่า โฮกกก ในที่สุดเราก็ได้รักกัน ไม่หวานเท่าไร แต่กินใจมากเลยค่ะ ><
แล้วเจอกันในคู่ของอาฟ้าอีกนะค่ะ คุณพี่คิวกับน้องเค้กน่ารัก
อยากเห็นมุมมองของอาฟ้ากันบางว่าจะคิดแบบไหน
-
พี่สนุกที่ได้ตามอ่านนิยายของเบบี้ สนุกที่ได้รออ่าน แค่นี้แหละค่ะ พี่สนุกมีความสุข จบ ^_^
-
จะติดตามผลงานต่อไปคะ
เป็นกำลังใจให้
เข้าใจเบบี้นะคะ
สู้ๆ
:pig4:
-
เข้าใจคะต่างคน
ต่างอารมย์เนอะ
ยังงัยก็ยอมรับในการ
ตัดสินใจของเบบี้นะ
:pig4: ที่เขียนเรื่องราว
ดีดีมาให้ได้อ่านเสมอๆ
:L2: เป็นกำลังใจให้แล้วกันนะจ๊ะ
ต่างคนต่างอารมณ์ก็ใช่ค่ะ
แต่เบบี้แค่ไม่อยากให้การที่แต่ละคนพูดนั้นนำอารมณ์ของคุณมาเป็นที่ตั้ง
ถ้าต่างคนต่างนึกว่า ฉันเป็นฉัน คุณเป็นคุณ..สุดท้ายก็จะสื่อไม่ถึงกัน
ที่เบบี้ออกมาบอกเพราะอยากให้นึกถึงใจเขาใจเราบ้างก็เท่านั้นค่ะ
-
:กอด1: :L2:
-
สู้ๆคะ เป็นกำลังใจให้ :L2:
-
โถ่.. เราอ่านนิยายเบบี้มา เรารู้ดี..
เบบี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังสักทีหรอก มีแต่ให้มามากจนล้นด้วยซ้ำ
ไม่งั้นเราจะรักเธอมากขนาดนี้หรอ คิคิ
ไม่ต้องคิดมากนะจ๊ะ.. กอดกันๆ :กอด1:
-
ตามจริงเราก้อ่านทุกบรรทัดที่เบบี้โพสต์มาอ่ะนะ
เข้าใจและรับทราบหมายเหตุที่ชี้แจงทุกครั้ง
ตอนจบของลิมิเต็ด เลิฟเว่อ เราว่ามันโอเคแล้วกับนิสัยของคิว
มันชัดเจน บอกตรงตัวว่าพี่คิวรักและเลือกเค้ก
คิวไม่ใช่คนหวาน หรือแสดงออกขนาดเท่าปุถุชนทั่วไป
แต่คิวเป็นคิว และแบบนี้แหละถึงเป็นลิมิเต็ด
และแน่นอนว่าเพราะมันเป็นนิยายที่เบบี้เขียน
คนติดตามก้เยอะมากกกกกกกกกกกกกกก
จึงเลี่ยงไม่ได้ที่บางครั้งการสื่อสารผ่านตัวอักษรและอิโมชั่น
จะทำให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งได้ทุกคน
เราคิดว่าหลายๆคนรู้ว่าพาร์ทคิวเค้กน่ะจบแล้ว
และตอนต่อไปจะเป็นของพี่ฟ้า แต่แค่เพียงยังรู้สึกว่ามันไม่พอ อยากอ่านอีก
อยากรู้อีก ว่าหลังจากนี้คิวกับเค้กจะใช้ชีวิตที่มีกันและกันอย่างไร
และอย่างน้อยเราคนนึงก้แอบหวังตอนพิเศษอยู่ลึกๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก้เป็นสิทธิ์ของเบบี้ค่ะ เราเข้าใจ
เราแค่มีความโลภที่มันมักเกิดขึ้นเวลาเสพติดอะไรบางอย่างเท่านั้น
แต่ถึงจะโลภ แน่นอนว่าสักวันมันก้ต้องมีจุดที่อิ่มตัว
และความอิ่มตัวนั้นเบบี้ก้เป็นคนเดียวที่จะตัดสินได้
ในฐานะนักอ่านที่คอยติดตาผลงานของบี้มาโดยตลอด
เราเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเบบี้นะคะ
ยังไงก้เป็นกำลังใจให้ค่ะ
-
รักกันแล้วววววววว
พี่ฟ้ากับทิกเกอร์ใช่ไหมตอนต่อไป รอค่าาาา :3123:
-
เข้ามาให้กำลังใจเบบี้ :กอด1:
ชอบทุกเรื่องที่เบบี้เขียน :L2: :3123:
-
มาเป็นอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ :กอด1: :L2:
-
ชอบตอนจบของคู่เค้กกับคิวในมุมมองของเค้กนะ ยิ่งมีบทสรุปของคิวมาเพิ่มทำให้เข้าใจตัวตนของคิวขึ้นมาในระดับหนึ่ง
เบบี้สู้ๆ พี่ติดตามอ่านนิยายที่เบบี้เขียนมาทุกเรื่องไม่เคยผิดหวัง บางครั้งยังชื่นชมด้วยซ้ำว่าด้วยภาระหน้าที่ในการเรียน และ กิจกรรมต่างๆที่มี เบบี้ยังเจียดเวลามาแต่ง มาพิมพ์นิยายดีๆมาให้พวกเราอ่าน ช่วงไหนงานเยอะ ก็แจ้งให้ทราบ ไม่เคยหายไปเฉยๆ ฉะนั้นจงเชื่อมั่นในแนวทางของตัวเอง ว่าที่ทำมาดีอยู่แล้ว สู้ๆนะ
-
รับทราบจ้าาาาา
คู่ไหนก็น่าลุ้นไปหมดเลยยย
:z1: :z1: :z1:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:เบบี้
-
:กอด1:
-
น่ารักมากๆเลย ^^
:pig4: :L1:
-
อยากบอกคนอ่านใหม่ๆ ว่า
นิยายของเบบี้ ตัวละครมีวิวัฒนาการ และพัฒนาการในตัวเองทุกตัวละครอ่ะ จากที่เคยสัมผัสมาแทบจะทุกเรื่องของเบบี้ และในทุกๆ นิสัยของตัวละคร จะแฝงข้อคิด แนวคิด หรืออะไรต่างๆ นานา ไว้ด้วย
ลองอ่านแบบรวดเดียวจบดูค่ะ แล้วจะเห็นว่า ตัวละครเริ่มจากคนรู้จักและกลายเป็นความรัก ที่สมเหตุสมผลสำหรับคำว่า ชายรักชาย ไม่ใช่เกย์ หรือคนที่ชอบผู้ชายอยู่แล้ว ^^
ลองเปิดใจดูค่ะ หลายๆ อย่างต้องอาศัยเวลา
-
ชื่อเรื่องมันคือ Limited Lovers เนอะ พี่คิว เป็นแบบนี้ก็ไม่แปลก เพราะแต่เริ่มเดิมทีพี่คิวก็เป็นแบบนี้ เค้กรักพี่คิวก็เพราะบรรยากาศรอบตัวของพี่คิวเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ
เข้าใจเบบี้ค่ะ บุคลิคของตัวละคร คือบุคลิคเฉพาะที่นักเขียนแต่ล่ะคนจะสร้างสรรค์ออกมา มีสงสัยและขัดใจบ้าง แต่ก้เข้าใจนะ
จะรออ่านของพี่ฟ้าต่อนะค่ะ
-
โย่วววว!!! ดีใจกับทั้งคู่ด้วยนะคับ แต่ถ้าเอาไปทำเปนหนังคงหนุกดีนะ 5555
-
รอมาตั้งนานนน กว่าจะบอกรักกัน พี่คิวนี่นะ :กอด1:
ว่าแต่เรื่องของอาฟ้ากับทิกเกอร์ แล้วคู่ที่ 3 นี่ พี่หมีกับกัส หรือเซ็นกับใครอี๊ก , , ,
เอร้ยยย อยากอ่านล่ะ :L2: :3123:
-
เราเข้าใจเบบี้ น่ะ
ไม่รู้จะพูดไร เอาเป็นว่าพี่เข้าใจน้องในทุกครั้ง เป็นกำลังใจให้ อินู๋ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
+1 +เป็ดไป
-
ผมรับทราบและยอมรับในการตัดสินใจของเบบี้ครับ
และจะติดตามผลงานของเบบี้ต่อไป โดยไม่มีเงือนไข
และเข้าใจหัวอกเบ้บี้อย่างท่องแท้ เพราะตัวเองก็เคย
ดองเค็มนิยายตัวเองเหมือนกัน เป็นเดือนๆ ก็ตามเหตุผลของเบบี้
ยอมรับนะว่าเบบี้มีความรับผิดชอบมาก สม่ำเสมอ
ถึงจะหายไปบ้าง แต่ก็ไม่นาน ส่วนมากจะชี้แจงเหตุผลเสมอ
จนไว้ใจ และเชื่อว่าเบบี้ต้องมาต่อจนจบ ไม่ทิ้งแน่นอน
แต่อาจมีงาน หรือธุระ แต่ก็แอบมีกระแทกดันกระทู้บ้าง เพราะมันอินอ่า ฮ่าๆ
ยังไงผมก็ยังติดตามผมงานของเบบี้ตลอดไปนะ และให้กำลังใจเสมอ
เพราะเบบี้คือผู้มีพระคุณ ที่แต่งนิยายดีๆมาให้ได้อ่านกัน
ป.ล. รอตอนต่อไปของพี่ฟ้าจร้า
-
น่ารักมากๆเลยค่ะ ชอบจัง ^^
รอคู่ต่อไปค่ะ
-
(ชี้แจง) เนื้อหานิยายแสดงถึงลักษณะนิสัยตัวละครทุกตัวแจ่มชัดแล้ว และดีมากด้วย ขอบคุณมากๆ เหนื่อยก็พัก มีพลังทำสิ่งใดก็สำเร็จ
-
ยังมีอีกเหรอรักแรกรักเดียว ที่คิวรักปราย ขอให้น้องเค้กโชคดี เมื่อถึงที่สุด ก็เอาตัวเองออกมา อย่ายื้อ อย่าทนนะหนูเค้ก
-
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
-
เข้าใจและรอติดตามคู่ต่อไป ตอนต่อไป ^^
-
ยอมรับทุกเหตุผลของเบบี้ค่ะ :L1:
-
เรื่องราวของคิวกับเค้กจบลง ... แต่ความรักของคนทั้งสองกำลังจะเริ่มขึ้น
เสน่าของการอ่านนิยายคือการได้จินตนาการเรื่องราวต่าง ๆ ต่อจากตัวอักษรของคนแต่ง
เพราะเราเป็นพวกฟุ้งทางความคิดเราถึงมีความสุขกับการอ่านนิยายเรื่องนี้
สำหรับเราเรื่องนี้มันดำเนินมาถึงสิ่งที่มันควรจะเป็นแล้ว ... เหมือนกับเวลาเราลุ้นใครสักคนให้รักกัน เมื่อเค้าใจตรงกันแล้วรับรู้ถึงความรักที่มีต่อกันแล้ว เราก็พอใจ อารมณ์ลุ้น สนุก มันก็เพลาลงไปแล้ว
แต่ ..... เราก็แอบอยากรู้ข่าวพวกเค้าบ้าง นาน ๆ ครั้ง หรือได้รู้ความเป็นไปของเค้าผ่าน ตัวละครอื่นๆ ก็จะเป็นพระคุณมาก ๆ นะจ๊ะ นู๋เบบี้
เป็นกำลังใจให้ แล้วก็รออ่านเรื่องของคุณอาฟ้าอยู่นะจ๊ะ
-
รับทราบค้าบ รอทิกเกอร์ค่ะ
-
เข้าใจบี้
รักคิวเค้กมากมาย และรออ่านอาฟ้าต่อจ้า เพราะบี้บอกแล้วว่าจะมีคิวในอีกมุมให้เราเห็นด้วย
-
:pig4: ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆเรื่องนี้นะคะ
เ็ห็นคำชีี้แจงแล้วก็เหนื่อยแทนจริงๆนะคะ ^^~
ยังไงก็จะเป็นกำลังใจนะคร้าาาาา สู้ๆคะ o13
-
อยากให้แอบมีความคืบหน้า มาเป็นตอนพิเศษเล็กๆน้อยๆกับคิว+เค้ก จ๊ะ ช้าไม่ว่า เรารอได้เสมอ เพราะเวลาที่รอ แล้วได้อ่าน เฮ้อ...............มันคุ้มกับการรรอคอยนะจ๊ะ บี้ สู้ๆ :กอด1:
-
+1 :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2:
-
สนุกมากๆครับ รอๆ
-
ยาวหน่อยนะจ๊ะบี้ คือเราอ่านแล้วเข้าใจ คือมองแค่แง่มุมเค้กก็เข้าใจแล้ว ด้วยนิสัยอย่างคิวนะ ถ้ารักแล้วรักหมดใจอ่ะ คิดอย่างที่บี้บอก ตอนบนสะพานลอยอ่ะ เราว่าจบแล้วคู่คิว+เค้ก อาจจะมีตอนหวานๆในแบบคิวมาให้อ่านบ้าง แต่ก็คงออกแนวแกล้งเค้กซะมากกว่า
อ่านตอนแรกๆเลยราว10ตอนก็ยังงง ว่าจะมารักกันได้ยังไง ไม่เห็นมีกุ๊กกิ๊กหยอดกันมั่งเลย แต่พอมาอ่านเจอที่บี้บอกว่า ทั้งเค้กและคิวเป็นชายแท้ ที่ตอนต่างๆที่บี้เขียนหน่ะแหละที่ทำให้เค้ารักกัน เลยตั้งใจอ่านแล้วก็จริงนะ รักซึมลึก ซึมซับกันไปโดยไม่รู้ตัวอย่างที่เค้กบอก
การห่วงใย ใส่ใจเล็กๆน้อย นิสัย ความชอบต่างๆที่เหมือนกัน และหนูเค้กน่ารัก ความซื่อสัตย์ กตัญญู มองโลกบวกของเค้ก ทำให้คนมองโลกลบแบบคิวมองเห็นโลกอีกด้าน ชอบอ่่ะ ยิ่งตอนจบคู่นี้เราแบบ แค่พี่คิววิ่งตามเค้กมา เพื่อถามเรื่องนี้ ต่อหน้าประชาชีบนสะพานลอย เราก็ฟินอ่ะ อร๊ายยยยย นึกภาพพี่คิว วิ่งตามเค้กมา ผ่านหน้าพี่ฟ้า และคนอื่นๆในร้านที่มองตามแบบรู้นะว่าวิ่งตามใคร อิคนอย่างพี่คิวอ่ะ ถ้าไม่รัก มันไม่ตามหรอก แต่จะรออ่านมุมคิวบ้างนะคะ ที่ยังคาใจพี่คิวมีเรื่องเดียวคือ ทำไมถึงจะตกลงแต่งงานกับฝัน หลังจากที่จูบเค้ก
พอเข้าใจว่าพอจูบเค้กไป ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายเมิน คิวคงคิดว่าเค้กโกรธหรอ เกลียดไหม มันคงมีอารมณ์ไม่แน่หรือเปล่า ตามที่เราคิดนะ ว่าพี่คิวคงคิดว่า เอตรูว่าเค้าชอบตรูนะ แต่ทำไมจูบแล้วเมินอ่ะ โกรธหรอ เออ เมินได้ก็เมินมั่ง แล้วปากหนักไม่พูดอย่างพี่คิวด้วยนะ เลยพากันเมินยาววววว แต่อีท่าไหนไปตกลงจะหมั้นกับฝันอ่ะจ๊ะ นี่คือตามที่ตัวเองคิดนะ รออ่านพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ (หรือเปล่าหว่า?????) :กอด1:
-
เวลาเบบี้มชี้แจงแต่ละที
ฉันจะวุ่นวายกับการกลับไปอ่านคอมเม้นท์ตัวเองมาก
ว่าอยู่ในข่ายรึปล่าว ,,
เฮ้อออ สบายใจ (หัวเราะ)
ถ้าพี่คิวพูดเยอะก็จะไม่เป็นตัวของตัวเองช่ะ
ฮ่าๆๆ แบบนี้ก็ดีนะ
เหมือนว่ายังสับสนนิดๆ แต่ก็ตัดสินใจแบบนี้
เอ๊ หรือไม่สับสนหว่า ...
ช่างพี่คิวเถอะ รักกัน อ่ะดีสุดแล้ว
^^
ลุ้นคู้ 3 กรี๊วววววววว
-
บ่อยครั้ง ที่ไปดูหนังในโรง หรือดูละครทีวีที่บ้าน เมื่อไฟโรงหนังเปิดหรือจอทีวีขึ้นคำว่า จบบริบูรณ์ ... ใครหลายๆคนหรือแม้แต่ตัวเราเองก็อาจจะเคยคิดในใจหรือพูดออกมาว่า.."อ้าวจบแล้วหรอ / ยังไม่เห็นรู้เรื่องเลย / ไม่น่าจบแบบนี้เลย / ทำไมถึงไม่เป็นแบบนั้น น่าจะเป็นแบบนี้นะ ฯลฯ...." ทั้งๆที่หนังหรือละคร ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวอักษร.. บทละครหรือบทหนังเหล่านั้น ถูกนักแสดงสวมบทบาท ถ่ายทอดออกมาให้เห็นกันชัดเจนซะด้วยซ้ำ นับอะไรกับนิยายที่ต้องใช้จินตนาการ เข้าใจถึงสิ่งที่ผู้เีขียนถ่ายทอด.. แต่นั่น มันคืออรรถรส...
ส่วนตัวแล้ว ตัวหลักคิว เค้ก ฉากบอกรักกลางสะพานลอยตอนจบ คนอย่างพี่คิวปากหนักขนาดนั้น สวมกอดเค้กแล้วพูดคำว่า.."ฉันก็รักนาย" มันพีคสุดๆแล้วล่ะ ร้องไห้ตามเค้กเลย ดีใจ ^^'
เบบี้ คือนักเขียนเบอร์หนึ่งของเค้าอยู่ละ ติดตามมาทุกๆเรื่องน๊า แต่ทีต้องกลายเป็นเป็ดน้อยเตาะแตะเพราะไอดีเก่าเข้าไม่ได้ T T'
-
เราชอบจบแบบนี้นะ สำหรับพี่คิว แค่ไล่ตาลเค้กมา ก็นับว่าแสดงออกมากแล้ว ตอนบอกว่าติดใจตักเค้กนี่เขินสุดๆ ยิ่งบอกว่ารักนี่เหนือความคาดหมายไปเลย คิดว่าพี่คิวจะแกล้งกวนประสาทเค้กกว่านี้ด้วยซ้ำ สำหรับคู่นี้เข้าใจกันแค่นี้ก็พอแล้วแหละ
ขอบคุณนะคะเบบี้
สู้ๆนะคะ
-
บางคนเจตนาไม่ดี อย่าไปใส่ใจเลยจ้ะบี้
-
o13 o13 o13สู้ๆคับ :L1: :L1: :L1:
-
เรารออ่านตอนพี่ฟ้าค่ะ
เคารพในการตัดสินใจของเบบี้
เป้นกำลังใจให้เบบี้
-
เคารพการตัดสินใจของเบบี้ค่ะ :L1:
มันสนุกจนอินไม่อยากให้จบแบบว่าใจหาย
รักน้องเค้ก จนต้องกลับไปตามอ่านบ่อยๆ
:กอด1: :กอด1:รอคู่หน้าค่ะ
-
Lover..2
~1~
ณ บ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..
“น้องน่ารักจังนะครับ” ผมมองเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของพี่สะใภ้ผม เด็กทารกที่เพิ่งเกิดได้เดือนกว่า พี่พิมพ์..เป็นพี่สะใภ้ที่แสนน่ารัก อ่อนโยนและเข้าใจหัวอกผมเป็นอย่างดีคนหนึ่ง
“ตั้งชื่อให้ลูกพี่สิ” พี่พิมพ์ยิ้ม
“ช่วยพี่ตั้งหน่อยจะได้ไหม”
“ตั้ง..ตั้งชื่อ!” ผมตกใจตาโตมองหน้าพี่พิมพ์ ตั้งชื่องั้นเหรอ คนอย่างผมน่ะนะ..ดีใจจัง ความรู้สึกนี้มันดีจังเลยนะครับ
“ให้ฟ้าเป็นคนตั้งได้เหรอครับ” ผมย้ำถามอีกครั้งเพื่อขอความแน่ใจ กระทั่งหัวใจของผมแทบพองโต
“ได้สิจ๊ะ ฟ้าก็เป็นน้องชายของพี่ตันนี่..ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ล่ะ อืม..ชื่ออะไรดีนะ พี่คิดมาหลายคืนแล้ว แต่ก็ยังนึกชื่อเล่นน่ารักๆไม่ออกสักที” พี่พิมพ์ก้มลงมองหน้าลูกของตัวเองด้วยความรักอีกครั้ง เธอยิ้มและเขย่าตัวเด็กเบาๆ
“แล้ว แล้วพี่ตัน..จะไม่ว่าฟ้าเหรอ” ผมก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ไม่หรอกจ้ะ อย่าคิดมากสิ..พี่อนุญาตเองนะ” พี่พิมพ์เอื้อมมือมาลูบหัวผมอย่างเบามือ ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มตอบให้เธอก่อนที่จะก้มลงมองหนังสือ Mythology ที่ถืออยู่ในมือและก็ต้องอมยิ้มออกมา
“งั้นชื่อคิวปิดเป็นไงครับ” ผมเสนอ
“คิวปิด” พี่พิมพ์ย้ำด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฮะ..คิวปิดได้ไหมฮะ” ผมยิ้มและชูหนังสือขึ้น
“คิวปิด..เทพเจ้าแห่งความรัก หลานของฟ้าน่ะน่ารักจะตาย..ชื่อคิวปิด ได้ไหมครับ” ผมถามอย่างมีความหวัง ผมอยากให้ชื่อนี้จริงจริง นั่นเพราะอะไรไม่รู้ แต่อยู่ๆมันก็ผุดขึ้นมาในหัวและตรงใจเข้าให้อย่างจัง
“ได้สิจ๊ะ งั้นชื่อคิวปิด..คิวปิดแล้วกันเนอะ” พี่พิมพ์พยักหน้าย้ำบอกผมก่อนที่จะก้มลงมองคิวปิดตัวน้อยที่กำลังหลับใหลอยู่ในอ้อมอก
= = = = = = = =
ก๊อก ๆ ๆ
“ครับ” ผมขานตอบ พร้อมกับละสายตาจากตัวหนังสือและวางหนังสือวรรณกรรมลงบนเตียง
“ขออนุญาตค่ะคุณหนู” ป้านิดเดินเข้ามา เธออ่อนน้อมอย่างเช่นทุกที
“คุณท่านให้มาตามคุณหนูให้ไปพบที่ห้องทำงานค่ะ” ป้านิดพูด
“ครับ ขอบคุณ..จะไปเดี๋ยวนี้” ผมตอบเพียงเท่านั้น ทราบโดยทันทีว่าพ่อคงจะมีเรื่องใหญ่ที่ต้องพูดกับผมอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่เรียกให้คนมาตามแบบนี้ เพราะปกติเราไม่ค่อยมีบทสนทนาอย่างพ่อกับลูกเหมือนครอบครัวอื่นเสียเท่าไหร่นัก
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจเบาๆ และกำลังเตรียมใจที่จะต้องพบกับอะไรที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ผมเดินตรงไปที่ห้องทำงานของพ่ออย่างไม่วอกแวก ด้วยถ้าไปช้าผมอาจจะโดนดุเป็นแน่ ห้องทำงานของพ่อเป็นห้องเดียวในบ้านหลังนี้ที่พ่อใช้เวลาขลุกอยู่ในนั้นได้ทั้งวันทั้งคืน
ผมยืนเคาะประตูห้อง ยืนรอฟังคำอนุญาตจากพ่ออย่างกับคนใช้คนอื่นๆในบ้าน ก่อนที่จะเปิดประตูห้องเข้าไป
“พ่อเรียกผมมีอะไรเหรอครับ” ผมหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง พ่อละสายตาจากแฟ้มงานเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะก้มลงอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ
“นั่งสิ” พ่อบอก ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของพ่อ มันเป็นโต๊ะทำงานที่ตัวใหญ่เอามากๆ แถมเก้าอี้ก็ยังใหญ่พอที่เด็กตัวขนาดผมนั้นนั่งได้ถึงสองคนภายในตัวเดียว โต๊ะไม้สักที่สั่งทำขึ้นและถูกออกแบบมาอย่างดี พร้อมเหมาะที่จะวางเอกสารมากมายได้ทั้งหมด ผมนั่งเงียบโดยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามอีกครั้งว่าพ่อมีอะไรรึเปล่าเพราะกลัวว่าจะถูกดุเอาได้ ผมนั่งเงียบอย่างไม่มีปากไม่มีเสียงจนผมได้ยินเสียงพ่อถอนหายใจเบาๆและวางปากกาลง
“อีกไม่กี่ปีก็จะจบป.หกแล้วสินะ” พ่อตั้งข้อศอกขึ้นบนโต๊ะ กุมมือทั้งสองมือของพ่อเข้าหากัน
“ฮะ” ผมรีบพยักหน้าและยิ้มตอบ พ่อจำได้ด้วยล่ะ..ตอนนี้สมองผมคิดได้เพียงเท่านั้น
“จบประถมเมื่อไหร่ ฉันจะส่งแกไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย” พ่อพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเด็ดขาด ผมรู้สึกหน้าชาขึ้นมาในทันทีทันใด คล้ายกับอาการช็อกที่เกิดขึ้นชั่วขณะ
“ปีที่แล้วไปเที่ยวกับไอ้เจ้าตันมาแล้ว คงคุ้นเคยบ้างแล้วสินะ..นั่นแหละ ฉันจะให้แกไปเรียนต่อมัธยมที่นั่น” พ่อพูดพร่ำไม่หยุด พูดอย่างกับว่าทุกอย่างเป็นการตัดสินใจจากผม พ่อจะสังเกตสีหน้าของผมในตอนนี้บ้างหรือเปล่า ว่าผมนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร ผมอยากร้องไห้ไหม หัวใจของผมนั้นเจ็บปวดหรือเปล่า
“ฟ้า..ฟ้าไม่อยากไปครับ” ผมพูดตะกุกตะกัก น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ ผมตัดสินใจพูดออกไปเพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้
“......................” พ่อชะงัก เมื่อผมเห็นว่าตาของพ่อเบิกโพรง ผมรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจจากสายตาคู่นั้น พ่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเหลือบสายตาไปอีกทาง ตัวของผมสั่นไปหมด ผมกลัว..ผมกลัว
“ฉันให้มินตราจัดการเรื่องทุกอย่างแล้ว ทั้งที่เรียน ที่พัก..เงิน ไม่ต้องห่วง..เพราะแกจะมีเงินพอใช้จ่ายได้อย่างคล่องมือ” พ่อพูดอย่างกับไม่สนใจว่าก่อนหน้าผมได้พูดบอกอะไรพ่อไป ผมเข้าใจได้อย่างดีว่าผมจะต้องไปเรียนคนเดียว พี่พราวพี่สาวที่ผมรักและอายุใกล้เคียงผมมากที่สุด ตอนนี้เธอเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ส่วนพี่เป้ย..พี่สาวคนกลาง พี่ตันและพี่ตี๋ พวกพี่เขาอายุห่างจากผมค่อนข้างมาก เนื่องจากผมเป็นลูกคนสุดท้องที่อายุน้อยมาก เหมือนกับเป็นลูกหลงที่พ่อแม่ไม่คาดคิดว่าผมจะเกิดมาอย่างนั้น จึงทำให้พี่ๆไม่มีเวลาว่างมาเป็นเพื่อนเล่นด้วยหรือมาแนะนำให้คำปรึกษาได้
“ถ้าปีไหนแกอยากกลับไทย ถ้าทำคะแนนได้ดีเป็นที่พอใจฉัน..ฉันจะให้กลับมาเที่ยวได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแก..ถ้าแกอยากรีบกลับไทยให้เร็วกว่านั้น ก็สอบเลื่อนคลาสให้ได้ซะ อย่าให้เสียชื่อเสียงวงตระกูลล่ะ..เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม” พ่อพูด น้ำเสียงของพ่อไร้การคาดหวัง แต่คล้ายกับเป็นคำสั่งเด็ดขาดต่อผม
“.....................” ผมไม่ตอบใดๆกลับไป เพราะตอนนี้ตัวผมสั่นเทาเกินกว่าจะเอ่ยพูดอะไรได้ พ่อเงียบลง เราต่างฝ่ายต่างเงียบ จนพ่อเริ่มขยับตัวก่อน
“อึก..” ผมก้มหน้าลง น้ำตาหยดลงที่มือที่กำแน่นอยู่บนตัก เบื้องลึกคือความเสียใจแต่ในเวลาเดียวกันนี้ก็กลัวว่าจะถูกดุและต่อว่าด้วยเช่นกัน
“ถ้าเข้าใจก็ออกไปได้แล้ว” พ่อพูดเท่านั้น ผมพยักหน้าตอบและลุกออกจากเก้าอี้มาอย่างเงียบๆ ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองหน้าของพ่ออีกครั้ง ผมไม่กล้าสู้กับความเป็นจริง พ่ออาจจะกำลังมองผมด้วยสายตาที่เป็นห่วงผมอยู่ก็ได้ หรือที่จริงแล้ว พ่ออาจจะก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออย่างไม่ได้ใยดีเลยก็เป็นได้..
“ร้องไห้ทำไมน่ะ” ผมชะงัก เงยหน้าขึ้นมองพี่ตัน พี่ชายของผม เขาเป็นสามีของพี่พิมพ์
“ฟ้า..ฟ้าไม่อยากไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียฮะ” ผมรีบบอกพี่อย่างมีความหวังว่าพี่ชายจะช่วยเหลือผมได้ พี่ตันจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้ผมจะต้องมองสายตาของพี่ตันผ่านแว่นที่พี่เขาสวมอยู่ แต่ผมก็ยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเย็นชาที่สายตาคู่นี้มีให้
“คุณพ่อให้อะไร แสดงว่านั่นคือสิ่งที่ดีแล้ว..อย่าเที่ยวตัดสินใจเพราะความไม่อยากของตัวเอง” พี่ตันพูดก่อนที่จะเดินเข้าห้องทำงานของพ่อไป
“ฮึก..อื้อออ”
“ว๊าย ตายแล้วคุณหนูของป้า..ร้องไห้ทำไมคะ” เสียงป้านิดโวยวายไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมา ตอนนี้ผมเพียงแค่รู้สึกว่า..ทำไมคนที่เป็นห่วงเรา และตกใจกับสีหน้าและความเสียใจของเราในตอนนี้นั้น ถึงเป็นเพียงแค่คนรับใช้กันล่ะ
= = = = = = = =
~ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแก~
~ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวแก~
ประโยคบ้าๆนี่ผมจำได้ดีขึ้นใจตลอดการใช้ชีวิตที่ประเทศออสเตรเลีย ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงจำมันได้ขึ้นใจขนาดนี้นัก เคยมีคนบอกผมว่าควรมองและจำสิ่งที่ขาวมากกว่าสิ่งที่ดำ แต่ผมไม่สามารถทำได้อย่างนั้น น้ำเสียงของพ่อกับคำพูดนี้มักจะผุดขึ้นมาในความคิดของผมเสมอ ไม่ว่าจะตอนที่ผมกำลังอาบน้ำ กินข้าว ทำกิจกรรม หรือแม้แต่ตอนที่ผมกำลังมีความสุขอยู่กับเพื่อนๆ ทุกครั้งที่ผมกำลังยิ้ม เมื่อมีประโยคนี้ผุดขึ้นมามันกลับทำให้ผมนั้นหุบยิ้มแทบไม่ทัน..
ตอนนี้ผมอายุเพียงสิบสี่ปีและนี่เป็นการกลับมาประเทศไทยครั้งแรกของผม ตลอดสองปีที่ผ่านมา ผมเรียนและทำคะแนนได้ดีมากมาตลอด รางวัลนักเรียนดีเด่นที่ผมได้รับกลับไร้ค่าลงในทันทีเมื่อพ่อไม่เคยที่จะยินดียินร้ายกับมัน ผมไม่เคยที่จะเอ่ยปากขอพ่อกลับมาประเทศไทยเลยสักครั้ง แน่นอน..พ่อไม่เคยพูดว่า “กลับมาพักผ่อนที่บ้านก่อนสิลูก” คำว่าทรมานมากสำหรับผมในตอนนี้คงยังไม่เพียงพอ ผมอยากเอาชนะพ่อ และเอาชนะพี่ชายของผม ผมอยากให้เขาหันมาสนใจความรู้สึกของผมบ้าง แต่ป่วยการเปล่า การที่ผมไม่เอ่ยขอกลับมาเที่ยวที่ประเทศไทย ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเลยนอกจากแม่หรือพี่พิมพ์ และพี่สาวของผมอีกสองคน แต่ทุกคนก็ไม่ได้เรียกร้องหรืออ้อนวอนอะไรมากนัก เพราะทุกคนก็มีสิ่งสำคัญที่ตัวเองนั้นต้องจัดการ ดังนั้น..ผมคงคิดผิดไปเอง ครั้งนี้จึงเป็นการกลับมาไทยครั้งแรกในรอบสองปี ผมอยากกลับมาดูหน้าหลานของผมว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ตอนที่ผมจากไปเขาเริ่มพูดได้บ้างแล้ว ผมอยากรู้ว่าเขาเติบโตไปเพียงไร คิวปิดตัวน้อยของผม..เท่านี้พอ
“ไหว้อาฟ้าสิลูก” พี่พิมพ์บอก ผมก้มลงมองเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มตรงหน้า ก่อนที่จะยิ้มให้กับท่าไหว้น่ารักๆนั่น ทั้งทั้งที่ผมเองยังเด็กแต่ผมกลับรู้สึกว่าเด็กตรงหน้าของผมนี้ตัวเล็กเอาเสียมากๆ ผมนั่งยองลงให้เสมอกัน สายตาบริสุทธิ์คู่นี้มองตามผมทุกการกระทำ
“อา...ฟ้า” เสียงเล็กๆลอดออกมาให้ได้ยิน
“ครับ” ผมยิ้มกว้าง ไม่รู้ทำไม ความรู้สึกว่าชีวิตยังมีความหวังนี้ถึงได้ผุดขึ้นมาอย่างกะทันหันจนหัวใจของผมนั้นอิ่มเอิบไปหมด
“อาฟ้าที่ตั้งชื่อให้หนูไงจ๊ะ” พี่พิมพ์ก้มลงกระซิบบอกลูกของตน ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม คิวปิดตัวน้อยเอียงคอมองหน้าผมอย่างสงสัย
“คิวปิด ทำไมล่ะ” อีกฝ่ายถามด้วยสีหน้าอยากรู้ น้ำเสียงเบาแต่กลับชัดเจนในคำถาม
“เพราะคิวปิดเป็นเทพเจ้าแห่งความรักไงครับ”
“เหรอ! ถ้าชื่อนี้..จะมีคนรักเยอะๆเหรอ” อีกฝ่ายเบิกตาโพรงด้วยความตื่นเต้นจนผมอดหัวเราะไม่ได้
“หึ..ครับ” ผมยิ้ม
“แล้ว..คิวอายุเท่าไหร่แล้วเอ่ย บอกอาสิ”
“ไม่บอก” อีกฝ่ายตอบหน้ากวนพร้อมกับทำปากจู๋ใส่
“อ่าว..” ผมอ้าปากค้าง ในสมองผุดนึกขึ้นมาว่า “กวนตีนนิ” แต่ผมก็ต้องยับยั้งคำพูดนั้นเอาไว้เพียงในใจ หลานตัวน้อยของผมควรที่จะได้ยินแต่คำพูดเพราะๆน่ารักๆเท่านั้นดีกว่านะครับ
“งั้น..น้องคิวอยากรู้รึเปล่าว่า กามเทพคิวปิดน่ะเป็นใคร” ผมหาเรื่องชวนคุยบ้าง
“อื้อ” อีกฝ่ายพยักหน้าตอบในทันที
“งั้น เรียกว่าอาฟ้าก่อน” ผมชี้หน้าตัวเอง
“เรียกแล้วจะ ชอบเหรอ” อีกฝ่ายถามอย่างสงสัยอีกครั้ง
“ครับ..ชอบมากเลย จะมีความสุขที่สุดเลย” ผมยิ้มพร้อมกับลูบแก้มอีกฝ่ายอย่างเบามือเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายนั้นจะเจ็บ
“.....................” อีกฝ่ายเงียบไปชั่วอึดใจ ผมได้แต่เพียงนั่งลุ้น
“อาฟ้า” เสียงเรียกเล็กๆอันแสนบริสุทธิ์ที่ผมได้ยินแทบทำให้ผมน้ำตาไหลออกมา ถ้าผมกำลังหวังความรักจากเด็กคนนี้ล่ะก็ ผมคงจะเป็นอาที่แย่เอาเสียมาก ผมกำลังอยากวาดภาพของเขาจากตัวของผมเอง หวังให้เขาเป็นอย่างที่ผมต้องการ มันก็คงจะไม่ต่างอะไรจากที่พ่อและพี่ชายทำกับผมละมังครับ
“เป็นอะไรเหรอ ไม่ชอบเหรอ..”
“ป่ะ..เปล่าครับ ชอบสิ” ผมชะงักและยิ้มกว้างให้อีกฝ่าย เมื่อกี้ผมคงทำสีหน้าแย่ๆออกไปจนที่ขนาดเด็กตัวน้อยๆยังรับรู้ได้สินะครับ ผมนี่มัน แย่เสียจริง..
“เราไปอ่านหนังสือกันดีกว่านะ อาจะอ่านให้ฟัง..เรื่องในยุคกรีกน่ะ สนุกมากเลยล่ะ” ผมอุ้มคิวขึ้น อีกฝ่ายโผเข้ามากอดคอผมในทันที พร้อมกับพยักหน้าเหมือนเห็นด้วย
ในวันนั้นคงเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่เดียวล่ะ..
= = = = = = = =
หลังจากนั้นผมกลับไปเรียนที่ประเทศออสเตรเลียอย่างเดิม ไม่มีการอำลาที่แสนเศร้าอย่างครอบครัวอื่น มีเพียงแม่และพี่สะใภ้ออกมายืนส่งที่หน้าบ้าน คนขับรถกุลีกุจอจัดการทุกอย่างตามหน้าที่และเดินทางอย่างผู้โดดเดี่ยวและชำนาญโลกนี้เพียงอายุน้อยคนเดียวอีกครั้ง
ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนที่จะเรียกว่าเป็นอัจฉริยะได้หรือเปล่า ในเวลาที่ผมเรียนหนังสือและได้คำชื่นชมมากมายจากคุณครู ผมไม่เคยปลาบปลื้มกับมันเสียเท่าไหร่ เพราะก้นบึ้งของหัวใจนั้นผมรู้ว่าตัวผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมรู้ว่าผมพยายามเรียนหนักอย่างมากเพื่ออะไรหรือเพื่อใคร ผมไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะออกเสียงบอกพ่อด้วยว่าผมไม่อยากเรียนสายนี้นะ ไม่มีทาง..ผมไม่มีสิทธิ์ สิทธิ์ของผมคือ..หน้าที่ในการเรียนอย่างตั้งใจก็เท่านั้น ผมเรียนและอ่านหนังสือเป็นบ้าเป็นหลัง อ่านครั้งแล้วครั้งเล่า..อ่าน อ่าน และอ่านมันอย่างกับมันเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งในชีวิต
ผมทำกิจกรรมทุกอย่างทั้งด้านวิชาการและนันทนาการ ผมรู้ดีว่าพ่อคงให้มินตราเลขาของพ่อนั้นจับตามองผมอยู่ทุกฝีก้าว กีฬาที่โปรดปรานของผมนอกจากเทนนิสคือว่ายน้ำ ผมชอบเวลาที่ต้องมุดลงไปในเบื้องลึกนั่น มันโดดเดี่ยวเช่นเดียวกันกับผม ผมไม่ได้รับการติดต่อจากพ่อเลย นั่นแสดงว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่พ่อไม่เห็นดีเห็นงามด้วย การที่ผมได้เป็นนักเทนนิสของโรงเรียนพ่อเองคงจะพอใจมาก ผมเข้าร่วมชมรมดนตรีคลาสสิกและได้เป็นนักเปียโนประจำวงออร์เครตราของโรงเรียน ภาพวาดจากฝีมือของผมสามสี่ภาพเคยขายได้ในงานเทศกาลของโรงเรียน คณิต..ต้องผม ฟิสิกส์..ต้องผม ศิลปะ..ต้องผม วรรณกรรม..ต้องมีรายชื่อของผมอยู่ในหนึ่งในสามของระดับชั้น ไม่มีใครในโรงเรียนที่แทบไม่รู้จักผม ชื่อของผมมักได้ขึ้นบอร์ดของโรงเรียนบ่อยครั้งว่าได้รับรางวัลนู่นนี่ เป็นที่น่าภูมิใจของโรงเรียน ผมเองก็ภูมิใจเพราะนั่นเกิดจากความพยายามอย่างมากของผม ส่วนพ่อก็คงภูมิใจเช่นเดียวกันเพราะทุกอย่างที่ผมทำและพ่อเห็นชอบ นั่นหมายถึงชื่อเสียงที่ดีที่ได้ทำให้กับวงตระกูล
ตลอดเวลาที่ผมได้อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ผมมีความคิดชั่วร้ายที่รู้ตัวเองอยู่เสมอ ผมใช้ชีวิตอย่างนักเรียนผู้ดีเด่นอย่างปกติแต่ในหัวผมกำลังคิดเรื่องที่ชั่วร้ายที่ลูกที่ดีไม่ควรคิด ผมอยากหลุดพ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ แต่นั่นไม่ใช่ทางออกสำหรับคนที่ชาญฉลาด ผมเดินที่ละก้าวอย่างมั่นคง เก็บกักความรู้ที่ได้เล่าเรียนให้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อส่งให้ผมในแต่ละเดือน ถ้าเพื่อนๆในโรงเรียนรู้ล่ะก็คงจะต้องคลั่งตายแน่ๆ แต่มันน่าขำเพราะผมแทบไม่ได้ใช้มันเลย ผมใช้เพียงแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเงินที่พ่อผมส่งมาให้ ผมมีอาหารประจำที่โรงเรียนนั่นหมายความว่าอย่างไรผมก็ไม่มีวันอดตาย ในแต่ละเดือนผมปล่อยให้เงินไหลเข้าบัญชีอยู่อย่างนั้นเป็นประจำ ผมไม่เที่ยวและกินใช้อย่างประหยัด ลงแข่งขันชิงรางวัลเกือบทุกสาขาวิชา มันจะดีมากถ้ารางวัลไหนทำให้ผมได้เงินก้อนโต ผมไม่คิดที่จะออกไปสมัครทำงานที่ร้านต่างๆอย่างเช่นกับเพื่อนของผม ถ้าพ่อรู้เรื่องนั้นเข้าล่ะก็พ่อคงจะส่งคนมาคอยคุมความประพฤติผมอย่างแน่นอน แม่เคยโทรศัพท์มาถามผมว่าทำไมผมถึงไม่ใช้เงิน ที่แม่รู้อย่างนั้นเพราะชื่อบัญชีที่พ่อโอนเงินเข้ามานั้นเป็นชื่อของแม่ ผมตอบแม่เพียงแค่ว่า “ผมอยากจะเป็นผมสักวันหนึ่ง” แม่เงียบและไม่ต่อว่าต่อการใดๆอีก หลังจากวันนั้นแม่ก็ไม่เคยถามเรื่องนี้อีกเลย..
= = = = = = = =
ในที่สุดเพียงไม่กี่ปีผมก็เรียนจบและได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้ง ผมกลับรู้สึกไม่ได้อยากกลับมาที่นี่อีก ผมรู้สึกว่า..ไม่อยู่ที่นี่แล้วก็ได้ ไม่เป็นไร
เมื่อกลับมา ผมทราบในทันทีว่าพ่อต้องการอะไรต่อจากนี้ พ่อให้เลขาจัดการนำชื่อผมเข้าสมัครสอบมหาวิทยาลัยเอกชนMN มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ผมไม่คัดค้านใดๆ ผมรู้ว่าทำไมพ่อถึงให้ผมสอบเข้า ทั้งทั้งที่เพียงแค่พ่อจ่ายเงินไปทุกอย่างจะจบลงอย่างง่ายดาย ผมยินยอมเดินเกมตามที่พ่อวางไว้ ผมเข้าสอบและสุดท้ายผมสอบได้อันดับหนึ่ง ของนักเรียนทุนคณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ เป็นวิชาที่ผมไม่ได้อยากเรียนมันสักเท่าไหร่ มันเป็นคณะที่ผมอยากเรียนรู้เฉยๆแต่ไม่ได้อยากเรียนอย่างจริงจัง แน่นอนว่าผมสามารถทำให้ผมได้เกียรตินิยมได้อย่างง่ายดายแต่ก็ไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มกับมันหรอก แต่นั่นแหละ..ตอนนี้ ผมยังไม่มีสิทธิ์ ผมได้แต่เฝ้านับวันรอเมื่อไหร่ที่ผมจะอายุยี่สิบปีเท่านั้นเอง..
ตอนที่ผมเรียนอยู่ปริญญาตรีในประเทศไทย ผมใช้เงินประหยัดมากอย่างกับลูกคนจนก็ไม่ปาน เงินทุกบาทที่พอโอนเข้าบัญชีแทบไม่หดหาย เมื่อผมเห็นว่าเงินในบัญชีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆมันยิ่งทำให้ผมอมยิ้มอยู่คนเดียวบ่อยครั้ง จนบางครั้งคิวถึงกับหาว่า “เป็นบ้าเหรอ” คงจะเป็นอย่างที่หลานผมว่า ผมอาจจะเป็นบ้าไปแล้วจริงๆก็ได้ ผมจะฝากท้องไว้กับอาหารที่บ้านทุกมื้อและนำขนมจากที่บ้านไปกินที่มหาวิทยาลัยด้วย ถึงแม้จะถูกพี่ๆต่อว่าว่าผมไม่ควรทำตัวเหมือนคนอดยากแบบนี้เพราะมันจะส่งผลทางด้านลบแก่วงตระกูล..แต่ผมก็ยังทำ เมื่อเรียนอยู่ที่ไทยผมยังคงเหมือนเดิม ลงแข่งทุกการประกวด ยิ่งได้มากเท่าไหร่ยิ่งดีมากเท่านั้น ผมรักพ่อนะ..รักท่านมาก แต่พ่อทำกับผมแบบนี้มันก็ไม่ถูก บางครั้งผมกลับรู้สึกขอบคุณที่พ่อให้ผมตั้งใจเรียนเป็นบ้าเป็นหลัง แต่พ่อคงจะไม่ทันคิดว่าในกรณีของผมนั้นเรียนจนมีความรู้มากเกินไปนั้นคงไม่ดี
เมื่อผมอายุได้ยี่สิบปี ผมเริ่มก้าวทีละก้าวไปตามสิ่งที่ผมวางแผนไว้ ผมเปิดบัญชีเป็นชื่อผมไว้สองบัญชีและทยอยนำเงินออกมาจากบัญชีที่เป็นชื่อของแม่นำไปใส่บัญชีของตนเอง ผมถอนเงินออกมาที่ละก้อนอย่างช้าๆและสุขุมที่สุด ผมคิดว่าแม่น่าจะรู้แต่แม่ปิดปากเงียบไว้และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ช่วงนั้นคงเป็นช่วงที่ตื่นเต้นเอามากๆ ผมขำทุกครั้งที่ผมถอดเงินพวกนั้นออกมา ผมคล้ายกับคนบ้าทุกครั้งเวลาที่อยู่หน้าตู้เอทีเอ็ม
หลังจากที่ผมเรียนจบปริญญาตรี พ่อให้ผมเข้าทำงานที่บริษัท King Jewel ของพ่อ ตอนนั้นผมดีใจมากแต่ผมทำสีหน้าเหมือนไม่อยากทำเลยอย่างเช่นทุกครั้ง ผมควรทำงานก่อนเพราะผมคิดว่าเงินที่ผมมีเก็บไว้อยู่นั้นยังไม่เพียงพอ ผมแอบสมัครสอบชิงทุนด้านสาขาแฟชั่นดีไซน์และเรียนต่อปริญญาโททางด้านสาขานี้อย่างเงียบๆ ผมไม่บอกใครเลยแม้แต่คนเดียว แม้กระทั่งเพื่อนสนิทหรือแม่ของผมก็ตาม ถ้าพ่อหรือพี่ชายผมสองคนรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็ผมจะต้องตายแน่ๆ ผมควรก้าวเดินอย่างมีสติเพราะเหมือนผมกำลังใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวบนโลก คอยพึ่งพาหัวใจของตัวเองอย่างเดียว ตลอดหกปีที่ผมทำงานอยู่ในบริษัทของพ่อนั้นเกิดเรื่องขึ้นมากมาย มากเสียจนบางครั้งผมที่พยายามแข็งแกร่งก็แทบรับไม่ไหว ทั้งเรื่องเรียน เรื่องการต่อสู้ในที่ทำงาน เรื่องความรัก เรื่องครอบครัว มันถาโถมเข้ามาตลอดระยะเวลาหกปี แต่ผมก็ไม่คิดที่จะหนีทั้งทั้งที่จริงผมสามารถหนีได้แล้ว เงินเก็บของผมที่มีในตอนนั้นเกือบเจ็ดล้านบาท ครึ่งหนึ่งเป็นเงินของพ่อแต่อีกครึ่งนั้นเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของผม ถ้าสำหรับคนอายุยี่สิบหกคนอื่นๆคงจะหาว่ามันมากโขอยู่ แต่สำหรับผมนั้นยังไม่เพียงพอ เงินจำนวนเท่านี้ยังเป็นฐานไม่พอในเวลาที่ผมจะต้องเสียหลัก ตอนนั้นผมเพียงแต่เฝ้านับวันรอที่จะจากไปจากที่ตรงนั้น ความเจ็บปวดจากคนที่ผมรักทุกคนรอบตัวได้กระทำต่อผมตลอดหกปีมันมากพออยู่ที่จะผลักดันให้ผมหนีออกไป แต่ผมยังไม่ไปไหน เพราะผมได้รับปากคนๆหนึ่งไว้แล้วว่าผมจะรอเขา จะรออยู่ที่บ้านนั้นอย่างไม่จากไปไหน เมื่อเข้ากลับมา เราจะเดินจากตรงนี้ไปพร้อมๆกัน..
“นี่คิว!” ผมตะคอกใส่หลานรัก ที่ยังคงนั่งอ่านหนังสืออย่างสบายอกสบายใจอยู่ในห้องประจำของตนเอง
“อะไร” อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงไม่กระหยี่ว่าผมจะโมโห เพียงแค่ตอบและไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมยังไม่ไปอาบน้ำแต่งตัวอีก วันนี้เป็นวันเปิดพินัยกรรมนะ” ผมโวยวาย เพราะคิวหนีการฟังพินัยกรรมอย่างนี้มาหลายครั้งหลายหนแล้วจนบ้านใหญ่โวยวายจนผมหูชาไปหมด ปีที่แล้วเกิดเรื่องขึ้นมากมาย บ้านของเราค่อนข้างวุ่นวาย ทั้งเรื่องบริษัทเพชรของพ่อ เรื่องการประกวดเพชร เรื่องการบริหารงานในส่วนที่คิวต้องรับผิดชอบ เรื่องที่ผมต้องเสียพ่อไปอย่างกะทันหัน เรื่องถูกปองร้าย เรื่องการแต่งงานและสายสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มันมากมายซะจนในแต่ละคืนพวกผมแทบไม่เป็นตาหลับตานอน
“คุณก็ไปฟังสิ” ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ที่หลานตัวดีของผมเริ่มหัดเรียกผมว่า “คุณ” “ผม” “อาบ้า” “อาประสาท” หรือบลา บลา บลา..
“คิว..อาจะพูดอีกครั้งเดียว ลุก ไป..อาบน้ำ เดี๋ยว นี้” ผมย้ำเสียง ผมรู้ดีว่าคิวไม่อยากไปเพราะสาเหตุหลายหลายอย่าง คิวเป็นเด็กที่สุขุมมากก่อนที่จะโผงผางเรื่องอะไรออกไป กล้าได้กล้าเสีย หยิ่งทะนงจนบางครั้งดูน่ากลัว แต่เขากล้าที่จะเผชิญหน้าแม้จะรู้ว่าถ้าเขาล้มนั้นเขาอาจจะลำบากก็ได้ ซึ่งช่างเป็นนิสัยที่แตกต่างจากสมัยเมื่อผมเป็นวัยรุ่นเอาเสียเหลือเกิน
“ฮื้ม..” อีกฝ่ายนั่งเงียบ ก่อนจะถอนหายใจอย่างรำคาญและวางหนังสือลงบนโต๊ะ
“น่าเบื่อจริง” คิวเงยหน้า คิ้วขมวดมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ
“คิว..นั่นมันก็เป็นส่วนที่คิวต้องได้นะ ไปฟังให้มันจบๆไปซะ คุณปู่บอกว่าต้องการให้ทุกคนไปฟังพินัยกรรมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ถ้าคิวไม่ไป..พินัยกรรมก็เปิดอ่านไม่ได้”
“เปิดอ่านไม่ได้ แล้วผมแคร์เมื่อไหร่กัน” อีกฝ่ายยักคิ้วกวน ที่คิวพูดอย่างนั้นได้เพราะคิวไม่ได้สนจำนวนเงินที่ตนจะได้รับทั้งทั้งที่รู้ว่าจำนวนนั้นมหาศาล แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆในบ้านจะไม่ได้ไม่อยากได้นี่ครับ นั่นแหละที่คิวรู้สึกสนุกที่ได้ปั่นหัวคนบ้านใหญ่เล่น
“ที่ตัวเองเล่นหักหน้าผู้ใหญ่บุ่มบ่ามแบบนั้นน่ะ ลืมไปแล้วรึไง” ผมเตือนถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่นาน เรื่องที่ทำให้เป็นข่าวเสียหายในสายสัมพันธ์ทางธุรกิจ ที่เจ้าตัวดันไปประกาศยกเลิกงานแต่งอย่างกะทันหัน ถึงแม้ว่าคิวกับฝันจะตกลงยกเลิกกันเองอย่างไรนั้นผมไม่ทราบ แต่การยกเลิกแบบนั้นทำให้หลายเส้นสายในวงการธุรกิจนั้นสั่นคลอนมากทีเดียว
“วันนี้ฟ้าครามก็กลับมาแล้วด้วย น้องกลับมาน้องจะได้ทำเรื่องให้มันจบๆไปสักที ให้น้องบินกลับไปกลับมาหลายครั้งน่ะ..น้องมีเรียนนะ อย่าขวางโลกสิคิว..อาขอได้ไหม” ผมเดินไปนั่งลงตรงหน้าอีกฝ่าย คิวหันหน้าหนีไปอีกทาง
“นะคิว อาขอ..” ผมเอ่ย
“อาขอได้ไหม ขอได้ไหม..คุณพูดอยู่นั่นแหละ อัดเสียงไว้ เป็นหุ่นยนต์รึไง” มันบ่นเสียงดัง คิ้วขมวดผูกกันเป็นโบ
“ไอ้คิว!!” ผมขึ้นเสียงใส่ สำหรับผมแล้วคิวยังเป็นเด็กเสมอ แต่เพียงแค่ตอนนี้เลี้ยงยากมากไปหน่อยเท่านั้น ผมว่าหลานผมคนนี้คงลืมความรู้สึกว่ากลัวเสียงของผมเวลาที่โดนผมดุไปซะแล้วละครับ..หึ
“ชิ..รออยู่นี่แหละ น่ารำคาญชะมัด” คิวบ่นและลุกขึ้นก่อนจะเดินหนีออกไปอย่างหัวเสีย
“ใส่สูทนะคิว..คุณย่าอยู่ด้วย เดี๋ยวจะโดนดุ” ผมเตือนอีกฝ่ายที่เดินหนีไปไกลแล้ว
“หึ..ไอ้หลานบ้า” ผมอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ เพราะนั่นแหละคือนิสัยที่แท้จริงของคิวล่ะนะ ไม่ว่าคิวจะหงุดหงิดกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมไม่เคยจะโกรธเขาได้ลงเลย..
...................>>>><<<<....................
ถ้าคนอ่านท่านใดยังไม่กระจ่างในเรื่องใดก็ตาม สามารถกลับไปอ่านได้ที่ "หมายเหตุ" ท้ายตอนจบของคิวและเค้ก หรืออ่านได้ที่การชี้แจงหน้า 211 ค่ะ
เบบี้..^^
-
สงสัยว่าฟ้ารอใครที่จะก้าวไปก้วยกัน ใช่คิวหรือเปล่าอะ
แต่ฟ้าสุดยอดเก่งทุกอย่าง คิวได้ความเก่งมาจากฟ้าแน่เลย
-
จิ้มเบบี้ก่อน ไปอ่านก่อนเน้อ
====================
น่าลุ้นตรงที่ทำไมฟ้าถึงโกรธแฟน(รึเปล่า)นักหนา
โห อ่านแล้วเครียดแทนฟ้าอ่ะ โดนทั้งพ่อ พี่กดดัน น่าสงสารอ่ะ
-
:L2: อาฟ้ามาแว้ววววววววว
-
เรื่องอาฟ้า จะออกมาแนวไหนนะ
น่าลุ้นจัง เพราะเปิดหัวออกแนวหม่นๆ
น่าลุ้นตอนต่อๆ ไป
แต่เหมือนสถาณการณ์มันต่อจากคู่หลักเลย
อย่างนี้ยิ่งสนุก เหมือนได้อ่านต่อ ไม่กลับไปกลับมา
:L2: :L2:
:กอด1:
-
อาฟ้าเครียดแต่เด็กเชียว
คิวก็ยังกวนเหมือนเดิม หึหึ
-
อาฟ้าเก่งอ่ะ
เป็นคนฉลาด ร้ายแบบมีสมอง ไอดอลเลยยยยย
อยากให้มีเค้กกะคิวหวานๆแซมๆบ้าง อิอิ
-
อาฟ้าน่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าใครโดนกดดันแบบนี้จากคนในครอบครัว ก็คงมีความอึดอัดใจที่จะอยู่ด้วยกันแหละ
แต่สายใยของสายเลือดเดียวกันก็คงตัดกันไม่ขาดอยู่แล้ว
ปล. แอบลุ้นว่าทำไมอาฟ้าถึงได้ออกมาจากครอบครัวมา แล้วที่มีทะเลาะกันในตอนขอคิว-เค้ก ถึงจะเป็นเรื่องของพินัยกรรม แต่มันต้องมีไรมากกว่านี้แน่เลย
-
โย่ว อาฟ้า น้ำนิ่งไหลลึกจริงๆ
เหมาะกับครอบครัวนี้ซะนี่กระไร
รอวันที่อาฟ้าจะแยกบ้าน อิอิ
-
ตามจริงเราก้อ่านทุกบรรทัดที่เบบี้โพสต์มาอ่ะนะ
เข้าใจและรับทราบหมายเหตุที่ชี้แจงทุกครั้ง
ตอนจบของลิมิเต็ด เลิฟเว่อ เราว่ามันโอเคแล้วกับนิสัยของคิว
มันชัดเจน บอกตรงตัวว่าพี่คิวรักและเลือกเค้ก
คิวไม่ใช่คนหวาน หรือแสดงออกขนาดเท่าปุถุชนทั่วไป
แต่คิวเป็นคิว และแบบนี้แหละถึงเป็นลิมิเต็ด
และแน่นอนว่าเพราะมันเป็นนิยายที่เบบี้เขียน
คนติดตามก้เยอะมากกกกกกกกกกกกกกก
จึงเลี่ยงไม่ได้ที่บางครั้งการสื่อสารผ่านตัวอักษรและอิโมชั่น
จะทำให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งได้ทุกคน
เราคิดว่าหลายๆคนรู้ว่าพาร์ทคิวเค้กน่ะจบแล้ว
และตอนต่อไปจะเป็นของพี่ฟ้า แต่แค่เพียงยังรู้สึกว่ามันไม่พอ อยากอ่านอีก
อยากรู้อีก ว่าหลังจากนี้คิวกับเค้กจะใช้ชีวิตที่มีกันและกันอย่างไร
และอย่างน้อยเราคนนึงก้แอบหวังตอนพิเศษอยู่ลึกๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก้เป็นสิทธิ์ของเบบี้ค่ะ เราเข้าใจ
เราแค่มีความโลภที่มันมักเกิดขึ้นเวลาเสพติดอะไรบางอย่างเท่านั้น
แต่ถึงจะโลภ แน่นอนว่าสักวันมันก้ต้องมีจุดที่อิ่มตัว
และความอิ่มตัวนั้นเบบี้ก้เป็นคนเดียวที่จะตัดสินได้
ในฐานะนักอ่านที่คอยติดตาผลงานของบี้มาโดยตลอด
เราเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของเบบี้นะคะ
ยังไงก้เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เห็นด้วยๆๆๆๆๆๆๆ ตามอ่านพี่ฟ้าต่อ
-
อาฟ้ามาแล้ว
อยากอ่านตอนอาฟ้ามานานแล้ว
ดูมันกดดัน มากเลยสำหรับเด็กตัวเล็กๆ
แต่อาฟ้าก้อมีวิธีของอาฟ้า ฉลาดตั้งแต่เด็กเลยเเฮะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รออ่านต่อ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
โหยยยยยยยยยยย อาฟ้าเก่งมากอะ ทึ่งมากก
ชอบๆๆ พี่คิวนี่สุดยอดเลยนะคะนะ ไม่เปลี่ยนแปลง แบบนี้แหละมันส์ดี
ขอบคุณเบบี้ o13
-
ทำไมคิวตอนเด็กๆ มันดูน่ารักน่าหยิกปานนั้นฟระ พอโตมากวนซะ
-
มาแล้ว มุมของอาฟ้า :z2: :z2:
เราเคารพการตัดสินใจของเบบี้นะฮับ
ถึงคนอ่านจะยังไม่เข้าใจไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะในส่วนของคิว
แต่นั่นก็คือวิธีในการดำเนินเรื่องของเบบี้ และเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของนิยายเรื่องนี้
เพราะฉะนั้นเรายินดีและตื่นเต้นที่จะได้ไล่ตามเรื่องราวของตัวละครทุกตัวไปทีละตอนๆ ฮับ
และเราชื่อว่า ถึงจากนี้ไปจะเน้นที่เรื่องของอาฟ้า
แต่เราก็คงจะได้รู้จักตัวละครอื่นๆ รอบตัวอาฟ้า (โดยเฉพาะท่านคิวผู้ลึกลับ) มากขึ้นเรื่อยๆ
และการมองจากมุมของบุคคลที่สาม มันก็ดูน่าสนใจดีนะ
จริงๆ ส่วนของอาฟ้าก็น่าสนใจ
เหมือนที่ทิ้งปมต่างๆ ให้อยากรู้ไว้ในตอนของคิว-เค้กนั่นแหละ
คราวนี้ เราจะได้รู้เรื่องราวของอาฟ้ากับพ่อเสือทิกเกอร์อย่างจริงๆจังๆเสียที (ไหม?)
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่และเรื่องราวที่กำลังจะเปิดเผยให้นักอ่านได้ติดตามฮับ :กอด1:
เป็นกำลังใจให้เสมอ o13
ป.ล. ถือโอกาสบอกความรู้สึกเกี่ยวนิยายเรื่องนี้สักนิด....
ส่วนตัวแล้วเราว่านิยายเรื่องนี้น่าสนใจมากนะ
แรกๆที่อ่านก็รู้สึกแปลกใจ เพราะเราว่ามันแตกต่างจากเรื่องอื่นๆที่เบบี้เคยเขียนมา
มันราบเรียบ สงบนิ่ง แต่สมจริงและเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจต่อไป
แต่ละตอนต้องอ่านเกิน1รอบทุกทีเลย (เราคิดมากไปป่ะนะ ฮ่าาาาาา)
เราว่านอกจากเนื้อเรื่องที่น่าติดตามต่อไปแล้ว
พัฒนาการเขียน การเล่าเรื่องของเบบี้ในเรื่องนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะติดตามต่อไปด้วยล่ะ
ตั้งตาคอยทุกตอนๆ เลยฮับ สู้ๆ เด้อ :a2:
-
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คิวตอนเด็กๆน่ารักมาก ทำไมโตมาเป็นงี้อ่ะ :laugh:
ฟ้าเก่งมากเลย อัจฉริยะชัดๆ o13
จะว่าไปพ่อคิวดูเย็นชาจังอ่ะ คิคิ อยากอ่านตอนต่อไปซะละ ไปหมุนนาฬิกาเดินเร็วๆก่อน :impress2:
:pig4:คุณเบบี้มากค่ะ ชอบบบบบบบบบบบ
-
พาร์ทนี้จะเป็นเรื่องของ อาฟ้ากับทิกเกอร์หรือป่าวน๊าาาาาาาาาาาาาาา หรือจะอาฟ้ากับคนอื่นเอ๋ย ลุ้นจัง
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อ่านทีเดียวรวดสองตอน
ตอนจบกับตอนใหม่ 55555555555
พี่เบเบบบบบบบบบบบบบบบบบบ้ จะฆ่ากันรึไงนะ ><
พี่คิวโคตรน่ารักมากอ้าาาา 555555555
คือ ใครจะว่าคิวเค้ก เอื่อย น่าเบื่อยังไงไม่สนอะ เรื่องจริง
อ่านแล้วแบบ มันเป็นฟิคที่เรียบ ๆ เรื่อย ๆ แต่อ่านทีไร เขินทุกที
เขินทุกตอนเลยจริงๆนะคะ ><!!! (ยกเว้นตอนมาม่า)
แบบ มันเป็นอะไรที่แบบ หว่าววว มันดูชีวิตจริงนิดนึงนะ ไม่หวือหวามากเกินเป็นอะไรที่โอเค
มายชอบมากจริงๆ พี่คิวแม้จะจบก็ยังกวนทีน 5555555
ชอบที่เซนพยายามย้ำว่า คิวทำอะไร คิวตั้งใจเสมอ
และชอบที่แม้คิวกำลังจะบอกรักก็ยังจะลีลาาา "เหมือน.." "เหมือนฉันจะติดใจตักนายนะ"
หึหึ คนอะไรรรรรรร้ ขี้เก๊กซะไม่มี 555555555555
โมเม้นที่นึงที่อชบ (ที่จำได้ 555) ชอบสเมิฟฟฟฟฟฟฟฟ
สเมิฟสื่อรักได้รึป่าว? ฮ่าๆๆๆๆ ทั้งของขวัญวันเกิดเค้ก การให้ก็ไม่เหมือนคนอื่น
ของขวัญจับปีใหม่ พี่คิวก็ยังจะซื้อสเมิฟ ความจริงแล้ว เป็นแผนกับพี่ฟ้าใช่ป่ะล่าาาาา
อะไรเค้กจะฟลุ๊คจับได้ของคิวขนาดนั้น -..- 55555
ยังไงก็ตาม ชอบอะ ชอบจริงๆ นะคะ 555
แล้วก็ขอคิวเค้กโผล่ในตอนฟ้าเยอะ ๆน้าาาา คิดถึงคิวเค้กเสมอ ฮ่าๆๆๆๆๆ
-------------
มาอีกตอน สงสารพี่ฟ้ามากจริงอะคะ
คืออ่านแล้วแบบ หื้มมมม บางทีก็เหมือนชีวิตคนบางคนเลยนะ
โดนครอบครัวบังคับมาตลอดทาง :( *นึกถึงช่วงนี้กำลังจะเอนท์ปีหน้า* 5555
แต่พี่ฟ้าเก๊งงงเก่ง โคตรเมพมากมาย 5555555555
ชนะมันทุกอย่าง เก่งรอบด้าน แต่มากเกินมันก็...นะ
ชอบคิวตอนเด็กๆ จัง น่าร๊ากกก โตมาแบบ (- - )!!
ชอบตอนพินัยกรรมอะค่ะพี่เบบี้ 5555555
กวนตีนมากโคตรจริง ๆ อยากอ่านความสัมพันธ์อาหลานอีก ฮิฮิ
มันคงมีโผล่มาตลอดเรื่องใช่มั้ยคะ?
ว่าง ๆ ย้อนอีกน้าา อยากเห็นตอนเด็ก ๆ คิวติดอาฟ้าขนาดไหน 5555
ติดตามตอนต่อไปค่า :D ปล. อย่าให้รอนานน้าา 55555
ปล.2 หายปวดท้องไว ๆนะคะ ;3
-
ชีวิตวัยเด็กพี่ฟ้าดูอึทครึมจัง :กอด1:
-
:jul1:มาแบบสั้นๆ กระชับ ฉับไว แหะๆๆๆ
แต่ตอนนี้ก็ทำให้รู้เรื่องราวในอดีตของอาฟ้าส่วนหนึ่งละนะ
น่าสงสารอาอ่ะ แต่อาก็แอบ(เก็บกด)จนมามีทุกวันนี้ได้
แถมยังเป็นอีกคนที่มีอิทธิพลต่อพี่คิวมากๆอีกด้วย :กอด1: รักอาฟ้า อิอิ
-
มาติดตามเรื่่องอาฟ้าต่อค่ะ
ถึงจะใช้ชีวิตเต็มไปด้วยความกดดัน แต่ก็ยังเลือกมุ่งไปในเส้นทางที่ดีนะ
ว่าแต่อาหลาน นิสัยต่างกันสุดขั้วชะมัด...ครอบครัวนี้มันยังไง :z2:
-
พอเป็นมุมของฟ้าแล้วคิวดูเป็นเด็กๆไปเลยจริงๆด้วย 55
รอตอนต่อไปจ้า^ ^
-
ฟ้ายังเด็กมากเลยนะนั่น เจอความกดดันมากมายขนาดนั้น แล้วยังทนได้ถือว่าเก่งมากอ่ะ ยอมรับเลยว่าคนแบบฟ้าถ้าคิดจะทำอะไรแล้วต้องสำเร็จแน่นอน เพราะเป็นคนที่คิดและวางแผนอะไรได้อย่างรอบครอบมากอ่ะ อยากรู้จังคนที่ฟ้ารอคอยให้ก้าวไปด้วยกัน คือ คิว หรือว่าคนที่ฟ้าวางใจจะมอบความรักให้กันนะ อีกไม่นานคงได้รู้เรื่องที่ฟ้าโกรธทิกเกอร์ละมั้ง ว่าแต่การแต่่งงานของคิวกับฝัน มันเกิดขึ้นเพราะธุรกิจสินะ หรือว่ามันมีอะไรมากมายกว่านั้น
-
น้ำตาคลอเบ้า.. ชีวิตวัยเด็กทำไมน่าสงสารแบบนี้ ฮื่อออออออออ
ไม่น่าเชื่อว่าเก็บกดขนาดนั้น จะกลายเป็นผู้ใหญ่ใจดี(ของน้องเค้ก)ได้เนอะ
แล้วอาฟ้าก็รักหลานโคดๆเลย ไอความรักลอยอบอวน ..อบอุ่น
:กอด1:
-
มาแล้ววววว เป็นกำลังใจให้อาฟ้านะคะ
-
สำหรับผมแล้วคิวยังเป็นเด็กเสมอ แต่เพียงแค่ตอนนี้เลี้ยงยากมากไปหน่อยเท่านั้น
อ่านประโยคนี้วนไปวนมาตั้งสามรอบ ขำกลิ้งแบบกลั้นไม่อยู่ !!
อาฟ้าก็เงี้ยให้ท้ายพี่คิวตลอดๆ
สองคนนี้น่ะ เอาจริงๆ มันอัจฉริยะทั้งคู่นี่หว่า แต่เราว่าต้องมองแบบตั้งใจมองจริงๆนะ
ไม่งั้นมันจะเห็นแค่ ........ อาบ้ากะหลานนิสัยเสีย.........
เข้ากันดีพิลึก :laugh: :laugh:
-
o13 o13 o13 o13
-
รู้สึกถึงความน่ารักของอาหลานคู่นี้จริงๆเลย แต่ยังอ่านไม่ทันหมด ขอตัวไปอ่านก่อนนะ
เดี๋ยวมาเม้มใหม่ ^-^
-
ฟ้านี่สุดยอดของความอดทนและตั้งใจจริงๆ o19
-
พี่ฟ้า สุดยอดเลย o13 o13
-
อาฟ้าเก่งอ่ะ ขอรักอาฟ้านะจ๊ะ
-
เห้อออ รวยแล้วมีความสุขกันจริงๆกันไหมเนี่ย คนบ้านนี้ ทั้งที่ ความอบอุ่นควรจะหาได้จากครอบครัว แต่พี่ฟ้ากลับต้องดิ้นรนไปแสวงหาจากที่อื่น แต่ต้องขอบคุณพี่พิมพ์นะ ที่อย่างน้อยก็ยังทำให้พี่ฟ้ามีแสงสว่าง ทำให้พี่ฟ้าได้อบอุ่นบ้าง
แต่พี่ฟ้า เก่งนะ แทนที่จะประชดด้วยการทำตัวแย่ แต่กลับ เก็บเอาความรู้ทุกอย่าง วางแผนทุกอย่าง(คิดดู วางแผนตั้งแต่อายุเท่านี้ ทึ่ง) เพื่อที่จะให้หลุดพ้น จากตรงนี้
ส่วนพี่คิวอยากจะบอกว่ามัน นี่กวนแต่เด็ก จริงๆ กร๊ากกกก :laugh:
-
ฟ้าโดนกดดันมาตั้งแต่เด็กๆเลยนะ
แถมเป็นคนตั้งชื่อให้พี่คิวนี่เอง :กอด1:
คนที่ให้รอแล้วจะออกจากบ้านมาพร้อมกันนี่ก็ต้องเป็นพี่คิวแน่ๆ
-
สงสารพี่ฟ้าตอนเด็กๆ จังเลยอะ แต่ก้อดีจัยที่พี่ฟ้าผ่านมันมาได้ แล้วได้ทำตามแบบที่พี่ฟ้าตั้งใจ
-
เย้! เรื่องของอาฟ้ามาแล้ว
รอติดตามค่ะ
-
อาฟ้ามาแล้วว
ชีวิตอาฟ้านี่โครตจะกดดันเลยอ่ะ
ไม่ไหวกะครอบครัวนี้
-
อาฟ้าสุดยอดดดดดดดด o13
คิวปิดตอนเด็กนี่น่ารักน่าชังดี แต่แอบกวนตีนตั้งแต่เด็ก
และยังคงความกวนตีนเมื่อตอนโต :laugh:
-
:o12: พี่ฟ้าดูน่ารักมากค่ะ ขอบคุณพี่บี้ค่า
-
ความกดดัน กับหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบทำให้ฟ้า รู้จักจัดการกับปัญหาของชีวิตอย่างมีสติ
วางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อดทนเพื่อรอคอยวันนั้นจะมาถึง วันที่จะประกาศอิศรภาพ จัดการชีวิตของตัวเองได้
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ :กอด1:
ปล. แฟน ๆ นิยายของเบบี้ที่เคยอ่านเรื่องเก่า ๆ มาหลายเรื่อง คงรู้และพอเดาพร๊อตนิยายของเบบี้ได้
ส่วนแฟนใหม่ ๆ อดทนรอนิดหน่อยนะครับ เดี๋ยวอะไร ๆ มันก็กระจ่างเองแหละครับ :จุ๊บๆ:
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ :-[
-
อาฟ้าเป็นคนที่เข้มแข็งจัง
-
คุณฟ้ามาแล้ว รอทิกเกอร์สุดน่ารัก :mc4: :mc4:
-
น้องคิวปิดดดดดด 55555555
พี่ฟ้าตอนเด็กๆคงจะน่ารักน่าดูเชียว
แต่ก็น่าสงสารตั้งแต่เด็กเลยอ่ะ T^T
-
พี่คิวเป็นตัวของตัวเองจริงๆ o13
-
ชีวิตอาฟ้า ช่างน่าสงสารแท้น้อ :เฮ้อ:
P.S. คิวปิดมัน กวนตีน ตั้งแต่เด็กเลยวะ :laugh:
-
อาฟ้านี่โดนกดดันตั้งแต่เด็กเลยทั้งจากพ่อและพี่ชาย แต่ดีว่าอาฟ้าเป็นคนคิดดี และฉลาด จึงทำอะไรอย่างนักวางแผนที่ดี
ไม่ประมาท คิวได้รับต้นแบบมาจากอาฟ้าเต็มๆ เลย แต่นิสัยกวนๆ นี่ไม่แน่ใจแฮะ :m20:
-
เราเป็นอาฟ้าเราคงกดดันตาย
ทั้งพ่อที่เป็นคนกำหนดว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้
แล้วพี่น้องที่อายุห่างกันมาก มันเหมือนกับอยู่ตัวคนเดียวปะ
จะระบายปรึกษาอะไนกับใครก็ไม่สะดวก
ส่งเสียส่งเงินให้เรียน แต่ไม่ได้มาคอยดูแล :z3: :z3:
พี่คิวเด็กๆก็ดูเป็นเด็กน่ารักปกติดีนะคะ ไหงกลายเป็นงั้นไปได้ กร๊ากกกกกก
แล้วอาฟ้าไปสัญญาไรกะใครไว้ค้าาา
-
อาฟ้ามาแล้ววววววว o13
-
โหหหห อาฟ้า อดทนมากจริงๆ สุดยอดอ่ะ
"พึ่งพาหัวใจของตัวเองอย่างเดียว " ชอบประโยคนี้
-
มาแล้ว ๆ ดีใจจะได้รู้จักอาฟ้าจริง ๆ ซะที
น่าเห็นใจตั้งแต่เด็กเลยอ่ะ โดนบังคับเยอะแยะจริง
ทำไมคนรวย ๆ ชอบบังคับลูกหลานกันจัง
-
พี่ฟ้าเก่งจังงงงงง.....
เป้าหมายมีไว้พรุ่งชนนนนน o13 o13 o13
อาหลานคู่นี้เค้าน่ารักดี......
-
อ่านแล้วสงสารอาฟ้า
บางทีรวย แต่มันก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
-
อาฟ้าเจ้าเล่ห์มากกกกกกกกก
ติดตามๆๆๆคะ สนุกมากๆๆๆเลย
ส่วนเรื่องการแต่ง ก็ตามใจคุณเบบี้เลยคะ : ) )
เป็นกำลังให้คะ สู้ๆๆ
-
ได้อ่านในมุมของฟ้านี้ก้สนใจดีนะเนี่ย
-
ชีวิตวัยเด็กอาฟ้าน่าสงสารจัง...
-
อาฟ้าสามารถมากๆ อ่ะ
อดทน เด็ดเดี่ยว ฉลาด เจ๋งค่ะ
-
ฟ้าอดทนมากเลยนะเนี่ย เก่งจัง^^
-
อาฟ้าสุขุม + มีความอดทนเกินคาด o13
เราเจอแบบนี้เก็บกดตายเลย :a5:
-
ติดตามเรื่องราวของฟ้าต่อไป
-
ไม่ได้ตามอ่านมาหลายวัน ตอนจบน่ารักมากครับ
อยากมีคนมาบอกรักแบบนั้นบ้าง กลางสะพานลอย อิอิ
ตอนของพี่ฟ้าก็ทำให้ได้รู้อะไรหลายๆ อย่าง
เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ ^^
-
ชีวิตอาฟ้านี่สุด ๆ ไปเลย อึดมากมาย
ชอบความผูกพันธ์ของอาหลานจัง
:pig4: คะ
-
อาฟ้ามาแล้ววววว
อาฟ้าสุดยอดมาก เก่งมากๆ ใช้ชีวิต(เหมือนอยู่)คนเดียวตั้งแต่จบป.6 :o12:
ชอบอาฟ้าจังเลยยยย :o8:
ปล.รอทิกเกอร์ :laugh:
:pig4:
-
พี่ฟ้าในตอนเด็กนี่เข้มแข็งและอดทนมากนะ
เด็กตัวคนเดียวไปอยู่ไกลบ้าน คงเหงาน่าดู
พี่ฟ้ารักและผูกพันธ์กับหลานคิวตั้งแต่เด็กเลย
เราคงยังได้เจอพี่คิวกับน้องเค้กผ่านพี่ฟ้าล่ะมั้ง
ผ่านมุมมองที่อ่อนโยนของพี่ฟ้าที่แสนดี
รักผู้ชายคนนี้จังเลย :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
กดเป็ดจ้า
-
ชีวิตคนรวยนี้บางครั้งก็น่าสงสาร :monkeysad:
สงสารฟ้าจัง
-
อาฟ้า ช่างเข้มแข็งนัก นับถือเลยค่ะ
-
ชีวิตคนรวยนี่มันก็ไม่ได้สุขเสมอไปเลยเนอะ
มีขาด มีเกิน เหมือนกัน เฮ้ออออออออ
พี่ฟ้า o13
:L2:
-
พี่ฟ้ามาแล้ว
อยากรู้จังทิกเกอร์ทำอะไรพี่ฟ้าถึงโกรธเอาจริงเอาจัง
-
คิวปิดแกกวนติน
ตั้งแต่เด็กเลยนะ o18
-
พี่ฟ้าเก่งมากเลยอ่ะ :m4:
-
อาฟ้ามาแล้ว
-
พี่ฟ้า โคตรเก่งอ่าาาา
โดนกดดันตั้งแต่เด็ก น่าสงสาร
พี่คิวก้อยังกวนเหมือนเดิม 555
-
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย -///- สนุกมากมาย
ประทับใจนะคะ รู้สึกว่าเขียนสื่อความรู้สึกของตัวละครได้ชัดมากอ่ะค่ะ
ที่สำคัญคือไม่หลุดคาแรคเตอร์เลย ใจจริงก็ชอบที่จะให้จบแบบเคลียร์ๆ
แต่ถ้าทำงั้นจริงๆ ก็คงจะไม่ใช่พี่คิวล่ะนะ 55
แถมนี่ยังเป็นการดำเนินเรื่องในมุมมองของ "น้องเค้ก" อีกต่างหาก
อุเหม่.. น้องจะไปรู้ลึกอะไรในใจของ "พี่คิว" เค้าได้ล่ะเนอะ หุๆ
ถ้าดูจากพฤติกรรมที่อ่านมาตลอด สำหรับพี่คิว สุดชีวิตแล้วก็คงประมาณนี้ล่ะ
นี่ก็แสดงออกจนชัดยิ่งกว่าชัดแล้วนะนี่ แค่นี้น้องเค้กก็ดีใจจนไปไม่เป็นแล้ว
จบส่วนน้องเค้กต่อด้วยส่วนของพี่ฟ้า ตอนแรกยังแอบลุ้น ว่าคุณเบบี้จะต่อตรงไหน
แบบว่าไม่รู้ว่าจะเริ่มตั้งแต่ต้น หรือว่าจะต่อจากเหตุการณ์ปัจจุบัน
แต่ตอนนี้ทราบแล้วว่า คุณเบบี้มาเหนือเมฆกว่านั้น ข้าน้อยขอคารวะ
เล่นตอนเดียว เคลียร์จากอดีตมาต่อกับปัจจุบันได้ชัดมากเจ้าค่ะ
ว่าแล้วก็ปูเสื่อรออ่านตอนต่อไป อุ้ยตาย ว้ายกรี๊ด
ถึงจะเป็นมุมมองของพี่ฟ้า แต่ก็ยังแอบลุ้นน้องเค้กกับพี่คิวอยู่ หุๆ
เป็นกำลังใจให้คุณเบบี้ค่ะ ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆที่เอามาแบ่งปันมากๆค่ะ ^^
-
:กอด1: ได้อ่านต่อแล้ว
อาฟ้าฉลาดดีจัง อาฟ้ามีความคิดที่เลิศ ไม่คัดค้าน แต่มีแผนที่ล้ำมากจ้ะ
ชอบจังตอนที่คุณแม่ของคิวให้อาฟ้าตั้งชื่อคิวให้
น่ารักทั้งอาทั้งหลาน
และนี่ไง มันก็มีจุดเชื่อมโยงจริงๆด้วย
เรื่องเกี่ยวกับคิว เราก็ได้รู้จากอาฟ้าบ้างก็ดี
เส้นทางในตอนจบของคิว พี่ฟ้าก็บอกว่ามันลำบากเห็นมั๊ย
ผลที่ได้รับมันก็ออกมาชัดเจนอยู่จากที่ฟ้าพูดถึงเรื่องการยกเลิก
งานแต่งงานของคิวกับฝน
อ่านนิยาย มันก็เหมือนดูละคร ดูหนัง
เรื่องไหนก็ที่เรื่องราวน่าสนใจ มันก็ต้องคอยติดตาม
และคิดตาม ไม่ใช่สักแต่อ่านๆ อยากได้อยู่แค่ฉากที่ตัวเองต้องการ
แต่งเองดีกว่ามั๊ย
ขอบคุณค่ะบี้ ^ ^
-
อาฟ้าน่ารักจัง
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :กอด1:
-
อาฟ้า .. เก่งอ่ะ
รออ่านตอนต่อไปนะ เบบี้ที่ร้ากกกกกกกกกกกกก :pig4:
-
เป็นกำลังใจให้อาฟ้าด้วยคน :L2: :L2:
-
คุณอา้ฟ้า กับคุณหลานคิวปิด อายุห่างกัน5ปีใช่ไหมจ๊ะเบบี้
อาที่ยังดูเด็ก กับหลานที่หน้าแก่เลยอา คงจะดูเหมือนเพื่อน
กันซะมากกว่า เหมาะแล้วล่ะ ที่คิวจะใช้คำว่า.. คุณ :laugh:
-
ชอบมากค่ะ รออ่านตอนต่อไป o13
-
พี่ฟ้าโดนผู้ใหญ่กดดันแต่เด็กเลยอ่ะ :monkeysad:
เริ่มเรื่องก็น่าติดตามแล้ว อยากรู้ว่าจะไปเจอกับทิกเกอร์ได้ไง
รออ่านตอนต่อไปจ้า o13
-
อาฟ้าน่าสงสารเนอะๆ โดนกดดันตั้งแต่เด็กๆ เลย
สวนคิว ก็กวนตีนตั้งแต่เด็กเลยเนอะ ฮ่าๆ
น่ารักเนอะครอบครัวนี่ คงจะรักกัน อาหลาน
โดยเฉพาะพี่คิว ถึงขนาดที่พี่คิวรับกระสุนแทนอาฟ้า
ปากแข็ง เน้อ ฮ่าๆ ทุกๆ เรื่องเลย รักและห่วงอาก็บอกมาเหอะ
ในครอบครัวใหญ่ที่มีแต่ความวุ่นวาย แต่แยกออกมาคิวกับอาฟ้านี่
ดูอบอุ่นดีจังนะ ถึงคิวจะแอบกวนๆ บ้างก็เหอะๆ น่ารักดี แล้วทิกเกอร์ล่ะ
คงยังไม่ถึงใช่ไหม อยากรู้จังว่าเรื่องทิกเกอร์กับอาฟ้านี่เป็นยังไงกัน
อาฟ้าถึงแสดงท่าทางต่อทิกเกอร์แบบนั้น รอติดตามครับ :)
-
คู่นี้อาฟ้าจะออกมาในรูปแบบไหน ลุ้นๆ
:3123: :3123: :3123:
-
น่าสงสารคนรวย
+1
-
อ่านไปอ่านมา เหมือนอาฟ้าจะเก็บกดเลย :z3: :z3:
-
อาฟ้าเก่งจังเลย >___<
-
อาฟ้าเก่งอ้ะ o13
-
:กอด1:รอลุ้นตอนต่อไป
-
พี่คิว!!!!ยังเหมือนเดิมน่ารักค่ะ ติดตามต่อไปจ้า
-
ชีวิตตอนเด็กเป็นอะไรที่กดดันมากอ่ะ เก่งมากที่อาฟ้้าผ่านมันมาได้
-
...อาฟ้า ที่ดูสุขุม ใจดีกับใครๆ ในคิวปิดเบเกอร์รี่
...เบื้องหลังเบื้องลึกตอนเยาว์วัยนี่ เป็นเด็กที่เก็บกด และอดกลั้นดีมากๆๆ
...พอมาอ่านตอนของอาฟ้า แล้วทำให้เข้าใจเหตุการณ์ตอนพี่คิว เด็กๆเยอะเลย :laugh:
-
รับทราบค่ะ :o8:
ตอนนี้เป็นตอนต่อจากตอนจบ part คิวด้วยใช่มั้ย ขำคิวอะ กวนทีนตั้งแต่เด็ก :laugh:
-
ชีวิตที่ถูกกำหนดไว้ในกรอบที่มีคนคอยขีดเส้นทางให้ก้าวเดิน มันก็เหมือนหุ่นยนต์ที่โดนป้อนโปรแกรมให้ทำตามคำสั่งที่คนเหล่านั้นต้องการ
ความรัก ความห่วงใย สัมผัสและจับต้องไม่ได้กับครอบครัวนี้
อาฟ้าฉลาดที่ไม่หลีกหนีแต่กลับทำปมด้อยในจิตใจให้กลายเป็นพลังที่ทำให้มุ่งสู่จุดมุ่งหมายของตัวเองในอนาคต
ดีจริงๆ เลยที่ได้เห็นชีวิตในอีกมุมนึงของอาฟ้า เพราะภาพลักษณ์ที่เราเห็นมาก่อนหน้านี้
เหมือนอาฟ้าเป็นคนสบาย ๆ ชิว ๆ ไม่ค่อยมีสาระ ไม่มีแก่นสารในชีวิต (ว่าอาฟ้ามากไปป่าวหวา ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
แต่หลังจากเปิดปมชีวิต ทำให้เรามองอาฟ้าเปลี่ยนไป
"เข้มแข็ง อดทน" สองคำนี้ผุดขึ้นในหัวเราทันที
หากการถูกปล่อยให้ก้าวเดินตามลำพังในวันนั้นอาฟ้าไม่มีสองสิ่งนี้
ก็คงไม่มีอาฟ้าที่น่ารักและแสนดีของทุก ๆ คนในวันนี้อย่างแน่นอน
รักอาฟ้านะค๊ะ :กอด1:
-
เรื่องของอาฟ้ามาแล้ว มาแค่นี้ก็อึดอัดแทนฟ้าแล้วล่ะนะ
ครอบครัวแบบนี้มันก็สมควรอยู่หรอก เฮ้อ //
เอาเถอะ มันผ่านมาแล้ว แล้วกว่าจะเจอทิกเกอร์อีก ก็คงอีกนานสินะเบบี้ TvT
-
อาฟ้าก็ยังเป็นคนสดใสได้อยู่นะ
พี่คิวดื้อสุดๆอ่ะ
หลังจากนี้คงมีฉากหวานๆ แล้วเน้อออ 555
-
ครอบครัวนี้มันแปลก ๆเนอะ
5555 จะโดนเหยียบไหมเนี้ย
ดูแบบ ไร้ความรักมากอะ เหอะๆ
สงสารอาฟ้าา
-
“เหมือนฉัน จะติดใจตักนายน่ะ..”
“ถ้าฉันบอกว่าฉัน..รักนายล่ะ นายจะว่ายังไง”
พี่คิวยืนอมยิ้มอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มที่แตกต่างจากทุกครั้ง ไม่มีรอยยิ้มกวนๆอย่างที่ผมได้เคยเห็นบ่อยครั้งก่อนหน้านี้ รอยยิ้มในครั้งนี้ช่างดูอ่อนโยนและแฝงไปด้วยความเศร้าที่ผมสัมผัสได้
“หึ..” ผมได้ยินเพียงเสียงหัวเราะอย่างพอใจจากอีกฝ่าย และรับรู้ได้ถึงอ้อมกอดที่มีให้ พี่คิวเข้ามากอดผมก่อน
>> ชอบจังเลย พี่คิวน่าร้ากกกกก 55 เราติดการหัวเราะ “หึ..” แบบพี่คิวเลยอ่ะ รู้สึกมันเจ้าเล่ห์นะ :laugh:
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เรารักมากกกก มีความสุขทุกครั้งที่ได้มาอ่านเรื่องนี้
วันไหนที่เบบี้มาต่อ จะเป็นวันที่เรารู้สึกมีความสุข อาจจะดูเว่อร์ไป แต่จริงๆนะ
บางทีรู้สึกแย่ๆอยู่ พอเข้าบอร์ดมา เห็นเบบี้มาต่อเรื่องนี้ เราดีใจมาก เหมือนมีอีกโลกหนึ่ง โลกที่ทำให้เรามีความสุข
ขอบคุณเบบี้นะสำหรับเรื่องราวดีๆ เป็นกำลังใจให้เบบี้เสมอ :pig4: :pig4: :pig4:
เราเข้าใจแต่ละคนในเรื่องนี้นะ แต่ละคนก็มีนิสัยต่างกัน ที่เบบี้สื่อมา เราก็รับรู้ได้
พี่คิว เค้ก พี่ฟ้า และคนอื่นๆ แต่ละคนก็มีบุคลิก อุปนิสัย การสื่ออารมณ์ต่างกัน
เราเคารพในการตัดสินใจของเบบี้นะ
รอติดตามอ่านคู่อาฟ้าและตอนต่อๆไปค่ะ ^-^
-
เฮ้อ อธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก มันเต็มตื้นในอก บอกได้แค่ว่าประทับใจมาก ขอชื่นชมในความอดทนของฟ้ามากเลย
-
พี่ฟ้าตอนเด็กๆน่าสงสารเหมือนกันน้า
อ่านแล้วรักพี่ฟ้ามากขึ้น10เท่าเลย ><
-
:z10:
พี่ฟ้า~
-
ขอบคุณเบบี้ค่ะ :pig4:
อาฟ้าเป็นคนเก่ง เก่งมาก ๆ เลยค่ะ
ที่สามารถทนความกดดันจากคนในครอบครัวเดียวกันได้ขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยพี่คิวนิสัยบางอย่างได้มาจากใคร :)
-
คุณอาเก่งมากเลย สร้างแรงพลักดันให้ตัวเองดีมาก
-
พี่ฟ้าเก่งมากอ่ะ แต่ก็น่าอึดอัดนะ
ทำได้แค่ ต้องทำตามที่พ่อต้องการ
แต่แผนการพี่ฟ้าก็ล้ำลึกสุดๆ 555
รอตอนต่อไปของคู่พี่ฟ้าคะ^^!
-
อา หลานคู่นี้ น่าเอ็นดู๊ :กอด1: น่ารักมากๆค่ะ
-
โอ๊ยยยยย..ฟ้าโคดเก่งเลยอะ o13
ทำไมถึงทำทุกอย่างได้ขนานั้นเนี๊ย
ชีวิตที่เพียบพร้อมไปทุกอย่างก็ไม่ไหด้หมายความว่าจะมีความสุข
อย่างที่คนอื่นมองจากภานนอกนี่หว่า?? :เฮ้อ:
ฟ้าอดทนโคดๆๆอะ วางแผนการใช้ชีวิตแบบแนบเนียนสุดๆเลย
ปล.คิวไม่กลัวเสียงดุๆของอาฟ้าแล๊ววววว... :laugh:
อาหลานคู่นี้น่ารักหว่ะ..โคดชอบเลย.. :impress2:
-
พี่ฟ้าสุดยอดอะ แบบ...มีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าผู้ใหญ่หลายๆคนอีก
สุดท้ายก็ออกมาอยู่กะพี่คิวสองคนสินะ ดีแล้วๆ บ้านแบบนั้นอย่าอยู่เลย :z10:
-
ไม่น่าเชื่อว่าอาฟ้าที่ใจดีของใครหลายคน
จะผ่านการใช้ชีวิตที่มีแรงกดดันสูงมากขนาดนี้
ได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นคนเก่งมาก :L2:
ตอนเด็กๆคิวก็เริ่มกวนๆ อาฟ้าเป็นแล้วนะ o18
-
พี่ฟ้ามีความอดทนมากค่ะ ฉลาดมากด้วย
-
อาฟ้าดูโดนกดดันอ่ะ
ชอบที่แบบ ตั้งใจๆ เก็บเงินไว้แล้วจะไปแน่ๆ
อาฟ้าทำได้จริง หึหึ
ชอบจัง ^^
-
ฟ้าที่รัก :man1: ... สุดยอดมากๆ ภายนอกที่ดูร่าเริง กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ ต้องใช้ความอดทนและความพยายามอย่างมาก
... อ่านตอนเปิดตัวแล้ว รู้สึกเลยว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ครึ่งที่ฟ้าทำเลย (รู้สึกเหมือนถูกกระตุ้น ฮ่าๆ)
:pig4: :กอด1:
-
กีสสสส อาฟ้าในวัยเด็ก และโหมดจริงจัง น่ารักไปอีกแบบ o13
-
กวนติงตั้งแต่เด็กเลยคิวปิด ฮ่าาา
อาฟ้าเก่งมากแม้อยู่ท่ามกลางความกดดัน o13
อย่างนี้เรื่องความรักจะจัดการอย่างไรน๊า รอติดตามคะ ^^
-
ถ้าเราเป็นคุณฟ้า
เราคงเป็นแบบคุณฟ้าไม่ได้แน่ๆ
ตอนเด็กพี่คิวดูน่ารักดีนะเนี่ย > <
-
ชีวิตอาฟ้าเป็นแบบนี้ ความรักของคนในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ
แต่อาฟ้าสุดยอดไปเลย มุ่งมั่นมากๆ
เข้าใจนะ เป็นความรู้สึกว่า เราต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองให้ได้
เราจะพยายามขยันและออมเงินบ้างล่ะ :laugh:
คิวปิดตอนเด็กๆน่ารักนะ แต่ก็กวนเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :pig4:
-
กดดันจังเลย
อาฟ้าเข้มแข็งมากๆเลย :L2: :กอด1:
-
พี่ฟ้าาาาาาาาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พี่คิวสมัยแบเบาะ หุหุ :z1: :z1: :z1: :z1:
-
:o8: ได้อ่านภาคต่อแล้วจร้า อิอิๆๆๆ :-[
-
:sad4: :sad4: อ่านแล้วแบบชีวิตอาฟ้าน่าสงสารมากกกกกกอะ
บางทีเกิดมารวยไปก็ไม่ดี อ่านแล้วเจ็บปวดแทน แบบอาฟ้าคงจะทรมานมาก
เหมือนชีวิตที่อยู่คนเดียวตลอดๆๆ ดีว่าอาฟ้าไม่เก็บกดอะ
อาฟ้าเก่งมากเลยอะ ที่แบบ ต่อหน้าคนอื่นก็ดูร่าเริงได้ขนาดนี้
คิวอย่าดื้อกับอาหนักเลยนะ
รออ่านๆๆๆๆต่อไปคะ
-
ขอคารวะอาฟ้าจริงๆ ทั้งอดทั้งทนกัดฟันสู้ทุกอย่างเพื่ออิสระภาพของตัวเองในวันนี้
พี่คิวแกก็ยังคงกวนได้คงเส้นคงวา 555
-
ชอบเรื่องของคิวกะเค้กมากๆ เลยครับ
-
สงสารอาฟ้ามากมาย
ส่วนคิว กวนตีนแต่เด็กจนแก่เลยนะ 555
-
ชีวิตฟ้าถูกตีกรอบให้เดินมาแต่เด็กเลย
แต่เป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต วางแผนและลงมือทำไปอย่างมุ่งมั่น
นับถือๆ
-
ดีจายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยกับคู่เค้กและพี่คิว ลงเอยกันซะที อัดอั้นมาซะนาน ทรมานใจคนอ่านได้อีก 55555+ ดีใจที่พี่คิวพูดออกมาซะที
มาต่อกันที่เรื่องของพี่ฟ้าแล้ว อิอิ น่าหนุก ๆ
-
:เฮ้อ: ชีวิตพี่ฟ้าดูเศร้าอ่ะ
มีทุกอย่างพร้อม เเต่กลับไม่มีความสุข :sad4:
ถูกบังคับทุกอย่าง เเต่พี่ฟ้าก็เก่งนะ
ผ่านจุดนั้นไปได้ o13
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
-
พี่ฟ้าเก่งมากอ่ะ o13
ที่ผ่านชีวิตช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนั้นไปได้
-
ตอนจบพี่คิวน่ารักมากอ่ะ อยากอ่านความรู้สึกคิวจัง รอตอนอาฟ้าตอนต่อไป แล้วทิกเกอร์จะมาตอนไหนอ่ะ อยากรู้จังเลย ^^
-
เพิ่งตามอ่านทัน 3 วันแหนะ
นึกว่าคิวกับเค้ก จะไม่ได้คู่กันซะแล้ว แอบลุ้นอย่างเกรง ๆ 55
เป็นกำลังใจให้ มารอตอนต่อไปครับ (:
-
พี่คิวนิสัยอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กเลยนี่หว่า :laugh3:
-
โว๊ะ อ่านแล้วยิ่งชอบอาฟ้า ><
-
o13 ฟ้าคุณแน่มาที่ผ่านช่วงนั้นมาได้
:pig4: จ้าคุณเบบี้
-
:sad4: o22 :sad4:ชอบๆๆๆมาต่อเร็วๆๆนะครับบบบบบบบบ
-
:กอด1: :กอด1:อื่มในที่สุดพี่คิวกับน้องเค้กก็จบแบบมีความสุข
รอคู่ของพี่ฟ้าต่อไปอิอิ :กอด1: :กอด1:
-
o13 o13 o13 o13 o13
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
รออ่าน ๆ ๆ ๆ ๆ นะเบบี้ ในที่สุดอาฟ้าก็มาาา
-
อาฟ้าน่ารัก
คิดการใหญ่เงียบๆคนเดียว
อยากรู้เรื่องความรักของอาฟ้าแล้ววค๊าา
-
น้อมรับทุกคำชี้แจงของเบบี้
ในที่สุดก้อมีภาคต่ออาฟ้า+ไทเกอร์
:m4: :m11: :m2:
-
ภาค 2 แล้ว เย้ๆๆๆ ภาคนี้ขอให้มีคิวกับเค้กมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้างนะคะ
แต่ก็อยากอ่านคู่ทิกเกอร์กับพี่ฟ้าด้วย
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
-
พี่ฟ้าสุดยอดมากๆอะ..มีความอดทนสูง
สุดยอดๆ o13 o13
ส่วนคิว ก็คงจะกวนตีนมีแต่เกิดเลยละสิ คิคิ :z1: :z1:
-
อาฟ้าน่ารักมากคะ o22
-
พี่ฟ้าสุดยอดมาก วางแผนชีวิตตั้งแต่เด็กๆ
-
ตอนของอาฟ้าแล้ว ^^
-
พี่ฟ้าโคตรเจ๋ง สุดยอดมากอ่ะ o13
น้องหนูคิวตอนเด็กๆ น่ารักดีนะ :laugh:
-
~2~
ณ บ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..
“พี่คิวมาแล้ว พี่คิวมาแล้ว!” เสียงเจี๊ยวจ้าวของหลานที่น่ารักของผมอีกสองคน บัตเตอร์และเชอร์เบ็ตซึ่งเป็นลูกแฝดของพี่สาวผม..พี่พราว
ชื่อของบัตเตอร์นั้นคิวเป็นคนตั้งให้ ส่วนเชอร์เบ็ตผมเป็นคนตั้งเองครับ ทั้งสองเป็นฝาแฝดกัน เชอร์เบ็ตเป็นเกิดก่อน ถ้าจะนับตามลำดับการเกินแล้วเชอร์เบ็ตต้องเป็นพี่และบัตเตอร์เป็นน้องชาย ผมว่าพี่พราวโชคดีทีเดียวที่ได้ทั้งลูกผู้หญิงและลูกผู้ชายในเวลาเดียวกัน
“ไม่คิดถึงอาเหรอครับ เรียกแต่พี่คิวอยู่ได้” ผมเดินตรงไปกอดหลานทั้งสองคน คิวเดินตามหลังมาอย่างเว้นระยะห่างไว้ มันคงต้องการเอื่อยเฉื่อยไปอย่างนั้นเองเหมือนต้องการย้ำบอกผมว่า “น่าเบื่อจริง”
“สวัสดีค่ะ/ครับ คุณอา” บัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ/ครับ พี่คิว” เมื่อทั้งสองเห็นว่าคิวเดินมาถึงตัว ก็ละจากผมวิ่งไปเข้ากอดพี่ชายของตัวเองซะเฉย ผมยืนมองด้วยความเอ็นดู
“ดีครับ ไง..นี่มันชุดที่พี่ซื้อให้นี่น่า” คิวอุ้มบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตขึ้นได้พร้อมกันอย่างสบาย ตัวของมันอย่างกับกระทิง ไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะผมเลี้ยงอย่างอุดมสมบูรณ์มากเกินไปหรือเปล่า หลานของผมตัวถึงได้ใหญ่นำผมไปได้มากขนาดนี้
“ค่ะ/ครับ วันนี้เราสองคนจะได้ออกไปเที่ยวไหม” ทั้งสองพูดประสานเสียงกันด้วยท่าทางมีความหวัง
“ได้สิครับ ถ้าเป็นเด็กดีนะ” คิวยิ้ม
“น้องน่ะเป็นเด็กดี ตัวเองก็เป็นเด็กดีด้วยล่ะ” ผมว่าเหน็บแนมไว้ก่อน เพราะถ้าวันนี้งานจะกร่อยก็คงจะไม่พ้นปากของมันนี่ละครับ คิวมองผมตาขวางตอบ ผมได้เพียงแต่เบะปากใส่เพราะรู้ว่าคิวจะไม่ค่อยกล้าว่าผมแรงๆต่อหน้าบัตเตอร์และเชอร์เบ็ต
“สวัสดีครับอา” ปรัชญาเดินออกมาจากบ้าน ผมยกมือรับไหว้
“สวัสดีครับพี่คิว” ปรัชญาทัก
“ดี” คิวตอบทั้งทั้งที่สายตายังคงโฟกัสอยู่ที่น้องรักทั้งสองคนของตน
ปรัชญาเป็นหลานอีกคนของผม อายุน้อยกว่าคิว เป็นลูกคนสุดท้องและเป็นลูกแท้ๆของพี่ตี๋..พี่ชายคนโตของครอบครัวเรา พี่ตี๋มีลูกสามคน คนโตคือสงกรานต์ ซึ่งเป็นลูกที่เกิดจากชายชู้ที่ภรรยาพี่ตี๋แอบนอกใจ คนกลางคือทับทิม เป็นลูกแท้ๆของพี่ตี๋อีกคนซึ่งนิสัยจะค่อนข้างเอียงไปทางฝั่งแม่เสียมาก ส่วนคนเล็กคือตาปรัชญานี่ละครับที่ดีกว่าเขาหน่อย ผมคิดว่าตาปรัชญาคงจะไม่ได้เชื้อจากพ่อหรือแม่ของตน เพราะพี่ตี๋เองก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรมากมาย ที่ปรัชญาเป็นเด็กดีได้คงเพราะได้เชื้อจากแม่ของผมละมังครับ
“ทุกคนรออยู่ในห้องประชุมแล้วครับ” ปรัชญาบอก
“คิว ไปกัน” ผมหันไปบอก คิวพยักหน้าตอบก่อนที่จะเดินตามปรัชญาไป
ผมรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับบ้านหลังนี้เท่าไหร่ ตั้งแต่ที่ผมถูกพ่อบอกตัดพ่อตัดลูกเมื่อตอนที่พ่อรู้ว่าผมเริ่มต่อต้านพ่อในตอนนั้น ก่อนหน้าที่พ่อจะหมดความอดทนกับผม หลายหลายสิ่งในตัวของผมเริ่มถูกเปิดเผย พ่อรู้ว่าผมแอบเรียนโทด้านแฟชั่นดีไซน์ พ่อโมโหมาก ผมจำได้ว่าตอนนั้นพ่อเกือบทรุด ที่พ่อไม่ชอบคงเพราะพ่อหวังจะให้ผมเป็นนักธุรกิจใหญ่เหมือนอย่างพี่ๆ ช่วงนั้นธุรกิจของบ้านเราเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ถ้าเทียบแล้วละก็บ้านเราเป็นตระกูลยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจเลยทีเดียว
แถมในเวลาเดียวกันพ่อยังรู้เรื่องที่ผมเป็นเกย์อีกด้วย นี่คงเป็นเรื่องที่พ่อรับไม่ได้มากที่สุด แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เมื่อความเป็นจริงหลายอย่างถูกเปิดเผย ผมจึงยอมรับเรื่องทุกอย่างแก่พ่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผมอยากไปเรียนต่อทางด้านสาขาแฟชั่นที่ประเทศอิตาลี ผมไม่รู้ว่าพ่อผิดหวังในตัวของผมแค่ไหน ผมรู้เพียงว่าผมเสียใจที่ทำให้พ่อเสียใจ ผมไม่ได้เกลียดพ่อและไม่มีทางเกลียดได้ลง ผมไม่เคยต่อว่าพ่อเหมือนอย่างลูกคนอื่นๆเมื่อไหร่ที่ตนเองไม่ได้อย่างที่ตนต้องการ เมื่อผมผิดผมจะมองเห็นความผิดของผมจากเงาของผมเองเสมอ ผมคิดว่าไม่ว่าอะไรมันจะสะท้อนคล้ายกับเงาที่สะท้อนร่างกายของเรา “ความผิด” หรือ “ความดี”..เมื่อสะท้อน คุณจะต้องเห็นมันด้วยตัวของคุณเอง ผมรู้ในข้อนี้ดีอยู่เต็มอก ซึ่งความจริงแล้วผมรักท่านมากเหลือเกิน แต่ในขณะเดียวกันผมก็ต้องการชีวิตของผม ชีวิตในแบบที่ผมเป็นผู้เลือกเองบ้าง..
ตอนนั้นหลายหลายอย่างมันประดังประเด รวมถึงเรื่องที่พี่ตันและพี่ตี๋รับไม่ได้ที่ผมชอบผู้ชายก็ด้วย ถึงกับห้ามไม่ให้คิวและลูกๆของพวกพี่มาเข้าใกล้ผม มันน่าขัน เกย์ไม่ใช่โรคติดต่อสักหน่อย บางทีผมก็รู้สึกว่าพี่ผมนี่โง่บรมเหมือนกันนะ แต่นั่นแหละ ยิ่งพวกพี่ๆนั้นแอบต่อต้านผมลับหลัง มันกลับยิ่งทำให้ผมและคิวเชื่อมโยงต่อกันมากยิ่งขึ้น ผมเข้ากับหลานคนอื่นๆไม่ได้ แน่นอน..เพราะจะมีเพียงกี่คนกันที่เป็นคนแบบคิว
ความรู้สึกในตอนนั้นผมยังจำได้ขึ้นใจ พ่อพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหลังจากที่พ่อหมดความอดทนต่อผม “ออกไปจากบ้านของฉัน ต่อไปนี้..แกไม่ใช่ลูกของฉันอีกต่อไป อยากไสหัวไปไหนก็เชิญ” พ่อพูดอย่างนั้นด้วยท่าทางเกรี้ยวโกรธอย่างมาก ไม่ใช่น้ำเสียงที่เคียดแค้น แต่กลับเป็นน้ำเสียงที่ดุดันและเด็ดขาด สายตาของพ่อนั้นว่างเปล่า
คำพูดประโยคนั้นทำร้ายจิตใจผมได้ทุกครั้งเมื่อไหร่ที่ผมนึกถึง ผมร้องไห้ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีกกับประโยคบ้าๆนั่น โดยปกติผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ร้องไห้บ่อยเอาเสียมากๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ร้องไห้ทุกครั้งที่ผมรู้สึกเสียใจ เศร้าใจ หดหู่ เบื่อหน่าย หรือแม้กระทั่งตื้นตันใจ ผมคิดว่าผมอยากร้องออกมา มันคือทางระบายของหัวใจผมอย่างหนึ่ง การร้องไห้บ่อยๆอย่างบ้าคลั่งเพียงคนเดียว เป็นการพึ่งพาตนเองอย่างหนึ่งของผม และหลังจากหยุดร้องไห้..นั่นคือโลกใบใหม่สำหรับผมเสมอ ผมสามารถยิ้มได้ โดยปราศจากคำพูดปลอบใจจากใครอื่นรอบตัว
ถึงกระนั้น..พ่อก็ไม่ได้ใจร้ายกับผมอย่างที่ผมคิดไว้ แม่ติดต่อผมมาหลังจากที่เกิดเรื่อง หลังจากที่ผมย้ายออกจากบ้านมาในวันรุ่งขึ้น พ่อให้แม่นำเกินก้อนหนึ่งมาให้ผมและให้ที่ดินที่ผมได้สร้างบ้านและพักอาศัยอยู่ในปัจจุบันนี้ ตอนนั้นผมรู้เพียงว่าพ่อคงตัดหางปล่อยผมแล้วอย่างที่พ่อไล่ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ให้แม่นำเงินมาให้ผมแบบนี้ สมัยก่อนนั้นเงินก้อนสามสิบล้านนั้นมหาศาลทีเดียวแต่ผมรู้ดีว่านั่นเป็นเพียงเงินจากเศษเงินของพ่อ ถ้าผมทำงานในบริษัทของพ่อ ช่วยงานพ่อและทำทุกอย่างตามที่พ่อบงการ ผมจะได้มากกว่านั้น มีมากกว่านั่นอีกเป็นพันเท่าล้านเท่า ผมไม่ได้ปฏิเสธเงินก้อนนั้นหรือทำตัวหยิ่งทะนงที่จะไม่รับเงินก้อนนั้นเพียงเพื่อคำว่า “มีศักดิ์ศรี” เหมือนพระเอกในละครน้ำเน่า ผมรับมันไว้ แน่นอน..ตอนนั้นผมเก็บรักษามันไว้อย่างดีทีเดียว
“อาจะไปไหน” ผมไม่คิดจะตอบคำถามนั่น ผมทำเป็นไม่ได้ยินเพราะผมไม่อยากได้ยินน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้แบบนั้นจากหลานรักของผม
“พี่คิวคะ”
“ปล่อย!” คิวสะบัดแขนใส่ฟ้าคราม
“คิว..ทำน้องเจ็บ!” ผมหันไปตะหวาดใส่ ทั้งที่ใจจริงผมนั้นมีแต่ความเจ็บปวด
“อาจะไปไหน คิวไม่ให้ไป..ไหนบอกจะไปด้วยกันไง งั้นคิวจะไปเก็บของก่อน” คิวรีบพูดด้วยสายตาที่ผิดหวังในตัวผมอย่างมาก ผมปาดน้ำตาตัวเองออกจากลวกๆ
“อาจะไปคนเดียว” ผมพูดและเดินหนีออกมา
“ไม่!” คิวกระแทกเสียงอย่างไม่ยอม
“คิวเรียนจบไฮสคูลแล้ว ไหนอาบอกจะรอคิวไง..คิวจะไปด้วย” คิวตะโกนพร่ำพูดไม่หยุด ผมจ้ำเท้าเดินอย่างไม่หันหลังกลับไปมอง
“คิว..กลับไปขึ้นห้อง” พี่ตันพูดเสียงเย็น
“ที่จริงถ้าคิวอยากจะไปนักก็ปล่อยให้เค้าไปด้วยกันซะเลยสิคะ” พี่สาวิกา ภรรยาของพี่ตี๋พูดแสยะ น้ำเสียงฟังดูน่าโมโหเช่นทุกที
“หุบปาก!” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคิวตะโกนว่า
“ไอ้คิว!!” พี่ตี๋ปรามหลานเสียงเข้ม ผมหยุดเดินแต่ยังคงไม่หันกลับไปมอง
“หุบปาก..หุบปากให้หมด!!” น้ำเสียงของคิวดังมาก ดังจนผมคิดแม้ว่าบ้านจะหลังใหญ่มากก็คงจะได้ยินทั่วทุกมุม ทุกคนเงียบลงเหมือนเชื่อในสิ่งที่คิวว่าไปแบบนั้น ใจผมเต้นอย่างกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น
“ถ้าป้ายังไม่หยุดปากเสีย ผมจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น” คิวตะคอกขึ้นอีกครั้ง ผมยืนนิ่ง ในใจกลับรู้สึกสะใจอย่างอยากรู้ว่าถ้าพี่สาวิกาไม่หยุดปากเสียแล้วคิวจะทำอย่างไร การเลาะฟันทั้งปากของเธออาจจะทำให้เธอสำนึกและหยุดนิสัยแย่ๆบ้างก็เป็นได้
“ไอ้คิว..มึงว่าแม่กูเหรอ” สงกรานต์เกรี้ยวกราดขึ้นในทันที
“สมองมึงนี่ช้าไปสิบโลกเลยนะ กูด่าแม่มึงอยู่ต่างหาก ไอ้โง่” คิวว่ากลับ
เพี้ย !!
ทุกคนเงียบลงอีกครั้ง เมื่อการตบหน้าคิวจากผมเพื่อระงับอารมณ์หลานตัวดีนั้นเป็นผล คิวนิ่งไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม คิวเหสายตาไปอีกทางเหมือนรู้ว่าตนนั้นผิด
“อาผิดสัญญา” คิวพูดเสียงเบา คงมีเพียงเราสองคนที่ได้ยิน น้ำตาหยดลงอาบแก้มผมอีกครั้ง
“การโวยวาย ไม่ใช่ทางออกทีดีสำหรับเราในตอนนี้” ผมพูด คิวเงยหน้าขึ้นมองผมอย่างเต็มตาอีกครั้ง
“แล้วจะมารับ ถ้าคิวเคลียร์กับพ่อและแม่ได้ด้วยตัวเอง” ผมยิ้มให้ สายตาของอีกฝ่ายเหมือนตอบแทนคำพูดได้ดีว่า “แน่นอนอยู่แล้ว”
= = = = = = = =
-
ณ ห้องประชุมของบ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..
เมื่อผมและคิวเดินเข้าถึง ภายในห้องเงียบเชียบอย่างกับอยู่สุสานคนเป็น ทุกคนนั่งอยู่ประจำที่ของตนเรียบร้อยแล้ว
“สวัสดีครับ” ผมพูด ผมและคิวยกมือไหว้พร้อมกัน
“มานั่งนี่สิลูก” แม่เรียก ผมเดินไปนั่งลงที่ข้างข้างแม่
“เป็นไง..ทานอะไรมารึยัง” แม่ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงอย่างเคย
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“คนก็ครบแล้ว จะให้ผมเปิดอ่านพินัยกรรมเลยไหมครับคุณผู้หญิง” ประสิทธิ์ ทนายความประจำตระกูลของผมถามขึ้น
“เชิญ” แม่พยักหน้าตอบน้อยๆ ทุกคนในห้องต่างจับจ้องไปที่ประสิทธิ์ที่กำลังนำกระดาษออกจากซองสีน้ำตาล ผมหันกลับไปมองหน้าคิวที่นั่งอยู่ข้างๆโดยมีบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตนั่งขนาบข้างอยู่อีกด้านของตน
“พินัยกรรมฉบับนี้ ทำที่..บ้านพักตากอากาศที่จังหวัดน่าน วันที่สอง เดือนพฤศจิกายน..ปีพุทธศักราชสองพันห้าร้อยห้าสิบสาม” ประสิทธิ์อ่าน ทุกคนเงียบฟังอย่างตั้งใจ
“ข้าพเจ้า..นายสุธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ อายุเจ็ดสิบห้าปี ซึ่งเป็นผู้เขียนพินัยกรรมฉบับนี้ และขณะที่เขียน ข้าพเจ้ามีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์ดีทุกประการ ข้าพเจ้าได้ทำพินัยกรรมฉบับนี้ขึ้นไว้เพื่อแสดงเจตนาว่า เมื่อข้าพเจ้าถึงแก่กรรมให้ทรัพย์สินของข้าพเจ้าทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีต่อไปในอนาคตได้แก่..” ประสิทธิ์หยุดหายใจ ในห้องเงียบมากจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน
“พี่คิวคะ..” เสียงเชอร์เบ็ตกระซิบ
“ชู่..เงียบก่อนครับ” คิวปราม
“เงินสดในธนาคารและเงินสดจากการขายบริษัทENSรวมเป็นจำนวนเงินกว่าสี่หมื่นห้าพันล้านบาท ขอยกให้แก่..ดังนี้ หนึ่ง..ยกให้แก่บุตรธิดาตามกฎหมายของข้าพเจ้าทั้งห้าคน คนละห้าพันล้านบาทอย่างเท่าเทียมกัน สอง..ยกให้แก่นางมาลินี สิทธิบดีทรัพย์ผู้เป็นภรรยาของข้าพเจ้า ห้าพันล้านบาท สาม..ยกให้แก่เด็กหญิงกุลกันยา สิทธิบดีทรัพย์และเด็กชายภาณุวิชญ์ สิทธิบดีทรัพย์ ผู้เป็นหลานของข้าพเจ้า คนละหนึ่งพันล้านบาท” ผมอมยิ้ม อมยิ้มให้กับพี่พราวพี่สาวของผม เธอยิ้มน้อยๆตอบให้ ผมรู้สึกยินดีจริงๆที่เธอนั้นเลือกให้บัตเตอร์และเชอร์เบ็ตใช้นามสกุลของคุณพ่อมากกว่าที่จะเลือกเปลี่ยนนามสกุลไปเป็นนามสกุลของสามีของเธอ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีทีเดียวที่มีหลานสืบทอดตระกูล อย่างน้อย..ก็ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผมได้
“ชื่อบัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตนี่คะ/ครับ” เด็กทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันอย่างตื่นเต้น
“ชู่..พี่บอกให้เงียบก่อนไงครับ” คิวปรามอีกครั้งพร้อมกับทำหน้าดุ เด็กทั้งสองเงียบลงในทันทีทันใด
“สี่..ยกให้แก่นายอัครวินท์ สิทธิบดีทรัพย์ นางสาวฟ้าคราม สิทธิบดีทรัพย์ และนายปรัชญา สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นหลานของข้าพเจ้า คนละสองพันห้าร้อยล้านบาท” ผมยิ้มกว้างในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้นแต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อจะนั่งหน้าตายอย่างไม่รู้สึกรู้สาเสียเหลือเกิน
“ห้า..ยกให้แก่นางพิมพาศัย สิทธิบดีทรัพย์ ผู้เป็นลูกสะใภ้ของข้าพเจ้า ห้าสิบล้านบาท”
“หก..ยกให้แก่นางสาวทับทิม สิทธิบดีทรัพย์ ผู้เป็นหลานของข้าพเจ้า..สิบห้าล้านบาท”
“ม..ไม่จริงใช่ไหม” ทับทิมพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ สีหน้าของหลานสาวของผมอีกคนดูผิดหวังอย่างมาก แน่ล่ะ..ความประพฤติอย่างเธอ คุณพ่อของผมคงไม่ปลื้มนัก
“คนที่ทำร้ายปู่ของตัวเองได้ลงคอ มีสิทธิ์พูดด้วยอย่างนั้นเหรอ..ที่จริง ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เลยสักแดงเดียว” พี่เป้ยเชิดหน้าไปอีกทาง เธอเคียดแค้นทับทิมอย่างที่ไม่สามารถอโหสิกรรมให้กับหลานสาวของเธอได้
“อ่านต่อเลยประสิทธิ์” แม่ผมสั่ง ประสิทธิ์พยักหน้าตอบ
“เจ็ด..ยกให้แก่นายสงกรานต์ สิทธิบดีทรัพย์ ผู้เป็นหลานของข้าพเจ้าและนางสาวิกา สิทธิบดีทรัพย์ ผู้เป็นลูกสะใภ้ของข้าพเจ้า คนละสิบล้านบาท” พี่สาวิกาเบิกตาโพรง เธอคงจะตกใจมากกับเงินก้อนเล็กๆที่เธอได้รับนั่น ผมไม่รู้ว่าเธอจะควบคุมสติอารมณ์ของเธอได้มากแค่ไหนเพราะเธอเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลมาได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งเธอและลูกชายของเธอก่อเรื่อง ที่จะฆ่าผมแต่คิวกลับโดนยิงแทนและเรื่องที่ทำให้คุณพ่อของผมเสียชีวิตด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตอนนี้สงกรานต์ยังได้รับโทษตามกฎหมายอยู่ในคุก
“แปด..ยกเงินจำนวนยี่สิบห้าล้านบาท ให้แก่นางมาลินี สิทธิบดีทรัพย์เพื่อนำไปแบ่งให้กับคนรับใช้ภายในบ้านตามเห็นแก่สมควรของเธอ”
“เก้า..เงินจำนวนที่เหลือทั้งหมด ยกให้แก่มูลนิธิตามแก่นางมาลินี สิทธิบดีทรัพย์จะเห็นสมควรเช่นกัน”
“กิจการที่เป็นชื่อของข้าพเจ้า แยกเป็นรายละเอียดดังนี้..หนึ่ง รีสอร์ตแอมมาเรล ที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดเชียงใหม่ ยกให้แก่นายเกริกเกียรติ สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นบุตรชายคนโตของข้าพเจ้า”
“สอง..ห้างในเครือ MPower Group สี่แห่ง ทั้งในประเทศไทย ประเทศอเมริกา ประเทศฮ่องกงและประเทศอังกฤษ ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นายศักดิ์สิทธิ์ สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นบุตรชายของข้าพเจ้า”
“ฟู่~” ผมหันกลับไปมองคิวที่นั่งถอนหายใจจนผมได้ยินเสียง คิวมีสีหน้าเหนื่อยหนักใจอย่างมาก
“เอาน่า” ผมเอื้อมมือนำไปลูบมือของคิวเบาๆ เป็นไปตามที่พี่ตันคาดการณ์ไว้ว่าตนเองจะได้ห้างในเครือนี้ของพ่อทั้งหมด ก่อนหน้าพี่ตันบังคับให้คิวเลือกระหว่างการแต่งงานกับการให้คิวมาช่วยดูแลห้างในเครือ MPower Group พี่ตันเป็นคนฉลาด เขารู้จุดอ่อนของคิวและใช้พี่พิมพ์อย่างถูกเป้าหมาย ผมรู้ดีว่าการยื่นข้อเสนอในครั้งนี้นั้นไม่ง่ายที่จะเลือกทางใดก็ทางหนึ่งเพราะไม่มีทางไหนเลยที่คิวอยากไปสักทาง และไม่ว่าคิวจะเลือกทางไหนก็ตาม พี่ตันจะสามารถได้รับผลประโยชน์ทั้งสองทางอีกด้วย พี่ตันเป็นนักธุรกิจในคราบของการเป็นพ่อคน คิวมีจุดอ่อนอยู่ไม่กี่อย่างและพี่ตันรู้ว่าเขาควรจะพูดอย่างไร รู้ว่าควรใช้ใครเป็นเครื่องมือที่จะโจมตีเป้าหมายให้จนมุม จุดอ่อนของคิวคือสิ่งที่คิวและผมได้สร้างมาร่วมกัน พี่ตันรู้ดีว่าควรจะทำอย่างไรคิวถึงจะยอมรับข้อเสนอนี้ แต่พี่ตันกลับไม่รู้เลยว่าลูกของตัวเองนั้นมีความสุขหรือไม่ที่ตนเองได้ปฏิบัติต่อลูกแบบนั้น และในที่สุดคิวก็ขอเลือกที่จะไม่แต่งงานกับฝันโดยการเลือกข้อเสนอว่าจะช่วยทำงานใน MPower Group ทั้งอันที่จริงแล้วคิวไม่ชอบเลยก็ตาม ถึงแม้ข่าวในครั้งนี้จะทำให้วงการธุรกิจลือไปในทางเสียหาย แต่สุดท้ายแล้ว..พี่ตันยังคงยิ้มได้อีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ละนะครับ
“สาม..โรงเรียนนานาชาติการ์เด้น ยกให้แก่นางเมตตา สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นบุตรสาวของข้าพเจ้าเป็นผู้ดูแล”
“สี่..หุ้นส่วนของธนาคารThaiBank และหุ้นส่วนของบริษัทบางกอกเอ็มจี ยกให้แก่นางพราวพรรณ สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นบุตรสาวของข้าพเจ้า”
“ห้า..ข้าพเจ้าขอยกตำแหน่งประธานบริษัทKing Jewel..ให้แก่บุคคลที่เป็นผู้ชนะการเข้าแข่งขันการประกวดเพชรแห่งปี” ทุกคนเงียบลงและหันมามองหน้าคิวกันเป็นตาเดียว
“เอ่อ ผมขอสละสิทธิ์นั้นครับ” คิวพูดขึ้น คิวเป็นผู้ชนะการประกวดเพชรในครั้งนั้น ครั้งที่เป็นจุดพลิกผันของเรื่องที่เกิดขึ้นและได้คลี่คลายทุกอย่างลงทั้งหมด รวมถึงการที่ต้องสูญเสียคนสำคัญไปด้วยเช่นกัน
“ไม่ได้นะ” พี่ตันรีบห้ามลูกชายของตนในทันที แน่นอน..บริษัทKing Jewel ทำรายได้ต่อปีนั้นมหาศาลทีเดียว ใจต้องแข็งและไม่หน้าเงินจริงจริงนะครับ ไม่อย่างนั้น..คงตัดใจไม่รับได้อย่างง่ายดายหรอก
“คุณย่าครับ คิวไม่เหมาะกับงานนี้..คิวทำไม่ได้ครับ คิวไม่ได้รัก..คิวคงทำได้ไม่ดีหรอกครับ” คิวไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าพ่อของตนแต่กลับหันมาบอกแม่ของผมแทน แม่ถอนหายใจและเงียบไปครู่
“นอกจากคิวจะยกตำแหน่งนี้ให้ใคร โดยที่คนคนนั้นจะต้องเซ็นยินยอม” ประสิทธิ์พูดขึ้น คิวหันไปมองหน้าฟ้าครามในทันที
“ม..ไม่ได้หรอกค่ะ ฟ้าครามยังแค่สิบแปดอยู่เลยนะคะ” ฟ้าครามส่ายหัวลูกเดียว
“แต่ฟ้าชอบมันไม่ใช่เหรอ” คิวพูดด้วยสีหน้ากดดันน้องสาวตัวเองเพื่อที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นให้ได้
“แต่..” ฟ้าครามก้มหน้าลง
“นี่” พี่ตันพยายามที่จะพูดแทรก
“คุณพ่อครับ ผมคนเดียวไม่สามารถทำทุกอย่างอย่างที่คุณต้องการได้หรอกนะครับ” คิวย้ำพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและหันไปจ้องหน้าพ่อของตนเขม็ง ทำให้พี่ตันเงียบไป
“ในเมื่อคิวเป็นคนเลือก”
“จะอย่างนั้นก็ได้นะ มีอะไรก็ปรึกษาอาได้ทุกคน” พี่เป้ยพูดขึ้น
“ได้..ได้จริงเหรอคะ!” ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นพูดด้วยความดีใจ
“ได้สิจ๊ะ” พี่เป้ยพยักหน้าและยิ้มกว้าง
“อื้อ..งั้นก็ได้ค่ะพี่คิว”
“ขอบคุณนะ” คิวยิ้มให้น้องสาวของตน
“ตามนั้นแหละนะประสิทธิ์ ต่อได้เลย..” แม่ผมยิ้มบอก
“หก..อสังหาริมทรัพย์ ได้แก่..บ้านและที่ดินที่จังหวัดหัวหิน ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นางสาวฟ้าคราม สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นหลานสาวของข้าพเจ้า ที่ดินที่จังหวัดโคราชและจังหวัดเชียงใหม่ที่ข้าพเจ้ามีทั้งหมด ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นายอัครวินท์ สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นหลานชายของข้าพเจ้า ที่ดินที่จังหวัดนนทบุรี ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นายปรัชญา สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นหลานชายของข้าพเจ้า” ผมหันไปเห็นปรัชญาที่ปัดน้ำตาที่เปื้อนแก้มของตัวเองอย่างลวกๆ ผมรู้ดีว่าปรัชญารู้สึกอย่างไรที่ต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังนี้ ความกดดันที่ได้รับมาก่อนหน้าคงจะทำให้หลานของผมเครียดมาก แต่ปรัชญาเป็นเด็กดีและกตัญญู เขายังคงรักที่จะคอยอยู่เคียงข้างดูแลพ่อและแม่ของเขาท่ามกลางความกดดันที่มี ถึงแม้ว่าบางครั้งแทบไม่มีใครรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของปรัชญาเลย ผมนับถือหลานผมคนนี้จริงๆ ปรัชญาเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาความรักตลอดถึงแม้มันแทบจะเลือนรางก็ตาม ความรักที่ผมมีนั้นเทียบกับหลานคนนี้ไม่ได้เลย
“บ้านพักตากอากาศที่จังหวัดน่าน ขอยกให้แก่เด็กหญิงกุลกันยา สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นหลานสาวของข้าพเจ้า”
“บ้านพักตากอากาศและที่ดินที่จังหวัดเชียงราย ขอยกให้แก่เด็กชายภาณุวิชญ์ สิทธิบดีทรัพย์..ผู้เป็นหลานชายของข้าพเจ้า”
“และ บ้านเลขที่111/999 บ้านของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นายเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า” อยู่ๆภาพของประสิทธิ์ก็พล่าเบลอ เพียงชั่วครู่เหมือนวิญญาณในตัวของผมหลุดลอยออกไป ผมรับรู้สึกถึงหัวใจที่กำลังเต้นผิดปกติ น้ำตาเอ่อล้นอยู่ที่เบ้าตาของผมแทบทำให้มองเห็นอะไรไม่ชัด
~บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า~
“อึก..” ผมก้มหน้าลงอย่างไม่สามารถต้านทานความรู้สึกที่จะรับได้ไหวในตอนนี้ แม่กอดผมเข้าไปทั้งตัว ผมรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของแม่ กระทั่งรู้สึกเหมือนได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดของพ่อด้วย
“นายเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..สามารถกลับเข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ได้ เป็นเจ้าของบ้านและมีสิทธิ์เด็ดขาดในบ้านหลังนี้อย่างเช่นข้าพเจ้าทุกประการ”
“ฮึ ฮึก..อื้อ”
“ไม่ร้องนะลูก กลับมาอยู่บ้านของเรานะลูกนะ..กลับมาอยู่บ้านเรา” แม่ลูบหลังผมไปมาและกอดผมแน่นขึ้นพร้อมกับพรมหอมหน้าหอมผมของผมไปทั่ว
“ขอให้นายประสิทธิ์ มากบรรทัดเป็นผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้า เพื่อจัดการแบ่งปันทรัพย์มรดกของข้าพเจ้าตามที่ได้แสดงเจตนาไว้แล้วข้างต้น พินัยกรรมฉบับนี้..ข้าพเจ้าเขียนด้วยลายมือของข้าพเจ้าทั้งฉบับ ได้ทำไว้ 2 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการ ฉบับหนึ่งเก็บไว้ที่นางมาลินี สิทธิบดีทรัพย์ อีกฉบับหนึ่งเก็บไว้ที่นายประสิทธิ์ มากบรรทัด..ขณะทำพินัยกรรมข้าพเจ้ามีสติสัมปชัญญะปกติ ข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจข้อความโดยตลอดแล้ว ลงชื่อ..นายสุธิชัย สิทธิบดีทรัพย์”
= = = = = = = =
“ไงครับ..โทษทีนะ ที่เลี้ยงลูกพี่ไม่ได้ดั่งใจพี่สักเท่าไหร่น่ะ” ผมทักพี่ตันที่กำลังยืนทำเก๊กท่าเดิมและเป็นท่าเดียวที่เป็นท่าประจำของพี่เขา
“หึ..” พี่ตันหันกลับมาแสยะหัวเราะอย่างส่งๆ
“ฉันไม่โทษนายหรอก เดี๋ยวมันได้มาแหวกอกฉันพอดี” พี่ตันพูดปนหัวเราะ ตาทอดมองไปไกล
“แน่ล่ะ..ถอดพี่มาซะขนาดนั้น” ผมย้อน พี่ตันเงียบไม่ตอบโต้ เราเงียบพร้อมกันไปชั่วครู่หนึ่ง
“จะกลับมาอยู่นี่เมื่อไหร่ล่ะ”
“ไม่ล่ะ” ผมตอบ
“ทำไม” พี่ตันหันกลับมามองหน้าผม
“ชินที่จะอยู่ที่นั่นซะแล้วล่ะ อีกอย่าง..บ้านนี้ไม่มีสไตล์ของฟ้าเลยสักนิด” ผมยักไหล่
“พ่อคงเสียใจแย่ที่นายไปว่าสไตล์ของพ่อแบบนั้น” พี่ตันหัวเราะมองผมด้วยท่าทางกวนอย่างเคย
“ใครบอก ฟ้าไม่ได้จะโอนบ้านหลังนี้เป็นชื่อใครสักหน่อย เสียใจด้วยนะครับที่ไม่ทำแบบนั้น” ผมยักคิ้วกวนกลับบ้าง
“หึ..นั่นสินะ นี่ฉัน..กลายเป็นผู้อาศัยน้องชายตัวเองไปแล้วเหรอเนี้ย” พี่ตันบ่น ก้มลงมองดูเท้าของตัวเองก่อนที่จะเดินไปมาตรงหน้าผมอย่างช้าๆ
“โทษที คงลำบากสินะ..ที่ต้องเลี้ยงคนอย่างไอ้คิวน่ะ” พี่ตันไม่ได้ยิ้มอีก สีหน้าเปลี่ยนไปเหมือนต้องการจะเข้าสู่เรื่องที่จริงจัง
“ถ้าพี่เลี้ยง พี่เอาอยู่งั้นเหรอ” ผมพูดติดตลก
“แกจำไม่ได้เหรอว่ามันเคยประท้วงคนในบ้าน แล้วคิดจะเผาบ้านหลังนี้ด้วยน่ะ ฉันล่ะปวดหัวกับมันจริงๆ..นี่ก็ต้องแบกหน้าไปขอโทษบ้านนู้นบ้านนี้อีก เฮ้อ” พี่ตันบ่นถึงเรื่องเก่าจนทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้ ไอ้คิวหลานของผมนี่มัน..สุดๆจริงๆนะครับ ถ้ามันต้องการจะทำอะไรแล้วละก็ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไม่ทำให้คนอื่นไม่เดือดร้อน ผมถือว่าคิวเป็นเด็กคนเดียวภายในบ้านที่กล้าพูดตามที่ตนเองคิดไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์รูปแบบไหนก็ตาม และคิวเป็นคนเดียวภายในบ้านที่บางครั้งก็ปีกกล้าขาแข็งกับทุกคนเมื่อไหร่ที่ตนเองรู้สึกไม่ชอบใจ ตัวตนของคิวมักจะทำให้ผมนึกถึงคำพูดในภาพยนตร์เรื่อง The Help ที่ว่า “บางครั้งความกล้าหาญก็กระโดดข้ามรุ่นไป” หลานของผมทำในสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอดเมื่อตอนที่ผมอายุเท่ากับเขา
“นอกจากแม่มันกับแก มันฟังใครหน้าใครกัน..อย่าไปพูดถึงมันเลย หงุดหงิด” พี่ตันคิ้วขมวดเป็นปม
“อา..กลับยัง” ผมและพี่ตันหันไปมองตามเสียงเรียก คิวเดินหน้างอตรงมาทางพวกผม และบรรยากาศก็มาคุในทันที ต่างฝ่ายต่างเงียบทั้งหมด ที่ผมเงียบด้วยเพราะผมต้องการจะดูปฏิกิริยาของคนสองคนตรงหน้า ตัวพ่อยืนล้วงกระเป๋า ตัวลูกยืนล้วงกระเป๋า..มันจะรู้ตัวไหมว่ามันกำลังทำท่าเดียวกันอยู่ (-_-) พี่ตันมองหน้าลูกชายตัวเองด้วยสายตาหยิ่งอย่างเคย ส่วนคิวก็มองหน้าพ่อของตนตอบด้วยสายตาแบบเดียวกัน
“ใจคอ..จะไม่อยู่กินข้าวกลางวันด้วยกันก่อนรึไง” พี่ตันพูดขึ้นทำเอาผมแทบสะดุ้ง
“ไม่” คิวตอบและเชิดหน้ากวนบาทาไปอีกทาง
“อาทิตย์หน้าก็เริ่มมาทำงานเลยล่ะ ฉันยังจำสัญญาของแกได้นะ”
“ผมรู้..แล้วก็ช่วยรักษาสัญญาที่จะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของผมด้วยนะครับ” คิวพูดตอบ
“หึ..ก็ได้ ก็ดี” พี่ตันแสยะหัวเราะ
“แล้ว..แฟนแกที่ว่าน่ะ ไม่คิดจะเอามาแนะนำให้ฉันรู้จักบ้างรึไง” พี่ตันพูดถึง
“ไม่จำเป็นมั้งครับ” คิวเบะปากตอบ
“เป็นคนยังไง..ไม่คิดอยากจะมาเจอพ่อแฟนน่ะ แล้วเป็นลูกเต้าเหล่าใคร..มีชาติตระกูลรึเปล่า ฐานะ..การศึกษา หน้าตา..คงไม่น้อยหน้ากว่าหนูฝันใช่ไหม” พี่ตันพูดรัวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน แต่ผมรู้ดีว่าพี่ตันเพียงแค่อยากจะรับรู้ข้อมูลไว้ก็เท่านั้น
“มีสิครับ..คนอะไรไม่มีชาติตระกูล ทุกคนเกิดมามีพ่อมีแม่ปู่ย่าตายายกันทั้งนั้นแหละครับ” คิวพูดตอบด้วยน้ำเสียงแทบจะหัวเราะ ส่วนผมได้แต่ยืนกลั้นเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นขำออกไป
“ส่วนฐานะน่ะ ถ้าต้องเทียบกับเราแล้ว ถือว่า..จนมาก” คิวพูดเสียงเข้ม ผมรู้ว่าคิวกำลังต้องการประชดประชันพ่อของตนเองอยู่ พี่ตันเงียบไปสนิท
“หึ..กลับกันเหอะ ไปแล้วนะพี่ตัน..ไว้เจอกัน” ผมห้ามทัพ โบกมือและยิ้มให้ พี่ตันพยักหน้าตอบ คิวก้าวขาเดินนำผมไปแล้ว
“นี่” ผมและคิวชะงัก ผมหันกลับไปมองพี่ตัน แต่คิวยังคงยืนนิ่งไม่ยอมหันกลับไปมองพ่อของตน
“ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
“พี่เองก็เหมือนกันนะ คงมีใครแถวนี้ก็คิดแบบนี้เหมือนกันแหละ” ผมยิ้มแซว ผมรู้ดี..ถึงแม้ว่าคิวนั้นจะแข็งกระด้างกับพ่อของตัวเอง แต่คิวเองก็คงรักพ่อมากไม่ต่างจากผม
“นี่อา” คิวผลักผมเบาๆ ผมกับคิวเดินออกมาพร้อมกัน
“พ่อผีเข้าเหรอ” คิวหันมามองหน้าผมอย่างไม่เชื่อว่าตนเองได้ยินพ่อพูดแบบนั้นจริงๆ
“หึ..ไอ้บ้า” ผมว่า
“กลับแล้วเหรอคะอา” ฟ้าครามเดินสวนมาพอดี
“จ้ะ..แล้วจะกลับนิวซีแลนด์วันไหน” ผมเข้าไปลูบหัวฟ้าครามอย่างเอ็นดูหลานคนนี้
“อาทิตย์หน้าค่ะ”
“โทรมาล่ะ เดี๋ยวไปส่ง” คิวพูดหน้านิ่งอย่างเคย
“จริงนะคะ” ฟ้าครามยิ้มด้วยความดีใจที่นานครั้งพี่ชายของเธอจะเอ่ยไปส่งถึงสนามบินสักที
“อืม..แต่ต้องเคลียร์เรื่องบ้านที่หัวหินให้พี่ก่อนนะ ตามที่ตกลงกันไว้” คิวบอก
“ตกลงไรกัน” ผมถามในทันที
“เรื่องของคุณเมื่อไหร่” คิวว่า
“อ่อ พี่คิวขอซื้อบ้านที่หัวหินที่คุณปู่ยกให้ฟ้าครามน่ะค่ะ” ฟ้าครามชิงพูดก่อน
“ฟ้าคราม” คิวดุน้องตัวเองทำให้ฟ้าครามเงียบลงเดี๋ยวนั้น
“ทำไมต้องหลังนั้นด้วย แล้วซื้อไปทำไม ไปอยู่ก็ได้ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย หรือซื้อบ้านหลังอื่นก็ได้นี่..ทำไม” ผมถามเป็นชุด
“รำคาญว่ะ” คิวขมวดคิ้วทำหน้าเซ็งใส่ผม
“ไปแล้ว..จัดการให้เรียบร้อยล่ะ โอเคนะ” คิวพูดบอกฟ้าครามส่งท้ายและเดินหนีไปซะเฉย
“มันจะซื้อไปทำไม แล้วฟ้าครามจะขายเท่าไหร่” ผมรีบถาม
“ยังไม่รู้เลยค่ะ ที่จริงโอนให้เลยก็ได้นะคะ..ฟ้าคงไม่ได้ไปอยู่หรอก” ฟ้าครามยิ้มแหย
“ไม่ได้นะ! คิดไปเลย คิดไปเยอะๆ..ฟ้ารู้ไหมว่าเดือนเดือนนึงมันได้เงินเดือนเท่าไหร่ ไหนจะที่ร้านเค้ก ไหนจะที่โรงแรม แล้วเดี๋ยวจะได้เงินเดือนที่บริษัทที่ไปช่วยพี่ตันอีก ขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงหรอก” ผมบ่น
“อาคะ..นั่น พี่ชายหนูนะ” ฟ้าครามหัวเราะ
“ก็อาหมันไส้มันอ่ะ” ผมว่าทำให้ฟ้าครามหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม ไม่เห็นมีใครเข้าข้างผมเลยอ่ะ ToT
“อาฟ้าคะ/ครับ ไปได้แล้วค่ะ” เสียงตะโกนเรียกจากบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตดังแต่ไกล ผมมองเด็กสองคนที่ยืนโบกมือให้ผมยกใหญ่
“ไปแล้วนะ ไว้เจอกัน..ต้องไปดูแลไอ้สองคนนั้นอีก” ผมบอก
“ค่ะ..ไว้เจอกันนะคะ” ฟ้าครามเข้ามากอดผม เรากอดกันอีกครั้งเป็นการบอกลา
.................>>>><<<<.................
-
:กอด1:กอดพี่บี้หนึ่งทีด้วยความคิดถึง. พี่ฟ้าน่ารักอะชอบบบ.
-
จิ้มก่อน
พูดไม่ออกเลย อะไรจะมากมายมหาศขนาดนั้น
-
5555555555 ตลกพี่ฟ้าตอนสุดท้ายอะ
บ้านที่หัวหิน คิวเค้ก♥
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ บ้านของพี่คิวกับเค้ก :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
ชอบอาฟ้าจังอ่ะ ขี้แกล้ง น่ารัก :z2:
-
ึคิวเจ๋งมั่กๆ ชอบจังที่ว่า "กูด่าแม่มึงอยู่ต่างหาก ไอ้โง่" คำด่ามันช่างเสียดแทงแบบไม่ให้กลับมาเกิดเลยอะ 555+
-
ครอบครัวใหญ่คนเยอะก็งี้ มากคนก็มากความ แต่คำว่า "กลับบ้านเรา.." คำีนี้ำทำน้ำตาพุ่งมากมาย
-
จะซื้อไว้ให้เค้กไปอยู่อ่ะดิ่ คึคึ น่ารักหลบในจริงๆคิวนี่ :-[
-
ซื้อบ้านให้เค้กใช่ไหมพี่คิว หึหึ :mc4:
-
ตอนนี้พ่อของคิวยังไม่รู้ว่าลูกชายชอบผู้ชายด้วยกันซินะ
ถ้ารู้จะเกิดปัญหาอีกมั้ยหว่า??
-
อยากเป็นสะใภ้บ้านนี้จัง หูยยย จะรวยไปไหน
-
ยินดีกับพี่ฟ้าด้วยจ้า o13
ขําบัตเตอร์เชอร์เบ็ตพูดขัดอ่ะ 555555555 อีพี่คิวฮาร์ดคอร์ไ่ปนะ
จําได้ว่าเค้กบอกอยากมีบิานริมทะเลเน่ อะนั่นแน่~
ซื้อไปให้ใครฮื้อป่าวค้าคิวววววววว :o8: :z2:
(รู้สึกว่านี่ตอนพี่ฟ้าอีนี่ยังฟินคิวเค้กได้ กร้ากก)
-
:3123: :3123: :3123:
-
"บ้านเลขที่111/999 บ้านของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นายเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า"
ปย.นี้ทำให้น้ำตาซึม ((ถ้าเป็นฟ้าเราคงปล่อยโฮเลยเหมือนกัน))
แฮ่ม!!! ขอซื้อบ้านหัวหิน พี่คิวแอบหวานนะ กำลังคิดจะทำความฝันของน้องเค้กให้เป็นความจริงช่ายเปล่าว๊า ((ถ้าที่อ่านๆ มาจำไม่ผิดนะ ^^)) ทั้งยังเรื่องที่ตีลูกกันกับพ่อไว้อีกไม่ให้ยุ่งกับเรื่องส่วนตัว เตรียมปกป้องน้องเค้กเต็มที่เลยนะ แผนสูงร้ายจริงๆ ว่ะ
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++ เหมือนเคยจ้ะ
:กอด1:
-
น่ารักจริงๆเลยอะ :impress2:
-
พ่อคิวความจริงก็แอบน่ารักอยู่อ่ะ
-
พี่คิววว ซื้อบ้านที่หัวหินเหรอ กิ้วๆ :m20:
ยิ้มแก้มแตกเลยอ่ะ จำได้ว่าเค้กเคยบอกว่าอยากมีบ้านริมทะเล :mc4:
:pig4:
-
สงสัยว่าพี่คิวจะชอบทะเล อิอิ เอาไว้ไปเที่ยวกับหนูเค้กหรอจ๊ะ
-
บ้านนี้เค้าจะรวยไปไหนเนี่ย
อิอิซื้อให้เค้กใช่ไหมละ :impress2:
-
อาฟ้าน่ารักอ่ะ
รักอาฟ้าจัง :กอด1:
-
พี่ฟ้าน่ารักจังเลย
-
เมามรดกมาก แทบทำงานไม่ได้ 555 o22
ดีใจกับอาฟ้าผู้เป็นที่รักของพ่อด้วยนะคะ
ว่าแต่...บ้านหัวหินนี่เรือนหอใช่ป๊ะพี่คิววววววว~~
-
พี่คิวเอาโล่ไปเลยคะ o13สุดยอด
ตอนที่ประกาศว่าอาฟ้าได้บ้านไปนี่แบบ ทำเอาน้ำตาซึมเลยอะ
-
อาฟ้าน่ารักจัง :L1:
-
อาฟ้ากะพี่คิวเค้ารักกันแบบ....แปลกๆดีเนาะ
พี่คิวร้ายยยมากกกก.....ปากตรงกะใจสุดๆๆ
-
ช่างเป็นตระกูลที่รวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก
รวยเกินไปแล้วนะเนี่ย
แบ่งทรัพย์สินทีเหนื่อยแย่เลย
ว่าแต่เมื่อไหร่อาฟ้าจะเปิดตัวหวานใจเนี่ยยย อิอิ
-
~บุตรชายคนเล็ก อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า~
อ่านมาถึงประโยคนี้น้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลยค่ะ
จนคนข้างๆนึกว่าเป็นไร คุณเบบี้สุดยอดค่ะ :L2:
:กอด1:
-
บ้านที่หัวหิน เค้ารู้นะพี่คิว หึหึ
ชอบอาฟ้ามากกกกกก และก้ชอบพี่คิวม้ากมากกกกกกก
รักเบบี้สุดๆเลยที่มาต่อ ขอบคุณนะคะ <3
-
โอยยยย ตายซื้อบ้านริมทะเล ตามความฝันที่เค้กเคยพูด
หวานแบบพี่คิวจริงๆ :o8: :o8: จำที่น้องบอกได้หมด
แปลกดีเนอะ คนเรารักกัน ทั้งๆที่รู้ว่ารักกัน แต่กลับให้ สังคม ฐานะ ศักดิ์ศรี มาบดบังมันออกไป จะมาคิดมาพูดก็ต่อเมื่อเวลานั้น มันเหลือน้อยหรือไม่มีแล้ว
ชอบเรื่องนี้ที่สุด สอนอะไรในการอ่านแต่หละตอนเป็นอย่างมาก
-
ขอเป็นคนใช้บ้านนี้ก้อพอ :impress3:
นี่ไม่ได้งกนะ :laugh:
-
:mc4: :mc4: ดีใจกับอาฟ้ามากอะ ตื่นตันแทนจิงๆๆ ยังไงพ่อก็รักก ให้แบบเหนือความคาดหมายมาก
พี่คิยวนี้มายไอดอลจิงๆๆ ไม่สนใคร ไม่สนโลกสุดๆๆ
แต่ก็แอบฮาอะ พ่อลูก เหมือนกันเป๊ะ แต่พี่คิวกะพ่ออาจจะไม่รู้ตัว
-
วู้วววว อาฟ้าน่ารักเนอะ ชอบบบจังเลยอ่าา
หุหุ ดูคุณพ่อก็รักอาฟ้า ขอโทษที่เข้าใจผิดนะค่ะ
แต่พี่คิวกับคุณพ่อนี้ เหอะๆๆๆ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ
-
ครอบครัวไม่อบอุ่น แต่อากับหลานคู่นี้อบอุ่นมากก โมเม้นท์ทุกช่วงชีวิตของสองคนนี้
ทำให้รุ้สึกว่ามันอบอุ่นอ่ะ ตั้งแต่อาฟ้าแยกออกมาอยู่กับคิวสองคน แค่ตอนนั้นก็บีบอารมณ์สุดฤทธิ์แล้ว
ตอนแบ่งมรดกอีก แบบ โอ้ยยยยย ดราม่ายิ่งกว่าละครช่อง7อ่ะ T___T หลายสิ่งหลายอย่างจริงจัง
อาฟ้าดูน่ารักมาก เป็นคนที่แบบเลี้ยงคิวให้เป็นคนดี(แต่กวนตีน)ได้ พี่คิวดูไฮโซอะ 555 ชอบจัง
และชอบต่อพี่คิวต่อปากต่อคำกับพ่อของตัวเองเรื่องแฟนมาก 555 รู้สึกว่าไอนี่กวนตีนเหลือแดก
กร๊ากกกกกกกกกกก แต่เค้าก็ชอบอ่ะ =///=
-
โอ้ยน้ำตาไหลยแทนฟ้า
-
อาหลานบ้านนี้เค้ารักกันแบบไม่เหมือนใครดีนะ..
-
~บุตรชายคนเล็ก อันเป็นที่รัก~ น้ำตาข้าพเจ้าไหลในบัดดล ถึงตอนนี้อาฟ้ารู้แล้วสินะว่าพ่อรักมากขนาดไหน ซึ้งอ่ะ :o12:
คิวนี่เป็นคนที่ Limited จริงๆ ฮ่าๆๆ
-
:-[
-
เรื่องวุ่นๆในบ้านนี้ก้อเคลียร์กันสักที
รอลุ้นเรื่องราวของฟ้าอยุ่น่ะ
พี่คิวกวนประสาทได้ตลอด กะพ่อตัวเองก้อไม่เว้น 555
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
เห็นมรดกแล้วจะเป็นลม มหาศาลอะไรเยี่ยงนี้
แต่พี่คิวก็ยังเป็นพี่คิวอยู่วันยันค่ำอ่ะนะ :laugh:
ส่วนของพี่ฟ้านี่เราเสียน้ำตาให้พี่ฟ้าอีกแล้วอ่ะ
แต่คราวนี้เสียน้ำตาเพราะดีใจกับพี่ฟ้าต่างหาก
"บุตรชายอันเป็นที่รัก" เห็นคำนี้น้ำตาไหลเลย
คูณพ่อรักพี่ฟ้าไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยสินะ
พี่ฟ้าก็ไม่เคยเกลียดหรือโกรธคุณพ่อเหมือนกัน
สายสัมพันธ์ยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอกเนาะ
แต่แอบขำพี่คิวกับคุณพ่อ :laugh: พี่คิวสุดๆจริงๆ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ร้องไห้ตามพี่ฟ้าอ่ะ ยินดีด้วยนะค่ะ ที่ได้รู้ความรู้สึกพ่อจริงๆ
-
พี่ฟ้าน่ารักมากเลยค่ะ :กอด1: :pig4:
-
พี่ฟ้าน่ารักอะ ตอนที่อ่านพินัยกรรมถึงยกบ้านให้พี่ฟ้าอะ แอบน้ำตาซึมไปด้วยเลย ซึ้งอะ
-
อ่านเรื่องนี้สนุกไปทุกครั้ง :bye2:
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
โอ้ย รวยๆ ทั้งนั้น :a5:
ขนาดสะใภ้ กับหลานนอกไส้ ยังได้ตั้งเยอะ
-
ร้องให้ตามพี่ฟ้าเลยอะ ...ฉากอดีตตอนพี่คิวจะไปด้วยกะอาฟ้า กับประโยคของพี่ฟ้าในพินัยกรรม
พ่อรักพี่ฟ้านะคับ ^^
คิวปิดจะซื้อบ้านให้เค้กอะดี้... บ้านแบบนี้ ตามที่เค้กฝันไว้เลยอะ.. :กอด1:
รักคิวปิด .. รักเบบี้ :z1:
-
เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง พี่คิวยอมช่วยงานพ่อโดยที่ไม่แต่งงานกะยัยฝัน อ๊ากกกก
แล้วบ้านจะซื้อไปทำไมกันเหรอ อิอิ
ตอนนี้เกือบร้องตามพี่ฟ้าเลยอ่ะ น่าสงสาร
-
อ่านแล้วน้ำซึมแทนอาฟ้าเหมือนกัน
สุดท้ายคนที่น่าสงสารที่สุดคือ ปรัชญา :เฮ้อ:
ชอบนายคิวตอบพ่อเรื่องแฟน
+1
-
บ้านที่หัวหิน :-[ :-[
-
ได้ข่าว บ้านที่หัวหินมันบ้านในฝันของเค้กไม่ใช่เหรอ?
น่ารักจังน๊าคิว :m1:
ได้อ่านพาร์ทของพี่ฟ้าแล้วรู้สึกเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกของคิวและคนใกล้ชิด มากขึ้น
เพราะด้วยความที่พี่ฟ้าเป็นคนอ่อนไหว เลยบรรยายเรื่องราวออกมาได้ละเอียด และชัดเจนขึ้นด้วยใช่มั๊ยคะ
-
เห็นมรดกแล้วจะเป็นลม
สนุกมากๆเลย like.
-
พี่คิวจะซื้อบ้านให้เค้กใช่ป่ะ รู้นะ
แล้วก็จะหนีไปอยู่ด้วยกันสองคน o18
-
ตอนไหนจะเจอทิกเกอร์
ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูกหรอก แค่ว่าการแสดงออก เหตุผล หน้าที่ มันต่างกัน
คิวคงอยากจะไปอยู่กะเค้กสองคน อร๊าย...น่ารัก :o8:
-
เพราะเค้กแน่ๆ บ้านหลังนั้นที่พี่คิวซื้อ อิอิ
พี่คิวน่ารักอะ :))
อาฟ้าก็น่ารัก เป็นคู่อาหลานที่เข้าคู่สุดละ o13
ขอบคุณเบบี้ ตื่นมาเห็นอัพตอนใหม่ ดีใจตานี่ตื่นเลย 555 :pig4:
-
:pig4: :pig4:
-
คิวต้องซื้อบ้านหลังนั้นไว้เป็นเรือนหอ ของคิวกะเค้งแน่ๆเลย :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
-
ไขความข้องใจหลายๆอย่างออกมาเลยครับ ตอนนี้
ครอบครัวใหญ่ เงินมากมาย แต่แล้งความรัก
-
น่ารักปนอบอุ่น
ฟ้าจะสดใสหลังจากผ่านพายุร้ายที่พัดกระหน่ำ
:กอด1:
-
น้ำตาซึมเลยอ่ะ
ตอนบอกว่า ลูกชายที่รักของข้าพเจ้า
อ่อยยยยย คิดว่าตัวเองเป็นพี่ฟ้าซะอีก
งื้ออออออ คุณพ่อออออ
แต่พี่คิวเท่อีกละ ^^
โฮววววว ลูกๆได้กันคนละ ห้าพันล้าน ฉันจะเป็นลมเอาจริงๆ
><
-
เป็นแฟนกันแล้วอ่ะ พี่ฟ้าก็น่ารักมาก
ไม่รู้พ่อคิวจะทำหน้ายังไงถ้าได้เจอเค้ก ยิ้มปลื้มตรงที่คิวขอซื้อบ้านที่หัวหินนี่ล่ะ ไม่คิดว่าจะจำได้ด้วย...เค้กปลื้มตายเลย
-
:z13: :z13:
:pig4:
-
รวยกันจัง
อิจฉา :z2:
-
อู้ยยยย.....สะใจแทนอาฟ้าไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกสะใจ
พี่คิวเสียสระน่าดูยอมทำงานที่ไม่อยากทำเพื่อเค้กใช่ไหม บ้านนั่นอีกน่ารักอะ
:pig4: คะ
-
บ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ ตระกูลนี้จะรวยไปไหนกันเนี๊ย..มรดกที่ไปนี่ อยู่สบายๆทั้งชีวิตเลย..ฮ่าๆๆๆ
คิว ตอนเด็กน่ารักหว่ะ ติดอาฟ้าอะ..แต่ก็แรงตั้งแต่เด็กเหมือนกัน.._/\_
ตลกฟ้าอะ มองพ่อกับลูกที่โคดจะเหมือนกัน แต่เจ้าตัวจะร้มั๊ยเนี๊ย..ฮ่าๆๆๆ
ปล.คิวอยากได้บ้านที่หัวหินขนาดนี้เลย..สงสัยจะมีประเด็นถึงขนาดขอซื้อต่อจากน้อง*o*
-
ตอนนี้ทำให้เราซึ้งนะ :monkeysad:
-
โอ้ววว พระเจ้า my buddha พระอัลเลาะห์ !!! ทำไมตระกูลนี้ถึงได้ร่ำรวยเยี่ยงนี้ ขนาดคนรับไช้ในบ้านยังได้ส่วนแบ่งของสมบัติ คิดดู๊!! ไปสมัครเป็นคนรับไช้ตอนนี้ยังทันมั๋ยอ่ะ :m18:
ชอบความคิดนี้มาก ๆ ๆ
"เมื่อผมผิดผมจะมองเห็นความผิดของผมจากเงาของผมเองเสมอ ผมคิดว่าไม่ว่าอะไรมันจะสะท้อนคล้ายกับเงาที่สะท้อนร่างกายของเรา “ความผิด” หรือ “ความดี”..เมื่อสะท้อน คุณจะต้องเห็นมันด้วยตัวของคุณเอง"
อย่าปฎิเสธว่าไม่รู้เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวของเราเอง
การที่พ่อให้อภัยและยอมรับในตัวลูกคนนี้ สำหรับอาฟ้ามันคงมีค่ายิ่งกว่าสมบัติทั้งหมดทั้งปวงอย่างแน่นอน...ยินดีต้อนรับอาฟ้ากลับบ้านค่ะ :mc4:
บ้านพักตากอากาศที่หัวหินที่พี่คิวจะซื้อต่อจากน้องฟ้าคราม มันคือบ้านในฝันของเค้กใช่ป่ะ?? จำได้คลับคลายคลับครา เดี๋ยวต้องกลับไปอ่านใหม่อีกรอบ :m28:
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ ส่วนพี่คิวก็คงความเป็นพี่คิวเช่นเดิม กวนทีน!!!! :z2:
-
จะเป็นลมกะมรดก ทำมันมันมากมายมหาศาลแบบนี้ :a5:
-
อยากเป็นหนึ่งในตระกูลนี้จริ๊งงงงง เงินเยอะไปไหน ฮ่าาาา
-
:-[ :-[ :-[ พี่คิวซื้อบ้านไว้อยู่กับเค้ก
-
ซื้อไว้เป็นเรือนหอของน้องเค้กอะดิ๊..คิคิ :z1: :z1:
พี่ฟ้าชอบแกพี่คิวจริงๆ..ชอบๆๆจังเลย :-[ :-[
-
หน้าที่ 151. นะจ๊ะกับความฝันของน้องเค้กกกกกกกก :-[ :o8: :-[
-
รีบคว้ายาดมเลย ตอนแบ่งมรดก... :a1: :a1: :a1:
อาฟ้าเป็นอาที่น่ารักมากๆๆ
พี่คิวขอซื้อบ้านเป็นของขวัญให้น้องเค้กด้วย
ดีใจแทนเค้กที่พี่คิวจำได้ว่านู๋เค้กอยากมีบ้านริมทะเล
ปล.เบบี้จร้า...ขอตอนพี่คิวหวานๆๆ กะน้องเค้กหน่อยจิ
เค้าคิดถึงน้องเค้กอะ :m5: :m5: :m5:
-
พี่ฟ้าน่ารักมากค่ะ
อยากรู้จักทิกเกอร์แล้ว 555
คำว่า "บุตรชายอันเป็นที่รัก" อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ T^T
-
น่ารักอะ
:กอด1:
-
จะรวยไปไหนคะตระกูลนี้
ลูกคนเล็ก สุดที่รักกกก ซึ้งงงงง :monkeysad:
พี่คิวซื้อบ้านไว้ไปสวีทกะเค้กหรอออออออ :-[
-
อ้อ เพราะสาเหตุนี่เองหรอ ที่พี่คิวจึงยอมแต่งงานกันฝันในตอนแรก
นี่คือสาเหตุจริงๆ นี่เอง ส่วนบ้านที่หัวหิน ที่ขอซื้อจากฟ้าคราม
เค้กเคยบอกว่าอยากได้บ้านริมทะเลใช่ป่ว ฮ่าๆ แหม๋พี่คิวของเรา
จำได้ด้วย ตั้งใจจะไปอยู่กับเค้กล่ะสิท่า อิอิ
ตอนนี้เบบี้อธิบายรายละเอียด ให้เข้าใจอย่างท่องแท้เลยทีเดียว
ตอนอ่านของเค้ก ยังแอบงงๆ อยู่เลยว่า ใครเป็นไครบ้าง ในตระกูลของพี่
แต่ก็บี้เขียนกระจ่างเลยทีเดียว เข้าใจที่มาที่ไปดี
แต่ตอนนี้แอบซึ้งนะ ตอนที่อ่านว่า "บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า"
น้ำตาซึมเลยที่เดียว รู้สึกเดียวไปกับพี่ฟ้าเลย ก็เข้าใจอีกเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิดนะ แม่ของพี่ฟ้าเคยบอกว่า
'พ่อเขาก็รักลูกมากเช่นกัน' ประมาณนั้น เมื่อตอนที่คิวถูกยิง แม่พี่ฟ้ารู้ถึงพูดไปเช่นนั้น
ที่แท้เพราะว่าพินัยกรรมอีกฉบับอยู่ที่แม่พี่ฟ้า นี่เอง แม่พี่ฟ้าถึงรู้ดี และจึงบอกเช่นนั้น
ชอบมากๆเลย ทุกเรื่องก็กระจ่างแล้วนะ ถ้าเขียนในมุมของเค้กนะ พี่คิวคงไม่พูดหรอก บทพูดน้อยจะตาย มีแต่ขี้เก็ก
แต่บี้ก็เลยเลือกเขียนในมุมพี่ฟ้า ผู้รู้ดีที่สุด จึงกระจ่างที่สุด ผมพอเข้าใจแล้ว แต่ยังเหลือเรื่องไม่กระจ่างอีกเรื่อง
นั่นก็คือเรื่องของพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ อยากรู้ว่าคู่นี้เข้ามีความเป็นมาอย่างไรกัน รอติดตามครับ
-
คิวซื้อบ้านเอาไว้ไปสวีทกับแยมแน่ๆ เลย :กอด1:
แอบซึ้งตอนประกาศชื่ออาฟ้า... ความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก ตัดยังไงก็ไม่ขาด :impress:
-
น่ารักมาก พี่คิวเนี่ย เมื่อไหร่จะมีมุมน่ารักแบบอาบ้างงงงงง
ชอบอาฟ้า น่ารักแบบนี้ความรักจะหวานมั้ยน่าาา :impress2:
-
เยอะไปไหมเงินบ้านนี้ ฮิ้วๆ :z1:
-
พี่คิวววว คิดการณ์ไกลทุกเรื่องยอมพ่อบางเรื่องเพื่อกันเค้กไม่ให้ใครเข้ามายุ่ง แถมนั้นซื้อต่อบ้านริมทะเล ให้เค้กละสิ
อาฟ้ายังไงคนเป็นพ่อก็รักลูกก็ตัวเอง ซึ้งแทนอาฟ้าอ่ะ
-
มันคือตอนต่อเนอะ ไม่ใช่คั่นกลางระหว่างเรื่อง
เพราะพี่คิวมีแฟนแล้ว :o8:
อยากเป็นสะใภ้ตระกูลนี้จังค่ะ รวยเวอร์มากกกกกกกก 55555555555555555
พี่ฟ้าตลกอ่ะ ทำตัวเหมือนเด็ก พี่คิวก็ทำตัวแก่ 5555
-
แอบยิ้มตอนที่อาฟ้าบอกให้ฟ้าครามขายบ้านที่หัวหินแพงๆ
เหมือนเด็กเลย
-
รวยมากตระกูลนี้
-
น้ำตาซึมตอนที่พินัยกรรมระบุยกบ้านให้อาฟ้า บุตรชายที่รักยิ่งของข้าพเจ้า T^T
-
"บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า"
:sad4: น้ำตาไหลพรากกก กับประโยคนี้ ที่จริงคุณพ่อก็รักฟ้ามาก ๆ
ส่วนพี่คิวกับพ่อ ขี้เก๊กทั้งคู่ ถอดแบบกันมาเด๊ะ ๆ เลย ๕๕๕๕๕๕๕ :m20:
-
:pig4: :pig4:
-
ตอนอาฟ้าร้องไห้ เราน้ำตาคลอเลยอ่ะ ดีใจและซึ้งใจไปกับอาฟ้าด้วย
-
สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเล็กๆของครอบครัวนี้นะ
เฮ้อ!ขออย่าให้เศร้าเหมือนของคิวเลยนะค่ะพี่เบบี้
-
อ่านแล้วซึ้งมากเลยค่ะ ตรง " ~บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า~ "
ขอบคุณนะคะที่อัพ รออ่านต่อค่ะ ^0^
-
กรี๊ดดดดด
ดีใจแทนอาฟ้าจัง หุหุ
-
น้ำตาไหลออกมาเลยอ่ะ พอได้อ่านประโยคนั้น
~บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า~ :monkeysad: :monkeysad:
เข้าใจความรู้สึกของพี่ฟ้าขึ้นมากเลยล่ะ ปลื้มๆ :impress3: :impress3:
-
เบบี้ ขอบคุณนะ :pig4: :pig4:
-
คึคึ หวังจะถอนขนหน้าแข้งน้องคิว ข้าศพเบบี้ไปก่อนดีกว่าป่ะ
-
o18 พี่คิวนี่เฮี้ยวดีนะ ขู่จะเผาบ้านตัวเอง ==
อาฟ้าน่ารักกกกกก
-
คิวซื้อบ้านไปทำไมอะ
แต่คิวนี่ดื้อได้คงเส้นคงวาดีมากนะ หุๆ
-
ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่ไม่รักลูก เนอะอาฟ้าเนอะ
-
บ้านที่หัวหินนี่ต้องเกี่ยวกับเค้กแน่นอน !
คุณพ่อก็ออกจะรักอาฟ้า ติดแค่ทิฐิเท่านั้นสินะ แต่ตอนนี้ก็รับรู้แล้วว่ารักมาก แม้จะไม่ได้อยู่แล้วก็ตาม . . . :กอด1: :L2:
-
:impress2:พี่คิวววววววววววววววววววววววววว :impress2:
-
บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า
อ่านถึงตรงนี้ :monkeysad: :sad11:
ว่าแต่พี่คิวที่บอกพ่อไปว่า ถ้าเทียบฐานะแล้วแฟนพี่คิวจนมาก คือ ชั้นต้องฟินหรือต้องยังงัยวะ นี่ประชดพ่อแต่เหมือนด่าเค้กเลยอ่ะ 55555
-
พ่อพี่ฟ้าก็คงจะเสียใจมากเหมือนกันเนอะ
ตอนที่ต้องไล่ลูกชายตัวเองออกจากบ้าน
พี่ฟ้าก็ได้รู้สักทีว่าพ่อรักตัวเองมากแค่ไหน.....เฮ้อ!!!!
-
รวยชิบหายเลยยยยย :sad3:
"บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า" น้ำตาแทบเล็ดเลยประโยคนี้ ซึ้งมากอ่า
เรารู้นะว่าพี่คิวจะซื้อบ้านพักที่หัวหินไว้เป็นเรือนหอ
เมียชอบ เลยเอาใจเมียใช่ป้ะล่ะ :m20:
-
พี่ฟ้าเป็นคนน่ารักจัง แต่ก็เด็ดเดี่ยวด้วย ดีใจกับพี่ฟ้าด้วยนะที่คุณพ่อบอกอย่างนั้น ^^
คิวก็กวน ตีนิ่งตลอด 55
บ้านที่หัวหิน คิวจะอยู่กับเค้กแน่เลย :impress2:
:กอด1: กอดเบบี้
ขอบคุณนะคะ :pig4:
-
ฮืออออออออออออออ
-
บางคนก็ไม่น่าจะได้ส่วนแบ่งด้วยเลยนะ ถึงจะน้อยกว่าคนอื่นแต่ก็เกินเอื้อมของเราๆ ท่านๆ
-
========================
=“และ บ้านเลขที่111/999 บ้านของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..ข้าพเจ้าขอยกให้แก่นายเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า” =
========================
ชอบประโยคนี้ เรียกน้ำตาได้เลย แทบไหลๆๆๆๆๆ
อือๆๆๆ
อือๆๆๆ
อยากได้ สัก 15 ล้านอ่ะ
โฮ๊ะๆๆๆ ^ [] ^
-
อาฟ้าน่ารักจังค่ะ :กอด1:
-
แอร๊ยยย จะเม้นสิ่งใดก่อนดีคะ .... อาฟ้า ตอนที่อ่านพินัยกรรม แล้วอาฟ้าได้บ้าน น้ำตาไหลเลยอ่ะ ต่างคนต่างรักแต่ทิฐิเกินกว่าจะพูดไป :monkeysad:
ส่วนอิพี่คิว คงเส้นคงวาความน่ารัก??? เหมือนเดิม ตอนที่คิวบอกพ่อว่า ถ้าเทียบกับเราแล้ว ถือว่า จนมาก คือมันมากกว่าจนมากกกกกอีกนะจ๊ะคิว 555 :m20:
-
ตระกูลนี้เค้ารวยจริงๆ.... ตอนอ่านพินัยกรรมลุ้นมากๆ ว่าคิวกับฟ้าจะได้อะไร
ตอนสุดท้ายของการอ่านพินัยกรรมก็แอบมีน้ำตา :monkeysad:... และก็มาฮาตอนที่ฟ้าบอกว่าคิวมันจะเผาบ้าน 5555 บ้าดีเดือดจริง คนอะไร.... เรื่องที่บ้านเคลียร์แล้ว ต่อไปก็เรื่องทิกเกอร์
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
:3123:
-
น้ำตาไหลเลย ตอนอ่านพินัยกรรมยกบ้านให้อาฟ้า ฮือออ
ว่าแต่ พี่คิวเริ่ดที่สุดในโลกกกกกกกกกกกกก
บวกๆๆๆๆ
-
โยนสักหนึ่งล้านลงทะเล ขนคิ้วยังไม่สะเทือนเลยจ้าาาา บ้านนี้มันช่าง... *0* (สลิ่มรู้หางคงกระดิกไม่หยุด) กร๊าก
ร้องไห้อ่ะ เต็มตื้นไปพร้อมอาฟ้าเลย ..รักคุณพ่อ T^T
พอนึกว่าพ่อกับลูก(คิว)เหมือนกันเดะ ก็แอบคิดไปว่า พ่อจะหล่อเหมือนลูกมั้ย แอร๊ยยยยย (มึงจะไปเป็นเมียน้อยเขาหรอ? ==")
รู้นะๆๆ อ่ะๆๆๆๆ บ้านติดทะเลน่ะ ฮิ้ววววววววววววว~~ ผิวปากแซวเบาเบา คึคึ
จะว่าไปก็ปลื้ม.. นี่ยอมทำงานเพื่อแลกกับความรักเลยนะ พี่คิวรักน้องเค้กขนาดดดดดด แหมะ!!
ปล. ทนายของบ้านน่ะ รู้สึกนามสกุลเหมาะกับอาชีพดีนะ กร๊าก "มากบรรทัด"
-
:กอด1:มีความสุขจังเลยอะที่ได้อ่านเรื่องนี้ :กอด1: :กอด1:
:bye2: :bye2:
-
...พี่คิวปิืด นี่แสบตั้งแต่เด็กๆๆเลยนะ
...ชอบมากที่บอกว่า ..แฟนฐานะ..่จนมาก 555
...สุดท้าย ไม่ว่ายังไง ..พี่ก็ยังรักลูกชายคนเล็กมากที่สุด อ่านแล้วเศร้าตรงนี้ :L2:
-
อยากได้มรรดกบ้าางงง 5555 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
:z6: :z6: :z6:
-
อ่านแล้วซึ้งมากๆๆคนเป็นพ่อเนอะยังไงก็รักลูกเสมอๆ :กอด1:
-
บ้านริมทะเล..เอ๊ คุ้นๆว่าเหมือนจะเป็นความฝันของเค้กเลยนะพี่คิว หึหึ
อาฟ้าน่ารักที่สุดอะ รักอาฟ้ามากเลย :-[
-
บ้านนี้เค้ายังเหลือทายาทผู้ชายว่างๆ อีกสักคนมั้ยเนี่ย อยากได้
ค่อดรวยอ่ะ อยากเป็นสะไภ้บ้างรัยบ้าง :-[
-
บ้านเริ่มเป็นบ้านขึ้นมาบ้างแล้ว :)
ถ้าพาเค้กมาเปิดตัวคุณพ่อจะช็อคมั้ยน่ะ o13
-
อ่านประโยคที่พ่อยกบ้านให้ฟ้าแล้ว ดีใจแทนฟ้าจริงๆ เหมือนกับว่าทุกอย่างที่ค้างคาในใจมันถูกปลดปล่อย เปิดพินัยกรรมแล้ว หวังว่าคงไม่มีเรื่องวุ่นวายแบบที่แล้วๆมาหรอกนะ ที่คิวแต่งงานกับฝันเพราะพ่อบีบบังคับสินะ แต่สุดท้ายก็เลือกเค้ก เลยยอมทำในสิ่งที่ไม่ชอบ >////< ว่าแต่บ้านพักริมทะเล ... ซื้อมาเพื่อเค้กหรือเปล่านั่น ? คึคึ นี่คุณพ่อยังไม่รู้สินะว่าแฟนของลูกชายน่ะ เป็นผู้ชายเหมือนกัน ถ้ารู้จะว่าไงนั่น
-
บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า
เจอประโยคนี้เข้าไป น้ำตาซึมเลยเรา
ส่วนเรื่องบ้านที่หัวหินนี่ ซื้อไว้อยู่กับน้องเหรอพี่คิว
ฮิ้วววววววววววววว :L2: :L2:
-
โอ้ว...ประทับใจอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณมากน๊าเบบีั้ :)
-
อาฟ้าน่ารักจัง :man1:
คิวเท่ห์อ่ะ o13
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ มีแอบซื้อบ้านใกล้ทะเลด้วย แหม่ๆๆ จะไปอยู่กับใครหรือเปล่า ๆๆๆ
ทะเล๊ ทะเล ~ :110011: :z7:
-
อ่านตอนที่1 แล้วอาฟ้าน่าสงสารจัง แต่ดียังมีหลานคิวปิดช่วยทำให้ชีวิตอาฟ้ามีความสุขบ้าง
อ่านตอนที่2 แล้วสนุกจัง รู้สึกอาฟ้าเก่งมาก วางแผนชีวิตตัวเองอย่างดี แถมหลานคิวยังมีชีวิตชีวาดี อ่านเรื่องของอาฟ้าแต่เข้าใจหลานคิวดียิ่งขึ้น มันเกี่ยวพันกันจริงๆ
เบบี้เขียนเก่งจัง :impress2:
จะรออ่านตอนต่อไปนะ :L2:
-
บ้านที่หัวหิน
เหมือนว่าเค้กอยากซื้อบ้านริมทะเลให้แม่ป้าน้องอยู่นี่น่าาา า
หุหุ
-
ว่ากันไปกับความรวย ที่ทุกคนอยากได้จนเกิดเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
ส่วนคนไม่อยากได้ ก็ได้จนล้น ( เนอะ คนมีบุญก็งี้แหละ )
พอมาเปิดในมุมมองของฟ้า คิวดูซอฟ ๆ ลงบ้าง มารอดูความหวานที่แอบซ่อนไว้กัน :m22:
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
ดีใจแทนฟ้าจริงๆเลย
:-[
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :o8: :o8: :o8: :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
ที่คิวซื้อบ้านที่หัวหินเพราะเค้กเคยพูดไว้ว่า อยากมีบ้านอยู่ริมทะเล...หรือเปล่า เอะ หรือเราคิดไปเอง555
ว่าแต่พี่ฟ้าจะลงเอยยังไงนะ รอเบบี้มาต่อ อิอิ
-
รวยชิบหาย!!!!!!!!!!!!! ไม่น่าละมันจะฆ่ากันตาย
อาฟ้าได้บ้านอ่ะ ซึ้งใจ ยังไงพ่อก็รักอาฟ้าแหละ
-
:z3: คนอ่านขอสัก 10 ล้านก็พอ จะรวยไปไหนกันค่ะ คุณพ่อพี่คิว-กะคุณลูก นี่นิสัยเดียวกันเลย เก็ก ฟอร์มทั้งคู่ แต่จริงๆ ก็มีแอบห่วงใยกันและกัน คุณพ่อพี่ฟ้าน่ารักมากอ่ะ ถึงจะไล่ฟ้าออกจากบ้านไป แต่พอยกพินัยกรรม กลับยกบ้านให้แล้วยังมีสิทธิ์เด็ดขาดเหมือนกันพ่อเลย
พี่คิวมีแอบไปตกลงนอกรอบกับน้องฟ้าครามด้วยว่าจะซื้อบ้านที่หัวหิน สงสัยจะเอาไว้เป็นเรือนหอ คิว-เค้กแน่เลย
-
เมื่อผมผิดผมจะมองเห็นความผิดของผมจากเงาของผมเองเสมอ ผมคิดว่าไม่ว่าอะไรมันจะสะท้อนคล้ายกับเงาที่สะท้อนร่างกายของเรา “ความผิด” หรือ “ความดี”..เมื่อสะท้อน คุณจะต้องเห็นมันด้วยตัวของคุณเอง
ชอบมากอ่ะ ชอบจริงๆประโลยคนี้
ว่าแต่พี่คิววววจ๋า ซื้อบ้านเพื่อเค้กใช่มั้ยอ่ะ เค้ารู้นะ เพราะเค้กเคยบอก 55555 ถ้าแกจะจริงจังได้น่ารักขนาดนี้อ่ะนะ ฮิฮิ
-
พี่คิวแอบหวาน ซื้อบ้านให้เค้ก กิ้วววววว
แอบซึ้งตอนพี่ฟ้าได้บ้าน
รอตอนต่อไปค่ะ
-
อ่านแล้วน้ำตาไหล ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูก น่าจะจริง
-
ดีใจแทนฟ้าและเส่ียคิวด้วย
-
ยืนอ่านตอนนี้บน ipad ขณะพาลูกสาวไปซื้อของที่อิเซตัน
อายมากกกกกอ่ะ น้ำไหลพรากๆๆๆ
ณ โมเม้นนั้น ไม่สามารถคอมเม้นท์ได้
เบบี้เขียนได้ซึ้งกินใจจริงๆค่ะ
+1 :กอด1:
-
รู้นะว่าคิวเอาบ้านพักตากอากาศที่หัวหินทำไม เพราะเค้กเคยบอกว่าอยากมีบ้านแบบนั้น
คิวเป็นคนที่จำรายละเอียดดีจัง. โรแมนติกแบบไม่แสดงออก
น่ารักจังเลย :L1: :3123: :L2: :กอด1:
-
ตอนของอาฟ้าก็สนุกเหมือนกันน้า
-
ถ้าที่พักไม่ได้ซื้อให้เค้ก...ก็ต้องเก็บไว้เป็นที่ของสองคนใช่มั๊ยยยยยยยยย ^^
-
อาฟ้าน่ารัก
:o8:
พี่คิวก็น่ารักซื้อบ้านที่หัวหินเพื่อเค้ก :o8:
-
ถ้าจะรวยขนาดนี้ ขอไปเป็นคนใช้ในบ้านหัวหินของพี่คิวได้มะ 555 แอบส่อง
-
บ้านที่หัวหินคงจะไปสวีทกะเค้กแน่ๆเลย อิอิ
-
อาฟ้านี่ชอบแกล้งหลานนะ มีหลานก็ชื่อฟ้าเหมือนกันอีกแน่ะ
พี่คิว พี่คิวจะซื้อที่แถวนั้นไปทำไมคะ พี่คิวววว 555555 วุ๊ย มองเห็นอนาคตอยู่รำไร
-
อ่านเรื่องนี้แล้ว ตัวละครแต่ละตัวแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของความรักระหว่างชายกับชายที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรมมาก ๆ ค่ะ
ชอบมาก อยากให้มาต่ออีกค่ะ แ้ล้วก็อยากจะรู้เรื่องของ 3 หนุ่ม กัส หมี เซน ด้วยค่ะ
รออ่านต่อไป
-
"~บุตรชายคนเล็ก..อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า~"
เจอคำนี้เข้าไป ตื้นตันแทนอาฟ้าเลยค่ะ :monkeysad:
ชอบตอนนั้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทั้งตอนที่แม่กอด และให้กลับมาอยู่บ้าน ทั้งอาฟ้าที่ร้องไห้ขนาดนั้น
และความรักของพ่อที่สัมผัสได้
....................เป็นฉากที่น่าประทับใจจริงๆ :กอด1:
อีกตอนที่ชอบคือ คิวกับพ่อตอนท้าย
ตลกดีนะ ไม่แปลกใจที่พี่คิวเป็นแบบนี้เพราะใคร
ถ้าสองคนนี้คุยกันนานๆ คงสนุกน่าดู เก๊กใส่กัน แล้วเชือดเฉือนด้วยคำพูดน้อยๆแต่กวนชิบเป๋ง
จริงๆ ถ้าพ่ออยากรู้เรื่องน้องเค้ก ก็ไปแอบสืบเองได้ไม่ยากป่ะนะ?
แต่ถ้ารู้ขึ้นมาจริงๆ จะเป็นยังไงกันนะ................................. :m21:
และคงต้องรอติดตามกันต่อไปว่าปริศนาบ้านที่หัวหินคืออะไรกันแน่?
ใช่อย่างที่เดาๆ เอาไว้ไหม ?
แล้วพี่คิวจะพาน้องเค้กมาโชว์หวานให้อาฟ้าอิจฉาและหมั่นไส้บ้างไหม?
หรืออาฟ้าจะยั่วให้หลานหึงเล่นๆ ได้รึป่าว?
(จินตนาการไปใหญ่แล้ว..............)
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ค่ะ :กอด1:
เป็นกำลังใจให้สำหรับตอนหน้าและหน้าๆ
-
คิดฮอดพี่ฟ้า พี่คิว และเบบี้ >.<
-
อะไรทรัพย์สินมันจะมากมายมหาศาลลล o22
อาฟ้าน่ารักๆ
แหน่ะอีตาพี่คิวซื้อบ้านหัวหิน :man1:
:กอด1:เบบี้
-
อ่านไปยิ้มไป ............... น่ารักดีค้า..............อาฟ้า
-
อยากได้คุณอาที่อบอุ่นแบบพี่ฟ้าบ้างจังเลย
แต่ชีวิตพี่ฟ้าน่าสงสารเกินไปแหละ อ่านแล้วเศร้า ร้องไห้ด้วยเลย
-
สนุกมากกกกกกกกกกกกก ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ ^^
-
:catrun:
-
อาฟ้ากับพี่คิวน่ารักกันจังเลยค่ะ
แหม จริงๆแล้วพี่คิวก็วางฟอร์มกับคุณพ่อไปงั้นเอง
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ ชอบๆ :))
-
อั๊ยย่ะ!!!!~ ไอ้พี่คิว แกรวยโคตร โคตรรวย รวยเวอร์ ๆ อะ
อิจฉาโว้ยยยยยยยยยยยยย ...... ><
ว่าแต่ซื้อบ้านติดริมทะเล อิอิ ไปอยู่กะเค้กชัวร์ป้าบ แล้วก็ป้าบ ๆ ๆ ๆ
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ทะลึ่งว่ะเรา
:z2: :z2: :z2: :z2:
-
~3~
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“แล้วจะไปไหนอีกละนั่น” ผมหันกลับไปมองหน้าหลานชายสุดรักสุดดวงใจของผม ที่กำลังพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันใส่ผมเสียเหลือเกิน
“ไปห้องเสื้อสาขาใหญ่ แล้วก็จะเลยไปไหนนิดหน่อย” ผมตอบพร้อมกับเชิดหน้าหนี
“หึ..อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่” คิวแสยะปาก
“เน่..” ผมหันมาค้อนปราม
“อะไรไม่ทราบ” คิวเบะปากและเลิกคิ้วกวนตอบ
“หยุดทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย แล้วก็เอากุญแจรถมาด่วน” ผมทวงกุญแจรถของผม รถสปอร์ตคันที่ทิกเกอร์ซื้อมาสังเวยให้ แน่นอนว่าผมชอบมันมากทีเดียว..เรียกว่าเห็บปุ๊บก็หลงรักปั๊บเลยล่ะครับ
“เชิญ” คิวโยนให้ ผมรีบกระโดดรับไว้เพราะกลัวว่ามันจะตกพื้นเสียก่อน
“คุณอาจะไปไหนเหรอคะ” เชอร์เบ็ตเงยหน้าขึ้นมองผม
“อา..” ผมอ้าปากกำลังจะพูดตอบ
“คุณอาจะไปทำตัวเสเพลน่ะครับ” คิวก้มลงตอบเชอร์เบ็ตเหมือนต้องการจะกวนผมไม่เลิก
“ทำตัวเสเพล” ทั้งสองประสานเสียงกัน บัตเตอร์และเชอร์เบ็ตมองหน้าคิวด้วยความสงสัย
“นี่คิว..ไอ้บ้า” ผมกัดฟันว่า คิวหันมายักคิ้วกว้างให้
“อาไปทำงานน่ะจ้ะ เดี๋ยวอามานะครับ” ผมยิ้มให้กับเทวดาตัวน้อยของผมทั้งสอง
“แล้วอาจะมาทานข้าวกับพวกเราไหมฮะ” บัตเตอร์ถาม
“เอ่อ..” ผมอ้ำอึ้ง หันไปมองหน้าคิว คิวเชิดหน้าไปอีกทางอย่างไม่สนใจผม เหมือนต้องการแกล้งให้ผมหาคำตอบด้วยตนเอง
“อาจะพยายามนะครับ”
“ไม่แน่ใจ อย่าเที่ยวรับปากสุ่มสี่สุ่มห้าดีกว่านะ..หลานจะเอาไปทำตาม” คิวว่า ผมยืนนิ่ง
“ไปครับ เข้าบ้านกันนะ” คิวบอกเด็กทั้งสองและเดินเข้าบ้านไป
“ฝากด้วยนะครับ” ผมหันไปบอกป้านิด
“ค่ะ” ป้านิดผงกหัวตอบ ผมขับรถออกมาเพื่อตรงไปที่ห้างของพี่พราว พี่สาวของผม ห้องเสื้อของผมตั้งอยู่ที่นั่นด้วยหนึ่งสาขา ที่ห้างแฮร์รอดในสี่สาขาที่เป็นห้างในการดูแลของพี่พราวและสามีของเธอโดยมีห้องเสื้อในยี่ห้อของผมอยู่ที่นั่นด้วยทุกที่ พี่พราวเธอเป็นตัวตั้งตัวตีที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอดตั้งแต่ผมเริ่มตั้งตัวทำธุรกิจเป็นของตนเอง
ช่วงนี้ผมไม่ค่อยอยากอยู่บ้านเท่าไหร่นัก ผมค่อนข้างสับสนนิดหน่อย เอ่อ..หรืออาจจะสับสนค่อนข้างมาก ผู้ชายสองคนที่มีอิทธิพลกับชีวิตของผมกำลังเดินกลับเข้ามาหาผมพร้อมพร้อมกัน เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนหลานชายที่รักของผม คิวก็เจอมรสุมชีวิตของตนเองที่จะต้องแก้ไขปัญหาด้วยตนเองไม่ต่างจากผมในตอนนี้ ผมไม่ยุ่งและปล่อยให้คิวจัดการเรื่องส่วนตัวของเขาด้วยตนเองทั้งหมด ผมไม่อาจเข้าไปก้าวก่ายได้เพราะบางครั้งคิวก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าผมเสียอีก ความรู้สึกของคนอื่นบางครั้งก็ยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจ เราสองคนผลัดกันไม่อยู่บ้านอยู่บ่อยครั้ง ในตอนนี้หลานชายของผมกลับเข้าสู่ช่วงปกติของชีวิตแล้ว ดูท่าแล้วชีวิตจะดีกว่าเมื่อก่อนอีกด้วยซ้ำ เขากำลังมีความรักครั้งใหม่กับคนที่เขารัก แต่ผมนี่สิครับที่ยังไม่สามารถเลือกเดินไปทางไหนได้เลย
เรื่องมันค่อนข้างจะบังเอิญเกินไปเสียหน่อยหรือเปล่านั้นผมไม่ทราบ นี่ผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ผมยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนั้นคือเรื่องจริง เมื่อเดือนสองเดือนก่อน..
“วันนี้พี่ฟ้าจะกลับบ้านเลยรึเปล่าครับ” คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของผมเงยหน้าขึ้นถาม ผมก้มลงมองด้วยความเอ็นดูอย่างเคย “น้องแฮม” เป็นเพียงคู่นอนของผม เรานอนด้วยกันมาสองสามครั้ง น้องแฮมคงจะสังเกตเห็นได้ว่าทุกครั้งหลังจากที่เรามีอะไรกันเสร็จ ผมจะกลับบ้านเลยทันที
"คงไม่ครับ” ผมยิ้มตอบ
“จริงนะฮะ” อีกฝ่ายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ผมรู้ว่าน้องแฮมหวังในตัวของผมแค่ไหนแต่เราเคยคุยกันแล้วว่าผมไม่สามารถรักน้องแฮมได้ด้วยหลายสาเหตุ ผมเปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้งหลังจากที่ได้แยกทางกับผู้ชายคนหนึ่ง น่าแปลกที่ผู้ชายคนแรกของผมไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเกือบคลั่งได้ถึงขนาดนี้ ผู้ชายอีกคนต่างหากที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมเหงามากเหลือเกินที่ต้องขาดเขาไป ไอ้ผู้ชายคนที่อยู่ๆก็มาปรากฏตัวที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ของผมเมื่อวานก่อน ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ทำให้ผมจิตใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปทั้งวัน
หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าผมปวดร้าวกับความรักที่คาดหวังไว้ถึงสองครั้ง เมื่อเกิดครั้งที่สองขึ้นจึงเป็นเหตุให้มุมมองของความรักนั้นเริ่มจางหายและหันเหไปทางอื่นแทน
สี่ปีเกือบห้าปีมานี่ผมนอนกับใครมากี่คนแล้วมันแทบนับไม่ถ้วน ส่วนมากผมจะเป็นฝ่ายกระทำมากกว่าที่จะถูกกระทำ ผมจะยอมเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำก็ต่อเมื่อผมเจอผู้ชายคนที่ตรงสเปกผมทุกอย่างจริงๆ แน่นอน..ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะตรงสเปกผมมากสักเพียงไร ผมกลับไม่เคยสานต่อหลังจากนั้น วินวิน..ต่างฝ่ายต่างต้องการเสร็จภารกิจและแยกทางกันไปเท่านั้น
“จริงสิ” ผมตอบ
“แฮมยังไม่เคยมาโรงแรมนี้เลย หรูจัง” น้องแฮมกวาดตามองไปทั่ว น้องแฮมเป็นลูกไฮโซตระกูลหนึ่งที่ผมรู้จักเป็นอย่างดี ที่เราแอบมาทำอะไรกันแบบนี้ได้เพราะผมรู้จักกับแม่ของน้องเขา และเรื่องบัดสีนี้ไม่มีใครทราบเลยนอกจากเราสองคนเท่านั้น
“แม่แฮมรวยจะตาย มาเปิดไว้นอนเล่นสักคืนสองคืนคงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ” ผมแซว พนักงานโรงแรมเดินนำเราสองคนเพื่อพาไปที่ห้องพักที่ผมได้โทรมาจองไว้เรียบร้อยแล้ว
“ไม่ได้หรอกครับ นี่น่ะ..ออกมากับพี่ฟ้านะแม่ถึงให้มาอ่ะ” น้องแฮมพูด แก้มเล็กๆนั่นป่องขึ้นทำให้ยิ่งดูน่ารัก
“หึ แย่จังนะ..แม่คงตกใจแย่ถ้ารู้ว่าพี่พาลูกเค้ามาทำอะไร” ผมก้มลงกระซิบทำให้น้องแฮมแก้มแดงระเรื่อขึ้นมา
“ฟ้า..” ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก มันเป็นเสียงที่คุ้นหูจนเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ ผมและน้องแฮมหันกลับไปมองพร้อมกัน
“ฟ้าใช่ไหม” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงดีใจ ตาของเขาเบิกโพรงเหมือนเหลือเชื่อที่ได้เห็นผม ผมได้เพียงแต่ยืนอึ้งมองอีกฝ่ายและสมองกำลังประมวลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้
“จักรเอง..เอ่อ ฟ้า” จักรกฤษณ์..ผมได้แต่เรียกชื่อเขาในใจอย่างไม่เชื่อว่าคนตรงหน้าคือจักรตัวจริง
“สวัสดี” ผมพูดพยายามให้น้ำเสียงปกติ นอกจากอาการอึ้งด้วยความตกใจแล้ว ไม่มีความรู้สึกใดๆมากไปกว่านั้น “จักร”..คือคนรักคนแรกของผม เป็นผู้ชายคนแรกที่สอนให้ผมรู้จักกับความรัก นี่มันผ่านมากี่ปีแล้วผมแทบจำไม่ได้ว่าเราไม่ได้พบหน้ากันมานานเท่าไหร่ เราแยกทางกันไปกี่ปี กี่ปีแล้วที่ผมไม่รู้สึกอะไร เมื่อกี่ปีที่แล้วนะ..ที่เขาทำให้ผมเจ็บแทบเจียนตาย
“สวัสดี..ดีใจจังครับที่ได้เจอกันอีก” จักรยิ้มอย่างเคย ผมยิ้มตอบให้เพียงนิดเดียวเท่านั้น ผมรู้ข่าวเกี่ยวกับจักรมาบ้างเพราะจักรก็เป็นนักธุรกิจมีชื่อคนหนึ่ง เป็นถึงเจ้าของบริษัทตกแต่งภายในที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง บางครั้งเพื่อนของผมมักจะมาเล่าเรื่องของเขาให้ผมฟัง ผมไม่ค่อยตั้งใจฟังเท่าไหร่ในตอนนั้นเพราะผมคิดว่าคงไม่มีอะไรที่เราทั้งสองคนจะต้องมาพบหาพูดคุยกันอีก
“มาที่นี่ทำไมเหรอ” อีกฝ่ายถาม สายตามองมาที่เด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างกายผม
“....................” ผมเลือกที่จะไม่ตอบแต่ยิ้มตอบให้
“เอ่อ ที่นี่เป็นโรงแรมของเพื่อนจักรน่ะครับ”
“งั้นเหรอ เอ่อ..งั้นผมขอตัวนะ มีธุระน่ะ” ผมบอกและเดินออกมาทันที
“เออ ฟ้า” อีกฝ่ายเรียกด้วยน้ำเสียงแทบจะตะโกน ผมหันกลับไปมองอีกครั้ง
“คือจักร ติดต่อไป..ได้ไหมครับ” จักรพูด ผมมองสีหน้าของเขาอย่างละเมียดละไม มองทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเขา หน้าตาเขายังหล่อและดูดีเหมือนเดิม ที่จริงนั้นดูดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ร่างกายและหน้าตาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่สีหน้ารู้สึกผิดที่มีบนใบหน้าแบบนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกยินดีขึ้นมาแม้แต่น้อย
“ถ้ามีความพยายามขนาดนั้นก็ลองดู” ผมพูดลองเชิงไปอย่างนั้นเพียงเพื่อต้องการจะกวนอีกฝ่าย
“ไปกันครับแฮม” ผมบอกและไม่ได้พูดตอบอะไรไปมากกว่านั้น ผมเลือกที่จะเดินออกมาเฉยๆแบบไร้มารยาท ตอนนี้ในหัวผมคิดได้แต่คำว่า “บัดซบเอ๊ย!!” อยู่ซ้ำๆ
“อะไรกันนักกันหนาวะ” ผมบ่น เมื่อวานอยู่ๆทิกเกอร์ก็โผล่มาที่ร้าน วันนี้ยังมาเจอผู้ชายคนแรกระหว่างที่กำลังจะมานอนกับเด็กอีก มันเป็นสถานการณ์ที่เกินจะบรรยายสำหรับผมเสียจริง
“อะไรเหรอฮะ” น้องแฮมเงยหน้าถามด้วยสีหน้าสงสัย
“เปล่าครับ”
“พี่ฟ้าครับ..พรุ่งนี้ แฮมอยากไปซื้อน้ำหอม พี่ฟ้าไปช่วยเลือกได้ไหมฮะ” น้องแฮมยิ้มถาม
“ได้สิครับ อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ผมตอบ
= = = = = = = =
สถานการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มันค่อนข้างไวและไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว ช่วงนั้นผมค่อนข้างงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากแต่ดูเหมือนเดือนสองเดือนที่ผ่านมานี้จะยิ่งทำให้สถานการณ์หนักมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองสับเปลี่ยนกันมาตามตื๊อผม มีบางเวลาที่หายไปเป็นช่วงๆแต่พอบทจะกลับมาก็กลับมาในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ช่วงนี้ผมจึงต้องหลบสองคนนั้น บอกตามตรงว่าผมไม่สามารถรับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้และไม่สามารถลืมอดีตอันแสนเจ็บปวดทั้งหมดลงและเปิดใจขึ้นได้เดี๋ยวนี้เช่นเดียวกัน อีกอย่างหนึ่งคือการที่ผมทำแบบนี้ผมเองก็อยากจะทดสอบความอดทนของทั้งสองคนไปในคราเดียวกัน ว่าจะสามารถทำตัวแบบนี้กันไปได้นานสักเท่าไหร่
ณ ห้องเสื้อ Cupid สาขาใหญ่..
“คุณฟ้าคะบัญชีของเดือนที่แล้วค่ะ เสร็จเรียบร้อยทั้งสี่สาขาแล้ว ส่วนที่สิงค์โปรกับที่ฝรั่งเศสจะรวบรวมเสร็จพรุ่งนี้ค่ะ”
“ขอบคุณ” ผมรับเอกสารมาจากมิซาร์ มิซาร์เธอเป็นเลขาของผม เธอมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลห้องเสื้อของผมทั้งสี่สาขาในประเทศไทย รวมไปถึงการติดต่อประสานงานกับสาขาที่สิงค์โปรและที่ฝรั่งเศสแทนผมอีกด้วย
“คุณฟ้าคะ เอ่อ..คือ ทางโรงงานผ้าจากอิตาลีติดต่อมาว่าจะขอเลื่อนส่งแบบตัวอย่างน่ะค่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองแตงกวาด้วยต้องการให้เธอย้ำประโยคที่เธอพูดอีกครั้ง เพราะนั่นเป็นประโยคที่ไม่น่าฟังเอาซะเลย
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อย เค้าอยากจะขอโทษกับทางเราน่ะค่ะ..เอ่อ” แตงกวาหน้าเสีย แตงกวาเป็นผู้ช่วยของมิซาร์ เป็นนักศึกษาที่เรียนไปด้วยและทำงานพร้อมไปด้วย ผมเห็นพรสวรรค์เกี่ยวกับงานด้านนี้ในตัวของเธอ เป็นเด็กที่มีไฟและทำงานได้รวดเร็ว ผมไม่ชอบคนที่ทำงานเชื่องช้าเพราะมันจะขัดลูกหูลูกตาของผมไปเสียหมด
“ขอวันที่แน่ชัด และอะไรที่เค้าสามารถการันตีได้ว่าจะไม่เกินวันนั้น หรือถ้าเกิน..คุณจะรับผิดชอบอย่างไร โอเคนะครับ” ผมตัดบท
“ค่ะ” แตงกวาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปจัดงานของตน วันนี้วุ่นวายเป็นพิเศษเพราะผมไม่ได้เข้ามาดูงานหลายวันไปหน่อย ผมวุ่นอยู่กับสาขาอื่นและเผลอเลอไปสักนิด
“มีอะไรที่ผมต้องรู้อีกไหม” ผมถามไปพร้อมกับระหว่างที่กำลังตรวจบัญชีอยู่
“ค่ะ” มิซาร์ตอบ
“มีจดหมายจากทางห้องเสื้อโซเรลเล ฟอนตานา คุณฟ้าได้รับเชิญในงานแฟชั่นโชว์ด้วย จะไปรึเปล่าคะ..มิซาร์จะได้ลงวันไว้ให้เลยค่ะ”
“อืม..ไปครับ” ผมพยักหน้าตอบ
“ส่วนแบบผ้าไหมจากอิตาลีจะได้วันมะรืน คุณฟ้าจะเข้ามาได้กี่โมงคะ”
“เอ่อ อืม..สิบโมงครึ่งแล้วกัน แล้วก็สักสิบเอ็ดโมงบอกให้ผู้จัดการที่สาขาL มาเข้าประชุมกับผมหน่อยนะ บอกให้นำยอดบัญชีของปีที่แล้วมาด้วย” ผมบอกและปิดแฟ้มตรงหน้าลง และผมกำลังข่มอารมณ์ของตัวเองที่พบว่ายอดเงินของเดือนนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่คาดการณ์ไว้
“ค่ะ”
“ส่วนตีมหลักของแฟชั่นโชว์ปลายปีนี้ คุณกีบอกว่าน่าจะคิดเสร็จภายในอาทิตย์หน้า..รวมถึงแผนงานอย่างคร่าวๆด้วย คุณกีเลยสอบถามวันที่คุณฟ้าจะสามารถมาฟังงานได้น่ะค่ะ”
“วัน..เสาร์แล้วกัน ผมว่างไหมนะ” ผมนึก มิซาร์รีบเช็ควันให้ในทันที
“ว่างค่ะ” มิซาร์พยักหน้า
“งั้นวันนั้นแหละ สักบ่ายโมง..ที่ร้านอาหารของผมก็แล้วกัน มิซาร์ก็ไปด้วยนะ” ผมบอก
“ค่ะ”
“แล้วChanelกับMarc Jacobs ผมจะได้เห็นเมื่อไหร่” ผมถามถึงคอเล็กชั่นใหม่ที่ผมจะได้ดูและเสียเงินให้กับมัน
“ทางพนักงานที่นั่นบอกว่าพรุ่งนี้ค่ะ จะให้มิซาร์นำไปให้ดูที่บ้านหรือว่าคุณฟ้าจะมาที่นี่คะ” มิซาร์ยิ้มกว้าง
“ที่บ้านแล้วกันครับ ประมาณเก้าโมงเช้า..ได้ไหม”
“แน่นอนค่ะ” มิซาร์พยักหน้าเล็กน้อย
“รีบหน่อยนะ เพราะคิวมีทำงานเช้าน่ะ” ผมบอก
“ได้ค่ะ”
“โอเค มีอะไรอีกรึเปล่า..ผมต้องไปแล้ว” ผมถามพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ไม่ค่ะ”
“งั้น ฝากด้วยนะครับ..ขอบคุณ” ผมบอกและจัดแจงสูทของตนให้เข้าที่เข้าทาง
“สวัสดีค่ะ” ทุกคนหันมายกมือไหว้ผม ผมยิ้มให้ก่อนจะเดินออกมา การทำงานของผมที่นี่จะค่อนข้างแตกต่างจากที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์เป็นอย่างมาก เพราะสังคมในนี้จะต้องเด็ดขาด พนักงานจะต้องเป็นระเบียบ รวดเร็วกระฉับกระเฉงและทันสมัย ผมไม่สามารถทำตัวทีเล่นทีจริงกับลูกน้องที่นี่ได้ มันจะทำให้งานนั้นหละหลวม แบรนด์ของผมนี้จะต้องก้าวหน้าไปอีกไกลดังนั้นผมต้องปิดกั้นไม่ให้ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมนั้นจะโหดไปซะทุกเรื่องหรอกนะครับ เพราะ “สติ” เท่านั้นที่สามารถทำให้งานออกมาได้อย่างสวยงาม
“ฟ้า”
“ฟ้าครับ” ผมชะงักเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองที่ถูกเรียกจากคนสองคน ผมพยายามรวมรวมสติของตัวเองเพื่อไม่ให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิดไว้ ผมหันกลับตัวไปอย่างช้าๆ
“อะ..อะไร” ผมยืนอึ้งเพราะทั้งทิกเกอร์และจักรยืนอยู่ใกล้กันเพียงนิดเดียว ทั้งสองคนหันไปมองหน้ากันเองอย่างสงสัยว่าผมตกใจอะไร ผมคิดว่าทั้งสองคนคงยังไม่รู้จักกัน เพราะเมื่อไหร่ที่จักรมาวนเวียนอยู่ในชีวิตของผมก็จะคลาดกับทิกเกอร์ตลอด
“ไปไหนเหรอครับ” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
“......................” ผมยืนเงียบมองหน้าทั้งคู่ ทั้งสองคนชะงักเช่นเดียวกัน ผมถอนหายใจเบาๆให้กับปัญหาข้างหน้านี้ที่แก้ยากกว่าให้แก้งานเสียอีก
“มันก็เรื่องของฉัน” ผมตอบและก้าวเดินหนีออกมาเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
“ฟ้าครับ”
“ฟ้าครับ” ผมกำลังพยายามรวบรวมสติของตัวเองให้หายใจเข้าออกเข้าไว้ นับหนึ่งสองสามสี่ห้าเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นสติหลุดออกไปกลางห้าง
“หยุดเดินตามเดี๋ยวนี้นะ!” ผมหยุดเดินและหันกลับไปว่า
“แล้ว..ฟ้าจะไปไหนครับ เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อนนะ” ทิกเกอร์พูดด้วยสีหน้าอ้อนวอนจนผมเกือบจะหลวมตัวสงสาร
“เพื่อนเยอะแล้ว ไม่จำเป็น” ผมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด แค่รับรู้เรื่องงานก็น่าหงุดหงิดพออยู่แล้ว สองคนนี้ยังมาในเวลาที่ไม่ควรจะมาอีก ยิ่งทำให้อารมณ์ของผมนั้นครุกรุ่นไปกันใหญ่
“คุณเป็นใครน่ะ” จักรเอ่ยถามและหันไปมองหน้าทิกเกอร์
“ผม..” ทิกเกอร์ชี้หน้าตัวเอง
“ใช่” จักรตอบ
“ผมเป็นแฟนฟ้า” ทิกเกอร์ตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ ผมได้แต่ยืนมองอย่างเอือมๆ
“เหรอครับ” จักรหันกลับมามองหน้าผมเป็นเชิงถามเพื่อขอความแน่ใจ
“ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าห้ามตามฉันมาอีก ห้าม..ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ เข้าใจไหม” ผมเลี่ยงไม่ตอบจักรและคาดโทษไว้ก่อนที่จะเดินออกมา
“ฟ้าครับ” ผมยังได้ยินเสียงคนเดินตามมาอีก ผมหันหลังกลับไปมองและพบว่าจักรเดินตามผมมาเพียงคนเดียว ทิกเกอร์ไม่ได้ตามมาด้วยแล้ว ที่ทิกเกอร์ไม่ตามมาคงเพราะทิกเกอร์รู้นิสัยของผมดีมากกว่าจักรละมังครับ เขารู้ว่าถ้าผมเตือนแล้วนั่นหมายถึงผมเบื่อที่จะพูดซ้ำจริงๆ
“นี่คุณไม่ได้ยินที่ผมพูดเมื่อกี้รึไง” ผมเลือกที่จะใช้คำแทนตัวเองใหม่ ซึ่งเป็นการกล่าวเตือนว่าผมเหลืออดแล้ว จักรชะงักไป
“ก็แค่อยากตามมา แล้วไอ้ฝรั่งนั่นมันเป็นใคร” จักรพูดอย่างไม่สนใจเลยว่าผมกำลังรู้สึกหงุดหงิด
“ผัวเก่าผมเอง อยากรู้ไปทำไมล่ะ..หึ” ผมแสยะหัวเราะ อีกฝ่ายหน้าเหวอไปเล็กน้อย
“ฟ้าเปลี่ยนไปมากนะ” จักรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ
“คุณยังเปลี่ยนได้ แล้วคุณคิดว่าผมจะเปลี่ยนไม่ได้รึไง” ผมพูด เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นของจักรทำให้ผมแทบอยากจะหัวเราะออกมาเสียดังๆ
“ตอนนี้ผมก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน” จักรว่าพร้อมกับสีหน้าที่จริงจัง
“นั่นมันก็เรื่องของคุณ” ผมย้อนในทันที
“ฟ้า..เรา”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกจักร ฟ้าพูดเป็นครั้งที่ร้อยแล้ว” ผมตัดบท ย้ำพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ฟ้าคนนะไม่ใช่ควาย..อีกอย่างฟ้าไม่ชอบเจ็บซ้ำๆน่ะ จักรอย่านึกว่าจักรเลือกได้คนเดียวสิ ฟ้าเองก็เลือกได้เหมือนกันนะ” ผมยิ้มให้อีกฝ่ายน้อยๆ จักรยืนเงียบเอาแต่จ้องหน้าผมเขม็ง ผมว่าเขาคงจะรับไม่ได้ที่ผมเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อ่อนโยนต่อเขาเหมือนเคยได้อีกแล้ว
“ผมขอโทษ ฟ้า..นั่นมันอดีต ผมแค่อยากเริ่มต้นใหม่ กับคุณ..อีกครั้ง”
“หึ..ตลกน่ะจักร” ผมหัวเราะและหันกลับไปจ้องหน้าจักรตรงๆ
“คุณควรเริ่มต้นใหม่กับใครก็ได้ที่ไม่ใช่ผม”
“ฟ้าครับ..” จักรย้ำเสียงอ่อน
“จักรอย่านึกว่าตัวเองดีเด่ซะเต็มประดาจนสามารถทำให้คนรักเก่าหันกลับไปมองได้สิ มันไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยรู้ไหมครับ” ผมเหล่ตามองกลับอย่างดูถูก
“ผมไม่ได้คิดอย่าง..”
“จักรรู้ไหมว่าฝรั่งคนเมื่อกี้เป็นใคร” ผมพูดแทรกขึ้น
“นั่นน่ะ..อดีตกัปตันสายการบินของอิตาลีเชียวนะ แถมตอนนี้ยังเป็นถึงหนึ่งในผู้บริหารของสายการบินที่อิตาลีอีกด้วย แล้วอนาคตน่ะ..ตำแหน่งCEOของบริษัทรถEmpireก็พ่วงรออยู่ เท่านี้น่ะ..ไม่นับคนอื่น แต่แค่คนนี้คนเดียว จักรนึกว่าจักรสู้ไหวรึเปล่าล่ะ ถ้าคิดว่าไหว..ก็ลองดูนะ” ผมแสยะยิ้มให้ ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดเมื่อกี้ทั้งหมดผมพูดอย่างประชดประชันและแฝงไปด้วยความแค้นเก่าที่มีลึกๆ
ผมเดินออกมาจากตรงนั้นและไม่หวนกลับไปมองอีกครั้ง ถ้าเทียบให้ต้องสงสารระหว่างทิกเกอร์กับจักรแล้วผมตอบได้เต็มปากเต็มคำว่าผมสงสารทิกเกอร์มากกว่าเสียอีก แต่ในตอนนี้ผมไม่สามารถทำได้หรอกที่จะเลือกเดินไปกับใครสักคนหนึ่ง ผมอยากขอเวลาพิสูจน์ พิสูจน์คู่ครองและพิสูจน์หัวใจของผมเองด้วย หัวใจของผมที่มันไม่สามารถรับกับความเจ็บปวดได้บ่อยครั้ง ผมไม่อยากให้มันเจ็บปวดซ้ำอีก ผมสงสารตัวเองน่ะครับ หัวใจของคนเราก็คล้ายกับต้นไม้ ที่ไม่ว่าต้นไม้นั้นจะใหญ่โตขนาดไหน แต่ถ้าโดนขวานฟันเข้าบ่อยครั้งสุดท้ายมันก็จะหักและโค่นล้มลง..
เมื่อเดือนสองเดือนก่อนหน้านี้ หลังจากที่ทิกเกอร์มาโผล่ที่ร้านของผมโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความบังเอิญ ผมรู้ในทันทีว่าจะต้องมีใครเป็นเบื้องหลังในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
“บอกมา ติดต่อกับทิกเกอร์มานานเท่าไหร่แล้ว” ผมมองหน้าทั้งสองคน เซ็นและคิวที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม คนที่อยู่ที่ประเทศไทยและสนิทกับทิกเกอร์มากที่สุดคงไม่พ้นสองหน่อนี่อย่างแน่นอน
“เฮ้อ..เรียกให้เข้ามาคุยเรื่องส่วนตัวเนี้ยนะ คุณนี่มันไม่เป็นมืออาชีพเอาซะเลย” คิวเบนหน้าหนีไปอีกทาง คำพูดต่อว่าเหมือนผมผิดอย่างนั้น
“คิว..บอกอามานะ” ผมขึ้นเสียงนิดหน่อย
“นานแล้ว” คิวตอบอย่างไม่เต็มใจนัก
“แล้วไง..” คิวหันกลับมาจ้องผมด้วยสีหน้ากวนกลับให้
“คุณรู้แล้วคุณได้อะไรล่ะ ตอนนี้ทิกเกอร์อยู่ตรงนี้แล้ว อยู่ที่นี่..ตรงหน้าคุณ แต่เรื่องมันคือหลังจากนี้ต่างหาก” คิวว่า ผมอึ้งไปชั่วครู่ การที่ผมจะตอบอะไรไปสักอย่างผมจะต้องมีสติเพราะไอ้หลานคนนี้มันฉลาดเกินมนุษย์ เห็นมันเป็นคนเงียบและไม่ค่อยพูด แต่อย่าให้มันเถียงขึ้นมาเชียวล่ะ ตลอดมาผมเถียงมันชนะนับครั้งได้..
“อย่ามารู้ดีกว่าอาหน่อยเลย นี่มันเรื่องของอา แล้วคิวมายุ่งอะไร..อายังไม่ยุ่งเรื่องของคิวเลยนะ” ผมย้อน
“หึ..” เซ็นหัวเราะเพราะคิวเงียบไป
“ผมก็ไม่ได้อยากยุ่งนักหรอก ถ้าทิกเกอร์มันไม่อ้อนวอนขอร้องเป็นเดือนเป็นปีจนน่ารำคาญน่ะ” คิวตอบกลับ
“คุณอยากรู้อะไรก็ไปถามอาปูนเอาเองแล้วกัน นอกเหนือจากนี้ผมก็ไม่รู้อะไรมากหรอก..ปัญญาอ่อนรึเปล่าเนี่ย เรื่องของตัวเองแท้ๆ ไม่รู้จักแยกแยะเวลางานกับเรื่องส่วนตัว” คิวลุกขึ้นยืนพร้อมกับจ้องผมอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินออกไปทั้งอย่างนั้น บางทีผมควรชะล่าใจไม่ให้พี่ตันส่งหลานผมไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่ไฮสูคล ไม่สิ..คิวไม่ควรเรียนโรงเรียนนานาชาติตั้งแต่เริ่มแรกเลยต่างหากล่ะ ปากของคิวบางครั้งพูดตรงขนาดที่ว่าชาวต่างชาติแท้ๆยังต้องยอมเลยล่ะครับ
“ไอ้..” ผมกัดฟัน รู้สึกอยากจะกระโดดตบหัวหลานตัวเองสักฉากแต่ก็ทำไม่ลง ก็ผมเลี้ยงอย่างทะนุถนอมของผมมาเป็นสิบปีนี่ครับ..เฮ้อ เกลียดตัวเองจัง
“เซ็น” ผมเรียกไว้
“ค้าบ” เซ็นหยุดเดินทันทีและหันกลับมายิ้มให้ผม ผมจ้องหน้าเซ็นเขม็ง
“โหย อา..” เซ็นทำตาปริบๆใส่
“ก็ทิกเกอร์ติดต่อกับพวกเราอยู่แล้ว..เค้าเป็นห่วงอามากเลยนะ ทิกเกอร์ก็อยาก เอ่อ..อยากคืนดีด้วย อาก็ฟังทิกเกอร์หน่อยเถอะ คุยกันดีๆก็ได้..ทิกเกอร์น่าสงสารออก อะไรที่เป็นอดีตก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตไปเหอะนะครับ” เซ็นพูดบอกด้วยน้ำเสียงฟังดูเหนื่อยหน่าย
“.......................” ผมยืนเงียบเพราะไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไร
“ทิกเกอร์น่ะ มาอยู่ไทยตั้งนานแล้วครับ..เกือบเจ็ดแปดเดือนได้แล้ว ตั้งแต่มาอยู่ไทยพวกเราก็ติดต่อกันมาตลอด ทิกเกอร์ห้ามไม่ให้เซ็นกับคิวบอกใครว่าเค้ามาอยู่ไทยเพราะเค้าไม่อยากให้อารู้เรื่องนี้ ทิกเกอร์น่ะพยายามเรียนภาษาไทย พยายามเรียนรู้วิถีชีวิตแบบไทย..และถามข่าวคราวของอาตลอด อาน่ะ..คิดว่ายังไงล่ะครับ” เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง พอเซ็นพูดจบดูเหมือนเขาจะรู้ว่าคงจะไม่ได้คำตอบจากผม เซ็นเดินออกจากห้องไปในทันที ผมได้แต่ยืนอึ้งเพียงคนเดียว ผมพยายามตั้งสติกับสิ่งที่เซ็นพูดว่าทั้งหมดทั้งมวลเมื่อกี้นั้นเป็นความจริง
“บ้าจริง” ผมทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ใกล้ตัว มือกุมหัวตัวเองอย่างเหนื่อยและคิดหาทางออกให้ตัวเอง
“ไอ้ฝรั่งบ้านั่น หึ..” ผมอดหัวเราะไม่ได้
ในวันที่ผมได้เจอทิกเกอร์ครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้พบหน้ามาหลายปี ถึงแม้ผมจะไม่ได้ยินทิกเกอร์พูดภาษาไทยเยอะเท่าไหร่แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมทิกเกอร์ถึงพูดได้ชัดมากขนาดนั้น มันคงเป็นช่วงเวลาที่เกิดขึ้นเร็วจนผมลืมสังเกตไป คำอธิบายของเซ็นในวันนั้นก็ด้วย มันบอกได้ว่าทำไมทิกเกอร์ถึงพูดไทยได้คล่องแคล่วแบบนี้ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าผมจะรู้สึกดีใจหรือเสียใจดีที่ทราบเหตุผลทั้งหมดนั่น รวมมาถึงตอนนี้ก็ด้วยเช่นกัน ถึงแม้เวลาจะผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ยอมที่จะจับเข่าคุยกับใครอย่างจริงๆจังๆสักครั้ง เราต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่หนักก็คืองานของตนทำให้เวลาที่ไม่ตรงกันช่วยทำให้ผมได้อยู่ตัวคนเดียวบ้าง บางทีมันก็ดี แต่บางครั้งมันก็ฟุ้งซ่านเกินไป..
.................>>>><<<<................
-
หนักใจแทนฟ้าจริงๆ แฟนเก่ากลับมาพร้อมๆกัน กิ๊กก็มี เยอะอะ 5555555
-
พี่ฟ้าคงคิดหนักแล้วแหละงานนี้..สู้ๆ o13
-
:z2:
เชียร์ทิกเกอร์. ชอบคนต่างชาติทิกเกอร์สู้ๆ :3123:
-
เชียร์ทิกเกอร์อ่ะ :z2:
-
เอาใจช่วยพี่ฟ้า ^^
-
มันเป็นช่วงจังหวะชีวิตของฟ้าจริงๆเลย ทั้งน่าอิจฉาและน่าเห็นใจ :กอด1:
ถ้าพวกเขารอได้ก็ค่อยๆคิดนะคะ เพราะเค้าเองก็ไม่อยากให้ฟ้าเจ็บปวดไปมากกว่านี้แล้ว
ฟ้าน่าสงสารออก ทั้งเรื่องครอบครัวทั้งเรื่องความรัก เจอมรสุมมามากมาย
เป็นกำลังใจให้ฟ้านะ จุ๊บๆ :จุ๊บๆ:
-
:เฮ้อ:หนักใจแทนคุนอาจังอะ :กอด1: :กอด1:
-
ทิกเกอร์ทำอะไรที่ฟ้ายอมรับไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ สงสารจัง
ส่วนจักรพอเดาได้แหละ เชียร์ทิกเกอร์
-
จะเอาทิกเกอร์ให้พี่ฟ้าาาาาา จะให้พี่ฟ้ามีสามีเป็นฝรั่ง จะเอา จะเอา เบบี้ห้ามแย่งด้วย
-
:กอด1:รอลุ้นๆ
-
เชียร์ทิกเกอร์ :z2:
-
:ped149:เชียร์ทิกเกอร์ :ped149:
-
ทิกเกอร์ ทิกเกอร์ ทิกเกอร์
เราเชียร์ทิกเกอร์สุดใจ
ปล.รู้สึกเหมือนสั้น หรือเรารู้สึกไปเอง?
-
เชียรทิกเกอร์ :กอด1:
เป็นกำลังใจให้พี่ฟ้า :L2:
-
ฟ้าสู้ๆๆน้าาาา
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
อยากให้ฟ้าคู่ทิกเกอร์อ่ะ
-
เชียร์ทิกเกอร์ด้วยคน :L2:
-
:serius2: :serius2: :serius2:
-
อุบ๊ะ ! พี่ฟ้าแอบเยอะ -0- อิอิ เยอะจริงทั้งกิ๊กทั้งแฟนเก่า o13
มารอ มารอ มารอ ตอนต่อไปนะ :z2:
-
เสียใจด้วย จักร เธอ คือ จุดอ่อน ไปชิ้วววว
เค้าจอง อาฟ้าให้ทิกเกอร์แล้วยะ :z2:
P.S. ชอบอาฟ้าแทนตัวเองว่าฟ้าจัง มันอบอุ๊น อบอุ่น ><"
-
ว้าว อาฟ้าของเรากำลังมีเรื่องยุ่งยากนี้เอง
ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นตอนที่อาฟ้าคบจักร และตอนที่คบกะทิกเกอร์น่า อยากรู้จัง
แต่ถ้าเป็นแบบนี้เหมือนอาฟ้ายังรักทิกเกอร่์เลยเนอะ
-
อ่านจบแล้วนึกถึงเพลงนี้
อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คน โว่ว
แต่แอบเชียร์ทิกเกอร์นะ
เพราะคิดว่าคู่กันตั้งแต่ภาคเค้ก
รอตอนต่อไปครับ
-
ฟ้าเสน่ห์แรงอะ รอลุ้นจะจัดการกับอดีต รึอาจจะเป็นอนาคตต่อกับทั้งสองอย่างไร
-
ลุ้นตอนต่อไปครับ :L1:
-
น้องแฮมสิ กร๊ากกกกกก ฟ้าก็ใช่สติคิดแล้วก็เลือกเอาว่าคนไหนที่คิดว่าควร
ชอบความตรงของคิวจัง คนอ่านยังสะอึกแทนเลย 55555
-
ทิกเกอร์คนดีเคยทำอะไรฟ้าให้เจ็บช้ำน้ำใจกันนะ
ตามมาอยู่ มาเรียนรู้ที่ประเทศไทย
พยายามมากขนาดนี้แล้วฟ้าจะว่าไงจ๊ะ :m12:
-
เชียร์ทิกเกอร์นะคะ
แต่ก็ไม่แน่ เพราะยังไม่รู้สาเหตุที่เลิกกัน ไม่งั้นอาจจะเชียร์พี่ฟ้าเป็นรุกตลอดไป 555 :jul3:
อิพี่คิวก็ป๋าหมากเสมอต้นเสมอปลายเนาะ
เป็นไปได้อยากให้มีฉากที่คิวกับเค้กอยู่ด้วยกันบ้าง
อยากรู้ว่ามันจะซอฟต์ขึ้นมั่งไม๊ ...(อาจจะไม่... :z3:)
-
o18 o18 o18 o18 ถือป้ายไฟเชียร์ทิกเกอร์จ้า o18 o18 o18 o18
-
พี่ฟ้าเสน่ห์แรงจริง ทั้งหนุ่มใหญ่ หนุ่มน้อย มีตามกันให้รึ่มเลย :z3:
เจ็บมาเยอะ พอถึงเวลาคนเก่ากลับมามันก็ตัดสินใจยากหล่ะนะ ขอให้ฟ้าเจอคนดีๆนะ จะรุกจะรับเลือกเอาเน้อ :m20:
-
ตอนแรกคิดว่าอาฟ้าจะคู่กับพี่หมีซะอีก ตอนนี้ไม่แน่ใจไปแล้ว
ยังแอบเชียร์พี่หมี แต่ก็ชอบทิกเกอร์ด้วย >_< หรือเบบี้จะจัด 3P ให้อ่าน >///<
-
ทิกเกอร์มาวิน :z2:
-
:pig4: :pig4:
-
คิวแรง!!
ทิกเกอร์สู้ๆ :กอด1:
-
เชียร์ทิกเกอร์ :mc4:
-
ทิกเกอร์สู้ๆ :3123:
จักรแปลกๆไงไม่รู้ แต่ฟ้ากิ๊กเยอะมากอ่ะ o18
อยากเจอเค้กบ้างจัง เบื่อเจอคิวละ อิอิ :กอด1:
:pig4:นะคะ
-
เชียร์ทิกเกอร์
:-[
-
เชียร์คิว :oo1: :oo1: :m20:
-
อาฟ้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากซะแล้ว
สุดท้ายอาฟ้าไม่เลือกใครเลย อยู่กะคิวเค้กกัน 3 คนผัวเมีย ฮาาาาาา -*- เหะ!ไม่ขำหรอ = = "
-
ชอบพี่ฟ้ามุมนี้จัง ฮาๆๆๆ
เชียร์ทิกเกอร์ ฮูเร่ๆ^O^
พี่คิวพูดตรงปากร้ายแบบร้ายกาจ ฮา
-
ฮู่เร่ เฮ่ เฮ่ เชียร์ทิกเกอร์
เรื่องในอดีตที่ว่านี่ อาฟ้าเห็นทิกเกอร์ทำอะไรไม่ดีมาหรือป่าว อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้นะ
ลองเปิดใจคุยกับทิกเกอร์อีกครั้งสิ ส่วนอิจักร เอามันออกไป หึหึ
สู้ๆนะอาฟ้า
-
เอ่อ...ภาวนาให้พี่ฟ้ารีบเคลียหัวใจตัวเองแบบด่วนๆ
ก่อนที่... จักรกะทิกเกอร์...มันจะหันมากินกันเอง > <
-
อยากอ่านพาร์ทกัส :a6:
อาฟ้าเสน่ห์แรงจังเลย :onion_asleep:
-
บุคลิกนิสัยที่ร้านเค้กกับที่อื่นๆ ช่างแตกต่างกันจริงๆ จะได้เห็นด้านมืดของอาฟ้าบ้าง
-
:-[หลงอาฟ้าอ่ะ. แม่เจ้า. ชอบอ่ะ. คนนี้ทวดขอนะบี้. น่ารักกกกกกกกกก :-[
-
ภาค 1 เนี่ย อ่านแล้วรู้สึกอาฟ้าเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว อ่อนแอ แต่ใจดีมากเลยนะ แต่พอมาอ่านตอนของอาฟ้าเองรู้สึกว่า ถึงแม้จะอ่่อนไหวในอารมณ์แต่เป็นคนเข็มแข็งเด็ดขาดในชีวิตนะ รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรและไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคนรักเก่าด้วย แน่มากอาฟ้า ชอบอ่ะ
จะรออ่านตอนต่อไปนะ love love เบบี้
-
เลือกเชียร์ใครดีนะ
เชียร์ไม่ถูกเลย
เชียร์นายทิกเกอร์แล้วกัน
อย่าฝังใจกับอดีตที่โหดร้าย
ก้าวเดินไปกับปัจจุบันและอนาคตดีกว่า
:กอด1:
-
เรื่องของอาฟ้า ดูแล้วสับสนดีเนอะ!
-
เจอมรสุมลูกโตพัดมาในคราวเดียวกันเลยสินะพี่ฟ้า ค่อยๆคิด ค่อยๆตัดสินใจนะพี่ฟ้า แต่ดูแล้วเหมือนพี่ฟ้ายังรักทิกเกอร์อยู่เลย
แต่กลัวจะต้องเจ็บอีกครั้งรึเปล่า ในอดีตมันเกิดอะไรขึ้น อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้นะ กร๊ากก เชียร์ทิกเกอร์ จักรดูแปลกๆอ่ะ
เหมือนมีจุดประสงค์บางอย่าง (เดามั่ว 555) บางทีคิวก็พูดตรงซะจนสะอึกเลยนะนั่น อยากเห็นเค้กกับคุยอยู่ด้วยกันในพาร์ทของพี่ฟ้าจัง บรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไปหรือว่ายังเหมือนเดิม
-
หนักใจแทนอาฟ้าจริงๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
โอ๊ะโอ เลือกใครดีล่ะทีนี้ :really2:
-
เชียร์ทกเกอร์อีกแรง
โห พี่ฟ้าแนวดาร์ก แตกต่างจาดตอนของเค้กมาก อิอิ
ขอให้รักกันไวๆๆๆๆน้า สงสารทิกเกอร์
ทิกเกอร์ สู้ๆ
-
ขอให้อาฟ้าพบความรักที่แท้จริงเหมือนหลานคิวนะคะ :กอด1:
-
เชียร์ทิกเกอร์เหมือนเดิม
ฝากคุณจักรดูแลน้องแฮม o13
+1
-
เยอะอ่ะพี่ฟ้า ,,
แต่หลังจากเห็นประวัติทิกเกอร์แล้ว
แหมะ อยากเชียร์สุดใจเลย 555
อ่อยยย มีเรื่องอะไรนะถึงโกรธขนาดนี้
อยากรู้!!!
-
พี่ฟ้าสู้ๆ ค่อยๆตัดสินใจ
-
รักในรอยแค้นหรือนี่
-
น่าหนักใจแทนอาฟ้าจัง :sad4:
ทั้งสองคนทำอะไรให้ฟ้าโกรธน๊าอยากรู้จัง :m16:
-
เชียร์ ทิกเกอร์
:angellaugh2: :angellaugh2:
-
อาฟ้าใจอ่อนเถอะนะ เค้าเชียร์ทิกเกอร์สุดใจเลย ทิกเกอร์น่าสงสารจะตาย
เรื่องเก่าๆก็ปล่อยมันไปเถอะนะ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า
ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆ :กอด1:
-
ไอ่ย๊ะ!!!
เร่าร้อน เกินกว่า คิว อีก ร้ายยยๆๆๆ นะเนี่ยย
-
:L1: :pig4:
-
เฮ้อ มาพร้อมกันอย่างนี้จะทำไงหล่ะทีนี้ 3P ไปเลยมะ อิ อิ
ไม่รู้จะสงสารหรือเห็นใจที่มีหลานอย่างคิว ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณค่า :L2:
-
ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆ
-
เชียร์ทิกเกอร์ด้วยคน :pig4: :pig4:
-
จักร ตัดทิ้งไป ตัวโกงชัดๆ .....
ทิกเกอร์ ก็ยังไม่รู้จักเท่าไหร่ เลยยังไ่ม่เชียร์ :laugh:
แต่ที่แน่ๆคือ.. สงสารน้องแฮม เสียจริงๆ เด็กมันคิดจริงนะอา :oo1:
-
นี่เพิ่งจะเสร็จเรื่องมรดกไปหยกๆ
เรื่องหัวใจก็มาก่อกวนพี่ฟ้าอีกแล้ว
มาทีเดียวสอง ปวดหัวดีแท้ :laugh:
แต่ดูทิกเกอร์ภาษีจะดีกว่าจักรนะ
เราก็เชียร์ทิกเกอร์นะพี่ฟ้า :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
o13 ชอบมากเลยคร้า น่ารักว๊ากกก :-[
-
โถ กรรมของอาฟ้า จะเป็นรับทั้งที ชีวีลำบาก
เป็นรุกไป ... รุ่งมั๊ยเนี่ยอา !!!! :z3:
ก่อนอื่นต้องขอรู้ความหลังแต่ดั้งเดิมของสองพระหน่อนี่ก่อน แต่เราว่าทิกเกอร์ภาษีดีกว่าจริงๆนั่นแหล่ะ
อย่างน้อยก็พูดรู็เรื่องกว่าจักร และอาฟ้าดูจะโกรธจักรมากกว่าป่ะ
งั้น อาฟ้าเลือกใครซักคน แล้วอีกคนก็ส่งน้องแฮมไปปลอบใจก็แล้วกันนะ
ใครได้น้องแฮมไปดูแลดีๆนะ ฮึ่มมมม :z13:
สุดท้าย อยากเห็นคิวเค้กในมุมมองของอาฟ้าจังเลยจ้ะเบบี้ อยากจะเห็นความสุขของพี่คิวกับความรักครั้งใหม่ :o8:
-
ดูแล้วทิกเกอร์น่าจะมาวิน
อาฟ้าเป็นโบ้ธด้วย เท่อ่าาาาาาา
คิดถึงน้องเค้กเบาๆ ^^ จุ๊บๆ
บวกเบบี้ค่า
-
อยากรู้ว่าอดีตของฟ้ากับทิกเกอร์ กับจักร
ฟ้าน่าจะลองฟังเหตุผลของทั้ง 2 คนดูนะ...
จะได้สมหวัง แฮปปี้ๆเหมือนคิว ^^
ปล. ขอตอนพิเศษของคิวหน่อยได้มั้ยอ่าคะ
คิดถึงเวลาคิวกับเค้กอยู่ด้วยกันแล้วเนี่ย+!!
-
ไม่รู้จะจบอย่างไร
แต่พี่ฟ้าก็คงต้องใช้เวลา
มันช่างซับซ้อน หึหึ
-
ปัญหาของทางเลือกคือ มักจะมีมากเกินไป
ปัญหาของจำใจ คือไม่มีทางให้เลือก?
-
เอาใจช่วยฟ้า :กอด1: :กอด1: แอบเชียร์ทิกเกอร์ :mc4: :mc4:
-
สงสารอาฟ้ามีแต่เรื่องในปวดหัว(ใจ)
แต่แอบเอาใจช่วยทิกเกอร์น่าาาา
อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรกันนน
-
ทิกเกอร์ทุ่มเทน่าดู
เอาใจช่วยละกันนะ o13
-
อีกด้านหนึ่งของพี่ฟ้าที่ไม่เหมือนตอนอยู่ร้านเบเกอรรี่ เป็นผู้ใหญ่มากๆ ผิดกับตอนอยู๋กับเค้กเลย ฮ่าๆๆ
ติดตามตอนต่อไปค่ะ รอติดตามเรื่องราวความรักของพี่ฟ้า
-
หนักใจแทนอาฟ้าเลยค่ะ
เอาใจช่วยอาฟ้า
-
เชียร์ทิกเกอร์ เห็นใจในความพยายาย
และความเป็นพ่อบุญทุ่ม 555
ความรักของอาฟ้าคงเป็นอะไรที่เจ็บปวดใช่เล่น!
-
ทิกเกอร์ออกมาแล้ว เชียร์สุดใจขาดดิ้นเลยค่า ^^
ปลใ ไม่คิดว่าพี่ฟ้ารุกได้นะเนี่ย แอร๊ยยยยยยย ><
-
:z10: รอครับ
-
ไม่รู้ว่าทิกเกอร์ผิดอะไร
แต่เชียร์ทิกเกอร์นะ เห็นในความพยายายาม
:z2:
-
ตกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่าอาฟ้าจะเจ้าชู้ 5555
ฟังแล้วทิกเกอร์ดูน่าสงสารนะ อาฟ้าก็น่าสงสาร
แล้วทำไมอาฟ้ากับทิกเกอร์ถึงเลิกกันล่ะ งง มากๆๆ
ขนาดคิวยังเริ่มใหม่ไ้ด้ อาฟ้าก็เริ่มใหม่ได้เหมือนกันนะ :3123:
เหมือนที่เซ็นบอก คล้ายกับ อดีตก็คืออดีต ลองคุยกันดูก่อนดีป่าวค้าบบ อาฟ้าา
-
เหอ เหอ
มาสองเรยทีเดียวววว
แต่เชียร์ทิกเกอร์สุดจายยย
รอจ้าาาา
-
:oo1:เชียร์ทิกเกอร์ ทุ่มทุนสร้างขนาดนี้ฟ้ายอมใจอ่อนบ้างเถอะนะ :z2:
-
หนักใจแทนฟ้าาา :a5:
-
:ped149:เชียร์ทิกเกอร์ :ped149:
เชียร์ด้วยคน :L2: :L2: :L2:
-
:pig4:
เชียร์ทิกเกอร์นะ
แต่กลัวว่าจักรจะเป็นพระเอก :laugh:
-
เอ่ออ เยอะนะคะพี่ฟ้า สักคนๆๆ
น้องเชียร์ทิกเกอร์นะคะ น่ารักดี 55555
อย่าบูดค่ะ อย่าๆ ยิ้มมม ให้สมกะเป็นพี่ฟ้าของน้องเค้กนะคะ
-
ทิกเกอร์ สู้ๆ :ped149:
-
ทิกเกอร์ดูอบอุ่นนะ :impress2:
-
เชียร์ๆๆทิกเกอร์ :o8:
เห็นด้วยมากอ่ะตอนอ่านพาร์ทคิวเค้กพี่ฟ้าดูขี้เล่นๆอ่อนโยน
แต่พอมาอ่านพาร์ทพี่ฟ้าจะเห็นเลยว่าที่จริงพี่ฟ้าเป็นคนจริงจังแล้วก็เด็ดขาดมาก
(ทีแรกเราคิดว่าพี่แกเป็นรับออนลี่ชะอีก o18 )
เอาใจช่วยพี่ฟ้าขอให้ผ่านช่วงนี้ไปด้วยดีจ้า
-
พี่ฟ้าสู้สู้ เดี๋ยวก้อคิดออก แต่เชียร์ทิกเกอร์อะ
-
จะเชียร์ใครดี..ทั้งทิกเกอร์ :give2: ทั้งจักร :o9: ..ว่าไปหนูเเฮมก็น่ารักอยู่นะ :m23:
-
ชีวิตรักของอาฟ้าผ่านร้อนผ่านหนาวมายังหาที่ลงตัวไม่ได้
เอาใจช่วยให้พบคนรักที่ได้ร่วมหัวจมท้ายซักทีน๊า
-
ความรักของคุณฟ้า นี่ถ้าจะเจ็บมากนะเนี่ย
ดูเหมือนคุณจักร ต้องการอะไรซักอย่างจากอาฟ้า ใช่ไหมหว่า??
ขอบคุณที่ลงมาต่อนะคะ รอต่อไปค่ะ ^^
-
เชียร์ทิกเกอร์ค๊า ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันในอดีต
แต่ถ้าตอนนี้ทิกเกอร์ยังรักและอดทนเพื่อฟ้าได้
ก็อภัยให้ทิกเกอร์ไปเถอะนะอาฟ้า
ป.ล.จริงๆไม่ใช่อะไร อยากเห็นอาฟ้าเป็นฝ่ายรับก็เท่านั้น :haun4:
-
อยากรู้จังว่าอดีตของทั้ง 3 คนป็นยังไง หวังว่าเบบี้จะบอกละนะ
o13 o13 o13
-
เชียร์คิว :oo1: :oo1: :m20:
อรั้ยยะ เชียร์ด้วยเด่ะ คิวจึ๊กๆ :z13:
-
ยังติดตาลุคขี้เล่นจากพาร์ทแรกอยู่เลย พอมาพาร์ทนี้เจอพี่ฟ้าเวอร์ชั่นสุขุมล้ำลึกแล้วถึงกับอึ้ง
-
หนุ่มฮอตอ่ะะะะ !! ฮ่าาาาาาา =///= พี่ฟ้าแลดูเสน่ห์แรงแสนสาหัส ผู้ชายวิ่งตามต้อยๆถึงสองคน
และควงอยู่กับตัวอีกหนึ่ง ! ตายและตายและ อ่านแล้วก็คิดว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ระหว่างพี่ฟ้ากับทิกเกอร์และพี่ฟ้ากับจักร หี่หี่ รออ่าน แต่ขอบอกว่าพี่คิวยังน่ารักเสมออออออ
ชอบคำพูดคำจาของเค้าอ่ะ 5555 แบบว่า พี่คิ๊ววววว มาอยู่ในตอนของคนอื่นก็ยังคงแซ่บเสมอ
-
ว้ายแรง พี่คิว
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นนะเสือน้อย
-
อีกมุมของฟ้าในฐานะ "รุก" 555 อยากรู้แล้วอ่ะบี้ว่าสองคนนี้เค้าเลิกกันเพราะอะไร....
... ตั้งแต่ติดตามเรื่องนี้มา ชอบทุกครั้งที่มีฉากอาหลานเค้าคุยกัน
:pig4: :กอด1:
-
เชียร์ทิกเกอร์ๆ สู้ๆๆๆ :3123:
-
อาฟ้าดูเป็นคนที่มี 2 บุคลิก อย่างเวลาที่ดูแลร้านเบเกอรี่ ฟ้าจะเป็นตัวของตัวเองดูน่ารัก ขี้อ้อน ชอบแหย่ และทำตัวตามสบาย แต่เวลาที่มาดูแลร้านเสื้อจะดูมาดแมน เคร่งครึม
:ped149:เชียร์ทิกเกอร์ เพราะเหมือนฟ้ายังดูรู้สึกดีๆ กับทิกเกอร์อยู่ แต่กับจักรนี่จะเหมือนจะบอกว่า แกไปไกลๆ เลย ฉันไม่สนใจแกแล้ว
-
เหตุผลที่เลิกเพราะฟ้าถูกนอกใจหรอ...อยู่ที่ว่าทิกเกอร์ตั้งใจรึเปล่านั่นล่ะ
-
ตอนนี้เป็นช่วงที่อาฟ้า hot มาก จิงๆ..ฮ่าๆ
เราเชียร์ทิกเกอร์อะ..ทิกเกอร์ ไฟติ้ง ไฟติ้ง
-
แล้วเราจะเชียร์ใครดี
:a5:
-
อ่านแล้วแบบว่าลุ้นมากกกกกกกกกกกก
ทิกเกอร์สู้ๆ 55555 :mc4:
เป็นกำลังใจให้อาฟ้าด้วย คงเหนื่อยน่าดู :กอด1:
ขอบคุณเบบี้ด้วยนะคะ :pig4:
-
มันเป็นช่วงล้างแค้นของอาฟ้า จัดให้หนักเรยนะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
อาฟ้าป็อบปูล่า~~~~ :impress2:
รถไฟชนกันโครมคราม
พี่คิวน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ หึ!
ปล.เชียร์พ่อเสือน้อย ทิกเกอร์ :o8:
-
เชียร์ทิกเกอร์นะ พยายามเรียนภาษาไทย o13
แลดูน่าเอ็นดูมาก มีความพยายาม อีกคนรักแรกแล้วไง?
-
พี่คิวของเรานี่.....กวนจริงงงงงๆ
ทิกเกอร์ไฟท์ติ้งงงง...สู้เว้ยยยยยย :m31: :m31: :m31:
-
จังหวะชีวิตล่ะนะ
เชียร์ทิกเกอร์ ! อยากรู้เรื่องราวด้วย !
-
ในที่สุดก็ตามทันแล้ว :laugh:
ส่วนของคิวเค้กแก้ปัญหาของตัวเองผ่านไปแล้วละนะ
คราวนี้มาติดตามปัญหาชีวิตของฟ้ากันบ้าง
ว่าจะจัดการกับชีวิตส่วนตัวยังไง ดวงความรักกำลังวิ่งเข้าหาขนาดนี้
:pig4: คนเขียนสำหรับเรื่องที่น่าติดตามอีกเรื่องค่ะ o13
-
เอาใจช่วยฟ้าไว้ก่อน
เพราะยังไม่รู้ที่มาที่ไปแต่ละคน
:pig4: คะ
-
คิดมะตกแทนฟ้า
-
เชียร์ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆ
:z2: :z2:
-
อาฟ้าเราก็ใช่ย่อยนะมี2หนุ่มมาแย่งคืนดีด้วยเนี่ยยย..ยกมือเชียร์ทิกเกอร์ด้วยคนจ้า
-
ชอบที่ฟ้าเป็นคนฉลาดมาก และเป็นคนที่เปิดโอกาสให้ตัวเองเสมอ :กอด1:
-
เค้าก็เชียร์ทิกเกอร์ ชื่อมันน่าร๊ากกกก
-
รู้สึกชอบทิกเกอร์มากกว่าจักรอ่ะ
-
สู้ๆ ทิกเกอร์
-
ฟ้าใจเเข็งจังง T_T อยากรู้อดีตแล้วสิ ^^
-
มาเป็นกำลังใจให้ ฟ้า จัดการปัญหาชีวิตที่ถาถมเข้ามาพร้อม ๆ กันหลาย ๆ เรื่อง
ถ้าดูจาก แฟนเก่าที่พบเจอกันตอนนี้ คงมีทิกเกอร์นี่แหละ ที่พยายามต่อสายที่ขาดให้กลับมาเป็นดังเดิม :z1:
+ 1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
คุณอาก็มีด้านที่คิดไม่ถึงเหมือนกัน
-
โห เบื้องหลังอาฟ้าผู้แสนดีเปนงี้เอง
-
ทิกเกอร์สู้ ๆ
o13
-
ยะโฮ้!!! ทิกเกอร์ สู้ ๆ ^^
เชียร์สุดใจ ....
o13 o13 o13
-
เชียร์ทิกเกอร์อย่างออกกนอกหน้าค่ะ
ดูมีราศีกว่าเยอะ หล่อและรวยมากกกกก
รอตอนต่อไปจ้า
-
อย่างแรกเลยยคือ อิจฉาพี่ฟ้ามากกกกกกกกกกกกกกกกก พี่ต้องการผู้ชช่วยอีกไหม 555 :impress2: :impress2:
เชียร์ทิกเกอร์อะ เพราะดูเหมือนพี่ฟ้าเป็นคนทิ้งทิกเกอร์มาทั้งๆๆที่ยังรัก
แต่กับคนแรกนั้น คือต้องโดนทิ้งมาแน่ๆๆ
ทิกเกอร์เยี่ยมมากเลยยยยอะ พยายามมากจิงๆๆลุ้นๆๆๆให้สมหวังไวๆๆอยากเห็นพี่ฟ้ามีความสุขกับเค้ามั่ง
-
~4~
หลังจากที่ผมโดนหลานสุดที่รักและเพื่อนของหลานผมว่าเหน็บแนมแกมประชด ในตอนนั้นคนที่ผมนึกออกเพียงคนเดียวว่าผมจะรู้เรื่องเกี่ยวกับทิกเกอร์ในช่วงที่ผ่านมาได้อย่างไรนั้นคือ..ปูน ปูนเป็นเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทาลัยในไทยด้วยกัน ปูนเป็นเกย์ที่ค่อนข้างออกสาวและออกไปทางแนวรับซะเยอะ เราเข้ากันได้ดีเพราะปูนนิสัยดีและเป็นคนที่เปิดเผย ถึงแม้บางครั้งเราจะมีเรื่องบาดหมางกันบ้างเพราะปูนขี้เหวี่ยงขี้วีนแต่เราก็ไม่เคยที่จะโกรธเคืองกันได้นาน ในช่วงที่ผมต้องไปเรียนต่อที่ประเทศอิตาลีนั้น ปูนเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้ผมและทิกเกอร์ได้มาเจอกัน
ผมลังเลใจนิดหน่อยที่จะกดโทรติดต่อหาปูนในวันนั้น เพราะปูนรู้นิสัยของผมดีและแน่นอนว่าปูนคงจะรู้ทุกย่างก้าวของทิกเกอร์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะปูนและทิกเกอร์เปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน เนื่องจากพี่สาวของปูนได้แต่งงานกับพี่ชายของทิกเกอร์และอยู่กินกันที่ประเทศอังกฤษ ทิกเกอร์กับปูนค่อนข้างสนิทกันมากเพราะทั้งสองคนอยู่บ้านที่อิตาลีหลังเดียวกัน ซึ่งบ้านหลังนั้นเป็นบ้านของทิกเกอร์ ในเวลานั้นผมไม่รู้ว่าผมจะเริ่มถามปูนจากตรงไหนก่อนดี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาปูนเลิกพูดถึงเรื่องของทิกเกอร์ไปนานมากแล้ว ผมเป็นสาเหตุทำให้ปูนต้องทำอย่างนั้น ผมไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีก เพราะผมรักเขามาก ดังนั้น..เช่นเดียวกันว่า หัวใจของผมก็เหนื่อยมากเหลือเกิน
“ฮัลโหล” เสียงคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินมาสองสามเดือนแล้วของปูน เราจะติดต่อกันนานนานครั้ง ปูนไม่ค่อยได้กลับมาประเทศไทย ทำให้เราต้องติดต่อกันทางโทรศัพท์เสียส่วนมาก
“ปูน..ฟ้าเองนะ” ผมบอก
“อ่าว ฟ้า!” ปูนอุทานเสียงดัง น้ำเสียงของปูนฟังดูดีใจมาก
“อื้อ” ผมได้แต่อมยิ้ม
“แกเป็นไงบ้าง” ปูนถาม
“ก็เรื่อยๆ ปูนล่ะ..”
“ก็ดีอ่ะ” ปูนตอบ เสียงกุกกักจากอีกฝ่ายทำให้ผมทราบว่าอีกฝ่ายคงกำลังยุ่งอยู่
“ปูน..” ผมทิ้งเสียงลงเพียงชั่วครู่หนึ่ง ปูนเงียบไปเหมือนกับรู้ว่าผมจะพูดอะไร
“เล่าเรื่องทิกเกอร์ให้ฟ้าฟังหน่อยสิ” ผมพูด ปูนเงียบลง เสียงรอบตัวก็เงียบลงด้วยเช่นเดียวกัน
“รู้เรื่องแล้วงั้นเหรอ” ปูนถามกลับ
“อื้อ เมื่อวันสองวันก่อน” ผมตอบ เสียงของเราทั้งคู่เหมือนปรับอารมณ์ไปอีกอารมณ์หนึ่ง
“ก็..”
“ตรงประเด็นเลยก็แล้วกันนะ..พอดีฉันยุ่งอยู่น่ะ ก็..หลังจากที่แอนนาคลอดลูกได้ขวบกว่าๆ” ปูนถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเล่า
“..แอนนาก็ขอทิกเกอร์หย่าน่ะ” ปูนบอก ผมนิ่งสนิท ความรู้สึกนั้นช่างราบเรียบจนเกือบคิดว่าตนเองนั้นหยุดหายใจ
“เพราะอะไร..” ผมถาม
“ทิกเกอร์ไม่ค่อยกลับอังกฤษ ไม่ค่อยเอาใจใส่แอนนาเหมือนทุกที..มันแย่กว่านั้นเพราะทิกเกอร์เหมือนลืมไปเลยว่ามีเมียมีลูก..แอนนาคิดว่าทิกเกอร์น่าจะมีคนอื่น” ผมฟังอย่างเงียบๆ ผมไม่ได้รู้สึกดีใจเอาเสียเลยที่รับรู้ได้ว่าทิกเกอร์เป็นแบบนั้นเพราะปกติแล้วทิกเกอร์ไม่ใช่คนขาดความรับผิดชอบ และผมไม่ได้รู้สึกปลาบปลื้มต่อตัวเองแม้แต่น้อย ถ้าที่ทิกเกอร์จะเป็นแบบนั้นด้วยสาเหตุเป็นเพราะผม
“พอหลังจากที่หย่า แอนนาก็ขอสิทธิ์ที่จะเลี้ยงดูลูก..แต่ก็ไม่ได้ห้ามให้ทิกเกอร์ไปเจอหรอกนะ ทั้งสองคนก็จบกันด้วยดี ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน..พูดคุยแล้วต่างฝ่ายต่างไป แต่ทิกเกอร์ก็ขอส่งเงินค่าเลี้ยงดูให้แอนนานั่นแหละ คงเพราะรู้สึกผิด อีกอย่าง..ทิกเกอร์ก็รักลูกมากล่ะนะ”
“งั้นเหรอ” ผมบ่นพึมพำ
“แล้ว..ได้เจอกันแล้วสินะ กับทิกเกอร์น่ะ”
“อืม ประมาณนั้น..เมื่อวานนี้น่ะ” ผมตอบ
“แล้วเป็นไง คุยกันรึยัง” ปูนพูดปนหัวเราะ
“ยัง..ไม่อยากคุย” ผมตอบด้วยน้ำเสียงหยิ่งทะนง
“น่ะ ผิดที่ฉันเดาไว้ซะเมื่อไหร่ล่ะ..แกมันก็เป็นซะอย่างนี้ คุยกันมันหน่อยเหอะ..คนที่ไปทำให้มันมาหลงรักน่ะ คือแกนะ” มันว่าเหมือนกับว่าผมผิดอย่างนั้น
“ไอ้ปูน” ผมว่าปราม
“หึ..”
“แล้วคบกับใครอยู่รึเปล่า เมื่อสองเดือนก่อนที่คุยบอกว่าไม่ได้คบกับใครนิ..ตอนนี้ก็คงยัง หรือว่าแล้ว” ปูนถามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
“ก็..ไม่เชิง” ผมตอบปัดไปก่อน
“อะนะ”
“เฮ้อ ลองคุยกับทิกเกอร์หน่อยเหอะนะ..ถือว่าฉันขอก็แล้วกัน แกไม่รู้หรอกว่ามันต้องต่อสู้กับตัวเองขนาดไหน ถ้าแกจะเถียงฉันว่าแกเจ็บปวดแค่ไหน ฉันก็จะขอเถียงแทนทิกเกอร์ด้วยเหมือนกันว่ามันก็เจ็บปวดไม่แพ้แกหรอกนะฟ้า”
“ฉันไม่อยากคุยกับคนที่ไม่เข้าข้างฉันหรอกนะ” ผมตอบ ผมได้ยินเสียงหัวเราะอย่างพอใจจากปลายสาย
“งั้นแค่นี้ก็แล้วกัน ไม่กวนแล้ว” ผมบอก
“อืม ดูแลตัวเองด้วย..ฝากความคิดถึงถึงคิวสุดที่รักของฉันด้วยนะ” ปูนพูดแกมหยอก ปูนชอบหยอกคิวเสมอ ผมว่าถ้าคิวไม่ได้เป็นหลานของผม ป่านนี้คงจะโดนปูนเขมือบเรียบร้อยไปแล้ว
“หึ ได้..แล้วไม่คิดจะกลับมาเที่ยวไทยบ้างรึไง”
“ก็รอเคลียร์งานนี่แหละ ว่าจะไปเยี่ยมทิกเกอร์สักหน่อย คิดถึงยัยกิ๊บด้วย..ถ้าเป็นไปได้คงน่าจะกลางๆปีหน้า” ปูนตอบ
“อืม งั้น เท่านี้นะ..ขอบใจมาก” ผมพูด
“ยินดีย่ะ” ปูนตอบ
“บาย” เราสองคนพูดส่งท้ายพร้อมกันก่อนที่จะตัดสายไป
= = = = = = = =
เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน ณ ประเทศอิตาลี..
“ปูน!”
“อ่าว ฟ้า” ผมยืนยิ้มโบกมือให้เพื่อนรักที่ดันมาเจอกันที่ซุปเปอร์มาเก็ตโดยบังเอิญ
“มาซื้อของเหรอ” ปูนเดินตรงเข้ามาหาผม
“อื้อ มาทำไมอ่ะ” ผมถาม
“มาซื้อของเหมือนกัน..มากับผู้ชายน่ะ” ปูนขยิบตาให้
“Tigger, come here.” ปูนหันไปกวักมือเรียนผู้ชายคนหนึ่ง ผมยืนชะงักเบิกตาโพรงตัวค้างไปในทันที ผู้ชายคนที่ชื่อทิกเกอร์เดินยิ้มมาหาพวกเรา เป็นผู้ชายที่ทั้งหน้าตาและท่าทางดูภูมิฐานทีเดียว
“Ahem!” ผมสะดุ้ง ปูนยิ้มด้วยท่าทางเหมือนรู้ทันว่าผมคิดอะไรอยู่ แน่ล่ะ..ปูนเป็นเกย์ระดับมืออาชีพเชียว ประเภทที่ว่านั่งอยู่เฉยๆในผับยังมีคนเข้ามาขอนอนด้วยเลยละครับ หน้าตาของปูนถือว่าใช้ได้ แต่ผมคิดว่าฟีโรโมนของปูนคงจะแรงไปเสียหน่อย ผู้ชายส่วนมากจึงเลือกที่จะพุ่งไปหาปูนมากกว่าเลือกผม
“Let me introduce, Tigger, this is my friend Fah.” ปูนผายมือมาทางผม ทิกเกอร์ยิ้มกว้างกว่าเดิม
“and this is Tigger.” ปูนบอกเท่านั้น ผมไม่อยากละสายตาสักเสี่ยววินาทีจากใบหน้าของทิกเกอร์เพื่อถามปูนว่าผู้ชายคนนี้มีฐานะเป็นอะไรกับเขา ทิกเกอร์ยิ้มกว้างและผายมือมาให้ผม ผมเอื้อมมือไปจับตอบอย่างเป็นมารยาท
“Nice to meet you.”
“Nice to meet you too.” ผมยิ้มตอบอย่างเขินๆ และยังคงไม่ปล่อยมืออีกฝ่ายออก นานเท่าไหร่แล้วไม่ทราบ ที่ผมไม่ได้รู้สึกหัวใจเต้นอย่างกะทันหันแบบนี้ ให้อารมณ์คล้ายกับ “Love at first sight” อย่างไรอย่างนั้น
“ห้ามยุ่งนะคนนี้น่ะ” ปูนปรามพร้อมกับปัดมือของผมออก ทิกเกอร์หัวเราะนิดหน่อยที่ปูนมีท่าทีแบบนั้น
“แล้วใครบอกจะยุ่งล่ะ” ผมย้อนและยักคิ้วกวนตอบให้เพื่อนตัวแสบ
“แหม..แค่เห็นตาที่มองก็รู้แล้วละย่ะเพื่อนรัก” ปูนเบะปากใส่ ผมหัวเราะและหันไปจ้องหน้าคนที่ชื่อทิกเกอร์อีกครั้ง คนตัวสูง หน้าตาอ่อนโยนใจดี แต่งตัวดูดีมีภูมิฐานคนนี้ อย่างกับนายแบบหลุดออกมาจากแม็กกาซีน ไม่แปลกถ้าจะทำให้ผมเพ้อไปได้ชั่วขณะหนึ่ง หรืออาจจะเพ้อนานมากทีเดียว
“ไปดีกว่า” ปูนเล่นเสียงอย่างต้องการแกล้งผม พร้อมกับควงแขนทิกเกอร์ให้ผมเห็นอีกด้วย ตอบปัดไม่ได้ว่าผมรู้สึกเสียดายมากเลยละครับ
“หึ..เชิญตามสบายเถอะ” ผมหัวเราะตอบ
“Bye Honey” ผมยกมือบ๊ายบาย พร้อมกับส่งจูบให้ทิกเกอร์อย่างหยอกล้อ
“เน่!” ปูนปรามเสียงหลงในทันที ทั้งผมและทิกเกอร์ได้แต่อมยิ้ม เราร่ำลากันหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป ผมไม่ได้ติดใจใครแบบนี้มานานมากแล้ว ผู้ชายคนนี้สะดุดตาผมจนผมยังอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ ทั้งหน้าตา ส่วนสูง การแต่งตัวและบุคลิกดูดึงดูดใจผมอย่างไม่มีที่ติ เฮ้อ..ให้ตายเถอะ ทำไมต้องเป็นไอ้ปูนด้วยนะ เป็นเราไม่ได้หรือยังไงกัน
= = = = = = = =
ณ บ้านฟ้าที่ประเทศอิตาลี..
“คิว..จัดบาร์ด้านล่างรึยัง” ผมตะโกนถามหลานชายสุดที่รักของผม เราย้ายกันมาอยู่อิตาลีหลังจากที่คุณพ่อไล่ผมออกจากบ้าน คิวมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นี่ทางด้านสาขาเศรษฐศาสตร์ เป็นการจำใจเรียนเพราะไม่อย่างนั้นพี่ตันจะไม่เซ็นอนุญาตรับรองให้คิวมากับผมด้วย ผมมุ่งมั่นมาคว้าปริญญาโทอีกใบทางด้านสาขาแฟชั่นดีไซน์อย่างที่ใฝ่ฝัน แน่นอนว่าผมสอบทุนได้อีกเหมือนเดิม ผมไม่มีทางยอมเสียเงินก้อนเป็นล้านของตนเองไปโดยเปล่าประโยชน์แน่ๆ มีนักเรียนไทยบางคนที่นี่รู้ฐานะของผมและต่อว่าต่อขานผม ว่ารวยแล้วจะไปแย่งทุนของคนอื่นทำไม ถ้าผมจะตอบอย่างเห็นแก่ตัวคือ “มันสิทธิ์ของผม ในเมื่อคุณมีคุณภาพไม่พอ..คุณก็ไม่เหมาะสมกับมัน” มันไม่ฉลาดเลยนะถ้าการที่ผมเรียนมาจนได้ระดับนี้แล้วผมจะปล่อยทุนไปอย่างเสียเปล่า ผมเองก็ต้องหาเงินช่วยตัวเองด้วยเหมือนกัน ไม่ได้งอมืองอเท้าอย่างลูกคนรวยคนอื่นเมื่อไหร่
“อืม” คิวตอบสั้นๆเท่านั้น ผมรีบวิ่งลงมาพร้อมกับเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ที่ผมเพิ่งไปซื้อมาเมื่อเช้านี้
“นี่คิว..ใส่เสื้อตัวนี้สิ ใส่นะ” ผมยิ้มหวานบอกคิว คิวเหลือบหันหน้ามามองเสื้อเพียงครู่เดียวก็หันกลับไปสนใจจัดเครื่องดื่มที่เคาร์เตอร์ต่อ วันนี้ที่บ้านของเรามีปาร์ตี้เล็กๆ เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันเกิดของผม เราจัดปาร์ตี้กันที่บ้าน เชิญเพื่อนสนิทมาประมาณสิบกว่าคน ตอนนี้เราจึงค่อนข้างยุ่งกับการเตรียมอาหารและเครื่องดื่มพร้อมกับสถานที่ให้เรียบร้อยก่อนที่แขกจะมา
“ไม่ล่ะ เสื้อตัวนี้ดีแล้ว” คิวตอบหมายถึงเสื้อที่ตนเองสวมใส่อยู่
“อาเพิ่งซื้อมาใหม่เลยนะ เมื้อเช้านี้เอง..อุตส่าห์ไปสั่งไว้ให้อ่ะ” ผมบอกและยังคงชูเสื้อไว้ให้อีกฝ่ายเห็น
“งั้นเดี๋ยวเซ็นใส่ให้เองอา” เซ็นพูดขึ้น เซ็นอยู่ในทุกๆที่ๆมีคิว สองคนเพื่อนซี้นี้อย่างกับคู่แฝด มีคิวที่ไหนต้องมีเซ็นที่นั่น ที่เซ็นที่ไหนก็ไม่มีคิวไม่ได้เช่นกัน
“ไม่” ผมตอบอย่างหนักแน่น พร้อมกับยืนจ้องหน้าคิวเขม็งอย่างต้องการให้หลานหันมาสนใจ
“คิว” ผมหันไปมองปรายที่เดินเข้ามาหาคิว เธอเป็นแฟนสาวสุดที่รักของหลานชายผม ผู้หญิงคนนี้ผมยอมรับเธอได้อย่างเต็มหัวใจ ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ การศึกษา ควบรวมไปถึงนิสัยใจคอของเธอ ไร้ที่ติจนผมไม่สามารถจะคัดค้านสิ่งใดได้
“ไปใส่เสื้อของอาสิ” ผมได้ยินปรายกระซิบ คิวเมินหน้าหนีปรายแถมยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีกต่างหาก
“ก็ได้..” ผมตัดบทและเดินกลับขึ้นมาบนบ้าน อุตส่าห์ซื้อมาให้อ่ะไอ้หลานบ้า..แพงก็แพงอ่ะ T_T
แกรก~
ผมหันกลับไปมองที่ประตูห้องของผม คิวเปิดประตูเข้ามา มันเดินมาอย่างไม่พูดไม่จาพร้อมกับถอดเสื้อที่ใส่อยู่ออก ก่อนที่จะเดินมาหยิบเสื้อที่อยู่ในมือผมไปสวมใส่แทน
“พอใจรึยัง” อีกฝ่ายพูด
“หึ..มากอ่ะ” ผมหัวเราะ
“อย่าปัญญาอ่อนให้มากได้ไหม เซ็งน่ะ” คิวว่าด้วยน้ำเสียงเอือมอย่างสุดขีด ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับหยิบเสื้อตัวเก่าของตัวเองติดมือกลับไปด้วย ผมแต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับงานในคืนนี้ เมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงลงมาข้างล่างเพราะแขกเริ่มมากันเยอะแล้ว
“Hello~” ผมหันไปมองตามเสียงร่าเริงนั่น ปูนมาถึงพร้อมกับโบกไม้โบกมือทักทายทุกคน ทุกคนส่งเสียงเฮฮาทักทายตอบ ดีหน่อยที่บ้านของผมนั้นเป็นบ้านหลังเดี่ยว ถึงจะเสียงดังก็ไม่เป็นไร
“Hi” ผมโบกมือขึ้นอย่างเคอะเขินพร้อมกับยิ้มทักทิกเกอร์ที่มาด้วย ผมชวนให้ทิกเกอร์มากับปูนด้วยถึงแม้จะรู้ว่าทั้งสองคนคงจะคบกันอยู่ แต่มันก็อดไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันที่ดึงดูดผมได้มากขนาดนี้ ผมไม่เคยรู้สึกเขินใครแบบนี้เพราะเพียงแค่รอยยิ้มของอีกฝ่ายมานานมากแล้ว ครั้งนี้จึงทำให้หัวใจของผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยดีแม้เพียงได้พบ
“Hi” ทิกเกอร์ก้มหัวยิ้มตอบ
“อันนี้ไม่อนุญาตให้ทักทายกันแบบฝรั่งนะจ๊ะ มาจุ๊บนี่ไม่ได้นะ..หวงจ้ะ” ปูนพูดพร้อมกับทำสีหน้าแซวผม
“อย่าเผลอก็แล้วกัน” ผมเบะปากอย่างไม่ยอม ปูนหน้างอในทันที
“Please make yourself at home.” ผมพูดบอกทิกเกอร์
“Please make yourself at home~” ปูนเล่นเสียงล้อเลียนผมพร้อมกับทำหน้าหยอกล้อไปมา
“ไอ้นี่” ผมว่าปูนอย่างเขินๆ ทิกเกอร์เพียงแต่ยืนยิ้มน้อยๆ
“งั้นก็ฝากด้วยก็แล้วกันนะ ไปหาน้องคิวดีกว่า..คึคึ” ปูนปัดมือไปมาและเดินหนีไปหน้าตาเฉย ผมยืนอึ้งเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมปูนถึงทิ้งทิกเกอร์ไว้แบบนี้
“Umm….” ผมหันกลับไปมองหน้าทิกเกอร์ เขายิ้มและยื่นกล่องของขวัญมาให้ผม
“Happy Birthday!” อีกฝ่ายยิ้มให้ ผมรับกล่องมาและรู้ว่าตนเองนั้นเขินอีกฝ่ายมากทีเดียว
“Poon and me, we bought this present together.” ทิกเกอร์บอก
“Thank you” สายตาของผมจับจ้องไปที่กล่องของขวัญเพียงอย่างเดียว ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาทิกเกอร์อย่างเต็มตานัก
“Umm… what kind of drink would you like? Do you drink alcohol?” ผมถามและเดินนำไปที่เคาร์เตอร์ ทิกเกอร์เดินตามมา เรานั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าเคาร์เตอร์
“ก็นิดหน่อย ถ้าไม่แรงมาก” ทิกเกอร์ตอบ
“คุณไม่ทานเหล้างั้นเหรอ” ผมพูดปนหัวเราะ
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ” ทิกเกอร์ยิ้มเขิน
“คิว..ขอCosmopolitanหน่อย” ผมบอกหลานรักที่กำลังวุ่นอยู่กับการชงเครื่องดื่มเพื่อเสิร์ฟให้แก่ทุกคน คิวเงยหน้าขึ้นมามองผมสลับกับมองหน้าทิกเกอร์
“นี่หลานของผมเอง ชื่อคิวปิด” ผมแนะนำ คิวหันมายิ้มตอบให้ทิกเกอร์และผายมือให้อีกฝ่าย ทิกเกอร์จับมือตอบและผงกหัวอย่างมีมารยาท ทุกท่วงท่าที่ทิกเกอร์กระทำนั้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ดี ไม่ลุ่มล่าม ไม่เทอะทะ ไม่ดูหยิ่งจนเกินแก่สมควร ลีลาและการวางตัวนี้สามารถสะท้อนให้เห็นว่าที่บ้านคงจะสอนมาดีมาก ซึ่งในสมัยนี้เหลือน้อยคนมากที่จะมีคนประเภทนี้อยู่
“and this is Tigger, umm..Poon’s boyfriend” ผมแนะนำอย่างตะกุกตะกัก เพราะรู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่อยากพูดแบบนั้นออกไปอย่างเต็มปากเต็มคำเท่าไหร่นัก
“Well, I’m not Poon’s boyfriend..” ทิกเกอร์หันมาบอกผมในทันที เขายิ้มกว้างด้วยท่าทางเขินเล็กน้อย
“What??” ผมย้ำถามอย่างไม่เชื่อหู
“I’m not Poon’s boyfriend, we’re just relative.” ทิกเกอร์ยักไหล่ ผมอ้าปากค้าง
“But..how..so he lied to me!” ผมชี้มือชี้ไม้ทั่วเหมือนกับตกใจจนทำตัวไม่ถูก
“จากที่ฟัง เค้ายังไม่ได้พูดเลยนะครับ ว่าผมเป็นแฟนเค้าน่ะ” ทิกเกอร์ย้อนตอบด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏให้เห็น ผมแสยะยิ้ม
“......................” ผมเงียบไปชั่วครู่และปากยังคงยิ้มกว้างอยู่เพราะรู้สึกอายมาก ทิกเกอร์แทบจะหัวเราะ ผมนำมือขึ้นปิดหน้าปิดตาตัวเองอย่างรู้สึกว่าหน้าของตนเองนั้นร้อนผ่าว
“คุณฟังภาษาไทยรู้เรื่องงั้นเหรอ” ผมถาม
“แน่นอน..ก็ปูนกับพี่สาวเค้าน่ะ เอิ่ม..ตอนพวกเขาอยู่ด้วยกันก็พูดภาษาไทยประจำ ผมน่ะฟังจนรู้จักหลายคำเชียวล่ะ” ทิกเกอร์พูดปนหัวเราะ
“งั้นสิ พระเจ้า..เขินจัง” ผมบ่น
“คุณเป็นอาที่ดูหนุ่มมากเลยนะ” ทิกเกอร์เปลี่ยนเรื่อง
“แล้วชอบรึเปล่าล่ะ คุณชอบคนแบบไหนเหรอ” ผมถามตรงๆ ทิกเกอร์ยิ้มกว้างกว่าเดิมแต่กลับเงียบไม่ตอบผม
“เน่..ทำอะไรแฟนฉันยะ” ปูนเดินเข้ามากอดคอผมไป ผมเอนตัวไปตามแรง
“นี่ไง แฟนเหรอออออ” ผมหยิกจมูกของปูนอย่างแรงด้วยความหมันไส้
“โอ้ย..ไอ้ฟ้า” ปูนร้องพร้อมกับนำมือขึ้นปิดจมูกของตน
“ฉันรู้แล้วว่าแกไม่ได้เป็นแฟนกับทิกเกอร์” ผมว่าให้
“หึ..อ่ะเหรอ” ปูนหัวเราะอย่างไม่รู้สึกผิด
“ว้า..ไม่สนุกเลย” มันทำหน้าทำตาใส่พร้อมกับปัดมือไปมา
“ทิกเกอร์เป็นน้องชายของพี่เขยฉันเอง หล่อใช่ป่ะล่ะ..เดินควงทีไร คนอื่นเหลียวหลังคอแทบหักกันทุกคน” ปูนกระซิบกระซาบตาโต ผมได้ยินเสียงทิกเกอร์หัวเราะอยู่ในลำคอและมีท่าทีที่เขินอาย
“แล้วแกไม่คิดจะเขมือบเองรึไง” ผมถามอย่างลองเชิง เพราะเป็นแค่น้องชายของพี่เขย ไม่ได้หมายความว่าเป็นพี่เขยสักหน่อย ถ้าคนอย่างปูนจะชอบใครนั้นก็คงไม่ยากเท่าไหร่นอกจากผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์จริงๆแบบเกินความสามารถของปูนไป
“ไม่ล่ะ ไม่ใช่สเปกน่ะ..อย่างฉันมันต้องหลานแกอะไรอย่างเนี้ย หยิ่ง..เย็นชา หึ..คึคึ” ปูนทำหน้าเพ้อฝันผิดกับสีหน้าเมื่อกี้ถนัด
“งั้นก็ฝันไปอีกสิบชาติเถอะ ถึงไม่มีปราย..ฉันก็ไม่ยอมให้หลานฉันโดนแกเขมือบหรอก นังงูเหลือม”
“เขมือบ” ทิกเกอร์พยายามพูดอย่างไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นัก สีหน้าเหมือนกับสงสัยว่าคำว่า “เขมือบ” นั้นหมายถึงอะไร
“ใครจะรู้ หลานแกอาจจะชอบลีลาของฉันก็ได้..ปูน ลิ้นเร็วร้องแรงดั่งเปลวไฟ” ปูนทำท่าทำทางแลบลิ้นออกมา ผมได้แต่ยืนหน่ายกับท่าทางของมัน
“อย่างคิวนี่นะ ฮ้า..ฉันอยากจะทำให้ร้องอู้ อ้า..อู่ ฮ่า..พี่ปูนครับ โอ๊ว..สยิวอ่ะ~” ปูนทำเสียงกระเส่าทำให้ทิกเกอร์ขำออกมาเสียงดัง
“อี๋..หลานฉันยังไม่บรรลุนิติภาวะนะไอ้บ้า หยุดคิดอกุศลกับหลานฉันเดี๋ยวเน้” ผมล็อกหน้าของปูนและปิดหน้าปิดตามันให้หยุดเพ้อเสียทีเพราะผมรับไม่ได้น่ะ ผมขอยืนยันว่าผมรับไม่ได้จริงๆถ้าคิวต้องกลายเป็นเครื่องปรนเปรออารมณ์ของไอ้เกย์บ้านี่
“คิวววว ไอ้ฟ้ามันแกล้งพี่อ่ะ” ปูนรีบวิ่งเข้าไปกอดแขนคิวไว้เมื่อเห็นว่าคิวเดินมาพอดี ปูนจะแทนตัวเองว่าพี่กับหลานๆของผมเสมอ ที่จริงอายุของเราถึงจะห่างกันมากแต่ที่จริงแล้วก็สามารถเรียกแทนตัวเองว่าพี่กับน้องได้ ซึ่งปูนจะไม่ชอบเอาเสียมากเวลาที่คิว เซ็น ปรายหรือฝันเรียกตัวเองว่า “อา” ดังนั้นทุกคนจึงต้องละคำนี้ไปโดยปริยาย
“อาปูนก็อย่าไปแกล้งอาก่อนสิครับ” คิวพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“คิวอ่ะ..พี่บอกว่าอย่าเรียกอาไง!” ปูนขึ้นเสียงอย่างไม่ชอบใจ ผมกับทิกเกอร์ได้แต่ขำ คิวยืนนิ่งเงียบอย่างเคย ปูนซบหน้าลงที่อกของคิวอย่างออดอ้อน ปกติคิวไม่ชอบให้ใครมาออเซาะแบบนี้แต่ดูเหมือนคิวจะต้องยอมให้ปูนไปคนหนึ่งนอกจากปรายละนะครับ
“ครับพี่ปูน ปล่อยได้รึยังครับ” คิวพูดเสียงเนือย
“คืนนี้พี่นอนห้องคิวนะ พี่ว่าคืนนี้พี่ต้องเมาแน่ๆอ่ะ” ปูนไม่พูดเปล่าแต่กลับคล้องแขนขึ้นโอบต้นคอของคิวไว้ด้วย ถึงแม้คิวจะอายุเพียงสิบแปดสิบเก้าแต่คิวตัวสูงใหญ่มากที่เดียว ที่เป็นแบบนี้คงเพราะผลจากการที่คิวได้ไปเรียนต่อไฮสคูลที่ต่างประเทศก่อนที่เราจะย้ายพากันมาที่ประเทศอิตาลี คิวได้รับการเลี้ยงดูและการกินอาหารแบบเด็กต่างชาติ การที่คิวมีส่วนสูงเท่านี้สำหรับต่างประเทศคงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ากลับประเทศไทย ส่วนสูงของคิวคงจะเกิดเด็กวัยรุ่นไทยไปแล้วละมังครับ
คิวยืนเฉยมองอีกฝ่ายตอบ “ก็ได้ครับ คิวจะได้ย้ายไปนอนห้องอาฟ้า”
“ง่ะ..คิวอ่ะ ไม่ชอบขึ้นสวรรค์เหรอเด็กน้อย หื้ม..พี่ไม่อยากจะบอกเลยว่ามันขนาดไหน แต่ถ้าคิวยอม..พี่ก็ยอมถวายให้ทั้งชีวิตเลยนะที่รัก” ปูนซบหน้าลงที่อกของคิวอีกครั้งพร้อมกับทำมือวนไปวนมาอยู่ที่หน้าอกของคิวด้วย
“พอดี คิวชอบตกนรกอ่ะครับ” คิวตอบหน้าตาย
“หึ..หึหึ ฮ่าๆๆๆ” ผม เซ็นและทิกเกอร์หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างกับนัดกันไว้ ทำให้เพื่อนๆชาวต่างชาติคนอื่นต่างต้องหยุดชะงักด้วยความสงสัย
“แล้วอาจะปล่อยได้รึยังครับ คิวจะไปตักอาหาร” คิวพูดย้ำคำเดิม
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวปั๊ด” ปูนหันมาทำตาขวางใส่พวกผม
“พี่จะโกรธจริงๆแล้วนะ บอกให้เรียกพี่เรียกพี่..งั้นหอมแก้มพี่ก่อน แล้วเราค่อยมาตัดสินอีกทีว่าจะปล่อยหรือไม่ปล่อย” ผมยืนมองว่าคิวจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ภาพตรงหน้ามันน่าลุ้นดีสำหรับผมเอามากๆเลยล่ะ
คิวไม่พูดอะไรอีก มันเอาแต่ยืนมองปูนเขม็ง ปูนยืนฉีกยิ้มกว้างให้อย่างไม่กลัวสีหน้าของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย คิวก้มหน้าลงช้าๆก่อนที่จะกดปากลงและเน้นหอมเข้าที่แก้มของปูนอย่างช้าๆ ผมยืนอึ้งเพราะไม่อยากเชื่อต่อสายตาของตัวเอง ปูนยืนนิ่งเพ้อไปแล้วเรียบร้อย
“น่าร๊ากกกอ้า” ปูนเล่นเสียง คิวเพียงแสยะยิ้มที่มุมปาก ไร้เสียงหัวเราะใดๆออกมาจากมัน
“น้องปราย..สักวัน พี่จะเอาคิวขึ้นเตียงให้ได้ นั่นคือเป้าหมายของชีวิตพี่!” ปูนพูดขึ้นเสียงดัง ปรายที่นั่งอยู่ที่โซฟาเธอได้แต่ยิ้มขำอย่างกับเห็นว่านั่นเป็นเรื่องตลกสำหรับเธอเหลือเกิน
“หัวเราะไปเถอะจ้ะชะนี เฮ้อ..หงุดหงิด อยากได้ผู้ชายอ่ะ” ปูนสะดีดสะดิ้งเดินหนีไปที่กลุ่มเพื่อนๆของพวกเราที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
“I really don’t know how a person like you can be friend with Poon.” ผมหันไปพูดบอกทิกเกอร์
“Even though he’s like this, he is a good person.” ทิกเกอร์พูดปนหัวเราะ
“งั้น..คุณอยากรู้ไหมว่าผมเป็นคนดีรึเปล่า” ผมยิ้มหยอก วกไปที่เรื่องอื่นบ้างเพื่อต้องการจะพูดคุยให้มากขึ้นกว่าเดิม ทิกเกอร์ไม่ตอบเพียงแต่ยิ้มกลับให้ผม
“ผมว่าคุณก็เป็นคนดีนะ” ทิกเกอร์พยักหน้า
“ผมเป็นคนดีมากทีเดียวล่ะ” ผมยักคิ้ว
“หึหึ” เราทั้งคู่หัวเราะให้กัน
“เอ่อ คุณคิดว่าเราจะได้ติดต่อกันอีกไหม ผมหมายถึง..คุณอาจจะให้เบอร์โทรผม หรือผมอาจจะขอเบอร์ของคุณ” ผมพูดพร้อมกับเล่นสายตาให้อย่างเย้าหยอก
“แต่ผมว่าคุณคงอยากได้เบอร์ของผมมากกว่า แต่ผมไม่ให้หรอก..ดังนั้น คุณควรให้เบอร์ผมคงจะดีกว่า” ผมพูด
“หึ..โอเค งั้นก็ได้ครับ” ทิกเกอร์ยิ้มพร้อมกับผายมืออย่างยอมผม ผมหยิบกระดาษกับปากกาที่วางอยู่ตรงเคาร์เตอร์มา ทิกเกอร์บอกเบอร์โทรศัพท์ของเขา เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจึงพับกระดาษและเก็บเข้ากระเป๋าเสื้อของตัวเอง
“.....................” ผมนั่งจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ตั้งแต่หน้าผาก จมูก ตา ปาก หู ทรงผม ทุกส่วนบนใบหน้านั่นถูกใจผมไปเสียหมด อีกฝ่ายที่ถูกจ้องนั่งอมยิ้มและหลบสายตาของผมไปอีกทาง
“ถ้าผมจะจีบคุณ คุณจะว่ายังไง” ผมถามขึ้น ทำเอาทิกเกอร์ชะงักไปครู่หนึ่ง ผมจ้องอีกฝ่ายไม่วางตา
“เอ๊ะ..หรือว่าคุณจะจีบผมล่ะ” ผมขึ้นเสียงสูง หน้าของทิกเกอร์แดงระเรื่อกว่าเดิม
“ไม่เอาน่า จะจีบผมงั้นเหรอ..ผมค่อนข้างเล่นตัวนะ” ผมพูดทีเล่นทีจริงอย่างหน้าไม่อาย
“หึหึ..” ทิกเกอร์หัวเราะ
“ถ้าคุณจะจีบผมคุณต้องพูดภาษาไทยให้ได้นะ” ผมพูดเล่นไปอย่างนั้นเองเพราะต้องการหาเรื่องชวนคุยให้มากขึ้นอีก
“ทำไมล่ะ” ทิกเกอร์ถามกลับ
“ผมว่ามันมีเสน่ห์ดี ฝรั่งพูดภาษาไทยนะ..เซ็กซี่เป็นบ้า” ผมขยิบตาให้
“แมลงเข้าตาเหรอ” ผมชะงักหันไปมองคิวที่เดินมาพูดด้วยสีหน้ากวนบาทาอย่างมาก ขัดอารมณ์ที่สุด!
“ยูควรระวังผู้ชายคนนี้ไว้นะ..เค้าไม่ใช่คนที่ยูควรจะมานั่งคุยเล่นด้วยได้หรอก” คิวพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องปากและจ้องหน้าทิกเกอร์เขม็งเหมือนกำลังบอกในเรื่องที่เป็นทางการอย่างนั้น
“เวลายูเผลอ เค้าจะลากยูขึ้นเตียง..หลังจากนั้นเค้าก็จะกินยูเข้าไป”
“หึหึหึ” ทิกเกอร์หัวเราะเหมือนชอบใจกับคำพูดของคิว
“ขอตัว” คิวตัดบทและเดินไปอย่างหน้าตาเฉย
“นี่..หยุดน่า ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นซะหน่อย” ผมปรามหน้างอ
“ผมชอบนะ” ทิกเกอร์บอก
“ชอบ” ผมย้ำเสียง ทิกเกอร์พยักหน้า
“ชอบผมหรือชอบหลานผมล่ะ”
“ก็น่าจะทั้งคู่” ทิกเกอร์ตอบและยังคงอมยิ้มอยู่ไม่เลิก
“อะฮะ” ผมอมยิ้มให้กับใบหน้านั่น เราไม่พูดอะไรต่ออีก ผมคงหน้าแดงอย่างเก็บอาการไม่อยู่รึเปล่า..ผมไม่ทราบ และไม่อยากรับรู้ด้วย
...................>>>><<<<...................
-
:z2: :z2: :z2:
-
:z13: :z13: :z13:
ทำไมน่ารักอย่างนี้อ่าาาาาาาา
:-[ :-[ :-[
-
:z2:
-
:z13:
-
อาฟ้าน่ารักเนอะ
สรุปคือทิกเกอร์มีลูกมีเมียแล้วแต่มาหลงรักอาฟ้าหรอ
แต่ยังไง ก็เชียร์ทิกเกอร์เนอะ แหะๆ :really2:
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:อ๊าาา ทิกเกอร์น่ารัก
-
อาฟ้าน่ารักอ่ะ มีเสน่ห์มาก
ชั้นชอบอาฟ้า :o8:
-
:z3: :z3: :z3: :bye2: :bye2:
-
อ้าววว จบตอนแล้วเหรอ นึกว่าเบบี้จะมาต่อ 2 เม้นท์ซะอีก >_<
อาฟ้าพราวมากอ่ะ อาปุเปรี้ยวดีแท้ ^^
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ทิกเกอร์กับพี่ฟ้า น่ารักจัง อิอิ
-
ว้าวววว เลิฟแอดเฟิร์สซายยของอาฟ้าซะด้วย :-[
ของเค้าไม่ธรรมดาจริงๆทิกเกอร์
จีบกันไวๆๆ :z2:
-
ทิกเกอร์ เป็น Love at first sight ของอาฟ้า :o8: อาฟ้าออกตัวแรงไปไหมค่ะ เล่นจีบหนุ่มเองเลย
อาปูนก็น่ารักยิ่งตอนที่แกล้งแหย่คิวนี่เล่นเอาหลายคนลุ้นไปตามกันว่าคิวจะจัดการยังไง
เพิ่งรู้ว่าทิกเกอร์มีเมียและลูกแล้ว แต่นี่จะเป็นเหตุผลที่อาฟ้าเลิกกับทิกเกอร์เหรอ มันน่าจะมีสาเหตุมากกว่านี้นะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ
กด + ให้กับ อาฟ้า อาที่น่ารักของหลานคิว
-
เลิกกันแบบอีกคนแต่งงานมีลูกอีกต่างหาก สมควรทำใจยากนะคะพี่ฟ้า
ได้เจอปรายภาคยังมีชีวิตด้วย อ่านแล้วคิดถึงเค้กเนาะ (ไม่เกี่ยวเท่าไหร่ แต่อยากบอก อิอิ :กอด1:)
-
แรงอ่ะ อาฟ้า ผิดจากที่คิดไว้เลย จากตอนแรกคิดว่าน่าจะไว้ตัวหน่อย ๆ
ทิกเกอร์คงจะสเป็คจริง ๆ เลยล่ะสิ ไม่รอเขาเริ่มละ ตรูเริ่มก่อนเลย
-
ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ
อาฟ้ารุกก่อนเลยนะ
5555
จะรักกันยัง
อ่อยยยย ทิกเกอร์มีเมียนี่เอง เลยเลิกกัน !?
-
อาฟ้าน่ารักอะ เพิ่งเคยเห็นอาฟ้าโหมดนี้เหมือนกัน ฮี่ๆๆๆ
-
เบบี้มาเร็วมากกกกกกกก ขอบคุณค่ะ ความหลังครั้งยังหวานเนาะพี่ฟ้า :กอด1:
-
ทิกเกอร์น่ารักอ่าา :-[ เชียร์ สุดๆแล้วตอนนี้
-
อาฟ้าน่ารักอ้ะ
เรื่องระหว่างอาฟ้ากะทิกเกอร์นี่มีกามเทพช่วยเยอะเลย
แต่ก็ดี
จะได้ลงเอยกันเร็วๆ อิอิ
-
อ้าวไหงทิกเกอร์มีลูกมีเมียซะงั้นหล่ะเนี่ย เลิกกับเมีย เลยกลับมาหาฟ้า :z3:
-
น่ารักอ่ะ
ฟ้าสมัยก่อนนี่ใช่ย่อยนะเนี่ย หุหุ แอบแรง
-
ว่าตอนนี้อาฟ้าน่ารักแล้วนะ เมื่อ 6 ปีก่อนน่ารักกว่าอีก>.<
เสน่ห์แพรวพราวมากๆ น่ารักน่าหลงเสียนี่กระไร :o8:
ทิกเกอร์เองก็น่าประทับใจนะ ทำเอาอาฟ้าเพ้อไปเลย :laugh:
นี่หรือเปล่าคือสาเหตุที่ทิกเกอร์มุ่งมั่นเรียนภาษาไทย
ส่วนคิวนี่ก็ยังคงเส้นคงวา เฉยชาตั้งแต่เด็กยันโตเลยสิเนี่ย
แต่นี่แหละคือเสน่ห์ที่น้องเค้กคู่ควร :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
ป.ล.บวกเป็ดให้อาปูน ชอบๆๆๆๆ
-
รักแรกพบ กิ๊วๆๆๆ
-
อ้ายยย ทำไมอาฟ้าน่ารักขนาดนะ จีบกันกับทิกเกอร์แบบนี้ โอ้ยย ชอบอ่ะ
สงสัยเนื้อคู่แล้วละค่ะอาฟ้า แบบชะตาผูกกัน ฮ่ า าา แล้วทิกเกอร์ไปมีเมียกับลูกตอนไหนละเนี้ย โฮกกกก ไม่อยากจะคิดเลย
แต่พี่คิวนี้สุดๆไปเลย เป็น ผช ที่มีเสน่ห์จริงๆ ฮ่ า าา แบบนิ่งๆ แต่กินใจ ก๊าก ก ก อิจฉาคุณพี่อาปูนอ่ะ พี่คิวหอมแก้มด้วย ><
แต่ว่าเวลาพูดถึงพี่ปรายทีไร จะคิดถึงน้องเค้กตลอดเลยอ่ะ ไม่รู้ทำไม รู้สึกหน่วงๆ คริๆ
รักอาหลานคู่นี้จัง
แล้วทิกเกอร์กับอาฟ้าจะคืนดีกันยังไงเนี้ยยยยย แอบลุ้นอยู่นะค่ะ แฟนเก่าคนนั้นตกกระป๋องไปได้ละ (ลำเอียงไปรึเปล่าเรา)
แต่อาฟ้ากินเด็ก แอบตลกอ่ะ 555
แต่ติดใจบ้านที่หัวหินของพี่คิวจริงๆ นะเนี้ย เรือนหอรึเปล่าเนี้ยยย อยากจะบอกคุณพ่อของพี่คิวว่าแฟนพี่คิวน่ารักมากไม่ไหวแล้วคนนี้อ่ะ
แอบคิดถึงน้องเค้กแล้วอ่ะค่ะ ฮ่า า แต่ตอนนี้ขอลุ้นรักของอาฟ้าก่อนนะ
ตั้งแต่เริ่มอ่านนิยายของ เบบี้ มารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนหลายใจมากอ่ะ กลายเป็นโรคตกหลุมรักอย่างง่ายดาย 5555
-
:impress2:
-
:impress2: น่ารักเป็นบ้าเลย
ชอบอ่ะ พี่ฟ้าน่ะ ฮ่าๆ เจ้าชู้จริงๆ
-
ฟ้าตอนเป็นวัยรุ่นน่ารักนะเนี่ย
:pig4: คะ
-
อาฟ้าาา.........ออกตัวแรงส์.. :z1: :z1:แต่ก็น่ารักมากกกก...ชอบบบบบๆๆ
พี่คิวววววววว......กวนได้อีกกกกก...
คิดภาพตามพี่คิวก้มลงหอมแก้มมอาปูนนน....น่ารักอ่ะ :-[ :-[
-
ฟ้่าน่ารักเสมออ่า... :o8:
-
อาฟ้าน่ารักอ่ะ จีบทิกเกอร์แบบนี้เลยเหรอ :-[
เชียร์ทิกเกอร์ๆๆๆ
คิวก็ยังคงเส้นคงวาเรื่องความกวนเหมือนเคย
คิดถึงน้องเค้ก
:pig4:
-
คิดถึงสิ่งที่อาฟ้าต้องได้พบเจอจากคำพูดของปูนแล้วก็ เฮ้อ... สงสัยจะเพราะเรื่องนี้แหละ
ที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปขนาดนี้ ชีวิตมีสีสันมากอ่ะอาฟ้า ทั้งตอนอ่านแล้วเพลินทีเดียว
แต่เวอร์ชั่นจีบผู้ชายก่อนนี่น่ารักมากเลยอ่ะ 555 แบบโอเคเดี๋ยวไอจะเป็นฝ่ายรุกเข้าเอง
กรี๊ดดดดด น่ารักอ่ะ 55555 และจากคำพูดทิกเกอร์นี่ท่าจะหล่อและแซ่บเว่ออ่ะ =///=
คิวตอนเด็กๆก็น่ารักอะ จิ้นตั้งกะตอนเดินเ้ข้าห้องมาถอดเสื้อเปลี่ยนและ คำพูดคำจานี่แม่งนะ
ฮ่าาาาาาาา พี่คิวแท้ๆเลยอ่ะ แล้วตอนหอมแก้มพี่ปูน นั่นมันอารั๊ยยยยยยยย!! ป๊าดดดด
น่ารักเหลือเกินอ่ะ T___T แหมลองคิดพี่คิวสมัยก่อนกับแฟนสาวไม่อยากจะเชื่อ
ว่าตอนนี้.....พี่คิวมีแฟนชื่อเค้กเป็นเด็กผู้ชาย ฟินนนนน! 55555 รออ่านตอนต่อไปนะค่าา
-
อู้ววว เพิ่งเคยเห็นฟ้าเวอร์ชั่นนี้....แรงงงงง
-
อ๊ายยยยอาฟ้าออกตัวแรงนะคะ^_^
-
:-[
-
พี่ฟ้าน่ารักอ่ะ
ไม่รู้ใครถูกใครผิด ต้องถามหัวใจเท่านั้น
-
พี่ฟ้าน่ารักมากกกกกกกกกกกก
คิวโคตรกวนตีนเลย แต่ชอบ ฮ่าๆ
-
พี่ฟ้าจู่โจมก่อนเหรอเนี่ย
-
อาฟ้าน่ารักอ่ะ :-[ ไม่น่าเชื่อจะออกตัวจีบก่อน :impress2:
-
เรื่องราวย้อนไปเมื่อ6ปีที่แล้ว เราได้อ่านความเคลื่อนไหวของปรายและคิว
รวมทั้งเซ็นและฝัน ก่อนจะมาถึงน้องเค้ก ทุกๆๆคนย่อมมีอดีตเสมอ ไม่ต่างกัน
ที่ตัวละครเราจะมีอดีตและที่ไปที่มา ให้กำลังใจเสมอนะอาฟ้าทิกเกอร์ :L1:
-
เล่นกับไฟสินะ
อาฟ้าแรงจริงอะไรจริง
-
ยังไม่เชียร์ิทิกเกอร์ เพราะทิ้งอาฟ้าไปแต่งงานแถมยังมีลูกด้วยกันอีกตะหากอะ :z1:
อันที่จริง คิวปิด เคยหอมแก้มผู้ชายคนอื่นมาก่อนเค้กแล้วนี่นา .. :laugh:
ขอบคุณเบบี้น๊า.. รอตอนต่อไป ^^
-
ทิกเกอร์น่ารักดี
โดนฟ้าจีบได้แต่ยิ้มเขินน่าแดง :o8:
-
อาฟ้าแรงส์ :z2:
-
ว๊าววว ฟ้าจีบทิกเกอร์ก่อน :o8: :o8: :o8:
-
อร๊ากกกกกกกกกกกกกกก อ่านไปเขิลไปอ่ะตัว อาฟ้าทั้งน่ารัก ทั้งฮา ไม่รู้จะชมยังไงดี อิอิ ชอบอาฟ้ากับทิกเกอร์ตอนจีบกันมาก ๆ
-
อาฟ้าน่ารักอะ
ชอบพี่คิวเวอชั่นเด็กกก
-
อาฟ้าน่ารัก
ออกตัวแรงสุดๆอ่า :-[
-
อาฟ้า ชัดเจนดีชอบ :o8:
-
ฟ้า แรงอ่ะ
-
ฟ้านี่ร้ายกาจ แต่ทิกเกอร์น่ารักมากอ่ะ ชอบๆๆๆ อิอิ
คิวมันกวนตีนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
-
ทิกเกอร์น่ารักอ่า^^
-
ทิกเกอร์พลาดทำผู้หญิงท้อง เลยต้องแต่งงาน เลยต้องเลิกกับอาฟ้าใช่ม่ะ
-
มิน่าล่ะ ทำไมอาฟ้าถึงโกรธแค้นทิกเกอร์เหลือเกินน
ก็นะ คนมันเคยเจ็บ แล้วมันต้องจำอ่ะ
พี่คิวแม่มกวนประสาทแต่เด็กเลยวุ้ยยย
อาปูนน่ารักอ่าา ตลกดี
-
พี่ฟ้าน่ารักอะ
-
ทำไมรู้สึกว่ามันสั้นอ่ะ อยากอ่านอีก :serius2: :serius2: :serius2:
ขอบคุณมากค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
-
อาฟ้า สุดยอด
-
อาฟ้าน่ารัก เชียร์นายทิก
+1
-
ฟ้าแรงได้ใจจริงๆ
ส่วนคิวก็กวนตลอด :laugh:
-
อ้าวววว โดนอาฟ้าหลอกมาตลอดรึนี่ :m20:
ชอบอาฟ้าโหมดนี้อะ เจ๋งงงง
-
น่ารักอ่าาา :-[ :-[
อยากอ่าน เค้ก-คิวด้วย :sad4: :sad4:
ขอบคุณครับ :pig4: :pig4: :pig4:
-
รอคุณเบบี้มาเฉลยเรื่องแอนนา :z2: :z2:
:pig4:นะเคอะ อิอิ
-
:m11: :m11:
อาฟ้าเด็ดขาดมาก เวลาจีบหนุ่มๆ ปูนก็แซ่บอ่านไปนึกถึงเพื่อนตัวเองเหลือเกิน
แต่สาเหตุ เรื่องทิกเกอร์มันก็หนักหน่วง จริงๆ :เฮ้อ:
-
อาฟ้าแอบแรงนะเนี่ย ภาพลักษณ์ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้เลย
-
เพื่อนปูนของอาฟ้าแรว๊งค์ๆๆๆๆๆๆๆ นะคะ ถึงขนาดตั้งเป้าจะเขมือบพี่คิวให้ได้ ดีนะที่รอดมาได้ ((เอ๊ะ! หรือจริงๆ แล้วไม่รอดหว่า))
อาฟ้าสมัยวัยละอ่อนก็แรงใช่ย่อยนิ มิน่าพี่คิวถึงได้ชอบเรียกอยู่เรื่อยว่าไอ้อาหื่น ...คึคึ
คิดๆ ดูแล้ว สมัยอยู่เมืองนอกกัน น่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขกันมากๆ เลยนะ ทั้งอา ทั้งหลาน
ขอบคุณไอ้น้องบี้+++
:man1:
-
พี่คิว :-[ อาฟ้าน่ารักจัง :man1:
มาเชียร์ทิกเกอร์ด้วยคนค้า :กอด1:
-
อาฟ้าน่า่รักตลอดเวลา ฮาอาปูนเหมือนกัน
และแล้วก้อรู้สาเหตุที่อาฟ้าโกรธทิกเกอร์ :beat:
-
เราว่าที่ทิกเกอร์เลิกกับฟ้าเพราะไปทำผู้หญิงท้องแน่นอน
-
:L1:
-
เรื่องของอาฟ้าสนุกดี เรื่องของหลานคิวช่างเหมือนนิสัยจริงๆ เย็นชา อ่านแล้วมันช่างแตกต่างกันมาก
เรื่องของอาฟ้าชักจะเริ่มออกมาเรื่อยๆมีความหลังกันดีจัง คืนดีกันเถอะนะ น่าสงสารทิกเกอร์เหมือนกัน ไปทำให้เขารักจนลืมลูกเมียไปเลยอ่ะ เก่งมากอาฟ้า เราเชียร์ทิกเกอร์ เอ้า สู้ สู้
-
ตาย ตาย ตาย
อาฟ้าของฉันทำไม่น่ารักเยี่ยงนี้. ทิกเกอร์นายเจออาฟ้าของเราแน่ :oo1: 555
+ให้บี้ผู้น่ารักแต่ก็น้อยกว่าอาฟ้าของเค้าอ่ะนะ :-[
-
ฟ้าจีบเอง..แล้วจีบติดด้วยซี่ :impress2:
:m26:เเอบคิดว่าเเอนนามาก่อนฟ้า...หรือเปล่า?
-
หึหึ มีลูกแล้ว ก็ยังคงยืนยันเชียร์ทิกเกอร์
-
อาฟ้าน่ารัก :กอด1: :กอด1:
-
สี่หน้าตลอดเลย มาไม่ทันทุกที 555555 :z2:
อาจเพราะเบบี้มาอัพตอนเช้าล่ะมั้งเดี๋ยวนี้ เลยไม่ค่อยเจอกันเลย 55 :L2:
พี่ฟ้าตอนงอนพี่คิวเรื่องเสื้อน่ารักอ่ะ ตอนจีบทิกเกอร์นี่ได้อีก คิคิ
-
ทิกเกอร์น่ารักโว้ยค่า ><
ขนาดเมื่อก่อนยังทำตัวน่ารักขนาดนี้ พี่ฟ้าใจร้ายกะเค้าได้ไง
อิจฉาตอนพี่คิวหอมแก้มอาปูนง่า อยากโดนบ้าง แอร๊ยยยยยย :impress2:
อาปูนทำให้เราคิดถึงทัวร์ค่ะ ทำไมน้า 555
-
สงสัยเพราะทิกเกอร์ไปทำ ญ ท้องแหงๆ เหอะๆ
-
พี่คิวแอบมีมุมน่ารักกับเขาด้วย :-[
สู้ๆค่ะ
-
อ๊ายยยยยยยยยยย ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ
เพราะอย่างนี้หรือป่าว ทิกเกอร์ถึงได้ไปเรียนภาษาไทยอ่ะ
เรียนมาเพื่อใช้จีบฟ้านี่เอง อิอิ
-
อาฟ้าน่ารักอะ จีบเองได้ปะ :-[
-
คิวกวนติง ... ฟ้าน่ารัก :man1: เขินนะ แต่ก็อยาก :o8: ฮ่าๆๆ บี้ตอนหน้าขอเป็นฟ้าโดนทิกเกอร์รุกบ้างนะ
:pig4: :กอด1:
-
ฟ้าาาาา น่ารักอ่าาาา o13 o13
-
ความหลังครั้งเก่า ที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมา
ประโยคนี้นี่เอง ที่ทำให้ทิกเกอร์ พยายามเรียนและพูดภาษาไทย ในความพยายามกลับมาง้อ ฟ้า
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
ทิกเกอร์นี่คือมิสเตอร์เพอร์เฟคเลยสินะ o13
แล้วไปทำอีท่าไหนมีลูกมีเมียได้เนี่ย!!
-
o13 o13 o13
-
น่ารักเป็นบ้าาา
ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์ 555
-
ฮาตอนอาฟ้าแนะนำทิกเกอร์ให้พี่คิว กับ ฮาตอนอาปูนอ้อนพี่คิว :m20: :m20: :m20:
แต่แอบอิจฉาตรงที่ พี่คิวหอมแก้มอาปูนอะ
:m31: :m31:
ขอบคุณนะคะ รออ่านต่อค่ะ ^^
-
กรี๊ดดดดด น่ารักอ่ะ คู่อาฟ้ากับทิกเกอรืเนี้ยยยยย ถ้าคิวจะนิสัยแบบนี้อ่ะนะ ฮาไป
-
อาฟ้าออกตัวได้แรงมาก รักมาก ชอบมาก ก็คงเจ็บมาก
เอาใจช่วยทิกเกอร์
-
สงสัยทิกเกอร์คงตรงสเป๊กจัดๆ
ทำเอาหลุดมาดกันเลยทีเดียว
รุกซ่ะรวดเร็วมาก :laugh:
:กอด1:
-
:z1: เท่าที่อ่านมาเนี่ยทิกเกอร์นอกใจอาฟ้าทำให้อาฟ้าโกรธใช่ป่าว
-
:pig4:
-
อาฟ้าโคตรน่ารักอะ แต่เสียดาย..ที่ต้องเลิกกับทิกเกอร์เพราะทิกเกอร์ต้องแต่งงานใช่ปะ :z10:
ไหนๆก็หย่าแล้ว...อาฟ้าก็น่าจะใจอ่อนหน่อยน๊าาา (ก็ตัวเองไปยั่วเค้าก่อนตั้งแต่แรกเจอนิ หึหึ)
คิดถึงพี่คิวน้องเค้กที่สู้ดดดดดดดดดดด
-
ถึงว่าทิกเกอร์เลยไปฝึกพูดภาษาไทย..*o*
คิว แกล้งอาตลอดอะ..แต่ก็น่ารักนะ เดินขึ้นไปใส่เสื้อเนี๊ย
-
So cute P'fah
-
อาฟ้าจีบทิกเกอร์รวดเร็วมาก 555
คิวกวนทีนตั้งแต่เด็กจนวัยรุ่นจนโตและคงจนแก่
คิดถึงน้องเค้กเบาๆ
บวกบี้ๆๆ
-
ย้อนอดีต ตต :-[
อาฟ้าน่ารักอ่ะ ทิกเกอร์ยิ่งน่ารัก ก ก ก ก :กอด1:
รอตอนหน้าค่ะเบบี้
ปล.พี่คิว ว :m3:
-
อาฟ้าน่ารักมากกกก :man1:
-
ต้องเลิกกันเพราะทิกเกอร์ไปมีเมียนี่เอง
:m16:
-
อาฟ้าาาอะ แรงงงงงงงงงงมากกก แพรวพราวสุดๆๆๆ
แต่แบบทิกเกอร์ต้องหล่อละลาย หล่อมากกก ยังกะเทพบุตร
แค่คิดก็อิจฉาาาาาาาา และเสียดาย :z3: :z3:
เอาใจช่วยลุ้นๆๆทิกเกอร์ต่อไป แล้วก็อยากรู้เรื่องอดีตมากกว่านี้ด้วยย
กำลังลุ้นเลยยยยยยยยย :impress2:
-
อาฟ้าเปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกก
แซ่บ สะใจ ไปหย่อน เบ็ดให้เค้ารัก ได้โดยง่าย
เป็นคนที่มีเสน่ห์ทั้งอาทั้งหลาน กรี๊ดดดดด !!
-
55555555 ฮาพี่คิวเวลากวนอะ
อาฟ้าน่ารักเนอะแบบขี้อ้อนๆ แล้วยั่วๆนิดๆ เขินนอ่า :-[
-
ทิกเกอร์น่ารักใช้ได้ ตื๊ออาฟ้าต่อไป อย่ายอมแพ้นะคะ // อาฟ้าก็อย่างอนนานนะคะ สงสารฝรั่งบ้างอะไรบ้าง ฮ่าๆๆๆๆๆ
-
:laugh: :z2:
-
พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่คิวเรียกอาตัวเองว่า "อาหื่น" 55555
แต่วิธีการจีบทิกเกอร์ของพี่ฟ้าน่ารักมากอ่ะ
ที่เลิกกันเพราะทิกเกอร์แต่งงาน
แล้วทำไมทิกเกอร์ถึงต้องแต่งงาน
แล้วทิ่งให้พี่ฟ้าเสียใจแบบนี้!!!
อ๊ากกก.......อยากอ่านตอนต่อไปแล๊ว
-
มันเกิดการผิดพลาดตรงไหน ถึงทำให้ทิกเกอร์ไปมีเมียมีลูกได้??
ต้องรอติดตามตอนต่อไปใช่ม่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
-
..คุณอาฟ้า เป็นคนปากกับใจตรงกันเป๊ะ ชอบก็จีบบบบบ
..คงต้องรออ่านต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้ห่างกัน..และทิกเกอร์ก็เอาใจของอาฟ้าไปด้วย
..หนูคิวปิด นี่...กวนนนนนน ตั้งแต่เยาว์วัย เชียวนะ :laugh:
-
เรื่องระหว่างทิกเกอร์ และ ฟ้า มันพลาดไปตรงไหนเนี่ย เลิกกันไปเพราะทิกเกอร์ต้องแต่งงานสินะ ว่าแต่ดูท่าทางทิกเกอร์ก็น่าจะชอบฟ้าเหมือนกัน แล้วทำไมถึงได้ไปแต่งงาน มีลูกได้ละ ? คงต้องรอเรื่องราวมันค่อยๆเผยออกมากันต่อไปสินะ ตอนนั้นฟ้าน่ารักมากเลยอ่ะ ชอบก็จีบเลย แถมยังดูยั่วนิดๆ พอมีเสน่ห์ด้วย ดูจากการบรรยายบุคลิกท่าทางของทิกเกอร์แล้ว คงจะหล่อมากแน่ๆ อ๊ากกก หลานคิวนี่กวนยังไงก็กวนอย่างงั้นเลยนะ =[]= ตั้งแต่เด็กยันโต ฮ่าๆ
ฟ้ายังไงตอนนี้ทิกเกอร์ก็เป็นโสดแล้ว น่าจะลองปรับความเข้าใจกันนะ ลองคุยกันดู ที่ผ่านมาไม่มีใครไม่เสียใจเลยไม่ใช่เหรอ ในเมื่อมีโอกาสแล้วก็น่าจะลองเริ่มใหม่อีกครั้งนะ คิดให้ดีนะฟ้า เอาตามที่เรารู้สึกจริงๆ อย่าให้ความเจ็บปวดครั้งก่อนๆ มาบดบังไปซะหมด ว่าแต่ที่ทิกเกอร์มาเรียนภาษาไทย จะเป็นเพราะคำพูดที่ฟ้าเคยบอกไว้หรือเปล่า ว่าคนต่างชาติพูดไทยแล้วดูมีเสน่ห์
-
ตอนสุดท้ายน่ะ ถ้าทิกเกอร์ตอบว่าชอบคิว นี่คงฮาตกเก้าอี้ โอ๊ยยยย นึกสภาพไม่ออก ="=
แต่คิวนี่ไม่ไหวว่ะ จะหน้าตายไปไหน คนบ้าอะไร แอร๊ยยยยยยยย
(พูดถึงปรายแบบแอบเจ็บปวดแปลกๆ เป็นไรไม่รู้ T^T)
อาฟ้านี่ รันทดแม้กระทั่งเรื่องความรักเลยเนอะ
โถโถโถ ทิกเกอร์มีเมียมีลูก ไปทำอิท่าไหนอยากรู้จริงๆ งื้อออออออ
แต่ตอนหยอดกันนี่มีความสุขดีเป็นบ้าาา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ชอบอาปูนอ่า เค้าก็อยากพูดจาแบบนี้กับผู้ชายบ้าง (ห้ะ)
ปล.คนรักมีเมียมีลูก เขียนจากชีวิตจริงของเธอป่ะที่รัก กร๊าก (กระทบตัวเองดังฉึก.. T^T)
-
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
-
ป๊าดดดดดดดด! อาฟ้าออกตัวแร้งงงง o13
P.S. อดีต ทิกเกอร์เนี่ยมัน ยังไง ยังไง แอบไปทำใครท้อง :m16:
-
ทิกเกอร์น่ารักชะมัดเลยอะ
น่ารักทั้งคู่เลยอะ
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
ไม่ไหว ๆ น่ารักเกิ๊นนนนนนนนนนนนน ^^
:-[ :-[ :-[ :-[
:z13: :z13: :z13:
-
สนุกอ่ะ
-
ฟ้าจีบทิกเกอร์ก่อนเหรอเนี่ย ท่าทางจะถูกใจมากๆเลยด้วย เจอครั้งแรกก้อเปิดทางให้เค้าซ้า ไม่คิดว่าฟ้าจะเป็นแบบนี้นะเนี่ย
-
ตามมาอ่านรวบหลายตอน ชอบเป็นพิเศษตอนที่เปิดพินัยกรรม น้ำตาคลอเลยค่ะ o13
ส่วนเรื่องของพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ อืมมม ท่าทางจะดาร์กเบาๆเหมือนกันนะเนี่ย
บวกจ้าาา
-
ไม่ได้เข้ามาหลายวันพอเปิดมาดู ได้อ่าน 4ตอนรวดเลยยย :z2:
-
พี่ฟ้าเราก็ใช่ย่อย :laugh:
บรรยายทิกเกอร์ได้แบบสุดยอดมากกก เทพบุตรชัดๆ ดูอ่อนโยน ชอบอมยิ้มหัวเราะ น่าร้ากกกกก :impress2:
พี่ฟ้าถึงหลงขนาดนี้ ฮ่าๆๆ
คิวก็กวนนนนน มาแต่ไหนแต่ไร เป็นตัวของตัวเองจริงๆ 55
แอบคิดถึงเค้ก :กอด1:
ขอบคุณเบบี้มากค่ะ รออ่านตอนต่อไป เป็นกำลังใจให้เสมอ :pig4: :pig4:
-
ฟ้าน่ารักมากๆอ่ะ
-
~5~
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
เมื่อคืนผมไม่ได้กลับบ้านอย่างที่คิวว่าเอาไว้ ว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรจะรับปากหลานไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ดูเหมือนการที่ผมได้เจอทิกเกอร์และจักรอย่างกะทันหันนั้นทำให้หัวใจผมว้าวุ่นไปหมด ผมนัดเอเจและกิ๊บออกไปเที่ยวด้วยกัน ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทของผม กิ๊บเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยที่ผมเรียนปริญญาตรีที่ประเทศไทย กิ๊บ ปูนและผมเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน เราคบกันมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเอเจเป็นหนุ่มลูกครึ่งที่ผมได้รู้จักสมัยที่ผมลงเรียนหลักสูตรการทำอาหารอิตาเลี่ยนตอนที่ผมอยู่ที่ประเทศอิตาลี ตอนนี้เอเจทำงานเป็นเชฟประจำอยู่ที่โรงแรมSBT ที่พี่ตันเป็นเจ้าของ นิสัยของเอเจจะค่อนข้างแตกต่างจากพวกเราสุดขั้ว ถึงแม้จะเป็นคนชอบเที่ยวแต่เอเจก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ค่อนข้างหยิ่ง ไม่ยอมเปิดรับใครให้เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทได้อย่างง่ายๆ และด้วยความที่ไม่ค่อยพูดจึงทำให้มีเพื่อนสนิทไม่มากอย่างผม
เมื่อคืนผมได้คู่นอนใหม่ ผมไม่ทราบว่าเขาคนนั้นเป็นใคร ทราบเพียงชื่อและคิดว่าน่าจะอายุมากกว่าผม เรานอนด้วยกันหลังจากนั้นผมก็กลับไปนอนที่คอนโดของเอเจเพราะต้องการดื่มเหล้าต่อ ตื่นมาตอนรุ่งเช้าจึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ได้นัดมิซาร์ให้มาหาผมที่บ้าน ผมจึงรีบกุลีกุจอกลับมาที่บ้านทันทีด้วยสภาพที่ยังไม่ได้อาบน้ำเลย
“อ่าว..ประสิทธิ์” ผมชะงักเมื่อเห็นประสิทธิ์อยู่ในห้องหนังสือด้วย คิวนั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือโต๊ะประจำ
“สวัสดีครับคุณฟ้า” ประสิทธิ์หันมายกมือไหว้ ผมยกมือรับไหว้ตอบ คิวหันกลับมาจ้องหน้าผมเขม็ง
“หึ..” คิวแสยะหัวเราะด้วยสีหน้าดูถูกผม และกวาดตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาเหมือนอ่านผมออกทุกอย่าง ผมก้มลงมองดูตัวเอง
“คุณฟ้าเพิ่งกลับบ้านเหรอครับ” ประสิทธิ์ถามด้วยท่าทีเกรงเล็กน้อย
“อ่ะ คือ..ใช่ พอดี เมื่อคืนปาร์ตี้หนักไปหน่อยน่ะ” ผมตอบและยิ้มให้ รู้สึกเขินขึ้นมาที่ต้องโกหกออกไปอย่างนั้น
“แล้วประสิทธิ์มาที่นี่มีธุระอะไรกับฉันรึเปล่า” ผมถาม ประสิทธิ์เป็นทนายความและเลขาประจำตระกูลของเรา และนานแล้วที่ประสิทธ์ไม่ได้มาที่นี่เลย
“มีธุระกับผมน่ะ” คิวพูดขึ้น ผมหันกลับไปมองหน้าคิวอย่างสงสัย
“ธุระอะไร” ผมขมวดคิ้ว ประสิทธิ์ได้แต่อมยิ้ม ผงกหัวและไม่ตอบคำถามผมด้วยเกรงใจคิว
“ผมหมดธุระแล้ว ขอตัวดีกว่านะครับ” ประสิทธิ์บอก ผมยืนจ้องทั้งสองคน เขามีความลับอะไรที่ผมไม่ทราบกัน
“นี่ครับคุณคิว เอกสารทุกอย่าง” ประสิทธิ์ยื่นเอกสารให้คิว ผมรีบเข้าไปคว้าซองสีน้ำตาลออกมาจากมือของประสิทธิ์ในทันที ประสิทธิ์หน้าเหวอ
“นี่อา” คิวว่า คิ้วผูกโบและลุกขึ้นยืนจะมาแย่งซองจากมือผมไป
“แบร..” ผมแลบลิ้นให้หลานตัวดีและเดินหนีออกมาอย่างเว้นระยะห่าง พร้อมกับเปิดซองดู ผมหยิบกระดาษที่อยู่ด้านในออกมาด้วยความตื่นเต้น
“เฮ้อ..จิ้” คิวถอนหายใจและหยุดยืนอย่างไม่คิดจะมาแย่งซองกลับไป ท่าทีของคิวนั้นเหมือนหน่ายต่อผม คิวยืนเท้าเอวมองและปล่อยให้ผมหยิบเอกสารออกมาโดยเจ้าตัวไม่ค้านใดๆอีก
“โฉนดบ้าน” ผมอ่าน
“ผมขอตัวนะครับ สวัสดีครับคุณคิว..สวัสดีครับคุณฟ้า” ประสิทธิ์พูดขึ้นอย่างรู้สถานการณ์ต่อจากนี้ ผมผงกหัวให้ประมาณว่า “เชิญเถอะ” เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจไม่ใช่ประสิทธิ์มาทำธุระอะไร ตอนนี้ผมสนใจเพียงโฉนดบ้านใบนี้ ประสิทธิ์เดินออกจากห้องไป
“นี่มันบ้านที่หัวหินนิ ตกลง..ซื้อไว้เหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นถามคิว เพราะเห็นแล้วว่าบ้านเปลี่ยนจากชื่อของฟ้าครามเป็นชื่อของคิวเรียบร้อยแล้ว ใจของผมเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่อยู่
“อืม” คิวพยักหน้าเหมือนให้พ้นๆไปเสียที ผมสอดกระดาษกลับเข้าที่เดิมก่อนที่จะยื่นซองกลับให้คิวอย่างง่ายดาย
“ทำไมถึงอยากได้บ้านหลังนี้นักล่ะ” ผมถาม พยายามทำตัวให้เป็นปกติ คิวนั่งลงที่เก้าอี้อย่างเดิม
ก๊อก ๆ ๆ
“ขอโทษค่ะคุณฟ้า” ป้านิดเดินเข้ามา
“ครับ”
“จะให้ป้าเตรียมน้ำอุ่น กับเสื้อผ้าไว้ให้เลยไหมคะ” ป้านิดถาม
“ครับ..” ผมพยักหน้าตอบ
“บัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตตื่นรึยังครับ” คิวถาม
“ตื่นเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ” ป้านิดยิ้มตอบ
“งั้นป้าก็ตั้งโต๊ะได้เลยครับ ฝากน้องด้วย..เอ่อ ฝากบอกให้น้าเพียงเช็ดอุปกรณ์ในครัวให้คิวด้วยนะครับ” คิวสั่ง
“ได้ค่ะ” ป้านิดก้มหัวให้อีกครั้งก่อนจะเดินออกไป ผมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับคิว
“ตอบมาสิ” ผมถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังเพราะผมอยากรู้จากใจจริง ความจริงแล้ว คิวไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านหลังนี้ไว้ก็ได้ ที่จริงคิวมีกำลังมากพอแล้วที่จะซื้อบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ที่หัวหินได้ด้วยตนเอง ผมกลัวใจของหลานของผมขึ้นมา การที่คิวทำอะไรโดยไม่ปรึกษาผมแบบนี้กำลังทำให้ผมรู้สึก..กลัว
“ก็อยากซื้อ” คิวตอบส่งๆ น้ำเสียงเรียบนิ่ง เหมือนการทำแบบนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไร
ผมนั่งเงียบ นั่งจ้องหน้าคิวและไม่เอ่ยพูดอะไรอีก ผมไม่กล้าเอ่ย ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นได้อย่างเคยอีกแล้ว เพราะคิวโตเกินกว่าที่ผมจะไปคัดค้านอะไรได้ โตพอที่เขาจะตัดสินใจทุกอย่างได้ด้วยตนเอง และผมก็ควรจะนับถือการตัดสินใจของหลานผมในทุกๆอย่างที่เขาได้ตัดสินใจอีกด้วย ผมในตอนนี้มีหน้าที่เพียงชี้แนะถูกผิดได้เท่านั้น เท่านั้นเอง
“บ้านสวยดี อีกอย่าง..ปู่คงไม่อยากให้ไปตกอยู่ในมือคนอื่น” คิวพูดขึ้น ผมพยักหน้า อย่างที่คิวพูดนั้นก็ถูก บ้านหลังนี้พ่อของผมสั่งทำขึ้นมาจากความตั้งใจของพ่อ สมัยก่อนครอบครัวของพวกเราจะไปพักผ่อนกันที่นั่นบ่อยครั้ง แต่หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ทุกอย่างก็จืดจางลงไป ถึงแม้ว่าที่บ้านหลังนั้นจะมีแม่บ้านและคนสวนคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง แต่พวกเราก็ไม่ได้กลับไปอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกเลย หรือพวกเขาอาจจะไปโดยที่ไม่มีผมและคิวรึก็ไม่ทราบ แต่ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นเหตุผลทั้งหมดที่คิวจะซื้อบ้านหลังนั้นไว้ก็เท่านั้น
“อีกอย่าง ผมชอบห้องเปียโนที่นั่นน่ะ” คิวเสริม คิวหันกลับมามองหน้าผมและเหมือนกับรู้ว่าผมไม่เชื่อในทั้งหมดที่คิวกำลังบอก
“อืม” ผมพยักหน้าและยิ้มให้อย่างเฝื่อนๆ
“......................” คิวเงียบลงอีกครั้งและหันหน้าออกไปอีกด้าน ตามองผ่านกระจกไปยังสวนทางด้านนอก สายตาเหมือนกำลังกลั่นกรองคำพูดของตนเองให้เข้าที่เข้าทาง
“ตั้งใจว่าจะให้เค้กน่ะ” คิวพูดขึ้น ผมตกใจในทันทีที่ได้ยินแบบนั้น น่าแปลกที่ผมกลับรู้สึกโล่งใจขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน
“งั้นเหรอ” ผมยิ้มกว้าง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน
“หึ ซื้อให้เค้กงั้นเหรอ..ป๋าเหมือนกันนะเนี้ย” ผมได้ทีจึงแซวออกไป คิวหันมามองตาขวางใส่เหมือนกับพูดแทนว่า “ไม่บอกรึซะก็ดี” อย่างนั้น
“น้องรู้รึยังล่ะ” ผมถาม คิวไม่ตอบอะไร เอาแต่นั่งนิ่ง
“คงไม่รู้สินะ ถ้ารู้คงจะโวยวายน่าดู” ผมพูดปนหัวเราะเมื่อต้องนึกถึงท่าทีตกใจอย่างง่ายๆของเค้ก คิวนั่งเงียบ ตาจ้องมองไปที่ซองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“คิดดีแล้วใช่ไหม ถ้าบ้านจะกลายเป็นชื่อของเค้กน่ะ” ผมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง คิวเหลือบตาขึ้นมองหน้าผมในทันที ที่ผมต้องถามอย่างนี้เพราะนี่คือบ้านหลังหนึ่งที่มีความหมายสำหรับพวกเราด้วยเหมือนกัน ถึงแม้มันค่อนข้างจะอยู่ห่างไกลและมีคุณค่าที่ค่อนข้างไกลตัว แต่บ้านหลังนั้นพ่อผมสร้างมันขึ้นมาด้วยความตั้งใจ บ้านหลังนั้นน่าจะประมาณสิบกว่าปีได้แล้วแต่ยังเป็นบ้านที่สวยและดูดีทันสมัยอยู่ตลอดเวลา เพราะพ่อจะสั่งให้ครีเอทีฟจัดการปรับปรุงบ้านในทุกๆสองปี ถ้าคิวจะยกบ้านหลังนั้นให้กับเค้ก นั่นหมายถึงว่าคิวจะต้องยอมรับต่อผลที่จะตามมาด้วย ถ้าทั้งคนที่บ้านใหญ่ทราบเรื่องขึ้นมา รวมไปถึงคนรับใช้ที่ดูแลอยู่ที่บ้านหลังนั้นด้วย ว่าพวกเขาจะเปิดรับเค้กได้มากน้อยแค่ไหนเช่นเดียวกัน
“นั่นสิ..แค่คิดก็ปวดแล้ว” คิวตอบด้วยหน้าตาเซ็งในอารมณ์ขึ้นมา ผมหัวเราะเพราะรู้ว่าที่คิวตอบแบบนั้นนั่นหมายความว่าอย่างไร
“แต่ก็นะ ถึงเวลานั้น ผมคงไม่ได้ให้ฟรีๆหรอก..ผมก็ไม่ใช่คนใจดีอะไรขนาดนั้น” คิวเบะปาก หน้าตาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“หึ..” ผมแสยะหัวเราะ
“งั้นจะให้เค้กตอบแทนด้วยอะไรดีล่ะ เอ้..อะไรดีน้า” ผมเท้าแขนลงบนโต๊ะและหยอกล้อหลานตัวเองด้วยสายตาและน้ำเสียง คิวยังคงหน้านิ่งอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“สมองของคุณเนี่ย คิดได้แต่เรื่องที่หายไปทำอย่างทุกคืนสินะ” คิวว่าให้ ผมหุบปากเข้าหากันในทันทีเมื่อโดนหลานว่าเข้าตรงจุดอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ชิ..” ผมเบะปากและก็ต้องยอมแพ้ไม่ต่อปากต่อคำอีก
“แต่เดี๋ยวก่อน ตกลง..ฟ้าครามขายให้เท่าไหร่” ผมนั่งตัวตรงอย่างอยากรู้ อยู่ๆใบหน้าของคิวก็มีรอยยิ้มผุดออกมาน้อยๆ เหมือนกับกำลังเจอเรื่องที่ตนเองชอบใจแล้วอย่างนั้น
“นี่อย่าบอกนะ ว่าฟ้าครามไม่เอาเงินน่ะ!” ผมขึ้นเสียงอย่างไม่ยอม
“ซะเมื่อไหร่ล่ะ นี่ผมต้องเสียเงินไปตั้งสิบสองล้านนะกว่าจะได้โฉนดนี่มาน่ะ” คิวย้อนตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืนและหยิบซองเอกสารไปถือไว้
“สิบสองล้าน!” ผมขึ้นเสียงด้วยความตกใจ
“สิบสองล้านบ้าอะไรล่ะ บ้านหลังนั้นต้นทุนที่สร้างก็ไม่ต่ำกว่าสิบห้าล้านแล้วนะไอ้บ้าคิว! นี่มันก็..สิบกว่าปีมาแล้วด้วย” ผมแทบจะร้องเสียงหลง ด้วยรู้สึกโมโหทั้งคิวและฟ้าครามขึ้นมา คิวยิ้มเยาะอย่างพอใจกับท่าทีของผมก็ไม่ปาน แน่นอนว่าผมหมันไส้หลานของผมเอามากๆ บ้านหลังนั้นมีรูปทรงที่เก่าแก่และสร้างแบบร่วมสมัย ถ้าจะต้องให้ตีราคาบ้านหลังนั้นในตอนนี้ อย่างน้อยก็คงต้องไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้าน ตอนนี้ผมอยากจะบีบคอหลานผมให้หายหงุดหงิดเสียเหลือเกิน ดูมันทำสิครับ..ฮื้ม !
“ช่วยไม่ได้ ฟ้าครามให้ราคานี้เอง..นี่ผมไม่ต่อให้ก็บุญแล้วนะ” คิวพูดแกมหัวเราะ ถ้าใครมาเห็นสีหน้าของมันในตอนนี้ คงจะอดหมันไส้อย่างผมไม่ได้
“ไอ้หน้าเลือด กับน้องตัวเองก็ไม่เว้น” ผมว่า
“คุณรู้ไหมว่าผมต้องเสียค่าโอน ค่าอากร ค่าภาษีไปเท่าไหร่..อย่าบ่นไปหน่อยเลยน่า” คิวพูดปัดอย่างขอไปที
“อีกอย่างนะ ธุรกิจไม่มีคำว่าพี่น้อง..ครอบครัว หรือเพื่อนหรอก ไม่อย่างนั้นมันจะรุ่งได้ยังไงล่ะ คุณว่าไหม” คิวเบะปากและพยักพเยิดหน้า ผมอ้าปากค้างให้กับใบหน้านั่นอย่างเหลือเชื่อ
“แต่นี่ไม่ใช่ธุรกิจ นี่มันบ้านของน้องสาวแกนะไอ้คิว..ไอ้เวร” ผมว่าไม่หยุด พยายามนึกคำพูดออกมาให้เจ็บแสบ แต่เปล่า..ดูเหมือนมันจะไร้ประโยชน์
“การแลกเปลี่ยนด้วยเงิน สำหรับผมมันคือธุรกิจน่ะ..โทษทีนะ หึ” คิวยักคิ้วและทำท่าจะเดินหนีไป
“แต่ฟ้าครามขายบ้านด้วยราคานี้ก็เพราะเห็นว่าแกเป็นพี่ชายไม่ใช่รึไงเล่า!” ผมเถียงอย่างไม่ยอม
“หึ..นั่นดิ คุณก็ไปสอนฟ้าครามสิ ไม่ใช่มาสอนผม..ถ้าฟ้าครามยังเป็นอยู่อย่างนี้ ผมคิดว่า ฟ้าครามคงจะบริหารบริษัท King Jewel ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่นะ คุณว่าไหมล่ะ..เตือนฟ้าครามหน่อยก็ดีนะครับคุณอา” คิวหันมายิ้มให้อย่างพอใจที่ย้อนผมได้อย่างคล่องปาก
“อ๋อ อีกอย่างน่ะนะ..คุณคงลืมอะไรไปรึเปล่า” คิวหันมาเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ผมชะงักอย่างตกใจว่ามันจะพูดอะไรออกมาอีก
“ไอ้คำพูดที่ผมพูดเมื่อกี้น่ะ ใครเป็นคนสอนผมกันนะ” คิวแสยะยิ้มอย่างพอใจ นิ้วชี้เข้าที่หัวของตัวเองสองสามทีด้วยท่าทางเหยียดหยามผมอย่างที่สุด
“ไอ้..อื้ม ไอ้เวร!” ผมกัดฟันด่า คิวหัวเราะร่าเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้น ทิ้งไว้เพียงผมที่ชักจะเริ่มเกลียดตัวเองที่ดันสอนหลานตัวเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร ที่จริงอาจจะเลี้ยงดูได้ดีแล้ว แต่ไอ้นิสัยดื้อรั้น เจ้าเล่ห์ กวนโอ๊ยจนเกินพอดีอย่างนี้น่ะ ผมไม่ได้สอนเสียหน่อย..ผมแทบห้ามปรามทุกครั้งที่คิวเป็นเสียด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะ..มียาแก้โรคนี้บ้างไหมนะ
“คุณอากลับเช้าเหรอคะ” เมื่อผมเดินออกจากห้องหนังสือมาก็ต้องชะงัก เหลือบมองไปที่เทวดาตัวน้อยของผมที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นบน
“เอ่อ ครับ..พอดี เมื่อคืนอาต้องไปดูแลเพื่อน เพื่อนอาไม่สบายน่ะ” ผมนั่งยองลงให้เสมอกับเชอร์เบ็ต
“ใครเหรอฮะ” บัตเตอร์ที่อยู่ข้างๆถามขึ้น
“คุณอาเอเจไงครับ” ผมยิ้มตอบ
“ไปครับบัตเตอร์ เชอร์เบ็ต..พี่เคยสั่งแล้วใช่ไหมว่าห้ามคุยกับคนแปลกหน้าน่ะ” คิวเดินมาพร้อมกับเรียกทั้งสองคนไป
“นี่..ไอ้คิว” ผมลุกขึ้นยืน คิวยักคิ้วให้
“รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วไป เหม็นขี้ฟัน” ผมโดนมันว่าให้อีก
“รู้แล้ว เออ..แล้วเดี๋ยวมิซาร์จะมานะ ..รีบทานเข้าล่ะ” ผมสั่ง
“อื้อ” คิวพยักหน้า ผมเดินขึ้นมาบนห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว วันนี้ผมไม่มีงานอะไรมาก สายๆจะเข้าไปดูความเรียบร้อยที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ ช่วงบ่ายต้องเข้าไปดูห้องเสื้อCupid สาขาย่อย หลังจากนั้นก็..ปาร์ตี้เหมือนเดิม
เมื่อผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จจึงรีบลงมาทานอาหารเช้า คิว บัตเตอร์และเชอร์เบ็ตยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเหมือนต้องการรอทานเป็นเพื่อนผม เราทานอาหารเช้าร่วมกันเสร็จเรียบร้อยก่อนที่คิวจะสั่งให้ลุงมีขับรถไปส่งบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตที่โรงเรียน
“สวัสดีค่ะคุณคิว” มิซาร์ยกมือไหว้
“สวัสดีครับ” คิวยิ้มตอบเล็กน้อย คิวกับมิซาร์น่าจะอายุไล่เลี่ยกัน
“อ่าว..คุณเทียนมาด้วยเหรอครับเนี้ย เป็นเกียรติมากเลยครับ” ผมรีบเดินเข้าไปทักเมื่อเห็นว่ามิซาร์ไม่ได้มาเพียงคนเดียว คุณเทียนเป็นผู้จัดการใหญ่ที่นำเข้า ปกติเราจะเจอกันข้างนอกมากกว่าที่ผมจะเชิญเขามาที่บ้าน เพราะผมไม่ค่อยชอบต้อนรับแขกประเภทนี้น่ะครับ
“พอดีนี่เป็นคอเล็กชั่นใหม่ล่าสุดน่ะครับ ผมก็เลยอยากมาดูด้วยตัวเอง” คุณเทียนพูด บางทีผมรู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับเขาเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เราดูไม่เข้ากันเอาเสียเลย หน้าตาของเขาดูมีเล่ห์เหลี่ยมเกินไปจนน่าระแวง หรืออาจจะเป็นเพราะสายตาของเขาก็เป็นได้ เขาเป็นเกย์ที่พยายามไม่ให้ตัวเองออกอาการมากจนเกินงาม แต่ผมคิดว่านั่นแหละที่ไม่งามเสียมากกว่า เขาดูไม่เป็นตัวของตัวเองจนขัดสายตาของผม ผมคิดว่าเขาเองก็คงจะไม่ชอบใจผมด้วยเหมือนกัน..ถ้าผมจะไม่มองโลกในแง่ร้ายมากเกินไปหน่อยน่ะนะ
“ผมไม่ทำของของคุณเสียหายหรอกน่า” ผมแซว คุณเทียนพลางหัวเราะ คิวไม่พูดพร่ำทำเพลง ตั้งหน้าตั้งตาดูของที่มิซาร์นำมาประเคนให้ถึงที่ในทันที อีกทั้งยังไม่คิดจะไหว้หรือทักทายแขกอย่างคุณเทียนอีกด้วย
“เชิญนั่งก่อนครับ” ผมเชิญคุณเทียน ในขณะเดียวกันป้านิดก็นำน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ
“ชาหรือกาแฟไหมครับ หรือไวน์ดี” ผมยิ้ม
“หึ..ไวน์ผมคงจะขอผ่าน กาแฟแล้วกันครับ ไม่ใส่ครีม น้ำตาลสาม” คุณเทียนหัวเราะก่อนจะตอบ
“ครับ ไม่ครีม น้ำตาลสาม” ผมบอกป้านิดที่นั่งฟังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ป้านิดพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องรับแขกไป
“อะไรน่ะ” ผมพูดทัก เป็นเชิงถามคิวที่กำลังชูกระเป๋าเป้สีคาราเมลอ่อนขึ้นดู คิวหันกลับมามองหน้าผมและไม่ตอบอะไร
“ใบนี้น่ะมีสีส้ม สีดำ และสีที่คุณคิวถืออยู่นะครับ..ตัวนี้ผมนำมาเป็นตัวอย่าง ถ้าคุณคิวต้องการสีไหนก็สั่งผมได้ครับ”
“งั้นเหรอ..งั้นผมจะเอาสีนี้ เอาใบนี้ และจะเอาไปเดี๋ยวนี้..จะได้รึเปล่า” คิวพูดด้วยสีหน้าแกมบังคับ ผมมองและกลับอดคิดไม่ได้ว่าคิวจะซื้อให้ใคร เพราะกระเป๋าใบนี้นั้นไม่เหมาะกับคิวเอาเสียมากๆและที่จริงคิวไม่เคยใช้กระเป๋าสไตล์นี้ด้วยซ้ำ
“ลูกค้าในตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ มีเหรอครับที่ทางเราจะปฏิเสธลง” คุณเทียนอมยิ้มและผายมือให้คิวเชิงหยอก
“ผมอยากได้นาฬิการุ่น Blade กับอีกตัวนึงสีแดง..ผมจำรุ่นไม่ได้ คุณช่วยเตรียมไว้ให้ผมด้วยได้ไหม” คิวเหลือบสายตาลงต่ำ เป็นสายตาที่เย็นชาเกินกว่าที่ผมจะอธิบายได้ คืออันที่จริงแล้ว..คิวไม่ชอบขี้หน้าของคุณเทียนเป็นทุนเดิม
“ผมว่า รุ่นที่คุณสั่งมันไม่เข้ากับคุณเลยนะครับ” คุณเทียนอมยิ้ม สีหน้าไม่แสดงความลำบากใจที่จะพูดแสดงความคิดเห็นออกไป คิวคงไม่ได้ซื้อไปใส่เองแน่ เพราะนาฬิกายี่ห้อประจำของหลานผมมีแค่ ROLEX หรือ MONTBLANC เป็นส่วนมาก
“โทษที ผมคงจะไม่ใส่เอง” คิวมองเหล่
“โอเคครับ ผมจะเตรียมไว้ให้” คุณเทียนพยักหน้า
“งั้นผมจะให้มิซาร์ไปเอาที่บริษัทคุณก็แล้วกัน ส่วนเรื่องเงิน..กระเป๋าใบนี้ กับนาฬิกาอีกสองเรือนนั่น คุณก็รวมบัญชีของคุณอาผมไปเลยก็ได้นะครับ เค้าคงยินดีจ่าย” คิวยิ้ม มันตั้งใจเรียกผมว่า “คุณอา” ต่อหน้าทุกคนเหมือนต้องการจะให้ผมรู้ตัวว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ผม คือ..อาของมัน และควรรับผิดชอบกับสิ่งที่มันต้องการด้วย
“เท่านี้ล่ะ ผมไปทำงานก่อนนะ” คิวหันมาบอกผม
“อ่าว เอาเท่านี้เหรอ” ผมถาม
“อืม..ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจ รุ่นนี้..ออกจะเห่ยเสียส่วนมากนะครับคุณเทียน” คิวพูดทิ้งท้ายพร้อมกับหยิบกระเป๋าที่ตนเองเลือกได้เดินออกไปหน้าตาเฉย
“......................” ตอนนี้ทุกคนเงียบ บรรยากาศวังเวงสุดๆ คนที่พ่นคำพูดหมาๆออกมาได้เดินออกจากห้องนี้ไปแล้ว มันคงจะไม่ทราบเลยว่า มันได้ทิ้งอากาศไม่บริสุทธิ์ไว้เบื้องหลังนี่ มิซาร์ยิ้มแหยมองหน้าผม
“เอ่อ ต้องขอโทษด้วยนะครับ คิวก็เป็นอย่างนั้นแหละ..ผมคงจะอมรมเค้าน้อยไปหน่อย” ผมยิ้มให้คุณเทียน
“อ่อ ไม่หรอกครับ..ไม่เป็นไร ที่จริง ผมควรจะชินกับปากของคุณคิวสักทีนะ ฮ่าๆๆๆ” คุณเทียนหัวเราะ
“นั่นสิ ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหัวเราะไปอย่างนั้นเพราะรู้สึกไม่ชอบใจกับคำพูดของคุณเทียนที่พูดอย่างประชดประชันด้วยเช่นเดียวกัน ภาพที่ผมกำลังชกปากของเขาผุดขึ้นมาในหัวของผม นั่นจึงทำให้ผมสามารถหัวเราะกลบเกลื่อนคำพูดเขาได้มากกว่าเดิม
ผมเลือกเสื้อผ้าที่ผมต้องการ มีแบบไม่เยอะเท่าไหร่ที่ผมชอบจริงๆ เสื้อผ้าและกระเป๋าสำหรับผมแล้ว ถ้าผมไม่ชอบหรือหลงใหลมันอย่างแท้จริง ผมจะไม่มีทางลองสวมมันเลย สำหรับผม ผมคิดว่า..ถ้าผมไม่หลงใหล ถึงผมจะสวมใส่มันได้และออกมาดูดี แต่สุดท้ายก็เท่านั้น ไม่มีชีวิตชีวา..ไร้เสน่ห์ วันนี้แบบคงเห่ยไปหน่อยอย่างที่คิวว่าเอาไว้ นี่จึงเป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่ผมได้เสื้อผ้าที่ชอบเพียงสองสามชุดเท่านั้น ดีเหมือนกัน..ไม่เปลืองเงิน
หลังจากที่คุณเทียนออกจากบ้านผมไป การส่งแขกเป็นไปด้วยดี แม้จะต้องปั้นหน้าใส่กันนิดหน่อยก็ตาม ผมคุยงานกับมิซาร์ต่ออยู่เกือบชั่วโมง
“คุณฟ้าคะ คือว่า..นี่มันค่อนข้างกะทันหัน แต่มิซาร์อยากจะบอกข่าวดีผสมร้ายนิดหน่อย” มิซาร์พูดขึ้นด้วยสีหน้าลำบากใจ
“อะไร” ผมอมยิ้ม ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“แฟชั่นโชว์ปลายปีที่ทางห้องเสื้อของเราจะจัดน่ะค่ะ คือว่า มิซาร์ทราบมาว่า..แฟชั่นโชว์ที่ห้องเสื้อThe Walnut จะจัดขึ้นเวลาไล่เลี่ยกับเรา ดึงลูกค้ากลุ่มไฮโซโดยการให้ลูกท่านหลานเธอของคุณๆทั้งหลาย ขึ้นเดินแบบเองน่ะค่ะ” มิซาร์เบิกตาโพรงแต่กลับมีสีหน้าแขยงไปพร้อมกัน
“พวกที่หน้าตาคล้ายกับเด็กแรกเกินพวกนั้นน่ะนะ” ผมพูดอย่างไม่เชื่อหู
“ใช่ค่ะ แต่..ได้รับความสนใจมากทีเดียว ถ้าคุณฟ้าไม่เชื่อ คุณฟ้าลองโทรเช็คกับคุณรินดาได้เลยค่ะ” มิซาร์บอก
“งั้นสิ..มันแน่อยู่แล้ว คนพวกนี้น่ะ ทำยังไงก็ได้..ที่ต้องการให้ลูกของตัวเองดัง” ผมเบะปากอย่างไม่กระหยี่
“แล้วคุณฟ้าคิดว่ายังไงดีคะ ในความคิดของมิซาร์คือ..มิซาร์อยากให้คุณคิวขึ้นเดินแบบ เอ่อ..คุณเซ็นด้วยก็จะดีมาก” มิซาร์พูดเสียงเบา
“ห๊า!!” ผมขึ้นเสียงอย่างตกใจ
“นั่นปัญญาโลกแตกเชียวนะมิซาร์ คิดได้ยังไงเนี้ย..ไอ้เซ็นน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ไอ้ชื่อแรกนั่นมันใครกัน..” ผมอุทานและอดไม่ได้ที่จะขำ
“มันไม่ใช่หลานผม มันจะกลายเป็นพ่อผมอยู่แล้ว..คุณไม่เห็นเหรอ” ผมว่า
“คือคุณฟ้าอย่างลืมนะคะ ว่าThe Walnutน่ะต้องการเป็นคู่แข่งทางการค้าของเรา ที่เค้าจัดขึ้นปลายปีพร้อมกับเราเพราะเค้าต้องการแข่งกับทางเรา อีกอย่าง..The Walnutก็มีชื่อเสียงมานานมากกว่า เค้าค่อนข้างได้เปรียบ ถึงเราจะได้ตีมงานบ้างแล้ว แต่มิซาร์คิดว่าสิ่งดึงดูดใจยังไม่มากพออ่ะค่ะ”
“ก็ใช่..ผมเข้าใจ แต่ผมต้องถูกไอ้คิวว่าว่า..ปัญญาอ่อนแน่ๆ ให้ตายเถอะ” ผมถอนหายใจเมื่อนึกว่าต้องไปอ้อนวอนขอร้องให้หลานตัวเองมาเดินแบบให้ นั่นมันเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุด
“ไม่มีทางหรอกมิซาร์ ไม่มีทางเป็นไปได้จริงๆ..คุณรู้ไหม แค่ให้สัมภาษณ์หนังสือน่ะ..มันยังปัดผมเป็นปีๆ” ผมพูด มิซาร์เงียบไปด้วยสีหน้าผิดหวัง ผมเริ่มเครียดขึ้นมาเพราะนี่คือปัญญาหาทางธุรกิจที่มีโลกแห่งความจอมปลอมเข้ามาเกี่ยวข้อง คนที่เสพคือลูกค้าที่จอมปลอมพอควร บางครั้งธุรกิจก็บังคับให้คนมีเล่ห์เหลี่ยมจัดจ้านเพื่อให้ตนเองนั้นเติบโตเหมือนกัน
“งานแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จัดขึ้นครั้งแรก เราจะต้องเปิดตัวให้ใหญ่โตกว่าที่ The Walnut ทำ..” ผมบ่นพึมพำ
“ใช่ค่ะ แล้วเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะที่จะไม่โชว์ตัวคุณคิว..เพราะที่มาที่ไปของห้องเสื้อของเรา มาจากชื่อของคุณคิวนะคะ ทุกคนที่ไม่เคยเจอตัวคุณคิว คงอยากจะเห็นตัวจริง” มิซาร์พูดแทรก
“อีกอย่าง ลูกไฮโซบางคน..คลั่งคุณคิวจะตายไปค่ะ เค้าก็คงหวังว่าคุณคิวจะไปงานนี้แน่ๆ” มิซาร์พูด แน่ล่ะ..คิวไม่ค่อยออกงานสังคมบ่อยเท่าไหร่นักถ้าผมไม่ได้บังคับ ผมได้เพียงแต่เงียบ เพราะมิซาร์พูดถูกทุกอย่าง
“คุณกีก็เห็นด้วย ตอนนี้คุณกีกำลังเลือกนายแบบที่จะมาเดินแฟชั่นโชว์ให้เรา..อาทิตย์หน้าคงจะได้ความและนำมาให้คุณฟ้าเลือกอีกที แต่คุณกีอยากให้มิซาร์มาถามเรื่องนี้กับคุณฟ้าก่อนว่าคิดเห็นยังไง คุณกีบอกว่าพร้อมที่จะออกแบบเสื้อผ้าให้คุณคิวในทันที..ถ้าคุณฟ้าสั่ง”
“โจทย์ยากมาก ยากยิ่งกว่าแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพซะอีก” ผมทำท่าเอียนพร้อมกับกุมหัวตัวเอง มิซาร์หัวเราะเล็กน้อย
“มิซาร์เชื่อค่ะว่าคุณฟ้าทำได้” มิซาร์ลุกขึ้นยืนและยิ้มกว้างอย่างร่าเริง
“งั้นวันนี้มิซาร์ขอตัวนะคะ ต้องเข้าสาขาใหญ่อีก”
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบอย่างเหนื่อยใจ
“หึ..สู้ๆนะคะ” มิซาร์ชูมือขึ้น
“ครับ” ผมยิ้มตอบให้ มิซาร์เดินออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงผมที่กำลังหนักใจ หนักใจว่าจะทำอย่างไรให้คิวมาช่วยเดินแบบในงานนี้ให้ พระเจ้า..โลกใกล้จะแตกแล้วหรือยังไงนะ
ตื๊ด ๆ ๆ
ผมเหลือบดูโทรศัพท์มือถือของตนเอง มีเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้โทรเข้ามา ผมเอ๊ะใจเพียงครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจรับสาย
“ฮัลโหล ขอสายฟ้าครับ” อีกฝ่ายพูด ผมจำเสียงได้ในทันทีว่าเป็นใครถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงเสียงนี้ทางโทรศัพท์มานาน แต่เชื่อเถอะว่าคุณไม่มีทางลืมเสียงของคนรักคนแรกของคุณได้หรอก
“พูดอยู่”
“ฟ้า..จักรเองนะ” จักรพูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
“หึ จำได้ขึ้นใจทีเดียวล่ะ” ผมตอบและเอนตัวพิงพนักเก้าอี้
“ดีใจจังครับที่ฟ้าจำเสียงของจักรได้ด้วย”
“จักรคิดว่าฟ้าจำในแง่ดีหรือแง่ไม่ดีล่ะ” ผมย้อนตอบทำให้จักรเงียบไป
“ฟ้าจะไม่ถามหรอกนะว่าจักรได้เบอร์ฟ้ามาได้ยังไง แต่..มีอะไรรึเปล่า ขอแบบตรงประเด็น” ผมพูด
“ชอบจังเวลาที่ฟ้าแทนตัวเองว่าฟ้าน่ะ” จักรหัวเราะ ผมชะงักและรู้สึกเหมือนห้วงเวลาหนึ่งนั้นย้อนกลับมา
“อย่ายืดยาดให้มากความเลยนะจักร” ผมพูดอย่างเหนื่อยใจ
“ไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหม” จักรถาม
“ไม่ล่ะ” ผมตอบแทบจะทันที
“งั้น..ไม่ได้ถามความสมัครใจ แต่..ไปกินข้าวเย็นกับจักรเถอะนะครับ” จักรพูด น้ำเสียงเปลี่ยนไป เป็นน้ำเสียงที่อ้อนวอนขอร้องปนกับการที่ต้องการให้อีกฝ่ายนั้นเห็นใจ
“......................” ผมเงียบ ใจนึกสงสารจักรขึ้นมา บางครั้งผมก็เป็นคนใจอ่อนง่ายจนน่าเกลียด ใช่แล้ว..ผมก็ไม่ได้ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้นักหรอกครับ
“นะครับ จักร..จะไปรับฟ้าที่บ้านนะ” จักรพูดอีก
“ฟ้าไม่ได้อยู่บ้านหลังนั้นแล้ว” ผมบอก
“จักรรู้ สืบมาหมดแล้วล่ะ” จักรพูดปนหัวเราะ
“หึ..” ผมหัวเราะตอบ สมองของผมกำลังนึกสนุก ภาพในอนาคตที่อยากลองดีเริ่มสร้างเหตุการณ์ต่างๆอย่างกับตัวเองบังคับได้อย่างนั้น ถึงหัวใจจะขัดแย้งขึ้นมาว่า “ระวังนะ” แต่ภาพที่จินตนาการนั้นช่างน่าสนุกและน่าเสี่ยงดีเสียเหลือเกิน
“ตกลงนะครับ ให้จักรไปรับกี่โมงดี”
“ห้าโมงครึ่งก็แล้วกัน” ผมตอบ
“ครับ” จักรตอบรับอย่างไม่ลังเล น้ำเสียงของจักรทำให้ผมรู้ได้ว่าเขาคงกำลังยิ้มอยู่
“ผมไม่ให้คุณเข้าบ้านหรอกนะ อย่าถือวิสาสะล่ะ” ผมเตือน
“ค้าบ” จักรตอบเสียงยานคางอย่างที่เขาเคยทำแต่ก่อนเวลาที่ต้องการง้อผม
“เท่านี้ใช่ไหม” ผมพูด
“ครับ..ใจของผมแทบทนรอไม่ไหว”
“ไม่ยักรู้ ว่าคุณ..น้ำเน่าเก่งขึ้นนะ” ผมว่า จักรหัวเราะตอบเล็กน้อย
“สวัสดี” ผมบอกและกดวางสายไปทันทีโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสกล่าวลา
“หึ..รอแทบทนไม่ไหวงั้นเหรอ เอายังไงดีน้า”
...............>>>><<<<................
-
ว้าว คิวมีของให้เค้กหลายอย่างเลย แต่เค้กจะรู้ไหมนั้นกระเป๋าที่ได้นะแพงแค่ไหน ถ้ารู้คงไม่กล้าใช้แนเลย
-
:z13:
-
โอ๊ย!!!!!! พี่คิวจะน่ารักไปไหนเนี่ย > < :o8: :o8: :o8:
ว่าแต่ กระเป๋ากับนาฬิกา ไม่ซื้อให้ตัวเอง ก็ซื้อให้เค้กใช่ไหม??
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ขอบคุณนะคะ รอต่อค่ะ :D
-
โห ป๋าคิว ทุ่มให้อิหนูเค้กไม่อั้นเลยอ่ะ
อย่างงี้ เขาเรียกว่ากำลังหลงป่ะเนี่ย 555+
-
555 คิวน่ารักอะ เค้กไม่ออกเลย ถ้ารู้ว่าคิวซื้อบ้านให้จะทำหน้าไงเนี่ย 555
-
พี่คิวเจ้าเล่ห์มากอ่ะ
-
พี่คิวน่ารักอ่ะจำแบบบ้านที่เค้กชอบ จัดการซื้อบ้านให้เค้กอีก แถมซื้อกระเป๋าสั่งนาฬิกาสใตล์ของเค้กด้วย ^^ อิจฉาน้องเค้ก
นิสัยของอาฟ้าไม่ค่อยจะชินเลยเรา แต่อาฟ้าจะทำให้เรื่องยุ่งอีกรอบไหมเนี๊ย
-
รักของอาฟ้า ดูวุ่นวายดีจัง คนเราบางทีก็ตัดสินใจยาก
รักแรกก็ไม่ลืม รักแท้ก็ยังจำ จะมีรักใหม่เข้ามาอีกหรือเปล่า
ลุ้นนน
ปลื้มแทนเค้กทีคิวยังจำความฝันของเค้กได้
-
จักรนีมันอะไรว่ะ เขาเชียร์ทิกเกอร์
-
อ่านแล้วคิดว่าพี่ฟ้าช่างเป็นคนที่ผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ
แล้วก็เก่งมากด้วย แต่ก็มีเรื่องนึงที่แก้ไม่ตก...ความรักงั้นสินะ
เอาใจช่วยพี่ฟ้าต่อไป ฮ่า ๆ
ขำตอนท้ายๆของตอนนี้เวลาที่พี่ฟ้าพูดถึงคิวจะต้องมีกัดนิดๆ น่ารักอ่ะ
ไม่คิดว่าพี่คิวจะมาเดินแบบให้หรอกนะ :jul3:
ปัญหาแก้ยากจริงๆ อิอิ
-
สั้นมากอยากอ่านอีก :serius2: :serius2: :serius2:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
แอร๊ยยยยยยยยยยยย
พี่คิวตรูอย่างป๋าอ่ะ โอ้วววว ทุ่มให้น้องสุดๆ ทำอะไรนึกถึงแต่น้อง :กอด1:
แต่อาฟ้า จะพูดไงดีหล่ะถึงจะเจ็บ แต่ก็ชอบที่กระโจนไปในกองไฟ อยากได้ความรัก แต่ก็ผลักไสมันออก แล้วทำเป็นไม่แคร์
คิวเหมือนเป็นพ่อฟ้าจริงๆ มองทุกอย่างในสิ่งที่ฟ้าแสดงออก หมด
รักเบบี้ +1 ไปงามๆ
-
อยากบอกว่าชอบคิวในพาร์ทของพี่ฟ้ามากอ่ะ
กวนตีนและปากเสียได้ใจ บ้านก้จะยกให้เค้ก
กระเป๋า นาฬิกาก้ซื้อให้เค้ก ป๋ามากกกกกกอ่ะพี่คิว
อยากรู้จังว่าพี่ฟ้าจะทำให้พี่คิวยอมเดินแบบได้รึเปล่า
แต่พี่ฟ้าน่าจะรู้นะ ถึงจุดอ่อนจุดเดียวในตอนนี้ของพี่คิว ฮ่าๆ
ปล.ไม่ชอบจักรเลยจริงเชียว ทิกเกอร์อยู่หนายยยยยยยย?
-
เฮียคิวป๋าาาาาาาามากกกกกก..... :-[ :-[
พี่ฟ้าจะทําให้พี่คิวเดินแบบได้มั๊ยน้าาาาาา...
รอลุ้นๆๆ
-
คนที่อาฟ้านอนด้วยเมื่อคืนจะกลับมาสร้างปัญหาให้มั้ยเนี่ย??
แต่ปากพี่คิวนี่สุดยอดจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
-
อาฟ้าคิดแผนจะทำอะไนจักร กันแน่..ยิ้มๆแบบนี้มันน่าสนุกเหมือนกันนะ..ฮ่าๆๆๆ
จะมีสักครั้งมไหมนะที่อาฟ้าจะเถียงชนะหลานคิวเนี๊ย --!
ส่วนคิว ก็ยังคงเหมือนเดิม ปากร้ายเหมือนเดิม..แต่แม่มโคดเท่ห์..*o"
-
อาฟ้ากับหลานคิววน่ารักอ่ะ....
-
พี่คิวน่ารักมากอ่ะ :-[
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ขอบคุณครับบ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ไปแอบดูนาฬิกามา กร๊ากกกกกกกกกก.....เรือนสีแดงไม่ได้ใส่เองแน่ ๆ 5555+
:mc4: :mc4: :mc4:
-
:impress2:พี่คิวน่ารักอะอัยย่ะแตว่าพี่คิวจะเอาอะไรเปนค่าบ้านนะ :z1:พี่ฟ้าน่ารักอะชอบแหย่คิว
ขอบคุณพี่บี้ค่ะ
-
อยากอ่านเค้กกะคิวอีกอ่ะ คิดถึงงงง
แหม๋ ฟ้า ภาคนี้มาดูเจ้าเล่ห์ เกิ๊นนนนนนน
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
คิวอย่างป๋ษ ทำให้น้องด้วย ว่าแต่จะเอาอะไรตอบแทนจากเค้กนะ
-
ทิกเกอร์ไปหนายยย กลับมาทําคะแนนเร้วววว
พี่คิวโคตรป๋าอ่ะ ซื้อของให้แต่ละอย่าง อิจฉาาา
อย่างงี้ เค้กรักตายเลย เอิ๊กกก :-[
-
ฟ้าหาเรื่องใส่ตัวจริงๆ และสับสนใจตัวเองมากกกกกกกกกกอ่ะ :z3:
คิวพูดน้อยแต่น่ารักเหมือนเดิม :-[
-
:laugh:เสพติดเรื่องนี้จนขาดไม่ได้ 55555
-
ได้เห็นพี่ฟ้าในมุมนี้ดูแปลกตาไปอีกแบบ
ได้เห็นมากกว่าพี่ฟ้าที่อ่อนโยน น่ารัก สดใส
ในมุมมองผ่านทางเค้กและร้านคิวปิดอีกนะ
ดูจริงจังและมีเล่ห์เหลี่ยมยามที่ต้องทำงาน
เรื่องหัวใจก็ดูจะวุ่นวายอยู่เล็กๆ(หรือเปล่า)
ให้กำลังใจพี่ฟ้าทั้งเรื่องงานและเรื่องหัวใจ
และที่สำคัญขอให้ลากพี่คิวไปเดินแบบให้ได้ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
บวกเป็ดให้พี่คิว ถูกใจหลายเรื่องเลยตอนนี้
-
ทิกเกอร์ล่ะ :sad4:
-
พี่คิวทุ่มทุนมากอะ น้องเค้กจะปลื้มไหมซื้อของแพงให้ขนาดนี้ เรื่องบ้านยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่ถ้าน้องรู้ว่าพี่คิวไม่ให้น้องฟรีนี่คงมีเคือง 555+
อาฟ้าจะไปดินเนอร์กับคุณจักร แล้วงานนี้จะมีรีเทิร์นหรือเปล่า อยากรู้ว่าทำไมต้องเลิกกัน
-
พี่ฟ้า!!! ขอนำเสนอแผนที่จะให้คิวเดินแบบให้ นั่นก็คือ อือ อือ ๆๆๆ พี่ฟ้าก็จับเค้กมาเดินแบบซะเลย คิวมันหวงมันก็มาเดินให้เองแหละ :laugh:
-
พี่คิวป๋ามาก ๆ เลยอ่ะ อยากเป็นน้องเค้กมากมาย
นายแบบนอกจากพี่คิว พี่เซ็นแล้ว ขอเสนออาฟ้ากับน้องเค้กด้วยได้หรือเปล่านะ
เอาแบบเดินแบบคู่กันอะไรแบบนี้น่ะ
-
เหมือนอาฟ้าจะดำเนินแผนการแก้แค้นเลย o13 o13 o13
-
ความรักของอาฟ้านี่น่าตื่นเต้นจริงๆเลยนะ 5555 ว่าแต่ดูงานจะเข้านะเรื่องให้คิวไปเดินแบบอ่ะ กร๊ากกกก
ส่วนคิวนี่แบบ พอรักกะเค้กแล้วแบบ อ๊ายยยยยเขินแทนเค้กว่ะ พอได้อ่านคิวผ่านอาฟ้าแล้วโคตรรักคิวอ่ะ 555555
แต่รักสุดนี่ต้องเบบี้อ่ะ 5555
-
อาฟ้าก็เหมือนคิวนั้นแหละ
เจ้าเล่ห์ 5555 แล้วคนชื่อจักรนิยังไง
คบอาฟ้าเพื่อผลประโยชน์รึเปล่าเนี้ยยยย
ทิกเกอร์มาทำคะแนนเร็วววว
คิดถึงเค้กกก :))))
-
อ๊ากส่ป๋าคิว :z2:
-
อาฟ้า อันตรายจริงๆ :z2:
-
พี่คิวเดินแบบ :z1:
-
คิวป๋ามากกก
ส่วนอาฟ้านี้ยังไงหว่า :really2:
-
พี่คิวตอนนี้น่ารักเกินไปแล้ว
-
พี่คิวน่ารักจังเลย อยากจะเซอร์ไพรซ์น้องเค้กใช่ไหมเนี่ย
แล้วไม่อยากจะบอกว่าพี่คิวเจ้าเล่ย์เหมือนอาฟ้านั้นแหละ
อาหลานเหมือนกันเป๊ะ
-
อร๊ายยย น้องเค้กจะเป็นเศรษฐีนีน้อยๆ มีบ้านที่หัวหิน หิ้วกระเป๋ามาร์ค :laugh:
สองอาหลานนี่อยู่ด้วยกันอย่างฮา สลับขั้วอายุไปหมด และดูคิวจะกวงติงแบบเลเวลอั๊พมากๆ ถ้าคุยกับอาแค่สองคนเนาะ
...สนุกอย่างบอกไม่ถูก ลุ้นอาฟ้าปราบแฟนเก่า
ปล.ยังคงรอการปรากฎตัวของน้องเค้กต่อไปนะคะ :กอด1:
-
“ตั้งใจว่าจะให้เค้กน่ะ” กรี๊ดดดดดดดดดดด พี่คิวหล่อมากกกกกกกกกกกกกกก
กระเป๋ากะนาฬิกาก็ให้เค้กชิมิ แอร๊ยยยยยยย
ไม่ชอบจักรอะไรนี้เลย เชอะ
-
:เฮ้อ:เหน่อยแทนฟ้าจริงๆอะ :m16:
คิดถึงคิวกับเค้กจังเลยอะ :กอด1: :กอด1:
-
พี่คิวน่ารักอ่ะ ถ้าเค้กรู้มีหวังโวยวายแน่เลย เค้กยิ่งเป็นคนเจียมตัวอยู่ด้วยอ่ะ
พี่ฟ้าจะทำยังไงกับจักรล่ะเนี่ย คงไม่นัดทิกเกอร์ไปเผชิญหน้ากันหรอกนะ
แค่คิดก็สนุกแล้ว อิอิ o18 o18
-
อ่านเมนท์คร่าวๆรู้สึกคิวจะฮอตเหลือเกิน
แหม ป๋าคิว :m12: คึคึ พ่อบุญทุ่มจริงๆ
>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<
อาฟ้าก็กิ๊กเยอะ เบบี้ลืมอะไรอ๊ะเปล่า :m26: ฉากบนเตียงของอาฟ้ากับเหล่ากิ๊กอ่ะ *ซุบซิบ*
555555555+ อ๊ะ เค้าล้อเล่งงงงงงง
เราไม่ใช่คอเอ็นซีอยู่แล้ว แซวเฉยๆ :laugh3:
ขอนึดนึง
บ้านนี้รวยจริงเลยเว้ยเฮ่ย!!!!
:z7: อยากอ่านเรื่องกัส :110011:
*ขอบคุณสำหรับนิยายขอรับ*
:เหอะ1:
-
อาฟ้าแอบร้ายอ่ะ
พี่คิวเคี่ยวจังเลย
-
:jul3:ป๋าคิว
-
:z2: :z2:
รอรอ
-
อ่านแล้วงงๆ นะเนี้ย ทำไมไม่มีสาเหตุของการเลิกกัน ระหว่างอาฟ้ากับทิกเกอร์ละ
-
ชอบปากกกกคิวจริงๆเหอะ o13 :z2:
-
ต้องเปลี่ยนชื่อจากพี่คิว เป็นป๋าคิวแล้ว ทุ่มสุดตัวให้หนูเค้ก ทั้งบ้านที่หัวหิน กระเป๋า นาฬิกา อืม! อยากเห็นหน้าเวลาหนูเค้กได้รับของจากพี่คิว คงตื่นตกใจน่าดู
อาฟ้าจะมีแผนจัดการจักรยังไง คนอ่านแนะนำว่าให้ชวนทิกเกอร์ไปด้วยค่ะ รับรองว่าอาหารเย็นมื้อนี้คงมีเรื่องสนุกๆ ขึ้นอีกเยอะ
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคืออาฟ้าจะพูดยังไงให้คิวมาเดินแบบในงานแฟชั่นครั้งนี้ได้ คงต้องลองให้หนูเค้กมาช่วยหว่านล้อม เพื่อพี่คิวจะยอมใจอ่อน หรือไม่ก็ชวนพี่คิวกะหนูเค้กเดินแบบด้วยกันไปเลย
-
ชอบคิวจังเลยยยย :impress2: ป๋าจริงๆ ใกล้จะเจอเค้กละ อิอิ คิดถึงมากๆ
ฟ้าเนี่ยกลัวหลานตัวเองป่ะนั่น :laugh:
:pig4:นะคะ :กอด1:
-
เหมือนจักรจะนำปัญหาใหญ่มาให้ฟ้าในอันไกล้
คิวก็คงคิดอยากจะหาส่ิงที่ดีและเหมาะกับคนที่ตัวเองรักนะแหละ จะเดินแบบก็เอาหนูเค้กมาล่อจิ้งจอกอย่างพี่คิวซิ
-
อยากให้เป็นทิกเกอร์ ไม่ใช่จักรจังเลยยยย :sad4:
-
ดูแล้วพี่ฟ้าเหมือนเป็นลุกพี่คิวจริงๆอ่ะ พี่คิวแม่งโคตรดุ 5555 แบบดูกุมอำนาจอยุ่ในมือ
พูดอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่อาฟ้าก็น่ารักอ่ะ ยอมคิวทุกอย่างแบบโดยดี ฮ่าๆๆ
น่าเอ็นดู แต่ที่น่าเอ็นดูที่สุดในตอนนี้น่าจะไม่พ้นพี่คิวที่ จะซื้อบ้านให้เค้กและซื้อกระเป๋า
แบรนด์เนมให้ น่าร๊ากกกกกกกกก =///= พี่เค้าแอบมีมุมหวานๆตลอดเลยอ่ะ 555
ทั้งๆที่ท่าทางก็แข็งและดูไม่ยอมเค้กขนาดนั้น แต่ก็ยังแอบคิดถึงและเอาใจเค้กตลอด
ดูเป็นแฟนที่น่ารักมากเลยอ่ะ >///< รออ่านตอนหน้า อาฟ้าไปเดทกับแฟนเก่าจะเป็นไง
-
:L2:
ปล. ป๋าคิว ป๋าหาของให้เด็กตัวเองยังไม่ยอมจ่ายเงินเองอีกนะ
-
หลงเค้กมาเลยสินะตาคิว
-
:z2:
(เรา)หายไปพักใหญ่ กลับมาเจอ 3 ตอนเลยจ้าาาาาา ดีใจๆ
ไล่เมนท์ไปทีละตอนล่ะกันเด้อ.....อยากเมนท์ทุกตอนเลย >W<
ตอนที่ 3
คุณหลานชายสุดรักสุดดวงใจของอาฟ้า (555) ช่างพูดตรงและกวนโอ๊ยเสียเหลือเกิน
จนอดอยากรู้ไม่ได้ว่า หลังจากเปลี่ยนความสัมพันธ์เป็นคนรักกับน้องเค้กแล้ว....
เขาจะพูดจากันยังไงนะ...........แต่พี่คิวก็คงยังเป็นพี่คิวสินะ เหอๆ
อาฟ้าในโหมดทำงานจริงใจแนวผู้บริหารนี่ก็แปลกตาดีนะคะ แอบเท่ห์และน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
แต่เรื่องความรักเนี่ย อลเวงเสียเหลือเกิน แถมมีเบื้องลึกเบื้องหลังให้ติดตามอีกเพียบ
อาฟ้าจ๋าาาา หลานชายสุดรักสุดดวงใจเขาแก้ไขปัญหารักได้แล้วนะคะ อาฟ้าก็อย่าให้น้อยหน้าหลานล่ะ
เดี๋ยวจะโดนคุณหลานบังเกิดเกล้าตรอกกลับมาให้ปวดใจอีกนะคะ
กลับไปคืนดีกับทิกเกอร์เถอะค่ะ !!! (เนียนยุ ชูป้ายไฟ "ทิกเกอร์ฟ้า")
ตอนที่ 4
อดีตของอาฟ้ากับทิกเกอร์ช่างน่ารักกกกกกกกกกกกกกกก :-[
แต่ทำไมถึงจบไม่สวยจนมีแผลใจอย่างนั้นล่ะคะ อยากรู้ที่สุดอ่ะ
ยิ่งคารมอาฟ้านี่ยอมแพ้เลยจ้า OTZ แพรวพราวมากๆอ่ะ
ชอบมากตอนที่หยอด(เรียกว่า "หยอด" รึป่าวนะ?) ทิกเกอร์ตอนท้าย ก่อนจะโดนหลานรักเบรคเอา
แถมอ่านตอนนี้แล้วอยากเจอ ปูน จังเลยค่ะ ถ้ากลับมาเจอกันที่เมืองไทยคงสนุกน่าดู
ไม่อยากจะนึก(แต่อยากอ่าน อิอิ) ถ้ามาเจอ น้องเค้ก ด้วยนะ :a11:
สุดท้ายสารภาพจากใจ....ทุกครั้งที่เจอ "ปราย" ในอดีตของคิว จะคันยุกยิกในหัวใจทุกทีเลยค่ะ :z10:
เธอไม่ได้ผิดอะไรหรอกค่ะ เธอสมบูรณ์แบบเพียบพร้อม และเธอคือ.................รักแรกของคิว (T^T)
ยิ่งสัมผัสได้ว่าคิวเคยรักเธอมากแค่ไหน แม่ยก "น้องเค้ก" คนนี้ก็อดนอยไม่ได้ทุกทีเลยค่ะ (บ้าไปแล้ว)
เราสัญญาว่าจะทำใจให้ได้ ทุกคนต้องมีอดีต ถึงน้องเค้กไม่ใช่รักแรก แต่เราเชื่อว่า น้องเค้กจะเป็นรักสุดท้าย
....................................ขอโทษที่เวิ่นเว้อ เราอินเกินไปค่ะ :z6:
ตอนที่ 5
อั๊ยย่ะ....ปริศนาบ้านหัวหินเปิดเผยออกมาแล้ว :a1:
เป็นอย่างที่คิดไว้เลย ดีใจๆ แต่ก็อย่างที่อาฟ้าว่า ถ้าน้องเค้กรู้จะเป็นยังไงกันนะ
แล้วอุปสรรคความรักกับคนรอบข้าง กับสังคมอีก เอาใจช่วยพี่คิวน้องเค้กค่ะ
แต่ตอนนี้พี่คิวน่ารักนะเนี่ย เห็นอะไรก็นึกถึงน้องเค้กตลอด :o8:
ไม่ใช่ขี้เก๊ก ปากเสีย กวนโอ้ยเป็นอย่างเดียวนะ (ว่าพี่คิวทำไม :z6: )
เล่นหิ้วกระเป๋าใหม่สดๆร้อนๆออกไปแบบนั้น อยากเห็นตอนให้ของจังเลยค่ะ >/////<
ส่วนอาฟ้า....กำลังเล่นกับไฟ(เก่า)อยู่รึป่าวค่ะ อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ
ถึงอาฟ้าจะเก่งกาจไร้เทียมทานแค่ไหน แต่เรื่องหัวใจมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
แล้วพี่เสือขาของหนูล่ะคะ ออกมารุกบ้างได้แล้ว ตาจักรเขาจะมารับไปกินข้าวแล้วนะ (-*-)
สุดท้ายและท้ายสุด "ใจของเราแทบทนรอ "ตอนหน้า" ไม่ไหวแล้วค่ะ" :z3:
ขอบคุณสำหรับ 3 ตอนใหม่ที่เข้มข้น น่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่เผยออกมา :กอด1:
สนุกมากค่ะ ทุกตัวอักษรมีความหมายจริงๆ
เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ สู้ๆ นักเขียนคนเก่ง o13
-
จะได้ดูหนุ่มๆ ในร้านเบเกอรี่เดินแบบกันครบทีมมั๊ยน๊า
พี่ฟ้าไปขอร้องเค้กให้เดินแบบด้วยแล้วชวนคิว รับรองได้ชัวร์ :teach:
-
ป๋าคิวสุดๆ อ่ะตอนนี้ ทั้งบ้านที่หัวหิน ทั้งกระเป๋า ทั้งนาฬิกาและคงมีตามมาอีกอย่างเยอะในอนาคต o13
น้องเค้กเตรียมตัวใส่เสื้อเชิ้ตขาวตัวล่ะ 3,000 ไปเรียนได้เลยนะจ๊ะ รับรองป๋าคิวจัดหนักให้แน่ อิอิ :impress2:
-
อร๊ายยย นี้คือการแสดงออกของพี่คิวใช่ไหม
คือรัก แต่ก็แสดงความรักในแบบของพี่คิวเอง เค้กรักตายเลย :z3:
-
อ่านแล้วงงๆ นะเนี้ย ทำไมไม่มีสาเหตุของการเลิกกัน ระหว่างอาฟ้ากับทิกเกอร์ละ
..เพราะยังไม่ได้เล่า ยังไม่ได้เอ่ยถึงเลยค่ะ 1ตอนเท่านี้ก็ยาวแล้วนะคะ ถ้าต้องให้เล่าความเป็นไปทั้งหมดด เรื่องคงจะต้องจบภายในตอนเดียว TT
-
อ่านเมนท์คร่าวๆรู้สึกคิวจะฮอตเหลือเกิน
แหม ป๋าคิว :m12: คึคึ พ่อบุญทุ่มจริงๆ
>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<
อาฟ้าก็กิ๊กเยอะ เบบี้ลืมอะไรอ๊ะเปล่า :m26: ฉากบนเตียงของอาฟ้ากับเหล่ากิ๊กอ่ะ *ซุบซิบ*
555555555+ อ๊ะ เค้าล้อเล่งงงงงงง
เราไม่ใช่คอเอ็นซีอยู่แล้ว แซวเฉยๆ :laugh3:
ขอนึดนึง
บ้านนี้รวยจริงเลยเว้ยเฮ่ย!!!!
:z7: อยากอ่านเรื่องกัส :110011:
*ขอบคุณสำหรับนิยายขอรับ*
:เหอะ1:
คนเขียนตายด้านไปตั้งนานแล้วเหอะ ! กร๊ากกกกกกกกกกกก :m20:
ความเสียวอยู่ที่ไหน =_=? ฉันไม่รู้จัก :o12:
-
กี๊สสสส เบา เบา กับป๋าคิว มันน่ารักจริงๆๆๆ :impress2:
อาฟ้าจะจัดการความรักอย่างไร รอติดตามนะจ๊ะ :pig4:
-
ป๋ามากๆจ้าคิว ;P
ถ้าเ้ค้กรู้ราคาบ้านนะ ไม่อยากจะเซด 5555
-
:o8: พี่คิวป๋ามากกกกกก
-
บอกได้คำเดียวว่า อิจฉาเค้กกกกกกก
-
เคี้ยกกกกกก
ขอให้ได้เดินนะ
อยากดูมากกกกกกก อร๊ายยย
คนจะล้นหลาม หุหุ
พี่คิวเท่ ซื้อให้เค้กกก
-
'ซื้อให้เค้กน่ะ " อั๊ยย่ะ!!!! จะน่ารักไปไหนน่ะคุณพี่คิว
ชอบอ่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พี่คิวเป็นป๋าที่น่ารักสุดๆ :impress2:
-
เค๊กจะยอมรับดีๆไหมน๊า และรอลุ้นต่อไปว่าจักรจะเจออะไรเอ่ย
-
ว่าแล้วไง ซื้อบ้านให้เค้ก ฮ่าๆ ซื้อหวยคงถูก :impress2:
เบื่ออีตาจักรนี่เหลือเกิน
ที่กลับมานี่เพราะอะไร
เงิน? เฮ้อ...ขอให้ฟ้าเอาคืนแบบจัดหนักได้ไหมนะ
-
ที่เลือกแบบไม่ค่อยเด่นมากก็กลัวน้องจะไม่รับอ่ะดิ
ส่วนอาฟ้า ถ้าอยากให้คิวเดินแบบให้ ก็ต้องเข้าทางเค้กแล้วล่ะ
แต่เรื่องคุณจักร ยังไงก็ดูแลตัวเองน้าาา อาฟ้า
-
:-[อยากเห็นคิวเดินแบบจัง
-
อยากเป็นเด็กป๋าคิว :z2:
-
ลุ้นว่าฟ้าจะคู่กับจักรหรือทิกเกอร์
:confuse: :confuse: :confuse:
-
คิดภาพตอนคิวหวานไม่ออกสักเท่าไหร่นะเนี่ย
อาฟ้าน่ารักอ่ะ ร้ายลึก ๆ เหมือนกันนะเนี่ย หึ หึ
-
หึหึ .... อาฟ้าจะจัดอะไรสนุก ๆ มาให้ ลุ้นกันน้าาาาาาา
-
ชักรู้สึกสงสารคนที่จะได้ของขวัญแล้วสิ
-
:z6:แอบนอกเรื่อง. เค้าอยากรู้ว่าLover3. ใช่คู่หมี-กัส/. เซ็น-กัส/. หมี-กัส-เซ็น. อยากรู้จังง่ะ :serius2:
-
ต้องลองให้เค้กหว่านล้อมคิวดู อาจจะได้ผลนะ อิอิ
เค้าเชียร์ทิกเกอร์ แอบไม่ชอบจักร
รออ่านตอนต่อไปจ้า
-
พี่คิวถ้าทำแบบนี้ เอาไปหมดใจไปเลยค่ะ
เรือนหอก็พร้อมละ รอแต่งอย่างเดียวเลยเนี้ย คนนี้อ่ะ อ้ายยยยยยยยยยยยย อ่านไปยิ้มตรงนี้แก้มจะแตก ตีกาจะขึ้น 55 (ไม่ทันละอย่างหลัง) แต่เรื่องที่ไม่ให้ฟรีๆ นี้หัวคิดไปแบบพี่ฟ้าแล้วละค่ะ จิ้นไปไกลละคู่นี้ น้องเค้กจะจ่ายค่าบ้านด้วยอะไรน่ะ คริๆ ๆ >///< ป๋าเค้าทุ่มสุดตัวจริงๆ ขอเป็นเด็กป๋าคิวด้วยได้ไหม
คิดถึงน้องเค้กจะบ้า น้องเค้กไม่มาเที่ยวบ้านพี่ฟ้ามั้งหรอค่ะ ชอบพี่คิวขาดใจอ่ะ (รู้สึกผิดต่อพี่เมตรในใจ)
ตอนหน้าใครก็ได้ไปตามทิกเกอร์มาด่วนเลยค่ะ ไม่ยอมอ่ะ เค้าเชียร์ทิกเกอร์ขาดใจ รักพ่อหนุ่มตาน้ำข้าว
-
เอิ่ม ค่อดป๋าอ่ะ
เค้กคงรับแบบเพราะคิวให้ ไม่ใช่เพราะราคาอยู่แล้นนนนน
นิสัยเสียนะเนี่ยคิว
-
ดีใจแทน"น้องเค้ก" พี่คิวน่ารักนะเนี่ยป๋ามาก55
รอตอนหน้าอยากรู้ว่าอาฟ้าจะทำยังงัยเวลาเจอจักร
:กอด1:
-
:impress2: ป๋าคิวทุ่มหมดตัวเพื่อคนนี้ :laugh:
-
ขอคอนพิเศษเค้ก คิว หจน่อยนะคะ ๆๆๆ
-
ป๋าจริงๆ :laugh:
ถ้าจะให้คิวไปเดินแบบ ฟ้าคงต้องใช้เค้กเป็นตัวประกันแล้วล่ะ :haun5:
-
คิวซื้อไปให้น้องเค้กใช้ไหม :oni2: คิดถึงคู่นี้จริงๆอ่ะ
เค้าไปถึงไหนกันแล้วน๊า
ส่วนตอนนี้ทิกเกอร์สุดหล่อไม่ได้โผล่มากะเค้าเลย
มาเฝ้าอาฟ้าอยู่ตั้งนาน นายจักรนั่นโผล่มาแปปเดียว รุกชวนอาฟ้าไปกินข้าวได้แระ --"
-
พี่คิว ป๋ามากอ่ะ 5555
ส่วนอาฟ้าจะยอมไปกินข้าวกะจักรง่ายๆหรอ
:z10: :z10:
-
ป๋าคิวสุดยอดจริงๆ ลงทุนสุดๆเลยนะเนี่ย ถ้าเค้กรู่ว่าพี่คิวซื้อบ้านให้ต้องโกรธแน่เลยอะ
ว่าแต่...พี่คิวจะให้น้องเค้กตอบแทนเป็นอะไรดีนะ หึหึ
อาฟ้าาาา เมื่อไหร่จะคืนดีกับทิกเกอ่ร์อ่าาา อย่าไปยุ่งกับจักรเลยนะ :serius2:
-
พี่คิวกวนได้ใจจริงๆจะซื้อของให้แฟนทั้งทีให้อาออกเงินให้อย่างนี้ไม่"ป๋า"นะ ฮิฮิ
เป็นห่วงอาฟ้าจัง ปัญหาชีวิตรักอิรุงตุงนังมากเลย กลัวมันจะกลายเป็นปมจนแก้ไม่ออกนี่ซิ
ปล.อาฟ้าจะทำยังไงให้คิวเดินแบบได้นะ อยากรู้จัง
-
โอ้ยยยยยยยยย ป๋าคิวสุดยอดอ่ะ
อาฟ้า จะเล่นกับไฟ ต้องเย็นกว่าน้ำแข็งนะตัวเอง >"<
บวกๆๆๆๆ
-
กระเป๋าให้เค้กแน่เลย o13
-
ป๋าคิวหล่ออีกแล้ว อิจฉาเค้ก :-[
-
พี่คิวป๋ามากๆ ซื้อของให้เคกหลายอย่างนะเนี่ย
ถ้าเค้กรู้ต้องทำตาโตแล้วโวยวายแน่ๆเลย 555
ทิกเกอร์ไปไหนเนี่ย ไม่ยอมมาเข้าฉาก
เค้าคิดถึงน้า ><
-
คิว หว๊านหวาน อิจฉานู๋เค้กเลยอ่ะ :-[ บ้านติดทะเลเลยนร้า
งี้นู๋เค้กก็ต้องพลีกาย ถวายใจให้พี่คิวสินะ :m20:
P.S. ความรุสึกมันให้ว่า "คิวเป็นพ่ออาฟ้า" จริงจริง :laugh:
-
เมื่อไหร่ จะถึง คิวเค้ก 5555 เตรียมสินสอดซะละ เอาใจช่วยค่า
-
รู้สึกไม่อยากให้อาฟ้านอนกับใครก็ได้ มันรู้สึกหวงแทนทิกเกอร์อ่ะ :serius2:
พี่คิวตั้งใจให้บ้านกับน้องเค้ก แสดงว่ามั่นใจแล้วใช่ป่ะว่าคนนี้คือคนที่พี่คิวยินดีที่จะมอบหัวใจให้ไป อร๊ายยย นึกแล้วเขินแทนน้องเค้กอ๊า~~ :o8:
แอบหวังให้พี่คิวยอมเดินแบบให้อาฟ้านะ คงจะหล่อ+เท่ห์ระเบิดเรยย :impress2:
-
"ไอ้คิว...ไอ้เวร" :m20: ฟ้าที่รัก นี่คือคำด่าที่เจ็บที่สุดแล้วใช่ป่ะ....
ป๋าคิว นี่ขนาดเพิ่งจะรักกันนะยังซื้อบ้านหลังเป็นสิบล้านให้ ถ้าได้เค้กเป็นเมียจะขนาดไหนเนี่ย แค่คิดก็อิจฉาเค้กแล้วอ่ะ
:pig4: :กอด1:
-
กรี๊ด!!! พี่คิวจะซื้อบ้านให้เค้กจริงๆด้วย
ป๋ามากกก 55555
พี่ฟ้าจะไปกินข้าวกับจักร.....
ว๊ากกก ขอทิกเกอร์มาฉุดพี่ฟ้าไปก่อน กร๊ากกกกก
-
โอ ป๋าคิวมาเอง มาครบ ทั้งบ้าน กระเป๋า นาฬีกา
ขาดแต่รถยนต์อย่างเดียว ไม่งั้นก็ครบเซ็ตพอดี
อาฟ้าจะมีแผนอะไรนะ
:กอด1:
-
พี่คิวน่ารักเวอร์ ทำไรคิดถึงเด้กตลอด ๆ :o8:
ทำไมมีแต่จักรที่มาทำคะแนนเนี่ยพ่อทิกเราไปไหน
:pig4: คะ
-
อร๊ายยยย พี่คิวน่ารักอ่ะ มีซื้อของให้เค้ก
แต่เค้กต้องไม่กล้ารับแน่เลย นึกออกเลย 55
รอลุ้นดูคิวเดินแบบ อิอิ
พี่ฟ้าก็ร้ายใช่เล่นนะเนี่ยยยย กร๊ากกกก
รออ่านตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณน้าเบบี้ ^-^
-
ทิกเกอร์ไปไหนเนี้ย :serius2:
เชียรทิกเกอร์น้า :z3:
คิวป๋ามากๆๆ :laugh:
-
ฮ่าๆๆๆ พี่คิวแอบซื้อของให้น้องเค้กเยอะเลย ไม่ค่อยหลงนะคะพี่ อาฟ้าก็น้าาาาา ไม่เคยจะชนะพี่คิวเลยให้ตายสิ ฮ่าๆๆๆ
-
เอาไงดีน้า เอาไงดีน้า อาฟ้ากำลังจะเล่นสนุกอะไรกันนิ :z2:
ว่าแต่ ว่าแต่ อิพี่คิวจะเดินแบบ OMG!!!
ปล. เขิลลลลลอ่าาาาา ซื้อบ้านให้น้องเค้ก พี่คิวจะแลกกับอารายยยยคร่าาาา :-[
-
เหมือนคิวจะน่ารักขึ้นแฮะ
-
พี่ิคิวให้ของแต่ละอย่าง ถ้าเค้กรู้คงไม่กล้ารับแน่ๆเลย :laugh:
-
กรี๊ดๆๆๆ..พี่คิวป๋าสุดๆ..หลงน้องเค้ก มากเลยสินะ คิคิ o13 o13
แบบนี้หนีไปไหนไม่รอดแล้ว..
ฮ่าๆ..คิดถึงน้องเค้กมากๆ.. :กอด1: :กอด1:
แต่อยากรู้ว่าพี่คิวจะแลกกับอะไร..คิคิ :impress2: :impress2:
อาฟ้า ก็น่ารักจริงๆเลย..แต่ไม่เคยชนะ(ฝีปาก) พี่คิวได้สักที :laugh: :laugh:
ฮ่าๆ..เดินแบบครั้งนี้..สงสัยต้องมีตัวประกัน..ถึงจะสำเร็จ o18 o18
-
:monkeysad: :monkeysad: อิจฉาาเค้ก พี่คิวทุ่มเทมากกก
แต่ไม่บอกอะดีแล้ววว เค้กต้องตกใจ ทำไรไม่ถูกแน่ๆๆ เค้กยิ่งขี้เกรงใจอยู่ด้วย
อาฟ้าคิดไรๆๆๆ จะแก้เผ็ดเล็กๆๆช่ายมะ แต่อย่าไปหลงอีกนะ เชียร์ทิกเกอร์อยู่ :impress2: :impress2:
-
พี่คิวน่ารัก ^^ :z2:
:L1: :pig4:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดด พี่คิวแย่งซีน
แต่น่ารักอะ แอบซื้อบ้านให้เค้กด้วย :-[
กรี๊ดดดด พี่ฟ้าาาาา หนุ่มรุมแย่งกันตรึม
จีบด้วยคนได้ไหม เค้าหลงรักพี่ฟ้าแล้วอะ :impress2:
-
เห็นด้วยครับ อยากอ่านเค้กกะคิว แบบหวานๆ
-
แหน่ะ!!! พี่คิวเอาใหญ่แล้วนะ
นึกหน้าน้องเค้กตอนรู้ราคาออกเลยจริงๆ
ว่าแต่จะแลกกับอะไรน้อออ :-[
ทิกเกอะพ่อเสือน้อยหายไปไหนน
อาฟ้าจะโดยเอาไปแล้วนะ :z2:
-
อยากอ่านตอนส่งมอบของจริงๆ :laugh: พี่คิวกับน้องเค้ก น่ารักดี
-
ป๋าคิวทุ่มไม่อั้นเพื่อนน้องเค้กอ่ะ
อิจฉาเค้กเลย ><
พี่ฟ้าบางทีก็แอบร้ายนะเนี่ย
ระวังจักรไว้นะค้า
-
เหมือนพี่คิวจะดูอบอุ่นขึ้นยังไงก็ไม่รู้ ถึงแม้จะดูแข็งๆแปลกๆ แต่ก็เป็นสไตล์ของพี่คิวอ่ะนะ ให้ความรู้สึกอ่อนโยนแต่แข็งกร้าว ทั้งบ้านที่จะยกให้เค้ก ทั้งกระเป๋าที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะซื้อให้ตัวเอง แล้วยังจะนาฬิกาอีก เหมือน....ตอนนี้เห็นอะไรพี่คิวก็...คงจะนึกถึงเค้กเป็นคนแรก ( หรือเปล่า.. เหอๆๆๆ / อันนี้รู้สึกส่วนตัวนิดหน่อย ) อานุภาพของความรักนี่มันรุนแรงจริงๆน้า... :กอด1:
ปล. อ่านตอนล่าสุดแล้วรู้สึก.... สงสารทิกเกอร์ :m15:
-
อ่านตอนของฟ้าอยู่แท้ๆ แต่ภาพในหัวมันจิ้น
ไปถึงเค้กคิวโน่นละอ่า ไม่ว่าจะเป็นบ้าน
กระเป๋า หรือนาฬิกา .. พาลอยากอ่านซีนหวานนั้นโดยบัดดล :laugh:
ขอบคุณเบบี้น๊า... รอฉากพี่คิว พี่เซ็นต์ เดินแบบ ^^
-
หืม พี่คิวแม่มป๋าว่ะ ดีใจแทนเค้ก มีแฟนใจดี แฟนรักแฟนหลงด้วย
อาฟ้าเสน่ห์แรงเป็นบ้า มีแต่คนรักคนหลง จะเลือกใครดีน้า
-
คิว หน้าตายจริงๆ :laugh:
อาฟ้าตอนนี้ก็ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไปละนะ
หลานคิวเป็นไม้แก่ดัดยากไปแล้ว :m20:
-
พี่คิวก็น่ารักนะ ซื้อของให้เคกตั้งเยอะแหน่ะ
บ้านด้วยหลังนึง อิอิ
-
:กอด1:
-
....คุณหลานคิว นี่ขวานผ่าซากดีจริงๆๆ หน้าแหกไปเลยคุณเทียน
....แต่คุณหลานคิว ซื้อของที่มไม่เหมาะกับตัวเองไปให้ใครน้าาาาาาาาาาา
....อ่านเวอร์ชั่นอาฟ้า มีความรู้สึกว่าหลานคิด ใส่ใจ เอาใจ ทุ่ม หนูเค๊กมากๆๆ :laugh:
-
ฮิ้วววววว. ป๋าคิวใจหล่อ. พ่อบุญทุ่มนะเนี่ยะ
ส่วนอาฟ้าน่ารักแท้หลาววว อาฟ้าของจิ๊บ อาฟ้าเสเพลน่ารัก กิ้ววววว
-
:pig4: :pig4:
-
ถ้าคิดว่า อาฟ้าน่ารัก จะผิดไหมค่ะนี่ ชอบนิสัยอาฟ้าจริงๆ
คิวเป็นพ่อบุญทุ่มจริงๆ ว่าแต่ชักอยากจะรู้ ว่าคิวจะขอให้เค้กทำอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน 555+
-
คู่อาฟ้าสนุกจัง ชอบๆ
-
~6~
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“นี่อะไรเหรอครับ” เค้กถามขึ้นระหว่างที่ผมกำลังยืนกินสตอเบอรี่ พานา คอตต้าอยู่ในเคาร์เตอร์ด้านหน้าห้องครัว ตอนนี้ลูกค้าไม่เยอะ มีเพียงโต๊ะสองโต๊ะเท่านั้น ทำให้ผมที่เป็นเจ้าของร้านสามารถทำตัวตามสบายอยู่แถวนี้ได้
“Strawberry Panna Cotta~” ผมดัดจริตตอบด้วยน้ำเนียงผู้ดีอังกฤษเต็มขั้น
“หึหึหึ” เค้กหัวเราะชอบใจที่ผมทำน้ำเสียงแบบนั้น
“กินไหมครับ มาพี่ป้อน” ผมบอกและตักเพื่อป้อนให้เค้กทานบ้าง เค้กพยักหน้าพร้อมกับอ้าปากรอทันที
“ป้อนกัสด้วย” กัสวิ่งมาจากไหนไม่ทราบ ตัวแทบจะกระโจนเข้ามาในด้านในเคาร์เตอร์
“พี่บอกว่าอย่าวิ่งในร้านไงครับ” ผมหันไปว่า ขมวดคิ้วดุอย่างห้ามปราม
“ง่ะ..ทีเค้กพี่ฟ้าไม่เห็นดุแบบนี้เลย เดี๋ยวนี้ว่าแต่กัสอ่ะ” กัสหน้างอทันที ผมยิ้มให้อย่างใจอ่อน
“ก็เค้กดื้อเป็นม้าดีดกะโหลกเหมือนเราซะเมื่อไหร่ล่ะ” หมีที่ยืนทำความสะอาด เช็ดจานชามอยู่ไม่ไกลนักว่าขึ้น
“เออ..ใช่ซิ” กัสสะบัดหน้าหนี ยืนกอดอกอย่างไม่พอใจ ถึงแม้ว่ากัสจะเป็นลูกที่พ่อกับแม่เคร่งครัดในเรื่องต่างๆ แต่กัสก็เป็นเด็กที่เอาแต่ใจมากพอสมควร ก็เป็นน้องเล็กสุดของบ้านนี่นะครับจะมีนิสัยดื้อรั้นบ้างคงไม่แปลก
“งั้นเอาไปกินเลยครับ” ผมยื่นถ้วยให้กัส กัสเหล่สายตามองมาก่อนจะรับถ้วยไปถือไว้กับตัว
“นี่เค้ก” ผมเรียก
“ครับ” เค้กยิ้ม เบิกตาโตพร้อมกับเลิกคิ้ว
“วันนี้คิวมันได้ให้อะไรเค้กรึเปล่า” ผมถามอย่างสอดรู้สอดเห็น เก็บความสงสัยที่มีมาตลอดทางที่ผมขับรถมาที่ร้านนี่
“ให้อะไร..” เค้กขมวดคิ้ว เอนหน้าไปอีกทางเหมือนต้องการใช้ความคิด
“ให้ครับ ให้ความกวนโมโหไง” เค้กทำหน้าทำตาเอือมระอาต่อบุคคลที่เอ่ยถึง
“หึหึ” ผมกับหมีหัวเราะ
“ไม่ใช่..พี่หมายถึงของน่ะ”
“ของ..อ๋อ ให้กระเป๋าครับ สวยมากเลย..เท่มากด้วย!” เค้กยิ้มกว้างด้วยท่าทางดีใจอย่างเต็มเปี่ยม ผมอมยิ้มให้ หมีมองหน้าผมอย่างเจ้าเล่ห์เหมือนรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นมาอย่างไรอย่างนั้น
“ว่าละ” ผมบ่นพึมพำ
“ทำไมเหรอฮะ” เค้กถามด้วยใบหน้าไร้มลทินใดๆ เป็นใบหน้าที่บริสุทธิ์เกินกว่าผมจะเล่นมุขให้มากความเพราะเค้กคงจะตามผมไม่ทัน ผมคิดว่าอย่างนั้น
“เปล่าครับ” ผมยิ้มและลูบหัวเค้กอย่างเบามือ
“งั้นเค้กเข้าครัวก่อนนะครับ”
“แหมะ” กัสแซวเค้กในทันที
“เปล่าฮะ ก็..” เค้กหน้าแดง แก้มแดงลามไปถึงหู อยู่ๆมันก็แดงมากจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าแดงเร็วขนาดนั้นได้ยังไง เค้กไม่พูดต่อกลอนอะไรอีกและเดินเข้าห้องครัวไปด้วยท่าทางเขินพวกเราอย่างเคย
“กัสก็อยากได้บ้างอ่ะ” กัสวางถ้วยลงบนโต๊ะ หน้างออย่างเรียกร้องความสนใจ
“เค้กไม่รู้ใช่ไหม ว่ากระเป๋าใบนั้นราคาเท่าไหร่” ผมถามขึ้น หมีหันตัวกลับมา
“แน่ล่ะ..รู้ก็คงจะโวยวายดังลั่นร้านไปแล้วละครับ ที่จริง..เมื่อเช้าก็โวยวายนะ” กัสหัวเราะ
“แล้วเค้กยอมรับง่ายๆได้ยังไง..ไม่น่าเป็นไปได้” ผมนึกสงสัย เพราะถึงเค้กจะไม่ได้ใช้ของราคาแพงเท่าไหร่ แต่เค้กก็น่าจะรู้จักยี่ห้อพวกนี้บ้าง อย่างน้อยก็น่าจะผ่านตามาบ้าง
“คุณเชฟคิวบอกว่า..ถ้าไม่เอา จะเอาไปทิ้งน่ะ..พูดเสร็จก็ทำท่าจะทิ้งลงถังขยะจริงๆ เค้กเลยเข้าไปคว้าไว้ได้ทัน..บอสก็รู้ เชฟกล้าทำ ส่วนเค้กก็หลอกง่ายจะตาย” หมีเบะปาก พูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
“ที่จริงตอนแรกพี่คิวบอกว่า ของมือสองน่ะ..แต่เค้กไม่เชื่อ กัสจำได้..นั่นมันคอเล็กชั่นใหม่เลยไม่ใช่เหรอฮะ” กัสทำหน้าบูดอย่างกับอิจฉาเค้กก็ไม่ปาน
“อืม” ผมพยักหน้า
“หึ..” ผมหัวเราะอย่างนึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออก
“เฮ้อ กัสอยากมีแฟนรวยๆแบบนี้บ้างอ่ะ” กัสกอดอก ทำสีหน้าเบื่อโลกขึ้นมาทันที
“พี่ยังรวยไม่พออีกเหรอ” หมีแซว พร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาให้ ผมเริ่มไม่มั่นใจระหว่างสถานะของทั้งสองคนนี้มาได้สักพักแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้ อาจจะสนิทสนมกันมากสักหน่อย แต่ผมยังจับไม่ได้ว่ามีอะไรเกินเลยไปรึเปล่า หรือบางทีช่วงนี้ผมอาจจะวุ่นอยู่กับเรื่องของตนเองมากไปหน่อยจนลืมสังเกตน้องๆไปก็เป็นได้
“แหวะ” ผมทำหน้าแขยงใส่หมี
“ยังไม่พอ” กัสต่อปากต่อคำ
“หึ..แย่จริง งั้นกัสคงต้องไปหาใหม่แล้วล่ะ” หมีพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์
“ยังไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย ขี้ตู่ว่ะไอ้หมี” ผมพูดแกมหัวเราะ
“นั่นดิ..ก็เรามันตัวสำรองคนหนึ่ง” หมีร้องเพลงและหัวเราะอย่างพอใจกับคำร้องของตัวเองอย่างนั้น
“เฮ้อ อะไรของพวกพี่เนี้ย” กัสเบือนหน้าเหมือนรับไม่ได้กับความจริงที่หมีและผมพูดอยู่
“งั้นพี่กลับก่อนดีกว่า มีนัดน่ะ” ผมบอกก่อนจะก้มลงหอมแก้มกัส กัสยิ้มและรีบหอมแก้มผมตอบทันควัน
“ฝากด้วยนะคุณหมี” ผมสั่งเสีย
“เชิญไปดีเถอะครับคุณบอส” หมีตอบ น้ำเสียงเรียบแต่คำพูดคำจาฟังดูประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด ผมหัวเราะตอบก่อนจะเข้าไปเก็บของในห้องทำงานและเดินออกมาทางด้านหลังร้าน
“ฟ้า” ผมชะงักในทันทีที่เห็นว่าทิกเกอร์ยืนอยู่ที่หลังร้านตรงด้านลานจอดรถ ทิกเกอร์ยิ้มกว้างให้ เป็นรอยยิ้มที่ดูเปี่ยมไปด้วยความดีใจ เหมือนกับดีใจที่ได้เห็นหน้าผมอย่างนั้น ยังคงเป็นรอยยิ้ม..ที่ดูคุ้นตาเสมอ
“ฟ้าครับ คือ..เอ่อ จะไปไหน” ทิกเกอร์เดินมาต้อนหน้าต้อนหลังผม ทำให้ผมไม่สามารถเดินไปทางไหนได้สะดวกนัก ผมไม่อยากจะเงยหน้าขึ้นมองทิกเกอร์บ่อยๆ ผมเพียงแค่ไม่อยากจ้องหน้าของเขานานๆก็เท่านั้น
“ถอยไป” ผมถอนหายใจ
“ไม่”
“ทิกเกอร์” ผมย้ำเสียง ทำเอาทิกเกอร์หน้าหงอยไปขณะหนึ่ง
“ไป..ไปทานข้าวเย็นกับผมนะ” ทิกเกอร์ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“โทษที ผมมีนัดแล้ว” ผมตอบ
“.....................” ทิกเกอร์เงียบลงในทันที ผมหยุดยืนนิ่ง ทิกเกอร์เองก็ด้วย แต่แขนของเขายังคนชูขึ้นเพื่อกั้นผมไว้เหมือนไม่ยอมให้ผมไปทางไหนได้
“กับใครเหรอครับ” อีกฝ่ายถามเสียงเบา
“แฟนเก่า” ผมตอบส่งๆ
“ผู้ชายคนเมื่อวานนี้เหรอ ไม่นะ” ทิกเกอร์ขึ้นเสียง ผมถอนหายใจก่อนจะเดินหนี ทิกเกอร์รีบเดินตามผมมา ผมผลักอกทิกเกอร์ไปอย่างแรงเพื่อที่จะให้เขาหยุดการกระทำนี้สักที แต่เจ้าตัวกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ นั่นคงเพราะตัวใหญ่เป็นทุนอยู่แล้ว
“ฟ้า..ไม่นะครับ”
“ป..ปล่อยนะทิกเกอร์” ผมปัดแขนทิกเกอร์ออกด้วยทิกเกอร์นั้นเข้ามากอดผม ทิกเกอร์ไม่ฟังเสียง เขาเริ่มกอดผมแรงมากขึ้น ดูเหมือนครั้งนี้จะเป็นการง้อที่ไม่ฟังความอะไรเลย ซึ่งค่อนข้างแปลกไปจากทุกครั้ง ตั้งแต่ทิกเกอร์มาตามตื๊อง้อผมที่นี่ ทิกเกอร์ยังไม่เคยแม้แต่จะถูกเนื้อต้องตัวผมเลยสักครั้งเดียว ผมถือว่าเขา..มีความอดทนสูงมากคนหนึ่งเลยล่ะ
“ไม่ ผมไม่ให้คุณไปหรอก” ทิกเกอร์พูดพร่ำพร้อมกับกอดตัวผมเข้าไปทั้งตัว ผมดิ้นเพียงเล็กน้อยสุดท้ายก็ต้องยอมยืนนิ่งเฉย เพราะผมรู้ตัวว่าผมสู้แรงของทิกเกอร์ไม่ไหว ถ้าผมยังคงดึงดันที่จะต่อสู้ ผมเองนั่นแหละที่จะหมดแรงเองอย่างเปล่าประโยชน์
“ไม่ให้ไป อย่าไปเลยนะครับ” ทิกเกอร์พูดอยู่อย่างนี้และกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม น้ำเสียงอ้อนวอนจนทำให้ผมแทบไม่อยากได้ยิน
“เจ็บนะ หายใจไม่ออกด้วย” ผมว่า รู้สึกตนเองนั้นหายใจไม่สะดวกขึ้นมา
“ข..ผมขอโทษ” ทิกเกอร์รีบคลายอ้อมกอดลงเล็กน้อยแต่ยังคงไม่ปล่อยผมอยู่ดี
“พี่กัสครับ เค้กไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย”
“พี่ว่าอะไรรึยังล่ะ เค้กร้อนตัว..เอ๊ะ!” ผมชะงัก เสียงของเค้กและกัสเงียบลงในทันที ผมหันไปมองเด็กทั้งสองคนที่ยืนมองผมกับทิกเกอร์ ทั้งกัสและเค้กเบิกตาโพรงด้วยความตกตะลึงและยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น
“ขอโทษครับ เรา..เราไม่เห็นอะไรเลย ไม่เห็นๆ” กัสรีบปิดตาตัวเอง
“พี่กัส..ไปเร็วครับ ขอตัวนะครับ” เค้กที่ดูมีสติกว่าเพื่อนยิ้มแหยพร้อมกับจับข้อมือของกัสไป ทั้งสองคนวิ่งออกจากร้านไปพร้อมกัน
“จิ้..เฮ้อ ทิกเกอร์” ผมถอนหายใจเพราะไอ้ฝรั่งบ้านี่ยังยืนกอดผมแน่นอย่างไม่รู้ฟ้ารู้ดิน ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าทิกเกอร์เองก็หน้าด้านหน้าทนเป็นกับเขาเหมือนกัน
“ไม่ให้ไป” ทิกเกอร์ยังคงย้ำคำเดิม
“คุณไม่มีสิทธิ์มาห้ามผม ปล่อย” ผมขึ้นเสียงพร้อมกับทำตาขวางใส่อีกฝ่าย ผมเริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เพราะผมไม่ชอบให้ใครมาบังคับและทำตัวเหมือนกับว่าตนเองนั้นอยู่เหนือกว่าผมในขณะที่ผมยังไม่เปิดรับให้อย่างเต็มหัวใจ
“ผมบอกว่าไม่ให้ไปไง” ทิกเกอร์พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจบ้างเช่นกัน
“ปล่อย..ทิกเกอร์ทำบ้าอะไรน่ะ” ผมปัดมือของทิกเกอร์ที่พยายามจะจับหน้าของผมเพื่อเขาจะก้มลงมาจูบผมออก ทิกเกอร์ไม่ฟังเสียงและออกแรงมากขึ้นกว่าเก่าจนผมรู้สึกเจ็บขึ้นมา
“ปล่อย อื้อออ..”
“โอ๊ย!” ทิกเกอร์ร้องและปล่อยผมออกในที่สุด ทิกเกอร์จับปากของตัวเองที่เพิ่งโดนผมกัดเข้าให้เต็มแรง ทิกเกอร์หน้าเสีย หูของเขาแดงอย่างเห็นได้ชัด
เพี้ย !!
ผมฟาดมือเข้าที่หน้าทิกเกอร์อย่างเต็มแรง นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมเรียกสติโดยการลงไม้ลงมือกับเขา ทิกเกอร์ไม่โต้ตอบใดๆ ได้แต่เพียงยืนนิ่ง เขาละมือจากที่จับปากของตนเองมาจับหน้าของตัวเองไว้
“ถ้าไม่ฟังกัน ก็ช่วยอดทน..แต่ถ้าอดทนไม่ได้ ก็กลับบ้านคุณไปซะ” ผมกัดฟันว่าอย่างข่มอารมณ์
“แล้วผมต้องอดทนถึงเมื่อไหร่” ทิกเกอร์ย้อนด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ไม่รู้” ผมหันหน้ามองไปทางอื่น ทิกเกอร์เงียบไป
“ผมไม่ได้บอกให้คุณอดทน คุณมาของคุณเอง..คุณต้องการอดทนของคุณเอง” ผมพูด
“แล้วถ้าผมไม่อดทนล่ะ” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบขรึมขึ้นมา ผมรู้ในทันทีว่าที่ทิกเกอร์พูดอย่างนั้นนั่นหมายความว่าอย่างไร
“ตอบง่ายนิดเดียว..เราก็จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีก” ผมหันกลับมามองหน้าทิกเกอร์ เป็นการตอบด้วยน้ำเสียงเรียบแต่เด็ดขาดต่อความนึกคิดของอีกฝ่าย
“.....................” ทิกเกอร์หลบสายตาผม เราเงียบ ต่างฝ่ายต่างไม่มองหน้ากัน
“ทำไมล่ะฟ้า ผมสำนึกผิดทุกอย่าง..ผมกับแอนนาเลิกกันแล้ว เราไม่ได้รักกันแล้ว ผม..ไม่มีคุณไม่ได้” ทิกเกอร์พูด ผมกดเปิดรถเพราะรู้ตัวว่าไม่สามารถทนฟังได้อีก ผมรู้ว่าตอนนี้ทิกเกอร์คงจะเป็นอย่างที่ตนเองอธิบาย แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะฟังเรื่องราวที่cผ่านมาทั้งหมด เพียงแค่เรื่องราวนิดเดียวที่ผมทราบ หัวใจของผมก็สุดจะต้านทานไว้ได้ เท่านี้ผมก็ต้องต่อสู้กับตัวเองมากพอแล้ว ถึงแม้จะฟังทิกเกอร์พูดพร่ำอะไรก็ตาม มันก็คงไม่ได้ช่วยให้อาการของผมนั้นดีขึ้น สุดท้ายแล้วผมยังไม่พร้อมที่จะเริ่มก้าวไปข้างหน้า ผมยังไม่พร้อมที่จะขยับขาก้าวเดินออกไป..ไม่ว่ากับใครหน้าไหนทั้งนั้น
หลายคนที่ได้ประสบเจอเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิต มักจะพูดบอกคนอื่นเสมอว่า “ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง” น่าแปลกที่ผมฟังทีไรแล้วรู้สึกนั่นเป็นประโยคที่ดูเห็นแก่ตัว แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยคิดแบบพวกเขาหรอกนะ แต่ประโยคแบบนั้นไร้ความหมายสำหรับผมมานานมากแล้ว จำได้เพียงตั้งแต่ผมเจ็บปวดกับความรักครั้งที่สอง ความนึกคิดในตัวผมบางอย่างนั้นเปลี่ยนไป ไม่ว่าผมจะดำเนินชีวิตของตนเองอย่างไร ผมจะคอยคิดคำนวณหาสาเหตุ หาคำตอบ บวก ลบ คูณ หารอยู่ทุกขณะ ประโยคที่ผุดขึ้นมาเสมอกลับเป็นประโยคที่ว่า “ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเราล่ะ ถ้าเป็นเรา..เราจะแก้ไขมันยังไง” บางทีผมคงคิดวกกลับไปกลับมาจนบางคนอาจจะเห็นว่าผมนั้นประสาทไปแล้ว แต่คำพูดของคนอื่นหรือ จะสู้ได้กับสิ่งที่เราพบเจอ
“ขอโทษด้วย” ผมพูดและเดินหนีออกมาขึ้นรถ ทิกเกอร์ไม่ได้วิ่งตามมาทุบกระจกรถเหมือนพระเอกในละครน้ำเน่า เขายังคงยืนนิ่งและก้มหน้ามองพื้น ไม่เป็นไรถ้าเขาจะผิดหวังกับตัวของผมในตอนนี้ ไม่เป็นไรถ้าเขาจะไม่ตอแยผมต่ออีก ไม่เป็นไรถ้าเขาจะเดินจากไปเสีย ให้เขาเดินจากไปตอนนี้ล่ะดีแล้ว ผมไม่เป็นไรหรอก..จริงๆนะ
= = = = = = = =
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“คุณฟ้าคะ มีคนมาขอพบคุณ ป้าเชิญให้เค้าเข้ามารอในบ้านแล้ว แต่เค้าบอกว่าขอรออยู่ที่หน้าบ้าน ตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วน่ะค่ะ” ป้านิดวิ่งมาบอกผมทันทีที่ผมก้าวขาลงจากรถ สีหน้าของป้าดูเป็นห่วงเป็นใยเช่นทุกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” ผมยิ้มบอก
“ค่ะ” ป้านิดก้มหัวให้และยืนอยู่ไม่ห่าง
“คืนนี้ฟ้าคงไม่กลับบ้านนะครับ ถ้าคิวถามก็ฝากบอกด้วยว่าฟ้าออกไปกับเอเจ” ผมสั่ง เป็นคำสั่งที่ควรโกหกซะให้เรียบร้อย
“ค่ะ” ป้านิดพยักหน้ารับ ผมเห็นจักรออกมายืนมองผมที่หน้าบ้าน ผมเดินตรงไปหาจักรที่ยืนยิ้มกว้างรอรับผมอยู่
“หวัดดีครับ” จักรยังคงยิ้ม ผมยักไหล่อย่างเฉยเมย ผมมองสำรวจรถของจักรและมองสำรวจจักรตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่แสดงให้จักรเห็นไปเลยว่าผมนั้นตั้งใจจะมองแบบนั้นจริงๆ จักรอมยิ้มเล็กน้อย
“รถสวยนะ” ผมเบะปากชม
“ขอบคุณ” จักรตอบแกมหัวเราะ
“แอสตันมาร์ติน..ไม่เบาเหมือนกันนี่” ผมทำหน้ากวนใส่
“ราคาคงเทียบไม่ได้กับสปอร์ตจากัวร์คันนั้นของฟ้าหรอกมั้ง” จักรมองเข้าในบ้านเพียงแวบหนึ่ง น้ำเสียงพูดเหมือนชมเปราะ
“ทิกเกอร์ซื้อให้น่ะ” ผมยักไหล่ ตั้งใจพูดไปอย่างนั้นเพื่อต้องการแดกดันจักร ผมไม่รู้ว่าจักรรู้หรือเปล่าว่าชาวต่างชาติที่เจอเมื่อวันก่อนนั้นคือทิกเกอร์ นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะประเด็นคือผมคิดว่าจักรคงจะสามารถรับรู้ได้ว่า ชื่อที่ว่าไปนั้นคือผู้ชายหนึ่งในคนที่ผมคบหาด้วย ผมอยากให้จักรรู้เท่านั้นพอ
“..เหรอ” จักรหน้าเสีย ถึงแม้ว่าครอบครัวของจักรจะค่อนข้างมีฐานะ ทั้งพ่อและแม่ถึงแม้จะเป็นไฮโซที่มีชื่อเสียงดังมากพอสมควร แต่ถ้าต้องเทียบฐานะระหว่างทิกเกอร์กับจักรแล้ว จักรเทียบได้เพียงแค่ปลายแถวเท่านั้น
“ไปกันรึยังล่ะ” ผมตัดบท
“ค..ครับ” จักรยิ้มกว้างและพยักหน้าตอบในทันที จักรรีบกุลีกุจอไปเปิดประตูรถให้ผม เมื่อผมขึ้นมานั่งในรถ ด้านในยังคงเป็นระเบียบอย่างกับเพิ่งออกมาจากโชว์รูม เพราะไม่มีของอะไรเลยที่มาทำให้ภายในรถเกะกะหรือหม่นหมองลดระดับยี่ห้อของรถลงไป ความจริง..จักรเป็นคนที่เจ้าระเบียบมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ไปไหนล่ะ” ผมถามขึ้นหลังจากที่รถแล่นออกมาจากหน้าบ้านได้เกือบสิบห้านาที จักรไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรทำให้ผมที่เอาแต่นั่งนึกสงสัยนั้นอดไม่ได้จึงต้องถามออกไปก่อน
“ไม่บอก” จักรตอบด้วยใบหน้าปนร้อยยิ้มเล็กน้อย
“ก็ไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่หรอก” ผมย้อนกลับ
“หึ..” จักรหัวเราะในลำคอ ผมเงียบและหันหน้ามองออกไปด้านนอกแทนที่จะต่อปากต่อคำ
“คิดถึงฟ้านะ” จักรพูดขึ้น ภายในรถเงียบมากทำให้น้ำเสียงจริงจังนั้นได้ยินชัดแจ๋วทีเดียว ผมยังคงนั่งนิ่งเงียบและไม่หันกลับไปมองหน้าจักร
“ไม่ว่าใครก็ไม่เหมือนฟ้า” จักรพูด น้ำเสียงของจักรเปลี่ยนไปนิดหน่อย อาจจะทุ้มต่ำมากกว่าแต่ก่อน
“หึ..คิดว่าผมจะดีใจกับคำพูดเน่าๆของคุณรึไง” ผมแสยะหัวเราะอย่างขอผ่านไปที
“เปล่า จักรไม่ได้จะโยงเข้าเรื่องอดีต..ใช่ มันเหมือนแก้ตัว ก็อยากแก้ตัวจริงๆนี่” จักรว่า
“ตรงดีนี่ ตรงกว่าแต่ก่อนเยอะเลย..หึ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันกลับ
“อย่างน้อย จักรถือว่าฟ้ายังเก็บจักรไว้ในความทรงจำละนะ”
“ความทรงจำอันแสนบัดซบ” ผมบ่นพึมพำให้อีกฝ่าย
“ปากร้ายจังเลยนะครับ” จักรบ่นแกมหัวเราะและไม่ได้ต่อกรใดๆอีก เราหยุดการสนทนากันเพียงเท่านั้น จักรเริ่มขับไปตามทางที่ผมคุ้นเคยและพอจะเดาได้ว่าจักรจะพาผมไปที่ไหน และก็เป็นอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้จริงๆ
ณ ร้านอาหาร Blooming..
“พามาที่นี่ทำไม” ผมถามขึ้นหลังจากที่เราทั้งสองคนสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“เพราะฟ้าชอบไอศกรีมอิตาเลียนร้านนี้” จักรตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ผมเชิดหน้าไปอีกทางอย่างไม่อยากยอมรับกับความจริงที่จักรพูด ร้านนี้จักรและผมมักจะมากันบ่อยๆตอนสมัยที่เราเรียนมหาลัย
“เหรอ..จำไม่ได้ว่าชอบ” ผมเบะปาก
“ชอบมากเลยล่ะ” จักรพูดพร้อมกับอมยิ้มจ้องหน้าผมตาไม่กะพริบ ผมกลอกตาไปมาอย่างหยอกล้อสายตาคู่นั้นกลับ
“ฟ้าสบายดีใช่ไหม”
“เอาตอนไหนล่ะ เมื่อสิบปีก่อนหลังจากนั้น..หรือตอนนี้” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย มือเท้าใบหน้าของตัวเองและมองหน้าจักรตอบอย่างกับกำลังพูดแลกเปลี่ยนเรื่องที่สบายอกสบายใจกันอยู่
“สิบปีก่อน” จักรตอบด้วยสีหน้าจริงจัง ผมเหลือกสายตาหนีเมื่อต้องเจอกับสายตาคู่นั้น
“ไม่แย่เท่าไหร่ ไม่ถึงขั้นตาย..ผู้ชายเฮงซวยเยอะแยะไป ผมจะเป็นคนหนึ่งที่ได้เจอรึก็ไม่แปลก” ผมตอบ มีน้ำเสียงปนหัวเราะผสมด้วยเล็กน้อยเพื่อไม่ให้บรรยากาศนั้นเครียดเกินไป
“ประเด็นคือยังได้กลับมาเจออีกครั้งนี่สิ ชีวิตผมสงสัยคงเข้าขั้นบัดซบเลยว่าไหม” ผมหันกลับมาสบตากับจักรอีกครั้ง
“อาจจะไม่เสมอไปก็ได้” จักรยักไหล่ เบะปากให้ด้วยท่าทางมั่นใจ
“มั่นใจตัวเองเหลือเกินนะ” ผมแสยะยิ้ม
“ก็แค่ อยากขอโทษ”
“.....................” เราทั้งสองเงียบลง สิ้นประโยคนั้นพนักงานนำน้ำมาเสิร์ฟให้พอดี เราทั้งสองต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันจนพนักงานเสิร์ฟน้ำเสร็จและเดินจากไป
“งั้น..บอกมาสิ” ผมพูดขึ้นก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบเพียงนิดเดียว ผมทิ้งเสียงลงไปครู่หนึ่งก่อนจะวางแก้วน้ำลงที่เดิม
“หลังจากนั้นนอนกับผู้ชายมากี่คนแล้ว..” ผมถามด้วยสีหน้าและท่าทางที่จริงจังเพื่อต้องการบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่า..ไม่ว่าคุณจะพ่นอะไรออกมา ผมอยากรับรู้เพียงความจริงเท่านั้น
“หึ..หึหึ” จักรหัวเราะในทันที เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ ผมเลิกคิ้วเป็นการย้ำบอกให้เขาพูดได้แล้ว
“ประมาณ เอ่อ..สิบกว่าคน มั้ง” จักรยักไหล่เล็กน้อย ท่าทางไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นัก
“เยอะเกินคาดแฮะ แล้ว..ใช้ถุงยางทุกครั้งรึเปล่า” ผมถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ
“ทุกครั้ง” จักรตอบแทบจะทันที
“ตรวจเลือดล่าสุดเมื่อไหร่” ผมถามอีก
“สองปีที่แล้ว” จักรตอบพร้อมกับอมยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“แล้ว..ในสิบกว่าคนที่ว่า เคยคบกับใครเป็นแฟนรึเปล่า” ผมทำไม้ทำมือประกอบการพูด
“ก็มีบ้าง สองสามคน..” จักรตอบเร็วและแลดูมั่นใจตัวเองมากอย่างไม่น่าเชื่อ
“แล้วแฟนผู้หญิงล่ะ” ผมถาม
“ไม่เคย” จักรพูดก่อนจะทิ้งน้ำเสียงลง
“ที่จริง เอ่อ”
“..ไม่เคยเลยหลังจากคนนั้น” จักรเสริมบอกพร้อมกับสายตาที่พุ่งตรงมาที่ผม สายตาที่มองผมเหมือนแทบจะทะลุผ่านตัวผมไปได้ ผมรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อตนเอง ผมพยักหน้าให้จักรเป็นการบอกว่าผมยังคงรับฟังที่เขาพูดอยู่และอนุญาตให้เขาพูดต่อได้
“อาจจะนอนด้วยกัน แต่ไม่มีอะไรเกินกว่านั้น..ไม่ใช่ เอ่อ..ไม่ใช่ไม่อยากคบ แต่แค่รู้สึกว่ายังไม่ใช่” จักรอธิบาย
“มันก็แค่คำพูดจากปากผู้ชายที่เคยทำพลาดละนะ” ผมเบะปากและเท้าแขนลงบนโต๊ะ
“กล้าคบกับผู้ชายที่นอนด้วยได้ แต่ไม่กล้าคบกับผู้หญิง..แสดงว่ายังกลัวที่จะจริงจังสินะ หึ..แล้วอย่างนี้ อะไรไม่ทราบที่คุณต้องการจากผม” ผมถามด้วยสายตาดุดันกลับ ผมไม่ได้โมโหเขานะครับ ผมเพียงอยากจะตอกย้ำจักรเท่านั้น อยากรู้ว่าถ้าผมกดดันเขาไปอย่างนี้แล้ว จักรจะแก้สถานการณ์อย่างไร
“ก็บอกอยู่นี่ไง..ว่ารู้สึกว่า ไม่ใช่” จักรพูดด้วยท่าทีไม่มั่นใจขึ้นมา
“แล้วจะมาใช่กับผมนี่นะ หรือแค่อยากแน่ใจ..ว่าจะใช่รึเปล่า ถ้าไม่ใช่ก็ถีบหัวส่งผมอีก” ผมอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยน้ำเสียงแดกดันตอกกลับไป
“ฟ้าครับ” จักรถอนหายใจเล็กน้อย
“โอเค้” ผมขึ้นเสียงสูง ผายมืออย่างต้องการปิดบทสนทนาลงด้วยตนเอง พอเท่านี้เสียดีกว่า เดี๋ยวจะพาลทานข้าวไม่ลงเสียเปล่าๆ
“ฟ้านี่ ประชดประชันเก่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่นะ” จักรหัวเราะ
“แล้วฟ้าล่ะ..” จักรถามกลับ เขาเท้าข้อศอกลงบนโต๊ะและจับจ้องมาที่ผม
“คุณไม่มีสิทธิ์ถามผม” ผมดักทางไว้ก่อน
“โอเค..” จักรพยักหน้า ยิ้มเล็กน้อย
“แล้ว..คุณคิดว่า คุณจะได้มีเซ็กส์กับผมอีกเมื่อไหร่” ผมถามพร้อมกับส่งสายตาจ้องมองไปที่จักรอย่างไม่กะพริบ
“ลองใจเหรอ” จักรย้อนถามเหมือนต้องการหยั่งเชิงบ้าง
“คงงั้นมั้ง” ผมเบะปาก ยักไหล่ตอบอย่างส่งๆ
“ที่จริง..ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะทำซะเดี๋ยวนี้” จักรตอบด้วยสายตาเจ้าชู้อย่างที่เคยมองผมแต่ก่อน แต่สถานการณ์นี้นั้นเปลี่ยนไป แต่ก่อนถึงแม้ว่าจะเป็นการมองอย่างวาบหวามแต่นั่นเป็นการทำกันในรูปแบบของคนรัก คู่รักที่กำลังมอบความรักและการหยอกเย้าให้แก่กัน แต่ครั้งนี้นั้นไม่เหมือนกัน นี่เหมือนการได้พบกันใหม่อีกครั้ง มันคล้ายกับว่าเรากำลังจะได้เรียนรู้ผู้ชายคนใหม่ที่เรานั้นไม่เคยเจอมาก่อน เนื่องจากเวลาที่ผ่านไปนานหลายปี ทำให้ต่างคนนั้นต่างโตขึ้น นิสัยใจคอต่างเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผมเองก็ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น..สายตาเจ้าชู้ของจักรที่เหมือนอยากลองดีกันแบบนี้ ความรู้สึกที่รับรู้ของผมในตอนนี้จึงแตกต่างออกไป มันไม่ได้รู้สึกอยากหยอกเย้าตอกกลับไปอย่างเคยอีก
“ฝันอยู่งั้นเหรอ” ผมตอบปัดไปอย่างนั้นเอง ทั้งทั้งที่ลึกๆแล้วอาจจะมีอาการเขินเล็กน้อยด้วยเช่นกัน แต่ก็นั่นแหละ ผมกำลังเก็บซ่อนอาการทั้งหมดของตัวเองให้อยู่หมัด
“หึ..จะเก็บไปฝันก็แล้วกันนะ” จักรยิ้มกว้างตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สาที่ผมประชดประชันไปแบบนั้น แถมยังจ้องมองผมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์อย่างไม่วางตาอีก ผมสบตาจักรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหลบสายตา ไม่ใช่เพราะเขินอะไรมากมายนัก แต่เพียงแค่ต้องการใช้ความคิดต่อนิดหน่อยเท่านั้น
“ขออนุญาตเสิร์ฟอาหารค่ะ” พนักงานยิ้มกว้างพร้อมกับวางจานอาหารลงตรงหน้าเราสองคน มีอาหารนำมาเสิร์ฟก่อนสองอย่าง ผมกับจักรยังคงนิ่งจนพนักงานเสิร์ฟเดินไป
“จักรตักให้นะ” จักรรีบตักอาหารมาให้ผม ผมปล่อยให้จักรบริการ ที่จริงแล้วจักรเป็นคนชอบบริการแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้ว่าจักรจะเป็นคนเอาใจคนอื่นเก่ง เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งแต่จักรก็ไม่ได้ทำแบบนี้กับใครทุกคน เขาจะเลือกบริการเฉพาะคนสนิท ถ้าใครที่ดูเหมือนต้องการผลประโยชน์จากเขา จักรจะไม่เคยเดินเข้าหาก่อนเลย เขาจะเว้นระยะห่างเสมอ ตรงจุดนี้ละมังครับที่คงเป็นข้อเสียของจักรอีกอย่างหนึ่ง เขาคงเจ้าชู้และเห็นแก่ตัวไปเสียหน่อย
“จักร..” ผมพูดขึ้นแต่ไม่ได้มองหน้าจักร ผมเพ่งสายตาไปที่อาหารบนจานของผมที่จักรตักไว้ให้อย่างพอดีคำ
“จักรคิดอะไรอยู่ฟ้าไม่รู้หรอกนะ” ผมพูดบอก จักรชะงักไป ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าจักรก่อนจะยิ้มให้
“แต่ถ้าจักรจะคาดหวัง ก็อย่างที่บอก..” จักรเอาแต่เงียบ สบตาผมไม่กะพริบ
“ฟ้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว แล้วถ้าจักรอยากจะลอง..ไม่ว่าจะเพราะสาเหตุอะไรก็ตาม ฟ้าจะไม่ห้าม” ผมย้ำเสียงด้วยความหนักแน่น
“แต่จักรอย่าลืมนะ จักรต้องอย่าลืม..ว่าฟ้าเคยเจ็บปวดแค่ไหน”
“หลังจากนี้ ถ้าจักรจะหายตัวไปเลยอย่างเงียบๆ..ฟ้าก็จะไม่ว่าอะไรทั้งนั้น จักรมีสิทธิ์ ฟ้ามีสิทธิ์” ผมบอก ตาจ้องเขม็งเหมือนต้องการบอกให้จักรรู้ว่าผมสามารถทำได้ทุกอย่างถ้าเขาจะทำร้ายจิตใจของผมอีก
“แต่ถ้าจักรยังจะดื้อดึง จักรก็ต้องยอมรับผลที่จะได้รับด้วย”
“นะครับ” ผมจบบทพูดลงอย่างห้วนๆ อย่างกับเตรียมบทไว้เพื่อมาพูดเพียงเท่านี้ ผมเห็นจักรกลืนน้ำลายลงคอ ที่เห็นอย่างชัดเจนคงเพราะร้านอาหารเงียบเกินไป เกินกว่าผมจะหันไปสังเกตสิ่งอื่นได้ หรือเพราะจักรอาจจะรู้สึกกดดันกับคำพูดของผมก็แล้วแต่ ผมเพียงต้องการบอกว่าผมไม่ใช่ฟ้าที่อ่อนต่อโลกคนเดิมอีกแล้ว ไม่ใช่สิครับ..ผมไม่ใช่ฟ้าที่จะคิดว่าบนโลกนี้มีรักแท้อย่างที่เคยเป็นได้อีก
ตอนนี้ผมมีทุกสิ่งทุกอย่าง ผมมีบ้านที่ผมใฝ่ฝัน ผมมีรถสุดรักสุดหวง ผมมีคนใช้ที่จงรักภักดีต่อผม ผมมีน้องๆในที่ทำงานที่น่ารักและขยันขันแข็ง ผมมีแม่ที่ยังคงยืนหยัดอยู่เคียงข้างผม ผมมีเพื่อนที่คอยย้ำเตือนสติผมอยู่ทุกเมื่อ ผมมีหลานที่ผมรักมากที่สุด ผมมีเงินทองและทรัพย์สินมากมาย รวมไปถึงอำนาจที่จะทำอะไรก็ได้ตามแต่ผมต้องการ ผมไม่ใช่คนงี่เง่าที่จะเคียดแค้นใครไม่เลือกหน้าแต่นั่นไม่ใช่ว่าผมจะยอมอ่อนข้อให้อีก ไม่ว่าจักรจะมาดีหรือมาเพราะนึกสนุก ผมหมายถึงผมจะแก้แค้นไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ผมได้แต่ภาวนาอย่าให้เขามาทำร้ายผม ไม่ว่าเขาจะประสงค์อยากกลับมาคบกับผมอย่างแท้จริง หรือเพราะว่าต้องการเพียงแค่เอาชนะผมก็ตาม..
.................>>>><<<<..................
-
สงสารทิกเกอร์นะ
-
โอยยยย เค้ารักอาฟ้ามากกว่าคิวจะผิดมั้ยน้าาาาาาา ^^
-
กำแพงของอาฟ้าสูงลิบ ใครจะพังกำแพงนั้นลงมาได้กันนะ
-
จักรหวังมรดกฟ้าหรือเปล่า :z6:
แต่ยังไงก็ลุ้นทิกเกอร์จะคืนดีกับพี่ฟ้า :กอด1:
ติดตามจ้าา :bye2:
-
สงสารทิกเกอร์อ่ะตอนนี้และก้อยากรู้เรื่องในอดีตของพี่ฟ้าด้วย
รู้สึกว่าพี่ฟ้าเป็นคนอ่อนไหวง่ายมากเลย
ถ้าทิกเกอร์ไม่อยู่จริงๆ จะไม่เป็นไรจริงๆหรอ
เฮ้ออออ อ่านแล้วก้อยากอ่านอีกมีเรื่องสงสัยเต็มไ่ปหมด
จะรอตอนต่อไปนะคะเบบี้
ปล.ไม่ชอบจักรจริงๆนะ ดูเป็นที่ไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่
ไม่อยากให้ไปยุ่งเลย กลัวว่ามันจะยุ่งพัวพันกันยิ่งกว่าเดิม
-
ทิกเกอร์น่าสงสารอ่าาาาาาาา
เหมือนอาฟ้าให้โอกาสจักรมากกว่า ทิกเกอร์ซะอีกอ่ะ!!!!!
-
อาฟ้ามีทุกอย่างก็จริง แต่ยังขาด"คนรัก"ที่อยู่เคียงข้างกันนะ
ใครจะมาวินได้ใจอาฟ้าไปนะ?
-
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12:ทิกเกอร์ น่าสงสารจังเลย
-
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารทิกเกอร์ :sad4:
-
สนุก!!!!!!! อ่านเพลินเลย อาฟ้าใจแข็งดี ชอบ!!! แอบสงสารทิกเกอร์เบาๆ
อยากอ่านเค้กช่วงนี้อ่ะ ช่วงที่เป็นแฟนกับคิวแล้ววววว อยากรู้อิพี่คิวจะทำให้เค้กเขินได้แค่ไหนกัน >_<
-
เป็นห่วงอาฟ้ายังไงไม่รู้
ส่วนเค้กน่ารักเหมือนเดิมเลย อิอิ
กดบวกจ้า
-
เค้ก - น่าร๊ากกกก เหมือนเดิม :กอด1:
คิว - หึๆๆๆ เจ้าเล่ห์ o18
ฟ้า - อดีตน่าสงสารอ่ะ แต่ตอนนี้อำนาจอยู่ในมือคุณ วะฮะฮะฮาาาาาา :laugh:
ทิกเกอร์ - ฉันว่าคุณยังมีหวังนะ เพราะชอบคุณ กร๊ากกก
จักร - ฉันว่าคุณหมดหวังล่ะ เพราะไม่ค่อยชอบคุณเท่าไร
-
น้องเค้กนิน่ะ น่ารักซะจริงๆเลย อ้ายยยยย คนอะไรเขินน่ารักขนาดนี้ :-[ (ว่าไปนั้น 5555 แต่ก็จริงๆอ่ะ)
อาฟ้าไม่สงสารทิกเกอร์บ้างหรอค่ะ แต่ก็เข้าใจอาฟ้าอ่ะนะ ว่าเคยเจ็บปวด โอ้ยย เครียดแทนทิกเกอร์จัง
ส่วนจักรนี้ขอเหอะ ไปได้ละ :z3: (พอมาถึงตาคนนี้ใส่อารมร์ตล๊อด 555)
ทิกเกอร์สู้ๆนะค่ะ o13
-
อาฟ้ากำแพงสูง
เป็นกำแพงเมืองจีนเลย :L1:
-
แฟนเก่าทั้งคู่ อยู่ดีๆก็กลับมา แถมมาพร้อมกันอีก
เฮ้อ o22
-
อาฟ้ากำแพงสูง
เป็นกำแพงเมืองจีนเลย :L1:
v
v
กำแพงเมืองจีนไม่สูงนะ กำแพงเมืองจีนยาว กร๊าก :m20:
-
เค้กน่ารักอ่ะ
พี่คิวก็ใช่ย่อย อิอิ
-
ประสบการณ์เลวร้ายทำให้คนเข้มแข็งขึ้น เหมือนฟ้า คิว :z3:
-
อ่าว ดูท่าทิกเกอร์คงทำผิดเรื่องเดียวกะอีตาจักรแหงเรย แต่ไงๆทิกเกอร์ก็ดูมีภาษีดีกว่าอ่ะ เพราะงั้น สติลเชียร์ทิกเกอร์จ๊า
-
สงสารทิกเกอร์..
-
อ่า...สงสารทิกเกอร์แท้
-
อาฟ้าตั้งกำแพงสูงจริง แต่ก็นะผิดหวังอย่างรุนแรงจากความรักตั้งสองครั้งสองครา เป็นเราเราก็เข็ดล่ะ
สำหรับเราคิดว่าถ้าเจ็บครั้งแรก ก็น่าจะให้โอกาสครั้งที่สอง เพื่อไม่ปิดกั้นตัวเองจนเกินไป
แต่มากกว่านั้นสำหรับบางคนก็อาจรับไม่ไหวแล้ว ไม่งั้นคงจะมีครั้งที่สามสี่ห้าหกเจ็ด...
มันไม่มีอะไรรับประกันนี่นา แต่บางคนก็บอกว่าทำไมไม่ลองเสี่ยงดู อืม มันก็เป็นคำถามที่วนไปวนมาอย่างนี้แหละ
อดีตแก้ไขไม่ได้จริง แต่ความรู้สึกความไว้วางใจที่เสียไปก็เอาคืนมาไม่ได้จริงเหมือนกัน เรื่องนี้ตัวอาฟ้าเองคงเป็นคนตัดสินใจได้ดีที่สุด
แต่เราอยากรู้รายละเอียดอดีตของอาฟ้ามากกว่านี้ คงต้องรอตอนต่อๆไป ตอนนี้ได้แต่เดาจากคำพูดต่างๆที่ให้เป็นเหมือนเบาะแสมา
เพราะเราก็ยังไม่สงสารทิกเกอร์เท่าไหร่นะ แต่จักรนี่ไม่ชอบ
อยากรู้เรื่องทิกเกอร์ว่าไปแต่งงาน+ทำแอนนาท้องตอนไหน อยากทราบไทม์ไลน์มากมาย นี่จะเห็นใจก็ไม่สุดจะด่าก็ไม่ได้ กร๊ากกก อัดอั้น
“ทำไมล่ะฟ้า ผมสำนึกผิดทุกอย่าง..ผมกับแอนนาเลิกกันแล้ว เราไม่ได้รักกันแล้ว ผม..ไม่มีคุณไม่ได้”
ดูจากที่ว่าสำนึกผิดก็แน่ว่าเมื่อก่อนทำความผิดไว้ รู้ตัวด้วย ส่วนคำว่า 'เราไม่ได้รักกันแล้ว' หมายความว่าเมื่อก่อนทิกเกอร์กับแอนนาเคยรักกันใช่ไหม?
คำว่ารักกันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแต่งงานหรือเฉพาะทางกายนะ แต่เป็นการมองในแง่ของความรู้สึกจริงๆ
ที่นี้ก็อยู่ที่ว่าทิกเกอร์มีแอนนาอยู่ก่อนแล้ว หรือเพิ่งมาแทรกทีหลังล่ะนะ ...ขอประทานโทษ เราเดามั่วไปหมด
เราเคยนั่งคำนวณระยะเวลาเลิกกันกับอายุลูกทิกเกอร์เล่นๆด้วย แต่ลืมไปแล้ว แง~T^T
น้องเค้กยังน่ารักเหมือนเดิมเลยเนอะ ^^
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
ปล.พิมพ์ยาวไปหน่อย ถือเป็นเม้นต์รวบยอดหลายตอนเลยนะคะ
:3123:
-
ทิกเกอร์ท้อแล้วหรือ
-
มาแย้ว พี่คิว น้องเค้ก :give2:
แล้วอาฟ้าจะใจแข็งกับทิเกอร์ อีกนานมั้ย :m15:
แล้ว จักร กลับมาทำไมอีกอ่ะ
อาฟ้า สู้ๆ นะ :ped149:
กด +1 ให้เบบี้ด้วยคะ สำหรับ ความน่ารักของน้องเค้ก กับน้องกัส :impress2:
-
อาฟ้าเจ็บจริงแบบไม่มีแสตนด์อิน สินะ ตอนนั้นอ่ะ
แล้วยังจะมาเจอก็อกสอง อย่าทิกเกอร์อีก
เป็นฉันคงไม่อยากจะเสวนารีเทิร์นเลยล่ะ
แต่เชียร์ทิกเกอร์นะ. ทำตัวดีๆหน่อย ^^
-
จริงๆด้วย ทุกคนมีสิทธิ์ ถึงจะแอบเชียร์ทิกเกอร์มากกว่านิ๊ดนึง
แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตของตัวเอง :กอด1:เนาะ
เอาใจช่วยอาฟ้านะคะ....(ทางที่ดี หาใหม่เลยมะ ลุ้นคนใหม่ๆไปเลย อาจจะตื่นเต้นกว่า 555 :laugh:)
ปล. น้องเค้กกกกกมาแล้วววว พ่อเศรษฐีนีน้อยของพี่ มาให้กอดที จ๊วบบบบบ
-
:o8: :-[น่ารักที่สุดเลยคิวอะมีซื้อบ้านให้เค้กด้วยและแถมยังมีกระเป๋าและนาฬิกาสวยๆให้เค้กอีก
อิจฉาเค้กจังเลยยยยยยยยยยยยย
ฟ้ากะทิกเกอร์หรือว่าฟ้ากะจักร เรื่องราวจะออกมาแบบไหนคนที่รู้ตัวดีที่สุดคงเป็นฟ้า :L1:
-
:impress2: :impress2: รักของเค้กกับคิว ก้าวหน้าขึ้นแล้ว
-
:เฮ้อ:เมื่อไรฟ้าจะใจออ่นกับทิกเกอร์ชักทีอะ :กอด1: :กอด1:
-
เลือกทางไหนก็เจ็บ....มีทางด่วนหรือมอเตอร์เวย์ให้เลือกอีกมั้ย?
-
พี่คิวกับน้องเค้กน่ารักอะ ถึงจะไม่โรแมนติก 555
สงสารทิกเกอร์มากๆเลย :monkeysad: :monkeysad:
คู่พี่หมีกับน้องกัสนี่ยังไงหว่า รอลุ้นต่อไป ^^
ขอบคุณนะคะ รออ่านต่อค่ะ :D
-
สงสารพี่ฟ้าคงเจอเรื่องร้ายๆมาเยอะ
สร้างเกราะป้องกันหัวใจซะแข็งแกร่งเลย
ก็เห็นใจพี่ฟ้ามากที่ไม่อยากเจ็บกับเรื่องนี้อีก
แต่อีกใจก็สงสารทิกเกอร์นะ :เฮ้อ:
พี่ฟ้าเ้ข้มแข็งจริงๆ เอาใจช่วยให้พี่ฟ้าแก้ปัญหาได้เร็วๆ
:กอด1:
-
ทำไมให้โอกาสจักร หายไปเป็นสิบปี
แต่ทิกเกอร์กลับไม่ได้
+1
-
ถ้าไม่เจอเรื่องเลวร้ายสุดทานทน คนเราไม่เปลี่ยนไปขนาดนี้หรอก
ลองสร้างเกราะได้ขนาดนี้ ไม่อยากคิดว่าผช.2 นายนี้ทำอะไรเอาไว้
ถ้ารู้เราอาจวางแผนฆ่าเลยก็ได้นะเนี่ย
-
ทิกเกอร์จะสู้ต่อมั๊ย
ฟ้าใจแข็งน่าดู
-
ไปยังไงมายังไงไม่รู้ รู้แต่สงสารทิกเกอร์อะ :sad11:
-
คิวขี้แกล้ง
น้องเค้กก็ซื่อเกิ๊นนนนน :man1: :man1:
แต่อาหื่นนี่สิ
กร๊ากกกกกก
ร้ายกาจกว่าคิวอีก :laugh:
-
อาฟ้าน่าจะกำลังลำบากใจอยู่ :เฮ้อ: :กอด1:
-
อาฟ้าสู้ๆ ยังไงก็เหอะ เชียร์ทิกเกอร์มากกว่าจักรอ่ะ
-
ฟ้ายังไม่ต้องใจอ่อนให้ใครทั้งนั้นแหละ
เพราะดูท่าแล้วทั้งคู่น่าจะผิดในเรื่องที่เหมือน ๆ กัน
:pig4: คะ
-
สงสารทิกเกอร์ แต่ก้อเข้าใจอาฟ้า
-
พี่ฟ้าตอนอยู่ที่ร้านกับตอนอยู่คนเดียวต่างกันลิบลับเลย
ที่ผ่านมาพี่ฟ้าคงจะเจ็บปวดมากสินะถึงได้ปิดกั้นตัวเองแน่นหนา
ก็นะเพราะคนที่เจ็บก็คือพี่ฟ้านี่นา จะเอาคืนมันก็ไม่แปลก
แอบสงสารทิกเกอร์นิดๆแค่นิดนะ เพราะไม่รู้เรื่องราวที่ผ่านมา
ที่พี่ฟ้าทำมันอาจจะไม่ได้ครึ่งนึงกับที่พี่ฟ้าเจ็บก็ได้ใครจะรู้
ตอนนี้มีน้องๆที่ร้านออกมาด้วย น่ารักกันเหมือนเดิม :กอด1:
คิดเหมือนอาฟ้านะ พี่หมีกับกัสนี่ยังไงๆอยู่นา
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ขนาดกระเป๋ายังต้องขู่ว่าจะทิ้ง ตอนจะยกบ้านที่หัวหินให้คงต้องขู่ว่าจะเผาบ้านทิ้งล่ะมั๊งเนี่ย :laugh: :laugh: :laugh:
เศรษฐีน้อยๆ ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย o18
-
:o คนอย่าง. "ป๋าคิววววววววววว". นี่นะจะซื้อของ. "มือสอง". ทำใจเถอะนู๋เค้ก. เป็นแฟนป๋าคิว. ต้องอดทน นี่เพิ่งเริ่มต้นเอง. ห๊ะ o22 ยังจะมีตามมาอีกเพียบ. ยกป้ายไฟ คิว-เค้ก :pig4: คริคริ
-
:L2:
-
:o12: สงสารทิกเกอร์อ่ะ แต่.......
พี่คิว น่ารักอะ เค้กก็ใสซื่อเหมาะแก่การหลอก... :z1:
ขอบคุณพี่บี้ค่ะ :pig4:
รอ ตอนที่พี่คิวจะหลอกเค้กเข้าห้องนอนอะ :impress2:
-
มันส์มากเลยพี่ฟ้า สุดยอด o13
-
:o8: น้องเค้กเขินทีไรหน้าแดงทุกครั้ง :m20: กับพี่คิว ให้ความกวนโมโหน้องเค้กตลอด แต่น้องเค้กก็รักกกกกก
อาฟ้าไม่สงสารทิกเกอร์เลยเหรอ พูดตัดรอนแบบนั้นเดี๋ยวทิกเกอร์น้อยใจกลับประเทศไปหรอก
อิตาจักรนี่ดูเป็นคนที่เห็นแก่ตัวจัง ดูไม่มีความจริงใจเลย เหมือนอยากจะเข้ามาเล่นๆ กับอาฟ้าอีก แต่พออาฟ้าพูดดักคอเหมือนรู้ ทำเอาอิตาจักรกลืนน้ำลายดังเอือกเลย เห็นแล้วอยากให้พี่คิวมาช่วยรุมตื้บอิตาจักรให้ไปไกลๆ จากอาฟ้าอ่ะ
กด + ให้กับคนเขียนและความใจแข็งของอาฟ้า
-
กาลเวลาทำให้คนเติบโตขึ้น
หวังว่าฟ้าคงตัดสินใจได้ถูกต้อง
-
อาฟ้าน่ากลัว แบบเชือดนิ่มๆ :a5:
-
ไม่สงสารทั้งทิกเกอร์ และก็จักร
แต่สมน้ำหน้ามากกว่าอ่ะ :angry2:
เมื่อก่อน ทำอะไรไม่รู้จักคิด ตอนนี้ผลออกมาแบบนี้ก็สมควรแล้วล่ะวะ :z6:
ที่สงสารที่สุดเป็นฟ้านั่นแหละ
รักแล้วเจ็บมาติดๆกันอย่างงั้น คงขยาดความรักไปแล้วแน่ๆอ่ะ :เฮ้อ:
-
ความรักทำให้คนเรา'แกร่ง'ขึ้นมากจริงๆ
-
คู่คุณหลานก็พัฒนาไปในแบบฉบับของพี่คิวไป
ส่วนคู่คุณอาก็แอบมีปมเยอะอยู่ทีเดียว
เจ็บถึงสองครั้ง ช่างทำกับอาฟ้าแสนน่ารักได้
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณอาฟ้า ว่าจะตัดสินใจยังไงหละนะ
ประสบการณ์ย่อมสอนให้เรารอบคอบ :L1:
-
เชียร์ทิกเกอร์อะ
อาฟ้าเลือกสักคนที่เป็นทิกเกอร์นะ (เอะ ยังไง) 555
:L2: :pig4:
-
2 คน ความผิดเดียวกันคือทำให้เสียใจอย่างที่สุด ไม่ว่าใครก็ไม่ควรให้อภัย
แต่ ณ ตอนนี้ หมั่นไส้จักรชิ๊บเป๋ง น่าให้บทเรียนเจ็บ ๆ จริง ๆ
-
เข้มข้นมากก
-
อั๊ยยยยยยยย ขัดใจๆๆๆๆ แต่ชอบบบบบบบบบ
-
มีชีวิตอยู่โดยปราศจากคู่ชีวิตได้ไหมนะ ?? เชียร์ให้ฟ้า อยู่คนเดียว จะผิดไหมอ่า :m23:
ไม่อยากให้กลับไปคบกับคนที่ทำให้เราบอบช้ำมาในอดีตเลย กว่าจะเข้มแข็ง
ได้เช่นในปัจจุบัน เป็นสิบปีเลย ถึงแม้ว่าิิทิกเกอร์จะภาษีดีกว่าเรื่องความจริงจังก็เหอะ ..
ขอบคุณเบบี้น๊า รออ่านตอนต่อไปจ้า ^^ :L2:
-
เลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะเชียร์ใครดี
แต่ใจแอบเอนเอียงไปทางทิกเกอร์นะ
-
เค้กน่ารัก~ โดนพี่คิวปิดหลอกให้รับกระเป๋าจนได้ >< 55555
สงสารทิกเกอร์ สู้ๆ ต้องง้ออาฟ้าให้ได้นะ!!!!!!!!
..
.
.
.
.
+
ว่าแต่แอบสงสารจักรนิดๆนะ 3P ได้ไหมคุณเบบี้ 55555555 (ว่าไปนั่น -.-)
-
ต้มน้ำกิน มาม่า ดีกว่า
เง้ออออออออออ :เฮ้อ:
-
กำแพงใจอาฟ้า สูงกว่ากำแพงเมืองจีนอีกนะ
ที่อาฟ้าชอบบอกว่า คิวไม่เหมือนอาฟ้า เถียงสุดใจอะ
เหมือนกันเด๊ะ 555 คุณจักรเจออาฟ้าเข้าไป เงียบเลยย 555 รู้สึกสะใจ
แต่สงสารทิกเกอร์อะ ทิกเกอร์อย่าท้อน้าา ทิกเกอร์สู้ๆๆๆ
ต้องมีสักวันที่อาฟ้าหันมาใจอ่อนบ้างแหละ
น้องเค้กน่ารักอะ แม้จะมานิดเดียวก็เหอะ มีแอบหวานกับพี่คิวเล็กน้อย (หรอออ หวานแล้วหรออนั้น) 5555
-
อาฟ้าาาาา าคนใหม่เลย o18
เริ่มไม่อยากให้อาฟ้าคืนดีกับใครแล้วจิ
แต่ก็ชอบทิกเกอร์มากกว่าจักรอยู่ดีอะ
รู้สึกไม่ดีกับจักรไงไม่รู้ 5555 :sad4:
-
สงสารทิกเกอร์จังเลยค่ะ :sad4:
สู้ๆนะ จะคอยโบกป้ายไฟเชียร์
-
จะรีเทิร์นที่ใครก็คงคิดหนักพอดู หรือไม่ก็อาจจะเกือบเจ็บไปตามๆกันอีกครั้ง
แต่คู่คิวเค้กนี่ หวานนิดๆหรือเปล่าเนี่ย ทุ่มน่าดูเลยนะงานนี้เชฟ o13
-
เชียร์ทิกเกอร์เพราะทิกเกอร์รวยกว่า จบม่ะ 55555
ผู้ญิงอย่างชั้นนี่เลวบริสุทธิ์ใจจริงๆ กร๊ากกกก
คิวกะเค้ก อิฮิ ชอบอ่ะเค้กนี่เดาทางง่ายเนอะทุกคนรู้หมดเลย 5555
-
โอ้ พี่ฟ้า สู้สู้ พี่ฟ้าน่ารักที่สุดเลย
-
บางทีก็ไม่อยากให้ฟ้คืนดีกับใครเลย รู้สึกพวกนั้นเห็นแก่ตัวเกินไปอะ :angry2:
เป็นฟ้าแบบชิลๆอย่างนี้ก็ดีออก :z1:
-
ทิกเกอร์ต้องการรถแม็คโครไหม
เอาไว้มาทำลายกำแพงอาฟ้าให้พังไม่มีชิ้นดีๆไปเลย
สู้ๆนะค่ะ ทิกเกอร์ :ped149: :ped149:
-
เี่ราว่าเจ้าเล่ห์อย่างพี่ิคิวต้องขอของตอบแทนแน่นอน แต่น้องเค้กคงไม่บอกหรอกมั้ง :o8:
อาฟ้าใจร้ายกับทิกเกอร์มากเลย เราเชียร์ทิกเทอร์อยู่เหมือนเดิมเพราะเขาทิ้งอะไรมากมายเพื่ออาฟ้าคนเดียวไม่เหมือนไอ้คุณจักรไม่แน่อาจต้องการเอาชนะอย่างที่อาฟ้าคิดก็ได้
-
เชียร์ทิกเกอร์ :ped149: :ped149: :ped149:
-
สุดยอด
นี่แหละ มนุษย์ มันเหมือน จะชินชา แต่ก็คือการ์ดที่ปกป้อง ตัวเอง เป็นการ์ดที่แข็งแรงเพราะ เจ้าของนำความเจ็บปวดที่ได้มาเรียนรู้
แต่ถามว่าเจ็บอยู่ไหม ตอบได้เลยว่าเจ็บ
อยู่ที่ว่าใครจะยอมแพ้ก่อนกัน
ส่วนเราเชียร์ทิกเกอร์ เอาชนะความเจ็บปสดของพี่ฟ้าให้ได้นะ อะคึอะคึ :กอด1:
-
ทิกเกอร์จ๋า ใจเย็น ๆ หน่อยสิ อย่าประเจิดประเจ้อ ลากเข้าห้องไปเล้ยยยยยยย
-
ไม่ชอบจักรอ่ะ ไม่เชียร์ทั้งคู่ แต่เชียร์ฟ้าหาคนใหม่ดีกว่า หุหุ :z2:
-
ลุ้นให้อาฟ้าหาคนใหม่ด้วยคน ถ้าจะสะใจดี :laugh:
-
คิดถึงคิวเค้ก 55555
ฟ้าอ่าา
รอตอนต่อไปปป o18
o13 :pig4:
-
สงสารอาฟ้าค่ะ ไม่อยากให้ผิดหวังอีกแล้วคราวนี้ขอตัวจริงซะที :z3:
-
อร๊ายย เค้กน่ารักอะ
-
ความเจ็บปวด.....ที่ผ่านมา...มักจะทําให้คนเราเกิดความกลัว
อยู่เคียงข้างพี่ฟ้าาาา......ต่อไป
เค้ก..โผล่มาแล้ว..ยังน่ารักเหมือนเดิมมม..ฮิ้วววว
-
:เฮ้อ:
-
คู่แข่งที่เท่าเทียม
แต่ว่าฟ้านี่ใจแข็งชะมัด
สุดยอด o13
:กอด1:
-
:กอด1:ผิดพลาดแล้วแก้ไข มันก็น่าจะให้อภัยกันได้
ดูและฟังเหตุผลกันหน่อย
-
สงสารทิกเกอร์....เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะจ๊ะ :3123:
ส่วนจักร :z6:
-
o18
หน่วงงงงอ่ะ
-
เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน
การที่ฟ้าจะเชื่อใจใหม่ในใครซักคน มันคงยากจริงๆ
-
o13ฟ้าเด็ดเดี่ยวมาก
-
อาฟ้าใจแข็งจัง ชอบๆๆๆ เป็นตัวของตัวเองสูง
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี เพราะรู้มาว่าเป็นคนที่ทำให้
อาฟ้าเจ็บทั้งคู่ (แต่ก็แอบสงสารทิกเกอร์นะ)
รอตอนหน้ามาลุ้นต่อดีกว่า :กอด1:
-
อาฟ้าใจแข็งดีจัง ผช ห่วยๆสลัดทิ้งไปอย่างได้แคร์ 555 คนแบบจักรไม่สมควรอะ ไม่เวริค์อย่างแรง
ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัดนักว่าทำไมถึงเลิกกันไปตอนนั้น แต่ดูทรงแล้วไม่เวริค์แน่ๆ
แต่กับทิกเกอร์ เค้าดูน่ารักดีนะ (อันนี้ไม่ได้เข้าข้าง เพราะดูจริงใจกว่าจักรจริงๆ ฮาาาาาา)
แต่พอจะรู้เหตุผลว่าทำไมอาฟ้าถึงใจแข็งกับทิกเกอร์นักหน่อยๆก็รู้สึกว่า มันก็ไม่แปลกป่ะ
ถ้าอาฟ้ากลับไปคืนดีง่ายๆีนี่สิแปลกก !! ใจแข็งเข้าไว้ๆ อาฟ้าสู้ๆ !!
และพี่คิวกับเค้กก็น่ารักกกเหมือนเดิม : D อ่านแล้วมันกรุบอ่ะ 5555 เป็นพี่คิวเวอร์ชั่นหวานปนขม
อย่างน้อยก็มีคำว่าหวานโผล่เข้ามาแล้วว อิอิ =///=
-
การกระทำครั้งนี้ของฟ้า คงเป็นเพียงการสร้างกำแพงปกป้องตัวเอง
พร้อมทั้งเตรียมตอบโต้กลับในฉับพลัน ถ้าพิจารณาด้วยคำพูดและการกระทำ
สิ่งที่คิด จักรคงไม่ได้โอกาสนั้นอีกแล้ว แต่ถ้าอยากเล่นเอาล่อ เอาเถิด ฟ้าก็คงไม่ห้าม
+ 1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้
ปล. คนน่ารักออกมาแม้เพียงแว็บเดียว ก็อดอมยิ้มให้ไม่ได้
ปล. 2 พี่หมีคงเป็นได้เหมือนเพลงที่ร้องออกมานั้นแหละ ก็ตัวจริงเค้ามีอยู่ เพียงแต่ยังต่อไม่ติดก็เท่านั้น :z2:
-
อะไรยังไมไม่รู้ แต่เค้าเชียร์ทิกเกอร์สุดใจเลย ดูยังไงทิกเกอร์ก็รักฟ้ามากกว่าจักรอะ
จักรเหมือนแค่อยากได้แต่ไม่ได้รัก :m16:
อยากให้ป๋าคิวของเรามีบทอีกบ้างจัง ชอบผู้ชายคนนี้จริงๆ :laugh:
-
รู้สึกว่าอาฟ้า น่าสงสาร
-
ไม่ได้เข้ามาแป๊ปเดียวเกือบตามไม่ทัน
-
อยากรู้ว่าอดีต ทิกเกอร์กับจักรทำอะไรเอาไว๊เนี้ยยย :m16: :m16: :m16:
อยากอ่านพาร์ทคิว-เค้กบ้างอ่าาาาา :impress2: :impress2: :impress2:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ฟ้าเข้มแข็งมาก "เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย"
แต่ความรักที่แข็งแรงต้องมีการให้อภัยและเสียสละของคนสองคนอย่างแท้จริง :n1: เพราะงั้นบางครั้งลองไปกินหญ้าบ้างก้อดีนะเผื่อจะช่วยเสริมสร้างวิตะมินที่เราขาดได้บ้าง :กอด1:
-
อาฟ้า อย่าเล่นกับไฟ
-
เชียร์ทิกเกอร์
-
ไม่ว่าอาฟ้าหรอกนะ ถ้าจะใจแข็งกับจักรและก็ทิกเกอร์อ่ะ
เราไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับอดีตความรักของอาฟ้า
แต่ก็พอจะมองออกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับอาฟ้ามันคงจะสาหัสน่าดู
คนที่เคยเจ็บปวดมาก่อน แถมบาดแผลที่เกิดขึ้นมันหนักหนาจนถึงขั้นปางตาย
มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความกลัวมันยังคงฝังอยู่ในใจ
แม้ว่าทุกวันนี้เวลามันช่วยเยียวยารักษาให้ความเจ็บปวดเหล่านั้นมันจะค่อย ๆ น้อยลง
แต่บาดแผลยังงัยมันก็ยังคงทิ้งร่องรอยแผลเป็นไว้ให้ระลึกถึงเสมอว่าครั้งนึงมันเคยทำให้เราเจ็บปวดขนาดไหน
ณ ตอนนี้เราคิดว่าอาฟ้าคงกลัวที่จะไว้ใจใคร เพราะเมื่อไว้ใจแล้วต้องเจ็บอีก สู้อย่ามีใจให้ใครเสียดีกว่า
ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้อาฟ้าในการตัดสินใจอีกครั้ง
เลือกที่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ หรือว่าก้าวเดินต่อไปแล้วทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง
-
เหอะ เหอะ เหอะ
ไม่รู้จะเชียร์ใคร :-[ :-[
มีน้องเค้กแว๊บมาด้วย น่ารักเนอะ
-
ใช้เวลาในการอ่านนิยายแต่ละตอนของบี้ไม่น่าจะน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง แบบว่าไม่อยากให้จบอ่ะ...
สงสารทิกเกอร์นะ แต่สิ่งที่ฟ้าเจอก็คงแย่มากถึงทำให้เป็นแบบนี้..รออ่านฉาก drama ของบี้อยู่ เค้าอยากปวดตับแล้วล่ะ
:กอด1: :pig4:
ปล. ชอบฟ้ามากๆ เลยบี้ยิ่งอ่านก็ยิ่งหลงรัก รู้สึกว่าเป็นตัวละครที่มีหลากหลายมุมดี แต่ในหลายๆอารมณ์ของฟ้า ฟ้าก็รู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไร ชอบค่ะ :man1:
-
อ๊ากกกกกกกก เชียร์ทิกเกอร์ๆๆๆ :z2:
-
ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์อยู่ดี
จักรดูมีลับลมคมนัยยังไงไม่รู้
-
ซูฮกในความใจแข็งของพี่ฟ้าเลย o13
เรียกได้ว่าเจ็บแล้วจําของจริง!
แต่ก็สงสารทิกเกอร์อยู่ดี เฮ้อออ :z3:
-
ฟ้าคงเจ็บมาเยอะสินะ
-
ขนาดอ่านยังสับสนไปกับพี่ฟ้าเลยนะเนี่ย เข้มแข็ง แล้วก้าวต่อไปครับๆ
-
ก็ลุ้นทิกเกอร์ต่อไป
-
:z3: มันช่างซับซ้อน เบาะแสอดีตของฟ้าเริ่มมีมาเรื่อย ๆ
ฟ้าก็ไม่ธรรมดา มีเด็ก มีกิ๊ก ผ่านอะไรมากโชกโชนเช่นกัน
ความจริงอยากจะเก็บฟ้าไว้เอง แต่คงเป็นไปไม่ได้ ๕๕๕๕
งั้นเชียร์ทิกเกอร์แล้วกัน ชอบ เค้าอยากให้ฟ้ามีลูก :impress2:
-
สงสารฟ้า อยากให้ฟ้าพบความสุข และเจอกับคนที่พอดีกัน :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
:pig4: :pig4:
-
ตามทันแล้ว...
เรื่องพี่คิวกับเค้กก่อนนะคะ
น่ารักดีค่ะ ไม่หวานเว่อร์ แต่ทำอะไรก็เพื่ออีกฝ่ายนึงนะ(โดยเฉพาะพี่คิว)
แต่นี่คงเป็นการสื่อเฉพาะตัว แต่อย่างน้อยก็ไม่เหมือนที่ทำให้กับคนอื่นๆเนอะ
ชอบมากมายค่ะ
ทิกเกอร์กับอาฟ้า
ตอนนี้สงสารทิกเกอร์
แต่...ดูจากรูปการณ์แล้ว อาฟ้าต้องเสียใจกับการที่คนรักของตัวเองหันไปหาผู้หญิงถึง2ครั้งเลยนะ
เรื่องจักร แล้วก็ทิกเกอร์ อย่างทิกเกอร์นี่ถึงขั้นแต่งงาน อาฟ้าก็ต้องเจ็บปวดเสียใจอยู่แล้วล่ะ
อาจจะยิ่งฝังใจกับเหตุการณ์แนวนี้
ยังไงก็อาฟ้าสู้ๆทิกเกอร์สู้ๆค่ะ
-
ตอนนี้มีเค้กด้วย น่ารักจริงๆ :-[
หลอกง่ายชะมัด 55
พี่หมีกะกัสก็ ... รอดูกันต่อไป
ทิกเกอร์กับจักร รู้จักทิกเกอร์ก่อนอ่ะ เชียร์ทิกเกอร์ 55
พี่ฟ้า ตรงมาก รอติดตามๆ
ชอบพี่ฟ้าตอนอยู่กับเค้ก อิอิ. ^-^
-
เข้าใจอาฟ้า แต่ก็อดสงาร ทิกเกอร์ไม่ได้น่ะ :sad4:
จักร ชิ้วววว ชิ้ววว เค้าไม่ได้เข้าข้างใครนะ :laugh:
P.S. นู๋เค้กเนี้ย งัยก็ครองใจเจ๊จริง จริง
-
พกไว้ตั้งเเต่ตอนนี้ 2 คืนนี้ขอตะลุย 4 ตอนรวดนะคบ ^^
-
:o12:
สงสารทิกเกอร์อะ
-
สงสารทิกเกอร์อ่ะ ทำไมฟ้าไม่คุยให้รู้เรื่องกันไป จะได้ไม่คาร่าคารังแบบนี้ทิ้งเกอร์จะได้ทำใจได้แล้วไปเริ่มชีวิตใหม่สักที
-
เราตัดสินใจแล้ว เราเชียร์ทิกเกอร์ดีกว่า
จักรแม่มเจ้าชู้นี่หว่า :m16:
-
สงสารพี่ฟ้าจังเจอเรื่อแย่ๆมาเยอะเลยสินะ...
ขึ้นอยู่กับพี่ฟ้า ว่าจะตัดสินใจยังไง
-
อืม อ่านแล้วบีบหัวใจ
ไม่อยากเชียร์ออกนอกหน้า เดี๋ยวเสียใจ หึหึ
พี่ฟ้า เลือกดีๆนะ แต่หลานๆเชียร์ทิกเกอร์กันนี่นา อิอิ
หมั่นไส้เชฟคิว ป๋าเว่อร์ไปปะ ดูแลเค้กดีๆล่ะ
-
พี่ฟ้าตรงมากกกกกก ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์
จักรดูเหมือนไม่มั่นคงกับพี่ฟ้าเลย!!
-
ตอบตรงทุกประโยคเลยอาฟ้า o22
-
รออีกสักพักนะทิกเกอร์ เราเชียร์อยู่นะ
พี่คิวน่ารักค่ะ
-
ฟู้ววววววว..ฟ้าชัดเจนมาก จักรเอ๊ยยยย คิดใหม่ได้นะ
ทิกเกอร์ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้งนะ
แต่อาจจะยากหน่อย เพราะฟ้าก็รู้ทางทิกเกอร์เหมือนกัน..ฮ่าๆๆๆ
ทิกเกอร์ไฟติ้งๆ
-
สงสารอาฟ้าอะ ทำไมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยนะ
แล้วแบบนี้จะเป็นการแก้แค้นของอาฟ้าหรือป่าวเนี่ย
อ่อ ลืม สงสารทิเกอร์ด้วย
-
:sad4: ไม่รู้ทิกเกอร์ทำอะไรไว้ แต่........ เค้าสงสารจับใจ :o12:
อาฟ้าเข้มแข็งมากเลยอ่ะ ใจแข็งมากด้วย แต่..... ไม่เป็นไร เค้ารอได้ นะทิกเกอร์นะ เราจะรออาฟ้าใจอ่อนด้วยกันนะ
-
สงสารทิกเกอร์ T_T
-
มารออาฟ้า
><
-
สงสารฟ้าอ่ะ...ถ้าทิกเกอร์เกิดหายหน้าไปจริง ๆ จะทำยังไง
ถึงจะบอกว่าให้รีบหายไป แต่นั่นก็เพราะตัวเองยังหวั่นไหวอยู่จนไม่กล้าสู้หน้าไม่ใช่รึไง
-
สงสารทิกเกอร์นะ แต่ก็เห็นใจฟ้าเหมือนกัน :เฮ้อ:
-
เค้กน่ารักอ่ะ เน้นๆ คิวกะเค้ก ชอบคู่นี้มากๆ ครับ
-
~7~
ณ คอนโดย่านสุขุมวิท..
หลังจากที่ผมกับจักรทานอาหารเย็นเสร็จ บรรยากาศหลังจากที่ผมได้พูดเปิดอกบอกจักรไปนั้นค่อนข้างจะอึมครึมไปสักหน่อย แต่จักรเรียนรู้ที่จะหลบเลี่ยงได้เก่งทีเดียว เราคุยกันเรื่องสัพเพเหระต่อจากนั้น เกือบหนึ่งทุ่มผมให้จักรมาส่งผมที่คอนโดของเอเจ ซึ่งผมไม่ได้บอกจักรไปว่าผมมาหาใครถึงแม้ว่าเขาจะถามก็ตาม
“แล้วไง คืนนี้จะนอนบ้านไออีกคืน..” เอเจเดินถือแก้วไวน์มาสองแก้ว ผมลุกขึ้นนั่งและรับแก้วไวน์แก้วหนึ่งที่เอเจนำมายื่นให้
“อาจจะไม่ หรืออาจจะ” ผมตอบด้วยสมองไม่ค่อยสั่งการเท่าไหร่นัก ที่จริงไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าว่าคืนนี้จะทำอะไรต่อจากนี้
“หึ..แล้วอาจจะไม่นี่ ยูจะไปไหนล่ะ” เอเจถาม ผมหันกลับไปมองหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษหน้าตาหล่อเหลาเอาการอย่างเอเจ เขายิ้มกว้างให้ น่าแปลกที่ผมไม่เคยรู้สึกวาบหวิวกับรอยยิ้มของเขาเลยแม้สักนิดเดียว เอเจเป็นผู้ชายแท้ที่ยังคงไร้คู่ ตรงนี้ละมังที่ทำให้เราทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างกล้าเปิดรับกันและกันได้ เราสองคนคบหากันเป็นเพื่อนมาได้นานขนาดนี้ได้อย่างไรไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีช่วงเวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ถึงแม้เอเจจะเจ้าเล่ห์นิดหน่อยแต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งเลยล่ะครับ
“แล้วยูไม่คิดจะไปไหนรึไง” ผมย้อนถามอย่างคาดหวัง เพราะผมไม่อยากอยู่ห้องด้วยอาการเปื่อยๆแบบนี้ ผมเบื่อ ผมอยากมีเซ็กส์เพียงให้ผ่านคืนนี้ไปหน่อยก็ยังดี
“อยากไปไหนล่ะ..วันนี้ไม่อยากเข้าร้าน ที่จริงพรุ่งนี้ไอมีทำงานเช้านะ” เอเจบอก เขาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะกระจก ก่อนจะหยิบรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อย ร้านที่ว่าเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่เอเจเป็นเจ้าของร้าน
“ไอเบื่อ เบื่อมากด้วย” ผมบ่นแล้วเอนตัวลงนอนบนโซฟาอีกครั้ง
“ถ้าจะต้องมานั่งเซ็งแบบนี้แล้วไปเจอเค้าทำไม” เอเจพูดปนหัวเราะ น้ำเสียงเหมือนต้องการถามเสียมากกว่า แน่นอนว่าเอเจรู้เรื่องราวทั้งหมดเพราะผมได้เล่าให้เอเจและกิ๊บฟังตั้งแต่ที่ทิกเกอร์เริ่มมาปรากฏตัวที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์เมื่อหลายเดือนก่อน
“ตอนแรกคิดว่าแค้น แต่ก็แค่หมันไส้ สงสาร..ปนๆกัน มันเลยงง” ผมตอบ
“คนที่ชื่อจักรอะไรนั่น ประวัติก็ไม่ธรรมดาอยู่นะ..ไอโทรไปถามข้อมูลจากเพื่อนไอที่เป็นเจ้าของโรงแรม มันรู้จักกับเจ้าของโรงแรมเอวาน่า แล้วก็พอจะได้ยินชื่อเสียงของคนชื่อจักรนั่นมาบ้าง..หึ ได้นอนกับดาราดังๆไปไม่น้อยเหมือนกัน” เอเจบอกส่งๆ ไม่ใช่น้ำเสียงเย้ยหรือประชด แต่เป็นน้ำเสียงเรียบเหมือนคนที่กำลังเล่าเรื่องอะไรสักอย่างให้ฟังอยู่
“สันดานล่ะนะ” ผมหัวเราะ
“แต่จะว่ามันก็ไม่ได้ ไม่ใช่ไอไม่นอนพร่ำเพื่อเมื่อไหร่” ผมเสริม
“หึหึหึ..ฮ่าๆๆๆ” เอเจขำออกมาทำให้ผมต้องหลุดหัวเราะไปด้วยเช่นกัน
“งั้นยูควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หรือว่าจะลองต่อสักหน่อยดีล่ะ” เอเจหันหน้ามามอง
“ไม่ล่ะ..วันนี้ไอพูดไปแล้ว ว่าถ้าเค้าอยากเดินหน้าไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม ไออนุญาต..แต่ไอก็ไม่ได้รับปากน่ะนะว่าไอจะเปิดใจ” ผมพูดส่งๆ
“ยูนี่ร้ายไม่เบานะ ชอบอ่อยแล้วจากไปว่างั้น” เอเจมองผมอย่างเจ้าเล่ห์ ผมยักคิ้วแทนคำตอบ
“เฮ้อ อาบน้ำก่อนนะ..วันนี้เราก็ไปอ่อยเหยื่อกันเล่นๆบ้างดีกว่า” เอเจลุกขึ้นพร้อมกับยืนบิดขี้เกียจ ผมนอนมองและหัวเราะกับท่าทีของอีกฝ่าย เอเจเดินกลับเข้าห้องนอนของตนเองไป ผมยังคงนอนนิ่ง ในมือถือแก้วไวน์ ตามองจอโทรศัพท์อย่างที่สมองไม่สามารถรับรู้ได้ว่าสื่อที่อยู่ตรงหน้านั้นกำลังบอกอะไรผมอยู่
ความคิดของผมเริ่มวกวน ความหลังระหว่างผมกับทิกเกอร์ และ ผมกับจักรเริ่มคิดวนสลับกันไปมา มันน่ากลัวมากที่สุด ผมไม่รู้ว่าความรักของคนอื่นนั้นเป็นอย่างไร หลายคนอาจพูดว่า “ความรักนั้นมีทั้งสุขและทุกข์” หรือบางประโยคที่ผมฟังจนรู้สึกเอียนและอยากจะอ้วกนั้นคือ “อกหักดีกว่ารักไม่เป็น” รึ “ความรักมักจะมาพร้อมกับความสุขและความทุกข์เสมอ” ตกลงผมไม่รู้ว่า “เฮ้ย..มึงต้องการสื่ออะไรกับกูวะ” ซึ่งผมรู้สึกเข้าใจนะครับกับคำพูดเหมือนอยากให้อาการของคนอกหักนั้นผ่านไปทีแบบนั้น แต่ยากเหลือเกิน ความรักนั้นยากจะหักห้ามใจไม่ให้ตนเองนั้นเจ็บปวดอย่างแท้จริง
สำหรับผมแล้ว การหาทางออกที่ยากลำบากและทรมานที่สุดนั่นก็คือเรื่องของ “ความรัก” หัวใจแสนเจ็บปวดจนหาทางหลุดพ้นไม่เจอ หรืออาจจะเจอแต่ช่างแสนเจ็บปวดทรมาน มันยากกว่าการที่เราจะต้องหาทางออกเรื่องของการตกงาน ยากกว่าการที่จะต้องหาทางออกเรื่องของความยากจน มันยากกว่าการที่ได้รับความเกลียดชังจากเพื่อนที่ทำงาน มันเป็นภาพหลอนที่น่ากลัวกว่าการที่ถูกละเลยจากสังคม กระทั่งบางครั้งนั้นมีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขมากมาย แต่เวลานั้นเปล่าช่วยให้หัวใจนั้นมีความสุขอย่างเต็มเปี่ยมได้เลย เหตุการณ์มักจะมาแบบกะทันหันและหลากหลายรูปแบบเสมอ
ซึ่งน่าแปลกมาก..เพราะถ้าคุณสามารถหลุดจากช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ คุณจะอิ่มเอม คุณจะแข็งแกร่ง คุณจะรู้สึกว่าตัวคุณนั้นมีคุณค่าเกินกว่าใครจะคู่ควรรึเหมาะกับคุณ แต่จะมีสักกี่คนบนโลกล่ะที่จะยืนหยัดได้อย่างเข้มแข็งอย่างนั้น บางคนบอบช้ำจนฆ่าตัวตายก็มี ผมมักมีคำถามอยู่เต็มอกเสมอว่าตกลงแล้ว “รักให้เป็น” คืออะไรกัน ผมผ่านมาแล้วถึงสองครั้ง เป็นสองครั้งสองคราที่ผมนึกว่าตนเองนั้นมีสติกับการดำเนินชีวิตรักแล้ว แต่สุดท้ายกลับมีรอยรั่ว แน่นอนว่าผมไม่เคยปิดกั้นใครก็ตามที่เข้ามาในชีวิตผม แต่สำหรับสองคนนี้นั้นไม่ใช่ มันน่าเสี่ยงเกินไปที่จะกลับไปคบกับผู้ชายในอดีต..
= = = = = = =
08:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“อ่าวพี่ฟ้า กลับมาแล้วเหรอครับ” ผมแทบสะดุ้ง รีบหันกลับไปตามเสียงเรียบอันสดใสนั่น เค้กยิ้มกว้างยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ตรงสวน พอเค้กเห็นว่าผมเดินเข้ามาเค้กก็รีบวิ่งไปปิดก๊อกน้ำในทันที ความซวยเริ่มมาเยือน นี่ขนาดจะแอบเข้าข้างบ้านแล้วนะ..เป็นเวรเป็นกรรมจริงจริงให้ตายสิครับ
“ค..ครับ” ผมยิ้มให้ พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
“ทำไมมาบ้านพี่แต่เช้าครับเนี้ย หรือเพราะ..” ผมทำสายตาเจ้าเล่ห์จับผิดเค้ก ด้วยต้องการจะหันเหความสนใจของเค้กไปทางอื่นแทน ผมไม่อยากตอบหรอกนะว่าเมื่อคืนผมไปที่ไหนมา ไปนอนกับใครที่ไหนอย่างไร เพราะผมไม่ได้กลับไปนอนคอนโดของเอเจ เนื่องจากเมื่อคืนเจอเด็กที่ถูกใจ เราควงกันไปนอนที่โรงแรมแถมตอนนี้ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้องคนนั้นชื่อเสียงเรียงนามอะไร พอรุ่งเช้าผมก็ชิงหนีออกมาก่อนนี่ละครับ
“เปล่าครับ เค้กไม่ได้นอนที่นี่นะ” เค้กรีบตอบด้วยท่าทีตื่นตระหนก ผมหัวเราะ
“พอดี..วันนี้เราจะไปทำบุญกันนะฮะ เค้กก็เลยมาแต่เช้า..พี่คิวกำลังเตรียมอาหารอยู่ในครัว คงใกล้จะเสร็จแล้วล่ะครับ” เค้กยิ้มบอก
“เรา เรา..เรา หึ..จุ๊บ” ผมทำเสียงล้อเลียนเค้กและก้มลงหอมหน้าผากเค้กอย่างเอ็นดู
คำว่า “เรา” ที่ออกมาจากปากเค้กได้อย่างธรรมชาติทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นที่ทั้งสองคนเป็นไปอย่างราบรื่น หนึ่งเหตุผลสุดท้ายที่ผมปล่อยคิวได้อย่างเป็นอิสระแล้วคือเรื่องของความรัก หลานรักของผมยืนได้ด้วยตนเองอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว เขาโตขึ้นมาก หรือบางทีอาจจะมากกว่าผมเสียด้วย ผมรู้สึกดีมากเลยที่มีเค้กเข้ามาในตอนนี้ เพราะถ้าไม่มีเค้ก ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมจะทำตัวเสเพลแบบนี้ได้รึเปล่า ผมคงต้องโกหกคิวไปวันๆว่าผมหายไปไหน ไปทำอะไร เพื่อไม่ให้คิวต้องเป็นห่วงผมอย่างเคย ความรักครั้งใหม่ทำให้คิวกลายเป็นคิวอย่างสมบูรณ์แล้ว ผมเองผู้เป็นอานั่นสบายใจอย่างที่สุด ผมจะได้ดำเนินชีวิตผมในแบบที่ผมต้องการบ้าง เปิดเผยในช่วงเวลาอันว้าวุ่นของผมในตอนนี้ให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งไป ไม่ต้องยืนหยัดเป็นอาอย่างสมบูรณ์แบบต่อหน้าคิวอีก..
“แปดโมง สามสิบห้านาที..ยี่สิบวินาที” ผมชะงักหันไปมอง คิวเดินออกมา ตาจ้องมาที่ผมเขม็งเยี่ยงสิงโตกำลังเจอเหยื่อ ผมกลอกลูกตาไปมาอย่างหาทางออกให้ตนเอง
“คุณนึกว่าผมโง่รึไง ปัญญาอ่อน” คิวว่าด้วยน้ำเสียงเอือมระอา
“เออน่า อาจะไปไหนก็เรื่องของอา” ผมปัดด้วยน้ำเสียงแกมบ่น
“คุณยังมีสติอยู่รึเปล่า” คิวพูดขึ้น ผมเงียบเพราะสีหน้าคิวดูจริงจังเกินไปจนผมไม่อยากจะลองดีด้วย ถ้าเรื่องเกิดบานปลายคงไม่ดีแน่สำหรับยามเช้าวันใหม่แบบนี้
“เรื่องของคุณก็แล้วกัน ไม่อยากให้ยุ่ง..ก็จะไม่ยุ่ง” คิวพูดส่งๆ ผมไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป ต่างฝ่ายต่างเงียบลงครู่หนึ่ง เค้กยืนหน้าเสียจนผมอดสงสารไม่ได้ สายตาของคิวไม่ได้จับจ้องไปที่ใคร มันมองทอดไกลไปไหนไม่ทราบ
“แต่อย่าให้เห็นว่าลากใครเข้ามาในบ้านก็แล้วกัน” คิวว่า
“จะบอกว่าลากได้แต่ทิกเกอร์งั้นสิ หึ..เป็นหลานที่ไม่น่ารักเอาซะเลยนะ บังคับกันแบบนี้ อาไปบังคับคิวบ้างรึยัง” ผมย้อนตอบ
“....................” คิวตวัดหางตาขวางมามองผมแทบจะทันที ผมจ้องสู้ตอบอย่างไม่ยอม
“ก็ได้”
“เอางั้นก็ได้” คิวกัดฟันพูด พยักพเยิดหน้าและเดินหนีไปเลย
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจพร้อมกับเท้าเอวอย่างเหนื่อยใจ
“ด..เดี๋ยวเอาบุญมากฝากนะครับ” เค้กยิ้มแหยเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี น้องยังคงยืนรอเหมือนรอให้ผมอนุญาตก่อน
“หึ..ครับ” ผมยิ้มตอบให้ เค้กผงกหัวให้ผมก่อนจะรีบวิ่งตามตูดคิวไป
“เฮ้อ” ผมส่ายหัวอย่างเซ็งๆอีกครั้ง เดินเข้าบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเล็กน้อย วันนี้ผมมีงานต้องไปคุยตอนสาย ในตอนนี้ผมจึงต้องรีบอาบน้ำ แต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยพร้อมลุยงานทุกอย่าง หน้าที่ต่อไปคือการทำงาน อยู่บ้านผมมีหน้าที่เป็นอาและเป็นเจ้าของบ้าน เดินทางออกจากบ้านผมเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง เมื่อเข้าไปในที่ทำงานผมจะต้องสวมบทบาทเป็นเจ้าของร้านไปตามแก่สมควรและสมเหตุสมผล ถ้าผมดำเนินชีวิตอย่างลืมหน้าที่หลักของตัวเอง ธุรกิจคงล้มเหลวไม่เป็นท่าแน่ๆ แน่นอนว่าผมจะต้องปรับตัวให้ทันโดยละความว้าวุ่นไว้เพียงเบื้องลึกของหัวใจ..
= = = = = = = =
ณ ห้องเสื้อ Cupid สาขาใหญ่..
วันนี้เรามีการประชุมเรื่องเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของห้องเสื้อเราเล็กน้อย ผ้าไหมจากอิตาลีส่งตรงมาถึงเมื่อวานสาย รวมไปถึงเรื่องยอดการขายของสาขาL ที่ตกลงอย่างที่ผมรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก ถ้าตัวเลขออกมาแบบนี้ เราจะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่า “ทำไม” และ “ทำไม” ก็เท่านั้น
“เอ่อ คุณฟ้าครับ..เห็นว่ามิซาร์คุยเรื่องที่ว่าอยากจะให้คุณคิวมาเป็นนายแบบแล้ว คุณฟ้าได้บทสรุปรึยังครับ” กีพูดขึ้นหลังจากจบการประชุมเรียบร้อยแล้ว คนอื่นๆเริ่มทยอยเดินออกจากห้อง ผมชะงัก
“ยัง..ใช่ เอ่อ ยังเลย” ผมตอบไปและในขณะเดียวกันก็แทบจะอดขำไม่ได้ ที่จริงผมคงตั้งใจลืมมากกว่าเพราะผมไม่อยากคาดหวังอะไรกับเรื่องนี้ คนอย่างคิวถ้าเหตุจูงใจมีไม่มากพอ คิวก็จะยืนหยัดความนึกคิดและความเป็นตัวของตนเองอยู่อย่างนั้นไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นเหตุจูงใจที่ว่า ยากมากทีเดียวล่ะที่จะอ่านความเจ้าเล่ห์ของมันออก
“ที่จริง ผมยังไม่ได้ถามเจ้าตัวเลยน่ะ..ยิ่งช่วงนี้ ไม่ค่อยน่าถามเข้าไปใหญ่ บรรยากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ผมบอก
“งั้นเหรอครับ” กีมีสีหน้าหมองลง
“เอาเป็นว่าคุณก็ดำเนินการตามที่วางไว้ไปก่อนได้เลย แล้วเดี๋ยววันเสาร์ถ้าผมเลือกนายแบบได้แล้ว ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน..ผมอยากให้คุณทำตัวหลักให้เสร็จไปก่อน ส่วนเรื่องคิวค่อยว่ากันทีหลัง ผมอยากได้แบบที่ว่า..ถึงจะมีคิวเข้าเดินด้วย หรือไม่มีก็ตาม..งานจะต้องออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดน่ะ” ผมยิ้มน้อยๆให้เป็นกำลังใจ
“โอเคครับ” กีลุกขึ้นพร้อมกับก้มหัวให้เล็กน้อย
“ฝากด้วย แล้วเจอกัน” ผมตบไหล่กีเบาๆก่อนจะเดินออกมาจากห้องประชุม วันนี้ผมจะต้องไปดูความเรียบร้อยที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ต่ออีก หลังจากนั้นวันนี้ก็หมดหน้าที่สำหรับการเป็นเจ้าของร้านที่ดีแล้ว นั่นแหละที่แย่หน่อย เพราะเมื่อหมดหน้าที่ในการทำงาน มันก็จะไม่มีอะไรให้ทำแก้ขัดเวลา
“คุณไม่มีการมีงานทำรึไง” ผมว่าทันทีที่พบว่าทิกเกอร์ยืนรออยู่หน้าร้านอย่างกับรู้ว่าวันนี้ผมต้องเข้าสาขาใหญ่อย่างนั้น
“วันนี้..ไม่มีครับ” ทิกเกอร์ตอบหน้าตาเฉยอย่างกับไม่รู้ว่าผมกำลังประชดประชันอยู่ การตอบแบบนี้สำหรับผมมันช่างกวนเบื้องต่ำของผมเอามากๆ
“.......................” ผมเดินจ้ำเท้าออกมาโดยไม่ได้หันหลังกลับไปมองอีกฝ่าย และได้ยินเสียงว่าทิกเกอร์เดินตามหลังมาด้วยโดยที่ไม่น่าจะเดินทิ้งระยะห่างจากผมมากนัก
ปึก!
“จิ้..” ผมผลักตัวทิกเกอร์ออกในทันทีเมื่อตัวของเราทั้งสองชนเข้าหากัน ทิกเกอร์เซไปเล็กน้อย ผมยืนมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ บวกด้วยอารมณ์ที่รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเขา มันหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“ฟ้าอารมณ์เสียอะไรครับ” ทิกเกอร์ถาม
“อารมณ์เสียเพราะคุณนั่นแหละ คุณจะมาตามผมทำไม” ผมว่า
“ก็ผมคิดถึงคุณ..คุณไม่คิดถึงผมเหรอ”
“ที่พูดไปเมื่อวานเนี้ย คิดไม่ได้เลยใช่ไหม” ผมว่าอย่างเหลือเชื่อ ผมพยายามไม่คิดถึงทิกเกอร์ว่าหลังจากนั้นแล้วเขาจะโผล่หน้ามาให้เห็นอีกรึเปล่า ถ้าไม่มาก็คงจะดีกว่านี้
“.......................” ทิกเกอร์เงียบและก้มหน้าลงอย่างช้าๆ เรายืนเงียบกันอยู่ครู่หนึ่งจนคนที่ผ่านไปผ่านมาเริ่มสังเกตและมองกันเป็นตาเดียว
“ผมคิดได้ ว่าผมจะอดทนจนกว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม..ผมรอได้” ทิกเกอร์ยิ้มบอก ผมชะงักเมื่อได้ฟังสิ่งที่ทิกเกอร์พูดออกมา น้ำเสียงอ่อนโยนของทิกเกอร์ยังคงตรึงอยู่ในหัวใจของผมเสมอ น้ำเสียงอ่อนโยนที่คล้ายกับจะอ้อนวอนไปในตัวแทบทำให้ผมใจอ่อนเลยทีเดียว
ผมหันหน้าหนีและพยายามสูดหายใจเข้าออกลึกๆ พร้อมทั้งพยายามรวบรวมสติของตัวเอง ผมไม่กล้าเงยขึ้นมองหน้าทิกเกอร์ตรงๆ ถ้าทิกเกอร์สามารถอ่านสายตาของผมในตอนนี้ได้ ผมจะกลายเป็นผู้ตามเกมในทันที ดังนั้น..อย่าแม้แต่ให้เขาเห็นจุดอ่อนที่มีเชียว
“ไม่เบื่อรึไง” ผมพูดส่งๆ
“ไม่ครับ..ผมอยากเห็นหน้าคุณนะฟ้า” ถ้าหลายหลายคนมาได้ยินประโยคนี้เข้า คงจะปฏิเสธไม่ได้ที่จะไม่รู้สึก “แหวะ” แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกตรงกันข้าม ผมดีใจ ใช่..ผมอาจจะดีใจ มัน..แสดงออกไปทางสีหน้ารึเปล่านะ
“เอ่อ ฟ้า..อยากไปคอนโดผมไหม ที่จริง..คิวเป็นคนหาให้น่ะ สวยมากเลย..ผมอยากให้คุณไปดู” ทิกเกอร์พูดพร้อมกับยิ้มกว้าง
“คิวหาให้” ผมย้ำเสียงและมองทิกเกอร์ตาขวาง รอยยิ้มของทิกเกอร์หุบลงทีละนิดเมื่อเจอกับสายตาของผมเข้า ความรู้สึกหงุดหงิดเริ่มกลับมาเยือนอีกครั้งเมื่อผมได้ยินชื่อของหลานตัวเอง ผมรู้สึกเหมือนกับว่าคนรอบข้างผมรวมตัวดันทิกเกอร์อย่างออกหน้าออกตาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างผมเลย
“เอ่อ ครับ..ตอนแรก ผมไม่รู้ว่าจะชอบคอนโดที่บริษัทหาให้รึเปล่า ผม..เอ่อ เลยให้คิวหาให้ก่อน แล้วผมก็ชอบมัน” ทิกเกอร์อธิบายอย่างตะกุกตะกัก
“สนิทกันจริงนะ” ผมแสยะหัวเราะด้วยท่าทางไม่พอใจ
“ก็..เพราะคิวเป็นหลานฟ้านี่ครับ” ทิกเกอร์ยิ้มให้อีกครั้ง
“เหรอ!” ผมกระแทกเสียงใส่ ก่อนจะหันตัวกลับและก้าวเท้าเดินต่อ ทิกเกอร์รีบเดินตามหลังมาอยู่ไม่ห่าง
“ผมหิวข้าวจัง” อีกฝ่ายบอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ผมเงียบ เดินต่อทำเป็นไม่สนใจ
“ฟ้าทานข้าวรึยังครับ” ผมไม่ฟังเสียง เอาแต่เดินจ้ำเท้าอย่างเดียวจนแทบจะกลายเป็นวิ่งอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนทิกเกอร์จะเป็นเพียงการเดินเร็วเท่านั้นเพราะขาของเขายาวกว่าผมมากอยู่
“อย่ามาจับนะ” ผมสะบัดมือออกในทันทีที่รู้สึกว่ามือของทิกเกอร์มาแตะเข้าที่มือของผม ทิกเกอร์ชะงัก หน้าเสียทันที
“ทำไมฟ้ากลับบ้านเช้าล่ะครับ” ทิกเกอร์ถามเสียงเบา เบามากจนผมเกือบจะไม่ได้ยิน
“หึ ใครเป็นสปายให้ล่ะ” ผมหัวเราะเพราะทิกเกอร์คงรู้มาจากคิวอีกแน่ๆ คิวอาจจะโทรรายงาน หรือทิกเกอร์อาจจะบังคับถามคิว หรืออะไรทำนองนั้น ทิกเกอร์ไม่ตอบ เพียงแต่ยืนนิ่ง
“อยากได้คำตอบจริงๆรึเปล่าล่ะ” ผมตอกกลับ
“......................” ทิกเกอร์เงียบไป สายตาของทิกเกอร์ที่จับจ้องมาที่ผมนั้นบ่งบอกถึงความผิดหวังในตัวผม ผมยืนนิ่ง ในหัวของผมไม่รู้ว่าจะกลั่นกรองคำอะไรที่จะพูดออกไปดี ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจทิกเกอร์ แต่ผมก็กลัวหัวใจตัวเอง เราต่างฝ่ายต่างยืนเงียบอยู่นานมาก นานจนผมรู้สึกว่าขาของผมเริ่มรู้สึกหนักอึ้งอย่างก้าวไม่สะดวก
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอก” ผมพูดขึ้น ทิกเกอร์เงยหน้ามองผมช้าๆ
“เพราะผมไม่มีความมั่นใจแบบที่เคยรู้สึกได้อีกต่อไปแล้ว” ผมบอกและพยายามยิ้มให้อีกฝ่าย ผมพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองไม่ให้หลั่งน้ำตาออกมา คอของผมนั้นแห้งผากจนรู้สึกได้
“มันเหมือน ถูกมีดสับ..แล้วเนื้อมันก็แยกออกจากกันทันที ผมไม่อยาก รู้สึกอย่างนั้นอีก” ทิกเกอร์มองหน้าผมเขม็ง ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ปากของผมนั้นสั่นรึเปล่า ผมรู้เพียงว่าคำพูดนี้ทำให้ผมน้ำตาคลอ ผมเหลือบตาหนีสายตาของทิกเกอร์
“ผมขอโทษ” ทิกเกอร์พูดขึ้น
“มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก..” ผมยิ้ม
“มันเป็นความผิดของผมตั้งแต่แรกแล้ว ผมเป็นคนเริ่มมันเอง..ผมผิดเอง” ผมย้ำเสียง
“เราจบกันไปด้วยดีแล้วไม่ใช่เหรอทิกเกอร์..ทำไมคุณต้องกลับมาอีก”
“เพราะผมรู้..” ทิกเกอร์เอ่ย
“ได้โปรด” ผมพูดแทรกขึ้น และกลับต้องทิ้งเสียงลงก่อนที่จะกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง ทิกเกอร์ชะงัก
“ได้โปรดเถอะ..กลับไปที่ของคุณซะ ได้โปรด..กลับไปซะ” ผมพูดก่อนจะเดินจากออกมา ครั้งนี้ทิกเกอร์ไม่ได้เดินตามมาอีก ผมไม่รู้จะไปที่ไหนต่อ สมองรู้สึกพร่าเบลอ ผมกลัวความรู้สึกของตัวเองมากเกินไป ผมไม่อยากให้เขารอคนอย่างผม เพราะผมยังคงกลัวความคิดของตัวเองเกินกว่าใครจะเข้าใจ กลัวไปถึงอนาคตที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้..
= = = = = = = =
ณ บ้านหงส์ฤดี..
หลังจากที่ผมขับรถวนไปวนมาและจนปัญญากับรถติดในกรุงเทพอยู่เกือบสามชั่วโมง สุดท้ายผมต้องวกรถกลับมาที่บ้านเพื่อนสนิทของผม อย่างที่บอก กิ๊บ..เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี เราคบกันมานานมากจนปัจจุบัน เธอทำงานเป็นแอร์โฮสเตสอยู่สายการบินหนึ่งในประเทศไทย เป็นลูกตระกูลคนมีเงินแต่นิสัยของเธอนั้นห่ามและแปลกจากสาวไฮโซทั่วไปนิดหน่อย เธอไม่ค่อยใช้ของแบรนด์เนม เธอชอบเดินตลาด เธอชอบเข้าวัดปฏิบัติธรรม บางทีเธอมักจะกลายเป็นคนละคนเมื่อเธอนั้นถอดชุดแอร์ของเธอออก
“คืนนี้จะนอนนี่ไหมล่ะ เดี๋ยวฉันนำสวดมนต์เย็นให้” กิ๊บพูดติดตลก ผมเพียงแต่หัวเราะในลำคอ เอเจมาขลุกอยู่ที่บ้านของกิ๊บตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นว่าไร้ที่ไปพอพอกับผม
“แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร สัมภเวสีบ้าง..เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น” ผมและเอเจที่นอนฟังอยู่ถึงกับขำอออกมา
“เจ..” ผมเรียก
“หื้อ” เอเจขานตอบแต่ตายังคงหลับอยู่อย่างเดิม
“แกล้งเป็นแฟนไอให้หน่อยดิ” ผมบอก
“ห๊า!” เอเจเสียงสูงพร้อมกับเบิกตาโพรงขึ้นมาในทันทีทันใด กิ๊บรินวิสกี้เติมให้ผม เธอนั่งลงที่โซฟาปลายเท้าผม กิ๊บนั่งเท้าแขนและอ้าขากว้างอย่างกับผู้ชายอย่างไงอย่างงั้น
“ไม่เอาด้วยหรอก ไอไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องดราม่าของยู” เอเจว่า
“ชีวิตไอโคตรดราม่าเลยยูก็เห็น ขนาดนี้แล้วยังไม่คิดจะช่วยไออีกเหรอ” ผมทำหน้างอใส่
“ไม่เอาหรอก..เสี่ยงกระสุน บางที..ยูก็ควรคบคนธรรมดาๆบ้างนะ แต่ละคนมาตรฐานนี่ไอให้เกินร้อยอ่ะ ไม่รวมเรื่องนิสัยรึอินเนท ชาแร็คเตอร์นะ..ถ้าตัดออกไปได้นี่ไอยกคำว่าเทพบุตรให้เลยล่ะ หึ” เอเจลุกขึ้นและคว้าแก้ววิสกี้ตรงหน้าขึ้นดื่ม
“นั่นน่ะสิ..ที่จริง ทิกเกอร์ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกนะ” ผมพูดลอยๆอย่างอดเข้าข้างไม่ได้ ตาเหม่อมองไปที่โคมไฟบนเพดาน
“หึ..อ่านะ” ทั้งสองคนประสานเสียงพร้อมกัน
“แต่ที่จริง ถึงจะคบคนธรรมดา..แล้วจะรู้ได้ไง ว่าไม่เลวน่ะ” ผมบ่นพึมพำ
“สันดานคนมันจะเลว หนังหน้าเหี้ยหนังหน้าดี รวยหรือจน..แม่งก็เลวอยู่ดีนั่นแหละ มันขึ้นอยู่ที่ว่าใครบ้างที่มีนิสัยดีเสริมหนังหน้าให้ดูดี รึใครบ้างที่หนังหน้าเหี้ยอยู่แล้ว..กลับดันมีนิสัยเหี้ยฉุดหนังหน้าให้เหี้ยลงไปอีก” กิ๊บสบถออกมาอย่างมีอารมณ์ร่วม เอเจและผมแทบหัวเราะกร๊ากออกมาอย่างชอบใจ ที่นานๆครั้งเราจะได้เห็นกิ๊บพูดคำหยาบคายบ้าง
“เฮ้อ..ไอไม่ได้กลัวการผูกมัดหรอกนะ แต่ไอกลัวเค้าจะไม่ผูกมัดไอต่างหาก” ผมบอก
“ทุกคนก็กลัวแบบนั้นแหละฟ้า ถ้าแกอยากจะเดินเครื่อง..ก็ควรเติมน้ำมัน” กิ๊บยิ้มพร้อมกับขยิบตาให้
“แกรู้ดีว่าคันไหนรถยุโรป คันไหนรถญี่ปุ่น..แต่ถึงรถยุโรปจะแพงขนาดไหน ก็มีข้อเสียอยู่ดีใช่ไหมล่ะ” กิ๊บแสดงความคิดเห็น ผมนอนจ้องหน้ากิ๊บ
“อะไหล่แพงไปหน่อย หาที่ซ่อมยากซะด้วย..ต้องมีอู่ประจำ” เอเจพูดปนหัวเราะ ผมกับกิ๊บหัวเราะตาม
“เราไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี” ผมมองหน้ากิ๊บอย่างต้องการที่พึ่ง
“จากที่เห็น ไอว่ายูไม่ใช่คนเริ่มนะ..” เอเจยิ้ม ลุกขึ้นเดินตรงไปที่เคาร์เตอร์ที่อยู่ไม่ห่างจากที่เรานั่งอยู่ตรงนี้มากนัก
“ยูเป็นเพียงคนอนุญาต คนที่กำลังเริ่มเดินเกมน่ะ..คืออีกฝ่ายต่างหาก เมื่อยูเป็นคนอนุญาต แสดงว่ายูคือคนควบคุมเกม มันขึ้นอยู่ที่ว่า..ยูน่ะ จะควบคุมเกมได้รึเปล่า” เอเจเดินกลับมาพร้อมกับองุ่นแดงทั้งจาน
“ศึกหนักหน่อยล่ะนะ เพราะหลายคนทีเดียว..เพื่อนเรานี่เสน่ห์แรงไม่เบา ถ้าปูนอยู่ล่ะก็ คงปวดหัวมากกว่านี้แน่” เอเจพูดปนหัวเราะ
“นั่นน่ะสิ..ฮ่าๆๆ” ผมกับกิ๊บพูดอย่างเห็นด้วย เอเจมีสิ่งที่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง เขาเป็นผู้ชายปกติที่มีโลกส่วนตัวสูง แต่กลับมาคบกับพวกผมเป็นเพื่อนสนิทได้ เอเจมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายอีกกลุ่มหนึ่งเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเราค่อนข้างจะเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
“แต่ถ้าปูนอยู่ มันก็ต้องโวยวายเข้าข้างทิกเกอร์อยู่ดี นั่นญาติมันนี่นะ” กิ๊บเบะปาก
“ให้ตายเถอะ” ผมถอนหายใจ
“ยูกลัว” เอเจยักคิ้วและชี้หน้าผมอย่างรู้ทัน ผมยิ้มให้และไม่ตอบอะไร แน่นอนว่าผมยังกลัวและลังเลที่จะลงเล่นเกมด้วยอย่างที่เอเจว่า ผมอนุญาตให้จักรเดินเข้ามาในเกมของผมได้แล้วเพราะผมคิดว่าผมสามารถคุมเกมได้ แต่ผมยังไม่กล้าอนุญาตให้ทิกเกอร์ลงมาร่วมเล่นเกมกับเราด้วยได้ เพราะสุดท้ายคือผมกลัวใจตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ผมไม่สามารถเปิดใจได้ทั้งหมด หลายหลายเหตุผลนอกจากที่ผมกลัวการก้าวเดินไปอย่างคู่รักอีกครั้ง คือ..ความเจ็บปวดแสนสาหัส ผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของผมอีก ถ้าผมจะนึกกลัวอยู่ซ้ำแล้วซ้ำอีกนั่นคงไม่แปลก เพราะผมนึกเสมอว่าการที่ต้องชอกช้ำส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวผมด้วย
ตอนนี้ผมอยากยืนอยู่อย่างนี้เพื่อป้องกันหัวใจของตัวผมเองสักพัก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการทั้งหมด ใช่แล้ว..ผมยังต้องการมีความรักอีกครั้ง ผมอยากมีความรัก แต่น่าแปลกที่ผมไม่เคยเจอใครที่รู้สึกในทันทีว่า “ใช่..คนนี้ล่ะ คนนี้แน่นอนเลย” มานานหลายปีมากแล้ว จักรและทิกเกอร์เป็นเพียงสองคนที่ผมเคยรู้สึกแบบนั้นด้วย การที่ได้เจอคนที่ถูกใจ ก็คงคล้ายกับการที่ผมหลงใหลในเสื้อผ้า ถ้าไม่รู้สึกหลงใหลถึงใส่พอเหมาะพอดีก็คงจะไร้ชีวิตชีวานั่นจึงทำให้ผมไม่อยากลองไปให้เสียเวลาเปล่า เวลานั้นจึงผ่านมานาน จนผมลืมไปแล้วว่าผมนั้นยังคงรักเป็น ผมลืมการที่จะต้องจีบคนคนหนึ่งที่รู้สึกว่าชอบมากจริงๆไปเสียแล้ว แต่สิ่งที่ผมกลับไม่เคยลืมได้ลงเลย คือ..ความทรมานที่ต้องการหลุดพ้นจากห้วงเวลาเหล่านั้น
...................>>>><<<<...................
-
:z13:
สงสารทิกเกอร์ :sad4: แต่ก็เข้าใจพี่ฟ้านะค่ะ :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย ขอบคุณพี่บี้ค่า :กอด1:
เค้ก พี่คิว น่ารักกกกกกกกกกก :-[ :-[
-
อาฟ้า สู้ๆๆ อาฟ้าสู้ๆตายย
คนเรามีเรื่องให้ต้องกลัวทุกคนละ้ค้าบบบ แต่เราต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้นะ
ลองหาที่สงบ ๆ นั่งคิดอะไรสักพักไหมค้าบบบ อาฟ้าจะได้ดีขึ้น
พี่คิวกับเค้กก และคำว่า "เรา" ชอบจังเลยอ่าาา น่ารักก
-
ทิกเกอร์คงต้องใช้ความพยายามอีกมาก
:เฮ้อ:
-
อาฟ้าคงสับสนมากอ่ะ
-
:เฮ้อ: ถ้ายังกำจัดความกลัวไม่ได้ อย่าเพิ่งมีใครเลยนะฟ้า :z3:
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
ฟ้า เจ็บจริงๆเลยสินะ เลยกลัวความรักไปเลย
T^T เศร้าแทนเลยอะ
-
เรื่องของพี่ฟ้านี่ คิดไม่ตกจริงๆ..แต่อยากจะบอกว่าเชียร์ทิกเกอร์ :m16:
พี่คิวกับน้องเค้กน่ารัก.. :กอด1:
-
เออ สู้ๆ นะ ทิกเกอร์ สงสัยต้องใช้ความพยายามอีกมากกก :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ:เหนื่อยใจแทนอะ
-
สงสารทิกเกอร์ สู้ๆนะ คงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเลยล่ะ :เฮ้อ:
คิวกะเค้กน่ารักอ่ะ คิดถึงๆ :o8:
:pig4:
-
ความอดทน และจริงใจเท่านั้นที่จะครองฟ้า (เกี่ยวไหมเนี่ย)
:pig4: คะ
-
:really2:
-
พี่ฟ้าไหง๋ดราม่างั้นล่ะ
ตอนแรกนึกว่าจะมีความรักอบอุ่นซะอีก
-
โอ้ย มันซับซ้อนเกินไป
ปวดหัวใจ :z3:
ไม่รุ้จะเอาไงดี
เพราะตอนนี้เราก็คิดแบบเดียวกับฟ้า ฮ่าๆ
ปล.คิวเค้กนี่น่ารักเกินไปนะ อัยยะ :impress2:
-
คิว-เค้ก กับคำว่า "เรา" :o8:
ทิกเกอร์คงต้องอดทนกับฟ้าไปอีกนาน ตราบใดที่อาฟ้ายังคงกลัวที่จะเริ่มต้นใหม่ ฟ้าให้จักรเข้ามาอยู่ในเกมได้เพราะคิดว่าคุมเกมอยู่ แต่กับทิกเกอร์ ฟ้ากลับไม่แน่ใจ แสดงว่า อาฟ้าเองก็กลัวจะใจอ่อนกับทิกเกอร์ เพราะดูๆ ไปแล้ว คนเข้าข้างทิกเกอร์เยอะมาก โดยเฉพาะคิวหลานรักที่ถึงขนาดหา คอนโด และเป็นสปายว่าในแต่ละวันอาฟ้าไปที่ไหนบ้าง
อาฟ้าคงต้องไปหาที่เงียบๆ แล้วค่อยๆ คิดว่าตัวเองต้องการที่จะเริ่มรักครั้งใหม่กับใครระหว่างจักร กับ ทิกเกอร์
กด + ให้คนเขียนค่ะ :pig4:
-
อาฟ้าคิดมาก ยิ่งคิดมากยิ่งสับสน
แต่สงสารทิกเกอร์เบาเบา
-
เฮ้อออ อึมครึ้ม ฟ้าจะทำไงล่ะเนี๊ยะ
สงสารทิกเกอร์น่ะ ตามง้อขนาดนี้แล้ว
ไม่รุ้เมื่อไหร่ฟ้าจะใจอ่อน รอลุ้นครับบ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
เป็นกำลังใจให้ทิกเกอร์อย่าเพิ่งท้อที่จะง้ออาฟ้านะ
-
สงสารพี่คิวที่สุด เมื่อไหร่จะได้กินเค้กน้อ คึคึ :z1:
-
อย่างน้อย จุดนี้ก็ได้รู้ว่า คนที่อาฟ้ายังรักคือใคร
ใครที่ทำให้อาฟ้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์ ความมั่นใจ ได้
ทิกเกอร์ถ้าไม่ท้อไปซะก่อนนะ ก็อาจได้ลุ้น
อย่าถอดใจหละเค้าเชียร์
อาฟ้าอย่าโกรธ นะยังไง เราก็เข้าข้างอาฟ้า ที่ทำแบบนี้ ก็สมควรแล้ว
-
เปลี่ยนไปลุ้นอาฟ้ากะเอเจแทนได้ป่าวววว ทิกเกอร์กับจักรดูน่าปวดหัวยังไงมะรุ XD
-
พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างพี่ฟ้าเสมอออ...
อากับหลาน.....เพียงแค่มองตาก็รู้ใจ..
พี่คิวเค้ารู้ทันอาเค้าตลอดๆ..เป็นคนที่สุดยอดจริงๆ
-
เค้กกับพี่คิวมีบทนิดหน่อยด้วยล่ะ อิอิ
พี่ฟ้าเป็นคนที่น่าสงสารจัง T^T
-
ฟ้าใจแข็งกะทิกเกอร์จัง ดูคู่คิวกะเค้กซิ เค้ากะลังไปกันด้วยดีเลย
อยากให้ฟ้ามีความสุขกะเค้ามั่ง :เฮ้อ:
-
แอบหนักใจกับรักของอาฟ้านะค่ะ สงสารอาฟ้าก็สงสารแต่ก็สงสารทิกเกอร์อ่ะ เอ็นดูจริงๆพ่อหนุ่มคนนี้อ่ะ 555 :o8:
เป็นปลื้มตรงพี่คิวกับน้องเค้กนี้แหละค่ะ ตักบาตรร่วมขัน..แล้วฉันจะได้คู่กับเธอ ก๊าก ก ก ก 5555 ไม่ไหวๆ น่ารักกันจริงๆ เด็กสมัยนี้ชวนกันทำบุญ ปลื้มปลิ้มกันไป :กอด1:
อาฟ้าคงต้องอนุญาตให้ทิกเกอร์เข้ามาในเกมส์แล้วแหละค่ะ แรงเชียร์เยอะขนาดนี้ ทิกเกอร์สู้ๆ (ลำเอียงสุดๆไปเลยฉัน)
ปล. อุปสรรคมีไว้พุ่งชนค่ะอาฟ้า o13
-
พี่ฟ้าน่าสงสาร เจ็บปวดกับความรักมากเกินไปจนกลัวการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ยิ่งเป็นพวกรักครั้งเก่าด้วยแล้ว ยิ่งน่ากลัว
มุมมองความรักของพี่ฟ้ามีแต่ความกลัวอ่ะ ความกลัวล้วนๆ ไม่ว่าใครจะพูดยังไง คิดยังไงก็ยังคงกลัว
ถ้าจะใจแข็ง ดูก้าวร้าว กับพวกที่เข้ามาจีบก็ไม่เห็นจะแปลก แต่ละปัญหาหัวใจที่พี่เค้าเคยเจอนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ
พี่ฟ้าสู้ๆ ต้องเข้มแข็งไว้ ณ ตอนนี้ยังไม่เชียร์ทิกเกอร์ 55 เพราะยังไม่รู้เหตุผลแ่น่ชัดว่าทำไมถึงเลิกกัน เชียร์ให้ใจแข็งเข้าไว้
ถ้าเค้าชอบเราเค้าก็ทนเราได้ ถึงเชงต่อไปนานๆ คุมเกมส์ไว้ให้ได้ เดี๋ยวก็จะรู้ว่าหมู่หรือจ่า ฮ่าาาา
แต่ถ้าตัดปัญหารอบตัวที่เคยเกิดขึ้นไป ทิกเกอร์น่ารักพอตัวเลย กร๊ากกกกก ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ !
และพี่คิวและเค้กน่ารักมากกกกก โผล่มานิดๆพอเป็นกระสัย แต่คนอ่านกรีดร้องดังไปแปดกิโล 5555
แค่นี้ก็หวานและ เค้าไปทำบุญด้วยกัน โอ้ยฟิน =///=
-
:sad4: :sad4: :o12:
-
อาฟ้าคงเจ็บมามาก
จากที่อ่านรู้สึกว่าทิกเกอร์มีภาษีดีกว่าจักรเยอะ
ดูอาฟ้ายังพอมีเยื่อใยแต่ก็ยังดูท่าจะเจ็บมามากเหมือนกัน
อาฟ้าสู้ๆ :L2:
-
ขึ้นอยู่กับทิกเกอร์แล้วว่าจะมั่นคง และอดทนขนาดไหน
ชูป้ายเชียร์ทิกเกอร์ :mc4:
-
สุดท้ายความรู้สึกของฟ้าก็วนซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกำลังพายเรือในอ่าง
-
พี่ฟ้าน่าสงสาร และทิกเกอร์ก้น่าสงสาร
ที่พี่ฟ้ายังเจ็บปวดอยู่ ยังไม่หลุดพ้นจากความทรมาน
อาจเป็นเพราะพี่ฟ้ายังรักทิกเกอร์อยู่ คิดว่างั้นอ่ะนะ
ส่วนจักร ดูเหมือนพี่ฟ้าจะเจ็บแล้วจำ พร้อมกับอยากเอาคืนมากกว่า
จักรควบคุมได้ แต่ทิกเกอร์ไม่
อดทนหน่อยนะทิกเกอร์ มันต้องมีช่วงเวลาที่พี่ฟ้าเลิกหนีได้สักวัน
จนกว่าจะถึงวันนั้นก้จะเอาช่วยนะ สู้ๆ
ขอบคุณนะคะ เบบี้
-
สงสารทั้งฟ้าทั้งทิกเกอร์เพราะต่างฝ่ายต่างก็เจ็บด้วยกันทั้งคู่ :m15:
-
พี่ฟ้ายังไม่เปิดใจให้ทิกเกอร์ลงมาเล่นเกม
ก็เหมือนกับความจริงน่าจะรักทิกเกอร์มากกว่าเนาะ ตอนผิดหวัง เอฟเฟคถึงมากกว่าจนหวาดกลัวแบบนี้. :z3:
นั่งรอบุญที่น้องเค้กเอามาฝากดีกว่า อิอิ :กอด1:
-
"มันเสี่ยงเกินไปที่จะกลับไปคบกับผู้ชายในอดีต" :เฮ้อ:
น่าสงสารทิกเกอร์ ถ้าอาฟ้ายังกลัวอยู่แบบนี้เห็นทีว่าจะยาก
เอาใจช่วยนะ :กอด1: มีน้องเค้กโผล่มาแจมด้วย หายคิดถึงเลย
-
บรรยากาศของน้องเค้กกับพี่คิวปิด เสมือนท้องฟ้าหลังฝนตก แสงแดดส่องสว่าง ให้ความรู้สึกอบอุ่น
และชุ่มชื่นในหัวใจ (แม้ยังจะไม่ได้อ่านตอนหวาน ก็ยังรู้สึกได้ คึิคึ)
ส่วนของอาฟ้า บรรยากาศก่อนฝนตกช่างอึมครึม ขมุกขมัว .. มอบเพลง "ร่มสีเทา" ของวัชราวลี ให้อาฟ้าฟังนะคับ
"ฉันเฝ้าถามความสุขอยู่ที่ไหน ชายที่เขาเดินผ่านฉันเข้ามา บอกกับฉันขอร่มสักคัน แต่ว่าที่มือเขาก็มีหนึ่งคัน
ก็แปลกใจ ท่ามกลางหยดฝนโปรยปราย เขาก็ถามฉันว่าอยากสุขไหม ลองหุบร่มในมือสักพักหนึ่ง และเงยหน้ามองวันเวลา
มองหยดน้ำที่มันกระทบตา ยังเปียกอยู่ใช่ไหม หรือไม่มีฝน
บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ถ้ามองจากตรงนี้ เดี๋ยวก็มืด แล้วก็สว่าง อาจจะมีฝนก่อเป็นพายุ หรือลมลอยปลิวอยู่แค่นั้น
สุขที่เคยเดินทางตามหามานาน ไม่ได้ไกลที่ไหน อยู่แค่นี้เอง อย่าไปยึด อย่าไปถือ อย่าไปเอามากอดไว้ ก็จะไม่เสียใจ
ตลอดชีวิต ต้องผ่านการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าใคร จะทุกข์ จะสุขแค่ไหน ก็อยู่ที่จะมอง"
ขอบคุณเบบี้น๊า รออ่านตอนต่อไปคับ^^
-
ฟ้าดูทุกข์ จังเลย ตอนนี้ ก้เข้าใตฟ้านะว่าทำไม
สงสารทิกเกอร์ ด้วย
:L2:
-
เป็นกำลังใจให้ทั้งอาฟ้า ทั้งทิกเกอร์นะ
หวังว่าเวลามันคงจะช่วยอะไรได้บ้างง o18
-
:เฮ้อ:
ถอนหายใจจนเหนื่อย
อะไรจะทำให้พี่ฟ้าหายจากรักเป็นพิษได้บ้างเนี่ย
-
เข้าใจอาฟ้านะ
มันเจ็บมากอ่ะ เจ็บแบบสุดๆ สองรอบ
จะให้กลับไปอีกที ก็ต้องคิดนานหน่อยล่ะ
ว่าแต่..พี่คิว เดินแบบเหอะ อร๊ายยยยย
อยากเห็นอ้ะ~~~
-
เป็นกำลังใจให้อาฟ้าค่ะ :L2:
-
อาฟ้าเหมือนคนหลงคนหลงทางเลยอ่ะ อะไรก็ไม่ทำเพราะกลัวใจตัวเองนี่แหละ ยังไงๆ ก็ยังเชียร์ทิกเกอร์อยู่นะ
-
:เฮ้อ: เรื่องของความรักนี่มันช่าง......
แต่ถึงยังไง เราก็ยังยืนยัน ว่าจะรออาฟ้าใจอ่อน ต่อไป......
ทิกเกอร์สู้ๆๆๆๆ :ped149:
-
กลับไปคบกับคนในอดีตที่เคยทำเราเจ็บแสนสาหัสจนฝังใจมาแล้ว
กับเลือกคบคนใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย อาศัยต้องค่อยเรียนรู้กันไป
ไม่รู้แบบไหนน่ากลัวกว่ากันสำหรับอาฟ้าอ่ะนะ
มานั่งคิดๆดูแล้ว การที่คิวหนุนหลังฝ่ายทิกเกอร์
เป็นไปได้ไหมว่าในทัศนะของคิว สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหรือความผิดของทิกเกอร์นั้นไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่อาฟ้ารู้สึก
หรือคิดว่าผิดแต่สมควรแก่การให้อภัยได้ เพราะคนเป็นหลานคงไม่ยกอาให้กับคนที่ทำร้ายอาตัวเองหรอก
เว้นแต่มันจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ...หรือเปล่านะ
แล้วที่อาฟ้าบอกว่าตัวเองผิดเอง ตัวเองเป็นคนเริ่มก่อน
ทำให้เราแอบคิดไปว่าที่จริงแล้วอาฟ้าอาจจะเป็นคนที่เข้ามาแทรกกลางเองก็ได้โดยที่ไม่รู้หรืออะไรแบบนั้น ...หรือเปล่า
อะนะ เพ้อเจ้ออีกแล้วเรา ชอบเดามั่วไปเรื่อยน่ะค่ะ T T
รอตอนอดีตเปิดเผย จะได้รู้ไปเลยว่าจะหนุนหลังทิกเกอร์ด้วยคน หรือจะถีบส่งไปพร้อมกับจักรดี!
-
คือหมั่นไส้จักรเป็นพิเศษอ่ะ ไม่ใช่เพราะว่าเชียร์ทิกเกอร์นะ
อาจเป็นเพราะจักรแสดงให้เห็นว่าไม่มีเธอ ฉันก็ไปมีคนอื่นอยู่นานทีเดียว
ส่วนความผิดของทิกเกอร์เท่าที่รู้ตอนนี้ คือ แต่งงาน
แต่ความผิดนี้ก็ใหญ่มาก เกินให้อภัยจริง ๆ
ทั้งสองคนผิดตรงเรื่อง นอกใจ ทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับว่ารับใครได้มากที่สุด
และพร้อมให้อภัยและเริ่มต้นใหม่กับใครมากที่สุดนี่แหละ
-
อาฟ้า สู้ๆๆ
พี่คิวน่ารักขึ้นทุกวัน อิอิ
-
โอ้ยย ดราม่า :o12: :o12:
-
อย่างที่เอเจว่าแหละพี่ฟ้า อนุญาตให้เข้ามาแล้วคุมเกมส์(หัวใจตัวเองนั่นแหละ) ให้อยู่ เดี๋ยวดีเอง
ทิกเกอร์สู้ๆ
-
:L2: เห้อ เข้าใจพี่ฟ้านะ แต่ก็แอบสงสารทิกเกอร์
-
สงสารฟ้าอ่ะ ชีวิตดราม่ามากตั้งแต่เด็ก :z3:
-
หนัก และ เหนื่อยใจมากๆเลยฟ้า
ค่อยๆ คิดอย่าหักโหมนะ :bye2:
-
คนแก่กว่าชีวิตเลยดราม่ากว่าเกี่ยวป่ะ 55555 อาฟ้าเลือกทิเกอร์เหอะ รวยกว่า กร๊ากกกก
-
อาฟ้าสู้สู้ :ped149:
ทิกเกอร์สู้สู้ :ped149:
-
ตอนแรกก็เหมือนจะเข้าใจฟ้านะ แต่อ่านไปอ่านมาทำไมกลับรู้สึกว่าฟ้าขี้ขลาด ถ้าคนเรากลัวเจ็บจนไม่กล้าจะเดินต่อแล้วจะทำยังไง ยังนั่งอยู่ตรงนั้นหรอ ปล่อยเวลาทิ้งไปเรื่อยๆ มีความสุขแล้วหรอ อย่างในกรณีของฟ้าก็ไปหาเหยื่อตามผับไปเรื่อยๆเค้ามีความสุขแล้วจริงๆหรอ สุดท้ายถ้าไม่กล้าที่จะเสี่ยงกับความเจ็บมันก็ยังนั่งอยู่ที่เก่าไม่ได้ก้าวไปไหนสักทีไม่ใช่หรอ ก็ได้แต่รอดูว่าเมื่อไหร่ฟ้ากล้าล่ะนะ :เฮ้อ:
-
เข้าใจฟ้านะ คงเจ็บปวดแสนสาหัสมาก่อน ถึงได้สับสนและกลัวความรักได้ขนาดนี้
:เฮ้อ:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เค้กน่ารัก ส่วนพี่คิวก็ยังแง่งๆเหมือนเดิม
-
เวลาผิดหวังจากความรัก ต้องเยียวยาหัวใจนานแค่ไหนกว่าจะผ่านพ้นมาได้
ถ้าจะให้กลับไปคบกับคนเดิม จะมั่นได้อย่างไรว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย
ความกล้าที่จะไว้วางใจ เชื่อใจ และมั่นใจในคนๆ นั้น ยากยิ่งนัก
-
โอยยยยยยยย หนักใจแทนนนน
:z3: :z3:
-
คงต้องพยายามกันอย่างมากล่ะนะ
ทั้งพี่ฟ้าและอดีตทั้งสอง :เฮ้อ:
ดูพี่ฟ้าจะหวั่นไหวกับทิกเกอร์นะ
แต่ความกลัวทำให้ไม่กล้าที่จะเปิด
พี่ฟ้าเข้มแข็งขึ้นแล้วนี่ อย่าไปกลัว
เอาใจช่วยทุกคนค่ะ :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: เหนื่อยกะฟ้าจัง สู้ๆ
-
อาฟ้าชีวิตสับสนวุ่นวายมากเลย อาหลานคู่นี้เหมือนกันรักฝังใจ(คิว)แต่อาฟ้าต้องแถมด้วยแค้นฝังหุ่น ลืมมันไปให้หมดแล้วเริ่มต้นใหม่กันใครสักคนที่เราสามารถคุมเกมส์ได้ตลอดไปจนชั่วชีวิตไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าไม่อยากคบกับคนในอดีต ก็เดินหน้าต่อไป
อย่าลอยชายอยู่แบบนี้เลย เรารู้สึกเศร้า :monkeysad: ส่วนหลานคิว มีแตุ่่อุ่นไอรักนะช่วงนี้ :laugh:
-
:pig4: :pig4:
-
สงสารทิกเกอร์ แต่พี่ฟ้าก็มีเหตุผลของเค้านี่เนอะ
คิดถึงพี่คิวกับเค้ก คบกันราบรื่นเลยสิคิคิ :o8:
-
:กอด1:
-
เอาใจช่วยอาฟ้านะ
-
เฮ้อ!! ศึกนี้เมื่อไหร่มันจะจบน่ะ
-
อาฟ้าเสน่ห์แรงมากกกกกกกกกกก แต่แบบนี้คงเก๊กซิมน่าดู
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :pig4:
-
:z3: อาฟ้าาาาาา ทำไมดราม่าอย่างนี้ ลำบากใจแทนจริง ๆ
ให้เริ่มเกมพร้อมกันสองคนไปเลย เปรียบเทียบกันไปเลยยย
-
"สันดานคนมันจะเลว หนังหน้าเหี้ยหนังหน้าดี รวยหรือจน..แม่งก็เลวอยู่ดีนั่นแหละ
มันขึ้นอยู่ที่ว่าใครบ้างที่มีนิสัยดีเสริมหนังหน้าให้ดูดี
รึใครบ้างที่หนังหน้าเหี้ยอยู่แล้ว..กลับดันมีนิสัยเหี้ยฉุดหนังหน้าให้เหี้ยลงไปอีก”
บ๊ะ!กิ๊บพูดได้แร๊งส์ถูกใจเจ่จริงๆ o13
-
อาฟ้าใจร้ายกับทิกเกอร์มากไปแล้วววว แต่ทำไงได้ ก็พี่ทิกไปทำอาเค้าก่อนนี่นา เพราะฉะนั้นเราไม่สงสารหรอกนะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
ไม่อยากบอกว่าสงสารทิกเกอร์แหละอาฟ้า :o12:
พี่คิวแอบงอนอาฟ้าป่ะเนี่ยะ. อาฟ้าเสเพลผู้น่าร๊ากกกกกกก :impress2:
-
สงสารอาฟ้าจัง :m15: :m15:
กล้าๆ เข้าๆ ไว้นะอาฟ้า :ped149:
สู้ๆนะทิกเกอร์ จุ๊บๆ :yeb: :yeb:
-
ฟ้ารักทิกเกอร์มากเลยสินะ มากกว่าจักรที่เป็นรักแรกด้วยถึงได้กลัวขนาดนี้....
อ่อ แต่คู่หลานเค้าแฮปปี้นะ รู้สึกว่าตั้งแต่คบกับคิว เค้กมันน่ารักกว่าเดิมนะเนี่ย
:pig4: :กอด1:
-
อาฟ้ากลัวใจตัวเองว่าจะกลับไปรักทิกเกอร์อีกแน่ๆ
ทิกเกอร์จ๋าาาา ทำอะไรให้อาฟ้ามั่นใจหน่อยจิ :z10:
-
:เฮ้อ: ปวดจิตแทน อาฟ้า กะอเวจีสีชมพู :laugh:
ไม่รู้ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไง แต่ก็มั่นใจในสิ่งที่อาฟ้าทำ เสมอ :z2:
P.S. go for it ><"
-
:impress2:หนักใจแทนฟ้าจริงๆ :z3:
-
ทิกเกอร์กะจักร ทิกเกอร์ดีกว่าเห็นๆ
แต่เข้าใจคนมีแผลอย่างฟ้าอะนะ
คิวเค้กมานิดๆ แต่น่ารักมาก
-
สงสารฟ้าเป็นที่สุดเลยค่ะ
แต่เชียร์ทิกเกอร์สุดใจ
-
ถ้าอาฟ้าเด็ดขาดได้สักครึ่งของหลานละก็คงดีนะ
-
พี่ฟ้านี่เข้าข่ายประเภท"เจ้าสาวที่กลัวฝน"รึเปล่าอะ
ถึงไม่ยอมเปิดใจให้ใครซักที
-
ยังไงก็เชียรทิกเกอร์นะ :กอด1:
-
ปมที่ทำให้ทั้งสองเลิกกับฟ้านี่น่าสนใจดีแฮะ
ว่าสุดท้ายเหตุผลที่เลิกเป็นเพราะอะไร และอย่างไร
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนการได้ค้นหาสมบัติ
ซึ่งสมบัตินั้นคือ สาเหตุการเลิกลาทั้งสองครัง
น่าติดตามว่าเฉลยออกมาจะเป็นอย่างไร :z2:
:กอด1:
-
ทิกเกอร์สู้ๆๆๆ ฟ้ายังมีใจอยู่แน่นอน แต่ต้องทำให้อาฟ้ามั่นใจก่อนอีกครั้ง
แถมทิกเกอร์อะ กองเชียร์เพียบบบบบ สู้ๆๆนะอย่าท้อไปก่อน
อยากจะไปมองหน้าทิกเกอร์เองมั่ง หล่ออซะขนาดนั้นนนน
55555555
แอบดีใจมีเค้กคิวเบาๆๆๆ :impress2: :impress2:
-
ฟ้ากลัวความเจ็บปวดที่เคยประสบ แต่ถ้าตราบใดที่ ฟ้ายังคิดถึงอดีตที่เจ็บปวดและยังไม่พร้อมเปิดรับรักครั้งใหม่
ทั้ง ๆ ที่ใจก็ยังรู้สึกดี ๆ กับอดีต ตราบนั้น ฟ้าก็อาจจะเปรียบได้กับ " เจ้าสาวที่กลัวฝน " :monkeysad:
+1 เป็นกำลังใจให้เบบี้
ปล. ใคร ๆ ก็แอบเชียร์ทิกเกอร์ เพราะอะไรหว่า .....
-
พี่ฟ้ายังรักทิกเกอร์อยู่ใช่ใหม???
สงสารพี่ฟ้า แต่ก็เห็นใจทิกเกอร์
พี่ฟ้าคงเจ็บปวดกับความรักที่ผ่านมามากๆ
-
ทำไงดีละทีนี้ เอาใจช่วยทั้งมวลทั้งหมดนะครับ
-
ฟ้ายังรักทิกเกอร์อยู่แน่ๆ ถึงได้กลัวและไม่กล้าเปิดใจให้เค้าเดินเข้ามามากขนาดนั้น ในขณะที่จักรฟ้ากลับมั่นใจว่าจะควบคุมเกมส์นั้นได้ เข้าใจฟ้านะว่าเรื่องราวที่ได้เจอมามันคงเจ็บปวดจนไม่อาจจะรับไหวแล้ว ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง เห้อ แต่ก็สงสารทิกเกอร์อ่ะ ดูท่าทางจะรักจริง แต่อะไรที่ทำให้ ณ ตอนนั้นทิกเกอร์เลือกคนอื่นล่ะ ดูเหมือนว่าแต่ก่อนทิกเกอร์จะมีคนรักอยู่แล้วใช่มั้ย แล้วไม่เลือกฟ้าน่ะ เดาไปเรื่อย ฮ่าๆ อ่านไปลุ้นไป อยากรู้ว่าทำไมถึงได้เลิกกันละ คึคึ แอบมีคิวกับเค้กเล็กน้อยให้ชุ่มชื่นหัวใจ คึคึึ พี่คิวยังทำเป็นเข้มเหมือนเดิม ฮ่าๆ แหมเค้กเดี๋ยวนี้ใช้คำว่า "เรา" กับคิวได้คล่องปากแล้วอ่าดิ >.,<
-
....อาฟ้า ver. love1 ดูเป็นคนใจดี ขึ้เล่นนะ
....พอมาอ่านเรื่องของอาฟ้าแบบละเอียดนี่...
....อาฟ้าเป็นคนคิดเยอะ ขี้กลัว และ...ไม่มั่วแต่..ทั่วถึง :laugh: :pigha2:
-
รออีกสักพักนะทิกเกอร์
-
ทิกเกอร์ทำผิดไว้ มันต้องใช้เวลาสักนิดนะคะพ่อคู๊ณณณณณณ ขืนดีกันเร็ว ๆ ก็ไม่มีอะไรอ่านอ่ะดิ 5555
-
ไม่ได้เข้ามานานได้อ่าน 7 ตอนรวดดด> <
สงสารทิกเกอร์ :sad4:แต่ก็เข้าใจฟ้า
-
~8~
เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ณ ประเทศอิตาลี..
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมได้ทำทุกอย่างเสร็จไปอย่างราบรื่น ผมไปเรียน เสร็จหลังจากนั้นก็ติดต่องานกลับไปที่ประเทศไทย โทรคุยกับหลานสุดที่รักเล็กน้อยว่าวันนี้ผมจะดินเนอร์ที่บ้านทิกเกอร์เลยไม่ต้องรอ ก่อนที่จะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตและตรงดิ่งไปที่บ้านคนรักของผมอย่างไม่ได้บอกล่วงหน้า เพราะต้องการเซอร์ไฟรส์อีกฝ่ายที่เพิ่งกลับมาจากอังกฤษได้วันสองวัน
“Everything is getting closer and closer, the truth is always the truth!” ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงของปูนดังออกมาจากห้องรับแขก ภายในตัวบ้านเงียบมากจึงทำให้ผมได้ยินเสียงของปูนชัดทีเดียว
“You've got to tell the truth now Tigger!” ขาของผมหยุดขยับในทันทีทันใด ลางสังหรณ์ไม่ดีที่ผมกำลังรับรู้ได้นั้นผุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภาพย้อนกลับไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ เหมือนนี่จะเป็นคำตอบในบางสิ่งบางอย่างที่ผมสงสัยมาตลอด ว่าระหว่างทิกเกอร์และปูนเหมือนมีความลับอะไรต่อผมอยู่ บางครั้งความรู้สึกมั่นใจว่า “ใช่แน่” ก็เกินมาตรฐานไป
“I can't!” ทิกเกอร์ตอบด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว ผมกอดถุงกระดาษจากซุปเปอร์มาเก็ตแน่นกว่าเดิมเพราะกลัวว่าถุงจะตกจนทำให้คนภายในห้องรับรู้ได้ว่ามีคนแอบฟังเขาทั้งสองอยู่
“แต่คุณต้องทำ..ถ้าคุณไม่ทำ ผมจะทำเอง ผมจะเป็นคนบอกฟ้าเอง..นั่นเพื่อนรักของผมนะ!” ปูนพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวโกรธอย่างที่ผมไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก ถึงแม้ว่าปูนจะค่อนข้างเป็นคนขี้วีนแต่น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นอย่างนี้ผมยังคงไม่ชิน
“แต่ผมรักฟ้า!” ทิกเกอร์พูดแทบจะตะโกน เสียงของทั้งสองคนเงียบลงหลังจากนั้น ใจของผมเต้นไม่เป็นส่ำ
“แต่คุณก็รักแอนนาด้วย รึคุณจะปฏิเสธ..คุณปฏิเสธผมได้ไหมว่าคุณไม่ได้รักเธอ งั้นปฏิเสธมา” ปูนย้อนตอบ หน้าของผมชาในทันทีที่ได้ยิน คำถามเพียงหนึ่งเดียวที่มีในตอนนี้คือ “ใครคือแอนนา” อยู่ๆน้ำตาของผมนั้นก็เอ่อล้นขึ้นทำให้ตาของผมพร่ามัว ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวนั้นเป็นอย่างไร แต่มันคล้ายกับสัญชาติญาณของมนุษย์ เพียงคำพูดเท่านั้นเหมือนดังกับว่าสามารถตอบคำตอบได้กระจ่างอย่างที่สุด
“.....................” ไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากทิกเกอร์อย่างที่ผมหวังให้เขาปฏิเสธ ผมได้แต่เพียงนึก “ได้โปรด..ปฏิเสธสิ” อยู่ซ้ำๆเต็มอก แต่เปล่า..
“นั่นไม่สำคัญ เท่ากับที่ตอนนี้เธอท้อง..และไม่สำคัญ เท่ากับที่ตอนนี้เพื่อนของผมกำลังรักคุณมาก” คำพูดของปูนทำให้ขาของผมทรุดลงกับพื้นในทันที ภาพเก่าๆทั้งดีและร้ายย้อนกลับมาเหมือนกับบอกผมว่า “คุณพลาดแล้วฟ้า คุณแพ้โชคชะตาอีกแล้ว” อย่างไรอย่างนั้น
“ฟ้า..” ผมได้ยินเพียงเสียงอุทานจากคนสองคน เขาคงจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าผมได้อยู่ร่วมวงสนทนาด้วยนานแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นช้าๆ รู้เพียงว่าหัวใจของตัวผมนั้นว่างเปล่าจนไร้คำบรรยายใดๆ หัวใจคงกำลังร้องไห้ไปพร้อมพร้อมกับผมในตอนนี้ น้ำตาของผมไหลอาบแก้มมากมายเกินไปจนผมไม่คิดจะเช็ดมัน
“ฟ้า” ปูนรีบวิ่งตรงเข้ามาและทรุดนั่งลงตรงหน้าผม ผมพยายามยิ้มให้เพื่อนรัก แต่กลับยิ้มไม่ออก
“ฉันขอโทษ” ผมตัวเอนเข้าไปในอ้อมกอดของปูน สายตาของผมเห็นสีหน้าของทิกเกอร์ไม่ชัด เขายืนนิ่งอย่างกับถูกสาปเอาไว้
“อึก..อื้อ” ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกไปจากผม ที่จริงแล้ว..ในห้องนี้ไร้คำพูดไปชั่วขณะ มีเพียงเสียงสะอึกสะอื้นจากผมเท่านั้น ผมปล่อยให้ปูนนั่งกอดผมอยู่อย่างนี้อยู่นาน จนน้ำตาของผมส่งสัญญาณว่า “พอได้แล้ว..ตอนนี้ฉันไม่มีจะให้คุณแล้วนะ”
“เรา..เราจะกลับ อ่อ ซื้อของมาให้น่ะ” ผมผละออกจากอ้อมกอดของปูน ปัดมือเช็ดแก้มตัวเองอย่างลวกๆและยื่นถุงของให้ปูน ปูนเพียงแต่มองเฉย
“ฟ้า ฟ้าครับ”
“อย่า อึก..” ผมปัดมือของทิกเกอร์ออกและรีบลุกขึ้นยืน ผมยังไม่พร้อมฟังคำแก้ตัว ผมไม่พร้อมที่จะฟังอะไรไปมากกว่านี้ทั้งนั้น ผมควรมีสติมากกว่านี้ ดังนั้น..ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีนัก
“....................” เราสามคนยืนประชันหน้ากัน ทิกเกอร์มองผมตาไม่กะพริบ ตาของเขาแดงอย่างเช่นผม แต่คงไม่มีทางมากไปกว่าผมหรอก คนที่ทำให้เจ็บปวดไม่มีทางรู้สึกเจ็บปวดได้เท่ากับคนถูกทำร้ายอย่างแน่นอน หน้าอกของผมยังไม่หยุดสั่น มันกระเพื่อมเหมือนยังคงรู้สึกได้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น น้ำตาของผมไหลลงอีกครั้ง มันพรั่งพรูไม่หยุดอย่างใจสั่งให้หยุด ยิ่งผมมองหน้าของทิกเกอร์มากเท่าไหร่ มันยิ่งไหลลงมามากเท่านั้น
“อย่าเข้ามาใกล้ผม” ผมห้ามเสียงเรียบ เมื่อเห็นว่าทิกเกอร์ทำท่าจะเข้ามากอด ทิกเกอร์ชะงักในทันที เขาหน้าเสีย ผมหลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ แน่นอน..น้ำตาของผมนั้นยังไม่ยอมหยุดไหล
“ได้โปรด อย่าตามมา” ผมพูดและก้าวขาเดินออกมาจากตรงนั้น ผมได้ยินเสียงคนเดินตามมา ผมไม่หันกลับไปมอง ปูนรีบมาคว้ามือผมไปกุมไว้และไม่พูดอะไร เราเดินจับมือกัน ผมร่ำไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เดินไปร้องไห้ไปอย่างนั้นจนปูนร้องตาม นี่คงเป็นครั้งที่สองที่เราได้ร้องไห้ด้วยกันอย่างนี้ ครั้งแรกเกิดขึ้นเพราะจักร เราต่างไม่พูดอะไรเลยเช่นครั้งนั้นมาตลอดทางจนถึงบ้านของผม..
= = = = = = = =
“How long are you going to keep sleeping?” ผมสะดุ้ง แต่ยังคงไม่หันกลับไปมองคิวที่เพิ่งเปิดประตูห้องเข้ามา ตั้งแต่ผมกลับมาจากบ้านของทิกเกอร์ จนตอนนี้ผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้วไม่ทราบ ผมยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงอยู่ในท่าเดิม
“Till..The End.....of the World.” ผมตอบเสียงเอื่อย
“หึ..งั้นคงต้องนอนจนเป็นอัมพาตเลยล่ะ” คิวพูดด้วยภาษาไทยปนหัวเราะ ผมรู้สึกได้ว่าคิวนั่งลงบนเตียง เราสองคนเงียบไปครู่หนึ่ง
“ข้าวเย็นเสร็จแล้ว ปรายตั้งโต๊ะแล้วด้วย” คิวพูดขึ้น ผมยังคงนอนไม่ขยับ
“ไม่กิน”
“ไม่ได้” อีกฝ่ายบอก
“.......................” คิวเงียบไปอีกครั้ง อยู่ๆน้ำตาของผมก็ไหลออกช้าๆ หมอนที่ยังคงชื้นจากน้ำตาของผมนานหลายชั่วโมงคงจะไม่แห้งได้ง่ายๆ คิวนั่งเงียบ เราต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นาน นานมากพอที่จะทำให้ผมรู้สึกเมื่อย สิบห้านาที หรือยี่สิบนาทีก็ไม่ทราบ ผมพลิกตัวให้กลับมานอนหงาย คิวหันหน้ามามอง เราสบตากันเพียงครู่เดียวคิวก็หันหน้าหนีไป
“แปลก” คิวพูดขึ้นเสียงเบา น้ำเสียงทุ้มต่ำในลำคอ
“ผมกลับไม่รู้สึกผิดหวังเท่าไหร่ อย่างน้อย..ก็ไม่เท่ากับที่รู้ว่า คุณชอบผู้ชาย” คิวหันหน้ามาแสยะยิ้มเหมือนต้องการให้เรื่องนั้นขบขัน ผมมองค้อนใส่หลานตัวเองเป็นการบอกว่า “ตลกฝืดนะ”
“ทรมาน” ผมพูดขึ้น น้ำเสียงหลุดหายเข้าไปในลำคอ ปากของผมสั่น น้ำตาไหลลงครั้งแล้วครั้งเล่า คิวไม่หันหน้ากลับมามองผมอีก
“ทำไมไม่เกลียดเหมือนที่เกลียดจักรล่ะ ด่าอาสิ” ผมพูดว่าเสียงสั่น ตอนนี้ให้คิวด่าเรียกสติหน่อยก็คงดี
“เพราะไม่คิดว่าผมจะมองคนผิด” คิวตอบ เขาหันกลับมาจ้องหน้าผม สายตาที่ดูสงสารผมกำลังปรากฏให้เห็น
“แต่โทษที ถ้าผมจะบอกว่า..บนโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟค” ผมนำมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ตอนนี้รู้สึกว่าตาระบมและปวดหัวไปหมด
“ผมจะโทรไปลางานให้ จะบอกว่าคุณท้องเสีย ผมให้เวลาคุณพักฟื้นแค่วันเดียว..ส่วนเรื่องงานที่ไทย ถ้าอากิ๊บโทรมา ผมจะคุยแทน” คิวพูดพร่ำ ผมไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้านี้อายุย่างเข้ายี่สิบจริงรึเปล่า คำพูดคำจาเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ รวมถึงความคิดและสติที่บางครั้งก็มีมากเกินกว่าผม
“แล้วช่วยลุกไปล้างหน้าล้างตาแล้วลงไปกินข้าวด้วย ให้คนอื่นรอ..มันเสียมารยาท” อีกฝ่ายว่าและลุกขึ้นยืน ผมพลิกตัวหนีเพราะไม่อยากลงไป ในห้องเงียบลงอีกครั้ง ผมได้ยินเสียงคิวถอนหายใจเล็กน้อย
“ถ้าไม่ลงไปภายในห้านาที ผมจะโทรกลับไปหาคุณย่า..แล้วบอกว่าคุณรถคว่ำตายระหว่างทางที่ต้องขับรถไปมิลาน ผมคิดว่าคุณย่าน่าจะเชื่อทันทีที่ได้ยิน..เพราะผมไม่ค่อยได้พูดเล่นกับคุณย่าบ่อยนัก” คิวพูดด้วยน้ำเสียงอย่างผู้ชนะ
“อย่านะ!” ผมรีบลุกขึ้นนั่งในทันทีเพราะรู้ว่าถ้าผมไม่ทำตามที่มันบอก คิวจะต้องทำอย่างที่พูดจริงๆแน่ๆ คิวเลิกคิ้วอย่างลองดีก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ผมรีบลุกขึ้นเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา เมื่อมองกระจกกลับต้องพบว่าตัวเองนั้นหน้าโทรมมากถึงมากที่สุด เมคอัพคงไม่สามารถช่วยได้เลยถ้าพรุ่งนี้ผมต้องออกไปทำงานด้วยสภาพหน้าตาแบบนี้ ผมลงมาข้างล่าง คิวและปรายนั่งรอที่โต๊ะอาหารแล้ว นานครั้งที่ปรายจะมาทานอาหารที่บ้านของเรา อย่างเช่นสุดสัปดาห์ โดยส่วนมากปรายจะมาเป็นประจำคือวันศุกร์หรือเสาร์
“อานั่งนี่นะคะ..วันนี้ปรายทำแต่ของชอบอาทั้งนั้นเลย” ปรายรีบลุกขึ้นและกุลีกุจอยกเก้าอี้ให้ผม ผมยิ้มและผงกหัวให้แทนคำขอบคุณ ปรายรีบนำน้ำมารินให้ผมด้วย
ติงต๊อง~
“เดี๋ยวปรายไปเปิดเอง” ปรายบอกคิวที่ทำท่าจะลุกจากเก้าอี้ คิวพยักหน้าตอบก่อนปรายจะรีบวิ่งไป เรานั่งเงียบอยู่เกือบสองสามนาที ปรายกลับมาอีกครั้งพร้อมกับปูน ปูนยิ้มให้ผมเพียงน้อยๆ ตอนแรกปูนมาส่งผมที่บ้านแต่ผมปฏิเสธที่จะพูดคุยด้วยจนปูนกลับไปรอบหนึ่งแล้ว
“อาปูนนั่งนี่ก็ได้ค่ะ” ปรายเสนอที่นั่งของตนเอง
“เอ่อ ไม่ดีกว่า..เดี๋ยวอาไปรอที่ห้องรับแขกก็แล้วกัน” ปูนตอบปัดด้วยท่าทีเกรงใจผม
“กินด้วยกันสิ” ผมพูดขึ้น
“......................” ทุกคนนิ่งสนิทเหมือนผมเป็นเหตุทำให้ทุกคนเกร็งแบบนั้น
“อืม” ปูนยิ้มน้อยๆและเดินตรงมาที่เก้าอี้ที่เป็นที่นั่งของปราย ปรายเปลี่ยนไปนั่งข้างๆคิวแทน บนโต๊ะอาหารไร้บทสนทนา ปูนตักกับข้าวให้ผมเป็นระยะ ผมทานละเลียดอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าถ้าทานหมดเร็วแล้วคิวจะบังคับให้ทานเพิ่มอีก หลังจากทานข้าวเสร็จ ปรายนำยาแก้ปวดมาให้ผมทานหลังอาหาร ปูนขอนอนกับผมคืนนี้ด้วยและผมไม่ปฏิเสธ ผมควรจะรับรู้เรื่องราวเพิ่มเติมและแน่นอนว่าผมไม่สามารถนอนคนเดียวได้อีกด้วย
หลังจากที่ทั้งผมและปูนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมนอนรออยู่ที่เตียง ปูนเดินมานั่งลงบนเตียงอีกด้านหนึ่งของผม เราเงียบ เสียงจากโทรทัศน์คลอเบาๆ ตาของผมจ้องมองไปที่โทรทัศน์ที่ปลายเตียงแต่ในหัวกลับว่างเปล่า
“นอนเถอะ” ผมพูดขึ้น
“อืม” ปูนตอบเท่านั้นก่อนจะเดินไปปิดโทรทัศน์ให้อย่างรู้งาน ผมพลิกตัวตะแคงข้างมาอีกด้าน หันหลังให้กับปูน เตียงยุบลงอีกครั้งเมื่อปูนนอนลง และผมยังไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิดเดียว ผมคิดว่าปูนเองก็คงมีอาการเช่นเดียวกัน
“อยากได้ยานอนหลับจัง” ผมบ่นขึ้น
“แกบอกว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ” ปูนบอกกลับ เอ่ยถึงคำพูดที่ผมเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว
“......................” เราเงียบลง ผมเอื้อมมือกดเปิดแผ่นเพลงบรรเลงคลาสสิกที่อยู่บนหัวเตียง ไม่มีอะไรช่วยผมได้นอกจากเจ้าสิ่งนี้แล้ว
“รำคาญไหม” ผมถาม
“ไม่..เพราะดี” ปูนตอบ
“อืม” ผมหลับตาลง ผมรอให้ปูนเอ่ยพูดก่อน ผมไม่อยากเป็นฝ่ายถามก่อนเพราะผมไม่รู้จะจับต้นชนปลายจากตรงไหน ผมจะเงียบ จนกว่าใครสักคนจะพูดบอกอะไรแก่ผม ผมไม่อยากคาดคั้นใครอีก เพราะยิ่งคาดคั้นก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายกดดัน หลังจากความกดดันจะกลายเป็นคำพูดหลอกลวงที่ตามติดมา
“แกอย่าโกรธฉันเลยนะ” ปูนพูดขึ้น เตียงนิ่งไม่ไหวติง นั่นแสดงว่าต่างฝ่ายต่างยังคงอยู่ในท่าเดิม ตัวของผมแข็งทื่อเหมือนกับถูกสตาฟไว้
“..ไม่มีใครอยากโกหก แกเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันรู้ว่าแกทรมานกับไอ้จักรมามากแค่ไหน ฉันไม่เคยคิดจะหักหลังแกหรอกนะฟ้า..” ปูนพูด น้ำตาของผมไหลลงเป็นทางลงไปที่หมอน ผมหลับตาเพราะอยากใช้เพียงหูรับฟังเท่านั้น มันอาจจะช่วยให้ผมเข้าใจทุกอย่างได้ดียิ่งขึ้น
“แต่บางครั้ง บางสิ่งบางอย่าง..ก็เกินจะควบคุม” ปูนบอกก่อนจะทิ้งเสียงลงไปชั่วขณะ ปูนคงเข้าใจถึงความเงียบที่ผมมีให้ เขาคงรู้ว่าควรอธิบายมาให้หมดเสียทีเดียว
“ที่จริง..ทิกเกอร์มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ก่อนที่จะเจอกับแกด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนั้น..คือแอนนา มาเรียนน่า หวัง” เมื่อสิ้นประโยคนี้ของปูน ตัวของผมสั่นมากขึ้นกว่าเดิม ชื่อนี้คุ้นหูดีในวงการนางแบบจากเกาะอังกฤษ ผมรู้จักเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยอยู่ในสายตาของผมเมื่อไหร่ที่ผมต้องเลือกนางแบบเพื่อทำโปรเจคส่งในที่ทำงาน แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอนั้นมีชื่อเสียงที่อังกฤษมากคนหนึ่ง หึ..นี่ผมกำลังเป็นชู้กับแฟนของนางแบบชื่อดังเลยหรือนี่ ตลกไม่ออกจริงๆให้ตายเถอะ
“ครอบครัวของแอนนากับทิกเกอร์ รู้จักกันมานานมากแล้ว..เค้าสองคนคบกันมานานหลายปีก่อนจะหมั้นกันอย่างเงียบๆ มีเพียงคนในวงการเท่านั้นที่พอจะรู้ข่าวบ้าง ฉันเองก็รู้” ปูนเล่าต่อ
“อึก..”
“ฉันจะไม่ขอแก้ตัวกับแก ว่าฉันช่วยทิกเกอร์โกหก..แต่ถ้าเรื่องราวจะบานปลายขนาดนี้ ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้ทิกเกอร์กับแกรักกันแน่ๆ”
“ไม่สิ..ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้ทิกเกอร์ทำอะไรเกินเลยแบบนี้เด็ดขาด รวมถึงฉันไม่ควรจะปิดบังแกเรื่องนี้เพราะแค่ต้องการแกล้งแกเล่นๆตั้งแต่แรก แอนนาไม่รู้เรื่องนี้ และแกไม่รู้เรื่องนี้..ตลอดมามีเพียงฉันกับทิกเกอร์เท่านั้น ฉันขอโทษ” ปูนอธิบายเสียงสั่น แต่คงไม่เท่ากับผมที่ในตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ เหมือนมีอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่ช่องคอผม ผมรู้สึกคล้ายกับคนเป็นใบ้อย่างไรอย่างนั้น
“ก่อนหน้า ทิกเกอร์เหมือนกับผู้ชายสมบูรณ์แบบคนหนึ่งที่ใครๆก็หวังอยากได้เค้า..แต่ทิกเกอร์ก็ไม่เคยนอกลู่นอกทาง ทิกเกอร์ไม่ใช่คนเจ้าชู้ ทุกคนรู้ดีโดยเฉพาะแอนนา..เค้ารักเธอมาก ขนาดฉันยังไม่อยากจะเชื่อว่าทิกเกอร์จะหลงรักแก พูดตรงๆแล้ว..ทิกเกอร์ไม่มีแนวโน้มที่จะชอบผู้ชายเลยด้วยซ้ำ ฉันไม่เคยนึกภาพนั้นออก..ฉันไว้ใจทิกเกอร์ ฉันไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างแกกับทิกเกอร์เริ่มจากตรงไหน และพัฒนาไปเร็วขนาดนี้ได้ยังไง รู้ตัวอีกที..ฉันก็ไม่สามารถควบคุมอะไรได้แล้ว ฉันไม่สามารถแทรกตรงจุดไหนระหว่างแกกับทิกเกอร์ได้เลย ฉันกลัวแกเสียใจ..ฉันขอโทษ ที่ตลอดมาฉันเหมือนคนหลอกลวง..แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ” เสียงสะอึกจากปูนทำให้ผมทราบว่าเพื่อนของผมคงลำบากใจไม่แพ้กัน ผมไม่ได้รู้สึกโกรธเพื่อนของผมคนนี้เลย แต่เพียงผมไม่รู้จะทำอย่างไรหรือเอ่ยพูดอะไรก่อน การปิดปากเงียบของผมคงทำให้ปูนคิดมากไปเอง
“ระหว่างที่ทิกเกอร์กลับอังกฤษ อึก..ทิกเกอร์ไปหาผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม” ผมถามกลับไป น้ำเสียงของผมสั่นเครือเกินจะควบคุมให้เป็นปกติ
“ช..ใช่” ปูนตอบเสียงสั่นไม่แพ้กัน ที่ผมทราบเพียงว่าทิกเกอร์จะต้องบินไปกลับระหว่างประเทศอิตาลีกับประเทศอังกฤษตกเดือนหนึ่งก็สองหรือสามครั้ง ทิกเกอร์เรียนต่อปริญญาเอกอยู่ที่โรมในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมไปพร้อมพร้อมกับการทำงานในสายการบินที่ประเทศอิตาลี และการที่ทิกเกอร์ต้องบินกลับไปที่ประเทศอังกฤษบ่อยครั้งนั่นเพราะว่าทิกเกอร์ต้องกลับไปช่วยดูแลบริษัทรถของพ่อตนเองที่อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ผมทราบเพียงเท่านี้และไม่เคยที่จะรู้สึกระแคะระคายอะไรมากมาย หนึ่งคือความไว้ใจที่เรามีให้กัน กับสอง..ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งจับผิดคนรักของผมตลอดเวลา ผมมีงานต้องทำทั้งที่นี่และที่ประเทศไทยด้วย ผมมีหลานต้องรับผิดชอบเพราะผมนำลูกเขามาเลี้ยงอย่างกับลูกของตัวเอง ผมคงลืมเรียกสติไปช่วงหนึ่ง ความสัมพันธ์ของเรานั้นแนบแน่นและเกิดขึ้นเร็วอย่างที่ปูนว่า จนผมไม่กล้าที่จะเอ่ยถามทิกเกอร์ว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขานั้นเป็นอย่างไรบ้าง หรือบางครั้งคนเราก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะอยากรู้ความจริงและเสพสุขแต่ความสุขโดยที่ตนเองนั้นไม่อาจรู้ตัว
“ผู้หญิงคนนั้น ท้อง..กี่เดือนแล้ว” ผมถามตะกุกตะกัก ในหัวนึกกลัวไปเสียหมด
“สองเดือน” ปูนตอบเสียงเบามาก
“อึก..อื้อ” มือของผมกำผ้าห่มแน่น นานแล้วที่ไม่ได้ร้องไห้เยี่ยงคนคุ้มคลั่งขนาดนี้ น้ำตาไหลพราก ปากสั่น ใจสั่น ตัวเกร็งและสั่นแรง
“ฟ้า..ฉันขอโทษ” ปูนซบหน้าลงที่ไหล่ของผม ผมไม่รู้ว่าผมร้องไห้หนักกว่าเดิมหรือเปล่า แต่น้ำตาหลั่งไหลไม่หยุด มันเจ็บปวดอย่างกับมีใครเอามีดมาผ่าหัวใจของผม
“กี้ทำแบบนี้ได้ยังไง อึ..ทำได้ยังไง ฮื้อ” ผมคร่ำครวญถึงชายคนรักของผม ไม่รู้ว่าหลังจากที่เราคบกันได้กี่เดือน ผมเลือกที่จะเรียกทิกเกอร์ว่า “ทิกกี้” อย่างหยอกล้อ จนกลับกลายเป็น “กี้” อย่างติดปาก อีกหนึ่งสาเหตุนั่นเพราะว่าผมอยากเรียกทิกเกอร์ในแบบที่คนอื่นไม่สามารถเรียกได้ ที่มีเพียงผม..เท่านั้น
ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ปูนซบไหล่ผมอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมยังไม่หยุดร้องไห้ ตลอดมานั่นหมายความว่าทิกเกอร์ไปมีอะไรกับผู้หญิงที่ชื่อแอนนาระหว่างที่คบอยู่กับผม และในคราเดียวกันทิกเกอร์ก็มีอะไรกับผมโดยที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ทราบเลย ผมไม่อยากจะเชื่ออย่างสนิทใจว่าคนอย่างทิกเกอร์จะทำอย่างนี้ได้ลงคอ ทิกเกอร์ไม่ใช่ผู้ชายที่จะโกหกเก่ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอดมาทิกเกอร์แสดงได้เก่งมากทีเดียว ไม่มีสิ่งใดในพฤติกรรมของทิกเกอร์ที่จะทำให้ผมระแคะระคายเรื่องนี้ได้เลย เรามีความสุขดีตลอดที่คบหากัน ทิกเกอร์ดูมีความสุขเมื่อได้อยู่กับผม ผมไม่รู้ว่าทิกเกอร์คงจะมีความสุขดีเมื่ออยู่กับแอนนาด้วยหรือเปล่า ผมไม่อยากรับรู้ตรงส่วนนั้น นอกเหนือจากความเสียใจที่ผมกำลังได้รับทั้งหมด ผมกำลังรู้สึกผิด ผมกำลังเป็นส่วนหนึ่งในสาเหตุที่จะทำให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า
ผมเป็นคนให้ท่าทิกเกอร์ ผมเป็นคนก้าวเดินเข้าไปหาเขา ผมเป็นคนเริ่มก่อนทั้งหมด ทุกอย่าง..ทุกการกระทำ ถ้าใครจะผิด คนแรกนั้นคือ..ผม ไม่ใช่ทิกเกอร์..ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนนี้ไม่ใช่ส่วนผิดทั้งหมด คนที่ทำให้บุคคลนั้นแปดเปื้อนเกิดขึ้นจากความเสน่หาและความหลงลืมตนเองไปชั่วขณะของผม
= = = = = = = =
06:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ผมชะงักเมื่อพบว่าคิวอยู่ในห้องครัวด้วย คิวหันหน้ามาจ้องหน้าผม ผมเบนหน้าหนีไปอีกทางเพราะกลัวว่าคิวจะรู้ว่าเมื่อคืนผมนอนนึกเรื่องเก่าๆในอดีตจนแทบจะเรียกได้ว่านอนร้องไห้เกือบทั้งคืน และที่จริงผมควรจะนอนซมตื่นสายกว่านี่ แต่อยู่ๆกลับสะดุ้งตื่นมาตั้งแต่รุ่งเช้าซะได้
“ตื่นเช้านิ” ผมทัก แกล้งเดินไปที่ตู้เย็นเล็กอีกฝั่งหนึ่งของห้องครัวเพียงเพื่อจะหลบคิวที่ยืนอยู่ตรงเคาร์เตอร์ทำอาหาร คิวคงกำลังจัดแจงชงเครื่องดื่มสำหรับเช้าวันใหม่ของตนเองอยู่
“ปกติ” คิวตอบส่งๆ ใช่แล้ว..การตื่นแบบนี้ของคิวนั้นเป็นปกติ ซึ่งผมไม่รู้จะทักอะไรหลานผมเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นดูมีพิรุธ
“.....................” บรรยากาศในครัวเงียบลงอีกครั้ง ผมยืนจ้องของในตู้เย็นอยู่นาน คิดไม่ออกว่าจะหยิบอะไรออกมาดี รู้สึกเอียนจนทานอะไรไม่ลง
“ในนั้นไม่มีอะไรนอกจากช็อกโกแลต ถ้าจะกินดับเครียดแนะนำว่าคงต้องกินให้หมดตู้เย็น หลังจากนั้น..ก็อาจจะอ้วนหรือเป็นเบาหวานตาย และคง..ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นไปมากกว่านั้น” คิวว่าให้อย่างรู้ทัน ผมปิดตู้เย็นลงในทันที เมื่อถูกจับได้แล้วก็คงไม่มีอะไรต้องเสแสร้งอีก
“ชาไหม” คิวถาม ผมหันกลับไปพร้อมกับพยักหน้าตอบ
ติ๊ด~
ผมยืนมองคิวอย่างสงสัยเมื่ออยู่ๆคิวก็กดโทรศัพท์ภายในบ้านที่อยู่ใกล้มือของตน
“ค่ะ” เสียงเขียวขานตอบจากปลายสาย
“ขอที่ประคบตาให้คุณเจ้าของบ้านหน่อย ดูเหมือนจะอาการหนัก” คิวพูดแกมประชดประชันใส่ผม
“ได้ค่ะ” เขียวตอบก่อนที่คิวจะกดตัดสายไป ผมเดินไปใกล้โต๊ะตรงกลางห้องและเขย่งตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะ
“เก้าอี้มีให้นั่งทำไมไม่นั่ง..วันหลังคงต้องเอาอาหารวางไว้บนเก้าอี้ แล้วนั่งบนโต๊ะแทนดีไหม” คิวขมวดคิ้วพูดเสียงเรียบแต่ฟังดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่พอใจ ชอบประชดประชันจนน่าได้รางวัล
ถ้าคิวจะรู้สึกไม่ชอบใจละก็แน่ล่ะ..ห้องครัวนี้เป็นห้องครัวสุดหวงของคิว มีคิวเพียงคนเดียวที่สามารถใช้ห้องครัวนี้ได้ หลานผมมักจะขลุกอยู่ในห้องครัวนี้ได้ทั้งวันทั้งคืนเพื่อคิดสูตรอาหารและสูตรของขนมชนิดต่างๆ ผมให้นักออกแบบสร้างห้องครัวขึ้นมาสองห้องครัว หนึ่งห้องครัวสำหรับแม่บ้านและการทำอาหารในแต่ละวัน กับอีกห้องครัวหนึ่งสำหรับคิวโดยเฉพาะ ห้องครัวสองห้องจึงค่อนข้างแตกต่าง ห้องครัวนี้บ่งบอกถึงความเป็นตัวของคิวมากที่สุด ดังนั้น..ถ้าเขาจะมีสิทธิ์ทุกอย่างในอาณาบริเวณนี้มันก็สิทธิ์ของเขาจริงๆละนะครับ
“พอใจอ่ะ” ผมย้อนตอบอย่างไม่แคร์ คิวเงียบไม่ตอบโต้อีก ผมนั่งมองหลานตัวดีกำลังชงชาให้อย่างพิถีพิถัน คิวจะเป็นคนใจเย็นมากเวลาที่ต้องการคิดสูตรอาหาร ใจเย็นมากจนบางครั้งผมไม่คิดว่าผมอาจจะมีหลานสองคนในร่างเดียวกัน เวลาที่คิวอยู่ในครัวที่ร้านอาหารกับเวลาที่อยู่ในครัวที่บ้าน คิวจะมีระดับในการทำอาหารแตกต่างกันไป น่าแปลกที่คิวสามารถทำออกมาได้ดีทุกครั้งจนได้รับคำชมมากกว่าคำติเสียด้วยซ้ำ
ในห้องครัวมีเพียงเสียงคลอจากดนตรีคลาสสิก ผมไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ผมถึงจะได้จิบชาที่เจ้าหลานผมกำลังทำการชงให้อยู่ บางทีขั้นตอนมันก็มากเกินไปจนเกินจะทนรอ หรืออาจจะเป็นอย่างที่หลายหลายคนกล่าวว่าของดีมักต้องรอนานเสมอ เวลาผ่านไปเกือบสิบห้านาทีคิวยังคงเงียบไม่พูดไม่จา สายตาของคิวจับจ้องไปที่ชานั่นเหมือนกำลังคุยสื่อสารกันอยู่อย่างเข้าอกเข้าใจ เขียวนำที่ประคบตาเข้ามาให้ผมอย่างเงียบๆ เป็นที่เข้าใจดีว่าห้ามพูดออกมาถ้าไม่จำเป็นในเวลานี้ ผมรับมาถือและนำมาประคบที่ตาอย่างเบามือ เมื่อเขียวเสร็จธุระเธอก็เดินออกจากห้องไป
“เชิญ” คิวหันกลับมายื่นแก้วชาให้ผม ท่าทางการเสิร์ฟทำอย่างกับตัวเองบริการลูกค้าอยู่ในร้าน ผมนำมือไปแตะที่แก้วชาอย่างเบามือ ก่อนที่จะยกขึ้นมาจิบช้าๆ ความร้อนของชาอยู่ในอุณหภูมิร้อนกำลังพอดี รสชาติดีอย่างกับกำลังนั่งจิบอยู่ในร้านอาหารชื่อดัง คิวพิงตัวเองอยู่ที่อีกฝั่งของเคาร์เตอร์ ทำให้เราสองคนต้องประชันหน้ากัน
“ไม่ต้องเอาสภาพหน้าแบบนี้ไปที่ร้านล่ะ” คิวพูดขึ้น ตาจับจ้องมาที่ผมเขม็ง มันกวาดตามองไปทั่วใบหน้าของผมอย่างจับผิด ตกลง..มันเป็นหลานผมหรือผมเป็นหลานมันกันแน่ นี่คือหลายครั้งที่ผมอดคิดไม่ได้
“ขี้เกียจตอบคำถาม กัสเห็นละได้โวยวายอีกว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ขี้เกียจตอบก็ไม่ต้องตอบ ทำอย่างกับปกติชอบตอบอย่างนั้นนี่” ผมย้อนกวนกลับ
“หึ..” คิวแสยะหัวเราะและวางแก้วชาลงบนเคาร์เตอร์
“ได้ข่าวว่า..” คิวทิ้งเสียงลง ใจผมเริ่มเต้นเหมือนกับได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์
“ไอ้หมอนั่นกลับมาติดต่อกับคุณรึไง” คิวถาม
“หูนี่กระดิกไวแท้นะ” ผมยิ้มอย่างไม่ต้องสงสัยว่าคิวรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
“ขอบคุณ” คิวยักคิ้วหน้านิ่ง
“แล้วไง..” ผมย้อนถามกลับ
“มันก็เรื่องของคุณ” คิวตอบส่งๆ
“ใครอยากจะติดต่อกับใครกัน ไม่อยากติดต่อกับใครทั้งนั้นแหละ” ผมขึ้นเสียงเพราะรู้สึกไม่ชอบใจในท่าทีของหลานผมขึ้นมา
“นั่นมันก็เรื่องของคุณอีก” คิวหันมาว่า คิ้วของคิวเริ่มจะทำท่ามาชนกัน นั่นบอกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังอารมณ์ขึ้นแล้ว
“ใช่สิ” ผมเถียงกลับเท่านั้น พูดได้เท่านี้เองเพราะนึกคำพูดมากกว่านี้ไม่ออก
“คุณไม่ให้ผมยุ่ง ผมก็ไม่ยุ่ง..ในเมื่อผมไม่ยุ่ง คุณก็อย่าทำตัวแบบนี้..อย่าเรียกร้องความสนใจ แบบนี้”
“อาไม่ได้เรียกร้องความสนใจ” ผมว่ากลับ
“งั้นร้องไห้ทำไม” คิวตอก
“มันเรื่องของอา” ผมตอบ
“คุณนี่..” คิวกัดฟัน ปากของคิวขยับแต่ฟันกลับกัดกันแน่นท่าทางเหมือนกำลังสุดจะทนกับผม ผมคิดว่าถ้าผมไม่ได้เป็นอาของมัน ผมคงจะถูกต่อว่ามากกว่านี้เป็นแน่
“ตัวเองก็ว่าได้สิ ตัวเองไม่ได้มาโดนเหมือนกันนี่..จะบอกให้นะ ความรู้สึกก็คงแย่พอๆกับตอนที่แกเสียปรายไปนั่นแหละ เจียนตายรึเปล่าล่ะ กว่าจะเริ่มต้นมีรักใหม่ได้ โถ่..ทีอย่างนี้ละมาทำเป็นพูดดี อะไรก็พูดได้ทั้งนั้นแหละ ใครก็พูดได้ ปากดีเหมือนกันหมดทั้งโลก” ผมว่ากลับเสียงดังก้องไปทั่วห้อง
“หุบปากน่า น้ำลายเน่าๆของคุณกำลังกระเด็นเข้าไปในชาแพงๆของผม” คิวว่าเสียงเข้ม ผมเงียบและขยับแก้วชาให้ออกห่างตัวเอง เราสองคนประชันหน้ากันอย่างไม่ลดละที่จะเถียงกันต่อ
“มันไม่เหมือนกันหรอกนะคิว เค้กคือคนใหม่..แต่ทิกเกอร์คือคนเดิม” ผมพูด คิวเงียบและเบือนหน้าหนี
“ปรายไม่เคยทำให้คิวผิดหวัง มันไม่เหมือนกัน” ผมย้ำ
“ถ้ารับไม่ได้ที่เป็นคนเดิม ก็หาคนใหม่ซะสิ..เลิกโอดครวญ” คิวตอบกลับ
“อ๋อ..อีกอย่างนะ ถ้าคุณจะบอกว่าคนที่ชื่อจักรอะไรนั่นกับทิกเกอร์กำลังอยู่ในฐานะเท่ากัน คุณน่ะ..หลอกตัวคุณเองอยู่รึเปล่า” คิวว่าให้พร้อมกับหยิบแก้วชาและเดินออกจากห้องครัวไป
“หึ..สอดรู้ชะมัด” ผมได้แต่บ่นกับตัวเอง
................>>>><<<<..............
-
สองอาหลานให้กำลังใจกับแบบ ฮาร์ดคอร์มาก55555
แต่ก็รักกันดีเนอะ ทิกเกอร์ทำผิด ก็สงสารทิกเกอร์
แต่ก็สงสารอาฟ้ามากกว่า 555555 (ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด)
แอบเห็นด้วยกับพี่คิวนิดนึง คือ ลองมองหาคนใหม่ แต่คิดว่าอาฟ้าก็คงทำอยู่
แต่ไม่เจอคนที่ใช่้ อยากจะกลับไปเริ่มใหม่กับทิกเกอร์ก็กลัวจะเจ็บอีก
แล้วจะเป็นยังไงต่อไปละเนี้ย
อาฟ้าสู้ๆๆ ทิกเกอร์สู้ๆๆ
ป.ล. เขารู้สึกชอบบเอเจ 5555
-
เตือนสติเข้าไปพี่คิว
เอาให้อาฟ้ากลับมาให้ได้ o18
แงแงเรื่องราวกับทิกเกอร์มันก็น่าเลิกจริงๆนั้นแหละ
มีคู่หมั้นแล้ว แถมท้องอีก อาฟ้าจะทนไม่ไหวเสียศูนย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เอาใจช่วยทังอาฟ้า ทั้งเบบี้นะจ๊าาาา :กอด1:
-
เรื่องรัก มันซับซ้อน
-
เชียร์ทิกเกอร์
-
รักพี่คิวววว
vิาฟ้าสู้ๆนะ ><
-
ถ้าเราเป็นอาฟ้า ก้คงคิดหนักนะ ทิกเกอร์ทำกับฟ้าแบบนี้ได้ไง
:sad4:
-
สงสารอาฟ้าจังง ในตอนเเรกที่อ่าน LL1 อาฟ้าดูร่าเริง มีความสุข
แต่จริงๆแล้วฟ้าน่าสงสารมาก เจ็บเพราะความรักและเชื่อใจมาก2ครั้ง
สำหรับทิกเกอร์ ฟ้ารู้ว่าความรักไม่ใช่ช่วยให้ความเชื่อใจกลับมาได้ง่ายๆเลย :o12:
-
ยังไงหลานคิวก็รู้ใจอาฟ้าที่สุด
ที่คิวพูดก็ถูกนะ ปัญหามากนักก็หาใหม่เอาข้างหน้าเหอะ o13
-
การพูดของคิวถึงจะดูโหดๆ แต่ก็รู้ว่าเป็นห่วงฟ้าขนาดไหน
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
คิว ตรงประเด็นสุดๆ
ฟ้าจะหาทางเลี่ยงได้ไหม :กอด1:
-
สงสารอาฟ้าอ่ะ
เรื่องนี้มันร้ายแรงมากนะ ....
มันเจ็บสุดตรงที่ท้อง 2 เดือนนี่แหละ
;__;
กอดอาฟ้า ~
-
มันเข้าใจอยากจริงหนอความรัก. อะไรมีความสุขก็ทําไปเถอะ :เฮ้อ:
-
เรื่องในอดีตที่ทิกเกอร์ทำไว้กับฟ้า
เป็นใครก็กลัวที่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ด้วย
อาฟ้าน่าสงสารจริงๆ
-
สงสารอาฟ้าจัง :sad4:
ทิกเกอร์ไมทำอย่างงี้หละ
-
ถึงคิวจะปากร้าย แต่การกระทำก้อดูเปนห่วงอาฟ้าตลอด
ไม่รู้ว่าฟ้าจะตัดสินใจยังไง แต่ก้อเชียร์ทิกเกอร์อยู่น่ะ ^^
รอลุ้นตอนต่อไปครับบบบบ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ถ้าเราเจอเหตุการณ์แบบอาฟ้า ทั้งจักรและทิกเกอร์จะไม่ได้โอกาสครั้งที่สองอีก
ตอนแรกก็เชียร์ทิกเกอร์นิด ๆ นะ แต่อยากบอกว่าที่ทิกเกอร์ทำน่ะ
มันแย่มาก และเห็นตรงกับคิวที่ว่า ไม่ต้องเลือกใครจากสองคนนี้หรอก
ผู้ชายมีปานจะยัดตูดตายในโลกนี้ ต้องมีใครซักคนหรอกที่ดีกว่านี้แน่นอน
-
อยากบอกว่าคะแนนที่เคยให้ทิกเกอร์
แรงเชียร์ที่ให้ มันลดลงอย่างน่าใจหาย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารู้สึกผิดหวังมาก
แม้จะรู้คร่าวๆมาก่อนหน้านี้ แต่พอมารู้ลึกจริงๆ...
เสียความรู้สึก คำนี้เป็นอะไรที่เราคิดว่ามันแรงยิ่งกว่าเสียใจ
เป็นสิ่งที่เมื่อเสียไป มันยากมากที่จะกลับมาได้อีกครั้ง
ต่อให้รักแค่ไหน ถ้าเขาทำเราเสียใจ เราเชื่อนะ ว่ามันยังให้อภัยกันได้
แต่หากเสียความรู้สึกไปแล้ว เราไม่รู้จะเอาอะไรมาอภัยให้เขา
เพราะแค่รักคำเดียวมันคงไม่พอ
สงสารพี่ฟ้ามาก แต่การหนีปัญหาไม่ใช่ทางออก
อยากให้พี่ฟ้า ตั้งสติและทบทวนตัวเองให้ดี
ว่าตัวเองต้องการอะไร แล้วหันกลับมาเผชิญปัญหา
อย่ากลัว เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว และมันคือความจริง
เข้มแข็ง เพราะถ้าพี่ฟ้าเคลียร์ได้ พี่ฟ้าจะรู้ว่าสิ่งไหนควรปล่อยไป
และจะได้รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อ
เป็นกำลังใจให้พี่ฟ้า ตอนนี้ทำเราเสียน้ำตาได้มากจริงๆ
รอตอนหน้านะคะ เบบี้ ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
-
ดุเดือด!!
-
อาฟ้าคงต้องให้หลานคิวช่วยเขี่ยผงออกจากตานะคะ แล้วหลานคิวก็ทำหน้าที่ให้สมกับชื่อด้วย อยากเห็นอาฟ้ากลับมาสดใสเร็วๆ ^^
-
เรื่องของพี่ฟ้าหนักมากอ่ะ
สารภาพว่าอ่านไปร้องไห้ไปจนจบตอนเลยค่ะ :m15:
ก็ยังดีมีหลานที่รักนะ ถึงการแสดงออกจะ......แถวบ้านเราเรียกกากมากๆอ่ะคิว :z3:
-
เฮ้อ!!! :เฮ้อ: วิธีแสดงความรักความห่วงใยของอาหลานช่างรุนแรงจัง
แต่แหม น่ารักอ่ะ มีหลานอย่างนี้รักตายเลย :impress2:
อาฟ้านรักทิกเกอร์ของกลับไปหาทิกเกอร์สิ
แต่ทิกเกอร์นี่น่าตีจริง ทำอาฟ้าเสียใจได้ หึ :beat: :beat:
-
สองคนเค้าสาดน้ำเกลือใส่กัน เจ็บแสบแต่รู้สึกได้เร็วมาก ฮ่าๆๆๆๆ
ปล.เค้าไม่โอเคทั้งกับทิกเกอร์และจักรเลยอะเบบี้ XD
-
ยิ่งอ่านยิ่งหลงป๋าคิวอ่ะ คนไรฟะ ทั้งคมทั้งฉลาดหล่อเลิศเลอเปอเฟคไปซะทุกอย่าง ขนาดออกมาแค่ตอนละนิดละหน่อยแต่ก็รู้สึกว่า อยากติดตามเรื่องราวต่อเพราะคอยอ่านไอ้ทีมีในตอนละนิดละหน่อยนี่แหละ
ความเสียใจที่ผิดหวังซ้ำสองของฟ้าทำให้กำแพงที่ก่อขึ้นมันยิ่งสูง แต่ก็อย่างที่คิวบอกอาฟ้าแหละว่าอย่าหลอกตัวเอง ไม่ได้เชียร์"ทิกกี้" แต่อยากให้ฟ้ามีความสุข ข้ามผ่านกำแพงที่ตัวเองก่อไว้ซะสูงให้ได้ จะได้มีความสุขในเรื่องความรักกะเค้ามั่งอะนะ ได้อยู่กับคนรักและรักเรามันดีที่สุดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ฟ้าเอ้ย ^^
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++ จัดเต็มเหมือนเคย
:กอด1:
-
ปวดตับ ไต ไส้พุง เซียงจี๊ สุดๆ :z3: :z3: หาคนใหม่ดีกว่าเหอะฟ้า เฮ้ออออ :เฮ้อ:
-
เจ็บปวดแทนอาฟ้า
-
จิตใจมนุษย์นั้น
ยากแท้หยั่งถึง :L1:
-
รู้สึกว่าคิวห่วงฟ้านะ แต่ห่วงแบบคิวๆ
สงสารฟ้าจัง :เฮ้อ:
-
ติดตามตอนต่อไปจ้าพี่เบบี้ :call: :call:
:pig4: :pig4:
-
สมน้ำหน้าจริงๆนะ ทั้งจักรแล้วก็ไอ้ทิกเกอร์นั่น
เชียร์ให้ฟ้าพบรักใหม่ดีกว่าค่ะ ลืมเรื่องของอิพวกผู้ชายแย่ๆพวกนี้ไปซะ
ถ้าจะกลับไปคบกลับทิกเกอร์ ยังไงก็เจ็บแน่ๆอ่ะ
เพราะทิกเกอร์มี "ลูก" ที่จะเป็นสิ่งตอกย้ำให้ฟ้านึกถึงเรื่องเก่าๆไปตลอดแน่ๆ :เฮ้อ:
-
ไม่รู้ว่าพี่คิวเป็นหลาน...หรือพี่ฟ้าเป็นหลานพี่คิวกันแน่ :m20: :m20:
แต่อาหลานคู่นี้เค้าแสดงความห่วงใยกันแรง..ดี
ขออยู่เคียงข้างพี่ฟ้าาา....
พี่ฟ้าแมนอ่ะ...ไม่คิดจะโทษใคร...ขอโทษตัวเอง
-
สงสารฟ้า ทิกเกอร์มีคู่หมั้นแล้ว :m31: :m31: :m31:
-
เข้าใจว่าฟ้าเจ็บกับสิ่งที่ผ้านมา แต่ก็ควรจะให้มันเป็นเพียงบทเรียนเท่านั้น เห็นใจฟ้า แต่ก็ควรให้โอกาสตัวเองบ้าง
-
คิวสุดยอดมาก รู้ใจอาจนน่ากลัวอ่า
-
ความไม่คาดคิดของปูน ชะล่าใจลืมตัดไฟแต่ต้นลม ความรักไม่มีใครกำหนดได้ จนไฟลุกโหมหาทางดับยาก
ทิกเกอร์มีความดี ความน่าเชื่อถือ มีด้านสว่างเยอะ จนทำให้ฟ้าเห็นแต่ด้านสว่างไม่เห็นด้านมืด แต่เก็บแหวนหมั้นซะเนียนเลยนะ รึฟ้าไม่เคยสังเกต
ฟ้าอาจมองคนไม่ผิด เจอคนดี เลยไม่ดูให้ละเอียด เลยเจ็บหนัก
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะคบใครต้องสืบประวัติกันให้ดีก่อน ไม่งั้นเจอแจ็กพอตแบบไม่รู้ตัว จนตั้งรับไม่ทัน :really2:
-
"เจ็บที่มันไม่จบ" อาฟ้าลืมทิกเกอร์ไม่ได้ นั่นคือเหตุผล
"บนโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟค" คิวพูดถูก ความผิดอภัยให้ได้ถ้าคน ๆ นั้นรับผิดชอบและแก้ไขในสิ่งที่เกิดขึ้น
ระหว่างยอมทนเจ็บปวดโกหกตัวเองว่าไม่ได้รักทั้งที่ยังรักอยู่เต็มหัวใจ กับ ให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับทิกเกอร์
ถามใจตัวเองแล้วเลือกซะ ทุกอย่างจะได้...จบลง สักที
-
จงใจหลอกลวง เหอะๆ ความผิดนี้นี่ มันจะยกโทษให้กันได้มั้ย
-
:เฮ้อ: เข้าใจฟ้าค่ะ แต่ก็พอจะเข้าใจทกเกอร์ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ เอาใจช่วยทุกคนค่าาาา
อยากเห็นฉากสวีทพี่คิวกะเค้กอะ :m13:
ขอบคุณพี่บี้ค่า :pig4:
-
เห็นใจฟ้าสุดๆ ฟ้าพูดถูก เจ็บมาก จะให้ทำใจง่ายๆได้ไง
แล้วพ่อประหยัดคำพูด ก็ประหยัดได้อีก สั้น ห้วน ตรงประเด็น
มีที่ไหนโทรไปฟ้องคุณย่า ว่าฟ้ารถคว่ำตาย ไงหละ วิ่งจู๊ดไปล้างหน้าเลย 5555
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
คิวดูรักอาตัวเองมากเลย
ถึงเเม้จะปลอบกันเเบบฮาร์ดคอร์ไปหน่อย
รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:
-
สงสารอาฟ้าาา :o12:
ยังรักแต่ฝังใจกับอดีตสินะ
เมื่อไหร่ฟ้าจะได้แฮปปี้กับเค้าซักทีน่ิิิออ
รอตอนต่อไปค่า
-
:o12: :o12: :o12: :o12: สงสารอาฟ้าาา
-
แอบชอบตอนอาหลานทะเลาะกันจัง...นี่เราซาดิสม์แน่เลย 555
-
คิวแม่ง
น่ากลัวกว่าที่คิดนะเนี่ยยยย
รู้ทันหมด :a5: :a5:
-
โอ้ย อาฟ้า อ่านตอนนั้นแล้วึคิดเหมือนกันว่า ทิกเกอร์ทำได้ไง ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ยากต่อการเข้าใจขนาดไหน ก็อยากจะฟังจากปากทิก ว่า อะไรถึงเป็นแบบนี้ และการที่ตอนนี้ ชีวิตคู่ของทิกกับแอนนาพังลง ก็เพราะความรักที่ทิกมีให้กับอาฟ้า มันยังคงอยู่ใช่มั้ย โอ้ยยย ถึงจะรู้อย่างนี้ ถึงจะอยากให้อาฟ้าคืนดีกับทิก แต่มันก้ง่ายไปสำหรับความเจ็บปวดที่ผ่านมา
-
อาฟ้าตัดสินใจดีๆนะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ :L2:
คิวตอนนี้ทำไมดูเท่ห์จัง พูดน้อยต่อยหนักเหมือนเดิม
พูดเตือนสติแต่ละดอก ทำเอาจุกเลย555
อาฟ้าสู้ๆค่ะ :กอด1:
-
:a5: ...................
มันต้องมีเหตุผลใช่มั้ยทิกเกอร์ มีอะไรๆกะแอนนา ท้้งๆที่กำลังคบกับอาฟ้า มันต้องมีเหตุผลใช่มั้ย..........
ไม่..... :serius2:
ไม่.......... :z3:
ม่าย............. :m31:
แต่.... ไม่เป็นไร ยังไงเราก็ยังเชียร์คุณ " ทิกเกอร์สู้ๆๆ "
-
มันก็สมควรที่พี่ฟ้าจะไม่ให้อภัยง่ายๆนะทิกเกอร์
พี่ฟ้าสู้ๆ
-
อ่านตอนนี้แล้วแบบ เอ่อ.....ทิกเกอร์แกแย่หว่ะ :z3:
ฟ้าอย่าไปยอมง่ายๆละกัน เจ๊บเวลารู้ว่าโดนหักหลังอ่ะ มันเจ็บมากจริงๆ :m15:
-
พี่คิวเป็นห่วงอาฟ้าแบบฮาร์ดคอร์จริงๆ :เฮ้อ:
-
หนักใจแทน
+1
-
ทิกเกอร์ รักแล้วเปลี่ยนใจ โลเลอ่ะ แล้วจะมั่นใจได้ไง
ว่าตอนนี้จะมั่นคง
-
ตั้งแต่เลิกรากันไปกับ ฟ้าได้เปิดอกคุยกับทิกเกอร์เรื่องแอนนาหรือยังนะ ??
ฟ้ายังคงรักทิกเกอร์ เรื่องราวในอดีต มันคง ทั้งตราตรึง และ ค้างคา!!
คิวบอกว่า ไม่น่าจะมองคนผิด ซึ่งหมายถึงตัวทิกเกอร์ แต่ไหงสิ่งที่ทิกเกอร์ทำ
ในอดีตมันช่างขัดแย้ง ... บางทีมันอาจจะมีอะไรเกี่ยวกะทิกเกอร์ที่ปูนและฟ้ายังไม่รู้
ยังไงฟ้าก็ให้โอกาสทิกเกอร์ได้พูดคุยได้อธิบายหน่อยละกันนะ^^
การเอาชนะใจตัวเองเรื่องไหนก็คงไม่ยากเท่า เอาชนะใจตัวเองเมื่ออ่อนแอเรื่องความรัก
นัดดูตัว เอ้ยย..นัดคุยเปิดอกกับทิกเกอร์ซักตั้ง ถ้าไม่ได้ดั่งใจก็เชิดๆไปเลยว่า.." กลับไปก็ไม่รักเธอเหมือนเดิม"
:laugh: ขอบคุณเบบี้น๊า.. ^^
-
:เฮ้อ:
สงสารอาฟ้า ที่สุด
แต่จะโทษใครผิดหล่ะ ทิกเกอร์ไม่ผิดที่จะรักอาฟ้า และเราก็เชื่อว่าทิกเกอร์รักอาฟ้าจริงๆ แต่ผิดที่ยังคงรักแอนนาอยู่ด้วย มันไม่ถูกเลยจริงๆ
เห็นแก่ตัวเกินไป
คนที่เจ็บปวดที่สุดคือ อาฟ้า ไม่ใช่แอนนาไม่เจ็บ แต่คนที่มาทีหลังโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นมือที่สาม มันเจ็บที่สุด
-
หึ หึ ฮาร์ดคอแท้หน้อ อาหลาน :laugh:
ไม่อยากจะเชียร์ใครให้อาฟ้าแล้วอ่ะ สงสารอาฟ้า :sad4:
P.S. มัยทิกเกอร์ทำงี้ละค่ะ สุดหลอของเจ๊ :เฮ้อ:
-
คิวเป็นห่วงอาฟ้ามากกกกกกกกกกกกกกกก
แต่จะให้มาพูดอะไรหวานๆมันก็ไม่ใช่คิวอ่ะ แบบเนี่ยแหละ ถึงจะเรียกว่าคิว
-
ใจเย็นๆ น้า
ลืมๆมันไปเถอะ :กอด1: :กอด1:
-
เข้าใจอาฟ้านะ
แก้วที่มันแตกแล้วทำยังไงมันก็ไม่เหมือนเดิม
แล้วจะเอาอะไรกับใจคน ความรู้สึกที่มีให้กัน
เคยมีให้กัน ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม ทั้งกลัว
ไม่กล้ารัก ไม่เชื่อใจ ยิ่งคนเดิมยิ่งแล้วยิ่งยาก
แต่ก็อย่างที่คิวพูดก็ถูกนะนะ ถ้างั้นก็หาคนใหม่เหอะ
หรือไม่ก็ลองเริ่มกันใหม่ ลืมเรื่องอดีตเก่าๆ เสี่ยงอีกสังครั้ง
ในเมื่อมันเจ็บมาแล้ว ถ้ามันเจ็บอีกก็ไม่เห็นเป็นอะไร มัน
คงไม่รู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้วแหละ
แต่เชียร์ทิกเกอร์นะ พยายามจริงๆตั้งแต่ภาคแรกแระ
แอบสงสารนะ ยิ่งเล่าตอนนี้แล้วไม่โทษทิกเกอร์เลยนะ
เขาเป็นคู่หมั่นกัน ตั้งแต่ก่อนคบกับฟ้าอีก โดยรวมๆแล้ว
ก็ผิดกันหมดนะแหละ ผิดกับส่วนจักรนะ หลายใจเกิน
ที่อ่านมาก็นอนกับคนนี้ไปทั่ว ถ้าพูดแบบหยาบๆนะ
หมามันอดกันขี้ไม่ได้หรอกๆ เราเชียร์ทิกเกอร์ขาดใจ
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
เริ่มเข้าใจในตัวอาฟ้าทีละนิดแล้วค่ะ T^T
-
ทิกเกอร์ทำแบบนี้ เป็นเราก็เลิก หน้ายังไม่อยากมองเลย
พี่คิวแมน หล่อ เท่ รวย หยิ่ง อิจฉาเค้กมาก เชอะ
คิวรักคุณอาฟ้าแบบคิวคิว 555 limited จริงๆ
-
อย่าเพิ่งถอดใจซะล่ะทิกเกอร์
ยังไงก็มีภาษีดีกว่านายจักรอยู่นิดนึง
-
ตอนแรกเชียร์ทิกเกอร์แต่ตอนนี้ไม่เชียร์ใครแล้ว เกลียดผู้ชายแบบทิกเกอร์ที่สุดขอให้อาฟ้าเจอคนใหม่ที่รักและดีกว่านี้เร็วๆๆ
-
เริ่มเข้าใจแล้วสิ...ว่าำทำไมฟ้าถึงขยาดจนไม่กล้าให้โอกาสทิกเกอร์อีก
มันยิ่งกว่าทิกเกอร์เผลอนอกใจ แต่นั่นหมายถึงทิกเกอร์โกหกฟ้าตั้งแต่แรก
-
:m20:คิวอ่ะสุดยอดหลานบังเกิดเกล้าเลย 55
-
ทำไมทิกเกอร์ทำอย่างงี้!! มีคู่หมั่นอยู่แล้ว
ยังมายุ่งกับพี่ฟ้าอีก ก็สมควรแล้วล่ะ
ถ้าพี่ฟ้าจะไม่ให้อภัย ถึงแม้ทิกเกอร์จะทำไป
เพราะรักก็เถอะ
โอ้ย....สงสารพี่ฟ้าอ่ะ! แต่ก็ยังเชียร์ทิกเกอร์นะ 55555
-
สงสารพี่ฟ้าาาาาาาาา
ทำไมต้องผิดหวังอะไรแบบนี้ด้วยนะ
มันดูแบบรุนแรงมากกว่าอีกคนไปปิ๊งคนใหม่อีกอ่ะ
ถึงมันจะสถานะเท่ากันก็เถอะ
แต่มันจี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดมากกว่าา
พี่ฟ้าอ่าาาา โอ๋ๆๆ เอาจริงๆนะคะ ไม่ควรค่ะ
เราไม่ควรกลับไปหาของเดิมๆ เราควรหาใหม่โลดดดดดด
ของเก่าของเดิมค้างปี มันไม่รื่นรมย์เท่าไรหรอกค่ะ
สรุป เราไม่เชียร์ทั้งทิกเกอร์และจักร เรื่องจักรนี่ไม่รุ้ยังไง
แต่ทิกเกอร์ ยูเห็นแก่ตัวมากๆ รับไม่ได้หรอก ถึงตอนนี้จะโสดก็เถอะ
เข้าใจเลย ว่าทำไมพี่ฟ้าไม่ใจอ่อนง่ายๆ เจ็บเจียนตายขนาดนั้น
-
จากข้อมูลที่มีตอนนี้ขอเป็นกลางดีกว่า...ยังไม่มีใครดีซักคน
หลอกกันทั้งนั้น :m16:
-
:z3: :z3:ทิกเกอร์อ่ะเราอุตส่าเชียร์. แต่นายทำอาฟ้าเราเสียใจอ่ะ เรางอนนายชั่วคราวแล้วกันนะ :laugh: :laugh:
+ให้น้องบี้คนงาม
-
แอบคิดว่าถ้าทิกเกอร์ไม่ได้มีแนวโน้มว่าจะเป็นพระเอก และด้วยความเพอร์เฟ็คอื่นๆของฮี ป่านนี้คงจมบาทาเป็นซากยิ่งกว่านี้ไปแล้ว หึๆ
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมันร้ายแรงกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลย เราไม่นึกว่าทิกเกอร์จะทุเรศได้ขนาดนี้เลยนะ -_- โคตรแย่ เห็นแก่ตัวที่สุด
ดีนะที่คุณเบบี้ไม่ได้ลงรายละเอียดในอดีตของสองคนนี้มากกว่านี้ แค่นี้เราก็คันเท้ายิกๆอยากจะเอาไปนาบหน้าคนทุเรศนั่นแล้ว
สงสารอาฟ้ามาก ยิ่งอาฟ้าโทษตัวเองด้วยแล้วยิ่งเห็นใจแล้วใหญ่ คนไม่รู้ไม่ผิดหรอก แถมพอรู้แล้วก็ยอมถอยออกมาด้วย อาฟ้าแค่ถูกหลอก
ถ้าจะหาคนผิดก็นู่นแหละทั้งทิกเกอร์ทั้งอาปูนเลยตัวดี นอกจากอาฟ้าเราขอสงสารแอนนากับลูกน้อยด้วย ฝั่งนู้นก็น่าจะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
เราจำคำพูดอาปูนในตอนต้นเรื่องได้ ว่าหลังแอนนาคลอดลูกได้ขวบนิดๆ ทิกเกอร์ก็ทำเหมือนลืมว่าตัวเองมีลูกเมีย ไม่ใส่ใจแม่ลูก
โห แบบมันก็น่าคิดนะว่าขนาดเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองที่รักนักหนา(จากคำพูดของอาปูน) ทำไมถึงละเลยไม่ใส่ใจเขาล่ะ น้องยังเล็กอยู่ด้วย
แล้วอย่างนี้จะให้เราเชื่อได้ยังไงว่าทิกเกอร์รักอาฟ้าจริงๆและจะไม่ทำร้ายอีก ให้ตายเถอะ
ในสองคนนี้นี่อาฟ้าไม่เลือกซักคนได้ไหม (โดนแฟนคลับต่อย)
จริงๆเราคิดว่าชีวิตอาฟ้า ถ้าไม่นับเรื่องคนรักที่บัดซบแล้ว อย่างอื่นเพอร์เฟ็คมากนะ ทั้งรูปร่างหน้าตา ทรัพย์สินเงินทองก็มีเหลือใช้สบาย
ครอบครัว หลานอะไรก็ดี(หลานสะใภ้ก็น่ารักเนอะ ^^) ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ฯลฯ แทบจะเรียกได้ว่าชีวิตสมบูรณ์มากทีเดียว
สองคนนี้ถ้าจะเป็นเหมือนเนื้อร้ายในชีวิตของอาฟ้า ไม่มีประโยชน์อันใดจะเก็บไว้ มีแต่โทษ ตัดทิ้งโลด เย้!
ปล.ตอนนี้คือด่าไปเท่าที่รู้ข้อเท็จจริงต่างๆในอดีตอยู่ รอลุ้นว่าจะมีอะไรมาเพิ่มให้พลิกล็อคหรือเปล่า...?
-
คิวมันเป็นหลานหรือพ่ออ่ะ 555555 ดูจิงเว้ยยย
-
ตอนแรกสงสารทิกเกอร์ ต่อมาสงสารฟ้า ตอนนี้ไม่รู้จะสงสารใครดีแล้ว งั้นสงสารตัวเองละกัน :monkeysad:
-
สงสารคุณฟ้ามากเลย ดีนะที่ยังมีปูนคอยให้กำลังใจ
ส่วนพี่คิว ดุแท้หนอ 555 ให้เวลาคุณฟ้าทำใจน้อยมากเลยอะ!!!!!!!
อ่านแล้วทำให้รู้เลยว่า ทำไมคุณฟ้าถึงยังไม่พร้อมที่จะกลับไปรักหรือคืนดีกับทิกเกอร์เพราะอะไร
ขอบคุณนะคะที่ลงมาให้อ่านต่อ จะรออ่านต่อไปค่ะ :D
-
แอบเห็นด้วยกับคิวนะ
เหมือนฟ้าหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า
สถานะทั้งคู่เท่าเทียมกันจริงๆ หรือ
:กอด1:
-
พี่คิวแม่งงงงงงงโคตรกวนตีนอะ กวนตีนได้ใจมากๆ o13
สงสารอาฟ้านะ..พอรู้เบื้องหลังแบบนี้แล้วก็รู้สึกไม่อยากเข้าข้างทิกเกอร์ขึ้นมานิดๆ
ทั้งๆที่คบกับอาฟ้าอยู่แท้ๆนะ ยังจะ.... :z10:
แบบนี้ถ้าอยากจะแก้ตัวคงต้องใช้เวลาและความจริงใจมากๆเลยนะเนี่ย
-
....เกย์คิง เกย์ควีน ตุ๊ด พี่ชอบหมดนะเพราะเค้ามีจุดยืนในการเป็นตัวตนของเค้า
....พี่รับไม่ได้กับพวกไบ บอกไม่ถูกเหมือนพวกเห็นแก่ตัว คนที่รักที่ละเพศก็โอเคนะ
....แต่พวกที่รักทีเดียว สองเพศ มันต้องมีเพศใดเพศหนึ่งละที่ต้องสูญเสียและเสียใจ เกลียดจริงๆๆคนพวกนี้
....จริงๆๆถ้าจะผิดนะผิดทุกคน ตั้งแต่ ปูน ที่รู้ว่าทิกเกอร์มีคู่หมั้นแล้ว รักเพื่อนก็ต้องบอกเพื่อนให้รู้ความจริงไม่ใช่ช่วยกันปิด
....ทิกเกอร์นี่ยิ่งผิดใหญ่เลย มีคู่หมั้นที่รักกันมาหลายปี ทำผิดทั้งๆที่รู้ตัว...โทษนี้ต้องประหารอย่างเดียว
....ส่วนอาฟ้า ผิดเพราะเชื่อใจคนที่ตัวรักเกินไป ไม่ได้สืบเสาะหาข้อมูลว่าเค้าโสดหรือไม่โสด เลยทำผิดแบบไม่รู้ตัว
....นิยาย มันก็เหมือนชีวิตจริงๆๆเนอะ บนโลกนี้มีคนที่เจ็บช้ำแบบอาฟ้าอยู่เยอะ
....ที่อ่านมาตอนแรกๆๆจาก ภาคแรก ยังคิดว่าอาฟ้านี่แค้นทิกเกอร์นานจังเลย จนหมั่นใส้ พอรู้สาเหตุแล้ว...อย่าไปรักมันเลย :laugh:
-
สงสารฟ้ามากอ่ะ
ส่วนคิว ยังคงโหด ด่าอาเพราะกลัวน้ำลายหกลงบนชาแพงๆ ฮ่าๆๆๆ
-
อาฟ้าคงจะสองจิตสองใจ :monkeysad:
แต่เหมือนทิกเกอร์จะดีกว่าจักรนิดนึงหรือเปล่า :z1:
-
:serius2: มันก้สมควรโกรธอยู่หรอก
ทิกเกอร์ไม่น่าจะตอแหล
-
ถ้าไม่รู้ว่าคิวเป็นหลาน คิดว่าคิวเป็นญาติผู้ใหญ่ของฟ้านะสำหรับตอนนี้ 55...
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือคนที่รักและไว้ใจ หักหลัง โกหก ซึ่งของฟ้าคูณสอง ถึงแม้ปูนไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแต่ถ้าปิดบังไว้แล้วไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นก็ไม่น่าจะเก็บเอาไว้ โดยส่วนตัวเรื่องความรู้สึกกับเพื่อนค่อนข้างเซ้นซิทีฟอ่ะนะ ถึงจะไม่ได้โกรธแต่ก็ไม่รู้ว่าเราจะให้ความเชื่อใจกับเขาได้เหมือนเดิมไหม ยิ่งทิกเกอร์แล้วไม่ต้องพูดถึงเลย เจอแบบนี้มาก็ไม่แปลกเลยที่ฟ้าจะกลัว.. ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเลือกที่จะอภัยและให้โอกาส หรือจะปล่อยให้มันจบไปเลยดี :z3:
:pig4:เบบี้ :กอด1:
-
ยังไงก็ยังเชียรทิกเกอร์นะ :sad4: :o12:
-
ทิกเกอร์!!!!!!!
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
:m16:
-
ทิกเกอร์นี่เห็นหน้าซื่อๆแต่้ร้ายใช่ย่อยนะเนี๊ย ใจแข็งๆเลยค่า ตอนแรกยังไม่รู้ก็เชียร์ให้ใจแข็งเข้าไว้
พอรุ้เรื่องนี้ 5555555 อยากจะบอกว่าถ้าเป็นตัวเองไม่กลับไปเอาแล้วถึงจะรักมากแค่ไหนก็เหอะ
แต่ก็แล้วแต่คน แต่ในกรณีของอาฟ้านี่อาจจะรักมากกกกก จนอาจจะยอมเจ็บหรือว่ายอมเสี่ยงอีกครั้งได้
แต่คิวเท่ห์จริงๆอะ55555 มาแต่ละตอนนี่ก็เรียกเรตติ้งกระฉูดกระจายแบบไม่มีใครสามารถฉุดเค้าได้จิงๆ
ลองคิดถึงสภาพเค้ายืนชงชาด้วยท่าทางแบบนั้น โอ้ยยยยยยยย คนอ่านอยากตาย 555 ถึงชาจะใส่ยาพิษไว้
ก็อยากจะยอมตายเพื่อให้ได้กินชาถ้วยนั้นเลยจริงๆให้ตายสิ คิวปิด !
-
:sad4: :sad4: สงสารอาฟ้าอะ เรื่องมันซัลซ้อนมากกก
แต่ทิกเกอร์ต้องมีไรมากกว่านี้แน่ๆๆๆ ไม่งันคิวจะบอกว่าไม่น่ามองคนผิดอะ
สงสารอาฟ้าจังเลยยยยย
รออ่านรอลุ้นต่อไปจ้าาา
-
พี่คิวคงห่วงอาฟ้าน่ะค่ะ แต่แสดงออกในแบบพี่เอง สองอา-หลานเลยต้องปะทะอารมณ์กันเล็กๆสินะคะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
ถึงจะรู้แบบนี้แล้วก็ยังเชียร์ทิกเกอร์อยู่นะ แต่อยากโดดเตะก้านคอแทนอาฟ้าสักที
-
ถ้าพี่ฟ้าจะไม่เลือกใครเลยจากสองคนนี้ก็จะไม่แปลกใจเลย
ลองมองคนใหม่ดีกว่า คนอย่างพี่ฟ้า'เลือกได้'อยู่แล้ว
เพราะสองคนนี้ก็ไม่ได้ดีกว่ากันไปซักเท่าไหร่
ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ใช้ชีวิตลั้ลลาแบบนี้ต่อเถอะ สบายใจกว่ากันเยอะ
-
:pig4: :3123:
-
โหดทั้งคู๋
บ้านนี้เขารวยมากและแปลกมากจริงๆ
คิวเค้ก หวานๆหน่อยเน้อ 555
-
ตอนนี้อาฟาเหมือนเด็กขี้แง แล้วคิวเหมือนตาแก่ขี้บ่น :laugh:
สู้ๆนะอาฟ้า
-
อาหลานคู่นี้ ตอนนี้เหมือนจะฆ่ากัน ดีนะคิวไม่หยิบมืดขึ้นมาขว้าง ไม่งั้นล่ะเอ้ย = =; 55555555
-
ฝากเพลงนี้ให้อาฟ้า อนุญาตให้ฟังไปด้วย เต้นไปด้วยได้ (คิวปิ๊ดฝากบอก :laugh5: )
http://www.youtube.com/v/Dn55UdihKL0
-
สงสารอาฟ้ามากอ่ะ อ่านแล้วน้ำตาคลอเลย
อย่างนี้ก็สมควรนะที่อาฟ้าจะยังปิดใจอยู่
เรื่องที่ผ่านมามันหนักมากจริงๆ
ชอบวิธีพูดช่วยปลอบหรือให้กำลังใจของคิวมาก
เพราะเราก็เป็นคนปลอบคนไม่เก่ง555
-
ฟ้าสู้สู้
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ให้พี่ฟ้ากลับมาเป็นโสดดีมั๊ยวะเนี่ย นึกว่าแค่ปันใจจากพี่ฟ้า เบบี้ใจร้ายกว่านั้น ให้พี่ฟ้าเป็นชุู้ ......................... 555555
-
:3123:
-
สงสารอาฟ้า คำเดียวเลยจริง ไม่รู้จะพูดไรเลย
เหตุการณ์แบบนี้ใครที่เจอคงทำใจยากมากๆอยู่แล้วแหละ
-
เวลาสองอาหลานเถียงกันทีไร ป้าหล่ะกลัวแทนทู๊กกกกที
สงสารอาฟ้า
-
ถึงจะรักมากแค่ไหน...เจออย่างงี้ใครจะอยากกลับไปช้ำอีก :monkeysad:
-
ลุ้นกันตอนต่อไป
-
ตอนนี้เข้าใจอาฟ้านะแต่ก็น่าจะให้โอกาสทิกเกอร์บ้าง ต้องฟังก่อนแล้วค่อยมาเคลียร์หัวใจตัวเองอีกครั้ง ไม่หนีปัญหา(ทิำกเกอร์)
หลานคิวถึงแม้จะดูโหดไปหน่อยแต่ก็รักอาฟ้าหรอกนะ ไม่งั้นคงไม่เป็นห่วงอยู่อย่างนี้
-
:sad11: :sad4: :sad4:
โอยยย ปวดหนึบ ๆ เวลาอ่านอ้ะ !!!!
-
มาให้กำลังใจอาฟ้า สู้ๆๆ
-
:angry2: ทำทิกเกอร์ทำแบบนี้ เหมือนหลอกทั้งแอนนา และอาฟ้า
พี่คิวปลอบใจอาฟ้าประมาณ รักนะ ห่วงนะ แต่พูดหวานๆ ไม่เป็น
กด + ให้กำลังใจอาฟ้า
-
ปากหมาเกินไปแล้วคิว
ทิกเกอร์ไม่ควรทำแบบนี้นะ เข้าใจอาฟ้าว่าทำไมไม่กลับไปคบด้วย
-
จริงๆพี่คิวเป็นห่วงพี่ฟ้ามากๆเลยนะคะ เรารู้สึกได้
ทิกเกอร์รักแอนนาจริงๆหรอเนี่ย ยังไม่ปักใจเชื่อค่ะ มันต้องมีเงื่อนงำ
-
กำลังสนุกเลย
-
พี่คิวเปนห่วงอาฟ้าแบบไร้น้ำตาลมาอ่ะ 55555
-
ทิกเกอร์นิสัยอะ
-
เห้อ~ ทำได้แค่ถอนหายใจอ่ะเบบี้ พอได้รู้เรื่องในอดีตที่ทิกเกอร์ทำกับฟ้าเอาไว้แล้วมันจุกอย่างบอกไม่ถูก เพราะสิ่งที่ทิกเกอร์ทำลงไปมันร้ายแรงมากเลยนะ มันเท่ากับว่าจงใจจะหลอกฟ้าอ่านะ เข้าใจอยู่ว่ารักมันห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้ายังไม่เคลียร์ปัญหาของตัวเองให้มันกระจ่างก็อย่าคิดที่จะรักใครให้เค้าเจ็บปวดมันจะดีกว่า สงสารฟ้าอ่ะ กลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าอะไร ความไว้วางใจที่มีให้มันยากจะกลับมาเหมือนเดิม เข้าใจเลยว่าทำไมฟ้าถึงไม่ยอมยกโทษและคืนดีด้วยง่ายๆ เป็นเราก็ไม่ยอมคืนดีด้วยหรอก เจ้บแล้วจำมันไว้เป็นบทเรียนในการตัดสินใจของชีวิตจะดีกว่า แต่ก็ไม่แน่ว่าเรื่องในอดีตอาจจะมีเงื่อนงำมากกว่านี้นะ เพราะไม่อย่างนั้นคิวคงไม่มีทางยอมช่วยทิกเกอร์มาจนขนาดนี้หรอก เพราะดูจากการปลอบในแบบของคิวที่มันโคดจะกวนบาทาแล้ว บอกได้เลยว่าคิวรักอาฟ้าของตัวเองมาก แถมยังห่วงมากอีกด้วย ก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสรุปแล้วมันมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกมั้ย ถ้ามันโอเคพอให้อภัยได้ก็น่าเชียร์อยู่ แต่ถ้ามันไม่โอเคแนะนำว่าฟ้าหาคนใหม่ที่ดีกว่านี้เถอะ โลกนี้คนดีๆยังมีอีกเยอะ ต้องมีสักคนที่เป็นคนของเราแน่ๆ อยากเห็นช็อตหวานๆระหว่างคิวกับเค้กจัง ไม่รู้จะเป้นยังไง
-
ฟ้าคงต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก แล้วคนใกล้ตัวอย่างคิวก้อไม่เข้าใจเอาเสียเลย
รักน่ะมันเห็นไม่ได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ ปิดตาแล้วเปิดใจตัวเอง ฟ้าก้อจะรู้ว่าฟ้าควรจะทำยังไงต่อไป
-
อาฟ้าหาคนใหม่เต้อ :o12:
-
ใครเป็นอาใครเป็นหลานกันแน่คิวนี่พูดอะไรตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อมเลย^^
-
เฮ้อ ความจริงบางครั้งก็เป็นสิ่งที่เจ็บปวดอย่างนี้
จึงไม่แปลกที่หลายคนจะเลือกวิ่งหนีความจริง
อาฟ้าในอดีตบอบช้ำมากจริงๆนะเนี่ย :m15:
แต่อาฟ้ายอมรับแล้วก็ผ่านมาได้อย่างเข้มแข็ง
และเชื่อว่าอาฟ้าจะเผชิญหน้ากับมันได้อีกครั้ง
มีคิวคอยเตือนสติอย่างนี้รับรองไม่หลุดแน่ๆ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
-
และแล้วก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้
แต่พอรู้แล้วไม่อยากให้ฟ้ากลับไปหาใครทั้งนั้น (โดน FC ทิกเกอร์ :z6:)
:pig4: คะ
-
โอ้วว ทิกเกอร์ o22
พอจะเข้าใจความเจ็บของพี่ฟ้าแระ เหอๆ มันดราม่าจริงจังนะงานนี้
:กอด1:พี่ฟ้าแน่นๆ
พี่คิว น้องเค้ก แอบมาน่ารักให้ชุ่มชื่นหัวใจด้วย บวกจ้า
-
อาฟ้า สู้ๆนะค่ะ
ค่อยๆคิดละ อดีตมันลืมยากจริงๆนั้นละ
-
สงสารพี่ฟ้าอะ
-
~9~
ณ ห้องเสื้อ Cupid สาขาใหญ่..
เมื่อวานทั้งวันผมไม่ได้ออกไปไหน ผมหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ในห้องดูหนัง ผมเปิดดูหนังทั้งวันทั้งคืนจนคล้อยหลับไป ตื่นมาอีกทีก็รุ่งเช้าของวันนี้ อาการตาบวมนั้นลดลงมากแล้วเพราะเมื่อวานผมไม่ได้ร้องไห้เลยแม้สักนิด ผมควรเริ่มต้นทำงานอย่างเต็มกำลังเสียที มีลูกน้องรอคำสั่งจากผมอีกมากมาย ถ้าไม่มีผมงานก็เดินไม่ได้..
“คุณฟ้าคะ..ขอโทษนะคะ คือมีลูกค้าท่านหนึ่งมีปัญหา ไม่ยอมฟังอะไรเลยน่ะค่ะ” อินเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเป็นกังวล อินเป็นเกย์ รึจะเรียกให้แยกประเภทย่อยไปอีกนั่นก็คือ..ตุ๊ดก็ได้ อินมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการอยู่สาขาใหญ่ที่นี่ รับผิดชอบการงานของสาขาใหญ่เกือบทั้งหมด
“เดี๋ยวผมออกไป”
“เอ่อ เค้าขอพบคุณฟ้าด้วย” อินบอกเสียงเบา ผมปิดแฟ้มลง คิ้วขมวดชนกันอย่างสงสัย
“ไม่ทราบว่าใคร” อินพูดเหมือนกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ผมวางงานทั้งหมดและเดินออกมาจากห้องทำงาน พบว่าลูกค้าคนที่มีปัญหานั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล ทิกเกอร์ยืนอยู่โดยมีพนักงานอีกสองคนยืนบริการอยู่ไม่ห่าง เขาหันมายิ้มในทันทีที่เห็นผมเดินออกมา
“คุณมีปัญหาอะไรงั้นเหรอครับ” ผมสวมบทบาท ตามองไปที่เสื้อผ้ากองพะเนินที่วางอยู่บนโซฟาสำหรับรองรับลูกค้า
“ผมไม่ชอบแบบนี้ ผมอยากให้คุณออกแบบให้..อยากได้เร็วที่สุดด้วย” ทิกเกอร์พูด น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยชัดเจนซึ่งฟังออกว่าอีกฝ่ายพยายามพูดภาษาไทยให้ดูน่าเกรงขามมากแค่ไหน
“ผมขอปฏิเสธ ยังไง..เชิญที่ร้านอื่นเถอะนะครับ อิน..เอานามบัตรของร้านIn Dream มาสิ”
“ค..ครับ” อินรีบกุลีกุจอไปหยิบนามบัตรมาให้ ผมยื่นนามบัตรให้แก่ทิกเกอร์
“แต่ผมจะเอาเสื้อผ้าร้านคุณ” ทิกเกอร์พูดด้วยสีหน้าเหรอหรา
“นี่..ร้านผมไม่ได้มีลูกค้ารายเดียวนะครับ เชิญคุณไปเรื่องมากที่อื่น” ผมกัดฟันพูดและพยายามข่มน้ำเสียงให้เบาลง เพราะตอนนี้ภายในร้านมีลูกค้าท่านอื่นอยู่ด้วย แถมยังเป็นลูกค้าขาประจำอีกต่างหาก
“ไม่ยักรู้นะครับว่าร้านนี้เค้าปฏิเสธลูกค้าด้วยท่าทางแบบนี้” ทิกเกอร์พูดเสียงดังมากขึ้น คุณหญิงคุณนายที่กำลังเลือกของอยู่หันมาจับจ้องที่พวกเราเป็นตาเดียว
“อิน..ไปบริการลูกค้าท่านอื่น ไปให้หมด” ผมกระซิบบอก
“ค่ะ” ทุกคนพยักหน้ารับและรีบไปทำหน้าที่ตามคำสั่ง ผมหันกลับมาเผชิญหน้ากับทิกเกอร์อีกครั้ง
“คุณจะเล่นอะไร ผมไม่ตลกด้วยนะ” ผมถลนตาใส่ ทิกเกอร์ยังคงทำหน้านิ่ง
“พ..พรุ่งนี้ผมมีประชุม ผมอยากได้สูทใหม่” อีกฝ่ายบอกด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“แล้วที่กองอยู่นี่ไม่เรียกว่าสูทรึไง” ผมกัดฟันว่า
“ก็ผมไม่ชอบนี่ ฟ้าเลือกให้หน่อยสิ..นะครับ” ทิกเกอร์ยิ้ม ผมถอนหายใจเบาๆและเดินหนีออกมาเพื่อไปเลือกเสื้อผ้าให้ทิกเกอร์อย่างตัดรำคาญ ผมคิดว่าถ้าวันนี้ทิกเกอร์ไม่ได้ชุดเขาคงจะไม่กลับไปง่ายๆเป็นแน่
“จะเอาแบบไหนล่ะ” ผมพูดเสียวห้วน ทิกเกอร์เดินตามพร้อมกับยิ้มหน้าบานผิดกับเมื่อกี้ถนัด
“นี่..จะเอาแบบไหน” ผมขึ้นเสียง
“แบบไหนก็ได้ ฟ้าเลือกให้..ผมชอบหมดละครับ” ดูมันตอบ ผมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะมองสำรวจและคาดคะเนจากสายตาของผมที่พยายามกะขนาดตัวของตัวทิกเกอร์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากแต่ก่อน ทิกเกอร์ตัวสูงขึ้นนิดหน่อย ไหล่กว้างขึ้น กล้ามแขนก็ใหญ่ขึ้นอีกด้วย
“ตอนเย็นผมมีกินเลี้ยงด้วย อยากให้เหมาะกับใส่ไปได้ครั้งเดียวเลย..ผมขี้เกียจเปลี่ยน”
“ซกมก” ผมบ่นพึมพำและไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย
“งั้น..เปลี่ยนก็ได้ครับ”
“ว่าอะไรรึยังล่ะ” ผมหันไปว่าอย่างหงุดหงิด
“ก็เมื่อกี้ฟ้าบอกว่าซกมกนี่ครับ” ทิกเกอร์หน้าเสีย
“เอ่อ..ความหมายเหมือนDirtyใช่ไหม” อีกฝ่ายถามเหมือนไม่ค่อยแน่ใจ
“หึ..ฉลาดนิ พูดไทยคล่องเชียวนะ” ผมกัด ทั้งทั้งที่ระหว่างที่อยู่ที่ประเทศอิตาลีทิกเกอร์ไม่เคยเลยที่จะฝึกพูดด้วยซ้ำ ส่วนมากผมจะสอนทิกเกอร์ในคำพูดง่ายๆและคำพูดที่ทะลึ่งๆเสียมากกว่า การที่ทิกเกอร์ฟังไทยออกแต่ไม่ได้หมายความว่าตลอดมาทิกเกอร์สามารถพูดภาษาไทยได้คล่องปากขนาดนี้
“ได้ครูดีสิท่า”
“อื้อ..ครับ ครูเก่งมากเลย เป็นลูกครึ่งน่ะ..แม่เธอเป็นคนไทย ส่วนพ่อเธอเป็นคนอังกฤษ เธอสอนผม..ตอนนี้เธอก็ยังสอนอยู่” ทิกเกอร์พร่ำทันที ผมไม่ตอบอะไรอีก อยู่ๆหัวใจกลับรู้สึกเต้นไม่เป็นปกติขึ้นมา
“เอ่อ..” อีกฝ่ายเงียบปากลง ผมเลื่อนมือเลือกสีสูทไปเรื่อย ตาของผมมองผ่านไปอย่างนั้นเอง หัวสมองผมกำลังตามไม่ทันความคิดของตัวเองเสียแล้ว
ผมเลือกเสื้อเชิ้ตกับเสื้อสูทนำไปทาบกับตัวของทิกเกอร์ ทิกเกอร์ยืนนิ่ง ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เงยหน้ามองทิกเกอร์แต่ก็ทราบดีว่าเขากำลังจ้องผมเขม็ง ต่างฝ่ายต่างเงียบ ทิกเกอร์ไม่พูดอะไรอีกจนผมเลือกชุดให้ได้สามชุด
“เข้าไปลอง” ผมสั่งและยื่นชุดทั้งหมดให้ ทั้งทั้งที่จริงแล้วผมควรจะเป็นฝ่ายถือไปให้ลูกค้าถึงในห้องลองเสื้อ ทิกเกอร์รีบรับไปถือไว้กับตัวและไม่ถามอะไร
“มิซาร์..พาไปที่ห้องลองที” มิซาร์ที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากผมรีบก้มหัวให้ทิกเกอร์อย่างนอบน้อมและพาทิกเกอร์ไป
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจอย่างเซ็งในอารมณ์ ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟา หมดอารมณ์จะต้อนรับลูกค้าท่านอื่นๆ หมดอารมณ์ในการทำงานเสียจริง..ให้ตายเถอะ ผมนั่งรอทิกเกอร์อยู่เกือบสิบนาที ทิกเกอร์เดินออกมาเมื่อตนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“เอ๊ะ..สมาร์ทมาก!!” อินและพนักงานคนอื่นๆในร้านอุทานขึ้นพร้อมกัน ถึงแม้จะเป็นการอุทานที่พยายามข่มน้ำเสียงให้เบาแต่กลับได้ยินชัดแจ๋วเลยล่ะ ผมจ้องทิกเกอร์ตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่เพียงแค่ชุดแรกที่ผมเลือกให้เท่านั้น แต่กลับสมบูรณ์แบบจนแทบไม่ต้องลองชุดอื่นเลยก็ได้ ผมเริ่มคิดหนักว่าตกลงการตัดเย็บเสื้อผ้าของร้านผมนั้นดีมีคุณภาพ หรือเพราะเขาหุ่นดีมากกันแน่
“เอ่อ..คือ” ทิกเกอร์อ้ำอึ้งมองมาที่ผม เขายืนเขินหน้าแดงลามไปถึงหู
“เอ่อ คุณบอส..นี่ นายแบบรึเปล่าคะเนี้ย” อินวิ่งเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม
“จะบ้ารึไง ก็แค่..คน รู้จัก” ผมตอบปัดพร้อมกับกระทุ้งข้อศอกเข้าไปที่ท้องของอินอย่างปรามๆ
“ไปลองชุดอื่นมาไป” ผมพูดส่งๆ
“ครับ” ทิกเกอร์พยักหน้า มิซาร์ยิ้มและเดินนำทิกเกอร์ไปอีกครั้ง ผมเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาและอดนั่งขำอยู่คนเดียวไม่ได้ เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ทิกเกอร์ออกมาพร้อมกับสูทอีกชุด ซึ่งยังคงสมบูรณ์แบบอย่างไร้ที่ติเหมือนเคย แต่ผมยังคงรักษาอาการของตนเองไว้ได้
“ไม่ชอบ” ผมสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
“ไปเปลี่ยน” ผมสั่งเสียงเข้ม ทิกเกอร์เดินกลับเข้าไปในห้องลองชุดอีกครั้ง และครั้งนี้นานกว่าทุกที
“คุณฟ้าคะ มิซาร์ว่า..เอ่อ คุณลูกค้าก็เหมาะทั้งสองชุดเลยนะคะ” มิซาร์โค้งตัวลงมาเพื่อให้ใกล้ผมที่นั่งอยู่บนโซฟา ผมหันกลับไปมองหน้ามิซาร์ มิซาร์ยิ้มแหย ผมยักไหล่กวนตอบให้อย่างไม่สนใจ มิซาร์ขมวดคิ้วและยิ้มอย่างไม่เข้าใจในท่าทีของผม
“ฟ้า” ผมเงยหน้าขึ้นมองทิกเกอร์ที่ออกมาพร้อมกับสูทชุดใหม่ สูทชุดนี้เป็นสีเทาอ่อนตัดกับสีดำเข้ม โดยส่วนตัวแล้วผมชอบการออกแบบของชุดนี้มากที่สุดถึงแม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าทิกเกอร์เหมาะกับทุกชุดที่ลองมาก็ตาม
“ขอ..เอ่อ อินขอถ่ายรูปคู่ได้ไหมอ่ะ” อินมายืนอยู่ข้างข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ตาของอินทอดลอยมองไปยังทิกเกอร์
“นิ..นี่ลูกค้านะ” ผมปราม
“ค่า” อินก้มหน้าก้มตาเดินจากไปอย่างสำนึก ทิกเกอร์ยืนมองหน้าผมด้วยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก ผมพยักหน้าให้ส่งๆ
“เอาชุดเดียวเหรอ” ผมถามลองเชิง
“แล้วแต่ฟ้า” อีกฝ่ายตอบ มิซาร์ยืนยิ้มคงเพราะคำพูดที่กำกวมของทิกเกอร์ ผมส่งสายตามองปรามไปที่เธอ เธอหุบยิ้มลงในทันที
“ไปเอาราคารวมทั้งสามชุดมาให้ดูหน่อยสิ” ผมบอกมิซาร์
“ค่ะ”
“แล้วคุณก็ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว” ผมเงยหน้าสั่ง ทิกเกอร์เดินกลับเข้าไปในห้องลองเสื้ออย่างว่าง่าย
“นี่ค่ะ” มิซาร์ยื่นรายละเอียดให้
“ขอเครื่องคิดเลขหน่อย” ผมหยิบแฟ้มมาดูและวางเครื่องคิดเลขลงบนแฟ้มอีกที ผมกดเครื่องคิดเลขคิดค่าสูททั้งสามชุด รวมไปถึงเนคไทและเสื้อเชิ้ตทั้งหมดด้วย
“หึหึ” เมื่อคิดราคาทุกอย่างเสร็จสรรพ ผมถึงกับต้องหัวเราะให้กับตัวเลขบนหน้าจอ
“บอกให้หนิงจัดเสื้อผ้าสามชุดนั่นให้ลูกค้าเลย” ผมสั่ง มิซาร์พยักหน้าและเดินไปทำตามคำสั่งทันทีก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้ง ทิกเกอร์เดินออกมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม
“สามชุดเลย..ใช่ไหม” ผมย้ำถาม
“ครับ” ทิกเกอร์พยักหน้าตอบ
“ทั้งหมดแสนห้า..รับแต่เงินสดนะ” ผมยิ้มพร้อมกับยื่นเอกสารคืนให้มิซาร์ถือ
“ห๊ะ!” ทั้งมิซาร์และทิกเกอร์อุทานพร้อมกัน ตาของทิกเกอร์เบิกโตอย่างกับไข่ห่านจนผมเกือบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“นี่ผมลดให้แล้วนะ” ผมเบะปาก
“คุณฟ้าคะ ทั้งหมดนั่นมันแค่แสนเดียวเองไม่ใช่เหรอคะ” มิซาร์กระซิบที่ข้างหูผม
“น่า” ผมกัดฟันและยิ้มกว้างให้ทิกเกอร์ ทิกเกอร์ยิ้มแหย มันเป็นรอยยิ้มที่ฮาแบบที่ผมไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว ที่จริงผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทิกเกอร์ทำหน้าตาแบบนี้ก็เป็น
“แล้วเงินสดนั่นมันอะไรคะ เครื่องรูดบัตรไม่เสียพร้อมกันทีเดียวสี่เครื่องหรอกนะคะ” มิซาร์ย้ำ
“เงียบน่า” ผมปราม
“แล้ว..ผมจะไปเอาเงินสดมาจากไหน” ทิกเกอร์หน้าเหวอ แน่ล่ะว่าประเด็นไม่ใช่ไม่มีเงิน แต่ประเด็นมันอยู่ที่เงินสดต่างหากละครับ
“ผมจะไปรู้คุณเหรอ ในห้างนี่ธนาคารก็เยอะแยะ..ไปกดมาสิ ถ้าไม่มีเงิน..ผมก็ไม่ขายให้หรอกนะ จนนี่..ไม่เจียมตัวเอาซะเลย” ผมทำท่าจะเดินหนี
“เอ่อ คือ..เดี๋ยว ก็ได้ๆ..เดี๋ยวผมไปกดมาจ่ายให้” ทิกเกอร์รีบพูด
“เอ่อ ต้องจ่ายสดด้วยเหรอคะคุณฟ้า เดี้ยนไม่ทราบเลย..วันนี้เดี้ยนเลือกไว้หลายชุดซะด้วย” ลูกค้าที่ยืนอยู่ไม่ไกลถามขึ้นด้วยสีหน้าไม่ต่างจากทิกเกอร์เท่าไหร่
“เอ่อ ไม่หรอกครับ..เฉพาะผู้ชายคนนี้น่ะครับที่พิเศษหน่อย มิซาร์มาดูแลลูกค้าสิ”
“คุณแกล้งผม” ทิกเกอร์ว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เหรอ..ถ้าคุณจะคิดว่างั้นก็ได้” ผมเบะปากใส่
“ฟ้า” ทิกเกอร์ย้ำเสียง หน้างอ ผมลอยหน้าลอยตาใส่อย่างไม่รู้สึกรู้สา
“เงินไม่มา ก็ไม่ขาย..เชิญร้านอื่นครับ” ผมผายมือให้ ทิกเกอร์ยืนเงียบจ้องหน้าผมเขม็ง
“ก็ได้..เดี๋ยวผมจะไปกดมาให้ สองแสนเลย พอใจไหม” ทิกเกอร์พูดแกมประชด หน้าตายังคงถมึงทึงอย่างไม่พอใจผม
“อ๊ะ..ไม่ต้องประชดนะครับ” ผมแสยะหัวเราะพร้อมกับทำหน้ากวนใส่
“สองแสนก็ได้ ทางคุณลูกค้ายินดีให้..ทางเราก็ยินดีรับครับ” ผมยิ้มกว้าง ทิกเกอร์หน้างอกว่าเดิมและเดินออกจากร้านไปในทันที
“ไอ้บ้า” ผมว่าส่งท้ายเพราะมันดันทำอย่างที่พูดจริงๆ
“ฝรั่งคนนั้นมาจีบคุณฟ้าเหรอคะ หล่ออ่ะ..สเปกอ่า ถ้าคุณฟ้าไม่เอา อินขอนะ” อินทำหน้าเพ้อฝัน
“เชิญ..ไม่ได้อยากได้นักหรอก” ผมว่าก่อนจะเดินหนีมานั่งรอที่เคาร์เตอร์คิดเงิน
“นี่ ไม่ทำงานทำการรึไง..หน้าที่น่ะ หักเงินเดือนซะดีไหม” ผมทำหน้าดุใส่มิซาร์และอินที่กำลังกระซิบกระซาบกันอย่างออกรส ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ทิกเกอร์เดินกลับมาพร้อมกับถุงกระดาษเล็กๆถุงหนึ่ง ผมพยายามทำหน้านิ่งไว้ ทิกเกอร์เดินตรงดิ่งมาที่เคาร์เตอร์ ตาของเขาจ้องผมเขม็งก่อนจะวางกระแทกถุงลงตรงหน้าผม
“นับสิ” อีกฝ่ายพูด
“อ่อ..ไม่ล่ะ พอดีจับเงินมาเยอะ แค่มองก็รู้แล้วว่าเท่าไหร่เป็นเท่าไหร่” ผมยิ้มและยักคิ้วก่อนจะหยิบเงินออกมาดู
“ไปปล้นแบงก์มารึเปล่าน่ะ” ผมแซว กรีดมือลงที่แบงก์พันเป็นปึกในมือก่อนจะยื่นให้พนักงานบัญชี เธอรับเงินก้อนใหญ่นำไปจัดการเอาเข้าเครื่องนับแบงก์อย่างรู้หน้าที่
“นี่ฟ้า” ทิกเกอร์ว่าคิ้วขมวด
“นี่ชุดของคุณ ถ้าหมดธุระแล้ว..เชิญ” ผมหยิบถุงเสื้อผ้าขึ้นวางบนเคาร์เตอร์ ออกปากไล่อีกฝ่ายอย่างตรงๆ
“ฟ้า..” ทิกเกอร์เดินมาดักทางไว้
“อะไรอีกเล่า” ผมผลักอีกฝ่ายออกเพราะทิกเกอร์มายืนประชิดตัวผมมากเกินไปจนเด็กในร้านเริ่มสังเกตเห็น
“แกล้งผมสนุกนักรึไง” อีกฝ่ายว่า
“ก็พอทำให้แก้เครียดบ้างล่ะนะ” ผมย้อนตอบ
“.......................” ทิกเกอร์ยืนเงียบ ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา
“ทำงานเหรอครับ” เขาลดน้ำเสียงลง ผมหันหน้าหนี
“ขอรอได้ไหม”
“ไม่ได้” ผมตอบ
“ทำไม”
“คุณไม่มีงานทำรึไง” ผมย้อนว่า
“วันนี้..เคลียร์เสร็จแล้ว” ทิกเกอร์ตอบแทบจะทันที
“ที่ผมพูดไปเมื่อวันก่อนน่ะ คุณคิดไม่ได้เลยใช่ไหม”
“คิดได้ แต่ผมไม่ยอมรับ..ที่ผมมาหา ไม่ใช่เพราะความรู้สึกที่ไม่แน่ใจ..เพราะผมแน่ใจ ผมถึงทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย ทำไมคุณถึงไม่ฟังผมบ้าง” ทิกเกอร์จับแขนผมอย่างเบามือ ผมยังคงยืนนิ่งและไม่ได้หันกลับไปสบตา
“คุณไม่ฟังผมเลย”
“คุณเองก็ไม่เคยหยุดที่จะโกหกผม” ผมย้อนว่า
“ผมไม่ได้โกหก การที่ผมมาอยู่ไทยก่อนโดยไม่ต้องการให้คุณรู้..เพราะผมต้องการความพร้อม และความแน่ใจที่จะยืนได้อย่างแข็งแรงก่อนที่จะได้เจอคุณ ตอนอยู่อิตาลี..ผมช่วยเหลือคุณ และคุณช่วยเหลือผม ถ้าอยู่ไทย ผมก็อยากให้เป็นอย่างนั้น..ไม่ใช่ผมที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย” ผมยืนฟังน้ำเสียงของทิกเกอร์ที่พูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่สุดท้าย..ผมก็ยังไม่สามารถเอื้อมไปกุมคำพูดนั้นมาไว้เป็นเจ้าของได้ ถึงแม้ตอนนี้ทิกเกอร์จะสรรหาคำพูดมามากมายเท่าไหร่ ผมกลับยังคงกลัว..
“ถ้าผมจะบอกว่า ผม..ไม่ได้ให้โอกาสคุณคนเดียวล่ะ” ผมพูดและเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย ทิกเกอร์หน้าหงอยลงอย่างเห็นได้ชัด
“ผมมีสิทธิ์ คุณว่าไหม”
“อืม” ทิกเกอร์พยักหน้าตอบ
“ไม่เป็นไรครับ..แค่คุณให้โอกาสผมอีกครั้งก็พอ” ผมกัดกรามตัวเองแน่นจนรู้สึกได้ คำพูดประโยคนี้ของทิกเกอร์เหมือนกำลังกระแทกเข้าโสตประสาทของผม ผมไม่รู้ว่าผมอยากได้ยินประโยคนี้ก่อนหน้าหรือเปล่า แต่เมื่อได้ยินแล้วผมกลับรู้สึกดีปนเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ผมอยากจะเอ่ยขอโทษทุกคน ถ้าครั้งนี้ผมจะเป็นฝ่ายที่เห็นแก่ตัวบ้าง พอกันที..กับการรักแบบไม่ลืมหูลืมตาอย่างเคย
“อืม วันนี้ผมต้องทำงาน คุณกลับไปก่อนเถอะ” ผมลดน้ำเสียงลงให้เป็นปกติ พร้อมกับจับมือของทิกเกอร์ที่จับแขนของผมอยู่ลง ทิกเกอร์พยักหน้าและยิ้มน้อยๆ ผมไม่ได้ยิ้มตอบแต่เดินหนีเข้าห้องทำงานมาก่อนที่จะร่ำลากันไปมากกว่านั้น..
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ตัดเมนูนี้กับเมนูนี้ออกแล้วกันอา” เซ็นเสนอ ตอนนี้ใกล้เลิกร้านเต็มที เด็กๆในร้านกำลังช่วยกันเก็บข้าวของและจัดร้านให้เรียบร้อยก่อนที่เราจะปิดร้าน ผม เซ็นและคิวกำลังปรึกษากันเกี่ยวกับการตัดเมนูบางเมนูออกเพราะอยากจะให้มีแต่เมนูเด่นที่มีเพียงร้านเราเท่านั้นที่คุณจะต้องเลือกมาทาน อย่างเช่น พิซซ่าจะเหลือเพียงแค่สามหน้าหลัก ไม่มีหน้าอื่นนอกเหนือจากสามหน้านี้ หนึ่งหน้าเป็นแบบอิตาเลี่ยนแท้ และอีกสองหน้าเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเรา หลังจากนี้ผมต้องกลับไปเขียนแผนงานของร้านนี้ใหม่เกือบทั้งหมด เพราะคิวต้องเปลี่ยนวันที่จะมาทำงานที่นี่ คิวอาจจะต้องลางานที่นี่บ่อยมากขึ้นและคงจะไม่ได้มาทำหน้าที่เป็นเชฟมากวันอย่างเคย เพราะคิวมีงานที่จะต้องรับผิดชอบคืองานโรงแรมในเครือของพี่ตัน งานที่นั่นต้องใช้ความรับผิดชอบและเวลาที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่มากกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่า เซ็นจะต้องรับบทหนักในร้านนี้มากขึ้นกว่าเดิม มันแย่มากตรงที่ว่าผมทราบดีว่าหลานของผมไม่อยากจากที่ตรงนี้ไปเพราะนี่คือที่ที่เขาหวังอยากให้มี ร้านนี้มันคือความฝันของเราอาหลาน มันเกิดขึ้นจากความฝันของสองเรา..
“อืม..เดี๋ยวคิวกับเซ็นไปเลือกเมนูที่ควรจะตัดออกนะ แล้วพรุ่งนี้เอามาให้อาก็แล้วกัน..อาจะดูอีกที” ผมบอก คิวและเซ็นพยักหน้า
“แล้วตารางงานจะได้วันไหนล่ะคิว” ผมถาม
“น่าจะพรุ่งนี้เช้า” คิวตอบ
“อืม..รีบเอามาให้อาก็แล้วกัน อาจะได้เขียนตารางให้ใหม่” ผมบอก คิวพยักหน้า
“นี่ก็เริ่มประกาศรับผู้ช่วยเชฟมาได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว หมีคงกำลังจัดการรับแบบเรื่องนี้ให้อยู่..อีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์อาจะเรียกตัวมาให้สัมภาษณ์นะ ทำตัวให้ว่างไว้ด้วย” ผมบอกล่วงหน้า
“มีต่างชาติไหม” เซ็นถาม
“เห็นหมีบอกว่ามีคนนิวซีแลนด์ กับสิงค์โปรนะ..อืม มีนักเรียนทุนจากเบลเยี่ยมด้วย” ผมตอบ
“อืม..คงไม่เลวหรอกมั้ง” เซ็นหันไปพูดบอกเพื่อนรักของตนอย่างต้องการความคิดเห็นจากอีกฝ่าย
“หวังว่า” คิวตอบหน้านิ่ง
ก๊อก ๆ ๆ
“พี่ฟ้าครับ มีคนมารอรับอ่ะครับ” เค้กยิ้มแป้นเข้ามาบอก ผมและทุกคนชะงักในทันที
“ใครครับ” ผมถาม
“เอ่อ..ไม่ทราบอ่ะฮะ ผู้ชาย มีอายุหน่อย สูงๆ..ไม่ใช่ฝรั่ง” เค้กยิ้มพูดด้วยท่าทางซื่อเหลือเกิน แต่เค้กจะรู้ตัวไหมว่าคำพูดบอกเล่านั่นกำลังลากผมลงเหว คิวและเซ็นหันกลับมาจ้องหน้าผมเขม็ง
“จะรู้ปะล่ะว่าใคร” ผมว่ามันทั้งสองคนที่มองผมอย่างจับผิดเสียเหลือเกิน
“เลิกจ้องได้แล้วน่า” ผมพูดปัดไปอย่างพ้นๆและรีบหยิบของสำคัญมาถือไว้
“เก็บของเสร็จแล้วรึไง” คิวถาม ผมหันกลับไปมองคิวที่ยืนมองเค้กอยู่
“ครับ เสร็จตั้งนานละ” เค้กยักไหล่ไปมา
“ไปครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เซ็นเดินเข้าไปกอดเอวเค้กทันที เค้กหน้าเหวอเล็กน้อย ผมยืนหัวเราะ คิวหันกลับมาหยิบกระเป๋าสัมภาระของตนเองไปยื่นให้เค้ก
“ถือด้วย” อีกฝ่ายสั่ง เค้กรับกระเป๋าไปถืออย่างงงๆก่อนที่คิวจะเดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย
“ไอ้คิวมันตายด้านเหรออา” เซ็นหันมาถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“หึ..” ผมได้แต่หัวเราะเพราะไม่รู้จะตอบเซ็นว่าอย่างไร
“หนักด้วยเนี้ย” เค้กบ่นและเดินหนีออกไปอีกคน ผมจัดการล็อกห้องเรียบร้อย พอเดินออกมาหลังร้านก็ถึงกับอึ้งเพราะพบว่าคิวและจักรยืนประชันหน้ากันอยู่ที่ลานจอดรถ ณ..ตอนนี้ทุกคนนิ่งสนิทอย่างกับภาพที่ถูกสเก็ตไว้ ผมกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะเรียกสติตัวเองให้อยู่คงที่
“มาได้ไงน่ะ” ผมรีบเข้าไปกระซิบถามจักร
“ก็จักรบอกว่าสืบมาหมดแล้วไงครับ” จักรยิ้มตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“แต่หลังร้านน่ะห้ามคนนอกเข้านะ” ผมกระซิบว่าและพยายามดันตัวจักรให้ออกห่างจากคิวให้มากที่สุด
“ก็หน้าร้านมันปิดแล้วนี่ จักรเห็นไฟหลังร้านเปิดอยู่เลยมาดู..ก็ฟ้าไม่ยอมรับโทรศัพท์จักรทำไมล่ะครับ” จักรว่า
“เฮอะ” ทุกคนชะงักที่อยู่ๆคิวก็แสยะหัวเราะออกมาทำให้จักรและผมเงียบลงพร้อมกัน
“ช่วยเอาคนของคุณออกไปจากร้านด้วย..เดี๋ยวนี้” คิวหันมาพูดบอกผม น้ำเสียงเยือกเย็นจนผมรับรู้ได้ว่าคิวกำลังสะกดอารมณ์ของตนเองอยู่
“หึ..นิสัยนี่ไม่ได้แตกต่างจากแต่ก่อนเลยนะครับน้องคิว” จักรแสยะยิ้ม
ปึก !
“คิว!” ผมรีบเข้าไปขวางไว้ทันทีเมื่อคิวเข้ามาผลักหน้าอกของจักรเต็มแรงมือ จักรตัวเซไปแต่ยังคงยิ้มกวนคิวอย่างไม่ลดละ
“ที่จริง..อาก็มาในฐานะลูกค้าได้เหมือนกันนะ นี่มันจะไม่เสียมารยาทไปหน่อยรึไง” จักรพูด
“จักร..หยุดพูดน่า” ผมหันไปว่าปราม
“ลูกค้าหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ใช่สำหรับลูกค้า” คิวกัดกรามตัวเองแน่ ผมได้เพียงแต่ยืนห้ามสองคนที่กำลังเผชิญหน้ากัน น้องๆยืนอยู่ห่างมากเหมือนกับรู้ว่าไม่ควรเข้ามายุ่งกับสถานการณ์นี้
“ไอ้คิว ไปเหอะ” เซ็นเข้ามากอดไหล่เพื่อนของตนอย่างห้ามปราม
“โชคดีนะครับ” จักรโบกมือให้
“ไอ้..” ผมได้ยินเสียงคิวสบถเท่านั้นผมก็รีบปรี่เข้าไปกอดหลานของตัวเองไว้อย่างรวดเร็ว ผมกอดรั้งคิวไว้ทั้งตัวเพราะคิดว่าเซ็นคนเดียวคงจะเอาคิวไม่อยู่แน่ๆ เมื่อผมเห็นว่าหมีรีบวิ่งเข้ามาช่วยห้ามคิวอย่างรู้งาน ผมจึงออกแรงผลักคิวไปอย่างแรงจนทั้งเซ็นและหมีล็อกตัวคิวไว้ได้สำเร็จ ดูเหมือนเจ้าตัวจะยิ่งโมโหมากขึ้นกว่าเดิมเพราะตนไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจนึกแล้ว
“เวรเอ๊ย!!” คิวสบถหัวฟัดหัวเหวี่ยง เสียงก้องไปทั่วบริเวณ
“กูจะดูสิว่ามึงจะไปได้สักกี่น้ำ” คิวว่า เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“....................” จักรยืนนิ่ง สีหน้าเริ่มบ่งบอกว่าไม่พอใจด้วยเช่นกัน
“หึ โตแล้วก็ยังพูดไม่เพราะเหมือนเดิมเลยนะครับ” จักรพูดปนหัวเราะ คิวยังคงพยายามสะบัดตัวเองเพื่อให้หลุดออกมาแต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น
“หึ คงเฉพาะกับมึงคนเดียวเท่านั้นแหละที่พิเศษหน่อย” คิวย้อนแกมหัวเราะบ้าง
“ฟ้าน่าจะเตือนปากหลานตัวเองบ้างนะครับ ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เจอดีเข้าสักวัน” จักรขมวดคิ้ว
“จักรหุบปาก!” ผมว่าอย่างหัวเสีย
“ตรงนี้ห้ามเข้ามาก็คือห้ามเข้า จักรไม่มีสิทธิ์..ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็แล้วแต่” ผมพยายามข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“โอเค..จักรขอโทษ” จักรพูดอย่างสำนึกและยกมือเหมือนยอมแพ้
“แล้วช่วยกลับไปรอที่รถด้วย ให้ตายเถอะ” ผมบ่น จักรพยักหน้าก่อนจะเดินไปอย่างเชื่อฟัง
“สันดานมันก็คือสันดานอยู่วันยันค่ำนั่นแหละ” คิวพูดแทบจะตะโกน หลังร้านที่เงียบเป็นทุนอยู่แล้วทำให้ทุกคำนั้นได้ยินชัดเจน จักรหยุดชะงักแต่ไม่ได้หันกลับมามองคิว หน้าอกของคิวกระเพื่อมแรง คิวสะบัดแขนออก เซ็นและหมีปล่อยแต่ยังคงยืนอยู่ไม่ห่าง ทุกคนต่างยืนนิ่งอยู่กับที่
“ถ้าอาจะขอโทษ แค่ให้โอกาสหน่อย..คิวจะให้ได้ไหม” จักรหันกลับมาพูด คิวยืนนิ่ง ตาจ้องมองไปที่จักรเขม็ง
“โทษทีนะ ที่จะบอกว่าให้ไม่ได้..เพราะผมไม่ได้โกรธคุณ” คิวเปลี่ยนน้ำเสียงกลับเป็นเสียงที่เย็นลง
“แต่ผมเกลียดคุณ ผมเกลียดดวงตาของคุณ..เพราะมันดูไม่จริงใจกับคำพูดเอาซะเลย” คิวแสยะยิ้ม
“ตอนที่มีเวลาให้แก้ตัว กลับไม่ทำ..จะมาทำเอาตอนนี้น่ะ ไม่รู้สึกอายตัวเองหน่อยรึไง จะมาพายเรือทวนน้ำเอาตอนนี้..คงจะยากหน่อยล่ะนะ อีกอย่าง..มันคงเหนื่อยเปล่า” คิวว่า ผมได้เพียงแต่ยืนนิ่ง คำพูดของคิวเหมือนต้องการตอกย้ำผมอย่างชัดเจน จักรไม่ตอบโต้ใดๆอีก
“คิว” ผมเรียกแล้วจะเข้าไปจับแขนคิวไว้ คิวกลับสะบัดมือของผมออกด้วยท่าทางหงุดหงิดและเดินหนีไปขึ้นรถในทันที
“อารีบพาเค้าไปเถอะครับ คิวมันไม่ได้โมโหแบบนี้บ่อยๆ..อาก็รู้” เซ็นพูดพร้อมกับยิ้มแหย ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจในความหมายของเซ็น
“ฝากด้วยนะ” ผมบอกและรีบลากจักรให้กลับมาขึ้นรถของจักรและบอกให้เจ้าตัวขับรถออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด..
..................>>>><<<<..................
-
พี่คิวน่าจะต่อยอีกสักสองสามที 5555
เราไม่ได้เกลียดจักรเป็นการส่วนตัวนะ แต่เราชอบทิกเกอร์มากกว่า 5555(ลำเอียงเห็นๆ)
คิวคงรู้ความคิดจักรบางอย่างละมั้ง คิวนิรักอาฟ้าสุดยอดดดด 555
ทิกเกอร์น่ารักก คนทำผิดแล้วยอมรับผิด พยายามทำตัวใหม่ น่าชื่นชมออกนะ อาฟ้า
ออกมาจากความกลัวเถอะ ยังไง อาฟ้าก็มีคนที่รักอาฟ้าอยู่น้าาา *0*
-
ทิกเกอร์โดนแกล้งอะ แอบน่ารักเล็กๆ
ไม่ชอบจักรที่มาทำเหมือนตัวเองมีสิทธิ์อะไรเหนือพี่คิวเลย ( พี่คิวของเรานะ :m16: ) จะง้อก็ให้อยู่ในขอบเขตหน่อยสิ
พี่เซนยั่วให้พี่คิวหึงเยอะๆเลยอยากเห็นพี่คิวหึง :impress2:
ขอบคุณพี่บี้ค่ะ :pig4:
-
ชอบที่คิวพูด ไม่ได้โกรธแต่เกลียด สะใจมาก
คิวนายแน่มาก o13
-
เริ่มจะคิดและว่าจักรมันต้องมีอะไรแอบแฝง
แต่ตอนที่อาฟ้าอยู่กับทิกเกอร์แลดูน่ารักมากอ่ะ
-
ไม่ได้จะเข้าข้าง ทิกเกอร์หรอกนะ
แต่ ทิกเกอร์ดู น่ารักอ่ะ
แบบอยู่ด้วยแล้วยิ้มๆ
แต่กับจักร บรรยากาศมันต่างกัน ดูกดดัน ดูเหนื่อยอ่ะ
ฮือออออ อาฟ้าคงกำลังคิดหนัก ว่าจะจัดการไงดี!!
-
จักรนี่น่าหมั่นไส้จิงๆ ให้ตายเหอะ ให้พี่คิวตื้บสักรอบ :z6:
ทิกเกอร์ น่ารักอ้ะ 555 :-[
-
เห้อออป เรื่องอิรุงตุงนังอ่ะ
ไม่ค่อยอยากให้อาฟ้าไปยุ่งกะคนอยางจักรเรยให้ตาย
ดูยังไงก็ไม่น่าไว้ใจแฮะ ฟังคิวหน่อยนะอาฟ้า เปงห่วงอาค่ะ
-
ตอนนี้รู้ความผิดของทิกเกอร์แล้ว และรับไม่ได้
ความผิดของจักรก็พอเดา ๆ ได้ แต่ไม่รู้ว่าแย่ขนาดไหน
คือสองคนนี้ไม่ควรกลับไปคบด้วยทั้งคู่แหละ
-
เหมือนเราจะลำเอียง
แต่ไม่ชอบจักรเลยอ่า :m16: เหมือนถือดีว่ายังไงๆก็ชนะใจอาฟ้าได้แน่ๆ
-
พี่คิววว ทำไมไม่จัดหนัก ต่อยไปเลย :z6:
-
เฮ้ออ :เฮ้อ: คิวน่าจะปล่อยหมัดไปที่ปากนะแค่ผลักอกยังน้อยไป
-
โอ๊ยยยยยยยยยยย มันส์!!!!!!!!!! อ่านแล้วลุ้นอ่ะ
ชอบตอนปะทะคามรมกันอ่ะ สนุกแท้!!!
-
คิวเย็นไว้ๆ
-
นาทีนี้ไม่อยากจะบอกว่าอาฟ้าทำตัวเอง ไม่มั่นใจ ไม่เลือกใคร มันก็วุ่นงี้แหละนะ
-
ถูกค่ะพี่ฟ้า หมดยุคของความรักแบบไม่ลืมหูลืมตาแล้วแหละ เราต้องรักตัวเองให้มากๆต่างหาก
คิว vs จักรนี่ท่าทางศึกช้างชนช้าง.... แต่ไม่ห่วงมาก เพราะคิวเค้าแรงชนะทุกสิ่งแน่ๆ ฮ่าา :z10: ทีกับทิกเกอร์นี่แอบเชียร์อ้อมๆตลอดเนาะ
ลุ้นให้ทิกเกอร์เค้าดีจริงและชนะใจพี่ฟ้าได้จัง สู้ๆนะคะ :กอด1:
-
อ่านแล้วทำไมเหมือนจะเกลียดจักรมากกว่าพี่เสือนะ ทั้งๆที่ยังไม่ค่อยรู้ว่าจักรทำเรื่องอะไรไว้
-
ถ้าอยากให้ "รักครังใหม่ ดีกว่า รักครั้งเก่า" ...ก็อย่าเอา "รักเก่า กลับมา รักใหม่"
รักไม่ลงคนเคยทำให้เสียใจ ยังไงก็เรียกความรู้สึกดีๆกลับมาไม่ได้ หาพระเอกคนใหม่เถอะ :m31:
อินจัดจากประสบการณ์ อิอิ
-
รักอาฟ้าจัง :กอด1: :L2:
-
เค้าอยากให้อาฟ้ามีรักใหม่ที่ไม่ใช่กะทิกเกอร์และจักรอะ เอาใจช่วยอาฟ้าน้า~ สู้ๆๆๆๆๆ
-
ด่าได้แซ่บมากพี่คิว แต่แก จะเย็นชาใส่เค้กจังวุ้ย เดี๋ยวน้องร้องนะ ฮ่าๆๆๆ
-
คิวดูเกลียดจักรมากเลย สงสัยมีความหลังอะไรกันรึเปล่า o18
-
เราก็เชียร์ทิกเกอร์ น่ารักกว่าเห็น ๆ :pig4:
-
จักรนี่ท่าทางจะเป็นคนไม่ดีจริงๆคิวถึงได้เกลียดขนาดนี้
เชียร์ทิกเกอร์ขาดใจเลย
-
อาฟ้าตัดสินใจได้แล้ว
+1
-
ไม่ชอบนายจักรเลย ยั่วโมโหอยู่นั่นละ :fire:
-
โอ้ยยยยย มันส์มากกกกกกกกกกก
เกลียดจักรทันที จากปฏิกิริยาของคิว
แถมความรู้สึกรังเกียจให้ด้วย
คิวแม่งสุดยอดดดดดดอ่ะ ชอบมากกกกกกก
ส่วนเรื่องของพี่ฟ้า การที่พี่ฟ้าดึงจักรเข้ามานี่มันวุ่นมากเลยนะ
ถึงจะควบคุมได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา อย่างน้อยก้เกิดขึ้นล่ะ
มีปัญหากะคิวนี่ไง ส่วนทิกเกอร์ เข้าใจถึงความรู้สึกเจ็บปวดในอดีต
แต่ถ้าพี่ฟ้าไม่มีทางที่จะกลับไปหาทิกเกอร์อีก
ก้ควรจะเคลียร์ความรู้สึกทั้งหมด ให้มันจบนะคะ
บวก1ให้เบบี้ค่ะ
-
จักรนี่ไม่ไหวม้างงงง :z6:
เชียร์ทิกเกอร์โว้ยยย
คนอื่นหลบไป :laugh: :laugh: :laugh:
-
ยิ่งได้อ่านยิ่งเกลียดจักร
แต่ชอบทิกเกอร์อ่ะ ฮ่าๆๆ
-
ยังคงยืนยันเจตนารมณ์เดิม คือ .. ไม่เชียร์ใครซ๊ากคน :laugh:
ฟ้าให้โอกาสคนรักเ่ก่าสองคนเ้ข้ามาอีกครั้งในคราเดียวกัน
แค่คิด ความสับสนวุ่นวายยุ่งยากชวนปวดเฮด ก็ลอยมาเป็นกองทัพแล้ว :เฮ้อ:
ขอบคุณเบบี้น๊า... รออ่านตอนต่อไปคับ^^
-
ในความเป็นจริงไม่ควรกลับไปคบทั้งคู่แหละ แต่ดูฟ้าไม่เด็ดขาดจมกับความรู้สึกตัวเองเหมือนมีเยื่อใย งั้นเชียร์ทิกเกอร์ เพราะชอบทิกเกอร์ในหมีพูห์มาก เกี่ยวป่ะ o13 :pig4:
-
มันส่อเจตนาของจักรแบบชัดเจนมากเลยนะ มาเพื่อหวังอะไรจากอาฟ้าชัวร์
มันก็ดีที่อาฟ้าเองก็มีจุดยืนของตัวเองชัดเจนว่าควบคุมได้ แต่นะ มาจีบอาเค้า แต่กะหลานยังด่าเค้าขนาดนั้น
สันดาน มันก็ยังชั่วเหมือนเดิมอย่างที่คิวว่าจริงๆ
-
สอง อา-หลาน รักกันรุนแรงมากกกกก :laugh:
ชอบนะ ให้อารมณ์แบบว่า ถ้าไม่สนิทกันจริง
พูดด้วยอย่างนี้ไม่ได้อ่ะ :กอด1:
-
จักรทำแบบนี้คิดว่าฟ้าจะปลื้มเหรอ
บ้าไปแล้วไปกวนตีนหลานเค้า
:pig4: คะ
-
:m18:พี่คิวสู้ๆ พี่คิวสู้ตาย พี่คิวจัดหนักมันเล๊ยยยยยย
วันนี้โกรธพี่หมี พี่เซ็น พี่ฟ้าด้วย มาห้ามพี่คิวทำไม๊ ไม่งั้นนะ เหอะๆๆๆ
ทิกเกอร์ ฉุดเลยฉุดเลย ฟ้าแกล้งนักก็ฉุดเลยยยยย o13
+1 นะคะน้องบี้คนงาม
-
:pig4: :pig4:
-
:angry2: :angry2: :angry2: คิว จัดหนักให้จักร ไปสักหน่อยสิ
-
ดูวุ่นวายเนาะพี่ฟ้า
โอ้ คิวอารมณ์ขึ้น น่ากลัวนิดๆ
-
รักอาฟ้าจัง :L1:
ทิกเกอร์สู้สู้ :ped149:
จักรช่วยไปไกลๆ :m16:
-
ชอบ ทิกเกอร์แล้วสิ
ดูทุ่มทุนจัง
พี่ฟ้า อย่าใจแข็งนักเบย สงสาร ทิกเกอรือ่า
-
จักรนี้ท่าจะเยอะ ถึงขนาดทำให้พ่อคิวน็อตหลุดได้ จัดหนักไปเล้ยยย 555
-
ลุ้นทิกเกอร์มากกว่าจักรเพราะคิวชอบทิกเกอร์ คิวชอบเราก็ชอบด้วย :กอด1:
-
พูดไปก็เหมือนเราเข้าข้างทิกเกอร์(ทั้งที่ก็เป็นอย่างนั้น) :laugh:
การแสดงออกของจักรกับทิกเกอร์มันผิดกันลิบลับเลยนะเนี่ย
อีกคนแค่ได้รับโอกาสก็ดีใจแล้ว แต่อีกคนดูเหมือนได้คืบจะเอาศอก
ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า จักรพยายามจะเป็นคนพิเศษสำหรับพี่ฟ้า
แต่อย่าลืมว่าคนที่พี่ฟ้ารักมากไม่น้อยกว่าใครก็คือหลานคิวนี่ล่ะ
คิดผิดนะเนี่ยที่ทำให้พี่คิวเกลียด เพราะแค่โกรธก็น่ากลัวมากแล้ว
เอ้า ! สู้ๆนะทุกคน รวมถึงพี่ฟ้าที่น่ารักด้วยจ้า :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
อาฟ้าน่ารักกกกกก :-[
ทิกเกอร์ดีกว่าจักรเห็นๆ เชอะๆ
:กอด1:
-
โอ๊ยตาย ทิกเกอร์ตอนนี้แอบน่ารัก
จะพยายามท่องไว้ว่าทิกเกอร์เคยทำอะไรไว้ ไม่งั้นเราคงใจอ่อนไปก่อนอาฟ้าซะอีก เฮ้อ
แต่ก็ยังแอบลุ้นอยู่นิดๆว่าอดีตจะพลิกล็อคอะไรหรือเปล่า
(แต่อีกใจนึงก็ไม่อยากให้พลิก เพราะคิดว่ามันเรียลดีอ่ะ -- ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้แต่ลุ้นอยู่วงนอกจ้า)
สำหรับจักร ก็ขอยืนยันว่าไม่ชอบเหมือนเดิมค่า เหอะๆ คนอะไรดูไม่จริงใจจริงๆ
-
ถ้าจะหนักสำหรับจักร แค่เจอหลานคิวก็อ่วมแล้ว
-
แหม จักรน่าจะโดนคิวต่อยสักที น่าหมั่นไส้
-
ทิกเกอร์โดนพี่ฟ้าแกล้ง ขืนแกล้งแบบนี้จนพอดี
เชียร์ให้พี่คิว :z6: :z6: อิตาจักรให้แบนติดดิน พี่ฟ้าไม่น่าไปให้โอกาสคนแบบนี้เลย แถมมันยังกวนส้นหลานรักอาด้วยนะ
กด+ เชียร์ทิกเกอร์ :L2: :pig4: คนเขียนมากค่ะ
-
ไม่เชียร์ใครเลย เชียร์ให้พี่ฟ้าเจอคนใหม่ แบบคิว เป็นรุกไปเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m20:
-
สงสารฟ้าจัง จะเลือกทางไหนดี
เซ็งจักรแทนคิว
-
ไม่ชอบจักรเหมือพี่คิวเลยยยยยย
ให้ความรู้สึกเหมือนจะมาหลอกตลอดเวลาอย่างที่พี่คิวว่าจริงๆ
เมื่อไรอาฟ้าจะใจอ่อนกับทิกเกอร์
แต่ว่าเรื่องทิกเกอร์ทำไว้ก็ใหญ่ใช่เล่น
อ๊ากกกก สับสนนนนน(แทนอาฟ้า)
-
อย่ามาเนียนนะทิกเกอร์ ปัญหาเก่ายังไม่เคลียร์นะ... :m16:
-
อ่านแล้วเหมือนจะหยุดหายใจ :เฮ้อ:
-
คิวคงดูออกสินะ หรือเปล่า
-
คิว อารมณ์รุนแรงดีเนอะ ไม่ชอบใครเปิดเผยสุด ๆ
-
เหอะ ไอ้จักร
กุเข้าข้างพี่คิวเว้ยยยยยย
หึหึ
อยาให้เจอนะ (พี่บี้นะ) จะไปกอด
ปล เม้นแต่ละอันไม่ได้คลองจองกันเลยกุ ==
-
นายจักรคือที่สุดของความไม่น่าไว้ใจอย่างแรง = =
-
จักรน่าจะโดนคิวต่อยเยอะกว่านี้นะ :z6: :z6: :z6:
-
ตอนนี้มันส์ดีพะยะค่ะ น่าจะต่อยปากมันสักหมัด กวนโอ๊ยเหลือเกิน อยากรู้ว่าถ้าจักรนิสัยแบบนี้จะเอามาเป็นตัวเลือกอีกคนทำไม
ไม่เข้าท่าเลย :เฮ้อ:น้องเค้กช่วยทำให้พี่คิวเย็นลงหน่อยแล้วกันนะ ^-^
-
555 คิวโมโหจนหน้ามืด ไม่หึงไม่หวงอะไรแระ ของขึ้นอย่างเดียว
-
กวนอารมณ์จนคิวของขึ้นได้ขนาดนี้
ถ้าจะไม่ธรรมดานะนายจักร
สงสัยพฤติกรรมสมัยหนุ่มๆ จะเหลือรับซะละมัง o12
-
จักรนี่มันสมควรจะโดนคิวชกปากจริงๆ :z6:
-
เราก็ว่าจักรไม่จริงใจ พี่คิวน่าจะจัดการซะให้หายหัวไปเลย
-
จักรเน้อจักร
คิวทำไมไม่ซัดไปเลย
-
เราไม่รู้ว่าจักรทำไรมา...แต่เรารู้ว่า เราไม่ชอบหน้าคนนี้เลย
ไม่ชอบเลย แม่งเกลียดเลยอ่ะ
แต่คดีจะพลิก เรื่องจะผันอีกหรือป่าวน๊อ ฮ่าๆๆๆ
ต้องตามลุ้น :เฮ้อ:
แต่เอาใจช่วยทิกเกอร์สุดๆอ่ะ คนไรไม่รู้ แค่อ่านดูก็รู้ว่าหล่อ แอร๊ยยย >////<
:-[ :impress2: :-[
-
รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาาา :call:
-
จักร ตัวร้ายสินะ
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
นึกว่าตาลุงจักรนี่จะหมดเรื่องแล้วซะอีกนะ ยังจะโผล่มาอีก! :angry2:
สู้เค้าทิกเกอร์ อย่าไปยอมมม
-
บรรยากาศระหว่าง ทิกเกอร์ ฟ้า กับ จักร ฟ้า มันไม่เหมือนกันนะ
ให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างต่างกันอย่างชัดเจนทีเดียว
เหมือนฟ้าจะสามารถให้อภัยในความผิดของทิกเกอร์ได้นะ
ความผิดของจักรคงรุนแรงต่อความรู้สึกฟ้ามากแน่ๆ
:กอด1:
-
:impress2: พี่คิวเท่ห์มว๊ากกกกกกกก
-
แอบเทใจให้ทิกเกอร์แล้ว o13
-
จักร นี่เอออออ เนอะ หึหึ
สรุป ฟ้ายังคงมีใจให้ทิกเกอร์แน่นอน แต่ ฟ้าน่าจะดึงจักรเข้ามาในเกมส์ เพื่อเป็นเครื่องมือ แต่ o22 ระวัง ผู้ชายคนนี้ จะตลบหลังเอา ร้ายเอาเรื่องเหมือนกัน
:กอด1: เบบี้ พี่คิว
-
ห้ามพี่คิวทำไม :angry2: ทำไมไม่ให้พี่คิวจัดไปสักหมัด
เราเชื่อใจพี่คิวว่าพี่คิวมองคนไม่ผิด
รู้สึกหมั่นไส้จักรด้วย เราเชียร์ทิกเกอร์
-
จักรมันดูไม่เปลี่ยนเลยแหละนะ :z6:
-
จักรนี่คงแย่มากจริงๆ คิวเลยต่อต้านมากๆ
-
ไม่ชอบอีตาจักรอะไรนี่เอาซะเลย ให้ตายเหอะ
-
จักร แก วอนโดนเตะ มากกกก :m16: คิวไม่ชอบก็ถือว่าหมดสิทธิ์หละ
>>สมน้ำน้า << สู้ทิกเกอร์ของเจ๊ก็มิได้ สู้เค้านร้าสุดหล่อ :laugh:
P.S. สงสารทิกเกอร์แต่ก็สงสารอาฟ้ามากกว่า ปวดใจ
-
ฟ้าเหมือนจะชอบทิกเกอร์มากกว่า
เชียร์ทิกเกอร์สุดใจขาดดิ้น
รอตอนต่อไปจ้า
-
:m16:เบื่อฟ้าอะไม่เด็ดขาดซักที :angry2:
-
:m31: :m31: :m31: :m31:
-
ฮ่าๆ อาฟ้าแสบดีอ่ะ ชอบๆ แกล้งทิกเกอร์ได้กวนๆ มันคนละแบบกับแกล้งจักร
สองมาตรฐานชัดเจน แต่อยากให้ใจแข็งๆกับทิกเกอร์อีก ชอบบบบบบบ!!
เวลาทุกคนเอาใจอาฟ้าแลดูเป็นเคะราชินี่อ่ะ 5555 แล้วพี่คิวก็แย่งซีนทุกคนอีกแล้ว...
พีคิวแย่งทุกตอน โผล่มาแค่ไม่กี่บรรทัดแต่เอาใจคนอ่านไปเลยจ้าาาาาา
-
ทิกเกอร์ เค้าจะให้ข้อคิดกับตัวนะ : 222222:
1. น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อน
2. ความพยามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
3. ไม่มีคำว่าแพ้หากว่าเราได้เริ่ม ไม่มีคำว่าอยู่ที่เดิมหากเราได้พยายาม
4. จงซื่อสัตย์กับแฟนตัวเอง....แล้วจงครื้นเครงกับแฟนคนอื่น(อันนี้ไม่ใช่ล่ะ)
5. รักแท้ต้องแย่งชิง .. รักจริงต้องปล่อยไป (อะไรของกรูว่ะเนี๋ยะ ไม่เอา ๆ ผ่านไปๆ)
6. ทำคืนนี้ให้ดีที่สุด และอย่าหยุดถ้าไม่ถึงจุดสุดยอด(ฉิหาย!เริ่มไปกันใหญ่ล่ะทีนี้)
เอ่อ~ทิกเกอร์ทำตามแค่ข้อ 1-3 พอล่ะ ข้อที่เหลืออย่าไปยุ่งกับม้านนนน :try2:
ยังงัยเค้าก็เอาใจช่วยทิกเกอร์เสมอนะ :ped149:
ส่วนไอ้อาจักร คิวเกลียดเค้าก็เกลียดด้วย ไม่มีเหตุไรทั้งนั้น :laugh:
-
เริ่มเกลียดมันแล้วล่ะ เชียร์ทิกเกอร์ๆๆๆ
-
ฟ้าขี้แกล้งอ่ะ แต่ก็หวั่นไหวน่าดูเลยนะ ทิกเกอร์ตอนนี้เหมือนเด็กเลยอ่ะ โดนแกล้งหน่อยก็ทำหน้างอ ฮ่าๆ น่ารัก ดูจริงใจดี... คิว นอกจากจะหล่อ รวย เก่ง การศึกษาดี ชาติตระกูลดี แต่ที่ชอบที่สุดก็คือเป็นคนที่ฉลาดคิด ฉลาดพูด คนอะไรโตครจะเพอร์เฟค
:pig4: เบบี้ :กอด1:
ปล. “จะเอาแบบไหนล่ะ” ผมพูด เสียว ห้วน ^^
-
พี่คิว...เค้าเป็นคนที่เหนือคําบรรยายจริงๆ
แบบ..เอาใจไปเลย.....
-
เชียร์ทิกเกอร์สุดใจ.....คนอะไรน่ารักอ่ะ :impress2:
-
ทิกเกอร์น่ารักมากเลยค่ะ :-[
พี่ฟ้าใจแข็งสุดยอด ใจอ่อนให้ทิกเกอร์เถอะนะคะ
จักรอะไรนั่นสะบัดทิ้งไปเลยค่ะ
-
ทิกเกอร์โดนแกล้งงงอะ เป็นผู้ชายที่ น่ารักกอะ :o8: :o8:
อยากรุ้เบื้องหลังของจักรมากกว่า อะไรที่ทำให้คิวเกลียดได้ขนาดนี้
ถ้าเกลียดได้ แปลว่าต้องไม่โอสินะ
อาฟ้าอย่าไปเลือกเลยยย เลือก ทิกเกอร์เหอะ
:impress2: :impress2:
-
ทิกเกอร์สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z2:
-
ฟ้านะฟ้า ยังจะขึ้นรถตามเค้าไปอีก เฮ้อ
-
แล้วช่วงจะต่อยกันนี่ น้องเค้กหายไปไหนค่ะ
-
อีฟ้าเลือกไม่ถูกรึไง ว่าจะเอาอันไหน
-
กำลังยุ่งได้ที่เลย จะลงเอยยังไงละเนี่ย :t3:
-
คิวเท่ห์ขึ้นอีกเป็นล้านนน :impress2:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
แกล้งทิกเกอร์ยังไงกัน ลองชุดนั้น ก็หล่อ ลองชุดนี้ ก็หล่อ 5555
-
ให้อาฟ้าคู่กับทิกเกอร์ดีแล้ว
-
แล้วช่วงจะต่อยกันนี่ น้องเค้กหายไปไหนค่ะ
เบบี้ไม่ได้เขียนเค้กเข้าไปเองค่ะ(ตั้งใจไม่เขียนเอง) จากที่เบบี้บรรยายไปคือเด็กในร้านไม่ได้เข้ามายุ่ง จากลักษณะนิสัยของตัวเค้กเองก็ไม่ได้เป็นคนชอบมีเรื่องด้วยอยู่แล้วและก็จะไม่เข้าไปยุ่ง(ถ้าไม่จำเป็น) เบบี้จึงไม่เห็นว่าจะมีความสำคัญอะไรที่จะใส่เค้กเข้าไปด้วยค่ะ
-
เห็นใจฟ้านะ แต่เรื่องบางอย่าง มันต้องเด็ดขาด
เอาใจช่วยนะ
-
ยิ่งไม่ชอบจักรขึ้นเรื่อยๆ
นี่ไม่ได้อคตินะคะเนี้ย
-
:L2:
-
ขัดใจมากเลยอะพี่เซ็น อาฟ้าด้วย ทำไมไม่ให้พี่คิวต่อยอาจักรซะสักมัด 2มัด
ว่าแต่ที่พี่คิวพูดเนี่ย หมายถึงว่าพี่คิวรู้ใจอาฟ้าจริงๆใช่ไหม เรเป็นคนหนึ่งที่เชียร์ทิกเกอร์อะ ถึงแม้จะอ่านเรื่องคราวที่เกิดกับอาฟ้าแล้วก็ตาม แต่จริงๆก็ไม่อยากเชียร์หรอกนะ รู้สึกว่าเรื่องราวทำร้ายจริงใจเกินไป แต่คิดว่าอาฟ้ามีทิกเกอร์ดูแลน่าจะดีที่สุด
แล้ววิธีที่อาฟ้าแกล้งทิกเกอร์เนี่ย ยกให้เลยอะ เหมือนเด็กมากกก ถึงแม้จะจ่ายเงินเยอะมากก็ตามที แต่เป็นการแกล้งที่ฮาไปอีกแบบ
-
น่าสงสารทิกเกอร์โดนพี่ฟ้าแกล้ง 555555
แสดงว่าพี่คิวเกลียดจักรแบบเกลียดมากๆๆ
ถ้าพี่ฟ้าไม่ห้ามไว้คงใด้มีการฟาดปากกันแหง๋!!!
-
คิวของขึ้นเลย..ก็สมควรนะ จักรก็พูดจาวอนโดนเท้า เหมือนกันนี่ --!
ฟ้าให้โอกาศ จักร แต่คิวไม่ให้ เห้อออออออออ..แล้วฟ้าจะทำไงต่อเนี๊ย
มาทั้งสองด้านเลยศึกครั้งนี้
-
เชื่อว่าถ้าคิวเกลียดจักรได้ขนาดนี้
จักรก้ไม่คู่ควรกับฟ้าแน่นอน
เเอบเกลียดจักรอ่ะ 55 >.<
-
อ่านแล้วรู้สึกหมันไส้อิตาจักรบอกไม่ถูก ส่วนทิกเกอร์ก็.... :เฮ้อ:
อาฟ้าหาใหม่เถอะ หรือจะมา 3P กะ คิว เค้กดี อิตาพี่คิวแลดูร๊ากกกกกกอาฟ้าจะตาย คริ ๆ :z1:
-
ต่างคนต่างรีบทำคะแนน จริง ๆ แล้วคะแนนที่จะให้ กรรมการแต่ละคน คงเทเอียงไปทางหนุ่มมักกะโรนีเป็นแน่แท้
มาดูกันต่อไปว่า กว่าที่อะไร ๆ จะลงตัว จะมีเรื่องอะไรให้วุ่นวายอีก
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้
ปล. ออกมานิดเดียวก็แย่งซีนคนอื่นไปหมด น่ารักอ่ะ :กอด1:
-
รักพี่คิว
-
...มันแย่อยู่แล้วที่โดนหลอก ปิดหูปิดตาเหมือนคนโง่ และยิ่งเลวร้ายไปอีกเมื่อคนที่รักตั้งใจนอกใจอย่างจริงจังเนี่ย...มัน...มัน...แหม...ให้ดียังไง สำนึกแค่ไหน มันก็..ยากมาก..ที่จะรีเทิร์น... :o12:
ส่วนคุณชายคิวนี่ก็แรงตลอดๆๆ
วุ้ย..เสียดายน้องเค้ก...
-
คิวดูโกรธมากเลยอ่ะ น่ากลัววว
-
พี่คิวเท่อะ
สงสารพี่ฟ้า เฮ้อ กลับมาหาพี่ฟ้าสองคนเวลาเดียวกัน เฮ้ออ
-
โอ๊ะ โอ๋ ท่าทางงานนี้ทิกเกอร์จะเข้าวินซะแล้ว นานๆจะได้เห็นคิวโกรธแบบนี้ โดนปูนหมายหัวแล้วจักรคงไม่มีทางผ่านแน่ๆ
-
:o12:คิวน่ากลัวอ่่ะ
-
555 สงสารทิกเกอร์ โดนคุณฟ้าแกล้ง แถมยังยอมทำตามอีก!!!!!
ส่วนจักร - -" หน้าจะให้โดนพี่คิวต่อยซักชุด แล้วค่อยว่ากันใหม่
ว่าแต่ น้องเค้กกลายเป็นเบ๊ พี่คิวไปแล้วหรอ 555
ขอบคุณนะคะ รออ่านต่อค่ะ^^
-
:monkeysad: อาฟ้าชีวิตรักรันทดอ่าาา
มันเจ็บเนอะ คบกับเรา แต่ก็ไปอะไรๆกับอีกคน
รักเรา แต่ก็ไม่ใช่ไม่รักเขา
เข้าใจที่พี่ฟ้าไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ
แต่ยังไงก็ชอบแนวทิกเกอร์มากกว่าจักรล่ะนะ :laugh:
คิวแนวการพูดแบบนี้ แต่รู้สึกได้เลยว่าเป็นห่วงขนาดไหน
เป็นกำลังใจให้อาฟ้า
รอติดตามเรื่องราวความรักของอาฟ้าต่อค่ะ ^^
-
อาฟ้าเชื่อพี่คิวเถอะค่ะ รู้ใจตัวเองซะที ยอมรับทิกเกอร์เถอะค่ะ ยังไงก็ยังดูดีกว่าอาจักรนะคะ // ไซโค อิอิ
-
มันส์ อ่ะ ชอบที่ได้เห็นคิวแสดงอารมณ์ดีกว่าเหมือนตายด้านอ่ะ เอ หรือว่าเราคาดหวังอะไรไว้น้า :o8:
-
ลุ้นกันตอนต่อไปนะครับ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
รัก พี่คิวปิดกับเค้กที่สุดจะรอซื้อตอนรวมเล่นะค่ะพี่เบบี้ คู่ฟ้าเค้าเชียร์กี้อะ นิสัยน่ารักกว่า สงสารอาฟ้านะเจ็บกับความรักมาสองครั้ง ตรงๆๆ เค้าอ่านเรื่องนี้รวดเดียวจบ พี่เบ้บี้เขียนสื่ออารมณ์ตัวละครได้ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ ชอบมุมมองการเล่าเรื่องของพี่ ที่ทำให้ชัดเจนมากว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นนิสัยเป็นยังไง สูๆๆนะค่ะพี่เบบี้เป็นกำลังใจให้ นี่เป็นเรื่องแรกที่หนูมาอ่านของพี่ค่ะ ประทับใจมากค่ะ ขอบคุณสำหรับ เนื้อเรื่อง สำนวน การนึกคิด ที่ดีของตัวละคร แต่ละตัวที่พี่ได้แทรกมุมมอง ข้อคิดให้ด้วยนะค่ะ จะติดตามผลงานพี่ต่อไปเรื่อยๆๆค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ o13
-
รัก พี่คิวปิดกับเค้กที่สุดจะรอซื้อตอนรวมเล่นะค่ะพี่เบบี้ คู่ฟ้าเค้าเชียร์กี้อะ นิสัยน่ารักกว่า สงสารอาฟ้านะเจ็บกับความรักมาสองครั้ง ตรงๆๆ เค้าอ่านเรื่องนี้รวดเดียวจบ พี่เบ้บี้เขียนสื่ออารมณ์ตัวละครได้ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ ชอบมุมมองการเล่าเรื่องของพี่ ที่ทำให้ชัดเจนมากว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นนิสัยเป็นยังไง สูๆๆนะค่ะพี่เบบี้เป็นกำลังใจให้ นี่เป็นเรื่องแรกที่หนูมาอ่านของพี่ค่ะ ประทับใจมากค่ะ ขอบคุณสำหรับ เนื้อเรื่อง สำนวน การนึกคิด ที่ดีของตัวละคร แต่ละตัวที่พี่ได้แทรกมุมมอง ข้อคิดให้ด้วยนะค่ะ จะติดตามผลงานพี่ต่อไปเรื่อยๆๆค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ o13
ยินดีจ้า แต่เรื่องอื่นพี่ไม่ได้เขียนสำนวนแบบนี้นะ ดังนั้นอย่าคาดหวังๆเพราะเดี๋ยวอาจจะไม่ชอบก็เป็นได้เน้อ (กอดไหล่เป็นกำลังใจ) 555+
ยังไงก็ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ ^___^
เบบี้
-
รีบๆมาต่อนะคะพี่เบบี้ :call:
ชอบเรื่องที่พี่เบบี้แต่งทุกๆเรื่องเลยค่ะ o13
รอจ้า :call:
-
รีบๆมาต่อนะคะพี่เบบี้ :call:
ชอบเรื่องที่พี่เบบี้แต่งทุกๆเรื่องเลยค่ะ o13
รอจ้า :call:
เค้าป่วยอยู่จ้าาา แฮ่ๆ :(
น้องmild-dy รอบนี้เขียนคอมเม้นยาวนะ 3 ประโยค ปกติเห็นเขียนสั้นๆ กร๊าก (แอบแซวขำๆ)
ขอบคุณค่า
จุ๊บๆ :oo1: :oo1:
-
ก็นะพี่เบบี้มันคิดถึงนี่นา จุ๊บๆ :L2:
อย่าแซวเค้าเซ่ เขินๆๆ :-[ :-[
ขอให้หายไวไวนะค่ะ ดูแลตัวเองด้วยค่า เป็นห่วงๆ :laugh:
-
บี้เข้ามาด้วยแหละๆ
ห่วยป่วยไวๆล่ะ ดูแลสุขภาพด้วย เขารออยู่นะ
เขาอยากอ่านใจจะขาดแล้ว T^T
รักบี้ที่สุด :กอด1:
-
บี้เข้ามาด้วยแหละๆ
ห่วยป่วยไวๆล่ะ ดูแลสุขภาพด้วย เขารออยู่นะ
เขาอยากอ่านใจจะขาดแล้ว T^T
รักบี้ที่สุด :กอด1:
เข้ามาดูบ้างประปราย (มาตอบคอมเม้น เพราะหลีกเลี่ยงการต่อนิยาย กร๊าก)
ขอบคุณค่า (อยากหายจะแย่แว้วเหมือนกาน :()
:oo1: :haun4: :m25: << อีโมนี่เกี่ยวกับที่คุยป่ะ 555+
-
อืม...ความโกรธมันไม่ดี
แต่ถ้ากับอีจักรนี่ เราอนุโลม
มันน่านัก เมื่อไหร่พี่ฟ้าจะเลิกครึ่งๆกลางๆสักที
ถ้าไม่เอาก็ปฏิเสธให้มันชัดเจน
ทำอย่างนี้ตัวเองก็เจ็บ อีกฝ่ายก้เจ็บ
มันดียังไงเนี้ย หรือพี่ฟ้าเป็นพวกชอบความเจ็บปวด ฮ่าๆๆ
-
ทิกเกอร์ดูน่ารักอะ :o8:
-
เอาใจช่วยอาฟ้าล่ะก็ทิกเกอร์
แต่ก็สงสารอาฟ้าเพราะเจ็บหนักเหมือนกันตอนรู้ความจริง
สู้ๆๆ คู่กันแล้วคงไม่แคล้วกันหรอก :L2: :L2: :L2:
ปล. เบบี้ไม่สบาย หายไวๆๆๆนะค่ะ เด๋วให้พี่คิวไปพยาบาล
แถมพี่เมตรด้วยอีกคน 55555+
-
o13 ชอบคิวอ่ะ ^^
พักผ่อนเยอะ ๆ น้า & ขอให้หายไว ๆ นะค่ะ :L2:
-
ยิ่งอ่านยิ่งสงสารอาฟ้า ความหลังมันเจ็บปวดมิใช่น้อยเลย
ไอ้จักร แม่มน่ากระทืบว่ะ กวนตรีนเหลือเกิน
-
อ๊ากกกก อยากจะไปชกจักรแทนพี่คิวนัก
งานนี้ดันทิกเกอร์สุดพลังค่ะ
-
:fire:
น่าจะจัดหนักให้ไปเลยนะพี่คิว
-
เมื่อจะว่าง แค่มาดันกระทู้ เพราะคิดถึง อยากให้เบบี้มาอัพแล้ว
-
:z2: :L2:
-
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ติดตามอยู่ตลอดเลย
น้องเค้กนี่น่ารักใสๆ สมวัยดีจริงๆ แต่กระนั้นก็มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวเอง
อาฟ้านี่ไม่ต้องเอ่ย เป็นคุณอาที่ควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่งทีเดียว
ดูเป็นคนใจดี ร่างเริงสนุกสนานก็จริง แต่ในทางกลับกันก็มีอดีตที่เจ็บปวดแบบลากยาวมาจนปัจจุบัน
ส่วนตัวแอบเชียร์ทิกเกอร์สุดฤทธิ์
ส่วนพี่คิวนี่เป็นอะไรที่สุดยอดแห่งความดาร์กจริงๆ จนบัดนี้ก็ยังคงเดาความคิดพี่คิวไม่ออก
เป็นตัวละครที่เดายากมากๆ ทั้งคำพูดแล้วก็การกระทำ มีความคิดที่แตกต่างแบบคาดไม่ถึง
เหมือนในหัวพี่คิวมีความซับซ้อนเหนือคนธรรมดา รู้ลึก รู้จริง ตีความคิดคนอื่นแตก
มีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยแบบก้าวกระโดด ข้ามหน้าข้ามตาอาฟ้าไปไกลโขอยู่เอาเรื่อง
ไปๆ มาๆ อาฟ้ากับคิวควรจะสลับสับเปลี่ยนสถานะกันเนอะ ฮ่าๆๆๆ
สนุกมากค่ะเรื่องนี้ ชอบมากๆ
- - - - - - - - - - - - - - - - -
วันนี้มีเวลาว่าง เลยถือโอกาสทำสารบัญมาให้ด้วย
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1660765#msg1660765)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1661223#msg1661223)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1662852#msg1662852)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1666158#msg1666158)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1670706#msg1670706)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1677523#msg1677523)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1686614#msg1686614)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1689943#msg1689943)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1699842#msg1699842)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1707610#msg1707610)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1714972#msg1714972)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1718544#msg1718544)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1727894#msg1727894)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1734499#msg1734499)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1747429#msg1747429)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1754628#msg1754628)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1760722#msg1760722)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1768901#msg1768901)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1771384#msg1771384)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1782049#msg1782049)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1788532#msg1788532)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1791519#msg1791519)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1798899#msg1798899)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1800193#msg1800193)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1806814#msg1806814)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1809087#msg1809087)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1818199#msg1818199)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1820964#msg1820964)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1832215#msg1832215)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1834961#msg1834961)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1839564#msg1839564)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1843009#msg1843009)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1849063#msg1849063)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1858958#msg1858958)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1866706#msg1866706)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1871747#msg1871747)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1883125#msg1883125)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1886222#msg1886222)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1892972#msg1892972)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1896681#msg1896681)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 41 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1907277#msg1907277)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 42 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1928559#msg1928559)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 43 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1931857#msg1931857)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 44 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1938738#msg1938738)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 45 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1945705#msg1945705)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 46 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1948764#msg1948764)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 47 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1954800#msg1954800)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 48 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1959833#msg1959833)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 49 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1962878#msg1962878)
~ Limited Lovers I ~ ตอนที่ 50 (End of Lover I) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1974659#msg1974659)
- - - - - - - - - - - - - - - - -
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1979374#msg1979374)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1984810#msg1984810)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1994062#msg1994062)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1997420#msg1997420)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2002600#msg2002600)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2005496#msg2005496)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2009555#msg2009555)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2011773#msg2011773)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2017137#msg2017137)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2027188#msg2027188)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2031904#msg2031904)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2033925#msg2033925)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2040169#msg2040169)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2046006#msg2046006)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2052642#msg2052642)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2062814#msg2062814)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2070743#msg2070743)
~ Limited Lovers II ~ ตอนที่ 18 (End of Lovers II) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2076827#msg2076827)
- - - - - - - - - - - - - - - - -
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2092153#msg2092153)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2097148#msg2097148)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2101239#msg2101239)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2103630#msg2103630)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2111608#msg2111608)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2113677#msg2113677)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2120069#msg2120069)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2126057#msg2126057)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2132886#msg2132886)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2137326#msg2137326)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2142519#msg2142519)
~ Limited Lovers III ~ ตอนที่ 12 (End of Lovers III) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2147542#msg2147542)
- - - - - - - - - - - - - - - - -
~ Limited Lovers Special ~ Born to Die [by..Cupid] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2152975#msg2152975)
~ Limited Lovers Special ~ God of Desire [by..Cake] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2164087#msg2164087)
~ Limited Lovers Special ~ I need Your Love [by..Tigger] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2170675#msg2170675)
~ Limited Lovers Special ~ Fell In Love With A Boy [by..Zen] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2178822#msg2178822)
- - - - - - - - - - - - - - - - -
-
ทิกเกอร์ ถึงจะทำให้อาฟ้าเจ็บปวดแต่เค้าก็เชียร์ตัวเองขาดใจนะ
อาฟ้าก็สงสาร ทิกเกอร์ก็สงสาร (หลายใจจริงๆ กุเอ๋ยยย)
พี่คิวเป็นห่วงคุณอาใช่ไหมละค่ะ แล้วพี่คิวก็ดูไม่ผิดหรอก เพราะทิกเกอร์อ่ะ ใช่แล้ว 555
นายจักรก็ทางผ่าน (ลำเอียงออกนอกหน้าไปไหม)
..................
โอ้ยยย งานนี้เป็นทิกเกอร์ก็ขอทุ่มสุดตัว ห้าแสนก็ซื้อได้ ฮ่ าา ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ ไม่รู้ทำไงอ่านแล้วมีความรู้สึกว่า
เป็นคนมีแอบมีความน่ารักอยู่ในตัวเอง อาฟ้าแอบแกล้งทิกเกอร์อ่ะ แต่เค้าก็ชอบแบบนี้นะ ก๊าก ก ก
จักรเกรียนได้อีกนะ พี่คิวแบบนี้จัดไปสักหมัด อารมร์ขึ้นจริงๆ
-
มารอพี่ฟ้า. มารอพี่คิวกะเค้ก..... :z10: :z10:
มารอเบบี้ด้วยใจจดจ่อ... :L2: :L2: :L2:
-
....ผู้ชายของอาฟ้า อีกคนเหมือนน้ำแข็ง โกรธยังไงก็ไม่หลอมละลาย
....กับอีกคน เหมือนกับไฟ พร้อมที่จะทำลายล้างสิ่งที่อยู่ใกล้ได้เสมอ ต่างกันจริงๆๆ
....หลานคิว เป็นอะไรดีหว่า...น้ำแข็ง+ไฟ 5555 :laugh:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านเลยจะมาบอกว่า สนุกมากค่ะ o13
-
ดูฤกษ์ดูยามล่ะ มันก็สมควรแก่เวลาแล้วอ่ะนะ มาลงตอนต่อไปเต๊อะ :mc3:
-
เบบี้ติดบอลยูโรแหงๆ :z3:
รออยู่นะคะ :กอด1:
-
อยากอ่านตอน 10 แล้ว :sad4:
-
จบภาคแรกแล้วค่ะ
ชอบมากๆๆๆ ดำเนินเรื่องไม่หวือหวามากให้ความรู้สึกเหมือน ก็แค่คนที่รักเป็นผช.
อธิบายไม่ถูกเหมือนกันแต่ชอบมากๆๆค่ะ :กอด1:
ขอแว้บไปอ่านตอนสองก่อนน๊าาาาา
-
~10~
จักรพาผมมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ผมไม่คุ้นเคย เป็นร้านอาหารที่ตอบสนองความเป็นส่วนตัวสูงทีเดียว ที่นั่งของเราไม่ได้อยู่ในมุมอับ แต่กลับโปร่งโล่งและเห็นวิวทิวทัศน์อย่างสบายตา ร้านเงียบไร้เสียงพูดคุยมีเพียงแต่เสียงเพลงคลอเบาๆ ผมไม่ได้เอ่ยปากคุยตั้งแต่ออกมาจากที่ร้านที่จักรและคิวมีเรื่องกัน จักรเองก็ไม่ได้ชวนคุยเช่นเดียวกัน
ผมรู้ว่าคิวไม่ชอบจักรมากแค่ไหน คิวเป็นคนหนึ่งที่รับรู้ถึงเหตุการณ์อันแสนเจ็บปวดของผมในสมัยที่ผมคบกับจักร ผมกับจักรคบกันนานหลายปี ตอนนั้นคิวเพียงแค่สิบกว่าขวบแต่ก็ปัดไม่ได้ว่าเขาเป็นเด็กที่ฉลาดและรับรู้เรื่องราวได้อย่างที่ผมไม่ต้องอธิบายให้เขาฟัง เด็กสิบกว่าขวบไม่ได้โง่หรือตาบอด คิวเองก็คงคล้ายกับผมสมัยเด็กที่จำได้ดีในทุกห่วงเวลาของตัวเอง หลายครั้งที่ผมพยายามปกปิดคิวไว้เพื่อไม่ให้หลานของผมรู้ว่าผมนั้นกำลังเศร้าใจมากแค่ไหน แต่ก็มีหลายคราที่ไม่สามารถปิดได้มิด ในตอนนั้นคิวมักจะกอดผมอย่างเงียบๆเสมอเมื่อไหร่ที่ผมกลับมานั่งร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียวโดยที่คิวไม่เคยเอ่ยถามเลยว่าผมนั้นร้องไห้ทำไม เราเพียงรับรู้ถึงไออุ่นของกันและกัน แบ่งปันความเศร้าที่มีโดยที่ไม่มีใครในบ้านนั้นเข้าใจ
มันนานมากแล้วจนผมจำไม่ได้แน่ชัดว่าผมกับจักรคบกันอยู่เกือบสามปีหรือสี่ปีกันแน่ มันเป็นจังหวะที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แรกๆการคบกันของเราอาจจะราบรื่นดี ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าจักรเป็นคนเจ้าชู้แต่ผมก็รู้อีกเช่นเดียวกันว่าโดยพื้นฐานแล้วจักรเป็นคนดีเช่นกัน แต่แน่ล่ะว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบดั่งใจนึกนอกจากจะหลอกตัวเองไปวันๆว่าคนรักของตัวเองนั้นเพอร์เฟคมากแค่ไหน ผมจำได้ว่าหลังจากที่เราคบกันอยู่ปีหรือสองปี พ่อของผมมารู้เรื่องเข้าและท่านบอกให้ผมเลิกพฤติกรรมชายรักชายอย่างนี้ ตอนนั้นผมคิดว่าเราสองคนน่าจะผ่านเรื่องนี้กันไปได้ด้วยดีถ้าเรารักกันมากพอ เราสองคนแอบคบกันโดยทำให้พ่อเห็นว่าเราสองคนนั้นเลิกกันแล้ว ตอนนั้นผมรักจักรและหลงจักรมากทีเดียวเพราะเราผ่านอะไรหลายหลายอย่างมาด้วยกันมากโข จนผมคิดว่าคงไม่มีอุปสรรคอะไรมาทำให้เราแยกจากกันได้อีก
แต่ดูเหมือนชะตาชีวิตของผมนั้นไม่สวยหรูเอาเสียเลย หลังจากนั้นอีกเกือบปีรึอย่างไรนี่ล่ะ อะไรๆมันเริ่มเปลี่ยนไป ผมจับได้ว่าจักรเริ่มมีคนอื่น มันไม่ได้คาหนังคาเขาอยู่บ่อยครั้ง ผมอดทนมาตลอด มันค่อนข้างทรมานมากทีเดียวที่เราเหมือนไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี มันคล้ายกับทางตันเพราะผมรักเขามากเกินไป จนวันหนึ่งเหมือนฟ้าสั่งให้ผมตาสว่างเสียที ผมพบว่าจักรพาผู้หญิงมานอนที่คอนโดของจักร นั่นเป็นภาพที่ติดตาผมมาถึงปัจจุบัน คำแก้ตัวต่างๆจากจักรล้วนแล้วแต่ฟังไม่ขึ้น ผมเสียใจมากจนเสียหลัก เมามาย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คนคนนี้คือรักแรกของผม ในตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าผมควรทำตัวอย่างไรหรือแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างไรดี ผมรักจักรมากกระทั่งเห็นคาตาขนาดนั้นผมกลับยังไม่กล้าที่จะบอกเลิกเขา มันน่าสมเพชมากกว่านั้นคือคนที่เป็นฝ่ายบอกเลิกคือ..จักร ต่างหากล่ะ หลังจากนั้นคงไม่ต้องบรรยายหรอกมังครับว่าผมมีอาการอย่างไรบ้าง
หลังจากนั้นผ่านมาหลายปี ความรู้สึกโกรธเกลียดเริ่มจางหายลงไปเรื่อยๆ เป็นความรู้สึกเฉยๆต่อผู้ชายคนนี้ หลายครั้งที่ผมรู้สึกขอบคุณตัวเองที่ผมรู้สึกเฉยๆมากกว่าจะโกรธเกลียดเขา นั่นหมายความว่าอย่างน้อยผมก็จะไม่จองเวรต่อเขา ตอนนั้นผมเพียงแต่คิด ว่าขอให้เขาไปดีและอย่าได้มาเจอกันอีกเลย
เมื่อผมได้พบกับจักรอีกครั้ง ณ..ตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกันแน่ ลึกๆแล้วคงเพราะผมเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเยอะทำให้ความคิดนั้นต่างออกไป ผมไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดเขาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้เขามาทำร้ายผมได้อีก แต่ก่อนก่อนที่ผมยังไม่ได้คบกับจักร ผมเป็นคนมั่นใจในตนเองสูงมากและคิดว่าอย่างน้อยถึงแม้ว่าผมจะไมได้เป็นผู้หญิง แต่ผมก็มีดีเกือบทุกด้านอย่างไร้ที่ติ กระทั่งการกระทำของจักรทำลายความมั่นใจในตัวเองของผมลงไปเสียสิ้น ผมไม่รู้ว่าพวกผู้หญิงที่จักรไปมีอะไรด้วยนั้นดีกว่าผมตรงไหน หรือเพียงเพราะพวกเธอนั้นเป็นผู้หญิง แต่ช่างมันเถอะ..ในตอนนี้ผมมีดีกว่าเดิมอีกหลายขุมทีเดียว การถูกบอกเลิกก็เป็นบางสิ่งที่ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นเหมือนกัน ผมอยากเหนือกว่าเขา อยากเด่นกว่าในทุกด้าน ผมเริ่มพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งด้านการเรียน ธุรกิจ หน้าตาทางสังคม ในตอนนั้นผมนึกได้เท่านั้น ผมอยากทำให้จักรเห็นผมในมุมที่ผมอยู่สูงและนึกเสียดายผม จนเวลานี้ผมนั้นเป็นอย่างที่ผมวาดไว้แล้ว ผมไม่รู้ว่าจักรนั้นเสียดายผมหรือเปล่า แต่การที่เขากลับมาจีบผมนั้นแทนคำตอบได้ดีทีเดียว
ซึ่งหนึ่งสิ่งที่เป็นตัวของผมในตอนนี้คือ การที่ผมพยายามพัฒนาในทุกด้านของผมนั้นไม่ใช่เพื่อจักรอีกต่อไป ความรู้สึกนั้นมันหยุดลงนานมากแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ผมได้ให้โอกาสผู้ชายคนนี้ ผมจะไม่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนผมต้องการแก้แค้นจักร แต่เป็นการบอกว่า “ฉันไม่ใช่ฉันคนเดิมอีกต่อไปแล้วนะ คุณจับตามองไว้ให้ดีล่ะ” เพียงเท่านั้น บางทีผมรู้สึกขอบคุณให้กับความเลวที่เขาทำกับผม อาจจะเป็นอย่างนั้น..
“จักรขอโทษนะ” จักรพูดขึ้น หลังจากที่เราเงียบอยู่ร่วมชั่วโมง
“หึ..วันหลังฟ้าจะไม่ห้ามนะ ไอ้คิวมันตัวใหญ่..ฟ้าแก่แล้ว” ผมพูดติดตลก
ที่วันนี้เซ็นและหมีห้ามคิวอยู่ได้ถือว่าเป็นบุญของจักรละมัง ผมมองภาพไม่ออกว่าใครจะชนะเพราะตัวค่อนข้างสูสี ถึงแม้ว่าคิวจะตัวใหญ่กว่าหน่อยและอีกอย่างคิวภาษีดีกว่าเพราะยังหนุ่มกว่าจักรเยอะ คิวไม่เคยได้เรียนการต่อสู้อะไรมากมายหรือเรียนอย่างจริงจังอย่างเด็กคนอื่นๆ หลังจากเรียนชั้นประถมศึกษาจบ คิวต้องเข้าเรียนต่อมัธยมต้นที่โรงเรียนประจำ Saint Denis International ผมจำได้ดีว่าหลังจากเข้าเรียนได้ไม่กี่วันคิวและเซ็นก็พร้อมใจกันมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียน พี่ตันหัวเสียใหญ่เพราะไม่มีใครในบ้านเคยทำเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงแบบนี้ หลังจากนั้นประมาณหนึ่งปีเมื่อเรื่องเงียบไป ผมเป็นกองหนุนส่งให้คิวได้ไปเก็บตัวอยู่กับทีมคาราเต้อยู่ที่ประเทศจีนในช่วงซัมเมอร์สั้นๆ เพราะผมรู้ดีว่าหลังจากที่คิวเรียนจบมัธยมต้นที่นี่พี่ตันจะส่งคิวไปเรียนต่อไฮสคูลที่ประเทศออสเตรเลียอย่างแน่นอน คิวต้องมีศิลปะป้องกันตัวไว้บ้างไม่มากก็น้อยเพราะคิวเป็นคนไร้มนุษย์สัมพันธ์อีกทั้งไม่ยอมคน การสนับสนุนครั้งนี้มีเพียงผมกับพี่พิมพ์เท่านั้นที่รู้เพราะพี่ตันมัวแต่ทำงานจนนึกว่าลูกชายของตนไปเข้าซัมเมอร์แคมป์ภาษาตามปกติ หลังจากนั้นคิวก็ไม่ได้เรียนการต่อสู้อะไรเพิ่มเติมอีกจนต้องเดินทางไปเรียนต่อไฮสคูลพร้อมกับเซ็นที่ประเทศออสเตรเลีย
คิวไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครก่อนถ้าเกินจะทนไหว คิวเป็นเด็กที่มีความอดทนเก่งมากคนหนึ่ง เขาจะพยายามไม่หาเรื่องมาให้เดือดร้อนผมหรือตนเองบ่อยนัก ตอนคิวเด็กๆพี่ตันเคยลงโทษให้คิวไปยืนอยู่หน้าบ้านกลางแดดเกือบห้าชั่วโมง ไม่มีการนั่งลงกับพื้น ไม่มีท่าทีอยากร้องไห้ ไม่มีคำบ่น ไร้คำพูดที่ต้องการให้ใครปลอบโยน มีแต่เพียงพฤติกรรมที่แข็งกร้าวมากขึ้น หลายๆเหตุการณ์ช่างขัดแย้งในความเป็นคนขี้หงุดหงิดของคิวในบางครั้ง
ถ้าการที่คิวจะไปมีเรื่องกับใคร ผมคิดว่าสาเหตุคงเพราะ..หนึ่ง ปากของมันที่พูดไม่เข้าหูสักเท่าไหร่นัก กับสอง..หน้าตาที่ไร้มนุษย์สัมพันธ์อย่างสิ้นดี บางครั้ง ผมคิดว่าการที่หลานผมหน้าตาดี..นั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“เครื่องแรงดีตั้งแต่เด็กยันโตเลยนะ” จักรพูดแกมหัวเราะ ผมเองก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้เพราะความจริงก็เป็นอย่างที่จักรแซวนั่นแหละ
“คิวจมูกไวน่ะ มันเหมือนสัตว์..ที่รู้ว่าใครกลิ่นไม่เข้ากับตัวเอง” ผมย้อนกลับด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ จักรเงียบแต่ยังคงจ้องหน้าผมตอบ
“อีกเดี๋ยวก็คงเข้ากันเอง” จักรยิ้มน้อยๆ ผมหัวเราะให้กับคำพูดที่ฟังดูมั่นใจแต่กลับไร้น้ำเสียงหนักแน่นนั่น
“ช่างมันเถอะ จักรผิดเอง..ถ้าคิวจะด่า มันก็ถูกของเด็กมันล่ะนะ” จักรพูดด้วยมีสีหน้าหมองลง
“ยังดีที่รู้ตัว” ผมพูดติดตลก
“ขอบคุณนะ ที่ไม่เกลียดจักรเหมือนที่คิวเกลียดน่ะ” จักรบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมก้มหน้าลงมองแก้วเหล้าของตัวเองอย่างใช้ความคิด
“มันนานมากเกินไปแล้วจักร คิวเป็นคนเกลียดใครแล้วเกลียดนานน่ะ..แต่ฟ้าไม่ใช่ แต่ก่อนเค้าคงอยากแก้แค้นจักรแต่คงทำไม่ได้ละมั้ง พอโตแล้ว..ก็เลยรู้สึกว่าทำได้แล้วอะไรประมาณนั้น” ผมยิ้มเล่า
“แย่หน่อยนะ ถ้าฟ้าจะบอกว่า..ตอนนี้ฟ้าเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับจักร ฟ้ารักตัวเองมากเกินกว่าจะรักคนอื่นได้แล้ว”
“.....................” จักรเงียบ มีเพียงรอยยิ้มเศร้าๆปรากฏให้เห็น
“นั่นสินะ จะโทษใครได้ ก็จักรเป็นคนทำให้ฟ้าเป็นแบบนี้เอง..หึ” จักรว่า
“ไม่ใช่แค่จักรคนเดียวหรอก” ผมพูดส่งๆ จักรชะงักไปครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ถามอะไรต่อ
“ไม่เป็นไร เป็นได้..ก็หายเป็นได้” จักรพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
“มั่นใจเหลือเกินนะ หึ..” ผมแสยะยิ้มอย่างขอไปที
“จักรมีเรื่องให้ช่วยหน่อยน่ะ” จักรพูดขึ้น
“ไม่ล่ะ ไม่มีปัญญาพอจะไปช่วยใครได้หรอกนะตอนนี้..เวลาเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น” ผมย้อนตอบทันที
“ฟ้านี่” จักรหัวเราะร่วนอีกครั้ง
“ก็งานนั่นแหละครับ พอดีเพื่อนจักรที่อยู่ที่ฮ่องกงเค้าต้องการห้องเสื้อที่เด่นด้านตัดสูทกับพวกชุดสำหรับออกงานไปร่วมงานแฟชั่นที่เค้าจะจัดน่ะ ก็เลยถามจักรมาว่ารู้จักใครบ้างไหม” จักรบอก
“จักรก็เลยบอกว่า แฟนจักรเอง..เดี๋ยวแนะนำให้ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณนะ รู้สึกเป็นเกียรติมากเลย..ที่เอาเรื่องส่วนตัวไปปนกับงาน” ผมพูดแกมประชดและหุบยิ้มอย่างไม่พอใจ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้อีกฝ่ายยิ้มกว้างกว่าเดิม
“คิดว่าจะเอาเรื่องนี้มาทำให้คุยกันมากขึ้นรึไง” ผมพูดอย่างรู้ทัน
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” อีกฝ่ายเบะปาก
“จะรับทำรึเปล่าล่ะ นี่นามบัตร..ติดต่อไปก็แล้วกันนะครับ” จักรยื่นนามบัตรมาให้ผม ผมรับมาดูก่อนจะเก็บใส่กระเป๋า
“ขอบคุณ”
“ไม่ต้องมาทำสายตาอะไรแบบนั้น ผมไม่หลงใหลได้ปลื้มหรอกนะ” ผมว่าปรามสายตาอันเจ้าชู้ของจักร
“ว้า..รู้ทันซะละ” จักรเท้าแขนลงบนโต๊ะ
“อย่ามาทะลึ่ง”
“จะกลับแล้ว” ผมลุกขึ้นยืน
“อ..อะไรล่ะ” จักรรีบลุกตามด้วยสีหน้าตกใจ
“จะรีบกลับไปไหนละครับ” จักรเข้ามาคว้ามือผมไว้
“อย่าให้พูดซ้ำ” ผมพูดเสียงเข้มพร้อมกับเหล่ตามองอีกฝ่าย
“โอเคๆ..กลับก็กลับ” จักรรีบกวักมือเรียกพนักงาน ผมเดินหนีออกมารอที่รถก่อนสักพักจักรก็เดินออกมา
“ให้ไปส่งที่ไหนครับ” จักรถาม
“ที่บ้านสิ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงอยากให้พ้นไปเสีย ถ้าคืนนี้ไม่กลับบ้าน มีหวังผมได้ขึ้นเขียงเป็นแน่แท้..
จักรขับรถมาส่งผมที่บ้าน ระหว่างทางจักรพยายามพูดนู่นพูดนี่ บางเรื่องก็ขำ บางเรื่องก็ทำให้รู้สึกไม่อยากนึกถึง ผมคิดว่าจักรคงพยายามพูดถึงสิ่งเก่าๆที่ผ่านมาเพื่อให้ผมรู้สึกดีด้วย แต่สำหรับผม ผมคิดว่าสิ่งเก่าๆพวกนั้นอย่างไปนึกถึงมันคงจะดีมากที่สุด
“จุ๊บ~”
“นี่!” ผมขึ้นเสียง มือจับแก้มตัวเองที่เพิ่งโดนจักรหอมแก้มไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“ถ้าขอก็คงไม่ให้ใช่ไหมล่ะ” จักรยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์
แปะ !
ผมตีเข้าที่แก้มจักรด้วยนึกหมันไส้แต่ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจออกแรงมือเหมือนต้องการจะตบจนให้อีกฝ่ายนั้นเจ็บ ผมมองค้อนใส่จักรแต่เขากลับยังคงยิ้ม จักรลูบแก้มตัวเองแล้วเอาแต่อมยิ้มมองหน้าผมจนผมอดรู้สึกเขินไม่ได้ ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติและไม่ให้ตัวเองนั้นหลุดยิ้มออกไป
“ฝันดีนะครับ” จักรซบหน้าลงที่พวงมาลัยแต่หันหน้ามามองที่ผม ตาจ้องมาที่ผมไม่วางตา ปฏิเสธไม่ได้ว่าจักรยังตาหวานเหมือนเดิม ผมไม่ตอบอะไรและลงจากรถก่อนจะเดินเข้าบ้านในทันที พอเข้ามาในบ้านก็ไม่พบคิวในห้องหนังสือหรือห้องอื่นๆในบริเวณชั้นล่างของบ้าน ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นหน่อยเพราะจะได้ขึ้นห้องอาบน้ำอาบท่าเพื่อทำงานต่อ ไม่ต้องต่อปากต่อคำกับหลานตัวดีอีก..
= = = = = = = =
วันเสาร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“ธีมหลักของงานนี้เราจะแสดงถึงความเป็นตัวตนของแบรนด์ห้องเสื้อเรามากที่สุด นี่คือแบบงานที่ออแกไนซ์ส่งมาให้ตามแบบที่คุณฟ้าต้องการ ซึ่งเค้าบอกว่าถ้าคุณฟ้าไม่ชอบตรงไหนให้ชี้แจงกลับไปได้เลย” กียื่นเอกสารให้
“เอ่อ กีคิดว่าเราน่าจะโชว์แบบชุดเก่าๆที่ขายดีอันดับต้นๆของเราก่อน ก่อนที่จะโชว์คอลเล็กชั่นใหม่..คุณฟ้าว่าไงครับ”
“ก็ดี” ผมพยักหน้าตอบ
“ขออนุญาตเสิร์ฟเครื่องดื่มนะครับ” หมีเดินมาพร้อมกับยิ้มน้อยๆ เราเงียบและปล่อยให้หมีจัดการเสิร์ฟให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพื่อที่จะได้ไม่เกะกะกับพื้นที่ที่วางเอกสารอยู่
“หึ..” ผมหัวเราะเมื่อเห็นว่ากีจ้องหมีไม่วางตาจนหมีเดินไป
“ดูดีนะครับ” กีพูดและทำหน้าทำตาจนผมและมิซาร์อดหัวเราะไม่ได้
“แต่ปากหมานะ เอาไหมล่ะ” ผมว่า มิซาร์และกีขำพร้อมกัน ผมสามารถจัดอันดับคนปากสุนัขภายในร้านได้ นอกจากคิวที่เป็นอันดับหนึ่งแล้ว อันดับสองนี่ผมขอยกให้กับหมีเลยล่ะ เห็นทั้งสองคนมีนิสัยหุบปากเงียบแบบนั้นแต่พออ้าปากพูดมาแต่ละทีนี่ประมาณว่า..ให้ตายเถอะ ที่พูดนั่นปากคนหรอกเหรอ
“ส่วนนี่..ผมเลือกได้แล้ว นายแบบหลักที่ผมต้องการ กีติดต่อให้เลยก็แล้วกัน..คุยเรื่องค่าตัวไปเลยนะ”
“กียังยืนยันว่าคอลเล็กชั่นใหม่ กียังอยากให้คุณคิวมาเดินเปิดตัวด้วยนะครับ” กียิ้มพูด
“เอาแบบเปิดตัวมาทีทำให้ทุกคนอึ้ง อร๊าย..นี่มันใครอ่ะ! นี่มันใครกัน! หรือ..อ้า นั่นมันคุณอัครวินท์ สิทธิบดีทรัพย์นี่!” กีทำท่าดัดจริตไปมาทั้งมือทั้งปากและหน้านั้นโอเว่อร์จนทำผมขำ
“กีลองไปคุยเองสิ” ผมบอก
“ไม่เอาอ่ะค่ะ” กีหน้างอลงในทันที
“ช่วงนี้คุยกันไม่กี่คำ ผมทะเลาะกับมันตลอด” ผมบอกพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบแก้เซ็ง
“คุณฟ้าก็ตามใจน้องคิวหน่อยสิครับ ถ้ากีมีหลานแบบนั้นนะ..ตามใจตายเลย” กีเพ้อ
“ก็เพราะตามใจมากนี่ไง นิสัยถึงได้เป็นแบบนี้น่ะ” ผมบ่น ขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยอารมณ์เซ็งมากกว่าเดิม
“นายแบบอังกฤษคนนี้..” ผมเปลี่ยนเรื่องและหยิบแฟ้มประวัติขึ้นมายื่นให้กี
“กับหลุยส์..นายแบบฮ่องกงคนนี้ แล้วก็นายแบบลูกครึ่งออสญี่ปุ่นคนนี้น่ะ..ติดต่อมาให้ได้นะ ถ้าเค้าไม่ยอม..โอนสายมาให้ผมคุยก็แล้วกัน ผมอยากให้สามคนนี้เป็นตัวหลักในงานนอกเหนือจากลูคัสที่เป็นนายแบบหลักของแบรนด์เรา” ผมบอก
“ถ้าเค้ามาร่วมงานนี้ได้ ผมคิดว่าจะทาบทามให้มาเซ็นสัญญาเป็นนายแบบให้แบรนด์เราหน่อย..ผมชอบสไตล์พวกเค้า ดูเหมาะกับเสื้อผ้าของเราดี” ผมจ้องไปที่รูปของนายแบบทั้งสามคนที่เลือกไว้
“แล้ว หน้าหื่นๆอย่างLeeboนี่ไม่เอาอีกแล้วนะ..ให้ตายเถอะ ผมไม่ชอบเอาซะเลย” ผมบ่นอย่างนึกไม่ชอบใจ
“แหม..กีก็นึกว่าคุณฟ้าจะชอบเหมือนกีซะอีก” กีพูดด้วยท่าทีเขินอาย
“หน้าตาอย่างกับคนโรคจิต” ผมว่า
“แล้วก็..ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่านายแบบวัยรุ่นคนไหนสักเยอะๆกับหน้าตานักเลงน่ะ ไม่ต้องเอามาให้ผมดู..มันเสียเวลา” ผมขมวดคิ้ว หยิบแฟ้มอันที่ไม่ชอบใจไปวางไว้ไกลมือ
“หน้าตาพอไปที แต่เซ็กซี่ๆน่ะ..เอ่อ ประมาณว่า ให้ความรู้สึกเหมือนคุณชาย ผู้ดี เทพบุตร หุ่นที่เหมาะกับเนื้อผ้าดีๆ ให้อารมณ์น่าจิตนาการ..พอคิดว่าอยู่บนเตียงแล้วอยากจับถอดสูทออก สามารถทำให้เรารู้สึกเร้าร้อนน่ะ กีมองไม่เป็นรึไง” ผมนึกภาพตามระหว่างที่พูดทำให้นึกเคลิบเคลิ้มได้ไม่น้อย
“คุณฟ้าอย่าเอาบรรทัดฐานคุณฟ้ามาวัดสิครับ อย่างกี..เซ็กซี่สำหรับกีคือ หน้าตาหื่น..โรคจิตนิดๆ” กีเถียง
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจแรงทำให้มิซาร์หัวเราะชอบใจ
“ส่วนนี่นายแบบกับนางแบบคนไทย ติดต่อไปด้วย” ผมยื่นแฟ้มให้
“แล้วนี่ครับเป็นแบบเสื้อผ้าของนางแบบในวันงาน คุณฟ้ารับไปดูก่อน..กีออกแบบทั้งหมดเสร็จแล้ว ถ้าจะให้กีแก้ตรงส่วนไหนก็บอกได้เลยนะครับ หรือคุณฟ้าแก้เองเลยก็จะดีมากๆ คึคึ” กีหัวเราะทีเล่นทีจริง ผมรับมือถือไว้ก่อนจะเปิดดูผ่านตา
“ส่วนการตกแต่งภายในงาน กีคิดว่าอยากให้ตกแต่งแบบได้กลิ่นไอสมัยยุควิตอเรีย..รวมไปถึงการ์ดเชิญให้มาร่วมงาน อาหาร เครื่องดื่มด้วย” กีทำท่าทำทางวาดฝัน
“มิซาร์ก็ว่าดีนะคะ วอลนัทคงนึกไม่ถึงแน่ๆ” มิซาร์พูดอย่างเห็นด้วย
“อืม..ก็ดี โดยเฉพาะนายแบบนางแบบที่มาเดินให้กับงานเรา ยิ่งทำให้วอลนัทอึ้งเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ผมไม่เกี่ยงหรอกนะว่านายแบบนางแบบที่เชิญมาจะไม่ดัง แต่ต้องเป็นนายแบบนางแบบที่ใส่เสื้อผ้าของเราแล้วดูดีที่สุด”
“เริดที่สุด” กีเสริม
“ขอโทษนะครับพี่ฟ้า..” กัสเดินเข้ามาขัดจังหวะบทสนทนาของพวกเรา
“คุณทิกเกอร์มาหาพี่ฟ้าอ่ะครับ กัสให้นั่งรออยู่ในห้องแล้ว” กัสพูดเสียงเบาเหมือนกลัวว่าผมจะดุ
“อืม ขอบคุณครับ..เดี๋ยวพี่ไป” ผมบอก กัสผงกหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าร้านไป
“คุณทิกเกอร์ที่ว่า คือผู้ชายที่มาร้านวันนั้นใช่ไหมคะ” มิซาร์ถามเสียงใสในทันที
“ใครเหรอ” กีถามด้วยสีหน้าอยากรู้ขึ้นมา
“นี่” ผมปราบ
“โอเค..วันนี้พอแค่นี้แหละ เก็บงานไปทำต่อซะ” ผมตัดบทและรีบหยิบแฟ้มของตัวเองมาวางซ้อนกัน
“โหย คุณฟ้าหนีคำตอบ” มิซาร์ทำหน้าบูดใส่
“เปล่านี่ครับ” ผมยิ้มแต่ทำสายตาโหดกลับไปอย่างห้ามปราม
“โชคดี” ผมบอกลาและเดินกลับเข้ามาในร้าน ผมเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของผม พอทิกเกอร์เห็นว่าผมเดินเข้ามาเขาก็รีบลุกขึ้นและยิ้มกว้างในทันที ผมเดินทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นำเอกสารไปเก็บใส่กระเป๋า
“Um this is for you.” ผมเหลือบมองไปที่มือของทิกเกอร์ที่ยื่นช่อดอกไม้มาตรงหน้าผม ช่อดอกไม้โรสแมรี่สีขาวที่ปะปนกับดอกสีม่วงประดับตกแต่งอย่างสวยงาม แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าฝีมือคนทำนั้นยังไม่ละเอียดลออเท่าไหร่นักอย่างกับไม่ใช่ฝีมือของมืออาชีพ ผมเงยหน้าขึ้นสบตาทิกเกอร์ เขายิ้มให้น้อยๆ เขายังคงจำได้ว่าผมชอบดอกโรสแมรี่มาก ผมเองก็จำได้ว่าเขาเองก็ชอบดอกไม้พันธุ์นี้มากด้วยเหมือนกัน
“I did it.” อีกฝ่ายพูดด้วยความไม่มั่นใจ ผมชะงักด้วยรู้สึกตกใจ
“Thanks” ผมรับมือถือไว้ แต่ก่อนการที่ผมหลงใหลในดอกโรสแมรี่นี้คงเพราะเวลาที่เห็นมันรวมตัวกันเป็นช่อนั้นดูสวยงามดี แต่ครั้งนี้ดูเหมือนความหมายของดอกไม้อย่างโรสแมรี่กำลังต้องการบอกอะไรผมสักอย่าง “สัญลักษณ์แห่งความทรงจำ” ดอกไม้ช่อนี้ทิกเกอร์ต้องการนำมาแทนคำพูดของตนหรือเปล่านั้นผมไม่ทราบ ในตอนนี้ผมเพียงได้แต่ก้มลงมองมันอย่างไม่สามารถละสายตาไปไหน ผมรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“Are you done?” ทิกเกอร์เอ่ยถาม
“อืม” ผมพยักหน้าตอบและยังคงไม่กล้าสบตาเขาเท่าไหร่นัก
“Umm..then...can we have lunch together?” ทิกเกอร์ถามเสียงเบาเหมือนไม่กล้าพูดชวนผมอย่างเต็มปากเต็มคำ
“ภาษาไทยสิ” ผมพูดเสียงเรียบ จ้องมองหน้าทิกเกอร์อย่างเต็มตา ทิกเกอร์หน้าหงอยลง
“ครับ” อีกฝ่ายพยักหน้าตอบเหมือนกับที่ผ่านมาเมื่อกี้นั้นลืมตัว
“แล้ว ฟ้า..ว่างแล้วใช่ไหมครับ” ทิกเกอร์ถามอีกครั้ง
“....................” ผมเงียบ กลอกตาไปมาอย่างต้องการจะให้อีกฝ่ายลุ้นท่าทีของผมไปอย่างนั้นเอง
“นี่มันเลยเที่ยงมาสองชั่วโมงแล้ว” ผมบอก
“เอ๊ะ..จริงด้วย” ทิกเกอร์รีบพลิกนาฬิกาข้อมือของตัวเองดู
“พอดี ผมยังไม่ได้ทานอะไรเลยน่ะ..เสร็จจากที่ทำงานก็มาหาฟ้าเลยครับ” ทิกเกอร์ยิ้มบอก
“ไม่ได้ใช้ให้มาสักหน่อย” ผมปัดและวางช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ
“อยากมา” อีกฝ่ายพูด ผมเงียบ จัดแจงเอกสารที่ต้องนำกลับไปทำที่บ้าน ทิกเกอร์ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
แกรก~
“Hey..” ผมหันไปมองที่ประตูห้องเพราะได้ยินเสียงของคิว คิวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับยิ้มแป้นใส่ผม ทั้งน้ำเสียงและรอยยิ้มนั่น เหมือนมันต้องการมาเพื่อกวนส้นเท้าผมอย่างตั้งใจ
“Have you been waiting for long?” คิวถามทิกเกอร์ทำอย่างกับไม่เห็นว่าผมยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย
“Just a while.” ทิกเกอร์ยิ้มตอบ คิวเข้าไปตบไหล่ทิกเกอร์เบาๆด้วยท่าทางชอบอกชอบใจ ผมมองตาขวางใส่ ที่จริงทิกเกอร์อายุมากกว่าผมสองปี ถ้าเทียบระหว่างคิวกับทิกเกอร์แล้ว คิวเด็กกว่าทิกเกอร์สิบกว่าปีเลยล่ะครับ แต่ดูเหมือนอายุจะไม่เป็นปัญหาเพราะดูจะเข้ากันได้ดีมากเสียเหลือเกิน คิว ทิกเกอร์และเซ็นจะเข้ากันได้ดีมากเรื่องกอล์ฟ ฮอกกี้น้ำแข็ง เบสบอล โต้คลื่น รถยนต์และสเต็ก หกสิ่งนี้สามารถทำให้ทั้งสามคนจูนเป็นพวกเดียวกันได้ไม่ยาก
“Next Wednesday Zen and I are going to play golf, are you interested?” คิวถาม
“Umm..Yes, I'll try to make some free time, but is Fah....” ทิกเกอร์ตอบพร้อมกับเหลือบมามองหน้าผม
“ไม่ว่าง” ผมพูดขึ้นลอยๆ
“ใครชวนคุณไม่ทราบ” คิวว่ากลับ
“ไอ้..” ผมกัดฟัน ชี้หน้าปรามหลานตัวเองอย่างเหลืออด คิวเบะปากก่อนจะเดินมาหยิบกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะของตน
“Bye!” คิวตัดบทและตบไหล่ทิกเกอร์เบาๆด้วยรอยยิ้มสะใจที่แกล้งผมได้ พอมันรู้สึกภาคภูมิใจอย่างเต็มเปี่ยมแล้วมันก็เดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย
“ถ้าฟ้าไม่ว่าง ผมไม่ไปดีกว่า”
“มาเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ” ผมย้อน
“อยากให้เกี่ยว” อีกฝ่ายตอบ
“ถือสิ..จะไปไหม กินข้าวน่ะ” ผมยื่นกระเป๋าเอกสารให้ ทิกเกอร์รีบเข้ามารับไปถือไว้ทันที
“ไปครับ” อีกฝ่ายยิ้มกว้าง ผมพยายามหุบปากเงียบเพื่อไม่ให้ตนเองนั้นหลุดยิ้มออกไปด้วย ผมเดินนำออกมาจากห้อง เค้กและกัสที่ยืนอยู่ระหว่างเคาร์เตอร์ตรงด้านหน้าห้องทำงานของผมพอดี ทั้งสองเหลือบมาเห็นก่อนจะเบิกตาโพรงพร้อมกัน ผมปัดมืออย่างขอไปทีเหมือนบอกให้เด็กทั้งสองคนหยุดความคิดเกินเลยลงเสียตรงนั้น ผมเดินตรงเข้าไปหาเด็กทั้งสอง
“ถ้าไอ้คิวกลับบ้าน เค้กช่วยบอกให้มันเอาดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะพี่กลับบ้านไปด้วยนะ” ผมกระซิบบอก
“ได้ครับ” เค้กพยักหน้ายิ้มกว้างตอบให้
“โชคดีนะฮะพี่ฟ้า” กัสฉีกยิ้มพร้อมกับโบกไม้โบกมือให้ ผมส่ายหัวและเดินนำทิกเกอร์ออกมา
“คุณควรหยุดที่จะมาหาผมที่ร้าน เพราะเด็กในร้านจะมองผมแปลกๆ..อีกอย่าง คุณทำให้ผมดูไม่ดีในสายตาเด็กๆ” ผมว่าระหว่างทางที่เรากำลังจะเดินไปที่รถ
“ไม่ดียังไงครับ อีกอย่าง..เด็กคนนั้น ก็แฟนคิว เค้าคงเข้าใจ” ทิกเกอร์พูด ผมชะงักและหันตัวกลับไปมองทิกเกอร์ที่อยู่ด้านหลังอย่างนึกสงสัย
“คุณรู้ได้ไง” ผมขมวดคิ้ว
“ก็แค่..ดูออก หรือว่า..ไม่ใช่ครับ” ทิกเกอร์ตอบด้วยท่าทางไม่มั่นใจ
“ทีเรื่องของคนอื่นนี่ฉลาดทีเดียวนะ” ผมว่าแกมประชด ทิกเกอร์เงียบลง
“เอาความจริงไหม..ผมเห็นหน้าคุณแล้วผม หงุดหงิดน่ะ” ผมยักไหล่ อีกฝ่ายหน้าเสีย
“การกระทำของคุณ มันทำให้ผมดูเป็นตัวร้ายในสายตาคนอื่น”
“ผมขอโทษ” ทิกเกอร์พูดเสียงเบา เราเงียบลงครู่หนึ่ง
“ชิ..” ผมได้เพียงแต่จิปากและยืนมองหน้าเขาที่มีสีหน้าอย่างกับเด็กสำนึกผิด พอเห็นทำหน้าอย่างนี้ก็ขี้เกียจจะต่อว่าให้มากความอีก
“แล้วจะกินอะไร” ผมถามเสียงห้วน
“แล้วแต่ฟ้า” อยู่ๆทิกเกอร์ก็ยิ้มกว้างขึ้นอีกครั้ง
“แล้วแต่ผม” ผมย้ำ ทิกเกอร์พยักหน้า
“แน่ใจนะ..” ผมยักคิ้วกวนเป็นการบอกเตือน
“เอิ่ม..” ทิกเกอร์หุบปากเข้าหากันช้าๆ เหลือบตาอย่างครุ่นคิดเหมือนไม่แน่ใจขึ้นมา
“ก็ดี..แล้วแต่ผม” ผมรีบตัดบทเพราะกลัวว่าทิกเกอร์จะเปลี่ยนใจ
“โอเค งั้นไปรถคุณก็แล้วกัน” ผมบอกไปอย่างนั้นเพราะใจจริงแล้วผมอยากลองนั่งรถสปอร์ตปอร์เช่ของทิกเกอร์ใจจะขาด หลายครั้งหลายคราที่ผมเห็นมันและรู้สึกว่ามันยั่วยวนผมทุกครั้ง มันเป็นรุ่นที่ผมยังไม่เคยได้เห็นด้านในมาก่อน ผมรู้สึกอยากลิ้มลองและอยากรู้ว่าด้านในของรถนั้นจะเป็นอย่างไรนะ อีกอย่างนานหลายปีแล้วที่ผมไม่ได้กลิ่นรถที่เขาใช้ ในรถคันใหม่นี้จะมีกลิ่นที่คุ้นเคยเหมือนรถคันที่เราเคยใช้ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่หรือเปล่า ให้ตายเถอะ..นี่ผมกำลังคิดบ้าคิดบออะไรอยู่กัน
...................>>>><<<<....................
เรียน ทำการบ้าน โปรเจค อ่านหนังสือ ซ้อมดนตรี..ภายในหนึ่งวันที่ทุ่มเทให้มันก็หมดเวลา หมดแรงแล้วค่ะ ดังนั้นในแต่ละวันจึงสามารถเจียดเวลาเขียนนิยายได้ทีละนิดเท่านั้น ต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าด้วยถ้าต่อไปนี้จะมาลงอย่างล่าช้า
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
เบบี้ติดบอลยูโรแหงๆ :z3:
รออยู่นะคะ :กอด1:
ไม่ชอบดูบอลค่ะ ^_^ แฮ่ๆ ที่ผ่านมาป่วย(ค่อนข้างหลายโรค) แล้วก็เรียนด้วยค่ะ จึงมาต่อให้ช้า
ขอโทษด้วยค่ะ :กอด1:
-
:z13:
จิ้มพี่บี้แล้ววิ่งไปอ่าน รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะขอให้สุขภาพแข็งเเรงค่าาา :กอด1:
.........................................................
เป็นกำลังใจให้พี่บี้ค่ะ พี่คิวยังกวนเหมือนเดิม แต่ก็น่ารักเสมออออ :impress2: :impress2: ทิกเกอร์สู้ๆค่ะ ส่วนจักรถีบตกไป
ตั้งแต่มีเรื่องกะพี่คิวแล้ว :z6:
ขอบคุณพี่บี้ค่าา :pig4:
-
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ติดตามอยู่ตลอดเลย
น้องเค้กนี่น่ารักใสๆ สมวัยดีจริงๆ แต่กระนั้นก็มีความเป็นผู้ใหญ่อยู่ในตัวเอง
อาฟ้านี่ไม่ต้องเอ่ย เป็นคุณอาที่ควรค่าแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่งทีเดียว
ดูเป็นคนใจดี ร่างเริงสนุกสนานก็จริง แต่ในทางกลับกันก็มีอดีตที่เจ็บปวดแบบลากยาวมาจนปัจจุบัน
ส่วนตัวแอบเชียร์ทิกเกอร์สุดฤทธิ์
ส่วนพี่คิวนี่เป็นอะไรที่สุดยอดแห่งความดาร์กจริงๆ จนบัดนี้ก็ยังคงเดาความคิดพี่คิวไม่ออก
เป็นตัวละครที่เดายากมากๆ ทั้งคำพูดแล้วก็การกระทำ มีความคิดที่แตกต่างแบบคาดไม่ถึง
เหมือนในหัวพี่คิวมีความซับซ้อนเหนือคนธรรมดา รู้ลึก รู้จริง ตีความคิดคนอื่นแตก
มีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยแบบก้าวกระโดด ข้ามหน้าข้ามตาอาฟ้าไปไกลโขอยู่เอาเรื่อง
ไปๆ มาๆ อาฟ้ากับคิวควรจะสลับสับเปลี่ยนสถานะกันเนอะ ฮ่าๆๆๆ
สนุกมากค่ะเรื่องนี้ ชอบมากๆ
- - - - - - - - - - - - - - - - -
วันนี้มีเวลาว่าง เลยถือโอกาสทำสารบัญมาให้ด้วย
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1660765#msg1660765)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1661223#msg1661223)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1662852#msg1662852)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1666158#msg1666158)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1670706#msg1670706)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1677523#msg1677523)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1686614#msg1686614)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1689943#msg1689943)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1699842#msg1699842)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1707610#msg1707610)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1714972#msg1714972)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1718544#msg1718544)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1727894#msg1727894)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1734499#msg1734499)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1747429#msg1747429)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1754628#msg1754628)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1760722#msg1760722)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1768901#msg1768901)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1771384#msg1771384)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1782049#msg1782049)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1788532#msg1788532)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1791519#msg1791519)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1798899#msg1798899)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1800193#msg1800193)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1806814#msg1806814)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1809087#msg1809087)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1818199#msg1818199)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1820964#msg1820964)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1832215#msg1832215)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1834961#msg1834961)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1839564#msg1839564)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1843009#msg1843009)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1849063#msg1849063)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1858958#msg1858958)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1866706#msg1866706)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1871747#msg1871747)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1883125#msg1883125)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1886222#msg1886222)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1892972#msg1892972)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1896681#msg1896681)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 41 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1907277#msg1907277)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 42 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1928559#msg1928559)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 43 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1931857#msg1931857)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 44 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1938738#msg1938738)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 45 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1945705#msg1945705)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 46 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1948764#msg1948764)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 47 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1954800#msg1954800)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 48 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1959833#msg1959833)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 49 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1962878#msg1962878)
~Limited Lovers1~ ตอนที่ 50 (ตอนจบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1974659#msg1974659)
- - - - - - - - - - - - - - - - -
Limited Lovers2 ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1979374#msg1979374)
Limited Lovers2 ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1984810#msg1984810)
Limited Lovers2 ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1994062#msg1994062)
Limited Lovers2 ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg1997420#msg1997420)
Limited Lovers2 ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2002600#msg2002600)
Limited Lovers2 ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2005496#msg2005496)
Limited Lovers2 ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2009555#msg2009555)
Limited Lovers2 ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2011773#msg2011773)
Limited Lovers2 ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2017137#msg2017137)
ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์สละเวลาทำให้ >_< เอาไว้ถ้าเบบี้ว่างๆ อาจจะลองหาพื้นที่นำไปโพสไว้ที่หน้าแรกนะคะ คนอ่านคนอื่นๆจะได้สะดวกสบายขึ้น แฮ่..
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
เบบี้ :L2:
-
o13 o13 o13 o13 ขอบคุณคนทำด้วยคนค่าา ทำให้สะดวกเวลาอยากย้อนกลับไปอ่านตอนแรกๆ :m4: :m4: :m4:
-
เชียร์ทิกเกอร์ อาฟ้าอย่าใจแข็งนาน
ไม่ชอบนายจักร เหมือนไม่จริงใจ :m16:
+1
-
พี่ฟ้า ก็ปากแข็งเสียจริงนะ ...พี่คิวน่ารักเหมือนเดิม :impress2: :impress2: :impress2:
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: กอดคนเขียน กอดพี่ฟ้า กอดเค้กกะคิว
-
ทิกเกอร์น่ารักจัดช่อดอกไม้เองด้วย :impress2:
เบบี้เก่งจังวันนึงทำตั้งหลายอย่าง(เหนื่อยแทน)
รักษาสุขภาพด้วยนะ :กอด1:
-
อาฟ้าเหมือนอยากจะลองว่า กะจักรเนี่ย ตัวเองมีความสามารถในการจัดการยังไงบ้าง
คนเราโดนหยอดมันก็มีเขินบ้าง แต่คิดว่าจิตใจอาฟ้าน่าจะมั่นคงอ่ะเนอะ
-
ถ้าจะรู้สึกกับทิกเกอร์ขนาดนี้นะ อร๊ายยยย ทิกเกอร์ผู้น่าสงสาร อยากเอกลับไปนอนฟัด
-
เบบี้สู้ ๆ นะ
-
ยังไงก็ยังเชียร์ทิกเกอร์อยู่ดีอ่ะ
รู้สึกว่าตอนอาฟ้าอยู่กับทิกเกอร์แล้ว
มีดอกไม้โปรยอยู่ฉากหลังเลย
ส่วนของจักรเอง ดูเหมือนคนคนนี้ เข้ามาหา
อาฟ้าอีกครั้ง เหมือนมีอะไรไม่ดีแอบแฝงอ่ะ
-
ทิกเกอร์ต้องหาของชอบมาให้พี่ฟ้าบ่อยๆ ใจได้ใจอ่อนเร็วๆ เนอะ
:L2:
-
อืม ถ้าเราเป็นฟ้าคงตัดสินใจยากแฮะ เลวร้ายพอกัน
แต่โดนหักหลังแล้วยังถูกบอกเลิกนี่ เหมือนล้มคะมำ แล้วจิกหัวมาตบซ้ำ เจ็บหนัก
ส่วนทิกเกอร์ให้อารมณ์ประมาณแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ตายสนิท
แย่ ๆ ทำไมถึงไม่มีคนดี ๆ กว่านี้ผ่านเข้ามา หรือว่าฟ้าเข็ด เลยไม่เปิดโอกาส
-
คิดแล้วว่าเบบี้คงยุ่งมาก หายไปนานเลย ขอบคุณมากที่มาต่อน้าาา :กอด1:
อ่านแล้ว ไม่รู้ดิ...คิดว่าพี่ฟ้าโอนเอียงไปทางทิกเกอร์มากกว่านะ
ส่วนจักร ดูเจ้าเล่ห์ไงไม่รู้ ไม่ชอบฮีเลย
ปล.ประทับใจฉากที่เล่าว่าคิวนั่งกอดพี่ฟ้าเวลาร้องไห้ สองคนนี้เค้าผ่านอะไรกันมาเยอะเนาะ
-
ตอนนี้ทิกเกอร์น่ารัก :o8:
เบบี้ :pig4:
-
อ๊า อาฟ้าใจอ่อนเหรอเนี้ย ยังไม่อยากให้ใจอ่อนง่ายๆ เลยอ่ะ ทิกเกอร์ทำไว้แสบสันจนอยากอาฟ้าเป็นโสดอยู่กับหลานคิวไปนานๆ :impress2:
เบบี้สู้สู้นะคะ :กอด1: +1ให้ค่า
-
เวลาอาฟ้าอยู่กับจักร เหมือน ตำรวจกับมาเฟียอะ ระแวงกันตลอดเวลา
หาแผนมาขัดกันตลอดเวลา
เวลาอยู่กับทิกเกอร์นิ เหมือนกัน อาฟ้าดูคิดถึงเรื่องวันเก่า ๆ มากขึ้น แม้จะกลัว แต่ก้ยังรู้สึกชอบบรรยากาศเก่า ๆ อะ
เขาชอบบบ ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆ 5555 ทิกเกอร์ตามใจอาฟ้าตลอดเวลาเลยเนอะ
ดีจังแล้วเมื่อไหร่อาฟ้าจะหายกลัวสักทีน้า :-[
-
พี่ฟ้าาาาา
ยุ่งทั้งเรื่องงาน เรื่องหัวใจ
มีคนกวนใจตลอดๆ
อ่อยยย สู้ๆนะ ,,
งานเปิดตัวคอลเล็กชั่นใกม่ ต้องมีอะไรแน่ๆเลย
เหอะๆ แบบต้องสนุกอ่ะ รอดู ^^
เบบี้ไม่สบายรึ?
มิน่าหายไปนานเลย เรียนหนักด้วยสินะ
ไม่สบายก็หายเร็วๆ เรียนก็อย่าหักโหม
ไฟท์ติ้งงงงง
-
สู้ๆ ทิกเกอร์ สู้ๆ เบบี้ :z2:
-
คิวมีบุคลิก ลักษณะนิสัยน่าสนใจจริงๆ
-
ไม่ทราบหรอกนะคะว่าใครมากดลบเป็ด แต่บางทีก็อยากทราบสาเหตุว่า "ทำไมถึงลบ" เพราะทุกอย่างทำแล้วคงต้องมีเหตุผล กดบวกเป็ดมันเป็นส่วนมากที่กด คงไม่ต้องอยากมานั่งฟังคำเยินยออะไรอีก ส่วนคนที่ไม่กดอะไรเลยนั่นคือคนส่วนที่มากกว่า..ไม่แสดงความคิดเห็นและไม่กดอะไรเลย(เสมอภาค..ไม่ว่ากัน) แต่สำหรับการที่มากดลบเป็ดของตอนนี้เมื่อกี้นี้ ทราบค่ะว่ามันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะกดลบ แต่การกดลบนั่นแสดงว่า..ไม่ชอบ เบบี้จึงรู้สึกว่า..มีตรงไหนอะไรที่ไม่ดี คำพูดหรือเนื้อหา ความสมเหตุสมผล ความรู้สึกของคุณบลาๆๆ..เบบี้แค่อยากรู้เหตุผลเท่านั้นเองค่ะ ใครที่ไม่ชอบใจอะไรนอกจากกดลบเป็ดแล้วจะชี้แจงหลังไมค์ด้วยก็ได้นะคะ(เพราะอยากทราบเหตุผลจริงๆค่ะ)
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
สำหรับเรา ถ้าเป็นฟ้าเราคงไม่ให้อภัยใครเลย
เพราะสองคนทำเรื่องที่เรียกว่าหักหลัง ทรยศ กันทั้งนั้น
แต่ในแถนะ คนอ่าน ที่มีใจโอนเอียง ก็ขอเชียร์ทิกเกอร์ ต่อไป สำหรับการให้โอกาสอีกครั้ง เพราะทิกเกอร์รักฟ้า่จริงๆ แม้จะเป็นการจับปลาสองมือก็ตาม เพราะในเวลานั้น คงสับสนด้วยอะไรหลายๆอย่าง
รักเบบี้ พี่เข้าใจบี้ว่าน้องเปิดเทอม กิจกรรมอีกเพียบ นิยายของน้องพี่จึงรอคอยได้เสมอ สู้ๆ พักผ่อนเยอะนะ :กอด1:
-
รักษาสุขภาพด้วยนะเบบี้
-
ฟ้าเวลาอยู่กับจักรดูเจ้าเลนะ
แต่เวลาอยู่กันทิกเกอร์อย่างกับเด็กแหนะ :impress2:
:pig4: คะ
-
โอ๊ยยยย~ ถ้าทิกเกอร์จะโรแมนติกได้มากขนาดนี้นะ
ผู้ชายอะไรความพยายามเป็นเลิศ และเป็นคนที่ดูอบอุ่นมากๆ ด้วย
งานนี้ขอเชียร์ทิกเกอร์แบบขาดใจกันไปเลย
ส่วนอาฟ้าก็น่ารักจริงๆ มีการแอบเขิลแล้วก็แอบหวั่นไหวด้วยนะเออ
มีหน้าตายว่าไปรถทิกเกอร์ด้วย ทีแท้ก็อยากสัมผัสกลิ่นแห่งความทรงจำ อิอิ
ชอบตอนที่อาฟ้าทำเนียนไปกระซิบเค้ก บอกให้พี่คิวเอาช่อดอกไม้กลับบ้านอ่ะ
-
:L2: :pig4:
-
รักษาสุขภาพด้วยน๊า
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย :L2:
-
o13โดยรวมเราชอบทุกตอนนะ บวกให้ตลอด ใครทำดีอยู่แล้ว ทำดีต่อไป :L2:
-
ถึงว่า เบบี้ หายไปซะหลายวัน
เพราะป่วย เพราะเรียน เพราะงาน นี่เอง
เป็นกำลังใจให้น๊าคับ :L2:
รออ่านตอนต่อไปด้วยเหมือนกัน อิอิ
-
เชียร์ทิกเกอร์สุดใจเลยยยยยยยยยย >__<
เป็นกำลังใจให้พี่บี้นะคะ ^^
-
พี่คิวได้อีกอ่ะผู้ชายคนนี้เป็นคนที่กวนแล้วรู้สึกว่าทำไมก๊วนกวนแต่ก็น่ารักไปในตัวเอง ฮ่า า
แต่ทิกเกอร์ก็ยังเป็นพ่อหนุ่มที่น่าเอ็นดูตลอดเลย (เชียร์ขาดใจคนนี้อ่ะ) ส่วนเรื่องเค้กกับพี่คิวสงสัยจะดูออกกันหมดละ
เพราะน้องเค้กรึเปล่าเนี้ย เขาจับได้กันหมดแล้ว 555
สู้ๆนะค่ะ เบบี้
ปล. เมื่อวันก่อนแอบแวบไปหาพี่เมตรมา อ้ายยยย คนอะไรทำไมน่าหลงแบบนี้ >////<
-
ทิกเกอร์ทำให้อาฟ้าหวั่นไหวได้มากกว่าจักร :z3:
-
ลุ้นกันตอนต่อไป :L1:
-
มาเชียร์ทิกเกอร์ อิอิ
-
ตอนนี้เหมือนจะเริ่มเห็นความแตกต่างที่พี่ฟ้าแสดงออก
ดูทิกเกอร์จะมีภาษีดีกว่าจักรนะ หลานก็ชอบซะด้วยสิ
พี่ฟ้าน่ารัก ทิกเกอร์ก็น่ารัก แต่พี่คิวยังกวนเหมือนเดิม
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ ที่เจียดเวลามาต่อให้ได้อ่าน :L2:
-
ที่นี้มีสารบัญแล้วอ่ะ o13
-
ทิกเกอร์น่าร้กอ่ะ เชียร์สุดใจขาดดิ้น
-
รอตอนต่อไปนะคะ พี่เบบี้ :)
-
ไม่ชอบดูบอลค่ะ ^_^ แฮ่ๆ ที่ผ่านมาป่วย(ค่อนข้างหลายโรค) แล้วก็เรียนด้วยค่ะ จึงมาต่อให้ช้า
ขอโทษด้วยค่ะ :กอด1:
ไม่เป็นไรค่ะ มาต่อช้าย่อมดีกว่าไม่มาอยู่แล้ว
ยังไงก้รอเสมอ และเป็นกำลังใจให้นะคะ >___<
สำหรับตอนนี้มันทำให้เรากลับมาชอบทิกเกอร์อีกล่ะ
ช่างเป็นผชที่ทำให้คนอื่นใจละลายง่ายเหลือเกิน
และอย่างพี่ฟ้าคงไม่รอด
ส่วนคิวยังคงกวนส้น เสมอต้นเสมอปลาย
นับวันยิ่งดูเหมือนคิวกับฟ้าสลับสถานะกัน ฮ่าๆ
ยังไงก้จะรอติดตามต่อนะคะ
บวก1ค่ะ
-
ทิกตาคมนะเนี่ย ดูเค้ก-คิวออกด้วย
-
ฟ้าเริ่มใจอ่อนบ้างอ๊ะยัง แต่ก็เข้าใจนะเป็นใครก็คงคิดหนัก
แต่เค้าชอบทิกเกอร์อ่ะ เชียร์เลย
-
เบบี้สู้ๆค่ะ มาเรื่อยๆก็ยังดีน้า อย่าหายไปเลย แหะๆ
คิวเค้กออกนิดเดียวเองตอนนี้ หุๆ
-
กิจกรรมเยอะมาก
ดูแลสุขภาพด้วยน๊า
ตอนนี้เป็นทีของอาฟ้า ทั้งทิกเกอร์ทั้งจักร อยู่ในกำมือแล้ว
-
คิว กวนตลอดๆอะ ได้กวนอาฟ้าวันละนิด จิตแจ่มใสเนอะ o18
งี้แสดงว่าไม่มีใครกล้าชวนคิวไปเป็นนายแบบนะซิ อดเลย :monkeysad:
ท่าทางวันนี้ทิกเกอร์คงมีความสุขอยู่นะ เพราะได้ไปทานข้าวด้วยกัน
ขอบคุณ และรักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ :L2:
-
ความสำเร็จถึงแม้มันจะคืบหน้าขึ้นมาที่ละนิด แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเลยนะ
สู้เค้านะพี่เสือ :a2:
-
สู้ๆนะ เบบี้
อย่าหักโหมมาก พักผ่อนเยอะๆ
ล่ะ เป็นห่วง ค่อยแต่งตามสะดวกก็ได้
จะรอนะ
-
หายไวไวนะจ๊ะเบบี๋ รออาฟ้าต่อไปจ๊ะ
-
ไม่ค่อยเชียร์ทิกเกอร์ออกนอกหน้าเลยนะคิว :laugh:
กับจักรนี่ไม่ค่อยอยากให้รีเทิร์นด้วยเลย แต่ก็เหมือนฟ้าจะแพ้ทางยังไงไม่รู้ :z3:
-
เวลาอาฟ้าอยู่กับจักร เหมือนคนแปลกหน้าที่ต้องคอยระวังตัว แต่เวลาอยู่กับทิกเกอร์เหมือนอาฟ้าเป็นคนที่เอาแต่ใจแล้วอยากให้ทิกเกอร์คอยเอาใจอยู่ตลอดเวลา
:L2: :pig4: และเป็นกำลังใจให้กับคนเขียน สู้ๆ
-
...ผู้ชายของอาฟ้าทั้งสองคน นอกใจอาฟ้าเพราะผู้หญิงทั้งคู่ มิน่าอาฟ้าถึงได้แค้นนัก สมควร
...รถคันนี้ของทิกเกอร์ หรือเปล่าที่อาฟ้าอยากนั่ง และมันเป็นคันเดียวกันหรือเปล่าที่ทิกเกอร์เอามาให้อาฟ้าแล้วพี่่คิว จิ๊กเอาไปขับอะ
...สุดท้ายผู้ชายที่เคยนอกใจอาฟ้า ก็อยู่ในโอวาทของอาฟ้าทั้งคู่เนอะ แต่............มันสายเกินไปแล้ว(หรือเปล่าสำหรับบางคน)
...ชอบพี่คิวตอนนี้จัง เจอผู้ชายของอาฟ้าทั้งสองคน แต่บทบาทที่แต่ละคนได้รับไปจากพี่คิว ....แตกต่างกันดั่งฟ้า กับ เหวววว
...แปลกเนอะทั้งๆที่ทั้ง2 คนนี่ก็ทำให้อาฟ้า ช้ำใจเหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละ มันต้องมีคนนึงที่คลิ๊กกันได้และคนนั้นก็คือ..ทิกเกอร์ผู้โชคดีที่พี่คิวยอมรับ :laugh:
-
ทิกเกอร์.....ฉันเชียร์คุณอยู่ :z2: :z2: :z2:
พี่คิว....กวนได้อีก.....
-
ถึงจะยุ่งๆ แต่เราก็เต็มใจรอค่ะ^^
ไม่ชอบจักรเอามากๆเลยอ่ะ
ยังไงๆก็เข้าข้างทิเกอร์มากกว่าอยู่ดี
-
อืมมมม ชอบเวลาที่ฟ้า อยู่กับทิกเกอร์นะ แบบ มันดู น่ารักๆ ยังไงก็ไม่รู้ :o8:
เบบี้ก็รักษาสุขภาพนะค่ะ :L2:
-
ชอบเวลาคิวกวนอาฟ้าจัง หึหึ
-
แค่เจ๊ฟังคำพูดของจักร ก็รู้แล้วว่า มันไม่ช่ายอ่ะ :laugh:
สู้ทิกเกอร์ของเจ๊ไม่ได้ แต่อาฟ้าก็ดูจะอ่อนไหวกะ คนนี้อยู่นะ
P.S. จะเป็นรัยไห๊ม ถ้าเจ๊ก็อยากให้คิวเดินแบบด้วยคน :laugh: :laugh:
-
เชียร์ๆๆทิกเกอร์ค่า :o8:
พี่ฟ้าใจอ่อนเถอะนะคะ
-
เข้ามาถือป้ายไฟเชียร์ทิกเกอร์ o18
-
แน่ะ แน่ะ พี่ฟ้า มีอยากได้กลิ่นซะด้วย
-
ทิกเกอร์น่าจะมาวินนะ
:จุ๊บๆ:
-
ทิกเกอร์มาแล้วจ้า~ เชียร์ทิกเกอร์ :-[
-
สู้ๆนะจ๊ะทิกเกอร์
อาฟ้าใจอ่อนให้ทิกเกอร์ไ้ด้แล้วนะ สงสารอ่ะ :เฮ้อ:
-
รู้สึกว่าฟ้าสบายใจกว่าเมื่ออยู่กับทิกเกอร์ มีแอบยิ้มแอบเขินด้วย แต่อย่าใจอ่อนให้เร็วนักนะคะ เพราะที่ทิกเกอร์ทำไว้ ก้อ ..มากอยู่
-
ฟ้า จะแพ้ทางจักรมั๊ยเนี๊ย O.o
แต่ทิกเกอร์ก็มาแรงไม่แพ้กันเลย...รู้สึกคิวจะชื่นชอบทิกเกอร์เป็นพิเศษนะ...อิอิ
สงสัยอาฟ้าต้องทนแรงกดดันจากหลานอีกซะด้วยสิ..ถ้าฟ้าเลือกจัร จักรคงต้องเตรียมตัวเตรียมใจตายคาฝ่าพระบาทคิวเป็นแน่แท้..กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก
-
จักรนี่น่าจะกลับมาเป็นเพื่อนพอ แล้วไปลงเอยกับทิกเกอร์น่าจะเข้าท่า
รักษาสุขภาพนะคะ :กอด1:
-
คิดถึงน้องเค้กกกกกกกกกกกกกกก
ชอบตอนพี่ฟ้าอยู่กับเค้กอ่ะ ให้ความรู้สึกเอ็นดู๊เอ็นดู
ทิกเกอร์สู้ๆ เอาน่ะ ผิดพลาดกันได้ ตอนนี้สำนึกแล้วก็สู้ๆนะคะ
มีคนเชียร์ตั้งเยอะะะะะะะะะะแนะ แถวกำลังสำคัญอย่างพี่คิวยังเข้าข้างอีก
ชนะใสๆเลยค่าา
พี่ฟ้า ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะ ค่อยๆคิดและตัดสินใจ
-
เป็นกำลังใจให้คนเขียน ทำหลายอย่างเหลือเกิน สู้ๆ o13
-
ไม่ชอบจักร เชียร์ทิกเกอร์ :กอด1:
และก็เป็นกำลังใจให้เบบี้สำหรับทุกอย่าง :กอด1:
-
อาฟ้าอย่าเคลิ้มทั้งคู่ได้ไหม เลือกสักคนน่านะ
เบบี้สู้ๆ รักษาสุขภาพเยอะๆ น๋า บวกๆ กอดๆ
-
:m1: :m1: :m1:
-
อืม ถ้าเราเป็นฟ้าคงตัดสินใจยากแฮะ เลวร้ายพอกัน
แต่โดนหักหลังแล้วยังถูกบอกเลิกนี่ เหมือนล้มคะมำ แล้วจิกหัวมาตบซ้ำ เจ็บหนัก
ส่วนทิกเกอร์ให้อารมณ์ประมาณแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ ตายสนิท
แย่ ๆ ทำไมถึงไม่มีคนดี ๆ กว่านี้ผ่านเข้ามา หรือว่าฟ้าเข็ด เลยไม่เปิดโอกาส
ชี้แจง..
ตอนก่อนหน้าฟ้าเคยบอกแล้วว่า เขาไม่ใช่ไม่เปิดโอกาสนะคะ แต่เพียงแค่..มันรู้สึกว่ายังไม่ใช่จึงไม่เดินต่อ ประมาณนี้ ตอนที่เขียนเกี่ยวกับคำพูดประมาณนี้ไป เบบี้ก็จำไม่ได้ว่าอยู่ในตอนที่เท่าไหร่เหมือนกัน :z3: ยังไงก็ลองกลับไปย้อนอ่านดูใหม่อีกรอบนะคะ..แฮ่ๆ o18
-
พี่คิวได้อีกอ่ะผู้ชายคนนี้เป็นคนที่กวนแล้วรู้สึกว่าทำไมก๊วนกวนแต่ก็น่ารักไปในตัวเอง ฮ่า า
แต่ทิกเกอร์ก็ยังเป็นพ่อหนุ่มที่น่าเอ็นดูตลอดเลย (เชียร์ขาดใจคนนี้อ่ะ) ส่วนเรื่องเค้กกับพี่คิวสงสัยจะดูออกกันหมดละ
เพราะน้องเค้กรึเปล่าเนี้ย เขาจับได้กันหมดแล้ว 555
สู้ๆนะค่ะ เบบี้
ปล. เมื่อวันก่อนแอบแวบไปหาพี่เมตรมา อ้ายยยย คนอะไรทำไมน่าหลงแบบนี้ >////<
เมตรตอบ "กูเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้"
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
...ผู้ชายของอาฟ้าทั้งสองคน นอกใจอาฟ้าเพราะผู้หญิงทั้งคู่ มิน่าอาฟ้าถึงได้แค้นนัก สมควร
...รถคันนี้ของทิกเกอร์ หรือเปล่าที่อาฟ้าอยากนั่ง และมันเป็นคันเดียวกันหรือเปล่าที่ทิกเกอร์เอามาให้อาฟ้าแล้วพี่่คิว จิ๊กเอาไปขับอะ
...สุดท้ายผู้ชายที่เคยนอกใจอาฟ้า ก็อยู่ในโอวาทของอาฟ้าทั้งคู่เนอะ แต่............มันสายเกินไปแล้ว(หรือเปล่าสำหรับบางคน)
...ชอบพี่คิวตอนนี้จัง เจอผู้ชายของอาฟ้าทั้งสองคน แต่บทบาทที่แต่ละคนได้รับไปจากพี่คิว ....แตกต่างกันดั่งฟ้า กับ เหวววว
...แปลกเนอะทั้งๆที่ทั้ง2 คนนี่ก็ทำให้อาฟ้า ช้ำใจเหมือนกัน แต่อย่างว่าแหละ มันต้องมีคนนึงที่คลิ๊กกันได้และคนนั้นก็คือ..ทิกเกอร์ผู้โชคดีที่พี่คิวยอมรับ :laugh:
ชี้แจง..
รถคันนี้ของทิกเกอร์เป็นรถของทิกเกอร์เองเลยค่ะ รถคันที่ทิกเกอร์ซื้อให้ฟ้าแล้วคิวจิ๊กไปขับรับเค้กนั้น ก็คือคันที่เขียนไปน่าจะอยู่ประมาณตอนที่ 2-3 ของฟ้า (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ :z3:) ลองกลับไปอ่านตอนนั้นดูก็ได้ค่ะ คนเขียนก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าตอนไหน ฮ่าๆๆ :laugh:
-
ถ้าจะรู้สึกกับทิกเกอร์ขนาดนี้นะ อร๊ายยยย ทิกเกอร์ผู้น่าสงสาร อยากเอกลับไปนอนฟัด
ยังไงก็ยังเชียร์ทิกเกอร์อยู่ดีอ่ะ
รู้สึกว่าตอนอาฟ้าอยู่กับทิกเกอร์แล้ว
มีดอกไม้โปรยอยู่ฉากหลังเลย
ส่วนของจักรเอง ดูเหมือนคนคนนี้ เข้ามาหา
อาฟ้าอีกครั้ง เหมือนมีอะไรไม่ดีแอบแฝงอ่ะ
ทิกเกอร์น่าร้กอ่ะ เชียร์สุดใจขาดดิ้น
ไม่ค่อยเชียร์ทิกเกอร์ออกนอกหน้าเลยนะคิว :laugh:
กับจักรนี่ไม่ค่อยอยากให้รีเทิร์นด้วยเลย แต่ก็เหมือนฟ้าจะแพ้ทางยังไงไม่รู้ :z3:
แค่เจ๊ฟังคำพูดของจักร ก็รู้แล้วว่า มันไม่ช่ายอ่ะ :laugh:
สู้ทิกเกอร์ของเจ๊ไม่ได้ แต่อาฟ้าก็ดูจะอ่อนไหวกะ คนนี้อยู่นะ
P.S. จะเป็นรัยไห๊ม ถ้าเจ๊ก็อยากให้คิวเดินแบบด้วยคน :laugh: :laugh:
v
v
v
ที่จริงคอมเม้นน่าจะเยอะกว่านี้ที่เรา จะมา แกล้ง เตือน ว่า "ระวังหลงรักจักรไม่รู้ตัวนะ" กร๊ากกกกกกก (ขำแทบสำลัก แล้ววิ่งหนีดีก่า) :m20: :jul3:
-
ทิกเกอร์น่ารักเนอะ :o8:
-
อาฟ้าเอ๊ย ปากไม่ตรงกับใจนี่นา o3
ยังหนุ่มยังแน่น กลัวรักซะแล้ว :give2:
-
ชอบเวลาอาฟ้าอยู่กับทิกเกอร์อ่ะ น่ารักดี น่ารักมากกกก
อาฟ้าเสเพลน่ารััก :-[
+ให้น้องบี้คนงาม
-
ฟ้าเปิดโอกาสให้ทิกเกอร์บ้างเหอะ อุตสาห์มาง้อ ^
คิวก้อสนับสนุนทิกเกอร์ ^_^
ลุ้นๆคับ รอตอนต่อไป รักษาสุขภาพน่ะครับผม
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
จักรดูแปลกๆ
ไม่ปลื้ม จบ!
:m14:
-
พออ่านมาเรื่อยๆแล้วแบบบอกไม่ถูกเหมือนฟ้าจะแพ้ทางจักรทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจ (แมงเม่ามันก็เล่นกะไฟอยู่ดีอะ(*-*))
ในขณะที่ทิกเกอร์เป็นอะไรที่แฟร์ๆสำหรับฟ้า
สรุปฟ้าเป็นนางวันทอง(*0*) แต่ขุนช้างเรื่องนี้เจ้าชู้ไม่แพ้ขุนแผนเลย
-
ฟ้ากะทิกเกอร์ น่ารัก อ่ะแถมหล่อแล้วใจดี :L2:
-
ยังไงหนูก็เชียร์ทิกเกอร์นะพี่บี้ขาาาาาาาาาา :impress2:
บักจักรยังไงก็สู้ทิกเกอร์มิได้ ทิกเกอร์ไม่ได้นอกใจฟ้าด้วย
แค่ทิกเกอร์มีอยู่แล้ว แต่ฟ้าไม่รู้เอง มันคนละกรณีกับคนที่ตั้งใจนอกใจนี่
-
ระวังตัวหลงรักจักร แอร๊ยยยยย อะไรยังไงคะ ><
-
:กอด1:
-
+1 ให้เป็นกำลังใจ พร้อมรักษาสุขภาพด้วยนะ เบบี้ กิจกรรมมากมายมหาศาล :กอด1:
ปล. มารอดูว่า ทำยังไงถึงจะทำให้เหล่าแฟนครับ หันกลับมารักจักรได้ หึ หึ หึ ......
-
โอ๊ยย ไม่อยากให้ฟ้ากลับไปคบกับใครสักคนเลย นิสัยไม่ดีกันหมด ถึงจะสำนึกผิดก็เถอะนะ เป็นเราเราก็เจ็บปวดมากกกก แต่ใจจริงและจริงใจก็เชียร์ทิกเกอร์อยู่ดี เพราะรู้สึกว่าทนและเอาพี่ฟ้าอยู่มากกว่าคนอื่นแน่นอน (อันนี้คิดเข้าข้างเติมที่เลยนะเนี่ย)
-
เชียร์ทิกเกอร์..ตามคิว555
-
ไม่รู้จะเลือกใคร จะหันไปทางไหน
ก็มีแต่ความรัก ดีดีให้ฉัน
ถ้าเสียคนหนึ่งไป ฉันคงใจหายเหมือนกัน
แต่ถึงจะเลือกเธอ หรือจะเลือกเขา
ก็ปวดร้าว ในใจเท่ากัน
ก็ความรักที่เธอ และเขามีให้ฉัน
มันแสนจะดี จนวันนี้ ไม่อยากจะเลือกใคร
อาฟ้าจะเลือกใครดีหล่ะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
กะกริ๊ดดดดดดดดดดดด หายหัวจากเล้าไปหลายวัน มุดมาเจอ อาฟ้า สองตอนเลยอ่ะ
+1 ให้กำลังใจคนป่วย ที่หายป่วยแล้วมาลง อาฟ้าให้ได้อ่าน
ดูๆ ไป อาฟ้าจะเอียงไปหา ทิกเกอร์ หรือเปล่าเนี๊ยะ
ส่วนจักร คิดว่า คงยากที่จะกลับมานะ เพราะ พี่คิวคงไม่ยอม ให้กลับมาหาอาฟ้าแน่ๆ
สู้ๆ นะคะ อาฟ้า อาฟ้ารักใคร เค้ารักด้วย แต่แอบปันใจให้ พ่อ เสือ มากกว่า ก็แค่นั้น อะคริ อะคริ
-
ทิกเกอร์สู้ๆๆเชียทิกเกอร์
-
ทิกเกอร์เหมือนเด็กน้อย
พี่ฟ้าอย่าเผลอนะ เดี๋ยวเขารู้กันหมด อิอิ
-
:-[ :-[
-
เค้าเชียร์ทิกเกอร์สุดใจขาดดิ้นเลย
อาฟ้าใจอ่อนเร็วๆน๊าาา อย่างน้อยก็ให้โอกาสทิกเกอร์เยอะกว่านายจักรอะไรนั่นหน่อย เนอะๆๆๆ o18
-
สุดท้านแล้วใครจะชนะใจอาฟ้านะ
กลัวว่าสุดท้ายแล้ว ฟ้าจะไม่เลือกใครเลย
เพื่อจะไม่อยากกลับไปเจ็บอีก
แต่เลือกสักคนก็ดีนะ เชียร์ ทิกเกอร์
:กอด1:
-
เชียร์ทิกเกอร์ขาดใจ
-
:impress2: เรื่องราวกำลังเข้มข้นขึ้นตามลำดับ....
ตอนที่ 6
ก่อนอื่นคงต้องบอกว่า ฉากมอบของขวัญที่เราอุตส่าห์จินตนาการลั๊นลาไปเมื่อตอนที่แล้ว
ดันออกมาอีหรอบเดิม คือต้องกวนๆแกมบังคับกันสินะ สมกับเป็นคิว-เค้กจริงๆค่ะ 555555
ส่วนเรื่องราวความรักถ่านไฟเก่าอลเวงของพี่ฟ้า.....
เพราะความผิดหวังในอดีตทำให้สร้างกำแพงไว้สูงเสียดฟ้าเลยนะคะ
กลายเป็นโรคหวาดระแวงไปแล้ว แต่ก็นะ...ใครจะไปอยากเจ็บบ่อยๆกันล่ะ
แต่รู้สึกว่าพี่ฟ้าดูจะรุนแรงกับทิกเกอร์มากกว่าตาจักรนะคะ
ยอมให้เข้าใกล้ เปิดโอกาสให้พูดจากันมากมายยังงี้ ถึงพี่ฟ้าคิดว่า"เอาอยู่" แต่กลัวในพี่ฟ้าจะหวั่นไหวจัง
ยังไงเราก็ยังเชียร์ "ทิกเกอร์" ค่ะ
ที่เหลือเดี๋ยวมาต่อ.............
-
เปิดเทอมก็พากันยุ่งกันเป็นแถวเลย เราก็เริ่มมีงานเ้ข้ามาแล้ว :z3: อยากจะบ้า ฮึก T^T
อืม .. ยิ่งอ่านยิ่งมองว่าจักรเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ หรือไม่ก็คงนึกเสียดายฟ้าอย่างที่ฟ้าคิดจริงๆนั่นแหละ มองแล้วยังไงๆทิกเกอร์ก็มีภาษีดีกว่าเยอะ (เพราะเราเชียร์ ฮ่าๆ) ก็ดูเอาเถอะ คิวน่ะหวงฟ้า ห่วงฟ้าอย่างกับอะไร แค่การปฏิบัติที่มีให้กับสองคนก็แตกต่างกันมากแล้ว หรือว่าความจริง คิวอาจจะมองออกก็ได้ว่าใจของฟ้ามันเอนเอียงไปทางทิกเกอร์น่ะ บางความคิดเหมือนฟ้าพูดเพื่อเตือนตัวเองไม่ให้ใจอ่อนให้กับทิกเกอร์ แต่ทุกครั้งก่อนที่จะคิดแบบนั้น ฟ้าก็เผลอนึกถึงอะไรๆไปมากมายอย่างเช่น เรื่องกลิ่นภายในรถ เหมือนกับคิดถึงช่วงเวลาวันวานอ่า ยังคงรักอยู่เห้นๆ แต่ก็คงกลัวว่าจะต้องเสียใจ เวลาเท่านั้นจะพิสูจน์ได้ แค่การกระทำไม่พอหรอก เพราะมันต้องอาศัยการอดทน คึคึ ว่าแต่ใครๆก็ดูออกหมดแล้วมั้งว่าเค้กเป็นแฟนกับพี่คิวอ่า กิ้วๆ ยิ่งอ่านยิ่งชอบคิว กวนเบื้องล่างดีจริงๆ
-
พี่ฟ้า ยอมๆๆทิกเกอรืไปซะทีเถอะ
-
:-[ ชอบทิกเกอร์
-
:o8:ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ
-
ทำไมอีตาพี่คิวมันน่ารักอย่างงี้!!!!!!!!
เชียร์พ่อเสือน้อยสุดๆ อีตาจักรนี่ยังไงก็ดูเลวๆแห้ะ
อาฟ้าอย่าไปยอมให้เค้าหอมแก้มสิ
ทิกเกอร์!!!! :m3:
เค้ารอบี้ได้เสมอจุ๊บๆ :-[
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ :กอด1:
-
ทิกเกอร์ :กอด1:
-
~11~
ณ ร้านก๋วยเตี๋ยว บางขุนนนท์..
ผมแกล้งให้ทิกเกอร์ขับรถวนไปเส้นอื่นเพื่ออ้อมโลกทั้งทั้งที่รถติดยาวเป็นทาง เวลาผ่านไปเกือบร่วมสองชั่วโมง สุดท้ายก็มาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ที่ผมไม่เคยมาทานเลย แต่แค่ต้องการแวะเพราะคิดว่าเวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว กลัวว่าอีกฝ่ายจะโมโหหิวน่ะครับ
“โอ้..” เมื่อลงมาจากรถ ผมได้ยินเสียงทิกเกอร์ร้องพึมพำ เขาขยับเสื้อเชิ้ตของตนเองเหมือนต้องการให้มีลมพัดให้เย็นขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเพราะอากาศประเทศไทยมีเพียงร้อนมากกับร้อนมากถึงมากที่สุด มันยิ่งแย่ไปกว่านั้นเพราะกรุงเทพแทบไร้พื้นที่ให้สำหรับอากาศบริสุทธิ์ได้มีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นเมืองที่ให้อารมณ์คล้ายกับว่า “เฮ่..นี่เป็นที่อยู่สำหรับมลพิษเท่านั้น ใครไม่เข้าพวก..ออกไปเดี๋ยวนี้นะ” ดังนั้น..คุณจะต้องอดทนอยู่ให้ได้ถ้าสถานที่ไหนไม่มีเครื่องปรับอากาศให้กับคุณ ผมตั้งใจมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางร้านนี้ ถึงแม้บรรยากาศร้านจะค่อนข้างเลวร้ายและอาจจะเลวร้ายมากสำหรับชาวต่างชาติลูกผู้ดีอย่างทิกเกอร์ แต่นั่นแหละที่ผมรู้สึก..ชอบใจ
“จะไม่กินก็ได้นะ คุณขับรถกลับไปได้เลย..เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่กลับเอง” ผมบอกและพยายามรักษาอาการไม่ให้ทิกเกอร์รู้ว่าผมกำลังต้องการพูดเพื่อแกล้งเขา
“ผม..ผมทานได้” ทิกเกอร์รีบพูด ผมเดินนำเข้ามาในร้านอย่างไม่ฟังเสียงอีกฝ่าย ในร้านไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไหร่นักเพราะเวลานี้เกือบจะสี่โมงครึ่งเข้าไปแล้ว บรรยากาศร้านค่อนข้างโปร่งแต่ยังคงได้กลิ่นอับอยู่ พัดลมตัวเล็กๆเก่าๆที่มีฝุ่นเกาะเต็มไปหมดติดอยู่บนเพดานไม่ได้ช่วยให้รู้สึกเย็นขึ้นเพราะมีแต่ลมร้อนเท่านั้น
“จดใส่กระดาษได้เลยนะคะ” เด็กในร้านตะโกนบอกโต๊ะของเรา ผมพยักหน้ารับรู้และหยิบกระดาษใกล้มือมาจดก๋วยเตี๋ยวของตัวเองสองอย่าง
“เอาอะไรล่ะ” ผมถามอีกฝ่ายที่นั่งรอผมอย่างกับเด็กนักเรียนที่กำลังรอตอบคำถามกับคุณครู
“....................” ทิกเกอร์จ้องตาผมเขม็งเหมือนกับนึกคำตอบไม่ทัน
“ผมชอบหมี่สีเหลือง” อีกฝ่ายตอบอึกอัก
“หึ..เหรอ” ผมกลั้นหัวเราะ
“เอาเหมือนฟ้า แต่เป็นหมี่สีเหลือง” ทิกเกอร์พูดทั้งทั้งที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าผมนั้นสั่งอะไร
“มันเรียกว่าหมี่เหลืองน่ะ..ไอ้บ้า” ผมแทบจะหัวเราะ ผมจดอาหารก่อนจะเรียกเด็กเสิร์ฟให้มารับออร์เดอร์
“ขอเป็ปซี่ขวดใหญ่ น้ำแข็งสองแก้วด้วยครับ” ผมบอกเธอ
“ได้ค่ะ” เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินจากไป ผมกับทิกเกอร์นั่งเงียบ ผมหันหน้ามองออกไปทางนอกหน้าต่างแทน ด้านนอกมีป่าคล้ายกับเป็นน้ำคลอง ผมคิดว่าคงจะเป็นน้ำเน่าด้วยเพราะได้กลิ่นตุๆนิดๆ ทิกเกอร์พยายามกระพือเสื้อของตัวเองอยู่หลายครั้ง พอผมหันกลับมามองทิกเกอร์ก็หยุดการกระทำนั้นทันที
“นั่งเฉยๆมันก็ไม่ร้อนหรอกน่า” ผมบอก
“ก็มันร้อน” ทิกเกอร์หน้าแหย เงยหน้าขึ้นมองสังกะสีด้านบน
“ช่วยไม่ได้ บอกว่าแล้วแต่เอง” ผมเบะปากใส่ เวลาไม่นานนักเครื่องดื่มและก๋วยเตี๋ยวก็นำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ อย่างแรกเป็นหมี่เหลืองแห้งหมูสดสำหรับสองที่ ซึ่งเป็นของผมและทิกเกอร์อย่างละชาม ผมเติมน้ำตาลกับพริกลงในชามของตัวเองนิดหน่อย ทิกเกอร์หยิบตะเกียบและช้อนให้ผม ก่อนที่เขาจะหยิบตะเกียบและช้อนคลุกก๋วยเตี๋ยวชามของตัวเองทั้งทั้งที่ยังไม่ได้เติมอะไรเลย ด้วยความนึกสนุกผมจึงตักพริกเต็มหนึ่งช้อนชาลงไปในชามของทิกเกอร์อย่างไม่ได้ถามถึงความสมัครใจจากอีกฝ่าย
“โอ๊ะ!” ทิกเกอร์อุทานตาโตและหยุดมือที่คลุกอาหารอยู่ในทันที
“อุ๊ปส์” ผมทำเสียงโต้ตอบแต่ยังคงหน้าตายอย่างไม่สะทกสะท้าน ทิกเกอร์นั่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ก๋วยเตี๋ยวไทยน่ะ ไม่เผ็ด..มันไม่อร่อยหรอกนะ” ผมอ้างด้วยสีหน้าจริงจัง
“เหรอครับ” ทิกเกอร์หน้าเหวอแต่ก็เริ่มขยับมือคลุกเส้นก๋วยเตี๋ยวกับพริกนั่นให้เข้ากันต่อ ชามของทิกเกอร์แดงแจ๋ไปด้วยพริกป่นมากกว่าผม ไม่นานเท่าไหร่เด็กเสิร์ฟก็นำเส้นเล็กน้ำตกและหมี่เหลืองน้ำตกมาเสิร์ฟ เมื่อเด็กเสิร์ฟเห็นสีในชามของทิกเกอร์ถึงกับร้อง “โห..” ออกมาด้วยท่าทางอึ้งๆ ผมยิ้มตอบให้น้องเขาก่อนที่เธอจะเดินไป ผมหยิบแยกชามของผมและของทิกเกอร์ไว้ต่างหาก
“อ้า..” ผมทำเป็นไม่ได้ยินที่อีกฝ่ายกำลังร้องอย่างทรมาน และตั้งหน้าตั้งตากินของตัวเองไป ผมเห็นทิกเกอร์หยิบน้ำขึ้นจิบเป็นระยะ ปกติทิกเกอร์ทานของเผ็ดหรืออาหารรสจัดไม่ค่อยได้เป็นทุนอยู่แล้ว อย่าว่าอย่างนู้นอย่างนี้ ขนาดแอลกอฮอล์ยังไม่ค่อยแตะเลย เขาจะดื่มก็ต่อเมื่อเขาต้องเข้าสังคมก็เท่านั้น ดูเหมือนครั้งนี้ผมจะแกล้งแรงไปเสียหน่อยรึเปล่านะ
“ซี๊ด..ฮ้า เผ็ด!” ทิกเกอร์ร้องไม่หยุด ผมเงยหน้ามอง อีกฝ่ายหน้าแดงลามไปจนถึงกกหู ปากแดงแจ๋ ต้นคอของทิกเกอร์แดงมากจนผมอึ้งอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าจะแดงได้มากมายขนาดนี้
“กินให้หมดนะ เสียของ” ผมว่าด้วยความรู้สึกสนุกไม่เลิก ทิกเกอร์กลืนน้ำลายลงคอและพยายามคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวทานต่อ
“กินช้าๆสิ..” ผมว่าเตือน เพราะถ้าเขาทานเร็วกว่านี้ผมกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรขึ้นมา ทิกเกอร์ทำตามที่สั่ง ผมกินก๋วยเตี๋ยวหมดไปสองชามแล้ว แต่ทิกเกอร์เพิ่งจะกินหมี่เหลืองแห้งชามแรกหมดไปเอง ทิกเกอร์นั่งพักหายใจอยู่สักพักก่อนที่เขาจะเลื่อนชามต่อไปมาไว้ตรงหน้า
“ชามนี้..ไม่ ไม่ใส่พริกได้ไหม” ทิกเกอร์ถามผม
“มันไม่ตายหรอกน่า” ผมบอกพร้อมกับคิ้วขมวดให้ ทิกเกอร์หน้าเสีย
“เออๆ ไม่ใส่ก็ไม่ใส่” ผมพูดส่งๆ อีกฝ่ายรีบพยักหน้าและจัดการกินก๋วยเตี๋ยวต่อ อากาศที่ร้อนและร้านไม่ค่อยมีอากาศถ่ายเท บวกกับรสจัดจ้านของก๋วยเตี๋ยวในตอนนี้ทำให้ทิกเกอร์เหงื่อออกเต็มตัวไปหมด หน้าแดงหูแดงอย่างกับคนแพ้อาหาร ผมนั่งมองทิกเกอร์ทานก๋วยเตี๋ยวจนหมดชามที่สอง ผมหุบปากเงียบแม้จะเห็นว่าเขาทานเหลือเล็กน้อย แต่เขาคงพยายามจนเกินทนแล้วผมจึงไม่ต่อว่าอีก เรานั่งพักกันสักพักก่อนที่จะเรียกให้พนักงานมาคิดเงิน
“จ่ายด้วย” ผมสั่งก่อนจะเดินหนีออกมารอด้านหน้าร้าน ไม่นานทิกเกอร์ก็เดินตามออกมา
“ขับให้ไหม” ผมเสนอถามทิกเกอร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ เพราะดูเหมือนอีกฝ่ายอาการยังไม่ทรงตัวนัก เขายังคงยืนหายใจแรง คล้ายกับสติยังไม่กลับมา
“ค..ครับ” ทิกเกอร์ยื่นกุญแจให้ทันทีอย่างไม่ปฏิเสธ ผมรับมา ในใจนึกตื่นเต้นที่จะได้ขับรถหรูคันใหม่ที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง คล้ายกับได้ชิมอาหารเมนูใหม่อย่างไรอย่างนั้น ตลอดทางผมได้แต่นึก “ว้าวๆ..คุณจากัวร์น้อย” อย่างกับเด็กได้ของเล่นใหม่ ผมขับรถกลับมาที่บ้านของผม ระหว่างทางทิกเกอร์เปิดเพลงและชวนผมคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้เกี่ยวกับประเทศไทยมาตลอด ผมสังเกตได้ว่าทิกเกอร์จะไม่พูดถึงเรื่องเก่าๆที่ผ่านมาเลยผิดกับจักร ตลอดทางเราคุยเรื่องแปลกใหม่หรืออาจจะบางเรื่องในประเทศไทยที่แปลกมากสำหรับทิกเกอร์ ถึงแม้ผมจะแอบกัดทิกเกอร์มาตลอดทาง แต่มันก็รู้สึกว่าเพลินดีรู้ตัวอีกทีก็ถึงบ้านซะแล้วละครับ
“เอ่อ..” ทิกเกอร์ทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง ผมหันไปหยิบกระเป๋าที่เบาะหลังอย่างไม่สนใจ
“ไปล่ะ” ผมตัดบทและรีบลงจากรถมา ทิกเกอร์รีบลงจากรถด้วยและมายืนดักทางผมไว้ก่อน
“อะไรอีก ไม่เชิญให้เข้าบ้านหรอกนะ..ไม่มีอารมณ์รับแขก” ผมพูดว่า ทิกเกอร์หน้าหดลงเหลือสองนิ้วในทันที
“ครับ งั้นผมกลับนะครับ..ไว้ผมจะโทรหา” อีกฝ่ายบอกหน้าสลด ผมรู้สึกเซ็งขึ้นมาเพราะเหมือนสีหน้าของเขาทำอย่างกับว่าว่าผมโหดร้ายอย่างนั้น ผมพยักหน้าตอบส่งๆก่อนจะเดินหนีเข้าบ้านมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองอีกฝ่ายอีก
วันนี้ผมจะต้องจัดคิวงานให้เสร็จ มีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมายทั้งที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์และที่ห้องเสื้อ ทั้งตรวจบัญชี เขียนแบบ วางแผนงานที่ต้องการเพื่อส่งต่อให้ลูกน้อง ต่อไปนี้คิวจะมาทำงานช่วงเช้าที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ในทุกวันอย่างเคยไม่ได้แล้ว ผมจึงต้องจัดตารางงานใหม่ทั้งหมด เซ็นมาทำงานเต็มวันร่วมห้าวันต่อหนึ่งอาทิตย์ ส่วนคิวจะสามารถมาทำงานเต็มวันได้เพียงแค่สองวันต่อหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ผมต้องตัดใจปรับให้วันเสาร์ของทุกอาทิตย์เป็นวันหยุดประจำของร้าน เพราะการที่ร้านเราขาดเชฟหลักหนึ่งคนไปนั่นสามารถบอกได้ว่ามาตรฐานการทำงานนั้นลดลงในทันที ซึ่งถ้าเราต้องการรักษาระดับมาตรฐานของร้านเราไว้ โดยทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้เสียชื่อเสียงของร้านและการที่จะทำให้ร้านยังคงมาตรฐานอย่างกับมีเชฟหลักถึงสองคนนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างเสี่ยงและงานหนักเอาการ คิวยังยืนยันที่จะทำหน้าที่เป็นเชฟที่ร้านของเราต่อถึงแม้ว่าคิวจะต้องรับผิดชอบงานที่ห้างสรรพสินค้าในเครือของพี่ตันด้วย ผมขัดคิวไม่ได้เพราะถ้าคิวพูดแล้วแสดงว่าเขานั้นได้ตัดสินใจเด็ดขาด
ทั้งนี้ทั้งนั้นผมยังไม่พร้อมที่จะจ้างเชฟเพิ่ม คิวและเซ็นเป็นคู่หูกันมานาน ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกันมานานสิบกว่าปี เขาทั้งสองชอบอะไรคล้ายๆกัน ถ้าจ้างเชฟมาเพิ่มโดยการมองคนละมุมจากคิวและเซ็น ร้านผมได้พินาศอย่างแน่นอน คอนเซ็ปต์หลักก็จะเลือนหายไปทีละน้อย ดังนั้นเราจึงต้องยอมที่จะลดวันเวลาลงและอาจมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงนี้..ผมไม่ได้โทษใครกับการที่ผมต้องสูญเสียกำไรหรือสูญเสียอะไรหลายๆอย่างในร้านนี้ไป การที่คิวต้องทิ้งตรงนี้ไป..ดูเผินๆแล้วหนึ่งในเหตุผลนั้นอาจจะเป็นเพราะเค้ก แต่นั่นอาจไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าผมจะมองหลานผมไม่ผิด ผมคิดว่าก่อนที่คิวจะเลือกเค้ก หลานผมเลือกที่จะไม่เลือกฝัน แต่เลือกที่จะเลือกเส้นทางเดินในชีวิตของตัวเองเสียมากกว่า คล้ายกับเค้กเป็นของแถมในชีวิตที่ทำให้เขามีกำลังใจเดินต่อไปก็เท่านั้น
ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยเมื่อเซ็นรับปากผมว่า เขาสามารถมาทำงานได้บ่อยมากขึ้น โดยการให้งานเชฟที่ร้านของผมเป็นงานประจำแบบเต็มเวลาแทนการทำงานที่บริษัทในเครือของครอบครัวตน การบริหารงานในบริษัทจึงกลายเป็นงานรองสำหรับเซ็นไปในทันที ทั้งคิวและผมไม่ได้ถามอะไรจากเซ็น ผมคิดว่าเซ็นก็คงรู้ดีว่าคิวกำลังคิดอะไรอยู่ คิวคงจะไม่เอ่ยปากขอให้เพื่อนมาช่วยเสียสละเพราะความเดือดร้อนที่เขาก่อขึ้นเป็นแน่ ในเมื่อเซ็นเสนอมาแบบนี้ ทั้งผมและคิวจึงได้แต่ขอบคุณ นั่นเป็นคำพูดเดียวที่น่าจะสื่อได้ถึงความรู้สึกซาบซึ้งของกันและกัน..
= = = = = = = =
07:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ก๊อก ๆ ๆ
“จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” ผมพลิกตัวหนีพร้อมกับหยิบผ้าห่มมาคลุมหัวตนเองในทันทีเมื่อได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์ เมื่อคืนผมทำงานเสร็จประมาณห้าทุ่มก็เข้านอนเลย คงเพราะไม่ได้หลับอย่างเต็มอิ่มมาหลายวันจึงนอนหลับสนิทถึงเช้าอย่างนี้
“อา..”
“....................” ผมเงียบ ขี้เกียจตอบเป็นที่สุด
“นี่..อา” อีกฝ่ายเริ่มทำเสียงเข้ม
“อื้อ” ผมขานตอบอย่างขอไปที ผมได้ยินเสียงฝีเท้าของคิวเดินเข้ามาใกล้เตียงแสนรักของผมมากขึ้น
“เมื่อวานไปทำอะไรไว้น่ะ” อีกฝ่ายถาม ผมรีบเปิดผ้าห่มออกจากหัว หรี่ตามองคิวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ทำอะไร” ผมถามด้วยความฉงน จำได้ว่ายังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยเลยนะครับ
“ทำอะไร” คิวย้ำเสียงล้อเลียนด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายต่อผมอีก
“อ่ะ” อยู่ๆคิวก็ยื่นกระดาษเล็กๆใบหนึ่งมาให้ ผมเอื้อมมือไปรับและนำมาดู
“อะไร” ผมถามอย่างสงสัยไม่เลิก ไม่เข้าใจว่าที่อยู่ที่เขียนบนกระดาษนั่นหมายความว่าอย่างไร
“ที่อยู่ทิกเกอร์ คุณไปทำอะไรเค้าน่ะ..ท้องเสียทั้งคืน” คิวบ่น เริ่มเปลี่ยนจากคำว่า “อา” มาเป็น “คุณ” อีกครั้ง
“ห๊ะ” ผมอ้าปากค้าง หายง่วงในทันที
“โทรมาเมื่อเช้า ที่จริงวันนี้ผมนัดกันว่าจะไปดูรถ..แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ไปเพราะคุณนั่นแหละ ผมถามว่ากินอะไรเข้าไปก็บอกแค่ว่ากินก๋วยเตี๋ยว” คิวพูดแกมบ่น ผมนอนนิ่ง กระดาษที่อยู่ยังคงอยู่ในมือของผม
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” ผมพลิกตัวนอนตะแคงข้างหันหลังให้คิวอย่างหนีความผิด
“จะโกหกก็ให้มันเนียนๆหน่อยนะ”
“แล้วจะไปก็ไป ไม่ไปก็เรื่องของคุณก็แล้วกัน..ทิกเกอร์ไม่ได้บอกให้คุณไปหาหรอกนะ ไม่งั้นก็คงโทรหาคุณเองแล้ว”
“ถ้าแปดโมงยังไม่ลงไปที่โต๊ะอาหาร ผมกินก่อนนะ” คิวบอกและไม่รอฟังคำตอบจากผม มันปิดประตูห้องไป ผมนอนมองกระดาษในมืออยู่ครู่หนึ่ง
“ไอ้ติงต๊องนั่นท้องเสียเหรอ..เว่อร์อ่ะ” ผมบ่นก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“เฮ้อ..ไปดี ไม่ไปดีนะ” ผมสะบัดหัวไปมาเพราะคิดไม่ออก อ๊าก..ปัญหาโลกแตก!
ผมลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะลงไปทานอาหารเช้าเพราะกลัวว่าคิวจะทานไม่รอผม ผมไม่อยากทานคนเดียวอ่ะครับมันรู้สึกแปลกยังไงชอบกล หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จคิวแยกตัวไปทาง ผมจึงกลับขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ไม่มีงานอะไรนอกจากต้องเข้าไปดูที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์นิดหน่อยเท่านั้น
ผมตัดสินใจไปซื้อยาที่ร้านยา ก่อนจะมานั่งคิดหนักอยู่ในรถของตัวเองอยู่นานว่าจะไปหรือไม่ไปดี แต่ดูเหมือนความเป็นห่วงจะมีมากเกินกว่าจะต้านทาน ผมขับรถตรงไปที่คอนโดของทิกเกอร์ ถึงแม้จะไม่เคยมาที่คอนโดนี้สักครั้งเลยแต่ก็รู้จักสถานที่เป็นอย่างดีเพราะอยู่ในใจกลางของย่านคอนโดหรู
“สวัสดีค่ะ” พนักงานต้อนรับยกมือไหว้อย่างยิ้มแย้ม ผมยิ้มกว้างกลับให้
“ไม่ทราบว่ามาพบใครคะ” เธอถาม
“เอ่อ..ทิกเกอร์น่ะครับ” ผมตอบ
“คุณทิกเกอร์มีสองท่านน่ะค่ะ ยังไงทางเราขอทราบชื่อเต็มด้วยนะคะ” เธอยิ้มตาหยี ผมชะงัก ในใจกลับนึกเศร้าขึ้นมาอย่างจุกอก
“ทิกเกอร์ โจนาธาน แคทเทอร์ครับ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เพราะนี่เป็นชื่อที่จำได้ขึ้นใจทีเดียว
“สักครู่นะคะ ทางเราจะติดต่อให้..ไม่ทราบว่าจะให้เรียนคุณทิกเกอร์ว่าใครมาขอพบดีคะ” เธอถามอีก
“เอ่อ..คิวครับ คิวปิด” ผมพูดย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพราะกลัวว่าเธอจะไม่มั่นใจว่าผมคือคิวจริงๆ ผมไม่อยากบอกว่าผมมา ผมแค่อยากโกหกก็เท่านั้น
“ค่ะ” เธอยิ้มให้ผมก่อนจะกดต่อสายโทรศัพท์
“Good Morning sir.”
“A man name Cupid is here to see you sir. Yes...Yes sir.” เธอพูดเสียงหวานก่อนจะวางสายไป
“เชิญค่ะ” เธอผายมือให้ผมและเดินนำไปเปิดประตูให้ เมื่อเธอจัดการสแกนทุกอย่างตามขั้นตอนจนมาถึงหน้าลิฟต์และกดต่อชั้นให้ผมเรียบร้อย
“ชั้นสิบห้านะคะ..ห้องของคุณทิกเกอร์ห้องห้าศูนย์ห้า เมื่อออกจากลิฟต์จะอยู่ทางด้านซ้ายมือนะคะ” เธอยิ้มบอก
“ขอบคุณมากครับ” ผมยิ้มตอบให้เธอก่อนจะเดินเข้ามาในลิฟต์ ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออกเมื่อถึงชั้นที่หมาย ผมเดินตรงไปอย่างช้าๆ คอนโดเรียบหรูและเงียบมากอย่างกับไม่มีคนอยู่ ทั้งนี้ทั้งชั้นมีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางระหว่างทาง ผมเลือกที่จะกดกริ่งและหันตัวหนีกล้องเพื่อไม่ให้คนภายในห้องรู้ได้ว่าที่จริงผมไม่ใช่คิวปิดตัวจริง
แกรก~
“เอ๊ะ..มาพบใครคะ” ผมชะงักเมื่อพบว่าคนที่มาเปิดประตูกลับไม่ใช่ทิกเกอร์ ผมมองไปที่ประตูห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าเป็นห้อง 505 ไม่ผิดแน่ ผมเลือกที่จะไม่ตอบแต่ยืนจ้องหน้าเธอ เธอมองหน้าผมกลับด้วยสายตาปนความสงสัย
“ใครเหรอครับ”
“เอ๊ะ ฟ้า!” ทิกเกอร์อุทานเสียงหลง ผู้หญิงตรงหน้าหลีกทางให้ผมในทันทีเมื่อทิกเกอร์เดินตรงมา ผมยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูห้อง เพียงเท่านี้ขากลับก้าวไม่ออก
“ฟ้า เอ่อ..คือ” ทิกเกอร์เดินตรงมาหาผม ขาของผมก้าวไปด้านหลังนิดหน่อยอย่างลืมตัว ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมตกใจและทำตัวไม่ถูกเป็นอย่างมาก
“นี่ไลลา เธอเป็นเลขาของผมครับ” ทิกเกอร์แนะนำ ผมพยักหน้าและยิ้มให้เธออย่างเป็นมารยาท
“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้
“เข้ามาก่อนสิครับ” ทิกเกอร์บอกและพยายามจะเอื้อมมือมาจับแขนผม ผมชักแขนหลบไว้ได้ทัน
“ไม่ล่ะ แค่เอายามาให้น่ะ” ผมยื่นถุงยาไปให้
“ไม่ให้กลับ” ทิกเกอร์พูดเสียงเข้ม อยู่ๆก็ดึงแขนผมไปอย่างแรงจนตัวผมถลาตามเข้าห้องไป
“เอ่อ คือ..” ทั้งผมและผู้หญิงที่ชื่อไลลาอ้ำอึ้งอย่างทำตัวไม่ถูก
“ไลลา คุณช่วยกลับไปก่อนได้ไหมครับ” ทิกเกอร์หันไปบอกเลขาของเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังต่างจากทุกที
“แต่..บอสคะ” เธอเดินเข้ามา
“ช่วยกลับไปจัดการเรื่องงานที่ผมสั่งด้วย สำหรับวันนี้..ขอบคุณมากนะครับ” ทิกเกอร์ตัดบท
“ค..ค่ะ งั้นบอสอย่างลืมทานยาด้วยนะคะ ไว้ไลลาจะมาเยี่ยมใหม่ค่ะ” เธอบอกและเดินมาหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนโซฟาไปถือไว้ เธอเหลือบมามองหน้าผมและผงกหัวให้ผมเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อประตูห้องปิดลงในห้องก็เงียบลงในทันที
“คุณไปไล่เค้าได้ไง” ผมพูดขึ้น
“ก็เดี๋ยวฟ้าหนีผม” ทิกเกอร์ตอบ
“ก็มันแน่อยู่แล้ว ผมแค่เอายามาให้”
“แต่ผมอยากให้ฟ้าอยู่ด้วยนี่ครับ ฟ้า..อย่าเพิ่งไปเลยนะ นะครับ” อีกฝ่ายเข้ามาจับมือผมไปกุมไว้ทั้งสองมือ ผมพยายามจะดึงมือออกแต่ทิกเกอร์กลับจับไว้แน่นกว่าเก่า มือของเขาใหญ่กว่าผมมากทำให้มือของผมดูเล็กไปถนัด
“เลขาสวยนี่ เธออุตส่าห์เอายามาให้..ก็กินยาของเธอไปสิ” ผมว่าอย่างอดไม่ได้ ทิกเกอร์อมยิ้มน้อยๆ
“ยิ้มไร” ผมขึ้นเสียงใส่ อีกฝ่ายกลอกสายตาไปอีกทางและพยายามหุบยิ้มของตนลง
“งั้นไม่ต้องกิน” ผมจะยื้อแย่งถุงกลับมา
“กิน..ฟ้าอย่าหาเรื่องสิครับ ผมกับไลลาเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องกันเท่านั้นนะ”
“แล้วผมว่าอะไรคุณรึยังล่ะ ร้อนตัว” ผมเถียงกลับ
“ก็น้ำเสียงฟ้าดูเหมือนหึงผมนี่” อีกฝ่ายพูดเสียงเบา
“ไม่ใช่!” ผมว่าจนแทบจะตะโกนออกไปอย่างลืมตัว
“ครับ” ทิกเกอร์ยิ้มกว้าง เขาเอื้อมมือมาลูบแก้มผมอย่างเบามือ ผมชะงัก เหลือบตาหนีสายตาของอีกฝ่ายที่กำลังมองผมอย่างอ่อนโยน ผมจับมือของทิกเกอร์ลงช้าๆ
“กินอะไรรึยังล่ะ” ผมถามเพื่ออยากเปลี่ยนสถานการณ์ในตอนนี้ไปก็เท่านั้น บางทีผมคิดว่าความอ่อนโยนจากมนุษย์ที่มีมากเกินไปนั้นก็แลดูน่ากลัว
“ยังครับ ไม่มีแรงน่ะ” อีกฝ่ายตอบเขินๆ
“สม” ผมว่า
“หรูขนาดนี้..รูมเซอร์วิสไม่มีรึไง” ผมถามแกมประชด
“มีครับ แต่บอกอยู่ว่า..จนเมื่อกี้ ก็แทบไม่มีเวลาโทรเรียกหรอกครับ”
“แต่มีเวลามาคุยกับลูกน้องนี่นะ” ผมบ่มพึมพำและเดินหนีมาที่โต๊ะอาหาร โต๊ะกลมใหญ่สำหรับสิบที่นั่ง ผมวางถุงยาลงบนนั้น
“ไลลาเพิ่งมาก่อนหน้าคุณแค่ไม่กี่นาทีเองครับ” ทิกเกอร์บอกและเดินตามผมมาอีก
“งั้นก็โทรสั่งสิ” ผมตัดบทเพราะรู้สึกว่าไม่อยากให้ชื่อของผู้หญิงคนนั้นหลุดออกมาจากปากของทิกเกอร์อีก ผมกลับมองเธอในแง่ร้ายในทันทีทั้งทั้งที่ผมเพิ่งเจอเธอได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น มันก็อดคิดไม่ได้ ทิกเกอร์เป็นสุภาพบุรุษ พูดเพราะและอ่อนโยน ใครๆต่างก็หลงใหลตรงจุดนี้ของเขาทั้งนั้น ตอนที่เราคบกันอยู่ที่ประเทศอิตาลี มีผู้หญิงหลายคนจ้องที่จะจับเขามากมาย แน่นอน..ขนาดผมเองยังหลงรักเขาตั้งแต่แรกเห็นเลย
“ฟ้าทำให้ได้ไหมครับ ฟ้าทำนะ..ผมมีอาหารแช่แข็งอยู่นิดหน่อย” ทิกเกอร์รีบพูด
“นะครับฟ้า..ผมอยากทานอาหาร ฝีมือคุณ” ผมยืนเงียบและไม่กล้าหันกลับไปมองหน้าทิกเกอร์ตรงๆ
“อืม” ผมพยักหน้าตอบ ทิกเกอร์ยิ้มกว้าง ผมมองสำรวจห้องโถงด้านหน้าและบริเวณรอบๆทั้งหมด คอนโดนี้ตกแต่งสไตล์ร่วมสมัย อย่างในห้องนี้ก็ใช้สีสันและการตกแต่งในสไตล์สเปนอย่างโดดเด่น ถ้าทิกเกอร์บอกว่านี่เป็นคอนโดที่คิวเลือกให้เขา สไตล์ของคิวและของผมก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก สเปนรึอิตาลีค่อนข้างเป็นที่น่าหลงใหลสำหรับพวกเราเสมอ บ้านที่เราอยู่ในตอนนี้เราก็ช่วยกันออกแบบไปตามแบบที่เราชอบและต้องการ ทิกเกอร์เองที่ชอบอยู่ที่ประเทศอิตาลีมากกว่าที่จะอยู่บ้านของตนที่ประเทศอังกฤษ นั่นคงเพราะเขาหลงใหลชีวิตแบบคนอิตาเลี่ยนด้วย คงไม่แปลกถ้าทิกเกอร์จะไว้ใจให้คิวนั้นเป็นคนเลือกคอนโดแทนเขา
ผมเดินไปที่ห้องครัว ทิกเกอร์เดินมานั่งอยู่ตรงเคาร์เตอร์ที่ติดอยู่กับห้องครัว ผมเปิดตู้เย็นดูอย่างไม่พูดอะไร ในตู้เย็นมีกุ้งแช่แข็งกับหมูสาหร่ายอยู่เท่านั้น ผักไม่พบอย่างอื่นนอกจากหัวหอม หัวมันและแครอท
“มีแค่นี้น่ะนะ” ผมหันไปบ่นอีกฝ่ายหน้างอ ทิกเกอร์ยิ้มแหย
“ผมไม่ค่อยได้ทำน่ะ”
“อ่ะ..” ทิกเกอร์ร้อง ตัวงอลงพร้อมกับกุมท้องของตนเองด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
“เจ็บท้องเหรอ..กินยาก่อนอาหารก่อนสิ” ผมบอก เดินออกมาจากครัวแล้วไปหยิบถุงยามาดู ผมหยิบยาก่อนอาหารออกมาและยื่นให้ทิกเกอร์
“ขอบคุณครับ” ทิกเกอร์รับไป ผมกลับเข้ามาทำอาหารง่ายๆ นั่นคือโจ๊กซองนั่นเอง ผมใส่กุ้งและหมูสาหร่ายเพิ่มเข้าไปเพื่อจะได้มีสารอาหารบ้าง ของง่ายๆแบบนี้ไม่นานก็ทำเสร็จ ก่อนจะนำมาเสิร์ฟให้ทิกเกอร์ที่โต๊ะอาหาร
“ไปไหนอ่ะ” อีกฝ่ายถาม
“กลับสิ” ผมตอบ
“กินเสร็จก็กินยาหลังอาหารด้วยล่ะ” ผมสั่งเสีย
“ไม่เอา ฟ้าอ่ะ..อยู่ก่อนนะครับ ทำไมฟ้าต้องจ้องแต่จะกลับด้วย ตัวเองอุตส่าห์มาหาถึงที่นี่แท้ๆ” ทิกเกอร์พูด
“หุบ ปาก!” ผมกระแทกเสียงสูงจนทิกเกอร์ตะลึงตาโต
“อย่าพูดอะไรไม่เข้าหูได้ไหม” ผมเหวี่ยง ทิกเกอร์หุบปากเข้าหากันตามที่สั่ง
“.......................” เราต่างฝ่ายต่างเงียบ คงได้ยินเพียงแต่เสียงหายใจแรงจากผม
“ไปกินสิ กินเสร็จแล้วผมจะกลับนะ” ผมสั่งด้วยน้ำเสียงดุไม่เลิก ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำพูดของทิกเกอร์เมื่อกี้มันแทงใจดำผมเข้าอย่างจัง
“ก็ได้ครับ” ทิกเกอร์รับปาก เขาจับมือของผมให้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะด้วยกัน ผมยอมนั่งลงอย่างว่าง่าย ทิกเกอร์นั่งทานไปด้วยและเอาแต่จ้องหน้าผม ผมไม่ค่อยหันไปสบตาบ่อยนัก ตามองโฟกัสไปที่สระว่ายน้ำที่ด้านระเบียงห้อง จับจ้องมันอยู่อย่างนั้นนี่ละครับ ผมรู้สึกว่าผมนั่งอยู่อย่างนี้นานมาก เวลาผ่านไปเกือบสามสิบนาทีกว่าทิกเกอร์จะทานอาหารหมดชาม ปกติทิกเกอร์ก็เป็นคนทานอาหารช้าอยู่แล้ว เขาจะตักอาหารอย่างช้าๆ นำมันเข้าปากอย่างช้าๆและเคี้ยวละเลียดอย่างช้าๆ แต่ครั้งนี้ใช้เวลานานมากเกินความจำเป็นจนผมไม่ทราบว่าเขาแกล้งทานให้ช้าลงมากกว่าเดิมหรือเปล่า
“หมดแล้วก็เอาไปล้างด้วย” ผมสั่ง มองเหล่อีกฝ่าย
“เดี๋ยวมีแม่บ้านมาล้างให้” ทิกเกอร์บอก
“มือด้วนรึไง” ผมว่า
“ด้วน” ทิกเกอร์ย้ำด้วยสีหน้างงๆ
“คุณน่ะ..ไม่มีมือล้างเองรึไง” ผมกัดฟันว่าพร้อมกับทำตาขวางใส่
“ค้าบ..ล้างเองก็ได้” ทิกเกอร์ลุกขึ้นและเดินนำชามเข้าไปในครัว ผมย่องออกจากเก้าอี้และเดินมาใส่รองเท้าอย่างเงียบๆ ทิกเกอร์ที่มัวแต่มุ่งมั่นล้างชามเพียงชามเดียวนั้นคงไม่ทันได้สังเกตหรือได้ยินเสียง
แกรก~
“เอ๊ะ..ฟ้า!” อีกฝ่ายร้องเสียงหลงเมื่อหันกลับมาเห็นว่าผมเปิดประตูห้องออกแล้ว
“หึ..” ผมหัวเราะให้ ทิกเกอร์หน้าเหวอเหมือนทำอะไรไม่ถูก นั่นยิ่งทำให้ผมอดขำไม่ได้
“บาย” ผมโบกมือและยักคิ้วกวนให้อีกฝ่ายก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมาขึ้นลิฟต์
เฮ้อ..ทำไมผมถึงรู้สึกสนุกขนาดนี้กันนะ ความรู้สึกเหมือนกับครั้งแรกนี่มันอะไรกัน ผมกำลังล้ำเส้นของตัวเองอยู่รึเปล่า ถ้าผมล้ำเส้นของตัวเองอย่างเกินความจำเป็นแล้วละก็..ผมคงจะควบคุมมันไม่อยู่แน่ๆเชียว
.................>>>><<<<...................
-
ฟ้าแกล้งทิกเกอร์แรงอะ เปนคนกินเผ็ดไม่ได้เหมือนกันเข้าใจเลยเวลาต้องกินอะไรที่เผ็ดมากๆรู้สึกยังไง :m15: น้ำตามันจาไหลเองเลย แต่ก็ยังอุส่าเปนห่วงเอายามาให้น่ารักมากค่ะ เลขาทกเกอร์จะมาดีมาร้ายต้องดูกันต่อไป :z2: :z2:
:กอด1: :กอด1: ขอบคุณพี่บี้ค่ะ
-
สงสัยจะไม่แคล้วคลาด ทิกเกอร์แน่ๆเลยใช่ม่ะเนี่ย :z3:
-
เริ่มมีสัญญาณดีๆเกิดขึ้นบ้างแล้ว รอลุ้นต่อไป
ว่าจะใจอ่อนได้อีกมั้ย o13
-
ทิกเกอร์สู้สู้ :ped149:
-
ลงทุนแกล้งเอง มาเยี่ยมเองแบบนี้...
เดี๋ยวแพ้ภัยตัวเองแน่ๆอ่ะค่ะพี่ฟ้า อิอิ :กอด1:
-
เชียร์ทิกเกอร์เหมือนกัน
ยัยเลขาฯ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ :m16:
+1
-
แอบสงสารทิกเกอร์ เล็กน้อยถึงปานกลาง :z2:
คิดถึงน้องเค้กจังเลยอ่าคับเบบี้
ขอบคุณที่มาต่อให้น๊า รออ่านตอนต่อไปคับ :L2:
-
ทิกเกอร์ :-[
-
ฟ้าแกล้งทิกเกอร์แรงไปหน่อยมั้ง
สงสารทิกเกอร์ :เฮ้อ:
-
ให้ความรู้สึกเหมือนอาฟ้ากำลังแกล้งเด็กเลย :เฮ้อ:
-
ให้กำลังใจทิกเกอร์ :3123:
-
อาฟ้าอ่ะ "แข็ง"อยู่ได้ (อะไรแข็ง??) :-[
"ใจ" อ่ะแข็งอยู่ได้ ทิกเกอร์น่าสงสารมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าอาฟ้าแกล้ง ก็ยังยอมให้ทู้กอย่าง
สักวันเหอะ จะยุให้ทิกเกอร์ "แข็ง" มั่ง (ไรแข็งอีกอ๊า~??) :z1:
ถ้าทิกเกอร์ "แข็ง" เมื่อไหร่ รับรองอาฟ้าเตรียมตัวเจ็บอวัยวะเบื้องล่างแน่ :oo1:
-
พี่ฟ้า เลือกเหอะ ทิกเกอร์ไม่อยู่ในกำมือนานนะ ชะนีจ้องงาบเยอะ
-
ทิกเกอร์โดนฟ้าแกล้งตลอดเลย
ทนๆ เอาหน่อยนะ
คิดซะว่าเค้าแกล้งก็เพราะเค้ารักแล้วกัน
-
สงสารทิกเกอร์อ่ะ :กอด1:
ทิกเกอร์น่ารักจะตาย เมื่อไหร่อาฟ้าจะใจอ่อนซะที :m16:
:pig4:
-
o13 สนุกมาก
-
:pig4: :pig4: :pig4:
:L2:
:L2:
:L2:
-
ทิกเกอร์นายน่าจะป่วยหนักกว่านี้นะ :เฮ้อ: อาฟ้าจะได้อยู่นานกว่านี้
อาฟ้าน่ารัก
+ ให้น้องบี้คนงามจ้า
-
:L2: :L2: :L2:
-
กะกริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฉลองเปิดเล้า ด้วยตอนใหม่
เอาไปเลย +1 คร่าาาา คุณบี้
อาฟ้า แกล้งทิกเกอร์ อ่ะ น่าสงสาร ท้องเสียเลย แต่ทิกเกอร์คงยอมให้แกล้งบ่อยๆ
อาฟ้าจะได้มาทำดจ๊กให้กิน แล้วๆๆๆๆ :o8: :-[
อาฟ้าคงใจอ่อนเข้าสักวันเนาะ สู้ๆ นะ ทิกเกอร์ o13
-
สงสารทิกเกอร์ ฟ้าแกล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :monkeysad:
-
เง้ออออออ อาฟ้าขี้แกล้งงงง งอน 2 วินาที
ทิกเกอร์ ตอนแรกสงสาร ตอนอ่านจบตะหงิดๆๆ
ไลล่านิแ่ค่ลูกน้องใช่ป่าว ต้องใช่ลูกน้องนะ แค่เลขานะแค่เลขา
ถ้าทิกเกอร์ทำผิดอีกเขาให้จะอาฟ้า ลงโทษ
หายงอนอาฟ้าแล้ว อาฟ้าไม่ได้ล้ำเส้นหรอก แค่ทำตามหัวใจตัวเองที่เรียกร้อง
ฮิ้วววววว *0* รอคอยตอนต่อไปฮ้าบบบ คนแต่งสู้ๆๆๆๆ
-
ดูจะดีขึ้นแล้วต่อไปคงรอเพียงเหตุผลที่ว่าทำไมเท่านั้นเอง ฟ้าอย่าเพิ่งใจอ่อนนะจนกว่าจะรู้
:pig4: คะ
-
อ่าาาาา
ยัยไลลาอาจเป็นปัญหามาก
ชิ!!
แต่อาฟ้าเริ่มมีความรู้สึกมากกว่าจะเฉยๆ
ดีใจแทนทิกเกอร์
-
พี่ฟ้าจะหลงรักทิกเกอร์รอบสองแล้วหล่ะสิ :impress2:
-
ทิกเกอร์จะเป็นพ่อหนุ่มที่หน้าหลงไหลเข้าไปทุกทีแล้วสิเนี้ย เป็นคนมีเสน่ห์สุดๆไปเลยอ่ะ (แกจะเว่อร์ไปไหม)
น่ารักเกินพิกัด ฮ่ าา หลงอ่ะตอนนี้ (ตั้งแต่อ่านนิยายของ เบบี้ มารู้สึกว่าจะหลงรักเกือบทุกคน ถ้าให้เลือกคงเลือกไม่ถูกอ่ะ แบบรักพี่เสียดายน้องประมาณนั้นกันเลยละค่ะ)
ตอนนี้แกล้งทิเกอร์วนรถไปมาแบบนี้แอบอยากอยู่กับทิกเกอร์นานๆ รึเปล่าค่ะเนี้ยอาฟ้า
ชอบจังเวลาพี่คิวเรียกอาฟ้าว่า "อา" อ่ะ ดูอบอุ่นดีจัง เป็นอาหลานที่น่ารักกันจริงเลย
แอบคิดถึงน้องเค้กด้วยอ่ะ
กำลังสนุกสินะค่ะอาฟ้า แบบนี้ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วแหละค่ะ :impress2:
-
สงสารทิกเกอร์ก็สงสาร ตลกก็ตลกนะ
อาฟ้าก็ช่างทำได้ เหมือนจะใจร้าย
แต่ก็เป็นห่วงเค้าอยู่ดี ถึงเหมือนถูกบังคับก็เหอะ
ส่วนคุณเลขานี่คงต้องดูกันอีกทีนึง
จะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าก็ไม่รู้
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
พี่ฟ้ามัวแต่แกล้ง มัวแต่งอนทิกเกอร์ ระวังเหอะคุณเลขาจะงับพุงขาวๆของทิกเกอร์ไปกิน
แล้วพี่ฟ้าจะน้ำตาเช็ดหัวเข่า เพราะขนาดแค่เห็นเค้ามา ตัวยังอึ้งไปไม่เป็นขนาดนี้ ถ้าเค้าเอาไปจริงๆพี่ฟ้า จะ so sad ขนาดไหน
ฉนั้น!!! งอนแต่พองาม ถ้าใจยังมีทิกเกอร์อยู่
-
ทำไมอาฟ้า ชอบแกล้ง ทิกเกอร์อ่ะ
สงสารทิกเกอร์ ถึงจะรู้ว่าทิกเกอร์ทำให้อาฟ้า เสียใจ
แต่อาฟ้า ทำแบบนี้ก็เกินไปอ่ะ
-
ยกป้ายไฟ เชียร์ทิกเกอร์
เวลาอ่านคู่นี้ทีไรแล้วอมยิ้มนิดๆ
มีความสุขอ่ะ 5555
-
ตอนนี้ น่ารักจังเลย
ทิกเกอร์ กับ ฟ้า น่านักนะเนี่ย
ฟ้า กับ คิว นี้คล้ายๆกันนะ ชอบใคร ก็แกล้งคนนั้น
-
อาฟ้าแกล้งทิกเกอร์แรงนะเนี้ย สำหรับคนกินเผ้ดไม่ได้นี่อาจถึงขั้นต้องให้น้ำเกลือ
แต่อาฟ้าทำแบนี้ ซึ่งต่างจากตอนจักร...แบบนี้อาฟ้าก็ยังมีใจให้ทิกเกอร์ใชาม่ะ :z1:
-
สงสารทิกกี้ โดนแกล้งไปแรงมาก
แต่เหมือนจะเห็นสัญญาณอะไรดีๆ แว้บๆ เข้ามา
ขอให้เป็นอย่างที่หวังด้วยเถอะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ตอนฟ้าอยู่กับทิกเกอร์เหมือนเด็กเลยอ่ะ ชอบ ชอบ
-
แกล้งเขาไว้เลยต้องมาดูแลเลยเห็นไหม
แล้วจะเห็นใจทิกเกอร์เมื่อไหร่กันละฟ้า
-
เหอะ เหอะ :เหอะ1:
-
สงสารทิกเกอร์ :กอด1:
-
อดทนอีกหน่อยนะทิกเกอร์..ท่าท่างฟ้าจะใจอ่อนลงนิดนึงแล้วอ่ะนะ
-
:pig4:
-
เราว่าฟ้าหนีใจตัวเองไม่พ้นหรอก เพราะมันเริ่มออกมาให้เห็นกันอยู่ทุกตอน ตอนอยู่กันทิกเกอร์อาฟ้าน่ารักมากเลยนะ^-^
-
ฟ้านี่น้า แกล้งเพราะรักหรือเปล่า :z1:
ทิกเกอร์ความอดทนเป็นเลิศเลยอะ เมื่อไหร่ฟ้าจะใจอ่อนก็ไม่รู้ แต่เชียร์สุดใจขาดดิ้นไปเลยนะทิกเกอร์ :กอด1:
-
ทิกเกอร์น่าสงสารอ่ะ
โดนพี่ฟ้าแกล้งซะ555555
แต่ก็ยังอุตส่าห์เอายาไปให้เค้านี่เน้ออ คึคึ :impress2:
-
ทิกเกอร์โดนหนักกว่าจักรเยอะ
สงสัยมีพรรคพวกหนุนหลัง
ฟ้าเลยแกล้งซะ
-
สงสารทิกเกอร์โดนแกล้งอ่ะ ตอนแรกนึกว่าจะเข้าโรงพยาบาลแล้วนะ :m29:
-
อาฟ้าอย่าใจร้ายกะทิกเกอร์เล้ย
น่ารักและแสนดีอย่างงี้หายากนะเนี่ย
ใจอ่อนเร็วๆนะค้า
-
มองยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์ค่ะ
เพราะฟ้าดูมีความสุขกว่ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
พี่ฟ้าแกล้งทิกเกอร์ :sad4:
-
อาฟ้าเจ้าเล่ห์ o18 o18
-
หึหึึหึ
สมน้ำหน้าทิกเกอร์นะ นี่ยังน้อยไป แต่อาฟ้าสุดจะใจอ่อน กับทิกเกอร์จริงๆ ต่างกับอาจักรสุดๆ
ถึงเวลาก็กลัวเค้าเสียใจ
อาฟ้าต้องโหดกว่านี้หน่อย นะ อ่านตอนนี้หวานยังไงไม่รู้ :o8: :o8:
-
อาฟ้าใจร้ายมากอ่ะ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีมุมที่น่ารักๆ เสมอ
สงสารทิกเกอร์ โดนแกล้งจนถึงกับท้องพังกันเลยทีเดียว
-
ท่าทางทิกเกอร์จะมาวินแฮะ หุหุ :z2:
-
ได้คะแนนเยอะเลยนะคราวนี้ทิกเกอร์
-
อาฟ้าแกล้งทิกเกอร์แรงมากกกกกกก แอบสงสารทิกเกอร์อะแต่ฮามากกว่า =w=
-
:อ๊ากกกกกกกกก สงสารทิกเกอร์อะ อาฟ้าก็ใจแข็งน่าดูเลยเนอะ แกล้งแรงด้วยอ่า
ไม่กลัวทิกเกอร์เข้ารพ.หรอ :z3:
อ่านถึงตอนนี้ ไม่ว่ายังไงก็เชียร์ทิกเกอร์นะ ทิกเกอร์นิสัยน่ารักมาก ยอมฟ้าทุกอย่างเลย
แต่พอถึงสถานการณ์ขับขันก็พร้อมจะจริงจังและรั้งอาฟ้าไว้ เฮ้ออออ อาฟ้าใจอ่อนเถอะนะ :monkeysad:
-
o13
-
ฟ้าน่ารักเสมออ่ะ :-[ :กอด1:
-
สงสารทิกเกอร์โดนอาฟ้าแกล้งให้กินเผ็ด เราเองแต่ก่อนแทนเผ็ดจัด แต่เดี๋ยวนี้แค่พริก 1-2 เม็ดก็แสบท้องต้องทานยาเคลือบ มันทรมานมากๆ ดีนะที่อาฟ้ารู้สึกผิดเลยเอายาไปให้ทิกเกอร์
เลขาทิกเกอร์คงไม่คิดอะไรกับเจ้านายตัวเองหรอกนะ ไม่งั้นทิกเกอร์แย่แน่ๆ กว่าจะได้คืนดีกับอาฟ้า
กดโหวต และ+เป็ดน้อย ให้คนเขียนค่ะ
-
ทนอีกนิดนะทิกเกอร์ เป็นกำลังใจให้ 555
-
บ๊ะๆๆ อาฟ้าตอนอยู่กะน้องทิกก์ น่าร๊ากอ่าาาา :-[
-
สงสารทิกเกอร์สุดใจค่ะ :กอด1:
พี่ฟ้าอย่าแกล้งนานนะคะ
-
ทิกเกออออออออออออร์ :z3: :กอด1:
-
:serius2:สงสารทิกเกอร์
-
ฟ้าน่ารักดีค่ะ :-[
-
ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ :-[
-
อาฟ้ากับทิกเกอร์น่ารัก มากเลยค่ะ ชอบๆๆ
-
สงสารทิกเกอร์ที่สู้ดดดดดดดดดดด
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ทิกเกอร์ของเจ๊ เจอศึกวันแดงเดือดถึงกับจูดเลยทีเดียว :laugh:
แต่ก็คุ้มอยุอ่ะนะ ><".
P.S. ชอบอาฟ้าอยุกะทิกเกอร์อารมณ์เหมือนเด็กดี
-
ฮ่าๆๆๆ อาฟ้านี่ก้อร้ายไม่น้อยไปกว่าคิวเลย อาหลานคู่นี้เหมือนกันจริงๆ
คราวนี้ ทิกเกอร์ก้อเลยโดนแกล้งไปซะ น่าสงสาร
แต่เดี๋ยวฟ้าก้อใจอ่อนเองหล่ะ ทิกเกอร์สู้ๆ
รอลุ้นตอนต่อไปครับบบ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ฟ้าใจร้ายยย
-
ฟ้ากับทิกเกอร์น่ารักทั้งคู่เลยอ่ะ เหมาะกันๆ ถึงตอนนี้ฟ้าจะใจร้าย แต่เดี๋ยวก็ใจอ่อนเน๊อะ ทิกเกอร์สู้ๆ
-
ฟ้าช่วยล้ำเส้นกับทิกเกอร์บ่อยๆก็ได้
เีชียร์ทิกเกอร์ออกนอกหน้า
-
พี่ฟ้าแร๊งส์.........ชอบแกล้งอ่ะ........
แต่คงไม่สู้พี่คิวหรอกมั้งงงงง....... :z1: :z1:
รอพี่ฟ้าต่อค่ะ......
-
:กอด1: :pig4: :pig4:
-
ใจอ่อนเร็วๆๆๆนะ สงสารทิกเกอร์อะ
ผู้ชายอะไรน่ารักจิงๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดูทิกเกอร์กะคิวจะเข้ากันได้ดีแบบสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:-[ :-[
-
โหยยยยยยย ฟ้าแกล้งทิกเกอร์แรงไปเปล่า คนกินเผ็ดไม่ได้แล้วเจอพริกไปขนาดนั้นมันทรมานอยู่นา ชอบเวลาฟ้าอยู่กับทิกเกอร์อ่ะเหมือนเด็กขี้แกล้งเลย แต่เวลาอยู่กับจักรฟ้าจะออกแนวพูดให้สะอึกมากกว่า เหมือนรู้ทันทำนองนั้น ฟ้าเอ้ยถ้ามันจะถลำลึกก็ปล่อยให้มันเป็นอย่างที่ต้องการเถอะ ว่าแต่ยัยไลลาอะไรนั่นคงจะไม่มาสร้างเรื่องให้ดราม่าหรอกนะ
-
สงสารทิกเกอร์จังโดนฟ้าแกล้งตลอดเลย
-
:serius2: อ๊ากกกกกกกก ทำไมมันจบตอนแล้วอะ
มันสนุกมากจนอยากให้มันยาว ยาววมาก ๆ อะพี่บี้
อาฟ้ามีแววเสร็จทิกเกอร์ ทิกเกอร์นี่แหละใช่เลย
-
ฟ้าสนุกใหญ่เลย ได้แกล้งทิกเกอร์แบบนี้
งั้นก็ตัดสินใจเลือกคนนี้ไว้แกล้งต่อไปเถอะ
ส่วนจักรก็ไม่ต้องให้ดข้ามาวุ่นวายด้วยอีกแล้ว
สงสารทิกเกอร์
:L2: :L2:
-
ความรู้สึกของทิกเกอร์ ที่ต้องกินก๊วยเตี๋ยวเผ็ด ๆ นี้ เข้าถึงอารมณ์ได้โดยไม่ต้องจินตนาการเลย เพราะกินเผ็ดไม่ได้เหมือนกัน
แอบหมั่นไส้ฟ้านิด ๆ ตอนนี้ :a14: อีกหน่อยเหอะ เมื่อโดนเอาคืนมั่งจะรู้สึก ( ห้ามคิดลึกนะครับ ) :z1:
+1 ให้เบบี้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
อาฟ้าอย่าเพิ่งยอมนะคะ เดี๋ยวได้เจ็บอีกอ่ะ รอตอนต่อไปค่า
-
ฟ้านี้ร้ายจริงๆ แกล้งทิกเกอร์แรงนะเนี่ย ทำเค้าเจ็บแล้วก้อต้องมาดูแลเค้า ตกลงนี่ฟ้าแกล้งทิกเกอร์หรือแกล้งตัวเอง
-
แง้อ่านไปอ่านมาแอบเชียร์ทิกเกอร์มากขึ้น ๆ
จะเป็นไงต่อนะ ลุ้น ๆ
-
สงสัยว่างานนี้ ทิกเกอร์จะชนะใสๆเลยนะเนี่ย :laugh:
-
ฟ้าแกล้งทิกเกอร์เอาซะท้องเสียเลยยย :z1: :z1: :z1:
-
สงสารทิกเกอร์
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะดีขึ้นเพราะว่าป่วย แต่ได้พยาบาลดี
-
ทิกเกอร์จงรักษาความพยายามต่อไป อย่าให้มีอุบัติเหตุอะไรเข้ามาที่ทำให้ฟ้าต้องตัด ฉับๆ เลยนะ ทุกคนเชียร์อยู่
(แอบรู้สึกระแวงอยู่ที่บอก ระวังจะหลงรักกฤษ ไม่รู้ตัว)
-
น่าสงสารทิกเกอร์.......พี่ฟ้าใจร้ายอ่ะ!
แต่ก็แอบเป็นห่วงทิกเกอร์ใช่ม่ะ
ถึงได้ตัดสินใจซื้อยาไปให้อ่ะ
-
:impress2:ฟ้ายอมเปิดใจรับทิกเกอร์อีกครั้งแล้ว. ลุ้นๆเชียร์ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆๆๆ :z2:
-
วิธีหลอกล่อ เบี่ยงเบนความสนใจ
แล้วแอบหนีไปตอนเผลอ
เหมือนหลอกล่อเด็กๆ เลย o18
:กอด1:
-
:3123: :3123: :3123:
-
ล้ำเส้นเข้าไปเยอะๆเลยจ้าอาฟ้า อิอิ
ทิกเกอร์ สู้ๆๆ :ped149: :ped149:
-
สงสารทิกเกอร์และนะ
-
~12~
การที่ผมเลือกหนีออกมาจากห้อง มันเหมือนกับมีความรู้สึกบางอย่างบอกกับผมว่า “ระวังนะ” ซึ่งมันขัดแย้งกับความสุขที่มีอยู่เสมอ บางคนมักพูดว่า “อดีตก็คืออดีต” พูดแบบนั้นกลอกหูผม กลอกสมองผมเหมือนกับเขาเป็นผมอย่างนั้น มันน่าขัน ไม่มีทางมีใครเข้าใจหัวใจของกันและกันได้อย่างเด็ดขาดถ้าไม่เคยโดนด้วยตนเอง เจ็บปวด เหนื่อยอย่างแสนสาหัสกว่าจะผ่านช่วงเวลานั้นมาได้..
สำหรับผม อดีตสอนอะไรได้หลายๆอย่าง เพราะอดีตไม่ใช่หรือทำให้ผมมีวันนี้ เพราะอดีตไม่ใช่หรือที่ทำให้ผมเป็นคนแบบนี้ เพราะอดีตไม่ใช่หรือที่ผมเติบโตขึ้นได้ถึงขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะมีกี่คนก็แล้วแต่พยายามพร่ำบอกให้ผมลืมอดีตอันแสนเจ็บปวดเพื่อความสุขของตัวผมเองสักที ถึงแม้ผมจะยิ้มตอบพวกเขาไป แต่หัวใจผมกลับตอบเสียงดังว่า “ไม่..ไม่มีทาง” มันชัดถ้อยชัดคำอยู่แน่นอก ไม่ว่าอดีตจะเจ็บปวดมากแค่ไหน หรือไม่ว่าอดีตนั้นจะแสนสุขมากเท่าไหร่ อดีตส่งผลถึงปัจจุบัน ผมมักหยิบอดีตมาเพื่อให้ตัวเองได้เดินไปข้างหน้า อดีตทุกอย่างที่ผ่านมาสามารถสอนผมได้ทุกย่างก้าว ผมจะหันกลับไปมองอดีตทุกครั้งถ้าผมรู้สึกท้อแท้ ผมจะหันกลับไปมองมันอย่างตั้งใจและละเมียดละไม ผมไม่เคยลืม..และไม่สามารถลืมมันได้อย่างแท้จริง
5 ปีก่อน ณ ประเทศอิตาลี..
“The reason I want to see you today is because we should end this now.” ผมพูดเสียงเรียบ พร้อมกับยิ้มน้อยๆอย่างให้กำลังใจกันและกัน คนตรงหน้าผมคือคนรักคนที่สองในชีวิตของผม แต่หลังจากนี้ต่อไปเขากำลังจะกลายเป็นเพียง..อดีต อย่างเช่นคนรักคนแรกเป็น
ก่อนหน้านี้หลังจากที่ผมช็อกกับเรื่องราวที่ไม่ทันได้ตั้งรับ ปูนเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟังซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าปูนจะโกหกผมอีก เขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรอีกทั้งยังรับรู้ว่าผมนั้นเจ็บปวดมากแค่ไหน ผมพยายามยอมรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ผมหลบหน้าทิกเกอร์อยู่เกือบอาทิตย์ หลังจากนั้นผมก็เดินทางกลับประเทศไทยคนเดียว ใช้ชีวิตอย่างย่ำแย่อยู่ที่ประเทศไทยชั่วครู่ชั่วคราว ช่วงนั้นร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์และบ้านของผมกำลังก่อสร้าง อะไรหลายหลายอย่างถึงแม้จะยังไม่ลงตัวแต่ก็เป็นไปได้ด้วยดี ผมกลับมาจัดการงานที่นี่บวกกับต้องการตั้งสติ ผมไม่ได้บอกให้ทิกเกอร์ทราบเรื่องการเดินทางกลับมาในครั้งนี้ แต่ผมคิดว่าทิกเกอร์คงจะทราบได้เอง หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือนผมเลือกที่จะเดินทางกลับมาที่ประเทศอิตาลีอีกครั้งเพื่อมาสะสางเรื่องทั้งหมดให้เสร็จสิ้น ทุกอย่างจะได้หายข้องใจและต่างฝ่ายจะได้เดินไปข้างหน้าสักที เราย่ำอยู่กับที่มานานเกินไปแล้ว
“......................” ทิกเกอร์จ้องหน้าผมเขม็ง สีหน้าของเขาเศร้า ผมไม่ได้รู้สึกสงสารเขามากไปกว่าการที่ผมกำลังสงสารตัวเองกับการที่จะต้องพูดคำพูดต่อไปนี้
“I love you.” ทิกเกอร์พูดขึ้นโต้งๆเหมือนต้องการบอกกล่าวย้ำสิ่งที่ผ่านมาไว้ล่วงหน้า เหมือนกับเขารู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อจากนี้
“หึ..” ผมยิ้มกว้าง กุมมือของตัวเองที่อยู่ใต้โต๊ะเข้าหากันแน่น ผมก้มหน้ามองจานอาหารตรงหน้าอีกครั้งก่อนจะเงยหน้ายิ้มให้ ผมสูดหายเข้าอย่างรวบรวมความกล้า กล้าที่จะหักล้างทุกอย่างลงตรงนี้
“I love you too.” ผมพูดตอบ กัดฟันแน่นอย่างช่วยข่มหัวใจตัวเอง ผมรับรู้ได้ถึงหยดน้ำตาของตัวเองที่ไหลลงอาบแก้ม ผมไม่รู้ว่าทำไมคำพูดนี้ถึงหลุดออกไป คำพูดที่ผมไม่ควรพูดแล้วเสียด้วยซ้ำ ทิกเกอร์เอื้อมมือข้ามโต๊ะมาเพื่อเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ เขาลูบแก้มผมอย่างเบามืออยู่อย่างนั้น ผมจับมือของทิกเกอร์ออกอย่างช้าๆ ทิกเกอร์เท้าแขนลงบนโต๊ะ มือของเขากุมเข้าหากันก่อนที่ทิกเกอร์จะก้มหน้าลง เรานั่งจมความเงียบกันอยู่นาน ร้านอาหารร้านนี้ช่างเงียบเหงา ช่างเป็นบรรยากาศที่เป็นใจเอาเสียมากๆ
“I'm not angry at you anymore, but it doesn't mean..that I forgive you for all the lies you made these whole times.” ผมพูดขึ้น ทิกเกอร์เงยหน้าขึ้นมองผมทันที
“แน่ล่ะ ผมเองก็ไม่ชอบคนโกหก..คงไม่มีใครชอบให้ใครมาโกหกตัวเอง แม้กระทั่งคนที่ชอบโกหกก็ตาม” ทิกเกอร์จ้องผมด้วยสีหน้าเศร้าไม่แพ้กัน เราต่างฝ่ายต่างเงียบลง เหมือนทิกเกอร์กำลังรอให้ผมพูดอะไรมากกว่านี้
“ผมไม่อยากรู้ด้วยว่าคุณรักผมหรือผู้หญิงคนนั้นมากกว่ากัน ขอให้รู้ไว้ทิกเกอร์..ว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไป” ผมพยายามฝืนยิ้มออกมา
“ผมแย่งคุณมาจากเธอ”
“คุณเปล่า” ทิกเกอร์พูดแทรกขึ้น
“ผมทำ” ผมย้ำพูด เราจ้องตากันอย่างเข้าใจว่าที่ผมพูดนั้นคือความจริง
“ถ้าไม่มีผม..”
“ถ้าผมไม่เริ่มด้วย เราคงจะไม่ได้รักกัน” ทิกเกอร์พูดแทรกอีกครั้ง ทำให้ผมชะงัก ผมหลับตาลงช้าๆและกำลังตั้งสติไม่ให้ตัวเองนั้นหลงตัวเองจากคำพูดที่ไม่ถูกต้องนี่ ถึงผมจะเริ่มจีบทิกเกอร์ก่อนแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความจริงแล้วการที่ผมได้เบอร์ของเขามาไว้กับตัวนั้น ผมไม่กล้าโทรไปหาเขาก่อน ผมเก็บเบอร์นั้นไว้อยู่เกือบอาทิตย์ หลังจากนั้นมันเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทิกเกอร์เข้ามาทักผมที่มหาลัย หลังจากนั้นเราก็สนิทกันและทำให้ผมกล้าที่จะโทรไปหาเขาอย่างที่เคยทำปากดีเอาไว้..
“ทิกเกอร์ ฟังผมได้ไหม” ผมเอ่ย
“เราควรหยุดสักที ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย..และเธอไม่ควรรับรู้เรื่องแบบนี้”
“เธอกำลังมีลูกให้คุณ นั่นคือลูกของคุณ..เลือดเนื้อของคุณ” ผมพูด ปากของผมสั่น ผมพยายามควบคุมให้มันเป็นปกติแล้ว แต่มันทำได้ยากมากเหลือเกิน ผมควรทำตัวเองให้มั่นใจว่าผมนั้นแข็งแรงต่อหน้าเขา ไม่อย่างนั้นคนอย่างทิกเกอร์จะต้องลังเลและรู้สึกผิดอย่างแน่นอน
“ที่จริงเราไม่ได้คบกันตั้งแต่แรกแล้ว เราแค่หลงระเริง หรืออาจลืมตัว” ผมพูด ทิกเกอร์ตาแดง ผมหันหน้าหนีมองออกไปนอกกระจก ถ้าผมยังจ้องหน้าเขา ผมอาจจะไม่สามารถพูดประโยคต่อไปได้
“ได้โปรด อย่าทำให้ผมรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้..หยุดเพียงเท่านี้เถอะนะครับ”
“กลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนอย่างเดิมเถอะ ผมขอร้อง” ผมพูดอ้อนวอน ผมไม่อยากให้ทิกเกอร์ตัดสินใจ ไม่ว่าจะกรณีใดๆทั้งสิ้น
“อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ร้านอาหารของผมคงเสร็จ..ผมต้องกลับไปอยู่ที่ไทยถาวร คุณเอง..ก็ควรดูแลตัวเองนะ” ผมยิ้มน้อยๆ ทิกเกอร์เอาแต่นั่งเงียบ แน่นอนว่าไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร ผมก็จะไป ผมตัดสินใจแล้ว ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดจริงๆ
“เธอเป็นคนสวยนะ” ผมบอกเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศและยิ้มให้
“.....................” ทิกเกอร์พยักหน้าและยิ้มตอบอย่างเข้าใจว่าผมเพียงต้องการพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น
“ลาก่อน” ผมพูดเสียงเบา มันเบามากแม้กระทั่งผมเองที่เป็นคนพูดนั้นยังแทบไม่ได้ยิน ทิกเกอร์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมอีก เขานั่งก้มหน้า ตัวเขาแข็งทื่ออย่างกับท่อนไม้ ผมเดินออกมาและไม่หันกลับไปมองอีก
ผมรู้ตัวดีว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ มรสุมนี้มีทางแก้ไขปัญหา และทางออกนั้นง่ายนิดเดียวอีกด้วย คนหนึ่งควรเลือกที่จะเอ่ยพูดก่อนและตีตัวจากไป แม้ว่าจะมีคนหนึ่งคนหรือสองคนที่เจ็บปวดแสนสาหัสเพียงไร ก็ยังดีกว่าเจ็บปวดถึงสามคนแล้วเหตุการณ์ย่ำแย่ลงกว่าเดิม โดยปกติแล้วทิกเกอร์เป็นผู้ชายอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าภรรยาของทิกเกอร์มารู้เรื่องนี้เข้า ผมคิดว่าเธอคงจะช็อกมาก ผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะผมรู้ดีว่าการที่มารู้ว่าแฟนของตัวเองไปมีคนอื่นนั้นเจ็บปวดมากแค่ไหน มันทั้งผิดหวังและมึนงงคล้ายกับใครเอาค้อนมาทุบหัวอย่างแรง เพียงแค่ผมที่เป็นผู้ชาย กว่าจะหลุดพ้นจากจักรที่เขานอกใจผมออกมาได้ ผมยังต้องใช้เวลานานแสนนานเพื่อเยียวยาหัวใจ แล้วเธอล่ะ..เธอเป็นผู้หญิง เธอเป็นคนรักของทิกเกอร์ที่คาดหวังในตัวทิกเกอร์ เขาสองคนรักกันมานาน เธอกำลังมีลูก เธอควรจะมีชีวิตที่ดี อย่างน้อยก็ไม่ควรมารับรู้เรื่องแย่ๆแบบนี้
อันที่จริงแล้ว ที่ผมกลับมาในครั้งนี้นั่นคือผมตัดสินใจดีแล้วว่าผมจะเดินทางไหน ผมไม่ต้องการฟังว่าทิกเกอร์จะเลือกข้างใด ผมไม่ต้องการมาฟังว่าทิกเกอร์จะเลือกผม หรือ เธอ..นั่นไม่ใช่คำตอบที่ดี ไม่ว่าทิกเกอร์จะเลือกผมโดยการบอกเลิกเธอ หรือแม้กระทั่งผมจำยอมด้วยรักที่จะแอบคบกับทิกเกอร์ต่อไป นั่นไม่มีอะไรดีสักอย่าง เมื่อมองไปถึงอนาคตทิกเกอร์ที่จะโดนตราบาปในใจไปอย่างไม่สามารถหวนกลับมาได้ สิ่งที่ดีที่สุดคือการที่ผมควรจะเดินออกมา และคืนคนของเขาให้กับเจ้าของไป อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าคนจะพูดอย่างไรก็ไม่เท่ากับการตัดสินใจของตัวเอง ไม่ว่าจะมองมุมกลับไปทางไหน มันก็ผิดบาปไปซะหมด ถ้าจะมีคนบอกว่า “ไม่ผิดสักหน่อย คุณไม่รู้นี่ว่าเขามีเจ้าของอยู่แล้ว” แต่ตอนนี้คุณรู้แล้ว การที่คุณรู้แล้วนั่นแหละคือจุดสำคัญที่สุด ทั้งหมดทั้งมวลผมไม่สามารถทำได้ลงจริงๆ ผมไม่สามารถเข้าข้างตัวเองเพียงเพราะให้ความสำคัญกับคำว่า “รัก” ได้ ผมไม่สามารถเดินต่อไปกับเขาได้อย่างยืดอกและมีความสุขบนความเยือกเย็นนั่น มันไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเสียเต็มปากเต็มคำ เพราะบาป..ก็คือบาป ถ้าจะไม่หลอกเข้าข้างตัวเองไปวันๆ ตัวคุณนั่นแหละที่รู้ดีอย่างที่สุด
= = = = = = = =
ปัจจุบัน ณ โรงแรม..
“คุณจะไปแล้วเหรอ” ผมหันกลับไปมองผู้ชายคนหนึ่ง เขาน่าจะชื่อ..จอห์น เราเจอกันที่เล้าจน์ของโรงแรมประจำของผม หลังจากที่ผมออกมาจากคอนโดของทิกเกอร์ ผมไปขลุกอยู่ที่เล้าจน์ของโรงแรมตั้งแต่บ่ายโมง เราเจอกันที่นั่น พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน ผมทราบเพียงแค่ว่าเขาเป็นนักธุรกิจชาวสิงค์โปร มาสัมมนาที่ประเทศไทยได้สองวันแล้ว พูดไทยคล่อง หน้าตาดีมากอย่างกับดาราฮ่องกง ตัวสูงใหญ่และดูดี ปกติผมจะไม่ชอบพวกหื่นอย่างออกหน้าออกตา มันทำให้ผมหมดอารมณ์อยากเล่นด้วย และนานแล้วที่ผมไม่ได้นอนกับใครโดยให้อีกฝ่ายเป็นฝ่ายกอด ครั้งนี้ก็ไม่เลว แรกๆอาจจะไม่มีอารมณ์ร่วมเท่าไหร่ คงเพราะขาดหายบทบาทนี้ไปนาน อีกทั้งเป็นใครที่เพิ่งรู้จักด้วย รวมถึงเรื่องบ้าๆบอๆยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หยุด กว่าภาพนั้นจะออกจากหัวของผมไปได้ ก็คงตอนที่อีกฝ่ายทำให้ผมรู้สึกมีความสุขจนลืมที่จะไปคิดเรื่องอื่นละมัง
“อืม” ผมพยักหน้าตอบ เดินไปหยิบกางเกงมาใส่
“อยู่ต่อก็ได้ ไม่เห็นต้องรีบกลับเลยครับ..ผมทำหน้าเหมือนต้องการให้คุณไปอย่างนั้นเหรอ” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ ถ้าไม่ติดว่ามีเรื่องให้คิด ผมคงหลงน้ำเสียงของเขาไปแล้ว เพราะเป็นผู้ชายที่เสียงนุ่มมากทีเดียว ผมไม่ตอบเขา เดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตของตัวเองมาใส่
“คุณมีนามบัตรไหม” อีกฝ่ายถาม เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียง บนตัวยังคนเปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มปิดไว้ครึ่งตัว ผมหันกลับไปมอง
“ยังอยากติดต่อกับผมเหรอ ผมจนนะ..ขายตัวด้วย” ผมยิ้มตอบ
“จริงเหรอ..งั้นผมขอซื้อให้อยู่ต่อจะได้ไหม” อีกฝ่ายย้อน รอยยิ้มน้อยๆปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
“....................” ผมชะงัก ยืนจ้องหน้าเขาอยู่นาน
“แล้วนาฬิกาHaurex Italy กระเป๋าCoach รองเท้าหนังสั่งตัด เสื้อผ้าไหมเนื้อดีนั่นอะไรกันครับ” อีกฝ่ายพูดแซวพร้อมกับอมยิ้มเหมือนรู้ทัน
“หึ..” ผมหัวเราะอย่างขอปัดไปที
“คุณเหงาเหรอ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เดินไปที่หัวเตียงก่อนจะนั่งลงแล้วหยิบนาฬิกามาใส่
“คงงั้นล่ะมั้ง หรืออาจจะไม่” เขาตอบส่งๆ มีเสียงถอนหายใจเล็กๆให้ได้ยินด้วย
“คุณดูไม่เห็นเหมือนคนจนตรงไหน ถ้าจนจริง..คงไม่มานั่งที่เล้าจน์ได้หรอก” เขายังคงพูดเรื่องเดิม
“ก็เพื่อมาจับคนรวยไง” ผมตอบแกมหัวเราะ
“ได้แล้วนี่ไง อาจจะไม่มาก..แต่ก็ พอมีนะ” เขาพูดปนหัวเราะ
“หึ..” ผมหัวเราะและยังคงนั่งแช่อยู่อย่างนั้น
“ผมชอบนิ้วคุณมากเลย นิ้วของคุณสวยมาก” อยู่ๆเขาก็จับมือของผมไปกุมไว้ แต่เขากลับไม่มองหน้าผม ตาเขามองลอยออกไปทางอื่น เขากุมมือของผมไว้อย่างนั้น ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไร อาจจะรู้สึกอย่างเดียวกับที่เขาเป็นอยู่ก็ได้
ผมก้มหน้าลงเข้าไปใกล้อีกฝ่ายก่อนจะเอื้อมมือลูบแก้มเขาเบาๆอย่างปลอบโยน อีกฝ่ายหันกลับมามอง ผมก้มลงจูบที่ปลายจมูกอย่างช้าๆ เขาหลับตาลง เราต่างหลับตาลง ผมเลื่อนปากลงมาจูบที่ปากของเบาๆ ปากของเราเพียงประกบกันเท่านั้น เรากดย้ำอยู่นานก่อนที่ผมจะเผยปากออก
“อึก..” ผมสะดุ้ง หลบสายตาของอีกฝ่าย
“ผมกำลังรู้หัวใจของตัวเอง มันแย่จัง” ผมพูดแทบกระซิบ เขาจับแก้มผมอย่างเบามือ ผมเอนตัวซบหัวลงที่หน้าอกของเขา ความรู้สึกเหมือนจุกอกไปหมด
“ทุกคนมีช่วงเวลาที่แย่ ส่วน..เราคงแย่มากไปหน่อย” อีกฝ่ายพูดทั้งรอยยิ้มเศร้าๆ น้ำตาของผมไหลลงอย่างห้ามไม่อยู่ เขาลูบเช็ดน้ำตาให้ผมเบาๆ ผมยิ้มให้และดันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างหักห้ามใจ
“ผมต้องไปแล้ว” ผมบอก ผมไม่ควรอยู่นานกว่านี่เพราะมันอาจจะเกินเลย
“ครับ” อีกฝ่ายตอบ
“ลาก่อน” ผมบอก เป็นคำพูดที่ต้องการให้เขารู้ว่า “เราไม่ควรเจอกันอีก”
“อืม” เขาพยักหน้าตอบเล็กน้อย
“ขอให้โชคดี” ผมลุกขึ้นยืน
“ขอให้คุณยิ้ม โดยไม่มีความเศร้าสักทีนะ” อีกฝ่ายยิ้มบอกทั้งทั้งที่ตนเองก็ยิ้มเศร้าไม่ต่างกัน
“ผมก็จะหวังให้คุณเหมือนกัน” ผมบอกและเดินจากออกมา น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกที่ผมเพิ่งรู้จักเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่เขากลับทำให้ผมยิ้มได้ทั้งน้ำตา ผมกำลังรู้สึกเหมือนชีวิตคือชีวิตอย่างแท้จริงเมื่อน้ำตามันไหลออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม บนโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงามเพียงคำพูดบางประโยคที่ออกมาจากคนที่เราไม่รู้จัก ความรู้สึกตื้นตันกับคำพูดของเขามันอวบอวนอยู่เต็มอกผม ผมกำลังรู้สึกเหมือนกับว่า “ดีจัง..ที่ช่วงเวลานี้ผมได้เจอคุณ” บางครั้งคนบางคนบนโลกที่เราไม่เคยพบปะมาก่อนเลย ก็สามารถเป็นพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว
= = = = = = = =
ณ ร้าน Love at First Sight..
หลังจากที่ผมออกมาจากโรงแรมน่าจะประมาณสองทุ่ม ผมไม่ได้ขับรถตรงกลับบ้านเพราะหัวใจผมมันยังปนกันวุ่นวายเกินไปที่จะกลับไปสภาพนี้ ผมโทรหาเอเจและทราบว่าเอเจอยู่ที่ร้านอาหารของเขาพอดี ผมจึงตกลงว่าจะไปหาเอเจที่นั่น อย่างน้อยขอให้มีที่นั่งดื่มเหล้าก็พอ
“อืมหืม..สภาพ กลิ่นน้ำหอม” เอเจจับได้ทันทีที่ผมเดินเข้ามาหา พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมเป็นระวิง
“ไปนอนกับใครมาอีกล่ะ” เอเจถามด้วยสีหน้าเหมือนกับตัวเองไม่ได้ทำตัวนอนกับคนอื่นไปทั่วอย่างนั้น ผมยิ้มตอบหน่อยๆ
“นักธุรกิจ ชาวสิงค์โปร..ดูดีมาก ทำให้เคลิบเคลิ้มมากเลยล่ะ” ผมทำหน้าทะเล้นใส่
“หึ..ไป จองโต๊ะไว้ให้แล้ว” เอเจเดินนำไปที่โต๊ะ ร้านอาหารของเอเจส่วนมากมีแต่ชาวต่างชาติ ร้านตอบสนองความหรูหรา เพลงสากลแนวป๊อบ ครันทรีและเพลงยุคเก่าเสียส่วนมาก บางครั้งจะมีนักเปียโนชาวต่างชาติ หรือแม้กระทั่งนักไวโอลินที่พอมีชื่อเสียงมาแสดงที่นี่บ่อยๆ ผมชอบร้านของเอเจเพราะบรรยากาศดี มีแสงไฟน้อยๆเหมาะกับการมาฟังเพลงและการจิบสุราชั้นดี
“วู้..” ผมยืนปรบมือเสียงดังเพราะนักร้องคนโปรดของผมกำลังเล่นดนตรีอยู่บนเวที “เท่” เป็นนักร้อง มือกีตาร์และนักเปียโนประจำของร้านนี้ เป็นเด็กวัยรุ่นที่มีพรสวรรค์ ผมชอบเสียงของน้องเขามากเลยละครับ
“ฟ้า ยูเมาเหล้ามาก่อนป่ะเนี้ย” เอเจบ่นพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาดมผม ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่งลง
“เมารักอ่ะ” ผมตอบ รู้สึกมึนๆเมาๆนิดหน่อย ผมเลือกที่จะไม่บอกเอเจว่าที่จริงผมดื่มมาตั้งแต่บ่ายแล้ว
“เอาเหล้ามาดิ เร็วๆ” ผมสั่ง
“แล้วจะกินอะไร” เอเจถาม
“อะไรก็ได้ สามสี่อย่างเอามาเหอะ..แล้วกิ๊บจะมาไหม ไอนั่งคนเดียว ไม่เอานะ” ผมบ่น
“กำลังจะถึงแล้ว”
“อืมๆ” ผมปัดมือไล่ เอเจส่ายหัวด้วยอาการเซ็งผมอย่างเห็นได้ชัด ผมนั่งแช่อยู่อย่างนั้นจนพนักงานนำเหล้ายี่ห้อประจำมาเสิร์ฟให้ผม เอเจมัวแต่ยุ่งอยู่กับการต้อนรับแขก เลยไม่ได้มาคุยด้วย ผมนั่งจิบเหล้าและฟังเพลงไปพลาง ที่จริงอย่าเรียกว่าจิบดีกว่า ผมดื่มอย่างรวดเร็วเหมือนกับกลัวว่ามันจะหายไปจากโต๊ะ กว่ากิ๊บจะมาถึงเหล้าก็เหลือเพียงก้นขวดเท่านั้น
“ไอ้ฟ้า..อีบ้า” กิ๊บโวยวาย
“แกเสียงดังไมเนี้ย” ผมโวยกลับและกวักมือเรียกพนักงาน
“เอามาอีกขวดสิ” ผมสั่ง
“ครับ” พนักงานพยักหน้าและเดินไป กิ๊บถอนหายใจมองหน้าผมอย่างเอือมระอา
“ใครใช้ให้ไอ้เท่เล่นเพลงนี้วะ” ผมบ่นด้วยอาการมึนๆ ดนตรีที่กำลังขึ้นเพลงเพลงหนึ่งที่เหมือนมาเพื่อแทงใจดำแต่ก็บอกไม่ได้ว่าฟังแล้วก็รู้สึกสะใจดี พนักงานนำเหล้ามาเสิร์ฟและชงให้ผมอีกแก้ว กิ๊บนั่งจิบไวน์มองหน้าผมเหมือนกับบอกว่า “อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะไอ้เพื่อนเวร” ทุกคนกำลังทำตัวเหมือนตัดหางปล่อยวัดผมซะงั้น >> I Don't Wanna Talk About It by Rod Stewart << (http://www.youtube.com/watch?v=Azcy9_F0DCE)
“I can tell by your eyes that you've probably been crying' forever” น้ำตาของผมไหลในทันทีที่เริ่มประโยคแรก ผมยิ้มทั้งน้ำตา นักร้องคนนี้เป็นนักร้องที่ผมชอบมากที่สุด Rod Stewart โด่งดังตั้งแต่สมัยพ่อผมได้ละมั้ง น่าแปลกที่เพลงโปรดของผมเพลงนี้ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ฟังแล้วจะรู้สึกเจ็บปวดได้มากมายขนาดนี้
“and the stars in the sky don't mean nothing' to you, they're a mirror.
I don't want to talk about it, how you broke my heart.” ผมผงกหัวไปมาเพื่อให้เข้ากับจังหวะเพลง โต๊ะข้างๆเริ่มมองมาที่ผม น้ำตาของผมไหลมากกว่าเดิม มากกว่าเดิมและมากกว่าเดิม อยู่ๆในหัวก็นึกให้กับชีวิตของตัวเอง “เจอแต่ความรักเฮงซวยซ้ำๆ” บางทีผมก็อดไม่ได้ที่จะนึกแบบนี้ พอนึกขึ้นได้กลับรู้สึกสะใจดีเหมือนกัน อยากจะท้าทายโลกนี้ออกไปดังๆอีกว่า “มึงเฮงซวยได้แค่นี้เหรอ มาอีกสิ..มาอีก กูไม่กลัวมึงหรอก”
“If I stay here, won't you listen to my heart, whoa, heart” ผมร้องเสียงดัง มือไม้เริ่มออกท่าออกทางอย่างห้ามไม่อยู่
“ไอ้ฟ้า..เสียงดังไปแล้ว” เอเจเข้ามาปราม ผมปัดมือมันออกจากไหล่ผม
“ปล่อยมัน” กิ๊บพูดเท่านั้น เอเจหยุดที่จะห้ามผมทันที
“If I stand all alone, will the shadow hide the color of my heart
Blue for the tears, black for the night's fears.
The star in the sky don't mean nothing' to you, they're a mirror.” ผมพร่ำร้องไม่หยุด เสียงของผมเริ่มดังมากขึ้นเรื่อยๆ ผมปัดน้ำตาของตัวเองออกอย่างลวกๆ น้ำตาที่ทำให้ตาของผมมองอะไรไม่ชัดนั้นผมเห็นเท่มองมาที่ผมด้วยสายตาอย่างเหลือเชื่อ นั่นคงเพราะผมไม่เคยเป็นคนแบบนี้มาก่อนในสายตาน้องๆ
“I don't want to !!” ผมตะโกนออกไปด้วยความสะใจ
“talk about it, how you broke my heart..อึก If I stay here just a little bit อึก..longer, if I stay here, won't you listen to my heart โวววว..โอ้ ฮื้อ heart” ผมร้องอย่างโวยวาย ยิ่งร้องไปน้ำตาก็ยิ่งไหลมากกว่าเดิม ยิ่งร้องอย่างสะใจมากแค่ไหน ยิ่งตอกย้ำอารมณ์ของตัวเองไปมากเท่านั้น ผมอยากระบาย อยากเอามันออกมาให้หมด สิ่งเก่าๆที่มันคับอกอยู่ในตอนนี้..ผมอยากให้มันออกไปแค่เวลานี้ก็พอ
ผมทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้อย่างหมดแรงเมื่อเพลงจบลง เสียงในร้านเงียบกริบ
“วู้..เพราะมาก!” ผมตะโกนพร้อมกับปรบมือเสียงดัง
“ร้านไอจะเจ๊งไหมเนี้ย” เอเจบ่นเสียงเบา
“หึหึ” ผมหัวเราะชอบใจก่อนจะดึงต้นคอเอเจให้ก้มหน้าลงมาและหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างหยอกล้อไม่เลิก
“ฟ้า ยูเมามากแล้วนะ..กลับบ้านเหอะ” เอเจพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ให้คิวมารับไหม เดี๋ยวไอโทรให้”
“ไม่!” ผมตะโกนใส่หน้าเอเจ
“จะอยู่ต่ออ่ะ ทำไมต้องไล่ด้วย” ผมว่าพร้อมกับดึงเสื้อเอเจจนทำให้เอเจก้มตัวลงมาใกล้
“แต่ยูเสียงดัง ลูกค้าไอมองหน้าไอแล้วเนี้ย” เอเจพูดหน้าเสีย
“ทำไม ใครไม่พอใจ” ผมลุกขึ้น มองหน้าโต๊ะอื่นอย่างหาเรื่อง
“ก็คนมันเครียดอ่ะ ไม่เข้าใจหรอก..แม่ง” ผมว่าและต้องทรุดตัวลงนั่งอีกครั้งอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ฟ้า ไอขอได้ไหม” เอเจกระซิบด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“เออฟ้ากลับเหอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง” กิ๊บพูดขึ้น ทั้งสองเดินเข้ามาพยุงตัวผม
“อึก..ไอ้เอเจ ไอ้เลว ไล่เพื่อน” ผมโวยวาย
“เปล่าไล่” เอเจเข้ามากอดตัวผมไว้ พนักงานร้านเข้ามาช่วยพยุงผมด้วยอีกแรงจนพาผมไปส่งถึงรถของกิ๊บ
“ไหวแน่นะ” เอเจถามกิ๊บ
“สบาย..ถ้าโวยวายจะถีบลงจากรถกลางทางเลย” กิ๊บพูดขำๆ
“เลวทั้งคู่เลย” ผมว่าพึมพำก่อนจะพลิกตัวนอนอีกด้าน
“แล้วรถน่ะจอดไว้ที่นี่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้คนที่บ้านมาเอาก็แล้วกันนะ” เอเจพูด
“อืมๆ” ผมพยักหน้าตอบส่งๆ สมองรับรู้แต่ร่างกายไม่ไหว ถ้าขยับมากกว่านี้ผมคิดว่าผมคงจะทำให้รถของกิ๊บเลอะจากอ้วกของตัวเองเป็นแน่
= = = = = = = =
-
“You will never never never know me..อืม เมาจาง~”
“อื้อออ” ผมโวยวายเมื่อเพลงที่ผมกำลังร้องคลอในรถของกิ๊บจบลง ผมเอื้อมมือไปควานหาปุ่มและกดย้อนเพลงกลับไปเพลงเดิม
“ไอ้ฟ้า..พอเลยไอ้บ้า ถึงบ้านแล้ว” กิ๊บตีแขนผมเบาๆ ผมเหลือบตาขึ้นมองแต่ยังคงนอนนิ่ง
“นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ..พรุ่งนี้ฉันมีไฟล์ทเช้าด้วย แกรีบกลับขึ้นไปนอนเลย” กิ๊บว่า
“อืมๆ..โอย” ผมพยายามลุกขึ้นโดยมีกิ๊บช่วยพยุงตัว ผมเปิดประตู กิ๊บรีบวิ่งมาเปิดประตูฝั่งของผมให้ก่อนที่เธอจะวิ่งไปกดกริ่งที่ประตูรั้ว
“ลุงคะ..ช่วยหน่อยค่ะ เจ้าของบ้านเมาเป๋เลย” กิ๊บตะโกนบอกคนในบ้าน ผมออกมายืนพิงรถของกิ๊บไว้เพราะรู้สึกเหมือนยังปรับตัวไม่ถูก อาการยืนไม่ทรงตัวนี้เวลาเมาแล้วเป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่านะ หรือผมคออ่อนไปหน่อย..กับแค่เหล้าขวดเดียว หรืออาจจะเกือบสอง
“ว๊าย คุณฟ้า..ตาโก๋ แกรีบไปพยุงคุณเร็วเข้า” ผมได้ยินเสียงป้านิดโวยวาย ลุงโก๋คนสวนประจำบ้านวิ่งมารับตัวผมไว้
“ทำไมเมาขนาดนี้ล่ะคะคุณ” ป้านิดหน้าเสีย
“ป้า..ฟ้าไม่เป็นไรสักหน่อย แค่เมาเหล้าเอง..หึ” ผมยิ้มและโบกมืออย่างขอไปที
“แกกลับบ้านไปเหอะ ฉันไหว” ผมหันไปบอกกิ๊บ
“แน่ใจนะ”
“เออ..ก็ถึงบ้านนี่แล้วไง กูเมา แต่กูรู้เรื่องเว้ย” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยจนตัวเองยังรู้สึกว่าทำไมต้องพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นด้วย
“อืม รู้เรื่องมาก..หลุดมึงกูนี่นะอีบ้า” กิ๊บส่ายหัว
“ไปแล้ว..ฝากด้วยนะคะลุง” กิ๊บบอกและเดินขึ้นรถของเธอไป ลุงโก๋ช่วยพยุงผมให้เดินเข้ามาถึงในบ้าน ที่จริงผมเพียงทรงตัวไม่อยู่เท่าไหร่นัก คล้ายกับเดินก้าวแรกแต่ก้าวที่สองดันถอยกลับหลัง ผมยังมีสติอยู่ที่ตัวนะ แต่เพียงแค่ขาสั่นเล็กน้อยเท่านั้น
“เอ๊ะ” เสียงป้านิดอุทาน ผมชะงักเมื่อเห็นคิวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องหนังสือของตัวเองพร้อมกับเค้ก
“พี่ฟ้า” เค้กอุทานเสียงเบา ตาโตมองมาที่ผม
“เหอะๆ” ผมยิ้มและโบกมือทักให้กับแฟนที่น่ารักของหลานชายผม
“....................” อยู่ๆในบ้านกลับเงียบลง เรียกว่าเงียบมากจนสามารถทำให้รู้สึกเหมือนพวกที่ยืนอยู่นี่เป็นวิญญาณก็ได้ คิวจ้องมาที่ผมเขม็ง สายตาของมันแทบจะเขมือบผมอยู่แล้ว
“ดึกแล้ว..ป้าไปนอนเถอะครับ ลุงด้วย” คิวพูดขึ้น ลุงโก๋ยังคงไม่ยอมปล่อยผม
“แต่..” ป้านิดอ้ำอึ้ง เธอหน้าเสียมองมาที่ผม
“ผมบอกให้ไปไง” คิวย้ำ เริ่มขาดหางเสียงยิ่งเสริมให้คนรับใช้ทั้งสองเกรงกลัวคิวมากขึ้นกว่าเดิม นี่ขนาดผมเป็นเจ้าของบ้านนะครับเนี่ย แต่ดูเหมือนคนรับใช้จะกลัวไอ้หลานนี่มากกว่าจะเกรงผมเสียอีก
“เมาเองได้ ก็ควรเดินเองให้ได้” คิวว่าและก็เหมือนเป็นคำพูดเด็ดขาด เพราะลุงโก๋และป้านิดปล่อยผมออกช้าๆในทันที ผมพยายามเรียกสติให้กลับมาที่ขาและพยายามทรงตัวให้อยู่ได้ด้วยตนเอง เพราะเดี๋ยวจะเสียหน้าเอาได้ ป้านิดและลุงโก๋เดินออกจากตรงนี้ไป ตอนนี้จึงเหลือเพียงเราสามคน และผมเลือกที่จะไม่ก้าวเดินก่อน รอให้หลานปากหมาไปจากตรงนี้ซะก่อน ไม่เช่นนั้นผมอาจจะถูกสายตาอันร้ายกาจของมันมองอย่างดูถูกเป็นแน่
“เดี๋ยวเค้กช..” เค้กกำลังจะวิ่งเข้ามาหาผม
“ใครใช้” คิวพูดขึ้นทำให้เค้กชะงักหน้าหงอยลงในทันที
“เดินเองได้ โถ่..อย่าหาเรื่องกันหน่อยเลย” ผมพูดทำหน้าเชิดใส่อีกฝ่าย ผมก้าวขาเดินและรวบรวมสติไม่ให้ตัวเองนั้นเดินโซซัดโซเซอย่างน่าอาย
“ผมหาเรื่องงั้นเหรอ” คิวพูดเสียงห้วน ผมชะงักหันกลับไปมองอีกฝ่ายตาขวางเพราะรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา
“นี่มันชีวิตอา คิวไม่พอใจอะไร” ผมว่าจนเกือบจะตะคอก
“ก็ใช่..นั่นมันชีวิตของคุณ แต่ถ้าจะกลับมาสภาพนี้ ไม่ต้องกลับมายังดีซะกว่า” คิวว่าเสียงเข้ม มองตาขวางมาที่ผม
“หยุดว่าสักทีได้ไหม อาไม่อยากฟัง!” ผมขึ้นเสียงว่ากลับ
“....................” เราทั้งสองคนเงียบลงเหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังระงับอารมณ์ของตัวเอง
“อาเหนื่อย คิวนึกว่าอาอยากเป็นอย่างนี้รึไง” ผมกดน้ำเสียงของตัวเองลง
“ถ้าไม่อยากเป็น ก็ไม่ต้องเป็น..ไม่ต้อง ง่ายนิดเดียว คุณอย่ามาเถียงข้างๆคูๆหน่อยเลย” อีกฝ่ายว่ากลับด้วยน้ำเสียงเหมือนข่มอารมณ์ของตัวเองเช่นเดียวกัน
“อย่าให้ผมทายว่าคุณไปทำอะไรมา ไปนอนกับใครไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาอีกล่ะสิ” คิวว่า ผมหันขวับกลับไปมองหน้าคิวทันที
“หึ..ทำอย่างกับตัวเองไม่เคยงั้นแหละ” ผมย้อนว่าอย่าอดไม่ได้และลืมนึกไปว่าเค้กก็อยู่ร่วมวงอยู่ด้วย
“หึ..อย่างน้อย ผมก็รู้ว่าผมทำอะไรอยู่ก็แล้วกัน ไม่ใช่จะทำพร่ำเพื่อ..ไม่รู้จักพออย่างคุณ”
เพี้ย !!
ผมไม่รู้ว่าผมพุ่งเข้าไปถึงตัวของคิวรวดเร็วทั้งทั้งที่แทบทรงตัวเองไม่อยู่อย่างนี้ได้อย่างไร แต่มือของผมตบเข้าที่หน้าคิวเต็มแรง คิวหน้าหันไปตามแรงมือแต่ยังคงยืนนิ่งอยู่ ในบ้านเงียบลงอีกครั้ง
“ผมไม่เหมือนคุณ ไม่ได้นอนไปทั่วเพราะกำลังหลอกตัวเอง..หลอกตัวเองว่าที่ทำไปนั่นเพราะสามารถทำให้หายเจ็บปวด แล้วปล่อยให้เวลามันผ่านไปวันๆอย่างคุณ” คิวพูดเสียงเย็น ผมสะอึก และต้องหลับตาลงอย่างช้าๆเมื่อเห็นสายตาของคิวที่จ้องผมกลับอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“....................” น้ำตาของผมไหลลงช้าๆ ผมรับรู้ได้เพียงเท่านั้น เสียงหายใจของเราทั้งคู่ส่งถึงกันนั่นคงเพราะต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์รุนแรงมากเกินไป เราไม่ได้ทะเลาะกันแรงๆมานานมากแล้ว ดังนั้นนี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีเลย
“ผมไม่ได้เป็นห่วงถ้าคุณจะมั่วไม่เลิกแบบนี้ แต่ช่วยมีสติหน่อยได้ไหม..ทำเหมือนชีวิตจะตายแล้วอย่างนั้น หึ..แย่กว่านี้ก็เคยมาแล้วแต่ยังไม่เป็นแบบนี้ แค่นี้..มันยากมากนักรึไง” คิวกัดฟันจนผมเห็นว่ากรามของคิวนั้นเกร็งขึ้น
“คิว..ช่วย หุบปากซะ” ผมข่มน้ำเสียง ปากของผมสั่น คิวหลับตาลงก่อนจะหันหน้าหนี
“หุบปากซะ..อึก อากลัว รู้ไหม..อากลัว รู้ไหม ไม่รู้..ไม่รู้เลย!!” ผมกระแทกเสียงว่าพร้อมกับทุบคิวอย่างแรง คิวเพียงแต่ยืนนิ่ง
“อามีสติหน่อยได้ไหม!”
“ทำไมอาเป็นแบบนี้..อาบอกไม่ให้ยุ่ง แล้วทำไมอาทำตัวแบบนี้ ทำไม!” คิวตะคอกกลับเสียงดังลั่นบ้าน น้ำตาของผมไหลลงมากกว่าเดิม
“อ..อึก”
“แค่เลือก อาต้องเลือก..เพราะไม่ว่าทางไหน ตอนนี้ยังไงอาก็เจ็บปวดอยู่ดี..ถึงอาจะกลัวที่จะเดินต่อกับทิกเกอร์ อาก็เป็นฝ่ายเจ็บปวดอยู่ดี อารู้ดีว่าทำไม..อารู้ตัวดีที่สุด ถ้าจะไม่หลอกตัวเอง” คิวจ้องตาผมเขม็งเหมือนกำลังจะให้คำพูดของตัวเองนั้นกลืนเข้าไปในก้นบึ้งของหัวใจผม
“แต่คิวจะบอกอะไรให้ ไม่ว่าอาจะเลือกทางไหน..แต่ไอ้จักรจะเป็นคนเดียวที่คิวจะไม่ยอมรับ รู้ไว้ซะ..เพราะมันไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่อาต้องเจ็บปวดเพราะมันหรอก ไม่มี” คิวพูดด้วยน้ำเสียงย้ำอย่างชัดเจน น้ำตาของผมยังไม่หยุดไหลเพราะคิวพูดอย่างกับรู้ไปทุกส่วนของหัวใจผม มันคงจริงอย่างที่คิวบอก สถานการณ์หลังจากที่จักรหักหลังผม กับสถานการณ์หลังจากที่ทิกเกอร์หักหลังผม มันค่อนข้างแตกต่าง กับทิกเกอร์ผมไม่ได้อ้อนวอนให้ความรักหวนกลับมาอย่างที่ผมเคยรอจักร
“อีกอย่าง..อาคงจะลืมว่าช่วงชีวิตที่เฮงซวยก็เคยผ่านมาแล้ว” คิวแสยะหัวเราะ
“แต่คงกำลังลืม ว่าตอนนี้อาเป็นฝ่ายทำให้ชีวิตของตัวเองเฮงซวย..ไม่ใช่คนอื่น แต่อาทำตัวเอง!” คิวว่าด้วยน้ำเสียงดุดัน
“หยุดได้ไหม อึก..หยุดว่าอา ได้ไหม~” ผมพูดเสียงเครือ คิวกัดกรามแน่นและตาคิวเริ่มแดงจนผมสังเกตเห็นได้
“เลิกทำตัวแบบนี้สักที ก่อนที่ผมจะหมดความอดทนไปมากกว่านี้” คิวตัดบท ลูบหน้าตัวเองและถอนหายใจออกมาอย่างแรง
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้อยากเป็นอ่ะ!” ผมตะโกนกลับและเช็ดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆ
“ก็บอกอยู่นี่ไงว่าให้เลิกสักที เวรเอ๊ย!” อีกฝ่ายเดินหนีไปพร้อมกับสบถออกมาเสียงดัง
“อึก..ไอ้ ไอ้คิว ไอ้หลานเลว..ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้นิสัยเสีย..ไอ้ปากไม่ดี ไอ้บัดซบ” ผมพยายามหาคำมาด่ามัน ผมว่าคิวกลับทั้งทั้งที่น้ำเสียงเครืออยู่ในคอ
“หึ..อาเฮงซวย” คิวหยุดเดินและหันกลับมาว่าพร้อมทั้งรอยยิ้มก่อนจะเดินขึ้นบ้านไป
“อื้อ..เค้ก” ผมร้องออกมาอย่างไม่รู้ว่าจะอ้อนใครเพราะหลานไม่อยู่ให้อ้อน ความจริงถึงจะไม่ทะเลาะกันแบบนี้คิวเองก็คงจะไม่ยอมให้ผมอ้อนหรอกมั้งครับ
“พี่ฟ้าครับ ไม่น่าเมากลับมาแบบนี้เลยนะครับ..พี่คิวอุตส่าห์รอ” เค้กรีบวิ่งเข้ามาพยุงตัวผมไป ผมเข้าไปกอดเค้กไว้แน่น
“มันด่าพี่” ผมฟ้อง เค้กเอื้อมมือลูบหลังผมเบาๆ
“พี่คิวคงเป็นห่วงพี่ฟ้านะครับ ยังไง..ขึ้นห้องก่อนดีกว่าไหมครับ พี่ฟ้าจะได้พักผ่อน” เค้กยิ้มน้อยๆให้ ผมพยักหน้าตอบ เค้กช่วยพยุงตัวผมให้ขึ้นมาบนห้องได้สำเร็จและปลอดภัย
“อ่ะ..เอ่อ พี่ฟ้าครับ ไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเหรอครับ” เค้กพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจจนผมรู้สึกได้ ผมนอนลงซุกหน้าเข้าที่หมอนและไม่ตอบอีกฝ่าย
“If you don't know me by now” ในหัวของผมยังมีเพลงที่กิ๊บเปิดในรถขับกล่อมอยู่ ผมร้องพึมพำออกมาคนเดียวอย่างต้องการให้อารมณ์ดีขึ้น
“อึก..You will never never never know มี มี..” น้ำตาของผมไหลลงเปื้อนหมอนอย่างห้ามไม่อยู่ อารมณ์อ่อนไหวอย่างสุดแรงเกิดแบบนี้ไม่ได้ปลอดปล่อยมานานมากแล้ว
“พ..พี่ฟ้าครับ” เค้กพูดเสียงเบา
“อย่าร้องไห้เลยนะครับ” อีกฝ่ายนำมือมาแตะตัวผมเบาๆเหมือนต้องการปลอบโยน
“ไอ้คิว..ว่าพี่อ่ะ เราทะเลาะกัน” ผมพึมพำ
“ตะ..ตกลง พี่ฟ้าร้องไห้เพราะเรื่องไหนกันแน่ครับ ร้องเพราะพี่คิวเหรอฮะ..เค้ก เค้กงง” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
“พี่ก็งง” ผมตอบ
“แต่ยังไง..พี่ฟ้าก็เช็ดตัวหน่อยก่อนดีกว่านะครับ จะได้หลับสบายขึ้น เดี๋ยวเค้กไปเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้นะฮะ” เค้กพูด ผมไม่ตอบ ผมได้ยินเพียงเสียงกุกกักจากในห้องน้ำ ผมนอนคว่ำตัวแน่นิ่งอยู่บนเตียงอยู่อย่างนั้น
“You should understand me..like I understand you..ไอ้ หลาน บ้า” ผมร้องเพลงปนร้องไห้อย่างกับคนบ้า รู้สึกได้เลยว่าตัวเองน้อยใจคิวพอๆกับน้อยใจโชคชะตาของตัวเอง ถึงผมจะรู้ว่าคิวเป็นห่วงผม แต่ผมก็ไม่ชอบใจเอาเสียมากๆที่ถูกหลานว่าซะตรงขนาดนั้น
“Don't get so excited when I come home a little late at night
Cos we only act like children when we argue fuss and fight..” ผมร้องพึมพำอย่างคล่องปาก ปกติเวลาธรรมดาเพลงนี้จะถูกร้องซ้ำๆโดยเพียงผ่านไปที แต่ดูเหมือนตอนนี้ผมจะค่อนข้างชอบเพลงนี้มากเหลือเกิน
“พี่ฟ้าครับ ถอดเสื้อก่อนนะฮะ..คือ พี่ฟ้าหันตัวมาได้ไหมฮะ” เค้กพูดพร้อมกับจับตัวผมเล็กน้อย
“If..you..don't..know..me” ผมเน้นร้องอย่างชัดถ้อยชัดคำและยังไม่ยอมพลิกตัวกลับไปนอนหงายอย่างที่เค้กต้องการ
“จิ้..” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงจิปาก ก่อนจะเหลือบตากลับไปมองที่ประตู พบว่าคิวยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางหงุดหงิดอย่างเคย
“กลับห้อง” คิวพูด คงสั่งแฟนตัวเองละมังครับ
“แต่..พี่ฟ้า” เค้กอ้ำอึ้ง
“นั่นเมา ไม่ได้ป่วย..ไม่ตายหรอก” คิวว่า
“If you don't know me by now” ผมแกล้งร้องขึ้นอย่างดังเพื่อตั้งใจจะต่อว่าอีกฝ่ายอย่างน้อยใจ
“You will never..never..never know me” ผมร้องเสียงเบา น้ำเสียงเครือทำให้เสียงต่ำลงไปในคอเรื่อยๆจนทำว่า..มี นั้นหายไป
“หึ..เพราะผมรู้จักคุณดีไงล่ะ อยากพึมพำอะไรก็เชิญ..ที่พึมพำอยู่นั่นก็หลอกตัวเองอยู่ไม่ใช่รึไง” คิวพูดด้วยน้ำเสียงรู้ดีจนผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
“You Never Know Me!!” ผมลุกขึ้นตะโกนเสียงดังอย่างไม่รู้จะสามารถนึกเถียงคำไหนออกไปได้ ผมตะโกนเสียงดังมากจนเห็นว่าเค้กสะดุ้ง
“ว่าตัวเองทำไมน่ะ” คิวเลิกคิ้วและแสยะยิ้มให้ด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่สนใจผมอีก
“นี่..บอกให้ออกมา” คิวหันไปจ้องหน้าเค้กก่อนจะเดินออกจากห้องไปก่อน
“เค้ก อึก..อย่าไปนะ” ผมรีบคว้าแขนเค้กที่ทำท่าจะเดินไปตามคำสั่งจากไอ้หลานบ้านั่น เค้กหยุดชะงักหันกลับมามองผมด้วยสีหน้าลำบากใจ
“พี่ ไม่อยากนอนคนเดียว”
“เอ่อ คือ” เค้กอึกอัก ผมมองหน้าเค้กอย่างอ้อนวอน
“งั้น..เดี๋ยวเค้กมานะครับ” เค้กบอกและรีบวิ่งออกจากห้องไป ผมกลับลงนอนอีกครั้ง และได้ยินเสียงจากข้างนอกว่าคนสองคนกำลังกระซิบกระซาบเถียงกันอยู่ ไม่นานเท่าไหร่เค้กก็เดินกลับมาอีกครั้ง
“คืนนี้เค้กจะนอนกับพี่ฟ้านะครับ พี่คิวอนุญาตแล้ว..แต่พี่ฟ้าต้องลุกขึ้นล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหมฮะ” เค้กยิ้มบอก
“เค้กรังเกียจพี่เหรอ” ผมถามตาลอย
“เปล่าครับ แต่พี่ฟ้าจะไม่สบายตัว..พี่ฟ้าเปลี่ยนเสื้อผ้า พี่ฟ้าจะได้หลับสบายๆไงครับ” เค้กยิ้ม มือลูบแขนผมเบาๆอย่างอ่อนโยน
“อือ” ผมยอมแต่โดยดีเพราะรู้สึกเกรงใจและสงสารเค้กขึ้นมา ผมลุกขึ้นเข้าไปล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างลวกๆ เค้กนอนข้างๆผม ผมเข้าไปนอนกอดเค้กไว้ เค้กนอนตัวแข็งทื่อไม่ขยับนั่นคงเพราะเกร็งผมแหละครับ ผมชอบกอดคนอื่นมากกว่าที่จะให้คนอื่นมานอนกอดผม เวลาที่ถูกคนอื่นกอด ผมเองก็มักจะเกร็งและนอนไม่สบายพอๆกับเค้กนั่นแหละ แต่ถ้าผมนอนกอดคนอื่น เมื่อผมรู้สึกอยากปล่อยเมื่อไหร่ผมจะสามารถปล่อยเองได้อย่างตามใจชอบ ทั้งทั้งที่ผมเองก็รู้ว่าเค้กคงกำลังอึดอัดแต่ผมก็ไม่สนใจ ซบหน้าลงที่ไหล่ของเค้กและกอดเค้กไว้อย่างนั้นจนหลับไป..
................>>>><<<<................
ใครที่ต้องการฟังเพลงที่ฟ้าพึมพำบ้าบอในตอนท้าย ">> If You Don't Know Me By Now by Seal << (http://www.youtube.com/watch?v=hko3Lj6IdAg)"
:m20:
-
....คุณอาฟ้าคะ อยากทำอะไรก็ทำตามใจตัวเองบ้างเถอะค่ะ
....ถ้าล้ำเส้นแล้วทำให้มีความสุข ก็ล้ำไปเถอะค่ะจะได้ไม่ต้องมานั่งปั้นหน้าเหมือนตอนนี้
....อดีตที่เจ็บช้ำก็เก็บไว้เป็นบทเรียน อดึตกับปัจจุบัน วัยวุฒิ คุณวุฒิ ของคนเรามันเปลี่ยนไป
....มันใช้เหตุและผล เป็นตัวกำหนดดีกว่าเนอะ หาความสุขใสตัวบ้าง แค้นมากมันก็ปั่นทอนความสุข
....นึกว่าทิกเกอร์จะแพ้พริกป่น ซะอีกตัวแดงหมด แต่ก็ท้องเสียอะนะ เลขาจะเขมือบเจ้านายอีกแล้วครับท่าน :laugh:
-
:z10: :z10:จิ้ม+1ให้เบบี้ก่อนอ่านน.......
-
:เฮ้อ:
-
ฟ้าทำร้ายตัวเองชัดๆ :z10: :z10: :z10:
-
:เฮ้อ: สงสารฟ้าอ่ะ ไม่อยากเจ็บ ให้รักก็เจอ็บ แต่ให้กลับไปคบก็ไม่สนิทใจ
ฟ้าเจ็บแล้วจำ รัก แต่ก็ไม่อยากหันหลังกลับไป เหมือนทางมันตัน เดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังไม่ดี :z3:
-
อาฟ้านี่แบบอารมณ์ดื้อดึงแบบพี่ิคิวคงจะ เฮ้อ อออ ...เมื่อไหร่จะหาย (ประมาณนี้แหละนะ) 555
แต่เรื่องราวของอาฟ้านี่แบบ เศร้าจนอ่านแล้วคิดอะไรมากมายในชีวิตเลยอะ เก็บมาสอนตัวเองยังได้เลย
พี่คิวนี่ก็แบบเป็นห่วงนะ แต่การแสดงออกนี่แบบชอบอะ เป็นห่วงมาก วิธีของพี่คิวจะแบบนี้ รู้สึกดีนะ ชอบโดนว่าแบบนี้แหละ ^^
ส่วนเค้กนี่ ยังอ่อนโยน น่ารักมากมาย คิดถึงเค้ก :)
ขอบคุณ คุณเบบี้นะคะ อ่านแล้วถึงเรื่องมันจะเศร้าจะยิ้ม ยังไงแค่ได้อ่านก็มีความสุขแล้วคะ ^^
-
พี่ฟ้าอ่ะ อย่าเป็นแบบนี้เลย :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พี่คิวก็นะ ..แต่ยังไงก็รักพี่คิวอยู่ดี อิอิอิอิ
-
พี่ฟ้าหนักไปแล้วนะเนี่ย
-
ใช้อดีตเป็นเข็มทิศอนาคต ชอบบบบบ
คิวนายตรงได้ใจเรามาก o13
อินเกินไปแล้ว :laugh: ขอบคุณเบบี้ :กอด1:
-
ทั้งขำและสงสารเค้ก 5555555 :man1:
-
เค้กน่ารักมากไปพูดอาไรพี่คิวถึงยอมให้นอนกะพี่ฟ้านะ :z1:
สงสารพี่ฟ้า เข้าใจที่พี่คิวบอกพี่ฟ้ายิ่งทำแบบนี้ยิ่งเจ็บปวดนะ :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้ค่ะ :กอด1:
-
พี่ฟ้าดูภายนอกมีพร้อมทุกอย่าง แต่ข้างในใจเบาหวิว ล่องลอย และ...สติแตกไปแล้ว :z3:
เพื่อนก็เอาไม่อยู่ ถ้าไม่มีคิวคอยฉุด (แบบโหดๆ) อย่างนั้น ก็คงหลุดออกอวกาศเข้าซักวันเนาะ
ปล. น้องเค้กของพี่ :กอด1: คิดถึงมาก ตอนนี้ได้ออกเยอะเชียวลูก
ว่าแต่ พี่เคยฝันว่าจะได้เห็นฉากหวานๆ อ่อนโยนๆ ของหนูกับพี่คิวบ้าง เบบี้เค้าก็ดับฝันพี่ไปเรียบร้อย
คิวมันแฟนฮิตเลอร์ชัดๆ :z10:
-
ฮาเค้กอ่ะ :laugh:
แต่น้องเค้กน่ารักแย่งซีนมว๊ากกกกก :-[
ปล.แล้วที่คิวปิดเรียกหนูเค้กกลับห้องนี่... จะกลับไปห้องไหนนั่น กิ๊วๆ :impress2:
-
จะมีใครปลอบใจฟ้าได้บ้างน๊า
เศร้าเกิ๊น :monkeysad:
-
+1
-
ตกลงฟ้าอายุน้อยกว่าคิว ?
ความคิดความอ่าน ความเย็นชา ต่างกันมากมาย o22 o22 o22
แต่ น้องเค้กน่ารักไปม้ายยยย :man1: :man1:
ป้าหน้ามืด :impress2:
-
ฟ้าต้องเข้มแข็งเข้าไว้น๊าาาาา :กอด1:
-
คิวมันจะงาบหัวอาฟ้าแล้ว ดุจริง
-
ปลดปล่อยให้ถึงสุดนะอาฟ้า แล้วก้อสลัดทั้งสองตัว...เอ๊ยคนทิ้งไปเลย ให้เคยรักยังไง แต่ทำกันเจ็บอย่างนี้ อย่าหวนกลับไปอีกน้า T^T
-
อาฟ้าบ้าไปแล้ว T^T
ถ้าอาฟ้ายังกลัวที่จะต้องตัดสินใจอยู่แบบนี้ เมื่อไหร่อาฟ้าจะมีความสุขซักที
เชื่อคุณหลานคิวปิดเถ๊อะ ได้โปรด อย่ามัวแต่ทรมานตัวเองอยู่แบบนี้เลย
หากสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกทางไหนยังไงก็ต้องเจ็บปวด
ก็ขอให้เลือกทางที่เจ็บปวดน้อยที่สุดแต่ส่งผลให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด
-
o22 :z10:
-
น้องเค้กน่ารักกอ่ะ +1
ทำร้ายตัวเองไม่ดีนะค่ะ คุณฟ้า หึหึหึ
-
คงถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจแล้วละพี่ฟ้า สู้ๆนะคะ :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ: ปวดตับ! :z3: :z2:
-
เค้กเอ้ยยย อยู่ตรงกลางก็เงี่ยแหละ จะเข้าข้างอาฟ้าก็กลัวพี่คิวจะงับหัว จะเข้าข้างพี่คิวก็กลัวอาฟ้าจะเสียใจ
อาฟ้า ใจอายังมีแต่ทิกเกอร์นะ ไม่งั้นจะยังทรมานอย่างนี้เหรอ ทำไมไม่ปล่อยใจให้มันเลือกเองน้อ เข้าใจว่ายังเจ็บอยู่มาก แต่ชีวิตมันยังต้องเดินต่อนะค่ะ
ตอนผ่านเรื่องราวของพ่อยังผ่านได้ ทำไมเรื่องแบบนี้ผ่านไม่ได้นะ
-
คิวเอ๊ยยบอกให้อาเลือก..แต่ก็บอกว่าไม่ยอมรับจักร..
ว่าแต่อาฟ้าอย่าเผลอไปปล้ำเค้กน๊า..ไม่งั้นไอ้คุณหลานเอาตายแน่555
-
:เฮ้อ:เหนื่อยแทนคิว
เรื่องรักมักมีทางเลือกเสมอ ดี..หรือเลว สุข...หรือทุกข์ ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น ว่าจะเลือกอะไรให้กับตัวเอง
-
ที่ไหนมีรักที่นั้นมีทุกข์จริงๆ ทำเอาคนฉลาด และทำเหมือนจะเข้มแข็งอย่างฟ้าเสียศูนย์ไปเลย
มาอ้อนหลาน ไอ้หลานบ้าก้อไม่ยอมให้อ้อน :sad4: ดีนะว่าเค้กใจดีมีแก่ใจมาดูแลไม่เหมือนไอ้หลานใจร้ายหรอก :o12: :o12: เชอะ
-
สงสารพี่ฟ้า แต่ทำแบบนี้
ไม่ใช่แค่ตัวเองที่จะเจ็บปวดนะคะ ทุกๆคนก็จะเจ็บไปด้วย
ลองใช้ใจแทนสมองและลองเชื่อมนตัวคนอื่นอีกครั้งน่า
เชื่อว่าพี่ิคิวน่าจะมองคนไม่ผิด
อดีตก็คืออดีตใช้มันทำให้ตัวเองแกร่งได้
แต่อย่าให้อดีตทำร้ายตัวเองแบบนี้ และทำให้ปัจจุบันของตัวพี่ฟ้าแย่แบบนี้นะคะ
เอาใจช่วยคะ อยากให้พี่ฟ้าเลิกเศร้า กลับมาเป็นพี่ฟ้าที่น่ารัก กวนๆเหมือนเดิมเร็วๆ :m17:
เป็นกำลังใจให้เบบี๋ด้วย
แต่เงรื่องพี่ฟ้าได้ทรมานใจมากกกก :sad2:
-
โธ่! อาฟ้า :เฮ้อ:
ลองดูอีกสักครั้งเป้นไรไปกับทิกเกอร์น่ะ ถ้ามันจะเสียใจอีกครั้งก็ให้มันเป็นไปเถอะค่ะ
ครั้งนี้ทิกเกอร์ก็ไม่ได้โกหกฟ้าแล้วนี่ เค้าเคลียร์กับทางนู้นแล้ว ขอแค่ฟ้าให้โอกาสอีกครั้งเดียวนะ พลีสส :กอด1:
เมื่อก่อนเฉยๆกับทิกเกอร์มาก แต่ตอนนี้เชียร์สุดใจ อยากให้คืนดีกันเร็วๆ :impress2:
-
ยังรักทิกเกอร์เอามากๆ แต่ก็เกลียดมาก
ไม่ยอมทิ้งความรู้สึกทั้ง2อย่าง ก็จำไว้ทำร้ายตัวเอง
ถ้าเกลียดก็แก้แค้นแรงๆ แล้วลืมมันไปซะที
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
ทำแบบนี้ต่อไป ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลยพี่ฟ้า
อย่างที่พี่คิวว่านะคะ ทำร้ายตัวเองชัดๆ
-
อ่าน lover 2 ต้องตั้งสมาธิมากๆเลย
เพราะอ่านแล้วให้ความรู้สึก มึนๆ งงๆ มาก
อารมณ์ของคุณฟ้าช่างซับซ้อนดีแท้น้อ :really2:
-
เห้อออออออออออออ เป็นคิวนี่ยากนะ แต่คิวก็เก่งมาก รับมือกับปัญหาได้ดี มาถึงตอนนี้รู้เลยว่า คิวรักอาฟ้ามากแค่ไหน
ส่วนอาฟ้า รู้ทุกเรื่องว่าต้องทำยังไงเราชื่นชมอาฟ้า ในเรื่องของทิกเกอร์
แต่กับตัวเอง อากับไม่เข้าใจมันจริง เอาแต่หนีความเจ็บปวดไปเรื่อย ถึงเวลาที่อาจะหยุด แล้วคิดเรื่องนี้แบบจริงจังได้แล้วนะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: เพิ่มพลัง ให้ เบบี้ อาฟ้า คิว และน้องเค้ก <== ไม่รู้เรื่องรู้ราวก็โดนลากไปยุ่งด้วยทุกที :laugh:
-
ก็เหมือนที่คิวว่าแหละ อาฟ้าหยุดหลอกตัวเองได้แล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองรักทิกเกอร์ เฮ้ออออ
ไม่รู้จะสงสารพี่คิว เค้ก หรืออาฟ้าดี :z3:
-
ร้องไห้ตามอาฟ้าอ่ะ
อ่อยยยย
นี่ฉันบ้าหรือเปล่า
ขอให้อาฟ้าเคลียร์ตัวเองได้ไวไว
-
พี่คิววววววววว.....!!!!!ช่างเป็นคนที่แสดงความห่วงใยได้อย่างน่าทึ่ง
โดนพี่ฟ้าด่า.....จนหมดแม๊กเลยยย
-
:L1: :pig4: :pig4:
-
สงสารพี่ฟ้าค่ะ
ต่ที่พี่คิวพูดก็ถูก
เค้กน่ารักเสมอ อั๊ยยยยยย :-[
-
อยากให้มีตอนของเค้กกับคิวเยอะๆจัง
-
ฟ้าก็ลองอีกครั้งสิ ยังไงถ้าเจ็บอีก มันก็คงไม่เจ็บมากไปกว่านี้อีกแล้ว
ล่ะ ยิ่งเจ็บยิ่งสะใจ เจ็บให้มันสุดๆบางที่ครั้งนี้มันอาจไม่เจ็บก็ได้
ดีกว่ามาร้องเพลง ด่าตัวเองอีก หรือเมาเหล้า ทำตัวเสเพลอย่างที่คิวว่า
มันมีอะไรดีหรอ โทษทีนะเบ้บี้บังเอิญอินไปหน่อย
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกก :เฮ้อ:
อดีตอาฟ้ามันหดหู่มาก ช่วยตัดออกไปได้ไหมพี่บี้
เอาแค่ปัจจุบัน ที่ฟ้าเหนือกว่าไอ่สองคนนั้นพอแล้ว
เวลาหดหู่ กลับมาบ้านก็โดนหลานด่า
และมีหลานสะใภ้คอยปลอบ อบอุ่นมาก ๕๕๕
พ่อนักธุรกิจคนนั้นเศร้าอะไรในตา
เดี๋ยวหาเด็กในร้านอาฟ้าให้เอาไหม?
รึว่าคนนั้นจะเป็นเนื้อคู่ของบักจักร? :a5:
ว๊ากกกกกกกกก ไม่จริงใช่ไหมม :serius2:
รึว่าที่พี่บี้แกล้งเตือนตอนนั้นจะหมายถึง........
กรี๊ดดดดดดดดดดด ผั๊วะ เจอพี่บี้ตบ (เดามั่วเกินไปละ)
-
...งง กับคอมเม้นของตัวเอง สงสัยตอนที่พี่เม้น น้องเบบี กำลังลงตอนใหม่พอดี
...พอมาอ่านแล้วเห็นเม้นตัวเองไปอยู่ด้านล่างที่เบบี๋พึ่งลงเลย งง เข้าไปใหญ่
...ตอนนี้นะตอนแรกที่อ่านก็ไม่ชอบอาฟ้าเหมือนกัน เหมือนกับอาฟ้ามั่วนะ
...มันตรงใจก็ตรงที่คิว พูดทุกอย่างเลย แสบจริงๆๆคิวนี่มองอาฟ้าทะลุปรุโปร่ง แต่ละคำพูดเสียดแทงดีจริงๆๆ
...น้องเค๊ก ดูเด็กๆๆเนอะเมื่ออยู่กับพี่คิวผู้เด็ดขาด แต่ชอบพี่คิวมากๆๆตอนหลังๆๆสงสารอาฟ้าแล้ว
...ก็อย่างที่คิวบอกแหละ ทำตัวเอง เลิกทำร้ายตัวเองเถอะ :L2:
-
รอจ้ารอ :)
ปล.คนเราต่อให้เข้มแข็ง แข็งแกร่ง ขนาดไหน แค่ไหน แต่ถ้าเสียศูนย์เพราะ ความรักเมื่อไหร่มันก็อ่อนแอได้ทั้งนั้น :(
-
สงสาร อาฟ้า :monkeysad: *กอดปลอบ* :กอด1:
-
อาฟ้าคงต้องเลือกเอาซักทาง อดีตอันเจ็บปวดเลยทำให้อาฟ้ากลัวไปหมด ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นกับใคร แต่อาฟ้าก็ควรเอาอดีตมาเป็นบทเรียน และลองถามใจตัวเองว่าตอนนี้ต้องการใครกันแน่ระหว่างจักร หรือทิกเกอร์
เพราะหนูเค้กน่ารักแบบนี้ไง คิวถึงได้รักมาก
:L1: :pig4: กด + และ +เป็ดให้ค่ะ
-
:sad4:พี่ฟ้าอ่ะ :o12:
+ให้น้องบี้เช่นเดิมจ้า
-
:o12: :o12:
-
ทั้งๆที่ทะเลาะกัน แต่กลับรู้สึกได้เลยว่าสองอาหลานเค้ารักและเข้าใจกันมากจริงๆ o13
สงสารพี่ฟ้า แต่ก็อย่างที่คิวว่าแหละ จะยังไงก็อย่าทำร้ายชีวิตตัวเอง
:กอด1: น้องเค้ก น้องช่างน่ารัก
-
นู๋คิวสุดเท่ นู๋เค้กก็น่ารัก ส่วนพี่ฟ้าสุดรันทด 555
-
ฟ้าอ่ะอย่าทำแบบนี้ได้ไหมสงสารตัวเองบ้าง :monkeysad: เข็มแข็งหน่อยนะ
:pig4: คะ
-
เข้าใจความรู้สึกอาฟ้า มันยากที่จะให้ยอมรับ
คนเคยเจ็บปวดมามาก
มันฝังใจนะ
-
เครียด :เฮ้อ:พี่ฟ้าอ๊า อย่าเป็นอย่างงี้ซิ เป็นห่วงอะ เข้าใจคิวนะ ไม่มีหรอก ใครอยากจะเห็นคนที่เรารักเป็นแบบนี้ :กอด1:
แล้วนี้อาฟ้า ของ คิวอะ คนที่คิวยอมให้แล้วนะ ในกรณีที่เทียบกับคนอื่นๆอะนะ ฮ่าๆๆ เฮ้ออ หวังว่าพี่ฟ้าจะกลับมายืนได้
เลิกทำร้ายตัวเองได้แล้ว :monkeysad:
-
สงสาร อาฟ้าจับใจ :sad4: :sad4:
แต่ก็นะ อาฟ้าเลือกเองนิหน่า ><". เจ๊ว่าสุดหล่อของเจ๊ก็ทำตัวน่าร๊ากกกก อยู่นะ :laugh:
P.S. คิวฮาร์ดคอเป็นบ้า เป็นห่วงเค้าก็นะ
-
ฟ้าเหมือนคนโหยหาความรัก :เฮ้อ: น่าสงสาร
พี่คิวก็พูดแทงใจดำซะขนาดนั้น คุณอาเลยน้อยใจหลานชาย
แต่ขำเค้กอะ คืนนี้จะนอนหลับมั๊ยนั่น ฟ้ากอดซะแน่นขนาดนั้น
-
:เฮ้อ:อาฟ้าคะเมื่อไรจะตัดสินใจได้ซักทีอะ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
พี่คิวกับน้องเค้กยังรักกันเหมือนเดิมอิอิ :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
-
เค้าไม่สนใจอาฟ้าหรอก คึคึ เพราะมีเค้กคิว มาในตอนนี้เยอะเอาการอยู่ ห้าๆ
ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อให้น๊า :L2:
-
อืม หาทางจบให้ได้แล้ว
อยากจะไปช่วยแหกปากร้องเพลงดังๆ เป็นเพื่อนอยู่หรอกนะคะอาฟ้า
แต่กลัวโดนคิวมันตื้บเอาอ่ะ 5555
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: ดราม่าสุดๆๆๆๆๆๆ
-
อาฟ้าเมาแล้วออกแนว พร่ำเพ้อนะ :m20:
-
อาฟ้าทำไมเป็นจั๋งซี้ สีรับบ่ได้ :m16:
-
อยากจูบพี่คิว
:z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
-
คู่นี้มวยถูกคู่จริงๆ
หายเศร้าเหอะ อาฟ้า มีแต่คนรักอยู่รอบตัวขนาดนี้
-
อาหลานคู่นี้เค้ารักกันรุนแรงจริงๆๆ :กอด1:
-
"บางครั้งคนบางคนบนโลกที่เราไม่เคยพบปะมาก่อนเลย ก็สามารถเป็นพลังได้อย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว" <<< ใช่เลย....
เพลงมันบิ้วท์อารมณ์ได้ดีจริงๆ สำหรับตอนนี้ชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านของเอเจที่สุด ฟังเพลงแล้วคิดตาม อืม น้ำตาคลอเลยกู...
อ่านครึ่งแรกสงสารฟ้า ครึ่งหลังก็ยังสงสารอยู่ แต่ทำไมตอนสุดท้ายกลับสงสารเค้กล่ะ 555 เค้กน่ารัก :man1:
.. คู่นี้โผล่มาทำให้อยากอ่านตอนพิเศษของคู่นี้เลยอ่ะ อยากจะรู้ว่าในแต่ละวันเค้กจะรับมือกับคิวยังไง กับอามันยังขนาดนี้แค่คิดก็สนุกแล้ว อิอิ
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
คิว.....หนักแน่น ตรงประเด็น ชัดเจนมาก จนบางทีคนฟังที่ไม่ยอมรับตัวเองก็ทนฟังไม่ได้
แต่ถือเป็นการพูดเตือนสติที่ชะงักนัก เห็นด้วยมากๆที่ว่า ไม่ว่าฟ้าจะเลือกเดินทางไหนก็เจ็บอยู่ดี
จะคบใครก็คงไม่สนิทใจเหมือนเก่า อดีตคงตามหลอกหลอนเหมือนเป็นเงาเลยแหล่ะ
แต่มันคงถึงเวลาแล้วที่ต้องเลือกซักที ไม่งั้นก็ต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวอย่างนี้ไปจนตาย
จะเจ็บก็ให้มันเจ็บไป บางทีมันอาจจะช่วยสมานแผลได้เร็วขึ้นก็ได้
ดีกว่าปล่อยผ่านไปวันๆทั้งที่แผลไม่ได้รับการเยียวยาเลย
-
อาฟ้าน่าสงสาร ใกล้ถูกหลายคิวกินหัวแล้วไหมล่ะ :laugh:
น้องเค้กน่ารัก :-[ และสุดท้ายสงสารทิกเกอร์
:กอด1:
-
พี่ตูน Bodyslam เค้าฝากมา
http://www.youtube.com/watch?v=93iS0Kf8Cvg&feature=related
-
ถ้าเจอแบบอาฟ้าฉันคงสติแตกไปนานแล้ว
อาฟ้าสู้ๆนะ :L2:
พี่คิวยังคงตรงแหน่ว!เสมอต้นเสมอปลาย :try2:
ส่วนหนูเค้กก็น่ารักจริงเลย กอดที :กอด1:
-
อาฟ้าทำตัวเหลวแหลกอ่ะ ไม่เอานะ ไม่ดี
ว่าแต่ๆๆๆๆๆ เคเกมาค้างบ้านพี่คิวบ่อยแค่ไหนจ๊ะเนี่ย หุหุ
-
อาฟ้าคงสับสนมาก..
ฮือ หนูเข้าใจนะ TT____TT
แต่ฮาตอนที่เถียงกับคิวมาก 5555555
เค้กเหมือนเด็กอ่า ไม่รู้เรื่องไรกับเขาเล้ยยย
-
:m15: :m15: :m15: ตอนนี้มัน.... ความอ่อนแอมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆเนอะ หนูเข้าใจค่ะพี่ฟ้า หนูเข้าใจ เวลามันเกิดขึ้นมาเรามองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความพ่ายแพ้ของตัวเอง :monkeysad: :monkeysad: สู้ๆนะคะพี่ฟ้า ก้าวผ่านมันไปให้ได้ :a2: ดีใจจังค่ะที่คืนนี้มีเค้กอยู่เป็นเพื่อน
ปล. พี่คิวคงเหนื่อยน่าดู :เฮ้อ:
-
เฮ้อ บางทีคนรอบข้างก้อเหมือนกระจกดีๆนี่เอง (คำพูดของคนรอบข้างสะท้อนการกระทำของเราเอง)
โดยเฉพาะกับคิว รายนี้มองทีแทบจะทะลุร่างได้อยู่ล่ะ
ฟังคิว แล้วกลับไปคิด หวังว่าอาฟ้าน่าจะเจอคำตอบแล้วน่ะ รึรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ไม่ยอมรับ
รอลุ้นครับบบ อาฟ้าจะทำยังไงกับปัญหานี้
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
รอตอนต่อไปครับ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ตอนนี้สงสารเค้านะ แต่ทำตัวเป็นหลานสะใภ้ได้ดีมากๆเลย :กอด1: อย่าที่คิวบิกเลวร้ายกว่านี้ยังผ่านมาได้ ทำตัวเองทั้งนั้น
-
สงสารพี่ฟ้าอ่า คิวก็พูดซะตรงเลย ฮ่าา ถ้าจะทำตามใจตัวเองบ้างก็ดีนะ ชีวิตคนเรามันก็เสี่ยงอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วไม่ใช่หรอ ??
-
ผงเข้าตาตัวเองเขี่ยยังไงก็ไม่ออก อาฟ้าทำไม ทำตัวน่าเป็นห่วงแบบนี้นะ :เฮ้อ:
-
ถ้าพี่ฟ้าแกจะเด็กขนาดนี้ กร๊ากกก คิวเป็นอาใช่ม่ะ พี่ฟ้าเป็นหลาน หุหุ ดีนะที่ได้เค้กช่วย ว่าแต่พี่คิวยอมได้งัยว้าาา
-
ก็รู้ว่าเจ็บปวดแต่ก็อยากให้อาฟ้าเข้มแข็งมากๆ
มันผ่านมาตั้งสี่ห้าปีแล้วอาฟ้าก็ยังผ่านมาได้
พอมาเจออย่างวันนี้คิวเค้าก็เลยผิดหวังล่ะมั้งนะ
เหมือนอาฟ้าหยุดตัวเองเอาไว้กับอดีตเมื่อตอนนั้น
ก็ได้แต่หวังว่าหลังจากคืนนี้แล้วอาฟ้าจะดีขึ้นนะ
เพราะคนที่เป็นห่วงที่สุดก็คือหลานสุดที่รักนั่นแหละ
ว่าแต่เดี๋ยวนี้เค้กนอนห้องเดียวกับพี่คิวด้วยเหรอ
เห็นมาตามให้กลับไปนอนที่ห้อง :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
คำพูดพี่คิวตรงเป๊ะๆ แต่..มันตรงจนน่าสงสารพี่ฟ้า!
ไปๆมาๆกลายเป็นงอนหลานตัวเองซะงั้น
อาหลานคู่นี้รักกันรุนแรงจริงๆ
แอบกรี๊ด ตอนพี่คิวมาเรียกน้องเค้กกลับห้อง!!!
-
เห้ออออออ อาฟ้าความสุขอยู่ที่เราเลือกนะ
อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เรยคร่า
-
สงสารเค้ก พี่คิวน่าจะมาฉุดกลับห้องไป
-
:กอด1: อาฟ้า มามะใครไม่รังแกบอกมาเดี๋ยวเค้าจัดการให้ :laugh:
-
อาฟ้าเมาหมดสภาพเลยแฮะตอนนี้
พี่คิวนี่ก็ยังรักอาตัวเองได้รุนแรงเหมือนเดิม :z2:
ตอนนี้น้องเค้กออกเยอะเชียว ดูมึนๆงงๆ น่าร้ากกกก :-[
-
เข้าใจอาฟ้านะ :กอด1:
-
พี่ตูน Bodyslam เค้าฝากมา
http://www.youtube.com/watch?v=93iS0Kf8Cvg&feature=related
และเพลงนี้มันคือความรู้สึกของทิกเกอร์ในตอนนี้ เค้าอยากฝากให้อาฟ้าได้ฟัง
ได้โปรด ............."ยกโทษ"
http://www.youtube.com/watch?v=trlovVn1e2w
-
พี่ฟ้ากำลังหลงอยู่ในเขาวงกต หาทางออกให้ตัวเองไม่เจอสินะ
-
อาฟ้าค้าบบบบ อดีตก็คืออดีต แก้ไขไม่ได้ แต่เราเริ่มใหม่ได้นิ
มันคือบทเรียนไม่ใช่หรอ อาฟ้าอย่ากลัวอีกสิค้าบบ อาฟ้าต้องเข้มแข็งนะ
อย่างน้อย อาฟ้าก็มีคนที่รักอาฟ้าคอยดูแลอยู่ไม่ใช่หรอ
ถ้าอาฟ้าเจ็บ คิวคงตามฆ่าคนที่ทำให้อาฟ้าเจ็บนั้แหละ 5555
อาฟ้าสู้ๆๆนะ
-
ตอนล่าสุดอ่านแล้ว หน่วง มากอ่ะ
ตอนที่แล้วสงสารทิกเกอร์ ตอนนี้สงสารอาฟ้า T^T
-
สุดท้ายฟ้าจะเลือกครหรือว่าไม่เลือกใครอีกเลยเพระอดีตี่แสนเจ็บปวดนั้นทำให้ฟ้าต้องเข้มแข็ง เอาใจช่วยฟ้าเสมอนะครับ ขอให้พบทางออกที่ดีเสมอ :L2:
-
ปวดหัวกับฟ้า :เฮ้อ:
-
เฮ้อ!!! เป็นตอนที่อึมครึมจริงๆ
อาฟ้าน่ะอา้ฟ้า แค่ยอมรับความรู้สึกของตัวเองมันยากมาเลยหรอกค่ะ
ตอนนี้มันไม่จำเป็นต้องหลีกทางให้ใครแล้วนี่ค่ะ
เพราะเค้าได้เลิกกันไปแล้ว
ที่จริงแล้ว มันก็แค่รักเองอ่ะ ลุยไปเลย ลุยให้เต็มที่
มันไม่มีอะไรให้ต้องเสียแล้วเพราะต่างคนต่างก็รักกัน
คว้าความรักเอาให้ได้นะ และต่อจากนี้สิ่งที่จะเกิดต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้นก็จะได้ไม่ต้องมาเสียใจที่หลัง
สู้ๆๆ
-
โธ่ อาฟ้า
การมีอดีตที่เจ็บปวด มันช่างบั่นทอนปัจจุบันได้มากมายจริงๆ
ถ้าทิกเกอร์กลับมาเพราะรักอาฟ้าจริงๆ ก็ขอให้ทนหน่อย
ซักวันอาฟ้าจะต้องดีขึ้นแน่ๆ
-
อาฟ้าก็ลองตัดสินใจเลือกสักทางหนึ่ง
แต่ผลคงมีอยู่ในใจตั้งแต่แรกแล้ว
แค่กลัวที่จะเลือก เพราะกลัวว่าจะเจ็บอีกสินะ
เอาใจช่วย อย่าเอาอดีตมาบั่นทอนปัจจุบันและอนาคต :a2:
:กอด1:
-
อาฟ้าเลิกทำร้ายตัวเองได้แล้วน้า
สงสารทั้งทิกเกอร์และอาฟ้า
-
เค้กน่ารักอ่ะ อิอิ
สงสารพี่ฟ้าจังเลย
จะเลือกเดินทางไหนต่อไปนะ
-
คนเราเวลาอ่อนแอ นี่เป็นอะไรทีุ่สุด ๆ ถ้าไม่มีสติพอ สิ่งที่ว่าแย่แล้วอาจแย่กว่าเดิมอีก
+1 ให้ไอ้หลานตัวแสบ แต่ก็แสนดี :z1:
ปล. ออกมาบทไหนก็น่ารักอ่ะ :จุ๊บๆ: น้องเค้กจ๋า
-
สุดยอดด น้ำตาไหลแล้วไหลอีก สงสารอาฟ้าอะ
แต่ก็แอบสงสารทิกเกอร์ที่ถูกอาฟ้าแกล้งด้วย
ชีวิตอาฟ้าช่างมาม่า :o12:
-
“แต่คิวจะบอกอะไรให้ ไม่ว่าอาจะเลือกทางไหน..แต่ไอ้จักรจะเป็นคนเดียวที่คิวจะไม่ยอมรับ รู้ไว้ซะ..เพราะมันไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการที่อาต้องเจ็บปวดเพราะมันหรอก ไม่มี”
มันมีอะไรมากกว่าการเป็นรักครั้งแรกที่ทุ่มเทใจไปมากมายหรือเปล่าหนอ
คิวถึงได้จงเกลียดจงชัง ฝังใจมากมาย แต่จักรก็ดูเหมือนไม่ค่อยสลดเท่าไหร่
กลับมาหาฟ้าแบบด้าน ๆ ยังงัยบอกไม่ถูก อันนี้ลำเอียงเข้าข้างทิกเกอร์เป็นการส่วนตัวเลยนะ 5555
คือเหมือนทิกเกอร์จะพยายามทำอะไรเพื่อฟ้ามากมาย อดทน มาง้อแบบน่าเห็นใจอ่ะ
ไม่ใช่เพราะรถราคาแพงที่ซื้อให้หรอกนะ เฮ้อ
-
อิพี่คิวก็ตรงเกิ๊น!! :m16:
-
สงสารพี่ฟ้าอะ ไม่ยอมปล่อยวาง โดนนายคิวดุเลย
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ฟ้าไหวไหมเนี่ย เมาซะ
-
พี่ฟ้า :z3:
เค้กน่ารักเสมอ :-[
-
เฮ้อ อาหลานคู่นี้
รักกัน แปลกๆๆดนอะ
-
อาฟ้าอ่ะอย่าทรมานตัวเองอยู่แบบนี้อีกเลยนะ หัวใจยิ่งบังคับมันก็ยิ่งเจ็บนะอาฟ้า ทำตามที่ใจเราต้องการเถอะ ในเมื่อชีวิตต้องเจอกับความเจ็บมามากแล้ว จะลองเสี่ยงดูอีกสักครั้งก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย อย่างน้อยก็ถือว่าเราได้เปิดโอกาสให้ความสุขมันเข้ามาในชีวิตบ้าง ดีกว่าเราเจ็บเพราะกลัวที่จะรักอยู่แบบนี้นะ พี่ฟ้าอาจไม่ต้องทุ่มให้ทั้งใจแบบเมื่อก่อนก็ได้นี่ เราก็แค่เริ่มต้นมันใหม่ .. คิวพูดตรงประเด็นกลางแสกหน้ามาก น่ากลัวจริงๆผู้ชายคนนี้ อย่าริอาจทำตัวงี่เง้าให้เห็นเชียว โหยยย ไอ้เราก็นึกว่าจะได้เห็นฉากหวานๆบ้าง ฝันสลายเลยอิพี่คิวบ้า ว่าแต่เค้กไปพูดอะไรน้าหลานจอมดุของพี่ฟ้าถึงยอมให้มานอนด้วยเนี่ย
-
อาฟ้าทำไมไม่เลือกสักที จะได้หายเจ็บปวด
-
ดันโว้ยยยยยยยย!!! :z10:
เผื่อๆ ไอ้น้องบี้มันจะพอมีเวลามาต่อ จะได้หาง่ายๆ เนอะ :z1:
:pig4:
-
ก็คงจะจริงอย่างที่คิวพูดนะ....
ช่วงเวลาที่มันแย่ได้ผ่านไปแล้ว มันต้องมีทางออกซักทางน่ะ :กอด1:
-
บร้ะ!! กดไลค์คำพูดคิวสักล้านครั้ง
มันตรงดีแท้
เลิกหลอกตัวเองสักทีเถอะพี่ฟ้า
-
ปรบมือให้พี่คิวล้านครั้งกับตอนนี้ บร่ะ!มันจะเท่ไปไหน :impress2:
เข้าใจว่าอาฟ้าเจ็บกับอดีตมามาก แต่เราก็ควรจะรู้ใจตัวเองสักที
(อย่างน้อยพี่คิวก็เชียร์ทิกเกอร์เหมือนเค้า :o8:)
เอาใจช่วยนะคะ
ปล.น้องเค้กน่ารักก :กอด1:
-
แต่ถ้าผมนอนกอดคนอื่น เมื่อผมรู้สึกอยากปล่อยเมื่อไหร่ผมจะสามารถปล่อยเองได้อย่างตามใจชอบ ทั้งทั้งที่ผมเองก็รู้ว่าเค้กคงกำลังอึดอัดแต่ผมก็ไม่สนใจ
เหมือนบอกอะไรเลยเน้อ ก็คนมันกลัวจะทำอย่างไรก็ยังกลัว
-
แวะมาทักทาย และให้กำลังใจ
ย้อนมาอ่าน Lovers2 อีกรอบ แล้วก็เกิดอารมณ์เศร้าแทนอาฟ้าอีกครั้ง
แถมยังแอบกังวลเรื่องของอาฟ้ากับทิกเกอร์ในอนาคตอีกต่างหาก
สารบัญ Limited Lovers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
~13~
08:00 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“พี่ฟ้าครับ..ป้านิดตั้งโต๊ะสำหรับอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วนะครับ”
“พี่ฟ้าครับ”
“อืม” ผมขานตอบ รู้สึกหนักหัวอย่างมาก แถมตาก็แทบลืมไม่ขึ้นอีกด้วย
“ไหวไหมฮะ..หรือจะให้เค้กไปบอกป้านิดว่าให้จัดอาหารขึ้นมาบนห้อง” เค้กถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไหววว..” ผมตอบเสียงยานคาง
“คิวล่ะ” ผมถอนหายใจก่อนจะถาม
“นั่งรอที่โต๊ะอาหารแล้วครับ” เค้กยิ้มตอบ
“เฮ้อ..เบื่อขี้หน้า” ผมบ่นก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เค้กหัวเราะน้อยๆ พอนึกว่าเช้าวันนี้ก็ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้งกลับรู้สึกเซ็งขึ้นมานิดหน่อยเหมือนกันครับ
“พี่ล้างหน้าแป๊บ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน หลังจากจัดการกับตัวเองเสร็จ ผมเดินกอดคอเค้กเดินลงมาด้วยกัน ที่ต้องกอดคอเค้กเพราะผมยังรู้สึกง่วงและหนักหัวอยู่ เมื่อเข้ามาถึงห้องอาหารก็พบว่าคิวนั่งหน้าโหดรออยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว ป้านิดยิ้มทัก
“พิการรึไงน่ะ” คิวพูดขึ้นลอยๆ เค้กยิ้มแหยให้ผม
“ชิ” ผมจิปากก่อนจะปล่อยเค้กออกแล้วเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะ เค้กนั่งอีกฝั่งของผมทางด้านขวา ส่วนคิวนั่งอยู่ทางด้านซ้ายมือของผม
“....................” ในห้องอาหารเงียบลงสนิท
“ตักอาหารได้เลยครับป้า” คิวสั่งแทนที่จะเป็นผม
“ค่ะ” ป้านิดพยักหน้าและทำตามคำสั่งทันที
“วันนี้เป็นข้าวต้มกุ้งนะคะ คุณฟ้าทานอาหารร้อนๆ..จะได้สร่างเมา” ป้านิดยิ้มและตักข้าวต้มใส่ชามให้ผมก่อน
“เค้กเตรียมยาไว้ให้แล้ว นี่ฮะ” เค้กหยิบแก้วเล็ก ผมมองเห็นยาเม็ดใหญ่หนึ่งเม็ดอยู่ในแก้วใบนั้น
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้
“ทานข้าวเสร็จก็ทานยาเลยนะครับ” เค้กยิ้มกว้างบอก
“ไม่อยากจะทายว่าคงไม่เกินขวดรึสองขวดสินะ ถ้าคออ่อนขนาดนั้นวันหลังก็ไม่ต้องดื่ม..เปลืองยาน่ะ” คิวพูดขึ้น คิวหันมาจ้องหน้าผมอย่างต้องการว่ากวน ที่ปากคิวว่าอย่างนี้ได้ เพราะคิวเป็นคนขอแข็งมาก เรียกว่าคอแข็งมากถึงมากที่สุดเลยจะดีกว่า แทบไม่มีเหล้าตัวไหนไปสะกิดต่อมเมาของคิวได้ถ้าไม่ดื่มเกินสองถึงสามขวด
“หุบปากน่า อย่าหาเรื่องกันแต่เช้าได้ไหม” ผมว่าปราม
“พอใจ” อีกฝ่ายแสยะปากแล้วก้มลงตักข้าวต้มในชามของตัวเองขึ้นทานอย่างไม่รอใคร
“พูดอะไรไม่เคยนึกถึงใจคนอื่น นิสัยน่ะ..เพลาๆบ้างเถอะ” ผมบ่นเสียงเรียบแม้คิ้วของผมจะเริ่มขมวดมาชนกันก็ตาม คิวเงียบ เค้กชะงักก่อนจะวางช้อนลงในชามอย่างช้าๆ เค้กยิ้มแหยให้ผมเหมือนต้องการส่งสัญญาณบอกว่า “อย่าพูดอีกเลยนะครับ ผมขอร้อง” ประมาณนั้น ผมไม่สนใจ ตักอาหารขึ้นทานทั้งทั้งที่รู้ว่าเมื่อกี้นั้นพูดสิ่งที่แรงในความหมายไปซะแล้ว
“มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคนมักจะรับความจริงไม่ได้..ความจริง ก็คือความจริง” อีกฝ่ายย้อนขึ้นโต้งๆ
“แต่บางทีความจริง ก็ไม่ควรพูด เพราะมันเสียมารยาท..บางครั้งก็เหมือนไม่ได้แคร์กัน” ผมพูดกลับทันทีทันใด ตอนนี้เราต่างฝ่ายต่างพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ เหมือนกับกำลังเล่นสงครามประสาทต่อกันอยู่
“ถ้าบางคนจะนึกอย่างนั้นก็คงช่วยไม่ได้ เพราะถ้าต้องให้พูดด้วยคำพูดปลอบโยนหลอกลวง เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ..มันกระดากปากน่ะ ปลอบไปก็เท่านั้น ขนาดด่าว่าแล้วยังไม่ได้ช่วยอะไร ปลอบก็คงจะไม่ได้ช่วยอะไรเหมือนกัน” คิวย้อนอย่างไม่ได้หันมามองหน้าผม
“ถ้าจะไม่ปลอบกัน ก็ไม่ต้องว่ากัน” ผมย้อนเสียงเรียบเช่นเดิม
“ถ้าไม่อยากให้ว่ากัน ก็ไม่ต้องเรียกร้องความสนใจ” อีกฝ่ายตอบกลับทันที
“นี่คิว!” ผมเหลืออด กระแทกช้อนลงในชามข้าวต้มอย่างแรง
“ทำไมต้องหาเรื่องอาด้วย” ผมว่า คิ้วเริ่มขมวดผูกเป็นโบด้วยรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“ก็ดูคุณต่อปากต่อคำสิ” คิวว่ากลับไม่ได้ดูตัวเองเลย สงสัยมันคงอยากจะชนะผมให้ได้ซะจริงๆ
“นี่มันบนโต๊ะอาหาร ตอนเช้า...ใช่ เช้าวันใหม่ด้วย อาปวดหัว ทำไมอาต้องมาโดนคิวว่าซ้ำๆด้วยเนี้ย!” ผมโวยวาย
“แล้วคิดได้รึยังล่ะ คุณก็ยังเถียงเป็นเด็กอีก” คิวมองตาขวางใส่ผมอีก
“......................” ผมกัดฟันเข้าหากันอย่างควบคุมอารมณ์ แต่ดูเหมือนอารมณ์จะครุกรุ่นมากไปเสียหน่อย คำพูดที่คิดไว้ในหัวมันจึงตีกันไปหมด
“คิดไม่ได้” ผมตอบไปอย่างประชดประชันเพราะต้องการเอาชนะหลานตัวเอง
“อ๋อ..โฮะ ไม่แปลกใจ” คิวแสยะหัวเราะเสียงดัง
“คนอย่างคุณน่ะ ไม่สมควรให้ใครมาทุ่มเทด้วยหรอก..ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะไปบอกให้ทิกเกอร์ล้มเลิกความตั้งใจ แล้วกลับไปในที่ของเค้าซะ เรื่องจะได้จบสักที มันน่ารำคาญ..เห็นสภาพแล้วมันขัดตาชะมัด”
“คิว!”
“ไง..แทงใจดำรึไง หึ” คิวยิ้มด้วยสีหน้ากวนเหมือนต้องการจะลองดีกับผมไม่หยุด
“ค..คุณหนูคะ” ป้านิดพูดแทรกขึ้นเหมือนต้องการปรามด้วยความเป็นห่วง
“ถ้ายังไม่หยุดพูดก็ไม่ต้องกิน” ผมว่าใส่
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามไม่ทราบ” คิวตอกกลับด้วยท่าทางไม่ยอม
“สิทธิ์ของอา สิทธิ์ของเจ้าของบ้าน เจ้าของโต๊ะอาหาร เจ้าของอาหารนี่ก็ด้วย!” ผมตะคอกว่ากลับไปอย่างลืมตัว คิวชะงักในทันที
“....................” อีกฝ่ายเงียบไป ในห้องเงียบกริบลงในทันทีทันใด ผมได้สติกลับมาก็ถึงกับอึ้งด้วยเช่นกันที่ผมได้พูดคำพูดต้องห้ามออกไปเสียแล้ว
“อ๋อ ก็ดี..งั้นก็คงไม่จำเป็นต้องกิน” คิวเหวี่ยงผ้ากันเปื้อนลงบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืน
“คิว..คืออา” ผมรีบลุกขึ้นตาม
“นี่บ้านฉัน นี่โต๊ะของฉัน!..ก็ได้ นี่บ้านคุณนี่ ผมลืมไปสนิท” คิวหันกลับมาว่าตาขวาง
“คิว อาขอโทษ..” ผมรีบบอก
“คุณก็เหมือนปู่นั่นแหละ อะไรๆก็ของฉัน..บ้านของฉัน เงินของฉัน สิทธิ์ของฉัน หึ..พอจนมุม ก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด”
“คิว..กลับมานั่งเดี๋ยวนี้นะ! อาขอโทษแล้วไง..แล้วก็ห้ามว่าคุณปู่ด้วย” ผมโวยวายน้ำตาคลอ คิวเดินออกจากห้องอาหารไปไม่ฟังเสียง ผมยืนนิ่งมองเค้กที่วิ่งตามคิวออกไปและก็ต้องทรุดนั่งลงที่เก้าอี้อย่างเดิม
“ฟ้า..ฟ้าไม่ได้ตั้งใจ จะพูดแบบนั้นสักหน่อยอ่ะครับป้า” ผมมองหน้าป้านิดอย่างขอความเห็นใจเพราะคิดว่าป้านิดคงจะเข้าใจอารมณ์ในตอนนี้ของผมดี
“คุณฟ้าเป็นอา..คุณควรจะควบคุมสติตัวเองให้มากกว่านี้นะคะ คุณคิวเป็นคนแสดงออกแบบนั้น คุณคิดอย่างไรก็พูดออกมาอย่างนั้น..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเค้าจะไม่เป็นห่วงคุณหรอกนะคะ คุณมีกันอยู่สองคนมานานแล้ว พูดแบบนั้นไป..ไม่ดีเลยค่ะ” ป้านิดพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง น้ำตาของผมไหลลงอย่างรู้สึกผิด
“พ..พี่คิว ขับรถหนีเค้กไปเลยอ่ะครับ” เค้กเดินกลับเข้ามาพูดบอกหน้าหงอย ผมนั่งอึ้ง ขนาดเค้กไปตามคิวยังไม่ยอมระงับอารมณ์เพื่อฟัง แล้วผมจะเหลือเหรอครับงานนี้..เอเมน (=_=)
= = = = = = = =
“แม่ฮะ..แม่ น้องสาวคิว มีชื่อรึยังฮะ” ในตอนนั้นผมจำได้ว่าผมหยุดชะงักอยู่ที่หน้าประตูห้องสำหรับคนไข้ด้านในนานพอสมควร ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงยังไม่เดินเข้าไปพบหลานสาวที่เพิ่งเกิดของผม และรีบเข้าไปเยี่ยมพี่สะใภ้ที่อยากจะสอบถามเสียเหลือเกินว่าเธอสบายดีแล้วหรือยัง หลังจากที่เมื่อคืนเธอได้คลอดลูกคนที่สองให้กับตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ของเรา
“ยังเลยจ้ะ แม่ยังไม่ได้คิดไว้..อืม คุณพ่อเองก็ไม่ว่าง” พี่พิมพ์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่ม เธอพูดอย่างนุ่มนวล น้ำเสียงนั้นฟังดูออกว่าอาการคงยังไม่พื้นดีเท่าไหร่นัก
“งั้น..งั้นชื่อนี้ได้ไหมครับ” ผมแอบมองเข้าไปในห้อง หลานชายตัวน้อยชูสมุดเล่มหนึ่งขึ้น สมุดเล่มใหญ่มากจนเกือบจะปิดบังหน้าเล็กๆของคิวได้มิด
“.....................” พี่พิมพ์เงียบไป ผมไม่เห็นว่าบนกระดาษนั่นเขียนว่าอย่างไร คิวเพิ่งเจ็ดหรือแปดขวบประมาณนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เขียนหนังสือได้เยอะทีเดียว คุณครูบอกว่าบางทีคิวก็อาจจะเลื่อนชั้นนำเพื่อนคนอื่นๆได้ เพราะพัฒนาการของคิวนั้นเกิดเด็กวัยเดียวกันไปแล้ว
“ทำไมล่ะจ๊ะ” พี่พิมพ์ถาม น้ำเสียงของพี่พิมพ์สั่นเครือจนผมรู้สึกได้
“ก็..ก็ มีคำว่าฟ้า” คิวตอบเสียงเบา น้ำเสียงดูเหมือนไม่แน่ใจเท่าไหร่ที่จะอธิบายให้แม่ของตนฟัง
“ฟ้าคราม เขียนอย่างนี้..ถูกไหมฮะ ชื่อนี้ สวยดี” คิวยิ้มกว้าง ผมเองก็ยิ้มกว้างเช่นเดียวกัน หรืออาจจะกว้างกว่าหลานของผมด้วยซ้ำ ผมก็ไม่เข้าใจกับคำว่า “สวยดี” นั้นจะใช้ได้เหมาะสมกับการเรียกชื่อหรือเปล่า เด็กคงต้องการเปรียบกับก้อนเมฆและท้องฟ้าที่สวยสดใสสบายตาละมัง
“อีกอย่าง มีคำว่าฟ้าด้วย..จะได้เหมือนชื่ออาฟ้าไงฮะ” สิ้นคำอธิบายนั้น ขาของผมแข็งอย่างก้าวไม่ออก น้ำตาของผมไหลลงเดี๋ยวนั้น ผมจำได้ว่าตอนนั้นผมต้องเดินออกมาจากห้องคนไข้ ออกมานั่งอยู่ที่ร้านกาแฟในโรงพยาบาลอยู่เกือบชั่วโมง นั่งน้ำตาไหลจมอยู่กับกาแฟแก้วเดียวอยู่อย่างนั้น ครุ่นคิดกับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของผม น้ำเสียงของคิวสะท้อนก้องอยู่ในหัวของผมอย่างสลัดออกไปไม่ได้จนทุกวันนี้ ผมนั่งทำตัวให้เป็นปกติอยู่นานกว่าจะกล้ากลับไปเยี่ยมพี่พิมพ์ที่ห้อง ผมไม่กล่าวถามอะไร พี่พิมพ์เองก็ไม่พูดอะไรมาจนถึงปัจจุบัน มีเพียงเด็กผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า “ฟ้าคราม” เติบโตขึ้นมาครบถ้วนสมบูรณ์ นั่นคล้ายกับบอกเป็นนัยได้ว่า..ผมนั้นยังมีค่าอยู่เพียงไร..
= = = = = = = =
“คุณประสิทธิ์มาถึงแล้วค่ะคุณฟ้า” ป้านิดเดินมาตามผมที่ห้องหนังสือ ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ที่กำลังนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมา
“อยู่ที่ห้องรับแขกแล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับ” ผมพยักหน้า หลังจากที่คิวออกจากบ้านไปเพราะมีปากเสียงกับผมเมื่อเช้านี้ ผมไม่มีอารมณ์ทานอาหารเช้าต่อ จึงทำให้เค้กเดือดร้อนไปด้วย ผมโทรติดต่อหาประสิทธิ์เดี๋ยวนั้นเพราะนึกอย่างอื่นไม่ออกแล้ว
“สวัสดีครับคุณฟ้า” เมื่อประสิทธิ์เห็นผมเดินเข้ามา เขาลุกขึ้นยืนและยกมือไหว้ผมในทันที ผมรีบยกมือรับไหว้ตอบ
“เชิญนั่งครับ” ผมผายมือให้ ประสิทธิ์นั่งลง
“คุณฟ้าเรียกผมมามีอะไรให้รับใช้หรือครับ” เขาถาม ประสิทธิ์ดันแว่นตาที่ตนใส่เล็กน้อยเพื่อให้เข้าที่ ผมจ้องมองเขาก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา
“ช่วยติดต่อเรื่องโอนบ้านหลังนี้เป็นชื่อคิวให้ผมทีนะ” ผมพูด
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ” ประสิทธิ์ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“พอดี..เมื่อเช้ามีปากเสียงกันนิดหน่อยน่ะ” ผมบอก
“คุณคิวไม่ทราบหรอกเหรอครับ ว่ายังไง..พินัยกรรมที่คุณฟ้าได้ทำไว้ ก็ได้ยกบ้านหลังนี้กับบ้านตระกูลสิทธิบดีทรัพย์ให้เป็นของคุณคิวอยู่แล้ว” ประสิทธิ์พูด ผมเงียบลงครู่หนึ่ง
“ผมไม่ได้บอกเค้าน่ะ” ผมยิ้ม
“เอาเป็นว่า จัดการให้หน่อยนะ..แล้วก็มีเอกสารอะไรที่ต้องไปเซ็นก็โทรบอกผมล่วงหน้าแล้วกัน”
“เร็วที่สุดคุณคิดว่าน่าจะได้เมื่อไหร่” ผมพูดด้วยน้ำเสียงกดดัน เป็นการย้ำแกมบังคับว่าให้เขาดำเนินงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำให้ผมได้
“จัดการเรื่องธนาคารแล้วก็เอกสารให้ผมด้วย”
“ได้ครับ วันมะรืนประมาณแปดโมงเช้าถ้าคุณฟ้าว่าง..ผมก็สามารถพาไปได้เลย” ประสิทธิ์บอก
“โอเค..ไว้ผมจะโทรไปคอนเฟิร์มคุณอีกทีนะ ต้องคุยกับเจ้าตัวก่อน” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ได้ครับ” ประสิทธิ์พยักหน้ายิ้มตอบ
“เท่านี้ล่ะครับ ขอบคุณมากที่สละเวลามา” ผมพูด
“ยินดีครับ” ประสิทธิ์ยิ้มและลุกขึ้น ผมเดินไปส่งประสิทธิ์ที่หน้าประตูบ้านก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องหนังสืออีกครั้ง เค้กยังคงนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องอย่างเงียบๆคนเดียว น้องเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมเมื่อเห็นว่าผมเดินกลับเข้ามาในห้อง
“ไงครับ..หิวไหม” ผมถาม มือลูบหัวเค้กเบาๆก่อนจะเหลือบมองเวลาที่บอกว่าตอนนี้เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว
“นิดหน่อยครับ” เค้กยิ้มตอบ
“พี่คิวยังไม่โทรกลับมาเลยฮะ” เค้กพูดหน้าเศร้า ผมให้เค้กโทรติดต่อหาคิวหลายสายแล้ว ทั้งใช้เบอร์ของผมเองและใช้เบอร์ของเค้กด้วยแต่คิวกลับไม่รับสายเลย
“ขอโทษด้วยนะ กร่อยหมดเลย” ผมยิ้มน้อยๆแต่เค้กกลับฉีกยิ้มกว้างตอบให้
“อย่างนี้พี่ฟ้าจะทำยังไงล่ะครับ พี่คิวเหวี่ยงตั้งแต่เมื่อคืนลามมาถึงเช้าแบบนี้..คงโกรธมากแน่เลยนะฮะ”
“พี่ไปสะกิดต่อมมันเองล่ะนะ” ผมบ่น
“อุตส่าห์หยุดเรียนทั้งที ขอโทษด้วยนะครับ” ผมย้ำบอกอีกครั้ง ที่จริงวันนี้คิวและเค้กนัดว่าจะออกไปดูหนังกันเพราะวันนี้เค้กไม่มีเรียน อาจารย์ยกเลิกคลาสล่วงหน้าเมื่ออาทิตย์ก่อน ส่วนเวรที่ร้านของวันนี้คิวก็โยนไปให้เซ็นอีกด้วย ผมจึงรู้สึกผิดเข้าไปกันใหญ่ที่ทำให้เวลาอันแสนมีค่านี้ต้องหมดไปเพราะปากของผม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แล้ววันนี้พี่ฟ้าจะออกไปไหนรึเปล่า..งั้นเค้กขอตัวกลับบ้านก่อนดีกว่าครับ” เค้กพูด
“เดี๋ยวพี่ให้ลุงมีขับรถไปส่งนะ” ผมบอก
“ไม่เป็นไรครับ เค้กกลับเองได้”
“ไม่ได้ครับ..เดี๋ยวพี่ไปบอกลุงมีเตรียมรถให้ เค้กขึ้นไปเก็บของเถอะ” ผมบอก
“ขอบคุณครับ” เค้กยิ้มก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ผมเดินไปบอกให้ลุงมีเตรียมรถไปส่งเค้กที่บ้าน ระหว่างที่ผมนั่งรอเค้กอยู่ด้านล่างผมจึงลองกดโทรหาคิวอีกครั้ง
“อะไร” อยู่ๆอีกฝ่ายก็นึกรับสายขึ้นมาทำให้ผมไม่ทันได้ตั้งรับ
“อยู่ไหนน่ะ” ผมถามตะกุกตะกัก
“ทำไม” คิวถามกลับเสียงแข็งทันที
“เค้กจะกลับบ้านแล้วนะ อาให้ลุงมีขับรถไปส่ง” ผมบอก
“....................” ปลายสายเงียบสนิท
“นี่..กลับบ้านมาคุยกับอาก่อน อามีเรื่องจะคุยด้วย”
“ไม่มีอารมณ์” คิวตอบ ผมหันไปยิ้มให้เค้กที่เดินลงมาพอดี
“เฮ้อ..คิว อาขอโทษ ยังไง..เย็นนี้กลับมากินข้าวที่บ้านด้วยนะ วันนี้อาไม่ได้ออกไปไหน..อาจะรอกินพร้อมกันก็แล้วกัน ถ้าไม่กลับมา..อาก็จะไม่กิน” ผมบอกแกมบังคับ คิวเงียบเช่นเดิม
“คุยกับเค้กหน่อยนะ น้องจะกลับบ้านแล้ว” ผมยื่นโทรศัพท์ให้เค้ก เค้กชี้ตัวเองอย่างตกใจก่อนจะรับโทรศัพท์ไปคุยต่ออย่างช่วยไม่ได้
“ครับ..” ผมนั่งมอง เค้กหันข้างให้ผมหน่อยหนึ่ง
“ฮะ..อืม” เค้กพูดกับปรายสายเสียงเบามาก เสียงเบาพึมพำอย่างกับบ่นอะไรอยู่คนเดียว ผมคิดว่าเสียงพูดของคิวเวลาพูดเรียบๆนั้นเป็นคนเสียงเรียบนุ่มแล้ว แต่เค้กนี่เป็นอีกคนที่ผมจัดว่าเป็นคนพูดเสียงเบามากทีเดียว พูดเบาแต่กลับชัดถ้อยชัดคำอย่างกับผู้ดีแน่ะครับ
“ไม่เป็นไรฮะ..ครับ หวัดดีครับ” เค้กตัดสายก่อนจะยื่นโทรศัพท์กลับมาให้ผม
“คุยอะไรกันน่ะ” ผมถามอย่างอยากรู้
“เปล่าฮะ พี่คิวแค่ถามว่าจะกลับแล้วเหรอ” เค้กตอบเขินๆ
“อะนะ..เหมือนจะคุยกันยาวกว่านี้นะ” ผมแซวอย่างอดไม่ได้ เค้กยิ้มน้อยๆตอบให้
“ไปครับ พี่เดินไปส่ง” ผมบอกพร้อมกับกอดไหล่เค้ก เดินไปส่งเค้กที่หน้าบ้าน ลุงมีเตรียมรถรอไว้เรียบร้อยแล้ว
“ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะครับ” ผมยิ้มและเปิดประตูให้
“ครับ” เค้กยิ้มกว้าง เราโบกมือบ๊ายบายให้กันก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากบ้านไป ผมกลับเข้ามานอนพักในห้องหนังสือห้องประจำของคิว ผมไม่คิดว่าผมจะนอนหลับเพราะรู้สึกเหมือนสมองนั้นค่อนข้างตึงอย่างมาก แต่ก็ช่วยไม่ได้ วันนี้ผมจะพักสักวันและจะไม่คิดมากอะไร รวมถึงการที่จะไม่รับโทรศัพท์จากคนที่ทำงานหรือคนอื่นๆด้วยเช่นเดียวกัน
= = = = = = = =
-
17:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“คุณฟ้าคะ คุณคิวกลับมาแล้วค่ะ” น้าเพียง น้องสาวแท้ๆของป้านิด เป็นแม่บ้านคนหนึ่งในบ้านของเราเช่นกัน เธอวิ่งมาบอกในครัว ตอนนี้ผมกำลังทำอาหารเย็นอยู่ วันนี้ผมลงมือทำอาหารเองหลังจากที่ไม่ได้ทำมาเสียนานเพราะมัวแต่วุ่นกับเรื่องที่ผ่านมา รวมถึงไม่ค่อยได้กลับมาทานอาหารเย็นที่บ้านอีกด้วย
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้น้าเพียง
“ยังไง..ป้าช่วยตั้งโต๊ะเลยนะครับ” ผมบอกป้านิด
“ค่ะ” ป้านิดพยักหน้า ผมเดินออกมาจากครัวใหญ่ ระหว่างที่เดินออกมาเพื่อที่จะเดินไปที่ห้องหนังสือ คิวเดินเข้ามาในบ้านพอดี อีกฝ่ายมองหน้าผมด้วยสีหน้าอารมณ์บูดอย่างเห็นได้ชัด
“อาสั่งให้ป้านิดตั้งโต๊ะแล้วนะ” ผมบอกก่อน
“อืม” อีกฝ่ายตอบในลำคอและเดินสวนขึ้นไปบนบ้าน
“เฮ้อ..” ผมได้แต่ถอนหายใจปล่อยให้หลานตัวดีไปสงบสติอารมณ์ต่ออีกหน่อย ระหว่างที่ผมรอให้ป้านิดจัดโต๊ะอาหารอยู่สักพัก ป้านิดก็มาบอกว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว ผมมานั่งรอคิวที่โต๊ะอาหารได้ไม่นานคิวก็เดินลงมาพร้อมกับเสื้อผ้าในชุดที่ดูสบายขึ้น
“วันนี้อาทำมันวิลเลี่ยม แล้วก็ไก่ทอดไส้เนยกระเทียม” ผมพูดพร่ำอย่างไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีอารมณ์ตอบรับอย่างไร แน่นอนว่าอาหารที่ผมทำในวันนี้นั้นต้องการเอาใจหลานของผมอย่างเต็มที่ มันเป็นอาหารที่คิวชอบทั้งนั้น
“จานหลักเป็นสเต๊กเนื้อสันในวัวอบเนยสมุนไพรนะ ตอนแรกอาว่าจะทำสเต๊กฮาวายให้..แต่สันคอหมูหมดน่ะ ก็เลยไม่ได้ทำ” ผมพูดไม่หยุด คิวนั่งเงียบมองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาสุดชีวิต
“จะเอาน้ำอะไร โค้ก..เบียร์ไหม หรือวิสกี้..รึว่าไวน์ดี” ผมยิ้มสู้
“เบียร์” คิวตอบส่งๆ ผมหันไปพยักหน้าให้พี่เขียวรินเบียร์ให้คิวด้วย หลังจากนั้นเราเริ่มนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบเชียบ จะเรียกว่าไร้บทสนทนาเลยก็ว่าได้ คิวไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรก่อนสักอย่าง
“วันนี้หายไปไหนมาทั้งวัน” ผมถามขึ้น
“คอนโดฝัน” คิวตอบ
“เหรอ..อืม” ผมพยักหน้ารับรู้ ฝันเป็นเพื่อนกับคิวและเซ็นมานาน เป็นผู้หญิงที่โดยพื้นฐานแล้วมีจิตใจดีและเด็ดเดี่ยวทีเดียว ผมรู้ว่าเธอนั้นแอบรักหลานชายของผมมานาน เพียงแต่ผมไม่อยากพูด คิวเองก็คงทราบดีอยู่เต็มอก เบื้องหลังของเขาสองคนน่าจะมีอะไรมากมายกว่านั้น แต่เพียงผมไม่ทราบและไม่อยากซักถามให้มากความเท่านั้นเอง เขาทั้งสองคงจะจัดการเองได้ แม้ว่าที่ผ่านมาจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายแต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านมาด้วยดี และความสัมพันธ์ของเพื่อนรักนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
“วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ อาจัดวันนัดสัมภาษณ์ผู้ช่วยเชฟไว้แล้ว อาโทรบอกเซ็นแล้ว..ยังไง คิวก็ทำตัวให้ว่างไว้ด้วยล่ะ อาจะหยุดร้านวันนึง” ผมบอก
“.....................” คิวไม่ตอบ เอาแต่พยักหน้ารับรู้และตั้งหน้าตั้งตาทานลูกเดียว
“ส่วน ตารางงานใหม่ คงเริ่มตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไปเลยก็แล้วกันนะ” ผมบอก คิวหันหน้ากลับมามองหน้าผมก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“กินเสร็จแล้ว อามีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย” ผมตัดบท คิวไม่ตอบและไม่พยักหน้าอีก เรานั่งเงียบหลังจากนั้นจนทานอาหารหมดเรียบร้อย คิวเดินไปรอผมที่ห้องหนังสือก่อน เมื่อผมไปถึงผมจึงนั่งลงที่โซฟาตัวตรงข้ามกับคิว
“นี่ของคิว” ผมวางเอกสารลงบนโต๊ะที่วางอยู่ขั้นกลางระหว่างเรา คิวเงียบ เหลือบมองและหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลไป ก่อนจะเปิดซองหยิบกระดาษที่อยู่ในนั้นออกมาอย่างช้าๆ ในห้องเงียบสนิท คิวเงยหน้าขึ้นมองหน้าผมก่อนจะสอดกระดาษเก็บเข้าอย่างเดิม
“มันเป็นพินัยกรรมที่อาทำไว้ได้สักพักแล้วน่ะ” ผมพูดบอกก่อนจะยิ้มให้
“แต่..มันคงไม่จำเป็นแล้ว เพราะอาให้ประสิทธิ์จัดการเรื่องเอกสารโอนบ้านให้แล้ว ถ้าวันมะรืนคิวว่าง..ก็ไปที่สำนักงานกับอาหน่อยนะ” ผมบอก คิวหลบสายตาของผมไปอีกทางก่อนที่จะวางซองเอกสารลงบนโต๊ะอย่างเดิม
“ช่างมันเถอะ ผมไม่ได้อยากได้หรอก” คิวพูดปนถอนหายใจ
“......................” เราเงียบลงพร้อมกัน คิวหันกลับมามองหน้าผม เราจ้องหน้ากันอยู่ชั่วครู่ ผมทราบดีว่าคิวไม่ได้อยากได้ ถ้าเทียบราคาของบ้านหลังนี้กับเงินมรดกที่คิวได้จากพ่อของผมนั้นมันน้อยมากทีเดียว บางทีผมก็อยากทำอะไรให้รัดกุม ผมจะได้ไม่ต้องหลุดพูดอะไรพล่อยๆออกไปอีก
“อารู้ อาขอโทษ..เมื่อเช้าอาแค่ อยาก เอาชนะ” ผมพูดเสียงเบา อดไม่ได้ที่จะเหลือกตาไปอีกทางเพราะไม่สามารถทนสู้กับสายตาอันกร้านโลกของหลานตัวเองได้ไหว
“อาไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นออกไป ก็มันโมโห..แล้วก็ ที่จริง”
“อาตั้งใจจะยกบ้านนี้กับบ้านของคุณปู่ให้เป็นของคิวอยู่แล้ว เร็วหรือช้าคงไม่สำคัญ..เป็นของคิวเร็วหน่อยก็คงจะดีกว่า อาจะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิดซ้ำๆอีก” ผมอธิบาย
“เป็นชื่อของคิวแล้วไง ยังไงบ้านหลังนี้มันก็คือบ้านอา..เงินอา บ้านนี้เกิดจากความคิดของอา” คิวพูดเสียงเรียบ ไร้น้ำเสียงที่ดุดันแตกต่างจากเมื่อเช้าอย่างสิ้นเชิง
“แต่ถ้าไม่มีคิว อาก็ไม่สามารถเรียกบ้านหลังนี้ว่าบ้านได้หรอกนะ” ผมพูดแทรก คิวชะงักไปในทันที
“บ้านนี้ก็คือความชอบของเราสองคน เรากลับมาเพื่อมีมัน..มีกันและกัน อาขอโทษ” ผมบอก น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ เราเงียบลงอีกครั้งหนึ่ง คิวไม่เอ่ยพูดอะไรอยู่นานมาก ผมไม่คิดจะพูดออกไปก่อนเพราะอยากให้คิวเป็นฝ่ายตัดสินใจเอง ถึงแม้ว่าผมไม่อยากให้คิวไปไหนทั้งนั้น ผมอยากให้เขาอยู่ที่นี่จนกว่าเราจะตายจากกันไป จะบอกว่าผมต้องการเอาบ้านหลังนี้มัดคิวไว้กับผมก็ได้ แต่นี่คือความรู้สึกเดียวที่มีอยู่เต็มอกซึ่งผมก็ไม่สามารถเอาความเอาแต่ใจของผมมาแทรกเพื่อให้คิวไขว้เขวได้อยู่ดี
“ในเมื่ออาคิดแบบนั้น มันก็ไม่จำเป็นหรอกว่าบ้านจะเป็นชื่อใคร..สักวันมันก็ต้องตกเป็นของคิว ถ้าไม่มีคิว มันก็ยังคงเป็นของอา” คิวบอก
“ผมไม่ได้คิดมากหรอก บอกแล้วไงว่าช่างมันเถอะ..ผมเองก็คงโมโหคุณมากไปหน่อย” คิวพูดส่งๆ แทนตัวเองสลับไปสลับมาระหว่าง “ผม” และ “คิว” อยู่ซ้ำๆจนผมแทบจะหัวเราะออกมา
“แต่” ผมเอ่ย
“ตามนั้นแหละ โทรไปยกเลิกคุณประสิทธิ์ด้วยล่ะ..ผมไม่มีเวลาว่างขนาดไปทำเรื่องไร้สาระกับคุณได้หรอกนะ” คิวทำหน้าเซ็งใส่ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ
“หึ” ผมหลุดหัวเราะ
“เก็บเอกสารนี้ไว้กับตัวก็แล้วกัน เพราะอีกฉบับประสิทธิ์เป็นคนเก็บ..หรือจะไปให้แม่เก็บไว้ก็ได้นะ” ผมบอกพร้อมกับดันซองเอกสารให้ใกล้คิวมากขึ้น
“อืม” คิวพยักหน้าตอบ
“ขอบคุณ” คิวพูด ผมยิ้มให้
“แต่ไม่ใช่ว่าจะยกโทษให้กับเรื่องทั้งหมดหรอกนะ ไอ้สาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องนี้น่ะ..ไม่เกี่ยวกัน” คิวพูดเสริมด้วยน้ำเสียงเหมือนอยากให้พ้นๆไปเสีย
“จิ..เฮ้อ” ผมถอนหายใจและเอียงคออย่างต้องการหยอกล้ออีกฝ่าย
“ไม่เอาน่า อย่าพูดเรื่องนั้นเลย..เสียอารมณ์เปล่าๆ” ผมเอนตัวนอนลงบนโซฟา คิวเหลือบตามองผมด้วยสายตาเหมือนคนรวยกำลังดูถูกคนจนอย่างไรอย่างนั้น
“หึ..เฮอะ” อยู่ๆอีกฝ่ายก็แสยะปาก ผมยิ้มกวนตอบให้
“อย่าทะนงตัวให้มันมากนักเลยนะ..” คิวว่า
“คุณน่ะ..หันกลับไปมองบัตรประชาชนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ คุณคิดบ้างรึเปล่าว่าตอนนี้อายุของคุณมันปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว” คิวยักคิ้วและยิ้มกวนให้ผม ผมชะงักหน้าเหวอ
“หุบปากเน่าๆของแกนะไอ้คิว ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดแกออกจากกองมรดกจริงๆด้วย” ผมปรามเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองนั้นเริ่มจะจนมุมขึ้นมาอีกครั้ง
“อีกไม่กี่เดือน ก็จะย่างสามสิบเจ็ดเข้าให้แล้ว” คิวยังไม่ยอมหยุดพูดอะไรแย่ๆ
“นี่..ฉันเพิ่งย่างสามสิบห้าเหอะไอ้หลานเวร” ผมด่าแกมขำเพราะคิวดันบวกเลขเพิ่มให้ผมซะอย่างนั้น
“หึหึ อ่าวเหรอ” คิวหัวเราะชอบใจ
“แต่บางที..คุณควรสำนึกตัวน่ะนะ ว่าคุณจะเลือกได้อีกแค่ไม่เกินสี่สิบ..ผมให้อย่างมากได้เท่านั้น ถ้าเป็นผม ผมคงไม่อยากได้เมียอายุแก่ขนาดสี่สิบหรอก” คิวเบะปาก
“หรือ คุณอาจจะไม่มีใคร..แล้วเป็นเกย์แก่นอนกับคนอื่นไปวันๆ ที่แย่กว่านั้น..เมื่อคุณแก่ลง ก็จะไม่มีใครอยากนอนกับคุณ นอกจากคุณจ่ายเงินให้..อืม นึกแล้วชวนอ้วกชะมัด” คิวทำหน้าสะอิดสะเอียน ด้วยความที่หมันไส้หลานตัวเอง ผมจึงหยิบหมอนที่อยู่ใกล้มือขว้างใส่หน้าของคิวซะ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการที่สมองอันชาญฉลาดของมันนั้นได้รู้ก่อน คิวกลับรับหมอนไว้ได้ทัน
“ผมจะบอกอะไรให้เอาบุญไหมครับคุณอา” คิวยักคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไป ผมชักเริ่มกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ สายตาของคิวเหมือนกับบอกผมว่ายังมีเรื่องอีกมากมายที่ผมยังไม่ทราบ ซึ่งมันค่อนข้างน่าตื่นเต้น เอ่อ..หรืออาจจะ “น่ากลัว”
“หลังจากที่ทิกเกอร์หย่าน่ะ เค้านอนกับผู้ชายคนอื่นนอกเหนือจากคุณมากี่คน” คิวเลิกคิ้ว ผมใจหายในทันทีเมื่อได้ยิน แต่อีกใจกลับนึกเข้าข้างตัวเองว่าคิวอาจจะกำลังโกหกอยู่ก็เป็นได้ โกหกเพื่อต้องการจะยั่วอารมณ์ของผมเล่นประมาณนั้น
“หึ..อึ้งล่ะสิ คิดว่าทิกเกอร์นอนกับผู้ชายคือคุณคนเดียวรึไง” คิวหัวเราะชอบใจ
“ไม่ตลก” ผมว่าปราม
“เอ้า หน้าผมเหมือนขำอยู่งั้นเหรอครับ..ผมกำลังพูดเรื่องจริงที่คุณไม่รู้อยู่ต่างหาก” คิวผายมือไปมาก่อนจะเอนตัวพิงพนักโซฟาด้วยท่าทีกวนผมเสียเหลือเกิน
“แต่ใครจะไปรู้ใช่ไหมว่าทิกเกอร์นอนกับใครไปแล้วอีกกี่คน นอกจากเจ้าตัว..ถูกไหม หรือบางที อาจจะนับไม่ถ้วนเหมือนคุณก็ได้ ใช่แล้ว” คิวพยักพเยิดหน้าไปมา
“ใช่แล้วๆ..ปกติของมนุษย์ที่ย่ำแย่นี่นะ ต้องการที่พักพิง” คิวทำหน้าทำตากวนอารมณ์ผมเสียมากๆ คำพูดประชดประชันจนผมไม่อยากจะฟัง ผมพลิกตัวหันหลังให้คิว รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างเต็มอก ผมหงุดหงิดและหงุดหงิดมาก ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่คิวพูดนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า ถ้าผมจะไม่เข้าข้างตัวเองเกินไปหน่อย มันอาจจะเป็นความจริงอย่างที่คิวว่าก็ได้
“อยากรู้ก็ไปถามเจ้าตัวดู ถามไอ้เซ็น..หรือไม่ก็อาปูน”
“แต่ระวังเสียฟอร์มนะ” อีกฝ่ายพูดปนหัวเราะ ทำอย่างกับตัวเองนั้นไม่ฟอร์มจัดอย่างนั้น
“หนวกหูจริง ผีเจาะปากมาพูดรึไง” ผมบ่นมัน
“ผมว่าผมขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า อ๋อ..อีกอย่างที่ลืมบอกไป”
“แต่ผมว่าคุณก็น่าจะรู้ดีอยู่เต็มอก..ว่ามีแต่สาวๆที่ทำงาน รวมถึงลูกสาวของนักธุรกิจคู่ค้าน่ะ จ้องจะงาบทิกเกอร์อยู่ทุกที่ทุกเวลาที่ทำได้เลยล่ะ แต่ก็ไม่แปลก..ขนาดคุณเอง คุณยังเคยจ้องจะงาบเค้าเลย ว่าไหม” ระหว่างที่คิวพูดไปก็มีน้ำเสียงหัวเราะปนอยู่นิดๆตลอดเวลา
“ใช่สิ อามันเลวนี่” ผมพูดว่าอย่างรู้สึกน้อยใจขึ้นมา
“ต่อว่าตัวเองน่ะ ไม่ได้ทำให้ดูน่าเห็นใจขึ้นมาหรอกนะ” คิวว่า น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนไป
“อาไปให้ท่าเค้าเอง อยากได้เค้าเอง ไม่ถามด้วยว่าเค้ามีแฟนไหม นึกถึงแต่ตัวเอง..ก็สมควรแล้วที่จะโดนแบบนี้” ผมพูดขึ้น คิวเงียบ
“คน..จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา มันก็ไม่แปลกหรอกนะ แต่ที่เปลี่ยนไม่ได้เลยน่ะ..คือสันดาน” คิวตอกกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ผมหุบปากเข้าหากัน น้ำตาเริ่มไหลลงช้าๆ
“ทิกเกอร์ก็คงเปลี่ยนไปหลังจากที่มีคุณเข้ามาในชีวิต หลังจากที่คุณออกมาจากชีวิตของเค้า..ทิกเกอร์ก็เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน หลังจากที่คุณเลิกกับเค้า คุณเองก็ยังเปลี่ยนไปเลย มันอยู่ที่ว่า..คุณจะรับได้รึเปล่า เท่านั้น”
“ถ้าคุณเอาใครเข้ามาในชีวิตของคุณอีก คุณก็ต้องเปลี่ยนไปอีก..ชีวิตคุณ จะต้องเปลี่ยนไป”
“ถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยน คุณก็ควรจะเลือกทางที่ดีกว่านี้..อย่างที่ผมบอก ว่ามันขัดลูกตาน่ะ” คิวบ่นด้วยน้ำเสียงเซ็งทิ้งท้ายด้วย
“ก็เพราะ..” ผมเอ่ยขึ้น
“เพราะกลัวว่าจะเปลี่ยนไป ยังไงล่ะ..อาเหนื่อย ที่จะเปลี่ยนไป” ผมพูดเสียงเครือ
“....................” คิวเงียบลง
“ชาร์ลส์ เคดเดอริงบอกไว้ว่า..เราควรห่วงใยเกี่ยวกับอนาคต เพราะเราต้องใช้ชีวิตที่เหลือของเราในอนาคต อากำลังเป็นอยู่อย่างนั้น ขอโทษด้วยที่กำลังเป็นอยู่ และทำตัวไม่ได้ดีสักเท่าไหร่” ผมพูดเสียงเบา แต่ห้องนั้นเงียบมาก คิวคงจะได้ยินสิ่งที่ผมบ่นพึมพำเคล้าน้ำตาไปทั้งหมด
“เอช แจ็คสัน..กล่าวไว้ว่า” คิวย้อนกลับในทันที อย่างกับเรากำลังเลือกหยิบหนังสือในห้องนี้ เปิดมันออกเพื่อนำมาถกเถียงต่อความคิดและสนับสนุนเหตุผลของแต่ละคนอย่างนั้น
“เมื่อใครสวมกอดคุณ ให้เขาเป็นฝ่ายปล่อยก่อน”
“คุณเองก็เคยกอดก่อน และเป็นฝ่ายปล่อยมันก่อน..ตอนนี้น่ะ คุณอยากกลับไปเป็นฝ่ายกอดก่อนอีกเหมือนเดิม หรืออยากให้อีกฝ่ายกอดคุณก่อนกันล่ะ..คุณทำได้ทั้งสองอย่าง มันอยู่ที่คุณจะเลือกกอดหรือไม่กอดก็เท่านั้น ใช่..แต่เลือกคนที่น่ากอดด้วยก็ดีนะ” คิวพูดปนหัวเราะ ผมได้แต่หัวเราะตอบเสียงเบา
“ทุกคนต้องการสมหวังกับความรัก กับคนที่เราหลงรัก..” คิวว่า ผมนอนนิ่งไม่ไหวติง ในห้องเงียบมากคล้ายกับเป็นใจ
“แต่ไม่เสมอไป ที่จะได้ความรักจากคนที่รัก”
“เพราะความไม่แน่นอน ก็คือความไม่แน่นอน..ถ้าความรักจะเปลี่ยนไป อย่างที่ไม่ต้องการ..ที่จริง ความรักไม่ได้เปลี่ยนไป ความรักก็เหมือนสันดานคน ยังคงอยู่ดิบ..เหมือนเดิม” คิวพูดเสียงเรียบ น้ำเสียงทิ้งลงเหมือนตัวเองนั้นกำลังเข้าถึงมันอย่างที่ต้องการสื่อถึงผมด้วย
“แต่คนต่างหากที่เปลี่ยนไป จะดีหรือไม่ดี..ก็ขึ้นอยู่ที่ก้นบึ้งของคนๆนั้น”
“ถ้าอีกฝ่ายยังเปลี่ยนได้ เมื่อถึงวันนั้น..คุณเองก็คงเปลี่ยนได้ เหมือนที่คุณเป็นอยู่..คุณเปลี่ยนตัวเองจนได้เป็นอย่างทุกวันนี้ มันอาจจะมีวันที่ต้องทรมานมากหน่อย แต่การที่ได้รู้สึกอย่างนั้น..ก็ย้ำให้เรารู้ ว่าเรายังมีชีวิตอยู่น่ะนะ”
“ผม..จะขึ้นไปบนห้อง หวังว่าพรุ่งนี้..ผมคงไม่มาเจอสภาพน่าสมเพชอย่างนี้จนถึงเช้าล่ะ” คิวว่า ผมนอนนิ่งไม่เอ่ยตอบ ได้ยินเสียงคิวเดินออกจากห้องไป ผมรู้ดีว่าที่คิวพูดนั้นต้องการอะไรจากผม แต่อย่างที่ผมบอกนั่นแหละว่าผมต้องกลั่นกรองอะไรให้มากเสียหน่อย เพราะชีวิตนั้นมีอนาคต ผมเกรงกลัวอนาคตอย่างอดีตที่ผ่านมาที่ผมลืมตัวในการมีชีวิตในแบบคู่รัก ลืมที่จะมีสติไปถึงสองครั้งสองครา เป็นสองครั้งสองคราที่ยิ่งใหญ่และเจ็บปวด นั่นคงเพราะผมไม่ได้หลงรักใครง่ายๆหรือปล่อยให้คนอื่นเข้ามาทำตัวที่เรียกว่า “แฟน” ได้อย่างคนทั่วไป การที่จะลองคบและถ้าเข้ากันไม่ได้ก็เลิกรากันไปนั้นไม่ใช่สำหรับผม ผมไม่ต้องการอย่างนั้น สำหรับผมมันค่อนข้างไร้รสชาติ ผมบอกแล้วว่าถ้าเสื้อผ้าไม่มีเสน่ห์โดนใจผม ผมก็จะไม่หยิบขึ้นมาลองใส่ ดังนั้น..คนเองก็เช่นเดียวกัน
ผมได้แต่นึกขอโทษที่ทำตัวให้หลานผมเป็นห่วงมากเกินไปจนเราต้องมีปากเสียงกัน ซึ่งผมจะพยายามควบคุมตัวเองและจะไม่ปล่อยชีวิตไปตามอารมณ์ พยายามไม่นำอารมณ์นั้นมากลบอดีตอีก เคยมีหนังสือเล่มหนึ่งจากนักเขียนคนโปรดของผมได้เขียนไว้ ว่าทุกคนไม่ใช่ไม่พยายามลืมกับเรื่องราวที่ผ่านมา เพราะอดีตเลวร้ายที่เราอยากลืมนั่นแหละ..ที่เราไม่มีทางลืมมันได้ลงเด็ดขาด มันค่อนข้างแย่จริงๆ เรื่องบางเรื่องกลับลืมไปได้ง่ายดายทั้งทั้งที่อยากจดจำไปจนวันตายก็ตาม
...................>>>><<<<....................
v
v
v
จัดแบบซอฟๆ :z1:
-
:z13:
-
:z3: :z3: :z3: :z3:
-
แวะมาทักทาย และให้กำลังใจ
ย้อนมาอ่าน Lovers2 อีกรอบ แล้วก็เกิดอารมณ์เศร้าแทนอาฟ้าอีกครั้ง
แถมยังแอบกังวลเรื่องของอาฟ้ากับทิกเกอร์ในอนาคตอีกต่างหาก
สารบัญ Limited Lovers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
ขอบคุณสำหรับสารบัญอีกครั้ง ^__^ ฮ่าๆๆ
-
:3123:น่าสนใจตอนต่อไป
-
:z2: :z2: :z2:
-
ฟ้าก็ยังปวดหัวกับตัวเองต่อไป คิวกดดันขนาดนี้แล้ว ดื้อมากอ่ะอาฟ้า
-
ตอนนี้ดูเครียดๆ
อาหลานก็ปากพอกันเล้ย
ดีนะที่จบได้ด้วยดี
-
เป็นตอนที่ได้ครบทุกอารมณ์มาก ทั้งซาบซึ้ง อึน เศร้า น้ำตาคลอ สวีทหวานและฮา
เป็นตอนที่พูดถึงอะไรหลายๆอย่างที่เราอยากรู้มาตลอดคืออายุของอาฟ้า 555555
แล้วยังได้เห็นเค้กคุยโทรศัพท์กับพี่คิวถึงแม้จะไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรกันแต่คงจะหวานไม่น้อย
น่ารักทีเดียว ชอบบทสนทนาของอาฟ้ากับคิวมากกกก ชีวิตคนเราไม่เคยง่ายดาย
ความรัก คนข้างๆ การใช้ชีวิต อดีต และอนาคต ปรัชญามาเต็มมาก ขอบคุณที่มาต่อวันหยุด
เพราะเราจะได้อ่านทันที 55555 และมันสนุก อารมณ์ดีไปทั้งวันแน่นอนค่า : D
-
โอ๊ยยยยยยยยยยย รักคิวอ่ะ ชอบๆๆๆ ปลื้ม!!!!! >_<
ปล. นิสัยน่ะ..เผลาๆบ้างเถอะ << ต้องใช้ "เพลาๆ" คำนี้ค่ะ ^^
-
โฮก..ยาวได้ใจ
อาฟ้า....ยิ่งวิ่งหนีมันก็ยิ่งวิ่งตาม หนีเท่าไหร่ก็ไม่พ้นใจตัวเองนะ :o12: :o12: :o12:
-
อาหลานทะเลาะกันตลอด :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
-
โอ้ว ปรัชญาล้นกระทู้มาก ชอบๆๆๆ
อาฟ้าเลืิอกคนที่น่ากอดแบบที่คิวบอกเถอะนะ
ปล...เค้กน่ารักอ่ะ
-
คิวดูมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าอาฟ้าอีกอ่ะ....
-
พี่คิวพระเอกมากๆค่ะ ความคิดเป็นผู้ใหญ่มากๆเลย ชอบบบบ ><
พี่ฟ้าคิดดีๆน้า ถ้าไม่คว้าทิกเกอร์ไว้เราจะตามไปฉุดแล้วนะคะ 5555
-
o13 ขอบคุณครับสำหรับตอบนี้ ชอบมากจริงๆ
-
ชีวิตมันไม่ได้
สวยหรูเสมอไป :L2:
-
คนเปลี่ยนไปตามกาลเวลาแต่ที่ไม่เปลี่ยนคือสันดาน มันโดนมากเบบี่้ o13
-
เข้าใจปรัชญาคิวนะ
แต่ไม่เข้าใจว่าจะสื่ออะไร
แต่รู้สึกว่าอาฟ้าคิดได้แล่ว
ตอนหน้าคงมีอะไรที่เปลี่ยนไป
^^
-
นู๋เค้กเลยโดนลูกหลงไปด้วยเลย หุๆ
-
พี่ฟ้า กับ คิว ทะเลาะกันน่ากลัวอ่า
-
หลานคิว กับ อาฟ้า รักกันแบบเจ็บๆ อีกแล้ว
สมกับเป็นอัจฉริยะด้วยกันทั้งคู่จริง ขนาดแค่เถียงเอาชนะกันยังสามารถให้คนอ่านรู้สึกปวดตับจับจิตร(แต่ก็ชอบนะ รักกันแบบเจ็บๆ ^^)
น้องเค้กน่ารักมากจ้ะ ฝากพี่คิวฟัดแก้มแรงๆ ซัก 2 ฟอดดิ๊
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
-
...น้องเบบี้ เป็นนักเขียนที่เก่งมากๆๆ แต่ละประโยค แต่ละคำพูด มันกินใจ และมีเหตุมีผลในตัวของมันเอง
...อาหลานเค้าก็คิดต่างกันนะ ก็มันคนละคนกันนี่เนอะ แต่สุดท้าย..ความรัก..ที่มีต่อกันมันก็ทำให้เหตุการณ์และความสัมพันธ์กลับมาเหมือนเดิม
...อ่านไปน้ำตาซึมไปเลย อาฟ้านี่ชีวิตรันทด กว่าที่คิด อยู่บนกองเงินกองทอง ตระกูลใหญ่โตก็จริงสุขกาย ..แต่..ใจมันทุกข์ :เฮ้อ:
-
อยากให้อาฟ้าคิดตกเร็วๆ จะได้มีความสุขกับชีวิตมากกว่านี้
-
ทำไมภาค 2 ดราม่าเยี่ยงนี้ :sad4:
-
เฮ้อ...พี่ฟ้า เราเอาใจช่วยคุณ
ทุกคนเป็นห่วงคุณนะ
แต่ถึงอย่างนั้น...ชีวิตก็ยังเป็นของคุณอยู่
-
อาหลานคู่นี้ดุเดือกจริงเชียว :laugh:
อยากให้ฟ้าก้าวออกมาจากความกลัวให้ได้ อาจจะต้องใช้เวลา
ปล.เค้กน่ารักมากกกก ทำหน้าตื่นๆตลอดเวลา :impress2:
:pig4:นะคะ
-
อาฟ้ากับคิวดราม่ากันหนักๆ จนมาถึงดราม่า แบบเบาๆ
อยากให้เข้าใจกันน่า ไม่อยากให้ทะเลาะกัน เพราะยังไงคนอื่นก็คือคนอื่น
แต่อาหลานกันมีกันแค่สองคน
สงสารอาฟ้า เพราะว่าคงเจ็บหนักมากจริงๆ ถึงได้กลัวไปหมดอย่างงี้
แอบร้องไห้ตอนที่อาฟ้าบอกกับคิวว่าจะยกบ้านให้และอยากยึดติดกับคิว
เฮ้อ ร้องไห้กับอาฟ้าที่โดนกดดัน เหอๆ :z3:
-
อ่านตอนนี้แล้วอึ้ง ทึ่ง บวกแอบเครียดนิดๆ ปนเหนื่อยหน่อยๆ ตั้งแต่เริ่มยันจบ
เป็นตอนที่อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อยมากมาย เหมือนโดนสูบพลังยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อออ~
คงเพราะต้องตีความจากคำพูดของทั้งอาฟ้าและคิวในระหว่างที่อ่านไปด้วย
โดยเฉพาะปรัชญาชีวิตที่ทั้งอาฟ้าและคิวหยิบยกขึ้นมาร่ายยาวในตอนท้าย
เป็นอะไรที่ต้องใช้สมาธิในการอ่านและทำความเข้าใจแบบมหาศาลเลยทีเดียว
ซึ่งเมื่อถอดความและนัยแฝงได้ทั้งหมดก็ต้องยอมรับเห็นด้วยกับทุกๆ ความหมาย
เพราะทั้งหมดทั้งมวลนั้น สามารถนำมาเปรียบเทียบและปรับใช้ในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี
ถึงจะอ่านแล้วเหนื่อย แต่ขอบอกว่าชอบตอนนี้มากๆ ด้วยเป็นตอนที่มีแทบทุกอารมณ์
สุข เศร้า เหงา รัก กลัว โกรธ โมโห พ่ายแพ้ ฯลฯ อ่านแล้วเหมือนตกอยู่ในสภาวะกดดัน
ยิ่งฉากบนโต๊ะอาหารด้วยนะ อื้อหื้อออ~~~ ถึงกับจิกเม้าส์แทบพัง แถมตัวเกร็งแทนน้องเค้กเลยอ่ะ
คิวที่ปากคอเราะร้ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาบัดนี้ความปากร้ายยิ่งเพิ่มมากขึ้นทบเท่าพันทวี บรื้อออ~
ส่วนอาฟ้าโหมดฟิวส์ขาดนี่ก็น่ากลัวใช่ย่อย เสียแต่การควบคุมอารมณ์มีน้อยเกินไป
ที่ชอบที่สุดก็คงความรักความผูกพันธ์ระหว่างอาฟ้าและหลานคิวที่มีให้แก่กันและกัน
อมยิ้มกับคำพูดของเด็กชายคิวที่ว่า “ก็มีคำว่าฟ้า ฟ้าคราม เขียนอย่างนี้..ถูกไหมฮะ ชื่อนี้ สวยดี”
น้ำตาซึมตอนอาฟ้าบอกว่า “ถ้าไม่มีคิว อาก็ไม่สามารถเรียกบ้านหลังนี้ว่าบ้านได้หรอกนะ”
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงยืนยันความคิดเดิมที่ว่า อาฟ้ากับคิวควรจะสลับสับเปลี่ยนสถานะกัน กร๊าาากก~
และแน่นอนว่าถึงเค้กจะมีบทบาทแค่เพียงเล็กน้อย เพราะโดนอาฟ้าและคิวแย่งซีน แต่ยังไงเค้กก็น่ารักที่สุดดดด~
-
ผ่านไปได้แล้ว หวังว่า อาฟ้าจะคิดได้มากขึ้น คนเราต้องใช้เวลาเยียวยาความรักอย่างถูกวิธี
-
หน่วงแท้เหลา
แต่ก็เข้าใจความคิด
ของงอาฟ้าและก็คิวอยู่
-
เฮ้อออออออออออออออออ กว่าอาฟ้าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ เล่นเอาเรากลั้นหายใจไปตามๆกัน
ความรัก บางคราวก็ไม่ควรคิดไรมาก บางคราวก็ต้องชั่งใจให้หนัก ไม่มีอะไรแน่นอนเลย
ทีนี้ก็เหลือแต่ที่อาฟ้าวางเกมส์ไว้กับคุณจักร จะจัดการยังไงนะ
-
ป๊าดดด
เถียงกันอย่างกะมหากาพย์ o18
คิวนี่แม่ง กวนตีนจริงๆ :m20:
สงสารน้องเค้กกกกกกกกก :man1: :man1:
-
เป็นตอนที่หนักมาก อ่านไปทำความเข้าใจไปด้วย....เกือบมึน
แน่ใจนะคะว่าคิวไม่ได้แก่กว่าพี่ฟ้า สอนมาที อึ้งเลย :really2:
พี่ฟ้าสมัยเรื่องเค้กคิวแกก็ดูใสๆไหลเย็นดี พอมาถึงเรื่องตัวเองกลับดาร์คขึ้นทุกวัน
รอให้พี่ฟ้ากลับมามีความสุขอีกครั้งนะคะ :กอด1:
-
อาฟ้าคงต้องคิดถึงอนาคตตัวเองแล้วแหละ อย่าให้ถึงหลักสี่แบบที่คิวบอกนะ เดี๋ยวทิกเกอร์จะหนีไปซะก่อน :m20:
บ้านอาฟ้า-บ้านปู่ต่อไปจะเป็นของคิว แอร๊ยยยอิจฉาหนูเค้ก
:z3: อยากกินอาหารที่อาฟ้าทำให้คิวจัง มันน่ากินไปหมดเลย
กด+ และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ :L2: :pig4:
-
ให้กำลังใจฟ้าเสมอ สู้ๆๆนร้า
-
เค้กก็ยังทำตัวได้น่ารักทุกสถานการณ์ อิอิ
-
อาฟ้าสู้ๆ :3
-
เห็นอาฟ้าเมาแบบนี้ อยากเห็นน้องเค้กเมามั้งจัง แอบหายคิดถึงน้องเค้กไปนิดหนึ่ง
ชอบจังเวลาอาฟ้าเรียกเค้กว่า แฟนของคิว (กว่าจะได้เป็นแฟนกัน น้ำตาร่วงไปหลายหยด 555)
เค้กก็ยังเขินน่ารักเหมือนเดิม อยากจะกรี๊ดตรงมานอนบ้านพี่คิวนี้แหละ เขินจัง >///<
ตอนนี้อาฟ้าแอบเศร้าอ่ะ
เค้าชอบให้อาฟ้าสดใสมากกว่า เหมือนตอนแรกๆ พี่ชอบแกล้งหลานๆ น้องๆ น่ารักมากเลย
อาฟ้าอย่าเศร้ามากเลยนะค่ะ พี่คิวก็แกล้งอาฟ้าได้อีกอ่ะ แต่แอบเชียร์ทิกเกอร์อยู่ใช่ไหมค่ะ (ช่วยเชียร์ด้วยๆ)
พี่คิวแอบคุยอะไรกับน้องเค้กกันน่ะ
-
พี่คิวเป็นคนมีเหตุผลมากๆ อาฟ้าก็ต้องเลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้วนะ เชื่อพี่คิวเถอะ
คู่คิวเค้กนี่หวานชื่นเนอะ แล้วน้องไม่หึงหรอที่พี่คิวไปคอนโดฝัน :z10:
-
อ่านตอนนี้ แล้วรู้สึกแปลกๆกับคู่ของคิว ... คิวมีเค้กไว้ทำมัยนะ เวลามีทุกข์มีสุข คิววิ่งไปหาแต่ฝัน ปล่อยเค้กไว้คนเดียวไม่แลเลย เฮ้อ ....
-
ไปหาฝัน...อืม :m29: :m29: :m29:
-
สงสารเค้กแทน
บ้านนี้เจ้าอารมณ์ ตัวตนสูงกันหมด :เฮ้อ:
+1
-
ทั้งหมดทั้งมวลคือ พี่คิวเป็นห่วงและรักอาฟ้ามากกกกกก
ส่วนอาฟ้า น้อยใจพี่คิว แต่ก็รู้ว่าหลานเป็นคนยังไง แบบอาต้องทำใจไรงี้
เอาใจช่วยอาฟ้าสุดใจขาดดิ้น รู้สึกหวั่นเกรงเรื่องทิกเกอร์มหาศาลมากตอนนี้
เค้กก็น่ารักเนอะ คิดถึง คิคิ
ขอบคุณคุณเบบี้นะคะ ว่าแล้วว่าวันนี้ต้องได้เจอ :pig4:
-
ซอฟจนกระอักเลือดเลยค่ะ :z3:
-
ปรัชญาชีวิตจริงๆ
-
ถ้ามันจะตัดสินใจยากนักล่ะก็ ตัดใจไปเลยดีกว่าจะกว่ามั๊ย
ตัวเลือกทั้งสองคนล้วนแล้วแต่เคยทำให้เจ็บมากมายมาก่อนทั้งนั้น
-
:z13: :z13: :z13:
-
อ๊ากกกกกกกกกกก :m31:
อึดอัดอ่ะ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :z3: :z3:
-
ก็เข้าใจนะว่าคิวเป็นคนพูดหวาน ให้กำลังใจใครไม่เป็น
แต่ก็ไม่เห็นต้องทำร้ายใจกันด้วยคำพูดเลยนินา
บางคนได้สติเพราะโดนคำพูดแรงๆ กระแทกโดนใจ
แต่บางคนก็เตลิดไปกันใหญ่เพราะโดนคำพูดแรงๆ กระแทกจนจุก
เม้งนายคิวละ ชิส์
-
พี่คิว...ได้ใจมากอ่ะ
รักนะคะ
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ที่พี่คิวพูดแบบนั้นเพราะห่วงแล้วก็รักพี่ฟ้ามาก
ถึงคำพูดมันจะไม่สวยหรู ด้วยนิสัยของพี่คิวอ่ะนะ
แต่ที่น่าสงสารที่สุดคือน้องเค้ก
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
คิวอยากไปอยู่บ้าริมทะเลที่ซื้อต่อจากฟ่้าครามกับเค้กเร็วๆสิท่า
เลยอยากให้ลงเอยกับทิกเกอร์เร็วๆ หรือเปล่า ฮ่าๆ
รอตอนต่อไปครับ
-
อาฟ้าดูซีเรียจ ดาร์คๆ อ่านไปอึนไป
รอจ้ารอ :)
-
:impress2:
พี่คิวเยี่ยมมม
-
โล่งอก นึกว่าคิวจะโกรธจนไม่ยอมคุยกับพี่ฟ้าซะแล้ว
อย่างที่คิวบอกแหละ อนาคตจะเป็นยังไงอยู่ที่เราเลือก
-
แวะมาทักทาย และให้กำลังใจ
ย้อนมาอ่าน Lovers2 อีกรอบ แล้วก็เกิดอารมณ์เศร้าแทนอาฟ้าอีกครั้ง
แถมยังแอบกังวลเรื่องของอาฟ้ากับทิกเกอร์ในอนาคตอีกต่างหาก
สารบัญ Limited Lovers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
ขอบคุณสำหรับสารบัญอีกครั้ง ^__^ ฮ่าๆๆ
อูยยย~ ขอโทษทีค่ะ พอดีเพิ่งเห็นตอนแอบมาอัพเดทสารบัญ คึคึ
(ที่จริงทำลิ้งก์ไว้เวลาแก้ไขจะได้หาง่ายหน่อย เปล่าทวงคำขอบคุณแต่อย่างใด)
ด้วยความยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งเลยค่ะคุณบี้ เล็กน้อยมากๆ สำหรับสารบัญ
ถือว่าเป็นน้ำใจที่สามารถทำได้ ตอบแทนที่คุณบี้แต่งนิยายสนุกๆ ให้ได้อ่านกัน
ว่าแต่ตอนหน้าจะยังคงอยู่ในสภาวะกดดันแบบนี้ต่อไปอีกหรือเปล่า อยากรู้ใจจะขาดแล้วนะเนี่ย
(เหมือนบ่งบอกแกมบังคับเป็นนัยๆ ว่าให้รีบๆ มาต่อโดยไวยังไงก็ไม่รู้เนอะ กร๊าาากกก~)
-
อาฟ้าถูกกดดันจากหลานรักอย่างแรง
แต่ก็จริงนะไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย เกย์ ตุ๊ด ทอม ดี้
พอเวลาคิดถึงตอนอายุ 40 อัพแล้วให้น่าเศร้า ^^"
-
คิว เด็กคนนี้ เจออะไรมาเยอะ ทั้งที่อายุแค่นี้ แต่สิ่งที่เจอ ประสบการณ์ การมองคน มุมมองชีวิต ของคิวเหมือนคนที่ผ่านมาแล้วครึ่งชีวิต
อาฟ้า อดีตนำมาเปลี่ยนให้เป็นบทเรียนที่ดีขึ้น เค้ารู่ว่าอาฟ้า ทำได้แต่แค่อาฟ้ากลัวว่า ถ้ามันจะต้องเปลี่ยนแปลงอีก อาฟ้าจะรับมันไม่ไหวแล้ว เลยไม่ต้องให้มันเกิดขึ้นซะเลยดีกว่า
แต่ อย่างที่คิวบอก คนอื่น ก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน ก็อยู่ที่อาฟ้านะ ว่าพร้อมจะเชื่อและเสี่ยงไหมว่า คนนั้น ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วเหมือนกัน
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: เบบี้ อาฟ้า คิว แอนด์ น้องเค้ก ที่นู๋มาซวยกับเค้าทุกตอนกร๊ากกกกกกกกกกกก :laugh:
-
พี่ฟ้าพูดแบบนั้นทำร้ายจิตใจกันมากอะเปนเราคงน้อยใจมากๆแต่ดีที่ปรับความเข้าใจกันแรว :เฮ้อ:
-
:z10: :z10: :z10:
-
ฟ้าก็ยังหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้ต่อไป :m15:
-
มีใครหมั่นไส้นายคิวอย่างเราบ้าง
เอาจุดอ่อนคนอื่นมาพูดตอกหน้าอยู่นั่นล่ะ บางเรื่องมันก็ต้องคิดและต้องการเวลานะ
ถ้าทิกเกอร์มันจะไขว้เขว ไม่ต้องการรอ ก็ช่างมันปะไร
-
รักไป ช้ำไป เสียใจจนชิน
...... ตามนั้นค่ะ
-
ฟ้าสู้ๆ :กอด1:
-
รักคิวเค้กอ่า
-
น้ำตาแทบไหล สงสารพี่ฟ้านะจริงๆแล้วอ่ะ
คือผิดหวังแบบใหญ่โตมโหฬาร มันก็ไม่ผิดนะ ถ้าจะกลัว
แต่ชีวิจเรา เกิดมาครั้งเดียวค่ะ ลุยเลยพี่ฟ้า
เอาตามที่หัวใจมันร้องเรียกค่ะ ลุยยยยยยย
-
โอ้ววววว...ทะเลาะกันจนได้ อา หลานคู่นี้
แต่ที่คิวพูดก็ถูกอะ
อาฟ้าคงต้องใช้ใจ ในการตัดสินใจแล้วหล่ะ
-
อิสองคนอาหลานนี่ดราม่ากันได้โล่ :z3:
ฉะนั้น เราจะโฟกัสไปที่ น้องเค้กสุดโมเอ้แทนนะคะ :m1:
เค้กน้อยน่าร๊อกกกกกอ่ะ :m3:
-
ตกลง คิว คือ อา
ฟ้า คือ หลาน :laugh: :laugh:
-
อาหลานคู่นี้ทะเลาะกันทีบ้านแทบพัง
แต่ใจจริงแล้วทั้งคู่รักกันมากเพราะสู้มาด้วยกัน ถึงจะทะเลาะกันแค่ไหน
ก็ยังปรับความเข้าใจกันได้ ถึงแม้ว่าคิวจะพูดแบบไม่เคยให้กำลังใจฟ้าเท่าไหร่
แต่นี่ก็คือตัวตนของคิว ที่ไม่ชอบพูดหวานๆ แต่จะพูดกดดันให้คิด
แต่ว่างานนี้เค้กน่ารักที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :กอด1:
-
อ่านแล้วชอบบบบบบ
ชอบบบบมากๆๆๆจริงๆ
เรื่องนี้ รู้สึกว่างานเขียนพี่เบบี้ดีขึ้น สุดยอดมากขึ้น ตัวละครดีขี้น มีมิติมากขึ้น โตขึ้น
ชอบเรื่องนี้มากที่สุดในทุกงานเขียนของพี่เลย
ชอบมากจริงๆ ซื้อเรื่องนี้แน่นอนค่ะ รอติดตามนะคะ o13 :pig4:
-
คนนอกอย่างคิวมองเห็น แต่คนในอย่างอาฟ้ากลับมืดมน ความรักทำให้คนตาบอด (หูหนวกและเป็นใบ้) ความจริงถ้ามันเลือกยากนะก้อตัดใจอยู่มันคนเดียวสบายใจกว่านะ
-
จนถึงตอนนี้.....ก็เหมือนจะยังสับสนว่า...ใครคืออา..ใครคือหลาน o18 o18
อยากรู้จังง...ว่าพี่คิวคุยอะไรกับเค้กกกกก :impress2: :impress2:
บวกเป็ดให้เบบี้
-
เห้อทะเลาะกันจนได้ สองอาหลานคู่นี้ แถมครั้งนี้ยังรุนแรงมากด้วย บางทีคิวน่าจะพูดให้ซอลฟ์ลงกว่านี้นะ ฟ้าตอนนี้กำลังสับสน ยังไม่รู้จะเลือกเดินทางไหน ก็ต้องให้เวลาอาเค้าบ้าง อีกอย่างเรื่องที่คิวพูดฟ้าก็ควรนำกลับไปคิดดูนะ ทุกอย่างมันไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดหรอก ชีวิตคนเรามันก็ต้องเจอทั้งสุขและทุกข์นั่นละ อยู่ที่เราจะจัดการมันยังไงต่างหาก
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
เชือดเฉือนกันอย่างชนิด มันหยด...... แต่ก็ลงเอยด้วยดี ก็เพราะความหวงหาอาธรของอากับหลานคู่นี้ :กอด1:
+1 เป็นกำลังใจให้เบบี้ :z2:
-
อาฟ้ากับพี่คิวทะเลาะได้ดุเดือดมาก :z3: :z3: :z3:
-
:o8:โอ้ว หนักใจแทนฟ้าจัง
-
คือจะโกรธ จะนอยด์อาฟ้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ
แต่อารมณ์ไม่ดีแล้วไปคอนโดฝันมันคืออะไรห่ะคุณชายคิว
ขับรถหนีทั้งที่น้องเดินออกไปตาม แล้วไปอยู่ที่คอนโดอดีตคู่หมั้นทั้งวัน
แบบนี้มันน่าเชียร์ให้มีใครเข้ามาจีบเค้กอีกคนจริงๆ เลย
-
ทั้งหมดทั้งมวลที่คิวพูดมาก็เพราะรักและเป็นห่วงอ่ะนะ
แต่เพราะเป็นคนที่พูดตรงและแสดงออกตรงๆอย่างนั้น
เลยทำให้เหมือนไม่แคร์และซ้ำเติมกัน :เฮ้อ:
บางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลา แต่นานไปก็ไม่ดีนะเราว่า
มันจะทำให้เราจมและเจ็บกับมันอยู่อย่างนั้นไม่จบสิ้น
ขอให้พี่ฟ้าเจอทางออกและพร้อมเดินหน้าต่อไปนะคะ
ที่สำคัญขอให้เข้มแข็งและกลับมายิ้มได้เต็มหน้าเหมือนเดิม
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
อาหลานคู่นี้ทะเลาะกันน่ากลัวจริงๆ
:try2:
-
เหมือนจะไม่ซอฟนะบี้มาอย่างหนักหน่วง :เฮ้อ:
เข้าใจอาฟ้าแล้วก็เข้าใจคิว
ตอนนี้ก็ดูเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว
ก็เหลือแต่อาฟ้าที่จะต้องตัดสินใจ :กอด1:
-
อาฟ้าคงอารมณ์ประมาณ เจ้าสาวที่กลัวฝนอะ สงสัยต้องหาซื้อร่มให้ซักคันละ
-
น่าจับอาฟ้ามาตีตูด จับคิวมาจุ๊บ :laugh:จริงจริงเลย
ประชดกันไปกันมา :เฮ้อ: เจ๊เหนือยใจแทน
P.S. ก๊ไม่รู้ว่าอะไรจะเปลี่ยนไปแต่ เจ๊ยังรักนู๋เค้กเสมอ :o8:
-
ฮู้ววว หม้อมาม่าตอนเริ่มตั้งน้ำ เหอะๆ
ออกแนวเครียดๆ ตอนแรก แต่พอหลัง ๆ ก็โอเช
อาฟ้ากับคิวเริ่มเคลียร์กันแล้ววว ฮู้ววววว อดเจอฉากหวานของคิวกับเค้กเลยย
คิวนิโมโหร้ายดีเนอะ คึคึ
-
ทั้งฟ้าและคิวเป็นอาหลานที่มากกว่าอาหลานกันซะอีก :กอด1:
ดีใจแทนที่เกิดมาอยู่ในครอบครัวเดียวกัน :o8:
คิวอย่าเพิ่งบีบบังคับอาฟ้ามากเลย กว่าที่อาจะเปลี่ยนมาเป็นอย่างนี้ก็ใช้เวลาเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นจะเปลี่ยนอีกครั้งก็คงต้องใช้เวลาอีก ที่คิวขัดใจคือมันช้าใช่ไหมล่ะ เห็นใจอาฟ้านะคะ สับสนๆเนอะ :กอด1:
กอดน้องเค้ก พี่คิวแอบไปหาพี่ฝันเฉยเลย ไม่หนีบน้องไปด้วยเลยนะ :m16:
-
ไม่ว่าคำพูดของใครอีกสักกี่สิบกี่ร้อยคน
ไม่ว่าจะหยิบยกปรัชญาความรักจากหนังสือเล่มไหนๆ
คำตอบมันไม่ได้อยู่ที่ใคร นอกจากใจของอาฟ้าเอง
"ความรักจะไม่ทำร้ายเรา ถ้าเราไม่ทำร้ายตัวเอง"
อาฟ้าคือคนที่ตอบมันได้ดีที่สุด
-
เราเข้าใจนะ มันยากจะทำใจน่ะ :z10:
-
อาฟ้าาาาา :man1:
ลุ้นคู่ของอาฟ้าจนปวดตับไปหมดแล้วเนี่ย :เฮ้อ:
-
อาฟ้ายังคงน่าเห็นใจสุด เอาใจช่วยอาฟ้า :กอด1:
ก่อนหน้านี่เคยรู้สึกแบบอยากเห็นคิวพูดอะไรหวานๆมั่ง
แต่ตอนนี้คิดแบบ เออต้องยั่งงี้แหละ มันถึงจะคิว
พี่แกยังคงโหดเสมอต้นเสมอปลายมิเคยหลุดคาเรคเตอร์จริงๆ :laugh:
-
หวังว่าครั้งนี้คงทำให้อะไรมันดีขึ้นนะ
เพราะไม่อยากให้ฟ้ากับคิวต้องมาทะเลาะกันอีกแล้วอะ :monkeysad:
:pig4: คะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:z3: :z3:
อาฟ้าาาาา ฮือออ
หน่วงเบา ๆ อ่ะ
-
อาฟ้าก็คิดดีดี
กล้าที่จะเลือก กล้าที่จะเสี่ยง
เพื่อที่จะได้เดินไปข้างหน้าเสียที
ไม่อย่างนั้นก็ไม่ไปไหน อยู่กับที่เพราะความกลัว
:กอด1:
-
คิดถึง.. คิวปิ้ด :z2:
เต้นรอเบบี้ ^^
-
แล้วพี่ฟ้าจะทำงัยต่ออะ พี่ฟ้าจะเลือกใครรึป่าวเนี้ย
-
อาฟ้ารีบๆตัดสินใจน้า เดี๋ยวทิกเกอร์เปลี่ยนใจล่ะยุ่งเลย
-
ปรัชชาชีวิตเยอะได้อีก
เหนื่อยแล้วก็เครียดแทนเลยนะเนี่ย
-
~14~
12:00 น. ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“อ่าว..อะไรของสองคนนี้ครับเนี่ย” ผมทักกัสและเค้กที่นั่งอยู่ที่โต๊ะสำหรับรับรองลูกค้าในร้าน ทั้งสองคนใส่ชุดลำลองปกติ
“แฮ่” เค้กเงยหน้าและฉีกยิ้มกว้างตอบให้
“วันนี้เค้กกับพี่กัสไม่มีเวรทำงานอ่ะครับ อาทิตย์หน้าเค้กจะสอบแล้ว..เค้กเลยให้พี่กัสติวภาษาอังกฤษให้เค้กครับ” เค้กตอบ
“เราเห็นว่าสถานที่ที่เหมาะที่สุดคือร้านพี่ฟ้าฮะ เงียบดี แถมมีกลิ่นหอมของเค้กตลอดเวลาด้วย..เราจะได้มีความสุขกับการอ่านไงครับ” เค้กยิ้มหวาน
“ใช่..วันนี้เราเลยมากันในฐานะลูกค้านะครับพี่ฟ้า พี่ฟ้าต้องต้อนรับกัสกับเค้กดีๆ เพราะกัสเลี้ยงเค้กเองด้วย..เจ๋งป่ะ” กัสยักคิ้ว
“เจ๋งมาก” ไม่ใช่เสียงจากผม หมีเดินมาพร้อมกับถาดเสิร์ฟอาหาร ก่อนจะนำน้ำเสิร์ฟให้เค้กและกัส
โป๊ก !
“โอ๊ย..พี่หมีอ่ะ” กัสร้องเมื่อโดนหมีนำช้อนเคาะเข้าที่หัวของตน ผมลูบหัวกัสอย่างเบาๆอย่างปลอบโยน
“เงียบเสียงด้วย รบกวนลูกค้าคนอื่น..อย่าวุ่นวาย” หมีพูดเสียงเรียบและทำหน้าดุใส่ เค้กหุบปากเงียบในทันทีคงเพราะกลัวหมีล่ะครับ แต่คนที่อยากลองดีอยู่ตลอดเวลาคงมีกัสอยู่คนเดียวนี่ล่ะ
“ทำไมไม่ให้คิวสอนล่ะครับ” ผมถามเค้ก หมีเดินกลับไปแล้ว
“ไม่เอาหรอกฮะ..ช่วงนี้พี่คิวดูยุ่งๆ เกรงใจ” เค้กยิ้มแหย
“มีงานที่บริษัทเพิ่มด้วย อาจจะต้องบินไปต่างประเทศบ่อยๆ..ยังไง เค้กก็เข้าใจคิวหน่อยนะครับ” ผมบอกไว้ก่อน หลังจากอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ตารางงานของคิวและเซ็นจะต้องปรับเปลี่ยนไปทั้งหมด ผมรู้ดีว่าคิวรู้สึกอึดอัดที่จะทำงานนี้แค่ไหน แต่นั่นล่ะนะ นั่นเป็นการตัดสินใจของคิวเอง เขายอมรับ ดังนั้นคิวจึงไม่เอ่ยปากบ่นให้ผมฟังสักคำ
“ครับ” เค้กพยักหน้า
“แล้วอีกอย่าง พี่คิวชอบสอนอย่างกับเค้กเก่งระดับเทพ..สอนเหมือนเค้กรู้แล้วอ่ะ ถ้าเค้กรู้แล้ว..เค้กจะงงทำไมล่ะครับ พี่ฟ้าว่าไหม” เค้กขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
“หึ..” ผมหัวเราะให้กับท่าทีของน้อง
“ตัวเองเก่งเข้าหน่อย ก็ทำเป็นดูถูกคนอื่น..โด่” เค้กแสยะปากอีก
“หึหึ หน้าเค้กตลกอ่ะ” กัสหัวเราะ เค้กหัวเราะตอบอย่างทะลึ่งทะเล้น
“โอเคครับ ตั้งใจอ่านหนังสือเข้าล่ะ..พี่เช็คเอกสารนิดหน่อยก็คงกลับแล้ว” ผมบอก
“ค้าบ” ทั้งสองขานตอบพร้อมกัน
กริ๊ง~
“คิวปิดเบเกอรี่เฮ้าส์..ยินดีต้อนรับครับ” ผมขานพูดไปอย่างอัตโนมัติ แต่ทุกคนกลับหยุดชะงัก รุจ ซี ออฟและหมีมองมาที่ผม สายตาของน้องเหมือนกับต้องการให้ผมจัดการกับลูกค้าคนที่เพิ่งเดินเข้ามาด้วยตัวผมเอง ทิกเกอร์ยิ้มกว้างทักทายทุกคน
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
กริ๊ง~
“......................” ร้านเงียบลงอีกครั้งเมื่อลูกค้าที่เดินเข้ามาอีกคนนั้นเพิ่งก่อเหตุวุ่นวายหลังร้านไปเมื่อหลายวันก่อน จักรยืนงงอยู่ตรงประตูร้าน ทิกเกอร์หันกลับไปมองหน้าจักร ต่างฝ่ายต่างยืนจ้องหน้ากันอย่างกับรู้จักกันมานานแล้ว
“พี่ฟ้านี่เสน่ห์แรงจังเลยนะฮะ” กัสพูดแกมขำ ผมดีดหน้าผากกัสหนึ่งทีอย่างห้ามปราม
“หมี..รับลูกค้าด้วย” ผมสั่งและปัดมืออย่างขอไปที หมีพยักหน้าตอบเท่านั้นและปั้นหน้ายิ้มรับลูกค้าในทันที ถ้าลูกค้าคนอื่นไม่ทราบนิสัยของหมีอาจจะคิดว่ารอยยิ้มนั้นดูจริงใจดีเสียเหลือเกิน แต่ถ้าได้รู้จักนิสัยใจคอแล้วล่ะก็ จะทราบว่าปกติหมีจะไม่ค่อยยิ้มสักเท่าไหร่ หมีเคยบอกกับพวกเราว่า บางทีการปั้นหน้ายิ้มโดยให้คนอื่นสังเกตไม่ได้ว่ากำลังปั้นหน้าอยู่นั้น มันจะทำให้เหตุการณ์ยากๆหลายๆเหตุการณ์ดำเนินการไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
“ฟ้า..” ทั้งสองประสานเสียงกัน ผมชะงัก กัดฟันเข้าหากันอย่างควบคุมอารมณ์
“ถ้าจะมาทานอาหาร เชิญที่โต๊ะเลยครับ” หมีพูดพร้อมกับผายมือให้ทั้งสองคน
“มาหาฟ้าครับ!” ทั้งทิกเกอร์และจักรพูดตอบพร้อมกัน หมีหันมามองหน้าผม มันเหล่ตามองผมอย่างกับบอกว่า “ถึงตาคุณแล้วล่ะคุณบอส”
“ฟ้า..เอ่อ ไปทานอาหารกลางวันกับจักรนะครับ” จักรพูดพร้อมกับยื่นช่อดอกกุหลาบมาให้ผม ผมชะงัก ทิกเกอร์ตาค้างมองไปที่ช่อดอกไม้ในมือของจักรเช่นกัน
“นี่ก็ร้านอาหารนะจักร” ผมบอก
“นั่นสิ..จะทานที่นี่ก็ได้ ถ้าฟ้าจะทาน” จักรยิ้มกว้าง
“ฟ้าจะไปทานกับผมต่างหาก” ทิกเกอร์พูดขึ้น ในร้านเงียบลงครู่หนึ่งอย่างกับถูกสั่งให้เงียบ ทิกเกอร์และจักรจ้องหน้ากันเขม็ง ลูกค้าในร้านเริ่มเหลือบตามองอย่างสนใจ
“คุณนัดฟ้าก่อนงั้นเหรอ” จักรถาม ทิกเกอร์ไม่ตอบคำถาม แต่กลับมีสีหน้าเหวอไปเล็กน้อย
“คุณเปล่า ผมเปล่า..เรามีสิทธิ์เท่ากัน ถูกไหม” จักรพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่สีหน้ากลับต้องการกวนอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
“นี่..ห้ามมีเรื่องนะ” ผมปรามก่อนเพราะเห็นสีหน้าของทิกเกอร์ที่เริ่มบอกอารมณ์แล้ว
“ก็ดี งั้นให้ฟ้าเลือกว่าจะไปกับใคร..แล้วก็ ฟ้าไม่ได้ชอบดอกกุหลาบหรอกนะคุณ” ทิกเกอร์ตอบกลับหน้ากวนบ้าง จักรหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะหันมามองหน้าผม ผมยักไหล่ส่งๆ
“ถ้าคุณบอสยังไม่จัดการอะไรสักอย่างภายในห้านาทีนี้ ผมจะเดินเข้าไปบอกเชฟคิวเดี๋ยวนี้ละนะครับ” หมีเดินเข้ามาพร้อมกับก้มลงกระซิบข้างหูผมด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ทุกคนในร้านรู้ดีว่าคิวเด็ดขาดในเรื่องนี้มาก ถึงแม้ว่านี่จะเป็นกฎภายในร้านที่ผมตั้งขึ้นมาเอง แต่อย่าให้คิวได้ทราบเรื่องอะไรประมาณนี้เชียว คิวมักจะหงุดหงิดขึ้นได้ในทันทีเลยล่ะครับ ด้วยที่คิวเป็นคนเดียวภายในร้านที่ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวของตัวเองมาปนกับงานเลย ไม่ว่าจะมีปัญหากับสมาชิกในร้านโดยเกิดขึ้นจากเรื่องส่วนตัวก็ตาม ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่แค่ไหนก็ตาม เมื่อเขาได้สวมชุดเชฟนั่นหมายถึงบทบาทของเขาจะปรับเปลี่ยนไปในทันที จะไม่มีการกล่าวถึงเรื่องส่วนตัวอีกต่อไป..
“อ่ะ..เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง ทั้งทิกเกอร์และจักรหันมามองหน้าผมอย่างรอการตัดสินใจ
“ถ้าผมไม่เลือกใคร พวกคุณจะไม่ยอมกลับกันใช่ไหม” ผมถอนหายใจ
“ใช่” ทั้งสองตอบอย่างสามัคคี ผมจ้องหน้าทิกเกอร์ที่ยืนมองด้วยสายตาอ้อนวอน ก่อนจะเหลือบมองจักรที่ก้มลงดูช่อดอกกุหลาบของตัวเองอย่างไม่มั่นใจในตนเองขึ้นมา ผมคว้าดอกกุหลาบในมือของจักรมาทำให้เจ้าของดอกไม้มีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัด จักรยิ้มกว้าง
“เฮ้อ!” ทั้งหมดหันไปมองตามเสียงถอนหายใจในทันที ทั้งเค้กและกัสมีสีหน้าตกใจที่เพิ่งรู้ว่าตัวเองนั้นทำเสียงอันไม่พึงประสงค์ออกไปแล้ว
“ไปรอที่รถ เดี๋ยวฟ้าตามไป” ผมบอกจักร
“ครับ” จักรยิ้ม ผมเดินกลับเข้ามาในห้องพักพร้อมกับช่อดอกไม้ ผมยืนมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ความจริงแล้วผมไม่ได้ไม่ชอบดอกกุหลาบสีขาว ดอกกุหลาบสีขาวเคยเป็นเพียงหนึ่งในความทรงจำของเราสองคน จักรเคยให้กุหลาบสีขาวในวันที่จักรสารภาพรักกับผม ที่ผมยังรู้สึกชอบมันมาตลอดก็เพราะความหมายนี้เท่านั้นเอง ไม่ได้หลงรักเพราะความชอบจากก้นบึ้งของหัวใจ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเคยมีความทรงจำดีๆต่อผมไม่น้อย
ผมกลับเข้ามาเอาของสำคัญก่อนจะเดินออกมา ทิกเกอร์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมเดินผ่านทิกเกอร์ไปอย่างไม่ใยดี ที่ผมเลือกไปกับจักรนั่นเพราะอะไรหลายสาเหตุ หนึ่งสาเหตุในนั้นคือผมรู้สึกไม่มั่นใจในตัวของทิกเกอร์ขึ้นมา ผมรู้สึกไม่ชอบใจที่ทราบว่าทิกเกอร์นอนกับผู้ชายคนอื่นด้วยนอกจากผม ผมยังไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับตัวทิกเกอร์อีกเยอะแยะไปหมด ผมอยากรู้นะครับแต่ผมกลัวว่าผมจะรับไม่ได้ ทั้งหมดทำให้ผมรู้สึกว่า..ไม่มั่นใจ
= = = = = = = =
ณ ร้านเด็กเส้น..
“หึ..ไงครับคุณไฮโซจักร นั่งร้านอาหารแบบนี้ก็เป็นรึไง” ผมแซวเมื่อก้นแตะถึงเก้าอี้ จักรพาผมมาร้านก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่ตกแต่งน่ารัก โทนสีเข้ม ติดแอร์ เรียกได้ว่าบรรยากาศดีทีเดียว ถึงแม้ว่าสมัยเรียนผมกับจักรจะตระเวนทานอาหารมาหลายร้าน เราสามารถทานได้ทุกร้านอย่างไม่เกี่ยง จักรไม่ใช่คนที่เรื่องมากหรือถือตัวตรงเรื่องนี้ จักรเป็นคนกินง่าย ร้านข้างทางก็ได้ไม่เคยออกปากบ่น แต่นี่มันก็สิบกว่าปีผ่านมาแล้ว สไตล์ของจักรเปลี่ยนไปแต่ผมไม่คิดว่าจักรยังจะนั่งร้านอาหารแบบนี้ได้อยู่
“มันทิ้งไม่ได้น่ะนะ” จักรพูดปนหัวเราะ
“เสร็จจากนี่ไปดูหนังกันไหมครับ” จักรถามขึ้น ผมเอื้อมมือรับเมนูอาหารมาจากพนักงาน และยื่นเมนูอีกแผ่นให้กับจักร
“เรื่องอะไร” ผมถาม
“แล้วแต่สิ..อืม ที่จริงก็ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรน่าดูน่ะนะ แต่แค่..อยากยืดเวลาสักหน่อย” จักรยักคิ้วอย่างหยอกล้อ ผมอมยิ้มก่อนจะกวาดตามองไปทั่วร้าน
“ก็ได้” ผมตอบ
“แต่ต้องแวะไปดูห้องเสื้อผมที่สาขาMก่อนนะ..ต้องไปตรวจบัญชีน่ะ” ผมบอก
“ครับ” จักรยิ้ม เราสั่งอาหารหลายอย่าง ทั้งขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว ยำ เรียกได้ว่าครบเครื่อง สำหรับผมอาหารประเภทนี้นี่ของชอบอยู่แล้ว เรานั่งทานอาหารอยู่เกือบชั่วโมงกว่าจะจัดการทุกอย่างหมด จักรวางมือก่อนผมคงเพราะสู้ต่อไม่ไหว ผมเป็นคนทานช้าแต่ทานได้เรื่อยๆเลยทำให้อิ่มทีหลังประจำ หลังจากที่ออกมาจากร้าน เราเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นเพื่อย่อยอาหารอยู่สักพัก จักรขับรถพาผมไปห้างในเครือของพี่พราวเพื่อพาผมมาตรวจบัญชีที่สาขาM หลังจากที่ทำอะไรเสร็จเรียบร้อย เราพากันมาที่โรงภาพยนตร์ ผมเลือกดูภาพยนตร์บู้แอ็คชั่น จักรจัดการซื้อตั๋วที่นั่งสำหรับคู่รัก ผมไม่คัดค้านอะไรเพราะเป็นที่นั่งที่สะดวกสบายดี อีกอย่างเขาเป็นฝ่ายออกเงินและเป็นฝ่ายให้ผมเลือกภาพยนตร์ที่ต้องการดูเองด้วย ผมเลยปล่อยเลยตามเลย ก่อนที่รอหนังฉาย เรานั่งดื่มกาแฟรอในร้านสตาร์บัคส์อยู่เกือบชั่วโมงก่อนจะถึงเวลา หลังจากที่ดูหนังเสร็จ จักรพาผมเดินเล่นเลือกซื้อเสื้อผ้า ผมเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างชอบใจโดยไม่ได้เสียเงินสักแดงเดียว มันเพลิดเพลินตรงที่..จะกี่แสน ก็ไม่ใช่เงินของผมละมัง
“ฟ้า..ซื้อของเก่งเป็นบ้า” จักรเริ่มบ่นหลังจากที่เราเพิ่งเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง ผมเบะปากอย่างไม่แคร์
“กลับไปก่อนดิ” ผมพูดพร้อมลอยหน้าลอยตาใส่
“กลับก็โง่สิ” จักรตอบทันที ผมแทบจะหัวเราะออกมาเพราะจักรพูดตรงจนน่าขำ
“อยากได้กางเกงว่ายน้ำ” ผมหันกลับไปมองหน้าจักรอย่างต้องการแกล้งยั่วอีกฝ่ายเล่น
“หึ เชิญครับเจ้าหญิง” จักรผายมือให้อย่างยอมแพ้พร้อมกับมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้อีกด้วย ผมพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจกับท่าทีที่ต้องการหยอกผมของจักร ผมเดินเลือกกางเกงว่ายน้ำโดยมีพนักงานขายชายคนหนึ่งเดินตามไม่ห่าง พร้อมกับจักรที่เพิ่งกลับมาจากการนำถุงของที่ซื้อทั้งหมดไปฝากไว้ที่เคาร์เตอร์คิดเงิน
“.....................” ผมเงียบ ยืนมองกางเกงว่ายน้ำรูปทรงแบบกางเกงในบิกินนี่สีดำตรงหน้าไม่วางตา ก่อนจะเหลือบยิ้มให้พนักงานขาย เขายิ้มกว้างตอบให้ผม ผมหันกลับมองไปที่จักรที่เพิ่งมาถึง ก่อนจะก้มลงต่ำมองไปที่เป้าของจักรอย่างตั้งใจ
“ฟ้าครับ” จักรปรามเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าจักรและยักคิ้วให้ ผมหยิบกางเกงว่ายน้ำสีดำตรงหน้ายื่นให้จักร จักรรับไปถือด้วยท่าทีงงๆ
“ใส่ให้ดูหน่อยสิ” ผมสั่ง
“ไม่เอาหรอก” จักรตอบทันที พร้อมกับเบนหน้าหนีไปอีกทาง
“ใส่ให้ดูหน่อยไม่ได้รึไงล่ะ แต่ก่อนก็ใส่..อยากเห็น ใส่ให้ดูหน่อย” ผมพูดและอดที่จะยิ้มไม่ได้ ผมอยากแกล้งจักรเท่านั้นและอยากรู้ว่าจักรจะยอมทำตามไหม อีกอย่างหนึ่งผมอยากจะเห็นว่าหุ่นของจักรในตอนนี้นั้นเป็นอย่างไรด้วย
“ลองได้นะครับ ห้องลองอยู่ทางด้านขวามือเลยครับ” พนักงานขายยิ้มกว้าง
“ไม่หรอกครับ ไม่ลอง” จักรย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมยังคงชูกางเกงวายน้ำให้จักรและเลิกคิ้วให้อีกฝ่ายแทนคำพูดจากผม
“ไม่เอาน่าฟ้า” จักรส่ายหัวและเริ่มไม่ยิ้ม
“ไม่เอางั้นก็กลับไป ผมอยากเดินคนเดียวน่ะ” ผมพูดส่งๆก่อนจะหันหน้าหนี หยิบเอากางเกงกลับมาแขวนไว้ที่เดิม
“ฟ้าครับ” จักรร้องเสียงเอื่อย ผมไม่สนใจ มองกางเกงว่ายน้ำตัวอื่นๆต่อไปเรื่อย
“เฮ้อ โอเคๆ..ลองก็ลอง” จักรตัดบทและหยิบกางเกงว่ายน้ำตัวเดิมไป ผมแทบจะหลุดหัวเราะกับท่าทีของเขา
“มายืนรอหน้าห้องเลย ผมไม่เดินออกมาโชว์ตัวหรอกนะ” จักรว่าให้ ผมเบะปากและเดินตามจักเข้าไป ในห้องสำหรับลองเสื้อผ้าเป็นทางตรงยาวเข้าไปประมาณสิบเมตร มีห้องลองชุดอยู่สองฝั่งซ้ายขวา แต่ละห้องใหญ่มากทีเดียว ผมนั่งรออยู่หน้าห้องลองชุด จักรเดินเข้าไป ผมนั่งขำอยู่ข้างนอกคนเดียว ได้ยินเสียงจักรถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น ผมหยิบมือถือออกมาเตรียมกดถ่ายรูปไว้อย่างนึกสนุก
“ฟ้า..อยู่ข้างนอกรึเปล่า”
“ฟ้าครับ” จักรเรียก ผมไม่ตอบ
“เข้ามาเอง จักรไม่ออกไปหรอกนะ” จักรบอกพร้อมกับแง้มประตูห้องออกเล็กน้อย
“โอเค” ผมพูดแกมหัวเราะและเดินไปที่หน้าห้องนั้น ผมเปิดประตูห้องเข้าไป จักรยืนอยู่ด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย
แชะ !!
ผมนำมือถือที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมากดถ่ายรูปในทันทีอย่างไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว จักรรีบนำมือปิดหน้าตัวเอง อีกมือก็กุมน้องชายของตนเองไว้ตามสัญชาตญาณ
“ฟ้า” จักรร้องอย่างเหลืออด กระทั่งมีรอยยิ้มออกมา
“หึหึ” ผมหัวเราะด้วยรู้สึกชอบอกชอบใจก่อนจะรีบกดเซฟรูป
“จะแกล้งกันใช่ไหมหื้ม..จิ เดี๋ยว ฟ้า” จักรกัดฟันด้วยน้ำเสียงหมันเขี้ยวผม ผมแลบลิ้นให้จักรและรีบวิ่งหนีออกมาก่อนที่จักรจะตะครุบตัวผมไว้ได้ทัน
“ออกไปเลือกกางเกงต่อนะ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วๆล่ะ..จักรน้อย” ผมแซวลอยๆ ได้ยินเสียงจักรหัวเราะในลำคอเบาๆ ผมเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้าและออกมาเลือกกางเกงว่ายน้ำอีกครั้ง ความจริงผมมีกางเกงว่ายน้ำเยอะมาก มีเกือบทุกแบบและหลายสีคละเคล้ากันไป อย่างที่บอกว่าผมชอบว่ายน้ำมาก และการได้เลือกกางเกงว่ายน้ำนั้นคืออีกความสุขหนึ่งของผม ความรู้สึกที่ได้เห็นกางเกงว่ายน้ำลายแปลกใหม่มันจะแวววาวยั่วสายตาของผมเป็นที่สุด ผมจึงชอบที่จะเลือกซื้อแบบใหม่อยู่เรื่อยๆ
“ใส่พอดีไหมครับ” พนักงานขายถามจักร
“ครับ..” จักรพยักหน้าตอบและหันมามองผมอย่างคาดโทษ ผมเบะปากให้เขา
“เอาตัวนี้ครับ ไซด์นี้แหละ” ผมบอกพร้อมกับยื่นกางเกงว่ายน้ำทรงบิกินี่ลายสีกรมสลับกับสีขาว เป็นแบบที่ผมยังไม่มี
“เล็กจังนะ” จักรแซวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พนักงานขายอมยิ้มเช่นกัน
“ทะลึ่ง” ผมว่า จักรหัวเราะชอบใจ
“ตัวนี้สิ” จักรชี้ไปที่กางเกงว่ายน้ำแบบทรงบ๊อกเซอร์ขาสั้น
“แบบนี้ค่อนข้างรัดรูปนะครับ แบบเอวต่ำ” พนักงานขายชี้แนะ ผมมองลายและหยิบแบบที่เป็นลายสีขาวสลับกับสีดำเป็นแนวตารางเส้นเล็กยื่นให้กับพนักงาน
“ถ้าคุณลูกค้าชอบทรงแบบนี้ ทางเราแนะนำมาแบบที่เพิ่งมาใหม่นะครับ..อันนี้จะเป็นเนื้อผ้าแบบซีทรู เป็นทรงบิกินี่ครับ” พนักงานขายแนะนำพร้อมกับผายมือชี้ไปอีกทางด้านหนึ่ง ผมพยักหน้าและเดินตามเขาเพื่อไปดูอย่างนึกสนใจ
“บางดีนะ” จักรอมยิ้มหมายถึงกางเกงว่ายน้ำเนื้อผ้าแบบซีทรูที่ผมถืออยู่
“หยุดทำสายตาแบบนั้นเถอะ..เพราะไม่มีทางได้เห็นหรอก” ผมย้อนด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์กลับบ้าง จักรยิ้มกว้างกว่าเดิม
“เอาแบบนี้สีดำกับสีแดงเลือดหมูแล้วกันครับ ไซด์นี้” ผมหยิบไซด์ให้พนักงานดู
“ได้ครับ” พนักงานพยักหน้ารับก่อนจะเลือกไซด์ให้
“เท่านี้ล่ะครับ” ผมบอก
“แล้วคุณผู้ชายอีกท่านจะรับตัวที่ลองไหมครับ” พนักงานมองหน้าจักร
“ครับ..รับก็ได้” จักรพยักหน้าตอบและยื่นกางเกงว่ายน้ำคืนให้พนักงาน จักรหยิบบัตรเครดิตให้พนักงานขายอย่างรู้งาน ผมเดินหนีมานั่งรอตรงเคาร์เตอร์ที่จักรฝากของไว้ ไม่นานเท่าไหร่ทุกอย่างก็จัดการเสร็จเรียบร้อย เราเดินซื้อของต่ออย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ผมเพียงอยากแกล้งจักรไปอย่างนั้นเอง จักรเองก็คงรู้เพราะจักรก็บ่นด้วยเช่นกันว่า “แกล้งกันแบบนี้ไม่ดีนะ” ผมไม่สนใจคำพูดนั้น เราเดินกันจนถึงตกค่ำ จักรไม่ยอมพาผมกลับบ้านทั้งทั้งที่ผมบอกให้จักรพาผมไปส่งบ้านได้แล้ว เขายืนยันว่าจะต้องทานดินเนอร์ด้วยกันก่อนให้ได้ ผมจึงปล่อยเลยตามเลยเพราะอย่างไรก็คงค้านไว้ไม่อยู่ และในเมื่อผมบอกเขาแล้วว่าจะให้โอกาสเขา ผมก็คงต้องปล่อยให้เขาทำคะแนนบ้างละครับ อีกอย่างก็นึกสงสารที่ผมรีดไถจักรมาทั้งวันด้วย
= = = = = = = =
ณ Final Floor Café’..
“..................” ผมเหลือบมองหน้าจักร ตั้งแต่อาหารมาเสิร์ฟ เราไม่ค่อยทานเท่าไหร่นัก อาจจะจิบไวน์บ้างเป็นระยะ จักรบอกให้เลขาโทรจองห้องอาหารที่ร้านนี้ไว้ เป็นแบบส่วนตัว ร้านนี้ผมไม่เคยมาสักครั้ง ผมคิดว่าดีเหมือนกันที่มาร้านที่ไม่มีคนรู้จักผม บางทีถ้าโชคร้ายหน่อย..พรุ่งนี้ก็อาจจะมีชื่อผมกับจักรอยู่ในหน้าหนังสือข่าวไฮโซงี่เง่าที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านก็เป็นได้
จักรยังคงนั่งจ้องหน้าผมไม่วางตา เขาไม่พูดอะไร จักรนั่งด้วยท่าทางสบายมากจนผมเกือบจะหลุดขำออกมาหลายครั้ง
“ท่านั่งนี่ สบายใจจังเลยนะ” ผมแซวอย่างอดไม่ได้
“หึ..ก็มันสบายใจจริงๆนี่” จักรย้อนยิ้มๆ
“อืม..ถ้าพรุ่งนี้มีข่าวประมาณว่า พบนายจักรกฤษณ์..นักธุรกิจและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทOMG บริษัทออกแบบภายในแนวหน้าของไทย” ผมพูดขึ้นอย่างนึกสนุก จักรเริ่มยิ้มออกมาน้อยๆ
“และนายเมธิชัย ลูกชายคนเล็กของตระกูลสิทธิบดีทรัพย์..เจ้าของห้องเสื้อCupid เข้าไปคลุกอยู่ในห้องอาหารของร้าน Final Floor Café’ นานสองนาน พบว่าข่าวที่บอกว่านายเมธิชัยเป็นเกย์ และข่าวที่ว่านายจักรกฤษณ์ลูบแล้วไม่มีหางก็เอาหมดนั้นคงเป็นเรื่องจริงหรือไม่” ผมพร่ำ
“ไม่เอาน่าฟ้า” จักรหัวเราะด้วยท่าทีเหลืออดต่อผม
“ตามข่าวกรองพบว่า นายจักรกฤษณ์สั่งไม่ให้พนักงานเสิร์ฟเข้าไปยุ่มย่ามในห้องส่วนตัวนั้นเลย..เกิดอะไรขึ้นในห้องนั้นกัน” ผมพร่ำต่อไม่หยุด
“หึ..หึหึ ฟ้านี่” จักรส่ายหัวเล็กน้อย ผมเลิกคิ้วกวนตอบ
“......................” ในห้องเงียบลงอีกครั้งเมื่อทั้งผมและจักรหยุดพูดลงกะทันหัน แต่จักรยังคงจ้องหน้าผมไม่ลดละ
“จักรจะจ้องให้มันได้อะไรขึ้นมา ฟ้าขนลุก..” ผมว่าส่งๆแต่จักรกลับหัวเราะอย่างชอบใจ
“ก็ชอบอ่ะ” จักรย้อนและยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ เขาชูแก้วของเขามาทางผม ผมหยิบแก้วของผมขึ้นไปชนแก้วของจักรตอบเบาๆ
“ขอบคุณสำหรับไวน์ราคาแพง” ผมพูดแกมหยอก จักรเบะปาก
“เอ่อที่จริง..ถ้าจักรซื้อไวน์ไปเซ่นคิวบ่อยๆ คิวอาจจะยอมใจอ่อนให้ก็ได้นะ” ผมพูดขึ้น
“งั้นสิ ไอ้เด็กคนนั้นชอบไวน์เหรอ” จักรถามกลับด้วยน้ำเสียงอยากรู้ขึ้นมาทันที
“อืม..ไวน์ บรั่นดี..ซิการ์” ผมแนะ
“โฮะ หลานฟ้าคอแอลกอฮอล์รึไงน่ะ” จักรอุทานตาโต
“เปล่า ก็แค่..พวกคลั่งของพวกนี้ละมั้ง มันไม่ค่อยดื่ม อาจจะมีบ้าง..” ผมเบะปาก
“แต่ขอให้เชื่อเถอะ ว่ามันคอแข็งเป็นบ้า” ผมบอก
“อยากลองดวลดูสักหน่อยแฮะ”
“นั่นไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ..ขอเตือน” ผมชี้หน้าจักรเป็นการเตือนจากใจจริง จักรยิ้มกว้าง เราเงียบลงอีกครั้ง
“..อะไร” ผมถามขึ้นเมื่อจักรเงียบไป ผมเท้าแขนลงบนโต๊ะก่อนจะเหล่สายตามองไปที่แก้วในมือของตัวเอง
“จักรฝันไปรึเปล่าเนี่ย” จักรอมยิ้ม
“โอ๊ยยยย..ฟ้าอ่ะ” จักรร้องเมื่อโดนผมเอื้อมมือไปบิดหูจักรอย่างแรง ผมแสยะยิ้มก่อนจะปล่อยมือออก จักรจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าเหยเก มือขวาของเขาลูบหูตัวเองเบาๆ
“ฟ้าครับ” จักรเรียก
“อะไร” ผมขานเสียงห้วน
“อยากจูบดูไหม” จักรพูดขึ้นโต้งๆ ผมจ้องหน้าจักรด้วยความตกใจ
“เอ่อ..ก็แค่ ใช่..จักรอยากจูบน่ะ แค่จูบ” จักรรีบอธิบายอย่างตะกุกตะกักเหมือนกลัวว่าผมจะโกรธ
“หึ..จะจูบก็ได้ แต่แย่หน่อยนะ วันนี้ผมเพิ่งกัดปากคนที่พยายามจะจูบผมน่ะ” ผมโกหกไปอย่างติดตลก
“ไอ้นั่นโชคร้ายแฮะ แต่คงไม่ใช่จักรมั้ง” จักรยังคงเล่นด้วยไม่เลิก ผมหันหน้าหนีก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ
“แค่จูบ” ผมจ้องหน้าจักรเป็นการย้ำเตือน
“ครับ แค่จูบ” จักรย้ำคำพูดด้วยเช่นเดียวกัน
ผมนั่งเฉย จักรเขยิบตัวจากที่นั่งของตัวเองมาใกล้ผมเรื่อยๆ ที่นั่งที่เรานั่งอยู่เป็นโซฟาตัวยาวอยู่ฝั่งเดียวกัน ในตอนนี้เรานั่งติดกันแล้ว หน้าของจักรอยู่ใกล้หน้าของผมเพียงนิดเดียวเท่านั้น สมองของผมเริ่มรู้สึกเลอะเลือนนิดหน่อย ผมกำลังอยากรู้ว่าจักรจะจูบผมแบบไหน มีรสชาติเหมือนเดิมหรือเปล่า หรือเขาอาจจะจูบเก่งขึ้นกว่าเก่า ความอยากรู้นั่นไม่ได้มากไปกว่าการที่ผมอยากให้จักรคลั่งกับรสจูบจากผม ผมอยากให้เขารู้ว่าผมจูบเก่งมากขึ้นแค่ไหน ผมอยากให้เขารู้สึกคลุ้มคลั่งและอยากลองอีก มันอดที่จะรู้สึกแบบนี้ไม่ได้จริงๆ นี่คงเป็นความคิดที่แย่มากเหลือเกิน มีคำพูดในใจบอกตัวเองเพียงว่า “ขอหน่อยเถอะ” ผุดขึ้นมาเท่านั้น
จักรจับหน้าผมขึ้นอย่างเบามือเหมือนกับกลัวว่าผมจะเจ็บ ผมยังไม่เริ่มก่อน เขาก้มลงเข้ามาใกล้ผมช้าๆ จักรจูบหน้าผากผม ก่อนจะเลื่อนปากอย่างนุ่มนวลลงมาที่ปลายจมูก ผมหลับตาลงช้าๆ ในขณะเดียวกันก็เหลือบตามองอีกฝ่ายเป็นระยะ จักรยังคงจ่อปากอยู่ที่ริมฝีปากของผม เขายังไม่ยอมจูบอย่างง่ายๆแต่กลับเย้าหยอกอยู่ตรงนั้น ผมไม่รอให้อีกฝ่ายทำอย่างนี้นาน ผมหยอกล้ออีกฝ่ายกลับโดยการแกล้งทำเหมือนกับว่าจะจูบอีกฝ่ายแต่กลับเบี่ยงหนี จักรยิ้มและหัวเราะในลำคอเหมือนกับพอใจที่ผมเล่นกับเขาแบบนั้น เราต่างฝ่ายต่างหัวเราะ จักรก้มลง คราวนี้เขาจูบปากผมเข้าจริงๆ ผมเผยปากออกทีละนิดอย่างช้าๆ จักรเองก็ไม่ได้รีบร้อน เขาจูบผมเนิ่นนานกว่าจะเผยปากออกและกดจูบอีกครั้ง จักรทำอยู่อย่างนั้น เป็นการจูบที่อ่อนโยนคล้ายโหยหา ผมลูบต้นคอของอีกฝ่าย มือของผมเล่นไปที่ใบหูของจักรอย่างต้องการยั่วอารมณ์เล่น อีกมือเลื่อนลูบลงมาที่แผงอกของจักรผ่านเสื้อผ้าของเขา จักรเริ่มหายใจแรงมากขึ้น ถึงผมจะรู้สึกว่าจักรจูบเก่งแต่ผมกลับไม่แสดงอาการออกไป จักรกลั้นหายใจแรงจนผมรู้สึกได้ เขาหลับตาพริ้ม ปากยังคงคลอเคลียอยู่ที่จมูกของผม เขาจับแขนข้างที่ผมลูบตัวของเขาอยู่ขึ้นไปพาดบนไหล่ของเขาเหมือนต้องการห้ามปรามให้ผมหยุดการกระทำไว้เท่านี้
“อืม..อย่าลามปามน่าจักร” ผมเตือนไปอย่างนั้นเอง เมื่อรับรู้ว่าปากของจักรเริ่มอยู่ไม่สุข เขาเริ่มซุกไซ้ไปที่ต้นคอของผม ผมไม่ได้เบี่ยงตัวหนี เพียงแต่หดคอเพื่อไม่ให้จักรทำได้สะดวกก็เท่านั้น จักรเลื่อนปากกลับมาที่แก้มของผมอีกครั้ง เขาพรมหอมอยู่อย่างนั้น
“ข่าวที่สอง จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด..ดูเหมือนทั้งคู่จะนัวเนียกันในห้องอาหารจริงๆ” ผมพูดขึ้นแกมขำ
“หึ..หึหึ” จักรหลุดหัวเราะออกมา เขาซบหน้าลงบนไหล่ของผมก่อนที่จะหัวเราะไม่หยุด เราเงียบลง จักรเงยหน้าขึ้น ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันเขม็ง จักรมองผมไม่วางตา สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายหลบตาเขาก่อน
“จุ๊บ~” จักรจูบปากผมอีกครั้งอย่างรวดเร็วก่อนจะกลับไปนั่งอย่างปกติ เขาหายใจทิ้งอย่างแรง
“กลับรึยัง” ผมถามขึ้นคล้ายกับตัดฉับสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
“ก็ดีครับ” จักรพยักหน้าอย่างเห็นด้วยทันที
“ดูเหมือน..คงต้องรีบกลับ” จักรพูดเสริมอีก
“ถ้าไม่คิดจะเอาฟ้าไปส่งที่บ้านฟ้า ก็บอก..จะได้ขึ้นแท็กซี่กลับเอง” ผมพูด
“หึ..อะไร ไม่ทำหรอกน่า ถึงคิดอยากจะทำก็เถอะ” จักรยักคิ้วกวนกลับให้
“แต่ถ้าไม่รีบกลับ อาจจะต่อในนี้จนเสร็จก็ได้นะ” จักรพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา แต่หน้าตากลับกระหยิ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“เคยล่ะสิ” ผมแซวพร้อมกับเบะปากให้
“จะเกือบเคยก็วันนี้แหละ” จักรยักคิ้วเจ้าเล่ห์ตอบให้ผม ผมได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ เราจบบทสนทนาเรื่องใต้สะดือเล็กๆน้อยๆนั่นลง จักรไปจัดการเคลียร์เรื่องค่าอาหาร ผมเดินมารอที่รอก่อนที่จักรจะขับรถพาผมไปส่งที่บ้าน..
....................>>>><<<<.....................
-
:sad4:สงสารทิกเกอร์จับใจ. แง๊ๆๆๆๆ.
ทิกเกอร์จะแอบตามมาแล้วเห็นไหมนะ :o12:
ขอบคุณพี่บี้ค่ะ :L2:
-
สงสารทิกเกอร์ :m15: :monkeysad:
หรือว่าที่จริงแล้วจักรนี่แหละคือพระเอก :m28:
-
เม้นไม่ออก เพราะไม่คิดว่าจะเลือกจักรแฮะ
สงสัยเพราะพี่คิวเชียร์ทิกเกอร์ก็เลยรู้สึกไม่ดีกับจักร
ถึงจักจะดูดีและดูทำให้อาฟ้ายิ้มได้
แต่เราก็ไม่ชอบอยู่ดี
หวังว่าทิกเกอร์จะไม่ตามมาและเห็นอาฟ้าจูบกับจักรนะ คงน่าสงสารเกินไป :serius2:
-
แหมะ อ่านแล้วปวดใจ
เพราะเราแอบปันใจให้ทิกเกอร์ไปแล้ว
เหตุใดเราถึงได้เซ็งกับพี่ฟ้ามากขนาดนี้
ขอบคุณเบบี้...ตอนนี้คุณชนะ คุณทำให้เราอินไปกับการกระทำของฟ้าได้จริงๆ....-*-
-
ถ้าฟ้าเลือกจักร คิวคงเหวี่ยงน่าดูเลย
แต่คาดว่าฟ้าออกมากับจักรเพื่อประชดทิกเกอร์แน่ๆ (เหรออออ)
-
ปวดหัวกับอาฟ้าว่ะ!
-
เง้อออ แอบสงสารทิกเกอร์
อาฟ้าแกล้งทิกเกอร์ใช่ไหมล่ะ
แกล้งคุณจักรด้วยยย ทิกเกอร์ยังไม่ได้จูบอาฟ้าเลยนะ
แล้วทำไม คุณจักรได้จูบล่ะ ไม่ยอมๆๆๆ อาฟ้า ไม่ยุติธรรม
5555 ทิกเกอร์คงเศร้าใจแ่ย่เลยใช่ไหม
ยังไงก็สู้ๆๆนะ ทิกเกอร์
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ทิกเกอร์โดนฟ้าหึงแบบไม่รู้ตัว สู้ต่อไปทิกเกอร์กองเชียร์เยอะอยู่ :L2:
-
เบื่ออาฟ้าแล่ววววววว
ทิกเกอร์จ๋าาาาา เค้าสงสารอ้ะ
-
อาฟ้าเค้าจะฟ้องพี่คิว ชิ
-
อาฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดซักทีเถอะว่าจะเลือกใครหรือไม่เลือกเลย เพราะไม่งั้นอาฟ้านั้นแหละที่จะเจ็บเองอีกครั้ง
-
ถามว่าสงสารทิกเกอร์มั้ย ตอบว่าสงสาร
แต่ถ้าจะบอกว่าสงสารอาฟ้ามากกว่าที่โดนหักหลังจากทิกเกอร์
อันนี้น่าสงสารที่สุด
ตอนนี้แค่ทิกเกออดทนถึงจะเหนื่อยจะเจ็บปวด แต่
อาฟ้าก็คงจะเหนื่อยและเจ็บปวดกับการต้องทำใจในเรื่องที่ผ่านมาเหมือนกัน
-
วิ่งงงงงงงงงงตูดปัดไปฟ้องคิวดีกว่าอาฟ้านิสัยไม่ดี
-
:เฮ้อ:ทิกเกอร์ของพี่น่าสงสารดีแท้
อาฟ้าเสเพลอ่ะ :o12:
+ให้น้องบี้คนงามเช่นเดิมจ๊าาาาา o13
-
เซ็งฟ้าอ่ะ ทำไมไปเลือกจักรเนี่ยยยยย
-
อาฟ้าทำแบบนี้กำลังทดสอบใจตัวเองอยู่รึเปล่าค่ะ
ว่าถ้าจูบกับจักรแล้วตัวเองจะหวั่นไหวรึเปล่า
(แต่อิคนอ่านแอบหวั่นไหวไปกับบทบรรยายของบี้ไปแล้ว55)
ตอนนี้สงสารทิกเกอร์จัง
-
พี่ฟ้าใจร้าย :o12:
-
ฟ้าเลือกแล้วเหรอ
ที่ทำอยู่ดีแล้วเหรอ
เฮ้ออออออออออออออออ
สงสารทิกเกอร์
:L2: :L2:
-
ทิกเกอร์ :impress3:
-
งื้อๆ ทิกกี้ :o12: :o12: :o12:
-
:z3: ไม่ยอมอาฟ้าเลือกจักร ถ้าอาฟ้าจะไม่เลือกทิกเกอร์เพราะคิดว่าทิกเกอร์ก็นอนกับคนอื่น ตัวอาฟ้าเองหลังเลิกกับทิกเกอร์ก็นอนกับคนอื่นเหมือนกันนะ มันดูไม่ยุติธรรมกับทิกเกอร์เลยอ่ะ
น้องเค้กมาติวหนังสือที่ร้านคิวปิดบอกเพราะบรรยากาศดี หรือเพราะคุณเชฟคิวสั่งให้มาค่ะ :o8:
กด + ให้กับคนเขียน
-
โอว ทิกเกอร์ ช้ำใจจริงๆ
แต่ก็ต้องรอการตัดสินใจของอาฟ้า
-
ปวดใจ.... :a5:
สงสารทิกเกอร์ :m15:
-
...น้องกัส กับน้องเค็กนี่น่ารักดี ใสๆๆ พี่หมีก็คงเล็งๆน้องกัสอยู่ละมั้ง แอบหยอกแอบเอาใจใส่ดูแลอยู่ตลอด
..อาฟ้า นี่..จิตนิดๆๆนะ ตัวเองนอนกับผู้ชายได้ทุกคืน แต่พอรู้ว่าทิกเกอร์นอนกับผู้ชายบ้าง ยังไม่รู้เลยว่าเรื่องจริงหรือไม่จริง ก็รังเกียจ
...นอกจากจิต แล้วยังเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ใจแคบ ถ้าอาฟ้าเป็นผลไม้ ป่านนี้คงเกือบเน่าไปทั้งใบแล้วมั้ง โดนหนอนเจาะทุกคืน :laugh:
-
อ่านแล้วให้ความรู้สึกเบื่อๆเซ็งๆการทำตัวของอาฟ้าขึ้นมาไงไม่รู้แฮะ...
(กางเกงว่ายน้ำเค้าให้ลองได้ด้วยหรอคับ :m28 ปกติไปซื้อก็ไม่เคย
ถามลอง ดูแต่แบบกะไซต์ที่เค้าเทียบโชว์บอก อิอิ)
ขอบคุณเบบี้ที่มาต่อให้น๊า :L2:
-
จะว่ายังไงดีล่ะ คนเราก็มีสิทธิ์ไม่มั่นใจกันทั้งนั้นแหละเนาะ
แต่พี่ฟ้าทำเหมือนจะน้อยใจทิกเกอร์ที่ไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น
ถึงพี่ฟ้าจะให้โอกาสทั้งสองคน แต่ครั้งนี้ทิกเกอร์คงช้ำน่าดูล่ะ
เล่นออกไปกับจักรชนิดที่ไม่เหลียวแลกันเลย ไม่นึกถึงอีกด้วย
กับทิกเกอร์ไม่แม้แต่จะให้ไกล้ชิด แต่จูบกับจักรแล้วอ่า :serius2:
ยอมรับว่าเราเอนเอียงไปทางทิกเกอร์ แม้อดีตจะไม่สวยเท่าไร
แต่พี่คิวก็ยังคงคบหาและช่วยเหลืออยู่ คิดว่าน่าจะดีกว่าจักรอ่ะนะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่จะตัดสินใจก็คือพี่ฟ้าคนเดียวเท่านั้น :เฮ้อ:
ตอนนี้เม้นท์ซะยาวเชียว ขอโทษค่ะ มันอินนนนน :m23:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
บวกเป็ดให้น้องเค้กกับน้องกัส น่ารักทั้งคู่ :กอด1:
-
:a5:
ตั้งแต่วินาทีที่อาฟ้าหยิบช่อดอกกุหลาบ ก็หน่วงในใจเรื่อยมาจนกระทั่งถึงบรรทัดสุดท้าย :z10:
ใช่....เราไม่มีเหตุผลหรอกค่ะ ว่าใครดีกว่าใคร สุดท้ายแล้วคงต้องแล้วแต่อาฟ้าจะเลือก
ยืนยันว่าเคารพตามการตัดสินใจของเบบี้ ไม่ว่าเรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างไร o13
แต่ในฐานะแม่ยก ทิกเกอร์ฟ้า แล้ว ตอนนี้โคตรปวดใจเลยค่ะ :z3:
ถึงจะแอบเข้าข้างทิกเกอร์ว่า ที่ฟ้าทำลงไปเพราะหึงหวงจนควบคุมตัวเองไม่ได้
เพราะทั้งที่ยังไม่รู้แน่ชัดด้วยซ้ำ อาจจะถูกพี่คิวปั่นหัวเล่นก็ได้
แต่ด้วยเรื่องแค่นี้ (ตัวเองก็ไม่ต่างกัน) อาฟ้าก็เสียศูนย์ซะแล้ว
ส่วนเรื่องให้จักรจูบ เราว่าถ้าเป็นทิกเกอร์ อาฟ้าไม่กล้าหรอก
แค่อยู่ใกล้ชิดด้วย ก็กลัวใจตัวเองจะแย่แล้ว
ไม่มีทางมานั่งจูบ แล้วมีสติรู้ทุกอย่างเหมือนที่จูบกับจักรหรอก
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น.......คิดปลอบใจตัวเองล้วนๆ 5555555555
ขอบคุณมากสำหรับความคืบหน้าอีกตอนค่ะ
จะเฝ้ารอตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้เบ้บี้เสมอ :กอด1:
-
ถ้าวันใดก็ตามที่ทิกเกอร์ท้อและไม่สู้ อาฟ้านั้นล่ะ ที่จะขาดใจ เชื่อเถอะ และนั้นจะทำให้อาฟ้าไม่เหลือใจไว้ให้ใคร
-
ออกอาการกันล้นหลาม 555
จักรก็ดีออก นาทีนี้มันทำให้รู้สึกว่าเป็นคนที่เปิดเผยกับฟ้าที่สุดแล้ว
ทิกเกอร์ยังคลุมเครือนะ ถ้าอยู่ด้วยแล้วหน่วงๆ เป็นเราก็เลือกไปกะคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจมากกว่าก่อน
ฟ้าชนะเลิศ
-
เข้าใจ ที่อาฟ้าจะไม่มั่นใจในตัวของทิกเกอร์
แต่ ไม่ชอบใจ ที่อาฟ้าจะประชดทิกเกอร์ เพื่อเป็นการหักหน้า ด้วยการไปกับจักรแบบนี้ :เฮ้อ:
-
สงสารทิกเกอร์ ฟ้าเลือกจักรทำไมม :o12:
-
อ่านตอนนี้แล้ว จักรก็ดูมีเสน่ห์ดี
ทิกเกอร์ช้ากว่าจักรแล้วซิเนี่ย เพราะจักรได้จูบกับพี่ฟ้าแล้ว :เฮ้อ:
(กับจักรพี่ฟ้าจะกล้าทำอะไรมากกว่าทิกเกอร์ ถ้างั้นโอกาสเผลออาจจะมากกว่าด้วยซินะ)
อืม แต่รู้สึกยังไงไม่รู้นะ ที่พี่ฟ้าจะให้โอกาสกับคนที่เคยทำให้ตัวเองเสียใจมาก่อนน่ะ
ปอลอ น้องเค้กน่ารัก มีแอบเม้าท์พี่คิวด้วย
บวกจ้า
-
แกล้งเค้ามากๆ ระวังจะเข้าตัวนะพี่ฟ้า
ทิกเกอร์ ยังสู้ต่อมั๊ยเนี่ย
-
ไม่ไหวจะเคลียร์กับอาฟ้า เฮ้อ!
ทิกเกอร์เห็นฟ้าเลือกไปกับจักร จะคิดเอาเองหรือเปล่าว่าฟ้าเลือกแล้ว
-
บางทีการที่อาฟ้าเจ็บ
อาจไม่ใช่คนอื่นทำหรอก เป็นตัวอาฟ้าเองนั่นแหละที่ทำตัวเอง
เจ็บแทนทิกเกอร์ นะ
-
ทิกเกอร์คงงงว่าทำไรผิด :เฮ้อ:
:pig4: คะ
-
อาฟ้า้ทำอาร๊ายยยยยย โอ๊ยยยยย~ ปวดใจ ~ ปวดตับ~ ปวดม้าม~
ในวินาทีที่อาฟ้าเลือกที่จะหยิบช่อดอกไม้นั่น และเดินผ่านทิกเกอร์ไปแบบนั้น
ช่วงเวลานั้นมีความรู้สึกเลยว่า ทิกเกอร์เป็นอะไรที่โคตรจะน่าสงสารที่สุดเลยอ่ะ
ตกลงที่อาฟ้าเมินทิกเกอร์ เพราะทำใจไมได้ที่ทิกเกอร์ไปมีอะไรกับคนอื่นงั้นเหรอ?!?!?!
ช่วงเวลาเดท(ขอเรียกว่าเดท)ของอาฟ้ากับจักร เหมือนพวกคู่รักที่เพิ่งจีบกันใหม่ๆ เลย
คือยังไงล่ะ ก็ยอมรับล่ะนะว่าสิ่งที่ทั้งคู่ปฏิบัติต่อกันนั้น มันดูน่ารักเอามากๆ เลยทีเดียว
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามแต่ ให้มองหรือดูมุมไหนอาฟ้ากับจักรก็ไม่หมาะสมกันอยู่นี่ดี (ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ)
ผิดมั้ยถ้าจะบอกว่า เริ่มออกแนวหมั่นไส้แกมเคืองอาฟ้าขึ้นมานิดๆ แล้วเหมือนกันนะเนี่ย
เหมือนกับว่าการโต้เถียงกับคิว และการเตือนสติของคิวต่ออาฟ้าในวันนั้นไม่มีประโยชน์เลย
ดูคล้ายๆ ว่าอาฟ้าคิดไม่ได้ หรือคิดได้แต่เลือกที่จะทำการประชดทิกเกอร์ด้วยวิธีที่ไม่เข้าท่า
เคืองอาฟ้า หมั่นไส้จักร สงสารทิกเกอร์
โกรธอาฟ้า ระอาจักร รักทิกเกอร์
โมโหอาฟ้า ไม่ชอบจักร ฝักไฝ่ทิกเกอร์
ทิกเกอร์หนึ่งเดียวเท่านั้นที่ฟ้าคู่ควร (อินจัด ชัดเจน กร๊าาากกก~) ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์ *สะบัดพู่*
สารบัญ Limited Lovers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
คิวรู้คงไม่ปลื้มแน่เลยที่ฟ้าออกมากับจักรแบบนี้ เฮ้อ
-
อาฟ้ามีสิทธิ์ที่จะเลือก
ผิดตรงไหน?
(http://www.smileycodes.info/emo/tuzki/14.gif)
-
แค่จูบไม่ได้หมายความว่าฟ้าจะเลือกจักร แต่รู้สึกว่าฟ้าสนุกกับการได้แกล้งมากกว่าจะรู้สึกอย่างอื่นอ่ะนะ ...
-
คึคึ งานนี้ทิกเกอร์น้ำตาตกหล่ะ o22
-
ฟ้าเหมือนกำลังล้อเล่นกับความรัก
-
สงสัยงานนี้ทิกเกรอ์จะแห้ว ฟ้านี่ก้อแปลกเนาะว่าป่าว ตัวเองก้อนอนกับชายคนอื่นมาไม่ใช่น้อย
หากลองย้อนคิดดูอีกทีคงไม่ต่างกันเท่าไหร่ หากทิกเกอร์จะทำบ้าง เพราะว่างต่างฝ่ายต่างมีอดีต
ที่เจ็บปวดนั้นไม่ต่างกัน ผลของการกระทำ ทำให้สองคนนี้ได้หวนกลับมาเจออีกครั้ง แต่หลังจากนั้น
ฟ้าจะสานต่อหรือเปล่าอันนี้ แล้วแต่ว่าสองคนนี้เขามีใจให้กันมากน้อยขนาดไหน ยังไงเสีย
เราก้อต้องยอมรับการตัดสินใจของฟ้า ไม่ว่าจักรหรือว่าทิกเกอร์เขาสองคนคือคนที่ฟ้ารัก :pig4:
-
“งั้นสิ ไอ้เด็กคนนั้นชอบไวน์เหรอ” จักรถามกลับด้วยน้ำเสียงอยากรู้ขึ้นมาทันที
ไม่ชอบที่จักรเรียกคิวแบบนี้เลย
แต่ตอนนี้รู้สึกเคืองพี่ฟ้าแล้ว ไม่รู้ว่าตั้งใจจะทำอะไรอยู่
-
อาฟ้า ทำไมทำแบบนี้ค่ะ เศร้าอ่ะ
สงสารทิกเกอร์
-
โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ :sad4: อาฟ้าใจร้ายยยย
ตัวเองก็มั่ว แล้วก็มากลัวว่าทิกเกอร์จะมั่วบ้าง ไม่แฟร์เลย
ตัวเองไปยั่วเค้าก่อนเอง มาทำให้ทิกเกอร์รัก แล้วก็ทิ้งงง
ตอนไปยั่วเค้าก็ไม่ถามว่าเค้ายังโสดอยู่รึป่าว พอมารู้ทีหลังก็ทิ้งเค้า
อยากให้อาฟ้าต้องวิ่งง้อทิกเกอร์จริงโว้ยยยยยยยยยยย :m31:
ปล.ขออภัยพี่บี้ คนมันอินจริง ๆ
-
ฟ้าเลือกจักรแน่หรอ หรือว่าจะแก้แค้นจักรอ่ะ
แต่ถ้าฟ้าเลือกจักรเราสงสารทิกเกอร์
-
:sad4: :sad4: :sad4:
ทิกเกอร์ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
มองต่างมุม เจ๊ว่า ฟ้าดูจะมั่นใจตัวเองมาก(เกินไป)นะว่าตัวเองคุมเกมส์ได้เวลาอยู่กับจักร จึงเลือกที่จะยื้อเวลาในการตัดสินใจให้เด็ดขาดด้วยการไปกับจักร อ่านๆ ไปแล้วก็แอบกังวลกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยจัง
ฝากไอ้น้องบี้ บอกพี่คิวไปกระซิบบอกทิกกี้หน่อยนะ ให้อดทนและรุกหนักกว่านี้อีกนิด รับรองสำเร็จแน่ ฟ้าไปไหนไม่รอดหรอกเชื่อดิ ((ก็คนมันยังรักอยู่นี่นะ ไม่ได้หมดรักแล้วซักกะหน่อย...^^))
อยากอ่านโมเมนท์หวานๆ ระหว่างคิว&เค้ก จริงๆ ให้ดิ้นตาย เมื่อไหร่จะได้อ่านว๊า
จ๊วบบบบบ เหม่งนุ้งเค้ก น่าร๊ากกอ๊าห์ เด๋วนี้มีกล้านินทาพี่คิวแบบออกอากาศสดกะพี่ฟ้าด้วย... :o8:
ขอบคุณไอ้น้องบี้ +++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
:o12:ไม่น่ะฟ้า แล้วทิกเกอร์หละ. น่าสงสารเอาทิกเกอร์ไปไว้หนายยยยยยยยย
-
555+ ไม่รู้ว่าเราคิดมากไปเองรึเปล่านะ แต่ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกอาฟ้าเยอะอ่ะ
แล้วสุดท้ายปัญหาก็จะตามมาอีกไม่รู้จบอ่ะ ถ้าไปมั่นใจทิกเกอร์ก็ไม่จำเป็นต้องไปกับจักรก็ได้
แล้วมาเสียใจร้องไห้ทีหลังนะอาฟ้า...คนเขียนอย่าว่่ากันเลยนะ นี่คืออารมณ์ส่วนตัวเท่านั้น
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
มันเหมือนว่าฟ้าคุมเกมได้ตอนอยู่กับจักรก็เลยกล้ามาด้วย
แต่เล่นบ่อยๆ ไม่ดีนะ สงสารตัวเองบ้าง
ทิกเกอร์ก็ซวยไป
ฟ้าไม่กล้าเล่นด้วยเพราะเหมือนใจอ่อนให้มากกว่า
-
ทิกเกอร์ล่ะะะะะะะะะะะ T^T
-
ดูเหมือนฟ้าประชดทิกเกอร์เลยนะ o6
ตัวทิกเกอร์เองคงช็อคน่าดู
-
สงสารทิกเกอร์อ่าาาา
คือก็แบบว่าทิกเกอร์ก็ไม่ได้ดีไปกว่าจักรเท่าไหร่หรอกตอนที่ทำอาฟ้าเจ็บ
แต่ว่าดูไปดูมา อาฟ้ายอมให้จักรเข้ามาใกล้ชิดได้มากกว่าทิกเกอร์เยอะเลยอ่า
แล้วที่ว่าไม่มั่นใจในทิกเกอร์ ก็เป็นเพราะอาฟ้าไม่เข้าไปทำความรู้จักทิกเกอร์ในช่วงเวลาที่ห่างกัน
แล้วมากับจักรแบบนี้ เป็นทิกเกอร์เราคงช้ำมาก ใจสลายบินกลับประเทศแล้วววว
แถมพอมากับจักรแล้วดูจะมีความสุขลืมทิกเกอร์ไปเลย T^T
ทีเวลาอยู่กับทิกเกอร์ดูจะหงุดหงิด หาเรื่องแกล้งตลอด กระซิกๆ
แม่ยกทิกเกอร์อย่างเราเศร้าเลยค่ะ
-
พี่ฟ้าไม่มั่นใจ หรือไม่ชอบใจที่รู้ว่าทิกเกอร์เคยมีอะไรกับผู้ชายอื่น
เลยพาลไม่อยากไปกับทิกเกอร์ มันเหมือนหึงหวง เหมือนน้อยใจเลย!
-
พี่ฟ้าาาาาาาา หยอกล้อกันแบบนี้ไม่ดีนะคะ
เดี๋ยวเลยเถิดด หนูไม่ปลื้มมนะ
ทิกเกอร์เศร้าไปถึงไหนแล้วเนี่ยย น่าสงสารอ่ะ
-
ทิกเกอร์จะเป็นไงบ้างเนี่ยยยยย
-
สรุปว่าจูบของจักรยังเหมือนเดิมม่ะ
แล้วทิกเกอร์หล่ะ ถ้าจะให้วินวิน อาฟ้าต้องจูบทิกเกอร์ด้วย
จูบครั้งนี้จักรระทวยกับจูบของอาฟ้า
แต่ถ้าจูบกับทิกเกอร์ ไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
แล้วเราก็มั่นใจด้วยว่าคนที่ระทวยไม่ใช่ทิกเกอร์อย่างแน่นอน
หรืออาฟ้าจะเถียง :a14:
-
:z3: :z3: :z3: อาฟ้า~ แล้วทิกเกอร์เค้าหล่ะ
-
อาฟ้าไปกับจักรทำม๊ายยยยยยยยย
สงสารทิกเกอร์อ้ะ
ป่านหนีกลับบ้านไปแล้วป้ะเนี่ย
-
:m15:
สงสารทิกเกอร์อะ
-
สงสารทิกเกอร์จับใจ :sad4:ตอนฟ้ารับดอกไม้ :3123:แล้วออกไปกับจักรคงแทบล้มทั้งยืน
-
สงสารทิกเกอร์จัง แต่ก็นะ..ฟ้าทำแบบนี้เลยรู้สึกว่า อยากให้ทิกเกอร์เป็นคนมาเห็นแล้วฝ่ายโกรธบ้างจัง
บางทีการรอคอยที่อีกฝ่านทำให้เราเสียใจอยู่เรื่อยๆมันก็เหนื่อยนะ สักวันถ้าทิกเกอร์ยอมแพ้ขึ้นมาฟ้าอาจจะเป็นฝ่ายเสียใจก็ได้ :z3:
-
จะไม่ให้จูบ ก็ไม่ทันละ หวงอาฟ้านข
-
พี่ฟ้าไม่น่ามากับจักรเลยอ่า ไม่เอาๆๆๆๆ *งอแง* (แล้วก็โดนเบบี้ยันโครม 555)
สงสารทิกเกอร์จังเลยค่ะ :กอด1:
-
เชียร์ทิกเกอร์ :o12:
สงสารทิกเกอร์อ้ะ
อาฟ้ารีบๆเลือกเถอะ จะใครก็สักคน วู้ว วว :เฮ้อ:
หนีไปหาพี่คิวดีกว่า :z2:
ปล.ขอบคุณบี้ค่ะ :กอด1:
-
สงสารทิกเกอร์อีกคนค่ะ
ไม่อยากให้อาฟ้าเล่นเกมส์แบบนี้เลย อยากให้อาฟ้าตัดสินใจทำอะไรให้ชัดเจนจัง
-
คุณฟ้าาาาาาาา ทำไมมมมม อ๊ากกก :sad4: :sad4: :sad4:
สงสารทิกเกอร์จับใจ ฮืออออออออ
:o12: :o12: :o12:
-
ไม่ชอบแล้วอ่ะ ฟ้า ค่อนทางเลวอ่ะ ทีตัวทำได้ คนอื่นทไม่ได้ ทิกเกอร์จะนอนกะใคร มาก หรือ น้อย กว่าตัวเอง แล้วไง ทีตัวเอง ยังทำได้ :m16:
-
สงสารทิกเกอร์
:m16: :m16: :m16:
-
ตอนนี้คิวไม่ออกเลยแฮะ แอบขำเค้กตอนบ่นเรื่องคิวอะ เค้กยังน่ารักเหมือนเดิม 555
-
:m31: :m31: :m31:
-
สงสารทิกเกอร์ ถ้า อาฟ้า ยังทำแบบนี้อยู่ เราจะไม่สงสารอาฟ้าแล้ว
ในเมื่ออาฟ้า ก็ทำแบบที่ทิกเกอร์ทำ อาฟ้าจะโทษทิกเกอร์ไม่ได้
-
โหหหหหหหหหหหหหห..จักรได้จูบด้วยอะ
ฟ้าคิดอะไรอยู่น้า อยากรู้จัง
-
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :o12:
ทิกเกอร์อดทนไว้เน้อ สู้ๆ จริงๆแล้วอาฟ้าก็แค่ประชดใช่ปะละ :sad4:
-
ทิกเกอร์ ทิกเกอร์ ทิกเกอร์
-
ไม่ชอบจักรอ่ะ ไม่เชียร์ ชิชิ :m16:
ทิกเกอร์น่าสงสารอ่ะ :เฮ้อ: แต่ก็นะฟ้า เจ็บแล้วจำค่ะ อย่าลืมว่าจักรก็เคยทำเราเจ็บ
:pig4: นะคะ
-
อาฟ้าดูสนุกกับการเป็นผู้เลือกแหะ กลัววันนึงจะไม่มีสิทธิ์เลือกสักทางจังเลย
คิวจัดการทีเหอะ
-
ขอแค่มีความสุขกับสิ่งที่ทํา....ทําในสิ่งที่ใจอยากจะทํา
อยู่เคียงข้างพี่ฟ้า :กอด1: :กอด1:
แล้วพี่คิวจะว่ายังไงนะ
-
เบบี้ชอบแกล้งให้หวาดเจี๋ยววววว
ตอนนี้กะลังกลัวคดีพลิกแหละ แต่ก็ยังขอเชียร์ทิกเกอร์ต่อไปนะ :call:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ไม่รู้ว่าฟ้า กำลังคิดอะไรอยู่ และกำลังเล่นกับอดีตที่เจ็บปวด ชักสงสัยแล้วว่า ฟ้านี่ SM หรือเปล่า :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้ :กอด1:
-
อาฟ้าความคิดเป็นเด็กเหมือนที่คิวว่าเอาไว้จริงๆ ด้วย
พอรู้ว่าทิกเกอร์เคยนอนกับคนอื่นก็ตั้งข้อสงสัย และไม่เชื่อใจ
แล้วตัวอาฟ้าล่ะ นอกจากกริช กับทิกเกอร์แล้ว อาฟ้าก็เคยนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อด้วยซ้ำไป
ถ้าอาฟ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ถ้าท้ายสุดต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่ตายก็ไม่แปลกใจแล้วล่ะ :เฮ้อ:
-
ทํามายยย ทําไมเป็นจักร :z3:
นี่ถ้าพี่คิวรู้นี่ได้บ้านแตกกันอีกรอบ
โถ อาฟ้า :z10:
-
ระเริงน่าดูเลยอาฟ้า ไม่เอาน่า จักรก็ไม่รู้จะไว้ใจได้แค่ไหน
สงสัย ไม่แน่ใจอะไรก็ถามทิกเกอร์ไปเลยเหอะ
บวกๆ
-
:เฮ้อ:มองคนอื่นไม่ดี แล้วลืมมองตัวเองไปหรือเปล่าละฟ้า ว่าตัวเองนะร่....................ไม่ใช่ย่อย
-
สงสารทิกเกอร์
-
รอตอนต่อไปนะ :laugh:
-
สงสารทิกเกอร์ชะมัดเลยอ่ะ
อาฟ้านี่น่่าเบื่อจัง จะกลัวจะไม่มั่นใจอะไรขนาดนั้น เชอะ
-
อาฟ้าเนี่ย!!!!! ขัดใจเจ๊ชะมัด :sad4:
อย่างงี้มันต้องจับ. นู๋คิวมาดูดปาก ซะให้เข็ด :laugh: :laugh:
P.S. สุดหล่อของเจ๊ไม่เป็นรัยนะ. จักรเนี่ยได้คืบเอาสอกนะยะ
เฮ้ยยยยย เค้ากดบวกได้แล้วอ่ะ :oni1: บวกให้เทอคนแรกเลย
-
หึ เดี๋ยวฟ้องพี่คิว
-
สงสารทิกเกอร์อ่า อาฟ้าจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
แต่ก็หวังว่าที่สุดแล้วอาฟ้าจะไม่มานั่งเสียใจกับการกระทำของตัวเองไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนะ
-
ตกลง....อาฟ้าเลือกคนนี้แล้วป่าวอ่ะ คือ.... แบบว่า.... ถ้าอาฟ้าไม่ต้องการทิกเกอร์แ้ล้ว เค้าขอได้ป่าว :m13: เค้าอยากได้ๆๆๆๆๆๆ :impress2:
-
โอ้วววว ฮึก แม่ยกทิกเกอร์อย่างเรา เศร้าใจ ไม่นะ อาฟ้าอ่า~~ ตอนที่พี่ฟ้าเลือกรับดอกกุหลาบจากจักรอ่ะ แบบทรมานใจ สงสารทิกเกอร์อ่ะ ที่ทำแบบนี้เพราะเลือกดีแล้วหรือว่าไม่พอใจที่ทิกเกอร์ก็นอนกับคนอื่นด้วยเหมือนกันคะพี่ฟ้า ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่ฟ้าไม่มองในมุมของทิกเกอร์บ้างว่าถ้าเค้ารู้ว่าพี่ฟ้าก็นอนกับคนอื่น ที่ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อด้วยซ้ำน่ะ เค้าจะรู้สึกยังไง ก็คงไม่ต่างจากพี่ฟ้าหรอก อีกอย่างถ้าพี่ฟ้าเลือกจักร แล้วมันจะต่างอะไรกันในเมื่อที่ผ่านจักรก็นอนกับคนอื่นนอกจากพี่ฟ้าเหมือนกัน อ่านแล้วเดาใจพี่ฟ้าไม่ถูกเลยทำแบบนี้เพราะหึงหรือเพราะต้องการให้โอกาสจักรจริงๆ หรือว่าต้องการจะทำให้จักรเสียดายแล้วก็ทิ้งไปแบบที่พี่ฟ้าเคยเป็น ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เกิดวันนึงทิกเกอร์ทำใจยอมรับมันขึ้นมาว่าไม่มีหวังแล้ว พี่ฟ้าจะมานั่งเสียใจอีกครั้งมั้ย และคราวนี้โทษใครไม่ได้ด้วยเพราะว่ามันเกิดขึ้นเพราะพี่ฟ้าทั้งนั้น ยอมรับนะว่าจักรมีเสน่ห์มาก แต่ว่าจะไว้ใจได้จริงเหรอ ในเมื่อจักรยังไม่ผ่านด่านพี่คิว ในเมื่อพี่คิวไว้ใจทิกเกอร์และคบกันมาถึงทุกวันนี้ทั้งๆที่ทิกเกอร์กับจักรก็ทำร้ายฟ้าด้วยกันทั้งนั้น มันก็บอกได้ว่าจักรจะต้องมีดีพอที่พี่คิวไว้ใจ หรือบางทีอาจจะเพราะพี่คิวมองออกว่าพี่ฟ้ายังรักทิกเกอร์อยู่ก็ได้ เห้อ จักรเดินหน้าไปก้าวนึงแล้ว แต่ทิกเกอร์ยังย่ำอยู่ที่เดิม เศร้าสลด อย่าเพิ่งถอดใจน้าทิกเกอร์ พี่ฟ้าลองมองความรู้สึกของตัวเองดูก่อนมั้ย ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปแล้ว ทิกเกอร์พยายามมากแ่ค่ไหนก็น่าจะรู้ดี อย่าให้เรื่องที่พี่คิวพูดมาทำลายความมั่นใจลงสิ บางทีพี่คิวอาจจะพูดยั่วโมโหก็ได้ งื้อ เม้นงงจริงเรา = =''
-
ถึงจะเลือกใครแต่ก้อจะต้องแอบสงสารอีกคนไม่ได้อยู่ดีนะ ... แล้วแต่อาฟ้าเนอะ
เอ๊ะ!!หรือว่าจะแล้วแต่คนเขียนล่ะ คริ คริ ^_^
-
อาฟ้าจะลงเอยกับใคร?
-
~15~
เมื่อผมกลับมาถึงบ้าน ผมค่อนข้างตกใจมากที่พบว่ารถของทิกเกอร์จอดอยู่ที่ลานจอดรถในบ้านผม ไฟในบ้านยังคงสว่างอยู่ ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงกว่าเดิม ผมเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ นี่เกือบจะเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว
“โอ้..จำทางกลับบ้านได้สินะ” ผมชะงัก คิวเลิกคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงอย่างต้องการกวนผม
“ทำไมรถ..” ผมทิ้งเสียงลงก่อนเมื่อเห็นว่าคิวชี้เข้าไปในห้องหนังสือ ผมมองเข้าไป ทิกเกอร์ลุกขึ้นยืนและกำลังเดินตรงมาทางผมพอดี
“ฟ้าไปไหนมาครับ ทำไม..กลับดึกจัง” ทิกเกอร์ถาม ผมหันหน้าหนีสายตาอันเศร้าสร้อยของทิกเกอร์
“มันเรื่องของผม แล้วคุณมาที่นี่ทำไม” ผมถอนหายใจ
“มารอฟ้า” ทิกเกอร์ตอบทันที
“..................” อยู่ๆในบ้านก็เงียบสนิท ต่างฝ่ายต่างยืนนิ่งอย่างกับมีใครมาสั่งเอาไว้ว่าห้ามขยับนะอย่างนั้น
“ผมง่วงแล้ว ไว้คุยกันวันอื่นแล้วกัน..ชงชาเขียวให้อาหน่อย” ผมตัดบทและสั่งคิวก่อนจะก้าวเดินหนี
“Fah!, You’re running away from me again!” ทิกเกอร์พูดแทบตะโกน ผมชะงัก
“I though you said that you were gonna give me a chance.”
“โอ้ๆๆ..พูดภาษาไทยสิ” ผมหันตัวกลับไปและแสยะยิ้มให้ทิกเกอร์ ทิกเกอร์หน้าเสีย
“คุณนี่มัน..” คิวกัดฟันบ่น ส่ายหัวให้ผมอย่างไม่พอใจ
“คุณนอนกับผู้ชายคนนั้นไปแล้วใช่ไหม” ทิกเกอร์พูดขึ้น ตาของทิกเกอร์จ้องมาที่ผมเขม็ง คล้ายกับตัดพ้อต่อว่าแต่อีกนัยหนึ่งก็แฝงไปด้วยความโกรธ
เพี้ย !!
ผมเดินเข้าไปตบหน้าทิกเกอร์อย่างแรง เรียกว่าแรงมากจนสุดกำลัง เสียงที่ฝ่ามือกระทบใบหน้าของทิกเกอร์ดังก้องไปทั่วบริเวณบ้าน ตัวทิกเกอร์แทบจะเซไปตามแรง
“หึ เป็นการพูดภาษาไทยที่ไม่น่าฟังเอาซะเลยนะ” ผมพูดกัดฟันเข้าหากันแน่น ทิกเกอร์หลับตาลงอย่างข่มอารมณ์ของตนเอง
“คุณมันขี้ขลาด” ทิกเกอร์พูดขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงเรียบเย็นจนผมแทบไม่อยากฟัง มันกำลังทำให้ผมรู้สึกผิด
“ใช่..ผมมันขี้ขลาด!” ผมกระแทกเสียงใส่อีกฝ่าย พยายามข่มอารมณ์ของตัวเองไม่ให้น้ำตานั้นไหลออกมาให้กับคำพูดสะเพร่าบ้าๆนั่น สุดท้าย..ทุกคนก็ไม่ต่างอะไร ต่างอยากได้ในสิ่งที่ตนเองต้องการทั้งนั้น พออะไรไม่เป็นไปอย่างที่คิดอย่างที่หวังเอาไว้ ก็จะต่อว่าว่านั่นผิดแต่ฉันถูกและแสดงกำพืดออกมา ผมเองก็ยังเป็นคนอย่างนั้น ทิกเกอร์เองก็คงจะไม่ต่างกัน
“รู้อย่างนี้แล้ว ก็เชิญไปซะให้พ้นหูพ้นตา” เสียงของผมเครืออย่างห้ามไม่อยู่ ผมตั้งใจว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เพราะมันจะทำให้ผมเสียการทรงตัว มันจะทำให้ผมสูญเสียการเป็นตัวของตัวเองไปได้อย่างง่ายดาย
“คนขี้ขลาดอย่างผม ไม่มีค่าพอให้คุณมารอหรอก”
“ผมมันก็แค่ไอ้คนขี้ขลาด คนเห็นแก่ตัว..ที่ไม่มีค่าพอสำหรับคนอย่างคุณ!” ผมต่อว่าออกไปพร้อมกับปาดน้ำตาของตนเองอย่างลวกๆ
“ฟ..ฟ้า” ทิกเกอร์เข้ามากอดผมเต็มแรง ครั้งนี้ผมดิ้นอย่างสุดชีวิต
“ปล่อย!” ผมร้องแทบจะตะโกน นั่นยิ่งกลับทำให้ทิกเกอร์กอดแรงขึ้นกว่าเดิม
“ปล่อยยยยยยยย!!” ผมร้องเสียงดัง มือก็ทุบตัวทิกเกอร์อย่างไม่ยั้งมือ อีกฝ่ายคงเจ็บ เขาหน้าตาเหยเกและหลับตาปี๋หลบมือไม้จากผม
“ฟ้า ผมขอโทษ” ทิกเกอร์พูดบอก
“หุบปาก ผมไม่อยากได้ยินเสียงคุณ!” ผมตะคอกใส่และออกแรงผลักทิกเกอร์เต็มแรง ทำให้ผมหลุดออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่ายได้
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูด..”
“คุณตั้งใจ” ผมกระแทกเสียง
“ไม่ว่าคำพูดนั้นจะออกมาอย่างที่คุณตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่สำหรับผม..คุณตั้งใจ!” ผมว่าเสียงดัง ตาแทบจะถลนด้วยความโมโหอย่างที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ทิกเกอร์ยืนหน้าเสีย เขามีท่าทีคล้ายกับเด็กที่ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรเมื่อกระทำผิดไปแล้ว
“บางทีการที่พ่นคำพูดออกมาอย่างไม่คิด ก็ไม่สมควรจะยกโทษให้ หึ..เพราะขอให้เชื่อเถอะ ว่าถึงจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจพูด..แต่คำพูดนั้นก็หลุดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจคุณ มันแค่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองทางสติก็เท่านั้นเอง” ผมกัดฟันพูดว่า พยายามรวบรวมคำพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ง่ายมากที่สุดเท่าที่ตอนนี้ผมมีสติก่อนที่ผมจะเดินหนีออกมาในทันที ผมรีบจ้ำเท้าเดินขึ้นห้อง ถอดเสื้อผ้าออกและเข้าไปแช่น้ำในอ่างอย่างต้องการระงับสติอารมณ์ที่ครุกรุ่นของตัวเองให้เย็นลง ผมอยู่ในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมง ออกมาก็พบว่าคิวกำลังเดินด้วยท่าทีสบายอกสบายใจอยู่ในห้องนอนของผม
“ชาน่ะ” คิวหันมาพูดบอกผมที่ยืนจ้องมันเขม็ง
“เสร็จแล้วก็ออกไป” ผมสั่งเสียงเรียบ เดินเอาผ้าขนหนูที่เช็ดผมไปแขวนที่ราวตากผ้า
“จบไม่สวย..ดราม่าแฮะ” คิวบ่นด้วยน้ำเสียงล้อๆ
“จิ..คิว อาหงุดหงิดอยู่นะ” ผมขมวดคิ้วว่า
“คุณไปนอนกับไอ้นั่นมารึเปล่า” คิวถามก่อนจะนั่งลงที่ที่นั่งตรงปลายเตียง
“หึ..ถ้านอนคงไม่กลับมาเร็วขนาดนี้หรอก ระดับอาน่ะ..ยันเช้า” ผมกวนตอบไปอย่างนั้น
“เหรอ..หึ คุณก็คงเป็นแค่ไก่อ่อนปากดี อย่างมากผมให้แค่สิบห้ายี่สิบนาทีล่ะนะ..เวลาที่เหลือที่ต้องหายไปทั้งคืนน่ะ เค้าเรียกว่าพักฟื้นต่างหากล่ะ” คิวย้อนกวนกลับ มันยักคิ้วอย่างกวนโอ๊ย
“ไอ้คิว..รีบออกจากห้องอาไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้เวรนี่” ผมหันไปว่า และอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับคำพูดและหน้าตาอันกำกวมของหลานตัวเอง
“โอเค ไปก็ได้..แบดดรีม” คิวพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย จึงเปิดดูหนังคลายเครียดและดื่มชาที่คิวทำมาให้ หลังจากนั้นก็เข้านอน ไม่รู้ว่าคืนนี้จะฝันดีหรือฝันร้าย รึอาจจะแบดดรีมอย่างที่หลานพูดอวยพรไว้ก็เป็นได้..
= = = = = = = =
เมื่อคืนผมหลับสนิท น่าแปลกที่หลับสนิทขนาดนี้ได้ยังไงทั้งทั้งที่มีเรื่องกวนใจ ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคิวมันแกล้งใส่ยาอะไรลงไปในชาด้วยรึเปล่าผมถึงได้หลับง่ายดายขนาดนั้น ผมเหลือบมองนาฬิกาที่หัวเตียง บอกเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้ว ผมลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและใส่เสื้อคลุมก่อนจะเดินลงมาข้างล่าง ผมเดินตรงไปที่ห้องครัวเพื่อที่จะชงกาแฟดื่มสำหรับเช้านี้สักหน่อย
“โฮะ..ป้าครับ วันนี้หวยออกรึยังไงน่ะ” คิวได้ที มันแซวผมทันทีที่เห็นผม สาวใช้คนอื่นๆพากันหัวเราะคิกคัก
“คุณคิวนี่ก็” ป้านิดยิ้มพร้อมกับส่ายหัว
“ตื่นสายก็ด่า ตื่นเช้าก็เหน็บแนม..ทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่างแหละ ชิ” ผมบ่นงุบงิบ
“คุณฟ้าจะรับอะไรคะ กาแฟเหรอคะ” น้าเพียงยิ้มกว้างถาม
“ครับ..คาปูร้อนให้ผมสักแก้วนะครับ” ผมบอก
“แล้ว..ทำอะไรน่ะ” ผมถามคิวที่กำลังวุ่นอยู่
“ทำอาหาร” มันเบะปากตอบ
“อืม ขอบคุณ” ผมส่ายหัวให้คิวอย่างไม่อยากต่อปากต่อคำอีก
“ผมรอที่ห้องหนังสือนะครับ” ผมบอกก่อนจะเดินออกมาและตรงเดินตรงไปที่ห้องหนังสือ
“เอ๊ะ!” ผมร้องด้วยความตกใจ ใจแทบจะตกลงไปที่ตาตุ่มทันทีเมื่อเห็นว่ามีคนนอนอยู่ในห้องหนังสือด้วย ผมชะงักและก้าวถอยหลังเล็กน้อยก่อนที่จะเพ่งเล็งให้ชัดมากขึ้น เมื่อแน่ใจแล้วว่าเป็นใครก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรง ทิกเกอร์พลิกตัวกลับมานอนหงาย ด้วยความรู้สึกหมันไส้และหงุดหงิดขึ้นมา ผมจึงเดินไปที่ชั้นหนังสือและหยิบนิตยสารสองสามเล่มขว้างไปที่คนที่นอนอยู่บนโซฟา
“โอ๊ย! โอ๊ะ..gosh” ทิกเกอร์สะดุ้งตื่นด้วยท่าทางตกใจ หน้าตาของทิกเกอร์เหรอหราตาเบิกโพรง ท่าทางของทิกเกอร์แทบทำผมหลุดขำออกมาแต่ผมก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
“ฟ..ฟ้า ผมเจ็บนะครับ” อีกฝ่ายพูดเสียงเอื่อย มือลูบต้นแขนของตัวเองเบาๆ
“ใครอนุญาตให้คุณมานอนที่บ้านผม” ผมว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“คิว” ทิกเกอร์ตอบซื่อๆก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เขาลูบหัวตัวเองเหมือนกับกำลังเรียกสติของตัวเองให้กลับมา
“ขออนุญาตค่ะคุณฟ้า กาแฟค่ะ” เขียวนำกาแฟมาเสิร์ฟให้ ผมพยักหน้า เขียวนำแก้วกาแฟไปวางไว้ที่โต๊ะตรงกลางโซฟา ผมยังไม่คงเดินไปนั่งจนเขียวเดินออกไป ผมถอนหายใจแรงและคิดว่าไม่กินกาแฟแล้วจะดีกว่า หมดอารมณ์
“ฟ้า..คุณจะไปไหน” ทิกเกอร์วิ่งพรวดมาดักผมไว้ ผมชะงักและผลักอีกฝ่ายออกแต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดๆ
“ฟ้า ผมขอโทษ..ผมขอโทษนะครับ” ทิกเกอร์พร่ำพูดและเข้ามากอดผมไปทั้งตัว ผมตัวเซเข้าไปอย่างไม่สามารถต้านทานแรงของเขาได้
“ทิกเกอร์..คุณ ปล่อยผมก่อน” ผมพยายามบอกแต่อีกฝ่ายกลับกอดผมแน่นกว่าเดิมอย่างกับรู้ว่าผมจะเล่นตุกติกอย่างนั้น
“ไม่”
“จิ..ทิกเกอร์” ผมขึ้นเสียง คิ้วขมวดผูกกันเป็นปม
“ไม่” ทิกเกอร์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมยืนนิ่ง นิ่งและเงียบสยบทุกอย่าง เวลาผ่านไปเกือบสิบนาทีทิกเกอร์เริ่มขยับตัวและมองผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล ผมหันหน้าหนีทำสีหน้าไม่พอใจใส่เขา
“ขอโทษ” ทิกเกอร์ย้ำบอกแทบกระซิบ
“พูดคำอื่นไม่เป็นรึไง” ผมย้อนว่าด้วยนึกหงุดหงิด ทิกเกอร์เงียบ ก้มหน้างุดแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยผมออก
“เมื่อคืน ผมเป็นห่วงคุณ..ผมหึง ผมหวง ผม..” ทิกเกอร์อธิบายอย่างตะกุกตะกัก ผมหันหน้ากลับมามองหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง
“ผมรู้ว่าที่ผมพูดไปมันผิด แต่..ผม”
“ใช่ ผมไม่ชอบ..เพราะผมไม่ได้ทำ แต่ถ้าที่จริง ผมจะนอนกับใคร..มันก็สิทธิ์ของผมไม่ใช่รึไง” ผมย้อน ทิกเกอร์ชะงัก
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน ผมยืนนิ่งเงียบ อีกฝ่ายก็เงียบลงเช่นเดียวกัน ทิกเกอร์ยืนกอดผมอยู่นานไม่ยอมขยับไปไหน การที่เรายืนแนบชิดกันอย่างนี้ทำให้ผมได้กลิ่นกายของทิกเกอร์อย่างชัดเจน นานมากแล้วที่ผมไม่ได้กลิ่นแบบนี้ กลิ่นน้ำหอมยี่ห้อที่คุ้นเคยที่เขาชอบใช้ ภาพเก่าๆหวนกลับมาทันทีทันใด
“อย่านะ” ผมพูดปรามทันทีที่รับรู้ได้ว่าทิกเกอร์จะก้มลงมาหอมแก้มผม ทิกเกอร์ชะงักค้างไป หน้าของเราอยู่ใกล้กันเพียงไม่กี่เซ็นเท่านั้น ลมหายใจของทิกเกอร์กระทบลงบนแก้มของผมเบาๆ
“คิดถึงจน จะตายอยู่แล้ว” อีกฝ่ายพูดเหมือนอ้อนวอนขอร้องอย่างนั้น ผมรู้สึกเหมือนหัวใจของผมกำลังเต้นแรง แรงจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน
“ก็ยังไม่ตายนี่” ผมว่าส่งๆ ทิกเกอร์ก้มหน้าลงซบบนไหล่ของผม ถ้าเป็นปกติผมคงจะกอดตอบหรือลูบหัวเขาเพื่อปลอบโยน แต่ครั้งนี้ผมยืนนิ่ง ผมไม่ทำอย่างที่เคยทำเพราะผมอยากยืนนิ่งๆอยู่อย่างนี้จนกว่าทิกเกอร์จะเงยหน้าขึ้นเอง
“วันนี้ฟ้าพาผมไปเที่ยวหน่อยได้ไหม” ทิกเกอร์พูดพึมพำ และยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากไหล่ผม
“....................” ผมยังคงเงียบ
“ฟ้าบอกว่า ฟ้าจะให้โอกาสผมไม่ใช่เหรอครับ..เมื่อวานคุณไปกับคนนั้น วันนี้..เป็นผมได้ไหม” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยเหนื่อยกับหัวใจของตัวเองที่ต้องมายืนฟังน้ำเสียงอะไรแบบนี้จากคนสองคน
“นะครับ..นะ” ทิกเกอร์พูดเสียงค่อย
“อืม” ผมตอบในลำคอ
“จริงนะ!” ทิกเกอร์เงยหน้าและยิ้มกว้างในทันที ผมพยักหน้าให้อย่างขอไปที
“อาหารพร้อมแล้วนะ..ทิกเกอร์ มากินด้วยกัน” ผมสะดุ้ง หันกลับไปมองคิวที่เพิ่งเดินมา คิวยักไหล่ให้ผมอย่างกวนอารมณ์
“ใครหน้าแดงกันนะ” คิวพูดลอยๆก่อนจะเดินเชิดไป
“ไอ้..” ผมได้แต่กัดฟัน อยากจะตะโกนตอบโต้กลับไปแต่ก็กลัวว่าทิกเกอร์จะรู้ว่าผมนั้นร้อนตัว ผมไม่หันหน้ากลับไปมองทิกเกอร์อีกแต่เดินหนีไปที่ห้องอาหาร ทราบเพียงว่าทิกเกอร์เดินตามหลังมาไม่ห่าง
= = = = = = = =
ณ ท่าพระจันทร์..
“เอ่อ” ทิกเกอร์อ้ำอึ้งทันทีเมื่อเห็นว่าผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว หลังจากที่เมื่อเช้าผมรับปากทิกเกอร์ว่าจะพาออกมาเที่ยว ทิกเกอร์อาบน้ำแต่งตัวโดยเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของคิว ผมแกล้งพาทิกเกอร์เดินเล่นแถววัดพระแก้วก่อนที่จะมาที่นี่ วันนี้ผมคงจะบาปน่าดูที่แกล้งคนอื่นแบบนี้ อากาศช่วงสายๆร้อนได้ที่ทีเดียว ทำให้ทิกเกอร์เหงื่อไหลไม่หยุด
“อาหารกลางวัน” ผมเชิดหน้าพูด ทิกเกอร์หน้าเสีย
“หมี่สีเหลืองไง ชอบไม่ใช่เหรอ” ผมยิ้มกว้างอย่างต้องการให้อีกฝ่ายเห็นความตั้งใจของผม ทิกเกอร์พยักหน้า
“เอาบะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดงพิเศษสองที่ครับ” ผมสั่ง
“ได้ค่า หาโต๊ะนั่งด้านในได้เลยนะคะ” แม่ค้าตะโกนบอกโดยไม่ได้ละสายตามามองพวกเรา ผมเดินนำไปหาโต๊ะนั่งในร้าน ทิกเกอร์นั่งลงตรงข้ามกับผม หลังจากผมสั่งเครื่องดื่มเสร็จ เมื่อหันกลับมามองคนตรงหน้า อีกฝ่ายกลับนั่งตัวตรงหน้านิ่งไม่บอกอารมณ์
“หน้าตาเหมือนไม่อยากกินเลยนะ ไม่กินก็ได้นะ” ผมพูดแกล้งไม่หยุด
“อยากกิน ถ้าฟ้าไม่แกล้งผม” อีกฝ่ายพูดกลับ เป็นน้ำเสียงเรียบแต่กลับฟังดูเหมือนเขาต้องการต่อว่าผมอย่างเห็นได้ชัด
“นี่..คุณหาว่าผมแกล้งคุณงั้นเหรอ” ผมว่าทันที
“ก็ฟ้าจงใจแกล้งผม” ทิกเกอร์ย้ำอีก
“ไม่ได้แกล้ง” ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างรู้สึกไม่ชอบใจ ถึงแม้ความจริงคือผมต้องการแกล้งก็เถอะครับ
“อืม” ทิกเกอร์พยักหน้าไปอีกทางเหมือนยอมแพ้ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับผม ต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นานจนก๋วยเตี๋ยวนำมาเสิร์ฟ
“.....................” ทิกเกอร์นั่งนิ่ง ตาจ้องมองไปที่ก๋วยเตี๋ยวชามของตนเอง
“กินสิ” ผมสั่ง
“ไม่ปรุงเหรอ” อีกฝ่ายถาม
“หรือจะเอา” ผมทำตาดุใส่ ทิกเกอร์ยิ้มและส่ายหัวในทันที ผมปรุงก๋วยเตี๋ยวชามของผมเล็กน้อยก่อนจะทาน เราต่างฝ่ายต่างกินกันเพียงชามเดียวเท่านั้น เท่านี้ก็อิ่มแล้วเพราะชามใหญ่มาก ครั้งนี้ไม่ทำให้ทิกเกอร์รู้สึกทรมานอย่างครั้งก่อน เขาจึงได้เดินออกมาจากร้านด้วยสภาพปกติ
“ไปไหนต่อดี” ผมบ่นพึมพำ
“ไปจตุจักรดีกว่า” ผมยิ้มกว้างเมื่อนึกอะไรๆสนุกออก ทิกเกอร์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ผมเดินนำเพื่อไปเรียกแท็กซี่ วันนี้เราทั้งสองเดินทางโดยแท็กซี่ทั้งวัน ตอนแรกผมว่าจะให้ลุงมีขับรถให้แต่ผมอยากแกล้งใครบางคนเลยเอาลำบากเข้าว่าดีกว่านะครับ
“เคยไปรึเปล่า” ผมถามขึ้นหลังจากที่เรียกแท็กซี่ได้แล้ว ทิกเกอร์ส่ายหัว
“แต่เคยได้ยิน” ทิกเกอร์บอก ผมยิ้มให้แต่คงเป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์น่าดู ทิกเกอร์ยิ้มกว้างตอบอย่างซื่อๆ
“เดี๋ยวก็รู้” ผมยักคิ้ว ตอนนี้ผมคิดว่าอากาศอุณหภูมิน่าจะประมาณสามสิบห้าองศา ประมาณการแล้วว่าทิกเกอร์คงจะเกือบคลั่งตายแน่ๆถ้าต้องเดินทั้งอากาศแบบนี้ เมื่อรถแท็กซี่จอดที่หน้าตลาดนัดจตุจักร ทิกเกอร์หน้าเหวอเล็กน้อยแต่ดูเหมือนเขาจะเก็บอาการไว้ไม่ให้ผมรู้ ผมยักไหล่ยิ้มให้และเดินนำมาก่อน
“รอผมด้วย” ทิกเกอร์รีบวิ่งมาขนาบข้าง ท่าทีของทิกเกอร์เกือบทำให้ผมหลุดหัวเราะออกไป เขาคงกำลังตื่นตระหนกกับผู้คนมากมายที่มาเพื่อนช็อปปิ้ง ทิกเกอร์เริ่มขยับเสื้อยืดของตัวเองไปมาเหมือนต้องการให้มีลมให้หายร้อน ถึงแม้ผมรู้สึกอยากแกล้งทิกเกอร์แต่ผมคงจะไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ผมเดินตรงไปซื้อพัดมาสองอัน สำหรับทิกเกอร์หนึ่งและสำหรับผมหนึ่ง
“ร้อน” อีกฝ่ายพูดเสียงเบา หน้าของทิกเกอร์เริ่มแดงและขยับมือพัดไม่หยุด
“กลับไหม” ผมถามด้วยสีหน้าจริงจังเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะช็อกตายตรงนี้
“ไม่” ทิกเกอร์ส่ายหน้าตอบทันที ผมเบะปากก่อนจะเดินนำไปเรื่อยเปื่อย แน่นอนว่าผมต้องการเพียงแค่แกล้งอีกฝ่าย ผมจึงไม่มีจุดประสงค์อะไรที่จะซื้อ ถึงแม้จะไม่มีจุดประสงค์แต่พอได้เห็นของน่ารักๆก็อดที่จะเลือกซื้อไม่ได้ ผมได้ของตกแต่งบ้านมาบ้างเล็กน้อย ทิกเกอร์เพียงแต่เดินตามและจ่ายเงินให้เท่านั้น
“อันนี้น่ารัก” ผมชี้ไปที่แก้วเซรามิคลายการ์ตูนใบหนึ่ง
“อันนี้น่ารักกว่า” ทิกเกอร์ชี้ไปที่แก้วแบบคู่รัก ผมมองผ่านตาไปอย่างไม่สนใจถึงแม้จะรู้สึกเขินเล็กน้อย ทิกเกอร์คงเหวอไปที่ผมทำท่าทีไม่สนใจเขาอย่างนั้น
“งั้นผมเอาอันนี้” ทิกเกอร์พูดขึ้น ผมหันกลับไปมอง เจ้าของร้านยืนมองหน้าทิกเกอร์
“เอาคู่แบบนี้ครับ เอ่อ..เอาแบบละคู่” ทิกเกอร์พยายามเรียบเรียงคำพูดอย่างชัดคำเพื่อให้เจ้าของร้านเข้าใจตนเองมากที่สุด
“ห๊า..ใครจะถือ” ผมอุทาน
“ฟ้ากับผมไง” ทิกเกอร์ยิ้ม ผมอ้าปากค้าง
“เอาอย่างละคู่เลยนะครับ” เจ้าของร้านยิ้มถามอย่างดีใจ ทิกเกอร์พยักหน้าตอบยิ้มๆ
“งั้นเอาอันนี้ด้วยครับ สามใบ” ผมชี้ไปที่แก้วการ์ตูนลายสเมิร์ฟที่เค้กชอบ
“ครับ” เจ้าของร้านพยักหน้ารับรู้
“จ่ายด้วย” ผมบอกทิกเกอร์ ทิกเกอร์หัวเราะในลำคอเหมือนกับบอกผมว่า “อยู่แล้วครับ” ประมาณนั้น เรายืนรอให้เจ้าของร้านห่อแก้วให้เกือบยี่สิบนาทีกว่าจะเสร็จ ก่อนจะเดินต่ออีกนิดหน่อยแต่สุดท้ายผมก็รู้สึกว่าไม่ไหวกับอากาศแล้วด้วยเหมือนกัน ผมตัดบทบอกทิกเกอร์ว่าจะไปห้างต่อ ทิกเกอร์รีบพยักหน้าเห็นด้วยแทบจะทันทีทันใด
“โอะ..เย็น~” ทิกเกอร์ยิ้มกว้างด้วยท่าทางสดชื่นและมีความสุขก็ไม่ปาน
“หึ แล้วก็มาบอกว่าตัวเองอยู่ไทยมานาน..ไม่เห็นจะชินนะ ถ้าคุณอยู่กับอากาศร้อนไม่ได้ ก็ไม่ควรอยู่ที่นี่หรอกนะ” ผมพูดไปอย่างนั้น ทั้งทั้งที่ความจริงแล้วบางครั้งคนไทยเองก็แทบทนไม่ไหวกับอากาศของประเทศตัวเองด้วยเหมือนกัน
“อยู่ได้ครับ มันแค่..เอ่อ” ทิกเกอร์พยายามหาคำแก้ตัว
“ไม่ต้องแก้ตัวหรอก” ผมปัด ทิกเกอร์หุบปากเงียบ
“กินไอติมดีกว่า” ผมพูด ทิกเกอร์ขานตอบอย่างเห็นดีเห็นงามทันที ผมเดินนำไปที่ร้าน Haagen-Dazs เพราะร้านอยู่ใกล้เราในตอนนี้มากที่สุด ที่สาขานี้ร้านค่อนข้างเงียบ คนไม่พลุกพล่านดี เราสั่งอาหารและเครื่องดื่มกันคนละอย่างสองอย่าง โต๊ะตัวเล็กมากทำให้เราสองคนนั่งใกล้กันโดยมีระยะห่างเว้นเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“มีอะไร จ้องหน้าอยู่ได้” ผมว่า เหลือบสายตาไปทางอื่น ทิกเกอร์ยิ้ม
“ดูหนังต่อนะครับ” ทิกเกอร์พูดชวน
“ไม่” ผมตอบทันที
-
“งั้น..ช๊อปปิ้งต่อ” ทิกเกอร์ชวนอีก
“ของมันแน่นอนอยู่แล้ว” ผมพูดส่งๆ รู้สึกสนุกเล็กๆที่ได้ถล่มทั้งจักรและทิกเกอร์ แน่นอนอยู่แล้วว่าทุกคนคงชอบของฟรี แต่ผมถือคติเดียวกับหลานรักของผม “ของฟรีแต่ไม่มีคุณภาพ..เราไม่ต้องการ” นี่ได้ทั้งของดี ฟรีและทั้งมีคุณภาพ มีเหรอครับว่าผมจะไม่ต้องการ
“ฟ้าอยากได้อะไรอีก” ทิกเกอร์ถามขึ้น ผมรู้ว่าทิกเกอร์คงแค่อยากถามแต่ผมกลับรู้สึกหงุดหงิดกับประโยคนี้ซะอย่างนั้น
“คุณเห็นว่าผมเอาจากคุณเยอะแล้วใช่ไหม” ผมว่า
“เปล่า ผมเปล่า” ทิกเกอร์เบิกตาโพรงรีบปฏิเสธทันที
“ไม่..ผมหมายถึง ฟ้าอยากได้อะไร ผมก็จะซื้อให้ ผมไม่ได้ว่าฟ้าเลยนะครับ” ทิกเกอร์รีบแก้ตัว สิ่งของที่แพงที่สุดที่ทิกเกอร์ซื้อให้ผม คงจะเป็นรถสปอร์ตสุดหรูจากัวร์ ตอนนั้นผมเพียงแค่พูดไปเล่นๆว่าอยากได้ ไม่กี่วันต่อมาก็มีบริษัทโทรติดต่อมาหาผมว่าต้องการสีไหน รุ่นอะไร พอผมเอ่ยบอกเรื่องนี้กับคิว ไอ้หลานนั่นก็กุลีกุจอเปิดอินเตอร์เน็ตค้นหาคันที่ตนเองชอบในทันทีทันใด แน่นอนว่าผมชอบรุ่นที่คิวเลือกด้วยเพราะทั้งผมและคิวก็ชอบอะไรคล้ายกัน
“คุณจะว่าผมเห็นแก่ของใช่ไหม” ผมย้อนหน้างอ
“ผมเปล่าครับ” ทิกเกอร์ย้ำหน้าเสีย
“ขออนุญาตเสิร์ฟเครื่องดื่มนะครับ” พนักงานยิ้มกว้าง ผมยิ้มตอบให้และจ้องพนักงานไม่วางตาเพราะพนักงานหน้าตาดีมากจริงๆให้ตายเถอะครับ พนักงานยิ้มเขินเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นว่าผมจ้องอย่างนั้น เมื่อพนักงานเดินกลับไป บนโต๊ะเงียบลง ทิกเกอร์นั่งเงียบ เขาหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าทางผู้ดีจนผมรู้สึกหมันไส้เพราะท่าทางของเขาเกือบจะทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปทางอื่นได้
“หล่อเนอะ” ผมพูดยิ้มๆอย่างต้องการหาเรื่องกวนอารมณ์อีกฝ่าย ทิกเกอร์เหลือบสายตามองผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“พนักงานน่ะ” ผมเบะปากอย่างหยอกล้อ
“เหรอ..ผมมองไม่เห็น” ทิกเกอร์ตอบส่งๆ พร้อมกับกลอกสายตาหนี
“อ่าว..ตาบอดหรอกเหรอ ผมไม่ยักรู้ หึ” ผมย้อนอย่างไม่ยอม เราเงียบลงอีกครั้งจนไอศกรีมนำมาเสิร์ฟ ทิกเกอร์เอาแต่นั่งจิบกาแฟ เขาไม่ได้สั่งอาหารอย่างอื่น ผมตักไอศกรีมกินอย่างละเลียด
“อ่ะ” ผมตักไอศกรีมขึ้นและทำท่าจะป้อนอีกฝ่าย ทิกเกอร์ชะงัก เหลือบตามองไปที่โต๊ะข้างๆด้วยความตกใจแต่กลับอ้าปากด้วยหลงเชื่อผม พอทิกเกอร์อ้าปากเข้ามาใกล้ช้อน ผมก็ชักช้อนกลับเข้าปากของตัวเองแทนทันที ทิกเกอร์หน้าเหวอเล็กน้อย
“หึหึ” ผมยักคิ้วให้ ทิกเกอร์หุบยิ้มลงแต่กลับจ้องหน้าผมเขม็ง อยู่ๆก็มีรอยยิ้มน้อยๆโผล่ให้เห็นแต่ทิกเกอร์กลับไม่พูดอะไร ผมไม่แกล้งเล่นอย่างเมื่อกี้อีกจนทานไอศกรีมหมดเรียบร้อย เราเดินช๊อปปิ้งต่อโดยมีทิกเกอร์เดินตามผมไม่ห่าง
“ลองใส่ให้ดูหน่อยสิ” ผมหยิบรองเท้าหนังยี่ห้อ Timberland คู่ที่สะดุดตาขึ้นมาถือไว้ ทิกเกอร์พยักหน้าและหันไปบอกไซด์แก่พนักงาน ทิกเกอร์เดินไปนั่งลงตรงที่นั่งสำหรับลองรองเท้า พนักงานกุลีกุจอมาใส่รองเท้าและผูกเชือกให้ทิกเกอร์โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย ผมคิดว่ารองเท้าคู่นี้มันน่าจะเหมาะกับเขามากและก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ
“ฟ้าจะใส่เหรอครับ” ทิกเกอร์เงยหน้าถาม พยักงานยืนรออยู่ข้างๆด้วยท่าทางอ่อนน้อม
“เปล่า..คุณใส่” ผมตอบ
“เท่าไหร่ครับ” ผมถามพนักงาน
“คู่นี้สี่หมื่นห้าพันบาทครับ รุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะครับ..เพิ่งมาไม่กี่วันนี้เอง” พนักงานยิ้มตอบด้วยท่าทางสุภาพ ทิกเกอร์ถอดรองเท้าออกอย่างเชื่องช้าตามประสาเขา
“เอารึเปล่า ไม่เอาก็ได้นะ..ผมแค่เห็นว่ามันเหมาะกับคุณดี อีกอย่างผมไม่ได้จะซื้อให้ด้วย” ผมพูดดักทางไว้ก่อน พนักงานยิ้มเฝื่อน ทิกเกอร์หัวเราะเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้าให้พนักงานขาย
“คุณลูกค้าเอาคู่นี้นะครับ”
“ครับ” ทิกเกอร์ตอบ ผมยืนรอมองทิกเกอร์ที่หยิบบัตรเครดิตออกมายื่นให้พนักงาน วันนี้เขาคงรูดหมดไปหลายแสนแล้ว แต่ผมไม่รู้สึกสะทกสะท้านหรอก นั่นไม่ใช่เงินของผมนี่ครับ..
“ฟ้า..วันนี้ผมทานข้าวเย็นที่บ้านฟ้าได้ไหมครับ” ทิกเกอร์ถามขึ้นระหว่างที่เรายืนรอพนักงาน ผมเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ที่ทิกเกอร์นั่งลองรองเท้าเมื่อกี้ เขารีบตามมานั่งลงข้างๆผมในทันที
“ทำไม..ซื้อของให้ผมแค่นี้ ถึงกับจนเลยเหรอ” ผมแซวแต่ไม่ได้หันหน้าไปหาทิกเกอร์ เพราะเรานั่งชิดกันมากเกินไป
“อืม..จะว่างั้นก็ได้” ทิกเกอร์ตอบแกมหัวเราะ
“นะครับ ฝากท้องหน่อยนะ” ทิกเกอร์ขอร้องด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง
“หึ..” ผมแอบยิ้มและหันหน้าหนีอย่างไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมกำลังขำกับคำว่า “ฝากท้อง” ของทิกเกอร์
“ก็ได้ มาถึงขนาดนี้แล้ว..ถือว่าผมแก้ตัวที่ทำให้คุณท้องเสียก็แล้วกัน” ผมเบะปากอย่างขอไปที ทิกเกอร์ยิ้มกว้าง เมื่อได้รองเท้าเราก็เดินดูของกันต่ออีกเกือบชั่วโมง ผมเดินเลือกซื้อของให้ทิกเกอร์อย่างลืมไปชั่วขณะว่าต้องเคร่งขรึมต่ออีกฝ่าย จนสุดท้ายผมก็รู้สึกว่าวันนี้ไม่ไหวแล้ว เหนียวตัวและเมื่อยขามาก ของที่ซื้อมาก็พะรุงพะรังไปเสียหมดจนต้องออกตัวขอให้กลับบ้านก่อน
= = = = = = = =
18:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“นี่คิว อาซื้อมาฝาก..” ผมหยิบแก้วออกมาโชว์อย่างปลาบปลื้มกับแก้วลายการ์ตูนที่เลือกเองกับมือ
“ฝากเค้กต่างหาก” ผมตัดบทอย่างต้องการกวนอีกฝ่ายและยักคิ้วกวนให้ คิวจ้องมองมาที่แก้วก่อนจะทำหน้าเซ็งใส่ผม
“เอาไปให้น้องด้วยนะ” ผมจัดแจง คิวพยักหน้าตอบแค่นั้นแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่อ
“อันนี้สำหรับคุณ” ทิกเกอร์พูดบอกพร้อมกับยื่นกล่องนาฬิกายี่ห้อ Hamilton ให้กับคิว คิวละสายตาจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ขึ้นมองไปที่กล่องใบนั้นอย่างสนใจในทันที
“นี่สิถึงจะเรียกว่าของฝาก” มันหันมาประชดใส่ผม
“เน่! อันนั้นมันเรียกว่าของซื้อให้เหอะ” ผมปรามด้วยความไม่พอใจ ทิกเกอร์ยิ้ม คิวรับกล่องนาฬิกาไปเปิดดู
“ขอบคุณ” คิวพูดบอกทิกเกอร์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แล้วนี่มันก็เย็นแล้ว ไม่ทำกับข้าวรึไง” ผมว่าหลานตัวเอง
“ไม่อ่ะ อ่านหนังสืออยู่ไม่เห็นเหรอ” มันสวนกลับก่อนจะวางกล่องนาฬิกาลงบนโต๊ะและหยิบหนังสือขึ้นอ่านอีกครั้ง บางครั้งผมคิดว่าเมื่อไหร่ที่หลานผมอยู่กับหนังสือ มันมักจะเป็นคนที่ไม่สนโลกมากเกินไปหน่อย ซึ่งนี่เป็นนิสัยที่คงจะไม่สามารถแก้ให้หายได้ของคิว
“ฟ้าทำสิครับ” ทิกเกอร์พูดขึ้น
“เรื่องอะไร” ผมย้อน
“ฟ้าทำไม่ได้เหรอ เอ่อ..ผมอยากทาน Fettuccine With Walnut Cream ฝีมือฟ้านะ” ทิกเกอร์ทำเสียงอ่อนเสียงหวาน ผมเริ่มรู้สึกเขินขึ้นมาเพราะดันมีคิวนั่งเป็นสักขีพยานอยู่ด้วย ถึงแม้ว่ามันจะเอาแต่นั่งบื้อก็เถอะครับ
“ถ้าจะทำ ทำอโวคาโดสลัดให้ด้วยนะ” คิวเสริมขึ้น แต่ตายังคงจับจ้องอยู่ที่หนังสือของตนเอง
“.....................” ผมนั่งนิ่งเงียบอย่างคิดหนัก ทิกเกอร์ยังคงนั่งยิ้มกว้างรอคำตอบจากผม
“เออ..ทำ Cozze al Gratin ด้วยก็ดีนะ ผมอยากกินน่ะ..ป้านิดเพิ่งซื้อหอยแมลงภู่มาเมื่อเช้านี้เอง” คิวเสริมอีก มันพยักหน้าแกมบังคับผมไปในตัว
“ผมก็อยากทาน” ทิกเกอร์พนักหน้าอย่างเห็นดีด้วยอีกคน
“ก็ไปกินที่ร้านอาหารเซ่” ผมว่า ทิกเกอร์หุบยิ้มลงทันที
“งั้นเราออกไปกินที่ร้านอาหารก็ได้นะ ดีไหม..” คิวปิดหนังสือลง หันไปมองหน้าทิกเกอร์อย่างออกความคิด
“เออๆ ทำก็ทำ” ผมรีบตัดบทเพราะกลัวว่าทั้งสองคนจะพากันออกไปกินที่ร้านอาหารจริงๆ
“ก็แค่นั้น” คิวว่าก่อนจะก้มลงอ่านหนังสือต่อ
“งั้นผมช่วยนะครับ” ทิกเกอร์เสนอ
“ก็ดี..ผมอยากอยู่คนเดียวน่ะ” คิวพูดขึ้นอย่างเห็นด้วย ปกติแล้วคิวชอบนั่งอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียว ซึ่งถ้าใครมาเห็นสายตากับได้ยินคำพูดของคิวในตอนนี้คงจะคิดว่าไร้มารยาทอย่างมากเพราะมันพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง แต่ไม่ใช่กับทิกเกอร์ครับ เขาไม่ได้รู้สึกว่าการพูดของคิวนี้ไร้มารยาทต่อเขา คงเพราะรู้นิสัยของคิวดีละมังครับ
ผมเดินหนีออกมาจากห้องหนังสือ ของที่พวกเราซื้อมาป้านิดคงจะนำไปจัดแจงเก็บเข้าห้องให้ผมเอง ทิกเกอร์เดินตามหลังมาต้อยๆ น้าเพียงและเขียวเตรียมของอยู่ในครัว พอทิกเกอร์เดินเข้ามาสาวใช้ทั้งสองก็มีท่าทีเกรงเล็กน้อย ผมหยิบผ้ากันเปื้อนมาใส่คนเดียวโดยที่ไม่ได้หยิบเผื่อให้ทิกเกอร์ด้วย เขียวจัดแจงหยิบผ้ากันเปื้อนยื่นให้ทิกเกอร์ ทิกเกอร์พูดขอบคุณทั้งรอยยิ้ม ผมไล่ให้เขียวและน้าเพียงออกไปจากห้องครัวเพราะต้องการจะใช้ทิกเกอร์ให้เต็มตามความสะใจของตัวเอง
ผมลงมือเตรียมทำอโวคาโดสลัดก่อนเป็นอย่างแรก ต่อด้วย Cozze al Gratin และก็ Fettuccine With Walnut Cream เป็นอย่างสุดท้าย ผมจัดเตรียมนำเครื่องปรุงและส่วนผสมทั้งหมดออกมา ทิกเกอร์ยืนมองไม่วางตาเพราะผมค่อนข้างทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว
“อ่ะ..หั่นทั้งหมดนี่ ตามนี้” ผมสั่งหลังจากที่ผมหั่นผักต่างๆเป็นตัวอย่างไว้ให้ทิกเกอร์แล้ว ทิกเกอร์พยักหน้าตอบและรีบจับมีดอย่างเก้ๆกังๆ ผมมองเหล่เพราะมันดูเชื่องช้าสำหรับผมไปเสียหมด ถ้าผมไม่ต้องการจะแกล้งอีกฝ่ายผมคงจะแย่งมาทำเองไปแล้วละครับ ทิกเกอร์หั่นทั้งหมดอย่างช้าๆและตั้งใจมาก ผมเตรียมล้างหอยแมลงภู่พร้อมกับเตรียมตั้งไฟไว้ หลังจากที่ต้มหอยแมลงภู่เสร็จเรียบร้อยก็นำเข้าเตาอบแล้วนำมาพักไว้ก่อน ผมจัดแจงต้มเส้นพาสต้าเตรียมไว้สำหรับเมนูต่อไป เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีทิกเกอร์ก็บอกผมว่าทุกอย่างที่ผมสั่งให้เขาทำนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“สวยไหม” อีกฝ่ายยิ้มถามอย่างภาคภูมิ ทิกเกอร์ไม่ค่อยได้ลงครัวเอง เรียกได้ว่าทำเป็นแต่อาหารประทังชีวิตเท่านั้น ปูนเคยเล่าให้ฟังว่าบ้านเกิดเขาที่อยู่ที่ประเทศอังกฤษนั้นคนรับใช้เยอะมาก ผมมองภาพไม่ออกว่าเยอะมากที่ปูนว่านั่นเป็นแบบไหน ถ้าปูนบอกว่า “เยอะมาก” แสดงว่าคนรับใช้ของเขาคงจะเยอะมากกว่าบ้านคุณพ่อของผมเสียอีกละครับ
“ฮึ..ภูมิใจเหลือเกินนะ” ผมแสยะพูดอย่างประชดประชัน ทิกเกอร์ยิ้มแหยลง
“ให้ทำอะไรอีกครับ” ทิกเกอร์ถาม เขาเดินเข้ามาประชิดตัวผม ผมเตรียมหั่นส่วนผสมที่ต้องใส่ในพาสต้าและหั่นทุกอย่างให้ทิกเกอร์ดู และมอบหน้าที่ให้เขาไปทำต่อ ผมจัดการทำซาซ่าสำหรับสลัดไม่ถึงสิบห้านาทีก็เสร็จเป็นรูปเป็นร่างและพักซาซ่าสลัดรอไว้ก่อน
“เสร็จแล้ว” ทิกเกอร์พูดอย่างดีใจจนเกือบจะทำให้ผมหัวเราะกับท่าทีดีใจอย่างโอเว่อร์ของเขา
“งั้นผมหั่นเจ้านี่ต่อนะ” ทิกเกอร์หยิบลูกอโวคาโดขึ้นมาชูให้ผมดู
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวผมหั่นเอง” ผมบอก เพราะลูกอโวคาโดค่อนข้างหั่นยาก ถ้าออกแรงมากเกินไปมันก็จะเละทำให้เสียของ
“ผมทำได้” ทิกเกอร์ย้ำไม่ฟังเสียง เขาหยิบมีดขึ้นมาและทำท่าจะหั่นลงไป
“ทิกเกอร์!” ผมร้องเสียงหลง ทิกเกอร์ชะงักด้วยความตกใจและคามือไว้อย่างนั้น ผมรีบเดินเข้าไปก่อนจะหยิบมีดกับลูกอโวคาโดออกมาจากมืออีกฝ่าย ทิกเกอร์ยังคงยืนตะลึง
“มันหั่นยาก เดี๋ยวก็บาดมือหรอก” ผมว่าอย่างหงุดหงิด แต่อีกฝ่ายกลับมีรอยยิ้มซะอย่างนั้น
“ฟ้าเป็นห่วงผมเหรอ”
“ใคร..เป็นห่วง เปล่าสักหน่อย” ผมพูดตะกุกตะกักและไม่ได้หันกลับไปมองอีกฝ่าย
“ฟ้าเป็นห่วงผม” อีกฝ่ายย้ำพูดอย่างร่าเริง
“ผมกลัวว่าจะเสียของต่างหากล่ะ เจ้านี่น่ะมันต้องมีเทคนิคถึงจะทำได้” ผมแย้ง
“เปล่า..ที่จริงคุณเป็นห่วงผมต่างหาก” ทิกเกอร์ยังเถียงไม่ยอมอย่างกับเด็กอีก
“ผมไม่ได้..” ผมหันไปจะเถียงอย่างไม่ยอม แต่อยู่ๆหน้าของอีกฝ่ายก็เข้ามาประชิดกับหน้าของผมอย่างที่ผมไม่สามารถหลบหลีกได้ทัน ปากของเราชนกันเพราะทิกเกอร์ตั้งใจกดปากลงประกบปากของผม ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมหลับตาลงทันทีหลังจากนั้น ตัวเรานิ่งและไม่กระดิกทั้งคู่อย่างกับว่าเราต้องการรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน กลิ่นตัวของทิกเกอร์ ลมหายใจของเขาและริมฝีปากของเขากำลังทำให้หัวใจของผมเต้นแรง กระทั่งทิกเกอร์เริ่มขยับปากเล็กน้อย ผมไม่ได้ต้านทานใดๆแต่ตามน้ำเพราะอยากรับรู้ในทุกรสชาติสัมผัสเหมือนบางอย่างที่ผมเคยรู้สึกคุ้นเคย กลิ่นเก่าๆและความรู้สึกพวกนั้นอบอวลอยู่เต็มอก ทิกเกอร์ไม่ได้เผยปากเพื่อกดจูบผมอย่างดูดดื่ม แต่ปากของเขาคลอเคลียเบาๆอยู่บนริมฝีปากของผม อีกฝ่ายประคองใบหน้าของผมอย่างเบามือและเริ่มเผยปากจูบมากขึ้น ตาของเราเพียงมองกันครู่เดียว ผมกลับต้องหลับตาของเขาและปล่อยไปตามสัญชาตญาณอย่างลืมมีสติที่จะห้ามปรามกันและกันไปชั่วขณะ ผมรับรู้ได้เพียงรสจูบหวานๆนี่และลมหายใจที่กระทบถึงกันและกันในตอนนี้เท่านั้น..
“อาเตรียม..โอว” ผมและทิกเกอร์ตกใจเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา ผมผละตัวออกจากทิกเกอร์ในทันทีก่อนจะหันกลับไปมองตามเสียง
“เอิ่ม..ซอรี่” คิวมองมาที่เราทั้งสองคน แต่สีหน้าของมันเหมือนกับจะยิ้มเยาะผมอย่างนั้น
“แค่จะมาบอกว่าเตรียมผสมซอสไว้ให้ด้วยนะ” คิวพูด มันเปลี่ยนสีหน้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าผมหน้าแดงรึเปล่าแต่รู้สึกว่าตัวเองนั้นเสียฟอร์มเอามากๆเลยละครับ
“แค่นี้แหละ ถือว่าเมื่อกี้ผมไม่ได้เข้ามาก็แล้วกันนะ” มันตัดบทก่อนจะเดินออกไป
“.....................” ทั้งผมและทิกเกอร์ยืนเงียบ ผมไม่ได้หันกลับไปมองเขานานเกือบห้านาที ทิกเกอร์เองก็ไม่ยอมขยับตัวไปไหน เมื่อผมเหลือบไปมองหน้าอีกฝ่ายก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีรอยยิ้มเล็กๆผุดให้เห็น ผมหันหน้าหนีในทันทีที่เราสบตากัน ผมหุบปากเข้าหากันอย่างรู้สึกเขินขึ้นมา เป็นอาการเขินอย่างกับนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้จูบกันอย่างนั้น
“จะออกไปก็ได้นะ ผมจะทำอาหารต่อ” ผมพยายามพูดให้เสียงเรียบมากที่สุด
“ผมช่วยครับ” ทิกเกอร์พูดแค่นั้น ในห้องครัวก็มีแต่เสียงดังจากการทำอาหาร ทิกเกอร์ไม่พูดอะไรอีกเหมือนกับรู้ว่าเขาไม่ควรจะเอ่ยอะไรทั้งสิ้น ผมไม่ชวนทิกเกอร์คุยอีกจนทำอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ป้านิดและเขียวจัดแจงตั้งโต๊ะอาหารไปตามหน้าที่ ครั้งนี้เป็นอาหารมื้อเย็นที่ค่อนข้างเกร็งมากสำหรับผม ต่างฝ่ายต่างเงียบ มีเพียงคิวและทิกเกอร์ที่ชวนกันคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้อย่างเมามัน ส่วนผมรีบทานให้เสร็จจะได้รีบลุกจากโต๊ะนี่ไป..แค่นั้นพอ
...................>>>><<<<....................
-
ฟ้าน่ะ
ถ้าไม่รักคงไม่แกล้งหรอกเนอะ :man1: :man1:
ว่าแต่คิว ชื่อคิว แต่ผิดคิวตลอดเล้ยยยยย :laugh: :laugh: :laugh:
-
อาฟ้าเขิน น่ารักค่ะ สู้ ๆ นะคะ
-
อ๊ายยยยยย จูบกันด้วยอะ :impress2: :impress2: พี่คิวไม่น่าเข้ามาขัดเลย อิอิ แต่อยากรู้ว่าจะมีฉากแบบพี่คิว กับเค้ก ..... กัน แล้วฟ้าเข้าเห็นไหม :z1: :z1: ฉากหอมกันอะ ไม่ได้คิดอาไรเลยนะ :m13:
-
ฟ้าจะแกล้งทิกเกอร์ไปถึงหนายยยยยยยย :laugh:
ฟ้าอาจจะทั้งรักทั้งแค้น คือมันอาจจะยังรักแต่ก็อยากจะแกล้งให้สมกะที่แค้น (จะเข้าใจมะ 5555)
แต่ตัวที่มาเบรคความเครียดคือคิว ออกมาแต่ละที กร๊ากกกกกกกกกกกกก
แต่ฟ้าน่ารักมากที่ยังคิดถึงเค้ก ซื้อแก้วมาฝากด้วยอะ :กอด1:
-
:o8: ยังไงก็ชอบทิกเกอร์มากกว่าอยู่ดี (ไม่นับเรื่องในอดีตนะคะ เลวร้ายพอกัน)
ทิกเกอร์สู้ ๆ :กอด1:
-
พี่คิววววววววววววววววววววววว มาผิดจังหวะไปนิดนึง แต่น่ารักดี พี่คิวกวนโอ้ย 5555
อาฟ้าเขินอะ น่ารักเวอร์ เริ่มปล่อยใจให้ทิกเกอร์เร็วๆ นะคะ
ทิกเกอร์หล่อมากอะ มีความสุขใช่ไหมละ อดทนไว้นะทิกเกอร์ อาฟ้ารักทิกเกอร์หรอก เนอะๆ
ตอนนี้มีชื่อเค้กออกมา แค่นี้ก็ยิ้มละ
ขอบคุณคุณเบบี้คะ :pig4:
-
นี่เป็นสัณญานที่ดีใช่มั้ย ระหว่างฟ้ากับทิกเกอร์เนี่ย >////<
-
ฟินมากมายกับตอนนี้อ่ะบี้
ป้ายไฟทิกเกอร์โบกสะบัดเลย
แต่คิวนี่ เข้ามาผิดเวลาอ่ะ
-
:-[จูบกันแล้ววววววว
อาฟ้าเสเพลนี่น่ารักจริงๆ ชอบอ่ะ
+ให้น้องบี้คนงามจ้า :3123:
-
คิวบาปจริงๆ เล้ยยยยยย
-
อาฟ้าจ๋าาาาาา~ อาฟ้าเนี่ย ดูๆ แล้ว ไม่ค่อยจะลำเอียงเท่าไหร่เลยเนอะ
ไปเดทกับจักรนี่พากันเดินห้างสบายๆ แบบชิวๆ มีดินเนอร์โรแมนติก มีหอมกงหอมแก้ม
ไปเดทกับทิกเกอร์นี่พาไปท่าพระจันทร์ สวนจตุจักร เอาให้เหงื่อไหลไคลย้อยกันไปคนละปี๊บ
จากนั้นพอเป็นตัวเองทนไม่ได้เอง จึงค่อยตัดสินใจที่จะไปเดินห้าง และแน่นอนเพื่อช้อปปิ้ง
อืมมมมม....... อาฟ้ากับหลานคิวเนี่ย เค้ามีรสนิยมคล้ายๆ กัน แล้วก็ชอบอะไรเหมือนๆ กันใช่มั้ย
แสดงว่าอาฟ้าต้องเลือกทิกเกอร์ชัวร์เลย เพราะว่าคุณหลานคิวก็เลือกทิกเกอร์เหมือนกัน กร๊าาากกก~
อ๊าาากกกก~ *โหยหวนพร้อมทึ้งหัวตัวเอง* ด้วยความเสียดายที่คุณหลานคิวปิดช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย
ใครให้แกเข้ามาขัดจังหวะช่วงเวลาที่สุดแสนหาจะโคตรยาก ยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทรซะอีก
เข้ามาขัดอารมณ์ไม่พอ ตบท้ายแถมการกวนเบื้องล่างไปอีกหนึ่งดอก อ๊าากกก~ คิวปิดน่าโดนตีมากอ่ะ
จูบแล้วนะ จูบแล้วนะ จูบแล้วนะ จูบแล้วนะ จูบแล้วนะ ทิกเกอร์กับอาฟ้าจูบกันแล้วนะ กรี๊ดดดดดดด~
สารบัญ ~ Limited Lovers ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
คิวววววไม่น่ามาขัดจังหวะเลยเดี๋ยวตีตาย5555
ทิกเกอร์สู้ สู้นะอาฟ้ามันเล่นตัวไปงั้นๆๆแหละอิอิ
-
:-[ :-[ :-[ :-[ ให้มันได้ยั่งงี้ดิพี่ฟ้า ทิกเกอร์ลุยต่อเลย
-
....พี่คิวนี่ เป็นตัวที่เพิ่มสีสัน ให้กับชีวิตอาฟ้าเลยนะ แสบจริงๆๆหลานคนนี้
....ผู้ชาย 2 คนที่อาฟ้าไปเดท ด้วยนี่ สถานที่ ที่ไปต่างกันฟ้า กับ เหว เลยนะ
....แต่อาฟ้าก็สนุกเนอะ ที่ได้แกล้งทิกเกอร์ รักคนไหนมากก็แกล้งคนนั้นมากแหละ ใช่ไหมอาฟ้า :laugh:
-
ฟ้าใจอ่อนให้ทิกเกอร์เหอะนะนะนะ
-
โอ้วววว..เป็นตอนแรกเลยนะเนี๊ย(เรื่องของฟ้า)ที่อ่านไปยิ้มไป
รู้สึกหัวใจเริ่มกระตุกนิดๆ..ฮ่าๆๆ เหมือนทิ้กเกอร์เริ่มมีความหวัง..
คิวก็ขยันแกล้งอาฟ้าจิงๆ..แซวอาฟ้าหน้าแดง ^o^
-
เขินนนนนนนนนนน ทิกเกอร์ช้าๆได้พล้าเล่มงามนะนาย :-[
-
อ่านตอนนี้แล้วทำไมรู้สึกอยากยิ้มแปลกๆ ฮ่าๆๆ แอบน่ารักนะพี่ฟ้า
ฮาคิวตอนโผล่มาอ่ะ รู้สึกว่ากวนประสาทดี :laugh:
-
เดาใจอาฟ้าไม่ออกเลยว่าจะยังไง
แต่อย่างน้อยทั้ง 2 คน เหมือนได้กันไปคนละหมัดยุติธรรมดี
:pig4: คะ
-
:-[
-
อั้ยย่ะ!!!! คิวไม่น่าเข้ามาตอนนี้เลยยย ฮ่าๆ
พี่ฟ้าอ่ะนะอีกไม่นานฟอร์มคงหาย และใจอ่อนแน่ๆ
ทิกเกอร์น่ารักซะขนาดนี้
ชอบคิวอ่ะ สร้างสีสันตลอดดด อ่านแล้วสนุกมาก
-
อาฟ้ารักมาก
ก็แกล้งมากใช่ป่าว :z2:
-
ฮู้ววว สังเกตได้จากการจูบ เวลาอาฟ้าจูบทิกเกอร์
แล้วรู้สึกดีกว่าจักรใช่ไหมล่ะ (ลำเอียงมาเห็นๆ)
เคืองคิวก็คราวนี้แหละ มาขัดจังหวะอะ เดี๋ยวเขาจะพาเค้กมานอนกอด 5555
(คิวจะมาพาเค้กกลับไปไหมอะ) ฮู้ววว ทิกเกอร์สู้ต่อไปน้าา
ทุ่มสุดตัวเลยนะ ทิกเกอร์ สู้ๆๆๆ
ป.ล. แอบเคืองทิกเกอร์ ทำไมคิดแบบนั้นอะ อาฟ้าแค่จูบกับจักรเองน้า ฮึ๊ยๆๆๆ :beat:
-
ชอบโหมดอาฟ้าตอนที่อยู่กับทิกเกอร์มากกว่า :กอด1:
:pig4:
-
อาฟ้า...เก๊กหลุดนะอา :m12:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ถ้าอาฟ้าจะใช้ใจตัดสินอะไรมากกว่าสมอง อาฟ้าน่าจะมีความสุขกว่านี้เนอะ
แต่นั้นแหละ ถ้าจบง่ายๆก็ไม่ดีอ่ะน้าาาา
-
ตอนนี้คิวและจักรคงจะเสมอกันแล้ววว
อยู่ที่อาฟ้าจะตัดสินว่าจะเลือกใคร ตอนนี้น่ารักอ่าาาา
-
เหมือนคิวจะรู้งานนะ ที่ไล่ทิกเกอร์มาช่วยอาฟ้าทำอาหาร แต่บางทีก็เหมือนไม่รู้งาน เค้าอยู่กัน 2 คน เค้าก็ต้องสวีทกันมั่งดิ เข้ามาทำไมก๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
-
เฮ้อ ไม่รู้ยังไง รู้สึกเหมือนอาฟ้าลำเอียงอะ
ทีจักรนะพาไปกินแต่หรูๆดีๆ
แต่ก็ทิกเกอร์อะ ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้าง จตุจักรบ้างงงง
แต่อย่างน้อยก็จุ๊บกันแหละ
หวังว่าอาฟ้าเลือกได้(เสียที)จะได้มีความสุขและไม่ต้องมาแอบยิ้ม แอบมอง
หรือว่าแกล้งกันแบบนี้
-
ฮิ้ว ทิกเกอร์จูบพี่ฟ้าแล้วอะ
-
พี่คิวเข้ามาขัดทำไมมม :z3:
-
เขินแทนอาฟ้า เป็นจูบที่หอมหวานมาก ยิ่งหลานคิวคอยเป็นกองกำลังสนับสนุนให้ทิกเกอร์แล้ว อาฟ้าก็ไม่ต้องไปแคร์อดีตแล้ว
เป็นการเดทครั้งแรกหลังจากที่ทั้งคู่ห่างกันไป
กด + ให้คนเขียนค่ะ :L2: :pig4:
-
เผลอใจให้อีกแล้ว กองเชียร์ก็เป็นใจเสียจริง ๆ
+1 พร้อมกำลังใจให้นะครับ เบบี้ :z2:
-
:กอด1: :pig4:
-
หวังว่าฟ้าคงจะใจอ่อนบ้างนะ :-[ :-[ :-[
:pig4: :pig4: :pig4:
-
รอจ้ารอ :)
-
:z1: คิวมาผิดเวลาไปนิดเนาะ 5555+
-
เบบี้ตบหัวลูบหลังอ่ะ :m17:
ตอนที่แล้วอ่านแล้วแทบพ่นไฟ :o211:
ตอนนี้อ่านแล้วแทบกรี๊ด :oni2:
แต่ก็นะ...ก็ดีกว่าโดนตบหัวซ้ำสอง เหอะๆ :oni1:
รอตอนต่อไปจ้า
-
อ่า... เค้าจูบกันแล้วววว
แต่!!! ทิกเกอร์ ยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลยนี่นา :z1: :laugh:
ขอบคุณเบบี้น๊า :L2:
-
เหมือนฟ้าจะมีใจให้ทิกเกอร์มากกว่าจักรนะ
แต่คงไม่อยากจะให้อะไรมันง่าย ๆ สมใจทิกเกอร์นัก
ฟ้าคงระแวง ไม่มั่นใจ เจ็บจนอยากเอาคืนด้วยมั๊ง
สำหรับเราจักรนี่มันเหมือนตัวโกงยังงัยก็ไม่รู้
-
ตอนนี้เป็นตอนของทิกเกอร์ :-[
ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์นะคะ
อาฟ้าแกล้งทิกเกอร์เยอะไปรึเปล่า
สงสารรร รร :monkeysad:
ปล.พี่คิวนี่เค้าเท่และกวนประสาทดีจริงๆ แอร๊ย :m1:
-
คิวปิดเค้าต้องเป็นกามเทพ ไม่ใช่เหรอจ๊ะ ดันเข้ามาผิดจังหวะไปหน่อยนึงเนอะ
-
ตอนนี้ออกแต่คิวแฮะ
-
พี่คิวนะพี่คิว
:o211:
-
อาฟ้าใจแข็งเนอะ
-
หุหุ :z2:
-
เค้าว่าแกล้งคนไหน ก็เพราะรักคนนั้น
ใช่หรือเปล่าอาฟ้า
-
:impress2: :impress2: :impress2:คิวน้า...มาขัดขังหวะอาฟ้าอีกแล้ว..อิอิอิอิอิ
ต่อไปอาฟ้าจะได้มีความสุขสักที
-
อีกนิดนึงทิกเกอร์ o13 o13
-
ช็อตเด็ดดันโดนคนที่ไม่สมควรเห็นที่สุดมาเห็นเข้าจนได้
แล้วแบบนี้จะให้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน
-
:กอด1:มีความสุข :z2: :z2:
-
เขิลแทนอ่ะ :-[ :-[
-
ทิกเกอร์สู้ๆ :ped149: :ped149: :ped149:
-
ชอบอาฟ้าโหมดนี้จัง :o8:
พี่คิวก็นะไม่น่าเข้ามาขัดเลยยย
-
:-[ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13
-
พี่ฟ้าใกล้ลงเอยกับทิกเกอร์แล้วใช่มั้ยคะ :-[
พี่คิวได้เห็นของดีด้วยอ่า >////<
-
ตอนนี้แอบหวานนนน อิอิ
ชอบจังตอนสองคนนี้กุ๊กกิ๊กกันเนี่ย
น่ารักดี
-
รีบๆมาต่อนะ :)
-
ตอนนี้หวานมาก อยากให้ฟ้าใจอ่อนให้ทิกเกอร์เร็วๆจัง สงสารทิกเกอร์นะเนี่ย
จูบแล้วๆๆๆ :-[
-
ทิกเกอร์รู้จักคำไทยคำนี้ไหม "ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก" อิอิ
สู้ต่อไป ทาเคชิ!!! :a2: (เอ๊ะ...สงสัยจะผิดเรื่อง)
อาฟ้าใจอ่อนๆเร็วนะ o18
-
ยกนี้ถือว่าเสมอกัน
-
พี่คิวมาขัดทามมายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
:z1: จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ เเค่จูบเบา เบา เท่านั้นก็ทำอาฟ้าสั่น ไปถึงทรวง *~
เจ๊ขอมอบเพลงนี้ให้ อาฟ้ากะสุดหล่อของเจ๊ :laugh: แม้มันจะเก่าไปก็เทอะ
P.S ป๊าดดดด จักรเจ๊ให้ยืมเช็ดชู่มะ. ซับน้ำตางัย. หิ้วววววว
-
โอว... จูบครั้งที่ 2 ให้ความรู้สึกแตกต่างจากครั้งแรก (กับจักร) จังเลยอ่ะบี้ เอ๊ะ หรือว่านี่คือคำตอบ 555 ...กดไลค์ให้คิว ดูเหมือนจะมาขัดจังหวะ แต่เป็นการขัดที่ทำให้ฟ้าเขินได้ตลอดๆ ชอบๆ 555
-
ทำไมตอนนี้เรารู้สึกว่า คิว ขโมยซีนยังงัยไม่รู้
เข้ามาได้ถูกเวลาจริงๆ อิ อิ :กอด1:
-
่คิวไม่น่ามาขัดจังหวะเลยอะ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
:bye2: :bye2: :bye2:
-
รุ้สึกว่าอาฟ้าจะมีความรุ้สึกดีๆให้ทิกเกอร์มากกว่านะ
คิวไม่น่าเข้ามาก่อนเลย หึๆ
รอลุ้นตอนต่อไปนะครับบบ :pig4:
-
มีตอนหวานๆ กับเค้าซะทีนะอาฟ้า :impress2:
-
+1 พี่บี้เลย ทำเอา เขิน :o8:
-
เข้ามาเชียรทิกเกอร์อย่างแรง :z2:
-
ที่จริงพี่ฟ้าก็ชอบทิกเกอร์ใช่มั้ยอ่ะ แต่ทำฟอร์ม ฮ่าๆๆ
-
อ๊ายยยย ถ้าอาฟ้าจะเขินได้น่ารักขนาดนี้
ทิกเกอร์สู้ๆ น้าาาาาาา
-
อาฟ้าเริ่มใจอ่อนกับทิกเกอร์แล้ว
ลุ้นนะครับ
รอแทบไม่ไหวแล้ว
:z3:
-
Tigger fighting o13
-
o3 อาฟ้า
เขินอะดี๊
-
คิวน่ารักอ่ะ -//-
ฟ้านี่ก็ขี้แกล้งจริงๆนะ แต่ละอย่างนี้..55555555555555
-
น่ารักๆ ชอบๆค่า
หลังจากลุ้นมานานมาก แววพึ่งออกเอาก็พาร์ทนี้แหละ
คิวก็กวนตีนดี ชอบ555
อาฟ้ารีบๆให้โอกาสทิกเกอร์เร็วๆนะคะ
อยากเห็นหวานๆกว่านี้ อิอิอิ
-
เริ่มมีลางดีวุ้ยยยย
-
อาฟ้าอะ แค่อยากรู้รสจริงๆ นะ อย่าใจดีไปกว่านี้อีกน้า T^T
-
พี่คิว :m20: :m20:ตล๊อดดดดดดๆ
พี่ฟ้าเค้าไมเขินทิกเกอร์หรอก...เค้าเขินพี่คิวนี่แหละ.....
รอๆๆ
-
ทิกเกอร์มีโอกาสมากกว่าเห็นๆ
ก็เล่นมีพี่คิวเป็นกองหนุนซะขนาดนี้
55555
ขอให้พี่ฟ้าใจอ่อนให้ทิกเกอร์เร็วๆเถอะ^^!!
-
อาฟ้าก็แอบเขินทิกเกอร์อยู่นี่นา กี๊วๆ
-
เขินน่ารักกันจังเลย >____<
อาฟ้าาาาาา เปิดใจให้ทิกเกอร์เถอะนะค้า
-
อาฟ้า :fox2:
เมื่อวานพอจูบกับจักร ความรู้สึกเป็นแบบนี้ >>> :onion_asleep:
วันนี้พอจูบกับทิกเกอร์ ความรู้สึกเป็นแบบนี้ >>> :o8:
:laugh5: ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคู่ชกเวทีนี้ระหว่างจักรกับทิกเกอร์ ใครเป็นฝ่ายชนะ :laugh5:
o12 ถึงพี่คิว ปกติเค้าชอบพี่คิวม๊ากมาก แต่พอมาตอนนี้เค้าอยากตบกระโหลกพี่คิวม๊ากมากเหมือนกัน :beat:
อาฟ้ากับทิกเกอร์เค้ากำลังเล่นชิวหาพาเพลินกันอยู่ ตัวเองเข้าไปทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือไททานิกซะก่อนอ่ะ :m16:
หมดกัน!!กว่าจะปลุกปั่นอารมณ์ได้ขนาดนี้ ของเค้ากำลังแข็งได้ที่เข้าไปขัดจังหว่ะอย่างงี้ก็เหี่ยวหมดอ่ะดิ่ เซ็งเป็ด!! :z3:
-
ชอบเวลาที่อาฟ้าอยู่กับทิกเกอร์มากกว่าอ่ะ ดูอาฟ้าทำตัวตามสบายมากกว่า
แค่พี่คิวมาจัดจังหวะได้น่า...มาก 555
-
อร๊ายยยยยยยยยย ในที่สุด... ในที่สุด....
:mc4: :mc4: ฉลองล่วงหน้าเลยเรา เลือกไม่เลือกไม่รู้แหละ แต่เค้าดีจายยยยยยยยยยยย :impress2: :impress2:
-
โธ่ๆๆ พี่คิวของป้าาาาา ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยยยยยยย >~<
-
อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าเท่าเทียม
โดนแกล้งต่างๆนาๆคล้ายกัน
ปิดท้ายด้วยมื้อเย็นและจูบเหมือนกัน
แต่เราว่าทิกเกอร์ได้เปรียบอยู่นะ
ได้ทำอาหารเย็นและทานด้วยกัน
ที่สำคัญพี่คิวออกหน้าว่ายังไงก็ทิกเกอร์
เราเองก็อยู่ข้างทิกเกอร์นะ :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ตอนนี้ฟ้าทำตัวน่ารักอ่ะ ชื่นใจ!!!!
-
ทิกเกอร์สู้ๆ :ped149: อาฟ้าใจอ่อนแน่นอน
อ่านแล้วก็เขินด้วยอะ :-[ เหมือนอาฟ้าจะใจอ่อนบ้างแล้ว
ลุ้นอีกนิด หวังว่าอาฟ้าจะลงเอยกับทิกเกอร์นะค่ะ :m5:
-
น่ารักจริงๆ อ่าาาาาาาาาาาาาาาา :o8: :o8:
-
:impress2:
ฟินสุดๆ กับเรื่องนี้
-
ฟินเลยค่ะ คู่นี้ :jul1: :jul1: :jul1:
-
เริ่มมีการพัฒนาแล้ว
:กอด1:
-
ยังไงก็ต้องทิกเกอร์นะพี่ฟ้า
ทิกเกอร์สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ง้อไปเรื่อยๆๆๆ
คิวมาขัดจังหวะเนอะ ไม่ไหวๆๆทีหลังส่งตัวก่อนค่อยส่งเสียง
:-[ :-[
-
:catrun:
-
แอร๊ยยยยยยยย :-[ ทิกเกอร์มันต้องแบบนี้ o13
โดนใจมากกกกกก ดูจากการจูบแล้วเนี่ย มันต้องทิกเกอร์นี่แหละที่ใช่
-
เข้ามาอ่านรอตอนต่อไปอีกรอบ
ชอบบบบบบบบ พี่ฟ้าทำตัวแบบนี้ล่ะเริ่มจะชื่นใจแทนทิกเกอร์
และสนุกเวลาคิวกวนตีน หึหึ
รออยู่นะจ้ะเบบี้ จุ้บจุ้บ >.<
-
ฟ้าน่ารัก
-
:3059: :z2:
-
รอฉันรอเธออยู่แต่ไม่รู้เธอจะมาเมื่อไร :z1: :z1: :z1: :z1:
-
ชอบเรื่องนี้จังครับ
ภาษาที่ใช้ กับ การเดินเรื่องอ่านแล้วสบายใจดี ไม่หนัก ^^
-
มาเดินเล่น รออาฟ้า :z2:
-
:z2: :z2:
-
~16~
วันอาทิตย์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
หลังจากวันที่ผมจูบกับทิกเกอร์ก็ผ่านมาได้หลายวัน ผมไม่ได้ติดต่อกับจักรหรือทิกเกอร์อีก จะเรียกง่ายๆก็คือผมกำลังหลบหน้าพวกเขาและไม่รับโทรศัพท์ก็ได้
วันนี้เป็นวันที่ต้องนัดสัมภาษณ์ผู้ช่วยเชฟ ผมเลือกคนที่กล้ายอมเสียเงินเดินทางมาเพื่อสัมภาษณ์ที่ประเทศไทยด้วยตนเอง..พวกเขาต้องยอมเสี่ยงเท่านั้น มีนักศึกษาไทยที่เรียนจบทางด้านการอาหารจากมหาวิทยาลัยที่ไทยสามคนที่ประวัติน่าสนใจและผมเรียกตัวให้เขามาสัมภาษณ์ และมีนักศึกษาไทยที่จบหลักสูตรการอาหารจากประเทศออสเตรเลียหนึ่งคน เป็นเด็กผู้ชายที่มีความมั่นใจสูงทีเดียว นอกนั้นก็เป็นชาวต่างชาติสามสี่คน นักศึกษาชาวนิวซีแลนด์ที่จบการโรงแรมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นักศึกษาชายลูกครึ่งชาวไทยสิงค์โปรที่เพิ่งจบทางด้านการอาหารและเพิ่งคว้ารางวัลบาริสต้ามาหมาดๆ อีกคนเป็นนักศึกษาสาวทุนการอาหารชาวเบลเยียมที่จะต้องมาแลกเปลี่ยนฝึกงานที่ประเทศไทยสักระยะ เธอหน้าตาน่ารักและดูมีมารยาทมากคนหนึ่ง..
หลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จครบทุกคนแล้ว ผมให้หมี กัสและซีช่วยต้อนรับและดูแลคนพวกนี้ ทั้งด้านอาหารที่คิวและเซ็นมาทำเตรียมไว้เพื่อต้อนรับพวกเขาตั้งแต่เช้า พวกผมอยากให้เขาได้ลิ้มรสอาหารจากฝีมือของเชฟทั้งสอง อย่างน้อยพวกเขาก็เสียสละมาถึงที่นี่ทางเราจึงอยากบริการพวกเขาให้เต็มที่เท่าที่พวกเราจะสามารถทำได้ หลังจากที่สอบสัมภาษณ์เสร็จ..ในตอนนี้ผม เซ็นและคิวกำลังระดมสมองว่าจะเลือกใครดี เพราะเราจะตัดสินใจวันนี้และปล่อยทุกคนไปอย่างไม่รั้งไว้ พวกเขาจะได้ไม่ต้องมานั่งรอและจะได้ทำอย่างอื่นไปตามแผนของแต่ละคน
“ชอบน้องคนนี้จัง” เซ็นพูดขึ้น มือชี้ไปที่ประวัติของเด็กผู้หญิงชาวไทยที่เพิ่งจบการอาหารจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย คิวมองเหล่เซ็นอย่างห้ามปราม
“รู้น่า..ไม่ตัดสินใจเพราะความชอบส่วนตัวหรอกครับ” เซ็นพูดใส่เหมือนรู้ทันสายตาของเพื่อนรัก
“มึงถูกใจคนไหนล่ะ” เซ็นถามคิว
“...................” คิวเงียบลงครู่หนึ่งเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก นานมากแล้วที่เราไม่ได้มาครุ่นคิดเรื่องการรับผู้ช่วยเชฟแบบนี้ แต่ครั้งนี้นั้นจำเป็นมากจริงๆละนะครับ
“นักศึกษาเบลเยียมคนนี้ ประวัติดีนะ..ความจริงแล้วอาหารที่เธอผ่านมาก็ตรงกับอาหารของร้านเรา แต่เธอมาอยู่ได้แค่ระยะสั้น มันคงจะไม่เวิร์คเท่าไหร่” คิวพูด ผมและเซ็นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“เซ็นว่าไง” ผมถามความคิดเห็นจากหลานอีกคน ผู้ช่วยเชฟคนนี้จะต้องอยู่ได้นานและมีความสามารถมากพอที่จะเป็นผู้ช่วยหลัก เขาจะต้องมาทำงานห้าวันต่อหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเขาจะต้องมีความรับผิดชอบอย่างมาก ผู้ช่วยเชฟจะต้องมาทำงานร่วมกับคิวหนึ่งวัน เป็นหนึ่งวันเต็มที่ไม่มีเซ็นร่วมด้วย ซึ่งมันค่อนข้างปรับตัวยากนิดหน่อยที่จะต้องร่วมงานกับคิว เซ็นเป็นคนเปิดรับคนง่าย บางสิ่งบางอย่างเซ็นสามารถประนีประนอมให้ได้แต่สำหรับคิวนั้นไม่ใช่ ผู้ช่วยเชฟจะต้องมีความอดทนสูงกับความกดดันที่จะได้รับเพราะคิวเป็นคนเจ้าระเบียบ ดุ คิวชอบสอนคนเพียงแค่ครั้งเดียวและต้องเป็นคนที่ว่องไว เฉียบขาด ฟังอย่างเดียว ไม่ถามสิ่งที่ไม่ควรถามเพราะคิวไม่ชอบคนพูดมากนะครับ..
“มึงเลือกดิ กูไว้ใจมึง..แต่กูคิดว่ามึงคงไม่ไว้ใจกู” เซ็นพูดขำๆ คิวยิ้มอย่างอ่อนใจ
“แน่ล่ะ กี่คนแล้วล่ะที่ไปเพราะมึง” คิวย้อน เซ็นหันมายิ้มอย่างขอไปทีให้ผม
“ที่จริงผมก็ชอบเด็กคนนี้นะ น่าสนใจ..น่าให้โอกาส” คิวหยิบประวัติของนักศึกษาชายไทยคนหนึ่งขึ้นมา
“แต่..เราก็ไม่ได้มีเวลามากพอที่จะสอนงานใคร” ผมพูด
“ใช่” คิวเห็นด้วย
“นิวซีแลนด์คนนี้ตัดออก เด็กไทยพวกนี้ตัดออก” เซ็นเสนอและหยิบประวัติของพวกเด็กๆที่ว่าไปกองรวมไว้ตรงหน้าตัวเองเพื่อที่จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
“ทำไม..มึงไม่ชอบอะไรไอ้นิวซีแลนด์นี่ ออกนอกหน้าไปละ” คิวพูดปนหัวเราะ
“กูเห็นมันชอบแลบลิ้น กูไม่ชอบ” เซ็นพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนผมและคิวอดหัวเราะไม่ได้
“สำหรับอานะ ที่น่าสนใจก็มีเด็กไทยที่เพิ่งจบการอาหารจากออสคนนี้..กับลูกครึ่งสิงค์โปรคนนี้ ประวัติโชกโชนมาก” ผมหยิบประวัติของทั้งสองคนมาวางข้างกัน ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง คิวและเซ็นจ้องไปที่ใบประวัติสองใบนั้นเขม็ง
“เฮ้อ..” อยู่ๆทั้งคิวและเซ็นก็ถอนหายใจขึ้นพร้อมกัน ผมยิ้มก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้
“เชิญเลือกได้ตามสบาย” ผมพูดแซว การที่ใบประวัติและคำให้สัมภาษณ์ของเด็กสองคนนี้คะแนนนำกว่าเพื่อน ทำให้เซ็นและคิวหนักใจได้นี่ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อารมณ์คงจะประมาณว่า “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน” ผมปล่อยให้หลานทั้งสองคนตัดสินใจกันเอาเองเพราะผมไม่ได้มีหน้าที่ในครัวด้วย เขาทั้งสองจะต้องทำงานร่วมกับคนที่เขาเลือกเข้ามาเอง พวกเขาควรตัดสินใจด้วยตนเองคงจะดีมากที่สุด
“กูว่าเด็กคนนี้น่าสนใจกว่า ได้รางวัลบาริสต้ามาด้วย..คงจะพึ่งพาได้เยอะกว่า” คิวจิ้มนิ้วไปที่ใบสมัครของลูกครึ่งชาวไทยสิงค์โปร
“อือ..กูก็ว่างั้น อีกอย่างพูดได้ตั้งสามภาษา พูดไทยก็ได้ด้วย..จะได้ไม่สื่อสารผิดเพี้ยนกับเด็กในร้าน แล้วมันดูเถื่อนๆดีนะ น่าจะทำอะไรไว..ไม่ขัดหูขัดตามึง” เซ็นพูดแกมหัวเราะเหมือนกับแขวะเพื่อนตัวเองไปในตัว
“หึ..เจอมวยถูกคู่ละอา” เซ็นยักคิ้วให้ผม ผมพยักหน้ายิ้มๆอย่างเห็นด้วยกับเซ็น
“ตกลง เอาคนนี้นะ” ผมสรุป มือชี้ไปที่ประวัติของลูกครึ่งชาวไทยสิงค์โปร ทั้งสองคนพยักหน้าตอบ
“เอาล่ะ..ต่อไปนี้ ถึงตาแกสองคนแล้ว เลือกเอาว่าใครจะเป็นฝ่ายออกไปบอกทุกคนว่าได้งานนี้” ผมพูดตัดบทอย่างโต้งๆ
“อ่าว อาเป็นเจ้าของร้านนะ ไหงพูดงี้ล่ะ..” เซ็นว่า
“มึงแหละ” คิวโยนให้เซ็นทันที
“มึงนั่นแหละ” เซ็นโยนกลับ
“เด็กมันจะคิดว่ากูพูดเล่น มึงดูหน้ากูสิ..จริงจังไหม” เซ็นว่าตัวเอง ผมและคิวได้แต่นั่งขำ
“โอเค ไปกัน..จะได้จบๆ อยากพักผ่อน” คิวตัดบทพร้อมกับลุกขึ้นหยิบประวัติของไจ๋ เด็กหนุ่มลูกครึ่งชาวไทยสิงค์โปรติดมือไปด้วย
“แหม..พักผ่อนๆ ไปหาน้องเค้กอ่ะดิ มึงปาดหน้าเค้กไปยังวะ..บอกหน่อยดิ้” เซ็นกอดไหล่เพื่อนของตนอย่างหยอกล้อ ไม่มีคำตอบใดๆหลุดมาจากปากของคิวถึงแม้ว่าผมเองก็อยากรู้ด้วยเช่นเดียวกัน
“โอเค ทุกคน..รบกวนช่วยหันมาสนใจที่ผมหน่อยนะครับ” คิวเดินออกมาหยุดอยู่ตรงกลางร้านระหว่างโต๊ะที่เด็กๆกำลังนั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างออกรส คิวยืนหน้านิ่งไม่มีแม้รอยยิ้มให้เห็น
“....................” ทุกคนเงียบลงอย่างกับสั่งได้ ทำให้ในร้านไร้เสียงใดๆในทันที
“ผมรู้สึกยินดีมาก ที่พวกคุณให้เกียรติและเห็นความสำคัญของร้านเรา แต่..ทั้งผมและเชฟเซ็น รวมไปถึงเจ้าของร้านจะต้องเลือกใครสักคนที่มาเป็นผู้ช่วยเชฟ” คิวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่มแต่แฝงไปด้วยความเฉียบขาด
“พวกคุณทำให้ผมตัดสินใจค่อนข้างยาก นั่นหมายถึง..พวกคุณมีดีในตัวเองทุกคน ขอให้เคารพในการตัดสินใจของพวกผม และ..ขอให้ เดินหน้าต่อไปอย่างมีความหวัง” ผมยืนมองแววตาของเด็กแต่ละคนที่เปี่ยมไปด้วยไฟที่ลุกโชน แววตาที่มุ่งมั่นและเอาจริงเอาจัง นี่ละนะ..นักศึกษาจบใหม่
“..ไจ๋” คิวเรียก “ไจ๋” เด็กหนุ่มลูกครึ่งชาวไทยสิงค์โปรเงยหน้ายิ้มกว้างให้ทันที
“ยินดีด้วย..คุณได้งานนี้ครับ หรือ..คุณอาจจะเป็นผู้โชคร้ายก็ได้นะ เตรียมใจไว้ด้วยล่ะ” คิวยิ้มและยักไหล่ด้วยท่าทางกวนโอ๊ย ทุกคนปรบไม้ปรบมือให้ไจ๋อย่างยินดี ไจ๋ลุกขึ้นและก้มหัวให้อย่างนอบน้อม รอยยิ้มของไจ๋เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ เด็กหน้าตาจีนๆและดูท่าทางเกเรคนนี้จะเข้ากับพวกเราได้หรือไม่ คงต้องดูกันไปอีกนานทีเดียว
ผมและทุกคนจับไม้จับมือกันเป็นการขอบคุณที่ทุกคนอุตส่าห์เดินทางมาถึงที่นี่ และจะได้แยกย้ายกันไปเสียที..
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ” คิวและเซ็นยิ้มพร้อมกับผายมือให้นักศึกษาสาวชาวเบลเยียม
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ..อีกอย่างฉันอยากมาเห็นร้านนี้..ที่นี่ ฉันต้องการมาพบคุณและเชฟเซ็นด้วย” เธอยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเธอนั้นดูมุ่งมั่น สีหน้าอ่อนโยนแต่กลับแฝงไปด้วยความเข้มแข็งที่มี
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับ” เซ็นยิ้มตอบ
“เซอร์พูดถึงพวกคุณให้คราสบ่อยๆ ท่านบอกว่า..มีไม่กี่คนที่ท่านต้องยอมรับ ว่าทำอาหารอิตาเลี่ยนได้อร่อยกว่าท่าน” เธอมองหน้าคิวและเซ็นไม่วางตา ผมได้แต่ยิ้มอย่างภูมิใจในตัวหลานผมทั้งสองคน เซอร์ที่เธอกล่าวถึงคงจะเป็นอาจารย์ที่สอนทำอาหารอยู่ที่ประเทศเบลเยียม ถ้าผมจำไม่ผิดเขาเคยไปร่วมงานแลกเปลี่ยนที่ประเทศอิตาลีร่วมกันกับคิวและเซ็นด้วย
“ช่วงนั้นท่านคงจะดื่มไวน์มากไปหน่อยละมังครับ” คิวพูดปัดยิ้มๆทำให้เธอและเซ็นหัวเราะอย่างเข้าใจในความหมาย
“สวัสดีครับพี่ฟ้า วันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ” ผมชะงัก หันกลับมามองเด็กหนุ่มนักศึกษาชาวไทยที่เพิ่งจบการอาหารมาจากประเทศออสเตรเลียหมาดๆคนนี้ เขายืนยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้าผม แต่สีหน้าแฝงไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
“ประวัติของน้องน่ะ ทำเชฟสองคนเลือกยากเลยนะ” ผมยิ้ม
“แต่พวกพี่ก็ไม่เลือกผมอยู่ดี” น้องยิ้มแหยด้วยท่าทางเศร้า
“แต่ไม่ได้หมายความว่าน้องไม่เก่งนี่ บางที..ที่นี่อาจจะไม่เหมาะกับน้อง ดวงของเราอาจจะยังไม่โคจรมาเจอกัน รึบางที..เมื่อน้องก้าวออกจากร้านเราไป น้องอาจจะโด่งดังเลยก็ได้” ผมพูดแกมหัวเราะ ที่ผมพูด ผมรู้สึกอย่างนั้นอย่างแท้จริง อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น..ผมคิดแบบนี้มาตลอด
“ขอให้ภูมิใจในสิ่งที่น้องได้เคยทำมา รวมถึง..ภูมิใจด้วย ที่ทำให้พวกผมคิดหนักได้” ผมยักคิ้วให้ น้องเขาหัวเราะตอบอย่างเคอะเขิน
“ไง..” คิวเดินมาพร้อมกับตบไหล่น้องคนนี้เบาๆ อีกฝ่ายสะดุ้งก่อนจะก้มหัวให้อย่างนอบน้อมด้วยท่าทีเกรงคิว
“ประวัติไม่เบานี่” คิวพูดหน้านิ่ง น้องหน้าเหวอไป
“พูดจริง” คิวเบะปากย้ำ ผมได้แต่หัวเราะกับท่าทีของหลานผมที่ชอบทำท่ากวนคนอื่นเสียจริง
“ครับ..ผมจะภูมิใจ ดีไหม” น้องย้อนพูดเสียงเบา เกาหัวตนเองอย่างเก้อๆเหมือนกับไม่กล้าต่อปากต่อคำเท่าไหร่นัก
“ภูมิใจสิ ไม่ได้จบมาง่ายๆซะเมื่อไหร่..ไม่ได้เป็นเชฟกันง่ายๆด้วย บางที..อาจจะยากกว่าเรียนหมออีกด้วยซ้ำ หึ..เพราะไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ถูกใจทุกคนไปซะหมด” คิวว่า น้องเขาเพียงแต่อมยิ้มน้อยๆ
“จะเรียนต่อ หรือ หางานทำต่อล่ะ” คิวถามขึ้นโต้งๆ
“ยัง..ไม่รู้เลยครับ ไม่ได้คิดไว้ว่าถ้าไม่ได้งาน จะทำไงต่อ” อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ แน่ล่ะ..บางทีความมั่นใจที่มีมาล้น ก็สามารถพังทลายลงได้ภายในพริบตาถ้าเรามีสติไม่พอที่จะควบคุมมัน
“งั้นเหรอ งั้นฉันตัดสินใจให้ไหม..เรียนต่อสิ ฉันให้” คิวสรุปเองเสร็จสรรพ พร้อมกับยื่นใบเอกสารสถาบันสอนทำอาหารที่ประเทศอิตาลีให้อีกฝ่ายด้วย น้องรับไปถือไว้ด้วยท่าทางงงๆก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองหน้าคิว
“ไม่ใช่ว่าคุณไม่เก่ง แต่มันยังไม่พอ..” คิวพูด อีกฝ่ายจ้องคิวตาเขม็ง
“ไม่ใช่ว่าไจ๋เก่งพอแล้ว พวกผมถึงเลือกเค้า..แต่บางที นี่ก็เหมือนโอกาส ให้คุณได้พิสูจน์ตัวเองเพื่อทำให้ตัวเองเก่งมากขึ้นกว่าเดิม ถึงเวลานั้น..คุณอาจจะเก่งมาก จนร้านเราไม่คู่ควรเลยก็ได้”
“คนที่ฉลาดควรเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า ทุกคนจะได้รับสิทธิ์นั้น..ถ้ากล้าพอที่จะเปิดรับ” คิวตบไหล่น้องเขาสองสามทีก่อนจะเดินกลับเข้าห้องพักไปซะเฉยๆ ผมได้แต่อมยิ้มและอดนึกไม่ได้ว่าสิ่งที่ผมเคยด่าว่าคิวไปเมื่อตอนที่เขาเป็นวัยรุ่นนั้นทำให้คิวเป็นคิวในทุกวันนี้ได้เหมือนกัน ผมเคยด่าคิวเหมือนกับที่พ่อด่าผม “อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว..เพราะมันไม่ใช่วิสัยของคนฉลาด” มันเป็นคำพูดที่ผมคิดว่าอยากจะสั่งสอนหลานของผมที่ชอบทำตัวอวดดีในตอนนั้นก็เท่านั้น ผมไม่เคยคิดว่าคำพูดของคนบางคนจะสามารถสร้างคนได้แต่คิวทำให้ผมเห็นว่ามันเป็นได้จริง และเขากำลังส่งต่อเป็นลูกโซ่ไป..
“หึ..” ผมยิ้มให้น้องเขา น้องเขายืนนิ่งมองคิวจนลับสายตาก่อนจะก้มหน้ายิ้มออกมาเล็กน้อย
“ไงก็ ขอให้โชคดีนะครับ” ผมผายมือให้ คราวนี้น้องเขาจับมือตอบผมอย่างหนักแน่น ผมยิ้มให้เขาเป็นการบอกลาก่อนที่จะมาลาน้องๆคนอื่นๆจนทุกคนเริ่มทยอยออกจากร้านไป
“บอส..บอส” ผมชะงัก เมื่อได้ยินเสียงพรายกระซิบ ผมหันกลับไปมองหมีที่ยืนอยู่ตรงประตูหลังร้าน มันทำท่าลับๆล่อๆพร้อมกับกวักมือเรียกผมอีกด้วย
“อะไร” ผมกระซิบถามกลับและเดินตรงเข้าไปหา
“งานเข้าบอสแล้วล่ะ”
“อะไร” ผมถามอีกครั้งด้วยความระแวง
“ให้ผมพูดจริงๆเหรอ” หมีทำหน้าเครียด
“เออสิ ไม่พูดเดี๋ยวปั๊ด..” ผมขึ้นเสียง หมีเลิกคิ้วอย่างลองดีเหมือนต้องการกวนว่าผมจะทำอะไรมันได้
“จูบซะเลยดีไหม” ผมงัดของดีขึ้นมาได้เท่านี้
“อ๋อ ไม่ล่ะ..ผมไม่อยากจูบกับบอสแก่หื่นๆหรอกนะครับ” มันว่าสวนกลับให้
“ตกลงอะไรล่ะ ไอ้นี่..ลีลาจริง”
“คุณแฟนบอสสองคน ยืนประชันกันอยู่หลังร้านนู่น น่าจะเพิ่งมาน่ะ..” หมีบอก
“ห๊ะ!” ผมอ้าปากค้าง ในใจนึกหวังว่าหมีกำลังล้อผมเล่นเท่านั้น หมีพยักหน้าเป็นการย้ำบอกว่า “เรื่องจริง” พอผมเปิดประตูหลังร้านก็พบว่าทั้งสองคนยืนอยู่ที่ลานจอดรถอย่างที่หมีว่าจริงๆ ทั้งจักรและทิกเกอร์ไม่ทันได้หันมาสักเกตเห็นผมเพราะเขาเอาแต่ยืนประชันหน้ากันอย่างไม่ลดละ
“ที่จริงผมไล่แล้วนะ แต่เค้าไม่ยอมไป..เหมือนกับว่า ใครไปก่อนแล้วแพ้น่ะ” หมีพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะเล็กน้อย
“กูอยากจะบ้าตาย” ผมถอนหายใจอย่างเซ็งอารมณ์ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาทั้งสองคน
“อะไรของพวกคุณไม่ทราบ” ผมทำเสียงเข้มและสีหน้าดุใส่ เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงก็หันกลับมามองหน้าผมด้วยความตกใจ
“...................” เราต่างฝ่ายต่างยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่ลดละ ทิกเกอร์เหล่สายตาไปอีกทาง ส่วนจักรเองก็เช่นเดียวกัน
“ผมเคยพูดไปกี่พันครั้งแล้ว ทำไมคุณถึงไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูดบ้าง” ผมว่า
“ขอโทษครับ” ทิกเกอร์และจักรพูดพร้อมกัน
“ก็ฟ้าไม่รับโทรศัพท์นี่ครับ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันอย่างกับนัดกันไว้อย่างนั้น
“กลับไปได้ละ” ผมสั่ง
“ทำไมล่ะ ไม่” ทิกเกอร์ท้วงทันที
“ฟ้ามีงานเหรอครับ” จักรถาม
“เดี๋ยวไอ้คิวออกมาเห็น ผมไม่อยากทะเลาะกับมัน พวกคุณเข้าใจไหม” ผมกัดฟันว่าอย่างหงุดหงิด และหันกลับไปมองที่ประตูหลังร้านเป็นระยะอย่างหวาดระแวง ถึงผมจะบอกคนทั้งสองคนไปว่าผมจะให้โอกาสเขาทั้งคู่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รู้ว่าคิวคงยังรู้สึกไม่ชอบใจจักรอยู่ดีนั่นแหละครับ ตอนเด็กๆจักรชอบไปแกล้งคิวไว้บ่อยๆ คิวเป็นเด็กที่ดื้อมาก หยิ่งและไม่ค่อยยอมเปิดรับใครหน้าไหนทั้งนั้น จักรด้วยความที่เป็นคนกวนเป็นทุนอยู่แล้ว แทนที่จะเอาใจคิวละไม่มีสักครั้ง เจอกันกี่ครั้งจักรก็มักจะแกล้งกวนคิวตลอด นั่นคงเป็นหนึ่งอย่างที่คิวคงจะฝังใจ อีกเรื่องหนึ่งคือ..คิวอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผมตลอดเวลาที่ผมคบกับจักร ตอนที่ผมถูกจักรหักหลัง คิวก็เป็นคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างและรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของผมทั้งหมดมาตลอด
“งั้นผมรอนะ..ได้ไหม ไปทานข้าวกลางวันด้วยกัน นะครับ” จักรพูด
“ไม่..ฟ้าไม่ไปกับคุณหรอก” ทิกเกอร์แย้งทำให้จักรหันกลับไปมองหน้าเขา
“คุณมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ” จักรว่าอย่างไม่ยอม
“สิทธิ์..” ทิกเกอร์อ้ำอึ้ง
“นี่..ผมไม่ไปกับใครทั้งนั้นแหละ ช่วยกลับไปด้วย..เดี๋ยวนี้เลย” ผมว่าอีกครั้ง
“ฟ้า” ทั้งทิกเกอร์และจักรหันกลับมามองหน้าผมพร้อมกัน ผมถอนหายใจเล็กน้อยและไม่มองตอบใครก่อนจะหันหลังเดินออกมา
“ฟ้าครับ” ผมได้ยินเสียงของทิกเกอร์เรียกไว้ แต่ในขณะเดียวกันรู้สึกเหมือนมีใครมาจับมือผม ผมจึงหันตัวกลับไป แต่คนที่จับมือของผมอยู่กลับไม่ใช่ทิกเกอร์อย่างที่คาดเดาเอาไว้
ปึก !!
“นี่ ! อะไรของคุณ..มีปัญหาอะไรนักรึไง!” จักรโวยวายทันทีที่โดนทิกเกอร์ผลักจนจักรตัวเซไปตามแรง ผมด้วยความตกใจจึงได้แต่ยืนอึ้งเพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก
“ฟ้าบอกให้กลับไง แล้วคุณมาจับมือฟ้าทำไม” ทิกเกอร์ว่าด้วยน้ำเสียงที่แทบจะตะโกน ผมไม่ค่อยเห็นทิกเกอร์โมโหแบบนี้บ่อยๆ ปกติเขาเป็นคนที่ใจเย็นมาก
“มันเรื่องของผม คุณอยากกลับก็กลับไปสิ” จักรว่ากลับ
“อย่ามายุ่งกับฟ้า!” ทิกเกอร์กระแทกเสียงเข้ม หน้าของเขาเริ่มแดงด้วยความโมโห จักรแสยะยิ้มออกมาอย่างกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยต่อสิ่งที่ทิกเกอร์กำลังพูดอยู่
“หึ ดูพูดเข้า..กลัวรึไง” จักรว่าด้วยน้ำเสียงเย็นเรียบ
“จักร” ผมห้ามปราม
“ผมจะบอกอะไรคุณให้ ตอนนี้คุณกับผมมีสิทธิ์เท่ากัน..ไม่สิ ดูเหมือนคุณจะนับอดีตเข้ามาเกี่ยว ผมไม่รู้หรอกนะว่าอดีตของคุณกับฟ้าเป็นยังไง ผมไม่อยากรู้ แต่ดูเหมือนคุณจะอยากรู้อดีตระหว่างผมกับฟ้าสินะ..ผมเดาถูกไหม” จักรพูดด้วยสีหน้ามีรอยยิ้มเหมือนต้องการกวนทิกเกอร์อย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าความเจ้าเล่ห์ระหว่างจักรกับทิกเกอร์ จักรมีมากกว่าทิกเกอร์หลายขุมเลยล่ะ
“ทิก..ไม่ ทิกเกอร์!” ผมรีบวิ่งจะเข้าไปห้ามแต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว ทิกเกอร์ก้าวขาเข้าไปหาจักรอย่างรวดเร็วก่อนจะใส่หมัดเข้าที่ใบหน้าของจักรอย่างแรง จักรตัวเซไปจนเกือบจะล้ม ทิกเกอร์กระชากคอเสื้อจักรขึ้น จักรไม่มีท่าทีว่าต่อสู้หรือจะโต้ตอบใดๆ แต่จักรกลับจ้องหน้าทิกเกอร์เขม็ง
“แต่ก่อนเรารักกันมาก ผมจะบอกให้..ว่าฟ้ารักผมมาก รักแรกของฟ้า..คือผม” จักรพูดพร้อมกับแสยะยิ้ม
“Shut Up !!!” ทิกเกอร์ตะคอกใส่จนทำให้ผมสะดุ้ง หัวใจของผมเต้นแรง แรงอย่างกับไม่ได้กลัวเพียงแค่อารมณ์ของทิกเกอร์ที่ไม่ค่อยได้เห็นอย่างนี้บ่อยครั้ง แต่เป็นอารมณ์ของคนสองคนที่ปะทะกันอยู่ คล้ายกับว่ากำลังจะทำร้ายผมในทางอ้อม
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ผมว่าแทบตะโกนออกไป
“ฟ้ารักผม รักผมคนเดียว” ทิกเกอร์เถียงอย่างไม่ฟังเสียงห้ามปรามจากผมเลย
“คุณรู้เหรอว่าอะไรที่ฟ้าชอบมากที่สุด รู้เหรอว่าอดีตของฟ้าเป็นยังไง..หึ คุณรู้รึไงว่าครอบครัวฟ้าเป็นยังไง ฟ้าผ่านอะไรมาบ้าง ไม่รู้แล้วอย่าทำตัวเหมือนกับรู้ดีไปซะหมด” จักรว่ากลับแทบจะตะโกนเช่นกัน
“คุณนั่นแหละที่ทำตัวรู้ดีไปซะหมด คนอย่างคุณมันก็ดีแต่เอาเปรียบคนอื่น..ทำเหมือนรู้จักฟ้าดีที่สุด คุณนั่นแหละที่ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย” ทิกเกอร์ผลักอกของจักรออกอย่างแรง
“หึ จากที่ผมรู้มา..ไอ้ที่คุณพูดเมื่อกี้น่ะ คุณเองก็ทำเหมือนกันไม่ใช่รึไง” จักรย้อนด้วยสีหน้าไม่ยอม ทิกเกอร์ชะงักตาโต ไร้เสียโต้ตอบใดๆจากทิกเกอร์ หัวใจของผมสั่นแรง พวกเขาจะรู้ไหมว่าพวกเขากำลังพูดสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยิน
อยู่ๆทิกเกอร์กลับเข้าไปต่อยจักรเข้าอย่างจังอีกครั้ง ครั้งนี้จักรไม่ยอม เขาโต้ตอบโดยการชกทิกเกอร์กลับอย่างแรงเช่นกัน ทั้งสองแลกหมัดกันนัวเนียจนผมไม่สามารถเข้าไปแยกได้ ผมยืนนิ่งมองด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มัน..ว่างเปล่า
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ผมบอกให้หยุด!!” ผมตะโกนห้ามสุดเสียง
“.....................” ทั้งสองคนชะงัก ทิกเกอร์ที่คร่อมตัวจักรอยู่ปล่อยคอเสื้อของจักรออกและลุกขึ้นยืน ทั้งจักรและทิกเกอร์มีเลือดออกมุมปากทั้งคู่ เราทั้งสามคนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“ผมคือคนแรกของฟ้า รู้ไว้ซะ!” จักรพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“จักร!” ผมกระแทกน้ำเสียงจนน้ำตาเกือบจะไหล ผมกลับไม่อยากให้จักรพูดแบบนั้นออกมาในตอนนี้ ผมไม่อยากให้ใครพูดอะไรเกี่ยวกับอดีตของผมทั้งนั้น
“หยุดทำฟ้าร้องไห้สักที!” ทิกเกอร์ว่าพร้อมกับมีท่าจะพุ่งเข้าใส่จักรอีกครั้ง
“หึ แน่ใจนะว่าฟ้าร้องไห้เพราะผมคนเดียวน่ะ” จักรย้อนทันควัน เสียงชกต่อยเริ่มมีให้ได้ยินอีกครั้ง ผมรีบเข้าไปห้ามทิกเกอร์และจักรที่สู้กันอย่างไม่มีฝ่ายไหนที่จะยอมลดละต่อกันเลย
ผลัวะ !!
“โอ๊ย!” ผมร้อง ตัวเซล้มลงกับพื้นในทันทีที่โดนหมัดจากทิกเกอร์ ที่พลาดชกสวนเข้ามาที่หน้าผมอย่างแรง
“ฟ้า” ผมได้แต่นั่งจับหน้าของตัวเองและพยายามรวบรวมสติ ผมรู้สึกมึนเล็กน้อยเนื่องจากว่าทิกเกอร์ปล่อยหมัดมาแรงมากเหมือนกับไม่ได้ยั้งมือ อีกทั้งผมก็ไม่ทันได้ตั้งตัวด้วย
-
แกรก~~
“อา!” ผมหันกลับไปตามเสียงอุทาน เซ็นและคิวรีบวิ่งตรงมาหาผมด้วยสีหน้าตกใจ ผมรู้สึกเหมือนกับว่า..ความซวยเริ่มมาเยือนแล้ว
“เปล่า อาไม่เป็นไร” ผมก้มหน้าและรีบบอกปัดก่อนเพราะไม่อยากให้คิวโมโห
“จิ..ไหนดูสิ” คิวพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมกับปัดมือของผมที่จับแก้มตัวเองอยู่ออกอย่างแรง
“ปากแตกรึเปล่า” คิวขมวดคิ้ว เป็นคำถามที่คล้ายเป็นห่วง แต่สีหน้าของมันอย่างกับจะกินหัวผมอย่างนั้นอ่ะครับ
“ไม่” ผมส่ายหัวตอบ
“ผมขอโทษ” ทิกเกอร์พูดเสียงเบาอยู่ข้างๆ เขานั่งยองอยู่ใกล้ผมแต่ก็ไม่มากนักเหมือนยังคงกลัวความผิดที่เพิ่งได้ทำไปเมื่อกี้
“คุณทำเหรอ” คิวขมวดคิ้วเป็นปม มองหน้าทิกเกอร์ตาขวาง ผมไม่ได้หันกลับไปมองว่าทิกเกอร์มีสีหน้าอย่างไรและไร้เสียงตอบจากทิกเกอร์เช่นกัน
“อาบอกว่าไม่เป็นไรไง” ผมย้ำเสียงเข้ม คิวถอนหายใจอย่างแรงก่อนจะพยุงตัวผมให้ลุกขึ้นยืน คิวยังคงไม่ก้าวเดินไปไหนแต่กลับยืนนิ่งมองทั้งทิกเกอร์และจักรอย่างไม่ลดละ
“ดูเหมือนจะมีคนไม่เข้าใจที่ผมเคยพูด” คิวว่าขึ้น เสียงรอบตัวเงียบลงสนิท
“ผมขอโทษ” ทิกเกอร์บอกเสียงเบา
“อา ขอโทษ” จักรพูดด้วยอีกคน
“..เอาของไปเก็บในรถ” คิวหันไปสั่งหมี หมีพยักหน้ารับก่อนจะนำของของผมและของของคิวไปเก็บไว้ที่รถของคิว
“หมีจัดการปิดร้านให้เรียบร้อยด้วยล่ะ..ฝากด้วย” คิวบอก
“ได้ครับ” หมีพยักหน้ารับอีกครั้ง
“ไปขึ้นรถ” คิวหันมาสั่งผม
“ฟ้า คือ..” ทิกเกอร์เรียกเสียงเบา
“ช่วยกลับไปทบทวนการกระทำของคุณก่อนดีกว่าทิกเกอร์ จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ คุณทำอาเจ็บ..ผมไม่ชอบ” คิวพูดเสียงเรียบ แต่ผมกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาเพราะนานทีผมจะได้ยินอะไรอย่างนี้ออกมาจากปากของหลานตัวดีของผมบ้าง
“แต่ก็นะ เหตุการณ์อย่างนี้ปรบมือข้างเดียวคงไม่ดัง..ว่าไหม” คิวทำน้ำเสียงกวนอย่างออกนอกหน้าพร้อมกับหันหน้าไปมองหน้าจักรอย่างต้องการหาเรื่อง
“จะหาเรื่องอารึไง” จักรสวนทันควัน
“คิดว่าอย่างนั้นรึเปล่าล่ะ” คิวย้อน ทั้งจักรและคิวยืนประชันหน้ากัน ผมได้เพียงแต่หลับตาลงอย่างเหนื่อยใจกับสถานการณ์วุ่นวายนี้ ทำไมทุกคนถึงได้ชอบใช้พละกำลังที่มีในตัวกันมากเหลือเกินนะ
“หึ โอเค..ใช่” จักรแสยะหัวเราะ
“ทำไม คิวกลัวอะไรรึไง” จักรพูดเสียงเรียบพร้อมกับจ้องมองใบหน้าของคิวอย่างกับเขานั้นต้องการท้าทายอีกฝ่าย แน่ล่ะ..สำหรับจักรก็ยังคงเห็นว่าคิวเป็นเด็กเอาแต่ใจคนหนึ่ง อย่างเช่นผมก็ยังคิดว่าคิวเป็นเด็กสำหรับผมเสมอ แต่ก่อนหลายครั้งไม่ว่าคิวจะต่อต้านจักรขนาดไหน จักรก็ไม่เคยโกรธเลยถึงแม้ว่าจักรจะต่อว่าตรงๆกับผมว่าคิวเป็นเด็กที่นิสัยเสีย ผมกลัวว่าจักรจะเกลียดคิวแต่จักรก็พูดส่งๆเพียง “หลานฟ้าก็หลานผมนั่นแหละ” เท่านั้นที่ทำให้ตอนนั้นผมรู้สึกสบายใจ แต่ไม่ใช่สำหรับคิวหรอกครับ..ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่อย่างแน่นอน
“คิว อย่านะ!” ผมรีบเข้าไปขวางคิวในทันทีเมื่อเห็นว่าคิวทำท่าจะเดินเข้าไปหาจักร คิวชะงักมองหน้าผมตาขวาง
“อย่าทำ” ผมย้ำพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงขอร้อง
“ฟ้า” จักรเรียกเสียงเบา
“จักรอย่ามายุ่ง” ผมว่าปรามเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้แล้ว คิวสะบัดมือลงด้วยความหงุดหงิด ผมจับแขนของคิวไว้อย่างเบามือ
“กลับบ้านกันเถอะ” ผมบอก คิวไม่ได้ตอบอะไรอีกและเดินนำไปที่รถอย่างว่าง่าย ผมไม่ได้หันไปมองทั้งสองคนอีกว่าพวกเขามีสีหน้าหรือท่าทีอย่างไร ในรถคิวเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกมาจากร้าน
“คุณจะให้ผมเป็นโรคประสาทตายก่อนรึไง ไอ้เรื่องวุ่นวายปัญญาอ่อนนี่อะไรกัน” คิวสบถขึ้นหลังจากที่ระหว่างทางเราต่างฝ่ายต่างลองเชิงนั่งเงียบกันมาเกือบยี่สิบนาที ผมยังคงไม่ตอบโต้กลับเพราะรู้ดีว่าอารมณ์ของคิวกำลังครุได้ที่ทีเดียว
“ทำไมเรื่องจะต้องมาเกิดที่ร้านตลอด ทำไมไม่ไปทะเลาะกันที่ห้องเสื้อของอา” คิวกัดฟันว่า
“คิว อา..” ผมเอ่ย
“อาขอโทษ!” อีกฝ่ายกระแทกเสียงอย่างรู้ทัน
“ขอโทษทำไม อาทำอะไรผิดไม่ทราบ..อ๋อ ใช่..ผิด ที่คิวหงุดหงิดอยู่นี่ก็เพราะอา” มันว่าให้ ผมได้แต่หุบปากเงียบเพราะดันโดนหลานว่าตรงจุดเกิดเหตุเกินไป เรื่องต่างๆที่คิดมาตลอดทางที่รถติดนี้ไม่ได้ทำให้ผมหาทางออกได้ดีไปกว่าอยากหนีไปพักผ่อนที่ไหนสักพัก พูดง่ายๆคือ..หนีปัญหาในตอนนี้ละมังครับ
"แคนี้อาก็เหนื่อยใจพออยู่แล้วนะ หยุดว่าซ้ำเติมกันสักทีเหอะ” ผมบ่นบ้าง
“ผมก็เหนื่อยใจเหมือนกัน” มันย้อน
ตื๊ด ๆ ๆ
“ครับ” ผมกดรับโทรศัพท์ สายเข้าจากมิซาร์
“ค่ะคุณฟ้า..ห้องเสื้อที่ฮ่องกงที่คุณฟ้าติดต่อไปเมื่ออาทิตย์ก่อน เค้าติดต่อกลับมาแล้วนะคะ ทางนั้นบอกว่าถ้าคุณฟ้าอยากเข้าไปดูห้องเสื้อของเค้าที่ฮ่องกง เค้าก็ยินดี” มิซาร์พูด ห้องเสื้อที่พูดถึงคือห้องเสื้อที่จักรแนะนำให้ผมในคราวก่อน ผมได้ติดต่อไปทางนั้นเพื่อขอดูแผนงานก่อนว่าผมจะนำแบรนด์ของผมไปเข้าร่วมงานกับเขาดีหรือไม่นะครับ
“เมื่อไหร่ครับ”
“แล้วแต่คุณฟ้าสะดวกเลยค่ะ” มิซาร์ตอบ
“ได้ครับ ภายในอาทิตย์นี้แหละ คอนเฟิร์มทางนั้นให้ผมเลยก็แล้วกัน” ผมได้โอกาสจึงตัดสินใจในทันที
“ค่ะ ได้ค่ะ” มิซาร์ตอบรับก่อนจะวางสายไป ผมกดตัดสายโทรศัพท์ ก่อนจะหันตัวไปคว้ากระเป๋าที่เบาะหลังมา ผมได้ยินเสียงคิวถอนหายใจแรงอย่างกับรู้อะไรล่วงหน้าอย่างนั้น ผมถือโอกาสหยิบพาสปอร์ตออกมาดู เผื่อว่าจะมีประเทศไหนให้ผมได้ไปลงหลักปักฐานในตอนนี้ได้สักพักบ้าง
ผมแกล้งนั่งเงียบไปอย่างนั้นเพื่อให้คิวอดกลั้นความอยากรู้เอาไว้ หึ..รู้สึก สนุกดีพิลึก แกล้งใครก็ไม่เคยรู้สึกสนุกเท่ากับได้แกล้งคิวจริงๆ..นี่คงเป็นความชอบส่วนบุคคลละมัง
“อะไร” คิวถามขึ้นเสียงห้วนจนผมเกือบหลุดยิ้มออกมา
“หนีปัญหาเหมือนที่แกเคยทำไง” ผมย้อนกวนกลับ
“คิวไม่ได้หนีปัญหา ให้ตายเถอะ..ช่วยอย่าเอาปัญหาของตัวเองมาเปรียบเทียบกับของคนอื่นจะได้ไหม” คิวทุบพวงมาลัยอย่างต้องการระบายอารมณ์
“ก็คล้ายๆกันนั่นแหละ ไม่อยากอยู่แม่งแล้ว..พาลหงุดหงิดไปซะหมด” ผมบ่นสาวไปถึงคิวด้วย
“อ้างล่ะสิไม่ว่า” คิวพูดเหมือนรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ ในหนังสือเดินทางผมมีวีซ่าที่ยังมีวันเวลาเหลืออยู่หลายประเทศ แถบยุโรปคงต้องตัดออกไปเป็นอันดับแรกเพราะประเทศที่สามารถบินไปได้ทันทีคงไม่พ้นประเทศอิตาลีกับฝรั่งเศสอย่างแน่นอน ถ้าผมไปที่นั่นก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ปูนคงจะลากผมขึ้นเหนือล่องใต้พูดแต่เรื่องเก่าๆเป็นแน่ ผมเหลือวีซ่าที่ประเทศญี่ปุ่นอีกหลายเดือน รวมไปถึงประเทศอเมริกาอีกเป็นปี คงไม่มีอะไรเริดหรูไปกว่าการเสพสุขในครั้งนี้อีกแล้วละครับ
“อาต้องไปติดต่องานที่ฮ่องกงก่อน คงพักที่มาเก๊า ไปญี่ปุ่น เวกัส..แล้วกลับ” ผมพูดขึ้นอย่างตัดสินใจวางแผนไว้ในหัวเสร็จสรรพ
“.....................” อีกฝ่ายเงียบนิ่งไป
“สองอาทิตย์” คิวพูดขึ้นอย่างโอนอ่อนยอมผม
“สาม” ผมตอกกลับ
“สอง” คิวย้ำเสียงหนักแน่น
“แหม ไม่ต้องเป็นห่วงเค้าหรอก..เค้าโตแล้ว เค้าดูแลตัวเองได้” ผมแกล้งแซว เอานิ้วไปจิ้มแก้มคิวอย่างหยอกล้อ
“จิ” คิวจิปากและเบี่ยงหน้าหนีมือผม
“ใครเป็นห่วงคุณไม่ทราบ ผมเป็นห่วงเงินที่คุณจะเอาไปถลุงเล่นต่างหากล่ะ” คิวว่าอย่างรู้ทันว่าที่ผมวางแผนไปสามประเทศนี้เพราะอะไร ผมหุบปากเข้าหากันและยังอดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าที่จริงแล้วหลานเป็นห่วงตัวผมมากกว่าที่จะห่วงเงินอย่างปากว่า
“สามล้านนะ” คิวพูดขึ้นดักจำกัดวงเงินของผมในทันที เป็นที่ทราบกันดีในคนสนิทว่าผมนั้นชอบเสี่ยงดวงเอาเสียมากๆ บ่อนคาสิโนกับผมเหมือนเกิดมาเพื่อหล่อเลี้ยงกันและกัน เวลาที่ผมได้อยู่ที่นั่นคล้ายกับว่าผมตกลงไปในหลุมดำที่ไม่สามารถหลุดออกมาได้ง่ายๆ อารมณ์เคลิบเคลิ้มลืมโลกไปชั่วขณะนั้นมันช่างหาได้ยากอย่างที่หาไม่ได้นอกคาสิโนเลยละครับ
“เก้า” ผมต่อรอง เงินก็เป็นเงินของผม แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหวงแทนเสียเหลือเกิน
“ห้า” คิวต่อ
“เก้า” ผมยังคงย้ำจุดยืนของตัวเอง
“ฮื้ม!..หก ขาดตัว” มันหันมาทำตาขวางใส่
“เลขมันไม่สวยอ่ะ” ผมเถียงกลับหน้างอ
“หก..รวมทุกอย่าง ห้ามเกินนี่ ห้ามต่อรองอีก จบนะ!” คิวตัดบทด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและเด็ดขาดพร้อมกับหันมาจ้องหน้าผมเขม็งเป็นการย้ำว่า “อย่ามาลองดีกับผมนะ” ประมาณนั้น
“เออ ก็ได้” ผมยอมอย่างขอไปที
“คิดซะบ้างนะ กว่าจะหาเงินได้แต่ละบาทน่ะ..คุณต้องออกแบบชุด ต้องฟาดฟันกับพวกยัยไฮโซบ้าๆพวกนั้นมากี่คนต่อกี่คน เอาเงินไปละลายเล่นในบ่อนน่ะ..สนุกนักรึไง” ผมนั่งฟังและได้แต่นึกตอบในใจว่า “ก็เพราะสนุกไง ไม่งั้นไม่เข้าไปหรอก” แต่ก็ไม่กล้ากวนกลับเพราะไม่อยากจะมีปากเสียงอีก ตอนนี้ใจของผมเต้นเร่าๆอยากไปจะแย่แล้ว นานมากแล้วที่ผมแทบไม่ได้พักอย่างจริงจังสักที
“ทำไมผมต้องมานั่งว่าคุณที่อายุใกล้จะเข้าโลงแล้วด้วยนะ คิดเองได้ทุกอย่าง..ทุกเรื่อง แต่เรื่องนี้คิดเองไม่ได้รึไง”
“ทำอย่างกับอาไปบ่อยงั้นแหละ” ผมเถียงกลับเสียงเบา ปกติผมจะทำงานหนักมาก แต่ก่อนหนึ่งปีจะตกประมาณหนึ่งครั้งถึงสองครั้งที่ผมจะบินไปสิงค์โปร มาเก๊าและลาสเวกัสเพื่อไปเสพชีวิตในแบบของผม ซึ่งช่วงสามสี่ปีให้หลังมานี่คิวค่อนข้างบ่นผมเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนผมไม่อยากจะฟัง จากที่ให้ของขวัญตนเองไปเล่นได้ปีละสองครั้ง จึงผลัดเปลี่ยนเป็นปีละหนึ่งครั้ง หรือสองปีครั้งเลยละครับ
“ไม่บ่อย แต่ลงทีเป็นล้านเนี้ยนะ..ผมควรดีใจงั้นสิ โอ้..นานๆทีปล่อยผีเค้าบ้างเถอะประมาณนั้น นี่ไม่เรียกว่าปล่อยอีกรึไง เพลาๆบ้างเถอะ” ผมเอานิ้วเข้าอุดหูตัวเองอย่างแกล้งหยอกคิว คิวมองตาขวางพร้อมกับส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย
“คิว..หลานที่รัก” ผมเรียกเสียงเอื่อย
“เก็บคำพูดไว้พูดวันอื่นบ้างก็ได้นะ” ผมแซวปนหัวเราะ เพราะรู้สึกว่าวันนี้คิวจะพูดมากเกินความจำเป็นกว่าปกติซะอีก ที่ผมแกล้งแซวคิวเพราะผมไม่อยากให้คิวรู้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ ผมไม่อยากให้คิวมาหงุดหงิดเพราะเรื่องของผม ผมอยากอยู่อย่างสบายใจและไม่อยากคิดถึงเรื่องเมื่อกี้อีก ถึงแม้เหตุการณ์เมื่อกี้จะทำให้เกิดเรื่องกวนใจแต่ผมก็อยากให้คิวเห็นว่าผมยังสามารถยิ้มให้เขาได้ เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงผม บางทีมันก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องให้ใครมานั่งเห็นใจเรื่องของเรามากเกินไป
ผมหันหน้าหนีมองไปนอกกระจกรถ คิวถอนหายใจแรงและไม่พูดบ่นอะไรอีก ก่อนที่ผมจะพูดเปลี่ยนเรื่องไปเรื่องอื่น ส่วนมากผมจะพูดเรื่องของเค้ก แต่คิวก็จะเปลี่ยนไปพูดเรื่องของบัตเตอร์ เชอร์เบ็ตหรือแม่ของตน เราไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่หลังร้านอีกเลยจนถึงบ้าน บรรยากาศจึงไม่น่ากังวลอย่างที่ผมวาดไว้เท่าไหร่นัก
.................>>>><<<<.................
-
:z13:
ไปพักผ่อนบ้างก็ดีนะ. พี่คิวเป็นห่วงอาน่ารักจริงๆ o13
ตอนนี้ไม่มีเค้กเลยคิดถึงจังงงงง :กอด1:
ขอบคุณพี่บี้ค่ะ
-
:z13: :z13:
-
เห็นอาหลานต่อรองกันเรื่องตัวเลขแล้วนึกถึงตัวเอง
ตัวเองยังนับตัวเลขแค่หลักพัน แต่อาหลานเค้านับตัวเลขกันหลักล้าน :z3:
ฟ้าก็น่าจะตัดสินใจเลือกซะทีนะว่าจะใคร ไม่งั้นก็จะเกิดปัญหาแบบนี้ตลอด
แล้วพี่คิวสุดหล่อก็จะโหดอย่างนี้ต่อไป เค้าสงสารเค้กกกก กลัวพี่คิวมาเหวี่ยงใส่ :laugh:
-
เฮ้อ ป่วยใจกับผู้ชายแต่ละคนของฟ้าจริง ๆ
บทจะทิ้งก็ทิ้งซะไม่เห็นค่าไม่เห็นความสำคัญ
บทจะกลับมาก็มาในเวลาเดียวกัน สมควรที่จะได้รับโอกาสมั๊ยเนี่ยะ
-
อยากรู้แบบเซ็นและอาฟ้าเหมือนกัน ว่าคิวปาดหน้าเค้กไปยังอ่ะ :o8:
เสือ 2 ตัวมาประชันกัน แต่กลายเป็นอาฟ้าโดนน๊อกซะงั้น
แอบเสียดายเงินแทนอาฟ้า ดันเอาเงินไปลงบ่อน ไม่เคยเห็นใครโชคดีได้เงินคืนกลับมาเลย
กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ
-
เม้นท์ใหม่อีกรอบ คือ ความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ
เหมือนเดินจงกรมอ่ะ ฟ้า ทิกเกอร์ จักร ... มันไม่ไปไหนสักที :เฮ้อ:
แต่คิวอารมณ์เสียได้น่ารักดี พูดเยอะขึ้น ชอบๆๆ เวลาอยู่กะเค้กพูดเยอะๆดิ :really2:
-
เฮ้อ วุ่นวายกันจริ๊งง
แบบนี้ อาฟ้า จะเลือกใครละเนี๊ยะ
คิวก้อดูเปนห่วงอาฟ้ามาก น่ารักก
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
อาหลานคู่นี้น่ารักจริงๆ มันมากกว่าความผูกพันธ์ไปแล้วเนอะ :กอด1:
พี่คิวอะ ไม่ยอมตอบคำถามพี่เซ็น ปาดหน้าเค้กไปหรือยัง :laugh:
แอบคิดถึงน้องเค้กเบาๆ :กอด1:
-
“มึงเลือกดิ กูไว้ใจมึง..แต่กูคิดว่ามึงคงไม่ไว้ใจกู” >>> ฮาประโยคนี้ของพี่เซ็นอ่ะ
“กูเห็นมันชอบแลบลิ้น กูไม่ชอบ” >>> ประโยคนี้ของพี่เซ็นก็ทำเอาฮาอีกแล้ว
“แหม..พักผ่อนๆ ไปหาน้องเค้กอ่ะดิ มึงปาดหน้าเค้กไปยังวะ..บอกหน่อยดิ้” >>>> เห้ย ถูกใจมากอ่ะ
แล้วตกลงว่าพี่คิวเนี่ยได้ปาดหน้าเค้กไปหรือยังหว่า เค้าก็อยากรู้อยากเห็นเหมือนกันนะเรื่องแบบเนี้ยะ
“คนที่ฉลาดควรเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า ทุกคนจะได้รับสิทธิ์นั้น..ถ้ากล้าพอที่จะเปิดรับ” >>> คมกริบ
“คุณแฟนบอสสองคน ยืนประชันกันอยู่หลังร้านนู่น น่าจะเพิ่งมาน่ะ..” >>> ให้เป็นแฟนอาฟ้าทั้งสองคนเลยเหรอพี่หมี
ถ้าอาฟ้าทำแบบนี้มันก็เหมือนกับการหนีปัญหานั่น ทำได้แค่ยืดเวลาออกไปอีกนิดหน่อยเท่านั้นเอง
ดีไม่ดีพอกลับมาหลังจากที่หายไปสองอาทิตย์ เรื่องราวอาจจะยิ่งชวนปวดหัวปวดใจมากกว่าเดิมก็เป็นได้
หวังว่าการไปพักผ่อนของอาฟ้าในครั้งนี้จะทำให้อาฟ้าตัดสินใจอะไรๆ ได้ซักที ทุกอย่างมันค้างๆ คาๆ มานานแล้ว
คิวประหนึ่งเป็นผู้ปกครองของอาฟ้าอย่างไรอย่างนั้น ก็เล่นจำกัดทั้งระยะเวลา จำกัดทั้งวงเงิน กร๊าากกก~
สารบัญ ~ Limited Lovers ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
ฟังคนรวยเค้าคุยกันแล้วลมจะใส่ :z6:
อย่างว่า แค่มรดกตอนนั้นก็หลายพันล้านอยู่อ่ะน้ออออออ
ชอบโหมดคิวปกป้องอามากๆเลยค่ะ :กอด1: ดูแสดงออกไม่มาก แต่โคตรแมน
แล้วก็...อ่านเรื่องนี้แต่ละตอนจะให้ความรู้สึกที่ต่างกันไปนะ
อย่างตอนนี้อ่านจบแล้วคิดว่า เรื่องราวมันวุ่นวายไปอ่ะ เอาไม่อยู่ซักคน พี่ฟ้าอยู่เป็นโสดสบายใจกว่าไม๊คะ :z2:
-
เอาจักรไปเก็บได้มั้ย ขวางหูขวางตาชะมัดเลยอ่ะ
แม่งน่าจะรู้ตัวราวๆแล้วนะ ว่ามันจะกลับมาคบกับฟ้าได้ดียังไง
ในเมื่อหลานรักฟ้าเกลียดซะขนาดนั้น เคยเป็นคนแรกของฟ้าแล้วไง
เปรียบกับคิว คิดหรอฟ้าจะไปเลือกแก ไอ้บ้า
แล้วยังจะมาต่อยตีกันอีก หน่ายอ่ะ
แอบหงุดหงิดพี่ฟ้าด้วย ทำไมถึงไม่จบปัญหานี่สักทีนะ
ถ้าเราเป็นคิวเราคงโมโหยิ่งกว่านี้อ่ะ *อินมากกกกกกกก*
ตอนนี้ทิกเกอร์ก้ผิด ถึงจะปลื้ม แต่แบบนี้ก้ไม่ไหวนะ
สรุป ตอนนี้ไม่ปลื้มใครเลย
รักพี่คิว ปลื้มพี่คิวอยู่คนเดียว
รอวันพี่คิวปล่อยหมัดให้ไอ้จักรอยู่นะบี้
เป็นเราเราขอให้เอาตีนเสยหน้าแม่งสักที *ยังคงอิน*
รอตอนต่อไปนะคะ
-
จะหนีไปไหนก็เท่านั้นอาฟ้า กลับมาก็เจอปัญหาเดิมๆ อยู่ดี จะเอายังไงก็ตัดสินใจเถอะ จะได้จบเรื่องซะที
เพราะคนของอาฟ้าเลย คิวเลยไม่ได้ไปหาน้องเค้ก โป้งอาฟ้าล่ะ
-
วุ่นวายใช้ได้นะคะเนี่ยยยย o13
พี่คิวทำตัวเหมือนพ่ออาฟ้าเลยอ่ะ มีอบรมกันด้วย ฮ่าๆๆๆๆ น่ารักดีค่ะ
-
จักรเป็นคนที่าพูดได้กวนอารมณ์มากกกกกก :laugh: ก็ยังแอบเข้าข้างทิกเกอร์นะ :-[
ชอบคำพูดของคิว เจ๋งมากกก o13
-
อาฟ้าเลิกหนีปัญหาสักทีเถอะ :m31:
จะเลือกใครก็เอาสักคน :m16:
แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้ ก็ไม่ต้องเลือกสักคน
เรื่องมันจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอยู่แบบนี้ไง
เอาใจช่วยนะค่ะ :a2: :a2:
-
:angry2:หมั่นไส้จักรว่ะ อยากให้คิวกระโดดถีบยอดหน้าซักทีให้หายกวนทีน
-
ไม่ใช่ว่าตอนสุดท้ายกลายเป็น3p ทิกเกอร์ ฟ้า จักร :laugh: :laugh: :laugh:
-
สงสัยจัง ฟ้าจะเลือกใคร :m16: :m16: :m16:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ฟ้าจะเอายังไงล่ะเนี่ยยตัดสินใจซักที...(คิดถึงเค้ก)
-
พยายามคาดเดา(ใจคนเขียน) กับตอนจบของฟ้า ว่ามันจะแบบไหนแน่ ชักไม่แน่ใจ
ฟ้า&จักร = ก็พอไหวอะนะกับรักครั้งใหม่กับคนเก่า แต่พี่คิวคงไม่ปลื้มนัก
ฟ้า&ทิกเกอร์ = คนนี้ก็แอบเอนเอียงอยู่ลึกๆ เพราะรู้สึกว่าฟ้ายังรักคนนี้อยู่ อีกอย่างหลานคิวก็เหมือนจะเชียร์คนนี้
ฟ้าไม่เลือกใครเลยทั้งสองคน = ก็มีความเป็นไปได้สูง ((เอ๊ะ!! ยังไง???))
เง้ออออออออออ !! @#%#&^&$^#*(%$(&%#@ ยังไงดีวะเนี่ย
รู้สึกว่าเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอซักกะทีกะนิยายเรื่องนี้อ่านจบตอนไปแป๊บๆ อยากอ่านต่ออีกแล้วอ่ะ แหะ แหะ :z1:
ขอบคุณนะไอ้น้องบี้ +++ เหมือนเคย
:กอด1:
-
ฟังอา หลาน คุนกันแล้วจะเป็นลม
เล่นทีหลักล้านเลย o22
-
พี่ฟ้า ไปพักผ่อนกันเถอะ
คิว ร้ายมากเลยอ่าเด้วนี้ ดูโหดๆๆๆๆๆ
-
ปวดหัวแทนอาฟ้า. อ่านแล้วก็ลุ้นตามทุกตอนเลย
ไม่รู้ว่าจะลงเอยยังงัย คาดเดาไม่ถูก
ตอนคัดเลือกตัวผู้ช่วยเชฟสนุกมากแอบลุ้นตาม
ว่าจะเลือกใคร ไม่รู้ว่าจะเข้ามามีบทบาทกับใครรึเปล่า
:pig4:
-
ถ้าไม่เป็นอากับหลาน ก็นึกว่าเป็นแฟนกันเถอะ. รู้ใจกันตลอด
ดูท่าแล้วคงไม่เชียร์ให้พี่ฟ้าเลือกใคร นอกไปจากพี่คิว............ :laugh:
-
...โอโห หนุ่มๆๆรุมแย่งกันเลย แรกหมัดกันสนุกสนาน ทิกเกอร์มีมุมบู้กับเค้าด้วย
...นิสัยอีกอย่างของอาฟ้าาาาที่พึ่รู้......เข้าบ่อนๆๆของเล่นของคนรวย :laugh:
-
แต่ละคน :เฮ้อ:
-
อาฟ้าหนีไปพักให้โล่งไปเลย
เผื่อกลับมาจะได้มาเคลียปัญหาคาใจให้หมดไปเลยยย
-
โอย เป็นเราก็เลือกไม่ถูก แล้วก็ไม่อยากเลือกเลย
ทำเราเจ็บทั้งคู่ คนนึงรักแรก คนนึงรักสุดท้าย :serius2:
หนีไปคิดอะไรเงียบๆก็ดี ชอบคิวที่คอยเป็นห่วงฟ้าจังเลย แต่อาจดูรุนแรงหน่อย :laugh:
ตอนนี้ไม่มีน้องเค้กให้ชื่นหัวใจเลย เราก็อยากรู้เหมือนกันว่า ปาดหน้าเค้กไปหรือยัง? :oo1:
:pig4: นะคะ คุณเบบี้
-
o18 o18 o18
-
หนุ่มๆของอาฟ้า
ไม่ได้ดั่งใจสักคน :z3:
ยกเว้นหลานคิวคนเดียว :laugh:
-
คิวอย่างเท่เลยอ่ะ >.<
-
อาฟ้านี่มีอะไรให้น่าตะลึงทุกครั้งเลย
-
ประเด็นที่น่าสน : พี่คิวปาดหน้าเค้กไปรึยัง :laugh:
อยากรู้เหมือนกันนะเนี่ย ช่วงนี้เค้กไม่ค่อยจะมีบทเลย คิดถึ๊ง คิดถึง :กอด1:
พาร์ทอาฟ้านี่ ยิ่งอ่านยิ่งปวดหัว เห็นแต่ละคนแล้วไม่อยากจะเลือกซักคน หาใหม่เอาดีกว่า
อย่างน้อยไม่เคยมีอดีตต่อกันให้ขุดขึ้นมาพูด เราว่าอาฟ้าอย่าเอาเลยสองคนนี้ น่าเบื่อ :เฮ้อ:
-
ต่อให้หนีไปไกลแค่ไหนหรือนานเท่าไหร่
แต่ยังไงปัญหามันก็ยังรออยู่ที่เดิมนี่แหละ
น่าจะเอาเวลามาเคลียร์ปัญหาให้มันจบไปเลยดีกว่า
-
ทำไมไม่รู้อยู่ๆก็อยากอ่านคู่คิวอาฟ้าขึ้นมาซะงั้น น่าร้ากกกก เป็นตอนพิเศษซักตอนได้มั้ยนะเบบี้ ><
-
รอจ้ารอ :)
-
ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยเว้ย!
-
ถึงจะเป็นตอนหลักของอาฟ้า
แต่..คิวปิด ก็ยังเป็นพระเอกในเรื่องนี้อยู่ดี
คิดถึงเค้กจัง
ขอบคุณเบบี้น๊ะ :L2:
-
เค้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า พี่คิวปาดหน้าเค้กไปยังอ่ะ .. :z1:
ปวดหัวแทนอาฟ้าจัง...ในเมื่อยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใคร
จะปวดหัวอย่างนี้ไปอีกนานแหละ...
o13
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
จักรน่าจะโดนซักทีสองทีนะคะ หมั่นไส้ๆๆๆๆๆ :z6:
พี่ฟ้าเลือกทิกเกอร์เถอะค่า ไม่ต้องรออะไรแล้ว คนอ่านเกร็งมาหลายตอนแล้วค่ะ 555
แอบคิดถึงเค้กเบาเบาน้า ><
-
คิวกับอาฟ้าเถียงกันเรื่องเงินเหมือนเด็กๆเลยอะ 5555
ไปพักผ่อนก็ดีนะ เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น
-
จะมี "ใคร" ตามไปพักผ่อนด้วยรึเปล่าน้าาาาาาา
:z1:
-
คิวอนุญาตให้อาฟ้าไปพักผ่อนได้ แต่ก็ไม่ได้ห้ามให้ทิกเกอร์ตามอาฟ้าไปนิ่ :m12:
ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นโอกาสทองล่ะ ทิกเกอร์ตามอาฟ้าไปโลดดดดดด :laugh:
-
รำคาญแทนคิว เหอะๆ
-
สงสัยเราจะนิสัยเหมือนหลานคิวบ้างนิดหน่อย เพราะอาฟ้าน่าหงุดหงิดมาก ทำไมทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ไม่โตเอาซะเลย ก็เข้่าใจว่ามันทำใจลำบาก แต่ควรรีบตัดสินใจสักทีสิแบบเด็ดขาดเหมือนเรื่องอื่นๆทที่ผ่านมาได้ :เฮ้อ:
-
ปาดหน้าเค้กกก อั้ยยะ พี่เซ็นพูดให้คิดอ่ะ
ระหว่างอาฟ้าไปพักผ่อน ขอสำรวจชีวิตรักคิวเค้กสักนิดได้มั้ยจ๊ะ
-
จริงๆ แล้ว คิวเป็นอา :laugh:
-
ฝีปากพอกันอาหลาน :laugh:
อาฟ้าเลิกหนีปัญหาได้แล้ว
+1
-
3p ไปเลยไหม ฮ่าๆ
ต่างคนต่างแย่งง
-
คิวน่ารักอะ โหดๆ 555+
:laugh:
-
พี่คิวโหด~ แต่ก็น่ารัก :-[
-
เหอะๆ อ่านแล้วเครียดแทนอาฟ้าเลย
ตอนนี้เค้กไม่ออกเลย คิดถึงๆ
-
อาฟ้าพักผ่อนเยอะๆ กลับมาจะได้หายเครียดนะคะ
-
พี่ฟ้า....ของทิกเกอร์ ^_____^
-
เห็นตัวเลขสองอาหลานต่อรองกัน น่ากลัวเกิ๊นนนนนน :a5:
-
อ๊ากกกกก! จักรเจ๊ไม่ปลื้มเลย รมณ์เสีย :m16:
สุดหล่อของเจ๊ พลาดละแหละ แค่ลดลงเล็กน้อย จากนู๋คิว :laugh:
P.S. เลิศมาก. คิวของเจ๊ปกป้องอาฟ้า น่าร๊ากกกก o13
-
พาร์ทแรก อ่านแล้วอิจฉาเค้กที่เป็นแฟนกับคิว พอๆ กับคิดว่าเค้กมีแฟนหรือมีพ่อเพิ่มมากันแน่ 555 แต่คิวเท่ห์อ่ะ :o8:
พาร์ทหลัง ประทับใจที่หลานรักอาขนาดนี้ พอๆ กับคิดว่าฟ้ามีคิวเป็นหลานหรือเป็นพ่อกันแน่ 555 แต่ก็ยังยืนยันว่าคิวโคตรเท่ห์
... ว่าแต่สงสัยเหมือนเซ็น ว่าคิวปาดหน้าเค้กไปยัง :z1:
:pig4: :กอด1:
ปล. ชอบประโยคนี้จังบี้ >>> “อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว..เพราะมันไม่ใช่วิสัยของคนฉลาด” >>>
-
หายไปให้ตามหากันเล่น ๆ :laugh:
:pig4: คะ
-
หนีเที่ยวคนเดียวไม่เหงาแย่เหรอ :laugh:
-
:m20:กำเนิดพ่อคนที่สองมากอ่ะพี่ฟ้า จำกัดแม้กระทั่งเรื่องใช้เงิน กร๊ากกกก :laugh:
-
พี่คิวห่วงโหดดดดดดดดดดด แต่ก็รักใช่ปะละคะ ^^
อาฟ้าต้องดูแลตัวเองและใจตัวเองะ สู้ๆ
อยากจะรู้นะว่าเวลาพี่คิวอยู่กับเค้กนี่จะขนาดไหนนะ
ขอบคุณคุณเบบี้คะ :pig4: :กอด1:
-
วุ่นวายดีแท้ ให้ทิกเกอร์คู่จักรซะเลยดีมะ
-
โว๊ะ :z3: ทิกเกอร์ฉันนนนนน
ดันไปพลาดโดนฟ้าซะงั้น คะแนนลดแล้วมั้งเนี่ย
สรุปไม่เอาใครทั้งนั้น เอาคิวฟ้า ทิกเกอร์จักรเหอะ ๕๕๕๕๕๕ o13
-
อาฟ้า เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ
นอกจากเข้าบ่อนการพนันแล้ว
ยังเป็นบ่อนต่างประเทศอีกต่างหาก
เงินทองรั่วไหลหมด เล่นบ้านเราดีกว่า มีตั้งเยอะ
-
ในบทนี้ มีประโยคที่โดนใจหลายประโยค
แต่ที่ชอบที่สุด คงเป็น " อย่าทำตัวเป็นน้ำที่เต็มแก้ว เพราะมันไม่ใช่วิสัยของคนฉลาด " o13
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้
ปล. อาฟ้าไม่ได้หลบปัญหา แต่หลบไปเข้าหลุมดำที่คนอื่นมองไม่เห็น :m20:
-
ฮ้า พี่ฟ้าไปพักผ่อนก้อดี กลับมาจะได้โล่งใจ
-
ส่งคนที่สี่เข้ามาในชีวิตฟ้า
เอาให้หนัก
เผื่อ ฟ้าจะได้เลือกๆซะที
:jul3:
:z6:
อ่ะ ล้อเล่นน้า
แค่นี้ก้อแทบตายแล้ว
-
โอยยยอาฟ้าค่ะเลือกซะทีค่ะจะเอาไง
ไม่ใช่ปล่อยมันคาราคาซีงอย่างนี้
ถ้าไมอยากกลับไปก็ทำให้มันจบ หาใหม่ง่ายดี
เดาตอนจบไม่ออก อ่านแร้วแอบอึดอีดเบา ๆ แต่ก็อ่านอ่ะ
รอนะบี้
-
ไม่สนใจฟ้าละ หนีไปก็กลับมาเจอเรื่องเดิมๆ นี่แหละ
สนใจคิวดีกว่า ปาดหน้าเค้กรึยังจ๊ะ 55555555
-
โธ่....หนุ่มของอาฟ้าทำปวดหัวอีกแล้ว :z3:
แต่จะหนีไปพักใจในต่างแดน กลับมาก็เจออีหรอบเดิมอีกหรือเปล่าคะ
ปัญหายังไม่ได้แก้ไขตรงไหนเลย แค่ทดเวลาบาดเจ็บ
แต่ก็เอาใจช่วยอาฟ้านะคะ ขอให้การหนีไปอยู่กับตัวเองคราวนี้
จะทำให้ตัดสินใจเลือกทิกเกอร์ได้สักที (เนียนๆ ชง ฮ่าาาาาาาาาาาาาาา)
ตอนนี้แสดงภาวะเผด็จการ เอ้ย!! ภาวะผู้นำของพี่คิวได้ดีเลยค่ะ
ตกลงเป็นหลานหรือเป็นพ่อค่ะ
ถ้าให้พี่คิวลงมือจัดการล่ะก็ ท่านโหดเข้ม เด็ดขาดหมดทุกสิ่งอย่าง
(แต่คราวหนูเค้กเนี่ย กว่าพี่ท่านจะจัดการก็เล่นเอาแม่ยกจะเอาระเบิดไปปาบ้านแล้วนะคะ)
อยากรู้จัง เวลาอยู่กับน้องเค้กท่านพี่คิวจะเป็นยังไงบ้างนะคะ
และเช่นเดียวกับพี่เซ็น(รวมทั้งใครอีก....ทุกคน) ปาดหน้าเค้กไปหรือยังคะท่านขาาาาาาาาาาาาา :o8:
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่ตอนนี้ค่ะ :กอด1:
เฝ้ารอเรื่องราวตอนต่อไปว่าจะออกมาหัวหรือก้อย
คาดเดาไม่ถูกเลยจริงๆ ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ
-
พี่คิวเป็นห่วงพี่ฟ้าอ่ะดิ๊ แล้วมาทำเป็นว่าอาตัวเอง คึคึ
งานนี้ทิกเกอร์โดนพี่คิวเคือง!!
คนอ่านก็อยากรู้นะว่าพี่คิวปาดหน้าเค้กไปแล้วหรือยัง 55555
-
ทำไมเหตุการณ์มันเลวร้ายขึ้นยังนี้ อ๊ากกกกก :z3: :z3:
-
รู้สึกหน่วงๆแทนอาฟ้าาาาาา
ไปพักผ่อนแล้วกลับมาเป็นอาฟ้าที่สดใสเหมือนเดิมนะคะ
ปัญหสอะไรก็ปล่อยวางซะ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: ไม่มีอะไรน่าหนักใจไปมากกว่านี้แล้ว " หย่อนใจด้วยการเข้าบ่อน " ตัวอย่างที่ไม่ดีอย่างแรง ตอนนี้ร่วมด้วยช่วยกันปวดหัวเป็นเพื่อนกะพี่คิวแระ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ไปพักบ้างก้อดีคะ เผื่อจะไปเจอคนใหม่ที่พอดีกับฟ้าก้อได้นะคะ
-
o22อยากให้ฟ้าตัดสินใจเลือกทิกเกอร์แล้วอ่ะ 55 พูดถึงเค้กแล้วก็คิดถึง :3123: :3123: :3123:
-
นั่นปะไร จนได้สิน่าทิกเกอร์ คิวโกรธด้วยอ่ะ
ก็คิดอยู่นะว่ามันจะต้องมีเหตุให้ปะทะกันสักวัน
แต่พี่ฟ้ามาเจ็บตัวด้วยนี่สิ มันก็เลยเป็นเรื่อง
แล้วยังมามีกันที่ร้านที่พี่คิวแสนรักนี่อีกด้วย
ที่พี่ฟ้าหลบไปพักก็น่าจะดีนะ เพราะมันกำลังตึง
หากไม่หาทางผ่อนมันบ้าง ไม่นานก็คงขาด
เหมือนหนีปัญหาแต่อย่างน้อยก็ได้พักใจล่ะ
หวังว่ากลับมาพี่ฟ้าจะมีวิธีจัดการปัญหาที่ดีนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เฮ้อ
-
ไปๆมาๆ ไม่เลือกทั้งคู่ อาฟ้าอยู่คนเดียวเทียวเล่นคาสิโน สบายใจกว่า
-
อยากอ่านตอนพี่คิว+น้องเค้ก...............หวาน...ๆๆๆๆๆ....บ้างจะมีไหมเน้อ........
-
คึคึ ต่อกันเป็นผัก เป็นปลาในตลาดอ่ะ
-
คิวน้ารักอ่ะ
-
อาฟ้าไปพักผ่อนให้สบายใจเลยนะ
เพราะกลับมาก็อาจจะต้องเจอเรื่องเครียดอีก
แต่ท่าทางจักรจะตามไปถูกนะ เพราะเป็นห้องเสื้อที่แนะนำนิน่า
ลุ้นๆ ให้ปัญหาหมดไปเร็วๆ
-
แอบลุ้นว่าผู้ช่วยเชฟคนใหม่จะมีบทบาทอะไรมั้ย อิอิ
พี่คิวน่ารักอ่ะเป็นห่วงอาฟ้ามากเลยนะเนี่ย^^
-
เฮ้อออออ o13
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ส่วนหนึ่งเพราะอาฟ้าที่ให้โอกาสคนสองคนที่มีความหลังพร้อมๆกัน
มันยากจริงๆที่จะหลีกเลี่ยงความรุนแรง ไม่ว่ากับคนที่มีเหตุผลมากมายก็ตาม
-
ปวดหัวแทนอาฟ้าอะ คนหนึ่งก็เป็นรักแรก อีกคนก็รักสุดท้่าย สงสารทิ๊กเกอร์อะ
-
หลบไปสงบจิต สงบใจด้วยการใช้เงินดีกว่าใช่ไหมอาฟ้า
แต่ล่อทีหลายล้านเลยนี่สิ
สรุปใครเป็นอา ใครเป็นหลานกันแน่เนี่ย :laugh:
:กอด1:
-
คิวห่วงอาฟ้าน่ารักดีนะ
-
:L2: ชอบเค้ก คิว อาฟ้า ทิกเกอร์ และก็ชอบเรื่องนี้มว้ากกก อิอิ :o8:
-
สงสารฟ้า อยากให้คู่กับทิกเกอร์
-
ไม่ใช่พี่ฟ้ากับเซ็นที่อยากรู้เรื่องนี้
คนอ่านก็อยากรู้เหมือนกันนะคะ
-
เรื่องราวเริ่มเข้มข้นมากขึ้นทุกๆๆวัน อยากมีคนมาแย่งแบบฟ้าจัง คงสนุกดี และคงเก็บไว้ทั้งสองคน :laugh:
-
~17~
ผมเดินทางไปดูงานที่ห้องเสื้อที่ฮ่องกงเพียงแค่ครึ่งวันทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนที่ผมจะเดินทางไปพักผ่อนที่มาเก๊าต่อสองสามวัน หลังจากนั้นก็เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นต่อเลย ผมอยู่ท่องเที่ยวและนำเงินที่ได้กำไรจากการเสี่ยงดวงที่มาเก๊ามาช็อปปิ้งที่นี่ ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเยอะเท่าไหร่นัก มีเพียงแค่ชุดนอนสองชุดและเสื้อกับกางเกงอีกอย่างละสองตัวเท่านั้น ผมกะว่าจะมาซื้อเสื้อผ้าใหม่เอาที่ประเทศนั้นๆ เมื่อจบทริปที่ประเทศนั้นก็จะทิ้งเสื้อผ้าพวกนั้นไว้ที่นั่นเลยเพราะขี้เกียจขนนะครับ
ผมคาดการณ์ว่าอย่างไรก็ตามผมจะเล่นที่มาเก๊าให้ได้กำไรเป็นใบเบิกทางให้ได้ และก็ทำได้อย่างนั้นจริงๆ..ดวงผมกับการพนันคงจะเป็นของคู่กันมาตลอด จึงทำให้ผมมีเงินมาละลายเล่นที่ประเทศญี่ปุ่นต่อนี่ละครับ หลังจากที่วางแผนไว้คืออยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเพียงแค่สี่ห้าวันเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะเดินทางไปลาสเวกัสต่อและอยู่พักผ่อนที่นั่นอีกแค่เจ็ดวันผมก็จะเดินทางกลับประเทศไทย เป็นการท่องเที่ยวที่รวดเร็วประมาณว่ายังไม่ทันหายเจ็ตแล็กดีกลับต้องเดินทางต่ออีกแล้ว ผมแทบไม่ได้นอนแต่ผมกลับไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่ ผมออกเที่ยวนู่นเที่ยวนี่เกือบทั้งวันทั้งคืน พอแอลกอฮอล์เข้าเส้นเลือดอาการหลายๆอย่างก็หายเป็นปริทิ้ง แน่นอนว่าผมต้องกลับให้ตรงเวลาเพราะผมรับปากกับคิวไว้ว่าจะมาเพียงแค่สองอาทิตย์เท่านั้น
ก่อนมาที่นี่ผมได้สะสางงานที่ไทยทุกอย่างแล้ว และได้บอกน้องๆพนักงานที่ห้องเสื้อทุกคนว่าผมจะไม่อยู่สักสองสามอาทิตย์โดยประมาณ มีเหตุฉุกเฉินอะไรให้ติดต่อคิวอย่างเดียว นั่นหมายถึงว่าถ้ามีเรื่องจำเป็นอะไรคิวจะต้องรับผิดชอบและคิดตัดสินใจแทนผมให้หมดเสียทุกอย่าง เนื่องจากว่าผมไม่ได้นำโทรศัพท์มือถือมาด้วยและไม่คิดจะเปิดบริการโรมมิ่งเพราะผมไม่ต้องการรับโทรศัพท์จากใครหน้าไหน โดยเฉพาะกับจักรและทิกเกอร์ ผมอยากอยู่เงียบๆสักพักหนึ่ง มันคงเหมือนการหนีปัญหาเพื่อให้พ้นๆไปเสียที ผมไม่รู้ว่าผมจะอธิบายความรู้สึกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่หลังร้านในวันนั้นว่าอย่างไรดี จะบอกว่าผมกลัวคำพูดของจักรผมก็กลัว จะบอกว่าผมกลัวคำพูดของทิกเกอร์เองผมก็กลัว ผมกลัวว่าเขาทั้งสองจะงัดไม้เด็ดที่มีของแต่ละคนออกมาอย่างที่ผมไม่อยากรับฟัง เพียงแค่จักรบอกกับทิกเกอร์ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายคนแรกของผม ผมเองยังแทบไม่อยากจะให้ทิกเกอร์รับฟังเลยด้วยซ้ำ ผมไม่สามารถเด็ดขาดกับเรื่องนี้ได้เลย ทั้งทั้งที่ไม่อยากเสียเขาไปแต่กลับยังคงกลัว
ระหว่างที่ผมพักอยู่ที่โรงแรมที่ลาสเวกัส ผมโทรกลับไปหาคิวบ้างเพื่อสอบถามว่าที่ร้านของผมเป็นอย่างไร ทุกอย่างยังคงราบรื่นดี ผมคิดว่าพนักงานที่ห้องเสื้อคิวปิดคงไม่อยากเล่าปัญหาให้คิวฟังมากนักหรอกครับ พวกนั้นกลัวคิวเอามากๆ เมื่อไหร่ที่คิวไปที่ห้องเสื้อ คิวจะไม่เอ่ยปากพูดกับใครเลยถ้าไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องงาน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน ให้พนักงานเจอกับคิวบ้างจะได้ตั้งใจทำงานมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ข้อผิดพลาดก็คงจะน้อยลงอีกด้วย คิวเป็นคนดุ เจ้าระเบียบและเข้มงวดมากกว่าผมมาก บางทีให้ทำงานเครียดๆกับคิวบ้างก็คงจะดีเหมือนกันละมัง
= = = = = = = =
วันพุธ ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“นี่..อันนี้ของคิว” ผมหยิบตุ๊กตาหมีพูห์ใส่หูกระต่ายและตุ๊กตาหมีออกมาโยนให้คิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมกลับมาถึงประเทศไทยตั้งแต่เช้าแล้ว กลับมาถึงบ้านก็นอนหลับพักผ่อนเพิ่งจะมีแรงลุกขึ้นมาก็ช่วงบ่ายโมงนี่ละ
“....................” คิวมองตุ๊กตาหมีพูห์ในมือของตนเองอย่างเงียบๆ เป็นที่ทราบดีสำหรับผมว่าหลานของผมชอบดูการ์ตูน ชอบสะสมตุ๊กตา ชอบอ่านหนังสือวรรณกรรมเอามากๆ และการที่คุณจะซื้อของฝากให้คนอย่างคิวและไม่ถูกมันต่อว่านั้น มีของเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่คิวจะไม่ต่อว่าเลยว่า..ราคาถูก กระจอกหรือไร้คุณค่า นั่นก็คือตุ๊กตา
คิวเป็นคนชอบของมีราคาและมีคุณภาพมากมาแต่ไหนแต่ไร แต่นั่นแหละครับ..มันคงจะมีปัญญาหาซื้อเองได้ ดังนั้นตุ๊กตานี่แหละที่เป็นเพียงอย่างเดียวที่คิวรู้สึกว่า ถึงแม้ว่าตุ๊กตานั้นจะราคาถูกมากแต่ขอให้เป็นตุ๊กตาก็เท่านั้นพอ ตุ๊กตาอะไรก็ได้ จะซื้อมาซ้ำกับที่คิวมีอยู่แล้วก็ได้ คิวจะไม่เคยเอ่ยปากต่อว่าเลยสักคำ ผมไม่รู้ว่าหลานผมบ้าคลั่งของอย่างนี้หรือเปล่า เพราะคิวไม่เคยแสดงสีหน้าว่า “ชอบจัง” อย่างกับเด็กๆ และไม่เคยนำตุ๊กตาเก็บไว้ในห้องนอนของตนให้เกะกะหรือไม่เคยกอดมันอย่างรักใคร่เหมือนชาวบ้าน แต่ถ้าเมื่อเขาเจอตุ๊กตาที่ถูกใจ เขาจะหยิบเลือกตุ๊กตาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์และนำไปจ่ายเงินเสมอ ไม่มีสีหน้าแสดงอารมณ์ว่าอยากได้เลยประมาณนั้น แต่คิวคงจะชอบมากเพราะตอนนี้ห้องนอนที่เป็นห้องนอนสำหรับรับรองแขก ที่ส่วนมากเชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์จะมานอนพัก ตอนนี้ในห้องนั้นเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่คิวซื้อมาทั้งห้องจนแทบจะทะลักอยู่รอมร่อแล้ว
“แล้วก็นี่..โมเดลสเมิร์ฟครบเซต!” ผมยิ้มกว้างและหยิบกล่องออกมาสองกล่อง ตั้งแต่ผมเห็นโมเดลนี่ครั้งแรกมันสะดุดตาผมมากแต่ราคาก็ค่อนข้างแพงมากทีเดียว ทั้งสองกล่องเป็นแบบเดียวกัน สำหรับเค้กหนึ่งกล่องและสำหรับคิวหนึ่งกล่อง ที่เลือกแบบเดียวกันเพราะเค้กจะได้ไม่ต้องโดนคิวแย่งนะครับ
“.....................” คิวยังคงนิ่งเงียบและหยิบกล่องไปเปิดดู
“อย่าลืมเอาตุ๊กตากับโมเดลไปให้น้องด้วยล่ะ ช็อกโกแลตนี่ก็ด้วย..กำชับน้องด้วยนะว่าอย่าบอกใครว่าอาซื้อมาฝาก” ผมบอก เพราะผมไม่ได้ซื้อของมาฝากใครในร้านอีก เด็กพวกนั้นเดินทางไปต่างประเทศบ่อยอย่างกับไปต่างจังหวัด แถมพ่อแม่ยังมีเงินให้ช็อปปิ้งอย่างสบายมืออีกด้วย ที่จริงการซื้อของฝากมันก็เหมือนซื้อใจลูกน้อง แต่ถ้าซื้อให้หนึ่งคนก็ต้องซื้อให้ทุกคนอย่างเสมอภาค และผมเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมากขนาดนี้คงไม่ดีแน่ถ้าจะต้องซื้อมาฝากทุกครั้ง
“อืม” คิวพยักหน้าตอบ
“เฮ้อ..เหนื่อยจัง” ผมเอนตัวลงนอนบนโซฟา
“บ่นทำไมน่ะ เลือกไปเองนะ” อีกฝ่ายอ้าปากพูดทันทีทั้งทั้งที่ก็นั่งเงียบมานานมาก
“แล้วเสียไปเท่าไหร่” คิวถามเสียงเรียบ
“ไม่ ก็..ได้นิดหน่อย แล้วก็เอาไปเล่นต่อ” ผมตอบ
“ก็ดี” คิวพยักหน้าส่งๆ
“แล้วงานที่ห้างเป็นไงบ้าง” ผมถามถึง คิวเริ่มทำงานที่ห้างในเครือบริษัท MPower Group ได้หลายวันแล้ว อยู่ในตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของสาขาในประเทศไทย และหนึ่งในผู้บริหารของห้างนี้ด้วย ตอนนี้คิวเลยมีงานถึงสามที่เลยทีเดียว ทั้งงานที่โรงแรมSBT งานที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์และงานที่ MPower Group อีกด้วย อาจจะมีเปลี่ยนตำแหน่งงานบ้างก็เท่านั้น ผมไม่รู้จะพูดปลอบหลานผมอย่างไรดี เพราะมันเป็นงานที่หนักเอามากๆ..หนักมากเอาการเลยล่ะ
“ก็ดี” คิวตอบอย่างขอไปที
“ไม่มีปัญหาอะไรกับพ่อใช่ไหม” ผมถามอีก คิวเพียงแค่ส่ายหัวตอบ
“มีอะไรก็บอกอาล่ะ” ผมบอก
“เอาเรื่องของตัวเองให้รอดก่อนเถอะ กลับมาแล้วก็ช่วยสะสางอะไรๆให้เรียบร้อยด้วย” มันว่าในทันที ผมพลิกตัวหนีหันหลังให้กับคิว
“เดี๋ยวผมจะไปดูงานที่โรงแรม ต้องมีเขียนแผนงานให้เชฟที่นั่น..ผมจะนอนที่โรงแรมเลย เพราะพรุ่งนี้เช้าผมต้องเข้าบริษัทแต่เช้า คุณก็ไม่ต้องรอนะ” คิวพูด ผมหันหน้ากลับไปมองอย่างอาลัยอาวรณ์
“ไม่เอาอ่ะ..ทำไมเราดูห่างเหินกันจัง” ผมโวยวายทันทีเมื่อได้ยินว่าคิวจะต้องไปนอนที่อื่น คิวทำหน้าเบื่อหน่ายใส่แทนคำพูดประมาณว่า “ปัญญาอ่อน”
“ไปแล้ว” คิวพูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจอย่างนึกเหนื่อยแทนคิว ผมยอมรับว่าหลานผมเป็นคนที่เก่งมาก แต่จะมีสักกี่คนละครับที่จะได้ขึ้นแท่นเป็นผู้บริหารใหญ่ของห้างดังแบบนี้ด้วยวุฒิการศึกษาจบเพียงแค่ปริญญาตรีเท่านั้น คิวคงจะต้องเจอขี้ปากคนอีกมากมายเพราะคงจะมีคนในวงการที่ไม่ยอมรับเขาเพียงเพราะเขาเป็นเด็กอายุย่างเข้ายี่สิบหกที่แลดูอวดดี เขาจะต้องรับรู้ขี้ปากของคนทั้งหมดเพราะความสุขที่พี่ชายของผมต้องการ เราก็คงต้องยอมรับว่าที่คิวทำตำแหน่งใหญ่ๆได้ก็เพราะเส้นจากพ่อของตน แต่ใครหน้าไหนจะรู้ล่ะว่าหลานของผมเก่งแค่ไหน พวกเขาก็คงพูดนินทาว่าร้ายไปตามประสา
ตอนที่พี่ตันส่งให้คิวไปเรียนไฮสคูลที่ประเทศออสเตรเลียในโรงเรียนเดียวกับที่ผมเคยเรียน คุณครูหลายๆท่านที่นั่นฮือฮามากทีเดียวเมื่อตรวจสอบประวัติและพบว่าคิวเป็นคนในตระกูลของสิทธิบดีทรัพย์ มันไม่ใช่แค่เรื่องเงินที่ทางเราไม่มีปัญหา แต่ทางโรงเรียนยินดีตอบรับให้คิวเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนที่นั่นในทันทีทันใด เมื่อตอนที่ผมไปเยี่ยมคิวที่โรงเรียนที่นั่น ผมภูมิใจในตัวของหลานของผมมาก เขาทำชื่อเสียงในหลายๆด้านและเป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆอย่างที่ผมเคยเป็น ผมรู้สึกมั่นใจในทันทีว่าคิวจะเติบโตเป็นเด็กที่ดีได้เพราะเขาก้าวเดินแต่ละก้าวโดยการเรียนรู้จากตัวของเขาเองอย่างปราศจากคำพูดพร่ำสอนจากพ่อแม่ว่าเขาจะต้องเป็นคนดี
เมื่อตอนที่เราพากันย้ายไปอยู่ที่ประเทศอิตาลีหลังจากที่เกิดเรื่องราวมากมายที่ประเทศไทย คิวถูกพี่ตันบังคับให้เรียนในวิชาที่ตนเองนั้นไม่อยากเรียน เขาต้องยอมแต่โดยดีนั่นเพราะคิวอยากไปอยู่กับผม ตอนนั้นผมเคยถามคิวอยู่หลายครั้งว่า..เขาแน่ใจแล้วหรือที่จะทำแบบนี้เพื่อผม ผมได้คำตอบอย่างเด็ดขาดเพียง “อย่าถามซ้ำซากได้ไหม..ผมเกลียดการพูดซ้ำ” ในตอนนั้นผมค่อนข้างอึ้งนิดหน่อยที่คำพูดของหลานตัวดีของผมนั้นเริ่มแข็งกร้าวมากขึ้นกว่าเก่า แต่ก็ทำให้ผมอดหัวเราะไม่ได้เพราะทำให้ผมคิดในแง่ดีว่าเขานั้นโตขึ้นมากแล้ว ตอนที่คิวเรียนอยู่ที่ประเทศอิตาลี ผมเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้คิวเรียนทางด้านเชฟ ถึงแม้ว่าคิวจะสอบได้ทุนทางสาขานี้ก็ตามแต่มันก็มีรายจ่ายอื่นๆที่ค่อนข้างสูงมาก คิวไม่เคยปริปากบ่นว่าเหนื่อยเลยถึงแม้ว่าเขาจะเรียนปริญญาตรีสองใบในเวลาเดียวกัน พี่ตันรู้เรื่องนี้ดีแต่พี่ตันก็ไม่ได้พูดว่าอะไรลูกตัวเองเพราะไม่มีข้อเสียอะไรจะให้กล่าวว่าได้เนื่องจากคะแนนของคิวดีมากเกินไป ดีจนกระทั่งชาวต่างชาติเองก็ต้องเอ่ยปากชม ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คนบางคนที่มองเราแต่ภายนอกก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าที่จริงแล้วเราต้องต่อสู้กับอะไรมากมายแค่ไหนเพื่อให้เรามีชีวิตในแบบของเรา..
= = = = = = = =
ณ ร้าน M & F..
“ฟ้าหายไปแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ..” จักรพูดขึ้นหลังจากที่เราสั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้จักรโทรมาหาผมตั้งแต่เช้าและขอให้ผมมาทานอาหารกลางวันด้วยกัน ผมรับปากแต่โดยดีด้วยรู้สึกว่าทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว ตั้งแต่ผมกลับมา ผมยังไม่ได้โทรศัพท์จากทิกเกอร์เลยแม้แต่สายเดียว มีข้อความว่าทิกเกอร์โทรหาผมกี่สายระหว่างที่ผมไปต่างประเทศบ้าง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอีก
“จักรติดต่อใครไม่ได้เลยฟ้าก็รู้ นอกจากกิ๊บคนเดียว” จักรพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ ผมอมยิ้มมองหน้าเขาที่ค่อนข้างเครียด
“ทำไม คิดถึงเหรอ” ผมแกล้งแหย่
“ที่สุด” อีกฝ่ายยิ้มตอบนิดหน่อย ทำให้ผมต้องหันหน้าหลบอย่างขอไปที
“ไปที่ไหนมาบ้าง” จักรถาม
“ก็..เรื่อยๆ ไม่อยากรับรู้อะไร เบื่อหมามันชอบกัดกัน” ผมว่าทำให้ได้ยินเสียงจักรหลุดหัวเราะอย่างชอบใจ
“ก็หมามันหวงเจ้าของของมันนี่” จักรย้อน ผมนิ่งเงียบกำลังคิดตีความหมายของคำพูดของจักร เพราะมันตีความหมายได้หลายแบบเลยละ
“แล้ว..พรุ่งนี้จักรไปรับฟ้าไปดินเนอร์ได้ไหมครับ” จักรถามขึ้นหลังจากที่เราเงียบไปสักพักหนึ่ง
“ทำไม ว่างนักรึไง..ไม่ต้องรับเด็กไปเข้าโรงแรมเหรอ” ผมถามแกมกัดก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ จักรชะงักไปเล็กน้อยแล้วเขาก็ยิ้มหลังจากนั้น
“ไม่ต้องแล้ว ช่วงนี้งดทานชั่วขณะ” จักรต่อปากต่อคำ แต่ก่อนที่เราคบกัน จักรก็มักจะต่อปากต่อคำผมอย่างนี้ละครับ เพราะเขารู้ดีว่าผมต้องการแกล้งแหย่ด้วยเพราะคันปากและอยากให้อีกฝ่ายนั้นเอาใจ แต่จักรก็จะหยอกกลับประมาณนี้ตลอด หลายครั้งที่ผมมักจะหายงอนเพราะความทะลึ่งเจ้าเล่ห์ของจักรนี่ล่ะ
“จักรรู้อะไรไหม บางทีมันก็ปิดไม่มิดอย่างที่คิวว่า..คืนก่อนจักรไปไหนมาล่ะ กับใคร” ผมแกล้งพูดปั้นเรื่องขึ้นเองเพราะต้องการที่จะดูท่าทีของอีกฝ่าย
“คืนก่อน กับใคร..” จักรบ่นพึมพำ เริ่มมีสีหน้าวิตกให้เห็น
“เอ่อ เปล่านะ..จักรประชุมถึงดึกเลยนี่ จะไปกับใครได้ไงครับ” จักรรีบพูดใหญ่ ผมกลั้นอมยิ้มไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้
“อ๋อใช่ ไปส่งเลขาที่บ้าน..แต่เลขาผมมีลูกมีสามีแล้วนะ” จักรว่า
“โห..เดี๋ยวนี้มีชู้กับผู้หญิงที่มีสามีแล้วด้วยงั้นเหรอ” ผมยังเล่นไม่เลิก
“ฟ้าครับ” จักรทำเสียงยานคางในทันที ผมหลุดยิ้ม
“แกล้งกันอยู่ได้ จักรไม่ได้ไปไหนกับใครทั้งนั้นแหละ..ไม่เหมือนฟ้าหรอก เอาเด็กที่ไหนไม่รู้เข้าโรงแรมเป็นว่าเล่น” จักรว่ากลับ
“นี่..” ผมปราม
“จักรไปเช็คประวัติที่โรงแรมเพื่อนจักรมาแล้ว ชื่อฟ้าน่ะ..เรียงเป็นแถวเลย” จักรพูดว่าด้วยสีหน้าไม่พอใจจนผมอดรู้สึกดีใจไม่ได้
“อย่างว่าแหละนะ ของอย่างนี้มันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ” ผมพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา ยิ่งทำให้จักรนั้นถอนหายใจเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิม
“แล้วตกลง ได้ไหมครับ” จักรถามอีกครั้ง
“อืม” ผมพยักหน้าตอบ จักรไม่ถามอะไรอีกจนอาหารนำมาเสิร์ฟเรื่อยๆ จักรเริ่มจัดการบริการผมทุกอย่าง เราคุยกันได้คล่องปากและไม่มีอะไรมาติดขัดมากขึ้น เรียกได้ว่าผมรู้สึกว่าผมปล่อยตัวตามสบายมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา คงเพราะหลายครั้งที่เราได้พบเจอกัน มันก็คงไม่มีท่าทีว่าจะต้องวางฟอร์มเล่นแง่กับอีกฝ่ายให้มากความอีก
= = = = = = = =
วันอาทิตย์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“พี่ฟ้าฮะ..สเปเชี่ยล วอร์ม คอฟฟี่ได้แล้วค้าบ” เค้กเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับถาดเสิร์ฟ ผมเงยหน้ายิ้มให้ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ทุกคนจะต้องมาทำงาน ยกเว้นผู้ช่วยเชฟ เพราะวันนี้เป็นเวรงานของคิวและเซ็นที่จะต้องทำหน้าที่เชฟร่วมกัน
“ร่าเริงจังเลยนะ” ผมแซว เค้กยิ้มกว้างก่อนจะหยิบแก้วกาแฟเสิร์ฟให้ผม
“แล้วก็ ชูโรสครับ..ทานรองท้องก่อนนะครับ เห็นพี่คิวบอกว่าพี่ฟ้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้ามาเลย” เค้กพูดพร่ำอย่างร่าเริง ถ้าผมร่าเริงได้ครึ่งหนึ่งของเค้กก็คงจะดีมาก ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหัวใจอีกครึ่งเสี้ยวของผมนั้นไม่กระชุ่มกระชวยเอาเสียเลย
“ขอบคุณมากครับ” ผมบอก
“ยินดีคร้าบผม..ไปละฮะ” เค้กโค้งตัวให้อย่างทีเล่นทีจริงก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“หึ..ยินดีครับผมงั้นเหรอ” ผมเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะบ่นพึมพำคนเดียว นึกไปนึกมาก็อยากเป็นเด็กวัยรุ่นอย่างเค้กบ้าง ครอบครัวรักใคร่กันดี ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้อะไรมากมาย มีเพื่อนที่รักและจริงใจ แต่คิดไปคิดมาผมคงไม่อยากเป็นเค้กสักเท่าไหร่ เพราะผมไม่อยากมีแฟนเป็นไอ้คิวน่ะครับ..นึกแล้วก็ สยองชะมัด (-O-)
แกรก~
ผมสะดุ้งหลุดจากภวังค์ในทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู คิวเดินชักเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่
“อา..ว่างไหม” คิวถามแต่ไม่ได้หันมามองหน้าผม คิ้วของคิวเริ่มขมวดเข้าหากัน ผมเริ่มได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในทันที
“เฮ้ย ไอ้คิว” เซ็นโผล่หน้าเข้ามาอีกคน
“อะไร” คิวถามกลับเสียงห้วนแทบจะกินหัวเพื่อนรักของตนอยู่แล้ว
“มึงช่วยรับโทรศัพท์พ่อมึงด้วย ตกลงพ่อมึงหรือพ่อกูเนี่ย โทรหากูอยู่ได้” เซ็นกัดฟันพูดบ่นก่อนจะปิดประตูหนีไป
“เพราะเป็นพ่อกูไง กูถึงไม่อยากรับน่ะ” คิวพูดตอบเสียงยานคาง
“หึหึ” ผมหัวเราะสีหน้าของคิวทำให้อีกฝ่ายหันกลับมามองตาขวาง คิวจิปากเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิดก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะทำงานของตัวเอง
“มีอะไร” ผมถาม
“เออ อาไม่ต้องแล้วก็ได้..เดี๋ยวคิวให้คุณทิพย์มาเอาเอกสารที่นี่นะ แล้วอาก็เอาให้เค้าด้วย พ่ออะไรก็ไม่รู้..อยู่ดีๆก็จะขอดูแผนห้องอาหารใหม่” มันพูดไปบ่นไป มือเปิดแฟ้มทำงานก่อนจะขีดๆเขียนๆลงด้วยอารมณ์ครุกรุ่นเต็มขั้น
“หึ..เซ็นแรงซะขนาดนั้น ระวังกระดาษขาดนะ” ผมอมยิ้มแต่คิวก็ยังไม่หยุดเขียนแรงๆอย่างนั้นอยู่อีก
“อาเอาไปให้ก็ได้นะ” ผมบอก
“ไม่ต้อง ให้คุณทิพย์ไปคุยกับพ่อที่บ้านนั่นแหละ..ที่จริงตัวเองเดินทางมาเอาเองที่นี่ก็มาได้ แต่ไม่มา..คิดว่าคนอื่นว่างนักรึไง ตาแก่นั่น” คิวกัดฟันบ่นเหมือนกับแค้นก็ไม่ปาน
“พ่อจะให้แกโผล่หัวไปที่บ้านน่ะสิ” ผมพูดอย่างรู้ทันพี่ตัน คิวชะงัก หลังๆมานี่พี่ตันค่อนข้างอ่อนกับคิวมากขึ้นจนผมรู้สึกได้
“ไม่ใช่สักหน่อย” อีกฝ่ายเถียงทันที ผมได้แต่อมยิ้ม
“พรุ่งนี้แม่จะมาทานอาหารที่นี่ อาจะมาร้านรึเปล่า” คิวเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม
“มาก็ได้” ผมพยักหน้าตอบ คิวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะปิดแฟ้มลง
“ห้าแฟ้มนี้นะ” คิวหยิบแฟ้มทั้งหมดเดินนำมาวางไว้บนโต๊ะทำงานของผม
“อืม” ผมพยักหน้าก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับมานั่งเหม่อลอยอีกครั้ง คิวกำลังเดินออกจากห้องไปแต่อยู่ๆมันก็หันหน้ากลับมามองหน้าผม
“ปวดขี้เหรอ” มันถามหน้ากวน ผมเหล่ตามองอย่างไม่พอใจ
“หน้าอาเหมือนคนปวดขี้น่ะ” มันว่า
“หน้าแกนั่นแหละเหมือนคนปวดขี้ตลอดเวลา” ผมย้อนทันที มันกล้าว่าคนอื่นไม่ได้ดูสภาพหนังหน้าตัวเองในตอนนี้เอาเสียเลย
“ถ้าเป็นเรื่องทิกเกอร์ละก็นะ ผมยังไม่ได้บอกคุณเหรอ” คิวพูด หัวใจผมเต้นแรงในทันทีที่คิวพูดชื่อนี้ขึ้นมา ใช่แล้ว ตั้งแต่กลับมาไทยได้สามสี่วันนี้ ทิกเกอร์ยังไม่ได้โทรหาผมเลยแม้สักสายเดียว และผมก็ไม่คิดจะถามคิวด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น
“เค้ากลับอังกฤษไปแล้ว” คิวพูด ผมชะงักมองหน้าคิวอย่างตกใจ
“.....................” เราต่างฝ่ายต่างเงียบ เพราะผมไม่รู้ว่าคิวเพียงแค่แกล้งผมเล่นรึเปล่า หรือที่จริงมันกำลังสร้างสถานการณ์หลอกผมก็เป็นได้
“ลูกป่วยน่ะ ชื่ออะไรนะ..เอิ่ม แทนโน่ เห็นว่าป่วยหนักด้วย เข้าโรงบาล”
“เค้าเลยต้องรีบกลับไป..กลับไปก่อนหน้าที่คุณจะกลับมาไม่กี่วัน” คิวบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เหรอ” ผมพยักหน้ารับรู้อย่างเก็บอาการไว้ ก่อนจะเหลือบตาหนีสายตาของคิว
“หรืออาจจะไม่กลับมาก็ได้ใครจะรู้” คิวพูดส่งๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมนั่งนิ่งไม่สามรถรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวเองอยู่นาน เรียกได้ว่านานมาก ผมคิดว่าคิวไม่น่าจะโกหกผม แต่สมองผมกลับรู้สึกเบลอและท้องไส้เริ่มปั่นป่วน หน้าเริ่มชาด้วยรู้สึกถึงความสูญเสีย บางทีเหมือนกับว่าผมนั้นไม่สำคัญเพราะเรื่องบางเรื่องผมกลับไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ถ้าเขาไปแล้วไม่กลับมาอย่างที่คิวว่ามันก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้..ผมรู้สึกได้อย่างนั้น รู้สึกเหมือนกับว่าบางทีผมยังสำคัญสำหรับเขาไม่พอหรือเปล่า ความระแวงสงสัยที่เริ่มก่อตัวขึ้นนี้ที่ผมเกลียดนักหนา ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับทิกเกอร์มาก่อนเลยนอกจากที่เคยได้รู้สึกกับจักรตอนที่เขาเริ่มนอกใจผม ครั้งนี้สำหรับทิกเกอร์เป็นครั้งแรก นั่นคงเพราะว่าทิกเกอร์ไม่ใช่ทิกเกอร์อย่างที่ผมเคยได้รู้จัก มันเปลี่ยนไปแล้วที่ผมจะเข้าข้างว่าเขานั้นเฟอร์เฟคอย่างที่คนภายนอกมอง และแน่นอน..ว่าถ้าทิกเกอร์เลือกที่จะไปโดยไม่กลับมา ผมก็จะไม่ตามให้เขากลับมาหรอกครับ
= = = = = = = =
-
ณ คอนโดจักร..
“ถ้ารู้ว่าต้องมาดินเนอร์ที่คอนโดอย่างนี้ไม่มาหรอกนะ เสี่ยงไปหน่อยแฮะ” ผมแกล้งพูดแซวไปอย่างนั้น ผมกับจักรเรามาทานข้าวด้วยกันบ่อยมากขึ้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่คอนโดของเขา
“ชีวิตต้องเสี่ยงสิครับถึงจะดี” จักรพูดปนหัวเราะก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออก เขาเตรียมอาหารไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว จักรเป็นคนชอบทำอาหาร เวลาที่ผมคบอยู่กับเขา จักรมักจะทำอาหารให้ผมทานเสมอ ส่วนมากก็จะเป็นอาหารที่สามารถทำได้ง่ายๆละครับ
“ฟ้า..อย่าซนน่า” จักรปรามเมื่อเห็นว่าผมเดินสำรวจไปทั่วห้องของจักรพร้อมกับเปิดนู่นเปิดนี่ดูอย่างกับเป็นห้องของตัวเอง ผมไม่สนใจ เดินไปที่ชั้นวางของใกล้โซฟาและเปิดมันดูทุกชั้น
“ฟ้าครับ” จักรเรียกอยู่ตรงโต๊ะทานอาหาร ผมหันกลับไปแลบลิ้นให้และหันกลับมาค้นของต่อ
“นี่อะไรอ่ะจักร” ผมหยิบถุงยางออกมาจากลิ้นชักและชูมันขึ้นเหนือหัวหน้าตาย
“ให้ตาย หึ..ฟ้าก็จะไม่เห็นมันหรอกนะถ้าฟ้าไม่ค้นมันน่ะ” จักรบ่นพร้อมกับเดินเข้ามาหาผมก่อนจะคว้าเอาถุงยางกลับไปใส่ลิ้นชักอย่างเดิม
“หรือว่าอยากให้จักรใช้ดีล่ะ” จักรยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ผมเอาข้อศอกกระทุ้งเข้าที่ท้องจักรเบาๆก่อนจะลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สึกรู้สาเพื่อค้นของต่อ
“ไปนั่งที่โต๊ะได้แล้วครับ” จักรพูดพร้อมกับเดินตามหลังมาด้วย ผมยักไหล่ให้ก่อนจะเปิดประตูห้องนอนเดินเข้าไปอย่างถือวิสาสะ
“ฟ้า” จักรเริ่มทำเสียงเข้มขึ้นเรื่อยๆ ผมเดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานของจักรไม่หยุด จักรเริ่มปรามเสียงเข้มมากขึ้นกว่าเก่าแต่ผมก็ไม่ฟัง
“....................” ผมชะงักในทันทีเมื่อเห็นของที่อยู่ในลิ้นชัก จักรเองก็เงียบไปด้วย รูปของผมกับจักรที่ถ่ายด้วยกันสมัยเรียนวางอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานหลายรูป อัลบั้มภาพที่ผมเคยทำให้จักรในวันครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันก็วางอยู่ในนั้นเช่นกัน
“เก็บไว้ทำไมน่ะ ทิ้งๆไปเหอะ” ผมพูดส่งๆและปิดลิ้นชักลง จักรไม่พูดตอบอะไร ในห้องเงียบมากจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก
“โอ๊ะ นี่อะไรอ่ะ..เบอร์เด็กเหรอ” ผมแซวทันทีเมื่อพบกับกระดาษจดใบหนึ่งที่มีเบอร์โทรศัพท์เรียงเป็นแถวยาว
“ฟ้า..ฮื้ม มานี่เลย” จักรเหลืออดเข้ามากอดเอวผมและออกแรงลากผมออกมา
“หนีความจริงเหรอ..หึ” ผมหันตัวกลับไปเบะปากให้ จักรกลอกสายตาไปอีกทาง เราต่างฝ่ายต่างยืนนิ่ง จักรยังคงไม่ยอมปล่อยแขนออกจากเอวของผม ผมยืนนิ่งอย่างหยั่งเชิงอีกฝ่าย จักรจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้หน้าผมอย่างช้าๆ ผมหลบตาเขาและได้แต่อยู่เฉยจนจมูกของจักรชนเข้ากับจมูกของผม
“เอ๊ะ!” ผมนำมือขึ้นมาคั่นระหว่างปากของเราในทันที จักรชะงัก ผมเล่นหูเล่นตาให้จักรจนอีกฝ่ายหัวเราะเสียงเบา
“ใครอนุญาตไม่ทราบ” ผมพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ จักรเอนตัวกลับไปอย่างเดิม ผมนำมือลง
“หลงตัวเองว่ะ จักรยังไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย” จักรพูดพร้อมกับปล่อยแขนออกจากเอวผม และทำท่ากวนตอบผมด้วย ผมยิ้มให้ก่อนจะเดินนำออกมาจากห้อง ผมเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร จักรเดินมาพร้อมกับรินน้ำให้อีกด้วย
“หน้าฟ้าจะเป็นพาสต้าอยู่แล้ว เบื่อพาสต้าชะมัด..ไม่อยากกินเลยอ่ะ” ผมบ่นด้วยรู้สึกเบื่อจริงๆ
“อ่าว ไหงงั้นล่ะครับ..จักรทำแล้วนะ ต้องกินสิ” จักรหน้าเสีย ผมหันหน้าหนี
“ก็ตอนจักรถามว่าอยากกินอะไร ฟ้าบอกเองว่าอะไรก็ได้นี่ครับ” จักรพูด หน้าเริ่มเครียด
“ก็ฟ้าเบื่อ” ผมย้ำบอก
“แต่จักรไม่เบื่อ..กินเลย จักรทำตั้งแต่ห้าโมงครึ่งเลยนะ ทำตั้งหลายอย่างเนี้ย” จักรชี้ไปที่อาหารอย่างอื่นบนโต๊ะ ผมเบะปากแต่ก็หยิบช้อนส้อมขึ้นเตรียม
“ฟ้า จะทำหน้างอทำไมครับ..จักรไม่ผิดสักหน่อย ฟ้านั่นแหละ เอาแต่ใจ” จักรว่า
“จักร..ว่าฟ้าเหรอ” ผมขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ
“ใช่ครับ” จักรเล่นหน้าเล่นตากวนตอบทันที ผมกัดฟันและกำลังนึกว่าจะทำยังไงตอบโต้กลับไปดี
“หึ..กินได้แล้วครับ เดี๋ยวเย็นแล้วมันจะไม่อร่อยนะ” จักรยิ้ม ก่อนจะหยิบส้อมจากมือผมไปพันเส้นพาสต้าให้และนำมาจ่ออยู่ที่ปากของผม ผมนั่งนิ่งทำหน้ามึนใส่
“อ้าปาก” อีกฝ่ายสั่งเสียงเข้ม
“ไม่” ผมตอบกลับ
“อ้าปาก”
“ม่าย”
“หึ ฟ้า..อย่ามาทะเล้นนะ” จักรว่าพร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ ผมหันหน้าหนี ต่างฝ่ายต่างขำการกระทำของกันและกัน จักรพยายามเข้ามาบีบแก้มผมเพื่อบังคับให้ผมอ้าปากออก
“จุ๊บ~” ผมตกใจเมื่ออยู่ๆจักรก็ก้มลงมาจูบปากผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
เพี้ย !!
“โอ้ย” จักรร้องตัวเซไปเมื่อโดนผมตบเข้าให้อย่างแรง ผมยิ้มยักคิ้วให้อีกฝ่ายที่ยืนจับแก้มตัวเองด้วยสีหน้าเหยเก
“อยากมาลามปามทำไมล่ะ” ผมว่า
“ก็ฟ้าไม่อ้าปากทำไมล่ะ” จักรย้อนหน้างอ
“ตกลงจะกินไม่กิน ให้มันรู้ซะบ้างนะว่าตัวเองอยู่ในเขตแดนของใคร” จักรว่าอย่างมีชัย ผมเชิดหน้าไปอีกทาง
“กลัวตายล่ะ”
“แต่กินก็ได้ แต่ไมได้กลัวหรอกนะ” ผมพูดส่งๆ จักรหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะยื่นส้อมมาใกล้ผมอีกครั้ง ผมเอื้อมมือจะไปจับส้อมมาทานเองแต่จักรกลับนำส้อมหนีเหมือนต้องการจะป้อนผมอีก
“ป้อน” อีกฝ่ายพูดเสียงแข็งยืนยันการกระทำของตนเอง ผมหลบตาเพราะรู้สึกเขินเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมอ้าปากให้จักรป้อนแต่โดยดี
“นี่ครับ ถ้าเบื่อแล้วก็ทานอย่างอื่นไปแล้วกันนะ” จักรตักสลัดมาวางไว้บนจานเปล่าของผม น้ำเสียงของจักรไม่ได้พูดอย่างโกรธหรืองอนอะไร เป็นน้ำเสียงที่เรียบอย่างนุ่มนวล ผมพยักหน้าและกินพาสต้าต่อแต่ก็กินไม่ได้มากเพราะผมรู้สึกว่าเย็นนี้ไม่ค่อยหิวเอาซะเลย หลังจากที่ผมกินเสร็จเรียบร้อย จักรจัดการนำจานชามไปเก็บ ส่วนผมได้แต่ทำตัวเป็นคุณชาย เดินค้นนู่นค้นนี่ในห้องจักรอย่างนึกสนุก หลังจากที่จักรจัดการอะไรๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็นำไวน์มาเสิร์ฟให้ผมที่นั่งอยู่ที่ระเบียงตรงห้องรับแขก
“ขอบคุณ” ผมบอกก่อนจะหยิบไวน์ขึ้นจิบ
“คาเบอเนย์ โซวียอน” ผมหมุนขวดไวน์ดู จักรนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับผม
“อืม มีอีกขวดน่ะ..จะเอากลับไปก็ได้นะครับ” จักรบอก
“ก็ดีนะ” ผมนึกสนุก ถึงแม้ว่าไวน์ชนิดนี้คิวจะมีแล้ว แต่ผมคิดว่าหลานผมคงอยากได้อีกสักขวด
“จะเอาไปเอาใจหลานชายรึไง” จักรพูดอย่างรู้ทัน
“อืม..ประมาณนึง” ผมตอบยิ้มๆ
“แล้ว ขานั้นเค้าชอบรสไหนล่ะ” จักรถาม
“พีโนนัวร์” ผมตอบ
“หึ..คอผู้ดีว่างั้น” จักรแซว ผมได้แต่ขำตาม สิ้นเสียงหัวเราะเราต่างเงียบลง จักรจิบไวน์เป็นพักๆ ลมด้านนอกแรงและเย็นมาก มองจากมุมนี้ทำให้เห็นกรุงเทพเมืองแห่งสีสันได้ทั่ว ผมคิดว่าแสงสีที่ว่าคงเป็นแสงจากรถยนต์กับผับบาร์เสียส่วนมาก แม้ตอนนี้จะปาไปเกือบสามทุ่มแล้ว แต่รถยังคงติดเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา
“ค้างที่นี่ไหม” จักรถามขึ้นโต้งๆทั้งทั้งที่ไม่ได้หันกลับมามองหน้าผม
“อย่ามาทะลึ่ง” ผมว่าเสียงเข้ม รู้ดีว่าจักรเพียงแค่พูดเปลี่ยนบรรยากาศก็เท่านั้น
“หึหึ” จักรหัวเราะก่อนจะหันกลับมามองผม
“....................” ผมเงียบ เอนตัวพิงพนักเก้าอี้และยืดขาออกไปที่เก้าอี้วางเท้าด้านหน้า
“เป็นอะไรรึเปล่า” จักรถาม ผมไม่ได้หันหน้ากลับไปมองหน้าเขา
“จักรเห็นฟ้าซึมๆมาหลายวันแล้วนะ..”
“เปล่านิ” ผมตอบ ในใจกลับรู้สึกโหวงเหวงบอกไม่ถูก จะว่าผมไม่ร่าเริงจนคนอื่นสังเกตเห็นได้หรือก็ไม่ใช่ ผมไม่ใช่คนที่จะทำนิสัยอะไรแบบนั้นบ่อยนักถ้าไม่เจียนตายจริงๆ แต่บางครั้งเหมือนหัวใจมันสะดุดกับเหตุการณ์อะไรบางอย่างจนทำให้ยิ้มไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง
“จะดีมาก ถ้าจะไม่ใช่เรื่องของไอ้ฝรั่งนั่นน่ะนะ” จักรว่า ผมหันกลับไปมองเหล่ใส่ จักรเบะปากให้ผมอย่างไม่รู้ไม่ชี้
“ฟ้าบอกแล้วไง ว่าฟ้าจะทำอะไร..” ผมพูด
“จักรไม่มีสิทธิ์” จักรพูดแทรกขึ้นทำให้ผมต้องหุบปากลง
“หึ..ก็รู้นิ” ผมหัวเราะอย่างขอไปที
“แต่จักรหวงฟ้า” จักรตอบกลับทันทีทำให้ผมต้องเงียบลง จักรมองไปที่เบื้องหน้า สีหน้าของจักรดูจริงจังและเหมือนกำลังโกรธผมอย่างนั้น ผมเลยไม่ว่าเขาอีก
“รู้สึกว่าตัวเองมีคู่แข่ง ก็เลยไม่พอใจรึไง” ผมพูดเสียงเรียบอย่างไม่ได้ต้องการประชดประชัน แต่เพียงต้องการคำตอบและความรู้สึกจากอีกฝ่าย เพราะตั้งแต่ที่เราเลิกรากันไปที่จริงเราจบกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นอกจากจะมีคำตัดเยื่อใยจากจักรและหลังจากนั้นเราก็แยกทางกัน ต่างฝ่ายต่างเดินไปคนละทาง
“เปล่า..ก็ใช่ ที่จริง ก็หวงมาตั้งนานแล้วนี่นะ” จักรพูดขึ้น
“..จักร” ผมถอนหายใจ
“ทำไมจักรถึงนึกอยากกลับมาคบกับฟ้าอีก ในเมื่อ..จักรยอมรับเถอะ ว่าจักรเลิกเจ้าชู้ไม่ได้” ผมพูดและจ้องหน้าจักรเขม็ง จักรจ้องตาตอบผมก่อนจะหันหน้าหนี
“ใช่..จักรเลิกเจ้าชู้ไม่ได้” จักรพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“จักรรู้ ว่าจักรเลิกเจ้าชู้ไม่ได้..จักรถึงต้องเลือก ที่จะเลิกกับฟ้า” ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ ถึงแม้ว่าเวลานั้นจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ผมเองก็ไม่ได้มีคนที่เรียกว่า “รักมากที่สุด” บ่อยครั้ง ในชีวิตนี้ก็มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ยอมให้เข้ามาในหัวใจ มันก็คงไม่แปลก ที่ผมจะจำทุกห้วงเวลาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ผมก็จำได้ดีว่าใครชอบหรือไม่ชอบอะไร ผมจำได้ว่าจักรไม่ชอบทานมะละกอ จักรจะชอบตัดเล็บหลังอาบน้ำเสร็จและเขาจะชอบให้ผมเป็นคนตัดให้เสมอ จักรชอบใส่แต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวนอน เขาชอบให้ผมนอนกอดเขามากกว่าที่เขาจะมากอดผมไว้ จักรจะชอบอ้อนเวลาที่ตัวเองทำผิด ชอบทะลึ่งทะเล้นเรื่องบนเตียง จักรเป็นคนเจ้าเล่ห์ อัธยาศัยดีและกวนโอ๊ย เขาไม่ชอบทำการบ้านวิชาภาษาไทย เขามักจะมีแต่ตัวและสมองเวลาเข้าเรียน จักรชอบให้ผมไปรับหลังเลิกเรียน เขาชอบให้ผมเอาใจเวลาที่เขาบ่นว่าเขาไม่อยากไปเรียน ผมบอกได้เลยว่าผมจำได้หมดทุกอย่างแม้กระทั่งเลขบัตรเอทีเอ็มที่เขาเคยใช้ให้ผมไปกดเป็นประจำ ที่จริงแล้ว..ถ้าผมจะไม่หลอกตัวเองว่าผมลืม ผมก็จำได้หมดทุกรายละเอียดจริงๆ
“จักรรักฟ้านะ..” จักรทิ้งน้ำเสียงลง ผมได้แต่เงียบและยิ้มให้น้อยๆ
“หลังจากที่เราเลิกกัน ไม่กี่เดือน..จักรก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าจักรไม่ได้อยากเสียฟ้าไป บางครั้ง..จักรรู้สึกเหมือนกับว่า จักรไม่คิดว่าตัวเองจะนึกถึงฟ้าได้บ่อยมากขนาดนั้น จักรหวง..ในหัวจักรมันคิดไปต่างๆนาๆว่าฟ้ากำลังอยู่กับใคร ทำอะไร แล้วใครจะเป็นคนรักของฟ้า” จักรยิ้มน้อยๆด้วยท่าทางเศร้าจนผมเองก็ไม่อยากจะจับผิดกับคำพูดของเขา
“ฟ้าก็คงจะไม่ยินดีใช่ไหมล่ะ ถ้าจักรจะมีไปเรื่อยๆ..โดยมีฟ้าเป็นเมียหลวงน่ะ” จักรหันมายักคิ้วยิ้มกวนให้
“ใครจะไปยินดีล่ะไอ้บ้า!” ผมกระแทกเสียงว่าให้ จักรหัวเราะตอบอย่างพอใจ
“นั่นแหละ ถึงจะฝันว่าอยากให้ฟ้ารับให้ได้ก็เถอะ..แต่มันจะไปรับได้ยังไง จักรรู้นะว่าจักรทำไม่ดีไว้ มันก็เป็นความคิดเห็นแก่ตัวของคนเจ้าชู้ละนะ..จักรรู้ว่าจักรเห็นแก่ตัวที่คิดแบบนี้ แต่การที่จักรปล่อยฟ้าไปในวันนั้น มันก็เพื่อตัวฟ้าเองนะครับ” จักรยิ้มให้
“การที่จักรเคยบอกว่าไม่มีใครเหมือนฟ้า จักรพูดจริงๆ..จักรไม่เคยปล่อยให้ใครมาทำตัวพิเศษเหนือกว่าฟ้ามาตลอด คงเพราะยังไม่มีใครใช่เหมือนที่ฟ้าใช่สำหรับจักรละมั้ง” จักรถอนหายใจแรง
“ไม่ได้อยากแก้ตัวหรอกนะครับ ก็แค่พูดความจริง” จักรพูดส่งๆ
“แล้วจักรคิดว่า จักรจะเลิกเจ้าชู้ได้เหรอ” ผมถาม เราต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันด้วยสายตาที่อยากจะเห็นหัวใจที่ปวดร้าวที่ผ่านมา
“ไม่รู้สิ” จักรตอบทันที
“จักรรู้สึกอยู่หลายครั้งว่าอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม บางทีจักรเองก็อยากลองดู..พยายามดู จักรก็ไม่รู้ว่าจักรจะเจ้าชู้ไปทำไม แต่มันเหมือนกับของที่พ่อแม่ให้มาแล้วควรเก็บรักษาไว้ให้ดีน่ะ” จักรอมยิ้ม ผายมือไปมาด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง
“เดี๋ยวจะโดน” ผมทำท่าจะเอื้อมมือไปตีด้วยนึกหมันไส้ที่จักรเอาแต่หยอกล้อไม่หยุด จักรเบี่ยงตัวหนีและหัวเราะอย่างชอบใจ
“เวลาที่จักรต้องนึกว่าฟ้าอยู่กับผู้ชายคนอื่น หัวใจมันทรมานเป็นบ้าเลยรู้ไหมครับ..แต่ก็นะ จักรเองก็ยังเลือกที่จะเจ้าชู้โดยปล่อยให้ฟ้าไป จักรเลือกที่จะเจ้าชู้ มากกว่าที่จะเลือกฟ้า..มันไม่ใช่อะไรสำคัญกว่าอะไร แต่จักรไม่อยากให้ฟ้าร้องไห้อีก จักรไม่มั่นใจว่าจะไม่ทำให้ฟ้าร้องไห้อีกรึเปล่า ตอนนั้น..จักรคิดได้แค่นั้น” จักรบอก ผมได้แต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ถึงจะเป็นอย่างนี้ แต่ก็รักมาตลอด..ขอให้เชื่อจักรเถอะนะครับ” จักรยิ้มน้อยๆด้วยท่าทางเศร้า
“ให้โอกาสจักรอีกครั้งได้ไหมครับ”
“ให้โอกาสความเจ้าชู้น่ะนะ” ผมกวนกลับบ้าง
“ความเจ้าชู้ไม่ต้องให้หรอก มันมีโอกาสตลอดแหละ..หึ” จักรกวนกลับทันที
“โอ้ย..ฟ้า ฟ้าๆ” จักรร้องโอดครวญเสียงหลงเมื่อโดนผมเอื้อมมือเข้าไปบิดหูของจักรไว้ได้ ผมออกแรงบิดอย่างแรงด้วยความหมันไส้
“เจ็บ ฟ้า..จักรเจ็บนะ” จักรร้อง ตัวทั้งตัวเอียงมาตามแรงดึงจากมือของผม
“เมื่อไหร่จะเลิกเป็นคนแบบนี้สักทีห๊ะ” ผมกัดฟันบ่น
“โอเค ยอมแล้วครับ..ขอโทษๆ” จักรพูดพร่ำ ผมหัวเราะ ปล่อยหูจักรออกก่อนจะตบเข้าที่หน้าจักรให้อีกหนึ่งที
“เมียหลวงดุอย่างนี้ เมียน้อยไม่กล้าหือหรอก..จริงๆ” จักรเอามือปิดหูตัวเองก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มไม่เลิก ผมทำหน้างอใส่อย่างห้ามปราม
“จะกลับแล้ว” ผมลุกขึ้นพร้อมกับไม่ลืมที่จะหยิบขวดไวน์ติดมือมาด้วย
“ตกลงคบกันนะ” จักรลุกขึ้นตาม นำหน้าเข้ามาใกล้หน้าผมอีก
“ไม่” ผมตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นถึงแม้ว่าหัวใจจะสั่นเล็กน้อยก็ตาม
“งั้น..พิเศษนิดนึงก็ได้” จักรพูดเสียงนุ่มแต่ก็แฝงไปด้วยความทะเล้น มือก็เอื้อมมากอดเอวผมเข้าไปด้วย
“อย่ามาปากว่ามือถึงได้ไหม” ผมปรามพร้อมกับดันหน้าจักรออก จักรหัวเราะและยังคงโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนปากของจักรกดลงที่แก้มของผม
“พิเศษกว่าไอ้ฝรั่งนั่นนิดนึงก็ยังดี จักรไม่ชอบขี้หน้ามันเลย” จักรบ่น ขณะเดียวกันปากก็คลอเคลียอยู่ตรงแก้มของผมไปมา
“ตัวเองดีไม่ได้เท่าเค้าน่ะสิ” ผมกัด
“ก็ใช่น่ะสิ” จักรหัวเราะทำให้ผมกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่กับความไม่รู้สึกรู้สาของจักร
“หลานฟ้าก็อีกคน หึ..ยิ่งโตยิ่งน่าหมันไส้นะ ฝากบอกด้วยว่าระวังตัวไว้ให้ดีล่ะ” จักรพูดปนหัวเราะแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์
“หึ..จะไปแกล้งอะไรมันอีก ฟ้าปวดหัวนะ” ผมว่าปราม จักรยักคิ้วตอบเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
“นะครับ..พิเศษนิดนึง” จักรกลับมาทำเสียงอ้อนอีกครั้ง
“ขอคิดดูก่อน” หันหน้าหนี
“แสดงว่าได้” จักรพูด
“ขอคิดดูก่อนไง” ผมหันไปทำเสียงเข้มใส่
“ไม่รู้อ่ะ สำหรับจักรมันแปลว่า..อนุญาต” จักรลอยหน้าลอยตาใส่ ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไร มันคล้ายกับว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเองก็อยากให้โอกาสจักรมากกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าที่เขาพูดมาเมื่อกี้ทั้งหมดนั้นเป็นความจริง การที่เวลาผ่านมานานแล้วผมคิดว่าจักรเองก็คงจะไม่ได้โกหกผม คำพูดที่จักรพูดมามันไม่ใช่คำแก้ตัวที่เหมือนจะไม่ให้ตัวเองไม่ผิด แต่มันก็เป็นคำพูดจริงๆที่เหมือนกับท้าลองว่าผมจะรับเขาได้หรือไม่ได้ก็เท่านั้น ใช่..ว่าผมรับไม่ได้หรอก แต่จักรยังคงเป็นจักร นิสัยอย่างอื่นของเขานอกจากความเจ้าชู้นั้น ผมปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเองก็เป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่ง..
................>>>><<<<.................
-
คุณพี่คิวปิดเนี่ย ประหนึ่งอัจฉริยะกลายๆ เลยเนอะ คนอะไรเท่ได้อีก
แต่สิ่งที่ยังยืนยันนั่งยันและนอนยันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ
คิวและอาฟ้าควรจะสลับสับเปลี่ยนสถานะของกันและกันเป็นอย่างยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความคิดหรือการกระทำ คิวมีความเป็นผู้ใหญ่มาก
ซึ่งกลับกันกับผู้เป็นอาเลย เหมือนอาฟ้ายังมีความเป็นผู้ใหญ่ไม่มากพอ
อาฟ้ามีบุคลิกและคุณสมบัติในการเป็นลูกคนเล็กได้อย่างชัดเจนมากๆ
อย่างตอนที่อาฟ้าโวยวายทันทีเมื่อได้ยินว่าคิวจะไปนอนที่อื่นนั่นไงล่ะ อิอิ
สาเหตุที่ทำให้หัวใจอีกครึ่งเสี้ยวของอาฟ้าไม่กระชุ่มกระชวยก็เพราะตัวอาฟ้าเองนั่นแหละ
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย~ ไม่เอาจักรนะ เค้าจะเอาทิกเกอร์ ต้องเป็นทิกเกอร์เท่านั้น
สารบัญ ~ Limited Lovers ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
จักร..
ทิกเกอร์..
จักร..
ทิกเกอร์..
ใครดีอ่ะ????? :m31:
-
ดูท่าจะเลือกยากซะแล้ว อาฟ้า :z3:
-
รักฟ้ามาก สำหรับเราพระเอกเป็นใครก็ได้จริงๆ 555 ไม่เชียร์ใครเลย ตามใจฟ้าคนเดียว
แต่แอบกรี๊ดทุกครั้งกับคิวอาฟ้า 5555 ><
-
พี่ฟ้าเอาหมด2คนเลยยหนับหนุน
-
:เฮ้อ:ฟ้าจะเลือกใครก็แล้วแต่ฟ้าเถอะ เพราะผลรับจะเป็นยังไง
ฟ้าก็เป็นคนรับมันทั้งหมด แต่ไม่อยากได้จักรง่ะ
-
สุดหล่อของเจ๊ไปซะแล้วอ่ะ :sad4:
แหมม คิดจะแซงหน้าทิกเกอร์หรอยะ ยังน้องไปร้อยปีนะจักร :laugh: :laugh:
P.S. ไม่รุว่าอาฟ้าจะเลือกใคร. แต่ทิกเกอร์ได้ใจเจ๊เต็ม เต็มจร้าาา
-
คิวเทพจัง หนูเค้กออกมานิดนึง น่าร้ากกกกก
เดาว่าจักรก็คงมีกิ๊ก แล้วฟ้าก็ต้องร้องไห้ อุอุ
-
ฟ้านี่ไม่มีความชัดเจนเอาซะเลย
-
รักฟ้ามาก สำหรับเราพระเอกเป็นใครก็ได้จริงๆ 555 ไม่เชียร์ใครเลย ตามใจฟ้าคนเดียว
แต่แอบกรี๊ดทุกครั้งกับคิวอาฟ้า 5555 ><
ด้วยคนสิ เวลาคิวอยู่กับอาฟ้าเเล้วมันจิ้นๆยังไงไม่รู้
เวลาฟ้าเรียกคิวว่าไอ้หลานบ้า เเล้วคิวทำหน้ากวนๆ มันจิ้นนนนน
เเล้วจะเอาเค้กไปไว้ไหนดีล่ะ 5555555 :mc4:
-
ไม่ลงตัวซะที
เหนื่อยแทน
อาฟ้าจริงๆ :เฮ้อ:
-
เรื่องราวความเข้ามข้นได้เรื่มต้นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายใครจะเป็นคนที่ฟ้าเลือก
หรือว่าฟ้าจะเก็บไว้ทั้งสองคนเลย อันนี้ฟ้าคงตัดสินใจเอง หากใจตัวเองรู้คำตอบแล้ว
ขอให้เลือกไว้ซักคนได้ไหม อย่างน้อยความเจ็บปวดมันจะได้ลดน้อยลง :3123:
-
อาฟ้าเป็นน้องพลับขอ 2 เลย 555+++ o13
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ทิกเกอร์ยอมแพ้แล้วหรอ TT
ยังไงก็เถอะ อย่าสามพีกันก็พอ = ="
-
ทิกเกอร์ทำไมต้องสโลว์ตลอดดดดด จะอดแล้วนะแต่ว่าไปแล้วมีลูกเป็นบ่วงแบบนี้ก็ลำบากอ่ะ
-
เริ่มเดาไม่ถูกแล้วสิว่าอาฟ้าจะลงเอยยังไง
พี่คิวนี่นอกจากนิสัยเข้าใจยากนี่ไม่มีที่ติเลยสินะ
-
อ่านแล้วรู้สึหน่วงๆ หรือเพราะเค้าเชียร์ทิกเกอร์หว่า :z3:
เลยรู้สึกว่าจักรจะต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นอะ
แต่เค้าเคารพการตัดสินใจของอาฟ้านะ
ถ้าอาฟ้าเลือกจักร เค้าก็จะว่าจะทำใจได้ 555 (อิน :o8:)
พี่คิวเก่งสุดยอด
เหมือนยอดมนุษเลย ทำงานี่ต่างกันได้ถึง 3 งานในเวลาเดียว
เก่งมากกก o13
-
ความรัก :เฮ้อ:
-
คิวทำตัวเคร่งขรึม แต่จริงๆแล้วมีความเป็นเด็กในตัวสูงมากเลยเนาะ
นึกหน้าคิวตอนต่อแถวจ่ายเงินซื้อตุ๊กตาไม่ออกเลย คงฮา :laugh:
กับเรื่องพี่ฟ้า...จริงๆก็คงต้องบอกว่า แล้วแต่อ่ะค่ะ ดูไม่ออกจริงๆว่าจะไปทางไหน ดูๆไปก็ไม่มีใครดีไปกว่ากัน :z3:
อ่านแล้วนึกถึงเพื่อนคนนึง มีแฟนเจ้าชู้เหลือเกิน โกหกนอกใจอยู่ได้ เพื่อนก็ได้แต่ร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ พอเค้ามาง้อก็กลับไป
จนตอนหลังก็ไม่มีใครจะปลอบแล้ว คนเราเลือกทางเดินชีวิตเองได้นะ ถ้าเลือกแล้ว ก็ต้องอยู่กับมันไปนะ
อาฟ้าคิดดีๆนะคะ :กอด1:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อยากให้ไม่เลือกใครเลย
อยู่คนเดียว สบายกว่าเยอะ
จักรก็เลิกเจ้าชู้ไม่ได้
ทิกเกอร์ก็มีลูกแล้ว
:เฮ้อ:
-
ใจเรายังไงก็เชียร์ทิกเกอร์อ่า
แต่ก็ต้องยอมรับว่าสุดท้าย
อาฟ้าจะเลือกใคร เพราะงั้น
ตอนนี้ได้แต่ ลุ้น อย่างเดียว
-
ให้ตายเถอะ เกลียดจักรเข้าไส้ :z6:
ฟ้าเลือกจักรไปเลยละกัน เราอ่านแล้วหน่วง จะได้เลิกหน่วง :เฮ้อ:
ทิกเกอร์มีลูกมันไม่ผิด แต่เดินช้าตลอด ไม่เคยจะทันจักรซักที :เฮ้อ:
เราอินกะนิยายไปใช่มั้ย :a5:
-
:a5:
ยังไงดีล่ะ.................. :เฮ้อ:
จากตอนนี้ ถ้าจักรเป็นอย่างที่แสดงออกมาจริงๆ
เราว่า เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ
ออกจะเป็นคนตรงๆ กล้าได้กล้าเสีย
และดูจะมีลูกล่อลูกชนสูสีกับอาฟ้าอยู่
แต่ก็นั่นแหละ....เหมือนกับเวลาเลือกคนรักนั่นแหละ
เหตุผลไม่ใช่ว่าใครจะดีไปกว่าใคร สุดท้ายก็แค่...........รักใคร เท่านั้นเอง
และเราก็หลงรัก ทิกเกอร์ ไปแล้ว :o8:
(เพราะอะไรไม่รู้ บางทีอาจเป็นอุปทานหมู่จากพี่คิวก็ได้ พี่คิวเชียร์ใคร หนูเชียร์ด้วย อิอิ)
ก็เลยยังมีความหวังต่อไปค่ะ
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
ทิกเกอร์ยังไม่ได้ออกโรงด้วยซ้ำ
จะรุกช้าหรือเร็ว สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับหัวใจของอาฟ้าเท่านั้นแหละว่าจะเลือกใคร
เรามองว่า เรื่องของอาฟ้าค่อนข้างเป็นธรรมชาติมากเลยนะคะ เรียลสุด!!
ถึงแม้จะสร้างความหน่วงให้กับคนอ่าน และแม่ยกไปบ้าง
แต่ก็นับถือว่า เบบี้เขียนได้ดีจริงๆค่ะ o13
ขอบคุณที่ไม่สปอยคนอ่าน และยังยึดมั่นอยู่ในโครงเรื่องของตัวเอง
เพราะพอลองนึกว่า หากเป็นตัวเอง เจอรักแรก กับ รักล่าสุด เข้ามาแบบนี้
มันก็อดหวั่นไหวไม่ได้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจกันได้ง่ายๆ จริงไหม?
ใจคนเรามันซับซ้อนจะได้ แม้แต่เจ้าของหัวใจเองก็ใช่ว่าจะมองได้ทะลุปรุโปร่งไปซะหมด
เพราะฉะนั้น จะเฝ้ารอตอนต่อไป และต่อๆไปค่ะ :กอด1:
แม่ยกทิกเกอร์-ฟ้าอย่างเรา คงต้องนั่งสมาธิ ทำจิตใจให้หนักแน่นเข้มแข็งเอาไว้ก่อน
เราจะไม่นอย ไม่นอย ไม่นอย ไม่นอย ไม่นอย (5555555555555555555)
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ แล้วพบกันใหม่ค่ะ :bye2:
-
บางทีก็เบื่ออาฟ้าอะ โลเล เพราะเราเชียร์ทิกเกอร์มากกว่าจักร
อาฟ้าไม่ฟังไม่ให้โอกาสทิกเกอร์เลย
แล้วยังไปพาลโกรธเขาอีก ทั้งๆที่ตัวเองไม่ยอมฟังไรเลย
อยากให้ทิกเกอร์ตัดใจแล้วเลิกสนใจอาฟ้าไปเลย
ขัดใจ 5555555 :angry2:
-
รอจ้า :)
-
อาฟ้ายังตัดสินใจไม่ได้ คนอ่านลุ้นต่อไปคร่า
-
ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o13
-
เหตุผลแค่ว่าเลิกเจ้าชู้ไม่ได้ ไม่อยากให้ฟ้าเจ็บ เลยต้องเลิกกัน
อ้าว แล้วจะกลับมาขอคบด้วยทำไม ทั้ง ๆ ที่ก็ยังเลิกเจ้าชู้ไม่ได้เหมือนเดิม
เรารู้สึกว่าจักรเห็นแก่ตัวนะ ทำเหมือนแคร์ฟ้าแต่จริง ๆ แคร์ตัวเองมากกว่าหรือเปล่า
จริง ๆ แล้วเหมือนฟ้าจะรู้สึกอะไรกับทิกเกอร์มากกว่านะ
แต่ท่าทางจะเจ็บมากเช่นกัน ฟ้าต้องเลือกคนใดคนหนึ่งจากสองคนนี้จริงเหรอ
ถ้ามันยังเจ็บและไม่มั่นใจ ก็ไม่ต้องเลือกใครซักคนเลยไม่ได้เหรอ
-
มันเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ไม่ชอบจักรอ่ะ
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ความรักของจักรเหมือนเป็นความรักที่พยายามขุดอดีตขึ้นมา
อาจเป็นเพราะเราชอบทิกเกอร์มากกว่าด้วยมั้ง
รอตอนต่อไปนะคะ
-
แบบนี้ต้องเรียกว่าพี่คิวยอดอัจฉริยะหรือเปล่านิ เก่งไปหมดทุกเรื่อง
:z3: ทิกเกอร์รีบกลับมาไวๆ ก่อนที่อาฟ้าจะเปลี่ยนใจไปชอบจักร
กด + ให้กับคนเขียนและความน่ารักของหนูเค้ก :L2:
-
ถึงตอนนี้ ความรักของอาฟ้า อ่านแล้วให้ความรู้สึก.. ไม่อยากลุ้น
ให้ความรู้สึกว่า.. แล้วแต่ เอาไงก็เอา.. แล้วแต่ละกัน o16
ยังพอมีน้องเค้กออกมาให้หายคิดถึง :กอด1:
และยังคงเฝ้ารอซีนหวานของเค้ก+คิว อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน อิอิ
ขอบคุณเบบี้นะคับ :L2:
-
ฮึ่ม :m16:!!!! พ่นไฟๆๆๆๆ :m31:
ฮ้า...ค่อยยังชั่ว
พี่ฟ้าคงจะรู้ตัวเองอยู่ ว่าความจริงในใจเป็นอย่างไร
รอต่อไป
-
ไม่รู้ เชียร์ทิกเกอร์
-
ลุ้นเอาล่ะกัน แต่ในใจคิดว่าทิกเกอร์นิ่งกว่าจักร และดูว่าทิกเกอร์มีอิทธิพลกับฟ้ามากกว่าจักร
-
ฟ้าคิดอะไรอยู่ :z10: :z10: :z10:
-
ตกลงอาฟ้าเลือกใครรรรรร
จักรหรือทิกเกอร์ดีล่ะ
-
มันสิทธฺ์ของอาฟ้าว่ะ
แต่ก็อยากเสือก 55555555555555555 คนที่มีวี่แววว่าจะนอกใจอาฟ้าอีกครั้งแต่บอกโต้งๆ
กะคนที่คิดว่าน่าจะไม่มีใครแล้วแบบทิกเกอร์ อาฟ้าจะเลือกแบบไหนหว่า ไม่รู้ดิ เราไม่เลือกที่จะเจ็บเล็กๆน้อยๆ แต่ซ้ำๆอ่ะนะ
คนที่หยุดไม่ได้น่ะ เราไม่เรียกว่ารักหรอก รักตัวเองมากกว่า เพราะงั้นก็ให้เค้าอยู่ไปคนเดียวเหอะ
-
ไม่เอา ไม่อยากให้อาฟ้าคู่กับจักร
ถ้าไม่ได้คู่กับทิกเกอร์ อยู่เป็นโสดไปค่ะ อาฟ้า!!!!
-
............................อยากอ่านตอน...หวานๆ..............ระหว่าง
คิว......+......เค้ก
-
ไม่เอาอะ ทิกเกอร์ไปไหน รีบกลับมาหาอาฟ้าด่วนๆเลย :m5:
อาฟ้าจ๋า อยากไปใจอ่อนให้จักรเลยนะ อาฟ้านะอยู่ในใจเค้าตลอดแต่เค้าก็เลิกเจ้าชูไม่ได้มันน่ากลัวนะ
ไม่รู้จิ ถ้าเกิดคนอีกคนก็เป็นคนที่ฉลาดพอๆกับอาฟ้า เวลานั้นอาฟ้าจะทรมารมากๆเลยนะ
อาฟ้าให้โอกาสทิกเกอร์ดีกว่านะ รายนั้นเค้าเลิกกับแฟนแล้วนิ แค่ไปดูลูกเอง
เห็นความสามารถคิวแล้วเศร้า อายุเท่ากันแต่ไมเราไร้ความสามารถขนาดนี้ o7
-
โอ๊ยยยยย....จะเลือกใครดีน๊าาาาา....พี่ฟ้า
จนถึงตอนนี้แล้วเลือกยากจริงๆ..จักร&ทิกเกอร์ :z3: :z3:
ถ้าเลือกไม่ได้....ก็เลือกเฮียคิววววววว :z1:
คู่นี้เหมาะสุด.... :laugh: :laugh:
+เป็ดให้เบบี้จ้าา.....มาต่อไวๆ...
-
อาฟ้าล้วนๆ ที่มันไม่ลงตัวก็เพราะความลังเลของอาฟ้าล้วนๆ (ความเห็นส่วนตัวอ่ะนะ)
อย่างจักรอาฟ้าก็ไม่ตัด ไม่ปฎิเสธทั้งๆที่เคยเจ็บเพราะเค้าเจ้าชู้
เค้ายอบรับว่าเจ้าชู้ อาฟ้าก็คิดว่าอยากน้อยเค้าก็ไม่ได้โกหก ไม่ได้แก้ตัว
แล้วความเจ็บปวดของอาฟ้าที่ทำให้เลิกกันในอดีต ไม่ใช่เพราะจักรเจ้าชู้เหรอ???
ตอนนี้อาจจะมีความสุขเพราะคุมเกมส์ได้ แต่ท้ายที่สุดถ้าจักรไม่เลิกเจ้าชู้ อาฟ้าก็เจ็บอยู่ดี :เฮ้อ:
-
สุดจะกลัวว่าจะกลายเป็นรักเราสามคน พอมาได้ยินคารมจักรแบบนี้ก็แอบใจอ่อนไปหน่อยนึงเหมือนกัน
แล้วฟ้าจะหวั่นไหวขนาดไหนเนี่ย แอร๊ยย :z3:
-
บทสรุปจะเป็นงัยต่อเนี่ย...
จะจักร หรือ ทิกเกอร์
แล้วแล้วแล้ว คิว จะรับจักรได้เหรอ???
อย่างกับคู่แค้นมาแต่ชาติปางก่อนเลย...ฮ่าๆๆ
-
เป็นเรื่องแล้วไง
ยิ่งอ่านตอนแลกเชียร์ทิกเกอร์
แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจ ไหนเรื่องลูกอีก :เฮ้อ:
-
จุดนี้แล้วแต่อาฟ้าแล้วหล่ะ อา อยากจะเลือกใคร เราเคารพและยอมรับ เพราะสุดท้าย อาคือคนที่ต้องอยู่กับมัน
ไม่ใช่เรา ที่มันคน ที่เฝ้าดู
รักพี่คิว อาฟ้า น้องเค้ก และ ทิกเกอร์ :กอด1:
-
จักรพูดแบบนี้ก็แมนดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็กล้ายอมรับว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้
แต่ไม่รู้จะหยุดได้หรือเปล่าคงเป็นอีกเรื่อง
-
ฟ้าตัดสินใจเลือกไม่ได้ซักทีช่ายปะ งั้นเอางี้ดีมั๊ย ได้ไม่ต้องปวดหัวไง
ศุกร์,เสาร์ = ทิ้กเกอร์
อาทิตย์,จันทร์ = จักร
อังคาร,พุธ,พฤหัส = Free for กิ๊ก
:oni1:
ขอบคุณนะไอ้น้องบี้ +++
:กอด1:
ปล. :m26: ตกลงปาดหน้าเค้กไปยัง ไม่เฉลยหน่อยหราาา เอิ๊กๆๆๆ
-
เค้าเชื่อใจอาฟ้านะ แต่เค้าไม่ชอบจักร :z2:
-
เฮ้อ!!!! :เฮ้อ: เหนื่อยใจ
เมื่อไหร่อาฟ้าจะตัดสินใจเด็ดขาดสักทีล่ะ :m16:
รู้ไหมการรอคอยอยู่อย่างนี้มันทรมาณมากเลยนะเนี่ย :m15:
-
ทิกเกอร์กลับมาาาา =[ ]=!
:z3: :z3: :z3:
:L1:
-
:pig4:ขอบคุณพี่บี้ค่ะ
-
ไปตามทิกเกอร์กลับมา~ :z3: :z3: :z3:
-
อ่าาาา...... พี่ฟ้าจะเลือกให้โอกาสจักรจริงๆเหรอ?
แล้วทิกเกอร์ล่ะ???
แง๊ง.......แง๊งงง ทิกเกอร์อ่ะ ทิกเกอร์
-
เอาล่ะ เราก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าพี่ฟ้าเจ็บเจียนตายแค่ไหน
ตอนแรกก็สนับสนุนให้ดัดหลังผชพวกนั้นอะนะ
แต่ตอนนี้ พี่ฟ้าจะเอาไงคะ ล้อๆเล่นๆ เรื่อยๆกันไปแบบนี้?
ถ้าเป็นเรา ถ้าคิดว่าไม่มีแล้วแม่งความรัก ก็กลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าเหอะค่ะ
ไม่ต้องสนใจโลกแล้ววววววว สบายใจดี แค่เสี่ยงโดนคิวด่าทุกวัน 5555555
ไม่ก็ ลอง ดู สัก คน มั้ยคะ ใครสักคนน่ะ
-
:pig4: :L1:
-
ไม่รู้คนอื่นคิดยังไง แต่เราว่าฟ้าแคร์ทิกเกอร์นะ หลายๆ ครั้งเวลาที่คิวบอกเรื่องของทิกเกอร์ให้ฟ้ารู้ ฟ้าจะมีอาการแบบตอนนี้ทุกที คนละความรู้สึกกับจักรอ่ะ... หรือที่จริงฟ้าได้เลือกแล้วหรือ??
:pig4: :กอด1:
ปล.เค้กน่ารัก :man1: เวลาฟ้าอยู่กับเค้กรู้สึกว่าน่ารักทั้งคู่... เอ๊ะ หรือว่าจะเป็น คิว>> เค้ก <<ฟ้า ดีอ่ะ 5555
-
กับคนนึงเริ่มหวั่นไหว ส่วนอีกคนคิดถึงแทบขาดใจ
แนะนำอาฟ้าควรเก็บไว้ทั้งสองคน
เป็นแนว 3P ก็ดีเหมือนกันนะ เร้าอารมณ์ดี ซี๊ดดดดดดด
-
เชียร์เบบี้ดีกว่า ให้งาบอาฟ้าไปเลย
-
หึหึ 3p ดีปะ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
อาฟ้าถ้าไม่รียตัดสินใจก็ยังจะค้างคาอยู่อย่างนี้นะ
พี่คิวดูเหมือนเป็นผู้ปกครองอาฟ้าจริงๆ
555555 แล้วน้องเค้กก็น่ารักตลอดๆ :-[
ยังไงก็เชียร์ทิกเกอร์ :เฮ้อ:
-
เหมือนงานจะเข้ากันทุกคน
+1
-
เลือกทิกเกอร์เถอะนะคะ
จักรไม่ใช่สำหรับพี่ฟ้าหรอก (จริงจังไปไหน 555)
-
อ่านตอนนี้แล้วดีใจที่ทิกเกอร์ไปได้ซักที
ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะ ปล่อยให้ผีเน่าอยู่กับโลงผุแบบเนี้ยแหละ
-
จักร ทำคะแนนแล้วว
อาฟ้าจะเลือกใครล๊ะ ทีนี้
อยากให้ทิกเกอร์กลับไทยไวๆ รีบๆมาทำคะแนน เชียร์ทิกเกอร์น๊าาา
คิดถึงคิวกะเค้ก มานิดๆแล้วทำให้คิดถึงงง :กอด1:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
บี้ ฝากเรื่องคำผิดเนอะ " หายเป็นปลิดทิ้ง " นะ ไม่ใช่ " ปริทิ้ง "
มันเหมือนปริจนจะแตกน่ะตัวเอง :กอด1:
-
แต่ที่จริงจักรนี่ก็พูดตรงดีนะ เค้าพูดความเป็นตัวตนของเค้า
ถ้าเอาเข้าจริงๆรู้สึกว่าจักรมันดูน่าสนใจกว่าทิกเกอร์อะ 555555
-
ทิกเกอร์ของเค้าล่ะะะะ T^T
อาฟ้าตัดสินใจดีดีน้า ^^
-
จริงๆ ทั้งจักรกับไทเกอร์ก็ดีทั้งคู่และก็มีข้อเสียทั้งคู่ อยู่ที่ใจฟ้าแล้วว่าจะเลือกใคร แต่เป็นเราก็เลือกไม่ถูกแฮะ 555
-
ทิกเกอร์อย่าพึ่งท้อกลับมาสู้ต่อเร็วว
-
ทิกเกอร์ ถ้าอาฟ้าไมเอา เราพร้อมเสมอ
จักร กุเบื่อมึง
รักพี่คิวเสมอ
-
อ่านตอนนี้แล้วเราว่าความพิเศษที่จักรอยากได้ อาจจะได้ไปแล้วก็ได้นะ
อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าตอนนี้อาฟ้ารู้สึกยังไงกับใคร อยู่กับใครแล้วมีความสุข
แต่ก็เพราะว่าอะไรมันก็ยังไม่ชัดเจน ทั้งตัวอาฟ้าเองและคู่กรณีทั้งสอง
และเหมือนว่าจะเป็นจังหวะให้จักรได้ทำคะแนน เพราะทิกเกอร์ไม่อยู่ซะนี่
แต่ไม่ว่าอาฟ้าจะเลือกใครหรือจะทำอย่างไรต่อไปก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ขอแค่สิ่งที่เราเลือกคือความสุขและคือคนที่เรารักก็พอแล้วเนอะอาฟ้า
ขอบคุณคนเขียนมากคะ :L2:
-
3P เลยไหมถ้ามันจะยากขนาดนั้น :laugh:
:pig4: คะ
-
ตอนนี้หนักไปทางจักร ฟ้ามีแอบหวั่นไหวอ่ะ
ใจแข็งไว้นะฟ้าเราโดนกระทำไว้เยอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
-
ตกลงก็ยังไม่รู้ว่าอาฟ้าจะคบกับใครเนอะ
-
รีบเก็บคะแนน ตอนที่อีกคนไม่อยู่ แต่จะเก็บได้มากเท่าไหร่คงต้องใช้เวลาอีกโขทีเดียว
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
อาฟ้าถ้าเลือกใครไม่ได้ ก็หาเอาใหม่เหอะ
คนเจ้าชู้ตัดทิ้ง นอกจากปัญหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์แล้ว
ยังเรื่องของปัญหาครอบครัว ไหนจะเรื่องความสะอาดด้วย เดี๋ยวนี้มีสารพัดโรค
-
อ๊ากกกกก คิดถึงเชี่ยเมตรรรรรรรรรร
เบบี้:เมิงมาผิดเรื่องล่ะ :z6:
-
อาฟ้าให้โอกาสจักรแล้วทิกเกอร์หล่ะ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยน้า :z3:
-
เซ็งฟ้ามากกกกก กลับมาก็เหมือนเดิม หนีไปไม่ช่วยไรเลย
ทิกเกอร์ยอมแพ้ไปเหอะ ช้าตลอด ตลอดดดดด
-
อาฟ้า ยังไงค่ะ ยังไง นี้ลุ้นจนจะเลิกลุ้นแล้วค่ะ
-
จะคบจักร ก็ต้องคอยระแวงว่าจะเจ้าชู้เมื่อไหร่
หรือถ้าจะคบทิกเกอร์ รายนั้นก็มี "ลูก" ที่จะเป็นเงาคอยตรอกย้ำอดีตเจ็บๆของฟ้า
โสดโลดเลยฟ้า :เฮ้อ:
-
~18~
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“พรุ่งนี้เช้าผมต้องไปอังกฤษนะ สักสี่ห้าวัน” คิวพูดขึ้นบนโต๊ะระหว่างอาหารเช้า ผมชะงัก เค้กเองก็ด้วย เค้กมาที่บ้านผมตั้งแต่เช้าแล้ว มาทานอาหารเช้าด้วยกัน เห็นว่าวันนี้คิวและเค้กจะออกไปซื้อของด้วยกันนะครับ
“..ไปกับพ่อน่ะ” คิวพูดขยายความอีกเพียงสั้นๆ
“...................” เค้กเงียบและยิ้มน้อยๆอย่างไม่มีปากเสียงอะไรเช่นทุกครั้ง การที่เค้กชะงักเมื่อกี้ด้วยทำให้ผมทราบได้ทันทีว่าคิวเองก็คงไม่ได้บอกเค้กเรื่องนี้มาก่อน คิวเป็นคนอย่างนี้เสมอ นึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มา ทุกคนที่สนิทก็ชินซะแล้วล่ะครับ ที่ผมห่วงก็คือเค้กเท่านั้นล่ะ
“จะเอาอะไรรึเปล่า” คิวพูดไปแต่กลับไม่มองหน้าผม มันเอาแต่ก้มหน้าก้มตาปรุงส่วนผสมให้กับอาหารจานของตัวเอง
“เอา..เอาหลานคนใหม่มาให้หน่อยนะ เบื่อแล้ว” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“หึ แย่หน่อยนะที่คงหาให้ไม่ได้..มีใครสมบูรณ์แบบได้เท่าผมอีกงั้นเหรอ” อีกฝ่ายย้อนตอบหน้าตายด้วยน้ำเสียงคล้ายประชดประชันผม ผมทำหน้าเอือมใส่อย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคิวจะพูดหลงตัวเองได้อย่างเต็มปากเต็มคำขนาดนี้ เค้กหัวเราะเสียงเบาก่อนจะก้มหน้ากินอาหารตรงหน้าต่อ
“เค้กไปกับคิวไหม เดี๋ยวพี่สั่งให้คนทำวีซ่าให้..ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ด้วย อืม..มีพ็อกเก็ตมันนี่ด้วยนะ เดี๋ยวพี่เปิดบัตรเครดิตให้ใบนึง ช็อปได้ตามสบายเลย..ดีไหมครับ” ผมชวนเค้กเพราะต้องการให้เค้กสบายใจ ที่จริงถ้าเค้กอยากจะไปจริงๆ ผมเองก็พร้อมที่จะจัดการให้ทุกอย่าง แต่ผมรู้อยู่แล้วแหละครับว่าคนอย่างเค้กไม่มีทางรับของพวกนี้จากผมอย่างแน่นอน
“ไม่หรอกฮะ ขอบคุณครับพี่ฟ้า” เค้กยิ้มแหยพร้อมกับส่ายหัวท่าเดียว
“หรือว่าเค้กอยากนั่งห้องเดียวกับกัปตัน หืม..อันนั้นมันก็ยากไปนะ พี่ให้ไม่ได้หรอก” ผมพูดติดตลก
“หึหึ” เค้กหัวเราะร่า
“อยากไปเรอะ” คิวพูดเสียงสูงพร้อมกับมองหน้าเค้กเขม็ง คิ้วของคิวเริ่มขมวดเข้าหากัน เค้กหน้าเหวอ ผมเองก็ด้วยเพราะไม่เข้าใจว่าคิวจะพูดเสียงสูงอย่างนั้นทำไม
“ไปกับพ่อฉันน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะ..ขอให้เชื่อ” คิวส่ายหัวอย่างขอไปที ผมและเค้กหัวเราะออกมาอย่างเข้าใจในความหมาย
“อืม จริงสิ..ไม่ต้องไปหรอกเค้ก ปล่อยให้พ่อลูกเค้าไปสวีทกันสองต่อสองดีกว่า” ผมได้ทีจึงแซวและทำหน้าชวนเพ้อฝัน เค้กยิ้มกว้าง แต่คิวกลับหน้างอลงเรื่อยๆ
“พ่อลูกกับทริปแสนรัก ว้าว..น่าร๊ากอ่ะ!” ผมเล่นเสียง
“หึหึ” เค้กหัวเราะชอบใจ
“หุบปาก ทั้งคู่เลย” คิวปรามเสียงเข้ม
“ขออนุญาตค่ะคุณฟ้า” เขียวเดินเข้ามา ผมหันไปเลิกคิ้วมองหน้าเธอ
“คุณจักรมารอพบที่หน้าบ้านแล้วนะคะ” เธอพูด ผมพยักหน้าตอบให้เขียว ก่อนจะเหล่สายตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ คิวไม่พูดอะไร
“พี่อิ่มแล้วเหรอครับ” เค้กถามคิวที่เพิ่งวางช้อนส้อมลงบนจาน คิวพยักหน้าตอบส่งๆ
“อยู่ๆก็รู้สึกกระเดือกไม่ค่อยลงน่ะ” คิวพูดพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นวางบนโต๊ะก่อนจะลุกเดินออกจากห้องอาหารไป เค้กมองผมหน้าแหยเหมือนกับเข้าใจว่าคิวเป็นอะไร ผมยิ้มตอบให้เค้กเพียงนิดเดียวก็ต้องกุมขมับตัวเอง สี่ห้าวันมานี่ผมไปไหนมาไหนกับจักรตลอด เราเข้ากันได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคงเพราะเราต่างฝ่ายต่างรู้และจำได้อยู่แล้วว่าใครคิดอะไรยังไง ชอบหรือไม่ชอบอะไร จึงไม่ต้องใช้เวลาจูนให้เสียเวลา..
= = = = = = = =
1 อาทิตย์ต่อมา..
“ตกลง พี่ฟ้าคบกับคุณจักรคนนั้นแล้วเหรอฮะ” กัสถามขึ้น วันนี้ผมมาเช็คบัญชีที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ ซึ่งจักรมานั่งทานกาแฟที่ร้านเพื่อรอรับผมไปทานอาหารกลางวันด้วยกันได้เกือบชั่วโมงแล้ว
“เรื่องของเด็กรึเปล่าเนี้ย หื้ม” ผมขยี้หัวกัสอย่างเบามือ กัสทำปากจู๋หน้างอ
“ไม่รู้สิ..กัสก็ว่าสองคนมองกับพี่ฟ้าทั้งคู่เลยนะครับ แต่ตกลง พี่ฟ้าคบกับคนนี้แล้วเหรอ กัสเห็นเค้ามาอย่างบ่อยเลย แล้วคุณทิกเกอร์หายไปไหนล่ะฮะ” กัสพูดถามไม่หยุด
“ไม่รู้” ผมเลิกคิ้วและเบะปากตอบ
“ง่ะ..อยากรู้อ่ะ”
“เค้กก็อยากรู้ฮะ” เค้กโผล่หน้ามาแจมด้วยอีกคน
“แล้วเค้กแบบ..อะไรๆกับไอ้คิวไปรึยังล่ะ เรื่องบนเตียงน่ะ ถ้าเค้กบอกพี่ พี่ก็จะบอกเหมือนกันว่าพี่คบกับไอ้หมอนั่นรึเปล่า” ผมเลิกคิ้วกวน
“ใช่ เค้ก..บอกเลย!” กัสสมทบทันที เค้กหน้าเหวอและแก้มเริ่มแดง
“เรื่องแบบนั้น เค้กกับพี่คิวไม่ได้..คือ มัน จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ” เค้กพูดเสียงเบาลงเรื่อยๆพร้อมกับก้มหน้าลง ผมเพียงแต่หัวเราะและลูบหัวเค้กอย่างเอ็นดู ถ้ามองเผินๆเค้กก็เป็นเพียงเด็กผู้ชายหน้าตาดีที่เป็นวัยรุ่นชายปกติคนหนึ่งเท่านั้น แต่ที่แตกต่างคือเวลาที่เค้กอายมากๆทีไรเค้กมักจะทำตัวเองให้หดลงเหลือสองนิ้วทุกครั้งไป
“พี่ต้องไปแล้ว ฝากดูแลร้านเยี่ยงเจ้าของร้านด้วยนะครับ” ผมฝากฝัง
“ได้เลยครับ!” เค้กและกัสรับปากในทันที ผมพยักหน้าก่อนจะเดินออกมาจากเคาร์เตอร์และเดินตรงไปที่โต๊ะที่จักรนั่งอยู่
“เสร็จแล้วเหรอครับ” เมื่อจักรเห็นว่าผมเดินมา เขาปิดนิตยสารธุรกิจที่อยู่ในมือลง ผมพยักหน้าตอบ จักรยิ้มกว้างจ้องหน้าผมตาเยิ้มจนทำให้ผมต้องกลอกสายตาหนีไปอีกทาง
“อมยิ้มทำไมน่ะ” จักรถาม
“เปล้า” ผมยักไหล่ตอบ
“หึ..จักรสั่งเค้กไปให้ลูกน้องน่ะ รอแป๊บนึงแล้วกัน เห็นว่าเด็กกำลังจัดใส่กล่องให้อยู่” จักรเปลี่ยนเรื่อง
“วันนี้เดี๋ยวจักรพาไปกินอาหารจีนนะครับ จักรโทรไปจองโต๊ะไว้แล้ว” ผมพยักหน้าตอบ
“เค้กที่สั่งกลับบ้านห้าชิ้นได้แล้วครับ” หมีเดินนำเอากล่องเค้กมาให้พร้อมกับวางบิลลงบนโต๊ะก่อนที่จะเดินถอยห่างออกไปยืนรอสองสามเก้า จักรวางเงินลงประมาณสองพันบาทพร้อมกับลุกขึ้นยืน ก่อนจะปิดสมุดรับบิลลงเป็นการบอกเป็นนัยว่า..ไม่ต้องทอน
“ฝากร้านด้วยนะ” ผมบอกหมี หมีเพียงพยักหน้าตอบ ผมกับจักรเดินออกมาทางด้านหลังร้านด้วยกันเพราะรถยนต์ของจักรจอดอยู่ที่หลังร้าน
“อาราย” ผมท้วงแต่ไม่ได้หันกลับไปมองหน้าจักรเพราะรู้สึกเขินที่อยู่ๆจักรก็เข้ามาจับมือผมไปกุมไว้
“เดินจับมือ คนเป็นแฟนกัน..แปลกตรงไหน” จักรพูดด้วยน้ำเสียงสบายใจเหลือเกิน ผมหันกลับไปเบะปากให้แต่ก็ต้องขำกับหน้าตาท่าทางของเขา
จุ๊บ~
อยู่ๆจักรก็จับมือผมขึ้นไปจูบก่อนจะยิ้มกว้างด้วยหน้าทะเล้น ผมหัวเราะให้และไม่ได้ต่อว่าอะไร
“ฟ้า..” ผมและจักรชะงักหันหน้ามองไปตามเสียงเรียก ผมยืนอึ้งมองคนตรงหน้า ทิกเกอร์ยืนมองหน้าผมอย่างตกใจเช่นเดียวกัน ทุกคนเงียบลง ผมไม่ได้เอ่ยพูดอะไรเพราะมันเหมือนมีบางอย่างมาค้ำอยู่ในคอ เมื่อผมจะนำมือออก จักรกลับกำมือผมไว้แน่นกว่าเดิม
“.....................” ทิกเกอร์ยืนเงียบ สายตาที่เขามองผมนั้นเหมือนกับผมกำลังทำให้เขาเจ็บปวดอย่างนั้น สีหน้าของเขาดูผิดหวังอย่างรุนแรง
“ไปเถอะครับ” จักรพูดเสียงเรียบ
“ปล่อยมือฟ้า!” ทิกเกอร์ตรงปรี่เข้ามาหาจักรพร้อมกับผลักจักรอย่างแรง จักรผลักตัวทิกเกอร์กลับอย่างแรงเช่นเดียวกัน สีหน้าของจักรเปลี่ยนไปจากทุกครั้งที่เคยมีเรื่องกัน ครั้งนี้ไม่มีสีหน้ากับท่าทีที่ต้องการกวนอารมณ์หรือหยอกล้ออีกฝ่ายอีก หน้าจักรดุดันมากจนผมรู้สึกกลัว
“ฟ้า..นี่มันอะไรครับ” ทิกเกอร์ถาม หน้าของเขาเริ่มแดงด้วยความร้อนรน
“แค่นี้ มองไม่ออกรึไง” จักรกัดฟันพูด ทิกเกอร์หน้าเสียกว่าเดิม
“ท..ทำไมคุณ คุณคบกับเค้าแล้วเหรอ” ทิกเกอร์ถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ผมไม่ได้ตอบเพราะรู้สึกเจ็บที่มือที่จักรเริ่มบีบแน่นขึ้นเรื่อยๆ หัวใจเริ่มอยู่ไม่สุข ปากของผมเริ่มสั่นจนพูดไม่ออก ผมกำลังรับรู้อารมณ์ของพวกเราทั้งสามคน รวมไปถึงความสับสนในหัวใจผม มันยิ่งทำให้ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาหลายอาทิตย์ระหว่างที่ทิกเกอร์ไม่อยู่นั้น จักรกับผมเข้ากันได้ดีมาก ถ้าจะบอกว่าผมเอาจักรมาช่วยให้ผมอารมณ์ดีขึ้นได้..มันก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้น ผมกำลังใช้เขาเป็นเครื่องมือทำให้ผมมีความสุข
“เราไปกันได้ดี” จักรพูดน้ำเสียงเรียบ ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าจักร เขาไม่ยืดออกพูดออกไปว่า “เราคบกัน” อย่างเห็นแก่ได้ นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ ทิกเกอร์หันกลับมาจ้องหน้าผม ตาของเขาเหม่อลอยและแดง ผมเองก็คงจะเช่นเดียวกันละมัง
“คุณรักเค้าเหรอ” ทิกเกอร์ถาม เสียงเขามากแต่ผมก็ยังได้ยิน
“....................” ผมไม่ตอบอะไร ตาของผมพร่าเบลอ ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็มักแต่ได้ทั้งนั้น..ผมเองก็ด้วยเหมือนกัน อยากได้ความสุข..ผมอยากได้
“ทำไมคุณ..” ทิกเกอร์ทิ้งเสียงลง ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร อยู่ๆผมรู้สึกเหมือนกับว่า ตกลงมีใครไหมที่จะเห็นใจผมอย่างแท้จริง สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาเพราะต้องการตอบสนองความต้องการของตัวเองทั้งนั้น ทำไม..
ที่ตรงนี้เงียบลงอย่างกับถูกสาป ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างยืนจ้องกันอยู่นานเท่าไหร่ ได้สติอีกทีตรงนี้ก็ไม่มีทิกเกอร์อยู่แล้ว รถของเขาก็จากไปด้วย จักรยังคงกำมือผมแน่น ผมก้มลงมองพื้น ขณะเดียวกันก็เห็นน้ำตาของตัวเองที่หยดลงที่พื้น จักรไม่พูดอะไร เขาจูงมือเดินพาผมไปที่รถของเขาก่อนจะขับรถออกมาจากร้าน..
= = = = = = = = =
ณ คอนโดจักร..
“มาทานข้าวได้แล้วครับฟ้า ข้าวแกงกะหรี่น่องไก่เผ็ดๆที่ฟ้าชอบไง” จักรเดินมาตาม
“อื้ม” ผมพยักหน้ายิ้มตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินตามจักรไปที่โต๊ะอาหาร หลังจากที่ออกมาจากร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ตั้งแต่เมื่อตอนสาย ผมกับจักรไปทานอาหารกลางวันก่อนจะพากันเดินช๊อปปิ้งและมาจบที่คอนโดของจักรนี่ละครับ เราตกลงกันไว้ว่าผมจะอยู่ทานอาหารค่ำที่คอนโดของจักร ด้วยจักรได้ลงมือทำข้าวแกงกะหรี่น่องไก่รสที่ผมชอบ ส่วนผมเอาแต่นั่งๆนอนๆ ดูโทรทัศน์ไปพลางอย่างกับเป็นเจ้าของห้องก็ไม่ปาน
“อร่อยไหม” จักรถามหลังจากที่ผมได้กินคำแรกนำไปก่อน
“อร่อย” ผมยิ้มตอบ จักรยิ้ม ที่จริงบรรยากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตั้งแต่เมื่อตอนสายแล้ว แต่ผมพยายามแล้วที่จะโฟกัสอยู่เพียงแค่จักรและผมเท่านั้น ผมไม่อยากให้เสียบรรยากาศ ผมพยายามคอนโทรมันไม่ให้ไขว้เขวอยู่ตลอดเวลาจนผมเองก็รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ
“ดีแล้วครับ” จักรยิ้มน้อยๆ เรานั่งทานอาหารต่ออย่างเงียบๆ ส่วนมากจักรจะเป็นคนชวนผมคุย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งเรื่องข้าวซุบซิบในวงการไฮโซก็ตาม หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ ผมถือวิสาสะเปิดไวน์ของจักรอย่างไม่ได้ขอ จักรเพียงแต่หัวเราะและไม่ได้ต่อว่าอะไร เขาจัดการเก็บโต๊ะอาหารและเข้าไปล้างจานในครัว ส่วนผมก็ออกมานั่งจิบไวน์อยู่ที่ระเบียงห้องคนเดียว..
“สบายจังเลยนะครับคุณเจ้าของห้อง” จักรเดินมายิ้มแซว ผมหันกลับไปยิ้มให้ จักรนั่งลงข้างๆผม เก้าอี้ตัวยาวสามารถรองรับได้สองคนพอดี
“จุ๊บ~” อยู่ๆจักรก็เข้ามาหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว
“ชอบทีเผลอตลอด โรคจิตรึไงน่ะ” ผมว่าแกมหัวเราะ จักรหัวเราะตอบก่อนจะเอาหน้ามาซบไหล่ผมอย่างออดอ้อน
“ฟ้า” จักรเรียกเสียงยาน ยังคงเอาหน้าซบที่ไหล่ผมอย่างเดิม
“อะไร” ผมขานตอบ
“คิดอะไรอยู่ครับ”
“....................” ผมเงียบ รู้สึกชะงักจนไม่สามารถตอบจักรไปได้ เราสองเงียบลงทั้งคู่ จักรไม่พูดอะไรอยู่นานมาก ผมเองก็เช่นเดียวกัน
“ฟ้ารู้ไหม เหมือนใจฟ้าไม่ได้อยู่ตรงนี้”
“..เหมือนจักรอยู่คนละโลกกับฟ้าเลยนะครับ” จักรพูดพึมพำเสียงเบา ผมเหลือบมองหน้าจักรก่อนที่จักรจะกลับไปนั่งตัวตรงอย่างเดิม แต่เขาก็ไม่ได้หันหน้ากลับมามองหน้าผม เราเงียบลงอีกครั้ง ผมได้ยินเสียงจักรถอนหายใจแรง
“กับจักร ไม่ได้จริงๆสินะ” จักรหันมามองหน้าผม สายตาของเขาผิดหวังจนผมต้องหันหน้าหนีทันที
“เปล่า” ผมตอบเสียงเบา
“หึ..” จักรหัวเราะ
“..จักรขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมา แต่เป็นจักรไม่ได้เหรอครับ” อยู่ๆจักรก็สอดแขนเข้ามากอดเอวผมไว้ ผมไม่ได้ดิ้นหนีแต่นั่งนิ่งให้จักรกอดไปทั้งตัว ผมได้แต่เงียบ กลับรู้สึกจุกอยู่เต็มอกจนไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ จักรซบหน้าลงบนไหล่ของผมอีกครั้ง คราวนี้เราต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นาน จักรกอดผมแน่นไม่ยอมคลายอ้อมแขนลงเลย
“ฟ้ารักมันใช่ไหม” จักรถามขึ้น แต่ผมไม่ตอบอะไร
“หึ..จักรอกหักเหรอเนี้ย” จักรพูดอีก น้ำเสียงพูดปนหัวเราะแต่กลับรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายหายใจแรงมาก
“จักร” ผมย้ำเสียงเป็นการปรามการตัดสินใจของตัวเอง
“ฟ้ารู้ไหมครับว่าฟ้าฝืนยิ้มมาตั้งแต่เจอไอ้ฝรั่งนั่น ฟ้ารู้ไหมว่าที่จริงจักรรู้สึกหงุดหงิดมากแค่ไหน..จักรน่ะ อยากทำให้ฟ้าลืมมันซะเดี๋ยวนี้จริงๆ” จักรพูดเสียงเรียบ
“หึ แย่จังนะ..นึกว่าจะสำเร็จอยู่แล้วเชียว” จักรพูดสลับอารมณ์ไปมาด้วยเสียงอ้อนอย่างกับเด็ก ผมเพียงหัวเราะในลำคอ
“ฟ้าเหนื่อยน่ะจักร” ผมพูดขึ้น และยิ้มให้เขาเพียงนิดเดียว
“จักรก็เหนื่อยครับ” จักรพูดบ้าง
“แต่เหนื่อยของเราสองคน คงคนละความหมายกัน” จักรถอนหายใจ
“ฟ้ารักจักรไม่ได้แล้ว..จริงๆเหรอครับ” จักรถาม ผมหันกลับไปมองหน้าจักรก่อนจะเอื้อมมือลูบหน้าจักรอย่างเบามือ
“ไม่รู้” ผมตอบน้ำตาคลอ
“หึ..ไม่เป็นไรครับ ไม่รู้ก็ได้..ไม่เป็นไร” จักรยิ้มตอบน้อยๆพร้อมกับนำมือของตัวเองมากุมมือผมที่จับแก้มจักรไว้ จักรก้มหน้าลงเน้นจูบมือของผมอยู่นาน
“จักรผิดเอง ขอโทษครับ..ขอโทษจริงๆ” จักรพูดทั้งทั้งที่หลับตาอยู่ น้ำตาของผมหยดลงอาบแก้มอย่างไร้สาเหตุ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไรต่อคำพูดของจักร จักรตาแดงไม่ต่างจากผม เรายิ้มให้กันและกันก่อนที่จักรจะกอดผมเข้าไปทั้งตัว
-
“ฟ้ากลับไปเถอะครับ” จักรตัดบท
“กลับไปถามหัวใจของตัวเองให้ดี..”
“ว่าจะไม่กลับไปหาเค้าจริงๆรึเปล่า ทำตามหัวใจของตัวเอง..ช่วยทำตัวให้มีความสุขมากกว่านี้ เพื่อจักรหน่อย..จะได้ไหมครับ”
“ถ้าเลือกที่จะอยู่ตรงนี้กับจักร ก็ช่วยอย่าทำเหมือนจักรไม่มีตัวตนแบบนี้” ผมน้ำตาไหลลงมากกว่าเดิม จักรยังคงกอดผมอยู่อย่างนั้นอยู่นาน ผมไม่พูดตอบอะไรจักรเลย น้ำตามันไหลลงมาอย่างกับไม่เคยได้ร้องไห้มาก่อนอย่างนั้น จักรกอดและลูบหัวปลอบผมอยู่เกือบชั่วโมง จนเราต่างฝ่ายต่างรู้สึกเมื่อยละมัง จักรถึงปล่อยผมออกก่อนที่จะหากระดาษทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้ผม
“เดี๋ยวจักรขับรถไปส่งที่บ้านนะ” จักรยิ้ม ผมยิ้มและพยักหน้าตอบ จักรจัดการเก็บแก้วและขวดไวน์ก่อนจะพาผมมาส่งที่บ้าน ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรต่อกันเลยจนมาถึงบ้านของผม
“ขอโทษนะ” ผมพูดขึ้น จักรไม่ได้หันกลับมามองแต่ใบหน้าเขากลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“ถือว่าเจ๊ากันไปก็แล้วกันครับ” จักรฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมและพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะนิดๆ ผมยิ้มตอบให้
“ขอบคุณนะ” ผมบอก จักรนั่งเงียบ เขาหุบยิ้มลง
“จุ๊บ~” ผมเอื้อมตัวเข้าไปหอมแก้มจักรเบาๆ
“ฝันดีครับ” ผมพูดแทบกระซิบ
“ครับ..ฝันดี” จักรไม่ได้หันหน้ามามองผมอีก เขาเพียงพูดตอบและยิ้มให้แค่นั้น ผมลงมาจากรถและเดินตรงเข้าบ้านทันที ผมเดินเข้ามาในบ้าน ดึกป่านนี้แล้วคิวคงทานอาหารค่ำแล้วเรียบร้อยหรืออาจจะขึ้นห้องไปแล้วก็ได้ บ้านเงียบมากเกินไปจนผมรู้สึกเหงาขึ้นมาจุกอก ผมต้องเดินผ่านห้องหนังสือถึงจะเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองของบ้านได้ แต่ผมหวังอยู่ลึกๆว่าหลานชายสุดที่รักอาจจะยังอยู่ในห้องนั้น ผมหวังให้คิวอยู่..ขอให้เขาอยู่ในนั้นเถอะ
ผมหยุดเดินอยู่ที่หน้าห้องหนังสือ คิวที่กำลังจะเดินออกมาจากห้องชะงักเมื่อหันมาเห็นว่าผมเดินมาพอดี คิวเดินตรงเข้ามาใกล้ผมด้วยสีหน้าถมึงทึง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างบอกอารมณ์
“เป่าปี่ทำไมน่ะ” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ
“อึก..” ผมโผเข้ากอดคิวไว้ทันที คิวเพียงแต่ยืนนิ่ง ผมกอดคิวแน่นกว่าเดิมและซุกหน้าเข้าที่หน้าอกของหลานของตัวเองอย่างต้องการรับไออุ่นจากอีกฝ่าย
“ฟู่..” อีกฝ่ายถอนหายใจแรงก่อนจะวางมือลงบนหลังของผมอย่างเบามือ ผมยืนกอดคิวอยู่อย่างนี้อยู่นานมาก คิวเองก็ไม่ได้เอ่ยปากบ่นอะไรจนเวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง จนผมรู้สึกว่าน้ำตาไม่สามารถออกมาได้อีกนั่นละผมถึงปล่อยคิวออก
“กินอะไรมารึยัง” อีกฝ่ายถาม ผมพยักหน้าตอบก่อนจะปาดแก้มเช็ดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆ
“ขึ้นไปอาบน้ำซะ..ถ้ากอดนานกว่านี่ คิวก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมตัวเองไม่ให้ด่าได้ไหม” มันว่า
“หึ” ผมหัวเราะ
“เดี๋ยวคิวจะทำอะไรร้อนๆไปให้”
“อื้อ” ผมยิ้มให้หลานตัวเองก่อนจะเดินออกมาจากห้องหนังสือและเดินตรงขึ้นห้องนอนเพื่อที่จะอาบน้ำให้สบายตัวขึ้น หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็พบว่าคิวนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ถึงห้องแล้ว
“โห นมสด..อยากกินชาอ่ะ” ผมบ่นทันทีเมื่อเห็นแก้วนมสดร้อนวางอยู่บนโต๊ะ
“อย่าเรื่องมาก” อีกฝ่ายว่าก่อนจะยกนมสดแก้วของตนเองขึ้นดื่ม
“ถ้าปวดหัวก็กินยาด้วย” คิวพูดส่งๆ ผมเหลือบมองยาที่วางอยู่บนใกล้ๆกับแก้วนม
“แหม..เป็นห่วงเค้าอ่ะดิ้” ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆคิวก่อนจะเอาหัวไปซุกไหล่มัน คิวนั่งนิ่ง อยู่ๆในห้องก็เงียบไร้เสียงใดๆ
“ที่จริง ถ้าคุณจะเลือกไอ้ เอ่อ..อาจักร ผมก็คงจะไปฝืนอะไรไม่ได้ล่ะนะ” คิวเปลี่ยนน้ำเสียงลง
“แต่ถ้าคุณยังรักเค้าอยู่ ก็รีบไปหาเค้าเถอะ..ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป” คิวพูดเสียงเรียบ ผมเงียบ และรับรู้ได้ว่า “เขา” ในที่นี้ที่คิวหมายถึงนั้นไม่ใช่ “จักร” อย่างแน่นอน
“ก่อนที่ทิกเกอร์จะเลือกมาหาคุณ ไม่ใช่เค้าไม่ทดสอบตัวเองก่อนแล้วหรอกนะว่าที่จริงแล้ว เค้ารักหรือเค้าแค่หลงคุณกันแน่..เพราะเค้าแน่ใจแล้ว เค้าถึงมา” คิวพูด ผมไม่ตอบเพราะกำลังคิดตามที่คิวพูด ผมรู้สึกว่าคำพูดนี้มันมีความหมายนัยๆอย่างไรพิลึก
“คิวก็ต้องเข้าข้างทิกเกอร์สิ” ผมบ่นอย่างน้อยใจ
“แน่ล่ะ..จากัวร์คันนั้นสิบสี่ล้านเลยนะ ไหนจะ Patek Philippe อีก..หึ” มันแสยะยิ้ม ดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความชอบอกชอบใจในสิ่งของอย่างเต็มพิกัด
“แต่ก็นะ ของมันก็แค่ผลพลอยได้ละนะ” อีกฝ่ายแก้ตัว ผมรู้ดีว่านี่คือคำแก้ตัวอันแสนฉลาดของหลานผมก็เท่านั้น
“ก่อนที่ผมจะช่วยเค้า..ผมเองก็ต้องแน่ใจก่อนด้วยเหมือนกัน” คิวพูด ผมหุบปากเงียบ กะว่าจะเถียงแต่ก็ยังนึกคำพูดไม่ออก
“ตกลงจะคบกับไอ้อาจักรนั่นใช่ไหม” คิวถามอีกครั้ง จาก “อาจักร” รวม “ไอ้” จึงกลายเป็น “ไอ้อาจักร” อย่างน่าขำเพราะคิวกำลังพยายามลดทิฐิของตัวเองลงแต่ก็เหมือนทำไม่ได้
“เปล่า” ผมตอบเสียงเอื่อย
“เหรอ..เห็นทิกเกอร์บอกว่า คบกันแล้วนี่” คิวว่า
“ก็..ตอนแรกว่าจะอย่างนั้น ก็ไอ้หมอนั่นดันโผล่มาตอนนั้นทำไมล่ะ” ผมพูดแก้ตัว
“หึ..ช่างมันเถอะ เฮิร์ทซะขนาดนั้น..อีกไม่กี่วันคงทำเรื่องขอกลับไปอยู่ประจำที่อังกฤษแหละ” คิวพูด ผมผละตัวออกจากไหล่ของคิวพร้อมกับจ้องหน้าคิวเขม็ง คิวเลิกคิ้วเบะปากตอบให้ผม
“กินสักทีสิ จะได้เข้านอน..ผมก็จะไปนอนแล้ว” คิวบอกก่อนจะหันกลับไปหยิบกระดาษโน้ตใกล้มือมา ผมนั่งมองว่าคิวกำลังเขียนอะไรอยู่ พอคิวเขียนเสร็จก็เลื่อนกระดาษบนโต๊ะมาตรงหน้าผม ผมเพียงเหล่สายตามองแต่ก็ยังทำหยิ่งที่จะหยิบขึ้นมาดู
“หยิ่งได้ใครน่ะ” มันแสยะยิ้ม มองผมอย่างกับผมเด็กกว่ามันอย่างนั้น
“เจ็บปวดอยู่ไม่ใช่รึไง” คิวพูดแกมประชดก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปพร้อมกับแก้วนมของตัวเอง ผมนั่งเงียบแต่ลมหายใจกลับแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมหยิบกระดาษขึ้นมาดู เป็นชื่อบริษัทและที่อยู่ของบริษัท รวมไปถึงตำแหน่งงานของทิกเกอร์ด้วย..
“หึ..” ผมน้ำตาคลอ
~ แพ้แล้วสินะ..แพ้หัวใจตัวเองอีกแล้ว ~
= = = = = = = =
08:00 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“วันนี้จะออกไปไหนกันน่ะ ถึงเสนอหน้ามากินข้าวด้วยกันได้” ผมทักหลานตัวดีสองคน เซ็นและคิวมานั่งรอที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้าแล้ว
“จะไปส่งเชอร์เบ็ตไปเรียนบัลเล่ต์น่ะ แล้วก็พาบัตเตอร์ไปเรียนขี่ม้าต่อ..” คิวตอบพร้อมกับคลี่ผ้ากันเปื้อนเตรียมพร้อมทาน
“เราก็เลยจะขี่ด้วยน่ะอา ขาดหายมานาน..เดี๋ยวจะลืมรสชาติซะหมด” เซ็นยิ้ม
“ขี่กันเองหรือขี่ม้า” ผมว่าแซวไปอย่างนั้น
“หึ ถามไอ้คิวดีกว่านะ..ว่ามันจะยอมให้เซ็นเป็นเมียมันเปล่า เซ็นน่ะยอมให้มันขี่ได้อยู่แล้ว สบาย..หึหึ” เซ็นเล่นหูเล่นตา คิวส่ายหัวอย่างเบื่อหน่ายต่อคำพูดของผมทั้งสองคน
“แล้วจะกลับกี่โมง” ผมถามเพราะรู้สึกอยากไปด้วยขึ้นมา
“สนเหรอ” คิวอมยิ้ม มันมองเหล่มาที่ผมตั้งแต่หัวจรดเสื้อผ้าที่ผมสวมใส่
“หึ..”
“นี่!” ผมปรามเสียงหัวเราะจากเซ็นเหมือนทั้งสองกำลังอ่านผมออกอย่างนั้นแหละครับ
“วันนี้คุณอาจะไปไหนเหรอครับ” เซ็นยิ้มถามอย่างหยอกล้อ
“มันเรื่องของฉัน” ผมตอบก่อนจะรีบตักอาหารกินด้วยรู้สึกเขินขึ้นมา
“มึงต้องเรียกค่าสินสอดเยอะๆนะไอ้คิว..โอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะเว้ย” เซ็นยักคิวให้เพื่อนตน คิวยิ้มยักคิ้วตอบด้วย
“อาไม่ได้จะไปหาทิกเกอร์สักหน่อย!” ผมว่า
“พูดอะไรรึยังล่ะ” มันสองคนประสานเสียงกัน ผมหุบปากเข้าหากันทันที
“พอดีเลย กูกำลังอยากต่อเติมโรงจอดรถพอดี” คิวเห็นดีเห็นงามไม่เลิกอีก
“เน่..หุบปากกันได้ไหมเนี่ย” ผมว่า ทั้งรู้สึกเขินรวมถึงหงุดหงิด สงสัยผมคงจะมีพิรุธมากไปเสียหน่อย ผมก็ว่าผมไม่ได้แต่งตัวให้ดูเกินหน้าเกินตาไปนะครับ ก็ใส่เสื้อเชิ้ตกับแจ็คเก็ตปกติ เมื่อคืนผมนอนคิดอยู่หลายตลบว่าผมควรทำตามหัวใจของผมอย่างที่จักรขอร้องดีรึเปล่า ก้นบึ้งของหัวใจกลับเห็นดีเห็นชอบต่อคำพูดของคิวและจักรไปซะหมด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหาบทสรุปได้จนคล้อยหลับไป ตื่นมาอีกที เมื่ออาบน้ำแต่งตัว ระหว่างที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่นั้น เหมือนมันมีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเตือนสติของผม จิตใต้สำนึกที่ผมกำลังต้องการเสื้อผ้าที่ดูดี บอกได้ว่าผมเลือกเพื่อที่จะไปที่ไหน ผมเลือกหาชุดที่ดูดีเหมาะสมกับวันนี้มากที่สุดเพื่อใคร..นั่นเหมือนกับเตือนสติผมไปเป็นนัยอย่างนั้น
เมื่อแต่งตัวเสร็จ ความรู้สึกก็ไม่วายจะขัดแย้งกันอีก ผมหยิบกระดาษที่คิวจดที่อยู่ของบริษัททิกเกอร์มานั่งจดๆจ้องๆอยู่นานเกือบชั่วโมง เมื่อผมพลิกกระดาษมาอีกด้านหนึ่งเพื่อจะตัดใจไม่จ้องมองที่อยู่นั่น ก็ต้องพบกับข้อความข้อความหนึ่งเข้า เป็นข้อความที่ทำให้ผมชะงัก เป็นข้อความและลายมือที่ทำให้ผมถึงกับต้องยิ้มทั้งน้ำตา ที่จริงก็บอกไม่ได้ว่าข้อความนี้จะตรงตอกย้ำถึงความรู้สึกของผมไปมากกว่าที่จักรและคิวได้พูดมาก่อนหน้า แต่มันเหมือนกับย้ำเตือนว่า “นี่คือเวลาสุดท้ายแล้ว” แค่นั้น ข้อความจากเธอคนนี้ละมัง..ที่ไม่ทำให้ผมต้องนั่งมองชื่อบริษัทและคิดหนักอีกต่อไปว่าจะไปดี...หรือไม่ไปดี
“อย่างว่าแหละเนอะ คนเรา..ไม่ได้เจอคนที่ใช่บ่อยๆซะเมื่อไหร่” เซ็นพูดขึ้นพร้อมกับโยกหัวไปมาไม่หยุด
“ถ้าเจอใครก็ได้ แล้วบอกว่าใช่ทุกคนอย่างมึง..กูว่าพบจิตแพทย์เหอะ” คิวสวนว่าเซ็นพ่วงไปด้วยอีกคน
“อ่าว..แล้วไหงมึงมาว่ากูด้วยล่ะ” เซ็นว่า
“ก็จริง” คิวตอบ
“ก็กูยังไมเจอนี่หว่า คนที่ใช่อ่ะ..ใช่แบบคบด้วย กับใช่แบบคู่นอน มันไม่เหมือนกันเนอะอาเนอะ” เซ็นหันมาพยักพเยิดหน้าใส่ผมอย่างขอความคิดเห็นร่วม
“ไม่รู้” ผมเบะปากตอบอย่างไม่สนใจมันบ้าง
“หึหึ” ทั้งสองคนหัวเราะร่วน เรานั่งทานอาหารเช้าร่วมกัน เป็นนานๆทีที่จะได้มานั่งทานร่วมกับเซ็นอย่างนี้ กว่าจะทานหมด ผมก็โดนเผาจนเกรียมไปหมดเลยล่ะครับ..เฮ้อ “เด็กเปรต”
= = = = = = = =
บริษัท Empire สาขาใหญ่ประจำประเทศไทย..
“ไม่ทราบว่ามาพบใครคะ” พนักงานต้อนรับยิ้มถาม
“ทิกเกอร์” ผมตอบไม่เต็มเสียง เธอชะงักด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย
“ผู้จัดการใหญ่..ทิกเกอร์ โจนาธาน แคทเทอร์ครับ” ผมตอบแต่ไม่ได้มองหน้าเธอ ผมกวาดตามองไปรอบๆตัวแทนเพราะรู้สึกไม่คุ้นสถานที่
“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้รึเปล่าคะ” เธอถามอีกครั้ง
“เปล่าครับ” ผมตอบ
“เดี๋ยวดิฉันจะติดต่อให้นะคะ ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ” เธอพูด
“เมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ครับ” ผมตอบ
“..อ๊ะ ค่ะ” ผมพยักหน้าพูดอย่างตะกุกตะกักก่อนจะก้มหน้าต่อสายโทรศัพท์ให้ผม ผมยืนหันหลังให้กับเธออยู่ครู่หนึ่ง
“คุณเมธิชัยคะ คือว่า..วันนี้ผู้จัดการมีประชุมทั้งวันเลยน่ะค่ะ” เธอยิ้มแหยบอก
“คุณต่อสายตรงถึงเขาเหรอ” ผมถามเสียงแข็ง ด้วยรู้สึกเสียหน้าขึ้นมา
“ป..เปล่าค่ะ” เธอตอบ พนักงานคนอื่นที่อยู่แถวนั้นอีกสองสามคนเดินมาใกล้เธอคนนี้เหมือนต้องการช่วยเหลือ พวกเธอต่างสอบถามพนักงานคนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“งั้นช่วยต่อสายตรงถึงผู้จัดการของคุณด้วย” ผมสั่ง
“แต่..แต่ว่า ตอนนี้ผู้จัดการกำลังพบลูกค้าคนสำคัญอยู่น่ะค่ะ” เธอยิ้มตอบ
“....................” ผมเงียบ มองหน้าเธอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ผมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา จดๆจ้องๆอยู่ที่เบอร์โทรของทิกเกอร์ก่อนที่ผมจะตัดสินใจโทรออก ผมยืนรอสายอยู่นานมากจนตัวเองรู้สึกตื่นเต้น หัวใจเริ่มเต้นอย่างผิดปกติ
“ฮัลโหล” ปลายสายรับ เป็นน้ำเสียงที่ปราศจากความดีใจอย่างสิ้นเชิง เสียงรอบตัวจากปลายสายเหมือนมีคนอยู่ด้วยสองถึงสามคน
“คุณประชุมเหรอ” ผมถาม พนักงานต้อนรับสามสี่คนเอาแต่จ้องหน้าผมเขม็ง
“ครับ ผมพบลูกค้าอยู่” อีกฝ่ายตอบ
“ลูกน้องคุณสามคน กำลังยืนจ้องหน้าผม..เค้าไม่ยอมให้ผมพบคุณ” ผมพูดเสียงแข็งอย่างชัดถ้อยชัดคำ จนพนักงานที่ยืนจ้องหน้าผมอยู่หน้าเสียและต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง
“....................” ทิกเกอร์เงียบไป
“ผมมีลูกค้าคนสำคัญต้องคุยงานน่ะ คุณมีอะไรรึเปล่า” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงห่างเหิน
“มีสิ..ไม่มีผมจะโผล่มาทำไมถึงที่นี่ล่ะ!” ผมว่ากลับอย่างหงุดหงิด
“ผม..ผมมีประชุมต่อด้วย แค่นี้นะ” อีกฝ่ายพูดตะกุกตะกักก่อนจะตัดสายทันที
“ไอ้ทิกเกอร์!” ผมตะคอกทั้งทั้งที่ปลายสายวางสายไปเรียบร้อยแล้ว
“ไอ้..ไอ้ ฮื้ม ไอ้ฝรั่งเลว!”
“ห้องผู้จัดการอยู่ชั้นไหน” ผมถอนหายใจก่อนจะกัดฟันถามออกไปอย่างโมโห ผมพยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองไม่ให้มันครุไปมากกว่านี้
“แต่..” เธอคนเดิมตะกุกตะกัก
“อย่าให้ผมต้องถามซ้ำ ไม่งั้นผมจะโทรไปสำนักงานใหญ่ที่อังกฤษ แล้วบอกว่าบริษัทคุณสาขานี้มันไร้ประสิทธิภาพ” ผมขู่ไปอย่างนั้นเอง เธอหน้าเหรอหราในทันที
“แต่ดิฉันบอกไม่ได้จริงๆค่ะถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผู้จัดการใหญ่ก่อน” เธอตอบ
“ได้!” ผมกระแทกเสียง ตอนนี้รู้สึกโมโหไปหมด ยิ่งทิกเกอร์ทำตัวอย่างนี้ใส่ผม ผมยิ่งรู้สึกโมโหมากขึ้นไปใหญ่ ผมกดโทรศัพท์ต่อสายหาปูนเดี๋ยวนั้น และต้องรอสายอยู่นานมากกว่าคนปลายสายจากอีกฝั่งทวีปจะกดรับ
“ปูน! พนักงานบริษัทแกมันไม่ให้ฉันขึ้นไปพบไอ้ทิกเกอร์!” ผมพูดโวยวายเสียงดัง
“เอ๊ะ ไอ้ฟ้า..” ปูนอุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น” ปูนถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“อย่าเพิ่งถามตอนนี้ได้ไหม ฉันโมโหไปหมดแล้วเนี้ย..จัดการพนักงานบริษัทแกให้ฉันเดี๋ยวนี้” ผมสั่งก่อนจะยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้กับพนักงานต้อนรับ เธอรับไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ค่ะ..ค ค่ะ..ใช่ค่ะ ค่ะ..เลขาบอกว่าผู้จัดการมีประชุมทั้งวันค่ะ ท่านสั่งไม่ให้ใครนัดวันนี้”
“ค่ะ ค่ะ..ค่ะ ขอโทษค่ะ” เธอพูดเสร็จก็ยื่นโทรศัพท์มือถือกลับมาให้ผมอย่างนอบน้อม ผมเห็นว่าปูนยังไม่ได้กดตัดสายจึงนำมาคุยต่อ
“โอเคแล้ว..แล้วจะโวยวายอะไรก็ช่วยนึกถึงหน้าพี่สาวฉัน ฉันกับทิกเกอร์มันหน่อยได้ไหม อีบ้า!” ปูนด่าทันทีเหมือนรู้ว่าผมกำลังฟังอยู่
“ก็มัน..” ผมกำลังจะเอ่ยแก้ตัว
“แล้วก็สำนึกบ้างนะ ว่าเวลาประเทศแกกับประเทศที่ฉันอยู่นี่มันไม่ตรงกัน” ปูนกัดฟันว่าอีก
“อ๋อ ลืมน่ะ..โทษที แค่นี้นะ ขอบคุณ” ผมบอกก่อนจะตัดสายทันที
-
“ตกลงชั้นไหนครับ” ผมปรับอารมณ์ก่อนจะถามเธอออกไป
“ชั้นที่สามสิบค่ะ ออกจาลิฟต์แล้วเลี้ยวขวาเลยนะคะ” เธอยิ้มบอก
“ขอบคุณครับ” ผมบอกก่อนที่จะเดินตรงดิ่งไปขึ้นลิฟต์ในทันที เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่ว่า ผมเดินตรงไปตามทางที่พนักงานต้อนรับได้บอกไว้ เมื่อเดินไปก็ไม่พบใครนอกจากพนักงานที่กำลังตั้งใจทำงานอยู่ในห้องส่วนตัวของใครของมัน
“เอ่อ ขอโทษนะครับ” ผมทักผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งเดินมา
“ครับ” เขาหยุดชะงักตรงหน้าผม
“ไม่ทราบว่า ห้องของผู้จัดการใหญ่อยู่ไหนครับ” ผมถาม
“อ่อ ตรงไปสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายเลยครับ จะอยู่ทางด้านซ้ายมือนะครับ” เขายิ้มและผายมือเป็นการบอกทางด้วย
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มและผงกหัวให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะรีบก้าวเท้ายาวเดินไปตามทางในทันที ผมไม่รู้ว่าผมใจร้อนหรือเพราะทางมันไกลมากกันแน่ ตอนนี้รู้สึกเหมือนอะไรๆก็ไม่ได้ดั่งใจไปซะหมด
“ขอโทษนะครับ” ผมรีบวิ่งเข้าไปทักเลขาของทิกเกอร์ ผมจำเธอได้ดีเพราะเธอมีลักษณะหน้าตาที่โดดเด่นและจำได้ง่าย
“อ่าว..คุณ” เธอชะงักด้วยท่าทางงงๆ
“ทิกเกอร์อยู่ไหนครับ” ผมถามตรงประเด็น
“บอสเข้าพบลูกค้าน่ะค่ะ คุณนัดบอสไว้เหรอคะ..เอ๊ะ หรือว่าคุณคือคนที่โทรติดต่อมาเมื่อกี้” เธอถาม
“ใช่ครับ” ผมตอบ รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงของตัวเองเริ่มไม่ปกติ
“อ่อ คือ..ไม่ได้นัดไว้ใช่ไหมคะ ตอนนี้บอสเข้าพบกับลูกค้าอยู่น่ะค่ะ..พบลูกค้าเสร็จก็มีประชุมต่อด้วยค่ะ”
“แล้วจะประชุมเสร็จเมื่อไหร่” ผมถามอีก
“น่าอีกสักประมาณสองชั่วโมงนะคะ อาจจะเสร็จก่อนพักเที่ยง” เธอยิ้มตอบ
“...................” ผมเงียบ หันหน้าหนีเธอ ผมรู้สึกว่าผมอยากคุยตอนนี้ ผมไม่อยากรอ มันเหมือนกับว่าผมกำลังจะสูญเสียเขาไปอย่างนั้น อย่างที่เขาว่ากันไว้..ของที่ได้อย่างเคยชินมักจะสำคัญเมื่อจากไป คงเป็นอย่างนั้นจริงๆละมั้ง..หึ น่าสมเพช
“เอ่อ ยังไง..ถ้าคุณจะรอ เข้าไปรอในห้องรับรองแขกก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะบอกบอสให้ค่ะ” เธอยิ้มบอกพร้อมกับผายมือให้
“ดิฉันต้องเข้าร่วมประชุมด้วย” เธอพูด
“ได้ครับ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ค่ะ” เธอยิ้มก่อนจะเดินตรงไปอีกทางหนึ่ง ผมเดินเข้าไปนั่งในห้องสำหรับรับรองแขกที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ในห้องไม่มีใครนอกจากผม มีโทรทัศน์ให้ดู มีหนังสือพิมพ์ มีกาแฟและอาหารรองท้องเล็กๆน้อยๆ แต่นั่นไม่ใช่ส่วนสำคัญหรอกครับ ส่วนสำคัญในตอนนี้คือผมต้องควบคุมสติอารมณ์ที่มันตีวนกันไปหมดของผมในตอนนี้ให้อยู่หมัดนี่ล่ะ
ผมนั่งรออยู่สองชั่วโมง เป็นสองชั่วโมงที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนใจ เมื่อเกือบจะเที่ยงครึ่ง ผมเห็นว่ามีคนเริ่มทยอยเดินออกมาจากห้องประชุม ทำให้ผมพอจะเดาได้ว่าการประชุมน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว บางคนเดินตรงไปทางฝั่งที่ต้องไปขึ้นลิฟต์ ผมออกมายืนรอตรงหน้าห้องที่ผมเจอเลขาในตอนแรก ไม่นานทิกเกอร์ก็เดินออกมาพร้อมกับเลขาของเขาและใครก็ไม่รู้อีกสองสามคน เมื่อทิกเกอร์หันมาเห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ เขาถึงกับชะงักเบิกตาโต ผมทำหน้างอใส่เพราะเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าผมกำลังโกรธเต็มขั้น
“ทิกเกอร์!” ผมเรียกแทบจะตะโกน เมื่อเห็นว่าทิกเกอร์ทำท่าจะเดินหนีผมไปโดยเขาทำเป็นพูดคุยกับคนอื่นอย่างไม่สนใจผม ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างชะงักด้วยความตกใจ เลขาของทิกเกอร์หน้าเสีย
“ผมมีประชุมนะครับ มีประชุม..ทั้งวัน” ทิกเกอร์เดินตรงเข้ามาหาผมก่อนจะพูดบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สายตาของเขาเย็นชาจนผมรู้สึกกลัว
“ผมไม่สน” ผมรีบตอกกลับ
“งั้นก็ตามใจคุณ” ทิกเกอร์สวนกลับทันควัน มากกว่าที่ผมจะรู้สึกน้อยใจคือผมรู้สึกโมโหมากกว่า พอทิกเกอร์เดินไป ผมมองซ้ายมองขวาคิดอะไรไม่ออก เหมือนสมองไม่ทันได้มีสติยับยั้ง ผมหยิบแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานที่อยู่ใกล้มือมา ก่อนจะสาดน้ำเข้าไปที่ทิกเกอร์เต็มๆ
“ว้าย! บอส” ทุกคนต่างร้องกันเสียงหลง
“ฟ้า!” ทิกเกอร์หันมาว่า น้ำเสียงคล้ายเหลืออดต่อผม
“คุณมาทำอย่างนี้ได้ยังไงคะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดุดัน
“คุณยุ่งอะไร” ผมว่าเธอ พร้อมกับส่งสายตาเช่นเดียวกับที่เธอทำให้ผมกลับไปด้วย
“เอ๊ะ..งั้นแคลเรียกรปภ.นะคะ” เธอพูดด้วยสีหน้าเหรอหรา
“รปภ.ๆ..นี่เธอ เรียกรปภ.มาสิ” เธอหันไปพูดเสียงดัง พนักงานเริ่มวุ่นวายและตื่นตระหนก
“ม..ไม่ต้องครับ” ทิกเกอร์ห้าม แต่เพียงไม่กี่อึดใจพนักงานรักษาความปลอดภัยก็วิ่งมาถึง
“ให้เงินเดือนเท่าไหร่น่ะ มาเร็วจริงๆนะ” ผมแสยะยิ้ม
“กล้าจับก็ลองดู” ผมพูดเสียงแข็ง ตาขวางมองพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งสองคน ทำให้ทั้งสองไม่กล้าเข้ามาจับตัวผมอย่างที่ตั้งใจ
“ฟ้า..คุณเข้าไปคุยกับผมในห้องก่อน” ทิกเกอร์เดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น เขาพูดแทบกระซิบ
“ไม่! ผมจะคุยตรงนี้” ผมว่ากลับเสียงดังเพราะรู้สึกหงุดหงิดที่ทิกเกอร์ทำเหมือนแคร์คนอื่นมากกว่าที่จะแคร์ผม ที่จริงเข้าไปคุยกันในห้องคงจะดีกว่า แน่ล่ะว่าดีกว่าแน่ๆ..แต่ผมแค่รู้สึกไม่ชอบใจทิกเกอร์ขึ้นมาก็เท่านั้น
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์ย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“เลือกเอา..ว่าจะคุยตรงนี้” ผมย้ำเสียงบ้าง พร้อมกับจ้องตาทิกเกอร์เขม็ง
“หรือว่าถ้าคุณจะยอมยกเลิกการประชุม ผมก็จะยอมเข้าไปคุยกับคุณในห้อง” ผมพูดพร้อมหันไปแสยะยิ้มให้ผู้หญิงที่ชื่อแคลที่ผมไม่รู้จัก เธอหน้าเสีย
“ต..แต่” ทิกเกอร์อ้ำอึ้ง
“ถ้าไม่เลือก ผมก็จะไป..ไปจากชีวิตคุณ เดี๋ยวนี้” ผมพูด อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลออกมา ด้วยก้นบึ้งของหัวใจแล้วผมกลัว..ผมกลัวว่าทิกเกอร์จะเลือกอย่างแรกมากกว่า ความรู้สึกที่ไม่มั่นใจในตัวเองนี้ทำให้ผมรู้ว่าที่จริงแล้ว ผมมันก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังจะเป็นบ้าเพราะคนที่ตัวเองรัก
“...................” ทิกเกอร์เงียบไปครู่หนึ่งเหมือนใช้ความคิด เขาถอนหายใจก่อนจะหลบสายตาของผม
“ไลลา..ประกาศให้ยกเลิกการประชุมบ่ายนี้ด้วยครับ” ทิกเกอร์หันหลังกลับไปพูดบอกเลขาของเขา
“แล้วก็ โทรไปยกเลิกกับสาขาที่อเมริกาด้วยว่าผมเดินทางไปเข้าร่วมประชุมกับทางนั้นไม่ได้แล้ว..ยกเลิกไฟลท์ให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะบอส” เลขาทิกเกอร์ตอบเสียงเบา ผมหันไปมองหน้าผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาว่าผมคนเดิม เธอยืนจ้องมองผมไม่วางตา สายตาเหมือนสงสัยเต็มประดาว่าผมเป็นใครมาจากไหน ผมเองก็มองหน้าเธอไม่วางตาเช่นกัน ดูเหมือนผมจะได้เปรียบกว่าเธอหน่อย เพราะยิ่งผมมองเธอหัวจรดเท้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เธอชักสีหน้ามากขึ้นเท่านั้น
“ขอโทษด้วยนะครับ” ทิกเกอร์ผงกหัวให้ทุกคน
“ไม่มีอะไรแล้ว รบกวนช่วยไปทำงานต่อเถอะครับ” ทิกเกอร์พูดบอก พนักงานที่ยืนอยู่ถึงแม้จะมีสีหน้าสงสัยแต่สุดท้ายพวกเขาก็แยกย้ายกันไปคนละทาง
“ทิกเกอร์คะ” เธอคนเดิมยิ้มทำท่าจะเข้ามากอดแขนทิกเกอร์ ผมมอง ทิกเกอร์หน้าเหวอเล็กน้อย
“ผมมีธุระน่ะครับ คงไปทานอาหารกลางวันกับคุณไม่ได้แล้ว” ทิกเกอร์บอก เธอหน้างอในทันที
“หึ หรืออาจจะตลอดไปเลยก็ได้” ผมพูดขึ้นลอยๆ
“คุณเป็นใครน่ะ” เธอถามเสียงห้วน
“ผมเป็นใครแล้วมันหนักศีรษะคุณรึไง” ผมย้อนกลับพร้อมกับยิ้มให้
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงห้ามปราม
“ขอโทษด้วยนะครับแคล ยังไงคุณไปทานกับลูกน้องคุณเถอะนะครับ..ผมต้องคุยธุระก่อน” ทิกเกอร์บอกพร้อมกับจับแขนของเธอออกช้าๆอย่างมีมารยาท
“แต่..”
“ขอโทษครับ” ทิกเกอร์ย้ำอีกครั้ง เธอชักสีหน้านิดหน่อยและเดินสะบัดสะบิ้งไป ทิกเกอร์หันมาจ้องหน้าผมเขม็งก่อนจะจับแขนผมและดึงไปอย่างแรง ผมรีบก้าวเดินไปตามแรงดึงของทิกเกอร์ ทิกเกอร์พาเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง คงจะเป็นห้องทำงานของเขา เมื่อเข้ามาในห้องทิกเกอร์ก็กดล็อกประตูห้องอย่างรู้งานในทันที
เพี้ย !!
“ฟ..ฟ้า” ทิกเกอร์ร้องเสียงหลง จับแก้มตัวเองที่โดนผมตบเข้าอย่างจังด้วยความสงสัยปนชักสีหน้าเหมือนไม่พอใจกับการกระทำของผม ครั้งนี้คงเป็นการตบจากการหึงหวงครั้งแรก แม้แต่ตอนที่เราคบกันผมก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาเลยไม่ว่าจะหึงมากแค่ไหนก็ตาม
“ก็ผมเจ็บข้อมือ..ทำไม มีปัญหาอะไรไม่ทราบ” ผมว่ากลับอย่างลองดี
“อะไรของคุณอีก” ทิกเกอร์ตอกด้วยน้ำเสียงคล้ายกับต่อว่ากลับ
“นี่คุณว่าผมเหรอ” ผมว่า ทิกเกอร์ถอนหายใจเบาๆ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันอย่างบอกอารมณ์
“คุณว่าผมเหรอทิกเกอร์!” ผมเดินตรงเข้าไปผลักทิกเกอร์อย่างแรง แต่กลับกลายเป็นตัวผมมากกว่าที่เซออกมา
“ฟ้าครับ..ฟ้า” ทิกเกอร์จับไหล่ผมทั้งสองข้าง เขาพยายามเรียกสติของผมให้กลับมา แต่ผมรู้สึกน้อยใจไปแล้วครึ่งนึงละนะ
“ใจเย็นหน่อยได้ไหมครับ”
“แล้วผู้หญิงหน้าตาบ้านๆเมื่อกี้มันเป็นใคร” ผมถามเสียงดัง
“ลูกน้องครับ” ทิกเกอร์ตอบ
“ลูกน้อง! หึ..ลูกน้องเหรอ” ผมถลนตาใส่ ทิกเกอร์หลับตาพร้อมกับหันหน้าหนี
“ทีคุณยังมีคนนั้นได้เลย” ทิกเกอร์พูดพลางถอนหายใจ ผมชะงัก เราต่างชะงักไปครู่หนึ่ง ทิกเกอร์หน้าเสียเหมือนกับรู้ตัวว่าไม่ควรพูดมันออกมา
“ใช่สิ ผมยังทำได้เลย” ผมปัดมือของทิกเกอร์ออก
“ฟ้า ไม่..” ทิกเกอร์รีบเข้ามาดักผมและกอดไว้ทันทีเมื่อเห็นว่าผมจะเดินหนีออกมา
“ขอโทษครับ” ทิกเกอร์กดน้ำเสียงพูดอยู่ใกล้ตรงแก้มของผม ตัวของผมลีบเล็กอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ขอโทษทำไม คุณก็พูดถูก” ผมพูดเสียงเบา ทิกเกอร์ไม่ตอบอะไรอีก
“คุณเองก็อยากเป็นฝ่ายเลือกบ้างสินะ ก็เลือกสิ..แต่ผมคงจะไม่เป็นหนึ่งในตัวเลือกให้คุณหรอกนะ ผมมันคนเห็นแก่ตัวน่ะ” ผมพูดปนหัวเราะ
“ผมเปล่าจะเลือก” ทิกเกอร์พูดขึ้น ผมรับรู้ได้ว่าเขากอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม ผมเพียงแต่ยืนนิ่ง ทิกเกอร์พรมจูบอยู่ที่ใบหู คอและผมของผมไปมา
“ผมขอบอกไว้ก่อน ถ้าตอนนี้ผมจะเข้าข้างตัวเอง..” ทิกเกอร์พูด ตัวของเขาสั่นจนผมรู้สึกได้
“ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอีกแล้วนะครับฟ้า..ถ้าคุณจะไป ช่วยเดินไปซะเดี๋ยวนี้” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ก็ปล่อยสิ” ผมพูดเสียงแข็ง อดที่จะอยากแกล้งไม่ได้ ทิกเกอร์เงียบชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะปล่อยแขนของเขาลงอย่างช้าๆ ผมไม่ได้หันกลับไปมองหน้าทิกเกอร์อีกจนเขาปล่อยตัวผมออก ผมแกล้งทำเป็นเดินออกมาอย่างช้าๆ ไร้เสียงทักท้วงจากทิกเกอร์ ผมเหลือบหันกลับไปมองเขา เห็นอีกฝ่ายยืนก้มหน้าตัวแข็งทื่อ ภาพของเขาในตอนนี้สะท้อนเหมือนเมื่อห้าปีก่อนจนทำให้น้ำตาของผมเกือบจะไหลออกมา
“คุณน่ะ..มักจะปล่อยผมไปง่ายๆแบบนี้เสมอ” ผมพูดขึ้นทั้งน้ำตา ทิกเกอร์เงยหน้าขึ้นมองหน้าผมทันที น้ำตาของทิกเกอร์ไหลลงอาบแก้มเช่นกัน
“ครั้งนี้ก็ด้วย” ผมพูดทั้งทั้งที่ปากของผมสั่นไม่เป็นท่า
“ผม..ผมแค่อยากให้ฟ้าได้สิ่งที่ดีที่สุด ถ้ามันเป็นสิ่งที่ฟ้าเลือก..ผม ผมจะยอมรับ” ทิกเกอร์รีบพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“จุดหมายของคุณคืออะไรเหรอกี้” ผมถามทั้งน้ำตา ทิกเกอร์ก้มหน้าลง ตาผมพร่ามัวจนผมแทบมองไม่เห็นว่าผมหรือเขากันแน่ที่น้ำตาไหลออกมามากกว่ากัน ทิกเกอร์ปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ
“แต่ก่อน จุดหมายของผมคือใครสักคนที่ทำให้ผมตกหลุมรัก และเขาก็ต้องทำให้ผมมีความสุขด้วย เมื่อผมได้เจอ ผมได้ให้โอกาสเค้า..แต่ตั้งแต่ที่ผมได้รู้สึกเจ็บปวดเพราะเค้าคนนั้น ผมก็รู้ว่ามันไม่ใช่จุดหมายอีกแล้วกี้” ผมอมยิ้มทั้งน้ำตา
“เวลาที่ผมเจ็บปวด ผมควรจะมีคนที่ผมรักอยู่ข้างๆไม่ใช่เหรอ ทำไมผมต้องมาเจ็บปวดจากคนที่ผมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วย..พวกคุณทำเหมือนผมไม่มีค่า พวกคุณเหยียบย่ำความรักของผม..คุณกล้าดียังไงถึงทำแบบนั้น อึก..ทำไม ทำ..ฮึก” ผมเงียบก่อนจะหายใจเข้าออกอย่างแรงเพื่อเรียกสติของตัวเองให้คงที่มากกว่านี้ ทิกเกอร์จ้องหน้าผมด้วยท่าทางเศร้าไม่ต่างกัน
“มันอาจจะไม่ใช่เพราะรักแล้วก็ได้ เพราะตอนนี้ผมกำลังเจ็บปวด..หรือจุดหมายของผมอาจจะเป็นคุณ ผมไม่รู้ ผมชักไม่แน่ใจ..ผมกลัว” ผมพูดปนหัวเราะ
“ถ้า..ถ้าผมจะบอกว่าจุดหมายของผมคือฟ้าล่ะ ฟ้า..คุณ คุณจะให้โอกาสผมอีกครั้งได้ไหม” ทิกเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ สีหน้าของเขาเหรอหราและดูกังวล
“งั้นก็อย่าปล่อยผมไปง่ายๆอย่างนี้สิ คุณเป็นควายรึไง!” ผมกระแทกเสียงว่าให้ ทิกเกอร์สะดุ้งพร้อมกับมีสีหน้างงเล็กน้อย คงสงสัยว่า “ควาย” ที่ว่านั่นผมจะสื่อด่าเขาว่าอะไร ผมยืนนิ่งจ้องหน้าทิกเกอร์ เขายิ้มออกมาทีละน้อย เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่นัก ผมก็คงกำลังยิ้มในลักษณะเดียวกับเขาเช่นเดียวกัน
“อึก..” ผมเดินโผเข้าไปกอดทิกเกอร์ แขนทั้งสองข้างของเขาโอบกอดผมแน่นไปทั้งตัว ผมรู้ตัวดีว่าผมกำลังตัวสั่น แต่ก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็ตัวสั่นเช่นเดียวกันกับผม ผมเงยหน้าขึ้นไม่ทันได้พูดอะไร ทิกเกอร์ก็กดปากลงจูบผมอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว ผมรับรู้ได้ถึงน้ำตาของทิกเกอร์ที่ไหลลงเปื้อนปากของเขาเล็กน้อย ทิกเกอร์จูบผมอย่างร้อนแรง ผมเองก็จูบตอบอย่างนั้นด้วยเหมือนกัน เหมือนต่างฝ่ายต่างโหยหารสจูบนี้มานานแสนนาน ทิกเกอร์กดจูบอยู่นานจนผมแทบหายใจปรับเข้ากับอารมณ์ของเขาไม่ทัน เราหายใจหอบทั้งคู่ก่อนจะหยุดจูบชั่วขณะ หน้าผากของทิกเกอร์ชนอยู่กับหน้าผากของผม ผมลืมตาขึ้นนิดเดียวก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังหลับตาพริ้มอยู่ทำให้ผมถึงกับยิ้มออกมาว่าคนตรงหน้าเป็นคนที่ผมรักและต้องการแน่..ไม่ใช่คนอื่นอีกต่อไป ผมนำแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดคล้องคอทิกเกอร์ไว้ เขายิ้มออกมาน้อยๆและก้มหน้าลงหอมแก้มผม หอมหน้าผากผมไม่หยุด ผมจูบตอบและคลอเคลียแก้มทิกเกอร์ไปจนถึงใบหูของเขา
“โอ๊ย!!” ทิกเกอร์ร้องเสียงหลงเมื่อโดนผมกัดเข้าที่หูเต็มแรง เขาพยายามจะดันตัวผมออก แต่ผมกอดทิกเกอร์ไว้แน่นทำให้ทิกเกอร์ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยหูของเขาเองก็ยังคงถูกผมกัดอย่างแรง
“ฟ้าครับ” ทิกเกอร์ร้อง
“หึ..เรามีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกเยอะเลย อย่านึกเชียวว่าหลังจากนี้จะสวยหรูน่ะ” ผมกระซิบบอกเสียงเย็น
“ผมน่ะ เกลียดที่คุณเป็นแบบนี้ รู้ไว้ซะ” ผมว่า
“อะ..อะไรครับ” ทิกเกอร์ถามด้วยน้ำเสียงระแวง ผมปล่อยปากออกและยิ้มให้อีกฝ่าย หูของทิกเกอร์แดงมาก คงเพราะผมกัดไปเต็มแรงละมังครับ
“เดี๋ยวก็รู้” ผมย้อนและไม่ยิ้มอีก
“อ..คะ คือ มัน ไม่ร้ายแรงใช่ไหม” ทิกเกอร์พูดตะกุกตะกักเหมือนกลัวขึ้นมา ผมไม่ยิ้มและเลิกคิ้วกวนตอบ แน่นอนว่าผมจะคุยกับทิกเกอร์หลายเรื่อง ผมไม่มีทางบอกทิกเกอร์ในตอนนี้หรอกว่าเขาจะพูดอะไร ผมจะโทรไปสอบถามข้อมูลอย่างละเอียดจากเพื่อนรักที่อยู่ที่ประเทศอิตาลีก่อน แล้วผมจะได้รู้ว่าใครโกหกกันแน่ คิวรวมหัวกับปูนโกหกผม หรืออาจจะไม่ได้โกหก หรือทิกเกอร์อาจจะโกหกผมก็ได้ ตอนนี้ผมไม่ควรไว้ใจใครเลยแม้กระทั่งหลานรักของตัวเอง ผมจะถามเขาทั้งหมด เรื่องลูกและภรรยาของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากที่ผ่านมาหลายปีนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง และถ้าเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ผมเคยทำตัวอย่างไรมาบ้างแล้ว ผมก็จะไม่โกหกด้วยเช่นเดียวกัน ผมจะรับฟังเขาในฐานะ..คนรักของผมอีกครั้ง
“หึ..คิดว่าไงล่ะ” ผมย้อนอย่างเจ้าเล่ห์
“ผม ผมยอมทุกอย่าง..แต่ฟ้าอย่าหนีไปอีกนะครับ” ทิกเกอร์รีบพูดเหมือนต้องการแก้ตัวไว้ล่วงหน้า สีหน้าของเขาอ้อนวอนจนผมรู้สึกหมันไส้ เพราะเมื่อไหร่ที่เขาทำหน้าตาแบบนี้ทีไร ผมมักจะใจอ่อนทุกที บางทีผมก็รู้สึกเหมือนกับว่า ทิกเกอร์อาจจะรู้ก็ได้ว่าผมแพ้เวลาที่เขาทำน้ำเสียงและหน้าตาแบบนี้แต่แค่แกล้งทำเป็นหน้าซื่อไปอย่างนั้นเอง
“ไม่รู้” ผมเบนหน้าหนีอย่างต้องการกวนไม่เลิก
“ฟ้าค้าบ” ทิกเกอร์กอดผมเข้าไปอย่างแรงอีกครั้ง เขากอดผมแน่นและซบหน้าลงบนไหล่ของผม ผมยืนนิ่งกอดเขาตอบ เรายืนกอดกันอยู่อย่างนั้น เรียกได้ว่ากอดกันอยู่นานมากอย่างกับต้องการรับรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีตัวตนอย่างไรอย่างนั้น ผมไม่ค้านใดๆจนทิกเกอร์ปล่อยผมก่อน ผมยิ้มให้เขาอีกครั้ง ยิ้มแบบที่ไม่เคยได้ยิ้มมาเสียนาน..
ครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นรักอีกครั้งของผมหลังจากที่เวลาผ่านล่วงเลยมานาน ระหว่างทางที่ขับรถมาที่บริษัททิกเกอร์ ผมบอกกับตัวเองว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้โอกาสตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก การมีความรักเป็นเรื่องที่ดีแต่คงไม่ดีสำหรับผมเสียเท่าไหร่นัก อายุผมก็มากขึ้นทุกวัน คงไม่มีเวลามาคิดหรือขวนขวายเรื่องนี้อีกมากมาย การที่จะต้องให้โอกาสความรักอีกครั้งและอีกครั้งมันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับผม ถ้าครั้งนี้จะจบไม่สวยอีกครั้ง ผมจะหยุดทุกอย่างอย่างแท้จริง เป็นการ..“ปิดตาย” แบบไม่ต้องมาพบเจอความรักอีก ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่ว่าใครจะพูดพร่ำว่าความรักสวยงามแค่ไหน ไม่ว่าใครจะมารักผมอย่างแท้จริงอีกกี่ครั้ง หลังจากนี้ผมจะไม่ขอพบเจอกับเรื่องราวพวกนี้อีก ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะให้โอกาสทั้งความรัก ให้โอกาสตัวผมเอง รวมถึงให้โอกาสทิกเกอร์ด้วยเช่นเดียวกัน อาจจะเป็นอย่างที่คิวบอก ครั้งที่แล้วผมเป็นฝ่ายกอดทิกเกอร์ก่อน ครั้งนี้ก็คงจะคล้ายอย่างนั้น แต่เปล่าหรอก..ผมเพียงมาให้เขาเลือกที่จะกอดผมหรือไม่กอดก็เท่านั้น นี่เป็นการบอกเป็นนัยว่า..ผมจะไม่มีทางเป็นฝ่ายปล่อยเขาก่อนเด็ดขาด นอกจากเขาจะเป็นฝ่ายเดินจากผมไปเอง
ณ วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายสำหรับโอกาสให้ผมได้ตัดสินใจตัวผมเอง ก็อย่างว่าละครับ ใครจะมารอเพื่อให้ผมเป็นฝ่ายเลือกได้ตลอดชีวิต คงจะมีเฉพาะในละครละมัง ผมรู้สึกได้ตามสัญชาตญาณเหมือนกับมันบอกผมว่า ถ้าผ่านพ้นวันนี้ไป มันจะไม่ใช่วันของผมอีก ผมจะไม่มีโอกาสอีกแล้วไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ผมรู้สึกกลัวและกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งระหว่างทางที่ขับรถมาหาทิกเกอร์ที่ทำงานนี่ ความกลัวที่ทำให้จิตใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมันมีมากกว่าความกลัวถึงเรื่องในอนาคตที่ผมเคยกลัวมาก่อนหน้า บางทีผมก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าคนรอบตัวผมกระตุ้นผมหรือเปล่าไม่ทราบ มันก็อดขำตัวเองไม่ได้น่ะนะ..
“อย่าปล่อยให้วันวานที่ผ่านพ้น ทำให้เราทุกข์ทนจนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิดอาจทำผิดซ้ำลงไป ก็เพิ่มวันเสียใจไปอีกวัน
..พลอยฟ้า..”
ผมไม่รู้ว่ากลอนบทนี้มาอยู่บนกระดาษโน้ตที่คิวจดที่อยู่บริษัทของทิกเกอร์ไว้ตอนไหน ตอนที่คิวยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ผม มันยังไม่มีบทกลอนนี้อยู่ ที่จริงผมแทบยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อได้เห็น เหมือนกับเธอต้องการบอกผมว่าตลอดมาผมอาจจะคิดผิดมาตลอด หรืออาจจะใช้เวลามากเกินไปในการพิสูจน์อะไรบางอย่าง บทกลอนที่แสนตรงต่อสถานการณ์เหมือนคัดสรรมาสำหรับผมโดยเฉพาะ นี่เป็นลายมือที่ผมจำได้ดีว่าเป็นของใคร ลายมือของผู้หญิงที่สอนผมเขียนหนังสือมาตั้งแต่สมัยผมยังเป็นเด็กไม่รู้ประสีประสา ถึงแม้บนกระดาษจะไม่มีข้อความใดๆบอกเลยว่าบทกลอนนี้ใครเป็นคนเขียนให้ผม ถึงแม้ว่าจะเขียนแค่เครดิตว่ากลอนนี้ใครเป็นผู้แต่งขึ้นมา นั่นเหมือนกับไม่ต้องการให้ผมได้รู้ว่าใครเป็นผู้หวังดีคนนั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกตื้นตันเต็มอกนี้ผมไม่รู้จะพูดขอบคุณเธอได้อย่างไรดี การที่ผมเลือกคว้าจุดหมายตามที่หัวใจเรียกร้องคงแทนคำขอบคุณให้เธอได้ หึ..หรือผมควรขอบคุณทั้ง “พลอยฟ้า” สำหรับกลอนที่อาจจะโดนใจใครอีกหลายคนเป็นแสนล้าน แต่คนที่ผมควรจะขอบคุณและพูดขอโทษคงจะไม่พ้นเธอ..“ป้านิด” แม่บ้านที่แสนน่ารักของผม ตลอดมาผมไม่รู้เลยว่าการกระทำของผมทำให้เธอเป็นห่วงมากขนาดนี้ ผมคงหลงลืมไปชั่วขณะอย่างที่หลานของผมว่า ผม..ขอโทษ
................End of Lover 2..................
Ps...
ตอนต่อไปเป็น Lover..3
สวัสดีวันอาสาฬหบูชา ขอให้อิ่มบุญกันทั่วหน้า ^^
-
:-[ :-[. ในที่สุดทิกเกอร์กับฟ้าก็จะได้มีความสุขแล้วเย้ๆๆ จักรนายทำดีมากเป็นลูกผู้ชายสุดๆ o13
ขอบคุณพี่บี้ค่าาาา. รอคู่ต่อไปจะเป็นใครกัน. :กอด1: :กอด1:
-
:z13: :z13:
-
Lover..3 รวมคู่คิวกับเค้ก แล้วก็ อาฟ้ากับทิกเกอร์ใช่ไหม
ตอนอ่านท้าย ๆ ชักงง ตกลง อาฟ้ามาง้อทิกเกอร์
หรือมาให้ทิกเกอร์ง้อ 5555 เหมือนจะหลงลืมกันไป
-
ในที่สุด ในที่สุด อาฟ้าก็ยอมรับทิกเกอร์ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
“อย่าปล่อยให้วันวานที่ผ่านพ้น ทำให้เราทุกข์ทนจนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิดอาจทำผิดซ้ำลงไป ก็เพิ่มวันเสียใจไปอีกวัน" มันโดนใจอย่างแร๊งงงงงงงงงงงง
+1 คะคุณบี้ สำหรับบทสรุปที่ถูกใจ อะคริ อะคริ o13 :bye2:
-
งื้ออออ รอ รักที่สาม ~~~ :กอด1:
-
แล้วอาฟ้าก็มีความสุขจากความรักซะที
ขำที่อาฟ้าบุก บ.ของทิกเกอร์ ถ้าไม่มุ่งมั่นมาง้อ??? คงไม่เหวี่ยงขนาดนี้ ไม่ใช่อาฟ้าทำไม่ได้นะเนี๊ย555
รอภาค 3 อย่างใจจดใจจ่อเลยคะ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
Happy Ending!!!!!
แต่ฟ้านี่ ยิ่งวันยิ่งแต๋วขึ้นจริงๆ
ขอบคุณสำหรับตอนต่อไปที่กำลังจะมานะครับ
:L1: :L1: :L1:
-
จักรนายแน่มาก Man of the Match ตัวจริง o13
อาฟ้าบุกไปหาทิกเกอร์นี่ไปง้อ หรือไปหาเรื่องทิกเกอร์กันแน่ค่ะ :m20: ผู้จัดการใหญ่ของผู้จัดการใหญ่อีกที เล่นเอาทั้งบริษัทอึ้งกันไปเป็นแถบ แต่แอบสะใจยัยแคลโดนอาฟ้าจิกกัดซะตัวพรุนไปเลย
เป็นการจบ Happy Ending ที่ทิกเกอร์เจ็บตัวสุดๆ แต่ก็รักสุดๆ
กด + ให้กับคนเขียน รออ่าน Lover 3. ต่อไปค่ะ
-
จบแล้วววววว น้ำตาไหลพรากตามอาฟ้ากับทิกเกอร์
แต่อาฟ้าโหดนะ เดี๋ยวก็มีแฟนหูขาดหรอก 55+
ภาค 3 จะเป็นใครหนอ หมีกัส ป่ะ อยากอ่าน อิอิ
-
ปลาบปลื้มมมมมมมมมมม TT__TT
-
ต้องขอบคุณจักร นายแมนมากยอมรับความจริง o13
อ่านบทสรุปแล้วน้ำตาไหลเลยนะ ว่าฟ้าตัดสินใจได้แล้วหรือว่าที่จริงตัดสินใจได้ตั้งนานแล้ว แต่ยังลังเลไม่แน่ใจอยู่
และที่สุดก็เลือกแล้ว ฟ้าจะไ้ด้มีความสุขซะที :กอด1: :L2:
พาร์ท 3 คิวกะเค้กใช่มะเบบี้ :L1:
-
โอยยยยยยยย โครตดีใจ ในที่สุดก็ทำตามหัวใจ
ทิกเกอร์บอกถึงจะเจ็บแต่มันคุ้ม ส่วนจักรนายแมนมากกกกก
รักเบบี้ที่สุด :กอด1: :กอด1:
-
ฟ้าช่างวีนได้ไร้ที่ติจริงๆ
สงสารทิกเกอร์มาก รอ Lover 3 จ้า
-
ถึงตอนนี้ รักป้านิดมากค่ะ อิอิ
-
ปลื้มปิติ ในที่สุดก็เป็นทิกเกอร์จริงๆสินะคะ
มันเป็นตอนจบที่มีความสุข แต่มันก็ปนเศร้านะ ที่บอกว่านี่คือโอกาสสุดท้ายในชีวิตสำหรับความรัก
แต่ถ้าเลือกคนถูก โอกาสต่อไปก็คงไม่จำเป็นอีกแล้วแหละเนาะ :กอด1:
ขอบคุณเบบี้...แล้วก็ขอบคุณป้านิด นางเอกตัวจริงของภาคนี้ด้วยนะคะ :L2:
ปล. ถ้าเป็นไปได้ขอตอนพิเศษคิวเค้กบ้างนะค้า คิดถึงน้องง่ะ
-
ฟ้าเลือกได้แล้ว
คนอ่านแทบแห่กลองยาว :เฮ้อ:
-
เป็นอีกคู่ที่จบได้ซึ้งมากๆ
จะรอ lover 3 นะ
-
อิ่มใจ...พี่ฟ้าจบลงด้วยดี
มันเป็นความจริงที่ว่า...หลอกตัวเองไม่ได้
-
มาสมหวังกันตอนสุดท้ายเลย
อาฟ้าได้ใจมาก ชอบบ
ทิกเกอร์ก็น่ารัก
มาลุ้นกันต่อภาค3
จะเป็นเรื่องของใครน้า
-
อัศวินตัวจริง คือป้านิดนี่เอง o13
ทุกประโยคทุกถ้อยคำมันโดนใจมาก
ขอบคุณ Baby :กอด1:
-
ไม่นึกว่าฟ้าจะเหวี่ยงได้ขนาดนี้ ทิกเกอร์ก็ยอมเพราะรักฟ้ามากเลยนะเนี่ย
-
ในที่สุดอาฟ้าก็หลอกหัวใจตัวเองไม่ได้เนาะ
:กอด1:
-
กว่าจะลงเอยกันได้เล่นเอาลุ้นจนเหนื่อยใจ..ดีใจกับทิกเอกร์ด้วยนะ
-
อ่านจบตอนนี้แล้วมีความสุขจัง ขอบคุณน้องบี้ที่ทำให้วันหยุดนี้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้น
ตอนแรกนึกว่าอาฟ้าจะเลือกจักรซ่ะแล้ว แต่ในที่สุดก็แพ้ใจตัวเองจนได้
แอบลุ้นซ่ะไม่กล้าลุกไปไหนกลัวพลาด55.
รอลุ้นต่อว่าคู่ต่อไปจะเป็นใคร (เซ็นรึเปล่าค่ะ เดา)
ปล.อ่านพาร์ทนี้จบแล้วเข้าใจคิวมากขึ้นเลยค่ะ :กอด1:
-
อ่านตอนนี้ถึงกับหลั่งน้ำตาไหลอาบแก้มกับความรักของอาฟ้ากะทริกเกอร์ ช่างซาบซึ้งตรึงใจ
ขอบคุณเบบี้มากกกกกนะคะ :กอด1: :L2:
-
ในที่สุดฟ้าก็สมหวังกับทิกเกอร์ เชียร์สุดใจขาดดิ้น
จักรนายแมนมากกกเท่ห์สุดๆเลย
รออ่านภาค 3 ค่ะ
-
ขอบคุณเบบี้มากๆๆ สนุก เต็มอิ่ม อ่านแล้วมีความสุขจัง :L1:
รอติดตามต่อไปจ้า ^^
-
อาฟ้า เลือก ทิกเกอร์ :mc4: อาฟ้า เลือก ทิกเกอร์ :mc4: อาฟ้า เลือก ทิกเกอร์ :mc4: เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ลุ้นตัวโก่งเลย แต่ก็ได้ผลล
อาฟ้าขอให้มีความสุขนะคะ ทิกเกอร์ต้องไม่ทำให้อาฟ้าเสียใจแน่ๆ
แต่อยากรู้ว่าทิกเอร์หายไปไหนมา เกือบจะทำให้อาฟ้าลงเอยกับจักรเลยนะ
ตกลงจักรก็เป็นคนดีนะเนี่ย :really2:
ปล. Lover 3 จะเป็นของคู่ไหนน่า ลุ้นๆ :-[
-
ในที่สุดฟ้าก็ให้โอกาสตัวเอง ให้โอกาสทิกเกอร์
แต่กว่าจะยอมรับใจตัวเองว่ารักใครก็เกือบจะเสียไปซะแล้ว
จักร ก็มีมุมดีๆเหมือนกันนะเนี๊ย...ฮ่าๆๆ ยอมปล่อยฟ้าให้ฟ้าเลือกคนที่ฟ้ารักจิงๆ
ปล.คิวมันน่ารักหว่ะ..ถึงจะกวนอาฟ้า แต่ก็รักอาฟ้ามากจิงๆ
-
เพิ่งเริ่มต้นเนาะอาฟ้า แต่ชีวิตคนเราไม่ได้ยาวนาน อะไรที่เป็นความสุขก็รับมาซะ อย่าไปกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง
-
ลงเอยมีความสุขซะทีนะฟ้านะ
อึมครึมมานานจนอึดอัดแทนเลย
-
ภาค 3 จะเป็นเรื่องของใครคะ
-
เย้ๆในที่สุดก็ทิกเกอร์ ฮิ้วๆ เรื่อง3จะเป็นคู่ใครนะ
-
ดีใจที่พี่ฟ้าตัดสินใจได้สักที หุหุ จักรเป็นคนดีจบแบบหล่อไปเลยอ่ะ กร๊ากก
-
อ่านแล้วให้ความรู้สึกที่ว่าไม่ว่าสองคนนั้นมันจะตีกันยังไง
พอถึงเวลาที่ฟ้าตัดสินใจเลือก ทั้งสองคนเคารพการตัดสินใจของฟ้านะ
ไม่ใช่การยอมปล่อยมือกันไปง่ายๆหรอกแต่ต่างคนต่างพยายามสู้เพื่อจะได้เริ่มต้นกับฟ้าอีกครั้งจนถึงที่สุดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่ฟ้าตัดสินใจรักใหม่กับใครสักคนถึงเจ็บต่างก็ยอมรับมัน
นี่อาจเป็นจุดร่วมกันของผู้ชายสองคนนี้ก็ได้
-
มานั่งนึกไปนึกมา เริ่มสงสารทิกเกอร์หว่ะ
ทำไมอ่ะหรอ?? ก็อาฟ้าเอาแต่ใจ ขี้แกล้ง ขี้หึง ขี้งอน ทุกสิ่งอย่าง
เห็นแววแล้ว ทิกเกอร์คงเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือของอาฟ้าแหง ๆ เหอะ เหอะ เหอะ :laugh:
รอ Lovers 3 นะค๊าบบ อยากอ่านคู่ของคิว+เค้ก แว้ววววว :impress2:
-
แอบสงสารทิกเกอร์ 5555555555 แต่นี้แหละอาฟ้า ไม่เจ้าเลห์ก็คงเลี้ยงคิวมาไม่ได้
เห็นความรักของคิวที่มีต่ออาแล้วอยากบอกว่าน่ารัก เพราะถึงไม่ชอบอย่างไรก็จะยอมรับการตัดสินใจของอา
และพร้อมที่จะกอดอาทุกครั้งที่อาเจ็บ รักคู่นี้จริงๆ
แอบเดานะว่า คู่ต่อไปอาจจะเป็นคู่ของเซ็น หรือว่ากัส
-
่จบคู่อาฟ้าแล้ว ตอนต่อไปของใครหว่า
-
สุดท้ายคงเป็นอย่างที่เบบี้ว่า ระวังจะหลงรักจักรโดยไม่รู้ตัว :-[
ดีใจกับอาฟ้าที่ได้บทสรุปซะที ทิกเกอร์เอ๊ย ลุ้นกันหืดขึ้นคอ :กอด1:
ต่อไป part พี่คิวอะป่าว ตั้งตารอ
กิ๊วๆ เค้กยังจิ้นอยู่เหรอ หึหึ ตอนต่อไปเสร็จพี่คิวแน่ :laugh:
-
จบซะซึ้งเลย :-[
รอ lover 3 เลยจ้า o13
-
ในที่สุดฟ้าก็ให้โอกาสกับตัวเอง
ฟ้าจะได้มีความสุขจริงๆซักที :L2:
-
ในที่สุดก็จบด้วยดี :impress2:
รอ lover 3 อยู่จ้า จะเป็นคู่ใครเอ่ย
-
ขอสารภาพว่าเพิ่งมาชอบจักรตอนจบนี่ล่ะ 5555
ดีใจนะที่พี่ฟ้าเลือกทิกเกอร์ :o8: เลือกหัวใจตัวเองนั่นแหละดีที่สุดแล้ว
จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง
ไม่รู้ว่าภาคสามจะเป็นเรื่องของใคร แต่ยังไงก็จะติดตามต่อไปแน่นอนค่ะ :กอด1:
ปล.พี่คิวยังไม่ได้ปาดหน้าเค้กอีกหรอเนี่ย ไม่ไหวเลยน๊าาาา หึหึ
อยากอ่านตอนพิเศษคิวเค้กจัง ><
-
o13 o13
คุ้มค่าที่รอคอยยย
-
:impress2:Happy Ending
-
อ๊าคคคค ร้องไห้เลยย ฮึอ
สำหรับเรา มันเป็นตอนจบที่ สุดยอดอ่ะ
คือแบบ แมงเครียดนะตอนแรก
แตสุดท้ายก็ลงด้วยดี
ขอบคุณพี่บี้มากๆที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่าน
มีความสุขมากคะ
มันอธิบายไม่ถูกเลย ๕๕
สนุกมากค่ะ ชอบทีสุดเลย o13 o13 o13 o13 o13
-
จบไปอีกหนึ่งคู่ :กอด1: ในที่สุดฟ้ากับทิกเกอร์ก็ได้คู่กันซะที
จะรอติดตามคู่ที่ 3 นะคะ จะเป็นใครกันนะ :impress2:
:pig4: มากค่ะ คุณเบบี้
-
เฮ้อ!!! :เฮ้อ: โล่งอก
ดีใจกับอาฟ้าด้วยที่ยอมเปิดใจของตัวเองเสียที o13
เอ๋... ว่าแต่ภาคต่อไปจะเป็นเรื่องของใครนะั :confuse:
หรือว่าจะเป็นเซ็น-กัส หรือ พี่หมี-กัส กันล่ะ???
แต่ถึงอย่างไรก็จะติดตามอ่านต่อไปนะค่ะ อิอิ
-
+เป็ด3ตัวให้เบบี้.....พร้อมรอlover3เช่นกัน o13 o13
อยากบอกจักรจริงๆ...นายหล่อมาก...หน้าตาก็คงจะหล่อแถมใจยังหล่อได้อีก
ขอบคุณเบบี้...ที่ขยันเขียนนิยายดีๆมาให้อ่าน
-
ตามอ่านมานานแต่ไม่ได้เม้นสักที
จะบอกว่า ชอบเรื่องราวมากๆเลย
ชอบพี่คิวมาก ถึงแม้จะดูโหดๆไปสักหน่อย อิอิ
แล้วก็ดีใจที่อาฟ้า ทำตามใจตัวเองแล้ว
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้ได้อ่านนะคะ
ยังไงรอภาคต่อไปนะคะ สู้สู้ !! o13
-
แค่นี้ก็ฟินแล้ว ฮิฮิ
อาฟ้าได้คู่กับทิกเกอร์
รอลุ้นคู่ที่สามค่า
-
อยากจะคุุมเกมส์น่ะทำได้ แต่จะควบคุมหัวใจตัวเองให้เป็นไปตามเกมส์นั่นสิยาก
จริงไหมอาฟ้า..แต่สุดท้ายก็แฮปปี้ :กอด1:กับทิกเกอร์
Lover3 จะเป็นตอนของใครน๊า หรือจะเป็นส่วนเพิ่มเติมของนายคิวกะหนูเค้ก :impress:
-
สุดท้ายก็เป็นทิกเกอร์จริงๆ สินะ
แต่เหมือนว่าทิกเกอร์จะไม่ค่อยได้สวีทกับฟ้าเท่าจักรเลยแฮะ
ทิกเกอร์คงต้องยอมรับสภาพช้างเท้าหลังอย่างจำใจ 555+
-
อยากอ่านตอนสามแล้ววว :z3:
-
:-[ :-[ อาฟ้าใจอ่อนแล้ววว
-
ในที่สุดอาฟาก็ได้ลงเอยกับน้องทิกเกอร์ของเรา 55555 :impress2:
ตอนแรกๆเหมือนอาฟ้าจะไปง้อนะ
แต่ทิกเกอร์นี่เก็กขรึมได้แปปเดียว
ก็ยอมเพราะรักอ่ะ น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆ :-[
รอตอนของคู่ต่อไปนะค๊า
ขอบคุณเบบี้ค๊า :กอด1:
-
ฟ้าดุอ่ะ :sad3:
ไม่รู้จะสงสารหรือจะยินดีกับทิกเกอร์ดี ฮ่าๆๆ :laugh:
-
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้มากเลย o13 ไม่ต้องลุ้นแล้ว
:L2:
-
ประทับใจมากค่า
รอตอนต่อไป ><
-
อ้าว จบแล้วเหรอ งงๆ ยังค้างกับพวกคำถาม ที่จะถามทิกเกอร์นั่นอยู่เลย
-
รอ Lover 3 นะค้าบ
ขอบคุณเบบี้ :L2:
-
รอLover3จ๊ะ
ขอบคุณจ้า :pig4:
-
เย้ ในที่สุดพี่ฟ้าก้อได้รักกลับมาแล้ว ตอนต่อไป จะเป็นเรื่องของใครนะ
-
เป็นการง้อที่โหดที่สุด
-
เยสสสสสสสสส :a2: :a2:
ในที่สุดทิกเกอร์ก็เป็นพระเอก 55555555
แหม่ะๆๆ ถ้าเลือกจักรนี่ คงจะกระอักตาย
พี่ฟ้าาาาาาาาา น่ารักอ่าา :กอด1:
คู่3จะเป็นใครกับใครน๊าา รอค่ะ
-
ดีใจที่อาฟ้าทำตามหัวใจตัวเองซะที เลิกทิฐิสูงได้
ต่อจากนี้อาฟ้าต้องมีความสุขมากแน่นอน
เพราะได้อยู่กับคนที่รัก
รออ่านตอน3ต่อไป
-
อ้าว จบแล้วเหรอ งงๆ ยังค้างกับพวกคำถาม ที่จะถามทิกเกอร์นั่นอยู่เลย
มันเป็นคำพูดบ่นให้ฟังคล้ายต่อว่าค่ะ ไม่ใช่คำถาม
-
ในที่สุด อาฟ้า กับ ทิกเกอร์ลงเอยกัน เย้ๆๆๆ ลุ้นจนถึงตอนจบเลยค่ะ
จะรอ เลิฟเวอร์ 3 นะคะ
-
กรี๊ดดดด!!
ในที่สุดก็เป็นทิกเกอร์ ที่พี่ฟ้ายังรักและเลือกที่จะให้โอกาสอีกครั้ง!!
สงสารจักรเหมือนกันนะ แต่..เป็นทิกเกอร์แหละดีแล้ว 55555
รออ่านคู่ต่อไป!!!!!!!!!
-
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้เอนด์ดิ้งง
ไม่เสียแรงที่เชียร์พี่เสือทิกกี้5555
รอ Lover3 ค่ะ อยากอ่านแล้วววว :3123:
-
จักรตอนนี้ได้ใจไปเต็มๆ และดีใจที่ฟ้ายอมรับความรู้สึกตัวเองได้สักที
รอติดตามต่อไปค่ะ
-
ลงเอยกันได้ซะทีน้า โล่งงงงง :เฮ้อ:
ตอนพี่ฟ้าบุกไปบริษัทสุดยอดค่ะ o13
ภาค3ตอนของใครน้า อยากอ่านไวๆจัง
-
:impress2: :impress2: :impress2:
ในที่สุดก้อยอมรับใจตัวเองสักทีนะอาฟ้า
ทิกเกอร์ เจ็บตัวตลอดเลยนะ55 แต่ก้อถือว่าคุ้มน่ะ
ดีนะที่จักร พูดให้อาฟ้าได้คิดอีกครั้ง
ลุ้นๆมาหลายตอน ในที่สุดก้อเเฮปปี้สักที
รอ lover 3 น่ะครับบ
บวก บวก ครับผม :กอด1:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
โอ๊ยถ้าอานิสงค์วันอาสาฯจะแรงกล้าส่งนิยายหวานชื่นมาให้อ่านขนาดนี้
ก็อยากจะให้มีวันอาสาฯตลอดทั้งปีเลยค่ะ ฮ่าๆ
ไม่ค่อยจะมีโอกาสมาคอมเม้นเรื่องนี้ให้ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ
แต่อยากบอกว่านิยายคุณเบบี้เป็นตัวชาร์ตพลังใจให้เราก่อนไปสอบเลยนะคะ
ไม่ว่าจะอ่านเลิฟเวอร์หนึ่งหรือสอง เราก็รู้สึกสุข เศร้า เหงา หัวเราะ ไปกับตัวละครตลอดเลยค่ะ
อ่านแล้วก็สุขใจ พลังใจที่จะเอาไปอ่านหนังสือสอบพุ่งปรี๊ดเต้มหลอดเลยค่ะ
ยังไงก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจและแฟนคลับให้คุณเบบี้นะคะ
เราจะคอยติดตามผลงานคุณแบบถึงไหนถึงกันเลยค่ะ
แล้วก็ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้เราได้อ่านนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ^^
-
“อย่าปล่อยให้วันวานที่ผ่านพ้น ทำให้เราทุกข์ทนจนหม่นไหม้ มัวครุ่นคิดอาจทำผิดซ้ำลงไป ก็เพิ่มวันเสียใจไปอีกวัน
..พลอยฟ้า..”
ชอบมากๆๆๆ :m4:
รอlover 3 นะค่ะ :L2:
-
จบแบบมึนๆๆ
:really2: :really2: :really2:
:L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
รอ lover 3 ค่ะ แอบเสียน้ำตาไปหลายตอน ในที่สุดพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ก็ลงเอยกันเสียที เย้ๆ หลังจากลุ้นมานาน ^^
-
นึกว่าจะไม่ใช่ทิกเกอร์ซะแล้ววว :sad4:
แฮปปี้ค้า :กอด1:
-
ทิกเกอร์ๆๆๆๆๆ
ดีใจด้วยนะค่าพี่ฟ้า
-
ถ้าพี่จักรจะใจหล่อขนาดนี้ตั้งแต่แรกก็เชียร์ไปแล้ววววว
อาฟ้าน่ารักมีความสุขสักที :-[
-
โอ้ววววววววววว วววววววววววววววววววววววววววว
อาฟ้า ทิกเกอร์ ทุกอย่างมันเข้ากันดีที่สุด มันพร้อมที่จะเป็นแบบนี้ วันนี้พร้อมแล้ว
ขอบคุณทุกสิ่งอย่างที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น
ขอบคุณคุณเบบี้ มีความสุขเสมอเมื่อได้อ่านทุกตัวอักษร มันสวยงามจริงๆ :pig4: :กอด1:
รอ Lover..3 ต่อไปคะ o13
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:ดีใจด้วยทิกเกอร์
-
มีความสุขสักทีนะฟ้า :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อ่านตอนนี้แล้วตอนแรกอยากให้ Love3 เป็นเรื่องของ "จักร" นะ
แต่จักรเองก็บอกเองว่าหยุดเจ้าชู้ไม่ได้ งั้นไม่เอาดีกว่า
รอลุ้นคู่ต่อไปว่าเป็นใคร
-
อ่านจบแล้วซึ้งจริงๆ :L2:
ว่าแต่lover 3 นี่เป็นคู่ของใครอ่ะ
-
ดีใจกับอาฟ้าด้วย :กอด1:
-
สมใจคนอ่านอย่างเรา :z1: แอบเชียรลึก ๆ กลัวผิดหวัง
แต่ก็ชื่นชมจักรมากนะที่ทำแบบนี้
สุดท้ายก็ Happy อาฟ้าจะได้มีความสุขจริง ๆ ซักที
และรอ Limited lovers 3 นะคะ :กอด1:
:pig4: คะ
-
ในที่สุดก็ลงเอยด้วยดี เสียน้ำตากันไปเล็กน้อย :sad11:
กว่าจะเจอทางของตัวเอง ก็หลงอยู่นานเลยนะพี่ฟ้า
หวังว่าคนที่เลือกจะทำให้พี่ฟ้ายิ้มได้ในทุกๆวันนะคะ
มิเสียแรงที่พี่คิวคอยหนุนหลังอยู่ :laugh:
จะรอ Lover 3 นะคะ จะเป็นคูไหนน้า ลุ้นๆๆๆ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
จบแบบมึนๆๆ
:really2: :really2: :really2:
:L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอโทษด้วยนะคะที่จบให้กระจ่างไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ก็พยายามมากแล้วจริงๆที่จะสื่อให้ถึง ขอโทษด้วย..
-
ถ้าพี่จักรจะใจหล่อขนาดนี้ตั้งแต่แรกก็เชียร์ไปแล้ววววว
อาฟ้าน่ารักมีความสุขสักที :-[
ที่จริงจักรใจหล่อมาตั้งนานแล้วนะ ใจแมนมากด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าอ่านยังไงถึงได้อคติกับจักรอย่างนั้น..กร๊าก ห้ามว่าจักร คนนี้เด็กปั้นของเบบี้ 555++
-
อ่านตอนนี้แล้วตอนแรกอยากให้ Love3 เป็นเรื่องของ "จักร" นะ
แต่จักรเองก็บอกเองว่าหยุดเจ้าชู้ไม่ได้ งั้นไม่เอาดีกว่า
รอลุ้นคู่ต่อไปว่าเป็นใคร
Lover 3 มันก็มีคนที่เจ้าชู้พอๆกับจักรอยู่ด้วยนะ..ไม่ต้องห่วง มันไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย..อาจจะแย่กว่าจักรอีก(มั้ง) กร๊าก
-
สงสัยเป็นอีตาเซ็นแน่เลย
-
ป๊าดดดด!! จักรใจเธอหล่อมาก o13
เจ๊จะกลืนน้ำลายตัวเองผิดไหมเนี่ย. :laugh: แกหล่อสุด สุดไปเลยวะ
รักกันดี ดีละอาฟ้ากะสุดหล่อ เห็นใจเจ๊บ้างลุ้นจนตูดโก่งไปหมดละ :z2:
P.S. นู๋เค้ก ไอ้เรื่องอะไรน้า แบบบนเตียงรัยเงี้ย :laugh: เจ๊ก็อยากรู้ด้วยคนอ่ะ
-
lover3 พี่หมีกับกัสใช่มั๊ย ><
-
ในที่สุดฟ้าก้อยอม "กล้า" ที่จะรักอีกสักครั้ง :mc4:ขอให้ทุกอย่างราบรื่นด้วยเถิ้ด
-
Lover 3 นี่เป็นคู่ของกัสกับหมีรึเปล่าน้อ
-
...อาฟ้า ทำตามที่ใจต้องการซะที ชีวิตจะได้มีความสุขมากขึ้น
...และขนาดว่าเลือกแล้วตัดสินใจทำตามใจตัวเองแล้ว ก็ยังออกฤทธิ์กับทิกเกอร์ซะ แสบจริงๆๆอาฟ้าของพี่คิว :laugh:
-
เย้~ จบแล้ว และก็จบได้ถูกใจมว๊าาากกกกกกกกก~ *โดดกอดเบบี้*
อ่านช่วงแรกๆ นี่ใจแป้วตามทิกเกอร์ไปแล้วนะ แบบถอดใจแทนทิกเกอร์เลย
แถมยังแอบเคืองอาฟ้านิดๆ ว่าทำไมต้องทำร้ายทั้งตัวเอง ทั้งทิกเกอร์ ทั้งจักร
ทำไมถึงไม่ยอมเปิดใจให้กว้าง และยอมรับกับสิ่งที่หัวใจตัวเองต้องการซักที
ต่อว่าอาฟ้าในใจด้วยนะว่าอาฟ้าหลอกตัวเองแบบนี้ ก็สมควรเสียใจไปตลอด
จนในที่สุดก็ได้คุณคิวปิดหลานรักพูดเตือนสติ แกมขู่กลายๆ อย่างนั้นอย่างนี้
จริงๆ คิวก็เตือนและพร่ำบอกมานานแล้ว แต่อาฟ้าไม่ยอมรับความจริงเองแหละ อิอิ
อาจเป็นเพราะครั้งนี้อาฟ้ารู้ว่าถ้ายังฝืนใจตัวเองต่อไป คงต้องเสียทิกกอร์ไปตลอดกาล
ชอบใจแกมขำตอนที่อาฟ้าบุกไปงอทิกเกอร์ถึงบริษัท ที่จริงจะเรียกว่าง้อคงจะไม่ถูก
คุณเค้าไปอาละวาดทิกเกอร์ที่บริษัท ไม่สิ ที่ถูกต้องไปอาละวาดที่บริษัททิกเกอร์ต่างหาก
เป็นความผิดของพนักงานต้อนรับ บริษัท Empire สาขาใหญ่ประจำประเทศไทยสินะ
ที่เป็นผู้ทำให้คุณเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์ เริ่มไม่สบอารมณ์และจากนั้นก็โมโหและโกรธา
ส่วนคนที่ต้องมารองรับอารมณ์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นที่ต้องรับอารมณ์ร้ายๆ มาตั้งแต่เริ่มแล้ว
นั่นก็คือ คุณผู้จัดการใหญ่ ทิกเกอร์ โจนาธาน แคทเทอร์ นั่นเอง กร๊าากกกกกกกก~
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยกความดีความชอบให้จักรด้วยเหมือนกัน ที่ยอมรับความจริงและพูดเตือนสติฟ้า
ตกลงว่าพี่คิวยังไม่ได้ปาดหน้าเค้กสินะ แถมพี่คิวกับพี่เซ็นเนี่ย เค้ายังขี่กันเองอีกต่างหาก กร๊าากกกกก~
สุดท้ายต้องขอบคุณเบบี้ สำหรับ Limited Lovers2 ด้วยค่ะ สนุกมากๆ แถมยังให้แง่คิดมากมายด้วย
ว่าแต่ Limited Lovers3 นี่เป็นเรื่องของคู่ไหนคะเบบี้
สารบัญ ~ Limited Lovers I-II~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ยาวสะใจมาก ๆ อ่ะ+1 เฮ้อ มีความสุขสักทีเน้ออาฟ้า :L2:
-
:mc4:ถ้าจะพร้อมขนาดนี้นี้อ่ะนะ...ดีใจกะทิกเกอร์ด้วยนะ :sad4:
-
อาฟ้า... :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ตอนต่อไปจะเป็นใครนะ ..พี่ีหมีใช่มั้ยน้า????
-
สุดท้ายก็แอบสงสารอาจักร
แต่เค้าก็เชียร์ทิกเกอร์มากกว่ามาตลอดอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ดีใจ รออ่านต่อคร๊า
-
ที่จริงจักรใจหล่อมาตั้งนานแล้วนะ ใจแมนมากด้วย แต่ก็ไม่รู้ว่าอ่านยังไงถึงได้อคติกับจักรอย่างนั้น..กร๊าก ห้ามว่าจักร คนนี้เด็กปั้นของเบบี้ 555++
เปล๊าาาาา ไม่ได้อคติ แค่ใจไปที่ทิกเกอร์เฉยๆๆๆๆ เพราะเราเค้าข้างพี่คิว คิวชอบใครเค้าเชียร์คนนั้นแหละ เอิ๊ก แต่หลังๆมาจักรใจหล่อมากกกกกก
-
เปล๊าาาาา ไม่ได้อคติ แค่ใจไปที่ทิกเกอร์เฉยๆๆๆๆ เพราะเราเค้าข้างพี่คิว คิวชอบใครเค้าเชียร์คนนั้นแหละ เอิ๊ก แต่หลังๆมาจักรใจหล่อมากกกกกก
คิวก็คิวเถอะ เดี๋ยวเจอจักร(เด็กปั้น)แล้วจะหนาว..หึหึหึ :laugh:
-
คิวก็คิวเถอะ เดี๋ยวเจอจักร(เด็กปั้น)แล้วจะหนาว..หึหึหึ :laugh:
อั่ยยะ
-
พิเศษ พิเศษ พิเศษ พิเศษ พิเศษ พิเศษ
ขอโทษนะเพิ่งมาโพสทั้งที่ติดตามอ่านมานานเเล้ว
เนื้อเรื่องสนุกอ่ะเบบี้.....ตามอ่านมาทุเรื่องที่โพส....
ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ......สู้ๆๆๆๆๆๆ
ปล.1 ตอนพิเศษ
ปล.2 และก็ตอนพิเศษ
อิอิอิอิอิ
-
o13
-
เย้ๆๆ ในที่สุดอาฟ้าก็เลือก ทิกเกอร์ :mc4:
ตุ้มๆต่ิอมๆ กะ ทิกเกอร์มาตั้งนาน ตามลุ้น ตามเชียร์
แอบเคือง อาฟ้ามาตั้งหลายตอน
รอลุ้นคู่ที่ 3 ต่อนะคะเบบี้
o13
-
สนุกมากเลยค่ะ
กำลังตามอ่านให้ทันอยู่
-
ลุ้นเหนื่อยกันจนตอนสุดท้ายเลยนะอาฟ้า
-
โอ๊ะเปิดมาตกใจเลย จบและหรอ??
สรุปได้รวดเร็วทันใจมากไม่ต้องนั่งลุ้นให้เมื่อยตุ้มเลย เหอะเหอะ
บอกได้เลยว่าถูกใจมากกกกกกกกกกกก เอิ๊กๆๆ
ปล.แอบเสียน้ำตาตอนอาฟ้ามาหาทิกเกอร์ด้วยอ่ะ กระซิกๆ
-
นั่งอ่านรวดเดียวถึงตอนปัจจุบันเลย ต้องบอกว่าวางไม่ลงจริง ๆ
อ่านนิยายของเบบี้มาหลายเรื่อง (สนุกทุกเรื่อง) o13 แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมือนเรื่องอื่นเลย เป็นเรื่องที่อ่านแล้วมีอะไรให้คิดเยอะมาก ๆ เรื่องไปแบบเรื่อย ๆ แต่น่าติดตามทุกตอน ชอบเพื่อนพระเอกและนายเอกของเบบี้ทุกเรื่องเลย เป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ
จะติดตามงานของเบบี้ต่อไปเรื่อยเลยค่ะ :L2:
-
สุดท้ายพี่ฟ้าก็เลือกทิกเกอร์ อยากรู้จังว่าคู่ต่อไปจะเป็นใครนะ
o13 o13
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ o13 o13
-
ฮิฮิ ไปฮันนีมูนดีกว่า
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
ซึ่งอ่าาาาาา
รอ lover 3
คู่เซ็นกะกัสป่ะ
ฟ้า แร๊งง
-
ไม่ได้อ่านซะหลายตอนมาอีกทีจบละ ตอนแรกออกแนวหงุดหงิดกับเหตุผลของจักรเล็กน้อยที่อยากกลับมาคบกับฝาก แต่พอจักรบอกให้ฟ้าลองกลับไปถามใจตัวเองดู เราว่าจักรก็เป็นคนใช้ได้คนนึงอะ ถ้าตัดเรื่องเจ้าชู้ออกไปอ่านะ ถือว่าแมนเต็มขั้นเลยละ เพราะดันทุรังไปก็เท่านั้น ดูก็รู้ว่าใจฟ้าเลือกใคร ที่ฟ้ายอมรับได้เร็วขึ้นก็เพราะเสียงจากคนรอบข้างและรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสีย จนเรียกคืนมาไม่ได้ บวกกับกลอนบทนั้นที่เตือนสติก็ด้วย ถึงกับวีนแตกเลยทีเดียว ถ้าไม่ตั้งใจมาหา คงไม่วีนขนาดนี้หรอก สุดท้ายทิกเกอร์ก็แพ้ทางต้องยกเลิกประชุมจนได้ ลงเอยกันด้วยดีซะทีนะ มันแอบซึ้งตรงที่นี่จะเป็นความรักครั้งสุดท้ายของพี่ฟ้าจริงๆนี่แหละ
ปล. รออ่านคู่ที่สามคะ หมีกัสเปล่าอ่ะ แต่ความจริงแอบอยากให้เป็นเซ็นกัสนะนี่ >,.< อยากอ่านน้องเค้กก่ะพี่คิวสวีตหวานบ้าง งื้อมีแต่มาดนิ่งโหดทั้งนั้นเลย
-
ในที่สุดก็อ่าน lovers 1 จบแล้ว
โต้รุ่งเลย อิอิ
ตามอ่านต่อจ้า
-
ความรักกับความเจ็บปวด เป็นของคู่กันค่ะ
ในเมื่อคิดจะรักแล้ว ก็เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม สำหรับความเจ็บปวดที่จะมาเมื่อไหร่ไม่รู้ด้วยล่ะ :กอด1:
คู่ต่อไปจะเป็นคู่ใครหว่า แต่แอบอยากอ่าน หมี-กัส (คู่กันใช่มั๊ยนี่?) :laugh:
แต่ตอนนี้ น้องเค้กหดเหลือสองนิ้ว แย่งซีนมากกกกกกกอ่ะค่ะ น่ารักตลอดเวลาอ่ะ หนุ่มน้อยคนนี้ :-[ :-[
-
ในที่สุดอาฟ้าก็เป็นฝั่งเป็นฝาซะที :a2: หลังจากที่เชียร์มานาน โอ๊ย... ลุ้นกันตัวโก่ง :เฮ้อ: โล่งอก
คราวนี้ถึงตากัสจังรึยังน้อ....
-
อ่านจบ lover2 แล้ว โต้รุ่งมาหลายวัน
ภาค 2 นี้ ดีใจที่ยังมีเรื่องคิวกับเค้กแทรกมาให้หายคิดถึง
คธาฟ้ากับทิก้กอร์ก็แฮปปี้ กำลังรอลุ้น lovers 3ว่าเนื้อเรื่องจะออกมารูปแบบไหน
แต่ส่วนตัว อยากอ่านคู่คิวกับเค้กตาอ แบบว่าชอบคิวอ่ะค่ะ
ชอบความอข็งนอกอ่อนใน อ่านแล้วจักจี้ดี
อยากเห็นภาพ คิวหวานบ้าง จะออกมา้ป็นยังไง
จะรอติดตามต่อค่ะ สู้ๆนะค่ะ
ขอบคุณที่แต่งนิยายอีกเรื่องที่สนะกมากเลยค่ะ
-
คาดเดา คู่ที่ 3 น่าจะเป็น นายเซ็น กับ น้องกัส :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
:z2: :L1:
-
ซึ้งงงงงงอะ o18
-
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ๆ เลยค่ะ คุณเบบี้แต่งเรื่องนี้ได้น่ารักมากจริง ๆ
กลับบ้านต้องมาเปิดดูทุกวันว่าอัพแล้วหรือยัง
ลุ้นคู่ที่สามเป็นเรื่องของกัสหรือเปล่า แอบชอบกัสนะค่ะ
-
ทิกเกอร์เอ้ยยย สมหวังซักที ลุ้นตั้งนาน ^^
-
Lover 3 จะเป็นตอนของใครเอ่ย?
-
:กอด1: :กอด1:รออ่านตอนต่อไป :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:call: :call:
-
ยังไม่ได้อ่านตอนพี่ฟ้าเลยค่ะ
แต่เข้ามารอLover 3 ใช่คู่กัสหรือเปล่าคะ
ชอบกัส น่าจะคู่กับพี่เซ็น ^^
-
ลุ้นแบบตัวโก่งเลยก้อว่าได้ สุดท้ายฟ้าหาหัวใจตัวเองเจอแล้ว
เอาใจช่วยขอให้ความรักของฟ้าและทิกเกอร์จงมั่นคงและโชคดีตลอดไปนะ
-
เย้ๆ ในที่สุดก็กลับมารักกับทิกเกอร์อีก
ทิกเกอร์นี่ยอมฟ้าทุกอย่างเลยนะ
-
คิดเถิงพี่บี้อ่า ไม่มีเฟซพี่บี้ให้อ่านแล้วเหงามาก คิดถึง ตะโกนๆๆๆ
-
มารอตอนใหม่
-
แอบย่องเข้ามาส่อง :z2:
ว๊า~~เบบี้ก๊ะยังไม่มาอีกเว้ :เฮ้อ:
-
รอลุ้นคู่ที่ 3 ว่าจะเป็นคู่ไหน
-
จบแล้วอีกคู่
สนุกๆ
รอคู่ที่สาม จะเป็นคู่ของใครน่ะ
รอลุ้น :z2:
:กอด1:
-
สมใจเล็ก ๆ ที่ฟ้าเลือกทิกเกอร์ในที่สุด
ภาค 3 จะเป็นเค้กกับคิวอีกหรือเปล่านะ
-
:3059: :z2:
-
รอภาค 3นะค้าาา :z2: :z2:
-
คิดถึงจังเลยยยยยยยยยย :กอด1:
-
ฮริ้วววววววววววววว สุดท้ายพระเอกของฟ้าก็คือทิกเกอร์ o13
ตอนต่อไปจะเป็นคู่ใครหว่า? ลุ้น ๆ
-
มารอตอนใหม่ด้วยคนคร้าฟ
-
Lover..3
~1~
ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
“ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วไม่ใช่เหรอ หยุดทำงานที่ร้านอาหารของคุณฟ้าก่อนไม่ได้รึไง” พ่อพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหาร ระหว่างอาหารมื้อเช้า เมื่อบทสนทนาของพ่อกับพี่ชายของผมจบลง พ่อก็เริ่มสาวมาถึงเรื่องของผมในทันที
“กัสทำได้ครับ ไม่เป็นอะไรสักหน่อย” ผมพูดบอกพ่อก่อนจะก้มลงทานข้าวต้มต่อ
“..................” พ่อเงียบลง ทำให้ทั้งโต๊ะเงียบไปด้วย ผมรู้ดีว่าพ่อไม่อยากให้ผมทำงานอะไรเลย ท่านอยากให้ผมตั้งใจเรียนอย่างเดียว ท่านไม่เห็นว่าสิ่งนี้สำคัญต่อท่านหรือผม ที่ผมสามารถทำงานที่ร้านของพี่ฟ้าได้ เพราะว่าพ่อไว้ใจและเกรงใจตระกูลของพี่ฟ้ามาก ท่านถึงได้ยอมโอนอ่อนให้นะครับ
“กัสโตแล้วนะคุณ ปล่อยไปบ้างเถอะ” แม่พูดขึ้นเสียงเรียบ สีหน้าของแม่เรียบเฉยไม่ค่อยบอกอารมณ์เช่นทุกครั้ง แม่ผมเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ว่าจะกับใครก็ตาม แต่นิสัยจะค่อนข้างตรงไปตรงมาและเห็นถึงหัวอกของลูกๆเสมอ
“ใช่ครับ ถ้าคะแนนตกเมื่อไหร่..ก้องจะจัดการเอง ป๊าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” พี่ก้อง พี่ชายคนโตพูดขึ้นอีกคน ผมเป็นลูกคนสุดท้อง มีพี่ชายคนโตหนึ่งคน ชื่อพี่ก้อง ส่วนพี่สาวคนกลาง ชื่อพี่ลูกเกตุ พี่ทั้งสองคนได้ดิบได้ดีมีหน้ามีตาในสังคม หน้าที่การงานดีมาก เหลือเพียงผมตอนนี้ที่ยังคงเรียนหนังสืออยู่ จึงทำได้อย่างเดียวคือเรียนเท่านั้น
“ตามใจพวกแกก็แล้วกัน ดูมันให้ดี..ทำหน้าไม่พอใจ ฉันก็ไม่อยากจะยุ่ง” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันก่อนจะเหลือบหางตาไปอีกทาง
“ป๊าฮะ” ผมวางช้อนลงด้วยรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก ผมมองหน้าพ่อ พ่อหันกลับมาจ้องหน้าผมเขม็ง
“ป๊าบอกเองว่าถ้ากัสทำคะแนนได้ดี ป๊าก็จะไม่ว่า..แล้วป๊าจะมาจับผิดอะไรกัสอีก” ผมพูดอย่างน้อยใจเพราะอะไรก็ไม่เคยดีสักอย่าง น้อยครั้งที่บางอย่างจะถูกใจพ่อ
“กัส..เงียบน่า” พี่เกตุหันมาปรามผม ผมก้มหน้าลง
“แกว่าฉันจับผิดแกงั้นเหรอ” พ่อว่าเสียงเข้ม
“ป๊าคะ น้องก็พูดไปอย่างนั้นเอง..ป๊าทานอาหารดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน” พี่เกตุพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างต้องการให้ทุกอย่างจบลง
“ฉันหมดอารมณ์กินละ” พ่อพูดพร้อมกับจับผ้ากนเปื้อนวางลงบนโต๊ะ
“ป๊า..กัสขอโทษ” ผมรีบบอกเมื่อเห็นว่าพ่อทำท่าจะลุกไป ในห้องอาหารเงียบกริบ พ่อหันมามองเล่ห์ผมเพียงนิดเดียวเท่านั้นก็เดินออกจากห้องอาหารไปในทันที
“ฮื้ม..ฉันละเบื่อหน่ายจริงๆเลยพ่อลูกคู่นี้” แม่บ่นพึมพำ ผมเป็นคนเดียวภายในบ้านที่กล้าต่อปากต่อคำกับพ่อ และเป็นเพียงคนเดียวที่ค่อนข้างไม่ยอมพ่อสักเท่าไหร่ ถ้าในบ้านเกิดมีปากมีเสียงกันละก็จะมีผมเป็นตัวต้นเหตุอยู่ในเรื่องนั้นด้วยเกือบทุกครั้ง
“คุณแม่” ผมค้อน
“ป๊าเค้าจะพูดอะไร วันหลังก็เงียบๆไปเถอะ..เดี๋ยวได้โมโหขึ้นมา คราวนี้ฉันจะไม่ช่วยพูดให้แล้วนะ” แม่ว่าพร้อมกับค้อนสายตากลับให้ผมด้วย ผมหุบปากและนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้
“คุณแม่นั่นแหละ สอนพ่อบ้างสิ..เอาแต่ว่ากัสอยู่ได้” ผมบ่นบ้าง
“หึ..” แม่หัวเราะในลำคอเท่านั้นก่อนที่จะตักอาหารทานต่ออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้
“แล้ววันนี้จะไปร้านยังไง ให้คนขับรถไปส่งใช่ไหม” พี่ก้องหันมาถาม ผมส่ายหัวตอบ
“พี่หมีมารับ” ผมตอบ
“งั้นเหรอ..ก็ดี” พี่ก้องยิ้มให้น้อยๆและหันไปทานข้าวต้มต่อ
“อะไร” พี่ก้องหันมายิ้มถามเหมือนรู้ทัน ผมพยายามเขยิบตัวขึ้นเพื่อจะเข้าไปกระซิบพี่ก้องใกล้ๆหูพี่ชายแสนน่ารัก
“กัสอยากได้รองเท้าใหม่ครับ” ผมกระซิบบอก พี่ก้องอมยิ้มหันกลับไปทานอาหารทำเป็นไม่สนใจผม ผมนั่งมองอย่างรอลุ้น
“ทำงานแล้ว มีเงินเดือน..ก็ซื้อเองสิ” พี่ก้องพูด
“ฮู..เงินเดือนที่แม่ให้ กับเงินเดือนจากที่ร้านอะนะ แค่ค่ากินก็หมดละ..แม่ขี้เหนียวจะตายพี่ก็รู้” ผมบ่นใส่พร้อมกับเหน็บแนมไปทางแม่ด้วย แม่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดโต้ตอบใดๆเช่นเดิม
เดือนเดือนหนึ่งผมจะได้รับเงินเดือนจากแม่ของผม รวมกับค่าจ้างจากที่ร้านของพี่ฟ้าอีก หนึ่งเดือนผมจะใช้เงินตกประมาณหนึ่งหมื่นแปดพันถึงสองหมื่นบาทประมาณนั้น เป็นการใช้เพียงแค่ค่าอาหารกับช็อปปิ้งเล็กน้อยเท่านั้น ค่าเดินทางโดยส่วนมากผมไม่ต้องเสียเพราะพ่อจะให้รถคอยไปรับไปส่งผมตลอด ส่วนถ้าผมต้องการจะไปช็อปปิ้งแต่ละครั้ง ผมต้องมาขอเงินจากแม่ถึงจะได้รับอนุญาตให้นำบัตรเครดิตไปใช้ได้ ถึงแม้ผมจะมีบัตรเครดิตติดอยู่กับตัวแต่วงเงินที่ได้รับอนุญาตก็ไม่พอให้คนอย่างผมถลุงได้เต็มที่เท่าไหร่ ถ้าต้องให้อ้อนระหว่างแม่กับอ้อนพี่ๆแล้วละก็ ผมขออ้อนพี่ๆยังได้ของง่ายกว่าอีกนะครับ
“น้า..กัสอยากได้รองเท้าใหม่ พากัสไปซื้อหน่อย” ผมเอามือซ้ายจับแขนพี่ก้อง ส่วนมือขวาก็จับแขนพี่เกตุที่นั่งอยู่ข้างๆเขย่าไปมาอย่างอ้อนวอน
“น้าค้าบ~”
“อืม รู้แล้ว..รีบกินซะ พี่ว่างวันเสาร์ โอเคไหม” พี่ก้องตัดบท
“โอเคครับ!” ผมรีบทำท่าเลียนแบบทหารในทันที
“พี่เกตุก็ว่างใช่ไหม” ผมหันไปถามพี่เกตุบ้าง
“ว่าง..แต่พี่ก้องจ่ายนะ” พี่เกตุหัวเราะ
“อะไร..พี่จ่ายให้กัส ไม่ได้หมายความว่าจะจ่ายให้เกตุด้วยสักหน่อย”
“โหย เกตุก็น้องพี่เหมือนกันนะ” พี่เกตุโวยวายในทันที
“แต่เกตุแก่แล้ว” พี่ก้องพูดปนหัวเราะ
“กร๊าก พี่ก้องบอกว่าพี่เกตุแก่แล้ว..พี่เกตุแก่แล้วอ่ะแม่ ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะชอบใจ
“เบาเสียงหน่อย..ไร้มารยาทจริงๆ” แม่ปรามด้วยท่าทีเหมือนไม่อยากจะสนใจพวกผมเท่าไหร่ ผมหุบปากเข้าหากันก่อนจะนั่งทานอาหารต่อเงียบๆอย่างช่วยไม่ได้
ตระกูลของผมตั้งแต่รุ่นของคุณทวดเป็นนายทหารชั้นสูง มาตลอดจนถึงรุ่นคุณปู่และคุณตาก็เป็นทหารอีกเช่นกัน แม่ของผมเป็นลูกสาวของนายทหารชั้นสูงที่เป็นที่นับหน้าถือตา ทั้งสองตระกูล..ตระกูลของคุณปู่และตระกูลของคุณตาเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน พ่อกับแม่ไม่ได้ถูกจับบังคับให้แต่งงานอย่างที่หลายฝ่ายคิด ทั้งพ่อและแม่ตกหลุมรักกัน เป็นความรักที่สวยงามมากจนบางครั้งผมถึงขั้นเพ้ออย่างไม่อยากจะเชื่อว่าพ่อจะเป็นผู้ชายในฝันของแม่ได้
พ่อของผมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นที่นับหน้าถือตาให้แก่ตระกูล จนมาถึงพี่ก้องพี่ชายของผมก็ทำงานทางด้านทหารอีก แต่แตกต่างออกไปเพราะพี่ก้องทำงานด้านทหารอากาศ เพียงอายุไม่เท่าไหร่พี่ก้องก็ได้รับตำแหน่งสูง พี่ก้องจึงเป็นลูกที่พ่อและแม่ภูมิใจมาก ส่วนพี่ลูกเกตุพี่สาวของผม เธอจบปริญญาเอกทั้งทั้งที่อายุยังน้อยมาก อายุเท่าพี่คิวและพี่เซ็น ตอนนี้พี่เกตุทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง ประเด็นสำคัญที่พ่อชอบอกชอบใจนั้นอยู่ที่พี่ทั้งสองคนได้งานเป็นที่นับหน้าถือตา ผมที่เป็นน้องคนเล็กสุดจึงกดดันเล็กน้อยถึงปานกลาง พ่อคัดค้านผมหัวชนฝาตั้งแต่ผมเลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์แล้ว พ่อเห็นว่าผมเป็นลูกผู้ชาย จึงอยากให้ผมทำงานเป็นทหารอย่างที่พ่อต้องการละมังครับ แต่ดีหน่อยที่พี่ชายและพี่สาวของผมอยู่ข้างผมและคอยสนับสนุนผมเสมอมา ท้ายที่สุดพ่อจึงยอมโอนอ่อนผ่อนตามให้
อาชีพที่ผมใฝ่ฝันคืออาชีพในวงการบันเทิง แต่ผมรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้หรอก พ่อจะต้องคัดค้านและจะต้องไล่ผมออกจากบ้านแน่ๆถ้าผมจะคิดทำอย่างนั้น ผมไม่อยากให้เป็นแบบนั้นและไม่อยากทำให้พ่อต้องเสียใจอีกด้วย หนึ่งสิ่งที่ผมสามารถทำให้พ่อได้ก็คือหน้าที่การงานที่ดีพอที่พ่อจะภูมิใจและยืดอกบอกคนอื่นได้ แต่ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ว่าผมจะทำงานอะไรดี..นั่นแหละมั้งครับที่ยังคงเป็นปัญหา
คนในครอบครัวก็ไม่เชิงกดดันผมเท่าไหร่ แต่แน่ล่ะว่าพ่อเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถส่งพลังกดดันมาให้ผมได้ตลอด ส่วนแม่เป็นคนเหมือนไม่ค่อยสนใจอะไร เพราะแม่ต้องออกงานสังคมบ่อยครั้ง แต่บางครั้งแม่ก็จะยอมทุกครั้งเวลาที่ผมขอหรืออ้อนอะไร ผมไม่รู้ว่าพ่อจะรู้รึเปล่าว่าที่จริงแล้วผมไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่ผมรู้ดีว่าพ่อกลัวมากที่ผมจะเป็นอย่างนั้น ส่วนแม่ของผมก็น่าจะพอดูผมออก ผมไม่รู้ว่าผมเริ่มเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พอมารู้ตัวอีกทีก็พบว่าตกใจไปก็เท่านั้น ที่จริงแล้วผมอาจจะรู้ตัวเองมานานมากแต่พยายามที่จะไม่ยอมรับมัน
“สวัสดีครับพี่ก้อง” พี่หมีลงมาจากรถ พี่ก้องเดินมาส่งผมที่หน้าบ้าน พี่เขายกมือรับไหว้พี่หมีพร้อมกับยิ้มให้
“มารับทุกวัน ไม่เบื่อรึไง” พี่ก้องพูดอมยิ้ม
“หึ..ไม่หรอกครับ” พี่หมียิ้มตอบเล็กน้อย
“ไปนะครับ ตั้งใจทำงานนะ” ผมโบกมือบ๊ายบายให้พี่ชายของผม
“หึ” พี่ก้องหัวเราะในลำคอ ลูบหัวผมเล็กน้อยก่อนจะโบกมือตอบให้ ผมเดินมาขึ้นรถก่อนพี่หมี เห็นพี่ก้องกับพี่หมีคุยอะไรกันนิดหน่อยก่อนที่พี่หมีจะกลับมาขึ้นรถอีกครั้ง
“คุยอะไรกันเหรอ” ผมถาม
“ยุ่ง” พี่หมีตอบส่งๆพร้อมกับคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง
“ยุ่ง” ผมเลียนแบบทำปากยื่นปากยาวใส่ พี่หมีอมยิ้ม
“เย็นนี้พี่หมีมาส่งกัสที่บ้านด้วยนะครับ” ผมบอกก่อนเพราะกลัวว่าพี่หมีจะไปนัดกับใครอื่น
“ก็ให้ที่บ้านไปรับสิ พี่ก้องบอกว่าจะให้รถไปรับที่ร้าน” พี่หมีพูดพร้อมกับขับรถเคลื่อนตัวออกมาจากหน้าบ้าน
“ไม่เอา..จะกลับกับพี่ ไม่อยากกลับกับคนขับรถ” ผมเหวี่ยงหัวไปมาอย่างไม่ชอบใจ
“หึ แค่นี้พี่ก็จะเหมือนคนขับรถให้กัสอยู่แล้วนะ” พี่หมีอมยิ้ม เอียงหน้าไปอีกทางเพื่อดูรถที่ผ่านไปผ่านมาเพื่อที่จะข้ามไปอีกฝั่งของถนน ผมหันไปจ้องหน้าพี่หมี เราเงียบลง พี่หมีหันกลับมายิ้มให้ผมเพียงนิดเดียวก็หันหน้ากลับไปมองถนนตรงหน้าต่อ
“เฮ้อ..เบื่อคนแก่” ผมกอดอกเข้าหากันและทิ้งตัวพิงเบาะ ได้ยินเสียงพี่หมีหัวเราะเบาๆ เราไม่ได้คุยอะไรกันอีก ระหว่างทางมีเพียงเสียงเพลงคลอเบาๆ พี่หมีชอบฟังเพลงไทยสากล ส่วนมากเป็นแนวเพลงรักป๊อบแบบฟังสบายๆขัดกับบุคลิกของพี่เขาค่อนข้างมากทีเดียว
สถานะระหว่างผมกับพี่หมีค่อนข้างคลุมเครือมานานมากแล้ว เราต่างฝ่ายต่างรู้ดีอยู่เต็มอก ผมไม่รู้ว่าผมจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร มันเหมือนกับความคลุมเครือดำเนินมายาวนานจนต่างฝ่ายต่างเลิกพูดที่จะให้เรื่องราวนั้นเคลียร์ลง ซึ่งไม่เชิงว่าผมไม่ได้รู้สึกดีๆกับพี่หมี ผมรู้สึกดีๆกับพี่เขามาตลอดและนี่แหละที่เราสามารถสัมผัสถึงกันได้ แต่ผมกลับมีความรู้สึกบางอย่างมาขั้นให้ความสัมพันธ์เราไม่ก้าวเดินไปข้างหน้า
หลังจากที่ผมทำงานที่ร้านนี้มาได้ประมาณปีกว่า ผมถูกพี่หมีจับได้ว่าผมแอบชอบพี่เซ็นเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ผมจำได้ดีว่าวันนั้นน่าจะเป็นวันเกิดครบรอบยี่สิบปีของผมพอดี ผมไม่รู้ว่าผมออกอาการเกินควรมากไปหน่อยรึเปล่าพี่หมีถึงสังเกตเห็นได้ หรืออาจจะเพราะพี่หมีสังเกตเห็นได้นานมากแล้ว..
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจครั้งที่ร้อย มองกล่องของขวัญที่พี่เซ็นให้ ผมยังไม่ได้แกะมันจึงไม่รู้ว่าในนั้นคืออะไร ถึงแม้ว่าอยากจะรู้ใจแทบขาดก็เถอะครับ
“เฮ้อ”
“อะไร..ถอนหายใจอยู่นั่น มันน่ารำคาญนะครับ” พี่หมีพูดขึ้นระหว่างทางที่พี่หมีกำลังขับรถไปส่งผมที่บ้าน ผมต้องกลับไปฉลองงานวันเกิดกับคนที่บ้าน ซึ่งทำเป็นประจำอย่างนี้ทุกทุกปี
“เปล่าฮะ” ผมตอบเสียงเอื่อย
“งั้นเหรอ” พี่หมีพูด เราสองเงียบลงครู่หนึ่ง
“กัส..” พี่หมีเรียกอีกครั้ง
“ครับ” ผมขานตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร ใจลอยไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่ทราบ
“ชอบใครในร้านงั้นเหรอ” พี่หมีพูดถามแต่น้ำเสียงกลับไร้อารมณ์ใดๆ
“ห๊ะ!” ผมอ้าปากค้างด้วยความตกใจ หันกลับไปมองหน้าพี่หมีตาถลนในทันที พี่หมีไม่ได้หันหน้ามามองผม แต่ขับรถมองถนนตรงหน้าด้วยท่าทางเฉยเมยต่อคำถามของตนเองซะไม่มี
“อ่ะ..อะไรของพี่หมีครับ” ผมอึกอัก รู้ตัวเองเลยว่าเริ่มเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวอย่างไรดีไม่ให้ผิดปกติ ยิ่งพี่หมีพูดขึ้นมาโต้งๆอย่างนี้ยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูกกันไปใหญ่
“เปล่า ก็คิดว่ากัสน่าจะชอบใคร” พี่หมีพูดเสียงเรียบ ด้วยหน้าตานิ่งเสียจนผมไม่รู้ว่าพี่หมีกำลังต้องการอะไรจากผมกันแน่ เราสองคนสนิทกันมากขึ้นหลังจากที่ผมทำงานที่ร้านนี้มาได้ประมาณเดือนสองเดือนเพราะพี่หมีเป็นคนที่คอยเทรนงานให้กับผม หลังจากนั้นเราก็เริ่มไปไหนมาไหนกันบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อยๆแต่นั่นก็ไม่ได้เรียกว่าสนิทมากจนจะสามารถเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังได้
“ก..กัส เปล่า สักหน่อยครับ” ผมรีบตอบออกไป เสียงมันสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่ บางครั้งผู้ชายคนนี้เป็นอีกคนที่ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ
“หึ..ถ้าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร พี่ก็แค่พูดเฉยๆ” พี่หมีแสยะยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ตรงข้ามกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง รอยยิ้มของพี่หมีดูกร้านโลกจนทำให้ผมรู้สึกกลัว
“พี่หมี” ผมเรียกเสียงค่อย พี่หมีเหลือบสายตามามอง สายตาของพี่เขาทำให้ผมต้องหลบตาหนีอีกครั้ง
“เอ่อ คือ..กัส พี่หมี ทำไม” ผมพยายามพูดแต่มันก็ตะกุกตะกักไปหมด พี่หมียังคงเงียบเหมือนกำลังรอฟังคำอธิบายอย่างนั้น
“ชอบเชฟเหรอ” พี่หมีพูดเสียงเบา แต่กลับเป็นคำพูดและน้ำเสียงที่ทำให้ตัวผมเกร็ง ผมกอดกล่องของขวัญของพี่เซ็นเข้ามาแนบกับตัวมากขึ้น
“เปล่า!” ผมกระแทกเสียงตอบ
“เชฟมีสองคนนะ..” พี่หมียังคงต้อนผมไม่หยุด ผมกัดปากเข้าหากันอย่างต้องการควบคุมสติของตัวเอง
“แต่ทั้งสองคน ไม่มีความเป็นไปได้เลย” พี่หมีบอก
“พี่หมี” ผมพูดเสียงเบาอย่างรู้สึกเสียใจที่พี่หมีพูดเหมือนต่อว่าผม มันตรงเกินไปที่ผมจะสามารถรับคำพูดนี้ได้ พี่หมีขับรถจอดเข้าที่ข้างทาง ผมหลับตาลง อยู่ๆน้ำตาก็หยดลงอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่ ผมรับรู้ได้ถึงมือใหญ่ๆของพี่หมีที่ลูบแก้มผมอย่างเบามือ
“ขอโทษครับ” พี่หมีปลอบเสียงเรียบ ผมยิ้มให้เพียงนิดเดียวเพราะไม่สามารถยิ้มกว้างได้มากกว่านั้น
“ยิ่งร้องไห้พี่ยิ่งชอบนะ..หยุดร้องเถอะ” พี่หมีพูดแกมหัวเราะ ผมก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร พี่หมีเองก็ไม่พูดอะไรก่อนจะเคลื่อนรถออกอีกครั้ง
หลังจากวันนั้นก็ทำให้เราเหมือนสื่อต่อกันได้มากขึ้นกว่าเก่า เรื่องมันดำเนินมาเรื่อยๆ เหมือนมีบางคนในร้านสังเกตได้แต่ลึกๆ แต่ลึกลงไปกว่านั้นก็ไม่มีใครสอบถามรายละเอียดให้มากความ ชีวิตกำลังดำเนินมาอย่างปกติอย่างเช่นชีวิตปกติของวัยรุ่นและวัยทำงานของคนหลายๆคนทั่วไป ผมกับพี่หมีสนิทกันมากขึ้น พี่หมีมักจะไม่พูดอะไรที่ทำให้ผมเสียใจ ถึงแม้ว่าหลายครั้งที่พี่หมีจะรู้ว่าผมมีอะไรฝังใจอยู่ตลอดเวลา และทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ยังไม่ยอมรับพี่หมีอย่างเต็มหัวใจ นั่นละครับ..ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าพี่หมีคิดอะไรอยู่ พี่หมีเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรต่อพี่เขา หรือ “เชฟ” ที่พี่หมีหมายถึง นั่นก็คือ..“พี่เซ็น” เหมือนทั้งสองคนเรากำลังเข้าใจในตัวของกันละกันประมาณนั้น
= = = = = = = =
-
ผมจำได้ดีว่าผมเริ่มหลงรักพี่เซ็นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมจำไม่ได้ว่าอะไรทำให้พี่หมีสังเกตเห็นว่าผมแอบหลงรักพี่เซ็นอยู่ ทั้งทั้งที่เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกใครเลยแม้แต่คนเดียว ผมเก็บมันเอาไว้ในใจมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำงานที่ร้านนี้
ผมจำได้ลางๆว่าตอนที่ผมอายุประมาณสิบเจ็ดปี ผมอ่านหนังสือนิตยสารอาหารเล่มหนึ่ง เป็นนิตยสารอาหารของประเทศอิตาลีโดยเฉพาะ จัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษและภาษาอิตาลีที่จำหน่ายทั่วโลก ผมด้วยความที่เป็นคนชอบดูรายการอาหารและชอบทานเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงชอบมากที่จะซื้อหนังสือพวกนี้มาอ่านเล่น ในวันนั้นเวลาน่าจะประมาณบ่ายๆ ผมอ่านเจอคอลัมน์หนึ่งในหนังสือเล่มนั้น เพราะชื่อของเชฟสะดุดตาผม..เป็นชื่อของชาวไทยสองคนที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ตอนนั้นบอกได้คำเดียวว่าผมตกใจมากทั้งทั้งที่ผมไม่รู้จักคนสองคนโดยส่วนตัวมาก่อนเลย แต่หัวใจของผมพองโตตลอดเวลาที่นั่งอ่านประวัติและบทให้สัมภาษณ์ของพี่คิวและพี่เซ็น ความแตกต่างของนิสัยที่ทั้งสองคนมีมากแต่ผมกลับรับรู้ได้ถึงความลงตัวของทั้งคู่อย่างน่าประหลาด ทันทีนั้นเองผมก็รู้สึกคล้ายกับว่าตนเองกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งรัก หัวใจเต้นแรงและอมยิ้มอยู่ตลอดเวลาจนอ่านหมดคอลัมน์ ผมตัดรูปของพี่เซ็นกับพี่คิวมาเก็บไว้ แน่นอนว่าจุดประสงค์คือรูปของพี่เซ็นอยู่แล้ว ตอนนั้นผมรู้สึกคล้ายกับตัวเองเป็นโรคจิตบ้าดารา แต่นี่กลับเป็นเชฟตัวเล็กๆบนโลกที่ผมไม่รู้จักมักจี่ด้วยเลย ช่วงนั้นผมคิดเพ้อฝันไปคนเดียวต่างๆนาๆทั้งทั้งที่รู้ว่าความจริงผมคงจะไม่ได้เจอพี่เซ็นหรอก พี่เซ็นเป็นผู้ชายในแบบที่ผมชอบเกินไปอย่างไร้ที่ติ นั่นยิ่งทำให้ผมเพ้อเกือบแทบจะหลุดไปอีกโลกหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง ผมเริ่มค้นหาประวัติของพี่เซ็นมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รู้ว่าพี่เขาเป็นลูกเต้าเหล่าใครและจะกลับประเทศไทยเมื่อไหร่ ผมไม่เคยคิดว่าผมจะได้เจอกับตัว มันเป็นแค่ภาพที่วาดไว้ว่าสักวันผมจะไปนั่งร้านอาหารที่พี่เขาเป็นคนทำอาหารให้ทานก็เท่านั้น
3 ปีก่อน ณ ร้าน Fancy Diamond..
“คุณหญิงชอบแบบไหนคะ” พนักงานขายสาวสวยประจำร้านเพชรร้านประจำของแม่ต้อนรับขับสู่แม่ผมอย่างดีมาเสมอต้นเสมอปลาย วันนี้ก็เช่นกัน ร้านเพชรร้านนี้เป็นร้านของคุณลุงเพชรที่เป็นเพื่อนสนิทของแม่ตั้งแต่สมัยแม่ผมยังสาวๆ แม่ผมชอบมาดูและซื้อเพชรอยู่บ่อยๆ หลายครั้งผมมักคิดว่า แม่จะซื้อบ่อยอะไรนักหนา ผมก็ชอบนะครับแต่ผมแค่รู้สึกว่าบางทีก็บ่อยเกินไป แม่ของผมมีศักดิ์เป็นถึง “คุณหญิง” หลายครั้งที่แม่ต้องออกงานสังคมโดยมีเพชรอยู่บนเรือนร่างของเธอ เพชรที่ประดับตกแต่งร่างกายให้ดูสง่างามมากขึ้น
“วงนี้น้ำงามมากเลยนะ แล้วเพชรไม่อยู่เหรอ..งั้นฉันก็ไม่ได้ส่วนลดน่ะสิ” แม่พูดติดตลกหน้าตาย
“ได้สิคะ คุณเพชรโทรมากำชับเรียบร้อยแล้วค่ะ..ถ้าคุณหญิงต้องการวงไหน ทางร้านจะลดให้พิเศษเลยค่ะ” พนักงานขายพูดบอก ผมด้วยความที่ผมเบื่อที่จะนั่งฟัง จึงเดินเตรดเตร่ไปทั่วร้าน ผมเดินดูเพชรอย่างผ่านตาไปทีเพื่อฆ่าเวลาก็เท่านั้น
ปึก !!
“โอ๊ะ!” ผมตกใจเมื่อรู้สึกว่าเดินชนกับใครเข้า
“ขอโทษครับ” เราต่างฝ่ายต่างพูดกล่าวขอโทษพร้อมกันทั้งทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าใครผิดกันแน่ หรือคงอาจจะเป็นผมที่ผิดก็ได้ที่เดินไม่ดูทาง
“.....................” ผมชะงัก ยืนอึ้งตาค้างมองคนตรงหน้า มันเป็นความรู้สึกเพียงวูบเดียวที่โผล่ขึ้นมา หัวใจเหมือนตกลงไปที่ตาตุ่มทันทีอย่างไรอย่างนั้น ผมจำคนตรงหน้าได้ดีแน่ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยเห็นตัวจริงเขามาก่อนหน้าก็ตาม คนนี้คือ..“เชฟเซ็น” อย่างแน่นอน ตอนนั้นผมเอาอะไรมามั่นใจก็ไม่รู้ ไม่มีเหตุสนับสนุนอะไรกับความแน่ใจที่ผมมีสักอย่าง นอกจากก่อนหน้านั้นผมดูรูปพี่เขาบ่อยมาก บ่อยมากจนนึกขำกับตัวเองว่า ถ้าผมได้เจอตัวจริงผมก็คงรู้แน่ว่าพี่เขาคือพี่เซ็น..ไม่ผิดคน ซึ่งผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมนึกจะมาเกิดขึ้นจริงๆก็เท่านั้นเอง
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ” ผมแทบหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ยืนคล้องแขนพี่เซ็นอยู่ ผมอึกอัก รู้สึกเหมือนกับว่าปากของตัวเองสั่น
“ป..เปล่า ไม่เป็นอะไรครับ” ผมพูดอย่างตะกุกตะกัก พี่เซ็นจ้องหน้าผมพร้อมกับขมวดคิ้วทั้งรอยยิ้ม
“ขอโทษด้วยครับ” ผมรีบบอกและก็ต้องหลบสายตามามองหน้าผู้หญิงตรงหน้าแทน ผู้หญิงสาวสวยหุ่นดีคนนี้กำลังยืนแนบชิดสนิทสนมกับคนที่ผมหลงรักมาตลอด
“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ไม่ได้ดูทางเหมือนกัน” พี่เซ็นพูด ผมได้เพียงแต่พยักหน้า
“เซ็นไปดูตรงนั่นกันเถอะค่ะ” ผู้หญิงคนนี้ชี้ไปอีกทางหนึ่ง
“ครับ” พี่เซ็นยิ้มก่อนจะหันมายิ้มให้ผมอีกครั้งและเดินไปเลือกดูเพชรพร้อมกับเธอ ในตอนนั้นผมจำได้เพียงผมหันกลับไปมองพี่เซ็นอยู่นานมาก ผมยืนจ้องพี่เขาอยู่อย่างนั้นทั้งทั้งที่พี่เขายืนหันหลังให้ผมและพี่เขาไมได้มีท่าทีที่จะรับรู้เลยว่าผมยืนมองจ้องเขาอยู่อย่างไม่คลาดสายตา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ผมแทบอยากให้แม่เลือกเพชรให้เสร็จไวๆ เพื่อที่ผมจะได้ออกมาเรียกสติตัวเองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านและคนที่ผมได้เจอนั้นไม่ใช่เรื่องจริง..
= = = = = = = =
หลังจากวันนั้น ทั้งที่ผมเจอเหตุการณ์อย่างนั้นไป แต่ก็กลับทำให้ผมหยุดคิดเรื่องของพี่เซ็นไม่ได้ ผมรู้ในทันทีเลยว่าผมชอบพี่เขาแล้วจริงๆจนผมไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยละ ตอนแรกผมบอกกับตัวเองมาเสมอว่าอาจจะชอบหรือปลื้มประมาณนั้น ไม่คิดว่าการที่ได้เจอพี่เซ็นตัวเป็นๆในสถานการณ์แบบนั้นจะทำให้ผมรู้สึกแย่ไปพักหนึ่งทีเดียว
ถึงในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีหวังแม้สักนิด การที่ผมได้เห็นผู้หญิงคนนั้นทำให้ความมั่นใจในตัวผมหายวับไปกับตา ผมก็เป็นเพียงแค่วัยรุ่นชายธรรมดาคนหนึ่งบนโลกที่ไม่ได้วิเศษวิโสไปกว่าใคร ถ้าต้องให้เทียบกับเธอคนนั้นก็แทบไม่มีอะไรจะสู้ได้เลย แต่นั่นมันก็ทำให้ผมรู้สึกยับยั้งไม่ให้ชอบพี่เขาไม่ได้ หลังจากนั้นผมก็รู้มาตลอดว่าพี่เซ็นทำงานเป็นเชฟอยู่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ ผมเคยไปทานอยู่ครั้งสองครั้ง แน่ละว่าเป็นครั้งสองครั้งเพียงแค่การทานอาหารอย่างเงียบๆกับพี่สาวและพี่ชายผมก็แค่นั้นเอง ต่อมาผมตัดสินใจว่าผมจะสมัครเข้าทำงานที่ร้านนี้ จุดประสงค์ไม่มีอะไรมากนอกจากอยากจะเจอพี่เซ็น..ผมมีจุดประสงค์เพียงแค่นั้นจริงๆ ผมนับวันรอให้ผมจบมัธยมศึกษาปีที่6 เพราะว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าผมบอกพ่อว่าอยากทำงาน พ่อคงจะต่อว่าและห้ามไม่ให้ผมทำงานที่ร้านอย่างแน่นอนถ้าผมยังสอบมหาวิทยาลัยใดไม่ได้ เมื่อผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยหนึ่งในสาขาที่ผมต้องการได้แล้ว ผมก็ปรึกษาแม่เรื่องที่จะไปสมัครเข้าทำงานที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ในทันที แม่คัดค้านนิดหน่อยแต่ก็โอนอ่อนยอมตามต่อผม แม่ไม่ค่อยซีเรียสอะไรเรื่องนี้อยู่แล้ว ประเด็นมันอยู่ที่พ่อของผมต่างหากล่ะครับ แม่ของผมบอกว่าให้ผมไปสมัครเข้าทำงานที่ร้านนั้นให้ได้ก่อน และถ้าที่ร้านยอมรับผมเข้าทำงานแล้วให้นำประวัติต่างๆเพื่อนำมาสนับสนุนในการขออนุญาตจากพ่ออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังจากนั้นแม่จะช่วยพูดให้ผมเอง
วันหนึ่งผมเดินทางไปสมัครงานที่ร้านอย่างกล้าๆกลัวๆ เริ่มแรกผมได้รู้จักกับพี่ฟ้าเจ้าของร้าน พี่เขาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก ผมได้เจอเชฟคิวตัวเป็นๆ วันนั้นผมแทบไม่อยากจะเชื่อเพราะผมปลื้มพี่เขาเอามากๆเลยล่ะครับ ผมได้รู้จักพี่หมี พี่ซีและพี่ออฟในครั้งต่อมา ในตอนนั้นถือว่าผมโชคดีมากเมื่อทราบว่าพนักงานคนหนึ่งขอลาออกเพื่อไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ พี่ฟ้าจึงรับผมเข้าทำงานในทันที ผมเกริ่นเรื่องของพ่อผมให้พี่ฟ้าฟังแน่เนิ่นๆ พี่ฟ้าเอ่ยปากบอกว่าจะช่วยผมทุกทางถ้าผมมีปัญหากับทางบ้าน หลังจากนั้นผมก็กลับมาพร้อมกับประวัติของร้านเป็นรูปเล่มแฟ้มอย่างดี ผมเข้าไปขอพ่อในเรื่องนี้ในขณะที่พ่อกำลังอารมณ์ดีและที่สำคัญมีแม่อยู่ด้วย ตอนแรกพ่อก็ต่อว่าและคัดค้านหัวชนฝา แต่เมื่อพ่อได้ทราบว่าเจ้าของร้านเป็นลูกเต้าเหล่าใครพ่อก็ยอมใจอ่อนทีละนิดๆและสุดท้ายก็อนุญาตให้ผมทำงานในสุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพ่อได้ตั้งกฎว่าคะแนนการเรียนของผมจะต้องอยู่ในระดับที่..“ดีมาก” อย่างคงที่สม่ำเสมอในทุกทุกเทอมด้วย
ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิดที่เลือกมาทำงานที่ร้านเพราะความต้องการส่วนตัว ความต้องการที่คล้ายกับความลุ่มหลงที่ไม่ควร แต่ผมคิดว่าผมจะสามารถควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ ผมคิดอย่างนี้มาตลอด..
“นี่เด็กใหม่เหรอ” ผมชะงัก หันกลับไปมองและก็ต้องตกใจตาแทบถลนเมื่อเห็นว่าคนที่พูดทักนั่นคือพี่เซ็น
“ค..ครับ” ผมตอบตะกุกตะกัก ในตอนนั้นที่ห้องพักพนักงานไม่มีใครนอกจากผม เพราะผมมารอที่ร้านตั้งแต่เช้าตรู่ซึ่งมีเพียงพี่ฟ้าที่มาเปิดร้านแต่เช้า ผมยืนใจเต้นและอดนึกเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าพี่เซ็นอาจจะจำผมได้ว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหน้า
“สวัสดีครับ” อีกฝ่ายยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์แต่กลับดูเท่สำหรับผมมาก รอยยิ้มที่ผมต้องการแบบที่ผมไม่คิดเลยว่าผมจะได้รอยยิ้มอันน่าหลงใหลนี่
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบและพยายามไม่ให้ตัวเองออกอาการเขินอีกฝ่ายเกินจะเป็น
“พี่ชื่อเซ็นนะครับ เป็นเชฟที่นี่น่ะ” พี่เซ็นแนะนำตัวเอง
“ทราบแล้วครับ” ผมพูด
แกรก~
“มาหน้าสลอนอะไรตรงนี้ ไปเปลี่ยนชุด” พี่คิวเปิดประตูและชะโงกหน้าเข้ามาพูดเสียงเข้มใส่พี่เซ็น
“ให้ ไว” พี่คิวทิ้งท้ายก่อนจะปิดประตูไป ตอนนี้จึงเหลือเพียงพี่เซ็นกับผมอย่างเดิม
“น้อง..ชื่ออะไรครับ” พี่เซ็นหันมาถาม ไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนที่จะไปตามคำสั่งเลยสักนิด
“กัสครับ” ผมตอบ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมาอยู่แล้ว
“ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ” พี่เซ็นผายมือมาให้ ผมเอื้อมมือไปจับตอบอย่างเป็นมารยาท
“อ๊ะ” ผมร้องและถึงกับสะดุ้งเมื่อพี่เซ็นไม่จับมือผมตอบเปล่าๆแต่กลับยกมือผมขึ้นจูบเบาๆที่ฝ่ามือของผมอีกด้วย
“หึ..” อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอก่อนจะปล่อยมือลง พี่เซ็นขยิบตาให้อย่างทีเล่นทีจริงแต่มันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขินอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ พี่เขาเดินออกจากห้องไป คล้ายกับมีคำตอบให้ผมเป็นนัยว่า..“พี่เขาจำผมไม่ได้”
นั่นเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คืนนั้นผมเกือบไม่ได้นอนทั้งคืน ผมพยายามหลอกตัวเองทั้งคืนว่าเหตุผลที่พี่เขาจำผมไม่ได้คงเพราะครั้งแรกที่เราได้พบกันมันนานมากหลายเดือน ผมนอนบิดตัวไปมา เขินแล้วเขินอีกอยู่บนที่นอนและก็อดไม่ได้ที่จะคิดวาดภาพไปต่างๆนาๆเลยละครับ
หลังจากวันนั้นผ่านมา ผมเริ่มเรียกสติตัวเองให้กลับมาเมื่อทราบว่าพี่เซ็นเป็นคนที่ทำทะเล้นกับทุกคน ขี้เล่นและชอบหยอกคนอื่นไปทั่วอย่างนี้ประจำ ซึ่งนี่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจมาก แต่ผมก็พยายามทำใจและเรียนรู้ที่จะทำงานที่ร้านนี้ต่อ มันคล้ายกับผมไม่สามารถตัดใจอะไรหลายๆอย่างได้ อีกอย่างหนึ่งคือ..มิตรภาพของคนที่ร้านนี้ทำให้ผมไม่อยากทิ้งมันไปด้วยน่ะครับ
ผมเคยอยู่หลายครั้งที่จะตัดใจจากพี่เซ็น แต่พอได้แอบชอบ มันก็อดไม่ได้ที่จะแอบอยู่อย่างนั้นมาเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ผมรู้ว่าพี่เซ็นเป็นคนเจ้าชู้มาก เรื่องราวของพี่เซ็นที่พี่ซีมาเล่าให้ผมฟังนั้นไม่เคยซ้ำกันแต่ละวัน พี่เซ็นไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตนเลยและเป็นที่รู้กันดีว่าพี่เซ็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตอนแรกที่ผมรู้เรื่องนี้ผมก็ดีใจแต่สุดท้ายผมก็รู้ว่ายังไงมันก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่ดี พี่ซีเคยเล่าว่าพี่เซ็นไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตนมานานมากแล้ว พี่เซ็นเคยคบผู้หญิงเป็นแฟนอยู่สองสามคน สองคนแรกสมัยมัธยม อีกคนสมัยอยู่มหาวิทยาลัยที่ประเทศอิตาลีแถมยังเป็นชาวต่างชาติอีกด้วย นั่นเป็นเพียงสามคนที่พี่ซีจำได้ว่าพี่เซ็นคบมาได้นานมากที่สุด คบกันประมาณหกเจ็ดเดือนหลังจากนั้นก็เลิกรากันไป
อีกอย่างหนึ่งผมไม่รู้ว่าอะไรในตัวผมไปทำให้คนอย่างพี่หมีจับได้ คงเพราะตั้งแต่เริ่มมีเค้กเข้ามาในร้าน พี่เซ็นเริ่มออกหน้าออกตาที่จะจีบเค้กมากเกินกว่าปกติธรรมดา ผมรู้สึกแย่มากเลยละครับในช่วงนั้น ผมรู้สึกอิจฉาอยู่หลายครั้งว่าเค้กมีอะไรดีกว่าผมอย่างนั้นเหรอ หรือเพราะว่าผมออกเกย์ไปเสียหน่อย หรือเพราะว่าผมออกตัวว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง ถึงแม้ผมจะชอบอ้อน ขี้งอนและเอาแต่ใจ แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่มีบุคลิกออกสาวมากขนาดนั้นเพราะว่าครอบครัวผมเป็นครอบครัวทหาร พ่อมักจะดุด่าผมเสมอเมื่อไหร่ที่ผมอ้อนพี่ๆของผม แต่ตัวผมก็เป็นตัวผมอยู่วันยังค่ำ..มันห้ามไม่ได้ที่ผมเป็นคนอย่างนี้ จนพ่อผมเองก็คงจะระอาผมด้วยเหมือนกันละนะครับ
เมื่อก่อนผมมักจะมองเผินอยู่หลายครั้งที่เห็นพี่เซ็นจีบเค้ก ผมไม่รู้ว่าพี่เขาจริงจังกับสิ่งที่เขาทำลงไปหรือเปล่า แต่ผมก็ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองเสมอว่าพี่เซ็นก็คงจะหยอกเล่นอย่างที่ทำกับผมเหมือนกันนั่นละ ทั้งอย่างนั้นผมก็ยังห้ามตัวเองไม่ให้พูดจิกกัดพี่เซ็นไม่ได้เมื่อไหร่ที่เห็นอะไรขัดหูขัดตา นั่นแหละมังครับที่ทำให้พี่หมีจับผมได้ในที่สุด..
................>>>><<<<.................
แจ้งให้ทราบ !!!
ทางเบบี้ได้ทำการปิด Facebook และ Fan page ในนามของนิยายเบบี้ หรือ Novels by Baby ไปเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น..อาจจะมีบางคนที่ไม่ทราบหรืออาจจะสงสัยว่าทำไมมันหายไปก็ขอให้ทราบกันไว้ตรงนี้ค่ะ ใครที่หวังจะตามข่าวอะไรจากนิยายก็ไม่มีอีกต่อไป และถ้ามีอะไรให้ส่ง PM มาทางเล้าเป็ด หรือส่งเข้าอีเมลของเบบี้ หรือที่บอร์ดเบบี้ก็ได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
^^
-
เป็นเรื่องของน้องกัสรึเนี่ย คึคึ :z1:
-
เรื่องของกัสสส มันจะดราม่ามากไหมอ่า
การแอบรักคนที่เขาไม่ได้รักเรามันเจ็บเนอะ
-
:mc4: ต้อนรับ Lover # 3
กัสชอบพี่เซ็น แต่คนอ่านขอเชียร์ให้กัสชอบพี่หมีมากกว่าอ่ะ เพราะดูแล้วพี่หมียังดูคอยห่วงใย ดูแลกัสมากกว่าพี่เซ็นที่ชอบทำท่าหมาหยอกไก่ไปเรื่อยๆ
กด + และ + เป็ดให้กับคนเขียนค่ะ
-
+1 ให้กัส ที่น่ารัก ,,
เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง คลุมเครือ กะพี่หมี
และชอบพี่เซ็น
อ่อยยยย กัสสู้ๆนะ แล้วจะยังไงต่อไปเนี่ย
พี่เซ็นก็คงสนใจนิดๆล่ะมั้งง
เบบี้ปิดแฟนเพจแล้วเหรอ?
คิดถึงแย่เลน ฮึกกกก
อย่าหายไปนานๆนะ ,, อยู่กันมานาน
-
คู่ที่สามมาแบบไม่ทันตั้งตัวเลย
-
เป็นนเรื่องของกิสหรอนี้
-
เป็นตอนของกัสอิอิ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
o13
-
หนูกัสสู้ๆ :mc4: :mc4: :mc4:
:pig4:
-
เซ็นคงไม่ได้ชอบกัส แล้วหมีชอบกัสหรือเปล่านะ
-
กัสกับเซ็น แล้วพี่หมีล่ะ
รอติดตามนะ
-
กัสมาแล้ว รอลุ้นว่าจะใช่คนที่จะทำให้เซ็นหยุดได้หรือเปล่า
ขอบคุณเบบี้ :กอด1:
-
ใครจะเป็นพระเอกระหว่าง 'หมี' กับ 'เซ็น' :laugh:
-
ภาคนี้ เป็นเรื่องของหนูกัสเหรอเนี่ย :z1:
ใครจะมาวินเอ่ย :-[
-
น้องกัสจะคู่กับใครน้า :-[ :-[ :-[
:pig4: :pig4: :pig4:
-
กัสเป็นตัวละครที่เราชอบที่สุดในเรื่องเลย
แต่ใครจะมาเป็นพระเอกเนี่ย
พี่เซ็นก็ชอบ อยากให้สมหวัง แต่พี่หมีก็อบอุ่น ถ้าเราเป็นกัสเราก็เลือกไม่ได้ 555
-
พี่หมีเหมือนจะชอบกัสหรือเปล่านะ จริง ๆ แล้วเราชอบพี่เซ็นตั้งแต่ภาคแรกแล้วนะ
แหม หนุ่มหล่อ ขี้เล่น เจ้าชู้ และรวย เหมือนจะเสป๊คเลยนะเนี่ยะ 55+
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
lover 3 มาแล้วว ลุ้นๆคู่นี้ ใครจะเป็นพระเอกของกัสกันน่ะ
ได้อ่านคู่กัส สักที รอติดตามครับ ++
:pig4: :pig4: :pig4:
-
กัสจะได้คู่กับใครหนอ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
กัสน่ารัก^^
จะคู่กับใครล่ะเนี่ย
เชียร์พี่เซ็นค่ะ แต่ก็กลัวดราม่า
ถ้าเป็นพี่หมีก็โอเคมั้ง
-
น้องกัสแอบชอบเซ็นจริงๆด้วย
+1 :กอด1:
-
เดาว่าพระเอกน่าจะเป็นพี่เซ็น :m21:
-
รักต้องเลือกอีกหรือเปล่าน๊า แต่ดูแล้วครอบครัวกัสเป็นด่านที่น่ากลัวที่สุด
-
เร่ืองมันเป็นอย่างนี้เอง!!!!!!
เอาใจช่วยหมีนะ
-
เรื่องของกัสเหรอเนี่ย
รอลุ้นต่อไปว่านู๋กัส
จะเลือกใคร :L1:
-
เร่ืองมันเป็นอย่างนี้เอง!!!!!!
เอาใจช่วยหมีนะ
-
:mc4:
-
เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องของกัส สินะ
รัก 3 เศร้า รึเปล่าคะ
รออ่านตอนไปค่ะ
-
เค้าเชียร์พี่หมีอยู่น้าาา :call: :call:
-
...หวังว่าตอนจบของเรื่องนี้ น้องกัสกับพี่หมี จะเลิกอึมครีมกันซักทีนะ
...หรือว่าแต่ละคนจะไปมีคู่ใหม่ก็ไม่ว่ากัน เพราะอ่านมา 2 ซีรี่ย์คู่นี้อึมครึมตลอด :L2:
-
ว้าว ภาคใหม่มาละ เป็นเรื่องของกัสหรอเนี่ย ใครจะได้เป็นพระเอกน้า
อยากให้พี่เซ็นเป็นพระเอกอ่ะ ชอบคนเจ้าชู้ :impress2:
:pig4: นะคะ คุณเบบี้
-
ต้อนรับตอนใหม่จ้า
ของกัสคุงหรอเนี่ย
ขอให้แฮปปี้ๆน้า
-
:-[น้องกัสของพี่. พี่เซ็น พี่หมี. เลือกไม่ถูกอ่ะ อร๊ายยยยยยยย
-
กัสน่ารักมากก
สถานะคลุมเครือกับพี่หมีใช่ไหมนิ
-
ไม่น่าเชื่อ คิดเองมาตลอดว่าชอบพี่หมี...เซอร์ไพร์มากกกก^^
-
น้องกัส :กอด1:
อยากอ่านที่สุดอีกคนเพราะเป็น บุคคลที่สถานะคนที่คบหาดูใจด้วยคลุมเคลือมากกก
ดีใจ
รักบี้ ดูแลสุขภาพด้วย :กอด1:
-
กัสจังน้อยๆ :-[
-
มาแล้วเรื่องของน้องกัสเหรอเนี่ยดีจัง พระเอกจะใช่พี่เซ็นหรือเปล่าน้อ
(แอบเชียร์นิดๆ 55) :กอด1:
-
กัส ^^
งั้นก็ต้องมีอะไรให้ลุ้นกันอีกแน่ๆ
รอตอนต่อไปคะ :pig4:
-
เป็นเรื่องรักๆของน้องกัสนี่เอง :o8:
คนที่ชอบกับคนที่ใช่จะเป็นคนเดียวกันไหมน้า :impress2:
-
เรื่องใหม่ :mc4: :mc4:
เรื่องของกัสน่าสนุก
ดูมีคนมาวินอยู่สองคน
ใครจะได้เป็นพระเอกน่าาาาา น่าติดตาม :impress2:
-
ขอเป็นกัสกะพี่หมีละกันนะ 555555
-
เรื่องของกัสนี่เอง อิอิ
สู้ๆนะจ๊ะ น้องกัส :3123:
เบบี้จ๋า จัดหน้านิยายนิดนึงนะจ๊ะ :o11:
มันอ่านยากมากเลย :try2: ตาลายอ่ะ o2 o2
-
แอบนึกไว้เหมือนกันว่าเลิฟเวอร์3 จะมีกัสเป็นตัวเอก
แล้วก็เป็นตอนของกัสจริงๆด้วย คิคิ
เอาใจช่วยน้องกัสกับเชฟพี่เซ็นต่อไป เอ้ะ หรือจะพี่หมีน้า :impress2:
-
กัสน่ารักอ้า♥
ใจจริงนี่อยากให้กัสคู่กับพี่เซ็นนะ แต่จริงๆคู่พี่หมีก็ได้ไม่เป็นไร >__<
-
กัสสสสสสสสส :L2:
-
กัสชอบพี่เซ็นจริงๆนะเนี่ย ที่พี่หมีจับได้เพราะว่าแอบมองกัสมาตลอดหรือป่าว :o8:
-
เอาใจช่วยกัสนะหลงรักมาตั้งนานแนะแต่ลึกๆแอบเชียร์พี่หมีด้วยเหมือนกัน
-
ก็คิดอยู่ตั้งแต่เรื่องแรกว่าที่กัสชอบหาเรื่องว่าพี่เซ็นก็คงเพราะแอบชอบ
แต่ไม่คิดว่าจะถึงขนาดเป็นสาเหตุให้มาทำงานที่ร้านนี้แต่แรกเลยนะคะ
แอบเชียร์พี่หมีอ่ะ พี่เซ็นเจ้าชู้ไปหน่อยมั้ง
ปล.เสียดายจังปิดเพจไปแล้ว ปกติก็ติดตามว่าอั๊พหรือยังจากเพจค่ะ
แต่ไม่เป็นไร มาตามที่เล้าเลยก็ได้ แล้วแต่เบบี้เนาะ :L2:
-
รอลุ้นกับความรักของกัสค่า
-
กัสมาแล้ววววววว
จะคู่กับเซ็นหรือพี่หมีเนี่ย
-
จะเชียร์ใครดีละเนี่ย
-
กัสคู่ใครหว่า หวังว่าพี่หมีคงไม่เปนคนดี เด๋วอดเปนพระเอก 5555
-
เชียร์ กัสหมี
-
จะกัส+หมี..... :t3: :t3:หรือกัส+เซ็น......
รอต่อไปด้วยใจจดจ่อจ๊ะ..เบบี้
-
เบบี้ :กอด1: มาแล้ว คิดถึงงงงงงงงง :จุ๊บๆ: :m20:....
กัสน่ารักดี แต่จะ กัส+หมี หรือ กัส+เซ็น ดีล่ะ รอๆๆๆๆ
-
:pig4:เปนกำลังใจให้พี่บี้ค่าาาา.
-
พี่หมีกับกัส อั๊ยยย คู่ที่รอคอย ^^
-
ความลับของหนูกัส
+1
-
อย่างนี้เรียกรักสามเศร้าใช่มั้ย???
-
กัสจังแล้วๆๆ คิดถึงพี่คิวกับเค้ก :z3:
-
กะๆอยู่ว่าอาจจะเป็นคู่กัส อิอิ
กลายเป็นรักสามเศร้าไปซะแล้ว
-
:L2: :L2: :L2:
-
Lovers 3 เป็นเรื่องระหว่าง
v
v
v
กัสกับพี่หมี
หรือ
v
v
v
กัสกับพี่เซ็น
:fox2: โอ๊ะโอ~
หรือจะ 3P น๊า #กรูเป็นไรมากกับ 3P ป่ะเนี๋ยะตอนอาฟ้าก็ทีล่ะ อยากให้มี 3P เกิ๊นนนน :haun4:
-
มาถึงความรักของกัสบ้างแล้ว เชียร์พี่หมีดีไหมนะ พวกปากร้ายแต่ใจดี พี่เซ็นแกเจ้าชู้เกิ๊น
-
กัสจะลงเอยกับใครเนี่ย
-
หมีชอบกัส กัสชอบเซ็น เซ็นชอบเอ่อ.... ทุกคน
อยากรู้ว่าเรื่องของกัสจะลงเอยยังไง
-
ถึงคราวน้องกัส มีให้ลุ้นอีกแล้ว
เริ่มตอนก็หนุกแล้ว ลุ้นๆๆๆ o13
-
ใครเป็นพระเอกกันแน่อ่า :serius2:
กัสน่าสงสารอ่ะ แอบรักข้างเดียวมันเจ็บอ่ะ
-
lover3 เป้นของน้องกัสนั่นเองง
จากตอนที่แล้วยังเลือกได้ว่าจะเชียร์ทิกเกอร์
แต่ตอนนี้เลือกไม่ถูกจริงๆ
จะพี่เซนหรือพี่หมี ? :-[
รอตอนหน้าค่ะ
ขอบคุณเบบี้ :กอด1:
-
เย้ๆๆ..กัสมาแร๊ว..รออย่เชียว..อิอิ
กัส ชอบเซ็นต์ตั้งแต่ยังไม่เจอหน้ากันเลยอะ..พอมาเจอก็ยิ่งชอบกว่าเดิมอีก
แต่เซ็นต์ จะจำกัสไม่ได้จิงๆเหรอ?? เล่นทักทายกันแบบนี้ กัสก็เขินแย่หล่ะเซ่..^^
ปล.พี่หมี ชอบกัสแบบไหน คงต้องลุ้นกันต่อไป ^o-
-
รอน้องกัสอยุ่เหมือนกันนน ความสัมพันธ์น้องมันคลุมเครือมาก
ถึงตอนน้องแล้ว จะได้อ่านอย่างกระจ่างซะที
ว่าตกลงแล้วน้องจะคู่ใคร :o8: :o8:
-
:L2:ว้าว คู่กัส หรือเนี่ย ใครจะมาวิน พี่หมี หรือ พี่เซ็น ใครจะเป็นพระเอกกันนะ ใครคู่กัสคงต้องลุ้นต่อไป อ้าว !! พี่เบบี้ปิดแฟนเพจในเฟสไปแล้วหรอ เสียดายจังเลยอ่า ไม่เป็นไร รอตอนต่อไปจ้า :D
-
น้องกัสน่ารักก >///< จะคู่กับใครละเนี่ยย
ขอบคุณเบบี้สำหรับฟิคนะค่ะ และแล้วก็มีแค่คู่ที่ 3 คิคิ
สนุกค่ะ รักเรื่องนี้
ปล..เรื่องเพจก็ว่าแล้วหายไปไหน
-
กรี๊ดดดดดด มาแล้ว เป็นเรื่องของกัสจริงๆด้วย โอยยยยยย เชียร์ไม่ถูกเลย พี่เซ็นก็หล่อเริ่ด ส่วนพี่หมีก็ปากร้ายแต่ใจดี ใจเราแอบเอียงไปทางพี่เซ็นนิดนึง สปาร์คมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว พี่หมีน่าจะชอบกัสอะ ถึงได้รู้ว่ากัสแอบชอบพี่เซ็น คงเพราะคอยแอบมองน้องอยู่ตลอดแน่ๆ แต่กับพี่เซ็นเดาไม่ออกเลยว่าที่หยอดๆไปเพราะแกล้งกัสหรือเพราะตัวเองก็สนใจด้วยเหมือนกัน ยิ่งช่วงหลังพี่เซ็นแลจีบเค้กออกนอกหน้าด้วย ประจวบเหมาะกับกัสมาสนิทกับพี่หมีมันก็เลยคลุมเคลือแบบนี้ ถ้ากัสยืนยันจะชอบพี่เซ็นต่อก็ต้องทนเจ็บแบบนี้ต่อไปอะ จะถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้อีก สงสารน้องนะ แอบรักเค้าข้างเดียวเนี่ยมันทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับความจริง พี่เซ็นดูแล้วเหมือนไม่ค่อยสนใจกัสเท่าไหร่เลย หรือเพราะพี่เเค้ารู้ว่าพี่หมีชอบกัส ไม่คิดว่าพี่เซ็นจะเเ็นสาเหตุให้กัสอยากมาทำอานที่นี่เลยนะนั่น แบบนี้คงตัดใจได้ยาก กัสจะคู่กับใครเนี่ย รักกับพี่เซ็นนี่มองเหนอุปสรรคเยอะเลย ถ้ากับพี่หมีกัสคงไม่ต้องเสียใจอะ
-
โอ๊ะโอ กัสมาแล้ว
ใจจริงคิดว่าคู่พี่เซ็น
แต่ลึกๆ(ลึกสุดๆ) ชอบพี่หมีมากๆ :-[
รอลุ้นค่า
-
เส้นทางของทั้งคู่ ดู ๆ แล้วเหมือนราบเรียบ แต่ที่จริง กำแพงยักษ์สีเขียวตั้งตระหง่านอยู่เลย :m29:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
อ่า เรื่องใหม่แล้วๆ
-
อยากให้กัสคู่กับพี่หมีจัง
-
ถึงว่า เข้า Facebook ไม่ได้อะ !
-
เย้เย้ ตอนของกัสหราเนี้ย
-
:z13:รักพี่บี้จุ๊ฟๆ
-
เป็นเรื่องของกัสนั่นเอง :z2:
:pig4: คะ
-
เดาไม่ออกเลยว่ากัสจะคู่กับใคร หรือว่า 3p :haun4:
-
เป็นเรื่องของน้องกัสผู้น่ารักเหรอเนี่ย >.<
รอๆๆ จะรอดูว่าใครจะได้ใจของน้องกัสกันน้า~
เอ ต้องบอกว่าน้องกัสจะให้ใจใครต่างหากเนอะ
ขอบคุณคนเขียนค่ะ :L2:
-
ชอบพี่หมีอ้ะ ขอให้คู่กะกัส 55
-
น้องกัสผู้น่ารักกกก มาต่อแล้ว เย่ๆๆๆ
:pig4:
-
เชียร์พี่หมี
-
มีคู่ของกัสด้วย :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
กัส + เซ็น ๆๆๆๆๆๆๆ :L1: :L1:
-
:man1: กัสสู้ๆ
หวังว่าจะไม่ดราม่าเหมือนอาฟ้าน๊าาาาาาาาา
-
พี่หมีเป็นคนดีนะคะ น่ารัก อบอุ่น แสนดี อั๊ยยยย ><
ถ้ากัสได้คู่กับพี่หมีก็โอเค แต่กัสชอบพี่เซ็นน่ะสิ :เฮ้อ:
-
กัส สู้ๆๆ
-
เย้ๆๆ ถึงตาน้องกัสแล้ว แอบลุ้นว่าจะได้คู่ใครพี่เซ็นหรือพี่หมีดีเอ่ย
เราแอบมีคนในใจแล้วแหละแต่ไม่รู้ว่าจะตรงกับกัสรึป่าว รอดูกันต่อไป อิอิ
-
เซ็นกัส เซ็นกัส อิอิ อย่ามาม่านะขอร้องเหอะ แต่ดูท่าพ่อกัสจะเข้มงวด
-
:impress2:มาต่อเร็วๆๆนะครับ ติดตามๆๆๆ :z2:
-
กัสน่ารักกกกกอ่ะ
-
น้องกัสแอบรักพี่เซ็นก่อนจะมาทำงานที่ร้านเหรอเนี้ย!
แต่.........เชียร์พี่หมีอ่าาาาา
-
รักสามเศร้า ของนู๋กัสจังนี่เอง :z2: ไม่อยากจะเชียร์ไอ้เซ็น เลยจริง จริง
พี่หมี......,ชอบ กัส........,ชอบ ไอ้เซ็น.......???
เหอะๆๆนึกภาพกัสเป็นทหารไม่ออกจริง จริง :laugh:
P.S. เลือกไม่ถูก 3P. ละกัน กร๊ากกกกกก
-
ถ้าอยากจะอ่านผลงานที่ผ่าน ๆ มาของคุณเบบี้ จะหาอ่านได้จากที่ไหนคะ :monkeysad:
-
น้องกัส พี่เซ็น พี่หมี :กอด1:
รออ่านตอนต่อไปนะัคับ
-
มารอน้องกัส
-
ว้าววว เรื่องของกัสหรอเนี่ย ดีใจมากกกก
เชียร์กัส เซ็น
-
อยากรู้จังว่าพี่หมีชอบกัสรึเปล่า
เชียร์พี่เซ็นนะ แต่ดูแล้วจริงๆ เป็นพี่หมีคงดีกว่า
-
~2~
หลังจากปีใหม่ ที่ร้านเราค่อนข้างวุ่นวาย วุ่นวายในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความวุ่นวายจากลูกค้า หรือความวุ่นวายการบริหารงานในร้าน แต่เป็นความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากปัญหาชีวิตของคนภายในร้านต่างหากละครับ ทั้งเค้กและพี่คิว และพี่ฟ้ากับบรรดาแฟนเก่าของพี่เขา ผมเชื่อแล้วว่า “ความรัก” สามารถทำให้ชีวิตคนเราปั่นป่วนได้จริงๆ
ด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ผมจำเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมได้ดี และมันยังคงเป็นเหตุการณ์ที่ผมไม่ได้พูดถึงหรือเล่าถามปรึกษาใครแม้แต่คนเดียว หลังจากที่พี่หมีจับไต๋อะไรผมได้ หลังจากนั้นเราก็มีตัวตนในกันและกันมากขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมท่ามกลางความชุลมุนของคนอื่นนั่นแหละที่ทำให้ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นความผิดแปลกไประหว่างเราสอง..
“กัส..” พี่หมีเรียก เรานั่งเงียบกันมานานมากแล้ว วันนั้นเป็นวันที่ผมและพี่หมีออกมาทานอาหารนอกบ้านด้วยกัน ผมเป็นคนชวนพี่หมีเองละครับ
“ฮะ” ผมขานตอบก่อนจะละสายตาจากโทรศัพท์มือถือขึ้นมองหน้าพี่หมี
“เปล่า” พี่หมีตอบส่งๆ แต่ใบหน้ากลับดูซีเรียสผิดปกติ
“นี่..มีอะไรเหรอครับ ไม่ทำหน้างอนะไม่เอา” ผมเอามือไปหยิกแก้มพี่หมีอย่างหยอกล้อ
“หึ..ทะลึ่ง” พี่หมีอมยิ้มพร้อมกับจับมือผมออก
“คบกันไหม” ผมชะงักตาโต อยู่ๆพี่หมีก็พูดขึ้นโต้งๆ ตอนนั้นเหมือนสถานการณ์มันหยุดชะงักลงประมาณห้าหรือสิบวินาทีประมาณนั้น ผมกลืนน้ำลายลงคอและพยายามมองตาพี่หมีว่านี่คือเรื่องจริงอย่างนั้นเหรอ
“อ่ะ..คือ กัส” ผมอ้ำอึ้งด้วยความรู้สึกสับสน ตอนนั้นผมตอบไม่ได้ว่าผมรู้สึกอย่างไร แต่ความรู้สึกที่แน่ชัดเลยคือ “ความสับสน” ผมมีความรู้สึกดีๆกับพี่หมีแต่ไม่ถึงขั้นอยากคบด้วย รู้สึกดีและรักในฐานะพี่ชายหรืออาจจะมากกว่านั้น คล้ายกับอาการของเด็กหวงของสำคัญแต่ก็ไม่ถึงขั้นกับว่ารักจนอยากได้มาครอบครอง
“พูดเล่นน่ะ” พี่หมีปัดแกมหัวเราะ
“บ..บ้า ไอ้บ้า” ผมเขินหน้าแดง ด่าว่ากลับไปอย่างเคอะเขินบ้างเพื่อไม่ให้สถานการณ์ดูแย่ลง ผมไม่รู้ว่าพี่หมีพูดจริงหรือพูดเล่น แต่เราสองคนต่างก็ควรรักษาสถานการณ์ไว้ไม่ให้ร้ายลงไป
“เฮ้อ เบื่อชะมัด..” พี่หมีถอนหายใจแรงก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“เบื่อก็หาแฟนสิครับ” ผมพูดส่งๆเพื่อแก้สถานการณ์เมื่อกี้
“ได้จริงเหรอ” พี่หมีจ้องหน้าผมเขม็ง เป็นสายตาและรอยยิ้มที่มีความเจ้าเล่ห์ปนอยู่อย่างล้นหลาม
“จริง” ผมแกล้งตอบเสียงกระแทกเพื่อสร้างความหนักแน่นไปอย่างนั้น
“หึ..ถ้าได้ ก็เตรียมตัวโดดเดี่ยวได้เลยนะ” พี่หมียักคิ้ว ผมไม่ตอบโต้ใดๆ รู้สึกใจแป้วในทันที ผมรู้ดีว่าพี่หมีมาอยู่กับผมบ่อยๆเพราะอยากให้ผมสบายใจและลืมเรื่องราวว่าผมนั้นกำลังหลงรักพี่เซ็น พี่หมีเป็นเพียงคนเดียวที่ผมปรึกษาได้เกือบทุกเรื่อง เราไปไหนมาไหนด้วยกันจนรู้ว่าต่างฝ่ายต่างชอบหรือไม่ชอบอะไรไปหมดแล้วละครับ มันก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้หรอกถ้าพี่หมีจะคบกับใครที่ผมไม่รู้จักเลย..
= = = = = = = =
ณ ห้างสรรพสินค้า Essen..
วันนี้เป็นวันเสาร์ และเป็นวันดีที่นานๆทีพี่ชายและพี่สาวผมจะมีเวลาว่างพร้อมกันและพาผมออกมาช็อปปิ้งแบบนี้ แต่ก่อนผมจะมีเวรวันเสาร์ประจำ แต่หลังจากที่พี่คิวต้องไปทำงานที่บริษัทของคุณลุงตัน..พ่อของพี่คิวนั้น พี่ฟ้าก็จัดเวรงานใหม่เกือบทั้งหมด วันเสาร์จึงกลายเป็นวันหยุดพักผ่อนสำหรับทุกคนภายในร้านไปโดยปริยาย
ที่ห้างสรรพสินค้าห้างนี้เป็นห้างสรรพสินค้าของคุณลุงของพี่ฝัน ผมทราบมาว่าพี่ฝันเป็นถึงผู้จัดใหญ่ฝ่ายการตลาดของห้างสรรพสินค้าในเครือนี้ด้วย
“พอรึยังครับ เยอะไปแล้วนะกัส” พี่ก้องพูดขึ้นหลังจากที่เราเพิ่งออกมาจากร้านรองเท้าที่ผมอ้อนให้พี่ก้องซื้อให้ไปอีกสองคู่ ตอนนี้ได้ครบเกือบทั้งหมด..ทั้งรองเท้า เสื้อผ้า กระเป๋าและนาฬิกา โดยที่ผมไม่เสียเงินสักบาทเดียว
“โถ..คุณนาวาอากาศเอกนิรันดร์ ไหงคุณพูดอะไรไม่เข้าท่าอย่างนี้ล่ะครับ” ผมเบะปากส่ายหัวและปัดมือไปมาอย่างขอไปที พี่ก้องและพี่เกตุยืนอมยิ้มเหมือนเหนื่อยใจกับท่าทางที่ผมแสดงออกไป
“น้องกัสคนนี้ ซื้อของถูกลงตั้งเยอะนะ..กระเป๋าใบละเป็นหมื่นก็ไม่ได้ซื้อแล้วด้วย นานๆที..แค่นี้ให้น้องไม่ได้รึยังไงกันครับ” ผมยืนเท้าเอวพร้อมกับทำหน้างอใส่ แต่ก่อนผมซื้อของจนเคยตัว กระเป๋าของผมราคาไม่เคยต่ำกว่าหนึ่งหมื่น เพราะส่วนมากผมจะช็อปปิ้งกับคุณแม่ ซึ่งแม่จะตามใจผมเพราะแม่เองก็ใช้จ่ายแต่ของแพงๆเหมือนกัน แต่หลังๆมานี่พี่ก้องควบคุมและตักเตือนผมเรื่องนี้มากขึ้น เหตุผลเพราะไม่อยากให้ผมเคยตัว พี่ก้องขอให้แม่ควบคุมเรื่องการใช้เงินของผมบ้าง และผมก็โดนพี่ก้องบ่นและสอนบ่อยจนผมต้องยอมโอนอ่อนไปตามคำสอนของพี่ก้อง ซึ่งหลังๆมานี่หลายครั้งที่ผมเองก็ฉุดนึกคำพูดคำสอนของพี่ก้องได้ บางครั้งก็เอาชนะกิเลสได้บ้างไม่ได้บ้างละนะครับ..ก็ผมเป็นคนนินะ
“ใช้คำว่านานๆทีอย่างนั้นเหรอเราน่ะ รู้ไหมว่าเงิน..” พี่ก้องอ้าปากพูดสาธยายอย่างที่ผมรู้ล่วงหน้าว่าพี่เขาจะพูดอะไรต่อ
“เงินน่ะมีค่า ทุกบาททุกสตางค์มีค่ามากสำหรับบางคน อย่างทหารตามชายแดนก็ต้องลำบาก อดมื้อกินมื้อ เพียงแค่เงิน..” ผมพูดเอียงคอไปมาเลียนแบบคำพูดของพี่ก้องที่ชอบพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกให้ผมฟังประจำ
“นี่แน่ะ” พี่ก้องดีดหน้าผากผมเบาๆ
“เอ๊ะ พี่อ่ะ” ผมลูบหน้าผากตัวเอง
“ล้อเลียนพี่ได้ไง ไอ้นี่” พี่ก้องลูบหัวผมพร้อมกับยิ้มอย่างเอ็นดู
“อะไรแบบนั้นมันก็มักจะลืมเสมอๆ เมื่อไหร่ที่เห็นของยั่วยวนน่ะนะ” ผมยักคิ้วกวนตอบก่อนจะเอาแขนไปโอบเอวพี่เกตุไว้พร้อมกับอีกแขนก็คล้องแขนพี่ก้องเข้ามาแนบกับตัวด้วย เราสามคนพี่น้องสนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร ความแตกต่างของเราสามคนมีมาก โดยเฉพาะผมที่หลุดบุคลิกจากพวกพี่ๆ แต่ก็น่าแปลกที่เราไม่เคยที่จะทะเลาะกันรุนแรงเลย
“กัสอยากได้เสื้อผ้าอีกนิดหน่อยก็พอละ..แล้วเราก็ไปกินอาหารกลางวันกันนะฮะ” ผมบอก
“เอาสิ..แต่พี่จะบอกอะไรให้นะ เงินส่วนหนึ่งที่เอามาให้กัสจ่ายได้คล่องมือนี่ไม่ใช่เงินพี่ทั้งหมดหรอกนะ” พี่ก้องพูด ผมมองหน้าพี่ก้องอย่างสงสัย
“เมื่อเช้าป๊าให้มาน่ะ” พี่ก้องเลิกคิ้ว
“ป๊างอนกัสอยู่ กัสไม่อยากขอหรอก” ผมเบะปากให้อย่างหยิ่งๆ
“มีคนเดียวที่ง้อป๊าแล้วป๊ายอมน่ะ ก็คือแกไม่ใช่รึไง..ทำมาเป็นงอนไม่เข้าท่า ทำตัวเด็กอย่างนี้ไงจะไม่ให้ป๊าเป็นห่วงได้ยังไงล่ะ” พี่เกตุว่าให้
“พี่เกตุอ่ะ” ผมหันไปบ่นใส่
“ไปเร็ว จะเอาอะไรอีก..วันนี้ลูกศิษย์พี่จะมาหาที่บ้านตอนเย็นๆด้วย” พี่เกตุบอก
“ค้าบ” ผมพยักพเยิดหน้าอย่างขอไปทีก่อนจะคล้องแขนพี่ๆทั้งสองเดินมาพร้อมกัน
“ตัวนี้ไซด์เอ็มมีรึเปล่าครับ” ผมหยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นถามพนักงาน พี่ก้องกับพี่เกตุไปดูเสื้อผ้าอีกมุมหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ โซนนั้นเป็นเสื้อผ้าแบบผู้ใหญ่เสียส่วนมาก
“มีครับ”
“เอ๊ะ” ผมชะงักหันกลับไปมองตามเสียงพูดที่ไม่ได้มาจากพนักงานขาย
“พี่เซ็น..ชิ” ผมเบะปากเมื่อเห็นว่าพี่เซ็นยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มบอกคอนเซ็ปของตัวเองอย่างชัดเจน
“นี่ครับคุณ” พนักงานขายนำเสื้อเชิ้ตไซด์เอ็มมายื่นให้ผม ผมรับมาแต่ก็ยังมองหน้าพี่เซ็นอยู่
“เซ็นคะ..” ผมหันไปมอง ผู้หญิงสาวสวยหุ่นดีคนหนึ่งเดินมาและคล้องแขนพี่เซ็นไว้ ผมพอจะรู้จักเธอบ้าง เธอชื่อเชียร์ เป็นลูกสาวไฮโซตระกูลหนึ่ง เธอเป็นนางแบบชื่อดังและเป็นดีไซด์เนอร์อีกด้วย
“คุยกับใครอยู่คะ” เธอยิ้มถามก่อนจะหันมามองที่ผม ผมเหลือบตาหนีสายตาของเธอนิดหน่อย โดยปกติแล้วถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกมั่นใจในตัวเองพอสมควร แต่รูปร่างหน้าตาของเธอและระดับการใช้แบรนด์ของเธอนั้นทำให้ผมรู้สึกด้อยลงไปถนัดตา
“น้องน่ะครับ นี่กัสครับ..ส่วนกัส นี่เชียร์” พี่เซ็นแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้มเล็กน้อย
“สวัสดีครับ” ผมยิ้มตอบให้เล็กน้อยเช่นเดียวกัน
“ไปดูเสื้อผ้าทางนู้นกันเถอะค่ะ เซ็นบอกว่าอยากจะดูเสื้อใส่สบายๆไม่ใช่เหรอ มุมผู้ใหญ่น่าจะเหมาะกว่านะคะ” เธอชี้มือไปอีกทาง
“เชียร์ไปก่อนเถอะครับ ขอผมคุยกับกัสแป๊บนึง” พี่เซ็นบอก
“โอเคค่ะ เดี๋ยวเชียร์ไปเลือกไว้ให้..เสร็จแล้วตามมานะคะ”
“ครับ” พี่เซ็นพยักหน้า
“ขอตัวก่อนนะคะ” พี่เชียร์หันมายิ้มให้ผมพร้อมกับผงกหัวให้ผมนิดหน่อย
“ครับ” ผมยิ้มและก้มหัวให้เธอเล็กน้อยเป็นมารยาทตอบเช่นเดียวกัน
“มาคนเดียวเหรอ” พี่เซ็นถาม
“เห็นว่ามีใครยืนอยู่ด้วยป่ะล่ะ” ผมย้อนกลับหน้ากวน ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ผมกล้ากวนและต่อปากต่อคำกับพี่เซ็นแบบนี้ มันมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆคล้ายกับไม่มีที่สิ้นสุด และถึงแม้บางครั้งพี่เขาจะทำให้ผมรู้สึกเขินอายกับการกระทำที่พี่เขาแสดงออกมา แต่ก็มีหลายคราเหมือนกันที่ผมอดไม่ได้ที่จะกวนพี่เขาตอบ มันคงเป็นอย่างเดียวที่ทำให้ผมได้ใกล้ชิดกับพี่เซ็นและคงเป็นอย่างเดียวที่ผมสามารถทำกลบเกลื่อนความรู้สึกของผมไปได้
“หึ..” พี่เซ็นแสยะหัวเราะ
“พี่ก้องกับเกตุนิ” พี่เซ็นเหลือบไปเห็นพี่ก้องกับพี่เกตุที่เลือกเสื้อผ้าอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ผมยืนนิ่ง พี่เซ็นหันกลับมามองผมอีกครั้ง
“ซื้อให้ไหม” พี่เซ็นเหลือบตาลงมองเสื้อที่อยู่ในมือของผม
“ไม่จำเป็น” ผมตอบเสียงชัด พี่เซ็นเบะปาก
“พี่เป็นพี่นะ” พี่เซ็นพูด
“งั้นก็หัดทำตัวให้น่าเคารพหน่อยสิครับ กัสจะได้ไม่ทำตัวเสียมารยาทกับพี่อย่างนี้ไง” ผมกัดฟันพูดประชดพร้อมกับยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายด้วย
“แล้วพี่บอกเมื่อไหร่ว่าพี่อยากให้กัสเคารพพี่น่ะ” พี่เซ็นพูดก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกว่าเดิม
“พี่หมายถึงเรื่องอื่นต่างหากล่ะ” อีกฝ่ายพูดกระซิบ ผมชะงัก เหลือบไปมองพนักงานขายอย่างลุกลี้ลุกลน
“ไอ้พี่เซ็น” ผมทุบพี่เซ็นอย่างห้ามปรามก่อนจะก้าวถอยหลังออกมา
“ว้า..หูแดงเลย เข้าใจที่พี่พูดสินะ” พี่เซ็นเอื้อมมือมาจะจับหูผม ผมรีบปัดมือพี่เซ็นออกพร้อมกับถอยหลังหลบในทันที อีกฝ่ายยิ้มอย่างพอใจที่ทำให้ผมอยู่ไม่สุขแบบนี้ได้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ผมกระซิบว่าเสียงเข้ม พี่เซ็นกลอกสายตาไปมาอย่างต้องการกวนไม่หยุด
“จะ..กัส กัสจะฟ้องพี่คิว!” ผมว่าใส่ คนอื่นๆที่จะสามารถยกชื่อมาอ้างขู่ได้คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ จะพ่อของผมหรือแม่ของผมก็คงจะเข้าข้างพี่เซ็นกันทั้งนั้น มีแค่คนไม่กี่คนเท่านั้นละครับที่จะต่อว่าพี่เซ็นอย่างปะฉะดะและสามารถทำให้พี่เซ็นสงบเสงี่ยมลงได้
“กลัวมากอ่ะ” พี่เซ็นนำมือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างพร้อมกับเอนหน้าเข้ามาใกล้ผมอย่างต้องการทำท่าทีกวนบาทาไม่กระหยี่ต่อสิ่งใด
“เดี๋ยวก็รู้” ผมยังไม่ยอมลดละให้พี่เซ็นมาแกล้งฟรีๆ ไม่รู้ล่ะครับ..ผมบอกว่าผมจะฟ้อง ก็คือจะฟ้องจริงๆ
“นี่..” อยู่ๆพี่เซ็นก็เดินเข้ามาใกล้ ผมก้าวขาถอยหลังตามสัญชาตญาณอีกครั้ง
“อ..อะไรฮะ อย่าเข้ามาใกล้กัสนะ” ผมว่าปรามด้วยความระแวง พี่เซ็นยังเดินตรงมาไม่หยุด ใบหน้าเจ้าเล่ห์และสายตาที่น่าหมันไส้ของพี่เซ็นยิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ผมสะดุดอยู่กับที่เมื่อด้านหลังชนกับอะไรบางอย่างโดยที่ผมไม่สามารถเดินหนีได้อีกแล้ว
“...................” ผมได้แต่ยืนตัวแข็ง ใจเต้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ว่าตอนนี้จะมีใครสังเกตเห็นเราบ้างหรือเปล่า หรือเพราะผมอาจจะตื่นเต้นไปเอง ใช่แล้ว..ใครก็อยากให้คนที่ชอบมาแกล้งทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับคนคนนี้ครับ..ไม่ใช่คนที่ชื่อ เซ็น คนนี้..เพราะเขาแกล้งโดยที่ไม่ได้คิดลึกอะไร แกล้งเพราะสนุกที่ได้เห็นปฏิกิริยาบ้าบอจากอีกฝ่ายที่โดนแกล้งต่างหาก
“อ่าวเซ็น..มาได้ไง” ผมสะดุ้ง พี่เซ็นแสยะยิ้มกว้างออกมาเหมือนกับต้องการบอกผมว่า “รอดตัวไปนะ” อย่างนั้น ผมรีบผละออกจากพี่เซ็นและวิ่งเข้าไปเกาะแขนพี่ก้องไว้ในทันที
“ขับรถมาครับพี่ สวัสดีครับเกตุ สวัสดีครับพี่ชายภรรยา” พี่เซ็นพูดทีเล่นทีจริง ผมไม่รู้ว่าพี่เซ็นต้องการจะพูดแกล้งแหย่ผมเล่นด้วยหรือเปล่า เพราะพี่เขารู้ว่าผมไม่สามารถแสดงออกต่อหน้าพี่ก้องได้ คำพูดที่พี่เซ็นพูดอย่างนี้มักจะเอาไว้พูดเล่นแซวพี่เกตุเสมอที่ได้เจอ แต่ครั้งนี้ระหว่างที่พูดพี่เซ็นกลับเหลือบมองมาที่ผมแทน
“หึ..” พี่ก้องเพียงหัวเราะในลำคอ
“คนไหนล่ะ” พี่ก้องหุบยิ้มลง ผมชะงักตาค้างแต่ก็ต้องรักษาอาการตื่นของตัวเองไว้ น้ำเสียงของพี่ก้องเริ่มเปลี่ยนไป พี่เซ็นหุบปากเข้าหากันก่อนจะลอยหน้าลอยตาอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“เกตุจะยอมให้ผมมีภรรยาสองคนได้เหรอครับ” พี่เซ็นเปลี่ยนเรื่อง
“หึ..เซ็นมีภรรยาสองคนไม่ได้หรอก เพราะไม่มีใครอยากเป็นภรรยาที่หนึ่งของเซ็น..เจ้าชู้ขนาดนี้น่ะ” พี่เกตุย้อนพร้อมกับรอยยิ้ม
“คึ คึคึ..ฮ่าๆๆๆ” ผมแกล้งหัวเราะเสียงดัง พี่เซ็นหน้าเหวอไปเล็กน้อย
“สมน้ำหน้า” ผมแลบลิ้นใส่
“มากับใครล่ะ” พี่ก้องถาม
“มากับ เอ่อ..กับ เพื่อนน่ะครับ” พี่เซ็นตอบตะกุกตะกัก เหมือนกับไม่กล้าแนะนำสถานะของทั้งคู่อย่างนั้น
“เพื่อน คนที่เท่าไหร่ล่ะ” พี่ก้องถามเสียงเรียบอีก
“พี่ก็ว่าไป..ทหารเค้าพูดเล่นกันอย่างนี้ด้วยเหรอครับ” พี่เซ็นลูบหัวแก้เก้อ
“ก็มีบ้าง”
“คนนี้คงยังไม่เปลี่ยนอีกนานแหละครับ ค่อนข้างเข้ากันได้ดี..ทีเดียว” พี่เซ็นบอก น้ำเสียงกับสีหน้าคล้ายจริงจัง ผมใจแป้วในทันทีที่ได้ยิน แต่ก็ต้องเก็บรักษาอาการของตัวเองไว้ ใช่..ผมต้องซ่อนมันให้มิดที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ก็ดี..บาปกรรมมันมีจริงนะเซ็น” พี่เกตุว่า
“ค้าบ แหม..เซ็นเป็นเพื่อนนะ ไม่ใช่ลูกศิษย์เกตุสักหน่อย” พี่เซ็นพูดแกมหัวเราะ
“กัส” อยู่ๆพี่เซ็นก็หันมาเรียกผม
“ไร” ผมตอบเสียงห้วนพร้อมกับเชิดหน้าไปอีกทาง
“พูดเพราะๆสิกัส ไปตอบพี่เค้าอย่างนั้นได้ไงครับ” พี่ก้องก้มหน้ามามองหน้าผมทันที
“ก็..กัส” ผมอ้ำอึ้งเพราะพี่ก้องเล่นมาดุผมต่อหน้าพี่เซ็น แบบนี้น่าอายจะตายไป
“นั่นสิ น้องชายพี่น่ะ..พูดต่อปากต่อคำผมตลอด เลี้ยงให้เอาแต่ใจอย่างนี้ เป็นเด็กไม่น่ารักเลยนะครับพี่ก้อง” พี่เซ็นได้ทีจึงพูดใหญ่
“พี่ยุ่งอะไร กัสไม่ได้อยากมีพี่ชายอย่างพี่สักหน่อย” ผมเบะปากใส่พี่เซ็น
“กาส..” พี่ก้องทำเสียงยานคางอย่างห้ามปรามอีกครั้ง
“หึ..ไม่เป็นไรหรอกครับ” พี่เซ็นยิ้มเล็กน้อย
“ไปกินข้าวด้วยกันไหม” พี่เซ็นเปลี่ยนเรื่องหันมาถามผม
“ถามใครอ่ะ” ผมย้อน แต่ก็พอจะรู้ว่าพี่เซ็นถามใครเพราะพี่เขาจ้องหน้าผมเขม็งอย่างนี้
“ถามเรานั่นแหละ” พี่เซ็นตอบ
“ไม่ครับ ไม่อยากไปเป็นก้างขวางคอความหื่นของใคร..ขอบคุณ” ผมตอบกลับพร้อมกับแสยะปากให้พี่เซ็นด้วย
“เราว่าจะซื้อเสื้อผ้าตรงนี้ ไปทานข้าวก็กลับแล้วล่ะ..ต้องรีบกลับบ้านน่ะ โทษทีนะ” พี่ก้องพูดอย่างประนีประนอมซะไม่มี
“ไม่เป็นไรครับ งั้นผมไปก่อนดีกว่า..เดี๋ยวเพื่อนจะรอ”
“เชิญ” พี่ก้องพยักหน้าให้
“หวัดดีครับพี่ หวัดดีเกตุ” พี่เซ็นยกมือไหว้พี่ก้องและลาพี่เกตุก่อนจะเดินไปหน้าตาเฉยไม่หันมาลาผมสักคำ
“หื่นกาม” ผมพูดไล่เสียงเบา
แปะ !!
“พี่ก้อง!” ผมขึ้นเสียงเพราะพี่ก้องนำมือมาตีหัวผมอย่างแรง
“ปากร้ายนะเราน่ะ”
“ก็พี่เซ็น..” ผมอ้าปากจะแก้ตัวบ้างแต่พี่ก้องกลับถลนตาใส่ซะงั้น ผมต้องเลยหุบปากยอมจำนนแต่โดยดี..
= = = = = = = =
ณ คอนโดของหมี..
หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ผมขอให้พี่ก้องขับรถมาส่งผมที่คอนโดของพี่หมีเพราะผมยังไม่อยากกลับบ้าน ระหว่างที่ทานอาหารทุกอย่างก็เป็นปกติดี ผมทานอาหารกับพวกพี่ๆอย่างไม่ได้คิดเรื่องอื่น แต่พอระหว่างทางที่ต้องมาคอนโดของพี่หมี หัวสมองผมก็คิดไปต่างๆนาๆ ด้วยความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นจากพี่เซ็น ผมกำลังรู้สึกแย่และห่อเหี่ยว ที่จริงผมควรจะชินเสียทีที่เห็นพี่เซ็นเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่นอย่างนั้น มันก็ตั้งปีกว่าแล้วแต่ทำไมนะผมถึงได้รู้สึกรักพี่เขาปักใจขนาดนี้ ซึ่งครั้งนี้ผมกลับไม่รู้สึกเหมือนครั้งก่อน พี่เซ็นเอ่ยปากว่า “เข้ากันได้ดี” มันมีความหมายที่ควรจะตีความและทำให้ผมคิดมากไป ทั้งทั้งที่ผมก็รู้ว่าไม่มีสิทธิ์ แต่สิทธิ์ของคนแอบรักเขาข้างเดียวก็คือ..การตีความไปเอง เครียดเอง คิดมากเองนั่นไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร แต่คนที่แอบรักเขาข้างเดียวก็ต้องยอมรับด้วยเหมือนกันว่า จะไม่มีใครมาง้อหรือรู้ได้เลยว่าเรากำลังเสียใจแค่ไหน คุณต้องเผชิญกับความเศร้า มันก็เหมือนกับจะต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดอยู่ฝ่ายเดียวนั่นละครับ
“จะนั่งซึมไปถึงไหน พี่ไม่เอาใจแล้วนะ” พี่หมีพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ ผมหันกลับไปมองหน้าพี่หมีที่กำลังนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงานของพี่เขา นอกจากที่พี่หมีทำงานอยู่ที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์แล้ว พี่หมียังรับงานฟรีแลนซ์เกี่ยวกับการทำกราฟฟิกดีไซด์อีกด้วย ถ้ามองเผินๆพี่หมีก็คงจะเป็นผู้ชายทำงานธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วตระกูลของพี่หมีเป็นถึงตระกูลผู้ดีเก่าเลยละครับ ด้วยนิสัยและท่าทางของพี่หมีด้วยละมังที่คนทั่วไปอาจจะดูไม่ค่อยออก คงจะคิดว่าพี่หมีเป็นนักเลงนักเรียนประมาณนั้น ตั้งแต่พี่หมีเรียนจบเป็นถึงนักศึกษาเกียรตินิยมทางด้านกราฟฟิกดีไซด์ พี่หมีก็ไม่ยอมทำงานเป็นหลักแหล่ง ผมเคยถามพี่หมีถึงสาเหตุนี้หลายครั้งแล้วว่าทำไม แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบอย่างจริงจังเลยสักครั้งเดียว ผมเดาว่าพี่หมีคงอยากจะทำตัวขวางทางกับทางบ้านของพี่เขา พี่น้องของพี่หมีอีกสามคนเป็นผู้ชายหมดเลย พี่หมีเป็นเพียงคนเดียวในหมู่พี่น้องที่ปลีกตัวออกมาอยู่คอนโดและยังไม่ยอมทำงานเป็นที่เป็นทางเพื่อที่จะได้ประดับหน้าตาให้กับวงศ์ตระกูล
ผมเคยรู้มาคร่าวๆ ว่าพี่ฟ้ากับพี่คิวเคยช่วยอะไรพี่หมีไว้สักอย่าง ซึ่งพี่หมีรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณ การที่พี่หมีมาทำงานที่ร้านนี้ผมไม่รู้ว่าที่จริงแล้วสาเหตุคืออะไร แต่เหมือนมีความลับบางอย่างระหว่างพี่ฟ้า พี่คิวและพี่หมี ทุกครั้งที่พี่หมีมีปัญหากับทางพี่น้องในครอบครัว คนที่ช่วยคือ..พี่ฟ้า เสมอ แต่ถ้ารายละเอียดที่มากกว่านี้นั่นผมไม่เคยได้ถาม เรียกว่า “ไม่กล้าถาม” และ “ไม่ควรถาม” คงจะเหมาะเสียกว่า
กิจการที่บ้านของพี่หมีก็มีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง คุณพ่อของพี่หมีเองก็เคยเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทย เรียกได้ว่าพี่หมีก็มีเงินใช้สอยได้ตามสบายอย่างไม่ต้องคิดหนักอะไร พี่หมีจึงไม่ค่อยรับงานฟรีแลนซ์เท่าไหร่ถ้าเงินไม่ดีพอพี่หมีก็จะไม่เลือกทำมันเลยให้เสียเวลา ด้วยมีแต่คนในวงการด้านนี้เท่านั้นที่จะรู้ว่ามีบุคคลมีฝีมือคนนี้อยู่ร่วมโลกอยู่ด้วย ทำให้นานๆครั้งงานจะเข้ามาทีหรือแม้กระทั่งพร้อมใจกันมาก็ตาม พี่หมีก็จะเลือกทำเฉพาะธีมงานที่อยากทำและเงินดีเท่านั้นละครับ
“กัสไม่ได้ซึมสักหน่อย กัสนั่งเงียบอยู่ต่างหากล่ะ” ผมพูดต่อปากต่อคำเพราะไม่อยากให้พี่หมีจับอะไรในตัวผมได้ ก่อนจะเอนตัวนอนลงบนโซฟา
“งั้นเหรอ” พี่หมีพูดเท่านั้น ในห้องก็เงียบลงอีกครั้ง
“...................” ผมนอนเงียบรอว่าพี่หมีจะพูดอะไรอีกไหม จะไม่ง้อผมอย่างที่ปากบอกจริงๆหรือเปล่า ผมเหลือบเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าพี่หมีกำลังจ้องมาที่ผมอยู่
“บ้า” ผมว่าเพราะพี่หมีดันยักคิ้วให้อย่างกับแกล้งทักทาย
“เป็นอะไรรึไง” พี่หมีถามเสียงเรียบแต่น้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกได้
“เป็นอะไรเมื่อไหร่ ชอบเดาเองมั่วๆตลอด” ผมบ่นลอยๆบ้าง
“งั้นก็เลิกนั่งซึมนอนซึมซังกะตายได้แล้วครับ พี่จะโทรเรียกแท็กซี่ให้มารับไปส่งที่บ้าน” พี่หมีพูด
“ไม่เอา กัสบอกพี่ก้องกับพี่เกตุแล้วว่ากัสจะนอนที่นี่” ผมลุกขึ้นนั่งทันที พี่หมีถอนหายใจเล็กน้อยมองหน้าผมอย่างเอือมระอา
“ห้องพี่ ไม่ใช่โรงแรมนะ” พี่หมีปิดคอมพิวเตอร์ ลุกขึ้นพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟของตัวเองติดมือมาด้วย
“งั้นกัสจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้เอาป่ะล่ะ” ผมย้อนประโยครูปแบบนี้ครั้งที่ล้านได้แล้วละมัง
“ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นเมื่อไหร่ พูดไปได้เรื่อยเปื่อยเลยนะเราน่ะ” พี่หมีเดินนำเอาแก้วมาเคาะหัวผมเบาๆก่อนจะเดินตรงเข้าห้องครัวไป
“จะบอกได้รึยังว่าตกลงเป็นอะไร” พี่หมีเดินกลับออกมาตัวเปล่าแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม ผมเงียบและก็ต้องหลบสายตาของพี่หมีไปอีกทาง
“เปล่าฮะ” ผมตอบเสียงเบา ไม่อยากให้พี่หมีรู้เลยว่าตลอดเวลาผมกำลังนอนนึกเรื่องของพี่เซ็นอยู่ซ้ำๆ
“แน่เหรอ..งั้นคืนนี้พี่ก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้ใช่ไหม กัสก็เฝ้าห้องให้พี่แล้วกันนะครับ..พี่คงกลับมาสักตีหนึ่งตีสองแหละ” พี่หมีว่า
“ไม่เอา พี่หมีอ่ะ!” ผมโวยวายรีบเข้าไปกอดแขนพี่หมีไว้ในทันที ผมรู้ว่าพี่หมีน่ะเป็นคนเจ้าชู้มากพอตัว เห็นนิ่งๆอย่างนี้ละตัวดีเลยละครับ แต่ก่อนที่ผมยังไม่ได้สนิทกับพี่หมีมากเท่าที่ควร ผมก็พอจะรู้ว่าพี่หมี พี่ออฟและพี่เซ็นชอบพากันออกไปสังสรรค์ยามราตรีกันบ่อยๆ แต่พี่หมีจะไม่เหมือนพี่เซ็นอยู่อย่างหนึ่ง พี่หมีจะไม่เคยควงใครไปไหนมาไหนหรือทำตัวที่สามารถเรียกว่ากิ๊กกั๊กเลยสักครั้ง เมื่อไหร่ที่เห็นพี่หมีควงใครเป็นตัวเป็นตนแสดงว่าพี่เขากำลังคบหาดูใจและให้ความสำคัญกับคนคนนั้นอยู่อย่างจริงใจ แต่ถ้าไม่..พี่เขาก็จะนอนกับคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยโดยไม่เคยนำใครกลับมาที่คอนโด บางครั้งถ้าพี่หมีออกไปกับเพื่อนๆของพี่เขาดึกๆดื่นๆและกลับมาที่คอนโดเกือบเช้าทีไร ผมก็จะคาดเดาได้ทันทีว่าพี่หมีคงได้ไปนอนกับผู้หญิงหรือผู้ชายที่ไหนมาอีกแน่ หลายครั้งที่ผมแซวกัดไปบ้างแต่ก็ไร้คำพูดใดๆตอบกลับมา มีแต่เพียงเสียงหัวเราะตามสไตล์ให้คิดเอาเองอย่างเคย..
“หึ..แล้วไง ก็บอกมาสิว่าเป็นอะไร” พี่หมีอมยิ้ม
“กัสเปล่า เปล่าจริงๆครับ” ผมเข้าไปกอดคลอเคลียพี่หมีไว้ พี่หมีหัวเราะในลำคอและไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรอีก
“จะหกโมงแล้ว จะกินอะไรล่ะ..จะกินที่นี่ หรือจะออกไปกินข้างนอก” พี่หมีถามเปลี่ยนเรื่อง
“กินที่นี่..เราจะออกไปซื้ออาหารสดที่ซุปเปอร์ แล้วพี่หมีก็เป็นคนทำ” ผมพูด นำคางไปเทินไว้บนไหล่ของพี่หมี ผมน่ะทำงานอยู่ร้านอาหารก็จริง แต่ผมไม่ค่อยได้ทำอาหารเองบ่อยนักหรอกนะครับ อยู่ที่บ้านก็งอมืองอเท้าเรียกให้แม่บ้านทำให้อย่างเดียว เลยทำอาหารไม่ค่อยเป็นสักเท่าไหร่หรืออาจจะไม่เป็นเลยก็ว่าได้
“หลังจากที่เรากินอาหารมื้อเย็นเสร็จ กัสก็จะอาบน้ำ..แล้วพี่หมีก็ไปอาบต่อ อาบเสร็จพี่หมีก็จะไม่ทำงานต่อ..เพราะเราจะนอนกินขนมแล้วดูหนังกัน ถ้าเราง่วง..เราก็เข้านอน” ผมสาธยายและยิ้มให้แกมบังคับ
“เอาแต่ใจจริงนะ” พี่หมีอมยิ้ม ส่ายหัวว่า
“นะ..” ผมอ้อนอีก
“ตามใจสิครับ” พี่หมีตอบ
..................>>>><<<<...................
-
o18 พี่หมีกับกัสนี่ยังไงกันนะ แล้วยังพี่เซ็นอีกอ่ะ
-
ตามทันซะที :เฮ้อ: แต่พอจะเม้น ก็มีตอนใหม่มาต่อปุ๊บ อิอิ
ชอบกัสมากเลยอ่ะคับ ชอบมาตั้งแต่แรก
เพราะคนขี้อ้อน น่ารัก ชอบจัง แปลกใจว่าทำไมพี่คิวไม่ชอบกัส
หรือมันมากไป 555
เชียร์ให้กัสได้กับพี่หมี :impress2: เพราะนิยายส่วนมากตัวละครอย่างพี่หมีนี่แห้วแน่ ๆ
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยหมีไปก่อนนะ
-
สะกดจิตเบบี้
กัสหมี กัสหมี กัสหมี กัสหมี กัสหมี
กัสหมี กัสหมี กัสหมี กัสหมี กัสหมี
:oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
ส่วนพี่เซ็น ปล่อยให้พี่แกตามหาเนื้อคู่หนังคู่ของแก ต่อไปเรื่อยๆเต๊อะ o18
-
ชอบกัสสส
แต่ว่ายังไง พี่หมีก็ดูมาแรง พี่เซ็นก็ดูได้จังหวะ
แง๊ เลือกเชียร์ไม่ถูกเลย แม้ลึกๆจะอยากให้เป็นกัสเซ็นอ้ะ
เบบี้ ,, ตามใจเลยนะ ฮึกกกก
ยังไงก็จัดมาเลย ขอแค่ให้มันแฮปๆปี้ๆ หน่อยยยย
><
-
พี่หมีน่ารัก
กัสอ้อนแบบนี้ พี่หมีเค้ารักขึ้นมา
ต้องรับผิดชอบด้วยนะ
-
กัสน่ารักเสมอ เซ็นต้องรู้แต่ไม่กล้า :z2:
-
รักอิพี่เซ็นมีแต่น้ำตาจะเช็ดหัวเข่า
กัสตัดใจอิพี่เซ็นไปเหอะนะ
หันมามองคนดีๆ ที่อยู่ใกล้ตัวอย่างพี่หมีเหอะ :กอด1:
-
พี่เซ็นน่ากลัวชะมัดเลย ไม่ไหวมั้งคะ :z3:
กับพี่หมี ก็ไปอ้อนเค้าซะขนาดนั้น ให้ความหวัง แต่ไม่รัก...
น้องกัสเองใจร้ายไม่เบาแหละ
-
:-[พี่หมีน่ารักอะ.แต่พี่เซ็นน่าหมั่นไส้นิด :z2:
-
บทบาทอย่างนี้ มันพระรองชัดๆอ่ะพี่หมี
-
ขอเป็นบุคคลฮาร์ดคอร์สวนทางกับชาวบ้านโดยการยุให้หมีปลีกตัวและคุยกับใครสักคนจริงๆอ่ะ !
อ่านตอนหมีของกัสเป็นแฟนแล้วมันจี๊ดดดดดดด 555 แบบนี้แถวบ้านเรียกว่าสับสนและกั๊ก
คือจริงๆถ้าจะไม่ชอบก็บอกไปว่าเป็นพี่ชายเล๊ยยยย เป็นพี่ชายก็ยังปรึกษาไ้ด้เหมือนเดิมนะ
แ่ค่ระบุสถานะไปเลย ทำแบบนี้แอบสงสารหมี ทั้งๆที่วันนี้นอยด์มาก็มาคลุกอยู่กับหมี
แล้วก็ไม่ยอมบอกอีก สงสารหมี T______T อินท์ไปไหม ฮ่าๆๆ ยังไงก็ขอให้ชัดเจนในความรู้สึกไวๆนะน้องกัส
สงสารคนที่เค้ารออยู่บ้าง และเค้าก็รู้ทั้งรู้ว่าเราคิดยังไง เดี๋ยวหมั่นไส้กัสมากๆจะเป็นคนจีบหมีเองแล้ว 5555555
-
o13
-
เลือกไม่ถูกก็สามคนไปเล๊ยยยยยยย. จะได้ไม่มีคนเสียใจ. โอเคนะ o18 หุหุ
-
กัสจังน่ารัก รักกัสจัง :-[
-
รอจ้า :)
-
อ่านจบหนึ่งหน้า... แอบคิดว่าพี่ฟ้าไม่ใช่พระเอกล่ะ
พี่ฟ้าอาจจะคู่กับคนที่เถียงกันนั่น ฮ่าๆ
เดี๋ยวจบมาเม้นอีกรอบค่ะ ไปอ่านก่อนนะคะ ฟิ้วววว :bye2:
-
...พี่เซ็นนี่หยอดเฉยๆๆ หรือว่าคิดด้วยหว่า แต่คงหยอดแหละเห็นกับเค๊ก ก็หยอด หยอดไปทั้งให้ชาวบ้านเค้าหวั่นไหว
...พี่หมี นี่คงเป็นผู้ชายประเภท..ดีเกินไป..หรือเปล่า กัสเลยไม่มีใจให้ เพราะ..ไม่ว่าหญิงหรือชาย มันชอบ..คนเลว :laugh:
-
หายหน้าไปพักนึง โผล่มาอีกที น้องกัสดำเนินไปได้ตั้ง 2 ตอนแล้ว
พอมาอ่าน Lovers 3 ได้เห็นถึงมุมมองของกัสบ้าง รู้สึกว่ากัสมันน่ารักดีนะ
รักคนที่เค้าไม่ได้รักเรา และไม่ได้รักคนที่เค้ารักเรา เป็นอะไรที่น่าปวดหัวพิกล
จะผิดหรือเปล่า ถ้าจะบอกว่าแอบเทใจให้พี่หมีผู้น่ารักและแสนอบอุ่นไปเสียแล้ว
อันที่จริงๆ แอบลุ้นๆ พี่หมีกับน้องกัสมาตั้งแต่ Lover 2 แล้วนะเออ คึคึ
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
ตังแต่ต้นเรื่องเลยที่ปูทางเรื่องของกัสไว้
ก็รู้สึกสนใจมากนะ เพราะมันดูไม่ออก เดาไม่ถูกว่า
ความรักของกัสจะออกมายังไง
ตอนแรกเชียร์กัส-เซ็น จริง ๆ น่าลุ้นมาก แต่เนื้อเรื่องมัน
ไม่ชวนให้จิ้นว่าจะเป็นไปได้ พอกัสสนิทกันหมี ตอนแรกก็ยัง
ไม่คิดว่าหมีจะชอบนะ เฮ้ยแต่พออ่านช่วยหลังที่เริ่มมีคนล้อ
ก็...เอ๋ กัส-หมีเหรอ เราก็เริ่มดูว่าจะยังไง แต่เนื้อเรื่องมันไม่ค่อยมี
รายละเอียดไง พอได้อ่านตอนเต็ม ๆ ของกัส ตอนนี้ก็ยังสับสนนะ
สับสนเหมือนกัสเลย
-
ยังเดาไม่ถูกว่ากัสจะคู่ใคร ดูเหมือนกัสจะชัดเจนในความรู้สึกที่มีทั้งกับหมีและเซ็นต์ แต่... ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ติดตามกันต่อไป
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
จะกัสเซ็นหรือกัสหมีเนี่ย
แต่ชอบกัสหมีอ่ะ
พี่เซ็นดูกะล่อนเกิ๊น
-
ไม่ได้เข้ามาอ่านสักพัก แหะๆ และแล้วก้อถึงคราวกัส อยากอ่านมาตั้งนาน สมใจเว่อร์
-
สรุปชอบหรือไม่ชอบกันนะ สงสัยทั้งพี่หมีกับพี่เซ็นเลย
-
กัสน่ารักจังเลยน้า :o8:
ชอบเด็กขี้อ้อนแบบกัสนี่แหละ พี่หมีก็คงจะชอบเหมือนกัน :z1:
แล้วพี่เซ็นอะนี่ยังไงกันแน่ มาแหย่กัสอยู่ได้ ถ้าชอบก็จริงจังหน่อยเด้ :angry2:
แต่คนแบบนี้มีเสน่ห์จริงๆให้ตาย :-[
-
กัสนี่ยังไงเนี่ยท่าจะสับสนมากจริงๆคิดถึงพี่เซ็นแต่มาอ้อนพี่หมี หึหึ
-
กัสจะคู่กับใครเอ่ย....หรือจะ3p :jul3: :jul3: :jul3:
-
:z3:ร่วมแรงร่วมใจเชียร์กัสหมี. กัสหมี
เฮียเซ็นปล่อยเค้าไปเถอะ...ผู้ชายลั้ลลา :impress2:
-
กัสอ้อนพี่หมีมากๆเลยน้า น่ารักอ่าาา ><
พี่เซ็นอย่าเล่นๆสิ ยิงลูกตรงมาเลย
ชอบเห็นกัสทำตัวไม่ถูกอ่ะค่า น่ารักน่าแกล้งเป็นที่สุด :-[
-
เดาว่าพี่เซ็นเข้าวินชัวร์ :oni1:
-
คนที่ใช่สำหรับกัสจะเป็นพี่หมีหรือเปล่านะ :-[ :-[ :-[
-
ทำไมเราถึงหลัวพี่หมีอกหักละ
:pig4: คะ
-
เชียร์พี่หมีนะ.....เพราะโดยส่วนตัวรู้สึกว่าเราคนให้ความสำคัญกับคนที่เห็นค่าของเรามากกว่า
เซ็นดูจะไม่ค่อยใส่ใจกัส เหมือนจะเล่นๆ มากกว่า แต่ก็ต้องดูกันต่อไป 555 :m13:
-
:เฮ้อ:สรุปว่ากัสจะเลือกใครอะระหว่างพี่หมีกับพี่เซ็นอะ :L2: :L2: :L2: :L2:
-
กัสเอาแต่ใจจริงน่ะ
แต่พี่หมีก็ตามใจกัสตลอด
ถ้าเซ็นจะหันมามองกัส ก็จะธรรมดาไปน่ะ
มันต้องพี่หมี คนนี้ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก
ที่จะทำให้กัสหันมามองได้
-
ลุ้นหมีแต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เฮ้อ
-
:เฮ้อ: คลุมเคลือจิงๆ
-
ตอนแรกที่อ่านเรื่องของพี่คิวกับเค้กเราเชียร์เซ็นกัสนะ
แต่พอมาอ่านเรื่องนี้แล้วหมีกัสเหอะ!!!!
-
กัสจะเผลอ มีใจให้พี่หมีบ้างมั้ยล่ะ
ดูเหมือนพี่หมีจะมีใจให้กัสเลยอ่ะ เฮ้ออ!!!!
ลุ้นๆครับ ไม่รุ้จะเชียร์ใครดี 555
รอตอนต่อไปดีกว่า :pig4: :pig4: :pig4:
-
พี่เซ็นนี่ก็นะ แกล้งไปเรื่อยสงสารน้องมันบ้างเหอะ
เชียร์พี่หมีสุดใจเลย o13
-
ตอนอ่านคู่ คิว-เค้ก นึกว่า กัสกับเซ็นเคยคบกันมาก่อนซะอีก
ที่แท้ก็แค่แอบปลื้ม พอมาอ่านตอนล่าสุดดูเหมือนว่ากัสก็ยังชอบเซ็นอยู่
เลยกลัวว่าถ้าเซ็นหันมามองกัสบ้าง (ไม่ว่าจะจริงจังหรือเล่นๆ) แล้วกัสจะตีจากหมี
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงคนที่ลุ้นหมีอยู่คงผิดหวังแย่
อ่านแล้วรู้สึกปลื้มคุณพี่ทหารอากาศจัง ดูเหมือนจะอ่านเกมออกอยู่นะ
คงต้องฝากคุณพี่ให้ช่วยกันๆ เซ็นอย่าให้เข้าใกล้หัวใจกัสได้นะ
-
พี่หมีน่ารักเกินห้ามใจ o13
-
พี่หมีดูจะมาแรง
แต่ลึกๆก็หวังให้พี่เซ็นเป็นพระเอกอยู่ดี :z3:
-
อยากให้กัสสมหวังนะ แต่ไม่อยากให้พี่หมีอกหักอ่ะ T^T
-
กัสเอ๊ยถ้าจะยุ่งอีกนาน :z2:
-
เลือกพี่หมี เชียร์พี่หมีสุดใจ
-
:pig4:
-
กัสน่ารัก :กอด1:
-
กัสหมี ของเค้ามาแร๊งงงงง
พี่หมีดูเป็นคนอบอุ่นมากกก
สงสารพี่หมีง่ะถ้ากัสเลือกพี่เซ็น :เฮ้อ:
-
มาแนวนี้คนอย่างเซนต์จะพลาดเหรอ หมีออกหมัดแย๊บ แต่ถ้าเซนต์มันเดียวน็อค
-
คู่นี้ออกแนวอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน. 3p เสียดีไหมเนี่ย คึ คึ
-
พี่หมีน่ารัก :กอด1:
-
ดีใจจังกับอาฟ้าและทิกเกอร์มากๆๆเลยย ^^
อ่านแล้วแอบสงสารพี่หมี กัสยังสับสนเรื่องเซ็นอยู่มากๆ
ทั้งๆที่พี่หมีแน่นอนแล้วเรื่องกัส :(
-
พี่คิวได้นิสัยขี้แกล้งมาจากอาฟ้าแน่ๆเลย ดูจากการแกล้งทิกเกอร์และจักรแล้ว ฮ่ าา
ทิกเกอร์ฝรั่งอะไรไม่รู้น่ารักเป็นบ้าเลย >< เขินแทนอาฟ้าจริงๆเลย พี่คิวก็มาได้จังหวะพอดีเลยนะค่ะเนี้ย คริๆ ๆ อ่านไปยิ้มไปแก้มจะแตกอยู่แล้วค่ะ
-
สงสารกัสอ่า อยากเห็นกัสมีความสุขบ้างอ่า พี่เซ็นแม่งใจร้ายว่ะ ชอบแกล้งกัสแบบนี้อ่า แต่ก็ยังแอบเชียร์พี่เซ็น ฮ่าาาาา
-
อย่าเป็นพี่เซ็นไม่ได้หรอกัส เป็นพี่หมีไม่ได้หรอ :o12:
:pig4:
-
ในใจมันบอกว่าให้เชียร์หมี
-
+1 พี่หมี กัส อ่ะ อิอิ พี่เซ๊น กัสคงชอบคลั่งไคล้ แบบ ชอบดารา ไรงี้ ส่วน หมีรักซึมซับอ่ะ :z2:คิดว่างั้นน่ะ
-
อยากจะบอกว่า
เซ็นกัสเห๊อะ !
เหมือนพี่เซ็นเค้าดูมีใจให้กัสอยู่นะเออ
แต่ชอบฟอร์มไรเงี่ย ทำให้ดูชอบแกล้งน้องไปเรื่อย อ่ะ
:o8:
แต่พี่หมีเค้าก้มาแรงใช้ได้เลยอ่าาา พี่ชายที่แสนดี ปลื้มใจน้องกัสไปโลดดด
แต่ยังไง เค้าก็เชียร์ "เซ็นกัส" นะ เบบี้
-
รอบนี้ต้องลุ้นจริงจังซะแล้วสิ
กัส พี่หมี พี่เซ็น (แต่แอบคิดในใจไว้แล้ว)
กัสเหงา กัสเศร้า พี่หมีรู้ดีเสมอ
สู้ๆ กับหัวใจตัวเองต่อไปนะกัส
-
:impress2:กัสน่ารักอ่ะ
-
กัสเอ๊ย ไม่รู้จะไปทางไหนสินะ^^
-
ที่พักใจ ยามสับสน :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
กัสเอ้ย ความฝันก้อเป็นความฝัน มันจับต้องไม่ได้
รักคนที่เขารักเราดีกว่า พี่หมีออกจะจริงใจจริงจัง ส่วนพี่เซ็นสองตาเค้าก้อไม่แลกัส คิดว่ากัสเป็นของเล่น ดีแต่แกล้งให้ความหวังหยอดนิดหยอกหน่อยไปวันๆ
ความจริงกับความฝันมันต่างกันลิบลับ เพียงแค่กัสเปิดใจตัวเองสักนิดก้อจะเห็น
เชียร์พี่หมีสุดใจ
-
กัสเวลาอยู่กับพี่หมีแล้วน่ารักกกดี
-
อ่านไปอ่านมาเริ่มมีความรู้สึกอยากให้พี่เซ็นเป็นเคะแล้วละสิ (ในหัวฉันคิดอะไรอยู่เนี้ยย 555) คู่กับผู้ช่วยไจ๋ดีไหมนะ คริๆ ๆ เริ่มจับคู่ให้ชาวบ้านไปทั่วแล้วตอนนี้
แต่ก็ไม่รู้ว่าน้องกัสจะเลือกใครนะค่ะ ยังไงก็เชียร์ทั้งคู่ ไม่อยากให้มีใครต้องเสียใจเลยค่ะ แต่เหมือนน้องกัสจะแอบเศร้าไปแล้วตอนนี้
มาอีกคนแล้วค่ะ บุคคลที่น่าหลงใหล พี่หมีนั้นเอง 5555 (เป็นโรคตกหลุมรักอย่างง่ายดายอะไรอย่างงี้) ตามใจน้องกัสตลอดเลย ผู้ชายเจ้าชู้นี้มันมีเสน่ห์จริงๆเลยน้าาา
พี่หมีแอบมีความลับอะไรเบื้องหลังไว้ด้วยอ่ะ เป็นผู้ชายน่าค้นหาอีกแล้ว ก๊ากกกกกกกก
-
อ่านถึงตอนนี้ บุคลิกผู้ชายที่แสนดีต่อน้องกัส แบบพี่หมี
มาแนวเป็น พระรองจริงๆนะเนี่ย อิอิ
รออ่านตอนต่อไปคับ ^^ :L2:
-
รักพี่หมี เชียร์พ่ีเซ็นอ่ะ
อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองคน :-[
-
แล้วมันยังไงกันละนี้ คู่นี้
ไม่อะไร ยังไง กันซักที
ปล่อยให้ คลุมเครือ มันหน่วงๆเน้อ แบบนี้อ่า
-
ในที่สุดก็อ่านทัน
สนุกากๆเลย o13
-
สนุกกกกกกกกกกกกกก :L2:
-
โหหหห...พี่หมี ดูแลดีขนาดนี้ ถึงว่าทำไมกัสถึงชอบอ้อน..เหอะๆๆ
-
เชียร์พี่หมีให้กัส แต่กัสชอบพี่เซ็น :z3: สงสารพี่หมี กัสชอบพี่เซ็นแต่ก็หวงพี่หมี เป็นคู่ 3P ที่อึมครึมมาก
เดาไม่ถูกว่าจริงๆแล้ว พี่หมีชอบกัสจริงหรือเปล่า ส่วนพี่เซ็นดูจะชอบกัสแต่ก็เหมือนกลัวอะไรอยู่เลยต้องทำเป็นแกล้ง แหย่กัสให้โมโห
กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ
-
เงิ่มมมม พี่หมีนิชอบกัสจริงๆ แต่กัสชอบพี่เซ็น
แล้วพี่เซ็นก็อาจจะชอบกัสจริง เอิ่มมม ดูงง ๆ วุ่นๆๆ
รักสามเศร้ารึเปล่านะ (มันเ็ป็นเพียงแค่การคาดเดา)
ิติดตามตอนต่อไปค้าบบ สู้ๆ
-
เหมือนจะเป็น รักสามเศร้า เราสามคน เลยแหะ :really2:
แต่อยากให้ กัส คู่ หมี มากกว่า :กอด1:
-
ตอนใหม่มาแล้ว อ๊ายยยยย มันอึมครึมจริงๆนั่นแหละ ใจเชียร์พี่เซ็นนะ (ยังหนักแน่น 555) แต่มาอ่านตอนนี้แล้ว คิดว่าถ้ากัสรักพี่หมีได้ คงจะมีความสุขน่าดู พี่หมีดูแลดีทุกอย่างเลย ตามใจขนาดนั้นจะไม่ให้กัสชอบอ้อนได้ไง มันคลุมเครือตรงที่เวลากัสมีปัญหาอะไรก็จะนึกถึงพี่หมีตลอด เค้าว่ากันว่าคนแรกที่เราคิดถึงคือคนที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่างพี่หมีกับกัสมันเป็นแบบค่อยๆซึมซับ เป็นไปอย่างไม่รู้ตัว และกว่าจะรู้ว่ารักก็คงรักกันมากไปแล้วทำนองนั้น คู่นี้เหมือนต้องมีตัวกระตุ้นถึงจะรู้ดำรู้แดงกันไป กร๊อชชชชชช แบบนี้เซ็นก็อกหักดิ 55555 ไม่เอาน้า >.< ดูเหมือนพี่เซ็นจะชอบกัสอะ อารมณ์เหมือนพี่แกยังสนุกกับการไล่ต้อนอยู่ เห้อ ถ้าชอบน้องก็จริงจังซะทีสิคะคุณพี่ มัวแต่เล่นระวังจะอกหักไม่รู้ตัว คุณพี่ทหารอากาศเจ๋งที่สุดคงมองอะไรออกบางแหละ กันไว้คะคุณพี่ ประพฤติตัวดีเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน กร๊อชชช วิเคราะห์แล้วพี่หมีท่าจะเป็นพระเอกรึเปล่า ? ฮึกแต่เค้าอยากให้เซ็นกัสน้า *กระแซะออดอ้อนเบบี้*
-
แอบมีออร่าแห้วลอยตามหลังพี่หมีอ่ะ
ไม่ ๆ ยังไงก็เชียร์ !!! FC พีหมี
-
น่ารักทั้งพี่หมีและน้องกัสเลยล่ะ >_<
อย่าว่าแต่พี่หมีเลย โดนอ้อนอย่างนี้เป็นใครก็ยอม
แต่ต้องยกพี่เซ็นไว้คน เพราะน้องยังไม่เคยอ้อน
มีแต่ต่อปากต่อคำกัน แล้วน้องกัสก็แพ้ทุกที
เราว่าพี่หมีแสดงออกค่อนข้างชัดเจนนะ
แต่พี่หมีจะใช่คนที่ใช่ของน้องกัสหรือเปล่านี่สิ
ก็คงต้องแล้วแต่น้องกัสล่ะงานนี้
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
พี่หมี รักกัสจริงรึเปล่าน้อ หรือว่าแค่เอ็นดูเฉยๆ
เพราะน้องกัสน่ารักขี้อ้อนใครอยู่ใกล้ก็อดเอ็นดูไม่ได้
ส่วนพี่เซ็นเราก็แอบเชียร์ ถึงแม้บางทีไม่แน่ใจ
ในตัวพี่เซ็นเลยก็ตาม รอลุ้นต่อดีกว่า :กอด1:
-
เชียร์พี่หมีแบบสุดๆ คนดีต้องสมหวังบ้าง
พระรองเกาหลีควรจะได้เป็นพระเอก o13
-
เจ๊นะอยากเชียร์พี่หมีใจจะขาด แต่แบบต้องเข้าใจนิดนึง "คนดีเป็นได้แค่พระรอง" :laugh:
เพราะเจ๊แม่งชอบ เลว เจ้าชู้แบบเซ็นต์. กร๊ากกกก :laugh: เหมาะกะกัสดี
P.S. กัสก็อ้อนเค้าแบบนี้แหละ เหมือนให้ความหวังเลย :เฮ้อ:
-
ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร
แต่ขอให้กัสอยู่กับคนที่จะทำให้กัสมีความสุขแล้วกันนะ
-
~3~
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“New York Cheesecake กับ Cappuccino Vienna ครับ” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าขาประจำที่นั่งเตรียมพร้อมทานเต็มทีแล้ว
“Thank you” เขายิ้มและตอบให้อย่างต้องการหยอกล้อผมตามเคย
“Welcome~” ผมก้มหัวให้อย่างเป็นมารยาทก่อนจะเดินออกมา
“วันนี้พี่กัสร่าเริงผิดปกติจังเลยนะครับ” เค้กพูดขึ้น ผมชะงักและฉุกคิดกับสิ่งที่เค้กพูด
“ร่าเริงขนาดนี้ เข้าไปช่วยงานในครัวดีไหมครับ” เค้กอมยิ้มให้
“โหย..เค้กอ่ะ” ผมโวยในทันที วันนี้เป็นเวรงานของพี่คิวกับผู้ช่วยเชฟคนใหม่ เขาชื่อไจ๋ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่หมี พวกผมจึงต้องเรียกเขาว่า “พี่ไจ๋” ให้เกียรติตามมารยาทความเป็นไทย
“สงสารพี่ไจ๋เนอะ” ผมกระซิบบอกเค้ก
“หึ ครับ” เค้กหัวเราะเล็กน้อยเหมือนกับชินสถานการณ์นี้แล้วอย่างนั้น อีกทั้งมือไม้ของเค้กก็ยังไม่ยอมหยุดทำงานอีกด้วย
กริ๊ง~
ผมกับเค้กสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงกริ๊งที่กดเรียกจากคนภายในห้องครัว เรามองหน้ากันตาโต
“ค..เค้กไปสิ” ผมพูดตะกุกตะกักอย่างนึกกลัวว่าพี่คิว ว่าพี่เขาอาจจะมีญาณได้ยินเสียงที่พวกผมกำลังนินทาพี่เขาก็เป็นได้
“ทำไมต้องเค้กอ่ะ” เค้กเบะปากหน้าเสีย
“เค้กแหละ ถึงพี่คิวจะโมโหขนาดไหน..พี่คิวก็คงฆ่าเค้กไม่ลงหรอก โอเคนะ พี่ไปกวาดลานหลังร้านก่อน” ผมตบไหล่เค้กสองสามทีก่อนจะรีบวิ่งหนีหน้าที่ออกมา ผมไม่รู้ว่าพี่คิวเรียกเข้าไปให้ทำอะไร แต่ตอนนี้ผมไม่เข้าไปจะดีกว่าเพราะเห็นพี่คิวอารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เช้าแล้วนะครับ
ระหว่างที่ผมกำลังกวาดลานหลังร้านอยู่ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ขับเข้ามา พอผมเห็นว่าเป็นรถยนต์ของพี่เซ็น ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินไปเก็บดอกไม้ที่ตกอยู่บนพื้นหญ้าแทน ผมเดินออกมาไกลอีกนิดและไกลอีกเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องหันไปทักพี่เขาน่ะครับ ให้อารมณ์ประมาณว่า..ขี้เกียจปั้นหน้าให้มากความ
“ดูออกง่ายไปหน่อยนะ ว่าจงใจจะไม่ทักกันน่ะ” ผมชะงักหันกลับไปมองพี่เซ็นที่ยืนทำหน้าทะเล้นอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“ก็รู้นี่ครับ แต่ก็ยังเสนอหน้าอีกเนอะ” ผมยิ้มทำหน้าพยักพเยิดใส่ พี่เซ็นหุบยิ้มลงทันที
“ปากดีจังเลยนะ” พี่เขาเปลี่ยนสีหน้าเป็นแสยะยิ้มอีกครั้ง ทำให้ผมชักเริ่มหวั่นขึ้นมา ผมหันหน้าหนีก่อนจะเก็บดอกไม้ต่อ
“.................” ความเงียบเริ่มครอบงำและผมยังทราบว่าพี่เซ็นยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน ทำให้ผมต้องหันกลับไปมองพี่เขาอีกครั้ง
“พี่เซ็นมีอะไรครับ” ผมถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง ด้วยไม่อยากเปิดศึกอีก
“ตอนเข้ามาใหม่ๆก็ออกจะน่ารักแท้ๆ” พี่เซ็นอมยิ้มเจ้าเล่ห์
“นั่นมันใช่คำตอบที่กัสถามไหม” ผมว่าอย่างเหนื่อยใจ
“คิดว่าใช่รึเปล่าล่ะ” พี่เซ็นหัวเราะ
“พี่เซ็น! เห็นกัสว่างรึไงครับ กวนประสาทกันอยู่ได้” ผมบ่นทำท่าจะเดินหนี
“นี่” พี่เซ็นเรียก อยู่ๆก็จับแขนผมดึงเข้าไปหาตัวเอง ผมเซไปตามแรงเพราะพี่เซ็นออกแรงดึงแรงมากพอสมควร
“ใบไม้ติดผมน่ะ” พี่เขาพูดเสียงนุ่ม ทำให้หัวใจของผมแทบตกลงไปที่ตาตุ่ม ผมใจเต้นแรงและได้แต่ยืนนิ่ง ไม่ทราบว่าตอนนี้หน้าของผมแดงหรือเปล่า รู้เพียงว่าตัวเองรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว พี่เซ็นเอื้อมมือหยิบอะไรสักอย่างออกจากผมของผมก่อนจะทิ้งมันลง ผมเห็นว่าเป็นใบไม้ใบเล็กๆเท่านั้น ผมจึงพยายามที่จะดึงแขนของผมออกเมื่อพี่เซ็นหยิบใบไม้ออกให้เสร็จแล้ว แต่พี่เซ็นกลับจับแขนผมไว้แน่นกว่าเดิม
“ปล่อยสิฮะ” ผมพูดทั้งทั้งที่ก้มหน้าอยู่ ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่เซ็นเพราะรู้สึกว่าเราสองคนยืนใกล้กันมากเกินไป พี่เซ็นไม่ตอบอะไรกลับมา แต่กลับเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นกว่าเก่า
“พี่เซ็น” ผมขึ้นเสียงเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองเพราะรู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้ว ถ้ามากกว่านี้ผมเองก็จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่พอเงยหน้าขึ้นเพียงเท่านั้นก็ยิ่งทำให้หัวใจผมว้าวุ่นไปหมด พี่เซ็นจ้องผมไม่วางตา ผมรู้ว่าพี่เขาต้องการแกล้งผมแต่ผมกลับขัดขืนไม่ได้เด็ดขาดอย่างที่คิด ผมผลักตัวพี่เซ็นเบาๆกลายเป็นว่าพี่เซ็นรวบมือผมไปไว้ทั้งสองมือ
“ทำตัวให้มันน่ารักๆหน่อยสิ” อีกฝ่ายพูดแทบกระซิบ ผมชะงัก อยู่ๆพี่เซ็นก็ก้มหน้าลงมาใกล้ทำให้ผมต้องก้มหน้าหนีพี่เขา ใจผมเต้นแรงมากขึ้น..มากขึ้น ผมไม่รู้ว่าพี่เซ็นจะได้ยินมันรึเปล่า ตอนนี้แม้กระทั่งหายใจก็แทบจะไม่กล้า และผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อรับรู้ได้ว่าจมูกของพี่เซ็นชนเข้ากับแก้มของผม พี่เซ็นค้างไว้อย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ผมหลับตาลงในทันที รู้สึกเหมือนตัวเองตัวสั่นกว่าเดิมเมื่อรับรู้ได้ว่าพี่เขากดปากลงที่แก้มของผม ปากของพี่เซ็นกับแก้มของผม นั่นล่ะ..ผมกำลังเรียกสติของตัวเองว่าสิ่งที่พี่เซ็นทำอยู่นี้ไม่ใช่ความจริง ใช่..ผมฝันอยู่แน่ๆ
“หึ..” ผมหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากอีกฝ่าย ผมยังคงยืนก้มหน้านิ่งเพราะไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่เซ็น ผมไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าของผมเป็นอย่างไรและผมควรจะทำสีหน้ายังไงไม่ให้พี่เซ็นแกล้งหยอกผมไปมากกว่านี้
“ขอถอนคำพูด..ตอนนี้อาจจะน่ารักกว่า” อีกฝ่ายกระซิบบอก ผมเม้มปากเข้าหากัน ทั้งเขินทั้งอายไปหมด
“ไปนะครับ” พี่เซ็นพูดบอกแล้วเดินไปซะเฉย แต่ก็ดีแล้วที่พี่เขาเดินจากไปแบบนี้ ผมเองก็ไม่รู้จะทำตัวยังไงถ้าพี่เซ็นยังคงยืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้ ผมยืนนิ่งแช่แข็งอยู่นานมาก กว่าจะนับหนึ่งถึงร้อยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นความจริงและสามารถเรียกสติของตัวเองให้กลับมาได้ก็นานพอสมควร
เฮ้อ..ให้ตายเถอะ ไอ้พี่เซ็นบ้า !!
= = = = = = = =
“นั่งยิ้มน้อยยิ่งใหญ่อะไรอยู่ได้..มีอะไรดีๆเกิดขึ้นรึไง” ผมสะดุ้งเหลือบไปมองพี่หมี พี่หมีอมยิ้มให้เล็กน้อย ผมรีบหลบตาในทันที
“กัส กัสยิ้มเหรอ” ผมจับหน้าตัวเอง
“หึ..ถ้ายิ้มแล้วมีกลิ่นได้เหมือนตด ป่านนี้รถคงเหม็นไปหมดแล้วละครับ” พี่หมีว่า
“พี่หมีอ่ะ” ผมชักสีหน้าใส่ ตอนนี้อยู่ระหว่างทางที่พี่หมีอาสาไปส่งผมที่บ้านให้หลังเลิกงานนะครับ
“เปล่าฮะ” ผมตอบถึงคำถามก่อนหน้า
“งั้นเหรอ” พี่หมีตอบเสียงเรียบ
“เปล่าจริงๆ” ผมย้ำเสียงเพราะพี่หมีทำเสียงเหมือนไม่เชื่ออย่างนั้น
“พี่ว่าอะไรรึยังล่ะ” พี่หมีตอบกลับ
“.....................” อยู่ๆพี่หมีก็เงียบไป ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีขึ้นมา ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมยิ้มบ่อยขนาดนั้นจนทำให้พี่หมีสังเกตเห็นได้ วันนี้ผมแทบจะนึกเรื่องของพี่เซ็นทั้งวันก็ว่าได้ ผมกำลังจะเป็นบ้าเป็นบอ จิตใจแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยทั้งวัน ให้ตายเถอะครับ..ที่จริงผมก็พยายามเรียกสติตัวเองว่าไม่ควรหลงกับความสุขจอมปลอมนี่เลย แต่ก็นะ..แต่ก็เท่านั้น ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมรู้สึกดีที่ถูกพี่เซ็นทำแบบนี้จริงๆ
“พี่หมี เงียบทำไมครับ” ผมเอื้อมมือไปจิ้มแก้มพี่หมีเบาๆ พี่หมีหันมายิ้มให้
“เปล่าครับ”
“พี่หมีจะทำหน้าเข้มทำไม นี่อยู่นอกร้านแล้วนะ..ทำหน้าโหดอยู่ได้” ผมแกล้งแซว ซึ่งปกติแล้วพี่หมีก็เป็นคนเงียบและหน้านิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การที่พี่หมีไม่ค่อยยิ้มไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแต่เพียงผมไม่ชอบให้พี่หมีทำหน้านิ่งเฉยบ่อยครั้งก็เท่านั้น
“จะให้พี่มานั่งยิ้มอย่างกับคนบ้าเหมือนกัสน่ะ พี่ทำไม่ได้หรอกนะครับ..พี่ไม่ได้มีเรื่องทำให้มีความสุขได้ขนาดนั้นนี่” พี่หมีตอบกลับ ทำให้ผมต้องหุบปากเงียบ พี่เขาพูดเหมือนกับรู้อย่างนั้นว่าสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขในตอนนี้คืออะไร
“อืม..พี่หมีกินข้าวเย็นที่บ้านกัสนะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“ไม่เอา พี่จะกลับไปกินที่คอนโด”
“ไม่เอา..กินกับกัสนะครับ ป่านนี้ป๊ากับแม่คงกินไปแล้วอ่ะ กัสไม่ชอบกินคนเดียว” ผมทำเสียงอ้อนใส่
“อย่ามาทำเสียงงอแงได้ไหม” พี่หมีพูดปนหัวเราะ
“ได้ฮะ แต่พี่หมีก็รับปากมาก่อนสิว่าจะกินข้าวกับกัสอ่ะ” ผมพูดอย่างไม่ยอม
“เฮ้อ..ครับๆ” พี่หมีตอบส่งๆ
“หึหึ” ผมยิ้มกว้างให้แต่พี่หมีที่ไม่ได้หันกลับมามอง ระหว่างทางพี่หมีค่อนข้างเงียบ ผมชวนคุยอะไรพี่หมีเพียงแค่ตอบอย่างส่งๆเหมือนให้ผ่านไปทีเท่านั้น ผมเริ่มรับรู้ได้ถึงกลิ่นผิดปกติ แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรพี่หมีถึงเป็นอย่างนี้ ผมจึงเลือกที่จะไม่ถามออกไปดีกว่า เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อกับแม่ผมขึ้นห้องนอนเรียบร้อยแล้ว พี่ก้องยังไม่กลับบ้าน ส่วนพี่เกตุทำงานอยู่ที่ห้องของเธอ ผมให้แม่บ้านจัดแจงนำอาหารเย็นที่แบ่งไว้สำหรับผมนำมาเสิร์ฟให้เราสองคน
“พี่หมีจะเอาอะไรเพิ่มไหมฮะ เดี๋ยวกัสบอกแม่บ้านทำเพิ่มให้” ผมถาม พี่หมีที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยส่ายหัวแทนคำตอบ
“โค้กไหมครับ” ผมถามอีก
“ก็ดีครับ” พี่หมีพยักหน้า ผมเดินไปหยิบโค้กที่อยู่ในตู้เย็นในครัวมารินให้พี่หมี ก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“เชิญฮะไม่ต้องเกรงใจ” ผมยิ้มกว้าง ผายมือประกอบด้วย
“หึ..กล้าพูดนะ” พี่หมีอมยิ้มอย่างประชด
“รู้ไหมว่าวันนี้พี่เซ็นมาทำไม” อยู่ๆพี่หมีก็ถามขึ้น ผมชะงักเล็กน้อยแต่ก็ต้องทำเป็นตักอาหารขึ้นทานอย่างปกติ
“ไม่รู้ครับ”
“เหรอ..พี่มีเรื่องจะคุยกับพี่แกสักหน่อย แต่ไม่ทันได้คุย ก็กลับไปซะก่อน” พี่หมีพูดเสียงเรียบ จ้องหน้าผม เป็นสายตาปกติธรรมดาแต่ผมกลับไม่สามารถสบตาได้อย่างสนิทใจ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เซ็นก็มาทำงานอยู่ดี พี่หมีก็คุยสิฮะ”
“ว่าแต่..พี่หมีมีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่เซ็นเหรอ” ผมถาม
“ทั่วไป” พี่หมีตอบสั้นๆ
“ก็แค่เรื่องทั่วไป ทำไมต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นด้วย” ผมบ่น
“เรื่องทั่วไปของผู้ชายน่ะ มักเป็นเรื่องสำคัญ” พี่หมียิ้มยักคิ้วให้อย่างต้องการกวนผม
“ชิ..แล้วกัสไม่ใช่ผู้ชายตรงไหน” ผมเบะปากใส่ พี่หมีไม่ตอบอะไรเอาแต่ยิ้มอย่างเดียว เราทานอาหารต่อจนอิ่ม ผมพาพี่หมีไปเดินเล่นย่อยอาหารรอบๆสวนของบ้านก่อนจะเดินไปส่งพี่หมีที่รถ เราร่ำลากันก่อนที่พี่หมีจะขับรถกลับไป..
= = = = = = = =
โรงเรียนสอนภาษา Edu-Centre..
“พวกแกจะไปไหนต่อ” ผมหันไปถามเพื่อนของผมทั้งสองคนหลังจากที่เลิกเรียนพิเศษวิชาภาษาฝรั่งเศสเรียบร้อยแล้ว
“จะไปดูหนัง ไปด้วยกันเปล่า” ปุยตอบ ปุยเป็นเพื่อนที่ผมได้รู้จักในมหาวิทยาลัยในเอกเดียวกัน เธอเป็นคนที่นิสัยดี ตรงไปตรงมามากทีเดียว
“ทำไมไม่ชวนตั้งแต่แรก นี่วางแผนกันมาก่อนแล้วใช่ไหม” ผมถามอย่างน้อยใจ หน้าเริ่มงอหดลงเรื่อยๆ มองตาขวางใส่เพื่อนสนิททั้งสองคน
“ก็เห็นไม่ค่อยว่าง เลยไม่ได้ชวนสักที” กุมภ์พูดหน้านิ่งเช่นเคย กุมภ์เป็นเพื่อนชายอีกคนที่ผมรู้จักในมหาวิทยาลัยในเอกเดียวกันเช่นเดียวกับปุย กุมภ์เป็นคนที่ค่อนข้างนิ่งเงียบ พูดไม่ค่อยเก่งแต่เป็นคนอัธยาศัยดีและเป็นคนที่เรียนเก่งมาก ผมพึ่งพาเขาหลายครั้งทีเดียว เราสามคนเพิ่งมาสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆก็ตอนขึ้นปี2 นิสัยใจคอถึงจะแตกต่างแต่ก็เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ คงเพราะความต่างที่มีให้กันละมังครับ อะไรๆถึงเติมเต็มให้กันได้ เมื่อเรารู้ว่าต่างฝ่ายต่างขาดกันไม่ได้ วิชาโทเราจึงเลือกลงวิชาภาษาฝรั่งเศสเหมือนกัน คล้ายกับคิดว่าจะไม่ตายจากกันอย่างนั้นแน่ะ..
“จะงอน” ผมเบะปาก ผมเป็นคนที่ขี้น้อยใจง่ายมาก บ้างครั้งก็ง่ายมากเกินไปจนไม่เข้าใจตัวเอง
“น่ะ!” ปุยกระแทกเสียงเหมือนจะง้อแต่ก็ไม่ง้อ
“จะงอน!” ผมกระแทกเสียงอีกครั้งอย่างงอแง ในกลุ่มเราสามคน ผมคงเป็นคนที่เอาแต่ใจมากที่สุดแล้วละครับ
“เออ ก็ชวนแล้วนี่ไง” กุมภ์พูดอย่างตัดรำคาญ
“ตกลงจะไปไหมล่ะ เลี้ยงข้าวด้วยนะ” ปุยยิ้มกว้างเช่นทุกทีที่ต้องการทานของฟรี หลายครั้งที่ผมเป็นคนออกตัวว่าจะจ่ายเงินเลี้ยงเพื่อนๆเองเมื่อไหร่ที่ผมมีเงินมากพอหรือมีโอกาส เพราะฐานะทางบ้านของกุมภ์เพียงแค่พออยู่พอกินเท่านั้น ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส่วนปุยฐานะทางบ้านอาจจะมีเงินให้ใช้สอยได้ไม่ขาดมือ แต่ผมไม่อยากให้กุมภ์รู้สึกด้อยหรือน้อยใจเมื่อไหร่ที่ผมต้องการทานอาหารราคาแพง กุมภ์คงลำบากใจที่จะไปทานกับพวกเราบ่อยครั้ง เหมือนกับปฏิเสธผมไม่ได้ประมาณนั้น ซึ่งผมเป็นคนชอบทานอาหารราคาแพงและได้รับการบริการที่ดี เพราะผมค่อนข้างรักความสบาย ดังนั้นผมจึงเอ่ยปากขอเลี้ยงทั้งสองคนอยู่หลายครั้งโดยอ้างเหตุผลของผม ถึงแม้ว่ากุมภ์จะเกรงใจจึงขอช่วยแชร์ค่าอาหาร ผมจะรับบ้างไม่รับบ้างเพื่อรักษาน้ำใจเพื่อนไว้ก็เท่านั้น ปุยเองก็รู้ถึงความรู้สึกนี้ของผมดีว่าผมคิดยังไง หลายครั้งปุยก็จะทำตัวเข้าขากับผม ส่วนกุมภ์จะปล่อยเลยตามเลยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่ผมรู้สึก
“ก็ได้” ผมตอบส่งๆ
“ต้นเดือนอยู่สินะ” กุมภ์ยิ้มน้อยๆ
“แหม เพื่อนกุมภ์ก็ว่าไป เดือนนี้ยังไม่ได้ใช้บัตรเครดิตเลยนะ..เก่งป่ะล่ะ” ผมยักคิ้ว การหักห้ามใจไม่ให้ใช้บัตรเครดิตก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำใจยากสำหรับผมมากทีเดียว
“จ้ะ เก่งมาก” กุมภ์กับปุยประสานเสียง
“ไปกัน..กินไรดีอ่ะ” ผมลุกขึ้น ต่างฝ่ายต่างหยิบสัมภาระของตนเองติดตัวเดินออกมาด้วย โดยเดินทางกันโดยรถยนต์ของปุย ปุยจะนำรถยนต์มามหาวิทยาลัยทุกวัน กุมภ์ขึ้นรถเมล์หลายต่อเพราะบ้านไกล ส่วนผมคนรถที่บ้านมาส่ง บางครั้งก็จะติดรถมากับพ่อ แม่หรือพวกพี่ๆน่ะครับ พ่อไม่อนุญาตให้ผมขับรถมามหาวิทยาลัยเองเพราะกลัวว่าผมจะออกนอกลู่นอกทาง..ท่านอ้างว่าอย่างนั้น แต่ผมคิดว่าท่านโกหกเพราะเหตุผลมันไม่สนับสนุนอะไรสักอย่าง
“อะไรก็ได้ แพงๆ” ปุยตอบทีเล่นทีจริง กุมภ์อมยิ้ม
“เดี๋ยวเราช่วยออก” กุมภ์พูดประโยคประจำ
“ไม่ต้องหรอก เกรงใจทำไม..ไอ้คนข้างหน้าไม่เห็นมันจะเกรงใจ” ผมพูดประชดไปถึงปุยที่เดินนำหน้าเราอยู่ ปุยหัวเราะตอบเอิ้กอ้ากอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“มื้อนี้ห้ามเกินสองพันนะไอ้ปุย เดี๋ยวเงินไม่ถึงสิ้นเดือน..พี่ก้องบ่นอีก” ผมบ่น บ่นไปอย่างนั้น เพราะสุดท้ายแล้วก็ใช้เงินไม่เคยชนเดือนเลยสักครั้ง
“หึ..พูดถึงพี่ก้อง เฮ้อ..พี่ก้องน่ารักอ่ะ พ่อของลูกช้าน” ปุยเพ้อฝันในทันที ปุยมักจะทำตัวเพ้อฝันถึงพี่ชายของผมตลอดเวลาที่ผมพูดถึงพี่ก้อง ผมไม่รู้ว่าอะไรในตัวพี่ก้องถึงไปโดนใจปุยนักหนา ทั้งทั้งที่ปกติปุยเป็นคนชอบคนยากมาก
“เฮ้อ!” ผมกับกุมภ์ถอนหายใจพร้อมกันจนทำให้ปุยหันหน้ากลับมาค้อนใส่ เราหัวเราะให้กันหลังจากนั้น ระหว่างทางที่ต้องเดินไปที่รถของปุย ผมกดโทรศัพท์โทรหาพี่หมีเพราะจะถามว่าทานอาหารกลางวันหรือยัง วันนี้พี่หมีก็มีเวรงานประจำที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์เช่นเคย การโทรหากันบ่อยๆมันเป็นนิสัยที่เคยชินของเราสองคนที่มักจะโทรถามสารทุกข์สุขดิบของกันและกันไปแล้ว ผมโทรไปหลายสายทีเดียวแต่พี่หมีก็ไม่รับสายเลย..
“พี่หมีไม่รับโทรศัพท์เหรอ” ปุยถาม หลังจากที่เราทานอาหารมาได้สักพัก ผมก็กดโทรศัพท์หาพี่หมีอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่นี่มันผิดนิสัย เพราะถ้าปกติแล้วถ้าพี่หมีเห็นสายไม่ได้รับจากผมพี่หมีจะโทรกลับมาทันที และนี่มันก็เป็นเวลาพักเที่ยงแล้วด้วย หรืออาจจะมีเรื่องที่ร้านเกิดขึ้นไม่ทราบ ผมอดเป็นห่วงไม่ได้
“อืม แปลก” ผมขมวดคิ้ว
“แปลก” ปุยย้ำคำพูดผม ผมเงยหน้ามองปุยอย่างสงสัยว่ามันจะพูดซ้ำผมทำไม
“แกอ่ะแปลก โทรจิกอย่างกับแฟน..ตกลงยังไง คบกันแล้วเหรอ” ปุยถาม คิ้วขมวกผูกเป็นโบไม่ต่างจากผม
“บ้า!” ผมกระแทกเสียง
“หึหึ” กุมภ์หัวเราะ มันอมยิ้มเอาแต่จ้องหน้าผมไม่วางตา ทั้งสองคนรู้ดีว่าผมชอบผู้ชาย ถึงผมจะไม่บอกทั้งสองคนก็คงพอจะดูออกและทราบกันเองได้ ผมไม่เคยออกตัวว่าชอบผู้หญิงเลยสักครั้ง นิสัยก็ค่อนข้างขี้งอน งอแงและเอาแต่ใจ แต่ผมจะเอาแต่ใจและงอแงเฉพาะกับคนสนิทเท่านั้นนะครับ และถึงผมจะไม่ได้ออกตัวแรงมีท่าทีว่าตัวเองเป็นเกย์อย่างจริงจังแต่เพื่อนสนิทก็คงพอจะดูออกละนะ
“ไม่ตลกละ” ผมปัดก่อนจะหยิบซ้อมขึ้นจิ้มอาหารเข้าปากแก้เก้อ
“ก็แค่พี่น้อง” ปุยพูดอย่างรู้ทัน
“ใช่” ผมพยักหน้า บางทีผมก็ไม่รู้จะปฏิเสธพวกมันยังไงเพราะการกระทำระหว่างพี่หมีและผมที่มีให้กันและกันมันก็มากเกินคำว่าพี่น้องอยู่ แต่นั่นละครับ..ผมยังไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรไปกว่าคำๆนี้จริงๆ
“งั้นก็อย่าโทรบ่อยขนาดนั้น ไม่กลัวพี่เค้ารำคาญรึไง” ปุยว่า
“พี่หมีไม่เคยว่าเหอะ” ผมย้อน
“เค้าอาจจะคิดก็ได้” กุมภ์พูด
“โหกุมภ์ ถ้าพูดแต่ละทีจะแดกดันขนาดนี้..งั้นก็หุบปากเงียบๆไปเหอะ” ผมว่าให้ กุมภ์หัวเราะในลำคออย่างชอบใจ
“พี่หมีไม่เคยไม่โทรกลับ” ผมบอกอย่างเข้าข้างตัวเอง ถึงแม้อีกใจจะหวั่นๆไปตามคำพูดของปุยก็ตาม
“พี่เค้าโกรธอะไรมึงเปล่า มึงอ่ะชอบง๊องแง๊งด้วย” ปุยว่า
“....................” ผมเงียบ กำลังคิดว่าพี่หมีโกรธอะไรอย่างที่ปุยพูดจริงๆหรือเปล่า หรือว่าพี่หมีรู้เรื่องที่พี่เซ็นหอมแก้มผมเมื่อวาน ใช่..ผมไม่ได้อยากให้พี่หมีรู้เรื่องนี้เท่าไหร่นักหรอกครับ อย่างไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่าพี่หมีไม่ทราบเลยจะดีกว่า ส่วนพี่เซ็นก็ไม่น่าจะเอาไปพูดเพราะคงไม่ใช่เรื่อง แล้วถ้าพี่หมีจะโกรธเรื่องอะไรผมสักอย่างอย่างที่ปุยบอก แล้วอะไรล่ะครับ ผมคิดไม่ออกจริงๆอ่ะ U_U
“ไปส่งที่ร้านด้วยนะ” ผมพูดตัดสถานการณ์ ตัดสินใจว่าไปหาพี่หมีที่ร้านเลยคงจะดีกว่า ผมคงอยู่ไม่สุขแน่ถ้าเป็นอย่างนี้ไปจนเย็นหรือดึก
“ได้..” ปุยพยักหน้าตอบ
“แล้วกุมภ์จะให้ไปส่งที่ไหน” ปุยถาม
“ไม่เป็นไรอ่ะ เดี๋ยวเราขึ้นรถเมล์หน้าห้างนี่ไปต่อรถไฟฟ้าเอง..แกจะได้ไม่ต้องขับรถอ้อมไปมา” กุมภ์ตอบ ปุยพยักหน้ารับ หลังจากนั้นเราก็เริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย ส่วนมากจะนินทาครูอาจารย์ไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็พูดถึงเรื่องเรียนซะเป็นส่วนใหญ่
= = = = = = = =
-
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“พี่ฟ้า..พี่หมีอยู่ไหมครับ” ผมทักพี่ฟ้าที่เพิ่งเดินออกมาจากประตูหลังร้าน
“อยู่ในร้านน่ะ วันนี้ขอกลับเร็วด้วย..ไม่รู้จะรีบไปไหน ไม่ยอมบอก..เลยไม่ให้ไปแม่ง หึหึ” พี่ฟ้าพูดแกมบ่นก่อนจะแสยะยิ้มออกมา ผมส่ายหัวให้อย่างเข้าใจถึงความชอบแกล้งที่มีในตัวของพี่ฟ้า
“งั้นเหรอครับ”
“แล้วกัสมาทำไม..มาหาหมีเหรอ” พี่ฟ้าเดินตรงเข้ามาหาผม
“ฮะ พี่หมีไม่รับโทรศัพท์” ผมตอบ
“หึ..เป็นห่วงกันจริงนะ” พี่ฟ้ายิ้ม
“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ มีธุระน่ะ” พี่ฟ้าโบกมือให้ ผมพยักหน้า พี่ฟ้าเดินไปที่รถยนต์คันแปลกตา ผมจำรถยนต์ของพี่ฟ้าได้หมดทุกคัน คันนี้ไม่น่าจะใช่ของพี่ฟ้า อาจจะเป็นของคุณฝรั่งผู้ดีอังกฤษคนนั้น
“พี่หมี!” ผมยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นพี่หมีเดินออกมาจากหลังร้านพอดี ผมรีบวิ่งเข้าไปหาพี่หมี แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพี่หมีถึงได้ทำหน้าตาดุแบบนี้
“ท..ทำไม ไม่รับโทรศัพท์ล่ะฮะ กัสโทรมาตั้งหลายสาย” ผมลดน้ำเสียงจากที่ดีใจมากๆเมื่อกี้ลง
“พี่ทำงานอยู่ไม่เห็นเหรอ” พี่หมีตอบหน้านิ่ง ผมชะงัก รู้ดีเวลาพักทานอาหารเลยมานานมากแล้วแต่พี่หมีก็น่าจะมีเวลารับสายบ้างก็เท่านั้น
“แล้วพี่หมีทานอะไรรึยังครับ กัสซื้อขนมชั้นของชอบพี่หมีมาด้วยน้า” ผมชูถุงให้ดู
“ขอบคุณครับ” พี่หมีอมยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ไม่รับถุงไป ผมยืนนิ่ง เราต่างฝ่ายต่างนิ่งไปครู่หนึ่ง
“พี่หมีเป็นอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามเสียงเบาเพราะกลัวพี่หมีที่เป็นแบบนี้ ด้วยหลายๆสาเหตุทำให้ผมกลัว ปกติพี่หมีเป็นคนค่อนข้างเข้าถึงยากอยู่แล้ว ตรงนี้ผมเองก็เข้าใจดี แต่พี่หมีไม่ค่อยเป็นอย่างนี้กับผมบ่อยเท่าไหร่นัก การที่พี่หมีทำตัวห่างเหินแบบนี้..ผมไม่ชอบเอาเสียเลย
“เปล่า” พี่หมีตอบเสียงห้วน ทำท่าจะเดินกลับเข้าร้านไป
“พี่หมี” ผมเรียกพร้อมกับจับแขนพี่หมีไว้
“กัสทำอะไรผิดเหรอครับ..พี่หมีบอกกัสสิ กัสจะได้รู้ไงฮะ” ผมรีบพูดอย่างร้อนรน
“เปล่านี่ ทำไมถึงคิดอะไรอย่างนั้นล่ะ” พี่หมีถอนหายใจเบาๆ
“ก็พี่หมี ทำหน้างอ” ผมพูดตอบเสียงเบา
“หึ..” พี่หมีแสยะยิ้ม
แกรก~
“...................” เราสองคนชะงักเมื่อเห็นว่าพี่เซ็นเดินออกมาขัดจังหวะพอดี
“นึกว่าหายไปไหน ไม่มีลูกค้าใช่ไหม..จะให้เข้าไปเฝ้าเค้กให้หน่อย ไจ๋มันต้องช่วยพี่ตีแป้งน่ะ” พี่เซ็นพูดมองหน้าพี่หมี
“เดี๋ยวเข้าไปครับ” พี่หมีตอบ
“ให้เชฟออกมาตามแบบนี้ไม่ดีนะ” พี่เซ็นอมยิ้มเล็กน้อย
“แล้วนี่มาทำไม” พี่เซ็นหันมามองหน้าผมอย่างสงสัย
“มาหาพี่หมี” ผมตอบแต่ไม่ได้มองหน้าพี่เซ็นตอบ
“งั้นเหรอ” พี่เซ็นแสยะยิ้ม
“เดี๋ยวผมตามเข้าไปครับ” อยู่ๆพี่หมีก็พูดตัดบทขึ้นมา พี่เซ็นหุบยิ้มและได้แต่ยักไหล่ให้ก่อนจะเดินกลับเข้าร้านไป ที่ตรงนี้เงียบสนิท ผมยืนนิ่ง มือยังคงจับแขนของพี่หมีไว้ พี่หมีชักแขนกลับไปเล็กน้อยทำให้ผมต้องปล่อยมือออก
“โกรธกัสจริงๆด้วย” ผมว่าเสียงเบา ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกกลัว
“....................” พี่หมีเงียบ ผมเองก็เงียบด้วย
“วันนี้พี่กลับดึก แล้วก็ต้องออกไปกับเพื่อนด้วย..กัสกลับไปก่อนแล้วกันครับ แล้วค่อยคุยกัน” พี่หมีถอนหายใจแรงก่อนจะพูดออกมา
“ไม่เอา” ผมเงยหน้าตอบ
“ไม่ได้” พี่หมีย้ำพร้อมกับทำตาดุใส่อีก
“ไม่เอาอ่ะ กัสจะรอพี่หมี..พี่หมีไปไหนกัสก็จะไปด้วย” ผมบอกอย่างไม่ยอม
“เฮ้อ..กัส” พี่หมีย้ำเสียง คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน ในใจลึกๆแล้วผมก็กลัวนะครับ แต่ก็ทำเป็นกล้าเข้าไว้ก่อนนี่ละดีที่สุด
“กัสจะรอ” ผมย้ำบอกบ้าง พี่หมีหันหน้าหนี
“งั้นก็ตามใจ” พี่หมีตอบส่งๆก่อนจะเปิดประตูหลังร้านและเดินหนีกลับเข้าไปในร้านในทันที ผมยืนนิ่ง ทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าพี่หมีโกรธอะไรผมนักหนา ผมใจลอยเดินเข้ามาในห้องพักสำหรับพนักงาน หยิบการบ้านออกมาทำฆ่าเวลา อีกหลายชั่วโมงทีเดียวกว่าร้านจะปิด ผมจะต้องอดทนรอพี่หมีจนกว่าพี่เขาจะทำงานเสร็จให้ได้ วันนี้พี่หมีบอกว่าจะออกไปกับเพื่อน ผมว่าพี่หมีจะต้องไปดื่มเหล้าอย่างแน่นอน อยู่ๆก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาและก็หวงพี่หมีมากๆด้วย ความรู้สึกแบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก มันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วแต่ผมก็อดหวงพี่หมีไม่ได้อยู่ดี..
= = = = = = = =
20:50 น. ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“อ่าวกัส..ยังอยู่อีกเหรอ” พี่ออฟทัก ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่ผมเพิ่งฟุบหลับไปเมื่อกี้
“ฮะ..เลิกแล้วเหรอ” ผมตอบเสียงยานคาง
“อืม..ปิดร้านเรียบร้อยหมดแล้ว” พี่ออฟตอบ พี่หมี พี่ซีและพี่ไจ๋เดินเข้ามาพอดี ผมรีบเก็บสัมภาระของตัวเอง พี่หมีเดินเข้าไปที่ห้องแต่งตัวอย่างเงียบๆ ทำให้ทุกคนต่างหันมามองหน้าผมอย่างสงสัยเหมือนจับกลิ่นได้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ผมยิ้มให้น้อยๆและเก็บของต่อ ไม่นานพี่หมีก็เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าของตัวเอง ผมยิ้มทักพี่หมีทันทีที่พี่เขาเดินออกมา พี่หมีไม่ได้ยิ้มตอบอะไร
“ไปละ” พี่หมีบอกทุกคน
“หวัดดีครับ” พี่ออฟกับพี่ไจ๋ยกมือไหว้
“หวัดดีค่ะพี่หมี” พี่ซียกมือไหว้พร้อมกับยิ้มกว้าง ผมยกมือไหว้พี่ทั้งสามคนก่อนจะยิ้มและโบกมือเป็นการอำลาด้วย ผมเดินตามหลังพี่หมีไปอย่างเงียบๆ พอเดินออกมาถึงที่ลานจอดรถ ผมเห็นว่าพี่เซ็นกำลังเก็บของอยู่ที่ท้ายรถพอดี พี่เซ็นหันมามอง ผมหลบสายตาพี่เซ็นก่อนจะรีบจ้ำเท้าตามไปให้ทันพี่หมี
“หึ..รอถึงเวลานี้เนี่ยนะ” พี่เซ็นพูดขึ้นลอยๆ เสียงไม่ได้ดังอะไรแต่เพราะตรงนี้เงียบมากทำให้ผมได้ยินทุกคำ ผมเหลือบมองพี่เซ็นและก็ต้องเงยขึ้นมองหน้าพี่หมีอีกครั้ง
“แล้วพี่จะทำไมล่ะ กัสรอพี่หมีไม่ได้รอพี่สักหน่อย” ผมย้อนว่า
“อะนะ..ต่อปากต่อคำนี่เก่งจริงๆ ท่าจะไม่เข็ดแฮะ” พี่เซ็นแสยะยิ้มก่อนจะปิดท้ายรถของตัวเองลง ผมมอง เห็นพี่หมีหันไปมองหน้าพี่เซ็นเขม็ง ใจผมเต้นตึกตักอย่างกลัวว่าพี่หมีจะรับรู้ได้ถึงกลิ่นแปลกๆจากเราสองคน
“โชคดี” พี่เซ็นตัดบทยิ้มหน่อยๆก่อนจะขึ้นรถของตัวเองไป ผมยืนมองพี่หมีที่ยืนนิ่งไม่ยอมขยับจนพี่เซ็นขับรถออกไปจากร้าน พี่หมีเดินตรงไปที่รถของตัวเอง ผมรีบวิ่งตามไปแล้วขึ้นไปนั่งข้างคนขับทันทีเพราะกลัวว่าพี่หมีจะขับหนีซะก่อน พี่หมีขึ้นมานั่งบนรถไม่พูดไม่จา นั่นทำให้ผมยิ่งเกร็งมากกว่าเดิม
“ไปไหนเหรอฮะ” ผมถามหลังจากที่พี่หมีขับรถออกมาได้สักพักและพี่หมีไม่ยอมพูดอะไรตั้งแต่ออกมาจากร้านแล้ว
“ไปส่งที่บ้านน่ะสิ” พี่หมีตอบเสียงเรียบ
“อ๋อ งั้น..กินข้าวเย็นที่บ้านกัสนะ” ผมยิ้มกว้างทั้งทั้งที่พี่หมีก็ไม่ได้หันกลับมามอง
“ไม่ล่ะ..พี่นัดกับเพื่อนไว้น่ะ”
“จะไปไหนเหรอฮะ” ผมถามเสียงเบา รู้สึกแย่มากจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่มันเหมือนกับผมกำลังจะเสียพี่หมีไปให้ใคร ทั้งที่ใจจริงแล้วผมก็รู้ดีว่าผมยังรักพี่หมีไปมากกว่านี้ไม่ได้ แต่พี่หมีก็เป็นคนสำคัญมากคนหนึ่ง เป็นคนหนึ่งที่ผมไม่อยากสูญเสียเช่นกัน
“เที่ยว” พี่หมีตอบส่งๆ
“งั้นกินข้าวก่อนนะครับ พี่จะได้มีอะไรรองท้องไง” ผมพูด พี่หมีไม่ตอบอะไรอีก เราต่างเงียบลงครู่หนึ่ง
“กัสไม่รู้ว่าพี่หมีโกรธกัสเรื่องอะไร แต่..ไม่ไปไม่ได้เหรอ” ผมพูดเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา พี่หมีเงียบ ผมเห็นพี่เขาถอนหายใจเบาๆ
“กัสอย่ารู้เลยว่าพี่โกรธกัสเรื่องอะไร เพราะพี่ไม่ได้โกรธอะไรกัส” พี่หมีพูดขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่เขาอีกครั้ง
“พี่คงโกรธตัวเองอยู่ละมั้ง” พี่หมีหันกลับมามองหน้าผมครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองถนนต่อ
“กัสไม่มีอะไรจะบอกพี่ใช่ไหม” พี่หมีพูด ผมรีบส่ายหัวตอบในทันที
“ก็ดี” พี่หมีตอบส่งๆอีกครั้ง
“งั้นคืนนี้อย่าโทรมาล่ะ พี่คงรับโทรศัพท์ไม่ได้ทั้งคืน” พี่หมีบอก ผมชะงัก รู้สึกเสียใจขึ้นมาจุกอกแต่ก็ไม่สามารถต้านทานคำพูดคำนี้จากพี่หมีได้เพราะมันเป็นสิ่งที่ผมต้องยอมรับ
“....................” ผมได้แต่นั่งเงียบ พี่หมีเองก็เงียบ เราต่างเงียบมาตลอดทางจนมาถึงบ้านผม ผมยังไม่ยอมขยับไปไหนทั้งทั้งที่รถก็จอดเทียบอยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้ว
“ลงไปสิครับ ถึงแล้ว” พี่หมีพูดบอก ผมหันไปมองหน้าพี่หมีอีกครั้ง พี่หมีหันมามองแล้วยิ้มให้น้อยๆ แต่มันกลับไม่เพียงพอต่อความรู้สึกบางอย่างของผมในตอนนี้เอาซะเลย ผมยิ้มน้อยๆตอบให้บ้างก่อนจะก้มหน้าหนี
“ไม่อยากให้ไปเหรอ” อยู่ๆพี่หมีก็ถามขึ้น ผมรีบส่ายหัวตอบในทันที
“งั้นพี่ต้องทำยังไง”
“อย่าไป” ผมรีบตอบ
“หึ..” พี่หมีแสยะหัวเราะ
“เอาแต่ใจชะมัด” พี่หมีว่าให้ หันหน้าหนีมองไปทางอื่น
“รู้ไหมว่าตัวเองกำลังเป็นคนยังไง” พี่หมีหันกลับมาถาม ผมส่ายหัวตอบเล็กน้อย
“เห็นแก่ตัว” พี่หมีพูดเสียงแข็งหน้านิ่ง ผมชะงักก่อนจะก้มหน้าลงอย่างยอมรับคำต่อว่านี้
“ขอโทษฮะ” ผมบอกเสียงเบา พยายามไม่ให้เสียงตัวเองสั่น ผมรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจที่พี่หมีว่าผมตรงๆอย่างนี้ ปกติพี่หมีก็เป็นคนพูดตรงขวานผ่าซากแบบนี้อยู่แล้ว แต่พี่หมีจะไม่พูดแรงๆกับผมบ่อยๆ แต่ถ้าพี่หมีจะพูดนานครั้งแต่กลับรุนแรงขนาดนี้ ผมคิดว่าพูดว่าอย่างเป็นปกติคงจะดีกว่า ตอนนี้ผมกำลังทำตัวไม่ถูกเพราะไม่รู้ว่าอยู่ๆพี่หมีมาต่อว่าผมอย่างนี้ทำไม หรืออาจจะเพราะผมไม่อยากให้พี่หมีไปเที่ยวก็ได้ ที่จริงผมไม่เคยห้ามเป็นจริงเป็นจังสักครั้ง แต่นั่นล่ะครับ..พี่หมีก็ไม่ค่อยจะขัดผมเสียเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ค่อนข้างจะแปลกออกไป นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่ดี..
“คบกันไหม” ผมเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยิน พี่หมีหันกลับมามอง สายตาจริงจังจนดูเหมือนจะหาเรื่องผมอย่างนั้น
“คบกันได้ไหม..”
...................>>>><<<<...................
ส่งท้าย..
สลิ่ม: "พี่บี้..มันค้างครับ"
ข้าพเจ้า: "นี่มันไม่ใช่ปัญหาของกูนิ"
สลิ่ม T^T
-
:z13:
-
:z13: :z13:
-
โอ๊ววววว พี่หมี
แร๊งง
กัสจะเอาไงล่ะทีนี้
-
กัสคงยังสับสนอยู่ใช่มั้ยเนี่ย :เฮ้อ:
อิพี่เซ็น แกมาทำให้น้องกัสว่อกแว่ก :beat:
-
เห็นด้วยกับสลิ่มอ่ะ มันค้าง
กัสปลื้มพี่เซ็น และชอบพี่หมีอ่ะดิ
-
ไอเลิฟยูวววววววววววววว พี่หมี :impress2:
-
อึมครึมมมได้อีกอิพี่เซ็นก็นะทำเป็นหมาหยอกไก่แบบนี้ทำไม
กัสมันก็ยิ่งสับสนไปใหญ่..
-
สับสนเหมือนกัส :z3:
แต่ว่าเเลือกพี่หมีดีกว่า ชัดเจนคอยห่วงกัสมาตลอด
แต่ว่าอีกที เหมือนเบบี้เคยบอกไว้ว่าตอนต่อไปพระเอกโคตรเจ้าชู้เลย อ๊ายยยย ไอ้พี่เซ็นจะเป็นพระเอกรึเป่าน้า
ลุ้นต่อไป :z3:
+1 :กอด1:
-
กัสไม่เคยจะใจ ไม่คิดจะเปิดใจ ยื้อไว้ซักวันก็ต้องเลิกยื้ออยู่ดี คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันไป แต่จะเป็นใครหรือไม่มีเลย :laugh: o13
-
ห้ามทำสลิ่มร้องไห้นะ....สลิ่มค้างแล้วเห็นมั้ย
รีบมาต่อเร็วๆนะเบบี้..
:กอด1:โอ๋..เด๋วให้พี่เมตรจัดการเลยเนอะหลิ่มเนอะ
-
เง้ออออ กัสสับสน เพราะอะไร
รักพี่เซ็น หรือยังไง เหมือนที่พี่หมีพูดนะ
แม้จะสงสารกัส แต่ก็จริงอย่างที่พี่หมีพูด
ถ้ากัสจะกังวลเรื่องพี่หมีขนาดนี้
เป็นแฟนกันไปเลยเหอะ
อ๊ากกก เชียร์พี่หมีสุดใจ
-
หลังจากอ่านตอนนี้จบแล้ว และดูเหมือนกับว่ากัสยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่
ความรู้สึกที่รับรู้(เอาเอง)ได้นั้นคือ กัสอาจจะแค่รู้สึกปลื้มพี่เซ็นเท่านั้น แต่คิดไปเองว่ารัก (มั้ง)
และความรู้สึกอีกอย่างคือ กัสน่ะรักพี่หมีไปแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่รู้ตัวเองว่ารักพี่หมีในแบบไหน
ก็นะ ถ้าคนเราไม่รักแล้วล่ะก็ ไม่ทางที่จะมานั่งแคร์ความรู้สึก แล้วก็หวงมากมายขนาดนี้หรอก
เหมือนกัสยังตีหัวใจตัวเองได้ไม่แตก อาจเพราะยังเด็กด้วย เลยเอาความปลื้มมาปะปนกับความรัก
เดาเอาได้เท่านี้แหละ ฮ่าๆ เพราะโดยรวมเนื้อเรื่องก็ดูยังไม่กระจ่างแก่ใจเท่าใดนัก
ตอนนี้ก็เลยได้แต่คาดเดาส่งๆ ไปงั้น แต่ที่เชียร์แน่ๆ คือพี่หมีกับน้องกัส อิอิ โมเลกุลทั้งคู่ดูเข้ากันดี
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาร้องไห้เป็นเพื่อนสลิ่ม TT___TT
-
เอาหละซึ น้องกัสจะทำยังไงหละเนี่ย
ถามกันซึ่ง ๆ หน้าเลย สับสนอยู่ด้วย
หวงพี่หมีขนาดนี้ ต้องถามใจตัวเองดี ๆ แล้วน้องกัส :กอด1:
-
คิดเหมือนกับหลายๆ คน
กัสอาจจะแค่ปลื้มเซ็น เพราะแม้เห็นเซ็นกับผู้หญิง
ก็ไม่มีอาการ เหมือนกันที่เป็นกะหมี แค่จะไปเที่ยวยังออกอาการ หวง ขนาดนี้
อัยย่ะ!! ฉันเชียร์หมีล่ะ
:z2:
-
:เฮ้อ: กัสเอ๊ยยยยยยยยย
อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนแบบนี้ น่าสงสารพี่หมีอ่ะ
เด่วก็เชียร์ให้มีคนมาจีบมาชอบพี่หมีซะให้เข็ด
อีตาพี่เซ็นนี่ก็น่าตีให้หัวแตก จะจีบก็ไม่ยอมจีบจริงจังมาทำเป็นหมาหยอกไก่อ่ะ
-
+1
-
คบกับไหม :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
-
อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เอายังไงดี เอายังไงดี ขอคบแล้วววววว
:-[
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ขอร้องไห้เป็นเพื่อนสลิ่มเลย
บี้จ๋าาาาาาา มันค้างอ่า T^T
กัสนี่ลึกๆแล้วชอบพี่หมีแหงเลยอ่ะ
อาการนี่ออกชัดเจน แต่กับพี่เซ็นกัสน่าจะปลื้มๆมากกว่า
แบบคิดไปเองและฝังใจว่าชอบ *ก้เดากันไป ฮ่าๆ*
แต่เท่าที่รู้ตอนนี้ เชียร์พี่หมีจ้า *โบกป้ายไฟรัวๆ*
รอตอนหน้านะคะเบบี้ >.<
-
:-[ :-[ เชียร์พี่หมี ไม่เค้าใจพี่เซ็น
-
:-[เอาแล้วไง กัสโดนแน่ๆๆ หึหึ
-
:laugh: :laugh: ทำไงละทีนี้น้องกัสเอ้ยยยยยย
สลิ่มวันนี้เราหัวอกเดียวกันอ่ะ :กอด1:
-
จะว่าอะไรไหมถ้าเราจะบอกว่าสงสารพี่หมีอ่ะ :monkeysad:
:pig4: คะ
-
สงสารพี่หมี กัสมองพี่หมีเป็นแค่ที่พักทางใจ
ถ้าขอคบกันครั้งนี้แล้วยังไม่ได้คำตอบก็จะเชียร์ให้พี่หมีไปหาคนอื่นละ
ตกลงว่าสลิ่มค้างเพราะเบบี้หรืออิพี่เมตรกันแน่???
-
คิดถึงสลิ่ม!
อุ๊ย...ผิดงาน แหะๆๆ :bye2:
-
มี่..มันค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
กัส บางครั้งที่กัสทำแบบนี้พี่หมีเค้าก็คิดนะ
"คบกันได้ไหม.." มันเจ็บจริงๆสำหรับพี่หมี แต่สุดท้ายพี่หมีก็รู้ว่าควรจทำยังไงต่อไป
ชอบพี่หมีนะ ^^ รอต่อไป ถึงพี่หมีจะไม่ใช่คู่ของกัส แต่เชื่อว่าบี้มันน่าจะหาใครสักคนที่ดีให้แน่ๆ555++
แต่เชียร์พี่หมีว่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
...น้องกัส หวงคน จะบอกว่าหวงของก็ไม่ใช่ และนี่แหละมันเป็นบ่เกิดของ...ความรัก
...พี่หมี คงเห็นแหละว่าพี่เซนต์ทำอะไรน้องกัส ถึงได้หงุดหงิดและบอกว่าน้องกัส..เห็นแก่ตัว
...ไม่ยอมปล่อยพี่หมี ทั้งๆทีใจตัวเองก็ไม่ได้อยู่ที่พี่หมีซะหน่อย
... แต่พี่หมีเค้าแน่นะที่ ..ขอคบ...น้องกัสล่ะ สงสัยจะไม่โอเค เพราะยังไม่รู้ใจตัวเองเลย :laugh:
-
เฮ้ออออ กัสรู้มั๊ยว่ากัสน่ะแคร์พี่หมีมากพอๆกับที่พี่หมีแคร์กัสเลยนะ :เฮ้อ:
และกัสไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เหมือนกับพยายามปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง
ย้ำกับตัวเองอยู่เสมอว่าที่รู้สึกอยู่มันเป็นความเคยชิน ต้องคุย ต้องมี ต้องทำ
กับพี่เซ็นบางครั้งก็ทำเหมือนจะทำใจเรื่องของพี่เค้าได้ แต่บางทีก็เหมือนคาดหวัง
ก็บอกแล้วว่าที่ผ่านมาน่ะพี่หมีเค้าชัดเจน นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ชัดเจนมากๆ
เหลือก็แต่กัสนั่นแหละ จะปักใจกับพี่เซ็นที่เป็นรักแรกแล้วรอคอยพี่เค้าหรือเปล่า
ถ้าหากกัสไม่ตกลงเห็นทีพี่เซ็นต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเองด้วยนะพี่
แล้วก็หาเด็กน้อยน่ารักให้พี่หมีสักคน จะได้ลงตัว :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
มือหนึ่งโอบกอดตุ๊กตาตัวเก่าแสนรักเอาไว้แนบออก อีกมือหนึ่งก้อเอื้อมคว้าตุ๊กตาในฝัน
กัสเอ้ย ถ้าไม่ใช่พี่หมี ไม่มีใครทนอย่างนี้หรอกนะกัส ขอบอก
-
อึดอัดอ่า กัสเหมือนจะให้ความหวังนะ
คบไม่ได้ แต่ก็จะเก็บไว้กับตัว
ในเมื่อตัวเองยังไม่ัรก ก็ปล่อยพี่หมีไปเถอะ
แล้วก็กลับไปชอบพี่เซ็นเหมือนเดิมน่ะแหละ กัสมีความสุขนี่
-
พี่เซ็นมาหยอกๆแล้วก้อจากไป ไม่เห็นแสดงหึงหวงเลยเวลากัสมาหาพี่หมี มันยังไงนิ่
กัสไม่ได้รู้สึกกะพี่หมีมากมายไปกว่าพี่ใช่ไหมนี่ โอ๊ะ!!! งงกะสามคนนี้จริงๆ
ลุ้นๆล่ะครับ กัสจะตอบรับพี่หมีมั้ย คิดดีๆเน้อ กัส :กอด1: :กอด1:
รอตอนต่อไปดีกว่า ++ :pig4: :pig4: :pig4:
-
กัสเซ็น นี่กั๊กทั้งคู่เลยนะ คู่กันไปซะเลยสิ อิอิ :z2:
-
โอ้ยยยยยค้างอ่ะค้างงงงงง!
เชียร์พี่หมีนะ T^T
-
พี่หมีพูดถูกจริงๆ
-
พี่หมีเขาจริงจังหรือนี่ แล้วเซ็นล่ะเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ :serius2:
-
พี่เซ็นนี่ก็ทำตัวสมกับเป็นพระเอก พี่หมีนี่ก็พระรองในอุดมคติ
เชียร์พี่เซ็น แต่รักพี่หมี
สลิ่มเชียร์ใครอ่ะจะเชียร์ตาม 555
-
น้องกัสอย่าทำแบบนี้เลย สงสารพี่หมีจัง :monkeysad:
ลุ้นระทึกว่ากัสจะตอบยังไง แต่หวังว่าพี่หมีจะไม่บอกล้อเล่นอีกแล้วนะ อย่างนั้นมันเจ็บปวดเกินไป :sad11:
-
หลังจากประโยค "คบกันได้ไหม" หนนี้คงไม่มีคำว่า "ล้อเล่น" ออกมาจากปากพี่หมีอีกนะ
อ่านถึงตอนนี้ แม้มันจะค้างก็ตาม ก็ยังให้ความรู้สึกว่า .. เข้าใจกัส เข้าใจพี่หมี
แต่... ยังไม่เข้าใจพี่เซ็น .. อิอิ รออ่านตอนต่อไปนะครับ :L2:
-
รอตอนต่อไปนะ :)
-
:เฮ้อ: กัสสับสน เราก็สับสน
แต่เข้าใจพี่หมี เราเคยอยู่สถานะแบบนี้ ไม่รัก ไม่ใช่แฟน แต่หวง ไม่ให้ไปไหน
-
:call: :call: :call: :call: :call: :call: :call: :call:
ค้างงงงง
-
เชียร์พี่หมีนะดูจริงใจดีชอบ :impress2:
-
มีสลิ่มมาคอมเม้นท์ด้วยอะ :impress2:
แต่ก็คิดเหมือนสลิ่มนะ มันค้างงงงงงงงงงง :z3:
-
รักสามเศร้าหรือเปล่า
หรือว่าเซ็นชอบหมี :laugh:
-
กร๊ากกกกกกกกกกกกก สงสัยจะ3p มั้ง :pigha2: :pigha2: :pigha2:
-
ส่งท้าย..
สลิ่ม: "พี่บี้..มันค้างครับ"
ข้าพเจ้า: "นี่มันไม่ใช่ปัญหาของกูนิ"
สลิ่ม T^T
รู้สึกเหมือนสลิ่ม และต้องรอต่อปายยยย
เอ้อออออออออ กัสรักพี่หมีแบบพี่ชาย ในขณะที่ความใกล้ชิดพาให้พี่หมีหวั่นไหวกับกัส
ส่วนพี่เซ็น "จะเอาไงแน่วะ" ทำเหมือนหมาหยอกไก่ รู้ตัวอยู่แล้วว่าน้องชอบตัว แต่นอกจากจะหยอดไปเรื่อยๆ แล้วยังมาทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองอีก
-
อืมมมม..ถ้ากัสจะหวงพี่หมีขาดนี้อะนะ
ก็ควรจะตัดสินใจหรือทำอะรสักอย่าง
เหมือนกัสจะงงๆ หรือย สับสน ตัวเองเนอะ..เหอะๆๆๆ
ปล.ตาพี่เซ็นต์นี่ก็นะ..มาทำให้กัสหyวใจเต้นแรงอยู่ได้ ^o-
-
พี่เซ็นกะพี่หมีต้องมีไรแน่ๆเลยยยย !!!
เห้ออออ .. กัสส ต้องเลือกแล้วล่ะ
ว่าจะทำไง
ชอบพี่เซ็น ใจเต้น เมื่ออยุ่ใกล้พี่เซ็น
แต่พี่หมี ต้องเป็นห่วง รู้สึกกังวลเรื่องพี่หมีตลอดเวลา
คิดดีๆน้า กัสสสสสส !! สับสนแทนเลยนะเนี่ยยย .
ปล. ถึงยังไง ในใจก็เชียร์พี่เซ็น เสมอจ้าาา ~
-
แว๊กกกกกกกก...ค้าง!!!!!!
เหมือนกัสจะรักพี่หมีแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว
พี่หมีขอคบแล้ว... กัสจะว่ายังไง???
โอ๊ยยยยย.....อยากรู้อ่าาา
-
กัสจะตอบยังไงเนี่ย
แต่ก็เหมือนกั๊กพี่หมีไว้อ่ะ
ชอบพี่เซ็นแต่พี่หมีก็เป็นคนสำคัญ
กัสจะเลือกใครล่ะเนี่ย
-
ค้างงงงงงง.....เหมือนสลิ่ม o13
เป็นกําลังใจให้กัส.....ก็ใจมันต้องการทั้งสองคน
แต่พี่หมีทําท่าจะเป็นพระรองนะ..... :sad4:
-
ส่งท้าย..
สลิ่ม: "พี่บี้..มันค้างครับ"
ข้าพเจ้า: "นี่มันไม่ใช่ปัญหาของกูนิ"
สลิ่ม T^T
เมตร: อ้าว!ค้างก็ไม่บอก งั้นเด่วคืนนี้พี่จัดชุดใหญ่แบบคอมโบ้เซตให้นะ เหี้ยน้อยหอยสังข์ ^^
สลิ่ม: เรื่องเดียวกันมั๊ยไอ้เชี่ยยยยยยยยเมตรรรรรรร!!!!
บี้: มึงมาซะเรื่องกรูเปลี่ยนเลย ไอ้หอกหัก!!
เมตร: ก็เมียกรูมันน่ารัก :-[
สลิ่ม:ไอ้ฟายยยยย >////<
ข้าว: มันผิดตั้งแต่ดึงสลิ่มมันมาเล่นด้วยล่ะ เอาเมียเค้ามาผัวปัญญาอ่อนมันก็ต้องมาด้วยอยู่แล้ว ไม่เหมือนคู่เราเน๊อะต้าร์เน๊อะรักกันๆๆๆ
ต้าร์ : ใช่ๆ ข้าวว่างัยเค้าก็ว่างั้น รักกันๆๆๆ :impress2:
พี: คุณต้าร์คุณข้าวครับให้มันน้อย ๆ หน่อยเหอะคับ ไอ้ห่าเมตร มัวแต่ยืนยิ้มปัญญาอ่อนอยู่ เมียมึงหนีไปโน่นล่ะ อ่ะ!!อีนี่ก็อีกคนเป็นห่าอะไร ไอ้เมตรมันผัวมึงรึงัยยืนเขินปัญญาอ่อนอยู่ได้
ทัวร์: ชิร์!ไอ้พี่พีบ้า ไอ้ผัวตายด้าน ไอ้อารมณ์โรแมนติกเอ็กส์ปาย!! อารมณ์เสีย :serius2:
ขนม: พี่สลิ่มรอขนมด้วย :oni1:
ทาย: ขนมค๊าบบบ เรามาดูหนังกันไม่ใช่หรอค๊าบ อย่าไปยุ่งกับ..เค้า...เรย อ้าวไปโน่นล่ะ เฮ้อ~~~ :undecided:
ปาน: พี่แสบไม่คิดจะออกความคิดเห็นอะไรกับคนอื่นเค้ามั่งรึงัย
แสบ: #เหล่ตามองปาน# ถ้ามึงคิดจะทำปัญญาอ่อนอย่างพวกนั้น กรูบอกไว้เรยชัด ๆ นะว่า "กรูจะหาเมียใหม่"
ปาน: อึ๊ยยย ไอ้พี่แสบมึงกล้าหาเมียใหม่หรอห๊ะ!! นี่แน๊ะๆๆๆๆๆๆ!!!
แสบ: โอ๊ย!!!! ปานแมร่งหูกูจะหลุดแล้ว โอ๊ยยยยยยยยยๆๆๆ
บี้ : :angry2: เมิงจะพากันเข้ามาทำให้ปั่นป่วนทำเชี่ยไรกันห๊า!!!
ไม่เม้นเนื้อเรื่องแต่อยากเสือกกับบทส่งท้าย เอาแมร่งมาหมดเรยมีไรป่ะ :laugh5:
-
เอาละไงๆ :เฮ้อ:
-
หนูว่าน้องกัสปฏิเสธพี่หมีแน่นอน :m16:
ก็น้องกัสแกยังแลสับสน แล้วนี่เพิ่งโดนเซ็นปล้นหอมไปด้วย
ปฏิเสธกัสแน่ ๆ อ่ะ
แต่อยากให้หมีพอโดนกัสปฏิเสธแล้วหมีตีตัวออกห่างกัสอ่ะ
เราเป็นโรคจิต ชอบเห็นนายเอกกระวนกระวาย อิอิอิอิ
-
ค้างอ๊ากกก
คบกันไหม
-
ใจคนเรายากแท้หยั่งถึงน้อ :z3:
จริงๆเชียร์พี่หมีสุดใจเลยนะคะ แต่คิดว่า ถ้ากัสตอบรับทันทีนี่...จะกลายเป็นนิยาย 4 ตอนจบเลยป่ะ 555
สงสัยจะมีอะไรให้ลุ้นหนักตอนหน้าแฮะ
-
กรี๊ด!!!! :angry2:
ทุบโต๊ะ :serius2:
พี่เซ็นเดาใจยากกว่าพี่หมีอีกอะ o18
-
หลิ่มมมมมมมมนะจุดนี้ๆพูดจาถูกใจพี่มากค่าาาาาาาาา !@#$%^&*()_% ค้างขนาดนี้ไม่ไหวจะกรีดร้องละ
555 อ่านก็ก็ร้องไป ร้องด้วยความเจ็บปวด อยากจะเข้าไปปลอบใจพี่หมี กัสเอ๋ยยยย จนป่านนี้ยังเ้ลือกไม่ได้อีกหรอ
ผช แสนดีแบบนี้ไม่ได้มีทั่วไปนะค่าาา หายากแล้วนะ ณตอนนี้นะ รีบๆตัดสินใจก่อนพี่จะเข้าไปแย่งพี่หมีนะค่า
-
:z3: :z3:ยาวววววววดีแท้แต่ก้อค้าง. ขอบคุณพี่บี้ค่าาาาา
-
ขอเชียร์พี่หมีสุดใจอ่ะ
-
:serius2: :serius2: :serius2:
-
น้องสลิ่มพูดถูกใจ!! 55555
กัสเอาซักคนเถอะนะ ถ้ายังชอบพี่เซ็นก็ปล่อยพี่หมีไปเถอะ สงสารพี่หมีอะ :z3:
-
สงสารพี่หมี ต้องเห็นแน่เลย
-
มันค้างงงงงงงงงงง้างงงงงงงง้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง ;[] ;
ในใจก็อยากให้กัสคู่กับพี่เซ็นนะแต่ตอนนี้.. พี่หมีก็ได้ฮ้า T^T
-
เราว่ากัสต้องปฎิเสธแน่เลย
เชียร์เซ็นนะ แต่อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาจะไหล
สงสารพี่หมี
-
หูยยยยยยยย กัสจะตอบว่าไง
อย่าปฏิเสธพี่หมีเลยนะ
-
ปวดใจแทนกัสจัง :sad4:
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงอะ :z3: :z3:
คบกับพี่หมีเหอะ เอาจิงๆแล้วกัสนะชอบพี่หมีไปแล้วจิงๆๆ เพราะว่าดูแลกันและกันมาตลอดๆนะ
แต่กับพี่เซ็นอาจจะเป็นความปลื้มไง ปลื้มคนนี้มานานเลยคิดว่าต้องชอบ
แต่จิงๆๆแล้วก็ไม่ได้ชอบเท่าพี่หมีอะ
แต่กัสจะรู้ตัวเองไหมอะ เชียร์ๆๆพี่หมีนะ
-
:mc4: มาเชียร์พี่หมี อยากให้พี่หมีเป็นพระเอกกกกกกกก
น้องกัส ตกลงไปเลยหนู ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ! :angry2:
-
กัสอย่าปล่อยพี่หมีไปจนไม่มีเวลารับโทรศัพท์ทั้งคืนละ
-
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนจริงๆแล้วกัสชอบพี่หมี แต่คิดว่าตัวเองชอบพี่เซ็นอ่ะ
แบบมีหงมีหวงกันด้วย
เห้อ.. แต่ยังไงก็จะยังเชียร์พี่เซ็นต่อไป เพราะชอบคนแบบพี่เซ็น -///-
-
เบบี้ที่รักก
เค้ารักพี่หมี... :L2:
ให้พี่หมีสมหวังนะ พี่เซ็นกระล่อนอ๊ากกก
หมีกัสนะ พลีสส
-
โอ้ะ ค้าง
เห็นด้วยกับสลิ่มเลย
วอทแฮพเพ่นนนนน ทำไมพี่หมีเย็นชาใส่น้องกัสแบบนี้ละ :z3:
สลิ่มมาคอมเม้นแบบนี้คิดถึงเมตรสลิ่มจังเลย :กอด1:
-
เชียร์พี่หมีนะคะ แต่เหมือนจะไม่ได้เป็นพระเอกใช่ม้า ฮือออออ
คำตอบต้องเป็นโอเคแน่ๆเลย
-
แล้วตกลงจะเอายังไงวะกัส
เข้าใจนะ ว่า หวง เป็นแค่อาการหวงของอ้ะ
แต่ว่าพี่หมี ก็ชัดเจนสุดๆแล้วอ่ะ
ถ้าจะไม่เอาก็บอกไปเลยดิวะ หรือจะเอา ??
พี่เซ็นก็ดูคาดหวังอะไรไม่ได้ (ยังไม่อะไรเลย)
ก็อยู่กับคนที่ชัดเจนดีกว่ามั้ยอ่ะ?
(แล้วก็คิดแทนเค้าทำไม??)
ฮึกกกก
คาใจ !!!
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ค้่างอ่ะ
อะไร ๆ ทำไมแบบนี้ อยากรู้ว่ากัสจะตอบยังไง
แต่ก็ยังไม่น่าจะใช่
ทำไงดีๆ ตบตีสลิ่มคั่นเวลา ฮ่าๆๆๆ
-
เชียร์พี่หมีค่ะ พี่เซนแกเจ้าชู้ไป
แอบอิจฉากัสเบาๆ รอตอนต่อไปจ้า
-
พี่หมีรุกหนัก นึกภาพพี่แกบอกว่าคบกันมั๊ย แบบหน้าริ่งๆ แล้วแอบฮา
สรุปกัสชอบใครกันแน่น้า
แต่ว่าเหมือนเด็กน้อยจริงๆ
-
เค้าเชียร์พี่หมีอ่ะ :3123: สู้ๆ o13
:pig4: นะคะ
-
เชียร์พี่หมี
แต่ขอเดาว่าพระเอกคือพี่เซ็น
:undecided:
-
อ่านตอนนี้จบ สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือเดาส่ง
เดาส่งๆเอาทั้งเรื่อง 5555 ไปต่อไม่ถูกจริงๆ สับสนพอๆกับน้องกัสเลยค่ะ
ไม่รู้จะยังไงกับทั้งพี่หมีหรือพี่เซ็นดี
แรกๆเอนเอียงไปทางพี่เซ็น แต่พออ่านไปอ่านมา พี่หมีละกัน กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ ^^ รอติดตามต่อออ :pig4: :กอด1:
-
หรือพี่หมีจะเป็นคนดีที่ไม่ได้ใจ :impress3:
ไม่เอาน้า เปลี่ยนให้คนดีได้บ้าง แหวกแนวเนอะๆๆ เอ๊ะยังไง 5555
-
วิ่งไปซบสลิ่ม แบบว่ามันค้างมากกกก
"เห็นแก่ตัว" ฉึกๆ o18
คิดถึงเบบี้มาก :กอด1:
-
เบบี้ อ๊ากกกกกกกก มาต่อแล้ว อ่านเรื่องนี้แล้วลุ้นยิ่งกว่าภาคก่อนๆอีกอะ ฮืออออออ ร้องไห้เป็นเพื่อนสลิ่ม มันค้างมากกกกก อ่านแล้วเราคิดว่ากัสชอบพี่หมีไปแล้วนะ อาจจะถึงขั้นรักเลยล่ะมั้ง แต่เพราะน้องยังไม่เคยมีความรักมาก่อนรึเปล่าก็เลยสับสนแบบนี้ รักกับปลื้มมันต่างกันแค่นิดเดียวจริงๆ อยู่ที่ว่าใครจะสามารถแยกมันออกได้ กัสทำแบบนี้มันเหมือนให้ความหวังพี่เค้าอะ คุยกันยิ่งกว่าแฟนอย่างที่เพื่อนกัสว่าจริงๆน่ะแหละ เหมือนที่พี่หมีเป็นแบบนี้เพราะได้คุยกับพี่เซ็นมาด้วยรึเปล่าอะ และพี่แกคงจะเจ็บจนทนไม่ไหวก็เลยเย็นชาแบบนั้น เห้อ แต่น้องยังสับสนอยู่นี่นะ คำตอนมันก็เหมือนเดิมอยู่ดีอะ คงต้องมีเหตุการณ์มากระตุ้นอะ อะไรๆจะได้ชัดเจน ส่วนพี่เซ็นเราว่าพี่แกชอบกัสนะ เพราะดูจากระดับการแกล้งหยอกแล้วมันถึงเนื้อถึงตัวมากกว่าเค้กอีกอะ แค่ก็เดาแกไม่ออกอีกอยู่ดี ว่าถ้าชอบแล้วทำไมถึงไม่จริงจังซักที เหมือนเรื่องมันต้องมีอะไรสักอย่างที่ยังไม่กระจ่างอะ โอย สรุปก็ไม่แน่ใจอยู่ดีว่าใครคือพระเอก แต่เราเชียร์พี่เซ็นนะ >.<
-
:m15: รักกับผูกพันธ์ ลำบากใจอินเหมือนกับว่าตัวเองเป็นกัส
o13
-
ความรู้สึกแบบนี้ หนูกัสไม่รู้สึกหรอก เพราะหนู.... :z2:
มารอดูการหักเหลี่ยมของผู้ชายสองคน คนหนึ่ง เล่นไปเรื่อยอีกคน จริงจังแต่เก็บงำ
+1 ให้กับการรอคำตอบจาก หนูกัส ว่า OK ตามคำขอหรือเปล่า :กอด1:
-
รออ่านต่อค่ะ เอาใจลุ้นกับกัส ^^
-
อย่าลังเลสิกัส
จัสเซย์เยส! โลดเลยลูก o7
ปล.ขอค้างกับหลิ่มน้อยด้วยคนสิ :impress2:
-
ค้างเว้ยเฮ้ยยยย
เชียร์พี่หมีอย่างต่อเนื่องงง
-
เชียร์พีหมีเพราะเค้าชอบพี่หมี กร๊ากกกก
เอ๊ะ...หรือจะเชียร์เป็น สามพี ดีเนอะ ฮิ ฮิ :impress2:
:pig4:
-
"คบกันไหม" พี่หมีพูดครั้งนี้แล้วให้ความรู้สึกว่า
ไม่ได้พูดพล่อยๆ ดูจริงจัง
กัส จะว่ายังงัยถามใจตัวเองให้ดี ถ้าไม่รู้สึกอะไร
บ้างก็คงไม่แคร์ว่าพี่หมีจะเป็นยังงัยหรอกจริงมั้ย
คิดให้ดีก่อนตอบนะ :กอด1:
-
รอลุ้นคำตอบตอนหน้า
ว่ากัสจะตอบว่าไง :m1:
-
เห็นด้วยกะสลิ่ม มันค้่าง!!!!
ตอนนี้สงสารพี่หมีเป็นที่สุด กัสเห็นแก่ตัวจริงๆนั่นแหละ ไม่รักแต่ก็ยื้อไว้อยู่นั่นแหละ
ผู้ชายอย่างพี่หมี ถ้าไม่รักจริงๆคงไม่ขอคบตั้งหลายครั้งหรอก
-
:sad4: :sad4:
:กอด1:
-
น้องกัสนี่ทำพี่หมีของขึ้นจริงๆ อย่างนี้ต้องโดนลงโทษนะ จับตัวไว้ให้ได้อย่าให้เพ้อถึงพี่เซนเลย ท่าทางพี่แกแค่อ้อล้อให้น้องกัสจิตหลุดเฉยๆ น่าเป็นห่วง เราเชียร์พี่หมี :mc4:
-
เศร้ากันต่อไป สงสารพี่หมีเหมือนกัน
ปล. คิดถึงสลิ่ม
-
กัส เลือกสักทางเถอะนะ สงสารพี่หมีนะ ทำแบบนี้อ่า
มันให้ ความหวังกันชัดๆเลยนะ
แถมยังไม่ให้โอกาศ พี่หมีไปหาคนอื่นอีก ทั้งๆทีตัวเองก็คิดกับพี่หมี เกินกว่านี้ไม่ได้แล้วอ่า
-
สงสารหมีรักน้องงงง
-
กัสแยกแยะให้ออกระหว่าง คนที่ดีกะคนที่รัก
ถึงแม้ไม่รักแต่กั๊กไว้เพราะกัสเอาเป็นพวกเอาแต่ใจชอบให้มีคนห้อมล้อม
พี่หมีที่คอยไปรับ ไปส่งเอาใจสารพัด
กับพี่เซ็นที่คอยแกล้งตล๊อดๆ พูดจาน่า :z6: กับน้องและไม่แสดงออกแบบชัดเจนน้องเลยไม่เข้าใจ (รึป่าว)
แต่กัสรู้ป่าวพวกเด็กผช มันชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบไม่ใช่หรอ
ถ้ากัสไม่เชื่อโทรไปถามไอ่หลิมมันดูสิ มันรู้ดีกว่าใครเพราะมันโดนไอ่พี่เมตรแกล้งตลอดๆๆๆ (แต่แล้วก็ต้องเป็นฝ่ายยอมหลิมตลอดเหมือนกัน)
อะไรนะ......ที่เราพิมพ์ทั้งหมดนี่้กัสไม่เชื่อเลยหรอ
ไม่เปงไร เอาเป็นว่าอย่าลืมโทรหาไอ่หลิมละกัน :m20: :m20:
-
ปวดใจชะมัด เหอะๆ :เฮ้อ:
-
อ๊ากกกกกกกกก ฉันว่าแล้ว
พี่หมีคิดไม่ซื่อจริง ๆ ด้วย :z3:
แต่ก็เข้าใจกัสนะ จากที่อ่านมาเนี่ย ก็เลือกยากนะ
พี่เซ็นก็อยากได้ พี่หมีก็อยากให้เอา กรี๊ดดดดดด :m31:
กรี๊ดดดดดดดดดด พี่บี้ทำอะไร?
จบก็ค้าง สร้างตัวเลือกมาให้เลือกยากอีก
เลือกยากกว่าคู่อาฟ้ากับทิกเกอร์อีกกกกก
เลือกเชียร์ไม่ถูกอะ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
3P ได้ไหมกัส? กัสไหวไหม? แต่พ่อกัสคงหัวใจวาย
ลูกชายเป็นเกย์ แถมไม่พอมีสามีสองคน กรี๊ดดดดดด
หรือจะลุ้นกัสตาย เซ็นหมีได้กันดี นึกแล้วขนลุกแปลก ๆ
หรือจะเป็นแบบกัสเจอคนใหม่ เซ็นหมีได้กัน ฮึ่ยยยยยยยย
โอ๊ยยยยยยย คิดแล้วปวดหมองที่สุดดดด :serius2:
ปล่อยตามเวรตามกรรม แล้วแต่ท่านพี่บี้บัญชาเลยแล้วกัน
นี่ไม่เคยเม้นท์นิยายเรื่องไหนยาวขนาดนี้เลยนะเนี่ย
เม้นเรื่องนี้ยาวที่สุดแล้ว แบบว่าอ่านแล้วมันอินนน
แล้วพี่บี้ก็ปิดเพจไปแล้ว เลยไม่มีที่ระบาย ๕๕๕
-
พี่หมีกะพี่เซ็นต้องคุยอะไรเรื่องกัสแน่เลย
ไม่งั้นพี่ตมีไม่เป็นแบบนี้แน่นอน แล้วอีกอย่างไม่อยากให้กัสปฏิเสธพี่หมีเลย
น้องกัสเลิกชอบพี่เซ็นเถอะ
-
~4~
“คบกันได้ไหม..”
ผมชะงักมองหน้าพี่หมีด้วยความอึ้งและตกใจ อยู่ๆพี่หมีก็พูดขึ้นโต้งๆอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย พี่หมีจ้องหน้าผมเขม็ง เป็นสายตาที่จริงจังและรับรู้ได้ว่าไม่ได้พูดเล่นอย่างแน่ชัด ผมก้มหน้าหนีสายตาคู่นั้น ผมไม่อยากพูดปฏิเสธ เพียงแค่คนคนนี้ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า..ผมอยากปฏิเสธออกไปแต่กลับปฏิเสธไม่ลง มันคล้ายความรู้สึกผิดที่ไม่สามารถกระโดดข้ามไปได้
“คือว่า..คือว่ากัส” ผมอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะหาคำตอบไหนไปตอบพี่หมีดี ผมยอมรับว่าผมรู้สึกดีกับพี่หมี รักพี่หมี เป็นห่วงพี่หมีหรือบางครั้งเราก็เอาใจใส่กันมากเกินกว่าพี่น้อง แต่ผมยังไม่พร้อมจริงๆ ตอบปัดไม่ได้ว่าผมยังอยากให้เราเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆก่อน ในตัวของพี่หมีมีหลายอย่างที่ผมชอบแต่มันน่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกว่าชอบในทางคู่รักอย่างที่ควรจะรู้สึก
“คือว่ากัส” ผมยังย้ำอยู่คำเดิมกลับไปมา
“หึ..ไม่เป็นไรครับ” พี่หมีพูดขึ้น
“พี่ก็ พูดไปงั้น..” พี่หมีว่าส่งๆ ผมเงยหน้าขึ้นมอง พี่หมีหันหน้าไปอีกทาง
“พี่หมี” ผมเรียก พี่หมีนั่งเงียบ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มบนใบหน้านั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัว
“พี่รู้ว่ามันอาจจะเร็วไป..พี่ก็ไม่อยากล้ำเส้น งั้นกัสเองก็อย่าล้ำเส้นพี่ด้วยเหมือนกัน” พี่หมีหันมาพูดเหมือนกับต่อว่า ผมกำมือเข้าหากันแน่นด้วยรู้สึกกลัวขึ้นมา
“คนเราก็มักจะอยากได้ในสิ่งที่ต้องการกันทั้งนั้น พี่เองก็ด้วย” ผมนั่งเงียบ ได้แต่รีบพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“กัสขอโทษ..กัสจะไม่ห้ามพี่หมีแล้ว กัส..กัสแค่เป็นห่วง” ผมพยายามพูดออกไปเสียงเบา พี่หมียังคงเงียบ
“ฝันดีนะฮะ ขับรถกลับดีๆ..เมาก็อย่าขับนะครับ” ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มให้พี่หมีเล็กน้อยก่อนจะรีบลงออกมาจากรถในทันที ผมรีบวิ่งเข้าบ้านโดยไม่ได้หันกลับไปมองอีกว่าพี่หมีขับรถออกไปเลยหรือเปล่า หรือยังจอดอยู่อย่างนั้น..
“กัส” ผมหันไปมองทางห้องนั่งเล่นเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากพี่ก้องที่มาจากทางด้านนั้น
“กลับดึกจังนะ วันนี้มีเรียนพิเศษเลิกเร็วไม่ใช่รึไง” พี่ก้องพูดหน้าเครียด ผมรีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับเข้าไปกอดพี่ก้องในทันที พี่ก้องนิ่งไปคงเพราะตกใจ
“เป็นอะไรหื้ม” พี่ก้องลดน้ำเสียงลงแตกต่างจากเมื่อกี้ถนัด
“เปล่า” ผมตอบ เอาหน้าซุกอยู่ตรงหน้าอกของพี่ก้องพร้อมกับส่ายหัวไปมา พี่ก้องหัวเราะเบาๆ
“ถ้าเปล่า งั้นก็ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าแล้วเข้านอนซะ” พี่ก้องพูดอย่างอ่อนโยน
“อะไรของสองคนนี้น่ะ เกิดอะไรขึ้นรึไง” ผมหันหน้ากลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงของพ่อ พี่เกตุเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นพร้อมกับพ่อ
“เปล่าสักหน่อย” ผมรีบบอกปัดทั้งทั้งที่ยังคงกอดพี่ก้องอยู่อย่างนี้
“เมื่อไหร่แกจะโต แล้วนี่อะไร..กลับบ้านดึกดื่น” พ่อพูดหน้าเข้มเหมือนไม่พอใจ
“.................” ผมหันหน้าหนีพ่อมาอีกทางด้วยไม่อยากต่อปากต่อคำ
“กัส” พี่ก้องย้ำเสียงปรามการกระทำของผมที่ชอบแข็งข้อกับพ่อ ที่จริงทุกคนในบ้านน่าจะชินมากกว่านี้ ขนาดผมยังชินที่มีพ่อนิสัยแบบนี้เลย
“เพราะแกไปตามใจมันอย่างนี้ไงไอ้ก้อง มันถึงได้ไม่เห็นหัวฉัน” พ่อพูดว่า
“ป๊าคะ”
“ป๊าไม่ต้องมาหาเรื่องกัสเลย” ผมหันกลับไปว่าด้วยรู้สึกอดไม่ได้
“นี่ไอ้กัส” พ่อขึ้นเสียงเล็กน้อย
“ไม่เห็นรึไงว่ากัสกำลังเศร้าอยู่อ่ะ ป๊าอะไรๆก็ให้เข้มแข็งๆ..กัสเหนื่อยนะ กัสเป็นลูกป๊านะ..แล้วกัสก็คือกัส ไม่ใช่ป๊าสักหน่อย” ผมว่าก่อนจะปล่อยแขนออกจากตัวพี่ก้อง หน้าของพ่อเริ่มดึงดันมากขึ้นเรื่อยๆ
“นี่ฉันคงตามใจแกมากจนเคยตัวสินะ..ถึงได้กล้ามาขึ้นเสียงกับฉันอย่างนี้” พ่อกัดฟันพูดเสียงเย็น
“ป๊าอะนะตามใจกัส ที่ทำอยู่นี่เค้าเรียกว่าตามใจเหรอฮะ” ผมว่ากลับอย่างไม่ยอม
“กัส!” ผมสะดุ้งที่พี่ก้องขึ้นเสียงใส่
“ทำไมวันนี้ต้องมีแต่คนดุกัสด้วย” ผมกระแทกเสียงดัง
“อยู่นอกบ้านก็มีแต่คนดุ กลับมาบ้านก็มีแต่คนดุ..กัสเบื่อ!” ผมตะโกนว่าด้วยรู้สึกน้อยใจอะไรหลายอย่าง ไม่มีใครคิดจะถามผมก่อนสักคำว่าผมเป็นยังไงบ้าง งานหนักรึเปล่าหรือเรียนพอไปได้ไหม..น่าเบื่อชะมัด ผมรีบวิ่งขึ้นมาบนบ้านและตรงเข้าห้องนอนของตัวเองในทันที ไม่นานพี่ก้องก็มาเคาะห้องเรียกให้ผมลงไปทานข้าว แต่ผมไม่ยอมเปิดประตูและได้แต่บอกพี่ก้องไปว่าไม่อยากทาน หลังจากนั้นพี่ก้องก็ไม่มาตามอีกเลย
= = = = = = = =
07:00 น. ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
วันนี้ผมลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้าทั้งที่วันนี้ผมไม่มีเรียนเพราะอาจารย์ยกเลิกคราสเนื่องจากว่าลูกของเธอป่วย ผมลุกขึ้นมาช่วยแม่บ้านทำอาหารเพราะเมื่อคืนผมคิดได้ว่าผมคงเอาแต่ใจกับพ่อมากไปเสียหน่อย ที่จริงผมต้องงอนพ่อให้มากกว่านี้แต่ผมคิดว่าพ่อก็น่าจะงอนผมด้วยเหมือนกัน อีกอย่างหนึ่งผมก็หายดีแล้ว ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะนอนคิดเรื่องพี่หมีจนหลับไป แต่ผมก็คิดได้ว่าเรื่องทั้งหมดทั้งมวลผมเองก็ผิดเหมือนกัน
ผมมีเวรที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ตอนบ่าย ผมคิดมาตลอดคืนว่าผมจะทำอย่างไรต่อไปดี ผมรู้ว่าพี่หมีโกรธ อาจจะเพราะผมล้ำเส้นเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวหรืออาจจะเพราะผมเห็นแก่ตัวที่หวงพี่หมีมากเกินไปก็ได้ นั่นล่ะ..ทางออกของปัญหาที่ผมควรจะทำให้พี่หมีกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“วันนี้คุณกัสลุกมาช่วยป้าทำอาหารแต่เช้าเลยนะคะคุณท่าน” ป้าสร้อยพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารระหว่างที่เธอกำลังตักข้าวต้มเสิร์ฟให้แต่ละคน ผมเหลือบมองพ่อเล็กน้อย พ่อจ้องไปที่อาหารก่อนจะคลี่ผ้ากันเปื้อนออกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“แม่จะทานได้ไหมเนี่ย” แม่พูดแซว
“คุณแม่อ่ะ” ผมว่า ปกติผมไม่ใช่คนชอบทำอาหาร ผมชอบทานมากกว่าจะชอบลงมือทำ ถึงแม้ว่าผมจะทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแต่ผมก็ไม่มีฝีมือหรือหัวทางด้านนี้เอาเสียเลย ถ้าทำโดยไม่มีคนควบคุมอยู่ด้วยอาหารก็จะเละเทะทุกรอบไป
“ป๊าลองทานสิคะ น้องอุตส่าห์ลุกมาทำแต่เช้านะเนี่ย” พี่เกตุยิ้มกว้างพูดชงให้ผม ผมยิ้มให้พี่เกตุกับพี่ก้องด้วย
“ทำเพราะแก้ความผิดน่ะสิ คงจะกลัวว่าจะไม่ได้เงินค่าขนม” พ่อพูดเสียงเรียบ
“ป๊าอ่ะ” ผมว่า พ่อเหลือบสายตามามอง ผมหันหน้าหนีด้วยรู้สึกงอนอีกครั้ง
“คนอุตส่าห์ลุกมาทำให้” ผมบ่นอุบอิบคนเดียว
“นี่” พี่ก้องปราม
“ว่าแต่กัสไม่โต ป๊าก็ทำตัวไม่โตเหมือนกันแหละ..งอนกัสอยู่ได้” ผมว่าบ้าง แม่เหลือบตามองอย่างห้ามปรามแต่หน้าของแม่กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“หึ..” พี่ก้องหลุดหัวเราะเบาๆ
“ตกลงแกเป็นลูกหรือแกเป็นพ่อฉันห๊า” พ่อว่าตาขวาง ผมไม่กลัวเพราะปกติพ่อก็ไม่ค่อยจะยิ้มอยู่แล้ว
“คุณนี่ก็” แม่ปราม
“เพราะคุณนั่นแหละ เลี้ยงมันตามใจ..ดูมันสิไม่โต อ้อนแต่พี่ เอาแต่ใจ ใช้เงินก็เก่ง มันจะไม่เห็นหัวผมอยู่แล้ว” พ่อเริ่มฟื้นฝอยทันที
“ก็คุณอนุญาตเองว่าฉันจะเลี้ยงยังไงก็ได้นี่ หรือคุณจะเลี้ยง..ก็คงไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกน่า” แม่พูดว่าพร้อมกับเริ่มตักอาหารขึ้นทานอย่างไม่สนใจพ่อ ผมยิ้มกว้างที่เห็นแม่เข้าข้าง พอพ่อหันมาค้อนใส่ ผมเลยต้องหุบยิ้มลงทันที ศึกเริ่มสงบลงเมื่อพ่อโดนแม่เบรกเมื่อกี้
“ไอ้ก้อง” อยู่ๆพ่อก็หันมาเรียกพี่ก้องแทน
“ครับ” พี่ก้องขานตอบ
“วันเสาร์นี้ทำตัวให้ว่างไว้ด้วยล่ะ ฉันจะให้แกไปพบกับลูกสาวเพื่อนฉัน” พ่อเปลี่ยนเรื่องขึ้นโต้งๆ แม่กับพี่เกตุชะงัก ผมเองก็ด้วยเพราะทราบดีว่าประโยคนี้หมายความว่าอย่างไร พี่ก้องผลัดพ่อมาหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งก็รอดมาได้แต่ครั้งนี้ไม่น่าจะรอด
“เอ่อ” พี่ก้องอ้ำอึ้งด้วยสีหน้าเหรอหรา ปกติพี่ก้องไม่เคยขัดอะไรพ่อ พี่ก้องเชื่อฟังพ่อกับแม่มาตั้งแต่เด็ก พ่อเห็นดีเห็นงามอะไรพี่ก้องก็จะตามน้ำเสมอ
“ป๊าอย่ามายุ่งกับพี่ก้องนะ” ผมว่าขึ้น ถ้าครั้งนี้ผมไม่ออกโรงช่วย มีหวังพี่ก้องได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เป็นแน่ แน่ล่ะว่าถึงเธอจะเพียบพร้อมมากแค่ไหน แต่ถ้าเธอนิสัยแย่ ผมเองก็คงไม่อยากได้พี่สะใภ้แบบนั้น
“นี่มันไม่ใช่เรื่องของแก” พ่อว่าใส่ทันที
“มันเรื่องของกัสแน่นอนอยู่แล้วฮะ คนนี้คือพี่ชายคนเดียวของกัส เราเนี่ย..เกิดจากอสุจิของป๊าและไข่ของแม่ที่ผสมเข้าด้วยกันแล้วฟักออกมาเป็นมนุษย์อย่างเราสามคน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันและหน้าเชิดอย่างไม่ยอม พี่เกตุนำนิ้วมาจิกแขนผมอย่างต้องการปรามจนผมรู้สึกเจ็บไปหมด แต่นี่ไม่สามารถทำให้ผมหยุดได้หรอกนะครับ
“..และแน่นอนว่าถ้าพี่ก้องไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้น กัสก็จะไม่ให้ป๊ามายุ่ง..แน่นอนอีกนะครับว่า เด็ดขาด..ครับผม!” ผมเข้าไปกอดแขนพี่ก้องไว้ พี่ก้องหน้าเสียยิ้มแหยให้พ่อพร้อมกับวางช้อนลงบนชามอย่างช้าๆด้วยความเกรง
“นี่ไอ้กัส แกจะไม่ขัดใจฉันสักเรื่องได้ไหม” พ่อกัดฟันว่า คงเพราะรู้สึกเสียหน้า ทั้งแม่ ทั้งพี่ ไหนจะคนรับใช้ที่ยืนหน้าสลอนอยู่อีก
“ไม่ได้ครับ” ผมเชิดหน้าใส่ไม่เลิก
“คุณไม่เห็นคุยเรื่องนี้กับฉัน” แม่ถามขึ้นเสียงเย็น
“ผมได้หาคนที่คู่ควรและเหมาะสมให้แน่นอน” พ่อพูดตัดบท แม่เงียบและทานอาหารต่อ
“คนที่เหมาะสมกับพี่ก้องก็คือคนที่พี่ก้องเลือกเองครับคุณป๊า กัสไม่ยอมแน่..ป๊าอยากเสียหน้าก็เอา” ผมพูดอย่างลองดี พ่อเบิกตาโตกว่าเดิมคงเพราะโมโหผมมาก ผมยอมพ่อมาตลอด อะไรที่พ่อไม่ชอบผมก็จะไม่ขัดใจหรืออาจจะมีขัดใจบ้างบางครั้ง แต่ทุกการกระทำของผมจะระวังและประนีประนอมให้พ่อเสมอมา ซึ่งถ้าสิ่งไหนที่ไม่เหมาะไม่ควรผมก็มักจะไม่โต้แย้งเลยถ้าไม่จำเป็น ก็บอกไม่ได้นะครับว่าผมมีแม่และพี่ๆคอยหนุนหลังอยู่ แต่ทุกคนก็เกรงใจพ่อเกินไป เกินกว่าที่ผมจะยอมได้ทั้งหมดนะครับ
“ไปครับพี่ก้อง ไม่ต้องทานแล้วฮะ..ไปกับกัสดีกว่า” ผมหยิบผ้ากันเปื้อนออก วางมันไว้บนโต๊ะพร้อมกับดึงแขนพี่ก้องให้ลุกขึ้นตามมาด้วย
“เอ่อ..” พี่ก้องหน้าเหรอหราเหมือนทำตัวไม่ถูก
“ไอ้กัส!” พ่อขึ้นเสียงดังกว่าเดิม
“สวัสดีครับคุณแม่ สวัสดีครับพี่เกตุ สวัสดีครับคุณป๊า” ผมทำเสียงประชด ยกมือไหว้เรียงคนอย่างต้องการกวนอีกฝ่าย และก็ดึงแขนพี่ก้องให้เดินออกมาจากห้องอาหารในทันที
“กัสไปทำแบบนั้นกับป๊าได้ยังไง” พี่ก้องว่า
“หรือพี่ก้องจะไปดูตัว..ปัดโถ่” ผมหันหน้าหนี พี่ก้องเงียบเหมือนเถียงไม่ออก
“ไปส่งกัสที่ร้านหน่อยครับ ที่จริงวันนี้กัสมีเวรบ่าย..แต่คงอยู่บ้านไม่ได้แล้วล่ะเดี๋ยวได้โดนป๊ากินหัวกันพอดี” ผมหัวเราะ พี่ก้องยิ้มเล็กน้อย
“เดี๋ยวกัสขึ้นไปเอาของก่อนนะครับ” ผมบอก พี่ก้องพยักหน้า ผมรีบวิ่งขึ้นมาเอากระเป๋าที่บนห้องก่อนจะวิ่งไปที่ห้องครัวเพื่อนำขนมฝอยทองที่ผมลุกขึ้นมาช่วยป้าสร้อยทำเมื่อเช้ามืดนี้ ผมตั้งใจทำโดยเฉพาะเพราะผมจะนำขนมชิ้นนี้ไปง้อพี่หมี มันเป็นของหวานอันดับหนึ่งที่พี่หมีชอบทานน่ะครับ
= = = = = = = =
ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“พี่ก้องนั่งโต๊ะนี้ก็แล้วกัน” ผมพาพี่ก้องมาทานอาหารที่ร้านก่อนที่จะให้ไปทำงาน
“เดี๋ยวกัสเอาเมนูมาให้” ผมบอก ตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าสักคนผมจึงทำตัวได้ตามสบายไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก พี่ก้องพยักหน้าก่อนจะมองไปรอบตัวร้าน นานๆครั้งพี่ก้องถึงจะมาทานอาหารที่ร้านนี้ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้มาหรอกครับเพราะพี่ก้องเองก็งานยุ่งมาก
กริ๊ง~
“อ่าว กัส” พี่ซีทักทันทีที่เห็นผม
“วันนี้พี่ซีมาทำไมฮะ แล้วเข้าหน้าร้านเดี๋ยวก็โดนบ่นหรอกครับ” ผมว่า
“ชู่..พี่ยังไม่ได้ย้ายรถน่ะ พี่ฟ้าให้มาช่วยตรวจบัญชีของเมื่อวาน” พี่ซียิ้มตอบก่อนจะละสายตาจากที่มองผมอยู่เหลือบไปอีกทางทำให้ผมเห็นว่าพี่ซีหันไปมองก้อง
“อ๋อ..พี่ซีนี่พี่ก้องพี่ชายสุดที่รักของกัสเอง” ผมรีบแนะนำ
“แล้วนี่ก็พี่ซี เป็นน้องสาวของพี่เซ็นที่กัสเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆไง” ผมบอกพี่ก้อง พี่ก้องรู้จักกับพี่เซ็นดีแต่พี่ก้องไม่เคยได้เจอกับพี่ซีตัวเป็นๆเลยสักครั้ง ทั้งสองคนคลาดที่จะได้เจอกันตลอด
“สวัสดีค่ะ” พี่ซียกมือไหว้
“สวัสดีครับ” พี่ก้องลุกขึ้นยืนก่อนจะรับไหว้ตอบด้วยท่าทางเคอะเขิน
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ วันนี้คงอยู่ที่นี่ถึงเย็นเลย..ไม่มีอะไรทำ” พี่ซียิ้มบอก
“ฮะ..กัสก็เหมือนกัน” ผมบอกก่อนพี่ซีจะเดินไป ผมหันกลับมามองพี่ก้องที่ยืนนิ่งเงียบมองตามพี่ซีจนลับตา ผมอึ้งกับภาพตรงหน้าที่เห็นพี่ชายยืนแข็งทื่ออย่างกับต้นไม้อย่างนี้ พี่ก้องยืนนิ่งพร้อมกับมีรอยยิ้มบนใบหน้า ผมคิดว่าพี่ชายผมกำลังหลุดเข้าไปในภวังค์แล้วละครับ
“อ่ะแฮ่ม!” ผมเรียกสติ พี่ก้องสะดุ้งหันมามองหน้าผมก่อนจะยิ้มแหยให้
“ฮั่นแน่..มองไรอ่ะ” ผมได้ทีจึงรีบแซวเพราะปกติพี่ก้องไม่ได้เป็นคนอย่างนี้ ผมไม่เคยเห็นพี่ชายผมจะจ้องใครได้เพ้อและชวนฝันได้มากขนาดนี้มาก่อน พี่ก้องเป็นคนจีบสาวไม่เก่งเพราะเหตุนี้เลยทำให้ไม่มีแฟนมานานหลายปีหลังจากที่เลิกกับคนรักคนก่อนไป
“เปล่า” พี่ก้องตอบปัดแต่มีสีหน้าเขินอย่างเห็นได้ชัด
“ชื่อพี่ซี ชื่อจริงสิรินทิพย์..อายุย่างยี่สิบสองปี อยู่ปีสี่ คณะบัญชีสองภาษา..มหาวิทยาลัยนานาชาติ MSL” ผมพูดลอยหน้าลอยตาให้พี่ชายของตน พี่ก้องยิ้มให้เหมือนกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
“งานอดิเรกคือแข่งรถ ยิงปืน..เปรี้ยวปะล่ะ” ผมยักคิ้วให้
“อาชีพที่ใฝ่ฝัน สืบทอดบริษัทของครอบครัว..และที่สำคัญที่พี่ก้องคงอยากจะรู้” ผมยิ้มและยักคิ้วกวนไม่หยุด
“ยัง ไม่ มี แฟน~” ผมเล่นเสียง
“หึ” พี่ก้องส่ายหัวก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม
“นี่..พี่ก้องชอบพี่ซีเหรอ เดี๋ยวกัสติดต่อให้..นะๆ พี่ซีนี่แหละเหมาะกับพี่ก้องที่สุดแล้ว ถ้าพี่ก้องไม่จีบพี่ซีตอนนี้ละก็..พี่ก้องต้องโดนพ่อจับแต่งงานกับยัยผู้หญิงบ้าที่ไหนก็ไม่รู้นะ ถ้าเป็นพี่ซีละก็นะ..กัสโอเคเลย” ผมรีบเข้าไปกระซิบบอก ถ้าจะให้พี่ซีมาเป็นพี่สะใภ้ละก็ผมตกลงแน่นอนอยู่แล้วละครับ
“พี่จีบไม่เป็น” พี่ก้องบอกแทบกระซิบ
“งั้น เดี๋ยวกัสให้พี่ซีจีบพี่ก้องเองก็ได้” ผมเสนอ
“บ้า..น้องเค้าจะชอบพี่เหรอ” พี่ก้องพูดอย่างไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา
“โหย พี่ชายกัสสมบูรณ์แบบขนาดนี้มีผู้หญิงที่ไหนไม่ชอบบ้าง..ตกลงพี่ก้องชอบแน่นอนใช่ป่ะล่ะ” ผมถามเพื่อความมั่นใจ
“เอ่อ ไม่รู้ ก็..น่ารักดี สวย มีเสน่ห์” พี่ก้องตอบเขินๆ
-
“อื้มหืม..เพิ่งเห็นเค้านะเนี่ย พูดขนาดนี้ก็ชอบแล้วแหละ” ผมบ่นอย่างประชด ผมเดินหนีกลับเข้ามาหลังร้าน เห็นพี่ซีแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมมองพี่หมีที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะ พี่เขาเหลือบมามองหน้าผมก่อนจะหันกลับไปทานต่อ
“พี่ซีฮะ ช่วยไปรับออเดอร์จากพี่ชายกัสหน่อยได้ไหมเอ่ย” ผมยิ้มกว้าง พยายามทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุดเพื่อไม่ให้พี่ซีจับได้ว่าผมกำลังคิดอะไรไม่ซื่อ
“ได้สิ..พี่ชายดูดีเหมือนกันนะเนี่ย” พี่ซีพูดเล่นๆ ผมยิ้มและพยักหน้าให้ก่อนที่พี่ซีจะเดินออกจากห้องพักไป อยู่ๆในห้องก็เงียบลงสนิท พี่หมีทานอาหารต่ออย่างไม่สนใจผมแม้แต่นิดเดียว ผมนำของไปวางไว้ตรงโซฟาก่อน เพียงแค่ไม่กี่นาทีเมื่อกี้ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว อยู่ๆผมก็รู้สึกเกร็งขึ้นมา ผมหยิบถุงขนมที่เตรียมมาให้พี่หมีนำมาถือไว้และรีบเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆพี่เขา
“พี่หมีกินไรอยู่เหรอ” ผมทำน้ำเสียงร่าเริงเข้าโจมตีก่อน นี่คือไม้ตายขั้นแรกของผมละครับ
“ข้าว” พี่หมีตอบแค่นั้น ผมเขยิบเก้าอี้ไปให้ใกล้มากกว่าเดิม
“เมื่อคืน..พี่หมีกลับกี่โมงเหรอครับ” ผมอดไม่ได้ที่จะถามคำถามนี้ออกไป
“ตีสาม” พี่หมีตอบส่งๆ
“เหรอฮะ” ผมใจแป้วขึ้นมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงจะอยากรู้แต่ก็ไม่อยากได้ยินคำตอบตรงๆอย่างนี้ ผมคิดว่าบางอย่างที่โกหกแล้วทำให้คนอื่นรู้สึกดีก็น่าจะโกหกบ้างก็ได้
“แล้ว..พี่หมีง่วงรึเปล่า กัสกลัวว่าพี่หมีจะไม่ไหว..วันนี้กัสเลยมาช่วยแต่เช้าเลยฮะ” ผมยิ้มสู้ พี่หมีเงียบไม่พูดไม่จาและไม่ได้หันมามองผมอีกด้วย
“นี่ๆพี่หมี..วันนี้กัสตื่นแต่เช้ามาช่วยป้าสร้อยทำฝอยทองของโปรดของพี่หมีด้วยแหละ กัสเอามาให้..สดๆร้อนๆเลยนะครับเนี่ย” ผมชูถุงขนมฝอยทองให้พี่หมีดู พี่หมีเหลือบมามอง ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมที่เห็นพี่หมีเริ่มหันมาสนใจ
“ขอบคุณครับ” พี่หมีรับไปและวางถุงลงบนโต๊ะ
“..................” ในห้องเงียบลงอีกครั้ง
“พี่หมีรำคาญกัสแล้วสินะฮะ..” ผมก้มหน้าลงอย่างช่วยไม่ได้ รู้สึกเสียใจ เหมือนน้ำตาจะไหลลงมาอย่างนั้น ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย ผมกำลังรู้สึกเหมือนผมไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ผมไม่เคยปิดกั้นหรือห้ามปรามถ้าพี่หมีจะไปมีใครหรือนอนกับใครที่ไหน แต่ถ้าพี่หมีมีคนสำคัญขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมก็อาจจะไม่สำคัญสำหรับพี่หมีอีกต่อไป..ผมกลัวว่ามันจะเป็นอย่างนั้น
“กัส..กัสขอโทษ กัสไม่รู้ว่าต้องทำยังไง” ผมพูดตะกุกตะกักด้วยรู้สึกกลัว ผมก้มหน้าลง มือกุมเข้าหากันแน่น
“ไม่เป็นไรครับ” ผมบอกตัดบทพร้อมกับเงยหน้ายิ้มให้อีกฝ่าย พอสายตาปะทะกับสายตาของพี่หมีเข้าผมก็ต้องก้มหน้าหนีอีกครั้ง
“เอ่อ กัสไป..” ผมทำท่าจะลุกขึ้นยืน
“จุ๊บ~” อยู่ๆพี่หมีก็ก้มลงมาจูบปากผมอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ผมไม่ได้ตั้งตัวนั้นทำให้ผมต้องนั่งลงอย่างเดิมด้วยความตกใจ
“ไม่ได้โกรธ” พี่หมีพูดเสียงเรียบ ตาจ้องมองมาที่ผม
“จริงนะ” ผมรีบถามกลับทันที
“แต่หมันไส้” พี่หมีกัดฟันพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ผมหุบปากลง ไม่เข้าใจว่าที่พี่หมีบอกว่าหมันไส้นั่นหมายถึงอะไร คงจะหมันไส้ผมละมังครับ แต่ช่างเถอะ..ถ้าพี่หมีบอกว่าไม่โกรธแล้วนี่แหละที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมมากที่สุดในตอนนี้
“งั้นเราดีกันเหมือนเดิมแล้วนะครับ” ผมรีบเข้าไปกอดแขนพี่หมีไว้
“หึ..ครับ” พี่หมีหัวเราะน้อยๆก่อนจะโอบแขนเข้ามากอดผมไปทั้งตัว
“สงกรานต์นี้ไปเที่ยวด้วยกันไหม” อยู่ๆพี่หมีก็ถามขึ้น ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“ไปอยู่แล้ว” ผมตอบอย่างไม่คิดในทันที พี่หมีหัวเราะ เรากอดกันตัวโยนไปมา หลังจากที่พี่หมีทานข้าวเสร็จเราก็ปฏิบัติหน้าที่ทำงานในบทบาทของตนเองไป
“ฮัลโหล..เอวี่บอดี้~” พี่ฟ้าเดินเข้ามาโบกมือทักทายทุกคนด้วยสีหน้าร่าเริง พวกเรายิ้มตอบให้ก่อนที่พี่ฟ้าจะเดินมาเท้าแขนลงตรงเคาร์เตอร์
“ทุกอย่างโอเคนะ” พี่ฟ้าถามพี่หมี
“จะโอเคกว่าถ้าบอสไม่มา” พี่หมีตอบกลับ เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่หมีมักจะชอบกวนพี่ฟ้าและชอบขัดขาพี่ฟ้าพอๆกับพี่คิวแต่ก็ไม่เท่าพี่คิวละนะครับ คนอย่างพี่หมียังรู้จักคำว่าลิมิตแต่คนอย่างพี่คิวคงจะไม่รู้จักอะไรแบบนั้นสักเท่าไหร่
“หึ..แกนี่นะ สักวัน สักวัน” พี่ฟ้ากัดฟัน ทำเสียงสั่นอย่างอาฆาตแค้น
“กดกริ๊งเรียกเชฟให้หน่อยครับ” พี่ฟ้าบอกผม ผมยิ้มตอบและกดกริ๊งเรียกคนในครัวตามที่สั่ง
“ว่า..” พี่เซ็นโผล่หน้าออกมาตรงช่องประตูหน้าต่างบานเล็กระหว่างห้องครัวกับเคาร์เตอร์
“วันนี้ต้องออกไปซื้อของกับไปรับออร์เดอร์จากลูกค้าไม่ใช่รึไง ถ้าลูกค้าหมดแล้วก็แขวนป้ายก่อนได้เลย..ถ้าเสร็จแล้วเข้ามาคุยกับอาก่อนนะ มีเรื่องจะคุยด้วย” พี่ฟ้าบอก
“โอเค” พี่เซ็นพยักหน้ารับก่อนจะปิดกระจกไป
“วันนี้กัสออกไปซื้อของกับเซ็นหน่อยนะ” พี่ฟ้าหันมาบอกผม
“อ่าว..ไมต้องกัสอ่ะ” ผมท้วง
“เผื่อมีลูกค้ามากะทันหัน เค้าอยากกินอะไรจะได้ให้หมีดูแล” พี่ฟ้าพูดเสียงเข้ม ผมหน้างอลง
“ตกลงเป็นลูกน้องป่ะครับ เอาแต่ใจจริง” พี่ฟ้าว่าอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินหนีเข้าห้องทำงานของตนไป ผมหันกลับไปมองพี่หมี แต่พี่หมีหันไปทำงานกับพี่รุจทำเป็นเหมือนไม่รู้ไม่เห็น..ไม่ได้ยินประมาณนั้น ผมเองจึงต้องทำงานต่ออย่างไม่สนใจเช่นเดียวกัน สำหรับผมแล้วบางสิ่งบางอย่างที่พี่หมีคิดมันค่อนข้างน่ากลัว การที่พี่หมีนิ่งไม่ได้แปลว่าในหัวของพี่เขาไม่คิดอะไร แต่สิ่งที่เราไม่รู้คือพี่หมีกำลังคิดอะไรอยู่ต่างหากละครับ
หลังจากที่พี่เซ็นจัดการเคลียร์หน้าที่ของตนเสร็จ ผมและพี่เซ็นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ไม่ให้ดูเด่นสะดุดตาเกินไปเพื่อจะออกไปซื้อของตามที่พี่ฟ้าต้องการ ส่วนมากจะเป็นพวกส่วนผสมที่สำคัญที่สั่งตรงจากต่างประเทศนะครับ ส่วนผสมแต่ละอย่างจึงต้องมีแหล่งที่ซื้อประจำ อีกทั้งพี่ฟ้าได้รับงานนอกสถานที่ คงเป็นงานสุดหรูของไฮโซตระกูลใดสักตระกูลอีกนั่นล่ะ ครั้งนี้พี่เซ็นจึงต้องไปรับออร์เดอร์ด้วยตัวเอง แต่ยังดีนะครับที่วันนี้เป็นหน้าที่ของพี่เซ็น ถ้าเป็นวันของพี่คิวละก็ ให้ตายผมก็ไม่ย่างกรายมาด้วยเด็ดขาด
“.....................” ระหว่างการเดินทางค่อนข้างเป็นไปอย่างเงียบสงบดี การที่ต้องมาด้วยกันสองคนมันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้ผมนึกถึงวันนั้น วันที่ผมโดนพี่เซ็นหอมแก้ม เป็นการถูกหอมแก้มจากคนที่ชอบมันก็อดที่จะเกร็งมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ได้ละนะครับ
“เป็นใบ้เหรอ” อีกฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง ผมไม่ตอบแต่หันหน้าหนีเพื่อหลบหลีกที่จะต่อล้อต่อเถียง บางครั้งผมก็อยากให้พี่เซ็นพูดดีๆกับผมบ้าง แต่พี่เซ็นก็ชอบกวนผมตลอด
“ถ้าจะจริงแฮะ” พี่เซ็นพูดปนหัวเราะ ผมหันไปค้อน พี่เขาเบะปากและยักคิ้วให้
“ไม่กวนกัสสักวันมันจะตายเหรอครับ” ผมว่า
“หึ..หึหึ พูดน่ะ ไม่ได้ดูตัวเองเลยสินะ” พี่เซ็นว่ากลับ
“กินข้าวเที่ยงข้างนอกกันไหม” พี่เขาถาม
“ไม่” ผมตอบอย่างไม่คิด
“คิดก่อนสิ ก่อนจะตอบน่ะ”
“ก็กัสอยากกลับไปกินที่ร้านกับพี่หมี” ผมบอก
“ป่านนี้ไอ้หมีมันคงกินไม่รอแล้วแหละ” พี่เซ็นพูด ผมเงียบเพราะก็จริงอย่างที่พี่เซ็นว่า ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวันถ้าไม่ทานตอนนี้ก็จะไม่ได้ทานอีกจนเลิกงาน
“อยากกินอะไรล่ะ” พี่เซ็นถามอีก
“ไม่รู้” ผมตอบส่งๆ
“ถามดีๆ..ก็ตอบดีๆไม่ได้รึไงครับ” อยู่ๆพี่เซ็นก็ทำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาจนทำให้ผมเริ่มรู้สึกไม่เป็นปกติ เราเงียบลงสักพัก
“อะไรก็ได้ฮะ” ผมตอบเสียงเบาด้วยรู้สึกเขิน
“โอเค งั้นไว้หลังรับออร์เดอร์เสร็จก่อนแล้วค่อยคิดแล้วกัน” พี่เซ็นพูดบอก ผมเงียบไม่ตอบอีก พี่เซ็นคงเห็นว่าผมเงียบพี่เขาเลยไม่ชวนคุยอีกเลยจนถึงร้านที่ต้องไปซื้อของ หลังจากที่ซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ไปพบลูกค้าต่อที่บ้านของลูกค้า
“ขอบคุณมากเลยนะคะ แหม..เดี๊ยนไม่คิดเลยนะคะเนี่ยว่าคุณพิภัชจะมารับงานด้วยตัวเอง” คุณป้าไฮโซเจ้าของงานพูดหลังจากที่เราสองคนรับออร์เดอร์และคุยเกี่ยวกับแผนงานคร่าวๆเสร็จเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เธอก็เริ่มเปิดประเด็นไปเรื่องอื่นๆต่อ
“ยินดีครับ” พี่เซ็นยิ้มกว้าง
“หึ..ถ้าไม่มาเอง ก็ไม่มีใครมาแล้วแหละ” ผมเอนตัวเข้าไปใกล้พี่เซ็น กัดฟันกระซิบบอกอย่างต้องการแซวคุณป้าเธอ พี่เซ็นกระทุ้งข้อศอกเข้าที่ท้องผมเบาๆอย่างห้ามปรามทำให้ผมอดที่จะแอบหัวเราะไม่ได้
“คุณฟ้าคงสบายดีสินะคะ” เธอถาม
“ครับ สบายดีมากเลยละครับ” พี่เซ็นพยักหน้าตอบ
“แล้ว ได้ยินข่าวมาว่า..คุณฟ้าน่ะกำลังคบอยู่กับหนุ่มอังกฤษลูกเจ้าของบริษัท Empire ที่ชื่อโจนาธานน่ะจริงรึเปล่าล่ะคะ” อยู่ๆเธอก็ถามซะตรงประเด็น น้ำเสียงเรียบกับสีหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแฝงความนัยของเธอแบบนี้ผมเห็นมานักต่อนักในทุกครั้งที่ผมต้องออกงานสังคมกับคุณแม่ เห็นมาตั้งแต่เกิดแต่ก็แปลกที่ผมไม่ยักจะชินเสียที
“จริงครับ” พี่เซ็นตอบตรงประเด็นทำให้ผมและเธอถึงกับตาถลน พี่เขายิ้มกว้างเหมือนตั้งรับได้ทุกสถานการณ์
“อ๋อ..อ่อ ก็ ดีค่ะ..เหมาะสมกันดีนะคะ” เธอยิ้มเฝื่อนพูดตอบอย่างตะกุกตะกัก
“ครับ เหมาะกันมาก..เหมาะกันอย่างนี้ไม่มีอีกแล้วละครับ” พี่เซ็นยังคงยิ้มสู้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนอดให้ผมขนลุกไม่ได้ ผมไม่เคยแปลกใจเลยว่าทำไมตระกูลของพี่เซ็นคบกับตระกูลของพี่ฟ้าได้
หลังจากนั้นคุณป้าก็ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระต่ออยู่เกือบยี่สิบนาทีจนพี่เซ็นคงทนไม่ไหว ขอตัวกลับออกมาก่อน เราร่ำลากันพอเป็นพิธีก่อนที่ผมและพี่เซ็นจะขอตัวออกมา
“ให้ตาย ยัยป้าสอดรู้นี่..เจอไอ้คิวมีหวังหน้าแหกแน่” พี่เซ็นบ่นทันทีที่ขาก้าวพ้นประตูบ้าน
“นี่ยังแหกไม่พออีกเหรอฮะ” ผมพูดหน้าเอือม เมื่อกี้พี่เซ็นก็กัดเธอใช่เล่นเมื่อไหร่
“ไม่ๆ ถ้าเป็นไอ้คิวมันจะต้องตอบกลับไปประมาณว่า เอ่อ..ไม่ทราบว่าที่คุณกำลังถามนี่ใช่เรื่องงานรึเปล่าครับ ถ้าคุณบอกว่านี่คือส่วนหนึ่งของเรื่องงาน..ผมจะได้ไม่รับงานนี้” พี่เซ็นทำหน้าเลียนแบบพี่คิวก่อนจะหัวเราะชอบใจ พอผมนึกภาพตามผมเองก็อดที่จะขำไปด้วยไม่ได้
“พี่ฟ้าก็รู้นะฮะว่าพี่คิวไม่ชอบรับงานนอก แต่ทำไมก็ยังจะรับอีก” ผมบ่นอย่างสงสัย
“บางที..ธุรกิจก็อยู่ไม่ได้เพียงเพราะรักหรอกนะ” พี่เซ็นหันยิ้มตอบเล็กน้อย
“ครึ่งหนึ่งของธุรกิจ ก็ต้องอยู่..แบบธุรกิจ แค่ความรักมันอยู่ไม่ได้หรอก” ผมเงียบฟังนัยแฝงนี่จากปากพี่เซ็นที่นานครั้งผมจะได้รู้ ส่วนมากเรื่องวงในของร้านหรือของตระกูลระหว่างพี่ฟ้าและพี่เซ็นเราจะไม่ค่อยได้รู้เท่าไหร่นัก นอกจากมีข่าวออกมาหรือว่าไปฟังใครนินทามาอีกทอดหนึ่งประมาณนั้น ดังนั้นถ้าพวกพี่เขาจะหลุดพูดอะไรออกมาบ้าง เราเองก็ควรตั้งใจที่จะรับฟังเพราะบางครั้งการที่ฟังจากปากของคนอื่นก็ไม่เท่ากับฟังจากเจ้าตัวน่ะนะครับ และส่วนมากสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ได้ออกมาจากปากของพวกพี่เขาในเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าเชื่อถือได้ละนะ..
“แต่พวกพี่รวยจะตาย เปิดร้านเล่นๆก็อยู่ได้ ไม่อดตายหรอกครับ” ผมแซวอย่างต้องการเปลี่ยนบรรยากาศไม่ให้ตึงเครียด ผมได้ยินมาจากพี่ซีว่าพี่คิวและพี่ฟ้าได้มรดกจากที่คุณพ่อของพี่ฟ้าขายบริษัทอะไรสักอย่างเพื่อแบ่งเงินให้ลูกหลาน ซึ่งได้เงินเป็นหลักพันล้าน ผมไม่รู้ว่าวงเงินขนาดนั้นมันจะน่าหลงใหลแค่ไหน ผมนึกภาพไม่ออกว่าถ้าผมมีเงินมากโขขนาดนั้นผมจะใช้ชีวิตอย่างไร ผมคงทำตัวไม่ถูกเป็นแน่..ให้ตายเถอะครับ
“หึ..งั้นสิ แล้วชอบรึเปล่าล่ะ” พี่เซ็นหันมายิ้มเจ้าเล่ห์จนทำให้ผมต้องเหสายตาหนี
“ไม่” ผมตอบเสียงห้วน
“ไม่อะไร” พี่เซ็นย้อนถามอีก
“ไม่มีเวลามาเล่นแล้วครับ กัสหิวข้าว” ผมว่าก่อนจะรีบวิ่งขึ้นมานั่งในรถก่อนในทันที พี่เซ็นตามมาขึ้นรถแต่กลับยังยิ้มกว้างทำให้ผมต้องหันหน้าหนีอีกครั้ง
“คาดเข็มขัดด้วยสิ” อีกฝ่ายไม่สั่งเปล่าแต่กลับทำท่าจะมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ผมอีกด้วย
“ไม่ต้องครับ กัสคาดเองได้” ผมดันอกพี่เซ็นไว้อย่างห้ามปราม พี่เซ็นชะงักจ้องหน้าผมแต่กลับไม่ยอมกลับไปนั่งอย่างเดิม หน้าเราใกล้กันเพียงนิดเดียว ผมรีบนำเข็มขัดมาคาดให้เสร็จๆไปซะพี่เซ็นจะได้หยุดการกระทำแบบนี้สักที
“คาดได้แล้วครับ” ผมบอกพร้อมกับจ้องตอบอีกฝ่าย
“โอเค” พี่เซ็นเบะปากพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“เข้าใจแล้วจะมานั่งจ้องกัสทำไมไม่ทราบ” ผมว่าใส่อย่างลองดี
“เปล่ามองสักหน่อย” อีกฝ่ายตอบทั้งทั้งที่ตาก็ยังจ้องมองผมอยู่
“กลับ..กลับไปนั่งดีๆสิครับ” ผมว่า ปากเริ่มสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่เพราะพี่เซ็นเล่นจ้องผมไม่วางตา ผมเอนตัวติดเบาะเมื่อเห็นว่าพี่เซ็นโน้มตัวเข้ามาใกล้มากขึ้น
“พี่ พี่เซ็น..กัสไม่ตลกด้วยนะ” ผมว่า เหสายตาหนีพี่เซ็น ใจผมเต้นแรงกว่าเดิม แรงมากจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ว่าผมตื่นเต้นมากแค่ไหน
“เวลาไม่พูดมาก ปากก็สวยดีอยู่หรอกนะ” พี่เซ็นพูดแทบกระซิบ หน้าของเราใกล้กันมากขึ้นจนผมลุ้นตัวโก่งว่าพี่เซ็นจะทำอย่างที่ผมคิดไว้รึเปล่า พี่เซ็นไม่ได้จ้องหน้าผมอีก พี่เขาเอาแต่มองมาที่ปากของผมจนผมอดรู้สึกเกร็งไม่ได้ ผมเม้มปากเข้าหากันด้วยความกลัวว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่การกระทำเช่นนี้กลับทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างพอใจจากอีกฝ่าย
“คือ..” ผมอ้าปากจะพูดเมื่อพี่เซ็นเอาหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นกว่าเก่า แต่จังหวะเดียวกันนี้เองพี่เซ็นก็กดปากจูบลงที่ริมฝีปากของผมในทันทีทันใด ผมชะงัก ตาเบิกโพรง ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงหัวใจว่าเต้นแรงมากแค่ไหน เพราะเหมือนกับมันล่องลอยไปไกลแสนไกลแล้ว ผมหลับตาลงอย่างต้องการรับรู้ว่าอีกคนที่กำลังจูบผมเป็นพี่เซ็นแน่ไม่ใช่ใคร พี่เซ็นกดจูบผมแรงมากขึ้นกว่าเดิมทำให้ผมต้องอ้าปากอย่างช่วยไม่ได้ มือใหญ่ๆของอีกฝ่ายจับอยู่ที่ต้นคอของผม ภายในรถเงียบไร้เสียงใดนอกจากเสียงจูบ แม้มันจะเป็นการจูบที่แผ่วเบาแต่กลับได้ยินทุกเสียงจากทุกการกระทำ
“อ่ะ พี่..พี่ครับ” ผมดันตัวพี่เซ็นออกเล็กน้อยแต่อีกฝ่ายกลับไม่ฟังอะไร แถมยังไม่สนใจอีกด้วยว่ารถของเรายังคงจอดอยู่ในบริเวณบ้านของลูกค้า
“หยุดนะครับพี่เซ็น” ผมออกแรงผลักพี่เซ็นออกอย่างแรงทำให้พี่เซ็นตัวเซไป ผมรีบปิดปาก อีกฝ่ายหน้าเหวอ ผมก้มหน้าหนีในทันที
“ทำไม” อีกฝ่ายพูดแค่นั้นแต่กลับทำท่าจะเข้ามาจูบผมอีกครั้งเหมือนไม่ยอม
เพี้ย !
ผมชะงักเมื่อลืมตัวพลั้งมือตบหน้าอีกฝ่ายไป เป็นการออกแรงตบที่ไม่ได้แรงมากเพียงแค่ทำไปตามสัญชาตญาณที่ต้องการจะปกป้องตนเองเท่านั้น ถึงแม้จะไม่ได้ออกแรงตบแรงเต็มฝ่ามือ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นการตบ ตบหน้าเชฟ ตบหน้าพี่เซ็น ผม..ตบพี่เซ็นนี่นะครับ !
“คือ..กัส” ผมพยายามจะพูดอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรสักอย่าง อีกใจก็นึกกลัวแต่อีกใจก็ไม่อยากให้พี่เซ็นมาทำตามใจชอบอย่างนี้
“อย่าทำ แบบนี้กับกัสอีก” ผมพยายามทำเสียงเข้มแต่ก็ไม่กล้าตบตามากนัก
“ทำไม..” พี่เซ็นถามเสียงเรียบ
“ไม่มีเหตุผล แล้วพี่มีเหตุผลรึไงครับที่ทำกับกัสแบบนี้..กัสไม่ใช่ของเล่นนะฮะ” ผมว่ากลับขึ้นเสียงเล็กน้อย
“หึ..กับฉันไม่ได้ แต่กับไอ้หมีคงให้ทำได้งั้นสิ” พี่เซ็นว่ากลับ
“พี่หมีไม่เคยลุ่มล่ามแบบนี้” ผมตอกกลับด้วยรู้สึกไม่ชอบใจ
“โอเค้ สุภาพบุรุษ” พี่เซ็นเบะปาก ทำท่าทางยักไหล่เหมือนไม่แยแสต่อคำอธิบายของผมเลย หลังจากนั้นเราก็เงียบ พี่เซ็นถอนหายใจก่อนจะขับรถออกมาจากบริเวณบ้านหลังนั้น เราไปทานอาหารด้วยกัน เป็นการทานอาหารที่แทบไม่พูดกันสักคำเลยด้วยซ้ำ ผมรู้สึกอึดอัดมาก แต่ก็ต้องอดทนอย่างช่วยไม่ได้ บอกปัดไม่ได้ว่าผมไม่ดีใจที่พี่เซ็นทำอย่างนี้กับผม แต่พี่เซ็นก็คือพี่เซ็น อย่างที่พี่คิวเคยเตือน ผมไม่สามารถหลงตัวเองได้เลย นี่ล่ะคือสิ่งที่ผมควรจะมีสติให้มากที่สุด..
...................>>>><<<<....................
ไม่ค้าง ^_^
-
ช่วยแปะสารบัญบ้างอะไรบ้าง
ขอบคุณคุณmust ด้วยนะคะ ^^
v
v
หลังจากอ่านตอนนี้จบแล้ว และดูเหมือนกับว่ากัสยังคงสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่
ความรู้สึกที่รับรู้(เอาเอง)ได้นั้นคือ กัสอาจจะแค่รู้สึกปลื้มพี่เซ็นเท่านั้น แต่คิดไปเองว่ารัก (มั้ง)
และความรู้สึกอีกอย่างคือ กัสน่ะรักพี่หมีไปแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่รู้ตัวเองว่ารักพี่หมีในแบบไหน
ก็นะ ถ้าคนเราไม่รักแล้วล่ะก็ ไม่ทางที่จะมานั่งแคร์ความรู้สึก แล้วก็หวงมากมายขนาดนี้หรอก
เหมือนกัสยังตีหัวใจตัวเองได้ไม่แตก อาจเพราะยังเด็กด้วย เลยเอาความปลื้มมาปะปนกับความรัก
เดาเอาได้เท่านี้แหละ ฮ่าๆ เพราะโดยรวมเนื้อเรื่องก็ดูยังไม่กระจ่างแก่ใจเท่าใดนัก
ตอนนี้ก็เลยได้แต่คาดเดาส่งๆ ไปงั้น แต่ที่เชียร์แน่ๆ คือพี่หมีกับน้องกัส อิอิ โมเลกุลทั้งคู่ดูเข้ากันดี
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
รักสามเศร้าหรือเปล่า
หรือว่าเซ็นชอบหมี :laugh:
ครีเอทมาก กร๊ากกกกกกกกกก :m20:
-
ส่งท้าย..
สลิ่ม: "พี่บี้..มันค้างครับ"
ข้าพเจ้า: "นี่มันไม่ใช่ปัญหาของกูนิ"
สลิ่ม T^T
เมตร: อ้าว!ค้างก็ไม่บอก งั้นเด่วคืนนี้พี่จัดชุดใหญ่แบบคอมโบ้เซตให้นะ เหี้ยน้อยหอยสังข์ ^^
สลิ่ม: เรื่องเดียวกันมั๊ยไอ้เชี่ยยยยยยยยเมตรรรรรรร!!!!
บี้: มึงมาซะเรื่องกรูเปลี่ยนเลย ไอ้หอกหัก!!
เมตร: ก็เมียกรูมันน่ารัก :-[
สลิ่ม:ไอ้ฟายยยยย >////<
ข้าว: มันผิดตั้งแต่ดึงสลิ่มมันมาเล่นด้วยล่ะ เอาเมียเค้ามาผัวปัญญาอ่อนมันก็ต้องมาด้วยอยู่แล้ว ไม่เหมือนคู่เราเน๊อะต้าร์เน๊อะรักกันๆๆๆ
ต้าร์ : ใช่ๆ ข้าวว่างัยเค้าก็ว่างั้น รักกันๆๆๆ :impress2:
พี: คุณต้าร์คุณข้าวครับให้มันน้อย ๆ หน่อยเหอะคับ ไอ้ห่าเมตร มัวแต่ยืนยิ้มปัญญาอ่อนอยู่ เมียมึงหนีไปโน่นล่ะ อ่ะ!!อีนี่ก็อีกคนเป็นห่าอะไร ไอ้เมตรมันผัวมึงรึงัยยืนเขินปัญญาอ่อนอยู่ได้
ทัวร์: ชิร์!ไอ้พี่พีบ้า ไอ้ผัวตายด้าน ไอ้อารมณ์โรแมนติกเอ็กส์ปาย!! อารมณ์เสีย :serius2:
ขนม: พี่สลิ่มรอขนมด้วย :oni1:
ทาย: ขนมค๊าบบบ เรามาดูหนังกันไม่ใช่หรอค๊าบ อย่าไปยุ่งกับ..เค้า...เรย อ้าวไปโน่นล่ะ เฮ้อ~~~ :undecided:
ปาน: พี่แสบไม่คิดจะออกความคิดเห็นอะไรกับคนอื่นเค้ามั่งรึงัย
แสบ: #เหล่ตามองปาน# ถ้ามึงคิดจะทำปัญญาอ่อนอย่างพวกนั้น กรูบอกไว้เรยชัด ๆ นะว่า "กรูจะหาเมียใหม่"
ปาน: อึ๊ยยย ไอ้พี่แสบมึงกล้าหาเมียใหม่หรอห๊ะ!! นี่แน๊ะๆๆๆๆๆๆ!!!
แสบ: โอ๊ย!!!! ปานแมร่งหูกูจะหลุดแล้ว โอ๊ยยยยยยยยยๆๆๆ
บี้ : :angry2: เมิงจะพากันเข้ามาทำให้ปั่นป่วนทำเชี่ยไรกันห๊า!!!
ไม่เม้นเนื้อเรื่องแต่อยากเสือกกับบทส่งท้าย เอาแมร่งมาหมดเรยมีไรป่ะ :laugh5:
v
v
คนเราก็เป็นเอามากได้ ไม่ทราบว่ารับพาราสักเม็ดไหม 555+ ยาวเกิ้น
-
กัสแยกแยะให้ออกระหว่าง คนที่ดีกะคนที่รัก
ถึงแม้ไม่รักแต่กั๊กไว้เพราะกัสเอาเป็นพวกเอาแต่ใจชอบให้มีคนห้อมล้อม
พี่หมีที่คอยไปรับ ไปส่งเอาใจสารพัด
กับพี่เซ็นที่คอยแกล้งตล๊อดๆ พูดจาน่า :z6: กับน้องและไม่แสดงออกแบบชัดเจนน้องเลยไม่เข้าใจ (รึป่าว)
แต่กัสรู้ป่าวพวกเด็กผช มันชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบไม่ใช่หรอ
ถ้ากัสไม่เชื่อโทรไปถามไอ่หลิมมันดูสิ มันรู้ดีกว่าใครเพราะมันโดนไอ่พี่เมตรแกล้งตลอดๆๆๆ (แต่แล้วก็ต้องเป็นฝ่ายยอมหลิมตลอดเหมือนกัน)
อะไรนะ......ที่เราพิมพ์ทั้งหมดนี่้กัสไม่เชื่อเลยหรอ
ไม่เปงไร เอาเป็นว่าอย่าลืมโทรหาไอ่หลิมละกัน :m20: :m20:
บุคคลผู้นี้พูดอะไรน่านับถือหลายประการทีเดียว กร๊ากกก :m20: :laugh:
-
ภาคนี้เห็นใจหมีสุด ๆ เพราะหมีน่าจะเป็นเพียงคนเดียวที่รู้ว่าตัวเองชอบใคร
-
อ๊ากกกกกกกกก ฉันว่าแล้ว
พี่หมีคิดไม่ซื่อจริง ๆ ด้วย :z3:
แต่ก็เข้าใจกัสนะ จากที่อ่านมาเนี่ย ก็เลือกยากนะ
พี่เซ็นก็อยากได้ พี่หมีก็อยากให้เอา กรี๊ดดดดดด :m31:
กรี๊ดดดดดดดดดด พี่บี้ทำอะไร?
จบก็ค้าง สร้างตัวเลือกมาให้เลือกยากอีก
เลือกยากกว่าคู่อาฟ้ากับทิกเกอร์อีกกกกก
เลือกเชียร์ไม่ถูกอะ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
3P ได้ไหมกัส? กัสไหวไหม? แต่พ่อกัสคงหัวใจวาย
ลูกชายเป็นเกย์ แถมไม่พอมีสามีสองคน กรี๊ดดดดดด
หรือจะลุ้นกัสตาย เซ็นหมีได้กันดี นึกแล้วขนลุกแปลก ๆ
หรือจะเป็นแบบกัสเจอคนใหม่ เซ็นหมีได้กัน ฮึ่ยยยยยยยย
โอ๊ยยยยยยย คิดแล้วปวดหมองที่สุดดดด :serius2:
ปล่อยตามเวรตามกรรม แล้วแต่ท่านพี่บี้บัญชาเลยแล้วกัน
นี่ไม่เคยเม้นท์นิยายเรื่องไหนยาวขนาดนี้เลยนะเนี่ย
เม้นเรื่องนี้ยาวที่สุดแล้ว แบบว่าอ่านแล้วมันอินนน
แล้วพี่บี้ก็ปิดเพจไปแล้ว เลยไม่มีที่ระบาย ๕๕๕
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเม้นยาวๆจากผู้น้อง 555+ calm down na nong :m20:
-
ร้อยละ ๘๐ ของนิยายวาย คนดีมักไม่มีที่อยู่
เพราะฉะนั้น พี่หมีอย่าดีให้มันมากนักเลย เลวบ้างไรบ้างเหอะ จับกัสกดเลย
ลงนิยายรอบนี้มีนักเขียนพบประชาชนด้วย
-
อ่านตอนนี้จบ ลุกไปต้มน้ำใบบัวบกให้อิพี่หมีซดดีกว่านะ ฮื่อๆๆ สงสารอิพี่หมีเบาเบา~~
-
กำลังจะตัดใจไปเชียร์พี่หมีแทน
แต่มาเจออย่างงี้ก็ตัดใจจากพี่เซ็นไม่ได้ ก๊ากกก อินมาก ลืมตัวไปว่าตัวเองไม่ใช่กัส
-
เป็นครั้งแรกจริงๆนะที่เราไม่สามารถตัดใจเชียร์ใครแบบชัดเจนได้อ่ะ ปรกตินี้ชัดไปแล้วว่าเชียร์ใคร แต่นี้ไปไม่ถูกจริง ดีทั้งคู่แบบนี้ขอ 3P เลยได้ไหม
-
รักสามเศร้าเราสามคน
คนอ่านลุ้นนนนนนนนนสุดเลย
ตอนอ่านแรกๆก็เชียร์เซ็นนะ
แต่พอรู้ที่มาที่ไปแล้วต้องพี่หมีเท่านั้น
กัสรีบรักพี่หมีไวๆนะ ><
-
เข้ามาเชียร์กัส-เซ็นด้วยอีกคน o13
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:เอาละงานนี้น้องกัสจะเลือกใคร :L2: :L2: :L2:
รอออออออออออ :bye2: :bye2:
-
ก็บอกแล้วว่าเรารักพี่หมี ไอเลิฟยูวววววววววววววววววว
เชียร์พี่หมีสุดใจค่าาาา :-[
-
รอๆ :)
-
:เฮ้อ:ใจคนเรายากเย็นเกินไป
-
โว๊ววว โว๊ววววว ~
ดุเดือดดีแท้ ..
อิพี่เซ็นแกช่วยทำคะแนนให้กัสเขินเยอะได่บ่ ?
อย่าทำให้กัสผิดหวังสิ ~
ปล. ยังเชียร์อิพี่เซ็นอยู่จ้าา T^T o18
-
:เฮ้อ: พึ่งรู้ตัว. ว่าตอนอ่าน. ลืมหายใจ o11. ลุ้นจัดง่ะ...
-
ก็ยังไม่เคลียร์เน้อออ 5555
กัสกำลังสับสน และพี่เซ็นก็สับสน หรือรู้ใจตัวเองแล้ว
เอิ่มม เชียร์พี่หมีขาดใจ
ตอนจูบกัสก็เหมือนไม่ได้ปฏิเสธพี่หมีนะ รู้สึกดีด้วยรึเปล่า
อ๊ากกกก รออ่านดีกว่า ขี้เีกียจคิดเยอะ 555
-
พี่หมีก็ดี แต่กัสชอบเซ็น ต้องแล้วแต่กัสจะเลือกล่ะกัน
-
เอาวะอย่างน้อยก็ได้จูบคนละที (แม้พี่หมีเหมือนแค่จุ๊บก็เถอะ) ถือว่าแต้มยังเท่า (เหมือนเชียรมวยเลย) :laugh:
:pig4: คะ
-
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!! ยากเหลือเกิน กัสล่ะจะทำยังไงต่อไป
ยังไงก็รักพี่หมี เชียร์พี่หมี :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: แต่สุดท้ายหากกัสเลือกเซ็น...ล่ะ???
พี่หมีจะเป็นยังไง ????
-
พี่เซ็นนี่รู้ใช่มั้ยว่ากัสชอบตัวเอง
-
เซ็งกัสจริงว๊อยยยยยยยยยยย
แต่ก็นะ น้องมันสับสนล่ะมั้ง
ไม่แน่ชัดอะไรสักกะอย่าง
แล้วมันก็จะไม่ได้อะไรสักกะอย่างนะคะน้องกัสส
วันไหนพี่หมีไปมีแฟนก็จะรู้สึก เชอะ
เอ่อะ ไม่ได้เชียร์พี่เซ็นเลยนี่กว่า - -*
-
มาแล้ววววว......เฮียเซ็นเริ่มออกตัวแรงส์
ความรู้สึกยังบอกว่าพี่หมีเป็นพระรอง...นะ
ยาวๆถึงใจ.......รอเบบี้ต่อไป....ขอให้มาเร็วๆๆเช่นนี้สมํ่าเสมอ
+เป็ดให้บี้
-
พี่เซ็นจะทำคะแนนให้ทิ้งห่างพี่หมีเหรอคะ วันก่อนก็หอมแก้มน้องเค้า
มาวันนี้จูบน้องกัสอีก นี่พี่เซ็นเห็นที่พี่หมีจุ๊บน้องกัสด้วยเหรอเนี่ย
พี่หมีกับพี่เซ็นมีอะไรกันหรือเปล่าหนอ แบบแอบไปคุยอะไรกันอย่างเนี้ย
ก็เดาไปเรื่อย แต่ที่แน่ๆไอ้การง้อพี่หมีของน้องกัสมันช่างน่ารักเสียนี่กระไร
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
:L1: :pig4:
-
น้องกัสหาคู่ให้พี่ชายได้สมกันมาก วันนี้น้องกัสโดนทั้งพี่หมี พี่เซ็นจูบเลย ว่าแต่ชอบรสชาติของใครค่ะ
กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ
-
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ต้องติดตาม :กอด1:
กัสหมี
กัสเซ็น
แอบเชียร์กัสเซ็น ฮ่าๆ ๆ :3123: :3123:
-
พี่หมี อิชั้นเชียร์พี่หมี
ไม่รู้หละ
กับพี่เซ็นอาจจะแค่หลง
แต่ถ้าพี่หมีมันคือความผูกพันธ์
-
พี่เซ็นก็ชอบกัสเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ :z3:
-
สงสารพี่หมี แต่ก็รักพี่เซ็นอ่ะ :serius2:
-
อืมมมมมมม พี่หมีจะเป็นได้เพียงพี่ชายที่แสนดี เดาไว้ว่าอย่างนั้นนะ
แต่ไม่แน่ บี้อาจจะให้น้องกัสได้กะพี่หมีก็ได้ ใครจะรู้
แต่เดาจากที่อ่าน พี่หมียอมกัสมาตลอด ทำให้กัสได้ใจเป็นที่หนึ่งจนกัสเริ่มเริ่มมีพฤติกรรมเดียวกับคนที่เรียกได้ว่าแฟนโดยไม่รู้ตัว
คนเราทำไรย่อมหวังผล พี่หมียอม พี่หมีก็อยากได้กัสเป็นแฟน ตอนนี้พี่หมีเลยรุก และพอพี่หมีรุก กัสก็เริ่มมานั่งคิดว่าตกลงยังไงกันแน่
ตอนนี้ทั้งพี่หมีกับพี่เซ็นเริ่มที่จะรุก เริ่มที่จะทำให้ตัวเองชัดเจน แม้พี่หมีจะเปิดตัวก่อนพี่เซ็นว่าชอบน้อง แต่พี่เซ็นดันภาษีดีกว่าเพราะกัสดันชอบพี่เซ็น
สองคนนี้เรามองว่าติดใจน้องตั้งแต่แรก แต่เหมือนคุมเชิงกันอยู่ พออีกฝ่ายเริ่มรุก อีกฝ่ายก็คืบตาม
เราว่าพี่เซ็นรู้อยู่ว่าน้องชอบตัว แต่เพราะตัวยังมีนิสัยที่เหมือนหยุดไม่ได้เลย ยังไม่ชัดเจนกับน้อง แต่พอรู้สึกว่าพี่หมีรุกแล้วนะ อารมณ์จะเสียของไปไง เลยสำนึกได้ว่าต้องรุกแล้ว
ไม่เชียร์ 3P ค่ะ เพราะอีสองคนนี้ มันไม่ยอมให้ใครมาเท่าเทียมกับมันแน่ๆ
-
เชียร์พี่หมี :-[ :-[ :-[
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ยังไงก็เชียร์พี่หมี ตอนกัสอยู่กับหมี
นี่ให้อารมณ์ละมุนละไมกึ่งเป็นตัวของตัวเอง
ไม่รู้ยังไงแต่ใจบอกว่าหมีเต๊อะ
-
หมี กัส หมี กัส หมี กัส
-
พี่เซ็นมันซึนแน่ๆ ความรู้สึกเหมือนไอ้พี่พีเลย
แต่ทำไมเราไม่อยากเชียร์เลย :z3:
พี่หมีสู้ว้อยยยย :z2:
รุกเท่านั้นแหละพี่ นิ่งๆจะได้มามั้ย
แต่พี่เค้าโคดจะนิ่ง 5555
สับสนกับตัวเองเหมือนกันนะเนี่ย
-
อยากให้กัส คู่ หมี มากกว่า ...............ไม่ชอบเซ็นเจ้าชู้
-
....น้องกัส คงสับสนพิลึก คนนั้นก็จูบกรู คนนี้ก็จูบกรุ อกสั่นขวัญแขวน หมดแล้ว น้องกัสยิ่งซิงๆๆอยู่
....แต่ได้ใจไปสุดๆๆ ตอนต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ เรื่องพี่ก้องนี่แหละ แล้วก็มาจับคู่ให้พี่ชายอีก แสบแต่น่ารัก
....พี่หมีนี่แก รัก่จริงหวังแต่ง กัสทำไงก็เก็กโกรธ อยู่ได้ไม่นาน ก็ใจมันรักไปแล้วนี่เนอะ เชียร์พี่หมีให้น้องกัสดีกว่า พี่เซ็นต์ไม่ไหวกะล่อน :laugh:
-
กัส อารมณ์แบบ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคนรึป่าว สับสนๆ
แอบสงสารพี่หมีเบาเบา แต่พี่เซ็นไม่ไหวนะทำแบบนี้ !!
:pig4:
-
แอบคิดว่า(แอบคิดนะเพราะไม่อยากให้เป็นจริง)กัสชอบหมี เพราะกัสไม่ขัดขืนเหมือนรอบพี่เซ็น..
แบบเชียร์เซ็นอ่ะ ชอบผู้ชายแบบเซ็น คนดีแบบพี่หมีไม่เอาอ่ะ มันแบบดีไป ชอบเลวๆ 5555555
อ่านจากเม้นอื่น เออ จริงๆ เซ็นหมีก็ดีนะ :impress2:
-
กัสเอ้ยย ตัวเองยังเอาไม่รอด จะไปช่วยพี่ก้องอีกนะลูก....
แต่ก็เชียร์นะ ก้องซี นานๆมีคู่ชญสลับมามั่ง :กอด1:
ไม่รู้จริงๆพี่เซ็นคิดไรนะ แต่การแสดงออกไม่จริงใจเอาซะเลย เหมือนคนอื่นไม่มีหัวใจงั้นแหละ :z10:
กัสคิดดูใหม่ไม๊คะ
-
กัสอยากมีพี่ชายแบบพี่หมีหรือเปล่า
พี่ก้องแกนุ่มนิ่มเกิ๊นน
-
:-[
-
โดนจูบทั้งคู่. ถ้าเป็นกัสจะทำไงดี :z3:
แต่เชียร์พี่หมี. :กอด1:
-
กัสตกที่นั่งเดียวกับอาฟ้าเลย
ต้องเลือกใครสักคน
แต่ถ้าจะให้ดีเลือกไปทั้งสองคนเลยก็ได้นะกัส
3p ไปเลย 55555
ไหนๆก็ได้ไปคนละจูบละ
เอาให้เท่าเทียมกันเลย
-
3P :pig2:
-
เชียร์พี่เซ็นอะ แต่ก็สงสารพี่หมี ทรีพีละกัน :serius2:
-
กัส เซน หมี สามคนนี้คงต้องลุ้นอ่านกันอีกยาว
เอาเป็นว่า .. ขอเชียร์ ก้อง+ซี ก่อนดีก่า ห้าๆ :z2:
-
เราคิดว่าเซ็นต้องชอบกัสแน่ ๆ แล้วพี่หมีก็น่าจะรู้ เลยขอคบกัส
ส่วนกัสเดาไม่ถูกจริง ๆ เหมือนคนมีความรัก จะรู้สึกคุมตัวเองไม่อยู่เวลาอยู่กับเซ็น
แต่พออยู่กับพี่หมีก็ดูเป็นตัวของตัวเองกว่า แต่ก็หวงเขาด้วย
ในเรื่องเหมือนคนเราก็เห็นแก่ตัวไปคนละอย่าง
ตอนนี้เริ่มสงสารพี่หมี T_T แอบเปลี่ยนใจเชียร์พี่หมีแล้ว
-
o13 o13 o13
FC พี่เซน 55555555555555+
-
ตอนที่แล้วเราบอกเชียร์หมี แต่มาตอนนี้พี่เซ็นมาทำเราลังเล
โอ๊ยยยยยยยยยย เครียดดดดดด เลือกไม่ได้ *ประหนึ่งเป็นกัส* เหอๆ
มาเลิฟเวอร์สามนี่อยากได้ช้อยถูกทุกข้อได้ทั้งสองคนมาก
แต่ตรรกะนิยายและความจริง? เขาว่าคนดีมักไม่มีที่อยู่
ฉะนั้นพี่หมีคะ ลุยโลดดดดดดด จะกดจะเลวก้ทำไปเลย? 555555555
อย่าปล่อยให้พี่เซ็นแสดงความโฉดอยู่คนเดียว
นี่ยังเชียร์พี่หมีนะ แต่แอบลังเลเฉยๆ
ดังนั้นโบกป้ายไฟพี่หมีต่อไป >.<
ปล.พี่เซ็นต์ชอบกัสแหงๆ เฮ้อ ออ ออ อออออออ
รอตอนหน้านะเบบี้ เราว่าอีกไม่นานคงจะมีจุดให้จับกันได้แล้วมั้ง
ว่าใครจะวินในพาร์ทนี้
-
อะไรของอิพี่เซ็นเนี้ย คราวที่แล้วยังควงชะนีนางนั้นอยู่เลย!
พี่เซ็นก็ชอบกัสเหมือนกันใช่ม่ะ
โดนทั้งพี่หมี พี่เซ็นจูบ น้องกัสจะเลือกใครละเนี้ย!!!!!!!!
โอ๊ยยยยย สงสารพี่หมีอ่าาาาา
-
สงสารพี่หมีแต่ก็แอบเชียร์พี่เซ็นนะ พี่เซ็นก็เล่นตลอดอะ ไม่รู้เรื่องไหนจริงจังบ้าง
แต่ก็อยากให้กัสเลิกสับสนซักทีนะ ชัดเจนไปเลยดีกว่า
-
เหตุการณ์ครั้งนี้ คงทำให้กัส คิดและตัดสินใจใหม่ได้แล้วว่า ใครคือคนที่ใช่
ต่อแต่นี้คงรอแต่เวลาเท่านั้นแหละ ที่จะทำให้คนสองคน :n1: ไปด้วยกัน
เป็นกำลังใจให้นะครับ เบบี้ แต่ + ไม่ได้ เพราะ + ให้เมื่อเช้าเอง :z2:
-
ชักจะไปกันใหญ่แล้ว พี่เซ็นหันมาเล่นด้วย กัสเริ่มสับสนหนัก
พี่เซ็นกับพี่หมี เฮ้อ ... :sad4:อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
-
ถ้าเป็นพี่เซ็น กัสต้องมีช้ำใจแน่ๆ
แต่ก็รักเค้าไปแล้วอ่ะ :z3:
-
บางครั้งกัสก็ต้องคิดให้เยอะ ๆ นะ
ถ้าจะต้องเลือกระหว่าง คนที่เรารัก กับ คนที่รักเรา
ชั่งน้ำหนักดูให้ดี ว่าเลือกอย่างไหนที่ทำให้เราไม่ช้ำใจ
-
กัสแคร์และให้ความสำคัญกับหมีนะ แต่รู้สึกว่ากัสเฉยๆ กับจูบของหมี ต่างกับเซ็นต์ (เกี่ยวกันไหม 55).. ยังคงก้ำกึ่ง
-
ออกตัวเชียร์พี่หมีนะ โฮะๆ
-
โอ๊ยยยยยยย :เฮ้อ:
ไม่รู้จริงว่าสุดท้ายเบบี้จะเลือกใครให้กัส
แต่ใจเชียร์พี่หมี
ไม่ค่อยชอบอะไรบางอย่างจากตัวเซน
:serius2:
-
จะโลภไปมั๊ย ถ้าไม่อยากให้เศร้าสักคน TT^TT
-
พี่หมี ลุกขึ้นมาตบจูบๆด่วนเลยจ้ะ :serius2:
นิยายวายส่วนใหญ่ ถ้าดีมาก มักกินแห้วนะพี่ o18
-
เชียร์พี่หมีขาดใจได้ปะ
ชอบอ่า พี่เซ็นแบบว่า รู้สึกแปลกๆตั้งแต่กับเค้กและ
ชอบพี่หมี +1
แต่สมมตินะ ถ้าพี่หมีคู่กับกัสแล้วพี่เซ็นละแอบสงสารนางนะคงไร้คู่ แต่กลับกันถ้ากัสคู่พี่เซ็นจะสงสารพี่หมีเหมือนกัน :z3:
มันจะมีสเปมีคู่ไหมเนี่ยยยย
-
พี่เซ็น ตกลงยังไงๆๆๆๆ ชอบกัสหรือป่าว ถ้าไม่ชอบก็อย่าทำแบบนี้จิ น้องกัสเค้าหวั่นไหวนะ
เชียร์พี่หมีอะ แอบสงสารพี่หมี เพราะพี่หมีคงรู้หละว่ากัสคิดอะไรกับพี่เซ็น
ยังไงๆๆดีหละจ๊ะนู๋กัส
-
อ๊ากกกกกกกก พ่นไฟ พ่นไฟใส่เบบี้! เธอทำให้เค้าเดาไม่ถูกเลย มันคาใจมาก น้องกัสจะเลือกใรว้า ~ ฮืออออ ชอบกัสเวลาอยู่กับครอบครัวดีจังดูแสบมากอะ กัสนิสัยเหมือนพ่อมากเลยเหอะ โว้วววว~ พี่ก้องชอบพี่ซีเหรอเนี่ย คริคริ นี่ถ้าพี่เซ็นเป็นพระเอกนะ พี่น้องบ้านนี้คงจะลงเอยแต่กับบ้านพี่เซ็นอะ กัสไม่ค่อยจะเป็นแม่สื่อเลย เห้อ สรุปน่่้องกัสก็ยังสับสนต่อไป แต่กลับมาคืนดีกันแบบนี้พี่หมีจะยอมรับสถานะเดิมๆได้อีกเหรอ ? ทำไมไม่ลองออกตัวแรงๆดูล่ะ ออกตัวแรงพร้อมกับพี่เซ็นนี่แหละ น้องมันจะได้ช่างน้ำหนักใจตัวเองซะที ยกนี้แอบเท่ากันอยู่ พี่หมีจุ๊บปาก แต่พีเซ็นนี่มาจูบเลย ดูพี่เซ็นจะประชดประชันกัสนะ เพราะเห็นกัสยอมให้พี่หมีจุ๊บเปล่าเนี่ย ถ้าไม่อยากให้น้องผลักไสก็ทำตัวให้มันดีหน่อยสิคะพี่ แสดงความจริงจังออกมาให้น้องเห็นบ้าง ถ้าไม่ทำรอกี่ชาติก็ไม่ได้ใจน้องหรอกนะคะคุณพี่เซ็น อยากรู้จริงเซ็นหมีเค้าไปตกลงคุยกันว่ายังไง เพราะสองคนนี้ดูจะกลายเป็นเข้าหน้ากันไม่ติดแปลกๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับกัสทั้งนั้น
-
:m16: :m16: :m16:
เซ็นนี่อะไร หมียังไง เดาไม่ถูกเลยยยยยย ใครเป็นพระเอก????
แต่ 2 คนนี้คงมีศึกแย่งกัสแน่ๆๆๆๆๆล่ะ 55555
:laugh: :laugh: :laugh:
-
แอบอึ้งเล็กๆ แต่ก็คิดว่าเนี่ยละค่ะพี่เซ็น 5555555555555
น้องกัสยังคงสับสนอยู่ อยากให้น้องรู้ใจตัวเองจิงๆว่าตกลงแล้วมันยังไงกันแน่
แอบๆเชียร์พี่เซ็นตั้งแต่แรกๆ มีเขวไปเชียร์พี่หมีบ้าง
แต่พออ่านตอนนี้จบ กลับมาเชียร์พี่เซ็นเหมือนเดิม :impress2:
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ ขอบคุณมากๆๆเลย ตอนนี้ไม่ค้าง แต่ก็รอตอนหน้าต่อไป คิคิคิ :กอด1:
-
ยังเชียร์พี่เซ็นอยู่ค่ะ
-
+ พี่เซ๊นต์ คิดไรกะน้องหรืเปล่า นี่ :z1:
-
อยากเก็บเธอไว้ทั้ง 2 คน
-
เชียร์พี่หมีอ่ะ
ทำไมรู้สึกว่ากัสรักพี่หมีไปแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัวรึเปล่า
งงใครเป็นพระเอกกันแน่อ่ะ
-
โถๆพี่หมี ถ้ากัสไม่รัก หันมาทางนี้ม่ะ เดี๋ยวเค้าปลอบใจเอง
-
จากใจ เจ๊สงสารพี่หมีอ่ะ :sad4: แต่อย่างว่า คนดีไม่เหมาะกับบทพระเอกหรอก เพราะแม่งดีเกินไป :laugh:
บทจะจูบก็ได้แค่ จุ๊บ :เฮ้อ: งี้แหละคนดี ดูอย่าไอ้เซ็นแม่ง! แลกเอนไซต์ซะ :z1:
P.S. เซ็นก็แอบชอบนู๋กัสอยู่ใช่ป่หล่ะ ทำเป็นห่วงออกนอกหน้า (ทิกเกอร์><" :-[ คิดถึง)
-
มันอะไร ยังไงกันละนี้ คู่นี้
พี่เซ็น มันจริงจังบ้างป่าวเนี่ย???
-
สงสารพี่หมี..เชียร์พี่หมี..อิพี่เซ็นต์ชอบทำเป็นหมาหยอกไก่ให้กัสสับสน
-
:กอด1:
-
เตรียมพรวนดินรอปลูกแห้วและ
พี่หมีทำคนนหน่อยยยย
-
อ่านเรื่องของน้องกัสแล้วรู้สึกเหมือนเชียร์กีฬายังงัยไม่รู้
นักกีฬาทั้งสองทีมสูสีกันมาก เลือกเชียร์ไม่ถูกเลย
ลุ้นต่อไปว่าใครจะชนะ :กอด1:
-
:z2:จูบกันแล้วอ่ะ. ตกลงกัสคู่ใครดี เลือกยากจังอยากได้ทั้งสองคนเลย
-
หลังจากอ่านตอนนี้ขอเชียร์พี่เซ็นละกัน....
พี่หมีก็ดีนะ แต่พี่หมีดีเกินไป อ่านแล้วรู้สึกว่าพี่หมีไม่ใช่อะ เป็นได้แค่พี่ชาย
เหมือนจะดีแตกตอนดึงกัสไปจุ๊บละ พระรองก็งี้ แต่จริงปล้ำเลยดิ อาจได้เป็นพระเอก
พี่เซ็นนี่ไม่มีความเป็นคนดี เหมาะกับการเป็นพระเอกเลวที่สุด ๕๕๕๕๕ :laugh:
กัสรักพี่หมีแบบพี่ชายมากกว่า แบบพี่ก้องอะ คือหวงพี่ อ้อนพี่
แต่กับเซ็นนี่จะแบบเขิน ใจเต้น ไม่อยากคุยด้วย อยากกวน หึง
ดูจากท่าทางของพี่หมีกับพี่เซ็นแล้ว ต้องมีการไปคุยอะไรกันมาแน่ ๆ
พี่เซ็นนี่ตั้งแค่คิวเค้กละ เห็นไปบอกชอบเค้กงู้นงี้งั้น แต่ก็ไม่เห็นทำไรเค้กเลย
แต่กับกัสนี่ โดนขนาดนี้ แสดงว่าพี่เซ็นชอบชัวร์ ๆ แต่ทำเก๊กกวนกัสไปงั้น ๆ
ช่วงนี้เหมือนเป็นศึกชิงกัส บอกรักก่อนชนะได้กัสไปครอง
ที่จริงพี่หมีก็เหมือนบอกไปแล้ว ตอนที่ถามคบกันไหม แต่ยังไม่กล้าพอ
มาลุ้นกันเถอะ ว่าจะเป็น หมีกัส หรือ เซ็นกัส
ไม่แน่พี่บี้อาจจบแบบหักมุม เป็น เซ็นหมี ก็เป็นได้ :m20:
-
อ่านไปลุ้นไป ยังเชียร์พี่หมีอยู่น้าาาาา
-
โอ๊ะโอ น่าอิจฉากัสจังเลย :-[ :-[ :-[
ขอบคุณที่อัพนะคะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
-
พี่หมีสู้ๆ
-
หมีมาวินเป็นเดอะวินเนอร์ในใจแฟนๆๆ หมีสู้ๆๆ
-
ค้างอย่างแรง
น้องกัสยังสับสนในความรู้สึกของตัวเองอยู่ซิะ
พี่หมีออกจะชัดเจนขนาดนี้ สู้ๆต่อไปนะพี่หมี
-
ให้พี่หมีเป็นพระเอกได้มั้ยอ่า ชอบบบบบ 555
แต่อีกใจพี่เซ็นก็โอเคนะ แต่สงสารพี่หมี
ใจกัสคงรักพี่เซ็นแหละ
-
ทำไมชีวิตกัสมันช่างวุ่นวายสับสนจริงๆ
ตอนนี้เริ่มผันตัวเองกลายเป็นพ่อสื่อซะแล้ว
นอกจากความรักที่ยังไม่ชัดเจน ดันต้องมาเจอคุณพ่อใจโหด จะเข้มไปไหนค่ะ อิอิ
พอพี่เซ็นพูดถึงพี่คิว แล้วคิดถึงอ่ะ รอตอนหน้าค่ะ
-
เขาเชียร์พี่หมีนะ
พี่เซ็นอ่ะเจ้าชู้เกินไป
แล้วที่พี่หมีจุ๊บปากกัสนี่คงไม่รู้สึกตัวสินะ
-
หรือว่าภาคนี้จะเป็นแบบ3Pกันแน่
ดูกัสสับสนกับชีวิตเกิ๊น :z1:
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ
-
เอ่อ เชียร์สองคนเลยได้มั้ย 5555
-
:m15:อิจฉากัสมีแต่คนรุมชอบ อิอิ :L2: :L1:
-
อ่อยยยย
จริงๆไม่มีอะไรดราม่าเลยนะ
มีแค่กัสที่สับสนจนไม่รู้ว่าจะยังไงดี
พี่หมีก็ชัด พี่เซ็นก็ชัด (??)
เลือกเลยกัส เลือกมาเล้ยยยยยยย
!!!
-
มารอพี่หมี
-
ตามอ่านทันแล้ว เรื่องของกัสก็สนุกนะ
-
เข้ามายกมือให้พี่หมีเบาๆ หนึ่งที XD
-
:z2: :L1:
-
รออย่างเดียว...พี่หมี
-
รักพี่หมีมากกกกกกกกกกก
-
~5~
วันพฤหัส ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
วันนี้ผมมีเวรตั้งแต่บ่าย ตอนนี้เลิกงานแล้ว วันนี้ปิดร้านช้าหน่อยเกือบประมาณสามทุ่มเพราะมีลูกค้าท่านหนึ่งอยากทานอาหารร้านของเรามากแต่เธอมาช้า เราเลยต้องยอมให้เธอนั่งจนเลยเวลาปิดร้านนะครับ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดเนื่องในวันเทศกาลสงกรานต์ พี่ฟ้าหยุดร้านให้ตามปกติ ส่วนพี่ฟ้าหนีไปเที่ยวภูเก็ตตั้งแต่เมื่อวานบ่ายแล้ว เห็นว่าไปกับทิกเกอร์แค่สองคนเท่านั้น ไปติดต่อเรื่องงานและไปเที่ยวด้วยเลยในตัว วันนี้พี่คิวเลยมาดูงานแทนตั้งแต่บ่ายเพราะต้องปิดบัญชีก่อนวันหยุดยาวด้วยนะครับ
“Oh my gosh!, What's that?” ทุกคนชะงักหันไปมองตามเสียงอุทานเบาๆจากพี่คิว ตาของพี่คิวจับจ้องไปที่ของบนโต๊ะที่วางอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
“พี่คิวอ่ะ” ผมรีบไปหยิบเสื้อที่ผมเพิ่งซื้อมาเมื่อวานขึ้นมากอดไว้อย่างรู้สึกอาย พี่คิวทำหน้าขยาด
“นี่มันเสื้อกัสจะเอาไว้ใส่วันสงกรานต์อ่ะครับ” ผมบอก พี่คิวทำหน้าประหลาดใส่จนทำให้ทุกคนในห้องนี้ขำเป็นเสียงเดียวกัน
“นั่นเรียกว่าเสื้อเหรอ” พี่คิวพูดหน้าแหย
“หึหึ” เค้กที่นั่งอยู่ข้างๆหัวเราะชอบใจ
“เค้ก” ผมปรามเค้กเสียงเข้ม
“โหย สีนี้กำลังฮิตนะฮะ..คัลเลอร์ฟูล” ผมยิ้มอย่างภูมิใจ ตั้งแต่เห็นเสื้อตัวนี้ครั้งแรกผมก็หยิบไปจ่ายเงินอย่างไม่คิดมากเลยว่ามันจะราคาเท่าไหร่ ถึงจะราคาเป็นหมื่นผมก็จะยอมจ่ายเพราะสีสันของเสื้อถูกใจผมเอามากๆ เป็นเสื้อยืดแขนสามส่วนปกติแต่ที่เด่นคือสีสันจัดจ้านมากเลยละครับ
“กัสจะใส่พรุ่งนี้เลย” ผมยิ้มกว้าง
“เหมาะกับกัสออก พี่คิวก็ไปว่า” พี่ซีพูดปนหัวเราะ ผมพยักพเยิดหน้าให้อย่างเห็นดีเห็นงามด้วย
“แล้ว..ไปเที่ยวที่ไหนกัน” พี่เซ็นละสายตาจากมือถือของตนเองขึ้นมาถามพวกผม ผมเงียบทำเป็นมองไปทางอื่นแทน
“ไปกับพี่หมี ไปป่ะ” พี่ซีถามกลับ
“ไปไหน” พี่เซ็นถามอีก
“สีลมครับ ร้านเพื่อนอยู่แถวนั้นน่ะ” พี่หมีตอบ
“อ่อ” พี่เซ็นพยักหน้ารับ
“ไปด้วยสิ ว่างพอดี” พี่เซ็นยักไหล่
“ไปทำไมครับ อันนี้เค้าเที่ยวกับแบบวัยรุ่นเหอะ” ผมพูดใส่
“ไปไม่ได้เหรอ” พี่เซ็นหันไปถามพี่หมีแทน พี่หมีหันกลับไปมองหน้าพี่เซ็น
“ได้อยู่แล้ว ผมห้ามได้งั้นเหรอครับ..เดี๋ยวก็อดได้โบนัสกันพอดี” พี่หมีแสยะหัวเราะ
“โอเค..ไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์มานานแล้วเหมือนกันแฮะ แล้ว..พรุ่งนี้เจอกันกี่โมงล่ะ” พี่เซ็นถาม มือก็ขยับหมุนมือถือเล่นไปด้วย
“สิบโมง” ผมตอบ
“เตรียมไปเลี้ยงเพลพระรึไง เช้าขนาดนั้นน่ะ” พี่เซ็นย้อนแกมขำพาให้ทุกคนหัวเราะผมอีกครั้ง
“เออ หัวเราะกันเข้าไปนะ” ผมขึ้นเสียงว่าอย่างไม่ชอบใจ ในร้านนี้ผมเป็นตัวตลกที่สุดในร้านแล้วมั้งครับ
“ไปเปล่ามึงอ่ะ” พี่เซ็นหันไปถามพี่คิว พี่คิวเบะปากและส่ายหัวตอบ
“สกปรก ไร้สาระ” พี่คิวตอบเสียงเรียบ พวกผมชะงัก
“โทษที..” พี่คิวบอกพร้อมกับผายมือให้พวกผมเหมือนกับต้องการขอโทษที่พูดตรง คำพูดที่คล้ายกับฟาดหัวพวกผมเข้าอย่างแรง
“ก็จริง” พี่ซีพูดเสริม
“นายจะไปกับพวกนี้ก็ได้นะ นอกจากเหตุผลสกปรกกับไร้สาระแล้ว..ฉันเองก็มีงานต้องทำด้วย” พี่คิวหันไปบอกเค้ก
“ไปสิเค้ก ไปด้วยกัน” ผมรีบชวนทันที
“ไม่อ่ะครับ..เค้กก็ ไม่ได้เล่นมาสองสามปีแล้ว” เค้กยิ้มแหยตอบ
“โหย อึมครึมชะมัดยาด เนอะพี่ซีเนอะ” ผมหันไปทำหน้าทำตาใส่พี่ซี พี่ซีหัวเราะตอบ
“ขอตัวล่ะ..ไงก็ วันอังคารหน้าทำงานปกติ ใครมีเวรก็ช่วยปรับตัวให้กลับเข้าสู่โหมดปกติด้วย โอเคนะ” พี่คิวตัดบทพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ค้าบ/ค่า” พวกผมตอบเสียงยานคาน
“ไปด้วย” พี่เซ็นลุกขึ้นตาม
“โชคดี” พี่เซ็นหันมาโบกมือลาพวกผม พวกผมยกมือไหว้พี่เซ็นและพี่คิวพร้อมกับรับไหว้จากเค้กด้วย
= = = = = = = =
13 เมษายน ณ ถนนลีลม..
ผมเดินทางมาที่ร้านเหล้าใกล้ๆกับถนนสีลมพร้อมกับพี่หมีตั้งแต่เช้า พี่หมีอาสาไปรับผมโดยพี่หมีขับรถมอเตอร์ไซด์คันเก่งมารับ ตอนสายเกือบสิบเอ็ดโมงคนเริ่มทยอยกันมาเยอะมาก พี่ไจ๋ พี่ออฟและรุจเดินทางมาด้วยกัน ทุกคนต่างเริ่มสังสรรค์ไปตามสไตล์ของตัวเอง ผมนั่งมอง นี่เกือบสิบเอ็ดโมงครึ่งเข้าไปแล้วแต่พี่เซ็นกับพี่ซียังไม่มาถึงเลย
“อย่าดื่มเยอะล่ะ” พี่หมีพูดถึงขวดเบียร์ที่อยู่ในมือของผม
“ครับผม” ผมยิ้มตอบ
“เสื้อน้องแจ่มดีนะ” เพื่อนพี่หมียิ้มบอกผม ผมหัวเราะ
“สีจะตกไหมครับนั่นน่ะ” เพื่อนพี่หมีอีกคนถามถึง
“ไม่ครับ” ผมยิ้มตอบ แน่ล่ะ..ตัวตั้งหลายพัน ถ้าสีตกละก็จะเอากลับไปประจานออกสื่อเลย
“แล้ว..ซี น้องที่ร้านมึงไม่มาเหรอวะ” พี่อีกคนถาม ผมชะงักเพราะสงสัยว่าพี่เขารู้จักกับพี่ซีได้อย่างไร
“มา..เดี๋ยวมา แต่อย่ายุ่ง..เพราะซีไม่ใช่คนที่คนอย่างมึงจะยุ่งได้ โอเคนะ” พี่หมีพูดพลางยิ้มไปด้วย พี่คนที่ถามอมยิ้มเล็กน้อย
“ไม่ลองก็ไม่รู้” พี่เขาพูดอีก
“โทษทีครับ กัสหวง” ผมพูดขึ้นทำให้ทุกคนหันกลับมามองผมกันเป็นตาเดียวรวมถึงพี่หมีเองก็ด้วย
“แฟนพี่ชายกัสน่ะครับ” ผมยักไหล่ส่งๆ พี่หมีหัวเราะเล็กน้อยเหมือนรู้ทันความคิดผม
“หึ..โอเคครับ” พี่คนเดิมพยักหน้ายิ้มอย่างเข้าใจ
“พี่..ทางนี้ครับ” อยู่ๆพี่หมีก็ลุกขึ้น ผมหันไปมองเห็นพี่เซ็นและพี่ซีเดินเข้ามาพอดี ผมรีบลุกขึ้นตาม พี่หมีจัดแจงที่นั่งให้ทั้งสองคน หลังจากนั้นพี่หมีก็แนะนำว่าใครเป็นใครบ้าง ในร้านคนค่อนข้างเยอะมาก ผมรู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง ส่วนมากคนที่ผมรู้จักจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่หมี หรือเพื่อนในกลุ่มเดียวกับที่ชอบไปเที่ยวกลางคืนกับพี่หมีประมาณนั้น ส่วนคนอื่นๆที่มารวมตัวกันในร้านเป็นเพื่อนของพวกพี่ๆเขาอีกทีซึ่งผมไม่รู้จักเลย
“มานานแล้วเหรอกัส” พี่ซีนั่งลงข้างๆผม
“ฮะ นานพอควร” ผมยิ้มตอบ เหลือบสายตาไปมองเห็นว่าเพื่อนพี่หมีคนที่สนใจพี่ซีเขากำลังมองมาทางเราสองคน
“พี่ซีอย่าเพิ่งหันไปทางอื่นนะครับ” ผมกัดฟันพูด ฉีกยิ้มเพื่อให้เป็นปกติ
“มีเพื่อนพี่หมีคนนึงชอบพี่ คนเสื้อสีขาว..นั่งตรงข้ามกับพี่รุจอ่ะครับ” ผมพูดกระซิบ ขยับปากเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะยกเบียร์ขึ้นดื่มเพื่อไม่ให้พิรุธมากเกินไป
“หึ..โอเค” พี่ซีหัวเราะเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เธอหันกลับไปพร้อมกับยกขวดสปาย์ขึ้นดื่ม ผมเห็นพี่ซีเหลือบมองพี่ผู้ชายคนนั้นเล็กน้อย
“แต่กัสบอกพี่เค้าไปแล้วว่าพี่ซีเป็นแฟนกับพี่ก้อง” ผมพูดเสริมพร้อมกับยักคิ้วให้
“ห๊า!” พี่ซีอุทานเสียงดัง ตาเบิกโพรงอย่างกับไก่ห่าน ผมยิ้มกว้างพร้อมพยักหน้า
“ดีแล้วครับ..นี่คือทางออกที่ดีที่สุด” ผมบอกอย่างไม่สนใจเลยว่าพี่ซีจะรู้สึกอย่างไร พี่ซีอาจจะคิดว่าผมพูดเล่น แน่ล่ะว่าผมกำลังพูดจริงอยู่
“บ้าจริง” พี่ซีส่ายหัวอย่างเอือมๆ เรานั่งดื่มและสังสรรค์กันอยู่นานพอสมควร อาหารมีมาให้ทานได้ไม่ขาดปาก ส่วนมากก็จะเป็นพวกอาหารสำหรับทานกับเหล้า คนเริ่มผลัดเปลี่ยนเวียนกันเข้าออกร้านเป็นว่าเล่น ตามถนนหนทางเข้าถนนสีลมคนแน่นเป็นทางยาววุ่นวายไปหมด พื้นถนนเปียกไร้พื้นที่แห้งใดๆ พี่หมีเดินไปโต๊ะนู้นทีโต๊ะนี้ที ผมเองก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะนั่นก็พวกเพื่อนพี่เขาทั้งนั้น หรือผู้หญิงบางคนอาจจะเป็นคู่ขาของพี่หมีมาก่อนก็ได้ ผมคิดว่าบางคนน่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะดูสนิทแบบผิดปกติ
“หมี..ไปเอาของข้างบนเป็นเพื่อนหน่อยสิ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับจับแขนพี่หมีไป ผมกับพี่ซีเงยหน้าขึ้นมอง พี่หมีชะงักวางขวดเบียร์ลงบนโต๊ะ ผมมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า หุ่นเธอดีและขาของเธอสวยมาก เสื้อสีขาวที่เธอใส่ทำให้ผมทราบได้ว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน ผมคิดว่าเธอน่าจะแปะสติกเกอร์ที่หัวนมของเธอหรืออะไรประมาณนั้น เพราะผมไม่เห็นอะไรชวนดึงดูดสายตาไปมากกว่าที่เห็นว่าเธอไม่ได้สวมเสื้อชั้นใน ผมพอรู้เรื่องนี้มาบ้างเพราะผมชอบแฟชั่นและก็ได้คลุกคลีคุยเรื่องพวกนี้กับพี่ฟ้าบ่อยๆ กางเกงขาสั้นที่เธอใส่อยู่เรียกได้ว่าสั้นมากเหมือนกับมีเพียงผ้ามาแปะไว้ไม่ให้กันโป๊ก็เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดูโป๊อยู่ดีแหละนะ
“เร็วสิ..เต้ให้ขึ้นไปยกกล่องเบียร์น่ะ” เธอบอก ผมมองเธออย่างไม่เข้าใจเพราะผู้ชายในร้านนี้มีเป็นร้อยคนทำไมเธอถึงไม่ไปชวนคนอื่น แล้วคนในร้านไม่มีใครอื่นที่จะสามารถช่วยได้แล้วเหรอ แล้วที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่หัวดำนี่เป็นใครกัน พี่ๆที่นั่งอยู่ก็เพื่อนของเธอด้วยทั้งนั้น คนอื่นบนโต๊ะไม่ได้หันมาทำท่าทีสนใจอย่างผมกับพี่ซีหรอกครับ ขนาดกระทั่งผมจ้องเธอไม่วางตาขนาดนี้เธอก็ยังทำเหมือนไม่รู้สึกหรืออายอะไรต่อสายตาของผมและพี่ซีเลย
“บอกให้ลูกน้องเต้ช่วยสิ” พี่หมีบอก
“ก็ลูกน้องไม่ว่างนี่” เธอพูด ปากขยับไปมาอย่างที่ผมรู้สึกไม่ชอบใจ
“โอเค” พี่หมีอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืน ผมหันหน้าหนี เมื่อพี่หมีเดินไปพร้อมกับเธอผมจึงหันกลับไปมองอีกครั้ง เธอเดินเกาะแขนพี่หมีอย่างกับปลิงก็ไม่ปาน และทั้งสองก็หายขึ้นชั้นบนไป พี่หมีหายไปนานมากเกือบยี่สิบนาที ผมเริ่มหันไปมองรอบๆตัวเพราะนานมากแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นพี่หมีจะลงมาเลย
“เอ่อ พี่ว่า..” พี่ซีเอ่ยขึ้นเสียงตะกุกตะกัก
“ไม่ใช่ว่า หายไป..จุดๆๆกันหรอกนะ” พี่ซียิ้มแหยเหมือนขยาดกับสิ่งที่คิด ผมพยักหน้าตอบไร้รอยยิ้ม ความรู้สึกมันงงๆบอกไม่ถูก ใช่ว่าผมชอบที่พี่หมีออกไปเที่ยวบ่อยครั้งแต่ผมก็ได้รับปากไปแล้วว่าจะไม่พูดอะไรที่ล้ำเส้นเกินความจำเป็นอีก แต่เรื่องที่พี่หมีจะไปนอนกับใครนั้น..ตลอดมาผมไม่เคยห้ามเลย แต่เพียงแค่ผมไม่เคยได้เจอเหตุการณ์จังๆอย่างนี้สักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพี่หมีออกไปเพื่อทำอะไรต่อหน้าต่อตา มันก็ชวนให้รู้สึกไม่ดีไม่ได้นะครับ
“เฮ้ย ไอ้หมี!” ผมกับพี่ซีรีบหันไปตามเสียงทันที พี่หมีกำลังเดินกลับมาที่โต๊ะพอดีแต่พี่เต้เพื่อนสนิทของพี่หมีเดินเข้ามาทักก่อน
“โอ๋ไปไหนวะ..เพื่อนมันมาเนี่ย” พี่เต้ถาม
“อยู่ข้างบน ห้องทำงานมึง” พี่หมีตอบ มีรอยยิ้มนิดๆที่มุมปากนั่นยิ่งทำให้ผมเข้าใจอะไรมากกว่าเดิมอย่างไม่ต้องถามเลย
“ทำไรวะ” พี่เต้ถามคิ้วขมวด
“โอ๋มันบอกว่ามึงให้กูขึ้นไปช่วยขนลังเบียร์” พี่หมีตอบ
“ขนเหี้ยไรล่ะ กูเพิ่งให้เด็กขนมาเมื่อกี้นี้เนี่ย” พี่เต้สบถอย่างไม่เข้าใจ
“นั่นสิ กูก็ว่างั้น” พี่หมีพูดหน้าตาย
“อ๋อ..หรือว่า” อยู่ๆพี่เต้ก็แสยะยิ้มออกมา พี่หมีส่ายหัวเล็กน้อยแต่กลับมีสีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างเห็นได้ชัด
“กูเปล่า” พี่หมียักไหล่ ผมใจชื้นขึ้นในทันที
“อาจจะ..สั่งสอนไปนิดหน่อย” พี่หมีพูดเสริม ผมชะงักหันกลับมามองขวดเบียร์ตรงหน้าแทน ผมรู้ดีว่าผมทำอะไรไม่ได้ ผมไม่ควรทำอะไรทั้งนั้นไม่ว่าพี่หมีจะทำอะไร มันเพื่อตัวพี่หมีและตัวของผมเองด้วย..
“หึ มึงนี่เหลือเกินจริงๆ..เดี๋ยวกูไปตามมันก่อนแล้วกัน” พี่เต้พูดก่อนจะเดินไป พี่หมีกลับมานั่งลงที่เดิมข้างๆผม ผมไม่ได้หันกลับไปมองพี่หมีเพราะผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำสายตาแบบไหนดี ผมนั่งเงียบเหลือบมองออกไปที่กระจกด้านนอกแต่ก็ต้องหันไปสบตากันพี่เซ็นเข้าพอดี พี่เซ็นยิ้มให้ผมนิดหน่อยก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนผู้หญิงของพี่หมีที่พี่เซ็นได้ทำความรู้จักกับเธอตั้งแต่มาถึงแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ ขนาดพี่หมีนั่งอยู่ใกล้ผมเพียงแค่คืบเดียวแต่ผมก็ยังไม่สามารถหันกลับไปมองได้อย่างเต็มตา ผมหวงพี่หมีก็จริงแต่นั่นล่ะว่าในฐานะน้องผมเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าผมล้ำเส้นมากเกินผมก็อาจจะสูญเสียพี่เขาแม้กระทั่งในฐานะพี่ชายก็ด้วย..
“เอาเบียร์เพิ่มไหม” พี่หมีถามขึ้นหลังจากที่เราต่างฝ่ายก็ต่างนั่งเงียบอยู่นาน
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ พี่หมีเดินไปไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมกับขวดเบียร์ที่เปิดให้ผมเรียบร้อยแล้ว ผมรับมาถือไว้ในมือ
“เป็นอะไรครับ” พี่หมีนำมือมาลูบแก้มผมเบาๆ ผมยิ้มพร้อมกับส่ายหัวตอบ
“กัส..เบื่อแล้วน่ะ อยากออกไปเดินเที่ยวละ” ผมตอบยิ้มๆกระทั่งไม่กล้าสบตาพี่หมีตรงๆเท่าไหร่นัก
“จะไปรึเปล่าล่ะ เดี๋ยวพี่พาไป” พี่หมีบอก
“ก็ได้” ผมพยักหน้าตอบ พี่หมีบอกทุกคนว่าจะออกไปเดินแถวถนน เพื่อนของพี่หมีก็เห็นดีเห็นงามขอตามมาด้วย พวกรุจ พี่ออฟ พี่ไจ๋ พี่ซีและพี่เซ็นเองก็บอกว่าไม่รู้จะนั่งอยู่ทำไมเพราะนั่งมานานแล้วจึงขอตามมาด้วยอีก กลายเป็นว่าตอนนี้รวมพลได้สิบกว่าคนพอดี..รวมเพื่อนพี่หมีด้วยนะครับ ผมถือขวดเบียร์ติดมือมา พี่หมีนำกระบอกฉีดน้ำมาคล้องให้ผม
“ดื่มอะไรนักหนาครับ” พี่หมีว่า ทำท่าจะดึงขวดเบียร์กลับไปวาง ผมยื้อไว้
“มันยังไม่หมดฮะ” ผมบอกเพราะนึกเสียดาย
-
“แค่นี้ก็พอแล้ว” พี่หมีพูดเหมือนสั่งอย่างนั้น พี่เขาดึงขวดเบียร์กลับไปวางไว้บนโต๊ะก่อนที่พวกเราจะพากันเดินออกมาจากร้าน เพื่อนของพี่หมีที่ชื่อพี่ลุกเดินนำขบวน คนเยอะแยะไปหมดทำให้เดินได้อย่างลำบาก พี่ซีกับผมเดินเกาะกันตลอดเวลา ส่วนพวกพี่เซ็นเดินตามประกบหลังพวกเราแทน พวกเราสนุกสนาน ต่างฝ่ายต่างนำน้ำฉีดกันและกัน ปะแป้งให้คนอื่นบ้างเป็นระยะ ผู้ชายก็หลีผู้หญิง ส่วนผู้หญิงก็มองเฉพาะผู้ชายที่หล่อหน้าตาดี พี่หมีดูสนุกสนานกับเพื่อนๆดี ครั้งนี้เป็นไม่กี่ครั้งที่ผมได้เห็นพี่หมีหัวเราะ ยิ้มบ่อยและเป็นตัวของตัวเองได้มากขนาดนี้ ผมจึงได้แต่มองและเข้าใจว่านี่ล่ะคือตัวพี่หมี ถ้าพี่หมีกำลังมีความสุขในนานๆครั้งผมเองก็ไม่อยากจะทำตัวให้พี่เขามาเอาใจใส่อะไรผมให้มากความ..
“เฮ้ยไอ้หมี..เอ็กซ์เว้ย” เพื่อนพี่หมีเรียกเสียงดัง พวกผมหันไปมองอย่างสนใจ พวกเพื่อนๆของพี่หมีมองไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง เธอหุ่นดี นุ่งน้อยห่มน้อยกำลังเต้นตามจังหวะเพลงอยู่หน้าบูทเบียร์
“เยดดดดด~ เข้” เพื่อนพี่หมีอุทานลากเสียงยาว พี่หมีหัวเราะ ผมเองก็หัวเราะกับเสียงอุทานนั่นของพี่เขาที่ฟังดูทะลึ่งตึงตังเสียเหลือเกิน
“เอ็กซ์..เอ็กซ์!” พวกเพื่อนพี่หมีเรียกเสียงดังพร้อมกับฉุดกระชากลากพี่หมีไปด้วย ผู้หญิงที่กำลังเต้นอยู่หยุดเต้นและหันมามอง เมื่อเธอเห็นพวกพี่หมีเธอก็รีบวิ่งเข้ามาทักทายด้วยความดีใจ ทุกคนต่างรุมไปที่เธอเหมือนไม่ได้พบปะกันมานาน เธอเขย่งตัวขึ้นกอดและหอมแก้มพี่หมี พี่หมียิ้มและกอดตอบก่อนที่ทุกคนจะพูดคุยกันโหวกเหวกโวยวายไม่ได้สนใจใครอื่นเลย
“พี่หมีนี่ สาวเยอะจังแฮะ..เฮ้อ ทำไมรอบตัวเราถึงมีแต่ผู้ชายแบบนี้กันนะ” พี่ซีทำหน้าขยาด ผมยิ้มตอบ ไร้คำพูดตอบจากผม
“เออ ใช่..แต่พี่ชายกัสไม่ใช่คนอย่างนี้นะครับ” ผมนึกได้ก็รีบชงในทันที พี่ซียิ้มเล็กน้อย
“ออฟ..ฝากซีด้วยนะ พาไปส่งบ้านให้หน่อย ห้ามเกินหกโมงเย็น..โอเคนะ” ผมกับพี่ซีหันกลับไปมองพี่เซ็นที่พูดสรุปเองเสร็จสรรพ การพูดขึ้นโต้งๆของพี่เขาทำให้ทุกคนยืนงงด้วยความสงสัย
“ถ้าน้องสาวพี่ไม่ปลอดภัย น้องโดนแน่ครับ” พี่เซ็นแสยะยิ้มพร้อมกับตีแก้มพี่ออฟเบาๆ
“โอเคครับ ดูแลเท่าชีวิตเลย” พี่ออฟรับปากปนหัวเราะ
“แล้วพี่เซ็นจะไปไหน” พี่ซีถาม
“มานี่” พี่เซ็นไม่ตอบพี่ซีแต่อยู่ๆกลับหันมาบอกผมพร้อมกับดึงแขนผมไปอย่างแรง
“เอ๊ะ! อะไรครับ” ผมตกใจ พยายามจะดึงแขนกลับแต่พี่เซ็นกลับกระชากไปแรงมาก ไม่มีใครห้ามเลยแม้สักคนเดียว พี่ไจ๋และรุจยืนมองแถมยังยกมือบ๊ายบายผมให้อีกต่างหาก
“อะไรครับพี่เซ็น กัสเจ็บนะ” ผมว่าเพราะรู้สึกเจ็บจริงๆ คนเยอะแยะที่ผมต้องเดินเบียดทำให้ตัวกระแทกไปโดนคนอื่น แถมพี่เซ็นยังบีบแขนผมแรงมากอีกด้วย
“พี่เบื่อแล้ว ไปเที่ยวที่อื่นกัน” พี่เซ็นพูด
“พี่ก็ไปสิ จะลากกัสมาด้วยทำไมเล่า” ผมว่า
“ไม่มีนายก็ไม่สนุกน่ะสิ” พี่เซ็นยักคิ้วตอบ ผมขมวดคิ้ว รั้งตัวไว้อย่างไม่ยอมแต่สุดท้ายก็ต้องเดินไปตามแรงกระชากนั่นจนได้ พี่เซ็นพาผมเดินออกมาไกลจากร้านของเพื่อนพี่หมีมากเป็นกิโล
“อะไร” พี่เซ็นหันกลับมามองเมื่อผมแกล้งกระตุกแขนเรียกร้องความสนใจ
“เมื่อยแล้วฮะ” ผมบอกหน้างอ พี่เซ็นแสยะยิ้ม
ซ่า~
“.....................” ผมยืนนิ่งกัดฟันเข้าหากันเมื่ออยู่ๆก็โดนสาดน้ำเข้าที่หน้าเต็มๆอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“หึ..หึหึ” พี่เซ็นยืนหัวเราะ ผมหน้างอกว่าเดิมและหันไปมองเจ้าของน้ำนี่
“น่ารักจังครับ” อีกฝ่ายพูดยิ้มกว้าง เหมือนเป็นการพูดเพื่อแก้สถานการณ์ที่เขาทำให้ผมหน้างอแบบนี้
“เหอะๆ..พูดดีนี่ครับ” ผมฉีกยิ้ม กัดฟันพูดตอบอีกฝ่ายไป เพื่อนๆของคนที่สาดน้ำหัวเราะชอบใจก่อนที่พวกเขาจะพากันเดินเล่นน้ำต่อ ผมลูบหน้าตัวเองก่อนจะหันกลับไปมองพี่เซ็นอีกครั้ง
“เดี๋ยวพี่หมีเป็นห่วง กัสจะกลับแล้วครับ” ผมบอก
“พี่บอกเมื่อไหร่ว่าจะให้กัสกลับได้” พี่เซ็นย้อน
“แล้วพี่ลากกัสออกมาทำไมล่ะ” ผมขึ้นเสียงอย่างไม่ชอบใจ
“ก็ตรงนั้นคนมันเยอะ อึดอัด..ไปที่อื่นกัน” พี่เซ็นไม่พูดเปล่าแต่กลับดึงแขนผมให้เดินตาไปอีกด้วย พี่เซ็นพาผมเดินไปเรื่อยเปื่อย เหมือนกับไร้จุดหมาย ผมเองก็เดินไม่พูดว่าอะไรอีกเพราะพี่เซ็นจับแขนผมไม่ยอมปล่อย ยิ่งทำให้ผมคล้ายกับคนกำลังเป็นบ้า ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมกำลังรู้สึกดีมาก มากถึงมากที่สุดเลยล่ะ..
“พี่ไม่ได้เอารถมาเหรอ” ผมถาม
“เปล่า..ไปหาอะไรกินกัน หิวเป็นบ้าเลยอ่ะ” พี่เซ็นบ่น หยุดยืนมองไปรอบๆพร้อมกับนำมือลูบท้องตัวเองด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่
“ยังไม่ได้กินอะไรแล้วดื่มเหล้าเข้าไปทำไมล่ะครับ” ผมว่าด้วยรู้สึกเป็นห่วง
“มัวแต่จีบสาว เลยไม่มีเวลากินน่ะ” พี่เซ็นตอบส่งๆเหมือนเป็นคำพูดที่ธรรมดาสำหรับพี่เขามาก ผมเงียบทำเป็นไม่ได้ยิน
“ไปร้านนู้นกัน” พี่เซ็นชี้ไปที่ร้านสเต็กร้านหนึ่ง
“เอ่อ เค้าจะให้เข้าเหรอครับ เราเปียกกันขนาดนี้..หรูด้วย” ผมท้วงก่อนเพราะเป็นร้านที่ดูหรูมากทีเดียว
“น่า..ลองเข้าไปถามก่อน” พี่เซ็นพูดก่อนจะเดินนำผมไปในทันที พอเดินมาถึงหน้าร้านพนักงานต้อนรับก็เปิดประตูให้เราพร้อมกับมองเราตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมยิ้มแหยเพราะรู้สึกเกรงใจกลัวว่าพื้นร้านของเขาจะเลอะเทอะ
“อ่าว คุณเซ็นสวัสดีค่ะ” ผมหันไป เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดพนักงานร้านเดินเข้ามาพร้อมกับยกมือไหว้พี่เซ็น ผมมองไปที่ป้ายชื่อที่ติดอยู่บนหน้าอกของเธอ ตำแหน่งของเธอเป็นถึงผู้จัดการร้าน ผมหันไปมองเหล่ไอ้ผู้ชายเจ้าเล่ห์ที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อสายตาของผม
“ผมเปียกหน่อยนะครับ รบกวนด้วย” พี่เซ็นพูด
“อ่อไม่เป็นไรค่ะ เชิญเลยค่ะ..เอาเป็นโต๊ะมุมสงบหน่อยก็แล้วกันนะคะ” เธอผายมือยิ้มต้อนรับอย่างสุภาพและเป็นกันเอง ผมรีบเดินตามไปขนาบข้างพี่เซ็น ลูกค้าคนอื่นๆมองพวกผมสองคนกันเป็นตาเดียว
“รู้จักกับเจ้าของร้านสินะครับ” ผมพูดเสียงแข็ง
“คงงั้น” พี่เซ็นยิ้มตอบ ลอยตาไปอีกทางไม่ยอมมองมาที่ผม
“ขี้โกหกชะมัด” ผมบ่นอุบอิบ
“พี่โกหกอะไรเมื่อไหร่ คิดเอาเองน่ะสิ” พี่เซ็นเหสายตามองต่ำมาที่ผม
“อ่ะ..ก็พี่ไม่บอกละว่ารู้จักกับเจ้าของร้าน ให้กัสคิดเองเออเองหน้าแตกซะงั้นอ่ะ” ผมบ่นทันที พี่เซ็นยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนจะเดินไปที่โต๊ะ
“.................” ผมยืนนิ่งมองพี่เซ็นที่เลื่อนเก้าอี้ให้ผม พี่เซ็นมองหน้าผมพร้อมกับเลิกคิ้วให้เป็นการส่งสัญญาณ ผมทำตัวไม่ถูกเพราะผู้จัดการร้านยืนมองการกระทำของเราสองคนอยู่ด้วย
“กัสนั่งเองได้เหอะ” ผมพูดเสียงเบาเพราะรู้สึกเขิน แต่ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้อย่างช่วยไม่ได้ พอจังหวะที่ผมกำลังจะนั่งลงพี่เซ็นกลับแกล้งเลื่อนเก้าอี้หนีผมซะงั้น
“เอ้ พี่เซ็น” ผมหันไปว่า พี่เซ็นหัวเราะชอบใจก่อนจะเลื่อนเก้าอี้กลับมาให้ผมนั่งอย่างเดิม
“เชิญค่ะ” ผู้จัดการร้านผายมือให้ฝั่งพี่เซ็นบ้าง
“เมนูค่ะ เดี๋ยวให้พนักงานมารับออร์เดอร์นะคะ” เธอยิ้มบอก
“ครับ” พี่เซ็นพยักหน้าตอบก่อนจะรับเมนูมา ผมรับเมนูจากเธอเช่นกัน
“กัสมีเงินสดเท่าไหร่น่ะ” พี่เซ็นถาม เหลือบตาขึ้นมองหน้าผมแต่หน้ายังคงก้มคล้ายกับเตรียมพร้อมจะอ่านเมนูอยู่ ผมชะงัก..พี่เซ็นคงไม่ได้จะให้ผมออกเงินเลี้ยงหรอกนะ
“ไม่ได้จะให้จ่ายหรอกน่า” พี่เซ็นยิ้มอย่างรู้ทัน
“พันแปดฮะ” ผมตอบ วันนี้ผมพกเงินมาเท่านี้กับมือถืออีกเครื่องแค่นั้น ผมรู้สึกอุ่นใจที่มากับพี่หมีแต่ก็ต้องระวังตัวด้วยเพราะกลัวโดนล้วงกระเป๋าน่ะครับ
“อ่อ ก็ดี..งั้นเก็บไว้เป็นค่ารถก็แล้วกันนะ” พี่เซ็นสรุปเองเสร็จ ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“แล้วพี่เซ็น ไม่มีเงินเหรอครับ” ผมรีบถาม
“ฮึ..มีอยู่สี่สิบเนี่ย” พี่เซ็นส่ายหัวและยักไหล่ตอบอย่างไม่แยแสอะไร
“เอามาแต่บัตรเครดิต” พี่เขาพูดเสริม
“รถก็ไม่เอามา แล้วพกแต่บัตรเครดิต..แท็กซี่คงมีให้พี่รูดหรอกนะครับ” ผมว่าอย่างเหลืออด
“หึหึ นั่นดิ..” พี่เซ็นยิ้มชอบใจ ผมได้แต่ส่ายหัวกับผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้ ไม่รู้ว่าผมไปชอบพี่เขาตรงไหน หรือที่ชอบ..เพราะชอบที่พี่เขาไม่เอาไหนกันแน่นะครับ
“ตอนมาซีจ่าย ไม่เห็นว่าจำเป็นต้องพก” พี่เซ็นบอก
“มันก็ต้องพกเผื่อไว้บ้างสิครับ จะได้อุ่นใจ” ผมพูดเสียงยานคาง
“แต่นี่ก็ไม่ได้ไม่สบายใจอะไรนะ” พี่เซ็นย้อนทันที
“เฮ้อ..” ผมถอนหายใจแรงก่อนจะก้มหน้าอ่านเมนูอย่างต้องการตัดบทสนทนานี่ลงซะ พี่เซ็นสั่งอาหารมาสองอย่าง ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่เซ็นต้องจ่ายแน่ ผมจึงสั่งมาหกอย่างเลย ตอนสั่งก็ไม่สนใจด้วยว่าอีกฝ่ายทำหน้าแบบไหนอยู่เพราะผมไม่ได้หันไปมอง รู้ตัวเพียงว่าตัวเองกำลังรู้สึกสนุก พอพนักงานรับออร์เดอร์เสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินไป
“อะไรฮะ” ผมพูดส่งๆก่อนจะเหลือบตาไปทางอื่น ยกแก้วน้ำขึ้นดื่มไปพลาง
“กินให้หมดนะ” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ
“แคร์เมื่อไหร่” ผมยิ้มให้
“หึ..” อยู่ๆพี่เซ็นก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ผมจ้องหน้าตอบแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
ตื๊ด ๆ ๆ
ผมเหลือบมองโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากันน้ำที่คล้องคอผมอยู่ กระเป๋าใบนี้ที่ซื้อมาเพื่อจะนำมาเล่นในวันสงกรานต์โดยเฉพาะ
“เอ๊ะ!” ผมอุทาน คว้ามือจะไปดึงกระเป๋ากลับมาแต่ก็ไม่ทันความเร็วที่พี่เซ็นได้แย่งกระเป๋าของผมไปเรียบร้อยแล้ว
“เอาคืนมานะ” ผมพูด พี่เซ็นยิ้มและยักคิ้วให้ อีกฝ่ายจ้องมองไปที่โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าและมันยังคงสั่นไม่หยุด
“พี่เซ็น! กัสบอกให้เอาคืนมาไงครับ” ผมขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิด พี่เซ็นชูกระเป๋าของผมขึ้นสูงและทำหน้ากวนตอบกลับให้ผมคล้ายกับไม่ได้สนใจต่ออารมณ์ครุกรุ่นของผมเลยแม้แต่น้อย
“นั่งลง” พี่เซ็นพูดสั่งเสียงเรียบเมื่อเห็นว่าผมทำท่าจะลุกขึ้น สายตาของพี่เซ็นที่อยู่ๆก็ดุดันทำให้ผมต้องนั่งลงด้วยความกลัวอย่างช่วยไม่ได้ พี่เซ็นไม่พูดอะไรอีกแต่กลับนำสายกระเป๋าของผมไปคล้องไว้ที่คอของตัวเอง ผมเกือบจะหลุดขำเพราะกระเป๋าของผมมันเป็นซองพลาสติกกันน้ำใบเล็กนิดเดียวซึ่งไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่อย่างพี่เซ็นเอาเสียเลย
“แล้วกระเป๋าพี่อยู่ไหนละครับ” ผมถามถึง พี่เซ็นยิ้มก่อนจะขยับตัวและนำถุงใส่แกงที่มีบัตรเครดิตหลายใบอยู่ในนั้นออกมาชูให้ผมดูด้วยท่าทางภาคภูมิใจซะไม่มี
“อ่าว..เงินเปียกไปละ” พี่เซ็นหยิบแบงก์ยี่สิบสองใบออกมาจากกระเป๋ากางเกงอีกด้านก่อนจะนำมันขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ
“ทิปพนักงานก็แล้วกัน” อีกฝ่ายยิ้ม เลื่อนเงินมาวางไว้ฝั่งด้านในของโต๊ะเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป
“พี่นี่น้า ทำไมไม่ซื้อกระเป๋าดีๆใส่ละครับ” ผมอดบ่นไม่ได้
“มันมีขายที่ไหนล่ะ นึกได้แค่นี้แหละ..ให้แม่บ้านหาให้ก็ออกมาเลย อย่าบ่นไปหน่อยเลยน่า” พี่เซ็นปัดทำหน้าเบื่อโลกใส่ผมอีก
“..................” เราต่างฝ่ายต่างเงียบลง พี่เซ็นยกเบียร์ขึ้นจิบ ผมสะดุ้ง รับรู้ได้ถึงขาของอีกฝ่ายที่นำมาเขี่ยขาผมใต้โต๊ะ ผมมองหน้าพี่เซ็นแต่พี่เขายังคงยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาเช่นเคย ผมจึงขยับตัวหนีแต่พี่เซ็นกลับเอาขาทั้งสองข้างมาเกี่ยวขาผมไว้เหมือนไม่ให้ขยับหนีไปไหน
“จิ พี่เซ็น..เล่นอะไรอยู่ได้” ผมปราม พี่เซ็นหัวเราะ
“ก็มันหนาว” อีกฝ่ายยิ้ม แต่พี่เซ็นก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั่น ขายังคงเกี่ยวขาผมไว้อยู่อย่างนั้นนานมากจนพนักงานเริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟ พี่เซ็นก็ปล่อยออก เรานั่งทานอาหารต่อเกือบชั่วโมงและแน่นอนว่าทานไม่หมด
พี่เซ็นพาผมออกมาเดินด้านนอกต่อซึ่งไม่ได้กลับไปทางร้านของเพื่อนพี่หมีอีก ผมคาดคั้นถามแล้วว่าทำไมไม่กลับไปแต่พี่เซ็นก็ไม่ยอมตอบแถมยังกวนผมกลับอีกต่างหาก จนผมขี้เกียจจะถามอีก เราเดินเล่นกันมาเรื่อย พี่เซ็นพาผมเดินไปนู่นไปนี่อย่างไร้จุดหมาย เมื่อโดนคนอื่นสาดน้ำเราก็สาดกลับ ผมรู้สึกสนุกและมีความสุขมากที่ผมได้อยู่กับพี่เซ็นสองคน มันเป็นอะไรที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เป็นจริงจนทำให้ลืมไปเลยละครับว่าที่จริงผมไม่ควรจะอยู่กับพี่เซ็นนานนัก เพราะมันยิ่งทำให้ผม..ได้ใจ
“เอ๊ะ” ผมร้อง เมื่อโดนสาดเข้าที่หน้าเต็มๆอีกครั้ง
“หึหึ” พี่เซ็นหัวเราะ หันมายิ้มให้ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบน้ำออกจากหน้าให้ผม
“ทำไมถึงชอบสาดเข้าที่หน้ากันจริงนะ” ผมบ่นอย่างรู้สึกไม่ชอบ
“เพราะสาดที่อื่นมันไม่สนุกน่ะสิ” พี่เซ็นบอกพร้อมกับจูงมือผมไปด้วย มือของพี่เขาใหญ่และอุ่น พอถูกจับแล้วรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ที่จริงถ้าเป็นวันปกติธรรมดาอีกฝ่ายก็คงจะรับรู้ได้ถึงเหงื่อที่อาจจะออกเต็มฝ่ามือของผมเมื่อมีปฏิกิริยา แต่นี่ดีหน่อยที่เป็นวันสงกรานต์..มันช่วยปกปิดอะไรบางอย่างได้มากทีเดียว
“ไปไหนครับ” ผมถามอย่างสงสัย พี่เซ็นไม่ตอบ
“แถวนี้ใกล้รถไฟใต้ดินไหม” พี่เซ็นหันมาถาม
“มันใกล้อะไรล่ะ..ก็พี่เล่นลากกัสเดินไปนู่นไปนี่ไม่รู้จักถามก่อน” ผมบ่น
“งั้น..มีเงินใช่ไหม” พี่เซ็นถามอีก ผมพยักหน้าตอบ พี่เซ็นรีบโบกมือเรียกแท็กซี่ที่ขึ้นป้ายว่า “ว่าง” ในทันที
“ไปพระรามเก้าไหมครับ” พี่เซ็นเปิดประตูถามคนขับ คนขับแท็กซี่ชะงักทำหน้าคิดหนัก ผมคิดว่ายังไงพี่คนขับก็ไม่มีทางตกลงไปอย่างแน่นอน
“ผมให้พันห้าเลย แต่ตัวผมเปียกนะ..โอเคเปล่า” พี่เซ็นพูดเสนอทำอย่างกับเป็นเงินของตัวเองอย่างนั้น
“ห๊า..” เจ้าของเงินอย่างผมถึงกับต้องยืนอ้าปากค้าง
“เบาะหนังครับ เชิญเลย” ผมยืนทำหน้าเอือมเมื่อได้ยินคนขับตอบรับข้อเสนอของพี่เซ็นในทันที พี่เซ็นหันมายิ้มให้
“เก่งปะล่ะ” อีกฝ่ายยักคิ้วภูมิใจในตัวเองเสียไม่มี ผมทำหน้างอตอบก่อนที่พี่เซ็นจะขึ้นเข้าไปนั่งก่อน ผมก็ขึ้นไปนั่งตาม
“แล้วจะไปไหนครับเนี่ย” ผมถามอีกครั้ง นี่คงจะเป็นครั้งที่ล้านแล้วละมังครับ
“ไม่ต้องรีบนะพี่ ผมชอบรถติด” พี่เซ็นบอกคนขับทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมถามเลยสักนิด
“เฮ้อ!” ผมถอนหายใจอย่างแรงประชดอีกฝ่าย เบนหน้าหนีออกไปมองทางนอกหน้าต่างแทนอย่างช่วยไม่ได้ อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมเองก็ยอมตามน้ำมาด้วย ก็บอกปัดไม่ได้ละนะว่าผมชอบที่จะอยู่กับพี่เซ็นในตอนนี้ ชอบที่ถูกแกล้งและชอบที่อีกฝ่ายทำท่าเหมือนชอบที่ได้หยอกผม..
..................>>>><<<<..................
-
พี่หมีพลาดแล้ว เผลอแป๊บเดียวน้องโดนลักพาตัวไปเรียบร้อย :z3:
-
วู้วววว ให้กัสได้กะพี่เซ็นไปละกัน
ให้พี่หมีไปหาเอาใหม่ คงได้ดีกว่ากัสแหละ
อุ้ย ลืมตัว 5555555555555555
แต่ก็นะ กัสมันสับสนมากไปอ่ะ - -*
ถ้าคิดว่าตัวเองรักพี่เซ็น ก็อย่าไปล้ำเส้นพี่หมีน่ะถูกแล้ว
อย่าหวงด้วย!!!
-
เวลากัสอยู่กะพี่เซ็นนี่มันจะตื่นเต้นตลอดเวลา
แต่เวลากัสอยู่กะพี่หมีมันจะรู้สึกแบบอบอุ่น แต่ไม่เร้าใจอะ
แต่เราชอบพี่หมี :z3:
-
กลัวใจพี่เซ็นมันจะเล่นๆจริงๆ เฮ้ออออออออ
-
พี่หมีชอบกัส กัสชอบพี่เซ็น พี่เซ็นหยอกไปเรื่อยไม่รู้ว่าคิดยังงัยกับกัส กัสหวงพี่หมี
สรุปพี่หมีน่าสงสารสุด ๆ เราไม่ชอบที่กัสเป็นแบบนี้เลย
ถ้าพี่เซ็นขอกัสเป็นแฟนนี่ ท่าทางกัสจะตอบตกลงนะ
เหมือนพี่หมีเป็นตัวเลือกยังงัยชอบกล
-
สรุปว่าน้อวกัสนี่ยังไม่รู้ตัวใช้ปะว่าชอบพี่หมีอะ :เฮ้อ:
-
พี่หมีชอบกัส กัสชอบพี่เซ็น พี่เซ็นหยอกไปเรื่อยไม่รู้ว่าคิดยังงัยกับกัส กัสหวงพี่หมี
สรุปพี่หมีน่าสงสารสุด ๆ เราไม่ชอบที่กัสเป็นแบบนี้เลย
ถ้าพี่เซ็นขอกัสเป็นแฟนนี่ ท่าทางกัสจะตอบตกลงนะ
เหมือนพี่หมีเป็นตัวเลือกยังงัยชอบกล
คิดแบบนี้เลยค่ะ .. แอบบวกเป็ด 5555
แต่ก็ไม่ชอบใจพี่หมีอยู่อย่าง ถ้าคิดอะไรกับกัสจริงๆทำไมออกไปกับผญ.ต่อหน้าต่อตากัสอะ เหมือนไม่แคร์เลย (หรือประชด?)
ปล. นี่ขนาดชัดเจนแล้วนะเบบี้ 5555 เรายังเดาไม่ออกเลยว่ากัสชอบใครจริงจังกว่าใครกันแน่เนี่ย - -"
-
พระรามเก้าเลยรึ o22 o22
ติดยาวแน่ๆ :really2:
สงสารน้องกัสส จะหนาวมั้ยยยย :man1: :man1:
-
ตอนนี้กัสโดนพี่เซ็นลากไป
สวีทกันอยู่สองคนเลยนะเนี่ย
ปล่อยพี่หมีไปหลีสาว
-
กัสคู่กับใครเอ่ย
คนอ่านสับสน :เฮ้อ:
+1
-
เริ่มรู้สึกชอบบรรยากาศที่กัสเซ็นอยู่ด้วยกันอ่ะ
ฮื่อๆๆๆ ป่ะ!!! พี่หมีเดี๋ยวพี่พาไปซดน้ำใบบัวบกนะ
-
พี่หมียอมปล่อยกัสไปกับเซ็นทำม๊ายยยยยยย
-
อ่านไปเรื่อยๆ เซนชักจะยังไงๆ เนี้ย :z2:
-
จะสมน้ำหน้าพี่หมีที่พี่เซ็นลากกัสออกมาก้ไม่ใช่
เพราะกัสไม่ใช่แฟน ทั้ง ๆ ที่ขอแล้วแต่กัสก็ปฎิเสธ แล้วพี่หมีจะต้องเกรงใจทำไม
จะสงสารกัส ก็ไม่ใช่ ก็แกปฎิเสธพี่หมีอ่ะ จะมาหวงก้างทำไม แต่ก็อดสงสารไม่ได้
ไปอยู่กับพี่เซ็นก็ดันไปรู้สึกดีกับพี่เซ็นอีก
สับสนจริง ๆ
-
พี่หมีเปิดโอกาสให้พี่เซ็นตลอด คนอ่านงงเลยค่ะ
งั้นพี่ก็เป็นแค่พี่ชายแล้วกัน เหอะๆ ให้พี่เซ็นคู่กับกัสไป ^^
-
ถ้ากัสชัดเจนแล้วล่ะก็ ............
ตั้งไฟต้มน้ำบบัวบกรอเลยล่ะกัน T^T เค้ารักพี่หมีนะ
-
อยากรู้ความคิดของหมีและเซ็นว่า
คิดยังไงกับน้องกัส เดาไม่ถูกเลยจริงๆ :เฮ้อ:
-
กัสมัวแต่ลังเล โลไปเลมาอยู่แบบนี้
สุดท้าย อาจจะไม่เหลือสักคนะน้องนะ :เฮ้อ:
-
:เฮ้อ:
-
เอาไงกะพี่เซ็นดีอะ :z3:
-
ลุ้นกันตอนต่อไป ว่าเรื่องราวจะเป็นแบบไหน ตนไหนเจ็บ มากกว่ากัน :เฮ้อ:
-
กัส :เฮ้อ:
พี่หมี :monkeysad:
พี่เซน :m16:
บรรยากาศมัวๆๆ
-
เริ่มไม่เข้าใจ สับสน หรือเราคิดมากไปเอง 555+++
พูดไม่ออก ทำไม?? อยากได้คำตอบของกัสและเซ็น รักกันไปเลย
อย่าทำให้พี่หมีลำบากใจ ..(อีกเลย)
-
หมันไส้พี่เซ็นหว่ะ :z6:
ร๊ากพี่หมี :กอด1:
:pig4:
-
:เฮ้อ:
-
รอจ้า :)
-
คิดว่าที่พี่เซ็นมากัสออกมาต้องมีเหตุผลแน่ๆ ไม่น่าจะแค่พามาแกล้งเฉยๆ หรอก
ส่วนกัสก็นะ...ถ้าเทไปให้ใครคนใดคนหนึ่งตั้งแต่ตอนนี้ได้คงดี
-
เอ่อ . มันอึมครึม คาราคาซัง พันกันนัวเนีย ไม่เคลีย์ซักเรื่อง
เอาไงดีกัส พี่หมีก้อแสนดี พี่เซ็นก้อชายในฝัน :a11: เฮ้อ .....หนักใจแทน
-
ชักจะหมั่นไส้กัสแล้ว พออยู่ใกล้เซ็นแล้วลืมพี่หมีไปเลย
-
ตอนพี่เซ็นนั่งเกี่ยวขาน้องกัสนี่อ่านไปเขินไป ไม่รู้ทำไม แต่มันรู้สึกจั๊กจี้อ่ะ
เวลากัสอยู่กับพี่เซ็นแล้วมันดูเหมือนแฟนกันดีเนอะ
แต่เวลาอยู่กับพี่หมีมันก็อบอุ่นแปลกๆ มากกว่าพี่น้องธรรมดาอ่ะ
เหมือนจะเขียนงงๆ ยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่า ถ้าใครไม่สมหวังเราขอดามอกให้เองละกัน กร๊ากกกกกกกกกกก :laugh:
-
เฮ้อ!!!! พี่หมีพระรองเกาหลีจริงๆนั่นแหละพี่อ่ะ
-
หมีคู่แข่งขึ้นนำหนึ่งหมัดแล้วนะ เอ๊ะหรือว่ามากกว่าหนึ่งแล้วเนี่ย
:pig4: คะ
-
ชอบตอนกัสอยู่กับพี่เซ็นนะ เหมือนเป็นคู่รักมากกว่าอยู่กับพี่หมีอีก
แต่พี่หมีอะ ถ้าคิดจริงจังกับกัส ทำไมยังไปตัวเพลย์บอยแบบนี้ แถมต่อหน้ากัสอีกต่างหาก
น้องเองก็คงไม่กล้าคิดเรื่องของพี่จริงจังแล้วทีนี้ :เฮ้อ:
-
อินู๋กัสทำแบบนี้
ไม่ไหวจะเคลียร์นะค๊า o18
-
:mc4: เราเชียร์พี่เซ็น
ออกนอกหน้าไปนิดนะ :-[
ขอบคุณเบบี้
-
เข้าใจความรู้สึกกัสเลย อารมณ์สับสนแต่ก็มีความสุขเวลาได้อยู่กับคนที่แอบชอบ เลยอยากให้กัสคู่พี่เซ็น อยากให้สมหวัง 555
-
พี่หมีเห็นใจดีๆ อบอุ่นๆ กับกัสแบบนี้ เจ้าชู้ใช่เล่นเลยนะเนี่ย
พี่เซ็นเทียบไม่ติดอ่ะ (รึเปล่า?) เพราะกัสไม่ค่อยเล่าเรื่องด้านนี่ของพี่เซ็น
มีแต่อารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ น้อยใจ ตามประสาคนแอบรักเค้า
แต่ชอบนะพี่หมีหลีสาว ดูแบดๆดี
คติของเราคือคนดีไม่ใช่พระเอก
ดังนั้นแบดไว้พี่หมี สู้ว้อย! :laugh:
-
พี่เซ็นเล่นอะไรเนี่ยย :m16:
จะดีใจกับกัสที่มีโอกาสได้ใกล้ หรือ จะเสียใจดีเนี่ย :เฮ้อ:
:pig4:
-
:L1: :pig4:
-
ไรอ่ะ เห้อออ :เฮ้อ:
พี่หมีอ่ะ :sad4:
-
:z3: อุตส่าห์เชียร์พี่หมี ไหงพี่หมีทำแบบนี้อ่ะ แถมทำต่อหน้ากัสเลย กัสจะไปว่าก็ไม่ได้เพราะตัวเองตอนนี้ก็อยู่ในสถานะแค่พี่น้องเท่านั้น
พี่เซ็นที่ดึงกัสออกมานี่เพราะโมโหแทน หรือตั้งใจค่ะ แต่เขินแทนกัสตอนที่พี่เซ็นเอาขาเกี่ยวเล่นใต้โต๊ะ ถือเป็นการออกเดทครั้งแรกของคู่นี้หรือเปล่านะ
:m20: กับพี่เซ็นมากพกเงินสดมาแค่ยี่สิบแต่เครดิตเพียบแถมใส่ในถุงแกงนี่นะ อืมเทรนด์นี้น่าไปใช้สงกรานต์ปีหน้า
กด+ และ + เป็ด ให้คนเขียนค่ะ
-
กัสเอยยยย พี่เซ็นเห้อะลูกเอ้ยยย ~
ส่วนพี่เซ็น เอาจริงๆเหอะน้าาา อุตส่าห์เชียร์เนี่ยย
ถ้าเกิดกัสเปลี่ยนใจขึ้นมานะ จะสมน้ำหน้าาา !!
แต่พี่หมี นี่ก้แอบร้ายไม่เบาเลยอ่ะ !!!
ปล. เบบี้จ้าาา หาคู่ให้พี่หมีได้ป่ะ :impress2:
( อาจจะโดนแฟนคลับพี่หมีรุมใส่ก้เป็นได้ !! )
-
ดีๆนะค่ะ พี่เซ็น อุตส่าห์เชียร์ อย่าทำให้กัสเสียใจล่ะ
:กอด1:
-
:-[ น่ารักเบาๆ
-
จะสมน้ำหน้าพี่หมีที่พี่เซ็นลากกัสออกมาก้ไม่ใช่
เพราะกัสไม่ใช่แฟน ทั้ง ๆ ที่ขอแล้วแต่กัสก็ปฎิเสธ แล้วพี่หมีจะต้องเกรงใจทำไม
จะสงสารกัส ก็ไม่ใช่ ก็แกปฎิเสธพี่หมีอ่ะ จะมาหวงก้างทำไม แต่ก็อดสงสารไม่ได้
ไปอยู่กับพี่เซ็นก็ดันไปรู้สึกดีกับพี่เซ็นอีก
สับสนจริง ๆ
3p เลยจ้าา :z1: :z1: :z1:
-
พี่เซ็นรู้ว่าเค้าชอบแล้วมาแอบมาทำกั๊กอะไรรึเปล่าเนี่ย แต่ละคนความสัมพันธ์ชวนสับสน
-
พี่เซ็นตั้งใจแกล้งพี่หมีด้วยการ
พากัสออกมากันสองคนป่ะเนี๊ย!!!!
กัสหวงพี่หมี และก็ยังรู้สึกชอบพี่เซ็น
ยิ่งพี่เซ็นมาทำแบบนี้ กัสก็ยิ่งสับสนอ่ะดิ!
เฮ้อ...........
-
:really2: เรื่องเริ่มหัวหมุนแล้ว
-
แฟนคลับพี่เซน ขอแสดงตัวอีกครั้งหนึ่ง 555555555555555+
พี่เซนสู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :กอด1:
-
เหใอนเวลากัสอยู่กับพี่เซนจะดูร่าเริงกว่าอยู่กับพี่หมีอีกนะ แบบว่าเป็นตัวของตัวเอง อิอิ
-
สงสารพี่หมี :sad4:
-
ตอนนี้หักคะแนนพี่หมีจาก 100 เหลือแค่20 คะแนนพอ ข้อหาให้ชะนีลวนลาม ลูบคลำ แล้วลากขึ้นห้อง จิ๊!!เห็นแล้วอารมณ์เสีย :m16:
ส่วนอิพี่เซ็นเมิงตกม้าตายอิตอน พกตังค์ มา 40 นี่หล่ะ นี่ถ้ากัสไม่พกตังค์มามีหวังได้เดินกันขาลากกับบ้านหล่ะ :angry2:
กว๊ากกกกกกกก ผู้ชายไม่ล่ายลังจายเจ๊เลยวันเน้ :z3:
-
ใครคือผู้ถูกเลือก..กันแน่ :serius2:
-
พี่หมีของเก๊า
:monkeysad:
-
เซ็นที่แกล้งกัสนี่เพราะชอบใช่ไหม ถ้าใช่ก็จะเชียร์ เพราะกัสน่ะชอบเซ็นจริงๆ กับหมีเหมือนน้องหวงพี่มากกว่า (ตามความรู้สึกเค้านะ) ...แต่ กลัวมันจะหมาหยอกไก่น่ะสิ คนเจ้าชู้นี่มันดูยากจริงๆ
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
เอ้ยยยย พี่หมี หากัสให้เจอ ทำคะแนนกลับเดี๋ยวนี้ๆๆๆ >.<
-
สงสารพี่หมีจัง เพราะกัสโลเลพี่เซ็นเลยมีโอกาสทำคะแนน
เชียร์พี่หมี >.<
-
พี่เซ็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ยะฮู~~~~~
ลากน้องกัสไปนู้นมานี่ เอ๊ะยังไงงเนี่ย คึคึ รอลุ้นต่อไปค่ะว่าใครรู้ใครกันแน่ ไม่ค่อยอยากเดาเท่าไหร่
แต่ลึกๆแล้วคิดว่าน่าจะกัสเซ็นแน่ๆเลย (รึป่าว) 55555555
ขอบคุณเบบี้นะค๊า รอตอนหน้าค่า :pig4: :กอด1:
-
ไม่รุ้จะเชียร์ใครดี :really2:
-
เอ๊ะ เซ็นนี่ยังไง
เอ๊ะ กัสนี่ก็ยังไง มีแอบหวงพี่หมี
แล้วหมีน่ะ ที่ไปทำอะไรต่ออะไรกะสาวต่อหน้ากัส
ก็เพราะว่ากัสเองไม่ตอบรับรักพี่หมี
ถ้าหมียังคงซื่อซึมอยู่ มันก็ดูอ่อนแอเกินไป
เป็นเราโดนปฎิเสธ ก็คงต้องดำเนินชีวิตต่อไป
บอกตรงๆ ไม่ค่อยปลื้มกัส ดูเลื่อนลอย เป็นไม้เลื้อย
เซ็น นี่ไม่ต้องพูดถึง เขาก็เพลยบอยไปเรื่อย นี่คงแอบหยอกกัส
ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เลี้ยงต้อยไว้ ยังไงเด็กมันก็รักเราอยู่แล้ว
หรือเซ็นจะจริงจัง แต่ไม่กล้าออกตัวแรง เพราะหมี
-
ตกลงพี่เซ็นก็ชอบกัสใช่ปะ แต่พี่หมีล่ะ...พี่หมีก็น่าสงสารแย่ดิ
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี :z3:
-
ทำใจ พระเอกก็ยังงี้แหละหมีเอ้ย
-
:z3: :z3: เฮ้อออออออออออ พี่หมีก็ทำให้เเหนื่อยใจ
พี่เซ็นก็ทำให้หวั่นไหว
อยากเก็บเทอไว้ทั้ง 2 คน ช่ายยยยยไหมมมมมม กัสจัง
อึดอัดแทนนนนน
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
เอาเป็นว่าทั้งสองคน ยังสับสนกับชีวิต ทั้งกัสกับพี่หมี
พี่เซ็นนี่แอบร้ายนะ จะช่วยน้องทั้งสอง แต่กว่าจะลงเอย คงได้เห็นอะไรวุ่น ๆ พอสมควร :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับเบบี้ :กอด1:
-
เง้อออ พี่หมีอะ หลงหญิงหรือพี่หมีรู้ตัวอยู่แล้ว
เลยปล่อยให้กัสไปกับพี่เซ็น
เฮ้ออออ พี่หมีสู้ตาย 55
-
พี่เซนแกคิดอะไรอยู่อยากรู้จริงๆ เพราะทางกัสก็สับสนไม่รู้ใจตัวเอง เฮ้อ!
-
แอบเบื่อกัสอ่ะ เมื่อไหร่จะเลิกสับสนวะ
คิดไงก็บอกกะพี่หมีไปเหอะ ยื้อจนสงสารพี่เค้าและ
-
กัสอย่าใจง่ายนักสิ
สงสารพี่หมีนะ
เผลอไปนิดเดียว พี่เซ็นทำคะแนนซะทิ้งห่างเลย
-
จากตอนนี้กัสรักพี่เซ็นแน่ๆ อ่ะ แต่ที่ยังไม่กล้าก็เพราะกลัวที่พี่เซ็นเจ้าชู้
ส่วนพี่หมีก็เพราะหวง ไม่งั้นก็ตกลงคบไปตั้งแต่ที่พี่หมีขอคบเป็นแฟนแล้ว
-
ทำไมเราคิดต่าง....เราแอบเชียร์พี่หมีอยู่ในใจอ่ะ
อยากให้พี่หมีสมหวัง :)
-
หลังจากอ่านตอนนี้กัสน่าจะชอบพี่เซ็นแบบชอบจริงๆไม่ใช่แค่ปลื้มแล้วล่ะ
ส่วนเรื่องพี่หมี ก็นะ กัสเลิกหวงได้แล้ว ไม่คบกับเค้าก็ปล่อยๆเค้าไปเถอะ
-
ที่ผ่านมายอมรับว่าเราเอนเอียงไปทางพี่หมีมากกว่าพี่เซ็น
แต่ตอนนี้แอบบวกให้คะแนนพี่เซ็นตีเสมอพี่หมีในใจแล้วล่ะ
ไม่ใช่ว่าเคืองพี่หมีเรื่องผู้หญิง เข้าใจว่านั่นคือสังคมของเขา
แต่เหมือนพี่เซ็นเข้าใจกัสในอารมณ์นั้น เลยฉกตัวออกมา
เราคิดอย่างนั้นน่ะนะ ตอนนี้เลยปันใจให้พี่เซ็นหน่อยนึง
แต่ที่อ่านแล้วยิ้มก็อีตรงเอาขาเกี่ยวกันใต้โต๊ะนี่แหละ :-[
เป็นการหยอกล้อที่ทำเอาเราเขินไปเลย :o8:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
....อาการหวง พี่หมี กับอาการมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่เซนต์
....คงต้องถามน้องกัสแล้วว่าความรู้สึกที่ต้องการจริงๆของน้องกัสคืออะไร
....ใครๆๆก็คง มิอาจคิดแทนน้องกัสได้ จริงไหมจ๊ะ
....อยากรู้ พี่เซนต์ กำลังคิดอะไรอยู่ ที่ทำแบบนั้นกับน้องกัส :laugh:
-
อะไรยังไงกัส เลิกสับสนได้แล้วลูกเอ้ย อ่านตอนนี้แอบคิดว่ากัสชอบพี่เซ็นอะ =[]= เวลากัสอยู่กับพี่เซ็นเหมือนลืมทุกสิ่งรอบข้างไปเลย แต่เวลากัสอยู่กับพี่หมีเรื่องของพี่เซ็นก็ยังตามมาทำให้คิดมาก กัสถ้าแค่หวงพี่หมีก็อย่าทำแบบนี้เลย ไม่สงสารพี่เค้ารึไง ส่วนพี่เซ็นจริงๆแล้วชอบกัสสินะ แต่ที่แสดงอะไรมากไม่ได้ส่วนนึงเพราะพี่หมีเปล่าหว่า ยังคงสงสัยกับปมของสองคนนี้ไม่หาย ความจริงถ้าพี่หมีชอบกัสจริงก็ไม่น่ลจะทำแบบนี้เลยนะ แต่จะว่าพี่หมีก็ไม่ได้ในเมื่อกัสเอาแต่สับสนเอง พี่หมีทำแบบนั่นต่อหน้ากัสคงต้่องมีเหตุผลแหละ ส่วนพี่เซ็นน่าจะแอบมองน้องอยู่แน่ๆ และที่พาหนีมาด้วยกันเพราะรู้ว่าน้องกำลังคิดมากเปล่า ชอบจังที่เกี่ยวขาใต้โต๊ะอ่ะ หยอกกันเหมือนแฟนเลย แต่ฮาพี่เซ็นพกเงินมาน้อยไปนะ แถมยังกล้าเอาบัตรเครดิตใส่ถุงแกงอีกอะ อย่าทำเป็นเล่นนะพี่เซ็นอุตส่าห์พี่นะ
-
กัสดูจะสนุกกับความตื่นเต้นนะ แต่เด็กเกิ๊นแค่ใจตัวเองก็ไม่รู้ ความรักกับความหวือหวา ตื่นเต้นมันช่างแตกต่าง เราจะรออ่านต่อไปว่าน้องกัสจะรู้สึกกับพี่หมี มากขี้น มากขึ้นอีกรึเปล่านะ
-
ตั้งแต่อ่านมา เจ๊เห็นว่าหมีชัดเจนในตัวเองสุดละ :เฮ้อ:
นู๋กัส ก็แสดงออกว่าชอบเซ็น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า รู้สึกดีกับหมี
ส่วนไอ้เซ็น เจ๊เดาว่ามันคงชอบ แต่แม่ง! ไม่รู้อ่ะ ยกป้ายไฟเชียร์เซ้นต่อไป :laugh:
P.S. แอบมีความคิดอยู่ดีว่า 3P มะ กร๊ากกกกกกก
-
ชอบพี่หมี แต่เชียร์พี่เซ็นมาตั้งแต่ต้น เพราะงั้นต่อให้พี่หมีดีและน่าสงสารแค่ไหนก็ขอเชียร์พี่เซ็นต่อไปจนจบ
ขอให้ที่ผ่านมาเป็นแค่แผนของพี่หมีเท่านั้น ไม่อยากให้พี่หมีผิดหวัง แต่ก็ไม่อยากให้พี่หมีคู่น้องกัสน่ะ
และที่สำคัญไม่อยาก3พี เหอๆ เพราะงั้นเบบี้จ๋า ขอจบแบบไม่เจ็บนะจ๊ะ 555
-
พี่หมีหาใหม่ดีกว่า กัสกั๊กป่ะเนี่ย ยังไงก็เชียร์กัส เซ็น อยู่ดี ฮ่าาาา แต่กัสก็เหมือนออกแนวสับสนอ่าไม่รู้จะเลือกใคร หรือยังไง หรือยังไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเอง พี่เซ็นนี่ยังไงเนี่ยแกล้งกัสจริง ไอ้ที่ชอบแกล้งเพราะชอบกัสใช่มั้ยล่ะ อิอิ
-
+1 น้องกัส :impress2:เลือกให้ได้น่ะ อิอิ
แบบว่า พี่หมี คนดี พี่ชายที่แสนดี พอ ตอนนี้ เจ้าชู้ ๆ ขี้หลี ๆ รับมะค่อยได้ กว่าดี แตก อ่ะ
แต่ว่า แบบพี่เซ๊น เจ้าชู้ ขี้หลี ตั้งแต่แรก ถ้ารักแล้วคงจริง ๆ จัง ๆ หรือถ้าคบกัสแล้ว อิอิคงไมเสียใจมากกว่า ที่เป็นมั้ง
:serius2: มึน ๆ เดาไม่ถูก
-
น้องกัสจะสับสนเกินไปแล้วนะคะลูก
ก็ประกาศจุดยืนนะว่าชอบพี่เซน อย่างนั้นก็อย่างมาหวงพี่หมีสิ
พี่เซนก็ไม่รู้ว่าเล่นๆหรือจะหึงจริงจัง
หรือน้องกัสอาจจะยังอยู่ในช่วงสับสนกับชีวิต :เฮ้อ:
ปล.สงสารพี่หมี~~~~
รอตอนหน้าค้า ขอบคุณเบบี้ -3- :-[
-
เรียกว่าทำคะแนนได้มั้ย??
อ่อยยย งงแทนกัสนะนิ่ เหอะๆ
กัสคงจะสับสนหน่อยล่ะ
ทำไงได้ ฮอตนี่นา !!
-
ตอนนี้พี่หมีคงเป็นห่วงแย่แล้วล่ะนะ :เฮ้อ:
พี่เซ็นก็เอาแต่ใจตัวเองจังเลย :m16:
น้องกัลต้องเข้มแข็งนะ อย่าใจอ่อนนะ
ต้องทำให้เขาเห็นความสำคัญของเราให้มากๆ
-
~6~
“จอดตรงนี้ครับ” พี่เซ็นบอกคนขับแท็กซี่
“จัดการด้วย” พี่เซ็นหันหน้ามาบอกผมเหมือนบอกให้ผมจัดการเรื่องเงินแล้วพี่เขาก็เดินลงจากรถไปเลย ผมหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าในจำนวนหนึ่งพันห้าร้อยบาทอย่างนึกเสียดายแต่ก็ยื่นให้พี่คนขับไป ผมลงมาจากรถ พี่เซ็นยืนรออยู่ พอพี่เขาเห็นว่าผมเดินลงมาแล้วพี่เขาก็เดินนำไปทันที ผมเงยหน้าขึ้นมองคอนโดหรูตรงหน้า มีป้ายชื่อคอนโดเขียนไว้ด้านหน้า “VictoriaWater” ผมชะงักยืนมองพี่เซ็นที่เอาแต่เดินตรงไปไม่หยุด
“อะไร” อีกฝ่ายหยุดเดินและหันกลับมามองผมคิ้วขมวด
“ไปไหนฮะ” ผมถาม
“อาบน้ำ” พี่เซ็นตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมเอียงคอหนี พี่เซ็นเดินตรงกลับเข้ามาหา
“เดี๋ยวขับไปส่งบ้าน” อีกฝ่ายบอก
“แล้วทำไมไม่ไปส่งกัสที่บ้านเลย” ผมพูด
“ให้พี่ไปอาบน้ำบ้านกัสเหรอ ไม่เอาด้วยหรอกนะ” พี่เซ็นอมยิ้ม
“เดินมาเอง..ไม่อุ้มหรอกนะ อายคนอื่นเค้า” พี่เซ็นไม่พูดเปล่า ดึงแขนผมไปอย่างแรงทำให้ผมต้องเดินตามไปด้วยรู้สึกเขินปนตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเดินเข้ามาถึงในตัวคอนโด ผมมองสำรวจไปทั่ว พนักงานต้อนรับยกมือไหว้ทักทายพี่เซ็น พี่เขายิ้มและยกมือรับไหว้อย่างปกตินิสัยของคนชอบบริหารเสน่ห์ ผมเดินตามพี่เซ็นไปขึ้นลิฟต์
“หนาว!” ผมกระแทกเสียงดังเพราะรู้สึกหนาวจนขนลุกไปหมด ทางคอนโดเปิดแอร์แรงมากหรือเพราะเราสองคนตัวเปียกด้วยก็ไม่ทราบ
“คนไทยก็งี้ นิดหน่อยหนาว..นิดหน่อยร้อน” พี่เซ็นบ่นส่งๆ ยืนล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางยโส
“โทษทีนะครับ ได้ข่าวว่าพี่ก็คนไทย” ผมพูดลอยหน้าลอยตาใส่ พี่เซ็นอมยิ้มเหลือบมองผมผ่านกระจกลิฟต์
ติง~
เมื่อเสียงลิฟต์บอกสัญญาณว่าถึงชั้นที่หมายแล้ว ผมเหลือบดู ลิฟต์หยุดอยู่ที่ชั้น 18 พี่เซ็นเดินนำออกไปก่อน ผมรีบจ้ำเท้าเดินตามไปเพราะกลัวว่าตัวเองจะหลง ผมไม่เคยมาคอนโดของพี่เซ็นมาก่อน ที่จริงคอนโดของคนอื่นก็ไม่เคย จะเคยก็มีแต่คอนโดของพี่หมีละครับที่ไปเป็นประจำ พี่เซ็นนำคีการ์ดเสียบและเปิดประตูห้องเข้าไป
“เข้ามาสิ” พี่เซ็นหันมาบอกเมื่อพี่เขาเห็นว่าผมไม่ยอมเดินเข้าไป ผมกลัวว่าผมจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่เพราะทำตัวไม่ถูก แต่อีกใจผมก็ตื่นเต้นและดีใจมากๆที่จะได้มาเห็นคอนโดของพี่เซ็น
ผมพยักหน้าตอบให้ก่อนจะตัดสินใจก้าวขาเดินเข้าไปในห้อง ผมมองหน้าของพี่เซ็นและค่อนข้างตกใจที่ห้องของพี่เซ็นเล็กกว่าที่คิดเอาไว้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นคอนโดที่หรูกว่านี่และห้องใหญ่กว้างขวางกว่านี่เสียอีก แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็พบโซฟาและโทรทัศน์ที่มีไว้นั่งเล่นหรือสำหรับรับแขก เดินตรงไปเป็นโต๊ะอาหารที่มีที่นั่งสำหรับสี่ที่ มุมต่อไปเป็นโต๊ะทำงานหรือมุมสำหรับทำงานในพื้นที่กว้างพอสมควร บนนั้นมีหนังสือและคอมพิวเตอร์วางระเกะระกะอีกตัวสองตัว เดินตรงไปเป็นระเบียงห้องที่ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย สีของโทนห้องมีสีหลักเป็นสีขาวและตัดด้วยเครื่องประดับสีดำ แต่งเรียบง่ายและสบายๆ ห้องไม่เล็กแต่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากทำให้เห็นสัดส่วนของห้องได้ทั่วทุกมุม
“ห้องเล็กจังนะครับ นึกว่าห้องจะใหญ่กว่านี่ซะอีก” ผมพูดไปตามที่ใจคิด
“ก็แค่เอาไว้ซุกหัวนอน จะเอาใหญ่ไปทำไม..วังเวง” อีกฝ่ายพูดแกมหัวเราะ ผมได้แต่อมยิ้มเพราะไม่คิดว่าคำพูดอย่างนี้จะหลุดออกมาจากปากของคนอย่างที่เซ็น หลายครั้งกับสิ่งที่พี่เซ็นแสดงออกมาทางคำพูดและการกระทำที่ทำให้ผมรู้ตัวเองว่า..ผมยังรู้จักพี่เขาไม่ดีพอ
“ก็..คิดว่า จะหิ้วใครมาไรงี้” ผมพูดลอยๆและไม่ได้หันไปมองว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าอย่างไร
“หึ..” พี่เซ็นไม่ได้ตอบอะไร ผมได้ยินเพียงเสียงหัวเราะอย่างมีเล่ห์นัยเท่านั้น
“พื้นเปียกหมดแล้ว เข้าไปอาบน้ำสิ..เดี๋ยวเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้” พี่เซ็นบอก ผมหันไปมองเห็นพี่เซ็นยืนอยู่ตรงประตูห้องหนึ่ง ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็นห้องนอนละมัง
“พี่มีเสื้อผ้าไซด์กัสด้วยเหรอ” ผมถามอย่างนึกเป็นห่วงสภาพตัวเอง
“ไม่มี” อีกฝ่ายยิ้มตอบ
“ไม่มี แล้วจะให้ใส่อะไรเล่า..บ้า!” ผมว่าอย่างนึกหงุดหงิดขึ้นมา
“นั่นสิ..ไม่ต้องใส่ก็ได้นะที่จริงอ่ะ” พี่เซ็นย้อนพร้อมกับยิ้มให้ ผมชะงักเล็กน้อยและก็ต้องหลบสายตาที่แสนเจ้าชู้ของพี่เขา
“เชิญ” พี่เซ็นผายมือให้ผม ผมเดินเข้าไปหาและเปิดประตูเข้าห้องไป เมื่อเข้าไปถึงในห้องก็พบเตียงกับโทรทัศน์จอใหญ่ ผมมองสำรวจไปรอบห้องอย่างตื่นเต้น ด้านขวามือของห้องเป็นกระจกบานใหญ่ที่ด้านในน่าจะเป็นตู้สำหรับเก็บเสื้อผ้า
“ห้องน้ำอยู่ฝั่งนู้น” พี่เซ็นบอก ผมหันไปพยักหน้ารับ พี่เซ็นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเปิดออก ผมยืนมอง พี่เซ็นหันมายื่นผ้าเช็ดตัวให้ผมสองผืน
“นี่..” พี่เซ็นหันมามองหน้าผมเหมือนมีอะไรจะถามอย่างจริงจัง
“แล้วกางเกงในล่ะ” อีกฝ่ายพูดหน้าเครียด มองหน้าผมเสร็จก็เหสายตาลงต่ำไปอย่างน่าเกลียด
“พี่เซ็นบ้า!” ผมรีบนำผ้าขนหนูมาปิดส่วนนั้นของตัวเองไว้ ทั้งเขินทั้งอายไปหมด
“จะไปรู้ไหมล่ะครับ” ผมกระแทกเสียงพร้อมกับหันหน้าหนี
“กัสกลับไปอาบน้ำที่บ้านดีกว่า..” ผมพูดแกมบ่นก่อนทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
“จิ ก็บอกว่าเดี๋ยวไปส่งไง” พี่เซ็นเดินเข้ามากระชากโทรศัพท์ออกจากมือผมไป
“พี่จะมาแกล้งกัสทำไมเนี่ย” ผมขึ้นเสียงว่าใส่ทำท่าจะยื้อโทรศัพท์กลับมา พี่เซ็นเบะปาก ชูโทรศัพท์มือถือขึ้นสูงทำให้คนที่มีความสูงมาตรฐานชายไทยอย่างผมเอื้อมไม่ถึง
“ใส่นี่ไปก่อนแล้วกัน” พี่เซ็นยื่นชุดนอนสีน้ำเงินลายสต๊อกที่ยังดูใหม่เอี่ยมมาให้ ซึ่งมันไม่ใช่ไซด์ของผมเลยสักนิดเดียว
“หรือว่าจะใส่แต่เสื้อก็ได้นะ..ถ้าคิดว่าไม่สบายตัวน่ะ” อีกฝ่ายยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมกระชากชุดนอนมากอดไว้อย่างช่วยไม่ได้เพราะยังไงก็ไม่มีทางเลือกแล้ว พี่เซ็นเอนหน้าไปมาอย่างหลอกล้อผม ผมสะบัดหน้าเดินหนีตรงไปที่ห้องน้ำทันที
“จะตากเสื้อผ้าก็เอาตากไว้นอกระเบียงแล้วกันนะ” พี่เซ็นตะโกนบอก คงหมายถึงระเบียงตรงห้องนอนของพี่เขานั่นละ ผมเข้ามาในห้องน้ำ เป็นห้องน้ำผู้ชายปกติธรรมดา ของใช้พื้นฐานทั่วไปแต่ทุกอย่างล้วนเป็นของแบรนด์เนมราคาแพงที่บางอย่างไม่มีขายในประเทศไทย
ผมจัดการอาบน้ำขัดตัวเองอยู่นานมาก ปกติผมเป็นคนอาบน้ำค่อนข้างช้าเพราะผมชอบขัดตัวกับบำรุงเกลือแร่ แต่พี่เซ็นไม่มีของอย่างนั้นให้ใช้ ผมจึงนอนแช่อ่างอาบน้ำทำอย่างกับเป็นห้องของตัวเองจนพี่เซ็นต้องมาเคาะห้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ผมเลยต้องตอบไปว่ากำลังแช่ตัวอยู่ หลังจากขึ้นจากอ่างอาบน้ำผมจัดการทำความสะอาดห้องน้ำให้พี่เซ็นเล็กน้อยเพราะผมทำอย่างนี้ตอนอยู่บ้านเป็นประจำจนชินซะแล้ว เมื่ออาบน้ำเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อยก็แต่งตัวในห้องน้ำให้เสร็จก่อนจะรีบน้ำเสื้อผ้ากับกางเกงที่เปียกไปตากที่ระเบียงห้อง
“อาบนานเป็นชาติ นี่นึกว่าอยู่ห้องตัวเองรึไง” พี่เซ็นบ่นเสียงเข็ง
“มันก็ช่วยไม่ได้ พามาเองทำไม” ผมย้อน รู้สึกเดินไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่เพราะตอนนี้ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน ถ้าอยู่บ้านตัวเองคงไม่รู้สึกอะไรแต่นี่กำลังอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบมาก ซึ่งตอนนี้พี่เซ็นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ผมจึงไม่กล้าที่จะหันไปสบตาเต็มๆ
“จะให้แม่บ้านมาเอาไปซักแห้งไหม” พี่เซ็นถามถึงชุดของผมแถมยังเหลือบมองไปที่ระเบียงอีกด้วย
“ไม่เป็นไรฮะ” ผมตอบเขินๆก่อนจะเดินหนีออกมาจากห้องนอน พี่เซ็นไม่ได้ตามออกมาคงเพราะอาบน้ำต่อ ผมเดินไปเปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้และอดไม่ได้ที่จะเดินสำรวจรื้อห้องของพี่เขา เวลาผ่านไปเพียงสิบถึงสิบห้านาทีพี่เซ็นก็ออกมาพร้อมกับเสื้อยืดสีดำกับกางเกงบ๊อกเซอร์สบายๆ ผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่บนบ่าของพี่เขา ผมของพี่เซ็นกระเซอะกระเซิงเพราะยังเช็ดไม่แห้งดี พี่เซ็นนำผ้าขนหนูขยี้เข้าที่หัวก่อนจะเดินตรงไปที่ตู้เย็นและหยิบเบียร์ออกมาหนึ่งกระป๋อง
“อ่ะ” พี่เซ็นโยนขวดน้ำแอ๊บเปิ้ลมาให้ ผมกระโจนเข้าไปรับไว้ด้วยความตกใจกลัวว่ามันจะตกลงพื้น
“หึ..เหมือนลิง” พี่เซ็นหัวเราะชอบใจ ผมหน้างอ หนีกลับมานั่งลงที่โซฟาและเปิดขวดน้ำแอ๊บเปิ้ลขึ้นดื่ม
“เมื่อกี้ไอ้หมีโทรมา โทรกลับซะ” พี่เซ็นเดินมายื่นโทรศัพท์มือถือของผมให้ ผมรับมาถือไว้ เห็นเป็นสายไม่ได้รับจากพี่หมี ผมกำมือถือไว้ไม่กล้าโทรออกเพราะพี่เซ็นยืนจ้องผมอยู่ แต่อยู่ๆพี่เซ็นก็เดินไปที่โต๊ะทำงานของตน ผมจึงกดโทรกลับไปหาพี่หมี ผมรอสายอยู่เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นปลายสายก็กดรับในทันที
“ฮะพี่หมี” ผมพูดเสียงเบา
“อยู่ไหนครับ” พี่หมีถาม น้ำเสียงเรียบปกติดีทำให้ผมรู้สึกโล่งอก
“อยู่ อยู่กับพี่เซ็นครับ” ผมตอบ ไม่กล้าพูดบอกออกไปว่าอยู่ที่คอนโดของพี่เซ็น ผมไม่รู้ว่าถ้าพูดแล้วจะเป็นผลอย่างไร แต่ผมคิดว่าไม่พูดบอกคงจะดีเสียกว่า..ผมไม่อยากให้พี่หมีเป็นห่วง
“งั้นเหรอ แล้วทำไมเพิ่งรับ” พี่หมีถามอีก
“เอ่อ..พอดี มันวุ่นวายนะครับ กัสเลยไม่ได้ยินเสียง” ผมตอบ
“โอเค ให้พี่ไปรับไหม..จะกลับบ้านรึยังครับ”
“เอ่อคือ พี่เซ็นบอกว่าจะไปส่งกัสที่บ้านอ่ะฮะ” ผมตอบ ในใจเต้นแรงด้วยรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ผมยังอยากอยู่กับพี่เซ็นและผมกลัวว่าพี่หมีจะพูดอะไรที่ทำให้ผมต้องกลับไป
“งั้นก็ตามใจ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว..งั้นแค่นี้นะครับ” พี่หมีพูด
“ครับ” ผมตอบเสียงเบา พี่หมีตัดสายโทรศัพท์ไป ผมนั่งนิ่งมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่สักพัก ผมสงสารพี่หมีและผมกำลังสงสารตัวเองที่รู้สึกแย่ทุกครั้งที่จะต้องทำให้พี่หมีรับรู้อะไรที่ไม่ควรรู้ ผมเหลือบหันไปมองพี่เซ็นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน พี่เซ็นกำลังนั่งทำอะไรอยู่สักอย่าง คงทำงานละมัง ผมไม่ได้ถามออกไป ได้แต่นั่งเงียบๆอยู่ตรงโซฟา มันรู้สึกเกร็งจนไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง ผมนั่งดูโทรทัศน์อยู่นานมากจนรู้สึกง่วงขึ้นมา เวลาผ่านไปเกือบสี่โมงเย็น พี่เซ็นยังคงไม่ยอมลุกจากเก้าอี้โต๊ะทำงาน ผมไม่กล้าซักถามอะไรจึงได้แต่เอนตัวลงนอนและทิ้งตัวเองให้หลับไปในที่สุด..
= = = = = = = =
“อ่ะ...” ผมสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกอึดอัดและเหมือนบนตัวมีอะไรคลุมอยู่ ผมพยายามเปิดตาขึ้นมองและก็พบว่าพี่เซ็นนอนกอดผมอยู่ ผมนอนนิ่งอึ้งตะลึงทำตัวไม่ถูก พี่เซ็นหลับนิ่งอย่างกับเด็ก ผมเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้อง บอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว นั่นยิ่งทำให้ผมตกใจที่ผมนอนหลับไปได้นานมากขนาดนี้
“..................” ผมนอนนิ่งพยายามเรียกสติตัวเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว คำถามมีมากมายผุดขึ้นมาบนหัวแต่ก็ได้แต่นอนมองอีกฝ่ายและครุ่นคิดไปต่างๆนาๆอย่างไม่เข้าใจ และที่น่าเจ็บใจที่สุดคงเพราะผมรู้สึกดีที่ถูกอีกฝ่ายกอดแบบนี้ ผมเอื้อมมือขึ้นและวางมือลงที่ใบหน้าของพี่เซ็นเบาๆเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น ผมยังไม่อยากให้เวลานี้หมดลงเร็วนัก เมื่อแตะมือลงที่แก้มผมกลับรู้สึกเจ็บเต็มอกจนน้ำตาคล้ายกับจะไหลออกมา นานมากแล้วแต่ก็ยังไม่เลิกรักเสียที..ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้เลย
“แตะอั๋งคนอื่นตอนหลับอย่างนี้ไม่ดีนะ” ผมสะดุ้งตาโต พี่เซ็นยังคงนอนหลับตา ผมรีบพลิกตัวหนีและมุดหน้าเข้าหาหมอนทันทีอย่างต้องการความช่วยเหลือจากมัน เพราะกลัวว่าพี่เซ็นจะเห็นว่าเมื่อกี้ผมน้ำตาคลอ
“..................” ผมนำหน้าซุกหมอนไม่พูดไม่จาอยู่เกือบห้านาทีและรู้สึกได้ว่าพี่เซ็นซุกตัวเข้ามากอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม
“อะไร” อีกฝ่ายถามแทบกระซิบ ผมส่ายหัวตอบลูกเดียว พร้อมกับสะบัดแขนของพี่เซ็นออกเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนำมือลูบอยู่ที่เอวของผม
“ปล่อยนะครับ แล้วมากอดกัสทำไมเนี้ย” ผมหันไปว่าใส่เสียงดัง พี่เซ็นเล่นหน้าเล่นตาตอบให้แถมยังกระชากเอวผมเข้าไปอย่างแรงทำให้ผมตัวเซจนแทบจะเข้าไปกอดพี่เขาอยู่แล้ว ตอนนี้ผมอาจจะหน้าแดงหรือแดงมากเพราะผมอาย รวมถึงผมตื่นเต้นมากด้วย
“กัสทำให้พี่ตื่นเองนะ” พี่เซ็นบอก
“กัสไม่ได้อยากมานอนตรงนี้สักหน่อย” ผมย้อนว่า
“กล้าพูดนะ..ตัวเองนอนหลับไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ” พี่เซ็นแสยะยิ้ม ผมนิ่งเพราะไม่รู้จะย้อนตอบอย่างไร พี่เซ็นหยุดนิ่งเช่นกัน ผมเหลือบตาหนีเพราะพี่เซ็นนำมือมาลูบแก้มผมอย่างเบามือ ผมคลายตัวนอนลงพร้อมกับนำผ้าห่มมาห่มปิดหน้าจนแทบจะกลายเป็นคลุมโปงอยู่แล้ว
“เขยิบออกไปเลยนะ” ผมบ่นเสียงเบาพร้อมกับนำมือที่อยู่ใต้ผ้าห่มดันตัวพี่เซ็นไว้เล็กน้อย พี่เซ็นหัวเราะในลำคอ ผมชะงัก เหลือบตาหนีเมื่อพี่เซ็นจับมือของผมไปไว้กับอก แล้วอยู่ๆพี่เซ็นก็ก้มลงจูบเข้าที่ฝ่ามือของผม ผมรู้สึกดีใจอีกทั้งเสียใจที่ดันไปนึกว่าพี่เขาก็ทำอย่างนี้กับคู่นอนคนอื่นๆหรือเปล่า ในห้องเงียบมาก เงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน พี่เซ็นเลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนผมไม่กล้าเดาว่าพี่เขาจะทำอะไรเพราะถ้าผมเดาผมก็จะลุกลี้ลุกลนทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าผมกำลังคิดบ้าบออะไรอยู่ ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้ผมไม่กล้าตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น คนอื่นทั่วไปเขามีอาการแบบผมด้วยหรือเปล่านะ เมื่อไหร่ที่เจอคนที่ชอบมาทำอะไรแบบนี้แล้วก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ลง ถึงแม้ว่ามันจะผิด..แต่ก็ไม่สามารถทัดทานอารมณ์แปลกๆนี่ได้
“พี่..” ผมเงยหน้าขึ้นจะพูดห้าม แต่ก็ช้าไปเมื่อปากของอีกฝ่ายจูบลงที่ต้นคอผมเบาๆจนผมสะดุ้ง
“ชู่~” พี่เซ็นกระซิบปรามเหมือนไม่ต้องการให้ผมพูดอะไรอีก ผมหลับตาปี๋ เกิดมายังไม่เคยเจอใครมาทำอะไรแบบนี้นอกจากพี่หมี แต่ถึงถูกพี่หมีหยอกล้อโดยการหอมแก้ม จูบหรือทำให้เขินแต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกแปลกออกไปอย่างนี้ ที่จริงเป็นความรู้สึกที่แทบไม่เหมือนกันเลย ผมนอนเงียบไม่กล้าแม้จะถามออกไปว่าพี่เซ็นจะทำอะไร ที่จริงก็น่าจะรู้ว่าพี่เขาจะทำอะไร คำถามในตอนนี้มีเพียง..พี่เขาจะทำถึงไหนและกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ที่ทำแบบนี้กับผม
ผมรับรู้ได้ถึงริมฝีปากของพี่เซ็นที่แตะเข้าที่ต้นคอ ในร่างกายเหมือนถูกกระแสไฟฟ้าวนเวียนอยู่ พี่เซ็นเลื่อนจูบมาที่แก้มและไล่ไปจนถึงใบหูของผมอย่างเบาๆ มันเบามากคล้ายกับอีกฝ่ายต้องการหยอกล้อคลอเคลีย แม้จะถูกอีกฝ่ายทำอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนอย่างนั้นแต่ผมกลับรู้สึกตื่นเต้น ขนตั้งชันไปทั้งตัว พี่เซ็นเริ่มขยับตัวเข้ามาประชิดผมมากกว่าเดิม มืออีกข้างของพี่เซ็นลูบอยู่ที่สะโพกและเอวของผมอย่างเบามือ ผมเกร็งหน้าท้องมากขึ้นเมื่อนิ้วมือของพี่เซ็นไปสะกิดเข้าที่ขอบกางเกงนอน ผมจับต้นแขนของพี่เซ็นแน่น คล้ายกับจะห้ามการกระทำแต่ผมก็ไม่ทำอย่างนั้น ผมกำลังเคลิบเคลิ้มกับสิ่งที่ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน นิ้วมือของพี่เซ็นไล่ขึ้นมาจนเกือบถึงหน้าอกของผม อีกฝ่ายคงจะรับรู้ได้ว่าผมตื่นเต้นแค่ไหน
“อึ..” ผมสะดุ้งเมื่อนิ้วมือของพี่เซ็นเขี่ยเข้าที่หน้าอกของผมเบาๆ ผมหลบสายตาของพี่เขาในทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องมองผมอยู่ทุกการกระทำที่ตนได้ทำ พี่เซ็นก้มหน้าลงมาใกล้ ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาอีกเพราะไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายจะก้มลงจูบผม มือของพี่เซ็นแตะลงที่ปากของผมเบาๆทำให้ผมต้องหุบปากเข้าหากันอย่างเขินอาย
“อ้าปากสิ..” อีกฝ่ายพูดกระซิบเสียงแหบ ผมเผยปากออกช้าๆตามที่สั่งอย่างกับคำสั่งนั้นเป็นคำสาปก็ไม่ปาน ปากของผมสั่นจนผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถควบคุมมันได้อีก พี่เซ็นก้มลงจูบผม ลมหายใจของพี่เซ็นกระทบเข้าใกล้จมูก ผมได้รับรู้ถึงลมหายใจและรสเบียร์จากปากของพี่เขา พี่เซ็นเริ่มจูบเบาๆ ผมไม่เคยจูบอย่างนี้มาก่อน ได้แต่เคยจิตนาการในความฝันว่ามันน่าจะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น แน่นอนว่าเรื่องที่คิดกับความจริงมันแตกต่างกันแน่นอนอยู่แล้ว สิ่งที่คิดว่าน่าจะควบคุมตัวเองได้แต่ความจริงแล้วกลับไม่ใช่เลย
ผมจูบตามน้ำพี่เซ็นไป แม้จะเก้ๆกังๆแต่พี่เซ็นก็ไม่ได้เอ่ยบ่นอะไร ผมกลับต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ถึงลิ้นที่รุกล้ำเข้ามาในปากของผม มันอุ่นและรวดเร็วจนผมแทบปรับให้หายใจไม่ทัน เมื่อพี่เซ็นเผยปากออกให้ผมได้พักหายใจผมก็เหลือบขึ้นมองหน้าอีกฝ่าย สีหน้าและสายตาของอีกฝ่ายที่ผมโหยหามาตลอดกำลังทำให้ผมหลงหลุดเข้าไปในโลกที่ไม่เคยได้เจอ พี่เขาจะรู้ไหมว่าผมไม่สามารถต้านทานอารมณ์หรือจะบอกปฏิเสธการกระทำนี้จากพี่เขาในตอนนี้ได้เลย นี่คงเป็นหน้าตาที่คู่นอนอีกหลายคนที่นอนกับพี่เซ็นก็คงจะชอบและรู้สึกได้ว่าพี่เขาเซ็กซี่เอามากๆ ผมกำลังเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ กระทั่งรู้สึกเสียใจอยู่จุกอกแต่ความสุขที่กำลังได้รับกลับทำให้ผมยอมให้เขารุกล้ำร่างกายของผมเรื่อยๆ มันดิ่งลึกลงไป..ในหัวผมได้แต่สงสัย ว่าจุดสิ้นสุดของการมีเพศสัมพันธ์มันคืออะไรกัน
= = = = = = = =
-
14 เมษายน ณ คอนโดเซ็น..
ผมสะดุ้งตื่นเมื่อรับรู้ถึงความเงียบที่มีมากเกินไปจนดูน่ากลัว ไม่มีแม้แต่ความฝัน..มีเพียงความเงียบซึ่งเป็นการหลับลึกที่ค่อนข้างสบายมากคืนหนึ่ง
เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบแสงสว่างลอดผ่านมาจากประตูกระจกตรงระเบียง ผมยังคงนอนนิ่งปรับอารมณ์ของตนก่อนจะเหลือบมองร่างกายตัวเองที่เปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มคลุมอยู่เท่านั้นก็ทำให้ทราบทันทีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมาแท้ที่จริงแล้วมันคือความจริง
เมื่อหัวค่ำวาน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่เซ็นเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นจริง ถึงแม้ว่าผมจะฝันครั้งแล้วครั้งเล่าอยากให้เกิดขึ้นก็ตามแต่ก็อยากให้เกิดขึ้นจากความรักที่เราทั้งสองฝ่ายมีให้กันและกัน แต่ก็ไม่แปลก..ไม่แปลกอะไรที่คนอย่างพี่เซ็นจะกระทำอย่างนี้ลงไป ผมไม่ได้เสียใจหรอกครับ ในเมื่อเมื่อวานผมยอมโอนอ่อนไปตามน้ำ ผมก็รู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าผมไม่ขัดขืน..คนอย่างพี่เซ็นก็คงจะทำจนถึงที่สุด
ผมยังนอนนอนนิ่งอยู่ในท่าเดิมไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปที่ข้างๆว่ามีคนนอนอยู่ด้วยไหม ผมเหลือบสายตามองนาฬิกาเพราะในใจนึกสงสัยปนกลัวว่าผมนอนหลับมานานหลายวันแล้วหรือเปล่า เมื่อเห็นนาฬิกาบอกเวลาเพียงเจ็ดโมงเช้า ทำให้ผมทราบทันทีว่าเมื่อวานนี้หลังจากที่เราทั้งสองคนเริ่มความสัมพันธ์ที่เกินกว่าพี่น้องในที่ทำงานและเมื่อมันจบลง ผมทราบเพียงว่าผมเหนื่อยมากและไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าหลับสนิทไปตอนไหน ผมทำใจอยู่เกือบสิบนาทีหรือสิบห้านาทีโดยประมาณที่จะพลิกตัวหันกลับไปอีกด้านหนึ่งของเตียง
“...................” ผมรู้สึกโล่งใจมากที่เห็นพี่เซ็นนั่งอยู่ข้างๆ พี่เขาไม่ได้หนีหายไปเหมือนในละคร พี่เซ็นนั่งโดยท่อนบนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า ส่วนท่อนล่างมีเพียงผ้าห่มคลุมตัวไว้ ในมือถือแก้วกาแฟ เมื่อพี่เขาเห็นว่าผมพลิกตัวไปพี่เขาก็เหสายตามามองผมเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์” อีกฝ่ายพูดเสียงเบา เป็นน้ำเสียงทักทายที่ที่จริงผมควรจะดีใจแต่มันกลับฟังดูเรียบนิ่งจนน่ากลัวเกินไป ที่จริงผมทำใจไว้แล้วว่ามันจะเป็นอย่างนี้แน่แต่เพียงแค่ยังรับความจริงไม่ค่อยได้เท่านั้น
“ครับ” ผมยิ้มตอบเสียงเบาเช่นกัน เมื่อผมทราบแล้วว่าอีกฝ่ายนั่งอยู่ ยังคงอยู่ในห้องด้วยกันไม่ได้หายไปไหน ผมจึงพลิกตัวตะแคงกลับมานอนในท่าเดิม
“จะอาบน้ำก่อนรึเปล่า เสื้อผ้าแห้งแล้วนะ พี่ให้แม่บ้านเอาไปรีดให้แล้ว..อยู่ในห้องน้ำน่ะ” พี่เซ็นพูดบอก หลังจากนั้นก็เงียบไปเกือบสิบนาที ผมไม่กล้าลุกเพราะรู้สึกได้ว่าตัวเองโป๊ไม่ได้ใส่อะไรเลย ซึ่งไม่กล้าลุกขึ้นทั้งอย่างนี้ เมื่อผมนอนตัวแข็งอยู่สักพักก็รู้ได้ว่าพี่เซ็นลุกจากเตียงไป
“อ่ะ” ผมหันตัวกลับไป พี่เซ็นยื่นผ้าขนหนูมาให้ ผมเอื้อมมือไปรับมาทั้งที่ไม่ได้สบตา พี่เซ็นนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง แต่พี่เขานั่งหันหลังให้ผม ผมลุกขึ้นนั่งบ้าง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาหัวก็รู้สึกโล่งโปร่งสบายสุดๆ น่าแปลก..ทั้งทั้งที่ตื่นเช้าและเมื่อวานก็เหนื่อยมากขนาดนั้น
“..................” ในห้องเงียบมากจนผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวอีก พี่เซ็นนั่งนิ่งเงียบ ผมนั่งมองแผ่นหลังของพี่เขา พี่เซ็นไม่ได้ทำอะไรเอาแต่นั่งเฉยอยู่อย่างนั้น
“ลืม..” อีกฝ่ายเอ่ยขึ้น ผมรู้สึกตัวในทันทีที่ได้ยินคำแรก รู้สึกตัวในทันทีว่าที่จริงแล้วความจริงก็ยังคงเดิม..คำพูดที่กำลังจะตอกย้ำกับสิ่งที่ผมคิดไว้เมื่อคืนนั่นก็คือ “ทำใจไว้อยู่แล้ว..ไม่เป็นไรหรอก”
“ลืมมันไปซะจะได้ไหม” พี่เซ็นพูดเสียงเรียบ ผมได้แต่อมยิ้มออกมา คำพูดที่ออกมาจากปากของคนคนนี้ที่ผมคาดเดาไว้ไม่มีผิด มันจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ถึงแม้อีกเศษเสี้ยวหนึ่งผมจะเพ้อฝันอะไรมากมายแต่คำพูดนี้นี่แหละคือความเป็นจริง ถ้าผมจะไม่หลอกตัวเอง สิ่งที่พี่เซ็นพูดนี่ละคือความจริงที่ผมควรจะทำใจยอมรับมันให้ได้..
“ฮะ” ผมตอบเสียงดังฟังชัดเพื่อให้พี่เขามั่นใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและนำผ้าขนหนูมาพันตัวเองไว้และรีบเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรักษาอาการให้เป็นปกติ
= = = = = = = =
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ พี่เซ็นอาบน้ำต่อจากผม ผมนั่งรอพี่เขาอย่างเป็นปกติ ผมแปลกใจตัวเองมากว่าผมทำตัวเป็นปกติมากขนาดนี้ได้อย่างไร หลังจากที่พี่เซ็นอาบน้ำเสร็จ พี่เขาพาผมมานั่งทานอาหารที่ร้านอาหารข้างล่างคอนโด เราทานอาหารกันอย่างเงียบๆ พี่เซ็นชวนผมคุยบ้างประปรายในเรื่องสับเพเหระทั่วไป พอทานอาหารเสร็จพี่เซ็นก็ขับรถมาส่งผมที่บ้าน เราแทบไม่ได้คุยกันเลยจนตลอดทาง
“ขอบคุณครับ” ผมบอกเมื่อรถจอดสนิทอยู่ที่หน้าบ้าน
“แล้วเจอกัน” พี่เซ็นพูด ผมไม่ได้ตอบอะไรอีกและไม่ได้หันไปมองหน้าพี่เซ็นอีกด้วย ผมลงจากรถก็เดินตรงขึ้นบ้านทันทีไม่ได้ยืนรอส่ง
“อ่าว..เมื่อคืนไม่ได้นอนบ้านเหรอ” พี่เกตุที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองทัก
“อ่อ เปล่าครับ..ไปนอนบ้านปุยมาน่ะ” ผมตอบและพยายามสบตาพี่เกตุอย่างเต็มตาเพราะไม่อยากให้มีพิรุธ ผมไม่สามารถโกหกออกไปได้ว่าไปไหน รวมถึงจะเอาชื่อพี่หมีมาอ้างอย่างเช่นทุกครั้งก็ไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พี่หมีห้ามรู้เด็ดขาด ผมรีบเดินขึ้นบ้าน กลั้นน้ำตาตัวเองไว้ไม่ให้ไหลออกมา ใช่แล้วละครับ..ผมไม่สามารถร้องไห้ได้ ช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวของครอบครัว ถ้าผมร้องไห้ตาบวมคงไม่ดีแน่ ทุกคนในบ้านคงเห็นและต้องซักไซ้ถามโดยเฉพาะพี่ก้องและพี่เกตุ เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่นานมันก็ยากมากเลยที่จะกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ผมไม่อยากให้เรื่องใหญ่โตไปมากเกินกว่านี้เพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากสิ่งที่ผมต้องการ
ผมนอนนิ่งอยู่บนเตียงซังกะตาย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นโทรออกหาปุย ผมนัดแนะกับปุยว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นให้โกหกช่วยผมหน่อยว่าให้บอกว่าเมื่อคืนผมไปนอนค้างที่บ้านของปุยมา ปุยซักถามผมยกใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเล่าให้ปุยฟังทั้งหมด เล่าเคล้าน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากที่ผมวางสายจากปุยไปผมก็รีบเช็ดน้ำตาและพยายามไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก
ผมไม่อยากร้องไห้เพื่อให้ใครมาเห็นใจเพราะสิ่งที่ผมทำลงไปอาจจะเป็นเรื่องที่น่าสมเพชในสายตาของคนอื่น และผมก็ไม่คิดด้วยว่าการมีเพศสัมพันธ์กับพี่เซ็นไปนั้นก็เพื่อที่ผมจะครอบครองพี่เขาได้ง่ายมากขึ้น ผมคิดว่าความคิดนั้นมันเป็นการหลงตัวเองและเป็นความคิดที่งี่เง่า ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่ได้มีค่ามากพอถึงขนาดที่มีเพศสัมพันธ์เพียงครั้งเดียวพี่เขาก็จะหันกลับมามองผมอย่างจริงจังได้ ถ้าที่เป็นไปนั่นคือสิ่งที่พี่เซ็นต้องการ..ผมก็เต็มใจให้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะนั่นก็คือสิ่งที่ผมต้องการด้วยเช่นเดียวกัน ผมนอนนิ่งคิดอย่างนั้น ตัวมันชาไปทั้งร่ายกาย ทั้งว่างเปล่าและล่องลอย
เรื่องเมื่อคืนหวนวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในความทรงจำของผม การกระทำที่อ่อนโยนจากพี่เซ็นทำให้ผมเคลิบเคลิ้ม แน่ล่ะว่านี่ไม่ใช่การขืนใจ ผมยอมพี่เขาเอง ยอมเขาไปอย่างน่าเจ็บใจที่ตัวเองไม่สามารถต้านทานแรงปรารถนาในก้นบึ้งของหัวใจได้ จูบครั้งแล้วครั้งเล่าที่ได้รับแทบทำให้ผมคลั่ง มือที่ลูบไล้ร่างกายผมคล้ายกับได้พบสิ่งแปลกใหม่นั่นทำให้ผมรู้สึกดี ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้เองก็ด้วย นอกจากผมจะไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่ผิดที่ได้สมยอมไป มันยิ่งทำให้ผมเจ็บใจว่าผมเป็นถึงขนาดนี้ได้อย่างไร ในตอนนี้ผมมีสติดีครบทุกประการ คำพูดของพี่เซ็นที่บอกว่าให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้จะเจ็บปวดแค่ไหนแล้วยังไงล่ะ คงไม่สำคัญอะไรเพราะถึงอย่างไรผมก็เจ็บปวดมาตลอดหลายปี ตอนนี้อาจจะเจ็บปวดมากเสียหน่อยที่คนรักแทบไม่เห็นค่าในตัวของผม แต่ไม่เป็นไร..เพราะถึงแม้ว่าผมจะยอมแต่ผมก็รู้ว่าตัวของผมมีค่ามากแค่ไหน ผมยอมเพราะผมรัก..ผมรัก และจะไม่เป็นไรเพราะมันจบไปแล้ว ผมเองก็จะทำตามที่พี่เขาต้องการเหมือนกัน ผมไม่ต้องการเรียกร้องสิทธิ์ ที่จริงตลอดมาผมก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากพี่เซ็นเลย ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ ถึงผมจะเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน..ผมก็จะไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น
= = = = = = = =
วันอังคาร ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
ระหว่างช่วงสงกรานต์ ผมอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยตั้งแต่วันที่พี่เซ็นมาส่งผมที่บ้าน ผมโทรหาพี่หมีบ้างเพราะไม่อยากให้พี่หมีเป็นห่วงและจับได้ว่าผมเป็นอะไร ผมไม่อยากให้พี่หมีเป็นห่วงผมมากเกินไป อีกทั้งถ้าพี่หมีรู้เรื่องนี้พี่หมีจะต้องไม่พอใจพี่เซ็นและมีปากเสียงกันแน่ มันคงจะไม่ดีนักถ้าคนในร้านมาทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง และมันไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะเหตุผลที่ทะเลาะเกิดขึ้นจากความหลงมัวเมาในความรักจากคนอย่างผม มันจะดีที่สุดคือการได้เก็บเงียบไว้และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่พี่เซ็นว่า..
วันนี้ผมไม่มีเวรงานที่ร้าน แต่ผมโทรไปลางานกับพี่ฟ้าว่าวันพรุ่งนี้ผมไปไม่ได้ ผมอ้างบอกพี่ฟ้าไปว่าเมื่อคืนผมท้องเสียหนักมากและแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน พี่ฟ้าไม่ได้ซักถามอะไรมากความกว่านั้นเพราะผมคิดว่าผมคงโกหกเนียนมากเลยล่ะ ตอนแรกพี่ฟ้าบอกให้ผมมาช่วยงานในวันพุธด้วยเพราะว่าพี่ซีอาจจะเข้าร้านช้า ซึ่งผมทราบดีว่าเวรงานวันพุธเป็นเวรงานของพี่เซ็น ผมจึงขอปฏิเสธไปและอ้างว่าไปไม่ไหวจริงๆ พี่ฟ้าก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร ที่จริงผมก็ควรจะพร้อมได้แล้วที่จะเดินต่อไปแต่ผมอยากขอเวลาทำใจอีกสักหน่อย มันน่าตลกเพราะลึกลงไปแล้วผมก็ยังหวังลมๆแล้งๆ แต่นั่นล่ะ..นั่นเป็นความหวังที่ถูกเก็บอยู่ลึกมากทีเดียว
หลังจากที่พี่ฟ้าวางสายไป พี่หมีก็โทรเข้ามาด้วยความเป็นห่วงในทันที ผมบอกพี่หมีว่าไม่เป็นอะไรมาก ได้ทานยาไปเรียบร้อยแล้วและพรุ่งนี้ก็คงจะไม่ไปทำงาน พี่หมีเองก็ปกติ ไม่ได้ถามอะไรอีก..
= = = = = = = =
วันพฤหัส ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เอ..รุจ นี้ออร์เดอร์ของโต๊ะไหนน่ะ” ผมถาม ยื่นกระดาษให้รุจดู
“โต๊ะเอฟนะ อ่าว..เมื่อกี้กัสไม่ได้เอาเข้าไปในครัวแล้วเหรอ” รุจขมวดคิ้ว ผมส่ายหัวตอบ
“กัสลืมอ่ะ” ผมบ่นอย่างไม่ชอบใจที่ตัวเองทำงานพลาดแบบนี้
“เดี๋ยวเอาเข้าไปให้เชฟก่อนแล้วกัน รุจช่วยไปรับออร์เดอร์โต๊ะเอให้หน่อยนะ” ผมบอก ที่จริงมันไม่ใช่หน้าที่ของรุจแต่รุจก็พยักหน้ารับ ผมนำออร์เดอร์เข้ามาในห้องครัว พี่เซ็นและพี่ไจ๋กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหารตามที่สั่ง
“พิซซ่านะครับ” ผมพูดบอกและนำกระดาษไปเสียบไว้ที่เสียบกระดาษสำหรับออร์เดอร์ วันนี้ผมมาทำงานที่ร้านตามปกติ ผมมีเวรงานตั้งแต่ช่วงบ่าย จึงทำให้ผมได้เข้าครัวบ้างไม่ได้เข้าบ้าง ทุกอย่างเป็นไปปกติดี ถึงแม้ผมจะคิดระแวงและปรุงแต่งไปเองว่าถ้าคนในร้านรู้เรื่องระหว่างผมกับพี่เซ็นไปแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นปกติดีและดีมากอย่างที่ผมต้องการ..
“ออร์เดอร์เมื่อสิบนาทีที่แล้ว ขอโทษด้วยครับที่เอามาให้ช้า” ผมบอก พี่เซ็นชะงักหันมามองหน้าผมหน้านิ่ง ผมหลบสายตาด้วยเพราะกลัวว่าจะโดนดุ
“ไปบอกลูกค้าว่าให้รอประมาณครึ่งชั่วโมง เอาของว่างไปเสิร์ฟก่อนด้วย..แล้วมีออร์เดอร์อย่างอื่นอีกไหม” พี่เซ็นถาม
“อ่ะ มีฮะ..สปาเก็ตตี้” ผมรีบตอบ
“โอเค เข้าใจแล้ว..ไปทำตามที่บอกซะ” พี่เซ็นบอกก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ ผมรีบเดินออกมาและนำอาหารว่างไปเสิร์ฟให้ลูกค้าก่อนและบอกลูกค้าด้วยว่าต้องรอประมาณกี่นาที หนึ่งอย่างที่ร้านเราเป็นมาอย่างเสมอต้นเสมอปลายเลยคือ พนักงานจะไม่มีการพูดไปเองสุ่มสี่สุ่มห้าว่า “รอสิบนาทีนะคะ” หรือ “รอสิบห้านาทีนะครับ” เพราะถ้าทำไม่ได้ตามนั้นจะทำให้เสียชื่อเสียงของร้านและแน่นอนว่าลูกค้าเองก็คงรู้สึกตะขิดตะขวงใจและไม่ชอบใจเป็นแน่ กฎของพนักงานอีกข้อหนึ่งคือ ต้องรับคำสั่งจากเชฟคนเดียวเท่านั้น เชฟจะเป็นคนตัดสินใจว่าลูกค้าจะต้องรอประมาณกี่นาที เรารับคำพูดจากเชฟไปบอกลูกค้าอีกทอดหนึ่ง และแน่นอนว่าร้านเราเป็นอย่างนี้มาตลอด เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไรเชฟจะมีหน้าที่รับผิดชอบทุกคำพูดของตน ทั้งพี่คิวและพี่เซ็นเองก็รักษาเวลา ไม่เคยเลยที่จะใช้เวลาในการทำอาหารนานกว่าเวลาที่ได้บอกลูกค้าไป
“เฮ้อ ปวดหัวจัง” ผมบ่นหลังจากที่รับออร์เดอร์ลูกค้าโต๊ะใหม่เรียบร้อย แต่เมื่อกี้ผมดันรับออร์เดอร์ผิดอีกครั้ง ถ้าตอนทวนออร์เดอร์แล้วลูกค้าไม่ท้วงไว้ก่อน ผมได้โดนพี่หมีสับเละแน่นอนเลยละครับ
“รับออร์เดอร์ผิดรึไง” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่หมี
“เอ้ พี่หมี” ผมเข้าไปจะแย่งกระดาษที่วางไว้ตรงเคาร์เตอร์มา เป็นการดาษจดออร์เดอร์และผมได้ขีดฆ่าออร์เดอร์ที่จดผิดไว้ด้วย พี่หมีหยิบขึ้นดูแล้วยื่นมาให้ผม ผมรับมาถือไว้อย่างรู้สึกผิด
“..................” อีกฝ่ายจ้องหน้าผมเขม็ง ผมรู้ว่าพี่หมีคงไม่เอาเรื่องความผิดนี้ของผมไปบอกพี่ฟ้าหรือพี่คิว แต่ผมก็อดกลัวไม่ได้อยู่ดี เพราะพี่หมีเป็นหนึ่งในคนที่มีสิทธิ์ที่จะเขียนรายงานพฤติกรรมของคนในร้านได้ ซึ่งผมไม่ทราบหรอกครับว่าเอกสารนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ทราบเพียงว่าพี่หมีจะต้องส่งแบบรายงานนี้ให้พี่ฟ้าหรือพี่คิวทุกเดือนว่าพนักงานคนไหนมีพฤติกรรมอย่างไร เข้าสาย อู้งาน รับออร์เดอร์ผิด ไม่สุภาพกับลูกค้า ไม่ยิ้มแย้มและอื่นๆ ถึงแม้ว่าพี่หมีจะคอยตักเตือนก็ตามแต่ไม่ได้หมายความว่าพี่เขาจะไม่เขียนรายงานนี่นะครับ ซึ่งตลอดมาถ้าต่อหนึ่งเดือนใครทำอะไรผิดพลาดบ่อยครั้ง พี่ฟ้าก็จะเรียกเข้าไปคุยก่อน ถ้าทำผิดซ้ำเรื่องเดิมๆถึงสามเดือนก็มีสิทธิ์ถูกไล่ออกในที่สุด แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยมีใครโดนเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างนั้นหรอกนะครับ
“ขอโทษฮะ” ผมก้มหน้าบอก พี่หมีเงียบไปสักพัก ทั้งผมและรุจยืนนิ่งไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว
“ไม่สบายรึไง” พี่หมีถามขึ้น ผมส่ายหัวตอบ ทำสายตาอ้อนวิงวอนไปให้
“ถ้าวันนี้ทำพลาดอีกครั้ง พี่จะเขียนลงสมุดบันทึก..โอเคนะครับ” พี่หมีพูด
“ครับ” ผมยิ้มกว้างในทันที บอกได้ว่าครั้งนี้พี่หมีจะไม่เขียนรายงานความผิดพลาดของผมนั่นเอง
“เฮ้อ..ดุชะมัด” ผมแกล้งว่า พี่หมีอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้
“กัสดูเหนื่อยๆนะ ท้องเสียไม่ค่อยได้นอนเหรอ” รุจถาม
“อื้อ ประมาณนั้นแหละ” ผมพยักหน้าตอบ เอออออย่างขอไปที
“รุจเรียนมอM เป็นไงบ้างอ่ะ..เห็นเค้าบอกว่ามีแต่ลูกคนรวยเรียนนี่” ผมถามเปลี่ยนเรื่องอยากหาเรื่องคุยเรื่องอื่น มหาวิทยาลัยที่รุจเรียนอยู่เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังทางด้านธุรกิจและบัญชีซึ่งค่าเรียนแพงพอสมควร ตอนนี้ลูกค้าทุกโต๊ะกำลังทานอาหารกันอยู่ เราจึงมีเวลาพักกันครู่หนึ่ง
“หึ ใครรวยไม่รวยไม่รู้..แต่รุจน่ะอยากรวย” รุจอมยิ้มตอบ
“หึหึ..เออ ตรงดี ชอบ” ผมพูด
“ไปตรวจแก้วน้ำลูกค้าสิกัส..ขี้เกียจตัวเป็นขนเลยนะเรา” พี่หมีบ่น มือยังคงไม่หยุดเช็ดจาน ผมลุกขึ้นหันไปเบะปากให้
“ชอบว่า” ผมว่าพี่หมีก่อนจะเดินไปหยิบเหยือกน้ำเพื่อนำไปรินน้ำให้ลูกค้าเพิ่ม พอทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จก็กลับเข้ามาที่เคาร์เตอร์อีกครั้ง ผมเดินเข้าไปในห้องครัวอย่างใจสู้เพราะมีเสียงกริ๊งเรียกให้ไปรับอาหารออกไปเสิร์ฟ
“โอ๊ะ..หวา พี่หมีครับ” ผมรีบร้องบอกเมื่อถาดทำท่าจะเซไปอีกทาง พี่หมีรีบเข้ามาช่วยรับด้วยความตกใจ
“กัส” พี่หมีร้องคิ้วขมวดเป็นปม บนถาดมีทั้งซุปและพิซซ่า ทั้งร้อนและหนักพอสมควรด้วย
“ปล่อยๆ” พี่หมีพูด ผมปล่อยออกช้าๆเมื่อพี่หมีรับไปถือไว้ได้เรียบร้อยแล้ว ใจผมแทบตกลงไปที่ตาตุ่ม กลัวว่าอาหารจะหกซะแล้วละครับ
“ใจลอยไปถึงไหนน่ะ” พี่หมีว่าคิ้วขมวดก่อนจะหันไปจัดอาหารบนถาดให้เข้าที่เข้าทาง
“ป..เปล่าฮะ กัสเจ็บข้อมือ” ผมแก้ตัวบอกเสียงเบา
“มือเป็นอะไรรึเปล่า” พี่หมีถามถึง ผมรู้สึกร้อนที่มือนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ไม่ฮะ” ผมตอบอย่างรู้สึกผิด
“เดี๋ยวพี่เอาไปเสิร์ฟเองแล้วกัน โต๊ะเอฟใช่ไหม..แล้วก็ระหว่างนี้ นั่งเรียกสติตัวเองซะ” พี่หมีว่าก่อนจะยกถาดอาหารออกจากเคาร์เตอร์ไป ผมยืนนิ่ง รุจหันมามองหน้าผมพร้อมกับยิ้มแหยให้ ผมยิ้มตอบเล็กน้อยและก็ต้องขาอ่อนเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้อย่างนึกเซ็งตัวเอง..
................>>>><<<<.................
แต่งตอนนี้เสร็จ ทำให้รู้ว่าเดือนหน้าก็จะครบ 1 ปีของเรื่องนี้แล้ว
และ !!! นี่เป็น NC ฉากแรกที่ได้เขียนค่อนข้างยาว(เหรอ) ก๊าก
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด~ ฉันตายด้านไปแล้ว :z3: :z3:
-
:z13: :z13: :z13:
หลังจากกลับไปอ่านก็ต้อง o9 o9 o9ทำไมกัสทำแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าเซ็นเป็นยังไง
-
ไม่น่าเลยกัส...รู้ทั้งรู้ว่าพี่เซ็นเป็นยังไง เห็นไหมว่ามันไม่เหมือนเดิม?
:เฮ้อ:
พี่หมีก็แสนดีเนอะ เฮ้อออ...
-
:z13:
=================
สงสารพี่หมี แล้วก็เพิ่มจะเกลียดพี่เซ็นอย่างจริงจัง
ถ้าทำแล้วบอกให้กัสลืมอย่างมที่บอกจริงๆ
..รู้ว่าเพื่อนชอบแล้วยังไปปาดหน้าแบบไม่จริงจังอีก(ถ้าเปงงั้นจริงอ่ะนะ)
ส่วนกัสไม่สงสารสักนิด เพราะทำตัวเอง :เฮ้อ: นี่ละน๊าทำอะไรไม่รู้จักยั้งคิืด ไม่รู้จักการยับยั้งชั่งใจ
-
จะผิดมั๊ย ถ้าจะบอกว่า เซ็นเชี่ยมาก ทำแบบนี้ได้ยังงัย
รู้ทั้งรู้ว่าพี่หมีมีใจให้กัส และกัสมีใจให้ตัวเอง
ใจของตัวเองคิดแบบไหนยังงัย ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ
กลับทำแบบนั้นกับกัสได้ยังงัย แล้วยังมาบอกให้ลืมอีก แย่ ๆ
-
:o8:อิจฉากัสจังมีแต่คนหลงชอบ :o8:
-
ขอบคุณมากๆนะคะ ชอบตอนของกัสมากๆ
ตอนอ่านถึงฉากนั้นนี้เข้าใจกัสมาก เพราะตัวเองก็ลุ้นเหมือนกันว่าพี่เซ็นจะทำถึงขั้นไหน 555
สงสารกัสจัง กัสเก่งมาก อดทน บอกไม่ถูกเลย
อยากให้คู่พี่เซ็นซะ อยากให้สมหวังซะที ที่จริงก็เชียร์เซ็นกัสตั้งแต่ตอนต้นๆที่อ่านเจอในคิวเค้กแหนะ 555
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!
ได้กันแล้ว !
แต่อิพี่เซ็น แก !!! ทำไมแกทำงั้นล่ะเว้ยยเห้ยยย
เอาเหอะๆ
กัส ใจเย็นนะลูก ทุกอย่างจะโอเคเอง
ปล. ฉันเพ้อไรเนี่ยยยยย
-
ถึงกัส
นายปล่อยหมีไปเถอะ นายทำแบบนี้เราไม่แฮปปี้เลย
นายรู้เต็มอกว่าความรู้สึกที่นายให้เซ็นมันมากกว่าให้หมี
ปฎิเสธหมีไปซะให้เด็ดขาด ขอร้องล่ะ เราสงสารหมี
:o12:
-
น้องกัสหนอน้องกัส....... :เฮ้อ:
เซ็นก็นะ......ทำกับน้องอย่างนั้นได้ไงหล่ะ :z6:
-
ก็ไม่โทษกัสเลย เจอคนที่ชอบมาทำอะไรแบบนี้ด้วย มันก็ห้ามใจยาก
แต่หลังจากนี้ จะหันกลับมารักตัวเองให้มากขึ้นดีไม๊คะกัส
ไม่อยากให้รักเองเจ็บเองอยู่แบบนี้เลยอ่า... :กอด1:
-
โฮฮฮฮฮ เพิ่งอ่านถึงตอนที่ 3 เองอ่ะเบบี้จ๋า แต่ยังไงจะต้องหาเวลามาไล่ตามอ่านให้ทันแน่นอน แต่ตอนนี้มาอัพเดทสารบัญให้ก่อนละกันนะจ๊ะ ^3^
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
อ๊ากกกกกกก
อิพี่เซ็นทำกับน้องกัสของช้านอย่างนี้ได้เยี่ยงไร มันน่านัก :z6:
สงสารกัสอ่ะ แม่ม
-
เดาเรื่องนี้ไม่ออกเลย
ใครจะคู่กับกัสล่ะเนี่ย
รอดูกันต่อไปล่ะเนอะ
-
อร๊ากกกก สงสารกัส
-
สงสารกัส พี่เซ็นคือคนที่รักมาตลอด พออะไรเปลี่ยน กัสก็คงต้องทำใจยอมรับ สู้ๆ กัสจังตัวน้อย
-
:z13:
=================
สงสารพี่หมี แล้วก็เพิ่มจะเกลียดพี่เซ็นอย่างจริงจัง
ถ้าทำแล้วบอกให้กัสลืมอย่างมที่บอกจริงๆ
..รู้ว่าเพื่อนชอบแล้วยังไปปาดหน้าแบบไม่จริงจังอีก(ถ้าเปงงั้นจริงอ่ะนะ)
ส่วนกัสไม่สงสารสักนิด เพราะทำตัวเอง :เฮ้อ: นี่ละน๊าทำอะไรไม่รู้จักยั้งคิืด ไม่รู้จักการยับยั้งชั่งใจ
ตรงใจที่สุดครับ
-
เสร็จอิพี่เซ็นจนได้เนอะ
T_T รู้สึกว่ามันเป็นฉากเอ็นซีที่เศร้า :impress3:(สำหรับเรา)
คนดีดีแบบพี่หมีทำไมต้องเจอแบบนี้ :sad4:
อย่างว่าละใจใครก็บังคับไม่ได้ :เฮ้อ:
เอาใจช่วยต่อไป พี่หมีสู้ๆหวังว่าพี่หมีคงมีคู่กับเขาบ้าง :call:
ถ้ากัสไม่รักก็ไม่เป็นไรเนอะเรารักพี่หมี *กอด*
ส่วนกัสกับพี่เซ็นเอาใจช่วยรักกันไวไวขอให้พี่เซ็นรู้ใจตัวเอง
อย่าทำให้กัสเสียใจมากนะแค่นี้กัสก็แย่พอแล้ว +1
-
ประเด็นผิดมันไม่ใช่ที่กัสนะ เราว่าพี่เซ็นรู้ว่าน้องชอบตัวอยู่
กัสไม่ใช่เด็กในร้านที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าที่พี่เซ็นจะมาวันไนท์สแตนด์ สงสารน้องนะ คนที่ได้ครั้งแรกของน้องไปแต่ดันบอกว่าให้ลืม
ยิ่งน้องนิ่งขนาดนี้ ยิ่งน่าสงสาร เฮ้ออออออออ โดดถีบอิพี่เซ็น
-
:m15:เราว่าเซ็นต้องชอบน้องกัสแน่นอน แต่จะมีเหตุผลอะไรที่ทำตัวเชยกับน้อง
ต้องรอดูกันต่อไป แต่ตอนนี้สงสารน้องกัสมาก :m15:
-
เหมือนความคิดของกัสยังไม่ตกผลึก
คิดอะไรก็ทำเลยโดยไม่ตรองให้ดีก่อน
จนถึงตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าสงสารกัสรึเปล่า
ตัวละครในภาคนี้น่าจะเรียกว่าใกล้เคียงกับโลกแห่งความเป็นจริงที่สุดแล้ว
-
น้องกัสของพี่. :o12:
อีพี่เซ็นอ่ะกูเชียร์มึงอ่ะ ทำงี้ได้ไงว๊า :z3:
ที่สำคัญน้องบี้กูตายด้านอ่ะ ใครเอา NC น้องบี้ไป เอาคืนมานะ :monkeysad:
-
"ลืมมันไปซะจะได้ไหม"
/น้ำตาคลอเลย
:monkeysad:
-
กัส รักมากเกิน หลงมากเกิน จนทำอะไรโง่ๆลงไป คิดแต่ผลระยะสั้น ไม่คิดถึงผลระยะยาวเลย
เซ็น ก็นะ... ไม่เคยจริงจังกับเรื่องความรักเลยสักครั้ง ระวังสุดท้ายจะเจ็บเองนะเซ็น
หมี ก็ใจดี เหมือนจะจริงใจกับกัส จริงจังแค่ไหนไม่รู้ แต่ยังไม่รู้สึกถึงความหนักแน่นเลยอ่ะ
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
จะเชียร์ใครดีว๊า เดี๋ยวเบี่ยงไปเชียร์ เซ็น-หมี ซะเลยหนิ :z3:
-
สงสารพี่หมี...เมื่อไหร่กัสจะหันมามองพี่หมีบ้างล่ะเนี่ย.... :เฮ้อ:
-
สงสารกัสอะ พี่เซ็นแม่งงงงงงงงงงงนิสัยยยยยยยยยยยยยยยย TOT
พี่เซ็นใจร้ายชะมัด ;( กัสคู่พี่หมีเถอะ..
-
:z3: กัสสสสสสสสสสสสส ได้กะเซ็นไปเลยแระกัน
สงสารพี่หมี หาคนอื่นให้เหอะ :o12:
-
พี่เซ็นเหมือนมีอะไรในใจ เหมือนรักเหมือนหวง...แต่ทำไมล่ะ :z3:
-
สงสารกัสจัง :o12:
-
ในใจคิดว่าชอบพี่หมีมากกว่าเซ็นนะคะ แต่ถ้ากัสรักใครแล้วใครรักกัสก็เป็นเรื่องดีนะ ว่าแต่คนที่ปลื้มกับคนที่รักนี่บางครั้งมันก็ไม่ใช่คนเดียวกันนี่คะ (แอบเชียร์พี่หมีออกนอกหน้าละ) น้องกัสกำลังทำให้พี่นึกว่าน้องเป็นแม่นางโลเลอ่ะ จริงๆ
.
.
.
.
หลังจากอ่านจบ มีแต่ช้ำกับช้ำ เอาเหอะค่ะ เบบี้เป็นแม่ตัดสินกันไปเลย ตอนพี่คิวกับเค้กก็ลุ้นจนท้องไส้ปั่นป่วนไปอยู่แล้วนี่
-
:z6: พี่เซ็น
กัสแกไม่น่าเลย :m16:
รักพี่หมีอ่ะ
-
แง่ว สรุปว่ากัสเสร็จพี่เซ็นไปแล้วหรอ
ทำไมพออ่านมาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกสงสารกัสมากๆๆเลย ดูดิ ไม่มีสติเลย หนีหน้าพี่เซ็น ทำงานพลาดด้วย
เรารู้สึกว่าเหมือนพี่เซ็นเอาชนะพี่หมียังไงไม่รู้ แบบว่าถ้าน้องกัสยอมเป็นของพี่เซ็นก่อนพี่หมี พี่เซ็นเป็นผู้ชนะ
ไม่ได้คิดมากใช่ป่ะ แต่อ่านแล้วเหมือนแบบนั้นเลยนะ :serius2:
-
อ่านแล้วปวดใจแทนกัสกับพี่หมี :serius2:
ส่วนไอ้พี่เซ็น :z6:
-
ไปคอนโดพี่หมีมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง พี่หมีไม่เคยล่วงเกิน ทำร้ายกัส
ให้พี่เซ็นแทนกัส :beat:
-
อยากเดาว่าหมีกับเซ็นรู้จักกันมากพอเพราะเป็นคนพันธ์เดียวกัน (ประเภทพันธ์พิเศษ) :z2: และรู้ความคิดของกันและกันว่าแต่อีกฝ่ายคิดยังไงกับน้อง
หมี=มีความห่วงใยและหวังดี=คอยปกป้องเท่าที่พี่ชายจะสามารถทำได้แบบไม่ก้าวก่ายจนเกินไปนัก เพราะรู้ว่าน้องรักชอบใครและกลัวว่าใครจะมาทำให้น้องเจ็บ
เซ็น=รัก=แต่อาจจะยังค่อยไม่มั่นใจในตัวกัสเพราะกัสสนิทสนมกับหมีมากเกินไปเซ็นเลยต้องแอบไปตีตราจองไว้ก่อน(รึป่าวหว่า)
กัสรักเซ็นแต่เหมือนกำลังถูกบททดสอบจากพี่เซ็นว่ากัสรักจริงหรือแค่หลง แต่อิเซ็นปากเน่าชอบพูดทำร้ายน้ำใจน้องจนน่า
:beat:
-
ทำไมพี่เซ็นต้องบอกให้ลืมด้วยอ่ะ ไม่รับผิดชอบแล้วยังทำเป็นไม่มีไรเกิดขึ้นเนี่ยนะ :z6:
โอ๋ๆๆกัส *กอดดดดดดด*
สงสารพี่ำหมีจังเลยค่ะ
-
โธ่!!!! :m15:
-
เอาอะไรคิดกันนะ ถึงได้พูดคำนั้นออกมา
:เฮ้อ:
-
กัสไม่เหมาะกับพี่หมี
กัสโง่ และไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
ถ้าเป็นผู้หญิง ป่านนี้ท้องไม่มีพ่อแล้วมั้ง
อย่าบอกว่าทำเพราะรัก รักแล้วต้องยอมเรื่องแบบนี้
สงสารหมีน่ะ อยากให้พี่หมีเจอคนดีๆ
เรารู้สึกว่า กัสใจคอโลเล ไม่รักหมีแต่หวงเอาไว้
-
ความรักนี่...ถ้ามากกว่าสองเมื่อไหร่ ยังไงก็ต้องมีคนเจ็บอ่ะน้อ สู้ต่อไปนะท่านทั้งสาม T T
-
ไม่ได้หวังให้พี่เซ็นมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะความหวังมันแทบจะเป็นศูนย์ตั้งแต่ตอนที่พี่เซ็นบอกให้กัส "ลืม" ล่ะ
ตอนนี้หวังอยู่อย่างเดียว หวังให้กัส "ลืม" เรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ในเร็ววันตามที่พี่เซ็นต้องการ
แล้วความผิดนี้ก็ไม่ต้องโทษใคร......กัส "ต้องโทษหัวใจของเราที่อ่อนแอเอง"
-
เราล่ะเชียร์พี่หมีขาดใจ แต่น้องกัสก็ไม่รักดีซะเลย ดั๊นไปยอมเค้าแบบนี้ ไม่อยากให้เซ็นชอบกัสเลย ยังคงลุ้นพี่หมีต่อไปแม้จะดูน่าสงสารเหลือเกิน :เฮ้อ:
-
รักเค้าจนยอมทุกอย่าง เจ็บช้ำกับคำพูดที่ไม่มีเยื่อใย
สุดๆไปเลยน้องกัสเอ้ย ทำได้อย่างเดียวคือทำใจ
เป็น nc ที่มีอารมณ์เศร้าอย่างเดียวเลย
:monkeysad:
-
อารมณ์พาไป. ทำให้ต้องเสียใจแบบนี้แหละกัส. แถมยังจะให้ลืมซะ. ทำได้ไงวะเซ็น
เห็นแก่ตัวจริงๆ :z6:
-
.....ความรักทำให้กัสสสสสสสสสสสส .....ตาบอดสนิท
.....เบบี้เขียนได้ดีมากๆ กัสในเวอร์ 1 เป็นเด็กใสๆๆ ที่ทุกคนคอยดูแลเป็นห่วง คอยไปรับไปส่งบ้าน
.....แต่พอมาอ่านกัสแบบละเอียด ก็มีมุมดำๆๆเหมือนกันนะ พี่เซนต์คงคิดว่าหลงรักกรูนัก ...ฟันมันซะเลย แถมฟันแล้วทิ้งอีก ..สะใจ
.....โทษใครไม่ได้ น้องกัสทำตัวเอง ก็ต้องรับผลที่ตามมา เล่นเอาตัวเองใส่พานไปถวายให้เค้าถึงที่ :laugh:
-
ย้ากกกกกกกส์ไอ้คุณเซ็น
ทำแบบนี้ทำไมเกลียดแก
อย่างแรงส์อ่ะตอนนี้ :m31:
-
เรื่องของความรัก มันบังคับจิตใจกันไม่ได้จริงๆนะ
เรื่องของคนอื่นอาจจะดูง่ายนิดเดียวเมื่อเราได้เป็นที่ปรึกษา
แต่พอเจอเข้ากับตัวเอง หลายรายก็ไปต่อไม่เป็นเหมือนกัน
........ ขอบคุณเบบี้นะคับ :L2:
-
รอรับปัญหาไว้เลยนังกัส นังแรด คนที่จะเจ็บปวดและแบกรับปัญหามากที่สุด คือแก อยู่แบบนรกในใจซักพักละกัน การทำอะไรตามใจตนเองจนเคยตัวของคนมีอันจะกินซินะ ทั้งกัส เซ็น ฟ้า คิว ฯลฯ
-
ผิดหวังกับพี่เซ็น :13223: :13223: :13223:
-
ลี้ภัยไปเมืองนอกไหม กัส คิคิ จะได้ดราม่าดี 5555
ลุ้นอะ น่าจะเปนพี่เซ็นสินะ ที่ีคู่กัส
ใช่ไหมงะ555 พูดเอง งง เอง
-
:L1:
-
โผล่มาอีกที2ตอนรวดดดดดด
นี่เค้าได้เสียกันแล้ววววเหรอ :sad4:
สงสารพี่หมีจัง......
เจ็บปวดไปกับกัสด้วยยยยยย....เฮียเซ็นทําแบบนี้ได้ไง
รอเบบี้จ๊ะ....
-
ชอบ Lover3 ก็ตรงนี้แหละ มันดูสมจริงมากๆ เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของคนเราบ่อยๆ
การเผลอไผลไปกับคนที่เราหลงรักไม่ใช่เรื่องแปลก กัสไม่ได้แร่ดหรือร่าน เรื่องบางอย่างมันก็อยู่ในอารมณ์ประมาณทั้งรู้ก็รักอ่ะ
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่พี่เซ็น เพราะกัสเองก็รู้สันดานพี่เซ็นอยู่แล้ว
มันอยู่ที่กัสเองที่ต้องทำใจให้ได้ ยอมรับผลของการกระทำของตัวเองให้ได้
เข้มแข็งเร็วๆ นะน้องกัส ถ้ามันต้องลืม... ก็ต้องลืม และก้าวต่อไป
กอดรวบน้องกัสและน้องเบบี้ :กอด1: เก่งมากที่หยิบประเด็นนี้มาเล่น
-
:เฮ้อ:
แต่ยังไงก็เชียร์พี่เซ็น ขาดใจ
ยังไงต้องได้คู่กานนนนนนนนนนน
-
:เฮ้อ: กัสทำไมหนูทำแบบนี้แหละ คนที่เจ็บก็คือตัวเอง และต้องก็ยอมรับให้ได้ เพราะอย่างที่บอกนี่ไม่ใช่การข่มขืน แต่เป็นการยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย กัสตอนนี้ต้องบอกว่า เสียตัว เสียใจ และเสียงานด้วย
แต่ก็อยากบอกว่าพี่เซ็นเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวมาก อยากรู้ว่าถ้าสมมุติน้องซีโดนผู้ชายบอกให้ลืมแบบนี้บ้าง แล้วมาเล่าให้พี่เซ็นฟัง พี่เซ็นจะรู้สึกยังไงบ้าง
กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ เป็น NC ที่ :z1:
-
ความรู้สึกแต่ละคนจริงๆ ยังมัวซัวอยู่เลย เห็นแต่ภาพรวมภายนอก
ไม่รู้จะสงสาร หรือเกลียด หรือรักใครดี รู้สึกแค่อึดอัดมากกว่า :เฮ้อ:
-
เฮ้ออ !! พี่เซ็นไม่รุ้ว่าคิดอะไรอยู่ มาฉวยโอกาสแล้วไม่รับผิดชอบ
เอาใจช่วยกัสน่ะ ก้อคนมันรักนิจะให้ทำไงได้ล่ะ
เจออย่างกัส หลายๆคนก้อปฏิเสธไม่ค่อยได้ล่ะว่ะ!!!!
ลุ้นๆครับ ++ รอตอนต่อไปครับ :pig4: :pig4:
-
ไอ่พี่เซ็นมันทำตัว จำกัดรักมากนัก
น้องกัสก็กำจัดมันทิ้งไปซะ..อย่าได้เสียดาย
ลุ้นเว้ยยยยยย..ลุ้นหมีง่ะ
คนดีงี้ปล่อยไปได้ไง
อิอิ
:z2:
-
สงสารกัสจังเลย
-
พี่เซ็นทำอย่างนี้มีเหตุผลอะไร :z6:
สงสารกัสจัง
:pig4:
-
สังคมมันค้ำคอเหรอเหรอเซ็น ถึงเป็นแบบนี้ :เฮ้อ: หรือเพราะจะเอาชนะกัสกะหมีเฉยๆ แต่ไม่ว่าเหตุผลไหนก็เลวทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่พร้อมดูแลกัสก็อย่ามาทำแบบนี้ :m16:
-
อ่านตอนนี้แล้วเกลียดเซ็น :beat: ถึงกัสจะสมยอมแต่ไม่ชอบเลย... ทุกอย่างดูง่ายไปไหม แถมยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก... เบบี้ พระเอกเลวอย่างที่บอกจริงๆ อ่ะ
:pig4: :กอด1:
-
ไม่อยากจะเดาว่า พี่เซ็นก็ชอบกัสเหมือนกันถึงได้ทำเพราะอดใจไม่ไหว
พอทำเสร็จถึงคิดได้ว่าพี่หมีชอบกัส เลยบอกให้กัสลืมมันซะ
สุดท้ายพี่หมีก็เป็นพระรองผู้เสียสละให้ กัสเซ็นเค้ารักกัน
(ก็เดากันไป 55555) :laugh:
แต่ไม่เอาแบบนี้นะ เพราะเราเชียร์พี่หมี :sad4:
รักพี่หมีไปแล้วถอนตัวไม่ขึ้น :o8:
-
โอ้ละหนอความรัก :z3:
:pig4: นะคะ คุณเบบี้
-
เฮ้อ พี่หมีครับ อยู่ในที่ๆของเราควรยืนอยู่ดีกว่าครับ
-
ไม่กล้าอ่านสงสารกัส
-
ชั้นปวดใจ กำลังปวดใจเพราะกัส
เฮ่ย ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป กัสก็ตัดสินใจไปแล้ว
พี่หมีล่ะ พี่หมีจะเป็นยังไง
-
ตอนนี้ทำให้กัสดูมีมิตินะ เป็นคนธรรมดาที่ไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ สุดท้ายก็ต้องเจ็บปวดกับความเกินเลยนั้น :monkeysad:
ก่อนหน้านี้กัสอาจเข้มแข็งไม่พอที่จะหักห้ามใจต่อพี่เซ็น แต่คนที่บอกให้ลืมน่ะมักจะลืมไม่ค่อยได้ซะเองนะพี่เซ็น :z3:
ไม่แน่ใจว่าถ้าพี่หมีรู้เรื่องนี้ พี่เค้าจะยังยืนข้างๆกัสได้อีกหรือเปล่า เดี๋ยวกัสจะไม่เหลือใคร :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้น้องกัส สู้ๆนะจ๊ะ :กอด1:
-
อยากรู้เหตุผลของพี่เซ็น ทำไมทำแบบนี้คะ
สงสารกัส แต่ก็ยังเชียร์พี่เซ็นต่อไป ^^
-
กรี๊ดดดดดดด พี่เซ็น ตอนแรกว่าจะเชียร์ :sad4:
ดันมาบอกให้กัสลืมเรื่องคืนนั้นไปซะ :z3: หมายความว่าไง?
ไอ่พี่เซ็นเลวววววว ไม่ชอบแล้วมาซั่มน้องกัสทำไมฟะ?
แต่ยังไงเราก็ว่าเลว ๆ แบบพี่เซ็นนี่แหละพระเอกแน่ ๆ
มันต้องมีอะไรสักอย่าง มันต้องมีอะไรบางอย่าง ใช่ไหมพี่เซ็น?
ถึงจะเป็นพระเอกแต่ตอนนี้ไม่ปลื้มนะพระเอก กรุณารีบ ๆ แก้ตัวด่วน!!!!!!! :angry2:
-
ตอนนี้สงสารพี่หมีที่สุด :o12:
ส่วนความรู้สึกต่อกัสกับเซนในตอนนี้มันอึนๆแปลกๆ
กอดดดดดดดด พี่หมี :กอด1:
ขอบคุณเบบี้จ้า :-[
-
อ่านแล้วไม่สงสารกัสนะเพราะกัสก็เป็นคนเลือกเอง แต่จะบอกว่าน้องเข้มแข็งและอดทนมาก
คิดแบบกัสคงถูกแล้วแหละ เต็มใจเองคงไปเรียกร้องอะไรไม่ได้
ต่อจากนี้อยากให้กัสเข้มแข็งต่อไปนะ ส่วนพี่เซ็น...เราว่าพี่เซ็นรักกัสนะ แต่แบบ...
คงรู้ว่าไม่สามารถหยุดที่คนๆนี้ได้เลยไม่อยากทำให้เสียหรือเปล่า แต่..ก็ได้กันไปแล้วอะ 55555
ณ จุดนี้สงสารพี่หมีคนเดียวเลย :z3:
-
น่าสงสารทั้งกัสและหมี รักคนที่เขาไม่รักเรา
แต่ที่สุดแล้วคนที่น่าสงสารที่สุดอาจเป็นเซ็นก็ได้นะ
ยังไงก็แอบเชียร์กัส เซ็น
-
สงสารกัสอ่ะ แต่ก็โกรธที่เช็นไม่ลง แฮะๆ เห็นฬจพี่หมคด้วย ไม่รู้จะเชียร์ใครดี
-
สูสีมากคู่นี้ กัสจะลงเอยกับใครนะ
-
เชียร์นายหมีเช่นเดิม
นายเซ็นมีดีอะไร :เฮ้อ:
+1
-
:serius2: :serius2: :serius2:ทำมัยไม่ใช้พี่หมีอะ :z3: :z3: :z3:
-
กัสสู้ๆ พร้อมเชียร์พี่หมีสุดใจอ่ะ
-
เรื่องของความรัก มันบังคับจิตใจกันไม่ได้จริงๆนะ
เรื่องของคนอื่นอาจจะดูง่ายนิดเดียวเมื่อเราได้เป็นที่ปรึกษา
แต่พอเจอเข้ากับตัวเอง หลายรายก็ไปต่อไม่เป็นเหมือนกัน
........ ขอบคุณเบบี้นะคับ :L2:
^
^
^
ทำไมคอมเม้นของคุณช่างฟังดูแสนเศร้า อย่างกับกำลัง "โดนเอง" อย่างนั้นล่ะ ฮ่าๆๆๆ (แอบแซว)
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เรา.. ว่าพี่เซนคงมีเหตุผลที่ทำลงไปและคงมีเหตุว่าทำไมถึงบอกให้กัสลืม : )
-
:z6:
-
ชอบ Lover3 ก็ตรงนี้แหละ มันดูสมจริงมากๆ เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงของคนเราบ่อยๆ
การเผลอไผลไปกับคนที่เราหลงรักไม่ใช่เรื่องแปลก กัสไม่ได้แร่ดหรือร่าน เรื่องบางอย่างมันก็อยู่ในอารมณ์ประมาณทั้งรู้ก็รักอ่ะ
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่พี่เซ็น เพราะกัสเองก็รู้สันดานพี่เซ็นอยู่แล้ว
มันอยู่ที่กัสเองที่ต้องทำใจให้ได้ ยอมรับผลของการกระทำของตัวเองให้ได้
เข้มแข็งเร็วๆ นะน้องกัส ถ้ามันต้องลืม... ก็ต้องลืม และก้าวต่อไป
กอดรวบน้องกัสและน้องเบบี้ :กอด1: เก่งมากที่หยิบประเด็นนี้มาเล่น
:man1: :man1: :man1:
-
เจออย่างกัส หลายๆคนก้อปฏิเสธไม่ค่อยได้ล่ะว่ะ!!!!
v
v
จริง !! ฮาอ่ะ เหมือนเราแสดงสันดานดิบ :m25: กร๊าก
-
:serius2: :serius2: ช็อคไปแล้วววเรียบร้อย
ในที่สุดก็ เสร็จพี่เซ็นจนได้อ่าาาา สงสารกัสคงเจ็บปวดน่าดู แต่ก็เพราะความรัก
จิงๆๆก็แอบคิดว่าพี่เซ็นนะก็ชอบกัส แต่เพราะรู้ว่าตัเองหยุดนิสัยเจ้าชู้ไม่ได้หรือป่าว
แต่พี่เซ็นก็น่าจะดูออกนะว่ากัสก็ชอบตัวเอง หรือพี่หมีก็ชอบกัส
ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้ป่ะ เฮ้อออ ลุ้นหนักยิ่งกว่า 2 คู่ก่อนหน้าอีกอะ :sad4: :sad4:
-
ตั้งกะต้นจนปัจจุบันเราคิดว่าพี่หมีนี่ละต้องเ็ป็นพระเอกตอนนี้แน่ๆ 555 แต่เจอประเด็นเสียตัวแบบนี้
หรือพี่หมีจะไม่ใ่ช่พระเอกแล้ว คือมันเหมือนจะต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นหลังจากนี้อ่ะ
คือถ้าพี่เซ็นจะเอี้ย...(ซึ่งตอนนี้ก็เอี้ยละ) มันก็จะแบบเป็นประเด็นที่ทำให้กัสตัดใจได้ไปเลย
เพราะไอที่บอกให้ลืมเรื่องคืนนี้ มันเป็นประโยคที่เลวร้ายมากสำหรับคนที่รักอีกคนนึง
แล้วก็ยอมเค้าไปแล้ว พอตื่นขึ้นมาก็บอกให้เราลืม กัสอาจจะลืมพี่เ็ซ็นและเลิกรักพี่เค้าก็จากประเด็นนี้ละ
มันก็เป็นไปได้ แต่....จนถึงตอนนี้ก็ยังเดาไม่ออกว่าใครกันแน่จะเป็นพระเอกเรื่องนี้ ส่วนประเด็นที่ยอมทั้งๆที่รู้ว่า่อีกฝ่ายเป็นไง
แต่ก็เพราะรัก อันนี้มันโดนจริงๆ ! ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าเรื่องมันจะดำเนินออกไปทางด้านไหนเลย เดาไม่ถูก
เดาไม่ออกและไม่อยากเดา 5555 ส่วนตัวสงสารกัสมากกก มันเหมือนกับรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้
แต่ก็ยอมเค้าไปเพราะรัก สะเทือนใจ T_____T ส่วนพี่เซ็นนี่ก็หลอกฟันเต็มๆละ เฮ้ออออ ชีวิตหนอชีวิต
-
เราว่าพี่เซ็นคงชอบกัสเหมือนกันนั่นแหละ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงบอกให้น้องลืม เหตุผลมันจะเกี่ยวกับพี่หมีรึเปล่า ? ดูแล้วสองคนนี้น่าจะอ่านกันออกอะ คนประเภทเดียวกันนี่ เราคิดว่าพี่เซ็นน่าจะทีเหตุผลที่ดีพอนะ ตัวละครทุกตัวของเบบี้ย่อมมีเหตุผลมาสนับสนุนในการกระทำของตัวเองเสมอ อย่างเช่นพี่คิวในตอนที่เหมือนจะรู้ว่าชอบเค้ก ครั้งนี้พี่เซ็นก็น่าจะมีเหตุผลแหละ ดูจากการกระทำของพี่เซ็นที่มีต่อกัสแล้วเรารู้สึกว่าพี่แกคิดอะไรกับน้องนะ การหยอกล้อมันแบบถึงเนื้อถึงตัวตลอดอะ อย่างคนอื่น เช่นเค้ก หรือ พี่เกต พี่เซ็นแกแค่แซวๆด้วยคำพูดเฉยๆนะ ออกแนวบริหารเสน่ห์ได้ก็ดีทำนองนั้น จะว่าไปเราว่าไม่ใช่แค่กัสที่แปลกไป พี่เซ็นเองก็แปลกนะ เหมือนมันกระอักกระอ่วนใจทำนองนั้นอะ พี่แกคงต้องรู้สึกไม่ต่างจากกัสอะ คิดว่างั้น เพราะถ้าพี่เซ็นคนปกติต้องเล่น ต้องอะไรบ้างนิดนึงละ ส่วนพี่หมีว่าจะพูดตั้งแต่ตอนที่แล้วละ ลืม พี่หมีดูเป็นแบดบอยอะ ดูแล้วยังมีอีกหลายด้านมืดๆที่เรายังไม่เคยเห็นและรับรู้ พี่หมีมองไปอ่นนยากกว่าพี่เซ็นด้วยมั้ง ดูพี่แกก็ไม่ชัดเจนเท่าไหร่ คือเข้าใจว่าน้องปฏิเสธ แต่ทำไมถึงไปกับ ญ ต่อหน้าต่อตาน้องอะ คือถ้ารักก็ไม่น่าทำงั้น เห้อ แบบพี่หมีแกบอกชอบน้องไปชัดเจนละด้วยไง แต่ก็นะ ทุกอย่างมันขึ้นก่ะกัส เลิกโลเลเมื่อไหร่ คนที่คิดว่าถูกกัสเลือก หนึ่งในสองคนนั้นต้องลงมือทำให้ทุกอย่างมันชัดเจนแน่ละ แต่ปัญหาใครอะฟร่ะ แต่เราชูป้ายเซ็น 55555 ถ้าจำไม่ผิดพระเอกหล่อเลว ไม่ใช่เรอะ คึคึ เจ๋งมากอะเบบี้ ตอนนี้มีมิติมาก ใจคนอยากจะเข้าใจ แม้แต่ใจเราเองบางทียังยากที่จะเข้าใจเลย ไม่แปลกที่กัสจะเป็นแบบนี้ รักมากมักขาดสติ ไส่ง้ันจะมีสุภาษิตที่ว่า ความรักทำให้คนตาบอดเหรป
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เบบี้~~~~
อยากบอกว่าเหนือความคาดหมายมากๆๆ แล้วเรื่องนี้นี่เป็น NC แรกจริงๆ
ไม่คิดว่าจะมีซีนนี้ของทั้งคู่ในภาวะที่ทุกอย่างไม่มีอะไรชัดเจน แต่ก็ได้ฟีลไปอีกแบบ (ฟีลอะไร?) ฮ่าๆๆๆๆ
อ่านแล้วลุ้นมากๆๆๆ
อยากบอกว่าชอบความคิดของน้องกัสบางอย่างนะค่ะ ^^
อยากรู้มากๆแล้วต่อไปจะเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆคือ แอบสงสารน้องกัสกับประโยคของพี่เซ้นที่ว่าให้ลืมจริงๆ
แต่ก็บ่งบอกความเป็นตัวเซ็นจริงๆ
สุดท้ายขอบคุณเบบี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ แล้วก็รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ ฮิ้วววววววววว
:กอด1: :L1: :pig4:
-
กัสกับพี่เซ็นจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆเหรอ o22
เราว่าพี่เซ็นก้อพอมีใจให้กัสอยู่บ้าง แต่คงดูออกว่าพี่หมีก้อชอบกัสเหมือนกันเลยถอยออกมา
-
พี่เซ็นมีเหตุผลอะไร ที่ทำแบบนี้?
บอกให้กัสลืม ถึงกัสจะบอกว่าทำใจไว้แล้ว
แต่ใคร๊.......มันจะไปลืมได้!!!!!
เห็นแก่ตัวไปใหม?????? T~T
อิพี่เซ็นบ้า!
-
ไม่คิดว่าเจอเอ็นซีเลยจริงๆนะ
แต่เข้าใจกัสเลยอ่ะ อารมณ์นั้นเป็นเรา เราก็ยอม
แต่ทำไมเซ็นถึงบอกให้ลืม......
มันต้องมีเหตุผลใช่ไหม
เพราะถ้าแค่อารมณ์พาไป คิดว่าไม่น่าจะทำอ่ะ
-
สงสารกัสอ่ะทำไมเซ็นเป็นคนแบบนี้ว๊าาาา
-
คิดไปคิดมา อ่าน2-3รอบ สำหรับตอนนี้
แอบคิดมาสักนิดว่า เซ็นรักกัสจริงๆ แต่กัสอาจจะยังไม่มั่นใจหรือเซ็นก็ด้วย
ทำให้เซ็นต้องบอกว่า "ลืมมันไปซะ"
-
ให้กำลังใจกันต่อๆไปเพื่อวันข้างหน้าเราจะพบทางออกที่ดีเสมอ
-
:monkeysad: ไปไม่เป็นเลยอะ
จะโทษใครก็ไม่ได้ได้แต่ให้กัสสู้ต่อไปนะ
:pig4: คะ
-
ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป ขอให้รู้ไว้ว่ามันเกิดจากตัวเราเองนะกัส
เพราะเราเองจะเป็นคนตัดสินใจและเลือกทางของเราเอง :เฮ้อ:
พูดเหมือนทำใจได้ แต่เปล่าเลย ทำไมมันอึดอัดอย่างนี้ :serius2:
ว่าแล้วก็วิ่งไปซบอกพี่หมีดีกว่า :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
จะเอาพี่หมี ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
เชียร์พี่เซ็นมาตลอด ตอนนี้ก็ยังเชียร์นะ แต่อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าน้องคงไม่ได้คู่กับพี่เซ็น
ไม่ใช่เพราะพี่เซ็นบอกให้ลืมหรอกนะ เพราะพี่เซ็นเองก็ดูจะชอบน้องไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
แต่ความรู้สึกของน้องกัสต่างหากที่คงจะเปลี่ยนไปเพราะเหตุการณ์นี้
และน้องคงจะตัดสินใจได้ว่าอะไรคือความรัก อะไรคือความหลง ใครคือคนที่รัก และใครคือคนที่หลงใหล
พี่หมีคงจะเป็นคนที่ช่วยให้น้องตัดสินใจได้เร็วขึ้น และพี่เซ็น (ที่เราเชียร์) ก็คงจะรู้ตัวและกล้าจะซื่อตรงเมื่อสายเกินไป
เอิ่บบบ เริ่มงงกับคอมเม้นต์ตัวเอง แต่เอาเป็นว่าไม่ว่าเรื่องราวจะเป็นไงก็จะติดตามต่อไป พร้อมทิชชู่ปึกใหญ่ ฮืออออ
ปล. กดบวกให้บี้เผื่อจะช่วยให้สมรรถภาพสูงขึ้น :laugh:
ปล2 จริงๆ อยากกดลบเพราะเขียนเรื่องที่ทำให้เราอ่านแล้วทึ้งหัวตัวเองไปหลายรอบ :m31:
-
พี่เซ็นทำกับกัดแบบนี้อย่ามาเสียได้ มาตามง้อที่หลังล่ะ :angry2:
จะให้กัสสะบัดบ๊อบใส่ซะให้เข็ด!
:z6:
-
เซ็นต์ แม่ม โคดๆ เลยหว่ะ
แล้วงัยเนี่ย?? เหมือนจะทำท่ากั๊กนะ
แล้วมาบอกบอกกัสให้ลืม..ใครมันจะไปลืมได้ฟระ..ฮ่วยยย แล้วยิ่งเป็นคนที่ตัวเองหลงรักด้วยนะ..ลืมกันได้ง่ายรึงัย (คนอ่านอินนะ-o-)
-
:เฮ้อ:
อึดอัดดีแท้ เรื่องนี้ให้อารมณ์สงครามเย็นมาก
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
สู้ๆต่อไปแล้วกันนะน้องกัส :กอด1:
-
สงสารกัสอะ
ไอ้พี่เซ็น :z6: :z6: :z6:
สงสารพี่หมีอะ :monkeysad: :monkeysad:
แถมๆๆๆ ไอ้พี่เซ็น :angry2: :angry2: :angry2:
:m31: :m31: :m31:
อ๊าค..................ไอ้พี่เซ็นบร้าๆๆๆๆ
-
สงสารกัส :monkeysad:
สงสารเผื่อพี่หมีตอนรู้เรื่องด้วย :m15:
:laugh:
:เฮ้อ:
-
เบื่อกัสทำตัวเอง อยากให้พี่หมีมีแฟน แล้วให้กัสต้องอยู่คนเดียว
จะสมน้ำหน้าให้รู้อยู่ว่าเซ็นไม่เอาตัวเองอยู่แล้วยังทำอีก
-
ตอนแรกเชียร์พี่หมี แต่ตอนนี้ขอพี่หมีไว้ให้ตัวเองดีกว่า..
กัสดีแต่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเจ็บ
ขอให้สมหวังกับพี่เซ็นก็แล้วกัน
-
สงสารกัสมากกกก :sad4:
แต่เชื่อว่าพี่เซ็นคงจะมีเหตุผลที่พูดแบบนี้
-
เพิ่งอ่าน คิวเค้ก จบค่ะ
สองวัน สองคืน น่าติดตามการเจริญเติบโตทางความรู้สึกของคู่นี้มาก
เค้กน่ารักมาก คิวก็ร้ายไม่น้อย
แต่ก็ทำให้เราหลงรักคู่รักคู่นี้ซะแล้ว
-
อ่านยังไม่ทันอ่ะ เเต่อยากโพสก่อน อิอิ :o8:
สนุกมากค่ะสามคู่สามรสชาติ >O<
-
เหอะ เหอะ ถ้าลืมได้อ่ะ ลืมไปนานแล้วเว้ย
-
เป็นตอนที่อ่านแล้วแบบเศร้ามากอ่า ตอนที่เซ็นบอกให้กัสลืมนี่น้ำตาคลออ่า คนมันรักไปแล้วจะลืมได้ยังไง ถ้าคนเราลืมกันง่ายๆ ก็คงไม่ต้องมีใครเจ็บปวดกันแล้วแหละ ใจคนเรายากแท้หยั่งถึง ทำไมเซ็นถึงบอกให้กัสลืม อยากรู้เหตุผลว่าทำไม ดูเหมือนเซ็นก็จะมีใจให้กัสด้วยนะ ถ้าไม่มีใจคงไม่เผลอไผลขนาดถึงขั้นมีอะไรกันหรอก เพราะมันไม่น่าจะเป็นวันไนท์สแตนด์อ่า ไม่ว่าเลือกทางไหนก็ต้องมีคนเจ็บด้วยกันทังนั้น จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยก็อยู่ที่ว่าแต่ละคนให้ใจไปมากขนาดไหน นี่แหละหนอความรัก !!
-
โอ้ยสงสารกัส ทำไมอิพี่เซ็นทำแบบนี้
-
ในที่สุดก็ตามจนทัน ได้เวลานอนสักที (เอิ๊กกกกก)
อ่านไปเรื่อยๆ น่าติดตาม ลุ้นมากๆ อ่ะค่ะ
ไม่ค่อยเข้าใจเซ็นนัก เข้าใจว่าน่าจะมีเหตุผลมากกว่ามั่วไม่เลือกนะ
เพราะเป็นคนรักเพื่อนนี่นา รักคิว ก็น่าจะรักพี่หมีด้วยแหละ
หรือว่าไม่ใช่หว่า
สำหรับพี่หมี ก็เหมือนจะรักกัสนะ แต่ก็เหมือนจะไม่ได้รัก
ดูไม่เยอะแยะ เพ้อพกอะไรเลย สับสนมากกับความรู้สึกของสองคนนี้
แต่ดูจากวิธีการเล่าแล้ว กัสเซ็นแน่ๆ
-
บ้างครั้งคนเรา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิด แต่ก็ยังคงทำลงไปด้วยความรู้สึกหลอกตัวเอง
แต่สุดท้าย ไอ้ที่เจ็บ ก็ตัวเองนี่แหละ ส่วนความรู้สึกของคนอื่น ก็เป็นแค่ส่วนประกอบของผู้กระทำผิด
+1 ให้เบบี้ ครับ
ปล. อาการหน่วง ๆ กับบทนี้จัง :z2:
-
อ่านตอนนี้แล้วให้ความรู้สึกเศร้ามากกกก ยิ่งถ้าฟังเพลงคนไม่นาสงสารของ แอน-ธิติมา ด้วยแล้วน้ำตาร่วงแน่เลย
-
พี่หมีน่ารักอะ
-
มารอ..
-
แล้วพี่หมีล่ะ
-
:pig4: :pig4:
:really2: พี่หมี พี่เซน .......... :a5:
-
เฮ้อ...สงสารกัสจัง
ไม่น่าเผลอตัวไปเลยนะ
แต่คนมันรักเขาไปแล้วนินะ
คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงจะเป็นพี่หมีกับกัสนี่แหละ
รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ
-
ขอบคุณค่ะ
-
แอบเศร้าอ่ะ สงสารกัส :m15: :m15:
-
กัสไม่น่าพลาดเลย พี่เซ็นทำตัวไม่เหมือนเดิมแล้วอ่ะ
:เฮ้อ: อ่านตอนนี้ยังไงก็อยากให้พี่เซ็นเป็นพระเอกอยู่ดี ถึงแม้จะทำตัวแย่มากก็เถอะ
-
~7~
หลังเลิกงาน ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“พี่หมี!” ผมเรียกเมื่อพี่หมีทำท่าจะขึ้นรถของตนไปโดยจะทิ้งผมไว้ตรงนี้ หลังจากเลิกงานพี่หมีก็มีท่าทีแปลกๆ ก่อนหน้าผมถูกพี่หมีซักไซ้ว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมเหม่อลอยระหว่างการทำงานซึ่งปกติผมจะไม่ใช่คนแบบนี้ พี่หมีคงไม่สบอารมณ์ที่ผมไม่ยอมปริปากพูดอะไรเลย ผมพยายามให้ทุกอย่างเป็นปกติแต่พี่หมีกลับพยายามบังคับให้ผมไม่เป็นปกติ ผมได้แต่บอกว่า “ทุกอย่างปกติดี” และ “ผมไม่ได้เป็นอะไร” แต่พี่หมีไม่ฟังจนกระทั่งพี่เขาหงุดหงิดและบอกผมว่าวันนี้จะไม่ไปส่งผมที่บ้าน ผมเองก็ไม่ยอมเช่นเดียวกันเพราะผมไม่อยากให้พี่หมีโกรธผมกลับไปทั้งอย่างนี้ ผมตื๊อพี่หมีจนเรามามีปากเสียงกันต่อที่หลังร้านนี่ละครับ
“กัส..พี่ฟ้ากับพี่คิวอยู่ อยากโดนว่ารึไง” พี่หมีหันมาค้อนใส่ผมเป็นเหมือนคำขู่บอกให้ผมเลิกตื๊อซะ ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินที่พี่หมีว่าอย่างนั้น วันนี้พี่คิวกับพี่ฟ้ามาตรวจงานตอนเย็นและอยู่รอจนหลังเลิกงาน
“แต่พี่หมี..โกรธกัสอยู่นี่ฮะ” ผมพูด น้ำเสียงสั่นจนเกินจะควบคุม พี่หมีเงียบ ยืนจ้องหน้าผมเขม็ง
“มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า” ผมหันไปมองตามเสียงที่คุ้นหู พี่เซ็นยืนอยู่ไม่ไกลนัก ผมรีบหลบตาพี่เขาในทันที
“ไม่ใช่ธุระของพี่” พี่หมีย้อนเสียงเรียบ
“.................” อยู่ๆที่ตรงนี้ก็เงียบสนิท ใจผมเต้นแรงอย่างกลัวอารมณ์ของพี่หมีที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ใช่ ไม่ใช่ธุระของฉัน..แต่แกกำลังทะเลาะกันในร้าน” พี่เซ็นย้อนเสียงเรียบเช่นเดียวกัน
“ร้องไห้เหรอ” พี่เซ็นหันมาถามผม ผมปัดมือของพี่เซ็นออกในทันทีที่พี่เขาเอื้อมมือมาจะจับที่แก้ม
“ช่วยอย่ายุ่งกับกัสจะได้ไหมครับ” อยู่ๆพี่หมีก็เดินเข้ามาใกล้ผมกับพี่เซ็น ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่หมีอย่างต้องการห้ามปราม พี่เซ็นอมยิ้มเล็กน้อย
“อย่าบอกนะว่าที่ทะเลาะกันนั่นเพราะพี่น่ะ” พี่เซ็นย้อนถามพี่หมี ผมเริ่มกลัวใจของทั้งสองคนขึ้นมา ทั้งที่พี่หมีเองก็ไม่ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับพี่เซ็นแต่ผมก็ยังอดกลัวไม่ได้อยู่ดี
“งั้นพี่จะตอบผมแทนกัสหน่อยได้ไหมล่ะครับ” พี่หมีแสยะยิ้ม
“ว่าวันสงกรานต์ที่พี่หายไปกับกัสน่ะ..ไปไหนกันมา แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง” พี่หมีพูด ผมกลืนน้ำลายลงคอและก้มหน้าลง พี่เซ็นไม่ตอบอะไรเอาแต่เงียบไปสักพักหนึ่ง
“ไม่ใช่ธุระของนายนี่” ใจของผมเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินพี่เซ็นย้อนประโยคเดียวกันกับที่พี่หมีพูดเมื่อกี้
“บางที เรื่องบางเรื่อง..นายก็ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้น่ะนะ” พี่เซ็นตอบด้วยน้ำเสียงอะลุ้มอล่วย
ปึก !!
ผมตกใจเมื่อเห็นว่าอยู่ๆพี่หมีก็ผลักหน้าอกพี่เซ็นอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซถอยหลังไป
“เฮ้..อะไรน่ะ” ผมหันไปมองพี่คิวที่เพิ่งเดินออกมา เมื่อพี่คิวเห็นอย่างนั้นคิ้วของพี่เขาก็ขมวดชนกันเป็นโบ
“ป..เปล่าครับ” ผมรีบพูดแก้สถานการณ์ พี่คิวเดินตรงเข้ามาทางพวกเรา ทุกคนต่างยืนนิ่ง พี่เซ็นและพี่หมีจ้องหน้ากันเขม็ง ผมปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆ
“พี่หมี กลับบ้านกันเถอะครับ” ผมเข้าไปจับมือของพี่หมีไว้ มือของผมสั่นจนไม่สามารถควบคุมมันได้ พี่หมียืนนิ่งไม่แม้แต่จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบ
“พี่บอกผมมาว่าพี่ทำอะไรกัส” พี่หมีถามเสียงแทบตะคอก ผมหันกลับไปมองพี่เซ็น พี่เซ็นเหลือบสายตามามองที่ผมก่อนจะกลับไปจ้องมองพี่หมีเช่นเดิม
“ฉันเปล่า” พี่เซ็นตอบ
“พี่หมี!” ผมร้องเสียงหลงและพยายามเข้าไปรั้งตัวพี่หมีไม่ให้เข้าไปชกพี่เซ็น แต่ก็เปล่าประโยชน์ พี่หมีเคยเป็นถึงนักกีฬาเทควันโดของมหาวิทยาลัย แรงของพี่เขาเยอะเกินไปที่ผมจะสามารถต้านทานได้ไหว
ผลัวะ !!
พี่หมีชกเข้าที่หน้าของพี่เซ็นอย่างแรงจนพี่เซ็นเซล้มไปอีกทาง ในจังหวะเดียวกันพี่คิวก็เข้ามาห้ามพี่หมีพร้อมกับผลักพี่หมีออกจนพี่หมีเซกลับมาทางผม พี่เซ็นลุกขึ้นยืนนิ่ง พี่เขานิ่งมากทีเดียว นิ่งมากคล้ายกับคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
“พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง!” พี่หมีพยายามข่มน้ำเสียงของตัวเองไม่ให้กระโชกโฮกฮากไปมากเกินควร จนกรามของพี่เขาเห็นเด่นชัดขึ้นเป็นสัน
“หยุด..เดี๋ยวนี้” พี่คิวกดน้ำเสียงสั่งแต่น้ำเสียงกลับเย็นและแข็งกร้าว มือของพี่เขาชี้หน้าพี่หมีอย่างห้ามปราม พี่หมีหยุดตามที่สั่ง ใจผมเต้นเร่าๆกลัวอารมณ์ของทั้งสามคน ที่กลัวมากที่สุดในตอนนี้คงจะเป็นพี่คิวที่ดันเข้ามาเห็นในเวลาที่ไม่ควร ผมรู้ดีว่าพี่คิวกำลังระงับสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ ตาของพี่เขาดุดันจนผมไม่กล้าแม้แต่จะจ้องมองนานๆ สุดท้ายแล้ว..ผมกลัวว่าพี่หมีหรือว่าผมอาจจะโดนไล่ออกด้วยนะครับ
แกรก~
ทุกคนเหลือบไปมองทางประตูหลังร้าน พวกพี่ๆในร้านเดินออกมาพร้อมกับพี่ฟ้าพอดี ทุกคนต่างชะงักเมื่อเห็นสถานการณ์ที่ผิดปกติตรงนี้
“กลับเข้าไปซะ” พี่คิวพูดบอกทุกคน สีหน้าของทุกคนหน้าเหรอหราแต่ก็เดินกลับเข้าร้านและปิดประตูหลังร้านไป ตรงนี้เงียบลงอีกครั้ง ผมไม่แม้แต่จะขยับตัว
“มึงทำ..อย่างที่หมีพูดรึเปล่าเซ็น” พี่คิวถามทั้งที่ไม่ได้หันกลับไปจ้องมองหน้าเพื่อนรักของตน พี่เซ็นยืนเงียบมากจนพี่คิวคงทนไม่ไหวหันกลับไปจ้องหน้าพี่เซ็นตาขวาง
“ใช่ กูทำ” พี่เซ็นจ้องหน้าพี่คิวก่อนจะพยักหน้าตอบให้
เพี้ย !!
ผมและพี่หมีสะดุ้งตาเบิกโพรงกับภาพตรงหน้า พี่คิวตบเข้าที่หน้าของพี่เซ็นอย่างแรง แรงมากจนผมกลัว น้ำตาของผมไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมรับรู้ได้ว่ามือและตัวของผมสั่นมาก ทำให้ผมต้องเข้าไปจับแขนพี่หมีไว้อย่างต้องการที่พึ่ง
“อย่า อย่าทำ..พี่เซ็นเลยฮะ” ผมพูดเสียงสั่นและเบามากจนแทบจะกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อเห็นว่าพี่เซ็นเลือดออกมุมปากที่เกิดจากแรงตบของพี่คิว พี่เซ็นจับที่มุมปากของตนเองเล็กน้อยก่อนจะแสยะยิ้มออกมาและไม่แม้แต่จะต่อว่าอะไร
“................” พี่เซ็นและพี่คิวยืนเงียบ ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันเขม็ง ผมเห็นเหมือนพี่คิวทิ้งลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงเหมือนกำลังคิดอะไรไปสักครู่
“ได้คำตอบแล้ว” พี่คิวหันกลับมาพูดบอกพี่หมีเสียงเรียบ พี่หมีไม่ตอบและได้แต่หันหน้าหนีพี่คิวไปทางอื่นแทน
“พากัสกลับไปซะ” พี่คิวบอก พี่หมีคว้ามือผมทำท่าจะหันหลังพาผมเดินออกมา
“เดี๋ยว..” พี่คิวเรียกไว้ พี่เขาทิ้งน้ำเสียงลงไปครู่ ผมและพี่หมีหันกลับไปมอง
“ถ้านอกเวลางาน จะไปฆ่ากันที่ไหนก็ไม่เป็นไร..แต่อย่าให้เห็น ว่ามีปัญหากันในเวลางาน” พี่คิวพูดขึ้น ผมกอดแขนพี่หมีแน่นขึ้นกว่าเดิมด้วยรู้สึกกลัว ผมไม่เคยเห็นพี่คิวเป็นแบบนี้บ่อยๆซึ่งผมไม่ชิน ปกติแล้วพี่คิวจะไม่พูดขึ้นมึงกูกับพี่หมีเลย และถึงพี่คิวจะพูดกับเซ็นมึงกูอย่างปกติแต่ครั้งนี้กับเป็นการขึ้นมึงกูที่ไม่น่าฟังเอาซะเลยละครับ
“ถ้าคิดว่าทำไม่ได้แน่ ก็ช่วยลาออกไปซะ..เพราะถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ พวกมึงก็ไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จำเป็นต้องอยู่ต่อ” ทุกคนต่างยืนนิ่ง ผมเองแทบอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ ไม่มีอะไรเลยที่จะสามารถตอบโต้กลับไปได้ ไม่มีอะไรที่ควรพูดแก้ตัวเลยสักอย่างเดียว..
“ส่วนมึง..ไปเจอกันที่บ้านกู” พี่คิวหันไปบอกพี่เซ็น พี่เซ็นพยักหน้าตอบให้ส่งๆก่อนที่พี่คิวจะเดินกลับเข้าร้านไป พี่หมีพาผมมาขึ้นรถของตนก่อนจะขับออกมาโดยที่ผมไม่ได้หันกลับไปมองพี่เซ็นอีก
ระหว่างทางเราต่างฝ่ายต่างเงียบมาตลอด พี่หมีไม่ได้เอื้อมมือไปเปิดเพลงฟังอย่างเช่นทุกครั้ง ผมนั่งนิ่ง ในหัวคิดเวียนไปถึงเรื่องราวมากมาย รวมไปถึงกำลังคิดว่าจะอธิบายต่อเรื่องราวทั้งหมดกับพี่หมีอย่างไรดี ผมควรทำยังไงให้พี่เขาหายโกรธ ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นผมถึงไม่อยากให้พี่หมีรู้เรื่องนี้ สุดท้าย..คนที่ผิดที่สุดคงจะเป็นผมเองละนะครับ
= = = = = = = =
ณ คอนโดหมี..
ระหว่างทางที่มาที่คอนโด ผมรู้ดีว่าพี่หมีไม่ได้จะพาผมกลับไปส่งที่บ้านผม ผมทราบและผมไม่ได้ท้วงอะไรเลย หลังจากลงมาจากรถพี่หมีก็เดินเข้ามาจับมือผมและพาเดินไปร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคอนโด เป็นร้านอาหารกึ่งผับ เราจับมือกันแน่นและไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอีก เมื่อพนักงานหาที่นั่งให้เรา พี่หมียื่นเมนูให้ผมและส่งสัญญาณเหมือนให้ผมเป็นคนสั่งแทน ผมสั่งอาหารมาสามสี่อย่างที่เป็นของโปรดของพี่หมีโดยเฉพาะพร้อมกับข้าวสวย พี่หมีสั่งเบียร์มาดื่ม ส่วนผมดื่มน้ำโค้กเพราะอารมณ์ที่ไม่คงที่แบบนี้ผมไม่ควรจะดื่มมัน ระหว่างรออาหารพี่หมีไม่พูดอะไรเลย เบียร์ที่สั่งมาดื่มก็ไม่ค่อยลดลงมากเท่าไหร่เพราะพี่หมีไม่ค่อยดื่มคงเพราะอารมณ์เดียวกับผมละมัง เราต่างฝ่ายต่างเงียบจนอาหารมาเสิร์ฟ ผมตักอาหารให้พี่หมีบ้าง เราทานอาหารกันอย่างเงียบเชียบจนต่างฝ่ายต่างทานจนอิ่ม ที่จริงผมควรจะทานอะไรไม่ลง แต่เปล่า..ผมทานอย่างกับไม่ได้ทานมื้อกลางวันมาก่อนอย่างนั้น ถึงแม้จะรู้สึกเศร้าแต่ก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกหิวได้ลงจริงๆ
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พี่หมีจ่ายเงินและเดินจับมือผมข้ามถนนกลับมาที่คอนโดอีกครั้ง เมื่อกลับมาถึงห้อง..พี่หมีเข้าไปอาบน้ำก่อน ผมโทรหาพี่เกตุเพราะจะบอกว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน จะนอนค้างที่ห้องของพี่หมี พี่เกตุรับรู้และรับปากว่าจะบอกพ่อกับแม่ให้ ผมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับคืนนี้และพรุ่งนี้เช้าไว้ก่อนเพราะว่าวันพรุ่งนี้ผมมีทำงานที่ร้านตอนบ่าย ผมเดินไปจัดกระเป๋าของตัวเองก่อนจะเดินไปหยิบน้ำมารินใส่แก้วเตรียมไว้บนหัวเตียงเพราะพี่หมีจะทำอย่างนี้เป็นประจำ ผมถอดเสื้อผ้าออกเตรียมตัวอาบน้ำต่อจากพี่หมี ไม่นานพี่หมีก็อาบน้ำเสร็จ เมื่อพี่หมีเดินออกมาจากห้องน้ำ พี่เขายิ้มให้ผมเพียงนิดเดียวก็เดินไปแต่งตัว ผมจึงเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำบ้าง..
หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยออกมาก็เห็นพี่หมีนั่งทำงานโดยมีโน้ตบุ๊กนั่งอยู่บนเตียง ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงข้างๆพี่เขา พี่หมียื่นรีโมทมาให้ผมเหมือนกับบอกผมว่า “เปลี่ยนช่องได้ตามสบาย” ผมรับมาก่อนจะกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อย
“มีงานมาใหม่เหรอฮะ” ผมถามขึ้น ไม่ทราบว่านี่เป็นประโยคที่เท่าไหร่ที่เราได้พูดคุยกันหลังจากเกิดเรื่อง น่าจะประโยคที่สี่หรือห้าได้ละมั้งครับ
“เปล่า..เคลียร์งานเก่าน่ะ ลูกค้าให้แก้งานนิดหน่อย” พี่หมียิ้มตอบ
“ครับ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ เหลือบไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงเกือบจะสี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผมเอนตัวลงพิงหมอนและดูโทรทัศน์อย่างเงียบๆ เหลือบไปมองพี่หมีบ้างเป็นระยะ เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง พี่หมีปิดโน้ตบุ๊กลง ผมเลื่อนตัวลงนอนลงเรื่อยๆ พี่หมีหันมายิ้มให้ก่อนจะปิดไฟห้องและไฟที่หัวเตียง
“ปิดเลยไหม” ผมถามถึงโทรทัศน์ที่เปิดอยู่
“จะดูต่อไหมล่ะ ดูต่อก็ได้ครับ” พี่หมีตอบ
“นอนละฮะ” ผมตอบและกดปิดโทรทัศน์ก่อนจะนำรีโมทไปวางไว้บนหัวเตียง ผมนอนตะแคงหันหน้าไปทางพี่หมี พี่หมีเองก็ทำเช่นเดียวกัน เราต่างฝ่ายต่างนอนมองหน้ากันและยิ้มให้กันเล็กน้อย ท่ามกลางความเงียบ พี่หมีเขยิบตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ผมยังคงนอนนิ่งด้วยทั้งหมดทั้งมวลผมรู้สึกไว้ใจพี่หมีมาก พี่หมีเข้ามากอดผมไปทั้งตัวทำให้หน้าของผมซุกเข้าไปที่หน้าอกของพี่เขา และรับรู้ถึงกลิ่นของกันและกัน พี่หมีเงียบมากทั้งยังคงนอนกอดผมอยู่อย่างนี้และลูบผมของผมอย่างเบามือ
“ขอโทษนะฮะ” ผมพูดขึ้น
“พี่ต่างหากละครับที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ” พี่หมีย้อนตอบ
“ทั้งๆที่พี่บอกไม่ให้กัสล้ำเส้นแท้ๆ” ผมนอนฟังและไม่ได้ตอบอะไร
“แต่คนที่ล้ำเส้นกลับเป็นพี่เอง” พี่หมีพูดเสริม ผมโอบแขนเข้าไปกอดตัวพี่หมีบ้างเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจ ถึงปากพี่หมีจะบอกว่าไม่อยากให้ผมล้ำเส้น ซึ่งผมเองก็พยายามเหมือนกันที่จะไม่ล้ำเส้นพื้นที่ส่วนตัวของพี่หมี ที่จริงแล้วการที่พี่หมีมารู้สึกผิดอย่างนี้ผมไม่เคยคิดมากหรือคิดอยากจะต่อว่าพี่เขาเลยแม้แต่นิดเดียว พี่หมีจะล้ำเส้นพื้นที่ส่วนตัวของผมก็ได้ผมจะไม่ต่อว่าอะไรทั้งนั้นเพราะผมรู้ดีว่าพี่หมีหวังดีเสมอ ถ้าพี่หมีหงุดหงิดหรือจะว่าอะไรผม ผมก็จะมองมุมกลับว่าถ้าผมเป็นพี่หมีผมก็คงจะทำอย่างนั้นเช่นกัน เหมือนกับที่ผมเองที่เป็นห่วงพี่เขามาก เพราะพี่เขาเป็นพี่คนสำคัญ..เมื่อเป็นห่วงผมก็มักจะล้ำเส้นอยู่บ่อยครั้ง
“ถ้าพี่ไม่คาดคั้นด้วยความอยากรู้..กัสก็คงจะไม่ร้องไห้” อีกฝ่ายบอก
“หึ เปล่าหรอกครับ..กัสร้องเพราะกลัวพี่คิวจะไล่ออกต่างหากล่ะ” ผมพูดติดตลกด้วยไม่อยากให้บรรยากาศตึงเครียดเกินไป พี่หมีหัวเราะตอบในลำคอ
“หลับเถอะนะ นอนซะ” อีกฝ่ายพูดไปมือก็ยังคงลูบหัวผมไม่หยุด น้ำตาของผมที่เอ่อล้นอยู่ก็ไหลลงในทันที ผมขยับหัวเล็กน้อยเพื่อที่จะไม่ให้น้ำตาไปเปื้อนเสื้อของพี่หมีเข้า ผมไม่ได้สูดน้ำมูกหรือแม้แต่จะปัดน้ำตาทิ้งเพราะผมไม่อยากให้พี่เขารู้ ผมนอนนำมือลูบหลังอีกฝ่ายไปพลางเช่นเดียวกันกับที่พี่เขานำมือลูบหัวผมอยู่
“ฝันดีนะครับ” พี่หมีบอก
“ฮะ” ผมตอบก่อนจะหลับตาลงช้าๆ..
= = = = = = = =
-
เที่ยงวันพฤหัส ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
วันนี้ผมตื่นสาย พี่หมีออกจากห้องไปตั้งแต่เช้าเพราะพี่หมีมีเวรงานที่ร้านตั้งแต่เช้า ส่วนผมมีเวรบ่ายแต่พอตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำทันที และด้วยที่ไม่รู้ว่าจะอยู่คอนโดพี่หมีต่อไปทำไมผมจึงเดินทางมาที่ร้านตั้งแต่เที่ยงวัน กะว่าจะมาทานอาหารที่นี่ด้วย
“ไงครับ” พี่ฟ้าเปิดประตูห้องเข้ามาทัก ผมเงยหน้ายิ้มตอบให้ หลังจากที่พวกพี่ๆทานอาหารเที่ยงเสร็จพวกพี่เขาก็ไปทำงานต่อแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงผมที่นั่งอยู่ในห้องพักเพราะผมยังทานอาหารไม่เสร็จ ที่ยังทำตัวเอ้อระเหยลอยชายอยู่ได้นี่ก็เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาเข้าเวรของผมด้วย
พี่ฟ้าเดินมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับผม “ฮะ” ผมยิ้มตอบเล็กน้อย
“โอเคนะ” พี่ฟ้าเลิกคิ้วมองมาที่ผม ผมยิ้มและพยักหน้าตอบให้
“ไม่แล้วม้าง” พี่ฟ้าเล่นเสียงสูง ผมหัวเราะให้กับท่าทางของพี่เขา พี่ฟ้าไม่พูดอะไรอีกแต่เอื้อมมือมาลูบหัวผมอย่างเบามือ
“รักคนเลวน่ะไม่ผิดหรอกนะครับ” พี่ฟ้าพูดขึ้นโต้งๆแถมอมยิ้มให้แต่กลับมองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนโยน ผมยิ้มกลับให้เช่นกันก่อนจะวางช้อนส้อมลงบนจานอาหารอย่างช้าๆ
“แต่จะผิดแน่ ถ้าวางตัวให้ไม่มีค่า..เพราะมันจะทำให้เราคุมเกมไม่ได้น่ะ” พี่ฟ้าแสยะยิ้ม ผมพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจ พี่ฟ้าน่ะชอบเสี่ยงดวงเป็นที่สุด ไม่ว่าพี่ฟ้าจะทำอะไรพี่ฟ้ามักจะคิดว่าพี่เขาต้องการเป็นผู้นำและพี่เขาจะได้กำไรมากน้อยแค่ไหน แต่ผมน่ะไม่ใช่คนแบบนั้นเท่าไหร่หรอกนะครับ
“พี่ไม่ได้ว่าอะไรกัสทั้งนั้นนะครับ เพราะคนเราก็ตีค่าของความรักที่แตกต่างกัน แต่พี่กำลังบอกว่ากัสทำดีแล้ว..ไม่ต้องดีมากกว่านี้แล้วนะครับ เพราะเดี๋ยวมันจะเหนื่อยนะรู้ไหม” พี่ฟ้าพูด นำมือมาเขี่ยที่แก้มผมเบาๆให้ความรู้สึกคล้ายกับแมวกำลังเลียแก้มผมอยู่อย่างนั้น
“หึ..ฮะ” ผมยิ้มเล็กน้อย
“แล้ว หมี..เป็นไงบ้าง” พี่ฟ้าถาม
“ก็ปกติดีฮะ เรา..เอ่อ ไม่ได้คุยอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก” ผมยักไหล่เล็กน้อย
“มันเลือดร้อนนะว่าไหม หึ..เลือดร้อนไม่เปลี่ยน” พี่ฟ้าพูดปนหัวเราะ
“แล้ว..พี่เซ็น เป็นไงบ้างเหรอฮะ” ผมถามอย่างรู้สึกห่วง ผมเป็นห่วงพี่เซ็น ทั้งโดนพี่หมีต่อยแถมยังโดนพี่คิวตบซะแรงขนาดนั้น ผมเองก็อดนึกที่จะเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ
“ก็ดี มันสำนึกซะเมื่อไหร่ล่ะ..แถมยังบ่นกับไอ้คิวอีกนะว่า มือไอ้เหี้ยหมีอย่างกับตีนแน่ะ” พี่ฟ้าทำเสียงเลียนแบบ
“โดนแค่นั้นยังน้อยไป” พี่ฟ้าว่า
“แต่ แต่พี่คิว..ตบพี่เซ็นด้วยนะครับพี่ฟ้า เลือด..ออกด้วย” ผมรีบพูดอย่างร้อนรนเพราะกลัวว่าพี่เขาทั้งสองคนจะผิดใจกันเพราะผม พี่คิวตบพี่เซ็นแรงมาก ผมไม่รู้จะบอกว่ามันแรงมากแค่ไหนหรือเจ็บมากยังไงเพราะถึงขนาดพี่หมีต่อยพี่เซ็นไปพี่เซ็นก็ยังไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่พี่คิวตบเพียงแค่ครั้งเดียว..เลือดดันออกที่มุมปากซะได้
“สบายใจเถอะครับ” พี่ฟ้าบอกทันที ผมเงียบ พี่ฟ้าเองก็เงียบลงไปสักพัก
“ไอ้เซ็นเป็นเมียไอ้คิว มันไม่กล้าหือหรอก” พี่ฟ้าอมยิ้ม
“หึหึ” ผมอดหัวเราะไม่ได้กับมุขของพี่ฟ้าที่ผมรู้ดีว่าพี่เขาพยายามจะทำให้ผมหัวเราะ
“แต่ว่า..” ผมเอ่ยอีกครั้ง
“หึ มันเป็นการแสดงความรักระหว่างเพื่อนน่ะ นั่นเป็นเรื่องระหว่างมันสองคน กัสไม่มีส่วนเกี่ยวอะไร..อย่าไปคิดมากเลยครับ” พี่ฟ้าท้วงขึ้นเหมือนรู้ว่าผมจะพูดอะไร ผมจึงได้แต่พยักหน้าอย่างเข้าใจและพยายามที่จะไม่คิดมากไปกว่านี้
“แล้ว..กัสมีอะไรจะบอกพี่มากกว่านี้ไหมครับ” พี่ฟ้าถาม มือก็เอื้อมมือลูบมือผมไว้เบาๆ พี่ฟ้าเป็นพี่ชายที่ผมไว้ใจมากคนหนึ่ง พี่ฟ้าเป็นคนดีและรักเพื่อนฝูงมากซึ่งค่อนข้างผิดกับนิสัยเจ้าเล่ห์ที่พี่เขาเป็น ผมก้มหน้าเงียบไปสักพักเพราะไม่รู้จะเริ่มพูดตรงไหนก่อนดี
“กัสรักหมีรึเปล่า” พี่ฟ้าถาม ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“รักฮะ”
“รักแบบที่รักพี่ฟ้า..แต่มากกว่า เพราะพี่หมีเป็นคนสำคัญ” ผมตอบเสียงเบาด้วยรู้สึกเหนื่อยใจ ผมได้ยินพี่ฟ้าถอนหายใจเบาๆ
“รู้สึกแย่จังแฮะ” พี่ฟ้าพูดแกมขำ ผมยิ้มให้เล็กน้อย
“แล้ว ไอ้เซ็นล่ะ..รักมันรึเปล่า” พี่ฟ้าถาม สายตาเริ่มเปลี่ยนไปเป็นจริงจังมากขึ้น
“ครับ” ผมตอบ
“รักมานานแล้วงั้นเหรอ” พี่ฟ้าถามอีก
“ฮะ” ผมตอบพยักหน้าตอบเสียงสั่นและรีบยกมือขึ้นปัดน้ำตาที่แก้มของตัวเองอย่างลวกๆ น้ำตาที่ไหลออกมาตอนไหนไม่ทราบ ผมกำมือเข้าหากันแน่นเพราะพยายามที่จะบังคับไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมามากกว่านี่
“ให้ตาย..พี่ควรจะเชื่อไอ้คิวตั้งแต่แรกสินะ” พี่ฟ้าพูดด้วยสีหน้าเหมือนเหลือเชื่ออย่างเห็นได้ชัด
“แล้วทำไมกัส..” พี่ฟ้าพูดตะกุกตะกัก เหมือนพยายามจะพูดถามอะไรออกมาตรงๆแต่ก็เหมือนยังเกรงใจผมอยู่
“กัสรู้ฮะ กัสเลือกเอง..ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ฟ้า กัสไม่ได้ต้องการอะไรเลย..จริงๆนะครับ” ผมกระชับบีบมือพี่ฟ้าแน่น พี่ฟ้าเหลือบสายตาไปอีกทางเหมือนกำลังรวบรวมสติอารมณ์ของตนเอง พี่ฟ้าเงียบไปผมเองก็ด้วย เรานั่งเงียบกันอยู่สักพักใหญ่จนต่างฝ่ายต่างหันมายิ้มให้กันได้อีกครั้ง
“กัสรู้ไหมครับ บางทีกัสก็ไม่ควรใส่ใจอะไรใครให้มาก..ทั้งหมี ทั้งเซ็น” พี่ฟ้าพูดขึ้น สายตาเรียบนิ่งคล้ายกับคนไม่แยแสต่อโลกอย่างนั้น
“เพราะกัสเป็นห่วงทั้งคู่..กัสถึงต้องมานั่งเจ็บปวดอยู่คนเดียวแบบนี้ กัสจะบอกว่าหมีเป็นคนสำคัญสำหรับกัสเพราะเป็นพี่ชายที่ดีงั้นเหรอ..สำหรับพี่น่ะมันไม่ใช่ ทั้งๆที่กัสอยากจะร้องไห้ซบอกใครสักคนแทบตาย แต่กระทั่งหมีที่กัสบอกว่าเค้าให้ความสำคัญกับกัส..กัสก็ยังทำแบบนั้นกับหมีไม่ได้ด้วยซ้ำ” พี่ฟ้าว่า
“อึ..” ผมตัวสั่น ปาดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆเพราะคำพูดของพี่ฟ้าคล้ายกับเข้าไปสะกิดส่วนที่เก็บซ่อนอยู่ลึกภายใต้หัวใจของผม
“เค้าถึงบอกว่า ความละเอียดอ่อนของผู้ชายน่ะ..มีไม่เท่ากับผู้หญิง แปดสิบเปอร์เซ็นต์มักเห็นแก่ตัวอย่างไม่น่าเชื่อ กัสก็เป็นผู้ชาย..พี่คิดว่ากัสน่าจะทำตัวแบบนั้นบ้าง เอาเปรียบบ้าง..ชีวิตจะได้มีสีสันขึ้นไง หึ..กำลังคิดว่าความคิดพี่มันเลวใช่ไหมล่ะ” พี่ฟ้าเบะปากเลิกคิ้วให้ ผมนั่งเงียบ
“ใช่ เลว..แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าในความเลวมันสนุก” พี่ฟ้าเท้าคางเหมือนอ่อนใจให้กับชีวิต
“พี่ก็พูดเล่นไปงั้น ฮึ..ที่จริงพี่ก็ทำไม่ได้สักเท่าไหร่” พี่ฟ้าหัวเราะอย่างขอปัดไปทีแล้วอยู่ๆพี่ฟ้าก็เงียบไป
“เฮ้อ แค่อย่าไปใส่ใจคนอื่นให้มากก็พอ ทำแค่นี้ได้ไหมล่ะครับ..พี่แค่ไม่อยากเห็นน้อยชายที่น่ารักของพี่ทำหน้าเศร้าแบบนี้อีก” พี่ฟ้าเอื้อมมือมาลูบแก้มผมพร้อมกับเช็ดคราบน้ำตาให้ผมอย่างเบามือ ผมพยักหน้าตอบให้ทั้งทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าคงทำให้ไม่ได้
“ยังไงก็ อย่าทำงานผิดพลาดเป็นดีที่สุดนะครับ” พี่ฟ้าพูดบอก ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจว่าพี่ฟ้ากำลังหมายถึงอะไร
“พี่เป็นห่วงนะครับ แล้วพี่น่ะ..ก็ไม่อยากจำใจทำอะไรที่พี่ไม่ต้องการจะทำหรอก แต่กฎ..ก็ต้องเป็นกฎ” พี่ฟ้ายิ้มให้เล็กน้อย
“ครับ กัสเข้าใจ..จะพยายามไมให้ผิดพลาดอีกครับ” ผมยิ้มตอบให้
“ครับ ขอบคุณมาก..ยังไง กินตามสบายนะ..พี่ต้องไปเช็คบัญชีต่อ อีกเดี๋ยวก็คงกลับละ”
“ครับ ขอบคุณนะครับพี่ฟ้า” ผมบอก
“ทีหลังมีอะไรปรึกษาพี่ก่อนนะครับ พี่รับเรื่องรุนแรงแบบกะทันหันไม่ค่อยได้..พี่แก่แล้ว” พี่ฟ้าหันมายิ้มให้
"แล้วก็นะ เรื่องที่ควรจะอ่อนแอน่ะ..กัสก็ไม่ต้องเข้มแข็งให้มากนักก็ได้นะครับ เพราะมันจะเหนื่อยอยู่คนเดียว" พี่ฟ้าบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมได้แต่ถอนหายใจก่อนจะตักข้าวขึ้นทานต่ออย่างหมดอาลัยตายอยาก หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้วผมก็ออกไปทำงานต่อ..
“เซต Carrot Cake กับ Chocco Banana โต๊ะจีนะครับ..เดี๋ยวกัสเอาไปเสิร์ฟเอง” ผมยิ้มบอก พี่หมีพยักหน้ารับก่อนที่ผมจะยกถาดออกมาจากเคาร์เตอร์และนำมาเสิร์ฟให้ลูกค้า
“เซต Carrot Cake กับ Chocco Banana ครับ” ผมยิ้มบอกพร้อมกับนำอาหารเสิร์ฟให้ลูกค้า
“บานาน่าค่ะคุณแม่” ลูกสาวของลูกค้ายิ้มร่าเมื่อเห็นจานอาหารที่นำมาเสิร์ฟ ผมยิ้มให้เธอทั้งสองคน
“อาหารที่สั่งครบนะครับ มีอะไรเรียกพนักงานได้เลยนะครับ..ขอให้ทานให้อร่อยครับ” ผมก้มหัวให้ก่อนจะเดินกลับมาที่เคาร์เตอร์
“ไปแล้วนะครับ” รุจหันมาบอกพวกผมเพราะเป็นเวลาออกเวรของรุจพอดี พี่ซีจะต้องเข้ามาทำงานต่อหลังจากนี้จนถึงเวลาปิดร้าน
“จ้า..โชคดีนะ” ผมยิ้มกว้างให้
“หึ ครับ” รุจยิ้มตอบน้อยๆพร้อมกับยกมือไหว้พี่หมี
“หวัดดี แล้วเจอกัน” พี่หมีพยักหน้าตอบ หลังจากที่รุจออกไปได้ไม่นานเท่าไหร่พี่ซีก็เข้ามารับหน้าที่ต่อในทันที
“ว่าไง..โอเคนะ” พี่ซียิ้มให้ ผมยิ้มแหยและพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นักว่าพี่ซีพูดอย่างนั้นหมายความถึงเรื่องอะไร
“อ่าว มาแล้วเหรอ..ไอ้รุจไปละ” พี่ออฟเดินเข้ามา
“ครับ ไปเมื่อกี้นี้เอง” ผมตอบก่อนจะหันไปหยิบจานชามที่พี่หมีเพิ่งเช็ดเสร็จมาเช็ดอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่มาทำงานวันนี้ผมยังไม่ได้เข้าไปในห้องครัวเลยสักครั้ง คนที่ทำหน้าที่เข้าไปยื่นออร์เดอร์และรับอาหารส่วนมากจะเป็นพี่หมีและพี่ออฟ ผมไม่ได้ทำตัวเรื่องมากที่จะไม่เข้าไป ที่จริงผมสามารถทำหน้าที่ได้ปกติเพราะผมรับปากแล้วว่าจะพยายามไม่ให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นอีก
“วันนี้ขนมปังที่เอาไว้ต้อนรับลูกค้าน่าจะไม่เหลือแฮะ เพราะวันนี้พี่เซ็นทำเตรียมไว้นิดเดียว” พี่ออฟพูดขึ้น
“เห็นว่าพี่คิวคิดสูตรเค้กชิ้นใหม่ของร้านเราได้แล้ว จะเป็นเค้กประจำร้านด้วยแหละ..พรุ่งนี้จะเริ่มเอามาลงที่ร้านให้ลูกค้าชิมก่อนน่ะ เป็นลูกค้าร้านนี้นี่โชคดีจริงๆ” พี่ออฟยิ้มหวาน เมื่อได้ยินเช่นนั้นผมเองก็ได้แต่ยิ้มกว้างเช่นเดียวกัน
“จริงเหรอคะ เฮ้อ..จะเป็นยังไงนะ” พี่ซีทำหน้าเพ้อในทันที ผมกับพี่หมีหัวเราะ
“แล้ว..เค้กชิ้นนี้จะทำเป็นเซตด้วยรึเปล่าคะ” พี่ซีถามอย่างตื่นเต้น
“น่าจะนะ เมื่อวานก่อนพี่คุยโทรศัพท์กับเค้ก..เห็นเค้กบอกว่าชื่อเค้กคือชื่อพี่ฟ้าน่ะ ชื่อบอส” พี่ออฟพูดไปอมยิ้มไป
“ชื่อบอส!” พวกผมอุทานพร้อมกัน
“พี่คิวทำเค้กนี้เพื่อพี่ฟ้าเลยเหรอเนี้ย” ผมพูดอย่างไม่เชื่อหู
“เปล่าหรอก..เห็นว่าโดนบังคับรึไงนี่แหละ” พี่ออฟหัวเราะ พวกเราเองก็ด้วย
“แต่ก็ดีนะ เค้กจะต้องเป็นสีฟ้าแน่ๆเลย” ผมเพ้อบ้าง
“แต่ว่าพรุ่งนี้กัสไม่มีเวรนี่!” ผมนึกขึ้นได้ พี่หมีเบะปากอย่างไม่สนใจและเหมือนเยาะเย้ยผมอย่างนั้น
“งั้นหลังเลิกเรียนกัสจะมา คึคึ” ผมยักคิ้วให้ทุกคน
“ไม่เคยพลาดเลยนะเราน่ะ” พี่ออฟส่ายหัว
“แน่นอน..ของอย่างนี้พลาดได้ที่ไหน” ผมยักไหล่อย่างทีเล่นทีจริง เราสี่คนคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย พี่ออฟและผมออกไปดูแลลูกค้าบ้างเป็นระยะ ลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่นักทำให้เรามีหน้าที่ต้องทำงานในครัวกับจัดแจงความสะอาดตรงเคาร์เตอร์ไปตามสะดวกของแต่ละคน
= = = = = = = =
หลังเลิกงาน..
“ไปไหนกันเหรอครับ” ผมยืนถามพี่ๆที่กำลังคุยกันอย่างออกรส
“ไปดูหนัง” พี่ออฟยิ้มตอบ
“.................” ผมยืนนิ่งหน้างอทันที
“ไม่เห็นชวนกัสเลยอ่ะ” ผมว่า
“หึ..” พี่หมีหัวเราะในลำคอ ผมหันไปค้อนให้
“พี่จะไปสวีทกับซีสองคน” พี่ออฟยักคิ้วให้
“ไปกันสองคน! ใครอนุญาตไม่ทราบครับพี่ออฟ” ผมขึ้นเสียง พี่ออฟหน้าเหวอไป
“ทำไมพี่ซีจะไปกับพี่ออฟสองคนละครับ พี่ซีเป็นผู้หญิง..มันไม่ดีนะครับ แถมพี่ออฟยังไว้ใจไม่ได้อีกด้วย” ผมพูดว่าให้ทำให้พี่ซีกับพี่หมีถึงกับหัวเราะออกมา พี่ออฟน่ะเจ้าชู้รุ่นน้องจากพี่เซ็นเลยก็ว่าได้ แถมยังเคยบอกว่าพี่เซ็นเป็นไอดอลของตัวเองอีกด้วย (-_-)
“หึ..พี่ออฟจะไปอัดวิดีโอทำงานให้พี่ที่บ้านพี่ต่างหากล่ะ คิดไปถึงไหนน่ะเรา” พี่ซีส่ายหัว
“เดี๋ยวก่อนนะ ไอ้ที่ว่าพี่เมื่อกี้นั่นมันอะไรกัน” พี่ออฟชูมือขึ้นเหมือนต้องการค้านคำพูดของผม
“ก็จริงนี่” ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์
“ถ้าคนอย่างพี่ไว้ใจไม่ได้ คนแถวนี้ก็ไม่เหลือหรอกม้าง” พี่ออฟลากเสียงยาว มองเหล่ไปทางพี่หมีด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ พี่หมีไม่โต้ตอบแต่กลับนั่งอมยิ้มเหมือนยอมรับ
“ดูภูมิใจกันเหลือเกินนะ กับสิ่งที่มีในตัวน่ะ” ผมว่าให้ ผมได้ยินเสียงพวกพี่ๆหัวเราะกันเล็กน้อยก่อนที่ผมจะเดินหนีเข้ามาที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อนำสัมภาระที่เก็บอยู่ในล็อกเกอร์ออกมาเตรียมตัวกลับบ้าน
“ไปแล้วนะครับ” ผมบอกทุกคน
“กลับดีๆนะครับ” พี่หมีที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเดินมาลูบหัวผมเบาๆ วันนี้พี่ก้องมารับที่ร้านได้เพราะว่าวันนี้พี่ก้องออกไปทานอาหารมื้อค่ำกับเพื่อนจึงเลยมารับผมเลยทีเดียว
“พี่ก็เหมือนกันนะ ถ้าถึงบ้านแล้วโทรมาบอกกัสด้วยนะฮะ” ผมยิ้มบอก วันนี้เห็นพี่หมีบอกว่าจะกลับไปนอนที่บ้านเพราะมีธุระจะคุยกับทางบ้านหรืออย่างไรนี่ละครับ
“บ๊ายบายทุกคน” ผมโบกมือให้ก่อนจะเดินออกมา เมื่อเดินออกมาหลังร้านก็พบว่าพี่เซ็นกำลังคุยอยู่กับพี่ก้องพอดี พี่ก้องหันมายิ้มให้เมื่อเห็นว่าผมเดินมา
“งั้นฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน” พี่ก้องตบไหล่พี่เซ็นสองสามที
“ครับ หวัดดีครับพี่” พี่เซ็นยกมือไหว้ พี่ก้องเดินไปขึ้นรถ ผมยืนนิ่งเมื่อพี่เซ็นหันมามอง ผมไม่กล้าสบตาพี่เขามากนัก มีคำพูดร้อยแปดที่อยากพูดออกไปแต่มันกลับพูดไม่ออก
“เป็นไงบ้าง” พี่เซ็นพูดเชิงถาม ผมพยักหน้าตอบแทนคำพูดว่า “ก็ดีฮะ” เมื่อพี่เซ็นเงียบไปครู่หนึ่งทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง พี่เซ็นจ้องมาที่ผมเขม็ง
“เจ็บแผลไหมฮะ” ผมถามไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก
“หึ..ก็ อร่อยดี” พี่เขาตอบเสียงนุ่ม
“เหรอครับ งั้น..กัสขอตัว” ผมพูดบอกพร้อมกับเดินตรงไปที่รถของพี่ก้อง พี่เซ็นไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อขึ้นมานั่งบนรถผมก็ไม่ได้หันกลับไปมองพี่เซ็นอีกด้วยเพราะกลัวว่าพี่ก้องจะจับได้ถึงความผิดสังเกตที่เกิดขึ้น พี่ชายผมคนนี้เป็นคนช่างสังเกตมาก เป็นคนประเภทที่ว่าความเป็นคนสุภาพบุรุษและความนิ่งเฉยเหมือนไม่รู้อะไรทำให้ปกปิดอะไรบางอย่างในตัวได้ ซึ่งที่จริงแล้วกลับเป็นคนช่างสังเกตมากคนหนึ่ง พี่ก้องจะไม่เคยเอ่ยพูดถามอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องของตน หรือถ้าไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นจริงๆพี่เขาจะเงียบไว้ มีหลายครั้งที่พี่ก้องเอ่ยพูดขึ้นมา มันทำให้ผมทราบได้ว่าตลอดมาพี่ก้องสังเกตเห็นมาตลอด ผมจึงต้องระมัดระวังตัวทุกครั้งถ้าอยู่กับพี่ชายของผมคนนี้..
.................>>>><<<<....................
ขอชี้แจงอะไรหน่อยนะคะ..
ขอชี้แจงเนื้อหานิดหน่อยค่ะ เพราะดูเหมือนว่าจะมีคนอ่านบางท่านยังไม่ค่อยเข้าใจในตัวละครที่สื่อออกไปและยังคงคอมเม้นในประโยคเดิมๆซ้ำๆว่า “กัสน่าเบื่อ กัสสับสนมากเกินไป” ซึ่งมันคล้ายกับว่าที่ผ่านมาเจ็ดตอนเบบี้เขียนอะไรให้ไม่กระจ่างในตัวละครเท่าที่ควร ดังนั้น..เบบี้ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า แต่ละตอนที่นำมาให้อ่านกันนั้นทุกตอนมีความสำคัญของรายละเอียดตัวละครสอดแทรกอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ความรู้สึกของกัสตั้งแต่ตอนที่1 มาจนถึงปัจจุบันกัสไม่เคยบอกเลยว่า “สับสน” ต่อความรู้สึกนึกคิดของตนเองที่มีให้กับบุคคลรอบข้าง และจุดสำคัญของตัวละครที่อยากให้มองให้ละเอียดคือ
- กัสรู้สึกอย่างไรต่อหมีและเซ็น
- ใครกันแน่ที่..ไม่ชัดเจน
- กัสพยายามเข้มแข็งเพราะ..
- ใครบ้างที่เห็นแก่ตัว ฯลฯ
ซึ่งในตอนที่7 ที่ผ่านมาค่อนข้างบอกความรู้สึกกัสอย่างชัดเจน(มาก) และคำพูดของฟ้าที่มองทุกคนออกทะลุปุโปร่ง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่บอกว่า “ทำตัวไม่มีค่า” ที่ฟ้าพูดอะไรนั่นเลยค่ะ(ขอโทษด้วยที่ต้องพูดถึงข้อมูลตรงนี้เพราะเห็นทุกคนคิดว่ามันเป็นจุดสำคัญของคำพูดของฟ้า) ทั้งนี้ความกระจ่างที่มากขึ้นก็ต้องรอในตอนต่อไป ที่จริงนิยายเรื่องนี้มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ มันก็แค่นิยายที่เน้นความรู้สึกและสันดานดิบของมนุษย์แต่ละคน..แค่นั้น
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
อึดอัดกับสามหนุ่มจริงๆ
-
ก่อนอื่นขอบคุณเบบี้สำหรับนิยายมากกเลยค่ะ ^^
ตอนนี้เหมือนเรื่องราวมันจะบานปลายอย่างบอกไม่ถูก อ่านแล้วอึดอัด อึ้งๆมึนๆ
น้องกัสสสสสสสสสสสส เฮ่ออออออออออออ
แต่แอบชอบตอนที่พี่คิวตอบหน้าพี่เซ็น แล้วก้ประโยคที่พี่ฟ้าพูดกับกัสเรื่องนี้
มันให้อารมณ์แบบบอกไม่ถูกเลย 55555 แต่ชอบๆๆค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ สนุกๆ แต่ละ Lover เข้มข้นต่างกันแต่สนุกทั้งนั้นเลยย รอติดตามต่อไปค่ะ ^^ :กอด1: :pig4:
-
เฮ้อออออออ...สงสารพี่หมี :กอด1:
-
รักคนเลวน่ะไม่ผิด
แต่จะผิดแน่ ถ้าวางตัวให้ไม่มีค่า ก็จริงนะ แต่คนส่วนมากมักจะชอบคนเลว
เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออออ :เฮ้อ:
-
กัสน่าหมั่นไส้เล็กน้อยถึงปานกลาง โดนเซ็นทำถึงขนาดนี้แล้วยังจะไปหงอให้เขาเห็นอีก
อย่างนี้ก็จะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือเขาไปตลอด แล้วถ้าไม่ได้คิดอะไรกับหมีเกินกว่าคำว่าพี่ชาย
ก็ปล่อย ๆ หมีไปเถอะ บางครั้งการกระทำของกัสมันเหมือนมีใจให้ความหวังหมียังงัยก็ไม่รู้
เห็นใจหมีมากมาย คิดว่าเซ็นคงเป็นพระเอกแหละ แต่เราเชียร์หมีเว้ยยย ไม่ชอบเซ็น
-
พี่หมี น่างสงสารอ่า
แต่ก็นะ ทุกอย่างก็เพื่อกัส จริงๆๆ
อยากร้องไห้จัง พี่หมีคนดี จะมีคู่กับเขาไหมนิ
มันช่างน่าอึดอัดแท้ :z3:
-
บรรยากาศมันชวนอึดอัดเป็นที่สุดดดด..กัสหนอกัสคนดีๆแบบพี่หมีเป็นได้แค่คนสำคัญ
แต่เป็นคนรักไม่ได้หรออ
-
กัสคู่ใครก็ได้
ที่ไม่ใช่ทั้งสองคนนี้ :laugh:
-
อึดอัด พาลรำคาญกัสแล้ว :เฮ้อ:
เชียร์นายหมี
+1
-
เฮ้อ อึมครึม เหมือนอากาศช่วงนี้เลยแฮะ
เดาไม่ถูกเลยว่าจะไปทางไหน 55
เอาใจช่วยต่อไปล่ะกันนะหนูกัส :กอด1:
-
"รักคนเลวน่ะไม่ผิด
แต่จะผิดแน่ ถ้าวางตัวให้ไม่มีค่า"
ชอบประโยคนี้ของอาฟ้า คนเรามีค่าทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะทำตัวให้มีค่ามั้ย
ถามว่าอึกอัดมั้ยกะความสัมพันธ์ของสามคนนี้ รู้สึกว่าไม่อึกอัดนะ อยากรอดูความเป็นไปรึเปล่าว่าจะเป็นอย่างที่คิดมั้ย
ฝึกความอดทนมาจากตอนพี่คิวเป็นอย่างดีแล้ว 55555555555555555
อยากถามบี้มากกว่า ตกลงพี่คิวได้เค้กยังอ่ะ :z1: 55555555555555555 ได้นี่หมายถึงขั้นลึกซึ้งนาาาา
-
:beat:ความรุนแรงเริ่มขึ้นมากเรื่อยๆ ความเจ็บปวดเริ่มจะตามมาอีกครั้ง
เอาละงานนี้ใครจะเจ็บมากจะเจ็บน้อย อย่างไรแล้วแต่ แต่คนที่จะรู้ว่าจะต้อง
ทำอย่างไรต่อไปนั้น ควรเริ่มต้นกับตัวเองให้มากที่สุดและตลอดไป คือกัสนั่นเอง :L1:
-
พี่คิวโหดดีแท้. แต่สะใจ :laugh:
ขอบคุณน้องบี้ที่เขียนแต่เรื่องดีๆให้ได้อ่านนะคะ
พี่เซ็น....แล้วเราจะได้เห็นดีกัน
-
:o12:+ :serius2:= :เฮ้อ:
เครียดจ้าาาา -..-
อึกอัดปานฉะนี้
ยังไงก็สู้ๆ กันต่อไปเน้อออ มันขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเลือกใคร
หรือ ไม่มีใครเลือกใคร ทุกคนล้วน เดินจากกันไปเอง
อึกก !! !
อย่าดราม่าน้าาา
สู้ๆ จ้าา เบ้บี้ ~
-
:z13: :z13:
จิ้มมมมม....ตูดดด...ก่อนอ่านน
-
ไม่อยากเชียร์ใครแล้ว..มันทรมานกับความรู้สึก
ยังไงกัสก็เลือกเซ็น
เฮ่ย....รักพี่คิวกะเค้กเหมือนเดิมดีกว่า :กอด1: :กอด1:
-
สุภาพบุรุษที่สุดอ่ะพี่หมี อ่านเรื่องของกัสแล้วทำใมพี่คิดถึงน้องทัวร์วะ ( ตบๆๆๆ อิป้าอย่าออกอ่าว)
เข้ามารายงานตัวให้กำลังใจไอ้น้องบี้ว่าพี่หกเก้ายังติดตามเรื่องนี้อยู่นะ
แต่ด้วยภาระกิจรัดติ้วเลยต้องรอแบบอ่านรวบยอดทีเดียวอะนะ
+++ให้ย้อนหลัง ยังคิดฮอดเด้อ แล้วตะเองละคิดถึงเค้าเปล่า...คริคริ
:กอด1:
-
น้องกัสสู้ๆนะคะลูก :กอด1:
-
รักสามเศร้า เราสามคนมากมาย T^T
-
รอจ้า คิดถึงเค้ก :)
-
ได้แต่กอดกัสแน่นๆเหมือนพี่หมี :กอด1:
กัสไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้ แต่มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ รักคนเลวก็ต้องทำใจ :เฮ้อ:
ถ้ากัสทำอย่างที่พี่ฟ้าบอกบ้างก็ดี เห็นแก่ตัวบ้าง ไมต้องแคร์ใครมากมาย :กอด1:
เป็นกำลังใจให้กัสนะ จริงๆแอบลุ้นพี่หมี แต่ดูเหมือนจะลุ้นไม่ขึ้นหรือเปล่า ระหว่างกัสกับพี่หมีเหมือนจะชัดเจนนิดๆ (หรือเปล่า :z3:)
-
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป เห้อ ชอบคำพูดของพี่ฟ้านะ มันคงทำให้กัสคิดอะไรได้บ้างแหละ ส่วนพี่คิวโหดจริง แต่ก็สมกับสิ่งที่พี่เซ็นแกทำไว้แล้วละ แต่ดูเหมือนคุณพี่เซ็นจะไม่สะทกสะท้านเล๊ยยยย อยากรู้เหตุผลของการกระทำของพี่เซ็นจริงๆ ทุกอย่างเพื่ออะไร ? ในเมื่อก็น่าจะใจตรงกันกับกัสนี่นะ พ่ีหมีกับพี่เซ็นนี่แลจะไม่ถูกกันมากขึ้นทุกวันๆ เห้อ
-
เฮ้อออ มันจะยังไงต่อเนี่ย รอลุ้นตอนต่อไป
-
กัสรักคนเลวจริงๆสินะ
“รักคนเลวน่ะไม่ผิดหรอกนะครับ”
“แต่จะผิดแน่ ถ้าวางตัวให้ไม่มีค่า..เพราะมันจะทำให้เราคุมเกมไม่ได้น่ะ” โดนใจ
-
จากใจ (อีกครั้ง)
เอาพี่หมีมาเลยยยยยย
ไม่รักไม่สน ก็ไม่ต้องมายุ่งง เชอะ
ไปรักพี่เซ็นนุ้นนนน เชอะ
ให้พี่หมีไปเจอคนอื่นดีกว่า
กัสไม่ได้สับสน โอเค แต่กัสไม่ได้รักพี่หมี
จี๊ดดดดดดอะ TTTTTTTTTT ไม่ให้พี่หมีเล่า!
-
พี่หมี่มาหาเค้ามาๆๆ มาหาเค้าาาา :impress3:
-
ผญ(?) ชอบคนเลวท่าจะจริง แต่งานนี้เราเข้าข้างพี่หมี
:L2: :L2: :L2:
-
พอจะเดาออกแบบมึนๆ ว่ากัสจะเลือกใครละ :t3:
อึมครึมที่สุด เซ้งๆ หน่วงๆ ชอบคำพูดพี่ฟ้าที่สุด :เฮ้อ:
รักเค้กกะพี่คิวดีกว่า สบายใจ :impress3:
-
ชอบบบบ....พร้อมคิดตาม...."พี่เซ็นเป็นเมียพี่คิว" :z1: :z1:
โหดดีแท้เฮียคิววววววว
มันหน่วงๆเหนื่อยๆเนาะ.....เป็นกําลังใจให้กัสจ๊ะ
รอติดตามตอนหน้าจร้าาาาาาเบบี้
-
ไม่มีไรจะพูด แต่บอกได้คำเดียวว่าสงสารกัสอะ
แต่ก็สงสารพี่หมีด้วย
-
ตอนใหม่มาแล้ว อ่าาา สนุกกกกก
-
สมน้ำหน้าอิพี่เซ็นโดนพี่หมีต่อยกะพี่คิวตบให้สำนึกซะมั่ง
-
o13 ชอบคำสอนของพี่ฟ้า หวังว่ากัสจะทำได้อย่างที่พี่ฟ้าบอก
หมัดพี่หมี หรือแรงตบพี่คิวนะที่พี่เซ็นบอกอร่อยดี สงสัยพี่เซ็นจะชอบแบบซาดิสต์
-
อื้อหือพี่เซ็น
โดนทั้งตบทั้งต่อย
เจ็บแย่เลย
แต่มันก็น่าจะโดนล่ะนะ
-
ชักรำคาญกัสยังไงไม่รู้สิ :เฮ้อ:
-
เอ่อ มีคนถามว่าคิวได้เค้กยังอ่ะ แล้วได้อ่ะ :laugh: :laugh: สามคนนี้ปล่อยไปคะ ไม่เครียดตาม
-
คาสโนว่า
ฆ่าให้ตาย
:m31: :m31: :m31:
-
น้องกัสอ่อนไหวเกิ๊น แถมยังประสบการณ์น้อยกว่าพี่ฟ้าเยอะทำให้เป็นผู้นำตอนนี้ไม่ได้หรอก ถ้ารู้ว่าเซ็นคิดยังไงก็ง่ายที่จะเดานะเพราะอ่านตอนเค้กกับพี่คิวยังต้องลุ้นอยู่นานเลย ตอนนี้ไม่เชียร์ใครเลย แต่อยากให้น้องกัสมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวกว่านี้ ตัดทิ้งทั้งคู่แล้วมาเป็นตัวของตัวเอง ถ้าเขาชอบน้องจริงก็ต้องตามจีบกันเองแหละ :เฮ้อ:
-
อ่านแล้วหน่วงจังเลย :z3:
:serius2:
-
อ่านแล้วชักหงุดหงิดกัส แบบจะทำอะไรให้มันชัดๆหน่อยก็ไม่ได้
เจอพี่เซ็นก็ทำหงออยู่นั่นแหละ :เฮ้อ:
-
รู้สึกชื่นใจกับหมัดพี่หมีและหลังมือพี่คิวจัง จัดไปค่ะพี่ๆทั้งสอง
ชอบกัส หลงกัส ยังไงกัสก็ไม่ผิด แม่ยกชูป้าย
+1 :กอด1:
-
หวังว่าซักวันพี่เซ็นคงคิดได้นะ
-
ก็เข้าใจอ่ะนะว่า ความรัก...เป็นความรู้สึกที่บางครั้ง ก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของความคิด
แต่ก็อยากให้กัสเข้าใจและก็ทำใจว่า"คนบางคนเกิดมาเพื่อให้เรารัก แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นของเรา"
-
รักกัส อยากให้กัสสมหวัง
รอตอนต่อไปมากๆ คาดเดาตอนต่อไปไม่ได้เลย เชียร์ทุกคนเลยดีกว่า 55
-
สงสารกัสอ่ะ. คงอึดอัดมากแล้วก็คงทำอะไรไม่ถูก
สงสารพี่หมี เป็นคนดีมากเกินไป
ส่วนเซ็น อยากให้โดนกัสเอาคืนบ้างอ่ะ
-
เป็นกำลังใจให้ค่ะ o13
-
กัสเป็นคนที่รู้จักตัวเองและชัดเจนดีจัง o13
อิพี่เซ็นคะกล้าหน่อยค่ะ :z3:
ก็ยังคงเชียร์เซ็นอยู่นะ :pig4:
-
อ่านไปอ่าน ชักสับสน วุ่นวาย :z3:
ตอนแรกอยากเป็นกัส ตอนนี้ไม่อยากเป็นละ
เลือกสักคนสักที จะได้หมดทุกข์หมดโศกสักที
คนอ่านละอึดอัดแทน อกจะแตกตายแล้วเนี่ยยยย :z3:
-
พี่ฟ้าเจอมาแล้ว
เลวแต่รัก
หุหุ
น้องกัสเดินรอยตาม
งั้นก็ไอ่พี่เซ็นอ่ะดิ..พระเอก
ถึงจะเลว..โคดเลว
กรูก็จะรัก
:z1:
แบ๊ดดด..แบ๊ดดดดด
เชียร์สสสสสส
กร๊ากกกก
:z2:
-
กัส...เห็นแก่ตัวเหมืิอนอย่างที่พี่ฟ้าบอกบ้างอะไรบ้าง
-
แลดูคลุมเครือจริงๆ มันจะยังไงกันแน่นะ
เดี๋ยวให้พี่คิวมาเคลียร์เลย อิอิ
จะรอดูเค้กออกใหม่จ้า
-
กัสน่ารักเนอะ o18
-
พี่เซ็นเท่โพดดดดดดดด
><
ฮ่าๆๆๆๆๆ โดนพี่คิวจัดไปดอกนึง ตื่นมั้ยล่ะ
อยากรู้ว่าพี่เซ็นกำลังทำอะไรเงียบๆรึปล่าววว
-
:เฮ้อ: อึดอัด สงสารหมี
:pig4: :pig4: คะ
-
ตกลงหมีไม่ได้รักกัสจริงๆ ใช่ไหม
หมีรักกัสเหมือนน้อง หลังจากโดนกัสปฎิเสธไปแล้ว
ส่วนเซ็น ยังไงก็ไม่รักกัสใช่ไหม แค่ชิมเล่นๆ เป็นของว่าง
กัสก็เปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วเกินคาด
ทำไมเราไม่ชอบเซ็นเลยน่ะ
ตั้งแต่ตอนที่แล้ว รู้สึกว่าเซ็นเป็นตัวละครแบนๆ ไร้สาระไปวันๆ
มาตอนนี้ ยังทำตัวเลวอีก
ทำไมพระเอกเรื่องนี้มันไม่ชัดเจนทุกคนเลย
-
:m16: :m16:
ยังสติลไม่พอใจกัสอยู่
รู้เต็มอก ตอบพี่ฟ้าไปได้เต็มปากว่าคิดกับหมียังไง ก็แบบฟ้าแต่พิเศษกว่า
ก็แปลว่าเธอไม่ได้รักหมีแบบที่รักเซ็น เธอตอบพี่ฟ้าว่าเธอรักเซ็น งั้นก็อย่าคาราคาซังกับหมี
ชั้นสงสารหมีมาก
ถ้าเราเป็นหมี คงทนไม่ได้อ่ะ หมีน่าจะรู้ดีว่าอะไรคือฐานะที่กัสวางไว้ให้
เป็นเราลาออกไปละ เอาให้กัสกระวนกระวายตามสมควร เพราะเดี๋ยวก็ไปรักเซ็นได้อยู่ดี
All or Nothing ---- ไม่ได้ทั้งหมดก็ไม่เอาเลยยังจะดีกว่า
รู้สึกว่าตัวเองอินเกินไปละ 5555+
ขอบคุณเบบี้นะครับ :กอด1:
-
:m16: :m16: :m16:
-
พี่หมีก็ดีเกินไป..
พี่เซ็นก็ชั่วเกินไป..
เอาเลยกัสสส จะดีจะชั่วก็เลือกนะหนู =3=
-
+1 อ่านตอนนี้แล้วร้องไห้ ไป กับกัสเลย จริง ๆ คนที่อ่อนแอ ที่สุดต้องพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง พยายามบอกใคร ๆ ว่า ไม่เป็นไร :sad4: กัส อ่อนต่อโลกแบบใส ๆนิสัยดี มาก ...ตอนนี้สุด ๆ เลย เพราะ คิดว่า ไม่ว่า หมี หรือเซ๊นต์ ผ่านมันไปได้อยู่แล้วไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร :o12: :o12:
-
กัสง่ายไปป่ะ
สงสารพี่หมีอ่ะ พี่หมีอย่าใจอ่อนเลย
กัสทำตัวเองแท้ๆ แล้วมาเกาะติดพี่หมีแบบนี้ แต่ไม่ได้รัก
ก็เหมือนมัดพี่หมีไว้กะตัว ตัวเองลอยตัวคนเดียว
-
3คนนี้ นิสัยคล้ายๆกันหมดเลยนะ คือ เห็นแก่ตัว ทุกคนเลย :z3:
เซ็นนี่ก็เห็นๆกันอยู่แล้ว คบเผื่อเลือกไปทั่ว ไม่นึกถึงใจคนอื่น
กัสที่บอกว่ารักเซ็น แต่ก็ยังดื้อดันไม่ยอมปล่อยมือหมี ทั้งๆที่ไม่รัก ก็ไปให้ความหวังเค้าอยู่ได้
หมีรู้สึกดีกับกัส(มั๊ง) แต่ก็ดูไม่ค่อยจริงจังยังไงไม่รู้อ่ะ กั๊กเอาไว้ซะงั้น เพราะหมีมันยังมีคนอื่นไปทั่วอยู่ดี ไม่น่าไว้ใจพอๆกับเซ็นเลย
สุดท้ายยังไงก็ต้องมีคนเจ็บ แต่ก็ขอให้เจ็บกันเบาๆแล้วกันนะ :เฮ้อ:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
เพิ่งตามอ่านทันเป็นเรื่องแรกค่ะ ยังไงก็สู่้ ๆเน้อคนแต่ง
เชียร์ทุกคู่
พ่ีคิว! เคลียให้เด็ดขาดไปเลยเย้ เย้
:laugh:
-
รู้สึกว่ากัสไม่สมควรได้ใครทั้งคู่ไม่ว่าหมีหรือเซ็น
รักเซ็นแต่ให้ความหวังกับหมีไปเรื่อยๆ เหมือนแค่ต้องการที่พักพิงทางใจแค่นั้น
ตอนนี้สงสารหมีที่สุด ส่วนกัสไม่สงสารแล้ว ทำตัวเองทั้งนั้น :fire:
-
บุคคลที่เกี่ยวข้องก็รู้เรื่องกันหมดแล้ว
เหลือแต่ใจตัวเองเท่านั้นที่ต้องจัดการ
อ่านตอนนี้แล้วเหนื่อยใจแทนจริงๆ :เฮ้อ:
ฝืนไปก็ทำให้เราเหนื่อยเปล่าๆนะกัส
แต่จะให้ทำอย่างพี่ฟ้าก็คงทำไม่ได้
คงต้องพึ่งเวลาเป็นตัวคลี่คลายล่ะนะ
ไม่ว่ากกัสจะรู้สึกยังไงกับพี่หมีก็ตาม
เชื่อว่าพี่หมีจะยังอยู่ที่เดิมไม่เกี่ยงสถานะ
ส่วนพี่เซ็นคงจะเคลียร์กับพี่คิวเรียบร้อย
แต่จะเป็นยังไงนั้น เราเองก็อยากรู้ :serius2:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
ยังมองไม่เห็นปลายทางความรักของกัสเลย รอลุ้นว่าจะลงเอยยังไงจ้า :L2:
-
กัสน่าเบื่ออ
ขอเชียร์ให้พี่หมีรักกะคนอื่นดีกว่าวุ้ย
-
ขอชี้แจงอะไรหน่อยนะคะ..
ขอชี้แจงเนื้อหานิดหน่อยค่ะ เพราะดูเหมือนว่าจะมีคนอ่านบางท่านยังไม่ค่อยเข้าใจในตัวละครที่สื่อออกไปและยังคงคอมเม้นในประโยคเดิมๆซ้ำๆว่า “กัสน่าเบื่อ กัสสับสนมากเกินไป” ซึ่งมันคล้ายกับว่าที่ผ่านมาเจ็ดตอนเบบี้เขียนอะไรให้ไม่กระจ่างในตัวละครเท่าที่ควร ดังนั้น..เบบี้ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า แต่ละตอนที่นำมาให้อ่านกันนั้นทุกตอนมีความสำคัญของรายละเอียดตัวละครสอดแทรกอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ความรู้สึกของกัสตั้งแต่ตอนที่1 มาจนถึงปัจจุบันกัสไม่เคยบอกเลยว่า “สับสน” ต่อความรู้สึกนึกคิดของตนเองที่มีให้กับบุคคลรอบข้าง และจุดสำคัญของตัวละครที่อยากให้มองให้ละเอียดคือ
- กัสรู้สึกอย่างไรต่อหมีและเซ็น
- ใครกันแน่ที่..ไม่ชัดเจน
- กัสพยายามเข้มแข็งเพราะ..
- ใครบ้างที่เห็นแก่ตัว ฯลฯ
ซึ่งในตอนที่7 ที่ผ่านมาค่อนข้างบอกความรู้สึกกัสอย่างชัดเจน(มาก) และคำพูดของฟ้าที่มองทุกคนออกทะลุปุโปร่ง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่บอกว่า “ทำตัวไม่มีค่า” ที่ฟ้าพูดอะไรนั่นเลยค่ะ(ขอโทษด้วยที่ต้องพูดถึงข้อมูลตรงนี้เพราะเห็นทุกคนคิดว่ามันเป็นจุดสำคัญของคำพูดของฟ้า) ทั้งนี้ความกระจ่างที่มากขึ้นก็ต้องรอในตอนต่อไป ที่จริงนิยายเรื่องนี้มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ มันก็แค่นิยายที่เน้นความรู้สึกและสันดานดิบของมนุษย์แต่ละคน..แค่นั้น
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
เอาใจช่วยหนูกัสนะลูก ^^
-
คงต้องเป็นพี่เซ็น แล้วจริงๆ ... คนเลวที่รักเธอก็มีเหมือนกันนี่เนอะ อิอิ
คิดถึงเค้กจังเลยยย :กอด1:
ขอบคุณเบบี้น๊า
-
:o8:รอลุ้นต่อไปกัสจะเลือกใครหนอ
-
อ๊ากกกกกก เกลียดอิพี่เซ็น!
ก็บอกให้กัสลืมแล้วแกจะยอมรับทำไม??
สมน้ำหน้า โดนพี่คิวตบเลือดกลบปาก
-
รักกัส และยังคงเชียร์พี่เซ็นต่อไป เพราะคิดว่าพี่เซ็นชอบกัสแน่ๆ
เรื่องนิสัยนี่มันแค่มุมมองของกัส ที่จริงพี่เซ็นอาจมีดีซ่อนอยู่ก็ได้ ฮ่าๆ
-
พยายามเข้าใจทุกคน
เป็นกัสนี้ก็เหนื่อยเนอะ
-
อึดอัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สงสารพี่หมี
ทำไมกัสไม่เลือกพี่หมีอะ พี่เซ็นมันก็เป็นคนแบนั้นๆๆหหละ
ไม่ได้มาดูแลมาใส่ใจเลยนะ อย่าฝังใจกับรักแรกแบบพี่เซ็นมากสิกัส ให้โอกาสพี่หมีมั่ง
:sad4: :sad4: :sad4:
-
:เฮ้อ:
:pig4:
-
สะใจตอนพี่คิวตบพี่เซ็นนิแหละ ให้ความรู้สึกว่า โดนซะบ้างก็ดี
กัสก็ทนเจ็บปวดอยู่คนเดียว น่าสงสารอ่าา
กัสยิ้มแล้ว น่ารักกว่านะ
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบ
-
สงสารน้องกัส แต่หมั่นไส้พี่เซ็นมาก555555
แต่แอบเห็นใจเฮียแกนะโดนพี่คิวซัดไปเต็มๆ
ทีแรกก็แอบคิดว่าน้องกัสสับสน เอ้ะตกลงว่าชอบใครเหมือนกันค่ะ แต่พอได้อ่านตั้งแต่ตอนที่6
ดูตากการแสดงออกหลายๆอย่างของกัสก็รู้สึกได้ว่าที่จริงแล้วกัสไม่ได้สับสนเลย
ออกจะแน่ใจในความรู้สึกตัวเองด้วยมั้ง หึหึ
ยังไงก็เอาใจช่วยกัสต่อไปจ้า
ขอบคุณสำหรับคำชี้แจงของเบบี้ด้วยค่าา :3123:
-
ขอบคุณสำหรับคำชี้แจง
ติดตามต่อไป
-
น้องกัสสู้ๆ น้องกัสสู้ตาย
อิอิ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
รักทุกคนแหละ แต่ไม่เท่ากัน เพราะมันคนละความรู้สึก (เน่าได้อีก เหอ เหอ )
:z6: :z6:
-
พอได้อ่านคำชี้แจงเริ่มเห็นภาพร่างๆ พอจะเข้าใจทั้งสามคนมากขึ้น
"เธอไม่ยอมไปหรือฉันไม่ยอมปล่อย"
แต่มันอึมครึมจริงๆนะคะ ไม่รู้จริงๆว่าจะรักคนที่รักเรา หรือคนที่เรารัก เฮ้อ เหนื่อยใจแทนกัสจริงๆ
-
อ่านเรื่องราวของกัสแล้วแบบ ที่เคยเห็นกัสร่าเริง ๆ น่ารัก ๆ ใส ๆ ไปวัน ๆ แต่จริง ๆ แล้วแอบขมขื่นข้างในเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ไม่รู้จะเชียร์ใครเลยดี คนนึงกัสรักแต่ก็ดูเหมือนเค้าจะไม่ได้อะไรแถมบอกให้ลืม (แอบเจ็บปวดตาม ><) อีกคนนึงก็สำคัญกับกัสเป็นที่พึ่งพิงทางใจแต่กัสก็ไม่สามารถตอบรับความรู้สึกได้เต็มที่ เฮ้ออออออออ ทำมัยมันยากจังเนาะ เกิดเป็นกัสไม่ใช่สบายนะเนี่ย ><
-
กัสน่ารักขนาดนี้ ไงก็น่าจะเอาชนะใจคนที่รักจริง ๆได้ไม่ยาก. ไฟโต้! เน้อ o13
-
~8~
วันศุกร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“แหม มาได้เวลาจริงๆเลยนะ” พี่ออฟแซวทันทีที่เห็นผมโผล่เข้ามาในห้องพัก ผมยิ้มเขิน
“หวัดดีครับพี่กัส” เค้กที่กำลังทานเค้กอยู่วางช้อนลงและยกมือไหว้ผม
“ดีจ้า” ผมยิ้มตอบ
“พี่หมีล่ะฮะ” ผมถามถึง วันนี้หลังเลิกเรียนภาคเช้าผมก็รีบตรงดิ่งมาที่นี่ทันทีเพราะพี่ซีดันส่งรูปเค้กที่พี่คิวทำมาให้ผมตั้งแต่ตอนสาย
“พี่ซีอยู่ที่เคาร์เตอร์ ส่วนพี่หมีรับลูกค้าอยู่น่ะฮะ..กำลังจะพักเที่ยงแล้วแหละ” เค้กตอบ
“มีลูกค้าเหลืออยู่เหรอ” ผมถามเพราะตอนนี้ก็เกือบจะเลยเวลาพักเที่ยงอยู่แล้ว
“ครับ เค้กกับพี่ออฟเลยต้องมากินก่อน” เค้กยิ้มตอบ
“แล้วเป็นไงบ้างอ่ะ” ผมรีบนำกระเป๋าไปวางไว้ตรงโซฟาก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆเค้ก เค้กยิ้มตอบก่อนจะหยิบฝาครอบเค้กออกช้าๆ
“ว้าว..น่ารักอ่ะ~” ผมยิ้มกว้างแก้มแทบปริเมื่อเห็นเค้กก้อนสี่เหลี่ยมชิ้นเท่าฝ่ามือหลายชิ้นอยู่บนจานเล็กแบบพอดีจาน พี่ออฟเดินมานั่งลงข้างๆผมอย่างเงียบๆ ต่างคนต่างจับจ้องมองไปที่เค้กก้อนสีฟ้าเนื้อละเอียด หน้าเค้กมีรูปหน้าคนอมยิ้มซึ่งดูจากประสบการณ์ของผมแล้วสิ่งนี้น่าจะทำมาจากไวท์ช็อกโกแลต สีฟ้ากับสีขาวตัดกันอย่างลงตัว เป็นชิ้นเค้กที่ดูเรียบง่ายจนทำให้รู้สึกตื่นเต้นว่าเนื้อในของเค้กจะเป็นอย่างไร
แกรก~
พวกเราชะงักกึกหันไปมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง บุคคลที่เดินเข้ามาก็คือคนที่ทำเค้กชิ้นนี้ขึ้นมานั่นเอง พี่คิวมองหน้าพวกผมเหมือนสงสัย
“อะไร” พี่เขาถามเสียงเรียบ
“ชื่อเค้กว่าอะไรเหรอครับพี่คิว” ผมยิ้มถาม
“.................” พี่คิวเงียบ จ้องหน้าผมเขม็งจนผมรู้สึกกลัวขึ้นมา
“งั้นไม่ต้องตอบก็ได้ฮะ” ผมรีบบอก พี่คิวยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆพี่ออฟ
“อย่าให้พูดเลย กระดากปากน่ะ” พี่คิวบอกทั้งรอยยิ้ม พวกผมเลยต้องยิ้มตามเพราะรู้ว่าพี่คิวคงพูดว่าไปอย่างนั้นเอง
“แหม..ตัวเองอุตส่าห์คิดมาเป็นเดือนแท้ๆ” เค้กทำหน้าลอยหน้าลอยตาไปมา พี่คิวหันไปมองค้อนใส่ในทันที
“ชื่อเค้กเป็นภาษาอังกฤษว่า..Mr.Blue น่ะครับ ส่วนภาษาไทยก็ชื่อเค้กคุณฟ้า..น่ารักดีนะครับพี่ว่าไหม” เค้กหันมาบอกผม ผมกับพี่ออฟหัวเราะที่เค้กทำท่าเหมือนต้องการกวนพี่คิว
“อื้อ น่ารักดีอ่ะ..เค้กคุณฟ้า ใครคิดอ่ะ” ผมถาม
“บอสน่ะสิ จะใครซะอีกล่ะ” พี่ออฟบอก
“ชิมรึยังล่ะ ชิมสิ..ชมได้นะ แต่อย่าติ” พี่คิวพูดติดตลก ผมหัวเราะ เค้กเลื่อนจานเค้กจานเล็กที่มีเค้กวางอยู่บนนั้นจานละชิ้นพอดีจานเลื่อนนำมาให้ผมหนึ่งจาน
“ตอนเสิร์ฟให้เสิร์ฟออกไปทั้งอย่างนี้เลยใช่ไหมฮะ..แล้วถ้าเสิร์ฟที่ร้านพี่คิวจะตกแต่งเป็นเซตด้วยรึเปล่าอ่ะ ถ้าทำก็ต้องออกแบบอีกใช่ป่ะครับ” ผมถามถึง เพราะเค้กบางชิ้นก็จะพิเศษหน่อย จะมีเป็นเซตให้ลูกค้าเลือกว่าอยากตกแต่งแบบไหน อาจจะประดับไปด้วยไอศกรีม ท็อปปิ้งหรือวิปปิ้งครีมประมาณนั้นนะครับ ส่วนการตกแต่งก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเค้กชิ้นนั้นๆว่ารสชาติจะไปทางไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับเชฟอีกด้วยเหมือนกันว่าออกแบบอย่างไร
“น่าจะนะ..คงทำสัก สองเซตก็พอ” พี่คิวตอบ มือก็จับโหลกล่องกระดาษทิชชู่หมุนไปมาเหมือนว่างจัดอย่างนั้น ผมหยิบส้อมผ่าเค้กออกอย่างลุ้นๆ ทุกคนต่างเงียบและจ้องมองมาที่ผมเป็นตาเดียว
“จะ..จะจ้องทำไมละครับ กัสก็ไม่กล้ากินน่ะสิ” ผมขมวดคิ้วว่าด้วยน้ำเสียงไม่ชอบใจ เมื่อผ่าเค้กออกครึ่งหนึ่งก็พบว่าด้านบนสุดของเค้กเป็นช็อกโกแลตกรอบที่เคลือบเนื้อในของเค้กเอาไว้ ชั้นล่างสุดเป็นชีท ไล่ระดับขึ้นมาน่าจะเป็นเค้กช็อกโกแลตเนื้อแน่นมากแต่กลับมีสีอมม่วงเล็กน้อย ผมนำส้อมจิ้มไปที่ชั้นบนสุดอย่างสงสัย
“อืม..มูสเหรอครับ” เมื่อชิมเสร็จผมถามอย่างสงสัย ที่ทายออกไปเพื่ออยากลองดูว่าจะทายถูกหรือเปล่า
“ใช่ครับ” เค้กตอบแทนเพราะพี่คิวเอาแต่เงียบมองหน้าผมเหมือนจะให้ผมลองทายจนกว่าจะทายถูกอย่างนั้น ผมตักเค้กขึ้นชิม ชั้นสีฟ้าชั้นบนสุดที่เค้กบอกว่าเป็นมูสกลับไม่หวานอย่างที่ผมคาดคิดเอาไว้เท่าไหร่ ผมเหลือบมองพี่คิวเล็กน้อยว่าพี่เขามองผมอยู่รึเปล่า พี่คิวไม่ได้หันมามองผมอีก แต่กลับหยิบหนังสือนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่านแทน พี่ออฟกับเค้กนั่งมองผมเหมือนรออะไรสักอย่าง ผมจึงตักทั้งสามชั้นขึ้นชิมภายในครั้งเดียวเข้าไปเต็มคำ
“....................” พี่ออฟกับเค้กมองผมเหมือนรอลุ้นหวยอย่างนั้น
“อร่อย!” ผมชูส้อมขึ้นเหนือหัวเมื่อรับรู้ได้ถึงรสชาติของเค้กทั้งหมด
“ใช่ไหมล่ะ!!” พี่ออฟกับเค้กชูมือขึ้นทำท่าเดียวกับผมพร้อมกัน พี่คิวส่ายหัวยิ้มๆ
“สุดยอด..จีเนียส อเมซิ่งมากๆ” ผมพูดเสียงดัง รสชาติของชีทชั้นล่างสุดแม้จะเป็นชั้นเล็กๆแต่ก็รับรู้ได้ถึงชีทคุณภาพดีที่พี่คิวคงคัดสรรมาอย่างดีเป็นแน่ บวกกับเนื้อของเค้กช็อกโกแลตที่อยู่ชั้นกลางมีรถชาติของไวน์ มันมีรสชาติออกหวานนำและอมเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งมันเข้ากันอย่างมากเมื่อตัดกับเนื้อมูสชั้นบนสุดที่มีรสชาติหวานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะส่วนมากจะอุดมไปด้วยรสชาติจืดและหอมและมันคล้ายกับกลิ่นของวิปปิ้งครีมประมาณนั้น เมื่อผมได้ทานทั้งหมดพร้อมกันทำให้ทราบว่ามันกลับลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียว
“ว่าแต่ว่า ไวน์ของอะไรเหรอครับพี่คิว..แล้ว มูสด้านบนนี่ทำจากอะไรบ้างเหรอครับ” ผมถามออกไปด้วยความตื่นเต้น
“บอกไปมันก็ไม่แพงน่ะสิ” พี่คิวยักคิ้วตอบ
“ง่ะ” ผมนั่งลงอย่างเดิม
“ขี้งกเนอะ” เค้กยิ้มให้ผมเหมือนให้ผมเห็นดีเห็นงามด้วย
“จะเอากลับไปบ้านบ้างก็ได้นะ ส่วนที่จะให้ลูกค้าชิมแบ่งไว้แล้วน่ะ” พี่คิวบอก
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบในทันที
“เค้กถ่ายรูปให้พี่หน่อยสิ” ผมยื่นโทรศัพท์มือถือให้เค้กพร้อมกับเลื่อนจานเค้กมาใกล้ ผมโน้มตัวไปใกล้มากขึ้นก่อนที่เค้กจะนับหนึ่งถึงสามเพื่อกดถ่าย ผมถ่ายรูปให้พี่ออฟด้วยเพราะพี่ออฟบอกว่าจะเอารูปกับเค้กด้วยเหมือนกัน
“พี่คิวฮะ” ผมเรียก พี่คิวเหลือบมามอง
“ถ่ายพี่คิว กับเค้กนี่แล้วก็กัสด้วยได้ไหมครับ” ทำพยายามทำเสียงให้นุ่มที่สุดเพราะผมอยากได้ภาพจริงๆ ปกติถ้าไม่รวมระหว่างที่เราไปออกทริปด้วยกัน หรือตอนที่มีนิตยสารมาถ่ายที่ร้านแล้วพี่ฟ้าจับให้ทุกคนในร้านถ่ายด้วยกัน หรืออาจจะมีภาพตอนทีเผลอหลุดมาบ้าง ผมก็จะไม่ค่อยมีรูปร่วมกันพี่คิวเท่าไหร่หรอกครับ ที่จริงแล้ว..ผมปลื้มพี่เขามาก ตลอดมาผมก็อยากมีภาพสบายๆระหว่างผมกับเชฟบ้างอะไรบ้าง..เอาไว้อวดคนอื่นด้วยนะครับ (^0^)
“หมื่นนึง” พี่คิวบอกก่อนจะก้มลงอ่านหนังสือต่อเหมือนไม่สนใจผม
“อ่ะ..” ผมหุบยิ้ม จ้องมองพี่คิวอย่างมีความหวัง ทุกคนต่างเงียบเหมือนรอการตัดสินใจจากพี่คิว เมื่อทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง ผมเองที่เอาแต่จ้องพี่คิวตาปริบๆทำให้พี่คิวต้องละสายตาจากหนังสือมามองหน้าผมอีกครั้ง
“พี่ไม่ได้ใจอ่อนกับสายตาอะไรแบบนั้นหรอกนะ หึ” พี่คิวเบะปากยิ้มเล็กน้อย ผมหน้างอลงอย่างหมดความหวัง
“ขี้งกอย่างที่เค้กว่าจริงๆด้วยแฮะ” ผมบ่นพึมพำ พี่คิวอมยิ้ม ผมลุกขึ้นยืนอย่างไม่สนใจว่าพี่คิวจะว่าอย่างไร เพราะผมเห็นว่าวันนี้พี่คิวอารมณ์ดีแถมยังอยู่นอกเวลางานด้วยพี่คิวคงจะไม่ว่าอะไรผม ผมจึงเดินไปตรงที่พี่คิวนั่งอยู่แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆพี่คิวซะเลย เค้กรู้งานดันจานเค้กที่วางอยู่กลางโต๊ะมาวางไว้ตรงหน้าระหว่างผมกับพี่คิว พี่คิวละสายตาจากหนังสือและหัวเราะอย่างอ่อนใจกับผม ก่อนจะหันมามองหน้าผม ผมทำหน้าตาอย่างขอไปทีตอบให้กับพี่เขา
“รูปเดียวนะฮะ” ผมยิ้มบอกก่อนจะยกจานเค้กมาถือไว้ด้วย
“งั้นครั้งนี้ถือเป็นบุญคุณนะ” พี่คิวพูดบอก ผมทำปากจู๋ตอบให้ก่อนจะหันไปมองกล้องที่เค้กถืออยู่อีกมุมโต๊ะหนึ่ง
“นับสามนะครับ” เค้กบอก ผมพยักหน้าและเก๊กหน้ายิ้มกว้างในทันที ส่วนพี่คิวก็ยอมมองกล้องด้วยเช่นกัน
“หนึ่ง สอง..สาม”
“ขอบคุณครับ” ผมผงกหัวให้พี่คิว พี่คิวส่ายหัวเล็กน้อย ผมรีบลุกจากเก้าอี้และตรงกลับไปนั่งที่เดิมเพื่อจะไปดูรูปที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อกี้นี้
“แล้ววันนี้จะอยู่ต่อรึเปล่า” พี่ออฟถาม
“ไม่ล่ะครับ วันนี้ป๊าจะพาคนรู้จักมาบ้านน่ะ..ต้องรีบกลับไปสะสาง” ผมบอก ผมทราบมาจากพี่เกตุเมื่อไม่นานมานี้ว่าพ่อวางแผนไว้ว่าวันนี้พ่อจะพาเพื่อนพ่อกับลูกสาวของเพื่อนพ่อมาที่บ้านเพื่อมาพบกับพี่ก้อง แต่พ่อพยายามปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ให้ผมรู้ ผมเองก็เพิ่งทราบเหมือนกัน
“สะสางทำไมอ่ะครับ ต้องกลับไปต้อนรับสิถึงจะถูก” เค้กขมวดคิ้ว
“ใช้คำว่าสะสางน่ะถูกแล้วเค้ก ป๊าพี่น่ะชอบทำเรื่องไม่เป็นเรื่องตลอด” ผมเบะปากบอก
“งั้น..กัสเอาเค้กกลับสองชิ้นนะครับ” ผมยิ้มกว้างบอกทุกคน
“อะไรอ่ะ เค้กได้เอากลับแค่ชิ้นเดียวเอง” เค้กหน้างอทันที
“ก็เค้กเป็นแฟนพี่คิวหนิ ให้ทำเมื่อไหร่ก็ได้..จริงป่ะพี่ออฟ” ผมได้ทีจึงพูดแกล้งและหันไปยักคิ้วให้พี่ออฟ พี่ออฟยิ้มกว้าง พี่คิวเหลือบหันมามองหน้าเค้กซึ่งตอนนี้เค้กหน้าแดงไปทั้งหน้าแล้วละครับ ในห้องเงียบลงเมื่อทั้งผม พี่ออฟและพี่คิวไม่มีใครยอมเอ่ยพูดอะไรก่อนเลย ตอนนี้เค้กนั่งตัวตรงหลังตรงอย่างกับไม้กระดาน ท่าทางของเค้กทำผมเกือบกลั้นขำเอาไว้ไม่ได้แถมยังกลอกตาไปมาเหมือนกำลังหาทางออกให้กับตัวเองอยู่
“เค้กไปทำงานดีกว่าครับ” เค้กพูดเสียงอย่างกับหุ่นยนต์แล้วอยู่ๆก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเลย
“หึ..ฮ่าๆๆ แกไปแกล้งเค้กมัน” พี่ออฟหันมาว่าผมแต่กลับหัวเราะซะดังลั่น
“ก็มันตลกอ่ะ” ผมพูดไปขำไป
“วันนี้พี่คิวจะอยู่ที่นี่เหรอครับ” ผมถาม
“ใช่..อาไม่เข้าน่ะ พี่จะรอบัญชีของเมื่อวาน” พี่คิวตอบแต่ไม่ได้หันมามองหน้าผมสักนิดเดียว แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมโคตรจะชินอะไรแบบนี้ซะแล้วล่ะ
“งั้นกัสไปก่อนนะครับ” ผมบอกพร้อมกับลุกขึ้น หยิบกล่องทัพเพอร์แวร์ที่เตรียมมาจากที่บ้านเปิดออกและนำเค้กเข้าไปเรียงในกล่องทีละชิ้นอย่างระมัดระวัง
“โชคดี” พี่ออฟบอก ระหว่างที่ผมจัดเค้กอยู่พี่คิวกำลังนั่งอ่านหนังสือ ส่วนพี่ออฟก็นั่งทานเค้กต่อ
“เสร็จละ..ไปละฮะ หวัดดีครับ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ทั้งสองคน พี่คิวกับพี่ออฟพยักหน้าตอบ วันนี้ผมให้คนขับรถมาส่งและรอรับกลับบ้านด้วยเพราะจะได้สะดวกในการเดินทาง ที่ผมมาก็เพื่อมาชิมเค้กเท่านั้นเลยกะว่าจะกลับบ้านทันทีถ้าชิมเสร็จเพราะผมมีการบ้านต้องสะสางอีกเยอะแยะไปหมด รวมไปถึงเรื่องของพี่ก้องและพ่อด้วยด้วย..
= = = = = = = =
ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
“กลับมาเร็วจังค่ะคุณกัส พี่นึกว่าจะกลับช้ากว่านี่เสียอีก” พี่นัน แม่บ้านคนสนิทของผมรีบมาต้อนรับผมในทันทีที่เห็นรถจอดที่หน้าบ้าน ผมจ้องหน้าพี่นันเขม็งจนพี่เขาก้มหน้าหนี
“มีอะไรงั้นเหรอครับ” ผมถามพร้อมกับเหลือบมองไปที่ลานจอดรถด้านข้าง และก็พบรถยนต์คันแปลกตา
“เอ่อ..คือ” พี่นันอ้ำอึ้ง
“เพื่อนป๊ามาแล้วสินะฮะ” ผมยิ้ม พี่นันพยักหน้าและยิ้มแหยตอบ
“เฮ้อ..ป๊านี่จริงๆเลยนะ ต้องให้กัสออกโรงตลอด” ผมพูดปัดอย่างทีเล่นทีจริง
“คุณกัสคะ พี่ว่าอย่าเลยดีกว่านะคะ” พี่นันพูดเตือน เธอรู้ดีว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่เพราะพี่นันเป็นแม่บ้านที่ผมค่อนข้างสนิท เธอจะคอยปรึกษาผมในหลายๆเรื่อง ด้วยอายุที่ไล่เลี่ยกันจึงทำให้เราสนิทกันมากกว่าแม่บ้านคนอื่นๆนะครับ
“จิ ไม่ได้หรอกครับ” ผมบอกพร้อมกับยื่นกล่องทัพเพอร์แวร์ให้พี่นัน
“ช่วยเก็บนี่ให้กัสด้วยนะครับ” ผมบอก
“ได้ค่ะ”
“แล้ว..อยู่ไหน ห้องรับแขกเหรอครับ” ผมถามถึง
“ค่ะ เพิ่งเริ่มคุยกันได้เมื่อกี้นี้เองค่ะ” พี่นันตอบ
“โอเคฮะ” ผมยิ้มพร้อมกับเดินตรงดิ่งไปที่ห้องรับแขกทันที เมื่อเดินไปถึงห้องผมก็แอบหยุดอยู่ที่หน้าห้องเพื่อดูสถานการณ์ก่อน พ่อ แม่ พี่เกตุและพี่ก้องนั่งอยู่ในนั้น ตรงข้ามมีผู้หญิงกับผู้ชายมีอายุนั่งอยู่พร้อมกับผู้หญิงสาวอีกคน ผมมองสำรวจเธอ หน้าตาเธอดูดี เป็นคนหน้าตาดีแต่ไม่ถึงกับจะสามารถใช้คำว่า “สวย” ได้ หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่ก็ไม่ได้มีเสน่ห์น่าดึงดูดอะไรมากนัก ผิวที่ขาวมากของเธอยิ่งทำให้หน้าตาที่ไม่มีอะไรเด่นเลยนั่นดูจืดมากขึ้นกว่าเก่า แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่าเธอแต่งตัวได้เข้ากับหุ่นและกาลเทศะดีมาก รวมไปถึงแบรนต์การใช้เสื้อผ้าและกระเป๋าก็พอมีรสนิยมพอสมควร
“ยังไงก็ให้หนุ่มสาวเค้าไปทานข้าวโดยที่ไม่มีพวกเราบ้างก็ดีนะ ตาก้องว่ายังไงล่ะ” เพื่อนของพ่อถาม
“ได้อยู่แล้วล่ะ” พ่อตอบ พี่ก้องได้แต่ยิ้มแหย
“ดูเหมาะสมกันดีเลยนะคะคุณ” ภรรยาของเพื่อนพ่อพูดเปราะ เธอยิ้มมองพี่ก้องทีและมองไปที่ลูกสาวของเธอที แม่ผมนั่งยิ้มอย่างเดียวก็คงเพราะต้องทำไปตามมารยาทละครับ เรื่องนี้แม่ผมเก่งอยู่แล้ว
“น้องจบจากอังกฤษมาหมาดๆแบบนี้ จะเริ่มทำงานเลยรึเปล่าคะ” พี่เกตุถาม
“อ่อ..ยังหรอกค่ะ ช่วงนี้ก็คงจะพักผ่อนสักพัก วางแผนไว้ว่าจะเรียนต่อปริญญาโทน่ะค่ะ” เธอยิ้มหวานตอบ
“อ่าว แล้วอย่างนี้จะไม่มีผลกับการคบหากับตาก้องรึไงพี่ยุทธ” พ่อพูดอย่างเป็นกังวล
“ไม่หรอกน่า ยิ่งดีกันใหญ่ถ้าได้หมั้นรึแต่งงานกันก่อนที่ยัยเจินจะไปเรียนต่อ” เพื่อนพ่อยิ้มกว้าง
“งั้นก็ดีเลย ไงก้อง..ว่างั้นไหมล่ะ” พ่อตบไหล่พี่ก้องสองสามที เป็นคำพูดเชิงถามที่ไม่ต้องการคำตอบปฏิเสธอย่างไรอย่างนั้น พี่ก้องที่นั่งตัวตรงหลังตรงอย่างปกติแต่การนั่งครั้งนี้กลับแข็งทื่อต่างจากทุกที ใบหน้าที่ยิ้มเหมือนไม่รู้จะทำอย่างไรนั่นสามารถทำให้ร่างกายของพี่ก้องดูห่อเหี่ยวไปถนัด
ก๊อก ๆ ๆ
“สวัสดีครับทุ๊กคนนนนน~” ผมยิ้มแป้นแล้นเดินเข้าไปในห้องหลังจากที่เคาะห้องเป็นการเรียกร้องความสนใจ สีหน้าของพ่อตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า แหม..ไม่นึกเลยว่าจะมาเร็วอย่างนี้นะครับ” ผมยกมือไหว้ พี่ก้องกับพี่เกตุเบิกตาโพรง แม่มองหน้าผมเหมือนจับผิดว่าผมกำลังต้องการจะทำอะไรต่อจากนี้
“เอ่อ..” เพื่อนของพ่อมองหน้าผมอย่างสงสัย แน่ล่ะครับว่าผมกับคุณลุงคุณป้าไม่เคยพบปะกันมาก่อนหรอก
“นี่ลูกชายคนเล็กผมเองครับพี่” พ่อแนะนำ
“ผมชื่อกัสครับ ชื่อจริงนลักษ์..เป็นลูกคนเล็กของตระกูลเกริกเกียรติไกรครับ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยY คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจครับผม” ผมโค้งตัวให้ พอเงยหน้าขึ้นมาในห้องก็เงียบกริบทันที
“ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ เชิญนั่งครับ..เชิญๆ” ผมผายมือให้อย่างทีเล่นทีจริงก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวข้างๆกับพี่เกตุ พี่ก้องถลึงตาใส่ผม แต่ผมก็ยิ้มสยามตอบให้ทุกคน
“เอ่อ แล้วไม่ทราบว่า..นี่มาทำไมกันเหรอครับ” ผมถามขึ้นหน้าตาย
“เอ่อ มา..มา” เพื่อนของคุณพ่อพยายามตอบอย่างตะกุกตะกัก
“ไอ้กัส” พี่กัดฟันพูดปรามผม
“มาเยี่ยมคุณป๊าสินะครับ ป๊ากัสเนี่ยป่วยออดๆแอดๆตลอดเลย..แย่จังเลยนะครับคุณป๊าเนี่ย” ผมพูดพร้อมกับพยักพเยิดหน้าไปทางพ่ออีกด้วย
“เปล่าไม่ใช่หรอกจ้ะ..ป้าเนี่ยพาลูกสาวมาเจอกับพี่ชายของหนูน่ะ” ภรรยาเพื่อนของคุณพ่อพูดขึ้น
“อ่าว!..ได้ไงอ่ะครับ” ผมกระแทกเสียงดัง
“มาเจอได้ยังไงอ่ะครับ นี่คุณป้าไม่ทราบหรอกเหรอครับว่าพี่ชายของผมเนี่ยมีคนรักอยู่แล้ว” ผมพูดเสียงดังและเริ่มรู้สึกสนุกเมื่อเห็นทุกคนต่างหน้าเหรอหรากันไปหมด
“ไม่ใช่นะครับ ไม่ใช่นะพี่ยุทธ” พ่อรีบพูดแก้ทันที
“ไม่ใช่ได้ยังไงครับป๊า พี่ก้องมีคนรักอยู่แล้ว..แล้วพี่คนนี้นี่มาเพื่ออะไรกันครับ” ผมพูดหันไปทางพ่อก่อนพร้อมกับชี้มือไปที่ผู้หญิงสาวลูกของเพื่อนพ่อด้วย
“พี่ไม่ทราบหรอกเหรอครับ” ผมหันไปยิ้มถามลูกสาวของเพื่อนพ่อ เธอหน้าเสียในทันที
“นั่นสิ” ผมยักไหล่อย่างไม่แคร์
“จะไปทราบได้ยังไง ป๊าคงปิดบังอีกแล้วสินะ..ป๊ากัสทำอย่างนี้ตลอดแหละครับ เวลาที่อยากได้อะไรที่ต้องการ แต่ว่านะครับ..ต้องขอโทษคุณลุงคุณป้าด้วยถ้าจะบอกว่าพี่ชายของผมมีคนรักอยู่แล้ว” ผมย้ำพูด
“จ..จริงเหรอตาก้อง” เพื่อนพ่อหันไปถามพี่ก้องในทันที
“เอ่อ จ..จริงครับ” พี่ก้องเหลือบมามองผมนิดหน่อยก่อนจะตอบออกไป
“อ่าว ไหนแกบอกว่าลูกชายแกโสดไง” เพื่อนพ่อขึ้นเสียง
“ก็มัน..” พ่ออ้ำอึ้ง หันมาถลึงตาใส่ผมใหญ่
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับคุณลุงคุณป้า” ผมรีบยกมือไหว้เล่นไปตามน้ำ พี่เกตุเองก็ทำตามผมด้วย
“เธอคนนั้นมันเป็นใครกัน” เพื่อนของพ่อขึ้นเสียงเหมือนไม่ชอบใจ หน้าของเขาดูเกรี้ยวโกรธอย่างออกอาการอย่างเห็นได้ชัด
“เหมาะสมแน่นอนครับ เหมาะสมมากด้วย” ผมพูดและไม่ยิ้มอีก ทุกคนเงียบลง
“ลูกสาวคนเล็กของตระกูลอภิเลิศทรัพย์ ถ้าคุณลุงกับคุณป้าไม่รู้จัก..แต่ก็น่าจะรู้จักนะครับ” ผมเบะปากพูด ดูจากลักษณะของภรรยาของเพื่อนคุณพ่อและลูกสาวแล้วน่าจะชอบออกงานสังคมอยู่พอสมควร สังเกตได้จากเพชรที่อยู่บนตัวของเธอ
“................” เพื่อนของพ่อหน้าเสียง ในห้องเงียบสนิทอีกครั้ง
“คุณ ยัยเจิน..กลับ!”
“พี่ยุทธครับ” พ่อลุกลี้ลุกลนเดินตามเพื่อนพ่อออกไป
“แฮ่ๆๆ” ผมหัวเราะแหยๆทันทีเมื่อแม่ พี่ก้องและพี่เกตุหันมาจ้องมาที่ผมเขม็ง
“ก็มันอดไม่ได้นี่ครับ แต่ว่าพี่ก้องก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วจริงๆนี่..ใช่ไหมล่ะฮะพี่ก้อง” ผมรีบหาตัวช่วยในทันที
“อย่างที่น้องว่าเหรอ” แม่ทำหน้าดุใส่
“เอ่อ..จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” พี่ก้องตอบเหมือนกลัวอารมณ์ของแม่
“ผมก็ชอบน้องเค้าจริงๆ”
“แล้วน้องเค้ารู้รึยังล่ะ” แม่ถาม พี่ก้องส่ายหัวตอบ
“เรื่องอื่นนี่เก่งทุกเรื่องเลยนะ พอมาเรื่องผู้หญิงทีไร..โง่ งี่เง่ายิ่งกว่ากระบือเสียอีก” แม่ส่ายหัวทำท่าไม่สบอารมณ์ลูกชายของตน
“คุณแม่ครับ” พี่ก้องเรียกเสียงยานคาง
“ไอ้กัส!” ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพ่อตะคอก ผมเหลือบมองพ่อตาโต
“ก..กัส เอ่อ กัส” ผมอ้ำอึ้ง ทั้งพี่ก้อง แม่และพี่เกตุหันหน้าหนีผมกันหมดซะอย่างนั้น
“ก็พี่ก้องชอบน้องสาวพี่เซ็นจริงๆนะฮะ” ผมลุกขึ้นและรีบอธิบายให้พ่อฟังในทันที พ่อชะงักไปครู่หนึ่ง
“เรื่องจริง” แม่ย้ำเสียงเข้ม แหม..ช่วยลูกบ้างก็เป็น
“ป๊าก็ให้โอกาสพี่ก้องหน่อยไม่ได้เหรอครับ แค่ครั้งนี้..ครั้งสุดท้ายก็ได้” ผมพูดเสียงเบา ถ้าพ่อโกรธผมขึ้นมาจริงๆผมเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน
“นะครับป๊า” พี่ก้องลุกขึ้นยืน พ่อเงียบไปสักครู่อย่างใช้ความคิด
“เฮ้อ!” พ่อถอนหายใจแรง มือกุมหน้าเหมือนเหนื่อยต่อผมเลยอ่ะครับ
“ก็ได้..ครั้งนี้ฉันจะให้โอกาสแก” พ่อชี้หน้าพี่ก้อง
“ถ้าภายในสองถึงสามเดือน แกไม่พาหนูคนนั้นมาพบฉันที่บ้าน..ฉันจะให้แกแต่งงานกับหนูเจินจริงๆ ไม่มีข้อแม้อะไรอีก” พ่อพูด พี่ก้องอึ้งได้แต่อ้าปากค้างไป
“แล้วแกอย่าคิดว่าแกจะเอาใครมาโกหกฉันด้วยล่ะ เพราะฉันน่ะ..เคยเจอหนูซีแล้ว” พ่อว่า ผมอ้าปากค้างบ้างเมื่อรู้เช่นนั้น เพราะผมเองก็ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าพ่อเคยพบพี่ซีตัวจริงด้วย ผมคิดว่าพ่อเห็นแต่รูปของพี่ซีที่ผมเคยถ่ายด้วยกันเท่านั้น
“ป..ป๊าเคยเห็นได้ไง” ผมถามออกไป
“มันเรื่องของแกรึไง” พ่อหันมาว่าใส่
“แล้วอีกอย่าง..แกสองคนต้องไปขอโทษลุงยุทธ แล้วอธิบายให้เค้าฟังด้วยตัวแกเองซะ” พ่อว่าเสียงเข้ม
“ได้ครับ” พี่ก้องรีบรับปากในทันที
“ไม่ไป! กัสไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย” ผมยักไหล่อย่างไม่สนใจและไม่คิดจะอยู่รอฟังพ่อบ่น ผมก็รีบวิ่งออกมาจากห้องรับแขกในทันที
“คุณกัสคะ” พี่นันวิ่งมาหาหน้าตาเหรอหรา
“โอเคแล้วครับ ไม่ต้องห่วง” ผมรีบทำมือและยิ้มกว้างให้
“โถ่..คุณก็” พี่นันถอนหายใจแรง
“หึ กัสขึ้นไปทำการบ้านก่อนนะครับ” ผมยิ้มบอก
“ค่ะ เดี๋ยวพี่นำของว่างขึ้นไปให้นะคะ” เธอยิ้ม
“ขอบคุณฮะ” ผมบอกก่อนจะเดินขึ้นมาที่ห้องนอนเพื่อทำการบ้านและรายงานที่ได้รับมอบหมายอีกมากมายที่ต้องเสร็จให้ทันภายในอาทิตย์หน้า
= = = = = = = =
-
วันอาทิตย์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
วันนี้ผมมีเวรที่ร้านตั้งแต่เช้า ร้านจะเปิดเก้าโมงเช้าเป็นต้นไป ผมจึงมาถึงร้านตั้งแต่แปดโมง เมื่อมาถึงก็พบกับรถของพี่คิว พี่เซ็นและพี่หมีจอดอยู่ที่ลานจอดรถหลังร้านแล้ว พี่คิวกับพี่เซ็นคงมาเริ่มทำงานตั้งแต่หกโมงเช้าได้แล้วละมังครับ ถ้าเป็นวันอาทิตย์พี่เขาทั้งสองคนจะมาเช้ากว่าใครทั้งหมด
วันนี้จะเรียกว่าอากาศดีก็คงจะไม่ใช่ ดูจากแดดยามเช้าที่แรงขนาดนี้ตอนบ่ายคงไม่ต้องพูดถึงว่ามันจะร้อนระอุขนาดไหน แต่เมื่อเข้ามาในตัวบริเวณร้านก็เย็นอย่างไม่น่าเชื่อ ที่ได้อากาศบริสุทธิ์แบบนี้คงเพราะรอบตัวร้านเรามีแต่ต้นไม้และดอกไม้เต็มไปหมดนี่ละครับ เมื่อผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาช่วยพี่หมีจัดโต๊ะภายในร้าน กลิ่นหอมของแป้งและเนยลอยมาเตะจมูก เชฟสองคนที่อยู่ในครัวคงกำลังวุ่นกับการเตรียมเมนูสำหรับวันนี้เป็นแน่
“มาแล้วจ้า” พี่ซีเดินเข้ามาพร้อมกับสวมชุดพนักงานเรียบร้อยแล้ว
“ดีครับ” ผมยิ้มทัก
“ไอ้ออฟขอเข้าบ่ายนะวันนี้น่ะ บอสเลยขอให้เค้กมาช่วยตอนเช้า..นี่ไม่รู้ว่าเค้กจะมาเช้าหรือมาบ่าย อาทิตย์ที่แล้วคนเยอะหัวหมุนไปหมด มันใช่เวลามาหยุดงานกันไหม” พี่หมีบ่นยาว คิ้วขมวดเป็นโบ บทถ้าวันไหนพี่หมีเอ่ยปากบ่นละก็แสดงว่าพี่เขาก็เหลืออดจะทนนะครับ
“อากาศยามเช้ากับวิวาลดี้นี่เข้ากั๊นเข้ากัน..แต่กลับมีคนหงุดหงิดแต่เช้าแฮะ” ผมหันไปมองพี่คิวที่เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับพูดแซวพี่หมี
“หึ..เวลาหงุดหงิด จะโมซาร์ส บีโธเฟนหรือวิวัลดีก็คงจะไม่ได้ช่วยอะไรผมหรอกครับ” พี่หมีย้อนตอบพร้อมกับยิ้มน้อยๆให้พี่คิว
“นั่นสินะ” พี่คิวเบะปาก
“กัสรดน้ำต้นไม้รึยัง” พี่คิวถาม
“รดแล้วฮะ เอ่อ..วันนี้คุณลุงจะมาทำสวนใช่ไหมครับ” ผมถามถึงลุงโก๋คนทำสวนของบ้านพี่คิวที่จะคอยมาดูสวนที่ร้านเราให้เป็นระยะ
“ใช่ ถ้ามีอะไรตรงไหนก็บอกลุงได้เลยนะ” พี่คิวบอก
“ซีตรวจเช็คเคาร์เตอร์แล้วก็คอยดูลูกค้าอยู่หน้าร้านไปก่อนนะ ส่วนกัสเข้าไปช่วยเซ็นหน่อย” พี่คิวสั่ง
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบทำเหมือนไม่มีอะไรในใจ ที่จริงแล้ว..คำพูดต่อต้านมีเต็มไปหมด
“ส่วนหมีเข้ามาคุยกับฉันหน่อย เอ่อ..เอาสมุดบันทึกเข้ามาด้วยนะ” พี่คิวสั่ง
“ได้ครับ” พี่หมีพยักหน้า
“ท..ทำไมเร็วกว่ากำหนดล่ะฮะ ยังไม่สิ้นเดือนเลย” ผมพูดอย่างรู้ทันว่าพี่คิวเรียกพี่หมีเข้าไปทำอะไร คงจะเรียกเข้าไปคุยเรื่องพฤติกรรมของพนักงาน เกี่ยวกับพฤติกรรมภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาของแต่ละคนอย่างแน่นอน
“หึ แย่จังแฮะ” พี่คิวยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม
“นั่นสิ แย่จัง” พี่ซีหน้าเสีย พี่หมีและพี่คิวอมยิ้มน้อยๆแต่ผมกับพี่ซีหน้าเสียไปแล้ว
“กัส คืนนี้กัสอยู่จนเลิกงานได้เลยนะฮะคุณเชฟ” ผมรีบบอกด้วยน้ำเสียงมีพลังออกไป ทั้งที่จริงแล้ววันนี้ผมก็มีเวรทำงานที่นี่จนถึงปิดร้านอยู่แล้ว แน่ล่ะว่าผมไม่รู้ว่าในสมุดบันทึกของพี่หมีนั้นพี่หมีได้เขียนอะไรลงไปบ้าง แต่มันค่อนข้างไม่ปกติเท่าไหร่ที่พี่คิวเรียกเข้าไปพบทั้งทั้งที่ยังไม่สิ้นเดือนแบบนี้
“โอ้..I appreciate it” พี่คิวหันมาแสยะยิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานไป
“ห..โหดร้ายอ้า~” ผมร้องครวญครางในทันที
“แง่ง เดือนนี้พี่ขอลาหลายครั้งด้วยอ่ะ” พี่ซีร้องบ้าง
“พี่ซีแค่ลา แต่กัสนี่!” ผมขึ้นเสียงอย่างไม่ชอบใจ เดือนนี้มันเป็นเดือนมหันตภัยของผมหรืออย่างไรกันนะ
“ฮื้อ พี่คิวอ่ะ แล้วพี่ฟ้าไปไหน..ทำไมต้องเป็นพี่คิวด้วย” ผมอวดครวญ จะเอาพี่ฟ้า..ผมจะเอาพี่ฟ้าคนเดียว
“ทำใจเถอะกัส เรามาทำงานกันดีกว่านะ เผื่อมันจะเป็นวันสุดท้ายของเรา” พี่ซีพูดติดตลกหน้าตาย แต่ผมหน้างอเพราะรู้สึกว่าไม่ตลกด้วย
“หวัดดีครับพี่ๆ” เค้กเดินเข้ามา ผมกับพี่ซีหันไปมอง
“ชิ” ผมเบะปากให้เค้กเพราะรู้สึกว่าเค้กคงเป็นคนเดียวภายในร้านที่แทบหาข้อบกพร่องในการทำงานไม่เจอ เค้กมองผมหน้าเหวอ
“ค..เค้ก ทำอะไรผิดเหรอครับ” เค้กถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ผิดสิ!” ผมกระแทกเสียง
“ไปทำงานเลยกัส มาแกล้งน้องอยู่ได้” พี่ซีตีไหล่ผมเบาๆ
“ชิ” ผมหันไปเบะปากให้เค้กอีกครั้งก่อนจะเดินตรงเข้ามาในครัว
“พี่คิวให้เข้ามาช่วยครับ” ผมพูดบอกเสียงแข็ง คนในครัวที่กำลังวุ่นอยู่ชะงัก พี่เขาเงยหน้าขึ้นมอง
“อ่อ เหรอ” พี่เซ็นเบะปากพูดเท่านั้น ผมยืนนิ่ง เหลือบมองไปทางนู้นทีทางนี้ทีเพราะไม่รู้จะเริ่มทำอะไรตรงไหนก่อนดี
“..................” ในห้องครัวเงียบมาก มีแต่เสียงเพลงคลาสสิกที่คลออยู่เบาๆ พี่เซ็นไม่ได้พูดอะไร พี่เขาหยุดทำงานก่อนจะมองมาที่ผม ผมเองก็มองตอบกลับเล็กน้อย
“เช็คเค้กให้หน่อยแล้วกัน” พี่เซ็นบอก
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ พี่เซ็นเดินไปหยิบสมุดมายื่นให้ผมก่อนที่พี่เขาจะกลับไปทำงานต่อ ผมเดินมาตรงเคาร์เตอร์ที่วางเค้กอยู่ ผมเริ่มเช็คที่ขนมปังที่อยู่บนถาดเรียงวางอยู่บนชั้น ผมเคยชินกับงานแบบนี้เพราะเคยเข้ามาช่วยบ่อยๆ มันก็ไม่มีอะไรยากแค่เช็คขนมปังให้ถูกต้องตามปริมาณที่พี่เขาเขียนกำกับไว้แล้ว หลังจากเช็คขนมปังเสร็จก็เช็คเค้กต่อจนทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย
“ครบแล้วครับ แต่มีทรีโอเค้กที่เกินมาหนึ่งปอนด์นะฮะ” ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างเงียบมานาน
“โอเค งั้นช่วยเอาออกไปเรียงใส่ตู้ด้วย..แล้วเค้กมารึยัง” พี่เซ็นถาม
“มาแล้วฮะ” ผมพยักหน้าตอบ
“งั้นก็ไปเรียกให้มาช่วยกัน” พี่เซ็นสั่งอีก
“ครับ” ผมตอบก่อนจะออกมาเรียกเค้กให้มาช่วยกันขนเค้กและขนมปังออกมาเรียงใส่ตู้โชว์ หลังจากจัดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เค้กอาสาจัดตู้และเคาร์เตอร์ด้านหน้าต่อเพราะจะต้องจัดเรียงขนมปังสำหรับวางขายให้ดูสวยงาม หลังจากนั้นผมก็กลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง
“มีอะไรให้ช่วยอีกไหมฮะ” ผมถามพี่เซ็น
“เห็นแป้งที่วางอยู่นั่นไหม” พี่เซ็นถามแต่ไม่ได้เงยหน้ามองหน้าผม
“ครับ” ผมตอบ
“นวดมันซะจนกว่าพี่จะบอกว่าพอ” พี่เซ็นสั่งส่งๆ
“ห๊า” ผมอุทานเพราะผมไม่ชอบนวดแป้ง มันหนืดๆเหนียวๆแล้วมันก็เมื่อยมืออีกด้วย เมื่อพี่เซ็นเห็นผมร้องเสียงหลงอย่างนั้น พี่เขาก็เหลือบขึ้นมองหน้าผมทันที
“หึ..ทำไม รักสบายจริงๆนะ” พี่เซ็นยิ้ม
“เปล่ารักสบายนะครับ” ผมรีบบอก
“แต่แค่..นวด ก็ได้” ผมบ่นก่อนจะลงมือนวดอย่างช่วยไม่ได้
“แรงมีแค่นั้นรึไง” พี่เซ็นว่าเมื่อเห็นว่าผมกำลังทำท่าไม่เอาอ่าว ผมออกแรงนวดมากขึ้นกว่าเดิมโดยไม่ต่อปากต่อปากต่อคำกับพี่เขากลับไปเพราะกลัวว่าตัวเองจะหมดแรงเสียก่อน ผมนวดแป้งผ่านไปสิบนาทีก็เริ่มรู้สึกว่าข้อมือของตัวเองหมดแรงจะบีบนวดมันต่อ พี่เซ็นชำเลืองมองผมเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรผม ผมเองก็ไม่คิดจะพูดอะไรด้วย ไม่รู้สิครับ..ก็แค่ไม่มีอารมณ์อยากต่อปากต่อคำอีกแล้วประมาณนั้น
แกรก~
พี่คิวเดินเข้ามา เมื่อผมเห็นว่าพี่คิวเดินเข้ามาผมจึงมีพลังออกแรงนวดให้มากกว่าเดิม
“หึ..” พี่เซ็นแสยะหัวเราะมองเจ้าเล่ห์มาที่ผมทีและเหลือบมองไปที่พี่คิวที
“ใครบางคนกำลังทำอะไรเอาหน้าแฮะ” พี่เซ็นพูดลอยๆ พี่คิวอมยิ้มเหมือนรู้ว่าพี่เซ็นหมายถึงอะไร
“อ่ะ..กัสเปล่านะ” ผมรีบแก้ตัวทันที รอยยิ้มของพี่เขาทั้งสองคนกำลังปั่นหัวผมจนจะกลายเป็นคนบ้า
“พอได้แล้ว เดี๋ยวพี่ทำเอง” พี่คิวบอกเสียงนุ่ม ผมยิ้มกว้างเพราะรอคำนี้มานาน
“ครับ” ผมพยักหน้าก่อนจะรีบเดินไปล้างมือ
“ออกไปช่วยงานข้างนอกเถอะ” พี่คิวบอก ผมพยักหน้าตอบอีกครั้ง
“เออ..เดี๋ยว” ผมชะงักหันกลับไปมองหน้าพี่คิว
“การประเมินงานน่ะมีอีกตอนสิ้นเดือนนะ ครั้งนี้แค่เรียกไปดูเฉยๆ” พี่คิวยิ้มเล็กน้อย
“ค้าบ” ผมทำหน้าบูดตอบเสียงอ่อนกลับไป พี่คิวพยักหน้าให้ ผมเดินคอตกออกมาจากห้องครัวเพื่อมาทำหน้าที่ของตนเองต่อ
...............>>>><<<<.................
บอกกล่าวให้ทราบ..
ทางเบบี้เพิ่งได้ตั้งกระทู้หนึ่งในเวปบอร์ดของเบบี้ My Web-board (http://baby.thai-forum.net) ..เพื่อสำหรับพูดคุย ติชม สอบถามหรือแม้กระทั่งใครที่คิดถึงตัวละครในเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย และ เรื่องสุดท้ายกรูก็รักมึงจนได้..ไอ้โรคจิตด้วย ซึ่งสามารถมาพบปะพูดคุยกันได้ที่กระทู้ Talk with us~ Salim & Met and the Gang และ Talk with us~ Guitar & Khao and the Gang นะคะ ^^ เพราะหลังจากที่เรื่อง~Limited Lovers~จบคงจะไม่ได้เห็นนิยายเรื่องใหม่ของเบบี้อีกนานไม่มีกำหนด ส่วนใครที่กลัวว่าเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย..จะไม่ตีพิมพ์เป็นหนังสือหรือกลัวว่าจะตกข่าวก็ให้เข้าไปอัพเดทข่าวและสอบถามทิ้งไว้ในกระทู้นั้นได้เรื่อยๆเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่านท่านอื่นด้วยนะคะ เพราะเรื่องสลิ่ม&เมตรค่อนข้างยาวมากซึ่งถ้าทำเป็นหนังสือแล้วตอนพิเศษยาวจุใจไม่พอเท่า ต้า&ข้าวหรือชุลมุนวุ่นรัก..เบบี้ก็ไม่อยากทำ ดังนั้น..เรื่องนี้ค่อนข้างไร้จุดหมายมากๆว่าจะได้เห็นกันเมื่อไหร่ ยังไงก็แล้วแต่เบบี้ก็ได้ตั้งกระทู้ไว้ให้แล้วเผื่อจะหายอาการ "อยาก" และ "คิดถึง" ตัวละครได้บ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง ฮ่าๆๆ
บ๊ายบาย
เบบี้.. :bye2:
v
v
v
ที่ชี้แจงไว้ก่อนหน้าค่ะ เผื่อคนอ่านท่านอื่นยังไม่ทราบ ;)
ขอชี้แจงอะไรหน่อยนะคะ..
ขอชี้แจงเนื้อหานิดหน่อยค่ะ เพราะดูเหมือนว่าจะมีคนอ่านบางท่านยังไม่ค่อยเข้าใจในตัวละครที่สื่อออกไปและยังคงคอมเม้นในประโยคเดิมๆซ้ำๆว่า “กัสน่าเบื่อ กัสสับสนมากเกินไป” ซึ่งมันคล้ายกับว่าที่ผ่านมาเจ็ดตอนเบบี้เขียนอะไรให้ไม่กระจ่างในตัวละครเท่าที่ควร ดังนั้น..เบบี้ขอบอกไว้ตรงนี้ว่า แต่ละตอนที่นำมาให้อ่านกันนั้นทุกตอนมีความสำคัญของรายละเอียดตัวละครสอดแทรกอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้ความรู้สึกของกัสตั้งแต่ตอนที่1 มาจนถึงปัจจุบันกัสไม่เคยบอกเลยว่า “สับสน” ต่อความรู้สึกนึกคิดของตนเองที่มีให้กับบุคคลรอบข้าง และจุดสำคัญของตัวละครที่อยากให้มองให้ละเอียดคือ
- กัสรู้สึกอย่างไรต่อหมีและเซ็น
- ใครกันแน่ที่..ไม่ชัดเจน
- กัสพยายามเข้มแข็งเพราะ..
- ใครบ้างที่เห็นแก่ตัว ฯลฯ
ซึ่งในตอนที่7 ที่ผ่านมาค่อนข้างบอกความรู้สึกกัสอย่างชัดเจน(มาก) และคำพูดของฟ้าที่มองทุกคนออกทะลุปุโปร่ง ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่บอกว่า “ทำตัวไม่มีค่า” ที่ฟ้าพูดอะไรนั่นเลยค่ะ(ขอโทษด้วยที่ต้องพูดถึงข้อมูลตรงนี้เพราะเห็นทุกคนคิดว่ามันเป็นจุดสำคัญของคำพูดของฟ้า) ทั้งนี้ความกระจ่างที่มากขึ้นก็ต้องรอในตอนต่อไป ที่จริงนิยายเรื่องนี้มันก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ มันก็แค่นิยายที่เน้นความรู้สึกและสันดานดิบของมนุษย์แต่ละคน..แค่นั้น
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
คิดถึงเบบี้สุดๆๆๆ >_< :sad4:
-
ตอนนี้กัสน่ารักมาก
ไม่มีเรื่องให้กัสต้องเสียใจอีก 555
พี่คิวกับเค้ก แอบมานิดๆ เค้กยังน่ารักเหมือนเดิมเลยย
ขอบคุณค้าบบ
-
:pig4: :pig4:
-
น้องกัสเวลาไม่มีเรื่องให้ต้องเครียดแล้วก็ร่าเริงสดใสดีชะมัด ไม่ได้น้องพี่ก้องแย่ไปแล้ววววว :z10:
ปล คิดถึงเค้กด้วย ออกมาให้เขินกันเบาๆ :กอด1:
-
:กอด1:+เป็ดให้บี้...........
พี่คิวเพียงยิ้มแค่มุมปาก....ก็ให้ความรู้สึกเท่อย่างร้ายกาจ
:impress3: :impress3:
-
ขอบคุณค่ะ กำลังคิดถึงเลย ^^
-
เห็นกัสกลับมาร่าเริงได้แล้วก็ดีใจด้วย..
-
ตอนนี้พี่คิวน่ารัก. ไม่ค่อยโหด หรือว่าคนกะลังมีความรักเลยอ่อนโยนลง :L2:
เห็นกัสร่าเริง น่ารักๆแล้วไม่อยากให้ต้องคิดอะไรที่เครียดๆเลย
-
รักกัส กัสเก่งมาก ^^ เข้มแข็งจะตาย อยากให้กัสมีความสุขเต็มที่ในความรักซะที ถึงจะเดาไม่ออกจริงๆก็เถอะว่าสุดท้ายจะเป็นใคร
ว่าจะเชียร์พี่หมีคนเดียวแล้วเชียว พอมาเจอพี่เซ็นก็ออกไม่ได้จริงจริงงงง
-
รออ่านและลุ้นตอนต่อไป น่าใจหาย หากเบบี๋หายไปนา :m15:น
-
+1
-
กัสน่ารักอ่ะ พี่คิวแกแอบขี้เล่นนะตอนนี้
-
กรี๊ดดดดด ได้อ่านแล้ว >.< กัสกลับมาร่าเริงได้อย่างนี้ก็เบาใจหน่อย ดีแล้วล่ะมัวแต่ซึมเศร้าไปก็ไร้ประโยชน์ มีแต่เราแหละที่จะแย่เอง ตอนนี้พี่คิวดูใจดีแปลกๆนะ สงสัยจะอารมณ์ดี เค้กกับคิวน่ีแทบจะไม่เคยเห็นเค้าสวีตหวานกันเลยนะ ถ้าได้เห็นนี่คงต้องร้องโอ้โห อ้าห๋า ชัวร์ !!! ฮาที่กัสไปขัดขวางการดูตัวได้อีก ป่วนจริงๆเลยนะ แต่มันก็ดีต่อพี่ก้องนั่นแหละ เดินหน้าจีบพี่ซีเลยพี่ก้อง โอกาสมาถึงแล้วต้องรีบคว้าไว้สิ ตอนนี้อ่านสบายๆดี ไม่ต้องเครียด แต่บรรยากาศตอนกัสเซ็นอยู่ด้วยกันมันก็แปลกไปอยู่ดี ดูเกร็งๆทั้งคู่
-
คิดถึง พี่ คิว-เค้ก >< ~
กัสน่ารักดีน้าา ดูสดใสขึ้นน
-
เหมือนตอนนี้ พฤติกรรม ความรู้สึก การวางตัวของแต่ล่ะคนเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง
ไม่รู้เพราะเป็นเวลางานด้วยรึเปล่า ต่างคนเลยต่างแยกความรู้สึกส่วนตัวออก
ทีนี้ก็มาลุ้นกันต่อว่า พี่เซ็นจะทำไงต่อกับกัส
-
ตอนไปช่วยพี่ก้องนึกว่าจะโดนพ่อด่าซะแล้ว :laugh3:
-
พี่ก้องนี่ยังไง
ต้องให้น้องกัส
จัดการ :laugh:
-
น้องกัสของพี่ :impress2: น่ารักอ่ะ
-
แล้วพี่ก้องจะจีบซียังไงอะ นิ่งๆ เงียบๆ ขี้อายแบบนี้ท่าจะจีบสาวยาก
มีเวลาแค่สามเดือนให้พาไปเปิดตัวซะด้วยสิ
-
กัสกินเค้กที่พี่คิวทำแล้วมันให้อารมณ์แบบว่าอยากกินเค้ก Mr.Blue ด้วยคน :o8: กัสตอนนี้กลับมาขี้อ้อน น่ารัก สดใสเหมือนเดิม
พี่ก้องเกือบไปแล้วดีนะได้น้องกัสช่วยไว้ แต่พี่ก้องจะจีบพี่ซีได้หรือเปล่า ยิ่งพ่อให้เวลาแค่ไม่กี่เดือนเอง เอาใจช่วย อยากให้พี่ซีมาเป็นพี่สะใภ้กัสเหมือนกัน
กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ
-
กัสดีขึ้นแล้วใช่มั้ย กัสสู้ๆ ^^
-
กัสน่ารักกกก
-
:กอด1: กัสดูเข้มแข็งขึ้น ดีแล้วๆ
-
ตอนนี้มีพี่คิวกะน้องเค้กเยอะหน่อยแฮะ อิอิ
ขอบคุณเบบี้นะค้าบ :กอด1:
-
เค้กหน้ากินซะ อิจฉาน้องเค้กที่มีแฟนที่ทำแต่ของอร่อย ๆ
:pig4: คะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
แอบฮากัสนะ จากใจจริงเลยอ่ะ อิอิ :m20:
-
ลุ้นๆ คาดว่างานนี้พี่ก้องต้องเร่งจีบซีแล้วนะ 555
ตอนนี้รู้สึกว่ากัสดูผ่อนคลายขึ้นน่ะ ไม่ค่อยเครียด เอาใจช่วยน่ะ
ลุ้นๆ รออ่านตอนต่อไป ++ จร้า
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
รอเทอจ้าาา
ขอบคุนคำอธิบายด้วยยย
-
ยังไง พี่คิวก็ยังคงกวน
-
น้องกัสเข้มแข็งขึ้นนะ อ่านตอนนี้แล้วสบายใจ
แถมมีน้องเค้กออกมาให้หายคิดถึงด้วย
:กอด1: อยากชิมเค้กพี่คิวด้วยคนจัง
-
บทจะอ้อนก็อ้อนเสียจนน่ารัก บทจะป่วนก็ป่วนได้สุดจริง ๆ :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้ :กอด1:
-
กัสอ้อนน่ารักอ่ะ
แต่ตอนจัดการเคลียผู้หญิงให้พี่ก้องนี่แสบมาก
แต่ก็น่ารัก อิอิ
ตอนนี้แอบมีเค้กกะพี่คิวด้วย
เค้กก็น่ารักตลอด
ส่วนพี่คิวก็นิ่งตลอดอ่ะ
-
กัสที่ร่าเริงกลับมาแล้ว :impress2:
นึกว่าคุณพ่อจะดุกัสมากกว่านี้ซะอีก เพราะอีกฝ่ายเป็นพี่ซีด้วยล่ะมั้ง เลยทำเป็นยอม :laugh:
-
>,<
-
ตอนนี้สนุกอ่ะ เรื่อยๆไปกับตัวละครแต่ละคน
แอบขำ พี่คิวชอบดุน้องๆอ่ะ แต่ยกเว้นเค้กนะ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
:pig4:
-
รอจ้า
-
ตอนนี้เหมือนมาเบาอารมณ์ เพราะไม่มีฉากประจันหน้าอีก หึหึหึ
ตกลงเซ็นจะหน้ามึนไปเรื่อยๆ ?
-
อ่านตอนนี้ไปกรี๊ดไป ชอบพี่คิวมากกกกกอ่ะ ดูเท่แบบมากๆ -////////-
-
กัสนายแน่มากชอบบบบบ แต่อิพี่คิวคิดจะทำอะไรหรือเปล่านะ :z2:
o13 เบบี้
-
กัสแสบมาก =3=
แอบฮาตอนกัสแซวเค้กนะ 55555555555
-
:L1: เบบี๋นะคะ
-
ต้องทำยังไงให้ดูชัดเจน
หรือว่า..ยิ่งพยายามมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งดูไม่ชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งไม่พยายาม..ยิ่งดูชัดเจน
หรือเปล่า
หุหุ
ขอบคุณครับ เบบี้
-
เค้าได้ชิม เค้กMr.Blue (เค้กคุณฟ้า) กันทั่วบ้านทั่วเมืองล่ะ แล้วคุณเจ้าของชื่อเค้ก ได้กินกับเค้าบ้างรึยังอ่ะ?? :m28:
น้องเค้ก ยังงัยก็ยังเป็นน้องเค้กอยู่วันยังค่ำอ่ะนะ โดนแซวเรื่องเป็นแฟนกับพี่คิว เขินยังงัยก็ยังเขินอยู่อย่างงั้น
เจ๊ว่าน้องต้องเริ่มชินได้แล้วนะ แล้วก็เปลี่ยนจากเขินมาทำสวีทหวานแหววแทน :m1:
คลุมถุงชน สมัยนี้เค้ายังมีกันอยู่อีกหรอ??
เข้าใจว่าคุณพ่อกัส รักลูก หวังดีกับลูก อยากให้ลูกได้เจอกับสิ่งดี ๆ และคนดีๆ แต่มันก็น่าจะดีกว่าถ้าให้โอกาสลูกได้เลือกทางเดินของชีวิตตัวเองเองนะค๊ะ :m5:
ตอนนี้กัสพยายามทำตัวเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ทุกคนลำบากใจ ถึงแม้ตัวเองจะทุกข์ใจอยู่ก็ตาม อยากบอกกัสว่า "กัสทำดีแล้ว...ทำดีแล้วจริง ๆ" :impress:
-
ไม่รู้ทำไม อ่านไปยิ้มไป
:pig4:
-
ดีใจจังเลย กัสกลับมาสดใสแล้ว o7
คงความร่าเริงอย่างงี้ไว้ให้ตลอดนะกัส อย่าให้อะไรมาทำลายรอยยิ้มของหนูไปได้นะจ๊ะ :กอด1:
ถ้าถามว่าใครเห็นแก่ตัวบ้าง ก็ต้องบอกว่า เห็นแก่ตัวทั้ง3คนเลย
แต่อย่างว่าแหละค่ะ คำว่า "รัก" มันมีอิทธพลต่อมนุษย์มากกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น มันเลยไม่แปลกที่จะมีใครสักคน ทำตัวเห็นแก่ตัวไปบ้าง เพื่อให้ได้คำว่า"รัก"มาอยู่กับตัวเราเอง
:เฮ้อ:
-
ตอนนี้พี่คิวน่ารักกกกกกกกกกกอะ :-[ :-[ ทำไมชอบแกล้งน้องเค้กกันจัง 555
ตอนนี้กัสดูดีขึ้นแล้วเนอะ หวังว่ากัสจะทำใจ แล้วก็ตัดสินใจได้เร็วๆ
รอลุ้นกัสตลอดๆๆๆ ลองมองพี่หมีมั่งนะ เชียร์ๆๆๆคนนี้
-
แอบมีคิวเค้กมาบ้างนิดหน่อย แต่ยังคงความน่ารักไว้เหมือนเดิม คิดถึงคู่นี้จัง :z2:
เค้าชอบกัสนะ กัสเป็นคนสดใสมากๆ และดูเหมือนคนที่ไม่ชัดเจนจริงๆก็คือพี่เซ็นนะ 5555
ชอบเวลาที่พี่เซ็นอยู่กับพี่คิวอะ รู้สึกได้ถึงความกวนตีนแบบคูณสอง :laugh:
-
บรรยากาศเริ่มกลับมาสงบสุขอีกครั้ง
จะเกิดอะไรขึ้นอีกต่อไปเนี่ย ลุ้น ๆ ๆ :serius2:
อ่านมาเคลิ้ม ๆ มาสะดุดตรงที่พี่บี้ทิ้งท้าย :a5:
โฮฮฮฮฮฮฮฮ ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลย :sad4:
พี่บี้จะไม่ต่อไปอีกนาน เกาะแข้งเกาะขา ไม่ให้พี่บี้ไป ฮือออออออ
-
อ่านนิยายยมา นึกสิ่งที่จะเม้นเต็มหัวเลยค่ะ แต่พอมาเจอทอล์กของเบบี้ อยากไลค์อย่างรุนแรง คือลืมไปหมดเลยว่าจะเม้นอะไรเกี่ยวกับนิยาย 555
จะบอกว่าชอบปย.นี้มากกกกกกกกกกก "มันก็แค่นิยายที่เน้นความรู้สึกและสันดานดิบของมนุษย์แต่ละคน..แค่นั้น" มันแบบมันใช่เลย
มันใช่มากๆๆ หลังจากอ่านมาตั้งแต่ Lover แรกจนถึงปัจจุบัน มันเป็นแบบนั้นจิงๆ
ส่วนในเรื่องที่เราอาจจะยังมองไม่ออก ขอติดตามต่อไปเพื่อความกระจ่างในใจเอาละกันค่ะ
บอกตรงๆเลยตอนแรกที่อ่าน Lover 1 พี่คิวน้องเค้ก คืออ่านแล้วอึนมึนกับพี่คิวมากๆ พี่แกบุคลิกน่ากลัว
จนมาถึงเป็นแฟนกันตอนสุดท้ายก็ยังมึนๆอยู่ สรุปคือพอจบ lover 1 แล้ว เราลองกลับมาอ่านอย่างละเอียดมากๆๆกว่าตอนแรกอีกที
ได้เห็นอะไรหลายๆอย่างจากตัวละครที่มีการพัฒนาไปเรื่อยๆจริงๆ อ่านแล้วอ๋ออ อ๋อออ แบบนี้เลย
ผิดกับช่วงแรกๆที่อ่านแล้วยังมึนๆอยู่ ตกลงนี่คิวชอบเค้กแล้วหรือยังไง 55555
แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็แล้วแต่ความคิดหรือมุมมองของคนอ่านว่ามองแบบไหน ส่วนตัวตอนนี้ขอติดตามเรื่องนี้ไปเรื่อยๆนะค่ะ
ขอบคุณเบบี้มากๆสำหรับนิยาย เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ไฟท์ติ้งงงงงงงงงงงงงงงงงง :กอด1: :L1: :pig4:
-
เค้กน่ารักอะ > <
ส่วนกัสก็น่ารักเหมือนกัน
ขอบคุณนะคะที่อัพ แล้วก็รับทราบกับการแจ้งค่ะ
รออ่านต่อนะคะ ^^
-
+1 ชอบตอนน้องกัส ชิม mr bule อิอิ :z1:อร่อยมาก
-
เห่อ เห่อ มีการเอาเค้กคุณบอสกลับบ้านได้ด้วยอ่่ะ พ่ี่คิวใจดีจัง :impress2:
ก่ัสมีกำลังใจด่ีมากมาย ชัดเจนในความรู้สึกตัวเอง ซึ่ง ทุกอย่างออกมาทางการกระทำหมด
ทำให้มีบางคนมองออกง่าย :really2:ว่ารักหรือหวั่นไหวกับอะไร :-[
แล้วพี่เซ็นล่ะรู้สึกยังไง อยากรู้บ้างอ่ะ จะอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน
อยู่กับกัสนานเข้าตะบะคงแตกอีกสักวัน สาธุ! :z13: :call:
-
ใจคนยากแท้หยั่งถึง
ทุกคนมีความต้องการในใจ จะเรียกร้องมากเท่าไหร่ก็อีกเรื่อง
ตอนนี้บรรยากาสในร้านดุดีขึ้นมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะแย่อีกเมื่อไหร่
รอนะครับ ^^
-
พี่คิว ตอนนี้น่ารักเวอร์
-
บางทีแบบนี้ก็คงจะดีสำหรับกัสเอง จะได้ไม่เจ็บมาก แต่ก็นะ มันแลดูกระอักกระอ่วนพิลึกเวลาอยู่กับพี่เซ็น เฮ้อ เป็นกัสละเหนื่อยใจแทน ฮ่าา
-
:กอด1:
-
คิดถึงๆๆๆ
-
:oo1: ยังคงเชียร์หมีกัสอะ
-
อยากรู้ความรู้สึกของพี่เซ็นว่ามีใจกับน้องกัสหรือเปล่า (แอบเชียร์)
:L2:
-
...ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงพี่คิว :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ไม่ค่อยแสดงออก แต่จิตใจดีเป็นบ้าเลย :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อิอิ น่ารักอ่ะ
-
มาส่องอะ รักอาฟ้ากะป๋าทิกเกอร์น้า รอตอนหวีด เอ้ย !หวิวอยู่นะ
:เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
....น้องกัสนี่แสบๆคันๆๆดีแท้ เสียดายที่ความรักทำให้น้องกัสนั้นตาบอด
....แทนที่จะเป็นผ้าขาว ดูสะอาดสะอ้าน แต่ดันมีสึเทาๆๆกระเด็นมาใส่อยู่ทำให้หมองไปนิด :laugh:
-
เหมือนพี่คิวจะขี้เล่นมากขึ้นนะ มีแซวด้วยอ่า
แล้วตกลง 3 คนนี้จะเอายังไงกันเนี่ย 3p เลยมั้ย 55555
-
เบบี้พูดแบบนี้ ไม่อยากให้เรื่องนี้จบเลย ฮืออออออออ
รู้สึกตัวเองแก่ รู้สึกว่าวัฏจักรมันหมุนไป ,,
จากที่เล้าเป็นชีวิต สักวันหนึ่งมันก็ต้องเดินมาถึงทางแยก
เดี๋ยวนี้ก็เริ่มเอ๊ะๆ ว่าจะเข้ามาอ่านเรื่องไหนดี ฮ่าๆ
คิดถึงทุกตัวละครของเบบี้จริงๆ ><
พี่คิว ,, กำลังชงป้ะ (หรือคิดไปเอง)
ฮ่าๆๆ ใจพี่คิว ต้องอยากให้ได้กะพี่เซ็นล่ะ (มั้ง)
กรั๊กๆ คิดแทนทุกคนนนน
พี่เซ็นสู้ๆ ^^
-
มาเยี่ยมๆ มองๆ น้องกัสของพี่หมี รึของพี่เซ็นฮึ :z2:
เอ๊ะรึจะเป็นพี่หมีของพี่เซ็น อึ่! :z6: อีกที :z6:
o22
-
สถานการณ์ปกติแฮะ หมี-กัส-เซ็น แต่ก็ดีนะ กัสไม่เศร้า อ่านแล้วไม่เครียด 555+
ปล.แต่เครียดตรงโน๊ตของเบบี้เนี่ยแล่ะ เหอๆ รอและรอกันต่อไป >_<
-
กัสน่ารักตลอด ว่าแต่จะช่วยพี่ก้องยังไงล่ะเนี่ย
ยังคงเชียร์พี่เซ็นต่อไป กัสอยู่กับพี่เซ็นแล้วน่ารักดี
-
~9~
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
หลังจากวันนั้นผ่านมาทุกอย่างราบรื่นเป็นปกติดี แต่มันกลับดูราบเรียบไปเสียหมด ชีวิตมันนิ่งสนิทจนผมรู้สึกกลัวขึ้นมา แน่ละครับ..ชีวิตจริงก็ต้องมีขรุขระบ้าง แต่ชีวิตที่นิ่งมากเกินไปมันก็น่าเป็นกังวลไปเสียหน่อย ผมกลับบ้านกับพี่หมีเกือบทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ได้กลับพร้อมกับพี่หมี ผมก็จะให้คนขับรถที่บ้านมารับ เรื่องที่เกิดขึ้นมากมายไม่มีใครเอ่ยถึงมันอีก ผมเองก็ด้วย ยิ่งทำตัวเป็นปกติมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อสภาพจิตใจของผมมากเท่านั้น ไม่ต้องมานั่งร้องไห้เพื่อให้ใครปลอบโยน เพราะถ้ายิ่งร้องไห้ ผมจะยิ่งสามารถรับรู้ได้ถึงความอ่อนแอและสิ่งที่น่าหดหู่ที่ผมไม่ควรจะมีมัน
วันนี้ผมมาทำงานตั้งแต่เช้า เวรงานของเชฟคือพี่คิว วันนี้พี่คิวอารมณ์ดีผิดปกติ ถ้าพี่คิวอารมณ์ดีเราก็ควรจะอารมณ์ดีตามด้วย ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ (-o-)
“คิดอะไรอยู่ครับ” พี่หมีถาม
“คิดว่าจะทำยังไงให้ซีหลงรักพี่ก้องน่ะสิฮะ” ผมพูดตาลอย เพราะผมกำลังคิดอย่างนั้นอยู่จริงๆ หลายวันมานี่พี่ก้องยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักอย่าง เชื่องช้าอย่างกับกระบือเหมือนที่แม่ว่านั่นแหละ
“หึ..พี่ก้องเอาจริงรึไง หรือว่ากัสคนเดียวที่เอาจริง” พี่หมีอมยิ้ม
“โหย พี่ก้องชอบพี่ซีจริงๆนะฮะ..พี่หมีต้องมาเห็น วันที่พี่ก้องเจอพี่ซีครั้งแรกอ่ะ หน้าค้าง ตาค้างอย่างนี้ๆเลยนะ” ผมทำท่าเลียนแบบพี่ก้องให้พี่หมีดูด้วย รุจที่ยืนฟังอยู่อีกฝั่งหัวเราะ
“รุจอย่าไปเล่าให้พี่ซีฟังล่ะ” ผมบอกก่อน
“ความมันจะแตกก็เพราะกัสนั่นแหละ” รุจส่ายหัว ผมทำหน้างอ
“เฮ้อ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกอ่ะฮะว่าจะทำยังไงดี พี่ก้องน่ะ..จีบใครเป็นซะที่ไหนล่ะ แฟนที่ผ่านมาพวกนั้นก็เข้ามาจีบก่อนทั้งนั้น บางคนก็เป็นคนดี..แต่บางคนก็จ้องจะจับพี่ก้องอย่างเดียว กัสก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องผู้หญิงพี่ก้องถึงได้โง่อย่างนี้นะ” ผมบ่นอย่างหงุดหงิด
“ง่ายจะตาย” พี่หมีพูด ผมเงยหน้ามองอย่างสนใจในทันที
“ก็เอาเบอร์ซีให้พี่ก้องไป ส่วนพี่ก้องจะเริ่มเองหรือไม่เริ่มก็เรื่องของพี่ก้อง..แล้วก็ไปบอกซีว่าพี่ก้องขอเบอร์ จบ” พี่หมีว่า
“พูดเหมือนง่าย” ผมว่ากลับ
“ทำก็ง่ายด้วย ลองดูดิ” พี่หมียักคิ้ว
“พี่ใช้มุขแบบนี้จีบสาวบ่อยๆอ่ะสิ” รุจว่า
“นั่นน่ะสิ” ผมยักไหล่
“ก็ค่อนข้างได้ผล” พี่หมีเบะปากยิ้ม
“งั้น..จะลองดูก็ได้” ผมยิ้มกว้างเพราะยังไงก็ไม่มีทางเลือกอื่นอยู่แล้ว
“เออพี่หมี วันเสาร์นี้ไปดูหนังกันไหม..กัสว่าง กัสอยากดูคุณปู่โรแลกซ์อ่ะ ไปดูกันนะ” ผมเข้าไปดึงแขนพี่หมีเป็นการอ้อนอย่างมีหวัง
“ไปไม่ได้หรอกครับ วันเสาร์พี่ต้องไปพบลูกค้าน่ะ” พี่หมีบอก
“ลูกค้า..มีงานใหม่เหรอ” ผมถามทันที
“ครับ ลูกค้าเงินดีซะด้วย..เค้ามาขอดูผลงานของพี่น่ะ” พี่หมียิ้ม
“งั้นถ้าพี่หมีได้งานนี้พี่หมีก็จะรวยเป็นมหาเศรษฐีเลยสินะฮะ” ผมแซวพร้อมกับชูมือขึ้นเหนือหัวประกอบ
“นั่นสิ” พี่หมีตอบแกมหัวเราะ
“ถ้าเค้าชอบงานพี่ พี่อาจจะได้รับงานนี้ไปทำน่ะ” พี่หมีบอก
“ครับ งั้นไม่เป็นไร..ตอนแรกพี่เกตุก็ชวนกัสไปดู แต่กัสอยากไปดูกับพี่หมีมากกว่า งั้นกัสไปกับพี่เกตุก่อนก็ได้..แต่ถ้าพี่หมีอยากดูเมื่อไหร่ กัสดูซ้ำรอบสองเป็นเพื่อนพี่หมีก็ได้นะ” ผมยิ้มให้
“ครับ ไว้วันหลังไปดูเรื่องอื่นแล้วกัน” พี่หมีลูบหัวผมเบาๆ
“ฮะ” ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม
แกรก~
พวกเราหันไปมองเค้กที่เดินตัวแข็งทื่อออกมาจากห้องครัวสภาพคล้ายกับศพตายซากอย่างไรอย่างนั้น
“ไม่ทราบว่า..ใครจะสามารถตอบเค้กได้ไหมครับ ว่าเมื่อวานนี้ใครเป็นคนล้างเครื่องตีเนย แล้วใครที่ทำความสะอาดเตาอบพิซซ่า” เค้กยิ้มแหยถามแต่หน้าตาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด
“................” พวกผมยืนเงียบนิ่งมองไปที่เค้กเป็นตาเดียว ใจผมเริ่มเต้นตึกตักแรงขึ้น
“แน่นอนว่า..ไม่ใช่เค้กครับ” เค้กยักคงพยายามฉีกยิ้มให้ดูเป็นธรรมชาติ
“เหอะๆๆ” พวกผมหัวเราะเฝื่อนๆเพราะทราบดีว่าที่เค้กถามแบบนี้ต้องมีความแฝงแน่
“กัสเหรอ กัสหนิ” พี่หมีเหลือบมามองผม
“เอ๊ะ..ก กัสเหรอ” ผมอุทาน พยายามหลีกหนีความจริงแต่รู้สึกเหมือนผมกำลังจะจนมุม
“โดนแน่ครับ ไม่รอดหรอก” เค้กหุบยิ้มลงก่อนจะพูดเสียงแข็ง ทำหน้าเซ็งใส่
“เค้กโดนดุเลย ไม่ได้ทำสักหน่อย” เค้กบ่น
“พี่ขอโทษ” ผมรีบบอก
“วันนี้พี่คิวอุตส่าห์อารมณ์ดีแท้ๆ ผิดอีกแล้ว พลาดอีกแล้ว..โดนแน่ๆเลย” ผมกระโดดโวยวายไปมา
“จุ๊ๆๆ” พี่หมีห้ามปรามเมื่อผมเสียงดังมากไปหน่อย ผมหุบปากลงอย่างช่วยไม่ได้ พยายามยืนทำใจให้สงบนิ่ง สงบนิ่ง..สงบนิ่ง เฮ้อ..กลัวอ่ะ~
= = = = = = = =
วันเสาร์ ณ ห้างสรรพสินค้า Harrods..
วันนี้ผม พี่ก้องและพี่เกตุออกมาเที่ยวด้วยกัน เราพากันไปดูหนังเรื่องคุณปู่โรแลกซ์ก่อนจะพากันมาทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารไทยร้านหนึ่ง หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็โทรหาพี่ฟ้าเพราะว่าวันนี้ผมได้บอกพี่ฟ้าล่วงหน้าแล้วว่าพี่ก้องจะไปดูสูทที่ร้านของพี่ฟ้าด้วย วันนี้เราจึงพากันมาที่ห้างสรรพสินค้าในเครือญาติของพี่ฟ้านะครับ ถ้าจำไม่ผิดเจ้าของห้างสรรพสินค้าห้างนี้น่าจะเป็นของพี่สาวของพี่ฟ้า
“ที่จริง คุณฟ้าไม่ต้องมาเลือกให้ก็ได้นะครับ..ผมเกรงใจน่ะ” พี่ก้องยิ้มเขิน อายุของพี่ก้องน่าจะน้อยกว่าพี่ฟ้าหลายปีอยู่แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พี่ก้องและพี่ฟ้าเรียกแทนตัวเองซะเป็นทางการมากขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็คุณก้องน่ะ..สเป็กผมนี่” พี่ฟ้าก็ไม่วายจะหยอดไม่เลิก เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เจอพี่ชายผม ไม่รู้อะไรในตัวของพี่ชายผมที่พี่ฟ้าถึงชอบแกล้งนักหนา
“หึ ครับ” พี่ก้องยิ้มเขินกับสายตาของพี่ฟ้าที่มองอย่างแทะโลมพี่ก้องไปทั้งตัว
“พี่ฟ้าจะทำอะไรก็ช่วยนึกถึงความปลอดภัยของพี่ชายกัสหน่อยได้ไหมฮะ คุณทิกเกอร์น่ะนั่งจ้องเขม็งเลย” ผมเหลือบไปมองเห็นทิกเกอร์จ้องมองมาทางนี้อยู่นานมากแล้ว
“หึ” พี่ฟ้าหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจอะไรและนำเสื้อสูทมาทาบบนตัวพี่ก้องต่อ
“ผมโดนเขม่นให้ซะแล้ว” พี่ก้องพูด พี่ฟ้าหัวเราะส่งๆ
“พี่ฟ้าคะ เกตุชอบชุดนี้จัง” พี่เกตุนำชุดราตรียาวไปทาบกับตัวเองให้พี่ฟ้าดู
“เชิญลองได้เลยครับน้องเกตุ ตามสบาย..พี่ลดให้พิเศษเลย” พี่ฟ้ายิ้มบอก
“จริงนะคะ!” พี่เกตุตอบด้วยน้ำเสียงดีใจทันที
“เกตุ” พี่ก้องปราม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ..นานๆน้องๆจะมากันพร้อมหน้าพร้อมตาสักที” พี่ฟ้าพูดขึ้น
“งั้นกัสเอาด้วยดีกว่า ไหนๆก็มาร้านพี่ฟ้าทั้งทีเนอะ” ผมยิ้มบอก
“ได้ครับ ตามสบายนะ” พี่ฟ้าบอกผม ผมเดินไปเลือกเสื้อผ้าบ้าง ไม่ได้เลือกซื้อสูทใหม่ๆมานานมากแล้วเพราะไม่ค่อยได้ออกงานกับแม่อย่างเมื่อสมัยก่อนตอนที่ผมยังไม่มีงานทำ ตอนนั้นน่ะผมโดนแม่ลากออกงานเป็นว่าเล่น
เสื้อผ้าของร้านพี่ฟ้าส่วนมากจะเน้นไปทางสูทและชุดราตรี ชุดราตรีส่วนมากจะเน้นแบบสั่งตัด จะมีบางคอลเล็กชั่นเท่านั้นที่ทำมาออกเป็นแบรนด์ของพี่ฟ้าโดยเฉพาะ ส่วนเสื้อผ้าแบบอื่นๆจะเน้นแฟชั่นสไตล์ยุโรปเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะเน้นความหรูหราฟู่ฟ่า บางไซด์ถ้าใครอยากได้จึงต้องสั่งตัดพิเศษเพราะแบรนด์ของพี่ฟ้าจะมีดีไซน์เนอร์ประจำ หนึ่งในนั้นก็คือพี่ฟ้าด้วยนะครับ
“อ่าวเซ็น” ผมหันไปเมื่อได้ยินเสียงพี่เกตุเรียกชื่อคนที่ผมไม่อยากเจอมากที่สุดในตอนนี้ พี่เซ็นเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับพี่เชียร์ ผู้หญิงคนที่เคยเจอก่อนหน้านี้ไม่นาน เมื่อพี่เซ็นหันมาเห็นว่าผมก็ยืนอยู่ในร้านนี้ด้วยผมจึงหันหน้าหนีกลับมาเลือกเสื้อผ้าต่อแทนที่จะยืนมองให้รู้สึกเจ็บใจเล่น
“โผล่หัวมาได้ยังไงน่ะ” พี่ฟ้าถาม ร้านค่อนข้างเงียบผมจึงได้ยินทั้งหมดที่ทุกคนกำลังคุยกัน
“จุๆๆ พูดไม่เพราะเลยครับคุณอา” พี่เซ็นย้อนอย่างทีเล่นทีจริงเช่นทุกที
“พอดีเชียร์อยากมาถามคุณฟ้าเรื่องชุดน่ะค่ะ จะต้องใส่ไปออกงานกลางปีนี้..ก็เลยให้เซ็นพามา” พี่เชียร์ตอบแทน
“อ่อ ได้ครับ..งานอะไร ประมาณไหนล่ะ” พี่ฟ้าถาม
“งานของช่องVTV ค่ะ..พี่ฟ้าพอจะว่างออกแบบให้รึเปล่าคะ”
“ได้สิครับ แต่พี่ขอดูคิวงานพี่นิดนึงนะ..มิซาร์มาพาคุณเชียร์ไปดูแบบที” พี่ฟ้าพูด ผมหันไปมองเห็นพี่เชียร์เดินไปนั่งที่โซฟามุมสำหรับรับรองลูกค้าในร้าน จะบอกว่าผมทำตัวไม่ถูกก็ใช่ ที่จริงอาจจะไม่มีใครทราบเลยก็ได้ว่าผมกำลังทำตัวไม่ถูกอยู่ ถึงแม้ว่าข้างนอกมันจะธรรมชาติแต่ข้างในมันเกร็งสุดๆไปเลยล่ะครับ
“กัสได้รึยังครับ พี่เลือกให้ไหม..พอดีรึเปล่า” พี่ฟ้าถาม
“อ่อ ได้ฮะ” ผมหันไปยิ้มตอบก่อนจะหยิบสูทมาสองตัวกับเสื้อเชิ้ตแบบที่ชอบมาอีกสามตัว ผมเดินกลับไปหาพี่ฟ้าแต่ในขณะเดียวกันก็มีพนักงานของร้านพี่ฟ้าเดินเข้ามาช่วยนำชุดทั้งหมดที่ผมถืออยู่ไปถือไว้
“พี่ก้องเอากี่ชุดเหรอ” ผมถาม
“สามสี่ชุดน่ะ” พี่ก้องตอบ
“ไปไหนกันเหรอพี่” พี่เซ็นถามแทรกขึ้นระหว่างเรา
“เปล่า..พี่ไม่มีสูทใหม่ๆน่ะ กัสชวนออกมาดูหนังก็เลยถือโอกาสมาดูซะเลย” พี่ก้องตอบ
“นี่พอดีเหรอ มันน่าจะหลวมนะ” พี่ฟ้าหยิบเสื้อสูทมาทาบบนตัวผม
“ไม่หลวมมากหรอกครับ” ผมบอก
“ลดให้ด้วยนะฮะ” ผมยิ้มกว้าง พี่ฟ้าส่ายหัวยิ้มๆ
“ไม่ต้องลดหรอกนะครับคุณฟ้า แค่นี้ผมก็เกรงใจจะแย่” พี่ก้องว่าด้วยสีหน้าเกรงใจมากจริงๆ
“โหย พี่ฟ้าใจดีจะตาย” ผมรีบเข้าไปกอดและซบพี่ฟ้าอย่างออดอ้อนในทันที
“หึ..เข้าไปขอทิกเกอร์สิ ถ้าขอทิกเกอร์ได้พี่อาจจะให้ฟรีเลยก็ได้นะ” พี่ฟ้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ได้จริงจังอะไร
“เอ๊ะ” ผมชะงัก มองหน้าพี่ฟ้าอย่างสงสัย
“มันจะไม่น่าเกลียดเหรอครับ” ผมพูดอย่างนึกเอาจริง
“ไม่หรอก ถ้ากล้าอะนะ” พี่ฟ้าตอบแกมหัวเราะ
“นี่กัส..อย่านะ” พี่ก้องปรามเสียงแข็งแต่ผมไม่สนใจ เดินตรงไปหาทิกเกอร์ที่นั่งอยู่ตรงโซฟาในทันที
“คุณอา ทิกเกอร์ฮะ” ผมยิ้มกว้าง ถือวิสาสะเรียกออกไปว่า “อา” เพื่อที่จะให้ดูใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ทิกเกอร์ละสายตาจากหนังสือที่อ่านขึ้นมองหน้าผมและยิ้มให้ ผมไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้รวยมากแค่ไหนแต่ทราบเพียงว่าคงจะ “รวยมาก” เพราะถ้าไม่รวยคงจะไม่ได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของพี่ฟ้าหรอกครับ..น่าจะอย่างนั้นนะ
“เอ่อ แบบว่า พี่ฟ้าบอกว่า..” ผมยิ้มอยู่ตลอดเวลาที่พูด ทิกเกอร์ก็ยิ้มเหมือนรอให้ผมพูดด้วยเช่นกัน
“ถ้ากัสมาขอกับคุณอาทิกเกอร์ กัสจะได้เสื้อผ้าที่เลือกไว้ฟรีอ่ะครับ” ผมบอก ทิกเกอร์ชะงักก่อนจะเหลือบมองไปทางพี่ฟ้า ผมหันไปเห็นพี่ฟ้าเอาแต่ยืนอมยิ้มอย่างไม่แคร์อะไร ทิกเกอร์หันกลับมาจ้องหน้าผมอีกครั้ง
“พี่ฟ้าพูดจริงๆนะครับ” ผมรีบย้ำบอกเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อ
“ครับ ก็..ตามที่ฟ้าพูด” ทิกเกอร์ยิ้มตอบเสียงนุ่ม
“จริงนะครับ!” ผมย้ำเสียงดัง ทิกเกอร์พยักหน้ายิ้มให้
“ขอบคุณมากครับ ใจดีจัง~” ผมยกมือไหว้ก่อนจะรีบวิ่งกระโดดโลดเต้นกลับมาหาพี่ฟ้า
“ทิกเกอร์บอกว่าโอเคครับ” ผมชูนิ้วทำท่าโอเคให้พี่ฟ้า
“งั้นเหรอ..” พี่ฟ้าเบะปากพยักหน้างึกงัก
“โอเค เอาเสื้อผ้าของคุณกัสไปคิดเงิน..เก็บเงินที่ไอ้ฝรั่งนั่นนะ” พี่ฟ้าหันไปสั่งพนักงานของตน
“เอ๊ะ!” ผมชะงักด้วยความสงสัย พี่ฟ้าหันกลับมามอง
“ไหนพี่ฟ้าบอกให้ฟรีไงครับ” ผมพูดถามอย่างไม่เข้าใจ
“ฟรีพี่ไงครับ ไม่ฟรีมัน” พี่ฟ้าตอบหน้าตาย
“เอ้..พี่ฟ้าอ่ะ เจ้าเล่ห์ชะมัด” ผมโวยวายด้วยรู้สึกอายและสงสารทิกเกอร์ขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าพี่ฟ้าจะทำอย่างนี้เพราะผมนึกไม่ถึง คิดเพียงว่าถ้าทิกเกอร์อนุญาตพี่ฟ้าก็จะให้ผมฟรีแค่นั้น ผมยืนหน้างอแต่พี่ฟ้าและทุกคนกลับหัวเราะชอบใจ
“ยังไงคุณก้องลองเข้าไปลองเสื้อผ้าพวกนี้ก่อนนะครับว่าพอดีไหม เดี๋ยวผมขอตัวไปคุยงานสักครู่นึง” พี่ฟ้าบอก
“ได้ครับ..เชิญคุณฟ้าตามสบายเลยครับ” พี่ก้องตอบ พี่ฟ้าเดินไปหาพี่เชียร์ ส่วนพี่ก้องก็เดินไปที่ห้องลองเสื้อกับพนักงาน ผมเหลือบมองพี่เซ็นนิดหน่อยเพราะพี่เซ็นยังยืนอยู่ตรงหน้าผมแถมยังจ้องผมเขม็ง ผมจึงทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินหนีไปหาพี่เกตุแทน ผมช่วยพี่เกตุเลือกเสื้อผ้าได้อยู่หลายชุด พี่ก้องก็เข้าไปเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออกลองเสื้อผ้าอยู่นานพอสมควร เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีผมเห็นพี่เชียร์ร่ำลาพี่ฟ้าก่อนจะเดินออกจากร้านไป ผมยืนอย่างไม่เข้าใจเพราะพี่เซ็นกลับไม่ได้ออกไปกับเธอด้วย
เมื่อพี่เกตุเลือกชุดได้เรียบร้อย ไม่นานกว่านั้นเท่าไหร่พี่ก้องก็ลองและเลือกชุดเสร็จ พี่ฟ้าจัดการคิดเงินให้ในราคาพิเศษ ผมเกาะติดพี่ก้องกับพี่เกตุแจโดยไม่ได้หันไปพูดคุยกับพี่เซ็นเลยแม้แต่คำเดียว
“พี่จะไปไหนต่อเหรอ” พี่เซ็นถามขึ้น
“ไปดูเสื้อผ้าต่อแหละมั้ง แล้วแต่ไอ้ตัวเล็กนี่น่ะ” พี่ก้องตอบพร้อมกับหันมายิ้มให้ผมเล็กน้อย
“เหรอ..จะช็อปปิ้งเหรอ” พี่เซ็นหันมาถามผม ผมเพียงแค่พยักหน้าตอบปัดอย่างขอไปที
“งั้นไปด้วยกันสิ ว่าจะไปซื้อพอดีแต่ไม่มีเพื่อนเดิน” พี่เซ็นพูดชวน ผมเงียบมองไปทางพี่ฟ้าที่กำลังจ้องมาที่ผมกับพี่เซ็นเขม็ง
“ไปกับเซ็นก็ได้นะกัส พี่เองก็เริ่มเมื่อยแล้ว” พี่เกตุพูดบ่น
“เอ๋..ไหงงั้นล่ะฮะ” ผมขึ้นเสียงหลง พี่เซ็นยิ้มมุมปากเล็กน้อยเหมือนเข้าทางตัวเองอย่างนั้น
“กัสไม่ไปกับคนแปลกหน้าหรอกนะครับ มันน่าเบื่อออก” ผมยักไหล่
“หึ..ไอ้บ้า” พี่เกตุหัวเราะ
“คนแปลกหน้างั้นเหรอ ปากนี่ดีจังเลยนะ” พี่เซ็นฉีกยิ้มให้แต่สำหรับผมมันเป็นยิ้มแสยะเสียมากกว่า
“ผมขอยืมตัวน้องชายพี่ไปด้วยกันสักหน่อยจะได้ไหมละครับ” พี่เซ็นหันไปถามพี่ก้อง พี่ก้องไม่ตอบแต่หันกลับมามองหน้าผม
“ไม่ต้องเลย กัสมากับพี่ก็กลับกับพี่สิ เดี๋ยวคุณพ่อก็ดุเอาหรอก” พี่ฟ้าพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังทำให้พี่เซ็นเงียบไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณฟ้า” พี่ก้องยิ้ม
“งั้นก็ไปสิ พี่ก็จะได้กลับบ้านแล้ว..ไม่ได้อยากได้อะไรอีก” พี่ก้องพูด
“งั้น งั้นกัสก็ไม่อยากได้อะไรแล้วเหมือนกัน” ผมรีบพูดอย่างต้องการหาทางออก
“ทำไม รังเกียจที่จะไปด้วยกันรึไง” พี่เซ็นว่าหน้านิ่ง
“ก็..ประมาณนั้นแหละมั้ง” ผมว่ากลับ
“กาส..” พี่ก้องปรามเสียงยานคาง ผมหุบปากลง
“อยากได้อะไรอีกเยอะแยะไม่ใช่เหรอ งั้นก็ไปซะ..เดือนนี้พี่พาออกมาไมได้อีกทั้งเดือนเลยนะ” พี่ก้องพูดพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตมาให้
“ไม่..กัสจะให้พี่ก้องกับพี่เกตุไปด้วย” ผมเชิดหน้าหนีและไม่ยอมรับบัตรมา
“ค่าใช้จ่ายเดี๋ยวผมจัดการเองครับไม่ต้องห่วง แล้วจะพาไปส่งบ้านถึงที่เลย” พี่เซ็นพูดเองสรรพ
“ห้ามดึกเกินล่ะ แล้วก็ไม่ต้องตามใจอะไรให้มากนัก..เคยตัว” พี่ก้องพูดบอกพี่เซ็น
“เอ๊ะ พี่ก้อง!” ผมหันไปว่าใส่อย่างไม่ชอบใจที่พี่ชายมาพูดแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น
“เห็นฤทธิ์ไหมล่ะ” พี่ก้องว่าก่อนจะหันมาค้อนผมอีกทำให้ผมหน้างอกว่าเดิม
“งั้นผมไปแล้วนะครับคุณฟ้า ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” พี่ก้องยกมือไหว้
“ยินดีเลยครับ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้” พี่ฟ้ารีบยกมือรับไหว้
“งั้นเราก็ไปกันเถอะ” พี่เซ็นหันมาบอกผมพร้อมกับเข้ามาจับแขนผมไปด้วย
“แต่..กัส” ผมหันไปมองหน้าพี่ฟ้า พี่ฟ้าจ้องพี่เซ็นเขม็งเหมือนต้องการห้ามปรามแต่มีเหรอครับที่พี่เซ็นจะกลัวเพราะพี่เขาไม่เคยคิดที่จะหันกลับไปสบตาพี่ฟ้าเลยสักนิดเดียว
“พี่เซ็น! ไอ้บ้า..ปล่อยกัสนะ” ผมโวยวายเมื่อถูกพี่เซ็นลากออกมาอย่างแรง ทุกคนกลับยืนมองนิ่งเหมือนกำลังดูกายกรรมอะไรสักอย่างเหมือนกับพี่เกตุกับพี่ก้องไม่คิดว่านี่เป็นสิ่งผิดปกติ
“เจ็บนะ” ผมว่า เมื่อออกมาจากร้านผมก็พยายามสะบัดแขนออกแต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้
“ก็พูดดีๆไม่มาเองล่ะ” พี่เซ็นย้อน
“กัสไม่ได้อยากมาด้วยนี่ พี่บังคับกัส” ผมขึ้นเสียงว่ากลับ
“งั้นเหรอ โทษที” พี่เซ็นย้อนด้วยสีหน้าคล้ายกับโมโห ทำให้ผมต้องเหสายตาหนี
“เอ๊ะ” ผมตกใจเมื่อพี่เขาออกแรงลากผมให้เดินอีกครั้ง ผมไม่พูดว่าอะไรอีกแต่พยายามที่จะแกะมือของพี่เซ็นออก แต่ยิ่งผมออกแรงขัดขืนมากเท่าไหร่พี่เซ็นก็ยิ่งนิ่งและออกแรงบีบข้อมือผมแรงมากขึ้นเท่านั้น
“กัสเจ็บนะฮะ” ผมร้องบอกเพราะรู้สึกว่าเจ็บจนไม่สามารถทนได้แล้ว พี่เซ็นหยุดก่อนจะหันมามองผม ผมหน้าเสียเพราะเมื่อกี้แอบนึกไปไกลว่าพี่เซ็นจะบีบจนให้ข้อมือผมหักเลยรึเปล่า อารมณ์ของพี่เขาเมื่อกี้ทำให้ผมคิดว่าพี่เขาอาจจะกล้าทำจริงๆ
“อยากได้อะไรล่ะ” พี่เซ็นเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ปล่อยแรงที่บีบข้อมือผมออกด้วยเล็กน้อย ผมเงียบ
“โอ๊ย!” ผมร้องเมื่อถูกพี่เซ็นบีบกลับอย่างเดิมอีกครั้ง ผมเงยหน้าขึ้นมองตาขวางใส่พี่เขา
“เจ็บนะ” ผมว่าเสียงดังทำให้คนแถวนั้นหันมามอง พี่เซ็นไม่ตอบโต้แต่กลับจ้องผมเขม็ง
“อยากได้อะไรล่ะ” พี่เซ็นย้ำพูดคำเดิมด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“พี่เซ็นก็ไปกับแฟนพี่สิ มายุ่งอะไรกับกัสล่ะ” ผมว่าให้
“ใคร..แฟนฉัน” พี่เซ็นถาม
“ก็ ก็..พี่เชียร์อะไรนั่น” ผมตอบส่งๆไม่กล้าสบตาพี่เขามากนัก
“หึงรึไง” อีกฝ่ายว่า
“ใครหึง ก็แค่พูดความจริง” ผมย้อน พี่เซ็นหันหน้าหนีเล็กน้อยและไม่พูดอะไรอีก
“ตกลงจะเอาอะไร จะได้พาไปถูก” อยู่ๆพี่เขาก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมา
“อยากจ่ายเงินนักใช่มะ” ผมเหลือบมองอย่างเจ้าเล่ห์บ้าง พี่เซ็นแสยะยิ้มกลับให้
“ก็ลองดูสิ” พี่เขาพูดเสียงนิ่งเหมือนต้องการท้าทาย เป็นน้ำเสียงที่ทำให้ผมรู้สึกกลัวแต่ตอนนี้ผมกำลังปกปิดอาการกลัวนั้นไว้ อย่างที่พี่ฟ้าว่า..ผมจะต้องคุมเกมให้อยู่ถ้าเลือกที่จะก้าวขาลงไปแกว่งมันเล่น
“ดี!” ผมกระแทกเสียงก่อนจะเดินนำออกมา พี่เซ็นปล่อยมือออกจากข้อมือของผมแล้ว ผมเดินตรงดิ่งไปที่ร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังนำเข้าจากฝรั่งเศส แน่นอนว่าไม่มีเสื้อผ้าตัวไหนในร้านนั้นที่จะราคาต่ำกว่าหมื่น แต่ผมไม่เห็นจะต้องสนใจนี่นะครับ..มันไม่ใช่เงินของผมสักหน่อย
“ทั้งหมดสามหมื่นห้าพันบาทค่ะ” (^^)
“รวมทั้งหมดเลยนะคะ..สี่หมื่นหนึ่งพันห้าร้อยบาทค่ะ” (^v^)
“รับเรือนนี้เพิ่มไหมครับ ถ้ารับสองเรือนนี้ทางเราจะลดให้พิเศษอีกห้าเปอร์เซ็นต์เลยนะครับ” (>.<)
“ทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นบาทครับ” (^0^)
-
“เฮ้อ~” ผมถอนหายใจยาวอย่างต้องการประชดอีกฝ่ายที่เดินตามจ่ายเงินให้ผมยังไม่ได้หยุดเลย ผมเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ ลองเสื้อผ้าอย่างกับองค์หญิงก็ไม่ปาน ผมไม่เคยได้ทำตัวอย่างนี้บ่อยนักถ้าไม่ได้มากับคุณแม่ที่กระเป๋าค่อนข้างหนัก ถึงจะมากับคุณแม่แต่อย่างไรผมก็ต้องขอท่านอยู่ดีว่าท่านจะอนุญาตให้ซื้อหรือเปล่า แต่ครั้งนี้นั้นไม่ใช่ ผมเลือกได้ตามใจชอบแถมหยิบจ่ายอย่างไม่ต้องคิดหนักอะไร นี่คงทำสถิติถล่มทลายเป็นแน่ ผมไม่รู้ว่าประมาณเงินที่พี่เซ็นได้จ่ายให้ผมนั้นเลขตรงตัวคือเท่าไหร่แล้ว ที่รู้ๆน่าจะราวๆเกือบสามแสนบาทได้ละมังครับ
“มีความสุขจัง” ผมพูดลอยๆ อีกฝ่ายแสยะปากมองผมด้วยสายตาเหมือนตัวโกงในละครอย่างนั้น เราทะเลาะกันตลอดการซื้อของ มันเป็นการต่อล้อต่อเถียงที่พี่เซ็นเองก็ไม่ยอมโอนอ่อนต่อผมในบางเรื่อง ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราหยุดต่อปากต่อคำกันไป คงเพราะต่างคนต่างเบื่อและเหนื่อยด้วย
“ไหนพี่เซ็นบอกว่าอยากช็อปปิ้งไม่ใช่เหรอฮะ ไหนล่ะของพี่อ่ะ” ผมยิ้มถามพร้อมกับหันไปเอียงคอใส่
“กางเกงใน” พี่เซ็นตอบหน้าตาย ผมชะงักเล็กน้อย
“งั้น..งั้นก็ไปซื้อสิ” ผมพูดเสียงแข็ง พยายามตอบกลับให้เป็นปกติ
“ดี งั้นไปเป็นเพื่อนลองหน่อย” พี่เซ็นยักคิ้ว
“กางเกงในบ้าร้านไหนเค้าจะให้พี่ลองล่ะ” ผมขึ้นเสียงด้วยรู้สึกเขินขึ้นมา
“ซื้อก่อน..แล้วค่อยลอง” อีกฝ่ายพูดหน้านิ่งจนผมนึกกลัวว่าพี่เซ็นจะทำอย่างนั้นจริงๆ
“ม..ไม่ไป” ผมท้วง
“หึ..ไม่ทันละ มานี่” พี่เซ็นไม่พูดเปล่าแต่กลับเข้ามากอดเอวผมไปรั้งไว้พร้อมกับออกแรงลากให้ผมเดินตามพี่เขาไปด้วย
“พี่เซ็นจะบ้ารึไงเล่า” ผมโวยวายเสียงดังและไม่คิดจะอายใครหน้าไหนแล้ว พี่เขาทั้งฉุดกระชากลากดึงผมมาถึงร้านชุดชั้นในชายได้สำเร็จ
“ขอซื้อแล้วค่อยลองได้ไหมครับ” พี่เซ็นถามพนักงานขายด้วยสีหน้าจริงจัง พนักงานขายหน้าเหวอไปเล็กน้อย ผมส่ายหัวส่งสัญญาณให้พี่เขา
“ได้ครับ ถ้าคุณลูกค้าต้องการอย่างนั้น” พี่เขาตอบและยิ้มให้
“หึ..ไปลองสิ ไม่สิ..ขอเลือกก่อนแล้วกันครับ” พี่เซ็นยิ้มแสยะ
“เอ้ ไม่เอาฮะ” ผมดิ้นและผละออกมาจากตัวของพี่เซ็นได้สำเร็จ
“จะดีมากถ้าคุณจะช่วยผมจับไอ้เด็กผู้ชายหัวดื้อคนนี้ไว้ให้ผมหน่อย แน่นอนถ้าคุณไม่ทำ..ผมจะบอกให้อาพราวพรรณไล่คุณออก” พี่เซ็นพูด ในทันทีนั้นเองพี่พนักงานขายก็เข้ามาจับตัวผมล็อกไว้อย่างกับสั่งได้
“พี่เซ็น เลวมาก!” ผมกระแทกเสียงว่า พี่เซ็นหัวเราะร่าอย่างไม่สนใจอะไรและเดินไปเลือกกางเกงในมาหลายแบบจนผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงไปหมด เพราะทุกตัวล้วนเป็นไซด์สำหรับผมทั้งนั้น
“ช่วยคิดเงินด้วย เพราะคุณผู้ชายคนนี้จะลอง” พี่เซ็นบอกพนักงานด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ผมได้แต่ก้มหน้างุดอายแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี..ให้ตาย!
“ได้ครับ แล้วทางคุณจะรับด้วยไหมครับ” พนักงานถาม
“รับครับ แต่จะให้น้องเค้าเลือกให้น่ะ คุณไปจัดการงานของคุณเถอะ” พี่เซ็นยิ้มบอกพนักงานก่อนจะหันมามองผม
“เอาล่ะ..เป็นหน้าที่ของนายแล้ว ว่าไง..เลือกให้หน่อยสิ” พี่เซ็นเดินเข้ามาใกล้ ผมก้าวถอยหลังหนี
“ลามก” ผมว่าแทบกระซิบ
“โอ้ ขอบคุณ..เหมือนโดนย้ำปมสมัยเด็กแฮะ” พี่เซ็นหัวเราะ
“อย่ามาใกล้ได้ไหมล่ะครับ” ผมดันตัวพี่เซ็นออกเบาๆแต่อยู่ๆพี่เซ็นก็เข้ามาโอบเอวผมเข้าไปประชิดตัวเองอย่างแรง ผมได้แต่เบี่ยงหน้าหนี
“วันหลัง ก็อย่าปากดี...ให้มากนัก” พี่เซ็นกัดฟันพูด มองหน้าผมด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์และดูสะใจที่ตัวเองเป็นฝ่ายชนะ ผมเงียบ ได้แต่หุบปากเข้าหากันอย่างไม่สามารถจะกล้าปากดีอะไรได้อีก พี่เซ็นยิ้มเล็กน้อยก่อนจะปล่อยแขนออกจากเอวผม ไม่นานพนักงานก็เดินนำถุงกางเกงชั้นในมาให้ผม เขาพี่ไม่ให้พี่เซ็นแต่เขากลับยื่นถุงให้ผมอ่ะครับ..น่าอายที่สุด (>..<)
“ขอบคุณมากครับ ห้องลองอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยครับ” พี่เขาผายมือบอก
“บ้า..ใครจะไปลองกันเล่า!” ผมเหลืออดจึงกระแทกเสียงใส่หน้าทั้งสองคนก่อนจะเดินหนีออกมาเลย
หลังจากนั้นพี่เซ็นก็เดินตามผมออกมา เราเถียงกันอยู่หลายเรื่องแต่สุดท้ายก็พากันเดินไปซื้อของต่อจนตกเย็น พี่เซ็นไม่ได้พาผมไปส่งบ้านอย่างที่รับปากกับพี่ก้องไว้ แต่พี่เขาพาผมไปร้านอาหารจีนร้านหนึ่ง เราทานอาหารกันที่นั่น จนเกือบหนึ่งทุ่มก็มีสายโทรเข้าจากพี่ก้องทำให้พี่เซ็นต้องรีบพาผมกลับมาส่งที่บ้านในทันที
“................” ผมนั่งนิ่งเมื่อรถจอดถึงที่หน้าบ้าน ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่จริงวันนี้ผมค่อนข้างสนุก เพียงแค่มีอะไรมาสะกิดนิดเดียวก็ทำให้ลืมเรื่องที่สมควรจะโกรธเคืองไปได้สนิท และถึงแม้ว่าผมจะทำตัวไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ระหว่างที่อยู่กับพี่เซ็น แต่ที่จริงแล้วผมก็อยากอยู่ให้นานกว่านี้..แต่มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่ดีละนะครับ
“ข..ขอบคุณ” ผมพูดบอก หมายถึงของที่พี่เซ็นเสียเงินซื้อให้ผมทั้งหมด
“ไม่เป็นไร” พี่เซ็นตอบ เราเงียบลงครู่หนึ่ง พี่เซ็นเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะขยับตัว ผมจึงหันไปมองพี่เขาเล็กน้อย
“ไว้วันหลังจะมารับไปใหม่แล้วกัน” พี่เซ็นพูด
“ใครบอกจะไปกับพี่ วันนี้เพราะโดนพี่บังคับต่างหากถึงยอมไปด้วยน่ะ” ผมย้อนทันที
“หึ..เหรอ ก็ดูสนุกดีไม่ใช่รึไง” พี่เซ็นแสยะยิ้มเหมือนอ่านผมออก
“ใครสนุก” ผมว่าเสียงแข็ง
“อยู่กับฉันมันไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยรึไง” พี่เซ็นพูด ผมหันกลับไปมองพี่เขา
“ช่วยอย่าพูดอะไรเหมือนว่ากัสเป็นฝ่ายผิดอย่างนั้นเลยนะฮะ” ผมพูดเสียงเรียบ พี่เซ็นพูดเหมือนกำลังจะทำให้ผมหลงตัวเองไปชั่วขณะอย่างนั้น
“งั้นต้องพูดยังไง” พี่เซ็นย้อน
“พี่เซ็นเป็นฝ่ายพูดเองไม่ใช่เหรอฮะว่าให้ลืมมันซะ” ผมอดที่จะว่าออกไปไม่ได้ พี่เซ็นจ้องผมหน้านิ่งเฉย
“ลืมมันซะ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องคุยกันเลยนี่” พี่เซ็นตอกกลับ ผมได้แต่ถอนหายใจที่พี่เขาทำเหมือนไม่มีอะไรได้อย่างปกติดีจนไม่น่าเชื่อ
“สำหรับกัสมันทำยากน่ะครับ” ผมพูดบอกเสียงเบา
“ขอโทษด้วยแล้วกัน” ผมพูด เราต่างเงียบลงอีกครั้ง
“กัสเอง..ก็ยังทำปกติได้เลย ไม่ใช่รึไง” พี่เซ็นทิ้งลมหายใจเล็กน้อย
“หมายความว่าไงครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมอง พี่เซ็นไม่ได้หันมามองหน้าผมอีก
“ต้องมีคนตั้งหลายคนรู้เรื่องของกัสกับพี่ ทุกคนก็รับไม่ได้..แล้วกัสควรจะทำตัวยังไงเหรอครับ เรียกร้องสิทธิ์ในตัวกัสงั้นเหรอฮะ กัสทำได้งั้นเหรอ” ผมย้อน พยายามข่มน้ำเสียงของตัวเองเพื่อไม่ให้ร้องไห้ออกมาต่อหน้าคนคนนี้ พี่เซ็นหันกลับมามอง ผมหลบสายตาคู่นั้นลง
“กัสน่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่คิดอะไรอยู่..รู้แค่ว่า พี่อยากลองนอนกับกัส..แค่นั้น” ผมอมยิ้มเล็กน้อยเพื่อไม่ให้หน้าของตัวเองดูแย่ไปมากกว่าที่ควร
“กัสก็ให้ลองแล้ว เราก็แค่ลอง พี่ก็พอใจว่าจะแค่ลองไม่ใช่รึไง” ผมพูดพร้อมกับยักไหล่ส่งๆกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แน่นอนว่า..ผมกำลังต้องการประชดประชันและที่ประชดประชันไปก็เพราะไม่อยากให้พี่เซ็นมาเห็นอกเห็นใจอะไรในตัวผมด้วย
“หึ..ต่างฝ่ายต่างก็ลองไม่ใช่รึไง” พี่เซ็นย้อน ผมชะงัก หลับตาอย่างต้องการควบคุมอารมณ์ของตนเอง
“ใช่ครับ” ผมตอบเสียงสั่น
“ที่กัสลองน่ะ เพราะเป็นพี่..กัสถึงกล้าให้ลอง” ผมเงยหน้ายิ้มย้อนกลับไป ขนาดรู้ว่าคำพูดเฮงซวยจะต้องออกมาจากปากของผู้ชาย..เฮงซวยคนนี้ แต่มันก็อดสมเพชตัวเองไม่ได้เพราะผมเองก็คง..เฮงซวยไม่ต่างกัน
“เพราะกัสน่ะ อาจจะคิดตื้นไปหน่อย เพราะเป็นพี่..กัสเลยอยากทำตามความต้องการของตัวเอง” ผมพูดตาลอย พี่เซ็นเงียบ
“จะบอกอะไรให้ไหมฮะพี่เซ็น” ผมพูดแกมหัวเราะ แสยะหัวเราะให้กับเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้น
“กัสยอมรับว่ากัสอาจจะเคยรู้สึกกับพี่มากกว่าพี่..หรือเจ้านายกับลูกน้อง แต่ความรู้สึกนั้นมันหมดไปตั้งแต่ที่พี่ไม่เคยคิดที่จะเห็นมันแล้วล่ะ”
“กัสน่ะ ไม่เคยคิดจะเรียกร้องอะไร..กัสไม่รู้ว่าพี่จะรู้รึเปล่าว่ากัสคิดอะไรอยู่ แต่กัสน่ะ..ไม่ใช่คนใจง่ายที่นอนกับใครไปทั่วอย่างพี่หรอกนะฮะ” ผมหัวเราะให้
“ช่วยอย่าเอาตัวเองเป็นมาตรฐานวัดคนอื่นแบบนั้น เพราะที่พี่คิดว่าคนอื่นจะต้องเป็นแบบนู้นแบบนี้..มันก็เกิดจากอินเนทที่พี่คิดไปเองทั้งนั้นนะฮะ” ผมยิ้ม และรู้สึกใจหายกับประโยคนี้ของตนเองที่คิดว่าน่าจะรุนแรงไปเสียหน่อย
“..แต่พี่เซ็นเองก็อย่าคิดหลงตัวเองไปล่ะ” ผมยังไม่หยุดพูดคล้ายกับว่าเมื่อได้พูดแล้วมันก็หยุดไม่ได้ ผมยักไหล่ให้ พี่เซ็นจ้องผมไม่วางตา ผมคิดว่าพี่เขาคงกำลังต้องการอ่านความจริงในตัวผมอยู่แน่ๆ
“เพราะกัสน่ะ..ไม่ได้มีความรู้สึกแบบที่เคยรู้สึกกับพี่อย่างแต่ก่อนแล้ว เพราะอะไรรู้ไหมฮะ..เพราะกัสน่ะรู้ ว่าพี่..มันคนเฮงซวย แล้วช่วยอย่าทำตัวเฮงซวยไปมากกว่านี้ได้ไหมครับ การที่พี่มาทำแบบนี้..ก็ควรจะเห็นใจกัสบ้าง ขอให้เชื่อ..ว่าทุกการกระทำของกัสก็กำลังเห็นใจพี่อยู่ ถ้าพี่จะมาทำเป็นสงสารกัสละก็..รบกวนช่วยกลับไปสงสารตัวเองก่อนดีกว่าไหมฮะ” ผมยิ้มพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่น้ำตากลับคลออย่างช่วยไม่ได้ ผมลงมาจากรถและบอกให้คนรับใช้นำของที่อยู่ท้ายรถของพี่เซ็นขึ้นมาเก็บบนห้องให้ผมด้วย ผมก็เดินตรงขึ้นบ้านทันทีไม่ได้หันกลับไปมองคนในรถอีก
ตอนนี้ผมกำลังยิ้มให้กับความเข้มแข็งที่ตนเองมีให้กับตัวเองอย่างเหลือล้น ผมไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะพูดหักหน้าพี่เซ็นไปอย่างนั้นได้โดยที่ไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าพี่เขา แน่ล่ะ..ที่ผมพูดบอกพี่เขาไป ผมโกหกหลายคำทีเดียว แต่ก็อดสะใจอยู่ลึกๆไม่ได้ที่ผมสามารถเอาชนะใจตัวเองไม่ให้โอนอ่อนไปต่อความรักโลภที่ควรจะเป็น ที่จริงผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ผมได้ด่าไปนั้นจะทำให้พี่เซ็นเจ็บบ้างหรือเปล่า ผมคิดว่ามันเป็นการด่าที่ดูไม่จริงใจเอาเสียเลย ผมด่าพี่เขาเพียงเพราะส่วนหนึ่งผมต้องการปกป้องตนเองในส่วนที่ผมควรจะทำบ้างเพราะตลอดมาผมได้ทำตามในสิ่งที่ผมต้องการแล้ว ในเมื่อพี่เขาบอกให้หยุด..ผมก็พร้อมหยุด ผมเองก็มีขอบเขตของผมว่าจะเดินหน้าเท่าไหร่หรือถอยหลังเท่าไหร่ ผมไม่ใช่คนเข้มแข้งกล้าได้กล้าเสียพอที่จะระรานหักหน้าใคร ส่วนที่ผมพยายามเข้มแข็งได้คือการบังคับให้หัวใจของตัวเองเข้มแข็งก็เท่านั้น อย่างที่พี่ฟ้าบอกว่าผมควรจะเลิกนึกถึงความรู้สึกของพี่เขา การที่ผมต่อว่าพี่เซ็นออกไปผมควรจะรู้สึกดีที่ผมไม่แคร์ในความรู้สึกของคนอื่นแล้ว แต่เปล่าเลย..ทำไมตอนนี้ผมกลับรู้สึกแย่จัง
................>>>><<<<.................
-
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
แม่ยกตบเข่าดังฉาด กัสเอ๊ย มันต้องอย่างนี้ o13
+1 :กอด1:
-
กอดปลอบน้องกัส :กอด1:
เข้มแข็งไว้นะ :m15:
-
ฮืออออ เศร้ากัสอีกแล้ววว
น้องกัสสู้ๆๆ เี่ี่ราต้องสู้ต่อไปนะค้าบบบ :ped149:
คว้ากัสมากอดๆๆๆๆ :กอด1:
-
สุดท้ายแล้วจะเป็นเช่นไร :z10:
-
ประทับใจกับโหมดนี้ของกัสมากๆ
เข้มแข็งดีจัง สู้เค้าน้า
-
มาแว้ววววว
รอจ้า :)
-
น้องกัสเยี่ยมมากลูก :กอด1:
ไม่เคยชอบเซนเลย ถึงแม้ว่าพาร์ทของกัสจะไม่มีพระเอกก็ไม่เป็นรัย
แต่ไม่ชอบเซนอย่างแรง :beat:
-
สงสารกัส...ไม่รู้บทสรุปคู่นี้มันจะจบลงตรงไหน
-
พูดดีแล้วหล่ะหนูกัส ขอไปปาดน้ำตาก่อนนะ :m15:
-
กัสเก่งมากลูก
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าเซนต้องการอะไรกันแน่ ได้กัส บอกกัสให้ลืม กัสก็ทำให้แล้วจะมาตอแยทำไม สับสนกับชีวิตหรือไงเซน
-
แอบอึ้งเล็กน้อยกับกัสที่เป็นแบบนี้ o22
บทจะแข็งก็ทำได้ดีไม่แพ้ใครเลยนี่นา
ทำเหมือนไม่แคร์ แต่ที่แท้ก็เจ็บไม่น้อย
ค่อยๆเรียนรู้กับมันไปนะกัส เวลาเยอะแยะ
ไม่นานสิ่งที่คอยสะกิดใจอยู่ก็จะจางไป
เอาเวลามาจีบพี่ซีให้พี่ก้องดีกว่าเนาะ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
อ่อยยยยย
สงสารกัสนะ พี่เซ็นน่ะ เฮ้อออ
อะไรยังไง
ต้องติดตามต่อไป แต่ชอบใจการตัดสินใจของกัสนะ
พูดจาดี (หัวเราะ)
-
โอ้วววววววววว กัสเอ๊ยยยยย เข้มแข็งเกิ๊นนนนนนน แต่ถามว่าดีกับตัวกัสเองมั๊ยก็ดีนะ เพราะได้ 2 อย่างเลย คือบอกความรู้สึกไปทางอ้อมและพูดเพื่อหยั่งเชิงอีกฝ่ายและปกป้องตัวเองไปในตัว แต่ถามว่า เจ็บไหม ปวดไหม ปวดมาก ปวดแทนกัส ที่แบบอีกฝ่ายก็ยังคงทำเป็นไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว ไม่รู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย มันจี๊ดนะ อย่างที่บอก บอกให้ลืม แต่จะมาพัวพันทำมัยนักหนา ใครมันจะไปลืมได้ง่าย ๆ กับคนที่เรามีความรู้สึกดีมาก ๆ ด้วย พูดไม่คิดเลย ไม่คิดถึงใจของอีกฝ่ายเลย เฮ้อออออออ ทรมานจิต T_T
-
กัสพูดถูกใจเป็นที่สุด อยากกดไลค์ให้หนูกัสซักแปดล้านครั้ง
หวังอยู่ในใจลึกๆ ว่าหนูกัสจะเข้มแข็งได้แบบนี้ไปจนตลอดรอดฝั่ง
อันที่จริงแล้วอยากให้หนูกัสเลิกรักไอ้พี่เซ็นคนเฮงซวยนั่นไปซะที
เพราะถึงยังไงรักคนที่เขารักเรามันมีความสุขกว่าต้องทนเจ็บเป็นไหนๆ
แต่ก็อยู่ที่ว่ากัสจะสามารถตัดใจจากคนเฮงซวยมารักพี่หมีที่แสนอบอุ่นได้หรือเปล่า
อยากให้กัสรักคนดีๆ อย่างพี่หมีมากกว่า รักแบบคนรักน่ะนะ ไม่ใช่รักแบบพี่ชาย อิอิ
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
อ่่าาาาารู้สึกว่าจะสะเทือนอารมณ์มาก ทำเอาน้ำตาคลอไปกับกัส ที่พยายามทำตัวเข้มแข็งขึ้นมาเพื่อคุมเกม
ทั้งรักทั้งเจ็บ :o12: ถึงร้ายก็รัก ช่างเป็นคนที่หนักแน่นเหลือเกินน่านับถือน้องกัสมาก o13
แต่จริงๆ แล้วมันเป็นจุดเปลี่ยนของกัสกะเซ็นรึเปล่าหว่า o18
เซ็นคงเครียดมากน่าดู :z3:
-
รู้สึกสะใจยังไงไม่รู้
วันนี้กัสพูดได้โดนใจมากมายอ่ะ
-
กัสทำได้ดีแล้วลูก ถึงจะยังเจ็บอยู่
แต่เชื่อเถอะ สักวันมันจะหาย เริ่มต้นได้แบบนี้โอเคแล้ว
และบางครั้ง การที่เรารักเรายอมใครสักคน
มันไม่ได้แปลว่าเขาจะสามารถทำอะไรก็ได้กับเรานะ
เพราะรัก บางครั้งมันก็แค่รัก เขาได้ใจเราไป
ไม่ได้ชีวิตของเราซะหน่อย ดังนั้น น้องกัสสู้ๆนะลูก
อย่าให้ไอ้พี่เซ็นต์มันได้ใจ
ส่วน ไอ้พี่เซ็นต์ เอ็งต้องการอะไรไม่ทราบวะคะ
สับสนรึยังไง ถึงทำตัวแบบนี้...
อ่านตอนนี้แล้วหน่วงแทนกัสอะบี้
ตอนหน้าขอแบบทำร้ายไอ้พี่เซ็นต์ได้มั้ย หมั่นไส้อะ
ปล.คิดถึงเค้กกะพี่คิวจริงจัง อยากรู้ความคืบหน้าคู่นี้สุดๆ >.<
รอตอนต่อไปนะคะเบบี้
-
....พี่เซนต์อยู่ในลุคของพระเอกเลยแหละ เพราะพระเอกต้องเลวๆๆหน่อย พี่หมีดีเกินไป
....ตอนนี้ชอบกัสนะ ที่เข้มแข็ง และทำตัวอย่างที่พี่ฟ้าบอกเพื่อที่จะเป็นคนคุมเกมส์
....แต่มีความรู้สึกว่าพี่เซนต์เค้าก็ไม่ได้ฟันแล้วทิ้งอย่างที่เคยคิดนะหรืออย่างที่พี่เซนต์เค้าบอกว่า..ให้ลืมมันไป
....อ่านตอนนี้เหมือนเค้าแคร์และน่าจะเห็นความสำคัญของกัส หรืออาจจะแอบหลงรักกัส เข้าให้แล้วก็ได้
....บางทีคนที่ชอบหมาหยอกไก่กับคนอื่นไปทั่ว หยอกไปหยอกมาไปหยอกกับคนที่รู้ว่าเค้ารักตัวเองจริงเข้าให้
....มันอาจจะทำให้พี่เซนต์ฝังใจก็ได้ที่ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน บอกได้คำเดียวคู่นี้......ถึงพริกถึงขิง สนุก :laugh:
-
ไม่ผิดนะ ที่คนเราจะสร้างเกราะมาไว้ป้องกันจิตใจของตัวเอง :กอด1:
ถึงแม้จะเป็นแค่เกราะหลอกๆก็เถอะนะกัส :เฮ้อ:
-
ทำไมสงสารเซ็นละทีนี้ ...นี่เราเป็นอะไรไป
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เข้มแข็งไว้นะกัส o13 มันต้องเข้มแข็งอย่างนี้
ถึงในใจจะเจ็บแค่ไหน แต่ถ้าทำได้มันจะรู้สึกดีขึ้น
แรกๆมันก็จะเจ็บแบบนี้แหละ
แต่ทำไมเรารู้สึกว่าพี่เซ็นมันเป็นพระเอกอะ 55555
-
กัสเก่งมากจ้า :z2: กระโดด +1 หวังว่า พี่เซ๊นต์ คงไม่แอบหลงรักกัส แต่ยังไม่เชื่อความรู้สึกตัวเองใช่ไหม ประมาณนี้ใช่ป่ะ :z2: :z2:
-
ถ้าจะจบแบบไม่ได้เป็นกัน ทั้งพี่เซ็น ทั้งพี่หมี เราก็ว่าดีนะ
ตอนนี้สงสารกัสมาก ไม่เข้าใจพี่เซ็นคิดอะไรอยู่
-
o13 เยี่ยมมากกัส
ถึงแม้เราจะอ่อนแอแต่อยาให้เขาเห็น
:pig4: คะ
-
:เฮ้อ: พี่เซ็นอยากจะทำอาไรก็ชัดเจนหน่อยดิ. พี่หมีมาปลอบกัสเร็ววววว
-
สู้ๆ นะ กัส :กอด1:
-
ป๋าเซ็นเงินหนักดีจังเลยนะจ๊ะ..........กัสน่าจะจัดให้เยอะๆหน่อยยย
เข้มแข็งขึ้นแล้ว......ต่อไปนี้ก็สู้ตายยยยย
เฮียคิว.....แค่ชื่อโผล่มาก็สยอง o18
-
แล้วตกลงเซ็นคิดยังไงเนี่ยะ ไม่ยอมพูดสักคํา :เฮ้อ:
-
ตอนแรกก็เหมือนจะดี นึกว่ากัสเข้มแข็งขึ้นแล้ว
แต่มาติดตรงประโยคสุดท้าย ไหงถึงยังอ่อนแอเหมือนเดิม หรืออาจจะยิ่งกว่าเดิมอยู่ล่ะ
ยังไม่อยากประเมินอิตาเซ็นตอนนี้ เพราะจำเลยยังไม่ได้ให้การในชั้นศาล
ที่ผ่านมามีแต่ฟังความโจทย์ฝ่ายเดียว แต่ตราบใดที่จำเลยยังไม่ยอมปริปากพูด
ตราบนั้นความผิดทั้งหมดก็ยังคงตกอยู่กับจำเลยแต่เพียงผู้เดียว
-
กัสเข้มแข็งไว้ลูก
ชอบกัสโหมดนี้จัง
-
ว่าแล้วเชียวคลื่นลมมักจะสงบก่อนที่พายุจะมา แต่ก็ดีแล้วละที่พูดแบบนั้นออกไป กัสควรจะปกป้องตัวเองได้แล้ว เราเจ็บมามากพอแล้วไม่ควรจะเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องอีก เจ็บวันนี้ดีกว่าต้องทนอย่างไม่มีกำหนด บางทีคำพูดพวกนั้นอาจจะทำให้พี่เซ็นคลายเหตุผลของทุกอย่างที่ตัวเองทำก็ได้ หวังว่ามันจะถึงจุดเปลี่ยนของคู่นี้ซะทีนะ ถ้าเค้าชอบเราจริงยังไงเค้าก็ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามเราแน่ เพราะงั้นเข้มแข็งเข้าไว้นะกัส คนอย่างพี่เซ็นคงต้องรอให้สูญเสียก่อน
-
กัสสู้ๆ ถึงจะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดที่พูดออกไป แต่มันก็อาจจะทำพี่เซ็นคิดอะไรได้บ้างนะ ว่ากัสไม่ใช่ของตายที่พี่เซ็นคิดจะทำอะไร ยังไงก็ได้
กด + ให้คนเขียนค่ะ
-
กัสนายแน่มาก o13 o13 o13
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:m15:
กัส เข้มแข็งไว้ลูกเอยยย
พี่เซ็นเองก็เงี่ยย ทำไรให้มันแน่นอนมั้งสิ
สงสารกัสบ้างเหอะนะ
แต่ยังไงก็ยังเชียร์ พี่เซ็น-กัส อยู่ดี เห้ออออ
เหนื่อยใจตัวเอง :เฮ้อ:
-
อย่างนี้แหละถูกต้องที่สุดแล้ว แต่ทำให้ได้ตลอดล่ะ อย่าให้พี่เซ็นได้ใจว่าสุดท้ายก็ไปไม่รอด
-
เฮ้อ !!!!!
กัส พูดประชดไป แต่ก้อเสียใจเอง
คนอย่างนายเซ็นจะรู้สึกรึป่าวเนี๊ยะ
รอลุ้นครับบ เอาใจช่วยนะกัสสส
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ไม่ผิดหรอกที่เราจะปกป้องความรู้สึกตัวเองไม่ให้เจ็บ
กัสเข้มแข็งกว่าที่คิดนะทั้งที่ตัวเองก็เจ็บที่ทำเหมือนไม่แคร์
แต่ทำไมเรารู้สึกสงสารพี่เซ็น นิดๆนะ
บวกเป็ดให้จ้า :กอด1:
-
o13 o13
มันต้องอย่างนี้
-
ตอนนี้กัสเลือกทางที่จะเดินได้แล้วสินะ
ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ที่ตัดสินใจได้
เพราะสุดท้ายก็หันหลับมามองตัวเอง อดีตที่ผ่านมาเป็นยังไง
และอนคตที่ต้องการคืออะไร
คราวนี้ก็มาดูว่าทั้งเซ็นและหมีจะทำให้การตัดสินใจของกัสไขว้เขวได้แค่ไหนสินะ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดี ๆ มาให้อ่านะครับ :man1:
-
เซ็นคิดยังไงกันแน่
-
:monkeysad:
:pig4:
-
ว้าวๆมันต้องอย่างนี้กัสน้อย จัดไปเลย o13
แต่เราก็ยังเชียร์เซ็นต่อไป :z2:
-
:laugh: :laugh: :laugh:
มันต้องอย่างนี้ซิกัสสจางงงงงงงงงงงงงงง
เราจะต้องคุมเกมมมมมมมมมมมมม
-
เป็นอีกตอนที่ต้องบอกว่า ซะใจมาก o13 o13 นี่แหละคือสิ่งที่อยากให้กัสพูกมานานแล้ว เราต้องคุมเกมให้ได้ สู้ๆ
-
กัสเข้มแข็งไว้นะ
-
อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจน้องกัสมากขึ้น น่าสงสารจัง แต่อยากให้สู้ สู้ ไม่เชียร์ใคร เชียร์น้องกัสคนเดียว เข้มแข็งไว้น้อง o13
-
ทำดีที่สุดแล้วกัส
-
:man1: กัสโหมดนี้สุโค่ยมาก
เพราะผู้ชายแบบพี่เซ็นต้องเจอแบบนี้แหล่ะ
-
เข้าใจนะ กัส
แต่ไม่เข้าใจเซ็น
ทำแบบนี้เพราะอะไร
-
พี่เซ็น จะคิดอะไรได้บ้างมั้ยนะ :z10:
ขอบคุณเบบี้น๊า รออ่านตอนต่อไปครับ :L2:
-
ต้องได้อย่างนี้ซิน้องกัส
กดไลค์เลยจ้า o13
-
กัสเก่งมากเลย o13
-
ชอบที่กัสพูดนะ
เซ็นก็เนอะบอกให้กัสลืมแต่ก็ชอบมาทำให้หวั่นไหวอีก
-
ไม่ใช่เซ็นไม่รู้สึกอะไรหรอกนะ เซ็นก็แค่แสดงออกในแบบของเซ็น
-
รักกัสมาก กัสเข้มแข็งมาก เก่งมาก (เหมือนชมเด็กเลย555)
กัสน่ารักมากจริงๆน้า ต้องเจอคนอย่างพี่เซ็นนี่หละมันดี555
พี่เซ็นก็ ทำตัวดีๆได้แล้วม้างงงง
-
กัสสุดยอดมาก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! o13 o13
ว่าแต่มันมีด้วยหรอ ซื้อก่อนลองอะ?? 555
ขอบคุณที่อัพนะคะ รออ่านต่อไปค่ะ ^^
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
:serius2:
-
ตอนนี้กลายเป็นว่าปากแข็งแต่ใจอ่อนด้วยกันทั้งคู่
แต่กัสครับไปพูดจาแบบนี้จะดีหรอ อิพี่เซนมันยิ่งนิสัยบ้าๆบอๆ(ชอบแกล้ง)
ตอนหน้านู๋กัสอาจจะโดนอิพี่เซนจับ :oo1: อีกก็เป็นได้ :-[
-
อิพี่เซ็น โดนกัสว่าซะบ้างก็ดี
ไม่คิดถึงความรู้สึกกัสบ้างเลย!!
-
อืม............มันต้องอย่างนี้ o13
-
น้องกัสพยายามจะเข้มแข็ง ...
-
กัสจัง สู้ o13
-
อย่าพยายามเข้าใจเขา
เข้าใจเรา..ก็พอ
ถ้าจะเจ็บ ก็ให้มันเจ็บเพราะเราเอง..นะกัส
อย่าให้ไอ่พี่เซ็นมันบงการ..ห่วยยยย
ขอบคุณ เบบี้
-
สงสารกัสจังเลย เจ็บปวด.. :monkeysad:
-
กัสสู้ๆ เซ็งพี่เซ็นจริงๆ
-
:z3:
-
การที่พี่มาทำแบบนี้..ก็ควรจะเห็นใจกัสบ้าง ขอให้เชื่อ..ว่าทุกการกระทำของกัสก็กำลังเห็นใจพี่อยู่ ถ้าพี่จะมาทำเป็นสงสารกัสละก็..รบกวนช่วยกลับไปสงสารตัวเองก่อนดีกว่าไหมฮะ”
โดนอย่างแรง
-
กัสสสสสสสสสสสสสสสสสส (Y)
สุดยอดๆ ตอนนี้ก็เหลือแค่พี่เซ็นแล้วนะว่าจะทำยังไงต่อไป..
ถ้าไม่ทำอะไรอีกล่ะก็ เราจะเชียร์พี่หมีแล้ว =3=
-
สงสารกัสจังแต่ดีแล้วที่เข้มแข็งแบบนี้ พี่เซ็นมันต้องเจอแบบนี้แหละ o13
-
o13 o13 กัสเยี่ยมมากกก เราต้องคุมให้อยู่ อย่าเอียงไปกับพี่เซ็นหมด
ค่อยๆๆคิดค่อยๆๆทำ อย่าไปยิม ชอบจังเลยยพูดออกไปตรงๆๆแบบนี้บ้างจะได้สบายใจขึ้น
รอลุ้นนนกับความคิดของกัสมากกก ว่าตกลงจะยังไงๆๆ แต่เค้าเชียร์พี่หมีนะ :impress2: :impress2:
-
ชอบกัสตอนนี้ ถึงจะยังเข้มแข็งไม่พอ แต่กัสก็ยังรักตัวเอง... และถ้าพูดถึงขนาดนี้แล้วเซ็นมันยังไม่รู้สึก ก็ช่างหัวเซ็นเหอะ
เราไม่เชียร์เซ็น เราไม่เชียร์หมี เราเชียร์กัส!!! :man1:
ปล. แอบจิ้นไปไกลว่าคิวอารมณ์ดีเพราะมีเรื่องกิ๊กกิ้วกับเค้ก :oo1: ประกอบกับที่บอกว่าเค้กเดินมาเป็นซากศพ เราก็คิดว่าใช่ ที่ไหนได้เจอประโยคถัดไป เซ็งเลย :serius2:
:pig4:เบบี้ :กอด1:
-
:m15: :m15: :m15:
-
เด็ดมากน้องกัส....ว่าแต่ว่าคนอย่างเซ็นมันจะรู้ตัวไหมเนี้ยะ :เฮ้อ:
-
ชอบ ชอบ จัดไปน้องกัส ด่าให้อีพี่เซ็นมันรักมันหลงกันไปเล๊ยยยยย o13
สรุปที่พาน้องไปช็อปนี่เพราะอะไรอีพี่เซ็น ทำตัวดีดีหน่อยเค้าเชียร์อยู่อ่ะ :-[
-
สู้ๆนะกัส
:pig4:
-
สะใจมากกกกก สำนึกมั้ยคะ อิพี่เซ็น
น้องกัสสู้ๆๆ :กอด1:
:pig4:
-
กัสนู๋เยี่ยมมาก o13
-
ไม่อยากให้กัสเลิกรักพี่เซ็น แค่อยากให้น้องดึงตัวออกห่างเพื่อสร้างระยะให้พี่เซ็นรู้สึกตัวก็พอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับเบบี้ว่าจะเขียนให้ตัวละครไปทางไหน
เพราะไม่ว่าจะจบแบบสองคนได้รักกัน หรือกัสจะคู่กับพี่หมี หรือกัสจะไม่เลือกใครเลยก็ดูสมเหตุสมผลทั้งหมด
ตอนนี้ก็ได้แต่รอคอยอย่างหวาดหวั่นว่าจะจบลงยังไงเพราะลึกๆ ก็ยังหวังว่ากัสจะได้คู่กับพี่เซ็นอยู่ดี เฮ้ออออ
-
ให้กำลังใจกัสและเข้มแข็งขึ้นนะครับ สู้ๆๆ :3123:
-
บางครั้งคนเราก็รู้สึกดีกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเอง แต่มันก็ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
เพราะเมื่อวันหนึ่งเกิดคิดได้ว่า สิ่งที่เป็นตัวเองต่าง หากที่ทำให้มีความสุข
(thank. For spiderman. 3) :-[
เป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดี รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาแบบนั้น
บางทีการพูดจาให้ชัดเจนตรงกับความรู้สึกจริงในใจก็อาจจะง่ายกว่าไม่พูดแล้วให้เข้าใจเองนะ ไอ้พี่เซ็น
เค้าสงสารกัสอ่ะ :o12:
-
ชอบทุกคู่เลยเรื่องนี้ รักเค๊กเอือมพี่คิว ( แต่ลึกๆเรารักนะ) :กอด1: หมั่นใส่พี่ฟ้าแต่ปลื้มพี่ทิ๊กเกอร์ (ที่จริงเราก็อยากเป็นพี่ฟ้านะผัวรวยฮ่าๆๆ)
แต่คู่กัส พี่เซ็นและพี่หมีนี้ดิ เฮ้อ ขอละอย่า 3 P เลย :z6: แล้วก็อย่าให้กัสต้องโดดเดี่ยวไม่เลือกใครเลยครับ :sad4: เจอแบบนั้นแล้วกระผมปวดตับ ฮ่าๆๆ มันเศร้าเกิน แบบอ่านมาตั้งนาน ตอนจบ อืม.......... นะ ปวดตับจริงๆ
แล้วก็ชอบมากครับเรื่องนี้เรื่องพี่กัสจบขอคู่เค๊กอีกนะครับรอจิ้นอยู่ครับ :haun4:
-
ดีมากน้องกัสเอ้ย มีตีกลับบ้างแบบนี้
อย่าไปคิดแทนว่าคนฟังมันจะรู้สึกจะเข้าใจมั้ย (เรื่องนั้นช่างหัวมัน)
แค่เราได้ระบายออกไปบ้าง.....พอ
-
สงสารพี่กัสจัง
ไอ้พี่เซ็นคนเฮงซวย
-
พูดไม่ออกเลย o22
-
ความรู้สึกของ พี่เซ็น น้องกัส พี่หมี ใช้เพลงเม้นแบบมั่ว ๆ :laugh:
พี่เซ็น.....
หากไม่รู้สึกอะไรกับกัสอย่างที่บอกกับกัสจริง ๆ ทำไมแค่ท่าทีของน้องที่เปลี่ยนไป พี่เซ็นเหมือนเป็นเดือดเป็นร้อน
หรือนี่คือสิ่งที่พี่เซ็นรู้สึกและอยากบอกกัสในตอนนี้
http://www.youtube.com/watch?v=0c1i-6idFo0&feature=related
น้องกัส...
ความหวังที่ใกล้...จะหมดลง
http://www.youtube.com/watch?v=u_JKbcH9dwk&feature=related
พี่หมี....
ความรักที่พยามแค่ไหนก็ยังคงส่งไปไม่ถึง
http://www.youtube.com/watch?v=l0wpWSQI9ZM&feature=related
มั่วได้ตลอดอ่ะกรู :laugh5:
-
ดีแล้วกัสเข้มแข็งเข้าไว้
ทำให้พี่เซ็นเขารู้สำนึกซักที
-
มายกอททททททททททททเบบี้ค๊า
ถูกใจถูกคำพูด ทุกประโยคของน้องกัสเลยยยย น้องกัสสสสของพี่??? 5555
อยากรู้ว่าพี่เซ็นจะคิดอะไรกับที่น้องกัสพูดบ้างไหม เฮ่ออออออออออออออ
ขอบคุณเบบี้นะค่ะ มันกำลังเข้มข้นมากๆๆๆๆๆๆเลย รอตอนหน้าค่ะ ^_____________________^
:กอด1: :pig4: :L1:
-
ความรู้สึก กับ การแสดงออก แม้จะไม่ตรงกับความรู้สึกเท่าไร
แต่เวลาจะช่วยได้ ความเข้มแข็งมีอยู่ในตัวของทุกคน เมื่อถึงเวลามันจะออกมาเองแหละ
สุขปนเจ็บ สำหรับตอนนี้ของกัส ส่วนนายเซ็น คงสะดุ้งบ้างล่ะ ถ้ายังมีความรู้สึกอยู่นะ :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ :กอด1:
-
เข้มแข็งแข้าไว้นะน้องกัส
ให้ไอ้พี่เซ็นมันรู้สึกซะบ้าง
แต่แอบเชียร์ 3P ไปเลยดีมั้ย 555
-
ได้กับพี่หมีเถอะ เพลียหัว ค ว เอ๊ยยยยยย จ๋ายยยย :z3: :z3: :z3: :z3:
-
อึ้งไปเลยไม๊ล่ะ เซ็นเอ๋ย :a5: :a5:
-
เศร้าจังเลย :m15: :m15:
แต่...สู้ต่อไปนะน้องกัส สักวันทุกอย่างจะดีขึ้นแน่นอน :กอด1: :กอด1:
-
น้องกัสสส ไปด่าอิพี่เซ็นทำไม? กระทืบเลยดีกว่า :angry2:
ด่าแล้วก็รู้สึกแย่ แล้วเดี๋ยวก็อยากขอโทษ แล้วเดี๋ยวก็ยาววววว :z3:
-
กัสเข้มแข็งไว้ !!
-
ปกติหมั่นไส้กัสมาตลอด แต่ตอนนี้ทำแบบ
แม่เจ้าโว้ยยยยย กัสแรงมาก ถูกใจมาก ต้องอย่างนี้สิ! สะใจที่สุดดดดดดดดดดดด o13
-
มารอให้กำลังใจกัสกับเดซ็นต่อค่ะ. และที่สำคัญก็ต้องคนเขียนค่า :mc4:
ขอให้มีฟามสุขในการทำงาน เหมือนเรื่องต่างๆ ที่เขียนออกมาแล้วทำให้คนอ่านมีความสุข :impress2:
สาธุ :call:
-
ที่จริงก็น่าจะลองคุยกันดีๆก่อนนะ บางทีไม่พูดไม่บอกเหตุผลออกมาอีกฝ่ายก็ไม่เข้าใจหรอก
ถึงจะแอบสะใจที่พี่เซ็นโดนด่าเผื่อจะทำอะไรที่มันชัดเจนขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้กัสเป็นแบบนี้เลย
-
กัสจ๋า เข้มแข็งไว้นะ ทำตามคำแนะนำของอาฟ้านะดีแล้ว
พี่เชื่อว่าสักวันหนึ่งพี่เซ็นต้องทำอะไรที่ชัดเจนกว่านี้แน่นอน
-
ดีิใจมากที่ได้อ่านทันกะชาวบ้านซะที ไม่ค่อยอ่านเรื่องท่ี่ยังไม่จบ นอกจากว่าจะหลงเข้าไป. :z3: แล้วชอบ
แต่เรื่องนี่้ขอบอกตามตรงว่าตั้งใจจริงๆ ดีใจที่จะได้อ่านแล้วก็เม้นทีละตอนๆ ไปพร้อมๆ กับทุกคน
การติดตามอะไรที่ถูกใจบางครั้งก็ทำให้รู้สึกว่า การรอคอยก็ไม่ได้แปลว่านานนะ เท่าไหร่ก็รอได้ ประมาณนั้น o18
กลับไปอ่านภาคเค้ก คิวอีกรอบรอ ได้ดูละครหลังข่าวช่องหลายสีวันนี้ พี่โดมหล่อเทพมาก :impress2: ทำให้เกิดอาการตาพร่าไปชั่วขณะ จนมีการซ้อนทับระหว่างพี่โดมกะพี่คิว เอ๊ อ๊ะ ! ท่าจะเป็นเอามาก :z6: สงสัยต้องไปพบจักษุแพทย์ซะแล้ว (หุ หุ ขอจิ้นนิ๊สสสสนึง). :z2:
หมายเหตุ ว่างทุกวัเลยเข้ามาทุกวัน เหอๆ. :z2:
-
~10~
วันอาทิตย์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
วันนี้ผมมาที่ร้านตั้งแต่เช้า เห็นว่าวันนี้ลูกค้าจากต่างประเทศที่เป็นคนรู้จักของพี่ฟ้าจะมาทานอาหารที่ร้านของเราด้วย วันนี้เค้กกับรุจเลยต้องมาช่วยงานทั้งที่ไม่ใช่เวรประจำ ด้วยตัวหลักอย่างพี่หมีไม่ได้มาทำงานเพราะขอลาหยุดหนึ่งวัน เนื่องจากว่าลูกค้าที่พี่หมีได้ไปเสนอผลงานไว้เขาเลือกให้พี่หมีทำโปรเจคนี้ให้นะครับ ซึ่งพี่ฟ้ายอมอนุญาตให้ลาเพราะเนื่องจากพี่ฟ้าทราบว่าลูกค้าคนนี้จะจ่ายให้พี่หมีหลายแสนทีเดียว
“เปล่าหรอกครับ” ผมชะงักเมื่อได้ยินเสียงของผู้ชายที่คุ้นหูเป็นอย่างดี ผมเหลือบหันไปมองเห็นพี่เซ็นนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่สวนตรงข้างร้าน ก็เข้าใจว่าเตรียมงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้วแต่นิสัยแบบนี้นี่ก็ยังไม่ชินเสียที
“หึ..ทำไมเชียร์พูดอย่างนั้นล่ะ” ผมยืนนิ่งอย่างตั้งใจฟัง ถึงแม้สายตาของผมจะคล้ายเลื่อนลอยแต่ผมก็ยังมีสติที่จะรับฟัง
“เซ็นเปล่า จริงๆครับ..เชื่อเถอะน่า จับผิดกันอยู่ได้” พี่เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงล้อเล่นเช่นเคย ผมได้แต่อมยิ้มให้กับผู้ชายไม่เอาไหนคนนี้ ไม่รู้ว่าที่กำลังพูดไปนั่น..พูดจริงหรือพูดขอปัดไปทีกันแน่
“เซ็นไม่รู้ อย่าบังคับกันได้ไหมครับ” พี่เซ็นบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจก่อนจะเงียบไปสักครู่หนึ่ง
“ไม่ค้าบ หึ..อย่างนั้นก็ทำให้ไม่ได้หรอก เซ็นไม่ได้พูดเล่นนะ” พี่เซ็นพูดแกมหัวเราะ
“เฮ้อ..เชียร์น่ะสวยที่สุดอยู่แล้วละครับ ทำไมต้องให้เซ็นพูดซ้ำๆด้วย” อีกฝ่ายบ่นด้วยน้ำเสียงขี้เล่นอย่างเคย
“ก็เซ็นกะล่อนหนิ ก็รู้ไม่ใช่รึไง..ถ้าไม่เชื่อ งั้นจะให้เซ็นพูดทำไมอ่ะ ฮ่าๆๆ” ผมเดินไปเปิดประตูหลังร้านเพราะไม่อยากยืนฟังอีกแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่อเห็นพี่คิวเดินออกมาจากประตูหลังร้านพอดี พี่คิวเหลือบสายตามามองผมนิ่งๆก่อนจะมองไปตามเสียงร่าเริงจากคนที่นั่งคุยโทรศัพท์อยู่ตรงสวน
“..................” ผมหลบสายตาของพี่คิวเล็กน้อยก่อนจะเดินแทรกตัวผ่านพี่เขาเข้าไปในร้าน ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อนำไปเช็ดทำความสะอาดโต๊ะอย่างเงียบๆ ผมต้องการใช้ความคิดสักครู่หนึ่ง ดีหน่อยที่วันนี้ทุกคนทำงานกันอย่างค่อนข้างเงียบ สงสัยทุกคนต่างก็มีเรื่องให้คิดต่างกันไปละมั้งครับ ต่างฝ่ายเลยไม่ค่อยมีอารมณ์จะมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของคนอื่นเสียเท่าไหร่
“นี่” ผมชะงักหันไปมองพี่คิวที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
“ครับ” เค้กขานตอบ
“ช่วยชงกาแฟให้หน่อยสิ” อีกฝ่ายพูดหน้าตาย ผมกับพี่ซีได้แต่ยืนมองยิ้มๆ
“ห๊า” เค้กอุทานเสียงหลงพร้อมกับอ้าปากค้าง ถ้าเค้กจะตกใจหรือก็ไม่แปลก ลิ้นระดับมาตรฐานที่ได้รางวัลบาริสต้ามาหลายรางวัลอย่างพี่คิว ถ้ารสชาติเพี้ยนนิดหน่อยก็คงทราบแน่ๆซึ่งแน่นอนละครับว่าคงไม่ค่อยมีใครอยากลองเสี่ยงชงให้พี่เขาดื่มเท่าไหร่ โดยเฉพาะผมด้วย
“กาแฟดำธรรมดาน่ะชงเป็นไหม” พี่คิวพูดหน้านิ่งจนผมเองก็ไม่ทราบว่าพี่เขากำลังมีอารมณ์แบบไหนอยู่
“เอาไปให้ด้วย” พี่เขาสั่งส่งๆก่อนจะเดินไปทางห้องพัก แต่ขณะเดียวกันสายตาของพี่คิวก็มาปะทะกับสายตาของผมเข้าพอดี..เราจ้องกันอยู่ครู่หนึ่ง ผมไม่กล้าหลบสายตาพี่คิวสักเท่าไหร่เพราะพี่เขาเล่นมองผมไม่วางตาแถมนิ่งจนดูน่ากลัว
“มีอะไรจะพูดรึไง” พี่คิวถามขึ้นทำให้ทุกคนหันมาจับจ้องผมเป็นตาเดียว สงสัยพี่คิวคงจะรู้แล้วว่าตอนนี้ในใจผมกำลังมีอะไร
“ป..เปล่าครับ” ผมรีบส่ายหัวตอบ พี่คิวแสยะยิ้มนิดหน่อยแล้วเดินเข้าห้องพักไป
“มีอะไรงั้นเหรอกัส” พี่ซีถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ฮะ..อะไรครับ หน้ากัสเหมือนมีอะไรงั้นเหรอ” ผมพูดติดตลก พี่ซีอมยิ้ม เค้กเองก็ด้วย
“เอ่อเค้ก” ผมเรียก
“ครับ”
“วันนี้..พี่คิว โอเคป่ะ” ผมถามออกไปด้วยความระแวงนิดหน่อย ที่จริงผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่คิวเยอะแยะไปหมด แต่ผมไม่มีโอกาสและไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี หลังจากวันที่พี่คิวมีปากเสียงกับพี่เซ็นและพี่หมีที่หลังร้านในวันนั้น พี่คิวก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักนิดเดียว จนทำให้ผมไม่กล้าที่จะเข้าไปถามรายละเอียดอื่นๆที่อยากจะรู้มาตลอด บางทีถ้าผมได้รู้อะไรมากขึ้นกว่านี้ผมอาจจะตัดใจได้เร็วขึ้นก็เป็นได้
“ก็ไม่มีอะไรนะครับ พี่เค้าแค่เหนื่อยนิดหน่อย..เห็นว่าไม่ได้พักผ่อนมาหลายคืนติดแล้วน่ะครับ” เค้กยิ้มตอบน้อยๆ
“งั้นเหรอ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ที่จริงพี่กัสมีอะไรจะคุยงั้นสินะครับ” เค้กพูดเหมือนทำเป็นรู้ใจผมอย่างนั้น ผมอมยิ้มตอบเล็กน้อย
“งั้นพี่ขอคุยกับแฟนเค้กแป๊บนึงได้ไหมล่ะ” ผมถามไปอย่างนั้นเองเพราะไม่รู้จะย้อนตอบน้องมันอย่างไร
“หึ..เค้กไม่มีสิทธิ์อนุญาตขนาดนั้นหรอกครับ” เค้กยิ้ม เป็นคำพูดที่ดูเรียบไร้น้ำเสียงประชดประชัน มันบอกได้ว่าเด็กคนนี้เจียมตัวเองมากแค่ไหน เพราะถ้าเป็นผมละก็คงไม่สามารถพูดแบบเค้กได้แน่
ผมพยักหน้าให้เค้กเล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูห้องพักของพี่คิว ผมยืนอยู่หน้าประตูอยู่นานด้วยกำลังลังเลว่าจะเข้าไปดีหรือไม่เข้าไปดี ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีเพราะพี่เซ็นคงยังคุยโทรศัพท์อยู่ ถ้าผมไม่ขอพี่คิวคุยตอนนี้ผมก็คงจะไม่มีโอกาสได้ถามอีก
ก๊อก ๆ ๆ
“เอ๊ะ เค้ก” ผมปรามเค้กด้วยความตกใจที่อยู่ๆเค้กก็เดินมาเคาะประตูห้องแทนให้ผมซะเฉย
“ก็พี่กัสยืนจ้องนานอ่ะ” เค้กบ่นก่อนจะเดินไปทำงานต่อ
“บ..บ้า” ผมหันไปว่าเค้กอย่างเขินๆก่อนจะทำใจเปิดประตูห้องเข้าไป
“เอ๊ะ” ผมอุทานด้วยความแปลกใจ หยุดนิ่งยืนอยู่ตรงปากประตูเมื่อเห็นพี่คิวนอนเอนกายด้วยท่าทางสบายอยู่บนโซฟา พี่เขาลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเหลือบมามองผม
“กาแฟรึไง” อีกฝ่ายพูดเป็นเชิงถาม ทั้งทั้งที่ก็เห็นว่าผมมามือเปล่าแต่ก็ถามแบบนี้..เหมือนต้องการประชดการกระทำของผมที่ปากไม่ตรงกับใจเมื่อกี้ละมั้งครับ
“เปล่าครับ” ผมตอบเสียงเบาและดันประตูห้องปิดให้สนิท
“เชฟนอนในเวลางานได้ด้วยเหรอฮะ” ผมถามด้วยรู้สึกไม่เข้าใจเพราะปกติถึงเหนื่อยอย่างไรพี่คิวก็จะไม่มาแอบหลับอย่างนี้ ถ้าเป็นพี่เซ็นรึก็ว่าไปอย่าง..
“หึ..” พี่คิวหัวเราะแค่นั้นเหมือนไม่ต้องการอธิบาย พี่เขาอมยิ้มเล็กน้อยอย่างรู้ว่าผมต้องการอะไรก่อนจะลุกขึ้นนั่งลูบหัวลูบหน้าของตัวเองอย่างต้องการปรับอารมณ์
“นั่งสิ” พี่คิวบอก ผมผงกหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาตัวข้างๆ
“................” ห้องเงียบสนิท อยู่ๆผมก็มีความคิดผุดขึ้นมาว่า “ไม่น่าเข้ามาเลยอ่ะ” แง่ง..(-_-)
“เดี๋ยวมาแล้วกัน เดี๋ยวไก่ตื่นซะก่อน” พี่คิวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะลุกแล้วเดินออกจากห้องไป ผมนั่งฟังอย่างไม่เข้าใจว่าพี่คิวหมายถึงอะไร แต่น่าจะหมายถึงพี่เซ็นหรือเปล่าไม่ทราบ พี่คิวเดินออกไปประมาณห้านาทีพี่เขาก็เดินกลับมาพร้อมกับล็อกประตูห้องให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โซฟาตัวเดิมพร้อมกับถ้วยกาแฟในมือ
“ไง” พี่คิวเอ่ยไม่ได้มองหน้าผม
“ฮะ” ผมตอบ
“หึ..” อีกฝ่ายหัวเราะเหมือนขำท่าทีของผมอย่างนั้น พี่คิวยกแก้วกาแฟขึ้นจิบก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะอย่างช้าๆ
“เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง กำมือเข้าหากันด้วยต้องการควบคุมอารมณ์ของตนเองให้คงที่และกำลังคิดว่าควรจะเริ่มตรงไหนก่อนดี
“เมื่อวานไปกับไอ้เซ็นมาสินะ” พี่คิวชิงพูดก่อน ผมพยักหน้าตอบเล็กน้อย
“แล้วยังไง” พี่เขาถาม
“ไม่รู้ฮะ” ผมตอบเสียงเบา
“งั้น..แล้วเข้ามาทำไม” พี่คิวบ่นปนหัวเราะ ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“พี่เซ็นเป็นแฟนกับพี่เชียร์เหรอครับ” ผมโผงถามออกไป พี่คิวเลิกคิ้ว หันมาจ้องหน้าผมก่อนจะหันกลับไปจ้องแก้วกาแฟตรงหน้าตน พี่เขาเงียบไปครู่หนึ่งแต่เป็นเพียงครู่เดียวที่ผมรู้สึกว่ามันนานมากเพราะผมกำลังตื่นเต้นกับการรอคอยคำตอบน่ะสิครับ
“เปล่า” พี่คิวตอบ ผมรู้สึกโล่งอกในทันทีทั้งทั้งที่เมื่อวานปากก็ต่อว่าพี่เขาไปว่าจะตัดขาดแล้วแต่ก็ยังมารู้สึกโล่งอกอยู่ดี
“งั้นเหรอครับ”
“ถ้าอยากรู้แค่นี้ก็ออกไปเลยได้ไหม อยากนอนน่ะ” พี่คิวพูดเสียงเรียบ
“อ๊ะ พี่คิวอ่ะ!” ผมขึ้นเสียงอย่างงอนๆ..ไม่รู้ว่าพี่เขาพูดแกล้งหรือพูดจริงแต่รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยนะครับ พี่คิวยิ้มตอบให้ทำให้ผมคิดว่าพี่เขาคงจะพูดเล่นละมั้ง
“หลังจากวันนั้น เอ่อ..พี่เซ็น พูดอะไรกับพี่คิวบ้างไหมครับ” ผมถามตะกุกตะกัก
“ก็..นิดหน่อย” พี่คิวตอบส่งๆ
“คนอย่างมันมีอะไรให้น่าหลงรักนักรึไง” อยู่ๆพี่คิวก็เบะปากถามด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ ผมรู้สึกว่าหน้าของตนเองมีเลือดสูบฉีดขึ้นมาในทันที
“กัส ไม่ได้..” ผมอ้ำอึ้งไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไร
“เชียร์ไม่ได้เป็นแฟนเซ็นหรอก..สบายใจเถอะ” พี่คิวพูดเปลี่ยนเรื่องโต้งๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง
“แต่ก็ไม่รู้น่ะนะว่าความสัมพันธ์ลึกซึ้งยังไง เพราะพี่ไม่อยากรู้”
“พี่เซ็นเคยบอกว่า เข้ากับผู้หญิงคนนั้นได้ดีนี่ฮะ..กัสน่ะ กัส” ผมพยายามจะพูดออกไปแต่ก็ไม่กล้าพูดเต็มปาก เพราะมันจะคล้ายกับว่าผมกำลังจะพูดเข้าข้างตัวเองอย่างนั้นนะครับ
“..............” พี่คิวเงียบ จ้องผมเหมือนกำลังตั้งใจฟังอยู่นั่นยิ่งทำให้ผมไม่กล้าพู ผมเลยเงียบไม่คิดจะพูดต่อ พี่คิวถอนหายใจเล็กน้อย
“พี่รู้นะว่ามันคิดอะไรอยู่..แต่พี่แค่ไม่อยากพูด เพราะพี่พูดอะไรแทนเจ้าตัวไม่ได้” พี่คิวว่า ผมเหสายตาลงมองที่มือของตนเองด้วยรู้สึกผิดหวัง นั่นคงเพราะแท้ที่จริงแล้วผมคงกำลังต้องการความมั่นใจจากใครสักคน
“กัสรู้ฮะว่าพี่เซ็นไม่มีทางมารักคนอย่างกัสหรอก กัสรู้ครับพี่คิว..กัส รู้ ขอโทษฮะ..กัสไม่ควรถามสินะครับ” ผมพูดเสียงสั่น
“อย่าวัดค่าตัวเองต่ำอย่างนั้นสิ..พี่นึกว่ากัสจะนับถือในกับความรักของตัวเองมากกว่านี้ซะอีก คำพูดเมื่อกี้น่ะ..ดร๊อปทุกอย่างไปเลยนะรู้ไหม” พี่คิวยิ้มน้อยๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่เขาเพราะรู้สึกดีกับคำพูดนี้ ผมรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองพองโตขึ้นมาในทันทีเพราะอย่างน้อยพี่คิวก็เห็นว่าความรักของผมที่มีนั้นมีค่า
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกใช่ไหมล่ะ ที่จะรักใครโดยไม่เปลี่ยนแปลงน่ะ..ความจริงแล้ว มันไม่ค่อยมีหรอกบนโลกนี้ คนบางคนก็ชอบพูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย ที่จริง..ทำไม่ได้ด้วยซ้ำ” พี่คิวแสยะปากเหมือนสะอิดสะเอียนโลกแห่งความเป็นจริง มือของพี่เขาเลื่อนจานรองแก้วกาแฟไปทางด้านขวามือเหมือนต้องการให้แก้วอยู่ในที่ที่สมควรอยู่มากขึ้น
“คิดดีแล้วรึไง ที่เลือกให้เป็นแบบนี้น่ะ” พี่เขาถาม ผมปาดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆและไม่ทราบเลยว่ามันไหลลงมาอาบแก้มในตอนไหน พี่คิวเลื่อนกล่องกระดาษทิชชู่ที่อยู่ใกล้ตนเองมาอยู่ตรงหน้าผม ผมไม่ได้หยิบกระดาษขึ้นเช็ดน้ำตาแต่กลับหยิบกล่องขึ้นมากอดไว้อย่างต้องการเพื่อน
“กัสเองต่างหากที่ไม่เหมือนเดิม ทั้งที่พี่เซ็น..ทำเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กัสแค่..ไม่เข้าใจ ว่าบางครั้งพี่เซ็นจะมาทำดีกับกัสทำไม”
“กัสเองต่างหากที่ยังเป็นคนที่ตัดไม่ขาด ถ้ากัสเด็ดขาดกว่านี้..พี่เขาก็คงจะทำอะไรกัสไม่ได้” ผมพูด
“เซ็นมันไม่ได้คบใครมานานแล้วน่ะ” พี่คิวพูดขึ้นโต้งๆ
“ถึงมันจะคบเชียร์ออกนอกหน้าแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ..ว่าเชียร์เป็นแฟนมัน” พี่คิวถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟา
“มันไม่ยอมรับหรอก เพราะมันก็ทำดีกับทุกคนนั่นแหละ..ยิ่งถ้ามันไม่รู้สึกว่าขาดคนๆนั้นไม่ได้ มันจะไม่มีทางยอมรับเด็ดขาด” พี่คิวหัวเราะเล็กน้อย
“นั่นสินะครับ” ผมยิ้มอย่างเข้าใจ
“แต่ทุกคนก็มีขอบเขตอยู่ในตัว” พี่คิวพูดเสริม
“ทำไมกัสถึงเลือกเข้ามาถามพี่อย่างนี้ล่ะ เพราะตัดไม่ขาด..หรือเพราะยังหวัง” พี่คิวถามกลับหน้านิ่งมาก ผมชะงักเล็กน้อย
“ถ้ายังหวัง..มันก็คงต้องใช้เวลาหน่อยละนะ ไม่ใช่ว่ามันไม่รู้ความรู้สึกของกัสหรอก แต่มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่มันยังปะติดปะต่อกันไม่ติด..อารมณ์ก็คล้ายๆกับกัสในตอนนี้ละมั้งครับ”
“กัสเอง หมี..หรือว่าเซ็น ก็พอๆกันทั้งนั้น” พี่คิวว่า ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอและไม่อยากโต้ตอบพี่คิวกลับไปเพราะคำพูดของพี่คิวเหมือนรู้อะไรๆไปเสียหมด
“ถ้ากัสอยากสบายใจ พี่ก็จะบอกสิ่งที่กัสอาจจะอยากรู้ให้ ถ้าความคิดที่ว่า..ไอ้เซ็นมันรักใครไม่เป็นน่ะ มันก็คงจะไม่ใช่ทั้งหมด..” พี่คิวบอกยิ้มๆ
“มันเป็นประเภทที่ว่า เอ่อ..ไงล่ะ ถ้าคนรักเดินจากไป มันก็จะไม่เคยตาม..คงถือคติ ถ้าคนรักอยากเจอสิ่งที่รักก็ปล่อยไปประมาณนั้นละมั้ง” พี่คิวยักไหล่เล็กน้อย
“มันไม่ตามหรอกกัส..ถ้ามันไม่คิดจะฉุดรั้งเอาไว้เป็นของตัวเอง นี่คือเรื่องจริง..มันไม่เคยตาม ขอโทษด้วยที่พี่ต้องบอกตรงๆ”
“พี่คิวจะบอกให้กัสทำใจสินะครับ” ผมยิ้มเล็กน้อย
“เปล่า” พี่คิวเบะปากพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย
“คนเราต้องมีระดับลิมิตของตัวเอง พี่หมายถึงกัสเองก็ด้วย..ถ้าหมดแล้ว ก็ควรหมดเลย ไม่อย่างนั้นกัสเองก็จะต้องเป็นฝ่ายรอไปเรื่อยๆ กัสคิดว่าลิมิตของกัสคือตอนไหน เมื่อไหร่ครับ..ก็วัดมันที่ตรงนั้นแหละ”
“มั่นใจตัวเองให้มากกว่านี้หน่อยสิ นิสัยบางคน..ก็เล่นด้วยไม่ยากหรอก หึ” พี่คิวแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ผมมองอย่างไม่เข้าใจว่าอยู่ๆพี่คิวก็ปรับอารมณ์มาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
“น่าสนุก” พี่คิวพูดลอยๆก่อนจะหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง
ก๊อก ๆ ๆ
“ไอ้คิว” คนด้านนอกตะโกนเรียก ผมสะดุ้งทันทีเพราะนั่นเป็นเสียงของพี่เซ็น
“อะไร” พี่คิวขานตอบด้วยน้ำเสียงปกติและนั่งนิ่งอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ทำไรวะ มาสั่งงานกูแล้วเข้าไปอู้เนี่ยนะ..ออกมาช่วยกูเลย” พี่เซ็นบ่น พี่คิวนั่งเงียบจนพี่เซ็นคงทนไม่ไหวและเคาะประตูอีกครั้ง
“ไอ้คิว”
“คุณควรพูดให้เพราะกว่านี้นะครับ นี่มันในที่ทำงาน” พี่คิวย้อนตอบทั้งรอยยิ้ม
“ไอ้คิว!” พี่เซ็นตะโกนเรียกอีกครั้งแต่พี่คิวกลับยังคงนั่งนิ่งและอมยิ้มด้วยสีหน้ามีเล่ห์นัยตลอดเวลา ตอนนี้พี่คิวกำลังทำให้ผมคิดว่า..ผมควรจะระวังตัวเองจากพี่คิวให้มากกว่านี้
“ไอ้เชี้ยนี่” คนด้านนอกบ่นเสียงเบาก่อนจะเงียบเสียงไปในที่สุด
“มันน่ะ..เป็นประเภทที่ไม่เคยรู้ใจตัวเอง และถึงรู้..แต่ถ้าขัดกับอะไรบางอย่าง มันก็จะไม่ยอมรับ” พี่คิวพูดขึ้น
“ยากหน่อยละนะถ้ากัสอยากจะรอมันอยู่น่ะ เพราะมันก็นานมากแล้วเหมือนกันที่มันไม่ได้มีใคร..แล้วยิ่งตอนนี้ด้วยแล้ว พี่เองก็บอกกัสไม่ได้หรอกว่ามันรู้สึกกับใครยังไง” พี่คิวบอก
“ครับ ไม่เป็นไร” ผมยิ้มน้อยๆอย่างเข้าใจ
“ขอโทษด้วยนะ”
“ฮะ” ผมพยักหน้า
“พี่จะออกไปก่อน แล้วกัสค่อยออกตามไปก็แล้วกัน” พี่คิวบอกก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป
= = = = = = = =
วันจันทร์ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“เค้กคุณฟ้านี่ขายดีจริงๆเลยน้า ใครมากี่คนๆก็เรียกหาทั้งนั้น” ผมพูดขึ้น
“ต้องการจะพูดอะไรรึไง” พี่หมีพูดกลับ
“ง่ะ..ก็อยากให้เหลือบ้างอะไรบ้าง อยากกินอ่ะ” ผมบ่นทันทีเพราะพี่หมีดันมารู้ทัน
“ถ้าขายดี เราก็จะได้โบนัสเยอะๆ..ไม่ดีรึไง” พี่หมียิ้ม
“ก็ดีอ่ะ แต่ก็ไม่ได้อยากได้เท่าไหร่” ผมบอกอย่างไม่แคร์เงินอะไรพวกนั้น
“คุณหนูนี่นะ” พี่หมีเบะปากเหมือนหมันไส้ผมทำให้รุจอมยิ้มออกมา
“ลูกค้าเรียกน่ะ” พี่หมีบอกเมื่อเห็นลูกค้าส่งสัญญาณเรียกพวกเรา ผมรีบเดินตรงไปหาลูกค้าในทันที
“ขอแยมราสเบอรี่เพิ่มหน่อยค่ะ” เธอยิ้มบอก
“ได้ครับ รบกวนรอสักครู่นะครับ” ผมยิ้มบอกก่อนจะเดินกลับเข้ามาที่เคาร์เตอร์เพื่อจัดการเตรียมแยมราสเบอรี่ให้กับลูกค้า ในส่วนงานของวันนี้ผมมักจะขอทำงานส่วนนอกมากกว่าที่จะเข้าไปทำในครัว จากเมื่อวานที่ผมเข้าไปคุยกับพี่คิว คำพูดของพี่คิวยังคงวนเวียนอยู่ในหัวกลับไปกลับมาและมันทำให้ผมยังไม่สามารถตัดพี่เซ็นขาดได้อย่างที่พี่คิวว่า แต่ผมเองก็ไม่ได้ทำตัวให้ผิดสังเกตหรอกนะครับ แต่พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปในครัวมากกว่าจึงต้อนรับลูกค้าอยู่ด้านนอกซะมาก
“วันนี้พี่ไปส่งไม่ได้นะครับ” พี่หมีพูดขึ้นขณะที่เรากำลังจัดนู่นจัดนี่
“ทำไมอ่ะ” ผมเงยหน้าทำหน้างอใส่ทันที
“พี่ต้องไปจัดการคดีกับไอ้มดหน่อยน่ะ” พี่หมียิ้มตอบ ไอ้มดที่พี่หมีว่าคือน้องชายคนเล็กของพี่หมี
“พี่มดทำไมเหรอ” ผมถามอย่างอยากรู้ พี่มดอายุมากกว่าผมหนึ่งปีและเกเรมากพอสมควร พี่หมีมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน รวมพี่หมีด้วยก็เป็น 4 คน พี่มดจะค่อนข้างสนิทกับพี่หมีมากกว่าพี่ชายของพี่หมีอีกสองคน ผมคิดว่าคงเพราะพี่หมีเข้าใจพี่มดมากกว่าพี่ๆคนอื่นๆนะครับ
“ติดเอฟน่ะ” พี่หมีตอบ
“ติดเอฟ!” ผมร้องเสียงหลง พี่หมีพยักหน้ายิ้มๆ ผมคิดว่าการติดเอฟมันเป็นสิ่งที่นรกมากสำหรับผมทั้งที่ผมก็ไม่เคยได้รับอะไรแบบนั้น เพียงแค่ได้บีผมก็ว่ามันค่อนข้างโหดร้ายแล้วนะครับ (-_-)
“สงสัยช่วงนี้ติดหญิงมากไปหน่อย” พี่หมีวิเคราะห์
“เหมือนพี่หมีแหละ” ผมเบะปากใส่
“หึ..นั่นดิ” พี่หมีนำนิ้วมาดีดหน้าผากผมเบาๆ
“แต่ว่าพรุ่งนี้กัสไปนอนห้องพี่หมีนะ พรุ่งนี้กัสมีการบ้านคณิตให้พี่หมีช่วยอีกแล้วอ่ะ” ผมยิ้มกว้างเพราะต้องการอ้อน สำหรับผมวิชาคณิตศาสตร์กับผมมันไม่ใช่ของคู่กันเอาเสียเลย
“ได้ครับ..งั้นพรุ่งนี้กัสก็มาเอาคีการ์ดที่พี่ก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่จะบอกรีเซฟชั่นไว้ให้” พี่หมีบอกเพราะว่าพรุ่งนี้ผมไม่ได้มีเวรงานที่ร้านนะครับ
“โอเคฮะ” ผมทำนิ้วโอเคชูให้อีกฝ่าย
“แล้วเดี๋ยวตอนเย็นพาไปกินอาหารร้านอร่อย..ดีไหม”
“โอเคมากๆเลย” ผมยิ้มกว้างอีก พี่หมีหัวเราะชอบใจ เราสองคนชวนคุยเรื่องอื่นไปเรื่อยเปื่อยจนไม่นานพี่ฟ้าก็เดินเข้ามาเห็นพอดีและทุกคนก็โดนต่อว่าไปตามๆกัน
= = = = = = = =
-
วันอังคาร ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“อ่าว เอ๊ะ..กัส” พี่ออฟทัก ผมหยุดเดินมองหน้าพี่ออฟด้วยความสงสัยว่าพี่เขาจะทำท่าตกใจที่ได้เจอผมอย่างนั้นทำไม
“ครับ” ผมเลิกคิ้วถาม
“เอ่อ เปล่า” พี่ออฟยิ้มเล็กน้อย
“แล้วพี่ออฟจะไปไหนเหรอ”
“พี่เซ็นใช้ให้ไปซื้อของให้น่ะ” พี่ออฟตอบ
“อ๋อ งั้นเหรอ..” ผมพยักหน้ายิ้มๆ พี่ออฟยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะเดินไปที่รถยนต์ของตนเองแล้วขับออกไป ผมเดินเข้ามาทางหลังร้านและยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมพี่ออฟถึงมีท่าทางแปลกๆอย่างนั้น
วันนี้ผมต้องมาเอาคีการ์ดที่พี่หมี หลังเลิกเรียนเสร็จก็ให้คนขับรถมาส่งที่นี่ทันทีเพราะผมจะรีบกลับไปที่คอนโดของพี่หมีเพื่อนทำการบ้านวิชาอื่นให้เสร็จไว้ล่วงหน้าก่อน เมื่อผมเดินเข้ามาในร้านก็พบว่าร้านเงียบมาก ตอนนี้เกือบบ่ายสามแล้วผมคิดว่าลูกค้าที่มาทานอาหารกลางวันคงกลับกันไปหมด ผมเห็นรุจกำลังเก็บโต๊ะอยู่และเห็นพี่ซีคิดเงินอยู่ที่เคาร์เตอร์
“พี่ซีฮะ” ผมทัก
“อ่าวกัส” พี่ซีหันกลับมา
“พี่หมีอ่ะฮะ” ผมถาม
“อยู่ในห้องพักนั่นแหละ” พี่ซีตอบ
“ครับ” ผมยิ้มตอบให้ก่อนจะเดินย้อนกลับมาที่ห้องพักพนักงานอีกครั้ง
“หมีคิดว่าข้อเสนออย่างนี้ใครก็ได้มาง่ายๆรึไง” ผมผงะทันทีเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยลอดออกมาจากด้านใน ผมหยุดยืนอยู่ตรงปากประตูที่เพิ่งแง้มเปิดได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น
“แล้วอย่าบอกนะว่าไม่ต้องการน่ะ” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนรู้ทัน ผมยืนฟังอย่างไม่เข้าใจว่าพวกพี่เขากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่
“พี่ให้เวลามากกว่านี้ไม่ได้หรอกนะหมี นี่มันนานเกินไปแล้ว..” ผมตกใจเมื่อได้ยินเสียงของพี่คิวด้วยอีกคน และทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามีใครอื่นอยู่ในนั้นด้วยอีกหรือเปล่า
“ผม..ขอเวลาอีกสักพักได้ไหมครับ” พี่หมีพูด
“...............” ในห้องเงียบไปสนิท ผมยืนนิ่งอย่างกับถูกแช่แข็งคล้ายกับผมกำลังถูกปิดบังอะไรบางอย่างจากพวกพี่เขา
“ผมยังไม่อยากไปตอนนี้” พี่หมีพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เพราะกัสงั้นเหรอ” ผมแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินพี่ฟ้าย้อนด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ พี่หมีไม่ตอบอะไร
“จะหวงไว้ทำไมล่ะ ในเมื่อกัสไม่ได้รักแกสักหน่อย..หึ” พี่ฟ้าแสยะน้ำเสียง ใจผมเต้นตึกตักเพราะตอนนี้เหมือนพี่หมีกำลังถูกต่อว่าสาเหตุเป็นเพราะผม
“บอสอย่ามาเข้าข้างคนของตัวเองหน่อยเลย” พี่หมีย้อนด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ตอบกลับบ้าง
“แล้วแกไม่ใช่คนของฉันรึไง” พี่ฟ้าย้อนตอบทันทีทันใด คนในห้องเงียบลงอีกครั้ง
“อย่าพูดอย่างนี้หมี พี่ไม่เคยไม่ให้ความสำคัญกับหมีเลย” พี่ฟ้าตัดพ้อหลังจากนั้นก็ไร้เสียงตอบโต้ไปขณะหนึ่ง
“นึกว่าฉันไม่รู้อะไรรึไง หมีคิดว่าตัวเองรู้จักกัสอยู่คนเดียวงั้นเหรอ..หึ” พี่ฟ้าพูดขึ้น
“ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้” พี่หมีว่า
“ไม่พูดไม่ได้ เพราะเรื่องที่ทำให้แกไม่เดินไปไหนสักทีมันก็เพราะเรื่องนี้..เป็นเพราะกัสงั้นเหรอ เพราะกัสหรือเพราะแกกันแน่ หึ..ใครกันแน่ที่ไม่ยอมปล่อยใคร” กระทั่งผมไม่ได้เห็นสีหน้าของคนพูดแต่น้ำเสียงของพี่ฟ้าทำให้ผมทราบได้เลยว่าพี่เขากำลังพูดด้วยความไม่พอใจ พี่หมีเงียบไป
“แล้วก็คงยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับกัสสินะ รึยังไง..ถ้ากัสตกลงว่ารับรักตัวเองแล้วจะไม่ไปใช่ไหม คิดไว้แบบนั้นใช่ไหม”
“ก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้..ดันทุรังจริงๆเลยนะคุณพี่ชาย” พี่ฟ้าว่าเสียงเย็น
“บอส!” พี่หมีขึ้นเสียง ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยรู้สึกว่าคอของตัวเองแห้งผากไปหมด พี่หมีไม่เคยขึ้นเสียงกับพี่ฟ้าหรือพี่คิว สถานการณ์เช่นนี้สื่อได้ว่าทั้งเรื่องของผมหรือเรื่องของพี่หมีเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งร่างกายหยุดชะงักมันคล้ายกับว่ากำลังลุ้นอยู่ตลอดเวลาว่าพวกเขาจะพูดอะไรมากกว่านั้นอีกหรือเปล่า
“บอสพูดถูก คนที่ไม่ยอมรับความจริงมันคือหมีด้วยไม่ใช่หรือไง” พี่คิวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่บอกอารมณ์
“พี่จะบอกอะไรให้นะหมี..จะหาว่าพี่เสือกก็ได้” พี่ฟ้าถอนหายใจแรง
“ถ้าหมีรู้จักกัสดีกว่านี้ หมีจะไม่ทำแบบนี้..” พี่ฟ้าพูดน้ำเสียงอ่อนลง
“ผมรู้จักกัสดี” พี่หมีย้อนกลับเสียงแข็งไม่เลิก
“หึ..รู้ดีงั้นเหรอ ถ้ารู้ดี..หมีจะไม่มีทางพูดอย่างที่พูดกับพี่เมื่อกี้แน่” พี่ฟ้าพูดปนหัวเราะ
“กัสน่ะให้ความสำคัญกับหมี แล้วก็รักหมีมากกว่าใคร..น้องถึงไม่เคยปฏิเสธออกมาตรงๆ” ผมยืนน้ำตาคลอเพราะรู้สึกสงสารพี่หมีที่ถูกว่าตรงๆอย่างนั้น ผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าสิ่งที่พี่ฟ้าพูดไม่เป็นความจริง และผมกำลังรู้สึกเสียใจเพราะพี่ฟ้าไม่ควรพูดแบบนั้นออกไป
“คนที่กดดันน้องอยู่ลึกๆก็คือหมีไม่ใช่รึไง..ทั้งๆที่น้องรักหมีมากขนาดนี้ แต่หมีกลับทำตัวแบบนี้เนี่ยนะ..หมีคิดว่าความรักของหมีคืออะไร ตอบพี่ได้ไหม..ถ้าไม่รักก็ห้ามล้ำเส้นเกินกว่าพี่ชายน้องชายงั้นรึไง หึ..ตลกน่า ทั้งที่ตัวเองเป็นคนขอคบด้วยแต่ยังไม่เคยแม้กระทั่งบอกรักด้วยซ้ำ” พี่ฟ้าว่า ผมปาดน้ำตาของตัวเองอย่างลวกๆ
“กัสน่ะ ยังเป็นผู้ใหญ่กว่าหมีซะอีก”
“แล้วมันเพราะใครล่ะ” พี่หมีย้อนเสียงห้วน
“เพราะตัวทุกคนเอง” พี่คิวย้อนในทันทีก่อนที่ห้องจะเงียบลงอีกครั้ง
“ไม่ว่าไอ้เซ็นหรือนาย..ก็เพราะตัวเองทั้งนั้น ที่จริงแล้วไม่มีใครทำเพื่อกัสสักคน” พี่คิวพูด
“มองไปลึกแค่ไหนกันที่เห็นว่าสิ่งที่ทำนั่นเพื่อกัสน่ะ” พี่คิวพูด ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปคั่นกลางช่วยพี่หมีในตอนนี้ ตลอดมาผมไม่เคยคิดมากถึงขนาดที่พี่คิวว่าอย่างนี้มาก่อน ผมเพียงแค่ทำทุกอย่างเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างพอดีและเพื่อไม่ให้พี่หมีเองต้องเสียใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา..ผมคิดได้แค่นั้น
“หมีจะพูดเหรอว่าตัวเองดีกว่าเซ็น กำลังจะพูดอย่างนั้นใช่ไหม อะไรเหรอที่ทำให้คิดอย่างนั้นน่ะ..หึ อิจฉามันอยู่ไม่ใช่รึไง” พี่คิวว่าเสียงเย็นมากจนผมอดรู้สึกกลัวไม่ได้
“ทั้งที่กัสน่ะแสดงให้เห็นว่าตัวเองอยู่ในขั้นไหน นายเองก็ทำอย่างนั้นเหมือนกันไม่ใช่รึไง..ตีกรอบเอาความใจดีของกัสมาลองเสี่ยงดู”
“อย่าหลอกตัวเองนักเลยว่าเป็นคนดีน่ะนะ เพราะที่จริงก็เห็นแก่ตัวไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก..ทั้งคำพูดและการกระทำของนายเองก็ทำร้ายกัสอยู่ตลอดเวลา แต่นายไม่เคยเห็นมันเลย นายมองตัวนายเองเท่าที่นายอยากจะมอง..เพราะนายอยากได้ในสิ่งที่นายต้องการ คนดีจริงเค้าไม่มีทางคิดอะไรแบบนี้หรอกนะ”
“ฮึ..กำลังเกลียดตัวเองอยู่ละสิที่ดันไปเหมือนไอ้เซ็นเข้าน่ะ ยอมรับเถอะ” พี่คิวแสยะพูด ในห้องเงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงคัดค้านใดๆ..จนเวลาผ่านไปร่วมห้านาทีหรือสิบนาทีได้
“หมี..ยอมรับเถอะนะว่ากับกัสน่ะมันเป็นไปไม่ได้ เพื่อตัวหมีเองและตัวกัสเองด้วย” พี่ฟ้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“กัสน่ะ เข้มแข็งอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ต้องการให้หมีเป็นห่วง..ส่วนหมีน่ะ นอกจากเรื่องที่หวงกัสและเรื่องที่คิดว่าจะทำยังไงให้น้องหันมารัก นอกจากเรื่องพวกนี้แล้ว..หมีเคยรู้สึกไหมว่าตัวเองใส่ใจกับความรู้สึกของน้องมากพอรึยัง ถ้ามากพอมันจะไม่เป็นแบบนี้หรอก..หมีเองก็จะไม่เสียใจ ไม่ต้องรอเพื่ออะไร กัสเองก็จะไม่ต้องระแวงว่าหมีจะเสียใจด้วยรึเปล่า นี่เหรอหมี..ที่หมีให้ความสำคัญกับความรักน่ะ พี่ว่าหมีต้องมองอะไรใหม่หลายอย่างเลยนะ..พี่เข้าใจว่ามันทำยาก แต่ไม่มีใครไม่เคยไม่ฝืนทำอะไร”
“ผม..แต่ว่าผม” พี่หมีอ้ำอึ้ง ผมปาดน้ำตาของตัวเองอีกครั้ง
“ผมขอโทษ” พี่หมีพูดเสียงสั่น
“ผมไม่รู้จริงๆว่าผมควรจะต้องทำยังไง”
“ถ้าให้พี่เดานะ..” พี่ฟ้าพูด
“กัสน่ะ..คงกำลังรอให้หมีพูดออกมาจากปากตัวเอง กัสจะต้องรอคำๆนั้นจากปากของหมีเองแน่ๆ..กัสไม่มีทางทำร้ายหมีด้วยคำพูดนั้นก่อนหรอก ก็หมีน่ะ..เป็นพี่ชายคนสำคัญไม่ใช่รึไง” สิ้นคำพูดนี้ ผมรีบเดินไปบอกพี่ซีด้วยสภาพหน้าแบบนี้ว่าอย่าบอกใครว่าผมมาที่ร้านตั้งนานแล้ว พี่ซีเองก็มีสีหน้าตกใจแต่ก็พยักหน้ารับและไม่ถามอะไร ผมรีบออกมาที่หลังร้านในทันทีเพราะน้ำตามันไหลไม่ยอมหยุดไหล ผมรีบวิ่งไปอ้างล้างมือที่อยู่ตรงสวนเพื่อนำน้ำล้างหน้าล้างตาตัวเอง เมื่อผมล้างคราบน้ำตาและเช็ดหน้าเช็ดตาเสร็จเรียบร้อยผมก็พยายามเรียกสติของตัวเองอยู่สักพัก ผมยังไม่สามารถเข้าไปในร้านในตอนนี้ได้แน่เพราะอารมณ์ของผมยังไม่คงที่ ผมจะต้องทำตัวเป็นปกติไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากให้พี่หมีทำตัวไม่ถูกหรือลำบากใจอะไร รวมไปถึงไม่อยากให้เป็นห่วงที่ผมตาบวมหน้าแดงแบบนี้ด้วย
ผมยืนรออยู่ที่หลังร้านอยู่นานมากเกือบครึ่งชั่วโมง เมื่อส่องกระจกดูก็พบว่าหน้าตาทุกอย่างกลับมาเป็นปกติดีแล้ว จังหวะเดียวกันพี่ออฟก็กลับเข้ามาในร้านพอดี ผมบอกพี่ออฟไปว่าให้ทำเหมือนผมเพิ่งเข้ามาในร้านและช่วยอย่าบอกใครเด็ดขาดว่าที่จริงผมมาถึงร้านตั้งนานแล้ว พี่ออฟได้แต่ยิ้มและพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดปลอบแต่กลับไม่พูดซักถามข้อมูลอะไรเลยสักนิดเดียว ผมเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับพี่ออฟทำให้ทุกคนไม่ทันได้สังเกตความผิดปกติจากผม
“มาเอาคีการ์ดฮะ” ผมยิ้มกว้างพร้อมกับแบมือลงตรงหน้าพี่หมีที่ทำงานอยู่ตรงเคาร์เตอร์ พี่ซีกับพี่รุจหันกลับมามองก่อนจะยิ้มให้ผมเล็กน้อย ผมยิ้มตอบกลับให้ทุกคน
“ครับ” พี่หมียิ้มกว้างให้ก่อนจะหยิบคีการ์ดออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ผม การที่พี่หมีทำตัวเป็นปกติทำให้ผมทราบว่าพี่ซีคงจะจัดการเรื่องเมื่อกี้ให้ผมได้
“งั้นกัสไปรอที่ห้องนะครับ” ผมบอก
“ครับ” พี่หมีตอบ
“แล้วพี่หมีก็รีบกลับมานะ กัสจะทำการบ้านรอ”
“ครับผม แล้วไปคอนโดยังไง” พี่หมีถาม
“กัสให้คนขับรถกลับบ้านไปแล้ว..เลยว่าจะขึ้นแท็กซี่ไป” ผมตอบ
“โอเค ถึงแล้วก็ส่งข้อความมาบอกด้วยล่ะ”
“ครับผม” ผมยิ้มกว้างตอบ
“ไปนะฮะ” ผมบอกอีกครั้ง พี่หมีพยักหน้าให้
“จุ๊บ~” ผมเขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มพี่หมีเบาๆ พี่หมียืนยิ้ม
“อารายว้า..รักกันจริง” พี่ซีกับพี่ออฟแซว ผมกับพี่หมีหัวเราะ
“ตั้งใจทำงานนะครับหมีน้อย” ผมโบกมือบ๊ายบายก่อนจะหันไปยกมือไหว้พี่ๆทุกคนแล้วรีบออกมาจากร้านในทันที
.................>>>><<<<..................
-
สงสารกัสจัง ต้องเก็บกดทุกอย่าง
คำพูดคิวก็โดนอย่างแรง
-
:กอด1:
-
คำพูดพี่ฟ้ากับคิวนี่กระแทกใจเต็มๆ แล้วพี่หมีที่โดนพูดใส่อย่างนั้นจะรู้สึกขนาดไหนเนี่ย o22
ไม่เป็นไรนะกัส ทำดีที่สุดแล้ว :กอด1:
-
สถานภาพเริิ่มชัดเจนแล้วรึเปล่าน้า
5555สมน้ำหน้าพี่เซ็นตอนนี้ไม่ค่อยมีบทบาท (เชียร์พี่เซ็นนะแค่หมั่นไส้)
กัสน่ารักจังเลยย รักกัส ขอให้สมหวังซะที
-
อ๊ากกก เริ่มจะชัดเจนกันแล้ว
ลุ้นต่อไปค่า
:L2:
-
เลือกคนที่เรารักหรือเลือกคนที่รักเรา :เฮ้อ:
-
โอ้ยยยยยย ตั้งใจทำงานนะหมีน้อย
ทำไมมันน่ารักขนาดนี้เนี่ย กัสสสสสส :impress2:
-
สงสารกัสอ่ะ อยากให้กัสมีความสุข
แต่พี่ฟ้าและพี่คิวพูดได้จี๊ดมากอ่ะ กระแทกใจเต็มๆเลย
-
อารมณ์ฟ้ากับคิวเนี่ย แลดูเหมือนว๊ากเกอร์เวลารับน้องมากอ่ะ :laugh: :laugh: :laugh:
กดเข้าไป ดันเข้าไป ให้มันกระอักเลือดตายไปเลย 555 :m20:
-
:กอด1:
-
อย่างว่าแหละ คนเราน่ะ เห็นแก่ตัวกันทุกคน ขึ้นอยู่กับว่าจะเอาอะไรมาเบียดบังให้ตัวเองรู้สึกดี
-
พี่คิววววว o13 o13 o13
-
พี่ฟ้าพี่คิวจัดเต็มให้พี่หมีมาก
แอบสงสารพี่หมีอยู่หรอก
แต่ก็นะมันเป็นไปไม่ได้อ่าเนอะ
-
กัสสู้ๆ ไม่ว่าจะเลือกใคร
เราก็พร้อมจะยอมรับ
ตอนนี้มันช่างอึนดีแท้
-
สับสนและงุนงง
แต่สุดท้ายก็เชียร์พี่เซน
55555555+
-
เห็นด้วยค่ะ ทุกคนเห็นแก่ตัวเองกันทั้งนั้น ตอนนี้คมมากอ่ะ ชอบๆ
บวกเป็ดให้ค่ะ :กอด1:
-
สงสารหมีนะ โดนจัดเต็มเลย แต่ก็นะบางทีคนเรามันก็ต้องยอมรับความจริง
ไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่ ตัดใจเถอะหมี
ต่างคนต่างรอ หมีรอกัส กัสรอเซ็น แล้วเซ็นรอใคร :confuse:
-
คำพูดของพี่คิว กับ พี่ฟ้ากระแทกใจมาก ฮาร์ดคอร์ได้อีก ไม่อยากจะนึกว่าพี่หมีจะรู้สึกแย่แค่ไหนจริงๆ เพราะมันคืดความจริงที่พี่หมีแกปฎิเสธมาตลอดอ่ะ ส่วนพี่เซ็นถ้าให้เดาจากคำพูดของพี่คิวแล้ว พี่เซ็นน่าจะรู้ตัวว่าชอบกัสแหละ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่พี่แกไม่ยอมรับ บางทีอาจต้องรอให้สูญเสียก่อนล่ะมั้ง ถึงจะเห็นค่า
-
อ่านแล้วงง ทำไมเหมือนกับว่าหมีเป็นคนดึงกัสเอาไว้ล่ะ
ทั้งๆที่อ่านมาตั้งแต่ต้นก็เจอแต่กัสตามหมีมาโดยตลอด
แล้วคิวมีสิทธิอะไรไปด่าหมี ตอนสมัยตัวเองชัดเจนตายล่ะ
ปล่อยให้เค้กสับสน+เศร้าอยู่ตั้งนานเหมือนกันนั่นแหละ
-
ไม่รู้ทำไมรู้สึกสงสารพี่หมีอ่ะ
ถ้ากัสหันมารักพี่ชายคนนี้ได้ กัสจะมีความสุขมากกว่านี้หรือเปล่าหนอ :เฮ้อ:
+1 :กอด1:
-
เข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น
เข้าใจกัสมากขึ้น เข้าใจความเจ็บปวดที่กัสต้องเจอ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราคิดแต่ว่าเรื่องทั้งหมดมันมาจากกัส
ก็ใช่ แต่อย่างที่รู้อยู่ ทั้งกัส หมี เซ็น รู้อยู่ว่ากัสรักใคร
ยังยื้อยุดความสัมพันธ์กันไปมา เพื่อรอความหวัง เพื่อสร้างความหวังให้ตัวเอง
เฮ้อออออออ :เฮ้อ:
-
คนที่ไม่ชัดเจนคือหมีงั้นรึ......
ความรักมันยากแท้หยั่งถึง.....
เอาใจช่วยทุกคน......หลงพี่คิวหัวปักหัวปำ
-
อาหลานคู่นี้ มีวิธีปลอบใจคนด้วยการพูดความจริง
เอาให้ตื่นกันไปข้างอ่ะ
เหอะๆ
เอานะพี่หมี แบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องคิดนาน
แล้วมาดูกันว่าจะเป็นไงต่อไปปปปป
-
แค่พี่ฟ้าคนเดียวก็ว่าน่ากลัวแล้วนะ นี่หมีต้องมาโดนพี่ฟ้ากับพี่คิวแท็คทีมกันกดดันเข้าไปอีก
สงสารหมีอะ :m15: ทำไมถึงต้องรอ รอให้มันได้อะไร เคลียร์ให้มันจบๆ ไปเลยดีกว่ามั้ย
-
คอยดูกันต่อไปว่าจะเป็นยังไง ....
-
เรื่องมันซับซ้อนเนาะ
แต่ถึงจะบอกว่าหมีกดดันบีบน้องไว้ ทำไมเรากลับมองว่ากัสต่างหากทุกอย่างที่จะร้อยพี่หมีไว้
ธรรมชาติของคน มีคนมารักมาทำดีด้วย ก็ปฏิเสธไม่ลงหรอก
เราว่าทั้งกัส เซ็น หมี ก็พอกันหมด อาจจะเป็นความโชคร้ายของตอนนี้ที่หมีโดนสายแข็งเค้าจัดเต็มให้ :z10:
ปล น้องเค้ก โผล่มานิดเดียวก็ยังน่ารักที่สุดในสามโลก
ปล สอง ตอนหน้าสงสัยได้รอซับน้ำตาให้หมี :sad11:
-
อาหลานคู่นี้ กดดันคนเก่งมากก5555
แต่พี่หมีคงจะเฟลไม่น้อยนะนั่น
สงสารกัสเข้มแข็งไว้นะลูก พี่เซ็นก็ยอมรับความรู้สึกตัวเองสักทีเด้
เดึ๋ยวกัสไม่ทนเมื่อไหร่จะเสียจายย
-
....อ่านไปอ่านมาชักมึนๆๆ ตอนแรกที่พี่คิวพูดกับกัส นั่นคิดว่า...พี่เซนต์กับกัสมีลุ้นนะ เพราะพี่คิวย้ำว่าพี่เซนต์ไม่ได้คบใครมานานแล้ว
....และถ้าพี่เซนต์ไม่รักไม่ชอบใคร จะไม่ตาม แต่นี่พี่เซนต์เริ่มตามกัส มากแล้วนะ บังคับให้ไปโน่นนี่นั่นด้วย
....แต่ตอนหลังกับพี่หมีนี่มันอะไรหว่า พี่หมีรักกัส แต่ไม่ถนอมน้ำใจ ตีเส้นแบ่ง
....ไม่ยอมบอกความจริงว่ารัก ก็ไม่น่าใช่ก็พี่หมีขอคบกับกัสนี่หว่า มีแต่กัสที่ไม่ยอมรับรัก โอ๊ยแต่พี่ฟ้ากับพี่คิวพูดเหมือนกับกัสรักพี่หมี หรือแค่..หวงวะ อีรุงตุงนังดีจริงๆๆ
....แต่คนที่ร้านนี้เค้า เล่นละครกันเก่งเนอะ ตีหน้าตายกันได้สนิทดีจริงๆๆ แต่ละคน :laugh:
-
แอบเศร้าเบาๆ
-
ฟ้าที่รัก :man1: คำพูดของฟ้ากระแทกใจจังๆ และหลังจากนี้ดูเหมือนกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น...
ชอบคิวอ่ะ คิวน่ารัก ยิ่งเวลาคุยกับกัสเหมือนพี่ชายใจดีเลย
:pig4: เบบี้ :กอด1:
-
คำเดียวเลย "โดน" เต็มๆ
-
อ่านแล้วงง ทำไมเหมือนกับว่าหมีเป็นคนดึงกัสเอาไว้ล่ะ
ทั้งๆที่อ่านมาตั้งแต่ต้นก็เจอแต่กัสตามหมีมาโดยตลอด
แล้วคิวมีสิทธิอะไรไปด่าหมี ตอนสมัยตัวเองชัดเจนตายล่ะ
ปล่อยให้เค้กสับสน+เศร้าอยู่ตั้งนานเหมือนกันนั่นแหละ
ลองกลับไปอ่านใหม่ดูดีๆจะเข้าใจนะคะว่ากัสทำไปเพื่ออะไร
กัสดึงหมีไว้เพราะอะไร แต่หมีดึงกัสไว้ในฐานะอะไร..ซึ่งมันต่างสถานะกันค่ะ
(อธิบายได้เท่านี้..เพราะตอนนี้บอกในสิ่งที่เป็นตัวของหมีไว้หมดแล้ว)
รวมไปถึงทั้งฟ้าและคิวเองก็ให้ความสำคัญกับหมีที่ไม่ใช่แค่พนักงานในร้านธรรมดา(ซึ่งก็พูดไปหลายครั้งก่อนหน้านี้)
ถ้าจะบอกว่าคิวปล่อยให้เค้กเศร้าและสับสน
แต่ทั้งตอนของคิว ตอนของฟ้าเองก็ได้อธิบายไปแล้วนะคะว่าคิวไม่ได้สับสนในตัวเอง..คิวเข้าใจตัวเอง และก็ต้องการแก้ไขปัญหาด้วยตัวของคิวเอง ที่คิวช้าเพราะทุกอย่างดำเนินโดยการใช้เวลาในการเชื่อมโยงความรู้สึก
โอเค..เบบี้อธิบายหลายครั้งแล้วค่ะ อันนี้มันเป็นการพูดซ้ำอีกแล้ว
-
พี่คิวอ่านขาดจริงๆ
o13
-
กดดันจัง
แต่ดีแล้ว เรื่องจะได้ชัดเจนสักที
-
โหดมาก :กอด1:
-
จิตใจคนซับซ้อนจัง
-
อัพไวแบบนี้ ถูกใจที่สุดค่ะ
-
ทุกอย่างต้องได้รับการกระตุ้นหนะนะ
-
ตอนนี้พี่หมีโดนแรงนะ กัสเองก็รู้ว่าหมีชอบ ถ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ก็ไม่ควรใกล้กันขนาดนี้
มันไม่เหมือนพี่น้องอยู่แล้ว คือทุกคนก็คิดถึงตัวเองทั้งนั้นแหละ มองในมุมตัวเอง
พี่หมีรักก็เลยยื้อไว้ ไม่บอกออกมา เพราะรู้ว่ากัสรักพี่เซ็น ส่วนกัสก็ใช้พี่หมีทดแทนความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน ส่วนพี่เซ็นอ่านตอนนี้แล้วกัสอาจมีหวังนะ กัสน่าจะทำอะไรให้มันชัด ๆ ไป เลยไหน ๆ ก็ฟังมาขนาดนี้แล้ว ไม่คิดว่ากัสน่าสงสารนะ :pig4:
-
อยากให้กัสคู่หมีจัง
-
ไม่ว่าใคร ก็เป็นเหมือนๆกันทั้งนั้น นั่นก็คือ.. รู้เรื่องและเหมือนจะเข้าใจ
เรื่องของคนอื่นดีกว่าเรื่องของตัวเองเสมอ :z10:
ขอบคุณเบบี้นะคับ รออ่านตอนต่อไป :L2:
-
ตามอ่าน Lover..3 ทันแล้ว :mc4:
:3123: ขอบคุณค่ะ
-
เจ้าของร้านนี้ต้องมีเครื่องอ่านใจลูกน้องแน่เลย โดนมากแต่ละประโยค คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้วว่าจะเอายังไงมีคนจี้ใจให้แล้ว
จะกล้าหรือเปล่าเท่านั้น :กอด1:
ขอบคุณเบบี้ o13
-
พี่ฟ้า-พี่คิวสมกับเป็นเจ้านายและพี่ชายที่ดีมาก o13 เป็นนักกดดันตัวยง เล่นเอาพี่หมีคงต้องกลับไปคิดให้ดีว่าจะบอกกัสยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้
น้องกัส และพี่ๆ ในร้านนี่น่าไปเป็นนักแสดงเนอะ เล่นกันได้เนียนจริงๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
น้องเค้กมาแจมนิดๆ แต่น่ารักมากๆ ฮาที่รู้ใจกัสมากไปไหม :m20:
:L2: :pig4: คนเขียนค่ะ
-
พี่คิวกับอาฟ้า พอกัน ฮาร์ดคอร์ 5555
แต่คำพูดของพี่คิวกับอาฟ้านิ พูดไ้ด้โดนใจให้คิดดี
เฮ้อออ รออ่านตอนต่อไป
-
รอจ้า ##
-
พี่ฟ้า พี่คิว สมเป็น อาหลานกันจริงๆ
ตรงจุดตรงประเด็นดีจังเลยยย
จะว่าไปแล้ว คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือ กัส ล่ะนะ
เห้อออ :เฮ้อ:
รอต่อไปจ้าาา สู้ๆ เด้อออ
-
บอกไ้ด้คำเดียวว่า....ถึงเวลาตัดสินใจให้เด็ดขาดสักที
สู้ๆนะจ๊ะ
-
รักสามเศร้าของเราสามคน
เซ็น.....รัก แต่ไม่กล้าเปิดใจ
กัส.....รัก ที่เสียสละมากจนเกินไป
หมี....รัก ที่หวังได้ครอบครอง
ความรักที่หาจุดจบไม่เจอ
-
:m15: แอบสงสารพี่หมี
-
มึนนิดๆงงหน่อยๆ
-
เฮ้อออ อ่านแล้วอึดอัดแปลก ๆ ดี
คิว กะ ฟ้า ผ่านมาและพูดได้จี๊ดมาก
-
พูดได้กระเเทกใจมาก ทั้งอาทั้งหลานเลย
หวังว่าพี่หมีจะยอมรับ แล้วจัดการอะไรๆ ให้มันชัดเจนสักที
ส่วนกัส เอาใจช่วยนะ :กอด1: :กอด1:
รอติดตามตอนต่อไปครับผม :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ต้องทำใจจริงๆแล้วล่ะพี่หมี :sad11:
-
เฮ้อออออ :z3:
เอาล่ะ ติดตามชีวิตสามคนนี้ต่อไป
แต่ที่ติดตามมากหน่อยคงเป็นเค้กกับพี่คิว
หึหึ ออกมาทีไรก็ินตลอด!!!
:กอด1:
-
เค้าเชียร์พี่เซ็นนะแต่หมั่นไส้มันมากเลยอะ ปากหนัก เจ้าชู้ กะล้อนด้วย
แต่...จริงๆก็เป็นคนดีละนะ ไม่งั้นคงคบกับพี่คิวไม่ได้หรอก
คำพูดพี่ฟ้ากับพี่คิวกระแทกใจจังๆเลย อ่านออกทุกสิ่งสมเป็นพี่คิวจริงๆ o13
-
รู้สึกกดดันแทนกัส .... ว่าไปแล้วก็จริงนะ สามคนนี้กัสชัดเจนสุด (ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะอ่านมุมกัสด้วยสินะ)
-
งงอะพี่หมีจะไปใหน ไม่เอาน่า :sad4: ถึงจะเชียพี่เซ็นแต่อย่าทิ้งพี่หมีนะ โอ๊ยเครียด :z3: พี่หมีก็รักกัสนะดูออก พี่เซ็นก็รักนะแต่ไม่แสดงออก กัสก็โอ๊ย!!!! :serius2: จะยังไงต่อ
แต่ที่อ่านมากัสนี้แลดู Sensative กว่าผู้หญิงอีกพูดปุ๊ปร้องปั๊ป o22
-
สงสารพี่หมีจัง......เฮ้อออออออ!!!!
แต่ทำไงได้ก็กัสรักพี่เซ็นนิเนอะ
-
รักกัส :กอด1: สู้นะจ๊ะ เลือกทางที่ตัวเองมีความสุข
:pig4: นะคะ
-
ชอบพี่หมีอ่ะ น่าสงสารอ่ะ
ทำร้ายจิตใจพี่หมีอย่างแรง
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
ทำไมฟ้ากับคิว พูดเหมือนเข้าข้างเซ็น
แล้วต่อว่าหมี หมีทำผิดอะไรเหรอ
-
:sad4: ปาดน้ำตางาม งาม คนที่น่าสงสารที่สุดสำหรับเจ๊ ก็คือกัสนั่นแหละ :เฮ้อ:
ไม่รู้ว่าไงนะ กัสชัดเจนว่ารักเซ็นชอบหมีแบบพี่ชาย เจ๊ไม่รู้ว่าคำจำกัดความว่าพี่ชายของกัสเป็นแบบไหน แบบที่ทำกับพี่ก้อง. ??
บางครั้งการกระทำที่กัสทำมันก็ดูมากกว่าพี่ชายนะ แล้วมันก็ไม่แปลกที่หมีจะหวังให้มันมากกว่านั้น
หมีกับเซ็น ก็ไม่ได้มีใครดีไปกว่ากัน แต่สำหรับเจ๊นะ >> หมีแสคงออกว่าหวงว่ารัก ว่าห่วง
>> กับเซ็นหากรักก็ไม่รั้ง ถ้ากัสคิดว่าหมีดีกว่าก็ปล่อยไปอย่างนั้นหรอ ในเมื่อเซ็นก็ไม่ได้ชัดเจนสักหน่อย
P.S. บ่นไปทั้งก็แค่ หมีของเจ๊ไม่ผิดนะ!! :laugh: (แต่เจ๊ก็เชียร์เซ็นนะ??)
-
พี่หมี จะตัดสินใจอะไรหว่า??? สงสารพี่หมี แล้วก็กัสจริงๆ
ว่าแต่ พี่คิวกาแฟที่เค้กชง อร่อยไหมอะ 555
ขอบคุณที่อัพนะคะ รออ่านต่อค่ะ^^
-
ตอนนี้ความกดดัน กลับมาตกที่พี่หมี ว่าจะไปทางซ้ายหรือขวา
มาเป็นกำลังใจให้เรื่อง สามเซ้านี้ ที่ยังหาทางออกไม่เจอ :monkeysad:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจครับ เบบี้ :กอด1:
-
:m15: :monkeysad: :sad11:ไม่รู้จะสงสารใครดี
-
ตอนแรกๆ ทิี่พี่คิวคุยกะกัสก็งงๆ. ว่าหมายความว่าไงวะ จะแนะนำให้ทำไงต่อกันแน่ :really2:
แต่พอกลับไปดูอีกทีและโดยรวมแล้วก็เริ่มเข้าใจบ้างแระ :เฮ้อ:
เพื่อนกันไงก็ต้องดูกันออกได้ไม่ยากอะนะ เหมาะจะเป็นที่ปรึกษาให้กัสซะจริง (อาจจะอยากแกล้งเพื่อนตัวเองเล่นก็อาจเป็นได้). o18
เข้าใจและสงสารคนกลางอย่างกัสที่สุด ทั้งต้องทำตัวให้พอดี และต้องหนักแน่นชัดเจนในความรู้สึก คงเหนื่อยน่าดู
อยากจะบอกว่าจากที่ดีใจหลั่นล้ามากพอเห็นมาต่อ :impress2: พออ่านไปๆ จนเสร็จปุ๊กัปรู้สึกได้ทันทีว่าทำไมตรูเครียดจังวะ คืออารมณ์มันต่างกันเกิ๊นนน :fire:
ขอของหวานล้างปากบ้างไรบ้าง ดับความเครียดซักพัก :o12:
เป็นกำลังใจให้กัสผู้น่ารักของทุกคนเสมอ เดินหน้าเต็มกำลังเลยเน้อ..... o13
-
เมื่ออายุน้อย คนเรามักติดกับดักอยู่กับคนที่เรารัก
ทั้งที่ความจริงเมื่อเราเติบโตขึ้น
ความสุขที่แท้จริงนั้นพบได้ในคนที่รักเรา
-
สงสารหมี เห็นใจกัส เซ็น? :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
จำกัดรัก..แต่อย่าจำกัดใจ
หวังว่าหมีคงจะเข้าใจอะไรมากขึ้นนะ
พี่ฟ้า+หลานคิว
สุดยอดดดดด
ขอกอด :กอด1: กัส เด็กน้อยหน่อย
ขอบคุณครับ เบบี้
-
คำพูดของทั้งพี่ฟ้าและพี่คิวมันยอดเยี่ย ยิ่งใหญ่ เกรียงไกรมากกกกกก
คือแบบมันใช่เลยยย ต้องปลุกด้วยคำพูดแบบนี้ โดนยิ่งกว่าโดนเลยค่ะเบบี้
อ่านแล้วสะอึก แต่ละตัวละคร สุดยอดดดเลย
มาถึงตอนนี้แล้ว อะไรๆเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก้เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆด้วยค่ะ
ขอบคุณเบบี้มากๆๆสำหรับนิยายย มันเยี่ยมมากเลย รอตอนหน้านะค่ะเบบี้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
-
น่าสงสารกัส :o12:ต้องฝืนยิ้มไปอีกนานเท่าไหร่
-
ชอบพี่ฟ้ากับพี่คิวตอนนี้อะ ดูจะเข้าขากันดี
พี่หมีแลดูน่าสงสาร แต่ไม่สงสารหรอก
เพราะจริงอย่างที่พี่ฟ้าว่าจะดันทุรังไปทำไม ยังไงก็เป็นได้แค่พี่ชาย
กัสน่าเสี่ยงดูตามที่พี่คิวบอกถ้าถอยออกมาแล้วพี่เซ็นยอมปล่อยไปก็คือจบ
แต่ก็เชียร์พี่เซ็นต่อไปเพราะยังไงก็คงไม่แย่ไปกว่าอิพี่พีของทัวร์แน่ๆ ฮ่าๆ
-
:sad4: :sad4: ชัดขนาดนี้แล้วววววว พี่หมีของน้องก็คงจะหมดสิทธิ์แล้วสินะ
แบบว่าพี่คิวกับพี่ฟ้า น่ากลัวมากกก พูดได้ตรง กระแทด จิตใจมาก มองทะลุเฉียบขาดทุกอย่าง
สงสารกัสสสสอะ
ทรมาน กับชีวิต ของ 3 คนนี้มากกกกก จิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะ
ลุ้นมากกกกกกกกกกกเลย อยากให้กัสได้สิ่งที่ดีที่สุด
-
กัส :z3:+1
-
นี่มันคืออะไร? มันเกิดอะไรขึ้น
สมองหนูไม่รับรู้อะไรแล้ว :z3:
หนูสับสน คิดว่าตัวเองเป็นกัสอยู่ตอนนี้ :sad4:
-
ตอนนี้เหมาะกับเพลงนี้มาก ๆ
เธอไม่ยอมปล่อย หรือฉันไม่ยอมไป
-
ให้กำลังใจหมีว่าจะเอายังไง การเสียสละ คืออะไร หรือว่าทำตามใจเรา
-
:กอด1: :pig4:
-
สงสารกัสกับพี่หมี :o12:
-
ขอรอความชัดเจนดีกว่า
:pig4: คะ
-
สุดท้ายก้เซ็นสินะ
-
ใกล้แล้สินะ ------>. เวลาของการปกป้องความรู้สึกของพี่หมีกำลังจะหมดลง. พี่หมีเริ่มรู้ตัวแล้ว จากการสะท้อนความคิดของพี่คิวกับพี่ฟ้า (ร่วมด้วยช่วยกันจริงๆเวลาแบบนี้)สองอาหลาน :laugh:
ยังไงก็ตามยังยืนยันคำเดิมว่าอ่านแล้ว....เครียดตามกับปัญหาจะเรียกว่ารักสามเศร้าได้รึเปล่าไม่่แน่ใจ
:o12: :o12: แต่คนที่เจ็บที่สุดคงเป็น...... :serius2: ไม่อยากจะคิด รออ่านจากมาสเตอร์ดีก่า เดาเองปวดหมอง :z2: :z3: :z6:
-
เราเชียร์น้องกัส :mc4: ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าต่อไป หรือจะหยุดอยู่แค่นี้ แต่เราเดาว่าน้องกัสคงไม่หยุดเพราะถ้าทำได้คงหยุดไปนาน
แล้ว แต่คงต้องใช้พลังมหาศาลล่ะกว่าจะเอาพี่เซ็นอยู่ ส่วนพี่หมีโดนพี่ฟ้าว่าจี้ใจดำขนาดนั้นคงเข้าใจแล้วล่ะว่าต้องปล่อยน้อง
เขาไปดีกว่า น้องกัสสู้ต่อไปนะน้อง
-
หลังจากอ่านเรื่องนี้รู้สึกว่าเบบี้เขียนเก่งขึ้้นมาก แต่ก่อนงานเขียนจะสนุกดิบๆ ให้อารมณ์วัยรุ่น แต่ตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกเลยว่าทั้งคนทั้งงานเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก มองโลกกว้างขึ้น เขียนมุมมองของตัวละครออกมาได้ลึกซึ้งขึ้น
ไม่ได้มาชมมาอวยพร่ำเพรื่อ แต่เผื่อเบบี้จะได้มาเห็นคอมเม้นต์นี้จะได้รู้ว่ามีอีกหนึ่งกำลังใจจากคนอ่านที่คอยดูการเติบโตของงานเขียนเบบี้อยู่
ปล. อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าทั้งพี่เซ็นพี่หมีไม่มีใครคู่ควรกับกัสสักคน เหอๆ แต่ถึงงั้นก็เอาใจช่วยอยากให้พี่เซ็นซื่อตรงกับใจอยากไขว่คว้าน้องมาเป็นของตัวไวๆ ตอบแทนความรักอย่างจริงใจของน้องสักทีเหอะ
-
เฮ้อใจหายเลยครับ
-
อาหลานคู่นี้แสบจริงอะไรจริง -w-
กัส.. รีบตัดสินใจน้าา
-
อยากอ่านตอนพิเศษหวานๆของน้องเค้ก กับพี่คิวจัง :L2:
ส่วนอิพี่เซ็น :z6:
-
คำพูดของพี่ฟ้าและพี่คิวเป็นอะไรที่จริงที่สุด
มันต้องมีคนเสียใจแน่ๆแต่นั่นก็คือสิ่งที่ต้องยอมรับ
แต่จะเป็นใคร ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของแต่ละคน
คิดว่าคงไม่ใช่กัสที่จะต้องเป็นคนตัดสินใจแล้วล่ะ
คราวนี้เห็นทีคงต้องเป็นหมีล่ะมั้ง จะปล่อยหรือจะยื้อ
แต่ไม่ว่าหมีจะตัดสินใจยังไง กัสก็จะยังไม่ไปไหน
และจะอยู่ในสถานะเดิมที่เคยเป็นมาตลอด
กับพี่เซ็นก็คงเลิกรักไม่ได้ง่ายๆ แต่มีขอบเขตก็ดี
ทุกอย่างต้องใช้เวลา และอย่าลืมให้เวลาตัวเองด้วยล่ะ
อ่านตอนนี้แล้วก็สงสารกัส :monkeysad:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
คนเห็นแก่ตัวเรื่องความรักกันหมดแหละ
แต่พี่หมียังชัดเจนกว่าอิพี่เซ็นนะ
อิพี่เซ็นไม่ชัดเจน แถมยังเห็นแก่ได้อีก กินน้องแล้วยังมาบอกให้น้องลืม พอน้องจะลืมก็มาทำเป็นทวงสิทธิ์อีก
-
ยังไง กันละนี้
ตอนนี้มันดูกดดันจัง
แต่ชอบพี่คิวจริงๆ
-
มารอให้กำลังใจพี่หมีเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคนที่รัก ไม่ว่ายังไงความรู้สึกของกัสก็คงไม่เปลี่ยนแปลง ยังรักพี่หมี. "เหมือนเดิม "
o7 o7 o7
-
สไตล์การเขียนเรื่องแบบนี้เจ๋งดีนะ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกได้
มันดูเข้าใจยากแต่ก็รู้สึกแบบเออนี่แหละชีวิตจริง
เรื่องบางเรื่องมันเหมือนจะง่ายแต่มันก็ไม่ง่าย อืมม์พอเหอะเริ่มงงและ ฮ่าๆๆๆ
-
รักพี่คิวพูดตรง แบบถูกใจมากกกกก :L1:
-
ได้ 2 คน อา-หลาน มาช่วยบิ้วช่วยกระตุ้น
ปมอะไรๆจะเริ่มได้คลายนิดๆหน่อยๆบ้าง
:z2: :z2:
-
มาสอดส่องง่ะ เผื่อมีซีนสวีทหลงมา :z2: o8 :oni3: :interest:
-
จงมา จงมา จงมา สวีทซีนจงมา :oni3: :m3:
-
~11~
เมื่อเดินทางมาถึงคอนโดของพี่หมี ผมก็ช่วยจัดกวาดเช็ดถูตามที่ความสามารถของคนอย่างผมจะทำได้ ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องพวกนี้และตอนอยู่บ้านตัวเองก็ไม่เคยได้ทำ แต่ตั้งแต่ผมได้รู้จักกับพี่หมี พี่หมีก็ได้สอนอะไรหลายๆอย่างและเหตุที่ต้องทำก็เพราะโดนบ่นด้วยนะครับ เมื่อผมปัดกวาดเช็ดถูห้องให้พี่หมีเสร็จแล้ว ผมก็แอบงีบหลับไปพักใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นมาทำการบ้านต่อ
ตื๊ด ๆ ๆ
“ฮะพี่หมี” ผมรีบกดรับสายเข้าในทันที
“กัส..เอ่อ พี่คงกลับดึกหน่อยนะ” พี่หมีพูด
“อ่าว ทำไมละครับ” ผมถามรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันใด
“ต้องออกไปกับไอ้เต้น่ะ” พี่หมีตอบ
“งั้นเหรอฮะ..”
“งั้นก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกัสโทรสั่งพิซซ่ามากินก่อนก็ได้” ผมพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงทั้งที่ใจจริงแล้วผมอยากให้พี่หมีกลับมาเร็วๆเพราะผมเป็นห่วง ตั้งแต่ที่ผมเข้าไปได้ยินเหตุการณ์ที่ไม่ควรเมื่อตอนบ่ายนี้ผมก็รู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่ อีกทั้งถ้าพี่หมีออกไปกับพี่เต้อย่างนี้ ผมก็ไม่อยากจะเดาสุ่มไปว่าพี่หมีจะไปที่ไหนด้วย
“โทษทีนะ มันโทรมากะทันหันไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรฮะ งั้นเดี๋ยวกัสลงไปซื้อขนมที่ซุปเปอร์มาตุนไว้ให้พี่หมีก็แล้วกันนะ ในตู้เย็นไม่มีอะไรเลยอ่ะ..เผื่อพี่หมีกลับมาแล้วหิว” ผมพูดบอก
“พี่ไม่รู้ว่าจะกลับกี่โมง ถ้าดึกมากกัสก็นอนไปเลยนะครับ..ไม่ต้องรอ” พี่หมีบอกอีก
“ครับ” ผมตอบ
“ถ้าจะดื่มเหล้าก็ทานข้าวก่อนนะครับ ถ้าเมาก็อย่าขับนะครับรู้ไหม” ผมบอกด้วยรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา
“หึ..ครับ” พี่หมีหัวเราะเบาๆ
“เท่านี้นะครับ พี่ต้องเตรียมปิดร้านแล้ว”
“ฮะ” ผมตอบก่อนจะตัดสายไป ผมนั่งมองโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่งและก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ผมลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาเพื่อเตรียมลงไปซื้อของที่ซุปเปอร์ ผมใช้เวลาเลือกของอยู่ค่อนข้างนานเพราะผมไม่อยากขึ้นไปอยู่บนห้องคนเดียว แน่ละว่าเมื่อรู้ว่าคนที่รอไม่ได้กลับมาตามเวลาที่หวังไว้ก็คงต้องหาอะไรทำฆ่าเวลาไปก่อน
เวลาผ่านไปเกือบสามสิบนาที ผมกลับขึ้นมาบนห้องและโทรสั่งพิซซ่าให้มาส่งที่คอนโด ผมสั่งเผื่อพี่หมีด้วยเพราะเมื่อไหร่ที่พี่หมีทำงานหนักมากจนไม่สามารถออกจากห้องได้พี่หมีมักจะโทรสั่งพิซซ่ามาทานเสมอ และจะสั่งทีละสองถาดทุกครั้งไป ผมนั่งทานพิซซ่าพร้อมกับดูโทรทัศน์ไปพลาง หลังจากที่ทานพิซซ่าเสร็จแล้วผมก็ลุกไปอาบน้ำแช่ตัวอยู่นานพอสมควรก่อนจะออกมานั่งทำการบ้านต่อ
เวลาผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง นี่เกือบจะห้าทุ่มเข้าไปแล้วแต่ยังไม่มีสายจากพี่หมีสักสายเดียว ถึงแม้พี่หมีจะสั่งไว้อย่างนั้นแต่ผมก็นอนหลับไม่ลงจริงๆ ผมนั่งทำการบ้านฆ่าเวลา จากที่ว่าการบ้านชิ้นนั้นๆยากมากแต่สุดท้ายมันก็เสร็จไปในที่สุด เที่ยงคืนครึ่งผมตัดสินใจกดโทรศัพท์หาพี่หมีแต่พี่เขาไม่รับสาย ผมจึงตัดใจตัดสายไปและรอเวลาไม่โทรอีกเพราะกลัวว่าจะไปรบกวนอีกฝ่าย ตอนนี้เหลือเพียงการบ้านของวิชาคณิตศาสตร์เท่านั้นที่ไม่ว่าอย่างไรผมก็ไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้ จึงเป็นการบ้านเพียงวิชาเดียวที่ผมต้องวางมันไว้อีกกองเพื่อย้ำบอกผมว่า “มันยังไม่เสร็จ”
ผมนอนพักดูโทรทัศน์อยู่สักพัก..เวลาผ่านไปเกือบสามสิบนาทีผมจึงกดโทรหาพี่หมีอีกเป็นครั้งที่สอง ผมไม่ได้รอสายนานเท่าไหร่ผมก็ตัดสายทิ้งเพราะดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมรับ ความกระวนกระวายใจเริ่มทำให้ผมไม่อยู่สุข ผมลุกขึ้นนั่งและเดินวนไปวนมาอยู่รอบห้องอยู่หลายครั้ง
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาเกือบตีสามครึ่ง ผมรู้สึกทนไม่ไหว จึงกดโทรหาพี่หมีอีกครั้งและอีกครั้งโดยไม่สนใจอีกว่าพี่หมีจะรำคาญผมหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าปลายสายจะรับสายเลย ในหัวผมคิดไปต่างๆนาๆซึ่งมีแต่เรื่องที่ไม่ดีทั้งนั้น ปกติพี่หมีไม่ใช่คนแบบนี้มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจและกังวลมาก ภาพในหัวของผมก็ผุดนึกไปถึงตอนที่พี่ก้องไปฝึกบินครั้งแรก อารมณ์ของในผมตอนนี้คล้ายกับตอนนั้นไม่มีผิด มันทั้งกังวล เครียดและหงุดหงิดมากที่ไม่รู้ว่าคนสำคัญเป็นอย่างไรบ้าง อะไรที่ต้องมานั่งวิตกกังวลโดยที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนี้สามารถทำให้ผมแทบเป็นบ้าได้เลยล่ะ ในตอนนั้นหลังจากที่พี่ก้องฝึกบินเสร็จและสามารถโทรกลับมาหาผมได้ น้ำตาผมไหลออกมาและผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าผมไม่พร้อมจะสูญเสียคนสำคัญไปไม่ว่าคนไหนทั้งสิ้น..ซึ่งตอนนี้ก็ด้วยเหมือนกัน ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าอะไรถึงทำให้ผมเป็นห่วงพี่หมีได้มากขนาดนี้ บางทีเราก็ไม่สามารถกำหนดความรู้สึกไม่ให้คิดมากได้..มันเข้าๆออกๆไปตามอารมณ์จริงๆ ครั้งนี้บางคนอาจจะมองผมในแง่ร้ายหรือจะหาว่าผมแช่งพี่เขาก็ได้ แต่ผมห้ามความคิดและความรู้สึกแปลกๆนี้ให้หยุดไม่ได้จริงๆ คงคล้ายกับความรู้สึกของลางสังหรณ์ละมังครับ ลางสังหรณ์ที่เกิดจากความคิดมากของผมเอง ถึงแม้ผมจะคิดในแง่ดีเข้าไปว่าคงจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก เสียงเพลงในผับอาจจะดัง หรือพี่หมีกำลังวุ่นอยู่ ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถหรือจะด้วยเหตุผลอะไรอีกก็แล้วแต่ สุดท้ายมันก็วกกลับมาที่เดิม หัวใจยังคงไม่หยุดเต้นแรงด้วยรู้สึกเป็นกังวล
ติงต๊อง~
เมื่อผมได้ยินเสียงกริ๊งผมก็รีบวิ่งตรงไปที่ประตูในทันทีทันใด
“อึก..” ผมโผเข้ากอดพี่หมีเดี๋ยวนั้นเพื่ออยากจะรับรู้ตัวตนว่าพี่เขายังมีชีวิตอยู่และไม่ได้เป็นอะไรไปอย่างที่คิด
“................” พี่หมีเงียบแต่กลับโอบแขนกอดตอบผม ผมได้กลิ่นเหล้าจางๆจากตัวของพี่เขาทำให้ทราบดีว่าคงไปดื่มเหล้าที่ไหนมาอย่างที่คาดเอาไว้
“หึ พี่หายใจไม่ออกนะครับ” พี่หมีพูดเสียงเอื่อย ผมคลายกอดเบาๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง พี่หมีก้มหน้ามองพร้อมกับยิ้มให้
“เมาเหรอฮะ บอกแล้วไงครับว่าถ้าดื่มก็อย่าขับ..ให้กัสไปรับก็ได้ กัสเป็นห่วงแทบตายนะรู้ไหม” ผมว่า ทั้งที่อยากจะต่อว่าให้มากกว่านี้แต่กลับรู้สึกโล่งอกมากกว่า
“ขอโทษ” พี่หมีพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่ มือของพี่เขาลูบแก้มผมเบาๆ ผมส่ายหัวตอบและยิ้มให้
“เข้าไปในห้องก่อนดีไหมครับ รู้สึกเหมือนจะยืนไม่ไหวแล้ว” อีกฝ่ายบอกแกมหัวเราะ ผมปล่อยพี่หมีออกก่อนจะเอื้อมมือไปปิดประตูห้อง พี่หมีเดินตรงไปนั่งลงที่โซฟา ผมเข้าครัวไปหยิบน้ำและผ้าเย็นออกมาเช็ดหน้าให้พี่หมี พี่หมีเอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมกับหลับตานิ่ง
“กัสโทรหาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่รับละครับ” ผมพูดขึ้น
“ไม่ได้ยินน่ะ” พี่หมีลืมตาขึ้นตอบ พี่เขาหันมาจ้องผมเขม็ง ผมยิ้มให้เล็กน้อย
“ทำไมตาแดงล่ะ” อีกฝ่ายถามพร้อมกับนำมือมาลูบที่แก้มของผมเบาๆ ผมจับมือของพี่หมีออกช้าๆ
“ก็เป็นห่วงคนบางคนน่ะสิ จะบ้าตายอยู่แล้ว” ผมทำท่าแยกเขี้ยวใส่ พี่หมีอมยิ้ม
“ก็บอกให้เข้านอนก่อนไงครับ”
“ก็กัสเป็นห่วงพี่หมีนี่” ผมบอกเสียงเบา พี่หมีเงียบไปสักครู่ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือของผมไปกุมไว้
“ขอโทษนะ” พี่เขาบอก ผมเงยหน้าขึ้นมองแต่พี่หมีกลับไม่หันมามองทางผมอีก
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ” ผมแกล้งพูดถามออกไปเพราะผมก็อยากให้พี่หมีปริปากพูดในหลายๆเรื่องที่พี่หมีได้คุยกับพี่คิวและพี่ฟ้าบ้าง มันเหมือนกับพวกเขาทั้งสามคนรู้อะไรมากกว่าที่ผมคิดเสียอีก
“เปล่านี่” พี่หมียิ้มตอบ
“พี่หมีมีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็บอกกัสนะครับ กัสพร้อมรับฟังเสมอนะ” ผมเอนตัวลงซบหน้าลงที่ไหล่ของพี่เขา พี่หมีเงียบไปสักพักใหญ่พร้อมกับเอื้อมมืออีกมือหนึ่งมาลูบหัวผมไปพลาง
“พี่ คงต้องยอมแพ้แล้วล่ะ..” พี่หมีพูดขึ้นโต้งๆ ผมผงะขึ้นมอง
“เรื่องกัส” พี่หมีหันกลับมามองหน้าผม ผมมองหน้าพี่เขา สายตาของเราที่กำลังจับจ้องกันอยู่มีเพียงความเศร้าที่ไม่ต่างกันเลย
“พี่..ควรจะเลิกเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กัสเจ็บปวดสักที พี่..ขอโทษ” พี่หมีพยายามยิ้มออกมา น้ำตาผมคลออย่างช่วยไม่ได้
“พี่เปล่าทำสักหน่อย” ปากของผมสั่นเมื่อควบคุมไม่อยู่
“กัสต่างหากที่ทำ” ผมบอกเสียงสั่น อยู่ๆพี่หมีก็เข้ามากอดผมไปก่อนจะเลื่อนตัวลงนอนลงบนตักของผม ผมลูบใบหน้าและลูบหัวของพี่หมีอย่างทะนุถนอม เมื่อผมก้มหน้าลงจึงทำให้น้ำตาของผมหยดลงบนหน้าผากของพี่หมี ผมรีบน้ำมือไปลูบเพื่อเช็ดให้ในทันที
“..ตลอดมา พี่คงให้แค่ความสำคัญกับตัวกัส แต่พี่ไม่เคยให้ความสำคัญกับหัวใจของกัสเลย” พี่หมีพูดบอกตาลอย
“รู้แค่ว่า” อีกฝ่ายพูดพึมพำ
“ถ้าอีกฝ่ายปฏิเสธ..พี่ก็จะเอาคืน หึ..รู้ใช่ไหม กัสรู้อยู่แก่ใจสินะ พี่นี่มัน..”
“เลวจริงๆ” พี่หมีพูดพร้อมกับซุกหน้าหนีเหมือนต้องการหลบผม ผมตัวสั่นไม่เป็นท่าเพราะประโยคเมื่อกี้ยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม ที่จริงผมไม่รู้หรอกครับว่าผลลัพธ์ที่ถ้าผมปฏิเสธออกไปตรงๆจะเป็นอย่างไร ผมคิดได้แค่ว่าถ้าพี่หมีตีตัวออกห่าง..ผมก็คงจะรับไม่ได้แล้ว ภาพที่ผมคิดมันจบลงแค่ตรงนั้นจริงๆ
“พี่น่ะ หลอกตัวเองมาตลอด” น้ำตาของผมหยดลงบนหน้าผากของพี่หมีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมรีบปาดมือเช็ดให้ก่อนจะเลื่อนมือลูบแก้มของพี่เขาที่มีน้ำตาไหลลงมาด้วย ผมก้มลงกอดพี่หมีไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายร้องไห้อีก
“ต่อไปนี้ เราจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ..พี่จะไม่บังคับหรือว่าอะไรกัสอีก”
“เผื่อว่าพี่น่ะ..จะเทียบกับพี่ก้องได้บ้าง ดีไหมครับ” พี่หมีพูดเสียงเครือและพยายามหัวเราะพร้อมกับนำมือของผมไปจูบเบาๆ
“หึ..ได้สิครับ ได้อยู่แล้ว” ผมตอบเสียงเครือ ผมไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงเร็วเท่านี้มาก่อน อย่างที่พี่ฟ้าบอกพี่หมีไว้มันอาจจะจริงก็ได้ว่าที่จริงแล้วผมรอคำๆนี้จากปากของพี่หมีมาเสมอ ผมไม่เคยคิดอยากจะบอกก่อนเพราะผมไม่อยากให้พี่เขาเจ็บปวด ที่จริงแล้วถึงแม้ว่าการกระทำของพี่หมีบางอย่างที่ผ่านมาจะทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจ ไม่ว่าจะคำพูดหรือการกระทำที่ไม่ชอบใจอะไรผมก็แล้วแต่ แต่ไม่เป็นไรเลย..ผมไม่เคยนำการกระทำนั้นของพี่หมีมาเปรียบเทียบกับการกระทำที่ผมทำให้ต่อพี่เขา ผมยอมรับเองที่จะได้รับอะไรแบบนั้นเพราะมันคู่ควรกับคนอย่างผม ผมต้องการพี่เขาในอีกฐานะหนึ่งแต่พี่เขาไม่ใช่..ในเมื่อมันไม่บาล้านซ์กันผมก็ควรโดน
“แต่ว่าพี่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี ที่จริง..หวงด้วยแหละนะ” พี่หมีเงยหน้าให้ยิ้มๆ
“พี่หมี..อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงกัสหรอก” ผมบอกด้วยน้ำเสียงปนไปด้วยความหนักแน่น ผมคิดว่าถ้าผมตีความไม่ผิด พี่ฟ้ากับพี่คิวคงได้ยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับงานอะไรให้พี่หมีสักอย่างเป็นแน่ แล้วผมก็ไม่อยากให้พี่หมีต้องมาเป็นห่วงผมจนไม่ก้าวหน้าไปไหน ถึงพี่หมีจะไม่บอกอะไรเลยแต่ผมก็จะไม่ซักไซ้ถามเพราะผมคิดว่าคนเรามีความรู้สึกนึกคิดที่ต่างกัน ถ้าพี่เขาพร้อมเมื่อไหร่พี่เขาก็คงจะบอกผมเอง
“ตัวเองก็พูดได้สิ..ก็คนมันเป็นห่วงนี่” พี่หมีพูดปนหัวเราะ น้ำตาของพี่หมีหยุดไหลไปแล้วแต่ผมกลับยังไหลลงมาเรื่อยๆ
“รู้อะไรไหมครับ” พี่หมีพูดขึ้น ผมเงียบรอฟังอย่างตั้งใจ
“ถ้ากัสน่ะ..ยังไม่เลือกสักทาง” พี่หมีพูดพลางถอนหายใจ
“ว่าจะหยุดกับพี่เซ็นจริงๆ หรือเลือกที่จะรอพี่เค้า..พี่ก็จะยังไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“พี่หมีฮะ” ผมเรียกเสียงเครือ
“ขอให้พี่ได้ทำหน้าที่พี่ชายจริงๆกับเค้าเถอะนะครับ” พี่หมีพูดแทรกขึ้น
“กัสไม่เป็นไรหรอกฮะ กัสจะหยุดแล้วจริงๆครับ..กัสไม่เป็นไร” ผมพร่ำพูดเพราะอยากให้อีกฝ่ายเชื่อคำพูดของผม แต่ก็นั่นละครับ..การหยุดรักใครสักคนของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา ทุกอย่างต้องใช้เวลาทั้งนั้น
= = = = = = = =
วันพุธ ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“สภาพหน้าแย่ทั้งคู่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึไง” พี่ฟ้าทัก คงเพราะเห็นว่าผมตาบวมละมังครับ
“ก็เพราะบอสนั่นแหละ” พี่หมีย้อนว่ากลับทั้งที่พี่หมีก็ไม่ทราบหรอกนะครับว่าเรื่องเมื่อวานผมได้ยินทั้งหมดแล้ว
“โอ้ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับผม” พี่ฟ้าย้อนน้ำเสียงกวนๆ
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ปรับน้ำเสียงมาเป็นจริงจังมองมาที่ผมและพี่หมี
“ทั้งคู่เลยครับ” พี่ฟ้ายิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานของตนไป พี่หมีหันมามองหน้าผมก่อนจะจับมือของผมและพากันเดินตามเข้าไปในห้องของพี่ฟ้า
“พี่ไม่ชอบเลยนะ ที่เห็นทั้งคู่เป็นแบบนี้” พี่ฟ้าเปิดประเด็นทันที อยู่ๆพี่ฟ้าก็ลุกขึ้นเดินไปล็อกประตูห้องก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ทำงานตัวเดิม
“พี่ไม่รู้ว่าทั้งคู่เคลียร์กันแล้วหรือยัง หรือยังไงหรอกนะ” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดชีวิตก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง ผมนั่งลุ้นว่าพี่เขาจะพูดอะไรต่ออีก
“หมีบอกกัสเรื่องนั้นรึยัง” พี่ฟ้าจ้องหน้าพี่หมี พี่หมีส่ายหัวตอบ
“จะพูดเองไหม ถ้าไม่..พี่ก็จะบอกกัสเดี๋ยวนี้แหละ ตอนนี้พี่อึดอัดสุดๆ” พี่ฟ้าเค้นเสียงกัดฟันพูด พี่หมีพยักหน้าตอบพี่ฟ้าส่งๆเหมือนกับเป็นการอนุญาตให้พี่ฟ้าทำตามที่พูดไปเถอะ
“กัสครับ..” พี่ฟ้าถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น
“บริษัท King Jewel ที่ฟ้าครามเป็นเจ้าของบริษัทอยู่ตอนนี้น่ะ..คิวได้เข้าไปช่วยดูงานให้ ทางบริษัทได้เลย์ออฟพนักงานบางส่วนที่ทำงานไม่คุ้มทุนออกไป ส่วนคิวเป็นหนึ่งในคนที่จะคัดพนักงานใหม่เข้ามา” พี่ฟ้าพูดขึ้น ผมจ้องหน้าพี่ฟ้าเขม็งด้วยความตั้งใจ
“กัสก็รู้ใช่ไหม ว่าบริษัทพี่คัดพนักงานเข้มขนาดไหน” พี่ฟ้าพูด ผมรู้กิติศัพท์การคัดพนักงานเข้าของบริษัท King Jewel ดี บริษัทนี้ชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศที่เข้ายากสุดๆ เรียกได้ว่าถ้าใครไม่แน่จริงไม่ได้เข้าไปเหยียบที่บริษัทหินอย่างนั้นหรอกครับ..เพียงแค่สอบสัมภาษณ์ก็ไม่รู้ว่าต้องเผชิญกับผู้บริหารคนไหนบ้าง
“พวกพี่เองก็เห็นความสามารถในงานออกแบบของหมี เราเองก็อยากให้น้องได้งานที่ก้าวหน้าและเป็นหลักเป็นแหล่งมากกว่านี้..หมีน่ะ สอบผ่านข้อสอบของบริษัทเรา สอบสัมภาษณ์ผ่านทุกครั้ง แล้วก็สอบผ่านทุนที่จะได้ไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วย” พี่ฟ้าบอก ผมพยักหน้าและยิ้มให้ อีกใจก็รู้สึกดีใจแต่อีกใจก็รู้สึกใจหายไม่ได้
“ทุนนี้น่ะเจ้าตัวจะต้องรีบตอบรับว่าจะเอาหรือไม่เอา ถ้ารับทุนนี้..จะได้ไปเรียนต่อและกลับมาทำงานที่บริษัทของเราเป็นการใช้ทุนส่วนหนึ่งตามที่กำหนด หมีจะได้ตำแหน่งงานที่ดีและมั่นคงมาก..มีอีกหลายคนที่ต้องการทุนนี้ ต้องการงานตำแหน่งนี้..ถ้าหมียังไม่ตอบรับก่อนกำหนดที่พี่พยายามยืดออกไปให้แล้ว โอกาสนี้มันก็จะหลุดลอยไป” พี่ฟ้าทิ้งน้ำเสียงลงหน้าเครียด
“มันช้าไปแล้ว ที่จริง..คนที่โดนต่อว่าคือคิวไม่ใช่พี่นะ” พี่ฟ้ายิ้มเล็กน้อย ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจในสาเหตุที่พี่ฟ้าพูด
“พี่ไม่สามารถยืดเวลาให้อย่างไร้จุดหมายแบบนี้ ถ้าพี่ยืดเวลาให้โดยพี่สามารถได้รับความมั่นใจจากหมี..ว่ายังไงหมีก็จะตอบรับทุนนี้แน่ พี่จะไม่ว่าอะไรเลยครับ..แต่นี่พี่ไม่ได้รับความมั่นใจอะไรจากหมีเลย ซึ่ง..ทั้งคิวและพี่เองก็พยายามยืดเวลาให้ได้อีกไม่นานหรอกนะครับ” พี่ฟ้ายิ้มให้เล็กน้อย
“แล้วตอนนี้มันกลายเป็นว่ามันเป็นหน้าเป็นตาของผู้บริหารระดับสูง คิวน่ะ..ต้องออกตัวแบกหมีไว้บ่นบ่า ทั้งๆที่ก็ไม่รู้เลยว่าตกลงหมีจะเอายังไงแน่ พี่ก็ไม่ได้จะต่อว่าเพื่อเข้าข้างคิวหรอกนะ..แต่หมีก็ต้องเข้าใจด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้ เหมือนกับคิวน่ะ..ถูกหาว่าใช้เส้นล็อกทุนนี้ไว้ให้หมีไปแล้ว แล้วมันก็จะส่งผลเสียไปถึงฟ้าครามด้วยนะครับ” พี่ฟ้าอมยิ้มด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่นัก ผมหน้าเสีย พี่หมีก็ด้วย
“ที่จริงคิวไม่ได้ให้พี่พูดเรื่องนี้หรอกนะ แต่ขอโทษเถอะ..ขอโทษจริงๆที่ต้องพูด”
“.................” ผมนั่งเงียบ ทุกคนในห้องเงียบไปสักพักใหญ่
“ทุนปริญญาโท แค่สองปีเท่านั้นเอง..พี่ก็ไม่เข้าใจว่าไอ้คนแถวนี้มันจะยื้อไว้ทำไมนักหนา ทั้งที่ตัวเองอยากไปใจจะขาด” พี่ฟ้าพูดปนหัวเราะ พี่หมีหันหน้าหนีเล็กน้อย
“ถ้าพี่จะขอพูดตรงๆว่าสาเหตุอาจจะเป็นเพราะกัส กัสคงจะไม่โกรธพี่หรอกนะครับ” พี่ฟ้าหันมายิ้มให้ผม
“ไม่หรอกฮะ” ผมส่ายหัวตอบ
“พี่ไม่อยากให้หมีเสียโอกาส..มีคนอยากได้ทุนกับตำแหน่งงานที่บริษัทเราอีกเยอะแยะ หมีกลับได้รับแต่ยังกล้าเล่นตัว..หึ ยังไง กัสช่วยทำอะไรกับมันสักอย่างเพื่อพี่หน่อยจะได้ไหมละครับ”
“พี่น่ะ ไม่รู้จะด่ามันยังไงแล้วจริงๆ..ดื้อหน้าตายสุดๆเลยล่ะ” พี่ฟ้าส่ายหัวพร้อมกับเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ พี่หมีเงียบ ผมหันไปมองหน้าพี่หมี พี่หมีเอาแต่ก้มหน้ามองมือของตัวเองที่กำลังนำนิ้วเขี่ยเล่นไปมา
“พี่หมีฮะ” ผมเรียก พี่หมีไม่หันกลับมามอง
“กัสบอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องเป็นห่วงกัส” ผมพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือของพี่หมีมากุมไว้ด้วย
“กัสน่ะโตแล้วนะฮะ สูงเกินร้อยหกสิบห้าแล้วด้วย” ผมพูดติดตลก พี่หมีถอนหายใจแรงและหันหน้าหนีไปอีกทาง
“.................” ในห้องเงียบลงอีกครั้ง พี่ฟ้าจ้องมองมาที่ผมไม่วางตาเหมือนต้องการกดดันให้ผมทำอะไรสักอย่างให้มากกว่านี้
“พี่บอกแล้วไงกัส ว่าถ้ากัสไม่เลือกสักทาง..พี่ก็จะยังไม่ไปไหนทั้งนั้น” พี่หมีหันมาพูดใส่ทำให้ผมถึงกับก้มหน้าลง ผมจะไปทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง ทางเลือกของผมก็แค่อยู่นิ่งเฉยและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง
“ต้องการอย่างนั้นใช่ไหม” พี่ฟ้าพูดแทรกขึ้นทำให้ผมกับพี่หมีหันกลับไปจ้องหน้าพี่เขา
“ที่หมีเป็นห่วงเพราะแค่เรื่องนี้ใช่ไหม” พี่ฟ้าพูดถามพี่หมี พี่หมีพยักหน้าตอบเหมือนปัดไปที
“ก็ดี..ก็ดี” พี่ฟ้าพยักหน้าอย่างเข้าใจและเหมือนกำลังคิดแผนอะไรอยู่
“พี่จะทำให้เรื่องมันจบง่ายๆ ซึ่งมันไม่มีอะไรมากหรอก..อยากลองเล่นดูไหมละ” พี่ฟ้าแสยะยิ้ม สีหน้าของนักวางแผนเริ่มผุดขึ้นให้เห็นในทันที
“คิดอะไรอยู่น่ะ ผมกับกัสไม่ใช่ของเล่นนะ” พี่หมีว่าดักคอ
“เอ๊ะ..ตกลงจะเอายังไง นู่นก็ไม่ นี่ก็ไม่..โว้ย หงุดหงิด” พี่ฟ้าขมวดคิ้ว มือทุบโต๊ะเหมือนไม่ชอบใจที่โดนขัดใจอย่างนี้
“ยังไงล่ะกัส” พี่ฟ้าหันกลับมาถามผมด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงสุดๆ พี่ชายที่ผมเคารพตอนนี้คล้ายกับเด็กเอาแต่ใจไปแล้วละครับ
“อ่ะ..ค” ผมอ้ำอึ้ง
“พี่น่ะ..จะทำให้กัสตัดใจจากไอ้เซ็น สักที” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินอย่างนั้นผมถึงกับหน้าชาไปทั้งหน้า
“ว่าไงล่ะหมี ยอมไหม” พี่ฟ้าต้อนพวกเราไม่หยุด พี่หมีไม่ตอบอะไร
“จะให้พี่เข้าไปยุ่งได้ไหมล่ะครับ” พี่ฟ้าถามอีกครั้ง ผมกับพี่หมีเงียบไปครู่หนึ่ง
“ผมแล้วแต่กัส” พี่หมีตอบ
“ได้สิฮะ” ผมยิ้มน้อยๆ นี่เป็นการตัดสินใจในทันทีที่ลึกๆแล้วมีความลังเลแฝงอยู่มากไม่น้อย แต่ถ้าผมได้ทำตามที่พี่ฟ้าคิดเอาไว้ หลายๆอย่างมันอาจจะดีขึ้นมาบ้างก็ได้ พี่หมีเองจะได้ไปอย่างสบายใจ รวมไปถึงการก้าวไปข้างหน้าของชีวิตความรักของผมก็ด้วย
“แต่การแสดงนี้น่ะ จะต้องรวมหัวกันทั้งร้าน..ยอมใช่มะ” พี่ฟ้าถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่สีหน้ากลับยิ้มแย้มหน้าบาน ผมและพี่หมีพยักหน้าตอบให้อย่างช่วยไม่ได้
“และทั้งสองคนจะต้องสัญญาอะไรกับพี่อย่างนึงด้วย” พี่ฟ้าทิ้งน้ำเสียงพร้อมกับหุบยิ้มลง ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ฟ้าเล็กน้อย
“พี่จะมีลิมิตเกมนี้ให้ ตามเวลาที่พี่กำหนดขึ้นเองเท่านั้น” พี่ฟ้าบอก
“และทั้งสองคนจะต้องยอมรับผลของมัน..ทำใจไว้ล่วงหน้าก็ดีนะครับ เพราะพี่ให้เวลาแค่หนึ่งอาทิตย์ เท่านั้น” ระหว่างที่ฟังอยู่นั้นสมองของผมเริ่มคิดภาพไปต่างๆนาๆและแน่นอนว่าหัวใจก็เต้นแรง
“ไม่ว่ายังไง..หลังจากนั้นหมีจะต้องให้คำตอบพี่ให้ได้ ว่าจะรับทุนหรือไม่รับ..หมีทำได้ใช่ไหม” พี่ฟ้าถาม
“ครับ” พี่หมีพยักหน้าตอบ
“ส่วนกัส ถ้าเซ็นยอมให้กัสกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมัน พี่จะไม่ห้ามอะไร..”
“แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น กัสจะต้องตัดใจ..ยอมรับความจริง และต้องตัดใจ จริงๆ” พี่ฟ้าย้ำพูดชัดถ้อยชัดคำ ผมน้ำตาคลอแต่ก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“ถ้ากัสทำไม่ได้ พี่ก็คงต้องไล่กัสออก..” พี่ฟ้าบอก ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ฟ้า พี่ฟ้าเองก็มีสีหน้าเศร้าไม่ต่างกันแต่สายตาที่จริงจังของพี่ฟ้าทำให้ผมเริ่มกลัวใจของพี่ฟ้าขึ้นมาจริงๆ
“ถ้าพี่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น พี่จะทำแน่ครับ..พี่จะทำ ถ้านั่นมันจะทำให้น้องชายที่น่ารักของพี่เดินไปข้างหน้าสักที”
“เข้าใจพี่ด้วยนะครับ” พี่ฟ้าพูด
“ครับ” ผมยิ้มให้พี่ฟ้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจ ผมเข้าใจดี คล้ายกับตอนนี้ทุกคนกำลังพยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เพียงแค่เข้าใจเท่านั้นแต่กำลังพยายามเข้าถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย เมื่อเราคุยกันเสร็จพี่ฟ้าอนุญาตให้พวกผมออกมาทำงานต่อ
-
“แน่ใจแล้วใช่ไหม” พี่หมีถามขึ้นระหว่างที่พี่เขากำลังเช็ดจานชามอยู่
“ฮะ” ผมพยักหน้าตอบ
“โอเค” พี่หมีพึมพำ
“อาทิตย์หน้าพี่หยุดหนึ่งอาทิตย์นะ พี่ฟ้าอนุญาตแล้ว” พี่ซีเดินเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ไปไหนเหรอฮะ” ผมรีบถามด้วยความอยากรู้
“ไปฝรั่งเศสกับพี่ฝันแล้วก็เพื่อนของพี่ฝันที่เป็นนางแบบอ่ะ..อิอิ” พี่ซียิ้มกว้าง ผมอ้าปากค้าง
“แบบว่า พี่จะได้ไปดูเพื่อนของพี่ฝันไปถ่ายแบบที่นู่นด้วยแหละ..โชคดีชะมัด” พี่ซีพูดพร่ำหน้าบาน
“เอ๋ ไหงงั้น..อยากไปด้วยอ่า” ผมร้องเสียงหลง เกิดมาผมเพิ่งเคยไปฝรั่งเศสแค่ครั้งเดียว เป็นครั้งเดียวที่ไปกับทางบ้านอีกด้วย ผมก็อยากไปเที่ยวกับพวกพี่ๆที่ร้านบ้าง อย่างเช่นไปกับพี่ฟ้า พี่ซีอะไรแบบนี้ เพราะได้ไปกับคนที่รู้ใจและช็อปปิ้งเก่งมันคงจะมีความสุขมากๆเลยละนะครับ
“ไปสิ” พี่ซีชวน
“ไปได้ที่ไหนล่ะฮะ ป๊าบอกว่าถ้ากัสจะไปต้องมีพี่ก้องกับพี่เกตุไปด้วยทุกครั้ง” ผมบ่นหน้างอ
“พ่อกัสเนี่ยหวงกัสยิ่งกว่าพ่อพี่หวงพี่ซะอีกอ่ะ” พี่ซีทำหน้าขยาด
“นั่นน่ะสิฮะ” ผมว่าอย่างเห็นด้วย
“ก็เพราะเค้าเป็นห่วงไม่ใช่รึไง” พี่หมีพูดขึ้น ผมหันไปทำหน้างอใส่
“คนที่กลับเกือบเช้าโดยไม่ยอมรับโทรศัพท์สักสายเดียวนี่ไม่มีสิทธิ์พูดประโยคนี้หรอกนะครับ” ผมว่าให้ พี่หมียักไหล่ยิ้มๆ
“งั้น..วันหลังเราไปกันนะ” ผมเปลี่ยนอารมณ์ เข้าไปจับชายเสื้อของพี่หมีดึงๆเป็นการอ้อนทันที
“ใครจ่ายล่ะ” พี่หมีถามกลับ
“พี่หมีไง” ผมยิ้มตอบ
“กัสไม่มีเงินเก็บหรอกนะฮะ ได้มา..ก็ออกไป” ผมยิ้มอย่างภูมิใจในตัวเองซะไม่มี
“หึ” พี่หมีกับพี่ออฟหัวเราะเล็กน้อย
“พี่ไม่ให้กัสมาถลุงเงินเก็บของพี่เล่นๆหรอกครับ” พี่หมีทำหน้าเข้มใส่
“ชิ..ขี้งก” ผมว่าให้
“แล้วพี่เซ็นไปด้วยรึเปล่า” พี่ออฟถามขึ้น
“ไม่ได้ไป..จะไปได้ยังไงล่ะก็ต้องอยู่ทำงานนี่ เนี่ย..เพราะซีไปกับพี่ฝันหรอกนะพี่เซ็นถึงให้ไปอ่ะ ขออยู่ตั้งนานแน่ะ” พี่ซีบ่น
“ดีใจๆ..อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าเร็วๆจัง” พี่ซีปรบมือไปมา
“โหย พี่ซีบ้า!” ผมว่าด้วยรู้สึกอิจฉาอย่างแรง ทุกคนต่างก็หัวเราะชอบใจที่ผมมีอาการอย่างนี้
“กัสอยากไปบ้างอ่ะพี่หมี” ผมทำให้งออ้อนให้พี่หมีอีกครั้ง
“ไว้พี่เก็บเงินได้เยอะๆแล้วพี่จะพาไปนะครับ เงินที่พี่มีอยู่มันไม่พอให้กัสใช้ได้อย่างคล่องมือหรอก..เชื่อพี่เถอะ” พี่หมีอมยิ้ม
“รอได้ฮะ!” ผมยิ้มกว้าง
“แต่กัสบอกไว้ก่อน ว่ากัสไม่นั่งชั้นประหยัดนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง
“ครับๆ คุณหนู” พี่หมีบ่นอย่างขอไปที พี่ออฟกับพี่ซีหัวเราะอย่างกับเข้าใจอารมณ์ของพี่หมีอย่างนั้น
= = = = = = = =
20:00 น. ณ ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์..
“วันนี้เลยได้ปิดร้านเร็วเลยไง” พี่ซีพูดขึ้นด้วยสาเหตุเพราะว่า ประมาณหกโมงเย็นอยู่ๆพี่ฟ้าก็เรียกพวกเราเข้าไปคุยทีละคนอีกครั้ง ผมและพี่หมีเองก็ด้วย แต่ครั้งนี้เป็นเกี่ยวกับเรื่องงานล้วนๆ เป็นการประเมินงานของพนักงานในร้านที่พี่ฟ้าได้รับจากพี่คิว พี่เซ็นและพี่หมีซึ่งพี่ฟ้าได้รวบรวมข้อมูลเสร็จในวันนี้ ทำให้พนักงานที่มาทำงานภายในวันนี้ถูกเรียกตัวเข้าห้องไปพบทีละคนทีละคน พี่ฟ้าบอกว่าพรุ่งนี้จะเรียกพบสำหรับคนที่ไม่ได้มาทำงานในวันนี้ด้วย ไม่มีใครถูกดุหรือตักเตือนอะไรมาก นอกจากพี่ออฟที่ดันมีลูกค้าเข้ามาขอเบอร์โทรศัพท์และพี่เขาก็ได้ให้กลับไปด้วย ผมคิดว่าพี่ฟ้าคงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในร้านเป็นแน่เพราะว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลยสักคนนอกจากตัวการนั่นก็คือพี่ออฟคนเดียว
“แต่ก็ดี..ได้ไปทานอาหารมื้อเย็นฟรีด้วยแน่ะ” พี่ซียิ้มกว้างกว่าเดิม วันนี้พี่ฟ้าเอ่ยปากจะเลี้ยงอาหารมื้อค่ำกับพวกผมที่ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูอีกด้วย ผมและพี่ซีจึงดีใจกว่าปกติเพราะไม่ได้ทานอาหารญี่ปุ่นมานานมากแล้ว แถมร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อมากๆด้วยละครับ วันนี้ผมตั้งใจว่าจะทานให้พุงกางไปเลย
“ไปกันได้แล้วครับ” พี่ฟ้าเดินเข้ามาเรียก
“ค่า/ค้าบ” พวกผมขานตอบและรีบหอบสัมภาระของตนออกมาจากห้องพักพนักงาน พี่หมีจัดการปิดไฟและล็อกห้องเรียบร้อย พอเดินออกมาหลังร้านก็พบพี่เซ็นยืนอยู่ที่รถของตนเอง ผมทำใจไว้แล้วว่าพี่เซ็นคงไปด้วยแน่และผมจะทำตัวเองให้เป็นธรรมชาติที่สุดเพื่อไม่ให้พี่ๆคนอื่นรู้สึกลำบากใจหรือเสียบรรยากาศไป
“แน่ใจนะว่าจะไม่ไปด้วยกันน่ะ” ผมชะงักทันทีที่ได้ยินพี่ฟ้าถามพี่เซ็น ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองคงจะอึดอัดที่จะมีพี่เซ็นไปด้วยแต่พอมารู้ว่าพี่เขาจะไม่ไปผมก็อดใจแป้วไม่ได้
“ไม่ล่ะ มีนัดกับไอ้นิกกี้น่ะ” พี่เซ็นตอบเสียงเรียบ
“โอเค..อย่าดื่มเยอะล่ะ” พี่ฟ้าบอกเหมือนอ่านพี่เซ็นออก
“ครับ”
“แล้วก็ ถามคิวด้วยว่าคืนนี้จะกลับบ้านรึเปล่า..ได้คำตอบแล้วส่งข้อความมาบอกอาด้วยนะ หายหัวไปไม่บอกอาสักคำ” พี่ฟ้าพูดแกมบ่น
“หึ..ทำไมไม่ถามเองล่ะ” พี่เซ็นย้อน ระหว่างที่ผมยืนฟังอยู่นี่ผมไม่ได้หันกลับไปมองเลยแม้แต่นิดเดียว
“ชิ ไม่เอาหรอก” พี่ฟ้าทำเสียงหยิ่งๆ
“ทำเป็นนะอา” พี่เซ็นแซว
“ผมไปล่ะ” พี่เขาบอก
“ขับดีๆนะคะพี่เซ็น แล้วก็..ถ้าเมาก็นอนที่คอนโดพี่นิกกี้ไปเลยนะ” พี่ซีที่ยืนอยู่ตรงรถยนต์ของพี่ออฟที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของร้านตะโกนบอก
“ไอ้ออฟ..ดูแลซีดีๆล่ะ” พี่เซ็นย้อนพูดบอกอีกเรื่องก่อนจะขึ้นรถของตนเองไป
“บอสไปก่อนเลย เดี๋ยวผมรอปิดร้าน” พี่หมีบอก
“โอเค เจอกัน” พี่ฟ้าพยักหน้าแล้วขึ้นรถขับออกไปก่อน พี่หมีส่งสัญญาณบอกพี่ออฟประมาณว่าให้ขับนำออกไปได้เลย ผมขึ้นมานั่งบนรถของพี่หมีก่อนที่พี่เขาจะขับออกมาจอดที่หน้าร้านและลงไปปิดประตูรั้วร้านก่อนจะกลับขึ้นมานั่งที่รถอีกครั้ง
“คืนนี้พี่นอนบ้านกัสได้ไหม” พี่หมีถามขึ้น
“จริงนะ!” ผมกระแทกเสียงอย่างดีใจเพราะพี่หมีไม่ได้มานอนที่บ้านผมนานมากแล้ว นานมากๆเลยล่ะครับ
“ครับ” พี่หมียิ้มตอบเล็กน้อย
“พรุ่งนี้พี่ต้องมาเข้าร้านแต่เช้าน่ะ แต่นอนไม่ค่อยพอมาหลายวันแล้ว..ขี้เกียจขับรถกลับไปกลับมา” พี่หมีบอก ที่จริงแล้วบ้านของผมกับคอนโดของพี่หมีถึงจะไม่ไกลมากแต่ก็อยู่คนละทางกันเลยครับ แถมร้านอาหารที่เราจะไปด้วยกันในตอนนี้ก็ไปทางเดียวกับบ้านของผม แถมยังไกลมากอีกด้วย
“ก็ถ้าเมื่อคืนไม่ไปเมามา ก็จะได้นอนพออยู่หรอก” ผมได้ทีจึงแอบเหน็บแนมให้อีกครั้ง
“ซักผ้าปูที่นอนบ้างรึเปล่า พี่กลัวคันน่ะ” พี่หมีเปลี่ยนเรื่องมาแซวผมซะงั้น
“ว่าได้เหรอ อย่างกับตัวเองซักบ่อยงั้นแหละ!” ผมกระแทกเสียงย้อน ผ้าปูที่นอนห้องผมแม่บ้านจะเปลี่ยนให้เดือนละครั้ง แต่เวลาที่พี่หมีมานอนที่ห้องผมทีไร พี่หมีจะชอบแกล้งผมด้วยเรื่องนี้ทุกที นั่นคงเพราะผมชอบมีปฏิกิริยาตอบโต้แบบแปลกๆละมั้งครับ พี่หมีถึงสนุกที่ได้แกล้งผมเรื่องนี้ทุกครั้งไป
...............>>>><<<<...............
ตอนที่ 11 นี้ได้ลงไว้ที่บอร์ดเบบี้ด้วยนะคะ เพื่อใครยังไม่มีเวลาอ่านซึ่งกันไว้เผื่อเล้าเป็ดล่มกะทันหันค่ะ
*มีคนขอสวีทซีน ก็เลยจัดสวีทซีนหมีกับกัสให้ >'<
PS. 12 ตอนจบ !
-
เจี๊ยกกกกก ตอนหน้าจบแล้ว
ตอนหมีบอกยอมแพ้ สงสารอ่ะ น้ำตาไหลตามเลย แอบคิดว่ากัสอาจจะรู้ใจตัวเองขึ้นมา ... แต่ก็ไม่ :z3:
ลุ้นอยู่นะคะว่าเรื่องที่สามนี้จะจบแบบไม่มีพระเอกหรือเปล่า.... ยังไม่เข้าใจอะไรเซ็นเลย ดูเป็นไปไม่ได้ยังไงบอกไม่ถูกง่ะ
-
:z13:
-
แผนการของพี่ฟ้าจะเป็นยังไงต่อไปน๊าาา
ลุ้นๆๆๆๆๆ >.<
-
PS. นั้นหรือคืออะไร!!!!!!!!!!!!!!
ตอนหน้าจบ คืออะไร???????????
ตกลงจะยังไงวะเนี่ย -*-
เรายังเชียร์พี่หมี TTTTTTTTTT
ยังไงก็รักพี่หมีนะ มาหาเค้าเถอะ!
-
บทสรุปความรักของกัสจะเป็นไงตอนหน้าได้รู้แล้ว
แต่สงสารหมีจังแอบน้ำตาคลอตามหมีด้วยแหละ :sad11:
-
น่ารัก หากต้องตัดใจแล้วทำให้ทุกอย่างดีขึ้นคงต้องทำตาม
เอาใจช่วยกัส หมี และเซ็น ประตูนั้นเปิดรอเราแล้วละ
เลือกทางเดินให้ดีนั่นหมายถึงอนาคตเราเลยละครับ :pig4:
-
ให้ตายเถอะ ถ้าเรื่องนี้ไม่มีพระเอกซะเลยยังจะดีกว่า
ถ้าพระเอกคือเซ็น :serius2:
-
ดีจังที่เป็นแบบนี้ รู้สึกโล่งไปกับทั้งคู่ด้วย เหลือก็แต่พระเอกเรานี่แหล่ะ ถ้ามันเยอะนักก็จบแบบไม่มีพระเอกไปเลยบี้ 555... รอตอนหน้าว่าแผนของฟ้าจะเป็นไง
:pig4: :กอด1:
-
เย้ยยย จะจบเเล้วหรอ :a5:
กัสกับหมีเถอะ สาธุๆๆๆๆ
-
รอลุ้นต่อไป :z2:
-
อ้าวจะจบแล้วหรอเนี่ย นึกว่ายังอีกยาวไกลซะอีก
-
สงสารพี่หมี :sad4:
ตอนหน้าจะจบแล้ว? :a5:
-
หะ! o22 จะจบแล้วเหรออออออออ ไม่น้าาาาาาา :serius2:
แต่ยังไงถ้าจบแล้วขอพี่คิวกับน้องเค้กสักหน่อยนะ คิดถึ้งงงงงงคิดถึง :กอด1:
:pig4:
-
พี่หมีเก่งเวอร์มาก สามารถสอบเข้าทำงานบริษัทพี่คิวได้ โอ้ยใครได้พี่หมีเป็นแฟนโคตรโชคดีเลย กัสจ๋าเปลี่ยนใจมาชอบพี่หมีเถอะ แต่ชอบซีนที่พี่หมี-กัสคุยกันมันดูดี เหมือนทั้งคู่จะยอมรับกันและกันได้แล้ว
ว่าแต่แผนพี่ฟ้าจะเป็นยังไงนี่ เล่นรวมหัวกันทั้งร้าน :z3: รอตอนหน้าที่จะเป็นตอนจบ
:L2: :pig4: คนเขียนค่ะ
-
อ่อยยยยย มกล้จบแล้วเราะ
ฮึกกกกก ใจหายอ่ะ
พี่เซ็นจะพลิกกลับมาในจังหวะสุดท้ายมั้ยนะะ
รอลุ้นแบบหวิวๆ ~
-
ห๊ะ ตอนหน้าจบแล้วหรอ :a5:
สงสารหมีจัง ตอนที่บอกว่ายอมแพ้แล้ว :m15:
แต่อยากรู้แผนของฟ้าจังว่าจะออกมาเป็นยังไง
ก็อย่างที่ฟ้าบอก ต้องยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งคนอ่านด้วย
ต้องทำใจยอมรับ :เฮ้อ:
-
อยากให้พี่หมีเป็นพระเอกจัง
-
....จะจบแล้วเหรอ รู้สึกว่าจะเดาออกอยู่นะว่า พี่เซนต์อาจไม่ปล่อยกัส และพี่หมีน่าจะไปไขว่คว้าความก้าวหน้า :laugh:
-
ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอน้องบี้ที่เคารพ ไม่จริงนะ :z3:
:jul1:
-
:pig4:
-
อ้าาาา...รักพี่หมี~ :oo1:
-
ใกล้จะจบแล้วซะเนี่ย
น่าสงสารหมีอ่ะ
-
12 ตอนจบ!!!! อ้ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!! ตอยหน้าก็จบแล้วอ่ะดิ :serius2:
สงสารพี่หมีจังเลย กระซิกๆๆๆ :monkeysad:
-
สงสารพี่หมีทีสุด
-
อั๊ยย่ะ มือซ้ายจะเอาไว้กอดพี่หมี ส่วนมือขวาเอาไว้คอยลูบหัวลูบแก้มกัส
ขอให้แผนพี่ฟ้าสำเร็จเด็ดปีกเดวิลพี่เซ็นได้ อิยะฮ่ะๆๆๆ
+1 :กอด1:
-
นั่งลุ้นไปกับแผนการของคุณฟ้า ว่าจะเป็นยังไง :really2:
-
มาถึงตอนนี้กระจ่างเลย
แต่รอลุ้นแผนของพี่ฟ้าอยู่ว่าจะละทึกแค่ไหน
ขอให้กัสสมหวัง และให้หมีมีความสุขด้วย :call:
:pig4: คะ
-
เศร้า ทั้งรักทั้งสงสารกัสกับพี่หมี
ร้ากกกกัส ไม่เคยคิดเลยว่ากัสเป็นคนโลเล คิดว่ากัสชัดเจนในความรู้สึกตัวเองตลอด และคิดถึงความรู้สึกคนอื่นตลอด
ไม่อยากให้จบเลย ถ้าจบแบบกัสไม่มีคู่นี่ร้องไห้เลยนา 555
ชอบตอนกัสที่สุดแล้ว
สมพี่เซ็น ตอนก่อนจบดันมีบทแค่สามสี่ประโยค 5555
-
:m16: :m16:จะจบแบบไหนอะ :m16: :m16:
รอออออออออออออจ้า :call: :call: :call: :bye2: :bye2: :bye2: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ห๊าาาาาาาาา ตอนหน้าถึงบทสรุึป รักสามเศร้า เรามา 3P กันเถอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า :laugh:
ขอบคุณนะคะ
-
แสดงว่ากัสกับหมีเป็นไปไม่ได้จริงๆ สินะ
-
:sad11: :sad11: :sad11:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
จะจบแล้วหรอ
เหมือนยังไม่พอ
อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเล้ย
-
:pig4: :pig4:
-
ห๊าาา ตอนหน้าจบ
ตกใจ แล้วตอนจบจะเป็นยังไงล่ะเนี้ย
ติดตามจ้าา
-
รอจ้า ;)
-
อ่านตอนต้นแล้วน้ำตาหยดไปกับกัสและพี่หมีเลยอ่ะ :monkeysad:
แต่พออ่านมาตอนท้ายๆ รู้สึกว่าพี่หมีจะเป็นพี่ชายได้จริงๆ
หวังว่าพี่หมีจะตอบรับทุนเพื่อเลือกเดินไปข้างหน้าได้สักที
จะบอกว่าทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องรอดูเกมส์ของพี่ฟ้าก็คงจะไม่ผิด
เพราะเมื่อถึงเวลาที่กำหนดก็เท่ากับถึงเวลาตัดสินอนาคต
เหมือนกับอนาคตของทุกคนอยู่ในกำมือพี่ฟ้าเลยอ่ะ o22
แต่อย่างนี้แหละดีแล้ว ขืนให้จัดการกันเองก็ไม่ไปไหนสักที
เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ ดูจะว้าวุ่นใจกันทุกฝ่าย
ตอนหน้านี่แหละรู้กัน แต่ตอนหน้าก็จะจบแล้วเหมือนกัน :serius2:
คงคิดถึงเรื่องนี้มากๆ แต่จะติดตามข่าวสารอยู่เรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เอาใจช่วยทั้งสามคนให้มีชีวิตที่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ไม่คาราคาซังอีกต่อไป
เอาใจช่วยพี่ฟ้า พี่ฟ้าคิดแผน แล้วแผนจะเป็นยังไงอ่ะ
เดิมพันของกัสก็น่ากลัวนะ ถึงขั้นออกจากงานเลย
ตอนหน้าจบแล้ว ก้รอตอนพิเศษ อิอิอิอิ :bye2:
-
o22 ตอนหน้าจบ
-
ตอนหน้าจะจบแล้ว :a5:
โอยยยยยยยย ชอบตอนนี้มากอ่ะ น่ารักแบบเบาๆ
ถึงพี่หมีจะตัดใจเป็นแค่พี่ชาย ก็โอเคนะ แบบน่ารักอยู่ดี
อ่านมาถึงตอนนี้ชักอยากให้พี่หมีเป็นพระเอก แต่คงยากละ
พี่เซ็นอีกก็นะ อ่านไปอ่านมาทีแรกเชียร์พี่เซ็นหลังๆ ไม่ปลื้มซักเท่าไหร่แล้ว
ลุ้นตอนหน้า อยากรู้ผลจะออกมายังไง โอยยยยยย ตื่นเต้น
-
โอ้!!!! บทสรุปใกล้เข้ามาแล้ว อยากรู้แผนการของอาฟ้าจริงๆ รอต่อไป คาดเดาไืม่ได้เลย :really2:
-
รอดูผล แผนล้วงใจของพี่ฟ้า :impress2:
ขอบคุณเบบี้ o13
-
:เฮ้อ: เมื่อไหร่หมีและกัสจะเคลียร์กันแบบรู้เรื่องกว่านี้นะ
อ่านแล้วงง
-
ประวัติบาคาร่าในฝรั่งเศส
แม้ว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของบาคาร่าจะยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่แต่เป็นที่ แน่ชัดแล้วว่ารูปแบบและลักษณะของเกมบาคาร่าที่ใช้เล่นในปัจจุบันมีต้นกำเนิด มาจากประเทศฝรั่งเศส บาคาร่านั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 16 – 17 จากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วมีการเล่น บาคาร่า (http://www.playerwin88.com) ทั้งในบ้านและราชวัง ในช่วงการปกครองของพระเจ้านโปเลียน (Napoleon) มีการเล่นบาคาร่าในคลับการพนันนอกกฎหมายหลายแห่ง แต่ในปัจจุบันการเล่นบาคาร่าในบ่อน คาสิโน (http://www.playerwin88.com) กลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายไปแล้วที่ประเทศกัมพูชา มีเกมต่างๆที่ได้รับความนิยมแนะนำให้ผู้เล่นได้เลือกเล่นมากมายและด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยผู้เล่นสามารถเล่นผ่านออนไลน์หรือผ่านทาง GclubIphone (http://www.tigerbet88.com) ได้ที่ Gclub iphone (http://www.tigerbet88.com) มีเกม คาสิโนออนไลน์ (http://www.ez4win.com) ที่พร้อมให้เล่นได้ตลอด 24 ชม. มีทั้งเกม บาคาร่าออนไลน์ (http://www.playerwin88.com)แบ่งเป็น Baccarat (http://www.playerwin88.com) และ Baccarat Online (http://www.playerwin88.com) ที่มีกติกาการเล่นคล้ายกับเกม ป๊อกเด้งออนไลน์ (http://www.tigerbet88.com) เกม Gclub Online (http://www.gclub-online.com) แม้ว่าผู้เล่นจะพิมพ์คำว่า Gclub (http://www.gclub-online.com) ,G club (http://www.gclub-online.com), G club Online (http://www.gclub-online.com) ก็สามารถเล่นGclub (http://www.gclub-holiday.com) ได้เพราะเป็นเกมเดียวกัน แต่อาจจะมีเป็นบางครั้งที่ เล่นสล็อต (http://www.gclub-holiday.com)ไม่ได้ผู้เล่นก็สามารถเปลี่ยนมาเล่น เกม คาสิโนออนไลน์ (http://www.okwin88.com) แบบอื่นๆแทนได้ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 บาคาร่าเป็นเกม G club (http://www.okwin88.com) ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในคาสิโนเมืองริเวียร่า (Riviera) ของฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีเกมบาคาร่าด้วยกันสองรูปแบบ คือ เชอแมงเดอเฟร์ (ChemindeFer) และ บาคาร่าอันบาค (En-Banque) ข้อแตกต่างของบาคาร่าทั้งสองรูปแบบอยู่ที่ผู้แจกไพ่และจำนวนผู้เล่นในเกม ในบาคาร่าแบบ เชอแมงเดอเฟร์ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดจะเป็นผู้แจกไพ่และเป็นเจ้ามือ ผู้เล่นที่วางเดิมพันสูงสุดรองลงมาจะเป็นตัวแทนของผู้เล่นที่เหลือในการเล่น แข่งขันกับเจ้ามือ ส่วนในบาคาร่าอันบาค บ่อนจะเป็นเจ้ามือเองและมีดีลเลอร์ทำหน้าที่แจกไพ่ให้ผู้เล่น ลักษณะของโต๊ะเล่นบาคาร่าจะเป็นโต๊ะคู่ที่ออกแบบให้มีที่นั่งสำหรับผู้เล่น ด้านซ้ายและด้านขวาของเจ้ามือฝั่งละห้าคน ผู้เล่นหนึ่งคนจากฝั่งซ้ายและอีกหนึ่งคนจากฝั่งขวาจะเป็นตัวแทนผู้เล่นแต่ละ ฝั่งที่จะเล่นแข่งกับเจ้ามือ กฎการเรียกไพ่และการอยู่ แต้มทั้งฝ่ายเจ้ามือและผู้เล่นจะเหมือนกันในเกมบาคาร่าทั้งสองแบบ
ขอขอบคุณ http://www.thaiboyslove.com ที่ให้ความกรุณาในการเผยแพร่
ไม่ทราบว่าคอมเม้นนี้ ต้องการอะไรจากสังคม !?
-
ห๊าาา ตอนหน้าจบ
ตกใจ แล้วตอนจบจะเป็นยังไงล่ะเนี้ย
ติดตามจ้าา
ตอนจบหมีได้กับไอ้คิว เพราะที่จริงหมีเป็นเมียเก็บของคิวมานานมากแล้ว..เพิ่งจะมาเปิดตัว กร๊าก
:m20: :m20:
-
:laugh: :laugh: :laugh: ถ้าจบเเบบพี่บี้ว่า หนูคงฟินตาย คาที่นอนเลยค่ะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: คิดถึงงงพี่บี้จังงงงงง ช่วงนี้ใกล้สอบเครียดมากมายยยย
-
พี่เซ็นหนอ :เฮ้อ:
-
:laugh: :laugh: :laugh: ถ้าจบเเบบพี่บี้ว่า หนูคงฟินตาย คาที่นอนเลยค่ะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: คิดถึงงงพี่บี้จังงงงงง ช่วงนี้ใกล้สอบเครียดมากมายยยย
พี่ก็พูดเล่นไปงั้น..เพราะมันคงจบแบบนั้นไม่ได้ เพราะคิวเป็น..ผัวพี่ กร๊ากกกกกกกกก :laugh: :laugh:
-
จะจบแล้วเหรอ.. =[]=
ยัง งงๆ อยู่เลย T^T กัสรีบเลือกนะ!!
-
อ่านตอนนี้ยังเดาตอนจบไม่ได้เลยง่า
ตอนจบนี่มีลุ้นแน่ๆ :z2:
-
พี่ก็พูดเล่นไปงั้น..เพราะมันคงจบแบบนั้นไม่ได้ เพราะคิวเป็น..ผัวพี่ กร๊ากกกกกกกกก :laugh: :laugh:
อ่าวววว แล้วเค้กอ่ะ งั้นพี่ขอเค้กกลับบ้านนะ 55555555555
ตอนนี้ อิพี่เซ็นจะโดนเอาคืนแบบไหนบ้างน้อ จะกลายเป็นเซ็นมันระเบิดออกมา หรือกัสเสียใจ
แต่พี่ฟ้าเนี่ย แผนแกล้งคนอื่นนี้โคตรเร็วอ่ะ แสดงว่าการช่วยครั้งนี้ ทั้งเพื่อตัวกัสเองและความสนุกส่วนนึงของพี่ฟ้าแน่ๆ
-
:z3:
อ๊ากกกก ไรอ่ะ 12 ตอนจบรึ ?
เรื่องยังไม่ได้เคลียไรเลยยย
เอาล่ะทีนี้ !!! ต้องลุ้นใครจะยังไง
กัสเซ็นรึไม่ ? รึ จะมีเพียงแต่กัส !
ติดตามมมมมม ม
-
พี่หมีเป็นแฟนฟ้าครามเลย อิอิ
บี้อ่า คิวของเค้กนะ555555
-
รอตอนจบ ขอให้พี่หมีทำใใจได้ไวๆ
ส่วนพี่เซ็นเอาให้เจ็บสุดๆ ก่อนได้น้องไปครอบครองเถิด สาธุ๊ๆๆๆๆๆ
-
ห๊า จะจบแล้วเหรอ o22
คิดถึงเบบี้แน่เลย :o12:
-
อ่ะ จะจบแล้ว แอบเศร้านิดๆ แต่ยังงัยก็ยังเชียร์และชอบหมีมากกว่าเซ็นนะ เฮ้อ ...
-
ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ ยังไม่เคลียเลย
และอยากได้บทสวีทหวานของกัสคู่กับคนที่ใช่สำหรับกัสด้วยจ้าน้องเบจ๋า
:L1:
-
:L1: :L2: :man1: หมีกับกัส คล้ายๆ เพลงกับขนม เลยนะ :z2: o13
-
รอตอนจบจ้า :mc4:
-
แผนพี่ฟ้าคืออะไรกัน ความรักของกัสจะจบแบบไหนนะ
-
แผนอะไรของพี่ฟ้านะ ดูน่ากลัวจริงๆ 555
จริงๆเค้าก็เชียร์พี่เซ็นนะ แต่ก็หมั่นไส้มันในบางที =*= เจ้าชู้ด้วยอะ
อยากให้กัสเอาคืนพี่เซ็นบ้าง :z13:
-
น่ารักจังเลยนะกัสจัง
พี่หมีก็น่ารักๆ
-
:m15: :monkeysad: :impress3: :sad4:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
อ่ะ จะจบละเหรอ
ยังไปไม่ถูกทางเลย
เหมือนถูกทุบหัวยังไงยังงั้น
มึนตึ๊บอยู่
ขอบคุณครับ เบบี้
-
มายกอทททททททททท แอบช็อคกับ ps. ของเบบี้นะค่ะ 12 ตอนจบบ O_O (แต่ข้ามประเด็นนี้ไปก่อน)
อยากบอกว่า พี่ฟ้าเจ้าเล่ห์มากๆๆเลย แผนนี้ต้องเยี่ยมยอดมากแน่ๆๆ
แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว ลุ้นมากๆๆเลยค่ะ
ขอบคุณเบบี้นะค่ะสำหรับนิยายย รอบทสรุปตอนหน้านะค๊า
-
+1 จริงอ่ะ ตอนหน้าจบเหรอ อ่ะ ยัง กอด กัสไม่เต็มอุ่นเลย :z3:
-
อ่า...อย่างนี้หรือเปล่านะท่ีเค้าเรียกกันว่า ชะตา"ฟ้า"ลิขิต เหอ เหอ :angellaugh2: :o9:
รู้สึกว่าจะจบเร็วยังไงไม่รู้ หรืออ่านเพลินจนไม่อยากให้จบกันนะ (คงเป็นอย่างหลังมากกว่า :impress2: )
นึกถึงตอนพี่เซ็นต้องยอมน้องกัสอย่างหมดรูปไม่ออกเลยจริง ๆ :laugh3: ยังไงก็จะรออย่างใจจดใจจ่อ หุ หุ :a2:
แล้วชีวิตหลังแต่งงาน เอ๊ย! หลังเป็นแฟนกันของเค้กกะคิวเป็นไงบ้างเนี่ย พี่คิวคงโดนอาสุดที่รักแกล้งด้วยจุดอ่อน(หรือจุดแข็งก็ไม่รู้)นี้แน่เลย สุดท้ายคนรับเคราะห์คงไม่พ้นน้องเค้กผู้น่าสงสาร(เพราะหน้าบางที่สุด). ------> ขอพร่ำเพ้อบ้างไรบ้าง คนกะลังอินเต็มที่ :give2: :o11: :try2:
-
แล้วจะเป็นไงต่อหว่า ต้องรออ่านต่อตอนจบ
ยังไม่อยากให้จบเลย 555
ขอบคุณที่อัพนะคะ รออ่านต่อไปค่ะ ^^
-
ห๊ะ !! :a5: จะจบแล้ว
ยังรู้สึกมึน ๆ กับเนื้อเรื่องอยู่เลย
เดี๋ยวไปย้อนอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรก
ตกลงใครมันพระเอกกันแน่เนี่ย
พี่เซ็นดูจะแทบไม่มีบท พี่หมีก็แลดูมึน ๆ
สรุปตอนนี้ไม่มีพระเอก ฮริ้วววววว ๕๕๕๕๕๕
:z3:
-
พี่ก็พูดเล่นไปงั้น..เพราะมันคงจบแบบนั้นไม่ได้ เพราะคิวเป็น..ผัวพี่ กร๊ากกกกกกกกก :laugh: :laugh:
เค้ก....นี่เธอเป็นเมียน้อยพี่คิวสินะ
๕๕๕๕๕๕๕๕ โถ น่าสงสาร พี่คิวนี่คู่เยอะนะ
คิวบี้ คิวเค้ก คิวฟ้า คิวเซ็น
ใครได้พี่คิวเป็นเมียเนี่ยยอดชายเลย
-
อ่าาาาาาาาาาา ตอนหน้าก็ตอนจบแล้ว
กัสจะคู่กับใคร!!! หมี หรือ เซ็น
-
เรื่องที่ยังหาจุดจบไม่ได้ เลยต้องให้ผู้ชำนาญการณ์มาวางแผน ให้อะไร ๆ ที่มันยาก เข้ารูปเข้ารอย
ส่วนจะออกมาในรูปแบบไหน คงต้องลุ้นกันในตอนหน้า :m5:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ เบบี้ :กอด1:
-
ใกล้ถึงบทสรุปแล้วซินะ ติดตามแผนของพี่ฟ้าต่อว่าจะได้ผลเป็นแบบไหน
-
PS นั้นคือ ???
จะจบแล้วหรอ สองคนนี้ ยุในกำมือพี่ฟ้าแล้วชัดๆ น่ากลัวมาก
-
เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปนะ
ติดตามรอตอนต่อไปค่ะ
-
อ๋ายยยยยยย จะจบแล้ว อิอิ
กัสจัง จะได้มีคนรักแล้ว ^^
รอคอย Love scene เค้ก คิว :z1:
ขอบคุณเบบี้นะค้าบ :L2:
-
น่ารักก
:pig4:
-
พี่เซ็นดูเซ็งๆนะ :jul3:
-
อะไรง่ะ จะจบแล้วหรอเนี่ย
แบบนี้ก็หมายความว่า......ไม่เอาไม่เดาดีกว่า
รอดูแผนของอาฟ้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หวังว่ากัสจะไม่โดนไล่ออกนะค่ะ
-
อาฟ้าเล่นลงทุนวางแผนการณ์เองแบบนี้ งานนี้ท่าทางสนุกแน่ :laugh:
-
อ๊ากกกกกก ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ ? ไม่นะ รู้สึกว่ามันเร็วไปยังไม่อยากให้จบเลย
อยากรู้จริงๆว่าพี่ฟ้าจะทำยังไง แผนนี้ผลจะออกมาในรูปแบบไหนคงขึ้นอยู่กับกัสและพี่เซ็น
แล้วล่ะ ทำแบบนี้มันก็ดีต่อทุกฝ่ายนะ พี่หมีก็จะได้ก้าวหน้าและเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองคนอื่น
ซะที ส่วนกัสก็จะได้แน่นอนในชีวิตของตัวเองซะที ดูมีจุดหมาย ไม่เลื่อนลอยแบบทุกวันนี้
โอยยยยย ลุ้นกับตอนจบจริงๆ
-
รอลุ้นตอนจบดีกว่า ไม่อยากเดาเดี๋ยวถูก อิ อิ
:กอด1:
-
ร้องไห้ตอนที่หทีกับกัสปรับความเข้าใจกัน
ฮือออออ ทำไมไม่เลือกหมีนะ ฮือออ
-
จะจบแล้วอะ
-
อีกตอนเดียวเอง จะจบล่ะ
พี่ฟ้ามีแผนอะไรเนี้ย?????
-
อยากรู้แผนของพี่ฟ้าจริงๆว่าจะเป็นแบบไหน
ความจริงอยากให้กัสคู่กับพี่หมีมากกว่า
-
เม้นแล้วก็จะเม้นอีก มีไรป่ะ!! :m14: (บี้ : กวนตีนนนนน :z6:)
ไม่ว่าแผนการณ์ของอาฟ้า ผลลัพท์มันจะออกมาในรูปแบบไหน
กัส อาจจะต้องเสียใจ หรือ อาจจะสมหวัง อันนั้นก็ขึ้นอยู่กับใจของพี่เซ็นว่าเลือกที่จะตัดหรือสานต่อหัวใจของตัวเอง
แต่สิ่งนึงที่เราคิดว่ามันไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสำหรับกัสคือ
สถานะระหว่างพี่หมีกับกัส ยังงัยมันก็ยังเป็นได้แค่ "พี่ชาย" เท่านั้น
กัสรักพี่หมี ใช่!!
แต่มันเป็นความรักสำหรับน้องชายที่มีให้กับพี่ชายเท่านั้น
ถ้าให้เปลี่ยนเป็นรักอย่างอื่นที่ลึกซึ้งกว่านี้ มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
เพราะถ้าจะเปลี่ยนมันคงเปลี่ยนมาตั้งนานแล้วหล่ะ
"ปากเธอแข็งรู้มั๊ย แต่ว่าฉันก็รับไว้ ด้วยหัวใจที่รอ
ได้แต่หวังสักครั้ง คำเดียวก็พออยากได้ยินว่า....รักกัน"
กัสคงอยากได้ยินจากพี่เซ็นเน๊อะ :monkeysad:
-
อ่านถึงแค่ตอนกัสได้เสียกะพี่เซ็นแล้ว ไม่กล้าอ่านต่อค่ะ เชียร์พี่หมีเต็มตัวอ่ะ อึก อึก สงสารพี่หมี ยังไม่กล้ากลับไปอ่านอยู่ดี อ่ะ :sad4: แต่ก็รอตอนต่อไปนะคะ ขอทำใจก่อน เดาทางไม่ถูกแล้วมันแซดดดดด
-
แอบคิดถึงเค้กคิวเบา ๆ อาจมีส่วนรู้เห็นกับแผนการ(ดี?)ของพี่ฟ้า :z2:
-
คนอ่านงก อยากได้หลายๆ ตอน
-
พี่ฟ้าร้ายกาจมาก แต่ดีจะได้เคลียร์ซะที
ไม่อยากให้จบเลย ขอตอนพิเศษเซ็นกัสเยอะๆนะเบบี้
แต่ยังอยากอ่านเค้กกัสอยู่ ฮ่าๆ//โดนพี่คิวตบ
-
แจ้งข่าว !!!!!!!!!!!!!!!!!!
***รายละเอียดเพิ่มเติมที่: http://baby.thai-forum.net/t497-topic
เบบี้
5 พ.ค 59
~12~
เช้าวันพฤหัส ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
“รบกวนด้วยนะครับ” พี่หมียิ้มและผงกหัวให้ทุกคนด้วยท่าทางนอบน้อม วันนี้ผมและพี่หมีลุกขึ้นอาบน้ำอาบท่าแต่เช้าเพราะพี่หมีต้องไปทำงานที่ร้าน ทุกคนในครอบครัวของผมเตรียมพร้อมที่โต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว
“เชิญเลย ตามสบายนะ” พ่อพูดพร้อมกับผายมือให้ แต่ก่อนพี่หมีมาบ้านผมค่อนข้างบ่อย และดูจะเข้ากันได้ดีกับพ่อของผมมากในเรื่องกองทัพและการเมือง ผมไม่รู้ว่าพี่หมีแกล้งสนใจที่จะพูดคุยเรื่องพวกนั้นรึเปล่า แต่ดูเหมือนว่าพ่อจะถูกใจพี่หมีมากทีเดียว
“เมื่อคืนผมมาส่งกัสค่อนข้างดึกน่ะครับ แล้วผมก็เหนื่อยมากด้วย..เลยต้องขอรบกวนนอนที่นี่” พี่หมีพูดด้วยน้ำเสียงถ่อมเนื้อถ่อมตัวซะไม่มี ผมยิ้มกว้างให้ทุกคนพร้อมกับส่งสัญญาณให้พี่นันตักข้าวเสิร์ฟได้
“ไม่เป็นไรๆ..มานอนค้างบ่อยๆก็ได้ นายออกจะมารับมาส่งบ่อยขนาดนี้ ทางเราต่างหากล่ะที่ต้องเกรงใจน่ะ” พ่อยิ้ม
“ใช่ๆ” ผมยิ้มกว้างกว่าเดิม พี่หมีหันมาหัวเราะให้ผมเล็กน้อย
“คุณพ่อกับคุณแม่เป็นยังไงบ้างล่ะ” พ่อถามขึ้นทั้งที่ก็ไม่เคยได้เจอพ่อกับแม่ของพี่หมีเลย แต่เขาสองคนคงจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันในเรื่องนี้บ้างละมังครับ
“ท่านก็สบายดีครับ แล้วคุณลุงกับคุณป้าล่ะครับ..แต่คงไม่สบายเท่าไหร่ คงจะต้องปวดหัวกับกัสบ่อยๆ” พี่หมีแซว
“หึหึ..นั่นน่ะสิ อย่างนั้นเลยล่ะ” แม่ยิ้มตอบ
“ทานข้าวดีกว่าฮะ ว่ากัสนี่มันจะทำให้ทานข้าวอร่อยขึ้นรึไง” ผมทำหน้างอใส่ทุกคน ทุกคนต่างยิ้มเหมือนกับมีความสุขก็ไม่ปาน
“เชิญเลยครับพี่หมี ไม่ต้องเกรงใจนะ” ผมบอกพร้อมกับเอื้อมตักกับข้าวให้พี่หมีด้วย
“ตามสบายนะ” พี่ก้องที่นั่งอยู่ข้างๆพี่หมีลูบไหล่พี่หมีเบาๆก่อนที่พวกเราทุกคนจะลงมือทานอาหารเช้าร่วมกัน
หลังจากทานอาหารเสร็จพี่หมีก็เดินทางไปทำงานต่อ แต่ผมยังไม่ไปเพราะผมมีเวรเข้าตอนประมาณบ่ายสามโมง จึงกะว่าจะอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านก่อนแล้วถ้าทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วค่อยให้คนขับรถไปส่งที่ร้านนะครับ
ตื๊ด ๆ ๆ
“ฮะพี่หมี” ผมรีบกลิ้งตัวจากที่นอนอ่านหนังสืออยู่ไปกดรับสายในทันที
“นี่กัส..” พี่หมีพูด
“ครับผม” ผมย้ำเสียงร่าเริงเพราะอยู่ๆก็รู้สึกดีแปลกๆ คงเพราะหนังสือนิยายรักที่กำลังอ่านอยู่มันทำให้ผมลืมเรื่องราวอะไรบางอย่างไปได้
“บอสบอกว่าวันนี้ไม่ต้องเข้าร้านน่ะ” พี่หมีพูดบอก
“หมายถึงกัสเหรอฮะ” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่ครับ เหมือนว่า..บอสเจ้าเล่ห์นั่นจะให้เริ่มแผนเลยน่ะ” พี่หมีพูดเสียงเรียบ
“งั้น..เหรอ” ผมทิ้งน้ำเสียงลง จากที่รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขอยู่เมื่อกี้ก็รู้สึกใจหายวาบไปถนัดตา ทั้งพี่หมีและผมต่างเงียบลงพร้อมกัน
“พี่ก็ไม่รู้ว่าบอสนั่นจะทำอะไรต่อนะ แต่บอสบอกว่า..ให้เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากๆน่ะ ทำแค่นี้ก็พอแล้ว” พี่หมีบอก
“ครับ” ผมพยักหน้างึกงักอย่างเข้าใจ
“กัสโอเคใช่ไหมครับ” พี่หมีถาม
“ครับ โอเคสิ” ผมตอบทั้งรอยยิ้ม ถ้าผมตอบไปโดยที่ผมไม่ยิ้มผมคิดว่าน้ำเสียงของผมคงไม่จริงใจเป็นแน่ เคยมีคนว่ากันไว้ว่า..เวลาพูดโทรศัพท์ให้คอยส่องกระจกและสังเกตใบหน้าของตนเองว่ามีปฏิกิริยาต่อบทสนทนาอย่างไร ซึ่งน้ำเสียงที่พูดออกไปก็เหมือนกับสีหน้าของเราที่กำลังเป็นอยู่
“อย่าฝืนทำเพื่อพี่อีกนะครับ ครั้งนี้เราต้องเปิดใจกันให้มาก..ถ้าตรงไหนที่กัสรู้สึกว่าไม่สบายใจ ต้องพูดรู้ไหมครับ” พี่หมีพูด ผมได้แต่เงียบฟังเพราะไม่รู้ว่าจะตอบออกไปอย่างไรเพื่อไม่ให้พี่หมีเองต้องรู้สึกแย่พอๆกับที่ผมเป็นในตอนนี้ พี่เขารู้ทุกอย่างที่ผมคิดซะแล้ว..มันไม่ค่อยดีเลยเพราะผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวอย่างไรให้มันพอดี
“พี่น่ะ ไม่อยากให้กัสต้องรู้สึกแย่เพราะพี่อีก..พี่บอกแล้วว่าพี่จะทำหน้าที่พี่ชายให้ดี ขอให้สบายใจเถอะนะครับ นึกถึงตัวเองให้มาก..อย่ามานึกถึงพี่อีก”
“แต่..” ผมเอ่ย
“พี่จะไม่เป็นไร ถ้ากัสไม่เป็นไร..รู้ไว้แค่นี้ก็พอ” พี่หมีตัดบท ผมเงียบไม่ตอบอีก
“เข้าใจไหมครับ” พี่หมีถามเสียงนุ่ม
“เข้าใจฮะ” ผมตอบ พยายามไม่ให้น้ำเสียงตัวเองสั่นเพราะผมไม่อยากร้องไห้ให้พี่หมีได้ยิน ที่จริงมันไม่ใช่แค่รู้สึกเสียใจ แต่ผมกำลังรู้สึกซึ้งกับคำพูดของพี่หมีจนจุกอกต่างหากละครับ..หึ
= = = = = = = =
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาผมไม่ได้ไปทำงานตามที่พี่ฟ้าสั่งพี่หมีเอาไว้ วันนี้หลังเลิกเรียนผมก็มาขลุกอยู่กับพี่หมีที่คอนโด ผมไม่รู้ว่าทำไมพี่ฟ้าถึงบอกว่าให้ผมกับพี่หมีใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากๆ ส่วนอย่างอื่นก็ไม่ต้องทำอะไรให้พี่ฟ้าเป็นคนจัดการอย่างเดียว ไอ้ผมเองก็กลัวว่าทุกอย่างจะไม่สมจริงและกลัวว่าใครจะจับได้ หลังจากเมื่อวานผมคิดได้วันนี้จึงตรงดิ่งมาอยู่ที่คอนโดของพี่หมีในทันที วันนี้พี่หมีไม่ได้ไปทำงานทั้งที่จริงพี่หมีมีเวรงานที่ร้านต้องทำทุกวัน พี่หมีบอกผมว่าพี่ฟ้าได้สั่งพี่หมีไว้อย่างนี้เหมือนกัน เราเลยได้ใช้เวลาที่มีอยู่ด้วยกัน พี่หมีมีเวลาว่างมากพอจากการทำงานฟรีแลนซ์ของตนไปรับผมที่มหาลัยได้ ผมรู้สึกดีมากเพราะทำให้เราได้ไปดูหนังและทานข้าวด้วยกันบ่อยขึ้น
ส่วนวันพรุ่งนี้ผมก็ไม่มีเรียน มีแค่เรียนพิเศษที่โรงเรียนสอนภาษาก็เท่านั้นและด้วยที่ว่าพี่หมีไม่ต้องไปทำงาน พี่หมีจึงอาสาจะไปส่งผมที่โรงเรียนและจะรอรับกลับไปทานอาหารพร้อมกันเลย คืนนี้ผมจึงจะนอนที่คอนโดของพี่หมีเพราะจะให้พี่หมีช่วยพิมพ์งานให้ด้วย พอดีว่า..ด้วยความที่ว่างมากเกินไปจนรู้สึกขี้เกียจขึ้นมาเล็กน้อยน่ะครับ
= = = = = = = =
บ่ายของวันอาทิตย์ ณ คอนโดหมี..
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมมาอาศัยอยู่ที่คอนโดของพี่หมี ทั้งผมและพี่หมีไม่ต้องไปทำงานที่ร้านด้วยกันทั้งคู่ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีเวรทำงานก็ตาม พี่ฟ้าโทรมาหาผมบ้างแต่ว่าพี่ฟ้ากลับไม่พูดถึงเรื่องนั้น ผมเองก็ปากหนักไม่กล้าถามออกไปด้วยเพราะความกลัวล้วนๆ กลัวว่าทุกอย่างมันจะปกติ..กลัวว่าถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่หวังไว้ มันก็จะต้องจบลงสักที ที่จริงแล้วการที่มีคนมาตัดสินใจแทนผมว่าผมควรหยุดหัวใจที่ผมมีต่อพี่เซ็นมันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผมมาก เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะตัดใจได้ เมื่อเวลาเดินมาเร็วหน่อยมันก็ดีต่อตัวผมเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะครับว่ามันก็รู้สึกโหวงเหวงอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ตอนนี้ผมกำลังทำตัวร่าเริงอย่างเป็นปกติเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง เพราะผมก็ไม่อยากคิดมากไปไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็น ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องมันจะจบแบบไหนอย่างไร ล้วนแล้วผมควรจะทำใจกับตัวเองไว้ก็เท่านั้น ผมคิดว่าผมควรจะรอจนหมดลิมิตเวลาที่พี่ฟ้าวางเอาไว้ดีกว่านั่นคงจะแทนคำตอบอะไรได้ดีทั้งหมด
“อยากไปสวนสัตว์จัง” ผมบ่นพึมพำคนเดียว ตอนนี้กำลังนอนดูสมุดภาพสัตว์โลกอยู่นะครับ
“ไปทำไม ไม่อายเด็กรึไง” พี่หมีที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานพูดตอบ
“กัสยังเด็กน้อยอยู่เลยเหอะ” ผมตอบกลับไปอย่างไม่แคร์ ผมเชื่อมั่นว่าผมยังเด็กมาก..อย่างน้อยก็เด็กกว่าพี่หมีอยู่หลายปีละนะ พี่หมีอมยิ้มเล็กน้อย
“ไปดำน้ำดีกว่า อยากไปจะแย่” พี่หมีพูด
“โหย ไม่เอาหรอก..เดี๋ยวดำ ผิวเสียหมด” ผมบ่น
“นี่พี่หมี กระต่าย..เหมือนกัสป่ะ” ผมยิ้มกว้าง ชูรูปกระต่ายในหนังสือให้พี่หมีดู พี่หมีเหลือบมามอง
“ไม่อ่ะ” พี่หมีตอบส่งๆก่อนจะหันกลับไปมองจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า
“หน้ากัสน่ะเหมือนหมีโคอาลามากกว่านะ หึหึ” พี่เขาหัวเราะ
“บ้า” ผมว่า
“กระต่ายน่ารักกว่าตั้งเยอะ หมีโคอาลาหูกางจะตาย..กัสหูเล็กนิดเดียวเอง” ผมจับหูตัวเองอย่างรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา พี่หมีอมยิ้มไม่ตอบอะไรอีก
“..................” ผมนอนเงียบ มองไปที่รูปโคอาลาทีและมองไปที่รูปกระต่ายที เอ๊ะ..หรือว่าผมจะเหมือนหมีโออาลาจริงๆ (-^-)
“กัสเหมือนกระต่ายไหมพี่หมี” ผมพูดขึ้นอย่างต้องการความมั่นใจ เพราะผมคิดว่าผมเหมือนกระต่ายมาตลอด ซึ่งมันอาจจะเป็นการเข้าข้างตัวเองมากเกินไป แต่กระต่ายมันน่ารักนี่นะครับ
“ครับๆ..เหมือนก็เหมือน” พี่หมีตอบอย่างขอปัดไปที
“ทำไมต้องทำเสียงอย่างนั้นด้วยอ่ะ ก็พี่เกตุกับพี่ก้องบอกว่าตอนเด็กๆอ่ะ กัสน่ารักเหมือนกระต่ายจริงๆนะฮะ..กัสไม่ได้โกหกสักหน่อย” ผมรีบพูด
“หึ..นั่นมันตอนเด็กนี่ อีกอย่าง..กระต่ายก็หูกางเหมือนกัน แถมยาวอีกต่างหาก แล้วไอ้ที่ชมตัวเองว่าน่ารักนั่นอะไร..ไม่กระดากปากบ้างรึไง” พี่หมีว่ายาวพร้อมกับหัวเราะเสียงดังกว่าเดิม ผมหุบปากเข้าหากัน หน้างอมองอีกฝ่าย
“แต่กระต่ายน่ารักกว่า” ผมเถียงอย่างไม่ยอม
“ก็บอกว่าเหมือนไง เหมือน..โอเคไหมครับ” พี่หมีหันมาจ้องหน้าผมตอบ
“ใช่ เหมือน” ผมย้ำคำด้วย
“แต่พี่ว่ากัสเหมือนกัสจังในการ์ตูนอาราเล่มากกว่านะ” พี่หมีว่า
“ก็กัสน่ารักอ่ะดิ” ผมยิ้มเขิน
“เปล่า..ปัญญาอ่อนต่างหากล่ะ” พี่หมีพูดแกมหัวเราะ
“พี่หมีอ่ะ!” ผมว่าด้วยน้ำเสียงงอนๆ
ตื๊ด ๆ ๆ
“พี่หมีบ้า” ผมว่าพี่หมีอีกครั้งก่อนจะกดรับสายเข้าจากพี่ฟ้า
“ฮะพี่ฟ้า!” ผมทักด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“ฮึ..มีความสุขจริงๆนะ สงสัยพี่คงให้หยุดงานนานเกินไปละมั้งเนี่ย” พี่ฟ้าแซว
“พี่ฟ้าอ่ะ..แล้วมีอะไรเหรอครับ” ผมถาม ในใจแอบนึกว่าพี่ฟ้าอาจจะโทรมาเล่าเรื่องของพี่เซ็นหรือเปล่า แต่ก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองมากไป
“รอโทรศัพท์พี่อยู่รึเปล่า” พี่ฟ้าพูดเสียงนุ่มแต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ นี่ถ้าไม่ติดว่าผมหลงรักพี่เซ็นไปก่อน ผมคิดว่าพี่ฟ้าจะเป็นผู้ชายรายต่อไปที่ผมคิดว่าผมน่าจะหลงรักนะครับ บางครั้งเวลาที่ผมอยู่กับพี่ฟ้าก็รู้สึกแปลกๆดีเหมือนกัน เวลาที่พี่ฟ้าลวนลามเนื้อตัวผม ผมกลับไม่รู้สึกรังเกียจเลยสักนิดเดียวทั้งทั้งที่ผมก็รู้ว่าพี่ฟ้าได้ทั้งสองฝ่ายแต่ผมกลับรู้สึกช๊อบชอบให้พี่เขาแตะเนื้อต้องตัวผม เอ่อ..ผมคงบ้าไปแล้วละครับ
“ก็ นิดหน่อย” ผมตอบเล่นเสียง
“อ่านะ ถ้าปากแข็งก็ไม่อยากเล่าหรอกนะครับ” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงรู้ทันไม่เลิก ผมเงียบไปครู่เพราะตอนนี้ในห้องมันเงียบจนรู้สึกเกร็งพิลึก
“อ..เอ๊ะ คือ เล่า มา..ก็ได้ฮะ” ผมบอกเสียงเบาด้วยรู้สึกอยากรู้ขึ้นมา พี่ฟ้าหัวเราะเสียงเบาเหมือนพอใจ ผมเหลือบมองพี่หมีเล็กน้อย พี่หมียิ้มตอบและพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ
“ดูเหมือนพี่กับไอ้คิวกำลังโคตรสนุกเลยล่ะ โทษทีนะกัส” พี่ฟ้าพูดแกมหัวเราะ ผมฟังแต่ก็ยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่
“ที่จริง..มันก็ไม่มีอะไรหรอก แต่วันนี้เชียร์มาหาเซ็นที่ร้านน่ะ” พี่ฟ้ากลับมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“งั้น เหรอครับ” ผมตอบเสียงเบา ใจแป้วขึ้นมาทันที
“พี่ก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าสองคนนั้นคุยเรื่องอะไรกัน คิวก็ไม่รู้” ระหว่างที่พี่ฟ้าพูด ผมใจเต้นตึกตักไม่เป็นส่ำ
“แต่ก็..วางใจเถอะครับ ดูเหมือน เหตุการณ์จะไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่”
“ถึงจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับพี่เชียร์ สุดท้ายก็เกี่ยวกับตัวพี่เซ็นอยู่ดีนั่นแหละฮะ” ผมบอกอย่างปลอบใจตัวเอง พี่ฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง ผมเองก็ด้วย
“นั่นสินะ” พี่ฟ้าพึมพำ
“บางคนนี่เข้าใจยากจริงๆเลยน้า..ให้ตายสิ” พี่ฟ้าทำเสียงเล็กเสียงน้อยทำให้ผมต้องหัวเราะออกมา
“ไม่เป็นไรหรอกฮะพี่ฟ้า กัสรับปากพี่ฟ้าแล้ว..กัสไม่คืนคำหรอกครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพราะไม่อยากให้พี่ฟ้าต้องมาเป็นห่วง ถ้ามันพ้นจุดๆนี้ไป ทุกคนจะกลายเป็นอิสระ ทั้งผม พี่เซ็น พี่หมีและทุกๆคนในร้านก็ด้วย
“ครับ” พี่ฟ้าตอบเสียงเรียบก่อนจะหายใจแรง
“พี่จะไปว่าอะไรกัสก็ไม่ได้น่ะนะ..ถึงพี่บอกให้กัสเลือกหมีเพราะพี่เห็นว่าหมีจะดูแลกัสได้ดีกว่า กัสก็คงจะทำให้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ..เพราะถ้าพี่เป็นกัสพี่ก็คงเลือกเซ็นอยู่ดีในเมื่อมันเป็นไปแล้ว แต่ถ้าเป็นพี่นะ ถึงให้เหลือแค่ไอ้สองตัวนั้นอยู่บนโลก พี่ยอมนอนเกา..ตูดเล่น ไปวันๆดีกว่า” พี่ฟ้าพูดติดตลกและเหมือนกับพยายามจะละคำพูดบางคำที่ไม่สุภาพไว้ ผมหัวเราะเบาๆและเข้าใจดีว่าพี่ฟ้าต้องการพูดอะไร ผมเคยได้ปรึกษาเรื่องนี้กับกุมภ์และปุยแล้ว..สองคนนั้นก็พูดอย่างที่พี่ฟ้าพูดไม่มีผิด ผมจึงได้แต่อมยิ้มและรับฟัง เพราะถึงอย่างไรก็แล้วแต่คนอื่นมักจะเห็นข้อเสียของคนที่เรารักมากกว่าเราแน่นอนอยู่แล้ว และไม่ใช่ว่าผมมองไม่เห็น ผมเห็น ที่จริงผมอาจจะรู้ดีกว่าใครทั้งหมดด้วยซ้ำแต่เพราะผมรักเขา..เหตุผลเพราะแค่นี้เองผมจึงยอมรับได้ทั้งหมด
“กัสไม่ซีเรียสแล้วละครับ อาจจะประมาณว่า..เตรียมใจไว้ รู้อยู่แล้วน่ะ” ผมตอบและนั่งหันข้างเล็กน้อยเพื่อไม่ให้พี่หมีได้ยิน
“ขอโทษนะครับที่พี่ต้องบังคับกัสแบบนี้” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไม่หรอกฮะ..ถ้าไม่มีพี่ฟ้า กัสเองก็คงจะย่ำอยู่ที่เดิม เฮ้อ..ตอนนี้น่ะ กัสรู้สึกดีสุดๆไปเลยล่ะ” ผมถอนหายใจแรงกระทั่งยิ้มให้กับตนเองด้วย
“แล้วพรุ่งนี้พี่ฟ้าจะไปไหนรึเปล่าครับ” ผมถามถึงเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดราชการ แต่เห็นว่าที่ร้านคิวปิดยังเปิดให้บริการตามปกติ
“ไม่ล่ะ ก็ในเมื่อพี่รับปากกัสแล้วนี่นะว่าจะจัดการให้..ถ้ามันยังไม่พ้นกำหนด พี่ก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“พูดดูดี พระเอกป่ะล่ะ” พี่ฟ้าพูดขำๆ
“หึหึ..กัสรักพี่ฟ้านะ” ผมบอก
“ครับ..”
“พี่ก็เหมือนกัน” พี่ฟ้าตอบเสียงเบา
“โอเค พี่ต้องทำงานต่อแล้ว..มีเวลาขนาดนี้ก็พักผ่อนเยอะๆนะครับ ไว้พี่จะโทรไปหาใหม่”
“ฮะ” ผมตอบก่อนที่พี่ฟ้าจะตัดสายไป เมื่อผมวางสายโทรศัพท์ไปแล้วถึงได้ทราบว่าในห้องมันเงียบมากแทบจะไร้เสียงสิ่งมีชีวิตเลยละครับ
“หิวไหมฮะ” ผมถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ พี่หมีละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์มามองผม
“นิดหน่อย” พี่หมีตอบ
“กัสทำสปาเก็ตตี้ให้กินเอามะ” ผมยิ้มถาม พี่หมีแสยะหัวเราะเล็กน้อย
“ไม่ล่ะ..อย่าเลย” พี่หมีปราม ผมหน้างอลงในทันที
“งั้น..กัสสั่งพิซซ่านะ” ผมเสนอ
“ครับ” พี่หมีพยักหน้าตอบ
“เอาเหมือนเดิมนะ” ผมถามอีก
“ครับผม” พี่หมียิ้มตอบอีกครั้ง ผมยิ้มตอบให้ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรสั่งพิซซ่า
= = = = = = = =
-
วันจันทร์ ณ บ้านเกริกเกียรติไกร..
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ พ่อกับแม่ของผมจึงไม่ได้ออกไปไหน เห็นแม่บอกว่าอยากพักผ่อน ส่วนพ่อก็กำลังนั่งอ่านเรื่องหุ้นทั้งวัน พี่ก้องตรวจเอกสารเกี่ยวกับงานอยู่ในห้องทำงานของตน ส่วนพี่เกตุออกไปข้างนอกกับเพื่อน ตอนนี้ผมกำลังนอนอาบแดดอยู่ที่สระว่ายน้ำของบ้าน เป็นการอาบแดดคล้ายกับประชดชีวิตประมาณนั้น ผมเพิ่งจะมารู้สึกสงสัยก็วันนี้เองว่าทำไมชาวต่างชาติถึงชอบมาอาบแดดที่ประเทศไทยทั้งทั้งที่มันร้อนบรมขนาดนี้ ด้วยรู้สึกหดหู่ใจมากถึงมากที่สุด ซึ่งอันที่จริงผมก็เตรียมใจไว้อยู่แล้วว่ามันจะออกหัวหรือก้อย แต่ผมก็ต้องหาบางสิ่งบางอย่างทำเพื่อฆ่าเวลาเล่นเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นผมคงฟุ้งซ่านจนได้เข้าพบจิตแพทย์เป็นแน่
ตอนนี้มันคล้ายกับว่าผมกำลังรอเวลาเพื่อให้ช่วงเวลานี้มันผ่านไป คล้ายกับเป็นเวลาแห่งการทำใจเพื่อที่เมื่อผ่านพ้นไปแล้วจะไม่สามารถมีเวลาในรูปแบบนี้ได้อีก ซึ่งนั่นละครับว่าผมกำลังพยายามคิดแบบนี้อยู่เพราะผมเองจะได้ไม่เพ้อเจ้อไปไกล รวมถึงจะไม่เจ็บปวดมากเมื่อถึงเวลาที่ต้องเจ็บปวดอีกด้วย
“คุณกัสคะ คุณนอนอย่างนี้มานานแล้วนะคะ” พี่นันเดินเข้ามาพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย ผมมองเธอผ่านแว่นตากันแดดก่อนจะยิ้มให้ ตอนนี้นอกจากผมกำลังบอกตัวเองไม่ให้คิดมากแล้ว ผมกำลังต้องการรับรู้รสชาติของความรู้สึกแบบชาวต่างชาติก็ด้วย สระว่ายน้ำที่บ้านผมไม่ค่อยมีใครใช้บ่อยนักนอกจากพี่ก้องที่จะว่ายน้ำเป็นประจำอาทิตย์ละสามถึงสี่วันเพื่อฟิตร่างกาย ส่วนผมก็นานๆครั้งแต่ผมคิดว่ากีฬาว่ายน้ำเป็นกีฬาที่ง่ายที่สุดในชีวิตที่ผมจะสามารถทำได้ละนะครับ
“กัสเพิ่งรู้ว่ากัสอยากดำน่ะ” ผมตอบติดตลก ปกติแล้วผมเป็นกลัวดำมาก ซึ่งตลอดมาจะค่อนข้างดูแลผิวพรรณของตัวเองเป็นอย่างดี ครีมบำรุงผิวของผมน่ะเยอะกว่าพี่สาวผมเสียอีกละครับ
“คุณกัสคะ เดี๋ยวคุณผู้หญิงก็ดุเอาหรอกค่ะ” พี่นันพูดหน้าแหย เธอมองซ้ายทีขวาทีเหมือนกลัวว่าแม่ผมจะมาตอนนี้
“ไปชวนคุณแม่มานอนด้วยก็ท่าจะดีนะ” ผมพูดอย่างไม่ฟังเธอเลย
“คุณกัสคะ คุณนี่ดื้อจริงๆเลย” พี่นันบ่น ผมยิ้มกว้างตอบ
“กัสน่ะ แสบผิวเป็นบ้าเลยฮะ..ถ้ากัสลงสระไปตอนนี้ มันจะไหม้ไหมอ่ะ” อยู่ดีๆผมก็บ่นด้วยรึสึกนึกกลัวขึ้นมา มันเป็นความกลัวที่ผุดขึ้นมาอย่างกะทันหันน่ะครับ
“งั้นก็รีบลุกสิคะ คุณก็” ปากพี่นันบ่นแต่ก็รีบกุลีกุจอนำชุดคลุมมาห่มให้ผม ผมรีบลุกแล้วสวมชุดคลุมปิดตัวไว้ในทันที
“กัสเพิ่งรู้ว่ามันร้อนอ่ะ!” ผมโวยวาย
“ก็ร้อนน่ะสิคะ นี่จะสี่สิบองศาแล้วมั้งคะเนี่ย” พี่นันบ่นเสียงสูง
“งั้นกัสไปแช่ตัวก่อนนะฮะ บำรุงผิวด้วย..แง่ง ไม่น่าเลย” ผมบ่นและรีบชักเท้าเดินเข้าบ้านใหญ่
“อย่าขัดตัวนะคะคุณ เดี๋ยวเป็นแผล” พี่นันที่เดินตามหลังมาพูดบอก
“โทรศัพท์ค่ะคุณกัส โทรเข้ามาประมาณสองสายได้แล้วค่ะ” พี่เนแม่บ้าน เธอเป็นพี่สาวของพี่นันวิ่งนำโทรศัพท์มือถือมายื่นให้ผม
“ขอบคุณครับ” ผมบอกก่อนจะรับมาดูเป็นสายเข้าจากพี่หมี
“ไปทำงานเถอะฮะ” ผมหันไปบอกพวกเธอก่อนจะกดรับสายและเดินขึ้นมาบนบ้าน
“ว่าไงฮะหมีน้อย” ผมแซวเสียงใสเพราะเมื่อเช้าพี่หมีก็โทรมาแล้ว ตอนนี้ก็ยังโทรมาอีกคงเพราะเป็นห่วงผม วันนี้พี่หมีต้องออกไปกับพี่ๆน้องๆที่บ้าน เห็นว่าครอบครัวพี่หมีมีการนัดรวมญาติ ซึ่งตอนแรกพี่หมีได้ชวนผมแล้วแต่ผมไม่อยากไปนะครับ ครอบครัวของพี่หมีไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ แบบว่าถ้าไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนหายใจไม่สะดวกและเพราะตอนนี้ผมยังไม่พร้อมไปยิ้มกว้างให้ใครหน้าไหนทั้งนั้นด้วย
“หึ..พี่กำลังจะกลับคอนโดแล้วนะครับ ให้ไปรับไหม” พี่หมีถาม
“ไม่ล่ะฮะ อยู่ไหนแล้วล่ะ” ผมถาม
“ก็ถึงแยกระหว่างบ้านกัสกับคอนโดน่ะ” พี่หมีตอบ
“งั้นพี่หมีก็กลับไปพักผ่อนเถอะครับ ต้องทำงานอีกไม่ใช่รึไง” ผมบอก
“โอเค” อีกฝ่ายพูด
“แล้วเป็นไงบ้างฮะ กับคนที่บ้าน” ผมถาม
“ก็ดี เรื่อยๆ..พ่อดูจะพอใจน่ะนะที่รู้ว่าพี่อาจจะเรียนต่อ” พี่หมีตอบ
“นั่นสินะครับ” ผมพูดและก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่เป็นต้นเหตุให้พี่หมีไม่เลือกไปเรียนตั้งแต่แรก
“เอาไว้ตอนเย็นพี่ไปรับไปทานข้าวแล้วกันนะครับ” พี่หมีเปลี่ยนเรื่องทันที
“ฮะ กัสขอไปอาบน้ำก่อนนะ..เมื่อกี้กัสไปนอนอาบแดดมาอ่ะ ตัวดำหมดแล้ว” ผมบ่นเสียงสูง
“อ่าว แล้วไปนอนทำไมล่ะ” พี่หมีถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ก็คิดว่ามันจะไม่ร้อนมาก ลืมนึก” ผมพูดแก้ตัวไปอย่างนั้น
“หึ..เด็กติงต๊อง ไปอาบน้ำได้แล้วครับ” พี่หมีทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไป ผมรีบเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำบำรุงผิวในทันที ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำค่อนข้างนานร่วมชั่วโมงก่อนจะออกมาแต่งตัวแล้วทาโลชั่นบำรุงผิวอีกต่อหนึ่ง
ตื๊ด ๆ ๆ ๆ
ผมเหลือบไปมองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเตียงอย่างนึกขี้เกียจรับ ไม่รู้ว่าเป็นเบอร์ของใครโทรมาแต่ตอนนี้ผมกำลังวุ่นอยู่กับการทาครีมที่หน้าอยู่
ตื๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ..
“จิ..” ผมบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะลุกจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งและเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู และก็พบว่าสายที่โทรเข้าเป็นเบอร์จากพี่ฟ้า เมื่อผมเห็นอย่างนั้นผมก็รีบกดรับสายในทันที
“ฮะพี่ฟ้า..โทษทีครับกัสกำลังยุ่งอยู่” ผมพูดทักปลายสายทันที
“.................” แต่ผมก็ต้องเงียบลงเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆจากอีกฝั่งหนึ่งเลย
“พี่ฟ้าครับ” ผมพูดแต่ปลายสายยังเงียบมาก คล้ายกับรอบตัวของพี่ฟ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยอย่างนั้น ผมงงเลยเหลือบมองดูหน้าจอแต่ก็พบว่าอีกฝั่งยังไม่ได้ตัดสายไป
“ตกลง มึงต้องการจะบอกอะไรกู” ผมแทบสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของพี่เซ็นจากอีกฝั่ง ใจผมเต้นแรงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวและก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพี่ฟ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับผมอยู่
“มึงก็ตอบกูมาก่อนว่าวันนี้มึงมาทำไม ในเมื่อไม่ใช่เวรมึง” เสียงของพี่คิวพูดตอบ ด้วยความตื่นเต้นและรู้สึกกลัวอะไรบางอย่างขึ้นมา ผมแทบอยากจะกดวางสายลงซะเดี๋ยวนี้แต่ผมกลับไม่กล้าลงมือทำ
“มึงไม่พอใจที่กูทำงานพลาดมึงก็อย่าพาลได้ไหม” พี่เซ็นพูดตอบด้วยน้ำเสียงอะลุ่มอล่วย
“ผมเหรอที่พาล..คุณต่างหากที่กำลังทำเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะคุณพิภัช แล้วถ้าต้องการจะมาช่วยจริงๆ..ก็ช่วยมีสมาธิให้มากกว่านี้หน่อยจะได้ไหมล่ะครับ” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเช่นเดียวกัน แต่สรรพนามที่พี่คิวใช้เปลี่ยนไปผมไม่ทราบว่านั่นเป็นการประชดหรือพูดเล่นหรืออย่างไรเพราะน้ำเสียงของพี่เขายังปกติดี เหมือนกับทั้งสองคนกำลังพูดกันอย่างปกติ แต่ที่ผมสงสัยคือประโยคแรกก่อนหน้าเหมือนไม่ใช่การพูดคุยอย่างปกติน่ะสิครับ
“................” อีกฝั่งหนึ่งเงียบไปประมาณห้านาที ใจผมเต้นแรงมากกว่าเดิมเพราะอยู่ๆก็คิดไปเองว่าอีกฝ่ายคงรู้เข้าให้แล้วรึเปล่าว่าผมกำลังร่วมฟังบทสนทนาอยู่ด้วย
“ตกลง ไอ้หมีไปไหน” พี่เซ็นถาม
“ลา..” พี่คิวตอบ
“ทำไมมึงถึงอนุญาตให้ลาหลายวัน..ในเมื่อคนก็ไม่พอ” พี่เซ็นถามอีก
“ถามเจ้าของร้านสิ” พี่คิวย้อนตอบส่งๆ
“คิว..” พี่เซ็นทิ้งน้ำเสียงลงเล็กน้อย
“ขอร้อง ช่วยอย่ากวนตีนกูได้ไหม” พี่เซ็นพูด
“มึงต่างหากที่กำลังกวนตีนกู ตกลงมึงต้องการอะไร..จะหาเรื่องกูรึไง” พี่คิวตอกทันที
“มึงต่างหากที่กำลังหาเรื่องกู” พี่เซ็นย้อนด้วยน้ำเสียงเหวี่ยงเล็กน้อย
“เน่..จะทะเลาะกันให้มันได้อะไรไม่ทราบ ทำตัวกันเป็นเด็กไปได้” ผมถึงกับต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของพี่ฟ้าบ่นขึ้น เสียงของพี่ฟ้าชัดแจ๋วกว่าทุกคนอย่างกับอยู่ใกล้โทรศัพท์ที่สุดอย่างนั้นละครับ
“...............” ปลายสายเงียบไปอีกครั้งเหมือนสงครามเล็กๆเมื่อกี้ได้สงบลงแล้ว
“ปิดบังอะไรเซ็นอยู่ นึกว่าเซ็นไม่รู้รึไง” พี่เซ็นว่า
“รู้เหรอ งั้นอะไรล่ะ..บอกอาได้ไหม” พี่ฟ้าพูดตอบด้วยน้ำเสียงยโสแต่พี่เซ็นกลับไม่พูดตอบโต้อีก พี่เขาเงียบไปสักพักใหญ่
“สนุกกันนักใช่ไหม ตามสบาย..อยากเล่นอะไรก็เชิญ” พี่เซ็นว่าขึ้นโต้งๆด้วยน้ำเสียงคล้ายไม่พอใจ
“พูดผิดรึเปล่า ใครกันแน่ที่กำลังเล่นสนุกอยู่..มึงกล้าดียังไงถึงมาโทษพวกกู” พี่คิวพูดน้ำเสียงเริ่มเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นเรื่อยๆ
“มึงเลิกทำตัวเป็นพ่อกูสักทีได้ไหมครับ” พี่เซ็นย้อนว่าเสียงเย็น
“มึงนี่ ปากวอนส้นตีนจริงๆนะ” พี่คิวสบถหลังจากนั้นเสียงก็เงียบลงอีกครั้ง ใจผมเต้นตึกตักว่าตกลงคนสองคนนั้นกำลังคุยกันอยู่หรือว่าทะเลาะกันกันแน่
“มึงไม่พอใจอะไร มึงก็กลับไปเลยไป..” พี่คิวถอนหายใจแรง พี่เซ็นไม่ตอบอะไรอีก อยู่ๆทุกคนก็เงียบไปอีกครั้ง
“..ตกลง กัสไปไหน ไปกับหมีรึเปล่า” พี่เซ็นถาม หน้าผมชาและรู้สึกว่าตัวเองตัวชาไปทั้งร่างกาย มันคล้ายกับว่าความดีใจที่ได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมาจากปากของคนคนนี้มันเหมือนความฝันได้กลายเป็นจริงอย่างนั้น
“กูไม่รู้” พี่คิวตอบ
“มึงรู้เหี้ยอะไรบ้างเนี่ยห๊ะ!” อยู่ๆพี่เซ็นก็ขึ้นเสียงดังจนผมสะดุ้งโหยง
“เซ็น มึงรีบไสหัวมึงไปเลยนะ..กูชักไม่แน่ใจแล้วว่าวันนี้กูจะไม่มีเรื่องกับมึง” พี่คิวพูดเสียงแข็ง
“มึงรู้ตัวไหมว่ามึงกำลังพาลกู..ในเรื่องที่มันไม่ใช่เรื่องของกู” พี่คิวว่าพร้อมกับกดน้ำเสียงลงเหมือนกำลังข่มอารมณ์อย่างนั้น
“เป็นตัวเองให้มากกว่านี้ เย็นให้มากกว่านี้เซ็น..นี่มันไม่ใช่ตัวมึงเลย” พี่คิวกดน้ำเสียงลง ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง
“กูขอโทษ” พี่เซ็นพูดขึ้น
“โอเค..กูขอโทษ” พี่เซ็นพูดย้ำอีก
“กูควรไปสินะ เออ..ใช่ กูว่ากูไปก่อนดีกว่า” พี่เขาพูดน้ำเสียงกลับมาเป็นปกติ
“ใช่ กูควรขอโทษมึง..ขอโทษ” พี่เซ็นยังคงย้ำพูดขอโทษอยู่ไม่เลิกจนผมอยากรู้ขึ้นมาว่าตอนนี้สีหน้าของทุกคนเป็นอย่างไร มันดีขึ้นหรือว่ามันแย่ลงกันแน่ แล้วดูเหมือนเรื่องจะเกิดขึ้นเพราะผมซึ่งผมไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
“เซ็น..หยุดพูดประโยคนั้น เดี๋ยวนี้” พี่คิวพูด
“กูขอโทษ” พี่เซ็นตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม
“จิ..หุบปาก” พี่คิวสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ทุกคนเงียบเสียงลงอีกครั้ง ผมคิดว่าพี่เซ็นคงยังไม่ได้ออกไปไหนเพราะตรงนั้นเงียบมากจนแทบไม่ได้ยินว่าใครกำลังเคลื่อนไหวหรือกระดิกตัว
“เป็นอะไร..” พี่คิวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนผมรู้สึกได้
“กูไม่รู้” พี่เซ็นตอบ
“มึงก็รู้อยู่ดีแก่ใจ คิดไปถึงไหนล่ะนั่น หึ..เรียกสติให้เอาไหม มึงน่ะ มีดีกว่าไอ้หมีอยู่แค่สองอย่าง” พี่คิวพูดขึ้น
“หนึ่ง..ฐานะ กับสอง..หน้าที่การงาน”
“มึงกำลังว้าวุ่นกับอะไรอยู่ล่ะ กลัว..ใช่ไหม” พี่คิวพูดอีก
“.................” พี่เซ็นไม่ตอบอะไรอยู่สักพักซึ่งผมกำลังคิดว่าดีแล้วที่พี่เขาไม่ตอบ เพราะผมก็กำลังกลัวที่จะได้ยินเหมือนกัน
“กูไม่รั้งไว้..ซึ่งก็หมายถึงกูไม่ตาม มึงก็รู้” พี่เซ็นตอบ สิ้นคำพูดนี้ผมถึงกับยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
“ก็ดี เพราะมึงก็น่าจะรู้เหมือนกัน..ว่าตลอดมากูไม่ใช่คนที่จะมาพูดบอกมึงว่า ตามไปสิ” พี่คิวย้อน
“กัส เป็นฝ่ายเลือกนะ..ไม่ใช่มึง อย่าสำคัญตัวนักสิสหาย” พี่คิวพูดแกมหัวเราะ
“ก็ดีแล้วหนิ อยากทำอะไรก็ตามใจ..เพราะทุกคนก็มีสิทธิ์เลือกด้วยกันทั้งนั้น” พี่เซ็นพูดส่งๆ
“ไปนะ” พี่เซ็นว่าหลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงประตูปิดลงเสียงดัง
“กัส” พี่ฟ้าเรียก
“ฮ..ฮะ” ผมขานตอบเสียงเบาเพราะปรับน้ำเสียงไม่ทัน ด้วยเหมือนมีอะไรติดอยู่ตรงลำคอทำให้น้ำเสียงเครือไปหมด
“โอเคนะ” พี่ฟ้าถาม
“ฮะ อยู่แล้ว” ผมตอบยิ้มๆน้ำตาคลอ
“กัส..ยอมรับได้ใช่ไหมครับ”
“ครับ ไม่เป็นไรหรอกฮะ” ผมตอบ
“ไม่หรอก” อยู่ๆผมก็ได้ยินเสียงพี่คิวพูดแทรกขึ้น
“ถามกัสสิว่าตอนนี้อยู่ไหน” พี่คิวพูด
“กัสอยู่ไหนครับ” พี่ฟ้าถาม
“อยู่บ้านฮะ” ผมตอบ
“ฮัลโหล..อยู่บ้านใช่ไหม งั้นรีบไปที่คอนโดไอ้หมีเดี๋ยวนี้อย่างเร็วที่สุดจะได้ไหมล่ะ” พี่คิวบอก
“เอ๊ะ” ผมอุทานอย่างไม่เข้าใจ
“พี่ว่า พี่ยังไม่หมดสนุกน่ะ..หึ” พี่คิวหัวเราะชอบใจ
“ไอ้คิว แกคิดไรอยู่เนี่ย..บอกด้วยสิ สนุกคนเดียวได้ไง” เสียงของพี่ฟ้าแทรกเข้ามา
“พี่ก็รับปากอะไรไม่ได้หรอกนะ..อะไรก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น แต่..คบกับมันมาจะยี่สิบปีแล้ว พี่คิดว่า..ถ้าสมองมันจะช้า มันก็คงจะคิดได้ไม่เกินวันนี้ หรือถ้ามันจะไม่ใช่อย่างที่พี่คิดไว้..พี่ก็จะขอโทษกัส ที่ตอนนี้พี่ดันมารู้สึกสนุกบนความทุกข์ของกัสน่ะนะ” พี่คิวพูด
“และถ้าจะให้ดี กัสควรรีบไปคอนโดหมีเดี๋ยวนี้..ส่วนหมี พี่จะจัดการเอง โอเคนะครับ”
“แต่ว่า” ผมอ้ำอึ้งเพราะยังไม่เข้าใจที่พี่คิวสื่อเลย
“ช่วยทำตามที่บอก เถอะครับ” พี่เขาบอกอีก
“ได้ฮะ กัสจะไปเดี๋ยวนี้” ผมบอกก่อนที่ผมจะตัดสายผมได้ยินพี่คิวและพี่ฟ้าท้าว่าจะพนันกัน แต่ผมก็ไม่อยากสนใจถ้าพวกพี่เขาอยากจะทำอะไรกันก็ทำไปเถอะครับ เพราะตอนนี้อยู่ๆมันก็เหมือนไฟมาลนอยู่ที่ก้น ทั้งทั้งที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่คิวหมายถึงอะไรแต่ผมกลับร้อนรนไปหยิบกระเป๋าและของสำคัญก่อนจะวิ่งลงมาตามลุงฉัตรให้นำรถออกในทันที เมื่อถึงหน้าปากซอยผมก็พบว่ารถติดมาก ใจผมเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะพี่คิวบอกว่าให้ผมรีบไป รีบในที่นี้ผมไม่รู้ว่าต้องรีบขนาดไหน แต่เมื่อพบว่ารถติดใจยิ่งว้าวุ่นกว่าเดิม ผมบอกให้ลุงฉัตรส่งเพียงแค่หน้าปากซอยและผมก็เรียกรถวินมอเตอร์ไซด์บอกว่าจะไปที่คอนโดของพี่หมี วินมอเตอร์ไซด์คงเห็นสีหน้าผมที่ร้อนรน พี่เขาถามผมว่า “รีบเหรอน้อง” ผมได้เพียงแต่พยักหน้าตอบแค่นั้น บอกตามตรงว่าเกิดมาในชีวิตผมขึ้นมอเตอร์ไซด์วินนับครั้งได้ ยิ่งเข็ดแล้วใหญ่เมื่อเคยลองขึ้นรถเมล์แล้วตกรถเมล์เมื่อคราวนั้น ถ้าใครได้มารู้สาเหตุว่าทำไมผมถึงลองขึ้นรถเมล์ดู ทุกคนคงจะอึ้งและขำเป็นแน่ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าทำไมพี่เซ็นถึงชอบตามจีบเค้ก วิถีชีวิตที่เค้กเป็นทำให้ผมอยากลองเป็นดูบ้างแต่แล้วผมก็รู้ตัวว่าผมไม่ควรเปลี่ยนตัวเองถ้านั่นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของผม และตลอดมาผมก็ปิดเรื่องที่ผมต้องการเรียนรู้การขึ้นรถเมล์มาตลอด
พี่คนขับมอเตอร์ไซด์ขับรถเร็วมากทั้งทั้งที่ผมไม่ได้บอกให้เขาขับเร็วขนาดนั้น ซึ่งผมไม่รู้หรอกนะครับว่าพี่เขาขับเร็วเป็นปกติอยู่แล้วหรือเพราะเห็นสีหน้าของผมไม่ดีกันแน่ ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาถึงหน้าคอนโดของพี่หมี ผมหยิบเงินให้พี่เขาไปสามร้อยบาทเพราะมีเศษเงินอยู่เท่านั้นโดยไม่คิดจะถามว่าเท่าไหร่และไม่มีกะจิตกะใจจะรับเงินทอนด้วย เมื่อผมให้เงินพี่เขาเรียบร้อยผมก็รีบวิ่งเข้ามาถึงหน้าเคาร์เตอร์ต้อนรับผมเห็นพี่หมียืนอยู่ ผมหยุดชะงักตรงหน้าพี่เขา
“ไปครับ” พี่หมีเข้ามาจับมือผมไปเหมือนพี่เขายืนอยู่ตรงนี้เพื่อรอผมอยู่แล้ว ผมเดินตามพี่หมีไปอย่างว่าง่าย
“พี่คิวกับพี่ฟ้าจะทำอะไรเหรอฮะ กัสงงไปหมดแล้ว” ผมถาม พี่หมีไม่ตอบแต่หันกลับมายิ้มให้ผม
“มาทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้เป็นเรื่องกันเถอะ” พี่หมีพูดลอยๆ เมื่อถึงชั้นของห้องพี่หมี พี่เขาก็ลากผมเข้ามาในห้องทันที
“เอ๊ะ พี่หมีฮะ” ผมร้องโวยวายเมื่อพี่หมีนำกระเป๋าของผมเหวี่ยงไปที่โซฟาก่อนจะจับเอวผมแล้วเลิกชายเสื้อขึ้น ผมดิ้นแล้วรีบรั้งเสื้อไว้ก่อน
“จะทำอะไรอ้า~” ผมร้องถาม ผมยังคงไม่เข้าใจและรู้สึกกลัวขึ้นมา
“แก้ผ้าไง” พี่หมีไม่พูดเปล่าแต่กลับถอดเสื้อยืดของตัวเองออกพร้อมกับเหวี่ยงไปที่โซฟาอีก ผมตาค้างมอง อยู่ๆพี่หมีก็หัวเราะลั่นชักดิ้นชักงอไปมา ผมกอดตัวเองไว้ด้วยรู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่ปลอดภัยเพราะพี่หมีเป็นบ้าไปแล้ว
“พี่หมี!” ผมขึ้นเสียงปราม
“โอเคๆ ก็หน้ากัสแม่งโคตรตื่นอ่ะ” พี่หมียังคงหัวเราะไม่หยุด ผมยืนหน้างอเพราะรู้สึกไม่ชอบใจ
“จะทำอะไรล่ะ ไม่บอกแล้วกัสจะรู้เรื่องไหมเนี่ย” ผมเริ่มโวยวายเพราะเหมือนมีเพียงผมคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องราวกับเขาเลย
“ก็บอกว่าแก้ผ้าไง” พี่หมียิ้มตอบ
“แล้วทำไมต้องแก้ด้วย” ผมขึ้นเสียงไม่หยุด
“ก็เผื่อ ไอ้เชฟสุดที่รักนั่นจะโผล่หัวมา” พี่หมีแสยะปากพร้อมกับยักไหล่ด้วยท่าทางเหมือนไม่ชอบใจ ผมเงียบและกำลังใช้ความคิด ผมใช้เวลาเดินทางจากบ้านมาถึงที่นี่ก็เกือบยี่สิบนาที ถ้ารวมๆเวลาที่ได้คุยโทรศัพท์กับพี่ฟ้ากับเวลาที่ออกมาจากบ้านมันก็เกือบจะชั่วโมงอยู่แล้ว ถ้าพี่เซ็นจะมาที่นี่พี่เขาก็คงจะต้องถึงที่นี่ก่อนผมสิครับ
“อะไร” พี่หมีถามขึ้น
“ไม่ทำดีกว่าฮะ กัส..ไม่อยากเล่นแล้ว” ผมพูดเพราะรู้สึกไม่สนุกด้วย
“กัส นี่มันไม่ใช่การเล่น” พี่หมีพูดพร้อมกับเข้ามาจับมือผมไป
“กัสกลัว” ผมเงยหน้าบอก ถ้าพี่เขาไม่มาล่ะ..ถ้าพี่เขาไม่คิดจะตามมาอย่างที่พูดเมื่อกี้ผมจะเป็นอย่างไร
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย มันจะดีขึ้น..เชื่อเถอะนะครับ ถ้าพี่เค้าไม่มา..ก็ช่างหัวเค้าสิ ยังไงกัสก็ยังมีพวกพี่อยู่นะ” พี่หมีลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน
“แก้ผ้าซะ” อยู่ๆพี่หมีก็เปลี่ยนโหมดเป็นสีหน้าเจ้าเล่ห์แถมยังสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งอีกต่างหาก
“บ้า!” ผมตีแขนพี่หมีด้วยความหมันไส้ที่ยังมีอารมณ์มาแกล้งกันอยู่ได้
“กัสจะไปถอดในห้อง” ผมบอกเสียงเบา พี่หมียิ้มตอบเล็กน้อย ผมเดินเข้ามาในห้องนอนของพี่หมีก่อนจะนำผ้าขนหนูของพี่หมีมาพันตัวไว้
“มันไม่สมจริง กัสถอดออกสิ” พี่หมีเดินเข้ามาจะจับผมถอดกางเกง ผมเบี่ยงตัวหนีเพราะพี่หมีดันมาทำหน้าตาจริงจังใส่
“กัสถอดเองด้ายยย..พี่หมีออกไปเลย ทะลึ่งจริงๆ” ผมผลักออก พี่หมีหัวเราะร่าก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง ผมถอดเสื้อผ้าออกหมดและกองมันไว้อย่างนั้น บนตัวมีเพียงกางเกงใน พี่หมีนำผ้าห่มมาคลุมตัวให้ผม
“เอาผ้าขนหนูออกมา” พี่เขาสั่ง ผมเลยจับดึงผ้าขนหนูออกจากตัวแล้วยื่นไปให้ พี่หมีอมยิ้มและรับไปก่อนจะนำกลับไปตากที่ราวเหมือนเดิม
“สมจริงดีนะ..จุ๊บ~” พี่หมีไม่พูดเปล่าแต่กลับก้มลงมาหอมแก้มผมซะงั้น ผมยืนทำหน้าเซ็ง ทั้งพี่ฟ้า ทั้งพี่คิวรวมไปถึงพี่หมีสงสัยท่าจะเป็นโรคเดียวกันไปหมดแล้ว ผมเดินไปนั่งลงที่ปลายเตียงทั้งอย่างนั้น พี่หมีเดินไปเดินมาโดยมีเพียงกางเกงยีนตัวเดียว
“มันจะได้ผลเหรอฮะ” ผมบ่นพึมพำ บอกตามตรงว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถสร้างความมั่นใจให้ผมได้เลย
“ถ้าจะได้ผล..ก็ไม่ใช่เพราะทำอย่างนี้แล้วจะได้ผลหรอก” พี่หมีตอบส่งๆระหว่างที่พูดก็ไม่ได้หันมามองที่ผมเลย
“ผลน่ะ มันอยู่กับเจ้าตัวต่างหากล่ะ..เราทำได้แค่นั่งรอผลก็เท่านั้น”
“สิ่งที่เรากำลังทำตอนนี้ เรียกว่า..สั่งสอนพวกชอบใช้ความคิดในการคำนวณผลนานๆน่ะนะ” พี่หมีอมยิ้มเล็กน้อย
“ในเมื่อพี่เป็นคนยอมถอยก่อน คุณเชฟ..ก็ควรจะได้รับบทเรียนอะไรบ้าง” พี่หมีแสยะยิ้ม ผมก้มหน้าอย่างเข้าใจ มันก็ถูกอย่างที่พี่เขาว่า ไม่ใช่ทำอย่างนี้แล้วจะได้ผลเมื่อไหร่ การตัดสินใจต้องขึ้นอยู่ที่พี่เซ็นทั้งนั้น แต่คำพูดที่ออกมาจากปากพี่เซ็นที่ว่า “กูไม่รั้งไว้..ซึ่งก็หมายถึงกูไม่ตาม” นั่นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมแทบไม่มีค่าพอให้พี่เขาต้องตาม ผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆมันยิ่งทำให้ผมรู้ว่าผลจะเกิดขึ้นอย่างไร แม้ภายในก้นบึ้งของหัวใจผมกำลังภาวนาให้พี่เขามาก็ตามแต่นั่นละนะครับ..ผมคงกำลังนั่งเข้าข้างตัวเอง
เวลาผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง ยิ่งเวลาผ่านไปนานยิ่งทำให้ความมั่นใจลดต่ำลงเรื่อยๆ มันคล้ายกับว่าความหวังที่เห็นเดินถอยหลังและเริ่มเลือนราง พี่หมีเดินมาอยู่ตรงหน้าผมไม่พูดอะไรแต่วางมือลงบนหัวผมเบาๆก่อนจะเกลี่ยผมของผมอย่างเบามือ
“แล้วมันจะผ่านไป” พี่หมีพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอ่อนโยน ผมยิ้มน้ำตาคลอ
ติงต๊อง~
ผมสะดุ้งด้วยความตกใจและในแวบหนึ่งของหัวใจผมรับรู้ได้ถึงความดีใจนั่น ตาของผมเบิกโพรง พี่หมียิ้มกว้างกว่าเดิมแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันเศร้าเหลือเกิน
ติงต๊อง ๆ ๆ ๆ
-
เสียงกริ๊งห้องกดรัวเหมือนกับอีกฝ่ายกับกำลังร้อนรนอะไรอยู่สักอย่าง พี่หมีเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ ผมลุกขึ้นยืน ใจผมเต้นแรงมากมันทั้งดีใจกระทั่งสับสนด้วยรู้สึกกลัวว่าคนที่กดกริ๊งนั่นไม่ใช่คนๆนั้นผมจะทำตัวอย่างไรดี ผมควรจะใส่เสื้อผ้าแล้วพอกับเรื่องที่กำลังทำอย่างบ้าบอนี่ด้วยหรือเปล่า
“.................” ผมที่กำลังจะเดินไปที่ประตูห้องนอน สายตากลับสะดุดเข้ากับสิ่งๆหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นวางหนังสือของพี่หมี ผมหยุดอยู่ที่ด้านหน้าเอกสารนั่นก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดูอย่างช้าๆ เอกสารข้อสัญญาการรับทุนการศึกษาต่อของบริษัทเพชรของน้องสาวพี่คิว ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่ได้กรอกข้อมูลไว้เรียบร้อยหมดแล้ว รวมไปถึง..ลายเซ็นต์ของพี่หมีที่ได้ลงนามตกลงข้อสัญญาไว้แล้วเรียบร้อยเช่นกัน ผมบอกได้ว่าผมรู้สึกใจหาย เอกสารนี้เหมือนกำลังย้ำเตือนผมว่า สิ่งที่ผมทำนั้นถูกต้องที่สุดแล้วและผมไม่ควรหวั่นไหวอีกต่อไป ใช่..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะยอมรับอย่างเข้มแข็งให้ได้
ปึก !!
ด้วยความตกใจที่ผมได้ยินเสียงดังมาจากข้างนอก คล้ายกับใครกำลังกระทบกระทั่งกันอยู่ ผมรีบวิ่งออกไปโดยมีผ้าห่มคลุมตัวเองไว้อย่างนั้นอย่างไม่ทันได้ยับยั้งคิดก่อน
“..พี่เซ็น” ผมอุทาน เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าใช่พี่เซ็นจริงๆ
“กัส” พี่เซ็นชะงัก ตาเบิกโพรงมองมาที่ผม
“ไอ้หมี!” พี่เซ็นตะคอกเสียงดัง สิ้นเสียงดุดันนั่นพี่เซ็นก็ปรี่เข้าไปหาพี่หมีในทันที พี่เซ็นปล่อยหมัดเข้าที่หน้าพี่หมีอย่างจังจนพี่หมีตัวเซไปชนกับโต๊ะอาหาร เมื่อพี่หมีตั้งหลักได้พี่เขาก็พุ่งเข้าหาพี่เซ็น ทั้งสองคนต่อสู้กันอย่างกับไม่เห็นว่าผมยืนอยู่ตรงนี้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ผมพยายามตะโกนให้น้ำเสียงมีอำนาจ
“หยุดนะ!!” ผมรวบรวมพลังที่มีตะโกนออกไปสุดเสียงอีกครั้งเพราะทั้งสองคนไม่มีใครคิดจะหยุดทำตามคำสั่งของผมเลยสักคน ทั้งพี่หมีและพี่เซ็นยังไม่มีใครยอมใคร ผมเห็นท่าไม่ดีเพราะตอนนี้พี่เซ็นกำลังเสียเปรียบ ผมทำตัวไม่ถูกเพราะโดยปกติถ้าใครทะเลาะกันผมจะไม่เข้าไปยุ่มย่ามด้วยเพราะกลัวลูกหลง แต่สถานการณ์นี้ถ้าผมไม่เข้าไปห้ามคงจะมีคนตายเกิดขึ้นแน่ๆ ผมเดินเข้าไปในครัวเห็นหม้อสแตนเลสใบถนัดมือผมจึงหยิบมันออกมา เมื่อออกมาถึงจุดเกิดเหตุทั้งสองคนก็ยังคงต่อสู้กันไม่หยุด
โป๊ก !
โป๊ก !!
“โอ้ยยยยยยยย ซี๊ด..โอ ย” เสียงร้องโอดครวญจากทั้งสองคนเพราะผมฟาดลงไปที่หัวของทั้งพี่หมีและพี่เซ็นเต็มแรง
“อ่ะ..เจ็บ เจ็บโว้ย” พี่เซ็นร้อง มือกุมหัวตัวเองทั้งสองมือ ทั้งพี่หมีและพี่เซ็นนอนกุมหัวตัวเองอยู่บนพื้นอย่างหมดฤทธิ์
“ก็..ก็กัดกันอยู่ได้อ่ะ เป็นหมารึไงฮะ” ผมว่าก่อนจะวางหม้อลงบนโต๊ะ เวลาผ่านไปประมาณห้านาทีเหมือนทุกคนต่างก็มีสติขึ้น พี่เซ็นและพี่หมีลุกขึ้นนั่งมองหน้ากัน ผมเริ่มใจเต้นแรงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนจ้องเหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังอ่านกันอยู่
“ผมจะพูดในฐานะผม ส่วนพี่ก็พูดในฐานะพี่..ไม่มีหน้าที่ ไม่เกี่ยวกัน” พี่หมีพูดขึ้นเสียงเรียบ
“เฮอะ” พี่เซ็นแสยะหัวเราะทันที ท่าทางของพี่เขากวนส้นเท้าเป็นที่สุด
“มาบอกหลังจากชกกูแล้วเนี่ยนะ” พี่เซ็นพูด
“พี่ชกผมก่อน” พี่หมีตอบ
“นั่นสิ เจ๊ากันไปก็แล้วกัน..เพราะมึงกวนกูก่อน” พี่เซ็นย้อนกลับมาหน้านิ่งอีกครั้ง พี่เซ็นเหลือบมามองผมจนทำให้ผมสะดุ้งกับสายตานั่น พี่เซ็นกวาดตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมรู้สึกไม่ดีเลยกอดผ้าห่มเข้ากับตัวเองมากขึ้น ผมไม่กล้าที่จะพูดแก้ตัวออกไปว่ามันไม่ใช่อย่างที่พี่เซ็นคิด แต่ผมก็ไม่กล้าพูดเพราะผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวอย่างไรถึงเข้ากับเหตุการณ์นี้
“ขอร้องว่าอย่าให้กูเดาว่ามึงทำอะไรกัส” พี่เซ็นพูดเสียงเย็น
“หึ..ผมก็เคยเดาแฮะ อะไรแบบนั้น” พี่หมีย้อนด้วยท่าทางกวนกลับ
“เวลาแก้ผ้านี่ เค้าต้องทำอะไรกันเหรอครับ” พี่หมีหันกลับไปมองหน้าพี่เซ็น
“ไอ้หมี มึง..ไอ้เหี้ย” พี่เซ็นไม่ว่าเปล่าในขณะเดียวกันก็พุ่งปล่อยหมัดเข้าใส่พี่หมีเต็มแรง พี่หมีล้มลงกับพื้นนิ่งไปและไม่ได้ต่อสู้กลับ
“มึงอย่ามากวนส้นตีนกู ได้ไหม” พี่เซ็นพูดเสียงแข็งทั้งอย่างนั้นก็ไม่ได้ชกพี่หมีอีก พี่หมีนอนอมยิ้มตาลอย
“.................” พี่หมีเหลือบมองหน้าพี่เซ็น พี่เซ็นเองก็จ้องหน้าพี่หมีกลับเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนจ้องกันอยู่นานมาก พี่เซ็นปล่อยมือออจากคอเสื้อของพี่หมีแต่พี่หมียังคงนอนนิ่งอยู่บนพื้นอย่างนั้น พี่หมีเหลือบสายตาขึ้นมองผมที่ยืนอยู่พร้อมกับส่งยิ้มให้
“ให้ตายสิ มึงไม่ได้ทำหรอกใช่ไหม” พี่เซ็นพูดเสียงเรียบ พี่หมีไม่ตอบเพียงแต่หัวเราะในลำคอ
“มึงไม่ทำหรอก” พี่เซ็นย้ำพูดก่อนจะกลับไปนั่งอย่างเดิม พี่เขาหันหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะถอนหายใจแรง
“นั่นสิ” พี่หมีพูดตอบเสียงเบา
“ไอ้คิวใช่ไหม ความคิดเหี้ยๆอย่างนี้ต้องมันแน่ๆ” พี่เซ็นบ่นพึมพำคนเดียวเหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบ
“หึ พี่นี่รู้ใจคนอื่นดีกว่าใจตัวเองอีกนะครับ” พี่หมีย้อนตอบ ผมมองทั้งสองคนที่กลับมาพูดคุยกันได้อย่างมีสติถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะยังคงเหมือนประชดประชัดกันอยู่ก็ตาม
“แน่ล่ะ..กูรู้จักมันมากกว่ารู้จักตัวกูเองด้วยซ้ำ” พี่เซ็นแสยะหัวเราะอย่างขอปัดไปที พี่หมีลุกขึ้นนั่ง
“โอเค ขอคำตอบหน่อยก็แล้วกันนะครับ..พวกเรามีเวลาไม่มากพอ” พี่หมีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา
“พี่มาทำไม” พี่หมีถามพร้อมกับสายตาที่จ้องไปที่พี่เซ็นเขม็งเหมือนเป็นการขู่ขอคำตอบอย่างนั้น
“ฉันมาขอคนของฉันคืน..” พี่เซ็นจ้องตอบ
“หึ พูดง่ายไปมั้งครับ..ถ้าผมบอกว่า ไม่ให้ล่ะ” พี่หมีหัวเราะด้วยท่าทางกร้านโลกใส่อีกฝ่าย
“................” พี่เซ็นไม่ตอบอะไรแต่เอาแต่มองพี่หมีเหมือนไม่สบอารมณ์
“พี่น่ะ มาก็ง่าย..พูดก็ง่าย ง่ายซะจนหน้าหมันไส้จริงๆ” พี่หมีแสยะหัวเราะ พี่เซ็นนิ่งไป
“ถ้ากัสรักผม ผมก็จะไม่ปล่อยไปให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น..พี่เองก็จะไม่มีสิทธิ์แม้แต่ปลายเล็บด้วย” พี่หมีพูด พี่เซ็นหลับตาลงเหมือนกำลังต้องการระงับสติอารมณ์ของตนเอง ผมใจเต้นแรงไม่รู้ว่าพี่หมีพูดอย่างนั้นออกไปเพื่อต้องการทดลองอะไร และผมก็ไม่คิดจะห้ามเพราะตอนนี้รู้สึกว่าปากตัวเองนั้นหนักไปหมด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรควรพูดหรืออะไรไม่ควรพูด
“แต่กัสไม่ได้รักผมนี่สิ ผมต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ หึ..ตลกชะมัด” พี่หมีพูดปัดก่อนจะลุกขึ้นยืน พี่เซ็นมองตาม ผมเองก็ด้วย พี่หมีหันกลับมามองหน้าผมก่อนจะยิ้มกว้างให้อีกครั้ง
“โอกาสพี่มีแค่ตอนนี้เท่านั้น” พี่หมีหันกลับไปพูดบอกพี่เซ็นโดยใบหน้าไร้รอยยิ้มทีเล่นทีจริงอีก
“พี่น่ะ..จะเลือกได้ก็แค่วันนี้ เพราะวันพรุ่งนี้มันจะเป็นวันของพวกผม..ฝากน้องผมด้วยก็แล้วกันครับ”
“เชิญ..แค่ให้ยืมห้องเท่านั้นนะ” พี่หมีพูดปัดพร้อมกับโบกมือให้ อยู่ๆพี่หมีก็เดินออกจากห้องไปเลย ผมมองตามแต่ขามันก็แข็งไปหมด พี่เซ็นลุกขึ้นยืนและเดินตรงดิ่งมาหาผมทันที
“โอ้ย” ผมร้องด้วยรู้สึกเจ็บที่อยู่ๆพี่เซ็นก็เข้ามากระชากแขนผมอย่างแรง
“เจ็บฮะ” ผมบอกแต่พี่เซ็นไม่ฟังเสียง พี่เขาดึงแขนผมให้เดินตามเข้าไปในห้องนอนของพี่หมี
“แต่งตัว” พี่เซ็นพูดเสียงเย็นพร้อมกับก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นห้องขึ้นมา ผมเงอะงะเพราะทำตัวไม่ถูกและปรับอารมณ์ไม่ทันด้วย
“แต่งตัวซะ!” ผมสะดุ้งด้วยความตกใจที่อยู่ๆพี่เซ็นก็หันมาตะคอกใส่ ผมหยิบเสื้อผ้ามากอดไว้
“ย..อย่ามาขึ้นเสียงใส่กัสนะ” ผมว่ากลับตะกุกตะกักเพราะอีกใจก็กลัวเหมือนกัน
“จิ..เอาออกสิ” พี่เซ็นพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเหมือนบอกให้ผมนำผ้าห่มที่คลุมตัวอยู่ออก พี่เขาไม่พูดเปล่าแต่กลับพยายามจะดึงผ้าห่มออกจากตัวผมด้วย ผมรู้สึกอายจึงพยายามยื้อผ้าห่มไว้
“ปล่อยเดี๋ยวนี้..ปล่อย” พี่เซ็นว่าและกระชากผ้าห่มออกจากตัวผมได้สำเร็จ ผมยืนกอดตัวเองโดยพยายามปิดส่วนสำคัญไว้เพราะเมื่อพี่เซ็นกระชากผ้าห่มและเหวี่ยงออกไปทางอื่นได้แล้วพี่เขาก็ยืนจ้องตัวผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ตกลงไม่ได้ทำใช่ไหม” อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ
“ก็ไม่ได้ทำน่ะสิ!” เมื่อได้ทีผมจึงกระแทกเสียงกลับบ้าง
“ชิ” พี่เซ็นยืนเท้าเอวพร้อมกับจิปากเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“แต่งตัวสิ หรือจะต้องให้ใส่ให้” อีกฝ่ายว่า ผมไม่รู้ว่าผมหน้าแดงรึเปล่า แทนที่ผมจะมีความรู้สึกโกรธ น้อยใจพี่เขามากกว่านี้แต่ทำไมความรู้สึกเขินอายมันมีมากกว่าก็ไม่รู้นะครับ ผมรีบแต่งตัวอย่างลวกๆโดยมีพี่เซ็นยืนมองอยู่ทุกการกระทำ สายตาของพี่เขาเหมือนพยายามเร่งให้ผมแต่งตัวเร็วขึ้น เมื่อผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพี่เซ็นก็เดินไปหยิบกระเป๋าของผมและจับแขนผมเดินออกมา
“ค..คือ” ผมกระตุกแขนตัวเองและหยุดเดิน พี่เซ็นหันกลับมามอง
“คือกัส” ผมอ้ำอึ้ง ความรู้สึกตอนนี้มันบอกไม่ถูก เหมือนกับผมยังทิ้งตรงนี้ไปไม่ได้
“ขอโทษนะ สำหรับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา” พี่เซ็นพูด ผมน้ำตาคลอ
“..กัส ไม่เคยโกรธหรอกฮะ” ผมยิ้มตอบเล็กน้อย
“ยกโทษให้พี่จะได้ไหม” พี่เขาพูดอีก หัวใจของผมพองโตทันทีที่ได้ยิน มันคล้ายกับประโยคบอกรัก ซึ่งถึงมันไม่ใช่แต่มันกลับทำให้หัวใจผมเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่อยู่
“................” ผมก้มหน้าลงเล็กน้อยและรับรู้ได้ถึงแรงจากพี่เซ็นที่บีบข้อมือผมมากขึ้น
“ก็บอกแล้วไงครับว่าไม่เคยโกรธ แต่..”
“ขอกัสรอพี่หมี จนกว่าพี่หมีจะกลับมาก่อน..ได้ไหมครับ” ผมพูดออกไป ทั้งทั้งที่ก็รู้สึกกลัวว่าพี่เซ็นจะไม่อนุญาต กลัวว่าพี่เขาจะเข้าใจผิด รวมไปถึงกลัวว่าพี่เซ็นเองจะไม่หยุดเพื่อรอผม..ทุกอย่างทำให้ผมกลัวไปหมด พี่เซ็นเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ได้สิ พี่จะไปรอที่ล็อบบี้แล้วกัน” พี่เซ็นบอก ผมเงยหน้ามอง พี่เซ็นพยักหน้าให้ก่อนจะปล่อยข้อมือผมแล้วเดินออกไป ผมยืนอยู่อย่างนั้นไม่ถึงสิบนาทีพี่หมีก็เดินเข้ามา ผมรีบวิ่งตรงเข้าไปกอดพี่เขาในทันที พี่หมีเองก็กอดผมตอบแน่นเหมือนเราจากกันไปนานแล้วอย่างนั้น เรายืนกอดกันอยู่นานมากเกือบห้าถึงสิบนาทีได้ ต่างฝ่ายต่างลูบหลังของกันและกันอย่างปลอบโยน
“ไม่ร้องสิ หึ..ร้องทำไม” พี่หมีลูบน้ำตาที่แก้มผมอย่างทะนุถนอม ผมยิ้มกว้างให้ทั้งน้ำตา
“กัสขอโทษ” ผมพูดเสียงเครือ
“เมื่อไหร่ถึงจะเลิกพูดคำนี้สักที พี่ขอซื้อได้ไหม..ขายเท่าไหร่ครับพี่จะทุ่มหมดตัวเลย” พี่หมีพูดติดตลก
“ไม่ขาย” ผมซุกเข้าที่อกของพี่หมีอีกครั้ง พี่หมีกอดผมแน่น
“พี่น่ะ สบายใจแล้ว..จริงๆนะ” พี่หมีพูด
“เรามาเริ่มต้นกันใหม่เถอะนะครับ” ผมได้แต่ยืนฟังเพราะยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด
“ขอบคุณสำหรับที่ผ่านมา..ขอบคุณจริงๆ” พี่หมีพูดแทบกระซิบ ผมเงยหน้าขึ้นมอง พี่หมีก้มลงหอมที่หน้าผากผมเบาๆ ผมหลับตาลงและรับรู้ถึงความอ่อนโยนจากคนๆนี้ ผมเอื้อมมือขึ้นลูบแก้มพี่หมีทั้งสองมือ
“รีบไปเถอะครับ พี่เค้ารออยู่” พี่หมียิ้มบอก ผมพยักหน้า พี่หมีปล่อยผมออก ผมเดินออกมาโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครรั้งใครไว้อีก เมื่อกำลังจะเดินถึงประตูห้อง ผมหันหลังกลับไปมองพี่หมีอีกครั้ง พี่เขายืนหันหลังโดยไม่ได้หันมามองผม ผมหยุดยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
“กัสน่ะ..” ผมเอ่ยขึ้น น้ำตาเริ่มไหลลงอีกครั้ง ปากของผมสั่นไปหมดทั้งทั้งที่ผมพยายามควบคุมมันให้เป็นปกติเพื่อที่พี่หมีจะได้ไม่เป็นห่วงผมที่ชอบขี้แยบ้าบออย่างนี้
“ไม่เคยโกรธพี่ ไม่ว่าพี่จะทำอะไร..และได้โปรดอย่านึกว่านั่นเป็นความผิดที่พี่มีต่อกัสเลยนะฮะ” ผมพูดบอก
“กัสเองต่างหากที่ทำตัวไม่เป็นน้องอย่างที่ควรจะทำให้พอดี อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ” ผมพูดเพราะผมไม่อยากให้พี่หมีฝังใจเรื่องที่ถูกพี่ฟ้าหรือพี่คิวต่อว่าในวันนั้น ผมเข้าใจพี่หมีเพราะเรื่องของหัวใจใครก็มาบังคับให้เป็นไปตามที่อีกคนหนึ่งต้องการไม่ได้ ผมอยากให้ต่างฝ่ายต่างสบายใจแม้จะเลือกเดินไปข้างหน้าแม้จะต้องฝืนใจบ้างก็ตาม แต่ผมคิดว่าทั้งผมและพี่หมีเองก็เลือกแล้ว..เราควรเลือกสิ่งที่ดีกว่าในตอนนี้ เพราะมันควรจะต้องผ่านช่วงเวลาคลุมเครือนี้ไปเสียที
“เพราะพี่หมีน่ะเป็นพี่ชายที่มากกว่าพี่ก้องเป็น และเป็นคนพิเศษมากกว่าที่พี่เซ็นจะเป็นได้” ผมพยายามพูดเรียบเรียงประโยคให้เป็นปกติ
“อึก เพราะพี่..เป็นพี่คนสำคัญนะฮะ”
“สำคัญ มากกว่าใคร” ผมบอก พี่หมีหันกลับมายิ้มให้ น้ำตาของพี่หมีที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าและรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนนั่นทำให้ผมยิ้มกว้างตอบกลับไป
“สำหรับพี่..กัสก็จะเป็นเหมือนกัน” พี่หมียิ้มตอบ เราพยักหน้าให้กันเล็กน้อยก่อนที่ผมจะเดินออกมาจากห้อง เป็นการก้าวเดินออกมาอย่างสบายใจที่สุดเท่าที่เคยมีมา วันนี้คงจะเป็นวันที่ผมสบายใจและมีความสุขมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การที่ผมบอกพี่หมีไปว่าพี่เขาเป็นคนสำคัญ ตลอดมาผมเคยถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่าจัดพี่หมีให้อยู่ในฐานะอะไร ผมเองไม่สามารถตอบได้เลย แต่ทั้งนี้ผมกลับรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยอย่างที่ผมก็เคยคิดว่าผมอาจจะรักพี่เขามากกว่าพี่น้องหรือเปล่า แต่ความรู้สึกที่เราชอบกุ๊กกิ๊กกันมันตอบได้ทันทีว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่านั้น พี่หมีทำให้ผมรู้ว่าผมสามารถรักใครก็ไม่รู้ให้กลายมาเป็นคนที่ผมให้ความสำคัญเรียกว่า “พี่ชาย” มากกว่าพี่น้องที่คลอดตามออกมาจากท้องแม่เดียวกัน พี่หมีมักใส่ใจผมในส่วนที่พี่ก้องหรือพี่เกตุไม่ได้ใส่ใจ..ผมเองก็เช่นเดียวกัน ผมรักพี่หมีและให้ความสำคัญกับพี่เขาได้มากกว่าญาติของตัวเองเสียอีก ผมเองก็รักพี่เกตุกับพี่ก้องมากแต่ผมกลับมีเส้นเขตแบ่งระหว่างพี่ทั้งสองคนที่แตกต่างจากพี่หมี ผมไม่เคยคิดจะมีเส้นแบ่งกั้นระหว่างผมกับพี่หมีเลยถ้าพี่หมีไม่ห้ามปรามผมไว้ ผมยอมถ้าเป็นสิ่งที่พี่เขาต้องการ ทั้งนี้ผมบอกได้เลยว่าไม่ว่าพี่หมีจะทำอะไรก็แล้วแต่ที่ผิดต่อผม ผมก็คงจะโกรธพี่เขาไม่ลง ผมเคยถามกับตัวเองว่าถ้าสักวันพี่หมีทำในสิ่งร้ายแรงต่อผม ผมจะสามารถให้อภัยพี่เขาได้ไหม น่าแปลกจริงๆว่าผมจะให้อภัยได้อย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ ซึ่งถ้าสักวันหนึ่งผมจะไม่มีพี่เซ็น..ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ และไม่ว่าผมจะเจ็บปวดหรือต้องทรมานจากพี่เซ็นมากแค่ไหน ผมคิดว่าถ้าผมทนพี่เขาไม่ได้..คำว่า “รัก” เองก็คงจะฉุดรั้งความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ได้เช่นกัน และถ้าผมกับพี่เซ็นต้องจากกันไปผมค่อนข้างจะนึกภาพออกและนึกเผื่อไว้เสมอว่าถ้าสักวันมีวันนั้น ผมก็ควรจะทำใจ แต่กรณีนี้ไม่ใช่สำหรับพี่หมี..ผมอยากจะมีพี่เขาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตของผมอย่างที่ไม่ว่าตัวเราจะห่างไกลกันแค่ไหน หัวใจของเราจะได้รับการครอบครองโดยใครก็ตาม ในทุกๆวันเราก็ยังมีกันและกัน เป็นพี่น้องกัน..เป็นเพื่อนกัน เป็นคนหนึ่งบนโลกที่มีอีกคนหนึ่งคอยให้ความสำคัญซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา ผมยังมีพี่หมี และแน่นอนว่าพี่หมีเองก็จะมีผมเสมอ..
ผมเดินออกมาจากห้องตรงไปที่ลิฟต์ ก็พบว่าพี่เซ็นยืนอยู่หน้าลิฟต์ไม่ได้ไปรอที่ล็อบบี้อย่างที่บอกไว้ พี่เซ็นผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นผมเดินมา
“อย่างนี้ ดีแน่แล้วเหรอฮะ” ผมถาม ผมรักพี่เขามากเช่นกัน รักแบบที่อยากได้ความรักในเชิงชู้สาวตอบกลับมา แต่ทั้งนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่เซ็นเลือกที่จะเป็นผมดีแน่แล้วอย่างนั้นหรือเปล่า หรือเพราะต้องการลองเล่นๆอีก
“ไม่รู้สิ” พี่เซ็นอมยิ้มเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มที่ไม่มีความเจ้าเล่ห์ใดๆปรากฏให้เห็น
“ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดีหรือไม่ดี แต่..กัสจะช่วยมาพิสูจน์ด้วยกันหน่อยจะได้ไหม” พี่เซ็นพูด สีหน้าของพี่เขาเหมือนไม่มั่นใจและเฝ้ารอคำตอบ ใบหน้านี้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมได้ชัยชนะแล้วอย่างนั้น ผมหัวเราะตอบเล็กน้อย
“กัสบอกไว้ก่อน..ว่ากัสน่ะ สามารถหยุดรักพี่เซ็นได้นะฮะ ดูแลมันให้ดีด้วย” ผมพูดไปอย่างนั้นเอง
“จะขู่กันรึไง” อีกฝ่ายแสยะยิ้มเล็กน้อย
“ใช่” ผมตอบเสียงเบา พี่เซ็นหัวเราะก่อนจะเดินตรงเข้ามาพร้อมกับลูบแก้มผมและเช็ดคราบน้ำตาให้อย่างเบามือ
“กัส..จะไม่เดินจากไปใช่ไหม” พี่เซ็นจ้องตาผม สายตาเหมือนต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง
“ก็ถ้าพี่จะรักกัส” ผมพูดออกไป มันเป็นคำพูดที่ค่อนข้างน่าอาย ผมเลยต้องเหสายตาหนีเล็กน้อย ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไปอย่างนั้น ใจที่ผมคิดคือ..ถ้าเมื่อไหร่ที่พี่เขาไม่ต้องการผมแล้ว ผมจะไปเองต่างหาก
“หึ..”
“ตามมาขนาดนี้แล้ว คิดว่าไงล่ะ” พี่เซ็นพูดส่งๆก่อนจะหันกลับไปเอื้อมกดลิฟต์
“งั้น..งั้นก็พูดมาตรงๆสิฮะ” ผมคาดคั้นเพราะอย่างไรก็แล้วแต่ผมก็อยากได้ยินคำว่ารักออกมาจากปากคนคนนี้ตรงๆละนะครับ พี่เซ็นน่ะไว้ใจได้ซะเมื่อไหร่..เจ้าเล่ห์ล่ะที่หนึ่ง ผมไม่ได้อยากเสียตัวฟรีอีกรอบหรอกนะครับ
“ทีตัวเองยังไม่พูดเลยไม่ใช่รึไง” พี่เซ็นหันมาพูดย้อนกลับหน้ากวน ผมชะงัก
“ก็ ก็..พูดไปเมื่อกี้ไง ก็รัก นั่นแหละ” ผมพูดเสียงเบาลงเรื่อยๆเพราะไม่อยากให้พี่เซ็นได้ยินชัดเจนเพราะผมกลัวว่าพี่เขาจะได้ใจไปมากกว่านี้
“พี่ล่ะ พูดสิ” ผมพูดเค้นเสียงดัง
“ไม่พูด” พี่เซ็นลอยหน้าลอยตา ผมยืนหน้างอ เมื่อลิฟต์เปิดออกพี่เซ็นก็เดินเข้าไปก่อน ผมไม่เดินตามไปด้วยเพราะยังรู้สึกไม่ชอบใจอยู่ อีกฝ่ายยืนยิ้มไม่เลิกทั้งทั้งที่ก็เห็นว่าผมไม่สบอารมณ์ขนาดนี้
“ไปด้วยกันนะครับ” พี่เขาพูดพร้อมกับยื่นมือออกมาให้ผม รอยยิ้มของพี่เซ็นที่อยู่ตรงหน้าเป็นรอยยิ้มที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้มาก่อน..นี่เป็นรอยยิ้มที่สื่อความหมายที่แปลกออกไปจากทุกครั้ง
“เห็นแก่ตัวที่สุดเลย” ผมว่าเสียงเครือและไม่รู้ว่าเพราะอะไรน้ำตาถึงได้ไหลลงมาอีกครั้ง คงเพราะรอยยิ้มคาดหวังกับสายตาอันเว้าวอนนั่นหรือเปล่า ผมเอื้อมมือไปจับมือของพี่เซ็นและเดินเข้าไปหา พี่เขาโอบผมเข้าไปกอดไว้ทั้งตัว เรากอดกันแน่นเป็นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าลิฟต์เดินทางเร็วมาก เมื่อลิฟต์ถึงชั้นล่างประตูลิฟต์ก็เปิดออก ท่ามกลางสายตาคนที่รอลิฟต์อยู่ทุกคนต่างอึ้งที่เห็นผู้ชายสองคนยืนกอดกันอย่างกับปลากระป๋อง พี่เซ็นพูดปัดบอกทุกคนว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ตายผมเลยร้องไห้ซะอย่างนั้น ก่อนที่พี่เขาจะพาผมเดินออกมาขึ้นรถและขับกลับไปที่คอนโดของพี่เขา ผมคงกลับบ้านในสภาพนี้ไม่ได้แน่ ตาผมบวมน่ากลัวมากๆเลยละครับ..
.................End of Lover 3.................
ชี้แจง..
1. สำหรับคนอ่านท่านใดที่ยังงงหรือไม่เข้าใจเนื้อเรื่องอยู่ว่า “ทำไมมันเป็นอย่างนั้น? งง..มึน ไม่เข้าใจ? หรืออย่างอื่นบลาๆๆๆ” ทางเบบี้ขอแนะนำว่าให้คุณลองกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรกของกัสนะคะเพราะอาจจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าทั้งนี้ยังคิดว่าตนเองยังมึน ไม่เข้าใจและยังคิดว่าไม่สมเหตุสมผลอยู่อีก ทางเบบี้เองก็ไม่สามารถทำอะไรให้กระจ่างไปได้มากกว่านี้แล้วค่ะ ชีวิตคนเรากับเรื่องบางเรื่องไม่มีอะไรกระจ่างไปซะทุกอย่าง นิยายเรื่องนี้ก็ด้วยเหมือนกันที่จะทำให้คนอ่านทุกคนเข้าใจตรงกันหมดได้มันก็คงจะไม่ได้ด้วย
2. ในนิยายเรื่องนี้ที่ได้เริ่มเขียนขึ้นมา นอกจากจะสนองตัณหาการชอบทานเค้กของตัวเองและต้องการตอบโจทย์อื่นๆอีกหลายๆอย่าง มีส่วนหนึ่งที่อยากให้เป็นส่วนสำคัญของเรื่องเลยคือ..สันดานดิบของแต่ละตัวละครค่ะ การดำเนินเรื่องจึงเป็นไปอย่างเรียบง่าย เดาออกง่ายแต่คล้ายกับว่าคนอ่านจะสามารถเข้าถึงตัวละครนั้นๆได้มากน้อยแค่ไหน โดยมองจากพื้นฐานของนิยายของตัวละครนั้นๆโดยไม่คำนึงถึงว่า “ถ้าเป็นตัวฉัน..ฉันจะทำแบบนี้ ฉันจะไม่ทำแบบมันแน่” แต่เป็นการมองมุมกลับให้ลึกไปว่า..ทำไมตัวละครตัวนั้นถึงทำแบบนั้นออกไปโดยให้มองพื้นฐานของตัวละครว่ามีนิสัยแท้จริงอย่างไรโดยไม่นำความรู้สึกถึงความเป็นตัวคนอ่านเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถ้าไม่สามารถเปิดใจที่จะเข้าใจนิสัยของตัวละครตัวนั้นๆได้ ก็จะเข้าถึงการดำเนินเรื่องได้ค่อนข้างยากอยู่ เบบี้จึงยังคงยึดที่จะดำเนินเรื่องโดยคงความเป็นตัวของตัวละครต่อไปโดยก็ไม่คำนึงเหมือนกันว่า..คนอ่านบางท่านอาจจะไม่เข้าใจ ฮ่าๆๆๆ
3. ตอนพิเศษต่อจากนี้จะเขียนให้ทั้งหมด 4 ตอนค่ะ (ซึ่งแต่ละตอนค่อนข้างยาวมาก แบบว่า..ยาวเกิ้น!)โดยดำเนินตอนดังนี้นะคะ..ตอนของคิว ตอนของเค้ก ตอนของทิกเกอร์และตอนของเซ็น เมื่อจบตอนของเซ็นเมื่อไหร่ นิยายเรื่องนี้จะนำไปไว้ในห้อง “นิยายจบแล้ว” ทันทีค่ะ และจะไม่มีการต่อตอนพิเศษในหน้าเวปอีก
4. นิยายเรื่องนี้กำลังอยู่ในกระบวนการของการทำเป็นรูปแบบหนังสือ อาจจะอัพเดทข่าวการรวมเล่มอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2555 นี้ค่ะ อัพเดทรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บอร์ดเบบี้ (http://baby.thai-forum.net)
5. และขอชี้แจงเกี่ยวกับตอนพิเศษหน่อยนะคะ : คนอ่านบางท่านอาจจะคิดว่า..ตอนพิเศษที่ลงให้ในเวปบอร์ดนี้น้อยและรู้สึกว่าไม่เพียงพอ เบบี้ขออธิบายดังนี้ค่ะ
- เนื่องจากว่าทางเบบี้ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่า นิยายเรื่อง Limited Lovers จะทำเป็นหนังสือก่อนนิยายเรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย การลงตอนพิเศษนั้นจึงมีจำกัดเพราะถ้าลงตอนพิเศษเรื่อยๆไร้จุดสิ้นสุด นั่นหมายความว่านิยายเรื่องนี้จะตีพิมพ์เป็นหนังสือได้เมื่อไหร่ก็ไร้จุดหมายพอกัน...เรื่อง Memorial~ รักแรก รักสุดท้าย ยาวมากจึงไม่รู้ว่าจะได้เห็นเป็นรูปเล่มในปีไหนดังนั้นถ้าเรื่อง Limited Lovers ต่อตอนพิเศษเรื่อยๆก็จะสามารถยาวได้เท่าเรื่องเมตรสลิ่มเช่นกัน เพราะเพียงแค่เนื้อหาคู่หลัก 1 คู่และคู่รองอีก 2 คู่ในตอนนี้เนื้อหาก็ประมาณเทียมเท่าชุลมุนวุ่นรักทั้งหมด 3 เล่มแล้วค่ะ และนั่นก็หมายถึงเรื่องนี้จะได้ออกเป็นรูปเล่มหนังสือล่าช้าไปอีกเป็นชาติได้ ซึ่งที่จริงเบบี้ยังไม่ทำเรื่องนี้เป็นหนังสือก็ได้ค่ะแต่เห็นมีคนเข้ามาถามบ่อย รวมไปถึงก็ไม่อยากให้คนอ่านรอกันแบบไร้จุดหมายด้วย เพราะเราอาจจะไม่ได้เห็นผลงานกันอีกนานเลย ^v^
- ปกติเบบี้เป็นคนชอบเขียนตอนพิเศษค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในหนังสือก็จะเขียนให้ค่อนข้างยาวจะเห็นได้จากเรื่องสุดท้ายกรูก็รักมึงจนได้..ไอ้โรคจิต กับเรื่องชุลมุนวุ่นรักที่เล่มสุดท้ายจะเป็นตอนพิเศษทั้งเล่ม เบบี้เองก็อยากให้ Limited Lovers เป็นอย่างนั้นด้วย จึงต้องจำกัดการลงตอนพิเศษในเวปบอร์ดไม่ให้ล้นเกินไป เพราะถ้าล้นมากเกินไปจะทำให้กินพื้นที่ที่จะต่อตอนพิเศษในหนังสือมากกว่าควรจะเป็น และหนังสือก็จะเพิ่มจำนวนเล่มจนมากเกินไป
- จากข้อมูลด้านบนจะสนับสนุนข้อมูลตรงนี้ค่ะ..เนื้อหาทั้งหมดได้ประมาณเล่มมาแล้วว่าจะจำกัดหนังสือต่อ 1 ชุดนั้นกี่เล่มและประมาณเล่มละกี่หน้า ที่เบบี้ต้องจำกัดขอบเขตของตอนพิเศษในเวปบอร์ดเพราะเบบี้เองก็มีพล๊อตที่จะเขียนในหนังสือและอยากจะเขียนในส่วนที่ต้องการทั้งหมดลงไปโดยไม่ต้องบีบตัวเองเหตุเพราะมีพื้นที่ไม่มากพอ รวมไปถึงตอนพิเศษในเล่มก็ยังไม่ได้เริ่มเขียนจึงไม่รู้ว่าเท่าไหร่ถึงจะพอดี..ทั้งนี้ก็ไม่อยากให้เกินจำนวนหน้าที่ประมาณการไว้ เพราะถ้ามากเกินไปมันจะกลายเป็นแบบมหากาพย์ต้าข้าวหรือเมตรสลิ่ม(ที่ยาวกว่าต้าข้าว)ได้ นั่นก็หมายถึงต้องใช้เวลาในการจัดทำนานมากขึ้นไร้จุดหมายปลายทาง
6. และขอให้คนอ่านเข้าใจเบบี้ด้วยว่าเบบี้ไม่ได้ไม่ทุ่มเทกับการเขียนตอนพิเศษที่ให้ไว้ในเวปบอร์ดเลย เราจะปิดเรื่องนี้ให้โดยในส่วนของคนอ่านบางคนที่ไม่ต้องการซื้อหนังสือเรื่องนี้รู้สึกอิ่มในความรู้สึกของตัวละครในนิยายเรื่องนี้ค่ะ
7. ตอนเปิดจองหนังสือหรือเปิดให้โอนเงิน(ยังไม่แน่ใจในเวลา) เบบี้อาจจะมีเกมให้เล่นเล็กน้อยซึ่งในเกมนี้จะมีของขวัญพิเศษให้ เหมือนกับนิยายเรื่องชุลมุนวุ่นรักที่มีคนอ่านได้ของขวัญพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนั้นไป 3 ชิ้น แน่นอนว่าเรื่อง Limited Lovers จะทำของขวัญแบบลิมิเต็ดให้อีกเช่นเดียวกันค่ะ อาจจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งค่ะ ;)
8. สำหรับใครที่ต้องการจะถามอะไรนอกเหนือจากที่ชี้แจงไปนี้ให้ส่งข้อความถามโดยส่วนตัวมาได้หรือรีพรายถามก็ได้ค่ะเพราะจะได้เป็นประโยชน์กับคนอ่านท่านอื่น แต่ถ้าจะถามคำถามในส่วนที่เบบี้ได้ชี้แจงไปแล้วเบบี้จะไม่ขอตอบ อย่างไรก็แล้วแต่รบกวนช่วยอ่านให้ละเอียดรอบคอบก่อนค่อยถาม เพราะถ้าถามในสิ่งที่ได้ชี้แจงไปแล้วเบบี้ก็จะไม่ตอบและก็ต้องบอกให้คุณกลับมาอ่านอยู่ดีค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
:z13:
-
พี่เซ็นสินะ ไม่เป็นไร อ้าเเขนรับพี่หมีอย่างเต็มใจ :กอด1:
-
ชอบนิยายเรื่องนี้ ติดตามคุณเบบี้มา
เพราะรู้สึกถึงความมีชีวิตของตัวละคร
เรื่องจริงไม่ได้เป็นดั่งใจเราคิด
ขอบคุณมากนะคะ:)))
-
สงสารพี่หมีโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในความเป็นจริง คนที่ดีกับคนที่รัก บางทีมันก็เป็นคนละคนกันอ่ะนะ :เฮ้อ:
เอาเป็นว่า จะรออ่านตอนพิเศษนะครับ
o13
-
:z13:
-
ยังไม่สะใจกับพี่เซ็นเลย ป่านนี้พี่ฟ้าพี่คิว นั่งหัวเราะชอบใจกันอยู่แน่ ๆ 55
อดใจรออ่านตอนพิเศษแทบมิไหว
-
กรี๊ดดดดดดดดด~ กอดเบบี้ สำหรับ Lover ทั้ง 3 ภาค
ทำได้แค่อ่านผ่านๆ เฉยๆ ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดจริงๆ จังๆ
ช่วงทอล์กท้ายเรื่อง แว๊บๆ ว่ามีร่วมเล่มๆ ด้วยแหละ อิอิ ^^
มาแปะสารบัญให้ก่อนจ้า เดี๋ยวหาเวลามาอ่านแบบจริงจังตั้งใจอีกทีเน้อ
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
“ฉันมาขอคนของฉันคืน..” <<< เต็มปากเต็มคำเลยพี่เซ็น
ฮือๆๆๆๆ สงสารพี่หมี :monkeysad:
//ขอบคุณมากนะคะ รออ่านตอนพิเศษค่ะ ^^
-
ว้า จบซะละ จะรออ่านตอนพิเศษนะคะ และเก็บตังรอรวมเล่ม :กอด1:
ขแบคุณคุณเบบี้มากค่า ที่แต่งนิยายดีๆให้อ่าน :pig4:
-
จริงๆ หลายใจเชียร์ทั้งหมีและเซ็นเลย
สุดท้ายเซ็นก็ได้ไป จบแบบเคลียร์สุดๆ
-
ตามอ่านมาตั้งนานในที่สุดเรื่องนี้ก็ลาจอไปแล้วอะ ส่วนตัวชอบนิยายที่เบบี้แต่งมากกอะ เพราะดำเนินไปในทางที่อิงกับคนจิงๆ เหมือนอ่านเรื่องเล่านะ แต่ได้รู้ความคิดของสองตัวละครเท่านั้นเอง เข้าใจกะตัวละครตัวเซ็นนะ ชีวิตจริงคนแบบเซ็นอาจมีล้นโลกก็ได้ รอตอนพิเศษเค้กกะคิวอย่างแรงงงง เพราะชอบคาแร็กเตอร์คิวมากกก แบบชายหล่อในฝันเลย เก่ง ปากดี ข่มคนได้ ถ้ารู้ตัวว่าผิดก็จะไม่ง้อตรงๆแต่ออกแนวกวนๆ ชอบอ๊าา อยากอ่านตอนพิเศษสองตัวละครนี้เร็วๆ ยังไงก็เป็นกาลังใจให้เบบี้
ปล.เมื่อไหร่จะถึงธนวาอยากได้เล่มนี้ ><
-
ชอบตอนนี้สุดๆ กดบวกให้ค่ะ
ในที่สุดก็สมหวังนะน้องกัส
ชี้แจงเคลียร์คะ อ่านชี้แจงก่อน
เนื้อเรื่องตอนนี้อีกนะ55 :กอด1:
-
รอตอนพิเศษของพี่เซ็นสุดๆ อยากรู้ในใจคิดไรอยู่
รักกัสมากๆ อยากอ่านตอนของกัลช่วงเป็นแฟนกันแล้วจัง
-
พี่หมีน่าสงสารมากกกกกกกกแต่ก็น่าอิจฉามากกกกกกเช่นเดียวกัน
ถึงไม่ได้อยู่ในฐานะที่อยากจะอยู่แต่หมีก็ได้อยู่ในฐานะที่ไม่เคยมีใครได้
ฐานะคนสำคัญของกัส สถานะที่ไม่ว่ายังไงกัสจะไม่ยอมเสียไป
อย่างน้อย ถึงไม่ได้เป็นคนรัก แต่พี่หมีน่าจะรู้ดีว่าตัวเองสำคัญกับกัสแค่ไหน
จบซะแล้วกับเรื่องรักสามเศร้าเราสามคน
มันก้เป็นอย่างที่แอบคิดไว้นะคะเบบี้ ถ้าเราไม่มองในแบบเรา
แต่มองถึงต้นแบบนิสัยของตัวละคร เป็นแบบนี้มันก้ปกติ
เพราะถ้าพูดถึงความดิบของจิตใจมนุษย์
ทุกคนนั้นเห็นแก่ตัวและเลวได้กว่านี้เยอะ
ดีใจกับกัส ในที่สุดก็ได้ลงเอยกับพี่เซ็นสักที
และสำหรับเซ็นต์ ตั้งแต่อ่านมาเป็นบุคคลที่เราไม่ชอบนิสัยสุด
อาจเป็นเพราะเซ็นต์ดิบในการสนองความต้องการตัวเองมากไปมั้ง
แต่เราก็คิดนะ ว่าถึงจะอย่างนั้น เซ็นต์ก็ดีได้ในฐานะคนรักเหมือนกัน
เอาเป็นว่ายินดีกับคนทั้งคู่ค่ะ
จะรอตอนพิเศษนะคะ เบบี้
อยากอ่านทุกตอนเลย โดยเฉพาะคิวเค้ก >.<
-
รอจ้า รอตอนพิเศษ
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆนะคะชอบมาก..ในที่สุดกัสก็สมหวังซักที
-
อย่างน้อยกัสก็มีความสุข
ส่วนหมีน้อย เห็นแววพระรองเกาหลีมาแต่ตอนแรกๆแล้ว
แต่หมีเนี่ยเป็นตัวละครที่รู้สึกติดใจเป็นพิเศษตั้งแต่ตอนแรกๆของคู่เค้กคิวแล้ว ถึงตอนนี้เลยสงสารหมีมากมาย
-
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับนิยายของเบบี้เรื่องนี้ o13(เรื่องไหนๆ ของเบบี้ก็สนุกที่เรื่องทุกตอน)แล้วจะรอตอนพิเศษนะค่ะ :L2:
-
สงสารหมี :m15:
แต่ก็ดีใจกะกัสที่เซ็นมันรู้ใจตัวเองซะที แต่ก็ยังปากแข็ง o13
จะรออ่านตอนพิเศษอีก 4 ตอนของเบบี้ค่า :กอด1:
-
“ฉันมาขอคนของฉันคืน..” :-[ บ้าพี่เซ็นอ่ะ
เย้เย้ หนังสือ ขอคอนพิเศษสักสามเล่มนะหลาน :กอด1:
-
สงสารหมีจังรักแบบไม่ต้องการครอบครอง ขอให้คนที่รักมีความสุข
-
จบอย่างลงตัว :L2:
รอตอนพิเศษอย่าง
ใจจดใจจ่อ :z2:
-
สงสารหมี แต่ก็ดีใจกับกัสด้วยที่สมหวังสักที :-[ :-[ :-[
:pig4: :pig4: :pig4:
-
12 ตอนกับการอ่านนิยายเรื่องราวของกัส สนุกคละเคล้า และตื่นเต้น
คนที่น่าสงสารคือหมี แต่มันเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับใครหลายคนๆๆ
ดังนั้นนี้ยายเรื่องนี้ให้ข้อคิดและรูปแบบ ของการตัดสินใจและอย่าลังเล
ในเรื่องของความรัก
**** เรื่องราวของคิวเค้ก ยังติดตาม
****เรื่องราวของทิกเกอร์และฟ้าก็น่าสนใจ
เอาใจช่วยทุกๆตัวละคร ขอให้มีความสุขมากๆๆนะครับน้องเบบี๋ :pig4:
-
คิว เหมาะกับชื่อมาก "คิวปิด" :laugh:
เซ็น+กัส :-[
ขอบคุณเบบี้
-
อิจฉากัสจังที่มีคนรักมากกกก....ถึงสองคน
รอหนังสือ และรอตอนพิเศษคะ
ขอบคุณคุณเบบี้ที่แต่งนิยายดี ๆ มาให้พวกเราอ่านเสมอ ๆ :กอด1:
:pig4: คะ
-
:กอด1: ในที่สุดก็ไม่มีใครรู้ที่เลือกไปใช่สิ่งที่ดีที่สุดอะป่าว
-
อืมมมมม..... สันดานดิบของคน
:กอด1:
-
อ่านตอนสุดท้านน้ำตาซึม แต่ก้อสุขใจ (จุ๊บพี่หมีหลายๆ ที)
ขอบคุณค่า :L2:
-
จบแล้วอ่ะ
ดีใจที่กัสสมหวัง แม้จะยังหมั่นไส้พี่เซ็นอยู่
ดีใจที่จะรวมเล่ม จองด้วยคน
-
ดีใจแทนกัสนะ เราเริ่มชอบนิยายแบบนี้แล้วแฮะ ลุ้นจนจะบ้าตาย
แต่คนจะใช้มันก็ใช่ ต่อให้เค้านิสัยยังไงมันก็ใช่
คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ยังไงมันก็ไม่ใช่หมีแน่นอน
ต้องเซ็นเท่านั้น แล้วมันก็ใช่
ขอบคุณฟ้าคิว ที่ทำให้กัสสมหวัง ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขอบคุณเบบี้ที่ทำให้นิยายออกมาเป็นแบบนี้
สรุป ครอบครัวนี้ แฮปปี้ทั้งครอบครัว ฮ่าๆ
ชอบจัง
-
ว่าแล้วว่าพี่ฟ้าต้องทำแบบนี้
แต่เซ็นก็ขังคงเป็นคนที่ปากแข็งอยู่เเหมือนเดิมนะ
ส่วนพี่หมี หนูรักพี่นะถึงกัสจะไม่รักพี่ก็ตาม ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณมากเลยนะค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้
เนื้อหาอาจจะดูมึนๆไปนิดแต่ถ้าลองคิดดีๆก็จะเข้าใจเอง
แต่สนุกมากเลยค่ะ จะรอตอนพิเศษต่อไปนะ
-
:pig4:
-
จบแล้ว :กอด1:
รอตอนพิเศษนะคะ :L2:
-
เข้าใจกัสนะ เข้าใจแจ่มแจ้งเลย : )
มีความสุขสักทีเนอะ >__<
จบแบ้ววว เย้ :L2:
-
แงๆ
รักพี่ตายเลยย :o12:
-
....ก็จบไปแบบ ที่พี่เซ็นต์รู้ใจตัวเองเนอะ แฮปปี้กันทุกฝ่าย แต่อาหลานนี่แสบสุดๆๆ :laugh:
....ขอบคุณเบบี้ ที่เขียนนิยายดีๆๆให้อ่านจะติดตามผลงานต่อไปจ้า
-
แล้วก็บรรลุวัตถุประสงค์ของพี่ฟ้าและพี่คิว :laugh:
พี่หมีน้อยก็ได้ทำหน้าที่พี่ชายที่พิเศษได้อย่างดี
ส่งน้องกัสให้กับคนที่น้องรักและก็รักน้องด้วย
คงเดินทางไปเรียนอย่างสบายใจจริงๆสักที
แค่รู้ว่าเราพิเศษและจะมีน้องอยู่ข้างๆกันอย่างนี้
ก็ถือว่าวิเศษที่สุดแล้วล่ะ แต่ก็น้ำตาซึมล่ะนะ :sad11:
นี่ถ้าไม่มีแผนพี่ฟ้าและพี่คิวเรื่องจะยืดเยื้อขนาดไหน
ต่างคนต่างก็กลัวการเปลี่ยนแปลงและเสียใจ
กลัวผลที่จะตามมาก็เลยไม่กล้าที่จะพูดหรือทำอะไร
แต่แผนนี้กลับได้ผลชะงัด กัสคงยิ้มได้จริงๆสักที
ว่าแล้วก็ หมีน้อยมาซบอกเค้าก่อนก็ได้ :กอด1:
จะรอติดตามตอนพิเศษและการรวมเล่มนะคะ
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องค่ะ :L2:
-
เชียร์พี่หมีมาตลอด คนที่เป็นพี่ชายมากกว่าพี่ก้อง เป็นคนพิเศษมากกว่าพี่เซ็น
เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่อยากให้เป็น แต่ก็นั่นแหละน้อ ชีวิตเราเองยังเลือกไม่ได้ทั้งหมดเลย เพราะงั้นก็ยอมรับได้ค่ะ :L2:
ที่สำคัญ กัสเลือกเองว่าจะมีความสุข เพราะงั้นก็ดีใจกะน้องด้วย
จะว่าไปตอนจบของเรื่องนี้ ก็เหมือนเป็นตอนแรกของนิยายเรื่องใหม่ที่น่าลุ้นเป็นบ้า ไม่เคยเห็นอิตาพี่เซ็นมีแฟนโหมดจริงจัง คงประหลาดน่าดู 555
ขอบคุณเบบี้ จะรอซื้อรวมเล่มนะคะ
-
พี่หมีนี่ มันพระรอง ซีรีย์เกาหลีชัดๆ น่าสงสารโฮก
-
ดูแล ดีดีละกันนะ พี่เซ็น
-
ไม่แปลกใจที่ลงเอยแบบนี้
เพราะกัส มั่นคงในตัวเองและมั่นคงในความรักอย่างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากตั้งแต่ต้นแล้ว
กัสรักเซ็น ถึงจะรู้ว่าต้องเจ็บ แต่ยังไงกัสมันก็ยังรักเหมือนเดิม
ซึ่งส่วนนี้เป็นจุดเด่นที่สุดของกัสเลยก็ว่าได้ :กอด1:
-
จะรอติดตามตอนพิเศษจ้า
เบบี้ถือว่าเป็นคนเขียนนิยายที่เราติดมาก
ต้องดูทุกวันว่าอัพเดตรึยัง และจะไม่พลาด
เรื่องหนังสือแน่นอนจ้า จะรออ่านเรื่องต่อไป
แม้ว่าจะนานแค่ไหนก็ไม่รู้เน้ออออ
-
ขอบคุณค่ะ เบบี้ สนุกประทับใจมากค่ะ o13
กัสกับพี่เซ็นคงถูกลิขิตมาให้คู่กัน ชื่นชมกับหัวใจที่แน่วแน่มั่นคงของกัส (ทั้งๆที่ใจเราอยากให้โน้มเอียงไปหาพี่หมี 3P ไปเลย :m20:)
ส่งพี่ก้องไปปลอบพี่หมีท่าจะดีน้า ก้อง+หมี :o8:
+1 :กอด1:
-
ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่าน โดนส่วนตัวแล้วชอบเรื่องนี้มากที่สุด กว่าทุกเรื่องที่เบบี้เคยแต่งมาก
แล้วจะรอตอนพิเศษอย่างใจจดใจจ่อนะคะ
:กอด1: :L2: :pig4:
-
สมหวังแล้วนะกัส
ดีใจด้วย อิอิ
จะรอตอนพิเศษนะคะ
แล้วก็เรื่องต่อไปของพี่
นานเท่าไหร่ก็รอนะ
-
ชอบจังเลยน่ารักมาก พี่เซ็นกับพี่กัสน่ารักจังนะ
-
ซึ้งพี่หมีอ่ะ :monkeysad:
ช่างเป็นผู้ชายที่แสนดีเสียนี่กระไร ในที่สุดกัสก็สมหวังสักที
ไม่รู้สะใจอาหลานเค้าหรือยัง สงสัยยังแกล้งพี่เซ็นไม่เต็มอิ่มเลยมั้งนั่น ฮ่าๆ
รออ่านตอนพิเศษค่ะ อยากอ่านแล้วว
-
อั้ยย่ะ
ทั้งอาทั้งหลาน เจ้าแผนการดีจริงๆ
คริคริ ในที่สุดก็พี่เซ็น
ขอแค่นี้ พอใจแล้วจริงๆ !!
-
จบแบบที่คิดไว้จริงๆอะ o13
รอจองหนังสือคร้า :-[
-
เต็มอิ่ม..สุดท้ายก็เซ็น
รอพี่คิวนะ แอบหวังเล็กๆว่า..เรื่องพี่เมตรจะได้ทำเป็นเล่มวันใดวันนึงนะ
เพราะชอบมากจริงๆ :กอด1:
-
อ่านชี้แจ้งแค่ ข้อ4 เบบี้ คงไม่ว่ากันเนอะ
5555 ในที่สุดกัสก็เลือกพี่เซ็นเนอะ คนที่เรารัก
อยากรู้ตอนของพี่เซ็นจัง 55555
ขอวิ่งไปหาพี่หมีก่อนเน้อ พี่หมีจ้าาา มาร้องไห้กับเขามะ
ขอบคุณน้าา รออ่านตอนพิเศษค้าบ
-
กรี๊ดดดดดด ตอนจบมาแล้ว แบบว่ายาวมากคะเบบี้ จุใจกันไปข้าง แต่แบบว่าอ่านแล้วยังไม่รู้สึกสะใจเท่าไหร่กับบทลงโทษของพี่เซ็น เพราะพี่ท่านมัวแต่ซึนอยู่นั่น ต้องรอให้สูญเสียก่อนคนอย่างพี่เซ็นถึงจะรู้สึกว่าต้องไล่ตาม นี่ถ้าไม่ได้แผนของพี่ฟ้าและพี่คิวก็ไม่รู้ว่ากัสจะต้องทรมานอีกนานเท่าไหร่ เพราะว่าลึกๆในใจของกัสแล้วยังหวังให้พี่เซ็นคิดตรงกันกับตัวเองเสมอ ในเมื่อเลือกที่จะรักกัสแล้วก็อย่างที่กัสว่า ต้องดูแลรักษารักนี้เอาไว้ให้ดี เพราะว่า คนรัก ถ้าหากเลิกลากันไปก็ไม่ต่างกับคนเคยรัก หรือคนเคยรู้จัก ซึ่งมันจะไม่มีความหมายเลย ถ้าคำว่ารักนั้นไม่ได้มีอยู่เหมือนเดิมแล้ว เราประทับใจตรงความรักของพี่หมีกับกัสนะ มันเป็นความรักที่บริสุทธิ์มาก และคิดว่าเหมาะแล้วที่พี่หมีจะอยู่ในตำแหน่งนี้ ไม่ต้องเป็นคนรักฉันท์ชู้สาว แต่เป็นคนสำคัญที่สำคัญที่สุด เป็นคนที่กัสจะนึกถึงเป็นคนแรก เราว่ามันเป็นความรู้สึกที่วิเศษกว่าเยอะเลยแหละ เพราะคนสำคัญ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน คนสำคัญคนนั้น ก็ยังคงเป็นคนสำคัญคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เจ๋งมากเบบี้ อ่านจบแล้วอิ่มเอมจริงๆ มันแอบได้ข้อคิดและมุมมองใหม่ๆในการมองความรักด้วยล่ะนะ
รอติดตามตอนพิเศษจ้า ~
-
คนบางคน....ไม่ว่าจะดีแสนดีแค่ไหน.....แต่ยังไงเราก็ไม่ได้รัก
กับอีกคน..ความดีไม่เคยปรากฎ...แต่ยังๆไงก็ยังรัก
คำตอบมันคือรักล้วนๆ
ติดตามต่อไปค่ะ.....จะรอคอยหนังสือนะ
-
จบซะแล้ว!!!!!
สนุกมากเลยค่ะ ชอบตอนสุดท้าย ที่พี่เซ็นบอกว่าหมาที่บ้านตายเลยกอดกันขนาดนั้น
555555
ขอบคุณเบบี้นะคะ ที่เขียนนิยายเรื่องนี้มาให้ได้อ่าน ^^
-
สงสารหมี...แต่ทำไงได้คนที่กัสเลือกคืออีตาเซ็น
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
"ถ้าสักวันหนึ่งผมจะไม่มีพี่เซ็น..ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ และไม่ว่าผมจะเจ็บปวดหรือต้องทรมานจากพี่เซ็นมากแค่ไหน ผมคิดว่าถ้าผมทนพี่เขาไม่ได้..คำว่า “รัก” เองก็คงจะฉุดรั้งความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ได้เช่นกัน และถ้าผมกับพี่เซ็นต้องจากกันไปผมค่อนข้างจะนึกภาพออกและนึกเผื่อไว้เสมอว่าถ้าสักวันมีวันนั้น ผมก็ควรจะทำใจ แต่กรณีนี้ไม่ใช่สำหรับพี่หมี..ผมอยากจะมีพี่เขาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในชีวิตของผมอย่างที่ไม่ว่าตัวเราจะห่างไกลกันแค่ไหน หัวใจของเราจะได้รับการครอบครองโดยใครก็ตาม ในทุกๆวันเราก็ยังมีกันและกัน เป็นพี่น้องกัน..เป็นเพื่อนกัน เป็นคนหนึ่งบนโลกที่มีอีกคนหนึ่งคอยให้ความสำคัญซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา ผมยังมีพี่หมี และแน่นอนว่าพี่หมีเองก็จะมีผมเสมอ.."
คำพูดนี้ของกัส มันตอบโจทย์ได้หมดล่ะ ว่าใครคือคนที่ "สำคัญที่สุดสำหรับกัส" :L2:
สนุกมากค๊าบเบบี้ ขอบคุณที่เขียนนิยายที่มีมากมายหลายอรรถรสให้อ่านกัน ทุกเรื่องทุกตอนครบรสจริง ๆ
เราจะคอยเป็นกำลังใจให้และจะติดตามผลงานเบบี้เสมอน๊า :bye2:
-
เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นทั้งสามพาทเลยว่าจะลงเอยกันยังไง
เซ็น กัส ตอนจบน่ารักๆๆๆ
ขอบคุณเบบี้มากๆๆจ้า :L2:
-
เรื่องของคนสามคน
ตอนจบจะมีคนสมหวังสองคน
และเหลือให้ผิดหวังอยู่หนึ่งคน
..กฎของความรัก..
ผลักความดิบเถื่อนของสิ่งมีชีวิตออกมาให้เห็นเด่นชัด
ได้ด้วยตัวของมันเอง..เสมอมา และ เสมอไป
ขอบคุณครับ เบบี้
:L2:
-
ของคุณเบบี้มากนะคะ ดีใจได้อ่านตอนจบซะที เสียน้ำตาเลยอ่าตอนกัสคุยกะหมี
-
ชอบนิยายเรื่องนี้มากกกก ยังไม่อยากให้จบเลย T_T
เราชอบความรักในแบบของพี่หมีกับกัสมาก ๆ
ถึงแม้อยากให้พี่หมีคู่กับกัส แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว
ขอบคุณมากนะคะที่แต่งนิยายเรื่องนี้ รออ่านตอนพิเศษนะคะ
-
ขอขอบคุณจากหัวใจครับ
-
เซ็นในที่สุดก็ยอมเปิดเผยสักที กรี้ดดดดดดด ดีใจไปกับกัสด้วย
-
อาหลานคู่นี้ลองได้ร่วมมือกันน่ากลัวมาก
ดีใจกับน้องกัสจ้า แล้วก็พี่หมีด้วยที่ได้ความรักยิ่งกว่าความรักจากน้องกัสไป
-
สุดยอดมากเลยค่ะ นั่งอ่านทั้งสามภาคภายในวันเดียวเลยย><
o13 :really2:
-
จบแล้ว
สงสารพี่หมีจังเลย
แต่จริงๆก็เชียร์พี่เซ็นอยู่ในใจ
รอตอนพิเศษ ขอแบบหวานปนหื่นเล็กน้อยนะคะน้องเบบี้ 555
:pig4:
-
น้ำตาไหลเลย ตอนสุดท้าย
จบแล้ว จบแบบนี้ก็เรียกได้ว่าแฮปปี้เอนดิ้งดีใช่มั้ย เนอะ ส่วนตัวนึกไม่ออกว่าความรักของเซ็นกัสจะเดินไปทางไหน
แต่ก็นึกไม่ออกว่ากัสจะมารักพี่หมีได้ยังงัย ซึ้งกะคำพูดกัสมาก พี่หมีเป็นคนสำคัญ ไม่ได้รักแบบชู้สาวแต่พี่หมีคือคนสำคัญ จะเป็นคนสำคัญของกันและกัน นี่พิมพ์อยู่น้ำตายังคลออยู่เลย ตอนต่างคนต่างร้องไห้ T-T :กอด1:
พี่เซ็นอาจมาเติมเต็มหัวใจของกัสได้ แต่ชีวิตประจำวันที่เคยมีกันและกันของพี่หมีกะกัสก้vจะหายไป น่าใจหายจริงๆ พี่หมีไปซะไกลเลย ต่างประเทศนู้น นี่อินยังกะเป็นกัสเลย 55555
อยากกอดพี่คิวจริงๆเล้ยยยย(โดนเบบี้กระทืบ :z6:) ที่บอกว่า “กัส เป็นฝ่ายเลือกนะ..ไม่ใช่มึง อย่าสำคัญตัวนักสิสหาย” ฮิฮิ :mc4:
-
ยิ้มทั้งน้ำตา :sad4: :กอด1:
-
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป อิอิ
รอตอนพิเศษค่ะ
:pig4: :pig4:
-
อ่านไปลุ้นไปว่าจะจบยังไง แต่มาฮาตอนกัสเอาหม้อตีหัวนี่แหล่ะ 5555 เข้าใจอารมณ์ป่ะบี้ :laugh: ..
มาถึงตอนสุดท้ายนี้คิดว่าถ้ากัสรักหมีก็คงจะดี (ถึงแม้ในตอนก่อนๆ จะไม่เชียร์ใครอ่ะนะ) แต่ก็นะ ความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้จริงๆ.. ส่วนความรู้สึกที่กัสมีต่อหมีลึกซึ้งกว่าเซ็นต์อีก พี่หมีจงภูมิใจซะ!!! ใครว่าพระรองไม่สำคัญ
:pig4: เบบี้ :กอด1: จะรอติดตามเรื่องต่อๆไป ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ รอรวมเล่มเรื่องนี้ ที่สำคัญเค้ารอสลิ่ม คิดถึงสลิ่มอ่ะบี้
-
บอกได้คำเดียว...พี่ฟ้ากับพี่คิวโคตรเจ๋งอะ 55555
อยากได้หนังสือเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก็เก็บเงินรอไปก่อน
ขอบคุณเบบี้ที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ให้อ่านกันนะคะ รู้สึกรักพี่เซ็นมากเลยแหละ(น้อยกว่าพี่คิวนิดนึง) :laugh:
-
อ๊าาาาาา...จบแล้วยินดีด้วยกับน้องกัสและพี่เซ็นที่ต่างรอคอยจนได้สมหวังในที่สุด ชอบตอนเซ็นหึงโหดมาก เป็นอะไรที่รู้สึกสะใจเล็กๆ เพราะเหมือนกำลังวิ่งตามกัสอยู่ :oni2:
แล้วพี่หมีผู้อบอุ่นก็เป็นผู้ชายที่ได้ใจเราที่สุดเสียสละยอมเอาตัวเข้าแลก(?) เพื่อคนทิี่รัก สุดยอดจริง ๆ o13
พี่คิวแอบจิตป่าวเนี่ย :laugh:(น่าจะเป็นสองอาหลานมากกว่า) แต่ช่างรู้ใจเพื่อนเซ็นจริงไรจริง เป๊ะมาก นับถือ ๆ :call:
ขอสารภาพตรงนี้เลยว่าแอบจิ้นพี่ฟ้ากะกัส >~<. ก็กัสเล่นรู้สึกดีกับสัมผัสของพี่ฟ้าอ่ะ หนักใจแทนเซ็นเจง ๆ :เฮ้อ:
รอตอนพิเศษอย่างใจจดใจจ่อค่า สู้ ๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำตามมาก ๆ ร่ากายจะได้สดชื่นเน้อ(เกี่ยว?) :z6:
-
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก กว่าจะลงเอยยกันได้ ลุ้นจนหยดสุดท้ายจริงๆ
ยินดีด้วยยย ยิ้มแก้มปริ :impress2:
ขอบคุณเบบี้มากๆๆๆๆๆ (กอ ไก่ล้านตัว) สำหรับนิยายเรื่องนี้ มันยอดมากๆๆ :pig4:
แต่อย่างที่เบบี้บอกเลยค่ะ ถ้ามึนหรืองงต้องอ่านซ้ำแล้วจะเข้าใจมากขึ้น เพราะส่วนตัวก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน 5555+
รอคอยตอนพิเศษนะค่ะเบบี้แล้วก็รอการทำรูปเล่มด้วย เป็นกำลังใจให้ค่ะ ไฟท์ติ้งงงงงงงงง :pig4: :L2:
ปล..แอบหวังเล็กๆว่าตอนพิเศษจะมาเร็วๆนี้ 555555
-
อมยิ้มแบบ น้ำตาซึม ๆ :กอด1:
+1 ให้กับความแยบยน ในการซ่อนปม ให้คนอ่านได้คิดตาม
นี่แหละเสน่ห์ในนิยายของเบบี้ ที่ทำให้เหล่าแฟน ๆ ตามอ่านเหมือนคนติดอะไรสักอย่าง :z2:
รอตอนพิเศษและนิยายเรื่องใหม่ ๆ ของเบบี้นะครับ :กอด1:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
กว่าจะรู้ตัวก็เกือบสายนะพี่เซ็น
อ่านแล้วน้ำตาจะไหล
ชอบตรงที่
“เพราะพี่หมีน่ะเป็นพี่ชายที่มากกว่าพี่ก้องเป็น และเป็นคนพิเศษมากกว่าที่พี่เซ็นจะเป็นได้” ผมพยายามพูดเรียบเรียงประโยคให้เป็นปกติ
“อึก เพราะพี่..เป็นพี่คนสำคัญนะฮะ”
“สำคัญ มากกว่าใคร” ผมบอก พี่หมีหันกลับมายิ้มให้ น้ำตาของพี่หมีที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าและรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนนั่นทำให้ผมยิ้มกว้างตอบกลับไป
คนพิเศษไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนกัน :)
:pig4:
-
ในที่สุด ก็จบ ลงซะที กับความคลุมเครือ
ต้องขอบคุณพี่ฟ้ากับคิว ที่สนุกสนานกับเรื่องนี้มาก 55555555
พี่เซ็นรู้หัวใจตัวเองซะที เฮ้อออ
ความสัมพันธ์ของกัสกับพี่หมี มันพิเศษเกินใครจิงๆๆอะ
ถึงจะไม่ได้เป็นแฟน แต่เป็นแบบนี้เราก็ว่าเหมาะสมกว่ากันเยอะเลย
-
รอตอนพิเศษเค้ก คิว ครับผม :impress2:
ขอบคุณเบบี้นะคราบ :L2:
-
กอดพี่หมีแรง ๆ พี่แม่งโคดเท่ว่ะ
-
รอตอนพิเศษสุดพลัง
-
กำลังคิดถึงน้าพี่คิวตอนนี้อยู่ :laugh:
-
ยังไม่มีเวลามาอ่านเลยค่ะเบบี้
ไว้ว่างๆจะมาตามอ่านนะคะ
ส่วนเรื่องหนังสือ ตอนนี้หยอดตังไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ อิอิ
-
สุึดท้ายก็เป็นอย่างที่คิด
ไม่ได้ว่าว่านิยายขิงคุรเบบี้ไม่สนุก เดาได้ง่ายหรอกนะครับ
แต่เพราะกัส เซ็น ต่างรู้ใจตัวเองแต่แรก และสุดท้ายต่างก็ทำเพื่อตัวเองได้ของที่ต้องการ
และเมื่อมีสมหัวงก็ต้องมีคนที่ผิดหวัง ก้คือหมี แต่หมีก็ได้รักกัสในอีกแบบ ยังไงก็ยังมีกัสเป็นคนสำคัยเสมอ
สนุกครับ ชอบ มาเริ่มอ่านเอาตอนท้าย ๆ ของเรื่องพี่ฟ้าแล้ว นั่งอ่านในไอโฟนบนรถทัวร์กลับจากอุบล เข้าเมืองกรุง
เวียนหัวแทบตาย ยัดยาดมคาจมูกไว้ แต่ก็อ่าน 555
รอตอนพิเศษนะครับ คิดถึงน้องเค้ก ^^
-
แผนพี่ฟ้า-พี่คิว เจ๋งสุดๆ ทำเอาเซ็นน๊อตหลุดต้องรีบมาตามคนของตัวคืนอย่างเร็ว
สงสารหมี แต่ได้รับความรักจากกัสแบบนี้ก็ดีแล้ว มันทำให้ทุกคนสบายใจ ไม่อึดอัดกันอีกต่อไป
:L2: :pig4: คนเขียน และรับทราบกับคำชี้แจงทุกข้อ รออ่านตอนพิเศษต่อไป
-
พี่เซ็นนะพี่เซ็น กว่าจะตามหัวใจตัวเอง
สงสารน้องกัสไหมเนี่ย ดูดิ ถ้าพี่ฟ้ากับพี่คิวไม่จัดการเนี่ยจะได้กัสคืนไหมค่ะ
แต่เค้าสงสารพี่หมีมากกกกเลย คนดีทำไมไม่สมหวังในความรักน่า
ปล. แล้วสรุปว่าพี่ซีได้เป็นแฟนกับพี่ก้องไหมเนี่ย หวังว่าในตอนพิเศษจะได้เห็ว่ามีคู่นี้ออกมาเป็นแฟนกันเนอะๆ :call:
-
และแล้วก็จบ และแล้วหวยก็ออกที่พี่เซ็น เย้ๆ สมใจอย่างที่ลุ้น คิคิ รออ่านตอนพิเศษจ้า :))
-
นอนรอตอนพิเศษชีวิตรักของทุกคนหลังจากตกลงปลงใจ(เหมือนงานแต่งไงไม่รู้ :z1:) เป็นแฟนกันจะหวานขนาดไหนน้าาาาาาา
มีไปฮันนีมูนป่าวอะ แบบว่านอกสถานที่ (เหมือนจะเป็นการแต่งงานหมู่) แต่แค่ในร้านก็สนุกมากแล้วนะ หึ หึ
แอบลุ้นคู่ซีกับพี่ก้องด้วยจะได้เป็นครอบครัวเดียวกันซะเลย :o8:
ขอยกความดีความชอบให้สองอาหลานที่ทำให้ความรักของแต่ละคนมีสีสัน(ที่เลอะเทอะ?)มากขึ้น :3123:
-
สุดท้ายก็เป็นพี่เซ็น :L1:
รอตอนพิเศษค่า
-
เง้อ........พี่หมีคือสุดยอดของการเสียสละเลย!
น่าสงสารพี่หมี
วิธีของพี่คิวกับพี่ฟ้านี่สุดยอดจริงๆ 55555
-
จบแบบสวยงามปนน้ำตา :impress3: :impress3:
-
รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ
-
หว้าาาาา จบซะแล้วอะ :เฮ้อ:
อ่านไปลุ้นไปทั้งเรื่องเลยพี่บี้สนุกมาก
อ่านมาตั้งนาน มี NC กัสเสียตัวครั้งเดียวเอง
:m31: จะใสไปไหน ทั้ง ๆ ที่ก็มีงานทำกันหมดละ
ทีเรื่องไหนที่มีเด็ก ๆ นี่ เด็กโดนสอยกินหมด ๕๕๕๕๕
พี่บี้ชอบกินเด็กนี่หว่าาาา :laugh:
แล้วพี่บี้ก็จะพักเขียนนิยายใช่ไหม? เหมือนที่เคยบอกไว้
:sad4: ไม่ไปได้ไหม? ตอนพิเศษถ้าลงครบก็จะไม่ลงแล้ว
แล้วเราจะอยู่อย่างไร โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ พี่บี้รีบ ๆ กลับมานะ จะรอ....
-
ภาคนี้กัสน่ารัก กว่าสองภาคนั้นเลย
ดูเด็กลงและอ้อนมากๆๆ
น่ารักอ่ะ
-
..Special..
Born to Die [by..Cupid]
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“คิว..ฝันขอแค่นี้เอง ทำไมต้องเล่นตัวด้วย”
“พูดให้ดีกว่านี้ฝัน” ผมตอบกลับเสียงเย็น รู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์กับคำพูดต่อว่าจากอีกฝ่าย ที่ก็น่าจะรู้จักนิสัยของผมดีว่าเป็นยังไง และถ้าจะขอร้องกันก็ไม่ควรจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา
“คิว..ฝันขอร้อง ช่วยหน่อยได้ไหม ถ้างานนี้เราไม่ร่วมกัน ฝันก็ไม่รู้ว่าคุณพ่อจะว่ายังไง” ฝันพูดด้วยสีหน้าร้อนรน ผมรู้ดีว่าเธอกำลังเครียดมาก บางทีผมก็เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากเกินไป สิ่งที่ผมไม่ชอบ..ผมก็ไม่อยากทำ เหตุผลมีแค่นั้นเอง
“คิวตัดสินใจคนเดียวไม่ได้หรอกฝัน” ผมพูด ที่จริงไม่อยากจะปฏิเสธไปแบบตรงๆแต่ก็ปฏิเสธไปแล้ว บางทีการที่ผมเป็นคนพูดตรงขวานผ่าซากมาตั้งแต่เกิดก็ดีสำหรับผมในหลายสถานการณ์ด้วยเหมือนกัน ไม่ต้องเสแสร้ง ให้ทุกคนรู้ไปเลยว่าเขาต้องเจออะไรถ้าต้องพูดคุยกับผม และเขาต้องเตรียมรับมือกับผมอย่างไร ผมบอกได้เลยว่าผมรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ต้องต่อปากต่อคำกับใครที่ต้องการเอาชนะผม มันคล้ายกับเรากำลังได้ลงสนามแข่งอะไรสักอย่าง ใครมีไม้เด็ดอะไรก็งัดมันออกมา นี่คงเป็นความชอบส่วนบุคคลละมัง
“แต่คิวเป็นผู้บริหาร” ฝันย้ำ
“ฝัน..คิวเป็นหนึ่ง ในผู้บริหาร” ผมถอนหายใจก่อนที่จะย้ำในตำแหน่งงานของผมให้เธอได้ฟัง ตำแหน่งงานเฮงซวยที่ผมไม่เคยอยากจะทำเลยแม้สักนิดเดียว ผมค่อนข้างเกลียดการทำงานเป็นทีมเพราะลูกทีมมักเชื่องช้า ห่วยแตกและไม่ได้ดั่งใจ บางคนไม่สามารถเป็นผู้นำได้แต่ก็ไม่ยอมปฏิบัติในหน้าที่ของการเป็นผู้ตามที่ดีอีกด้วย ผมจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นคนแบบนั้น และด้วยเพราะผมรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นคนพูดตรง เถรตรง อะไรที่ดูไม่ยุติธรรมและผิดแปลกจากหลักเหตุผลเพียงนิดเดียวมันจะสามารถสร้างความขัดแย้งในใจผมได้เสมอ เมื่อสร้างความขัดแย้งในใจแล้วก็จะสร้างตัวตนผมอีกตัวตนหนึ่งขึ้นมา นั่นก็คือ..สันดานที่ผมปกปิดไว้เพราะไม่อยากให้มันออกมาสู่สาธารณะบ่อยนัก ผมรู้ว่าผมไม่เหมาะกับงานพวกนี้เพราะผมเป็นคนแบบนี้ ถึงผมจะไม่ชอบทำแต่ในทุกงานผมก็มักจะทุ่มเทให้อย่างหมดกำลังเพราะผมคิดเสมอว่านั่นคือหน้าที่ที่ผมได้รับมาแล้วและควรจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด ผมหลีกเลี่ยงงานพวกนี้มาตลอดเท่าที่จะสามารถหลีกเลี่ยงได้แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอนทั้งนั้น มีปัญหาหลายอย่างทำให้เกิดเรื่องพลิกผันในชีวิตจึงทำให้ผมต้องยอมจำนนท์ไปโดยปริยาย
“ธุรกิจของฝัน ก็คือธุรกิจของฝัน..ส่วนธุรกิจของคิว ก็คือของคิว”
“คิว” อาฟ้ากระแทกเสียง ผมหันกลับไปมองอย่างบอกอารมณ์ว่าผมไม่ชอบใจในน้ำเสียงของเขา อย่าทำน้ำเสียงแบบนั้นเพราะนี่มันงานของผม
“คิวไม่ว่าง ต้องไปแล้ว” ผมตัดบท เหลือบมองคนที่ยืนหน้าจ๋อยเหมือนทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างๆผม “เค้ก”..คือคนรักคนที่สองในชีวิตของผม เรานัดกันว่าวันนี้เราจะออกไปทำบุญให้ปราย ผมรับปากไว้ว่าจะเล่าเรื่องของเธอให้เขาฟัง..ทุกอย่างอย่างไม่ปิดบัง ถ้าเขาต้องการจะรู้ ผมจะเล่าเท่าที่เขาต้องการจะรู้
“คิว!” ฝันกระแทกเสียง
“คือ..ฝันขอโทษ” ฝันปรับเสียงในทันที คงเพราะเมื่อกี้ผมทำสายตาไม่ดีใส่เธอละมัง
“ฝันต้องทำยังไง ยังไงคิว..” เธอทิ้งน้ำเสียงลง ทุกคนต่างเงียบเหมือนรอการตัดสินใจจากผมคนเดียว ผมหลับตาลงอย่างต้องการใช้ความคิดแก้หาทางออกกับเรื่องนี้ ใช่..เธอเป็นเพื่อนรักของผมคนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่ผมจะสามารถทำเพื่อใครได้ ผมไม่ใช่เทพ ไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่คนที่มีมนตร์วิเศษอะไร ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามขั้นตอน ชีวิตค่อนข้างเดินทางยาก ดังนั้น..ผมไม่ผิดที่ผมจะต้องระวังทุกการก้าวเดิน คล้ายกับคนเห็นแก่ตัว ใช่..จะว่าผมอย่างนั้นก็ได้
“ก็ได้..คิวจะเอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุม” ผมพูด ฝันเงยหน้ายิ้มกว้างในทันที
“แต่ฝันต้องไปคิดมาว่าจะให้คิวยื่นเรื่องยังไง ให้ดูเป็นปกติที่สุด..ฝันก็รู้ใช่ไหมว่าเรื่องส่วนตัวของเราจะทำให้คนที่ไม่เห็นด้วยบางคนคัดค้าน” ผมบอก ฝันได้แต่พยักหน้ารับรู้
“และคิวก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้น มันจะดีต่อตัวฝันเองด้วย..ไปคิดมาซะ อย่าให้มีรูรั่วล่ะ คิวไม่อยากคิดแก้ให้ แต่ถ้าแผนของฝันไม่ดี และทางออกอื่นก็ไม่มี..คิวจะไม่ทำให้ ตามนี้..ตกลงไหมครับ”
“ได้” ฝันตอบเสียงเบาพร้อมกับมีรอยยิ้มให้เห็นเล็กน้อย
“ขอบคุณนะ” ฝันบอก
“มันจะโหดไปละ” อาฟ้าพูดขึ้น ผมยักไหล่
“หรือคุณอยากให้ปัญหาเกิดล่ะ” ผมพูดส่งๆก่อนจะเดินหนีมาขึ้นรถ เค้กรีบวิ่งตามมาขึ้นรถในทันที ผมขับรถออกมาจากบ้านโดยไม่ได้เอ่ยพูดอะไร ตอนนี้สมองของผมกำลังคิดว่าฝันจะทำยังไงกับสิ่งที่ผมได้พูดไป มันอาจจะดูโหดร้ายต่อเธอที่เพื่อนรักอย่างผมไม่ช่วยเหลือเท่าที่ควร แต่นั่นล่ะ..การช่วยเหลือเท่าที่ควรของแต่ละคนนั้นมีมาตรฐานที่ต่างกัน
“พี่คิวไม่น่าพูดกับพี่ฝันแบบนั้นเลยนะครับ” คนที่นั่งอยู่ข้างๆพูดขึ้นทั้งทั้งที่ก็เงียบมานาน
“...................” ผมเงียบ กดเปิดเพลงเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้อีกฝ่ายเลิกพูดเรื่องนี้ซะ อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย
“ที่จริง พี่น่าจะช่วยพี่ฝันได้มากกว่านี้ไม่ใช่เหรอฮะ..” ผมคิดว่าอีกฝ่ายจะหยุดพูดเรื่องนี้แล้วแต่กลับเงยหน้าขึ้นมองผมเหมือนต่อว่าอีก ทั้งทั้งที่น้ำเสียงดูเหมือนผิดหวังที่ผมไม่ช่วยเหลือฝันแต่สายตากลับดูเศร้า
“ช่วยหยุดพูดเรื่องนี้ได้ไหม” ผมพูดเสียงเรียบ อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง
“พี่ฝันน่าสงสารออก เหมือนจะร้องไห้เลยครับ” เค้กพูดอย่างไม่ยอม
“จิ..” ผมหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด
“ก็มันจริงๆนี่ครับ” อีกฝ่ายเริ่มขึ้นเสียงไม่ลดละ
“แล้วมันใช่เรื่องของนายไหม..หยุดพูดไปเถอะน่า” ผมหันหน้าหนี เท้าเริ่มเหยียบคันเร่งแรงขึ้นกว่าเดิม เค้กเงียบไป หลังจากนั้นก็เงียบไปอยู่นานมาก
“โอเค มันเป็นเรื่องของธุรกิจ นายไม่เข้าใจหรอก..มันมีอะไรมากกว่านั้น อีกเยอะแยะไปหมด” ผมถอนหายใจก่อนจะพูดขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลายตัวเองลงบ้างเพราะเอาแต่นั่งตัวแข็งทื่อมานานหลายสิบนาทีแล้ว บอกให้เลิกพูด..ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ขยับตัวเสียหน่อย หลายครั้งที่ผมก็เกือบหลุดขำกับลักษณะท่าทางประหลาดๆที่เค้กชอบทำ
“ขอโทษแล้วกันที่ไม่เข้าใจ” อีกฝ่ายกระแทกน้ำเสียงเล็กน้อย น้ำเสียงที่นานๆครั้งจะได้ยิน ปกติก็เป็นคนว่านอนสอนง่าย การไม่เป็นคนเอาแต่ใจคือตัวตนของเค้กซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบ แต่พอจะดื้อดึงก็ดื้อซะบางครั้งทำให้ผมอดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้จริงๆ
“ช่วยเลิกทำเสียงแบบนั้นจะได้ไหม” ผมว่าปราม อีกฝ่ายหันหน้าหนีไปอีกทาง ผมไม่สนใจอีกเพราะต้องสนใจกับรถคันข้างหน้าที่อยู่ๆก็ขยับไปช้ากว่าที่ควรจะเป็น ผมเหลือบมองสัญญาณไฟเพียงนิดเดียวเพราะห่วงรถที่อยู่คันข้างหน้าก่อนจะเหลือบมองไปมองไฟเขียวที่ยังคงกะพริบอยู่อีกครั้ง ผมคาดการณ์ว่ารถคงจะสามารถเคลื่อนตัวไปอีกถนนหนึ่งได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรเพราะอีกฝั่งหนึ่งไฟเหลืองยังไม่ปรากฏขึ้นเลย
“พ..พี่คิวฮะ!” คนข้างๆร้องด้วยน้ำเสียงประหม่า ผมเหลือบหันไปมอง..
ปี๊มมมมมมมม !
เอี๊ดดดดดดดดดดดด !!
โครม !!!
“.....................” สิ้นเสียงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันให้ได้คิดอะไร เหมือนกับสมองตื้อไปชั่วขณะ ผมได้แต่เงยหน้าและสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อปรับความรู้สึกของตัวเองที่รู้สึกมึนจากการถูกอัดอย่างแรง ร่างกายมันเหมือนจะชาแต่กลับไม่ใช่ เพียงแค่รู้สึกตึงๆ ความรู้สึกเหมือนสติหลุดไปชั่วครู่เท่านั้น และด้วยภาพจากบางเหตุการณ์ทำให้ผมถึงกับสะดุ้งเบิกตาโพรงในทันใด
“เค้ก” ผมได้สติจึงรู้ได้ว่าคนที่นั่งมาด้วยนั้นเงียบมากเกินไป ผมหันกลับไปมอง
“เค้ก..” ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยรู้สึกว่าคอของตัวเองแหกผาก หัวใจเริ่มเต้นแรงจนรู้สึกได้ว่าตัวเองรับไม่ได้กับภาพตรงหน้า ภาพในอดีตเริ่มสะท้อนกลับมา ผมกำลังคิดว่าภาพตรงหน้าไม่ใช่ความจริง ผมอาจจะกำลังฝันอยู่..แค่ฝันเท่านั้น
“ได้ยินฉันไหมเค้ก” ผมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พยายามให้น้ำเสียงหนักแน่นเพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมาเพียงแค่รับรู้ถึงน้ำเสียงนี้จากผม มือของผมสั่น สั่นมากจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ มันสั่นจนกระทั่งผมไม่กล้าวางมือลงบนใบหน้าที่เปื้อนเลือดของอีกฝ่าย เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ได้ว่าผมกำลัง..“กลัว”
“อึก เค้ก!”
“ไม่..เค้ก ม่าย!!”
= = = = = = = =
5 ปีก่อน ณ ประเทศอิตาลี..
ตื้ด ๆ ๆ
“ไม่คิดจะรับโทรศัพท์หน่อยเหรอคิว” ฝันพูด ผมนั่งนิ่ง สายตายังคงจ้องหนังสือเรียนตรงหน้า
“เมื่อไหร่ไอ้เซ็นจะมา” ผมเปลี่ยนเรื่อง ฝันเงียบไป
“คิววว..” อาย้ำเสียงยานคางเหมือนเตือนว่าให้ผมรับโทรศัพท์ไปเสียที สายโทรเข้าจาก “ปราย” เธอเป็นคนรักของผม ปรายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมตกหลุมรัก รักมาก..เรียกได้ว่ารักอย่างที่ไม่เคยรู้สีกอย่างนี้กับใครมาก่อนในชีวิต แต่เวลาเปลี่ยนไปอะไรๆก็เปลี่ยนไป ผมไม่ได้หมายถึงความรักที่ผมมีให้เธอนั้นลดน้อยลงไป แต่บางสิ่งบางอย่างมันเติบโตขึ้น ตัวผมเติบโตขึ้น มีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น ต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น จนผมไม่มีเวลาให้เธอมากพออย่างที่เคยเป็น แรกๆมันอาจจะดูกำลังพอดี ต่างฝ่ายต่างบอกว่าไม่เป็นไร และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ใช่ครับ..มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะเราต่างก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถ ทางเดินของชีวิตมันค่อนข้างยากลำบาก..บางทีเราสองคนควรเข้าใจความหมายของประโยคนี้ให้มากกว่านี้ หลังๆมานี่เราจะได้ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกันบ่อยๆจนทำให้ต่างฝ่ายต่างเสียสุขภาพจิต
“คิว..รับเถอะ นี่ฝันต้องปิดมือถือหนีปรายเพราะคิวเลยนะ โดนงอนแน่เลยอ่ะ” ฝันพูดหน้างอ วันนี้เราต้องมาติวหนังสือให้กันเพราะวันมะรืนนี้มีสอบวิชาสำคัญ ฝันต้องพึ่งผมและผมก็ต้องพึ่งตัวเอง วิชาเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่หนักสำหรับผม แต่บางคนที่ต้องการพึ่งพาผมทำให้ผมยิ่งรับภาระหนักเข้าไปอีกขั้น สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าผมเก่ง ทำยังไงก็สอบผ่าน แต่มันไม่ใช่วิชาที่ผมชอบเลยแม้สักนิดเดียว ผมปฏิเสธไมได้ว่าผมเรียนได้ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมผมถึงทำข้อสอบออกมาได้คะแนนดีทุกครั้ง เคยมีคนบอกกับผมว่าถ้าเขาอ่านหนังสือเท่าผม เขาจะไม่มีทางได้คะแนนสูงเท่าๆกับผมอย่างแน่นอน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ที่จริง..มันก็ไม่ได้น่าภูมิใจอะไรนักหนา แต่มีคนหนึ่งที่ดูจะภูมิใจในทุกครั้งที่ได้เห็นคะแนนของผม “อาฟ้า”..มักจะหน้าระรื่นเสมอและชอบเอาไปคุยอวดคนอื่นสามบ้านแปดบ้าน ถ้าผมจะขอพรจากสวรรค์ได้สักข้อ ผมคิดว่าผมจะขอพรให้อาเลิกเป็นคนอย่างนี้เสียที
“วันศุกร์นี้ปรายมีสอบเปียโนด้วย มัวแต่มาโทรตามคิวแบบนี้..มันจะไม่รอดเอานะ” ฝันพูดหน้าเครียด ผมปิดหนังสือลง นั่งใช้ความคิดว่ากี่วันมาแล้วที่เราต้องหงุดหงิดใส่กันเพราะความไม่เข้าใจอันไร้สาระนี่
“ฟู่..” ผมลูบหน้าลูบตาตัวเองก่อนจะหลับตาอย่างระงับสติอารมณ์ ในหัวผมมันคิดไปต่างๆนาๆว่าทำไมปรายถึงไม่เข้าใจผม ทั้งที่แต่ก่อนนี้เธอไม่ใช่คนแบบนี้ พักนี้อาจจะมากเกินไปสักหน่อย บางทีก็มากไปจนผมเกินจะรับ
“คิว..รับซะ แล้วก็บอกให้ปรายทานอาหาร ซ้อมเปียโน บอกว่าเราทำอะไรอยู่ แล้วจะนอนเมื่อไหร่..บอกฝันดี แค่นั้น..แล้วก็วางสาย” อาเดินมานั่งลงที่โซฟาตัวตรงข้าม ผมมองหน้านิ่งเพราะมันไม่ง่ายอย่างที่อาพูดน่ะสิ เมื่อไหร่ที่เริ่มพูด ปรายจะเริ่มพาออกนอกเรื่องจนเรามีปากเสียงกันตลอด
“เรื่องง่ายๆแบบนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว” ผมพูดลอยๆ ทั้งฝันและอาเงียบไป
“..นานมากจนเกือบลืม” ผมหลับตาและเอนตัวลงนอนอย่างรู้สึกเหนื่อยล้า ผมเหนื่อย ผมไม่ได้เหนื่อยเรื่องความรัก ผมรักในความรักที่ผมมีให้กับปราย แต่ผมพยายามเข้าใจในตัวเธอจนบางครั้งผมก็รู้สึกเหนื่อย ที่จริง..เราสองคนกำลังเดินอยู่บนเส้นทางคล้ายกัน เส้นทางที่ต้องต่อสู้กับบุคคลหัวกะทิมากมายซึ่งผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่เข้าใจว่ามันยากแค่ไหน ผมไม่ใช่คนที่ฉลาดอะไรมากมายอย่างที่คนอื่นชม..แต่ผมพยายาม พยายามเป็นบ้าเป็นหลังที่จะตั้งใจเรียน ฝึกฝนตนเองและอ่านหนังสือทั้งวี่ทั้งวันไม่มีแม้แต่วันหยุดให้ตัวเองได้ดำเนินชีวิตอย่างคนปกติธรรมดาทั่วไป บางครั้งร่างกายผมบอกกับผมว่า “พอเถอะ..ฉันไม่ไหวแล้ว” ทั้งทั้งที่ใจสู้แต่บางครั้งความเหนื่อยล้ามักมาพร้อมกับความท้อถอยเสมอ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผมต้องต่อสู้กับมันมาตลอด
ผมรู้ว่าอาฟ้ากำลังปกป้องผมในฐานะอาหลาน อาเป็นคนเก่งและหัวดีมากกว่าผมมาก เขาเป็นคนที่เข้มแข็งและต่อสู้กับอะไรๆมาด้วยตัวเขาเองตั้งแต่เด็กซึ่งแตกต่างจากผม ถึงแม้ว่าจะมีคนไม่สนับสนุนการกระทำของผมมากมายแต่ก็ยังมีคนคอยห่วงใยซึ่งกรณีนี้ค่อนข้างต่างจากอาหื่นคนนี้หน่อย เขามักจะกระตือรือร้นและสามารถยิ้มได้ในทุกสถานการณ์แม้กำลังเจอเรื่องบัดซบในชีวิตก็ตาม ในบรรดาเพื่อนๆของอามักจะให้ฉายาอาว่า “เทพแห่งทุน” ผมคิดว่าถ้าผมจะกลายเป็นนักล่าทุนการศึกษาอย่างอาแล้วละก็..สักวันผมคงจะเป็นโรคประสาทตายเป็นแน่ ถึงผมจะพยายามเท่าอาแต่สุดท้ายแล้วอาก็ยังเก่งกว่าผมอยู่ดีแต่เขาไม่ค่อยแสดงออกให้คนอื่นเห็นก็เท่านั้น เขาชอบทำตัวปัญญาอ่อนไร้สาระบ้าบอปกปิดทุกอย่างจนบางครั้งก็ดูน่าหมันไส้ ซึ่งแน่นอน..ผมอยากเป็นคนเก่งทุกด้านแบบเขาและเก่งให้ได้เสมอเขา และผมเองก็อยากจะเข้มแข็งเพื่อที่จะปกป้องเขาเช่นเดียวกัน เราควรหล่อเลี้ยงกันและกัน ดังนั้นเราต่างต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะก้าวเดินไปพร้อมๆกัน สิ่งนี้ที่ผมเคยคิดว่าปรายจะเป็นผู้หญิงที่เข้าใจผมได้มากที่สุดรองจากแม่ของผม แต่เมื่อไหร่กันนะ..ที่เธอคงลืมนึกไปเสียหน่อย
ติงต๊อง~
“...................” ทุกคนต่างเงียบเมื่อได้ยินเสียงกริ๊งของบ้าน ต่างฝ่ายต่างมองมาที่ผมเขม็ง
“ใช่แน่” ทั้งอาฟ้าและฝันพูดพร้อมกัน
“อาเปิดเอง” อาพูดดักผมที่กำลังจะลุกขึ้น ผมพยักหน้าให้ส่งๆและนั่งรอ ผมกำลังพยายามทำใจให้สงบนิ่งเพื่อที่จะมีสติที่สุดในการพูดคุยกับเธอ
ไม่ช้าปรายกับอาก็เดินกลับเข้ามา ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าปราย เธอตาบวม สีหน้าเศร้าแต่เปี่ยมไปด้วยความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ผมกำลังนึกถึงผู้หญิงสวยหน้าตามีเสน่ห์ที่ผมเคยได้เห็นครั้งแรกที่พบ เธอคนนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ สดใสร่าเริงและเป็นกันเอง มีลูกล่อลูกชนจนน่าค้นหา ความคิดความอ่านของเธอเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผมตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง แต่ตอนนี้กลับมีนิสัยบางอย่างที่เปลี่ยนไป หรือผมอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้..ผมอาจจะไม่รู้ตัวเช่นเดียวกันกับเธอ
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์” ปรายถามขึ้น น้ำเสียงเรียบเหมือนเธอกำลังพยายามอยู่ด้วยเหมือนกัน
“คิวอ่านหนังสืออยู่ และ..เพราะรู้ว่าจะต้องคุยกันไม่รู้เรื่อง” ผมพูดตรงๆ หลายครั้งผมมักคิดว่าหรือเพราะผมเป็นคนแบบนี้เธอถึงรับไม่ได้ มีเหตุผลอะไรผมมักจะพูดออกไปอย่างนั้นตามที่ใจคิดทั้งหมด เรื่องราวมันจะได้ไม่เกินเลยเพราะหาว่าผมโกหก เธออาจจะไม่ชอบใจ แต่ผมไม่ได้เพิ่งทำนิสัยแบบนี้เสียหน่อย ผมเป็นมาตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก แรกๆเธอคงลืมสังเกตไปละมัง
“วันนี้มันคงไม่สำคัญสำหรับคิวเลยสินะ” เธอพยายามยิ้ม ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“สำคัญสิครับ แต่คิวได้ทำเท่าที่ทำได้แล้วปราย..ปรายก็รู้ว่าวันมะรืนคิวมีสอบ” ผมพูดตอบ วันนี้เป็นวันที่ปรายสารภาพรักกับผมและเป็นวันที่เราตกลงคบกัน ผมจำได้ดี มันต้องจำได้แน่อยู่แล้วเพราะนี่เป็นวันสำคัญจากคนพิเศษ
“ปรายก็มีเหมือนกัน” ปรายตอบกลับ ปากของเธอเริ่มสั่น
“งั้นเราควรทำอะไรก่อนปราย หน้าที่..” ผมพูดพร้อมกับจ้องเธอเขม็ง ปรายชะงักไป
“แต่คิวไม่ยอมรับโทรศัพท์ปราย เราไม่ได้คุยกันดีๆมากี่อาทิตย์แล้วคิว..เราไม่ได้เห็นหน้ากันมากี่อาทิตย์แล้ว” ปรายเริ่มขึ้นเสียงอย่างกระวนกระวาย ใช่..เราแทบไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายอาทิตย์ เจอกันเพียงไม่กี่นาทีก็ต้องแยกย้ายกันไป บางวันไม่ได้คุยกันแม้ทางโทรศัพท์นานถึงสามสี่วันเพราะผมต้องอยู่ในครัวตลอด เมื่อไหร่ที่ต้องทำอาหารหรือคิดสูตร ผมสละเวลามารับโทรศัพท์ไม่ได้จริงๆเพราะสมาธิจะหลุดในทันที นั่นหมายความว่าสูตรของอาหารก็จะหายวับไปกับตาด้วย เราแทบไม่ได้ทานอาหารร่วมกันมาเกือบเดือนได้ แถมยังเป็นเกือบเดือนที่มีปากเสียงระหองระแหงกันด้วย
“คิวคิดว่าปรายจะเข้าใจคิว คิวไม่ได้มีใครที่ไหนอย่างที่ปรายเคยคิด ปรายเห็นไหมครับว่าคิวกำลังทำอะไร คนที่คิวอยู่ด้วยตอนนี้มีใครบ้าง นี่ใคร..แล้วนี่ใคร” ผมเริ่มขึ้นน้ำเสียงอย่างหนักแน่นบ้าง มือชี้ไปที่อาและฝัน ปรายเงียบ ตัวของเธอเริ่มสั่น
“คิวดูเป็นคนยังไงเหรอปราย ปรายคิดว่าคิวเป็นคนยังไง..เจ้าชู้เหรอ หึ..คิวดูเป็นคนอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ครับคิวจะได้ปรับปรุงตัว” ผมลุกขึ้นพร้อมกับหยิบแก้วน้ำของตัวเองมาเพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้ตัวเองอารมณ์ขึ้นไปมากกว่านี้ ผมรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอคิดว่าผมจะออกไปเที่ยวเล่นกับเซ็น หรืออาจจะมีอะไรกับใครไปทั่วเหมือนที่เซ็นทำ ไม่นานมานี้ผมแค่ไปนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนฝูง ปรายก็อาละวาดจนเพื่อนอยู่ไม่ได้ต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง นี่เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ถึงผมจะพูดจนปากฉีกเธอก็คงจะคิดไปไกลอยู่ดี
ผมเดินนำแก้วไปรินน้ำร้อนตรงเคาร์เตอร์ “รับโทรศัพท์ปรายสักนาทีเดียว มันจะตายเหรอคิว” ปรายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ
“ตัวคิวนั่นแหละที่ทำให้ปรายเป็นแบบนี้..คิวทำอะไรที่คิวไม่รู้ตัวว่าเหมือนคิวกำลังเบื่อปราย รำคาญปราย” ปรายว่า ผมหันตัวกลับไปมองหน้าเธอ
“ใช่..คิวรำคาญ” ผมพูด ปรายชะงัก
“ตอนนี้คิวก็กำลังรำคาญ รำคาญปรายที่เป็นแบบนี้ กำลังหาเรื่องคิว กำลังว่าคิว กำลังไม่เชื่อใจคิว..แต่คิวไม่เคยเบื่อปราย อะไรที่คิวทำให้ปรายคิดอย่างนั้นคิวก็ขอโทษ” ผมพูด ปรายหันหน้าหนี ดูเหมือนเธอจะสูดหายใจเข้าลึกมากก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมา
“.................” ทุกคนต่างเงียบไป อากับฝันนั่งเงียบต่างก้มหน้าลงเหมือนปล่อยให้เป็นเรื่องของเราสองคน
“ปรายลืมไปแล้วเหรอครับว่าคิวรักปราย” ผมพูดขึ้นเสียงเรียบเพราะอยากให้เธอมีสติมากกว่านี้
“แค่รักมันไม่พอหรอกนะคิว!” อยู่ๆปรายก็หันกลับมาตะคอกเสียงใส่
“ปราย” ฝันปรามขึ้น
“หึ..เฮอะ” ผมแสยะหัวเราะอย่างไม่เชื่อว่าคำพูดนี้จะหลุดออกมาจากปากของเธอ
“แล้วอะไรปรายที่ไม่พอ ปรายเองต่างหากที่ไม่พอ..ความรักของคิวที่มีให้ปราย ปรายพูดได้แค่นี้เหรอ..ใช่ คิวเป็นคนอย่างนี้ คิวไม่ได้ไม่เคยทำตัวแบบนี้เมื่อไหร่ คิวทำงานเป็นบ้าเป็นหลังมาตั้งแต่แรกปรายก็เห็น หรืออะไรที่คิวทำให้ปรายรู้สึกแย่ออกไป อะไรปราย..ทำไมคุณพูดแบบนี้” ผมพูดยาวอย่างเหลืออด และพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้น้ำเสียงดังไปมากกว่านี้ ผมไม่อยากให้ตัวเองเป็นเหมือนพ่อ ที่ไม่ว่าแม่พูดอะไรที่ไม่เข้าหู พ่อก็มักจะตะคอกใส่แม่เสมอ
“แต่คอนเสิร์ตครั้งที่แล้วสำคัญกับปรายมาก แต่คิวไม่โผล่ไป..ปรายรอคิวจนเริ่มแสดง คิวรู้ไหมปรายเสียใจแค่ไหน! ไม่..คิวไม่รู้!!” เธอว่ากลับน้ำตาคลอ ในวันนั้นผมทำได้เพียงสั่งให้ร้านดอกไม้นำดอกไม้ไปส่งให้เธอที่งานแสดงเพราะผมปลีกตัวไปชมไม่ได้จริงๆ เนื่องจากศาสตราจารย์ที่คณะขอพบนักศึกษาชาวต่างชาติหลังเลิกเรียน ซึ่งส่วนมากนักศึกษาที่มาก็มาจากหลากหลายประเทศล้วนแล้วแต่เป็นระดับหัวกะทิทั้งสิ้น โดยเฉพาะนักเรียนชาวญี่ปุ่นและชาวเยอรมันที่เป็นคู่ปรับในคราสเรียนกับผมมาตลอด ถ้าผมขาดนั่นหมายถึงผมไม่ให้เกียรติต่อศาสตราจารย์เองด้วย
“คิวรู้ แต่คิวไปไม่ได้..ไม่ใช่คิวไม่เสียใจ คิวเสียใจ..ต้องให้คิวทำยังไงถึงจะให้ปรายรับรู้ว่าคิวรู้สึกไม่ดี หรือต้องเอาเวลาทั้งหมดไปง้อให้ปรายเข้าใจ ถ้าปรายจะไม่เข้าใจ ก็คือไม่เข้าใจอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ..” ผมหันหน้าหนีอย่างเหลืออด
“อึก..” ปรายร้องไห้ออกมา ผมชะงัก ฝันลุกขึ้นไปโอบกอดเพื่อนรักของเธอ ผมถอนหายใจแรงก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาเธอเพื่อจะเข้าไปกอดปลอบเธอ
“ปรายผิดเองที่เห็นแก่ตัว แต่คิวเองก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน” ปรายว่าพร้อมทั้งร้องไห้ ผมชะงัก
“ใช่..คิวเห็นแก่ตัว ขอโทษด้วยแล้วกัน” ผมพูดเสียงเรียบและไม่คิดจะเดินเข้าไปหาอีก
“นี่แหละตัวคิว..ถ้าปรายรับไม่ได้ก็กลับไปเถอะครับ ไปคิดให้ดีว่าเราควรจะเลิกกัน หรือ..จะเข้าใจกันให้มากขึ้นกว่านี้” ผมพูดและเป็นคำพูดที่คิดดีแล้วก่อนจะพูดออกไป
“คิว” ทั้งฝันและอาปรามพร้อมกัน
“อึก..” ปรายร้องไห้หนักกว่าเดิม อยู่ๆเธอก็เดินตรงเข้ามาหาผม
เพี้ย !!
ผมหน้าหันไปตามแรงตบจากมือน้อยๆของเธอ มือที่ผมเคยพรมจูบครั้งแล้วครั้งเล่า แต่นั่นล่ะดีแล้ว ถ้านี่จะทำให้เธออาการดีขึ้นบ้าง จะตบผมสักกี่พันครั้งผมก็จะไม่ว่าอะไร
“ปราย!” ฝันเรียกเสียงดังเมื่อเห็นว่าปรายวิ่งออกจากบ้านไป
“คิว” ฝันหันมาเรียกผมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ต้องการอย่างนี้จริงๆเหรอ” ฝันพูด สีหน้าของเธอดูผิดหวังในตัวผมอย่างเห็นได้ชัด ผมพยักหน้าตอบ ยืนเท้าเอวตัวเองอย่างต้องการหาทางออกแต่ในหัวกลับสับสนไปหมด
-
แกรก~
“ตามไปซะ” อาเดินมาพร้อมกับยื่นกุญแจรถให้ ผมยืนมองหน้าอาแต่ยังไม่รับมาถือไว้
“วันมะรืนนี้สำคัญกับอนาคตของปรายมาก ถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะคำพูดและการกระทำของแก..เชิญย้ายก้นออกจากบ้านนี้ไปได้เลย” อาพูดเสียงแข็ง น้ำเสียงและสายตาดุดันอย่างที่ไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว
“คิวผิดงั้นสิ” ผมย้อนว่าอย่างไม่สบอารมณ์
“ใช่ ปรายผิด..แต่แกก็ผิด คิว..” อาถอนหายใจแรง
“ในชีวิตนี้มีคนที่สำคัญมากอยู่กี่คน ถามตัวเองสิว่ามีปรายอยู่ในนั้นไหม..ถ้ามีก็ไปตามเค้ากลับมาและพูดกันให้รู้เรื่องซะ ถ้าวันมะรืนนี้ปรายทำออกมาได้ไม่ดี..โอกาสในการเป็นนักเปียโนของปรายก็จะดับไปด้วย คิวเดินอยู่บนชีวิตของการเรียนการฝึกฝนได้โดยไม่มีความรัก แต่สำหรับปรายไม่ใช่..ความรักของเธอเป็นตัวนำพาชีวิตและหน้าที่การงาน ตรงนี้คิวต้องเข้าใจเธอ..ต้องเข้าใจว่าคนเรามีพื้นฐานชีวิตที่ต่างกัน” อาพูด พูดทุกสิ่งทุกอย่างในการเป็นตัวผมอย่างไม่น่าเชื่อว่าเขากำลังพูดในสิ่งที่ผมเป็นและผมเพียงลืมนึกถึงไปชั่วขณะ
ผมเอื้อมมือรับกุญแจรถจากมือของอามา อาตบไหล่ผมสองสามที ผมพยักหน้าให้ทั้งอาและฝันก่อนจะรีบวิ่งออกมาที่โรงจอดรถและขับรถตามปรายไป ผมไม่รู้ว่าเธอขับไปทางไหน หรือเธออาจจะขับกลับอพาร์ทเม้นท์ของเธอ ผมขับไปตามทางนั่นอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงสี่แยกหนึ่งผมก็เห็นว่ารถของปรายอยู่ถัดจากคันข้างหน้าไปอีกสองสามคัน ตอนนี้เองผมรู้สึกโล่งใจขึ้นที่ได้เห็น ให้ตายเถอะ..เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมเป็นบ้าได้มากขนาดนี้ เมื่อไฟเขียว ผมเร่งขับเร็วขึ้นเพื่อให้ทันเธอเพราะปรายขับออกตัวเร็วมาก แต่ผมก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ถนัดเท่าไหร่เพราะมีรถคันอื่นขับนำหน้าอยู่ อยู่ๆผมก็รู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาเมื่อเห็นปรายขับรถอย่างไม่มีสติอย่างนั้น ผมพยายามบีบแตรเพื่อให้เธอรู้แต่กลับยิ่งทำให้คันอื่นสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นแทน นั่นยิ่งอาจจะทำให้รถคันอื่นไม่พอใจได้
“จิ..” ผมสบถอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้นำโทรศัพท์มือถือติดตัวมาด้วย ในขณะเดียวกันผมก็เหลือบเห็นว่าไฟเขียวสี่แยกข้างหน้ากำลังกะพริบเตือนเปลี่ยนสัญญาณไฟ
“ไม่เอาน่าปราย” ผมได้แต่บ่นด้วยนึกกลัวใจว่าปรายจะไม่เหยียบเบรกเพราะรถของเธอยังเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วจนกระทั่งไฟเปลี่ยนเป็นไฟสีแดงเรียบร้อย ผมรีบเหยียบคันเร่งและบีบแตรไล่รถคันด้านหน้า แต่สถานการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก รถคันข้างหน้าไม่สามารถหลบหลีกให้ได้เพราะทั้งสองฝั่งของเรามีรถขนาบข้างอยู่เหมือนกัน
ปี๊มมมมมมมมมม !
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด !!
โครม !!!
สิ้นเสียงตรงหน้าคล้ายกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ ผมทราบเพียงว่าผมลงออกมาจากรถ จำเหตุการณ์นั้นได้ดีเพราะทุกนาทีที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของผม ภาพของรถอีกคันเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วปะทะอย่างจังเข้ากับรถของปราย เสียงปะทะดังมากอย่างกับเสียงระเบิด รถอัดกันแรงจนทำให้ต่างฝ่ายต่างกระเด็นไปคนละทาง ที่ผมจำไม่ได้คือรถของปรายคว่ำไปกี่ตลบ เห็นเพียงร่างของเธอที่กระเด็นออกมาจากรถ เสียงรอบตัวเงียบลงอย่างกับถูกสาปไว้ ทั้งทั้งที่มีรถจอดติดไฟแดงอยู่นับร้อยคัน ชั่วหนึ่งอึดใจ ผู้คนต่างออกมาจากรถของตนอย่างกับลืมว่าที่จริงแล้วตนนั้นเร่งรีบที่จะเดินทางต่อ ผมรู้ตัวเพียงว่าผมรีบวิ่งไปหาร่างของปราย และหัวใจคล้ายกับแตกสลายจมดิ่งไปกับภาพตรงหน้า ผมไม่ได้ตะโกนร้องบอกให้ใครโทรเรียกรถพยาบาล หน้าของผมชา หน้าอกกระเพื่อมแรง รู้สึกอึดอัดเหมือนกับจะหายใจไม่ออก กระทั่งร่างกายอ่อนไร้เรี่ยวแรงแต่ก็เหมือนกับมีบางสิ่งบางอย่างจุกอยู่ที่คอหอย มันเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจ รับรู้ได้เพียงเหมือนกับสิ่งสำคัญที่สุด..ได้หลุดลอยไปแล้วและทำได้เพียงนั่งมอง เท่านั้น
= = = = = = = =
ปัจจุบัน ณ ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล..
“น้ำ” ผมหันไปมอง เซ็นยื่นขวดน้ำที่เปิดแล้วมาให้ ผมส่ายหัวตอบ
“ดื่มมันเพื่อกูหน่อย ให้กูรู้ว่ามึงยังมีสติน่ะนะ” เซ็นพูดหน้านิ่ง มันชอบพูดทีเล่นทีจริงอย่างนี้เสมอ มันพยักหน้าให้ผม ผมรับขวดน้ำมาและดูดกลืนลงคอเพียงอึกเดียว อีกฝ่ายรับขวดน้ำกลับไปถือไว้
“ขอบคุณ” มันพูดและปิดฝาขวดลง
ร่างของเค้กถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินไปเกือบชั่วโมงแล้ว ผมไม่ได้เดินไปเดินมาอย่างในละครเพราะมันจะยิ่งทำให้ผมร้อนรน หลังจากที่มาถึงโรงพยาบาลไม่นานนักอากับเซ็นก็มาถึง ผมนั่งนิ่งมานานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ผมกำลังนั่งพยายามบอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า..คนข้างในจะไม่เป็นอะไร ผมขอแค่นั้นเอง..ขอให้สวรรค์ได้โปรดเห็นใจผมด้วย
“แม่เค้กมา” อาสะกิด ผมหันไปมองและก็ต้องรีบลุกขึ้นยืน ทั้งทั้งที่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะอธิบายแม่ของเค้กว่าอย่างไรดี เธอเดินจนแทบจะกลายเป็นวิ่ง หน้าตาของเธอร้อนรนจนผมอยากจะหายตัวไปซะเดี๋ยวนี้
“ใจเย็นๆนะครับคุณแม่ คือ น้องเค้ก..เข้าห้องฉุกเฉินไปได้สักพักแล้วครับ อยู่ในมือหมอ..คุณหมอต้องช่วยอย่างเต็มที่แน่นอนครับ” อาชิงพูดก่อน อามักจะเป็นอย่างนี้ เมื่อไหร่ที่ผมก่อเรื่องเดือดร้อนอะไรอาก็มักจะออกหน้าก่อนผมเสมอทั้งที่ก็ไม่ใช่เรื่องของตน หลายครั้งผมมักคิดว่า..หยุดยุ่งเรื่องของผมบ้างก็ได้ แต่ครั้งนี้ผมกลับรู้สึกขอบคุณอยู่ลึกๆ ดีแล้วที่อาเอ่ยพูดก่อน ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกเหมือนกับว่าผมกลายเป็นคนขี้ขลาดอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้วเลยล่ะ
“ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวังเอง” ผมพูดแต่ไม่กล้าสบตาเธอได้เต็มตาสักเท่าไหร่นัก มันน่าเจ็บใจที่ผมดันไม่เป็นอะไรเลยนอกจากฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น หรือคงเพราะรถชนเข้ามาที่ฝั่งของเค้กเต็มๆรึก็ไม่ทราบ
“อึก..” แม่ของเค้กตัวสั่นในทันที
“ไม่เป็นไรตู้ ไม่เป็นไร เค้กเป็นเด็กดี..เค้กจะต้องปลอดภัย” ผู้หญิงมีอายุอีกคนเข้ากอดแม่ของเค้กไว้ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นใครเพราะผมไม่เคยพบเธอมาก่อนหน้า
“เป็นความผิดของผมเอง ผม..ขอโทษครับ” ผมย้ำพูด ผมไม่รู้ว่าผมควรจะพูดประโยคอื่นที่สำคัญมากกว่านี้ไหม แต่ผมหาคำพูดอื่นไม่ได้จริงๆ ทุกคนต่างอยู่ในความสงบเหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังนั่งภาวนาให้เค้กปลอดภัยอยู่กันอย่างเงียบๆ เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแต่กลับรู้สึกนานค่อนวัน
“หมอออกมาแล้ว” เซ็นพูดขึ้น ผมรีบลุกขึ้นและเดินตรงไปหาหมอ ทุกคนต่างวิ่งกรูเข้าไปหาหมออย่างมีความหวัง
“ยินดีด้วยนะครับ คนเจ็บปลอดภัยแล้ว” หมอยิ้มกว้าง กว้างมากจนผมรู้สึกว่าหน้าของเขาเหมือนตัวการ์ตูนอย่างนั้น
“จริงเหรอครับ” อาและเซ็นพูดพร้อมกัน ใบหน้าของทุกคนต่างมีรอยยิ้มออกมา ผมเองก็ด้วย ผมยืนนิ่งไม่ถามอะไร แค่ประโยคเมื่อกี้เท่านั้นที่ผมต้องการได้ยิน
“ใช่ครับ..น่าแปลกมากนะครับ จากภาพที่คุณตำรวจนำมาให้ดู คนเจ็บน่าจะโดนชนเข้ามาเต็มลำตัว..แต่ทางเราได้เอ็กซเรย์แล้วไม่พบแม้กระทั่งกระดูกร้าว” หมอพูด สีหน้าของเขาดูแปลกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
“หัวแตกทางด้านซ้ายนะครับ เย็บไปหลายเข็ม..คงเพราะถูกกระแทกเข้าอย่างแรงจนทำให้สลบไป เบื้องต้นก็ไม่พบความผิดปกติอะไร..ส่วนตามตัวก็มีแผลเย็บเล็กน้อยเท่านั้นนะครับ คงเพราะถูกเศษกระจกบาด..นอกนั้นก็จะเป็นรอยฟกช้ำที่เกิดจากแรงอัด อย่างอื่นปลอดภัยดีครับ” หมอยิ้มบอก
“ผม..ผมอยากให้คุณหมอเอ็กซเรย์ให้แน่ใจอีกทีหลังจากที่เขาฟื้น ผมหมายถึง..สมอง หรืออะไรประมาณนั้น” ผมพูดตะกุกตะกัก พยายามรวบรวมคำพูดให้เป็นปกติ หมอชะงักไปครู่หนึ่ง อาตบไหล่ผมเบาๆ ถ้าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นซ้ำ ผมกลัวว่ามันจะเป็นอย่างนั้นถึงแม้ว่าถ้ามันจะเกิดขึ้นอีกผมก็คงจะทำอะไรไม่ได้มาก ผมดีใจที่ได้ยินคำว่าไม่พบความผิดปกติอะไร มันแตกต่างมากจากสิ่งที่ผมเคยได้ยินจากหมอท่านหนึ่งที่ประเทศอิตาลีว่า “เราพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่สมองของคนเจ็บถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เราทำได้เพียงรอให้เค้ามีปฏิกิริยาฟื้นขึ้นมาเองเท่านั้น” ซึ่งผมไม่อยากได้ยินประโยคแบบนี้อีก
“ได้ครับ..ถ้านั่นเป็นความประสงค์ของคุณ หมอจะทำให้ได้แน่นอน..แต่ขอให้สบายใจได้ครับ ทางเราก็พยายามทำตามหน้าที่อย่างสุดฝีมือ ตอนนี้เดี๋ยวจะย้ายคนไข้ไปห้องพิเศษก่อน หลังจากที่คนไข้ฟื้น หมอจะตรวจร่างกายให้อีกครั้งครับ” หมอยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่สร้างความมั่นใจให้ผมได้มากทีเดียว
“ขอบคุณครับ ขอบคุณ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ” แม่ของเค้กพูดขึ้น
“ขอบคุณมากนะครับ” อาและเซ็นพูดก่อนที่หมอจะเดินจากไป
“เฮ้อ..อึก” แม่ของเค้กยิ้มกว้าง เธอถอนหายใจแรง ผมหันตัวหนีเล็กน้อยก่อนจะหลับตาลงและถอนหายใจแรงเช่นเดียวกัน เซ็นเข้ามากอดผมพร้อมกับตบไหล่และลูบหลังผมอย่างแรง
“หึ..หึหึ” ผมหัวเราะ เอาหน้าซบลงบนไหล่ของเซ็นอย่างช่วยไม่ได้เพราะรู้สึกเหมือนน้ำตาของตัวเองกำลังไหลลงมา เซ็นกอดผมแรงมากขึ้นกว่าเดิมเหมือนมันรู้ว่าผมกำลังเป็นอะไร
“ปราย..ไม่ปล่อยให้มึงเสียใจบ่อยๆหรอก กูคิดว่าอย่างนั้นน่ะนะ” เซ็นพูดปนหัวเราะ ผมกลายเป็นคนที่กลัวการสูญเสีย ผมไม่อยากจะรับรู้รสชาตินั้นอีก อย่างที่หลายคนเคยพูดเอาไว้..ว่าคนที่ไม่เคยสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ารสชาตินั้นมันเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน ไม่มีทางรับรู้ได้เลยถ้าไม่โดนด้วยตัวเอง ผมยืนนิ่งปล่อยให้เซ็นกอดผมอยู่อย่างนั้นอยู่นานมากพอที่จะได้ยินอาตกลงคุยเรื่องค่ารักษาพยาบาลกับแม่ของเค้ก
“นานแล้วนะที่กูไม่ได้เห็นน้ำตามึง” เซ็นกระซิบพร้อมกับปล่อยแขนออก ผมเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ ผมผลักอกเซ็นเบาๆเพื่อต้องการห้ามปรามคำพูดของมัน
“จัดการเรื่องรถให้กูด้วย..เอามันไปให้พ้นหูพ้นตากูซะ” ผมพูดบอก
“หึ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะมัน..ป่านนี้เค้กคงได้แบนแต๊ดแต๋ไปแล้วละกูว่า” เซ็นพูดติดตลก ผมไม่ตอบอะไรเพราะเวลาผมเลือกซื้อรถผมจะให้ความสำคัญกับห้องผู้โดยสารมากกว่าส่วนอื่น ก็บอกปัดไม่ได้ว่าการที่เค้กถูกชนเข้ามาเต็มที่ขนาดนั้นแต่ด้านในกลับปลอดภัยมากกว่าที่คาดเดาเอาไว้อาจจะเป็นเพราะมัน ถึงแม้ว่ารถของผมจะมีประกันชั้นหนึ่ง และราคาหลายสิบล้านแต่ผมก็ไม่อยากเห็นมันอีก จะไปตายซากที่ไหนก็ไป..ผมไม่เสียดายและไม่ต้องการอีกด้วย
เรายืนพูดคุยกันอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเพื่อรอให้พยาบาลย้ายคนไข้ไปที่ห้องพิเศษสักพัก ผมออกตัวขอมาเฝ้าเค้กคืนนี้เองและแน่นอนว่าแม่เขาไม่ยอม สุดท้ายแม่เค้กบอกว่าจะมาเฝ้าด้วยตนเอง ส่วนพรุ่งนี้เธอลางานไม่ได้ ผมจึงขอลางานมาเฝ้าแทน
หลังจากที่เค้กย้ายมาอยู่ที่ห้องพิเศษเรียบร้อย อาฟ้ากับเซ็นกลับไปพร้อมกัน ผมให้อากลับไปเตรียมอาหารมาให้ ถึงแม้โรงพยาบาลจะมีอาหารคุณภาพเตรียมพร้อมไว้ให้แล้ว แต่เรื่องอาหารเป็นเรื่องที่ผมและอาค่อนข้างให้ความสำคัญมาตลอด ดังนั้น..ผมก็อยากให้คนในครอบครัวได้ทานอาหารที่ดีที่สุดของครอบครัวด้วย ซึ่งมันก็ต้องมาจากฝีมือของคนในครอบครัวเช่นกัน
ส่วนแม่ของเค้กกับเพื่อนของเธอได้กลับไปเพื่อไปรับน้องสาวของเค้กที่โรงเรียน เธอจะต้องกลับไปที่บ้านและเตรียมเสื้อผ้ามาเพื่อเฝ้าเค้กในคืนนี้
“..อึ” ผมละสายตาจากหนังสือตรงหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงครางเบาๆจากคนบนเตียง ผมวางหนังสือลงบนโซฟาและรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย เค้กลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ คิ้วขมวดผูกกันเป็นโบก่อนที่เปลือกตาจะเปิดขึ้นอย่างเต็มตา
“ไง” ผมทัก เค้กเหลือบมามองผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ในใจลึกๆกลับรู้สึกกลัวไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะความจำเสื่อมเหมือนในละครน้ำเน่าเฮงซวยพวกนั้น
“ฮะ” อีกฝ่ายตอบเสียงเบาจนแทบจะกลืนลงไปในลำคอ เค้กเงยหน้าขึ้นจ้องหน้าผมเขม็งมีสีหน้าคล้ายกับเป็นกังวลอะไรสักอย่าง
“เรา..สี่แยก” อีกฝ่ายพยายามพูด
“อือฮึ สี่แยกบัดซบนั่น” ผมยิ้มน้อยๆอย่างรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการพูดอะไรพร้อมกับรู้สึกโล่งอกด้วยเช่นกัน
“รถชน” เค้กบอก มือขวากระตุกขึ้นทั้งทั้งที่มีผ้าพันแผลอยู่ อีกฝ่ายยกมือขึ้นเหมือนต้องการจะมาจับผม ผมนำมือไปจับตอบไว้เบาๆเพราะกลัวว่าเจ้าของมือจะเจ็บแผล
“ใช่..รถชนฝั่งของนาย ไม่ใช่ฉัน” ผมตัดบทให้เพราะรู้สึกรำคาญที่อีกฝ่ายพูดกระท่อนกระแท่นไม่จบเรื่องเสียที
“พี่คิว ไม่เป็นไร..ใช่ไหมครับ” อีกฝ่ายถามทั้งที่ก็เห็นว่าผมยังคุยด้วยอยู่อย่างปกติ
“หึ..ฉันปลอดภัยกว่านายเยอะเลย” ผมยิ้มให้ เค้กยิ้มตอบให้เล็กน้อยก่อนจะเหลือบตาลงมองสำรวจร่างกายของตนเอง หลังจากนั้นก็เงียบไม่พูดไม่จา คงเพราะกำลังตกใจกับแผลบนร่างกายของตัวเองนั่นล่ะ
“ทุกอย่างปลอดภัยดี” ผมพูดบอก อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างเข้าใจแต่ก็ไม่ได้เงยหน้ามามองหน้าผมอีก
“ไม่มีอาการว่าตรงไหนจะบุบสลาย หึ..นายพกของขลังอะไรรึไง” ผมแซวอย่างไม่ได้คิดอะไร หมอบอกผมว่ามันมากกว่าจะเป็นปาฏิหาริย์เพราะมันแทบไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะไม่เป็นแม้กระทั่งกระดูกร้าว
“เอ๊ะ ใช่..” อีกฝ่ายอุทานด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ผมมองอย่างไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร เค้กนำมืออีกข้างที่ไม่ได้เป็นแผลที่มือมาลูบที่ต้นคอตัวเอง
“อาจจะเป็นของขลังสำหรับเค้กก็ได้ สร้อยของเค้ก..ไปไหนฮะ” อีกฝ่ายถามแกมหัวเราะ พยายามยิ้มแต่สีหน้ากลับแฝงไปด้วยความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“พยาบาลเอาออกตอนทำความสะอาดแผลให้น่ะ แม่นายเก็บไว้ให้แล้ว” ผมบอกอย่างนึกโล่งใจแทนเพราะคิดว่าสร้อยเส้นนั้นคงสำคัญมาก ผมเคยสังเกตเห็นตอนที่อีกฝ่ายถอดวางไว้ตอนอาบน้ำ น่าจะเรียกว่าถือวิสาสะไปหยิบดูด้วยความอยากรู้ซะมากกว่า สร้อยเป็นสร้อยเงินธรรมดาที่ด้านหนึ่งเป็นองค์พระพุทธรูปเลี่ยมทององค์เล็กคล้ายกับไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น แต่เมื่อพลิกกลับอีกด้านหนึ่งกลับพบรูปของผู้ชายมีอายุคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กผู้ชายหน้าคล้ายกับเจ้าของสร้อยสมัยประถมอยู่ด้วย
“อ่อ ครับ” อีกฝ่ายยิ้มออกมาน้อยๆและได้ยินเสียงถอนหายใจค่อยๆคล้ายกับโล่งอก
“พ่อให้..ตอนเค้กสอบเข้าม.ต้นได้น่ะฮะ” เค้กยิ้มพูด
“ฉันรู้..” ผมตอบไปทั้งทั้งที่ก็ไม่ได้รู้อะไรเลย รู้เพียงแค่ว่า..มันสำคัญ ใช่..รู้แค่นี้ก็พอแล้ว คนที่ให้ความสำคัญกับอย่างใดอย่างหนึ่งมักจะมีเหตุผลที่บางคนอาจจะไม่เข้าใจเสมอ และเพราะถึงอย่างไรก็แล้วแต่ของที่สำคัญก็คือของที่สำคัญอยู่วันยังค่ำ ไม่มีความหมายต้องตีความให้มากกว่านั้น
“หิวน้ำรึเปล่า ฉันจะกดเรียกพยาบาลว่านายฟื้นแล้ว” ผมบอก เค้กพยักหน้ารับ ผมกดเรียกพยาบาลก่อนที่จะรินน้ำให้และนำมาป้อนอีกฝ่ายที่พยายามดื่มเข้าไปอย่างทุลักทุเล
“เค้ก..ปวดหัว” เค้กพูด ขณะเดียวกันพยาบาลก็เดินเข้ามาพอดี ผมพอใจที่เห็นเธอเดินเข้ามารวดเร็วอย่างนี้ ถือว่าทำงานตามหน้าที่ได้เร็วคุ้มค่ากับเงินที่ผมต้องเสียให้ละนะ
“อืม ฉันรู้..เดี๋ยวหมอจะตรวจร่างกายนายอีกที ไม่เป็นไรนะ” ผมวางแก้วน้ำลงที่เดิมก่อนจะเอื้อมมือลูบหัวเค้กอย่างเบามือที่สุด
“คุณหมอกำลังมาค่ะ” นางพยาบาลยิ้มบอก เพียงไม่กี่อึดใจหมอก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพยาบาลอีกคน
“เป็นไงบ้างครับ ปวดหัวรึเปล่า” คุณหมอถามทันที
“ครับ” คนบนเตียงพยักหน้าเล็กน้อยตอบ
“มีอาการปวด หรือมึนครับ..เอาให้แน่นะ” หมอย้ำถาม อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนใช้ความคิดสำรวจตัวเอง
“มึนครับ ตึงๆ..ตึงที่ต้นคอด้วย” เค้กตอบเสียงเบา
“โอเคครับ เดี๋ยวหมอขอตรวจร่างกายทั่วๆไปก่อนนะครับ..มีอาการยังไงให้บอกหมอทันที ถ้าหมอจับตรงไหนแล้วเจ็บ ก็ให้บอกหมอทันทีห้ามอดทนนะครับ”
“ครับ” เค้กพยักหน้า เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ผมยืนมองอยู่ทุกรายละเอียดที่หมอได้ตรวจร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เบื้องต้นก็ไม่พบอะไรผิดปกตินะครับ ถ้าคุณอยากให้หมอเอ็กซเรย์เพื่อความแน่ใจอีกครั้งจริงๆ..ทางเราก็จะทำให้” หมอมองหน้าผมเหมือนขอการตัดสินใจ
“ครับ ผมต้องการความมั่นใจ” ผมพูดเป็นนัยให้หมอเข้าใจเอง
“โอเคครับ เดี๋ยวยังไงหมอจะให้พยาบาลมาตามอีกที”
“หลังจากนี้ก็ทานอาหารเย็นที่ย่อยง่ายๆได้ตามปกตินะครับ” หมอยิ้มบอก
“ขอบคุณครับ” ผมและเค้กยกมือไหว้ก่อนที่หมอจะเดินออกไป
“ที่จริงไม่ต้องเอ็กซเรย์ก็ได้ฮะ” คนบนเตียงพูดขึ้น เสียงก็แทบไม่มีแรงแต่ก็พยายามจะพูด
“หุบปาก” ผมว่าทำให้อีกฝ่ายเงียบลงในทันที
“ตัวเองเป็นคนพูดเองแท้ๆว่าปลอดภัยดี” อีกฝ่ายยังบ่นงุบงิบไม่เลิก
“บอกให้หุบปากไง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งใส่
“เค้กเป็นคนไข้นะ” อยู่ๆเค้กก็บ่นพึมพำเสียงเบาเหมือนต้องการเรียกร้องสิทธิพิเศษอย่างนั้น
“นั่นแหละยิ่งต้องหุบปาก” ผมย้ำพูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาอา
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษก็บอกซะ” ผมยื่นโทรศัพท์มือถือให้อีกฝ่าย เค้กรับไปอย่างว่าง่าย
“ฮะ..ตื่นเมื่อกี้นี้ครับ ตรวจแล้วครับ ไม่มีอะไร” เค้กพูดเสียงเบาเหมือนกลัวว่าผมจะได้ยิน
“อะไรก็ได้ แต่..อยากกินเครปเค้กนมสดครับ” เค้กพูดด้วยท่าทางเขิน เหมือนอยากกินแต่ก็ไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำเท่าไหร่นัก แน่ล่ะ..ขนาดเพิ่งตื่นแต่กลับอยากกินนู่นกินนี่ คุณว่ามันน่าตลกไหมล่ะ
“ครับ..แค่นี้ ขอบคุณครับ” อีกฝ่ายพูดก่อนจะยื่นมือถือกลับมาให้ผม ผมเหลือบมองที่หน้าจอโทรศัพท์ ปลายสายยังไม่ได้ตัดสายไป
“เอาไปเผื่อแม่เค้กไหม” อาถาม
“อืม..เอามาเผื่อด้วยก็ได้ คงจะยังไม่ทานมา แต่อาจจะเตรียมมาแหละมั้ง” ผมเดา
“โอเค แล้วคิวจะเอาอะไรไหม”
“ไม่ล่ะ จะกลับไปกินที่บ้าน” ผมตอบ
“โอเค เท่านี้ใช่ไหม”
“เอ่อ แล้วก็..เครปเค้กที่ผมเพิ่งทำเมื่อวานอยู่ในตู้เย็นห้องครัวทำเค้ก อาเอามาทั้งปอนด์นั่นแหละนะ” ผมบอก ช่วงนี้ผมทำเครปเค้กบ่อยกว่าปกติเพราะคนบนเตียงชอบทาน ที่จริงผมจะทำไปที่ร้านค่อนข้างจำกัด แรกๆอีกฝ่ายก็บอกว่าขอออกเงินค่าส่วนผสมเพราะเกรงใจ แต่ดูเหมือนช่วงหลังมานี่จะทานบ่อยไปหน่อย เงินหมดกลายเป็นต้องเดือดร้อนเงินของผมแทน
“หึ..ได้” อาหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะตัดสายไป
“ขอบคุณครับ ฮื่อๆ” อีกฝ่ายหันมาหัวเราะทีเล่นทีจริง
“แม่นายกลับไปรับน้องสาวกับน้า..แล้วก็กลับไปเอาเสื้อผ้าด้วย ท่านจะมาเฝ้านายคืนนี้” ผมเดินเข้าไปใกล้เตียง อีกฝ่ายพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“แล้วพรุ่งนี้เช้าจะกินอะไร จะได้เตรียมมาให้” ผมถาม
“อะไรก็ได้” ผมยืนมองหน้าอีกฝ่ายที่ตอบว่า “อะไรก็ได้” แต่หน้าตากลับคิดหนักอย่างกับกำลังนึกเมนูอาหารอยู่
“แล้วก็..ตำรวจน่ะ เค้าถามว่าจะเอาเรื่องอีกฝ่ายรึเปล่า เพราะยังไงอีกฝ่ายก็ผ่าไฟแดง นายจะว่าไง” ผมถามเรื่องสำคัญที่ผมบอกตำรวจไปก่อนหน้าว่าผมยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะเอาเรื่องคู่กรณีดีหรือไม่ ตอนนั้นผมนึกได้เพียงว่าถ้าเค้กไม่ฟื้นผมก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ถ้าฟื้นผมก็จะให้เค้กตัดสินใจเองว่าจะจัดการกับอีกฝ่ายอย่างไร..
“เค้าเป็นไงบ้างเหรอฮะ” เค้กถาม
“เมา..” ผมตอบเสียงเรียบ รู้สึกเซ็งอยู่ลึกๆว่าถ้าเค้กจะไม่เอาเรื่องผมเองก็รู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่..หรืออาจจะไม่พอใจอย่างมากเลยล่ะ
“ยังไม่รู้สึกตัว คงเพราะฤทธิ์เหล้ากับได้รับแรงกระแทกอย่างแรง..ถุงลมนิรภัยไม่ทำงานน่ะ” ผมบอก อีกฝ่ายหน้าเริ่มเครียดลงเรื่อยๆ
“แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แค่แขนหัก หัวแตก กระดูกข้อเท้าร้าว..น่าจะตายยากอยู่ ไม่นานก็คงฟื้น” ผมพูดบอกส่งๆ ผมคิดว่าเขาสมควรเจ็บให้มากกว่านี้ อาจจะไหปาร้าหัก ตับแตก ขาเน่าติดเชื้อต้องตัดขาหรืออะไรประมาณนั้น แต่ก็นะ..ดันปลอดภัยเกินไปอย่างไม่สมควรได้รับการอภัยจริงๆ
“พี่คิวครับ” อีกฝ่ายปรามเสียงเข้มเหมือนไม่พอใจในคำพูดของผม ผมเบะปากให้อย่างไม่แคร์
“งั้นเค้กก็ไม่เอาเรื่องหรอกครับ แต่ก็ให้ตำรวจดำเนินการไปตามกฎหมายก็แล้วกัน”
“ตามใจ” ผมพูด อีกฝ่ายมองเหล่ใส่ผม ผมเท้าแขนลงบนเตียงและจ้องหน้าตอบให้ทำเค้กเหหันสายตาหนีไปอีกทางหนึ่ง บางทีผมก็คิดว่าเด็กคนนี้กล้าทำสายตาหลากหลายใส่ผมมากขึ้น โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบมองตาคน สายตาสามารถพูดแทนคำพูดได้ทุกอย่างสำหรับผม แต่คนส่วนมากกลับบอกว่าคำพูดนี้ใช้ไม่ได้ในกรณีที่ต้องพูดคุยกับผม เพราะเขาไม่สามารถอ่านผมออกจากสายตาของผมได้เลยว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
แต่ก่อนที่ได้เจอเค้กแรกๆผมคิดว่าเค้กเป็นมีนัยน์ตาที่แสนเศร้า เพียงถ้าเขาไม่ยิ้มทุกอย่างก็คล้ายจะหมองลงในทันที แม้กระทั่งบางครั้งที่ยิ้มสายตากลับแฝงไปด้วยความกลัวจนน่าใจหาย ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกแบบนั้นของเค้ก และผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้สึกแบบผมหรือไม่ เจ้าตัวเองก็อาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตัวเองมีดวงตาที่แสนเศร้ามากเกินไป..มากเกินจนน่าสงสาร
ผมชอบเวลาที่เค้กยิ้ม แต่บางครั้งผมก็ไม่ชอบ มันบอกไม่ถูก..เวลาที่หน้านิ่งๆไม่ยิ้มเลยก็ดูน่าค้นหาดีสำหรับผม บางครั้งผมก็ไม่อยากให้เขาทำหน้าเศร้าบ่อยๆ ถึงแม้ผมจะรู้ว่าเค้กเป็นคนเข้ากับคนง่าย ชอบทำให้คนอื่นหัวเราะและเป็นคนร่าเริง แต่นั่นล่ะที่ผมคิดว่านั่นเหมือนไม่ใช่ตัวเขา เหมือนเขาพยายามไม่ให้ตัวเองหลุดออกไปจากโลกของพวกเรา เสียงหัวเราะและรอยยิ้มคล้ายกับต้องการมีตัวตนอยู่ในพื้นที่เดียวกันและต้องการให้คนอื่นมีความสุขมากกว่าตัวเองอย่างนั้น และถึงแม้ว่าผมจะชอบที่เห็นเขายิ้มแต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมหลงใหลแววตาอันแสนเศร้าหมองคู่นี้
“นี่..ฉันเป็นคนจ่ายค่าห้องนะ ค่ารักษาตัวนายนี่ก็ด้วย..ไหนจะรถของฉันอีก” ผมพูด
“เค้ก ไม่ได้ขอ สักหน่อย” อีกฝ่ายพยักพเยิดหน้าตอบแต่กลับไม่ยอมมองตาผม นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกชอบใจ
“หึ..” ผมยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้อีกฝ่ายทำให้เค้กชะงักตัวแข็งทื่อ อีกฝ่ายสบตาผมเพียงนิดเดียวก็เหลือบสายตาไปอีกทาง
“จุ๊บ~” ผมก้มลงจูบปากเค้กเบาๆ เค้กเบิกตาโพรงกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าตัวก็รีบเม้มปากเข้าหากันในทันที ทำเหมือนกับนั่นจะหลุดพ้นไม่ให้ผมทำอะไรเกินเลยได้อย่างนั้น ผมยังคงไม่ถอยกลับมายืนอย่างเดิม และก้มหน้าลงไปใกล้มากขึ้นจนปากของเราชนกันอีกครั้ง ผมพรมจูบเบาๆทั้งทั้งที่อีกฝ่ายก็เม้มปากของตัวเองไว้อย่างไม่ยอมให้ผมทำอะไรไปมากกว่านี่ ผมไม่สนใจและจูบไล่ปากไปจนย้ำหอมลงบนแก้มของอีกฝ่ายเบาๆ เมื่อเหลือบมองก็ต้องพบว่าเค้กหลับตาปี๋ ตัวสั่นอย่างกับลูกนก เราไม่ได้จูบหรือหยอกล้อคลอเคลียกันอย่างนี้บ่อยเท่าไหร่ และผมไม่คิดจะรีบร้อนอะไรเพราะเค้กยังเด็ก เขายังมีเวลามากพอที่จะเติบโตขึ้นอย่างสง่างามบนโลกแห่งนี้ซึ่งผมอยากให้เขามั่นใจว่าการที่เขาเลือกอยู่กับผมจะไม่ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปแบบที่แท้จริงแล้วเขาไม่ต้องการ
นี่คงเป็นการจูบครั้งที่สามหลังจากที่คบกันมาได้สองสามเดือน ครั้งแรกเมื่อก่อนที่เราจะตกลงคบกันในห้องนอนของผม แล้วก็หลังจากนั้นตอนที่ไปหัวหินกับที่ร้าน และก็ตอนนี้ที่ผมต้องการรับรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีชีวิตอยู่ แค่นั้น..
“เหม็นแฮะ” ผมกระซิบบอก
“ใครใช้ให้เข้ามาใกล้เล่า..ออกไปสิฮะ” อีกฝ่ายหันมาค้อนหน้างอ ผมหัวเราะก่อนจะกลับมานั่งอ่านหนังสืออย่างเดิม เค้กไม่พูดอะไรอีก นั่งเงียบอยู่นานจากแก้มที่แดงจากอาการเขินก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ ไม่กี่ชั่วโมงอาก็นำอาหารเย็นมาให้ เมื่อแม่ของเค้กมาผมก็ขอตัวกลับบ้าน
..................>>>><<<<..................
NC กระจาย..กร๊าก
PS.หลังจากนี้เบบี้มีสอบปลายภาค จะมาต่อตอนพิเศษตอนของเค้กได้หลังสอบค่ะ
-
แปะสารบัญที่คุณMust กรุณาทำไว้ให้นะคะ..ถ้าใครยังอ่านตอนอื่นไม่จบก็กดเข้าไปดูได้ จะได้สะดวกขึ้นค่ะ
ขอบคุณคุณMust อีกครั้งนะคะ ^_^
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
มาขอต่อก่อนซักนิ๊ดดดดดด
-
หว้าาาาา จบซะแล้วอะ :เฮ้อ:
อ่านไปลุ้นไปทั้งเรื่องเลยพี่บี้สนุกมาก
อ่านมาตั้งนาน มี NC กัสเสียตัวครั้งเดียวเอง
:m31: จะใสไปไหน ทั้ง ๆ ที่ก็มีงานทำกันหมดละ
ทีเรื่องไหนที่มีเด็ก ๆ นี่ เด็กโดนสอยกินหมด ๕๕๕๕๕
พี่บี้ชอบกินเด็กนี่หว่าาาา :laugh:
แล้วพี่บี้ก็จะพักเขียนนิยายใช่ไหม? เหมือนที่เคยบอกไว้
:sad4: ไม่ไปได้ไหม? ตอนพิเศษถ้าลงครบก็จะไม่ลงแล้ว
แล้วเราจะอยู่อย่างไร โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ พี่บี้รีบ ๆ กลับมานะ จะรอ....
v
v
เธออย่ามามั่ว มีNCของฟ้าด้วยเหอะ..แต่แค่ฉากมันเล็กมากจนแทบมองไม่เห็นก็เท่านั้น(ใช้หลัก..จินตนาการเอาเอง)
PS. กินเด็กต้องอร่อยกว่าอยู่แล้ว (ใช้หลักเดียวกันกับไอ้พี) ฮ่าๆๆๆๆ
:m25: :z1: :m20:
-
เกือบไปแล้วนะเค้กทำให้พี่คิวเสียน้ำตาเลย
-
อ๊ากกกกกกกกกกกก~ ในที่สุดก็ได้มาเข้าใจในมุมมองของพี่คิวบ้าง
ผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองจนดูเหมือนไม่แคร์อะไร แต่ก็ยังมีุมุมที่อ่อนแออยู่
พี่คิวเป็นผู้ชายในอุดมคติมากอ่ะ สุขุมนุ่มลึก พูดน้อย ต่อยหนัก ช๊อบบบบบบ~
ขอ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด~ ให้กับฉากคิวคลอเคลียเค้กที่เตียงคนไข้เลยอ่ะ
เป็นปรากฏการ์ณที่หาชมได้ยากยิ่ง แต่ก็น่ารักมว๊ากกกกกกกกกก~
ให้เบบี้ 1 กอด + 1 หอม + 1 จ๊วฟ และก็ + + + + +
Lover III ไม่ขอเอ่ยเพราะกำลังไว้อาลัยให้กับความเศร้าของพี่หมี พระเอกในดวงใจ กร๊ากกกกกกกกก~
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
จุ๊บ เค้าจุ๊บกันอีกแว้วววววว ดีจายยย มีอะไรให้ลุ้นตลอดดดด ชอบคิวเค้กที่สุด 555
-
ใจหาย นึกว่าเค้กเป็นไรไปแล้ว :m15: รออ่านตอนต่อไปครับ :L2:
-
:z1:พี่คิวน่ารักกกกกกกกก :-[
อยากให้เค้กโตไวๆจัง พี่คิวจะได้ทำ :z1: อะไรบ้าางงงงงง :impress2:
:pig4:
-
NC กระจาย..กร๊าก :laugh: กระจายจริงๆ ค่ะคุณเบบี้ กระจายสมกับที่รอคอย น้ำตานะคะ แต่เช้าเลย :m20:
-
จุ๊บกันแล้วอะ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :กอด1:
NC กระจายมากอะเบบี้ กระจายซะหาเกือบไม่เจอ :laugh:
อยากอ่านตอนที่เค้กโดนคิวจูบครั้งที่สองที่หัวหินด้วยอะเบบี้ ได้ป่าววววววววววววววววววววววววว :z1:
-
อ่านมาทั้ง 3 คู่ ชอบคู่คิวกะเค้กมากที่สุด :impress3:
ขอคิวหวานกะเค้กอีกนิดได้มั้ยอ่ะ :กอด1:
-
คู่นี้ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีเลย
อดยิ้มไม่ได้เพราะคิว
-
nc กระจายเลยตอนนี้
เค้กหายไวไวน้า
-
แอบมีมุมหวาน ๆ ... ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ
:กอด1:
-
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก
เป็น NC ที่รอคอยยจริงๆ :-[
ขอให้เค้กหายเร็วๆน้า
กอดพี่คิว เอิ้กๆๆๆๆ :laugh:
:pig4:
-
เค้กน่ารัก
-
น่ารัก จริงๆนะเนี่ยย
-
จุ๊บกันเบาเบา :impress2:
-
ชอบตอนนี้อ่ะ คือจะบอกว่าชอบคู่ของคิวกับเค้กเป็นพิเศษด้วยแหละ
ก็เลยรู้สึกว่าอิ่มใจเล็ก ๆ ที่ได้อ่านตอนนี้น่ะนะ
-
รอรอตอนต่อไป :L1:
-
ตอนแรกคิดว่าทำไมเบบี้ใจร้ายกับน้องเค้ก แต่เพราะทำให้เค้าใจพี่คิวแกมากขึ้น แถมมีสวีทวี๊ดวิ๊วรอบเตียงคนไข้
ยกประโยชน์ให้เบบี้จ้า ^^
-
ตอนแรกคิดว่าทำไมเบบี้ใจร้ายกับน้องเค้ก แต่เพราะทำให้เค้าใจพี่คิวแกมากขึ้น แถมมีสวีทวี๊ดวิ๊วรอบเตียงคนไข้
ยกประโยชน์ให้เบบี้จ้า ^^
ทำไมพูดเหมือนเค้ากระทำการร้ายกายกะทุกคนง่ะ >0< :laugh:
-
:-[
-
อุตส่าห์ดี้ด๊ากับเลิฟซีนเล็ก ๆ :-[
แต่มันมาหมดอารมณ์ตรงอิพี่คิวแกล้งบอกว่า "เหม็นแฮะ" o6
ถ้าตรูเป็นเค้กนะ คราวต่อไปเมิงอิพี่คิว เมิงอย่าได้หวังแตะกรูแม้ปลายเล็บเลย :beat:
หยุดปากหมาสักแป๊บเนี๋ยะมันจะตายใช่ม่ะ เฮ๊ย!!มีเคืองๆๆ :m16:
-
:o8: :-[ :กอด1:
-
อ่านแล้วอยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดมากกกกกกกกกก
ถึงตอนแรกใจจะกระตุกที่พี่คิวร้องไห้เพราะเค้กโดนรถชนก้เถอะ
แต่ตอนท้ายมันแบบ อร๊ายยยยยย อร๊ายยยยยยยยย >//<
ไปจูบเขาแล้วยังจะว่าเขาเหม็นอีก พี่คิวโคตรกวนตีนอะ 55
เบบี้ขา ขอเถอะนะคะ อยากได้เอ็นซีแบบไม่กระจายหายไปไหนอย่างตอนนีิ้
อ่านแล้วกระหายพี่คิวกะเค้กมุมนั้นอย่างแรง >> ส่อมากกกก 555555555
จริงๆนะคะ อยากจะรู้มากลีลาบนเตียงของพี่คิวพระเอกบี้เรื่องนี้
จะสู้พี่เมตรพี่ต้าร์หรือแม้แต่พี่ทายได้ป่าววววว
จะรอตอนพาร์ทเค้กอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ ตั้งใจสอบน้า~
ปล.พี่คิวคะ เค้กโตแล้วนะ จริงๆ อย่ามัวใจเย็นเลยค่ะ
เพราะคนอ่านใจร้อนรุ่มมากกกกกกกก 5555555555
-
ป๊าดดดดด....ทิชชูด่วนเลย. ช่วยซับNC. หน่อยกระจายเต็มเลย :laugh:
คิว เจ๊ว่านู๋เค้กมันก็โตเข้าวัยเจริญพันธ์ละนะ :z1: กร๊ากกก แต่มุมนี้ของคิว ทำให้เข้าใจความรู้สึกนึกคิดอะไรหลายอย่าง
//// แอบไปทำไรกันที่หัวหินนะ อย่าคิดว่าเจ๊ไม่อยากรู้นะ :laugh:
P.S. :กอด1: กอดหมีทะลุไปถึงตอนที่แล้ว ฝากบอกไอ้เซ็นด้วย ดูแลนู๋กัสดี ดีละแก
-
เอ็นซีกระจาย อุดเลือดไม่ทันเลย อร๊ายยยย - -"
สงสัยต้องซื้อยารักษาโรคตายด้านให้เบบี้ซะแล้ว เง๊อออ
ดีใจที่เค้กปลอดภัย แต่ถ้าจะให้ดีพี่คิวควรสำรวจลมหายใจและการมีชีวิตของน้องให้ละเอียดลึกซึ้งกว่านี้หน่อยนะ ชิ๊
-
ง่า ต้นเรื่องเครียดมาเลย ตอนจบน่ารัก :o8: :-[
-
:3123: :3123: :3123:
-
ได้อ่านมุมพี่คิวบ้าง รู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ฮ่าๆๆๆ
พี่คิวต่อไปต้องดูแลน้องดีๆนะคะ ^^
-
อ่านไปใจหายตาม 55
เค้กนี่พอฟื้นขึ้นมา ก็เถียงพี่คิวเลยนะเนี่ย ส่วนพี่คิวอ่านรอบนี้ เลยได้รู้ว่าพี่คิวร้องไห้ยาก
ขอบคุณที่อัพนะคะ รออ่านต่อค่ะ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดม้ามกระจาย ตับระเบิดเมื่อเห็นตอนพิเศษพี่คิวว คิคิคิ (เว่อร์ตลอดด)
และแล้วก็ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปราย
อ่านแล้วก็อยากอ่านอีกกก รอเบบี้สอบเสร็จจน๊า
ขอให้ทำข้อสอบได้ ผ่านฉลุยยยยเลยนะค๊าเบบี้
จะรอ ร๊อ รอออออออออตอนหน้า คิคิคิ รักพี่คิวน้องเค้ก รักเบบี้ :กอด1:
ขอบคุณสำหรับนิยายมากๆค่ะ :pig4: :L1:
-
ได้เห็นมุมอ่อนไหวของคิวด้วย
แล้วก็มีมุมกุ๊กกิ๊กอีกต่างหาก :-[ ยิ้มแก้มปริ
จะรอตอนพิเศษของเค้กนะคะ น่าจะน่ารักๆอย่างนี้แหละ อิอิ
:pig4: ค่ะ คุณเบบี้
-
อ่านถึงตอนที่เค้กมีเลือดออก คิดในใจว่า อย่าบอกนะว่า เค้กตาย ตรูไม่ยอมจริงๆด้วย
และแล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง คุณพ่อน้องเค้กช่วยคุ้มครอง นานๆ จะเห็นเค้กเถียงพี่คิว แต่ก็ไม่เคยชนะพี่คิวเลย
ได้เห็นมุมอ่อนแอ อ่อนไหวของพี่คิว ว่าจริงๆแล้วก็ร้องไห้เป็นเหมือนกัน ไม่ใช่หน้านิ่งเป็นมนุษย์ไร้ความรู้สึก
:-[ คบกันมา 2-3 เดือน พี่คิวเพิ่งจูจุ๊บน้องเค้กไป 3 ครั้งเองเหรอ คนอ่านอยาเห็นมากกว่านั้นอ่ะ
:L2: :pig4: คุณเบบี้ รออ่านตอนพิเศษของเค้กต่อค่ะ
-
ใจหายหมด ดีนะที่เค้กไม่เป็นอะไรมาก
NC กระจายมากๆ
-
:-[จูปด้วยอ่ะ อ๊ายยยยย :กอด1:
-
อา~จะพูดว่าไงดี รู้สึกคุ้มค่ากับที่รอคอยมากค่ะตอนนี้
เราอ่านไปสองรอบเลย ฮ่าๆ
ได้เห็นพี่คิวร้องไห้ ไห้รู้เรื่องของปราย ถึงว่าละว่าทำไมพี่คิวถึงโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุ
แอบมีฉากหวานนิดๆด้วย เสียดายนิดหน่อยนะเนี่ยที่พี่คิวบอกว่าเค้กยังเด็ก ก้าก เด็กนี่แหละดีนะพี่คิวววว :impress2:
รอติดตามตอนของน้องเค้ก อวยพรให้เบบี้ทำข้อสอบได้นะคะ :3123:
-
อ๊ายยยยยยยย สเปของพี่คิวมาแล้ว พี่คิวยังคงสุขุม นุ่มลึก น่าหลงใหลเหมือนเดิม 55555 ได้อ่านตอนนี้ก็เข้าใจความคิด ความอ่านเกินอายุของพี่แกขึ้นมานิดนึง กรั่กๆ อุบัติเหตุราวนั้นของปรายมันคงเลวร้ายสำหรับคิวมากอะ เพราะเราทำได้แค่มอง ไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรให้มันดีขึ้นได้เลย แถมยังจากกันทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจกันอีก มันน่าเศร้านะ ไม่แปลกที่ตลอดมาพี่คิวจะปิดตัวเองมาตลอด จนกระทั่งมีเค้กเข้ามาเป็นคนสำคัญเหตุการณ์แบบนั้นก็เกิดขึ้นซ้ำสองอีก เป็นใครก็ใจเสียทั้งนั้น เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นพี่คิวร้องไห้ คนที่ดูแข็งกระด้งกลับอ่อนไหวในเรื่องการสูญเสียนี่น่าเห็นใจนะ แต่เค้กปลอดภัยก็ดีแล้วโล่งอกไปที อุบัติเหตุนี่น่ากลัวเสมอนะ เราระวังตัวแทบตาย แต่ถ้าคนอื่นไม่ระวัง ก็เท่านั้น ยังไงมันก็เกิด อ๋ายยยยย ชอบที่พี่คิวคลอเคลียเค้กอะ หาดูได้ยากมากเพราะปกติเค้าไม่ค่อยจะกุ๊กกิ๊กอะไรแบบนี้เท่าไหร่นิ คึคึ เค้กก็เขินไปตามระเบียบ ชอบตรงพี่คิวพูดถึงดวงตาเค้กอะให้อารมณ์ว่าหลงน้องพอตัวเลยนะ คึคึ น่ารักกับเค้าก็เป็นนะพี่คิว
-
กรี๊ดดดดดดดดดดด
NC พี่คิวกับน้องเค๊ก.. ค่อยเป็นค่อยไป เค๊กยังเด็ก :o8:
ขอบคุณค่า
:L1:
-
ดีนะที่เค้กไม่เป็นไร แต่คิวแกหวานกับเค้กมากกว่านี้หน่อยสิ
-
เค้ายิ้มแก้มแตกเลยอะเบเบี้ แอร๊ยยย :o8: :-[ มีจุ๊ฟๆด้วยย
แอบใจหายเหมือนกันตอนรถชน ถ้าจากกันทั้งๆที่ยังเคืองกันอยู่นี่มันคงเศร้าใจพิลึก
พี่คิวตอนอยู่กับเค้กนี่น่ารักชะมัดเลย >~<
-
:-[
อิจฉาเค้ก พี่คิวหอมแก้ม ><
-
น่ารักอะ
-
NC กระจายจริงๆๆ เต็มโรงพยาบาลเลย
-
คนในครอบครัว......ฟังแล้วอบอุ่นดีจังน๊า
-
อ่าาา
พี่คิวแม่งใจเย็นชาได้อีก
เรื่องของปรายพี่คิวเลย หมายถึงปรายก็ผิด แต่พี่แกพูดแบบไร้เยื้อไยมากอ่ะ
คือเราก็ไม่รู้ว่าตอนคบกันแรกๆคิวเป็นแบบไหน นิสัย การกระทำ
แต่ถ้าเป็นแบบนี้อยู่แล้วก็คงปรายเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจแหละ
เย็นชาซะขนาดนี้
เค้ก/ม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่พี่คิวควรปรับปรุงนิสัยบางนะ
-
แอร๊ยยยย น้องเค้กสุดโมเอะมาแว้ววววว :m3:
น่ารักน่าชังมากอ่ะ ของเค้กของพี่คิว~~ :-[ :-[
-
พี่คิวโครตน่ารักอ่ะ ...ปากแข็งใจอ่อน
รักที่สุดเลย
-
น่ารักจริงๆ....
รอเค้กจ๊าาาาาา
-
กรี๊ดพี่คิวอ่า :)
-
อั่ยย๊ะ..คิว น่ารักหว่ะ...ฮ่าๆๆ
แต่ก็ยังชอบแกล้งเค้กเหมือนเดิม
เซ็นต์มีแอบแซวคิวเรื่องร้องไห้ซะงั้น -o-
-
NC กระจายมากกกกกกกกกกกก มากในแบบของพี่คิว สงสัยกว่าพี่คิวจะได้เต๊าะต๊ะเค้ก ก็นู่นนนนนนนอ่ะ จบปริญญาโน่นนนนน
เค้กยังเด็กอยู่เลยยยยยยยย
ไปรอเอาจากคู่อาฟ้า หรือกัสกะพี่เซ็นน่ะ น่าจะมีลุ้นกว่าอีก 55555555555555
-
คิดไว้ว่าเรื่องของปรายคงเศร้า แต่ก็ไม่นึกว่าจะขนาดนี้
เราร้องไห้แบบน้ำตาไหลพรากๆหยุดไม่ได้เลยอ่ะ :m15:
แค่จะกอดปลอบกันครั้งสุดท้ายคิวยังตัดสินใจไม่ทำ แล้วยังเป็นฝ่ายอออกปากไล่เค้าเองอีก คิวต้องผ่านความเจ็บปวดอย่างมากๆเลย
ชื่นชอบทุกตัวอักษรของบทนี้นะคะ มีที่มาที่ไป กินใจ สะท้อนตัวตนทุกๆคน
ชื่นชมเบบี้สุดๆ คมจริงๆอ่ะ o13
โชคดีในการสอบนะคะ
ปล เอนซีกระจายมาก น้องเค้กโดนจูบรอบสาม 55555
-
คิว นอกจากจะปากตรงกับใจแล้้ว ยังมีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี้ย
555 ยิ้มหวานนน เอ็นซีกระจายมา ก3 เดือน จูบกันสองสามรอบ
อยากให้มีมากกว่านี้ 555
-
:L1:ชอบมากอะ ปลื้มคิว :-[
-
น่ารักดีนะตอนท้ายอ่ะ
-
ต่อมความหวานของพี่คิว เพิ่งจะเริ่มทำงาน :z1:
-
น่ารักอ่ะ
มีจูบกันด้วย
แถมได้เห็นน้ำตาพี่คิวอีก อิอิ
-
ชอบตอนนี้มากที่สุดอ่ะ :-[
-
เค้กน่ารักอะ อยากให้เค้กโตเร็วเร็วเหมือนที่พี่คิวคิด อิอิ
-
รอดู(อ่าน) เบบี้เคลียปมในนิยายที่เหลือ คึคึ
-
เค้กน่ารัก :-[ :-[
-
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
อยากอ่าน NC อ่ะ เบบี้!!!!!!!!!!!!!!
ไม่ค่อยจะหื่นเลย หุหุ =,.=
:haun5:
-
น่ารักเกิน :-[
-
ชอบมุมนี้ของพี่คิว และน้องเค้กอ่ะ ♥
-
แว๊กกก.....แค่จุ๊บปากเบา ๆ คนอ่านก็เกือบตายแล้ว :-[ เขินวุ้ย :o8:
:pig4: คะ
-
พี่คิวอ่ะ ขอโทษเค้กสักคำสิ เชอะ พ่อคนหยิ่ง แน่จริงอย่าจูบเด่ะ 55+
:3123: กดบวกให้ทุกสิ่งอย่าง ยังไม่สะใจ ต้องโหวตเซ็งเป็ดกันด้วยจ้า
-
ใจหายโลด
ดีนะน้องเค้กไม่เป็นไรมาก :เฮ้อ:
พี่คิวปรนนิบัติอย่างดีไปเลยนะ 55
-
เรื่องนี้ไม่เศร้าเนอะ
-
น้ำตาซึมกันเลยทีเดียว เค้กรู้คงปลื้มน่าดู ....
ชอบที่บี้ถ่ายทอดความรู้สึกบางอย่างที่หลายๆ คนคิด แต่ยากจะอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ชัดเจนดี บางประโยคอ่านแล้วแบบ เอ่อใช่ ฉันก็คิดอย่างนี้แหล่ะ ...
:pig4: :man1:
ปล.NC ในนี้ไม่มีไม่เป็นไร แต่ในหนังสือเค้าขอเหอะ อยากจะรู้จริงๆว่าคิวที่เป็นแบบนี้เวลาอย่างว่าจะเป็นยังไง.. เอ่อ ขอทั้ง 3 คู่เลยดีกว่า :haun4:
-
ใจหายหมดเลย...
แต่ตอนท้ายก็หวานจั๊งงงงงงงงงงงง -////////-
-
เหมือนที่คนโบราณเค้าว่า คนดีผีคุ้ม
ปรายคงคุ้มครองน้องไว้จริงๆนะเนี่ย
พี่คิวร้องไห้ น่าสงสารมาก
คนแข็งๆ ใช่ว่าจะอ่อนแอไม่เป็น
พี่เซ็นปลอบเพื่อน ชอบมิตรภาพของสองคนนี้จริงๆ
เค้กน่ารัก รักเค้ก :กอด1:
-
เขิลแทนเค้ก. อิอิ
-
ความทรงจำที่ยากจะลบเลือน :z3:
-
เกือบไปแล้วไหมละพี่คิว ดีนะที่เค้กไม่เป็นอะไรมากมาย แต่เหมือนแม่เค้กจะโกรธๆหรือป่าว
คู่นี้น่ารักดีเนอะ พี่คิวดูขี้แกล้งน้องเค้กก็ก็ดูขี้อาย
ปล.ขอให้ทำข้อสอบได้นะจ๊ะเบบี้ สู้ๆนะ
-
NC กระจาย..กร๊าก ฮ่าๆ
พี่คิวดูแลเค้กให้ดีๆนะ
แต่เค้กนี่ใสจริงๆเลย
ย้อนไปเม้นตอนที่แล้ว
เพิ่งจะชอบพี่หมีก็ตอนนี้ล่ะค่ะ ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีแล้วนะ
ถอยออกมาเพื่อให้คนที่เค้ารักกันเข้าใจกันซะที
-
:z13: จิ้มๆๆเดี่ยวไปตามอ่านก่อนแล้วจะมาเม้นใหม่นะคะ ^^
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
กรี๊ดดดดดดดดด ตามทันแล้ว งานการไม่เป็นอันทำ >.<
ชอบเรื่องนี้ของคุณเบบี้ที่สุดเลย ..ชอบสำนวน
ชอบการดำเนินเรื่อง ชอบตัวละคร อ่านแล้วก็อยากอ่านอีก
ถ้ารวมเล่มเมื่อไหร่ไม่พลาดแน่นอนค่ะ .. :กอด1:
-
โอ้ยยยยยย
หนึ่งตอนมาครบทุกรสชาติเลยวุ้ย
ขอบคุณเบบี้ คร้า
-
:กอด1: :กอด1:
-
เอาแบบหวานๆ อีก.........คิว+เค้ก
-
ในที่สุดก็อ่านทันจนได้ ^____^ ¥ ชอบเนื้อเรื่องมากๆเลย อ่านไปก็อยากกินเค้ก...เลยอ่ะ 5555
ชอบความรู้สึก ความคิดของแต่ละตัวละคร มันอิงกับชีวิตจริงได้เลยอ่ะ มันมีอยู่จริง....
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆจ้า
-
ขึ้นต้นมาเศร้า ลงท้ายมาหวาน น่ารักอ่ะ
แอบเขินแทนเค้ก พี่คิวขี้แกล้งว่ะมาบอกว่า
ปากเหม็นได้งัย :กอด1:
-
ชอบจังค่ะ เวลาที่คิวอ่อนโยนกับเค้ก น่ารัก
ให้ความรู้สึกมีสีชมพูลอยเต็มไปหมด 5555+ อ่านไปเขินไปค่ะ
โชคดีที่เค้กปลอดภัย^^
-
...คิวเหมือนคนขี้รำคาญเนอะ พอปรายมาเซ้าซี้เข้าหน่อยก็เหมือนไม่พอใจ อาฟ้าพูดถูกทุกอย่าง แต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน
...ปรายคิดอีกแบบ คิวคิดอีกแบบ แต่นั่นแหละพอคิดได้มันก็สายไปแล้ว
...ประวัติศาสตร์เกือบซ้ำรอยเหมือนกันว่าสาเหตุมันเกิดมาจากอารมณ์ ของคิวยังไงไม่รู้ ไม่ได้ว่าคิวนะว่า.. พออารมณ์เหมือนทอร์นาโด แล้วทำให้เกิดการสูญเสีย :laugh:
-
รักพี่คิวจัง น่ารักมากกกกกกกก :กอด1:
-
คือรู้สึกว่า เรื่องเก่าๆจะสนุกกว่าน่ะ = =" มันอาจเป็นความคิดของเราคนเดียวก็ได้
แต่เรื่องนี้มันคิดเยอะ ตัวละครมันพูดน้อยยังไงไม่รู้ แต่ก็ชอบน่ะ o13 o13 o13
-
คือรู้สึกว่า เรื่องเก่าๆจะสนุกกว่าน่ะ = =" มันอาจเป็นความคิดของเราคนเดียวก็ได้
แต่เรื่องนี้มันคิดเยอะ ตัวละครมันพูดน้อยยังไงไม่รู้ แต่ก็ชอบน่ะ o13 o13 o13
จะเห็นว่าเรื่องนี้จะแตกต่างจากเรื่องเก่าอย่างสิ้นเชิงนะคะ ทั้งภาษาและการดำเนินเรื่อง
เรื่องเก่าภาษารุนแรง ดำเนินเรื่องไปดิบๆ ตรงๆ ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะค่ะ
ซึ่งเรื่องนี้เบบี้ต้องการให้แตกต่างจากเรื่องก่อนออกไป เพราะแต่งมาสามสี่เรื่องภาษารุนแรงทุกเรื่อง(ก็เบื่อบ้างอะไรบ้าง)
ถ้าคนอ่านไม่ชอบคิดเยอะควรอ่านเรื่องเก่าๆมากกว่าเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้จะต้องใช้ความเข้าใจในการอ่านมาก ดำเนินเรื่องช้าในความรู้สึกค่ะ และแถมยังไมีมีเอ็นซีมาให้วาบหวิวอีกด้วย และอื่นๆบลาๆๆ
บางคนก็ชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องเก่า ดังนั้นก็ไม่แปลกที่จะมีคนชอบเรื่องเก่ามากกว่าเรื่องนี้ค่ะ..เพราะเรื่องนี้แตกต่างมากจากเรื่องที่ผ่านมา แต่ถ้าถามตัวเบบี้ เบบี้ทำการบ้านเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้หนักมากกว่าเรื่องอื่นที่ผ่านมา ถ้าคุณคิดว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเท่าก่อนหน้า เบบี้ก็ไม่อยากให้คุณคาดหวังว่ามันจะสนุกกว่าเพราะอย่างไรก็แล้วแต่เรื่องนี้จะไม่มีทางไปเหมือนเรื่องอื่นที่ผ่านมาได้เลย ดังนั้น..ให้เลือกเสพค่ะ ชอบตรงไหนให้เสพตรงนั้น เสพสิ่งที่ทำให้รู้สึกสนุกดีกว่าค่ะ ^^
เบบี้
-
น้องเค้กทำตัวน่ารักมากอ่ะพี่คิว ^^
เหยยย อต่ช็อคแทนพี่คิวนะ ได้เห็นอะไรงี้อีกรอบ มันแป้วอ่ะ
แต่ไม่เป็นไรก็ดีละ
ว่าแต่ nc ตรงไหนค้าาาาา 555
-
นิยายแต่ล่ะเรื่องของบี้มีความแตกต่าง ๆจริง ๆ อย่างที่บี้บอกอ่ะ o8
รวมถึง NC ของแต่ล่ะเรื่องด้วยมันก็แตกต่างกันนะ :fox2:
ถ้าจะเปรียบ NC ในแต่ละเรื่องเป็นแนวเพลง
- สุดท้ายกรูก็รักมึงจนได้...ไอ้โรคจิต >> แนว Hardcore >> หนัก ๆ เน้น ๆ ว๊ากกกซี๊ดดดด ฟังแล้วสะจายยย
- Memorial~รักแรก รักสุดท้าย >> แนว PoProck >> มีความหลากหลาย ถึงจะหนักแต่ก็ฟังสบาย
- ชุลมุนวุ่นรัก >> แนว Easy Listening >> ใส ๆ น่ารัก ๆ แค่บอกรักกันเบา ๆ~~
- Limited Lovers >> แนว Jazz >> ละมุน ปราณีต บรรจง ดูดีมีสถุล เอ๊ย! มีสกุล
:laugh5: วิเคราะห์ส้นตรีนอะไรว่ะกรู สมองนี่ไม่พ้นเรื่องลามก
-
เห็นใจพี่คิวตอนที่ต้องเสียปรายไป ด้วยความรู้สึกที่มันยังค้างคาแบบนั้น คงรู้สึกผิดมากจนไม่อยากจะให้อภัยตัวเองสินะ เขะ้าใจแล้วว่าทำไมต้องหายไปทุกวันครบรอบของปราย ในเมื่อไม่ใช่แค่รักอย่างเดียว :sad4: ต้องยกความดีความชอบให้อาฟ้าท่ีดูแลคิวและประคับประคองความรู้สึกให้ผ่านจุดที่มืดที่สุดมาได้ จนได้เจอความรักครั้งใหม่ที่สำคัญครั้งนี้อีก (ไม่นับความหื่นในตอนแรก) ขอบคุณท่านอาฟ้าอย่งสุดซึ้ง :pig4:
น่าสงสารเค้กที่ต้องเจ็บตัว :o12: แล้วยังโดนพี่คิวแกล้ง(ให้เขิน) :-[ แต่อยากให้แกล้งเยอะ ๆ นะ :laugh:
ตอนสวีทมีนิดเดียวเองอ่า อยากได้อีกบ้างไรบ้างได้ป่ะ :call:
แล้วไปเที่ยวทะเลกันตนไหนอ่า อยากไปด้วยจัง คงหวานหลายคู่ นำ้ทะเลอาจจะไม่เค็มซะแล้ว :impress2:
-
อดีตความรักของพี่คิวช่างน่าเศร้าจริงๆ
ไม่แปลกหากพี่คิวจะคิดว่าเป็นความผิดตัวเอง
หากเค้กเป็นอะไรมากไปกว่านี้พี่คิวแย่แน่
ดีใจที่เค้กและพี่คิวปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก
แต่คุ้มนะได้เห็นพี่คิวแนวกรุ้มกริ่มอย่างนี้
เป็น nc ที่เหมาะสมกับน้องเค้กมากๆ :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
เบบี้สู้ๆ กับการสอบนะ รออ่านต่อ
-
พี่คิวปิดมีอดีตที่น่ากลัวจริงๆ
รักเค้กให้มากๆ นะ อย่าใช้แต่อารมณ์ จะได้ไม่ซ้ำรอย
บวกๆ
-
พี่คิวหวานหลบในเนอะ :-[
-
พี่คิวสุดๆเลยตอนนี้ !! เอาใจไป o13
-
ในที่สุด เค้ก คิว ก็มา อิอิ
พี่คิวไม่รีบ แต่คนอ่านรีบ เบบี้ช่วยหน่อยไม่ได้หรอคับ ห้าๆ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค้าบ :กอด1:
-
"อยากให้คนในครอบครัวได้ทานอาหารที่ดีที่สุดของครอบครัว"!!!!!!!
อ่าาา.......เค้กก็คือคนในครอบครัวของพี่คิว.... คึคึคึ^^
อยากฝากบอกพี่คิวว่า.........."น้องเค้กอ่ะ โตเป็นหนุ่มแล้วเหอะ"!!!
55555555
-
มารอชื่นชมความหวานของคู่ต่อไป รู้สึกเสพติดยังไงไม่รู้. :z2:
-
พี่คิวทำน้องเจ็บเลยอ่ะ ... แต่ก้อปลอดภัยดี
สบายจายยยยยยยยยยยยยย
-
เค้กอ่ะ ขี้เขินเนอะ แล้วแบบนี้จะได้ปั๊บปาดั๊บปา(อะไรของเมิง?)กับพี่คิวมั้ยเนี่ย :impress2:
รออ่านตอนพิเศษของเค้กต่อไป
:กอด1: เป็นกำลังใจให้เบบี้จ้ะ
-
:z13: มาให้กำลังใจคนเขียนค่า สู้ ๆ เน้อ :a2:
รอสวีทซีนเค้กคิว จะมีอีกหรือเปล่าหว่า :fox2: :kikkik:
-
ดีใจกับกัสด้วยนะค้าบที่สมหวังกับเซ็นสักที ^^ แต่ก็แอบสงสารคนที่แสนดีอย่างหมี แต่อย่างว่าแล่ะเนาะ เรื่องแบบนี้ฝืนใจกันไม่ได้ ชอบที่กัสบอกหมีว่า หมีเป็นคนสำคัญ มากกว่าพี่ชาย แต่ไม่ถึงกับคนรัก แต่ให้ความสำคัญมาก ๆ อย่างที่คงไม่ได้ให้ใครทุกคน ชอบอ่ะ มันแบบ มีจริง ๆ นะ คนแบบนี้ สำคัญ พึ่งพิงได้ แต่เราก็ไม่ได้คิดเกินเลยไปกว่าเพื่อนพี่ชาย ถูกใจจุดนี้จัง
มาตอนพิเศษเค้ก นึกว่าจะดราม่าซะแล้ว เหอ ๆ ดีใจที่ไม่เป็นไรอะไรมาก ว่าแต่ ... ตรงไหนมัน NC กันเหรอคับเบบี้ 555+ เห็นมีอย่างมากแค่จูบเองเนี่ย ไม่หนำใจเลย กร๊ากกกๆๆๆ อยากได้มากกว่านี้ เอิ๊กๆๆ
-
ว๊ายยยยยยยยยย พี่คิวขาาาา :-[
พี่คิวหวานกับเค้าเป็นด้วยหรอ?
นึกว่าตายด้านไปแล้ว ๕๕๕
-
ฉากหวานๆ อันน้อยนิด ใน โรงพยาบาล
-
แอบดราม่า แต่ก็ดราม่าจริงๆนั่นแหละ
รงสารพี่คิว
จะมารออ่านตอนหน้าค่ะ
-
เข้าใจคิวมากขึ้นเยอะเลยค่ะ คิวทำให้เค้กเจ็บคราวนี้คงทำให้เปิดใจกันมากขึ้นนะคะ
-
เกือบไปแล้วมั๊ยละ :เฮ้อ:
-
เอิ่มมมมม :impress2: แบบว่าอ่านไปจินตนาการว่าตัวเองเป็นเค้กไป ชอบพี่คิววววว :impress2:
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน๊าาค๊าา สนุกมากๆเลยค่ะเรื่องนี้
:L2: :L2:
-
มารอตอนต่อไปคร่า :impress2: :L2:
-
:z2: :z2:
-
God of Desire [by..Cake]
ณ โรงพยาบาล..
หลังจากที่ผมโชคร้ายโดนรถชนก็ผ่านมาได้สามวันแล้ว ตั้งแต่ผมฟื้นขึ้นมาผมได้อธิบายเรื่องราวในวันนั้นให้แม่ฟังอีกครั้งเพราะแม่บอกว่าอยากฟังจากปากของผมด้วย ผมได้อธิบายว่านี่ไม่ใช่ความผิดของพี่คิว ในขณะนั้นผมเพียงแค่บังเอิญหันไปเห็นพอดีว่ามีรถผ่าไฟแดงพุ่งตรงมาที่คันของเรา เหตุการณ์กระชั้นชิดมากจนถึงแม้ว่าถ้ารถไม่ติดก็คงจะไม่สามารถหักหลบหรือทำอะไรได้ เมื่อผมเห็นรถยนต์คันดังกล่าวพุ่งตรงมาด้วยความเร็วและผมก็ทราบในทันทีเลยว่าตนเองจะต้องโดนชนอย่างแน่นอน ที่ผมเรียกพี่คิวในตอนนั้นก็เพียงเพราะอยากให้พี่เขามีสติรับรู้เช่นเดียวกันกับผมเท่านั้น เมื่อผมฟื้นขึ้นมาพี่คิวบอกว่าน่าแปลกที่ผมไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง นั่นสิครับ..ผมเองก็อดแปลกใจไม่ได้ด้วยเหมือนกันเพราะในตอนนั้นประโยคที่ผุดขึ้นมาในสมองคือ..“ตายวันนี้ล่ะมั้ง” ที่จริงแล้วพอนึกไปถึงเหตุการณ์นั้นทีไรก็อดเสียวไม่ได้เหมือนกัน
วันพรุ่งนี้คุณหมอก็อนุญาตให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ทุกอย่างเป็นปกติไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ว่าผมต้องมาตัดไหมกับล้างแผลตรวจร่างกายตามที่หมอนัดอีกครั้งสองครั้งเท่านั้น
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ ปีที่จะถึงนี้ผมก็จะขึ้นปี2 แล้วละครับ ปีปีหนึ่งผมรู้สึกผ่านไปเร็วมาก เรื่องราวที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์เกิดขึ้นมากมาย บางทีผมก็รู้สึกเหมือนกับว่า คนอื่นเขามีเรื่องยุ่งยากมากมายมากกว่าเราอีกเป็นพันเท่าเลยล่ะ
“ใช่ครับ ถ้าคุณทิพย์ได้บัญชีจากสาขาที่อเมริกาเรียบร้อยแล้ว ช่วยส่งให้ผมทันทีเลยนะครับ ผมอยากดูคืนนี้ ส่วนวันจันทร์ผมขอดูรายงานการประชุมครั้งที่แล้วด้วย ช่วยวางไว้บนโต๊ะให้ผมตอนเช้านะครับ..ผมจะเข้าไปแต่เช้า” ผมเหลือบมองคนที่นั่งคุยงานอยู่ตรงโซฟาข้างๆ พี่คิวนั่งคุยงานมาเกือบชั่วโมงแล้ว เดี๋ยวรับโทรศัพท์ เดี๋ยวเช็คอินเตอร์เน็ต เดี๋ยวตรวจเอกสาร ทำสลับอยู่อย่างนี้ซ้ำๆทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์
“หึ..ครับ คงต้องเช้ามาก รบกวนด้วย..ขอบคุณครับ” พี่คิวอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตัดสายไปและนั่งอ่านเอกสารต่อ
“ที่จริง พี่ไปบริษัทก็ได้นะครับ..เดี๋ยวแม่เค้กก็มาแล้ว” ผมพูดขึ้น วันนี้พี่คิวดันไปบอกแม่ผมว่าจะมาเฝ้าให้ แม่ผมก็ไม่ได้รู้หรอกครับว่าพี่คิวงานยุ่งมาก แม่รีบยินดีให้พี่คิวมาเฝ้าในทันทีเพราะแม่จะไปทำบุญกับน้าและตาว เห็นบอกว่าจะกลับมาเฝ้าผมตอนบ่ายๆนะครับ
“หิวรึไงถึงพูดได้น่ะ” อีกฝ่ายย้อนคนละเรื่อง เหมือนต้องการพูดว่าผมในทางอ้อมว่าให้ผมหยุดพูดประมาณนั้นละครับ
“ฮะ หิว” ผมตอบส่งๆเพราะต้องการกวนกลับ
“จะกินอะไร” พี่คิวถามแต่ตายังคงจ้องเอกสารตรงหน้าอยู่ ผมไม่ตอบ ส่วนพี่คิวก็นั่งเงียบไปครู่หนึ่งได้ ผมจ้องมองอีกฝ่ายและก็ต้องนึกถึงเรื่องของพี่ปรายแฟนเก่าของพี่คิวอีกครั้ง หลายวันมานี่ผมนึกถึงเรื่องนี้มาตลอด ก่อนวันที่ผมจะถูกรถชนพี่คิวบอกว่าจะเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟัง ถ้าผมถามพี่เขาก็จะตอบอย่างไม่ปิดปัง แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น พี่คิวก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก ผมเองก็แทบหาจังหวะที่จะเริ่มต้นถามไม่ได้เพราะมันคงจะดูแปลกๆ ที่จริงมันก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสำหรับผมมากมาย แต่ผมก็อยากรับรู้ไว้เท่านั้น ว่าคนที่พี่คิวเคยรักมากเป็นคนอย่างไรและเขาสองคนรักกันมากแค่ไหน
“จ้องฉันทำไม มีอะไรไม่ทราบ” อีกฝ่ายพูดขึ้นอย่างกับมีตาทิพย์เห็นว่าผมจ้องอยู่อย่างนั้น ผมชะงัก พี่คิวเงยหน้าขึ้นมอง
“เปล่า” ผมรีบตอบก่อนจะหันหน้าหนีมาจ้องโทรทัศน์แทน ผมเห็นว่าพี่คิวลุกเดินตรงเข้ามาที่เตียงแต่ผมยังคงนิ่งไม่ไหวติง พี่คิวเท้าแขนลงบนเตียงพร้อมกับจ้องมาที่ผมเขม็ง
“มีอะไรจะพูดรึไง” อีกฝ่ายถามเสียงเรียบเป็นการมาเหมือนต้องการคำตอบจริงจัง ผมส่ายหัวตอบแต่กลับไม่กล้าสบตาพี่คิวตรงๆ
“ตาหลุกหลิกขนาดนั้น..จะทำอะไรก็ช่วยอย่าให้อาการมันสวนทางกันนักสิ” อีกฝ่ายบ่นแกมหัวเราะ ผมหันไปมองค้อนในทันที
“พี่ไปทำงานเลยป่ะ ชอบกวนอยู่ได้” ผมว่าบ้าง พี่คิวยักคิ้วตอบให้อีก
“เมื่อไหร่พวกนั้นจะมา จะลงแดงอยู่แล้ว” พี่เขาบ่นหน้านิ่ว พวกพี่ๆที่ร้านบอกว่าวันนี้จะมาเยี่ยมผมเพราะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะอยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้เป็นวันเสาร์ทุกคนเลยไม่ต้องทำงานที่ร้าน เห็นพี่ซีบอกว่าจะนัดกันมาพร้อมๆกัน ส่วนพี่คิวโทรไปสั่งให้พี่หมีซื้อกาแฟมาให้ แต่นี่ก็เกือบชั่วโมงเข้าไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะโผล่มาเลยละครับ
ผมมองพี่คิวที่หันหลังยืนพิงเตียงให้ผม พี่คิวเหลือบสายตามามองผมนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไป เราต่างฝ่ายต่างเงียบ พี่เขายืนกอดอกอยู่อย่างนั้นอยู่นาน แถมยังไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรอีกต่างหาก
“ไม่เมื่อยรึไงฮะ” ผมพูดขึ้น อีกฝ่ายไม่ตอบ
“เหนื่อยไหมครับ” ผมถามอย่างเป็นห่วง ทั้งทั้งที่ผมอยู่โรงพยาบาลอย่างนี้แต่พี่คิวก็มาเยี่ยมผมเกือบทุกวัน บางวันที่พี่คิวมีงานสำคัญก็จะมาแค่ห้าถึงสิบนาทีก็กลับไป และถึงแม้บางวันจะลางานมาเฝ้าผมได้แต่พี่คิวก็ต้องหอบงานมาทำอยู่ที่นี่ถึงดึกตีสองตีสามทุกครั้งไป
“เหนื่อย” พี่คิวตอบเสียงเรียบและห้วนเหมือนไม่ต้องการขยายความมากกว่านี้
“.................” อยู่ๆในห้องก็เงียบลง ผมเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของพี่คิวไว้ พี่เขาหันมามองเพียงนิดเดียวก็หันกลับไป
“เล่าเรื่อง ของพี่ปราย..ให้เค้กฟังหน่อยได้ไหมครับ” ผมตัดสินใจพูดออกไปอย่างแผ่วเบา พี่คิวหันกลับมาจ้องหน้าผมในทันที เราต่างฝ่ายต่างมองตากันอยู่ครู่หนึ่ง ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีเพราะมันคล้ายกับว่าผมระแวงและไม่เชื่อใจในตัวพี่เขาอย่างนั้นเลยครับ
“ถามมาสิ” อีกฝ่ายพูดบอกเสียงเรียบ..
= = = = = = = =
1 ชั่วโมงผ่านไป..
“มาแล้ว!!” ทั้งผมและพี่คิวสะดุ้ง คล้ายกับเราสองคนเพิ่งหลุดออกจากละครน่าเศร้าเรื่องหนึ่ง พี่ซีและพี่กัสวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางร่าเริงจนผมอดยิ้มไม่ได้ พี่คิวเดินกลับไปที่โซฟาและนั่งลงอย่างเดิม ถ้าจะต้องบอกว่าพวกพี่ๆเข้ามาได้เวลาพอดีก็คงจะอย่างนั้น ที่จริงผมไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วเกี่ยวกับพี่ปราย รักแรก สาเหตุ ความรัก ความเข้าใจ การละเลยบางสิ่งบางอย่าง ความทรมาน การตายหรือแม้กระทั่งการที่พยายามรั้งชีวิตของอีกฝ่ายไว้จนนาทีสุดท้าย ผมควรรู้เท่าที่พอดี บางอย่างเราไม่ต้องรู้มากเกินความจำเป็นก็ได้ มันอาจจะมากเกินจะรับไหว ทั้งต่อตัวผู้ฟังหรือแม้กระทั่งผู้เล่าเอง แน่นอนว่า..คนที่ได้พบเจอเหตุการณ์นั้นๆมักจะได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดมากกว่าอยู่แล้ว
“นี่..ดอกกุหลาบขาวสวยไหม” พี่ซีชูช่อดอกไม้สีขาวมาให้ผม
“ห..ให้เค้กเหรอครับ” ผมถามอย่างตกใจและก็อดดีใจไม่ได้ เกิดมายังไม่เคยได้ช่อดอกไม้สวยๆอย่างนี้เลยสักครั้ง อืม..หรือผมอาจจะได้บ่อยๆตอนเข้าโรงพยาบาลก็ไม่รู้ละนะครับ
“ใช่นะซี่..ชอบไหม” พี่ซียิ้มกว้าง
“ชอบสิครับ เค้กน่ะไม่เคยได้ดอกไม้สวยๆแบบนี้หรอกนะฮะ” ผมยิ้มกว้าง อยากจะกอดดอกไม้เข้ามาไว้แน่นๆแต่ก็กลัวของสวยๆแบบนี้จะช้ำเสียก่อน
“นี่ของพี่กับพี่หมี” พี่กัสยื่นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวโตมาวางไว้บนเตียง
“ขนนิ่มมากเลยครับ” ผมตื่นเต้นอย่างกับเด็กได้ของเล่น บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าการได้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลก็ดีเหมือนกันนะ (^v^)
“พอดีเลย กำลังเมื่อย” อยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นเดินตรงมาพร้อมกับหยิบตุ๊กตาที่พี่กัสให้ผมไป ทุกคนมองเป็นตาเดียวกัน แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจโลกเอาเสียเลย พี่คิวนำตุ๊กตาไปวางไว้ก่อนจะนอนพิงตุ๊กตาอ่านเอกสารต่ออย่างสบายอารมณ์
“พี่ซื้อขนมมาให้” พี่ออฟยิ้มพร้อมกับวางกล่องคุกกี้กล่องใหญ่วางไว้ตรงที่วางของตรงหัวเตียง
“ขอบคุณครับพี่ออฟ” ผมยิ้มกว้าง พี่ออฟเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ
“สุดหล่อมาแล้วจ้า” ผมรู้ในทันทีว่าเป็นเสียงใคร พี่เซ็นเดินยิ้มแป้นแล้นเข้ามาพร้อมกับพี่ฝันและพี่ฟ้า ผมชะงักเล็กน้อยแต่ก็รีบยกมือไหว้ทุกคน
“ทำไมมาช้าละฮะ” พี่กัสถามหน้างอในทันที
“ไปรับฝันมาน่ะสิ” พี่เซ็นตอบ ทุกคนต่างยกมือไหว้พี่ฝัน
“นี่ครับ..ของรับขวัญออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้” พี่เซ็นพูดพร้อมกับถือกระเช้าช็อกโกแลตกระเช้าใหญ่มาให้ ผมรีบยกมือไหว้
“ขอบคุณครับ” ผมบอกและก็ต้องเก็บอาการที่แทบจะคลุ้มคลั่งไว้เบื้องลึก ช็อกโกแลตราคาแพงกระเช้าใหญ่มากอย่างที่ถ้าผมได้เห็นตามห้างสรรพสินค้าผมก็คงจะไม่มีปัญญาซื้อ
“เอ่อ นี่ของพี่กับฝันนะครับเค้ก..พี่สั่งให้เพื่อนฝันซื้อมาจากเบลเยียมสดๆร้อนๆเลยนะเนี่ย” พี่ฟ้ายิ้มตาโตพร้อมกับยื่นกล่องช็อกโกแลตมาให้อีกกล่องหนึ่ง
“ไม่รู้ว่า จะถูกปากรึเปล่านะ” พี่ฝันพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ขอบคุณครับ เค้กชอบทาน..ครับ” ผมยิ้มตอบโดยละคำว่า “กิน” เป็นใช้คำว่า “ทาน” แทนเพราะไม่กล้าพูดคำพูดบ้านๆกับพี่ฝันเท่าไหร่
“อย่ามามุงน้องสิ เดี๋ยวพี่จัดของให้นะ” พี่ฟ้าไล่คนอื่น พร้อมกับกุลีกุจอนำของที่ทุกคนซื้อมาฝากไปจัดไว้ตรงชั้นวางของให้ผม
“เป็นไงบ้างเค้ก โห..ตรงนี้ช้ำกว่าเดิมอีกเนอะ” พี่ซีชี้ไปที่แผลตรงขาของผม
“นั่นนะสิ..ช้ำกว่าเดิมอีก” พี่เซ็นเอื้อมมือไปแตะที่แผลด้วย
เพี้ย !
“อะไรอ่ะซี” พี่เซ็นโวยวาย
“ของเค้ามีเจ้าของ มือไม้เนี่ย..ว่างนักก็ไปหาอะไรที่มีประโยชน์ทำซะไป” พี่ซีว่าตาขวาง
“หึ..หึหึ ฮ่าๆๆ หน้าพี่เซ็นเหวอเลย ชอบอ่ะพี่ซี..เอาอีกๆ ตลกอ่ะ” พี่กัสขำออกมาเสียงดังพร้อมกับปรบมืออย่างชอบใจ ทำให้ทุกคนต่างยิ้มกว้าง
“พี่ผิดอะไรไม่ทราบ เจ้าของมันยังนอนนิ่งเป็นสากกะเบืออยู่เลย” พี่เซ็นเบะปากใส่ก่อนจะเดินไปนั่งเบียดกับพี่คิวที่โซฟา พี่ฝันเดินไปที่โซฟาอีกคนทำให้พี่คิวต้องลุกขึ้นนั่ง พี่คิวและพี่เซ็นนั่งโดยมีพี่ฝันนั่งคั่นกลาง ทั้งสามคนเริ่มคุยกันในโลกส่วนตัวของพี่เขาไป
“นี่เค้ก” พี่ฟ้าเรียก
“ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“เค้กจะให้ของขวัญอะไรคิวเหรอ” พี่ฟ้ายิ้มถามแทบกระซิบ ผมชะงักตาเบิกโพรงด้วยความตกใจ พี่ฟ้าหน้านิ่งไปและรอยยิ้มเริ่มหุบลงเรื่อยๆ
“เอ๊ะ..เค้ก ไม่รู้เหรอ หรือว่ายังหาของขวัญไม่ได้” พี่ฟ้าก้มหน้าลงมาใกล้ผมมากขึ้น ทำให้พี่ซีกับพี่กัสชะโงกหน้าเข้ามาฟังเหมือนต้องการอยากรู้เรื่องราวด้วยอีกคน
“ป..เปล่าฮะ คือ วันเกิดพี่คิว วันไหนเหรอครับ” ผมตกใจ ถามออกไปอย่างตะกุกตะกัก ผมลุ้นกับคำตอบเพราะกลัวว่าจะเป็นวันนี้นะสิครับ
“วันจันทร์ที่จะถึงนี้ไง เค้กไม่รู้หรอกเหรอ” พี่ฟ้ากระซิบถามด้วยความตกใจ
“เค้กลืมเหรอเนี่ย” พี่ซีกับพี่กัสกระซิบอีก ทั้งสองคนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว
“เค้กไม่ได้ลืมครับ แต่เค้กไม่รู้มาก่อนครับว่าวันไหน..คือเค้กลืมถาม เอ่อ ที่จริง..เค้กไม่กล้าถามมากกว่า ส่วนเรื่องส่วนตัวของพี่คิว เค้กก็ไม่ค่อยรู้นี่ฮะ” ผมรีบกระซิบแก้ตัว พยายามกดน้ำเสียงลงเรื่อยๆเพราะกลัวว่าคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาจะได้ยิน แต่พี่คิวคงจะไม่ทันสังเกตเพราะทั้งสามคนกำลังคุยกันอย่างออกรสทีเดียว
“หื้ม ไม่รู้วันเกิดแฟนได้ไง เป็นแฟนกันจริงป่ะเนี่ย” พี่กัสทำหน้างอใส่
“เค้กขอโทษครับ แล้ว..เอ่อ ทำยังไงดีครับ” ผมรีบถามอย่างร้อนรน
“งั้นพรุ่งนี้พี่มารับไหม ออกจากโรงพยาบาลแล้วไปซื้อของพร้อมกัน ไปไหวรึเปล่าครับ” พี่ฟ้าเสนอ
“ได้ครับ” ผมรีบรับปากในทันที โชคดีหน่อยที่พรุ่งนี้พี่คิวไม่ว่าง เห็นว่าต้องเข้าไปดูงานที่โรงแรมและหลังจากนั้นก็ต้องไปธุระกับพี่เซ็นต่ออีก แม่เลยจะมารับผมเพื่อกลับไปเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของที่บ้านของผมเพื่อจะนำไปไว้บ้านของพี่ฟ้า ไม่รู้ว่าพี่ฟ้าไปคุยกับแม่ผมอย่างไรว่าระหว่างที่ผมยังไม่หายดีนี้ขอให้ผมไปอยู่บ้านพี่ฟ้าจนกว่าจะตัดไหมออกและหายดีเป็นปกติ แม่เองก็ตอบตกลงคงเพราะเห็นว่าวันธรรมดาจะไม่มีใครอยู่บ้านเลย ส่วนน้องสาวผมก็ต้องไปเรียนพิเศษทั้งวันอีกด้วย แต่ผมไม่ทราบมาก่อนเลยจริงๆครับว่าวันจันทร์นี้เป็นวันเกิดของพี่คิว ดีนะครับที่พี่ฟ้ามาถามก่อนแบบนี้ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไหนไปมองพี่คิวตรงๆได้แน่
= = = = = = = =
สายของวันอาทิตย์พี่ฟ้ามารับผมที่โรงพยาบาลพร้อมกับทิกเกอร์ โดยมีลุงมีเป็นคนขับรถพาพวกเราไปที่บ้านของผม ผมเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็น ร่ำลาแม่ น้าและตาวก่อนจะออกมา พี่ฟ้าพาผมไปห้างสรรพสินค้า เราทานอาหารกลางวันกันก่อนจะเลือกซื้อของอย่างใจเย็น
“เค้กตั้งใจว่าจะซื้ออะไรให้คิวเหรอ” พี่ฟ้าถามขึ้นระหว่างที่เรากำลังเลือกดูเสื้อผ้ากันอยู่ ที่จริงอย่าใช้คำว่าเราคงจะดีกว่า เสื้อผ้าราคาแพงพวกนี้ผมคงจะไม่มีปัญญาซื้อหรอกครับ ผมเพียงดูมันผ่านๆเป็นเพื่อนพี่ฟ้าก็เท่านั้น
“ยังไม่รู้เลยอ่ะครับ เค้กไม่รู้ล่วงหน้า..ถ้ารู้ก็คงจะทำอะไรให้แทน” ผมตอบ พี่ฟ้าไล่มือไปที่ไม้แขวน ตาก็มองเสื้อผ้าไม่ได้หันมามองหน้าผม
“ที่จริง คิวมันก็ไม่ได้ชอบให้จัดวันเกิดเท่าไหร่หรอก..พี่ก็โดนมันบ่นทุกปีแหละเพราะพี่จัดให้ทุกปี” พี่ฟ้าหันมายิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะหยิบเสื้อขึ้นทาบบนตัวของตัวเอง
“ที่มันหุบปากเงียบก็เพราะมันเห็นว่าไม่สำคัญสำหรับมันละนะ แต่มันสำคัญสำหรับพี่นี่นา..ก็พี่อยากจัด” พี่ฟ้าหัวเราะทีเล่นทีจริง
“พี่ฟ้าชอบปาร์ตี้สินะครับ” ผมแซว
“ทำนองนั้น ฮ่าๆๆ” พี่ฟ้าหัวเราะร่าก่อนจะยื่นเสื้อให้กับพนักงานที่ยืนรอให้บริการอยู่
“เค้กซื้อให้ พี่คิวจะชอบรึเปล่าก็ไม่รู้..หึ” ผมหัวเราะน้อยๆ วันนี้ผมกดเงินจากเงินเก็บออกมาประมาณสามพันบาท ในกระเป๋ามีเงินติดตัวอยู่หนึ่งพันห้าร้อยบาท เป็นเงินที่ไม่ได้ลดหายไปไหนตั้งแต่ได้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้วละครับ ที่กดเงินออกมาเพิ่มก็กดมาเผื่อไว้เฉยๆเพราะถ้าเงินไม่พอผมก็ไม่อยากจะออกปากยืมเงินพี่ฟ้านะครับ
“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ของที่คนสำคัญให้ ก็สำคัญทั้งนั้นแหละ” พี่ฟ้าหันมาลูบหัวผมเล็กน้อย
“ฟ้า..ดีไหมครับ” ทิกเกอร์เดินมาพร้อมกับนำเสื้อขึ้นทาบตัวเองให้พี่ฟ้าดู
“อื้ม..ก็ดี แต่อันนี้ของผม กี้จ่ายให้ด้วยนะ” พี่ฟ้ายิ้มกว้างชี้ไปที่เสื้อของตัวเองที่พนักงานถืออยู่เกือบสิบชุด ผมสังเกตอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่พี่ฟ้าตกลงกลับมาคบกับทิกเกอร์ พี่ฟ้าเลิกแทนตัวเองว่า..ผมกับคุณ แล้วก็ไม่ได้เรียกทิกเกอร์ว่าทิกเกอร์ แต่เรียกกว่า “ทิกกี้” หรือบางครั้งก็เป็น “กี้” สั้นๆอย่างที่เห็นละครับ
“ครับ” ทิกเกอร์ยิ้มตอบ ตอนนี้ทั้งทิกเกอร์และพี่ฟ้าทำตัวอย่างกับเด็ก บางครั้งผมแอบเห็นพี่ฟ้ากับทิกเกอร์จู๋จี๋กันคู่รักหนุ่มสาวนี่ต้องอายไปเลยล่ะ ทั้งสองคนหวานใส่กันจนผมเองยังแอบเขินเองไม่ได้ ตอนที่พี่ฟ้าอยู่กับทิกเกอร์พี่ฟ้ากลายเป็นเด็กไปเลยละครับ
ผมนั่งรอพี่ฟ้าเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่เกือบสิบนาทีเราก็พากันเปลี่ยนร้าน เข้าร้านนู้นออกร้านนี้ กว่าจะถึงร้านขายตุ๊กตาขายของขวัญก็นานเลยล่ะ ผมเดินวนเวียนอยู่ในร้านนั้นอยู่นานมากจนผมรู้สึกเกรงใจพี่ฟ้า เพราะผมตัดสินใจไม่ได้สักที ผมจึงบอกให้พี่ฟ้าออกไปดูของกับทิกเกอร์ต่อ พี่ฟ้าเองก็ตามใจผม ตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้าผมเลือกของเสร็จเมื่อไหร่ให้โทรหา หลังจากนั้นผมก็เดินวนอยู่ในร้านอีกสองสามรอบ เดินมาหยุดอยู่ที่ตุ๊กตาไขลานอยู่นานมากแต่ก็ตัดใจไม่เอาด้วยราคามันดูถูกเกินไป ผมคิดมากเรื่องนู้นเรื่องนี้ว่าอะไรจะไม่เหมาะสม ความคิดมันตีกันจนสับสนไปหมดเลยละครับ
แล้วก็เหมือนโชคชะตา..ผมเดินมาหยุดอยู่ที่กล่องไม้กล่องหนึ่ง เป็นกล่องไม้สีน้ำตาลทรงสูง ด้วยความที่สงสัยและไม่ได้คิดอะไรจึงเปิดมันมันออก กล่องค่อนข้างฝืดและหนักเหมือนกับบอกได้ว่าเป็นงานฝีมือชิ้นดี เมื่อผมเปิดมันออกก็ต้องตกใจปนขำกับภาพตรงหน้า ด้านในของกล่องเป็นรูปแก้วสีเหลี่ยมอยู่บนฐานอีกทีหนึ่ง ด้านในของแก้วเป็นรูปเด็กผู้ชายหน้าตาทะลึ่งผายมือและแลบลิ้นกว้างด้วยท่าทางมีความสุข ผมเอื้อมมือเข้าไปบิดฐานของตัวตุ๊กตานั่นก็พบว่ามีเสียงเพลงบรรเลงด้วย
“มิวสิคบ๊อกเหรอ..ฮึ” ผมหัวเราะด้วยนึกชอบใจกับของชิ้นนี้ ผมหาราคาดูในทันทีเพราะเหมือนตกหลุมรักกับของชิ้นนี้เข้าเต็มเปา ราคาสองพันต้นๆทำให้ผมไม่ต้องคิดมากที่จะหยิบมันไปจ่ายเงินในทันที ผมคิดว่าหลายๆท่านก็คงจะเคยเช่นเดียวกันผม เลือกของนานร่วมวันร่วมเดือนก็ไม่สามารถเลือกได้สักทีถ้าไม่เจอของชิ้นที่ถูกใจจริงๆ
"ห่อพิเศษไหมครับ” พนักงานขายถามด้วยหน้าตาเบื่อโลก
“ครับ..ห่อพิเศษ” ผมรีบพยักหน้าและยิ้มกว้างตอบให้ และพยายามคิดในแง่ดีว่าที่พี่เขาเป็นอย่างนี้อาจคงเพราะกำลังปวดท้องอยู่ก็เป็นได้
“งั้นเชิญเลือกกระดาษห่อของขวัญกับริบบิ้นได้เลยครับ” เขายิ้มกลับให้เล็กน้อย ผมพยักหน้าก่อนที่จะวางการ์ดวันเกิดให้พนักงานคิดเงินด้วย ผมเลือกกระดาษห่อของขวัญอยู่ไม่นานเท่าไหร่ก็เลือกได้ ระหว่างที่รอจ่ายเงินและรอของ ผมก็โทรหาพี่ฟ้าบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
= = = = = = =
-
วันจันทร์ 7 พฤษภาคม ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
วันนี้พี่ฟ้าลางานหนึ่งวัน เพื่อมาเตรียมจัดงานวันเกิดให้พี่คิว เป็นงานเล็กๆแบบส่วนตัว ถึงแม้จะเป็นงานเล็กแต่ก็จัดในห้องอาหารใหญ่ของบ้าน เชิญเฉพาะแขกที่สนิทกันเท่านั้น พี่คิวรู้เรื่องนี้ดี พี่ฟ้าบอกว่าไม่ต้องแอบเซอร์ไฟรส์อะไรเพราะพี่คิวรู้อยู่แล้วว่าพี่ฟ้าจะจัดให้ทุกปี วันนี้พี่คิวออกไปทำงานแต่เช้ามืด เห็นบอกว่าจะกลับมาบ่ายๆ วันนี้ผมจึงช่วยพี่ฟ้าเตรียมอาหาร ติดต่อนำของนู่นนี่มาจัด พี่ฟ้าโทรสั่งอาหารนานาชาติจากร้านอาหารชื่อดังบวกกับบอกให้ป้านิดทำเมนูพิเศษเตรียมเพิ่มไว้ด้วย วันนี้พี่ฟ้าบอกว่าทุกคนอาจจะอยู่ถึงดึก เราจึงจัดงานกันในห้องอาหารสำหรับรับแขกห้องใหญ่ที่มีไว้สำหรับต้อนรับแขกเยอะๆโดยเฉพาะเพื่อทุกคนจะได้สะดวกสบาย
“คุณคิวกลับมาแล้วค่ะคุณเค้ก” ป้านิดเดินมาบอก ตอนนี้ผมชินกับการที่ได้รับการเรียกอย่างให้เกียรติจากคนรับใช้ที่นี่ว่า “คุณ” เสียแล้วเพราะถึงผมจะบอกว่าอย่างเรียกอย่างนี้เลยแต่ทุกคนก็คงจะยังเรียกอยู่ดี
ก่อนออกจากบ้านวันนี้เห็นพี่คิวบอกว่าหลังเลิกงานจะไปหาคุณแม่ของพี่คิวก่อนที่จะกลับมา สงสัยคงไปหามาเรียบร้อยแล้วถึงได้กลับบ้านช้ากว่าเวลาที่บอกผมไว้
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบให้เธอก่อนจะวางมือลงจากการเตรียมอาหารและเดินออกมาจากห้องครัว ผมเดินอย่างช้าๆไปที่ห้องหนังสือเพราะยังรู้สึกเจ็บขาอยู่ พี่คิวยืนอยู่ที่นั่นก่อนจะหันมาเห็นผมพอดี
“วุ่นวายเลยสินะ” พี่คิวพูดเหมือนรู้ว่าคนในบ้านกำลังจัดแจงทำนู่นนี่กันให้วุ่นไปหมด
“ไม่หรอกครับ” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปหา พี่คิวถอดสูทออกช้าๆ ผมเดินเข้าไปรับมาถือไว้
“แล้วตัวปัญหาไปไหนล่ะ” อีกฝ่ายถามและนั่งลงบนโซฟา
“พี่ฟ้าเหรอครับ..ออกไปรับบัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตที่โรงเรียนน่ะครับ เห็นว่าวันนี้น้องจะมานอนด้วย” ผมตอบ ก่อนออกไปพี่ฟ้าได้สั่งผมไว้ทุกอย่างแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง และถ้าพี่คิวถามอะไรต้องตอบว่าอย่างไร ผมรู้สึกว่าตัวเองคล้ายกับหัวหน้าพ่อบ้านอย่างไรอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจอะไรหรอกนะครับ ปกติแล้วผมเป็นคนที่ชอบทำงานบ้านและงานบริการเพราะผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้ดีที่สุด
“น้ำค่ะคุณ” น้าเพียงเดินนำน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้ก่อนจะเดินออกไป พี่คิวปลดเนคไทออกก่อนจะถอนหายใจแรง พี่เขาหยิบน้ำขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว
“นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนคิดให้สูทมีเนคไท” พี่คิวพูดขึ้นตาลอยไปอีกทาง ผมยืนงง
“ฉันจะได้ตามไปฆ่ามัน” พี่เขาพูดแกมบ่น ผมถึงกับหัวเราะ
“หึ..พี่จะอาบน้ำไหมครับ” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“อืม” พี่คิวพยักหน้าตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
“เหนื่อยเหรอครับ ปวดหัวรึเปล่า” ผมนั่งลงข้างๆ พี่คิวหันหน้ากลับมาจ้องหน้าผม
“เปล่า..แต่” พี่คิวตอบพร้อมกับทิ้งเสียงลง
“ช่วยไปหยิบดาร์กช็อกโกแล็ตมาให้หน่อยสิ” พี่เขาพูดขึ้นเสียงเอื่อย ผมพยักหน้าและรีบเดินเข้าครัวสำหรับทำเค้กของพี่คิวก่อนจะหยิบดาร์กช็อกโกแล็ตชิ้นหนึ่งที่ถูกแกะห่อแล้วนำออกมาให้ พี่คิวรับไปถือไว้
“นี่..ถอดเสื้อผ้าให้หน่อยสิ” อีกฝ่ายพูดขึ้นหน้าตาย
“มีมือก็ ถอดเองสิครับ” ผมขึ้นเสียงแข็งอย่างลืมตัว
“หึ..” พี่คิวแสยะหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงคล้ายกับจะนอนอย่างนั้น
“จะแช่น้ำอุ่นรึเปล่าฮะ เดี๋ยวเค้กไปเตรียมให้” ผมถาม พี่คิวไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน ผมขึ้นมาเตรียมน้ำและเตรียมเสื้อผ้าให้พี่คิว ก่อนจะนำสูทมาแขวนไว้สำหรับเตรียมทำความสะอาดด้วย พี่คิวมีชุดสูทนับร้อยชุดซึ่งผมไม่เคยย่างกรายเข้าไปแตะต้องมันโดยเฉพาะชั้นเก็บนาฬิกา หน้าที่ในการทำความสะอาดของพวกนี้ก็เช่นเดียวกัน คนที่ดูแลงานนี้จึงเป็นป้านิดที่รู้วิธีในการจัดการเพียงคนเดียว
ไม่นานพี่คิวก็ขึ้นมาอาบน้ำ ผมไม่อยู่รอเพราะพี่คิวเป็นคนอาบน้ำนานและพี่เขานำดาร์กช็อกโกแล็ตเข้าไปในห้องน้ำด้วยแบบนี้คงแช่ตัวนานกว่าเดิมเป็นแน่ ผมลงมาจัดการเตรียมอาหารต่อ ประมาณเกือบสองชั่วโมงพี่ฟ้าก็กลับมาถึง
“คิว..คิวววว” ทุกคนในครัวตกใจที่ได้ยินเสียงพี่ฟ้าเรียกเสียงดังลั่นบ้านอย่างนั้น
“ไอ้คิว!” พวกเราต่างมองหน้ากันเพราะเสียงของพี่ฟ้าดังมากขึ้นกว่าเก่า
“เดี๋ยวไงเค้กไปดูก่อนนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมยิ้มแหย พวกป้าๆยิ้มและพยักหน้าตอบ ผมเดินออกจากห้องครัวตรงไปตามเสียงก็พบพี่ฟ้าและพี่คิวอยู่ในห้องหนังสือ
“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ” พี่ฟ้าโวยวายก่อนจะหันกลับมามองหน้าผมและยิ้มให้ ผมชะงักยืนอยู่หน้าประตู เจ้าของชื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะอย่างไม่สนใจคนอื่นอีกตามเคย
“น้าคิว..อาขอ” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ทำเสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นมาจนผมปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
“อ๋อ สรุปว่าที่บอกให้อาปูนไปหาซื้อไวน์จากฝรั่งเศสมาให้ก็เพราะเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม” พี่คิวพูดเสียงเรียบแต่สายตากลับจ้องหน้าพี่ฟ้าเขม็ง
“ก็..เอ่อ ก็ด้วย” พี่ฟ้าตอบตะกุกตะกัก
“หึ คุณนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆนะ” พี่คิวแสยะหัวเราะก่อนจะหันหน้าหนี
“นะคิว..เดินแบบให้อาหน่อยนะ เซ็นกับฝันก็ตกลงแล้วด้วย แค่นี้เอง..แค่เดินไปเดินกลับเอง หน้าคิวอ่ะไม่ต้องทำอะไรเลย..เป็นอย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ ได้อยู่แล้ว..นะๆ” พี่ฟ้าเข้าไปเขย่าตัวพี่คิวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแต่ผมกลับหลุดขำเพราะเมื่อกี้เหมือนพี่ฟ้าต้องการพูดประชดประชัดเกี่ยวกับหน้าตาที่ชอบทำหน้างออยู่ตลอดเวลาของพี่คิวเลยอ่ะครับ
“ไม่! อะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นน่ะ ผมไม่ทำให้เปลืองตัวหรอกนะ” พี่คิวตอบเสียงแข็งก่อนจะสลัดแขนหนี
“งั้น..งั้น จะเอาอะไรล่ะ ค่าตัวแค่นี้ไม่พอรึไง อาให้มากกว่านายแบบอาชีพไม่ได้หรอกจะ จะบ้ารึไง” พี่ฟ้าโวยวายหน้าเครียด
“ผมก็ไม่ได้เรียกร้องนี่ว่าจะเอาค่าตัวเพิ่ม” พี่คิวหัวเราะทันที พี่ฟ้าชะงักไป
“ผมฆ่าคุณแล้วขายบ้านที่คุณยกให้น่ะ รวยเร็วกว่าเยอะเลย” พี่คิวยักคิ้วยิ้มๆ
“ไอ้..อ้าย” พี่ฟ้ากัดฟัน ยืนเท้าเอวก่อนจะเงยหน้าขึ้นเหมือนระงับสติอารมณ์ตัวเอง ผมมองว่าพี่ฟ้าจะทำอย่างไรต่อ พี่ฟ้าหันตัวกลับมาโดยหันหลังให้พี่คิวก่อนที่พี่เขาจะหลับตาลงและผายมือออกเหมือนต้องการใช้พลังงานขั้นสูงที่มี
“ผมบอกว่าผมไม่เดิน ก็คือไม่..เหตุผลมีแค่นั้น” พี่คิวพูดขึ้นเสียงเรียบ
“นี่จะไม่เห็นใจกันบ้างเลยใช่ไหม” พี่ฟ้าหันกลับไปว่าด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“คุณว่าไหมว่าคำว่าเห็นใจน่ะถูกใช้พร่ำเพรื่อ มันปัญญาอ่อน..ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อ้างถึงความอกเห็นใจ ไร้สาระว่ะ” พี่คิวจ้องหน้าพี่ฟ้าเขม็ง
“แต่...ผมก็เห็นใจคุณน่ะนะ แต่ก็ทำให้ไม่ได้” พี่คิวตอบเสียงเรียบแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้ม
“งั้นจะให้อาทำยังไงล่ะ..งานนี้ไม่มีคิวไม่ได้นะ” พี่ฟ้าบอก
“ผมอยากเดินกับ Gal Gadot กับ Portman เออ..Cheryl ก็ดีนะ คุณทำให้ได้ไหมล่ะ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง ผมได้แต่ยืนสงสัยว่าชื่อที่พี่คิวพูดนั่นพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่
“ไอ้บ้า ของอย่างนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า!” พี่ฟ้าว่ากลับเสียงดัง
“นั่นสิ..มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ผมเองก็ด้วย คุณว่าไหม” พี่คิวย้อนพร้อมกับยักคิ้วกวนให้
“โห..นี่แกกล้าเอาตัวเองไปเทียบกับ Gal กับ Natalie เหรอ..ช่างหลงตัวเองเหลือเกินนะ” พี่ฟ้าแสยะปากและทำหน้าตาอย่างดูถูก
“ก็ไม่ได้หลงตัวเองเท่าไหร่ แต่ใครกันนะที่กำลังยืนง้ออ้อนวอนผมอยู่น่ะ” พี่คิวเบะปากด้วยท่าทางหยิ่งทะนงก่อนจะหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ ผมเห็นพี่ฟ้ากัดฟันเข้าหากันก่อนจะเดินหนีออกมาอย่างกระฟัดกระเฟียด พี่ฟ้าหันมาจ้องหน้าผมหน้างอ ผมยิ้มแหยอย่างให้กำลังใจ
“เค้กว่า เค้กไปเตรียมอาหารต่อดีกว่านะครับ” ผมบอก มือไม้ชี้มั่วไปหมดก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวออกมา
“เดี๋ยวเค้ก” อยู่ๆพี่ฟ้าก็เข้ามาดึงแขนผมไว้ ผมหันกลับไปด้วยความตกใจ
“เค้ก..เออ คือ..เค้กช่วยพี่ขอคิวมันหน่อยนะเค้กนะ คิวมันต้องฟังเค้กแน่ๆเลย” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“เนี่ย..วันงานก็ใกล้เข้ามาแล้ว ทางพี่เองก็ต้องรีบออกแบบเสื้อผ้าให้เหมาะกับหุ่นคิว ถ้าคิวยังไม่ยอมอยู่อย่างนี้พี่งานเข้าแน่ๆ”
“เอ่อ ไม่ดีหรอกครับ เค้ก..พี่คิวไม่ฟังเค้กหรอก” ผมบอก ขนาดวันที่ถูกรถชนวันนั้น ผมพูดเรื่องพี่ฝันพี่คิวยังไม่ฟังเลย ผมเองก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะครับ พี่เขาเองก็มีเหตุผลของเขา ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเองกันทั้งนั้น ผมจึงไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายให้มากเรื่อง
“น้า ลองก่อนก็ได้ เค้กลองพูดให้พี่หน่อยนะครับ เค้กไม่สงสารพี่เหรอ..พี่จะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย” พี่ฟ้าพูดพร้อมกับเขย่าแขนผมอย่างขอร้องอีกด้วย
“แต่ว่า..” ผมอ้ำอึ้งด้วยความลำบากใจ
“นะครับเค้ก ไปเลยครับ” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ตัดบทขึ้นมาพร้อมกับออกแรงผลักผมให้เดินกลับเข้าไปในห้องอีกด้วย เมื่อขาก้าวเข้ามาถึงในห้อง ผมรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย พี่ฟ้ายืนแอบอยู่ตรงปากประตูห้องพร้อมกับโบกมือและยิ้มเป็นกำลังใจให้ผม ผมเดินเข้าไปหาพี่คิวที่โต๊ะอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ อีกฝ่ายยังคงนั่งอ่านหนังสือโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผมเลยทั้งที่ก็คงรู้ว่ามีคนเดินเข้ามา
“พี่..พี่คิวฮะ” ผมเรียกเสียงเบาด้วยรู้สึกเกรงเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองอีก
“พี่ครับ” ผมย้ำเสียงให้หนักแน่นมากขึ้นกว่าเดิม
“มีอะไร” พี่คิวเงยหน้าขึ้นมอง ถึงน้ำเสียงจะราบเรียบแต่สายตาดุดันที่ส่งมาแทบทำให้ผมอยากจะมุดลงไปใต้โต๊ะซะเดี๋ยวนี้
“คือเค้กมีเรื่องจะพูดด้วยนะครับ” ผมยิ้มสู้
“ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ..” พี่คิวกระแอมเสียงก่อนจะพูด พี่เขาหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบก่อนจะวางมันลงอย่างใจเย็นและเหลือบมามองหน้าผมอีกครั้ง ผมได้แต่รอว่าพี่คิวจะพูดอะไร
“ว่าถ้าจะพูดเรื่องที่อาหื่นนั่นขอละก็ ฉันไม่ขอรับฟัง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้..ก็พูดมา” พี่คิวพูดเสียงเรียบแต่กลับเป็นน้ำเสียงเรียบที่ฟังดูเด็ดขาดอย่างไรอย่างนั้น
“อ่ะ เอ๊ะ..คือ” ผมอ้ำอึ้งด้วยโดนดักทางจนรู้สึกเหมือนตัวเองจนมุม
“เชิญ ฉันจะอ่านหนังสือ” พี่คิวตัดบท ผมลุกจากเก้าอี้อย่างเงียบๆและเดินตัวลีบออกมาจากห้อง
“พี่ฟ้าอ่า..พี่คิวจะกินหัวเค้กอยู่แล้วเห็นไหมครับ” ผมโวยวายบ้าง
“ขอโทษครับ” พี่ฟ้าหน้าแหยลูบหัวผม
“จะทำยังไงละครับ พี่คิวไม่ยอมง่ายๆหรอกฮะ” ผมบอก
“ฟ้าครับ ผมซื้อองุ่นมาให้เต็มเลยครับ” ผมและพี่ฟ้าหันไปเห็นทิกเกอร์เดินยิ้มกว้างเข้ามาพร้อมกับถุงองุ่นถุงใหญ่
“..................” ผมหันกลับมามองหน้าพี่ฟ้าด้วยอยู่ๆเห็นพี่ฟ้าเงียบไป ทิกเกอร์จ้องหน้าพี่ฟ้าอย่างสงสัย
“กี้..” พี่ฟ้าเรียก ทิกเกอร์เลิกคิ้วมองหน้าพี่ฟ้า ผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาเมื่อเห็นรอยยิ้มพี่ฟ้าที่มีเล่ห์นัยเหลือเกิน
“ผมจะยอมลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง” พี่ฟ้ายิ้ม พอพี่ฟ้าพูดจบผมก็เห็นทิกเกอร์ยิ้มกว้างในทันที ผมรู้สึกสงสัยมากว่าทิกเกอร์ไปทำอะไรผิดไว้ ทั้งทั้งที่ก็เห็นว่าพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ก็ดูรักกันดีไม่มีอะไรผิดปกติเลย
“จากสองเดือนลดเหลือหนึ่งเดือน หลังจากนี้หนึ่งเดือนคุณจะมานอนบ้านผมได้” พี่ฟ้ากอดอกเข้าหากัน
“จริงนะครับ” ทิกเกอร์อุทานด้วยความดีใจ
“แต่!” พี่ฟ้ากระแทกเสียง
“ครับ” ทิกเกอร์ชะงัก หุบยิ้มลงเรื่อยๆ
“คุณทำยังไงก็ได้ ให้คิวยอมเดินแบบให้ผมในงานแฟชั่นโชว์ปลายปีนี้..คุณก็น่าจะรู้ว่าคิวเป็นคนยังไง ทำยังไงก็ได้ให้ยอม..ทุกอย่าง” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง
“ถ้าผมทำได้ ผมจะมานอนที่นี่ ได้เลยใช่ไหม..ห้องเดียวกับฟ้านะครับ” ทิกเกอร์พูด น้ำเสียงที่พูดไม่ค่อยชัดกลับดูมีเสน่ห์เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามพูดอยู่อย่างเต็มที่
“อื้อ แต่อยู่ในกรณีที่คุณไม่ได้ทำให้ผมโกรธอีกอะนะ” พี่ฟ้าบอกหน้าเข้ม
“ครับ” ทิกเกอร์รีบรับปากทันที
“งั้นรีบจัดการซะ เพราะผมต้องการคำตอบ..เดี๋ยวนี้!” พี่ฟ้าสั่งและชี้เข้าไปในห้องเป็นการส่งสัญญาณ
“อ่ะ มาครับ เดี๋ยวผมช่วยถือ” ผมรับถุงองุ่นจากทิกเกอร์มาถือไว้ ด้วยตัวเองก็รู้สึกลุ้นว่าทิกเกอร์จะทำอย่างไรให้พี่คิวตกลง ผมชักเริ่มรู้สึกแปลกๆเหมือนที่พี่ฟ้ารู้สึกแล้วละมั้งครับ การที่ทำให้พี่คิวพ่ายแพ้ได้ก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่ง ซึ่งต้องมีความคิดสร้างสรรค์และลูกล่อลูกชนมากพอสมควรทีเดียว
ทิกเกอร์เดินตรงไปหาพี่คิวอย่างเงียบๆ ผมว่าพี่คิว พี่ฟ้า พี่เซ็นเป็นผู้ชายที่ดูดีแล้ว แต่ทิกเกอร์ยิ่งกว่านั้นอีก ที่จริงเขาก็ไม่ได้หน้าตาหล่อเหลาอะไรมากมาย เอ่อ..สำหรับผมคิดว่าเขาไม่ได้หล่อกว่าพี่คิว แต่ลักษณะท่าทางการวางตัวของเขาดูผู้ดีมาก การเดินและรูปร่างของเขาดูดีสง่างามไปเสียหมดอย่างไม่มีที่ติเลยละครับ
“ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ทิกเกอร์พูด พี่คิวเงยหน้าขึ้นมองนิดเดียวก่อนจะพยักหน้าตอบ ทิกเกอร์เลื่อนเก้าอี้ก่อนจะนั่งลง ผมกับพี่ฟ้ายืนแอบรอฟังอยู่ที่หน้าประตูอย่างกันโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น (-_-)
“ผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ” ทิกเกอร์บอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ขอบคุณ” พี่คิวตอบหน้านิ่งเช่นเดียวกัน เขาทั้งสองอย่างกับไม่ใช่คนในครอบครัวคุยกัน แต่คล้ายกับนักธุรกิจกำลังต่อรองอะไรกันอยู่ เป็นครอบครัวที่ต่อสู้กันทางสติปัญญามากเกินไปจนผมรู้สึกขยาดกับครอบครัวนี้ไม่ได้
“ผมอยากให้คุณช่วยเดินแฟชั่นโชว์ในงานของฟ้าให้หน่อย” ทิกเกอร์พูดตรงประเด็นในทันที
“แล้วผมจะได้อะไร” พี่คิวย้อนพร้อมปิดหนังสือในมือลงก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะและขยับมันให้ตรงเสมอกับแก้วกาแฟ
“แล้วคุณอยากได้อะไร” ทิกเกอร์ย้อนถาม
“ไม่มี” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหน้าตาย
“ไม่น่ารอดนะครับ” ผมพูดเดาสถานการณ์
“เค้กครับ” พี่ฟ้าปรามหน้างอทำให้ผมต้องหลุดขำออกมา
“งั้นผมขอยื่นข้อเสนอให้คุณได้ไหม” ทิกเกอร์ยิ้มเล็กน้อย
“ก็ถ้าคิดว่าไม่ถูกใจผม..ก็อย่าเสนอเลยดีกว่านะ” พี่คิวอมยิ้มกลับให้เหมือนต้องการลองเชิง
“หึ..” ทิกเกอร์หัวเราะให้บ้างก่อนจะวางมือกุมเข้าหากันลงบนโต๊ะ อยู่ๆทุกอย่างก็เงียบสงบลงไปชั่วขณะ ทั้งบ้านเงียบไร้เสียงรบกวนใดๆ ทั้งทิกเกอร์และพี่คิวต่างนั่งจ้องหน้ากันเขม็ง
“ตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคราสไปกลับฝรั่งเศส สายการบินแล้วแต่คุณจะพอใจเลือก ห้องพัก The Imperial Suite..ของ Park Hyatt Vendome กี่คืนก็ได้..แล้วแต่คุณ” ทิกเกอร์พูดขึ้น พี่คิวยังคงนั่งนิ่งจ้องหน้าทิกเกอร์เขม็ง ผมได้ยินเสียงอุทานจากพี่ฟ้าเบาๆ
“รถเฟอร์รารี่คันโปรดของคุณปู่ผม..ที่คุณชอบ จะจอดรอคุณอยู่ที่โรงแรม ในระหว่างที่คุณอยู่ที่นั่น คุณสามารถใช้มันได้ตามสบาย”
“หึ ฉลาดหนิ” พี่คิวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเหสายตามองไปที่สวนด้านนอก
“แล้วไงต่อ..” พี่คิวเลิกคิ้วหันกลับมามองหน้าทิกเกอร์เหมือนบอกเป็นนัยว่าพี่เขายังไม่เพียงพอต่อสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเสนอ
“Horse racing ที่นั่งวีไอพี..ของการแข่งขันที่จะถึงกลางปีนี่ก็ด้วย ถ้าคุณต้องการ” ทิกเกอร์บอก พี่คิวเงียบไปสักพักก่อนจะอมยิ้มออกมา
“ไม่นะกี้ จะบ้ารึไง!” พี่ฟ้าว่าขึ้นเสียงดังพร้อมกับเดินจ้ำเข้าไปในห้อง
“นั่นมันตั้งกี่ล้าน ผมไม่ให้คุณเสียเงินหลายล้านกับเรื่องแค่นี้หรอกนะ” พี่ฟ้าว่าให้ ผมรีบเข้าไปจับแขนพี่ฟ้าอย่างห้ามปราม
“โอ๊ะ เรื่องแค่นี้” พี่คิวยิ้มอย่างชอบใจ
“ถ้าต้องเสียเงินหลายล้านขนาดนี้ ผมไปจ้างนายแบบดังระดับโลกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ไม่ดีกว่ารึไง”
“นั่นน่ะสิ..งั้นก็ทำอย่างที่พูดสิคุณอา” พี่คิวกวนไม่เลิก
“ฟ้าครับ ก็คุณบอกว่าให้ผมจัดการยังไงก็ได้” ทิกเกอร์ลุกขึ้นปรามพี่ฟ้าด้วยสีหน้าร้อนรน
“แล้วนี่ก็ไม่ใช่แค่ทำเพื่อคุณหรือเพื่อคิว แต่ก็เพราะเพื่อผมด้วย” ทิกเกอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“แต่ คิว..มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” พี่ฟ้าว่าให้พี่คิวอีกครั้ง
“ผมจะบอกอะไรให้คุณฟังนะ” อยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นยืนด้วยหน้าตาถมึงทึง ผมกับพี่ฟ้าชะงักในทันที
“ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นใจคุณ..แต่ผมไม่ชอบ อ๋อ..ไม่ใช่สิ มันมากกว่าคำว่าไม่ชอบ..ดังนั้น มันก็ไม่แปลกถ้าสิ่งของที่จะมาต่อรองกับผมต้องมีค่ามากพอ มีมากพอที่ผมจะยอมสูญเสียตัวตน เสียความเป็นส่วนตัวของผม เสียเวลาของผมที่จะต้องไปเจอใครหน้าไหนที่ผมไม่ต้องการ หึ คุณพูดเหมือนคุณไม่รู้จักผม..” พี่คิวขมวดคิ้ว พี่ฟ้ายืนนิ่ง
“ขอโทษด้วยแล้วกันนะถ้ามันจะมากเกินไปจนคุณรู้สึกรับไม่ได้ไปสักหน่อย” พี่คิวว่าพร้อมกับหันหน้าหนี ผมไม่รู้ว่าพี่ฟ้าอึ้งไหมแต่ตอนนี้ผมกำลังอึ้ง
“โอเค ผมจะให้ตามที่คุณบอกเมื่อกี้..คุณพร้อมไปเมื่อไหร่ก็บอกผมได้เลย แต่คุณต้องรับปากผมก่อน ว่าคุณจะเดินแฟชั่นโชว์ให้” ทิกเกอร์รีบตัดบทคงเพราะเห็นว่าต่างฝ่ายต่างเริ่มครุกรุ่นเต็มที่แล้ว
“ได้” พี่คิวยักไหล่ตอบส่งๆ
“ห้ามหงุดหงิด ห้ามเรื่องมาก ห้ามหนีงาน ให้ใส่ชุดไหนต้องใส่ โกนหนวดด้วย สั่งให้ทำอะไรเกี่ยวกับงานนี้ต้องทำไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ที่สำคัญ..อย่ากวนตีน” พี่ฟ้าพูดเสียงแข็ง
“ตามนั้น..แต่ในงาน เค้กต้องคอยเป็นคนดูแลผม จบ” พี่คิวสรุป
“อ่ะ..ผม ไปเกี่ยว อะ..” ผมอ้าปากกำลังจะพูดค้านในที่ประชุมนี้บ้าง
“ได้!” พี่ฟ้ากระแทกเสียง
“อ่อ เดี๋ยวก่อนครับคุณอา..มีอีกเรื่องนึง” พี่คิวเรียกไว้เมื่อเห็นพี่ฟ้าทำท่าจะเดินไป
“เรื่องค่าตัวน่ะ ผมขอรับด้วยนะ..ที่ทิกเกอร์เสนอเมื่อกี้กับค่าตัวมันคนละเรื่องกัน”
“เออ ไอ้..ไอ้เวร!” พี่ฟ้ากระแทกว่าเสียงดังลั่น
“อ่อ เดี๋ยวๆๆ..” อยู่ๆพี่ฟ้าก็หันกลับมายืนเท้าเอวเหมือนนึกอะไรออก
“งั้นอาจะไปด้วย เฮอะ..ฉันไม่ให้แกนอนเสวยสุขคนเดียวหรอกย่ะ ลืมอะไรแบบนั้นไปได้เลย หึหึ..ฮ่าๆ โฮะๆๆๆ ฉันเป็นเจ้าโลก..กร๊าก ฉันรักตัวเอง!” พี่ฟ้าแสยะหัวเราะร่า กระแทกเสียงพูดพร้อมกับผายแขนออกกว้างอย่างกับนางมารร้ายก็ไม่ปานก่อนจะเดินออกไป
“ไอ้..อานี่” พี่คิวกัดฟันอย่างเหลืออด
“คุ้มไหมวะเนี้ย” พี่คิวบ่นเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“ก็พอกันนั่นแหละครับ” ผมส่ายหัวบ่นก่อนจะเดินหนีออกมา เฮ้อ..ให้ตาย
= = = = = = = =
19:30 น. ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ตอนนี้แขกทุกคนมาครบหมดแล้ว มีเพื่อนพี่คิว เพื่อนพี่ฟ้า พวกพี่ๆในร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ น้องเชอร์เบ็ตกับน้องบัตเตอร์ที่ติดพี่คิวกับพี่ฟ้าแจ ผมช่วยป้านิดจัดอาหารบ้างแต่ป้านิดไม่ยอมให้ผมช่วยเยอะมากนักเพราะโดนคำสั่งจากพี่ฟ้าเนื่องจากแผลของผมยังไม่หายดี
ระหว่างในห้องอาหารห้องใหญ่นี้ เป็นห้องสำหรับรับรองแขกหลายคนโดยเฉพาะ โต๊ะอาหารตัวยาวตกแต่งไปด้วยดอกไม้และด้านข้างของห้องมีวางอาหารบุปเฟ่ต์ที่ทุกคนสามารถมาตักอาหารทานได้ตามสะดวก อาหารมีมากพอสำหรับต้อนรับแขกทุกคนหรือบางทีอาจจะมากจนเกินไปด้วยซ้ำ เค้กวันเกิดของพี่คิวพี่เซ็นจะเป็นคนทำมาให้ในทุกๆปี ส่วนของขวัญวันเกิดที่ทุกคนนำมาให้พี่คิวได้จัดวางแยกไว้อีกโต๊ะหนึ่ง ผมนึกว่ากองของขวัญใหญ่ขนาดนี้จะมีแค่ในหนังหรือในละครเท่านั้น เพิ่งจะได้มาเห็นจริงๆก็วันนี้เองละครับ และที่ดูจะเรียกสีสันให้กับงานคงจะไม่พ้นของขวัญวันเกิดของพี่เซ็นที่นำมาเพื่อเอาใจเพื่อนสนิทของตน กรอบรูปขนาดใหญ่ประมาณเมตรครึ่งห้ากรอบรูปนำมาวางเรียงกัน แถมพี่เซ็นยังระริกระรี้บอกให้เจ้าของวันเกิดเปิดเดี๋ยวนั้นอีกด้วยทั้งที่พี่คิวพยายามบ่ายเบี่ยงคล้ายกับรู้ว่าพี่เซ็นคงนำอะไรน่าอายมาแน่ๆ พวกเราแขกในงานก็อยากรู้ด้วยเหมือนกันจึงส่งเสียงเชียร์จนสุดท้ายพี่คิวก็ยอมแกะของขวัญในที่สุด เมื่อแกะออกมาก็พบว่าเป็นกรอบรูปพวกนั้นเป็นรูปของดารานางแบบชื่อดังระดับฮอลลีวูดที่มีลักษณะการโพสท่าที่ค่อนข้างหวือหวาและบนร่างกายของพวกเธอแทบไม่มีอะไรปกปิดเลย จะมองให้เป็นภาพศิลปะก็สามารถมองได้แต่ถ้าจะใช้คำว่า..เกือบโป๊ก็ใช้คำคำนี้ได้เช่นเดียวกัน สองในห้านั้นมีดาราที่ผมรู้จักดีและผมเองก็ชอบเธอจึงจำได้ดีแม้ว่าเธอจะเกือบเปลือยก็ตาม อีกสองคนผมเคยได้เห็นผลงานของพวกเธอมาบ้างแต่หนึ่งในนั้นผมไม่ทราบว่าเธอเป็นใคร เรียกได้ว่าห้ารูปจากห้าดาราสาวชื่อดังนั่น ผมเดาเอาว่าคงจะเป็นคนโปรดของพี่คิวเพราะพี่เขากระหยิ่มยิ้มด้วยความพอใจอยู่ตลอดเวลาและถึงแม้ว่าบางคนจะแซวว่าภาพออกแนวลามกมากไปหน่อยเพราะภาพถูกขยายใหญ่และมีเสื้อผ้าคลุมร่างพวกเธออยู่น้อยชิ้น แต่ดูเหมือนเจ้าของของขวัญจะไม่สะทกสะท้านใดๆเลย โดยเฉพาะพี่เซ็นที่พี่เขาดูจะเป็นปลื้มกับสิ่งที่นำเสนอให้เพื่อนตนเสียเหลือเกิน..ผมกับพี่กัสละเพลีย (~_~)
-
พวกรุ่นใหญ่อย่างเพื่อนของพี่ฟ้ากับเพื่อนของพี่คิวนั่งรับทานอาหารกันที่โต๊ะอาหารใหญ่ ส่วนพวกผมจะมานั่งเล่นเกมและพูดคุยกันที่โซฟาซะส่วนมาก เพราะเนื่องจากบนโต๊ะอาหารดูเป็นทางการเกินไป แถมคุยแต่เรื่องอะไรที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครสักคนบนโต๊ะพูดภาษาไทยเลยและไหนจะภาษาต่างด้าวที่ผมฟังไม่ออกอีกว่าเป็นภาษาจากชาติไหนเยอะแยะไปหมด แต่ดูพวกพี่เขาจะมีความสุขกันดีเหลือเกินครับดังนั้นผมไม่ควรที่จะเอาตัวเข้าไปอยู่ในวงโคจรอย่างนั้นด้วยเพราะผมเองก็จะได้มีความสุขอย่างพวกพี่เขาด้วยน่ะนะ
“พี่เค้กเล่นเปียโนเป็นรึเปล่าคะ” น้องเชอร์เบ็ตที่นั่งเล่นตุ๊กตากับผมอยู่ถามขึ้น พี่คิวไล่ให้เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์มาอยู่กับกลุ่มพวกผมแทนเพราะตรงนั้นมีแต่เหล้า บุหรี่และกลิ่นซิการ์ น้องเชอร์เบ็ตเล่นกับคนทั่วไปได้หมดยกเว้นบัตเตอร์ที่เอาแต่นั่งเงียบเล่นเกมอยู่กับพี่ออฟและพี่หมี ผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปเล่นกับบัตเตอร์มากนักเพราะน้องเขาไม่เอาใครเลยอ่ะครับ ถามคำตอบคำ ดังนั้น..พวกเราควรอยู่ห่างๆไว้จะดีที่สุด
“เล่นไม่เป็นหรอกครับ” ผมยิ้มตอบ
“งั้น..พี่เค้กเล่นดนตรีอะไรเป็น” น้องเชอร์เบ็ตยิ้มถามอย่างมีความหวัง
“หึ..ไม่เป็นสักอย่างเลยครับ” ผมยิ้มเขิน ที่จริงอยากจะตอบไปว่า “เป่าขลุ่ยเป็น” แต่เกรงใจน้องอะนะ ถึงผมจะภูมิใจในการที่ผมเป่าขลุ่ยเป็นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะมาภูมิใจอย่างผมเมื่อไหร่
“เอ๋ อ่อ..ค่ะ” เชอร์เบ็ตชะงักเหมือนสงสัยอะไรสักอย่างแต่ก็ยิ้มให้ผมหลังจากนั้น
“แล้วเชอร์เบ็ตเล่นอะไรเป็นบ้างครับ” ผมถามกลับบ้าง
“เปียโนกับฮาร์ฟค่ะ ที่บ้าน..ทุกคนจะต้องเล่นเปียโนเป็น” น้องรีบตอบทันที น้องเชอร์เบ็ตเป็นเด็กช่างคุยมาก ตั้งแต่มานั่งกับพวกผมก็ชวนพวกเราคุยไม่หยุดเลย
“เหรอครับ เก่งจังเลยน้า” ผมลูบหัวน้องเบาๆ
“เชอร์เบ็ตอ่ะเต้นเป็นด้วย เชอร์เบ็ตชอบเต้นบัลเล่ย์..แต่ว่า เอ่อ แต่ว่าก็ชอบเต้นลีลาศด้วย บัตเตอร์เป็นคู่เต้นลีลาศกับเชอร์เบ็ตแหละ” น้องพูดเหมือนต้องการบอกอวด ต้องการชวนคุยให้มากขึ้นไปอีก เชอร์เบ็ตขยับเข้ามาใกล้ผมจนทำให้ผมอดลูบแก้มน้องอย่างเบามือไม่ได้
“แต่บัตเตอร์ไม่ชอบเต้น” น้องบอกเสียงเบาลง ผมได้แต่อมยิ้ม
“แล้วเชอร์เบ็ตชอบทานเค้กรึเปล่า” ผมถามเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นน้องทำหน้าเศร้า
“ชอบค่ะ เค้กของพี่คิวชอบที่สุด” น้องยิ้มกว้างกว่าเดิม
“นั่นสินะ..เหมือนกันเลย” ผมหัวเราะ
“เนอะ” เราสองคนประสานเสียงกัน
“อ่ะแฮ่ม” ผมสะดุ้ง อยู่ๆพี่กัสนำหน้ามาใกล้
“ชอบที่สุดเยยหยอ” พี่กัสได้ทีจึงแซวทันที
“แอบฟังคนอื่น มันเสียมารยาทนะครับ” บางทีผมก็อดใช้มุขของพี่คิวเพื่อแก้สถานการณ์บางอย่างบ้างไม่ได้
“ชิ..น้องเชอร์เบ็ตมาเล่นกับพี่มา พี่เหงา” พี่กัสเอื้อมแขนมาจะอุ้มเชอร์เบ็ตไป น้องเชอร์เบ็ตยิ้มกว้างรีบจับมือพี่กัสตอบและปล่อยให้พี่กัสอุ้มไปนั่งตักตัวเอง
“เค้กพี่อยากกินไอ้นี่อีกอ่ะ ไปเอาให้หน่อยสิขี้เกียจเดิน” พี่ออฟหันมาบอกแต่มือยังคงกดเกมไม่หยุด
“พี่ออฟไปเอาเองสิครับ นี่มันไวน์ของพี่คิวนะ” ผมกระซิบบอกอย่างไม่กล้า ไวน์กับเหล้าและเครื่องดื่มอื่นๆที่พี่ฟ้าอนุญาตให้ดื่มได้ตามสบายได้วางไว้ที่เคาร์เตอร์สำหรับทุกคนแล้วซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของดีทั้งนั้น แต่ไวน์แก้วของพี่ออฟที่เพิ่งหมดไปนี้เป็นขวดที่พี่คิวเปิด จะเรียกว่าเปิดไว้ดื่มคนเดียวก็น่าจะประมาณนั้น
“น่า..เค้กไปเอา พี่คิวให้อยู่แล้วแหละ เร็วๆล่ะ” พี่ออฟบ่นก่อนจะหันกลับไปเล่นเกมต่อ ทำไมทุกคนจะต้องพูดเหมือนกับว่า..ผมเป็นทัพหน้าในการเข้าหาพี่คิวและถ้าเป็นผมจะไม่เป็นไรอยู่แล้ว ผมคิดว่านี่เป็นการคิดไปเองทั้งนั้น..พูดอย่างกับไม่รู้จักนิสัยของพี่คิวอย่างนั้นอ่ะ เซ็งเป็ด!
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ดื่มน้ำอะไรธรรมดาๆกันไม่ได้รึไงครับ” ผมบ่นทำให้พี่หมีเงยหน้ามาหัวเราะเหมือนชอบอกชอบใจอีก ผมลุกขึ้นหันกลับไปมองที่โต๊ะ เห็นพี่คิวกำลังคุยอย่างออกรสกับพวกเพื่อนๆ คนบนโต๊ะเกือบสิบกว่าคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานขนาดนั้น ผมจะเอาตัวเองเข้าไปแทรกได้อย่างไร ถ้าเข้าไปมีหวังเป็นเป้าสายตาแน่ๆ ผมแกล้งเดินถือแก้วไวน์ออกมาจากห้องและตรงไปที่ห้องครัวของพี่คิวเพื่อหลอกพี่ออฟ ผมกะว่าจะแอบนำไวน์ขวดอื่นรินให้แทน คิดว่าพี่ออฟไม่น่าจะจับได้ เอ๊ะ..หรือว่าจับได้ (=_=)
“เข้ามาทำไมน่ะ” พี่คิวชะงักเมื่อเห็นผมอยู่ในห้องครัวแสนรักของตน
“เอ่อ เอ่อ..มาแอบ” ผมตอบอย่างไม่ทันคิด พี่คิวขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจในความหมาย ผมมองพี่คิวเดินไปเปิดตู้ก่อนจะหยิบกล่องซิการ์ออกมากล่องหนึ่ง
“จะเอาอะไร” พี่คิวถามไม่ได้มองผม พี่เขาเดินไปมาเหมือนหาอะไรสักอย่าง
“ไวน์ที่พี่ดื่มเมื่อกี้นี้อ่ะ..” ผมลองพูดดู พี่คิวหันกลับมามอง
“มันหมด พี่ออฟเค้าอยากดื่มอีก” ผมชี้ไปที่แก้วไวน์ของพี่ออฟและยิ้มแหยให้
“ฉันดื่มหมดไปแล้ว” พี่คิวตอบพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย ดื่มหมดขวดไปแล้วแต่ยังเดินเหินได้ปกติเลยเนี่ยนะ ขวดที่พี่คิวบอกว่าหมดนั่นไม่ใช่ขวดแรกสักหน่อย
“แล้วทำไมจะต้องเข้ามาในห้องครัว ฉันไม่เห็นจะเข้าใจ” พี่คิวเดินมาใกล้ผมพร้อมกับอะไรสักอย่างในมือที่ผมไม่รู้จัก
“ก็เค้กไม่กล้าเข้าไปขอพี่อีกนี่ แล้ว..เปิดอีกขวดไม่ได้เหรอครับ พี่ออฟเค้าอยากดื่ม” ผมขอ ยืนมองพี่คิวที่กำลังวุ่นอยู่กับซิการ์ของตน
“หมดแล้ว ขวดเมื่อกี้น่ะลิมิเต็ดที่ฉันมีขวดสุดท้าย..บอกไอ้ออฟไปว่าถ้าอยากดื่มให้มันไปหาซื้อเอาเอง หึ..ไอ้นี่มันขอไวน์อย่างกับขอน้ำประปา” พี่คิวบ่นยิ้มๆ
“มันแพงไหมฮะ เค้กจะได้ไปซื้อให้พี่ออฟ” ผมถามเล่นไปอย่างนั้นเพราะอยากรู้ว่าไอ้ลิมิเต็ดที่ว่านั่นราคาประมาณเท่าไหร่
“รถเก๋งถูกๆสักคันละมั้ง” พี่คิวตอบส่งๆอย่างไม่คิดมาก ผมไม่อยากคิดมากไปกว่านี่เพราะคำว่า “ถูก” ของพี่เขากับ “ถูก” ของผมมีมาตรฐานที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
“อ่อ โอเค..งั้นก็ปล่อยให้พี่ออฟอดตายไปเถอะครับ” ผมบอก พี่คิวหัวเราะ
“หยิบไฟแช็กให้หน่อยสิ อยู่ในลิ้นชักที่สามขวามือ” พี่คิวสั่ง ผมเดินไปที่ลิ้นชักขวามือและก็ต้องนับไปที่ลิ้นชักที่สามด้วยเพราะถ้าแกล้งเปิดลิ้นชักที่สองอาจจะโดนด่าได้ ผมหยิบไฟแช็กออกมาและมองมันอย่างไม่เข้าใจว่าใช้ยังไง
“ขนาดไฟแช็กยังพิสดาร” ผมบ่น พี่คิวเหล่มอง
“หึ โทษครับ” ผมปัดแกมขำ
“ดี..งั้นจุดให้หน่อย” พี่คิวพูดสั่งอีก ผมชะงัก พี่คิวคาบซิการ์ยืนรอผมด้วยสายตาดุดันคล้ายกับว่าถ้าผมไม่ทำอย่างที่สั่งผมได้เจอดีอย่างแน่นอน ผมกดเปิดไฟแช็กพิศดารนี่ออกก่อนจะพยายามกดมันอย่างตั้งใจ เมื่อเห็นไฟลุกขึ้นผมจึงจ่อมันไปที่ปลายซิการ์อย่างไม่ชินมือ มันจึงทุลักทุเลพิลึก
“นายจะเผาซิการ์ฉันรึไง” พี่คิวพูดขึ้นก่อนจะเอนตัวหนี ผมชะงักเล็กน้อย
“จ่อไฟไกลกว่านี้หน่อย” พี่คิวสั่งก่อนจะคาบมันอีกครั้ง ครั้งนี้ผมจึงตั้งใจทำมากกว่าเดิม มือของผมยังถือไฟแช็กจุดอยู่ที่ปลายซิการ์ พี่คิวยังคงยืนเงียบ ผมเองก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่หรือซิการ์จะต้องมีลักษณะแบบไหนถึงจะพอ ควันออกจากปากพี่คิวเป็นระยะเหมือนอีกฝ่ายต้องการแกล้งพ่นใส่ผมอย่างนั้น ผมทำจมูกย่นเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมกำลังกลั้นหายใจอยู่ ที่จริงผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร ใครอยากจะสูบอะไรมันก็เป็นความชอบและคลั่งไคล้ส่วนบุคคล ยิ่งผมมาทราบจากพี่ฟ้าว่าพี่เขาคลั่งซิการ์มากขนาดนี้ผมเองก็ไม่เคยคิดที่จะปริปากว่าอะไรออกไปสักครั้งเดียว ส่วนมากแล้วผมจะเห็นพี่คิวสูบเฉพาะมีปาร์ตี้เท่านั้นและพี่คิวก็เป็นคนที่ไม่ชอบสูบบุหรี่ด้วย แต่นี่คงเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่บางครั้งพี่เขาเองก็คงต้องการละมังครับ
“พอแล้ว” อีกฝ่ายบอกเสียงเรียบด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์นัก ผมหยุดมือก่อนจะวางไฟแช็กลง
“ก็เค้กทำไม่เป็นนี่ ชอบใช้คนอื่นแล้วก็มาทำเป็นไม่พอใจ” ผมบ่นทันทีแต่ก็ต้องหุบปากลงเมื่อพี่คิวเอาแต่จ้องหน้าผมโดยไร้คำพูดตอบโต้
“..หัดสิ” ผมชะงักแทบกลั้นหายใจเมื่ออยู่ๆพี่คิวก็เอนหน้าเข้ามาใกล้กับหน้าของผมอย่างไม่ทันให้ผมได้หนีทัน เสียงกระซิบใกล้หูทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัว
“จะได้ชิน” พี่เขากระซิบบอกอีก รอยยิ้มแสยะทำให้ผมยืนตัวแข็งทื่อก่อนที่พี่เขาจะเดินสูบซิการ์อย่างสบายอารมณ์ออกจากห้องไป
“ไอ้..ขี้เก๊ก” ผมไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรต่อผู้ชายคนนี้ จึงได้แต่ยืนจับหูของตัวเองที่รู้สึกร้อนผ่าวไปหมด ไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาของตัวเองเป็นยังไงบ้าง รู้เพียงว่าตัวมันร้อนและอายเป็นบ้าเลยละครับ
เวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน เป็นเวลาที่บัตเตอร์และเชอร์เบ็ตต้องเข้านอนทำให้พี่คิวต้องเป่าเค้กเร็วกว่ากำหนด พวกเราพากันตัดเค้กและกินโดยที่เจ้าของงานวันเกิดเอาแต่นั่งนำเอาแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย กลายเป็นว่าคนที่สนใจเค้กก็มีแต่เด็กๆอย่างพวกผมนี่ละครับ เมื่อทานเค้กเสร็จพี่เลี้ยงของบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตได้พาทั้งสองคนขึ้นไปอาบน้ำนอน น้องอ้อนให้พี่คิวขึ้นไปอ่านนิทานให้ฟัง ตอนแรกผมคิดว่าพี่คิวจะไม่ทำตามแต่พี่คิวก็ขึ้นไปอ่านนิทานให้ทั้งสองคนฟังอยู่เกือบยี่สิบนาทีกว่าจะลงมาดื่มต่อ
พวกพี่กัส พี่ซีและพี่ไจ๋ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไปก่อน ส่วนพี่ออฟ พี่รุจและพี่หมีพากันดื่มเหล้าร่วมกับพวกพี่ฟ้าต่อหลังจากนั้น ผมเองก็เริ่มรู้สึกง่วงแล้วด้วย เมื่อกลุ่มของผมไม่อยู่ร่วมวงด้วยแล้วทุกอย่างกร่อยลงไป ผมคงไม่ไปนั่งร่วมวงสนทนากับพวกเพื่อนพี่คิวเป็นแน่ ประเด็นตอนนี้คือ..ของขวัญที่ผมจะให้พี่คิว ผมไม่ได้นำวางรวมไว้กับคนอื่นเพราะผมอาย ผมจึงนำมันวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้องนอนของพี่คิวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผมยังไม่เห็นพี่คิวขึ้นไปบนห้องเลยสักครั้ง ผมคิดว่าพี่เขาคงยังไม่เห็นว่าผมได้เตรียมของขวัญกับการ์ดไว้ให้ ตอนนี้ผมกำลังทำตัวไม่ถูก ในร่ายกายรู้สึกแปรปรวน..มันว้าวุ่นไปหมด เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงผมไม่เห็นว่าพี่คิวจะมีท่าทีลุกออกจากโต๊ะเลย ซึ่งหลังจากดื่มไวน์ตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นบรั่นดีที่วางอยู่ข้างกายแต่พี่เขายังไม่มีท่าทีว่าจะมึนเมาแต่อย่างใด คิดได้อย่างนั้นผมจึงตัดสินใจขึ้นมาอาบน้ำเข้านอนก่อนดีกว่า ส่วนพี่คิวจะเห็นของขวัญตอนไหนคงไม่สำคัญเพราะผมจะ....แกล้งหลับ
ในห้องนอนของพี่คิวไม่มีรูปของพี่ปรายแล้ว รูปที่ติดอยู่ที่บอร์ดตรงผนังห้องก็หายไปด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านั้นผมพยายามแล้วที่จะต่อสู้กับหัวใจตัวเองไม่ให้สอดรู้สอดเห็นไปเปิดดู แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ได้ทั้งทั้งที่อีกใจก็กลัวมาก..กลัวว่าถ้าหากยังมีรูปอยู่คงเดิมแล้วผมจะทำยังไง
หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็จัดการเปิดแอร์ ปิดโทรทัศน์ ทุกอย่างในห้องนี้ผมใช้จนเริ่มชินแล้วว่าอะไรควรปิดเปิดอย่างไร ที่จริงผมไม่ได้มานอนห้องพี่คิวบ่อยเท่าไหร่นัก นี่อาจจะเป็นครั้งที่สี่แต่เป็นครั้งที่สี่ที่นอนติดกันหลายวันหน่อย ครั้งถึงสองครั้งแรกที่ผมได้มานอนที่บ้านหลังนี้แต่ด้วยสถานการณ์บางอย่างทำให้ผมต้องนอนที่ห้องของพี่ฟ้าซะส่วนใหญ่
ผมจัดหมอนให้เข้าที่เข้าทางสำหรับพื้นที่ของพี่คิวและพื้นที่ของผม ผมตั้งนาฬิกาปลุกก่อนจะเอนตัวลงนอนแต่ก็ยังเปิดไฟหัวเตียงฝั่งที่นอนของพี่คิวไว้เผื่อถ้าเจ้าของห้องเข้ามาแล้วจะเดินเหินได้สะดวก ห้องจะได้ไม่มืดเกินไปด้วย
แกรก~
ผมชะงักด้วยยังไม่ทันจะได้ข่มตาหลับ เจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามา ผมพลิกหน้าตรงตามสัญชาตญาณ ท่านอนที่นอนหงายอยู่อย่างนี้อยากจะพลิกตัวหันไปเป็นนอนตะแคงซะให้ได้ แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ที่มันอดนึกไม่ได้ว่าพี่คิวอาจจะเห็นของขวัญที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานอีกห้องหนึ่งนั่นแล้ว พี่คิวเดินมาที่เตียงฝั่งที่นอนของตัวเอง พี่เขานั่งลงอย่างเงียบๆก่อนจะถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่ออก
“อะ อาบน้ำ..เหรอครับ” ผมถามเสียงเบาพยายามให้เป็นธรรมชาติ พี่คิวพยักหน้าตอบก่อนจะเดินตรงเข้าห้องน้ำไปซะเฉยๆอย่างนั้น ผมรู้สึกโล่งอกในทันทีที่พี่คิวไม่ถามอะไร พี่คิวเข้าไปอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีก็เดินออกมา ผมยังคงนอนนิ่ง เหลือบเห็นพี่คิวเข้าห้องแต่งตัวไปสักพักก็ออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงนอนธรรมดา
“ฉัน..ไปดื่มต่อนะ” พี่คิวหันหน้ามาบอก
“อ่าว ไม่เข้านอนเหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัย เมื่อตอนบ่ายก็อาบน้ำไปแล้ว ที่พี่คิวขึ้นมาอาบน้ำอีกครั้งนี่ผมก็นึกว่าจะเข้านอนแล้วเสียอีก
“ยังไม่มีใครกลับเลย คง..อีกสักสองสามชั่วโมง” พี่คิวตอบ
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ อยู่ๆพี่คิวก็เดินมาฝั่งที่ผมนอนอยู่ ใจเริ่มเต้นตึกตักแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างควบคุมไม่ได้ ทำไมอะไรๆที่ดูเหมือนปกติดีถึงทำให้ผมลุ้นได้มากขนาดนี้กันนะครับ..ให้ตายเถอะ!
“..................” ในห้องซึ่งเงียบมาก ผมกำลังรู้สึกกลัวว่าการที่เงียบมากเกินไปนี้จะทำให้พี่คิวได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจกับเสียงที่ผมหายใจได้ถนัดมากขึ้น และผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ดันไม่ปิดไฟหัวเตียงตั้งแต่เมื่อกี้ พี่คิวนั่งลงข้างๆผมและหันมาจ้องผมเขม็ง ถึงแม้ว่าในห้องจะค่อนข้างมืด มีเพียงแสงไฟจากหัวเตียงจากอีกฝั่งให้ความสว่างแต่แน่นอนว่าเราต่างฝ่ายต่างเห็นกันอย่างชัดเจนทีเดียว
ผมนอนนิ่งไม่กล้าขยับไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกาย หรืออาจจะมีเพียงส่วนเดียว “ลูกตา” ที่กลอกไปทางอื่นอย่างช่วยไมได้ พี่คิวนั่งจ้องผมนิ่งมาก นิ่งเกินไปจนผมรู้สึกเหมือนตัวเองหายใจไม่สะดวก สายตาคู่นี้ที่ผมยังไม่สามารถอ่านออกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ อยู่ๆพี่คิวก็ก้มลงมาใกล้ ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอและก็บังคับตัวเองไม่ได้ที่จะไม่ให้กลั้นหายใจไว้แบบนี้
“จุ๊บ~” อีกฝ่ายจูบเบาๆลงที่หน้าผากของผม ผมสบตาพี่คิวเพียงนิดเดียว พี่คิวจ้องตาผมตอบก่อนที่จะเลื่อนลงหอมแก้มผม อีกฝ่ายคลอเคลียอยู่ที่แก้มผมทำให้บางอย่างในร่างกายของผมมันมีอาการแปลกๆไปหมด
“การ์ดนาย..ตลก” พี่คิวกระซิบปนหัวเราะ
“พี่คิว” ผมตีอีกฝ่ายเบาๆอย่างห้ามปราม พี่คิวยังคงซุกหน้าอยู่ที่แก้มผมอยู่อย่างนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงอีกครั้ง พี่คิวเลื่อนปากจูบแก้มและใบหูของผมจนผมรู้สึกว่าขนของตัวเองตั้งชันไปทั้งตัว นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเพิ่งจะรู้ว่าบนตัวผมก็มีขนเยอะเหมือนกัน ผมได้กลิ่นเหล้ากับกลิ่นไวน์จางๆจากตัวพี่คิว ผมไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรเด่นชัดกันแน่ หรืออาจจะเป็นกลิ่นซิการ์ ผมไม่รู้..ผมไม่รู้จักกลิ่นพวกนั้นเป็นอย่างดีอย่างพี่เขา หลายกลิ่นตีกันไปหมด พี่คิวเอนตัวกลับไปนั่งอย่างปกติแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องมาที่ผมอยู่ ผมยังคงนอนนิ่ง ตัวเกร็งไปทั้งตัวเมื่ออีกฝ่ายเลื่อนมือจากที่ใบหน้าของผม เลื่อนจับลงไปต้นคอก่อนจะเลื่อนมือลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าอกของผม ผมพยายามกลั้นหายใจแม้มือนี้จะลูบอย่างแผ่วเบาก็ตาม มือทั้งสองมือของผมกำเข้าหากันแน่นอย่างต้องการระบายความตื่นเต้นทั้งหมดให้มันหายไป ทั้งทั้งที่ผมก็ไม่อยากถูกทำอะไรแบบนี้เท่าไหร่เพราะมันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก แต่ผมกลับไม่กล้าปฏิเสธสายตาคู่นี้ที่กำลังจับจ้องมาที่ผมไม่วางตา ถึงแม้จะเป็นสายตาและใบหน้าเรียบนิ่งอย่างที่ผมไม่สามารถหยั่งความหมายได้แต่เหมือนทุกอย่างบนร่างกายผมกำลังถูกมนต์สะกด
“อึ..” ผมรู้สึกว่าตัวเองหายใจติดขัดขึ้นมาในทันทีเมื่อมือของพี่คิวลูบหน้าอกของผมผ่านเสื้อนอน ทั้งที่เป็นการลูบอย่างเบามือแต่ผมกลับรับรู้ได้ถึงมือใหญ่ๆมือนี้ มันคล้ายกับถูกไฟฟ้าช๊อต..เมื่อไหร่ที่นิ้วของพี่คิวแตะลงมาบนตัวผมก็รู้สึสปาร์คในทันใด ผมเหหน้าหนีเล็กน้อยเมื่อพี่คิวเลื่อนมือลงต่ำลงเรื่อยๆ ลมหายใจแรงกว่าเดิมอย่างไม่สามารถควบคุมมันได้อีก มือของพี่คิวลูบผ่านหน้าท้องของผมจนผมต้องแขม่วท้องหนี นิ้วมือไล่วนอยู่ตรงหน้าท้องผมเบาๆเหมือนต้องการหยอกล้อนั่นยิ่งทำให้ผมตัวเกร็งมากกว่าเดิม เกร็งตั้งแต่หัวจรดปลายเท่า นิ้วเท้าของผมเกร็งจนรับรู้ได้ว่าผมไม่สามารถผ่อนคลายให้มากกว่านี่ได้ พี่คิวอมยิ้มให้ผมเล็กน้อยเมื่อผมหันไปสบตากับพี่เขาเข้า พี่เขาไล่นิ้วมือกลับขึ้นมาบนหน้าอกของผมอีกครั้ง นี่ทำให้ผมโล่งใจขึ้นมาที่พี่คิวไม่เลื่อนมือลงต่ำมากไปกว่านั่น
“อ่ะ” ผมสะดุ้งในทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายเน้นมือลงมาที่หน้าอก สายตาและท่านั่งของพี่เขาเหมือนต้องการดูปฏิกิริยาโต้ตอบจากผมอย่างนั้น พี่คิวยังคงไม่ยอมปล่อยมือออกและแสยะยิ้มเหมือนพอใจอะไรสักอย่าง
“พี่ครับ” ผมจับมือพี่คิวไว้อย่างห้ามปราม อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรแต่กลับก้มลงจูบผมอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวทำให้ผมไม่สามารถปรับอารมณ์ตามได้ทัน พี่คิวกดปากจูบผมต่างจากทุกครั้ง ผมไม่เคยจูบกับใครแบบนี้มาก่อน ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวยังไงมันถึงจะพอดี บางครั้งผมก็รู้สึกประหม่าจนไม่อยากเป็นตัวเอง พี่คิวจับหน้าผมให้เงยขึ้นเหมือนให้ถนัดกว่าเดิม มือของพี่เขาลูบปากผมเบาๆก่อนจะกดจูบผมอีกครั้งและอีกครั้ง ผมรับรู้ได้ถึงแอลกอฮอล์หลากรส สมองผมมึนเบลอไปหมด ตัวสะดุ้งแต่ก็ร้องไม่ออกเมื่อรู้สึกว่าลิ้นของอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ในปาก มันลื่นพันไปมาจนเริ่มรู้สึกแปลก..แปลกไปหมดทุกส่วนบนร่างกาย
“อึก” ผมหลับตาหนี พี่คิวหยุดจูบแต่กลายเป็นเลื่อนพรมจูบแก้มผมเบาๆไปจนถึงใบหู ถึงแม้ผมจะรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ดีกว่าที่จะโดนอีกฝ่ายนั่งจ้องเฉยๆอย่างเมื่อกี้ ผมจับไหล่ของพี่คิวอย่างต้องการผ่อนคลายตัวเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้สึกแบบนี้ เป็นความรู้สึกแบบที่พีทเคยบอกผมแล้วผมไม่สามารถเข้าใจได้ก่อนหน้ารึเปล่าไม่ทราบ พีทบอกว่าสักวันผมก็จะรู้เองว่าการมีเซ็กส์แบบถึงขีดสุดมันเป็นอย่างไร มันคงจะเป็นความรู้สึกนี้ละมัง พี่คิวจูบผมอีกครั้ง มือของพี่เขาไล่ต่ำลงลูบไปทั่วตัวของผม รู้ตัวอีกทีเสื้อของผมก็ถูกเลื่อนขึ้นมาจนถึงหน้าอกแล้ว
“เอ๊ะ อ เอ่อ..คือ” ผมก้มลงมอง พยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับมาพร้อมกับดันไหล่พี่คิวเบาๆ อีกฝ่ายยังคงเลื่อนปากอย่างแผ่วเบาอยู่ที่แก้มของผม มือลูบไล้อยู่ที่เอวของผม
“พี่คิวฮะ” ผมเรียก อีกฝ่ายไม่ยอมตอบอะไร
“คือ..คือว่า” เมื่อผมรู้สึกว่าพี่คิวเลื่อนมือลงต่ำไปลูบไล้อยู่ตรงต้นขาของผม ผมจึงเอื้อมมือจับมือของพี่คิวไว้อย่างห้ามปราม อีกฝ่ายหยุดชะงัก เหลือบมองผมหน้านิ่งเหมือนตั้งใจฟังว่าผมจะพูดอะไร นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าสายตาของพี่คิวเจ้าชู้มากกว่าเจ้าเล่ห์
“..คือ” ผมได้แต่อ้ำอึ้งและก็ต้องหลบสายตา
“แบบ เอ่อ พี่คิว..จะทำ” ผมพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนมันจะสับสนปนเปไปหมด ในหัวของผมเริ่มรวนและแทบจะไม่สามารถพูดได้อย่างปกติ คำถามเกิดขึ้นเยอะแยะในหัวของผม..ไม่ว่าจะ “ทำไมพี่ดูคล่องมือจัง” “ผมเป็นผู้ชายคนแรกของพี่แน่เหรอ” “พี่เคยมีอะไรกับใครมาบ้าง..กี่คนแล้ว” “ร่างกายผมเป็นยังไงบ้าง” และอีก ฯลฯ ซึ่งผมคิดว่าไม่มีอะไรน่าถามออกไปสักอย่าง..มันดูไร้สาระไปซะหมด
“ของพี่คิว จะใส่เข้ามา ตรงนั้นของเค้ก..เหรอครับ” ผมถามออกไป คำพูดน่าอายแบบนี้ผมไม่ควรพูดมันออกมาด้วยซ้ำแต่ผมเพียงแค่อยากแน่ใจ พีทเคยบอกผมว่าอะไรๆระหว่างผู้ชายกับผู้ชายจะต้องเป็นยังไง พีทบอกว่ามันก็เหมือนการทำกับผู้หญิง ที่จริงการทำกับผู้หญิงเองผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันควรจะเป็นอย่างไร ทำแบบไหนถึงจะเรียกว่า..“รู้สึกดี” อย่างที่พวกเพื่อนๆชอบเอามาพูดกัน ที่จริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขั้นตอนการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงต้องทำอย่างไร ผมไม่เคยดูหนังโป๊หรือหนังสือโป๊อะไรทำนองนั้นแต่อาจจะได้เคยเห็นผ่านตาบ้าง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตลอดมาทำไมผมไม่เคยคิดจะอยากดูของพวกนั้นเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรแต่ผมก็ไม่เคยมีความรู้สึกทางเพศบ่อยๆหรือสามารถจิตนาการต่างๆนาๆว่าอยากทำกับใครคนไหนได้ อะไรแบบนั้นที่เกิดขึ้นกับผมมันทำให้เพื่อนเคยหาว่าผม..“โกหก” ตอนนั้นผมค่อนข้างรู้สึกแย่มากๆเพราะมันคล้ายกับว่าผมโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี ก็ไม่รู้นะครับว่าผมอาจจะผิดปกติไปจากเพื่อนก็ได้ซึ่งที่จริงผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าการที่เป็นผู้ชายปกติมันควรทำตัวอย่างไร ผมจึงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทุกครั้งเวลาที่เพื่อนผมคุยเรื่องต่ำกว่าสะดือเพราะผมไม่มีข้อมูลอะไรไปพูดคุยร่วมวงด้วย หรือที่จริงแล้วผมอาจจะ..ผิดปกติ..ก็คงจะอย่างนั้น
“หึ..ตรงไหน” พี่คิวหัวเราะเล็กน้อย ผมเหสายตาลงต่ำ มือกำเสื้อของพี่คิวไว้กับมือแน่น
“ตรง เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง ใครจะไปกล้าอธิบายมากมายกว่านี้กัน
“โอเค..คิดหลักง่ายๆนะ” พี่คิวตัดบทพร้อมกับชันแขนขึ้นคร่อมตัวผมไว้ ผมเงยหน้ามองอย่างสงสัย
“นายคิดว่าบนร่างกายของนาย มีส่วนไหนที่ฉันควรจะนำไอ้นี่ของฉันที่นายว่า..ใส่เข้าไปได้อีกนอกจากตรงนั้นของนายที่นายหมายถึง” พี่คิวพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวไปหมด ดีแล้วที่แสงสว่างมีไม่มากพอ..ขอบคุณมากจริงๆ
“ไง” พี่คิวยังคงซักคำตอบไม่หยุด
“ไม่ ไม่รู้ครับ” ผมตอบส่งๆ ขึ้นเสียงเล็กน้อยเพราะอยากจะปรามอีกฝ่ายบ้าง
“หู..” พี่คิวพูดเสียงสูงคล้ายกับต้องการจะแกล้งถาม มือของอีกฝ่ายก็เลื่อนมือมาจับหูของผม ผมสะดุ้งเบนคอหนี
“จมูก” พี่คิวเลิกคิ้วแทนคำถามพร้อมกับนำมือมาบีบจมูกของผมจนผมไม่สามารถหายใจได้
“รึว่าปาก..” พี่คิวอมยิ้ม มือก็เปลี่ยนลงมาลูบปากของผมเบาๆ
“ก็ดีนะ ปากก็ โอเคเลยล่ะ..ฮึ”
“พี่คิว ไอ้ลามก..อุบาทว์!” ผมปัดมือพี่คิวออกเมื่อนึกภาพต่างๆนาๆออกมาได้เป็นฉากและผมไม่คิดว่าพี่เขาจะพูดออกมาได้หน้าตาเฉยขนาดนี้
“หึ ฮ่าๆๆ..ตลกชะมัด ฮ่าๆๆๆ” อยู่ๆพี่คิวก็หัวเราะดังลั่นทำให้ผมรู้สึกอายมากกว่าเดิม ถึงผมจะไม่เคยได้เห็นพี่คิวหัวเราะเสียงดังอย่างเปิดเผยมากขนาดนี้มาก่อนแต่ถ้าจะมาหัวเราะแบบนี้เพราะขำผมแล้วละก็..ผมก็ไม่อยากจะได้ยินหรอกนะครับ
ผมพลิกตัวหนีมาอีกทาง พี่คิวนั่งขำอยู่อย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงียบเสียงลงแต่ก็ยังได้ยินว่าอีกฝ่ายยังคงหัวเราะในลำคอเหมือนยังหยุดขำไม่ได้ เมื่อพี่คิวเงียบลงไปอยู่ๆพี่เขาก้มมานำแขนคร่อมตัวผมอีกครั้งก่อนที่ผมจะรับรู้ได้ว่าพี่คิวก้มลงจูบที่ใบหูของผม ผมถึงกับสะดุ้ง
“ฉันยังไม่ทำหรอกน่า” พี่เขากระซิบบอก ทั้งที่ผมรู้สึกตื่นเต้นกับน้ำเสียงอ่อนโยนที่ได้รับแต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที
“..เพราะช่วงนี้ ฉันจะให้เวลานาย..ทำใจ” พี่คิวบอกแกมหัวเราะ ผมหันไปค้อนใส่แต่อีกฝ่ายยังทำลอยหน้าลอยตาจนผมต้องหันกลับมามุดหน้าเข้าที่หมอนอย่างช่วยไม่ได้
“หึ..ขอตัวออกไปขำต่อข้างนอกนะ ถ้าจะขำต่อตรงนี้..ดูจะเป็นการเสียมารยาทกับนายไปสักหน่อย” พี่คิวยังแซวไม่หยุด
“ไปไหนก็ไป” ผมบ่นเสียงเบาและได้แต่นอนตัวเกร็งเพราะไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไรแล้ว พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่งแต่ผมยังรู้สึกได้ว่าพี่เขายังนั่งอยู่ไม่ได้ลุกไปไหน
“ฝันดีครับ” อีกฝ่ายก้มลงกระซิบบอกพร้อมกับหอมต้นคอผมเบาๆก่อนจะลุกไป
“พ..พี่คิว” ผมรีบเรียกไว้เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ พี่คิวหยุดเดินและหันมามอง ผมนอนอยู่ท่าเดิมโดยไม่ได้หันไปเพื่อจ้องตอบ
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ” ผมพูดลอยๆ พี่คิวไม่ตอบอะไรก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคล้ายกับท่อนไม้ ในสมองนึกไปต่างๆนาๆ ผมยังรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่กระทบอยู่ใกล้ใบหู กลิ่นของพี่เขา รสสัมผัสและทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่เขาทำเมื่อกี้คล้ายกับมันยังคงอยู่ หัวใจของผมยังคงเต้นแรง นี่คงเป็นเหตุการณ์ที่ผมคงได้อายไปอีกสามร้อยล้านวันแน่ๆ บ้าบอ..อยากจะบ้าตายจริงๆ
.................>>>><<<<.................
-
หมายเหตุ : ความจริงแล้วเบบี้อยากบอกว่าอย่าหวังอะไรกับ NC มากนักเลยค่ะ แม้กระทั่งในหนังสือเองก็อาจจะแทบไม่ได้เห็นด้วยซ้ำ มันก็อาจจะมีบ้างแต่คงไม่หวือหวาขนาดที่ว่า "โอ้ เยส fuck me, come on. โอ้ย เสียว ลึก เจ็บ เยสสสส โอ๊ะ อ้า เบาๆ อู้อ้า..ใช่เลย" แบบนี้คงไม่มี..ฮ่าๆๆๆ ฉากร่วมรักก็คงจะเป็นฉากบรรยายซะส่วนใหญ่ค่ะ ขอความกรุณาได้โปรดเข้าใจ
*** ที่จริงแล้ว คิวหื่นมาก..กร๊าก ****
1. ในตอนนี้มีข้อมูลหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับตอนพิเศษตอนของเซ็นนะคะ ดังนั้น..ต้องรออ่านตอนพิเศษตอนของเซ็นค่ะ
2. ตอนต่อไปเป็นตอนพิเศษของทิกเกอร์ค่ะ
3. เบบี้เพิ่งสอบเสร็จเมื่อวานนี้ ดังนั้น..ขอไปพักผ่อนหย่อนใจสักพักนะคะ ไว้จะมาต่อตอนต่อไปให้ คงไม่นานเกินจะทนค่ะ
เบบี้..^^
-
:man1:
อ๊ายยยยน่ารักอ่ะ. อีกนิดนึงพี่คิวจะได้...เค้กแรว :-[. รอตอนต่อไปค่ะ
-
ลุ้นเกือบตายนึกว่าจะมี NC ในวันเกิดพี่คิว กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :กอด1:
ไอ้พี่คิวมันก็หื่นเหมือนกันนะเนี่ย 55555555
ไม่มี NC ก็ดีเหมือนกันนะ มโนกันเอาเอง แค่นี้ก็ขอบคุณเบบี้แล้วที่พี่คิวมันยังจูบเค้กมั่ง
อย่างน้อยก็รู้ว่าพี่คิวมันก็หื่น แต่มันรอเวลาให้เค้กทำใจ :laugh:
รอเบบี้ได้เสมอ :3123:
-
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขินมากกกกกกกกก อ่านแล้วเขินนสุดๆๆไปเลย :-[ :impress2:
น้องเค้กพี่คิวน่ารักสุดๆ
ขอบคุณเบบี้มากๆๆของมากๆๆเลย นิยายสนุกมากๆ รอติดตามต่อนะค่ะ :กอด1: :L2: :pig4:
-
น้องเค้กน่ารักอ่ะ
ว่าแต่พี่คิวจะให้เวลาเค้กทำใจถึงเมื่อไหร่อ่ะ
-
พี่คิวแกก็แอบหื่นเหมือนกันนะยะ
-
:m25: :m25: แอบเลือดพุ่งตอนท้ายนิดนึง 5555
พี่คิวกับเค้กยังน่ารักเหมือนเดิม ข้อเสนอที่ทิกเกอร์ยื่นให้ มันช่างน่าสนใจจริงๆเลย
ขอบคุณที่อัพนะคะ และรออ่านต่อค่ะ^^
-
พี่คิวกวนได้อีกกก ก เขินแย่ๆเลยเค้ก :-[
-
กรี๊ดกร๊าดดดด พี่คิวโมเม้นลามก เจ้าเล่ห์ ก็เท่ห์ไปอีกแบบบ
กว่าจะเดินแบบให้อาได้ ต้องเอาของล่อเยอะมากกก หุหุ อยากเห็นพี่คิวเดินแบบ
-
นึกว่าจะ บ๊วบ และเนี่ย 5555
เค้กน่ารักจังแอบอยากอ่านคู่นี้อีอง่
ขอบคุณเบบี้จ้าา
-
พี่คิวมาทำให้อยากแล้วก็จากไปนะ :a6:
-
:o8:พี่คิวเก้ลงเค้กอะ :o8: :o8:
รออออออออออออออจ้า :call: :call:
-
น้องเค้กน่ารักอ่ะ เราไม่หวังกับ nc เรื่องนี้เท่าเรื่องอื่นๆ
แต่แค่ได้รู้ว่าพี่คิว ก็หื่นเหมือนกัน แค่นี้ก็ฟินแล้ว กร๊ากกกก
ขอบคุณที่มาต่อให้แบบยาวมาก กดบวกให้ค่ะ :กอด1:
-
อร๊าาายยยยยยย เขิลแทนเค้กอย่างแรงงงงง ตื่นเต้นๆ :-[ :-[
รอได้เสมอจ้า :กอด1:
ขอบคุณค่า :pig4:
-
พี่คิวแอบหื่นกะน้องเค้ก
-
เป็นตอนพิเศษที่ยาวสะใจมากกกกกกกกก
ตอนนี้อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย คึคึ
-
ชอบอ่ะ ชอบที่สุดเลย
:-[
ชอบบุคลิกแบบพี่คิวจัง
อ่านแล้วอิจฉาเค้กอ่ะ
-
...อา หลานนี่ ถึงพริกถึงขิงกันดีจริงๆๆ
...เค๊กดูเด็กมากและก็อินโนเซ้น มากๆๆเลย เลยโดนคิวยั่วบ่อยๆๆแต่ก็น่ารักไปอีกแบบ
...ไม่ค่อยเห็นตัวตนที่แท้จริงของคิว นอกจากอยู่กับเค๊กอย่างว่าอะเนอะ
...คนที่สนิทที่สุดก็คือ..คนที่เค้า......นอน.......คุยกันนั่นแหละ :laugh:
-
อ่อยยยยยย
น้องเค้กน่ารักมากกกก
ถามแบบนี้ ฉนเป็นพี่คิว ก็ทำไม่ลง กร๊ากกกก
ตรงไปมั้ยลูกกกกก
ชอบที่พี่คิวหื่นมาก ได้รู้แค่นี้ก็สบายใจ (ห้ะ?)
คิคิ
-
จริงๆปลอด NC ใสๆแบบนี้ก็น่ารักดีนะคะ :o8:
จะบอกว่าใจเต้นแรงยิ่งกว่าอ่าน NC ซะอีก เค้กน่ารักเกินห้ามใจ พี่คิวอดทนได้ไงอะ อึดมาก :laugh:
ให้เค้กได้เตรียมใจ แล้วที่เหลือเราก็จิ้นจนฟินเองแล้วกัน อยากทะนุถนอมเค้กนานๆ เพราะเบบี้บอกพี่คิวหื่นนี่นา สงสารเค้ก :haun4:
-
ที่จริงแล้วพี่คิวก็....หื่น!!! ตัวพ่อเลยนะเนี่ย
น้องเค้กแย่แล้ว กร๊ากกกกก
-
:z1: :z1: :z1: บวกค่า
ชอบจัง :o8: :o8: :o8:
-
:z2:น้องเค้กเกือบละ
-
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนบรรยายฉากจูบ มันละมุนมากกกกกกกกกกกกกกกกก :กอด1:
-
พี่คิวหื่นอ่ะ :-[ (เขินม้วนตัวสิบครั้ง)
เขินแทนเค้กเลย อ่านมุมของเค้กน้องเป็นคนใสๆมากอ่ะ
สงสัยก็ถามเลย เล่นเอาพี่คิวปล่อยก๊าก :laugh:
น้องไม่ค่อยรู้ก็สอนน้องหน่อยน้า พี่คิว
คู่อาฟ้ากับทิกเกอร์หวานอ่ะ อายุเป็นเพียงตัวเลข หวานทุกสถานการณ์
รอตอนพิเศษตอนต่อไปค่า
ขอบคุณคุณเบบี้ค่า :L2:
-
“ของพี่คิว จะใส่เข้ามา ตรงนั้นของเค้ก..เหรอครับ”
:m20: :m20: :m20:
-
แม้ตอนหื่นพี่คิวก็ยังเท่ห์ กี๊สมากคะ
น้องเค้กน่ารักสุดๆๆไปเลยคะ :กอด1:
-
เขินลอยไปดาวอังคารแว้ววว
อร๊ากกกกกกกกก
ขอบคุณเบบี้ :กอด1: :L2:
-
ฮรื่ออววววววววววววววว ..... พี่คิว :-[
-
ฉากบรรยายก็เอา ก็ให้ได้เห็นเป็นพอ เอะนี่ฉันหื่นไปไหมหนอออ ๕๕๕
รอตอนต่อไปนะคะ อ๊ายยยหลงรักคิว
-
โอ๊ยยยยย
น่ารักกกกกก
:o8:
แต่ขำเค้กอะ ถามอะไรตรงไปมั้ยลูกกกก :laugh:
-
ถ้าพี่คิวจะหวานได้ขนาดนี้นะ :-[
-
เขินนนนนนนนนนน แทน เค้ก ฮ่าๆ :-[
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เค้กน่ารักมากๆๆถึงจะเป็นฉากบรรยายแต่อยากให้เป็นเค้กมากที่สุด
เค้กไร้เดียงสานัก แต่นี่ละคือเสนห์ที่ผูกใจคิว สู้ๆๆๆ เอาใจช่วย :L2:
-
อ่านไปอ่านมา เรื่องนี้มีคนน่่ารำคาญอยู่ สองคน
คืออาฟ้ากับกัส นิสัยคุณชาย เอาแต่ใจ คิดแต่เรื่องคนอื่น ไม่คิดถึงคนในครอบครัว
และตัวเองเป็นที่ตั้ง
ปล.สงสัยช่วงนี้อารมณ์จะเสียไปหน่อย เฮ้อออ
-
เบบี้คะ ขอพี่คิวกับน้องเค๊กต่ออีกสักตอนสองตอนนะคะ
-
เกือบไปแล้วนะเค้ก
พี่คิวดูหื่นมากกกก
เค้กก็น่ารักมากๆ
ว่าแต่ค่าตัวพี่คิวสูงม้ากกกกกกกกกกก
ทิกเกอร์ให้ไม่อั้นเลยนะ
-
:L2: น่ารักมากๆครับ
-
55+เค้กจะน่ารักไปไหนค่ะเนี่ย โดนพี่คิวแกล้งแบบนี้ละอายม้วนเลยนะค่ะ
-
เค้กน่ารัก :give2: :give2:
-
เค้ก - คิว น่ารักมาก
-
โอ้ววววววววว ยาวม๊วกกกกกกกกกกกกกกกก อ่านสะใจจริง ๆ แต่แหม่!!! แอบ NC มากขึ้น อิอิ แต่ก็แอบเสียดายที่ได้แค่นี้สำหรับเค้ก เอิ๊ก ๆ คิวหื่นแต่เค้กก็เด็ก และด้วยลักษณะนิสัยเค้กและเนื้อเรื่อง คงไม่มี NC แบบ 18+ 55555+ แต่ก็เข้าใจได้นะครับ ตามที่เบบี้บอก เสียดาย ๆๆๆๆ 555555555555+ หื่นกว่าตัวละครในเรื่องอีกตรู
แต่ตอนนี้แบบ หวานชื่นมื่นมาก อิอิ
ชอบตอนพี่ฟ้าให้ทิกเกอร์เจรจากับคิวด้วย ฮาพี่ฟ้าดี 555+ ทิกเกอร์ยื่นข้อเสนอแบบชิลมาก รวยล้นฟ้าจิง ๆ
สนุกมากมาย เบบี้เก่งที่ซู๊ดดดด ^_^
-
เค้ก+คิว :man1: หลายอย่างดูเรียบง่าย เวลาพูดคุยกัน ดูแลกัน และบลาๆๆ แต่อ่านแล้วทำไมรู้สึกเขินก็ไม่รู้ :-[ ...
ชอบเวลาเค้กเล่าเรื่องมันน่ารักดีอ่ะ ฮาด้วย แล้วก็ชอบเวลาที่เค้กดูแลคิวที่สุด :o8: เหมือนเมียดูแลผัวเลย :m20:
ฟ้าก็ฮา ... สรุปว่าอ่านไปยิ้มไป เขินด้วยอ่ะ 555 บ้าไปแล้ว
:pig4: :กอด1: อ่อ บี้ เค้าไม้ได้ต้องการขนาดนั้น แบบตอนนี้กำลังดีเลย รักกันเบา เบา เอาแบบพี่คิวค่อยๆ หื่นอ่ะ ^^
-
o13 พี่คิว อีกนิดเนอะอีกนิด
โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวใจจะวาย นึกว่าจะ.....กันซะแล้ว :haun4: :jul1:
-
เอาจริงๆสำหรับเราแค่พี่คิวกับน้องเค้กจูบกันนี่เราก็ฟินมากแล้วนะ
ไม่ต้องถึงขนาดมีNCก็ได้อ่ะ แต่ถ้าจะมีให้เราก็โอเคนะ :z2:
-
ตอนนี้ยาวมากเลย ขอบคุณเบบี้นะคราบ ^^
เค้ก คิว น่ารักมากๆ ตอนนอนจะกอดกันมั้ยนะ :กอด1:
-
ถึงจะไม่ได้บอกรัก กุ๊กกิ๊กมากมาย หรือ NC แต่ก้อรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้พี่คิวแอบอ่อนโยนอ่ะ
แบบว่าได้แค่นี้ก้อยิ้มแล้ว สำหรับพี่คิว :o8: อิอิิ ชอบบบบบบบบ :กอด1: พี่คิวน่ารักกกกกกกก
ทิกเกอร์ก้อยังเป็นพ่อบุญทุ่มให้พี่ฟ้าเหมือนเดิม 555555 :z2:
จะรออ่านตอนของเซ็นนะค้าาาาาา
-
“ของพี่คิว จะใส่เข้ามา ตรงนั้นของเค้ก..เหรอครับ”
อู๊ยยย น้องเค้กเค้าฟังแล้วมันจั๊กจี้อ๊า :o8:
ตอนนี้ได้แต่รอเวลาที่พี่คิวจะได้ฤกษ์เอาเสาของพี่คิวลงหลุมน้องเค้กอ๊ะ :haun4: :oo1:
-
นึกว่าจะได้ตัวเค้กเป็นของขวัญซะอีก :z1: :z1:
-
หุหุเค้กน่ารัก พี่คิวหื่นนน
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย อ่านแล้วจะกรี๊ดมากกกกกก :m3:
เขินนนนนแบบจะระทวยแทนเค้กเลย
พี่คิวนี่ก้นะ เจ้าเล่ห์โคตรรรรรรรรรร แอบลามกอะ :laugh:
เค้กก้ใสได้อีกกกกกกกก หนูกล้าถามคำถามแบบนั้นกับพี่คิวได้ยังไง :z1:
ไอ้พี่คิวก้เหมือนกัน เต็มปากเต็มคำเลยโว้ยยยย
คนอ่านนี่หวิวมากกกกก ใจแบบสั่นยิ่งกว่าได้อ่านเอ็นซีอีก? ฮ่าๆ
ชอบมากเลยค่ะเบบี้ o13 นึกว่าพี่คิวจะได้กินเค้กตัวเป็นๆซะแล้ว
บอกตรงๆ ยิ่งอ่านคู่นี้ยิ่งชอบและยิ่งติด ขออีกสักตอนสองตอนได้มั้ยคะ? :m5:
ยังไงจะรอติดตามนะ เบบี้สู้ๆจ้าาาา :กอด1:
-
ี่พี่คิวนี่แกล้งเค้กเป็นงานอดิเรกจิงจิ๊ง หๆ
-
คู่นี้เค้ารักใสๆอ่ะ :jul3:
ลืมไปเลยว่าเค้กยังไม่ขึ้นปีสองเลย เด็กมากจริงๆ สมควรบ่มให้สุกกว่านี้อีกนิดน่าจะอร่อยกว่าเนาะพี่คิว 5555
ว่าแต่เบบี้โปรยมาว่าจริงๆคิวหื่น....แอบสงสารน้องล่วงหน้าเลย เอ๊ะ?! หรือจะอิจฉาดี :o8:
ปล พี่ฟ้าแกเพี้ยนไปแล้ว ยิ่งนับวันยิ่งฮาาาาาาา
-
พี่คิวนี่เค้าเป็นเพอเฟคแมนใช่มั้ยย?
ค่าตัวพี่ท่าน..เอ่อ...เยอะไปมั๊ย!!!!!
สุขสันต์วันเกิดพี่คิว...
ที่จริงของขวัญวันเกิดพี่คิวคงกะจะเปิดซิงเค้กนั่นแหละ..ใช่มั้ย????
รอเบบี้จ๊ะ....
ปล.เค้าก็คิดว่าอิคิวก็คงจะหื่นมากๆไม่ต่างจากอิเมตรหรอก...เพราะรักด็กเหมือนๆดันก็น่าจะคล้ายๆกันเนาะ
-
เกือบไปแล้ว
น้องเค้กเกือบเสียจิ้นให้พี่คิว
แต่เราลุ้นให้เสีย เอ๊ะ ยังไง
5555
-
พี่คิวหื่นใช่เล่นนะเนี่ย :haun4:
ไม่เป็นไร nc ที่เหลือขอมโนเองก็ได้ค่ะน้องเบบี้ :laugh:
:L2:
-
อิตาพี่คิว ที่แท้นิสัยอย่างงี้นี่เอง :z1:
:กอด1:
-
เค้กเกือบจะกลายเป็นของขวัญวันเกิดพี่คิวซะแล้ว
น่ารักทั้งพี่คิวทั้งเค้กเลย
-
อ่านไปนั่งลุ้นไป เค้กจะโดนมั้ย โอ้ยยยยยยย เขินมากก
พี่คิวหื่นน่ารักอ่ะ :-[ :-[
-
อ๊ายยยยย เขินแทนน้องเค้กเลยอะ จริงๆพี่คิวก็หื่นเหมือนกันสินะ
แต่แบบ....โคตรชอบเลยอ่าาา รีบๆเข้านะพี่คิว ไม่ต้องให้เวลาเค้กทำใจมากนักหรอก 55555
-
อ่านพี่คิวโหมดนี้แล้ว.....เขินอ่า!!!!!
อ๊ายยยย!!!!!
น้องเค้กก็นะ........ถามอะไรออกไป
แต่มันก็ดูน่ารักน่าฟัดดี^^.....คิคิคิ
-
ลุ้นยังกะตัวเองเป็นเค้กเลยอะ
จิกเกรงไปหมด หายใจไม่ทั่วทองกันเลย โอ้พระเจ้า
:pig4: คะ
-
เค้กจะตามพี่คิวทันมั้ยเนี่ย :z2:
-
:haun4:พี่คิวน่ารักอ่ะ อยากอ่านฉากฟินของคู่นี้เร็วๆจัง :z3:
-
อ่านไปอ่านมา เรื่องนี้มีคนน่่ารำคาญอยู่ สองคน
คืออาฟ้ากับกัส นิสัยคุณชาย เอาแต่ใจ คิดแต่เรื่องคนอื่น ไม่คิดถึงคนในครอบครัว
และตัวเองเป็นที่ตั้ง
ปล.สงสัยช่วงนี้อารมณ์จะเสียไปหน่อย เฮ้อออ
เบบี้ขอเตือนว่าถ้าน่ารำคาญก็ไม่ควรอ่านในตอนต่อๆไปนะคะ เพราะจะมีกัสและฟ้าแซมเข้ามาเสมอ รวมไปถึง 2 คนนี้เป็นคู่ประกอบด้วยค่ะ หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะไม่เจอสองคนนี้ในนิยายเรื่องนี้
และขอพูดนิดนึงนะคะ..ถ้าฟ้าไม่เห็นความสำคัญของคนในครอบครัว ฟ้าจะไม่มีทางเลือกที่จะรั้งคิวไว้และดูแลอย่างดีที่สุด กัสเองก็เช่นเดียวกันค่ะ ถ้าอ่านดีๆจะพบว่ากัสเป็นคนที่เห็นความสำคัญของคนที่ตนรักมากที่สุดมากกว่าจะให้ความสำคัญกับคนอื่นนะคะ ถ้าที่ผ่านมาเกือบร้อยตอนทั้งบทของฟ้าและบทของกัสทำให้คุณรู้สึกว่าตัวละครน่ารำคาญ เบบี้ก็พูดแทนอะไรให้ตัวละครมากกว่านี้ไม่ได้..เพราะทุกตัวอักษรได้สื่อความเป็นตัวละครนั้นอยู่แล้วค่ะ (ถ้าคุณจะรู้สึกรำคาญ มันก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้น)
และถ้าคุณอารมณ์เสียมากรวมไปถึงเรื่องนี้จะทำให้คุณรู้สึกอารมณ์อยู่ เบบี้คิดว่าคุณควรหานิยายที่ช่วยทำให้คุณรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นดีกว่านะคะ เพราะเบบี้ก็คงจะรู้สึกไม่ดีเช่นกันถ้าได้เห็นอะไรแบบนี้..ไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์ใครค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..
-
เหนือพี่คิว ก็คือพี่ฟ้านั่นเอง หลานจะเก่งกว่าอาได้ไง เพราะสิ่งที่ทิกเกอร์เสนอให้คิวนี่ เข้าทางพี่ฟ้าหมดเลย หัวเราะทีหลังดังกล่าว :laugh: :laugh:
หนูเค้กน่ารักมาก แต่ก็เกือบไปแล้ว เป็น NC ที่คนอ่านต้องไปจิ้นเอาเอง :o8:
:L2: :pig4: คุณเบบี้ พักผ่อนให้หายเหนื่อยแล้ว รีบมาต่อตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
-
น้องเค้กน่ารักมากกกกๆๆ
ถามคำถามแบบอินโนเซ้นสุดไรสุด
นี่ขนาดแค่เกือบๆก็ฟินแล้วนะนี่
ได้เห็นด้านหื่นๆของพี่คิว หุหุ (ความจริงคนอ่านอาจจะหื่นกว่าพี่คิวอีก กร้่ากกก) :haun4:
ชอบคู่นี้มาก ไม่ต้องมีหวือหวาอะไรมาก หวานกันทีก็อ่านไปยิ้มไปแล้วจ้า
-
น่่ารักมากๆๆ :impress2: :impress2: :impress2:
-
เอร้ยยย..คิว มันน่ารักหว่ะ..ฮ่าาๆๆๆ ชอบอะ ชอบคิว สุดๆๆเลย
คิวนะคิว บอกยังไม่ทำ เพราะให้เวลาเค้กเตรียมทำใจก่อนซะด้วย...กวนหว่ะ
กวนแบบสุดๆอะ
ปล.เค้กคงต้องทำใจจิงๆหล่ะนะ -o-
-
โอ้ยยย อ่านแล้วใจเต้นตึกตัก ตึกตัก ลุ้นแทนน้องเค้ก ว่าจะเสียตัวไหม ก๊าก ก ก
น่ารักไปแล้วเด็กคนนี้ ตอนนี้อ่านแล้วยิ้มจนแก้มจะฉีก ตีนกาป้าจะขึ้นไหมเนี้ยลูก ฮ่ าา
ชอบพี่คิวเวอร์ชั่นนี้ไม่ไหวแล้ว พี่คิวอย่าไปให้เวลาน้องเค้กได้ทำใจนานนะค่ะ >////<
เด็กน่ารัก ใสกิ้ก แบบนี้ปล่อยไว้นานไม่ได้แล้วค่ะ
ตอนนี้น้องเค้กอารมณ์แบบเป็นศรีภรรยาเต็มตัวมากเลย พี่คิวแอบเจ้าเล่ห์มากเลย แต่ชอบอ่ะ อ้ายยย
รอรวมเล่มเลยค่ะ >////< พี่คิวตอนนี้คงไม่ (แอบ) หื่นแล้วค่ะ :-[ :impress2: :o8:
-
โอ๊ย ฉากสุดท้ายขโมยซีน 5555 เล่นเอาลืมหมดเลยว่าควรจะเม้นท์อะไรก่อนหน้านั้นบ้าง กร๊ากกกกก
น้องเค้กน่ารักมากกกกกกลูก ใสซื่อบริสุทธิ์มากอ้ะ แอร้ยยยยย :-[ :o8:
ตอนอ่านก็ว่าพี่คิวคงแอบหื่น แต่พอเบบี้มาย้ำเลยมั่นใจ 55555
นี่คงกะบ่มรอวันน้องเค้กสุกจนกินได้อร่อยแหงเลย -..-
-
นึกว่าจะได้ลุ้นซะแล้ว
-
พี่คิวน่ารัก ชอบแกล้งเค็ก :-[
-
อ๋าย~ เบบี้มาต่อแล้ว ชื่นใจ ตอนนี้น่ารักมากเลย แบบนี้สิค่อยรู้สึกเหมือนเป็นแฟนกันหน่อย การกระทำบางอย่างของพี่คิวก็เหมือนกับอ้อนเค้กกลายๆนะ มีการบอกให้น้องหัดทำจะได้ชินซะด้วย นี่กะเอาเค้กเป็นคนบริการจุดซิการ์แบบถาวรเลยใช่ป่ะ จะว่าไปพี่คิวก็หื่นกับเค้าเหมือนกันนะนี่ ที่ทำแบบนี้คือสัญญาณเตือนเปล่าเนี่ย ว่าต่อไปพี่อาจจะไม่ทนอะไรทำนองนี้ กร๊ากกก เล่นซะน้องเคลิ้มเลยนะการเตือนที่เกือบจะเลยเถิดดี กิ้วๆ ว่าแต่เค้กเกี่ยวอะไรกับข้อตกลงในกรรถ่ายแบบฮะเนี่ยพี่คิว กว่าจะยอมตกลงได้เล่นเอาทิกเกอร์เสียไปหลายตังค์เลยนะเนี่ย อาหลานคู่นี้ไม่เคยยอมกันเลยนะ รู้สึกว่าพี่ฟ้าเวลาอยู่กับพี่คิวแล้วก็ทิกเกอร์ดูเป็นเด็กขี้เล่นและเอาแต่ใจดี ว่าแต่ทิกเกอร์ไปทำอะไรไว้ถึงโดนลงโทษเนี่ย
-
พี่คิวสุดยอด ยังมีอารมณ์ไปกินต่ออีก
-
HBD. to Q'pid ----> ชอบเวลาเค้กพูดว่า "ไอ้ขี้เก๊ก" น่ารักดี มีแอบหวานหลังจุ๊บบด้วยพี่คิวไม่หลงก็ให้มันรู้ไป จะทนได้ซักกี่นำ้ :laugh:
นึกว่าเค้กจะไม่รอดซะแล้ว :เฮ้อ: แต่ไม่ต้องให้เตรียมใจไรมากได้ม้ายยยย มันค้างคา :angry2:!!!!!!!
ไม่ใช่สไตล์อ่ะ แม้พี่คิวจะเริ่มออกลายแล้วก็เถอะ เพิ่งรู้ว่าแอบหื่น แต่ยิ่งไม่ค่อยพูดมากแบบนี้น่ากลัวว่าถ้าเค้กพร้อมเมื่อไหร่อาจโดนจัดหนักได้ :laugh:
ม่ายยยยย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สวยงามไม่ควรมีอะไรแบบนี้ (?) :z6: ไม่ได้หรอกมันก็ต้องมีบ้างไรบ้าง มุม xx ของคนรักกัน ก็ต้องเผยแพร่ซักเล็กน้อยก็ยังดี พอเป็นแนว (ความคิดเริ่มตีกันเอง) :z3: แต่ยังไงก็ตามรู้สึกว่า NC ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันที่น่าติดตาม (มาก )นะ :z1:
ส่วนพี่คิวนี่ค่าตัวแพงเวอร์ ๆ แต่จะรอวันที่ไปเดินแบบนะ คอสตูมเค้กอาจละลายเมื่อเห็นนายแบบคนนี้ อิ อิ :-[ (เพ้อไปเรื่อย)
ก็ขอบคุณคนเขียนค่ะ ยาวสะใจดีมาก ควรค่าแก่การรอคอยเจง ๆ
-
อ๊ากชอบ!!!! :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: น่าร๊าก!!! :-[ :-[ :-[
ชอบมากจนถึงมากที่สุด รีบๆๆๆๆๆๆ มาต่อนะครับ สนุกมาก o13 o13 o13
-
น่ารักอ่ะเค้ก.... แต่พี่คิวเนี้ยจะเก็กหล่อ ชอบแกล้งน้องนะ แต่ก็รักน้องใช่มั้ย แล้วชอบของขวัญหรือเปล่าจ๊ะ :L2:
-
พี่คิวววววววววววว เจ้าเลห์มากกกก
-
o13 :กอด1: :o8: :-[
-
เขินหน้าจะระเบิดอยู่แล้ว
:man1:
เค้กมันน่ารักขนาดนี้
พี่คิวจะชาเย็น เย็นชาได้ซักเท่าไหร่เชียว
ไปไหนไม่รอดหรอก คุณชายยยยย :laugh:
-
กรีสสสสส. ใครไม่อ่าน ชั่งเขา. เขิลแทน. อยากได้มั่ง.
-
น้องๆๆๆๆๆๆๆ พี่อยากได้ตรงหมายเหตุอ่ะ :laugh: :laugh:
เฮียคิวมันน่ารักนะเนี่ยะ ที่จริงเฮียน่าจะโชว์ความหื่นสักนิดนะจะได้รู้กันไปว่าหื่นระดับไหน เห็นชอบว่าอาหื่น ตัวเองไม่หื่นเนอะ :impress2:
-
:z1: แอบหื่นนี่หว่าพีคิว
-
พี่คิวเกือบจะกินเค้กแล้วสิ รอน้องทำใจ แหมคนอ่านต้องทำใจด้วยไหมนิ :impress2:
-
:-[ :-[ :-[ เขินแทนน้องเค้ก
คิวเจ้าเล่ห์โคตรๆอ่ะ :laugh:
-
ผู้ไม่มีประสบการณ์ ย่อมเสียเปรียบอยู่วันยังค่ำ แต่น้องเค้ก ก็ น่ารักอ่ะ :o8:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ :กอด1: เบบี้
-
ฮา คำพูดของเค้กอะ
กร๊ากกก ถ้าเขาเป็นพี่คิว เขาก็ขำ แต่ขำด้วยความรักนะ
555
-
เรารอคอยโหมดหื่นของพี่คิวมานานแล้วจริงๆนะ อ่านแล้วรู้สึกว่าพี่คิวแอบหื่นอ่ะ เค้กก็ตลกมากกก น้องคิดงัยถึงถามแบบนั้น กร๊ากกกก น่ารักดี
-
กรีสสสสส ... น้องเค้ก รอดตัวไปนะหนูนะ
อีพี่คิว อย่าหื่นนัก น้องยังเด็กอยู่ .. แต่ก้อ กรุบกรอบ น่ากินดีนะ 555
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
พี่คิวน่ารักที่สุด เขิยแทนเค้กอ่ะ
อายแทน น่ารัก มีความสุขมากเลย
ไม่ต้องมีNC เยอะหรอก แค่นี้สบายๆ เล็กๆน้อยๆ พองาม สำหรับเค้กดีที่สุดเเล้ว
เพราะมันยังไม่ถึงเวลา อย่างที่พี่คิวบอกไว้
รักพี่คิวมาก :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
เป็นตอนที่อ่านแล้วเขิน ประหนึ่งว่าเราเป็นเค้ก :o8:
แค่นี้เค้กก็แทบจะหยุดหายใจแล้ว พี่คิวรุกมากกว่าทุกที
แต่พี่คิวคงคิดว่านี่คงถึงลิมิตของเค้กแล้วล่ะมั้ง :laugh:
ทำให้เค้กดูน่าเอ็นดูขึ้นไปอีก ชอบพี่คิวที่เป็นแบบนี้อ่ะ >///<
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
-
น่ารักมากกกก
-
น่าร๊ากกก จริงๆ พี่คิวๆๆ :o8:
-
เค้กน่ารักมาก :impress2:
-
ชอบพี่คิวแบบนี้ น่ารักกกกกกกก
:pig4:
-
พี่คิวอ่ะ วันเกิดทั้งที ไม่กินเค้กวันเกิด แต่แค่ชิมๆ เค้กก้ออายจะแย่แล้ว
-
เขินจัง :o8:
ตลกมากอะตอนเค้กถามพี่คิว กร้ากกกกกกกกกก
ไร้เดียงสาจังหนู *0*
-
เขินแทนน้องเค้ก >///< พี่คิวน่ารักไปแล้วน๊า
-
กรี๊ดดดดดดดดดด พี่คิวแอบหวานปนหื่น :-[ ชอบจังที่แสดงออกกับเค้กแบบนั้น
เห็นเงียบๆไม่ค่อยสนใจ แต่พอจะรุกที เค้กไปไม่เป็นเลย น่ารักอ่ะ ><
ยิ่งอ่านยิ่งชอบพี่คิว เป็นผู้ชายที่ดูเข้าใจยาก มีความขัดแย้งในตัวแต่โรแมนติค :กอด1:
..ขอบคุณคุณเบบี้ค่า..
-
อ๊ายยยยยยย
น่ารักใสๆ อ่ะ
พี่คิวอดทนไปก่อนนะ น้องเค้กยังเด็กอยู่
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อั้ยยะ พี่คิวแกล้งน้องเค้กอะ.................ให้ใจเต้นๆๆๆๆๆๆๆ
-
กรี๊ดดด ดีใจ พี่คิวเกิดวันเดียวกะเค้าเลย :-[
แหม แอบลุ้นว่าของขวัญที่เค้กจะให้พี่คิวเป็นเค้กผูกโบว์ ซะอีก :z1:
-
ตลกเค้กอ่า
คำถามตลกไปนะ จริงๆ
-
เค้กยังน่ารักตลอด :L1:
-
ชอบมากกับตอนพิเศษสองตอนนี้
ได้อรรถรส โดยเฉพาะเรื่องของความคิดของคิวกับเค้ก o13
ว่าแต่คิวทนได้ไง มันน่าจะมีบ้างนะเรื่องอย่างว่า 555
รออ่านต่อไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ
:กอด1: :L2:
-
น้องเค้กก็น่ารักตลอดอ่ะ ใสจริงอะไรจริง 555+
แต่ชอบนะที่พี่คิวไม่ได้สปอยเค้กอะไรมากมาย แต่ก็ยังทำอะไรให้เค้กรู้สึกว่ารัก ^^
-
คิดถึงพี่คิว<3<3<3
-
น่ารักจังเน้ออ
-
กึ่ม กึ่ม....แบบจะสุดละ ความปราถนาของเจ๊ :m25: (นี่เจ๊ไม่ได้คิ๊ดดด. ลามกเลยนะ :z1:
ว่าแต่.... ของคิวเนี่ย ใส่เข้าไปในจมูกได้ด้วย หรอ? มันเล็กหรือว่ามัน.... :laugh:
บัตเตอร์ อนาคตคิวชัวร์ ถอดแบบมาเปรี้ย! ระวังจะหลงพี่เค้กละ เค้าว่าเชื้อมันไม่ทิ้งแถวหรอก
P.S. happy birthday " Cupid" ❤❤❤❤
-
ว๊ากกกกกกกก พี่คิวเล่นอะไรไม่บอกไม่กล่าว
คนอ่านหัวใจจะวาย ลุ้นแล้วลุ้นอีก เกร็งแทนเค้ก
:m25:
-
พี่คิวร้ายกาจมากอะมีแต่ได้กับได้
รู้เลยหลานใคร พอกันอา-หลาน ฮ่าๆ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ ^^
-
:กอด1: :L1:
-
I need Your Love [by..Tigger]
“ผมจะไปหาฟ้า” ผมพูดขึ้นโต้งๆขณะที่ปูนกำลังนั่งวาดภาพอยู่ที่สวนของบ้าน วันนี้เราใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ร่วมกัน ปูนวาดรูปเป็นงานอดิเรกและผมที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเปลยาว สุดท้ายก็นึกไปนอกเรื่องจากหนังสือที่อ่านอยู่เสียอย่างนั้น
ปูนหันกลับมามองสีหน้าไร้รอยยิ้ม ผมลุกขึ้นนั่งหันไปมองหน้าเขา ปูนวางพู่กันลงก่อนจะหลับตาและนิ่งไปสักครู่ใหญ่ ผมกับปูนรู้จักกันมานาน ผมได้รู้จักเขาเพราะเขาเป็นน้องชายของพี่สะใภ้ผม เราเข้ากันได้ดีถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะตุ้งติ้งเกินงาม แต่ตรงนั้นล่ะที่ผมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์ที่เป็นตัวปูน ซึ่งน่าแปลกจริงๆว่าเราเข้ากันได้ดีในหลายเรื่อง นั่นคงเพราะปูนเป็นคนดีคนหนึ่ง นี่ล่ะครับพื้นฐานของการคบเพื่อนแท้
“I need.....your love so bad~~woo!” ปูนร้องขึ้น ผมถึงกับหัวเราะออกมาในทันทีที่เห็นปูนปรับอารมณ์ได้รวดเร็วขนาดนั้น ผมคิดว่าผมจะโดนต่อว่าด้วยซ้ำไปเพราะที่จริงผมเดาอารมณ์ของปูนไม่ค่อยเก่งนักนอกจากเวลาที่เขาพร้อมจะโมโห
ผมใช้เวลาในการตัดสินใจมานานมากพอแล้ว หลายอย่างที่ผมได้พิสูจน์กับตัวเองและค้นพบเลยว่าหัวใจผมอยู่ที่ใคร ถึงแม้ผมจะเลิกกับแอนนา..อดีตภรรยาของผมไปแล้วปูนก็ยังไม่ยอมให้ผมกลับไปหาฟ้า เขาบอกว่าเขาต้องการความแน่ใจ เมื่อไหร่ที่เขาได้รับมากพอแล้วเขาจะอนุญาตให้ผมผ่านด่านเขาได้ตรงนี้ผมอาจจะดูเป็นคนโลเลซึ่งแท้ที่จริงจะว่าอย่างนั้นก็ได้ แน่ล่ะ..ผมมีหัวใจนี่นะ
“ผม..ใช้เวลามากพอแล้ว” ผมพูด ปูนมองผมด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ก่อนจะเบะปากพร้อมกับยักหน้าไปมา
“Tell me that you love me baby” ปูนยังคงหยอกล้อผมด้วยการร้องเพลงไม่เลิก ผมได้แต่มองและยิ้มให้อีกฝ่ายซึ่งเหมือนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเสียที
“I need your love so bad, ohh..need a soft voice, just to talk to me at night woo..hoo~ I need your love so bad baby, baby, baby, baby”
“หึ..หึหึ เลิกล้อเล่นสักทีน่า” ผมหัวเราะอีกฝ่ายที่ทำท่าทีทะเล้นไม่หยุด เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ เมื่อไหร่ที่อารมณ์ดีก็จะอารมณ์ดีมาก แต่บทถ้าจะขี้โมโหแล้วละก็ ใครหน้าไหนก็เอาไม่อยู่ทั้งนั้นแม้กระทั่งพี่สาวของเขาเอง..ซึ่งผมเองก็ไม่ชอบเข้าไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นของปูนเท่าไหร่ ด้วยความที่ปูนเป็นคนนิสัยแบบนี้คุณแม่ของผมจึงชอบมากเมื่อไหร่ที่ต้องการให้ปูนไปช่วยดูงานที่บริษัท นอกจากเป็นคนขี้วีนแล้วเขายังเป็นคนพูดตรงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มขนาดที่ว่าชาวต่างชาติอย่างพวกผมต้องยอมเลยล่ะครับ
“................” ปูนหยุดตามที่สั่ง เขานั่งอมยิ้มจ้องผมไม่วางตาก่อนจะพยักหน้างึกงักคล้ายเข้าใจ ผมนั่งรอเขาแสดงความคิดเห็นอะไรสักอย่างเพราะเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เป็นที่ปรึกษาให้ผมตลอดมาตั้งแต่ที่ฟ้าได้จากผมไป ไม่สิ..ฟ้าไม่ได้ผิดที่จากผมไป ผมต่างหากที่ทำให้ฟ้าต้องเป็นฝ่ายจากไปเอง
“ฟ้าน่ะ ร้ายกาจกว่าที่คุณคิดนะ” ปูนพูดแต่กลับมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนเมื่อนึกถึงเพื่อนรักของตน ผมผงะเพียงเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าตอบอย่างเข้าใจ ผมคิดว่าฟ้าน่ะร้ายกาจตั้งแต่ทำให้ผมหลงรักได้แล้วละครับ
“มันน่ะ คล้ายกับนาร์ซีซัส ผสมกับอะพอลโลแล้วก็อาร์เทอร์มีสเลยล่ะ..หึ” ปูนถลึงตาพูดบอกพร้อมกับหัวเราะออกมา ผมได้แต่ยิ้มให้
“ผมบอกแล้ว ว่าถ้าผมพร้อมเมื่อไหร่..ผมจะบอกคุณทันที”
“นั่นสินะ ชีวิตคุณนี่” ปูนพูดปัดไปที เขาเลื่อนมือไปเด็ดดอกไม้จากต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลมือนักมาถือไว
“มันชีวิตคุณ” เขายังคงบ่นพึมพำ ตาเลื่อนลอยมองดอกไม้ในมือ
“แต่มันก็คือชีวิตเพื่อนผมด้วย” ปูนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผมเล็กน้อย
“บอกอะไรให้ เอาบุญไหม” ปูนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์และไม่มีรอยยิ้มปรากฏให้เห็นอีก
“ฟ้ามันไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมอ่อนถ้าไม่สมเหตุสมผล..คุณก็ทำกับมันไว้มากอยู่ อย่านึกเชียวว่าความรักที่มีมากล้นที่แบกกลับไปให้มันที่ไทยน่ะจะมากพอให้คนอย่างมันอภัยให้คุณได้” ผมเพียงแต่กลืนน้ำลายลงคอเพราะรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ถึงแม้จะบอกว่าเตรียมใจไว้แล้วแต่กลับรู้สึกกลัวกับคำพูดของปูนไม่ได้ เขาคงจะรู้จักฟ้าดีมากกว่าผม
“คุณรู้ไหม..ว่าทำไมฟ้าถึงเกลียดวิชาเศรษฐศาสตร์” ปูนแสยะยิ้มถาม ผมได้แต่มองปูนอย่างหยั่งรู้ว่าปูนกำลังต้องการบอกอะไร
“เพราะมันน่ะ..เรียนวิชานี้ได้ท็อปตลอดทั้งๆที่แทบไม่ได้อ่านหนังสือเลยด้วยซ้ำ ผิดกับวิชาที่มันรักถนัดเลยล่ะ นั่นน่ะ..ทำให้มันรู้ว่าความจริงว่ามันเจ้าเล่ห์ได้มากขนาดไหน หึ..ทุกอย่างในมาตรฐานของฟ้าต้องอยู่บนพื้นฐานของผลดี ผลเสีย กำไรและขาดทุนอยู่ตลอดเวลา มันก็เหมือนความรักที่คุณจะเอาไปประเคนให้นั่นแหละ เข้าใจไหม แต่ถ้าจะไม่เข้าใจอืม..ก็คงต้องช่างหัวคุณ” ปูนยักไหล่ให้ เขามักจะพูดไม่สุภาพบ่อยๆซึ่งผมชินเสียแล้ว ในบ้านของผมปูนเป็นคนหนึ่งที่พลิกผันอะไรหลายอย่าง เนื่องจากตระกูลของผมเป็นตระกูลผู้ดีเก่า การเสียมารยาทหรือการพูดไม่สุภาพจึงไม่ค่อยได้พบเห็นนัก และในขณะที่ปูนเข้ามาเขามีลักษณะที่แปลกแยกแต่ก็ลงตัวในคราเดียวกัน หลายสิ่งหลายอย่างในความเป็นตัวเขาทำให้คุณแม่ของผมหลงรักเขาให้อย่างจัง
“อีกอย่างนะ คุณควรเข้าทางคิวให้ได้ก่อน..คุณคงไม่รู้ตัวว่าคุณทำพลาดมหันต์แค่ไหนที่ดันไปทำลายความไว้ใจที่เด็กคนนั้นมีให้กับคุณ” ปูนมองผมไม่วางตา
“เพราะถ้าคุณทำให้คิวยกโทษให้ไม่ได้ คุณก็อย่าหวังเลยว่าสิ่งที่คุณคิดไว้กับฟ้าจะราบรื่น สองคนนั้นน่ะ..รักและผูกพันกันมากกว่าที่คุณเห็นนะ”
“แน่นอน ว่าผมก็รักเค้าสองคนมากกว่ารักคุณ เอิ่ม..อาจจะ นิดนึง” ปูนยักไหล่ยิ้มๆ
“ผมเตรียมใจไว้แล้วล่ะ” ผมยิ้มพูดและได้แต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“คุณควรมากกว่าเตรียมใจนะ” ปูนย้อน เขาจ้องหน้าผม สายตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง
“ผมน่ะ ผิดต่อฟ้า..และผมไม่อยากทำผิดต่อเค้าอีก” ปูนยิ้มบอกเล็กน้อย เขาถอนหายใจทิ้งก่อนจะเงียบไปสักพัก
“คุณไม่รู้หรอกว่าฟ้าต้องผ่านช่วงที่เจ็บปวดมาอย่างทรมานแค่ไหน คนเราน่ะนะ..การที่จะต้องเจ็บปวดมากที่สุดก็เพราะเจ็บปวดกับสิ่งที่หาทางออกไม่ได้ มันยิ่งเจ็บมากเมื่อต้องเป็นฝ่ายตัดใจจากคนที่รัก..กระทั่งยังรัก แถมคนนั้นก็ยังรักเรา มัน..ทรมานนะ” ปูนยิ้มเศร้า
“ถึงผมจะสงสาร..แต่ผมกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ถ้าคนเราสามารถแบ่งความเจ็บปวดให้คนอื่นได้บ้าง มันก็คงจะดี..”
“ทิกเกอร์” ปูนหันกลับมามองหน้าผมอีกครั้ง
“คุณรับปากผมได้ไหมไม่ว่ายังไง คุณจะต้องเคารพการตัดสินใจของเพื่อนผม” ปูนพูดน้ำตาคลอ
“ผมจะอนุญาตให้คุณไป ถ้าคุณรับปากผม”
“ครับ สัญญาด้วยเกียรติของผม” ผมตอบ
= = = = = = = =
1 ปีก่อน ณ ห้องอาหาร Pureประเทศไทย..
“คุณคิดว่าเรื่องทั้งหมดที่คุณว่ามานั่นจะทำให้ผมเห็นใจแล้วก็ช่วยจะคุณใช่ไหม” คิวพูด ตาของเขานิ่งมากจนผมอ่านไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หลังจากที่เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมาระหว่างผมกับภรรยาและเรื่องอื่นอีกมากมายผมกลับรู้สึกไม่โล่งใจเลยสักนิดเดียว ผมกำลังต้องการความเห็นใจจากผู้ชายคนนี้
“เปล่า ผมอยากให้คุณเข้าใจผมก่อน” ผมพูดและเพียงยิ้มเล็กน้อยให้เขาเท่านั้น
“ขอโทษด้วยนะ ถ้าผมจะบอกว่าผมไม่เข้าใจ” เขายิ้มตอบให้ผมเล็กน้อยเช่นเดียวกัน
“เพราะผมไม่อยากจะเข้าใจ เพราะถ้าผมเข้าใจคุณ..นั่นหมายความว่า ผมจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่อาเคยมีได้น้อยลงไป” ผมถึงกับผงะกับคำพูดประโยคนี้ มันคล้ายกับมีบางสิ่งครอบลงบนหัวผมและจำกัดพื้นที่ในความคิดของผมอย่างชัดเจนทันทีทันใด
“ในบ้านหลังนั้นเค้ามีแค่ผม ถึงผมจะทำอะไรไม่ได้มาก..แต่เค้ามีแค่ผม” คิวพูดคล้ายกับบ่น เราต่างเงียบกันไปสักพัก สถานการณ์คล้ายกับกำลังฉายหนังสั้น เราต่างสบตากันอยู่หลายครั้งหลายคราแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรอยู่นาน
“ผม..ไม่ได้กลับมาเพื่อแค่มายืนยันว่าผมรักฟ้า หรือกลับมาเพราะต้องการแก้ไขอะไร หลังจากนั้น..คุณจะให้อภัยหรือไม่ให้อภัยผมก็ได้” ผมยิ้มพูด
“แต่ผมจะพยายามจนกว่าพวกคุณจะบอกผมว่า..ไม่มีทางเป็นไปได้อีกต่อไปแล้ว หรือ..ถ้าผมได้เห็นฟ้ามีความสุขอย่างที่เค้าต้องการ ผมจะไปเอง” ผมพูดบอก คิวยิ้มเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเบาๆ เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“อา..ไม่ค่อยเปิดใจรักใครง่ายๆ เค้าคาดหวัง..คาดหวังอยู่ตลอด ถ้าเค้าจะเปิดใจอีกครั้งมันก็คงจะยาก ถ้าคุณทำได้..ผมก็ไม่มีสิทธิ์ท้วงอะไรอยู่แล้ว เอาเป็นว่า..ผมจะช่วยเท่าที่ช่วยได้แล้วกัน แล้วก็นะ..ช่วยอย่าพลาดอะไรซ้ำๆล่ะ” คิวพูด
“เพราะอาน่ะ..มือหนักสุดๆเลยล่ะ” คิวพูดแกมหัวเราะ ผมยิ้มและพยักหน้ารับอย่างเข้าใจในความหมายทั้งหมด คล้ายกับกำลังโดนขู่เตือนอย่างนั้น
= = = = = = = =
ปัจจุบัน ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
ผมยังคงนั่งจ้องคนที่นอนอยู่ตรงหน้าและหวนนึกไปถึงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับฟ้า ความผูกพันที่ผมกับปูนมีให้กันมากขึ้นและมีความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น การได้ค้นพบบางสิ่งบางอย่างในตัวของผม รวมไปถึงความรู้สึกของฟ้าทั้งหมดที่ผมได้รับมันทำให้ผมเข้าใจในชีวิตว่าตรงไหนที่ที่ผมอยู่แล้วมีความสุข และถึงแม้ว่าผมกำลังทุกข์ผมจะเป็นสุขได้อย่างไร
~Oh darling, what happened to that beautiful smile
The ones you gave me any time we were face to face, Oh is it someone else taking my place.
Oh baby, what happened.~
เพลงบลูส์จากนักดนตรีโปรดของผมและฟ้าเปิดคลอมาหลายต่อหลายเพลง ฟ้ายังคงนอนคว่ำหลับตาอยู่บนโซฟาอีกตัวซึ่งผมที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวตรงข้ามได้แต่นั่งมองเขา หลังจากที่ผ่านอุปสรรคอะไรมามากมาย มันคล้ายกับเป็นบททดสอบของผมและฟ้าเองด้วย หรือที่จริงอาจจะทดสอบทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเราด้วยก็ได้ หลังจากนั้นผ่านมาหลายเดือนผมกับฟ้ายังไม่คืบหน้าไปไหนนอกจากคบกันอย่างคู่รักออกหน้าออกตา ฟ้าอนุญาตให้ผมมาหาที่บ้านแต่ห้ามไม่ให้ผมรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากกว่านั่น เพราะเขาต้องการลงโทษที่ผมได้บอกความจริงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปีผมไปนอนกับใครมาบ้าง ฟ้าบอกผมว่าเขาไม่ได้โกรธผม เขาบอกว่าผมมีสิทธิ์ทำอย่างนั้นแต่ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมเขาถึงลงโทษผมอย่างนี้ทั้งที่ปากบอกว่า..ไม่โกรธ แต่ไม่เป็นไร ผมคิดว่าพวกเรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีก ผมไม่คิดจะรีบร้อนเพราะผมอยากให้ฟ้าสบายใจ
~Oh what happened to those fast heartbeats?
The ones that excited me so.Oh tell me, don't you love me.
Oh, baby, don't you care anymore?
Darling, what happened.~
“.................” ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นคิวเดินเข้ามาในห้องหนังสือนี้ คิวเป็นหลานชายคนโปรดของฟ้า..จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ผมไม่เคยเห็นว่าฟ้าจะโกรธคิวได้นานเลยสักครั้ง ตอนแรกผมคิดว่าคิวอาจจะไม่ชอบผม หลายครั้งผมโดนบททดสอบจากเขาทางอ้อมซึ่งผมรับรู้กลิ่นแปลกๆนั่นได้ตลอดเพียงแค่ไม่อยากพูดออกไปก็เท่านั้น ผมคิดว่าคิวมีสิทธิ์ทดสอบผม..เพราะการได้รับการทดสอบมันทำให้รู้ถึงความมีคุณค่านะครับ ยิ่งยากเท่าไหร่ยิ่งมีคุณค่ามากเท่านั้นหลังจากที่ผมใช้ชีวิตผ่านผู้คนมามากมาย ส่วนมากล้วนแล้วเป็นนักธุรกิจและเพื่อนหัวกะทิซึ่งผมค่อนข้างเข้ากับทุกคนได้ดีแม้บางคนจะนิสัยเฮงซวยมากก็ตาม แต่ผมขอบอกเลยว่าคิวเป็นเด็กที่รับมือยากมากสำหรับผมคนหนึ่ง บางครั้งผมต้องนิ่งเพื่อรักษาสถานการณ์ไว้เวลาที่คิวต้องการต้อนผมให้จนมุม ผมบอกได้เลยว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดา แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับว่าผมไม่ชอบที่โดนเขาต้อน ที่จริงแล้ว..นี่น่ะ ของชอบผมเลยล่ะ
“Hi” ผมทัก คิวไม่ตอบอะไร เขาหน้านิ่งเหมือนกับไม่พอใจผมแต่ผมคิดว่านั่นคงเป็นหน้าปกติของเขาซึ่งบางครั้งผมควรมีสติอ่านอารมณ์ของเขาให้ออกมากกว่านี้ อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมทราบว่าคิวยอมรับผมคือคิวช่วยเหลือผมมาตลอดตั้งแต่ผมมาอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งผมยิ่งรู้สึกดีเข้าไปใหญ่เมื่อเขายอมรับผมมากกว่าคนรักคนแรกของฟ้า เขาคนนั้นชื่อ “จั๊ก” หรือ “จัก” อะไรสักอย่าง บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่ แถมชื่อยังออกเสียงยากพิลึก
“ใคร อนุญาตให้คุณมานอนในห้องนี้โดยไม่ใส่เสื้อ” คิวพูดขึ้นเสียงแข็งพร้อมกับจับจ้องไปที่ฟ้า ฟ้ายังคงนอนหลับตาคล้ายกับไม่สนใจแต่มีรอยยิ้มผุดขึ้นให้เห็นนิดๆ ตั้งแต่เมื่อเช้าที่ผมมาหาฟ้าที่บ้านก็พบว่าฟ้าใส่แต่กางเกงนอนทั้งที่ไม่ใส่เสื้อ แถมยังไม่ได้อาบน้ำอีกด้วยครับ
“อา” คิวเริ่มลดน้ำเสียงให้ต่ำลงกว่าเดิม นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มไม่พอใจ
“Oh darling, before I go. There's one thing I'd like to know” ฟ้าเอ่ยร้องเพลงขึ้นมาทั้งทั้งที่เพลงได้จบลงไปแล้ว ผมเกือบหลุดยิ้มเพราะผมรู้ว่าฟ้าทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร เขาเองก็นิสัยคล้ายกับปูนไม่มีผิด
“Don't you love me?Don't you care anymore?~” ฟ้ายังคงนอนหลับตานิ่งแต่ปากกลับขยับเหมือนต้องการแกล้งคิวที่ยืนอยู่
“Darling, what happened..หึ หึหึ” อยู่ๆฟ้าก็หลุดหัวเราะออกมาจนได้ ผมได้แต่อมยิ้มเล็กน้อย คิวยืนเท้าเอวเหมือนกำลังระงับอารมณ์ของตน
“คุณนี่มันจริงๆ” คิวกัดฟันคล้ายกับเหลืออด
“ไปใส่เสื้อ แล้วนี่ยังไม่ได้อาบน้ำใช่ไหม” คิวขึ้นเสียง แม่บ้านของฟ้าเดินเข้ามาเพื่อนำกาแฟมาเสิร์ฟให้ผม เมื่อเธอเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้เธอหน้าเสียในทันที
“กาแฟใคร” คิวหันมากระชากเสียงถาม
“เอ่อ ผ..” ผมอ้ำอึ้ง
“เอ่อ กาแฟ ของคุณ..ผู้ชายคนนี้ค่ะ” แม่บ้านตอบเสียงตะกุกตะกัก คิวหันกลับมาจ้องหน้าผมเล็กน้อย แม่บ้านรีบเดินออกจากห้องไป
“ออกไปจากห้องนี้เลยนะ” คิวไล่อย่างหัวเสีย ผมไม่รู้ว่าเขาไล่ใคร ไล่ฟ้าหรือไล่ผม หรืออาจจะไล่ทั้งคู่ เขาเดินตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือโต๊ะประจำของเขาซึ่งผมจะไม่ค่อยกล้าเข้าไปยุ่มย่ามเท่าไหร่นัก ที่จริงคงไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น..อาจจะเป็นทุกคนในบ้านนี้ก็ด้วย เพราะเพียงแค่สิ่งใดสิ่งหนึ่งบนโต๊ะเคลื่อนย้ายเพียงแค่เซ็นเดียวคิวก็จะสามารถรู้ได้ในทันทีว่ามันไม่เหมือนเดิม
“ฟ้าครับ” ผมเรียกฟ้าที่ยังคงแกล้งนอนหลับตาพริ้มอยู่ อีกฝ่ายอมยิ้มออกมาเหมือนกำลังสนุก
“ไปกันเถอะครับ” ผมบอก ผมพูดภาษาไทยได้คล่องมากขึ้นเพราะผมพยายามใช้ทุกวัน ถึงแม้ว่าบางครั้งผมจะใช้ผิดใช้ถูกแต่ผมก็ไม่ได้อายมากเท่าไหร่เพราะถึงแม้ว่าจะถูกบางคนหัวเราะแต่เขาก็ช่วยบอกสิ่งที่ถูกให้ผมอย่างยินดี
“ไม่” ฟ้าตอบเสียงดังฟังชัด ผมหันกลับไปมองคิวเล็กน้อย ในห้องเงียบสงัดลงทำให้ผมต้องหยิบกาแฟขึ้นดื่มฆ่าเวลาเพราะดูเหมือนฟ้าจะไม่ยอมหยุดกวนหลานตัวเอง
“กี้..ผมหนาว” ฟ้าลุกขึ้นนั่งพร้อมกับยิ้มกว้างให้ผม อารมณ์แปลกจากเดิมถนัด ผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย
“ไปใส่เสื้อสิครับ” ผมบอก
“ไม่” ฟ้าตอบเสียงใส ผมส่ายหัวอย่างรู้ทันฟ้าก่อนจะเอนตัวรอดูสถานการณ์ ฟ้าลอยหน้าลอยตาไปมา คิวยังคงนั่งเงียบอ่านหนังสือไป เสียงเพลงเริ่มบรรเลงเพลงต่อเพลง
“เฮ้อ เบื่อจัง” ฟ้าบ่นขึ้น
“เฮ้อ เบื่อจัง” เขาย้ำพูดอีกครั้ง
“เฮ้อ!”
“ฟ้า” ผมปรามเพราะฟ้าเล่นมากไปแล้ว บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจว่าฟ้าชอบนักรึไงที่ทำให้คิวโมโหหรืออารมณ์เสียได้ ผมไม่ชอบเท่าไหร่ ผมคิดว่าเขาไม่ใช่บุคคลที่ควรเข้าไปลองของหรือล้อเล่นเมื่อไหร่ที่เขาหงุดหงิด ถ้าเป็นผม..ผมจะไม่ทำอย่างนั้น
“อยากเล่นมากใช่ไหม” คิวหันกลับมาพูดเสียงเรียบ ฟ้ายักไหล่อย่างลองดี
“ได้” คิวยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขาลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาหาฟ้า ผมกับฟ้ามองอย่างไม่เข้าใจ คิวก้มลงหยิบโทรศัพท์มือถือของฟ้าที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าผมไป
“เอ๊ะ” ฟ้าร้องหน้าเหวอ
“จะออกไปไหม” คิวถามพร้อมกับจ้องหน้าฟ้าด้วย
“ไม่” ฟ้าเบะปากเล็กน้อย
“โอเค” คิวพยักหน้าก่อนจะกดอะไรบางอย่างบนโทรศัพท์มือถือนั่น
“เอ๊ะ ทำไรอ่ะ” ฟ้าเริ่มอยู่ไม่สุข เขาลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปแย่งโทรศัพท์กลับมาแต่คิวกลับเบี่ยงหนี
“นี่เบอร์ใครนะ” อยู่ๆคิวก็ยื่นโทรศัพท์กลับมาให้ฟ้าดู ฟ้าชะงักไปเล็กน้อยจนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันอยู่
“ช่วยออกไปดีๆ เดี๋ยวนี้” คิวย้ำพูด
“เออ ออกก็ได้” ฟ้าปัด
“เอามาเซ่!” ฟ้าขึ้นเสียงเมื่อคิวยังไม่ยอมคืนโทรศัพท์มือถือกลับมาให้
“ชิ ไปหาอะไรทำก็ได้..ไม่สนุกแล้ว” ฟ้าบ่นก่อนจะหยิบมือถือออกจากมือคิวและเดินออกจากห้องไป
“บ้านใครวะ ตกลงบ้านใคร!” ผมได้ยินเสียงฟ้าโวยวายแว่วๆ คิวหันกลับมาจ้องผมเขม็ง ผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย
“คุณควรสั่งสอนเค้าบ้างก็ดีนะ” คิวบอกผม
“ตอนเด็กๆคงไม่ค่อยมีใครเอาใจน่ะ..ยิ่งแก่ถึงยิ่งเลอะเลือน” คิวบ่นลอยๆก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ ผมได้แต่อมยิ้มไม่รู้จะว่าต่ออย่างไรเพราะฟ้ากับคิวก็ทะเลาะกันอย่างนี้เป็นประจำตั้งแต่ผมจำความได้ ผมคิดว่ายิ่งเขาเป็นอย่างนี้เขาก็รักกันมากเท่านั้น มันคล้ายกับเพิ่มสีสันให้ผมด้วยเพราะครอบครัวผมไม่ค่อยได้พูดคุยกันอย่างนี้สักเท่าไหร่ เราจะต่างคนต่างอยู่เสียส่วนมาก ยิ่งฟ้าแสดงออกแบบนี้ผมคิดว่าเขาก็คงแค่อยากเรียกร้องความสนใจจากหลานตัวเองละมังครับ..
ผมนั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือฆ่าเวลาไปพลางเพราะไม่รู้ว่าฟ้าไปไหน คงขึ้นไปบนห้องแต่ผมตามขึ้นไปไม่ได้เพราะผมยังไม่ได้รับอนุญาตจากฟ้าว่าสามารถเข้าออกบ้านนี้ทุกซอกทุกมุมได้ตามสบาย หลังจากที่ผมสามารถทำตามข้อตกลงกับฟ้าได้ว่าถ้าผมให้คิวเดินแบบในงานแฟชั่นโชว์ได้ หลังจากนั้นหนึ่งเดือนฟ้าจะให้ผมนอนที่บ้านของฟ้าได้ ผมคิดว่าการเค้าน์ดาวน์ก็เป็นเรื่องที่น่าลุ้นดีซึ่งการเคารพในกฎกติกาก็คล้ายกับให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย
ผมนั่งอยู่ในห้องหนังสือกับคิว ต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่เกือบชั่วโมง เขานั่งอ่านหนังสืออยู่ในโลกของเขาโดยผมก็ควรอยู่ในโลกของผมไม่ควรไปรบกวนเขาด้วยนะครับ
-
"กี้..เสร็จละ” ฟ้าเดินมาด้วยสีหน้าร่าเริง เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ผมยิ้มให้ เขาเป็นคนหุ่นดีเหมาะมือผมมาก แต่งตัวเก่งและรู้ว่าอะไรที่ผมชอบหรือไม่ชอบให้ใส่
“ไปไหนครับ” ผมถามก่อนจะปิดหนังสือลง
“ไปไหนกันดีอ่ะ..ไปหาอะไรอร่อยๆทานกันไหม แล้วไป Sport Shop ด้วย..ฟ้าอยากดูชุดกีฬาน่ะ” ฟ้ายิ้มบอก ปกติแล้วสมัยที่เราคบกันแต่ก่อน ฟ้าจะแทนตัวเองว่า “I” กับ “You” เป็นปกติซึ่งบางครั้งผมจะเรียกเขาว่า “Honey” บ้าง แต่เมื่อผมได้มาเรียนภาษาไทยทำให้ผมทราบว่าในภาษาไทยสามารถใช้สรรพนามเรียกได้หลายอย่าง ผมรู้มาว่าฟ้ากับคนรักคนแรกของเขาจะแทนตัวเองด้วยชื่อตัวเองกับอีกฝ่ายเสมอ คุณครูที่สอนภาษาไทยให้กับผมเธอบอกกับผมว่านั่นเป็นการแสดงถึงความสนิทสนมที่มีให้กันมากยิ่งขึ้น ผมจึงชอบทุกครั้งที่เดี๋ยวนี้จะได้ยินฟ้าแทนตัวเองว่า “ฟ้า” มากกว่าจะใช้คำว่า..ผม นะครับ ผมไม่อยากบังคับให้เขาพูดซึ่งเมื่อไหร่ที่ผมได้ยินเขาใช้ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น
“ได้ครับ” ผมตอบ
“หนิคิว” ฟ้าเรียก คิวละสายตาจากหนังสือมามองฟ้า
“เย็นนี้ไปตีเทนนิสกัน” ฟ้ายิ้มชวน คิวเงียบไปครู่หนึ่งเหมือนใช้ความคิด
“โอเค” คิวพยักหน้าตอบ
“ชวนเค้กไปด้วยนะ เย็นนี้เค้กจะมากินข้าวที่บ้านไม่ใช่เหรอ..ชวนไปเยอะๆเลย สนุกดี” ฟ้ายิ้มคล้ายกับมีความสุข ฟ้าเป็นคนเข้ากับสังคมง่าย ชอบปาร์ตี้แต่ผมไม่ค่อยชอบปาร์ตี้ ผมชอบอยู่ในโลกเงียบๆมากกว่า ดังนั้น..เวลาที่ผมต้องอยู่ร่วมกับคิวแล้วผมถึงรู้สึกสบายใจมาก ผมไม่ต้องระแวงเลยว่าคิวจะมายุ่งวุ่นวายกับผมหรือเปล่าเพราะเขามีโลกของเขาโดยที่ไม่เคยรุกล้ำมาในพื้นที่ส่วนตัวของผมเลย
“ไปฮันนี่~” ฟ้ายิ้มเรียก ผมยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้น
“รีบไปเถอะ..จะอ้วก” คิวพูดเสียงแข็งมาก ฟ้าหันมาส่ายหัวและหัวเราะให้ เราเดินออกมาที่ลานจอดรถและเราตกลงว่าวันนี้จะขับรถของฟ้าไปเพราะคงจะสะดวกในการเดินทางมากกว่า หนึ่งอย่างที่ผมไม่ชอบใจในเมืองหลวงนี้เลยคือรถติด ครั้งที่มาแรกๆผมค่อนข้างงงมากและคิดว่าตัวเองอยู่ที่นี่ไม่ได้แน่ มันค่อนข้างลำบากไปหมด โดยปกติแล้วถ้าผมอยู่ที่ประเทศอังกฤษผมจะมีคนขับรถประจำตำแหน่ง ถ้าต้องออกไปส่วนตัวก็จะมีคนขับรถของที่บ้านขับให้เสมอ แต่ถ้าอยู่ที่ประเทศอิตาลีจะขับรถเองเพราะบ้านของผมอยู่ค่อนข้างชานเมืองจึงไม่วุ่นวายเท่าไหร่และด้วยผมกับปูนเป็นคนรักธรรมชาติด้วย แต่เมื่อผมต้องมาเจอการจราจรที่กรุงเทพนี้ผมถึงกับอยากจะอาเจียนเลยล่ะ บางครั้งผมก็รู้สึกนับถือคนที่นี่จริงๆ..เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็มีความอดทนสูงนะครับ
“เมื่อกี้..ฟ้าคุยอะไรกับคิวเหรอ” ผมถามขึ้น วันนี้ฟ้าให้คนขับรถขับรถให้แทน ผมกับฟ้าจึงได้นั่งสบาย
“เปล่านี่” ฟ้าตอบปัดไปที เขามองออกไปด้านนอกกระจกเหมือนไม่ต้องการให้ผมพูดถามอะไรอีก ผมได้แต่นั่งเงียบเพราะยังรู้สึกติดใจกับการที่คิวทำเหมือนมีเรื่องที่ฟ้าต้องการปกปิดอยู่
“กี้..วันเกิดผมปีนี้ไปไหนกันดี” ฟ้าหันมายิ้มถาม ผมยิ้ม
“ไม่รู้สิครับ แล้วแต่ฟ้า”
“อืม ฟ้าอยากไปทะเล..กับน้องๆที่ร้าน” ฟ้าทำหน้าคิด
“ผมอยากไปกระบี่” ผมรีบบอกฟ้าทันที ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของจังหวัดนี้มานานมากแล้ว อยากไปแต่ไม่มีโอกาสได้ไปสักที
“ได้สิ” ฟ้ายิ้มกว้างในทันที
“งั้นวันเกิดฟ้าไปกระบี่นะ” ฟ้าสรุป
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ
= = = = = = = =
ณ สนามเทนนิส..
หลังจากที่ผมพาฟ้าไปซื้อเสื้อผ้า ทั้งชุดกีฬา ชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์อื่นมากมาย ฟ้าขนซื้ออย่างกับไม่มีของพวกนี้อยู่ที่บ้าน ซึ่ง
ผมเองก็ไม่อยากขัดเท่าไหร่เพราะดูเขามีความสุขดี เมื่อผมมาถึงที่สนามเทนนิสก็พบว่าคิว เค้ก เซ็น เอเจและนิกกี้เตรียมพร้อมรออยู่ที่สนามเทนนิสแล้วเรียบร้อย
“โอ้ พร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะหลานๆ” ฟ้าโบกมือทักทุกคน เค้กยกมือไหว้ทั้งผมและฟ้า ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยชินกับมารยาทแบบไทยสักเท่าไหร่ ประมาณว่าผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำเท่าไหนถึงจะพอดีนะครับ ผมจึงป้องกันเพื่อไม่ให้เสียมารยาทโดยการรับไหว้ตอบทุกครั้ง เอเจกับนิกกี้ผมเคยรู้จักดีสมัยที่อยู่ประเทศอิตาลี เราเคยไปปาร์ตี้ด้วยกันอยู่บ่อยครั้งจึงไม่ต้องทักทายอะไรให้มาก
“ไงครับเค้ก ชุดน่ารักนี่” ฟ้าเดินเข้าไปลูบหัวเด็กผู้ชายที่ชื่อเค้ก เขาเป็นเด็กที่น่ารักดี มารยาทดีและผมคิดว่าเขาดูเป็นคนอ่อนต่อโลกในบางครั้ง ผมรู้ว่าเขาเป็นแฟนกับคิวเพราะว่าสังเกตได้จากอารมณ์ในการพูดคุยของทั้งสองคน ปกติแล้วคิวจะไม่เปิดรับใครทั้งนั้น เขาจะมีหลักการพูดที่คนนอกอาจจะไม่ทราบเลยว่ากำลังถูกแบ่งเส้นอยู่แต่กับเด็กคนนี้นั้นไม่ใช่ ตอนแรกผมค่อนข้างตกใจเหมือนกันเพราะผมทราบมาว่าหลังจากที่ฟ้าเลิกกับผมไป แฟนสาวของคิวถูกรถชนและเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่หลายเดือนก่อนจะเสียชีวิตลง ผมรู้ว่าคิวรักเธอคนนั้นมากและคิวเองก็ไม่มีท่าทีว่าจะเบี่ยงเบนชอบผู้ชายเลย แต่ก็อย่างว่าละนะครับ..จะไปว่าอะไรก็ไม่ได้เพราะอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ขนาดผมเองยังไม่คิดเลยว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
“พี่เซ็นซื้อให้นะครับ” เค้กบอก
“แล้วก็..เค้กเกลียดการตีเทนนิสที่สุด” เขายิ้มแหยเล็กน้อยด้วยสีหน้าขยาดจนทุกคนขำกันออกมา
“ไหงงั้นล่ะ นี่น่ะ..เป็นกีฬาที่สนุกสุดๆเลยนะ” ฟ้าขมวดคิ้ว ฟ้าเล่นเทนนิสเก่งมาก ผมทราบมาว่าเขาเคยเป็นตัวเก็งของโรงเรียนตั้งแต่สมัยประถมแล้ว อาจจะหยุดเล่นไปบ้างก็ตอนที่ต้องเรียนต่อปริญญาโทตอนที่อยู่ที่ประเทศอิตาลีนะครับ
“ลูกมันชอบหนีเค้ก เค้กเกลียดมัน” นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเด็กคนนี้พูดชัดถ้อยชัดคำขนาดนี้
“หึหึ” ฟ้าหัวเราะก่อนจะขยี้หัวอย่างเอ็นดู
“กัสไม่มาด้วยเหรอ” ฟ้าถามถึงแฟนของเซ็น ตอนนี้ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่แต่ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงช็อกไปนานแล้วล่ะที่ต้องมาพบว่าคนรอบตัวมีแต่คนรักที่เป็นผู้ชาย
“กลัวผิวเสียน่ะ” เซ็นยิ้มตอบเล็กน้อย ฟ้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“ไง..นิกกี้ กลับมาจากอังกฤษเมื่อไหร่ล่ะ” ฟ้าถาม นิกกี้เป็นลูกครึ่งชาวไทยอังกฤษที่หน้าตาดูต่างชาติจ๋ามากกว่าที่จะเหมือนคนไทย แต่เขาเคยบอกผมว่าเขาชอบอยู่ที่ประเทศไทยมากกว่าอยู่ที่ประเทศอังกฤษนะครับ
“เมื่อคืนนี้เอง อยากหายเจ็ตแล็กน่ะอา..เลยมาเอาเหงื่อออกซะหน่อย” นิกกี้อมยิ้ม
“แข่งกันหน่อยไหมล่ะ” ฟ้าท้าทายในทันที ทุกคนต่างเงียบ คิวนั่งมองไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจต่อสถานการณ์ในตอนนี้ ผมเดินไปนั่งลงข้างๆเขาก่อนจะวางไม้เทนนิสทั้งของผมและของฟ้าลงบนโต๊ะ
“ทำไมยูต้องการจะแข่ง แข่งแล้วได้อะไร” เอเจถามขึ้นสีหน้าเหมือนรู้ทันฟ้า
“โหย ถ้าไม่แข่งแล้วมันจะไปสนุกอะไรเล่า..ไม่งั้นไอจะชวนพวกยูมาทำไม ไอมาคนเดียวไม่ดีกว่ารึไง” ฟ้าเริ่มโวยวายด้วยนิสัยเอาแต่ใจ คิวลุกขึ้นยืน เขาเดาะลูกเทนนิสเล่นคล้ายกับเมินที่จะรับฟัง
“ผมไปน็อคบอร์ดนะ” คิวพูดขึ้นเหมือนบอกทุกคนตรงนี้
“นี่คุณหลาน..ไม่คิดจะแข่งกันหน่อยเหรอ” ฟ้ายิ้มกว้าง
“ไม่ล่ะ เชิญปัญญาอ่อนไปคนเดียวเถอะ” คิวตอบหน้าเรียบนิ่ง เค้กที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมพยายามก้มหน้าเพื่อไม่ให้ตัวเองหัวเราะออกมาอย่างเสียมารยาท
“เค้ก!” ฟ้าปรามทันทีเมื่อเห็นอย่างนั้น
“ขอโทษครับ” เค้กพูดทั้งที่ยังอมยิ้มอยู่
“แข่งกันก็ได้ พนันกันไปเลย” ฟ้าพูดขึ้นเสียงดัง พวกผมหยุดมองไปที่ฟ้าอย่างสนใจ ฟ้าเป็นคนที่ชอบการเสี่ยงดวงและการพนันมากคนหนึ่งเท่าที่ผมได้เคยรู้จักมา ปกติจากที่เห็นการใช้ชีวิตของเขาตอนที่เราเริ่มคบกันใหม่ๆ ผมเห็นเขาเป็นคนขยันเรียน ขยันทำงานและดูแลทั้งฝัน เซ็นและคิวเป็นอย่างดีซึ่งพอผมมาทราบจากปากเจ้าตัวว่าชอบเข้าบ่อนคาสิโนมาก บอกได้เลยว่าในตอนนั้นผมค่อนข้างตกใจมากทีเดียวและรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่เขามีนิสัยแบบนี้นะครับ
“ก็ดี อาจะเอาอะไรมาท้าล่ะ” เซ็นถาม
“เอ่อ..อืม อยากได้อะไรล่ะ” ฟ้าถามอย่างลองเชิง เซ็นและนิกกี้เงียบไปมีสีหน้าคล้ายกับกำลังใช้ความคิด
“เอางี้ แข่งคู่..ใครแพ้ ฝั่งล่ะสองหมื่นเป็นไง” เอเจพูดขึ้น
“ก็ดี” ฟ้าตอบตกลงทันที
“คุณทำเหมือนไม่มีเงินจะใช้งั้นแหละ” ผมพูดอย่างอดไม่ได้ ที่จริงอยากจะคัดค้านออกไปให้เต็มปากแต่กลัวว่าคดีจากที่หนึ่งเดือนจะกลับกลายเป็นสองเดือนอย่างเดิมน่ะสิครับ
“แหม..ที่รัก” ฟ้าหันมายิ้มโหดให้ผม
“เงินที่ได้มาจากการเสี่ยง มักเสียวเสมอ..หึหึ” ฟ้ายักคิ้วให้ ผมได้แต่ส่ายหัวแต่คนอื่นๆกลับนั่งขำด้วยความชอบใจ
“ได้..งั้นเซ็นเล่นด้วย” เซ็นพูดขึ้น
“โอเค ใครคู่คุณล่ะ” ฟ้ายักไหล่ยิ้มเจ้าเล่ห์ เซ็นยักไหล่กวนตอบก่อนจะเดินหนีและเดินตรงไปหาคิวที่กำลังน็อคบอร์ดอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พวกเราทั้งหมดหันกลับไปมองเซ็นที่กำลังสนทนากับคิว คิวหันกลับมามองที่พวกเราครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบเซ็นและทั้งสองก็เดินกลับมา ผมเหลือบเห็นฟ้าพยายามควบคุมไม่ให้ตัวเองยิ้มเจ้าเล่ห์และเมื่อเขาหันกลับมาเห็นว่าผมนั่งสังเกตเขาอยู่เขาก็รีบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ในทันที
“ตกลง ผมกับคิว” เซ็นพูด ฟ้าเงียบไปก่อนจะเหล่มองไล่ทีละคนตั้งแต่นิกกี้ เอเจจนมาถึงผม
“ผม” ผมชี้หน้าตัวเองเพราะว่าฟ้าจ้องที่ผมเขม็ง
“ใช่ คุณนั่นแหละ” ฟ้าตอบหน้างอ
“ลุกเดี๋ยวนี้” ฟ้าสั่งเสียงเข้ม เอเจกับนิกกี้หัวเราะเหมือนช่วยอะไรไม่ได้ ผมส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็ลุกตามขึ้นไปวอร์มร่างกาย
“เอาเป็นใช้กติกาห้าเซตละกัน” ฟ้าบอก
“โห อา..นึกว่าตัวเองลงแข่งแกรนด์สแลมรึไงมันจะโหดไปไหม” เซ็นท้วง ถึงแม้ว่าเซ็นกับคิวจะเล่นเทนนิสเป็นและเล่นค่อนข้างบ่อยแต่ไม่ใช่กีฬาโปรดของทั้งคู่มันก็คงจะยากหน่อยละครับถ้าต้องมาแข่งกับคนที่ถนัดกีฬาด้านนี้อย่างฟ้า
“ทำไม แกกลัวแพ้คนแก่อย่างฉันไง..เออ สามเซตก็ได้” ฟ้าพยักพเยิด
“กลัวชนะละสิไม่ว่า” คิวที่ยืนเท้าเอว ตามองขึ้นไปบนท้องฟ้าพูดขึ้นลอยๆ
“จุๆๆๆ..ไม่เอาน่ะเบบี๋ ไม่พูดอย่างนั้นนะ” ฟ้าเล่นเสียงทีเล่นทีจริง
“ลืมไปแล้วรึไง ว่าล่าสุดน่ะ..ใครมันชนะกัน” ฟ้ายักคิ้วใส่อีกฝ่าย ผมได้แต่มองและพยายามทำใจแล้วว่าศึกครั้งนี้หนักอย่างแน่นอน ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วฟ้าไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด อย่างที่ฟ้าว่าเงินมันไม่สำคัญตรงที่มีอยู่แต่มันสำคัญในกระบวนการที่ได้มันมาต่างหาก และการที่ฟ้าพยายามยื่นข้อเสนออย่างท้าทายแบบนี้เหตุผลก็คงไม่พ้นอยากจะเอาชนะทั้งคู่อีกครั้งนั่นละครับ ด้วยเพราะปกติแล้วผมคิดว่าฟ้าไม่ค่อยจะชนะอะไรคิวเท่าไหร่น่ะนะ
“คุณน่ะมันเป็นตาลุงที่กำลังจะเสียเงินสองหมื่นต่างหากล่ะ..จำไว้ซะ” คิวยักคิ้วให้
“ไอ้..ไอ้ปากเสีย ฉันยังไม่แก่นะโว้ย ไอ้เวร!” ฟ้าโวยวายดังลั่น
“ฟ้า คุณนี่..เล่นอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้ว” ผมบ่น
“หยุดบ่นนะทิกเกอร์ ถ้าผมแพ้ละก็..คุณโดน!” อีกฝ่ายหันมาขู่ใหญ่
“จะทอยไหม” เอเจตะโกนถาม
“ไม่..ให้เด็กๆเค้าเป็นฝ่ายเสิร์ฟไปก่อนเถอะ” ฟ้าตอบ เราเริ่มแข่งกันโดยคิวเป็นฝ่ายเสิร์ฟก่อน ทั้งคู่ฝั่งของฟ้าและฝั่งของคิวค่อนข้างสูสีในเซตแรก คล้ายกับทุกคนยังมีพลังและไม่มีใครยอมใคร เซตแรกผมและฟ้าเป็นฝ่ายได้คะแนน เมื่อขึ้นเซตที่สองเราเริ่มเป็นฝ่ายเสียเปรียบเมื่อคิวปล่อยให้เซ็นเล่นลูกหน้าเนตโดยที่ฟ้าเองคงอ่านเกมไม่ทัน
“กี้..ปล่อย!”
“เยส”
“สามสิบ สิบห้า” เอเจขานบอก คิวหันมามองตาขวางใส่ฟ้า ฟ้าเองก็เริ่มไม่ยิ้มแล้วด้วย
“ฟ้า..ใจเย็นสิ” ผมบอก
“ผมจะต้องชนะเข้าใจไหม คุณไม่เห็นเหรอว่ามันสองคนจะเอาชนะผมให้ได้” ฟ้าว่าเสียงเริ่มเหวี่ยง
“ก็คุณไปท้าพวกเค้าก่อน” ผมบอก
“กี้!” อีกฝ่ายขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจในทันที
“โอเคครับ โอเค..คุณจะชนะ” ผมรีบผายมือเป็นการบอกยอมแพ้ในบทสนทนานี้ เมื่อเซ็ตสองจบลงไม่สวยฝ่ายของคิวและเซ็นเป็นฝ่ายได้คะแนนไปนั่นยิ่งทำให้ฟ้าเริ่มหงุดหงิดและใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างกับตัวเองกำลังลงแข่งเทนนิสวิมเบิลดันอยู่อย่างนั้น
“คุณทิกเกอร์” ฟ้าเดินตรงเข้ามาหาผมทันทีระหว่างที่เราได้พัก ตอนนี้อากาศร้อนอบอ้าวเป็นบ้า บวกกับคู่แข่งที่โหดยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่าร่างกายผมใช้พลังงานและสมองมากเกินไปแล้ว
“ผมจะชนะ” ฟ้าย้ำบอกผมพร้อมกับจ้องผมเขม็งเหมือนต้องการอ้อนอย่างนั้น ผมเหตาไปทางอื่น
“ผมจะไม่ไหวแล้วนะฟ้า ร้อนเป็นบ้าเลย” ผมบอกหน้ามุ่ย
“ผมไม่ยอมแพ้มันหรอกนะ ไม่เอาอ่ะทิกเกอร์” ฟ้าร้องบอกอย่างเอาแต่ใจทันที
“แพ้หลานตัวเองมันไม่เสียศักดิ์ศรีหรอกนะครับ”
“คุณตีความหมายนี้ผิดแล้วล่ะ เพราะมันใช้ไม่ได้กับไอ้เปรตสองตัวนั้น” ฟ้าว่าหน้างอ ผมยืนนิ่งเพราะไม่เข้าใจว่าคำว่า “เปรต” ที่ฟ้าว่านี่หมายถึงอะไร เฮ้อ..บางทีผมก็รู้สึกปวดหัวกับคำด่าของคนไทยเหมือนกันนะครับ
“โอเคๆ ถ้าคราวนี้ผมชนะนะ ผมจะยกเลิกไอ้ข้อตกลงบ้าบออะไรนั่นให้เหลือแค่อาทิตย์เดียวก็ได้” ฟ้าพูดขึ้น บอกได้เลยว่าประโยคนี้ทำให้หัวใจผมพองโตและมีพละกำลังกลับคืนมาในทันที
“ก็..” ผมอ้ำอึ้งเล็กน้อยพอเป็นพิธี
“ก็ได้ครับ ผมจะพยายามแล้วกัน” ผมยิ้มบอก ฟ้าอมยิ้มออกมาได้ เมื่อเริ่มเข้าเซตที่สามบอกได้ว่าสถานการณ์เป็นไปได้สวยมาก คะแนนของทีมเรานำโด่งทีเดียวทำให้ฟ้าดูจะรื่นเริงขึ้นมาได้ในทันทีทันใด
เคร้ง!!
-
"โอ้ว” ฟ้ายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคิวขว้างไม้เทนนิสลงพื้นอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อฝ่ายของตนเองเสียคะแนนอีกครั้ง
“สามสิบ ศูนย์” เอเจตะโกนบอก
“เก็บอารมณ์หน่อยดีไหมหลานรัก” ฟ้าแลบลิ้นให้ เซ็นและคิวมองกลับหน้าฟ้าคล้ายกับมีความแค้น ทั้งสองเดินกลับไปนัดแนะกันเล็กน้อย การแข่งขันเริ่มขึ้นอีกครั้ง คะแนนกลับมาสูสีและดุเด็ดเผ็ดมันขึ้นจนผมกลัวอารมณ์ของทั้งสองฝั่ง
“เยส!” ฟ้าร้องเสียงดังเมื่อตนเองได้คะแนนในเซตสุดท้ายมาครอง ผมมืออ่อนทิ้งไม้เทนนิสลงเดี๋ยวนั้น บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยแทบขาดใจเลยละครับ ไม่ใช่เพราะว่าผมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรอก ที่จริงเทนนิสผมก็เล่นเป็นกีฬาประจำถึงแม้ผมจะไม่เก่งเท่าไหร่ แต่การแข่งขันนี้ทำให้ผมรู้สึกเสียพลังงานไปเยอะมากแถมอากาศประเทศไทยนี่บั่นทอนกำลังกันสุดๆไปเลย..ให้ตาย
“ชนะ ชนะ ชนะ!” ฟ้ากระโดนตัวไปมาอย่างดีอกดีใจ ผมได้แต่ยิ้มมอง
“พี่ชนะแหละเค้ก” ฟ้าวิ่งกลับเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ขอบสนาม เค้กยิ้มให้
“จุ๊บ~” อยู่ๆฟ้าก็ก้มลงจับหน้าเค้กไปจูบจนอีกฝ่ายที่ไม่ทันได้ตั้งตัวชะงักไป ผมเดินกลับไปที่ข้างสนาม คิวกับเซ็นเดินกลับมาเช่นกัน
“แพ้อีกแล้วอ่ะคึ..แพ้ซ้ำซากจริงๆน้า วันหลังน่ะหัดใช้สมองเล่นมากกว่านี้สิ เผื่อจะชนะบ้าง” ฟ้าทับถมในทันที
“พรุ่งนี้คุณต้องไปสนามกอล์ฟกับผม” คิวพูดหน้านิ่งแต่ก็แฝงไปด้วยความแค้นที่มี
“เอ๊ะ” ฟ้าชะงัก
“คงมีใครบางคนกำลังลืม..” คิวพูดขึ้นบ้าง
“ว่ากีฬาที่ถึงขนาดใช้สมองแล้ว แต่กลับแพ้ซ้ำซากน่ะคืออะไร” เซ็นพูดเสริมให้เพื่อนของตนอย่างแค้นด้วยเช่นเดียวกัน
“ชิ ไม่ว่างโว้ย..แพ้แล้วอย่ามาพาล เอาเงินมาเลย” ฟ้ารีบพูดปัดในทันทีเพราะฟ้าไม่ค่อยถนัดตีกอล์ฟสักเท่าไหร่ ผิดกับผม คิวและเซ็น คิวหยิบเงินสดออกมาจากกระเป๋าสตางค์เดี๋ยวนั้นก่อนจะยื่นมาให้ฟ้า
“กูมีห้าพันเองเนี่ย” เซ็นบ่น
“กูไม่มีแล้ว” คิวบอกเซ็นที่ส่งสายตาไปให้เหมือนจะขอยืมเงิน
“นิกกี้เอามาให้กูหน่อยห้าพัน” เซ็นแบมือขอ นิกกี้ส่ายหัวเล็กน้อยแต่ก็หยิบเงินให้
“ครบนะ” ฟ้ายิ้มกว้างเมื่อได้รับเงินทั้งหมด
“ยูมีความสุขกับอะไรแบบนี้เสมอเลยนะ” เอเจส่ายหัวแซวเพื่อนตน ฟ้ายักไหล่เล็กน้อย
“พี่เจ เล่นด้วยกันไหมครับ” นิกกี้ชวน เอเจพยักหน้าตอบก่อนที่ทั้งสองคนจะลุกไป เซ็นกับคิวมองหน้ากันแทนคำพูดก่อนจะหยิบผ้าขนหนูพากันเดินไป..ทั้งสองคนคงพากันไปล้างเนื้อล้างตัว
“อ่ะเค้ก พี่ให้” อยู่ๆฟ้าก็ยื่นเงินปึกนั้นไปให้เค้ก เค้กหน้าเหวอ
“เอาไปสิ” ฟ้าพยายามยัดเยียดไม่หยุด เค้กส่ายหัวตอบคอแทบหลุด
“ไม่เอาครับ” เค้กบอก
“พี่ให้ไง ปฏิเสธผู้ใหญ่แบบนี้ได้ไงครับ” ฟ้าเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“เค้กรับไม่ได้หรอกครับ พี่ฟ้าอ่ะ..อย่าบังคับเค้กสิฮะ” เค้กหน้าเสีย ฟ้าเงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิด
“งั้น..เอาไปทำบุญให้ที่มูลนิธิที่เค้กไปบ่อยๆนั่นก็ได้ครับ แล้วแต่เค้กว่าจะทำเท่าไหร่..ถ้าเหลือก็เอาไปทำบุญที่วัดหรืออะไรก็ได้ แล้วแต่เค้กแล้วกัน” ฟ้ายิ้มบอก เค้กนิ่งไปครู่หนึ่ง
“งั้นก็ได้ครับ” เค้กยิ้มตอบทันทีก่อนจะรับเงินไปถือไว้
“พี่คงจะได้บุญมากๆเลยใช่ป่ะ ทุ่มเทสุดๆเลยนะเนี่ย” ฟ้ายิ้มปลื้มไม่หยุด ผมหยิบขวดน้ำมาดื่ม ไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรเพราะผมไม่มีแรงจะพูดแล้ว
“ไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกครับ ก็พี่ฟ้าน่ะ..ต้องการเอาชนะพี่คิวกับพี่เซ็นเพราะความสะใจต่างหาก บุญมันก็ลดไปตามความศรัทธาแหละฮะ” เค้กพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมหลุดหัวเราะออกมา
“เค้กกกกก!” ฟ้าร้องอย่าไม่ชอบใจในทันที อีกฝ่ายนั่งหน้างอไป ฟ้ามักจะชอบเอาแต่ใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเสมอ เรื่องบางเรื่องที่ควรเอาแต่ใจเขากลับนิ่งเฉยจนน่ากลัว หลายครั้งที่ผมเห็นฟ้าเงียบและนิ่งซึ่งผมจะไม่สบายใจเอาเสียเลยเพราะผมไม่ทราบเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ หลายครั้งที่ผมตามฟ้าไม่ทันอาจคงเพราะผมรู้จักเขาไม่ดีพอ ผมอยากให้ฟ้าพึ่งพาผมมากกว่านี้เวลาที่เขาเสียใจ เจ็บปวดหรือเวลาที่ทรมานในเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เหมือนกับที่ฟ้าเคยต่อว่าผมว่า..เมื่อเวลาที่เขาเจ็บปวดเขาควรมีคนรักคอยดูแลอยู่ข้างๆ ผมลืมคิดมาตลอด ตอนที่คบกับฟ้าผมคิดเพียงว่าผมกำลังมีความสุขโดยที่ผมไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าอดีตของฟ้านั้นแสนเศร้าแค่ไหน ชีวิตของผมที่เติบโตขึ้นโดยใช้คำว่า..สมบูรณ์แบบได้ทำให้ผมไม่เคยรู้ได้ว่าความทรมานกับสิ่งๆหนึ่งนั้นเป็นอย่างไร เมื่อฟ้าเดินจากผมไปผมเพิ่งมาทราบว่าคนเราสามารถเจ็บปวดทรมานกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้มากขนาดนี้เชียวหรือ
“เค้กทำซะพี่เสียเซลฟ์เลยอ่ะ” ฟ้าทำหน้าบูด เค้กยิ้มเล็กน้อย
“เพราะพี่ฟ้าชอบไปเอาชนะพี่คิวกับพี่เซ็นไงฮะ พี่เค้าถึงได้ไม่ยอมพี่ฟ้าน่ะ” เค้กส่ายหัวเล็กน้อย
“เอ๊ะ เค้กเข้าข้างพวกมันเหรอ” ฟ้าขึ้นเสียงหน้างอกว่าเดิม
“เปล่านะครับ” เค้กตอบ
“ไม่รู้อ่ะ ไม่อยากฟัง” ฟ้าปิดหูตัวเองพร้อมกับเชิดหน้าไปอีกทาง ผมอมยิ้มให้เค้กเล็กน้อย ไม่นานคิวกับเซ็นก็เดินกลับมา คิวกับเซ็นถอดเสื้อตัวเดิมออกก่อนจะนำผ้าขนหนูเช็ดตัวแล้วสวมเสื้อยืดตัวใหม่ไปแทน
“เดี๋ยวอาจะไปไหนต่อ” คิวถามขึ้น
“กลับบ้าน เหนียวตัวอยากอาบน้ำแล้ว” ฟ้าตอบ
“เดี๋ยวผมไปบ้านใหญ่ก่อนนะ แม่โทรมาให้ไปเอาของน่ะ”
“อื้อ” ฟ้าพยักหน้า
“นายกลับไปกับอาแล้วกันนะ เดี๋ยวฉันไปกับเซ็นแล้วเดี๋ยวตามไป” คิวบอกเค้ก
“ฮะ” เค้กพยักหน้า
“วันนี้เราจะกินอะไรฉลองกันดี” ฟ้ายิ้มกว้าง
“ส้มตำเป็นไง” ฟ้าเสนอ
“เอ๊ะ พี่ฟ้ากินส้มตำเป็นด้วยเหรอฮะ!” เค้กเบิกตาโพรงคล้ายกับนี่เป็นเรื่องประหลาด แต่ผมว่าอาหารชื่อนี้มันคุ้นๆอย่างไรพิลึก..แต่ยังนึกไม่ออกว่ามันหน้าตาเป็นยังไง “ส้มตำ (-_-?) ส้มตำ (-^-?) ส้มตำ”
“เป็นสิเค้ก พี่ก็คนไทยนะ” ฟ้าตอบหน้างอ
“งั้นกินส้มตำ กินส้มตำครับ” เค้กย้ำพูดด้วยความดีใจแต่อยู่ๆเด็กคนนี้ก็ชะงักไปเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“คนอื่นจะกินได้เหรอ..” เค้กพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองคิว คิวยืนนิ่ง
“อะไร” คิวเหล่สายตามองต่ำมาที่เค้ก
“พี่กินได้เหรอ” เค้กถาม
“ถ้าไม่ห่วยแตกเท่าอาหารฝีมือนายก็โอเค กินได้หมด” คิวตอบส่งๆ
“ชิ..ตัวเองยังบอกว่าอาหารที่เค้าทำอร่อยอยู่เลยแท้ๆ” เค้กหันกลับมาบ่นพึมพำ
“ตัวเอง หึ..น่ารักอ่ะตัวเอง” เซ็นหยิกแก้มคิวอย่างต้องการแซวทำให้อยู่ๆเค้กก็หน้าแดงในทันที เมื่อเด็กคนนี้ได้ยินว่าคนอื่นกำลังแซวตนจึงได้แต่พยายามก้มหน้าลงเรื่อยๆ ทั้งที่คิวยังคงยืนนิ่งไร้ปฏิกิริยาใดๆ
“หึ..ตัวเอง” ฟ้าหัวเราะด้วยอีกคน
“พี่ฟ้าค้าบ~” เค้กปรามเสียงเบา ทุกคนเอาแต่อมยิ้มกับภาพตรงหน้าทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้
“ทานส้มตำนะ ดีไหมกีกี้” ฟ้าหันมายิ้มถามผม ผมยังคงไม่ตอบอะไรเพราะชื่ออาหารชื่อนี้มันคุ้นหูผมเสียจริง
“กีกี้..นั่นชื่อคนเหรอวะ หึ” คิวหันไปยิ้มถามเซ็น เซ็นหัวเราะตอบก่อนจะหันมามองหน้าผมกับฟ้า ฟ้าหน้างอมองคิวตาขวางในทันที
“ไปล่ะ” คิวยิ้มพร้อมกับยกกระเป๋าขึ้นสะพายก่อนที่คิวกับเซ็นจะเดินออกจากสนามไป
“เค้กดูปากมันนะ แล้วจะไม่ให้พี่หมันไส้ได้ยังไง” ฟ้าโวยวายในทันที เค้กยิ้มแหย ฟ้าหยิบกล่องแว่นตากันแดดออกมาและนำแว่นตาขึ้นสวม
“เกลียดมันจริงๆ” ฟ้ายังคงปริปากบ่นหลานตนไม่เลิก เขาหยิบแว่นตากันแดดของผมมายื่นให้ด้วย
“แต่ว่า..เค้กน่ะพูดแทนตัวเองว่าเค้ากับตัวเองกับคิวด้วยเหรอ” สุดท้ายฟ้าก็วกกลับมาเรื่องเดิม
“เปล่าฮะ เมื่อกี้ก็แค่พูดไปงั้นเอง..แบบว่าพูดประชดอ่ะครับ พี่ฟ้าคิดไปถึงไหนครับเนี่ย” เค้กเริ่มโวยวายแต่หน้ากลับแดงขึ้นเรื่อยๆ
“หึ โอเคๆ..ไม่พูดก็ได้ครับ” ฟ้าหัวเราะและบทสนทนาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
“ฟ้าครับ ส้มตำนี่มันเป็นไงเหรอ” ผมได้โอกาสจึงถามออกไปเพราะไม่อยากสงสัยคาใจไปมากกว่านี้ ฟ้าเงียบไปครู่หนึ่ง
“ก็เอาพริกไปตำ แล้วก็คลุกๆอ่ะ..รสชาติอร่อยอย่าบอกใครเลยล่ะ” ฟ้ายิ้มกว้าง ผมผงะ ภาพวกกลับไปถึงตอนที่ถูกบังคับให้ทานก๋วยเตี๋ยวผสมกับพริก และคงใช่แน่..ภาพของส้มตำที่ผมเคยเห็นคุณครูสอนภาษาไทยของผมนำมาทานเป็นอาหารกลางวัน สีของมันแดงแจ๋ไปหมดทั้งจานจนผมอดขยาดไม่ได้
“งั้น..ผม ผม” ผมอ้ำอึ้งเพราะดูเหมือนผมจะโดนเข้าให้อีกแล้ว
“แต่ว่าแบบไม่เผ็ดก็มีนะครับ คุณทิกเกอร์ทานเผ็ดไม่ได้ใช่ไหม” เค้กยิ้มถาม ผมรีบพยักหน้าตอบในทันทีด้วยรู้สึกโล่งอกขึ้นมา
“ไม่เผ็ดมันจะไปอร่อยอะไรเล่า ส้มตำเค้าต้องกินกันแบบเผ็ดๆสิถึงจะอร่อย”ฟ้าโวยวาย เขาชอบอ้างแบบนี้เรื่อย
“เนี่ย..เดี๋ยวพี่สั่งให้ป้านิดไปซื้อเจ้าดังมาเลยนะ เจ้านี้น่ะสุดๆ..เจ้าประจำพี่เลย หยิ่ง โวยวาย แต่ตำอร่อยโคตรอ่ะ” ฟ้าพูดไม่หยุดและดูเหมือนเขาจะไม่สนใจผมเลย
“ใช่ๆอืม..ส้มตำต้องมีคอหมูย่าง เอาลาบด้วยดีไหม..เผ็ดๆเลย ขนมจีนแล้วก็ ไก่ย่าง” ฟ้าบรรยายไม่หยุด ผมได้แต่ทำหน้าแหย อยู่ๆก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมา อากาศร้อนขนาดนี้ยังทานของเผ็ดเป็นชีวิตจิตใจอีก ให้ตายเถอะ..มนุษย์เดินดินที่เรียกว่า “คนไทย”
“พี่ฟ้ากินได้ก็ไม่บอก แบบว่า..เค้กอ่ะ ขาดหายส้มตำมานานละอ่ะครับ” เค้กยิ้มเขินพูดไม่เต็มเสียงเท่าไหร่
“กินได้สิครับ อย่าวัดคนจากภายนอกสิ..นิสัยของคนเปิดร้านอาหาร ไม่ลองชิมอาหารทุกอย่างมันก็ไม่ใช่วิสัยที่ดีนะ” ฟ้ายิ้มบอก
“แต่ว่า คือ...สนใจผมหน่อยได้ไหม” ผมพูดแทรกขึ้น ฟ้าเงียบและหันมามองตาขวางเหมือนว่าผมทางสายตาว่าผมเสียมารยาทที่ไปขัดจังหวะเขาอย่างนั้น
“หุบปากไปเลย เดี๋ยวจะสอนให้กิน” ฟ้าพูดเสียงแข็ง ผมจึงได้แต่นั่งเงียบแน่นิ่งไป..ถูกสาปไปแล้ว ผม..ถูกสาปไปแล้ว
“เค้กไม่แสบตาเหรอ” ฟ้าเปลี่ยนเรื่องถาม
“ไม่ครับ” เค้กตอบ
“เป็นเด็กวัยรุ่นนี่ดีจังเลยน้า” ฟ้าบ่น
“แต่แดดแรงขนาดนี้ควรใส่ไว้บ้างก็ดีนะครับ ไว้เดี๋ยวพี่พาไปซื้อนะ” ฟ้ายิ้ม เค้กยิ้มตอบเล็กน้อย
“กี้จะไปล้างตัวไหม” ฟ้าหันมาถาม ผมส่ายหัวตอบ
“เช็ดให้ผมหน่อยสิ” ผมบอกอย่างต้องการอ้อนอีกฝ่าย ฟ้าหน้านิ่งเหมือนรู้ทันผม ผมถอดเสื้อออกแต่ฟ้าก็นำผ้ามาชุบน้ำแล้วเช็ดตัวให้ก่อนจะนำเสื้อยืดที่เตรียมมานำมาให้ผมเปลี่ยนด้วย เรานั่งดูเอเจและนิกกี้เล่นเทนนิสต่อ เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงฟ้ากลับมีแรงไปน็อกบอร์ดต่อก่อนที่จะพากันกลับมาที่บ้านของฟ้า เค้กเข้าไปอาบน้ำที่ห้องนอนของคิว ฟ้าให้เอเจกับนิกกี้ไปอาบน้ำที่ห้องนอนสำหรับรับรองแขก ส่วนผมฟ้าอนุญาตให้ผมมาใช้ห้องน้ำในห้องนอนของฟ้าได้ ตอนนี้ผมกำลังเดินสำรวจไปทั่วระหว่างที่ฟ้าเข้าไปอาบน้ำก่อน ห้องของฟ้าสวยดี ตกแต่งในแบบที่ฟ้าชอบซึ่งผมเองก็ชอบแบบนี้มากเหมือนกัน เมื่อเดินจนทั่วทุกมุมห้องแล้วผมเดินกลับเข้ามาในส่วนของห้องนอนอีกครั้ง ขณะเดียวกันฟ้าก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี..
“ใครอนุญาตให้เดินสำรวจห้องคนอื่นไม่ทราบ” ฟ้าพูดลอยๆ ผมยืนมองเพราะไม่ได้เห็นฟ้าเปลือยแบบนี้มานานหลายปีแล้ว ทั้งที่รู้สึกตื่นเต้นแต่ก็อยากมองอยู่ดี
“ไอ้ฝรั่งลามก” ฟ้าทำเสียงเข้มว่าเมื่อเห็นสายตาของผมเข้า ผมยิ้มตอบให้
“ไปอาบน้ำสิ” ฟ้าบอกก่อนจะหันตัวกลับไปนำผ้าขนหนูอีกผืนมาเช็ดตัว ฟ้าตัวหนาขึ้นเล็กน้อยแต่หุ่นกลับฟิตกว่าแต่ก่อน ตัวของฟ้ายังคงเท่าเดิมผิดกับผมเพราะยิ่งผมอายุมากขึ้นผมก็ต้องฟิตร่างกายให้ดูดีมากขึ้นกว่าเก่าด้วยเพราะโดนปูนบังคับด้วย ปูนบอกว่าปูนรับไม่ได้ที่เป็นผู้ชายแก่ชอบปล่อยตัวเอง เขาบอกว่าเขาไม่ปลื้มเอามากๆถ้าผมจะเป็นคนประเภทนั้น ปูนมันชอบพูดจนติดปากว่า “สูทกับพุง..ไม่ใช่ของคู่กัน”
“อย่าน่ากี้” ฟ้าพูดปรามเหมือนรู้ว่าผมต้องการจะทำอะไร ผมเดินเข้าไปหาพร้อมกับสวมกอดฟ้าจากด้านหลัง
“จุ๊บ~” ผมก้มลงจูบไหล่ของฟ้าเบาๆ ตัวของฟ้ามีกลิ่นจางๆจากสบู่ยี่ห้อ Caswell-Massey ผมจำได้ดีเพราะฟ้าชอบใช้ยี่ห้อนี้
“ชีวิตผมที่ไม่มีคุณ เหมือนกับต้นไม้ที่ไร้ดอก” ผมบอก ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงฟ้าหัวเราะในลำคอเบาๆ
"ใครสอนพูดล่ะนั่น" ฟ้าว่า
“You are my sunshine.” ผมกระซิบบอกที่ข้างหูพร้อมกับพรมจูบที่ต้นขอฟ้าอย่างโหยหามานาน
“ฮึ ปากหวานจังน้า~ ต้องการอะไรรึไง” ฟ้าหันตัวกลับมาแสยะยิ้มให้ ผมยิ้มตอบให้เล็กน้อยและส่ายหัวตอบ ฟ้าแนบตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ถึงแม้ผมจะระแวงในความเป็นคนขี้แกล้งของฟ้าแต่ผมก็ทำใจดีสู้เพราะที่จริงตอนนี้ฟ้าอาจจะไม่ได้ต้องการแกล้งผมก็ได้ ฟ้าเข้ามาลูบอยู่ตรงหน้าท้องผมอย่างเบามือ ตอนนี้ผมไม่ได้ใส่เสื้อเพราะรู้สึกเหนียวตัวจึงถอดมันออกตั้งแต่มาถึงบ้าน หน้าท้องของผมเห็นกล้ามเด่นชัดขึ้นซึ่งเกิดจากอาการเกร็งจากการที่พยายามไม่ให้ตัวเองหายใจแรง ฟ้าเงยหน้ายิ้มให้ก่อนจะนำตัวเข้ามาแนบชิดผมมากขึ้น นิ้วของฟ้าไล่ขึ้นมาจนเกือบถึงหน้าอกของผมแต่เขาก็ไล่นิ้วกลับไปที่หน้าท้องอีกครั้ง เขาหัวเราะชอบใจเล็กน้อยที่เห็นผมสะดุ้ง
“คุณอยากให้ผมพูดอะไร..” ฟ้าเงยหน้าถามเสียงกระซิบ
“เปล่า” ผมตอบ ฟ้ายักไหล่ไปมาเล็กน้อย
“แล้วไอ้ที่แข็งอยู่ใต้กางเกงนี่อะไร..บอกให้อดทน อดทนแค่นี้ก็ไม่ได้” ฟ้าว่าพร้อมกับเงยหน้าทำหน้าดุใส่ผมอีกด้วย
“ฟ้าก็อย่าเล่นสิ” ผมบอก ฟ้าหัวเราะเล็กน้อยแต่ก็นำมือไล่กับขอบกางเกงอยู่อย่างนั้นจนผมรู้สึกว่าเลือดในตัวกำลังสูบฉีดเต็มพลัง มือของฟ้าอีกข้างที่ว่างอยู่ลูบผ่านเอวและโอบเข้ามากอดผมทำให้หน้าของฟ้าในตอนนี้อยู่ในระดับหน้าอกของผมพอดี
“Fuck me, please” เมื่อฟ้ากระซิบบอกเข้าที่ข้างหู และด้วยประโยคนี้คล้ายกับบางสิ่งบางอย่างในตัวผมที่อดทนมาตลอดได้แตกกระจายลงในทันใด
“Fah~~” (สำเนียงบ้านเกิดออกเนื่องจากตบะแตก) ผมจับมือของฟ้าที่ยังคงไล่วนอยู่ตรงหน้าท้องของผมไว้ก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อจูบอีกฝ่าย ฟ้าเบี่ยงตัวหนี
“อ้าวจ์! ฟ้า” ผมร้องเสียงหลงในทันทีที่โดนกัดเข้าที่คางของผมเต็มแรง ผมพยายามเบี่ยงตัวหนีในทันทีเมื่อรู้สึกเจ็บแต่ฟ้ากลับใช้มือดึงหูของผมไว้ทั้งสองข้าง
“ตะกละตะกลามจริงๆ!” ฟ้าว่าใส่เสียงดังก่อนจะปล่อยมือออก
“What!?” ผมอุทานเสียงหลง นั่นมันแปลว่าอะไรครับ “กะกะ กามกาม”
“อะไรงั้นเหรอ หุบปากไปเลยไอ้หื่น” ฟ้าว่าเสียงแข็งพร้อมกับท่าจะตีแก้มผมด้วย ผมรีบหลับตาหยีพร้อมหลบก่อน ฟ้าทิ้งผมและเดินหนีไปแต่งตัวหน้าตาเฉย ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงก่อนจะใช้มือลูบหูลูบคางตัวเองเพื่อให้บรรเทาอาการเจ็บลงไปบ้าง ไม่นานฟ้าก็เดินออกมายืนจ้องหน้าผม ผมนั่งเงียบและไม่มองหน้าฟ้าอีกด้วยรู้สึกโกรธนิดๆ
“จุ๊บ~” ฟ้าเดินเข้ามาและอยู่ๆก็ก้มลงหอมแก้มผมเบาๆ ผมยังคงนั่งนิ่ง ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง
“ถึงโกรธก็ต้องทานส้มตำอยู่ดีนะครับที่รัก มุขนี้น่ะ..ใช้ไม่ได้ผลหรอก” ฟ้ากระซิบบอก ผมหันไปมองแล้วได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี คล้ายกับภาษาไทย ภาษาอังกฤษหรือแม้กระทั่งภาษาอิตาลีที่ได้รับการซึมซับมาอย่างยาวนานนั้นได้หายวับไปกับตา
ผมยังคงอ้าปากค้าง ฟ้ายิ้มกว้าง“รีบอาบน้ำ แต่งตัวซะล่ะ” ฟ้าบอก เขายิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“Gosh~~” ผมร้องอย่างเหลืออดพร้อมกับกุมหัวตัวเองอย่างรู้สึกกำลังจะคุ้มคลั่งเพราะผู้ชายคนนี้ ผมเรียกสติอยู่นานกระทั่งความเจ็บที่ได้รับจากฟ้าก็ไม่ได้ช่วยให้เบื้องล่างของผมอยู่เป็นปกติเลย สุดท้ายผมก็ต้องจัดการกับตัวเองให้มันเสร็จๆไปซะก่อนจะอาบน้ำล้างตัวเพื่อไปเผชิญกับอาหารมื้อนรกแตกต่อไป
.................>>>><<<<.................
ตอนต่อไปจะเป็นตอนพิเศษในส่วนของเซ็นนะคะ หลังจากต่อตอนของเซ็นได้ 2-3 วัน ทางเบบี้จะย้ายนิยายเรื่องนี้ไปที่ "ห้องนิยายจบแล้ว" ค่ะ
-
ว้าวๆ มาทันตอนพี่เบบี้กำลังลงพอดีเลย
พี่ฟ้านี่ชอบแกล้งทิกเกอร์จังเลยนะ
น่าสงสารทิกเกอร์อ่ะ
-
ขอ :z13:เป็นแรงใจก่อน
-
ฟ้าเจ้าเล่ห์+เอาแต่ใจมากๆ แอบสงสารทิกเกอร์ 555
พี่คิวโดนอาแกล้งตลอด .. แต่คิวเค้กน่ารักอีกแล้ว ^ ^
-
ทิกเกอร์ผู้หน้าสงสาร
-
สงสารทิกเกอร์นะ :laugh:
-
น่ารักอ่าาาาา แต่พี่ฟ้านี่สุดๆเลย โคตรเอาแต่ใจ
สงสารทิกเกอร์อะ ตอนนี้เค้กน่ารักมากกกกก
พี่ฟ้าก้ชอบถึงเนื้อถึงตัวเค้กซะเหลือเกิน
อยากให้พี่คิวหึงหรือไงกัน 555
-
บ๊ะๆ หนุ่มทิกก์ :)
-
เจ้าเล่ห์สุดๆ :laugh: :laugh: :laugh:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ทิกเกอร์น่ารักจริงๆด้วย
ฟ้าปัญญาอ่อนตามที่พี่คิวบอกจริงๆ
ดีนะกัสไม่มาด้วย ครบเลย แท็คทีมกัน คนนึงไม่โต อีกคนน่ารำคาญ
ปล.คิดถึงคิวเค้กกกก
-
ดีใจจังเบบี๋มาลงตอนใหม่แว้วววว รอติดตามตอนต่อไปน๊าาา
-
:laugh:
แอบมีคิวเค้กด้วยแฮะ :-[
-
อาหลานบ้านนี้น่ารักที่สุดเลยถึงจะแสดงความรักออกมาในแบบดุเดือดทางวาจาอ่ะนะ55
น้องเค้กยังคงน่ารักได้คงเส้นคงวามาก
-
อาฟ้าสุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดอ่ะ ขี้แกล้งมากมาย แกล้งทิกเกอร์ซ๊าาาาาาาาาาาาา คงเข็ดขยาดไปอีกนาน ไม่กล้านอกลู่นอกทางแล้วล่ะ เหอ ๆ สงสารทิกเกอร์ขึ้นมาเลย 5555555+ ตอนนี้ถ้าเป็นหนังหรือมีภาพเคลื่อนไหวให้ดู คงน่ารักดี มีฉากน่ารัก ๆ มากมาย
ชอบจัง ^_^ อ่านสะใจ หายอยาก หายคิดถึง ;) ขอบคุณค้าบเบบี้
-
ทิกเกอร์มันน่าสงสารจังเลยยยย :z3:
ฟ้าปล่อยให้อยากแล้วจากไป กร๊ากกกกกกกกกกกก :m20:
-
...อาฟ้านี่ ดีกับทุกคน แล้วแสบสันต์ กับทุกคนจริงๆๆ :laugh:
-
:L3: :o8: ตัวเองๆๆๆๆๆๆ. ถึงขะไม่ได้ตั้งใจพูดแต่ฟังแรวเขินแทนอะ :impress2:
-
ฮึ่ยยยยยยย พี่ฟ้าแม่งเจ้าเล่ห์อ่ะ อีกนิดเดียวกีกี้ อีกนิดเดียว :haun4: :haun4:
ขอบคุณน้องบี้คนงามนะคะ ที่เอาพี่ฟ้ามาส่ง o13
-
ทิกเกอร์น่าสงสาร ชอบเค้กอะ น่าร้ากกกกกกกก
-
:laugh:อาฟ้านี่แสบจริงๆ
-
พี่ฟ้าเอาแต่ใจ นิสัยเหมือนเด็กๆ แต่ฮาที่โดนเค้กเหน็บเล็กๆ
:-[แอบเขินแทนเค้กที่แทนตัวเองว่า เค้า กะ ตัวเอง กับคิว
แล้วทิกเกอร์จะรู้ว่าส้มตำนั้น แซ่บหลายขนาดไหน
-
ทิกเกอร์ สู้ๆนะ :bye2:
-
ทิกเกอร์ทั้งน่าสงสารทั้งน่าตลกจังเลย :m20:
เป็นฝรั่งก็เงี้ย โดนคนไทยน่ารักแกล้งเข้าให้แล้ว :jul3:
ตอนหน้าพี่เซ็นกับน้องกัสเหรอคะ รอค่ะ :impress2:
-
ตลกทิกเกอร์ ต้องจำนนต่อพี่ฟ้าทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆ
น้องเค้กน่ารักอ่าา
แอบรู้สึกใจหายที่หลังจากตอนหน้าก็จะย้ายไปห้องนิยายจบซะแล้ว
รอติดตามตอนพี่เซ็นค่าา
-
:pig4: :L1:
-
อ๊ากกก เบบี้มาลงตอนใหม่แล้ว คึคึ ไม่ว่าสถานะจะขยับเลื่อนขั้นไปมากแค่ไหน ทิกเกอร์ก็ยังเป็นคนที่น่าสงสารอยู่ดี กร๊ากกก ฟ้าโคตรดื้อเลย ดูเหมือนเด็กมากอะ ชอบเอาชนะ เอาแต่ใจแม้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ไม่ยอม ยิ่งหลานตัวเองยิ่งยอมไม่ได้ไปกันใหญ่ ฮ่าๆ แต่นี่มันก็เป็นมุมที่มีเสน่ห์ของฟ้าอ่านะ จะว่าไปที่ฟ้าทำโทษทิกเกอร์มันก็สมเหตุสมผลนะ เพราะฉะนั้นก็ต้องอดทนต่อไปนะจ๊ะทิกเกอร์นะ เค้กตอนนี้น่ารักอะ ชอบตอนที่ทุกคนเค้าแซวเค้กที่พูดกับพี่คิวว่าตัวเอง กร๊ากกก เขินจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้วมั้ง ฟ้าก็ดูจะสนุกนะ แกล้งแหย่ใหญ่เลย กรั่กๆ ทิกเกอร์เอ้ยนอกจากที่พึ่งแม่นางทั้งห้าแล้วยังต้องกินส้มตำอย่างไร้ข้อโต้แย้ง โดน โดนแล้วล่ะ ฮ่าๆ
-
:กอด1:น่ารักทุกคู่
-
อาฟ้าชอบยั่ว :oo1:
-
ฟ้าขี้ยั่วขี้แกล้งแบบสุดๆอ่ะ ยิ่งกับคิวยิ่งแข่งกันจนเพี้ยน 555555 :z2:
-
น่าจะมีตอนหวานๆของคิวกับเค๊กบ้างนะ :กอด1:
-
:z13: :z13: :z13:
:pig4:
-
ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ
แบบตามใจฟ้ามากๆ
ส่วนฟ้าก็ขี้แกล้ง
ว่าแต่คิวเค้กอ่ะ
ถึงจะโผล่มาแปปเดียวก็ขโมยซีนได้อีกกกก ><
-
ทิกเกอร์น่ารักจัง
ฟ้าไปแกล้งทิกเกอร์เค้า
:กอด1:
-
ตอนนี้ทิกเกอร์คงทำได้อย่างเดียวแล้วล่ะ..........ทำใจ
-
ยังคงสงสารทิกเกอร์เหมือนเดิม 555
แต่รักอาฟ้าต้องทำใจอะนะ
เค้กมีเรียกคิวว่าตัวเองด้วยหรอ น่ารักอ้ะ 555
-
โอ้ยยย น่ารักทุกคู่เลย อยากจะบ้าตาย อิอิ
ขอบคุณเบบี้ค่า
-
ฟ้าเจ้าเล่ห์สุด ๆ เลย 5555+ สงสารกี้
คิวเค้กน่าร๊ากกกอ่ะ
-
พี่ฟ้าน่ารัก :m3: :m3:
แต่ชอบคิว+เค้ก ที่สุด :m1: :m1: :m1:
-
ทิกเกอร์ตอนนี้คงหมั่นเขี้ยวฟ้าเต็มที่อ่ะ ทั้งแกล้ง ทั้งยั่ว แต่ก็ชอบอ่ะ ฟ้า :man1:
...ยิ่งอ่านเค้กยิ่งน่ารัก มาขโมยซีนคนอื่นด้วย
:pig4:เบบี้ :กอด1:
-
:impress2: แอบหวานนะคะอาฟ้ากับทิกเกอร์
มีพี่คิวกับน้องเค๊กแจมด้วย น่ารัก
รอตอนหื่นๆของพี่เซ็นกับน้องกัส นะคะ :z1:
:L1:
-
พี่ฟ้าโคตรขี้แกล้งอะ แอบสงสารทิกเกอร์นิดนึงที่ต้องช่วยตัวเอง :laugh:
แอบมีคิวเค้กด้วยอะ น่าร๊ากกกกกกก ><
-
ทิกเกอร์น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อาฟ้านี่เจ้าเล่ห์ตลอดดดเวลาเลยอะ ฮ่าๆๆๆ ชอบเอาชนะ ฮาๆๆ
คู่นี้รักกันน่ารักมากๆ ชอบบๆเป็นรักอีกแบบเลย :impress2:
แต่ตอนสุดท้ายแอบสงสารทิกเกอร์อะ คิคิคิ
ขอบคุณเบบี้สำหรับนิยายนะค๊า รอพี่เซ็นนนนนนนนน วู้วๆๆๆ :กอด1: :pig4: :L2:
-
เป็นการแกล้งที่เจ็บแสบจริงๆนะอาฟ้า
เล่นซะพ่อทิกเกอร์ฝันค้างกันเลยทีเดียว 555
-
ตาโหลก 555555555555 สงสารทิกเกอร์เหมือนกันนะเนี่ย ;A;
จะว่าไปแล้วทิกเกอร์นี่ผู้ชายในอุดมคติเลยนะ.. :-[
-
เจ้าเล่ห์จริงๆ......
-
อาฟ้ายังชอบแกล้งชาวบ้านเค้าเหมือนเดิมนะคะ :laugh:
:m17: ณ จุดๆนี้เราขอไม่เชียร์ทิกเกอร์นะคะ
แต่จะเป็นกำลังใจให้แทนละกันนะคะ สู้ๆๆๆ :a2:
-
:กอด1: o13
-
พี่ฟ้าเจ้าเล่ห์ แต่ทิกเกอร์น่าร๊ากก
พี่คิว............ปากจัดอ่ะ!! 55555
-
ติดตามตอนต่อไป :L2:
-
น่ารักที่สุดเลย
"เค้ากะตัวเอง "
รักพี่คิวกะเค้ก
-
ทิกเกอร์คือผู้ชายในฝัน o(*////▽////*)o จบ!!! :laugh:
-
ฟ้าขี้แกล้งมากๆ จะไม่แปลกใจเลยถ้าทิกเกอร์จะตบะแตกจับข่มขืนเข้าสักวัน 55
-
ทิกเกอร์
น่ารักดีทีเดียวเชียว เหอะๆ
อยากอ่านแบบไม่รุ้จบ เป็นไปไม่ได้สินะะะ
ฮือออออ
รอตินหน้าาาา
-
น่ารักก็น่ารัก สงสารก็สงสาร มีครบทุกรส
ก็รู้อ่ะนะว่าพี่ฟ้าน่ะนิสัยขี้แกล้งและเจ้าเล่ห์
แล้วยิ่งได้มาอ่านพาร์ทของทิกเกอร์แล้ว
ยิ่งเห็นชัดเลย ทิกเกอร์เลยโชคดีไป :m20:
แต่นั่นก็คือตัวตนอีกอย่างหนึ่งของพี่ฟ้า
ที่ทำให้ทิกเกอร์รักและพร้อมจะเข้าใจเสมอ
ถึงแม้บางครั้งอาจจะเจ็บตัวไปบ้างก็ตาม :jul3:
เป็นตอนพิเศษที่น่ารักมากๆอีกตอน อ่านไปยิ้มไป
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L1:
-
ทิกเกอร์กลายเป็นลูกไก่ในกำมือของฟ้าไปแล้ว
ต้องทำตามไว้เดี่ยวอด 555
-
อาฟ้านี่มีความสุขกับการได้แกล้งคนจริง ๆ ให้ตายเหอะ o6
ขนาดพี่คิวที่ว่าเจ๋ง ๆ แล้ว ยังไม่รอดฝีมืออาฟ้าเลย เยี่ยม!! o13
แต่มองไปมองมาคนที่น่าสงสารที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ทิกเกอร์ อ่ะนะ อย่างว่าหล่ะก็รักเค้าแล้วนิ อะไรก็ยอมเธอ วู้~~~ :กอด1:
ปล.ขอแซวน้องเค้กมั่ง เค้า-ตัวเอง เค้า-ตัวเอง ว๊ายยยยยยยย กิ้วกิ้วๆๆๆๆๆๆๆ :m14:
-
:L2: :L2: :L2:
-
ฟ้า ยังไงก็คือฟ้า....55555 ไม่ต้องหาคำบรรยาย สุดๆไปเลยจ้า
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
-
ฟ้าใจร้ายกับทิกเกอร์มากกกกกก :laugh:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:m25: ฟ้ายั่วอ่ะ สงสารทิกเกอร์จริง จริง คงต้องใช้แม่นางทั้งห้าไปก่อนนะ :laugh:
นู๋เค้ก ตัวเองกะเค้าหรอ ฮิ้ววววว >\\\<
ทิกเกอร์มาเมืองไทย มีเมียไทย ไม่กินส้มตำมันจะเข้าถึงอารมณ์คนไทยได้ไง ซู๊ดดด....พูดแล้ว :z1:
P.S. เบบี้ แล้วพอย้ายไปห้องจบจะ เปิดจองเลยไม๊อ่ะ
-
เป็นตอนที่น่ารักมากคะ ตอนที่แข่งเทนนิสกันยิ่งลุ้นว่าใครจะชนะ
สุดท้ายฟ้าก็ชนะไปด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่คนที่เหนื่อยนะทิกเกอร์55
รออ่านตอนหน้าค่ะ :กอด1:
-
เค้ก คิว .. ตัวเอง กะ เค้า :-[
Tigger ผู้น่าสงสารจริงๆ อิอิ
ฟ้าก็ช่างจะสนุกกับการได้แกล้งคนไปทั่ว :z2:
ขอบคุณเบบี้นะคับ รออ่านตอนต่อไปคับ :L2:
-
อาฟ้าแกล้งทิกเกอร์ได้น่ารักมาก ฮาดีอะ
อ่านตอนของทิกเกอร์แล้วแบบว่าดีใจด้วยที่สามารถทำให้ฟ้ากลับมารักได้
แต่ก็เหมือนกับว่าทิกเกอร์ยังต้องทำความเข้าใจในฟ้าเพื่ออยู่ด้วยกันมากขึ้น
-
เพิ่งอ่านตอนพิเศษของคิวจบ เดี๋ยวจะมาอ่าของอาฟ้าต่อ อร๊ายย พี่คิวไม่ไหวนะ จริงๆ แล้วหื่นล่ะซิ ฮ่า ทำเค้กซะเขินเลยอ่า คู่นี้น่ารักมากกก
-
อาฟ้า.. ร้ายน่ะเนี่ย น่าสงสารทิกเกอร์ ..แกล้งให้อยากแล้วจากไป
มันคงเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งของฟ้า..
รักมากก็โดนเยอะหน่อย ดูอย่างคิวซิ ..โดนแกล้งตลอด
แล้วนี่ฟ้าทั้งรักทั้งแค้นทิกเกอร์ มันจะเหลือเหรอ :laugh:
น้องเค้กน่ารักอ่ะ.. ตัวกับเค้า :oni2: พี่คิวกินเด็ก >.<
:L2: ขอบคุณคุณเบบี้สำหรับตอนพิเศษค่ะ รอตอนของเซ็นน่ะค๊า
-
:L1: :pig4:
-
สงสารทิกเกอร์ อาฟ้าชอบแกล้งจริง ๆ
-
แจ้งข่าว !!!!!!!!!!!!!!!!!!
***รายละเอียดเพิ่มเติมที่: http://baby.thai-forum.net/t497-topic
เบบี้
5 พ.ค 59
Fell In Love With A Boy [by..Zen]
ณ บ้านเมธิชัย สิทธิบดีทรัพย์..
“................” ผมจำได้ว่าวันนั้นความเงียบเข้าครอบงำผมกับคิวมานานพอสมควร ตั้งแต่ผมถูกมันตบและถูกสั่งว่าให้มาพบมันที่บ้านผมก็เตรียมใจไว้แล้วว่าผมจะต้องเจอกับอะไร ที่จริงผมไม่คิดจะบอกเรื่องระหว่างผมกับกัสให้ใครทราบเพราะผมเองยังไม่พร้อมและไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่..กัสจะดูเป็นฝ่ายเสียหายมากกว่าผมอีกด้วย
คิวเป็นเพื่อนสนิทผม เราคบกันมาอีกไม่กี่ปีก็จะครบยี่สิบปีแล้ว ผมเคยฉุกคิดขึ้นมาว่าถ้าสักวันผมไม่มีใครและวันนั้นมันไม่มีใครด้วยเหมือนกัน ผมนี่แหละจะชกท้องมันแล้วจับทำแฟนเสียเลยให้สิ้นเรื่องสิ้นราวกันไป แต่นั่นมันก็เป็นเพียงความคิดเล่นๆที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะให้ผมได้น่ะนะครับ เพียงแค่ผมต้องคิดว่าผมจะต้องมีอะไรกับมันผมก็หมดอารมณ์แล้วล่ะ
และด้วยความที่เราสนิทกันมาก ผมกับคิวมีความหลังด้วยกันมาเยอะ หลายอย่างที่เราผ่านพ้นมาด้วยกันทำให้เราผูกพันกันและผมบอกได้เลยว่าผมขาดมันไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคนกวนอารมณ์และเข้าใจยากแต่ผมคิดว่าผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจมันได้ดีมากที่สุดรองจากอาฟ้า และถึงแม้ว่าบางคนจะคิดว่ามันเป็นคนไม่ดีแต่สำหรับผมมันเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด บางอย่างผมต้องพึ่งมันและบางอย่างมันต้องพึ่งผม เรารู้สึกดีที่เรามีคนที่ให้ความสำคัญรอคอยอยู่เสมอ คิวเป็นคนคบคนยาก ผมหมายถึงมันจะไม่เปิดรับใครง่ายๆให้เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทของมัน ซึ่งก็ค่อนข้างคล้ายผมเพราะถึงผมจะเข้ากับคนง่ายแต่ผมก็ไม่ยอมเปิดรับหมดหัวใจ คิวจะมีเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่คนและเพื่อนสนิทพวกนั้นล้วนแล้วก็ต้องเข้ากับผมได้ด้วย ถ้าคนไหนที่คิวรู้ว่าผมไม่ชอบ คิวก็จะไม่ไปยุ่มย่ามกับคนคนนั้นมากเกินไป
“จะเงียบอีกนานไหม” คิวพูดขึ้น ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะถอนหายใจแรง
“มึงตบหน้ากูทำไมล่ะ กูมึน..คิดไม่ทัน” ผมพูดประชดไปอย่างนั้น ผมไม่ได้โกรธที่มันลงไม้ลงมือกับผมเพราะที่จริงแล้วผมก็รอมาตลอดที่จะมีใครสักคนมาห้ามปรามนิสัยส่วนตัวที่ผมห้ามตัวเองไม่อยู่นี้ได้บ้าง อีกอย่างสิ่งที่ผมทำไปกับกัสผมก็ควรเจ็บตัวน่ะนะครับ
“จะให้กูขอโทษรึไง” คิวพูดลองเชิง มันเอนหลังพิงพนักโซฟา ผมรู้ดีว่าคนอย่างคิวไม่มีทางพูดขอโทษถ้ามันไม่รู้สึกว่าสิ่งนั้นไม่สมเหตุสมผลจริงๆ
“เปล่า” ผมตอบส่งๆ
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกทำตัวเป็นเด็กสักที” มันบ่นพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใจกับผมเต็มประดา ผมเงียบจนอาฟ้าเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วไวน์อีกสามแก้ว อาวางแก้วไวน์ลงให้ผมและคิวคนละแก้วก่อนที่อาจะเดินอ้อมไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่มุมห้อง
“ถ้ากูไม่ตบ มึงคิดว่าคนอย่างไอ้หมีมันจะหยุดรึไง..” คิวว่า
“หึ ใช่..มือหนักอย่างกับตีนแน่ะ” ผมบ่นไปงั้น ตอนนั้นผมรู้ดีว่าหมีมันจะต้องทำอะไรกับผมสักอย่างแน่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครบอกเรื่องผมกับกัสแต่คนฉลาดอย่างหมีก็น่าจะรับรู้ถึงกลิ่นผิดปกติได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งกัสก็คงเก็บความลับกับหมีไว้ไม่อยู่ด้วย
“ไม่เคยจะสำนึก” อาฟ้าบ่นขึ้นลอยๆแต่ตาไม่ได้หันมามองทางพวกผม อาฟ้าเป็นอาแท้ๆของคิว ตอนเด็กๆทางตระกูลของผมและตระกูลของคิวทำให้เราได้รู้จักกัน รวมไปถึงตระกูลของเราก็สนิทสนมกันมานานตั้งแต่รุ่นคุณทวด อาฟ้าเป็นคนที่ผมสนิทมากคนหนึ่ง เป็นทั้งอา ทั้งเพื่อน ทั้งพี่..ผมใช้ชีวิตกับอาฟ้ามากกว่าอยู่กับพ่อแม่ของผมเองอีกด้วยซ้ำ พ่อแม่ผมไว้ใจอาฟ้ามากถึงแม้จะรู้ว่าอาชอบผู้ชายด้วยกันและมีปัญหากับทางบ้าน พอผมต้องไปเรียนต่อที่ประเทศอิตาลี อาฟ้าก็เป็นคนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือดูแลผมมาตลอด ความรู้สึกที่อาฟ้ามีให้ต่อผมทำให้ผมรู้สึกดีและอาทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าอาเป็นอาแท้ๆของผมเลยล่ะครับ
“วันหลังน่ะ กูคงต้องให้อาเพิ่มกฎ..ห้ามมีอะไรกับพนักงานในร้านซินะ รึเปล่า” คิวพูดเชิงถาม
“แหม มึงพูดได้งั้นเหรอ..เค้กไม่ใช่เด็กในร้านรึไง” ผมย้อนอย่างไม่ยอม มันเองก็ได้พนักงานในร้านเป็นคนรักเหมือนกัน
“ช่วยอย่าเอาความรู้สึกที่กูมีให้กับเค้ก ไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่มึงต้องการได้จากกัส..” มันย้อนหน้านิ่ง นั่นบอกได้เป็นนัยว่ามันเริ่มไม่พอใจในคำพูดของผมเมื่อกี้ สงสัยผมคงไปสะกิดต่อมอะไรของมันเข้าให้แล้วล่ะครับ ผมหันหน้าหนีเล็กน้อยก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มแก้เซ็ง
“การศึกษาสูง ไม่ได้ช่วยให้สันดานเปลี่ยนจริงๆซินะ” คิวพึมพำ
“แคะๆ” ผมถึงกับสำลักไวน์ในทันที อาฟ้าหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ผมวางแก้วไวน์ลงก่อนจะกลับมานั่งเหมือนเดิม
“กูไม่คิดว่ามึงจะโง่ได้ขนาดนี้ เพราะถ้ากูอยากจะนอนกับใครก็ได้ตามใจกู..กูคงจะไม่เลือกนอนกับคนใกล้ตัวอย่างที่มึงทำ มึงนี่นิสัย..ไม่สิ สันดาน” มันพูดแกมบ่นไปในตัว ใช่ครับ..ผมนอนกับใครก็ได้แม้จะเป็นคนใกล้ตัวและผมไม่เคยคิดจะจริงจัง นั่นจึงทำให้ผมคิดอยากจะนอน อยากจะทำอย่างไม่สนใจใครแล้วไม่คิดจะจริงจังกับใครก็ด้วย คิวมักเตือนผมเรื่องนี้อยู่หลายครั้ง ที่จริงแล้วมันเตือนผมมาตลอดเพราะมันเองก็ไม่ใช่ไม่เคยนอนกับคนแปลกหน้า แต่คิวค่อนข้างเลือกสิ่งที่ถูกใจและหิ้วไปนอนพร้อมกับตัดสัมพันธ์ลงในทันที มันทำคล้ายกับว่าชาตินี้อย่าได้มาพบกันอีกประมาณนั้น..แต่สำหรับผมไม่ใช่แบบนั้นเท่าไหร่
“มึงคิดอะไรกับกัสรึเปล่า” คิวถาม ผมเงียบ เงียบอย่างต้องการใช้ความคิด ไม่ใช่ว่าผมไม่คิดอะไรกับกัส ในความรู้สึกทั้งหมดมันก็มีบ้าง เอ่อ..ที่จริงแล้วมันค่อนข้างสับสนปนเปไปเสียหน่อย ทั้งกัสและหมีมีความสัมพันธ์แบบแปลกๆที่ผมไม่สามารถเข้าไปคั่นกลางได้เลย นั่นคือสิ่งที่ผมสงสัยมาตลอด หมีมองออกว่าผมคิดลามกอะไรกับกัสนั่นก็ทำให้ผมสามารถทราบได้ว่าหมีเองก็คงคิดเลวๆไม่ต่างจากผมเสียเท่าไหร่ หมีไม่ใช่คนไม่เจ้าชู้แต่เพราะความเป็นคนนิ่งของมันทำให้มันดูเป็นคนดีอย่างนั้น หลายครั้งที่เราไปดื่มด้วยกันและผมต้องหยุดสังเกตมองหมีอย่างเงียบๆ หมีกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าอย่างแน่นอน เด็กคนนี้มีความเห็นแก่ตัวที่ดูน่ากลัวอยู่ลึกๆ
และด้วยผมเองก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกที่กัสมีต่อผม เด็กคนนี้เป็นคนดื้อตาใสและเข้าใจยาก ด้วยความที่หมีมักออกตัวอยู่เสมอในการเป็นเจ้าของกัส กัสเองก็ติดมันแจทำให้ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าตกลงกัสต้องการอะไรจากผม หลังๆมานี้ผมอาจจะแน่ใจขึ้นมาได้บ้าง ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกนะครับว่าที่ผมนอนกับกัสไปเพราะผมอยากให้กัสเป็นของผมและเพราะต้องการกันหมีที่จ้องจะตะครุบกัสอยู่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่กัสเผลอหมีมักทำท่าหวงของแสดงพื้นที่ของตัวเองในทันที และถึงแม้ว่าผมมักเลือกนอนเฉพาะกับคนที่ถูกใจ แต่กับกัสความรู้สึกอาจจะพิเศษมากกว่าหน่อยเพราะผมรับรู้ได้ทันทีเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของกัสในวันนั้น ผมรู้ว่ากัสต้องการอะไร ยอมผมไปเพราะอะไร ที่จริงเขาจะท้วงผมเลยก็ได้ผมจะยอมหยุดในทันทีแต่กัสก็ไม่ทำอย่างนั้น นั่นยิ่งทำให้ผม..ได้ใจ
“กูไม่แน่ใจ” ผมตอบพร้อมกับนำมือมาลูบหน้าตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ผมยังไม่พร้อมมีใคร ไม่ใช่ว่าผมกลัวที่จะมีความรัก กลัวที่จะถูกครอบครองหรือไม่ใช่ว่าเพราะผมไม่ศรัทธาในความรัก แต่ผมกำลังไม่เข้าใจกับความรู้สึกของทุกคนที่มีอยู่รอบตัวผมมากกว่าว่ามันคืออะไรกันแน่ ผมไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความรักเท่าไหร่ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เข้าใจยากและวุ่นวายน่ารำคาญเป็นที่สุด แต่ก็ปฏิเสธไม่ลงหรอกนะครับว่าบางครั้งผมก็อยากมีมันมาอยู่ข้างๆ
“มึงยังตอบตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ กูว่า..มึงก็ควรเลิกยุ่งกับกัสสักพัก” คิวพูด ผมเงียบหันหน้าหนีมันอีกครั้ง ที่จริงถ้าผมมุดดินหนีมันได้ผมคงหนีไปแล้วล่ะ
“มึงคิดว่ากัสยอมมึงเพราะอะไรวะ คงไม่ใช่เพราะมึงคิดว่ากัสก็ให้แบบนั้นกับไอ้หมีเหมือนกันหรอกนะ” มันว่าคล้ายกับรู้ความคิดผมอย่างนั้น มันก็อาจจะมีความคิดนั้นโผล่ขึ้นมาบ้างละนะ บางครั้งผมก็รู้สึกเกลียดคิวที่มันชอบทำเป็นสอดรู้ความคิดของผมไปเสียทุกอย่าง
“คนบางคนที่อ้าขาให้มึงน่ะ ก็ไม่ใช่เพราะว่าเค้าต้องการสนองตัณหาตัวเอง..ไม่ใช่ทุกคน เค้าอาจจะต้องการสนองตัณหามึงให้จบๆไปก็ได้..จริงไหม ไอ้บ้ากาม” คิวแสยะหัวเราะให้ผม ที่จริงผมชอบที่ได้เห็นรอยยิ้มของคิว มันเป็นคนยิ้มสวยและมีเสน่ห์ ไม่รู้ว่าเพราะนานๆยิ้มทีหรือเปล่าถึงได้มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด แต่สำหรับครั้งนี้นั้นไม่ใช่..รอยยิ้มมีเสน่ห์นี้กลับดูเจ้าเล่ห์กวนส้นเท้าผมพิลึก
“หึ..” อาฟ้าที่นั่งอยู่หัวเราะขึ้น ผมหันไปมอง อาหันกลับมาเบะปากให้ผมเหมือนต้องการเยาะเย้ย
“จะนอนนี่รึเปล่าล่ะ” คิวตัดบทถามขึ้น ผมพยักหน้าตอบ
“นอนนี่..กับมึง” ผมบอกก่อนเพราะกลัวว่ามันจะจัดให้ผมนอนห้องนอนสำหรับรับรองแขก ถึงแม้ว่าผมอยากนอนใช้ความคิดให้มากๆแต่ผมก็ไม่อยากนอนคนเดียวนะครับ
“วันหลังปรับรูปประโยคหน่อยก็ดีนะ กูขนลุก” มันบ่นก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมได้แต่อมยิ้มให้เล็กน้อย
= = = = = = = =
ณ บ้านตระกูลอภิเลิศทรัพย์..
“ถ้าคุณคิวจะรับอะไรเพิ่มก็เรียกป้าได้เลยนะคะ” หัวหน้าแม่บ้านของบ้านผมที่เพิ่งนำทุกอย่างมาเสิร์ฟให้เสร็จเรียบร้อย เธอยิ้มให้คิวอย่างสนิทสนมอย่างกับไม่ใช่คนของผมอย่างนั้น
“ขอบคุณมากครับ” คิวตอบ ผมนั่งนิ่งก่อนจะหันกลับไปมองคิว นิกกี้และอีวานที่นั่งสุมหัวอยู่ด้วยกันที่โซฟากลางห้องนั่งเล่น วันนี้ผมค่อนข้างช็อกนิดหน่อยที่ถูกเด็กปากดีตอกกลับซะไม่เป็นท่า ผมก็พอจะรู้นะครับว่ากัสเป็นคนที่ชอบเถียงต่อปากต่อคำและชอบทำปากดีเสมอ แต่กัสก็ไม่ใช่เด็กที่จะทะนงตัวและหยิ่งเอาชนะเสียเท่าไหร่ วันนี้น่าแปลกเพราะคราบของความเป็นเด็กที่ดูอ่อนแอนั้นหายไปสนิท คำพูดคำจาที่คล้ายกับต่อว่าผมเสียจนมุมจนทำให้ผมไม่สามารถตอบอะไรกลับไปได้ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าความคิดของเขาน่ากลัวมากแค่ไหน
“กูอยากไปโกลด์โคสต์” ผมนั่งฟังพวกมันมานานมากแล้วและผมไม่ได้เข้าไปร่วมวงด้วยจึงมานั่งแยกอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องแทน ไม่รู้ว่าพวกมันนึกครึ้มอะไรถึงได้มารวมตัวกันที่บ้านผมในวันนี้ ผมก็ไม่ได้ไม่ชอบอะไรหรอกนะครับ ปกติผมชอบอยู่กับเพื่อนฝูงมากเพราะผมไม่ค่อนชอบอยู่คนเดียวเท่าไหร่เพราะมันจะรู้สึกแปลกๆยังไงบอกไม่ถูก แต่วันนี้จังหวะไม่ค่อยดีเพราะพวกมันดันโผล่หัวมาในเวลาที่ผมต้องการใช้ความคิดกับตัวเองอย่างมาก โดยเฉพาะคิวที่ผมไม่อยากให้มันมา..สัญชาตญาณการรับรู้ของมันไวอย่างกับสัตว์ ตอนนี้ผมจึงรู้สึกไม่ค่อยชอบใจอยู่ลึกๆแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากบ่นอะไรออกไปเพราะเดี๋ยวพวกมันจะอ่านอะไรๆออกซะก่อน
“กูไปบ่อยแล้ว กูเบื่อ” คิวบ่นขึ้น ตอนนี้พวกมันกำลังตกลงกันว่าจะไปโต้คลื่นที่ไหนหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างล็อกคิววันว่างของแต่ละคนได้เรียบร้อยลงตัว ผมกับคิวชอบการโต้คลื่นเป็นชีวิตจิตใจ เราค้นพบได้ถึงความชอบที่ลงตัวของเราสองคนตอนที่ได้ไปเรียนไฮสคูลที่ประเทศออสเตรเลีย ตอนนั้นพวกผมอยู่ที่บริสเบนและเรามักจะหาวันหยุดไปโต้คลื่นที่โกลด์โคสต์อยู่บ่อยครั้ง เราได้รู้จักเพื่อนในวงการนั้นมากมาย จากที่เริ่มแรกได้เรียนและฝึกฝนจนกลายเป็นได้ลงแข่ง นอกจากความชอบและคล้ายกับตกหลุมรักแล้วคือได้ความสนุกและความสะใจล้วนๆ
“จะที่ไหนก็ได้ แต่ฝรั่งเศสไม่ไปแล้วนะ” ผมพูดขึ้นเพื่อกันไว้ก่อนเพราะถ้าพวกมันจะเถียงกันก็ขอให้เถียงโดยไม่มีประเทศฝรั่งเศสที่ผมเบื่อจะไปเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ประเทศฝรั่งเศสและประเทศออสเตรเลียอีก ผมกับคิวไปโต้คลื่นกันประจำจนจะกลายเป็นเจ้าถิ่นอยู่แล้ว อีกอย่างตอนนี้ในหัวผมมีแต่คำพูดของกัสเต็มไปหมด มันวนเวียนไปมาจนแทบจะทำผมอาเจียน ผมจึงไม่มีแรงจะไปออกความคิดเห็นเพื่อต่อสู้กับพวกมันหรอกครับ
“ฟิลิปปินส์ไหม ใกล้ดี” อีวานเสนอ พวกมันเงียบไปครู่หนึ่ง
“แผ่นดินไหวบ่อยนะเว้ย” นิกกี้ท้วงเหมือนคิดหนัก
“อีกอย่าง..สภาพดินฟ้าอากาศประเทศนี้แม่งไม่เคยคงที่เลย คลื่นแรงก็จริง..แต่ไม่อยากไปตายที่นั่นหรอกนะ” นิกกี้ว่าอีก นิกกี้เป็นคนที่ค่อนข้างเรื่องมากที่สุดในกลุ่ม นู่นก็ไม่ นี่จะเอา นั่นไม่ชอบ นี่ไม่เหมาะ อันนู้นมากไป อันนี้น้อยไป ไม่เคยพบความพอดีในตัวมัน..พวกผมน่ะชินซะแล้วละครับ
“อยู่ที่ไหนก็ตายเหมือนกันนั่นแหละ คนอย่างมึงได้ตายกลางทะเลนี่ถือว่าตายสบายสุดๆเลยล่ะ” คิวบอกแกมหัวเราะ ผมเองที่นั่งคิดเรื่องอื่นไปเรื่อยเปื่อยแต่เมื่อมาได้ยินประโยคนี้ของมันก็อดหัวเราะด้วยไม่ได้
“อินโดแล้วกัน ยังไม่เคยไปเลย” คิวว่า
“โอ้ย..คลื่นมันเล็กอ่ะ” นิกกี้บ่นอีกครั้ง
“นิกกี้..มึงเคยคิดไหมว่าพวกกูอาจจะเลิกคบมึง มึงจะเรื่องมากไปไหนเนี้ย” อีวานว่าด้วยน้ำเสียงเริ่มเซ็ง ผมไม่ทันได้สังเกตว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นิกกี้และอีวานเริ่มด่าเป็นภาษาไทยได้อย่างคล่องปาก และเมื่อไหร่ที่พวกมันเริ่มแทนตัวเองด้วยสรรพนาม “มึง” กับ “กู” ปกติแรกๆผมจะได้ยินทั้งสองคนแทนตัวเองว่า “ยู” กับ “ไอ” ตลอดและถึงแม้ว่าพวกมันสองคนจะพูดภาษาไทยและฟังภาษาไทยได้แต่มันก็จะไม่ค่อยพูดกันบ่อยนัก มันชอบทำตัวแอ๊บหลอกคนอื่นว่ามันฟังภาษาไทยไม่เข้าใจเพื่อให้คนอื่นโชว์โง่ต่อหน้ามัน ผมเคยถามพวกมันแล้วว่าทำแบบนั้นไปทำไม คำตอบคือ..“รู้สึกดี” ผมจึงไม่ต่อว่าอีกเพราะชั่วโมงนั้นได้แต่นั่งขำ ความเปลี่ยนแปลงนี้นั้นคงเพราะพวกมันได้มาคลุกคลีอยู่กับผมและคิวบ่อยๆด้วยละมังครับ รวมไปถึงคิวจะไม่ยอมพูดไทยคำอังกฤษคำแม้ว่าจะอยู่กับเพื่อนต่างชาติก็ตาม ถ้ามันจะพูดภาษาอังกฤษมันก็จะไม่ยอมพูดภาษาไทยเลย อาจจะมีหลุดบ้างบางครั้งที่พูดคุยกันเรื่องเครียดหรือจริงจัง การพูดภาษาอังกฤษก็เหมือนตีกรอบไม่ให้เราพูดภาษาไทยในคำที่รุนแรงเกินควรออกไป ถ้าคิวเริ่มอารมณ์ไม่ดีมันจะเริ่มพูดภาษาอังกฤษออกมาเพื่อบอกพวกเราเป็นนัยว่า..อารมณ์เริ่มไม่คงที่แล้ว นิสัยนี้ของมันทำให้ผมติดไปด้วย นิกกี้กับอีวานจึงต้องพยายามปรับตัวเข้าหาและได้เรียนรู้จักการใช้ภาษาไทยมากยิ่งขึ้น
“อินโดนั่นแหละ กูว่างแค่อาทิตย์เดียวเอง ไปฮาวายไม่ได้หรอก” คิวพูดด้วยน้ำเสียงอะลุ่มอล่วยเหมือนจะให้ทุกคนยอมความเพราะถ้าได้ไปที่ฮาวายนี่เรียกได้ว่าพวกผมแทบไม่โงหัวขึ้นมาทำอะไรนอกจากโต้คลื่นเลยละครับ อาจจะมี..ดื่มเหล้า แทงสนุก โต้คลื่น ควงสาวไปนอน เรียกได้ว่าทุกครั้งที่พวกเราสี่คนไปจะทำสี่สิ่งนี้วนไปมา พวกเราจึงไม่คิดจะชวนใครนอกเหนือจากนี้ไปเพราะมันจะทำให้การใช้ชีวิตของเราเปลี่ยน รวมไปถึงเราจะมีภาระและเรื่องไม่เป็นเรื่องก็จะเกิดขึ้นซึ่งมันจะพาลให้ทริปน่าเบื่อไปด้วย
“กูยังไงก็ได้นะ” อีวานยักไหล่
“กูเหมือนคิว” ผมพูดเมื่อพวกมันหันมามองที่ผมเหมือนต้องการให้แสดงความคิดเห็น พวกเราสี่คนนัดกันไว้ว่าจะไปโต้คลื่นตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ปีที่แล้วคิวและอีวานเกิดเรื่องมากมายทำให้แผนการเที่ยวนี้ต้องพักไปก่อน หลังจากที่ผมกับคิวกลับมาอยู่ที่ไทยพวกเราจะไปโต้คลื่นกันทุกปีถ้ามีเวลา พอเข้าปีนี้ชีวิตของทุกคนก็เหมือนจะไปได้ดี ชีวิตราบรื่น ที่จริงชีวิตของผมเองก็ควรจะราบรื่นด้วยแต่ทำไมอยู่ๆความรู้สึกมันถึงมาสะดุดได้ก็ไม่รู้
“เออ โอเค อินโดก็ได้” นิกกี้ตัดบทด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ
"ที่นี่ก็แผ่นดินไหวนะ" นิกกี้ยังคงทำเสียงบ่นอุบอิบคนเดียวเหมือนเด็กโดนขัดใจ พวกผมไม่สนใจนั่งเงียบไปพักหนึ่ง
“แล้วไปอินโด กูจะได้เจอสาวไหม” นิกกี้บ่นขึ้นเสียงแข็ง ทำให้ผมถึงกับขำออกมาทันทีว่าที่มันไม่อยากไปสาเหตุจริงๆเป็นเพราะอะไร ด้วยสเป็กผู้หญิงของนิกกี้แล้วมันไม่ค่อยชอบสาวเอเชีย มันเคยให้เหตุผลกับพวกเราว่าหุ่นไม่เร้าใจพอ เห็นมันว่าอย่างนั้นน่ะนะครับ
จากที่พวกเราสี่คนสนิทกันมากทำให้รู้สเป็กของกันและกันซะหมดเปลือกซึ่งแต่ละคนจะมีสเป็กที่จะค่อนข้างต่างกันไปสักหน่อย อย่างนิกกี้มีสเป็กที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือมันจะชอบผู้หญิงโซนยุโรปอเมริกาอะไรทำนองนั้น นอกจากจะชอบแบบหน้าอกใหญ่แล้วมันยังให้เหตุผลว่าเวลาคุยแล้วเข้าใจได้ง่ายกว่าสาวเอเชีย ส่วนอีวานจะชอบสาวลูกครึ่งและต้องเป็นลูกครึ่งที่ผสมเอเชียด้วยจะดีมาก มันให้เหตุผลว่าเซ็กซี่ดีสำหรับมัน โดยเฉพาะผู้หญิงปากหนามันจะค่อนข้างคลั่งเอามากๆเลยละครับ ผมสังเกตเอาจากดาราที่อีวานชอบแต่ละคนคล้ายกับเป็นต้นแบบในการเลือกคนรักของมันนั่นล่ะ
ส่วนคิวจะไม่ชอบผู้หญิงผิวขาวมากเกินไปซึ่งมันเคยให้เหตุผลกับผมว่า “จืดชืด น่าเบื่อ” คิวและอีวานมีสเป็กที่ตรงกันคือ..ผู้หญิงที่ทั้งสองคนชอบส่วนมากจะมีรูปร่างหน้าตาที่จัดว่าสวยในระดับสากล คิวเป็นคนชอบผู้หญิงที่มีใบหน้าในลักษณะต้องคม ยิ้มสวย ดูเป็นผู้ใหญ่ วางตัวดีแต่ขณะเดียวกันต้องไม่ดูเย่อหยิ่งเกินงาม มันบอกว่านั่นมีเสน่ห์สำหรับมัน ดูได้จากปรายก็เป็นผู้หญิงในลักษณะที่มันชอบและปรายก็เป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่เรียกได้ว่าคิวตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ด้วยปกติคิวจะมองแต่ชาวต่างชาติ นั่นอาจจะเพราะว่าพวกเราขลุกอยู่ที่ต่างประเทศซะมากละมัง ผมสังเกตได้จากดารานางแบบที่เป็นคนโปรดของคิว..ซึ่งก็หน้าตาไม่พ้นกันเลยสักนิด ภาพยนตร์หรือแฟชั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับมันแต่ความสวยของพวกเธอคงเป็นผลพลอยได้น่ะนะครับ ซึ่งโดยปกติคิวไม่ชอบเด็กเลย คู่นอนของคิวที่ผ่านมาถ้าไม่อายุเท่ากันก็จะแก่กว่าไปเลย ดังนั้นผมก็ค่อนข้างแปลกใจมากที่ได้เห็นมันไปหลงรักเค้กเข้า แต่เค้กก็จัดว่ามีหน้าตาในแบบที่คิวชอบละนะไม่ว่าจะทั้งจมูก คาง ปากแต่ที่ต่างออกไปหน่อยน่าจะเป็นดวงตา ผมว่าดวงตาของเค้กเวลามองให้ความรู้สึกต่างออกไปจากดวงตาของปราย รวมไปถึงผิวสีน้ำผึ้งของเค้กที่ผมว่าคิวค่อนข้างจะหลงใหลเลยล่ะ ซึ่งสเป็กของมันผิดจากผมถนัด ผมรู้สึกว่าผมชอบคนเอเชียมากกว่าผู้หญิงโซนอื่น ความสวยของผู้หญิงที่ผมชอบจะอยู่ในมาตรฐานสวยแบบคนไทยก็พอ คนไทยชอบมองผู้หญิงในลักษณะไหนสวยผมก็มองอย่างนั้น ผู้หญิงไทยบางคนชอบงุ้งงิ้งด้วยภาษาประหลาดๆซึ่งผมว่ามันก็น่ารักไปอีกแบบ โดยเฉพาะคนขาว สำหรับผมยังไงก็ได้ขอขาวไว้ก่อน ที่จริงแล้วผมไม่เคยบอกใครนอกจากพวกมันสี่คนว่าผมชอบคนที่ขาและก้นสวย หน้าก็เอาแบบพอไปได้ทุกอย่างเอาไว้คุยกันหลังจากนั้น บอกตามตรงว่าคนก้นสวยสามารถทำให้ผมหลงหัวปักหัวปำได้เลยล่ะครับ ผมชอบคนหน้าตาหน้ารักมากกว่าจะจัดว่าสวยและชอบคนที่มีตาดำเยอะหน่อย ดังนั้น..นอกจากสาวไทยแล้วสาวญี่ปุ่นบางคนจึงโคตรของโคตรตรงสเป็กผมเลยล่ะ หลายครั้งผมมักจะได้คู่นอนเป็นเด็กเป็นว่าเล่นจนเสี่ยงคุกให้คิวกับอาฟ้าต้องมาช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ
“อย่าหิ้วใครไปล่ะ กูขอร้อง” คิวปรามไว้ก่อนเพราะมันเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวาย ถ้าใครเพิ่มเข้ามาในกลุ่มพวกเรามันจะรู้สึกหายใจไม่ออกละมังครับ เวลาที่เราพาใครแปลกหน้าเข้ามาในกลุ่มโดยไม่บอกมันก่อนละก็มันมักจะหงุดหงิดทุกครั้งไป เอ่อ..แต่บางครั้งนิสัยนี้ผมก็เป็นนะ
“แล้วมึงล่ะ ไม่คิดจะหิ้วแฟนมึงไปด้วยรึไง..กูไม่ว่าหรอกนะ” อีวานแซว มันเป็นคนหนึ่งที่ชอบแกล้งและจับผิดคิว ตอนที่มันได้รู้เรื่องเค้กครั้งแรกมันถึงกับตื๊อให้ผมพาไปเจอเค้กให้ได้เพราะมันอยากเห็นมากว่าคนที่คิวชอบเป็นใครแบบไหน โดยเฉพาะเป็นผู้ชายด้วยซิครับยิ่งน่าสนใจไปกันใหญ่ เรียกได้ว่าแรกๆพวกมันก็ช็อกกันไปเป็นแถบๆเหมือนกัน
“ไม่..” คิวตอบหน้านิ่ง
“อยู่กับเพื่อนก็ควรสนุกกับเพื่อน อยู่กับแฟน..ก็ไม่จำเป็นต้องมีพวกคุณ” มันยักคิ้วให้อย่างเจ้าเล่ห์ทำให้อีวานกับนิกกี้หัวเราะออกมา
“มึงใช้คำว่าไม่จำเป็นเลยเหรอ ไอ้สาด..so sad~” นิกกี้ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาด้วยท่าทางแกล้งเศร้า
“...............” ผมนั่งเงียบเมื่อนึกแล้วก็รู้สึกเหมือนไม่อยากไปขึ้นมา ที่จริงก็อยากไปแต่ทำไมความรู้สึกแปลกๆนี้ถึงผุดขึ้นมาก็ไม่รู้ละครับ เซ็งฉิบเป๋ง
“เป็นอะไรวะ” นิกกี้หันมาถามผม อยู่ๆในห้องก็เงียบเสียงลง ผมชะงักหันกลับไปมอง
“อะไร” ผมแกล้งถามกลับเพราะไม่อยากให้พวกมันรู้ว่าผมกำลังนั่งคิดเรื่องอะไรอยู่
“มึงพูดนับคำได้ละ ปกติเห็นตื่นเต้นระริกระรี้อยากไปอ่อยสาวจะตาย” นิกกี้ว่าซะเสีย
“หึ เปล่านี่..ก็ไม่อยากแย่งพวกมึงพูด อีกอย่าง..กูบอกให้มึงหัดพูดคำว่าบริหารเสน่ห์ ไม่ใช่อ่อย สอนยากสอนเย็นจริงๆนะไอ้ฝรั่ง” ผมยักไหล่ยิ้มพร้อมกับว่ามันไปด้วยในตัว พวกมันหัวเราะกันเล็กน้อยก่อนจะเงียบเหมือนต้องการจะจับผิดผม
“เหี้ยอะไร” ผมยิ้มก่อนจะหยิบหนังสือใกล้มือมาอ่านแก้เก้อจนพวกมันหันหน้ากลับไปคุยกันต่อ ผมนั่งจ้องหนังสืออยู่อย่างนั้นอยู่นานพอที่คำพูดของกัสจะเริ่มมีอิทธิพลทำให้อ่านไม่รู้เรื่องอีกครั้ง
“อ่านตรงไหนไม่เข้าใจ..มึงซื้อหนังสือภาษามนุษย์ต่างดาวมารึไง” คิวเดินมา ผมเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะปิดหนังสือลง มันนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆผม
“เป็นเหี้ยอะไรอีกล่ะ” มันถามทันที น้ำเสียงเรียบๆของมันทำให้ผมถึงกับหัวเราะเพราะเหมือนกับว่าผมทำตัวมีปัญหาบ่อยๆอย่างนั้น
“เปล่า” ผมตอบปัด คิวเงียบไป ผมหยิบเบียร์ขึ้นจิบ
“ทำไมมึงยังไปยุ่งกับกัสอีก” มันเปิดประเด็นขึ้น ผมถอนหายใจเพราะที่มันรู้ก็คงเพราะอาฟ้าบอกอีกนั่นแหละ ก็ผมเล่นลากกัสออกมาต่อหน้าต่อตาอาซะขนาดที่อาทำตาหงายตาคว่ำขู่ใส่ผมแล้วผมก็ยังไม่สน
“ก็ตกลงกันไว้ว่าจะลืมมันไป” ผมพูดตอบ
“หึ..มึงนี่ตลก” คิวบ่นขึ้นขำๆ
“มึงลองคิดซิว่า สมมุติว่ามึงรักไอ้นิกกี้..แล้วไอ้นิกกี้นอนกับมึงแล้วบอกให้มึงลืมมันซะ มึงคิดว่ามึงจะลืมได้ไหม” มันพูด
“อะไร” ผมยิ้มไม่ออกเพราะเหมือนเมื่อกี้เหมือนผมได้ยินอะไรไม่ถนัด
“อะไร” คิวย้อนพร้อมกับทำสีหน้าเลียนแบบผมกลับอีกด้วย
“มึงบอกว่า กูรักไอ้นิกกี้” ผมพูด
“ใช่..มันอยู่ที่ว่ามึงได้ยิน มึงรู้ หรือมึงแกล้งไม่ได้ยิน แกล้งไม่รู้” มันย้อนตอบ
“กัสไม่เคยบอกว่ารักกู” ผมย้อนบ้างเพราะรู้ว่าที่มันพูดนั่นหมายถึงอะไร
“แล้วมึงคิดว่าที่มึงทำเป็นหมาหยอกไก่ใส่กัสตลอดน่ะ เพราะไม่รู้ซินะว่ากัสคิดอะไรอยู่” คิวอมยิ้ม
“กัสก็ดี..แต่กูไม่ได้ชอบ กูก็ไม่ยุ่ง จบ” มันพูดเสริมพร้อมกับเบะปากให้อีก
“อย่ากวนตีนน่า” ผมบ่น คิวยิ้มกว้างกว่าเดิม ประโยคเมื่อกี้เหมือนต้องการแซวอย่างรู้ทันว่าผมชอบกัสอย่างนั้น
“เค้กก็น่ารักดี กูก็ยุ่งกับเค้ก” ผมนึกอะไรขึ้นได้เลยพูดย้อนกลับไปบ้าง มันก็รู้ดีว่าผมชอบหยอกแซวคนอื่นไปเรื่อย
“เหรอ งั้นนอนกับเค้กซิ..ไม่ได้ห้ามเลย” มันยักคิ้วพร้อมกับทำท่าทำทางอย่างไม่แยแส ผมเหสายตาไปมองมัน
“ไม่ได้ใช่ไหม ก็เพราะในหัวมึงไม่ได้มีภาพอยากนอนกับเค้ก..เพราะไม่ใช่เค้ก” เมื่อมันพูดคำนี้จบผมถึงกับต้องหุบปากเงียบ
“ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตมึง เค้าเดินออกไป..ก็ใช่ ว่าเค้าอาจจะไม่พอใจที่มึงให้ในสิ่งที่เค้าต้องการไม่ได้ แต่บางคนเค้าก็ไปเพราะเค้ารู้ว่าเค้าไม่ใช่สำหรับมึง” คิวพูด ผมได้แต่เงียบ คิวเองเป็นคนหนึ่งที่รับรู้ทุกเรื่องว่าผมเคยคบกับใครบ้าง ผมรักใครอย่างไร เวลาอยู่กับคนรักผมเป็นอย่างไรและเวลาเลิกกันนั้นเป็นอย่างไร ตั้งแต่คบกับใครมาผมไม่เคยบอกเลิกใครก่อนเลยสักคนเดียว มันเองก็รู้ตรงจุดนี้ดีกว่าใครเพื่อน
“มึงบอกว่ามึงไม่รั้งไว้ และมึงไม่ไล่ตาม..เพราะมึงอยากให้เค้ามีความสุข แต่มึงก็แอบคิดไม่ใช่เหรอว่าผู้หญิงพวกนั้นมีความต้องการอย่างขาดลิมิตที่มึงจะให้ได้ จนมึงเองก็รู้สึกไม่ชอบใจเหมือนกัน..มึงถึงปล่อยเค้าไปน่ะ”
“พวกเธอก็มีสิทธิ์เลือกที่จะไปหาคนที่ดีกว่า..มึงก็แค่หงุดหงิดแล้วคิดว่ามึงดีไม่พอรึไง” มันพูดไม่หยุด
“หุบปากบ้างเหอะ” ผมว่าเพราะปกติมันไม่ใช่คนพูดมากแต่วันนี้เสือกมาอย่างกับพ่นไฟ คิวหัวเราะ
“มึงคิดว่าจะมีสักกี่คนบนโลกวะที่จะทนรักใครสักคนที่ไม่แม้แต่จะมีหวังด้วยซ้ำได้นานมากขนาดนี้..มึงอย่าปฏิเสธซิว่ามึงไม่รู้น่ะ มึงคิดว่ามึงใจแมนได้เท่ากัสไหม..กูเองยังทำแบบนั้นไม่ได้เลย” ผมนั่งเงียบไม่หันไปมองหน้าคิวที่เริ่มไร้รอยยิ้ม
“กูคิดว่ากูจะรักปรายคนเดียว สุดท้ายกูก็รักคนอื่นอีก..มึงว่ามันบัดซบไหมล่ะ กูน่ะ..แทบไม่อยากยอมรับความจริงเลยด้วยซ้ำ ฮึ” มันแสยะหัวเราะ
“มึงแค่ไปไม่เป็นมากกว่าที่กัสกลับไม่เรียกร้องอะไร เสียเซล์ฟเลยซิ..ยอมรับเถอะ” มันยักคิ้วกวน ผมเงียบไม่ตอบกลับไปเพราะมันก็พูดถูก ในตอนนั้นผมคิดว่าถ้ากัสตื่นขึ้นมา กัสอาจจะเรียกร้องสิทธิ์แปลกๆอย่างคู่นอนที่ผมผ่านมานับไม่ถ้วน หรืออาจะร้องไห้คร่ำครวญอะไรบางอย่างที่น่ารำคาญหู แต่กัสกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรแบบนั้นเลยจนผมอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ จะเรียกได้ว่าไปไม่เป็นอย่างที่คิวว่าก็น่าจะใช่
= = = = = = = =
-
ปัจจุบัน 08:30 น. ณ คอนโดเซ็น..
“ตรงนี้ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรแล้ว” คิวสั่ง
“เอาอันนี้มาไว้เซตสอง แค่นี้พอ..วันนี้พอแค่นี้ก่อน” คิวพูดสั่งเสียงเหนื่อย ผมกดบันทึกข้อมูล ผมกับมันมาสุมหัวกันเรื่องเมนูอาหารตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เราประชุมพร้อมกับนัดคิวงานของเราที่จะไปร่วมงานที่ประเทศอิตาลีปลายปีนี้ด้วย ที่จริงเหมือนทุกอย่างจะลงตัวตั้งแต่ตอนตีสอง แต่ไม่รู้ว่าคุยกันยืดเวลามาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร
“โอเค โอเค..” ผมบ่นพึมพำ สมองเริ่มเบลอแทบคิดอะไรไม่ออกแล้ว สภาพของคิวก็พอกัน นี่เป็นการคิดเมนูใหม่เพิ่มด้วย ทุกครั้งก่อนที่จะเริ่มลองลงมือปฏิบัติจริงผมกับคิวจะต้องมาวางแผนด้วยกันก่อน เคยมีหลายครั้งที่หนักเอาการมากกว่านี้ มันคล้ายกับว่าคิดไม่ออกสักทีว่าอะไรเด็ดอะไรโดน อย่างตอนที่อยู่ประเทศอิตาลีพวกเราลองเมนูอาหารโดยการเริ่มจากสิ่งๆเดียวแต่ลองมันทุกรูปแบบ ใช้เวลานานนับเดือนกว่าจะได้สูตรที่ลงตัวเลยก็มี
“พระเจ้า..” คิวร้องโอดครวญพร้อมกับเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา
“กูว่า เพราะเราแก่ขึ้น หรือร่างกายเราไม่อำนวยวะ..ถึงได้เพลียเร็วขนาดนี้” ผมบ่นตาลอย ปกติถ้าคิดสูตรไม่ออกกระทั่งลงมือปฏิบัติจริงทั้งคืนก็ไม่เคยรู้สึกว่าเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน แต่นี่เพียงแค่วางแผนงานข้ามคืนเท่านั้นแต่สภาพไปไม่เป็นกันทั้งคู่เลย
“ก็เพราะอานั่นแหละ มาท้าแข่งเทนนิสเมื่อไหร่ไม่ท้า..มึงก็ด้วย เห็นแก่เงินสองหมื่น” มันบ่นพึมพำ
“มึงแน่ใจเหรอว่าที่มึงยอมแข่งเพราะเงินสองหมื่น” ผมย้อนตอบ คิวนิ่งไป ผมเองก็นิ่งไปด้วย
“มึงว่าไหม..ทำไมเราถึงแพ้ตลอดเลยวะ กับแค่เทนนิส” คิวลุกขึ้นหันมามองหน้าผมด้วยหน้าเหมือนต้องการคำตอบให้ได้ ผมเองก็ไม่ใช่ไม่สงสัย ผมสงสัยมากเพราะผมกับคิวเป็นคนที่ชอบเล่นกีฬา กีฬาที่ผมกับคิวค่อนข้างเก่งเลยคือ..กอล์ฟ ขี่ม้า โต้คลื่นและเบสบอล ล้วนเป็นกีฬาที่ใช้กำลังมากพอสมควร แต่เทนนิสไม่ว่าจะแข่งกับอาฟ้ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งพวกผมชนะนับครั้งได้ ผมก็ยอมรับน่ะนะว่ากีฬาเทนนิสกับว่ายน้ำเป็นกีฬาที่อาถนัดมากที่สุด แต่ผมแค่ไม่คิดว่าผมจะแพ้กับแค่..เทนนิส แถมแพ้บ่อยครั้งด้วย ให้ตายเถอะครับ..เหมือนถูกย่ำยีศักดิ์ศรีนักกีฬาโรงเรียนอย่างผมจนจมดิน
“...............” ผมกับคิวเงียบไปครู่หนึ่งอย่างใช้ความคิด
“ตัวอาเล็กกว่าเราอีก แต่เสิร์ฟที..กูนึกว่าแอนดี้ ร็อดดิกมาเอง” คิวพูดพึมพำ พอนึกถึงลูกเสิร์ฟของอาแล้วเพลียจะรับจริงๆครับ
“กูบอกแล้วว่าอามึงมือหนัก เก็บกดป่ะวะเหี้ย..สงสารทิกเกอร์ฉิบหาย” ผมนึกถึงตอนที่อาเคยโมโหผมกับคิวที่ออกไปสำมะเลเทเมาตอนใกล้สอบ ตอนนั้นผมไม่คิดว่าอาจะกล้าลงไม้ลงมือกับผม ผมนึกว่าคิวจะโดนคนเดียว แต่ที่ไหนได้ผมโดนฟาดเข้าที่หน้าเต็มๆ เรียกได้ว่าชั่วโมงนั้นทรุดลงกับพื้นนอนแน่นิ่งเป็นเพื่อนสนิทกับพื้นถนนไปนานเลยล่ะครับ
“อย่าไปพูดถึงแม่งเลยว่ะ เจ็บใจฉิบ” คิวบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ผมกับคิวนั่งเปลี่ยนเรื่องพูดกันอยู่นานพอสมควร จนโยงไปเรื่องกีฬาชนิดอื่นบ้าง ช่วงหลังมานี้งานเราค่อนข้างหนักพอสมควรทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายบ่อยเหมือนอย่างแต่ก่อน
“คิว” ผมเรียก
“ฮึ..” มันขานตอบพร้อมกับเอนตัวนอนลงอีกครั้ง ตาลอยมองขึ้นไปบนเพดาน ผมเองก็ตาลอยมองไปที่ปลายเท้าของตัวเองที่วางเทินอยู่บนโต๊ะเช่นกัน
“มึงนึกยังไงถึงตอบตกลงเดินแฟชั่นโชว์ให้อาวะ” ผมถามอย่างนึกสงสัยมานาน ที่จริงตั้งใจจะถามอยู่หลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาส ลืมบ้าง เมาบ้างปนเปกันไป
“มึงคิดว่าไงล่ะ” มันย้อนตอบแกมขำ
“อาเสนออะไรดีๆให้มึงงั้นซิ” ผมถามอย่างรู้ทัน
“มึงนี่ฉลาดนะ แต่..ฉลาดไม่พอ” มันว่าก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง ผมนั่งนึกเพราะอยากเดาถูกว่าอายื่นข้อเสนออะไรให้
“ไม่ใช่เงินซินะ” ผมพูดเพราะมันก็มีเงินมากพอ มากพอที่ขนาดไม่ต้องทำงานก็ยังคงใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ผมคิดว่าคนอย่างคิวน่าจะได้ความสะใจและความสมใจอยากมากกว่า มันเกลียดงานไฮโซมากๆด้วยเพราะเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวายในสังคมและมีโลกส่วนตัวสูง บวกกับผู้หญิงชอบเข้ามาให้ท่าคิวเยอะซึ่งมันจะค่อนข้างรำคาญทุกครั้งกับสายตาที่พวกเธอคอยส่งมาให้ แน่ละครับว่าถ้าไม่ตรงสเป็กของมันละก็มันไม่เคยชายตามองเลย ยิ่งเดินเข้าหาเท่าไหร่มันถอยหลังหนีเท่านั้น ผิดกับผม..ถ้าเดินเข้าหา ผมเก็บทานเรียบ!
“กูคิดไม่ผิดจริงๆ ทิกเกอร์น่ะ..สุดๆไปเลยว่ะ บางทีกูก็อดสงสัยไม่ได้ว่าอากูเล่นของรึเปล่า” มันลุกขึ้นนั่งมองหน้าผม ผมหัวเราะในทันที
“จริงดิ..ตกลงนี่มึงแกล้งอาใช่ไหม” ผมยิ้มถามด้วยความตื่นเต้น
“กูเปล่าแกล้ง” มันยิ้มกว้าง เบะปากผายมือออกทั้งสองข้าง ผมส่ายหัวอย่างไม่เชื่อ
“เหี้ยเซ็น กูเปล่า..จริงๆ สาบานเลย กูไม่คิดว่าทิกเกอร์จะกล้ายื่นข้อเสนอขนาดนั้น”
“ก็มึงอ่ะเล่นตัว ไอ้เชี้ย” ผมบ่นไปอย่างนั้นเอง คิวยักไหล่ส่งๆ ผมรู้ดีว่าคิวไม่ได้เล่นตัวหรอกครับ มันก็แค่ไม่ชอบนั่นคือเหตุผลพื้นฐานของมัน
“มึงจำได้ไหม..เฟอร์รารี่คันที่คุณปู่ของทิกเกอร์เอาไปงานที่อิตาลีน่ะ คันนั้นเลย” มันยิ้มกว้างกว่าเดิม
“จริงดิ! ไปด้วย..กูไปด้วย” ผมร้องเสียงหลงดังลั่นห้อง
“มึงไปตีกับอาเอาเองก็แล้วกัน แม่ง..บอกจะไปด้วย” มันหน้างอลงในทันที
“ที่จะไปด้วยก็เพราะแค้นกูนั่นแหละที่ทิกเกอร์ยอม พูดตามตรง..กูไม่ได้แกล้งจริงๆ ก็ข้อเสนออาห่วยแตกขนาดนั้น ใครจะไปรับวะ” มันทำหน้าขยาด
“เค้าก็รับกันหมด เหลือมึงนั่นแหละ ห่า” ผมว่าใส่อย่างนึกหงุดหงิดเพราะรู้สึกอยากไปด้วยจริงๆ..ให้ตาย
“บอกตามตรง แค่คิดกูก็อายละ..” มันทำหน้าเซ็ง
“อาเป็นเจ้าของแบรนด์ แล้วเอาหลานมาเดินเองเนี่ยนะ..มึงว่ามันน่าตลกไหมล่ะ” คิวจ้องหน้าผมเขม็ง
“เอาน่า มึงอย่าไปคิดงั้นดิวะ..ไม่งั้น อาจะตั้งชื่อร้านว่าเหี้ยอะไร” ผมพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้
“ชื่อหมาชื่อกระรอกอะไรก็ได้ ทำไมต้องชื่อกูล่ะ” มันขมวดคิ้วย้อนเสียงสูงในทันที
“หึหึ..เอาเหอะน่า มึงก็บ่นไปอย่างกับไม่ได้ค่าตอบแทนอย่างนั้น เราก็มาทำเรื่องน่าขยาดให้เป็นเรื่องน่าสนใจซะซิ..กูว่ามันน่าสนุกออก มีคนให้น่าเตะตัดขาตั้งหลายคน” ผมยักคิ้วให้ คิวยิ้มเล็กน้อยเหมือนรู้ทันความคิดของผม เราเงียบลงไปครู่หนึ่งเหมือนบทสนทนาจบลงและต่างคนคงต่างกำลังคิดเรื่องสนุกๆในอนาคตกันอยู่
“เมื่อไหร่กัสจะมา กูหิว ง่วงด้วย” ผมบ่น กัสรู้ว่าผมต้องทำงานถึงดึก เมื่อเช้าเจ้าตัวจึงโทรมาอรุณสวัสดิ์ผมแต่เช้าพร้อมกับบอกด้วยว่าจะนำอาหารเช้ามาให้
“มึงก็กลับบ้านไปได้แล้วไป กูเช็คอะไรอีกนิดหน่อยเสร็จแล้วจะเอาไปให้” ผมบอก
“กูอยากอยู่ตายห่าล่ะ ห้องมึงเล็กอย่างกับรูหนู กูบอกให้มึงหาห้องใหม่..มึงมาอุดอู้อยู่อย่างนี้ทำไมวะ กูหายใจไม่ออก” ตั้งแต่ผมมาซื้อที่คอนโดนี้ไว้ มันบ่นเรื่องนี้เป็นรอบที่ล้านแล้วมั้งครับ คิวไม่ชอบที่แคบ มันชอบอยู่บ้านกว้างและมีบริเวณเยอะๆถึงแม้ว่าบ้านจะเงียบอย่างกับป่าช้าจนรู้สึกวังเวงก็ตามนั่นยิ่งทำให้มันชอบมาก แต่สำหรับผมไม่ใช่..การที่ผมมาซื้อคอนโดห้องนี้อยู่ก็เพราะว่าใกล้ร้านเค้ก ปกติผมจะไปกลับที่บ้านเสมอแต่เดี๋ยวนี้ผมต้องทำงานที่ร้านประจำซึ่งถ้าจะเทียวไปกลับที่บ้านทุกวันก็คงไม่ไหว และพอมาอยู่คอนโดผมต้องอยู่คนเดียว ผมไม่ชอบที่กว้างๆหรือเงียบเกินไปเพราะมันทำให้รู้สึกวังเวงพิลึก
“จิ..มึงก็รู้ว่าทำไม มึงจะถามเพื่อ” ผมบ่นคิ้วขมวด
“ขี้เหงาจังเลยนะไอ้บ้ากาม” มันหันมายักคิ้วให้ผม
“ใครขี้เหงา กูแค่ไม่ชอบเว้ย” ผมบอกปัดก่อนจะลุกขึ้นถอดเสื้อยืดออกด้วยรู้สึกอึดอัด
ติงต๊อง~
“.................” ผมกับคิวเงียบเมื่อได้ยินเสียงกริ๊งห้อง มันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินมาหยิบกุญแจรถและกระเป๋าสตางค์ของตนที่วางอยู่บนโต๊ะไปถือไว้เหมือนรู้งาน ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะทานอาหาร คิวเดินไปเปิดประตูห้องให้ทำให้อีกฝ่ายที่เพิ่งมาถึงถึงกับชะงักเล็กน้อย
“อรุณสวัสดิ์ฮะพี่คิว” กัสทักด้วยท่าทางเขินๆจนทำผมแทบจะหลุดขำอาการนั้นออกมา เราเป็นแฟนกัน กัสเป็นคนรักของผมในตอนนี้ เด็กคนนี้เป็นเด็กผู้ชายที่ผมคบด้วยคนแรกในชีวิต ในเมื่อคบผู้หญิงแล้วไม่รอด ผมก็อยากจะรู้เหมือนกับว่ากับกัสจะไปรอดหรือเปล่า ที่จริงเราเป็นคนรักกันคล้ายกับยังไม่ได้จีบเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะจีบกันมานานมากแล้วโดยไม่ทันได้สังเกตกันและกันจะว่าอย่างนั้นก็ได้
“ครับ” คิวตอบก่อนจะเดินออกจากห้องไป กัสผงกหัวให้เล็กน้อยพร้อมกับเอื้อมมือปิดประตูลง ผมนั่งมองกัสที่ยืนอยู่ตรงปากประตูห้อง อีกฝ่ายมีท้าทีเก้ๆกังๆทั้งที่ตอนแรกเป็นคนบอกว่าจะมาให้ได้แท้ๆ หลังจากที่เราตกลงคบกันวันนั้นก็ผ่านมาได้สองสามวันที่ผมและกัสไม่ได้เจอหน้ากันเลยเพราะหลังจากเลิกงานที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์ ผมก็ต้องกลับไปเช็คเอกสารที่บริษัทตลอด
“ต้องให้เดินไปรับรึไง” ผมพูดขึ้น
“ป..เปล่าสักหน่อย” อีกฝ่ายพูดปัดก่อนจะถอดรองเท้าออกและเดินตรงมาที่โต๊ะอาหารพร้อมกับกระเป๋าเก็บความร้อนใบใหญ่
“กัสให้แม่บ้านจัดอาหารมาให้นะฮะ อาหารญี่ปุ่น..จะได้ย่อยง่ายๆ” อีกฝ่ายยิ้มบอก กัสมีดวงตาที่กลมโต ดวงตาที่ไม่เหมาะกับใบหน้าที่เรียกว่าผู้ชาย แถมรูปก้นของกัสสามารถทำให้เลือดในตัวของผมสูบฉีดได้อย่างน่าประหลาด หลายครั้งที่ผมเก็บไปนึกจินตนาการและเมื่อได้เจอของจริงนี่ถึงกับแทบคลุ้มคลั่งเพราะมันเป็นอย่างที่ผมจินตนาการไว้ไม่มีผิด แน่นอนว่าของจริงต้องดีกว่าอยู่แล้ว..เป็นก้นที่จัดได้ว่าน่าหลงใหล ปลุกเร้าอารมณ์ของผมได้สุดๆเลยล่ะครับ
“เดี๋ยวค่อยกินได้ไหม พี่ง่วงน่ะ” ผมเท้าคางบอกด้วยรู้สึกว่าไม่อยากทานแล้วแต่อยากนอนเอาแรงก่อนทาน
“ก็ได้ฮะ แต่ว่า..มันจะเย็นนะ” อีกฝ่ายพูดด้วยหน้าตาคิดหนักเหมือนกับเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ผมคิดว่ากัสเป็นลูกคุณหนูแบบที่ผมไม่ได้เป็น พูดกันตามตรงแล้วบ้านผมมีฐานะมากกว่าบ้านของกัส แต่ผมไม่ได้ถูกที่บ้านเลี้ยงดูเหมือนไข่ในหินแบบกัส กัสน่ะ..ให้ความรู้สึกคล้ายกับนางเอกในละครที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีประมาณนั้น งานบ้านแทบทำไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ ผมจำได้ว่าตอนกัสเข้ามาทำงานที่ร้านเราใหม่ๆ กัสทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง..ดูเงอะงะไปหมด แถมยังทำจานของที่ร้านแตกไปหลายใบจนถูกอาฟ้าหักเงินเดือนแทบไม่เหลืออีกด้วย
“เวฟได้น่า” ผมบอก
“งั้น..กัส กลับล่ะ” อีกฝ่ายพูดทำท่าจะหันตัวกลับไป
“จะรีบไปไหน ตัวเองถ่อมาถึงที่แท้ๆ” ผมพูด กัสหันหน้ามาทำหน้างอใส่ทันทีที ผมเลิกคิ้วตอบให้
“แค่เอาข้าวเช้ามาให้เพราะเป็นห่วงแค่นั้นเหอะ” อีกฝ่ายว่ากลับเสียงแข็ง
“เหรอ” ผมยิ้มเล็กน้อย
“ไปแล้ว” อีกฝ่ายกระแทกเสียง ผมรีบลุกขึ้นแล้วเข้าไปรั้งเอวไว้ในทันที
“เอ๊ะ” กัสดิ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ สีหน้าเริ่มเหรอหราไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนา
“นอนเป็นเพื่อนหน่อย” ผมบอก กัสเงียบไปแต่หูกลับเริ่มแดงขึ้นจนสังเกตเห็นได้ ผมนำคางไปเทินไว้บนไหล่ของกัส ผมยืนเงียบรอปฏิกิริยาจากอีกฝ่าย
“พี่เซ็นต้องนอนเฉยๆ ห้ามทำอะไรกัสด้วย” กัสพูดเสียงแข็งไม่เลิก
“หึ..ไม่มีอารมณ์หรอกน่า” ผมพูดจากใจจริง ถึงผมจะลามกและหื่นกามอย่างที่เพื่อนๆชอบแซวบ่อยๆแต่ผมก็ไม่ได้มีอารมณ์ตลอดเวลาหรอกนะครับผมมมมมม..(T_T)
ผมจับมือกัสให้เดินเข้ามาในห้องนอน กัสยังคงยืนนิ่งถึงแม้ว่าผมจะซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว
“พี่เซ็นไม่ใส่เสื้อล่ะครับ” กัสพูดอย่างระแวง ผมยิ้มให้เล็กน้อยและไม่สนใจจะตอบกลับ
“ใส่เสื้อสิฮะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” อีกฝ่ายว่าอีก
“แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า..แก้ผ้าตอนหิมะตกที่อิตาลียังเคยมาแล้วเลย” ผมพูดติดตลก มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นตอนที่ผมเมาเหตุเพราะใกล้เป็นโรคประสาทตอนใกล้สอบ เรื่องจริงที่กัสคงคิดว่าผมพูดแกล้งเล่น
“อุบาทว์” กัสว่าก่อนจะยอมเข้ามาซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่มเดียวกันกับผม
“อีกสักสามชั่วโมง ปลุกด้วยนะ” ผมเข้าไปกอดพร้อมกับกระซิบบอก กัสนอนตัวลีบแข็งทื่ออย่างกับท่อนไม้แต่ก็เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตนมาเพื่อตั้งนาฬิกาปลุกให้ด้วย ผมหลับตาลงช้าๆ สมองมันเบลอจนไม่สั่งการอะไรแล้ว สุดท้ายก็หลับไปในที่สุด..
= = = = = = = =
-
“พี่เซ็น..พี่เซ็นฮะ” ผมสะลึมสะลือตื่นเมื่อได้ยินเสียงจากคนข้างกาย
“เที่ยงแล้วนะ” อีกฝ่ายพูด ผมหลับตาลงอีกครั้ง
“ลุกมากินข้าวก่อน ปลุกยากปลุกเย็นเป็นเด็กไปได้” กัสเริ่มบ่น ผมพลิกตัวหนีอย่างตัดรำคาญ สุดท้ายก็ลืมตาขึ้นมองนาฬิกาที่อยู่ปลายเตียง เวลาเกือบเที่ยงเข้าให้แล้วจริงๆ
“เหนื่อยชะมัด” ผมบ่นเสียงแหบ กัสนั่งมอง ผมยิ้มให้และพยายามขยับตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่าย กัสหลบเล็กน้อย
“หลบทำไม” ผมว่าเสียงเอื่อย
“ก..ก็ เข้ามาทำไมเล่า”
“น่า..” ผมปัดไปอย่างนั้นแต่ก็นำมือเข้าไปกอดเอวกัสเข้ามาจนตัวกัสล้มลงมาทับตัวผม กัสพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่ผมก็เข้าไปหอมและซุกอีกฝ่ายไว้ได้
“เหม็นฮะ น้ำก็ไม่อาบ ฟันก็ไม่แปรง” กัสบ่น
“อื้อ” ผมปัดไม่เลิกแต่หน้ายังคงซุกอยู่ที่ต้นคอของอีกฝ่าย กัสสะดุ้งทันทีที่มือของผมไปสะกิดตรงส่วนสำคัญเข้า
“อย่าครับ” กัสปราม มือก็พยายามมาดันหน้าผมออก
“จิ..” ผมจิปากอย่างหัวเสียก่อนจะจับแขนอีกฝ่ายไว้แน่น
“อย่าไงฮะ พี่เซ็น” กัสเริ่มขึ้นเสียงดังขึ้นนั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด
“จะทำ” ผมพูด
“ไม่ให้ทำ!” กัสขึ้นเสียงพร้อมกับถลึงตาโต ตาดำมีลักษณะกลมโตของกัสที่ผมค่อนข้างชอบมากที่สุด..รองจากก้นน่ะนะ กัสดิ้นอย่างสุดแรงจนผมต้องออกแรงเข้าไปกอดล็อกไว้จนอีกฝ่ายไม่สามารถต้านทานอะไรได้อีก
“อย่าทำนะ ไม่งั้นกัสจะโกรธจริงๆด้วย” อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนตัดพ้อขึ้นมาทำให้ผมถึงกับชะงัก
“อะไรเล่า” ผมบ่นบ้าง อยู่ดีๆก็มาเปลี่ยนอารมณ์..บ้าจริง
“ก็ พี่เซ็น..ยัง ไม่บอก รักกัสเลย” อีกฝ่ายพูดขึ้นเสียงเบา เบามากแทบกระซิบ
“ให้ตาย อะไรกันนักกันหนาเนี้ย” ผมบ่น ปล่อยกัสออกพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เหมือนกันทุกคนเลย..รายไหนรายนั้น เซ็งฉิบเป๋ง ผมอยากจะรู้ว่าใครแม่งเริ่มใช้คำว่ารักเป็นคนแรก..พ่อจะตามไปฆ่าทิ้งซะให้สิ้นเรื่องสิ้นแค้นไป
“................” กัสนั่งเงียบ คอตกอย่างกับผมทำอะไรผิดร้ายแรงปางตายให้อย่างนั้น ผมนอนนิ่งมองว่าเมื่อไหร่กัสจะยอมขยับตัว
“ทำไมถึงไม่ยอมพูดล่ะฮะ มันยากนักหรือไง..หรือเพราะที่จริง” กัสบ่นพึมพำด้วยหน้าตาเหมือนกลัวว่าโลกกำลังจะแตก
“จะคิดไปไกลถึงไหนน่ะ ดาวอังคารเลยไหม..มันสำคัญนักรึไง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเซ็งใส่ไม่เลิก
“สำคัญซิ” กัสหันกลับมามองหน้าผม ผมนอนจ้องตอบ เราจ้องกันอยู่สักพักจนกัสหันหน้ากลับไปอีกครั้ง
“ก็ได้ฮะ ไม่พูดก็ได้ถ้ามันจะทำให้พี่เซ็นลำบากใจ” กัสว่าทำท่าจะลุกหนีจึงทำให้ผมต้องเข้าไปกอดไว้อีกครั้ง
“โอเค พูดก็ได้” ผมตัดบทเพราะถึงเวลานี้แล้วคงช่วยอะไรไม่ได้ ที่จริง..คำว่ารักมันก็คงสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ใช่ว่าผมไม่รักแต่ผมแค่ไม่อยากพูดบ่อยๆก็เท่านั้น กัสนั่งเงียบไป ผมกระชับกอดมากขึ้นกว่าเดิม
“รัก..” ผมกระซิบบอกก่อนจะวางคางลงบนไหล่ของกัส มืออีกมือหนึ่งของผมก็จับมือกัสลูบไล้เบาๆ
“รักนะครับ”
“พอใจรึยัง” ผมพูด กัสไม่ตอบแต่พยักหน้าตอบแทน ผมจูบท้ายทอยของกัสเบาๆ ผมไม่รู้ว่าทำไมไม่ว่าใครถึงอยากได้ยินและมักคาดคั้นคำๆนี้ให้ออกมาจากปากผมเสมอ ผู้หญิงที่ผมเคยคบด้วยพวกเธอเคยให้เหตุผลว่า ไม่ว่ากับใครผมก็มักจะหยอกล้อและทำดีด้วยนั่นจึงทำให้เธอไม่แน่ใจว่าตกลงผมรักเธออย่างที่เธอต้องการใช่หรือไม่ แต่พวกเธอลืมคิดไปหรือเปล่าว่าถึงผมจะกะล่อนไปทั่วแต่ผมก็ไม่ได้พูดบอกรักใครพร่ำเพรื่อ และถึงขนาดผมพูดบอกรักเธอไปนับร้อยครั้งมันก็ยังไม่เพียงพอที่เธออยากจะได้อยู่ดี ก็ปัดไม่ได้หรอกนะครับว่าผมไม่เซ็ง รัก..รัก..รัก..รัก ทำไมต้องอยากได้ยินคำคำนี้หนักหนาก็ไม่ทราบ อย่างไรก็แล้วแต่คนที่ผมให้ความสำคัญที่สุดก็คือคนรักอยู่แล้ว แต่ก็นั่นละนะครับ..พวกเธอคงระแวงในความเป็นคนแบบนี้ของผม
“งั้น ทำได้แล้วใช่ไหม” ผมถาม
เพี้ย !!
“โอย กัส!” ผมขึ้นเสียงทันทีที่โดนกับฟาดมือเข้ามาที่หน้าเต็มแรง และค่อนข้างงงว่าตัวเองทำอะไรผิดลงไป หลังๆมานี้กัสกล้าลงไม้ลงมือกับผมหนักข้อขึ้นทุกทีซึ่งมันค่อนข้างรับมือยากเพราะปกติตลอดมาผมไม่เคยใช้กำลังกับคนที่เรียกว่า "คนรัก" เลยถ้าพวกเธอไม่ดื้อเกินขีดจำกัด
“ไอ้..ไอ้ พี่เซ็นบ้า” กัสว่าหน้างอ
“บอกรักกัสเพราะอยากทำอย่างว่าใช่ไหม” กัสโวยวายเสียงดัง
“ไม่ช่ายยยยยย” ผมร้องบอกลากเสียงยาวอย่างเอือมระอา อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้แล้วไปโผล่อีกทีที่นอกโลกซะเลย ทำไมถึงมีคนเข้าใจยากแบบนี้อยู่เยอะแยะไปหมดกันวะครับ
“โอ้ พระเจ้า..ให้ตายเถอะโว้ย!” ผมร้องพร้อมกับซุกหน้าลงบนเตียงก่อนจะทุบเตียงอย่างไม่เข้าใจไอ้เด็กบ้าบอที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้ เราเงียบลงครู่หนึ่ง กัสยังคงยืนหน้างอมองมาที่ผม ผมนอนจ้องตอบ
“ถ้าไม่เห็นว่าสำคัญ จะตามไปทำบ้าอะไร..เข้าใจอะไรให้มันง่ายๆหน่อยได้ไหมครับ” ผมพยายามไม่ขึ้นเสียงจึงเติมคำว่า “ครับ” ต่อท้ายไปด้วย กัสยังคงยืนหน้างอแต่เริ่มมีสีหน้าที่ลังเล
“ก็ พี่เซ็น..กะล่อนอ่ะ” กัสว่าด้วยน้ำเสียงงอนๆ
“พี่ไม่โกหกหรอกครับ มานี่มา” ผมชูมือขึ้นทั้งทั้งที่ยังคงนอนอยู่อย่างนั้น
“ไม่ได้หรอกฮะ” กัสพูด
“พี่ฟ้าสั่งไว้ ว่าห้ามให้กัสมีอะไรกับพี่เซ็น จนกว่าพี่ฟ้าจะอนุญาตอ่ะฮะ” กัสบอกเสียงเบา
“ห๊ะ!!” ผมร้องเสียงหลง ลุกขึ้นนั่งในทันทีที่ได้ยิน
“แล้วกัสก็เชื่อ” ผมกระแทกเสียง กัสพยักหน้าตอบ
"กัสไปเชื่อคนฉลาดแกมโกงอย่างอาเนี่ยนะ!" ผมขึ้นเสียงสูง
"ห้ามว่าพี่ฟ้านะ!" กัสว่ากลับเสียงดังเช่นกัน
“ก็เพราะกัสไม่คิดหน้าคิดหลัง เรื่องมันถึงเป็นอย่างนี้..พี่ฟ้าบอกว่า พี่เซ็นบ้ากามมากกว่าที่กัสคิด กัสต้องระวังตัว” อีกฝ่ายพูดหน้าตาย
“งั้นทำไมไม่ช่วยระวังตัวก่อนที่จะมีอะไรกันเล่า” ผมโวยวายบ้าง
“ก็เพราะกัสไม่ระวังตัวไงมันถึงได้เป็นอย่างนี้” กัสย้อนอย่างไม่ยอม
“แล้วไม่ใช่เพราะอย่างนั้นรึไงเราถึงได้มาคบกันอย่างนี้น่ะ” ผมว่ากลับทันที กัสผงะไป
“ม..ไม่รู้ล่ะ พี่ฟ้าสั่งกัสไว้อย่างนี้ กัสเชื่อพี่ฟ้า” กัสพูดทำท่าจะเดินออกไปอีก ด้วยรู้สึกหมันไส้ทั้งอาฟ้าทั้งกัสผมจึงปรี่เข้าไปกระชากกัสลงมาเหวี่ยงลงที่เตียงนอนในทันที
“โอ้ย!” กัสร้อง ผมยืนขึ้นพร้อมกับถอดกางเกงออก กัสเบิกตาโพรงกว่าเดิมด้วยคงเพราะเห็นว่าผมเอาจริงและไม่คิดจะมีพิธีรีตองอะไรก่อนเลย เมื่อกัสทำท่าจะคลานหนีผมจึงเข้าไปตะครุบเอาไว้
“ปล่อยกัสนะ ไอ้พี่เซ็น..เลวที่สุด” กัสโวยวายพยายามออกแรงดิ้น ผมรู้ดีว่ากัสพยายามดิ้นจนสุดแรงแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานผมได้อยู่ดี ผมเลิกเสื้อของกัสขึ้นไม่พูดไม่จาปล่อยให้อีกฝ่ายโวยวายไปเพราะเดี๋ยวก็คงหมดแรงไปเอง
“ถ้าทำกัสจะโกรธจริงๆด้วย!” กัสตะโกนว่าสุดเสียงด้วยประโยคเดิมๆ ผมชะงักและแสยะยิ้มให้
“ดี..เร้าใจดีออก” ผมบอกอย่างไม่แคร์ ปกติผมจะไม่รุนแรงกับคนรักเท่าไหร่ ผู้หญิงที่ผมคบด้วยจะไม่ค่อยถูกผมแกล้ง อาจจะมีหยอกล้อบ้างแต่ก็จะออกไปแนวหวานจนคนรอบข้างบอกว่าเลี่ยน ถึงแม้บางคนจะมีลูกล่อลูกชนทำให้ชีวิตผมมีสีสันแต่ก็ค่อนข้างแตกต่างไปจากกัส ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมเคยหวานกับกัสบ้างรึเปล่า กัสไม่เคยอ้อนผมเหมือนที่ชอบออดอ้อนหมี ไม่รู้อาจจะเพราะว่ากัสยังเด็กและเป็นคนเอาแต่ใจมากถึงได้ชอบต่อปากต่อคำผมเสียเหลือเกิน อีกทั้งกัสเป็นคนหนึ่งที่ผมรู้สึกอยากแกล้งเพราะกัสจะมีปฏิกิริยาแปลกๆให้ผมได้เห็นเสมอ ถึงแม้กัสจะมีบุคลิกแบบนี้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้น่ะนะครับว่าผมไม่ชอบเพราะก็สามารถสร้างสีสันในชีวิตผมในแบบที่แปลกออกไปดีเหมือนกัน
"คนบ้า" กัสบ่นพึมพำไม่กล้าสบตาผมตรงๆ ผมก้มลงประกบปากกัสไม่ฟังเสียงบ่นใดๆอีก กัสสะดุ้งเล็กน้อยและพยายามที่จะต่อต้านหลังจากนั้น ผมล็อกแขนกัสไว้ไม่แน่นเท่าไหร่เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ ลิ้นที่ตอบรับมาอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ของกัสทำให้ผมไม่ยอมเผยปากให้อีกฝ่ายได้มีเวลาหายใจ เสียงจากรสจูบของเราเริ่มดังมากขึ้นทำให้อีกฝ่ายเริ่มครางออกมาให้ได้ยิน
"หึ เป็นขนาดนี้แท้ๆ" ผมแสยะยิ้ม อีกฝ่ายหน้าเสียเหมือนมีสตินึกอะไรขึ้นได้ในทันที
ปึก !!
“โอ้ย” ผมร้อง รู้ตัวอีกทีคือกระเด็นลงมาจากเตียงไปแล้วเพราะไอ้ตัวดีดันออกแรงถีบผมอย่างเต็มแรง กัสรีบลุกขึ้นไปยืนที่หน้าประตูห้องแต่หน้าเสียอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้สึกจุกมากจึงได้แต่นั่งกุมท้องไว้แน่นิ่ง
“พ..พี่เซ็นเจ็บไหมฮะ” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงทั้งที่ถีบออกมาเต็มแรงขนาดนั้น
“กัสกล้าถีบพี่เหรอห๊ะ” ผมกัดฟันถามออกไปเสียงเย็น กัสหน้าเสีย
“ก็พี่เซ็นไม่ฟังกัสเลย..นี่ครับ แถมยัง..” กัสพูดเสียงเบา ผมได้แต่นั่งมอง
“กัสกลับก่อนนะฮะ อาหารอุ่นทานด้วยนะ..แล้ว แล้วก็ เอ่อ กัสขอโทษ..ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ” กัสพูดด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
“ดี กลับไปเลยนะ..แล้วเราจะได้เห็นดีกันแน่” ผมพูดขู่อย่างรู้สึกแค้น แน่นอน..แค้นมาก ผู้หญิงที่ผ่านมาที่ปฏิเสธผมจะเพียงแค่มีท่าทางปฏิเสธเล็กน้อยเท่านั้น ผมก็จะหยุดเพราะปฏิกิริยาของอีกฝ่ายสามารถมองออกได้ว่าเธอปฏิเสธเพราะแกล้งเล่นตัวไปอย่างนั้นเองหรือปฏิเสธเพราะไม่อยากทำจริงๆ ส่วนที่กัสเป็นแบบนี้คงไม่พ้นที่โดดใครเป่าหูมาแน่ แน่นอนว่าคงไม่พ้นคนใกล้ตัว..ในความแค้นนี้ทุกคนจะต้องโดนผมเล่นงานซะให้หมด ทั้งอาฟ้า ทั้งคิว ทั้งกัสก็ด้วย..ต้องโดนซะบ้าง โดนแน่ๆ
“จะ..จะทำอะไรอ่ะครับ” กัสถามด้วยความระแวง
“รีบออกไปซะ ก่อนที่จะไม่ได้ออกไปอีกเลย ตลอดชีวิต” ผมพูดเสียงเย็นพร้อมกับแสยะยิ้มให้ กัสเบิกตาโพรงหน้าเสียกว่าเดิมก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องผมไปในทันที
“หึหึ..หึหึหึ” ผมนั่งหัวเราะให้กับตัวเอง แผนชั่วๆเริ่มผุดขึ้นมาทีละอย่างสองอย่าง “แค้นนี้ต้องชำระ” ผมนึกได้เพียงเท่านี้
...................>>>><<<<.................
นิยายเรื่อง Limited Lovers นี้ได้จัดทำเป็นรูปแบบหนังสือนิยายเรียบร้อยแล้วค่ะ สำหรับคนอ่านท่านใดสนใจ รายละเอียดดังนี้...
1. หนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers ได้ตีพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มเรียบร้อยเพื่อจัดส่งให้แก่คนอ่านที่ได้ทำการสั่งซื้อมาในระยะเวลาที่กำหนด แต่ปัจจุบันยังมีหนังสือเหลืออยู่ สำหรับคนอ่านท่านใดที่ต้องการสั่งซื้อสามารถอ่านรายละเอียดต่างๆได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 56 ทางลิ้งค์นี้ค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.10080
2. การประกาศชี้แจงของประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 56 มีการชี้แจงเกี่ยวกับคู่ Surprise ที่อยู่ในหนังสือชุด Limited Lovers นั่นก็คือตัวละครอย่าง "จักร" ที่เขียนเพิ่มขึ้น คนอ่านท่านใดที่สนใจสามารถอ่านประกาศชี้แจงนี้ได้ที่ลิ้งค์เดียวกับข้อที่ 1 เช่นเดียวกันค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
-
แหมะ......รู้ใจกันไปซะทุกอย่างเลยนะพี่คิว
ระวังเฮียเซ็นเค้าจะต่อยท้องทำเมียเหอะ!!!!!!!!!!
:pig4: :pig4:
-
กะล่อนเอาโล่เลยเซ็น
-
ยาวซะใจมากเลยขอบคุณมากๆๆคิวกับเซ็นเป็นเพื่อนที่ความสัมพันธ์สนิทแนบแน่นมากๆ
เข้าใจและรู้ถึงความคิดของกันและกันได้ทุกอย่างชอบคิวในเวอร์ชั่นอยู่กับเซ็นมาก
ขำกัสที่ถูกพี่ฟ้าสั่งห้าม ว่าแต่ห้ามกัสได้แต่ห้ามเซ็นไม่ได้นี่นา
-
ตกลงว่า ทั้งหมดทั้งมวลนี่คือเซ็นหลงรักก้นกัสงี้ ?!! 5555 :m20:
ไปๆมาๆคู่นี้สมกันดี เซ็นเจอคุณหนูขี้งอแงเข้าเองเลย คงได้รับมือแบบปวดหัวไปอีกนาน อิอิ
เวลาได้อ่านมุมมองของตัวละครอื่นจากอีกคนนึง ก็เหมือนได้รู้จักในอีกมุมนึงที่ไม่ได้คิดถึงมาก่อน
อย่างพี่คิวก็ดูเป็นแบดบอย ชีกอขึ้นเยอะเลยพอได้อ่านผ่านความคิดเซ็น 5555
สนุกค่ะ ชื่นชอบนิยายเบบี้ทุกเรื่อง เสน่ห์อยู่ที่ความลึกของตัวละครจริงๆ
ยังไงลงชื่อจองไว้ก่อนแน่นอนค่ะ :กอด1:
-
ทำไมเหมือนตอนพิเศษของเซ็นมันจบค้าง หรือเราคิดไปเอง :z3:
และแค้นนี้ต้องชำระ อะไร ยังไงอะ อยากจะรู้ :sad4:
อ่านแล้วไม่เคยพอจริงๆ แต่มันจบแล้ว
ต้องสอยแล้วล่ะเรื่องนี้ จะรอข่าวรายละเอียดหนังสือนะคะเบบี้
บวก1ปิดท้ายตอนพิเศษตอนสุดท้ายค่ะ o13
-
นายเซ็นหื่นได้โล่ :laugh:
-
มาแบบยาวมาก ขอบคุณค่ะ อ่านกันเต็มอิ่มเลยตอนนี้
ชอบตอนที่คิวกับเซ็นอยู่ด้วยกันเห็นภาพพี่คิวชัดมาก
เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ตอนที่พี่คิวด่าพี่เซ็นโอ้ยเจ็บแทน
โดนทุกดอก 55 "ขี้เหงาจังเลยนะไอ้บ้ากาม" เหมาะกับ
พี่เซ็นมากคำนี้ :กอด1:
กัสทำให้พี่เซ็นอยากแล้วจากไปได้งัยเดี๋ยวโดนหนักแน่ อิ อิ
:กอด1:
-
เซ็นมีแผนอะรายยยยยยยย
-
ฮ่าๆ อดไปพี่เซ็น
หื่นดีนัก
-
เป็นนิยายเรื่องแรกของบี้ที่ไม่ค่อยมีฉากร่วมรัก แต่อ่านลื่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ชอบมากกกกกกกกกกด้วย
-
ชอบเวลาคิวกับเซ็นอยู่ด้วยกันอ่ะ น่ารัเหมือนเด็กคุยกันเลย มีแค้นอาด้วยอ่ะ
บวกให้คนงามแล้วนะจ๊ะ o13
-
เซ็นหื่นอะ สมน้ำหน้าจุกเลยเป็นไงละ :m20:
แต่ไอ้แค้นนี้ต้องชำระ เซ็นจะทำอะไรกัส อยากรู้อะ :z3:
-
พี่คิวกับพี่เซ็นคู่นี้เค้าสุดยอดเลยนะ คบกันจะยี่สิบปีนี่รู้กันหมดไส้หมดพุง
สงสัยถ้าเกิดพี่เซ็นได้ต่อยท้องจับพี่คิวทำแฟนจริงๆนี่จะเป็นยังไง กร๊าก
พี่เซ็นก็กะล่อนซะโดนกัสทั้งตบท้้ังถีบเลย
ตอนพิเศษตอนสุดท้ายในบอร์ดแล้วยังรู้สึกอยากอ่านต่ออยู่เลย
เสพติดนิยายของคุณเบบี้มากๆฮ่าๆ จะรอตามข่าวจองหนังสือนะคะ :3123:
-
:oo1:อดเลยอะเซน ทำใจนร้ากัสเชื่อฟ้ามากกว่าเซน :pig4:
-
จะเฝ้ารอวันเปิดจองนะคะ
+1 :กอด1:
-
จบแล้วเหรอออออออออออออออออ :z3:
-
สมน้ำหน้าเซ็นเจอกัสถีบเข้าให้ความหื่นยังไม่ลดเลย
แต่ว่าแค้นเค้าไปทั่วนี่จะชำระยังไงอยากรู้
-
อยากรู้จังว่าเซ็นจะเอาคืน กัส คิวกะอาฟ้ายังงัย :z1:
-
รอเปิดจองนะคะเบบี้
คิดถึงพี่คิวมากๆเลย อยากอ่านเรื่องของพี่คิวเยอะๆๆๆๆ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
นึกภาพเซ็น-คิว ตอนที่บอกว่าถ้าแต่ละคนไม่มีคู่แล้วแบบว่า :sad4: มันต้องไม่เป็นแบบนั้น
กัสเชื่อฟังอาฟ้าดีมาก ถีบซะพี่เซ็นหน้าหงายไปเลย ลูกคุณหนูเอาแต่ใจกับหนุ่มไฮโซที่หื่นได้ตลอด ชีวิตคงมีสีสันขึ้นอีกเยอะเลย
:L2: :pig4: คนเขียนมากคะ รอติดตามผลงานเรื่องใหม่ต่อไป
-
อดใจคอยหนังสือนะ >____________< เซ็นจะเอาคืนยังไงหว่า
-
กัสโหดจริง :laugh:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อัพเดตสารบัญแล้วฮ๊าบบบบบบบบบ~
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
-
อัพเดตสารบัญแล้วฮ๊าบบบบบบบบบ~
สารบัญ ~ Limited Lovers I, II & III ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2023849#msg2023849)
ทางเบบี้ได้แปะสารบัญไว้ที่หน้าแรกของกระทู้เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณคุณMust มากค่า ^^
-
:bye2:
พี่เซ็นลื่นตลอดดดดดด
-
น่ารักมากเลยยย
-
555 สมน้ำหน้าอีพี่เซ็น กร๊ากกกกกก :m20:
-
คู่กัสต้องเรียกว่าคู่กัดนะ :laugh:
เก็บตังรอล่วงหน้าสำหรับนิยายเรื่องนี้ :z2:
:pig4: คะ
-
รู้ใจกันสมกับเป็นเพื่อนกันจริงๆ อ้อ รวมอาฟ้าเข้าไปด้วยอีกคน
เรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านพี่เซ็น ทำให้รู้ว่าเป็นคนจริงจังเหมือนกัน
แต่ด้วยนิสัยที่ขี้เล่นทำให้คนอื่นมองว่าเป็นคนไม่คิดอะไรล่ะมั้ง
อ่านพาร์ทของพี่เซ็นแล้วรู้สึกว่าพี่เซ็นรักกัสนะ ไม่ใช่แค่พูดเฉยๆ
แต่ภาพลักษณ์มันเป็นอย่างนั้นมาแล้วก็เลยเชื่อยากหน่อย :laugh:
จบด้วยพาร์ทของพี่เซ็นทำให้ดูครึกครื้นดีจัง :z2:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ จะรอติดตามผลงานต่อไปค่ะ :กอด1:
-
....อ้าว จบตอนซะแล้ว ชักอยากรู้แล้วสิว่าพี่เซนต์จะแก้แค้นอาหลานคู่แสบนั้นอย่างไร :laugh:
-
พี่เซ็น จะไปเป่าหูทิกเกอร์กับเค้กหรือ 555
อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว รอๆๆค่ะ อิอิ
-
ให้ตายเหอะ! น้องกัสเชื่อใจใครก็ไม่เชื่อดันไปเชื่อจอมวางแผนและขี้แกล้งอย่างอาฟ้า :z3:
กว่าอาฟ้าจะอนุญาต มีหวังพี่เซ็นได้รอจนแห้งเหี่ยวหัวโตและหมดสมรรถภาพทางเพศในที่สุด
อาเมน~~ขอไว้อาลัยให้กับช้างน้อยของพี่เซ็นน๊า o7
-
จบแล้วอ่ะ
ใจหายเป็นล้นพ้นนนนนน
ฮือออ ทำไงดี อยากอ่านอีกๆๆๆ
(เบบี้ตะโกนมาว่า จองหนังสือตูสิ)ฮึกกก
คงตามนั้นนนนน
ปล. พี่เซ็นน่ารักเว่อร์ๆจ้าาาา
><
-
พี่เซ็นโดนถีบ 55555
กัสทำถูกแล้วที่เชื่อพี่ฟ้า 5555 ทรมานพี่เซ็น สนุกดี
เหลือแต่พี่เซ็น จะแก้แค้นยังไงหนออ
-
เพื่อความเท่าเทียมกันนะ พี่คิวไม่ได้ พี่เซ็นก็เลยไม่ได้บ้าง 555
ตอนพี่เซ็นพูดเรื่องก้นของน้องกัสอะ เหมือนตาแก่หื่นกามจริงๆเลย >///<
มีความสุขกับทุกคู่ ขอบคุณเบบี้จ้า ^_^
-
โอ้ย ยย ย ย ย ชอบเซนอ่ะ ฮ่าๆ
-
ไม่นะ ไม่ ม่ายยยยย ต้องรอหนังสือออกใช่ไหมนี่ เศร้า แสด เซ็ง ซึม เซื่อง
อยากอ่านต่อ TwT :z3:
-
แค้นนี้ต้องชำระ :o11: :o11:
-
เอร๊ววววววววววว จบซะเเล้ว
ขอบคุณเบบี้ที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่ากัน
:L2: :L2: :L2:
-
อ่านตอนของเซ็นแล้วก็คิดว่า..พี่คิวมันก็เหมือนผู้ชายทั่วๆไปแหละ
แค่มันมั่นใจและก็กวนตีนมากเท่านั้นเอง 55555
ขอบคุณเบบี้นะคะที่แตงวนิยายเรื้องนี้จึ้นมา เราประทับใจในทุกตัวละครเลย
แต่ที่ชอบมากที่สุดคงเป็นพี่คิวแหละมั้ง กวนตีนนะ...แค่พี่แกโคตรเท่ห์เลยอะ o13
-
อาหลานสามคนนี้ สนิทกันแนบแน่นมาก อิจฉา
-
ชอบเวลาเซ็นกับคิวอยู่ด้วยกันจัง :กอด1:
-
เซนแค้นจัดเลยอ่ะ 5555 โกนอาฟ้าสกัดดาวรุ่ง
-
อุ๊ย พี่เซ็นหื่นมากกกก
ไม่คิดว่าจะหื่นขนาดนี้เลยนะเนี่ย
แล้วพี่เซ็นจะแก้แค้นทุกคนยังไงเนี่ย อยากรู้ๆ
-
:z1:
-
เซ็นนี่ก็ได้นิสัยมาเหมือนคิวด้วยใช่มั้ย 5555
-
:laugh: อิพี่เซนโดนน้องกัสถีบและอดด้วย :z1:
:L2:
-
เห็นความเป็นตัวตนของคิวชัดเจนมากเวลาที่อยู่กับเซ็น...
ติดตามมาถึงตอนสุดท้าย กลับรู้สึกว่าอยากอ่านตอนของเซ็นกับกัสมากกว่าอีก 2 คู่ แล้วสิ ท่าจะมัน 55
และที่ประทับใจที่สุดก็คือฟ้า :man1: แสบทรวงเลยคุณอา ไม่รู้จะสงสารหรือจะสะใจดีนะเซ็น o18
:pig4 :เบบี้ :กอด1:
-
จะว่าไป
เซ็น น่าสงสารที่สุดดดดดดด
:m20: :m20: :m20:
โดนรุม ที่อาฟ้าและคิว
:laugh: :laugh:
-
เอาคืนเลยพี่เซ็นนนนนน สู้ ๆ นะฮร๊าาาาาา :m20:
พี่บี้เปิดจองธันวาก็แหล่มสิ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะเลย
จะได้ไปขอพ่อแม่พี่น้องเป็นของขวัญปีใหม่ ๕๕๕๕๕๕๕ :laugh:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:laugh:
-
กร๊ากกกกกก.. อิพี่เซ็นบ้ากาม สมน้ำหน้า!!!
โดนกัสถีบ แล้วพี่เซ็นจะแก้แค้นยังไงเนี้ย 55555
-
แก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สายนะเซ็น :laugh:
-
กำ ... พี่เซ็นโดนน้องกัสถีบเลยเรอะ >.<
-
กัส ดีมาก เชื่อคนฉลาดๆอย่างอาฟ้าดีที่สุด ก้อพี่เซ็นไม่ยอมฟังเอง โดน (ถีบ) ซะมั่งก้อ สมควร
จะรอดูว่าเซ็นจะชำระแค้นนี้ยังไงน้า
-
ใครได้อิตาเซ็นเป็นผัวแม่งปวดหัวตายอ่ะ
ยินดีด้วนนะกัส :laugh:
-
น้องกัสน่ารักอ่ะ
-
จบแล้วอะ ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย อิพี่เซ็นหื่นอะ ยิ่งตอนพูดถึงก้นกัสนะ เหมือนเฒ่าหัวงูเลย ๕๕๕๕ ถ้าน้องมันรู้นะได้มีอายกันบ้างล่ะ พี่เซ็นนี่ปากแข็งนะ คำว่ารักมีค่าดั่งทองคำจริงๆ กัสเอ้ยแต่คนแบบนี้เวลาพูดว่ารักทีนึงเนี่ย ฟินไปชาติหน้าเลยนะนั่น อ่านพาร์ทพี่เซ็นแล้วดูได้เลยว่าพี่เซ็นแกก็รักกัสมากอยู่ แต่ด้วยนิสัยและความคลุมเคลือของกัสกับหมีด้วยก็เลยพาให้มันแย่อยู่แบบนั้น แต่พี่ฟ้านี่ฉลาดนะ หาเรื่องแกล้งชาวบ้านเค้าได้ตลอด อดไปเถอะอิพี่เซ็น อดเป็นเพื่อนพี่คิวไง คึคึ
-
พี่เซ็นนี่ตลกจุงเร 5555555555555555555
-
ขอ สามคำให้กับคุณเชพเพื่อนที่คิว
"เซ็น หื่น กาม"
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555+
-
ฮ่าๆๆ พี่เซ็น แก้แค้นพี่คิว นี้ยากหน่อยนะ
-
พี่เซ็นหื่นตัวพ่อ :jul3:
-
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว คิดถึงพี่คิว
-
เซ็นนี่หื่นไดตลอดเวลาสินะ
เจอกัสถีบให้แล้วซะใจดี ฮ่าๆๆ
-
เซ็นช่างเป็นผู้ชายที่มีความคิดง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แต่บางครั้งก็ทำบางอย่างที่มันซับซ้อนมากกว่าความคิดซะอีก แต่ตอนนี้ :m20: พี่เซ็นเจอของแข็งซะแล้ว กัสถูกเสี้ยมทั้งจากพี่ฟ้าและพี่คิว งานนี้ไม่รู้ใครจะเละ ใครจะรอด :laugh:
คิวนี่รู้ใจเซ็นจนน่ากลัว มิน่าเซ็นถึงได้..... :confuse: ถ้าไม่มีเค้ก พี่คิวอาจโดนทุบหัวแล้วลากไป.... o21
นับถือทิกเกอร์จริง ๆ เป็นหนุ่มในฝันมาก :man1: สั่งได้ทุกอย่าง เพียงแค่ฟ้าเอ่ยปาก (ถึงการลดเงื่อนไขลง) ก็ทำให้ได้ดั่งใจ เก่งคอด ๆ o7
จะแอบตามไปเกาะแคทวอล์กที่พี่เซ็นกะพี่คิวจะไปขัดขาเค้า :m32: :m7: :3129:
และจะรอบทสวีทคิวเซ็น เฮ้ย!!!!!! :o :beat: คิวเค้กดิ (เริ่มขนลุกอย่างที่พี่คิวว่าไว้จริง ๆ :a6: ) ต่อไป
-
หลงรัก "เซ็น" อ่ะ :z1: ขอ :กอด1: หน่อย
ขอบคุณคุณเบบี้นะคะ ตอนนี้ยาวสะใจมากเลย :z2:
ชอบตอนคิวจิกกัดเซ็นมากอ่ะ ... เหอะ เหอะ :laugh:
แล้วจะมีตอนพิเศษอีกไม๊ค่ะ หรือว่าจบแล้วจบเลย ยังไงรอผลงานเรื่องใหม่ๆนะคะ แล้วจะเข้าไปตามอ่านเรื่องสั้นในบอร์ดค่ะ
-
แล้วจะมีตอนพิเศษอีกไม๊ค่ะ หรือว่าจบแล้วจบเลย ยังไงรอผลงานเรื่องใหม่ๆนะคะ แล้วจะเข้าไปตามอ่านเรื่องสั้นในบอร์ดค่ะ
รบกวนช่วยกลับไปอ่านที่ชี้แจงไว้ท้ายตอนจบของ Lover..3 ตอบไว้หมดทุกรายละเอียดแล้ว
-
Zen รีบแก้แค้นคิวให้ไวเลยนะ o18
เผื่อจะมีเลิฟซีน เค้ก+คิว ให้อ่านเร็วขึ้นอีกหน่อย :z1:
ขอบคุณเบบี้นะคับ ^^ :L2:
-
จบแล้วววววว
ชอบเค้กคิวมากเลยอ่ะ น่ารักสุดๆ
พี่หมีจะเป็นอย่างไรบ้างน้าา
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีนะคะเบบี้ จะติดตามต่อไปน้าา
-
แล้วพี่เซ็นจะชำระยังไงรอติดตาม :z2:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ครับ
:pig4: :pig4:
:กอด1:
-
พี่เซ็นหื่นได้ใจมาก ทำเราอยากเห็นก้นกัสเลย ^^
แต่แอบสมน้ำหน้าโดนรุมแกล้ง รีบๆไปชำระแค้นเร็วๆนะ
-
แต่ละคู่555 สนุกมากค่ะ^^
-
ขอปรบมือดังๆให้คุณเบบี้ค่ะ o13 o13 o13
นิยายปิดฉากลงอย่างสวยงาม 3 คู่ 3 รส คนอ่านอิ่มเอม
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ภาษาสวยๆ
รอคุณเบบี้รวมเล่ม อย่างใจจดใจจ่อ :กอด1:
-
เป็นนิยายที่มีหลากรสดีจริงๆ ชอบคู่ฟ้ากับทิกเกอร์มากที่สุด
แต่ไม่ชอบการปิดบังของทิกเกอร์เลย สงสารลูก แต่ก็ยังดีกว่า
ปิดบังและพยายามอยู่ด้วยกันเพื่อลูกละเนอะ
ถ้าเป็นไปได้อยากเห็นฉากฟ้าเจอกับลูกทิกเกอร์จัง
-
+1 แทนคำขอบคุณ สำหรับ นิยายคะ คุณบี้ :pig4: :pig4:
มาครบสามคู่เลยอ่ะ
พี่คิวจ๋า หวานๆ ใส่เค้กบ้างนะ ตัวเอง :กอด1:
อาฟ้าที่ร๊ากกกกกกกก รักอาฟ้าที่สุด ( มากกว่าทิกเกอร์ อีก ) :กอด1:
กัส+เซ็น ขอให้รักกันนานๆ นะคะ :กอด1:
-
ขอแสดงความยินดีกับรางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น
พี่บี้เล่นของแน่ ๆ อะ ภาษาอังกฤษเต็มเรื่องเลย ๕๕๕๕๕
แบบนี้มันต้องฉลองงงงงงง พี่บี้เพิ่มตอนพิเศษเลย :impress2: ฮูเร่ ๆ
-
เข้ามายินดีกะเบบี้ด้วยค่า สำหรับนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
:วู้วว1: :angellaugh2: :วู้วว1:
ยุ่งจริงไรจริง ยังตามอ่านตอนพิเศษไม่ทัน แต่ขอเข้ามาแสดงความยินดีกับไอ้น้องบี้ที่นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลภาษาไทยดีเด่นก่อน
ขอบคุณนะไอ้น้องที่เขียนนิยายสนุกๆมาให้ได้อ่านกัน
:กอด1:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
.. ยินดีด้วยค่ะคุณเบบี้ สำหรับรางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น ..
ดีใจมากๆที่เรื่องนี้ได้รางวัล..ภาษาดี ภาษาสวย คำผิดน้อย เยี่ยม :กอด1:
-
ยินดีด้วยยยย รางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น เย้ๆ
-
ขอแสดงความยินดีกับรางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น
พี่บี้เล่นของแน่ ๆ อะ ภาษาอังกฤษเต็มเรื่องเลย ๕๕๕๕๕
แบบนี้มันต้องฉลองงงงงงง พี่บี้เพิ่มตอนพิเศษเลย :impress2: ฮูเร่ ๆ
เข้ามายินดีกะเบบี้ด้วยค่า สำหรับนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
:วู้วว1: :angellaugh2: :วู้วว1:
ยุ่งจริงไรจริง ยังตามอ่านตอนพิเศษไม่ทัน แต่ขอเข้ามาแสดงความยินดีกับไอ้น้องบี้ที่นิยายเรื่องนี้ได้รางวัลภาษาไทยดีเด่นก่อน
ขอบคุณนะไอ้น้องที่เขียนนิยายสนุกๆมาให้ได้อ่านกัน
:กอด1:
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
.. ยินดีด้วยค่ะคุณเบบี้ สำหรับรางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น ..
ดีใจมากๆที่เรื่องนี้ได้รางวัล..ภาษาดี ภาษาสวย คำผิดน้อย เยี่ยม :กอด1:
ยินดีด้วยยยย รางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น เย้ๆ
ขอบคุณมากค่าาาาาา -:) อ่ะ....เค้าให้ขนรักแร้เป็นค่าตอบแท้ เอาไว้ไปกินเป็นอาหารหวานหลังกินข้าวนะ แปะๆ :m20: :m20: :pigha2:
-
โว๊ะ น่ารักจริงเชียว ตามอ่านจนครบทุกคู่ หลากหลายอารมณ์ดี ชอบๆ อ่านแล้วลุ้น
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะค่ะพี่เบบี้ จะติดตามและเป็นกำลังใจให้ต่อไป :)
-
คิดถึงพี่คิว
-
อั้ยยยย่ะ พี่คิวเป็นคนที่อ่านยากที่สุดในโลกค่ะ ! 55+
ตอนแรกอ่านมา เราก็แบบเห้ย20ตอนแล้วนะ ทำไมพี่คิวแกไม่มีปฎิกิริยาไรเลย 55+
แอบตกใจมากๆ แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ก็เข้าใจ
สงสารน้องเค้กมากช่วงที่พี่คิวจะแต่งงาน แบบเค้กไม่ค่อยร้องไห้ เราเลยรู้สึกอึดอัดแทน
อยากจะร้องไห้แทนเค้กอยู่บ่อยๆ
แต่ว่าในที่สุดพี่คิวก็หนีน้องเค้กไม่พ้น 55+
ชอบพีทนะ ตรงดี น่ารัก รักเพื่อน ><
อาฟ้า ดีมากกกกก อาฟ้าให้อารมณ์แบบเป็นคนดีแต่ก็แบบมีมุมเอาแต่ใจนะ คือเรื่องนี้ถ้าไม่มีอา
คิวเค้กนี่ไม่ได้กันนะ 555+
ทุกคนในร้านน่ารักมากกกกก ชอบทุกคน
-
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
(เข้ามาขำที่รัก แล้วจากไป)
ปล. ขอโทษที่เม้นมีสาระมากไปหน่อยนะคะ =="
-
พี่เซ็น อด :laugh:
พี่คิวน่ารักอะ :-[
-
ยินดีกับรางวัลนะค่ะ :mc4:
น่ารัก น่า... ทุกคู่เลย :impress2:
-
:mc4: :mc4: ยินดีด้วยกับผลโหวดนิยายภาษาสวยจ้า :mc4: :mc4:
o13 ถึงเรื่องนี้จะเป็นแนวภาษาที่ต่างจากเรื่องก่อนหน้านั้น แต่รู้สึกว่าใช้ภาษาได้ลึกซึ้งกว่าเดิม คือต้องคิดตามมาก ๆ แต่ยังไงก็ชอบแนวการเขียนทุกแบบนะ และจะติดตามเรื่องนี้และต่อ ๆ ไปค่ะ o13
-
กัสดื้อวุ้ย 555555+ เซ็นจะเอาอยู่มั๊ยเนี่ย รอดูตอนต่อไป ว่าเซ็นจะเอาคืนยังงัย หุ ๆ
-
ตามอ่านทันแล้ววววววววววว
อ่านรวดเดียวจนจบเลย
ในเรื่องนี้เราหลงรักอาฟ้าที่สุดเลย
พี่คิวววววว
ช่างเป็นผู้ชายที่เหนือการคาดหมายจริงๆ
เค้กน้อยน่ารักเหมือนลูกไก่น่อยๆ
ในกำมือพี่คิวเลย
ส่วนรัก3เศร้าคู่ของกัสเซ็นพี่หมี
กัสน่าสงสารอ่ะ
เก็บมาได้นานมากกกกกกกกกกกก
เราเข้าใจกัสนะ
ว่าตัดใจได้
เลือกได้ง่ายๆก็คงเริ่มใหม่กับพี่หมีไปนานแล้ว
แต่เราก้สงสารพี่หมีมากๆเหมือนกัน
แต่มันก็เป็นธรรมดา
คนดีมักจะได้บทพระรองตลอด
ปล.ตอนพิเศษหมดไปแล้ว
แอบเสียดายที่อดได้รู้ความคืบหน้าของพีี่ก้องกับน้องซีเลย
ลุ่นคู่นี้เล็กๆ
-
มารอตอนพิเศษตอนต่อไป :z1: จะมีสวีท วี๊ด วิ้ว หรือเปล่า :oo1:
หรือถ้าจะแจ้งข่าวเรื่องรวมเล่มละก็...คราวนี้ไม่พลาดแน่ เกาะติดเหนียวแน่นมาก :laugh:
-
รอแผนแก้แค้นกัสของพี่เซ็น 5555 :impress2:
-
คิดถึงพี่คิว
-
o13
-
:sad4:อ้าวจะจบแล้วเหรอ :z3:
-
มารอตอนต่อไป :z2: แอบลุ้นว่าจะมีสวีทซีนของคู่ใคร :เหอะ1:
-
เจ๊ทำไมคราวนี้หายไปนานจัง แอบไปเที่ยวไหนเนี่ยๆๆ
-
มาต่อเร็ว ๆ เลยบี้ อย่าให้ต้องจุดธูปเรียก :call: (แซวเล่นขำ ๆ อย่าโกรธเค้านะ รักบี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:)
-
หายไปนานจังเลยอ่า :m17:
-
มารออีกแล้ว :เฮ้อ: ห้ามใจตัวเองไม่ได้ซะที :z3:
-
:t3: :call: :t3: :call:
-
พระเอกที่น่าสงสารที่สุดคือกี้ เพราะฟ้าอารมณ์ไม่คงที่ และแปรปวนสุดๆ
ส่วนนายเอกที่น่าสงสารที่สุดคือเค้ก เพราะชอบเจียมตัว ยอมคิวอยู่ตลอด
ทุกตัวละครมีมิติมาก ไม่ได้มีนิสัยตายตัว มีหลายมุม หลายแง่
แต่ก็มีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนว่าโดยรวมเป็นคนยังไง พื้นฐานความคิดเป็นแบบไหน
เป็นนิยายอีก 1 เรื่องที่รวมเล่มแล้วอยากซื้อเก็บไว้เลยล่ะ o13
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คิดถึงพี่คิว
-
:pig4: :pig4:
-
คิดถึงเรื่องนี้
-
เดือนธันวาแล้ว มารอข่าวการรวมเล่ม ^^
-
แสดงความยินดีกับรางวัลที่ได้ ด้วยนะครับ
-
ไรอ๊า~~~
มัยเบบี้ไม่เข้ามาต่อเลยอ๊า~~~ :sad4:
-
ปัจจุบันยังมีคนอ่านบางท่านไม่ทราบว่าทำไมเบบี้ถึงไม่มาต่อตอนพิเศษเลยหลังจากที่ได้ลงตอนพิเศษไปแล้ว 4 ตอนยาว ทางเบบี้ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่าถ้าอยากทราบรายละเอียดที่แน่ชัดรบกวนให้กลับไปอ่านการชี้แจงที่เบบี้ได้เคยชี้แจงไว้ในท้ายตอนจบของ Lover 3 การพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกจะทำให้การทำงานล่าช้ารวมไปถึงการชี้แจงจะสูญเปล่าในทันทีถ้าทุกคนไม่ใส่ใจที่จะอ่านก่อน และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญอยากจะบอกตรงนี้คือในตอนที่เบบี้ได้ลงเนื้อเรื่องไปทั้งหมด 3 Lovers รวมไปถึงตอนพิเศษอีก 4 ตอนนั้นขณะนี้ได้กินหน้ากระดาษหนังสือไปแล้วถึง 4 เล่ม(300 กว่าหน้า) ดังนี้..นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งว่าทำไมเบบี้ถึงเลือกที่จะไม่ต่อตอนพิเศษให้เลยคือ 1.เนื้อหายาวเกินไปกินหน้าหนังสือที่มากเกินไปทำให้หนังสือไม่สวยและถือลำบาก 2.ต่อตอนพิเศษมากๆก็จะไม่ได้เห็นนิยายเรื่องนี้เป็นรูปเล่มหนังสือเลยเช่นกันเพราะมันก็จะยาวไปแบบไร้จุดหมายเหมือนสลิ่มเมตร ทั้งนี้ทั้งนั้น..เบบี้ไม่ขอตอบคำถามใดๆอีกในสิ่งที่ได้พูดซ้ำย้ำเตือนไปหลายครั้งก่อนหน้านี้ ถ้าคุณเลือกที่ไม่อ่านการชี้แจงเบบี้เองก็หมดหนทางจริงๆ..ขอบคุณมากค่ะ
________________________________
ตีพิมพ์หนังสือนิยายเรื่อง ~Limited Lovers~
*ตรงส่วนนี้ทางเบบี้ได้แบ่งเป็นลิงค์สารบัญเพื่ออำนวยความสะดวกแด่คนอ่านแต่ละท่าน ซึ่งคุณสามารถเลือกกดเลือกดูตามที่คุณต้องการได้เลยค่ะ*
1). [ใครที่สนใจจะสั่งซื้อหนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ เป็นการชี้แจงกฏกติกาและรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการสั่งจองหนังสือก่อนเปิดให้ทำการโอนเงินค่ะ]รายละเอียดการสั่งจองหนังสือ Limited Lovers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.msg2231750#msg2231750)
2). [คนอ่านท่านใดที่อยากทราบกระบวนการทำงานของเบบี้ว่าได้วางแผนเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ไว้แบบไหนและกำหนดวันเวลาเป็นขั้นตอนอย่างไรสามารถเข้าไปอ่านได้ที่] บอร์ดเบบี้ (http://baby.thai-forum.net) หลังจากนั้นให้เข้าไปที่กระทู้ "ตีพิมพ์หนังสือนิยาย Limited Lovers" ในกระทู้ย่อยที่ (2) เท่านั้นค่ะ
3). [ประกาศเลื่อนเปิดให้ทำการโอนเงิน] http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.10050
4). [รายละเอียดเปิดให้ทำการโอนเงินหนังสือนิยาย Limited Lovers] เปิดให้ทำการโอนเงินหนังสือ Limited Lovers (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.10050)
5). [รายละเอียดมอบของขวัญพิเศษ 4 ชุดให้แก่คนอ่านผู้โชคดีบางท่านค่ะ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่] รางวัลพิเศษสำหรับหนังสือนิยาย Limited Lovers(ผลิตจำกัด) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29401.10050)
สำหรับคนที่สั่งจองไม่ทันแต่ยังต้องการหนังสือ
ประกาศ : สำหรับคนอ่านท่านใดที่มาสั่งจองในช่วงแรกไม่ทัน รบกวนช่วยอ่านรายละเอียดทางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ^^
สำหรับคนที่มาไม่ทันในการเปิดการสั่งจองหนังสือในช่วงแรกซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้วนั้น ตอนนี้อยู่ในกระบวนของการดำเนินงานและผลิตงานค่ะแต่ว่าทางเบบี้ได้สั่งพิมพ์หนังสือเพิ่มในจำนวนหนึ่งมากกว่าที่คนอ่านได้สั่งจองหนังสือมา ดังนั้น..คนอ่านที่ต้องการอยู่สามารถสั่งซื้อหนังสือได้อยู่จนกว่าเบบี้จะประกาศว่าหนังสือหมดแล้วค่ะ คนอ่านท่านใดที่สนใจอยากได้หนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers สามารถติดต่อมาที่เบบี้ได้ที่ baby_novel แอด hotmail.com ค่ะ โดยตั้งหัวข้ออีเมลว่า "ขอข้อมูลการสั่งจองหนังสือนิยาย" ค่ะ
หลังจากที่ทุกท่านได้ส่งอีเมลมาแล้ว รบกวนรออีเมลตอบกลับจากเบบี้ภายใน 4 วันทำการนะคะ ทางเราจะส่งรายละเอียดต่างๆกลับไปให้คุณค่ะ แต่ถ้าผ่านไป 4 วันแล้วทางคุณยังไม่ได้อีเมลตอบกลับจากเบบี้รบกวนให้แจ้งทาง PM เล้าเป็ดหรือบอร์ดเบบี้ในทันทีค่ะ
เบบี้..^^
-
รายละเอียดเปิดการสั่งจองหนังสือ
เปิดทำการสั่งจองหนังสือนิยายเรื่อง ~Limited Lovers~
เปิดทำการสั่งจองหนังสือเรื่อง Limited Lovers ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2555 – วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2556
*เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน รบกวนคนอ่านช่วยอ่านรายละเอียดที่เบบี้ชี้แจงไว้ก่อนที่จะสอบถาม เพราะการที่จะต้องมานั่งตอบในสิ่งที่ได้ชี้แจงไปแล้วจะทำให้งานล่าช้าไปค่ะ*
ถ้าคนอ่านท่านใดสนใจ..สามารถส่งแบบฟอร์มการสั่งจองหนังสือมาทางเบบี้ได้ที่อีเมล baby_novel แอด ฮอทเมล.com โดยตั้งหัวข้ออีเมลของคุณว่า “สั่งจองหนังสือ”
เขียนแบบฟอร์มการสั่งจองดังนี้ (รายละเอียดของตัวคุณจะถูกเก็บเป็นความลับค่ะ)
ชื่อจริงและนามสกุลจริง :
ชื่อเล่น :
ยูสเซอร์เนมบอร์ดเบบี้ :
ยูสเซอร์เนมเล้าเป็ด :
เบอร์โทร :
สั่งจองเป็นจำนวน : _________ ชุด
E-mail :
หมายเหตุ:
1). ผู้ที่สั่งจองจะได้รับอีเมลตอบกลับจากเบบี้ภายใน 3 วัน ซึ่งแต่ละท่านจะได้รับ “หมายเลขการสั่งจอง” เมื่อได้เลขการสั่งจองแล้วกรุณาจดเลขการสั่งจองของคุณไว้ให้เรียบร้อย เพื่อความสะดวกต่อคุณและเบบี้ เมื่อไหร่ที่คุณต้องการติดต่ออีเมลมาถึงเบบี้ ในทุกครั้งคุณจะต้องแจ้ง “หมายเลขการสั่งจองของคุณ” ของคุณด้วยนะคะ ^_^
2). เบอร์ติดต่อหรืออีเมล รบกวนเป็นข้อมูลที่อัพเดทและทางเบบี้สามารถติดต่อคุณได้ในทันทีในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินค่ะ
3). ไม่ทำการรีปริ้นหนังสือนิยายเรื่อง ~Limited Lovers~ ไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้นค่ะ
4). ใครที่ต้องการทราบกระบวนการทำงานเกี่ยวกับหนังสือนิยายเรื่องนี้ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้ “ชี้แจงกระบวนการทำงาน” ได้ทางบอร์ดเบบี้ทางลิ้งค์นี้เลยค่ะบอร์ดเบบี้ (http://baby.thai-forum.net) ทางเราจะได้เข้าใจไว้ทั้งสองฝ่ายนะคะ
5). ตัวอย่างหน้าปก ที่คั่น บ๊อกเซตและตอนพิเศษต่างๆจะขึ้นรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งหลังจากที่เบบี้ได้ประกาศเปิดการโอนเงินอย่างเป็นทางการทางหน้าเวป สำหรับคนอ่านท่านใดที่ส่งแบบฟอร์มการสั่งจองมาแล้ว..ทางเบบี้จะแจ้งรายละเอียดการโอนเงินไปให้ทางอีเมลของคุณอีกครั้งเมื่อใกล้ถึงวันเปิดให้ทำการโอนเงินในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 (อย่างเป็นทางการ) ค่ะ *เลื่อนเปิดให้ทำการโอนเงินเป็นวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 แทนค่ะ อ่านรายละเอียดได้ที่หน้า 336*
6). ตอนนี้ทางเรายังไม่ทราบราคาหนังสือที่แน่นอน ประมาณราคาอย่างคร่าวๆน่าจะตกอยู่ที่ชุดละ 1,800 - 2,400 บาท โดยประมาณค่ะ..ราคาสุทธิจะแจ้งให้อย่างแน่ชัดอีกครั้งเมื่อเปิดให้ทำการโอนเงินค่ะ (หนังสือ 5 เล่มต่อ 1 ชุด..ส่วนรายละเอียดในแต่ละเล่มจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งก่อนเปิดให้ทำการโอนเงินอย่างเป็นทางการค่ะ)
7). ทุกการอัพเดทข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการตีพิมพ์นิยายเรื่องนี้ เบบี้จะทำการอัพเดทข่าวสารทุกการเคลื่อนไหวที่บอร์ดเบบี้ บอร์ดเบบี้ (http://baby.thai-forum.net) ในหัวข้อ “ตีพิมพ์หนังสือนิยาย Limited Lovers”
เบบี้ ^_^
-
เบบี้หายไปนานเลย
คิดถึงคิวเค้ก
-
อ๊ะ เบบี้มาาาาาาา :interest:
-
ส่งเมล์ไปแล้ว ^^
-
กรี๊ดดดดดดด คุณเบบี้ มาตามสัญญา
ส่งเมล์ไปจองแล้วค่า :m11:
-
เบบี้ :กอด1: คิดถึง
ส่ง mail ไปแล้วนะ ^^
-
อ๊า!!!!!!!! :oni2: สุดยอดไปเลยค่ะ ติดตามจองแท้แน่นนอน รอคอยมาตลอด :impress2: จะไม่พลาดอีกเป็นหนที่สอง o7
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ :oni1:
-
เมลล์ไปแล้วค๊าาาา >_<
-
อ่านจบแล้ว สนุกมากๆ เลยค่ะ ประทับใจ คิวเค้ก
แต่หลงรักอาฟ้าทิกเกอร์เต็มๆ เลย น่ารักมาก
และยินดีด้วยกับรางวัลภาษาดีเด่นนะคะ
ขอบคุณมากๆ ชอบนิยายที่เบบี้แต่งทุกเรื่อง
:pig4: :3123: :pig4:
-
ดีใจจังเลยที่เบบี้ จะพิมพ์เรื่องนี้สักที แต่ยังไงก็รอเรื่องของพี่เมตรด้วยนะ
-
ส่งเมลล์ไปจองแล้วนะคะ :pig4:
-
:กอด1: :กอด1: ขอบคุณที่เปิดให้จองหนังสือนะคะ
ช่วงหลังจาก จบนิยายเรื่องนี้ ตอนพิเศษ ยังไม่ได้ตามอ่านเลย งานยุ่งมาก
จะรออ่านในหนังสือค่ะ
ขอบคุณมากจ้า เบบี้^^
-
เพิ่งได้ติดตามอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ทั้งเค้าโครงเรื่อง และ ภาษาที่ใช้ในการดำเนินเรื่อง
ชอบทุกๆมุมมองความคิดของแต่ละคนมากๆเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้ในการนำเสนอสิ่งที่ดีๆมาให้ได้อ่านกันนะคะ
และดีใจมากๆที่คราวนี้ทันจองหนังสือเรื่องนี้ด้วยค่ะ
ปกติจะตามอ่านหลังจากที่เรื่องนั้นจบไปแล้วเป็นปี จะไม่เคยทันจองหนังสืออะไรกับใครเขา รู้สึกคราวนี้โชคดีจริงๆเลยค่ะ ที่จะมีโอกาสได้เรื่องที่ถูกใจมาไว้ในมือ,,,
-
ตามมาจากเรื่องหลานทาย- หลานขนม :impress2: :impress2: :impress2:
เข้ามาจิ้มก่อนนะ เพราะกำลังตัดสินใจว่า :z13: :z13: :z13:
จะอยู่กทม. อ่านเรื่องนี้ หรือจะไปลัลลาวันปีใหม่ กับหลาน ๆ ที่ตจว. :110011: :110011: :110011:
:bye2: :bye2: :bye2:
-
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ
สนุกทุกตอนเลย...ซึ้งเศร้าสุด ๆ
-
:mc4: :mc4: :mc4: สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังจ้า หลานเบบี้ :3123: :3123: :3123:
กลับจากไปเที่ยวปีใหม่ก็ลุยอ่านจนจบเลย :really2: :really2: :really2:
หนุกหนานจริง ๆ เรื่องนี้ o13 o13 o13
ตามไปอ่านเรื่องต่อไปน่ะจ้า
:bye2: :bye2: :bye2:
-
ดันหน่อย :3059:
-
ประกาศ..เลื่อนเปิดโอนเงิน
วันนี้เบบี้มาชี้แจงเรื่องสำคัญ 2 เรื่องนะคะ
1. ประกาศเลื่อนเปิดการโอนเงิน เนื่องจากเกิดปัญหาในการจัดหนังสือ จากที่เบบี้เคยแจ้งว่าจะเปิดโอนเงินตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 นี้ ทางเบบี้ขอเปลี่ยนวันเป็นวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 แทนค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเอียดต่างๆทางเบบี้จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งทางอีเมล(สำหรับผู้ที่สั่งจองหนังสือมาแล้วค่ะ)
2. แจ้งให้ทราบ: ทางเบบี้ขอแจ้งให้ทราบสำหรับคนอ่านหมายเลขการสั่งจองตั้งแต่ 1-100 กว่าๆที่ได้รับอีเมล "ยืนยันการสั่งจองหนังสือ" จากเบบี้ไปก่อนหน้า ในข้อมูลบอกไว้ว่าจะปิดให้ทำการโอนเงินในวันเสาร์ที่ 9 มีนาคม 2556 ทางเบบี้ขอเปลี่ยนวันสิ้นสุดการโอนเงินเป็นวันพุธที่ 6 มีนาคม 2556 แทนนะคะ
จบการชี้แจง
วันพฤหัส 10 มกราคม 2556
เบบี้..^^
-
v_V เคลียเมลกว่าห้าร้อยฉบับเพื่อรอเธอ :laugh: เก็บตังค์รอน้องเค้กกับพี่คิวค่ะ :impress2:
-
นับวันรอค่ะคุณเบบี้ ขอให้ทุกอย่างราบรื่นน่ะค๊า
.. คิดถึงพี่คิว น้องเค้ก ..ฮึก :m15:
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สองวันกับหนึ่งคืนเต็มๆ สนุกมากครับ คงต้องหาเรื่องอื่นของคุณเบบี้มาอ่านอีกแน่ๆ
-
ตอนแรกคิดว่าสั่งจองเสร็จต้องโอนเงินเลยดีนะ ที่เข้ามาอ่านใหม่อีกรอบ เกือบไปแล้ว
-
เปิดทำการโอนเงินหนังสือนิยายเรื่อง ~Limited Lovers~
เปิดโอนเงินตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 – วันพุธที่ 6 มีนาคม 2556
*ตอนนี้เป็นเวลาที่ให้เปิดทำการโอนเงิน แต่สำหรับคนอ่านท่านใดที่ต้องการหนังสือ ยังสามารถสั่งจองมาได้อยู่ค่ะ[เนื่องจากเบบี้สั่งพิมพ์เพิ่มกว่าจำนวนที่คนสั่งจองมาไปจำนวนหนึ่งน่ะค่ะ แต่หนังสือก็ตีพิมพ์จำนวนจำกัด] ติดต่อขอข้อมูลจากเบบี้ได้ที่ baby_novel แอด hotmail.com ค่ะ*
(ประกาศ: เบบี้ได้จัดทำของรางวัลพิเศษสำหรับนิยายเรื่องนี้ขึ้นเพื่อให้คนอ่านในจำนวน 4 ท่าน/ชุด ด้วย ถ้าคนอ่านท่านใดสนใจสามารถเข้าไปอ่านกฎกติกาและรายละเอียดต่างๆได้ทางด้านล่างหรือบอร์ดเบบี้ที่ลิ้งค์นี้เลยนะคะ..รางวัลพิเศษ (http://baby.thai-forum.net/t453-topic))
1. สำหรับคนอ่านท่านใดที่ได้ทำการสั่งจองหนังสือและได้รับการยืนยันการสั่งจองเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับ “รายละเอียดการโอนเงิน” หนังสือนิยายเรื่องนี้ไปทางรูปแบบอีเมลของคุณแล้วเรียบร้อยค่ะ รบกวนเช็คอีเมลของคุณด้วย แต่ถ้าคนอ่านท่านใดที่ทำการสั่งจองมาแล้วแต่กลับไม่ได้รับอีเมลแจ้งรายละเอียดการโอนเงินจากเบบี้ รบกวนติดต่อเบบี้ทางอีเมลทันทีนะคะ..ขอบคุณค่ะ
2. ปิดทำการโอนเงินวันพุธที่ 6 มีนาคม 2556
3. หลังจากนี้จะอยู่ในกระบวนการของการจัดทำหนังสือ ซึ่งตามแผนที่วางไว้ ทางเบบี้จะพยายามอย่างที่สุดที่จะให้หนังสือถึงมือคนอ่านทุกคนก่อนวันเทศกาลสงกรานต์ค่ะ ตามวันที่ได้วางแผนไว้คือเริ่มส่งของตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน โดยในเงื่อนไขนี้จะต้องไม่มีอุบัติเหตุขัดข้องใดๆค่ะ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงทางเบบี้จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอีกครั้ง (ถ้าคนอ่านท่านใดต้องการทราบรายละเอียดการทำงานมากกว่านี้ สามารถอ่านข้อมูลคร่าวๆได้ที่ “ชี้แจงกระบวกการทำงานค่ะ” ที่บอร์ดเบบี้เท่านั้นค่ะ *ปัจจุบันมีการแก้ไขรายละเอียดของการจัดส่งหนังสือ โดยจะจัดส่งหนังสือหลังวันเทศกาลสงกรานต์(ภายในเดือนเมษายน)ค่ะ สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่หน้า 337 เลยค่ะ*
4. หนังสือ 1 ชุด ราคา 2,200 บาท (รวมค่าจัดส่ง(ธรรมดา)เรียบร้อยแล้ว)
ก่อนโอนเงิน..คุณสามารถทราบตอนพิเศษที่เพิ่มให้เฉพาะในหนังสือได้อย่างคร่าวๆ พร้อมกับองค์ประกอบของหนังสือสำหรับ 1 ชุดว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง คุณสามารถดูตัวอย่างปกหนังสือ ที่คั่น บ๊อกเซตและโปสการ์ดได้ที่บอร์ดเบบี้ในชื่อกระทู้ "รายละเอียดของหนังสือ ~Limited Lovers~" หรือที่ลิ้งค์นี้ได้เลยค่ะ รายละเอียดหนังสือนิยาย Limited Lovers ต่อ 1 ชุด (http://baby.thai-forum.net/t454-topic) (หนังสือชุด Limited Lovers นี้ความหนาประมาณหนังสือชุดสุดท้ายกรูก็รักมึงจนได้..ไอ้โรคจิตค่ะ เนื่องจากมีเนื้อหาปกติที่ค่อนข้างยาวและครั้งนี้เบบี้ได้เขียนตอนพิเศษเพิ่มในหนังสือให้มากกว่าหนังสือชุดที่ผ่านมา -- ตอนพิเศษเพิ่มใหม่เล่ม 4 ทั้งเล่มไม่ต่ำกว่า 470 หน้าค่ะ)
5. รายละเอียดอื่นๆ..ติดต่อเบบี้ได้ที่ baby_novel แอด ฮอทเมล.com หรือเวปบอร์ดเบบี้ http://baby.thai-forum.net ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..(^_^)
-
รางวัลพิเศษสำหรับหนังสือนิยาย ~Limited Lovers~
โปรดอ่านและทำความเข้าใจอย่างละเอียดรอบคอบด้วยค่ะ
ทางเบบี้ได้จัดทำของรางวัลพิเศษเพิ่มขึ้นมาเป็นแบบ Limited 8 ชุด ^^ (คล้ายกับตอนที่ทำหนังสือนิยายเรื่องชุลมุนวุ่นรัก) แต่ครั้งนี้กฎกติกาจะปรับเปลี่ยนเล็กน้อยค่ะ
ของชิ้นนี้จะทำขึ้นเป็นจำนวน 8 ชุด เพื่อสำหรับเบบี้ 1 ชุด, 3 ชุดสำหรับทีมงานที่คอยช่วยเหลือข้าพเจ้ามา, และที่เหลืออีก 4 ชุดเบบี้จะแจกให้สำหรับคนอ่านผู้โชคดี 4 ท่านเท่านั้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม..ตามกฎกติกาทางด้านล่างนี้เลยค่ะ ^^
กฎในการร่วมเล่นเกมและได้รับของรางวัลพิเศษจากหนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers (ของรางวัลเหมือนกัน) ดังนี้..
กฎที่ 1 : คนอ่านท่านใดที่โอนเงินมาก่อนเป็นคนแรกจะได้รับรางวัลไป 1 ชุดเท่านั้น (ทั้งนี้วันเวลาจะต้องขึ้นอยู่กับตามวันที่เบบี้กำหนดให้เปิดทำการโอนเงินอย่างเป็นทางการ คือวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 ค่ะ)
ในกรณีที่ 1 นี้ทางเบบี้ขอชี้แจงก่อนนะคะว่า..คนที่โอนเงินมาคนแรกนี้จะต้องส่งอีเมลมาแจ้งให้เบบี้ก่อนเท่านั้น ประมาณว่าใครเร็วใครได้ค่ะ เพราะเนื่องจากว่าเคยเกิดกรณีของหนังสือชุลมุนวุ่นรัก ที่มีคนอ่านโอนเงินมาพร้อมกันในเวลา 00:00 น.พร้อมกันถึงสามคน แต่ของขวัญชุดของ Limited Lovers นี้ต้นทุนสูงน่ะค่ะ ทางเบบี้จึงผลิตอย่างจำกัดและพิเศษจริงๆ อย่างไรก็รบกวนทำความเข้าใจก่อนด้วยนะคะ(หัวเราะ..ครุคริ)
กฎที่ 2 : ของรางวัลเหลืออีก 3 ชิ้น แบ่งเป็น คนอ่าน 1 ท่านสำหรับ 1 ชุดเท่านั้น ตามรายละเอียดดังนี้..
2.1). หลักเกณฑ์ของกฎข้อนี้เบบี้วัดจากคนอ่านท่านใดที่ได้คอมเม้นนิยายแต่ละตอนในเรื่อง Limited Lovers อย่างสม่ำเสมอและมีเนื้อหาในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับนิยาย มองภาพของตัวละครออกและใช้คำพูดที่เหมาะควร ซึ่งเบบี้ได้คัดตามยูสเซอร์ของทาง Thaiboyslove หรือเล้าเป็ดค่ะ ดังนั้น..คนอ่านสามารถตรวจรายชื่อของตนเองได้จากยูสเซอร์เนมด้านล่างนี้เลยนะคะ ถ้าคุณพบว่าคุณเป็นหนึ่งในรายชื่อรบกวนช่วยอ่านกฎข้อต่อไปทางด้านล่างด้วยค่ะ
Username: faNg, Ball, Cacao, dolphins, nolirlin, must, wan, nn~~NN, pak_kikkok, ToffeE_PrincE, kawfahng, white choc~, Pupay, greensnake, StillLoveThem, skysky, skynotebook, JJHJJH, Chomin, YunNie, withmeto_PJ, cassper_W, indy zaka, Pam_ban, ruby, pooinfinity, Ryoooo, อากาศใต้ผ้าห่ม, BeeRy, gookgik, NOoTuNE, Azitten
2.2). จากข้อที่ 2.1 คนอ่านที่จะได้รับสิทธิ์นี้จะต้องแจ้งความประสงค์มาว่าจะซื้อหนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers ด้วยเท่านั้น ส่วนคนอ่านท่านใดที่มี "หมายเลขการสั่งจอง" แล้วก็ให้แจ้งมาด้วย คุณต้องแจ้งมาทางเบบี้เพื่อให้เบบี้รับรู้ก่อน (ถ้าเมื่อใดที่คุณยกเลิกที่จะซื้อหนังสือเรื่องนี้ ทางเบบี้จะปรับของรางวัลไปให้คนอ่านท่านอื่นที่ควรได้รับสิทธิ์แทนค่ะ)
2.3). เมื่อตรวจเช็ครายชื่อจากรายละเอียดข้อที่ 2.1 แล้ว ยูสเซอร์เนมนั้นๆควรแจ้งความประสงค์ถึงเบบี้ทางอีเมล baby_novel แอด hotmail.com ก่อนในทันทีว่า "คุณมีความประสงค์ที่จะซื้อหนังสือและมีรายชื่ออยู่หนึ่งในคนที่จะได้รับของรางวัล" เพราะคนที่แสดงตัวตนแจ้งความประสงค์มาทางเบบี้ 3 คนแรกเท่านั้นที่จะได้รับของรางวัล 3 ชุดที่เหลือนี้ค่ะ ทางเราไม่อนุญาตให้โอนเงินค่าหนังสือเลยทั้งที่ยังไม่ได้แจ้งตัวตนของคุณให้เบบี้รับทราบก่อนนะคะ
หมายเหตุ : กฎ 1 และกฎ 2 ไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าคนอ่านท่านใดมีรายชื่ออยู่ทั้ง 2 กฎ ทางเบบี้จะตัดสิทธิ์ดังนี้...ถ้าคนอ่านท่านใดที่โอนเงินมาก่อนคนแรกตามกฎข้อที่ 1 จะได้รับของรางวัลเพียง 1 ชุดเท่านั้นตามสิทธิ์ของกฎข้อที่ 1 เพื่อตัดสิทธิ์ของคุณที่จะได้ในกฎข้อที่ 2 เพื่อให้สิทธิ์นี้กับคนอ่านท่านที่เหลือแทนค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..^^
13/ม.ค/56
-
สำหรับคนที่สั่งจองไม่ทันแต่ยังต้องการหนังสือ
ประกาศ : สำหรับคนอ่านท่านใดที่มาสั่งจองในช่วงแรกไม่ทัน รบกวนช่วยอ่านรายละเอียดทางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ^^
สำหรับคนที่มาไม่ทันในการเปิดการสั่งจองหนังสือในช่วงแรกซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้วนั้น ตอนนี้อยู่ในกระบวนของการดำเนินงานและผลิตงานค่ะแต่ว่าทางเบบี้ได้สั่งพิมพ์หนังสือเพิ่มในจำนวนหนึ่งมากกว่าที่คนอ่านได้สั่งจองหนังสือมา ดังนั้น..คนอ่านที่ต้องการอยู่สามารถสั่งซื้อหนังสือได้อยู่จนกว่าเบบี้จะประกาศว่าหนังสือหมดแล้วค่ะ คนอ่านท่านใดที่สนใจอยากได้หนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers สามารถติดต่อมาที่เบบี้ได้ที่ baby_novel แอด hotmail.com ค่ะ โดยตั้งหัวข้ออีเมลว่า "ขอข้อมูลการสั่งจองหนังสือนิยาย" ค่ะ
หลังจากที่ทุกท่านได้ส่งอีเมลมาแล้ว รบกวนรออีเมลตอบกลับจากเบบี้ภายใน 4 วันทำการนะคะ ทางเราจะส่งรายละเอียดต่างๆกลับไปให้คุณค่ะ แต่ถ้าผ่านไป 4 วันแล้วทางคุณยังไม่ได้อีเมลตอบกลับจากเบบี้รบกวนให้แจ้งทาง PM เล้าเป็ดหรือบอร์ดเบบี้ในทันทีค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..^^
13/ม.ค/56
-
ประกาศ
ทางเบบี้ต้องขอแสดงความยินดีกับคุณ JoJo San (ยูสเซอร์เนมตามบอร์ดเบบี้) ว่าคุณได้โอนเงินและได้แจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินมาเป็นคนแรกค่ะ จึงได้รับของขวัญพิเศษ 1 ชุด ในกรณีที่ 1 ไปค่ะ ดีใจด้วยนะคะ ^_^
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..^^
14/ม.ค/56
-
~39~
“ทำไมต้องมีที่สแกนนิ้วมือด้วยล่ะ แล้วทำไมที่ห้องหนังสือถึงไม่มีที่สแกน..ทำไมล่ะครับ”
“นั่นสิ” พี่คิวแสยะยิ้มเล็กน้อย
“ทำไมกัน..” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเดินออกไปซะเฉย
“ไอ้บ้า..ต้องการคำตอบ ไม่ได้ให้มาย้อนถามสักหน่อยอ่ะ” ผมบ่นและทิ้งตัวลงนอนอย่างเซ็งๆกับผู้ชายเข้าใจยากคนนี้ จะมีวันไหนที่จะคุยกันแบบปกติเหมือนชาวบ้านเขาบ้างไหมครับเนี้ย..เฮ้อ~
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
อะไรของพี่คิวเนี่ยยย
-
อ๊ากกกกกกกกกกก~~ :serius2: :serius2: เพิ่งรู้ว่าเปิดจอง T^T โฮฮฮฮฮฮอออ~
โดนงานวิ่งชนไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เลยไม่ได้ติดตามข่าวสารใดๆ ทั้งสิ้น
ต้องขออภัยเบบี้ พี่คิว น้องเค้ก อาฟ้า ทิกเกอร์ พี่เซน น้องกัส พี่หมี อย่างแรง
อยากเขกกะโหลกตัวเองมากตอนนี้ เปล่าตั้งใจที่จะทำการละเลยแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ตอนนี้รู้แล้ว จัดไป 1 ชุดค่ะเบบี้ ยืนยัน นั่งยัน เดินยัน และนอนยัน ว่าเอาแน่ๆ
เดี๋ยวขออ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน เพราะเหมือนจะเห็นชื่อตัวเองแว๊บๆ
ยังไงจะเมล์ไปจีบเบบี้ช่วงค่ำๆ นะคะ ขอทำความเข้าใจก่อนจะได้ไม่มีอะไรตกหล่น อิอิ
-
โอ้ เพลียจุงเบย
กว่าจะจบใช้เวลาสองอาทิตย์ เหนื่อยจุง แรก ๆ เนื้อเรื่องเหมือนจะยังไม่เข้มข้น แต่พออ่านไปสักสองสามตอนเท่านั้นละ แม่
เจ้า ออกไปเข้าห้องน้ำยังไม่อยากออกเลยนะครับ โดยส่วนตัวแล้วชอบบุคลิคคิว แบบแอบเกรียน อินดี้น้อย ๆ เอ๊ะ ไม่น้อยนะ
มากเลยละ ฮ่า ๆ แต่อ่านไป ๆ ก็เพลียกับคิวที่อะไรก็ขวางโลกไปหมด เซงจิตอยู่อันนี้พูดเลย ฮ่า ๆ เรื่องนี้แรก ๆ ไม่สามารถเดา
ได้ว่าใครคือพระเอกแต่ก็พอจะรู้ ๆ นิสนึง ทีแรกคิดว่าพี่ฟ้าเป็นพระเอกซะอีก ก็ชอบนะ ฮ่า ๆ เรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอน
เกือบจะจบพาทแรก โอ้จะดราม่าไปไหนแต่ผมก็อ่านต่อไปเพราะมันหน่วงดี ปกติก็ชอบหน่วง ๆ แล้วด้วยอะครับ พอจะจบก็งง ๆ
นิดนึง อารมณ์ประมาณว่าจบแล้วหรอ อืมจบก็จบ ฮ่า ๆ พอมาพาทที่สองตัวนี้ลุ้นมากใครจะเป็พระเอกเอาสิ สุดท้ายก็ก็ได้ทิก
เอกร์ น่ารักอ่ะ ชอบมากตัวละครตัวนี้ แบบน่ารักอ่ะ น่ารักจบจน สงสารแต่ทิกเกอร์คนเดียวล้วน ๆ เลยตอนนี้ ดราม่าเยอะมาก
พาทนี้แต่อ่านต่อแบบหน่วง ๆ จนจบ พอมาพาทที่สาม แม่เจ้าอิพี่เซน ใครก็ได้ช่วยที หนูไม่เอามันเป็นพระเอกนะ เอาหมีได้
ไหม อารมณ์นี้เลย จะเลวไปไหนอีพี่เซน สงสารกัสบ้างไรบ้าง หื่นได้ตลอดอ่ะ แค่ที่ไหน คุ้น ๆ นะครับประโยคนี้ ฮ่า ๆ สรุป
เกรียนทั้งราชวงศ์เลยนะครับ ตัวละครที่กล่าวถึง ล้วนแต่เป็นธรรมชาติไม่เฟคอะนะ โดยส่วนตัวแล้วชอบมากอะครับ มากจริง ๆ นี้
พูดเลย อีกสองอาทิตย์จะตามอ่าน รักแรก รักสุดท้ายนะครับ ไม่เคยอ่าน ต่อไปนี้คงเป็นเบบี้เอฟซีแล้วละครับเพราะ เขียนได้ดี
มาก เห็นภาพคิดตามได้เลย ส่วนตัวแล้วชอบภาษาการเขียนนะครับ ฟังดูไพเราะในแบบนิยาย คือสวยหรูระดับขั้นสูงเลยครับ
เองด้วยหลาย ๆ เหตุผลรวบรวมกันทำให้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ผมชื่นชอบอีกเรื่องนะครับ ขอบคุณนะครับที่โพสให้อ่าน
-
ประกาศถึงสิทธิ์ในกรณีที่ 2 ที่จะได้รับของขวัญพิเศษ 3 ท่านได้มีคนอ่านมาแจ้งความประสงค์กับเบบี้ครบ 3 ท่านเรียบร้อยแล้วนะคะ คือ..pam_ban, cassper_w, dolphins ดังนั้น..เบบี้จึงขอล็อกของรางวัลสำหรับ 3 ชุดนี้ไว้สำหรับคนอ่านยูสเซอร์เนม 3 ท่านนี้ก่อนค่ะ(ถ้าท่านหนึ่งท่านใดใน 3 ท่านนี้ยกเลิกทางเบบี้จะประกาศให้ทราบ และพิจารณาเพื่อให้สิทธิ์ของรางวัลนี้แก่คนอ่านท่านอื่นต่อไปค่ะ^^)
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..^__^
-
อ๊ากกกกกกกกกกก~~ :serius2: :serius2: เพิ่งรู้ว่าเปิดจอง T^T โฮฮฮฮฮฮอออ~
โดนงานวิ่งชนไม่หยุดหย่อนตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เลยไม่ได้ติดตามข่าวสารใดๆ ทั้งสิ้น
ต้องขออภัยเบบี้ พี่คิว น้องเค้ก อาฟ้า ทิกเกอร์ พี่เซน น้องกัส พี่หมี อย่างแรง
อยากเขกกะโหลกตัวเองมากตอนนี้ เปล่าตั้งใจที่จะทำการละเลยแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ตอนนี้รู้แล้ว จัดไป 1 ชุดค่ะเบบี้ ยืนยัน นั่งยัน เดินยัน และนอนยัน ว่าเอาแน่ๆ
เดี๋ยวขออ่านรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน เพราะเหมือนจะเห็นชื่อตัวเองแว๊บๆ
ยังไงจะเมล์ไปจีบเบบี้ช่วงค่ำๆ นะคะ ขอทำความเข้าใจก่อนจะได้ไม่มีอะไรตกหล่น อิอิ
ตอบอีเมลให้แล้วค่ะ เสียใจด้วยจุงเบย ;(
-
โอ้ เพลียจุงเบย
กว่าจะจบใช้เวลาสองอาทิตย์ เหนื่อยจุง แรก ๆ เนื้อเรื่องเหมือนจะยังไม่เข้มข้น แต่พออ่านไปสักสองสามตอนเท่านั้นละ แม่
เจ้า ออกไปเข้าห้องน้ำยังไม่อยากออกเลยนะครับ โดยส่วนตัวแล้วชอบบุคลิคคิว แบบแอบเกรียน อินดี้น้อย ๆ เอ๊ะ ไม่น้อยนะ
มากเลยละ ฮ่า ๆ แต่อ่านไป ๆ ก็เพลียกับคิวที่อะไรก็ขวางโลกไปหมด เซงจิตอยู่อันนี้พูดเลย ฮ่า ๆ เรื่องนี้แรก ๆ ไม่สามารถเดา
ได้ว่าใครคือพระเอกแต่ก็พอจะรู้ ๆ นิสนึง ทีแรกคิดว่าพี่ฟ้าเป็นพระเอกซะอีก ก็ชอบนะ ฮ่า ๆ เรื่องเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอน
เกือบจะจบพาทแรก โอ้จะดราม่าไปไหนแต่ผมก็อ่านต่อไปเพราะมันหน่วงดี ปกติก็ชอบหน่วง ๆ แล้วด้วยอะครับ พอจะจบก็งง ๆ
นิดนึง อารมณ์ประมาณว่าจบแล้วหรอ อืมจบก็จบ ฮ่า ๆ พอมาพาทที่สองตัวนี้ลุ้นมากใครจะเป็พระเอกเอาสิ สุดท้ายก็ก็ได้ทิก
เอกร์ น่ารักอ่ะ ชอบมากตัวละครตัวนี้ แบบน่ารักอ่ะ น่ารักจบจน สงสารแต่ทิกเกอร์คนเดียวล้วน ๆ เลยตอนนี้ ดราม่าเยอะมาก
พาทนี้แต่อ่านต่อแบบหน่วง ๆ จนจบ พอมาพาทที่สาม แม่เจ้าอิพี่เซน ใครก็ได้ช่วยที หนูไม่เอามันเป็นพระเอกนะ เอาหมีได้
ไหม อารมณ์นี้เลย จะเลวไปไหนอีพี่เซน สงสารกัสบ้างไรบ้าง หื่นได้ตลอดอ่ะ แค่ที่ไหน คุ้น ๆ นะครับประโยคนี้ ฮ่า ๆ สรุป
เกรียนทั้งราชวงศ์เลยนะครับ ตัวละครที่กล่าวถึง ล้วนแต่เป็นธรรมชาติไม่เฟคอะนะ โดยส่วนตัวแล้วชอบมากอะครับ มากจริง ๆ นี้
พูดเลย อีกสองอาทิตย์จะตามอ่าน รักแรก รักสุดท้ายนะครับ ไม่เคยอ่าน ต่อไปนี้คงเป็นเบบี้เอฟซีแล้วละครับเพราะ เขียนได้ดี
มาก เห็นภาพคิดตามได้เลย ส่วนตัวแล้วชอบภาษาการเขียนนะครับ ฟังดูไพเราะในแบบนิยาย คือสวยหรูระดับขั้นสูงเลยครับ
เองด้วยหลาย ๆ เหตุผลรวบรวมกันทำให้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ผมชื่นชอบอีกเรื่องนะครับ ขอบคุณนะครับที่โพสให้อ่าน
ขอเตือนว่าอย่าคาดหวัง เพราะเรื่องอื่นที่คุณหมายถึง เป็นเรื่องแรกๆที่เบบี้เขียนค่ะ
และเบบี้ไม่ได้เขียนสำนวนเหมือนเรื่อง Limited Lovers นี้นะคะ กร๊าก
กลัวรับเรื่องอื่นไม่ได้จริงๆ 55555++
-
ต้องแสดงความดีใจให้ครบทุกที่ :laugh:
:impress2: รอเค้กคิวสุดใจ
รักเมตรสลิ่ม ต้าร์ข้าว แสบปาน ฟ้าทิกเกอร์ พีทัวร์ เข็มเป้ ขนมทาย โตเรย์ วิทย์เว เซ็นกัส พี่หมีออฟ(?) เขตชาย(ถึงจะไม่เคยอ่านคู่นี้ :z3: ก็เถอะ) และเดอะแกงค์ เหมือนนัดมาร่วมอวยพร :laugh3:
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับรางวัลพิเศษนี้ค่ะ : 222222:
-
แอบตกใจนึกว่าตกข่าวของเบบี้รึป่าว ...แอบเสียใจที่ไม่ได้ของขวัญพิเศษ
แต่ยังไงก็ยังดีใจที่จะมีพี่คิวเอาไว้อ้อมอกอ้อมใจ
-
:3059:
-
กว่าจะอ่านจบ ใช้เวลาหลายวันมาก
แต่ละคู่ก็น่าลุ้นทั้งนั้น
แต่ละคนก็มีปมของตนเอง
เขีนได้น่าติดตามมาก
แต่ดูจะน่าสงสารหมีที่สุด
ถึงจะเป็นการเห็นแก่ตัวที่เหน่ี่ยวรั้งกัส
แต่ก็เป็นไปด้วยความหวังดี
ก็เพราะเซนเองยังไม่ทำให้หมีมั่นใจ
ถ้ากัสต้องร้องไห้ แล้วไม่มีหมีอยู่ด้วย
กัสจะทำอย่างไง ......
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ
เหมือนส่วนขยายความให้เพิ่มรสมากขึ้น
เสียดายแต่ตอนของเซนทิ้งปริศนาการแก้แค้นเอาไว้
ก็เข้าใจนะว่าจะไปทำให้หนังสือเล่มหนาขึ้น
การจัดทำก็คงยุ่งยาก เปลี่ยนแปลงอะไรไป
ก็ต้องมีผลต่อแผนงานพิมพ์ที่วางไว้
ก็คงเขียนเขียนเก่ง น่าติดตาม
ขอบคุณที่แบ่งปันจ้ะ00.... :L2:
-
แจ้งให้ทราบ..
ทางเบบี้ได้เริ่มอัพเดทรูปภาพชิ้นงาน(สำหรับของขวัญจัดทำขึ้นพิเศษ) ที่เสร็จส่วนหนึ่งบ้างแล้วนะคะ..
คนอ่านท่านใดที่สนใจ สามารถชมได้ที่กระทู้ย่อย[ติดประกาศ] ในชื่อกระทู้ Talk about Limited Lovers Books หรือที่ลิ้งค์นี้ค่ะ [นิยาย] Limited Lovers (http://baby.thai-forum.net/f8-forum)
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..^^
พฤ 24 ม.ค 56
-
:catrun:
-
โอ้ยยยยยยย ตายแล้วมาจองไม่ทัน ยังพอจะเหลือสัก 1 ชุดไหมฮับเนี่ย
ส่งเมล์ไปแล้ว ทันไหมฮับบบ T^T :o12:
-
เสียดายจัง เค้าพลาดอะ เค้าไม่รู้ว่ามีของขวัญพิเศษด้วย
แง่ๆ อยากได้ด้วยจุงเบยๆๆๆๆ
-
รบกวนคนอ่านทั้ง 4 ท่านนี้เช็คอีเมลของคุณด้วยนะคะ ทางเบบี้ติดต่อไปเรื่องการจัดส่งของขวัญพิเศษ Limited Lovers น่ะค่ะ
16. JoJo San
62. pam_ban
28. cassper_w
47. dolphins
ขอบคุณมากค่ะ
เบบี้..^^
อ.5 ก.พ 56
-
คิดถึงพี่คิว
-
ประกาศสำคัญ ประจำวันศุกร์ที่ 15 ก.พ 56
ประกาศสำคัญจากเบบี้ มี 2 เรื่องดังต่อไปนี้ค่ะ..
1. ประกาศเรื่องการแก้ไขหนังสือจาก 5 เล่มให้เหลือเพียง 4 เล่มเพราะต้องการพิมพ์หน้าปกให้มีลูกเล่นมากยิ่งขึ้น ทางเบบี้จึงปรับเปลี่ยนจากเนื้อหาที่ตกเล่ม 1 ถึงเล่ม 4 ประมาณ 300-330 หน้าและเล่ม 5 ที่เป็นเฉพาะตอนพิเศษที่เขียนเพิ่มให้ในหนังสือเท่านั้นกว่า 470 หน้า รวมให้กลายเป็น 4 เล่ม โดยจะปรับเปลี่ยนเฉพลาะเล่ม 1-4 ให้เหลือเพียง 3 เล่มเท่านั้น จึงตกเล่มละ 400 หน้าค่ะ ส่วนเล่มที่เขียนตอนพิเศษเพิ่มให้เฉพาะในหนังสือทั้งเล่มจากเล่ม 5 จะกลายเป็นเล่ม 4 โดยไม่มีการปรับเนื้อหาใดๆให้สั้นลงทั้งสิ้น ปัจจุบันได้เขียนตอนพิเศษเพิ่มให้มากขึ้นเรื่อยๆจนจะกินเนื้อหาไปเกือบ 500 หน้าแล้วค่ะ
2. ประกาศเลื่อนส่งหนังสือ Limited Lovers นี้ไปหลังเทศกาลสงกรานต์ (ภายในเดือนเมษายน) ค่ะ
จากข้อที่ 1 และ 2 ที่กล่าวไปนั้น...คนอ่านท่านใดที่ได้สั่งจองหนังสือหรือคนที่โอนเงินมาแล้ว จะได้รับอีเมลชี้แจงรายละเอียดที่ละเอียดกว่านี้จากเบบี้ไปแล้วทุกท่าน ส่วนรายละเอียดทั้งหมดนี้ได้อัพเดทให้ที่บอร์ดเบบี้แล้วเช่นกัน สามารถเข้าไปอ่านได้ที่กระทู้นี้เลยนะคะ ชี้แจงกระบวนการทำงาน (http://baby.thai-forum.net/t443-topic)
หวังว่าคนอ่านทุกท่านจะเข้าใจ
จบการชี้แจง
เบบี้..^^
15 ก.พ 56
-
แงๆ ไม่ยอมๆจะเอาก่อนสงกรานต์ - อะล้อเล่นนะจ๊ะ
รอได้จ๊ะ เพื่อน้องเค้กของเรา ยังไงก็รอจ๊ะ
-
รับทราบ สิ้นเดือนโอนเงินให้แน่นอน
รักพี่คืว
-
อยากบอกว่าเพิ่งโอนไป แหะ ๆ :z6: ความจางทางทรัพย์ไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ :เฮ้อ:
รับทราบทุกกระบวนความค่ะ :pig4:
-
รับทราบทุกกระบวนการจ้า
-
จะ 5 เล่ม หรือ 4 เล่ม ..... ไม่มีปัญหา
จะได้ก่อน หรือหลังสงกรานต์ .... ไม่มีปัญหา
แค่ได้พี่คิวกับน้องเค้กมาครอบครองก็ฟินแล้วค่ะ
คุณเบบี้ สู้สู้ :mc4:
-
ได้ของแล้ว :mc4: ขอบคุณค่ะ :กอด1:
-
Ohhhh I love you~~ baby 5555555
-
ปิดทำการโอนเงินหนังสือนิยาย Limited Lovers
(วันพุธที่ 6 มีนาคม 56)
ชี้แจง: ดังนี้...
1. ตามที่เบบี้ได้ส่งข่าวแจ้งไปทางอีเมลขอคนอ่านทุกท่านที่ได้ทำการสั่งจองหนังสือนิยายเรื่องนี้มาแล้ว ว่า..รายชื่อของคนที่โอนเงินมาภายในกำหนดเวลาคือ วันจันทร์ที่ 14 มกราคม 56 - วันพุธที่ 6 มีนาคม 56 จะขึ้นรายชื่อของคนที่ชำระเงินมาภายในวันที่กำหนดไว้นี้เท่านั้นที่หน้าเวปบอร์ดของเบบี้เพียงที่เดียว http://baby.thai-forum.net ค่ะ คนอ่านท่านใดที่ได้ชำระเงินมาภายในกำหนดเวลาที่แจ้งไว้นี้ สามารถเข้าไปเช็ครายชื่อของท่านเพื่อความแน่นอนได้อีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 56 นี้ค่ะ
2. การจัดส่งหนังสือว่าจะจัดส่งเมื่อไหร่อย่างไร ได้เคยแจ้งข่าวทางอีเมลไปแล้วครั้งหนึ่ง คืออีเมลฉบับ "ประกาศสำคัญจากเบบี้ 15 ก.พ 56" หรือสามารถอ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้ "ชี้แจงกระบวนการทำงาน" ที่บอร์ดเบบี้เท่านั้นค่ะ
3. ส่วนคนอ่านท่านใดที่ต้องการหนังสือ แต่ยังไม่เคย "สั่งจองหนังสือ" หรือทำการใดๆมาเลย สามารถติดต่อมาหาเบบี้ได้ที่ baby_novel แอด ฮอทเมล.com ค่ะ หรือเบบี้ขออ้างอิงจากรายละเอียดเดิม...
v
v
v
สำหรับคนที่สั่งจองไม่ทันแต่ยังต้องการหนังสือ
ประกาศ : สำหรับคนอ่านท่านใดที่มาสั่งจองในช่วงแรกไม่ทัน รบกวนช่วยอ่านรายละเอียดทางด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ ^^
สำหรับคนที่มาไม่ทันในการเปิดการสั่งจองหนังสือในช่วงแรกซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้ทำการโอนเงินเรียบร้อยแล้วนั้น ตอนนี้อยู่ในกระบวนของการดำเนินงานและผลิตงานค่ะแต่ว่าทางเบบี้ได้สั่งพิมพ์หนังสือเพิ่มในจำนวนหนึ่งมากกว่าที่คนอ่านได้สั่งจองหนังสือมา ดังนั้น..คนอ่านที่ต้องการอยู่สามารถสั่งซื้อหนังสือได้อยู่จนกว่าเบบี้จะประกาศว่าหนังสือหมดแล้วค่ะ คนอ่านท่านใดที่สนใจอยากได้หนังสือนิยายเรื่อง Limited Lovers สามารถติดต่อมาที่เบบี้ได้ที่ baby_novel แอด hotmail.com ค่ะ โดยตั้งหัวข้ออีเมลว่า "ขอข้อมูลการสั่งจองหนังสือนิยาย" ค่ะ
หลังจากที่ทุกท่านได้ส่งอีเมลมาแล้ว รบกวนรออีเมลตอบกลับจากเบบี้ภายใน 4 วันทำการนะคะ ทางเราจะส่งรายละเอียดต่างๆกลับไปให้คุณค่ะ แต่ถ้าผ่านไป 4 วันแล้วทางคุณยังไม่ได้อีเมลตอบกลับจากเบบี้รบกวนให้แจ้งทาง PM เล้าเป็ดหรือบอร์ดเบบี้ในทันทีค่ะ
4. สืบเนื่องจากข้อที่ 3 เนื่องจากเบบี้ได้สั่งหนังสือเพิ่มจากจำนวนคนอ่านที่ได้โอนเงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งการสั่งพิมพ์ทั้งหมดนี้เป็นจำนวนที่แน่นอนและไม่ทำการรีปริ้นค่ะ ดังนั้น..คนอ่านท่านใดที่ได้เคย "สั่งจองหนังสือ" มาก่อนหน้าและได้รับอีเมลชี้แจงเรื่องต่างๆไปแล้ว และท่านควรทราบดีแล้วว่าทางเบบี้ได้ปิดทำการโอนเงินเมื่อไหร่อย่างไร ซึ่งเบบี้ไม่อนุญาตให้คนอ่านท่านใดที่ทำการสั่งจองหนังสือมาแล้วโอนเงินล่าช้าเกินวันที่กำหนดไว้คือ วันพุธที่ 6 มีนาคม 56 โดยที่ไม่ชี้แจงเพื่อขออนุญาตจากเบบี้ก่อนทั้งสิ้นค่ะ (กฎและระเบียบต่างๆทางเบบี้ได้ส่งให้ทางอีเมลของทุกท่านที่ได้ทำการสั่งจองมาแล้ว ดังนั้น..ขอให้คนอ่านอ่านให้รอบคอบเสียก่อนเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเองนะคะ เพราะเบบี้ถือว่าแจ้งเตือนแล้ว) ส่วนคนอ่านท่านใดที่ไม่เคยสั่งจองมาเลย..สามารถอ่านข้อมูลได้จากข้อ 3 ค่ะ
- ติดต่อเบบี้ได้ที่ baby_novel แอด ฮอทเมล.com
- ติดตามการอัพเดทเรื่องต่างๆเกี่ยวกับหนังสือนิยาย Limited Lovers ได้ที่กระทู้ Talk about Limited Lovers Books ทางบอร์ดเบบี้เท่านั้น
- ติดตามข่าวสารการทำงานและความคืบหน้าต่างๆเกี่ยวกับหนังสือนิยาย Limited Lovers ได้ที่ "กระทู้ชี้แจงกระบวนการทำงาน" ทางบอร์ดเบบี้เท่านั้นค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เบบี้..^^
6 มีนาคม 56
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: เกือบโอนไม่ทันอ่ะ มัวแต่ลั้นลา
-
:mc4: รอหนังสือ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ :m11: จะกลายเป็น summer ที่รอคอย เย้ ๆ : 222222:
-
:catrun:
-
เพิ่งอ่านจบ สุโค่ย!!
-
รับทราบค่ะ :hao6: อยากได้แล้วอ่ะ
อยากบอกว่าสิ่งที่เสียใจที่สุดในการสั่งซื้อนิยายเรื่องนี้ คือ ทำไมตรูโอนเงินช้าจังเลยว้า :katai1: อยากจะมีชื่อในเซ็ตแรกง่ะ :ling1: อิจฉา ๆ ๆ :katai5: รออย่างใจจดใจจ่อค่า
จะติดตามนิยายเรื่องใหม่เหมือนกับเรื่องก่อนหน้านี้ทุกเรื่องค่ะ สู้ ๆ (ดีใจที่แต่งเรื่องใหม่ใกล้เสร็จแล้วด้วย :give2: )
-
จัดส่งหนังสือประจำวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆ แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..
1). คนอ่านที่อยู่ต่างประเทศ
2). ชุดที่..1 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
- 10. thomoya
- 18. Ferfa
- 16. JoJo San
- 111. rujaya
- 23. aorpp
- 38. malinee
- 29. pang_ko13
- 35. suni
- 118. pandora
- 105. onegig
- 70. tookujang
- 67. pt6077
3). ชุดที่..2
- 71. ma_ko
- 4. -
- 58. ใจร้าย
- 206. ibaby
- 74. tiamo_jamsai
- 109. akeins
- 13. xoxoxoxo
- 2.yeyong
- 110.Poes
- 52. gear
- 54. eddiam
- 165. blanchard
- 146. narry
-88. THIP
- 151. YeNTaPho
- 150. lidarat
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
..เบบี้ ^^..
27 เมษายน 56
-
อยู่ชุดที่4 รอต่อไป~
อยากอ่านเร็วๆ
-
..โปรดทราบ..
แจ้งล่วงหน้าให้ทราบ -- พรุ่งนี้วันอาทิตย์ที่ 28 เมษา เบบี้จะจัดส่งให้สำหรับชุดที่ 3 และชุดที่ 4 นะคะ
เบบี้ ^^
27 เมษา 56
-
:amen: :amen: :amen: :amen: :amen:
ขันติเถอะขันติ เดี๋ยวก็ถึงเซ็ตที่เจ็ดแล้วแหละ รอน้ารอ ----->.o.ในใจนี่แบบว่า ไม่ไหวแล้ว :hao7: :hao5:
-
เราอยู่ตั้งชุดที่ 12
รอนานเบย :hao5:
-
:amen: :amen: :amen: :amen: :amen:
ขันติเถอะขันติ เดี๋ยวก็ถึงเซ็ตที่เจ็ดแล้วแหละ รอน้ารอ ----->.o.ในใจนี่แบบว่า ไม่ไหวแล้ว :hao7: :hao5:
โอนเงินช้า .. อย่าหืออือ :angry2:// เดี๋ยวเธอจะโดนโบยหลังด้วยหวาย หึหึหึ หึหึหึ --- สงสารจุงเบย :z1: :laugh: :m20:
-
..โปรดทราบ..
แจ้งล่วงหน้าให้ทราบ -- พรุ่งนี้วันอาทิตย์ที่ 28 เมษา เบบี้จะจัดส่งให้สำหรับชุดที่ 3 และชุดที่ 4 นะคะ
เบบี้ ^^
27 เมษา 56
กรี๊ดดดดด ชุดที่4จะได้ของแล้ววววว
-
รอกันต่อปายยยยยย :hao7:
-
จัดส่งหนังสือประจำวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆเท่านั้น แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษา 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..(การจัดส่งแบบพัสดุธรรมดาใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3-10 วันค่ะ)
- ชุดที่..3 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
- 1. Nankoong
- 178.ryoutaro
- 212. insomnia
- 37. littlesmall
-194. maicy
- 28.cassper_W
- 59.nirun4
- 5. nong2408
- 34. butter
- 40.krit
- 217. didi
-45. toon785
- 106.August
- 187.booboos
-207.Windyne
-133.natjae
- ชุดที่..4
-77.Dadadidie
-66.evil_kun
-25.SuiJin
-73.-cresent-
-161.BW
-214.pak_kikkok
-225.missmemory
-157.pui_ngam
-102.kiyomine
-50.tassan_k
-149.CaptainM
-100.lamb
-108.arcanine
-230.
-55.rathty
-104.oppee
..เบบี้ ^^..
-
:really2: รอชุดที่5 ค่ะ
:L1:
-
กรี๊ดดดดดดด....ชุดที่ 4 ส่งแล้ว...รอรับและรออ่าน :mc4: :mc4: :mc4:
ขอบคุณมากๆจ้า
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
..โปรดทราบ..
แจ้งล่วงหน้า -- พรุ่งนี้วันจันทร์ที่ 29 เมษา เบบี้จะจัดส่งให้สำหรับชุดที่ 5,,ชุดที่ 6 และชุดที่ 7 นะคะ
เบบี้ ^^
28 เมษา 56
-
ถึงคิวเราแล้ว :mc4: เย้ๆๆๆๆๆ
-
เพิ่งอ่านจบค่ะ นิยายสนุกๆมากๆ น่าติดตามาก
ยิ่งเห็นหนังสือแล้วมือไม้สั่นอยากได้ค่ะ ฮ่าๆ
แต่เค้ามาไม่ทันซินะ :mew2:
หนังสือกับบ็อกเซตสวยมากๆเลยค่ะ
-
จัดส่งหนังสือประจำวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆเท่านั้น แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษา 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..(การจัดส่งแบบพัสดุธรรมดาใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3-10 วันค่ะ)
1) ชุดที่..5 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
-47.dolphins
-158.OrangeryLemon
-136.oumyuu
-162.kanunsak
-41.varn_moomoo
-172.fuyunoco
-60.bunchan
-89.akeha
-22.luvY
-231.angdrerain
-6.rachanok
-83.-
-138.zine
-11.pungplaza
-143.Ploywaroon
-229.tagdanze
2) ชุดที่..6
-84.tsubomi
-236.crazehero
-176.lalanta
-237.nook
-220.poundering
-82.genieposh
-36.tuktukta
-122.skynotebook
-224.Love2y
-80.lovexiah
-19.aehJTS
-9.pinkky_kiku
-167.-
-211.ppookt
-86.Michiko_love
-14.pimrge
3) ชุดที่..7
-223.nongname
-62.pam_ban
-93.Mooka
-46.YAOI_NCJung
-26.pornvinae
-243.Pimmyna
-128.chronograph1
-139.Cartoonmiza
-44.Gam_geun
-31.women007
-153.wing@dium
-180.THE MIN
-56.easy
-120.jannie
-81.minidemon
-48.Phantom
..เบบี้ ^^..
-
กรี๊ดดดดดดังดังดัง
ถึงคิวเราแล้วเร็วจังเลยยยยยยยย
หัวเราะอย่างบ้าคั่ง :laugh:
-
มาแจ้งจ้า
ชุดที่ 1 - 23. aorpp
วันนี้ได้รับหนังสือแล้ว
หนังสือและบ๊อกเซ็ทสวยมากค่ะ
แพคเกจจิ้งชนะเลิศสามโลก o13
เล่ม 4 หนาเป็นพิเศษ หนามากกว่าเล่ม 1,2,3
อ๊ายยย คืนนี้โต้รุ่งแน่ๆ
:กอด1:
-
ได้รับของแล้วค่า บ๊อกเซ็ทสวยมากเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :L1:
-
มาแจ้งจ้า
ชุดที่ 1 - 23. aorpp
วันนี้ได้รับหนังสือแล้ว
หนังสือและบ๊อกเซ็ทสวยมากค่ะ
แพคเกจจิ้งชนะเลิศสามโลก o13
เล่ม 4 หนาเป็นพิเศษ หนามากกว่าเล่ม 1,2,3
อ๊ายยย คืนนี้โต้รุ่งแน่ๆ
:กอด1:
ค่า..เล่ม 4 เฉพาะตอนพิเศษในหนังสือทั้งหมดค่ะ ขอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจนะคะ กรั๊กๆๆๆ :laugh: :laugh: :jul3:
-
..โปรดทราบ..
แจ้งล่วงหน้า -- พรุ่งนี้เช้าวันอังคารที่ 30 เมษา เบบี้จะจัดส่งให้สำหรับชุดที่ 8,,ชุดที่ 9 และชุดที่ 10 นะคะ
เบบี้ ^^
29 เมษา 56
-
กรี๊ด ชุดที่7ส่่งแล้ว
นั่งรอ นอนรอ เดินรอ 555
-
ของเราต้องนั่งรอไปก่อนอีกนาน 5555
-
จัดส่งหนังสือประจำวันอังคารที่ 30 เมษายน 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆเท่านั้น แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษา 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..(การจัดส่งแบบพัสดุธรรมดาใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3-10 วันค่ะ)
1) ชุดที่..8 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
-148.ToeyTato
-124.viewy
-249.mondy
-247.drake_dion
-159.MiiCell
-241.jick_ja
-219.pearpitt
-27.color_pink
-131.Jupiter
-199.pan141
-175.thunchanok1
-166.taal_vanit
-114.sunisa131
-114.sunisa131
-129.waru
-137.nreffer
2) ชุดที่..9
-101.tpjhae
-202.uzerry
-69.teetarkunghaha
-121.nongcin
-227.tawornfung
-63.PlenG
-91.nunamicky
-190.andaseen
-92.dee-dee
-196.salaree
-90.SJ
-90.SJ
-3.Mymint2531
-142.mickybravo
-250.Mooze
-61.hotchox
3) ชุดที่..10
-163.B.B.
-20.jibell
-152.kazuyajin
-8.n_n
-235.maybenot
-248.-
-49.Mura_saki
-135.meaw39
-30.kisskiss
-179.mazzbazz
-245.phoenixbr
-39.-
-252.-
-64.Princea
-195.arakanji
-32.wyjeen
..เบบี้ ^^..
-
:katai1: กำลังมาสินะ. :katai5: .ตอนนี้คงถึงโคราชแระ :hao3: อีกสักเดี๋ยวคงถึง :hao7: บ้านเรา....... o7
-
ขอบคุณค่ะ ชอบมากๆ
-
จัดส่งหนังสือประจำวันพุธที่ 1 พฤษภาคม 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆเท่านั้น แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษา 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..(การจัดส่งแบบพัสดุธรรมดาใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3-10 วันค่ะ)
1) ชุดที่..11 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
-184.littlepenguin
-234.ishi
-198.Ahiru
-94.in_blu
-99.ภัทร
-182.jija
-15.jinong
-213.watwong
-193.chocolate_angel
-197.JayChan
-117.linlaway
-57.vava
-246.Pop~Pu
-253. -
-130.UGi
-95.nu_new
2) ชุดที่..12
-68.Anch_pj
-134.Kalos
-251.KrisDragon
-115. -
-215.sirikanda28
-112.Yunchun
-191.Kisskisskururu
-12.JAROEN
-107.BloominGbuA
-169.IRIS
-164.moo&me
-239.davilsatan
-98.NLS
-185.littlepretty
-210.mustmore
-189.Jin_MoLa
..เบบี้ ^^..
-
..โปรดทราบ..
แจ้งล่วงหน้า -- สำหรับหนังสือชุดที่ 13,,14 และคนอ่านที่โอนเงินมาหลังสุดจะได้รับการจัดส่งพร้อมกันทั้งหมดค่ะ ปัจจุบันเบบี้ต้องมาทำธุระที่ต่างจังหวัดจึงไม่สามารถบอกวันเวลาที่แน่นอนได้ว่าจะจัดส่งชุดนี้ได้เมื่อไหร่ อาจจะจัดส่งชุดที่ 13,,14 และล็อตสุดท้ายได้ล่าช้าสุดไม่เกินวันอังคารที่ 7 พ.ค 56 นี้นะคะ
..ขอบคุณค่ะ..
เบบี้ ^^
1 พ.ค 56
-
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ คุณเบบี้นอกจากแต่งนิยายเริ่ดยัง เป็นมืออาชีพในการจัดทำหนังสือจริงๆค่ะ(ไม่เคยอ่านและไม่เคยสั่งซื้อของคุณเบบี้ แม้แต่เรื่องนี้ก็อ่านไปได้ไม่กี่หน้าเองค่ะ )เพราะหีบห่อมั่นคงกันกระแทกได้ดี กล่องก็แข็งแรง ภายในเรียบ แน่นหนา และมีพื้นที่พอสำหรับการห่อปกหนังสือแต่ละเล่ม (แม้แต่ บางสนพบางแห่งยังไม่เผื่อที่ส่วนการห่อมาให้) เหมาะสำหรับนักอ่านที่มีใจรักหนังสือ ซึ่งมักจะต้องนำหนังสือไปห่อให้เรียบร้อยอีกครั้ง หนังสือออกแบบปกน่ารักและสวยเหมาะกับเนื้อเรื่องค่ะ เหมือนให้มืออาชีพมาช่วยออกแบบ สรุปเป็นมืออาชีพในการจัดทำหนังสือจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ :mew3:
-
:-[ ได้รับแล้วค่ะ ทั้งหนังสือและบ็อกเซต งดงามมากมายยยย ปลื้มมมมมม
เป็นกำลังให้คุณเบบี้สร้างสรรค์ผลงานดีๆแบบนี้ต่อไปนะคะ :L2: :L2:
-
แอบอิจฉาเบา ๆ :hao4:
-
ได้รับแล้วนะคะ
ทั้งบอกซ์ หนังสือ ที่คั่น โปสการ์ด ... สวยงามมาก ๆ เลยค่ะ ^^
-
ได้รับแล้วจ้า
เปิดกล่องมาอึ้งไปเลย
ไม่คิดว่าจะแพคดีขนาดนี้
ไม่งั้นมีหวังกล่องได้บุบกันบ้างล่ะ
แกะห่อออกมาเรียบเนียนมากๆไม่มีบุบสลาย
ขอบคุณที่ใส่ใจในรายละเอียด
จะติดตามผลงานกันต่อไป
:mew1: :pig4:
-
ได้รับแล้วเหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะคะหนังสือน่ารักมากๆเลย o13
-
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
หนังสือและกล่องอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีมากๆ เลยค่ะ
-
ได้รับแล้วค่า มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก :hao7: คุ้มค่ากับการรอคอย เก็บภาพทุกช็อตตั้งแต่เปิดกล่อง การจัดเรียงที่คั่นหนังสือ การแพ็ค ยิ่งรูปเล่มและบ็อกเซ็ตก็หวานแหววออกแนวน่ารักโรแมนติก โอ้วเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกประทับใจจริง ๆ บ่งบอกว่าได้รับการเอาใจใส่ในรายละเอียดมาก :pig4: ขอบคุณค่ะที่นอกจากจะทำให้ได้อ่านนิยายโรแมนติกสนุก ๆ แล้วยังได้ความประทับใจ และอิ่มอกอิ่มใจติดมาด้วย ซาบซึ้ง ๆ :sad12: :hao5: จะติดตามผลงานทั้งเริ่งเก่าและเรื่องใหม่ต่อไปค่ะ :กอด1:
ในที่สุดก็ได้มาอยู่ในมือเราแล้ว :hao6:
-
จัดส่งหนังสือประจำวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆเท่านั้น แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษา 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..(การจัดส่งแบบพัสดุธรรมดาใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3-10 วันค่ะ)
1) ชุดที่..13 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
-192.woon07
-155.namtaan
-125. -
-228.SciOn
-75. -
-181. -
-238.kat@micky
-145.mamo
-233.chaoyui
-173.fonnum
-97.nathita
-17.bokura
-177.Wannasay
-85.Yunnie
-226.patchp
-33.Alen
หมายเหตุ: เนื่องจากเบบี้กลับมาจากทำธุระเร็วกว่ากำหนด จึงได้จัดส่งชุดที่ 13 ให้ก่อนนะคะ ส่วนชุดที่ 14 และชุดสุดท้ายที่โอนเงินมาหลังสุดทั้งหมดอาจจะส่งให้วันจันทร์ที่ 6 พ.ค ถ้าอยู่ในกรณีที่เบบี้แพ็คหนังสือให้ทัน แต่ถ้าเบบี้แพ็คหนังสือให้เสร็จไม่ทันอาจจะต้องจัดส่งให้วันอังคารที่ 7 นะคะ // แจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อน ถ้าจัดส่งให้เรียบร้อยแล้วจะมาแจ้งรายชื่อยืนยันให้ทราบอีกครั้งหนึ่งค่ะ
..ขอบคุณค่ะ..
เบบี้ ^^
5 พ.ค 56
-
จัดส่งหนังสือประจำวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 56
[การจัดส่งหนังสือจะจัดส่งให้เป็นชุดๆเท่านั้น แต่ละชุดที่แบ่งในการจัดส่งจะขึ้นอยู่กับการที่คนอ่านโอนเงินและแจ้งอีเมลยืนยันการโอนเงินของท่านมาให้ทางเบบี้ล่าช้าอย่างไร ทั้งนี้..คนอ่านสามารถอ่านรายละเอียดอื่นๆที่เบบี้ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าได้ที่ประกาศประจำวันศุกร์ที่ 26 เมษา 56 หรือตรวจสอบอีเมลของท่านเพื่ออ่านรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ]
จัดส่งแล้วดังนี้..(การจัดส่งแบบพัสดุธรรมดาใช้ระยะเวลาการเดินทาง 3-10 วันค่ะ)
1) ชุดที่..14 (ตรวจสอบหมายเลขการสั่งจองของคุณทางด้านล่าง)
-78.bowstory2
-170.คำฝอย
-204.lookfa
-119. -
-240.kim2b::teddy
-218.kannooh
-168.I3eaut
-168.I3eaut
-79.joypluss
-208.r4inbow
-254.STARWARS
-87.ferniture
-255.jupajub
-126. -
-183.joobperman
-144.narunarutoboyz
2) ชุดที่สั่งจองและโอนเงินมาล็อตหลังสุด
-242.himecrazy
-113.rimklong
-256.Sirimongkol
-126.-
-257.aimjjj
-258.DevilAngel
-259.-
-262.-
-260.Loveromance
หมายเหตุ:
....การประกาศขึ้นชื่อคนที่โอนเงินและจัดส่งให้เป็นชุดในครั้งนี้เป็นการประกาศขึ้นทางหน้าเวปบอร์ดเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหนังสือได้จัดส่งออกครบทั้งหมดแล้ว // สำหรับคนอ่านท่านอื่นๆที่ติดต่อมาล็อตหลังจากนี้เป็นต้นไปจะได้รับการจัดส่งให้โดยจะไม่ขึ้นชื่อทางหน้าเวปบอร์ดเพื่อยืนยันอีก คุณจะได้รับการติดต่อจากเบบี้เท่านั้นค่ะ....
ขอบคุณค่ะ
เบบี้ ^^
6 พ.ค 56
-
ชุดที่ 11 คะ ได้รับหนังสือแล้วววว
ประทับใจกับการแพภ็คกล่องมากมาย ทั้งหนังสือ ืั้งกล่องมาในสภาพสวยงามมากค่ะ :)
-
ชุดที่ 13 ถึงแล้วนะคะ
แต่.. ไปรษณีย์ทำร้ายค่า พี่เบบี้ห่อมาซะแน่นหนาเหมือนเกราะกันกระสุน
แต่ไปรษณีย์ยังสามารถทำให้ box ขาดได้อีก แถมมุมเยินเล็กน้อยด้วย :katai1:
...อยากจะร้องไห้... อยากให้เวลาเดินช้าๆ ไม่ใช่ล่ะค่ะ :hao5:
เดี๋ยวไปหาซื้ออีกซัก box จะมีใครปล่อยบ้างไหมนี่ ขอให้มีคนปล่อยซักชุดเถ๊อะ
จบจากดราม่าไปรษณีย์ ก็ขอตัวไปอ่านตอนพิเศษก่อนนะคะ เดี๋ยวจะจิตตกมากกว่านี้..
ขอบคุณค่า
-
มาแจ้งว่าได้รับหนังสือตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วค่ะ
ตอนพิเศษสนุกทุกตอนเลย
ขอบคุณค่ะ
-
ขอบคุณสำหรับหนังสือเรื่องนี้ ..มันสนุกมากเลย
ชอบตอนพิเศษมากๆ บัตเตอร์นายเจ๋งมากนะ แรง!!!!!! คิดจะข้ามรุ่นเลยหรอ????
พี่คิว ยังเป็นที่น่ารักเสมอ แอบยิ้มทุกครั้งที่พี่คิวแสดงออกกับเค้ก น่าัรักซะ
ป.ล ขอบคุณเบบี้นะ (ยังรอพี่เมตรนะ)
-
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงง ก็เลยมาหา :mew1: อ่านพี่คิวประมาณ 4 รอบได้แระ ไม่อยากเชื่อว่าจะอ่านได้บ่อยขนาดนี้ มีคนทักว่า "ทำไมแกต้องหอบหนังสือเรื่องนี้ไปมาตลอดวะ" :hao4: คือแบบว่ามันติดมากอ่ะ :hao7: อยากระบาย :hao5:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนมาก ๆ ค่ะ :กอด1:
-
อ่านจบแล้ววันนี้ ครบเครื่องมาก
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกอยากกินเค้กเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบกิน
รอหนังสือต่อไป วันนี้โอนตังค์ไปแล้ว
อยากได้หนังสือสลิ่ม เมตรจังแต่ต้องรอปีหน้า โอ้ยทรมาน :ling3:
-
พึ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ รู้สึกเรื่องนี้ nc แทบไม่มีเลยแต่ก็ไม่เป็นไรครับ ยังอ่านสนุก
ได้ลุ้นกันแทบทุกคู่เลยทีเดียว
ส่วนตัวแล้วชอบคู่ของฟ้ากับทิกเกอร์อะ ดูเหมือนจะเบาสมองกว่าคู่อื่นมากที่สุดละ เหอๆ
-
ค้างงง งึมๆๆ อยากอ่านต่อ...T___T
สรุปแล้ว ชอบค่ะ มีการแทรกปรัชญา การใช้คำ ภาษา แตกต่างจากนิยายของเบบี้ที่เคยอ่าน แต่ก็ยังคงความเป็นเบบี้อยู่
ชอบบทสรุปของทุกคู่ คู่ที่2 คู่ที่3 ก็ถูกคู่อย่างที่ใจเชียร์ไว้ตั้งแต่ตอนอ่านคู่แรก มาผิดนิดนุงตรงตอนอ่านคู่ที่3เซนกัส จริงๆ เชียร์กัสคู่เซนตั้งแต่ตอนอ่าน คู่เค้กคิว นั้นแหละ แต่ไม่คิดว่า พี่หมี จะดีและรักกัส ขนาดนี้ ใจเลยแอบเบนเข็ม อยากให้กัสเลือกพี่หมีซะงั้น แต่ก็นะ จบอย่างนี้ก็ โอเคค่ะ
อยากอ่านต่อมากๆๆๆ อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ แต่ก็พอมั่นใจในความรุ้สึกคิว ที่มีต่อ เค้ก แต่ก็อยากให้เค้กรู้บ้าง เพราะดูๆแล้ว เค้กจะยังไม่ค่อยมั่นใจในความรุ้สึกพี่คิว คู่กี้ฟ้า คู่นี้ค่อนข้าง สมบูรณ์นะ เหลือแต่อยากให้ฟ้าเจอลูกของกี้ด้วย แล้วก็ คู่ เซนกัส อันนี้ก็ อืมม ไม่เต็ม100 กะความรุ้สึกเซน ถึงเซนจะตามรั้งกัสไว้ ทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะตามคนรักคนไหนมาก่อน กัสพิเศษกว่าทุกคนจริง แต่พี่เซนจะเลิกเจ้าชู้มีกัสคนเดียวรึเปล่า อันนี้ก็สงกะสัยต่อปัยยย พล่ามซะยาว จริงๆ คืออยากให้มีต่อนั้นแหละ มิอยากให้จบเบยย อิอิ อยากอ่านตอนเดินแบบ อยากรู้ว่า ถ้าพ่อแม่คิวรุ้เรื่องเค้ก จะทำยังไง อยากรุ้ว่า พี่ซีกับ พี่ก้องลงเอยกันมั้ย จะได้เท่าเทียม ไม่เสียเปรียบ ตระกูลพี่เซนได้กัสไปแทน ส่วนตระกูลกัสก็ได้พี่ซีไปแทน แฟร์ๆ 555
.
.
ขอบคุณ BABY มากๆๆสำหรับนิยายดีๆนะคะ
-
:mc4: สวัสดีปีใหม่ค่ะ
-
:mew6: อ่านถึงตอน 43 ร้องไห้ ร้องไห้ออกมา
คุณทำอย่างนี้กับคนอ่านได้ยังไง คุณทำให้อึดอัดกดดันขนาดนี้ได้ยังไง ให้เห็นในมุมมองเดียว ให้จินตนาการเองว่าอีกฝ่ายคิดยังไงงั้นเหรอใจร้ายมากอ่ะ
คำบรรยายของคุณน่ะมันเป็นเหมือนน้ำผึ้งที่ค่อย ๆ หยดลงพื้นแห้งแล้ง แล้วซึมช้า ๆ ซึมแล้วหวานติดหนึบอยู่ในใจนี่ ทำให้ยิ้มคนเดียว หัวเราะคนเดียว และตอนนี้ร้องไห้คนเดียว บ่นพอใจละ จะรีบอ่านต่อ TT_TT
ปล. ตัวพระกับตัวนายในเรื่องทำให้ปมด้วยเรื่องชอบดูการ์ตูนและอ่านหนังสือที่รู้สึกผิดแปลกของเราลดลงมากเลย ขอบคุณนะคะ
-
:sad11: อ่านจบภาคแรก ตอน50 ร้องให้เป็นเผาเต่า นี่ชั้นจะอินกับนายเอก(เค้ก)ไปถึงไหนกันวะคะ
อึดอัดไปหมด แล้วเหมือนโล่งใจแต่ก็ยังคาใจ
แต่พอได้เริ่มอ่านบทบรรยายของพี่คิวแล้วยิ่งเริ่มหลงรักความตีสของเชฟคนนี้อย่างจัง มันยากที่คนอย่างเค้กจะหลุดรอดได้
คงยอมตายในบ่วงคิวปิด อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่เม้นท์ไม่ได้มันอัดอั้น พอ ๆ กับเค้กที่ต้องร้องให้ในอกพี่คิวน่ะค่ะ
ที่อ่านมาจนถึงตอนที่ห้าสิบไม่ต้องมีบทแบบนั้นแบบนั้นน่ะ >///<
แต่ทุกตอนที่พวกเขาอยู่ไกล้กันเถียงกันสัมผัสกันเค้ารู้สึกว่าใจเต้นหน้าแดงและรู้สึกว่ามันอีโรติคหมดเลยอ่ะค่ะ
รีบอ่านภาคสองต่อก่อนนะคะ ไว้เม้นท์รวบทีเดียวตอนอ่านเสร็จไม่รู้จะทนได้ไหมอ่ะค่ะ :mew2:
-
เค้กอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่องเลยนะ
-
ผิดไหมถ้าจะบอกว่า อ่านจนจบสุดท้ายก็ยังทำใจชอบกัสไม่ได้ ตั้งแต่เรื่องของพี่คิวกับเค้กแล้ว อ่านไปก็ มีความรู้สึกจิ ในใจ กัสนี่ไม่ชอบเลย ไม่ชอบจริง ๆ ระหว่างฝันกับกัส ยังชอบและรักฝันมากกว่าอีก 5555 ถึงจะมาอ่านช้าไป แต่ตอนนี้ยังมีหนังสือไหมอะ
-
:heaven :mew1:
-
ขอบคุณมากมาย สำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ครับ :L2:
-
คิวเค้ก ชอบอ่ะ ชอบมากกกก
ถึงจะไม่มี NC ก็เหอะะะ 555
-
ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องสนุกๆของร้านคิวปิด เบเกอรี่ สนุกดีครับ
-
น่ารักจังเลยค่ะ หยุดอ่านไม่ได้เลย
-
o14 o14
-
อยากได้หนังสือจัง
-
ถ้าเข้าใจไม่ผิด ยังมีหนังสือเหลืออยู่ใช่ไหมคะ :hao7:
คิดถึงคิวและนุ่งเค้กจังเลย :impress2: :z2:
-
:pig4: :pig4:
-
:pig4: :pig4:
-
หน่วงกันฝุดๆ แต่น่ารักทุกคู่เลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะ baby^^
-
:pig4: ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องราวดีๆมาให้ได้อ่านกัน ขอบคุณค่ะ :pig4:
-
เป็นเรื่องที่บุ๊คมาร์กไวีแต่ยังไส่เคยเข้ามาอ่าน
พอใกล้สอบละต้องการหากำลังใจก็เข้าสาอ่าน
อยากบอกว่า สนุกมากกกกกค่ะ ติดงอมแงมจริงๆ
ร้องไห้ได้ในทุกๆคู่ 55555 ความรักมันก็แบบนี้
ราบรื่นสวยงามไปหมดก็ไม่สนุกสิ ~~
ชอบตัวละครของเรื่องนี้ต่ะ ดูมีมิติและเป็นมนุษย์ดี
นิสัยของเรื่องนีีบางคนคือเป็นแบบนั้นจริงๆ เช่น พี่คิว
แม้แต่แฟนก็ไม่อ่อนให้เลยนะคะะ
ขอบคุณ เบบี้ ที่ทำให้เราได้รู้จักครอบครัวนิยายเพิ่มใหมี
ขอให้สร้างสรรค์ผลงานดีๆไปเรื่อยๆนะคะ
-
สนุกมากเลยอะะะ
-
คือ... ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า (ขอโทษด้วยค่ะตอนนี้อินไปแล้ว) เจ็บสุดๆ เลย... คิวแอบชอบเซ็นใช่ม่ะ? ถ้าเป็นแบบนั้นน้องเค้กคงลำบากแย่... คิดแล้วเศร้าอ่ะ :hao5:
-
บอกตามตรงไม่ได้อ่านเลย.
ตอนเเรกก็อ่านเรื่อยๆไปมารู้สึก เรื่องมันไปไม่ถึงไหนซักทีวนอยู่แต่ที่ร้าน
ก็เลยข้าม มาอ่านคอมเม้นแทน. แล้วก็มโนไปเอง5555
-
กลับมาอ่านใหม่ รอบ 2 แล้วค่า ก้อชอบเหมือนเดิม
:mew1: :mew1:
-
เพิ่งอ่านคู่คิวจบ ทำไมมันขมจัง เฮ้อ
-
น่ารักทุกคู่เลยย แต่ชอบคู่คิวกับเค้กสุด ดูไม่หวือหวาธรรมชาติค่อยๆเป็นค่อยๆไปแต่มันน่ารักมากเวอร์ อ่านไปทั้งหน่วง ลุ้น ฟิน ฮู้ยยยย ชอบบบ :o8: :L1: :pig4:
-
:mew1:
-
แจ้งข่าว !!!!! (http://baby.thai-forum.net/t497-topic)
ผู้เขียน: เบบี้
25 ตุลาคม 2558
-
รอรอรอรอรอ ~~~ :3 :z2:
-
รับซื้อ Limited Lovers ค่ะ รับทุกสภาพ
fingyyfoam @ gmail.com
-
แจ้งข่าว !!!!!!!!!!!!!!!!!!
***รายละเอียดเพิ่มเติมที่: http://baby.thai-forum.net/t497-topic
เบบี้
5 พ.ค 59
-
สั่งแล้วจ๋า
-
คิดถึงพี่คิวน้องเค้ก :กอด1:
-
ชอบพี่คิวกับน้องเค้กมากเลยอ่ะ. น่าติดตาม. สนุกดีค่ะอ่านแล้ววางไม่ลง. รวดเดียวเลยคร่าาาาาา
-
โอ้ยเพิ่งเข้ามาอ่านอยากได้หนังสือมากๆๆเลย อยากได้จริงๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1:
-
เรื่องมันวกไปวนมาไปหน่อย อ่านแล้วงง ๆ บ้างในบางช่วง สถานที่เกิดเหตุก็เดิม ๆ แอบน่าเบื่อนิด ๆ จะมีดราม่าก็ดราม่าไม่สุด ตัวละครก็เยอะ แถมได้กันในกลุ่มอีกต่างหาก แต่อ่านนาน ๆ เข้าก็สนุกดีเหมือนกัน เราว่าบทของเค้กเขียนได้ดูไม่แมนเท่าไหร่ ดูจะออกสาวนิด ๆ อีกต่างหาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่เคยมีแฟนมันผู้หญิงมาได้ ยังไงก็ขอบคุณมากที่เขียนมาให้อ่านนะจ๊ะ
:katai3: :katai3: :katai3:
-
คุ้มค่า ครบคู่ ลงเอยด้วยดี
ที่คิวร้ายเพราะสนใจแต่แรกแล้วไหม นึกว่าเค้กจะดีแค่หน้าตา แล้วเป็นไงล่ะ
เข้าหาน้องเองซะงั้น
เค้กน่ารักมากค่ะ ตอนไม่คบก็ยังเม้งได้นะ พอคบแล้ว ทำไมคิวใจร้ายกับน้องบ่อยจัง ฮึ่มมมมม
แต่ยังไงก็ขาดไม่ได้อยู่แล้วเนาะ เค้กน่ารักขนาดนี้ แถมมาเกิดอุบัติเหตุให้ใจหายกันอีก คิวไปไหนไม่รอดจ้า
ฟ้าตอนไปง้อ ยังมีเหวี่ยงอะ 5555 ทิกเกอร์ยอมหนักมาก ทุ่มหนักมาก
สงสารหมี ถ้าชัดเจนแต่แรก อาจจะพัฒนาไหม
เซนเอ้ยยย ถ้ากัสเลือกตัดใจ เซนเป๋แน่
ขอบคุณมากนะคะ จะติดตามเรื่องต่อๆๆไปนะคะ
-
5 น่าติดตามค่ะ
คือพี่ฟ้าเป็นคนตลกอะะ
พี่เซ็นด้วย มือถึงน้องตลอดดดดดดดด
แต่น้อง 18 แล้ว , ก็ไม่พรากผู้เยาว์แล้วดิ
ปลอดภัยไม่ไอเป็นคุกแล้ว 5555555555555555
-
มีความมีผู้หญิงโผล่มาแล้ว !
นี่ก็อยากรู้มาก ความลับเต็มไปหมดเลยค่ะตอนนี้ 5
-
ใครบีบแตร !
ตกใจหมดดดดดดดดดดด
ปล. บ้านนี้ความลับก็เยอะอยู่แล้ว ยังมีบ้านนั้นอีกกกกกกกกก
:ling1: :ling1: :ling1:
-
เริ่มมีฉากคุยกันดีดีแล้วค่ะ :katai2-1:
ปรบมือ ! รู้สึกได้ถึงการพัฒนา
และจริง ๆ แล้วพี่คิวก็น่ารักในมุมของพี่เค้า
5
-
แหน่
มีความตุ๊กตาคู่นะคับนะะะะะะะะะะ
ไม่อยากจะแซว วรั้ย
เป็นเด็กรับใช้คุณคิวนี่ ดีนะ 5
อิจ
-
นี่เราคิดมาตลอดว่าอาฟ้าเมะ
เหย .. นี่มันเดอะแก๊งค์ 555555555555
สงสารคุณอา มากอดปลอบหน่อยย
-
ก่อนอื่นขอสารภาพก่อน ,อ่านยาวววววเลยอ่ะ ไม่ได้เม้นต่อ
คือเรารู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ที่มันพัฒนาขึ้นของตัวละครนะคะ
ความสนิทสนมระหว่างเพื่อนร่วมงาน และที่สำคัญระหว่างตัวน้องเค้กกับพี่คิว .
t t, ตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 49 แล้วค่ะ 5555555555555
เจ็บหัวใจจัง มันพูดยากเนอะ สงสารทั้งน้องเค้กและพี่คิวเลย
ดีใจที่น้องพูดความในใจออกไป คือไม่ว่าผลจะเป็นยังไง
อย่างน้อย ๆ เราได้ความชัดเจนแล้ว ต่อจากนี้ก็ต้องขึ้นกับพี่คิวแล้ว
ว่าอยากจะสานต่อ หรือจบมันตรงนี้ ( มันลำบากใจแหละ เรารู้ แง๊งงงงงงงงงงง )
นับถือความเข้มแข็งของน้องมาก ยังไงก็แล้วแต่ ..
เป็นกำลังใจให้ค่ะ 5
:mew1:
-
อ่ะ โห .. จบแล้ว
จบซีซั่น 1 5555555555555555555
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ ค่ะ
แอบไปอ่านตอนพิเศษของคิวเค้กก่อนอ่ะ
ฮื่ออออออออออออออ ดีมากกกกกกกกกกกกกก
ถึงแม้พระเอกของเราจะซึนตลอดเรื่องยันตอนพิเศษก็เถอะ
แต่พี่คิวก็ดี๊ดีย์ อ๋อยยยยยยยย นะระอ๊ะะ
:mew1: :mew1:
-
แหน่ , บ้านติดทะเลชะมะะะะะะะะะ
แน่ ๆ ฮื่ออออออออ ทำไมพี่คิวน่ารักก
ปล. ตอนอ่านพินัยกรรมคือเศร้ามาก T^T
จะร้องตามคุณอาแล้ว ฮรึก
-
โห , พี่ฟ้าคะ ..
T_____________________T
มีตอนนึงเราสงทิกเกอร์มาก แต่เราก็อยากรู้ด้วยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
แล้วแบบบบ ตอนนี้ ฮื่อออออออออออออ
สงอาฟ้า :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
เคียดดดดดดดดดดดดด
-
ทิกเกอร์น่ารักอ่ะ 55555555555555
คือเชื่อและฟังอาฟ้าม๊ากกกกกกก *เสียงสูงเลย*
แล้วดูดิ ท้องเสียเลยยย 5
แล้วคืออาฟ้าก็มีความซึนแงะ ปากแข็งงง โด่วววววววว
ดีกันเหอะะ คิคิคิ
-
คุณอาาา , stay strong and keep smile นะะ
ทุกคนเป็นกำลังใจให้อา <3
แล้วมันจะดีขึ้น .
:กอด1:
-
ฮื่ออออออออออออออออ
ยินดีด้วย ในที่สุดดดดดดดดดดดดดด
ตอนอาฟ้าดราม่ามาก น้ำตาไหล always
ฮรึก
สงทุกคน t t ,
แต่ลึก ๆ แอบเชียร์ทิกเกอร์ 5555555555555
-
ชอบทุกๆตัวละครเลยค่า
-
คิดถึงเรื่องนี้
-
อ่านต่อจาก เมื่อหลายปี ที่ผ่านมา
-
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อีกกี่ปีกลับมาอ่านก็รู้สึกผูกพันธ์ รู้สึกอบอุ่นแบบบอกไม่ถูกเลยค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ซื้อเล่ม ตอนนั้นคือเราเด็กมากๆยังไม่มีเงินซื้อ555555 ตอนนี้มีกำลังแต่เขาเลิกขายละ อิอิ
หวังว่าคุณนักเขียนจะมีความสุขในทุกๆวันนะคะ ขอบคุณที่ยังเก็บนิยายเรื่องนี้ไว้ในเล้า ให้เราได้กลับมาอ่านอีก
เล้าเป็ดคือที่แรกที่ทำให้เรารักการอ่าน คิดถึงมากๆเลยค่ะ
-
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน โทรฟรี ทุกเครือข่าย ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น. โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที กด *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที โทรฟรี ทุกเครือข่าย ได้ 100 นาที อายุ 1 วัน กด *777*246*117010#
aIS สมัคร โทรไป จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา 99 บาท โทรได้ 60 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 1.54 บาท
aIS สมัคร โทรไป ลาว, กัมพูชา, เมียนมาร์, เวียดนาม
*777*3802*117010#
ราคา 119 บาท โทรได้ 40 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 2.78 บาท
aIS สมัคร โทรไป สหรัฐอเมริกา, แคนนาดา
*777*3803*117010#
ราคา 129 บาท โทรได้ 60 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 2.01 บาท
aIS สมัคร โทรไป เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา 159 บาท โทรได้ 40 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 3.71 บาท
เวลาโทร กด
003 รหัสประเทศ รหัสเมือง เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ กด *121*32# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด *545# โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด 1175 โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
-
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
-
ดีแทค ระบบเติมเงิน #เบอร์เก่า #บางเบอร์
เน็ตไม่อั้น + โทรฟรีทุกค่าย
เร็ว 4 Mbps(เม็ก) ราคา 165 บาท นาน 30 วัน
เร็ว 10 Mbps(เม็ก) ราคา 220 บาท นาน 30 วัน
เบอร์เก่า ค่าบริการ +300 บาท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์ สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์ sarawutcomputer
เปิดทุกวัน 09.00 – 20.00 น.
ท่านเต็มใจมา ร้านฯ เต็มใจบริการ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=878882080917492&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo/?fbid=878882080917492&set=a.496909265781444)
-
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน โทรฟรี ทุกเครือข่าย ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น. โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที กด *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที โทรฟรี ทุกเครือข่าย ได้ 100 นาที อายุ 1 วัน กด *777*246*117010#
aIS สมัคร โทรไป จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา 99 บาท โทรได้ 60 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 1.54 บาท
aIS สมัคร โทรไป ลาว, กัมพูชา, เมียนมาร์, เวียดนาม
*777*3802*117010#
ราคา 119 บาท โทรได้ 40 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 2.78 บาท
aIS สมัคร โทรไป สหรัฐอเมริกา, แคนนาดา
*777*3803*117010#
ราคา 129 บาท โทรได้ 60 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 2.01 บาท
aIS สมัคร โทรไป เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา 159 บาท โทรได้ 40 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 3.71 บาท
เวลาโทร กด
003 รหัสประเทศ รหัสเมือง เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ กด *121*32# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด *545# โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด 1175 โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
-
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
ยกเลิกเน็ต กด *103*0# โทรออก
ดีแทค เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค #โปรเสริมเน็ต
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)
-
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
ยกเลิกเน็ต กด *103*0# โทรออก
ดีแทค เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค #โปรเสริมเน็ต
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)
-
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว True ทรู ระบบเติมเงิน กุมภาพันธ์ 2567
https://www.youtube.com/watch?v=XnPoLNdP9lw (https://www.youtube.com/watch?v=XnPoLNdP9lw)
-
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
ยกเลิกเน็ต กด *103*0# โทรออก
ดีแทค เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค #โปรเสริมเน็ต
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)
-
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน โทรฟรี ทุกเครือข่าย ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น. โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที กด *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที โทรฟรี ทุกเครือข่าย ได้ 100 นาที อายุ 1 วัน กด *777*246*117010#
aIS สมัคร โทรไป จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา 99 บาท โทรได้ 60 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 1.54 บาท
aIS สมัคร โทรไป ลาว, กัมพูชา, เมียนมาร์, เวียดนาม
*777*3802*117010#
ราคา 119 บาท โทรได้ 40 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 2.78 บาท
aIS สมัคร โทรไป สหรัฐอเมริกา, แคนนาดา
*777*3803*117010#
ราคา 129 บาท โทรได้ 60 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 2.01 บาท
aIS สมัคร โทรไป เยอรมนี, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา 159 บาท โทรได้ 40 นาที
เฉลี่ยนาทีละ 3.71 บาท
เวลาโทร กด
003 รหัสประเทศ รหัสเมือง เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ กด *121*32# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด *545# โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด 1175 โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
-
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต กด *103*0# โทรออก
ดีแทค เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)
เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว dtac ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว dtac ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)
ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)
ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)