มาแล้วจ้าาาา สั้นๆค่ะตอนนี้ เป็นตอนปรับความเข้าใจกัน ไปอ่านกันได้เล๊ย ^^EP.8
“พี่เหม…”
“…”
“พี่เหม”
“…”
“ไอ้พี่เหม!”
ผมตะโกนเรียกไอ้พี่เหมเสียงดังเมื่อเห็นว่าพี่มันนิ่งไปไม่ยอมบอกอะไร ท่าทางพี่มันดูเหม่อๆ คิดอะไรอยู่ว่ะ?
“ว่าไง?”
“ยังจะมาถามอีก ตกลงพี่กับผมเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า? แล้วพี่เป็นอะไรจู่ๆก็เงียบไป”
ไอ้พี่เหมยิ้มให้ผม
วันนี้พี่มันเป็นอะไรว่ะ? จะยิ้มบ่อยเกินไปล่ะ
“พลัม…”
“?”
“กูดีใจชะมัด…”
“อะไรของพี่?” ยิ้มให้ผมแล้วก็มาบอกว่าดีใจเนี่ยนะ!? พี่มึงเมากาวหรือเปล่าครับ?
หมับ!
“เฮ้ย! ทำไรของพี่เนี่ย!?”
จู่ๆไอ้พี่เหมมันก็ดีงตัวผมเข้าไปกอด พยายามจะพลักออกแต่ก็ไม่เป็นผล พี่มันกอดผมแน่นมาก…
แล้วคือแบบตอนนี้มันเป็นช่วงเย็นพอดีไง เป็นช่วงที่คนเค้ากำลังออกจากหอไปหาอะไรกินกันพอดีดังนั้นการที่ไอ้พี่เหมมันยืนกอดผมอยู่นี่เลยกลายเป็นเป้าสายตาให้คนที่ผ่านมาผ่านไปมองกันสนุกเลย
“พี่เหม…ปล่อยผมก่อน คนเค้ามอง”
“ก็ปล่อยให้มองไปสิ”
โฮ่ย! ทำไมพี่มึงหน้าด้านจังครับ
“ไม่เอา ปล่อย-”
“กูกับมึงเคยรู้จักกันมาก่อน” ไอ้พี่เหมกระซิบเสียงเบาข้างหูผมทำให้ผมที่กำลังจะเอ่ยปากบอกให้พี่มันปล่อยชะงักทันที
“…จริงเหรอ?” ผมถาม
“อื้ม”
ไอ้พี่เหมถอดกอดออกไป ก่อนที่จะถามออกมา
“ไปเดินเล่นกันหน่อยไหม?”
ไม่ต้องรอให้ผมตอบไอ้พี่เหมก็จับมือผมแล้วออกแรงดึงให้เดินตามไปด้วยกัน เราเดินกันไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นจนกระทั่งพี่มันพาผมไปแวะตรงสนามเด็กเล่นเล็กๆที่อยู่ในละแวกนั้น มีเด็กที่กำลังเล่นอยู่ในนั้นประมาณสี่ถึงห้าคน ไอ้พี่เหมจูงมือผมไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งที่ไม่ไกลจากชิงช้ามากนัก พี่มันนั่งลงผมก็เลยนั่งลงตาม
โดยที่พวกเรานั้นยังไม่ได้ปล่อยมือออกจากกัน…
“เมื่อกี๊ที่พูดหมายความว่ายังไงเหรอ?” เป็นผมที่อดถามออกมาไม่ได้ เพราะไอ้พี่เหมมันเอาแต่มองไปข้างหน้าไม่คิดจะพูดอะไรเลยสักคำ
“ก็ตามที่ได้ยินนั้นแหละ”
“ตอนไหนเหรอ? พี่บอกได้หรือเปล่า?” ผมถามเพราะนึกไม่ออกจริงๆว่าเคยรู้จักกับไอ้พี่เหมตอนไหน
“…ตอนที่กูกำลังแย่ล่ะมั๊ง แล้วตอนนั้นมึงก็เข้ามาช่วยกูเอาไว้ได้พอดี”
“…”
“ถึงแม้ว่ามึงแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็เถอะ”
“อ้าว”
ยังไงว่ะ? ไหนพี่มันบอกว่าผมเคยช่วยมันไว้ แต่ก็บอกว่าผมแทบไม่ได้ทำอะไร งงสัดๆ?
“แต่คำพูดกับรอยยิ้มของมึง…”
“…”
“เคยช่วยกูเอาไว้จริงนะ”
“คำพูด? รอยยิ้ม?”
“หึหึ นึกไม่ออกจริงๆเหรอ?”
“ก็นึกไม่ออกนี่ไงถึงได้ถาม”
เป๊าะ!
“โอ๊ย!”
ไอ้พี่เหมมันดีดหน้าผากผม! อะไรของพี่มัน? นี่กูทำอะไรผิดครับ?
“พี่ดีดหน้าผากผมทำไมเนี่ย?” ถามพร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ
“อยากดีด”
ฟวยยยยยยย!
“งั้นถ้าผมอยากต่อยพี่มั่งคงจะไม่เป็นไรสินะ”
“ลามปามนะมึง”
กึก!
คุ้น…
ทำไม…จู่ๆผมถึงรู้สึกเหมือนกับว่าเคยได้ยินประโยคแบบนี้มาก่อนเลยนะ…
หรือไอ้พี่เหมมันจะเคยพูดกับผมมาก่อน?
“เป็นอะไร?” ไอ้พี่เหมถามเมื่อเห็นว่าผมเงียบไป
“พี่เคยพูดประโยคอะไรทำนองนี้กับผมหรือเปล่า?”
ไอ้พี่เหมชะงัก และถ้าผมไม่ได้ตาฝาดไปเมื่อกี๊ผมเห็นแววตาของพี่มันแสดงออกถึงความดีใจออกมาวูบหนึ่ง…
“อื้ม กูเคยพูดกับมึง”
“จริงเหรอ? ทำไมผมจำไม่ได้เลยว่ะ?”
“ไม่แปลกหรอก ก็กูเปลี่ยนไปมาก”
“งั้นพี่ก็บอกมาสักทีสิว่าเราเคยรู้จักกันได้ยังไง” ผมบอกเพราะเห็นว่าไอ้พี่เหมมันไม่ยอมพูดวามจริงออกมาสักมี อ้อมไปอ้อมมาอยู่นั่นแหละ
“กูกลัวมึงจะโกรธกู…ถ้ามึงรู้ความจริง”
ไอ้พี่เหมพูด สีหน้าไม่ได้ยิ้มอีกต่อไป…แต่กลับแสดงออกถึงความกังวล…
“หึหึ พี่เคยทำอะไรไม่ดีกับผมไว้หรือไง?” พยายามพูดติดตลก บีบมือพี่มันเบาๆเพื่อให้พี่มันคลายความกังวลลง
“มึงยังจำผู้ชายที่ชื่อเหมันต์ได้ไหม?”
เหมันต์…
อย่างงั้นเหรอ?...
ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ…
พี่ชายข้างบ้านที่ผมอยากเป็นเพื่อนด้วยมาโดยตลอด…คอยเป็นห่วงพี่เค้าเวลาที่ครอบครัวของเขาทะเลาะกัน เพราะเวลาที่ครอบครัวของเค้าทะเลาะกันนั้น พี่เหมันต์จะทำหน้าเศร้า…แววตาของเขาไม่สดใสจนผมอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้…
“พี่จะบอกว่า…”
“…”
“พี่คือ..."
"..."
"พี่เหมันต์?”
“ใช่แล้วล่ะ”
“…”
“ชื่อจริงของกูคือเหมันต์”
“พี่ล้อผมเล่นหรือเปล่า?...”
“กูไม่ได้โกหก”
“ล้อเล่นแบบนี้ผมโกรธนะพี่เหม”
ก้มหน้าหลบสายตาของไอ้พี่เหม รู้สึกได้เลยว่าเสียงของตัวเองกำลังสั่น ความทรงจำเมื่อห้าปีที่แล้วย้อนกลับมาในหัวราวก็เครื่องเล่นที่ถูกกรอกลับ
ตอนนั้น…
ผมรู้สึกดีกับพี่เหมันต์มากๆ…
ผมก็บอกไม่ถูกหรอกว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไร…
รู้แค่ว่าผมเป็นห่วงพี่มันเวลาที่ครอบครัวของเขาทะเลาะกัน…
รู้สึกดีที่พี่มันมันยิ้มให้…
รู้สึกดีเวลาที่พี่เหมันต์ลูบหัว…
รู้สึกน้อยใจที่พี่มันให้ความสนใจกับเพื่อนมากกว่าผม…
ผมเพิ่งมาเข้าใจเอาตอนหลังว่าความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเป็นเพราะว่า…
ผมอาจจะชอบพี่เหมันต์ไปแล้วก็ได้…
แต่รู้ตัวว่าชอบแล้วยังไงล่ะ? ยังไงผมกับพี่มันก็ไม่มีทางมาเจอกันได้อีกอยู่ดี…ผมเลยพยายามมองข้ามความรู้สึกนั้นไปแล้วหันมาสนใจผู้หญิงแทน และมันก็ได้ผล…
ผมลืมความรู้สึกนั้นไปได้และเริ่มมีแฟนตอนม.5 ซึ่งนั่นก็คืออิ้ง แน่นอนว่าผมกับอิ้งจบกันไม่สวย แต่ก็ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้ผมลืมความรู้สึกชอบนั้นไปได้
แต่ตอนนี้…
ความรู้สึกนั้นกลับถูกดึงกลับขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อเหมันต์…
“กูไม่ได้ล้อเล่น” พี่เหมย้ำ
“...”
“พลัม…”
“จริงเหรอ?...”
“…”
“พี่คือพี่เหมันต์จริงๆเหรอ?”
“อื้ม”
“…”
“มึงโกธรกูหรือเปล่า…ที่ตอนนั้นกูไม่ได้สนใจฟังในสิ่งที่มึงกำลังจะบอก ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของมึงเลย…”
ยอมรับว่าตอนนั้นผมรู้สึกแย่มาก…พี่เหมันต์ที่ปกติจะรีบกลับบ้านมาเล่นกับผมติดเพื่อนจนแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงที่แม่บอกว่าครอบครัวของเรากำลังจะย้ายบ้าน…ผมช็อคมากตอนที่ได้ยินแม่บอก
ไม่อยากจากกับพี่เหมันต์…
นั่นเป็นความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมา…แต่ผมก็แย้งอะไรไม่ได้จึงพยายามไปบ้านพี่เหมันต์บ่อยๆเพราะอยากจะอยู่กับพี่มันให้นานขึ้น แต่กลับไม่เจอ…
เพราะพี่มันเอาแต่ไปอยู่ที่บ้านเพื่อน…
เจอหน้ากันทีก็กลายเป็นแค่คำทักทายถามไถ่กันแค่นั้น…
จนกระทั่งก่อนที่พี่เหมันต์จะเดินทางไปเที่ยวหัวหินซึ่งตรงกับวันที่ผมย้ายบ้านพอดี ผมพยายามที่จะไปบอกพี่เค้าแต่พอเห็นสีหน้าท่าทางที่ดูตื่นเต้น ดีใจของพี่เหมันต์ที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนนั้น
ผมก็บอกไม่ลง…
เพราะเรื่องของผมมันอาจจะทำให้พี่เหมันต์หมดสนุกก็ได้…
“ผม…ไม่ได้โกธรพี่เลย…”
ใช่…ผมก็ไม่เคยโกธรพี่มันเลย…เพราะผมก็เป็นฝ่ายผิดเองด้วยที่ไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับพี่เหมันต์ตั้งแต่แรกแถมยังจากมาโดยที่ไม่ได้บอกลาเลยสักคำ
“…”
และยิ่งพอห่างกันแล้วผมกลับรู้สึก
คิดถึง…
“แต่ผมรู้สึกคิดถึงพี่เหมันต์มากๆเลยต่างหาก…”
“พลัม…”
“ผมได้แต่คิดว่าทำไมตอนนั้นผมถึงไม่ยอมบอกพี่ไปนะ…”
“…”
“ถ้าผมบอกพี่ออกไป…บางทีตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้จากกันแบบนี้ก็ได้”
“…”
“แต่ก็ได้แต่คิดไง พราะมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว…”
“…”
“ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาเจอพี่อีกครั้ง…พี่เหมันต์”
ไอ้พี่เหมค่อยดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้งและคราวนี้ผมก็ไม่ได้พลักออกแต่อย่างใด…
“กูขอโทษนะ…ที่ตอนนั้นทำตัวไม่ดีกับมึง”
“…ก็จริงนั่นแหละ”
“หึหึ มึงรู้ไหมว่ากูรู้สึกผิดมาตลอด…”
“…”
“ตอนที่เห็นมึงอีกครั้งตอนที่มาสารภาพรักกับกูตอนนั้นกูดีใจโคตรๆ อยากจะเข้าไปคว้าตัวมึงมากอดแบบนี้แต่ทำไม่ได้ เพราะกูรู้ว่ามึงคงจำกูไม่ได้หรอก” พี่เหมพูด ผมแอบยิ้มกับคำพูดของพี่มัน
“พี่หล่อขึ้นตั้งเยอะ…”
“หึหึ”
“มิน่าล่ะว่าทำไมพี่ถึงตอบตกลงคบกับผมง่ายๆ ตอนนั้นเล่นเอาผมงงไปหมด”
“ตอนนี้ก็หายงงแล้วไง”
“ปล่อยผมได้แล้ว”
ไอ้พี่เหมยอมปล่อยผมง่ายๆ แต่ก็มิวายคว้ามือผมมากุมเอาไว้เหมือนเดิม ปลายนิ้วเรียวยาวของพี่มันเกลี่ยมือผมเล่นเบาๆ ผมมองไปที่มือของผมกับไอ้พี่เหมที่จับกันอยู่ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะพยายามทำเป็นไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แต่ในใจลึกๆของผมมันก็ร่ำร้อง…
…ว่าต้องการเจอกับพี่เหมันต์อีกครั้ง
ไม่คิดว่าบทจะเจอก็เจอได้ง่ายๆ
ทั้งตกใจ…
และก็ดีใจชะมัด…
“นี่พลัม…” เสียงไอ้พี่เหมเรียก ผมเลยหันไปมองก็พบว่ามันกำลังมองมาที่ผมอยู่
“หืม?”
“มึงพอจะรู้ความรู้สึกของกูที่มีต่อมึงใช่ไหม?”
“…”
“แล้วมึงล่ะรู้สึกยังไงกับกู?”
“ผมเอง…ก็ยังไม่รู้หรอก…ถึงแม้ว่าเราจะเคยรู้จักกันมาก่อนแต่นั่นมันก็นานมากแล้วนะ ถ้าในฐานะพี่เหมไม่ใช่ฐานะพี่เหมันต์ ผมเองก็เพิ่งจะรู้จักพี่ได้แค่อาทิตย์กว่าเอง”
“ก็จริงของมึง”
“แต่ว่านะ…ที่ผมยอมให้พี่จีบ…ยอมให้จับมืออยู่แบบนี้ อีกไม่นานผมก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับพี่ก็ได้”
“หึหึ อย่าพูดให้ความหวังกูสิ”
“เปล่าสักหน่อย”
เพราะผมเองก็เคยชอบพี่ต่างหากล่ะ ความรู้สึกเมื่อตอนนั้นมันยังไม่ได้หายไปจากใจของผมหรอกนะ…
“กลับกันได้แล้วมั๊งพี่ นี่ก็ห้าโมงกว่าแล้ว”
ผมบอก ไอ้พี่เหมก็พยักหน้าตกลงก่อนที่จะเดินมาส่งผมที่หน้าหอเหมือนเดิม พอมาถึงหอพี่มันค่อยยอมปล่อยมือของมันออกจากมือผม
“พลัม” พอผมจะหันหลังเดินขึ้นหอไอ้พี่เหมก็เรียกเอาไว้อีก
“หืม?”
“กูรักมึงนะ”
“พะ พูดอะไรของพี่เนี่ย!?”
จู่ๆไอ้พี่เหมก็บอกรักผมเล่นเอาผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่รีบเดินเข้าไปเอามือปิดปากพี่มันไว้ แต่ไอ้พี่เหมก็เอามือของผมที่ปิดปากตัวเองอยู่ออก ก่อนที่จะพูดต่อ
“มึงเองก็รีบๆรักกูได้แล้ว”
ไอ้พี่เหมพูดยิ้มๆพร้อมกับเอามือลูบหัวผมเบาๆ แล้วผละออกเดินตรงไปที่รถของตัวเองแต่ก็ยังหันมายิ้มให้ส่งท้ายก่อนที่จะสตาร์ทรถขับออกไป ปล่อยให้ผมยืนนิ่งไม่ได้ขยับไปไหนพร้อมกับใบหน้าที่เห่อร้อนจนตัวเองยังรู้สึกได้
นี่ผมต้องหน้าแดงแน่ๆเลย…
ไอ้พี่เหมใครใช้ให้มึงแอทแทคใส่กูวววววววว!
TBC. N.EP
------------------------------------------------------------------------->TALKKKKKKKKKKKKK : ตอนนี้สั้นมากกกกก พอดีคนเขียนง่วงนอนมาก เบลอๆ แต่ก็อยากแต่งให้จบตอนเลยไม่อยากค้าง ก็เลยได้ออกมาเท่านี้ เป็นตอนปรับความเข้าใจไปแล้วกันเนอะ5555 ตอนนี้ก็เฉลยความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายไปแล้วนะคะ ตอนต่อๆไปทั้งสองก็จะเริ่มสวีทวีดวิ้ว(คือไร?)กันมากขึ้น555
ขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงตอนล่าสุด เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนออกมาได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆค่ะ อาจจะยังออกมาได้ไม่ดีเท่าไรนักแต่คนเขียนก็จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นแน่นอนค่ะ กราบงามๆอีกสักครั้ง U.U NAY_Y_Story แปะเพจ
เจอกันตอนหน้าค่าาาา ^^