“หลับง่ายไปมั้ยเนี่ย........จ้าว..มึงไปอาบน้ำก่อนมั้ย........กินยาก่อนมั้ยจะได้หลับสบาย.......จ้าวๆ” เสียงพี่มันใกล้มาก ถ้าเดาไม่ผิด ปากต้องเฉียดใกล้อยู่ข้างหูนี่แหละ ผมแกล้งหลับเพราะอยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง
ถ้าพี่มันแอบแต๊ะอั๋งผมแสดงว่ามันต้องแอบชอบผมเหมือนที่ผมคิดไว้แน่ๆ มีอย่างที่ไหนมาใกล้มาอ่อยขนาดนี้ทั้งๆ ที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ถ้าพี่มันไม่ทำก็แสดงว่าผมคิดไปเอง
“จ้าว..มึงไม่ตื่นมากินยาหน่อยเหรอ...เฮ้อ สงสัยคงจะเหนื่อยจริง งั้นก็พักเถอะ เดี๋ยวจะได้ตื่นมาลุยงานต่อ” จบประโยคทุกอย่างก็เงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็มีเสียงเปิดและปิดประตูตามมา ผมแอบหรี่ตามองทั่วห้องก็ไม่เห็นเงาของพี่บั๊คมันแล้ว
“เฮ้อ นี่กูคิดไปเองเหรอวะเนี่ย สลัดผักมันไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย สงสัยจะแตกเนื้อสาวแล้วแรดไปเองซะแล้วกู” ผมบ่นตัวเองแล้วหลับตาลงอย่างหงุดหงิด
...มึงก็น่าจะคิดซะหน่อยนะสลัดผัก ไม่เห็นเหรอว่ากูก็น่าล่อจะตาย
“จ้าวตื่น” เสียงปลุกพร้อมกับท่อนแขนที่ถูกเขย่า
“อืออ”
“จ้าวตื่นเร็ว เดี๋ยวจะตั้งโต๊ะแล้ว ต้องกินข้าวตรงเวลา” อะไรของมึงว๊า โต๊ะมันก็ต้องตั้งสิ มึงจะให้โต๊ะนอนหรือไง
“งืมๆๆ แจ๊บๆๆ”
“ไอ้ห่านี่ นอนน้ำลายไหลด้วย ฮู้ กูน่าจะอยู่ก่อนแต่งซักสองปีแล้วค่อยตัดสินใจว่าควรรักหรือไม่รักมึงนะเนี่ย” อะไร ใครรักใครที่ไหน ใครแต่งกับใครวะ
...แต่งงานเหรอ?
ใช่! ผมเคยแต่งงาน!
“อือ..พี่บั๊ค..หรือผีวะ” ผมปรือตามอง มันไม่ชัดเท่าไหร่ก็เลยไม่แน่ใจ “อ๋อ พี่บั๊คเมียจ้าว” เจ้าสาวเสื้อตัดอ้อยของผม พี่มันยังหล่อน่าล่อเหมือนเดิม “คิดถึง..” ผมไล้นิ้วไปตามโครงหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้แค่เพียงลมหายใจกั้น
“..มาไม้ไหนอีกล่ะเนี่ย” คุยกับผัวแบบนี้ได้ไงวะ คนรักกันจะต้องใช้ไม้ใช้มีดทำไมล่ะ
“จูบจ้าวหน่อย จ้าวคิดถึงเมีย” ผมโน้มคอเมียรักเข้ามาใกล้จนปลายจมูกสะกิดกันเบาๆ “รักจ้าวมั้ยครับ..” เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยริมฝีปากก็สัมผัสกันแล้ว ดูพี่บั๊คจะตื่นอยู่หน่อยๆ แต่ในที่สุดก็โอนอ่อนตามใจผม
“รักสิครับ รักจนอยากจะ..” พี่มันมองผมเหมือนจะกลืนกินลงคอถ้าทำได้
“จะทำไมเหรอ จะกินจ้าวเหรอ” ผมแลบลิ้นเลียไปตามรอยแยกของริมฝีปากหยักลึก พี่มันหรี่ตาเจ้าเล่ห์ใส่แล้วแลบลิ้นมาหยอกล้อกับปลายลิ้นผมเบาๆ
“อย่ายั่วสิครับ เดี๋ยวแผนแตกกันพอดี”
“แผนอะไรอะ นี่คิดจะหลอกอะไรจ้าว หืมม” ผมเปลี่ยนจากเล่นลิ้นเป็นดูดกัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนของพี่มันแทน “จ้าวไม่ถือโทษไม่โกรธเรื่องอื่นใดอะไรทั้งนั้น แต่ขอแค่เรื่องเดียว”
“เรื่องอะไรครับ”
“อย่าโกหกจ้าวนะ พี่จะทำอะไรก็ได้แต่ต้องไม่โกหก” ดูพี่มันจะช็อคนิดๆ แต่ก็รับปากผม “ไม่โกหกหรอกครับ รักก็บอกว่ารัก รักใจจะขาด” แล้วลิ้นผมก็ถูกดูดเข้าปากพี่มัน เราบดจูบกันอย่างเร่าร้อน ริมฝีปากผมแทบจะหลอมละลายไปกับความวาบหวามที่ได้จากร่างหนา เสียงดังจ้วบจ้าบยิ่งเร่งให้เรารุมร้อนขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวีคูณ
“พอก่อนนะจ๋า เดี๋ยวพี่หยุดไม่ได้” อ้อนซะหวานขนาดนี้มึงจะให้กูหยุดหรือจะให้กูคึกกว่าเดิมครับเมีย เครื่องกำลังติดจะมาปิดสวิชต์ตอนนี้มันจะได้ไงวะ
ผมงอแงใส่พี่มันทันที “อือ ไม่เอาไม่หยุด พี่บั๊คไม่รักเหรอ ไม่รักจ้าวเหรอ ไม่อยากใกล้จ้าวใช่มั้ยล่ะ รังเกียจจ้าวไม่รักจ้าวแล้วใช่มั้ย” ผมไม่เห็นหน้ามันหรอกนะเพราะผมหลับตา ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่หลับตา รู้แต่ว่าตอนนี้มันลืมไม่ขึ้น
“ชู่วว ไม่ต้องอ้อนครับ เดี๋ยวพี่ช่วย” พี่มันใช้มือข้างเดียวนวดขมับเพื่อกล่อมไม่ให้ผมงอแง แต่ที่ขนลุกจนหมดตัวเพราะมืออีกข้างของพี่มันล้วงต่ำลงไปใต้สะดือ
“อึก อืออ พ..พี่ ซี้ดด อะ..อื้ออ” พี่บั๊คล้วงลึกเข้าไปคลึงเคล้าลูกชายแล้วล้อเล่นจนมันฮึดสู้เต็มฝ่ามือหนา จะหยิบมือมันออกก็กำลังฟิน แต่จะนอนแบให้มันบี้ก็ดูไม่งามก็เลยได้แต่ปัดป่ายมือมันไปมาพอเป็นพิธี
“น่ารักจริงๆ นะมึง” อยากลืมตาดูว่าหน้าพี่มันตอนพูดว่าผมน่ารักจะเป็นยังไง จะเหมือนตอนที่บอกรักผมรึเปล่า
“พี่บั๊คก็น่ารัก” ผมยิ้มหวานทั้งที่ยังหลับตา “อื้ออ อื้อๆ อ๊ะ อื้ออ” พี่บั๊คเร่งมือจนผมทนไม่ไหว “ซี้ดดด อ่าส์ แฮ่กๆๆ”
“หึหึ ไอ้หมาน้อยเอ้ย นอนซะเดี๋ยวมาปลุกใหม่” ปลุกใหม่ก็ต้องเสร็จใหม่งั้นเหรอ หรือหมายถึงปลุกตื่น หรือยังไงแน่ โว๊ะ นอนดีกว่าว่ะ คิดเยอะปวดสมอง
ผมหลับไปอีกสักพักก็มีคนมาเรียกอีก “จ้าว ตื่น” แน่ะ มาปลุกกูอีกล่ะสิ มาซิๆ สแคลชกูเลย กูยอมมม
“ไอ้จ้าว ตื่น!!” อะไรคือหัวกูโดนตบจนไฟฟ้าสถิตขึ้นแปล๊บๆ “ตื่น ตื่น ตื่น” แม่งตบสามทีซ้อนนี่ไม่ไหวนะเว้ย
“โอ๊ย พี่บั๊ค ตบทำไมเนี่ย” ผมลุกมานั่งโวยวาย กำลังฝันดี ฝันว่า..
เอ่อ..
ฝันว่าอะไรวะ!??
เชี่ยลืมอีกแล้ว!!!
“ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า เดี๋ยวทุ่มครึ่งจะได้ลงไปกินข้าวกัน” ผมเงยหน้ามองสามีนายจ้างที่สวมหัวโขนทศกัณฑ์ นี่มึงจะหน้าดุแข่งกับร็อตไวเรอร์หรือไงสาดดด
“เออๆ ตื่นก็ได้วะ บอกดีดีก็ได้ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือเลย” ผมลูบหัวตรงที่โดนตบแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
“เสื้อผ้าของใช้อะไรก็เตรียมไว้ในห้องน้ำแล้วนะ ไม่ต้องเดินโทงๆ ออกมาโชว์หนอนน้อยล่ะ กูขี้เกียจล้างตา” ไอ้ห่าพี่บั๊ค มึงจะดักคอกูทำไม นี่ก็หวังจะอ่อยซะหน่อยเผื่อกูจะได้ผัวรวย เฮ้อ หมดไปอีกวิธีแล้วว่ะ
ผมถอดเสื้อผ้าเพื่อเตรียมอาบน้ำ ในจิตก็ยังนึกถึงฝันฟินๆ ของตัวเองที่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าฝันอะไรกันแน่
แต่ทันใดนั้น!!
ผ่าง!!!!!
“เชี่ยย กูฝันเปียก!” ผมก้มมองกางเกงในที่ชื้นไปด้วยน้ำสีขุ่นๆ ลื่นๆ “ฝันอะไรก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าฟินจนน้ำกระฉูด ไอ้สัด ชักเยอะละไอ้จ้าว” ผมก้มหน้ารับกรรมทนซักกางเกงนอกกางเกงในของตัวเองจนสะอาดเอี่ยมจากนั้นก็อาบน้ำสระผม
ห้องน้ำมึงนี่เท่าห้องรับแขกบ้านกูเลยพี่สลัด คือบ้านมึงถ้าไม่มีใช้จีพีเอสก็คงมีหลงกันมั่งแหละ ห้องนอนก็นะ เวอร์วังอลังการล้านแปดเอเคอร์มาก มึงสร้างไว้ให้คนอยู่หรือให้ยักษ์ถามจริง
“อาบน้ำอะไรนานนักหนาวะ แม่กูรอกินข้าว” บ้านคนรวยนี่ก็ติงต๊อง ท้องไม่ได้ติดกันซะหน่อย หุงๆ แกงๆ ไว้ในครัว ใครหิวก็ไปตักแดกใครแดกมันไม่เป็นเหรอวะ วุ่นวายจริง
“เสร็จแล้วๆ ขี้บ่นว่ะ” ผมแต่งตัวเสร็จพอดี พี่มันเอาชุดใครมาให้ใส่ก็ไม่รู้ พอดีเป๊ะ กางเกงผ้าสีขาวขายาวกับเสื้อคอโปโลสีขาวฟ้า มึงจะให้กูไปตีกอล์ฟรึไงฟระ
“ผมยังไม่แห้ง มานี่เดี๋ยวเช็ดให้” มันลากผมไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แม่จ้าว แม่ของจ้าว กูพึ่งมาสังเกตว่ากระจกแม่งใหญ่เกือบเท่าห้องน้ำในห้างเลยเว้ย มึงจะส่องให้เห็นถึงลำไส้ใหญ่หรือไง ทำไมไม่เจียดเงินส่วนนี้ไปให้เด็กยากไร้บ้างวะ “บ้านกูบริจาคให้องค์กรการกุศลทุกปี ปีละสิบที่ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้าน” เสือกรู้อีกว่ากูคิดอะไร “รู้สิจ้าว หน้ามึงเวลาสอดรู้สอดเห็นหรือตื่นเต้นตื่นตูม มันออกมาหมดแหละ”
“รู้ขนาดนี้อยากมาเป็นคนรู้ใจปะ” ผมมองพี่มันผ่านกระจก
“ได้เหรอ” สวนกูทันควันเลยนะ เดี๋ยวนี้แม่งคล่องว่ะ แบบนี้ต้องอัพเลเวล
“เมียเผลอแล้วเจอกัน ไม่มีใครให้ฟัน จ้าวพร้อมเสมอ มั๊วะๆๆ” ผมแหงนหน้าอ่อยมันจนพี่บั๊คต้องถอยหนี
“กูจะไม่มีวันชนะมึงเลยใช่มั้ยไอ้จ้าว” ผมหัวเราะแล้วก้มหน้าลงเป็นปกติ
“พี่ก็ใช่ย่อยมั้ย หว่านเสน่ห์ใส่ผมก่อนทำไมล่ะ แฟนก็มีแล้ว” ผมบ่น ส่วนพี่มันก็เช็ดผมให้ต่อ “ล้อเล่นกับหัวใจคนอื่นมันไม่ดีนะพี่ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมแล้วเค้าหลงชอบพี่ขึ้นมาจริงๆ พี่จะเลวทันทีเลยนะ”
“ก็รู้ว่าเป็นมึง มึงที่ใจแข็งไงจ้าว มึงไม่หลงใครง่ายๆ หรอก ใช่ปะ” หน้ามันขรึมขึ้นนิดหน่อย
“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอพี่ จะได้ไม่มีใครเจ็บ” ผมแย่งผ้ามันมาเช็ดหัวเองแบบเร่งความเร็วขึ้นสิบเท่า เช็ดช้าแบบนั้นเมื่อไหร่จะแห้งวะ “ป่ะ แห้งแล้ว” สางผมให้เข้าที่เข้าทางแล้วลุกเดินนำไปที่ประตู
“เดี๋ยวจ้าว” ผมหันไปหาเร็วไปหน่อยจนชนกับอกมัน “สวีตกันลงไปดีกว่า จะได้เหมือนข้าวใหม่ปลามัน” พูดจบปุ๊บก็เลื้อยมือเข้าเอวกูปั๊บ มึงจะเอาออสการ์สาขาแสดงนำชายเหรอสลัด แต่กูก็ใช่ย่อยนะ กูก็โอบสองมือเข้าเอวมันเลยล่ะ หุหุ เรื่องแสดงขอให้บอก จ้าวเรียนนิเทศนะฮะ เจ้าพ่อแอ๊คติ้งตัวจริงเสียงจริง
“เยอะไปมั้ยจ้าว เดี๋ยวแม่กูหัวใจวาย” เดินลงมาจะถึงบันไดขั้นสุดท้ายอยู่แล้วพึ่งมาขัดตอนนี้ แหม่ ฟินก็บอก
“ตอนบ่ายแม่ก็เห็นไม่ใช่เหรอ อันนี้แค่จิ๊บๆ ถ้าเทียบกับอุ้ม” ผมยักคิ้วใส่แล้วเปลี่ยนเป็นคล้องแขนซบไหล่พี่มัน “งั้นเอาท่านี้ละกัน กรุบกริบน่ารักวัยหวาน” พี่บั๊คหัวเราะเบาๆ แล้วดันหัวผมเล่น
จะผิดมั้ยนะ ถ้าบางจังหวะก็มีแอบคิดว่าอยากเป็นเจ้าของตัวจริงของมัน
พอมาถึงห้องกินข้าว ห้องนี้ก็หรูไม่น้อยหน้าใครเลยนะ เหมือนที่เห็นในหนังในละครนั่นแหละ ชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้มาเสนอหน้าขึ้นโต๊ะกับเค้าหรอก
“บ้านนี้ตั้งโต๊ะทุ่มครึ่ง ถ้าจะมาอยู่คงต้องรักษาเวลานะ” แม่พูดผ่านๆ ไม่ได้เจาะจงมองใคร “มาแล้วก็นั่งสิจ๊ะ จะยืนค้ำหัวผู้ใหญ่ทำไม ที่บ้านไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่มาคอยบอกเหรอ” นั่นๆๆ แม่สามีแผดรัศมีคุกคามระดับแปด นี่คงตั้งหลักได้แล้วสินะ
“ก็เนี่ยล่ะครับแม่จ๋า” ผมตอบพลางนั่งเก้าอี้ที่พี่บั๊คเลื่อนให้ “จ้าวก็เลยต้องมาอยู่ที่นี่รบกวนให้แม่สั่งสอนจ้าวแทนพ่อกับแม่เพราะสองคนนั้นถึงจะนิสัยดีไม่ดูถูกดูแคลนใครแต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาสอนจ้าวหรอกครับ” ผมยิ้มหวานจนแม่ต้องยิ้มฝืนๆ มาให้
“อยู่ที่นี่ต้องรักษามารยาท โต๊ะกินข้าวเค้าไม่คุยกัน” แม่เริ่มตักข้าวเข้าปาก แสดงท่าทางแบบผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว
“ได้ครับ” ผมยิ้ม “จ๋าก็ตักกับข้าวให้แม่สิครับ แต่ครั้งหน้าจ้าวจะไม่เตือนด้วยคำพูดแล้วนะเดี๋ยวแม่จะดุหาว่าไม่รักษามารยาทแต่จ้าวจะบีบมือจ๋าแบบนี้นะครับ” ผมสอดมือเข้าประสานกับมือพี่บั๊คแล้วบีบแรงๆ พลางส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ พี่บั๊คสะดุ้งนิดๆ จากนั้นก็หันมองผมแบบเอ็นดู
แหม่ แหลเนียนเหมือนกันนะพี่นะ เอาซะเหมือนเลยอะ
“อะแฮ่ม” แม่กระแอมเบาๆ ผมจึงดึงมือออกมา “ทานข้าวได้แล้วตาบั๊ค”
“ครับ” พี่บั๊ครับคำแล้วตักกับข้าวใส่จานให้ผมก่อนจะตักให้ตัวเอง ผมหันมองพี่มันแล้วยิ้มบางๆ ถึงจะเป็นการแสดงแต่ทำไมถึงรู้สึกอินจริงวะ
ไม่ได้การละ ผมต้องจัดกระบวนความรู้สึกใหม่เพื่อต่อสู้กับความแรดในตัวเอง ไม่งั้นอีกหน่อยลำบากแน่
*************************