เฮ้ย STAR เด๋วโดน เด๋วโดน กำลังจัดหน้าอยู่ว้อยยยย เร่งเจง ๆ มะให้กำลังใจเค้าเรยย
ได้ยินมาว่าตัวจริงคุณแบะน่ารักมากๆๆๆๆ เด๋วไว้วันหลังจะเอารูปที่เค้าบอกว่าสวยประมาณนี้มาให้ดู
สวยเหมือนเราเรยย 555
ต่อเลยดีก่า เด๋วโดน STAR ตบ กัว ๆๆ
...........................................................................
เอกกับฉันออกมาทำงานกันแต่เช้า กินโจ๊กด้วยกันเสร็จแล้วเราก็แยกย้ายกันไป ฉันเห็นยัยแมรี่และอีเบิ้ม ยืนรอลิฟท์อยู่ ฉันจึงรีบถอยกรูออกมาข้างนอก โชคดีไป ไม่อยากไปอยู่ใกล้พวกนั้นเรยพับผ่าสิ ฉันตามขึ้นมาทำงานทีหลัง วันนี้เหมือนจะไม่ใช่วันดีของฉัน ข่าวเรื่องฉันเอาคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค กลับบ้านสะพัดไปทั่ว ไอ้จักรมันคาบข่าวมาบอก
"เออ ไม่ต้องคิดมากหรอกว่ะ เดี๋ยวไปบอกกับป้านงก็สิ้นเรื่อง" ไอ้จักรบอก ก็ไม่ได้คิดมาก แค่รู้สึกปลง ชีวิตคนเรามันน่าขัน วันหนึ่งวันเรามักหมดไปกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ บางคนมีความสุขกับการกล่าวร้ายคนอื่น บางคนมีความสุขกับการเห็นคนอื่นตกอับ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเป็นคนเช่นนั้น หรือนี่คือธรรมชาติ
"นั่นไง ป้านงค์เดินมาแล้ว" จักรพยักเพยิดหน้า พวกเราสามคน ยกมือไหว้ป้าแก ป้าแกรับไหว้
"ป้าคะ คือเรื่อ....." ฉันรีบเอ่ยปาก แต่พูดไม่ทันจบ ป้าแกส่งอะไรมาให้ไม่รู้ ฉันเลยรีบรับไว้ก่อน
"คุณศักดิ์เค้าฝากเอาไว้ให้ใช้กับคอม แกลืมน่ะ" ป้านงพูด แกยิ้มแล้วเดินกลับไป อ๋อ มันคือ แฟลชไดร์ฟ (แฮนดี้ไดร์ฟ) นั่นเอง ซึ่งต่อมาฉันก็ต้องพกมันติดตัวไว้ตลอด เปรียบเหมือนเป็นเครื่องประดับฉันอย่างนึงเลยทีเดียว ฉันโล่งใจที่ป้าแกไม่ได้ใส่ใจกับคำครหาต่างๆ ที่มีต่อฉันเลย นั่นสิ ความจริงถ้าเราไม่เก็บมันมาสุมในใจ เราก็อยู่ของเราได้นี่ ฉันเริ่มได้คิด
วันหยุดยาวหลายวันกำลังจะมาถึงแล้ว มีหลายโปรแกรมที่น่าสนใจจะทำในช่วงนั้น จักรมันชวนกันไปเที่ยวทะเลด้วยกัน มีคนไปกันหลายคนเชียว น่าสนุกชะมัด เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นทะเลจริงๆ กับเค้าซักที อยากไปใจจะขาด แต่คิดดูแล้ว โอกาสคงไม่มี สุดท้ายไม่วายคงได้นอนเฝ้าบ้านอีกตามเคย
"เค้าอยากไปเที่ยว" ฉันพูดกับเอก ตอนเราอยู่กันสองคนที่ห้อง เอกงัวเงียๆ แต่ก็ลืมตาขึ้นมาฟัง
"เค้าอยากไปภูกระดึง ตัวเองอยากไปไหม" ฉันถาม
"อื้ม เดี๋ยวไปกัน" เอกตอบ เย้ๆ เคยเห็นมานานแล้วในรูป ยิ่งพอได้ฟังคนอื่นพูดถึงอีกหลายคน ยิ่งอยากไป แค่เค้าตอบว่าจะไป ฉันก็ดีใจมากแล้ว ถึงยังไม่รู้เมื่อไรก็ตาม ฉันนอนยิ้มกริ่มอยู่บนเตียง อย่างน้อยก็มีเป้าหมายและอีกหนึ่ง
....
ถึงจะยังไงซะ เวลาก็ยังเดินต่อไปไม่เคยหยุด ฉันเริ่มจะชินกับเวลาทำงานของเอกบ้างแล้ว เรื่องคิดมากต่างๆ คงไม่มี เพราะฉันรู้จักเค้ามานาน เค้าเป็นคนดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ใครเลยจะรู้ ว่าไอ้การที่ฉันต้องนอนหง่าวอยู่คนเดียวที่บ้าน มันจะเป็นผลดีกับฉันในอนาคต
+ + + + +
ในช่วง วันหยุดยาว เสียงรถมาจอดเทียบข้างบ้านแต่เช้า (6โมง) ฉันได้ยินเสียงเดินของคน 2-3 คนมาหยุดที่หน้าห้องฉัน และเค้าเคาะประตู
"ปังๆๆ เอก" เค้าเรียกชื่อคนรักของฉัน ฉันประหลาดใจและตาแจ้งในบัดดล เอกเริ่มรู้สึกตัวแล้ว ในขณะที่คนนั้นก็เคาะประตูสลับกับเสียงเรียกเอกไม่หยุด
"เอ้ยย แม่" เอกอุทานออกมา หน้าเราสองคนซีดเป็นไก่ต้ม แม่เอกเคาะประตูจนมันจะพังครืนลงมาอยู่แล้ว ฉันแอบเกรงใจคนบ้านอื่นอยู่เหมือนกัน แต่ความรู้สึกตกใจมีมากกว่า
"ทำไงดีอ่ะ" เอกพูดกระซิบกระซาบ ทำไงหล่ะ ทำไรไม่ได้เลยตอนนี้ เราทั้งคู่ตัดใจ ทำได้ดีที่สุด คือแต่งตัวกันให้มิดชิด เอกค่อยๆ เดินไปเปิดประตูออก ฉันแอบฟอร์มแกล้งหลับอยู่บนเตียง ทำตาปรือแอบมองอยู่หน่อยๆ
"อยู่กับใคร" พอประตูเปิด แม่ก็ผลักเข้ามา เค้ามองมาที่เตียงเป็นอันดับแรก มีฉันนอนคุดคู้อยู่ในผ้าห่ม งานนี้คงจะรอดยากทีจะไม่โดนด่า
"ทำไมเอกทำแบบนี้" แม่ตวาดเสียงดังพอควร โชคดียิ่งที่แม่แกไม่ดึงฉันขึ้นมาโดนด่าด้วย
"บอกแม่มา แม่ถาม" ฉันแอบสงสารเอก เค้ายืนทำหน้าจ๋อย เอกไม่ตอบอะไร แต่ฉันรู้เค้ากำลังกดดัน
"ผู้หญิง ผู้ชาย?" แม่หันมาหาฉันที่เตียง แกถามอย่างไม่รีรอ
เอกถอนหายใจออกมายาว ฉันไม่ได้ยินเค้าตอบอะไรแม่เลย แต่คิดว่าตอนนี้แม่คนรู้แล้ว แม่เค้าเขย่าตัวเอกไปมา (แรงมากๆ)
"ทำไมเอกเป็นแบบนี้ ทำไมเป็นแบบนี้" แม่เอกพูดเหมือนจะร้องไห้ ตอนนี้เองฉันเพิ่งได้เห็นผู้หญิงอีกคนที่มาด้วยกัน ญาติเอกเองหล่ะ มีศักดิ์เป็นน้าของเอก
"ใจเย็นก่อนพี่ ค่อยๆพูดกัน" น้าแกเข้ามาห้ามเอก เรามารู้ทีหลังว่าเป็นน้าแกนี่หล่ะ ที่บอกเรื่องเอกแยกบ้านมาอยู่เองข้างนอกกับแม่ แต่ซ้ำร้ายกว่านั้น ทั้งคู่เพิ่งจะรู้ว่าลูกเค้าอยู่กับกระเทย ซึ่งเลวร้ายกว่าที่พวกเค้าคิดไว้ตอนแรก
"ไปเก็บของเดี๋ยวนี้เลยนะ " แม่เอกยอมปล่อย แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยน้ำตา ฉันได้ยินเสียงโฮของเอกออกมา
"แม่เอกไม่ไป" เค้าพูดทั้งน้ำตา
"ไม่ได้" แม่เอกตะคอก เอกมานั่งที่เตียง เค้าฟุบลงแล้วร้องไห้ ฉันเสียใจมากที่ตอนนี้เค้าเจ็บปวด แต่ฉันทำอะไรไม่ได้เลย
"ไปลูก เก็บของ" อันนี้เป็นน้าของเค้า ที่มาช่วยปลอบ เอกไม่ยอมขยับตัวไปไหน
"ถ้าไม่ยอมกลับ แม่จะบอกป๊าเอก ให้ป๊ามาจัดการเอง" แม่เอกพูดเสียงดัง ฉันสงสารและเข้าใจทุกคน รวมทั้งสงสารตัวเองด้วยเช่นกัน เอกกลัวป๊ามาก เค้าลุกขึ้นแล้วร้องโฮออกมาใหญ่
"เอกไม่อยากไปนี่" เค้าพูดด้วยน้ำตานองหน้า แต่ดูเหมือนไม่มีทางเลือกใดๆ ต่อไป แม่เค้าไม่ฟังอะไรอีกต่อไปแล้ว เค้าเดินกลับไปขึ้นรถ น้าเอกค่อยๆ ตามแม่เค้าไปเช่นกัน พวกเค้ารอเอกที่รถ
"ตัวเอง เค้าไปละนะ" เอกกอดฉันไว้แน่น ฉันกอดเค้าและเราร้องไห้ไปด้วยกัน
เอกละจากฉัน เค้าเดินตามแม่และน้าเค้าไปขึ้นรถ โดยไม่เอาอะไรไปด้วยเลย
.....
ป่านนี้หลายๆ คนคงจะมีความสุขกับวันหยุดของตัวเอง จะมีซักกี่คนที่ต้องมานั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอย่างฉัน ฉันโทรหาเกือบทุกคนที่จะโทรได้เพื่อเล่าให้พวกเค้าฟัง ถ้าไม่งั้นฉันคงอกแตกตายแน่ๆ
"ใจเย็นๆ อีแบะ เมิงอย่าเพิ่งคิดมากนะ" เสียงอีต๋องปลอบประโลมฉันจากในโทรศัพท์
"กรูแย่ว่ะ คิดอะไรไม่ออกเลย" ฉันตอบเพื่อนสนิท ทั้งยังร้องไห้ไม่อยู่ ตอนนี้มือถือฉันมันสมควรจะต้องช็อตด้วยน้ำตาที่ไหนซึมเข้าไป
"เมิงหยุดร้องก่อน เดี๋ยวแมร่งก็โทรหาเมิง เชื่อกรู" อีต๋องพูด น่าเกลียดจริงๆ ฉันกับมันไม่ได้คุยกันนาน แทนที่จะได้หัวเราะเฮฮากันตามประสา ฉันกลับเอาเรื่องเศร้าไปฝากเพื่อน
ฉันพยายามหยุดร้องแต่ก็ทำไม่ได้ ทุกอย่างในห้องความจริงมันยังเหมือนเดิม แต่สำหรับฉันไม่มีอะไรเหมือนเดิม เอกไปแล้ว
"เมิงไม่โทรหามันหล่ะ" อีต๋องพยายามเสนอไอเดีย
"มือถือเค้าอยู่กะกรูเนี่ย จะโทรไปไหนอีกหล่ะ เหลือแต่โทรหาแม่เอกนั่นแร่ะ" ฉันมีเบอร์แม่เอก แต่ไม่เคยใช้เลย เป็นเรื่องจริง อีต๋องหัวเราะหน่อยๆ
"โทรหาแม่มันเลย กลัวไรอีเชี่ย" มันพูดแหย่ฉัน
"อีเวนน"
ฉันเองก็หัวเราะไปด้วย ทั้งน้ำตา
+ + + + + + + +
เกือบสามทุ่มของวันนั้น ข้าวเม็ดแรกถึงได้ตกเข้าไปถึงท้องของฉัน ความจริง ฉันไม่หิวเลยซักนิด แต่ที่กินเพราะเป็นน้ำใจพี่อุย เค้าซื้อมาฝาก
"เค้าโทรมาหาหรือยังหล่ะ" พี่อุยแกเพิ่งกลับจากนครปฐม บ้านเกิดพี่เค้า หอบของฝากมาเต็มเลย
"ยังเลยค่ะ" ฉันตอบเสียงอ่อยๆ ตอนนี้อยากรู้ความเป็นไปฟากนู้นมากๆ ทั้งๆที่รู้ว่ายังไงเค้าก็ต้องโทรมาหาฉันอยู่แล้วก็ตาม
"งั้นกินรอก่อนเถอะนะ ไม่กินอะไรเลยเดี๋ยวเป็นลม" พี่อุยปลอบ หารู้ไม่ เกิดมาฉันไม่เคยเป็นลมมาก่อนเลย
"ถ้าอยู่คนเดียวไม่ไหว พี่พาไปนอนกับยัยปอให้ เค้าอยู่นี่" พี่อุยน่ารักเสมอ ดูสิ ยังห่วงน้องนุ่ง แต่ฉันคงไม่ไปหรอก ขอนอนอิงไออุ่นที่ยังเหลืออยู่ของเอก ในห้องนี้ดีกว่า พี่อุยคงเข้าใจ
ซักพักหลังจากที่พี่อุยกลับไป ฉันก็ได้รับโทรศัพท์สายแรกจากเอกของวันนี้
"ฮัลโหลจ๋า" ฉันรีบรับอย่างลุกลี้ลุกลน ได้ยินเพียงเสียงร้องไห้กระซิกๆ ตามสายมาเท่านั้น
"ตัวเองเป็นไงมั่ง แม่ว่าไงบ้างหรอ" ฉันถามเค้าเสียงใส แต่น้ำตาก็เริ่มจะไหลออกมาเป็นก๊อกประปาแตกอีกแล้ว
เอกเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดว่า
"แม่.."
"แม่บอกให้เลิก"
.......