!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!  (อ่าน 421107 ครั้ง)

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เขิลลลลลลบ้านแคก แม่ขาเค้าน่ารักมากกกกก  ขอให้ป้าเปิดทางให้รักกันนะ   :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
เค้าบอกชอบกันได้อย่างมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งมากเลยอ่ะ  :-[

ว่าแต่คุณแม่ได้ยินรึเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
กราบบบบ


ชอบมากๆเลยยยยยยยยยยยยยย


ไอเลิฟยูวนะเอส ฝ่าด่านคุณแม่ให้ได้ล่ะ

ออฟไลน์ Tsumsome

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Chattcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Babylon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
แม่ต้องแอบฟัง ตื่นมาก็ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้รึเปล่าเอ่ย 5555 (งดดราม่านะคะ) :katai1:
ฟินอะ เหลือแม่กับที่หนึ่งแล้ว ดูท่าหมูอ้วนจะไฟเขียว แอร๊~ :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แข่งกันหน้าแดง

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หื้มมมมม  ...มมมม  ร้ายนักน่ะ  เอส  !!

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ถ้าคุณแม่ได้ยินเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็ช่วยเปิดใจรับความรักในแบบที่พี่ตุลย์กับเอสเขาเลือกแล้วด้วยเถอะนะค้าา~ :m5:

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
แม่ป้าฮาร์ดคอหลับหรือยังล่ะนั้นอ่ะ :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ชอบบบบบบบบบบบบฉากรักเบาๆ ถามจริงคุณแม่มานั่งฟังด้วยป่ะเนี่ย.

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แล้วแม่ก็ได้ยินหมดแล้วซินะ 5555555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เอิ่ม...ไอ้เอสคะ พี่ตุลย์คะ คือ....







ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่า........คุณนายแม่นอนอยู่ให้องด้วย






อยู่กันมาตั้งหลายวันไม่คุยเรื่องนี้







แต่มาคุยตอนคุณนายแม่ มานอนด้วย มันใช่เวลาใหม ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
แอร๊ยยยย เค้าเขิลลลล :-[ ว่าแต่คุณนายแม่ได้ยินป่าวเนี่ยย :m26: :m29:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
พี่ตุลย์กับเอสลืมไปป่าวว่าคุณแม่ฮาร์ดคอร์ก็นอนอยู่ด้วยอ่ะ มัวแต่อยู่ในโลกส่วนตัว 2 ต่อ 2  ระวังตอนเช้าคุณแม่เข้ามาถามล่ะว่าที่พูดไปเมื่อคืนจริงหรือเปล่า

2 คนนี้ชอบเล่นบทพ่อแง่แม่งอนได้น่ารักมาก  :o8:

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
พี่ตุลย์เห็นเงียบๆนี่ช่าง...... เขินแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง >.<
คุณแม่จะได้ยินมั้ยน๊าาาาาา  ว๊ายยยยย เขินสุดดดด

ออฟไลน์ Rabity

  • #slytherinforlife
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 523
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-8
หั่นแน๊! พี่ตุลย์หน้าแดงด้วยกิ๊วๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบคู่นี้จังเลยค่ะ ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป มาต่ออีกเร็วๆน้าาาาาาา
ปล.รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
บอก 'ชอบ' กันมางงๆนะเนี่ย 555555
แต่ก้อถือว่าคืบหน้ามากกว่าที่คิด ^0^

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตายด้วยความฟิน.....แต่ มันใช่เวลาเหรอออ
คุณป้าฮาร์ดคอร์นอนอยู่ด้วยนะ 5555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 o13 ร้ายกาจมาก อิพี่ตุลย์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ขอพนันว่า ขุ่นแม่ยังไม่หลับ และกำลังเงี่ยหูฟังอยู่แน่ๆเลย

ออฟไลน์ tsubasa_6927

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ความจริงแล้วคุณป้าฮาร์ดคอร์แกตื่นอยู่
แล้วช่วยปลอบตอนต้นไม่ให้เสียงดัง จะได้แอบฟังเค้าได้ง่ายๆใช่เปล่า ระแวงสุด ณ จุดนี้ :oo1:

ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
งื้ออออออ เขามุ้งมิ่งกันได้น่ารักมากอะ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ฟินนนนนน ทำไมหวานนนขนาดนี้
คุณแม่ต้องได้ยินแน่ๆ
คนทีีเตรียมตัวมานอนเฝ้าเด็กตื่น
 เสียงคุยกันขนาดนี้ ตื่นแน่ๆ >_<

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
หวานมากกกก

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
หวานนนนจังตอนนี้ นี่แค่ชอบนะเนี่ย

 รอวันที่ รักกันค่ะ 55555555555

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
แหมๆ สองคนนี้หน้าแดงกันน่ารักเชียว 5555+

แอบเขินแทน

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ thenista

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
    • NISTA
ตอนที่ 29


             ตอนนี้ผมมีเรื่องคาใจอยู่อย่างนึง คาใจมาก มากแบบมากๆ so much too mush very much


             ...เพลงโคตรเก่ายังจะเอามาเล่น


             แต่ช่างแม่งก่อน! จะบอกว่าผมมีเรื่องคาใจมาก อยากจะหันหน้าไปหาใครสักคนแต่รอบข้างมีแต่ต้นไม้และใบหญ้า นั่งอยู่คนเดียวในศาลาโง่ๆ


             ที่ผมคาใจคือ มันเป็นเรื่องของผมกับ...


             “เมื่อไหร่จะขึ้นรถ” เสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นอยู่ด้านหน้าเรียกสติของผมที่กำลังลอยไปสู่ความเวิ่งว้างอันไกลโพ้น ผมคว้ากระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างตัวก่อนจะเดินขึ้นรถพี่ตุลย์ไปอย่างว่าง่ายไม่อิดออด

             “อ้าว คุยโทรศัพท์อยู่หรอ?” ผมที่สอดตัวเข้ามาในรถเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่ามือด้านซ้ายของพี่ตุลย์ถือโทรศัพท์อยู่ห่างหูเล็กน้อย

             “อื้อ เพิ่งวางไปเมื่อกี้”

             “คุยกับใครอะ?” ผมถามโยนกระเป๋าเป้ไว้เบาะหลังก่อนจะดึงเซฟตี้เบลมาคาดกันตำรวจเรียก อันที่จริงผมไม่ค่อยชอบคาดนะมึนอึดอัดเหมือนโดนลัดตลอดเวลา แต่พี่ตุลย์แม่งก็คะยั้นคะยอให้คาดตลอด แล้วมีครั้งนึงด้วยความแบบดื้อไง กวนตีนด้วยก็เลยปลด ปลดปุ๊บโดนเรียกปั๊บ พี่ตุลย์เสียเงิน ผมนี่โดนด่าไปหนึ่งวันเต็ม แถมยังโดนเหน็บแหนมไปอีกตั้งสามวัน หลังจากนั้นผมก็เลยคาดตลอดไม่ปลดเลย

             “คุยกับแม่”

             “ช่วงนี้แม่พี่โทรมาบ่อยนะ เกือบทุกวันเลย”

             “ก็โทรมาถามเรื่องที่หนึ่งกับตอนต้นเนี่ยแหละ แต่ฉันว่ามันน่าแปลกใจที่แม่เอาแต่ถามเรื่องนายต่างหาก” พี่ตุลย์ว่า วางมือถือลงคอนโซลกลางก่อนจะเคลื่อนรถออกจากบริเวณมหา’ลัย


             อะ อะ~ ตอนนี้มีพัฒนาครับ ถ้าผมเลิกเรียนเย็นพี่ตุลย์มารับผมที่มหา’ลัย ตอนแรกผมก็ปฏิเสธนะ ลองนึกสภาพมีคนเห็นว่าชายหนุ่มหน้าตาดี (มาก) อย่างผมมีผู้ชายอายุแก่กว่าแต่ยังไม่ถึงคราวพ่อมารับเขาจะคิดอะไรนอกจากผมเป็นเด็กเสี่ย! ไม่ได้เลยไม่ได้! เสียชื่อสุดๆ แต่พี่ตุลย์ก็ไม่ยอมอ้างเหตุผลสารพัดร้อยแปดมาแย้ง จนสุดท้ายก็เลยกึ่งกลาง มารับก็ได้ แต่ผมจะไปรอที่ที่ไกลจากคณะ


             พี่ตุลย์บอกว่าเพื่อความปลอดภัย แต่จริงๆ แล้วอยากเจอผมเร็วๆ ปะเถอะ~ อิอิ


             “แล้วแม่พี่โทรมาถามเรื่องผมว่าไงบ้างอะ?”

             “ก็เหมือนกับที่ถามถึงลูกฉัน วันนี้เอสทำไรบ้าง แล้วก็จะถามยิบย่อยๆ ลงไป แล้วก็เพิ่มมานิดหน่อยตรงที่ถามเรื่องในอดีตด้วย เดือนก่อนเอสทำอะไร เมื่อวันก่อนเอสทำอะไร อย่างนี้น่ะ”

             “เอ่อ...เป็นแฟนคลับผมหรือเปล่า” ผมหัวเราะแห้งๆ จับต่างหูของตัวเองเล่น

             “ฉันสิน่าถาม ว่านายไปทำอะไรแม่ฉันเข้าหรือเปล่า”

             “ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ถามเพราะเป็นห่วงเฉยๆ ละมั้ง” ผมไต่นิ้วไปทางหลังหูหมุนตัวล็อคต่างหูด้านหลังที่มันเกลียวออกมานิดหน่อย

             “แล้วแม่ก็บอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะมาค้างด้วยอีก”

             “มาอีกแล้วหรอ? อาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งมาเองนะ”

             “ก็แม่ว่างี้จะไปรู้ไหมเล่า คิดถึงหลานเห็นว่างี้นะ”

             “หรอ” ผมลากเสียงยาวอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่ ผิดกับพี่ตุลย์ที่พอผมเปิดประเด็นนี้ปุ๊บก็ดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ซะงั้น สำหรับพี่ตุลย์อาจจะแปลก แต่เพราะผมไม่รู้ว่าเมื่อก่อนแม่พี่ตุลย์เป็นคนยังไง มาหาบ่อยไหม โทรคุยบ่อยไหม เป็นพวกเห่อหลานไหม อะไรยังไง ก็เลยไม่รู้ว่าการกระทำของคุณป้าฮาร์ดคอร์เขาแปลกไปหรือเปล่า “เอ๋ หรือว่าแม่พี่จะได้ยินที่เราคุยกันเมื่อสองอาทิตย์ก่อน?”

             “เรื่องอะไร?” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วงง เพราะว่าอีกฝ่ายกำลังขับรถเลยไม่เห็นผมที่กำลังยิ้มกริ่ม เขยิบตัวเข้าไปหา จงใจกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู

             “ก็เรื่องที่พี่...บอกชอบผมไง!”

             “ตอนนั้นฉันไม่ได้บอกชอบนายสักหน่อย”

             “ฮันแหนะ” ผมชี้นิ้วล้อเลียนแกมหยอก “ปากก็บอกปฏิเสธแล้วจะหูแดงทำไมอะ~”

             “...” ไอ้พี่ตุลย์เงียบ แต่ผมนี่หัวเราะก๊ากลั่นรถเลย เงียบนี่ไม่ได้เงียบโมโหนะครับ แต่เงียบเถียงไม่ออก จะหันมาเฮ้วใส่ผมก็ไม่ได้เพราะขับรถอยู่ หลังจากคืนนั้นตอนแรกๆ ผมก็เขินนะครับ มีเข้าหน้าไม่ติดเล็กน้อยไปสองวัน แต่ความหน้าหนาของผมก็ฟื้นฟูเร็วตอนนี้เลยไม่สะทกสะท้านล้อพี่ตุลย์สบายใจเฉิบ โอ๊ยย อยากให้มาเห็นด้วยกันครับ ตอนที่พี่ตุลย์หูแดง เงียบเถียงไม่ออกแต่เก็กวางฟอร์มขมวดคิ้วใส่นี่น่ารัก น่าหยิกแก้มเป็นที่สุด~ “หุบปากหน่า”

             “ฮ่าๆๆ อะๆ โอเค เงียบก็ได้ กลัวใครบางคนจะโมโหแล้วหักรถชนเสาไฟฟ้าตายกันไปทั้งคู่” ผมพูดเสียงกวนเรียกเสียงจิ๊จ๊ะจากพี่ตุลย์จนถึงวินาทีสุดท้าย “อาา แต่ผมว่าไม่หรอก แม่พี่ไม่น่าจะได้ยิน คนที่พร้อมจะแหกอกทันทีที่ผมแต่งหญิงเข้าห้องมากับพี่ ถ้าได้ยินแบบนั้นคงจะลุกเอามีดเสียบพุงผมตั้งแต่สองนาทีแรกแล้ว...ไม่ปล่อยให้รอดจนพี่ได้นอนกอดผมหรอก~”

             “ยังอีก”


             ผมหัวเราะฮี่ๆ ได้แกล้งพี่ตุลย์นี่นิดๆ หน่อยๆ ผมก็เอาหมด


             ดูแล้วชีวิตผมตอนนี้ก็แฮปปี้ใช่ไหมครับ เรื่องคุณป้าฮาร์ดคอร์ก็ไม่เครียด ความสัมพันธ์กับไอ้พี่ตุลย์ก็ดูดั่งดอกไม้บาน แล้วผมจะคาใจเรื่องอะไร


             ...ก็คาใจความสัมพันธ์ดอกไม้บานกับไอ้พี่ตุลย์เนี่ยแหละ!!! คาใจอยู่สองข้อด้วย!


             1.ผมกับพี่ตุลย์เป็นแฟนกันยังวะ?


             2.ถ้าเป็นแฟนกันแล้ว ก็แปลว่าคบกันมาสองอาทิตย์แล้วดิ แล้วมันถึงเวลาจูบได้ยังอะะะ?








30%







             ต๊อกๆๆ


             อ๊าาา คาใจจังเลยแหะ ถ้าพี่ตุลย์เป็นผู้หญิงอะไรๆ ก็คงง่ายมากกว่านี้ ป่านนี้น่ะ จูบแหลกแหกปล้ำ ได้กันไปแล้วเนี่ย!


             ตอนม.ปลาย ผมก็เคยคบกับผู้หญิงนะ ถึงแม้จะไม่ได้พูดว่าคบกันเถอะออกมาตรงๆ แต่มันจะมีบางจุดที่เราและเขา (และทั้งโรงเรียน) เป็นอันรู้กันว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแล้วนะอะไรอย่างนี้น่ะ แต่กับพี่ตุลย์นะครับ โคตรจะเดาทางไม่ออก จะเข้าข้างตัวเองว่านี่แหละแฟนแล้ว ก็ไม่กล้า ถ้าไม่ใช่หน้าแตก อับอายอีก แล้วอีกอย่างผมก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์มันค้างคาด้วย แค่ตอนที่ก่อนจะบอกชอบไอ้พี่ตุลย์ครั้งนั้นครั้งเดียวก็เกินพอ เล่นเอาผมซึมกระทือเป็นหมาหางลู่ไปตั้งหลายวัน เพราะงั้นไม่แล้วครับกับเรื่องค้างคา แมนแมนต้องชัดเจนดิถูกปะ! และนั่นแหละ หนักเลย เครียดเลย เครียดหนักมาก


             ต๊อกๆๆๆๆ!


             “ทำไมต้องใส่อารมณ์กับโน๊ตบุ๊คฉันด้วย เดี๋ยวพังจะซื้อใช้ให้ไหมหะ?” ผมหันขวับไปตามเสียงก่อนจะเห็นพี่ตุลย์ยืนดื่มน้ำอยู่ด้านหลัง ปาก...


             อึก...


             ไอ้พี่ตุลย์มันจะมาดื่มน้ำให้ผมดูทำไมวะ! ต้องการอะไรบอกม๊าา!


             “พี่ออกไปจากครัวดิ๊ ผมทำงานอยู่ไม่เห็นหรอเนี่ย ไปเลยไป”

             “ทำงานอะไรกันหน้าเวิร์ดไม่เห็นมีอะไรเลย เอาแต่กดปุ่ม Enter จนจะพังแล้วน่ะ”

             “กำลังใช้ความคิดอยู่ไง ยิ่งพี่มากวนผมก็ยิ่งคิดไม่ออกสิ”

             “ไม่ได้เข้ามากวนสักหน่อย ก็แค่มากินน้ำก็เท่านั้นเอง” พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผม วางแก้วน้ำข้างซิงค์ล้างจานก่อนจะเดินไปร่วมกลุ่มกับที่หนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาโดยมีตอนต้นที่เดินเต๊าะแต๊ะอยู่ด้านล่าง บังทิวทัศน์หน้าจอทีวีทุกๆ สิบวินาที


             ฮึ่ย ไอ้เรื่องจูบนี่เหมือนกัน พอความคิดนี้มันจิกเข้ามาในสมองผมแล้วความคิดอกุศลของผมก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่มองหน้าไอ้พี่ตุลย์ โฟกัสผมนี่จะพุ่งไปที่ปากก่อนเลยอันดับแรก ตอนนี้นะ ถ้าเอากระดาษเอสี่กับดินสอมาให้ผมนะ วาดปากพี่ตุลย์ได้อย่างเป๊ะ จนอ.เฉลิมชัยนี่ถึงต้องอุทานอาจารย์อะบอกเลย


             แต่บอกก่อนเลยว่าผมไม่ได้ใจร้อนนะครับ แต่สมัยนี้จูบมาก่อนจับมือแล้ว!


             “อ๊ากกกกกก!”

             “พ่อๆ อันธพาลไม่รู้เป็นไรไปแล้ว” ที่หนึ่งที่กำลังนั่งดูทีวีชี้นิ้วมาทางผมที่กุมขมับยีผมจนหัวฟูและกำลังจะกรีดร้องอีกครั้งในไม่ช้า โฮฮฮฮ เรื่องใช้หัวมันไม่ใช่สไตล์เอสสส~

             “เป็นบ้าลูก อย่าไปสนใจ”


             เนี่ย! ดู แบบนี้มันควรจะใช่คนเป็นแฟนกันปะ!...ปล้ำเลยดีไหม เรื่องจะได้จบๆ ปล้ำปุ๊บก็เป็นแฟนกันเองแหละ แล้วก็ได้จูบด้วย หมดเรื่องคาใจไปเลยทีเดียวสองเรื่อง


             “ทำไม? ยังคิดงานไม่ออกอีกหรือไง ยากขนาดนั้นเลย?”

             “ก็ไม่ยากหรอก แต่ก็คิดไม่ออก ส่งวันพุธนี้แล้วแท้ๆ” บอกไม่ได้ว่าไม่มีสมองส่วนไหนว่างคิดเรื่องงานแล้ว เฮ้อ

             “หรอ ใกล้แล้วนี่ ถ้างั้นก็พยายามเข้านะ ฉันรู้ว่าถ้าวันนี้ทำไม่เสร็จนายก็ต้องไม่เข้านอนแน่เลย”

             “หะ! อย่ามามัว ต่อให้งานผมไม่คืบหน้าสักนิดเดียว ผมก็จะเข้านอน!”

             “แต่ฉันไม่ให้เข้า ถ้านายไม่ทำงาน ก็ไม่ได้คะแนน ติดเอฟ เกรดร่วง โดนไทร์ในที่สุดจะยอมเป็นอย่างนั้นหรอ?”

             “มันก็ไม่ได้คะแนนเยอะขนาดนั้นปะ” ผมตีหน้าเซ็งใส่ หันมองหนังสือเรียนที่ผมกางไว้บนโต๊ะอาหารข้างโน๊ตบุ๊คพยายามรวบรวมสมาธิกลับเข้าสู่งานอีกครั้ง 


             ...


             ไม่ได้!! นี่เข้าใจเลยว่าทำไมคนมีแฟนแล้วมักเกรดร่วง คือพอมีสมาธิได้พักนึง หัวผมมันก็แล่นไปเรื่องพี่ตุลย์อีก สะบัดไล่แล้วสนใจแต่งานทำวนๆ แบบนี้อยู่ห้ารอบจนในที่สุดผมก็ปิดหนังสือและโน๊ตบุ๊คลงอย่างหมดความอดทน แค่มีพี่ตุลย์อยู่ในหัวก็มากพอแล้ว นี่ยังจะมานั่งดูทีวีอยู่เยื้องข้างหน้าผมอีก มันจะไปทำงานลงได้ไงละเฟ้ย!


             “อะไรเลิกแล้วหรอ? ถ้าไม่เสร็จไม่ต้องนอนนะ”

             “ช่างดิ ผมจะไปนอนบ้านเพื่อน ไปทำงานเงียบๆ ที่บ้านมันน่าจะดีกว่า อยู่แบบนี้ผมไม่มีสมาธิทำหรอก” ผมพูดเสียงหงุดหงิดถือหนังสือกับโน๊ตบุ๊คจ้ำๆ เข้าไปเก็บในห้องนอนก่อนจะจัดกระเป๋าเสื้อผ้าชุดนอนกับชุดนักศึกษาเข้ากระเป๋าเป้เตรียมตัวจะไปค้างบ้านไอ้ปัน


             ไม่ได้หงุดหงิดใครหรืออะไรนะครับ นี่หงุดหงิดตัวเองล้วนๆ อะที่เอาแต่คิดเรื่องส่วนตัวจนทำงานทำการไม่ได้


             “ถ้าหนวกหูเสียงทีวีเดี๋ยวฉันเบาให้ก็ได้” ผมหันขวับไปตรงประตูห้องที่มีร่างของพี่ตุลย์ยืนกอดอกพิงวงกบก่อนจะหันกลับมาจัดของใช้ส่วนตัวเข้ากระเป๋ต่อ

             “ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พี่อยากดูอะไรก็เต็มที่เถอะ”

             “ถ้างั้นที่หนึ่งกับตอนต้น? รออีกสักพักนึง เดี๋ยวสองคนนั้นก็ไปนอน ห้องก็เงียบไม่มีอะไรรบกวนแล้ว”

             “ผมไม่ได้รำคาญพวกนั้นสักหน่อย”

             “ถ้างั้นนายจะไปรบกวนเพื่อนเขาทำไม?”

             ผมปิดเป้แล้วยกขึ้นมาสะพายพาดไหล่ “ผมก็ไม่อยากจะไปรบกวนมันหรอก แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆ พี่ก็เห็นว่าผมนั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คตั้งหลายชั่วโมงแล้วแต่ยังไม่พิมพ์งานสักตัว ไปค้างบ้านเพื่อนจะได้ช่วยคิดอะไรได้บ้าง”


             “ฉันก็ช่วยคิดได้”


             แต่พี่ช่วยคิดเรื่องที่ผมคาใจอยู่กับพี่ไม่ได้ไง


             “ไม่เป็นไร ผมจะไปบ้านเพื่อน ผมไม่ได้รำคาญเสียงทีวีหรือเสียงพวกเด็กๆ หรอก เอาเถอะหน่า ค้างแค่คืนเดียวเอง” ผมพูดเดินผ่านพี่ตุลย์ออกมานอกห้องนอน บอกที่หนึ่งกับตอนต้นเสร็จสรรพว่าจะไปค้างบ้านเพื่อนก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันหลังกลับไปหาพี่ตุลย์อีกรอบ “พรุ่งนี้ผมเลิกเที่ยงนะ เดี๋ยวกลับเอง”

             “อือ”

             “งั้นผมไปแล้วนะ” ผมโบกมือบ๊ายบายสามหนุ่มสามวัยในห้องก่อนจะปิดประตูไม้อัดสีขาวลง รีบวิ่งไปที่ลิฟท์ กดปุ่มลงอย่างรวดเร็วตามความรีบร้อนในใจ


             และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่เห็นใครนอกจากตัวเอง ทั้งๆ ที่คิดเรื่องของพี่ตุลย์มากขนาดนี้แท้ๆ แต่สีหน้าของพี่ตุลย์ ผมก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลย...














             “มึงก็เลยมาหากูตอนสี่ทุ่มอย่างนี้เนี่ยนะ!” ไอ้ปันเฮ้วใส่ผมที่นั่งยืมคอมฯ มันพิมพ์งานต๊อกๆ

             “ไม่เห็นเป็นไรเลย สี่ทุ่มมึงยังไม่นอนนั่งตี HON อยู่แล้วไม่ใช่ไง”

             “มันก็ใช่ แต่เหตุผลมึงมันไม่สมควรที่จะมาหากูตอนดึกแบบนี้เลยอะจริงๆ มึงโทรมาคุยกับกูยังได้เลย โคตรขี้ปะติ๋ว”

             “เรื่องใหญ่จะตาย! มึงลองเป็นกูบ้างสิ มึงอาจจะเข้าใจมากขึ้นก็ได้” ผมว่าเสียงห้วนกดกระแทกปุ่ม Enter จนไอ้ปันแทบจะถลาถีบขาคู่ใส่

             “ใช้เบาๆ หน่อยดิเว๊ย! กูไม่อยากได้แป้นใหม่นะ!”

             “โทษทีๆ~ กูนึกว่ากำลังเล่นเกมอยู่เลยใส่อารมณ์มากไปหน่อย” ผมหัวเราะ “อีกอย่างกูต้องมาใช้คอมฯ มึงด้วยไง ถ้ากูพูดแล้วมึงนั่งพิมพ์งานให้ กูก็ว่าจะแค่โทรหาไม่มาค้างกับมึงหรอก”

             “เออๆ อยากทำอะไรทำเลย แต่ไหนแต่ไรมึงก็ทำยังกับบ้านนี้เป็นบ้านมึงอยู่แล้วนี่” ปันส่ายหัวขำเสียงเบาอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ แล้วคิดว่าผมสนปะ? โคตรไม่สนเลยอะ ไม่มีความสำนึกผิดใดๆ ทั้งสิ้นอยู่ในหัวใจดวงน้อยๆ น่ารักของผมเลยแม้แต่นิดเดียว อิอิ

             “กูละอิจฉามึงจริงๆ ที่มหา’ลัยมึง ไม่มีงานบ้างไงวะ ถึงได้ยังมานั่งเล่นเกมเหมือนเดิม”

             “งานมันก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่กูความผิดชอบสูงมากก็เลยทำเสร็จตั้งนานแล้ว ไม่มาทำตอนดึกๆ อย่างมึงหรอก”

             “ไม่กัดกูจะตาย? ชาติที่แล้วเกิดเป็นลิงหรอ?”

             “ก็มึงทำตัวหน้าโดนด่าอะ”

             “กูทำอะไร? ก็แค่หน้าตาดี”

             “ไอ้ตรงนี้ของมึงเนี่ยแหละที่มันน่าด่า” ไอ้ปันผลักหัวผมจนแทบจะมุดเข้าไปในหน้าจอคอมฯ อยากจะหันไปด่ามันอยู่แต่ติดที่ว่าผมเองก็ติดพันกับงานที่กำลังแล่นไหลลื่นเลยทำได้เพียงแต่เสียงจิ๊จ๊ะ

             “เกลียดคนขี้อิจฉา”

             “เออ กูอิจฉามึง อิจฉาที่มึงปอดแหกไม่กล้าจูบหญิง แล้วก็อิจฉามึงที่เป็นปลาซิวไม่แน่ใจว่าเป็นแฟนกับหญิงหรือยังเลยต้องหนีมากลบดานบ้านเพื่อน~”

             “ไอ้ห่า แรงเล่นจุดอ่อนเลยหรอ! นี่มันเรื่องซีเรียสนะเว๊ย” ผมพูดเสียงเขียว เลื่อนเม้าส์กดเซฟงานก่อนจะหันหน้าเข้าหามันพร้อมสู้อย่างจริงจัง

             “เรื่องน่าขำมากกว่า ปัญหามึงมันไม่ได้ใหญ่แบบนั้นเลยจริงๆ อะเอส โคตรจะเล็กน้อยเลยนะเว๊ย แก้ปัญหาง่ายมากกกกกก”

             “หรอๆ งั้นมึงบอกมาดิว่ากูต้องดูตรงไหนถึงจะรู้ว่ากูกับเขาเป็นอะไรกันหรือยัง กูต้องทำอะไรถึงจะมั่นใจว่ากูกับเขาเป็นแฟนกัน กูจะได้เคลียร์ด่านไปเลเวลต่อไป” ผมเชิดหน้ากอดอก

             “มึงไม่ต้องดูที่อะไรเลยเว๊ย มึงก็แค่ถามเขา”

             “หา? ให้กูไปถามเขาว่า เฮ้ยๆ เราเป็นแฟนกันยังงี้หรอ? มึงต้องคิดด้วยว่าอย่าทำให้กูหน้าแตก อับอายขายขี้หน้าจนต้องมุดรู้ไปอยู่ในดิน แล้วก็อย่าให้กูโดนต่อยด้วยดิ”

             “มึงจะไม่โดนผู้หญิงคนนั้นต่อยหรอกแต่มึงจะโดนกูต่อยเนี่ยแหละ กูจำได้ว่ามึงไม่ได้โง่นะ พอเข้ามหา’ลัย แล้วแอบหลับบ่อยสมองเลยฝ่อหรอ?”

             “เอ้า ไอ้นี่ด่ากูอีก!” ชักจะขึ้น วันนี้มันด่าผมจะสิบครั้งแล้วอะ!

             “มันน่าด่าไหมละ กูไม่ได้ให้มึงไปถามแบบขวานผ่าซากอย่างนั้นโว๊ย”

             “แล้วมึงจะให้กูถามเขาว่ายังไงละ! จะใช้คำพูดซอฟต์ยังไงความหมายมันก็เหมือนเดิมปะ”

             “กูไม่ได้ให้มึงไปถามเขาว่า เฮ้ย เราเป็นอะไรกัน แต่กูให้มึงไปถามเขาว่า ‘คบกันไหม?’ ต่างหาก!” 

             “!!”

             “ถ้าผู้หญิงคนนั้นบอกว่า เราคบกันอยู่แล้วนี่ ก็แล้วไป ก็ตามนั้นมึงจะได้เลิกคาใจว่ามึงกับเธอเป็นอะไรกัน หรือถ้าเธอบอกว่า ได้ เราคบกัน ก็โอเค เป็นแฟนกัน แค่นั้นจบ! มึงคิดไม่ได้จริงอะ?”

             “อะ อื้ม...ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย” ผมพูดเสียงเบา


             พอมาฟังแบบนี้แล้วผมรู้สึกว่าผมโง่มากที่คิดไม่ออก มันเป็นเรื่องพื้นๆ แท้ๆ ทำไมผมถึงคิดไม่ได้?


             “แล้วถ้าเกิดมึงโดนปฏิเสธขึ้นมา มันก็แค่คนนึงที่โดนปฏิเสธก็แค่นั้น มันคงไม่น่าอับอายจนมึงต้องขุดรูอยู่หรอก”

             “กูรู้สึกโง่มากที่คิดไม่ได้จนต้องเสียเงินค่ารถเมล์ กับค่ารถมอไซค์รับจ้างมาที่บ้านมึง” ผมพูดติดตลกหันไปปิดคอมฯ เก็บแฟลชไดรฟ์เข้ากระเป๋าเป้ก่อนจะปีนขึ้นไปบนที่นอน

             “มันเป็นเรื่องปกติ พอเป็นเรื่องของตัวเองเรื่องเท่าขี้เล็บก็มองไม่เห็นคิดไม่ได้ แต่พอเป็นเรื่องของคนอื่นก็จะฉลาดประหนึ่งเป็นปรมาจารย์ กูเองก็เป็น ตอนนั้นมึงยังต้องชี้ทางให้กูทุกสเต็ป” ไอ้ปันล้มตัวนอนเหยียดยาวบนที่นอนพูดถึงเรื่องราวตอนที่เราทั้งสองเป็นเพียงเด็กมัธยม “แล้วนี่มึงจะทำยังไงต่ออะ?”

             “ทำยังไงละ เพื่อนแนะนำมาว่าไงกูก็ต้องทำตามนั้นอยู่แล้ว” ผมพูดก่อนจะทั้งไอ้ปันและผมจะหัวเราะด้วยกันเสียงดังลั่นห้องนอน

             “อย่าลืมดอกกุหลาบด้วยนะ จัดช่อสวยๆ ผู้หญิงเขาจะได้เป็นปลื้ม”

             “เอาตังมาให้กูยืมดิ้ เพื่อความรักที่สดใสของเพื่อนเลิฟ”

             “มีแต่ตีนเอาไหม?”

             “เอาตีนไปจัดช่อแล้วขอเขาเป็นแฟนได้ไหมละ?”

             “ฮ่าๆ เขาไม่ตบมึงหรอก เขาจะถีบมึง แล้วเขาก็จะไปเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วมึงก็จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้เลยแหละ พลังหญิงโคตรน่ากลัว”

             “ฮ่าๆ ถ้างั้นกูคงต้องทำตามกำลังทรัพย์ เอาไปหนึ่งกลีบพอ”

             “ไอ้สัส” ไอ้ปันก่นด่ากลั้วขำ แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ นอนมองฝ้าสีขาวที่แตกต่างจากห้องนอนของพี่ตุลย์เงียบๆ


             นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนอนที่อื่นตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับพี่ตุลย์ ไม่คิดเลยว่าผมจะมีวันที่คิดถึงห้องคอนโดฯ ที่ผมต้องอยู่เพียงไม่กี่เดือนก่อนย้ายเข้าหอ...ไม่ดิ ผมว่าผมไม่ได้คิดถึงห้องหรอก ผมคิดถึงใครบางคนที่นอนอยู่บนห้องเดียวกันมากกว่า คนที่นอนเตียงดีๆ ไม่ชอบเริ่มเนียนลงมานอนพื้นกับผมอยู่เรื่อย


             “ก็คนมันอยากเจอ ก็เลยมาเฝ้ารอตามคำขอ ของหัวใจ...มีมาแต่ตัว แค่ตัวกับหัวใจและดอกไม้ เก็บมาให้เธอ...”


             ผม...กำลังคิดถึงพี่ตุลย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-08-2015 03:01:19 โดย thenista »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด